title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
ตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน วันนี้คลังโอนเงิน 5000 บาท เพิ่มอีก 1 ล้านคน
www.เราไม่ทิ้งกัน.com เช้านี้คลังโอนเงินเยียวยา 5000 บาท ให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์เพิ่มอีก 1 ล้านคน ใครยังไม่ได้รับเงิน อย่าลืมเช็กสิทธิ์จากกรณีรัฐบาลเปิดมาตรการเยียวยาลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ นอกระบบประกันสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัส โควิด-19 จะได้รับเงินสนับสนุนรายละ 5000 บาทต่อเดือน โดยต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เท่านั้น ซึ่งล่าสุดได้ปิดการลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ไปแล้ว แต่ยังเปิดเว็บให้ตรวจสอบสถานะ ยกเลิกการลงทะเบียน ยื่นทบทวนสิทธิ์ เปลี่ยนแปลงข้อมูลการรับเงิน และยื่นข้อมูลเพิ่มเติมได้ล่าสุด นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้ามาตรการเยียวยา 5000 บาท ว่ามีผู้ผ่านเกณฑ์แล้ว 12.8 ล้านราย แบ่งเป็นกลุ่มผู้ที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองตั้งแต่รอบแรกจำนวน 4.4 ล้านราย กลุ่มที่ขอข้อมูลประกอบอาชีพเพิ่มเติมและผ่านเกณฑ์จำนวน 5.0 ล้านราย และกลุ่มที่ขอทบทวนสิทธิ์และผ่านเกณฑ์จำนวน 3.3 ล้านรายทั้งนี้ กระทรวงการคลัง จะดำเนินการโอนเงินเยียวยาให้ผู้ได้รับสิทธิ์ส่วนใหญ่จำนวน 11.0 ล้านราย ภายในวันที่ 8 พ.ค. 2563 และส่วนที่เหลือประมาณ 1.8 ล้านราย จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้าขณะที่ วันนี้ 7 พ.ค. 2563 จะโอนเงินให้ผู้ได้รับสิทธิ์ 1 ล้านคน หากได้รับสิทธิ์จะพบข้อความว่า 1. เข้าไปที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com2. เลือกเมนู ตรวจสอบสถานะ(แถบสีเทา) หรือ (คลิกที่นี่)3. กรอกข้อมูลส่วนตัว อาทิ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ และ วัน/เดือน/ปีเกิดอย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลัง ได้กำหนดปิดรับยื่นทบทวนสิทธิ์ในวันอาทิตย์ที่ 10 พ.ค. 2563 เวลา 24.00 น.
www.เราไม่ทิ้งกัน.com เช้านี้คลังโอนเงินเยียวยา 5000 บาท ให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์เพิ่มอีก 1 ล้านคน ใครยังไม่ได้รับเงิน อย่าลืมเช็กสิทธิ์
ข่าว,เศรษฐกิจ
เราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนรับเงิน 5000,www.เราไม่ทิ้งกัน.com,เงินเยียวยา 5000 บาท,โควิด-19,ตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน
https://www.thairath.co.th/news/business/1838169
จับหน.คอนโดตีหมาสาหัส ฉุนคุ้ยขยะเกลื่อน-ผิดพรบ.สัตว์ (ชมคลิป)
หัวหน้าฝ่ายนิติบุคคลสั่งลูกน้องชาวต่างด้าวรุมทำร้ายสุนัขจรจัดอย่างทารุณรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 12 ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งว่ากลุ่มแรงงานต่างด้าวของพัทยาซิตี้ รีสอร์ตแอนด์ คอนโดมิเนียม ถนนพัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ได้ใช้ไม้รุมทำร้ายสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่ในที่ดินว่างเปล่าหลังโครงการได้รับบาดเจ็บสาหัสรีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกลุ่มคนงานต่างด้าวกว่า 10 คนวิ่งไล่ทุบตีสุนัขจรจัดเพศผู้สีดำอย่างโหดเหี้ยม โดยสุนัขเคราะห์ร้ายถูกตีนอนหายใจรวยรินอย่างน่าเวทนา,เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสั่งให้หยุดกระทำ ระหว่างนั้นได้มีชายวัยกลางคนอายุประมาณ 40-45 ปี อ้างตัวว่าเป็นหัวหน้าฝ่ายนิติบุคคลของโครงการคอนโดมิเนียมดังกล่าวแต่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อนามสกุลออกมารับว่าเป็นคนลงมือทำร้ายและสั่งให้คนงานทำร้ายสุนัขจรจัดเอง โดยอ้างว่าสุนัขจรจัดเข้าไปก่อกวนจนผู้มาพักอาศัยได้รับความเดือดร้อนส่งผลเสียหายต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก จากนั้นได้สั่งให้ลูกน้องซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวทั้งหมดกลับไปทำงานตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น,จากนั้นชายคนดังกล่าวยังได้ใช้ไม้ตีและใช้เท้ากระทืบศีรษะสุนัขจรจัดที่หายใจรวยรินต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่ตำรวจแถมยังพูดท้าทายต่างๆ นานา เจ้าหน้าที่ตำรวจเลยควบคุมตัวส่ง ร.ต.ท.หญิง เต็มตรอง เลิศศิริ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา สอบปากคำ แต่ชายคนดังกล่าวกลับให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่ได้เป็นคนลงมือทำร้ายสุนัขจรจัด หลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวกลับโดยไม่แจ้งข้อหาใดๆ ส่วนสุนัขเหยื่อโหดมีบาดแผลแตกที่ศีรษะเลือดไหลอาบ นอนหายใจรวยริน เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรีบนำไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์,ต่อมาเวลา 12.00 น. วันที่ 13 ก.ค. ร.ท.วินัย ด้วงทอง รองหัวหน้าชุด ชป.พื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ร.ต.อ.เก่งศาสตร์ นวลพงษ์ รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังทหาร มทบ.14 เข้าตรวจสอบที่พัทยาซิตี้ รีสอร์ตแอนด์คอนโดมิเนียมสถานที่เกิดเหตุพร้อมเชิญตัวหัวหน้าฝ่ายนิติบุคคลของโครงการคอนโดมิเนียมทราบชื่อว่านายธวัช พิณยิบโยค อายุ 50 ปี และแรงงานต่างด้าว 8 คน ซึ่งเป็นลูกน้องของนายธวัชและร่วมกันทำร้ายสุนัขจนบาดเจ็บสาหัสไปสอบสวนที่ สภ.เมืองพัทยา,เบื้องต้นนายธวัชให้การว่าเคยแจ้งทางเจ้าหน้าที่เมืองพัทยาให้มาจับสุนัขจรจัดหลายสิบตัวภายในคอนโดฯ เนื่องจากชอบคุ้ยถังขยะทำให้เศษขยะกระจัดกระจายสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้พักอาศัย แต่ทางเมืองพัทยายังไม่ส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการ ตนจึงสั่งให้ลูกน้องช่วยกันใช้ไม้ตีไล่ออกจากพื้นที่ของคอนโดแต่ยังมีบางตัวดื้อรั้นไม่ยอมออกเลยต้องสั่งให้ลูกน้องรุมทำร้าย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหานายธวัช พิณยิบโยค กระทำการทารุณกรรมสัตว์ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ แต่นายธวัชให้การปฏิเสธ ส่วนแรงงานต่างด้าวต้องรอการตรวจสอบหลักฐานอีกครั้ง,สำหรับอาการของสุนัขตัวเคราะห์ร้ายที่รักษาตัว รพ.สัตว์บ้านพัทยา สัตวแพทย์ระบุว่า สุนัขมีอาการศีรษะบวมเนื่องจากถูกทุบตีอย่างแรงและยังอยู่ในความดูแลของโรงพยาบาล ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท ล่าสุดมีกลุ่มคนรักสัตว์ในกรุงเทพฯโทรศัพท์มาสอบถามสถานที่ตั้งของ รพ.สัตว์บ้านพัทยาเพื่อจะเดินทางมาเยี่ยมอาการและออกค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด
หัวหน้าฝ่ายนิติบุคคลคอนโดหรูสั่งลูกสมุนชาวต่างด้าวรุมทำร้ายสุนัขจรจัดอย่างทารุณอาการปางตาย อ้างถูกสุนัขรบกวนผู้พักอาศัยแถมยังคุ้ยขยะกระจายเกลื่อน เคยแจ้งให้เมืองพัทยามาดำเนินการแต่เรื่องเงียบหายไปเลยสั่งลูกน้องลงมือทำร้ายเอง
ข่าว,ทั่วไทย
ข่าวหน้า1,ตีหมา,สั่งตีหมา,รุมทำร้ายสุนัข,สุนัขจรจัด,ทารุณกรรมสัตว์,ทำร้ายสุนัขจรจัด,บางละมุง,ชลบุรี,หัวหน้าฝ่ายนิติบุคคล,พัทยาซิตี้,ธวัช พิณยิบโยค,แรงงานต่างด้าว,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/news/local/511464
ขอให้จากไปอย่างมีพลัง กิลเบิร์ต เบเกอร์ ผู้ออกแบบธง LGBT เสียชีวิตด้วยวัย 65 ปี
โดยซานฟรานซิสโกโครนนิเคิลรายงานว่าเบเกอร์เสียชีวิตอย่างสงบในบ้านของตัวเองที่นิวยอร์กซิตี้เมื่อคืนวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมาบีบีซีระบุว่า เบเกอร์เคยเป็นผู้ออกแบบธง 8 สีเพื่อใช้ในงานเสรีภาพชาวเกย์เมื่อปี 2521 โดยงานเดินขบวนดังกล่าวกลายเป็นจุดเริ่มต้นของงานเกย์ไพร์ดในเวลาต่อมา ในแง่วิถีชีวิตของเบเกอร์เองเคยแต่งหญิงเพื่อการแสดงโดยใช้นามสมมุติว่า บัสตี รอสส์เบเกอร์เคยทำงานเป็นช่างตัดเย็บในช่วงที่อยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก ช่วงที่เริ่มมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน เขาใช้ฝีมือตัวเองในการสร้างป้ายสำหรับสิทธิคนรักเพศเดียวกันและป้ายเดินขบวนต่อต้านสงคราม ในช่วงนั้นเองเขายังกลายเป็นเพื่อนกับฮาร์วี มิลค์ นักการเมืองสหรัฐฯ คนแรกที่เปิดเผยตัวเองว่าเป็นเกย์ และถึงแม้ว่าเบเกอร์จะเป็นคนแรกที่ออกแบบธงสีรุ้งที่กลายเป็นต้นแบบของธงที่เป็นสัญลักษณ์สำหรับผู้มีความหลากหลายทางเพศแต่เขาก็ไม่จดทะเบียนการค้ามันมีการชักธงขึ้นที่ลานใจกลางซานฟรานซิสโกเพื่อเป็นเกียรติ์แก่เขา โดยธงดังกล่าวพัดโบกอยู่ใกล้กับลานฮาร์วี มิลค์ พลาซา เพื่อนของเบเกอร์ผู้ถูกลอบสังหารในปี 2521ดัสติน แลนซ์ แบล็ก ผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง มิลค์ ซึ่งเป็นชีวประวัติขอฮาร์วี มิลค์ ระบุถึงการเสียชีวิตของเบเกอร์ว่า สายรุ้งร่ำไห้ โลกของพวกเรามีสีสันลดลงไปอีกเมื่อปราศจากคุณผู้เป็นที่รักของเรา กิลเบิร์ต เบเกอร์ ให้ธงสีรุ้งแก่พวกเราเพื่อให้พวกเรารวมตัวกันร่วมมือกันได้อีกครั้งสก็อต เวียนเนอร์ วุฒิสมาชิกรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวว่าผลงานของเบเกอร์เป็นสิ่งที่ช่วยนิยามการเคลื่อนไหวของผู้มีความหลากหลายทางเพศในยุคสมัยใหม่ และแสดงความไว้อาลัยว่า ขอให้จากไปอย่างมีพลัง กิลเบิร์ต (Rest in power Gilbert)นอกจากธงสีรุ้งแล้ว เบเกอร์ยังเป็นผู้จัดทำธงให้กับผู้นำโลกหลายคนอย่างในฝรั่งเศส เวเนซุเอลลา และฟิลิปปินส์ โดยสี 8 สีในธงสีรุ้งนั้นมีความหมายในแต่ละสีต่างกัน สีชมพูหมายถึงเพศวิถี สีแดงหมายถึงชีวิต สีส้มหมายถึงการรักษาเยียวยา สีเหลืองหมายถึงแสงอาทิตย์ สีเขียวหมายถึงธรรมชาติ สีเทอร์ควอยส์หมายถึงศิลปะหรือเวทย์มนตร์ สีครามหมายถึงความกลมเกลียวหรือสันติสุข สีม่วงหมายถึงจิตวิญญาณมนุษย์อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมามีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบธงสีรุ้งนี้หลายครั้งเพื่อปรับให้เข้ากับทรัพยากรสีผ้าที่มีอยู่กว้างขวางในท้องตลาด ซึ่งจะสะดวกในการผลิตซ้ำจำนวนมากได้ ทำให้เหลือสีรุ้งในการออกแบบธงล่าสุดเมื่อปี 2551 เหลืออยู่ 6 สี คือสีแดง ส้ม เหลือง เขียว น้ำเงิน และม่วงเบเกอร์เคยบอกเกี่ยวกับแนวคิดการออกแบบธงของเขาไว้ว่าเขาต้องการสื่อให้เห็นถึงความหลากหลายและการทำให้คนมีส่วนร่วมโดยนำสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติมาเป็นตัวแทนสื่อว่าเพศวิถีของพวกเขาเป็นสิทธิมนุษยชน อีกทั้งยังเป็นการยืนยันพลังในความเป็นประชาชนที่เป็นคนกลุ่มเดียวกันในปี 2558 พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ของนิวยอร์กนำธงสีรุ้งของเบเกอร์จัดรวมเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันการออกแบบโดยระบุว่าการออกแบบธงนี้ เป็นหลักไมล์ของการออกแบบที่ทรงพลังGilbert Baker LGBT rainbow flag creator dies aged 65 BBC 01-04-2017
2 เม.ย. 2560 กิลเบิร์ต เบเกอร์ ศิลปินชาวสหรัฐฯ ผู้ออกแบบให้ธงสีรุ้งเป็นสัญลักษณ์ของผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 65 ปี
คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน
LGBT,LGBTQ+,กิลเบิร์ต เบเกอร์,ความหลากหลายทางเพศ,ธงสีรุ้ง,สิทธิมนุษยชน,ฮาร์วี มิลค์,เพศวิถี,เพศสภาพ
https://prachatai.com/journal/2017/04/70860
โฆษก พปชร.ขอบคุณ ศาลรธน.หาทางออกให้ ปท. เผยทุกฝ่ายโล่งใจ งบฯ63 ไม่โมฆะ
ธนกร โฆษก พปชร. ขอบคุณ ศาลรธน. ที่หาทางออกให้ประเทศ เผยทุกฝ่ายโล่งใจ งบฯปี 63 ไม่โมฆะ วอน ฝ่ายค้านร่วมแรงร่วมใจ เร่งผ่านวาระ 2-3 ดันเม็ดเงินลงพื้นที่ เพื่อพัฒนาประเทศวันที่ 8 ก.พ. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ที่ประชุมสภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2563 ในวาระ 2-3 ใหม่ว่า ต้องขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญ ที่หาทางออกให้กับประเทศ รัฐบาลและทุกฝ่ายรู้สึกโล่งใจ ที่งบประมาณปี 63 ไม่โมฆะ โดยจะมีการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นี้ ทั้งนี้ ตนอยากขอความกรุณาพรรคร่วมฝ่ายค้าน ให้ช่วยกันพิจารณาอย่างเร่งด่วน เพื่อผ่านงบประมาณในวาระ 2-3 เพื่อนำเม็ดเงินไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เพราะหากล่าช้าไปกว่านี้ จะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศในหลายๆ ด้าน และฝากไปยัง ส.ส.ทุกคน ให้ปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการเสียบบัตรลงคะแนน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีกนายธนกร กล่าวอีกว่า เมื่องบประมาณปี 63 ผ่านสภาฯ รัฐบาลจะเร่งเดินหน้าทุกโครงการ โดยเฉพาะโครงการใหญ่ๆ ของรัฐบาล เพื่ออัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ โดยเฉพาะการกระตุ้นเศษฐกิจฐานรากของประเทศ ผ่านมาตรการต่างๆ และจะดำเนินการทันที โดยเฉพาะ ชิมช้อปใช้ เฟส 4 ทั้งนี้ เมื่อเม็ดเงินเข้าไปหมุนในฐานรากของประเทศ จะสามารถช่วยพยุงเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง ยิ่งขณะนี้เจอการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ยิ่งทำให้ต้องเร่งดำเนินการเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวอย่างมาก.
ธนกร โฆษก พปชร. ขอบคุณ ศาลรธน. ที่หาทางออกให้ประเทศ เผยทุกฝ่ายโล่งใจ งบฯปี 63 ไม่โมฆะ วอน ฝ่ายค้านร่วมแรงร่วมใจ เร่งผ่านวาระ 2-3 ดันเม็ดเงินลงพื้นที่ เพื่อพัฒนาประเทศ
ข่าว,การเมือง
เสียบบัตรแทนกัน,งบประมาณปี 2563,ไม่โมฆะ,โฆษกพปชร.,ธนกร วังบุญคงชนะ,ชิมช้อปใช้ เฟส 4,ฝ่ายค้าน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1766863
นักวิชาการ ยัน ไม่พบค้างคาวแพร่เชื้อโรคสู่คน
เผย หากมีการแพร่ระบาดของโรคจริง ต้องมีการติดต่อกับค้างคาวถ้ำอื่นก่อน,เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 58 นางสาวสุภาภรณ์ วัชรพฤษาดี นักวิจัยศูนย์ความร่วมมือองค์การอนามัยโลก ไวรัสสัตว์สู่คน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐ ว่า สำหรับโรคเมอร์สในค้างคาว ที่อยู่ในความสนใจของสังคมนั้น ที่ผ่านมา นักวิจัยทั่วโลก ได้ตรวจพบเชื้อไวรัสเมอร์ส ในสัตว์ 3 ชนิด ได้แก่ ค้างคาว อูฐ และมนุษย์ โดยยังไม่พบเชื้อไวรัสในค้างคาว หรือ อูฐ ที่จะสามารถติดต่อไปสู่สัตว์อื่นหรือมนุษย์ได้,นางสาวสุภาภรณ์ กล่าวต่อว่า เว้นแต่การค้นพบเชื้อไวรัสเมอร์สจากอูฐ ในประเทศแถบตะวันออกกลาง ที่นำไปสู่การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสในช่วงที่ผ่านมา เช่นเดียวกันกับประเทศไทย ที่นักวิจัยได้ลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อไวรัสเมอร์ส จากอูฐและค้างคาวอย่างต่อเนื่อง เเต่ก็ยังไม่พบว่า มีเชื้อไวรัสจากอูฐหรือค้างคาว ติดต่อไปถึงสัตว์อื่น ซึ่งนั่นรวมถึงมนุษย์ด้วย,ด้านนายสาระ บำรุงศรี หัวหน้าภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า ภายหลังที่เกิดเหตุการณ์ค้างคาวนับพันตัว ที่ถ้ำน้ำ จังหวัดกาญจนบุรี โดยสันนิษฐานสาเหตุการตายของค้าวคาวเป็น 2 กรณี คือ การตายด้วยโรคระบาด และการตายจากอุบัติเหตุทางธรรมชาติ,โดยลักษณะของค้างคาวที่ตายจากโรคระบาด จะเกิดขึ้นในค้างคาวที่มีร่างกายอ่อนแอ จากนั้นจะแพร่ระบาดไปถึงค้างคาวตัวอื่นในถ้ำ ซึ่งข้อที่สำคัญที่สุด คือ การกระจายของโรคระบาด ส่วนใหญ่จะไม่ทำให้ค้างคาวตายแค่ถ้ำเดียว แต่จะมีการแพร่ระบาดไปถึงถ้ำอื่นๆ ด้วย,นายสาระ กล่าวอีกว่า จากการค้นหาข้อมูลพบว่า ทีมวิจัยที่ตรวจสอบหาเชื้อไวรัสในค้างคาว เคยลงพื้นที่สำรวจถ้ำน้ำ จังหวัดกาญจนบุรี มาแล้วครั้งหนึ่ง และพบว่ามีการระบาดของเชื้อไวรัสที่นี่ ทำให้เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ค้างคาวน่าจะตายจากภัยธรรมชาติมากกว่า เพราะเป็นการเกิดเหตุครั้งเดียวแล้วจบ ซึ่งสอดคล้องกับหลักฐานการตรวจพบซากค้างคาว ที่พบว่าทั้งหมดตายในเวลาไล่เลี่ยกัน,ปัจจุบันทั่วโลกยังไม่มีรายงานว่า มีเชื้อไวรัสในค้างคาวติดต่อไปสู่คนโดยตรง ทั้งนี้ต้องให้ความยุติธรรมด้วยว่า สัตว์ป่าทุกชนิดบนโลกนี้ ก็มีเชื้อโรคเป็นของตัวเอง โดยมนุษย์อยู่ในฐานะผู้เฝ้าระวัง แต่ไม่ใช่ตื่นตระหนก นายสาระ กล่าว
นักวิชาการออกโรง ระบุ ผลสำรวจเชื้อโรคในค้างคาวทั่วโลกที่ผ่านมา ยัน ไม่พบการแพร่ระบาดหรือติดต่อไปสู่คน เหตุ ค้างคาวตายที่ถ้ำน้ำ จ.กาญจนบุรี คาด เกิดจากอุบัติเหตุทางธรรมชาติ
ข่าว,ทั่วไทย
ค้างคาว,โรคเมอร์สในค้างคาว,ทีมวิจัยค้างคาว,สุภาภรณ์ วัชรพฤษาดี,สาระ บำรุงศรี,โรคระบาดค้างคาว,ไวรัสสัตว์สู่คน,แพร่ระบาด,ถ้ำน้ำ กาญจนบุรี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/537630
เตรียมนำตัว บอล-กฤษณะ พร้อมพวก ฝากขังศาลเชียงใหม่
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (1 ธ.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษณะ หรือบอล อมิตรสูญ แฟนของ น.ส.ลักขณา หรืออุ้ม วัธนวงศ์สิริ นักแสดงชื่อดัง และพวกอีก 3 คน ผู้ต้องหาในคดีทำร้ายร่างกายบุตรชายผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 ยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ หลังเข้ามอบตัว โดยทั้งหมดถูกตำรวจสอบปากคำ และนำไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเมื่อคืนนี้เพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐาน โดยในวันนี้ตำรวจจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนไปฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีญาติเข้าไปขอประกันตัวพ.ต.อ.อดุลย์ สมนึก ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า จากการสอบปากคำนายกฤษณะ ให้การว่าอยู่ในที่เกิดเหตุจริง แต่ปฏิเสธเป็นคนลงมือหรือสั่งการให้การ์ดทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ขณะที่ฝ่ายสืบสวนกำลังหาเร่งหาพยานหลักฐานเพิ่ม หากพบว่ามีความเกี่ยวโยงถึงผู้ใด รวมถึงกลุ่มนักแสดงดารา ทางตำรวจจะออกหมายเรียกมาให้ปากคำ
ตร.เตรียมนำผู้ต้องหา 4 คน ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกชาย ผบ.มทบ.ที่ 38 ไปฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากมีการสอบปากคำและตรวจร่างกายแล้วเสร็จเมื่อคืนนี้
อาชญากรรม
ลูกนายพล,บอลกฤษณะ,อุ้ม ลักขณา,มาลินสกาย,เชียงใหม่,ข่าวอาชญากรรม
https://news.thaipbs.or.th/content/258295
เครือข่ายรณรงค์ยกเลิกแร่ใยหินฯบุก ก.อุตสาหกรรม
ที่กระทรวงอุตสาหกรรมเครือข่ายรณรงค์ยกเลิกแร่ใยหินประเทศไทย (T-BAN) กว่า 50 คน นำโดยนางสมบูรณ์ สีคำดอกแคตัวแทนสมาชิกสภาเครือข่ายผู้ป่วยแห่งประเทศไทยภายใต้เครือข่ายรณรงค์ยกเลิกแร่ใยหินประเทศไทยเดินทางมายังกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้กระทรวงฯปฏิบัติตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 3 ซึ่งผ่านความเห็นชอบของครม. ตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. 2554 ในมาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน ภายในปี 2555 โดยมีนายไพบูลย์พิมพ์พิสิฐถาวร ที่ปรึกษา นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและนายพงศ์เทพ จารุอำพรพรรณ รองอธิบดีและรักษาการอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นผู้รับมอบหนังสือ โดยนางสมบูรณ์ กล่าวว่าT-BAN จึงมีข้อเรียกร้องต่อกระทรวงอุตสาหกรรม คือ 1.เร่งรัดให้ยกเลิกการนำเข้าวัตถุดิบแร่ใยหินยกเลิกการผลิตและการจำหน่ายสินค้า ที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหินที่สามารถใช้วัตถุดิบอื่นทดแทนได้ภายในสิ้นปีนี้ 2.ให้ยกเลิกการใช้แร่ใยหินในผลิตภัณฑ์5 ประเภท ได้แก่ กระเบื้องแผ่นเรียบ กระเบื้องยางปูพื้นผ้าเบรก และคลัทช์ ท่อซีเมนต์ใยหิน และกระเบื้องมุงหลังคา 3.ให้ปฏิบัติตามมติครม.เมื่อปี 2554 ในมาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหินและ4.ประชาสัมพันธ์อันตรายของแร่ใยหิน และวิธีป้องกันอันตรายให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึงเพื่อลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจและสุขภาพของแรงงานและประชาชน และในวันที่ 19-20พ.ย.นี้ที่โรงแรมเอเซีย ทางกลุ่ม T-BAN และ A-BAN ได้จัดเวทีการประชุมวิชาการเกี่ยวกับการยกเลิกการใช้แร่ใยหินในเอเชียและทั่วโลกขึ้นด้วย มีงานวิชาการในหลายประเทศชี้ว่า แร่ใยหินเป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอดและมะเร็งปอดและส่งผลกระทบต่อผู้ใช้แรงงานและประชาชน ทำให้มีการยกเลิกการใช้การนำเข้าในประเทศต่างๆ อย่างไรก็ตาม จากมติ ครม. เห็นชอบให้ยกเลิกนำเข้าและผลิตแร่ใยหินภายในสิ้นปีนี้ แต่จนถึงปัจจุบัน ยังไม่พบว่ากระทรวงอุตสาหกรรมมีการออกมาตรการรองรับเพื่อทำให้เกิดการยกเลิกนำเข้าการผลิต เพื่อลดการใช้แร่ใยหินในประเทศไทยตามที่มติครม.ประกาศไว้ นางสมบูรณ์ กล่าว ด้านนายพงศ์เทพ จารุอำพรพรรณ รองอธิบดีและรักษาการอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังรับหนังสือเรียกร้องว่า เบื้องต้นกระทรวงอุตสาหกรรมจะเชิญตัวแทนผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อหารือและพิจารณาแนวทางการยกเลิกการนำเข้าแร่ใยหินภายในสิ้นปีนี้ ในวันที่ 19 พ.ย. นี้ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม จากนั้นจะสรุปความเห็นและเสนอกเรื่องเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มติครม.เมื่อปี 2554 เกี่ยวกับเรื่องแร่ใยหิน มี 5 ข้อ คือ 1.เห็นชอบมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 3 ปี 2553 ที่ควรจัดการการฟุ้งกระจายของแร่ใยหินในวัสดุต่างๆที่หมดอายุการใช้งานในชุมชน 2.ห้ามนำเข้าแร่ใยหินไครโซไทล์และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหินไครโซไทล์ที่ใช้วัตถุดิบอื่นหรือใช้ผลิตภัณฑ์อื่นทดแทนได้3.ให้กระทรวงอุตสาหกรรมยกเลิกการนำเข้า ผลิตและจำหน่ายแร่ใยหินและผลิตภัณฑ์ที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบทุกชนิด4.ให้กระทรวงการคลังตรวจสอบสาเหตุสินค้าที่ใช้วัตถุดิบอื่นเป็นส่วนประกอบแทนแร่ใยหินมีราคาสูงขึ้นเนื่องมาจากต้นทุนหรือการเพิ่มอัตราภาษีและ5.ให้กระทรวงสาธารณสุขศึกษาผลกระทบของแร่ใยหินที่มีต่อสุขภาพของผู้ใช้แรงงานและผู้บริโภคที่ทำงานหรือใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องกับแร่ใยหิน
จี้ออกมาตรการเลิกใช้แร่ใยหินภายในสิ้นปีนี้ ตามมติครม. ก.อุตสาหกรรมเด้งรับ เตรียมเชิญตัวแทนผู้เกี่ยวข้องหารือ 19 พ.ย.ก่อนชงเรื่องเข้าครม. แจง แร่ใยหิน ตัวการก่อโรคมะเร็ง
สิ่งแวดล้อม
คณะรัฐมนตรี,ยกเลิก,สมัชชาสุขภาพ,อุตสาหกรรม,เครือข่ายรณรงค์,แร่ใยหิน
https://news.thaipbs.or.th/content/126260
คืบ นศ.สาวถูกมอมยา ตร.มีข้อมูลแล้วยังเปิดเผยไม่ได้ รอผลนิติวิทยาศาสตร์
กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความเตือนภัยผู้หญิง ระบุเหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า เจ้าตัวเป็นนักศึกษาฝึกงานของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ได้รู้จักกับรุ่นพี่ในที่ฝึกงาน และพาไปทานข้าวสองต่อสองที่ร้านอาหาร ก่อนจะพบกับดาราชาย อักษรย่อ ฟ.ฟัน และยื่นขนมเยลลี่มาให้ทาน พร้อมบีบเจลล้างมือให้ แต่เมื่อนักศึกษาสาวทานแล้วกลับโลกหมุน หัวใจเต้นแรง จึงเชื่อว่าถูกมอมยา ก่อนไปแจ้งความที่ สน.ลาดกระบัง วันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งตำรวจออกหมายเรียกรุ่นพี่ที่ฝึกงาน และดาราชายมาให้ปากคำในวันที่ 20 พ.ย.นี้,ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 13.35 น. วันที่ 18 พ.ย.62 ที่ สน.ลาดกระบัง พ.ต.อ.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รอง ผบก.น.3 เข้าติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว พร้อมระบุว่า ขณะนี้ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะคนในเหตุการณ์ หรือบุคคลแวดล้อมอื่นๆ อีกหลายรายเข้าให้ปากคำในทุกประเด็นข้อสงสัย ซึ่งก่อนหน้านี้นักศึกษาสาวได้เข้ามาให้ข้อมูลแล้วบางส่วน แต่รายละเอียดยังเปิดเผยไม่ได้, ขณะที่ตำรวจก็ได้รวบรวมหลักฐานภาพวงจรปิดมาแล้วส่วนหนึ่ง แต่ยังคงต้องรอผลนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบด้วยว่าเด็กสาวรายนี้มีอาการมึนงงจากอะไร ซึ่งก็ยังไม่ยืนยันว่าขนมเยลลี่ดังกล่าวทำให้เกิดอาการมึนหรือไม่. ,ข่าวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้,ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์ ปัดเอี่ยวมอมยา นศ.สาว แต่อยู่ในร้านตอนเกิดเหตุด้วยจริง
รอง ผบก.น.3 เผยกรณี นศ.สาวแจ้งความ อ้างถูกดาราหนุ่มชื่อดังมอมยาว่า ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ปากคำในทุกประเด็นข้อสงสัย โดยได้ข้อมูลมาบางส่วน แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ ต้องรอผลนิติวิทยาศาสตร์
ข่าว,อาชญากรรม
มอมยา,นักศึกษาสาว,มอมยา นศ.ศาว,ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์,สน.ลาดกระบัง,ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา,ให้ปากคำ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1706766
มาไกลมาก แตงโม นิดา โพสต์รูปพลีชีพสมัยเล่นละครกับ เชียร์ ฑิฆัมพร
ทำเอาเพื่อนๆ รวมถึงแฟนๆ แห่แซวนักแสดงสาวชื่อผลไม้แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ กันเต็มไอจีเลยทีเดียว หลังจาก แตงโม โพสต์ภาพคู่กับเพื่อนอย่างนางเอกสาวเชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ เมื่อสมัยเล่นละคร อุ่นไอรัก ทางช่อง 7 ด้วยกัน ซึ่งเป็นภาพก่อนที่ แตงโม จะศัลยกรรมหน้า พร้อมทั้งแคปชั่น ระเบิดพลีชีพบึ้มมมมม #โถกู#มาไกลจนหาทางกลับไม่เจองานนี้เลยมีคอมเมนต์แซวจากคนในรูปอย่าง เชียร์ ฑิฆัมพร ที่บอกว่า โถ แม่กาเหว่าที่บางพลี ทำเอา แตงโม นิดา หัวเราะยาวๆ ด้วยความชอบใจ นอกจากนี้ยังมีเพื่อนๆ รวมถึงแฟนๆ แซวกระหน่ำ อาทิ ใครง่ะ อิอิ พี่เชียร์กับใครแม่ ดาราเก่าเหรอ ตอนนี้ยังอยู่ในวงการไหม อยากเจอ ชอบมากแม่ ชอบสุดๆๆๆ กาเหว่า สวยขึ้นทุกปี ทันดูละครเรื่องนี้ชอบมากๆ น่ารักใสๆ ทั้งคู่เลย ฯลฯเรียกว่าเล่นตัวเองเจ็บน้อยสุดจริงๆ แต่ถึงจะมาไกลขนาดไหน แฟนๆ หลายคนก็ยังยืนยันว่าน่ารักจ้า อิอิ.
ทำเอาเพื่อนๆ รวมถึงแฟนๆ แห่แซวแตงโม นิดา เมื่อเจ้าตัวโพสต์ภาพคู่กับเพื่อนอย่างเชียร์ ฑิฆัมพร เมื่อสมัยเล่นละคร อุ่นไอรัก ทางช่อง 7 ด้วยกัน ซึ่งเป็นภาพก่อนที่แตงโมจะศัลยกรรมหน้า
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์,แตงโม นิดา,เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์,เชียร์ ฑิฆัมพร,ดาราศัลยกรรม,ข่าวบันเทิง,อินสตาแกรมดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1859421
นักข่าวพลเมือง: สนร.ตอบจดหมาย ได้รับเรื่องขยายการเยียวยา ปรับปรุงงบกองทัพ
ตัวแทนเครือข่ายนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มประกายไฟ เปิดเผยว่าได้รับจดหมายจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ได้ส่งข้อเรียกร้องของทางเครือข่ายฯ กรณีให้รัฐบาลเร่งและขยายกรอบการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงทางการเมืองและโดยรัฐ เร่งสืบหาข้อเท็จจริงในเหตุการณ์สลายการชุมนุม ปรับปรุงงบประมาณของกองทัพและนำเอาข้อเสนอเรื่องแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของนักวิชาการ โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า ได้ส่งเรื่องดังกล่าวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาแล้ว โดยจดหมายดังกล่าวมีเนื้อหาถึงนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย ลงวันที่ว่า 23 ม.ค.55 ความว่า ตามที่ท่านได้มีหนังสือกราบเรียนนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งและขยายกรอบการเยียวยา เร่งสืบหาข้อเท็จจริงในเหตุการณ์สลายการชุมนุม ปรับปรุงงบประมาณของกองทัพกรณีการใช้งบประมาณเพื่อจัดซื้ออาวุธของกองทัพให้มีความเหมาะสม และนำเอาข้อเสนอเรื่องแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของนักวิชาการมาพิจารณา และอื่นๆ ความแจ้งแล้วนั้น สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีขอเรียนว่า ได้ประสานงานเพื่อส่งเรื่องดังกล่าวให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมสอบสวนคดีพิเศษ รวมทั้งรองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) ในฐานะประธานกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) รับทราบเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว จดหมายเรียนเพื่อทราบจากส.ปลัดนายกฯฉบับดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 17 ม.ค.55 ที่ผ่านมา ตัวแทนเครือข่ายนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มประกายไฟ ได้เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งและขยายกรอบการเยียวยา เร่งสืบหาข้อเท็จจริงในเหตุการณ์แต่ละกรณีการสลายการชุมนุม ลดงบประมาณกองทัพและนำเอาข้อเสนอเรื่องแก้ ม.112 ของ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) และคณะนิติราษฎร์มาพิจารณา ซึ่งเป็นเวลาไม่กี่นาทีหลังจากที่ทางเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดินหรือกลุ่มเสื้อหลากสี ที่นำโดย นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ได้เข้ายื่นค้านจ่ายชดเชยผู้เสียชีวิตเหตุสลายชุมนุม ซึ่งทางเครือข่ายนักกิจกรรมฯและกลุ่มประกายไฟ ได้เดินสลับการหมอบกราบกลุ่มของ นพ.ตุลย์ เป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร พร้อมชูป้าย \ไม่อยากให้จ่ายเยียวยา? แล้วยุให้ \ฆ่า\ กันทำไม?\ \ไม่มีใครสมควรตายเพราะคิดต่างทางการเมือง\ เสื้อหลากสีได้แต่อย่าให้ใจดำ จากนั้นมีการล้มตัวลงนอนราบไปกับพื้นเพื่อแสดงการคัดค้านการยื่นหนังสือของกลุ่ม นพ.ตุลย์ ดังกล่าว ทั้งนี้ไม่มีการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้น มีเพียงการตะโกนด่าจากกลุ่มผู้สนับสนุน นพ.ตุลย์ เช่น \น่าอนาถ\ \น่าสมเพช\ \พวกเผาบ้านเผาเมือง\ โดยใช้เวลาไม่นานทั้งสองฝ่ายก็ได้ยุติการชุมนุม เครือข่ายนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มประกายไฟ 17 มกราคม 2555 เรื่อง เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งและขยายกรอบการเยียวยา เร่งสืบหาข้อเท็จจริงในเหตุการณ์แต่ละกรณีการสลายการชุมนุม ลดงบประมาณกองทัพและนำเอาข้อเสนอเรื่องแก้ ม.112 ของ คอป.และนิติราษฎร์มาพิจารณา เรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มติคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้มีการจ่ายเงินชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงหรือความขัดแย้งทางการเมือง ตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 ถึงเมษา-พฤษภาปี 2553 โดยการชดเชยเยียวยาให้ครอบคลุมถึงคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ทุกเหตุการณ์ นับแต่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เหตุรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 เหตุการณ์กลุ่มพันธมิตรฯชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เหตุการณ์ชุมนุมของคนเสื้อแดง ทั้งปี 2552 มาจนถึงเหตุความรุนแรงเมษา-พฤษภาปี 2553 รวมวงเงิน 2 พันล้านบาท โดยไม่รวมถึงความเสียหายจากเหตุการณ์อื่นๆ อาทิ กรณีตากใบหรือกรือเซะ นั้น ทางเครือข่ายนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มประกายไฟเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่ายกย่อง เนื่องจากจะเป็นการยกระดับมาตรฐานการให้คุณค่าของชีวิตมนุษย์ในสังคมนี้ และเป็นบทเรียนแก่ผู้กุมอำนาจและสังคมที่จะไม่ปล่อยให้มีการเข่นฆ่าประชาชนเกิดขึ้นอีกต่อไป จริงอยู่ที่เงินเพืยงไม่กี่แสนหรือล้านจะไม่สามารถชดเชยคุณค่าความเป็นมนุษย์ได้ทั้งหมด แต่มติ ครม.นี้ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นที่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตและผู้บาด เจ็บจะต้องได้รับการเยียวยาเป็นการเบื้องต้นจากความสูญเสียที่ไม่ควรที่จะ เกิดขึ้นนี้ โดยมาตรฐานเหล่านี้ถือได้ว่าจะเป็นคุณูปการของประชาชนในสังคมไทยในอนาคตอีกด้วย ในขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.54 ที่ผ่านมาคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(คอป.)ได้เสนอแนะรัฐบาล ว่าควรผลักดันการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เช่นเดียวกับคณะนิติราษฎร์ที่เสนอให้มีการปรับแก้กฎหมายมาตรานี้ ถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่ควรเพิกเฉยควรนำมาพิจารณา พร้อมทั้งเปิดให้สังคมได้มีการแลกเปลี่ยนถกเถียงประชาพิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ดังนั้น ทางเครือข่ายนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มประกายไฟ จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาล ดังนี้ เร่งเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงหรือความขัดแย้งทางการเมือง ตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 ถึงเมษา-พฤษภาปี 2553 ตามมติ คณะรัฐมนตรี เมื่อ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ขยายวงเงินในการเยียวยาในกรณีต่างๆ ปล่อยนักโทษทางการเมืองในทุกกรณี หรืออย่างน้อยให้สิทธิในการประกันตัวเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการต่อสู้คดี พร้อมทั้งเยียวยากลุ่มคนเหล่านั้น รวมทั้งคู่กรณีที่เป็นคดีความกับรัฐทุกกรณีต้องได้รับสิทธิการประกันตัวเพื่อสู้คดีโดยกรมการคุ้มครองสิทธิเเละเสรีภาพ ขยายกรอบการเยียวยาให้ครอบคลุมกรณีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงโดยรัฐอื่นๆด้วย เช่น กรณีความเสียหายที่เกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐ และผู้เสียหายจากกระบวนการตาม พรก. ฉุกเฉิน ในจังหวัดชายแดนใต้ กรณีความรุนแรงทางการเมืองในอดีตอย่าง พ.ค.35
ส.ปลัดสำนักนายกฯ แจ้งส่งข้อเรียกร้อง เร่ง-ขยายกรอบเยียวยา เร่งค้นหาความจริง ปรับปรุงงบกองทัพและแก้ ม.112 ของนักกิจกรรมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้ว วานนี้ (28 ม.ค.55)
การเมือง
กลุ่มประกายไฟ,จดหมาย,สำนักนายกรัฐมนตรี,เยียวยา
https://prachatai.com/journal/2012/01/39002
ประจักษ์ชัย บอกอย่าบ้าจี้ตามใคร สัญญา อาม ชุติมา ไม่ได้ยกเลิกง่ายๆ (คลิป)
หลายคนยังให้ความสนใจกับกรณีของ ประจักษ์ชัย ไหทองคำ เจ้าของค่ายเพลงไหทองคำ เรคคอร์ด กับ อาม ชุติมา อดีตนักร้องในสังกัดที่ขอฉีกสัญญาไปเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา และกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เมื่อ อาม ชุติมา ถูกตำรวจบุกจับคาเวทีขณะขึ้นแสดง,และหลังจากนั้น อัจฉริยะ ก็ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยอามเพื่อยกเลิกสัญญากับทางค่ายไหทองคำ เรคคอร์ด และในวันนี้ ช่วงเวลา 15.00 น. ประจักษ์ชัย ก็ได้ทำการไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊กของตนเอง และพูดถึงเรื่องสัญญาของอามยังไม่เป็นโมฆียะอย่างที่หลายคนเข้าใจ โดยเจ้าตัวเผยว่า,งดสัมภาษณ์ ขอบคุณทุกสื่อทุกแขนง ยังสบายดี สบายใจได้ ลิขสิทธิ์ยังอยู่ที่ค่ายไหทองคำ ลิขสิทธิ์เพลง ลิขสิทธิ์ตัวนักแสดงยังอยู่ที่นี่ คนที่จะยกเลิกได้ก็มีแค่ประจักษ์ชัยเท่านั้น และศาลเท่านั้นที่จะยกเลิกได้ เป็นคำสั่งศาลเท่านั้นที่จะยกเลิก,ฉะนั้นนิติกรรมสัญญายังอยู่นะครับ ทุกอย่างจะปรากฏ ความจริงจะปรากฏช้านิดนึงครับ ไม่ต้องดีใจว่าแถลงยกเลิกสัญญา คนที่ยกเลิกคือศาลครับ อย่าบ้าจี้ไปกับเค้า ใจเย็นๆ ครับ Fc ก็ฟังไปครับ ยังไม่จบง่ายๆ,ซึ่งเรื่องราวของประจักษ์ชัย และ อาม ชุติมา จะลงเอยอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป
ประจักษ์ชัย ไหทองคำ ไลฟ์สด ยังถือลิขสิทธิ์เพลงและตัวนักแสดง คนที่จะยกเลิกได้มีเพียงศาลเท่านั้น!!
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ประจักษ์ชัย ไหทองคำ,อาม ชุติมา,ประจักษ์ชัย อาม ชุติมา,อาม ชุติมา ฉีกสัญญา,นักร้อง
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1402618
ชี้การทดสอบ ไอคิว ไม่ใช่มาตรวัดความอัจฉริยะของเด็ก
จากการปาฐกถาพิเศษเรื่องบ่มเพาะเด็กอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์ IQ สูงสู่การเป็นนักวิจัยที่มีศักยภาพสูงของศาสตราจารย์จิน อะคิยาม่า รองประธานมหาวิทยาลัยโตเกียวและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการศึกษาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยโตเกียว จัดโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)ศาสตราจารย์อะคิยาม่า ระบุว่าความสามารถพิเศษ หรือพรสวรรค์ของปัจเจกบุคคลจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษา ฝึกฝน จุดประกายความกระตือรือร้นและนำพวกเขาไปสู่การเป็นนักวิจัยในที่สุด ทั้งนี้ในส่วนตัวไม่คิดว่าเด็กที่มีความสามารถพิเศษ หมายถึงเด็กที่มีระดับไอคิวสูง หรือมีความรู้มากๆและไม่เชื่อว่าจะสามารถค้นพบเด็กอัจฉริยะได้จากการทดสอบระดับสติปัญญา (IQ Test) หากแต่เด็กที่มีความสามารถพิเศษนั้นจะต้องมีความสนใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างมาก ต้องมีความสงสัยใคร่รู้อย่างเต็มที่และเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่เด็กจะเติบโตกลายมาเป็นนักวิจัยที่ยิ่งใหญ่ทั้งนี้การเป็นนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญนั้น ต้องมีความพยายามที่จะพิสูจน์และคิดอย่างมีตรรกะ ซึ่งความสามารถในส่วนนี้เป็นความสามารถในเชิงคณิตศาสตร์ที่ต้องไดัรับการฝึกให้ชำนาญสำหรับการสอนนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากที่จะทำให้เด็กที่มีความสามารถพิเศษกลายเป็นนักวิจัยที่ยิ่งใหญ่ได้ ดังนั้นครูมีบทบาทสำคัญอย่างมาก ครูควรจะสอนแต่สิ่งที่เป็นพื้นฐานหลัก และสนับสนุนให้เด็กได้ใช้ความคิดอย่างลึกซึ้ง ซึ่งการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการเป็นที่ปรึกษาให้เด็กเป็นสิ่งจำเป็นที่ครูจะต้องทำเป็นสิ่งแรก เพื่อจุดประกายความกระตือรือร้นของเด็กออกมาศาสตราจารย์อะกิยาม่า กล่าวเพิ่มว่า ตัวอย่างการสอนที่ศูนย์วิจัยการศึกษาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยโตเกียวนั้น จะมีการฝึกอบรมครูโดยการให้ความรู้และการสอนเด็กที่มีความสามารถพิเศษ ครูที่มีความสามารถเหล่านี้มีบทบาทสำคัญที่จะช่วยจุดประกายความสงสัยใคร่รู้ที่มีอยู่ในตัวของเด็ก รูปแบบการสอนสามารถทำให้สนุกสนานได้ด้วยการเล่นเกม การสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมไปถึงการกระตุ้นและสนับสนุนให้เด็กมีการค้นคว้าและทดลองทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองด้าน ศาสตราจารย์จูน เมเคอร์ นักการศึกษาแห่งแอริโซนา สหรัฐอเมริกา กล่าวถึงทฤษฎีผลึกแท่งเแก้ว (The Prism Theory) เป็นทฤษฎีใหม่ที่ใช้แสดงถึงความสามารถพิเศษของเด็ก ว่า คนเราไม่สามารถที่จะเรียนรู้โดยปราศจากการจดจำข้อเท็จจริง ความสามารถทั่วไปทั้ง 5 ของมนุษย์ ได้แก่ ความคิดสร้างสรรค์ ความจำ การหยั่งรู้โดยสัญชาตญาณ การใช้เหตุผล และความสามารถในเชิงตรรกะ ซึ่งภายใต้ทฤษฎี Prism นี้ ความสามารถทั่วไปทั้ง 5 จะสะท้อนออกมาในความสามารถเฉพาะทาง 10 สาขา ได้แก่ สังคม อารมณ์ คณิตศาสตร์ กายและอริยบถ การมองเห็นและอวกาศ การได้ยิน ภาษาศาสตร์ เทคนิคและเครื่องกล รวมถึงวิทยาศาสตร์และจิตใจโดยมีความสามารถพื้นฐานที่เหมือนกัน เมื่ออยู่ในสาขาที่แตกต่างกันย่อมแตกต่างกัน เช่นความสามารถในความคิดสร้างสรรค์ในสาขาสังคม กับความสามารถในความคิดสร้างสรรค์ในสาขาเทคนิคและเครื่อง กลย่อมไม่เหมือนกัน ดังนั้นวิธีการสอน จำเป็นต้องสอนให้เด็กเรียนรู้ข้อมูลสำคัญที่ทำให้เข้าใจ
นักการศึกษาญี่ปุ่น-อเมริกา ชี้การทดสอบไอคิว ไม่ใช่มาตรวัดความอัจฉริยะของเด็ก ระบุครู มีบทบาทสำคัญในการสร้างและกระตุ้นการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
ไอคิว,อัจฉริยะ,เด็กความสามารถพิเศษ,กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี,ความจำ,การศึกษา,นักเรียน,โรงเรียน,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/274305
ศูนย์ข่าวอิศรา: ชุมนุมนักคิดฝ่าวิกฤติไอปาแย
คนร้ายบุกยิงถึงในมัสยิดที่บ้านไอปาแย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2552 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 10 ศพ บาดเจ็บอีก 12 คนปรากฏการณ์สุดอุกอาจที่เรียกได้ว่าเป็นการ สังหารหมู่ ถึงใน ศาสนสถาน ทำให้เกิดคำถามย้อนกลับไปในหลายๆ มิติ ทั้งปฏิบัติการของฝ่ายความมั่นคง นโยบายการแก้ไขปัญหาของรัฐไทย (ไม่เฉพาะรัฐบาล) ความคุ้มค่าของงบประมาณจำนวนมหาศาลที่ทุ่มลงมาในพื้นที่และที่สำคัญคือภาพพจน์ของไทยในสายตาชาวโลก โดยเฉพาะโลกมุสลิม ต่อการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นประเด็นอ่อนไหวที่สุดของสงครามที่เชื่อกันว่ามีเป้าหมายสุดท้ายอยู่ ที่การแบ่งแยกดินแดนความสำเร็จที่รัฐบาลในอดีตเคยอ้างว่าสามารถหยุดการยกระดับปัญหาสู่ระดับสากล ได้ชะงัดนั้น ถึงวันนี้เริ่มมีคำถามหนาหูว่ายังจะเป็นเช่นนั้นอยู่หรือ?ในเวทีสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง อิสลามกับความท้าทายของโลกสมัยใหม่ ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เมื่อไม่กี่วันมานี้ กลายเป็น ชุมนุมนักคิด จาก หลากหลายสาขา ทั้งรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ และนักการศาสนา ที่ล้วนหยิบประเด็นความรุนแรงที่มัสยิดเล็กๆ แห่งนั้นขึ้นมาวิเคราะห์ ทั้งตั้งคำถามและพยายามตอบคำถามเพื่อฝ่าวิกฤติไอปาแยรศ.ดร.มารค ตามไท ผู้อำนวยการสถาบันศาสนาและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยพายัพ ในฐานะนักวิชาการที่เฝ้าติดตามปัญหาภาคใต้มาโดยตลอด ให้สติในเบื้องแรกว่า สิ่งสำคัญคือทุกฝ่ายอย่าพึ่งรีบสรุป เพราะหลายอย่างที่เกิดขึ้นภาครัฐเองก็ไม่รู้อะไรเหมือนกัน แต่ก็รีบสรุปเกินไป ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าปกปิดบ้าง หรือถึงแม้จะไม่ปกปิด แต่ก็เข้าใจได้ว่าค่อนข้างมีอคติดังนั้นประการแรกคือภาครัฐต้องประกาศก่อนว่าไม่รู้ และประการต่อมาก็เร่งจัดทำการสอบสวนอย่างจริงจัง เพื่อพิสูจน์ให้ประชาชนได้เห็นอาจารย์มารค มองว่า สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ที่ความรุนแรงปะทุขึ้นอีกระลอกหลังจากเงียบมา พักหนึ่ง ชี้ให้เห็นว่าภาครัฐไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้จริง แต่ในส่วนท่าทีขององค์กรต่างประเทศ เท่าที่ทราบยังไม่ค่อยอยากมายุ่งมากนัก เพราะเห็นว่ารัฐไทยก็มีความพยายามจัดการเองอย่างจริงจังอย่างไรก็ดี อาจารย์มารค ย้ำว่า รัฐบาลต้องไม่ปล่อยให้กรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่คาใจเงียบหายไปก็อย่างที่เราทราบกัน คือคนในพื้นที่เองก็มีข้อสรุปแล้วในใจ ฉะนั้นถ้าไม่พิสูจน์อะไรออกมาให้ชัด ข้อสรุปนั้นก็จะอยู่ต่อไป และถ้าข้อสรุปที่ภาครัฐพิสูจน์แล้วออกมาอย่างไร รัฐเองก็ต้องยอมรับ ไม่ใช่ปล่อยให้มีการปกปิด ต้องยอมรับกันอย่างตรงไปตรงมา ที่สำคัญคือต้องรีบจัดการ เพราะถ้าไม่รีบจัดการก็จะมีการพูดกันเหมือนกรณีกรือเซะ กรณีตากใบ อย่าให้มีกรณีที่สามคือกรณีมัสยิดที่บ้านไอปาแย อย่างนี้มันจะฝังอยู่ในใจ และเอาออกยาก มันเป็นอุปสรรคในการทำงานการเมือง งานพัฒนา เพราะมันจะติดกับเรื่องที่ยังไม่คลี่คลาย ผศ.สุชาติ เศรษฐมาลินี นักวิชาการมุสลิมจากมหาวิทยาลัยพายัพ ซึ่งมีโอกาสลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้บ่อยครั้ง กล่าวว่า ภายหลังได้ทราบข่าวไฟใต้ระลอกใหม่ พี่น้องมุสลิมทางภาคเหนือมีความเป็นห่วงมาก ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ที่ไอปาแย สำหรับคนมุสลิมแล้วทำใจได้ยากจริงๆ เพราะคนที่กำลังละหมาด กำลังสักการะพระผู้เป็นเจ้า ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างมาก เนื่องจากมุสลิมจะได้รับการปลูกฝังว่า เวลาที่ละหมาดจะเป็นช่วงที่เราใกล้ชิดพระเจ้ามากที่สุด เป็นช่วงที่มุสลิมจะต้องมีความมุ่งมั่นต่อพระองค์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงมีผลกระทบต่อจิตใจอย่างมหาศาล และไม่ได้ส่งผลแค่คนมุสลิมในประเทศไทยเท่านั้น แต่มันคือมุสลิมทั่วโลกสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากก็คือ ไม่ว่าใครจะเป็นคนกระทำการครั้งนี้ก็ตาม แต่ชาวบ้านก็เชื่อไปแล้วว่าใครเป็นคนทำจะจริงหรือไม่ผมก็ไม่รู้ แต่ความคิดความเชื่อตรงนี้มันน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ฉะนั้นรัฐต้องรีบเยียวยาจิตใจ และผมก็ไม่แน่ใจว่าการชี้แจงทำความเข้าใจของภาครัฐมันจะช่วยให้คนมุสลิมเข้า ใจหรือไม่ แต่คำตอบตรงนั้นเขามีอยู่แล้ว ซึ่งผมคิดว่าทุกฝ่ายจะต้องช่วยกัน โดยเฉพาะองค์กรมุสลิมผมไม่อยากเห็นการแก้แค้น ล้างแค้นกันไม่มีที่สิ้นสุด เพราะในคุตบะฮ์สุดท้าย (บทสั่งสอน ตักเตือน ก่อนละหมาดวันศุกร์) ของท่านศาสดามูฮัมหมัดก็พยายามให้ยุติการล้างแค้นต่างๆ แต่ในส่วนของการสร้างความยุติธรรม การเยียวยาตรงนั้นก็ต้องทำ อย่าหยุดแค่นี้แล้วเลิกกันไป จะต้องมีการทบทวนทำความเข้าใจร่วมกันที่จะไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น อีก รศ.ดร.จรัญ มะลูลีม นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองในมิติของเวทีนานาชาติว่า ปัญหาภาคใต้เป็นเรื่องของชนกลุ่มน้อยมุสลิม ซึ่งในกฎบัตรขององค์การการประชุมอิสลาม หรือ โอไอซี คือถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ชนกลุ่มน้อยมุสลิมได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจหรือความ ตาย โอไอซีจะต้องยื่นมือเข้าไปดูแล และด้วยสถานะที่ประเทศไทยเป็นผู้สังเกตการณ์ (ในการประชุมโอไอซี) ฉะนั้นจะต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ให้มากสิ่งสำคัญคือต้องเร่งทำให้เกิดความยุติธรรม ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจนในการจับกุม ต้องแสดงให้ทั่วโลกเห็นว่ากระบวนการด้านกฎหมายของไทยนั้นมีความยุติธรรม ที่สำคัญอย่ามองคนจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นคนชายขอบ เพราะกรณีนี้โลกมุสลิม ซึ่งก็คือประเทศสมาชิกโอไอซีถึงกับพูดว่า ความสัมพันธ์ที่มีต่อไทยนั้น ปัจจัยหนึ่งขึ้นอยู่กับความสงบในภาคใต้ด้วยเหตุ นี้การที่พี่น้องมุสลิมอยู่ในสภาพที่ถูกล้อมปราบ หรืออยู่ในสภาพที่เขาจะมีชีวิตร่วมกับสังคมอื่นได้อย่างเท่าเทียมกัน เป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากที่สุด เรื่องความเท่าเทียมนั้นถ้าเรามองเผินๆ อาจจะมองเห็นไม่ชัด แต่จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องของกฎหมาย เป็นเรื่องของการใช้กฎหมาย การแสดงความโปร่งใสในการสอบสวนและทำความจริงให้ปรากฏสำหรับความรู้สึกของพี่น้องมุสลิมในภาคกลาง รศ.ดร.จรัญ กล่าวว่า เท่าที่ได้พูดคุย ได้ฟัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการรวมตัวกันที่ศูนย์กลางมุสลิมแห่งประเทศไทย ทำให้ทราบว่าไม่ว่าจะเป็นที่ไหนๆ พี่น้องมุสลิมที่อื่นๆ มีความเป็นห่วงพี่น้องมุสลิมในภาคใต้อย่างมาก มีการพูดถึง มีการอภิปราย มีการนำประเด็นปัญหามาถกกันดังนั้นในฐานะที่เราเป็นประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตย ส่วนใดที่มีผลกระทบกับพี่น้องมุสลิม ก็จะได้รับความสนใจอย่างสูง ซึ่งไม่ใช่ว่าจะมีการแบ่งแยกอะไร โดยเฉพาะล่าสุดเหตุการณ์สังหารในมัสยิด จากนั้นก็มีเหตุการณ์สังหารพระภิกษุสงฆ์ ทุกคนก็สนใจ และไม่มีใครอยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นที่สำคัญก็คือเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องนำคนผิดตัวจริงมาลงโทษให้ได้ เพื่อให้เห็นชัดว่าใครคืออยู่เบื้องหลังการกระทำ ซึ่งอย่างน้อยก็ทำให้พี่น้องมุสลิมทั่วไปเข้าใจว่าภาครัฐติดตามอย่างแท้ จริงรศ.ดร.จรัญ ชี้ด้วยว่า ที่ผ่านมามีความพยายามเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาจากฝ่ายต่างๆ แต่ก็ไม่เห็นความคืบหน้ามากนัก สิ่งที่ปรากฏอยู่เป็นประจำก็คือ เวลามีเหตุร้ายที ก็เฮโลกันทีผมได้มีโอกาสไปพูดในหลายที่ และได้รับฟังข้อเสนอจากหลายฝ่าย บางคนคิดไปถึงการได้รับสิทธิอย่างชาวไทยพุทธเชื้อสายมาเลย์ (ในประเทศมาเลเซีย) คือมีความเท่าเทียมกัน บางคนก็คิดไปถึงการให้ภาษามลายูเป็นภาษาทำงาน เราพูดถึงทางแก้กันเยอะ แต่คนที่เราเสนอเขาก็ไม่รับ พอมาตอนนี้เราเลยต้องมาแก้เหตุร้ายรายวัน ซึ่งพอเกิดเหตุใหญ่ทีหนึ่ง เราก็เฮโลกันทีหนึ่ง ผลสุดท้ายเราก็กลับมาที่เดิม จุดเดิม ไม่บรรลุความสำเร็จได้สักที รศ.ดร.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตั้งโจทย์ว่า สถานการณ์ของสามจังหวัดชายแดนใต้นั้น ปัญหาใหญ่คือวิธีการที่เราเลือกในการแก้ปัญหามันส่งผลต่อสิ่งที่เราจะได้รับ อย่างไร เช่น เราใช้วิธีการที่ไม่ดีเพื่อผลที่เราคาดว่าจะดี มันเป็นไปไม่ได้ ตัววิธีการมันจะส่งถึงผลที่จะเกิดสมมุติเราบอกว่าการทรมานทำให้เราได้ข้อมูล แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือว่า เราเองก็รู้ว่าสิ่งที่เราได้มาได้มาจากการทรมาน ซึ่งมันยอมรับกันได้หรือในสังคมนี้ เพื่อที่จะให้ได้คำตอบ เราจะทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้นหรือสถานการณ์แบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา ก็มีการถกเถียงกันมาก เพราะวิธีนี้พอทำแล้วมันอาจจะได้ผล แต่มันทำลายตัวตนของเรา และเรื่องที่ใหญ่กว่า คือ เราอย่าลืมว่าเราอยากจะแก้ปัญหาประเทศนี้ บ้านเมืองนี้ ทำให้ทุกคนอยู่กันได้ในฐานะที่เป็นคนอยู่ภายใต้สังคมเดียวกัน ฉะนั้นเราต้องไม่ลืมโจทย์ข้อแรกที่เราตั้งภาครัฐจำเป็นต้องตรวจสอบตัวยุทธศาสตร์ว่าเข้าใจมันดีแล้วแค่ไหน รวมทั้งอะไรที่เป็นปัญหาจริงๆ ซึ่งบางอย่างพูดได้ บางอย่างพูดไม่ได้ แต่จำเป็นต้องเอาความจริงออกมา มีเอกภาพในการควบคุมสถานการณ์ตามสมควร มีเอกภาพในการควบคุมกำลัง เรามองเห็นปัญหาตอนนี้แล้วว่าทหารไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้จริง นายอนุกูล อาแวปูเตะ ทนายความจากศูนย์ทนายความมุสลิม ให้น้ำหนักไปที่วิธีปฏิบัติของฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะการปิดล้อม ตรวจค้น จับกุม และการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ที่ยังสร้างปัญหาเสมอมาผมไม่ได้มองว่าการจับกุมการดำเนินคดีไม่ใช่ความสำเร็จในการแก้ปัญหา แต่ต้องไม่ลืมว่าความสำเร็จที่แท้จริงคือเจ้าหน้าที่รัฐจะทำอย่างไรให้ชาว บ้านให้ความร่วมมือมากที่สุด และทำให้กลุ่มขบวนการถูกบีบด้วยพลังของมวลชน พลังของชาวบ้านเองฉะนั้นผมอยากให้รัฐเน้นเรื่องการพัฒนาเป็นหลัก ไม่ใช่เน้นเรื่องการปราบปราม จับกุม การแก้ปัญหาภาคใต้ไม่ใช่มองว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องชนะ ผมชนะในหลายคดีนั่นคือความสำเร็จหรือมันไม่ใช่ เจ้าหน้าที่รัฐสามารถจับกุมคนมาดำเนินคดีได้หลายคนถือเป็นชัยชนะหรือมัน ก็ไม่ใช่ เราจะมาเห็นผลของการแพ้ชนะท่ามกลางความไม่สงบ ท่ามกลางความสูญเสียของชีวิตและทรัพย์สินไม่ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่สิ่งที่จะมาเดิมพันกัน ดังนั้นผมทำคดีในวันนี้ คือการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งหลักของกระบวนการยุติธรรมทนายอนุกูล ยังตั้งคำถามถึงประสิทธิผลที่แท้จริงจากการใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่เหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นมันพิสูจน์แล้วว่า การประกาศใช้กฎหมายพิเศษ โดยเฉพาะ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548) มันได้ผลลบมากกว่าบวก จึงอยากจะฝากถึงทุกหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานไหนก็แล้วแต่ว่าให้ทบทวน ยุทธศาสตร์ที่กำลังทำทั้งหมดก่อนที่ปัญหาจะบานปลายต่อไปเป็นข้อเสนอจากความห่วงใยของ นักคิด หลากหลายสาขาที่ต่างก็ภาวนาให้ภาคใต้สันติสุข
แม้ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาจะเกิดเหตุร้ายรายวันในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เหตุการณ์ที่ถูกพูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์กันมากที่สุดย่อมหนีไม่พ้นเหตุการณ์
การเมือง,สิทธิมนุษยชน,ความมั่นคง,สังคม
นายอนุกูล อาแวปูเตะ,บ้านไอปาแย,ผศ.สุชาติเศรษฐมาลินี,รศ.ดร.จรัญ มะลูลีม,รศ.ดร.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์,รศ.ดร.มารค ตามไท,สังหารหมู่,สามจังหวัดชายแดนใต้,โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
https://prachatai.com/journal/2009/07/25010
กระแสฟุตบอลโลกดันขนมขบเคี้ยวคึกคัก
มันฝรั่งเลย์ ด้วยการพัฒนาแพ็กเกจจิ้งที่มีลาย ลิโอเนล เมสซี เจ้าของสถิตินักเตะยอดเยี่ยม แห่งปี 5 สมัย อยู่บนซองเลย์ 4 รสชาติยอดนิยม อาทิ เลย์รสมันฝรั่งแท้ ทั้งแบบแผ่นเรียบและแผ่นหยัก, เลย์แผ่นเรียบรสโนริสาหร่าย, เลย์แผ่นหยักกลิ่นเอ็กซ์ตร้าบาร์บีคิว และเลย์แผ่นหยักรสหมึกย่างฮอตชิลลี่ โดยจะวางขายในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้เท่านั้น และจะทำโปรโมชันร่วมกับเครื่องดื่ม เป๊ปซี่ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เติมความมันส์กับทุกแมตช์การแข่งขัน,ช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก และฟุตบอลแมตช์ต่างๆ ถือเป็นช่วงฤดูกาลขาย เพราะผู้บริโภคทั้งคนไทยและคนทั่วโลกมีพฤติกรรมกิน-ดื่มครบ คาดว่ากิจกรรมดังกล่าวจะช่วยดันยอดขายทั้งในกลุ่มขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มเป๊ปซี่ช่วงกลางปีให้เติบโตได้ตามเป้า หลังพบตลาดมันฝรั่งทอดกรอบที่ปัจจุบันมีมูลค่ารวมอยู่ 10,000 ล้านบาท โดยในช่วง 4 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-เม.ย.) ตลาดมันฝรั่งเติบโตสูงถึง 17.80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และถือเป็น 1 ใน 3 ของผลิตภัณฑ์ที่มีการเติบโตสูงที่สุดในอุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยว และปัจจุบันพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภค กว่า 65% ที่ซื้อขนมขบเคี้ยวจะเลือกซื้อเครื่องดื่มไปด้วย ดังนั้น เลย์จึงจับมือกับเครื่องดื่มเป๊ปซี่ แบบขายแพ็กคู่ เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลเชียร์ฟุตบอลโลกครั้งนี้,ด้านนางสาวคลาวเดีย นาวาร์โร ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เครื่องดื่มโค้ก คือผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 และเป็นพันธมิตรหลักของการแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกมาโดยตลอดกว่า 40 ปี นับตั้งแต่ปี 2521 เป็นต้นมา และในมหกรรมฟุตบอลโลกปีนี้ จึงเปิดตัว โค้ก ฟีฟ่า ลิมิเต็ด อิดิชัน บรรจุภัณฑ์โค้ก ที่มีดีไซน์พิเศษ มีลวดลายธงชาติ 9 ยอดทีมลูกหนังโลก ที่เข้ารอบสุดท้ายของการแข่งขัน ได้แก่ บราซิล เยอรมนี โปรตุเกส สเปน ฝรั่งเศส รัสเซีย ญี่ปุ่น อาร์เจนตินา และทีมชาติอังกฤษ ซึ่งหนึ่งทีมขวัญใจชาวไทยมาไว้บนกระป๋องและบนขวดให้คอบอลและนักสะสมขวดโค้ก นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ อาทิ แมคโดนัลด์, ไลน์ คอร์ปอเรชั่น และอีก 5 ร้านค้าชั้นนำในประเทศไทย เพื่อต่อยอดธุรกิจ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเชียร์ฟุตบอลโลก.
นายเคิร์ท พรีชอว์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 นับเป็นโอกาสของการทำการตลาดกระตุ้นยอดขายผลิตภัณฑ์
ข่าว,เศรษฐกิจ
ฟุตบอลโลก 2018,ขนมขบเคี้ยว,เครื่องดื่ม,เป๊ปซี่,โค้ก,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1301444
โหน่ง ชะชะช่า อดอุ้มหลาน เดียร์-ไอซ์ อธิชนัน ส่อแววเลิก
ส่อแววรักร้าวอีกคู่ เมื่ออยู่ๆ เดียร์ กิตติภูมิ ลูกชายสุดหล่อของตลกซุปตาร์ โหน่ง ชะชะช่า ลบรูปคู่กับดาราสาวช่อง 7 ไอซ์ อธิชนัน จากอินสตาแกรมส่วนตัว @dearkikrayy หมดเกลี้ยง จนแฟนคลับที่ตามเชียร์ความรักของทั้งคู่เข้าไปถามว่าเกิดอะไร แต่ลูกชายตลกสุดหล่อก็ยังนิ่ง ไม่ตอบอะไร,ก็เลยอดอยากรู้ไม่ได้ว่าฝ่ายหญิงไปทำให้ฝ่ายชายโกรธถึงกับลบรูปทิ้งเกลี้ยง เพราะด้าน สาวไอซ์ เองยังคงไม่ลบรูป หนุ่มเดียร์ ออก รูปที่ลงล่าสุดเมื่อวันเกิดฝ่ายชายเมื่อสิ้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา,บันเทิงไทยรัฐออนไลน์สายตรงไปสอบถามจาก สาวไอซ์ ว่าเกิดอะไรขึ้นเลิกกันหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่า ยังไม่สะดวกตอบในตอนนี้ งานนี้ก็ต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าตำนานรักลูกตลกกับดาราสาวจะปิดฉากลงหรือไม่? ,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,เดียร์ ลูกโหน่ง ชะชะช่า ขับBMW ชนเก๋งแลนเซอร์เจ็บคู่กรณีดับคาที่(คลิป),ไอซ์ ช็อกแฟนหนุ่ม เดียร์ ลูกโหน่ง รถชนมีคนตาย รอสะดวกจะไปเยี่ยม(คลิป),โหน่ง ชะชะช่า ตกใจลูกชาย เดียร์ ขับรถชน ยืนยันไม่เมา (ชมคลิป)
ส่อแววรักร้าวอีกคู่ เมื่ออยู่ๆ เดียร์ กิตติภูมิ ลูกชายสุดหล่อของตลกซุปตาร์ลบรูปคู่กับดาราสาวช่อง 7 ไอซ์ อธิชนัน จากอินสตาแกรมส่วนตัว หมดเกลี้ยง
ข่าว
เดียร์ ลูกโหน่ง ไอซ์ อธิชนัน,เดียร์ ไอซ์,เดียร์ ลูกโหน่ง ชะชะช่า,ไอซ์ อธิชนัน,เดียร์ ลูกโหน่ง ไอซ์ อธิชนัน เลิก
https://www.thairath.co.th/news/887190
แว้นคะนอง ซิ่ง จยย.เกี่ยวกันล้มเสียหลัก หัวฟาดถนน ดับ 1 เจ็บ 1
เมื่อวันที่ 12 ส.ค.61 ร.ต.อ.สุทธิพล กลิ่นอุดม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุรถ จยย.เฉี่ยวกันล้ม มีผู้ได้รับบาดเจ็บบนถนนบายพาสเลี่ยงเมืองชลบุรี ขาเข้ากรุงเทพฯ ช่วงหน้าปั้มน้ำมันคุณภาพ หมู่ 1 ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมกู้ภัยไตรคุณธรรม พบร่าง ด.ช.เกียรติรัตน์ ศุภนิจ อายุ 14 ปี นอนสภาพมีบาดแผลแตกที่ศรีษะเป็นแผลฉกรรจ์ กู้ภัยฯพยายามปั้มหัวใจยื้อชีวิตแต่ ด.ช.เกียรติรัตน์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อไป ใกล้กันพบ นายกิตติภูมิ อรัญคีรี อายุ 17 ปี ได้รับบาดเจ็บถลอกตามร่างกาย กู้ภัยฯรีบนำส่ง รพ.ชลบุรี,ที่เกิดเหตุพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า ดรีมซุปเปอร์คัพ สีแดง ทะเบียน 2 กฉ 6721 ชลบุรี ของผู้ตายเพียงคันเดียวล้มอยู่สภาพมีรอยครูด,สอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์เผยว่า ผู้ตายและผู้ได้รับบาดเจ็บขี่รถ จยย.มาคนละคัน มาเป็นกลุ่มประมาณกว่า 10 คัน ขี่ซิ่งแข่งกันแล้วรถ จยย.เกี่ยวกันเองล้มลงเป็นกอง แต่พอรู้ว่าเพื่อนตายได้พากันนำรถ จยย.หลบหนีไปหมด รวมทั้งรถ จยย.ของ นายกิตติภูมิ ผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้รอสอบสวน นายกิตติภูมิ ผู้ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เกิดเหตุเด็กแว้นซิ่งรถ จยย.แข่งกันด้วยความเร็วแล้วเกี่ยวกันเองล้มคว่ำ ศรีษะฟาดพื้นดับ 1 ราย เจ็บอีก 1 ราย ส่วนเพื่อนที่มานำรถ จยย.ขี่เผ่นหนี
ข่าว,ทั่วไทย
เด็กแว้น,จยย.เกี่ยวกันล้ม,เด็กแว้นซิ่ง จยย.,จยย.คว่ำเสียชีวิต,ชลบุรี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1352914
มาร์ค แนะฝ่ายนโยบายร่วมแจงซื้อ เรือดำน้ำ ลดสังคมแคลงใจ
เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 60 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชี้แจงกรณีซื้อเรือดำน้ำจากจีน ของกองทัพเรือ (ทร.) ว่า เห็นใจคนชี้แจงเพราะว่าอยู่ในบรรยากาศที่ชี้แจงยาก แต่ก็ทำดีที่สุดแล้ว ซึ่งน่าเสียดายว่า ถ้าการตัดสินใจเรื่องนี้มีความโปร่งใส ชัดเจนในความหมายที่ว่า ไม่ได้ไปปิดเป็นความลับจนกระทั่งคนไปรู้เข้า แล้วเกิดการทักท้วงขึ้น การชี้แจงต่างๆ คงง่ายกว่านี้ บังเอิญไปทำแบบนี้ ทำให้สังคมความระแวงสงสัยคลางแคลงใจ แต่ถือเป็นการชี้แจงที่มีรายละเอียดมากขึ้น เป็นการยืนยันของ ทร.เรื่องความจำเป็นในเชิงยุทธศาสตร์ และให้ความมั่นใจในเรื่องคุณภาพเรือ แต่ก็มีคนไม่เห็นด้วยจำนวนหนึ่ง ที่อาจจะยังไม่เชื่อมั่นประเด็นเชิงเทคนิคว่า เรือดำน้ำจะใช้ประโยชน์ได้อย่างที่พูดกันว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดหรือยัง,ทั้งนี้เห็นว่าฝ่ายนโยบายจะต้องมาช่วยชี้แจงด้วยว่า มันไม่ใช่แค่ในเชิงเทคนิคของ ทร. แต่ในแง่ภาพรวมของยุทธศาสตร์ความมั่นคงของประเทศ ความเป็นพันธมิตรกับประเทศอื่นๆ มีผลต่อการตัดสินใจมากน้อยแค่ไหน โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปพูดทุกเรื่อง เพราะเข้าใจดีเรื่องความมั่นคงจะพูดลงรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้ แต่เทียบเคียงในยุคที่ตนเป็นรัฐบาลบอกกับกองทัพว่า การซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เป็นเรื่องจำเป็น ไม่มีใครปฏิเสธ เป็นความมั่นคง แต่ต้องยอมรับเรื่องฐานะการคลัง เศรษฐกิจของประเทศ การจะซื้ออะไรต้องคุ้มค่า แต่ละเหล่าทัพไปบูรณาการจัดลำดับความสำคัญมา เพราะเราไม่สามารถซื้อหลายๆ อย่างได้พร้อมกัน,ตอนนั้นเรามุ่งที่เรือตรวจการณ์ ทุกฝ่ายยอมรับก็เดินหน้ากัน แต่เรื่องเรือดำน้ำ มันไม่ได้เริ่มต้นอย่างนี้ มันกลายเป็นเรื่องของโครงการ ไม่ใช่ภาพรวมของแนวทางยุทธศาสตร์ พอมันมีโครงการขึ้นมา คนก็เริ่มถกเถียงกันเรื่องรายละเอียด หากมันเริ่มต้นตั้งแต่ในแง่ของแนวทางยุทธศาสตร์ ความมั่นคงที่จะเป็นคำตอบว่า สอดคล้องหรือไม่,นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ทางการมาเลเซียเตือนไทยว่า มีกลุ่มไอซิสหนีเข้าไทย ประกอบกับเกิดเหตุการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ (จชต.) ว่า ภัยจากการก่อการร้ายและไอซิส เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงอยู่แล้ว ที่ผ่านมาทั้งในภูมิภาคของเราเอง หรือภูมิภาคอื่นต่างจับตาว่าการเคลื่อนไหวในภูมิภาคนี้ รวมถึงกรณีภาคใต้ของไทยด้วย ดังนั้น รัฐบาลต้องจริงจังในการประสานกับมาเลเซีย เพื่อให้ได้ข้อมูลและหาทางที่จะป้องกันสกัดกั้นตามนั้นไป แต่ส่วนตัวยังไม่คิดว่ามีอะไรที่เป็นตัวบ่งชี้ว่า สถานการณ์ชายแดนภาคใต้ รวมทั้งความรุนแรงที่เกิดขึ้น ไปเชื่อมโยงกับกลุ่มไอซิส หน่วยงานความมั่นคงก็ต้องติดตาม แล้วก็ต้องประสานงานกันกับประเทศเพื่อนบ้าน
อภิสิทธิ์ แนะฝ่ายนโยบายร่วมชี้แจงโครงการ เรือดำน้ำ ลดความแคลงใจของสังคม เชื่อปมไฟใต้ไม่เอี่ยวปม มาเลเซีย เตือนระวัง ไอซิส เข้าไทย
ข่าว,การเมือง
เรือดำน้ำ,กองทัพเรือ,ก่อการร้าย,ไฟใต้,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
https://www.thairath.co.th/news/politic/931182
บิ๊กต้อม ฟันธง เอเชียนเกมส์มีเฮ เชื่อได้ทองมากกว่าครั้งก่อน
บิ๊กต้อม ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬา มั่นใจทัพไทยชุดสู้ศึกเอเชียนเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย ทำได้มากกว่าครั้งก่อน 12 เหรียญทอง เพราะครั้งนี้มีกีฬาแข่งขันมากกว่าเดิม และไทยส่งทุกชนิดกีฬา,วันที่ 23 ม.ค.60 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมา ที่สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธาน และเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการคัดเลือกนักกีฬาไปร่วมแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 จาการ์ตา ปาเล็มบัง 2018 ระหว่างวันที่ 18 ส.ค.-2 ก.ย.นี้ ที่กรุงจาการ์ตา และเมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย,ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ได้แต่งตั้ง บิ๊กต้อม นายธนา ไชยประสิทธิ์ เป็นหัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ซึ่งเป็นเอเชียนเกมส์ สมัยที่ 4 แล้ว ที่นายธนารับหน้าที่ดังกล่าว สำหรับชนิดกีฬาที่แข่งขันรวม 40 ชนิดกีฬา (46 สมาคมกีฬา) ชิง 426 เหรียญทอง แบ่งการแข่งขันเป็น 2 เมือง ที่กรุงจาการ์ตา 32 ชนิดกีฬา ว่ายน้ำ (กระโดดน้ำ, ระบำใต้น้ำ, โปโลน้ำ), ยิงธนู, กรีฑา, แบดมินตัน, เบสบอล-ซอฟต์บอล, บาสเกตบอล, มวยสากล, บริดจ์, แคนูสลาลอม, จักรยาน, ขี่ม้า, ฟันดาบ, ฟุตบอล, กอล์ฟ, ยิมนาสติก, แฮนด์บอล, ฮอกกี้, เจ็ตสกี, คาราเต้, กาบัดดี้, มาเชียลอาร์ต (ยูยิตสู, ปันจักสีลัต, วูซู, คูราช, แซมโบ), ปัญจกีฬาสมัยใหม่, กีฬาทางอากาศ, รักบี้ 7 คน, เรือใบ-วินด์เซิร์ฟ, สควอช, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, วอลเลย์บอลในร่ม, ยูโด, ยกน้ำหนัก, มวยปล้ำ และที่เมืองปาเล็มบัง 11 ชนิดกีฬา โบว์ลิ่ง, เรือกรรเชียง, แคนูสปรินต์, ตะกร้อ, ยิงปืน-ยิงเป้าบิน, ฟุตบอลหญิง, โรลเลอร์สปอร์ต, ปีนหน้าผา, เทนนิส-ซอฟต์เทนนิส, ไตรกีฬา, วอลเลย์บอลชายหาด,นายธนา กล่าวว่า นักกีฬาและเจ้าหน้าที่หลายคนมีประสบการณ์ในการแข่งขันที่อินโดนีเซียพอสมควร จากซีเกมส์เมื่อปี 2011 ซึ่งการเชียร์หรือบรรยากาศบางอย่างค่อนข้างอันตราย คงต้องฝากทุกคนให้ระวังเรื่องเหล่านี้ ขณะที่คู่มือการแข่งขันที่จะระบุข้อมูลสนามแข่งขัน วันแข่งขัน ชนิดกีฬา เหมือนจะนำเอกสารเก่าของอินชอนมาใช้ เพราะวันแข่งขันยังเป็นตัวเก่าคือปี 2014 และข้อมูลต่างๆ ผิดพลาดมาก ทำให้เรายังไม่มีความชัดเจนใดๆ ต้องรอเอกสารที่เขาแก้ไขแล้วส่งมาอีกครั้ง สำหรับเป้าหมายเหรียญทอง เบื้องต้นจะส่งแข่งขันทุกชนิดกีฬา ซึ่งมั่นใจว่าจะทำได้มากกว่าครั้งก่อนที่ทำได้ 12 เหรียญทอง เพราะมีกีฬาแข่งขันมากกว่าเดิม
บิ๊กต้อม ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬา มั่นใจทัพไทยชุดสู้ศึกเอเชียนเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย ทำได้มากกว่าครั้งก่อน 12 เหรียญทอง เพราะครั้งนี้มีกีฬาแข่งขันมากกว่าเดิม
กีฬา,กีฬาอื่นๆ
บิ๊กต้อม,ธนา ไชยประสิทธิ์,เอเชียนเกมส์,เอเชียนเกมส์ 2018,นักกีฬาไทย
https://www.thairath.co.th/sport/others/1184310
บ้านทองหยอดจัดพิธีแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (16 ต.ค.2559) ที่สโมสรบ้านทองหยอด นางกมลา ทองกร ผู้อำนวยการโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สต๊าฟโค้ช รวมทั้งนักกีฬาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นำโดยรัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันหญิงเดี่ยว มือ 3 ของโลก ได้ร่วมจัดพิธีแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าด้านสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) ส่งสาส์นแสดงความเสียใจและแสดงความอาลัย โดยยกย่องพระองค์คือผู้สนับสนุนวงการแบดมินตันไทยมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 50 ปี โดยทรงเริ่มเล่นแบดมินตันในปี 2496 ก่อนจะมีการก่อตั้งสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ขึ้นในปีต่อมาซึ่งตลอดระยะเวลาหลายสิบปีต่อจากนั้น พระองค์พระราชทานถ้วยรางวัลแก่นักกีฬาทั้งชายและหญิง รวมทั้งทรงส่งเสริมด้านอุปกรณ์สำหรับนักกีฬาทีมชาติและพระราชทานความช่วยเหลือด้านทุนทรัพย์แก่นักกีฬา ด้วยการพระราชทานทุนการศึกษา อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวที่ได้รับรางวัลชั้นสูงสุดของ BWF ในปี 2555 ซึ่ง คาง ยอง จุง ประธาน BWF ในขณะนั้นเป็นผู้เดินทางมาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายด้วยตัวเอง ผ่านสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ที่พระบรมมหาราชวัง
สโมสรแบดมินตันบ้านทองหยอด จัดพิธีแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
กีฬา
ในหลวง,แบดมินตัน,สโมสรแบดมินตันบ้านทองหยอด,สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ,BWF,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,รัชนก อินทนนท์,แสงจากพ่อ
https://news.thaipbs.or.th/content/256739
นิวัติ กองเพียร เตรียมเปิดห้องสมุดใหม่แบ่งปันผู้รักการอ่าน ริมคลองพระอุดม
นิวัติ กองเพียร จัดสรรพื้นที่ห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 10x15 ม. ให้พอกับหนังสือ และแบ่งส่วน โต๊ะ เก้าอี้ สำหรับนั่งอ่านรับลมจากหน้าต่างรอบผนัง และยกพื้นสูงถึง 3 ม. ให้มั่นใจว่าหนังสือจะไม่เสียหายเพราะน้ำอีกเป็นครั้งที่ 2 ห้องสมุดขนาดย่อมจึงเสร็จ แต่งานที่ยาก คือการคัดแยกหนังสือที่ยังวางระเกะระกะตามพื้น หลังจากเก็บกู้ได้จากน้ำท่วมเมื่อปีกลาย บางเล่มที่เหมาะสำหรับเด็ก ก็จะนำไปมอบให้กับโรงเรียนในพื้นที่ ส่วนที่เหลือจัดแบ่งประเภทของหนังสือเพื่อให้ง่ายต่อการศึกษาและสืบค้น หวังให้ห้องสมุดใหม่เป็นอีกโลกของผู้ที่รักการอ่านและเป็นแหล่งเรียนรู้ใหม่ให้กับเยาวชนส่วนนิตยสารแฟชั่น ภาพเพ็ญพักตร์ ศิริกุล และนางแบบอีกหลายคนที่เก็บได้ทันจากน้ำท่วม ซึ่งจะถูกเก็บไว้ในบ้านอย่างเป็นสัดส่วน เพื่อให้พ้นจากเด็กที่มักแวะเวียนมาเยี่ยมและยืมหนังสือในช่วงวันหยุด ไม่ใช่เพราะเป็นของหวง แต่นักเขียนเจ้าของฉายาเกจินู้ด เห็นว่ายังไม่เหมาะสมกับเด็ก ยังมีข้อถกเถียงอีกมากในแวดวงศิลปะถึงเส้นแบ่งระหว่างศิลปะกับอนาจาร ที่จำเป็นต้องสร้างความเข้าใจทั้งคนดูและผู้สร้างสรรค์งานศิลปะทั้งนี้ หนังสือที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ จะถูกย้ายจากชั้น 2 ไปอยู่บนชั้นวางหนังสือในห้องสมุด ตามด้วยหนังสือที่ซ่อมเสร็จแล้วและยังพอให้อ่านได้ ห้องสมุดแห่งใหม่ริมคลองพระอุดม ไม่เพียงเก็บหนังสือให้พ้นน้ำ หากยังเป็นอีกแหล่งเรียนรู้ใหม่สำหรับเด็กๆในวันว่าง พร้อมเปิดให้ได้ร่วมแบ่งปันโลกแห่งหนังสือในอีก 2 เดือนข้างหน้า
นิวัติ กองเพียร สร้างห้องใหม่ที่ยกสูงเพื่อเก็บหนังสือให้พ้นน้ำ หลังสูญเสียหนังสือไปเป็นจำนวนมาก จากน้ำท่วมเมื่อปลายปีที่แล้ว และเตรียมเปิดเป็นห้องสมุดแบ่งปันให้กับผู้ที่รักการอ่าน พร้อมกับให้ความรู้เรื่องศิลปะผ่านผลงานที่สะสม
ศิลปะ-บันเทิง
กองเพียร,นักอ่าน,นิวัติ,ห้องสมุด,แบ่งปัน
https://news.thaipbs.or.th/content/93613
กระบะไม่ชำนาญทาง เสยท้ายรถรอยูเทิร์น กระเด้งอัดคันหน้ารวม 4 คัน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 ส.ค. 60 ร.ต.อ.ชนะชัย ภูราช รอง สว.สส.สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ออกตรวจสอบเหตุรถชนกันจำนวนหลายคัน บริเวณใกล้จุดกลับรถ กม.41 ถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) ช่องทางด่วน ขาเข้า กทม. หมู่ 2 ต.บางวัว อ.บางปะกง พบรถกระบะมิตซูบิซิ ไทรทัน สีขาว ทะเบียน ผล 2134 ชลบุรี ด้านหน้าพังเสียหาย มี นายอภิวัฒน์ น้อยนาดี อายุ 35 ปี เป็นคนขับ นอนได้รับบาดเจ็บอยู่ข้างรถ รถกระบะมาสด้า บีที50 สีดำ ทะเบียน บธ 8745 ฉะเชิงเทรา มี นายประหยัด ยิ้มเมือง อายุ 54 ปี เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่นำตัวทั้งคู่ส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11,นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบรถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ทะเบียน 1 กน 2765 กรุงเทพมหานคร ของ น.ส.ศิริขวัญ จันทร์เพ็ง อายุ 23 ปี และรถยนต์โตโยต้า อัลติส สีขาว ทะเบียน 2 กฐ 2714 กรุงเทพมหานคร ของนายเอกสิทธิ์ ตาดสุวรรณ์ อายุ 37 ปี ถูกชนพังเสียหาย,จากการสอบสวน นายอภิวัฒน์ ให้การว่า ขณะที่กำลังจะขับเข้า กทม. ถึงที่เกิดเหตุตนขับมาเลนขวา และไม่รู้ว่าบริเวณดังกล่าวเป็นจุดกลับรถ ทำให้ไม่ทันระวังรถที่จอดรอเลี้ยว จึงชนท้ายรถกระบะของนายประหยัดเต็มแรง จนกระเด็นไปชนรถด้านหน้ารวมทั้งหมด 4 คัน.
กระบะขับเข้า กทม. ไม่รู้ข้างหน้าเป็นยูเทิร์น วิ่งมาเลนขวา ก่อนเสยท้ายรถรอกลับรถ กระเด้งชนกันเป็นทอดๆ ไปอีก 3 คัน เจ็บ 2
ข่าว,ทั่วไทย
ชนท้าย,ยูเทิร์น,กลับรถ,บางปะกง,ฉะเชิงเทรา,ข่าวเหตุ
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1047187
พบยายหาหน่อไม้แล้ว สุดหลอน ได้ยินเสียงผู้หญิงเรียกในป่า เลยหนีทั้งคืน
พบตัวแล้ว ยายวัย 76 ปี หน่วยกู้ภัยร่วมกับชาวบ้านเกือบร้อยคน ค้นหาทั้งคืนไม่พบ จนหลานชายจุดธูปบอกเจ้าที่ แล้วเดินไปในป่าข้าวโพด พบนั่งหมดแรงตัวเปียกหนาวสั่น บอก มีเสียงผู้หญิงเรียกในป่าจึงวิ่งหนี แต่เสียงก็ตามตลอด,จากกรณีคืนวันที่ 26 ก.ค. หน่วยกู้ภัยข่าวภาพกำแพงเพชร รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ 6 ต.นครชุม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ขอให้ช่วยตามหานางฮำ ก๊กตระกูล อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 329 ชุมชนป่าไผ่ หมู่ 6 ต.นครชุม เนื่องจากนางคำได้เข้าป่าเพื่อไปเก็บเห็ดหาหน่อไม้ตั้งแต่ช่วงเที่ยงแล้วหาตัวไป ชาวบ้านกับญาติๆ ออกตามยังไม่พบ หลังรับแจ้งจึงระดมกำลังจากสมาชิกกู้ภัยข่าวภาพกว่า 40 นาย มาช่วยกับชาวบ้านอีกหลายสิบคน แบ่งทีมกันค้นหา ท่ามกลางสายฝนที่ตกต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงเวลา 23.00 น.เศษ จึงต้องยุติการค้นหาไว้ก่อน เนื่องจากดึกมาและฝนตกจนเปียกปอนกันหมดแล้ว รอวันพรุ่งนี้ตอนเช้า จะเข้าไปค้นหากันใหม่,ต่อมา ช่วงเช้ามืดญาติๆ ก็ออกตามหากันอีก โดยนายพล ก๊กตระกูล อายุ 27 ปี หลานชายของนางฮำ เปิดเผย ว่า รอบแรกออกตามในบริเวณที่คิดว่า ยายน่าจะไปหาหน่อไม้ หลังจากเดินกันเป็นชั่วโมงก็ไม่พบ แต่สังหรณ์ใจว่า ยายต้องอยู่ในบริเวณนั้น จึงจุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทาง ขอให้เปิดป่าเพื่อจะได้พบยาย,หลังจากนั้น ก็กลับไปบริเวณที่สังหรณ์ใจว่า ยายอยู่บริเวณนั่น ซึ่งห่างจากบ้านเข้าไปกว่า 2 กิโลเมตร ทั้งๆ ที่เมื่อคืนเดินหามาแล้ว 5 รอบ ก็ไม่พบ ช่วงเช้ามืดไปหาที่เดิมอีก 1 รอบ ก็ไม่พบ หลังจากที่จุดธูปแล้วก็เดินไปหาซ้ำที่เดิมอีก คราวนี้พบยายนั่งเหยียดขาอยู่ในป่าข้าวโพด ที่เดิมซึ่งเคยเดินตามหามาแล้ว พบว่า ยายเปียกทั้งตัว มีอาการหนาวสั่นและปวดขา จึงอุ้มยายกลับบ้าน ซึ่งรู้สึกแปลกใจมากเพราะหาอยู่บริเวณนั้นทั้งคืน และตอนเช้าก็ไม่พบ แต่พอจุดธูปบอกก็พบง่ายดาย,ส่วนนางฮำ เล่าให้ฟังว่า หลังออกจากบ้านแล้วก็เข้าป่าไปหาหน่อไม้ โดยในช่วงแรกหาอยู่ในบริเวณป่าหลังบ้าน แต่ได้ไม่มากจึงเดินข้ามฝั่งหมู่บ้านไปหาป่าฝั่งตรงข้าม พอเดินลึกเข้าไปในช่วงเย็นๆ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงเรียกชื่อของตน ตนรู้สึกกลัวเพราะอยู่ในป่าไม่มีใคร จึงรีบเดินหนีแต่เสียงเรียกก็ยังตามมา จึงเดินเร็วขึ้นสลับกับวิ่งด้วย จนบางครั้งหกล้มต้องคลานหนีเสียงเรียกดังกล่าว จนกระทั่งมาแอบอยู่ในป่าข้าวโพด ทั้งเหนื่อย ทั้งหิวและหนาวเนื่องจากฝนตกทั้งคืน โดยนั่งอยู่บริเวณนั้นไม่เห็นใครมาตามหา จนรุ่งเช้าจึงเห็นหลานชายเดินมาแล้วพากลับบ้าน จากนั้นก็นำตัวส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ตรวจดูอาการ,ข่าวเกี่ยวข้อง,ยายกำแพงเพชรหลงป่า หาทั้งคืนยังไม่เจอ ทิ้งปริศนา เปลือกหน่อไม้
พบตัวแล้ว ยายวัย 76 ปี หน่วยกู้ภัยร่วมกับชาวบ้านเกือบร้อยคน ค้นหาทั้งคืน ไม่พบ รุ่งเช้าหลานชายจุดธูปบอกเจ้าที่แล้วเดินไปในป่าข้าวโพด พบนั่งหมดแรงตัวเปียกหนาวสั่น บอก มีเสียงผู้หญิงเรียกในป่า
ข่าว,ทั่วไทย
ยายหาหน่อไม้,เรียงผู้หญิงเรียกในป่า,หลานชายขุดธูปขอเจ้าที่,เก็บเห็ดหาหน่อไม้,กำแพงเพชร,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1342786
แม่น้ำยมวิกฤติหนัก แห้งขอดจนเห็นพื้นทราย ชาวบ้านอพยพหางานทำในกทม.
เมื่อวันที่ 4 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งของพื้นที่จังหวัดพิจิตร ในส่วนของแม่น้ำยมที่ไหลผ่านพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.สามง่าม อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.บึงนาราง และ อ.โพทะเล ระยะทาง 127 กิโลเมตร มีสภาพแห้งขอด โดยสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากแม่น้ำยมไม่มีเขื่อนในการกักเก็บน้ำ ขณะนี้น้ำได้แห้งขอดลงอย่างรวดเร็วจนเหลือแต่พื้นทรายเป็นบริเวณกว้าง จะมีน้ำหลงเหลือก็อยู่เพียงเล็กน้อยตามวัง หรือที่ลุ่มที่อยู่กลางแม่น้ำยมเท่านั้นนางวราภรณ์ สมบัติวงค์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 2 บ้านวังขาหย่าง ต.รังนก อ.สามง่าม ชาวบ้านที่มีอาชีพทำนา เปิดเผยว่า แม่น้ำยมช่วงนี้กลายเป็นหาดทรายไปแล้ว ในฐานะที่เป็นเกษตรกรเห็นสภาพปัญหาแล้ว อยากเสนอแนะให้รัฐบาลหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหาวิธีขุดสระ ขุดคลอง ขุดลอกแม่น้ำยมให้เป็นที่กักเก็บน้ำ รวมถึงสร้างฝายชะลอน้ำ สร้างประตูน้ำในแม่น้ำยมให้สามารถกักเก็บน้ำได้เป็นช่วงๆ แบบขั้นบันได ตนเชื่อว่าจะแก้ปัญหาภัยแล้งได้ ชาวบ้านเมื่อเผชิญกับสถานการณ์ภัยแล้งไม่สามารถทำมาหาหากินอะไรได้เลย นอกจากพากันอพยพไปขายแรงงานในกรุงเทพฯ.
วิกฤติภัยแล้งเมืองชาละวันส่อเค้าหนักหนาสาหัส แม่น้ำยมแห้งขอดเหลือแต่พื้นทรายเป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากไม่มีเขื่อนกักเก็บน้ำ ขณะที่ชาวบ้านต่างอพยพไปขายแรงงานในกรุงเทพฯ
ข่าว,ทั่วไทย
แม่น้ำยม,แม่น้ำยมแห้ง,ภัยแล้ง,สถานการณ์ภัยแล้ง,พิจิตร,วิกฤติภัยแล้ง,แล้ง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1739996
ประกาศรายชื่อไรเดอร์คัพทีมยุโรป
โฮเซ่ มาเรีย โอลาซาบัล กับตันทีมไรเดอร์คัพของยุโรป ตัดสินใจเรียกนักกอล์ฟมือไวการ์ด 2 คนสุดท้ายมาร่วมทีมคือ เอียน โพลเตอร์ โปรชาวอังกฤษ และนิโคลัส โคลเซิร์ต โปรจากเบลเยี่ยม เพื่อลงป้องกันแชมป์กับทีมไรเดอร์คัพของสหรัฐอเมริกา โดยโอลาซาบัล กล่าวว่าที่ตัดสินใจเลือกโพลเตอร์เพราะมีทัศนคติที่ดีและมีสปริตร่วมกับทีมที่ยอดเยี่ยม ส่วนโคลเซิร์ตก็เป็นนักกกอล์ฟอายุน้อยที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่อง ทั้งการได้รองแชมป์เวิร์ล แมตช์ เพลย์เมื่อปีที่แล้ว และกลับมาได้แชมป์ เวิร์ล แมตช์ เพลย์ ในปีนี้ทั้งนี้ การแข่งขันกอล์ฟ ไรเดอร์คัพ ครั้งที่ 39 สหรัฐอเมริกา รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน จะเริ่มแข่งระหว่างวันที่ 28-30 กันยายน ที่สนาม เมดิน่าร์ คันทรี คลับ โดยสหรัฐฯ มี เดวิด เลิฟ เดอะ เธิร์ด เป็นกัปตันทีม และนำทีมโดย ไทเกอร์ วูดส์
โฮเซ่ มาเรีย โอลาซาบัล กัปตันทีมไรเดอร์ คัพของยุโรป ตัดสินใจเรียก เอียน โพลเตอร์ และ นิโคลัส โคลเซิร์ต เป็นนักกอล์ฟ 2 คนสุดท้ายมาร่วมทีม
กีฬา
null
https://news.thaipbs.or.th/content/107848
ของจริงอยู่ได้ของปลอมจบ
คำถามที่ไม่มีคำตอบ,วันนี้มีคำถามกันมากว่า ไพรมารีโหวต นั้นมาจากใคร มาได้อย่างไร คำตอบนี้มีอยู่ 2 คำ ซึ่งเป็นเรื่องของมุมมองไม่ใช่เป็นเรื่องของการเมือง ไม่ใช่เรื่องความไม่มีเหตุผล,แต่เป็นเรื่องของแนวคิดที่ว่า ทำยังไงให้การเมืองไทยมันดีขึ้น ทำยังไงที่จะสร้างระบบการเมืองไทยให้มันเข้าที่เข้าทางเสียที,ทำยังไงล่ะ,นั่นแหละคือสิ่งที่สังคมจะต้องช่วยกันคิด ช่วยกันหาทางเพื่อแก้ปัญหานี้ ทางหนึ่งอย่างที่คิดกันออกมา,คือการให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรม,ไพรมารีโหวต จึงเป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่จะเป็นช่องทางให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างเป็นเรื่องเป็นราว,เพราะอะไร?,อย่างน้อยก็ไม่ใช่แค่ลงคะแนนกาบัตรเท่านั้น แต่ยังสามารถเลือกผู้สมัครเลือกตั้งในส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบ,หมายความว่าสามารถที่จะลงคะแนนเลือกคนนั้นได้,นี่แหละคือประเด็นที่จะต้องมาพิจารณากันว่า ไพรมารีโหวต นั้น จะเป็นการแก้ไขปัญหาการเมืองของไทยได้จริงหรือ?,ถ้าว่ากันด้วยเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนในทางการเมืองนั้น ยังเชื่อว่ายังมีวิธีการที่มีอีกหลายอย่าง,ไม่ใช่แค่ ไพรมารีโหวต เท่านั้น,แต่ก็เป็นช่องทางหนึ่งที่คิดว่าน่าจะ ขายตรง ได้เลย,ทว่าการเมืองที่ปราศจากความสร้างสรรค์หรือพูดอย่างตรงไปตรงมาก็คือ ความจริงใจที่ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ถ้าคิดจะเข้ามาสู่สนามนี้,นี่แหละคือสิ่งสำคัญที่สุด,หมายความว่า การที่จะเข้ามาเป็นนักการเมืองนั้นเพราะอะไร เพื่ออะไร และมุ่งหวังอะไร หากตอบคำถามได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล,นั่นแหละจะได้คำตอบว่าการเมืองไทยจะไปทางไหน?,บางทีหากกลับไปคิดกันสักนิดว่า ที่ผ่านมาในพรรคการเมืองแต่ละพรรคนั้น สภาพที่เห็นและการดำรงอยู่นั้นคือความจริงที่ยากจะปฏิเสธ,คือพรรคการเมืองไทยนั้นยังไม่เสถียรในทางการเมืองที่เป็นจริง แม้จะเก่าแก่หรือเฟื่องฟูขึ้นมาในยุคสมัยหนึ่ง,แต่ก็มีจุดอ่อนและการไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลง,จึงเป็นอุปสรรคสำคัญที่เป็นส่วนหนึ่งทำให้การเมืองไทยประสบปัญหา,ได้แต่โทษเหตุเพราะอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งที่ลืมมองว่าพวกคุณทำอะไรและช่วยกันแก้ไขปัญหาหรือไม่,วันดีคืนดีก็ด่าทหารว่าเขามายึดอำนาจ,แต่ไม่ได้ถามกันเองว่าเหตุไฉนจึงเป็นไปอย่างนี้ ก่อนเลือกตั้งก็เพียงแต่อยากจะบอกอยากจะเตือนสติกันว่า,นี่เป็นโอกาสที่จะต้องคิดและไตร่ตรองกันให้ดี,5 ปีที่เห็นและผ่านมาไม่มีการเลือกตั้ง นักการเมืองต้องตกงาน น่าจะรู้สึกรู้สากันบ้างว่ามันเพราะเหตุใด,เพราะวันนี้ ของปลอม ไม่ว่าฝ่ายไหนก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน.,สายล่อฟ้า
ไพรมารีโหวต นั้นมาจากใคร มาได้อย่างไร คำตอบนี้มีอยู่ 2 คำ ซึ่งเป็นเรื่องของมุมมองไม่ใช่เป็นเรื่องของการเมือง ไม่ใช่เรื่องความไม่มีเหตุผล
เลือกตั้ง
ไพรมารีโหวต,เลือกตั้ง,หาเสียง,กล้าได้กล้าเสีย,สายล่อฟ้า
https://www.thairath.co.th/news/politic/1367561
ใบตองแห้ง: ดิ้นพล่านด้านอำนาจ
ให้ประโยชน์สารพัดจากหน่วยงานของรัฐสังคมไทยคงชักดิ้นชักงอ ด่ากราด หาเสียงโดยใช้อำนาจ ใช้งบประมาณรัฐ เอาเปรียบคู่แข่ง กกต.คงขมีขมัน เอาผิด ติดคุก ตัดสิทธิ ยุบพรรคแต่นี่คือ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นรัฏฐาธิปัตย์ อยู่เหนือทุกอำนาจ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่จะต้องอยู่ในกรอบอยู่ใต้ข้อบังคับ ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินชี้ชัด รัฏฐาธิปัตย์ตั้ง สนช.เป็นอำนาจนิติบัญญัติ แล้ว สนช.ก็สรรหาแต่งตั้ง ทั้งผู้ตรวจ กกต. ป.ป.ช. ที่บังเอิญตั้งข้อหา 3 พี่น้องชินวัตรในสัปดาห์ก่อนเลือกตั้งพอดีพล.อ.ประยุทธ์เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ที่สามารถอ้างว่า ใช้อำนาจหน้าที่ตามปกติ แต่ขณะเดียวกัน ก็เป็นข้าราชการการเมือง จึงสามารถส่งคลิปขึ้นเวทีปราศรัย ขอให้ประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐที่ตัวเองเป็นแคนดิเดตนายกฯแบบเดียวกับที่มีคนเชื่อดักดานว่า พฤติกรรมเดียวกันที่ทักษิณยิ่งลักษณ์ทำ นักการเมืองมันเลว แต่ทหารมีเจตนาดีครั้นนักการเมืองย้ายพรรคมาสนับสนุนประยุทธ์อยู่ต่อ อะไรที่ทำแบบเดียวกัน ก็กลายเป็นขี้ยังหอม เช่น จะแปลง ส.ป.ก.เป็นโฉนดทองคำ จะยกหนี้กองทุนหมู่บ้าน จะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 บาท ปริญญาตรี 20000 บาท ซึ่งก๊อปกันมาเห็น ๆ จากพรรคเพื่อไทยปี 54 ค่าแรง 300 บาท ปริญญาตรี 15000 แต่ตอนนั้นด่ากันขรม (กระทั่งผู้นำแรงงานที่เป็นพันธมิตรนกหวีดยังสรรหาที่ด่าได้)นี่ใช่ไหม ไปให้สุดหยุดที่ตู่ สุดโดยไม่ต้องแยแสหลักการความชอบธรรมอะไรเลย อ้างแต่ว่าหนุนคนดีไม่โกง แหกหูแหกตาไปถามชาวบ้านตามต่างจังหวัดหน่อยไหม พรรคไหนใช้เงินมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ แล้วเอาเงินมาจากไหนยิ่งไม่ชอบธรรมยิ่งดันทุรัง ใช้อำนาจ ใช้กติกา 250 ส.ว.เอาเปรียบ ก็ยิ่งถูกต้าน โค้งสุดท้าย จึงออกอาการดิ้นพล่านทุบหม้อข้าวตัวเองเพื่อเอาชนะ คือเอาทุกอย่าง เสาร์อาทิตย์ไม่เคยไปไหนก็ไปตรวจราชการ เกณฑ์คนมาฟังเป็นหมื่น ๆ ไม่กล้าดีเบตไม่ขึ้นเวทีปราศรัย สุดท้ายก็ส่งคลิป จะทำให้คนนิยมหรือยิ่งต่ำตม ก็น่าจะรู้แต่อยู่ไม่ได้แล้วไง กลัวฝ่ายแนวร่วมเพื่อไทย อนาคตใหม่ เสรีรวมไทย ประชาชาติ เพื่อชาติ ชนะเกิน 250 กลัวแพ้พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ 126 เสียงไปบวก 250 ส.ว.เป็นนายกฯ แล้วจะหมดทุกสิ่งทุกอย่าง หลัง 24 มี.ค. ก็กลายเป็นทหารแก่ค้างเติ่งกลางอากาศ แม้มี ม.44 แต่ถามว่าจะใช้เปลี่ยนผลเลือกตั้ง ใช้ยึดอำนาจคืนให้ตัวเองได้หรือ เมื่อผลคะแนนเห็นชัด ๆ ว่าประชาชนไม่ยอมรับกระนั้นก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะนี่ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจของประยุทธ์คนเดียว แต่เป็นระบอบรวมศูนย์อำนาจรัฐราชการ ซึ่งถ้าพัง ก็พังด้วยกันทั้งหมด ทั้งชนชั้นนำภาครัฐ กองทัพ ตุลาการ องค์กรอิสระ ดังนั้นก็อาจเป็นไปได้ที่จะเกิดอาการดิ้นพล่านช่วยกันทำทุกวิถีทาง ไม่เลือกวิธีการ ด้าน โกง เปลี่ยนบัตรเปลี่ยนหีบ บังคับขู่เข็ญ เลือกปฏิบัติ หลับตาข้างลืมตาข้าง ใช้ใบส้มใบแดงใบดำ ฯลฯ เพื่อรักษา รัฐคนดี ที่อภิสิทธิ์ชนมีอำนาจบงการ
ถ้ายิ่งลักษณ์ ทักษิณ เป็นนายกฯ ระหว่างเลือกตั้ง ไปตรวจราชการต่างจังหวัด แล้วผู้ว่าฯ นายอำเภอ เกณฑ์ชาวบ้านมาต้อนรับ โดยมีพิธีแจกโฉนด มอบที่ทำกิน
การเมือง
ใบตองแห้ง,เลือกตั้ง 62
https://prachatai.com/journal/2019/03/81567
สิบล้อแหกโค้ง เทกระจาด เป็ดก้าบๆเดินเกลื่อนถนน ขนปลิวว่อน กลางนครปฐม
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 10 ต.ค. ร.ต.อ.วุฒิสษฏ์ แก้วไกรเพชร์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งอุบัติเหตุรถบรรทุกสิบล้อ ซึ่งบรรทุกเป็ดแหกโค้งชนกับรถยนต์ บริเวณโค้งอู่หล่ม หน้าหมู่บ้านเบญจวรรณ หมู่ 5 ต.หนองปากโลง อ.เมือง จ.นครปฐม จึงไปตรวจสอบพบเสาไฟฟ้าหักโค่น 2 ต้น และต้นไม้เกาะกลางถนนล้มพัง ตามทางมีรอยเบรกครูดเป็นทางยาว โดยพบรถบรรทุก สิบล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 89-2754 นครปฐม ซึ่งบรรทุกเป็ดมาเต็มคัน สภาพรถพังเสียหายทั้งคัน กระจกแตก พลิกตะแคง ด้านหลังมีกล่องใส่เป็ดบรรทุกมาเต็มคัน ล้มระเนระนาด บางลังกระเด็นออกจากตัวรถ,ขณะที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันต้อนเป็ดที่วิ่งหนีเพราะความตกใจ อยู่บนถนนซึ่งมีรถวิ่งผ่านไปมา เกรงว่าจะถูกรถทับตาย โดยเป็ดบางตัวตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรงคอหักเสียชีวิต และมีขนเป็ดลอยฟุ้งว่อนเต็มถนน พร้อมกลิ่นเป็ดเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว นอกจากนี้บริเวณหน้ารถบรรทุกยังพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ แคป สีดำ ทะเบียน บพ 5654 ชัยภูมิ สภาพรถถูกชนเสียหาย,จากการสอบถามนายวินัย วงษ์ภักดี อายุ 41 ปี ชาว ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ คนขับรถกระบะ เปิดเผยว่า ได้กลับจากส่งของให้ลูกค้าในอ.กำแพงแสน กำลังเดินทางกลับเข้าบ้านพักในอ.สามพราน จ.นครปฐม โดยขับมายังถนนเส้นทางดังกล่าว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงดังมาแต่ไกล และมองเห็นรถกำลังเสียหลักปีนขึ้นบนเกาะกลางถนน พร้อมกับลังขนเป็ดหล่นพื้นเสียงดังโครม แต่ตนไม่สามารถหยุดรถหรือหักหลบได้ เพราะกลัวชนกับรถคันอื่น จึงเบรกอย่างแรงจนรถเสียหลักหมุนชนกับรถบรรทุกพอดี,ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เผยว่า เห็นรถบรรทุกขับมาด้วยความเร็ว จากนั้นได้แหกโค้ง ประกอบกับรถหนักทำให้ไม่สามารถบังคับรถได้ จนเสียหลักพลิกคว่ำข้ามเกาะไปชนกับรถฝั่งตรงข้ามที่สวนทางมา คาดว่ารถบรรทุกเป็ดกำลังจะนำเป็ดเข้าโรงเชือด ซึ่งบรรทุกมาน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 10 ตัน บรรจุในลังๆละ 5 ตัว รวมกว่า 2,000 ตัว หลังเกิดเหตุไม่พบคนขับรถบรรทุก,อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบหมายเลขทะเบียนของรถบรรทุก เพื่อติดต่อเจ้าของรถและนำตัวคนขับรถมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป ขณะเดียวกันได้ประสานเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยมาช่วยฉีดน้ำเพื่อทำความสะอาดถนน ให้อยู่ในสภาพปกติ พร้อมเปิดเส้นทางการจราจรที่ติดขัดยาวนับกิโล.
เป็ดเดินเกลื่อนถนน เมืองนครปฐม รถติดยาวเหยียด สิบล้อขนเป็ดกว่า 2 พันตัว แหกโค้งปีนเกาะกลางถนนชนกระบะวิ่งสวนมา ขนเป็ดลอยฟุ้ง บางตัวคอหักตาย ชาวบ้านต้องช่วยกันต้อนเป็ด ไม่ให้ถูกรถทับ ส่วนโชเฟอร์สิบล้อ เปิดตูดแนบ
ข่าว,ทั่วไทย
รถขนเป็ดคว่ำ,เป็ดเดินเกลื่อนถนน,สิบล้อขนเป็ด,รถสิบล้อขนเป็ดแหกโค้ง,โค้งอู่หล่ม,ข่าวเหตุ
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1095409
กลุ่มนักการเมืองสหรัฐฯ หัวก้าวหน้าร่วมชูประเด็นภัยโลกร้อนเลือกตั้งกลางเทอม
ยังต้องรับมือเสือ-สิงห์-กระทิง-แรด อีกหลายแนวรบแอนดรูว กิลลัม ผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐฟลอริดา หนึ่งในตัวแทนจากพรรคเดโมแครตขี้นอภิปรายบนเวทีโต้วาทีของ CNN ในเมืองแทมปา เขากล่าวว่า สิ่งที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องการคือผู้ว่าฯ ที่เชื่อในวิทยาศาสตร์ เขาบอกว่าในขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ นำสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงยับยั้งโลกร้อนจากการประชุมที่ปารีส ตัวเขาเองก็มีความภูมิใจจะเสนอว่าเขาทำให้เมืองของเขาหันมาใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นได้อย่างไรDissent นิตยสารฝ่ายซ้ายของสหรัฐฯ ระบุว่า ในขณะที่การเมืองของพรรครีพับลิกันมีการอ้างใช้ วิทยาศาสตร์ ในแบบของคนละเมอเพ้อพกถึงทฤษฎีสมคบคิด และฝ่ายพรรคเดโมแครตเองส่วนใหญ่ก็ดูจะเลี่ยงๆ ประเด็นเรื่องโลกร้อน แต่ทว่าผู้ที่เริ่มทำให้การเมืองเรื่องโลกร้อนแปรเปลี่ยนไปจากเดิมคือขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมตั้งแต่กลุ่ม สแตนดิงร็อค ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านท่อก๊าซที่ตัดผ่านพื้นที่ชนพื้นเมืองอเมริกัน ไปจนถึงกลุ่มนักการเมืองฝ่ายก้าวหน้าอย่างกิลลัมรายงานจากการประชุมร่วมกันของสหประชาชาติกับรัฐบาลชาติต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องภาวะโลกร้อนเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาระบุว่า การจะลดปัญหาโลกร้อนได้นั้นควรมีการลดใช้พลังงานจากซากดึกดำบรรพ์ และเร่งใช้พลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้นเท่าที่เป็นไปได้เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงให้ได้ร้อยละ 45 ภายในปี 2573 และลดการปล่อยอย่างสิ้นเชิงภายในปี 2593 แต่การทำเช่นนั้นต้องเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจและระบบพลังงานโดยทั้งหมดซึ่งอาจจะฟังดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่ Dissent ก็ชี้ว่าโลกเราเริ่มมีเครื่องมือต่างๆ ที่รองรับพลังงานหมุนเวียนมากขึ้นแล้ว รวมถึงเริ่มมีนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่จะรองรับการกำกับดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยสิ่งที่กิลลัมพูดมีความสำคัญกับทั้งฟลอริดาและประเทศสหรัฐฯ เอง ในฐานะพื้นที่ๆ ถูกกระหน่ำจากภัยธรรมชาติอย่างพายุเฮอร์ริเคนที่ทำให้ผู้คนเสียชีวิตและสร้างความเสียหายทางทรัพย์สิน ภัยธรรมชาติเหล่านี้เป็นเครื่องเตือนว่าน้ำทะเลกำลังจะหนุนสูงขึ้นในระดับห่วงบาสเกตบอล (ราว 3 เมตร) ถ้าหากยังคงมีปัญหาโลกร้อน นอกจากนี้การที่ทะเลมีอุณหภูมิอุ่นขึ้นยังส่งผลให้สาหร่ายในทะเลกลายเป็นพิษต่อสัตว์น้ำต่างๆ รวมถึงโลมาและพะยูนจากภัยธรรมชาติเหล่านี้ทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเริ่มที่จะโต้ตอบพรรครีพับลิกันที่ปฏิเสธว่าภาวะโลกร้อนไม่มีอยู่จริง เช่น ผู้ว่าฯ ริค สก็อตต์ จากพรรครีพับลิกันที่สั่งห้ามข้าราชการไม่ให้ใช้คำว่า โลกร้อน หรือ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่นั่นก็ทำให้ความนิยมของสก็อตต์ลดลง นอกจากนี้ยังมีนักการเมืองรีพับลิกันผู้ที่หมายจะสืบทอดตำแหน่งผู้ว่าฯ ฟลอริดาอย่าง รอน เดอ ซานติส ที่พยายามปิดปากเรื่องโลกร้อนโดยกล่าวหาว่าผู้ที่พูดถึงปัญหาโลกร้อนเป็นพวก ตื่นตูม ไปเองโดยสื่ออเมริกันเรียก เดอ ซานติสที่เป็นคู่แข่งในการเลือกตั้งของกิลลัมว่าเป็น รีพับลิกันสายทรัมป์ ที่ไม่เพียงปฏิเสธเรื่องโลกร้อนแต่ยังพยายามโจมตีกิลลัมผู้สมัครคนดำในลักษณะแบบเหยียดสีผิวด้วยDissent ระบุว่ากลุ่มเศรษฐีต่างๆ ในสหรัฐฯ อาศัยเกาะเกี่ยวพรรครีพับลิกันในการรักษาผลประโยชน์ตัวเองเช่นการต่อต้านภาษีคาร์บอน นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการให้ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นเวลากว่า 30 ปีมาแล้วด้วยข้อมูลที่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์Dissent ระบุว่าถึงแม้เรื่องนี้จะเปิดโอกาสให้พรรคเดโมแครตฉวยใช้เป็นประเด็นหลักในการหาเสียงทางการเมือง แต่เดโมแครตก็ไม่ได้นำเรื่องดังกล่าวมาอยู่ในขบวนหาเสียงทางการเมืองอย่างจริงจัง ดังนั้นการที่เห็นนักการเมืองอย่างกิลลัมกับผู้สมัครเดโมแครตอีกหลายคนที่มีจุดยืนหนักแน่นเรื่องโลกร้อนในช่วงการเลือกตั้งกลางเทอมในสหรัฐฯ เช่นนี้จึงถือเป็นเรื่องน่ายินดียังมีนักการเมืองอีกหลายคนที่ผลักดันประเด็นภาวะโลกร้อ เด็บ ฮาแลนด์ ผู้สมัครในรัฐนิวเม็กซิโก เป็นผู้ยืนหยัดต่อสู้กับบรรษัทสนับสนุนพลังงานฟอสซิลที่พยายามเข้าไปทำการขุดเจาะในบ้านเกิดของเธอซึ่งเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของบรรพบุรุษในชาโคแคนยอน รวมถึงแสดงตัวสนับสนุนให้สหรัฐฯ หันมาใช้พลังงานหมุนเวียนเต็มร้อย ถ้าหากฮาแลนด์ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้เธอจะกลายเป็นผู้หญิงชนพื้นเมืองอเมริกันคนแรกในสภาด้วยนอกจากนี้ยังมีอิลฮาน โอมาร์จากรัฐมินนิโซตานักการเมืองเชื้อสายโซมาเลีย-อเมริกันผู้ต่อต้านโครงการท่อก๊าซและเรียกร้องนโยบายโลกร้อนที่เน้นเรื่องชุมชนของกลุ่มคนผิวสีและกลุ่มชนพื้นเมือง ในรัฐเนบราสกาก็มีผู้สมัครที่ต่อต้านท่อก๊าซคีย์สโตนเอ็กซ์แอลชื่อ คริสตา ยัวกัม ในรัฐนิวยอร์กก็มีทิช เจมส์ ผู้สมัครลงเลือกตั้งในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ผู้เคยฟ้องร้องบรรษัทแอ็กซอนโมบิลฐานทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจไขว้เขวเกี่ยวกับผลกระทบของภาวะโลกร้อน แรนดี ไบรซ กับอเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เทซ ก็เป็นนักการเมืองฝ่ายก้าวหน้าที่พยายามรณรงค์เรื่องการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเปลี่ยนให้เป็นระบบพลังงานหมุนเวียนและเพิ่มการสร้างงานไปพร้อมๆ กันในโครงการที่ชื่อ กรีนนิวดีล (Green New Deal)กระนั้นก็ตาม จูเลียน เบรฟ นอยส์แคท นักวิเคราะห์นโยบายจากองค์กรด้านปัญหาโลกร้อน 350.org ก็ระบุว่าถ้าหากผู้สมัครหัวก้าวหน้าเหล่านี้ชนะการเลือกตั้งแล้ว พวกเขาจะต้องขับเคี่ยวกับอีกหลายฝ่ายเพื่อที่จะผลักดันนโยบายของตนเองได้เช่นกับบรรษัทพลังงานฟอสซิล รวมถึงต้องเจรจาต่อรองกับกลุ่มสหภาพแรงงานสายอนุรักษ์นิยมที่เป็นตัวแทนฝ่ายคนงานพลังงานฟอสซิล พวกเขาต้องหาวิธีการถ่ายโอนแรงงานจากภาคส่วนนี้ไปยังภาคส่วนพลังงานใหม่ให้ได้แบบน่าดึงดูด เช่นการการันตีการจ้างงาน และเมื่อฝ่ายการเมืองเริ่มย่อหย่อนจากการผลักดันนโยบายเหล่านี้ก็จะเป็นหน้าที่ของกลุ่มนักเคลื่อนไหวทางสังคมที่จะเข้าไปแทรกตัวกับฝ่ายการเมืองให้ผลักดันนโยบายให้สำเร็จ
นิตยสารฝ่ายซ้ายของสหรัฐฯ นำเสนอกลุ่มนักการเมืองก้าวหน้าหลายรายในพรรคเดโมแครตที่ต่างชูประเด็นภาวะโลกร้อนในวันที่รีพับลิกันต่างปฏิเสธการมีอยู่ของมัน นักวิเคราะห์ชี้ เข้าสภาได้ไม่ใช่สำเร็จ
ต่างประเทศ,สิ่งแวดล้อม,วิทยาศาสตร์
โลกร้อน,เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ 2561,การเลือกตั้ง,แอนดรูว กิลลัม,ฝ่ายก้าวหน้า,เดโมแครต,รีพับลิกัน,พลังงานหมุนเวียน,สหรัฐอเมริกา
https://prachatai.com/journal/2018/11/79494
เปิด 4 พื้นที่ต้นแบบท่องเที่ยวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (6 ม.ค.2560) นายสุวรรณ นันทศรุต รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) กล่าวว่า ปัญ หาสิ่งแวดล้อมในแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดจากนักท่องเที่ยว เข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเกินขีดความสามารถรองรับนักท่องเที่ยว ทำให้เกิดความเสื่อมโทรมด้านทรัพยากรธรรมชาติและปัญหาสิ่งแวดล้อมของแหล่งท่องเที่ยว เช่น ปัญหาด้านการจัดการขยะและน้ำเสียขณะนี้กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ร่วมกับกรมการท่องเที่ยว (กทท.)ทำแผนงานการดำเนินงานแบบบูรณาการการจัดการขยะมูลฝอยและน้ำเสียในแหล่งท่องเที่ยว ด้วยการคัดเลือกพื้นที่ท่องเที่ยวนำร่อง 4 พื้น คือ เกาะเสม็ด จ.ระยอง เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เกาะพีพี จ.กระบี่ และ จ.เพชรบูรณ์ ควบคู่กับจัดการฝึกอบรมการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบให้กับพื้นที่อื่นๆต่อไป ตามนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนายสุวรรณ บอกว่า ขณะนี้ คพ.ได้ปรับปรุงแนวทางการจัดการขยะมูลฝอยและน้ำเสียในแหล่งท่องเที่ยว และส่งมอบแนวทางการจัดการขยะมูลฝอยและน้ำเสียในแหล่งท่องเที่ยวให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไปรวมทั้งทำกิจกรรมการจัดการขยะและน้ำเสีย เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวนำร่อง ทั้งการอบรมให้ความรู้ การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ และสนับสนุนการดำเนินงานในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวเกี่ยวกับการจัดการสิ่งแวดล้อมในรูปแบบต่างๆ เช่น วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือในการจัดการขยะมูลฝอยและน้ำเสีย เพื่อให้แหล่งท่องเที่ยวคงสภาพแวดล้อมที่ดี ควบคู่กับ การจัดการขยะมูลฝอยและน้ำเสียในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวนำร่อง
กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับกรมการท่องเที่ยว เลือกเกาะเสม็ด-เกาะพีพี - พัทยา และเพชรบูรณ์ นำร่องพื้นที่ท่องเที่ยว เพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สิ่งแวดล้อม
ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,นายสุวรรณ นันทศรุต,รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ,กรมการท่องเที่ียว,เกาะเสม็ด,ระยอง,เกาะพีพี,กระบี่,สิ่งแวดล้อม
https://news.thaipbs.or.th/content/259314
ไม่ต้องลุ้นนาน โซลชาร์ เตรียมประกาศกัปตันผีแดงคนใหม่
กุนซือปิศาจแดงการันตี จะมีการแต่งตั้งกัปตันทีมคนใหม่ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน ก่อนที่พรีเมียร์ลีกซีซั่น 2019-20 จะเปิดฉากขึ้น,สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 2 ส.ค.ว่า โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันเตรียมประกาศเจ้าของปลอกแขนกัปตันทีมคนใหม่ในเร็วๆ นี้,โดยกัปตันทีมคนเดิมอย่าง อันโตนิโอ วาเลนเซีย ได้โบกมือลาทีมหลังจบฤดูกาลก่อน ทำให้ตำแหน่งดังกล่าวต้องว่างลง และในเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นก็มีทั้ง ดาบิด เด เคอา, แอชลีย์ ยัง, เนมันยา มาติช และ ฆวน มาตา ที่ผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่,ซึ่งล่าสุด โซลชาร์ เผยผ่านเว็บไซต์ของแมนฯ ยูไนเต็ด หลังเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นที่เอาชนะคริสเตียนซุนด์ 1-0 โดยยืนยันว่าจะมีการตัดสินใจเลือกกัปตันทีมคนใหม่ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน ก่อนที่ฤดูกาล 2019-20 จะเปิดฉากขึ้น,ทั้งนี้ หลายสื่อดังในเมืองผู้ดีคาดว่า ดาบิด เด เคอา อาจได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่กัปตันทีมคนใหม่ เนื่องจากเป็นแข้งซีเนียร์ที่อยู่กันมานาน และเจ้าตัวเองก็ไม่ปฏิเสธโอกาส ที่จะได้ทำหน้าที่ผู้นำทีมในฤดูกาลหน้าด้วยเช่นกัน.
กุนซือปิศาจแดงการันตี จะมีการแต่งตั้งกัปตันทีมคนใหม่ในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน ก่อนที่พรีเมียร์ลีกซีซั่น 2019-20 จะเปิดฉากขึ้น
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
กัปตันทีม,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,พรีเมียร์ลีก,โอเล กุนนาร์ โซลชาร์
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1628671
บินดิ่งทะเล ดับ189ศพ ไลอ้อนอินโดฯ ทะยาน13นาที ขัดข้องเทคนิค
ก่อนบินวนกลับต้นทาง แต่ไปไม่ถึง ตกกลางทะเล 189 ชีวิต ไม่รอดยกลำ พบเป็นเครื่องบินใหม่เพิ่งประจำการได้แค่ 2 เดือน แต่มีปัญหาขัดข้องทางเทคนิคมาก่อนหน้านี้แล้ว,สำนักข่าวประเทศรายงานเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ว่าเกิดเหตุเครื่องบินโดยสาร รุ่นโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 เที่ยวบินเจที 610 ของไลอ้อน แอร์ สายการบินต้นทุนต่ำของอินโดนีเซีย ที่บรรทุกผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ประจำเครื่อง รวม 189 ชีวิต แบ่งเป็นผู้โดยสาร 181 คน รวมทั้งเด็ก 1 คน ทารก 2 คน และลูกเรือ 6 คน กับนักบิน 2 นาย ตกลงกลางทะเล หลังทะยานขึ้นจากสนามบินนานาชาติซูกาโนฮัตตา ในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย ได้ไม่นาน,ทั้งนี้ เครื่องบินลำดังกล่าวออกเดินทางเมื่อเวลา 06.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น มุ่งหน้าสู่สนามบินเดปาติ อามีร์ ในปังกัล ปินัง เมืองเอกของเกาะบังกา เบลิตุง นอกชายฝั่งเกาะสุมาตรา ซึ่งปกติใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 10 นาที แต่หลังจากเครื่องเหินฟ้าได้เพียง 13 นาที ก็ขาดการติดต่อกับหอควบคุมการบิน ขณะเครื่องบินอยู่ในระดับสูงเหนือภาคพื้นดินแค่ 5,200 ฟุต หรือ 1,580 เมตร,ต่อมาสำนักงานค้นหาและช่วยเหลือของอินโดนีเซียแจ้งว่า ก่อนขาดการติดต่อ นักบินบนเที่ยวบินเจที 610 ได้ขอนำเครื่องลงฉุกเฉิน โดยจะบินวกกลับมาที่สนามบินต้นทาง กระทั่งพบว่าเครื่องบินตกลงกลางทะเล ห่างชายฝั่งเกาะชวาตะวันตกไปทางเหนือ ราว 15 กม. และอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงจาการ์ตา โดยทีมนักประดาน้ำจากหน่วยกู้ภัยเข้าถึงจุดเครื่องบินตกแล้ว และเร่งค้นหาส่วนลำตัวเครื่องบิน แต่ยังไม่พบสัญญาณผู้รอดชีวิต,ด้านนายซูโตโป ปูร์โว นูโกรโฮ หัวหน้าคณะกรรมการความปลอดภัยในการขนส่งแห่งชาติอินโดนีเซีย โพสต์รูปลงสื่อโซเชียลทวิตเตอร์พร้อมเขียน อธิบายว่า เห็นซากชิ้นส่วนเครื่องบินและข้าวของของผู้คน เช่น บัตรประจำตัวประชาชนและใบอนุญาต ขับขี่รถยนต์ และคราบน้ำมันที่ลอยเป็นแนวยาวอยู่กลางทะเล โดยจุดที่พบอยู่ใกล้โรงกลั่นน้ำมันของบริษัท เปอร์ตามินา ของรัฐบาลอินโดฯ ซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่งเกาะชวาตะวันตก,ข่าวยังระบุอีกว่า นางศรี มุลยานี รมว.คลังของอินโดฯ รีบเดินทางไปที่สำนักงานค้นหาและช่วยเหลือฯ หลังรู้เรื่อง เพื่อสอบถามข่าวเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง ราว 20 คน ที่โดยสารไปกับเครื่องบินลำดังกล่าว พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ยังตั้งศูนย์วิกฤติทั้งที่สนามบินเดปาติ อามีร์และสนามบินนานาชาติซูกาโน-ฮัตตา ไว้ช่วยเหลือประสานงานกับญาติผู้อยู่บนเครื่อง โดยมีรายงานว่าหน่วยกู้ภัยได้นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากทะเลได้แล้วบางส่วน,สำหรับเครื่องบินลำที่ตก เป็นเครื่องโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 แบบบินระยะทางไม่ไกล ผลิตในปี 2561 และเพิ่งส่งมอบให้สายการบินไลอ้อน แอร์ เมื่อช่วงกลางเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทางโฆษกบริษัทโบอิ้งในสหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์จะเข้าตรวจสอบเหตุเครื่องตกอย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดใดๆ ขณะที่นายเอ็ดเวิร์ด ซิราอิต ซีอีโอของไลอ้อน แอร์ ระบุว่าเครื่องบินลำที่ประสบเหตุ มีปัญหาขัดข้องทางเทคนิคในการขึ้นบินมาก่อนหน้านี้ แต่ได้รับการซ่อมบำรุงตามกระบวนการจนผ่านการตรวจสอบให้ขึ้นบินได้ แต่ก็มาประสบเหตุตกดังกล่าว ทำให้ในการสอบสวนสาเหตุการตก จะไม่ตัดประเด็นนี้ทิ้ง พร้อมทั้งรอข้อมูลจากกล่องบันทึกการบิน (กล่องดำ),ต่อมา ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดฯ ซึ่งกำลังประชุมที่เกาะบาหลี สั่งการให้สำนักงานความปลอดภัยด้านคมนาคมแห่งชาติ สอบสวนสาเหตุการตกของเที่ยวบินเจที 610 และวอนขอญาติผู้สูญเสียอยู่ในความสงบ หน่วยงานกู้ภัยกำลังทำงานอย่างเต็มความสามารถ,ทั้งนี้ ไลอ้อน แอร์ เป็นสายการบินต้นทุนต่ำรายใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย ให้บริการเส้นทางบินภายในและระหว่างประเทศ ก่อตั้งเมื่อปี 2542 เคยมีปัญหาด้านความปลอดภัยและการบริหารจัดการ โดยในปี 2556 เที่ยวบิน 904 ของไลอ้อน แอร์ ตกทะเลระหว่างร่อนลงจอดที่สนามบินนานาชาติบนเกาะบาหลี โชคดีที่คนบนเครื่อง 108 คน รอดชีวิตทั้งหมด และเคยถูกสั่งห้ามบินเข้าน่านฟ้าสหภาพยุโรป (อียู) ก่อนได้รับไฟเขียวให้บินเข้าน่านฟ้าอียูได้อีกครั้งในปี 2559 ส่วนเหตุเที่ยวบินเจที 610 ตกทะเลในครั้งนี้ ถือเป็นหายนะของวงการการบินที่เลวร้ายที่สุดในอินโดนีเซีย นับตั้งแต่เครื่องบินของแอร์เอเชียตกทะเลระหว่างบินจากเมืองสุราบายาของอินโดฯ ไปสิงคโปร์เมื่อ ธ.ค.2557 คร่าชีวิตผู้โดยสารยกลำ 162 คน,จากนั้นในช่วงค่ำ นายบัมบัง ซูร์โย อาจิ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการสำนักงานค้นหาและกู้ภัยของอินโดฯ แถลงว่า ผู้คนบนเที่ยวบินเจที 610 ทั้ง 189 คน น่าจะเสียชีวิตทั้งหมด เนื่องจากมีการพบศพและร่างผู้เสียชีวิตบางรายอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ ปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิต จึงต้องเปลี่ยนไปเป็นค้นหาและกู้ศพแทน,วันเดียวกัน น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ของไทย แถลงถึงกรณีเครื่องบินของสายการบินไลอ้อน แอร์ เที่ยวบินที่ JT-610 ประสบเหตุตกในทะเลตันจัง คาราวัง ชวาตะวันตก ว่าจากการตรวจสอบในเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีคนไทยบนเที่ยวบินดังกล่าว
อินโดนีเซียช็อก เจอหายนะทางการบิน นก เหล็ก ไลอ้อน แอร์ ดิ่งทะเล หลังทะยานจากสนามบินในกรุงจาการ์ตาไปสุมาตราได้เพียง 13 นาที นักบินแจ้งขอลงฉุกเฉิน
ข่าว,ต่างประเทศ
อินโดนีเซีย,ไลอ้อน แอร์,เครื่องบินตก,ดิ่งทะเล,ข่าวหน้า1
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1405990
โสมใต้ยกระดับคว่ำบาตรโสมเหนือ จีนก็ร่วมด้วย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประเทศจีนและเกาหลีใต้ยกระดับการคว่ำบาตรต่อประเทศเกาหลีเหนือขึ้นไปอีกขั้น โดยทางการจีนห้ามไม่ให้เรือสินค้าของเกาหลีเหนือเข้าไปจอดเทียบที่ท่าเรือของพวกเขา ขณะที่เกาหลีใต้ประกาศมาตรการลงโทษบุคคลและบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือแล้ว,ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่การทางทะเลของเมืองท่ารื่อจ้าว ในมณฑลซานตง ทางตะวันออกของจีน เรือสินค้าของเกาหลีเหนือชื่อว่า แกรนด์ คาโร เดินทางมาถึงเมืองท่ารื่อจ้าวเมื่อหลายวันก่อน แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้นำเรือเข้าเทียบท่า เนื่องจากเรือลำนี้เป็น 1 ในเรือ 31 ลำที่ถูกขึ้นบัญชีดำโดยกระทรวงคมนาคมแห่งประเทศจีน หลังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) มีมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนืออย่างรุนแรงเมื่อสัปดาห์ก่อน,นอกจากเรือ แกรนด์ คาโร แล้ว ยังมีเรือเกาหลีเหนืออีก 2 ลำที่อยู่ในบัญชีดำถูกห้ามไม่ให้เข้าเทียบท่าเรือของจีน กระทั่งเรือทั้ง 2 ลำเดินทางจากไป อีกด้านหนึ่งที่ประเทศฟิลิปปินส์ เรือสินค้าอีกลำของเกาหลีเหนือถูกทางการสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกจากท่าเรือเนื่องจากปัญหาในด้านความปลอดภัยด้วย,ขณะเดียวกันที่เกาหลีใต้ รัฐบาลกรุงโซลประกาศในวันอังคาร (8 มี.ค.) ว่าพวกเขาจะขยายมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินต่อเกาหลีเหนือ ให้ครอบคลุมบุคคล 38 คน และนิติบุคคลอีก 24 กลุ่ม ที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาอาวุธทำลายล้าง และคว่ำบาตรบุคคลอีก 2 คน และนิติบุคคลของประเทศที่ 3 อีก 6 กลุ่มที่สนับสนุนเกาหลีเหนือทางอ้อม นอกจากนี้จะแบนเรือสินค้าที่ไปจอดเทียบท่าเรือของเกาหลีเหนือในช่วง 180 วันที่ผ่านมาด้วย,ทั้งนี้ บุคคลที่ถูกเกาหลีใต้คว่ำบาตรเพิ่มเติมในวันอังคารรวมไปถึงชาวสิงคโปร์และชาวไต้หวันซึ่งเป็นหัวหน้าบริษัทขนส่งสินค้าและบริษัทการค้า เกาหลีใต้ยังขึ้นบัญดำบริษัทขนส่งของประเทศไทยแห่งหนึ่ง และบริษัท รอยัล ทีม คอร์เปอเรชัน ของไต้หวันด้วย โดยเกาหลีใต้จะห้ามไม่ให้บุคคลและบริษัทในบัญชีดำทำธุรกรรมทางการเงินเกาหลีใต้และอายัดทรัพย์สินของพวกเขาที่อยู่ในเกาหลีใต้ด้วย
เกาหลีใต้ประกาศขยายมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินต่อเกาหลีเหนือ เพื่อตอบโต้โครงการพัฒนาอาวุธของรัฐบาลเปียงยาง ขณะที่จีนขึ้นบัญชีดำเรือเกาหลีเหนือหลายลำ และห้ามเรือดังกล่าวเข้าเทียบท่า
null
คว่ำบาตร,เกาหลีเหนือ,เกาหลีใต้,จีน,ห้ามเรือเทียบท่า,โครงการอาวุธ,ทดลองอาวุธนิวเคลียร์,ระเบิดไฮโดรเจน,ขีปนาวุธพิสัยไกล,สหประชาชาติ,คณะมนตรีความมั่นคง,ยูเอ็นเอสซี,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/587977
ศาลกาฬสินธุ์พิพากษาจำคุกตลอดชีวิต 5 ผู้ต้องหา อุ้มฆ่า 2 ชาวลาว
วันนี้ (7 พ.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ พิพากษาจำคุกตลอดชีวิต นายโอกาศ ตั้งใจมั่นดีกุล พร้อมพวกอีก 4 คน ในฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย คดีฆาตกรรมนางกองคำ พรมมะสี และจันสะหมอน เสนสักดา หญิงชาวลาว ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตและนำศพมาทิ้งอำพรางที่ป่าละเมาะ ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วหลังเกิดเหตุได้เพียง 3 วัน ตำรวจแกะรอยจากโทรศัพท์มือถือ กระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คน ซึ่งตำรวจมีหลักฐานว่า ผู้ต้องหาได้รับการจ้างวานมาจากนักธุรกิจหญิงชาวลาว เนื่องจากเกิดความหึงหวงชายหนุ่มที่มาติดพันผู้เสียชีวิตล่าสุด ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ยังให้การปฏิเสธและเตรียมยื่นอุทธรณ์เพื่อต่อสู้คดีต่อไป
ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ พิพากษาจำคุกตลอดชีวิตผู้ต้องหาทั้ง 5 คน คดีอุ้มฆ่าหญิงชาวลาว 2 คน เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว แต่ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
อาชญากรรม
ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์,อุ้มฆ่าชาวลาว,หึงหวง,อุ้มฆ่า
https://news.thaipbs.or.th/content/267525
จ๊อบไทย เผย Gen X Y Z จะเปลี่ยนงานใหม่ เหตุไม่พอใจเงินเดือน-หางานทางเว็บไซต์มากสุด
วันนี้ (18 มี.ค.2560) จ๊อบไทยดอทคอม เปิดเผยผลสำรวจความคิดและแนวโน้มพฤติกรรมของคน 3 เจนเนอเรชั่น ได้แก่ เจนเอ็กซ์ เจนวาย และ เจนแซท จำนวน 6000 คน ทั่วประเทศ พบกลุ่มตัวอย่างมีแผนจะเปลี่ยนงานใหม่มากถึงร้อยละ 73 และมี 5 เหตุผลที่ทำให้คนต้องการหางานใหม่ คือไม่พอใจเรื่องเงินเดือน ร้อยละ 22.86ไม่มีความก้าวหน้าในสายงาน ร้อยละ 19.33ไม่พอใจสวัสดิการ ร้อยละ 15.62ไม่พอใจโบนัส ร้อยละ 10.61งานที่ทำไม่มีความท้าทาย ร้อยละ 9.84ทั้งนี้พบว่ากลุ่มคนเจนเอ็กซ์ ยังมีเหตุผลลำดับรองลงมาที่แตกต่างจากกลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะความไม่พอใจเรื่องวัฒนธรรมองค์กรและการเดินทางที่ไม่สะดวกขณะที่ เจนแซทซึ่งเป็นกำลังแรงงานรุ่นใหม่ของประเทศในอนาคต มองปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือกทำงานอยู่กับองค์กรทั้งนี้ เมื่อสำรวจถึงทัศนคติกับการทำงานต่างประเทศ พบว่ากลุ่มตัวอย่างกว่าร้อยะล 5 ต้องการหรือเลือกที่จะไปทำงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มคนเจนวาย เพราะคนกลุ่มนี้กล้าเปลี่ยนสถานที่ทำงาน และอยากทำอะไรใหม่ที่ท้าทายมากกว่าคนกลุ่มเจนเอ็กซ์ ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงและย้ายที่ทำงานไปไกลๆ ที่พักอาศัยสำหรับกลุ่มประเทศที่คนสนใจอยากไปทำงานมากที่สุด 5 อันดับแรก ยังคงอยู่ในกลุ่มประเทศ ที่เจริญหรือพัฒนาแล้ว คือ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้นอกจากนี้ ยังมีผู้สนใจไปทำงานในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี คือ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เนื่องจากต้องการทำงานในตลาดแรงงานดังกล่าว สอดรับกับความต้องการแรงงานไทยเพื่อไปรองรับกับการขยายธุรกิจของกลุ่มทุนไทยในกลุ่มประเทศนี้ รวมถึงการมองหาโอกาสในตลาดอาเซียนส่วนจังหวัดที่คนทั้ง 3 เจเนอเรชั่น อยากทำงานมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ ชลบุรี สมุทรปราการน.ส.แสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการ จ๊อบไทยดอทคอม ระบุว่าในปัจจุบันพฤติกรรมการหางานเปลี่ยนแปลงไป โดยพบว่าช่องทางการหางานที่คนเลือกใช้มากที่สุด คือ เว็บไซต์หางาน –สมัครงาน ร้อยละ 40 รองลงมา คือ เว็บไซต์ของบริษัทที่ต้องการสมัคร ร้อยละ 17.56 คนรู้จัก ร้อยละ 11.73 วอล์คอินไปสมัครงานที่บริษัท ร้อยละ 7.81 และเว็บไซต์หางานเฉพาะทาง ร้อยละ 5.9 ขณะที่การหางานจะหาผ่านแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน ร้อยละ 57 และหาผ่านคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปร้อยละ 43ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมของคน 3 เจนเนอเรชั่น หันมาใช้ช่องทางสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น ดังนั้นองค์กรหรือผู้ต้องการหาคนมาร่วมงาน ก็จะต้องนำเครื่องมือดิจิทัลดังกล่าว มาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์และเข้าถึงคนกลุ่มนี้มากขึ้น ผนวกกับการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงงานที่ง่ายขึ้น ก็ยิ่งทำให้องค์กรต้องเร่งปรับตัว สร้างความแตกต่างจากราย อื่นๆ เพื่อดึงดูดให้คนอยากเข้ามาร่วมงานด้วย โดยเฉพาะการสร้างคอร์ปอเรทแบ รนด์ดิ้ง ที่จะทำให้ผู้หางานรู้จักและเข้าใจบริษัทได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ซึ่งองค์กรอาจสื่อสารผ่านเรื่องราว คอนเทนท์สั้นๆ ให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงคนกลุ่มนี้น.ส.แสงเดือน กล่าวว่า ข้อมูลจากการสำรวจในครั้งนี้ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถมองเห็นภาพรวมเกี่ยวกับแนวโน้มพฤติกรรม รวมไปถึงความคิดของคนหางาน แล้วนำข้อมูลที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์แก่องค์กรในยุคดิจิทัล ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดแรงงานมีการเปลี่ยนแปลง ตลอดจนเสริมสร้างศักยภาพขององค์กรให้สามารถแข่งขันในตลาดแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งนี้ ช่องทางที่ถูกเลือกใช้หางาน สมัครงานมากเป็นอันดับต้นๆ คือ เว็บไซต์หางาน สมัครงาน และ เว็บไซต์ของบริษัทที่ต้องการสมัครผลการสำรวจในครั้งนี้ยังสะท้อนความต้องการจากการหางานใหม่ของคนทั้ง 3 เจนเนอเรชั่น โดยพบว่า 3 อันดับแรก คือ โอกาสก้าวหน้าในสายงาน องค์กรที่มีงบประมาณในการส่งเสริมศักยภาพของพนักงาน และเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น
จ๊อบไทยดอทคอม เผยผลสำรวจพบกลุ่มตัวอย่างมีแผนจะเปลี่ยนงานใหม่มากถึงร้อยละ 73 และพบพฤติกรรมการหางานใช้ช่องทางสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น หวังโอกาสก้าวหน้า แนะผู้ประกอบการปรับตัวนำเครื่องมือดิจิทัลมาใช้เพื่อเข้าถึงคนกลุ่มนี้
เศรษฐกิจ
ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,JobThai.com,สำรวจ,เปลี่ยนงาน,เงินเดือน,ทำงานต่างประเทศ,จ๊อบไทยดอทคอม
https://news.thaipbs.or.th/content/260951
กู้ขึ้นได้แล้วศพที่ 2 เหยื่อศาลาริมน้ำแม่กลองถล่ม หลังเอาเครนยกไม้ออก
เมื่อเวลา 01.04 น. ของวันที่ 18 ก.ค. 62 การค้นหาศพติดใต้ซากศาลาพักริมแม่น้ำแม่กลอง เป็นเวลา 36 ชั่วโมง ต้องปรับแผนการกู้ใหม่ โดยให้นักประดาน้ำมูลนิธิร่วมกตัญญู ดำลงไปรื้อโครงสร้างกระเบื้องโมเสค ออกมาได้ประมาณ 90% จากนั้นก็สับเปลี่ยนหมุนเวียนกับมูลนิธิสว่างเบญจธรรม เพชรบุรี กู้ภัยอยุธา ใช้เบลผูกไม้แปรขนาดกว้าง 3 นิ้วหนา นิ้วครึ่งยาวประมาณ 6 เมตร จำนวนมาก,ขณะที่รถเครนกำลังยกไม้ขึ้นผิวน้ำอยู่โดยไม่มีใครคาดคิด ศพของน.ส.พรวิไล เสือเล็ก อายุ 24 ปี ชาวบ้าน หมู่ 7 ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม เป็นพนักงานบริษัทฮอนด้าแม่กลอง ก็พรวดขึ้นมาจากใต้น้ำอย่างรวดเร็ว ขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง สวมเสื้อแขนยาวสีดำทับเสื้อแขนสั้นสีเลือดหมูกระโปรงสีดำ ท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยวลงสู่ปากอ่าวแม่น้ำแม่กลอง หน่วยกู้ภัยต้องรีบนำเรือยางวิ่งไปเก็บศพใส่รถนำไปชันสูตรที่ รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ชึ่งมีญาติๆ เฝ้ารอดูศพด้วยความโศกเศร้าเสียใจ มี พญ.จันทนี ทวีโชติภัตร แพทย์เวร พร้อมด้วย ร.ต.อ.ธราทร จันทดิษฐ์ รอง สว.สอบสวนเจ้าของคดี โดยทางญาติจะนำศพของ น.ส.พรวิไล เสือเล็ก ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดปัจจันตาราม อ.เมืองสมุทรสาคร ชึ่งอยู่ใกล้บ้าน,ต่อมา นายสุเมธ ธีรนิติ ปลัดจังหวัดสมุทรสงคราม หัวหน้าส่วนปฏิบัติการ ค้นหาผู้สูญหาย เป็นประธานแถลงข่าว พร้อมด้วย น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม ที่สนับสนุนอาหารเครื่องดื่มแก่กู้ภัย ปิดศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัย มีหน่วยกู้ภัยที่ช่วยกันค้นหาศพผู้สูญหายใต้น้ำทำงานรวมทั้งหมด 270 คน ,ด้าน พ.ต.อ.จุมพล สิกเสน ผกก.สภ.เมืองสมุทรสงคราม กล่าวว่า คดีนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนพยานที่ได้รับบาดเจ็บแล้วเหลือเพียงแค่ 2 คน จะมาให้การทีหลังเนื่องจากติดภารกิจ ส่วนด้านตัวอาคารที่พักศาลาที่พังลงมา มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น ต้องประสานงานไปยังสำนักโยธาธิการและผังเมือง ส่งวิศวกรผู้ชำนาญการ และสำนักป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม ตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงว่ามาจากสาเหตุอะไร จึงจะสามารถที่จะสรุปคดีได้
หน่วยกู้ภัยที่ช่วยกันกู้ร่าง สาววัย 24 ปีผู้สูญหายเหตุศาลาริมน้ำแม่กลองถล่มได้แล้ว หลังเอาเครนยกไม้ขึ้นผิวน้ำ ศพก็โผล่พรวดขึ้นมาเหนือน้ำทันที ด้าน ปลัด จ.สมุทรสงครามปิดศูนย์ค้นหาฯ
ข่าว,ทั่วไทย
ศาลาริมน้ำแม่กลอง,ศาลาริมน้ำถล่ม,สมุทรสงคราม,พบศพที่ 2,จมน้ำตาย,แม่น้ำแม่กลอง,ศพลอยอืด,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1617386
ครบรอบ 50 ปี การลุกฮือในลาซา ทะไล ลามะ ประณามจีนทำให้ทิเบตเป็น นรกบนดิน
พระญี่ปุ่น สวดมนต์เพื่อระลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์จลาจล ในฐานะครบรอบ 50 ปี เหตุความไม่สงบครั้งใหญ่ในลาซา (พระสงฆ์ถูกจับในการประท้วงที่กาฐมานฑุ เนปาล (การประท้วงที่ลิทัวร์เนีย (ทะไล ลามะ กล่าวประณามว่าจีนทำให้ชาวทิเบตรู้สึกราวต้องประสบกับ นรกบนดิน (จีนเพิ่มกำลังทหารตามจุดต่าง ๆ ของทิเบต9 มี.ค. 2552 กลุ่มทหารและตำรวจของทางการจีนได้จัดกองกำลังเข้าไปตามเมืองและหมู่บ้านของฝั่งทิเบต รวมถึงทางภาคตะวันตกของจีนที่เสี่ยงต่อการเกิดการต่อต้าน การที่ทางการจีนส่งกองกำลังเข้าไปในพื้นที่ในครั้งนี้ ก็เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการความไม่สงบขึ้นในวันครบรอบ 50 ปี การต่อต้านจีนครั้งใหญ่ของชาวทิเบตในลาซา ซึ่งได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2502 ขณะเดียวกันทะไล ลามะ ก็ออกมาเผยว่า ทิเบตกลายเป็น นรกบนดิน ไปแล้วตั้งแต่ถูกปกครองโดยจีนหลังจากปี 2493 ที่รัฐบาลในยุคนั้นได้ส่งกองกำลังเข้าไปยึดครองทิเบต จนกระทั่งปี 2499 ก็เกิดเหตุความไม่สงบขึ้นในเขต คาม (ในปีนี้ ทางการจีนก็ยังคงกลัวว่าการครบรอบ 50 ปี ของ การลุกฮือในลาซา จะมีความรุนแรงเกิดขึ้นจากการประท้วงของชาวทิเบต มีกองทัพเข้าไปยังทิเบต และชุมชนย่านพักอาศัยของชาวทิเบตทุกหนแห่งเพื่อเตรียมรับมือการประท้วงในกรุงลาซา วันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา ไม่มีเหตุการใด ๆ เกิดขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในสภาพที่ตึงเครียด เช่นเดียวกับในพื้นที่เขตอื่น ในปีที่ผ่านมา (2551) กรุงลาซาเมืองหลวงของทิเบตเกิดเหตุความไม่สงบขึ้น เช่นเดียวกับในปี 2502 ประชาชนผู้อยู่อาศัยในพื้นที่รายงานว่ามีกำลังตำรวจติดอาวุธเดินตรวจตราเพิ่มมากขึ้นในเมือง ขณะที่นักท่องเที่ยวและชาวทิเบตบอกว่ามีตำรวจคอยเข้ามาขอตรวจเช็คบัตรประชาชน พนักงานที่ทำงานในบริษัททัวร์ ในเสฉวน ซึ่งเคยมีการประท้วงที่รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว มีตำรวจปราบจราจลและทหารติดปืนกลเดินขบวนผ่านจัตุรัสกลางเมือง ทะไล ลามะ ประณามจีน ทำให้ชาวทิเบตต้องประสบกับ ด้าน ทะไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของจีนก็ออกมาบอกว่า หลายปีที่ผ่านมาทิเบตตกอยู่ให้กฏอัยการศึกของจีนและนโยบายแข็งกร้าวอย่างการปฏิวัติวัฒนธรรม ซึ่งได้ทำให้บ้านเกิดในแถบหิมาลัยของเขาถูกทำลาย ทำให้มีชาวทิเบตเสียชีวิตเป็นร้อนเป็นพันคนกระทั่งทุกวันนี้ ชาวทิเบตยังอาศัยอยู่ในทิเบตด้วยความหวาดกลัว และรัฐบาลจีนก็คอยส่งสัยพวกเขาอยู่ตลอดเวลา ทะไล ลามะ กล่าวขณะพำนักอยู่ที่ ธรรมศาลา ประเทศอินเดีย โดยได้ประณาม การปราบปรามอย่างเหี้ยมโหด ของทหาร ในเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านจีนในปีที่แล้วโดยก่อนหน้าที่ทะไล ลามะ จะขึ้นพูดมีหนุ่มสาวชาวทิเบตประมาณ 20 คนแต่งชุดไว้ทุกข์ให้กับเหยื่อให้เหตุการจลาจล เล่นกลองและปี่ในเพลง นอกจากนี้ทะไล ลามะ ยังได้พูดถึงการปกครองของรัฐบาลจีนนักตั้งแต่มีเหตุ การลุกฮือในลาซา ขึ้นเมื่อ 50 ปีที่แล้วว่า มันได้เสียดแทงชาวทิเบตจนลึกถึงความเจ็บปวดทรมาน ทำให้พวกเขาต้องพบเจอกับนรกบนดินในทุกวันนี้ ศาสนา วัฒนธรรม ภาษา และอัตลักษณ์ ซึ่งชาวทิเบตสืบทอดมารุ่นต่อรุ่นจนถือเป็นสิ่งที่สูงค่ากว่าชีวิตของพวกเขา กำลังจะสูญหายไป พูดให้สั้นลงคือ ตอนนี้ชาวทิเบตถูกปฏิบัติราวเป็นอาชญากรที่สมควรถูกสังหาร ทะไล ลามะ กล่าวในสุนทรพจน์ของเขาหลังจากที่ทะไล ลามะ กล่าวจบแล้ว หนุ่มสาวชาวทิเบตกว่าพันคนพากันเดินไปบนถนนของธรรมศาลา ถือโปสเตอร์ ปลดปล่อยทิเบต แล้วตะโกนร่วมกันว่า จีนออกไป และ ทิเบตเป็นของชาวทิเบต นอกจากนี้ยีงมีกลุ่มผู้ประท้วงสนับสนุนทิเบตออกมาเดินขบวนใน กรุงนิว เดลี โดยก่อนหน้านี้ทะไล ลามะ ได้กล่าวในการแถลงข่าวว่ามีการสนับสนุนทิเบตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในจีน มีชาวจีนมากขึ้น และมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่เริ่มรับรู้ว่าทิเบตกำลังมีปัญหา ทะไล ลามะ กล่าวต่ออีกว่า ในความจริงแล้ว มีเจ้าหน้าที่ชาวจีนระดับสูงจำนวนหนึ่ง ที่สมาชิกครอบครัวของพวกเขากำลังให้ความสนใจในพุทธศาสนาของทิเบตรอบบริเวณของชุมชนชาวทิเบตมีจำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มขึ้น ในช่วงที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและนักข่าวถูกห้ามไม่ให้เข้าไปในบางพื้นที่ อินเตอร์เน้ตและการใช้โทรศัพท์มือถือก็ไม่สะดวกนักเนื่องจากทางการพยายามป้องกันไม่ให้นักกิจกรรมอาศัยอุปกรณ์สื่อสารในการรายงานความเคลื่อนไหวประชาชนที่อาศัยในลาซา จะได้รับข้อความตัวอักษาจากผู้ให้บริการบอกว่า การโทรศัพท์และการส่งข้อความตัวอักษรอาจเกิดอาการชะงักในช่วงระหว่างวันที่ 10 มี.ค. ถึง 1 พ.ค. เนื่องจากกำลังพัฒนาระบบ โดยทางตัวแทนลูกค้าสัมพันธ์ของบริษัทดังกล่าวได้ออกมายืนยันว่าส่งข้อความไปจริง ทิเบตก็ยังคงดำรงวิถีชีวิตแบบเดิมมาและยังคงมีเจ้าที่ดินถือครองที่ดินอยู่เรื่อย ๆ จนถึงปี 2502 รัฐบาลจีนเริ่มทำการปฏิรูปที่ดินเป็นของทางการจีน และประหารชีวิตเจ้าของที่ดินเดิมในเมืองอื่น ๆ ของทิเบต ผู้อาศัยอยู่บอกว่ามีการตรวจเช็คสถานะพลเมืองที่เข้มงวดขึ้นกับชาวทิเบตและผู้พักอาศัยตามโรงแรม ผู้พักอาศัยในโรงแรมฉางตูคนหนึ่งเล่าว่าชาวทิเบตที่ต้องการมาพักอาศัยต้องได้รับการตรวจเช็คบัตรประชาชน ขณะเดียวกันก็ไม่มีการตรวจเช็คบัตรของคนเชื้อสายจีนประท้วงรอบโลกในวันที่ 10 มี.ค. 2552 กลุ่มผู้ประท้วงสนับสนุนทิเบตรวมตัวกันประท้วงหน้าสถานฑูตจีนที่กรุงแคนเบอร์ร่าเมืองหลวงของออสเตรเลีย ในฐานะวันครบรอบ 50 ปี การลุกฮือในลาซา และมีการพยายามฝ่าด่านตำรวจที่ตั้งสกัดกั้นอยู่มีการเดินขบวนประท้วงของกลุ่มนักกิจกรรมที่สนับสนุนให้ทิเบตปกครองตนเองจากรัฐสภามายังหน้าสถานฑูตจีนในออสเตรเลีย ความตึงเครียดเริ่มขึ้นเมื่อนักกิจกรรมสิบกว่าคนพยายามฝ่าด่านตำรวจ และยังมีการโต้เถียงกันอย่างเร่าร้อนระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่สถานฑูตที่ออกมาถ่ายรูปกลุ่มผู้ชุมนุมเอาไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่ามีสี่คนถูกจับข้อหาก่อความไม่ความสงบรวมถึงคนหนึ่งที่ขว้างรองเท้าใส่ตึกสถานฑูตด้วยการประท้วงเริ่มขึ้นโดยมีประชาชนประมาณ 150 คนรวมตัวกันที่อาคารรัฐสภา ก่อนจะเดินขบวนประท้วงเรียกร้องให้จันปลดปล่อยทิเบตอย่างสงบ โดยมีการถือธงและป้ายประท้วง มีผู้แทนจากพรรครัฐบาลของออสเตรเลียส่วนหนึ่งเข้าร่วมการชุมนุมด้วยบ็อบ บราวน์วุฒิสมาชิกและหัวหน้าพรรคเขียว (วันนี้เป็นวันที่เราจะแสดงถึงความเข้มแข็งและความบากบั่นของประชาชนชาวทิเบต และเพื่อจะนำให้พวกเราดำเนินการต่อสู้ต่อไป โฆษกของชุมชนชาวทิเบตกล่าว นอกจากนี้พวกเรายังระลึกถึงชาวทิเบตที่เสียชีวิตเป็นร้อย เป็นพัน รวมถึงคนอีกนับล้านที่อยู่ภายใต้การยึดครองของจีนด้วยในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ผู้ชุมนุมได้โบกธงปลดปล่อยทิเบตและทาหน้าเป็นสโลแกนว่า ขอให้เกิดความสงบในทิเบต รวมตัวกันหน้าสถานฑูตจีน ขณะที่ในเนปาล มีชาวทิเบตพลัดถิ่นราว 150 รวมถึงพระและนักเรียนออกมาประท้วงและได้มีการปะทะกับตำรวจปราบจลาจลในวัด มีผู้ประท้วงถูกจับกุมหกคนและถูกขังอยู่ท้ายรถบรรทุกของตำรวจ ก่อนจะถูกปล่อยตัวในอีกไม่กี่นาทีต่อมานอกจากนี้ยังมีการชุมนุมในสถานฑูตจีนในอีกหลายประเทศ อาทิเช่นฝรั่งเศส เยอรมนี เบลเยี่ยม เนปาล ลิทัวร์เนีย ฯลฯในวันเดียวกัน พระสงฆ์ของญี่ปุ่นก็พากันสวดมนต์ให้กับวันครบรอบ 50 ปี การลุกฮือในลาซา ที่ฮิโรชิม่า ในวันที่ 9 มี.ค. มีพระราวสิบรูป และฆราวาส ที่สนับสนุนทิเบตถือเทียนชุมนุมกันตอนค่ำ และร่วมชุมนุมสวดมนต์กันในวันต่อมา พระในโตเกียว โอซาก้า ซับโปโร่ และในเมืองอื่น ๆ ก็วางแผนจะสวดมนต์เพื่ออธิษฐานให้เกิดความสงบสุขในทิเบต เพื่อแสดงการสนับสนุนประชาชนทิเบต และเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบ ทั้งที่เป็นชาวจีนและชาวทิเบตที่มาDalai Lama says Tibet hell on earth under China AP Audra ANG 10-03-2552http://news.yahoo.com/s/ap/20090310/ap_on_re_as/as_china_tibet;_ylt=AujehqVgKNl8P2ouWvV.sEas0NUE;_ylu=X3oDMTFoYnVlamI5BHBvcwMxNARzZWMDYWNjb3JkaW9uX3RvcF9zdG9yaWVzBHNsawNkYWxhaWxhbWFzYXk-Dalai Lama slams China over Tibet suffering Reuters Matthias Williams 10-03-2552http://news.yahoo.com/s/nm/20090310/ts_nm/us_china_tibetPro-Tibet groups pray protest on anniversary AFP 10-03-2552http://news.yahoo.com/s/afp/20090310/wl_asia_afp/chinatibet50yearsjapanmemorial_20090310072112Australian police arrest 4 Tibet protesters Rod McGuirk AP 10-03-2552http://news.yahoo.com/s/ap/20090310/ap_on_re_as/tibet_protests_2Tibetans protest in Nepals capital AFP 10-03-2552http://news.yahoo.com/s/afp/20090310/wl_sthasia_afp/nepalchinatibet50yearsprotest_20090310160244
พระญี่ปุ่น สวดมนต์เพื่อระลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์จลาจล ในฐานะครบรอบ 50 ปี เหตุความไม่สงบครั้งใหญ่ในลาซา (AFP Sachiyo Aso) พระสงฆ์ถูกจับในการประท้วงที่กาฐมานฑุ เนปาล (Reuters Gopal
การเมือง
null
https://prachatai.com/journal/2009/03/20301
ชอบกฎหมาย–ชอบธรรม
หลักฐานที่ชัดเจนเรื่องหนึ่งคือคำประกาศของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป แต่จะมีการตั้งพรรคสนับสนุนหรือไม่ ให้ถามรัฐมนตรีสองท่าน,แสดงว่า คสช.จะสืบทอดอำนาจ ด้วยการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็น นายกฯคนใน โดยมีชื่อเป็นผู้ชิงนายกรัฐมนตรี,ในบัญชีรายชื่อของพรรค และเสนอให้รัฐสภาเลือกหลังการเลือกตั้ง เป็นการเลือกด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสองสภา คือ 376 เสียงขึ้นไป เชื่อว่าจะเป็นผู้ชนะ เพราะมี ส.ว. แต่งตั้งอยู่แล้ว 250 เสียง ดึง ส.ส. มาร่วมแค่ 126 เสียง ก็ฉลุย,เหตุที่ต้องตัดสินใจเลือกเส้นทาง นายกฯคนใน เนื่องจากเส้นทางสู่ นายกฯคนนอก ค่อนข้างตีบตันและเป็นไปได้ยาก เพราะในขั้นตอนการเปลี่ยนวิธีการเลือกนายกรัฐมนตรีมาเป็นคนนอก จะต้องได้รับการสนับสนุนจากสองสภาถึง 2 ใน 3 คือ 500 เสียงขึ้นไป จึงต้องใช้พรรคเป็นกลไกสำคัญ พรรคใหม่ที่มีการพูดถึงมากที่สุด ได้แก่พรรคพลังประชารัฐ,การอิงอาศัยพรรคเพื่อสืบทอดอำนาจ เป็นวิธีการสร้าง ความชอบธรรม ให้แก่อำนาจอย่างหนึ่ง เนื่องจาก คสช. เข้าสู่อำนาจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงต้องสร้างความชอบธรรมมาตามลำดับ รวมทั้งการประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว เพื่อจัดตั้งสภาต่างๆ และจัดทำรัฐธรรมนูญถาวรที่ผ่านประชามติเป็นฉบับ ประชาธิปไตยครึ่งใบ,ให้สืบทอดอำนาจได้อีก 5 ปี,ความชอบธรรม (Legitimacy) เป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของการเมืองไทย เพราะหลายเรื่องแม้จะมี ความชอบด้วยกฎหมาย (Legality) แต่ไม่ชอบธรรม การสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร รสช. เมื่อปี 2535 แม้ผู้นำ รสช. จะเป็นนายกรัฐมนตรี โดยชอบด้วยกฎหมาย และด้วยเสียงข้างมากในสภา แต่มีประชาชนบางส่วนลุกฮือต่อต้าน จนต้องยอมถอย,ส่วนในปัจจุบัน ตามรัฐธรรมนูญ 2560 การที่ผู้นำ คสช.จะเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ว่าจะคนในหรือคนนอก ล้วนแต่ชอบด้วยกฎหมาย โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด ที่เขียนเปิดช่องไว้ทั้งสองแนวทาง การเลือกแนวทางนายกฯคนใน อาจมีความชอบธรรมมากกว่านายกฯคนนอก เพราะอย่างน้อยผู้สมัครนายกฯคนใน ก็ได้เสนอตัวต่อประชาชน,ผู้ที่มีสิทธิได้รับเลือกเป็นนายกฯคนใน จะต้องยอมให้พรรคเสนอชื่อบัญชีรายชื่อพรรค และแจ้งต่อประชาชนให้รับรู้ บางคนอาจออกไปพบปะเสนอนโยบายต่อประชาชน ส่วนนายกฯคนนอกนั่งรอราชรถ มาเกย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยเตือนเรื่องนายกฯคนนอกหลายครั้ง ว่าต้องให้เกียรติประชาชน เจ้าของอำนาจอธิปไตย.
ชัดเจนแล้วว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะสืบทอดอำนาจด้วยการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง
null
ประยุทธ์ จันทร์โอชา,การเลือกตั้ง,บัญชีรายชื่อ,ความชอบธรรม,บทบรรณาธิการ
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1250806
เจษฎ์ โทณะวณิก ชี้ประชาชนลงชื่อขอแก้ ม.112 ไม่ได้
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 55 ที่ผ่านมาเว็บไซต์คมชัดลึกรายงานว่ากรณีการล่ารายชื่อประชาชน เพื่อเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ซึ่งคณะนิติราษฎร์ อ้างว่า ม. 112 เป็นเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 36 ในหมวด 3 ที่ว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย ตามรัฐธรรมนูญปี 50 ที่บัญญัติว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการสื่อสารถึงกัน โดยทางที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ ม.112 กลับบัญญัติจำกัดสิทธิเสรีภาพในการคิด การเขียน ดังนั้น จึงสามารถเข้าชื่อประชาชน 10000 รายชื่อ เพื่อเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ได้นั้น นายเจษฎ์ โทณะวณิก คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ระบุว่า กรณี ม. 112 ไม่เหมือนกับการหมิ่นประมาทบุคคลทั่วไป หรือดูหมิ่นเจ้าพนักงานหรือหมิ่นศาล เพราะ ม.112 มุ่งคุ้มครองประมุขของรัฐ เกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐ และเกี่ยวกับมาตรา 8 ของรัฐธรรมนูญ ที่บัญญัติว่า องค์พระมหากษัตริย์ ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ด้วย \จึงไม่ใช่กรณีที่เข้าหมวด 3 อันว่าด้วยสิทธิเสรีภาพของประชาชนแต่เพียงอย่างเดียว แต่เข้าหมวด 2 ซึ่งเป็นหมวดพระมหากษัตริย์ด้วย ดังนั้น ประชาชนจึงไม่สามารถเข้าชื่อแก้ไขม.112 ได้ เนื่องจากมาตรา 163 ของรัฐธรรมนูญ บัญญัติว่า ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นคน มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอต่อประธานรัฐสภา เพื่อให้รัฐสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตามที่กำหนดในหมวด 3 ที่ว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพของประชาชน และหมวด 5 ว่าด้วยแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ เท่านั้น ไม่ได้เปิดช่องให้แก้ไขหมวด 2 ที่เป็นหมวดเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์\ นายเจษฎ์ ยังระบุด้วยว่า การแก้ไข ม. 112 ต้องเสนอในรูปของ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากประมวลกฎหมายอาญา เป็น พ.ร.บ.
คณบดีนิติศาสตร์ ม.สยาม ออกโรงแย้งโต้ ประชาชนเข้าชื่อขอแก้ไข ม.112 ไม่ได้ เพราะเข้าหมวด 2 พระมหากษัตริย์ รธน. ม. 163 ไม่เปิดช่องให้ทำได้ แนะการแก้ไข ม. 112 ต้องเสนอในรูปของ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม
การเมือง
การแก้ไข ม.112,เจษฎ์ โทณะวณิก
https://prachatai.com/journal/2012/02/39208
โกหกเนียน 4 ปี แท็กซี่อ้างเป็น บิ๊กโจ๊ก แฉวิธีหลอก 6 ตร. วิ่งเต้น 4.3 ล้าน
ถูกหลอก เกิดถี่รายสัปดาห์ แต่ที่ทั้งน่าเศร้าใจ ทั้งฮา และชวนสมน้ำหน้าหน่อยๆ ก็คงเป็นกรณีที่ ,โชเฟอร์แท็กซี่แค่คนเดียว หลอกตำรวจได้ตั้ง 6 นาย, แถมได้เงินหลักล้านมาสร้างเนื้อสร้างตัวสบายอุรา กว่าจะรู้ว่า ตัวเองถูกหลอก ก็กลายเป็นข่าวใหญ่โตฉาวโฉ่ไปทั้งประเทศ,นายไพจิตร์ สายยา อายุ 40 ปี อาชีพโชเฟอร์ขับแท็กซี่ ,พระเอกของเรื่อง, สารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมละเอียดยิบถึงกลโกงแอบอ้างเป็น, พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว,  หรือ ,บิ๊กโจ๊ก, นายตำรวจคนดัง ที่ใครๆ กล่าวขานกันว่า เป็นผู้มีอำนาจ วาสนา บุญบารมีใหญ่โตกว่า ,พล.ต.อ., ข่าวลือยังสะพัดอีกว่า, บิ๊กโจ๊ก, นี่แหละที่สามารถชี้นิ้วโยกย้ายถ่ายเทตำรวจได้ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มันก็เลยเกิดเป็นที่มาของเรื่องราวการแอบอ้างสวมรอยเป็น ,บิ๊กโจ๊ก, เพื่อหาผลประโยชน์เข้าตัว ,ปฐมบทแรก ,เขาบอกให้ช่วยสวมรอยเคลียร์คดีโรงพักหนึ่งในภาคอีสาน,เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2557 นายไพจิตร์ สายยา (ผู้ต้องหา) ได้ถูกไหว้วานจากคนรู้จัก 1 ราย ให้ช่วยปลอมเสียงเป็น บิ๊กโจ๊ก โดยวิธีโทรเข้าโรงพักหนึ่งในแถบภาคอีสาน แล้วขอสาย สารวัตรสืบ เพื่อพูดคุยฝากฝังคดีความกรณีรถชนกัน แนะนำว่าตัวเองคือ สุรเชษฐ์ หักพาล ซึ่งสารวัตรสืบปลายสาย ตอบตกลงพร้อมรับปากดูแลเรื่องราวคดีความให้ ,เมื่อผู้ต้องหาตายใจ และหลอกลวงสำเร็จไปแล้ว 1 ครั้ง จึงเกิดความคึกคะนอง โทรไปหลอกให้ช่วยเหลือซ้ำแล้วซ้ำอีก ขณะที่ทางสารวัตรสืบสวนโรงพักเองก็มิได้ระคาย แคลงใจ แม้แต่น้อย มีความเชื่อ 100% ว่าคนที่โทรมาพูดสายด้วยคือ บิ๊กโจ๊ก ,ปฐมบทที่สอง ,ศึกษาลีลาการพูด บุคลิกบิ๊กโจ๊ก จากสื่อต่างๆ ,ภายหลังผู้ต้องหาสามารถแอบอ้างชื่อ บิ๊กโจ๊ก หลอกสารวัตรสืบสวนโรงพักภาคอีสานได้สำเร็จในครั้งแรก จึงทำความรู้จัก บิ๊กโจ๊ก ผ่านทางสื่อ เช่น โซเชียลมีเดีย ข่าวสารทีวีช่องต่างๆ รวมไปถึงภารกิจหน้าที่แต่ละวัน นำไปสู่การปลอมแปลงไอดีไลน์ ใช้รูปโปรไฟล์ บิ๊กโจ๊ก เอาไว้พูดคุยกับสารวัตรสืบสวนโรงพักดังกล่าว เพื่อเพิ่มความแนบเนียนมากยิ่งขึ้น  ,ปฐมบทที่สาม, หลอกนานเกือบ 4 ปี จิกใช้งานแนบเนียนตายใจ,ภายหลังมีการแลกไลน์ไอดี บิ๊กโจ๊ก ตัวปลอม รู้สึกว่าตัวเองหลอกได้สนิทใจขึ้น เนื่องจากไม่ต้องดัดแปลงน้ำเสียงให้ยุ่งยาก การคุยในแต่ละครั้ง ส่งสัญญาณประหนึ่ง รู้กันสองคน ดังนั้นการพูดคุย รู้จักกันครั้งนี้ ต้องเก็บเป็นความลับ ห้ามให้ใครรู้โดยเด็ดขาด และถึงแม้ว่าสารวัตรสืบสวนคนดังกล่าวไม่เคยพูดคุยกับ บิ๊กโจ๊ก ตัวเป็นๆ สักครั้ง แต่ก็ยังเชื่อสนิทใจ นำไปสู่การลงลึกรายละเอียดเรื่องหน้าที่การงาน แนะนำตำรวจอีกนายให้มาจ่ายเงินวิ่งเต้นตำแหน่ง ,ปฐมบทที่สี่ ,จ่าย 1 ล้าน วิ่งผู้กำกับขึ้น รองผู้การ ขึ้นได้จริงๆ นะ ,หลังจากที่ สารวัตรสืบสวน รู้สึกไปเองว่า มีความสนิทสนมแนบแน่นกับ บิ๊กโจ๊ก ผู้มีบารมีในแวดวงสีกากี จึงมั่นใจว่าหากแนะนำให้นายตำรวจมาวิ่งเต้นตำแหน่งกับบิ๊กโจ๊ก คงจะสำเร็จอย่างใจหมาย ประกอบกับ แท็กซี่มิจฉาชีพรายนี้ ทำการบ้านอ่านข่าวสารจากสื่อ จึงคิดไปเองว่า บิ๊กโจ๊ก ตัวจริง มีอำนาจแต่งตั้งอย่างที่ใครๆ เขาลือกัน  เรื่องราวจึงเหมาะเจาะลงตัว ,จากนั้น สารวัตรสืบสวน แนะนำให้ ผู้กำกับ รายหนึ่ง นำเงิน 1 ล้านบาท มาวิ่งขึ้นตำแหน่งเป็น รองผู้การ กับบิ๊กโจ๊ก ตัวปลอม เมื่อวาระคำสั่งแต่งตั้ง 2559 กระทั่งคำสั่งออก ปรากฏว่า ผู้กำกับ คนดังกล่าวได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นรองผู้การสมใจด้วยเงิน 1 ล้านบาท แต่จากการตรวจสอบพบว่า ผู้กำกับ คนดังกล่าว ครบวาระขึ้นตำแหน่ง และมีผลการทำงานที่ดีอยู่แล้ว จึงได้เลื่อนขั้นขึ้นเป็นรองผู้การ เพราะผู้บังคับบัญชาพิจารณาเห็นว่าเหมาะสม มิได้เกี่ยวข้องกับการวิ่งเต้นด้วยเงิน 1 ล้านบาทแต่อย่างใด ,ปฐมบทที่ห้า, ข่าวลือสะพัด บิ๊กโจ๊ก ตัวปลอม วิ่งตำแหน่งได้จริง ,ความบังเอิญเหมาะเจาะลงตัว ในการเสียเงินวิ่งเต้นตำรวจครั้งแรกแล้วสมหวัง ทำให้สารวัตรสืบสวนคนดังกล่าว มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นไปอีกว่า บิ๊กโจ๊ก ที่ตัวเองคุยอยู่ทุกวัน เป็นบิ๊กโจ๊ก จริงแท้แน่นอน คำสั่งแต่งตั้งปีต่อมา วาระ 2560 ที่ค่อนข้างล่าช้า เพิ่งประกาศผลไปเมื่อปี 2561 สดๆ ร้อนๆ สารวัตรสืบสวนคนเดิม จึงไปชวนตำรวจที่สนิทสนมกันมาใช้เงินวิ่งเต้นตำแหน่งกับ บิ๊กโจ๊ก ตัวปลอม รวมทั้งสิ้น 6 นาย เป็นยอดเงินกว่า 4.3 ล้านบาท ,คำสั่งนี้ สารวัตรสืบสวนลงวิ่งเต้นตำแหน่งเองด้วย เสียเงินไป 510,000 บาท หวังจะขึ้นเป็นรองผู้กำกับ ทั้งๆ ที่ยังไม่ครบหลักเกณฑ์ แต่ บิ๊กโจ๊ก ตัวปลอม ยืนยันว่าหากจ่ายเงินวิ่งเต้นตามจำนวนจะยกเว้นหลักเกณฑ์ให้ ได้ขึ้นนั่งเก้าอี้รองผู้กำกับก่อนใคร ,ปฐมบทที่หก ,โอละพ่อ รอบนี้วิ่งเต้นตำแหน่ง 6 นาย ตกม้าตายหมด ,รอบนี้โชคไม่ดีเหมือนรอบก่อน เมื่อคำสั่งแต่งตั้งออกมาปรากฏว่า เงินจำนวน 4.3 ล้าน ที่สารวัตรสืบสวนเป็นคนรวบรวมไปให้บิ๊กโจ๊กตัวปลอม เพื่อวิ่งเต้นตำแหน่งตำรวจ 6 นาย อันตรธานหายไปในพริบตา บิ๊กโจ๊ก ตัวปลอม ก็หนีหายไปด้วย เดือดร้อนถึงตำรวจเจ้าทุกข์ทั้ง 6 นาย ใช้เวลารวบรวมความกล้า 2 ใน 6 นาย พร้อมเข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับ บิ๊กโจ๊ก ตัวปลอม ส่วนที่เหลือรู้สึกอาย เพราะเหมือนประจานตัวเอง,ปฐมบทสุดท้าย ,เงินที่ได้หายไปกับการพนันไก่ชน ชื่อรถยนต์ 2 คัน พร้อมที่ดิน  ,ไม่น่าเชื่อเลย กะอีแค่ช่วยเพื่อนปลอมเสียงเป็นบิ๊กโจ๊กเมื่อเกือบ 4 ปีก่อน จะเป็นจุดกำเนิดของการหลอกลวงตำรวจลากยาวมานานขนาดนี้ เงินที่ได้ทุกบาททุกสตางค์ บิ๊กโจ๊ก ตัวปลอม บอกกับทีมงานชุดจับกุมว่า เอาไปแทงพนันไก่ชน พร้อมซื้อรถ ซื้อที่ดินหมดทุกบาท ไม่ได้เอาไปวิ่งเต้นใครตามกล่าวอ้าง ,บิ๊กโจ๊ก ตัวปลอม ยังบอกด้วยว่า ใช้เวลาว่างหลังจากการขับแท็กซี่ ศึกษาชื่อ ยศ ตำแหน่ง ของนายร้อยตำรวจรุ่นต่างๆ เพื่อเอาไว้ประดับความรู้ พูดคุยกับตำรวจที่ตกเป็นเหยื่อ โดยขั้นตอนการหลอกลวงทั้งหมดนี้กระทำการเพียงคนเดียว สร้างเรื่องขึ้นมาคนเดียว ไม่เกี่ยวกับใคร ส่วนแรงบันดาลใจ ก็เพราะเห็น บิ๊กโจ๊ก เป็นผู้มีอำนาจบารมี ตำรวจทุกนายวิ่งเข้าหา การสวมรอยแอบอ้างเป็นบิ๊กโจ๊ก จึงน่าจะดีกว่าการแอบอ้างเป็นตำรวจนายอื่นๆ ในประเทศไทย.   ,Police Community
มิจฉาชีพไม่ได้สร้างตัวเองขึ้นมาเพียงเพื่อหลอกลวงชาวบ้านตาดำๆ อีกต่อไปหากแต่ว่ากลุ่มเป้าหมายใหม่พุ่งตรงท้าทายมาที่ผู้รักษากฎหมายในแวดวงสีกากี โดยเฉพาะรอบหลายปีที่ผ่านมา ปรากฏการณ์ ตำรวจ
ข่าว,ทั่วไทย
บิ๊กโจ๊ก,สุรเชษฐ์ หักพาล,แอบอ้าง,หลอกตำรวจ,Police Community,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1289754
กองสลากฯ เรียกผู้ค้าย่อยปรับปรุงสัญญาใหม่ ขู่เชือดทันทีหากขายเกินราคา
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. พ.ท.หนุน ศันสนาคม กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ในวันที่ 19-25 พ.ย.นี้ สำนักงานสลากฯ จะเรียกผู้ค้าสลากรายย่อยทั้งหมด 70,000 ราย หรือคิดเป็น 85% ของจำนวนลอตเตอรี่งวดละ 60 ล้านฉบับคู่ มาทำสัญญาใหม่ที่ได้ปรับปรุงเงื่อนไข โดยเฉพาะการกำหนดว่าหากผู้ค้ามีการขายสลากฯ เกินราคา หรือนำไปขายรวมชุด หรือไม่ได้มีการจำหน่ายสลากฯ เอง จะถูกยกเลิกสัญญาทันที ขณะที่ตั้งเป้าหมายเรียกคืนสลากฯ จากผู้ค้าที่ทำผิดสัญญาประมาณ 10,000 ราย หรือคิดเป็นจำนวนสลากฯ เท่ากับ 5 ล้านฉบับคู่,การทำสัญญาครั้งนี้จะมีความรัดกุมเพิ่มขึ้น หากไม่ได้ขายเองสลาก หรือนำไปขายส่งต่ออยู่ในมือคนอื่น หรือนำไปรวมชุด และขายเกินราคา จะถือว่าผู้ค้ารายย่อยทำผิดสัญญาจะถูกยกเลิกสัญญาทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้น กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าว,ทั้งนี้ การจัดทำสัญญาใหม่ 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.59-1 มิ.ย.60 สำนักงานสลากฯ ยังคงคัดเลือกให้กับผู้ค้ารายเดิม โดยปัจจุบันมีสลากฯ อยู่ในระบบทั้งสิ้น 60 ล้านฉบับคู่ แบ่งเป็นมูลนิธิ องค์กร สมาคมคนพิการที่มีอยู่ 900 องค์กร ในสัดส่วน 15.67% ส่วนรายย่อย 70,000 รายคิดเป็น 85% เป็นผู้ค้าที่ได้รับโควตา 28.39% และผู้ค้ารายย่อยผ่านโครงการสั่งซื้อ-สั่งจองสลากฯ ล่วงหน้ากับธนาคารกรุงไทยอีก 55.94% ซึ่งยอมรับว่าปัญหาการขายสลากฯ เกินราคาส่วนใหญ่มาจากผู้ค้ารายย่อย ทำให้สำนักงานสลากฯ ต้องปรับเปลี่ยนสัญญาให้ชัดเจนและครอบคลุม,ส่วนโควตาสลากมูลนิธิ องค์กร สมาคมคนพิการ หลังจากที่ได้ทำสัญญาคุณธรรมกันไปแล้ว ภายใต้สัญญาใหม่ ระบุว่า หากพบว่ามูลนิธิ องค์กร สมาคมคนพิการ รายใดที่ปล่อยสลากฯ ให้ตัวแทนไปจำหน่ายแล้วพบว่ามีการขายเกินราคา จะทำหนังสือแจ้งเตือน 2 ครั้ง และหากพบว่า ยังขายเกินราคาอีกก็จะยึดโควตาในส่วนที่ทำผิดคืน ขณะเดียวกันจะมีการประสานทีมเฉพาะกิจ ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ลงพื้นที่ตรวจสอบทั่วประเทศอย่างเข้มข้น หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำหนดไว้ ที่มีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ,พ.ท.หนุน ยอมรับว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีประชาชนร้องเรียนว่าพบปัญหาการขายสลากฯ เกินราคาเป็นจำนวนมากกว่า 1,200 ราย โดยขายตั้งแต่คู่ละ 100-120 บาท นอกจากนี้ยังมีการนำสลากกินแบ่งฯ มารวมชุดที่มีตั้งแต่ 3-15 ฉบับคู่ โดยสำนักงานสลากฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและจับกุมผู้ค้าไปแล้วกว่า 487 ราย มีการยกเลิกสัญญาระบบโควตาแล้ว 153 ราย และตัดสิทธิ์ผ่านโครงการสั่งซื้อ-สั่งจองสลากฯ ล่วงหน้าผ่านธนาคารกรุงไทย 57 ราย,ทั้งหมดนี้ จะไม่มีโอกาสรับสลากฯ ไปจำหน่ายได้อีกเด็ดขาด ส่วนที่เหลือจะถูกขึ้นบัญชีดำไว้ และห้ามเข้ามาเกี่ยวข้องกับสำนักงานสลากฯ โดยยืนยันว่าการตรวจสอบครั้งนี้จะไม่กระทบผู้ขายจริงที่ขายในราคาคู่ละ 80 บาท พ.ท.หนุน กล่าว,ด้าน พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ ได้ปรับวันรับสลากฯ จอง โดยเลื่อนให้ช้าลงอีก 5 วัน จากเดิมปกติรับสลากฯ จองวันที่ 2, 17 ของทุกเดือน เปลี่ยนมาเป็นวันที่ 7, 22 ของทุกเดือนแทน เพราะเป็นวันสุดท้ายในการจำหน่ายสลากฯ ของวังสะพุง ทำให้รายย่อยที่รับสลากฯ ไปจะไม่สามารถขายต่อเพื่อนำไปรวมชุดได้ทัน และจะมีเวลาเหลือขายสลากฯ ต่องวดแค่ 9 วันเท่านั้น,การลดและเลื่อนเวลารับสลากฯ เพื่อให้มีเวลาจำหน่ายให้น้อยลง อาจจะช่วยแก้ไขปัญหาในการรวมชุด และขายส่งที่ทำได้ยากมากขึ้น มาตรการนี้จะมีผลทันทีในการออกสลากฯ งวดวันที่ 1 ธ.ค. ที่จะเปิดให้จองวันที่ 3 พ.ย.นี้ ซึ่งจะได้รับสลากวันที่ 22 พ.ย. และหากพบว่าตลาดมีการเลื่อนวัน ทำให้มีเวลาขายรวมชุดได้อีก ก็จะสามารถเปลี่ยนวันรับจองออกไปได้อีก จนกว่าปัญหาจะหมดไป พล.ต.ฉลองรัฐ กล่าว
สำนักงานสลากฯ เรียกผู้ค้าสลากรายย่อยทั้งหมด 70,000 ราย มาทำสัญญาใหม่ที่ได้ปรับปรุงเงื่อนไข เผย หากพบขายเกินราคา-รวมชุด จะถูกยกเลิกสัญญาทันที
null
สลากกินแบ่งรัฐบาล,ผู้ค้าสลากรายย่อย,หนุน ศันสนาคม,สัญญาใหม่ปรับปรุงเงื่อนไข,ขายสลากแพง,ขายสลากเกินราคา,ขายรวมชุด,โควต้าสลาก,ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์
https://www.thairath.co.th/content/771906
กกต.เดินหน้ายุทธศาสตร์ ลต. 20 ปี พร้อมพอใจผลประเมินงานรอบ 3 เดือน
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 60 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภูมิพิทักษ์ กองแก้ว รักษาการตำแหน่งรองเลขาธิการ กกต. กล่าวถึงผลการประชุม กกต. ครั้งที่ 6/2560 ว่า ในที่ประชุมได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการจัดทำแผนแม่บทยุทธศาสตร์ กกต. 20 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาล กำหนด 5 ยุทธศาสตร์ โดยยุทธศาสตร์แรก การจัดการเลือกตั้งที่คุ้มค่าและสะดวกต่อประชาชน ให้ประชาชนได้เข้าถึงการเลือกตั้งอย่างสะดวกรวดเร็ว ยุทธศาสตร์ที่ 2 การจัดการเลือกตั้งให้เป็นที่ยอมรับ พัฒนาระบบการสอบสวน และกระบวนการการเลือกตั้งที่โปร่งใส ยุทธศาสตร์ที่ 3 การจัดการเลือกตั้งที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดการ กำกับ และตรวจสอบในการเลือกตั้งทุกขั้นตอนอย่างมีคุณภาพ ยุทธศาสตร์ที่ 4 การส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งให้แก่พรรคการเมืองและองค์กรทางการเมือง และยุทธศาสตร์ที่ 5 การพัฒนาองค์การสู่ความเป็นมืออาชีพ เป้าหมายให้ กกต. มีบุคลากรที่มีสมรรถนะ มีระบบงานที่มีประสิทธิภาพ,ทั้งนี้ เมื่อ กกต.มีมติให้ประกาศใช้แผนแม่บท กกต. 20 ปีแล้ว ทาง กกต.จะดำเนินการส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) และสำนักงบประมาณต่อไป นอกจากนี้ ทางที่ประชุมได้มีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงาน ตามคำรับรองการปฏิบัติงานและผลการประเมินตนเองรายตัวชี้วัด (เอสเออาร์) ซึ่งได้จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกคำรับร้องตัวชี้วัด และค่าเป้าหมายการประเมินผลการปฏิบัติงาน (เคพีไอ) เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 59 ระหว่างเลขาธิการ กกต. และรองเลขาธิการคณะ กกต.ทุกกิจการ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง โดยการประเมินผลการปฏิบัติงานในรอบ 3 เดือน ระหว่าง 1 ต.ค. 59-31 ธ.ค. 59 โดยมีทั้งหมด 16 โครงการ จาก 5 กิจการ ได้แก่ ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กิจการการมีส่วนร่วม กิจการสืบสวนสอบสวนวินิจฉัย กิจการบริหารกลาง และกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ ทั้งนี้ คะแนนเต็มทั้งหมด 15 คะแนน แต่ในรอบไตรมาสแรกคะแนนเต็มจะเป็น 1 คะแนน ซึ่งคะแนนได้ 0.82 ถือว่าเป็นที่น่าพึงพอใจ
กกต.ชู 5 ยุทธศาสตร์ ทำแผนแม่บท 20 ปี สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติฯ รบ.พร้อม พอใจผลการประเมินการปฏิบัติงานในรอบ 3 เดือน
null
กกต.,ยุทธศาสตร์ชาติฯ,การเลือกตั้ง,แผนแม่บท กกต.20 ปี,ภูมิพิทักษ์ กองแก้ว
https://www.thairath.co.th/content/854062
ด้วยแรงศรัทธา แม่ย่า พาขุดตะเคียนขวางคลอง หวังโชคจากทะเบียนรถ
วันที่ 30 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวทราบว่าที่ลำห้วยค้อน้อย หรือชาวบ้านเรียกว่า ลำห้วยบ้านเหล่ากกโพธิ์ หมู่ 8 ต.แชแล อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี จะมีการทำพิธีบวงสรวงนำต้นตะเคียนขึ้นจากน้ำ จึงเดินทางเข้าไปในบริเวณดังกล่าว ห่างจากถนนสายอำเภอกู่แก้ว-อำเภอกุมภวาปี ถึงลำห้วยใกล้กับก่อไผ่ขนาดใหญ่ มีการทำพิธีกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำต้นตะเคียนที่ล้มขวางลำห้วยมานานเกือบร้อยปีขึ้นจากน้ำ,พบผู้มีแรงศรัทธาต่อต้นตะเคียนยักษ์ มีขนาดความยาวประมาณ 9 เมตร เส้นรอบวงประมาณ 90 เซนติเมตร ทุกคนที่เป็นผู้ชาย ต่างลงน้ำช่วยกันนำจอบ เสียม ขุดดินที่ทับถมต้นตะเคียน แต่เป็นไปอย่างลำบากเนื่องจากมีแรงน้ำไหลพัดเอาทรายมาทับไว้ ใช้เวลาหลายชั่วโมงจึงสามารถนำลวดสลิงไปคล้องส่วนปลายต้นตะเคียน เพื่อใช้รถไถลากขึ้นจากลำห้วย ผ่านไปอีกหลายชั่วโมง ต้นตะเคียนก็ยังไม่ยอมขึ้นจากน้ำ,นายแสวง ชัยดี อายุ 49 ปี ชาวบ้านและเป็นเจ้าของที่ดินติดกับลำห้วย บอกว่า ตนเกิดอยู่บ้านแถวนี้ เคยมาวิ่งเล่นที่ลำห้วยตั้งแต่เด็กๆ ก็เห็นต้นไม้ แต่ไม่ทราบว่าเป็นต้นตะเคียน แต่เห็นไม่หมดเพราะถูกทับด้วยดินทราย แต่แปลกที่ว่าต้นไม้ต้นนี้ไม่เน่าไม่ผุ เพิ่งมารู้วันนี้ว่าจะมีการทำพิธีนำต้นตะเคียนขึ้นจากลำห้วย,ขณะที่ แม่ย่า ซึ่งเป็นผู้ทำพิธี กล่าวว่าในวันที่ 13 และ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ลำห้วยแห่งนี้ ตนได้นำผู้มีแรงศรัทธาทำพิธีบวงสรวงแล้วนำต้นตะเคียนหิน 2 ท่อนขึ้นไปเก็บไว้ที่บ้านสวนธรรมเทวสถานนาคินีศรีปทุมมา บ้านโนนสะอาด ต.คอนสาย อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี หลังจากเอาขึ้นไปแล้ว แม่ย่าบอกว่า ฝันว่ามีผู้ชายรูปร่างใหญ่มาบอกให้มาเอาต้นตะเคียนที่ล้มขวางลำห้วยในลักษณะ 60 องศา ขึ้นไปอยู่ด้วยกัน,ในฝัน เห็นต้นตะเคียนอยู่ตรงกอไผ่ขนาดใหญ่ พอช่วงเช้าจึงพาผู้มีแรงศรัทธาออกค้นหาตามลำห้วยก็พบจริงๆ แต่เห็นปริ่มๆ น้ำ ในวันนี้จึงนำผู้มีแรงศรัทธามาทำพิธีบวงสรวงเตรียมอุปกรณ์มาพร้อม ทั้งจอบเสียม รถลาก ใช้เวลานานก็ยังไม่สามารถนำขึ้นจากลำห้วย แต่จะพยายามให้ถึงที่สุด หากสามารถนำขึ้นได้ จะนำไปเก็บไว้ที่สวนธรรมเทวสถานนาคินีศรีปทุมมาให้คนมาไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล และขอโชคกัน, ,สำหรับคนที่มาร่วมพิธีและบางคนชอบหาเลขเด็ด ได้สอบถามเลขทะเบียนรถที่มาลากต้นตะเคียนขึ้นจากลำห้วย เจ้าของรถบอกว่าไม่ได้ติดเลขทะเบียนไว้ แต่มีทะเบียน คือหมายเลข 5361 ส่วนหมายเลขรุ่นรถคือ 5840 ถือเป็นความเชื่อของคนชอบตัวเลข.
แม่ย่า พาชายฉกรรจ์ คณะผู้ศรัทธา ช่วยขุดไม้ตะเคียนขุนทะนอง ขึ้นจากลำห้วย ที่กุมภวาปี อุดรธานี คอหวยแห่ดูเลขทะเบียนรถที่รอมาลากขึ้นจากน้ำ
ข่าว,ทั่วไทย
เลขเด็ด,เลขดัง,หวยตะเคียน,หวยไทยรัฐ,หวย
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1649496
อย่าได้วางใจหมูสหรัฐฯ คำร้องขออาบสารพิษ
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะผู้นำคณะฯ ให้ข่าวผลการเจรจา สหรัฐฯได้เรียกร้องให้ทางการไทยยอมรับค่าความปลอดภัยของสารเร่งเนื้อแดงในเนื้อหมูและเครื่องใน ตามมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ (CODEX) และฝ่ายไทยชี้แจงไปว่า จะต้องมีการศึกษามีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์รองรับความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยทั้งสองฝ่ายจะหารือร่วมกันต่อไป,กระนั้นปัญหานี้ยังมิอาจวางใจได้ นั่นเพราะสหรัฐอเมริกากับจีนได้ก่อสงครามการค้า ตั้งกำแพงภาษีใส่กันเพื่อหวังรักษาผลประโยชน์ของตนเอง ไม่มีใครยอมให้ประเทศตนเองเสียประโยชน์,ล่าสุดจีนตอบโต้สหรัฐฯที่เรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม ด้วยการประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้า 128 รายการจากสหรัฐฯ,หนึ่งในนั้นมีหมู สินค้าหลักที่สหรัฐฯส่งออกไปจีนรวมอยู่ด้วย,ผลกระทบเต็มๆที่จะตามมา เมื่อสหรัฐฯไม่สามารถส่งเนื้อหมูเข้าจีนได้เหมือนเก่าความเสีย หายในอุตสาหกรรมหมูของสหรัฐฯเกิดขึ้นทันที จากราคาหมูขุนมีชีวิตในสหรัฐฯอยู่ที่ กก.ละ 32-35 บาท หล่นฮวบลงมาเหลือ 25-26 บาท,ราคาร่วงลงไปกว่า 25% กลายเป็นแรงกดดันทางการเมืองในสหรัฐฯที่จะมีต่อประเทศอื่นๆตามมานับจากนี้ไปสหรัฐฯต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อระบายหมูสู่ตลาดอื่นทดแทนจีน,และไทยจะต้องเป็นหนึ่งในเหยื่อที่สหรัฐฯกำลังจ้องตะครุบจิกกัด,วันนี้ปริมาณหมูไทยก็ยังไม่เข้าสู่จุดสมดุล เกษตรกรทุกรายต้องต่อสู้กับวิกฤติหมูล้นตลาด วันละกว่า 3,000-8,000 ตัว ส่งผลให้ราคาหมูตกต่ำมาต่อเนื่อง เกษตรกรกว่า 15% ต้องจำใจถอยเพราะทนแบกปัญหาไม่ไหวต้องเลิกเลี้ยงหมู ส่วนที่ยังเหลืออยู่ต้องแก้ปัญหากันเอง ลดปริมาณหมูในระบบในทุกรูปแบบ ตั้งแต่การทำหมูหัน ต้องปลดแม่พันธุ์หมูก่อนเวลา รวมถึงขายหมูราคาถูกเพื่อกระตุ้นการบริโภค,นายนิพัฒน์ เนื้อนิ่ม อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ย้ำว่า เกษตรกรยืนยันจะคัดค้านการนำเข้าเนื้อหมูสหรัฐฯให้ถึงที่สุด เพราะหากเปิดนำเข้า เกษตรกรไทยจะมีชะตากรรมไม่ต่างกับเวียดนาม คนเลี้ยงหมู 195,000 ราย จะอยู่กันอย่างไร นี่ยังไม่นับผลกระทบลูกโซ่ที่ไปถึงเกษตรกรผู้ปลูกพืชไร่ ภาคอาหารสัตว์ และเวชภัณฑ์สัตว์ไทย รวมกว่า 2 แสนราย ที่จะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้อย่างแน่นอน,ที่สำคัญหมูที่สหรัฐฯหวังจะให้มาตีตลาดไทย แฝงไปด้วยภัยร้ายจากสารเร่งเนื้อแดง ที่ทางการไทยประกาศห้ามใช้อย่างเด็ดขาดมานานกว่า 20 ปี ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับสหภาพยุโรปและอีกหลายประเทศ ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในอาหาร,ถึงวันนี้ได้แต่ฝากความหวังให้รัฐบาลไทยพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ อย่าได้เสียท่าเพลี่ยง พล้ำให้สหรัฐฯ เพื่อยืนหยัดรักษาผลประโยชน์ของคนในชาติ ทั้งผู้บริโภคและเกษตรกรคนไทย.,ชาติชาย ศิริพัฒน์
แม้คณะผู้แทนจากประเทศไทย จะได้บินไปเจรจากับสหรัฐฯมาแล้วก็ตามแต่ปัญหาการนำเข้าหมูปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดงจากสหรัฐฯ ยังไม่จบ
ข่าว,ทั่วไทย
หมูสหรัฐ,เนื้อหมู,ชาติชาย ศิริพัฒน์,สารเร่งเนื้อแดง,นันทวัลย์ ศกุนตนาค,เกษตร
https://www.thairath.co.th/news/local/1261932
รื้อศาลาริมคลองเกือบวุ่น เขตหนองจอกแจงแล้ว ที่แท้เตรียมสร้างเขื่อน
จากกรณีโลกโซเชียลได้เผยแพร่ภาพวิดีโอขณะผู้รับเหมาก่อสร้างกำลังรื้อถอนศาลาริมคลองแสนแสบ บริเวณหน้าตลาดหนองจอก แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กทม. โดยภาพคลิปวิดีโอปรากฏภาพคนงานกำลังรื้อถอนศาลาและมีเศษวัสดุทิ้งลงน้ำจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์บนโลกโซเชียลว่าทำให้น้ำเน่าเสีย และไม่มีการป้องกันแนวก่อสร้าง,เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.61 ผู้สื่อรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายศิริพงษ์ รัสมี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตหนองจอก เป็นตัวแทนชาวบ้านเดินทางไปที่สำนักงานเขตหนองจอก เพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าวที่ปรากฏบนโลกโซเชียล,นายศิริพงษ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาในฐานะตัวแทนประชาชนเพื่อสอบถามถึงการรื้อถอนศาลาดังกล่าวว่าทำไมจึงไม่มีการป้องกันเศษวัสดุไม่ให้ตกลงไปในคลอง ซึ่งจะทำให้น้ำในคลองเกิดความเน่าเสียและทำให้ประชาชนที่พบเห็นเกิดความไม่พอใจกับภาพที่ปรากฏ ตนจึงเดินมาสอบถามความจริงถึงเรื่องดังกล่าว,ด้านนายขวัญชัย เจริญเมธากุล อายุ 52 ปี หัวหน้าฝ่ายโยธา เขตหนองจอก กล่าวว่าโครงการดังกล่าวเป็นโครงการของสำนักการระบายกรุงเทพมหานคร และผู้รับผิดชอบคือสำนักการระบายน้ำ โดยโครงการนี้เป็นการสร้างเขื่อนคลองแสนแสบตั้งแต่ประตูคลอง 13 จนถึงสุดเขต กทม. เป็นระยะทางประมาณ 20 กม. ซึ่งทางเขตไม่มีอำนาจหน้าที่ในการทำงานในโครงการนี้ และขณะนี้ได้ประสานงานกับทางสำนักการระบายน้ำแล้ว,นายขวัญชัย กล่าวต่อว่า จากการสอบพูดคุยกับทางสำนักการระบายน้ำทำให้ทราบว่าหลังจากทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแล้วจะมีการดำเนินการขุดลอกคลองทั้งหมดเพื่อนำเศษวัสดุ สิ่งปฏิกูลต่างๆ ขึ้นจากน้ำก่อนจะดำเนินการในขั้นต่อไป ส่วนเศษวัสดุที่ได้ทำการรื้อถอนออกมาถือเป็นทรัพย์สินหลวง หลังจากการรื้อถอนชิ้นส่วนที่ยังสามารถใช้การได้ทางเขตก็จะนำไปใช้ประโยชน์สาธารณะต่อไป,สำหรับการโครงการดังกล่าวจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 1,500 วัน และจะสิ้นสุดในวันที่ 3 มิ.ย. 2563 ซึ่งขณะนี้โครงการดังกล่าวยังพบเจอปัญหากับชาวบ้านที่ยังก่อสร้างบ้านเรือนรุกล้ำคลองแสนแสบอยู่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาและก่อสร้างแนวเขื่อนไปพร้อมกัน.
สนง.เขตหนองจอก ชี้แจงแล้ว ผู้รับเหมาก่อสร้างรื้อถอนศาลาริมคลองแสนแสบ สรุปเป็นโครงการสร้างเขื่อน พร้อมเตรียมขุดลอกคลองทั้งหมดเพื่อนำเศษวัสดุ สิ่งปฏิกูลต่างๆ ขึ้นจากน้ำก่อนดำเนินการในขั้นต่อไป
ข่าว,ทั่วไทย
เขตหนองจอก,รื้อศาลาริมคลอง,สร้างเขื่อน,รื้อถอน,ศาลาริมคลองแสนแสบ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1450455
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนจากพระราชประสงค์ในหลวง รัชกาลที่ 9
ประสบการณ์การอ่านสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนในวิชาห้องสมุดของโรงเรียน คือสิ่งที่เปิดโลกให้ ศรุดา ชื่นกมล นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสตรีนนทบุรี ได้รู้จักกับงานด้านจิตวิทยา จนมีฝันอยากเป็นจิตแพทย์ในอนาคต และแนะนำให้รุ่นน้องลองค้นคว้าความรู้ต่างๆ ที่อัดแน่นอยู่ในหนังสือกว่า 60 เล่ม ผลส่วนหนึ่งมาจากโครงการส่งเสริมการอ่านสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนของโรงเรียนสตรีนนทบุรี ซึ่งดำเนินการมาเกือบ 10 ปี เพราะต้องการให้นักเรียนเข้าถึงแหล่งความรู้อีกด้าน ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชความสำคัญของดวงอาทิตย์ในระบบสุริยะจักรวาล ความรู้ทั่วไปเกี่ยวปลา สัตว์เศรษฐกิจสำคัญ ไปจนถึงการทำงานของเครื่องจักรกลแต่ละชนิด คือเนื้อหาหลากหลายในสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนเล่มแรกที่เกิดขึ้นในปี 2512 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อเป็นทุนในการจัดตั้งโครงการ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวบรวมความรู้ใน 7สาขา เช่น วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ ศิลปและวัฒนธรรม โดยแบ่งเนื้อหาให้เหมาะสมกับผู้อ่านทุกวัย ตามแนวพระราชดำริที่ว่า เพื่ออำนวยโอกาสให้บิดามารดาสามารถใช้หนังสือนี้เป็นเครื่องมือแนะนำวิชาแก่บุตรธิดา และให้พี่แนะนำวิชาแก่น้องเป็นลำดับไปปัจจุบัน สถาบันการศึกษาและองค์กรเอกชนได้สนับสนุนให้มีการแข่งขันตอบคำถามสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนขึ้นทุกปี และยังมีการตีพิมพ์ในรูปแบบแบบฝึกหัดถาม-ตอบ เพื่อทดสอบความรู้ แม้ในยุคที่การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เป็นไปได้ง่ายผ่านโลกอินเทอร์เน็ต หากด้วยหนังสือสารานุกรมที่จัดทำโดยผู้รู้เฉพาะทางและมีราคาย่อมเยา จึงนับเป็นแหล่งความรู้ที่มีน่าเชื่อถือและเข้าถึงง่าย ตามพระราชประสงค์ที่ทรงต้องการให้พสกนิกรไทยใช้ความรู้สร้างประโยชน์สุขให้กับตนเองและบ้านเมือง
กว่า 40 ปีที่สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนเกิดขึ้นโดยพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช ทรงวางรากฐานด้านการศึกษา เพื่อให้คนไทยมีแหล่งค้นคว้าความรู้ของตัวเอง
ศิลปะ-บันเทิง
ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ในหลวง,สวรรคต,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน,สารานุกรม,โรงเรียนสตรีนนทบุรี,แสงจากพ่อ
https://news.thaipbs.or.th/content/257934
ไปไม่ถึงโรงเรียน นร.สารพัดช่างสุพรรณฯ เสยท้ายสิบล้อ ตาย 1 สาหัส 1
(เครดิตภาพมูลนิธิกู้ภัยเสมอกัน),สองหนุ่มนักเรียนสารพัดช่างสุพรรณบุรี ขี่ จยย.ซ้อนท้ายกันมาจะไปเรียนตอนเช้า พุ่งชนท้ายรถสิบล้อบรรทุกดินเสียงดังสนั่น จนคนขับขี่อายุ 16 ปี กะโหลกแตกตายคาที่ ส่วนเพื่อนอายุเท่ากันที่นั่งซ้อนท้ายอาการสาหัส,เช้าวันที่ 23 ส.ค. พ.ต.ท.ชัยพร คำสอนทา สว.(สอบสวน) สภ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งอุบัติเหตุว่า มีรถจักรยานยนต์เสียหลักชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ บริเวณยูเทิร์นฟ้าใหม่ ถนน 340 กม. ขาเข้าชัยนาท หมู่ 6 ต.ย่านยาว อ.สามชุก จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี,พบศพ นายณัฐพล ศรีโพดก อายุ 16 ปี อยู่หมู่ 6 ต.ย่านยาว อ.สามชุก สภาพศพกะโหลกศีรษะแตก มันสมองกระจายเสียชีวิตจมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ 1 ราย ชื่อ นายกิติศักดิ์ มณีจันทร์ อายุ 16 ปีเท่ากัน เป็นเพื่อนผู้ตายคนนั่งซ้อนท้าย อาการสาหัส ผู้ประสบเหตุช่วยเหลือนำส่ง รพ.สามชุก ไปก่อนแล้ว,ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีชมพู ขพว 957 สุพรรณบุรี สภาพด้านหน้าพังยับชนอัดติดกับท้ายรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 83-8300 สุพรรณบุรี โดยมี นายอำนาจ ปานน้อย อายุ 40 ปี เป็นคนขับรถบรรทุกสิบล้อ,สอบสวนนายอำนาจ ให้การว่า ตนกำลังจะไปบรรทุกดินถมที่ ขับมาถึงที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงดังสนั่นมาจากท้ายรถจึงจอดลงไปดู พบรถจักรยานยนต์ล้มอยู่และนักเรียนทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บ ทราบว่าเรียนอยู่โรงเรียนสารพัดช่างสุพรรณบุรี จึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจดังกล่าว.
สองหนุ่มนักเรียนสารพัดช่างสุพรรณบุรี ขี่จยย.ซ้อนท้ายกันมาจะไปเรียนตอนเช้า พุ่งชนท้ายรถสิบล้อบรรทุกดินเสียงดังสนั่น จนคนขับขี่อายุ 16 ปี กะโหลกแตกตายคาที่ ส่วนเพื่อนอายุเท่ากันที่นั่งซ้อนท้ายอาการสาหัส
null
ชนท้ายสิบล้อ,นักเรียนสารพัดช่าง,ตาย1สาหัส1,จยย.ชนสิบล้อ,โรงเรียนสารพัดช่างสุพรรณบุรี,อุบัติเหตุ,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าว
https://www.thairath.co.th/content/698913
รวบผัวเมียค้ายานรก อ้างรายได้ประจำไม่พอใช้ แถมเพิ่งมีเจ้าตัวน้อย
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 3 ก.พ.61 พ.ต.ท.ศักยะ แสงวรรณ รอง ผกก.สส.สน.ลำผักชี/หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.3 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประยูร ประกอบจันทร์ สว.สส.ฯ และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด บก.น.3 ร่วมกันจับกุมนายธนาคม หรือแบ็งค์ โพธิ์ศรี อายุ 26 ปี และ น.ส.เสาวนีย์ หรือต่าย อันประนิตย์ อายุ 22 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์ 20 กรัม ยาบ้า 4,000 เม็ด รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีแดง หมายเลขทะเบียน พน 130 กทม. โดยจับกุมตัวบริเวณหน้าบ้านพัก ภายในหมู่บ้านสินทอง ซอยร่มเกล้า 28 แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กทม.,การจับกุมครั้งนี้ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รอง ผบก.น.3 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุด ปส.บก.น.3 เร่งรัดสืบสวนจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดในพื้นที่ กระทั่งได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายธนาคม หรือแบ็งค์ มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าติดตามพบนายธนาคม กำลังจะขับรถยนต์ ออกจากบ้านพักดังกล่าวโดยมี น.ส.เสาวนีย์ หรือต่าย ซึ่งเป็นภรรยา ยืนท่าทางมีพิรุธกำลังเปิดประตูรั้วหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้นภายในรถยนต์พบยาบ้ากว่า 2,000 เม็ดวางอยู่บนเบรกมือรถยนต์และตรวจสอบภายในพบยาไอซ์และยาบ้าอีกจำนวนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ที่เปลเด็ก ภายในห้องนอน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผล,จากการสอบสวน นายธนาคม ให้การอ้างว่า ยาเสพติดดังกล่าวมีแก๊งยาเสพติด คือนายฮับ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง เป็นคนสั่งให้ตนไปรับยาเสพติดที่วางตามจุดต่างๆ จากนั้นรอคำสั่งว่าจะให้นำยาไอซ์และยาบ้าไปส่งที่ไหนแล้วให้ลูกค้าไปเก็บเอายาเสพติดเองตามถนนสุวินทวงศ์ ย่านมีนบุรีและหนองจอก โดยตนทำหน้าที่รับ-ส่งยาเสพติดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง กระทั่งถูกจับกุมในครั้งนี้ ส่วนตนนั้นมีอาชีพเป็นพนักงานรับ-ส่งเอกสาร บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง ซึ่งรายได้ไม่พอ ส่วนเงินที่ได้มาจากค่าจ้างขนยาเสพติด จะนำไปใช้จ่ายในครอบครัว เนื่องจากภรรยาเพิ่งคลอดลูกได้ประมาณ 1 เดือน และตนยังติดการพนันออนไลน์อีกด้วย,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีต่อไป.
ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด บก.น.3 รวบ 2 ผัวเมีย ลอบค้ายาบ้า-ยาไอซ์-ยาเค สารภาพเป็นพนักงานรับ-ส่งเอกสาร รายได้ประจำไม่พอใช้ แถมภรรยาเพิ่งคลอดลูกได้ประมาณ 1 เดือน เลยตัดสินใจรับงาน
ข่าว,อาชญากรรม
ผัวเมีย,ค้ายา,ค้ายานรก,จับยาเสพติด,ยาบ้า,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1194712
ไทย-มาเลเซีย เร่งแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้
การพบหารือของ 2 ผู้นำรัฐบาล ไทยและมาเลเซีย ซึ่งมีวาระของการกระชับความสัมพันธ์ทางการเมืองและการทหารแล้ว ยังมีอีกสัญญาณของการขับเคลื่อนแก้ปัญหาเหตุความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านกระบวนการพูดคุยสันติสุข และข้อหารือต่อกันนั้น สืบเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงการเมืองภายในมาเลเซีย โดยเฉพาะ มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ต้องการเปลี่ยนแนวทางที่ นาจิบ ราซัค ที่เคยทำเอาไว้ รวมถึงแนวทางการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ต้องการให้เห็นผลเป็นรูปธรรม ภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากการหารือกับรัฐบาลไทยเหตุเพราะ มหาเธร์ โมฮัมหมัด มีเวลาในการบริหารประเทศเพียง 2 ปี ก่อนที่จะส่งไม้ต่อให้กับ อันวาร์ อิบราฮิม ขึ้นมาบริหารประเทศใน 2 ปีหลัง จึงได้กำหนดทิศทางให้ตรงประเด็น และตรงกับข้อเท็จจริงให้มากที่สุด พร้อมๆกับเลือกให้ ตันศรี อับดุลราฮิมนูร์ เป็นผู้อำนวยความสะดวกฯ คนใหม่ ซึ่งเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจและอดีตผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล เพราะนอกจากรู้เส้นทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการต่างๆแล้ว ยังมีความใกล้ชิดกับขบวนการบีอาร์เอ็นก่อนมาเยือนไทย ผู้อำนวยความสะดวกฯได้ลงพื้นที่พบปะกับกลุ่มขบวนการทั้งหมดแล้ว และจะได้นำข้อมูลนั้นมาหารือกับทางการไทย และทำความรู้จัก-คุ้นเคยกับหัวหน้าคณะพูดคุยฯของไทย หรือ พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 แต่หลักการของการพูดคุยฯ ยังคงมีลักษณะทางลับมากกว่าทางเปิด หากแต่เน้นที่จะพูดคุยกับกลุ่มแนวร่วมปฏิบัติแห่งชาติ หรือ บีอาร์เอ็น มากกว่ากลุ่มเดิม คือ มาราปาตานีด้วย บีอาร์เอ็น เป็นกลุ่มเห็นต่างที่มีความชัด ในองค์กรนำ มีแผนขับเคลื่อนงาน ไม่ว่าจะด้านต่างประเทศ การเมือง หรือการศึกษา พร้อม ๆ กับการจัดตั้งกองกำลังทางทหาร ที่มีแนวร่วม ภายใต้การนำของนายดูนเลาะ แวมะนอ หัวหน้ากลุ่มองค์กรบีอาร์เอ็น ซึ่งเป็นเป้าหมายของมาเลเซียที่จะดึงเข้ามาร่วมพูดคุยหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ภาคใต้ ชี้ว่า มาเลเซียใช้ตำรวจสันติบาลด้วยเชื่อว่า จะเข้าถึงกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็นมากว่ากองทัพ และไทย เลือก พล.อ.อุดมชัย นอกจากเหตุผลความชำนาญในพื้นที่แล้ว ยังคุ้นเคยกับกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่อยู่ด้วย ประกอบกับการทำงานเป็นทีมเวิร์ค น่าจะทำให้ทิศทางแก้ปัญหาเป็นเอกภาพขึ้นสอดคล้องกับ ผศ.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ ที่ชี้ว่า การปรับเปลี่ยนผู้อำนวยความสะดวกฯของมาเลเซีย และหัวหน้าคณะพูดคุยฯของไทย จะทำให้การทำงานมีความกระชับ ตรงต่อเป้าหมาย และมีทิศทางการผลักดันที่เป็นเอกภาพ ด้วย 2 ผู้นำรัฐบาล ไทยและมาเลเซีย ได้หารือร่วมกันแล้วภายใต้การเดินหน้าที่เชื่อว่าจะมีเอกภาพยังมีเงื่อนไขที่เห็นไม่ตรงกันอีก 2 ประเด็นหลัก คือการกำหนดพื้นที่ปลอดภัย หรือ เซฟตี้โซน และการลงนามในข้อตกลง ดังนั้น 1 ปี หรือ 2 ปีนับจากนี้ไป อาจไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเหตุความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ปลายด้ามขวานของไทยเท่านั้น แต่นี่คือบทท้าทายรัฐบาลมาเลเซีย ภายใต้การนำของมหาเธร์ ด้วยผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นทั้งทางบริหารและการเมือง
การเดินหน้าพูดคุยสันติสุขให้เห็นเป็นรูปธรรมในยุคของมหาร์เธร์ ในทางลับเริ่มขึ้นแล้ว ผู้อำนวยความสะดวกคนใหม่ที่มหาเธร์แต่งตั้งได้ไปพบกลุ่มผู้เห็นต่างแล้วบางส่วน และก่อนที่มหาเธร์จะมาเยือนไทย ก็ได้มาพบกับฝ่ายความมั่นคงไทยแล้ว
การเมือง
จังหวัดชายแดนใต้,มาเลเซีย,มหาเธร์,เจรจา,พูดคุยสันติสุข,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/275301
ผวจ.สงขลาให้ผู้ต้องหาเผาโรงแรมลีการ์เด้นส์มอบตัว
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ระบุว่า หากผู้ต้องหามอบตัว อาจได้รับข้อยกเว้นตามมาตรา 21 ของ พ.ร.บ.ฯดังกล่าว ซึ่งเมื่อเข้ากระบวนการของศาลแล้ว อาจได้เป็นผู้เข้าอบรมเป็นเวลา 6 เดือน โดยไม่ถูกดำเนินคดีอาญา และ คดีความมั่นคงระหว่างอบรมญาติสามารถเข้าเยี่ยมได้ส่วนกรณีที่ญาติพี่น้องนายมะรอโซ จันทรวดี แกนนำแนวร่วมก่อความไม่สงบอาร์เคเค พร้อมญาติแนวร่วมผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีฐานทหารนาวิกโยธิน ที่อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาสที่ระบุว่า เหตุผลที่นายมะรอโซ เข้าสู่ขบวนการ เกิดจากความเกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐ จากเหตุการสลายการชุมนุมที่อำเภอตากใบ เมื่อ ปี 2547 พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ยอมรับว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเหตุการณ์ตากใบที่เข้าสู่ขบวนการ มีเพียงบางกลุ่ม และที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ทำความเข้าใจกับผู้ร่วมชุมนุม ตลอดจนเยียวยาจิตใจ แต่ก็มีบางส่วนออกมาต่อต้าน จึงกำชับกองกำลังในพื้นที่ เร่งทำความเข้าใจกับญาติผู้ที่หลงผิด ให้กลับใจมอบตัวกับทางราชการ เพื่อเข้าสู่ขบวนการยุติธรรม ซึ่งหากตรวจสอบแล้วไม่มีความผิดก็พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านอาชีพ
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ขอให้ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดโรงแรมลีการ์เด้นส์ อำเภอหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ปีที่แล้วซึ่งยังหลบหนีอีก 2 คน เข้ามอบตัวซึ่งอาจได้รับข้อยกเว้นตามมาตรา 21 ของพระราชบัญญัติความมั่นคง ปี 2551
ภูมิภาค
ผวจ.สงขลา,ผู้ต้องหา,พระราชบัญญัติความมั่นคง ปี 2551,ลีการ์เด้นส์,วางระเบิด,เผาโรงแรม
https://news.thaipbs.or.th/content/147979
เนวิลล์ เล่าย้อนจังหวะ ไวจ์นัลดุม ซัดสุดสวยเกมอัดคาร์ดิฟฟ์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 22 เม.ย. ว่า แกรี เนวิลล์ แบ็กขวาระดับตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาเล่าย้อนถึงจังหวะที่ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม กองกลางคนสำคัญสังกัด หงส์แดง ลิเวอร์พูล ซัดประตูสุดสวยในเกมบุกเอาชนะ นกพิราบสีน้ำเงิน คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 2-0,เป็นที่เข้าใจกันว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาลูกทีมของ เยอร์เกน คลอปป์ บุกไปเอาชนะได้ 2-0 โดยได้ประตูจาก จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม นาทีที่ 57 และ เจมส์ มิลเนอร์ (จุดโทษ) ในนาทีที่ 81 ส่งผลให้ทีมเก็บสามแต้มสำคัญ มีเพิ่มเป็น 88 คะแนน จากการลงสนาม 35 นัดนำหน้า เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ลงเล่นน้อยกว่า 1 นัดอยู่ 2 แต้ม,ล่าสุด แกรี เนวิลล์ ออกมากล่าวว่า ในจังหวะนั้นตอนแรกผมคิดว่า เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดลูกเตะมุมไม่ดี แต่ว่านี่คือเขาตั้งใจเปิดมาให้ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม วิ่งเข้ามาซัดเข้าไปอย่างเด็ดขาด มันไม่ใช่การยิงที่ง่ายดายนัก แต่เขาทำมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แกรี เนวิลล์ ตำนานแบ็กขวาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมแดนผู้ดี ออกมาเล่าย้อนถึงจังหวะที่ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ซัดประตูสุดสวยในเกมบุกเอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 2-0
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
แกรี เนวิลล์,ลิเวอร์พูล,จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม,พรีเมียร์ลีก
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1550390
คาดมืออาชีพ ลั่นไกสังหาร พระหมอ แกะรอยวงจรปิดล่าตัว (ชมคลิป)
จากกรณีพระอาจารย์บัณฑิต สุบัณฑิโต หรือนายแพทย์บัณฑิต สงวนแก้ว อายุ 48 ปี เจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด หมู่ 15 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี พระเลขาฯพระผู้ใหญ่ สายธรรมยุต ใน จ.อุดรธานี ถูกมือปืนดักยิงอุกอาจ ขณะเดินกลับจากบิณฑบาต ทำให้มรณภาพคาผ้าเหลือง ญาติได้นำศพไปตั้งภายในวัด ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติโยมที่ทราบข่าว ญาติและคณะสงฆ์ได้อโหสิกรรม ไม่ขอจองเวร แพทย์ได้เอกซเรย์พบกระสุนถูกหัวใจ เศษหัวกระสุนฝังอยู่ที่ต้นแขนซ้าย ส่วนตำรวจยังหาสาเหตุของการสังหารครั้งนี้ไม่พบ เหตุเกิดเช้าวันที่ 1 มี.ค.,ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 มี.ค. ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว บรรยากาศที่วัดป่าตอสีเสียด หมู่ 15 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้มีคณะสงฆ์สายวัดป่า ญาติ ประชาชน ชาวบ้านที่ให้ความเคารพศรัทธา เดินทางมากราบไหว้ศพ พระอาจารย์บัณฑิต สุบัณฑิโต พระหมอ ที่ตั้งอยู่ภายในศาลาการเปรียญอย่างไม่ขาดสาย มีโรงทานอาหาร และน้ำจำนวนมาก ส่วนบริเวณลานจอดรถข้างวัด กว้างประมาณ 10 ไร่ มีการนำรถไถมาปรับพื้น ศิษยานุศิษย์ พระภิกษุ ช่วยกันก่อสร้างเมรุกลางแจ้ง สำหรับฌาปนกิจในวันที่ 3 มีนาคม,ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุคนร้ายดักยิงพระอาจารย์บัณฑิต ได้มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบวัตถุระเบิด หรือ EOD ภ.จว.อุดรธานี ตชด.24 ตำรวจสืบสวน ได้นำเครื่องมือมาตรวจหาหัวกระสุนปืนเพื่อเป็นหลักฐาน ซึ่งเจ้าหน้าที่มั่นใจว่ากระสุนปืนที่ทะลุออกมา จะตกอยู่ในสวนยางพารา ด้วยการตีวงค้นหาวิถีกระสุนที่คนร้ายยิง โดยใช้เวลาหาประมาณ 3 ชั่วโมง แต่ไม่พบจึงได้ถอนกำลังออกไป,ขณะที่ พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.จักฎ์กฤษณ์ จันทรรัตน์ พ.ต.อ.ธวัชชัย ถุงเป้า รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.สรรธาน อินทรจักร์ รักษาการ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้เข้าร่วมประชุมทางไกลกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ท.วัฒนา สักกวัตร ผช.ผบ.ตร.เป็นประธาน โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง,พล.ต.ต.ชัยญัติ ให้สัมภาษณ์ว่า คดีนี้เราให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ทั้งเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ประชาชนให้ความสนใจมาก วันนี้ในการประชุมทางไกลกับ สนง.ตำรวจแห่งชาติ ก็ต้องรายงานเรื่องนี้อย่างละเอียด พร้อมตอบข้อซักถาม ขณะเดียวกันก็มีตำรวจกองปราบฯ และตำรวจสืบสวนภูธร ภาค 4 ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ ติดตามคดีนี้ตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งก็จะมีการประสานงานกับ ทีมสืบสวนของ สภ.เมืองอุดรธานี และ ภ.จว.อุดรธานีที่ตั้งไว้ติดตามคดีอีก 4 ชุด,ผมได้จัดทีมทั้งฝ่ายสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเอาคนผิดมาลงโทษ และฝ่ายสืบสวน เสาะแสวงหาพยานหลักฐาน เพื่อหาสาเหตุและกลุ่มผู้กระทำผิด ตอนนี้เราคงจะวิเคราะห์กว้างๆ น่าจะเกิดจากสาเหตุโกรธแค้นส่วนตัว หรือการเข้าใจผิด ซึ่งอะไรบ้างที่ทำให้เป็นสาเหตุ ตำรวจขอสงวนเรื่องนี้ไว้ก่อน เนื่องจากว่าที่เรารวบรวมข้อมูลมายังไม่ชัดเจน เรื่องเกี่ยวกับศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะกระทบกับความเชื่อมั่นศรัทธากระทบบุคคลอื่น และผู้เสียหายด้วย ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าว ,ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวต่อว่า สอบปากคำพยานไปแล้ว 4-5 ปาก ยืนยันคนร้ายน่าจะมากัน 2 คน คนหนึ่งเป็นคนขับ อีกคนนั่งอยู่กระบะท้ายเป็นคนยิง และเล่าว่ามีรถเหมือนคนร้ายเข้ามาในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 24-25 ก.พ. การลงมือของคนร้ายเหมือนมืออาชีพ ซึ่งในพื้นที่ไม่มีมืออาชีพ และได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เส้นทางเข้าออก 3 ทาง คือออกมาด้านถนนมิตรภาพ ด้าน อ.หนองแสง และด้านถนนอุดรฯ หนองบัวลำภู โดยจะตรวจสอบย้อนหลังไปถึงวันที่ 24 ก.พ.,ขณะที่มีแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ให้ข้อมูลว่า ประเด็นที่มีน้ำหนัก อาจเป็นชนวนการสังหาร คือ ขัดแย้งเรื่องที่ดินวัด โดยวัดมีที่ทั้งหมด 50 ไร่ โยมแม่พระบัณฑิตได้ยกที่ดินซึ่งเป็นโฉนดให้สร้างวัด 10 ไร่ และชาวบ้านที่มีที่ดินรอบๆ วัด ถวายที่ให้อีก 20 ไร่ และซื้อเพิ่มจนครบ 50 ไร่ ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งเรื่องที่ดินวัด ส่วนหลวงปู่สุข ซึ่งเป็นโยมพ่อ เป็นอดีตจ่าศาลจังหวัดหนองคายได้มาบวช และช่วยดูแลวัด ภายหลังมีคนนำที่ดิน ภบท.5 ที่ติดกับวัด มาเสนอขายจำนวน 10 ไร่ ราคา 1 ล้านบาท พระอาจารย์บัณฑิตได้ตกลงซื้อและจ่ายเงินมัดจำไป 5 แสนบาท แต่มาทราบภายหลังว่าเป็น ภบท.5 ปลอม และไม่มีการจ่ายเงินที่เหลือ ทำให้มีการตามมาทวงเงิน และมีชายฉกรรจ์เข้ามาข่มขู่ จนต้องร้องขอกำลัง อปพร.เทศบาลตำบลบ้านตาด มาดูแลรักษาความปลอดภัย 1 เดือน แต่หลังจากถอนกำลังออกไป จึงมีมือปืนมาดักยิงพระ ผู้ที่น่าจะรู้เรื่องสาเหตุการตาย คือ หลวงปู่ทองสุข ซึ่งพระอาจารย์บัณฑิตอาจจะเล่าปัญหาให้ฟัง นอกจากนี้ตำรวจได้ขออนุมัติศาลออกหมายค้นกุฏิ พระหมอ เพื่อตรวจหาหลักฐานเชื่อมโยงในการสังหารครั้งนี้ เพื่อคลี่คลายคดีต่อไป.
ตร.อุดรฯ พุ่งปมโกรธแค้นส่วนตัว-เข้าใจผิด คนร้ายดักสังหาร พระหมอ ขณะที่มีข้อมูล ก่อนหน้า พระหมอ เคยถูกชายฉกรรจ์เข้ามาข่มขู่ กรณีปัญหาที่ดินวัด จนต้องขอกำลังเข้ามาดูแล พบการลงมือเหมือนมืออาชีพ เร่งแกะรอยวงจรปิดล่าตัว
ข่าว,ทั่วไทย
ยิงพระหมอ,พระหมอ,พระอาจารย์บัณฑิต สุบัณฑิต,นพ.บัณฑิต สงวนแก้ว,เจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด,วัดป่าตอสีเสียด,ชัยญัติ สายถิ่น,อุดรธานี,ข่าว,ข่าวสังคม,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวภูมิภาค
https://www.thairath.co.th/news/local/484468
ษิทรา รับทราบข้อร้องเรียนที่สภาฯทนาย เผยที่มาทำไมต้องใส่ เสื้อยืด
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 61 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทนายประชาชนฯ ทนายความของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ในคดีหวย 30 ล้าน เดินทางมายังสภาทนายความฯ เพื่อมารับทราบเรื่องที่ถูกร้องเรียน,นายษิทรา เปิดเผยว่า หนังสื่อร้องเรียนที่ตนมารับมีอยู่ 2 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกคือ นายธนาพิพัฒน์ หรือ ประธานบอย กล่าวหาว่า ตนอวดอ้างว่าเป็นเลขาธิการมูลนิธิทนายประชาชนไปช่วยคนผิด และให้บุคคลดังกล่าวกลับมาฟ้องร้องนายธนาพิพัฒน์ ,ส่วนเรื่องที่ 2 เป็นเรื่องที่ ท่านผู้พิพากษาได้พูดในบัลลังก์ว่า, คุณทำหน้าที่ทุกอย่างได้ดีมากแล้วขอให้รักษาความดีต่อไปเพื่อประเทศชาติจะได้พัฒนา เพราะมีคนรุ่นใหม่แบบคุณ ,โดยข้อความนี้มีคนกล่าวหาว่าคำพูดนี้ น่าจะมีนัยอะไร เหมือนเราไปอวดอ้างตัวเอง  ,ทั้งนี้ เรื่องที่มีคนมาร้องเรียน ตนเองไม่ได้มีความหนักใจอะไร เพราะเรื่องทั้งหมดทางสภาทนายความฯ ยังไม่ได้รับเรื่อง แค่ทำหนังสือให้เราได้ชี้แจงความจริงมาก่อน,นายษิทรา เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์อีกว่า ประเด็นเรื่องการแต่งกายนั้น เวลาตนปฏิบัติหน้าที่ออกไปช่วยเหลือประชาชนก็จะใส่เสื้อผ้าที่สะดวกต่อการเดินทาง และกิจกรรมในแต่ละวัน แต่หากวันไหนไปขึ้นศาล หรือไปปฏิบัติงานอื่นๆ ที่ต้องให้เกียรติงาน บุคคล และสถานที่ ตนก็แต่งตัวตามมารยาทสากลทั่วไป
ษิทรา รับทราบข้อร้องเรียนที่สภาฯ ทนายความ เผยไม่กังวลใจเรื่องที่ถูกร้อง พร้อมบอกเหตุผลทำไมต้องใส่เสื้อยืด
ข่าว,สังคม
ษิทรา เบี้ยบังเกิด,หวย 30 ล้าน,เสื้อยืด กางเกงยีนส์,ทนายตั้ม,หวยหายเมืองกาญจน์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1232249
ชิรูด์ ซัดนาทีท้าย ปืนใหญ่ แซงดับ เปรสตัน หืดจับ 2-1 เข้ารอบ 4
การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพ รอบ 3 ประจำวันที่ 7 ม.ค. เป็นการพบกันในคู่ระหว่าง เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ทีมจากเดอะแชมเปี้ยนชิพ เปิดสนาม ดีพเดล สเตเดี้ยม พบกับ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ที่ขนชุดผสมลงสนามไร้เงา อเล็กซิส ซานเชซ และ เมซุต โอซิล โดยสามผสานแนวรุกวันนี้เป็น อเล็กซ์ อิโวบี, อเล็กซ์ อ็อกเหลด แชมเบอร์เลน และลูคัส เปเรซ โดยมี โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ยืนเป็นหน้าเป้า,เปิดฉากเกมขึ้นมาเป็น เปรสตัน ทำได้ดีกว่าเหลือเชื่อแค่ 7 นาทีเจ้าบ้านก็มาได้ประตูขึ้นนำ คัลลัม โรบินสัน อาศัยจังหวะชุลมุนบอลเป็นใจก่อนยิงง่ายๆเข้าไป,ปืนใหญ่ ยังไม่ฟื้นนาทีที่ 25 เปรสตัน เกือบได้ลูกที่สอง จอร์แดน ฮูกิลล์ บรรจงเปิดให้กับ คัลลัม โรบินสัน เจ้าเก่าโหม่งเหน่งๆ แต่ยังดีที่ มุสตาฟี ยืนถูกที่ถูกเวลาเคลียร์ทิ้งจากเส้นหวุดหวิด,อีกสองนาทีต่อมา ปืนใหญ่ น่าโดนลูกที่สองสุดๆ และก็เป็นคู่เก่าแต่คราวนี้ คัลลัม โรบินสัน หลุดเดี่ยวก่อนถวายพานให้กับ ฮูกิลล์ แต่บอลเจ้ากรรมแรงเกินไปชาร์จจ่อๆไม่โดน,ปืนใหญ่ ยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันจบครึ่งแรก เปรสตัน ทำเซอไพรส์ ขึ้นนำ 1-0,เข้าสู่ครึ่งหลังไม่ถึงนาที ปืนใหญ่ แก้เกมและมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 อิโวบี ยึกยักแต่ทำอะไรไม่ได้ไหลคืนมาให้ แรมซีย์ ยิงเปี้ยงด้วยขวาบอลแรงทะยานฟ้าเข้าสู่ก้นตาข่ายสวยงาม,ปืนใหญ่ เริ่มมาเป็นชุดและเกือบได้ประตูพลิกขึ้นนำในนาทีที่ 72 จากลูกเตะมุม มุสตาฟี โขกโล่งๆบอลติดเซฟนายด่านเจ้าบ้านบินปัดออกไปหวุดหวิด,เกมทำท่าจะจบลงด้วยผลเสมอแต่แล้วในช่วงท้ายเกมนาทีสุดท้ายกลายเป็น ปืนใหญ่ มาได้ประตูพลิกขึ้นนำและเป็นประตูชัยในเกมนี้ไปเลย 2-1 จากจังหวะที่ ลูคัส เปเรซ โชว์เซนส์บอลระดับโลกตอกส้นให้กับ ชิรูด์ ยิงไปแฉลบกองหลังเจ้าบ้านเข้าประตูไปเลย,จากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่มแล้ว จบเกมการแข่งขัน อาร์เซนอล บุกไปเฉือนเอาชนะ เปรสตัน หืดจับ 2-1 แต่ก็เพียงพอต่อการคว้าตั๋วเข้าไปเล่นในรอบ 4 ต่อไป
โอลิวิเยร์ ชิรูด์ สวมบทฮีโร่ซัดประตูนาทีสุดท้ายดลบันดาลชัยให้กับ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล บุกไปเฉือนเอาชนะ เปรสตัน นอร์ธเอนด์ หืดจับ 2-1 ผงาดเข้ารอบ 4 ศึกเอฟเอคัพต่อไป
null
เอฟเอคัพ,อาร์เซนอล,เปรสตัน นอร์ธเอนด์,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/830570
พระเทพฯ ฉลองตรุษจีนเยาวราช ปี 62 อวยชัย ปีหมูทอง ร่ำรวย สมบูรณ์ พูนสุข
ประจำปี 2562 ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 19 ภายใต้แนวคิด ปีหมูทอง ร่ำรวย สมบูรณ์ พูนสุข ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี ได้ฉลองพระองค์แบบจีนสีแดง กระเป๋าเสื้อตรงพระอุระซ้ายปักดิ้นทอง คำว่า 亥猪拱福 อ่านว่า ไห้จูก่งฝู แปลว่า ปีหมู หมูดุนหนุนโชคลาภ และปักภาพวาดฝีพระหัตถ์รูปหมู โดยมี คุณพลอยไพลิน เจนเซน พระธิดาคนโตในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พร้อมด้วย คุณเดวิด วีลเลอร์ สามี และบุตร-ธิดา คุณแม็กซิมัส คุณลีโอนาร์โด และ คุณแอรี วีลเลอร์ ตามเสด็จ พร้อมสวมเสื้อสีแดงมาเพื่อร่วมงาน เช่นเดียวกับประชาชนที่พร้อมใจกันสวมเสื้อสีแดง สีแห่งความมงคล มาร่วมรับเสด็จอย่างเนืองแน่น พร้อมกับโบกธงชาติ ธงพระนามาภิไธยย่อ สธ. และเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง ณ บริเวณถนนเยาวราช เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา,โอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี ได้ทอดพระเนตรการแสดงแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย-จีน โดยการแสดงของไทยเป็นโขน นาฏยอาศิรวาท เพื่อถวายพระพรในโอกาสวันตรุษจีน ซึ่งการแสดงโขนของประเทศไทย ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ และการแสดงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นการแสดงระบำถ้วย จากเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน เป็นการแสดงที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน จากนั้นได้เสด็จฯ ไปยังแท่นทรงหย่อนเหรียญในกระปุกหมูสีทอง เปิดงานตรุษจีนเยาวราช ประจำปี 2562 และได้ประทับรถรางพระที่นั่ง เพื่อทอดพระเนตรและทรงเยี่ยมชมร้านค้าต่างๆ รวมทั้งร้านค้าบนถนนเยาวราชอีกด้วย.
สร้างความ ปลื้มปีติยินดีแก่ชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นอย่างยิ่ง ในโอกาสที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช
ข่าว,พระราชสำนัก
เทศกาลตรุษจีน,เยาวราช,สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ,เทศกาลตรุษจีนเยาวราช,การแสดงโขน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/royal/1490450
ยาฮู เซ็ง โดนแฮกเกอร์ขโมยข้อมูลลูกค้า มหาศาล นับ 500 ล้านบัญชี
เมื่อ 23 ก.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัท ยาฮู (Yahoo) บริษัทผู้ให้บริการอีเมลรายใหญ่ ออกมาเปิดเผยว่า มีเหล่าแฮกเกอร์เข้ามาเจาะระบบบข้อมูลของลูกค้าผู้ใช้งานยาฮู ประมาณ 500 ล้านบัญชี ในปี 2557 ขณะที่การเปิดเผยของยาฮูในเรื่องนี้ ถือเป็นการเปิดเผยข่าวต่อสาธารณะ เกี่ยวกับการถูกจารกรรมข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว,บีบีซี เผย เจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่เอฟบีไอกำลังร่วมกับยาฮูในการตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ อย่างไรก็ตาม การถูกจารกรรมข้อมูลบัญชีผู้ใช้ยาฮู ในช่วงปี 2557 นั้นไม่มีการจารกรรมข้อมูลบัตรเครดิต แต่อย่างใด,ขณะที่ บีบีซี รายงานด้วยว่า ความเป็นไปได้ที่อาจจะมีแฮกเกอร์เข้ามาเจาะข้อมูลลูกค้ายาฮู เริ่มปรากฏขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อมีแฮกเกอร์รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Peace (พีซ) ได้พยายามติดต่อจะขายข้อมูลของบัญชีผู้ใช้ยาฮู นับ 200 ล้านบัญชีเลยทีเดียว โดย ยาฮู ยังยืนยันเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 22 ก.ย. ว่า การเข้ามาจารกรรมข้อมูลบัญชีผู้ใช้ยาฮูนั้น ถือว่าเป็นการจารกรรมครั้งใหญ่กว่าที่ทางเจ้าหน้าที่ยาฮูคิดไว้ตอนแรก,ข่าวแจ้งว่า ข้อมูลของบัญชีผู้ใช้ยาฮูที่แฮกเกอร์ขโมยไปนั้น รวมทั้ง ชื่อ อีเมล แอดเดรส หมายเลขโทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด และรหัสเข้าพาสเวิร์ด โดยบริษัท ยาฮู ได้แนะนำให้ลูกค้าที่ใช้บัญชียาฮู ควรเปลี่ยนรหัสพาสเวิร์ดของตนเอง ถ้าหากไม่เคยทำมาก่อนเลยตั้งแต่ปี 2557 ขณะที่ สำนักข่าวรอยเตอร์ ยังรายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ 3 คนว่า พวกเขาเชื่อว่าการเข้ามาเจาะระบบข้อมูลบัญชีผู้ใช้ยาฮูนับ 500 ล้านชื่อ อาจจะได้รับการหนุนหลังจากรัฐบาลชาติใดชาติหนึ่ง เนื่องจากมีลักษณะคล้ายคลึงกับการแฮกข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยข่าวกรองรัสเซีย
ยาฮู เผยมีแฮกเกอร์มือดีเข้ามาขโมยข้อมูลบัญชีผู้ใช้ยาฮู ช่วงปี 57 จำนวนมหาศาล นับ 500 ล้านบัญชี โชคดีข้อมูลที่ถูกแฮกไม่รวมข้อมูลด้านบัตรเครดิต ขณะนี้ กำลังทำงานร่วมกับFBI ติดตามหาแฮกเกอร์ คาดอาจได้รับการหนุนหลังจาก รบ.ต่างชาติ
null
แฮกข้อมูล Yahoo,ยาฮู,Yahoo,แฮกข้อมูล ยาฮู,ยาฮู โดนแฮก,แฮกเกอร์,เอฟบีไอ
https://www.thairath.co.th/content/731743
สาวเชียงรายเมายาบ้า คลุ้มคลั่งหนัก คว้ามีดแทงลูกสาวไส้ทะลักดับ
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 7 ก.พ.61 ร.ต.อ.นพพร จอมสว่าง รอง สว.สภ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุแม่แทงลูกได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ บ.สันติคีรี หมู่ 1 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.บุญวาส มังคราช ผกก.สภ.แม่ฟ้าหลวง พร้อมด้วย พ.ต.ท. ไพโรจน์ จันทาพูน รอง ผกก.สอบสวน รุดไปที่เกิดเหตุภายในห้องเช่าเรือนแถวไม่มีเลขที่ ห้องที่ 10 พบเบาะนอนปูกับพื้นเปื้อนเลือด มีลำไส้ตกอยู่กับพื้น 1 ชิ้น คนเจ็บชื่อ ด.ญ.วิจิตรา บุญมี อายุ 5 ปี ถูกนำส่ง รพ.แม่จัน และเสียชีวิตในที่สุด ,ส่วนนางอาหลง ชิมั่น อายุ 38 ปี ชาวบ้าน หมู่ 1 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง ผู้ต้องหามือมีดผู้เป็นแม่ หลังเกิดเหตุได้วิ่งหนีออกไปทางริมหนองน้ำ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้ช่วยกันปิดล้อมไว้ แต่นางอาหลงได้เกิดคลุ้มคลั่งใช้มีดไล่แทงทำร้ายผู้เข้าใกล้ เจ้าหน้าที่จึงเข้าเกลี้ยมกล่อมผ่านไป 2 ชั่วโมง จึงยอมวางมีดปลายแหลมยาว 30 ซม. ของกลางที่จ้วงแทงลูกของตนเองเข้ามอบตัว,จากการสอบสวนนางอาหลง ให้การว่าหลังจากเสพยาบ้าได้เกิดอาการเพี้ยนมีเสียงกระซิบข้างหูว่าให้ฆ่า ด.ญ.วิจิตรา ลูกสาว เพราะน่าสงสารเป็นเด็กพิการหัวโต มีน้ำในสมอง ทำให้ตนเอง ต้องคอยอยู่เฝ้าตลอดเวลา ไปไหนไม่ได้ ตนเองจึงใช้มีดปลายแหลมจ้วงแทงไป 1 ครั้ง ขณะ ด.ญ.วิจิตรา นอนอยู่ ไส้ไหลหลุดติดปลายมีดออกมากองกับพื้น ทำให้ ด.ญ.วิจิตรา ร้องเสียงดังอย่างเจ็บปวด ชาวบ้านใกล้เคียงได้ยินเสียงจึงเข้าดูเห็นเหตุการณ์ ได้ช่วยกันไล่จับ นางอาหลงกลับใช้มีดไล่แทงชาวบ้านและหนีไปจนมุมที่หนองน้ำตรงข้ามบ้าน.
ผลกรรมของเด็กต้องมาสังเวยชีวิตเพราะฤทธิ์ยาบ้า สาวเชียงรายวัย 38 ปี เสพยาบ้าแล้วหลอนคลุ้มคลั่งชักมีดแทงท้องลูกสาวไส้ทะลัก ชาวบ้านได้ยินเด็กร้องเข้ามาช่วยปิดล้อมส่ง ตร. ส่วนเด็ก อาการสาหัสไปตายที่โรงพยาบาล
ข่าว,อาชญากรรม
แทงไส้ทะลัก,แม่ฆ่าลูก,แม่เมายาบ้า,เชียงราย,สภ.แม่ฟ้าหลวง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1199222
ยูบิลลี่ ออฟ สยาม ไดมอนด์ บูทีคใหญ่สุดในเซาท์อีสต์เอเชีย
แฟล็กชิพ สโตร์เครื่องเพชรแห่งแรกในประเทศไทย ถือเป็นไดมอนด์ บูทีคที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ถนนสีลม,อัญรัตน์ ซีเอฟโอ ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ บอกเล่าถึงไดมอนด์ นิว แฟล็กชิพ สโตร์ ว่า เดิมทีสถานที่แห่งนี้เป็นอาคารทรงไทยขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เธอจึงได้สานฝันของคุณพ่อ (วิโรจน์ พรประกฤต) โดยเนรมิตอาคารนี้ให้กลายเป็นบูทีค ไดมอนด์ ขนาดใหญ่ เพื่อมอบประสบการณ์การเลือกซื้อเครื่องเพชรและอัญมณีให้กับลูกค้า และเป็นการกระตุ้นอุตสาหกรรมด้านนี้ให้มีสีสันมากขึ้น โดยจัดทำพื้นที่กว่า 1,500 ตารางเมตรให้เป็นอาคารกึ่งโมเดิร์น เหมือนนำกระจกมาคลุมทับอาคารทรงไทยอีกชั้นหนึ่ง เมื่อมองออกไปด้านนอก หรือมองขึ้นไปด้านบนจากข้างในก็ยังเห็นสถาปัตยกรรมไทยๆ พื้นที่ภายในตกแต่งด้วยสีขาวสะอาดตา เสมือนได้นั่งดูเครื่องเพชรภายในบ้านของตัวเอง,ในอาคารแบ่งเป็นโซนเครื่องประดับเพชรสำหรับสุภาพบุรุษโซนของเพชรกะรัต และโซนเครื่องประดับเพชรที่ใช้สำหรับงานวิวาห์ และงานเลี้ยงฉลอง ซึ่งคู่บ่าวสาวสามารถนำชุดวิวาห์มาลองเพื่อดูว่าเข้ากับเครื่องประดับเพชรหรือไม่ และยังได้นำเทคโนโลยีการผลิตแบบใหม่ล่าสุด จากประเทศเยอรมนีมาใช้ ด้วยการให้ผู้สวมใส่สามารถสแกนลายนิ้วมือของตนเองไว้ใต้ท้องแหวน.
ยกระดับวงการค้าเพชรเมืองไทยไปอีกขั้น เมื่อ อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เปิดตัว ยูบิลลี่ ออฟ สยาม
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
อัญรัตน์ พรประกฤต,ยููบิลลี่ ออฟ สยาม ไดมอนด์,แฟล็กชิพ สโตร์,เครื่องเพชร,เครื่องประดับ,ธาพิดา นรพัลลภ,สิริเกศ จิรกิติ,ปกรณ์ พรรธนะแพทย์,อมร สุวจิตตานนท์,สุภี พงษ์พานิช,ข่าว,ทีมข่าวหน้าสตรี,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/fashion/509790
เฝ้าระวังน้ำท่วมหาดใหญ่ 24 ชั่วโมง
วันนี้ (29 พ.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วม จ.นราธิวาส หลังน้ำป่าจากเทือกเขาสันกาลาคีรีไหลมาจาก อ.สุคิริน ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน 3 ตำบล กระทบ 2000 ครัวเรือน และบางจุดระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร จนบางครอบครัวออกมาหาซื้ออาหารไม่ได้ส่วนบริเวณน้ำตกพรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช น้ำป่าจากต้นน้ำเทือกเขาหลวงหลากลงมาอย่างรุนแรง หลังตลอดทั้งวันมีฝนตกติดต่อกันหลายชั่วโมง ขณะที่ฝนยังตกอย่างหนัก โดยเฉพาะบริเวณต้นน้ำ ทำให้สถานการณ์กำลังสู่ภาวะวิกฤตขณะที่นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ จ.สงขลา สำรวจปริมาณน้ำคลองอู่ตะเภา ช่วงหน้าวัดหาดใหญ่ในจนถึงชุมชนบางหัก โดยระบุว่า จากการประเมินสถานการณ์น้ำคลองอู่ตะเภาขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วง เพราะระดับน้ำช่วงหน้าวัดหาดใหญ่ในยังต่ำกว่าตลิ่งเกือบ 3 เมตร และไม่ส่งผลกระทบกับชุมชนหลังวัด เนื่องจากน้ำในคลองยังระบายได้ดี แต่สิ่งที่กังวลคือปริมาณฝนที่จะตกคืนนี้ หากมีปริมาณมากกว่า 100 มิลลิเมตร อาจส่งผลให้ 8 ชุมชน ที่เทศบาลขึ้นธงเหลืองก่อนหน้านี้ และชุมชนหลังวัดหาดใหญ่ในถูกน้ำท่วม เบื้องต้นสั่งเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อม และติดตามปริมาณฝน ตลอด 24 ชั่วโมงส่วนชาวบ้าน หมู่ 11 ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง กว่า 10 ครอบครัว นำเต็นท์ไปกางบนถนนลำปำ-ทะเลน้อย เพื่อเตรียมอพยพขึ้นไปอาศัยชั่วคราว หลังน้ำป่าไหลสมทบท่วมพื้นที่ ระดับน้ำสูงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับชาวบ้านในพื้นที่ราบลุ่มติดทะเลสาป 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ควนขนุน อ.เมืองพัทลุง อ.บางแก้ว อ.เขาชัยสน และ อ.ปากพะยูน ต้องประสบปัญหาน้ำป่าไหลท่วมเช่นกัน บางพื้นที่ชาวบ้านอพยพขึ้นไปอาศัยนอนบนถนนชั่วคราวตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
เทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา สั่งติดตามปริมาณฝนที่จะตกคืนนี้ตลอด 24 ชั่วโมง มีปริมาณมากกว่า 100 มิลลิเมตร อาจส่งผลน้ำคลองอู่ตะเภาเพิ่มขึ้นและเข้าท่วมบางชุมชน
ภูมิภาค
ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,น้ำท่วม,น้ำท่วมหาดใหญ่
https://news.thaipbs.or.th/content/268124
สื่อศึกษาเพื่ออาเซียน
การแปรขบวนด้วยท่าเต้น พร้อมเสียงโห่ร้องที่สนุกสนานในชุดใบไม้ จากการสร้างสรรค์ของเด็กๆ โรงเรียนมะฮะหมัดดียะห์ หมู่เกาะเบลิตอง ประเทศอินโดนีเซีย คว้าชัยชนะการแข่งขันพาเหรดมาได้ ทั้งๆ ที่ คู่แข่งอีกหลายโรงเรียนมีความพร้อมเพรียงกว่าทั้งเครื่องดนตรี และครูผู้สอน การขาดแคลนอุปกรณ์การเรียน และครูอาจเป็นปัญหาบ้าง แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ เนื้อหาของภาพยนตร์เพื่อนบ้าน Laskar Pelangi ที่นำมาฉายในโครงการ ThaiPBS MIL day ครั้งที่ 2 สะท้อนปัญหาความไม่เท่าเทียมทางการศึกษาของประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิทธา เลิศไพบูลย์ศิริ อาจารย์พิเศษ โครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ทุกประเทศส่วนมากของอาเซียนจะเป็นแบบนี้หมด คุณจะเห็นปรากฏการณ์ของความมั่งคั่งในเขตสูญกลางในเขตเมือง แต่ว่าในเขตนอกเขตเมืองออกไปเนี่ยจะมีคุณภาพการศึกษาเอย หรือว่าการจัดการทรัพยากรเองก็ไม่ได้มีอำนาจในการจัดการตัวเอง ใช่มั้ยครับ อัครเดช วิเวโก ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ThaiPBS MIL Day กล่าวว่า รอบตัวเราเป็นครูได้หมด ธรรมชาติหรืออะไรพวกนี้เป็นครูได้หมด ครูไม่ได้อยู่ภายในห้องเรียน ก็เหมือนกับปัจจุบันนี้เราเรียนอย่างเดียวไม่รู้อะไรเลย เข้าเรียนปุ๊ป เรียนเสร็จแล้วก็ออก สุดท้ายเราก็ได้แต่ทฤษฎีเราไม่ได้ อา เราไมได้ เค้าเรียกอะไร ประสบการณ์เราไม่ได้สิ่งที่เรานำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันใช้การเคลื่อนไหวร่างกายประกอบมัลติมีเดีย หยิบเหตุการณ์สังหารหมู่ ที่ทุ่งสังหาร ประเทฤกัมพูชา มากระตุ้นเตือนให้นึกถึงอดีตแบบเดียวกันที่เคยเกิดขึ้นในหลายประเทศเซียน ในการแสดงชุด Cambodia and the next history of ASEAN โดยนักศึกษาการเรือนการละคร มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต เพื่อตั้งคำถามในตอนท้ายว่า หากเรายังขัดแย้งกันเองในประเทศ มองเพื่อนบ้านเป็นศัตรู และมองเห็นเพียงประโยชน์เฉพาะกลุ่ม แล้วใครเล่าจะรวมเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในอีก 3 ปีข้างหน้า ราเชนทร์ เทพพงษ์ นักแสดง กล่าวว่า เราหยิบประเด็นความขัดแย้งของ กัมพูชาสมัยก่อนที่คนในเขมรแดง คนในประเทศเขาเข่นฆ่ากันเพื่อจะแย่งชิงผลประโยชน์อะไรบ้างอย่าง ซึ่งความจริงแล้วมุมมองนี้สามารถมาใช้ได้กับทุก ประเทศไม่ว่าจะเป็นไทยที่ปัจจุบันนี้ก็ยังมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นลาวพม่าหรือประเทศต่างๆ ในอาเซียน และกลับมาคิดถึงแนวคิดของอาเซียนที่เขาจะบอกว่าอาเซียนจะรวมกันเป็นหนึ่งได้ ใครเล่าจะรวมอาเซียนเป็นหนึ่งได้ เมื่อทุกๆ คนในอาเซียนยังทะเลาะกันอยู่ กิจกรรมครั้งนี้ ไม่เพียงเรียนรู้แลกเปลี่ยนความเห็นจากการชมภาพยนตร์ แต่ยังเตรียมความพร้อมให้ผู้ร่วมงานได้เปิดกว้างสู่ประชาคมอาเซียนด้วยการสัมผัสวิถีวัฒนธรรม และภาษาผ่านภาพยนตร์เพื่อนบ้าน โครงการ ThaiPBS MIL Day จัดขึ้นเดือนละ 2 ครั้งที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
ภาพยนตร์จากประเทศในอาเซียน เป็นสื่อบันเทิงที่นำมาศึกษาในโครงการ ThaiPBS MIL day ครั้งที่ 2 เพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องวิถี วัฒนธรรม และความเป็นจุดร่วมก่อนจะรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียน
ศิลปะ-บันเทิง
ศึกษา,สื่อ,อาเซียน
https://news.thaipbs.or.th/content/122233
รมว.ศธ. ตรวจความพร้อม ทดลอง จัดการเรียนการสอนผ่านโทรทัศน์ วันแรก
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ.ตรวจความพร้อม จัดการเรียนการสอนผ่านโทรทัศน์ วันแรก รับ ยังมีหลายจุดต้องแก้ไข ยัน 1 ก.ค.พร้อมเปิดเรียนได้แน่นอนแต่เรียนที่บ้านหรือโรงเรียน ให้ดูตามความเหมาะสม วันที่ 18 พ.ค. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ลงพื้นที่ เยี่ยมบ้านนักเรียนโรงเรียนวัดศรีมหาโพธิ ณ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง หลังกระทรวงศึกษาธิการ และมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดการเรียนการสอนผ่านโทรทัศน์ ออกอากาศทางช่องฟรีทีวี จำนวน 17 ช่อง ในวันที่ 18 พ.ค. 2563 เริ่มวิชาแรกเวลา 8.30 น.รมว.ศธ. กล่าวว่า วันนี้เรามาเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนวันที่ 1 กรกฎาคม พบว่าเราเจอปัญหาหลายปัญหาเหมือนกัน ในส่วนของอุปกรณ์อะไรต่างๆ ความพร้อมของครอบครัว แล้วก็ของเด็กๆ อันนี้ต้องชื่นชมคุณครูที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ แต่ผมเชื่อว่า ทั่วทั้งประเทศ ได้ทำหน้าที่พอสมควรเลยนะครับ ในการที่จะทุ่มเทหาข้อมูลต่างๆ วันนี้เราได้เห็นการปล่อยสัญญาณจริง แล้วก็พบว่า เราคงต้องไปหาทางปรับปรุงในหลายๆ เรื่อง ในส่วนของอุปกรณ์ความพร้อมในแต่ละพื้นที่ ส่วนสัญญาณสาระต่างๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไร เด็กๆ ก็มีความเข้าใจดีพอสมควรในทุกๆ ชั้นเรียน อาจจะมีเด็กบางกลุ่มที่มองว่า สาระอาจจะเร็วไปหรือช้าไป อันนี้คุณครูก็ต้องเข้ามาปรับจูนความเหมาะสม ในการที่จะให้เด็กๆ ทำข้อสอบ แบบฝึกหัด แสดงความสามารถของเด็กๆ หลังจากที่ได้ดูสาระทางโทรทัศน์แล้ว ผมยังยืนยันครับว่า ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ การเรียนการสอนน่าจะเกิดขึ้นได้ที่โรงเรียน โดยมีมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของสาธารณสุข หากพวกเราคนไทยทั้งประเทศสามารถรักษาความปลอดภัย เฝ้าระวังซึ่งกันและกัน เราก็น่าจะผ่านจุดนี้ไปได้ครับ ด้วยการดูแลซึ่งกันและกัน อย่างไรคงไม่เหมือนเดิมที่เราจะสามารถเรียนที่โรงเรียนตามปกติ การเรียนโรงเรียนในอนาคตคงต้องมีการเว้นระยะห่าง อาจจะต้องมีการทำความสะอาดสม่ำเสมอ หน้ากากนี่ต้องใส่ตลอดเวลา การล้างมือนี่ต้องสม่ำเสมอนะครับ มากกว่าเดิมเยอะ ก็เป็นโอกาสที่เราจะปรับตัวเหมือนๆ กับทั่วทั้งโลก ที่วันนี้ประสบปัญหาตอนนี้ เราทำได้ดีกันพอสมควรครับ ในภาคสังคม ในภาคของการศึกษา เราต้องมาร่วมมือกันทำให้เราสามารถเปิดเรียนได้แน่นอนวันที่ 1 ก.ค. ส่วนจะเปิดที่ไหน เปิดที่โรงเรียน เปิดที่บ้าน เสริมด้วยการสอนออนไลน์ ก็เป็นแนวทางที่ต้องดูความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ครับ ส่วนปัญหาระบบออนไลน์ล่ม จะแก้ปัญหาอย่างไร รมว.ศธ. กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ดีครับที่เรามีการเตรียมความพร้อมในวันนี้ การล่มของเว็บไซต์แปลว่า มีคนเข้าไปสนใจมาก ก็ต้องเตรียมความพร้อมในอนาคตเท่านั้นเองครับ การเตรียมคลาวด์หรือว่า เตรียมเซิร์ฟเวอร์ไว้เพิ่มเติม ก็น่าจะเป็นทางออกที่ทำได้นะครับ งบประมาณเรามี ในการที่จะทำตรงนั้น ก็เป็นประโยชน์สำหรับการเตรียมความพร้อม 45 วัน ครับ ที่เราจะเจอปัญหาต่างๆ และหาแนวทางแก้ไขครับเราเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดเรียนวันที่ 1 ก.ค. ผมยังยืนยันว่า มาตรการที่หนึ่ง คือให้โรงเรียนมีโอกาส ทำการเรียนการสอนที่โรงเรียน หากมีข้อจำกัดอะไรบางอย่าง มีการแพร่ระบาดของโรคนะครับ ต้องเรียนที่บ้าน การใช้สื่อโทรทัศน์ ก็จะเป็นมาตรการที่สอง ส่วนความเข้าใจผิดที่คิดว่า เราจะใช้ระบบออนไลน์ ไม่ใช่นะครับ เราจะใช้ระบบโทรทัศน์เป็นหลัก ส่วนออนไลน์ เราจะใช้สำหรับเด็กโตที่มีอุปกรณ์ ที่มีความสามารถในการเข้าสู่โปรแกรมต่างๆ ซึ่งเป็นเด็ก ม.4 – ม.6 นะครับ ที่จะต้องมีการเรียนการสอน 2 ทางทางออนไลน์ ส่วนเด็ก ม.4-ม.6 ที่ไม่มีอุปกรณ์ ไม่มีความสามารถเข้าถึงการสอน 2 ทางได้ ก็ต้องหาทางออกให้เขา โรงเรียนก็จะเป็นทางออก เขาอาจจะจัดเล็กๆ ที่โรงเรียนก็ได้ ฉะนั้นวันนี้ เป็นวันเริ่มต้นนับจากนี้ไปเรามีอีก 40 กว่าวัน เรามีปัญหาอะไร มีความจำเป็นที่ต้องส่งเสริมในด้านต่างๆ เราก็ต้องทำครับ เพื่อให้เด็กทุกคนมีความพร้อม การเรียนการสอนสามารถเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นวันที่ 1 ก.ค.วันนี้เป็นวันแรกที่มีการส่งสัญญาณ และก็พบปัญหาอยู่บ้างนะครับ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของอุปกรณ์นะครับ ที่อาจจะไม่มีความพร้อมหรือว่าตรงกับการปล่อยสัญญาณออกมา มันมีแค่ปรับจูนช่อง แต่ก็ต้องยอมรับว่าบางทีพ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะไม่มีความคล่องตัวตรงนั้น อันนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการก็ต้องเอาน้องๆ อาชีวะเข้ามาช่วยเหลือ เด็กที่เป็นเด็กเล็กตอนนี้ก็พบว่าถ้าหากเราปล่อยสัญญาณทางโทรทัศน์อาจจะไม่สามารถสร้างสมรรถนะของเขาได้อย่างเต็มที่ อาจจะต้องมาดูการเรียนสอนที่โรงเรียนไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นโดยมีมาตรการความปลอดภัย สัดส่วนก็จะต้องลดลงจากตัวเลขประมาณ 1 ต่อ 20 อาจจะแค่ 1 ต่อ 7 หรือ 1 ต่อ 8 ซึ่งอันนี้แปลว่าต้องมีบุคลากรที่จะเข้ามาช่วยเหลืออยู่บ้างนะครับ ซึ่งรัฐบาลก็มีงบประมาณ เตรียมงบประมาณไว้ตามความเหมาะสม ผมไปดูปัญหาต่างๆ นะครับแล้วแก้กันทีละจุด เรายังมีเวลาที่จะแก้ไขครับ เพื่อเตรียมความพร้อม 1 ก.ค. นายณัฏฐพล กล่าว
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ.ตรวจความพร้อม จัดการเรียนการสอนผ่านโทรทัศน์ วันแรก รับ ยังมีหลายจุดต้องแก้ไข ยัน 1 ก.ค.พร้อมเปิดเรียนได้แน่นอน แต่เรียนที่บ้านหรือโรงเรียน ให้ดูตามความเหมาะสม
ข่าว,การเมือง
เรียนออนไลน์,โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,สอนผ่านโทรทัศน์,ณัฏฐ​พล​ ที​ป​สุวรรณ​,รมว.ศธ.,ศึกษาธิการ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1847073
กมธ.ดีอีเอส ตามงาน 5 จี เล็งแบล็กลิสต์ทีโอที ทำ USO net ไม่เสร็จสมบูรณ์
 หลังทำ USO net ไม่เสร็จสมบูรณ์,เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.62 ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) คณะกรรมาธิการการสื่อสารโทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ กมธ.ดีอีเอส นำโดย น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ประธานคณะกรรมาธิการฯ พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมาธิการฯ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ และคณะ ได้เข้ารับฟังข้อมูลและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับ กสทช. โดยมี พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร ประธาน กสทช.ให้การต้อนรับ,ภายหลังการหารือ น.ส.กัลยา ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ กมธ.ดีอีเอสได้ฟังความก้าวหน้าในการดำเนินการ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและโทรคมนาคม รวมถึงการจัดโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยที่ประชุมหารือถึงการดำเนินโครงการอินเทอร์เน็ตตามแนวชายขอบ หรืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (Zone C) การให้บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะประจำหมู่บ้าน (USO net) ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) โดยทางกรรมาธิการฯ ได้แนะนำให้ กสทช.ต้องใช้ความรอบคอบระมัดระวังในการตรวจรับงานจาก ทีโอที เนื่องจากที่ผ่านมาทาง กมธ.ดีอีเอส ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินโครงการดังกล่าวที่จังหวัดหนองคาย ทำให้เห็นว่าโครงการมีประโยชน์ อาจยังมีความไม่สมบูรณ์ในบางจุดและดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ดังนั้นจึงได้มีการเสนอประเด็นให้ขึ้นแบล็กลิสต์กับบริษัท ทีโอที ไม่ให้เข้าร่วมในการประมูลใหม่ ซึ่งทาง กสทช.ก็ได้ตอบรับและเห็นว่าไม่น่าจะให้ทีโอทีเข้าประมูลใหม่ได้ แล้วการประมูลที่อาจจะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2563 จะต้องดำเนินการให้เกิดกับประชาชนสูงสุด โดยเปิดให้บริษัทที่มีความพร้อมให้เข้ามาแข่งขัน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้อินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง เป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ช่วยสร้างประโยชน์ด้านการศึกษาออนไลน์ การสาธารณสุขทางไกล ,ทางกรรมาธิการฯ เห็นความสำคัญของโครงการ USO net จึงได้กำชับในเรื่องการวางแผนดำเนินโครงการดังกล่าวให้ต่อเนื่อง และทำให้สมบูรณ์ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะเป็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อประชาชนจริงๆ จึงจะรอช้าไม่ได้, ประธาน กมธ.ดีอีเอส กล่าว,ด้าน พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า นอกจากนี้ทาง กมธ.ดีอีเอส โดยเฉพาะ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาฯ ได้ให้ความสนใจในการเตรียมความพร้อม ด้านโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ที่จะรองรับเทคโนโลยี 5G ในอนาคต ซึ่ง 5G จะเกิดประโยชน์อย่างมากในเรื่องของการศึกษาที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไป เพื่อที่จะรองรับระบบ Automation ต่างๆ ซึ่งเป็นรูปแบบของงานใหม่ที่จะเข้ามาแทนรูปแบบงานเดิม ทำให้ระบบการศึกษาจะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เท่าทันกับงานที่เปลี่ยนไป กรรมาธิการฯ จึงได้แนะนำให้ กสทช.ได้ใช้กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) หรือกองทุนอื่นๆ ที่รัฐมี ให้ทุ่มไปที่การพัฒนาบุคลากร เพื่อเพิ่มทักษะให้กับแรงงานให้ตอบโจทย์กับความต้องการของตลาดแรงงานของโลกอนาคต โดยไม่จำเป็นต้องดำเนินการในรูปแบบให้มีปริญญาบัตร แต่ดำเนินในลักษณะเพิ่มทักษะแบบเฉพาะเจาะจง สร้างความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน,เรื่องนี้ต้องทำอย่างเร่งด่วน เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้ประเทศไทยสูญเสียศักยภาพด้านทรัพยากรบุคคลไป ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ พัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้นอย่างเข้มแข็ง, รองประธาน กมธ.ดีอีเอส กล่าว
กมธ.ดีอีเอส บุก กสทช.ตามงานโครงสร้างพื้นฐาน 5G แนะปรับระบบการศึกษา เพิ่มทักษะ-เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รองรับงาน Automation ในอนาคต ยันหนุนเน็ตชายขอบให้ทำงานเต็มคุณภาพ เล็งขึ้นแบล็กลิสต์ ทีโอที
ข่าว,ทั่วไทย
กมธ.ดีอีเอส,5 จี,อินเทอร์เน็ตสาธารณะ,เทคโนโลยีสารสนเทศ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1723935
นึกว่าหนังแอ็กชั่น ผู้ต้องหาโดดลงจากรถตำรวจ หนีทั้งกุญแจมือ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณสี่แยกเอเชีย ช่วงไฟแดง ก่อนเลี้ยวเข้าตัวเมืองพัทลุง นายอัตนัย เสือพล อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ได้กระโดดรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลพัทลุง วิ่งหลบหนี ก่อนที่จะขโมยรถจักรยานยนต์สีแดง หมายเลขทะเบียน กกข-231 พัทลุง ขับหลบหนีไป,นายณคร ชายเกลี้ยง อายุ 56 ปี ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าขณะที่ตนกำลังนั่งซ่อมรถให้ลูกค้าอยู่ที่อู่ก็ได้มีวัยรุ่นชายวิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือบอกว่า ถูกตำรวจไล่ตามและถูกซ้อมมาด้วย พร้อมขอบุหรี่ตนแต่ตนไม่มีบุหรี่ จึงให้ใบจากไป ซึ่งวัยรุ่นคนดังกล่าวก็เดินม้วนใบจาก ออกไปทางหน้าอู่ พบรถจักรยานยนต์ของนายอุดมศักดิ์ มุสิด หลานชายจอดเสียบกุญแจทิ้งไว้ วัยรุ่นคนดังกล่าวจึงสตาร์ตขับหลบหนีไป,อย่างไรก็ดีก่อนเกิดเหตุ พ.ต.ท.รุ่งโรจน์ จันทรวัฒน์ สารวัตรเวร สภ.บางแก้ว พร้อมพลขับ ได้นำตัว นายอัตนัย ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ ฝากขังต่อศาลพัทลุง โดยเจ้าหน้าที่ได้สวมกุญแจมือติดกับราวเหล็กของรถบริเวณกระบะด้านหลัง คาดว่าผู้ต้องหาจะพยายามถอดกุญแจมือ และอาศัยช่วงที่รถหยุดขณะรอสัญญาณไฟ กระโดดลงจากรถวิ่งหลบหนี,ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามวิ่งไล่ตามไปค้นหาแต่ไม่เจอตัว จนผู้ต้องหาคนดังกล่าวได้ขโมย รถ จยย. ของชาวบ้านขับหนีไป ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้วิทยุแจ้งให้ ตร.ในทุกพื้นที่สกัดจับแล้ว.
ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ สภ.บางแก้ว จ.พัทลุง กระโดดรถเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนขโมยรถ มอเตอร์ไซค์ของชาวบ้านหลบหนีไปอย่างลอยนวล ขณะถูกพาตัวมาฝากขังที่ ศาลพัทลุง
ข่าว,อาชญากรรม
ผู้ต้องหาหนี,รถตำรวจ,กุญแจมือ,ขโมยมอเตอร์ไซค์,พัทลุง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1110259
สาธารณสุขเอาจริง แจ้งจับ 7 นักเลงคีย์บอร์ดปล่อยข่าวปลอม โคโรน่าไวรัส
กระทรวงสาธารณสุข หารือดีอี เตรียมแจ้งจับ 7 นักเลงคีย์บอร์ดปล่อยข่าวปลอม หรือ fake news ที่เกี่ยวข้องกับ โคโรน่าไวรัสเมื่อวันที่ 29 ม.ค .63นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีข่าวลือเกี่ยวกับโคโรน่าไวรัส เป็นจำนวนมาก ก็ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตกใจ และหลงเชื่อข่าวลือใดๆ หากมีข้อสงสัยให้สอบถามมาที่กระทรวงสาธารณสุข หรือโรคสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมงรวมไปถึง เว็บไซต์หรือเฟซบุ๊กของ กรมควบคุมโรค และต้องขอความร่วมมือกับประชาชนอย่าแชร์ข่าวลือ ข่าวลวงจนทำให้เกิดความตื่นตระหนกโดยวันที่ 29 ม.ค.กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับผู้ปล่อยข่าวลวงเกี่ยวกับเชื้อดังกล่าวแล้ว 7 ราย เพราะฉะนั้นขอความร่วมมืออย่าแชร์ข่าวลวง หากแชร์จะมีความผิดไปด้วยอย่าแชร์เรื่องไม่จริง รวมข่าวปลอม โคโรน่าไวรัส หลอกลวงประชาชนหยุดแชร์ อ้างชาวจีนติดไวรัสอู่ฮั่น ล้มลงกลางสุวรรณภูมิ พบแค่เมาหลับจนท.กงสุล ยันไม่จริง สื่ออินเดียตีข่าวหญิงไทยเสียชีวิต สงสัยติดไวรัสโคโรน่า
กระทรวงสาธารณสุข หารือดีอี เตรียมแจ้งจับ 7 นักเลงคีย์บอร์ดปล่อยข่าวปลอม หรือ fake news ที่เกี่ยวข้องกับ โคโรน่าไวรัส
ข่าว,สังคม
ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรน่า2020,กรมควบคุมโรค,กระทรวงสาธารณสุข,ข่าวปลอม,โคโรน่าไวรัส,ไวรัสอู่ฮั่น,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1759163
รวบหนุ่มใหญ่อียิปต์ ค้าไอซ์ย่านพัทยา อ้างหาเงินเลี้ยงครอบครัว
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 28 ส.ค. พ.ต.ท.รัชพงศ์ เตี้ยสุด รอง ผกก. ตม.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย ร.ต.อ.ธนดิท เถื่อนชำนาญ รอง สว.สส. และกำลังชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบ ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายอาทิฟ ซากาเลีย อิปราฮิม อัลกนีมี่ อายุ 62 ปี สัญชาติอียิปต์ พร้อมของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 9 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 10 กรัม ยาบ้า 7 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในซองบุหรี่และเงินสด 1,160 บาท โดยสามารถจับกุมได้ที่ลานจอดรถ ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี พัทยาใต้,พ.ต.ท.รัชพงศ์ เผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้รับข้อมูลจากสายลับว่า มีนักท่องเที่ยวชาวอียิปต์ มีพฤติกรรมค้ายาไอซ์ และจะมีการนำยาเสพติดมาส่งให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งนัดหมายกันที่บริเวณลานจอดรถของห้างที่ได้เกิดเหตุในเวลาต่อมา พบตัวผู้ต้องหาเดินผ่านมาและแสดงท่าทางมีพิรุธ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งซุ่มตัวอยู่บริเวณดังกล่าวจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นทันที ปรากฏว่าพบยาเสพติดของกลางซุกซ่อนอยู่ในซองบุหรี่ ทั้งนี้ ผู้ต้องหา ได้พยายามโยนทิ้งเพื่อหนีความผิด พร้อมทั้งต่อสู้ขัดขืนและจะวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะเข้าตรวจค้น แต่ไม่สามารถหลบหนีไปได้,จากการสอบถามผู้ต้องหา ให้การเป็นภาษาไทยโดยอ้างว่า ตนเองได้มาอาศัยอยู่ในเมืองไทยนานกว่า 10 ปี ซึ่งมีภรรยาและลูกสาวอยู่ที่เมืองไทยอีกด้วย โดยขณะนี้ภรรยาและลูกนั้น อยู่ที่จังหวัดเชียงราย ส่วนเหตุที่ต้องค้ายาเสพติดนั้น เพื่อต้องการหาเงินส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัว ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นพวกสัญชาติเดียวกันรวมถึงสาวบาร์เบียร์ และยาเสพติดดังกล่าวนั้นจะเป็นรับมาจากเอเย่นต์คนไทยในพื้นที่เมืองพัทยา.
ตม.ชลบุรี บุกหนุ่มใหญ่อียิปต์ วัย 62 ค้ายาไอซ์ ยาบ้า ให้คนชาติเดียวกัน และสาวบาร์เบียร์ ย่านพัทยา หลังถูกจับ สารภาพต้องหาเงินส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัว
ข่าว,ทั่วไทย
เอเย่นต์ยาไอซ์,อาทิฟ ซากาเลีย อิปราฮิม อัลกนีมี่,ขายยาไอซ์,จับได้ที่ห้างบิ๊กซีพัทยาใต้,ของกลางยาไอซ์9ถุง,รัชพงศ์ เตี้ยสุด,รองผกก.ตม.จว.ชลบุรี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,เอเย่นต์ยาบ้า,ขายยาบ้า,รวบแก๊งค้ายา,ค้ายา,เสพยา,ชายอียิปต์,คนอียิปต์,ค้ายาบ้า,ค้ายาไอซ์,ยาเสพติด
https://www.thairath.co.th/news/local/521394
ญี่ปุ่นเตรียมทำผลสำรวจสุขภาพจิต หลังช่วงประกาศภาวะฉุกเฉินคุมโควิด
ทางการญี่ปุ่นได้รับรายงานเกี่ยวกับความเครียดที่เกิดขึ้นในช่วงโควิด-19 ทำให้ทางการตัดสินใจทำแบบสำรวจเพื่อหาทางรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2563 สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขประเทศญี่ปุ่น เตรียมทำแบบสำรวจตรวจสอบสุขภาพจิตของประชาชนทั่วประเทศ จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเดือนหน้า ถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นที่มีการทำแบบสำรวจตรวจสอบสุขภาพจิตทั่วประเทศโดยกระทรวงสาธารณสุขของประเทศญี่ปุ่น ระบุว่าในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมที่ผ่านมา ทางการได้รับรายงานว่าจำนวนการพบปะและปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความเครียด เนื่องจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้ที่เข้าพบเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งกล่าวว่าพวกเขาไม่สามารถนอนหลับสนิทได้ พร้อมรู้สึกกระวนกระวาย เนื่องจากถูกสั่งไม่ให้ออกนอกบ้านการสำรวจทางออนไลน์ครั้งนี้จะแสดงผลสำรวจจากประชาชนกว่า 10000 คนว่าการประกาศภาวะฉุกเฉิน การปิดร้านค้า และการสั่งให้ประชาชนเลี่ยงออกจากเคหสถานส่งผลให้ประชาชนเป็นโรคซึมเศร้าหรือมีผลกระทบกับสุขภาพจิตหรือไม่ ซึ่งผลสำรวจตรงนี้จะถูกนำไปประยุกต์ใช้ในอนาคต หากเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขึ้นอีกในอนาคตย้อนกลับไปเมื่อช่วงพฤษภาคมที่ผ่านมา สหประชาชาติ หรือยูเอ็น (UN) ได้ทำการสำรวจสุขภาพจิตกับชาวอเมริกันจำนวนหนึ่ง โดยผู้ทำแบบสำรวจร้อยละ 45 ระบุว่าพวกเขารู้สึกเครียด และเขาหวังว่าจะมีมาตรการที่ป้องกันพวกเขาในทั้งช่วงระหว่างการแพร่ระบาดและหลังการแพร่ระบาดขณะนี้ ประเทศญี่ปุ่น มียอดผู้ป่วยสะสมเกือบ 30000 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้วเกือบ 1000 ศพ.
ทางการญี่ปุ่นได้รับรายงานเกี่ยวกับความเครียดของประชาชนที่เกิดขึ้นในช่วงโควิด-19 ทำให้ตัดสินใจทำแบบสำรวจเพื่อหาทางรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ข่าว,ต่างประเทศ
โควิด-19,โควิดญี่ปุ่น,สุขภาพจิต,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรนา,COVID-19
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1898139
ประจวบฟอร์มเด็ด เปิดรังทะลวงตับกิเลนกระจุย 6-1
การแข่งขันศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2018 ประจำวันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2561 โดยคู่ที่น่าสนใจ พีที ประจวบ เอฟซี เปิดบ้านที่สนามสามอ่าว สเตเดียม รับมือ กิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ,เปิดเกมในครึ่งแรกไปได้เพียงแค่ 14 นาที เจ้าถิ่นทำประตูออกนำไปก่อน 1-0 เมื่อ อัดนาน โอราโฮวัช โหม่งชงให้กับ อมร ธรรมนาม โข่งเน้นๆ เข้าประตูไป,ถัดมาอีก 9 นาที ประจวบขยับหนีห่างออกไปเป็น 2-0 จากความผิดพลาดของแนวรับและผู้รักษาประตูของทีมเมืองทองฯ บอลเลยมาเข้าทาง จิตปัญญา ทิสุด ยิ่งเข้าไปง่ายๆ,นาทีที่ 34 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮต่อเนื่อง โจนาธาน รีส ผ่านบอลต่อให้กับ จิตปัญญา ทิสุด กระชากเข้าไปยิงเต็มข้อ ช่วยให้ประจวบขยับหนีห่างเป็น 3-0,ท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 37 จิตปัญญา ทิสุด คนเดิม เปิดเตะมุมไปหน้าประตูให้กับ อัดนาน โอราโฮวัช เสยต่อไปที่ อมร ธรรมนาม โขกเข้าไป ประตูขยับนำ 4-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้,ครึ่งหลังในนาทีที่ 55 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ตีไข่แตกไล่มาเป็น 4-1 สำเร็จ จากการโหม่งของ ชาช่า แต่นาทีที่ 65 เจ้าถิ่นก็บวกสกอร์เพิ่มอีกครั้งเป็น 5-1 เมื่อได้ลูกที่จุดโทษ และเป็น ลองซานา ดูมบูยา รับหน้าที่สังหารไม่เหลือซาก,กระทั่งเข้าสู่ท้ายเกมนาทีที่ 85 พีที ประจวบ ก็มาได้ประตูปิดท้ายเป็น 6-1 ใหญ่ นิลวงษ์ เปิดเตะมุมให้กับ ลองซานา ดูมบูยา ขึ้นโขกเน้นๆ ตุงตาข่าย,ทำให้จบเกม พีที ประจวบ เอฟซี เปิดบ้านไล่ยำใหญ่ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปอย่างขาดลอย 6-1.,ผลการแข่งขันในคู่อื่น,เชียงราย ยูไนเต็ด ชนะ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 2-0,การท่าเรือ เอฟซี ชนะ อุบล ยูเอ็มที 1-0,นครราชสีมา เอฟซี ชนะ สุโขทัย เอฟซี 2-1
ประจวบ เอฟซี เค้นฟอร์มแกร่งในรังตัวเองได้อย่างสุดยอด หลังเปิดบ้านไล่ถลุงพลพรรคกิเลนผยองไปแบบขาดลอย 6-1 ในศึกไทยลีก
กีฬา,ฟุตบอลไทย
ผลบอล,ไทยลีก,พีที ประจวบ เอฟซี,เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/1225298
กิ้งกือหรือซาร์ดีนเป็นท่อน ยาว ยืดหยุ่น เจอในปลากระป๋อง
เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 59 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ ม.2 ต.ห้วยยูง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ว่ามีชาวบ้านซื้อปลากระป๋องยี่ห้อหนึ่ง มาเปิดเพื่อรับประทาน แต่พบว่าภายในกระป๋อง นอกจากปลาซาร์ดีนแล้ว กลับพบซากสัตว์คล้ายกิ้งกืออยู่ภายในด้วย หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบ,พบเป็นบ้านของสามีภรรยาคู่หนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ร่วมกับพ่อแม่ ได้นำปลากระป๋องที่เปิดฝาออกและเทใส่ไว้ในถ้วย มีซากชิ้นส่วนลักษณะเป็นแว่นกลมติดกันประมาณ 10 ท่อนต่อเรียงกัน เมื่อเอาช้อนส้อมเขี่ยพบว่ามีความยืดหยุ่น แต่ก็มีความเหนียวอยู่ด้วย ลักษณะไม่ใช่ชิ้นส่วนของปลา ไส้ หรือกระดูก,นางกาญจนา ปานศรี อายุ 20 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวเผยว่า ได้ไปซื้อปลากระป๋องยี่ห้อหนึ่งมาจากร้านชำในหมู่บ้าน เพื่อที่จะทำข้าวผัดปลากระป๋อง แต่เมื่อเปิดฝาแล้วเทปลากระป๋องลงไปในถ้วย กลับพบมีชิ้นส่วนเป็นก้อนยาว ขนาดเท่าหัวไม้ขีด จึงเขี่ยดูก็ต้องตกใจ เพราะมีลักษณะเหมือนกิ้งกือ ไม่ใช่เป็นชิ้นส่วนของปลาอย่างแน่นอน หลังจากนั้นจึงนำไปให้คนในบ้าน และเพื่อนบ้านมาช่วยดู ก็มีความเห็นว่าน่าจะเป็นกิ้งกือ ซึ่งทำให้เสียความรู้สึกอย่างมาก,อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ เจ้าของบ้านได้ฝากปลากระป๋องส่งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อตรวจสอบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บชิ้นส่วนและเนื้อปลาไว้ พร้อมแจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่ตั้งโรงงานผลิตที่ระบุไว้ข้างกระป๋อง ขณะเดียวกันทางโซเชียลก็ได้มีการโพสต์ภาพชิ้นส่วนและปลากระป๋องดังกล่าว ล่าสุดทางบริษัทผู้ผลิต แจ้งว่าจะมาตรวจสอบปลากระป๋องเจ้าปัญหาในวันศุกร์นี้.
ชาวบ้านที่กระบี่อยากกินข้าวผัดปลากระป๋อง ไปซื้อมาเปิดเทใส่ชาม เจอชิ้นส่วนประหลาด เป็นแว่นๆ เรียงต่อกัน ช่วยกันดูก่อนลงความเห็นว่าน่าจะเป็น กิ้งกือ ส่งให้ สธ. แจ้งบริษัทผู้ผลิตมาตรวจสอบให้แน่ชัด
null
กิ้งกือ,กิ้งกือในปลากระป๋อง,ชิ้นส่วนกิ้งกือ,เหนือคลอง,กระบี่,ข่าวทั่วไทย,ข่าวสังคม,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/663462
นาทีระเบิดพลีชีพในตุรกี บึมสยอง กลางฝูงชนกำลังร่วมชุมนุม ตาย31 ศพ (ชมคลิป)
เมื่อ 21 ก.ค. 58 สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่คลิปวินาทีสุดสะเทือนขวัญ เหตุระเบิดรุนแรง ซึ่งคาดว่าเป็นฝีมือของมือระเบิดพลีชีพเครือข่ายกลุ่มมุสลิมนิกายสุหนี่หัวรุนแรง รัฐอิสลาม หรือไอซิส ที่หมายปลิดชีวิตชาวตุรกีอย่างเหี้ยมโหด ขณะที่มีชาวตุรกีกว่าร้อยคนมาร่วมชุมนุมอยู่ที่สวนวัฒนธรรม อามารา ที่เมืองซูรุค เมืองชายแดนในประเทศตุรกีเมื่อช่วงเที่ยงของวันจันทร์ที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยตะโกนเรียกร้องรัฐบาลตุรกีดำเนินการฟื้นฟูบูรณะเมืองโคบานี ซึ่งเป็นเมืองที่มีชาวเคิร์ดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ในประเทศซีเรีย และได้รับความเสียหายอย่างหนัก หลังเคยถูกกลุ่มไอซิสบุกยึดครองไว้ได้,เหตุระเบิดพลีชีพรุนแรงในเมืองซูรุค  ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชายแดนติดกับซีเรีย และเมืองโคบานี เพียงแค่ 6 ไมล์ครั้งนี้ เป็นเหตุให้มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตอย่างน้อย 31 ศพ บาดเจ็บนับร้อยคน โดยเบื้องต้น ยังไม่มีกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่นายกรัฐมนตรีอาห์เหม็ด ดาวูโตกลูแห่งตุรกี ชี้ว่ากลุ่มไอซิสอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตี พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวตุรกีมีความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว โดยรัฐบาลจะดำเนินการตอบโต้เหตุรุนแรงครั้งนี้,ที่มา :,Daily News,ข่าวแจ้งว่า หลังจากเกิดเหตุระเบิดพลีชีพแล้ว มีประชาชนหลายร้อยคนรวมตัวกันในนครอิสตันบูล เมืองใหญ่สุดของตุรกี เพื่อแสดงพลังต่อต้านการเข่นฆ่าชาวตุรกีด้วยระเบิดพลีชีพอย่างเหี้ยมโหด โดยความโกรธแค้นของฝูงชนผู้ประท้วงได้นำไปสู่การก่อความรุนแรง จนทางการต้องมีคำสั่งให้ตำรวจปราบจลาจลฉีดน้ำสลายการชุมนุมของฝูงชน
นรกส่งมาคลิปนาทีสุดโหด เกิดเหตุระเบิดพลีชีพ ปลิดชีวิตพลังบริสุทธิ์ผู้ชุมนุม 31 ศพ เจ็บระนาวเป็นร้อยคน ระหว่างร่วมชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลตุรกียื่นมือฟื้นฟูบูรณะเมืองโคบานี ในซีเรีย ที่พังเสียหายยับจากน้ำมือกลุ่มไอซิส
null
ระเบิดในตุรกี,ระเบิดพลีชีพ,เมืองซูรุค,กลุ่มไอซิส,ไอเอส,ประท้วง,เกิดเหตุระเบิด,ตุรกี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ,ไอซิส,isis,กลุ่มisisi,ไอซิส ซิดนีย์,วางระเบิด,กลุ่มก่อการร้าย
https://www.thairath.co.th/content/513182
จับได้แล้ว โจรสาวลักนมผงแพะ ก่อเหตุซ้ำห้างดัง ย่านเสือใหญ่ (ชมคลิป)
กรณีสังคมออนไลน์ ได้แห่แชร์คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด จับภาพโจรหญิงสาวลักขโมยนมผงแพะ จำนวน 4 กระป๋อง มูลค่า 2,640 บาท หยิบใส่กระเป๋าสะพายข้าง ภายในร้านขายาคลังยาเกาะข่า รามอินทรา117 เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ช่วงเวลาประมาณ 20.54 น. ก่อนจะหลบหนีไป โดยใช้เวลาขโมยเพียงแค่ 30 วินาทีเท่านั้น (,แค่ครึ่งนาที โจรหญิงสาวลักนมผงราคาแพงใส่กระเป๋า ย่านรามอินทรา,),ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าของเฟซบุ๊กที่โพสต์คลิปว่า วันที่ 8 ก.พ.ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน สามารถจับโจรหญิงสาวคนดังกล่าวได้แล้ว หลังก่อเหตุซ้ำ ขโมยนมผงในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซอยเสือใหญ่ หลังมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม,ขณะที่ทีมข่าวสายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ ได้สอบถามไปยัง ร.ต.อ.บรรยงค์ แดงเรือง รอง สารวัตร (สอบสวน) สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ. เวลาประมาณ 22.00 น. โจรหญิงสาวได้เข้าไปในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ขโมยนมผง 2 รายการ ใส่กระเป๋าสะพายข้าง และถูกพนักงานของห้างฯ จับได้ และได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน ซึ่งวันนี้ (9 ก.พ.) จะมีการสอบปากคำ และฝากขังในวันถัดไป ในข้อหา ลักทรัพย์เวลากลางคืน,นอกจากนี้ทีมข่าวได้สอบถามไปยัง นายวินัย เพ็ญสิริสมบูรณ์ เจ้าของร้านขายยาคลังยาเกาะข่า รามอินทรา 117 เปิดเผยว่า โจรหญิงสาวที่จับได้ เป็นคนเดียวกับที่ขโมยนมผงแพะในร้านของตนเอง ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจของ สน.มีนบุรี กำลังติดต่อประสานไปยัง สน.พหลโยธิน เพื่อรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง
ตำรวจ สน.พหลโยธิน รวบโจรหญิงสาวก่อเหตุขโมยนมผงในห้างสรรพสินค้าชื่อดดัง ซอยเสือใหญ่ เผยเป็นโจรคนเดียวกับที่ขโมยนมผงในร้านขายยา ย่านรามอินทรา
null
โจร,ขโมย,นมผง,จับได้แล้ว,นมผงแพะ
https://www.thairath.co.th/content/854850
ล้วงลับ รองแชมป์ เอ๊ะ จิรากร กระชากหน้ากากอีกาดำ ถ้ารู้อายุจะอึ้ง
ถอดหน้ากากกันไปเรียบร้อยและคว้ารองแชมป์ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง สำหรับ หน้ากากอีกาดำ บทสรุปก็ตามคาด เอ๊ะ จิรากร นักร้องแสบเสน่ห์ บันเทิงไทยรัฐ พามาทำความรู้จัก ถอดหน้ากากอีกาดำ ดูเรื่องลับๆ ของเขากัน,1.เอ๊ะ จิรากร มี โจ้ วงพอสเป็นไอดอล ส่วนหนึ่งที่โด่งดังขึ้นมาได้ถึงทุกวันนี้คือการเป็นเงาเสียง พี่โจ้ นักร้องในดวงใจผู้จากไป,2.เขาเคยมีวงชื่อ Nothing To Lose เล่นดนตรีกลางคืนตามผับ กับเพื่อนชื่อ ชนัทธา สายศิลา และ ธนดล ช้างเสวก ซึ่งเขาทั้ง 2 คนก็คือ แน๊ป เรทโทรสเปค และ ปิ๊ด บอดี้สแลม วันนี้ เอ๊ะ มีความสุขมากที่ทุกคนประสบความสำเร็จในเส้นทางดนตรี,3.กว่าจะมีวันนี้ จุดเริ่มต้นของ เอ๊ะ คือการร้องไกด์ให้นักร้องชื่อดังหลายคน ทั้งเพลงเพียงพอ-โปเตโต้, คนเบื้องหลัง-เอ็ม อรรถพล, หน้าไม่อาย-แหนม รณเดช,4.เขาเคยมีดราม่ากรณีภรรยาเก่าออกมาแฉว่า ไม่ส่งเสียค่าเลี้ยงดูเดือนละ 10,000 บาทตามที่ตกลง แต่วันนี้เคลียร์ทุกอย่างลงตัวแล้ว,5.เอ๊ะ เริ่มสร้างครอบครัวกับภรรยาคนปัจจุบัน มีลูก 2 คน โดยยอมรับว่าเคยเป็นคนเจ้าชู้ แต่ตอนนี้เขาขอหยุดและพอที่ภรรยาคนนี้,6.เอ๊ะ อายุ 40 แล้ว ไม่ใช่ 30 ต้นๆ อย่างที่ทุกคนเข้าใจ เขาบอกกับ ไทยรัฐออนไลน์ อย่างติดตลกว่า หลักสี่แล้วนะจ๊ะ แม้จะดูหน้าเด็กก็ตาม,7.เอ๊ะ มีปัญหานอนกรนดังมาก สนั่นจนลูกร้องไห้ด้วยความกลัวว่าพ่อเป็นอะไรก็เคยมาแล้ว,8.เขาชอบทำธุรกิจ ตอนนี้เปิดร้านรองเท้า Shoe Wish อยู่ที่ตลาดเมเจอร์ รัชโยธินและตลาดหลังการบินไทยสำนักงานใหญ่ แถมยังเคยขายไข่นกกระทาทอดกับอาหารทะเลนึ่งตามตลาดมาแล้ว เพราะถือคติอย่าอายทำกิน,9.ผลไม้ที่ เอ๊ะ ชอบกิน แปลกกว่าชาวบ้านเพราะมันคือ ชำมะเลียง ผลไม้ที่มีรสหวานอ่อนๆ โดยให้เหตุผลที่ชอบกินเพราะมันอร่อยดี,10.ความภูมิใจอย่างหนึ่งของ เอ๊ะ คือเคยได้เหรียญทองการแข่งขันว่ายน้ำผลัดฟรีสไตล์ 4x100 ในการแข่งขันกีฬาภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง ,- ,หน้ากากทุเรียนคว้าแชมป์ สรุปทั้ง32คน The Mask Singer เป็นใครบ้าง ,- ,มาดูคำตอบ เจ เจตริน ถาม ทอม ROOM39 คือหน้ากากทุเรียนรึเปล่า? ,- ,แชมป์ออฟเดอะแชมป์ ถ่ายทอดสด ทุเรียน ปะทะ อีกาดำ The Mask Singer
ถอดหน้ากากกันไปเรียบร้อยและคว้ารองแชมป์ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง สำหรับ หน้ากากอีกาดำ บทสรุปก็ตามคาด เอ๊ะ จิรากร นักร้องแสบเสน่ห์ บันเทิงไทยรัฐ พามาทำความรู้จัก ถอดหน้ากากอีกาดำ ดูเรื่องลับๆ ของเขากัน!
ข่าว
เอ๊ะ จิรากร,หน้ากากอีกาดำ,The Mask Singer,หน้ากากนักร้อง,หน้ากากทุเรียน
https://www.thairath.co.th/news/894066
เชียงใหม่คุมเข้ม 5 อำเภอ ตัดสิทธิทำกิน-คนเผาป่า
หลังชวนภรรยาเข้าไปช่วยกันดับไฟป่าท้ายหมู่บ้าน เคราะห์ร้ายโดนไฟคลอกร่างย่างสดเสียชีวิต ขณะที่ภรรยาปลอดภัยแล้ว พ่อเมืองเชียงใหม่ยืนยันจุด ฮอตสปอต ในพื้นที่ 5อำเภอเฝ้าระวังลดลง ขู่จับกุมทันทีพร้อมเพิกถอนสิทธิหากพบผู้ครอบครองที่ดินทำกินจุดไฟเผาป่ากลายเป็นเรื่องสะเทือนใจ กรณี 2 สามีภรรยาชาวปกากะญอเคราะห์ร้ายถูกไฟคลอกร่างย่างสด ระหว่างเป็นจิตอาสาช่วยทำแนวกันไฟป้องกันไฟป่า ที่ลุกลามไหม้เข้าไปในพื้นที่ป่าบ้านซิวาเดอร์ หมู่ 3 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ชาวบ้านเร่งนำส่งโรงพยาบาลในพื้นที่ ก่อนถูกส่งตัวมารักษาที่ จ.เชียงใหม่ ต่อมานายพงษ์นรินทร์ แพรชมภู อายุ 41 ปี สามีที่ถูกส่งรักษา รพ.นครพิงค์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้เสียชีวิตลง ส่วน น.ส.วิลาวัลย์ สถาพรไพรวัลย์ ภรรยาถูกไฟลวกเท้าทั้ง 2 ข้าง และบริเวณมือ ขณะนี้อาการปลอดภัย แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ความคืบหน้าเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 15 เม.ย. ที่แผนกรักษาศพ รพ.นครพิงค์ นายขจร แพรชมภู อายุ 53 ปี พี่ชายนายพงษ์นรินทร์ ผู้เสียชีวิต พร้อมกับญาติ เดินทางมาติดต่อขอรับศพน้องชายกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาที่บ้านเกิดใน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมรับตัว น.ส.วิลาวัลย์ น้องสะใภ้ ออกจากโรงพยาบาลกลับไปพักฟื้นที่บ้านด้วย ขณะเดียวกัน พ.อ.สมรรถชัย แปงสาย ผบ.ฉก.ทพ.ที่ 36 ค่ายเทพสิงห์ สั่งการให้ ร.อ.ธเนศ กันทา ผบ.ร้อย ทพ.ที่ 3606 บ้านแม่สามแลบ นำกำลังทหารพราน พร้อมรถยนต์เข้าไปสนับสนุนในการเคลื่อนย้ายศพออกจาก รพ.นครพิงค์ จ.เชียงใหม่ กลับไปยังบ้านเลขที่ 61/3 บ้านซิวาเดอร์ หมู่ 3 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน และจัดเตรียมสถานที่ประกอบพิธีไว้อาลัยศพอย่างสมเกียรตินายขจร พี่ชายผู้ตายกล่าวว่า วันเกิดเหตุได้เกิดไฟป่าท้ายหมู่บ้านประมาณ 2 กม. รีบระดมชาวบ้านไปช่วยกันดับไฟป่า และจุดที่ 2 สามีภรรยาเข้าไปทำแนวกันไฟเพื่อดับไฟเป็นลำห้วยแห้ง ประกอบกับมีลมพัดกระโชกแรง ลมได้หอบไฟป่าโหมเข้าใส่ ทำให้ 2 สามีและภรรยาถูกไฟคลอกบาดเจ็บ กระทั่งมีเพื่อนชาวบ้านที่ไปช่วยกันดับไฟป่าไปพบ ช่วยกันหามร่างทั้ง 2 คนออกมาจากป่าด้วยความทุลักทุเล แต่น้องชายอาการสาหัสได้เสียชีวิตลง จะนำศพกลับไปฝังและประกอบพิธีทางศาสนาคริสต์ ณ สุสานบ้านซิวาเดอร์ ในวันที่ 16 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพงษ์นรินทร์ แพรชมภู นับเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 6 ที่เข้าไปดับไฟป่าและถูกไฟคลอกเสียชีวิตในพื้นที่ภาคเหนือ ในส่วนการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวบ้านจิตอาสาและมีฐานะยากจน โลกโซเชียลได้แชร์ข้อความไว้อาลัย พร้อมโพสต์ถึงผู้มีจิตกุศลที่ประสงค์จะช่วยเหลือครอบครัวผู้ตาย สามารถโอนเงินผ่านบัญชีภรรยาผู้ตาย ชื่อบัญชี น.ส.วิลาวัลย์ สถาพรไพรวัลย์ ธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาแม่สะเรียง เลขที่ 020047823681ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ ประชุมคณะทำงานศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จ.เชียงใหม่ พร้อมเรียกประชุม 5 อำเภอ ที่เกิดจุดฮอตสปอตมากที่สุด ได้แก่ อ.แม่แจ่ม อ.กัลยาณิวัฒนา อ.แม่แตง อ.เชียงดาว และ อ.ฝาง เน้นย้ำการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ถึงแม้ว่าจุดฮอตสปอตจะลดลงแล้ว แต่ให้ทุกอำเภอบูรณาการกำลังทุกภาคส่วน ลงพื้นที่สร้างการรับรู้ความ เข้าใจกับชาวบ้านทุกหมู่บ้าน ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะพื้นที่ผ่อนผันที่ทำกิน หรือพื้นที่ป่าบริเวณใกล้เคียงที่มีการแบ่งเขตความรับผิดชอบในการครอบครองไว้แล้ว หากพบมีการเผาเกิดขึ้นจะถูกเพิกถอนสิทธิ์ทันที และดำเนินคดีทุกจุด หากใครที่เข้าไปทำประโยชน์ในช่วงฤดูฝนนี้ ถือเป็นผู้ต้องสงสัยและจะเป็นผู้ต้องหาในที่สุดวันเดียวกัน กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ ตรวจวัดค่าฝุ่น 24สถานี พบค่าฝุ่นระหว่าง 30-75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) จากค่ามาตรฐานอยู่ที่ 50 มคก./ลบ.ม. พบพื้นที่ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่ส้ม) มี 2 สถานี คือ ต.จองคำ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน 75มคก./ลบ.ม. และ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก 54 มคก./ลบ.ม.เมื่อเวลา 13.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงปัญหาไฟป่าว่า ได้กำชับในที่ประชุม ครม.แล้วให้เร่งจับกุมดำเนินคดีให้ได้ วันนี้เรื่องการลักลอบเผาป่าเรามีความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ มีบาดเจ็บ สูญเสีย เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิด ประเทศไทยจะต้องแก้ไขเรื่องเหล่านี้ให้ได้โดยเร็ว
ญาติเศร้ารับศพ หนุ่มปกาเกอะญอ จิตอาสาออกจากโรงพยาบาล นำกลับไปทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด
ข่าว,ทั่วไทย
ข่าวหน้า1,ลักลอบเผาป่า,ไฟป่าเชียงใหม่,จิตอาสา,ไฟคลอก,เฝ้าระวังไฟป่า,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1821823
สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ จัดประกวดรางวัลข่าวดิจิทัล ขยายเวลาส่งผลงานถึง 31 ส.ค.62
วันนี้ (16 ส.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ โดยการสนับสนุนในการจัดงานและรางวัลหลักจากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่นอีเลฟเว่น ขอเชิญสื่อมวลชนร่วมส่งผลงานข่าวออนไลน์เพื่อชิงรางวัล ข่าวดิจิทัลยอดเยี่ยม ประจำปี 2562 (Digital News Excellence Awards 2019) ปีที่ 5 เพื่อสร้างสรรค์และสนับสนุนการผลิตข่าวดิจิทัลที่มีคุณภาพ บนการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งด้านเทคโนโลยี เนื้อหา รวมถึงรูปแบบการนำเสนอผ่านช่องทางสื่อดิจิทัล โดยในปีนี้ยังได้รับการสนับสนุนรางวัลเสริมจาก สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และบริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัดสำหรับปีนี้ จัดให้มีการประกวดใน 7 ประเภทข่าว ได้แก่ 1. ข่าวหรือสารคดีออนไลน์เชิงข่าวเชิงสืบสวนยอดเยี่ยม (Investigative News & News Feature) 2. ข่าวออนไลน์จากประเด็นในสื่อสังคมออนไลน์ยอดเยี่ยม (News Development from Social Media Agenda) (ที่เป็นการพัฒนาข่าวจากวาระข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์) 3. ข่าวออนไลน์ส่งเสริมสังคมยอดเยี่ยม (Social Development News) (ครอบคลุมข่าวด้านสิ่งแวดล้อม สาธารณสุข สตรี ฯลฯ) 4. ข่าวออนไลน์ที่นำเสนอในรูปแบบคลิปวิดีโอยอดเยี่ยม (Video Clip News) 5. ข่าวออนไลน์ที่นำเสนอในรูปแบบอินโฟกราฟิกยอดเยี่ยม (Infographic News) 6. ข่าวออนไลน์ส่งเสริมวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทยยอดเยี่ยม (Science Technology and Innovation in Thailand News) 7. ภาพข่าวออนไลน์ยอดเยี่ยม (Photojournalist)ทั้งนี้ สื่อมวลชนที่สนใจสามารถส่งผลงานข่าวออนไลน์เพื่อชิงรางวัลได้แล้วตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 ส.ค.2562 โดยขยายระยะเวลาจากเดิมเขตในวันที่ 13 ส.ค.2562 ประกาศผลการตัดสินและมอบรางวัลในวันที่ 30 กันยายน 2562 ห้อง Auditorium ชั้น 16 ตึก CP All Academy ในงานประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ สามารถดาวน์โหลดใบสมัครและรายละเอียดการประกวดได้ที่ และ สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-1700-2601
สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) ขอเชิญสื่อมวลชนร่วมส่งผลงานข่าวออนไลน์ เข้าร่วมประกวด รางวัลข่าวดิจิทัลยอดเยี่ยม ประจำปี 2562 ขยายเวลาส่งผลงานได้ถึงวันที่ 31 ส.ค.2562
สังคม
สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์,ข่าวดิจิทัล
https://news.thaipbs.or.th/content/282971
อเมริกันพันธุ์ลุย CHEVROLET NEW TRAILBLAZER 2017
PPV-SUV รถอเนกประสงค์แบบ 7 ที่นั่งที่ดัดแปลงมาจากรถปิกอัพได้รับความนิยมในประเทศไทยมาช้านานแล้ว ด้วยความสามารถในการลุย ความจุผู้โดยสาร พร้อมไปกับประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ล่าสุด Chevrolet ทำการปรับปรุงหน้าตาของ Trailblazer รถ PPV-SUV ที่มีพื้นฐานมาจากปิกอัพรุ่น Colorado และวางตำแหน่งตัวเองให้อยู่ในระดับเดียวกับ Toyota Fortuner / Ford Everest / Mitsubishi Pajero Sport / Isuzu MU-7 ยานยนต์ PPV-SUV ที่ประกอบในประเทศ และใช้พื้นฐานที่เรียกกันว่ารถกระบะดัดแปลง Chevrolet Trailblazer VGT 4x4 AT LTZ รุ่นท็อปสุดกับหน้าตาท่าทางที่สดใหม่พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบปรับได้ และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบตัวใหม่ขนาด 2.5 ลิตร เป็นเครื่องยนต์ในตระกูลดูราแม็กซ์ 4 สูบ ดีเซลเทอร์โบที่ถูกปรับปรุงใหม่เพื่อสมรรถนะที่ดีขึ้น ประหยัดน้ำมัน ลดมลพิษไอเสียด้วยการใช้ระบบเทอร์โบแปรผัน หรือ VGT (Variable Geometry Turbocharger) กำลัง 180 แรงม้า (132 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบต่อนาที มาตรฐานไอเสีย EURO-4 ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด พร้อมตำแหน่งชิฟต์เกียร์เองหรือ Trip Tronic +/-,รูปลักษณ์ใหม่เริ่มจากด้านหน้า ด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ที่ทำให้ New Trailblazer มีความเป็น SUV แบรนด์อเมริกันที่แข็งแกร่ง กระจังกรอบโครเมี่ยมสีเงินแบบ Dual Port Grille ตราสัญลักษณ์โบว์ไทด์สีทอง สปอยเลอร์หน้าที่ดูดีขึ้นมากและเข้ากับหน้าตาใหม่ ไฟหน้ามีการวางหลอดไฟหรี่กลางวัน LED Daytime Running Lights พร้อมฟังก์ชั่นระบบไฟเปิด-ปิดแบบอัตโนมัติ ไฟตัดหมอกทรงกลมอยู่ในชิ้นงานพลาสติกสีดำ ส่วนด้านข้างยังคงเส้นสายเอาไว้เหมือนเดิม บั้นท้ายเปลี่ยนแปลงน้อยมาก ไฟท้ายหลอด LED ฝาท้ายขนาดใหญ่กับสปอยเลอร์หลังยังเหมือนเดิมทุกอย่าง แร็คหลังคาเปลี่ยนจากสีเงินในรุ่นที่แล้วมาใช้สีดำ ล้ออัลลอยด์ลายใหม่ขอบ 18 นิ้ว ใส่ยางกึ่งเรียบกึ่งลุยของ Bridgestone รุ่น Dueler H/T ขนาด 295/60R18 110T ทั้งสี่ล้อ มิติตัวรถรุ่นใหม่ ความยาว 4,887 มม. กว้าง 1,902 มม. สูง 1,852 มม. (รุ่น LTZ) ระยะโอเวอร์แฮงก์ด้านหน้า 957 มม. ระยะโอเวอร์แฮงก์ด้านหลัง 1,085 มม. ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ 221 มม. ,มุมไต่ 29.1 องศา มุมจาก 25.5 องศา มุมข้าม 22.7 องศา น้ำหนักรถเปล่า 2,142 กก. น้ำหนักบรรทุก 594 กก. ศักยภาพการลากจูง 3,000 กก. สำหรับรถพ่วงที่มีเบรก และ 750 กก. สำหรับรถพ่วงที่ไม่มีเบรก,ห้องโดยสารของ Trailblazer VGT 4x4 AT LTZ มีการปรับปรุงใหม่หมด ภายในห้องโดยสารออกแบบในสไตล์รถเอสยูวีของอเมริกัน ให้ความรู้สึกถึงความแข็งแกร่ง และเต็มไปด้วยพลาสติกที่มีรูปแบบและผิวสัมผัสแตกต่างกัน การคำนึงถึงพื้นที่ของการวางเท้า และพื้นที่เหนือศีรษะเพื่อเน้นความสะดวกสบาย ความกว้างขวาง ความหรูหราประณีต และเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการขับใช้งาน แผงแดชบอร์ดและคอนโซลด้านหน้า ปรับดีไซน์ใหม่ทำจากพลาสติกฉีดขึ้นรูป และใช้วัสดุตกแต่งที่มีผิวสัมผัสนุ่มนวล คอนโซลกลางจัดวางอุปกรณ์ให้ตอบสนองการใช้งานได้ดี หน้าจอทัชสกรีนสีขนาด 8 นิ้ว (ขึ้นอยู่กับรุ่นและราคา) แสดงผลระบบอินโฟเทนเมนต์รุ่นใหม่ล่าสุด,ผู้โดยสารที่นั่งแถวที่สองและแถวที่สาม มีทัศนวิสัยมุมมองรอบตัวที่กว้างไกลจากความโปร่งโล่งของการออกแบบภายใน เบาะที่นั่งที่จัดวางแบบโรงภาพยนตร์ (theatre-style) ช่องปรับอากาศใช้การควบคุมแบบแยกส่วน รวมถึงช่องปรับอากาศของผู้โดยสารเบาะแถวที่สาม เบาะที่ดีไซน์ให้สามารถพับได้อย่างหลากหลายรูปแบบ โดยพับเบาะทั้งสามแถวให้แบนราบเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระให้มีความกว้างขวางมากขึ้น เทคโนโลยีการเชื่อมต่อมีความสำคัญสำหรับผู้ขับขี่ในยุคปัจจุบัน Trailblazer VGT 4x4 AT LTZรองรับการเชื่อมต่อแอปเปิลคาร์เพลย์ ทำให้ลูกค้าสามารถแสดงผลหน้าจอสมาร์ทโฟนขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีน ฟังก์ชั่นสิริ อายส์ฟรี และซอฟต์แวร์สั่งงานด้วยเสียง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถสั่งงานด้วยเสียงโดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย สำหรับช่องแอร์ของผู้โดยสารตอนหลังมีการออกแบบให้อยู่บนเพดาน,ระยะทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-เกาะช้างยาวเกือบๆ 700 กิโลเมตร เหมาะสมกันดีกับการขับทดสอบ Chevrolet Trailblazer VGT 4x4 AT LTZ รถ PPV-SUV ขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นสูงสุดราคา 1,479,000 บาท โครงสร้างแบบ chassis on frame หรือรถกระบะดัดแปลง ส่งผลให้เจ้า Trailblazer ตัวใหม่มีสไตล์การขับที่คล้ายคลึงกับ Colarado สัดส่วนของความสูง 1,852 มม. มีระยะความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 221 มม. ทำให้คุณสามารถมองเห็นได้ไกลมากยิ่งขึ้น รูปแบบแนวรถตรวจการออฟโรดกับเบาะคนขับปรับไฟฟ้า ให้ความรู้สึกแปลกๆ หลังจากควบแต่ซีดานก็มาถึงการนั่งขับรถเอสยูวีบนทางยาวๆ ที่มีสภาพการจราจรแบบผสมในเมือง ความใหญ่โตเทอะทะแนวเอสยูวีถูกแก้ลำด้วยพวงมาลัยไฟฟ้าแบบใหม่ ที่ปรับน้ำหนักในย่านความเร็วต่ำให้มีสัมผัสเบาสบายมือขึ้นมาอีกนิด การเคลื่อนตัวไปตามสายธารจราจรตั้งแต่ออกจากโรงแรมโนโวเทลในสนามบินสุวรรณภูมิบน Chevrolet Trailblazer ที่วางเครื่องยนต์ดีเซลตัวใหม่ขนาด 2.5 ลิตร ไม่ต้องใช้คันเร่งกันลึกนัก แค่แตะเบาๆ ที่คันเร่ง แรงบิดจากเครื่องยนต์ที่มาในรอบต่ำแค่ 1,350-2,000 รอบต่อนาที ฉุดลากน้ำหนัก 2 ตันกว่าๆ ให้ไหลไปได้เรื่อยๆ น้ำหนักตัวค่อนข้างไปทางหนัก ทำให้ Chevrolet Trailblazer รุ่นท็อปสุดวิ่งทางตรงได้อย่างมั่นคง ไฮเวย์แบบมอเตอร์เวย์จากบางนาไปชลบุรีมีการจำกัดความเร็วให้วิ่งไม่เกิน 110-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงเหมาะสำหรับการขับแบบเรื่อยๆ ไม่ต้องใช้ความเร็วสูงมากจนเกินไปซึ่งผิดกฎหมาย และอาจโดนถ่ายรูปออกใบสั่งตามไปเก็บเงินค่าการทำผิดกฎจราจรกันถึงที่บ้านเลยทีเดียว,เครื่องดีเซลดูราแม็กซ์ รหัส XLDE25 LP2 เป็นเครื่องยนต์แบบคอมมอนเรล อัดอากาศด้วยเทอร์โบแปรผัน จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดยิงตรงคอมมอนเรลไดเร็กอินเจ็กชั่น ระบบอัดอากาศติดตั้งอินเตอร์คูลเลอร์เพื่อลดอุณหภูมิของไอดีก่อประจุเข้าไปในห้องเผาไหม้ เครื่องยนต์บล็อก 4 สูบแถวเรียง วางตามยาวขับเคลื่อน 4 ล้อ เพลาลูกเบี้ยวคู่เหนือฝาสูบหรือ DIHC 4 วาว์ลต่อ 1 กระบอกสูบ = 16 วาล์ว ใช้การระบายความร้อนด้วยน้ำในหม้อน้ำพร้อมพัดลมไฟฟ้า เครื่องดีเซลดูราแม็กซ์ที่วางใน Trailblazer VGT 4x4 AT LTZ มีปริมาตรความจุ 2,499 ซีซี กระบอกสูบxช่วงชัก 92.0 มม x 94.0 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 16.5:1 ทำมาตรฐานมลพิษไอเสีย EURO-4 ดูจะสกปรกไปนิดในขณะที่เครื่องดีเซลยุคใหม่มีค่าการปล่อย Co2 ไปถึง EURO-6 กันแล้ว กำลัง 180 แรงม้า หรือ 132 กิโลวัตต์ ที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสไตล์เครื่องดีเซลสมัยใหม่ที่ 440 นิวตันเมตร หรือ 45 กก.-ม. ที่ 1,350-2,000 รอบต่อนาที มากเกินพอสำหรับการใช้งานบนถนนในประเทศไทย โดยเฉพาะแรงฉุดลากในรอบต่ำที่ทำให้ขับง่าย และสนุกมากยิ่งขึ้น,ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมฟังก์ชั่นแมนนวล +/- สำหรับการชิฟต์เกียร์ด้วยตัวเอง ทำงานได้อย่างลื่นไหลแต่ต้องลากรอบกันพอสมควร เมื่อต้องการจะเร่งความเร็วเพื่อแซง เกียร์ออโตขับ 4 ล้อของ Chevrolet มีชุด transfer case ต่อพ่วงกับเฟืองเพื่อส่งถ่ายแรงบิดไปยังล้อคู่หน้า โหมดการขับเคลื่อนมีให้เลือก 3 แบบ คือโหมดปกติ ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลัง โหมดขับเคลื่อนทุกล้อที่ย่านความเร็วสูง หรือ 4Hi รวมถึงโหมดที่ใช้ขับลุยทางวิบากที่เต็มไปด้วยหล่มโคลนเลนในโหมด 4 Low ในสภาพการณ์ปกติและมีผิวถนนที่แห้ง การขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลังจะช่วยทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงมากที่สุด ส่วนการขับเคลื่อนด้วยล้อทั้งสี่เมื่อต้องวิ่งฝ่าสายฝนที่โปรยปรายลงมาในแถบจังหวัดระยอง การทดกำลังไปยังล้อทั้งสี่ มีส่วนช่วยทำให้เกิดความเสถียรมากยิ่งขึ้น แม้จะกินเชื้อเพลิงอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร แถมยังสามารถควบคุมทิศทางได้อย่างมั่นใจ ส่วนยางติดรถยี่ห้อ Bridgestone รุ่น Dueler H/T นั้น เป็นยางยอดฮิตติดชาร์ตของรถออฟโรด ขนาด 295/60R18 110T ทั้งสี่ล้อ คือมาตรฐานที่กลายเป็นยางติดรถมาให้ตั้งแต่ออกจากโรงงาน ยางกึ่งเรียบกึ่งลุยใช้งานได้ดีบนถนนที่อยู่ในสภาวะปกติ แต่เมื่อใดก็ตามที่ฝนเริ่มเทลงมา สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องลดความเร็ว และทิ้งระยะห่างจากรถคันข้างหน้าให้มากกว่าเดิม มวลน้ำหนัก 2,142 กก. ทำให้ระยะเบรกเพิ่มขึ้นในขณะที่ขับฝ่าสายฝน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องระลึกเอาไว้ว่ามันเป็นรถใหญ่ตัวหนักที่ต้องการระยะเบรกมากกว่าเดิม เมื่อผิวถนนไม่อยู่ในสภาพปกติ,วิศวกรของ Chevrolet แจ้งมาว่า Trailblazer รุ่นปรับโฉมครั้งใหญ่คันนี้มีการปรับแก้วัสดุป้องกันเสียงจากภายนอก พอมาลองขับแบบจริงๆ จังๆ เพื่อจับความรู้สึกด้านการซับเสียง ปรากฏว่าทำออกมาได้ดีกว่าเดิมเล็กน้อย ไม่ได้เงียบเป็นเป่าสากเหมือนรถอเนกประสงค์ราคาหลายล้าน มาตรฐานของงานประกอบตัวถังในประเทศไทยทำออกมาได้ดีเยี่ยม รอยต่อของตัวถังพวกตะเข็บและแนวร่องของประตู-ฝากระโปรง-ฝาท้าย ซุ้มล้อกับงานภายใน แสดงออกถึงความใส่ใจในสายการผลิต กระจกประตูฝั่งคนขับ และผู้โดยสารตอนหน้าที่ลดระดับลงมาเล็กน้อย สำหรับการช่วยผ่อนแรงปิดประตูดูคล้ายกับรถหรูราคาแพง โรงงานของ Chevrolet ที่ จ.ระยอง ประกอบและส่งออกรถ Chevrolet ไปยังตลาดโลก โดยเฉพาะรถปิกอัพนั้น ได้รับความนิยมในประเทศเพื่อนบ้านมาช้านานแล้ว แม้ห้องโดยสารจะไม่ได้เงียบเท่าที่ควรแต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่รับได้ หากจะทำให้เงียบมากกว่านี้คงจะต้องลงมือลงแรงปรับเปลี่ยนวัสดุ และการรีบิวต์ตัวถังใหม่หมด ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของตัวรถสูงเกินไปอีก,อาการโคลงตัวเป็นเรื่องปกติของ PPV-SUV ที่ได้พื้นฐานมาจากรถปิกอัพ ตัวถังแบบ chassis on frame ของ Trailblazer นั้น ด้อยกว่าตัวถังแบบโมโนค็อก ซึ่งวิศวกรของ Chevrolet ดูดีถึงข้อด้อยดังกล่าวจึงพยายามปรับปรุงช่วงล่างของรถรุ่นนี้ให้มีความหนึบแน่นที่เหมาะสมกับการขับใช้งาน ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกสองชั้น พร้อมคอยล์สปริงและโช็กอัพแก๊ส ส่วนด้านหลังเป็นแบบ 5 ลิงก์ พร้อมคอยล์สปริงและโช็กอัพแก๊ส สร้างความมั่นใจบนทางเปียกลื่นได้ดีเมื่อจับคู่กับยาง Dueler H/T สัดส่วนของความสูงที่มากกว่ารถเก๋งเป็นเท่าตัว ทำให้ต้องระวังลดความเร็วลงมาเมื่อพบกับโค้งมุมแคบ หากคุณใช้ความเร็วที่เหมาะสมเข้าโค้ง เจ้า PPV-SUV คันนี้ก็จะไม่ทำให้รู้สึกผิดหวัง พวงมาลัยสื่อสารกับคนขับได้ในระดับที่น่าพอใจ แต่มีเพื่อนๆ สื่อมวลชนบางท่านให้ความเห็นว่ามันยังคงมีน้ำหนักมากไปนิดในย่านความเร็วต่ำ พวงมาลัยไฟฟ้าเข้ามาแทนที่พวงมาลัยแบบเพาเวอร์สายพาน ช่วยทำให้อัตราสิ้นเปลืองดีขึ้นอีก 5% ส่วนตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองใน Trailblazer VGT 4x4 AT LTZ รุ่นสูงสุด ขับแบบเรื่อยๆ ที่ย่านความเร็วเดินทางอยู่ที่ 22 กิโลเมตรต่อลิตร และเพิ่มขึ้นเป็น 17.8 กิโลเมตรต่อลิตร เมื่อใช้ความเร็วต่อเนื่อง,เส้นทางที่คดเคี้ยว แคบและลาดชันแบบสองเลน สวนกันบนเกาะช้างบางช่วงบางตอนเป็นการขับขึ้นเนินชัน ซึ่งใช้ทดสอบสมรรถนะ และประสิทธิภาพด้านแรงบิดของเครื่องยนต์ แรงบิด 440 นิวตันเมตร (325 ฟุตปอนด์) ที่รอบต่ำเพียง 2,000 รอบต่อนาที ช่วยขับเคลื่อนรถเอสยูวีรุ่นนี้ให้สามารถปีนป่ายเนินลาดชันได้อย่างไม่ยากเย็นเท่าใดนัก ห้องโดยสารหลังจากผ่านระยะทาง 345 กิโลเมตร ยังให้ความสบายตัวในการขับขี่ เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ รหัส XLDE25 LP2 ควบคุมการทำงานโดยกล่องควบคุมเครื่องยนต์ (ECU) ที่พัฒนาโดยจีเอ็มเพื่อปรุงแต่งประสิทธิภาพที่ดีของการขับขี่ โดยมีฟังก์ชั่นควบคุมที่เป็นสิทธิบัตรของจีเอ็มมากกว่า 150 ฟังก์ชั่น ซึ่งช่วยประสานการทำงานระหว่างซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด,ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด กับเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ 2.5 ลิตร มีการติดตั้งวัสดุดูดซับเสียงรบกวนบริเวณหัวฉีด เพื่อให้ทำงานได้เงียบขึ้น Trailblazer รุ่นใหม่ ยังมาพร้อมยางรองตัวถัง และยางรองแท่นเครื่องยนต์แบบใหม่ ซึ่งช่วยลดแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ ทำให้มีระดับเสียงและแรงสั่นสะเทือนภายในห้องโดยสารลดลง โดยจากการทดสอบของทีมวิศวกร แสดงให้เห็นว่าห้องโดยสารเงียบลง 2-4 เดซิเบล ตลอดเส้นทางการทดสอบเจ้า Trailblazer ถ่ายทอดสมรรถนะของการควบคุมที่ดี และให้ความสะดวกสบายด้วยระบบบังคับเลี้ยวแบบใหม่ซึ่งเป็นพวงมาลัยไฟฟ้า อัตราทดน้ำหนักที่แปรผันไปตามความเร็ว ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการบังคับพวงมาลัยสำหรับการขับขี่ในเมืองรวมไปถึงการจอด ระบบบังคับเลี้ยวจะเพิ่มน้ำหนักขึ้นตามความเร็วในการขับขี่ ดังนั้นจึงมีน้ำหนักพวงมาลัยที่เหมาะสมเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงขึ้น ทำงานเป็นเอกเทศมากกว่าพวงมาลัยแบบเพาเวอร์สายพานของรุ่นเก่าที่ให้น้ำหนักคงที่ตลอดการขับใช้งาน,ทีมวิศวกรรมจีเอ็มได้ทำการปรับปรุงโครงสร้าง และวัสดุตัวถังของ Trailblazer รุ่นใหม่ให้มีความแข็งแรงมากพอ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ระบบความปลอดภัยจัดเต็มสูบ เช่น ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา ระบบแจ้งเตือนการจราจรและสิ่งกีดขวางด้านหลัง นอกจากนี้ ยังมีระบบความปลอดภัยทั้งแบบแอกทีฟและแพสซีฟ รุ่นแพงสุด Trailblazer VGT 4x4 AT LTZ ประดังระบบความปลอดภัยมาให้เพียบ เช่น ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีทั้งขณะออกตัวและในโค้ง Traction Control System (TCS), ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน PanicBrake Assist (PBA), ระบบกระจายแรงเบรก Electronic Brake ForceDistribution (EBD), ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ElectronicStability Control (ESC), ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน HillDescent Control (HDC) ระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน HillStart Assist (HSA) ระบบรักษาเสถียรภาพขณะลากจูง (TrailerSway Control) ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (Anti-RollingProtection) พร้อมกับถุงลมนิรภัยคู่หน้าสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตลอดจนถุงลมนิรภัยป้องกันหัวเข่าสำหรับผู้ขับขี่เทคโนโลยีอื่นๆ เช่น ระบบแจ้งเตือนเมื่อออกจากช่องจราจร (Lane DepartureWarning) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (ForwardCollision Alert) ระบบช่วยเหลือการจอดด้านหน้าและหลัง (Front and Rear Parking Assist) ระบบแจ้งเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้โดยสารแถวสอง (Second Row Seat Belt Reminder) และระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire PressureMonitoring System) นอกจากนี้ ยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับปริมาณน้ำฝนไฟหน้าเปิด/ปิดอัตโนมัติ กระจกหน้าต่างคู่หน้าเลื่อนลงเล็กน้อยเพื่อช่วยในการปิดประตูให้ง่ายยิ่งขึ้น Trailblazer VGT 4x4 AT LTZ ยังมีฟังก์ชั่นรีโมตสตาร์ต ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในสภาพอากาศร้อนอบอ้าวอย่างเมืองไทยผู้ขับขี่สามารถสตาร์ตเครื่องยนต์ได้จากกุญแจ เพื่อให้ห้องโดยสารมีอุณหภูมิที่เย็นสบายก่อนเข้าไปนั่ง,โดยภาพรวมหลังจากควบกันยาวๆ ไปและกลับจาก จ.ตราด เจ้า Chevrolet Trailblazer รุ่นท็อป VGT 4x4 AT LTZ ราคา 1,479,000 บาท เป็นรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่มีความน่าใช้งานพอสมควร หากคุณต้องขับรถบนเส้นทางแบบผสม มีทั้งทางเรียบและทางแบบลุย รถรุ่นนี้ดูจะเข้ากันได้ดีกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เป็นรถครอบครัวที่มีประสิทธิภาพพอตัว ให้ความสะดวกสบายอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน หากจะวัดกันจริงๆ จังๆ ก็ต้องขอบอกว่ามันขับได้ด้อยกว่า Ford Everest 2.2 Titanium Plus นิดหน่อยจากการวางระบบรองรับ และชุดบังคับเลี้ยวของ Ford ส่วนด้านอื่นๆ นั้น ย่านของกำลังใน Trailblazer 2.5L VGT 4X4 AT LTZ เหนือกว่านิดเดียว ทำให้เกิดความคล่องตัวมากกว่าเมื่อขับในเมือง รูปลักษณ์ที่สดใหม่ (แต่ไม่ยอมเปลี่ยนบั้นท้าย) สไตล์อเมริกันน่าจะโดนใจลูกค้าต่างจังหวัดที่ชอบรถแนวลุยได้ไม่น้อย ราคา 1,479,000 บาท นั้นอาจดูแพงแต่ก็มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้มากเกินพอต่อความต้องการ ทั้งเนวิเกเตอร์ที่ค่อนข้างละเอียด กับระบบต่อเชื่อมอินเทอร์เน็ตกับโลกภายนอกที่มีความทันสมัย งานตกแต่งภายในที่แสดงออกถึงความแข็งแกร่ง ลองไปหาขับเปรียบเทียบจับความรู้สึกกับรถ PPV-SUV รุ่นอื่นๆ ที่มีราคาใกล้เคียงกัน คุณจะพบคำตอบที่ว่าความชอบส่วนตัวนั้นทำให้ห้ามใจได้ยากจริงๆ ครับ.,Chevrolet Trailblazer รุ่นและราคา,TheAll-New Trailblazer 2.5L VGT 4X2 AT LT 1,244,000 บาท,TheAll-New Trailblazer 2.5L VGT 4X2 AT LTZ 1,379,000 บาท,The All-New Trailblazer 2.5L VGT 4X4 AT LTZ 1,479,000 บาท,ข้อมูลรายละเอียดจาก Chevrolet Thaialnd,Chevrolet Trailblazer VGT 4x4 AT LTZ,ภายนอก,กระจังหน้าใหม่-ไฟหน้าใหม่พร้อมไฟส่องสว่างขณะขับขี่เวลากลางวันแบบแอลอีดี-แผงกันชนหน้าใหม่-ฝากระโปรงใหม่-ล้ออัลลอยด์ใหม่ขนาด 18 นิ้ว-สีตัวถังใหม่ (สีขาว Abalone, สีแดง Pull Me OverRed, สีดำ Black Meet Kettle) การออกแบบ,ภายใน,คอนโซลกลางและแผงคอนโซลหน้าใหม่-มาตรวัดสำหรับผู้ขับขี่พร้อมภาษาไทย-ปรับตำแหน่งของสวิตช์เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น และถูกต้องเหมาะสมกับการใช้งาน-ออกแบบและจัดวางห้องโดยสารใหม่ให้เหมาะกับการใช้งานมากยิ่งขึ้น-ตกแต่งแผงข้างประตูใหม่-ลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร-ภายในห้องโดยสารมีความประณีตหรูหรามากขึ้น,สมรรถนะ-เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซล 4 สูบ 2.5 ลิตร พร้อมเทอร์โบแปรผันเพื่อพละกำลัง แรงบิด และความประหยัดน้ำมันที่ดียิ่งขึ้น-ติดตั้งวัสดุดูดซับเสียงเพื่อลดเสียงรบกวน และแรงสั่นสะเทือน,แชสซีส์และการควบคุม,ติดตั้งยางรองแท่นเครื่องยนต์แท่นเกียร์ และยางรองตัวถังใหม่เพื่อลดเสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือน ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และระบบป้องกันการลื่นไถล เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดให้มากขึ้นกว่าเดิม ยกระดับความสะดวกสบาย ความประณีตหรูหรา และความปลอดภัย เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ และการยึดเกาะถนน เปลี่ยนระบบบังคับเลี้ยวจากเพาเวอร์สายพานเป็นแบบแคแอนพีเนียนควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า พวงมาลัยไฟฟ้าแบบใหม่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการขับขี่ในเมือ งและขณะจอดรถพร้อมยกระดับความประหยัดน้ำมัน ระบบไฟฟ้าของพวงมาลัยแปรผันตามความเร็วของตัวรถ พวงมาลัยจะมีน้ำหนักเบาที่ความเร็วต่ำ และมีน้ำหนักมากขึ้นที่ความเร็วสูง,คุณสมบัติพิเศษความปลอดภัย และความสะดวกสบาย,รถเอสยูวีรุ่นแรกในตลาดที่มีฟังก์ชั่นรีโมต สตาร์ต ผู้ขับขี่สามารถสตาร์ตเครื่องยนต์ได้จากกุญแจ เพื่อให้ห้องโดยสารมีอุณหภูมิที่เย็นสบายก่อนขึ้นรถ กระจกหน้าต่างคู่หน้าจะเลื่อนลงเล็กน้อยเพื่อช่วยในการปิดประตูให้ง่ายยิ่งขึ้น ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา (Side BlindZone Alert) ระบบแจ้งเตือนการจราจรขณะถอยหลัง (Rear CrossTraffic Alert) เซ็นเซอร์ตรวจจับปริมาณน้ำฝน ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ เซนเซอร์ตรวจจับวัตถุขณะจอดรถด้านหน้าและด้านหลัง กล้องมองหลัง ระบบแจ้งเตือนเมื่อออกจากช่องจราจร (Lane Departure Warning) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Alert) ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง ถุงลมนิรภัยป้องกันหัวเข่า(สำหรับผู้ขับขี่) ระบบแจ้งเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้โดยสารแถวสอง,เครื่องยนต์,ดูราแม็กซ์ รหัส XLDE25 LP2 คอมมอนเรลเทอร์โบไดเร็กอินเจ็กชั่น พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน และอินเตอร์คูลเลอร์ เครื่องยนต์บล็อก 4 สูบแถวเรียง เพลาลูกเบี้ยวคู่เหนือฝาสูบ 16 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ปริมาตรความจุ 2,499 ซีซี กระบอกสูบxช่วงชัก 92:94 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 16.5:1 มาตรฐานมลพิษไอเสีย EURO-4 กำลัง 180 แรงม้า (132 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบต่อนาที-แรงบิด 440 นิวตันเมตร (45 กก.-ม.) ที่ 2,000 รอบต่อนาที,ระบบส่งกำลัง,อัตราทดเกียร์ (สำหรับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด),1 -4.06,2 -2.37,3 -1.55,4 -1.16,5 -0.85 ,6 -0.67,เกียร์ถอยหลัง 3.20,อัตราทดเฟืองท้าย : 3.42,อัตราทดเกียร์ถอยหลัง : 3.20,อัตราทดเกียร์ส่งกำลัง 4WD High/Low : 2.62/1,ระบบกันสะเทือน,ด้านหน้า: อิสระ ปีกนกสองชั้น พร้อมคอยล์สปริงและโช็กอัพแก๊ส,ด้านหลัง: 5 ลิงก์พร้อมคอยล์สปริงและโช็กอัพแก๊ส,พวงมาลัย-แร็กแอนด์พีเนียน ผ่อนแรงด้วยระบบไฟฟ้า (Electric Power Steering),เบรก,ด้านหน้า: จานดิสก์เบรก ขนาด 300 มม. พร้อมครีบระบายความร้อน,ด้านหลัง: จานดิสก์เบรก ขนาด 318 มม. พร้อมครีบระบายความร้อน,ขนาดหม้อลมเบรก 10.5 นิ้ว,มิติตัวถังภายนอก,ความยาว 4,887 มม.,ความกว้าง 1,902 มม.,ความสูง 1,852 มม. (รุ่น LTZ),ระยะโอเวอร์แฮงก์ด้านหน้า 957 มม.,ระยะโอเวอร์แฮงก์ด้านหลัง 1,085 มม.,ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ 221 มม.,มุมไต่ 29.1 องศา,มุมจาก 25.5 องศา,มุมข้าม 22.7 องศา,ล้อและยาง 265/60 R 18 (รุ่น LTZ),น้ำหนักรถเปล่า 2,142 กก.,น้ำหนักบรรทุก 594 กก.,ศักยภาพการลากจูง 3,000 กก. สำหรับรถพ่วงที่มีเบรก ,และ 750 กก. สำหรับรถพ่วงที่ไม่มีเบรก,มิติภายในห้องโดยสาร,ความยาว พื้นที่ช่วงขาด้านหน้า 1,045 มม.,ความยาว พื้นที่ช่วงขาด้านหลัง 879 มม.,ความสูง พื้นที่ศีรษะด้านหน้า 1,009 มม.,ความกว้าง พื้นที่ช่วงไหล่ 1,488 มม.,ความกว้าง พื้นที่สะโพก 1,424 มม.,รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง,ความจุถังน้ำมัน 76 ลิตร,ระบบความปลอดภัย,คานกันกระแทกด้านข้าง,ถุงลมนิรภัยคู่หน้าพร้อมถุงลมนิรภัยป้องกันหัวเข่าสำหรับผู้ขับขี่,ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS),ระบบกระจายแรงเบรก (EBD),ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน (PBA),ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC),ระบบป้องกันการลื่นไถลทั้งขณะออกตัวและในโค้ง (TCS),ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC),ระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางลาดชัน (HSA),ระบบรักษาเสถียรภาพขณะลากจูง (Trailer Sway Control),ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ(Anti-Rolling Protection),อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,[email protected],Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
รีวิวสัมผัสแรก กรุงเทพฯ-เกาะช้าง ใน Chevrolet Trailblazer VGT 4x4 AT LTZ รุ่นปรับโฉม Big Minor Change ราคา 1,479,000 บาท
null
Chevrolet Trailblazer VGT 4x4 AT LTZ,Chevrolet new Trailblazer VGT 4x4 AT LTZ,VGT 4x4 AT LTZ,PPV,SUV,รถยนต์,รถอเนกประสงค์,อาคม รวมสุวรรณ
https://www.thairath.co.th/content/728519
ศรีวราห์ ฟ้อง 29 บริษัทเอี่ยวทัวร์ศูนย์เหรียญ มั่นใจพยานหลักฐานมัด
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 4 ต.ต.60 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี รรท.ผบช.ทท. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รรท.รอง ผบช.ส.มอบหมายให้ พ.ต.อ.เกื้อกมล ดวงประทีป รรท.ผกก.1 บก.ทท.1 บช.ทท.เข้าร้องทุกข์ พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป.เพื่อร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกลุ่มบริษัทและห้างร้านที่มีพฤติการณ์เกี่ยวพันกับคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ 29 แห่ง ในความผิดตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 และ พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542,พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้เร่งรัดดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำความผิด มีพฤติการณ์เป็นทัวร์ศูนย์เหรียญ กระทบต่อนักท่องเที่ยว ระบบเศรษฐกิจ และความมั่นคง โดยพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาไปแล้ว ต่อมาศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้องคดี อย่างไรก็ดี ขณะนี้ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายละเอียดต่างๆ ในสำนวนคดีเพิ่มเติม จึงมีการพิจารณาเข้าร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีบริษัทห้างร้านที่ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติมดังกล่าว,ผู้สื่อข่าวถามถึงพฤติการณ์ของบริษัทห้างร้านที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีครั้งนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า สำหรับพฤติการณ์รายละเอียดต่างๆ อยู่ในสำนวนคดี ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่มีการพิจารณาตามพยานเอกสารเดิม แต่เป็นประเด็นใหม่คนละส่วนกับที่ศาลพิพากษายกฟ้อง ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้แจงในรายละเอียดเนื่องจากกระทบกับหลายฝ่าย แต่ตนยังมีความมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ว่าจะสามารถเอาผิดกับบริษัทห้างร้านทั้งหมดได้ เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาที่เหลือซึ่งยังไม่ถูกดำเนินคดี อย่างไรก็ตามผู้ประกอบกิจการทั้ง 29 บริษัท มีการกระทำความผิดหลีกเลี่ยงภาษีตามประมวลรัษฎากรหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจกองปราบปรามในการดำเนินการ หากพบว่ามีความผิดใดก็จะต้องดำเนินคดี,รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า พนักงานสอบสวนพิจารณาจากคำสั่งของอัยการที่ให้สอบสวนเพิ่มเติม เราจึงพิจารณาว่ายังมีส่วนใดที่ยังไม่ครบถ้วนจึงดำเนินการ ก่อนรายงานต่อ ผบ.ตร.เห็นชอบให้เข้าร้องทุกข์ดำเนินคดี ส่วนจะเข้าข่ายความผิดอื่นใดอีกหรือไม่ พนักงานสอบสวน บก.ป.จะรับไปพิจารณา อย่างไรก็ดี ขณะนี้ไม่ได้พิจารณาดำเนินคดีในข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร และความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ส่วนกรณีที่ บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคณะทำงานในคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ นั้น เป็นสิทธิที่สามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนกฎหมายซึ่งเป็นระบบกล่าวหา,มีรายงานว่า หลังจากที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.มอบหมายสั่งการให้พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.เข้ามาตรวจสอบสำนวนคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ หลังศาลชั้นต้นได้ยกฟ้องไปแล้ว โดยนำสำนวนเดิมผนวกกับคำพิพากษาจากศาลชั้นต้นมาวิเคราะห์และตรวจสอบพบว่า ในคำพิพากษายกฟ้องศาลได้ระบุว่ากลุ่มพนักงานสอบสวนที่ทำคดีนี้ ยังไม่เคยเดินทางไปตรวจสอบร้านค้าและกิจการของจำเลย ดังนั้นคณะทำงานจึงได้ตรวจสอบในเนื้อหาจนได้มีการการดำเนินคดีกับกลุ่มบริษัททั้ง 29 บริษัท ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ปรากฏในสำนวนคดีทัวร์ศูนย์เหรียญที่ยังไม่ได้ดำเนินการ ส่วนจะมีการตรวจค้นบริษัทต่างๆ เพิ่มเติมหรือไม่นั้น ต้องมาตรวจสอบในสำนวนดูก่อนว่าส่วนไหนที่ต้องตรวจค้นเพิ่มเติมให้ครบถ้วนด้วย,สำหรับบริษัทที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. กลุ่มบริษัทที่เช่ารถทัวร์จากบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ได้แก่ บริษัท หลงเสียง เอ็กซ์เพลส จำกัด, บริษัท ไท่ ชาง หลง ทราเวล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เหลียน ไท่ ทราเวล กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ยู.วี.แทรเวล แอนด์ เทรดดิ้ง จำกัด,2. กลุ่มบริษัทในเครือข่ายของบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ได้แก่ บริษัท อาร์ จี ทรานสปอร์ต จำกัด, บริษัท รอยัล ดราก้อน ทรานสปอร์ต จำกัด, บริษัท ออลสตาร์ ทรานสปอร์ต จำกัด, บริษัท รอยัล พารากอน ทรานสปอร์ต จำกัด และ บริษัท เอเชียวิชั่น ทราเวล จำกัด,3. กลุ่มร้านค้าในเครือของบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ได้แก่ ร้านเวิลด์ เจมส์ พัทยา, ร้านผ้าไหม พัทยา, ร้านรังนก พัทยา, ร้านพระเครื่องที่วัดหนองเกตุน้อย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล สวนประเพณีไทย,4. กลุ่มบริษัทนำเที่ยวที่เช่ารถทัวร์จากบริษัท สยามเจมส์ จำกัด ได้แก่ บริษัท ฟู่คัง ทราเวล แอนด์ ทัวร์ จำกัด , บริษัท คันต้า กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ซันตาโรซ่า ทราเวล 2000 จำกัด และบริษัท ไทยซิงหย่าโจว ทัวร์ (ประเทศไทย) จำกัด,5. กลุ่มบริษัทรถทัวร์ในเครือข่ายของบริษัท สยามเจมส์ จำกัด ได้แก่ บริษัท เฟิสท์ ทรานสปอร์ต จำกัด, บริษัท เอส.ซี.สมชัยบริการ จำกัด และบริษัท โกลเด้นไทยแทรเวล จำกัด และ 6. กลุ่มร้านค้าในเครือของบริษัท สยามเจมส์ จำกัด ได้แก่ บริษัท เอส.จี.เซ็นเตอร์ จำกัด, บริษัท พี.เอส.สยามการ์เด้นท์ จำกัด, บริษัท พี.พี.ทาวน์ จำกัด, บริษัท พี.พี.สยามรีเทล จำกัด, บริษัท เรสท์ แอท 88 จำกัด, บริษัท พี.พี.สยามลาเท็กซ์ จำกัด, บริษัท สยามปาร์ค เร็คครีเอชั่น จำกัด และ บริษัท สยามเจมส์ จำกัด
รอง ผบ.ตร.แจ้งกองปราบดำเนินคดีกับกลุ่มบริษัทและห้างร้านที่มีพฤติการณ์เกี่ยวพันกับคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ 29 แห่ง มั่นใจในพยานหลักฐานมัดแน่น
ข่าว,อาชญากรรม
คดีทัวร์ศูนย์เหรียญ,ทัวร์ศูนย์เหรียญ,ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล,โอเอ ทรานสปอร์ต,กองปราบ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1089837
ฝ่าฝืนนำนกอินทรี มาถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต
ภาพที่มีผู้นำสัตว์ป่าคุ้มครองอย่างนกอินทรี มาให้นักท่องเที่ยวถ่ายโดยคิดราคาภาพละ 100 บาท ซึ่งทีมข่าวไทยพีบีเอสบันทึกไว้ได้ ยังคงมีให้เห็นเป็นประจำบริเวณจุดชมวิวสามหาด ต.กระรน อ.เมืองภูเก็ตส่วนบริเวณชายหาดอ่าวต้นไทร บนเกาะพีพี เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ออกตรวจตราผู้กระทำผิดกฎหมาย แต่ไม่พบแต่อย่างใด หลังจากก่อนหน้ามีกลุ่มบุคคลนำชะนี 3 ตัวมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินำคลิปวีดีโอมามอบให้เจ้าหน้าที่เพื่อติดตามหาผู้กระทำผิด กรณีนำสัตว์ป่าคุ้มครองมาหาประโยชน์ข้อมูลเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี เปิดเผยว่า ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวได้จับกุมผู้นำสัตว์ป่าคุ้มครอบมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพตามแหล่งท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีผู้ฝ่าฝืน เพราะบทลงโทษเพียงถูกปรับครั้งละ 1500-2000 บาท เทียบกับรายได้ที่สูง โดยเฉพาะฤดูกาลท่องเที่ยวที่เฉลี่ยเดือนละนับแสนบาท
ยังมีผู้ฝ่าฝืนนำสัตว์ป่าคุ้มครอง ออกมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพตามแหล่งท่องเที่ยว ล่าสุดบริเวณจุดชมวิวที่ จ.ภูเก็ต นำนกอินทรี มาถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยว โดยคิดราคาภาพละ 100 บาท
สิ่งแวดล้อม
ภูเก็ต,นกอินทรีย์,สัตว์ป่าคุ้มครอง,จุดชมวิวสามหาด,ชายหาดอ่าวต้นไทร,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/258921
เยเมนเศร้า
เยเมนมีทำเลอยู่ในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ เป็นส่วนหนึ่งของตะวันออกกลาง ติดทั้งทะเลอาหรับ อ่าวเอเดน ทะเลแดง โอมานและซาอุดีอาระเบีย มีเนื้อที่เท่ากับไทย แต่ประชากรน้อยกว่าเรา 3 เท่า ผู้คนนับถือศาสนาอิสลาม ใช้ภาษาอารบิก เมืองหลวงคือกรุงซานา เป็นชาติยากจนมาก จีดีพีต่อหัวเพียง 856 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อคน,ผู้ใหญ่ของผมไปเยือนกรุงซานาแล้วก็กลับมาเล่าว่า ซานาแม้เป็นเมืองหลวง ทว่าล้าหลังอย่างนึกไม่ถึง มีตึกรามบ้านช่องขนาดเล็กตั้งอยู่บนเนินเขาที่สลับซับซ้อน ยานพาหนะที่วิ่งขวักไขว่ไปมาก็อยู่ในสภาพเก่าตกรุ่น ส่วนหนึ่งของถนนหนทางยังเป็นลูกรังเป็นหลุมเป็นบ่อ โครงสร้างพื้นฐานและการสาธารณูปโภคของเยเมนไม่ดี น้ำดื่มน้ำใช้ไฟฟ้าไม่พอ การสาธารณสุขของเยเมนแย่ที่สุด บุคลากรทางการแพทย์มีน้อย ที่มีอยู่ในปัจจุบันก็ไม่น่าจะมีคุณภาพเมื่อเปรียบเทียบกับพัฒนาการทางการแพทย์ในโลกปัจจุบัน,จะมีสักกี่ประเทศในโลกครับ ที่มีทั้งน้ำมันและมีทำเลที่เป็นประตูการค้าไปสู่ยุโรป แอฟริกา และเอเชียของจริง มีท่าเรือเอเดน ทะเลของเยเมนก็สมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ทะเล แต่กลับยังเป็นประเทศที่ยากจนข้นแค้นมาก,คนต่างชาติในเยเมนมีน้อย ต่างกลัวสงครามความขัดแย้ง ยกเว้นคนจีนที่ไม่กลัวเข้าไปลงหลักปักฐานลงทุนในกิจการต่างๆ ทั้งการก่อสร้าง การจับสัตว์น้ำทะเล ฯลฯ,ที่ผมเอาเรื่องเยเมนมาเขียนเพราะสงสารคนเยเมนครับ ตั้งแต่ พ.ศ.2558 เป็นต้นมา กองทัพซาอุดีอาระเบียเอาระเบิดไปหย่อนลงแผ่นดินเยเมนแล้ว 16,633 เที่ยว ผู้คนเยเมนตายกลายเป็นผีมากมายหลายหมื่นศพ,มนุษย์ส่วนใหญ่ในประเทศนี้มีอาหารไม่พอยาไส้ ขาดแคลนไปหมดครับ ทั้งอาหาร ยารักษาโรค น้ำ ฯลฯ แม้ไม่โดนระเบิดก็อาจจะตายเพราะขาดอาหาร สหประชาชาติบรรยายสถานการณ์ในเยเมนระหว่าง พ.ศ.2558-2561 ว่า เป็นเหตุการณ์เศร้าเคล้าน้ำตาครั้งร้ายแรงที่สุดของมวลมนุษยชาตินับตั้งแต่สิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา,สถาบันสงครามหลายแห่งศึกษาการทิ้งระเบิดของซาอุดีอาระเบียพบว่า เป้าหมาย 1,424 แห่ง หรือร้อยละ 31 ของเป้าหมายที่โดนหย่อนระเบิดทั้งหมดนั้น เป็นเป้าหมายพลเรือน เป็นบ้านที่ใช้ซุกหัวนอนของคนเยเมน ตอนนี้มีเด็กเยเมนมากกว่า 4 ล้านคนไม่มีโรงเรียนเรียนหนังสือ โรงเรียนถูกระเบิดของซาอุดีอาระเบียพังราบเป็นหน้ากลอง 1,600 แห่ง โรงงานผลิตอาหารการกิน โรงปูนซีเมนต์ โรงเลื่อย ฯลฯ หายไป 57 แห่งเพราะโดนระเบิด,เยเมนเป็นแผ่นดินโบราณที่เต็มไปด้วยโบราณสถาน ตอนนี้โบราณสถานเก่าแก่โดนระเบิดหายไปจำนวนไม่น้อย อาคารสำคัญ รวมทั้งเขื่อนมาริบของพระนางชีบา ป้อมโบราณเมืองซานา ปราสาทราชวัง ฯลฯ บางแห่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ถึงวันนี้ก็โดนระเบิดพังไปไม่ต่ำกว่า 44 แห่ง มัสยิดอัลฮาดีที่มีอายุเก่าแก่ 1,200 ปีก็ไม่เหลือแม้แต่ซาก,อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ซาอุดีอาระเบียใช้ทำลายเพื่อนบ้านซื้อมาจากสหรัฐฯและอังกฤษ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาล เดินทางไปพบนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ซาอุดีอาระเบียซื้ออาวุธอังกฤษอีกหลายประเภท นายกฯเมย์ออกสื่อชื่นชมมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียยกใหญ่ ว่าการช่วยซื้ออาวุธทำให้เกิดการจ้างงาน และนำเม็ดเงินเข้าอังกฤษได้อีกหลายพันล้านดอลลาร์,มกุฎราชกุมาร เจ้าชายโมฮัมเหม็ด ยังบินไปพบทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พบกันแล้ว ทรัมป์ก็ออกมาบอกข่าวอันประเสริฐกับสื่อมวลชนอเมริกัน ว่าซาอุดีอาระเบียซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ 200,000 ล้านดอลลาร์ (7 ล้านล้านบาท) จะทำให้เกิดการจ้างงานในสหรัฐฯอีก 40,000 ตำแหน่ง,ต่อมา เจ้าชายโมฮัมเหม็ดประกาศซื้ออาวุธอเมริกันเพิ่มอีก 400,000 ล้านดอลลาร์ (14 ล้านล้านบาท) คราวนี้ คนอเมริกันที่ได้ยินข่าวก็ออกมาเชียร์ทรัมป์กับเจ้าชายโมฮัมเหม็ดกันขนาดใหญ่,ทว่าประชาชนคนเยเมนเศร้าครับ อาวุธจากอังกฤษและสหรัฐฯลอตใหม่นี้ ไม่รู้ว่าคนเยเมนจะตายไปอีกกี่หมื่นศพ,ผมยังแปลกใจ ว่าทำไมหน่วยงานโลกและองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชน ทั้งในและนอกประเทศจึงเงียบเรียบร้อยราวกับว่าคนเยเมนไม่สลักสำคัญอะไรในโลกมนุษย์,ไม่เหมือนกรณีโรฮีนจาที่เมียนมา ที่ต่างตะโกนก้องร้องบอกย้ำๆ ซ้ำๆ มากกว่าสามล้านแปดแสนห้าหมื่นเจ็ดพันสองร้อยแปดสิบห้ารอบ.,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย,[email protected]
ถ้าเราไม่เข้าใจความขัดแย้งในสาธารณรัฐเยเมน เราก็ไม่สามารถจะมองโลกตะวันออกกลางได้ทะลุปรุโปร่ง การวิเคราะห์ต่างๆ ก็คงจะขาดๆวิ่นๆ
null
เยเมน,ซาอุดีอาระเบีย,กรุงซานา,เปิดฟ้าส่องโลก,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1238101
ซื้อมอไซค์ได้คันนึง โซเชียลโอด รุ่น XS Max เครื่องหิ้วพุ่งเฉียดแสน
หลังจากแอปเปิลเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ทั้ง 3 รุ่น คือ iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone Xr ไปไม่นานนี้ ทำให้บรรดาสาวกไอโฟน ต่างตั้งตารอคอยที่จะเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนเครื่องจิ๋ว แต่ราคาไม่จิ๋วกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นโชคร้ายที่ยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายในประเทศไทย ทำให้หลายคนหันไปใช้บริการ ,รับหิ้วไอโฟน, จากกลุ่มประเทศแรกที่เปิดให้สั่งจองล่วงหน้า,จากการสำรวจราคาเครื่องหิ้ว iPhone XS, iPhone XS Max ที่เร่ิมวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา มีราคาสูงจนน่าตกใจ ซึ่งหลายคนได้นำราคาดังกล่าวไปเปรียบเทียบกับราคารถจักรยานยนต์ และพบว่าราคาค่อนข้างสูสีกันทีเดียว ดังนี้ ขณะที่ iPhone Xr จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือน ต.ค.61,โดย, iPhone XS ,ราคาเริ่มตั้งแต่ 45,000-64,000 บาท, ,iPhone XS Max ,ราคาเริ่มตั้งแต่ 47,500-72,900 บาท,ซึ่งชาวเน็ต หรือแม้กระทั่งสาวกไอโฟนเอง แทบจะปาดเหงื่อ และว่าราคาเครื่องหิ้วนี้ แทบจะซื้อรถจักรยานยนต์ได้คันหนึ่งเลยทีเดียว,โดยราคารถจักรยานยนต์ที่คนนิยมใช้ทั่วไป อย่างเช่น ยามาฮ่า ฟีโน่ ราคาตกอยู่ที่ประมาณ 46,000 บาท สกู๊ปปี้ ไอ ราคาประมาณ 48,100-51,100 บาท, ฮอนด้า คลิก ราคาประมาณ 51,000-54,700, จีพีเอ็กซ์ เดมอน ราคาประมาณ 60,900 บาท เป็นต้น
อู้หูว! ราคา iPhone XS - XS Max เครื่องหิ้ว พุ่งสูงทะลุครึ่งแสน โซเชียลแซว ราคามือถือ 1 เครื่อง ซื้อรถจักรยานยนต์ได้ 1 คัน แถมเงินยังเหลือ
ข่าว,สังคม
ไอโฟน,iphone XS,XSMax,ข่าวโซเชียล,ราคาไอโฟน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1382812
หม่ำ จ๊กมก ร่วมฟาดแข้งทีมหมูป่า เปิดตัวยโสธร เอฟซี ลุยไทยลีก 4
วันที่ 27 ม.ค.62 ที่สนามกีฬา อบจ.ยโสธร นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาสโมสรยโสธร เอฟชี เป็นประธานตัวสโมสรฟุตบอลยโสธร เอฟซี ทีมดังแห่งศึกไทยลีก 4 โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมี นายนิกร สุกใส ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย เพ็ชรทาย วงศ์คำเหลา หม่ำ จ๊กมก ในฐานประธานสโมสรยโสธร เอฟซี, เท่ง เถิดเทิง และศิลปินชื่อดังอีกมายมายเข้าร่วม โดยมีแฟนบอลชาวยโสธรเกือบ 2 หมื่นคนให้การตอนรับ,ซึ่งบรรยากาศก่อนจะเริ่มการแข่งขัน มีแฟนบอลชาวยโสธรให้การต้อนรับนักแตะจากทีมหมูป่า อะคาเดมี จำนวนมาก โดยมี หม่ำ จ๊กมก เปิดตัวด้วยการแต่งตัวสีสันสุดฮา ซึ่งได้รับรอยยิ้มและเสียงปรบมือจากแฟนบอลชาวยโสธรกว่า 2 หมื่นคนอย่างล้นหลาม นอกจากนี้ ยังได้มีการรับเงินจากผู้สนับสนุนทีมยโสธร เอฟชี จากนักธุรกิจในจังหวัดยโสธรอย่างมากมาย,โดย นายบุญธรรม กล่าวว่า การแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษระหว่างยโสธรเอฟชี กับหมูป่า อะคาเดมี เพื่อเป็นการเปิดตัวสโมสรยโสธรเอฟซี และเป็นการประชาสัมสัมพันธ์ทีมยโสธร เอฟชี ซึ่งต้องขอขอบคุณแฟนบอลทุกท่านที่เดินทางมาให้กำลังใจ และปีนี้นับเป็นปีที่ 4 แล้วที่ทีมสโมรสรได้กลับเข้ามาร่วมการแข่งขันอีกครั้ง แต่เป็นปีแรกที่ หม่ำ จ๊กมก ทำหน้าที่เป็นประธานสโมสรให้กับพ่อแม่พี่น้องชาวจังหวัดยโสธรของเรา ต้องขอขอบคุณทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่มาร่วมการแข่งขันในวันนี้,ด้านตลกชื่อดังกล่าวว่า ตอนนี้ยอดเงินที่มาทำทีมยังไม่เท่าไร เนื่องจากมีการลงทุนช่วยกันในจังหวัดคนละ 5 บาท 10 บาท ตนขอยืนยันว่ายังไม่มีการวางแผนที่จะหันหลังให้วงการบันเทิง แต่จะทำฟุตบอลควบคู่กันไป เพราะเป็นบ้านเกิดตนอยู่แล้ว อะไรที่ทำแล้วให้บ้านเกิดตนเองมีชื่อเสียงตนเองก็โอเค ส่วนประสบการณ์การคุมทีมฟุตบอลนั้น ตนมองว่า คงไม่ยากไปกว่าการคุมทีมตลกมากนัก เนื่องจากมองว่าเป็นเหมือนมุกตลกมีตัวปู ตัวจ่าย ตัวทรง ตัวเสียบ ตัวดิ้น ใครถนัดตัวไหนก็เล่นเป็นตัวนั้น ส่วนเหตุผลที่ให้ตนมาทำทีมฟุตบอล เนื่องจากเป็นคนสำนึกรักษ์ในบ้านเกิด ตนรักยโสธรอยู่แล้ว เราจะให้ทีมยโสธร เอฟชี หายไป มันก็กระไรอยู่ ปีนี้ยังคงไม่คาดหวังการเลื่อนชั้นเท่าไร เพราะต้องดูตัวนักแตะไปก่อน,หลังจากนั้นเป็นการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษระหว่างวีไอพี ยโสธร เอฟซี และทีมหมูป่า อะคาเดมี ซึ่งผลปรากฏว่า หมูป่า อะคาเดมี เอาชนะไปด้วยสกอร์ 10-3.
หม่ำ จ๊กมก ขนดาราคนดัง ร่วมงานเปิดตัวสโมสรฟุตบอลยโสธร เอฟซี เพื่อลุยศึกไทยลีก 4 อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมทั้งลงฟาดแข้งฟุตบอลนัดพิเศษกับหมูป่า อะคาเดมี ด้วย
กีฬา,ฟุตบอลไทย
หม่ำ จ๊กมก,ยโสธร เอฟซี,ไทยลีก 4,หมูป่า อะคาเดมี
https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/1481045
ทหารใน จ.นราฯ ยึดอุปกรณ์ผลิตระเบิดได้จำนวนมาก
กระสุนปืนและอุปกรณ์ผลิตวัตถุระเบิดทั้งหมดนี้ทหารพรานที่ 46 จังหวัดนราธิวาสตรวจค้นพบภายในบ้านของนายฮิบรอเฮง ดอนา ในอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งถูกฝังไว้ในใต้ต้นไม้รอบบ้านโดยการตรวจค้นเพื่อขยายผลสอบสวนตามคำให้การของ นายฮิบรอเฮง ที่เข้ามอบตัวและสารภาพว่าเป็นผู้ผลิตระเบิดให้กับแนวร่วมในพื้นที่อำเภอระแงะ 7 คน ที่ลอบวางระเบิดและซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่หลายคดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ส่งหลักฐานให้ชุดนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจสอบดีเอ็นเอ เชื่อมโยงไปยังผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดส่วนความคืบหน้าคดียิงชาวบ้านตำบลปุโล๊ะปุโย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เสียชีวิต 4 คน เมื่อวันที่ 29 มกราคม ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวน เร่งสรุปผลการสอบสวนทหารพรานทั้งหมดไปยังอัยการเพื่อส่งสำนวนให้ศาลไต่สวนหาสาเหตุ แม้เหตุการณ์นี้จะผ่านไปกว่า 3 สัปดาห์แล้ว แต่ชาวบ้านยังคงหวาดกลัวโดยเฉพาะผู้ที่ได้บาดเจ็บ หลายคนบอกว่า ไม่มั่นใจในกระบวนการของภาครัฐว่า จะให้ความยุติธรรมกับชาวบ้านมากน้อยแค่ไหน แม้จะมีการตั้งคณะกรรมการอิสระเข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริง
ชาวบ้านในตำบลปุโล๊ะปูโย จังหวัดปัตตานี ไม่มั่นใจว่า จะได้รับความเป็นธรรมในการสอบสวนหาสาเหตุกรณีชาวบ้านถูกยิงเสียชีวิต 4 คน โดยเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งคลี่คลายข้อสงสัยให้กับชาวบ้าน ขณะที่วันนี้ ( 18 ก.พ.) ทหารพรานจังหวัดนราธิวาส ตรวจยึดอุปกรณ์การผลิตระเบิดของกลุ่มแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบได้ของกลางจำนวนมาก
ภูมิภาค
4 ศพ,ก่อความไม่สงบ,ทหารพราน,ปัตตานี,ยิงชาวบ้าน,แนวร่วม
https://news.thaipbs.or.th/content/67026
3 สิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นกับกลุ่มธุรกิจ TCP สู่การเป็นบริษัทข้ามชาติ (Multinational Company) ของคนไทยอย่างเต็มภาคภูมิ [Advertorial]
มากกว่าแค่การปรับโฉมล่าสุด กลุ่มธุรกิจ TCP ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี ทั้งแบรนด์กระทิงแดง (เรดบูล) เรดดี้ โสมพลัส สปอนเซอร์ แมนซั่ม เพียวริคุ ซันสแนค และวอริเออร์ ได้ประกาศแผนการปรับโฉมองค์กรครั้งใหญ่ที่สุด ด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาเสริมศักยภาพให้กับองค์กร เพิ่มขีดความสามารถให้กับพนักงาน สร้างโอกาสทางธุรกิจ และสนับสนุนการทำงานด้านการตลาดโกลบอล (Global Marketing) กับสาขาในต่างประเทศ เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทข้ามชาติ (Multinational Company) อย่างแท้จริง โดยการปรับโฉมครั้งนี้จะลงทุนกว่า 1300 ล้านบาท ผ่านแนวคิด 3C (3 Changes) คือ เปลี่ยนรูปแบบสำนักงานใหม่ เปลี่ยนรูปแบบการทำงานใหม่ และเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่พัฒนา คน คือสิ่งสำคัญเพื่อพร้อมรับความท้าทายใหม่ๆสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า ในยุคที่ทุกอย่างในโลกกำลังถูกดิสรัปต์ ทุกคนต้องปรับตัว การเตรียมคนให้พร้อมเพื่อเป็นพลังที่จะขับเคลื่อนองค์กรจึงเป็นสิ่งสำคัญ ด้วยวิสัยทัศน์ของกลุ่มธุรกิจ TCP ในฐานะคนไทยที่เป็นเจ้าของแบรนด์ระดับโลกที่มีสาขาในต่างประเทศ และมีพันธมิตรทางธุรกิจอยู่ทั่วทุกมุมโลก เราจึงต้องทำงานอยู่บนมาตรฐานระดับโลกที่สูงที่สุด เพื่อนำพาเกียรติยศชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทย นี่จึงเป็นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ การปรับโฉมองค์กรสู่การทำงานบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนธุรกิจ 5 ปี ที่ได้ประกาศไว้เพื่อมุ่งหวังพัฒนาบุคลากรทุกระดับชั้นให้สามารถรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ด้านเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงมุ่งสร้างยอดขายของกลุ่มให้โตขึ้น 3 เท่าเป็น 100000 ล้านบาท ก้าวไปสู่การเป็นบริษัทข้ามชาติ (Multinational Company) ของคนไทยอย่างแท้จริง ผู้อำนวยการสายงานทรัพยากรบุคคลและธุรการ กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจ TCP เป็นองค์กรใหญ่ที่มีคนหลากหลาย การหลอมรวมพนักงานที่มากประสบการณ์กับคนรุ่นใหม่ให้มีความคิดและการกระทำไปในทิศทางเดียวกันเป็นความท้าทายอย่างมาก เราจึงได้ออกแบบการทำงานขึ้นมาใหม่ ภายใต้แนวคิด 3C เพื่อให้พนักงานทุกคนได้ก้าวข้ามเฟรมเวิร์กเดิมสู่นวัตกรรมใหม่ ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับกระบวนการทำงาน เพื่อพัฒนาศักยภาพของพนักงานให้มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ดึงดูดคนเก่ง และคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาร่วมงานมากขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในระดับโลกแนวคิด 3C ที่นำมาเปลี่ยนแปลงการทำงานของกลุ่ม TCP มีดังนี้C1 เปลี่ยนรูปแบบสำนักงานใหม่ สู่การเป็นองค์กรแห่งการสร้างนวัตกรรมกลุ่มธุรกิจ TCP ได้ลงทุนราว 740 ล้านบาท สร้างสำนักงานแห่งใหม่ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยสำนักงานใหญ่แห่งใหม่จะอยู่ในบริเวณติดกับสำนักงานปัจจุบัน ด้วยการออกแบบให้สอดรับกับการทำงานรูปแบบใหม่กับแนวคิด Open Office พื้นที่ทำงานจึงเปิดโล่ง พร้อมจัดสรรพื้นที่กว่า 30% เป็นพื้นที่ส่วนกลางระหว่างแผนกเพื่อใช้เป็นที่พบปะ แลกเปลี่ยนความคิด รวมทั้งใช้จัดกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ให้กับพนักงาน เพื่อให้เกิดความรู้สึกถึงความผ่อนคลาย นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบเทคโนโลยีอันทันสมัย เชื่อมต่อการทำงานกับอุปกรณ์ของพนักงานทั้งในสำนักงานใหญ่ สาขาในต่างจังหวัด และสาขาต่างประเทศได้สะดวกรวดเร็วขึ้นสำนักงานใหญ่แห่งใหม่จะสร้างบนเนื้อที่ราว 6 ไร่ มีความสูง 4 ชั้น เริ่มก่อสร้างในปี 2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดใช้งานได้ในปี 2564 และภายหลังเปิดใช้สำนักงานใหญ่แห่งใหม่แล้ว สำนักงานปัจจุบันก็จะมีการปรับปรุงใหม่ ภายใต้แนวคิดเดียวกับสำนักงานแห่งใหม่เราคำนึงถึงความสำคัญของการสร้างบรรยากาศในที่ทำงาน เพื่อทำให้ออฟฟิศไม่ได้เป็นแค่ที่ทำงาน แต่เป็นสถานที่ที่ให้ทุกคนได้มาระดมความคิด มาประชุมกันแบบสบายๆ เปิดโอกาสให้ได้พบปะคนใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เกิดเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ และเมื่อสำนักงานเสร็จสมบูรณ์จะสามารถรองรับพนักงานใหม่ได้เพิ่มขึ้นอีกราว 250 คน ประกรรษ์ กล่าวเสริมC2 เปลี่ยนรูปแบบการทำงานใหม่ สร้างองค์กรยืดหยุ่นแต่ทรงพลังทุกวันนี้จะเห็นว่านวัตกรรมเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ เราจึงมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อให้รูปแบบการทำงานใหม่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเราจะเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถมี Virtual Office ที่เป็นเสมือนสำนักงานเคลื่อนที่ได้ เพียงแค่มีโน้ตบุ๊ก หรือโทรศัพท์มือถือ ก็สามารถที่จะสื่อสารข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conferencing หรือ Teleconferencing) ส่งเอกสารแลกเปลี่ยนกัน และยังสามารถพูดคุยกันแบบเห็นหน้าได้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้ามาที่สำนักงาน พนักงานอาจจะทำงานที่บ้าน หรือที่ Co-working Space ในเมืองที่บริษัทจัดหาให้ อยู่ต่างจังหวัด หรือแม้แต่ในต่างประเทศ ทำให้องค์กรสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้โดยไม่สะดุด ประกรรษ์ กล่าวนอกจากนั้นยังนำแนวคิดการทำงาน Agile รวมทั้ง Scrum มาใช้ทำให้เกิดการทำงานร่วมกันแบบ Cross Functional และ Cross Generation มุ่งหวังให้เกิดการทำงานเป็นทีมอย่างไร้รอยต่อ โดยเฉพาะการทำงานกับสาขาในต่างประเทศ หรือการตลาดโกลเบิล (Global Marketing) ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันกับทีมการตลาดของแต่ละประเทศ อันเป็นการผสมผสานแนวทางการทำงานตามมาตรฐานระดับโลกเข้ากับบริบทของแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนช่วยสร้างความสำเร็จให้กับทีมการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานใหม่นี้จะเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่เชิงบวกให้กับพนักงาน เพิ่มความสะดวกสบาย ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น รวมถึงช่วยแก้ปัญหาให้กับพนักงาน ซึ่งเป็นแนวทางที่จะทำให้องค์กรมีความยืดหยุ่นแต่ทรงพลังยิ่งขึ้น คุณประกรรษ์ กล่าวC3 เปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และบริการประกรรษ์ กล่าวว่า เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Internet of Things Virtual Reality AI Cloud Computing หรือเทคโนโลยีหุ่นยนต์ เหล่านี้ล้วนมีศักยภาพในการเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้ต่างไปจากเดิมได้อย่างสิ้นเชิง เราจึงได้ลงทุนราว 560 ล้านบาท นำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมการทำงานให้กับทีม ไม่ว่าจะเป็นการทำ Virtual Office หรือการนำ AI Chatbot มาใช้ในการสื่อสารกับพนักงาน และกับลูกค้าของบริษัท รวมถึงการจัดตั้งทีมงาน Incubator ที่สนับสนุนให้พนักงานได้เรียนรู้ ทดลอง และทดสอบไอเดียใหม่ๆ หรือ ผลิตภัณฑ์หรือบริการต้นแบบ (Prototype) ของพวกเขา อันจะนำไปสู่การคิดค้นผลิตภัณฑ์หรือบริการที่โดนใจลูกค้าเรามุ่งหวังให้ TCP เป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม (Innovation Hub) มุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์หรือบริการของเรา และเพื่อให้มั่นใจว่าองค์กรจะสามารถก้าวไปข้างหน้าตามเจตนารมณ์ การพัฒนาทักษะของพนักงานให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีเป็นสิ่งจำเป็น เราจึงลงทุนเพิ่มอีก 80 ล้านบาท ในการฝึกอบรม ช่วยเหลือ และเพิ่มพูนความรู้ให้กับทีมงาน เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และเราจะไม่มีการปลดพนักงาน ตรงกันข้ามเราจะสร้างให้เขามีความมั่นคงในอาชีพและรายได้ รวมถึงเปิดรับคนดี คนเก่ง คนรุ่นใหม่ เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตในระดับโลกต่อไป ประกรรษ์ กล่าวเสริมการปรับโฉมองค์กรเพื่อให้การทำงานอยู่บนดิจิทัลแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์ จะแล้วเสร็จภายในปี 2565 ซึ่งจะช่วยเสริมรากฐานขององค์กรให้แข็งแกร่ง สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับองค์กร และผลักดันให้เราก้าวไปสู่การเป็นบริษัทข้ามชาติ (Multinational Company) ของคนไทยอย่างแท้จริง ประกรรษ์ กล่าวทิ้งท้ายท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของกลุ่มธุรกิจ TCP ได้ที่ www.tcp.comพิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์ข้อมูลบริษัท
กลุ่มธุรกิจ TCP ประกาศแผนการปรับโฉมองค์กรสู่การเป็นบริษัทข้ามชาติ ทุ่มงบกว่า 1300 ล้านบาท มุ่งนำเทคโนโลยีขับเคลื่อนองค์กร เพื่อรองรับการทำงานกับสาขาในต่างประเทศและการตลาดระดับโลกการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ยึดแนวคิด 3C (3 Changes) คือ เปลี่ยนรูปแบบสำนักงานใหม่ เปลี่ยนรูปแบบการทำงานใหม่ และเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่
null
null
https://thestandard.co/tcp-multinational-company/
มาร์ค แนะทุกฝ่ายย้อนดูตัวเอง อย่าสร้างเงื่อนไขรัฐประหาร
เมื่อวันที่ 22 ต.ค.61 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการต้องถามทางสถานีโทรทัศน์ช่องฟ้าวันใหม่ ถึงกรณี ผบ.ทบ.ระบุว่า ไม่อยากให้ฝ่ายการเมืองสร้างเงื่อนไขจลาจล จนนำไปสู่การรัฐประหาร ว่า ท่านคงมองเหตุการณ์ 2 ครั้งที่ผ่านมาที่มีการรัฐประหาร คือ ภาวะบ้านเมืองไม่สงบ ไม่ปกติ การที่จะให้มารับประกันว่าอย่าให้มีอีกนั้น ตนเป็นคนหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับคำพูด คนพูดต้องรักษาคำพูด อยากได้แบบสบายใจจะให้ท่านรับประกันว่าไม่มี บางคนก็ไม่สามารถรักษาคำพูดได้ ท่านพูดก็เพราะดูจากประวัติศาสตร์ก็เท่านั้น แต่ถามว่าจะสนับสนุนหรือไม่ คนส่วนใหญ่คงไม่มีใครอยากให้เกิด เพราะจะมีปัญหาอื่นตามมาอีกเยอะ การรัฐประหารยังเป็นเหตุผลที่ไม่เกี่ยวกับตัวคนมาทำรัฐประหาร แต่ตอนนี้เริ่มขมวดว่าคนทำรัฐประหารจะมาเล่นต่อ ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ในอำนาจมายาวนานแล้วเกือบ 5 ปี แทนที่จะไปคาดคั้นผบ.ทบ. แต่เรามาช่วยกันดีกว่า ทุกคนต้องไปย้อนดูในส่วนของตัวเองก่อน ถ้าการเมืองช่วยกันว่าต่อไปใครจะแพ้-ชนะ ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงไม่มีการสร้างเงื่อนไข มันก็จะไปไม่ถึงขั้นที่ ผบ.ทบ.พูด,นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า การรัฐประหารมันสามารถหยุดเหตุการณ์ตรงนั้นได้ การตัดเชื้อต้องดูว่าจะปฏิรูปอะไรบ้าง ส่วนเรื่องข่าวดูด ความเหมาะสมเรื่องการอยู่ในอำนาจ ใครจะแพ้-ชนะมีความสุ่มเสี่ยง วันนี้ต้องสร้างทางใหม่ยึดหลักการประชาธิปไตยที่แท้จริงและยั่งยืนด้วย ซึ่งตนไม่สนับสนุนนายกฯ คนนอก แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.มาอยู่ในบัญชีพรรคใดพรรคหนึ่ง เสียงที่มาจากการเลือกตั้ง 250 เสียงเอา ก็ถือมีความชอบธรรมตามระบบ
อภิสิทธิ์ แนะทุกคนย้อนดูตัวเอง หลีกเลี่ยงการสร้างเงื่อนไข ทำให้เกิดรัฐประหาร ย้ำชัดไม่เอานายกฯคนนอก แนะ บิ๊กตู่ ลงบัญชีพรรค ยึดหลักประชาธิปไตย ถือความชอบธรรมตามระบบ
ข่าว,การเมือง
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,มาร์ค,ปชป.,รัฐประหาร,ยึดอำนาจ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1401206
ชาวบ้านเอ็นดู ตะพาบน้ำสีทอง วัดโพธาราม หลังให้โชคลาภเป็นประจำ
พาไปชม ตะพาบน้ำสีทอง-สีดำ ภายในวัดโพธาราม จ.ร้อยเอ็ด ชาวบ้านเอ็นดูซื้ออาหารมาให้ หลังให้โชคให้ลาภเป็นประจำวันที่ 8 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง วัดโพธาราม ต.ปาฝา อ.เมืองร้อยเอ็ด หลังได้รับแจ้งว่า ตะพาบน้ำสีทอง อยู่ภายในวัดจากการสอบถาม พระกรอบชัย เขมจาโร อายุ 51 ปี พระลูกวัดเป็นผู้เลี้ยงไว้ ข้างกุฏิด้านทิศตะวันตก ทราบว่าได้เลี้ยงตะพาบน้ำอยู่ข้างกุฏิเมื่อประมาณปี 2557 มีตะพาบน้ำ 2 ตัว ตัวที่หนึ่งเป็นสีทองทั้งตัว ตั้งชื่อว่า เงินทอง น้ำหนักตัว 2 กิโลกรัม ยาวจากหัวไปท้ายกระดอง 25 เซนติเมตร กว้างจากขาหน้าจากซ้าย-ขวา 18 เซนติเมตรตัวที่สอง มีสีดำทั้งตัว ตั้งชื่อว่า ดำโหดร้าย หากใครไปจับไม่ระมัดระวังจะถูกเจ้าดำกัดจนเลือดไหล น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม ความยาวจากหัวไปท้ายกระดอง ยาว 25 เซนติเมตร กว้างจากขาซ้าย-ขวา ยาว 23 เซนติเมตร อาหารที่ใช้เลี้ยงคือ เนื้อวัว หมู ไก่ ปลาตัวเล็ก เช่น ปลาซิวอ้าว (ตัวใหญ่กว่าปลาซิวทั่วไป) ปลาสร้อย ปลาขาวนา เป็นต้นสำหรับค่าอาหารตะพาบน้ำต่อเดือนประมาณ 300-400 บาท ระยะหลังๆ มานี้ชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาขอจับดูแล้วขอโชค ขอลาภ แล้วนำไปซื้อลอตเตอรี่ ปรากฏว่าได้โชคกันเป็นประจำ ชาวบ้านจึงซื้ออาหารมาให้กิน แต่ทั้งนี้ พระกรอบชัย ไม่อยากให้มาขอโชคขอลาภ แต่อยากมาขอดูขอชมได้ตลอดในเวลากลางวัน ส่วนกลางคืนงดชม.
พาไปชม ตะพาบน้ำสีทอง-สีดำ ภายในวัดโพธาราม จ.ร้อยเอ็ด ชาวบ้านเอ็นดูซื้ออาหารมาให้ หลังให้โชคให้ลาภเป็นประจำ
ข่าว,สังคม
เลขเด็ด,ตะพาบน้ำสีทอง,เลขเด็ด 16-6-63,หวย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1863464
กกต.แจงยุทธศาสตร์เลือกตั้งปี 60 มุ่งสกัดโกง-ซื้อสิทธิ์ขายเสียง
เมื่อวันที่ 21 ต.ค.2559 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยว่า กกต.ได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม ส่งเสริมความมีเสถียรภาพทางการเมืองและการใช้อำนาจอันชอบธรรม โดยได้น้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อสนองแนวพระยุคลบาท ในตอนหนึ่งว่า การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ ดังนั้นการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ของ กกต. จึงเน้นการกลั่นกรองบุคคลก่อนเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้เข้าไปใช้อำนาจในการบริหารและการตรากฎหมาย จึงได้กำหนด 5 ยุทธศาสตร์ ดังนี้ 1.ยุทธศาสตร์การสร้างเครือข่ายป้องกันการทุจริตเลือกตั้ง โดยร่วมมือกับเครือข่ายศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตยตำบล (ศส.ปชต.) เครือข่ายรด.อาสา เครือข่ายลูกเสือ กกต. ในการจัดอบรมและเตรียมกลไกในการสนับสนุนการทำงานของ กกต. ,2. ยุทธศาสตร์พัฒนาศักยภาพนักจัดการเลือกตั้งมืออาชีพ เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งในตำแหน่งต่างๆ ไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน จะต้องได้รับการอบรม และขึ้นทะเบียนเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสมเป็นนักจัดการเลือกตั้งมืออาชีพ โดยตั้งเป้าว่าการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้น หน่วยเลือกตั้งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบว่าทำหน้าที่ไม่ถูกระเบียบต้องไม่เกินร้อยละ 0.01 หรือไม่เกิน 10 หน่วยจาก 1 แสนหน่วยทั่วประเทศ 3. ยุทธศาสตร์จัดตั้งหมู่บ้านปลอดการซื้อสิทธิ์ขายเสียง โดยตั้งเป้าว่าก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในปลายปี 2560 ประเทศไทยจะมีหมู่บ้านปลอดการซื้อสิทธิ์ขายเสียงอย่างน้อย 1 หมู่บ้านต่อหนึ่งอำเภอ เพื่อนำร่องและเป็นต้นแบบให้แก่หมู่บ้านอื่นๆ ,4. ยุทธศาสตร์การเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความสะดวกประชาชน โดยกำหนดให้มีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และสนับสนุนการเลือกตั้งคุณภาพ เช่น การพัฒนา แอพพลิเคชั่น ฉลาดเลือกผู้แทน ให้ข้อมูลผู้สมัครและนโยบายพรรคการเมืองแก่ประชาชน การพัฒนาระบบการลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกเขตจังหวัดและนอกราชอาณาจักร โดยตั้งเป้ามีผู้ลงทะเบียนอย่างน้อย 4 แสนคน และการทดลองนำร่องการลงคะแนนเลือกตั้งทางอินเทอร์เน็ตสำหรับคนไทยในต่างประเทศจำนวน 3 ประเทศ คือ จอร์แดน นอร์เวย์ และเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น และเตรียมพัฒนาเครื่องต้นแบบเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ แบบหน้าจอสัมผัสทัชสกรีน และ 5 ยุทธศาสตร์การเพิ่มประสิทธิภาพสืบสวนสอบสวน การวินิจฉัย และการดำเนินคดีในศาล โดยตั้งเป้าให้ กกต.จังหวัดทุกจังหวัดจะต้องกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน จากเดิมที่ใช้เวลาประมาณ 6-7 เดือน โดยทุกยุทธศาสตร์ กกต.จะใช้วิธีการประเมินผลแบบเคพีไอ และมีตัวกำหนดผลลัพธ์อย่างชัดเจน.
กกต.น้อมนำ พระบรมราโชวาท ในหลวงรัชกาลที่ 9 ส่งเสริมคนดีให้ปกครองบ้านเมือง ควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ กำหนด 5 ยุทธศาสตร์ลุยเลือกตั้งปี 60 สกัดโกง ปลอดการซื้อสิทธิ์ขายเสียง และทำให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลได้สะดวก
null
กกต.,เลือกตั้งปี 2560,คณะกรรมการการเลือกตั้ง,สมชัย ศรีสุทธิยากร,แผนยุทธศาสตร์,เลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม,พระบรมราโชวาท,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,การเลือกตั้ง,ลงคะแนนเลือกตั้งทางอินเทอร์เน็ต,ใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกเขต,ใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกราชอาณาจักร
https://www.thairath.co.th/content/760337
รวบขี้ยา อาศัยทีเผลอ ตระเวนฉกกระเป๋าลูกค้าตามห้างฯ หาเงินซื้อไอซ์
เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 29 พ.ค. ที่ สน.โชคชัย พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รอง ผกก.สส.สน.พร้อมด้วย ร.ต.อ.เทพไท้ ไกรยะ ฝ่าย รอง สว.สส.สน.โชคชัย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ร่วมกันจับกุมนายประวิทย์ หรือ วิทย์ ศิริเวช อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ซอยสุขสวัสดิ์ 38 แยก 1 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม. พร้อมของกลางยาไอซ์ น้ำหนัก 0.52 กรัม โทรศัพท์มือถือไอโฟน 5 สีขาว จำนวน 1 เครื่อง กระเป๋าสะพายผู้หญิงสีเทา ยี่ห้อหลุยส์ วิตตองจำนวน 1 ใบ,ตรวจสอบภายในกระเป๋าดังกล่าวพบบัตรประชาชนระบุชื่อ น.ส.อุมาภรณ์ อรุณรังษี จำนวน 1 ใบ บัตรเอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 1 ใบ บัตรกิ๊ฟวอชเชอร์เซ็นทรัล จำนวน 2 ใบ เครื่องสำอาง จำนวน 1 ชุด กระเป๋าใส่เหรียญสีน้ำเงิน จำนวน 1 ใบ กระเป๋าสตางค์สีน้ำตาล ยี่ห้อโบวิ (BOVI) จำนวน 1 ใบ กระเป๋าสะพายสีดำ จำนวน 1 ใบ และเสื้อยืดคอปกลายขวาง(ที่ใส่ในวันก่อเหตุ) จำนวน 1 ตัวจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถ ปั๊ม ปตท.สาขาถนนประดิษฐ์มนูธรรม(ขาออก) แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม.,พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่ามีคนร้ายลักทรัพย์กระเป๋าสะพายผู้หญิงสีเทา ยี่ห้อหลุยส์วิตตองซึ่งภายในกระเป๋ามีโทรศัพท์มือถือไอโฟน 5 สีขาว จำนวน 1 เครื่อง เงินสด 1,300 บาท บัตรประชาชนและบัตรเอทีเอ็มในขณะกำลังเดินซื้อสินค้าอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตของศูนย์การค้าโลตัส สาขาถนนประดิษฐ์มนูธรรม,จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุจนทราบรูปพรรณของคนร้าย และได้เบาะแสคนร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจพื้นที่บริเวณลานจอดรถ ปั๊ม ปตท.สาขาถนนประดิษฐ์มนูธรรม(ขาออก) พบนายประวิทย์มีลักษณะรูปพรรณตรงกับคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ จึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจค้น จากการตรวจค้นพบโทรศัพท์ยี่ห้อไอโฟน 5 สีขาว และพบยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนเพิ่มเติม พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ กล่าว,พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นช่างที่ร้านทำป้ายโฆษณาแห่งหนึ่งแต่ถูกให้ออกจากงาน เนื่องจากผู้ต้องหาติดยาเสพติด(ยาไอซ์)อย่างหนัก และไม่มีเงินจะซื้อยาไอซ์มาเสพ จึงมาก่อเหตุตามห้างสรรพสินค้า ทำทีแฝงตัวเป็นลูกค้าเข้าไปเลือกซื้อสินค้า เมื่อพบหญิงสาวที่มาเลือกซื้อสินค้า ที่ไม่ระมัดระวังวางกระเป๋าสะพาย จึงอาศัยจังหวะที่เหยื่อเผลอ หยิบกระเป๋าเหยื่อ โดยที่ผู้เสียหายไม่ทันรู้ตัวแต่อย่างใด, หลังจากนั้นจะนำทรัพย์สินที่เป็นเงินสดไปซื้อยาเสพติดเสพและบางส่วนนำไปเล่นพนัน ส่วนทรัพย์สินพวกโทรศัพท์มือถือจะเก็บไว้ใช้เอง โดยเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้ว 7 ครั้ง ตามห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา ตั้งแต่เดือน พ.ย.2558 ที่ผ่านมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ ต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วอีกหลายครั้ง หากผู้เสียหายรายใดเคยถูกคนร้ายก่อเหตุในลักณะดังกล่าว สามารถขอดูตัวได้ที่ สน.โชคชัย พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ กล่าว ,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ลักทรัพย์หรือรับของโจร และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ตำรวจ สน.โชคชัย แกะรอยวงจรปิด รวบหนุ่มขี้ยา วัย 33 ปี ตระเวนชิงทรัพย์ ฉกกระเป๋าเงินเหยื่อตามห้างดัง ย่านรามอินทรา สารภาพ ก่อเหตุเพียง 7 ครั้ง นำเงินซื้อยาไอซ์เสพ ตร.ไม่ปักใจเชื่อ
null
ชิงทรัพย์,ฉกทรัพย์,ลักทรัพย์,ยาไอซ์,ฉกกระเป๋าเงินเหยื่อ,ห้างดัง ย่านรามอินทรา,แกะรอยวงจรปิด,ประวิทย์หรือวิทย์ ศิริเวช,สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์,โชคชัย,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/content/628043
โผล่อีกราย น้องใหม่ลีกจีน จ้องงาบดาวยิง ม่วงมหากาฬ
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 28 ธ.ค. ว่า สโมสรเทียนจิน ฉวนเจียน ทีมน้องใหม่แห่งศึกฟุตบอลไชนีส ซุปเปอร์ลีก เตรียมโชว์ศักยภาพด้านความมั่งคั่ง ด้วยการเจรจาคว้าตัว นิโคลา คาลินิช หัวหอกชาวโครแอตของทีมฟิออเรนตินา มาล่าตาข่ายให้ฤดูกาลหน้า,ยอดทีมแห่งนครเทียนจิน ได้อดีตกองหลังชาวอิตาเลียนอย่าง ฟาบิโอ คันนาวาโร เข้ามาช่วยสานความสำเร็จ กระทั่งเลื่อนชั้นจากลีกรอง ขึ้นมาโลดแล่นในศึกไชนีส ซุปเปอร์ลีก ในฤดูกาล 2017 ที่กำลังจะมาถึง,ล่าสุด คอร์ริเอเร เดลโล สปอร์ต สื่อชื่อดังของอิตาลี ประโคมข่าวว่า สโมสรเทียนจิน ฉวนเจียน เตรียมทุ่มเงินสูงถึง 40 ล้านยูโร หรือราว 1,480 ล้านบาท เพื่อกระชากตัวคาลินิชมาร่วมทัพในซีซั่นหน้า แต่คาดว่าบอร์ดบริหารของทีมม่วงมหากาฬ ต้องการค่าตัวไม่น้อยกว่า 50 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นค่าฉีกสัญญาของหัวหอกรายดังกล่าว,สำหรับ คาลินิช ซัดไปแล้ว 8 ประตู จากการลงสนาม 18 นัด ช่วยให้ฟิออเรนตินารั้งอยู่อันดับ 9 ของตารางคะแนนกัลโช เซเรีย อา ในขณะนี้
สื่อมักกะโรนีกระพือข่าว เทียนจิน ฉวนเจียน ทีมน้องใหม่ไฟแรงแห่งศึกไชนีส ซุปเปอร์ลีก พร้อมทุ่มงบก้อนโตกว่า 40 ล้านยูโร เพื่อสู่ขอ นิโคลา คาลินิช ดาวยิงคนสำคัญของทีมฟิออเรนตินา มาเสริมศักยภาพในเกมรุกให้ดีขึ้นกว่าเดิม
null
นิโคลา คาลินิช,ฟิออเรนตินา,ม่วงมหากาฬ,ไชนีส ซุปเปอร์ลีก,เทียนจิน ฉวนเจียน
https://www.thairath.co.th/content/823682
น่าสนใจ รัชนาท เผยความรู้สึกหลังคัมแบ็กติดทัพช้างศึก ยู-23
วันที่ 1 มิ.ย.61 รัชนาท อรัญญไพโรจน์ กองกลางทีมชาติไทย ชุดเตรียมเอเชียน เกมส์ สุดปลื้มหลังคัมแบ็กสู่ทำเนียบทีมชาติไทยอีกครั้งในรอบ 4 ปี และหวังจะพัฒนาฟอร์มตนเอง เพื่อโอกาสในการไปเล่นกีฬาเอเชียน เกมส์ให้ได้,กองกลางจาก ชัยนาท ฮอร์นบิล ลงสนามในครึ่งหลังของเกมนัดกระชับมิตรกับ อินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา และถือเป็นการกลับมาติดทีมชาติไทยอีกครั้ง หลังจากเคยติดทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ชุดชิงแชมป์อาเซียน เมื่อ 4 ปีที่แล้ว,ผมดีใจมากครับที่ได้กลับมาสวมเสื้อทีมชาติไทยอีกครั้งหลังหายไปนานกว่า 4 ปี กองกลางวัย 23 ปี กล่าวเริ่ม,ตอนลงไปในสนามช่วงแรกผมเล่นยากไปหน่อย อีกทั้งยังไม่ชินกับหญ้าใบใหญ่ ต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทีมที่ช่วยกันเล่นในสนาม จนสามารถทำผลงานได้ดี และเอาชนะ อินโดนีเซีย ซึ่งทำให้ผมมีความมั่นใจมากขึ้นครับ,แต่ว่าผมยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง คือต้องเล่นบอลให้เร็วขึ้น รวมทั้งเรียนรู้กับเพื่อนร่วมทีมให้มากขึ้น ผมต้องพัฒนาตนเอง เพื่อโอกาสในการไปเล่นในเอเชียน เกมส์ ถ้าหากได้ไปเล่นผมจะทำให้เต็มที่และพาทีมคว้าเหรียญรางวัลมาฝากแฟนบอลชาวไทยให้ได้ครับ,สำหรับนักฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดเตรียมเอเชียน เกมส์ จะลงเตะฟุตบอลนัดกระชับมิตรพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย อีกหนึ่งนัด ที่สนาม ปากันซารี ในวันที่ 3 มิถุนายน 2561 เวลา 21.15 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
รัชนาท อรัญญไพโรจน์ มิดฟิลด์ ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชุดเอเชียนเกมส์ ออกมาเปิดใจหลังคัมแบ็กกลับมาติดทีมอีกครั้ง และเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
รัชนาท อรัญญไพโรจน์,ชัยนาท ฮอร์นบิล,ช้างศึก,ทีมชาติไทย
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1296881
สื่อสหรัฐฯ วิจารณ์นโยบายกีดกันผู้ลี้ภัยหลังแม่ลูกถูกพรากขณะให้นม
ทำให้เกิดข้อวิจารณ์ว่าเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม15 มิ.ย. 2561 กรณีล่าสุดที่นโยบายกีดกันผู้อพยพของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐฯ ทำให้เกิดการพรากแม่พรากลูกเกิดขึ้นกับหญิงชาวฮอนดูรัส เธอเล่าว่าทางการสหรัฐฯ จับกุมตัวเธอแล้วถูกแย่งลูกออกไปจากอกในขณะที่เธอกำลังให้นมลูกอยู่ หญิงรายนี้เป็นผู้อพยพที่ยังไม่ได้เอกสารอนุญาตจากทางการ เธอถูกคุมขังด้วยข้อหาเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายมิเกล เอ โนกูราส ผู้ช่วยทนายความจากเมืองแมคอัลเลน รัฐเท็กซัสเปิดเผยว่านับตั้งแต่มีการใช้นโยบายนี้อย่างจริงจัง ก็มีเด็กถูกพรากออกไปจากครอบครัวแล้วราว 500 ราย อีกทั้งมีพ่อแม่บางคนที่ถูกจับกุมบอกว่าพวกเขาไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับลูกของพวกเขาบ้าง นาตาเลีย คอร์เนลลิโอ ทนายความของโครงการสิทธิพลเมืองเท็กซัสซึ่งเป็นผู้สัมภาษณ์หญิงชาวฮอนดูรัสที่ถูกแย่งลูกไปจากอกกล่าวว่าการที่รัฐบาลทำเช่นนี้ถือเป็นการทารุณผู้อพยพที่เป็นพ่อแม่คนคอร์เนลลิโอเปิดเผยอีกว่า การสัมภาษณ์คนที่ถูกพรากลูกเหล่านี้ทำให้หลายคนแสดงความเศร้าโศกออกมาอย่างฉับพลัน ผู้หญิงทุกคนจะเริ่มร้องไห้และต้องใช้เวลาสัก 2-3 นาทีเพื่อที่จะสามารถเล่าเรื่องของพวกเธอต่อได้อีกครั้ง คอร์เนลลิโอกล่าวการพรากลูกเช่นนี้กลายเป็นกรณีวิพากษ์วิจารณ์มาตั้งแต่เดือนที่แล้ว (พ.ค. 2561) จนถึงปัจจุบันนับตั้งแต่ เจฟฟ์ เซสชัน รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ประกาศว่าจะไม่ปล่อยให้มี การข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย เข้ามาในสหรัฐฯ อีกต่อไป ซึ่งเรียกว่า zero-tolerance policy โดยจะมีการแยกจับกุมคนเข้าเมืองที่เป็นผู้ใหญ่ และแยกเด็กออก รวมถึงเด็กแบเบาะที่มากับพ่อแม่ออกไปต่างหากโดยไม่ตั้งข้อหาแล้วจะให้เด็กเหล่านั้นตัดสินใจเองว่าจะขอลี้ภัยในสหรัฐฯ หรือไม่เซสชันกล่าวหาพ่อแม่ผู้ปกครองที่นำเด็กลี้ภัยความรุนแรงจากประเทศตัวเองเข้าสู่สหรัฐฯ ว่า เป็นการลักลอบนำเด็กเข้าเมือง เรื่องนี้ทำให้สื่อแอลเอไทม์ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการใช้คำเรียกพ่อแม่ผู้ปกครองที่พาลูกหลานครอบครัวตัวเองอพยพเข้าสหรัฐฯ อีกทั้งยังวิจารณ์ว่าการปฏิเสธไม่ให้พ่อแม่ผู้ปกครองเด็กเข้าสู่ประเทศขัดต่อหลักการสนธิสัญญาของนานาชาติที่สหรัฐฯ ร่วมลงนามด้วย สนธิสัญญาดังกล่าวระบุว่าประชาชนที่หนีออกจากประเทศของตัวเองสามารถเข้าสู่ประเทศอื่นๆ อย่างถูกกฎหมายและสามารถขอลี้ภัยที่ไหนก็ได้ ดังนั้นถ้าหากสหรัฐฯ ใช้กฎหมายลงโทษบุคคลที่อพยพเข้าเมืองเหล่านี้ก็จะถือว่าเป็นการละเมิดกฎหมายนานาชาติสถานการณ์ในภูมิภาคอเมริกากลางที่มีกลุ่มอิทธิพลข่มขู่คุกคามและสภาวะไร้ขื่อแปบีบให้ประชาชนหลายคนต้องการลี้ภัยเข้าสู่สหรัฐฯ ไม่ว่าพวกเขาจะมากับครอบครัวด้วยหรือไม่ก็ตาม แต่ลักษณะการใช้คำพูดและท่าทีแสดงออกของเซสชันก็พยายามป้ายสีให้ผู้คนเหล่านี้ดูเหมือนเป็น คนต่างด้าว ที่เข้ามา รุกราน แต่มาตรการใหม่ที่พวกเขาอ้างใช้ก็มีลักษณะโหดร้ายและละเมิดหลักการผู้ลี้ภัยของนานาชาติ ไม่เพียงเท่านั้นมันยังเป็นมาตรการที่ใช้ไม่ได้ผลจริงในการจัดการปัญหา มีแต่จะเป็นการเพิ่มงานให้กับเหล่าอัยการและผู้พิพากษาเป็น 5 เท่า และสร้างผู้ต้องขังเพิ่มขึ้นให้รัฐมีรายจ่ายเพิ่มแอลเอไทม์เปรียบเทียบว่าระบบการจัดการผู้อพยพสมัยรัฐบาลบารัก โอบามา มีตวามคุ้มค่าทางเศรษฐกิจมากกว่าและมีวิธีการที่มีมนุษย์ธรรมมากกว่าโดยอาศัยการให้ผู้จัดการรายกรณีคอยตรวจสอบผู้ขอลี้ภัยโดยที่ไม่คุมขังพวกเขา แต่รัฐบาลทรัมป์ก็ยกเลิกการใช้วิธีนี้
นโยบายกีดกันผู้อพยพแบบพรากครอบครัวของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์กำลังเป็นประเด็นร้อนในสหรัฐฯ หลังล่าสุดแม่ชาวฮอนดูรัสผู้ต้องการอพยพเข้าเมืองในสหรัฐฯ ถูกแย่งลูกออกไปจากอกทั้งที่กำลังให้นมอยู่
คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน
zero-tolerance policy,การพรากลูก,นโยบายกีดกันผู้อพยพ,ผู้ลี้ภัย,ผู้อพยพ,สหรัฐอเมริกา,สิทธิเด็ก,เจฟฟ์ เซสชัน,โดนัลด์ ทรัมป์
https://prachatai.com/journal/2018/06/77430
สื่อนอกชู อดิศักดิ์ ติดโผซิวรองเท้าทองคำ ซูซูกิ คัพ 2018
เว็บไซต์ซูซูกิคัพยก เจ้ากอล์ฟ อดิศักดิ์ ไกรษร หัวหอกทีมชาติไทย เป็น 1 ใน 7 ตัวเต็งดาวซัลโว ลุ้นตำแหน่งรองเท้าทองคำในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนเดือน พ.ย.นี้ ขณะที่ ตั้ม ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กองกลางช้างศึก ลั่นขอช่วยทีมป้องกันแชมป์,ความเคลื่อนไหวศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ที่จะฟาดแข้งกันในระหว่างวันที่ 8 พ.ย.-15 ธ.ค.นี้ ล่าสุดเว็บไซต์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ www.affsuzukicup.com เผยแพร่บทความหนทางสู่ตำแหน่งรองเท้าทองคำ โดยมี เจ้ากอล์ฟ อดิศักดิ์ ไกรษร ศูนย์หน้าสโมสรเอสซีจี เมืองทองฯ และหัวหอกทีมชาติไทย เป็น 1 ใน 7 ตัวเต็งดาวซัลโว มีลุ้นตำแหน่งรองเท้าทองคำดังกล่าว ส่วนนักเตะอีก 6 คนที่ได้ลุ้นดาวซัลโวในครั้งนี้ ได้แก่ จัน วัฒนากา จากกัมพูชา, เหงียน อันห์ ดุ๊ก จากเวียดนาม, ฟิล ยังฮัสแบรนด์ จากฟิลิปปินส์, อัลเบอร์โต เบโต กอนคัลเวส จากอินโดนีเซีย, ซาฟาวี ราซิด จากมาเลเซีย และอ่อง ธู จากเมียนมา,ขณะที่ถ้วยแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ถูกนำมาถึงประเทศไทยให้แฟนบอลชาวไทยได้ยลโฉมอย่างใกล้ชิดกับกิจกรรมโทรฟีทัวร์ โดยมี ตั้ม ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ อาร์ม ศุภชัย ใจเด็ด ร่วม พูดคุยถึงความพร้อมของทีมชาติไทยในการลงป้องกันแชมป์ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา,ตั้ม ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กองกลางวัย 25 ปี จากสโมสรบางกอกกลาส เปิดเผยว่า เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ครั้งนี้เราจะป้องกันแชมป์ให้ได้ ซึ่งรายการนี้เป็นครั้งที่ 3 ของตน รู้สึกกดดันทุกปี เพราะเราต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเราเป็นที่หนึ่งในอาเซียนอย่างแท้จริง สำหรับแมตช์แรกเจอติมอร์ เลสเต ซึ่งแมตช์แรกเป็นแมตช์ที่กดดันที่สุดในทัวร์ เพราะเราไม่สามารถกำหนดได้ว่าผลจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่าใครจะพร้อมกว่ากัน ส่วนคู่แข่งที่น่ากลัวยกให้ อินโดนีเซีย เพราะเขากระหายที่อยากพิสูจน์ว่าจะก้าวมาเป็นเจ้าอาเซียน ซึ่งปีที่แล้วเราอยู่สายเดียวกับเขา เราสลับกันแพ้ชนะ,อาร์ม ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าดาวรุ่งวัย 19 ปี จากสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า ตื่นเต้น และกดดันบ้าง แต่พยายามเน้นเรื่องสมาธิและศึกษาเทคนิคจากโค้ช และโฟกัสกับทีมให้มากที่สุด ตอนนี้ซ้อมทุกวัน พยายามศึกษาคู่แข่ง และต้องพร้อมอยู่ตลอด ส่วนแมตช์แรกจะเป็นอย่างไรก็อยู่ที่ความพร้อม เราเตรียมตัวและจะทำงานกันอย่างหนัก เชื่อว่าเราจะชนะและคลายความกดดันได้,ทั้งนี้ ธนบูรณ์เป็นหนึ่งในทีมชาติไทยชุดแชมป์ 2 สมัยติดต่อกันปี 2014 และ 2016 ขณะที่ ศุภชัยเพิ่งติดทีมชาติชุดใหญ่เล่นในรายการนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งเจ้าตัวถือเป็นหนึ่งในนักเตะคนสำคัญของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่คว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2 สมัยติดต่อกัน และเป็นหนึ่งในนักเตะรุ่นใหม่ที่กำลังฟอร์มดีเป็นความหวังของทีมชาติ,อนึ่ง สำหรับฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพทีมชาติไทยคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ รวม 5 ครั้ง ในปี 1996, 2000, 2002, 2014, 2016 และรองแชมป์ปี 2007, 2008, 2012 ตามด้วย สิงคโปร์ 4 ครั้ง ปี 1998, 2004, 2007, 2012 เวียดนาม 1 ครั้ง ปี 2008 และมาเลเซีย 1 ครั้ง ปี 2010.
เว็บไซต์ซูซูกิคัพยก อดิศักดิ์ ไกรษร หัวหอกทีมชาติไทย เป็น 1 ใน 7 ตัวเต็งดาวซัลโว ลุ้นตำแหน่งรองเท้าทองคำในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนเดือน พ.ย.นี้
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
อดิศักดิ์ ไกรษร,เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ,ช้างศึก,ฟุตบอลทีมชาติไทย,ธนบูรณ์ เกษารัตน์
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1405400
ผบ.ทบ.เผย ส.อ.ส่งอาวุธทางไปรษณีย์โยงทหาร 12 นาย ยืนยันไม่เกี่ยวข้องระเบิด กทม.
วันนี้ (6 มิ.ย.2560) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยว่า การส่งวัตถุระเบิดผ่านบริษัทขนส่งพัสดุเอกชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครไปยัง 15 จังหวัด จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ส.อ.ธนากรณ์ บุญกาญจน์ เจ้าหน้าที่คลังอาวุธของกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ (ช.พัน 1 รอ.) เป็นผู้เกี่ยวข้องหลัก โดย ส.อ.ธนากรณ์ ได้เปิดแอพพลิเคชั่นไลน์ และเฟซบุ๊กซื้อขายแลกเปลี่ยนอาวุธปืน เมื่อเห็นว่าซื้อขายได้ จึงลักลอบนำวัตถุระเบิดส่วนหนึ่งพร้อมกระสุนออกมาขาย โดยมีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 19 คน ในจำนวนนี้เป็นทหาร 12 นายส่วนที่มีการส่งอาวุธบางส่วนไปยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ จ.ปัตตานี นั้นส่วนใหญ่เป็นกระสุนและวัตถุระเบิดหลักเช่นเดียวกับอาวุธที่มีการลักลอบขนจากภาคตะวันออกในพื้นที่ จ.ตราด ไปยังฝั่งตะวันตกของไทย ทั้ง 2 กรณีไม่เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับเหตุระเบิด 3 จุดในพื้นที่ กทม.ล่าสุด ซึ่งผู้ก่อเหตุใช้ระเบิดแสวงเครื่องผู้บัญชาการทหารบก ระบุด้วยว่า การส่งอาวุธจาก จ.ตราด ไปยังฝั่งตะวันตก ผู้ต้องหาใช้ไทยเป็นทางผ่าน โดยซื้ออาวุธจากต่างประเทศ เพื่อส่งต่อให้กับชนกลุ่มน้อย พร้อมระบุหากพบทหารกระทำผิด ก็พร้อมตัดคนไม่ดีออกจากกองทัพ และไม่ต้องกังวลว่าจะกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กรณีการลักลอบค้าอาวุธในพื้นที่ จ.ตราด เพราะเป็นเรื่องตัวบุคคลของทหารนอกแถวของไทยและทหารนอกแถวของประเทศเพื่อนบ้านขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องการลักลอบค้าอาวุธแล้ว พร้อมได้สั่งคุมเข้มตามแนวชายแดน รวมถึงให้ตรวจค้นรถทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นรถปกติ หรือรถของทางราชการ
ผู้บัญชาการทหารบกยอมรับว่าทหารยศ ส.อ.ส่งอาวุธทางไปรษณีย์และมีทหารเกี่ยวข้องอีก 12 นาย แต่อาวุธที่ตรวจพบทางไปรษณีย์และอาวุธที่มีการลักลอบขนส่งจากภาคตะวันออกไปยังภาคตะวันตก ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด 3 ครั้งล่าสุดในพื้นที่กรุงเทพฯ
อาชญากรรม
ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ผบ.ทบ.,อาวุธ,ไปรษณีย์,ทหาร,ระเบิด,กรุงเทพฯ,ตราด,ปัตตานี,สงขลา,หาดใหญ่,คลังอาวุธ,พัสดุ,ผู้บัญชาการทหารบก
https://news.thaipbs.or.th/content/263173
รับสังคมสูงวัย ออกกฎ ก.พ. ให้ข้าราชการพลเรือนอายุ 60 ปี รับราชการต่อไป
ระบุเพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาความขาดแคลนบุคลากรในสาขาที่เป็นภารกิจสำคัญของรัฐ และเพื่อรองรับปัญหาการเข้าสู่สังคมสูงวัย20 มิ.ย.2562 เผยแพร่ กฎ ก.พ.ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 ลงนามโดย วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ประธาน ก.พ. โดยระบุว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 (5) และมาตรา 108 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 27 มาตรา 33 มาตรา 40 และมาตรา 43 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ก.พ. โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี จึงออกกฎ ก.พ. ไว้ ดังต่อไปนี้ข้อ 1 กฎ ก.พ. นี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปข้อ 2 ให้ยกเลิกความใน (3) ของข้อ 1 ของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป พ.ศ. 2552ข้อ 3 ให้ยกเลิกความใน (1) ของข้อ 4 ของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป พ.ศ. 2552 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน(1) ดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญขึ้นไปหรือประเภททั่วไป ระดับอาวุโสขึ้นไป แล้วแต่กรณี ต่อเนื่องกันมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปีให้ไว้ ณ วันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2562ประกาศดังกล่าวยังมีระบุหมายเหตุไว้ด้วยว่า เหตุผลในการประกาศใช้กฎ ก.พ. ฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎ ก.พ.ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป พ.ศ. 2552 เพื่อให้สามารถนำระยะเวลาของการเคยดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญขึ้นไป หรือประเภททั่วไป ระดับอาวุโสขึ้นไป ซึ่งมีระยะเวลาต่อเนื่องกันมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี มาใช้เป็นคุณสมบัติในการได้รับการพิจารณาให้สามารถรับราชการต่อไปเมื่อสิ้นปีงบประมาณที่ผู้นั้นมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ได้อันเป็นการบรรเทาปัญหาความขาดแคลนบุคลากรในสาขาที่เป็นภารกิจสำคัญของรัฐ และเพื่อรองรับปัญหาการเข้าสู่สังคมสูงวัย จึงจำเป็นต้องออกกฎ ก.พ. นี้
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ กฎ ก.พ.ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562
เศรษฐกิจ,แรงงาน,คุณภาพชีวิต
สังคมสูงวัย,ข้าราชการพลเรือนสามัญ,ข้าราชการ,ก.พ.
https://prachatai.com/journal/2019/06/83054
รองอัยการ เชื่อ ยิ่งลักษณ์ ขอลี้ภัยยาก ไปอังกฤษเสี่ยงถูกล็อกตัว
 ,วันที่ 27 ส.ค. นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด กล่าวถึงเรื่อง การขอลี้ภัยไปต่างประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขอลี้ภัยไปประเทศอังกฤษว่า ไม่น่าจะสามารถกระทำได้ เนื่องจากมองว่ายังไม่มีเหตุที่จะลี้ภัย ซึ่งในต่างประเทศจะไม่มีการมองในเรื่องของการหนีคำพิพากษาของศาลเป็นเรื่องลี้ภัย ต่างจากกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พี่ชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ถือโอกาสหลบหนีออกนอกประเทศ เเละขอลี้ภัยในระหว่างที่กำลังมีปัญหาบ้านเมืองไม่ปกติจากการรัฐประหาร ถึงเเม้จะมีการไต่สวนพยานในศาลไปบ้างเเล้ว เเต่ยังไม่จบกระบวนการ เเต่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะต่างกันเเละผ่านเหตุการณ์รัฐประหารมากว่า 3 ปีเเล้ว,ของคุณทักษิณจะเป็นคนละเเบบกัน ตอนนั้นของคุณทักษิณไม่ต้องไปศาลก็ได้ เเละยังสู้ไม่จบกระบวนการเท่าไหร่ เเต่คุณยิ่งลักษณ์ไปศาลมาตลอด นายปรเมศวร์ ยังอธิบายเพิ่มเติมต่อว่า จะเห็นได้ว่ากรณีของคุณยิ่งลักษณ์ จะไม่เหมือนรายอื่นๆ เช่น กรณีของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และอดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ที่ยื่นขอลี้ภัยทางการเมืองต่อรัฐบาลออสเตรเลีย ที่มีเหตุถูกคุกคามเเล้วจึงหนีไปเเล้วมีสำนวนไปเเสดง เเต่เคสของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ยังไม่รู้ว่าศาลตัดสินอย่างไร เเล้วก็ผ่านการพิจารณาคดีมาโดยตลอด,ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้น มีมูลเหตุมาจากนโยบายทางการเมือง เหตุใดถึงไม่น่าจะลี้ภัยได้ นายปรเมศวร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ถือว่าเป็นคดีไปเเล้ว เเละ น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ต่อสู้มาตลอดจนถึงเเถลงการปิดคดีจนจบเเล้ว เเละกระบวนการอยู่ในชั้นศาลที่มองว่าเป็นธรรมเเล้ว จึงไม่น่าที่จะยื่นขอลี้ภัยได้ เชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ คงจะใช้วิธีการเลือกที่จะไปประเทศที่ไม่มีการขอผู้ร้ายข้ามเเดน เช่น ดูไบ มอนเตเนโกร,ผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างช่วงที่เดินทางไปยังประเทศที่ไม่มีการขอผู้ร้ายข้ามเเดน เเต่จะต้องผ่านประเทศที่เราสามารถขอผู้ร้ายข้ามเเดนได้ ตรงนี้จะสามารถดำเนินการได้ทันทีหรือไม่ นายปรเมศวร์ กล่าวว่า เชื่อว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปจะ ไม่ได้พำนักอยู่นาน ถึงเเม้จะไปในประเทศที่เรามีสนธิสัญญา เราไม่สามารถที่จะยื่นคำร้องได้ทัน อย่างนายทักษิณเอง ก็จะอยู่ประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามเเดนเป็นหลัก เวลาจะเดินทางไปญี่ปุ่น หรืออังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศที่มีสนธิสัญญา จะเป็นการลักษณะโฉบไป คือ ไปเเล้วกลับ จะต่างจาก นายราเกซ สักเสนา ที่ไปพำนักอยู่ในเเคนาดา ไม่ขยับหนี จึงถูกล็อกตัว เเต่เชื่อว่ากรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อีกไม่นานคงถูกเพิกถอนหนังสือเดินทาง,เมื่อถามว่า จากนี้ไปเราสามารถที่จะทำเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามเเดนได้หรือไม่ นายปรเมศวร์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถทำได้ ซึ่งกรณีนี้จะต่างกันกับการทำเรื่องขอส่งผู้ร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งจะง่ายกว่า เพราะส่งหมายจับของศาลพร้อมหลักฐานไปประกอบก็สามารถทำได้ เเต่กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พอมาอยู่ในกระบวนการของศาล เราจะเอาตรงไหนไปยื่นในคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามเเดน เนื่องจากเราจะต้องรออ่านคำพิพากษาก่อนถ้าศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย เราก็เอาคำพิพากษาไปยื่นประกอบคำร้อง จึงจะมีเหตุที่เอาตัวมาลงโทษได้ เราก็ต้องรอศาลพิพากษาในตอนนี้ เฉพาะหมายจับของศาลกรณีที่หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาอย่างเดียว ตนมองว่ายังไม่เพียงพอ ส่วนปัญหาอีกปัญหาหนึ่งคือ เราก็ยังไม่ทราบถิ่นที่อยู่ของจำเลยซึ่งยังไม่มีข้อยืนยันมา คล้ายกับกรณีของ นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ที่คาดว่าจะใช้วิธีการเดียวกับนายทักษิณคือ ไม่รู้พำนักอยู่ที่ไหนเป็นเวลานาน ซึ่งเเม้จะเเปลคำร้องเสร็จเเล้ว ก็ไม่สามารถส่งได้ เพราะไม่รู้ที่พำนัก,เคสของยิ่งลักษณ์ถึงเเปลคำร้องเสร็จ ก็เเค่ข้อหาหลบหนีการไปฟังผลคำพิพากษา จึงยังไม่ใช่เรื่องที่ต้องส่งผู้ร้ายข้ามเเดน ใครเขาก็ไม่ส่งให้ ต้องรอผลคำพิพากษาก่อน อย่างเณรคำที่เราเอาตัวมาได้ เพราะมีข้อหาที่จะดำเนินคดี ไม่ใช่หลบหนีการควบคุม เจ้าหน้าที่มีเนื้อหาคดีอยู่,เมื่อถามว่า หากวันที่ 27 กันยายน ที่เป็นการอ่านคำพิพากษาลับหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เเล้วศาลยกฟ้อง ตัวจำเลยหากกลับมายังจะถูกคุมขังหรือไม่ นายปรเมศวร์ กล่าวว่า หากยกฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ย่อมสามารถเดินทางกลับมาได้โดยไม่ต้องถูกคุมขัง หมายจับที่ให้จับตัวมาฟังคำพิพากษาก็จะยกเลิก เเต่ก็ยังมีปัญหาอยู่ว่า หากยกฟ้องเเล้วอัยการยื่นอุทธรณ์ ก็เป็นไปได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะไม่กลับมา เพราะกลับมาก็จะต้องดูว่า ศาลยกเลิกหมายจับหรือไม่ เพราะยังมีกระบวนการของการขังระหว่างอุทธรณ์ ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถทำได้ เพราะขณะนี้ไม่มีตัว เเต่ถ้าตัวกลับมาเเล้ว ศาลก็อาจจะออกหมายเรียกมารับทราบเรื่องการอุทธรณ์เเละมาควบคุมตัวได้,ปกติคดีอาญา ถ้ายกฟ้องเเล้วศาลให้ขังระหว่างอุทธรณ์จำเลยต้องประกันตัวไป เเต่ถ้ายกฟ้องเเล้วไม่มีตัว ศาลก็จำคุกระหว่างอุทธรณ์ไม่ได้ ซึ่งตัวจำเลยก็อาจกลับเข้ามา เเต่ถ้ากลับเข้ามา ศาลก็อาจจะไม่ให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรตามคำสั่งเดิม เพราะตัวยังอยู่ในอำนาจศาล เเต่คิดว่าเขาคงไม่มา คงต้องดูก่อนว่าอัยการจะอุทธรณ์ไหม ถ้าอุทธรณ์คงไปเลยไม่กลับมา เเต่ถ้าไม่อุทธรณ์คงจะกลับมา,เมื่อถามต่ออีกว่า หากยกฟ้องเเล้วไม่กลับมา เกิดอัยการอุทธรณ์ สิทธิในการอุทธรณ์คดีฝ่ายจำเลยจะถูกตัดสิทธิตามกฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญที่ระบุต้องมีตัวจำเลย หรือไม่ รองอธิบดีอัยการสำนักงานชี้ขาดคดี กล่าวว่า ตาม ป.วิอาญา ที่มีการเเก้ไขใหม่ว่า ถ้าตัวจำเลยจะยื่นอุทธรณ์จะต้องมาปรากฏตัวต่อศาล เเต่ไม่ได้เขียนในกรณีที่โจทก์เป็นฝ่ายยื่นอุทธรณ์ เเล้วห้ามมิให้จำเลยยื่นเเก้อุทธรณ์โจทก์ได้ กฎหมายเขียนเเต่เพียงว่า หากจำเลยยื่นอุทธรณ์ต้องมาเเสดงตัว หากผลออกมายกฟ้อง.
รองอธิบดีอัยการสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด เชื่อคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่น่าจะขอลี้ภัยในต่างประเทศได้ เหตุเจ้าตัวผ่านการพิจารณาคดีมาโดยตลอด แล้วก็ไม่รู้ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร ฟันธงไม่ไปอังกฤษ เพราะเสี่ยงถูกล็อกตัว
ข่าว,ทั่วไทย
ออกหมายจับ ยิ่งลักษณ์,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,ตัดสินจำนำข้าว,จำนำข้าว,ลี้ภัยยาก,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1051690
หวังจะดีโดนใจ วิลลี่ ลุยเต็มที่ ทำซิทคอมขายขำ
ขอเลือกทำในสิ่งที่ใช่ และชอบ วิลลี่ แมคอินทอช อดีตพระเอกฮอตที่เคยหล่อเหลา ลุยทำงานเบื้องหลังอย่างเต็มที่ สุขสุดๆ กับการทำงานซิทคอมเน้นขายขำเรื่อง ฟิตเนสสะเด็ดยาด ที่ออนแอร์ไปได้พักหนึ่งแล้วทางช่อง 9 MCOT HD โดยวิลลี่ให้สัมภาษณ์อย่างสนุกสนานถึงการทำซิทคอมเป็นครั้งแรกในชีวิต ในงานเปิดตัวธุรกิจร้านใหม่ Bake Cheese Tart ที่ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิล์ด,เรื่องนี้หอย (เกียรติศักดิ์ อุดมนาค) เป็นผู้จัดและนักแสดงด้วย ก็ให้หอยบริหารไป เพราะยังไม่มีครอบครัว เราก็อยากจะอยู่กับลูก ครอบครัวไง (ยิ้ม) เป็นซิทคอมเรื่องแรกที่เราทำ ก่อนจะทำเราอ่านเกมในตลาดว่า คนกำลังเห่ออะไรบ้าง รายการก็เริ่มดร็อป รายการมีเยอะแล้วก็ทำยาก ด้วยการแข่งขันมีเยอะ ทีวีมีหลายช่อง ความต้องการตอบโจทย์ไวมาก เมื่อก่อนเวลารายการหนึ่งๆ จะโดน ไม่โดน ใช้เวลา 3 เดือน 6 เดือน แต่ทุกวันนี้ใช้เวลา 1 เดือนแรกต้องโดนเลยนะ ถ้าเราจะทำอะไรแล้ว ทำได้ไม่ดี หรือทำแล้วไม่มีกำไร ก็จะไม่รู้จะทำไปทำไม,ที่เราเลือกทำซิทคอม ถ้าดี ถ้าโดนก็น่าจะอยู่ยาว และเป็นอะไรที่เราไม่เคยทำ เวลาทำก็จะตื่นเต้น (ยิ้ม) ละครซิทคอมก็จะต่างจากละคร ซิทคอมควบคุมง่ายกว่าทำละคร ถ่ายทำในสตูดิโอ ซิทคอมทำเป็นตอนๆ ละครเราก็ต้องอยู่กับมันปีหนึ่ง ไหนจะเรื่องบท คนเขียนบท ถ่ายทำ ตัดต่อ ถ่ายทำเสร็จแล้ว ก็ต้องลุ้นอีกว่าจะได้ออกอากาศเมื่อไหร่ จะปีนี้หรือปีหน้า โอ อันนี้ทรมาน ใครที่เป็นผู้จัดละครเก่งมากๆ อีกอย่างทำละครสมัยนี้ ไม่ได้กำไรแบบสมัยก่อนหรอก,เรื่องนี้เราวางไว้ 27 ตอน ออกอากาศมาแล้ว 5 ครั้ง บทต้องปรับ การถ่ายทำต้องปรับ บทอย่าออกนอกเรื่องราวกันเยอะ (ยิ้ม) หลังจากนี้ไปก็น่าจะเริ่มลงตัว จริงๆ อยากจะต่อยอดไปละครด้วย ให้หอยทำละครแนวหนึ่ง แล้วผมกับแหม่ม (คัทลียา กระจ่างเนตร) จะทำละครแนวหนึ่ง ผมก็มีแนวทางละครที่คิดไว้นะ แต่ไม่รู้ว่าจะได้ทำหรือเปล่า ค่อยว่ากัน (ยิ้ม).
ขอเลือกทำในสิ่งที่ใช่! และชอบ! วิลลี่ แมคอินทอช อดีตพระเอกฮอตที่เคยหล่อเหลา ลุยทำงานเบื้องหลังอย่างเต็มที่ สุขสุดๆ กับการทำงานซิทคอมเน้นขายขำเรื่อง
null
วิลลี่ หอยทำซิตคอม,ฟิตเนสสะเด็ดยาด ซิตคอม,วิลลี่ แมคอินทอช,เกียรติศักดิ์ อุดมนาค,คัทลียา กระจ่างเนตร,ซิตคอมตลก,ซิทคอมขำช่อง9,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/615538
เนวิลล์ สะกิดแฟนผี อย่าหัวร้อน แม้พ่ายสิงห์ หมอไม่รับเย็บ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 23 ต.ค. ว่า แกรี เนวิลล์ ตำนานฟูลแบ็กของ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สะกิดแฟนบอลของทีมอย่าตื่นตะหนกตกใจจนหัวร้อนหลังทีมรักบุกไปโดน สิงโตน้ำเงิน เชลซี ไล่ขยี้แบบหมอไม่รับเย็บถึง 4-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนนี้,ปิศาจแดง ภายใต้การคุมทีมของ โชเซ มูรินโญ ต้องเผชิญกับสภาวะกดดันอย่างหนักหลังพ่ายแพ้เละ และนับเป็นการพ่ายแพ้แบบด้วยสกอร์ห่างมากที่สุดเป็นครั้งที่ 4 และเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมทั้งหมด,อย่างไรก็ตาม แกรี เนวิลล์ ยังเชื่อว่า มูรินโญ คือกุนซือที่เหมาะสมที่สุดแล้วของทีม และมั่นใจว่านายใหญ่ฝอยทองรายนี้จะพาปิศาจแดงกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง,มีปฏิกิริยาโอเวอร์เกินไปหลังจบเกม โชเซ มูรินโญ จะเผชิญกับความกดดันอย่างหนักและมันจะปะทุก่อนเกมดาร์บีวันพุธนี้ แต่ผมค่อนข้างผ่อนคลายนะ,เมื่อคุณเป้นแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมา 30 ปี หรือ 50 ปี คุณจะต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้และคุณต้องยอมรับเมื่อสิ่งเหล่านั้นถาโถมเข้ามาและต้องเข้าใจกับเรื่องนี้,พวกเขาได้กุนซือที่ยอดเยี่ยมเข้ามาซึ่งเคยพิสูจน์ในทุกๆลีกในยุโรปแล้วและพวกเขาก็ต้องอนุญาติให้เขาทำหน้าที่ด้วยระบบของเขาต่อไปอีก สองหรือสามปีข้างหน้า เข้าใจตรงกันนะ
แกรี เนวิลล์ อดีตตำนานแข้งของ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กระตุ้นแฟนบอลของทีมอย่าตื่นตะหนกหลังพ่ายต่อ เชลซี แบบหมดรูปถึง 0-4 เมื่อคืนที่ผ่านมา
null
พรีเมียร์ลีก,แกรี เนวิลล์,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,เชลซี,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/762581
เมียยืมมือลูกสาวโต้กลับมือเกรียนคีย์บอร์ด หนุ่ม-ศรราม ยืนข้าง ติ๊ก ไม่คิดเป็นดราม่า
อั้ยย่ะ เกิดประเด็นดราม่าขึ้น เมื่อ ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ภรรยา หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ โพสต์ภาพลูกสาววัย 2 เดือน น้องวีจิ ชูนิ้วกลาง เพื่อตอกกลับนักเลงคีย์บอร์ดที่มาวิพากษ์วิจารณ์เธอ บ้างก็ว่าการกระทำนี้เป็นวิธีที่ไม่เหมาะสม เพราะลูกยังเล็ก ถาม หนุ่ม-ศรราม ที่งานบวงสรวงละคร THE HUSBANDS สามีสีทอง ช่องอัมรินทร์ ทีวี,ดราม่าที่ติ๊กโพสต์ลงไอจี?,ลำดับแรกเลยผมกราบขอบพระคุณแฟนๆ ต้องบอกว่ายอดฟอลโลเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งไม่ใช่ฟอลโลผม แต่ฟอลโลวีจิเยอะมาก เข้ามาอวยพรให้ครอบครัวเราตลอดเลย ส่วนในเรื่องที่เป็นคอมเมนต์แปลกๆ พวกไซเบอร์บูลลี่ของคนบางกลุ่ม เป็นคอมเมนต์ที่ใช้คำพูดไม่สุภาพ ล่วงเกิน มันไม่สมควรมากๆ ถ้ามันอยู่ในแบบที่พอดีเราก็ยังพอเข้าใจได้ ความหวังดี ความปรารถนาดี เป็นห่วงวีจิตรงนั้นต้องกราบขอบพระคุณมาก ส่วนที่เป็นไซเบอร์บูลลี่มาเพื่อกลั่นแกล้งทำให้พ่อแม่เกิดความวิตกกังวลในการเลี้ยงลูก หรือไม่ประสงค์ดี ผมคิดว่าตัวผมเองเป็นพ่อ ติ๊กเองเป็นแม่ สัญชาตญาณของความเป็นพ่อแม่เราคงไม่ให้ใครมาทำให้ครอบครัวเราได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เป็นความประสงค์ร้ายหรือคิดไม่ดีกับครอบครัวเรา ฉะนั้นผมก็จะไม่ให้ความสำคัญแล้วก็ไม่สนใจคนเหล่านี้ ก็บล็อกไป ถ้าผมเจอก็จะบล็อก,มันกระทบจิตใจคนเป็นพ่อแม่ไหม?,ไม่กระทบเลยครับ ผมไม่ให้ความสำคัญกับคนเหล่านี้ ไม่ได้มีบุญคุณอะไรกับเราเพราะฉะนั้นเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ในชีวิตของพวกเรา,คนมองว่าภาพไม่เหมาะสม?,เวลาคนที่เขาเขียนคอมเมนต์มาด่าพวกเรามันก็ดูไม่เหมาะสมครับ,ติ๊กมีคุยกับเรายังไงบ้าง?,ก็คุยกันครับ มันธรรมชาติอยู่แล้ว ทุกๆ ครอบครัวก็ต้องเจอ นักแสดงคนอื่นๆ ก็เจอ ฉะนั้นสิ่งที่ทำก็คือเรามีสิทธิ์ที่จะปกป้องตัวเราเองและครอบครัวเรา ไม่ยอมให้เขามาใส่ความคิดที่เราจะต้องไปวิตกกังวลอะไรเยอะมาก,ก่อนจะโพสต์ติ๊กได้คุยกับเราไหม?,ไม่ครับ,มีคนมาช่วยเลี้ยงลูกเยอะไหม?,ผมเรียนอย่างนี้นะครับ ถ้าจะช่วยเลี้ยงหรือให้คำแนะนำทางเราเปิดรับและกราบขอบพระคุณมากๆ แต่บางทีคำพูดที่มันไม่สุภาพหรือไม่ได้ประสงค์ดี แล้วมาถึงที่ลูกเรา มาถึงภรรยาเราเป็นใครก็ต้องรู้สึก ก็คงจะต้องปกป้องครอบครัวตัวเอง,ไปออกรายการเจอนุ้ย-สุจิรามา?,ก็ดีครับ ต่างคนก็ต่างมีครอบครัวมีลูกกันหมดแล้ว เราก็มีความปรารถนาดีให้กัน มีมิตรภาพที่ยังคงอยู่,คนดีใจกับภาพที่ได้เห็นถึงมิตรภาพของเรากับนุ้ย?,ขอบพระคุณมากครับ,วีจิตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?,วีจิเพิ่งจะครบ 2 เดือน ก็พาเขาออกไปเที่ยวข้างนอกตลอดเลย ทุกสิ่งอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ก็ช่วยกันเลี้ยง,ต้องรีบกลับบ้านไปหาลูกหาเมียไหม?,ก่อนจะมาทำงานก็บอกเขาทุกวันหอม อุ้มให้เขาลงมาส่งที่รถ บอกเขาว่าปาป๊าไปทำงานแล้วนะ บางทีก็ไม่รู้ว่าเขาติดเราหรือเราติดเขากันแน่ (หัวเราะ).
อั้ยย่ะ!! เกิดประเด็นดราม่าขึ้น เมื่อ ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ภรรยา หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ โพสต์ภาพลูกสาววัย 2 เดือน น้องวีจิ ชูนิ้วกลาง เพื่อตอกกลับนักเลงคีย์บอร์ดที่มาวิพากษ์วิจารณ์เธอ
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์,หนุ่ม ศรราม,ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์,น้องวีจิ ลูกสาวหนุ่ม ติ๊ก,น้องวีจิ,น้องวีจิ ลูกหนุ่ม ติ๊ก,ศรราม เทพพิทักษ์,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1591143
หนุ่มอังกฤษ สุดกล้า อาสาไปสู้กับไอซิส ลั่นไกยิงตัวตาย ดีกว่าถูกจับเป็นเชลย
(ภาพเหตุการณ์กลุ่มไอซิสจับชายหนุ่มหลายคนเป็นเชลยเมื่อส.ค. 2557),สุดเศร้า ไรอัน ล็อค หนุ่มอังกฤษ อาสาไปเป็นนักรบกับกองกำลังเคิร์ดในซีเรีย เหนี่ยวไกยิงตัวตาย จบชีวิต ดีกว่าจะถูกกลุ่มไอซิสจับตัวไปเป็นเชลย นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนชาวเคิร์ด ยกย่องไม่มีคำใดมาอธิบายความกล้าหาญของไรอัน ล็อค ที่ได้ตัดสินใจเช่นนี้,เมื่อ 1 ก.พ.60 สำนักข่าวบีบีซี รายงาน ไรอัน ล็อค หนุ่มชาวอังกฤษ 20 ปี อาสาไปเป็นนักรบกับกองกำลังชาวเคิร์ด YPG ต่อสู้กับกลุ่มมุสลิมติดอาวุธสุดโหด รัฐอิสลาม หรือไอซิส ในประเทศซีเรีย กล้าหาญมาก หันปากกระบอกปืนลั่นไกยิงตัวตาย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนกลุ่มไอซิสจับตัวไปเป็นเชลย,แหล่งข่าวในกองกำลัง YPG เผยว่า ไรอัน ล็อค หนุ่มอังกฤษจากเมืองไชเชสเตอร์ แคว้นเวสต์ ซัสเซกซ์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมา ในระหว่างต่อสู้กับกลุ่มไอซิสที่หมู่บ้านจาบาร์ เมืองรักกา ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มสุดโหด โดยแหล่งข่าวเผยกับบีบีซีว่า พบร่องรอยบาดแผลจากกระสุนปืนที่บริเวณใต้คางของไรอัน ล็อค จึงทำให้สันนิษฐานว่า เขาได้ยิงตัวตาย จบชีวิต ดีกว่าจะถูกไอซิสจับตัวไปเป็นเชลย,ขณะที่แหล่งข่าวยังเผยรายละเอียดของเหตุการณ์สลดครั้งนี้ว่า มีนักรบกองกำลังเคิร์ด YPG จำนวน 5 คน ต้องตกอยู่ใต้การควบคุมตัวของไอซิส ที่หมู่บ้านจาบาร์ ก่อนที่นักรบทั้ง 5 คนจะถูกสังหาร และหลังจากกองกำลังเคิร์ดสามารถเข้าไปกู้ศพนักรบทั้ง 5 ออกจากหมู่บ้านมาแล้ว จากการตรวจสอบสภาพศพ บ่งชี้ให้เห็นว่า ไรอัน ล็อค ดูเหมือนจะตัดสินใจยิงตัวตาย เพื่อที่จะได้ไม่ถูกไอซิสจับไปเป็นเชลย,ด้านมาร์ค แคมป์เบลล์ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนชาวเคิร์ด กล่าวว่า ไม่มีคำใดมาอธิบายถึงความกล้าหาญของ ไรอัน ล็อค ที่ได้ตัดสินใจทำเช่นนี้ ซึ่งตามความเห็นส่วนตัวของเขาแล้ว เห็นว่า ไรอัน ล็อค สมควรได้รับการเชิดชูเกียรติขั้นสูงสุดในฐานะชายชาตินักรบที่กล้าหาญในการเผชิญหน้ากับศัตรูที่โหดร้ายป่าเถื่อน
สุดเศร้า ไรอัน ล็อค หนุ่มอังกฤษ อาสาไปเป็นนักรบกับกองกำลังเคิร์ดในซีเรีย เหนี่ยวไกยิงตัวตาย จบชีวิต ดีกว่าจะถูกกลุ่มไอซิสจับตัวไปเป็นเชลย นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนชาวเคิร์ด ยกย่องไม่มีคำใดมาอธิบายความกล้าหาญของไรอัน ล็อค
null
ไรอัน ล็อค,หนุ่มอังกฤษ นักรบกองกำลังเคิร์ด,ยิงตัวตาย,ไอซิส,ยิงตัวตาย เลี่ยงเป็นเชลยไอซิส
https://www.thairath.co.th/content/848760
เร่งช่วยพลายงาเดียว พบป่วยหนัก เดินโงนเงนในป่าภูวัว (คลิป)
วันที่ 23 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายทวีป คำแพงเมือง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จ.บึงกาฬ ว่า วันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสถานีวิจัยสัตว์ป่าภูหลวง และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ตรวจพบช้างป่าบาดเจ็บ บริเวณแหล่งน้ำห้วยทราย ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เป็นช้างป่าเพศผู้ เต็มวัย 1 ตัว มีลักษณะเด่นคือ มีงาทางด้านขวาข้างเดียว,พบมีอาการบาดเจ็บที่ขาหลังทั้งสองข้าง ขาหลังทางด้านซ้ายมีอาการบาดเจ็บมาก การเดินเคลื่อนที่ค่อนข้างลำบาก แสดงว่ามีอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรงและเรื้อรัง จึงได้รายงานให้นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 ทราบ ,หลังจากได้รับรายงาน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร เปิดเผยถึงกรณีช้างป่าที่ได้รับบาดเจ็บ ว่า จำเป็นจะต้องรีบดำเนินการรักษาโดยด่วน ซึ่งในเบื้องต้น สบอ.10 ได้สั่งการเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่ในส่วนเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบและติดตามพฤติกรรม ประเมินอาการบาดเจ็บช้างป่า เพื่อเตรียมการรักษาโดยด่วน พร้อมกับขอรับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญในการรักษาจากกรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อมาร่วมรักษา ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดตามช้างป่า เพื่อทำการยิงยาซึม และรักษาอาการโดยด่วนแล้ว.,(คลิปช้างป่าจากสถานีวิจัยสัตว์ป่าภูหลวง) 
พบช้างป่างาเดียว เพศผู้ โตเต็มวัย ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จ.บึงกาฬ บาดเจ็บที่ขาหลังทั้ง 2 ข้าง อาการน่าเป็นห่วง ชัยวัฒน์ ประสานทีมสัตวแพทย์กรมอุทยานฯ เข้ายิงยาซึม รักษาโดยด่วน
ข่าว,ทั่วไทย
ช้าง,ช้างป่า,ช้างป่วย,ภูวัว,คลิปช้างป่วย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1289442
พี่ตูน สตาร์ทวิ่งตี 2 พระเอกเต้ย พงศกร ร่วมแจมเซตแรกเข้านครสวรรค์
เมื่อเวลา 02.15 น. วันที่ 12 ธ.ค. 2560 ก้าวคนละก้าว โดย นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้สแลม วันที่ 42 ก้าวที่ 32 ในวันนี้ เซตแรกระยะทาง 19.7 กม. เริ่มต้นที่ เริ่มวิ่งจาก ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 สายชัยนาท - อ.มโนรมย์ ไปบรรจบ ที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 สายบางปะอิน – แยกหลวงพ่อโอ ทุ่งหน้าสู่ จ.นครสวรรค์ โดยเริ่มจากหมวดทางหลวงชัยนาท ตำบลธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ไปยังจุดเช็คพอยต์ที่ 1 บริเวณ บขส. เก่า จ.อุทัยธานี เพื่อมุ่งหน้าต่อไปยัง จังหวัดนครสวรรค์ หลังจากทำการหยุดพักมา 2 วัน,บรรยากาศก่อนเริ่มวิ่ง ตูน ลงมาจากรถบัส ด้วยท่าทียิ้มแย้มแจ่มใส สภาพร่างการที่พร้อมเต็มที่ หวังวิ่งชดเชยวันที่หยุดพักไปเพื่อให้ถึงที่หมายทำตามกำหนดการพร้อมพบปะพูดคุยกับบรรดาหัวหน้าส่วนราชการ บุคลากรของสำนักงานสาธาณสุขจังหวัดชัยนาท ประชาชน และแฟนคลับที่มามอบสิ่งของที่ระลึก และให้กำลังใจในการก้าวของตูนวันนี้ ซึ่งในเซตแรกนี้มีพระเอกมาดเข้ม เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์ เข้าร่วมวิ่งตั้งแต่เซตแรก,แม้ว่าในวันนี้จะเริ่มวิ่งตั้งแต่ ตี 2 แต่อากาศเป็นใจ เย็นสบาย มีลมอ่อนๆ ช่วงระหว่างทางผ่านที่ผ่าน รพ.สต.ต.ธรรมามูล สี่แยกไฟแดง อ.มโนรมย์ และรพ.สต.ต.บ้านหางน้ำหนองแขม ซึ่งเป็นจุดใหญ่มีนายเจิดศักดิ์ นิลอุบล นายอำเภอมโนรมย์ มาให้การตอนรับตูนและคณะ ซึ่งในการวิ่งออกจากชัยนาทครั้งนี้ ประชาชน ไม่อยากให้ คณะของตูนต้องหยุดชะงักหลายครั้ง อยากให้ตูนวิ่งรวดเดียวจบในเซตแรกจึงมารอในจุดใหญ่ๆ โดยในแต่ละจุดมีเจ้าหน้าที่และประชาชน มาร่วมสมทบทุนบริจาคและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ตลอดสองข้างทาง พร้อมทั้งตะโกนเชียร์ พี่ตูนสู้ๆ เมื่อตูนวิ่งผ่านในแต่ละจุด แต่สิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับตูน คือ ลูกส้มโอขาวแตงกวา ซึ่งเป็นผลไม้ประจำจังหวัดชัยนาท ที่แฟนคลับนำธนบัตรเสียบไม้มาปักไว้ และมีรูปภาพของตูนเองอยู่ตรงกลางมอบให้ จนต้องยกชูเหนือศรีษะและพูดว่า ขอบคุณที่อุตส่าห์ตื่นมารอผมแต่เช้าครับ,ต่อมาตูนและคณะทีมงานก้าวคนละก้าว ได้วิ่งเข้าเขตจังหวัดนครสวรรค์ ในเซตที่ 1 เป็นระยะทางโดยประมาณ 19.4 กิโลเมตร บริเวณ บขส.เก่า-แยกอุทัยธานี เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.ที่ผ่านมา โดยมีประชาชนชาวจังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดอุทัยธานี จำนวนนับพันคนมารอต้อนรับและร่วมบริจาคเงินตลอดเส้นทาง,ส่วนในเซตที่ 2 นั้น พี่ตูนจะเริ่มวิ่งในเวลาประมาณ 06.30 น. ไปจนถึงปั๊ม NGV ตำบลย่านมัทรี อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เป็นระยะทางประมาณ 15.0 กิโลเมตร ขณะที่ในเซตที่ 3 จะเริ่มวิ่งตั้งแต่เวลา 15.00 น.จาก ปั๊ม NGV ตำบลย่านมัทรี อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ไปจนถึงกรมทหารราบที่ 4 อำเภอเมืองจังหวัดนครสวรรค์ เป็นระยะทางประมาณ 13.8 กิโลเมตร และในเซตที่ 4 จะเริ่มวิ่งจากกรมทหารราบที่ 4 อำเภอเมืองจังหวัดนครสวรรค์ เวลาประมาณ 18.00 น. ไปจนถึงปั๊มน้ำมัน Susco ตำบลหนองกรด อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เป็นระยะทางประมาณ 11.7 กิโลเมตร และจะนั่งรถย้อนกลับมาที่บริเวณสะพานเดชาติวงศ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อร่วมกันทำกิจกรรมเล็กๆกับชาวจังหวัดนครสวรรค์ และจะพักค้างคืนในค่ายจิระประวัตินครสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์.
พี่ตูน ยังกำลังใจดีเยี่ยม ออกวิ่งตั้งแต่เช้ามืดเวลา 02.00 น.ท่ามกลางอากาศที่เป็นใจ เพื่อออกจากชัยนาทมุ่งหน้าเข้าสู่เขต จ.นครสวรรค์ เมื่อเวลา 05.00 น.ที่ผ่านมา ขณะที่การวิ่งเซตแรก มี พระเอกมาดเข้ม เต้ย พงศกร ร่วมแจมด้วย
ข่าว,ทั่วไทย
ก้าวคนละก้าว,ตูน บอดี้สแลม,อาทิวราห์ คงมาลัย,ชัยนาท,เต้ย พงศกร,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1150383
ชาวจีนกว่า 1.6 ล้านคน อพยพหนีน้ำท่วม
อาคารพักอาศัยแห่งหนึ่งในเขตปกครองตนเองทิเบต ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน พังถล่มลงมาทั้งหลัง เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นจากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง จนกัดเซาะตลิ่งและฐานของอาคาร จนพังถล่มลงมาในที่สุด ขณะที่รถบรรทุกอีกคันหนึ่งที่จอดอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำก็ถูกกระแสน้ำพัดพาไป หลังดินริมตลิ่งยุบตัว ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดส่วนสถานการณ์อุทกภัยในมณฑลหูหนาน ทางตอนกลางของประเทศ ยังคงเลวร้าย เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ระบุว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องมานานมากกว่า 10 วัน ส่งผลให้ประชาชนประมาณ 1600000 คน ต้องอพยพออกนอกพื้นที่เสี่ยงประสบภัยพิบัติ ภัยพิบัติในหลายพื้นที่ของจีนได้สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับบ้านเรือนประชาชนมากกว่า 400000 หลัง ซึ่งในจำนวนนี้มีอาคารพังถล่มไปแล้วประมาณ 53000 หลัง นอกจากนี้ยังทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 63 คนและสูญหายอีกอย่างน้อย 20 คน
ชาวจีนกว่า 1.6 ล้านคนเร่งอพยพหนีน้ำท่วมและดินถล่ม หลังมีฝนตกหนักต่อเนื่องนานมากกว่า 10 วัน ขณะที่มีรายงานว่ามีประชาชนเสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้ไปแล้วอย่างน้อย 63 คน
ต่างประเทศ
จีน,น้ำท่วม,ดินถล่ม,ฝนตก,ภัยพิบัติ,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/264232
แอมเนสตี้เผยนักปกป้องสิทธิฯ ทั่วโลก ถูกสังหารเพิ่มขึ้นเท่าตัว
เนื่องในโอกาส วันสิทธิมนุษยชนสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยแพร่รายงานเรื่อง Deadly but Preventable Attacks: Killings and Enforced Disappearances of Those who Defend Human Rights หรือ การโจมตีที่รุนแรงแต่สามารถป้องกันได้ : การสังหารและการบังคับสูญหายต่อนักปกป้องสิทธิมนุษยชน โดยพบว่านักปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างน้อย 281 คนทั่วโลก ถูกสังหารตลอดปี 2559 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2558แอมเนสตี้พบว่าประมาณ ร้อยละ 49 ของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ถูกสังหารเป็นผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวด้านที่ดินและสิ่งแวดล้อม ที่เหลือเป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเด็นต่างๆ เช่น สิทธิสตรี สิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศ พนักงานบริการ (sex workers) สหภาพแรงงาน ชนพื้นเมือง กลุ่มชาติพันธุ์ ทนายความ นักข่าว ไปจนถึงชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ความขัดแย้งหรือถูกควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธ และอื่นๆย้อนดูสถิตินับตั้งแต่ปี 2541 พบว่ามีนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ถูกสังหารไปแล้วประมาณ 3500 คน ซึ่งตัวเลขที่แท้จริงคาดว่าจะสูงกว่านี้มาก เนื่องจากมีหลายคนที่ถูกอุ้มหายจนไม่ทราบชะตากรรมที่ชัดเจน โดยทวีปอเมริกาเป็นพื้นที่มีนักปกป้องสิทธิมนุษยชนถูกสังหารมากที่สุดในโลก รายงานดังกล่าวได้มาจากการรวบรวมข้อมูลเชิงสถิติและการสัมภาษณ์สมาชิกครอบครัว เพื่อน และผู้ร่วมงานของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ถูกสังหาร หรืออุ้มหาย นอกจากจะแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ออกมาทำงานเพื่อสิทธิมนุษยชนของตนเองและผู้อื่น จะต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากภาครัฐและเอกชนมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เรายังพบว่าวัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิด ซึ่งผู้ก่อเหตุสังหารหรืออุ้มหายไม่ถูกดำเนินคดี ยังเสริมให้การทำงานเพื่อสิทธิมนุษยชนทั่วทุกมุมโลกอันตรายมากขึ้นไปอีกนักปกป้องสิทธิมนุษยชนคือคนธรรมดาๆ ที่กล้าหาญและเสียสละในการทำงานเพื่อพัฒนาสังคมให้ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นการแบ่งเบาภาระหน้าที่ของรัฐในการดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชนอีกทางหนึ่ง แอมเนสตี้จึงเรียกร้องให้ทุกประเทศ รวมถึงประเทศไทย ยอมรับและคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นทางการและจริงใจ ภาครัฐควรมีมาตรการป้องกันไม่ให้พวกเขาถูกคุกคามหรือทำร้ายจากการทำงาน ตลอดจนควรนำตัวผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบต่อการคุกคามทำร้ายต่างๆ มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม นอกจากนี้ แอมเนสตี้ยังเรียกร้องให้ทุกประเทศเร่งสอบสวนต่อการสังหารและการอุ้มหายที่เกิดขึ้นในอดีตอย่างจริงจังมากขึ้น เพื่อให้ความจริงปรากฏต่อสังคมโดยเร็วด้วย
แอมเนสตี้ เผยสถิติการสังหารและอุ้มหายนักปกป้องสิทธิมนุษยชนทั่วโลกช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องใน วันสิทธิมนุษยชน ระบุคนทำงานด้านสิทธิถูกสังหารเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวช่วงปี 2558-2559
สังคม
แอมเนสตี้,วันสิทธิมนุษยชนสากล,สิทธิมนุษยชนสากล,นักปกป้องสิทธิมนุษยชน,อุ้มหาย,สังหาร,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/268366
แห่ชื่นชม รองผกก.กะรน ใจเย็น-อดทน ต่อการรับมือผู้ทรงเกียรติ
โฆษกสตช. ชื่นชมและให้กำลังใจ รองผกก.ป.สภ.กะรน ที่อดทนต่อความเจ็บใจ ลำบาก ในการปฏิบัติหน้าที่ต่อการถูก ส.ส.พลังประชารัฐที่ลงไปพื้นที่ภูเก็ต ปฏิบัติหน้าที่ดูโครงการก่อสร้าง จนเกิดการกระทบกระทั่ง แต่ก็ยังใช้วาจาสุภาพ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก ถือเป็นแบบอย่างที่ดีที่ทำงานด้วยความใจเย็น,เมื่อวันที่ 19 ส.ค.62 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีตามที่สื่อสังคมโซเชียลมีการโพสต์นำเสนอเกี่ยวกับประเด็นการลงพื้นที่ของ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ แล้วมีการพูดคุยในลักษณะกระทบกระทั่งกับนายตำรวจท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลายว่า ขอเรียนว่าจากการตรวจสอบคลิปในเบื้องต้นนั้นทราบว่าเหตุเกิดในพื้นที่ สภ.กะรน จ.ภูเก็ต ซึ่งในคลิปนั้นเป็นการลงไปปฏิบัติหน้าที่ลงพื้นที่ของ ส.ส.กทม.พรรคการเมืองหนึ่งกับคณะ และได้มีนายตำรวจท่านหนึ่งเข้ามาอธิบายและชี้แจงในเรื่องที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการติดประกาศของเจ้าพนักงานท้องถิ่นตำบลกะรน ให้ทางโครงการก่อสร้างรายหนึ่งระงับการก่อสร้างไว้ เพื่อให้แก้ไขปรับปรุงในส่วนของการดำเนินการมิให้น้ำไหลเข้าไปบริเวณรอบพื้นที่ใกล้เคียงกับโครงการ ซึ่งหากดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ให้แจ้งเจ้าพนักงานท้องถิ่นทราบ เพื่อพิจารณาอนุญาตดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง,ต่อมาได้มีการถกเถียงกันถึงประเด็นกรณีหากมีผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศของสำนักงานเทศบาลตำบลกะรน นั้นจะถือว่าเป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้าหรือไม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 80 ที่เรียกว่าความผิดซึ่งหน้านั้น ได้แก่ ความผิดซึ่งเห็นกำลังกระทำ หรือพบในอาการใดซึ่งแทบจะไม่มีความสงสัยเลยว่าเขาได้กระทำผิดมาแล้วสดๆ อย่างไรก็ดี ความผิดอาญาดังระบุไว้ในบัญชีท้ายประมวลนี้ ให้ถือว่าความผิดนั้นเป็นความผิดซึ่งหน้าในกรณีดังนี้ (1) เมื่อบุคคลหนึ่งถูกไล่จับดังผู้กระทำความโดยมีเสียงร้องเอะอะ (2) เมื่อพบบุคคลหนึ่งแทบจะทันทีทันใดหลังจากการกระทำความผิดในถิ่นแถวใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุนั้นและมีสิ่งของที่ได้มาจากการกระทำผิดหรือมีเครื่องมือ อาวุธวัตถุอย่างอื่นอันสันนิษฐานได้ว่าได้ใช้ในการกระทำความผิด หรือมีร่องรอยพิรุธเห็นประจักษที่เสื้อผ้าหรือเนื้อตัวของผู้นั้น,ซึ่งจากกรณีดังกล่าวข้างต้นเมื่อผู้ดำเนินการโครงการได้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศของส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป,อีกทั้งในคลิปได้มีการเข้ามาพูดคุยและอธิบายให้ ส.ส.กับคณะได้รับทราบเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส. ขณะลงพื้นที่นั้น ขอเรียนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้มีการจัดกำลังคอยดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมให้กับประชาชน นักท่องเที่ยว นักลงทุน ในพื้นที่ตามวงรอบมาโดยตลอดอยู่แล้ว อีกทั้ง อ.กะรน ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีภารกิจมากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่,รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนที่สังคมและสื่อได้ตั้งประเด็นคำถามเกี่ยวกับความกดดันในกรณีลักษณะแบบนี้ต่อไปเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำงานยากหรือไม่ ขอเรียนว่าคงไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ในเหตุการณ์ตามคลิปที่เกิดขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นจะต้องยึดถือตามกรอบของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่ โดยหากมีการละเว้น หรือทำนอกกรอบที่กฎหมายกำหนดไว้ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน สังคม ก็จะมีกระบวนการในการตรวจสอบและลงโทษในทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดมาโดยตลอด และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนต่างมีหน้าที่ในการทำงานเพื่อประชาชนและสังคมที่แตกต่างกันออกไป และทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดกับบ้านเมืองอยู่แล้ว โดยเชื่อว่าพี่น้องประชาชน และสังคม คงพิจารณาและเข้าใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าว,อีกทั้งต้องชื่นชมและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ รอง ผกก.ป.สภ.กะรน ท่านนี้ ที่ได้ยึดถือตามอุดมคติตำรวจ อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก ใช้กิริยาวาจาที่สุภาพ ซึ่งถือได้ว่าเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายได้นำไปปฏิบัติตาม.
โฆษกสตช. ชื่นชมและให้กำลังใจ รองผกก.ป.สภ.กะรน ที่อดทนต่อความเจ็บใจ ลำบาก ในการปฏิบัติหน้าที่ต่อการถูก ส.ส.พลังประชารัฐที่ลงไปพื้นที่ภูเก็ต ปฏิบัติหน้าที่ดูโครงการก่อสร้าง จนเกิดการกระทบ
ข่าว,ทั่วไทย
กฤษณะ พัฒนเจริญ,โฆษก สตช.,สิระ เจนจาคะ,รองผกก.กะรน,ส.ส.กร่าง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1640790