title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
ผีแดง ประกาศคว้า บัลเดส เฝ้าเสา อย่างเป็นทางการ | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 8 ม.ค. ว่า ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศคว้าตัว บิคตอร์ บัลเดส อดีตนายทวารของ เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา ทีมดังในศึกลาลีกา สเปน มาร่วมทีมเรียบร้อยแล้ว โดยเซ็นสัญญายาว 18 เดือน และมีออปชั่นพร้อมขยายสัญญาออกไปอีก 1 ปี,สำหรับ บัลเดส วัย 32 ปี กลายเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์ หลังหมดสัญญากับ บาร์เซโลนา เมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว โดยเจ้าตัวเข้าร่วมฝึกซ้อมกับ แมนฯยูไนเต็ด มาตั้งแต่เดือนตุลาคมในระหว่างกำลังพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บตรงเอ็นหลังหัวเข่า และทำผลงานได้ดีในระหว่างลงฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ทำให้ล่าสุดปิศาจแดงจัดการเซ็นสัญญากับ บัลเดส เป็นเวลา 18 เดือนเรียบร้อยแล้ว พร้อมมีออปชั่นขยายสัญญาอีก 1 ปีด้วย,บัลเดส กล่าวว่า ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมอยากจะขอขอบคุณหลุยส์ ฟาน กัลและสโมสรที่ให้ผมมาฟื้นฟูสภาพร่างกายและลงซ้อมร่วมกับทีมที่ เอออน เทรนนิง คอมเพล็กซ์(สนามซ้อมของแมนฯยู) จากช่วงเวลาสั้นๆที่ผมได้อยู่ที่นี่ผมก็ได้เห็นแล้วว่าที่นี่เป็นสโมสรที่พิเศษมาก ผมร่วมงานกับหลุยส์ ฟาน กัล มาในช่วงที่ค้าแข้งอยู่กับ เอฟซี บาร์เซโลนา และมีโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับเขาอีกครั้งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันเหมือนฝันที่เป็นจริงเลย,ขณะที่ หลุยส์ ฟาน กัล กล่าวถึงลูกทีมคนใหม่ว่า ผมดีใจที่บิคตอร์ เซ็นสัญญากับสโมสรนะ บิคตอร์เป็นผู้รักษาประตูที่มีประสบการณ์สูง และสถิติของเขาก็บ่งบอกถึงตัวเขาเป็นอย่างดี ผมเคยพูดหลายครั้งแล้วว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะสนใจนักเตะที่ดีที่สุดเท่านั้น นอกจากนี้บิคตอร์ยังเป็นมืออาชีพมากๆตลอดการฟื้นฟูร่างกายจากอาการบาดเจ็บและทำผลงานได้น่าประทับใจมากในช่วงฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาย้ายมาร่วมทีมในฐานะผู้รักษาประตูมือสอง นอกจากนี้เขายังเป็นการเสริมทัพที่ยอดเยี่ยมสำหรับทีมชุดใหญ่อีกด้วย | ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศคว้าตัว บิคตอร์ บัลเดส อดีตนายทวารของ บาร์เซโลนา มาร่วมทีมเรียบร้อยแล้ว โดยเซ็นสัญญายาว 18 เดือน | null | พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,บิคตอร์ บัลเดส,ข่าวกีฬา | https://www.thairath.co.th/content/473636 |
ตำรวจเร่งสรุปข้อมูลคดียาแก้หวัดส่งให้ดีเอสไอ | คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเข้าตรวจสอบข้อมูลและขั้นตอนการจ่ายยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน สารตั้งต้นผลิตยาเสพติด ที่หายจากโรงพยาบาลภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กว่า 250000 เม็ด เพิ่มเติม พร้อมเรียกตัวเภสัชกรประจำโรงพยาบาล เข้าให้ข้อมูลอีกครั้ง เพื่อสรุปผลการสอบสวนให้เสร็จในสัปดาห์นี้นพ.วันชัย เหล่าเสถียรกิจ ประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ยืนยันว่า หากพบว่าการหายของยา เกิดจากความผิดพลาดของโรงพยาบาล ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรวมทั้งผู้บริหารโรงพยาบาล ต้องร่วมกันรับผิดชอบด้วยการย้ายออกจากพื้นที่ เพราะถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่ ด้านความคืบหน้ากรณียาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีน หายจากโรงพยาบาลอุดรธานี กว่า 4.8 ล้านเม็ด ล่าสุดผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ผู้บริหาร และหัวหน้าเภสัชกรรม เข้าให้ปากคำกับตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี เนื่องจากพบว่าการแจ้งจำนวนยาที่หายไปไม่ตรงกัน โดยพบว่ามียาหายไปจากโรงพยาบาลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 มากถึง 7 ล้านเม็ดไม่ใช่ 4 ล้านเม็ด ตามที่โรงพยาบาลแจ้งไว้ก่อนหน้านี้จากนี้เจ้าหน้าที่จะรวบรวมหลักฐานส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษหาความเชื่อมโยงของยาที่หายไป ซึ่งคดีคืบหน้ากว่าร้อยละ 90 โดยเฉพาะสำนวนคดีของนายสมชาย แซ่โง้ว เภสัชกรโรงพยาบาลอุดรธานี ที่ถูกออกหมายจับในคดียักยอกยา ส่วนตำรวจ จ.กาฬสินธ์ เข้าตรวจสอบเลขที่การสั่งซื้อยาของโรงพยาบาลกมลาไสย เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับซองยาที่พบในจ.เชียงใหม่จ.ศรีสะเกษจ.อุดรธานีและ จ.อุตรดิตถ์ เพื่อสรุปข้อมูลให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษเช่นกัน ขณะที่การตรวจสอบกรณีเดียวกันที่ จ.เชียงใหม่ ล่าสุดมีการตั้งคณะกรรมการอีกชุด เพื่อตรวจสอบการหายไปของยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีน หลังสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ สั่งย้ายเภสัชกรโรงพยาบาลอำเภอดอยหล่อ และ โรงพยาบาลฮอด เพื่อตรวจสอบการหายไปของยา พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทร์ขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ระบุว่า หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ รับโอนคดีนี้มารับผิดชอบ ได้เตรียมตรวจสอบโรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ในสัปดาห์หน้า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมสำเนาคดีจากตำรวจ | ตำรวจจังหวัดอุดรธานีสรุปสำนวนคดียักยอกยาซึ่งมีส่วนผสมของสารซูโดอีเฟดรีนจากโรงพยาบาลอุดรธานี ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังสอบปากคำผู้บริหารโรงพยาบาล ล่าสุดพบว่ามียาหายไปกว่า 7 ล้านเม็ด ขณะที่คณะกรรมการสอบสวนกรณียาซูโดอีเฟดรีนหายจากโรงพยาบาลภูสิงห์ เตรียมเข้าตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง หากพบมีการโยกย้ายยาผิดระเบียบ จะเสนอสั่งย้ายผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด | ภูมิภาค | 7 ล้านเม็ด,ซูโดอีเฟดรีน,ดีเอสไอ,ยักยอกยา,อุดรธานี | https://news.thaipbs.or.th/content/75390 |
จดหมายฉบับล่าสุด จากสุวิชา ท่าค้อ | เปิดเผยว่าจดหมายดังกล่าวอาจจะเป็นฉบับสุดท้ายที่สุวิชาจะส่งถึงตัวเขาได้ เนื่องจากสุวิชาถูก เซ็นเซอร์ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินกาถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษนั้น นายสุวิชาพร้อมด้วยครอบครัวได้ยื่นฎีกาไปแล้ว และคาดว่าจะรู้ผลภายในเดือนมกราคมนี้ แต่จนถึงบัดนี้ ไม่ทราบผลการฎีกาดังกล่าว มีเพียงคำอธิบายอย่าง ไม่เป็นทางการ จาก ข้าราชการ ผู้หนึ่งว่า เรื่องของสุวิชาไม่เข้าหลักเกณฑ์ สุวิชา ท่าค้อ ส่งจดหมายฉบับนี้ให้แก่ทนายความของเขาและขอร้องให้เปิดเผยแก่สาธารณะได้อ่าน อนึ่ง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสุวิชา ส่งจดหมายออกมาเป็นจำนวนหลายฉบับเรือนจำคลองเปรม1 มกราคม 2553เรียนคุณอานนท์ผมสูญเสียอิสรภาพและหมดโอกาสที่จะกลับไปเลี้ยงดูลูกเมียผมเป็นเสาหลักของบ้านและครอบครัวเดือดร้อนมากที่ขาดผมไป จากครอบครัวที่เคยอยู่อย่างอบอุ่นมีความสุข ต้องพังทลายลงเป็นบ้านเรือนแตกแยกเพราะขาดพ่อไป ผมหมดสิ้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนคนที่ตายไปแล้วครึ่งหนึ่งของชีวิต แต่ที่ยังเหลือคือลมหายใจและความหวังที่มืดมนผมขอฝากให้คุณอานนท์โปรดช่วยเหลือและดูแลครอบครัวแทนผมด้วย ผมเป็นห่วงครอบครัวอย่างมากตั้งแต่ที่ผมถูกจับกุมและตลอดมาผมและครอบครัวเรียกร้องขอความเมตตาจากพวกเขา แต่ก็ไม่มีประโยชน์ พวกเขามองผมเป็นผู้ร้ายที่จะต้องปราบปราม แต่ไม่ยอมมองถึงต้นเหตุของปัญหาเลยเพราะเหตุทำให้เกิดผล ผมเป็นเพียงแค่ลูกชาวนาธรรมดาและมีความรักต่อสถาบันเหมือนคนไทยทุกคน แต่ที่ผมมีความผิดแบบนี้ก็เพราะเป็นผลผลิตมาจากพวกเขาทั้งนั้นที่ร่วมกันสร้างผมขึ้นมา แต่เขาไม่เคยมองไปที่ต้นเหตุของมันทั้งที่รู้ทั้งรู้ และผมก็ได้บอกความจริงไปหมดแล้ว แต่พวกเขามองผมเป็นตัวอันตรายที่เป็นภัยต่อความมั่นคงเพื่ออะไรก็ตามแต่ที่พวกเขาจะร่วมกันกล่าวหาและลงโทษต่อผมอย่างรุนแรงทั้งที่ความจริงผมเป็นสุจริตชนที่ทำงานโดยสุจริต ผมไม่เคยทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ไม่เคยครอบครองอาวุธใดๆ เลย นี่หรือคือบุคคลอันตรายที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ? ผมรู้สึกอัดอั้นตันใจเป็นอย่างมากที่พวกเขาเหล่านั้นไม่เข้าใจผมบ้างเลย ผมจึงอยากจะเล่าเหตุการณ์วันที่ 14 มกราคม 52 ได้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของผมทั้งห้าชีวิตให้คุณฟัง1 น้องลูกไก่ อายุ 6 ปี เมื่อผมถูกจับกุมภรรยาต้องรีบเดินทางตามผมมาที่กรุงเทพฯ ทันที และเราต้องทิ้งลูกทั้งสองไวตามลำพังเป็นเวลาหลายวัน ลูกชายคนเล็กจะติดแม่มากเพราะเขาอยู่ด้วยกันเสมอ เขาไม่รู้ความจริงหรอกว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะทุกคนปิดบังเขาไว้ เขาร้องไห้หาแม่ทุกวัน และเขาออกไปยืนร้องไห้อยู่หน้าบ้านนานไม่เหลือน้ำตาที่จะไหล จนกระทั่งหลายวันผ่านไปเมื่อภรรยาสิ้นหวังกับการประกันตัวผม เธอจึงตัดสินใจกลับบ้านเพราะสงสารลูก แต่กลับไปเพียงแค่รับลูกชายคนเล็กเดินทางมาที่กรุงเทพฯ โดยไม่สนใจเรื่องการเรียนของเขา (ยังไงเสียพวกเขาก็ไม่มีจิตใจที่จะเรียน) ภรรยาเป็นห่วงผมมากที่สุดเพราะผมอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่มากในขณะนั้น ภรรยาเล่าว่าตอนที่เขากลับไปหาลูก ลูกกอดแม่แน่นและร้องไห้พร้อมกับบอกแม่ว่า แม่อย่าทิ้งหนูไปอีกนะ หากแม่จะไปไหนต้องเอาหนูไปด้วย และภรรยาผมรับคำสัญญาให้กับลูก เมื่อเรื่องของผมไม่มีทางได้จบลงได้โดยง่านและเมื่อภรรยาจะไปไหนจำเป็นต้องนำเขาไปด้วยเสมอ เธอต้องหอบลูกเดินทางไป-กลับ กทม.และนครพนมบ่อยมาก พวกเขาเดือดร้อนมาก ปัจจุบันเขาเรียน EP ป. 22 น้องนิด อายุ 13 ปี เมื่อทราบข่าวหลังเลิกเรียนและไม่ได้พบทั้งพ่อและแม่ เขาร้องไห้เศร้าโศกเสียใจแทบสิ้นสติ แต่โชคยังดีที่เขายังได้คุยกับแม่ แต่ไม่มีโอกาสจะได้คุยกับผมเพราะผมอยู่ในการควบคุมตัว ตำรวจยึดทั้งโทรศัพท์ของผมและภรรยาเพื่อไปตรวจสอบ พวกเขาคุมตัวผมมากเป็นพิเศษ แม้แต่จะเข้าห้องน้ำก็ไม่ยอมให้ผมล็อกประตู วันถัดมาภรรยาได้เข้าพบผมที่ห้องขัง DSI สิ่งแรกที่เธอทำคือแกะกระดุมเสื้อผมเพื่อตรวจดูร่องรอยการทำร้ายร่างกาย ดูเธอโล่งใจขึ้นเมื่อร่างกายผมยังอยู่ปกติ เธอจับมือผมแน่นร้องไห้และพูดว่า รู้ไหม? ในสมองคิดถึงแต่เรื่องนุ้ยจะหลับตาหรือลืมตาก็จะเห็นแต่หน้านุ้ยตลอดทั้งคืน ผมพยายามพูดปลอบเธอแต่เธอไม่ให้ผมพูดอะไร ขอให้พูดแต่เรื่องลูกของเรา รู้ไหมน้องนิดแทบจะบ้าไปแล้ว บอกแม่ว่าให้เอาตัวพ่อคืนมาให้ได้ หากไม่ได้ตัวพ่อกลับมาด้วยแม่อย่ามาให้เห็นหน้าอีก แต่เมื่อผมประกันตัวไม่ได้ ภรรยาก็โดนลูกสาวว่าไปไม่ทันวันจันทร์ถึงช่วยพ่อไม่ได้ ลูกสาวกัดด่าแม่ใหญ่คิดว่าเป็นความผิดของแม่ที่ไปไม่ทันตามที่อ้าง เพราะน้องนิดไม่รู้ความจริงว่า พวกเรากำลังเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่หลวงมากแค่ไหน ข่าวการจับกุมตัวผมปรากฏไปทุกสื่อ น้องนิดต้องได้รับความกดดันมากจากสังคมที่โรงเรียน เพราะพ่อเป็นนักโทษคดีร้ายแรง ชีวิตเขาเหมือนตายทั้งเป็นเพราะจิตใจบอกช้ำอย่างหนัก สิ่งดีที่สุดที่เขาทำได้คือสวดมนต์ให้พ่อปลอดภัยและอธิฐานให้ได้ตัวพ่อคืนมา ปกติเขาเป็นคนขี้กลัวและนอนข้างผมทุกคืน เพราะเขาจะนอนหลับอย่างอุ่นใจ เมื่อไหร่ที่เขารู้สึกตัวเขาจะขว้ามือผมไปกอดเขาเสมอ แต่จากนี้ไปถึงสิบปีเขาจะไม่มีพ่ออีกแล้ว ตลอดหนึ่งปีผ่านมาเขาก็ยังไม่ได้เห็นหน้าพ่อเลย เขายังคงร้องไห้คิดถึงพ่อของเขาในวันที่ 14 ของทุกเดือน จากฝันร้ายที่เธอยังยอมรับกับมันไม่ได้ มันแย่มากสำหรับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้รับความโหดร้ายที่เธอไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับครอบครัวของเรา ปัจจุบันน้องนิดเรียนอยู่ ม. 2 EP ที่โรงเรียนและเคยเรียนดีท็อปตอน ม. 1 ตอนนี้ผมไม่รู้ชตากรรมของเธอนัก3 น้องเล็ก อายุ 15 ปี เขาเรียนอยู่ ม. 3 ที่กรุงเทพฯ และเฝ้าคอย และอีกไม่นานก็จะได้กลับไปอยู่พร้อมหน้ากับพ่อแม่และน้องๆ ที่นครพนม เมื่อเขากลับถึงบ้านก็พบกับตำรวจนับสิบคนกำลังค้นบ้าน เขานั่งนิ่งเหมือนคนไร้สติจากความตกใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ตำรวจยึดเอาคอมของเขาที่เพิ่งจะซื้อมาเองเมื่อไม่นาน และผมใช้แค่เช็คเมล์บางครั้งตอนผ่านกรุงเทพฯและเดินทางต่อไปที่แท่นขุดเจาะน้ำมันที่เวียดนามและไม่เคยใช้คอมในเรื่องการเมืองเลยเพราะช่วงเกิดเหตุผมอยู่ที่ประเทศเวียดนาม ตำรวจได้นำตัวเขาไปสอบสวนด้วยตามลำพัง คิดเอาเองก็แล้วกันว่าเขาจะหวาดกลัวมากเพียงไหน และต่อมาเขายังถูกตำรวจเฝ้าติดตามอยู่ระยะหนึ่ง ผมคับแค้นใจมากแค่ไหนที่พวกเขาทำกับลูกผมแบบนี้ เขานอนร้องไห้เป็นห่วงพ่อที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพ่อและอนาคตของครอบครัว มันแย่มากสำหรับเขา ตำรวจที่ DSI บอกกับผมว่าจะก๊อปปี้ข้อมูลจากคอมมาลงที่ฮาร์ดดิสของตำรวจและจะคืนคอมให้ลูกของผมเพื่อเขากลับไปใช้งาน หลายอาทิตย์ต่อมาภรรยาผมไปทวงกลับถูกปฏิเสธอ้างว่ายังตรวจสอบไม่เสร็จ ภรรยาบอกว่าลูกจะต้องใช้งานเพราะเขากำลังจะสอบอีกทั้งคอมนั้นก็ไม่เกี่ยวข้องกับผม ตำรวจบอกภรรยาผมว่า หากลูกคุณอยากใช้ คุณก็ไปซื้อเครื่องใหม่ให้ลูกคุณสิ สุดท้ายพวกเขาก็ขอให้ศาลริบเป็นของกลาง (คิดดูกันเองแล้วกัน) ตำรวจท่านนี้ยังสร้างความเจ็บปวดให้ลูกเมียผมมาก มีอยู่วันหนึ่งเขาบังเอิญพบภรรยาผมที่ศาล เขาชูสองนิ้วให้ภรรยาผมและพูดว่า แฟนคุณเจอสองกรรม พร้อมกับยิ้มเพื่อแสดงความยินดีกับความสำเร็จที่ผมได้รับความผิดได้มากขึ้น ภรรยาผมทุกข์ใจมากอยู่แล้วต้องมารับความทุกข์เพิ่มขึ้นอีกจากพฤติกรรมดังกล่าว หากเขาจะช่วยเงียบเฉยๆ จะเป็นการดีอย่างยิ่งต่อภรรยาผมที่กำลังอยู่ในกองทุกข์และภรรยาผมก็ไม่ได้ทักทายอะไรเขาเลย ผมอยากให้เขาคิดบ้างสักนิด ลูกผมจ้องเรียนไปทุกข์ใจไปด้วยจนถึงปิดเทอม ต่อมาลูกชายผมก็ได้บวชเณร เขาคงมีจิตใจที่ดีขึ้นบ้างที่ได้พระธรรมเป็นที่พึ่ง แต่เขาก็ยังคงเครียดอยู่ตลอดเวลาที่ต้องมากำพร้าพ่อในขณะนี้ จิตใจยังคงบอบช้ำจนกว่าจะได้พ่อคืนมา บางวันเขาเครียดมากออกไปหลังบ้านและตะโกน เล็กคิดถึงพ่อ ภรรยาผมได้แต่ร้องไห้สงสารลูกเพราะเธอทำทุกอย่างจนสุดความสามารถแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ความโหดร้ายต่อลูกๆ ผมจะได้ยุติลงสักที ชีวิตของเด็กๆ ทั้งสามอยู่ในกำมือของพวกเขา คิดเขาจะทำอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับเขาเราได้แต่ร้องเรียกของความเมตตา ปัจจุบันเล็กเรียนอยู่ ม.4 EP ที่โรงเรียนเขาคือลูกคนแรกในชีวิตผมซึ่งผมรักและหวงแหนมาก4 นา อายุ 36 ปี นาคือภรรยาที่มีค่ามากสำหรับผม เรามีลูกด้วยกัน 3 คน เธอเรียนจบแค่ ป. 6 และเป็นเพียงแม่บ้านธรรมดาที่ดูแลลูกๆ สิ่งที่เธอกำลังประสบมันหนักหนาเกินกว่าที่เธอจะรับไหว แต่เธอสู้ทุกอย่างเพื่ออิสรภาพของผมเพราะมันหมายถึงชีวิตเธอที่มีค่าและลูกๆ ของพวกเรา หากไม่มีผมพวกเขาจะอยู่กันไม่ได้แน่ นาถูกกดดันรอบด้านทั้งจากทางตำรวจที่ต้องการให้เธออยู่เงียบๆ พวกเขาเคยบอกเธอว่าหากผมได้ออกจากคุกพวกเขาจะไม่รับรองความปลอดภัยหรือหากไม่อยากให้ผมเจอหนักก็ต้องอยู่เงียบๆ เธอเป็นห่วงผมมากที่กำลังอยู่ในคุก เธอยอมทิ้งลูกๆ เพื่อมาเฝ้าเยี่ยมและให้กำลังใจผม พอผมถามถึงลูกๆ เขาก็ไม่ให้ผมห่วงลูกขอให้ผมเอาตัวเองให้รอดปลอดภัยไม่ว่าจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนเธอจะไปสวดอ้อนวอน และบนบานศาลกล่าวเพื่อให้ได้ตัวผมคืนมา เธอยังต้องรับความกดดันจากลูกๆ ที่รับปากไว้ว่าจะนำพ่อของพวกเขาคืนมาให้ได้แต่ทำทุกอย่างก็ไร้ความหมาย เธอต้องไปให้ความสำคัญกับลูกๆ เพิ่มขึ้น เธอพยายามขายทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามีเพื่อเป็นค่าข้าวและค่าเทอมให้ลูกๆ เธอต้องประหยัดที่สุดจนแทบจะไม่น่าเชื่อเพราะครอบครัวเราไม่มีรายได้อีกแล้ว พี่น้องทีมงานประชาไทจะเข้าใจดีว่าสภาพจิตใจของภรรยาผมเป็นเช่นไร สิ่งเดียวที่พวกเราต้องการคือเพียงแค่การได้กลับไปใช้ชีวิตด้วยกันอีก ขอแค่ไปทำไร่ทำนาและอยู่อย่างพอเพียง พวกเราไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านี้ แต่พวกเขาหาได้มีความเมตตาแก่พวกเราไม่ เขาไม่สงสารพวกเราเลย พวกเราก็เป็นคนเหมือนกันและเป็นคนไทย ในช่วงที่แย่ที่สุดผมเคยบอกกับภรรยาว่า ผมไม่ไหวอีกแล้ว และสั่งเสียถึงพ่อแม่หากจะไม่ได้พบกันอีก ภรรยาผมร้องไห้และเตือนสติผมว่า หากไม่มีนุ้ย นาและลูกๆ จะอยู่กันอย่างไรมันทำให้ผมสู้ทนเพื่อจะมีชีวิตต่อไป เธอยังเคยพูดว่าถึงเธอจะอยู่นอกคุกแต่ก็ไม่ต่างกับการติดคุก ตราบใดที่ผมยังอยู่ในคุกเพราะเธออยู่ภายใต้แรงกดดันรอบด้าน โดยเฉพาะจากลูกๆ ที่น่าสงสาร นาเป็นสิ่งมีค่าสุดท้ายที่ผมเหลืออยู่ เธอทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกันและจะทำทุกอย่างเพื่ออิสรภาพของผม5 นายสุวิชา ท่าค้อ (นุ้ย) อายุ 35 ปี ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างไรหากไม่ประสบเองก็จะไม่เข้าใจ มันเป็นเหมือนการฆ่าให้ตายไปครึ่งชีวิตหรือการทำให้ตายทั้งเป็นผมไม่อยากให้ใครได้ลิ้มรสกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนผม เมื่อมีข่าวนักโทษแขวนคอตายในห้องขังผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติเพราะผมเคยผ่านจุดนั้นมา และที่เกิดเหตุแต่ไม่เป็นข่าวก็มีมาก พวกที่อยู่ในคุกจะรู้ดี บางคนถูกตัดสินแค่หนึ่งปีครึ่งจากข้อหาลักทรัพย์แต่ยอมรับไม่ได้และเลือกที่จะจบชีวิตตัวเองก็มี (แต่ไม่เป็นข่าว) มันคือจุดทดสอบจิตใจที่จะผ่านความทุกข์ไปได้อย่างไร ผมได้เอาความทุกข์นั้นมาใช้ประโยชน์ทำให้ผมผ่านจุดนั้นมาได้ ตอนนั้นเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ช่วงเวลาที่ผมคิดว่าทนไม่ได้แล้วจริงๆ จนต้องล่ำลาเมียหากจะไม่ได้พบกันอีก คิดว่าจะต้องกลับบ้านให้ได้ถึงจะเป็นแค่ร่างไร้วิญญาณก็ต้องกลับบ้าน ความทุกข์ทำให้ผมคิดได้ หากคิดจะตายผมก็จะปฏิบัติธรรมให้ตายไปเลย และผมก็ไม่ผิดหวังเพราะผมได้เข้าไปสัมผัสธรรมะที่แท้จริง จนทำให้มองดูเรื่องทางโลกเป็นเรื่องที่ไร้สาระไปเลย ผมฝึกสมาธิอย่างหนักแบบเอาความตายเข้าแลก ฝึกหนักจนกระทั่งจิตเริ่มจะไม่เกาะติดกับร่างกาย และไม่สนใจความเป็นไปของร่างกาย ความเป็นอยู่และเรื่องราวต่างๆ และผมได้เข้าไปสัมผัสอัปปะนาสมาธิในช่วงเดือนกันยายน สภาพจิตใจตอนนั้นถือว่าเป็นจุดสูงสุดในชีวิต (ไว้ขออธิบายโอกาสต่อไป) เรื่องนี้มันเป็นปัจจัตตัง (รู้ได้เฉพาะตัว) แต่ผมต้องต่อสู้กับกิเลสอย่างหนักคือความห่วงต่อลูกๆ ทำให้จิตไม่นิ่งได้เต็มที่ คนที่ศึกษาเรื่องธรรมะจะเห็นตัวอย่างมากมายของเวรกรรม ธรรมะสอนให้ผมรู้จักแต่ได้ ผมอยู่ในคุกผมก็ได้กุศลและรักษาศีลให้บริสุทธิ์ เพราะไม่ได้ทำบาปอะไรเลยในแต่ละวัน ตราบใดที่พวกเขายังขังผมต่อไป คนที่เสียหายคือพวกเขาที่ทำบาปทำกรรมต่อผมและลูกเมีย เรื่องทางธรรมมักจะเดินสวนทางกับเรื่องทางโลก ทางธรรมคือการทำลายล้างกิเลส ทำลายอัตตา ทางโลกคือการแสวงหาความร่ำรวยหรือการสะสมกิเลสนั่นเอง คนที่ร่ำรวยก็จะมีอัตตามากขึ้นคู่กัน ยิ่งเรื่องอำนาจทางการเมืองยิ่งเป็นกิเลสที่หยาบที่สุดเพราะถึงกับจับขังหรือฆ่ากันได้เลยดังที่เรากำลังเป็นกันอยู่ในขณะนี้ถึงแม้ว่าผมจะอยู่กับทางโลกแต่ก็ผมก็จะเดินบนทางธรรมเป็นทางเอก ผมสมหวังและจะไม่เสียดายกับชีวิตแล้วที่ได้เห็นธรรมในชาตินี้ หากไม่เห็นทุกข์ผมคงจะงมโง่อยู่กับกองกิเลสและคงจะหนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะกิเลสมันจะปิดบังให้คนมืดบอดและจะหนักขึ้นไปเรื่อยๆ สุดท้ายผมก็ไม่มีอะไรมากทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเขา ชีวิตพวกเราทั้ง 5 อยู่ในอำนาจของเขา ผมก็ทำอะไรไม่ได้หรอก และไม่อยากให้ลูกเมียต้องไปขอบริจาคใครกินแต่พวกเราคงไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ และขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวผม ลูกๆ ทั้งสามมีค่ามากสำหรับผมขอเพียงให้พวกเขาอยู่รอดสำหรับผมอะไรก็ได้เพราะผมเหมือนคนที่ตายไปแล้วไม่รู้ว่าจะกลัวอะไรได้อีกแล้ว ผมต้องทำใจกับสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับผมให้ได้เพราะมันเป็นโลกธรรมแต่ก็ยังเป็นห่วงพวกเด็กๆ ที่พวกเขาอาจจะยังไม่เข้าใจธรรมะทำให้ความทุกข์ตกที่พวกเขาเต็มๆ โลกธรรม 8 คือธรรมที่อยู่คู่โลกที่ทุกคนจะต้องประสพและมันกำลังเกิดขึ้นกับผม ลาภ (ผมทำงานมีรายได้ดี) เสื่อมลาภ (ล้มละลายสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ลูกเมียต้องใช้จ่ายเงินจากผู้มีเมตตาหรือจะเรียกว่าขอทานก็ไม่ผิดนัก) ยศ (ผมทำงานเป็น Senior Engineer ในบริษัทที่ดี) เสื่อมยศ (เป็นนักโทษคดีร้ายแรงหรือคนคุก) สรรเสริญ (ฝ่ายที่ชอบก็จะยกย่องเป็นธรรมดา) นินทา (ฝ่ายที่ไม่ชอบก็จะด่าประณาม) สุข (มีชีวิตที่ดีและครอบครัวที่อบอุ่น) ทุกข์ (ต้องพลัดพรากจากลูกเมียและคิดที่จะปลิดชีพตัวเอง) พอผมเข้าใจธรรมะทำให้ผมปล่อยวางเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นธรรมชาติ คุณอานนท์ลองไปพิจารณาดูกันเองว่าท่านประสพกับโลกธรรมอย่างไรบ้างเพราะไม่มีใครหนีพ้นหรอก เมื่อรู้แล้วก็อย่าไปทุกข์กับมัน ปล่อยให้มันเกิดขึ้นแล้วดับไปตามกฎไตรลักษณ์ อย่าไปทุกข์กับมันมากจนถึงขั้นต้องเบียดเบียนตนเองและผู้อื่นเพราะมันคือธรรมชาติของโลกด้วยความจริงใจอย่างยิ่งสุวิชา ท่าค้อหมายเหตุ1. ประชาไทสงวนชื่อจริงของลูกๆ ทั้ง 3 ของสุวิชา รวมถึงชื่อโรงเรียนที่ระบุในจดหมาย2. ประชาไทสะกดคำตามต้นฉบับของสุวิชา | สุวิชา ท่าค้อ นักโทษคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งถูกตัดสินลงโทษจำคุก10 ปี ส่งจดหมายถึงนายอานนท์ นำภา ทนายความเมื่อวันปีใหม่ที่ผ่านมา โดยนายอานนท์ | สิทธิมนุษยชน | คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ,สุวิชา ท่าค้อ | https://prachatai.com/journal/2010/01/27386 |
ถึงเวลาหรือยัง? ปฏิวัติประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ | แผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม,แต่เคยมีใครตั้งคำถามบ้างไหมว่า สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้จริงอย่างไร? ,วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์ โชคดีที่ได้มีโอกาสนั่งพูดคุยกับ ,นายพงค์พรหม ยามะรัต ,ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ThaiWPS เกี่ยวกับประเทศไทยในยุคใหม่นี้,พงค์พรหม เกริ่นนำด้วยคำถามที่ว่า การเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล หมายถึงอะไร? ซึ่งนี่เป็นคำถามที่นับวันผู้คนในสังคมไทยก็มักจะเฝ้าถามตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ภาครัฐและเอกชนต่างก็ช่วยกันผลักดันมาตลอดเพื่อให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม,ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ผลักดันก็พยายามจะใช้เทคโนโลยีหรืออุตสาหกรรมใหม่ๆ เข้ามาช่วยในการพัฒนาประเทศ โดนที่ลืมคิดไปว่า คน ในประเทศนี้ยังขาดทักษะบางอย่าง อาทิ สื่อการเรียนรู้นอกห้องเรียน (รวมถึงพิพิธภัณฑ์ต่างๆ) พื้นที่ความคิดสร้างสรรค์ (Co-Working Space) เป็นต้น,ดังนั้น การผลักดันแค่เรื่อง Education อย่างเดียวอาจไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด นายพงค์พรหม จึงเห็นว่า ประเทศของเราควรเริ่มจากการ ,สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ,สร้างการเรียนการสอนที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริง ไม่เน้นท่องจำ แต่เน้นการคิด วิเคราะห์ และการคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อปูพื้นฐานของโครงสร้างพื้นฐานในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ซึ่งประเด็นเทคโนโลยีและนวัตกรรมนี้ ควรได้รับการขับเคลื่อนจากภาครัฐ บริษัทเอกชน และสถานศึกษา ที่เน้นการให้ความร่วมมือและสนับสนุนการแลกเปลี่ยนความรู้และการสร้างประโยชน์จากความรู้ได้ตามความต้องการ,นอกจากนั้น นายพงศ์พรหม ยังเสริมอีกว่า สิ่งที่เขาอยากจะเสนอคือเรื่องการพัฒนาคนอย่างจริงจัง โดยไม่ได้สนผลกำไรของตัวเอง เพราะเขามองว่าเมื่อไรที่ประเทศประสบความสำเร็จ บริษัทในประเทศก็จะประสบผลสำเร็จไปด้วย แต่มันต้องเกิดการเปลี่ยนโจทย์ตั้งแต่วันนี้ว่า เราจะช่วยสร้างประเทศตรงจุดไหนดี เพราะฉะนั้นขอโฟกัสเรื่องการพัฒนาคน,ในปีที่ผ่านมา บริษัทสนับสนุนด้านการศึกษาให้กับประเทศมาโดยตลอด ในขั้นแรก บริษัทสนับสนุนด้านซอฟต์แวร์ให้กับมหาวิทยาลัยในประเทศไทยแล้วกว่า 500,000 license แต่ก็ยังไม่พอกับความต้องการของภาคการศึกษาที่ต้องการมากถึง 800,000 license ส่วนในขั้นตอนต่อไป บริษัทก็ตั้งใจจะสร้างห้องเรียนต้นแบบเพื่อปูพื้นฐานให้นักเรียน-นักศึกษานำซอฟต์แวร์เราไปใช้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด | เราทุกคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า พวกเราต้องช่วยกันวางรากฐานเศรษฐกิจและสังคมไทยให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น จากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ภายใต้นโยบายการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วย | ข่าว,ไอที | ข่าวไอที,Thai WPS,ไทย ดับเบิ้ลยูพีเอส,ซอฟแวร์จัดการเอกสาร,พงค์พรหม ยามะรัต | https://www.thairath.co.th/news/tech/1183430 |
ไทยยกเลิก VOA 18 ประเทศ - ฟรีวีซ่า อิตาลี เกาหลีใต้ ฮ่องกง | วันนี้ (11 มี.ค.2563) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เปิดเผยภายหลังประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ว่า ไทยยกเลิก Visa On Arrival 18 ประเทศ ได้แก่ บัลแกเรีย ภูฏาน จีน ไซปรัส เอธิโอเปีย หมู่เกาะฟิจิ จอร์เจีย อินเดีย คาซัคสถาน มอลตา เม็กซิโก นาอูรู ปาปัวนิวกินี โรมาเนีย รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย อุซเบกิสถาน วานูอูตู และไต้หวัน (เขตเศรษฐกิจ) โดยผู้ที่จะเดินทางเข้าไทยต้องขอวีซ่าที่สถานทูตเท่านั้น รวมทั้งใช้มาตรการคัดกรอง เช่น ต้องใช้เอกสารใบรับรองแพทย์ รวมทั้งยกเลิกฟรีวีซ่าของอิตาลี เกาหลีใต้ ฮ่องกง ใช้อำนาจตามมาตรา 16 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ดำเนินการทันที จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 จะกลับสู่ภาวะปกติ เพื่อป้องกันคนที่เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงแพร่ระบาด หากมีการหลุดเข้ามาด้วยวิธีใดก็ตาม จะต้องกักตัวในโรงแรม 14 วัน แต่ถ้าไม่ยินยอมให้เดินทางกลับได้ยกเลิกกักตัวอาคารรับรองสัตหีบ-ศูนย์ฯ ทั่วประเทศนอกจากนี้ ยกเลิกการกักตัวแรงงานจากเกาหลีใต้ที่เดินทางกลับไทย เพื่อเฝ้าระวังโรค 14 วัน ที่อาคารรับรองสัตหีบ หรือในค่ายทหาร และศูนย์ฯ ทั่วประเทศ โดยให้กักตัวที่บ้านในชุมชนตามภูมิลำเนาแทน และมีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดำเนินมาตรการตามกฎหมายอย่างเข้มข้น เพื่อให้การเฝ้าดูอาการมีประสิทธิภาพ หากแรงงานกลุ่มดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามและออกนอกพื้นที่ จะถูกลงโทษตามกฎหมาย หลังพบหลายพื้นที่ยังมีความพร้อมไม่เพียงพอและประชาชนบางส่วนต่อต้าน อีกทั้งหากมีการรวมตัวจำนวนมากในสถานที่ใดที่หนึ่งอาจติดต่อโรคได้ง่าย ยกตัวอย่างการแพร่ระบาดในเรือสำราญไดมอนด์ ปริ้นเซสเร่งตาม 1882 แรงงานจากเกาหลีใต้พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามแรงงานจากเกาหลีใต้ 1882 คน ที่เข้ามาในไทย ช่วงวันที่ 2-7 มี.ค.ที่ผ่านมา เข้ากักตัวที่ภูมิลำเนาเพื่อสังเกตอาการ ป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 | ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 แถลงยกเลิก Visa On Arrival 18 ประเทศ และฟรีวีซ่าของอิตาลี เกาหลีใต้ ฮ่องกง พร้อมยุบกักตัวอาคารรับรองสัตหีบ และศูนย์ฯ ทั่วประเทศ ให้แรงงานจากเกาหลีใต้กักตัวตามภูมิลำเนาแทน | สังคม | COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,COVID19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่,ไวรัสโคโรนา | https://news.thaipbs.or.th/content/289729 |
ป่วนใต้เผาโรงเรียน-โปรยเรือใบ-วางระเบิดปลอม | ซึ่งเป็นโรงเรียนขยายโอกาสเปิดสอนระดับอนุบาล-ป.3 เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 22 พฤษภาคม 2548 พบว่ามีหน้าต่างเสียหาย 2 บาน และผนังบางส่วน โดยทางผู้บริหารของโรงเรียนและชาวบ้านได้ร่วมกันซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย เพื่อเปิดการเรียนการสอนตามปกติ ทั้งนี้ คนร้ายได้ลอบวางระเบิดปลอมและโปรยตะปูเรือใบบนถนนทางไปยังโรงเรียน เพื่อสกัดกั้นการช่วยเหลือจากทางการด้วย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ระดมกำลังตรวจดูความเรียบร้อยของโรงเรียนปอเนาะอีกหลายแห่งที่อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายจะลอบก่อความไม่สงบซ้ำสอง ต่อมา เวลา 09.00 น.วันเดียวกัน มีชาวบ้านพบกล่องต้องสงสัยและขอนไม้วางกลางถนนสายกะมิยอ-สะดาวา บริเวณบ้านบือนาปูเจ หมู่ที่ 7 ตำบลกะมิยอ จึงแจ้งเหตุตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง ต่อมาตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จังหวัดปัตตานี และทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 21 จำนวนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบพบว่าเป็นเพียงนาฬิกาปลุก ตั้งเวลา 10.00 น. สายไฟและโฟม แต่ไม่พบชนวนระเบิดแต่อย่างใด | เมื่อเช้าวันที่ 23 พฤษภาคม 2548 พ.ต.ท.สักรียา ยูโซ๊ะ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองปัตตานี นำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายลอบเผาอาคารเรียนของโรงเรียนชุมชนบ้านกะมิยอ ตำบลกะมิยอ อำเภอเมือง | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/05/4104 |
สรุป 4 ช่องทางยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่าง พ.ร.ป.กกต. | วันนี้(17 ก.ค.2560)นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. จัดประชุม เพื่อพิจารณาช่องทางการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรม นูญ หรือร่างกฎหมายลูกว่าด้วย กกต. ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยเฉพาะ 6 ประเด็นที่เคยส่งความเห็นแย้งและตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย เพื่อทบทวนร่างกฎหมายไปแล้วโดยมีรายงานว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร หนึ่งใน กกต. จะเป็นผู้สรุป 4 แนวทางที่สามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ให้ที่ประชุมร่วมกันพิจารณาแนวโน้มความเป็นไปได้ในการดำเนินการ และลงมติเห็นชอบร่วมกัน ในวันอังคารที่ 18 ก.ค.นี้ และจากการสอบถามข้อเท็จจริงนั้น จนถึงขณะนี้ นายสมชัย ยังคงปฏิเสธที่จะเปิดเผยในรายละเอียดผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการประชุมกกต. ในวันนี้ จะมีวาระการพิจารณาช่องทางการยื่นศาลรัฐธรรมนูญแล้ว กกต. จะได้ร่วมกันสรุปภารกิจที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ ก่อนสิ้นสุดหน้าที่ด้วยหลังร่างกฎหมายลูก ว่าด้วย กกต. เข้าสู่กระบวนการประกาศเป็นกฎหมาย แต่ภาร กิจทั้งหมดนั้น กกต. กำหนดกรอบที่จะดำเนินการถึงสิ้นเดือนธ.ค.ปีนี้เท่านั้น ส่วนความคืบหน้า ในร่างกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. ได้ส่งความเห็นแย้งเรื่องระบบคัดเลือกผู้สมัครลงรับเลือกตั้งเบื้องต้น หรือไพรมารีโหวตกลับไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. รวม 3 ประเด็นนั้น สนช. เตรียมประชุมตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ในวันที่ 20 ก.ค.นี้ โดยนายอุดม รัฐอมฤต โฆษก กรธ. เปิดเผยว่า ระหว่าง สนช. กับ กรธ. ก็มีความเข้าใจตรงกันแล้ว เกี่ยวกับระบบไพรมารีโหวต ที่อาจมีปัญหาในทางปฏิบัติ ซึ่งต้องมีการแก้ไข ซึ่งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายในสัดส่วนของ กรธ. 5 คน จะประกอบด้วย ประพันธ์ นัยโกวิท นายภัทระ คำพิทักษ์ นายนรชิต สิงหเสนี นายธนาวัฒน์ สังข์ทอง และนายอุดม รัฐอมฤต โดยไม่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. เข้าไปร่วมพิจารณาด้วย | กกต.เตรียมประชุมพิจารณาช่องทางยื่นศาลรัฐธรรมนูญ กรณี ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่ยังคงมีความเห็นต่างกัน ระบบคัดเลือกผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเบื้องต้น หรือ ไพรมารีโหวตนักการเมือง | การเมือง | ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,กกต.,รัฐธรรมนูญ,กฎหมาย,นักการเมือง | https://news.thaipbs.or.th/content/264447 |
วันดับของ 2 GOATs | อย่าหาว่า จ่าแฉ่ง มูมมาม หรือไร้มารยาทเลยนะครับ หาก จะสูดปากจ๊วบๆบ้าง หรือไม่ก็ซี้ดซ้าดบ้างไปตลอดขณะเขียน ต้นฉบับวันนี้จะให้นั่งเฉยพับเพียบเรียบร้อยเป็นลูกผู้ดีได้ยังไงล่ะครับ เพราะบอลโลกรอบน็อกเอาต์ 16 ทีม 2 คู่ เปิดหัววันแรกสุดแสนจะมันส์มหามันส์ถึงขนาดนั้น,ก่อนจะพรรณนาถึงเนื้อหาแห่งความสนุกสุดของทั้ง 2 คู่ คงต้องขออนุญาตอรรถาธิบายถึงภาษาประกิต คำว่า GOAT ที่พาดหัวไว้ซะก่อน,คำนี้มิใช่มาจากคำว่า Goat ที่แปลว่า แพะ อย่างที่เราเรียนกันตอนมัธยมต้นนะขอรับ แต่เป็นอักษรย่อของวลีที่ว่า Great of all time,แปลตรงๆตัวก็คือ ผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล นั่นเอง เมื่อหยิบเฉพาะอักษรย่อมาเรียงกันจึงกลายเป็น GOAT เขียนด้วยอักษรตัวใหญ่ หรือบางครั้งก็เขียนว่า G.O.A.T. ใส่จุดเอาไว้ด้วย,อักษรย่อนี้เริ่มใช้ครั้งแรกในการรายงานข่าวบาสเกตบอล NBA ที่ใช้เรียกผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลของบาสเกตบอล อาทิ ไมเคิล จอร์แดน เป็นต้น,ต่อมาทางฟากผู้สื่อข่าวกีฬาอังกฤษก็เอามาใช้มั่ง โดยเอามาใช้กับรายงานข่าวฟุตบอล ยกย่องให้หลายๆคนเป็น GOAT เช่น เปเล่ เป็นต้น,รวมทั้งยังคาดหวังที่จะใช้เรียกกับ ลิโอเนล เมสซี กับ คริสเตียโน โรนัลโด หากฝากผลงานได้อย่างยิ่งใหญ่ในบอลโลกครั้งนี้,ทว่าทั้ง เมสซี และ เดอะโด้ ต่างก็ไม่สามารถช่วยทีมของตนได้ ส่งผลให้ทีม อาร์เจนตินา ฟ้าขาวกลับกลายเป็นฟ้าหม่น และ โปรตุเกส ฝอยทองก็กลายเป็นฝอยขัดหม้อตกรอบ 16 ทีมไปทั้งคู่,เขาจึงพาดหัวไว้ว่า Ten goals but no GOAT แปลตรงตัวว่าสิบประตูแต่ไม่มีผู้ยิ่งใหญ่,เป็นที่มาของวลี วันดับของ 2 GOATs ที่จ่าแฉ่งหยิบยืมมาใช้ในวันนี้,ทีนี้เราก็มาดูในรายละเอียดกันบ้าง คู่แรก ฝรั่งเศส 4 ประตู อาร์เจนตินา 3 ประตูนั้น ต้องยอมรับว่าเป็นคู่มันส์ที่สุดอีกคู่หนึ่งของฟุตบอลโลก 2018,อาจจะมันกว่าคู่ โปรตุเกส 3 สเปน 3 ในรอบแรกด้วยซ้ำไป เพราะยิงประตูมากกว่ากัน 1 ประตู,รูปเกมฝรั่งเศสเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะลูกโต้กลับทั้งเร็วและคมสามารถสร้างความปั่นป่วนให้กองหลังฟ้าขาวได้ทุกครั้งที่พาลูกข้ามแดนเข้ามาทะลุทะลวงเยี่ยมที่สุดได้แก่ เจ้าหนู คีเลียน เอ็มบัปเป ที่ซัดได้ถึง 2 ประตูในนัดนี้กลายเป็นนักเตะวัยทีนหรือ ทีนเอจ คนที่ 2 รองจาก เปเล่ ที่สามารถซัลโวประตูได้ 2 ประตู ในนัดเดียวกันของเวิลด์คัพ เมื่อปี 1958 ที่สวีเดน,ที่ต้องใช้คำว่า รอง ก็เพราะ เอ็มบัปเป เป็นวัยทีน 19 ขวบ แต่ เปเล่ ตอนนั้นเป็นวัยทีนกระเตาะกว่า แค่ 17 ขวบเท่านั้นเอง,ทันทีที่การแข่งขันจบลง เจ้าหนุ่มวัย 19 ปี เอ็มบัปเป ก็เดินไปจับมือกับชายกลางคนอายุ 31ปี ลิโอเนล เมสซี ซึ่งช่างภาพฝรั่งไม่รอช้าเผยแพร่ออกมาทันที,พร้อมกับคำบรรยายใต้ภาพว่า ความยิ่งใหญ่กำลังจะเปลี่ยนผ่านแล้ว จากยุคของ เมสซี ไปสู่ยุคของ เอ็มบัปเป ในไม่นานเกินรอ,เผลอๆก็ในบอลโลกคราวนี้แหละครับโปรดติดตามดูอย่างไม่กะพริบตาเอาไว้เหอะ,ไปที่คู่หลังกันบ้างขอสดุดีและไว้อาลัยแก่คริสเตียโน โรนัลโด วัย 34 ปี สักเล็กน้อยเพราะแม้ ฝอยทอง จะแพ้ อุรุกวัย จอมโหดไป 1 ต่อ 2 แต่ก็ต้องบอกว่าสู้กันสมศักดิ์ศรี,โดน เอดินสัน คาวานี ซัดลูกแรกสุดสวยให้จอมโหดนำไปก่อน 1-0 เพียงนาทีที่ 7 โปรตุเกสภายใต้การนำของเดอะโด้ก็มิได้ย่อท้อกลับมาโขกเสมอได้ โดยยอดกองหลัง เปเป้ ในน.55,จริงๆแล้วรูปเกมเป็นต่อด้วยซ้ำเพียงแต่จบสกอร์ไม่ได้ แถมมาพลาดโดน คาวานีซัดลูก 2 ได้ในอีก 7 นาทีต่อมา กลายเป็นอุรุกวัยนำ 2-1,จากนั้นเดอะโด้และพลพรรคก็บุกแหลกแต่ก็ขาดนิดเกินหน่อย ในที่สุดจึงจบลงด้วยความปราชัย,อย่างไรก็ตาม สำหรับ เดอะโด้ ภาพโดยเฉลี่ยดูดีกว่า เมสซี เยอะเลย เพราะมีส่วนกับการรุกการรับของฝอยทองโดยตลอด,ตรงข้ามกับ เมสซี วันนี้บทบาทน้อยจริงๆ,สรุปของสรุปผลจากการแข่งขันรอบ 16 ทีม 2 คู่แรกทำให้เราได้คู่แรกของรอบหน้า ซึ่งเป็นรอบ 8 ทีมเรียบร้อย,ตราไก่ เจอ จอมโหด ซึ่งเท่ากับยุโรปเจออเมริกาใต้ อีกแล้ว--อุรุกวัย จะล้างแค้น ฝรั่งเศส แทน อาร์เจนตินา ได้หรือไม่ ตามปฏิทินที่กำหนดไว้ คู่นี้เจอกัน 3 ทุ่มวันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคมที่จะถึง,เตรียมตัวสูดปากล่วงหน้าได้เลยครับ ท่านผู้ชม,จ่าแฉ่ง | แปลตรงๆตัวก็คือ ผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล นั่นเอง เมื่อหยิบเฉพาะอักษรย่อมาเรียงกันจึงกลายเป็น GOAT เขียนด้วยอักษรตัวใหญ่ หรือบางครั้งก็เขียนว่า G.O.A.T. ใส่จุดเอาไว้ด้วย | กีฬา,ฟุตบอลโลก | ฟุตบอลโลก,คริสเตียโน โรนัลโด,ลิโอเนล เมสซี,เบื้องลึกบอลโลก,จ่าแฉ่ง | https://www.thairath.co.th/sport/worldcup/1324554 |
เต่ามะเฟืองวางไข่ที่ชายหาดบ่อดานรังที่ 5 จนท.รุดดูแลไข่ดี 22 ฟอง | เมื่อวันที่ 14 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสุริยะ สอนเสริม หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลน (ตะกั่วป่า-พังงา) ว่าเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 โดย สสค.และ ศอปล.10 (ตะกั่วป่า พังงา) ร่วมกับฐานทัพเรือพังงา เดินตรวจตราเฝ้าระวังฯ (เดินเต่า) พบร่องรอยการขึ้นมาวางไข่ของเต่ามะเฟือง บริเวณชายหาดบ่อดาน อ.ท้ายเหมือง เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้วัดขนาดรอยของแม่เต่ามะเฟือง มีขนาดความกว้างจากพายซ้ายถึงพายขวา 180 เซนติเมตร ขนาดความกว้างช่วงอก 80 เซนติเมตร หลังจากขุดหาไข่เต่ากว่า 2 ชั่วโมง พบไข่เต่ามะเฟืองที่ระดับความลึก 80 เซนติเมตร นับเป็นรังที่ 5 ในรอบปีนี้ เมื่อตรวจสอบจำนวนไข่ พบไข่ดี 22 ฟอง และไข่ลม 40 ฟอง และพิจารณาสถานที่ตั้งของหลุมแล้ว เพื่อการจัดการที่ดี จึงย้ายไข่มาไว้บริเวณศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟืองหาดบ่อดานต่อไป. | จนท.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 เข้าตรวจสอบแม่เต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่ บริเวณชายหาดบ่อดาน อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พบจำนวนไข่ดี 22 ฟอง และไข่ลมจำนวน 40 ฟอง นับเป็นรังที่ 5 ในรอบปี | ข่าว,ทั่วไทย | เต่ามะเฟือง,เต่าวางไข่,ชายหาดบ่อดาน,สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6,อ.ตะกั่วป่า,พังงา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1747000 |
เที่ยวระยอง นั่งสามล้อชมสวนผลไม้ ล่องเรือหากิ้งก่ายักษ์ | เสน่ห์ที่ชุมชนบ้านกระแสบน จ.ระยอง รอให้ผู้คนได้มาสัมผัส ในการท่องเที่ยววิถีชุมชนโดยชุมชน หนึ่งในโครงการพัฒนากิจกรรมและเส้นทางท่องเที่ยวโดยชุมชนในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Go Ea(s)t & Go Green) โดยสำนักงานพื้นที่พิเศษ 3 (อพท.) ร่วมกับสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) จับมือกับชุมชนร่วมกันพัฒนาขึ้นชุมชนบ้านกระแสบน ชุมชนเก่าแก่ที่คาดว่ามีบรรพบุรุษเป็นชาวมอญได้อพยพหนีกองทัพพม่า มาตั้งรกรากในพื้นที่ จ.ระยอง ครั้งกรุงศรีอยุธยาแตก พร้อมกับนำศิลปะ ประเพณีและวัฒนธรรมต่างๆ มาผสมผสานกับวัฒนธรรมไทยจนเกิดเป็นวัฒนธรรมที่สวยงามและลงตัวในชุมชนบ้านกระแสบน มีการจัดแสดงวิถีชุมชนทั้งการทำขนมนิ่มนวล ขนมโบราณขึ้นชื่อของชุมชนที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวสอดไส้มะพร้าว รสชาติหวาน กลิ่นหอม จูงใจนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีการสาธิตวิธีการสีข้าวโบราณให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองใช้อุปกรณ์ต่างๆ ด้วยตัวเองจากนั้น นั่งรถสามล้อเดินทางไปต่อที่สวนผลไม้ลุงจริต กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปรับปรุงคุณภาพไม้ผลวังไทร-คลองลึก ที่มีสมาชิก 190 คน กับพื้นที่เกษตรกรรม 1200 ไร่ ช่วยกันปลูก ดูแล พัฒนาและส่งต่อให้ลูกค้าด้วยคุณภาพคับแก้วนายจริต นามสนิท หัวหน้ากลุ่มวิสาหกิจ ระบุว่ากลุ่มวิสาหกิจเน้นผลิตผลไม้ส่งออกประเทศจีน เนื่องจากได้ราคาสูงและมีคนมารับถึงสวน โดยปีนี้มังคุดราคาสูงสุดของเกรดเอ อยู่ที่ 135 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 60 บาท แต่โชคดีที่แล้งนาน ทำให้คาดว่าจะได้ผลิตเพิ่มขึ้นอีกสำหรับกิจกรรมที่กลุ่มวิสาหกิจจัดเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวนั้น มีหลากหลายแล้วแต่ช่วงฤดู บางครั้งมีการจัดเตรียมให้นักท่องเที่ยวทำสบู่ ทำขนมและเครื่องดื่มจากผลไม้ รวมทั้งการสาธิตวิธีเก็บผลไม้ทั้งทุเรียน และมังคุดจากต้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วิถีชีวิตเกษตรกร จ.ระยอง จากการลงมือทำด้วยตัวเองนอกจากนี้กลุ่มวิสาหกิจยังพร้อมให้ความรู้ในการปลูกและดูแลทุเรียนรวมถึงมังคุด สำหรับผู้ที่สนใจจะศึกษา เพื่อให้สามารถผลิตผลไม้เกรดเอได้อย่างมีคุณภาพอีกด้วยแวะตลาดบ้านกระแสบนเลือกซื้อสินค้าอาหารทะเลตากแห้ง ผลไม้จากสวน และกระเป๋าภูมิปัญญาชาวบ้านจากวัสดุเหลือใช้ นางอุไร เพชรลือ หนึ่งในผู้ขายสินค้าในตลาด ระบุว่า ปกติตลาดจะเปิดขายสินค้าทุกวันอาทิตย์ซึ่งนับเป็นรายได้พิเศษที่เพิ่มขึ้นมาจากอาชีพรับจ้างทั่วไปหลังจากเลือกซื้อสินค้าแล้ว ได้เวลาล่องเรือชมวิวดูตะกองหรือลั้ง (กิ้งก่ายักษ์) ที่ซ่อนตัวอยู่ในกอไผ่ตลิดลำน้ำตะกอง ซึ่งเป็นกิ้งก่ายักษ์ชนิดเดียวที่พบในประเทศไทยและพบได้เฉพาะในภาคตะวันออกของประเทศเท่านั้น เนื่องจากมีถิ่นอาศัยตามธรรมชาติส่วนใหญ่อยู่ในประเทศแถบอินโดจีนอย่าง ลาว กัมพูชา และเวียดนามอาสาชุมชนพายเรือชมลั้ง เริ่มดับเครื่องเมื่อเรือแล่นผ่านเงาดำที่เกาะกิ่งไม้ปริ่มน้ำอยู่ ด้วยความชำนาญ ใช้ไม้พายค่อยๆ ดันเรือเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมลั้งได้ในระยะทางสายตามองเห็นได้ชัดเจนแต่ไม่ใกล้จนรบกวนลั้งที่กำลังนอนหลับอยู่บนกอไผ่อาสาชุมชนพายเรือชมลั้ง ยังได้เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมชุมชนบ้านกระแสบน จ.ระยอง ด้วยตัวเอง | เสน่ห์ชุมชนบ้านกระแสบน จ.ระยอง รอให้ผู้คนได้มาสัมผัส กับกิจกรรมสุดพิเศษนั่งรถสามล้อชมสวนผลไม้ ล่องเรือชมวิวดูตะกองหรือลั้ง (กิ้งก่ายักษ์) ในบรรยากาศร่มรื่น พร้อมเรียนรู้วิถีชุมชนสีข้าวแบบโบราณ ทั้งชิมและทำ นิ่มนวล ขนมโบราณขึ้นชื่อของระยอง | ไลฟ์สไตล์ | กระแสบน,ระยอง,ชุมชนบ้านกระแสบน,ขนมนิ่มนวล,อพท.,กิ้งก่ายักษ์,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/279948 |
มือมืดบุกยิงสาวใหญ่เจ้าของร้านโอเกะกระบี่ คาดขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ | เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 22 ม.ค. 59 พ.ต.ท.นพดล มุกดา พงส.สภ.เมืองกระบี่ รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงอาการสาหัส มารักษาตัวที่โรงพยาบาลกระบี่ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกระบี่ และเจ้าหน้าที่สายตรวจ เข้าตรวจสอบที่โรงพยาบาลกระบี่ พบผู้เสียชีวิต คือ น.ส.น้ำทิพย์ สุขเสริม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/30 ม.2 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต เป็นเจ้าของร้านน้องเอิร์ทคาราโอเกะ จ.กระบี่ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนใต้ราวนมซ้าย 1 นัด กระสุนฝังใน เหตุเกิดที่บริเวณหน้าร้านน้องเอิร์ทคาราโอเกะ ถนนสายอ่าวน้ำเมา-อ่าวนาง ม.5 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเพียงรอยเลือดจำนวนหนึ่ง,สอบสวน นายเสน่ห์ เหมกุล อายุ 59 ปี สามีผู้ตาย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ทำงานอยู่ภายในร้าน มีคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน จากนั้นภรรยาเดินออกไปต้อนรับที่หน้าห้องวีไอพีซึ่งอยู่ด้านหน้า จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3-4 นัด จึงรีบวิ่งออกไปดูพร้อมพนักงาน พบภรรยาถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลกระบี่ แต่สุดท้ายเสียชีวิต ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ทราบว่าคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาคนเดียว จอดที่ลานจอดรถหน้าร้าน จากนั้นเมื่อผู้ตายออกมาหน้าร้าน คนร้ายจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายก่อนหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ตั้งประเด็นสังหารมาจากเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว และธุรกิจ ซึ่งจะได้สืบสวนและติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป. | สาวใหญ่เจ้าของร้านคาราโอเกะ ย่านอ่าวน้ำเมา-อ่าวนาง ถูกยิงดับหน้าร้านขณะออกมาต้อนรับลูกค้า ตร.เมืองกระบี่ ตั้งประเด็นสังหารเรื่องส่วนตัว-ขัดแย้งธุรกิจ | null | ยิงคนตาย,ฆ่าคนตาย,คาราโอเกะ,ยิงเจ้าของร้านคาราโอเกะ,นพดล มุกดา,อ่าวน้ำเมา,อ่าวนาง,กระบี่,ขัดแย้งส่วนตัว,ขัดแย้งธุรกิจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/566418 |
ประชาธรรม : การแสดงออกทางการเมืองเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ประสบการณ์จากนักศึกษาเชียงราย | โดยการชูป้ายว่าไม่เห็นด้วยกับการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และการกระทำอีกหลายอย่างของรัฐบาลที่หมิ่นเหม่ต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน และพวกเขาเหล่านั้นโดนจับในข้อหาละเมิดพ.ร.กฉุกเฉินฯ ซึ่งสร้างความฉงนงงงวยให้แก่สังคมไทยจนเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศหลังจากการแสดงออกการกระทำในครั้งนี้ มีความพยายามที่จะทำให้เด็กเหล่านี้ กลายเป็น เด็กมีปัญหา ต้องเข้ารับการบำบัด หรือแม้แต่ความพยายามที่จะโยงเด็กเหล่านี้เข้ากับกลุ่มแกนนำ นปช. การพยายามกีดกันให้คนออกจากความเป็นเป็นปรกติเพื่อลดความน่าเชื่อถือ เป็นวิธีที่แยบยลของระบอบเผด็จการ ถ้าใช้กับคนในระดับเดียวกัน แต่การกระทำกับคนต่างระดับกันด้วยวัยวุฒิย่อมถูกสังคมมองว่า ผู้ใหญ่รังแกเด็ก จนทำให้รัฐต้องปล่อยเด็กเหล่านี้ไปแต่ทว่าไม่นานหลังจากมรสุมทางสังคมที่ปล่อยให้ ผู้ใหญ่รังแกเด็ก ผ่านพ้นไป มรสุมลูกใหม่ก็เข้ามาท้าทายต่อสังคมอีก คือกรณี อ.จุฬายื้อแย่งป้ายแสดงความคิดเห็นของนิสิตนศ.จุฬา ที่เตรียมแสดงออกต่อนายอภิสิทธิ์ที่จะไปกล่าวปาฐกถาเรื่องการกระจายอำนาจ ที่จุฬาฯ แล้วแสดงอำนาจ วางกล้ามใหญ่โตว่า นี่ไม่ใช่ที่จุฬาฯ นี่เป็นที่ของผม ฟ้องผมได้เลย นักเรียน-นักศึกษาที่ในยุคหนึ่งที่ถูกมองว่าเป็นอำนาจบริสุทธิ์ที่ก่อให้เกิดการฟูมฟักประชาธิปไตย กลับกลายเป็น เด็ก ที่ไม่ควรแสดงออกทางการเมือง เพราะจะบิดเบือนข้อเท็จจริงทั้งที่การแสดงออกทางการเมืองเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีแบ่งชั้น ไม่มีเด็ก ไม่มีผู้ใหญ่การแสดงออกทางการเมืองของนักเรียน-นักศึกษายุคใหม่ หลังจากที่วงการนี้แห้งแล้งทางการเมืองมาอย่างยาวนาน เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากว่า พวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ เบื้องหลังความคิดภายใต้โฉมหน้าที่ปี่ยมไปด้วยพลังนั้นคืออะไร มีชื่อเล่นว่า ปริ๊นซ์ อายุ 22 ปี เป็นนักศึกษาที่ออกไปชูป้ายแสดงสิทธิจนถูกกล่าวหาว่าละเมิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ประสบการณ์ของเขาอาจพอที่ทำให้ใครหลายคนได้เข้าใจ นักเรียน-นักศึกษายุคใหม่มากขึ้น หรือปริ้นซ์ เป็นนักศึกษาคนหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตอย่างนักศึกษาทั่วไป จนกระทั่งหลังการปฏิวัติรัฐประหาร 19 กันยายน พ.ศ.2549 ทำให้เขาเริ่มศึกษาเรื่องการเมืองอย่างจริงจังมากขึ้น ประกอบกับความสนใจประวัติศาสตร์ยุค 14 ตุลา หล่อหลอมความคิดของเขา จนทำให้เขาออกมาแสดงสิทธิว่าไม่เห็นด้วยกับพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯเพราะจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน พวกเขาคิดอย่างไรกับการแสดงออกทางสัญญาลักษณ์ ท่ามกลางกฎหมายที่จำกัดสิทธิของพวกเขาอยู่ ในขณะที่คนอื่นๆไม่กล้าทำ ชีวิตหลังจากถูกข้อกล่าวหาว่าผิด พรก.ฉุกเฉินเป็นอย่างไร ติดตามได้ดังนี้แต่ก่อนก็ไม่ได้สนใจเรื่องการเมืองสักเท่าไหร่ แต่ก็ชอบอ่านหนังสือจำพวก 14 ตุลา ฯลฯ ชอบนะ แต่ไม่ค่อยได้ติดตาม จนมาถึงวันที่ 19 กันยายน 2549 จำได้เลยว่าวันนั้นผมกำลังนั่งเล่นเกมส์อยู่ในหอพัก เพื่อนที่เล่นเกมส์ด้วยกันซึ่งอยู่ที่กรุงเทพบอกว่า มีทหารขี่รถถังอยู่เต็มถนน ผมก็เลยเปิดดูทีวี เห็นแต่เพลง ก็เลยคิดว่า เกิดการปฏิวัติขึ้นมาแน่ๆ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมสนใจและติดตามการเมืองนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งการเข้าไปดูในอินเตอร์เน็ต อ่านตามหนังสือพิมพ์บ้าง ดูทีวีบ้างครับ ส่วนการเข้าร่วมกิจกรรมนั้น ก็แค่เข้าไปยืนดูคนที่เขามาชุมนุมกันแค่นั้นเองผมคิดว่า หากไม่เกิดเสื้อเหลือง ก็ไม่เกิดเสื้อแดง ในตอนนั้นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง 19 ล้านเสียง ถูกคนกลุ่มเล็กๆในสังคมมาไล่เขาไป แล้วคนที่ออกเสียง 19 ล้านเสียงที่สนับสนุนรัฐบาลช่วงนั้น เขาก็ต้องไม่พอใจก็เลยเกิดเสื้อแดงขึ้นมาเหมือนกันพ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ให้อำนาจรัฐมากเกินไป มันจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน พ.ร.ก.ฉบับนี้มันจะใหญ่ไปกว่ารัฐธรรมนูญเกินไปหรือเปล่า ทำไมอำนาจบางอย่าง ข้อกฎหมายบางอย่างมันขัดกับรัฐธรรมนูญ และให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐมากเกินไป ซึ่งทำให้คนที่คิดต่างกับรัฐบาลไม่สามารถที่จะแสดงความคิดเห็นได้ ซึ่งไม่เหมือนกับรัฐบาลอื่นที่ผ่านมา ทั้งรัฐบาลสมัครและรัฐบาลสมชาย ที่เขายังให้พูดกันได้ คนที่คิดต่างก็สามารถพูดกันได้ แต่รัฐบาลนี้ไม่เลย สื่อฝ่ายตรงข้ามก็ปิด ปิดทั้งหู ปิดทั้งตาประชาชน ผมก็เลยคิดว่าน่าจะทำอะไรสักอย่าง จึงไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.กฉบับนี้คือ ได้แนวคิดมาจากเฟสบุ๊คที่นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่เขาเอาผ้ามาปิดปาก เอาป้ายมาติดข้างหลัง แล้วก็เดินไปเดินมาและรับประทานอาหารกันในโรงอาหาร ทำกันในเชิงสัญลักษณ์ ผมเห็นว่ามันขำดี (หัวเราะ) จึงเป็นการจุดประกายให้เราว่า สามารถทำได้ ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน และต้นทุนต่ำด้วย แต่ก็มีการคิดกันมาหลายอาทิตย์เหมือนกันว่าจะทำดีหรือไม่ ลองถามเพื่อนๆดูว่าจะทำดีหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจทำเลยดีกว่า เดี๋ยวจะมันช้าเกินไป ตอนแรกก็ได้ไปชวนเพื่อนๆที่อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่หากเป็นอย่างนั้นก็จะมีแค่มหาวิทยาลัยเดียว ก็เลยชวนน้องๆที่ได้คุยกันผ่านทางเฟสบุ๊ค ก็นัดกันเลยคืนนั้น มาเดินชูป้านกันประมาณ 10 - 20 นาทีก็กลับแล้วในเรื่องการโดนคดี ผมก็ได้คิดมาก่อนแล้ว แต่ไม่ได้คิดว่าจะรุนแรงและเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศขนาดนี้ ก็เป็นเรื่องที่น่าตกใจเหมือนกันถ้าตามส่วนตัวของผมแล้วก็เหมือนเดิม แต่เวลาในการใช้ชีวิตก็ต้องจัดสรรให้ดี เพราะหลังจากที่โดนคดีแล้วก็กลายเป็นที่ต้องการของคนจากหลายๆส่วนไป มีคนมารุมล้อม มาให้กำลังใจ ส่วนครอบครัว ก็ไม่มีผลกระทบอะไร เพราะทางครอบครัวก็รู้ดีว่าผมเป็นอย่างไร ก่อนจะทำอะไรผมก็บอกแม่ไว้ก่อนว่า หากมีหมายเรียกอะไรมา ก็ไม่ต้องตกใจนะ เพราะมันก็แค่หมายเรียก ซึ่งคนรอบข้างส่วนใหญ่ก็มีความคิดเห็นคล้ายๆกับผม ยิ่งผมออกมาแล้วโดนกระทำอย่างนี้ เขาก็ยิ่งเห็นว่า มีการปลดปล่อยออกมาทีละนิด ทั้งความรู้สึกของคนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลและการกระทำของรัฐบาลที่แสดงให้เห็นถึงความไม่ยุติธรรมและสองมาตรฐานความรู้สึกของผมในตอนนี้ก็ไม่ต่างกับก่อนทำเลย เพราะผมคิดว่าผมทำเพื่อส่วนรวม คนเราก็มีเพียง 2 ประเภท คือ คนที่เห็นแก่ตัว และคนที่ไม่เห็นแก่ตัว หากคนที่เห็นแก่ตัวก็คิดแต่จะเอาผลประโยชน์ของตนเองเป็นที่ตั้ง แต่ผมคิดว่าผมเห็นพี่น้องที่ถูกรัฐใช้สองมาตรฐาน ใช้ความอยุติธรรมในการปกครอง ผมก็เลยออกมาทำให้มันเปิดเผยกันเลย ดีกว่าที่จะไปทำกันแบบใต้ดิน ซึ่งผมก็ไม่เห็นด้วยคนที่เห็นต่างกับรัฐบาลส่วนมากก็เหมือนไม่ได้รับรู้ข่าวสาร ถูกปิดกั้นสื่อ มันอัดอั้นนะ ตอนนี้ก็ไม่ดูฟรีทีวีกันแล้ว เพราะเขาเลือกสื่อที่จะเสพย์ได้ ไปซื้อจานดาวเทียมมาดูกันเป็นส่วนมาก ผมคิดว่าการที่ผมได้ออกมาทำกิจกรรมแล้ว และเป็นข่าว ก็เหมือนเป็นการได้ปลดปล่อยให้กับประชาชน เพื่อแสดงให้เห็นว่า เราไม่ได้หายไปไหน เรายังอยู่หากทางรัฐบาลเห็นว่า พวกเราเป็นเด็กมีปัญหา ผมว่ารัฐบาลนั่นเองเป็นคนที่มีปัญหา ก่อนที่จะเอาเด็กเข้าไปตรวจสุขภาพจิต นายกฯและรัฐบาลน่าจะไปตรวจสุขภาพจิตกันก่อน ซึ่งพวกคุณเองก็บอกว่า อยากให้ประชาชน อยากให้นักเรียน นักศึกษา ออกมาแสดงความคิดเห็นที่ต่างกัน เพื่อที่จะได้รับฟัง ซึ่งพวกผมก็ทำกันแค่นี้เอง แต่พวกคุณก็มาไล่บี้ ไล่ฆ่ากัน ซึ่งมันขัดกับที่คุณได้พูดออกมาในช่วงเช้า คณะกรรมการฯเขาก็ซักถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เขาเชิญไปก็มีผู้ว่าฯ แต่ก็ส่งรองผู้ว่าฯไปแทน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีของพวกผม คณะกรรมการฯก็ซักถามว่า ทำไมถึงไปตั้งข้อหาว่าเยาวชนกลุ่มนี้มีความผิด ทั้งๆ ที่การต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ที่ทำกันทั่วประเทศ ตามจังหวัดใหญ่ๆ นั้น ยังไม่เห็นมีการทำอะไรกันเลย แต่ทำไมเยาวชนกลุ่มนี้กลับโดนตั้งข้อหา แล้วมีการคุกคามกันไหม เขาก็ถามกันประมาณนี้ พอตอนบ่ายก็มาซักถามพวกผมว่า ถูกคุกคามกันไหม หลังจากโดนกล่าวหาแล้วเป็นอย่างไรกันหากคิดถึงหลักปรองดองที่รัฐบาลได้ตั้งขึ้นมาน่ะ ผมคิดว่าคงจะปรองดองไม่ได้หรอก เพราะคณะกรรมการเป็นคณะกรรมการที่คุณตั้งขึ้นมาฝ่ายเดียว ซึ่งก็เหมือนการตบมือข้างเดียว ตบอย่างไรมันก็ไม่ดังหรอก การที่จะปรองดองกันได้นั้น คุณจะต้องเอาทั้งคนที่มีความคิดเห็นต่างกันและคนกลางเข้ามาตั้งเป็นคณะกรรมการขึ้น แล้วก็นั่งคุยกัน ลดทิฐิกันลง แล้วหันกลับไปมองปัญหาที่ได้เกิดขึ้นมา กลับมาคุยกันว่าจะทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้อย่างไรขอเสริมในเรื่องที่ สกอ.ออกหนังสือแจ้งเวียนไปยังสถานศึกษาต่างๆทั่วประเทศ ให้ควบคุมนักเรียนและนักศึกษาที่จะออกมาทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ผมอยากจะฝากถึงนายกฯและสกอ.ว่า สิ่งที่คุณออกคำสั่งมานั้น เปรียบเสมือนคุณได้ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เหมือนรัฐบาล การจำกัดสิทธิเสรีภาพของเด็ก - เยาวชนที่จะออกมาแสดงความคิดเห็น มันเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม ไม่ถูกต้อง ไม่ควรที่จะมีคำสั่งแบบนี้ออกมาด้วยซ้ำตามความคิดเห็นของผมนะ ประเทศไทยไม่เคยมีประชาธิปไตยเลย อย่างมากก็ได้แค่ครึ่งใบ คนแค่ไม่กี่คนสามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงเสียงส่วนใหญ่ของประเทศได้ นี่แหละคือประชาธิปไตยของประเทศไทย | ท่ามกลางหมอกดำของพรก.ฉุกเฉินฯ ที่ค่อยๆ จางลงจากการกดดันของสังคม เด็กนักเรียนนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่เคย ออกมาแสดงสิทธิขั้นพื้นฐานตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ | การเมือง,สิทธิมนุษยชน,การศึกษา | 14 ตุลาคม 2516,กรณีนักศึกษาเชียงราย,การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549,กิตติพงษ์ นาคะเกศ,ประชาธรรม,พ.ร.ก.ฉุกเฉิน | https://prachatai.com/journal/2010/08/30763 |
อินไม่เอาต์ ของใหม่ โปรใหม่ เสียเงินอีกแล้วนะเราตั้งแต่เช้ายันค่ำ | PELLEVAH แบรนด์เครื่องหนังไทยสุดคลาสสิก โดดเด่นสวยงามเหนือกาลเวลา,อันนี้ชอบเป็นการส่วนตัว เพราะโดดเด่นสวยงามเหนือกาลเวลา ประเทศไทยได้รับการยอมรับในฐานะของแหล่งผลิตหนัง Exotic ที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก จึงเป็นแรงดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาเพื่อเสาะแสวงหาหนัง Exotic ชั้นเลิศ PELLEVAH (เปเลวา) เริ่มต้นธุรกิจจากการเป็นร้านขายผลิตภัณฑ์หนัง Exotic เล็กๆ ใจกลางกรุงเทพฯ และจากความสำเร็จอย่างสูงมากกว่า 30 ปี จึงเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ PELLEVAH ที่ก่อตั้งขึ้นภายใต้ Concept Timeless Elegance ,PELLEVAH เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างหนัง Exotic คุณภาพระดับพรีเมียม กับความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจเกี่ยวกับหนัง Exotic และช่างฝีมือที่มีประสบการณ์สูงในการคัดเลือกหนัง ไปจนถึงการออกแบบและนำหนัง Exotic ไปผลิตเป็นกระเป๋าที่มีรูปแบบและขนาดต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม รวมถึงดีไซน์ที่พิถีพิถันจากฝีมือดีไซเนอร์ชาวไทยที่เสาะแสวงหาแรงบันดาลใจจากสถานที่ต่างๆ ในทั่วทุกมุมโลก,แม้จะเป็นกระเป๋าหนังแบรนด์ไทย ทว่าผลิตโดยช่างฝีมือไทยที่มีคุณภาพและดีไซน์ทัดเทียมกับแบรนด์ระดับโลก โดยในปี 2017 นี้ PELLEVAH มีแผนขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มผู้บริโภคในต่างประเทศ พบกับ PELLEVAH ได้แล้ววันนี้ที่ PELLEVAH Flagship Store, PT Galleria, ถนนพระราม 9, Shoes & Bags Zone ชั้น 2, ZEN Department Store, Shoes & Bags Salon ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้า The Emporium และเตรียมพบกับสาขาน้องใหม่ในเดือนเมษายน Shoes & Bags Salon ชั้น M Paragon Department Store ,เสื้อผ้าในคอลเลกชั่น Vapodri+ ของ แคนเทอร์เบอรี่,สายสปอร์ตควรมี แคนเทอร์เบอรี่ ผู้นำแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาชั้นนำระดับโลกได้เป็นอย่างดี ล่าสุด เปิดตัวแฟลกชิพสโตร์สาขาแรกในประเทศไทย ออกคอลเลกชั่นใหม่ โดยไฮไลต์ใหม่นี้คือ การออกแบบเพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้แก่ผู้สวมใส่ ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งในสภาพอากาศเขตร้อนแบบบ้านเรา โดยมีผลิตภัณฑ์หลากหลายที่เหมาะสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็น เสื้อเทรนนิ่ง กางเกงขาสั้น และเบสเลเยอร์ที่เปรียบเสมือนผิวหนังอีกชั้นเพื่อให้ผู้สวมใส่โฟกัสไปที่การออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ ผลิตภัณฑ์ในคอลเลกชั่นใหม่นี้ จะช่วยให้ผู้สวมใส่มีอิสระในการเคลื่อนไหว ทำให้เกิดการโฟกัส แรงจูงใจ และได้ผลลัพท์ที่ดีกลับคืนมา,เสื้อผ้าในคอลเลกชั่น Vapodri+ ของ แคนเทอร์เบอรี่ ถูกออกแบบขึ้นด้วยเนื้อผ้าแบบพิเศษมีคุณสมบัติที่ช่วยในเรื่องการดูดซึมขั้นสูงสุด ช่วยให้เหงื่อระเหยไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เสื้อผ้าแห้งเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เทคโนโลยี Vapodri+ ยังช่วยให้เกิดความเย็นแบบไดนามิก ซึ่งจะปรับเปลี่ยนไปตามอุณหภูมิของร่างกาย ส่งผลให้ผู้สวมใส่ไม่ต้องกังวลเรื่องเสื้อผ้า ทำให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น,ผลิตภัณฑ์ของ แคนเทอร์เบอรี่ สำหรับคุณสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีมีให้เลือกสรรแล้วที่ร้านในกรุงเทพมหานคร รวมทั้งออนไลน์ โดยสามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ที่ ,www.canterbury.co.th, หรือเลือกซื้อเสื้อผ้าคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดของ แคนเทอร์เบอรี่ ได้ที่ แผนกซุปเปอร์สปอร์ต ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, แผนกสปอร์ตมอลล์ ชั้น 3 ดิ เอ็มโพเรียม, แผนกไลฟ์สไตล์ชั้น 2 ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์, และ แฟลกชิปสโตร์ ชั้น 1 อาคารพญาไท บิวดิ้ง,งาน Chanintr Outlet กลับมาอีกครั้ง,ข่าวดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเฟอร์นิเจอร์ และสินค้าตกแต่งบ้านดีไซน์เก๋ รวมทั้งโคมไฟสวยหรู สำหรับทุกๆ ห้องของบ้านคุณ ในราคาลดสูงสุดถึง 75% ด้วยเฟอร์นิเจอร์นำเข้าส่งตรงจากอเมริกา พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษในงานเมื่อซื้อสินค้าครบกำหนด และโปรโมชั่นพิเศษจากบัตรเครดิตชั้นนำ และนอกจากนี้ พิเศษสุด สำหรับผู้ที่สนใจเก้าอี้ Eames Lounge Chair and Ottoman สามารถเลือกผ่อนชำระได้สูงสุดนานถึง 10 เดือน โดยไม่มีค่าธรรมเนียม,พบกันได้ที่ สตูดิโอ 61 ซอยสุขุมวิท 61 ตั้งแต่วันที่ 8-20 มิถุนายน 2560 ตั้งแต่ 10.00–19.00 น.,ทั้งนี้ วันศุกร์และวันเสาร์ เปิดตั้งแต่ 10.00-24.00 น. ง่ายๆ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2015-8888 หรือ 09-2247-2107,เคแบงก์เปิดตัวโครงการ เคแบงก์ อีเกิร์ลส รุ่นที่ 9 เฟ้นหาสาวสวย สมาร์ท มากความสามารถ, ,ธนาคารกสิกรไทย แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ เคแบงก์ อีเกิร์ลส รุ่นที่ 9 (KBanke-Girls The 9th Generation 2017) เปิดโอกาสให้สาวสวย บุคลิกภาพดี มีความมั่นใจ และกล้าแสดงออก เข้ามารับหน้าที่แบรนด์แอมบาสเดอร์นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ พร้อมปฏิบัติหน้าที่กับเคแบงก์เป็นเวลา 2 ปี และได้รับผลตอบแทนรวมคนละกว่า 2 ล้านบาท โดยได้รับเกียรติจาก ขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการกสิกรไทย ประธานคณะกรรมการดำเนินโครงการฯ และ เพชรพริ้ง สารสิน ประธานคณะกรรมการตัดสิน ร่วมเปิดงาน โดยมีแขกรับเชิญพิเศษ เก๋-ชลลดา เมฆราตรี และ อาลิซาเบธ แซดเลอร์ ลีนานุไชย ตัวแทนคณะกรรมการ และสาวเคแบงก์ อีเกิร์ลส รุ่นพี่ อย่าง เชอรี่ รัตนไพฑูรย์ กรกมล ศุภสมุทร และสุภาวดี สิริฤกษ์วิภาส มาร่วมงานด้วย ณ โรงละครเคแบงก์ สยามพิฆเนศชั้น 7 ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน เมื่อวันอังคารที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา,เพียงมั่นใจว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามแบบฉบับสาวยุคดิจิทัล สวย สมาร์ท มากความสามารถ อายุระหว่าง 19–25 ปีสูง 165 เซนติเมตร และจบการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไปเชิญเข้าร่วมโครงการเฟ้นหา 8 สาวแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการของธนาคารกสิกรไทย ชิงผลตอบแทนรวมกว่าคนละ 2 ล้านบาท พร้อมปฏิบัติหน้าที่กับเคแบงก์เป็นเวลา 2 ปี ในโครงการ เคแบงก์ อีเกิร์ลส รุ่นที่ 9 (KBanke-Girls The 9th Generation 2017) ดูรายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ KBank e-Girls หรือสอบถามได้ที่ K-Contact Centerโทร. 02-8888888 ตั้งแต่วันนี้–23 กรกฎาคมนี้เท่านั้น,The Chivas Venture ปีที่ 3 เฟ้นหาสุดยอดนักธุรกิจผู้มีแนวคิดสร้างสิ่งดีๆ เพื่อสังคม,เปิดตัวแคมเปญยักษ์ The Chivas Venture สานต่อบิ๊กแคมเปญ The Chivas Venture ปีที่3 เฟ้นหาสุดยอดนักธุรกิจผู้มีแนวคิดสร้างสิ่งดีๆ เพื่อสังคมที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่หันมาตระหนักถึงความสำคัญของการทำธุรกิจควบคู่ไปกับการทำเพื่อสังคม ในคอนเซปต์ Win the Right Way และในปีนี้ผู้ชนะได้แก่ ปีตาชัย เดชไกรศักดิ์ จากทีม Siam Organic คว้ารางวัลชนะเลิศในระดับประเทศอย่างสวยงาม ซึ่งมีจุดประสงค์ในการแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกรในประเทศไทย ผ่านนวัตกรรมสินค้าอินทรีย์ที่เจาะตลาดผู้บริโภคจากทั่วโลก ภายใต้ชื่อสินค้าแจสเบอร์รี่ (Jasberry),ชวนคนไทยช่วยกันโหวตให้กับ Siam Organic ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม ถึงวันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2560 เป็นระยะเวลา 5 สัปดาห์ ได้ที่ ,www.chivas.com/the-venture, ทุกคะแนนโหวตจะเปลี่ยนเป็นเงินรางวัลสำหรับช่วยเหลือสังคม โดยมีเงินทุนจากคะแนนโหวต 250,000 เหรียญดอลลาร์ ซึ่งเงินรางวัลจากการโหวตส่วนหนึ่งจะนำไปช่วยเหลือความยากจนของเกษตรกร ที่มีสาเหตุจากการปลูกข้าวต้องใช้ต้นทุนสูงแต่กลับได้ผลกำไรที่ต่ำ เพราะการแทรกแซงจากพ่อค้าคนกลาง และนำกลับมาพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและเพื่อช่วยเหลือสังคมต่อไป,กลุ่มเซ็นทรัล เชิญชวนประชาชนทั่วไทยร่วมน้อมใจประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์,กลุ่มเซ็นทรัล ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร กระทรวงวัฒนธรรม และมูลนิธิโครงการหลวง จัดพิธีเปิดงาน ดอกดารารัตน์ แทนใจ ถวายแด่พ่อ กิจกรรมแห่งความจงรักภักดีและความอาลัยที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 พระผู้ทรงสถิตอยู่ในดวงใจพสกนิกรชาวไทยตราบนิรันดร์ โดยขอเชิญชวนประชาชนทั่วทุกภาคของประเทศ ร่วมใจประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ ดอกดารารัตน์ ดอกไม้แทนความรัก เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. เป็นต้นไป ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัลเฟสติวัลทุกสาขา ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ทุกสาขา, ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี และศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ 19 สาขา ข้อมูลเพิ่มเติมที่ ,www.centralgroup.com | ร้อนๆ สลับฝนตกแบบนี้ จะทำอะไร ดูอะไร ต้องวางแผนก่อนออกจากบ้านกันอย่างมากมาย ไทยรัฐออนไลน์ รวมสิ่งอินไม่มีเอาต์ โปรใหม่ สินค้าใหม่ๆ มาให้เป็นทางเลือกกัน | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | โปรโมชั่น,PELLEVAH แบรนด์เครื่องหนัง,แคนเทอร์เบอรี่,Chanintr Outlet | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/shopping/946940 |
ก้อง สหรัถ เผยเคล็ดลับรักษาสิ่งแวดล้อมฉบับง่ายๆ เริ่มได้จากที่บ้านตัวเอง | ในปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ทั่วโลกต้องเผชิญและรับมือกับมันมานานแล้ว แต่ดูเหมือนว่าคนบนโลกส่วนใหญ่จะยังไม่ได้ตระหนักถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมจริงๆ สักเท่าไร บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ชวนพระเอก-นักร้องหนุ่มอบอุ่น ก้อง สหรัถ สังคปรีชา แบรนด์แอมบาสเดอร์แคมเปญ คุณคือตาวิเศษ มาแชร์เคล็ดลับดีๆ ในการรักษาสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน ที่สามารถเริ่มได้ง่ายๆ จากที่บ้านตัวเอง เพื่อสร้างจิตสำนึกและความรู้ความเข้าใจเรื่องการแยกขยะ ลดการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง (single-use plastics) อย่างถูกต้อง เพื่อลดปัญหาขยะล้นเมืองด้วย,ในชีวิตประจำวันของเรา เรามีส่วนในการรักษาสิ่งแวดล้อมยังไงบ้าง?,จากใกล้ตัวเราที่สุด เวลาผมอาบน้ำสระผม ระหว่างสระผม แปรงฟัน ถูสบู่ ก็จะปิดน้ำ อย่างน้อยก็ช่วยประหยัดน้ำไปได้เยอะครับ ที่บ้านผมก็จะแยกขยะที่เป็นเศษอาหารจะทิ้งลงในเครื่องทำปุ๋ย มันก็จะกลายเป็นปุ๋ยเอาไปใส่ต้นไม้ได้,ขยะที่เป็นกระดาษ ผมก็จะกางมันออกแล้วทำให้มันแบนๆ รวบรวมไว้เยอะๆ เอาไปให้พ่อค้าที่รับซื้อกระดาษ ขวดพลาสติก ขวดแก้ว ก็จะแยกหมด และเอาไปให้กับคนที่รับซื้อครับ คือให้เขาไปเลย มันก็ไม่เป็นขยะกับบ้านเรา เขาก็นำสิ่งเหล่านี้ไปขายตามร้านรับซื้อของเก่า เขาก็มีรายได้ ขยะก็หมดจากบ้าน ได้ทำบุญช่วยเหลือคนมารับซื้อของต่างๆ ช่วยลดขยะโลกใบนี้ ได้หลายต่อครับ,เท่าที่ฟังดูเป็นคนค่อนข้างมีระเบียบมาก?,จริงๆ ไม่ได้ถือเป็นคนที่มีระเบียบอะไรมากนะครับ เมื่อก่อนก็ไม่ค่อยนึกถึงเรื่องเหล่านี้เท่าไร ก็จะใช้ชีวิตแบบสบายๆ ง่ายๆ อะไรก็โยนลงถังขยะมั่วซั่วไปหมด แต่เดี๋ยวนี้พอเราเริ่มรู้สึกว่าทุกอย่างมันเริ่มแย่ลง ขยะเต็มทะเล ขยะที่ทิ้งลงทะเลกลายเป็นไมโครพลาสติก ปลาก็กินพลาสติก เราก็กินปลาอีกทีนึง ความที่เราไม่ได้ใส่ใจโลกใบนี้ ทุกอย่างก็เริ่มเป็นวงจรกลับมาหาเราแล้ว สิ่งที่มันเป็นพิษต่อร่างกายเรามันเริ่มย้อนกลับมาหาเรา เพราะเราไม่ได้คิดถึงการอยู่บนโลกใบนี้อย่างจริงจัง เราอยู่แบบง่ายๆ แบบมักง่าย อยากทิ้งอะไรก็ทิ้ง,แต่วันนี้มันส่งผลกระทบมาถึงเราแล้ว สิ่งที่เราทิ้งไว้กับโลก สิ่งที่เรากำลังทำลายเขา มันกลับมาหาตัวเรา มันเลยเกิดจิตสำนึกว่าต้องเอาจริงเอาจังตรงนี้หน่อย เลยรู้สึกว่าการที่เราแยกขยะ ปิดน้ำเมื่อไม่ใช้ มันเริ่มเป็นสามัญสำนึกที่ต้องเอาจริงกับมันแล้ว เพราะมันมาถึงตัวเราแล้วไง ต่อไปมันก็ถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน,ตอนนี้เด็ก 10 ขวบ อีก 20 ปีข้างหน้าเขาจะอายุ 30 โลกใบนี้จะเป็นยังไงก็ยังนึกภาพไม่ออก เพราะตอนนี้ได้ยินแต่เรื่องแย่ๆ ทุกอย่างเลวร้ายลง ถ้าเรายังนิ่งดูดาย ไม่สนใจ มันก็จะยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ รุ่นเราอีก 20-30 ปีก็จะจากโลกนี้ไป แต่รุ่นที่อยู่ต่อจะเป็นยังไง เราก็ต้องคิดถึงตรงนี้ด้วยครับ เราเลยรู้สึกว่าต้องเอาจริงกับตรงนี้แล้ว เลยดูเหมือนว่าเป็นคนมีระเบียบจังเลย แต่จริงๆ มันเป็นภาคบังคับแล้วละ,อยากฝากฝังอะไรถึงคนรุ่นใหม่ในการรักษาสิ่งแวดล้อมยังไงบ้าง?,ผมอยากให้ทุกคนตระหนักถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม มันไม่ใช่เรื่องไกลตัวแล้ว สมัยก่อนอาจจะเป็นเรื่องที่โอ๊ย ไม่ได้เดือดร้อนฉันหรอก แต่ตอนนี้มันเดือดร้อนแล้ว มันถึงตัวคุณแล้ว ทุกวันนี้เรากินปลาในทะเล เท่ากับเรากินไมโครพลาสติกด้วย สมัยก่อนย้อนไปตอนผมยังเด็กๆ นานๆ ทีผมจะได้ยินเรื่องคนเป็นมะเร็ง,แต่เดี๋ยวนี้ผมได้ยินเรื่องคนเป็นมะเร็งรอบตัวผมไปหมด มันหนักขึ้นทุกวัน สภาพแวดล้อมมันแย่งกันกินแย่งกันอยู่ ประชากรบนโลกใบนี้มีมากขึ้น คนผลิตอาหารมีการเร่งสี เร่งโต ฮอร์โมน ทั้งพืชผักผลไม้หรือสัตว์ก็ต้องป้อนประชากรให้มันทัน มีเรื่องเคมีที่เร่งให้มันเร็วขึ้น เพราะวิธีการธรรมชาติป้อนมนุษย์ไม่ทัน มันเลยเกิดสิ่งต่างๆ ขึ้นมา มนุษย์ก็เลยป่วยเป็นโรคมะเร็ง เป็นโรคประหลาดเยอะแยะไปหมด,ถามว่าผมมองคนรุ่นใหม่ยังไงบ้าง ผมว่าคนรุ่นใหม่ก็มีทั้งสองทาง คือมีทั้งคนที่ตระหนักรู้ถึงความเสื่อมลงของโลกใบนี้ หลายคนคิดเรื่องการแยกขยะ ใช้ชีวิตความเป็นอยู่ยังไงถึงช่วยโลกใบนี้ได้บ้าง และมีอีกกลุ่มที่ไม่ได้สนใจ ดำเนินชีวิตตามที่สะดวก ใครจะเป็นยังไงฉันไม่เกี่ยว มันก็คงเป็นเรื่องที่เราต้องรณรงค์ มาพูดถึงเพื่อให้คนที่ไม่ได้สนใจมาตื่นรู้ซะบ้างครับ. | บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ชวนก้อง สหรัถ มาแชร์เคล็ดลับดีๆ ในการรักษาสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน ที่สามารถเริ่มได้ง่ายๆ จากที่บ้านตัวเอง | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ก้อง สหรัถ,ก้อง สหรัถ สังคปรีชา,ดารารักษาสิ่งแวดล้อม,สิ่งแวดล้อม,รักษาสิ่งแวดล้อม,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1603218 |
หนุ่มใหญ่เมืองร้อยเอ็ด เดินลงห้วยตัดสายบัวไปทำกับข้าว พลาดจมน้ำดับ | เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 ต.ค. 59 พ.ต.ต.ชาญชัย นนท์ชนะ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้ง มีเหตุคนจมน้ำตายที่ลำห้วยเงินน้อย บ้านหมู่ 5 ต.นาโพธิ์ อ.เมืองร้อยเอ็ด จึงพร้อมด้วยแพทย์นิติเวช รพ.ร้อยเอ็ด และ หน่วยกู้ภัยอโสกร้อยเอ็ด ไปที่เกิดเหตุ พบศพ นายเดือน สมมงคล อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 1 ต.นาโพธิ์ อ.เมืองร้อยเอ็ด ซึ่งก่อนหน้าชาวบ้านช่วยกันนำมานอนไว้ที่ตลิ่งลำห้วยแล้ว จึงตรวจตามร่างกาย ไม่มีบาดแผลหรือร่องรอยการต่อสู้ แพทย์นิติเวชลงความเห็นสาเหตุการตาย เพราะระบบการทำงานของหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน,ขณะเดียวกัน นางวาด สมมงคล อายุ 54 ปี เมียของผู้ตายให้การว่า เมื่อช่วงสายวันเดียวกันนี้ ตนกับสามีได้พากันออกจากบ้านมาเกี่ยวหญ้า เพื่อจะนำไปเลี้ยงวัวอยู่ในคอกที่บ้าน เมื่อพากันมาถึงลำห้วยเงินน้อย สามีเห็นดอกบัวในลำห้วยสวยงาม จึงบอกตนว่าจะลงไปเก็บสายบัว เพื่อจะนำไปทำอาหารมื้อเย็นวันเดียวกันนี้ ต่อมา ตนเองจึงแยกไปเกี่ยวหญ้า,ไม่นานนัก ดิฉันเดินกลับมาที่ตลิ่งลำห้วย มองเห็นดอกบัวไหวรุนแรง แต่ไม่เห็นสามี ดิฉันจึงตะโกนเรียกหลายครั้งแต่ไม่มีเสียงตอบ ครั้นจะลงไปในลำห้วยตรงจุดดอกบัวไหวผิดปกติ ก็ไม่กล้า เพราะระดับน้ำในลำห้วยลึกกว่า 4 เมตร ตัวดิฉันเองว่ายน้ำไม่เป็น จึงรีบวิ่งกลับมาที่หมู่บ้าน บอกเพื่อนบ้านให้ไปช่วยเหลือ เมื่อชาวบ้านมาถึง พากันดำน้ำลงไปงม พบศพสามีจมอยู่ท้องลำห้วยเงินน้อย นางวาด กล่าว | 2 ผัวเมีย พากันไปเกี่ยวหญ้าเลี้ยงวัว ฝ่ายชายเห็นดอกบัวในลำห้วย จึงว่ายน้ำลงไปเก็บ นำไปทำอาหารมื้อเย็น พลาดจมน้ำลึกกว่า 4 เมตร เมียเหลียวมาเห็น ไม่กล้าลงไปช่วยเพราะว่ายน้ำไม่เป็น ตะโกนลั่นให้คนช่วย แต่ไม่ทันการ | ไลฟ์สไตล์,อาหาร | จมน้ำ,ตัดสายบัว,แวะตัดสายบัว,ทำอาหาร,ตัดสายบัวไปทำอาหาร,เดือน สมมงคล,จมน้ำดับ,เสียชีวิต,นำประกอบอาหาร,ร้อยเอ็ด,ผัวเก็บสายบัวจมน้ำดับ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/recipefood/757826 |
ซุ่มจับ เสือใบ ชักปืนยิง ตร. เจอสวนเข้าลำคอ เจ็บ ยึดปืน-ยาบ้า | เมื่อวันที่ 9 ตุลามคม 2559 ร.ต.อ.สุธาเวชช์ สันทัดงาน รองสารวัตร กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 15.00 น. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย ร.ต.ท.สมปอง เพิ่มพงษ์พิพัฒน์ รอง สว.กก.สส. ด.ต.อำนาจ รานบัวและ ด.ต.ขวัญชัย เอกจิตต์ และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่หมู่ 7 บ้านหนองไม้แก่น ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ,ภายหลังจากสืบทราบว่า นายสมศักดิ์ แตงอ่อน หรือ เสือใบ อายุ 34 ปี ชาว อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.107/2548 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2548 ในข้อหากระทำความผิดฐานเป็นผู้ใช้ หรือจ้างวานให้ผู้อื่น จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย พาอาวุธปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ท้องที่สถานีตำรวจธงชัย อ.บางสะพาน ,และหมายจับของศาลจังหวัดราชบุรี ที่ จ.349/2554 ลงวันที่ 5 ตุลาคม 2554 เหตุเกิดในท้องที่สถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต,ต่อมา พบผู้ต้องหาขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าเวฟ สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาตามถนน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้ชักอาวุธปืนยิงใส่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องหลบวิถีกระสุนกันจ้าละหวั่น ต่อมา เจ้าหน้าที่จึงชักอาวุธปืนยิงตอบโต้คนร้าย กระสุนถูกเข้าที่ลำคอ ทำให้ล้มลง ก่อนเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัว พร้อมยึดอาวุธปืน ยี่ห้อซิก ซาวเออร์ ขนาด 9 มิลลิเมตร ในมือคนร้าย ปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ปืนปากกาขนาด .38 และปืนปากกาขนาด .22 ทั้งหมดอยู่ในกระเป๋าสะพาย และเครื่องกระสุนหลายขนาดจำนวนหลายสิบนัด นอกจากนี้ ยังพบยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ มีรูปแอปเปิล 2 ถุง รวมกัน 350 เม็ด ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งโรงพยาบาล เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ พร้อมอายัดตัวไว้ทำการสอบสวน,สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า นายสมศักดิ์ หรือ เสือใบ ได้มาพักในพื้นที่บ้านหนองไม้แก่นมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่เคยติดตามตัว แต่ไม่พบ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นป่ากว้าง ติดกับเทือกเขาตะนาวศรี ฝั่งตรงข้ามเป็นประเทศพม่า ซึ่ง นายสมศักดิ์ เป็นคนร้ายที่มีประวัติโชกโชน และประวัติการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ในขั้นตอนการจับกุม เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่ อีกทั้งคนร้ายมีประวัติเป็นอาชญากรที่ตำรวจต้องการตัว ของบัญชีมือปืน ตำรวจภูธรภาค 7 ลำดับที่ 34 เมื่อปี 2554, นอกจากนี้ คนร้ายยังมีพฤติกรรมจำหน่ายยาบ้าให้กับลูกค้าในพื้นที่ และมียาบ้าติดตัวเพื่อนำส่งจำหน่ายให้ลูกค้า ส่วนเงินสดที่คาดว่าน่าจะมีถึงหลักแสนบาท น่าจะให้คนใกล้ชิดนำไปเก็บไว้ที่อื่น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อ จากนั้นได้ส่งตัวให้ ร.ต.อ.อาทิตย์ บุตรละคร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินคดีต่อไป. | ตร.ประจวบฯ ซุ่มจับ เสือใบ มือปืนลำดับที่ 34 ของตำรวจภูธรภาค 7 ยิงสู้เจ้าหน้าที่ ถูกยิงสวนโดนที่คอได้รับบาดเจ็บ ยึดยาบ้า 350 เม็ด-ปืน 4 กระบอก พบประวัติโชกโชน มีคดีฆ่าคนตายที่ราชบุรี | null | เสือใบ,มือปืน,หมายจับ,ประจวบคีรีขันธ์,ปืน,ยาบ้า,คนร้ายยิงตำรวจ,เกาะหลัก,บัญชีมือปืน | https://www.thairath.co.th/content/748517 |
จะมีไหมใครที่เข้าใจ หนุ่มเศร้าใช้ชีวิตแบบ ถ่อมตัว จนคนอื่นไม่เห็นค่า | สมาชิกเว็บไซต์พันทิป ,หมายเลข 4254985, ตั้งกระทู้ ,เคยถ่อมตน จนคนไม่เห็นค่าเราไหมครับ, พร้อมระบุข้อความว่า ควรวางตัวยังไงดี พอแสดงตนว่าเรามีดีให้เขาเห็น คนกลับหมั่นไส้ พอไม่อวดถ่อมตน บอกว่าเราไม่เก่ง คนกลับไม่เห็นค่า เข้าใจว่าเป็นเรื่องของเวลาและสถานที่ (กาลเทศะ) ควรถ่อมตนเวลาไหน ควรแสดงออกมาเราก็มีดีเวลาไหน ผมไม่สามารถแยกแยะตรงนี้ได้,ทั้งนี้ ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย ,คุณ forest clock, ระบุว่า ตนเองก็เป็นปล่อยตัวเองเป็นแบบนี้มานาน วันหนึ่งจะลุกขึ้นมาปลดปล่อย กลายเป็นพลิกว่าซ่อนร้าย คนที่เคยเอ็นดู (ปนกดขี่) ก็จะเหินห่าง คุณเจ้าของกระทู้ น่าจะอายุยังน้อย เปลี่ยนได้เปลี่ยนเถอะ เก็บไว้นานอาจจะไม่กล้า กลัวคนไม่รักในที่สุดเจ็บเอง อยู่บนความมั่นใจ ความถูกต้อง ไม่ก้าวร้าว ทุกการแสดงออกคือสุภาพ ไม่รู้ก็ถามมีขอบคุณ ขอโทษ ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง แล้วจะมีความสุข,สมาชิกหมายเลข 2239454, ธรรมชาติสร้างให้มนุษย์ มักกดคนที่ต่ำกว่าเพื่อให้ตนเองเหนือกว่า เพราะเขาเห็นว่าเราด้อยกว่า เขาจะรู้ว่าเราไม่เป็นภัย ทำให้รู้สึกดีจึงมักจะรู้สึกชอบพอเรา แต่พอเราเริ่มตั้งตัวได้หรือเก่งขึ้น แล้วแสดงศักยภาพที่แท้จริงออกมา คุณจะเริ่มเหนือกว่าเขา,กระทั่ง เริ่มรู้สึกว่าความสำคัญของเขาด้อยค่าลง ที่นี้คุณจะโดนต่อต้านหรือที่เขาเรียกว่าอาการหมั่นไส้ อิจฉานั่นเอง ด้อยกว่าก็โดน เก่งกว่าเดิมก็โดน ฉะนั้นเก่งแล้วต้องให้สุด ให้กระอักเลือดตายไปเลย จะไม่คบก็ช่างเพราะคนที่อิจฉาหรือหมั่นไส้คุณ ไม่ได้สำคัญกับชีวิต ควรตัดออกไปตั้งแต่วันที่เขาเริ่มหมั่นไส้คุณแล้ว.,(อ่านต้นฉบับ ,คลิก,) | หนุ่มเศร้าใช้ชีวิตแบบ ถ่อมตัว จนคนอื่นไม่เห็นค่า ขณะที่ชาวเน็ตลั่น เพราะคนพวกนั้นเห็นว่าด้อยกว่า ฉะนั้นต้องเก่งให้สุดหากเขาไม่คบก็ควรปล่อย | ข่าว,สังคม | ถ่อมตัว,โดนมองข้าม,หมั่นไส้,ถ่อมตน,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1285276 |
ลังกาสิบโห รามเกียรติ์ฉบับ ไทยลื้อละครเวทีร่วมสมัยฝีมือเด็กไทย | ละครเวทีร่วมสมัยลังกาสิบโห หรือ รามเกียรติ์ ฉบับไทลื้อ ซึ่งให้แง่คิดความชั่วร้ายต้องพ่ายกับความดี โดยที่มี อินปั๋น ตัวละครเอกหนุ่มน้อยชาวไทลื้อที่ยึดมั่นทำความดีกลับสามารถหยิบธนูดวงใจขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ขณะที่ ภุมมจัก ตัวร้ายในละครไม่สามารถหยิบธนูดวงใจขึ้นมาได้ทั้งที่ท้าวมหาพรหมผู้เป็นพ่อได้เตือนสติให้ตั้งตนอยู่ในศีลธรรม ซึ่งเรื่องราวเกิดขึ้นในยุคที่มีการต่อสู้แย่งชิงของหลายฝ่ายที่หวังครอบครองธนูในดวงใจทั้งนี้ ลังกาสิบโห ยังสอดคล้องกับตำนานกำเนิดมนุษย์ในเรื่องปู่สังกะสา ย่าสังกะสี ของชาวไทลื้อ ที่กล่าวถึงจิตใจมนุษย์ที่เป็นทั้งสิ่งที่สว่างที่สุดและมืดที่สุด ในที่นี้ธนูดวงใจคือสัญลักษณ์ความดี หากไม่สามารถรักษาไว้ได้ ก็อาจทำเรื่องเลวร้ายโดยไม่รู้ตัว ละครเวทีเรื่องนี้เป็น 1 ในงานวิจัย รามเกียรติ์ : ก้าวหน้าจากรากแก้ว ของภาควิชาศิลปการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สืบค้นวรรณกรรมนำมาทำละคร และร่วมพัฒนาเนื้อหากับนิสิตชวนกันขบคิดถึงสิ่งเลวร้ายที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนในปัจจุบัน เช่น ปัญหาทะเลาะวิวาท ทำร้ายกันบนรถเมล์ เพื่อออกแบบการแสดงให้ได้แง่คิดสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันลังกาสิบโห ถือเป็นละครเวทีร่วมสมัย ที่นำศิลปะการแสดงเต้นโขน ผสมผสานกับศิลปะการฟ้อนเจิง ของชาวไทลื้อ ละครเรื่องนี้ร่วมสร้างสรรค์โดยนิสิตภาควิชาศิลปการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักศึกษาวิชาดนตรีคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และได้รับเชิญไปแสดงใน เทศกาล 2012 Asia pacific Bureau of Theatre Schools Festival and Directors Conference ที่ไต้หวัน ในเดือน ก.ย.นี้ | ละครเวทีฝีมือนิสิตไทย ได้รับเชิญไปแสดงที่ไต้หวัน เรื่อง ลังกาสิบโห หรือ รามเกียรติ์ ฉบับไทลื้อ สอดแทรกด้วยเรื่องราวสะท้อนปัญหาเยาวชนในปัจจุบัน และเป็น 1 ในงานวิจัย ของภาควิชาศิลปการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | ศิลปะ-บันเทิง | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,รามเกียรติ์,ลังกาสิบโห,ศิลปากร,อักษรศาสตร์ | https://news.thaipbs.or.th/content/98077 |
เดือด ตร.ฮ่องกง ใช้กระสุนจริงยิงม็อบ หนุ่มโดนกระสุนเจาะอก ยังไม่รู้ชะตา | เมื่อ 1 ต.ค.62 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเกิดเหตุการณ์รุนแรงระหว่างการชุมนุมประท้วงบนเกาะฮ่องกงที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 20 สัปดาห์ โดยเฉพาะม็อบกล้าท้าทายอำนาจรัฐ ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลฮ่องกงและจีน เรียกร้องเสรีภาพและประชาธิปไตยบนเกาะฮ่องกง โดยใช้ความรุนแรงมากขึ้น ในวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งตรงกับ วันชาติของจีน ขณะที่รัฐบาลจีนและกองทัพปลดปล่อยประชาชนได้จัดพิธีสวนสนามอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งก่อตั้งโดยพรรคคอมมิวนิสต์ ครบรอบ 70 ปี ก่อนหน้าไม่กี่ชั่วโมง,เว็บไซต์ ,เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์, ในฮ่องกง รายงานว่า มีผู้ประท้วงหนุ่มคนหนึ่งถูกตำรวจปราบจลาจลใช้กระสุนจริงยิงใส่ และกระสุนเข้าที่บริเวณหน้าอก จนหมดสติ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 ต.ค. จากนั้นทีมแพทย์พยาบาลได้รีบเข้าช่วยเหลือผู้ประท้วงคนนี้อย่างเร่งด่วน มีการใส่หน้ากากออกซิเจนให้กับผู้บาดเจ็บ แต่ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับชะตากรรมของผู้ประท้วงหนุ่มคนนี้ว่าได้รับบาดเจ็บสาหัสเพียงใด,เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ เผยว่า มีคลิปวิดีโอที่ถูกส่งต่อเผยแพร่ทางออนไลน์ แสดงให้เห็นเหตุการณ์ที่นำไปสู่การตัดสินใจของตำรวจในการใช้กระสุนจริงยิงผู้ประท้วงบริเวณสี่แยกระหว่างถนน วอเตอร์ลู และนาธาน หลังจากม็อบได้ใช้ไม้ทุบตีรถตำรวจ และยังยิงสิ่งต่างๆ ทำลายรถ จนทำให้มีตำรวจบางนายพยายามไล่ม็อบ และมีตำรวจนายหนึ่งหกล้มจนถูกผู้ประท้วงรุมทำร้าย จากนั้นตำรวจจึงได้ชักปืนและยิงกระสุนจริง ขณะที่มีตำรวจ 2 นายได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะจากการปะทะกับผู้ชุมนุม,สำหรับการชุมนุมบนเกาะฮ่องกง เมื่อวันที่ 1 ต.ค. เกิดการปะทะกันระหว่างม็อบผู้ประท้วงกับตำรวจปราบจลาจลในหลายจุดทั่วเกาะฮ่องกง จนต้องมีการยิงแก๊สน้ำตา และฉีดน้ำสลายฝูงชน โดยยังมีผู้ชุมนุมได้ใช้ความรุนแรง จุดไฟเผาสิ่งของ รถจักรยานยนต์ และพยายามจะบุกขึ้นไปบนสะพานลอยที่เขตแอดไมรอลตี้ ใกล้กับอาคารสภานิติบัญญัติของฮ่องกง ซึ่งเป็นจุดที่ตำรวจปราบจลาจลประจำการอยู่ จนทำให้ตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตา,ข่าวเกี่ยวข้อง,ฉลองยิ่งใหญ่ 70 ปีวันชาติจีน สี จิ้นผิง ลั่นไม่มีกองทัพใดสั่นคลอนจีนได้,ฮ่องกงเครียด ตร. ยิงแก๊สน้ำตา ฉีดน้ำสลายม็อบ ประท้วงไม่เลิกสัปดาห์ที่13 ,(คลิป) | ม็อบฮ่องกงประท้วงเดือด วันชาติจีน ตร.ตัดสินใจใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ชุมนุม พยายามทุบทำลายรถ ตร. หนุ่มเคราะห์ร้ายโดนกระสุนเจาะอก หมดสติ ยังไม่รู้ชะตากรรม | ข่าว,ต่างประเทศ | ม็อบฮ่องกง,ประท้วงฮ่องกง,กระสุนจริงยิงม็อบ,วันชาติจีน,ฮ่องกง | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1672928 |
ประท้วงพ่นพิษ 7 ประเทศเตือนพลเมืองระงับเที่ยวอินเดีย | เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมประท้วงเพื่อต่อต้านกฎหมายสัญชาติฉบับใหม่ของอินเดียยังไม่คลี่คลาย หลังจากสภานิติบัญญัติเห็นชอบกฎหมายฉบับดังกล่าวเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านกฎหมายสัญชาติฉบับแก้ไข ในกรุงนิวเดลี รวมตัวกันด้านนอกมหาวิทยาลัยจาเมีย มิลเลีย อิสลาเมีย เพื่อแสดงพลังต่อต้านการใช้ความรุนแรงของตำรวจปราบจลาจล หลังจากเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับตำรวจปราบจลาจลภายในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 25 คน ขณะที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในอินเดียก็ได้รับผลกระทบจากการประท้วง หนึ่งในนั้นคือทัชมาฮาล สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของอินเดียนอกจากนี้ทางการของ 7 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ รัสเซีย อิสราเอล สิงคโปร์ แคนาดา และไต้หวัน ได้ออกประกาศเตือนพลเมืองให้ระงับการเดินทางไปยังประเทศอินเดีย หรือหลีกเลี่ยงเข้าพื้นที่ที่มีการประท้วงด้านกลุ่มผู้สนับสนุน นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย เดินขบวนไปตามท้องถนนและโบกธงชาติสนับสนุนกฎหมายสัญชาติฉบับแก้ไข ซึ่งการประท้วงหลายพื้นที่ทั่วประเทศถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญที่สุดของโมดี นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2557 เป็นต้นมาสำหรับกฎหมายสัญชาติฉบับใหม่ จะให้สัญชาติอินเดียแก่ผู้อพยพเข้าเมืองที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลามจากอัฟกานิสถาน บังกลาเทศ และปากีสถาน ในกรณีที่ผู้อพยพเหล่านี้ถูกข่มเหงรังแกและเลือกปฏิบัติทางศาสนา โดยผู้อพยพที่ได้รับสัญชาติต้องเดินทางเข้ามาในอินเดียก่อนวันที่ 31 ธ.ค.2557 | การประท้วงต่อต้านกฎหมายสัญชาติในอินเดียยังรุนแรงและกระจายไปหลายเมือง มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 25 คน ขณะที่หลายประเทศเตือนพลเมืองให้ระงับเดินทางท่องเที่ยวในอินเดีย | ต่างประเทศ | อินเดีย,กฎหมายสัญชาติฉบับแก้ไข,นเรนทรา โมดี,ประท้วงอินเดีย,ประท้วงกฎหมายสัญชาติ | https://news.thaipbs.or.th/content/287489 |
ฝนตกแต่ปลาตาย คนจันท์ปวดใจ แห่ช่วยย้ายออกจากทะเลสาบทุ่งนาเชย | (ภาพส่วนหนึ่งจากเฟซบุ๊ก Sarawut Kijudom),ทุ่งนาเชยสถานที่เก่าแก่ตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากบุกตีเมืองจันท์ ปัจจุบันเกิดวิปริตอาเพศ ฝนตกลงมาอย่างหนัก ขณะที่อากาศยังคงร้อน มีน้ำน้อย ส่งผลให้ปลาน็อกน้ำ จนเกิดมหกรรมชาวจันทบุรีร่วมแรงร่วมใจช่วยกันขนย้ายปลาไปไว้ในแหล่งน้ำใหม่ ,เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 พ.ค.59 ได้มีชาว จ.จันทบุรี ที่มีจิตอาสาจำนวนมาก ออกมาช่วยเหลือสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลาในทะเลสาบทุ่งนาเชย สวนสาธารณะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กลางเมืองจันทบุรี หลังจากอยู่ในสภาวะน็อกน้ำไปทั่วทั้งทะเลสาบ เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วงนี้ ปลานานาชนิดนับแสนตัวลอยตายเกลื่อนทะเลสาบ สร้างความตกใจและหดหู่แก่ชาวจันทบุรีที่ได้พบเห็นอย่างมาก จนทำให้เกิดการร่วมใจกันเข้าช่วยเหลือในเบื้องต้น ด้วยการนำเครื่องสูบน้ำมาตั้งริมทะเลสาบ เพื่อเข้าทำการดันน้ำสร้างออกซิเจนให้มากที่สุด ขณะที่ส่วนหนึ่งได้ช่วยกันเข้าช่วยเหลือปลาภายในทะเลสาบ ก่อนขนย้ายนำไปปล่อยในสระหรือแหล่งน้ำสาธารณะที่อยู่ใกล้ๆ,ขณะเดียวกัน นางวริษฐา หนูปิ่น ประมง อ.เมืองจันทบุรี นายเฉลิมพล ศักดิ์คำ นายกเทศมนตรีเมืองท่าช้าง นายจิรชัย เขาหนองบัว นายกเทศมนตรีตำบลหนองบัว ได้นำเจ้าหน้าที่ร่วมกับกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี และกลุ่มจิตอาสา เร่งระบายจำนวนปลาที่ยังมีมากออกจากทะเลสาบอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะมีฝนตกลงมา,จากการสอบถาม นางวริษฐา หนูปิ่น ประมง อ.เมืองจันทบุรี กล่าวว่า ปลาที่ตายส่วนใหญ่มีทั้ง ปลาตะเพียน ปลาสวาย ปลานิล ปลายี่สก แม้กระทั่งปลาบึก และอีกหลายชนิด โดยปลาบางตัวมีน้ำหนักหลายสิบกิโลกรัม หลังจากเมื่อคืนวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักหลายชั่วโมง แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้มีอากาศที่ร้อนจัดอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำในทะเลสาบทุ่งนาเชยมีน้อย อีกทั้งอยู่ระหว่างดำเนินการขุดลอกเพื่อใช้เป็นพื้นที่สำหรับเก็บกักน้ำ และรองรับน้ำในช่วงฤดูฝน พอมีฝนตกลงมาจึงทำให้น้ำในทะเลสาบมีสภาพเปลี่ยนไป จนปลาเกิดภาวะน็อกน้ำดังกล่าว,ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ทำการตรวจวัดระดับออกซิเจนของน้ำในทะเลสาบ พบว่ามีการหมักหมมมากว่า 30 ปี ทำให้ได้ค่าออกซิเจนคือ 0 ซึ่งก็คือในน้ำไม่มีปริมาณออกซิเจนเลย มีความเป็นกรดสูง ซึ่งเป็นผลมาจากฝนตกลงมาอย่างหนักช่วงเช้า จึงทำให้สัตว์น้ำเกิดภาวะน็อกน้ำอย่างฉับพลัน จนกระทั่งในช่วงบ่ายวัดค่าออกซิเจนเพิ่มขึ้นที่ 0.3 ดีขึ้นกว่าช่วงเช้า เนื่องจากฝนได้หยุดตก ซึ่งการแก้ปัญหาในเบื้องต้น เนื่องจากในทะเลสาบมีน้ำน้อย จึงเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ หรือเครื่องตีน้ำ เพื่อเร่งสร้างออกซิเจน เพิ่มค่าออกซิเจนในน้ำให้มากที่สุด พร้อมทำการเร่งย้ายปลาออกไปไว้ยังแหล่งน้ำอื่น ก่อนที่ฝนจะตกลงมาเพิ่ม ส่วนเศษซากปลาที่ตายไปมีจำนวนมาก ต้องรีบกำจัดออกให้หมด เนื่องจากมีสภาพเป็นแก๊สแอมโมเนีย ที่เป็นการซ้ำเติมสภาพของน้ำในทะเลสาบ นางวริษฐา กล่าว. | ทุ่งนาเชยสถานที่เก่าแก่ตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากบุกตีเมืองจันท์ ปัจจุบันเกิดวิปริตอาเพศ ฝนตกลงมาอย่างหนัก ขณะที่อากาศยังคงร้อน มีน้ำน้อย ส่งผลให้ปลาน็อกน้ำ จนเกิดมหกรรมชาวจันทบุรีร่วมแรงร่วมใจช่วยกันขนย้ายปลาไปไว้ในแหล่งน้ำใหม่ | null | ช่วยปลา,ย้ายปลา,ปลาตาย,ฝนตกปลาตาย,ปลาน็อกน้ำ,ทุ่งนาเชย,ทะเลสาบทุ่งนาเชย,จันทบุรี,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวสังคม | https://www.thairath.co.th/content/624607 |
ทบ. เผยแพร่แผนจัดซื้อฯงบฯ 63 ยานเกราะล้อยาง 50 คัน 4.5 พันล้าน | ขณะที่เมื่อต้นเดือน เม.ย. ทบ.ระบุจะทบทวนภาพรวมการใช้งบทั้งหมดโดยไม่กระทบต่อสัญญากับต่างประเทศ21 เม.ย.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์กองจัดหากรมสรรพาวุธทหารบกเผยแพร่ โดยระบุว่า ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 กำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดทำแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปี และประกาศเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด และให้ปิดประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานที่ปิดประกาศของหน่วยงานของรัฐ นั้นกองทัพบก โดยกรมสรรพาวุธทหารบก ขอประกาศเผยแพร่แผนการจัดซื้อจัดจ้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2563 ตามเอกสารที่แนบท้ายประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ 20 เม.ย.2563 ลงนามโดย พล.ท.ศรชัย กาญจนสูตร เจ้ากรมสรรพาวุธ์ทหารบกรายละเอียดแนบท้ายประกาศฯ M63040017418 รหัสแผนจัดซื้อจัดจ้าง P63040021004 ยานเกราะล้อยาง พร้อมระบบอาวุธ และการบริการทางเทคนิค ฯลฯ จำนวน 50 คัน โดยวิธีFMS งบประมาณโครงการ 4515000000 บาท คาดว่าจะประกาศจัดซื้อจัดจ้าง เดือนเม.ย. 2563นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมากรมสรรพาวุธทหารบก ก็มีประกาศเรื่องเผยแพร่446500000 บาท และเผยแพ199998825 บาทขณะที่เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา สื่อหลายสำนัก เช่น และ รายงานไว้ว่าจากมติคณะรัฐมนตรีให้กระทรวงต่างๆ พิจารณาตัดโอนงบประมาณเพื่อนำมาช่วยเหลือประชาชนในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด โดยกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพถูกจับตามองเรื่องการปรับลดงบประมาณในการจัด ซื้ออาวุธ มาเพื่อนำมาสนับสนุนแผนงานช่วยประชาชน จากข้อมูลพบว่าในกรอบวงเงินงบประมาณปี 2563 กระทรวงกลาโหมได้รับการจัดสรรงบประมาณ 2.3 แสนล้านบาท แบ่งเป็นงบประจำ 70 % และ งบลงทุน 30 % ซึ่งตามรายงานข่าวระบุด้วยว่าเหล่าทัพจะกลับไปทบทวนภาพรวมทั้งหมด โดยในส่วนของกองทัพบกได้แก่ โครงการจัดหายุทโธกรณ์ ที่หมายรวมถึงการซ่อมบำรุง และการปรับปรุงพัฒนาขีดความสามารถของอาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อให้เกิดความพร้อมใช้ โดยมีแผนจัดซื้อ ประกอบด้วยโดยวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา รายงานประเด็นนี้เพิ่มเติมด้วยว่า พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการพิจารณาตัดโอนงบ ประมาณ 2563เพิ่มเติมว่าโครงการไหนสมควรชะลอก็ควรชะลอ โครงการไหนดำเนินการในปีต่อๆไป โดยไม่กระทบต่อสัญญากับต่างประเทศก็ต้องทำ ขณะนี้เหล่าทัพกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะมีโครงการใดบ้างในงบฯปี 63 และจะหารือกันต่อเนื่องไปถึงโครงการในงบฯปี 64 ในภาพรวมด้วย หลักการทบทวนโครงการคือดูการดำรงสภาพความพร้อมต่อไป | กองจัดหากรมสรรพาวุธทหารบก เผยแพร่ ประกาศ แผนการจัดซื้อจัดจ้าง ประจำปีงบประมาณ 63 เรื่อง ยานเกราะล้อยาง พร้อมระบบอาวุธ และการบริการทางเทคนิค ฯลฯ จำนวน 50 คัน โดยวิธี FMS 4515000000 บาท | การเมือง,ความมั่นคง | กองทัพบก,ยานเกราะ,COVID-19,รถถัง VT4 | https://prachatai.com/journal/2020/04/87304 |
ลำปาง-ลพบุรี-กาญจนบุรี ร้อนทะลุ 40 องศาฯ | วันนี้ (9 มี.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยารายงานอุณหภูมิสูงสุด เมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) จ.ลำปาง ลพบุรี และกาญจนบุรี มีอากาศร้อนที่สุด อุณหภูมิสูงสุดวัดได้ 40.9 องศาเซลเซียส ขณะที่กรุงเทพมหานคร อุณหภูมิสูงสุด วัดได้ 35.2 องศาเซลเซียส ส่วนจังหวัดที่อุณหภูมิสูงสุดเพิ่มมากที่สุด คือมหาสารคาม เพิ่มจากเมื่อวันที่ 7 มี.ค.2563 ประมาณ 7 องศาเซลเซียส มาอยู่ที่ 39.5 องศาเซลเซียสส่วนสภาพอากาศวันนี้ (9 มี.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าภาคเหนือ อุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ระหว่าง 36-40 องศาเซลเซียส จังหวัดที่มีอากาศร้อนที่สุดที่ภาคเหนือ คาดว่าจะอยู่ที่ จ.ลำปาง 40 องศาเซลเซียส ภาคอีสาน อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส จังหวัดที่ร้อนสุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่าจะอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี 40 องศาเซลเซียสภาคกลาง อุณหภูมิสูงสุดอยู่ระหว่าง 37-40 องศาเซลเซียส จังหวัดที่มีอากาศร้อนที่สุด คาดว่าจะอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ จ.ชัยนาท และ จ.กาญจนบุรี 40 องศาเซลเซียส ส่วนกรุงเทพมหานคร มีอากาศร้อนเช่นเดียวกัน อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส ขณะที่ภาคตะวันออก อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส จังหวัดที่มีอากาศร้อนสุด คาดว่าจะอยู่ที่บริเวณ จ.สระแก้ว และ จ.ปราจีนบุรี 38 องศาเซลเซียสภาคใต้ อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส จังหวัดที่มีอากาศร้อน เช่น จ.ตรัง จ.สุราษฎร์ธานี จ.ยะลา และ จ.ภูเก็ต อุณหภูมิสูงสุด 36-37 องศาเซลเซียส | กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานอุณหภูมิสูงสุด เมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) จ.ลำปาง ลพบุรี และกาญจนบุรี มีอากาศร้อนที่สุด อุณหภูมิสูงสุดวัดได้ 40.9 องศาเซลเซียส | สังคม | อากาศร้อน,ร้อน,กรมอุตุนิยมวิทยา,พยากรณ์อากาศ | https://news.thaipbs.or.th/content/289648 |
ค้นหอพักย่าน ม.หอการค้า โยงบึมราชประสงค์-สาทร | เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันนี้ (13 ก.ย.58) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหาร ตำรวจ และหน่วยทำลายวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี เข้าตรวจค้นหอพักสตรีอู๊ด ตั้งอยู่ในซอยมหาวิทยาลัยหอการค้า หลังพบข้อมูลว่าหอพักดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดราชประสงค์ และท่าเรือสาทร,พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า การตรวจค้นหอพักครั้งนี้เนื่องจากมีข้อมูลทางการสืบสวนว่ามีบุคคลที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดราชประสงค์ และท่าเรือสาทร มีความเคลื่อนไหวภายในหอพัก จึงนำกำลังตำรวจ ทหารเข้ามาตรวจค้น และพบว่า บุคคลที่เชื่อว่ามีความเชื่อมโยงไม่ได้พักอาศัยที่นี่ แต่เมื่อ 1-2 วัน ได้นำของใช้ส่วนตัวมาฝากไว้กับเจ้าของพัก เลขที่ 104 โดยหลังจากนี้ตำรวจจะนำวัตถุพยานส่งให้ตำรวจพิสูจน์นำไปเปรีนบเทียบดีเอ็นเอเพื่อความเชื่อมโยง ซึ่งหากพบมีความเชื่อมโยงถึงบุคคลใดก็จะทำการออกหมายจับต่อไป,สำหรับการตรวจค้นบริเวณโดยรอบหอพัก และภายในหอพักของ อีโอดี ยืนยันว่า ไม่พบสารตั้งต้นหรือ สารประกอบวัตถุระเบิดแต่อย่างใด,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เชิญเจ้าของห้องพักและผู้ที่อาศัยในห้องดังกล่าว จำนวน 3 คน เข้าไปสอบปากคำ เพื่อสเกตช์ภาพบุคคลต้องสงสัยที่นำสิ่งของมาฝาก. | ตำรวจสนธิกำลัง ร่วมฝ่ายความมั่นคง เข้าตรวจค้นหอพักย่านหอการค้า หลังพบความเชื่อมโยง น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดสี่แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร | ข่าว,ทั่วไทย | ค้นหอพัก,ตรวจหอพัก,ม.หอการค้า,ระเบิดสี่แยกราชประสงค์,มาตรา 44,อีโอดี,บึ้มราชประสงค์,แยกราชประสงค์,วัตถุระเบิด,ศาลท้าวมหาพรหม,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,วางระเบิด,ระเบิดราชประสงค์,ราชประสงค์ | https://www.thairath.co.th/news/local/524953 |
คนนี้ของจริง โค้ชหระ เผยความรู้สึกหลังได้คุมทัพช้างศึกยู-19 | วันที่ 21 ก.พ. อิสสระ ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ยอมรับว่าเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับโอกาสคุมทีม ช้างศึกU19 หวังนำทีมชาติไทยไปแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลกให้ได้,กุนซือใหม่ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี กล่าวว่า การเข้ามาคุมทีมชาติไทยครั้งนี้ ก็ถือเป็นเกียรติของตัวผมเป็นอย่างมาก ซึ่งผมต้องขอขอบคุณทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ไว้วางใจให้เราทำงานตรงนี้ แน่นอนเมื่อได้รับโอกาส ผมจะพยายามทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด,การคุมทีมชุดนี้ เราได้เห็นว่ามีนักเตะที่มีความสามารถมากมาย และผมเชื่อนะว่ามันมีศักยภาพมากพอที่จะไปฟุตบอลโลกได้ นั่นคือสิ่งที่เราหวัง โอเคมันอาจจะมีหลายสิ่งที่ต้องปรับปรุงแก้ไข แต่ถ้าหากเรารวมใจเป็นหนึ่งเราก็น่าจะแก้ไขได้,เป้าหมายของเราคือในทุกนัด ทุกการซ้อมเราต้องทำให้ดีที่สุดเสมอ มันอาจจะมีปัจจัยหลายๆ อย่าง แต่เราก็ต้องแก้ไขมันไป ส่วนระยะยาวแน่นอน เราต้องพยายามหานักเตะที่เก่งที่สุด ที่มีวินัยมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเต็มอายุ หรืออายุน้อยกว่าเกณฑ์ เราจะพยายามหาขุมกำลังหลักทั้งหมดมาเพื่อคัดเลือก,ณ ตอนนี้ หลายคนได้เล่นในทีมบีของสโมสร บางคนก็อยู่ในระดับ ไทยลีก 4 และพอได้โอกาสลงเล่นอยู่บ้าง การจัดการในชิงแชมป์อาเซียน ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ยากหน่อย แต่ตอนชิงแชมป์เอเชีย ผมมองว่า ณ ตอนนั้น การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 4 จบไปแล้ว เราก็น่าจะได้ขุมกำลังที่พร้อมสมบูรณ์,ในเรื่องของตำแหน่ง การทำทีมชาติไทย เราเต็มที่เสมอ ไม่ว่าจะตำแหน่งไหน เพราะมันเป็นเกียรติ แต่มันก็ต้องดูโอกาส จังหวะและการทำงานที่ต้องสอดคล้องกัน ผมเองก็พร้อมที่จะไปช่วย พี่โย่ง (วรวุธ ศรีมะฆะ) ในทีมชาติไทยชุด U21,การคว้าแชมป์โค้ก คัพ ครั้งล่าสุดแล้วมาทำงานตรงนี้ มันก็ถือว่ากดดันพอสมควร แต่เมื่อเรามาทำทีมชาติเรามีข้อดีอย่างหนึ่งคือเราสามารถคัดเลือกนักกีฬาที่ดีที่สุดในประเทศมาอยู่ในทีม อย่างแรก เราต้องยอมรับว่านักเตะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่คว้าแชมป์โค้ก คัพ ไม่ได้เก่งทุกคน แต่ที่เห็นได้ชัดคือทุกคนมีวินัย มีความมุ่งมั่น ที่อาจจะสูงกว่าที่อื่น ถ้าเราเอาความมีวินัย และความมุ่งมั่น มาใส่ให้กับนักเตะที่เก่งที่สุดในประเทศได้ มันก็จะเป็นเหมือนการเติมเต็ม เราจะต้องก้าวไปด้วยกัน โดยอยู่ในพื้นฐานของความมุ่งมั่น ความมีวินัย เล่นกันเป็นทีม มันก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมาก,ส่วนเรื่องการพัฒนาตัวเอง แน่นอน ผมไม่คิดที่จะหยุดอยู่กับที่ และผมหวังในการอบรมผู้ฝึกสอนระดับ AFC Pro ในครั้งหน้าจะต้องมีชื่อของผมอยู่ด้วยแน่นอน เพื่อนำความรู้ทั้งหมดมาเพิ่มให้กับตัวเอง,ผมจะพยายามทำงานตรงนี้ให้ดีที่สุด นำเอาความสามารถทุกอย่างที่มาพัฒนา ผมเคยมีความฝันหลังจากที่สมัยที่เราเป็นนักฟุตบอล เราเคยมีส่วนพาทีมไปฟุตบอลเยาวชนโลกที่ประเทศอียิปต์มาแล้ว ผมเองก็อยากเป็นโค้ชที่พาทีมไปฟุตบอลเยาวชนโลกให้ได้เช่นกัน เพราะนั่นคือฝันของแฟนบอลและคนไทยทุกคน,ประสบการณ์,2011-มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
2011-สตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทยชุดใหญ่
2012-2014 ชัยนาท ฮอร์นบิล ดิวิชั่น 2 เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด
2014-สุโขทัย เอฟซี
2015-อาร์มี ยูไนเต็ด (รอบรองชนะเลิศทั้งสองถ้วย)
2015-2016 ชัยนาท ฮอร์นบิล
2017 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บี,เกียรติประวัติ
ทีมชาติไทย U23
-แชมป์ เนชันส์ คัพ ที่ประเทศมาเลเซีย (มิถุนายน 2016)
-แชมป์ ดูไบ คัพ ที่ประเทศยูเออี (มีนาคม 2017) -เหรียญทอง ซีเกมส์ ที่ประเทศมาเลเซีย (สิงหาคม 2017)
-แชมป์ 19 ปี ประเทศไทย โค้กคัพ 2017,การศึกษา,AFC A Certificate Coaching Course | โค้ชหระ อิสสระ ศรีทะโร ออกมาเปิดใจหลังได้รับโอกาสคุมทีม ช้างศึกU19 | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | โค้ชหระ,อิสสระ ศรีทะโร,ช้างศึกยู-19,ทีมชาติไทยชุดยู-19 | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1209852 |
เร่งทำผ้าลายทอง ประดับธงสามชาย นำราชรถทั้ง5องค์ ใช้ศิลปะลายรดนํ้า แต่งฟืนไม้จันทน์ | เน้นการลอกลายไทยตามแบบภูมิปัญญางานประณีตศิลป์โบราณเพื่อความประณีต เสร็จแล้ว 3 จาก 24 ท่อน คาดเสร็จทั้งหมด พ.ค.-ส.ค.นี้ ตามลำดับ,ที่พระบรมมหาราชวัง ตลอดวันที่ 16 เม.ย.มีประชาชนจากทั่วประเทศ มารอเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กันอย่างต่อเนื่อง โดยในจำนวนนี้มีคณะสามเณร โครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ปลูกต้นกล้าในนาบุญ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากวัดนาคปรก จำนวน 168 รูป เดินทางมาเจริญจิตตภาวนาปลงธรรมสังเวชพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขณะที่สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชนเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 15 เม.ย. มีจำนวนทั้งสิ้น 37,046 คน รวม 164 วัน มี 6,181,033 คน และมีประชาชนถวายเงิน ร่วมบำเพ็ญพระราชกุศล เป็นเงิน 7,226,964.50บาท รวม 164 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 502,668,371.26 บาท,ด้านนายโยชิอิสะ ฮานาดะ หัวหน้าสำนักข่าวจีจีเพรส ประจำประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพร่วมสื่อมวลชนญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นเจ้าภาพร่วมในพิธีบำเพ็ญกุศล และรู้เป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งได้นำเสนอข่าวพระราชพิธีที่สำคัญยิ่งเสมอมา การสวรรคตของพระองค์เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก สื่อจากประเทศญี่ปุ่นพร้อมที่จะนำเสนอข่าวไปจนถึงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพอย่างสมพระเกียรติ ในหลวง ร.9 ทรงทำเพื่อคนไทยมากมาย ส่วนตัวได้เห็นพระองค์ผ่านสื่อต่างๆประทับใจ ที่พระองค์ทรงเป็นนักพัฒนาที่ดี ทำเพื่อประชาชนของพระองค์,วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางปาริชาติ ไกรสร นักวิชาการช่างศิลป์ชำนาญการ กลุ่มงานช่างปิดทองประดับกระจก และช่างประดับมุก สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ว่าคณะช่างปิดทองประดับกระจก และช่างประดับมุก ร่วมกับจิตอาสา จัดทำงานผ้าลายทองแผ่ลวด ในส่วนของธงสามชายประจำงอนราชรถ ฉัตร และผ้าม่าน สำหรับใช้ประดับพระมหาพิชัยราชรถ ราชรถน้อย และพระยานมาศอย่างเต็มกำลัง ขณะนี้จัดทำธงสามชาย นำราชรถ ทั้ง 5 องค์ เสร็จแล้ว จำนวน 5 ผืน จากจำนวนที่จะต้องใช้จริงทั้งหมด 30 ผืน ใช้วัสดุผ้าสักหลาด มีสีหลักๆ 3 สี ได้แก่ สีแดง เป็นส่วนพื้น ขณะที่สีน้ำเงิน และสีเขียว เป็นการสาบผ้า เน้นให้ลวดลายเด่นขึ้นมาบนผ้า ส่วนการทำฉัตร และผ้าม่าน ได้ใช้ผ้าตาดทองเป็นหลัก ก็มีความคืบหน้าไปมากเช่นกัน,ขอชื่นชมจิตอาสาที่มาทำงานผ้าลายทองแผ่ลวดทุกคน มีความตั้งใจทำงานอย่างมาก แต่ละคนมาด้วยใจ ช่วยกันทำทุกอย่างตั้งแต่เปิดห้องทำงาน เช็ดล้าง ทำกับข้าว บางคนมาไกลจากสระบุรี อยุธยา บางคนมาจากชุมพร และมาเช่าบ้านอยู่เป็นเดือนๆ เพื่อมาช่วยงานเรา และมุมานะทำงานถวายในหลวง รัชกาลที่ 9 ทั้งนี้ เนื่องจากการทำงานทองแผ่ลวด และการทำผ้าปักเป็นงานที่มีรายละเอียดปลีกย่อยมาก ดังนั้นเราจึงเน้นให้ทุกคนคำนึงถึงความประณีต และทำให้ละเอียดที่สุด คาดว่าภายในเดือนพฤษภาคมการดำเนินงานในส่วนการปักธงจะเสร็จทั้งหมด ก่อนที่จะนำมาประกอบเข้ากันอีกครั้ง นางปาริชาติกล่าว,ขณะที่นายยิ่งพันธุ์ ปิยาเล่ห์ธนกาญจน์ นักวิชาการช่างศิลป์ปฏิบัติการ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำท่อนฟืนไม้จันทน์ว่า เขียนลวดลายลงบนท่อนฟืนไม้จันทน์เสร็จแล้วจำนวน 3 ท่อน จากที่ต้องทำทั้งหมด 24 ท่อน ใช้แบบลายไทยที่นายสมชาย ศุภลักษณ์อำไพพร นายช่างศิลปกรรมอาวุโส กลุ่มงานศิลปประยุกต์ และเครื่องเคลือบดินเผาเป็นผู้ออกแบบ ประกอบด้วยลายกรวยเชิง ลายทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ก้านแย่งใช้ศิลปะลายรดน้ำมาสร้างสรรค์ลายนำแบบมาปรุด้วยเข็มก่อนนำไปทาบบนท่อนฟืนไม้จันทน์ แล้วโรยฝุ่นดินสอพองและใช้ลูกประคบมาลูบจนเกิดลวดลายบนพื้นไม้ นับเป็นการลอกลายไทยตามแบบภูมิปัญญางานประณีตศิลป์โบราณ จากนั้นจึงใช้น้ำยาหรดาล เขียนเส้นไปตามแบบก่อนลงรักปิดทองคำเปลวเป็นลวดลายบนท่อนฟืนที่งดงาม การเขียนลายรดน้ำแต่ละท่อนฟืนจะใช้เวลาไม่น้อยว่า 1 สัปดาห์ เนื่องจากต้องใช้ความประณีตในการทำงานอย่างมาก คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมนี้ | กรมศิลปากรเผยขั้นตอนทำผ้าลายทองแผ่ลวด รวมถึงจัดทำธงสามชายนำราชรถทั้ง 5 องค์ เสร็จแล้ว 5 จาก 30 ผืน ขณะที่การเขียนลวดลายลงบนท่อนฟืนไม้จันทน์ | หนังสือพิมพ์ | พระบรมมหาราชวัง,กรมศิลปากร,ถวายสักการะพระบรมศพ,ผ้าลายทอง,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/newspaper/915345 |
น้องเมียเมาแล้วซ่า ขู่เผาบ้าน พี่เขยสุดทนฟันยับดับคาที่ | เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 7 พ.ค.58 พ.ต.ท.ชาติชาย จิตสงบ พนักงานสอบสวน สภ.หนองสองห้อง รับแจ้งจากว่า มีคนถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต ที่หน้าบ้านเลขที่ 159 หมู่ 2 ต.หนองสองห้อง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน,ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านชั้นเดียว ที่ลานปูนหน้าบ้าน พบศพนายบุญจันทร์ สีมูลดำ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159 หมู่ 2 ต.หนองสองห้อง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น นอนหงายในสภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นตัวเดียว ตามร่างกาย มีรอยถูกฟันด้วยของมีคม ทั้งศีรษะ ร่างกาย ใบหน้า และท้ายทอย ประมาณ 10 แผล พบร่องรอยการต่อสู้ จนข้าวของกระจัดกระจาย มีนายสว่าง มาตย์นอก อายุ 60 ปี เจ้าของบ้านถือมีด ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ,สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายสว่าง เป็นเจ้าของบ้านอาศัยอยู่กับภรรยา และนายบุญจันทร์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องเมีย และพิการหูหนวก ชอบดื่มสุรา หาเรื่องชาวบ้านไม่เว้นแต่ละวัน โดยก่อนเกิดเหตุนายบุญจันทร์ เพิ่งรับเบี้ยยังชีพคนพิการ 600 บาท จึงนำไปซื้อสุรามาดื่มจนเมา เมื่อกลับมาที่บ้านก็ทุบทำลายข้าวของและทำร้ายพี่สาว จนพี่สาวต้องหนีไปนอนที่กระท่อมนา ในบ้านจึงเหลือเพียงนายบุญจันทร์ กับนายสว่างพี่เขย,ต่อมา ช่วงหัวค่ำนายบุญจันทร์ ได้ไปซื้อน้ำมันมา 1 แกลลอน ขู่ว่าจะเผาบ้านแล้วจะฆ่าพี่เขยทิ้ง กระทั่งเวลาประมาณตี 3 ได้ยินเสียงโครมครามหน้าบ้าน นายบุญจันทร์ คิดว่านายบุญจันทร์ จะเผาบ้านจึงรีบออกมาดู กลับถูกนายบุญจันทร์ ถีบหน้าอกจนล้มหงายหลัง จากนั้นก็เกิดการต่อสู้กันขึ้น นายสว่างคว้าได้มีดพร้าที่วางอยู่ที่แคร่หน้าบ้าน ฟันที่ร่างนายบุญจันทร์ไปหลายที จนเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนายสว่างไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | น้องเมียหูหนวกซดเหล้าเมาโวยวายจะเผาบ้านพี่เขย ทั้งที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ถือแกลลอนน้ำมันมาวางขู่หน้าบ้าน พี่เขยสุดทนลงมาแลกกำปั้นเดือด ก่อนคว้ามีดพร้าฟันน้องเมียซ่าจนดับคามือ สุดท้ายยืนสารภาพ มอบตัวกับตำรวจขอนแก่น | ข่าว,ทั่วไทย | ฆ่าน้องเมีย,น้องเมียซ่า,ขอนแก่น,พยายามฆ่า,สภ.หนองสองห้อง,หนองสองห้อง,ฆาตกรรม,ฟันน้องเมีย,ขู่เผาบ้าน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,เมาแล้วคลั่ง,พี่เขยเดือดจัด,ฟันน้องเมียตาย,ฆ่ากันตาย,เบี้ยคนพิการ,น้องเมียหูหนวก,ทะเลาะวิวาท | https://www.thairath.co.th/news/local/497383 |
ปลอดภัยไว้ก่อน คปภ. เชิญชวนผู้ขับขี่รถทำประกันภัย พ.ร.บ.คุ้มครอง | เมื่อวันที่ 21 เม.ย.63 กองทุนทดแทนผู้ประสบภัย สำนักงาน คปภ. เปิดเผยว่า ประกันภัย พ.ร.บ. เป็นประกันภัยภาคบังคับ ที่กฎหมายว่าด้วยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถกำหนดให้เจ้าของรถทุกคันต้องจัดทำไว้ เพื่อคุ้มครองและดูแลประชาชนทุกคนที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจากรถให้รับการรักษาพยาบาลทันทีเมื่อเกิดเหตุขึ้น และเพื่อเป็นหลักประกันให้โรงพยาบาลที่ช่วยเหลือคนเจ็บที่เป็นผู้ประสบภัยจากรถว่า จะได้รับค่ารักษาอย่างแน่นอน รวมถึงเพื่อเป็นสวัสดิการให้กับคนไทยทุกคน และเพื่อเป็นการส่งเสริมให้นำระบบการประกันภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยงให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้นจึงเชิญชวนให้มาทำประกันภัย พ.ร.บ. เพื่อตัวคุณเอง เพื่อคนที่คุณรัก และเพื่อบุคคลอื่น ที่อาจได้รับความสูญเสีย หรือความเสียหายจากอุบัติเหตุจากรถ ให้ได้รับการเยียวยาหรือชดเชยตามสมควรแล้วแต่กรณี เนื่องจากบุคคลที่จะได้รับความคุ้มครองจากประกันภัย พ.ร.บ. มีทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร คนเดินถนน สอบถาม โทร. สายด่วน คปภ. 1186. | ปลอดภัยไว้ก่อน คปภ.เชิญชวนผู้ขับขี่รถทำประกันภัย พ.ร.บ.คุ้มครองคนที่ตนรัก ตามกฎหมายกำหนดภาคบังคับที่ต้องให้รถทุกคันต้องทำประกันเพื่อคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุจะได้รับการรักษาพยาบาลทันที | ข่าว,ทั่วไทย | คปภ.,ประกันภัยพ.ร.บ.,ผู้ประสบภัยจากรถ,คุ้มครองผู้ประสบภัย,กองทุนทดแทน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1826396 |
กระทรวงพาณิชย์ขอผู้ประกอบการระบายไข่ไก่ 100 ล้านฟอง | หลังกระทรวงพาณิชย์ สั่งให้กรมการค้าภายใน ตรวจสอบปริมาณไข่ไก่ในสต็อกของผู้ประกอบการรายใหญ่ ไม่พบว่ามีความพยายามในการกักตุน แต่ยังคงมีไข่ไก่เบอร์ 4 และ 5 ที่ผู้บริโภคำไม่นิยมซื้อ เพราะมีขนาดเล็ก อยู่ในสต็อกสูงถึง 100 ล้านฟอง นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ จึงให้กรมการค้าภายในประสานให้ผู้ประกอบการ นำไข่ไก่ในส่วนนี้ ระบายสู่ตลาดเพื่อบรรเทาปัญหาราคาไข่ไก่แพง เบื้องต้นผู้ประกอบการจะนำมาจำหน่ายภายในสัปดาห์นี้ขณะที่ในการคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่ และผลิตภัณฑ์ หรือ เอ้กบอร์ด โดยมีนายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเป็นประธาน ยังคงหารือแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยอาจมีการพิจารณานโยบายการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่เสรี ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อราคาไข่ไก่ทั้งระบบ ขณะที่สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่จะเข้าร่วมชี้แจงถึงต้นทุนการผลิตที่แท้จริง และยืนยันว่าราคาไข่คละหน้าฟาร์มที่ฟองละ 3.30 บาท เป็นราคาที่เหมาะสม | คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่ และผลิตภัณฑ์ หรือ เอ้กบอร์ด ประชุมหารือมาตรการแก้ปัญหาไข่ไก่แพง โดยมีกลุ่มตัวแทนผู้ประกอบการเข้าหารือ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ระบายไข่ไก่ 100 ล้านฟอง เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า | เศรษฐกิจ | กรมการค้าภายใน,กระทรวงพาณิชย์,ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ,ระบายไข่,ไข่ไก่ | https://news.thaipbs.or.th/content/172913 |
มือปืนพระกาฬ ดักยิงถล่มอดีตขาใหญ่คดียาเสพติด ร่างพรุนดับ 1 เจ็บ 1 | เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 30 ม.ค. ร.ต.อ.สรพิศ คงพุ่ม รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลำทับ จ.กระบี่ รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 5 ต.ทุ่งไทรทอง อ.ลำทับ หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ แล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิษณุ อัชนะพรกุล ผกก.สภ.ลำทับ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.กระบี่ แพทย์เวร รพ.ลำทับ กู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา รุดไปยังที่เกิดเหตุ,บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านลักษณะห้องแถว เปิดเป็นร้านขายของชำ ลานปูนตรงประตูหน้าบ้านพบศพ นายพงศ์พิพัฒน์ เกษีสม อายุ 32 ปี เจ้าของบ้านถูกยิงเสียชีวิต นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมกางเกงขาสั้นสีแดง เสื้อยืดคอกลมสีเหลือง ตามตัวมีรอยสักเต็มตัว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้ากลางหลัง 1 นัด มีบาดแผลจากกระสุนลูกปรายมากกว่า 20 แผล กกหูซ้ายมีรูกระสุน 1 นัด ที่เอวผู้ตายพกอาวุธมีด 1 เล่ม ที่เกิดเหตุพบทับกระสุนปืนลูกซองตกอยู่ 1 ชิ้น หัวกระสุนปืนขนาด 9 มม. 2 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังพบคนเจ็บอีก 1 คน คือนายบอย (นามสมมติ) อายุ 33 ปี เพื่อนผู้ตายซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยกัน ถูกเม็ดกระสุนลูกปรายจากปืนลูกซองเข้าที่ปลายคาง 1 แผล บาดเจ็บเล็กน้อย จนท.กู้ภัยเร่งนำตัวส่ง รพ.,เบื้องต้นสอบสวนคนเจ็บทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนโทรมาตามให้ผู้ตายไปเอารถจักรยานยนต์ในพื้นที่ อ.คลองท่อม จึงชวนตนไปเป็นเพื่อนเพื่อไปเอารถกลับมา ถึงหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ระหว่างกำลังจอดรถก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดมาจากสวนปาล์มใกล้บ้าน ตนจึงรีบวิ่งหลบคมกระสุน กระทั่งเสียงปืนเงียบก็พบผู้ตายถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้ ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบประวัติพบผู้ตายเคยมีประวัติต้องโทษในคดียาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง เพิ่งพ้นโทษออกมาได้ปีเศษ ซึ่งในช่วงที่ผู้ตายต้องโทษ ทราบว่าเป็นขาใหญ่คนหนึ่งในเรือนจำ โดยมุ่งปมสังหารไปที่เรื่องขัดแย้งปัญหายาเสพติดกับกลุ่มคนร้าย ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ใช้ปืนอย่างน้อย 2 กระบอกมาดักซุ่มรอผู้ตายอยู่ในสวนปาล์ม โดยตำรวจเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะเป็นมือปืนระดับพระกาฬที่วางแผนมาเป็นอย่างดี,ตำรวจเตรียมนำตัวคนเจ็บมาสอบปากคำอีกครั้ง เนื่องจากเป็นพยานสำคัญที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมทั้งจะนำตัวภรรยาและญาติผู้ตายมาสอบสวนหาสาเหตุ นอกจากนี้จะเร่งติดตามตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งที่อาจจะโทรศัพท์มาลวงให้ผู้ตายออกไปเอารถจักรยานยนต์เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มคนร้ายมาดักซุ่มรอสังหาร ซึ่งชุดสืบสวนจะเร่งติดตามตัวมาสอบสวนต่อไป. | มือปืนพระกาฬใช้ปืน 2 กระบอก ดักยิงถล่มอดีตขาใหญ่คดียาเสพติดในสวนปาล์ม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พรุนทั้งร่างดับ 1 เพื่อนตามมาด้วยเจ็บ 1 ที่กระบี่ ตร.มุ่งปมขัดแย้งขายยาเสพติด | ข่าว,ทั่วไทย | มือปืนพระกาฬ,ยิงถล่มอดีตขาใหญ่,ยาเสพติด,ดับ1เจ็บ1,คลองท่อม กระบี่,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1483243 |
พระไพศาล วิสาโล มอง ปรากฎการณ์ตูน เชื่อมร้อยสังคม สร้างรูปแบบใหม่ของการทำความดี | วันนี้ (25 ธ.ค.2560)พระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส มองว่าการวิ่งของ ตูน บอดี้แสลม เพื่อระดมเงินช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ขาดแคลน เป็นการสร้างปรากฏการณ์การทำความดีรูปแบบใหม่ และสามารถเชื่อมร้อยผู้คนในสังคมจำนวนมากให้หันกลับมาตระหนักถึงปัญหาระบบสาธารณสุขร่วมกัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ตูนกล้าทำ และหากเปรียบทางพุทธแล้วถือว่าตูนได้ฝึกฝนตามหลักธรรมเรื่อง ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสาสิ่งที่ตูนทำเห็นได้ชัดถึงความเสียสละ และความพากเพียรพยายาม และที่สำคัญคือความกล้า เพราะการที่คนเราคิดที่จะวิ่ง 2000 กิโลเมตร ในเวลา 55 วัน ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีความกล้า ทั้งกล้าทำ และกล้าคิด คิดไม่เหมือนใคร ซึ่งปรากฏว่าเป็นการกระทำที่โดนใจคน ดึงความดีของคนออกมา ที่อยากจะมาช่วยทำความดีกับตูน ทั้งวิ่งกับเขาหรือบริจาคเงิน ก็เป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง แต่การทำบุญทุกวันนี้ รูปแบบอาจจะซ้ำซาก จำเจ แต่สิ่งที่ตูนทำให้คนเห็นถึงการทำบุญที่แปลกใหม่ และสามารถจะดึงเอาคนมาร่วมกันทำความดี ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ เป็นความดีที่ดึงจิตใจให้มาเชื่อมโยงกัน และรู้สึกว่าทำแล้วเท่ห์ด้วย เพราะเป็นการทำบุญที่ไม่ซ้ำซากจำเจอาตมาคิดว่าสังคมควรจะมีการคิดค้นสร้างสรรค์ เรื่องการทำดีที่หลากหลายและโดนใจผู้คน ที่เคยทำดีแล้วก็ทำไปเรื่อยๆ แต่เราต้องคิดถึงเรื่องการทำความดีที่นอกกรอบ หรือรูปแบบที่ไม่ซ้ำซากจำเจ มันยังมีความคิดสร้างสรรค์ แต่ไม่ใช่สร้างสรรค์แบบแปลกใหม่อย่างเดียว ต้องสามารถดึงใจคนได้เพราะอย่างที่ตูน บอก ทุกคนก็เป็นฮีโร่ พยาบาลก็เป็นฮีโร่ หมอก็เป็นฮีโร่ เพียงแต่ว่าเราต้องกล้าคิด กล้าทำ แม้เป็นเรื่องยาก สิ่งที่ตูนทำ อาตมาก็รู้ว่ายาก และก็ไม่รู้ว่าจะเดินไปถึงเป้าหมายหรือเปล่า แต่เขาก็กล้าทำ และพอกล้าทำแล้ว ก็มีโอกาสที่จะถึงเส้นชัยได้ ดังนั้น คนทำความดี ต้องมีความกล้าด้วย ความปรารถนาดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีความกล้าด้วย กล้าคิดสร้างสรรค์ กล้าคิดนอกกรอบ แล้วความดีก็จะผุดบานทั่วทั้งสังคม เหมือนดอกไม้ใจรัก ก็คือ ฉันทะ ต้องมี พอเรามีฉันทะแล้ว แม้ยากแต่พอได้ทำก็มีความสุข และพอมีความสุขมันก็เกิดความเพียรเกิดความต่อเนื่อง ถ้าทำแล้วไม่มีความสุขก็ทำได้ไม่นาน แต่จะมีความสุขได้ก็ต้องมีฉันทะ พอมีฉันทะมีความรักในงาน ในสิ่งที่ทำ ก็ทำให้เกิดความสุข พอความสุขเกิดขึ้นก็ทำให้ทำได้เรื่อยๆ ทำแล้วมีความสุข เหนื่อยกาย แต่ใจมีความสุข นี่คือวิริยะพอทำแล้วก็ใคร่ครวญด้วยจิตที่ตั้งมั่น ถ้าเราทำความเพียรบ่อยๆ ทำไปอย่างต่อเนื่อง มันจะเกิดสมาธิ เกิดจิตตะ เกิดความตั้งมั่น แล้วควรจะหมั่นใคร่ครวญด้วยว่า มีอะไรที่ควรแก้ไขไหม บางครั้งก็ต้องอาศัยความรู้เท่าทันตัวเอง เมื่อร่างกายไม่ไหวแล้ว มันบอกว่า ฉันขอพักก็พักก่อน การที่ตูนจะวิ่งไปถึงจุดหมาย ต้องมีทั้งการวิ่งและการพัก และการพักก็ต้องดูเสียงเรียกร้องของร่างกาย ถ้าจะต้องพักก็ควรพัก แล้วจะทำให้เราสามารถวิ่งต่อไปได้สังเกตว่าตูนวิ่งช้าทำให้วิ่งได้นาน และทำให้ถึงจุดหมายปลายทางได้ในที่สุด มีคำพูดที่เป็นภาษิตแอฟริกาว่า ถ้าอยากไปให้ถึงเร็วก็ไปคนเดียว แต่ถ้าอยากให้ไปได้นานๆ ก็ต้องไปด้วยกัน และการที่จะไปด้วยกันได้ ก็ต้องวิ่งแบบที่เรียกว่า ทุกคนก็สามารถมีส่วนร่วมได้ ก็คือวิ่งช้าๆ เดินช้าๆ แม้วิ่งช้า แต่ถึงเร็ว แต่ถ้าเดินเร็ว วิ่งเร็ว อาจไม่ถึงก็ได้ ดังนั้นการทำความดีบางทีมันยาก แต่เราค่อยๆทำ ทำไปเรื่อยๆ ทำไม่หยุด แต่ก็พักบ้างมองว่าสิ่งที่เขาทำเป็นการจุดประเด็นให้คนมาถกเถียงเรื่องระบบบริการสุขภาพ ไม่ใช่แค่โรงพยาบาล มีการถกเถียงกันเรื่องระบบบริการสุขภาพในปัจจุบันว่า มีอะไรบกพร่องไหม หรือแค่ขาดเงิน ทำไมถึงขาดเงิน ขาดงบประมาณ อาตมาว่าเป็นประโยชน์ถ้าเราใช้ประเด็นนี้มาเพื่อถกเถียงกัน เพื่อการพัฒนาระบบสุขภาพ ไม่ใช่เพื่อ 11 โรงพยาบาล แต่ให้มีผลกระทบต่อโรงพยาบาลทั้งหมดในประเทศไทย และมากกว่าโรงพยาบาลด้วยเพราะระบบสุขภาพเป็นมากกว่าโรงพยาบาล โรงพยาบาลเป็นแค่ตั้งรับ แต่มันต้องมีการทำเชิงรุก ซึ่งเป็นเรื่องการออกกำลังกาย เป็นเรื่องการใช้ชีวิตอย่างเหมาะสม การบริหารร่างกายด้วย ซึ่งตูนพูดอยู่เสมอว่า จะช่วยเรื่องโรงพยาบาลก็ต้องดูแลสุขภาพให้ดี ก็ช่วยลดภาระโรงพยาบาล ลดภาระของหมอ ลดภาระงบประมาณด้วย จุดนี้ อาตมาคิดว่าน่าจะมาถกเถียงอภิปรายกันถูกแล้วที่ตูนจะไม่พูดประเด็นนี้ตรงๆ เพราะประเด็นนี้เมื่อพูดไปแล้ว จะเป็นการถกเถียงกันจนกระทั่งเกิดความเป็นฝักฝ่าย แต่ถ้าเลือกทำในสิ่งที่คนเห็นพ้องต้องกัน เอาจุดที่เห็นพ้องต้องกันเป็นจุดเริ่มต้น ก็จะนำไปสู่การร่วมมือกันในเรื่องอื่นที่ยาก รวมทั้งการปรับปรุงระบบสุขภาพให้ดีขึ้นได้อาตมาคิดว่า เราต้องยอมรับข้อจำกัดของตูนว่า ถ้าจะทำแบบนี้ ก็ต้องหาจุดที่เป็นจุดร่วมของคนให้มากที่สุด แต่ เราสามารถจะเริ่มต้นจากจุดที่ตูนทำอยู่ นำไปสู่ประเด็นที่สำคัญ โดยเฉพาะการปฏิรูประบบสุขภาพ เพื่อไม่ให้หมอและพยาบาลทำงานหนัก เพื่อไม่ให้งบประมาณถูกใช้อย่างมหาศาลเพียงเพื่อแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เราควรจะเอาจุดเริ่มต้นที่ตูนได้ทิ้งเอาไว้มาสานต่อ เพื่อเป็นการเปิดประเด็น หรือนำไปสู่การปฏิรูประบบสุขภาพอย่างแท้จริงคือคนไทยทั้งประเทศไม่ใช่แค่รัฐบาล เพราะว่าเรื่องนี้คนไทยมักคิดว่า ถ้ามีโรงพยาบาลเยอะๆ โรงพยาบาลมีงบประมาณมากๆ คนไทยก็จะมีสุขภาพดีขึ้น แต่จริงๆ มันมากกว่านั้น โรงพยาบาลเป็นแค่ปลายเหตุ เป็นแค่การตั้งรับหมอสงวน นิตยารัมพงศ์ ทุ่มเทในการทำงานเพื่อรักษาเยียวยาความเจ็บป่วยของผู้คน แต่คุณหมอแทนที่จะทำแค่เป็นหมอธรรมดา ก็คือรักษาไข้ รักษาโรคไป ซึ่งไม่จบสิ้น เพราะว่าคนป่วยก็เยอะ และที่สำคัญก็คือ จะมีคนจำนวนมากที่ถูกทอดทิ้ง โรงพยาบาลไม่สามารถจะรองรับเขาได้ เพราะปัญหาอยู่ที่โครงสร้างหรือระบบสาธารณสุขเมืองไทยในเวลานั้นที่ทอดทิ้งคนจน คุณหมอสงวนจึงเห็นว่า แค่รักษาคนไข้รายต่อรายไม่พอ ต้องยกเครื่องหรือปฏิรูประบบ เพราะจะทำให้เกิดการรองรับคนที่ยากไร้ ให้ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ควรแก่ความเป็นมนุษย์ประเด็นที่คุณหมอเลือกคือ การทำหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่จริงคุณหมอทำมากกว่านั้น แต่ที่เด่นและส่งผลกระทบมากคือ การผลักดันโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งก็คือหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตรงนี้ช่วยคนได้ทั้งประเทศ 30 ล้านคน ที่อาจมีปัญหาในการเข้าถึงระบบสุขภาพก็ได้รับโอกาส ในแง่นี้คุณหมอไม่ได้แค่เสียสละในฐานะหมอ แต่คุณหมอทำให้เกิดการปฏิรูประบบทั้งหมด คือการแก้ไขเชิงโครงสร้าง ซึ่งยังไม่จบยังต้องทำสิ่งที่คุณหมอทำเรียกว่า ยืนระยะได้ยาวกว่าทำมา 30 ปี สิ่งที่ตูนทำ 55 วัน ซึ่งก็ต้องใช้ความเพียรเยอะ ถ้าให้คุณหมอสงวนมาวิ่งแบบตูนก็คงจะไม่ไหว แต่การที่ทำในฐานะหมอ และข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข ก็ทำได้อย่างยืดเยื้อยาวนาน แง่หนึ่งก็คล้ายกับตูนที่มีความอดทนและพากเพียรพยายาม เพียงแต่ว่ากว่าจะเห็นผลก็ต้องใช้เวลา 15 ปี เฉพาะเรื่องหลักประกันสุขภาพเฉพาะ เรื่องปฏิรูประบบสุขภาพ ยังต้องทำต่อ โดยเฉพาะปฏิรูปเรื่องการป้องกัน แทนที่จะแก้ไขหรือบรรเทา อย่างที่บอกคือโรงพยาบาลเป็นการตั้งรับ เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ต้องทำงานในเชิงรุก คือ การป้องกันไม่ให้คนเจ็บป่วย ซึ่งหมายถึงการปรับปรุงการใช้ชีวิต ระบบสุขภาพจะต้องหันมาเน้นเรื่องป้องกันการเจ็บป่วยให้มากขึ้น เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญอย่าลืมว่า สังคมไทยกำลังเป็นสังคมผู้สูงอายุ และถ้าเราปล่อยให้คนแก่ป่วย โรงพยาบาลมีเท่าไหร่ก็ไม่พอ เพราะการป่วยของคนแก่ กินเวลานานกว่าจะหายได้ ดังนั้น จะดีกว่าถ้ามีโอกาสได้รู้วิธีการดูแลสุขภาพ อันนี้ไม่ใช่คนแก่อย่างที่เป็นปัญหา คนในวัยอื่นก็เหมือนกันดังนั้น การทำสิ่งที่เรียกว่า สาธารณสุขมูลฐานสำคัญมาก ที่เมืองไทยยังทำได้น้อย และอาจไม่ให้ความสำคัญเท่าไหร่ การทำงานเชิงรุกเพื่อป้องกันไม่ให้คนเจ็บป่วย สุขภาพดี ไม่ต้องรอให้ป่วยแล้วเข้าโรงพยาบาลกลายเป็นภาระของหมอโรงพยาบาล คงจะน้อยลง นี่คืองานที่น่าจะทำ ออกกำลังกาย วิ่งบ่อยๆ แบบตูน ก็จะป่วยน้อยลง เข้าโรงพยาบาลน้อยลง พยาบาล หมอก็จะเหนื่อยน้อยลง งบประมาณก็จะไม่ต้องใช้มากอย่างที่เป็นอยู่ | พระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส มองว่า การวิ่งของ ตูน บอดี้แสลม เพื่อระดมเงินช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ขาดแคลน เป็นการสร้างปรากฏการณ์การทำความดีรูปแบบใหม่ | สังคม | ตูน บอดี้สแลม,ก้าวคนละก้าว,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,พระไพศาล วิสาโล | https://news.thaipbs.or.th/content/268824 |
อ.เวียงสาอ่วมหนัก หลังรับน้ำต่อจากเทศบาลเมืองน่าน | วันนี้ (16 ส.ค.2559) ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่น นำกระสอบทรายทำแนวคันกั้นน้ำสูงกว่า 2 เมตร ที่ ต.เวียงสา อ.เวียงสา จ.น่าน บริเวณเชิงสะพานข้ามไปยังบ้านล่ายน่าน เพื่อป้องกันน้ำไหลมาจากตัวเมืองน่าน ไหลทะลักเข้ามายังชุมชนบ้านบุญยืน บ้านป่ากล้วย และตลาดเวียงสา พร้อมเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่ทะลักเข้ามาก่อนหน้านี้ หลังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนสะพานไม่สามารถใช้สัญจรได้ โดยตลอดทั้งคืนที่ผ่านมามีการเฝ้าระวังและประกาศเสียงตามสายให้อพยพขนย้ายข้าวของขึ้นสู่ที่สูง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นจุดต่ำที่สุด และมีประชาชนอาศัยอยู่กว่า 1000 ครัวเรือนชลประทานจังหวัดน่าน คาดว่าช่วงบ่ายวันนี้ระดับน้ำอาจจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เบื้องต้นผู้นำชุมชนมีการประกาศแจ้งให้ผู้ที่อาศัยเก็บของขึ้นที่สูง และเตรียมเคลื่อนย้ายผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ออกแล้วขณะที่สถานการณ์น้ำหลากเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองน่าน ในช่วงบ่ายนี้ระดับเริ่มทรงตัว เพราะมีการระดมสูบน้ำออกจากพื้นที่เศรษฐกิจ คาดว่าบางจุดจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงเย็นวันนี้แต่สำหรับชุมชนในพื้นที่ลุ่มต่ำยังมีน้ำสูงกว่า 1.50 เมตร ทำให้ชาวบ้าน 5 ชุมชน คือ ภูรินทร์ ท่าลี พญาภู พวงพยอม มิ่งเมือง ไม่มีกระสไฟฟ้าใช้ตั้งแต่เมื่อคืนวานด้านหน่วยแพทย์ของโรงพยาบาลน่าน ได้นำยารักษาโรคแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่ยังอยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะยาป้องกันโรคฉี่หนู ขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลยังไม่มีแผนอพยพผู้ป่วยออกจากพื้นที่ เพราะสถานการณ์ยังไม่วิกฤติ | แม้ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองน่านจะเริ่มลดลงแล้ว แต่พื้นที่อำเภอเวียงสา ที่รับน้ำต่อจากเทศบาลเมืองน่านกำลังวิกฤต เพราะน้ำได้หลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายกว่า 1000 หลังคาเรือน | ภัยพิบัติ | ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,น้ำท่วมน่าน,ฝนตก,น่าน,น้ำท่วม,ชลประทานจังหวัดน่าน | https://news.thaipbs.or.th/content/254943 |
หวิดตายหมู่ รถแก๊ส10ตันพุ่งลงข้างทาง ขณะมีงานอยู่ใกล้ๆ โชคดีไม่ระเบิด | หวิดตายหมู่ วินาทีระทึก รถบรรทุกแก๊สเต็มถังหนักถึง 10 ตัน พุ่งลงข้างทางบริเวณ ถนนสาย 359 สระแก้ว-เขาหินซ้อน ขณะที่ใกล้จุดเกิดเหตุมีพิธีนำหลวงพ่อทอง ที่นำมาประดิษฐานไว้ที่อุทยานพุทธมณฑล และมีผู้คนทำความสะอาดบริเวณงานกาชาดสระแก้ว ต่างตกตะลึงตามๆ กัน โชคดีไม่ระเบิด
,เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 ก.พ. 61 นายพรพจน์ เพ็ญพาส ผวจ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสระแก้ว ว่า มีรถบรรทุกแก๊สเต็มถังหนัก 10 ตัน เกิดอุบัติเหตุอยู่บริเวณหน้าอุทยานพุทธมณฑล จังหวัดสระแก้ว และหลังสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ถนนสาย 359 สระแก้ว-เขาหินซ้อน จึงสั่งการให้ ปภ. หน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน อบจ.สระแก้ว รถดับเพลิงจาก เทศบาลเมืองสระแก้ว เทศบาลตำบลท่าเกษม และ อบต.ท่าเกษม ไปในที่เกิดเหตุ และเตรียมพร้อมในการป้องกันอันตรายในที่เกิดเหตุทันที
,นายพรพจน์ จึงพร้อมด้วย นายธีระชัย ลิ้มประสิทธิศักดิ์ นายอำเภอเมืองสระแก้ว, หัวหน้า ปภ.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ไปในที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุกแก๊สเต็มถัง หนัก 10 ตัน ทะเบียน 82-1482 ปราจีนบุรี พุ่งลงตะแคงข้างเข้าไปในป่าข้างทาง ชนต้นไม้ล้มระเนระนาด ระยะทางกว่า 50 เมตร โดยมี นายธรกร (ไม่ทราบนามสกุล) เป็นคนขับ พร้อมด้วยภรรยาและบุตร 1 คน นั่งมาด้วย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าหน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน อบจ.สระแก้ว นำส่งโรงพยาบาล สมเด็จพระยุพราช สระแก้ว เพื่อรักษาตัวแล้ว
,ขณะเกิดเหตุ รถแก๊สพลิกคว่ำอยู่ที่ถนนหน้าอุทยานพุทธมณฑล สระแก้วขณะนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และพุทธศาสนิกชน ได้ทำพิธีนำหลวงพ่อทอง ที่นำมาประดิษฐานไว้ที่อุทยานพุทธมณฑล เพื่อให้พุทธบริษัทกราบไหว้บูชา ในงานสืบสานประเพณี และงานกาชาดจังหวัดสระแก้ว และในวันที่ 20 ก.พ. เป็นวันสุดท้ายของการจัดงานกาชาด และเช้าวันที่ 21 ก.พ.ได้ทำพิธีนำหลวงพ่อทอง พระคู่บ้านคู่เมืองกลับ จึงสั่งการให้ ปภ.สระแก้ว ดูแลอำนวยความปลอดภัย และป้องกันเหตุอันตราย ที่อาจเกิดจากรถแก๊สพลิกคว่ำ และปิดถนนฝั่งหนึ่งเพื่อความปลอดภัย
,จากนั้นได้ประสานให้หน่วยกู้ภัยสว่างสระแก้ว หน่วยดับเพลิง และเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย และให้เจ้าหน้าที่ถอดแบตเตอรี่ในรถบรรทุกแก๊สออกให้หมด และยังห้ามใช้โทรศัพท์ ห้ามสิ่งที่อาจทำให้เกิดประกายไฟ ห้ามถ่ายรูปในระยะใกล้ และขณะนี้ ทางบริษัทที่รับผิดชอบส่งแก๊ส ได้นำรถและเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาเก็บกู้แล้ว และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ห้ามบุคคลเข้าใกล้รถแก๊สดังกล่าวโดยเด็ดขาด จนกว่าจะมีการเก็บกู้เสร็จ การเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้น่าจะมาจากหลับใน มากกว่าอย่างอื่น
,จากการสอบถามผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ บอกว่า ขณะทำความสะอาดบริเวณจัดงานกาชาด ได้เห็นรถบรรทุกแก๊ส ขับมาถึงทางโค้งหันหน้าไปทาง อ.วัฒนานคร รถก็พุ่งลงข้างถนน เข้าไปในป่า ชนต้นไม้ล้มระเนระนาด เป็นทางยาว ฝุ่นตลบ สักพักก็เงียบ แต่ไม่มีเปลวไฟเกิดขึ้น ขณะนั้นคนกำลังทำความสะอาดอยู่ที่บริเวณอุทยานพุทธมณฑล มีจำนวนมาก จึงวิ่งเข้าไปดูและมีคนตะโกนบอกว่า อย่าเข้าใกล้ เป็นอันขาดรถบรรทุกแก๊ส กลัวรถแก๊สเกิดการระเบิด คนจึงยืนดูห่างๆ สักพักจึงมีรถกู้ภัยที่อยู่ในที่ทำการ อบจ.สระแก้ว อยู่ไม่ห่างมากนักเข้าไปช่วยคนเจ็บ นำส่งโรงพยาบาล โชคดีที่รถแก๊สไม่ระเบิด ไม่เช่นนั้นอาจเกิดตายหมู่ได้ เนื่องบริเวณฟากถนนที่รถแก๊สพลิกคว่ำ ไม่ถึง 50 เมตร มีคนเดินทางมาทำความสะอาด และมีรถจอดอยู่จำนวนมากอีกด้วย จนกระทั่ง 15.00 น. ได้ยกรถบรรทุกแก๊สตั้งขึ้นตรวจสอบสภาพถังไม่เสียหาย และอยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยมีทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากชลบุรีดำเนินการ และควบคุมโดยห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่เพื่อป้องกันความปลอดภัยที่อาจจะเกิดขึ้น. | หวิดตายหมู่!! วินาทีระทึก รถบรรทุกแก๊สเต็มถังหนักถึง 10 ตัน พุ่งลงข้างทางบริเวณ ถนนสาย 359 สระแก้ว-เขาหินซ้อน ขณะที่ใกล้จุดเกิดเหตุมีพิธีนำหลวงพ่อทอง ที่นำมาประดิษฐานไว้ที่อุทยานพุทธมณฑล และมีผู้คนทำความสะอาดบริเวณงานกาชาด | ข่าว,ทั่วไทย | รถแก๊สคว่ำ,รถบรรทุกแก๊ส,แก๊ส 10ตัน,รถแก๊สลงข้างทาง,สระแก้ว,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1210320 |
ปู่ชัย ทำหน้าที่ประธานชั่วคราว เลือก ปธ.สภา-รองปธ.สภา | เมื่อวันที่ 16 พ.ค.62 นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความชัดเจนเรื่องรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.)ถึงการกำหนดวันทำรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภานัดแรก ยังไม่ทราบว่า เป็นวันที่ 24 พ.ค. ตามที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุจริงหรือไม่ แต่ในหลักการที่เคยปฏิบัติมา หากมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาเมื่อใด ในวันรุ่งขึ้นจะเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร หากมีรัฐพิธีในวันที่ 24 พ.ค.จริง ในวันที่ 25 พ.ค.จะเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรอีก 2 คน โดยเรียนเชิญ นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทยไว้แล้ว ในฐานะ ส.ส.ที่มีอาวุโสสูงสุด ให้ทำหน้าที่ประธานชั่วคราวในการเปิดประชุมเลือกประธานสภาฯ ซึ่งนายชัยได้รับปาก บอกพร้อมทำหน้าที่ เพราะสุขภาพยังแข็งแรงดี โดยจะใช้หอประชุมทีโอที ถ.แจ้งวัฒนะ เป็นสถานที่ประชุมเลือกประธานสภาฯ ในช่วงเวลาบ่าย ส่วนในช่วงเช้าจะเป็นการเปิดประชุมวุฒิสภา เพื่อเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา ภายในวันเดียวกัน ,นายสรศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนขั้นตอนการลงคะแนนเลือกประธานสภาฯ นั้น ก่อนที่จะมีการเลือกประธานสภาฯ จะมีการกล่าวปฏิญาณตัวของ ส.ส. หากใครไม่มาในวันดังกล่าว ถือว่า ยังไม่ได้เป็น ส.ส.โดยสมบูรณ์ ส่วนการลงคะแนนเลือกประธานสภาฯ จะยึดข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรปี 2551 เป็นแนวทาง หากมีการเสนอชื่อเพียงคนเดียว จะได้เป็นประธานสภาฯเลย แต่ถ้ามีการเสนอชื่อมากกว่า 1 คน จะใช้วิธีลงคะแนนลับ ขานชื่อ ส.ส.ทีละคน ให้มาเขียนชื่อบุคคลที่เป็นประธานสภาฯ ลงไปในซองลงคะแนน แล้วนับคะแนน เมื่อเสร็จจากการลงคะแนนเลือกประธานสภาฯ แล้ว จะลงคะแนนเลือกรองประธานสภาคนที่ 1 และคนที่ 2 ตามลำดับไป คาดว่าคงจะใช้เวลานานพอสมควร เพราะการลงคะแนนจะใช้การขานชื่อให้มาลงคะแนนทีละคน. | ปู่ชัย เตรียมคัมแบ็ก ทำหน้าที่ประธานชั่วคราว คุมเกมเลือกประธาน-รองประธานสภาฯ เจ้าตัวพร้อมทำหน้าที่ บอกสุขภาพยังแข็งแรงดี แจงใช้วิธีลงคะแนนลับเลือกประธานสภาฯ | ข่าว,การเมือง | เปิดประชุมรัฐสภา,ประชุมสภา,เลทอกประธานสภา,ชัย ชิดชอบ,เลขาฯสภา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1568988 |
ขับรถพุ่งชนฝูงชนในเมืองบาร์เซโลนา สเปน เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน | วันนี้ (18 ส.ค.2560) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เหตุเกิดในย่านลาส รัมบลาส ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองบาร์เซโลนา เมืองใหญ่สุดอันดับ 2 ของสเปน เมื่อคนร้ายขับรถแวนพุ่งชนฝูงชนในย่านถนนคนเดิน สร้างความตื่นตกใจให้กับผู้คนในบริเวณดังกล่าวที่พากันวิ่งหนีกันอย่างแตกตื่น มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 50 คน ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ผู้ต้องสงสัยที่เชื่อว่าเป็นผู้ก่อเหตุพยายามหลบหนีและถูกตำรวจยิงเสียชีวิต 1 คนขณะยิงต่อสู้กันในย่านชานเมือง และถูกจับกุมได้อีก 2 คนล่าสุด ตำรวจได้เผยแพร่ภาพของชายที่เป็นคนเช่ารถแวนคันที่ใช้ในการก่อเหตุชื่อนายดริสส์ อูบาคีร์ อายุ 20 ปีเศษ เกิดในโมร็อกโก แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่านายอูบาคีร์เป็นหนึ่งในสองผู้ต้องสงสัยที่ถูกตำรวจจับกุมหรือไม่ หลังเกิดเหตุ กลุ่มไอเอสอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีฝูงชนในเมืองบาร์เซโลนา โดยระบุในแถลงการณ์ผ่านทางสำนักข่าวอามัคที่เป็นกระบอกเสียงว่านักรบไอเอสเป็นผู้ก่อเหตุสำหรับเหตุร้ายในเมืองบาร์เซโลนาเกิดขึ้นในขณะที่ฤดูการท่องเที่ยวในยุโรปกำลังอยู่ในช่วงพีค โดยย่านลาส รัมบลาส เป็นหนึ่งในย่านที่มีผู้คนคับคั่ง เนื่องจากเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร ทำให้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว | การขับรถพุ่งชนฝูงชนยังคงเป็นวิธีการที่กลุ่มก่อการร้ายใช้ก่อเหตุโจมตีในยุโรป ล่าสุด คนร้ายขับรถแวนพุ่งชนคนเดินถนนในย่านท่องเที่ยวของเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 50 คน | ต่างประเทศ | ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ขับรถพุ่งชนฝูงชน,บาร์เซโลนา,สเปน,ก่อการร้าย,โจมตี,กลุ่มไอเอส,ยุโรป | https://news.thaipbs.or.th/content/265327 |
แพทริเซีย ให้เปอร์เซ็นต์ เด่นคุณ ? ยอมรับสนิทมาก ล็อกคอเตะต่อยเล่นกัน | ขึ้นแท่นเป็นนางเอกแถวหน้าของช่อง 3 แต่สำหรับเรื่องหัวใจของลูกครึ่งสาว แพทริเซีย กู๊ด กลับโสดสนิท ถึงแม้จะเคยมีข่าวกับพระเอกฮอตทั้ง สน–ยุกต์ ส่งไพศาล และคนล่าสุด เด่นคุณ งามเนตร ที่มีข่าวว่าสนิทกันมาก เจอ แพทริเซีย เลยถามว่า โตขนาดนี้ที่บ้านไฟเขียวให้มีแฟนได้รึยัง? ยังไม่เขียวนะคะ ไฟยังเหลืองๆ ส้มๆอยู่ ถ้ามีใครเข้ามาค่อยๆดูไปก่อนยังไม่ต้องรีบตัดสินใจเป็นแฟน หรือหนุ่มๆกลัวไม่กล้าจีบเรา? แพทก็ไม่ได้กังวลเรื่องนี้นะคะ แพทเชื่อว่าถึงเวลาของมันก็มาเอง เพราะเราอยู่จุดตรงนี้ทำให้เรามีกำแพงสูงรึเปล่า? ไม่รู้ๆตัวหนูอาจจะไม่ได้สูงมาก แต่ไปสร้างกันเองมากกว่า เค้าคิดเอง,ไม่ได้เป็นคนเข้าถึงยาก แต่เรียนเสร็จก็วิ่งไปกองละครเลยไม่มีเวลาให้ใครรึเปล่า? ก็ยังมีเวลากับเพื่อนๆค่ะ เห็นคนอื่นมีแฟน ตัวเราอยากมีกับเค้าบ้างมั้ย? นิดนึง (ยิ้ม) แต่ไม่เป็นไรค่ะ แล้วเวลาเหงาเราทำยังไง? ดูหนัง ออกกำลังกายค่ะ โมเมนต์นี้คือรักตัวเองก่อน? ใช่ค่ะ รักตัวเองก่อนมีหนุ่มๆเข้ามาขายขนมจีบแพทบ้างมั้ย? ก็ไม่ค่อยนะคะ มีไม่กี่คน (แสดงว่ามี) แล้วมีดารานักแสดงเข้ามาจีบ? ไม่มีค่ะ แต่ก็เคยมีข่าวเด่นคุณจีบเราไม่ใช่เหรอ? เค้าก็คงไม่กล้าจีบหรอกค่ะ กับเด่นคุณความเป็นไปได้ ศูนย์เปอร์เซ็นต์ แต่ก็มีกระแสเชียร์เรากับเด่นคุณเยอะอยู่นะ? ไม่รู้สึกนะ (ยิ้ม) เราสนิทกันแบบพี่น้องไปแล้ว ถ้าชอบกันก็คงแปลก,นิสัยตรงไหนของ เด่นคุณ เราถึงคิดว่าโอกาสเป็นไปได้เป็นศูนย์? ไม่ค่ะ เราสนิทกันแบบเป็นเพื่อนกันมากกว่า ล็อกคอกันได้ เตะต่อยได้ ไม่เกรงใจกัน มองหน้ากันก็ไม่เขิน เล่นๆกันแบบนี้คนก็คิดว่าแอบกุ๊กกิ๊กกันรึเปล่า? ไม่หรอกค่ะ คนไม่กล้าเข้ามาหาหนูมากกว่า หนุ่มๆไม่เข้าหากลัวแพท หรือกลัวแม่ดุ? แล้วแต่คนมากกว่าค่ะ เห็นว่าพ่อขู่ถ้าเรียนไม่ดีจะไม่ให้ เล่นละคร? ไม่ค่ะ ท่านก็เข้าใจว่าเราทำงานด้วย ก็ให้กำลังใจตลอด พาไปเที่ยว พาไปพักผ่อน คอยซัพพอร์ตมากกว่าค่ะ. | ขึ้นแท่นเป็นนางเอกแถวหน้าของช่อง 3 แต่สำหรับเรื่องหัวใจของลูกครึ่งสาว แพทริเซีย กู๊ด กลับโสดสนิท! ถึงแม้จะเคยมีข่าวกับพระเอกฮอตทั้ง สน–ยุกต์ ส่งไพศาล และคนล่าสุด เด่นคุณ งามเนตร ที่มีข่าวว่าสนิทกันมาก เจอ แพทริเซีย เลยถามว่า | null | แพทริเซีย กู๊ด,เด่นคุณ งามเนตร,โสดสนิท,ศูนย์เปอร์เซ็นต์,พระเอกฮอต,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์,ข่าวบันเทิง | https://www.thairath.co.th/content/606946 |
จับได้แล้ว ชายวิ่งจ๊อกกิ้งสุดเลือดเย็น ชนหญิงล้มจนเกือบโดนรถบัสเหยียบ | ได้,เมื่อ 11 ส.ค.60 สำนักข่าวบีบีซี เผยความคืบหน้าเหตุการณ์ ชายวัยกลางคนในอังกฤษคนหนึ่ง ก่อเหตุสลดใจ พุ่งชนหญิงคนหนึ่งเข้าอย่างจัง ขณะเขาวิ่งจ๊อกกิ้ง จนเธอล้มหงายหลังกระแทกพื้นตกจากฟุตปาทลงไปบนถนน ที่บริเวณสะพานพุตนีย์ ในกรุงลอนดอน จนหญิงวัย 33 ปี ผู้นี้เกือบจะโดนรถบัสที่กำลังแล่นมาเหยียบ เคราะห์ยังดีที่โชเฟอร์มีปฏิกิริยาว่องไวเป็นเลิศ หักพวงมาลัยหลบหญิงคนนี้ได้ทัน ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย และผู้คนบนรถบัสได้ลงมาช่วยเหลือเธอ ขณะที่ผู้ชายคนที่วิ่งชนเธอ กลับตั้งหน้าตั้งตาวิ่งจ๊อกกิ้งต่อไป ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่ได้หันไปดูหญิงคนดังกล่าวเลย โชคยังดีที่กล้องวงจรปิด ในบริเวณนั้น สามารถบันทึกเหตุการณ์นี้ได้ จึงนำไปสู่การระดมกำลังเจ้าหน้าที่ครั้งใหญ่ติดตามจับกุมชายคนนี้เมื่อไม่กี่วันก่อนนั้น,ข่าวแจ้งว่า ในที่สุด ตำรวจกรุงลอนดอน สามารถจับกุมชายคนนี้ได้แล้ว ที่บริเวณแขวงเชลซี ในกรุงลอนดอน เมื่อเช้าวันพฤหัสฯที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยสำนักงานตำรวจนครบาลกรุงลอนดอน เผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมชายวัย 50 ปีคนนี้ แต่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ยังไม่มีการตั้งข้อหา,ทั้งนี้ กล้องCCTV บันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พ.ค. แต่ตำรวจกรุงลอนดอน เพิ่งเผยแพร่คลิปวิดีโอนี้เมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจากภาพจากกล้องวงจรปิดไม่สามารถระบุได้ว่า ชายคนนี้คือใคร จนนำไปสู่การจับกุมได้ในที่สุด หลังจากเหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ชายคนดังกล่าวอย่างมาก เพราะนอกจากจะชนผู้หญิงคนนี้จนล้มและเกือบบาดเจ็บสาหัสแล้ว ปรากฏว่า 15 นาทีต่อมา เขายังได้วิ่งจ๊อกกิ้งกลับมาเส้นทางเดิม โดยที่ผู้หญิงคนนี้ พยายามจะพูดกับเขา แต่ชายวิ่งจ๊อกกิ้งก็ทำทีไม่รู้จักเธอ และตั้งหน้าวิ่งต่อไปอย่างไม่มีความรู้สึกผิดอะไรเลย เหมือนกับตอนที่ชนเธอจนล้มตอนแรก | มีหัวใจรึเปล่าตำรวจอังกฤษโชว์ฟอร์ม ตามจับกุมชายวิ่งจ๊อกกิ้งสุดเฉยได้แล้ว หลังชนกระแทกหญิงจนล้ม เกือบจะโดนรถบัสเหยียบ แต่ชายคนนี้กลับตั้งหน้าตั้งตาวิ่ง ไม่มีการเหลียวไปดูหญิงที่ถูกชน โชคยังดี กล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ | ข่าว,ต่างประเทศ | ชายวิ่งจ็อกกิ้งชนหญิงล้ม,ชายวิ่งจ๊อกกิ้ง เลือดเย็น,ตำรวจจับได้แล้ว ชายวิ่งจ็อกกิ้งชนหญิง,อุบัติเหตุ บนถนน,ลอนดอน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1034935 |
จับตา 3 เสี่ยงกระทบเศรษฐกิจ สมคิด ชี้รัฐบาลปฏิรูปไทยให้พร้อมทะยาน | ยอมรับการมีรัฐบาลผสมหลังเลือกตั้ง ทำงานยาก แต่ต้องเร่งขับเคลื่อนนโยบาย เตรียมประเทศให้พร้อมทะยาน หลังสหรัฐฯและจีนยุติศึก,นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในงานสัมมนา Thailand Economic Challengess 2019 ว่า ปีที่ผ่านมา อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยจะอยู่ในช่วง 4-4.2% หรือไม่ ขึ้นอยู่กับเดือน ธ.ค.61 หากมีการเบิกจ่ายดี น่าจะขยายตัวได้ถึง 4.2% ถ้าไม่ดีอาจลดลงมา แต่อยู่ในช่วงนี้ ซึ่งเศรษฐกิจขยายตัว 4% ถือว่าดีมากแล้ว จะมีแต่ปัญหารากหญ้าที่ต้องดูแลต่อไป ส่วนการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น รัฐบาลจะเน้นดูแลเรื่องหลักๆ สำหรับในอนาคต มีข้อสังเกต 3 ประการ คือ ประการแรก ปีนี้มีความไม่แน่นอนสูงจากปัจจัยภายนอก ที่ไทยคุมไม่ได้ แต่ไทยได้รับผลกระทบแน่นอน ตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ และประกาศนโยบาย อเมริกา เฟิร์ส หรืออเมริกามาก่อน ได้สร้างความไม่แน่นอนเกิดขึ้นสูง แต่เศรษฐกิจสหรัฐฯกลับดีขึ้นจริง,ส่วนการที่สหรัฐฯสร้างความขัดแย้งกับจีน ได้สร้างความเสี่ยงกับทุกประเทศในโลก โดยประเทศที่มีปัญหามากคือ ประเทศส่งออกสินค้า ได้แก่ สิงคโปร์ ไทย ฮ่องกง ไต้หวัน จึงเห็นได้ว่า มูลค่าการส่งออกของไทย ที่บวกอยู่ดีๆ กลับพลิกมาติดลบ และปริ่มน้ำ หรืออีกส่วน เมื่อหุ้นตกก็กระทบกันทั่วโลก เมื่อความมั่งคั่งหาย คนก็จับจ่ายน้อยลง ทำให้คนมองว่าปีหมูทองจะเป็น หมู อยู่หรือเปล่า,จากความไม่แน่นอนดังกล่าว จึงเป็นความอึมครึม และไทยเจอ 2 เด้ง เพราะต้องมีการเลือกตั้งภายในครึ่งปีนี้ ใครจะมาเป็นรัฐบาล นโยบายที่ผ่านมาจะได้รับการสานต่อหรือไม่ จะดีมาก ดีน้อย หรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่จะดูแลต่อไป ส่วนรัฐบาลนี้ จะดูแลวันนี้ให้ดีที่สุด ประคองเศรษฐกิจให้ดี จนส่งไม้ต่อถึงการเลือกตั้ง หากประคองเศรษฐกิจให้ดี เมื่อตลาดโลกทรุด เราไม่ทรุดตาม สิ่งต้องควบคุมให้ได้ คือ สถานการณ์ภายในประเทศ นักการเมือง ประชาชนต้องช่วยกันดูแล,ส่วนประการที่ 2 ไทยยังมีโอกาส ที่จะดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน และญี่ปุ่น ไม่มียุคไหนที่จีนและญี่ปุ่นจะร่วมมือกับไทยเหมือนสมัยนี้ เพราะจะใช้ไทยเป็นฐานขยายตัวสู่ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ฉะนั้นโอกาสอยู่ตรงหน้า ถ้าเราทำตัวเองดี ไม่มีอะไรมา Disrupt (ทำลาย) และทำให้เสียบรรยากาศ ไม่เช่นนั้น อาจเสียโอกาสให้คู่แข่ง อย่างเวียดนาม หรือมาเลเซีย จึงต้องทำให้ตัวเองเป็นจุดเด่นสูงสุด เพื่อใช้โอกาสที่เกิดมามากที่สุด,รัฐบาลนี้สามารถพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ถดถอยได้สำเร็จ ปัญหาไม่ง่าย มิติแรกปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฐานรากของเราจน ถามว่าจนเพราะรัฐบาลนี้ใช่หรือไม่ ไม่ใช่ ที่สาดโคลนในการเลือกตั้ง ขอความกรุณาหน่อย ท่านก็รู้ว่า 20-30 ล้านคน เกษตรกรทั้งสิ้น สิ่งที่รัฐบาลนี้ทำคือ รดน้ำที่ราก เปลี่ยนกระบวนการผลิต หาผู้นำเกษตรกรที่สร้างการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ได้ เอาเทคโนโลยีเข้าไปให้เกษตรกรใช้อี-คอมเมิร์ซ ซึ่งไม่ง่าย,และประการที่ 3 ปีนี้มีการเลือกตั้ง เมื่อใดที่มีรัฐบาลผสม จะเดินหน้าลำบาก แต่ประเทศไทยไม่มีเวลาอีกแล้ว หากทำประเทศไทยให้ดี ขับเคลื่อนนโยบายให้ดี ไทยก็พร้อมทะยานไปได้ เมื่อปัญหาทุกอย่างคลี่คลาย โดยเฉพาะความขัดแย้งของสหรัฐฯและจีน เราผ่านวิกฤติจากจีดีพี 0.9% มาถึงตรงนี้ได้ ไม่ธรรมดาแล้ว มาบอกรัฐไม่ทำอะไรเลย รวยกระจุก จนกระจาย ถามจริงๆรัฐบาลไม่ทำอะไรจริงหรือ จะให้หาเสียงให้ชนะไม่เกิดประโยชน์อะไร. | สมคิด ยันจีดีพีปี 61 อยู่ในช่วง 4-4.2% พร้อมชี้อนาคตมี 3 เรื่องต้องติดตาม ทั้งความไม่แน่นอนในโลกที่กระทบไทย แต่ยังมีโอกาสรับทัพนักลงทุน ถ้าปฏิรูปประเทศให้พร้อม | ข่าว,เศรษฐกิจ | สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,งานสัมมนา,ขยายตัวเศรษฐกิจ,จีดีพี,นักลงทุน | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1464291 |
พระราชทานอภัยโทษ | เพราะติดตามข่าวสองตายายมาตั้งแต่ต้นชีวิตของชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดีส่งเข้าคุมขังในเรือนจำหลายปี แม้จะคลุมเครือสิ่งที่กระทำผิด แต่ต้องก้มหน้ารับโทษ,เป็นอุทาหรณ์สำหรับคดีอื่น,วันนี้สองตายายพ้นโทษออกมาใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศที่ความประพฤติดีให้ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ และปล่อยตัว,ให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับตัวเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป ตามพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2562,การพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ นายอุดมและนางแดง ศิริสอน สองตายายเก็บเห็ดในฐานความผิด พ.ร.บ. ป่าไม้ เกิดขึ้นปี พ.ศ.2553 ศาล จ.กาฬสินธุ์ พิพากษาจำคุก 30 ปี ลดเหลือ 15 ปี และจำเลยได้ยื่นประกันชั้นอุทธรณ์เพื่อสู้คดี ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งแก้จำคุกเป็น 14 ปี 12 เดือน,ต่อมาในปี พ.ศ.2560 ศาลฎีกาพิพากษาให้จำคุกคนละ 5 ปี,อยู่ที่เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์,สองตายายได้รับการปล่อยตัวพระราชทานอภัยโทษแล้ว เนื่องจากเป็นผู้ต้องขังชั้นเยี่ยม จึงได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษ 1 ใน 3 และปล่อยตัว ตามมาตรา 8 (2),พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์บอกว่า แม้ทั้งสองคนเป็นผู้กระทำผิด แต่ได้รับโทษมาเป็นระยะเวลาสมควรแล้ว และมีคุณสมบัติที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว,ขณะที่อยู่ในเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ ทั้งคู่ได้เข้าสู่กระบวนการพัฒนาพฤตินิสัย ด้วยหลักสูตรสัคคสาสมาธิ เพื่อพัฒนาจิตใจ รวมถึงเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย โปรแกรมแก้ไขผู้กระทำผิดเกี่ยวกับทรัพย์,นางแดงรับการอบรมฝึกวิชาชีพในหลักสูตรระยะสั้นต่างๆ เช่น การนวด ทำขนมหวาน ส่วนนายอุดมรับการฝึกวิชาชีพด้านจักสาน เช่น สุ่มไก่ กระติบข้าว ซึ่งเป็นโครงการของกรมราชทัณฑ์คืนนักโทษสู่สังคม,นอกจากสองตายายแล้วนักโทษคนอื่นที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ปล่อยตัวออกมา ขอให้ร่วมกันสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งใจทำความดีสนองคุณแผ่นดินไทย,ไม่ออกมาสร้างปัญหาให้สังคม.,เพลิงพยัคฆ์,[email protected], | เห็นข่าว นายอุดม และ นางแดง ศิริสอน สองตายายเก็บเห็ด ในฐานความผิด พ.ร.บ. ป่าไม้ ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวออกมา รู้สึกตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก | null | ตายายเก็บเห็ด,พระราชทานอภัยโทษ,อุดม ศิริสอน,แดง ศิริสอน,พ.ร.บ. ป่าไม้,เลขที่1 วิภาวดีฯ,เพลิงพยัคฆ์ | https://www.thairath.co.th/news/local/1571725 |
3 นาทีคดีดัง : หลวงพ่อคูณ เกจิผู้หยั่งรู้ แคล้วคลาด วาจาสิทธิ์ (คลิป) | ในวันที่ 29 มกราคมนี้ งานพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ และครูใหญ่ พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เป็นกรณีพิเศษ ประจำปี 2561 ที่ผ่านมา เกจิชื่อดังแดนอีสาน หรือชาวบ้านยกย่องว่าเป็น เทพเจ้าแห่งด่านขุนทด ได้ละสังขาร เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 16 พฤษภาคม 2558,หลวงพ่อคูณ นับเป็นพระเกจิที่มีลูกศิษย์ลูกหาอยู่ทั่วประเทศ ที่ผ่านมา มีเรื่องเล่า ปาฏิหาริย์มากมาย หนึ่งในนั้น คือ นักการเมืองชื่อดัง นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุรถตกเหวกว่า 50 เมตร รวมไปถึง นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ ที่ได้เล่าเรื่องราวของ ความหยั่งรู้ และแคล้วคลาด ซึ่งเรื่องราวของลูกศิษย์ก้นกุฏิทั้งสองจะเป็นอย่างไร สามารถรับชมได้กับ 3 นาทีคดีดัง : หลวงพ่อคูณ เกจิผู้หยั่งรู้ แคล้วคลาด วาจาสิทธิ์,อ่านข่าวเกี่ยวข้อง,เหมือนถูกเลือก เปิดใจทีมผ่าสรีระหลวงพ่อคูณ มหัศจรรย์ กระดูก เส้นเอ็นสีชมพู,เหมือนถูกเลือก เปิดใจทีมผ่าสรีระหลวงพ่อคูณ มหัศจรรย์ กระดูก เส้นเอ็นสีชมพู,จระเข้ไม่ยอมว่ายน้ำ เรื่องเล่าเหลือเชื่อ หลวงพ่อคูณกับ ไอ้เหลือง ไอ้กุด,ผีใส่บาตร จ่อยิงไม่ตาย ลอยอังคารแม่น้ำโขง เรื่องเล่าหลวงพ่อคูณจากหลานสนิท,พ่อรักเรามาก ไม่ขอก็บวชให้ เปิดใจ พระจก พระทา ลูกบุญธรรมหลวงพ่อคูณ,ฝังตะกรุด 6 ดอก เคยยืมเงิน เปิดใจหลานหลวงพ่อคูณ ขอตามรอยบริจาคร่างกาย,เปิดใจหลานลอยอังคารหลวงพ่อคูณ แบ่งเก็บหรือลอยเถ้าอัฐิทั้งหมด แล้วแต่ มข.,พระลูกวัดอุตรดิตถ์ซึ้งพระธรรมพ่อคูณ ปวารณาตัวบวช มารับขบวนแห่ (คลิป),253 ปี พระธาตุกลางน้ำ เรื่องเล่าอาถรรพณ์ พญานาค ความเชื่อลอยอังคาร,ปลื้มใจหลาย น้องสาวร่วมส่งหลวงพ่อคูณขึ้นสวรรค์ โชว์พระองค์เดียวที่ห้อยคอ | หลวงพ่อคูณ นับเป็นพระเกจิที่มีลูกศิษย์ลูกหาอยู่ทั่วประเทศ ที่ผ่านมา มีเรื่องเล่า ปาฏิหาริย์มากมาย หนึ่งในนั้น คือ นักการเมืองชื่อดังที่ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุรถตกเหว | สกู๊ปไทยรัฐ | หลวงพ่อคูณ,หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่,พระเครื่อง,3 นาทีคดีดัง,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/scoop/1472858 |
พรีม เปิดโรงทาน ปลื้มใจเพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้ม | เผยเรียนบัลเล่ต์ตอนเด็ก พออยู่บ้านเฉยๆเลยเคาะสนิมสาว โม-มนชนก บัว-นลินทิพย์ ออกไปเป็นผู้ให้ในช่วงโควิด-19เลยต้องถาม พรีม ว่า ช่วงนี้อยู่บ้านเห็นลุกขึ้นมาแดนซ์บ่อย ฟีดแบ็กฮือฮา ปกติจะไม่ค่อยเห็นพรีมเต้นขนาดนี้? ก็มีคนเข้ามาแซวค่ะ เขินเหมือนกันนะ ขอบคุณทุกคนมาก ดีใจที่ทุกคนชอบ และดีใจที่ได้เอนเตอร์เทนคนอื่นในช่วงนี้ หวังว่าจะทำให้ทุกคนยิ้มได้ ช่วงนี้หยุดอยู่บ้าน พรีมก็จะให้เวลากับตัวเองและครอบครัวเต็มที่ หากิจกรรมทำร่วมกัน ชวนคุณแม่กับพี่ชายเข้าครัวทำอาหาร ทำความสะอาดบ้าน รดน้ำ ต้นไม้ ดูหนัง หรือไม่ก็อ่านหนังสือหรือออกกำลังกาย หลังๆว่างก็มีเต้นบ้างสนุกๆ เอาจริงพรีมเป็นคนที่ชอบเต้นอยู่แล้ว พรีมเรียนบัลเล่ต์มาตั้งแต่เด็กๆ โตมาก็มีเรียนเพิ่มด้วย ก็เลยเต้นได้หลายสไตล์ แจ๊สแดนซ์ ฮิปฮอปก็พอได้ ชอบเต้น เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วยค่ะอย่างที่เห็นสาวๆเพื่อนซี้พรีม โม บัว และเพื่อนๆไปทำบุญทั้งโรงทาน และบริจาคของที่สมาคมคนตาบอดมา ใครเริ่มชวนกันยังไง? จริงๆเริ่มมาจากการที่ทุกคนได้ติดตามข่าวสาร และทราบว่ามีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตินี้เยอะมาก ต่างคนก็ต่างไปเปรยๆกับพี่แพรผู้จัดการว่า อยากจะช่วยเหลือคนที่ลำบาก มีช่องทางไหนที่จะพอช่วยได้บ้างตามกำลังของเรา พี่แพรเห็นว่าหลายๆคนคิดเหมือนๆกันก็เลยช่วยหาข้อมูล วัดพระยาสุเรนทร์เป็นวัดใกล้บ้านของพวกเรา ชาวบ้านแถวนั้นได้รับผลกระทบมากพอสมควร บางคนตกงาน บางคนรายได้ลดลง อีกทั้งยังมีคนแก่และเด็กอีกจำนวนมาก พี่แพรเลยช่วย ติดต่อประสานงานกับทางวัด ขออนุญาตทำบุญเปิดโรงทาน ก็ชวนๆกันไปค่ะ เป็นสิ่งเล็กๆ ที่พวกเราพอจะทำได้ ถือเป็นการแบ่งปันรอยยิ้มให้แก่กันในภาวะวิกฤติแบบนี้มากกว่า ช่วยให้คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย และหลายๆ ครอบครัวได้อิ่มท้อง และประหยัดค่าใช้จ่ายไปอีกหนึ่งวัน ส่วนการเอาแอลกอฮอล์เจลและหน้ากากผ้าไปบริจาคก็เช่นกัน คือก่อนหน้านี้พี่โมเห็นว่าทางสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย มีการประชาสัมพันธ์ข่าวขอรับบริจาคออกมา ก็เลยไปปรึกษากับพี่แพร พรีมกับพี่แพรเองก็เห็นดีด้วย เพราะผู้พิการทางสายตาต้องใช้การสัมผัสเป็นหลักในการใช้ชีวิตประจำวัน มีความจำเป็นที่ต้องใช้สิ่งเหล่านี้ในการปกป้องตัวเองจากเชื้อไวรัสเป็นพิเศษ แต่ในภาวะแบบนี้พวกเค้าก็อาจจะหาได้ยาก ก็เลยอยากจะมีส่วนร่วมช่วยเหลือ ซึ่งทางพี่แพรก็ได้โทร.ไปเช็กกับสมาคมตั้งแต่วันแรกๆที่มีการเปิดรับบริจาค ทางสมาคมแจ้งว่ามีคนโทร.เข้ามาสอบถามเยอะ แต่ความช่วยเหลือยังไม่ถึงมือ ณ วันนั้น เราเลยตกลงกันว่าจะแยกย้ายกันไปหาของ แล้วไปบริจาคพร้อมกันค่ะอยากให้เล่าความประทับใจที่ได้เห็นจากการให้ของเรา? มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยค่ะ ทั้งอิ่มเอมใจ และมีความสุข ที่สิ่งเล็กๆ น้อยๆที่พวกเราทำ ตามกำลังที่พวกเราพอจะทำได้ ทำให้ผู้อื่นมีรอยยิ้ม และช่วยแบ่งเบาความยากลำบากของเค้าในสถานการณ์วิกฤติแบบนี้ได้บ้าง ถึงแม้จะไม่มาก แต่พวกเค้าก็รับรู้ได้ถึงความตั้งใจ และขอบคุณในน้ำใจที่พวกเรามีให้ ซึ่งพรีมกับเพื่อนๆเชื่อนะคะว่า ถ้าทุกคนช่วยกันคนละเล็กคนละน้อย มันจะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และกระจายความช่วยเหลือนี้ออกไปได้ในวงกว้างมากขึ้นค่ะ. | ช่วงดาราสาวๆเก็บตัวอยู่บ้าน แฟนๆเลยได้เห็นกิจกรรมหลากหลาย อย่างนางเอกหน้าหวาน พรีม-รณิดา เตชสิทธิ์ ก็ลุกขึ้นมาออกกำลังกายแข็งขัน โพสท่าเก๋ไก๋ แดนซ์สะบัดแบบที่ไม่ค่อยเห็น รวมทั้งชวนแก๊งเพื่อน | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | พรีม รณิดา,เปิดโรงทาน,เรียนบัลเล่ต์,แจกอาหาร,ดาราช่อง3,ออกกำลังกาย,ทำบุญโรงทาน,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1831784 |
รอง หน.ประชาธิปัตย์ เป็นเจ้าภาพพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรม พระบรมศพ | เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 5 พ.ย. 59 ที่ศาลาการเปรียญวัดประชุมโยธี พระอารามหลวง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พร้อมด้วย นายบำรุง ปิยนามวาณิช นายก อบจ.พังงา นำพสกนิกรชาวจังหวัดพังงา ร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพระเทพปัญญาโมลี รองเจ้าคณะภาค 17 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ซึ่งจังหวัดพังงาได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรม โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนสับเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพทุกวันไปจนครบ 30 วัน,ก่อนพิธีสวดพระอภิธรรม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้อัญเชิญพระราชดำรัส ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม 2551 ความว่า,ข้าพเจ้ายินดีที่ได้ฟังรัฐมนตรีที่จะเข้ารับหน้าที่ต่อไปนี้ ได้ปฏิญาณตนว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างดีเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งท่านมีหน้าที่ที่สำคัญที่สุด เพราะว่าจะต้องทำให้ประเทศชาติมีความสุข ความเรียบร้อย ถ้าท่านทำงานเรียบร้อย ทำให้บ้านเมืองเรียบร้อยก็เป็นสิ่งที่เรียกว่าเป็นบุญสำหรับประเทศ เพราะว่าประเทศต้องมีคนที่ดูแลความเป็นอยู่อย่างดี ถ้ามิเช่นนั้นไม่สามารถที่จะปฏิบัติงานของประชาชนทั่วไปได้ดีนัก แต่ถ้าท่านได้ช่วยกันทำให้บ้านเมืองมีความสุขความเรียบร้อย ก็ทำให้ประเทศชาติผ่านไปได้โดยดี ซึ่งเป็นความต้องการของประชาชนคนไทยทุกคนที่จะให้ประเทศชาติดำเนินไปโดยดี เพราะว่าทำให้สามารถที่จะมีความเป็นไทยอยู่ได้ ก็ขอให้ท่านพยายามที่จะปฏิบัติงานให้ดีที่สุด เพื่อที่จะให้เมืองไทยมีความเรียบร้อย มีความสุข คือว่าถ้าทำไม่ดี จะเป็นคนที่อยู่ในตำแหน่งสูง หรือคนทั่วๆ ไปทำไม่ดีคนหนึ่งคนใด ก็ทำให้ประเทศชาติล่มจมได้,ฉะนั้น ท่านก็มีหน้าที่สำคัญ เพราะท่านอยู่สูง มีหน้าที่สูงก็จะต้องทำให้ประเทศชาติดำเนินไปโดยดี ก็ขอให้ท่านสามารถปฏิบัติงานเพื่อความดีของประเทศ ความสงบสุขของประเทศ ซึ่งเป็นความจำเป็นที่สุด ถ้าท่านทำได้ ท่านเองก็มีความสุข และประชาชนทั่วไปทุกพวกทั้งหมู่ทั้งเหล่า ทุกเหล่าได้มีความสุขทั้งนั้น คนไหนจะทำอะไรก็สามารถที่จะปฏิบัติงานได้ ถ้าท่านช่วยกันดูแลประเทศชาติให้มีความราบรื่น ท่านเองก็มีความสุขเหมือนกัน ฉะนั้น ที่ท่านตั้งใจที่จะปฏิบัติงานโดยดีนั้น เป็นความดีที่ท่านจะทำสำหรับตัวเองด้วย สำหรับส่วนรวมด้วย เพราะว่าถ้าส่วนรวมอยู่ดี ท่านก็อยู่ดี ก็ขอให้ท่านสามารถที่จะปฏิบัติงานโดยเรียบร้อย ทำให้ทั้งประเทศมีความราบรื่น ซึ่งเราต้องการความสงบของประเทศ ก็ขอให้ท่านสามารถที่จะปฏิบัติงานโดยเรียบร้อยทุกอย่าง และขอให้ท่านมีความสำเร็จในงานการแต่ละส่วนที่ท่านต้องทำ เพื่อความสุขของประชาชนและเพื่อความสุขของท่านเอง ก็ขอขอบใจที่ท่านตั้งอกตั้งใจที่จะทำงาน เพื่อประเทศชาติมีความเรียบร้อย ขอให้ท่านได้ประสบความสำเร็จในงานการ ก็ขอให้ท่านมีความสำเร็จและมีความสุขในงานการด้วย | รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเจ้าภาพพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่วัดประชุมโยธี พระอารามหลวง จ.พังงา | null | ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ,ประวัติในหลวง,รูปในหลวง,ภาพในหลวง,พระราชดำรัส,พระราชกรณียกิจ | https://www.thairath.co.th/content/775036 |
ชวรงค์ นั่งประธานสภาการหนังสือพิมพ์ฯ อีกสมัย | วันนี้ (6 มี.ค.2561) ในการประชุมคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เพื่อเลือกประธาน รองประธาน เหรัญญิก และเลขาธิการ โดยที่ประชุมมีมติเลือก นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี กรรมการประเภทที่ 1 (ผู้ก่อตั้ง) จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เป็นประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติอีกสมัย ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์จากนั้น นายชวรงค์ ได้เสนอชื่อ น.ส.นาตยา เชษฐโชติรส จากเครือบางกอกโพสต์ เป็นรองประธานคนที่ 1 นายวีรศักดิ์ โชติวานิช กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย เป็นรองประธานคนที่ 2 นายชาย ปถะคามินทร์ จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เป็นเลขาธิการ น.ส.นิภาวรรณ แก้วรากมุกข์ จากเครือเนชั่น เป็นรองเลขาธิการคนที่ 1 นายภูวสิษฏ์ สุขใส จากหนังสือพิมพ์ภาคใต้โฟกัส จ.สงขลา เป็นรองเลขาธิการคนที่ 2 และ น.ส.ชุติมณฑน์ ศรีขำ จากบ้านเมืองออนไลน์ เป็นเหรัญญิก โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบนายชวรงค์ กล่าวถึงสิ่งที่สภาการหนังสือพิมพ์ฯ ต้องดำเนินการต่อไปคือ 1) การสานต่องานเก่า ได้แก่ การผลักดันการทำหน้าที่ของคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนภายในองค์กรสมาชิก หรือ Media Ombudsman ทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ และการออกแนวปฏิบัติด้านต่างๆ พร้อมเผยแพร่และขอความร่วมมือองค์กรที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันให้บังคับใช้ได้จริง นอกจากนี้ ก็คือการทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาควิชาการและองค์กรผู้บริโภคต่างๆ ในการเฝ้าระวังการละเมิดจริยธรรมขององค์กรสมาชิก เพื่อให้เกิดความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ในการลดปัญหาการละเมิดจริยธรรม2) งานผลักดันการยกร่างกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปสื่อเพื่อรักษาไว้ซึ่งหลักการกำกับดูแลกันเองขององค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน โดยให้กฎหมายเป็นเพียงเครื่องมือในการส่งเสริมมาตรการกำกับดูแลสื่อให้อยู่ในกรอบของจริยธรรมวิชาชีพ มีผลบังคับใช้ในทางปฏิบัติและมีความทั่วถึง และไม่ถูกแทรกแซงโดยอำนาจรัฐใดๆ อีกทั้งยังสนับสนุนการปฏิรูปสื่อสารมวลชนในภาพรวมเพื่อให้สื่อมวลชนยังคงเป็นวิชาชีพและธุรกิจที่สร้างความเป็นธรรม และทำหน้าที่เป็นยามระวังภัยให้สังคมด้วยมาตรฐานทางวิชาชีพที่สูง และยึดมั่นในหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพ3) การผลักดันงานด้านส่งเสริมและพัฒนากิจการหนังสือพิมพ์ทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่นให้สามารถรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานทางวิชาชีพ โดยผ่านกระบวนการให้การศึกษาอบรม ทั้งทางด้านวิชาชีพ ด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และด้านการพัฒนาธุรกิจให้สามารถตอบสนองความเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม โดยมีเนื้อหา วิธีการนำเสนอ และช่องทางการนำเสนอที่สอดคล้องกับรสนิยมของผู้บริโภคและประโยชน์สาธารณะ ตลอดจนถึงการให้ความร่วมมือกับองค์กรสมาชิกในการผลักดันให้เกิดมาตรการต่างๆ เพื่อให้กิจการหนังสือพิมพ์สามารถเป็นที่พึ่งของสังคมได้ในระยะยาวและตลอดไป6 มีนาคม 2561สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ | กรรมการสภาการหนังสือพิมพ์ฯ เลือก ชวรงค์ จากไทยรัฐ เป็นประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติอีกสมัย พร้อมเร่งสานงานเก่า สร้างงานใหม่ ผลักดันงานส่งเสริมและพัฒนากิจการหนังสือพิมพ์ทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นรับมือความเปลี่ยนแปลงทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม | สังคม | ชวรงค์,สภาการหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย,สื่อมวลชน,นักข่าว,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/270775 |
ค้านใช้มาตรา 86 แก้ปัญหา ม.อัสสัมชัญ หวั่นกระทบความเชื่อมั่น | นายอุดม หงส์ชาติกุล นายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ตัวแทนกรรมการสภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ แถลงการณ์คัดค้านและขอให้ทบทวนกรณีที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ใช้อำนาจตามมาตรา 86 (4) วรรคสอง ของกฎหมายสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ปี 2546 ตั้งคณะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หลังเกิดปัญหาความขัดแย้งภายในมหาวิทยาลัยนายอุดม ระบุว่า คำสั่งควบคุมมหาวิทยาลัย ไม่เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลในการปราบปรามทุจริตประพฤติมิชอบ โดยที่ผ่านมาสภามหาวิทยาลัยเสียงส่วนใหญ่ มีความพยายามตั้งคณะกรรมการ ตรวจสอบการบริหารงาน และการอนุมัติงบประมาณหลายโครงการ ของภราดาบัญชา แสงหิรัญ อดีตอธิการบดี แต่ไม่ได้รับความร่วมมือดังนั้นการตั้งคณะกรรมการมาควบคุมมหาวิทยาลัย จึงไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ และจะทำให้มหาวิทยาลัยเกิดความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น นอกจากนี้ต้องพิจารณาจากข้อกฎหมายเพราะไม่มั่นใจว่ากรณีที่เกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัย จะเข้าข่ายการใช้อำนาจควบคุมมหาวิทยาลัยได้หรือไม่ ทั้งนี้จะหาช่องทางอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อไปสำหรับคำสั่งตั้งคณะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามแต่งตั้งไปเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา โดยมี รศ.อานนท์ เที่ยงตรง เป็นประธานคณะกรรมการควบคุมฯ และทำหน้าที่นายกสภามหาวิทยาลัยฯ พร้อมด้วยกรรมการอีก 12 คน เช่น นายกฤษณพงศ์ กีรติกร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุภัทร จำปาทอง รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ศ.สุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | วันนี้ (26 ม.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนกรรมการสภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ แถลงการณ์คัดค้านและขอให้กระทรวงศึกษาธิการ ทบทวนคำสั่งตั้งคณะกรรมการเข้าควบคุมการบริหารงานมหาวิทยาลัย โดยมองว่าไม่ช่วยแก้ปัญหาและส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น | สังคม | สภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ,คัดค้าน,อธิการบดี | https://news.thaipbs.or.th/content/7560 |
เป็นครั้งแรกที่ศาลอาร์เจนตินา ลงโทษผู้บริหารธุรกิจที่รวมหัวเผด็จการลักพาตัว-ทารุณคนทำงาน | รายต้องโทษอาชญากรรมต่อมนุษยชาติเพราะเคยช่วยเหลือเผด็จการในการลักพาตัวและทารุณกรรมคนงาน 24 ราย ในช่วงราว 40 ปี ที่แล้วศาลอาร์เจนตินาตัดสินลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารบริษัท ฟอร์ดมอเตอร์ 2 ราย จากข้อหาที่พวกเขาช่วยเหลือเผด็จการทหารในช่วงยุค 40 ปีที่แล้วในการลักพาตัวและทารุณกรรมคนงาน 24 ราย สื่อนิวยอร์กไทม์ระบุว่าการตัดสินเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมาถือเป็นครั้งแนกที่ตัวแทนจากบรรษัทข้ามชาติต้องโทษจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนในอาร์เจนตินานักกิจกรรมแสดงการชื่นชมว่าคำตัดสินในครั้งนี้ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในการเอาผิดกับกลุ่มธุรกิจที่ให้ความร่วมมือกับเผด็จการทหารผู้โหดเหี้ยมซึ่งเคยปกครองอาร์เจนตินามาก่อนในปี 2513-2526 ในยุคสมัยนั้นมีการส่งตัวประชาชนหลายหมื่นคนเข้าสู่สถานกักกันซึ่งรวมถึงผู้นำสหภาพแรงงานด้วย โดยกลุ่มคนที่ถูกต้องสงสัยว่ากระด้างการเดื่องต่อรัฐจะถูกคุมขังตามอำเภอใจ ถูกทารุณกรรม และถูกสังหารหลังศาลอาร์เจนตานาตัดสินลงโทษผู้ร่วมมือเผด็จการในครั้งนี้ ญาติของเหยื่อ 24 รายพากันลุกขึ้นปรบมือ โดยจำเลยที่ต้องโทษในคดีนี้คือ เปโดร มุลเลอร์ ผู้ที่ขณะก่อเหตุดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการผลิตในสมัยนั้น และอีกคนหนึ่งคือเฮกเตอร์ ฟรานซิสโก ซิบิลลา ผู้ที่เป็นผู้จัดการฝ่ายรักษาความปลอดภัยโรงงานในสมัยนั้น พวกเขาต้องรับโทษจำคุก 12 ปี ในข้อหามีส่วนร่วมกับการลักพาตัวและการทารุณกรรมคนในที่ทำงานของพวกเขาเองเอกสารข้อมูลของศาลอาร์เจนตินาระบุว่าผู้บริหารทั้งสองคนนี้อนุญาตให้มีการตั้งสถานกักกันภายในโรงงานของตัวเองเพื่อเป็นที่ๆ ดำเนินการไต่สวนผู้ถูกลักพาตัวได้ นอกจากผู้บริหารบริษัทแล้วในคดีนี้ยังมีทหารที่ถูกตัดสินลงโทษด้วยคือ ซานติอาโก โอมาร์ ริเวรอส อดีตหัวหน้ากองพันที่สี่ของกองทัพอาร์เจนตินาซึ่งถูกตัดสินให้จำคุก 15 ปีอัยการ มาร์เซโล การ์เซีย แบร์โร กล่าวว่าพวกเขาสามารถแสดงให้เห็นว่าบริษัทที่ได้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากช่วงเผด็จการและอาศัยการปราบปรามของเผด็จการเป็นเครื่องมือในการกำจัดคนอื่น เขาบอกอีกว่าผู้ที่ถูกลักพาตัวเหล่านี้ไม่ได้กระทำอะไรเกี่ยวข้องกับการบ่อนทำลายรัฐเลย พวกเขาแค่เข้าร่วมกับสหภาพแรงงานเท่านั้นทั้งนี้หนึ่งในทนายความของเหยื่อยังบอกอีกว่าอาจจะมีการฟ้องร้องฟอร์ดในเรื่องนี้ต่อไปในชั้นศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เนื่องจากว่าบริษัทแม่ของฟอร์ดในสหรัฐฯ มีส่วนควบคุมดูแลสาขาอาร์เจนตินาในยุคสมัยนั้น ทำให้บริษัทฟอร์ดในสหรัฐฯ อาจจะมีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยทางบริษัทฟอร์ดแถลงในเรื่องนี้ว่าพวกเขา รับรู้เรื่องคำตัดสินพิพากษาเกี่ยวกับเรื่องที่น่าจะนับเป็นการรวมกลุ่มของอดีตคนงานของบริษัทในเหตุการณ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนในยุคคริสตทศวรรษที่ 70s และระบุอีกว่าพวกเขาคอยเปิดรับข้อมูลจากฝ่ายตุลาการของอาร์เจนตินาเสมอ พวกเขาไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรมากกว่านี้แต่ก็มีการหมายเหตุว้าคำตัดสินยังคงมีการอุทธรณ์ต่อได้นิวยอร์กไทม์รายงานว่าเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านอื่นๆ แล้ว อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่ลงโทษอดีตเจ้าหน้าที่ทหารและผู้มีส่วนร่วมก่ออาชญากรรมต่อประชาชนในยุคสมัยเผด็จการมากเป็นพิเศษ โดยที่ในยุคสมัยที่อาร์เจนตินาเป็นเผด็จการก็เป็นช่วงเดียวกับที่ประเทศเพื่อนบ้านเหล่านั้นมักจะตกอยู่ภายใต้การปกครองแบบเดียวกันด้วย นอกจากกรณีนี้แล้วในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาอาร์เจนตินายังเคยตัดสินลงโทษผู้เคยละเมิดสิทธิมนุษยชน 862 ราย ส่วนใหญ่เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ทหารวิคตอเรีย บาซัวโด นักประวัติศาสตร์ที่เป็นพยานผู้เชี่ยวชาญของคดีนี้กล่าวว่านี่เป็นครั้งแรกที่อาร์เจนตินาตัดสินเอาผิดกับฝ่ายบริหารธุรกิจในข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่เกี่ยวกับกิจกรรมของสหภาพแรงงาน ขณะที่ศูนย์เพื่อกฎหมายและสังคมศาสตร์ในอาร์เจนตินาออกแถลงการเกี่ยวกับคดีนี้ว่ามีกลุ่มธุรกิจจำนวนมากที่มองว่าเผด็จการเป็นโอกาสในการที่พวกเขาจะใช้วิธีการแก้ไขปัญหาการพิพาทแรงงานในรูปแบบที่มีการปิดกั้นปราบปรามและฉวยโอกาสเพื่อผลกำไรให้ตัวเอง ทำให้กลุ่มธุรกิจทำนองนี้ มีส่วนเกี่ยวโยงกับโครงสร้างของรัฐก่อการร้าย (state terrorism) มากขึ้นArgentina Convicts Ex-Ford Executives for Abuses During Dictatorship New York Times 11-12-2018 | ในอาร์เจนตินาเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่แล้วมีปรากฏการณ์ที่ผู้ให้ความร่วมมือและใช้ผลประโยชน์จากเผด็จการทหารถูกตัดสินต้องโทษตามกระบวนการยุติธรรม คือกรณีที่ศาลตัดสินให้อดีตผู้บริหารบริษัท ฟอร์ดมอเตอร์ 2 | แรงงาน,สิทธิมนุษยชน,ต่างประเทศ | อาร์เจนตินา,ฟอร์ด มอเตอร์,เปโดร มุลเลอร์,ฟรานซิสโก ซิบิลลา,เผด็จการ,บรรษัทนิยม,อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ,สหภาพแรงงาน,รัฐก่อการร้าย,การลักพาตัว | https://prachatai.com/journal/2018/12/80101 |
ปึ้ง ป้อง ปู ปัดละเลยโกงจำนำข้าว | เมื่อวันที่ 16 ต.ค.58 นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่านโยบายรับจำนำข้าวนั้นไม่ผิด และไม่ได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผิด แต่ละเลยปล่อยให้เกิดการทุจริต ผู้บังคับบัญชารับทราบว่ามีการทุจริต แต่กลับไม่ดำเนินการแก้ไข ขอฝาก นายวิษณุ ว่ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ดำเนินการป้องกันและติดตามขบวนการทุจริต โดยตั้งคณะทำงานเฝ้าติดตามและตรวจสอบ โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกฯ และรมว.แรงงาน เป็นหัวหน้าทีมดำเนินการ และจับการทุจริตได้หลายกรณี แต่กลับไม่ยอมให้เราได้มีโอกาสเปิดตัวพยานเหล่านี้ จะมาพูดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ละเลยได้อย่างไร โดยรัฐบาลนี้เร่งรีบเรียกเงินค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรัฐ ทั้งที่ตัวเลขยังไม่สรุป เมื่อเทียบกับโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจสมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ มีมูลค่าความเสียหายสรุปยอดแล้ว ทำไมรัฐบาลไม่คิดจะดำเนินการให้มีการชดเชยค่าเสียหายบ้าง เป็นคำถามค้างคาในใจของคนไทยว่ารัฐบาลเลือกปฏิบัติหรือไม่ ทั้งที่นายกฯ พูดมาตลอดจะให้ความเป็นธรรม ยึดหลักธรรมาภิบาล แต่พฤติกรรมมันฟ้องว่าท่านไม่ได้ทำอย่างที่พูด ท้ายสุดนายกฯ ต้องไม่ให้ถูกต่อว่าได้ ว่าปากก็บอกว่ารัฐบาลจะไม่สร้างความขัดแย้ง แต่การกระทำต่างๆ กลับสร้างความขัดแย้งขึ้นมาเสียเอง | ปึ้ง ป้อง ปู ปัดละเลยปล่อยทุจริตจำนำข้าว บอกตั้งคนติดตามจับทุจริตได้หลายเรื่อง แต่กลับไม่ได้โอกาส เปิดเผยพยานจากภาครัฐ ระบุรัฐเลือกปฏิบัติ เปรียบโครงการโรงพักตร.สมัย มาร์ค กลับนิ่งเฉยไม่เช็กบิล | null | สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล,ทุจริตจำนำข้าว,โกงจำนำข้าว,ยิ่งลักษณ์ปล่อยปะละเลยทุจริตจำนำข้าว,ตรวจสอบจำนำข้าว,รบ.เลือกปฏิบัติ,เรียกเก็บค่าเสียหายจำนำข้าว,ค่าเสียหายที่เกิดกับรัฐ,สร้างโรงพักตำรวจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/532814 |
เศร้า ครูเล็กป่วยมะเร็งกระดูกไหล่ขวา ฉายรังสี 14 ครั้ง เสียชีวิตแล้ว | เมื่อวันที่ 4 ก.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศงานศพครูเล็ก หรือ นายวัชระ นาดี ครูสอนภาควิชาเทคโนโลยียานยนต์ ประจำวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคเหนือจังหวัดนครสวรรค์ ที่ป่วยเป็นมะเร็งเนื้องอกในกระดูกบริเวณไหล่ข้างขวา ได้ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ในบ้านเกิดของตนเอง ในพื้นที่ ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีครูผู้ร่วมงาน เพื่อนบ้าน และลูกศิษย์ที่ทราบข่าว ต่างทยอยเดินทาง มาช่วยงานศพกันด้วยความอาลัย ซึ่งจะมีการตั้งศพบำเพ็ญกุศลทางศาสนา และจะมีการฌาปนกิจ ในวันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม 2559 ณ วัดหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์,สำหรับครูเล็ก หรือนายวัชระ นาดี ครูสอนภาควิชาเทคโนโลยียานยนต์ ประจำวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคเหนือจังหวัดนครสวรรค์ ได้ป่วยเป็นมะเร็งเนื้องอกในกระดูกบริเวณไหล่ข้างขวาจนโตผิดปกติและใหญ่กว่า 32 เซนติเมตร หนักประมาณ 10 กิโลกรัม ซึ่งก็ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญหลายๆ ฝ่าย จนได้รับการเข้ารักษา โดยการฉายรังสีที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยครูเล็กมีกำหนดฉายรังสีทั้งหมด 19 ครั้ง แต่เมื่อทำการฉายรังสีได้ 14 ครั้ง พบว่าเนื้องอกได้เล็กลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งร่างกายของครูเล็กก็ดีขึ้นด้วย สามารถพูดคุยได้ตามปกติ แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา ความดันของครูเล็กก็ลดลงอย่างรวดเร็ว และได้เสียชีวิตอย่างสงบ. | เศร้า! ครูเล็ก สอนเทคโนฯยานยนต์ เมืองปากน้ำโพ ป่วยเป็นมะเร็งเนื้องอกในกระดูกไหล่ข้างขวาจนโตผิดปกติ เสียชีวิตแล้วเมื่อ 3 ก.ค. หลังฉายรังสีได้เพียง 14 ครั้ง จากทั้งหมด 19 ครั้ง มีอาการดีขึ้นไม่กี่วัน | ข่าว,ทั่วไทย | ครูเล็กเสียชีวิต,วัชระ นาดี,มะเร็งเนื้องอกในกระดูกบริเวณไหล่ข้างขวา,ป่วย,เสียชีวิต,นครสวรรค์,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/654696 |
มันเกิดขึ้นแล้ว ราชัน สร้างประวัติศาสตร์ทางลบหลังแพ้อาแจกซ์ 1-4 | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 5 มี.ค. ว่า ควันหลงหลังจากที่ ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ร่วงตกรอบยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังจากโดน อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม บุกมาถอนขนหงอกคาบ้าน 4-1 ทำให้รวมผลสองนัด อาแจกซ์ เอาชนะไป 5-3 ผ่านเข้ารอบแบบช็อกโลก,หลังเกมมีการเปิดเผยสถิติระบุว่า การพ่ายแพ้คาบ้านของเรอัล มาดริด ด้วยสกอร์ถล่มทลายถึง 1-4 ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พวกเขาพ่ายคาบ้านในรอบน็อกเอาต์ของรายการนี้ด้วยสกอร์ย่อยยับที่สุดตลอดกาล,แถมก่อนหน้านี้พวกเขาก็ไม่เคยแพ้คาบ้านรายการนี้ 2 นัดติดแบบโดนยิง 3 ประตูขึ้นไป แต่ฤดูกาลนี้เกิดขึ้นซึ่งก่อนหน้าจะแพ้ อาแจกซ์ 1-4 พวกเขาก็แพ้ต่อ ซีเอสเคเอ มอสโก ในรอบแบ่งกลุ่มถึง 0-3,นอกจากนี้ อาแจกซ์ ยังเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่เอาชนะ เรอัล มาดริด ในรอบน็อกเอาต์รายการนี้หลังจากแพ้คาบ้านในเลกแรก และเป็นทีมที่สองที่เขี่ยราชันชุดขาวในรายการยุโรปหลังแพ้เกมแรก โดยทีมแรกที่ทำได้คือ โอเดนเซ ในฤดูกาล 1994-94 ในศึกยูฟ่า คัพ | มันเกิดขึ้นแล้ว ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด สร้างประวัติศาสตร์ทางลบหลังแพ้อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม คาบ้าน 1-4 ตกรอบยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกเรียบร้อย | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | เรอัล มาดริด,ราชันชุดขาว,อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/eufa/1511941 |
ธนาธร เล่นเกมนอกสภาเต็มตัว แฉงบกลาโหม ไม่โปร่งใส ทำสนามม้า สนามมวย | ย้ำต่อสู้นอกสภา รณรงค์หนักแน่น ยกเลิกเกณฑ์ทหาร,เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 29 พ.ย. ภายหลัง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประกาศลาออกจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2563 พร้อมทวีตระบุในเวลา 19.30 น. จะไลฟ์สดเรื่องสำคัญ ต้องมาคุยกัน เพื่อชี้แจงเหตุผลการลาออกจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบฯ หลังทำงาน 1 เดือนที่ผ่านมา เพราะกลุ่มอภิสิทธิ์ชนไม่ต้องการเห็นอยู่ในสภา ก็จะไม่อยู่ รวมถึงเรื่องที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า,นายธนาธร อธิบายการทำหน้าที่ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบฯ ว่า เริ่มจากมติพรรค เผื่อวันหน้ามีโอกาสบริหารประเทศ จำเป็นต้องเข้าใจวิธีการจัดทำงบประมาณ ไปเสริมสร้างจังหวัด เสริมสร้างประชาชน และจัดสรรไปยังกระทรวงต่างๆ อย่างหนึ่งอย่างใด โดยหลังทำงาน 1 เดือน ทำหน้าที่ดีที่สุดในการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นให้เป็นประชาธิปไตย ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างใด มีการพูดถึงเงินงบประมาณของกระทรวงกลาโหม 3.2 ล้านล้านบาท โดยงบประมาณ 2.7 ล้านล้านบาท เป็นเงินจากภาษีประชาชน ส่วน 5 แสนล้าน เป็นเงินกู้,หากตัดงบได้เยอะเท่าไหร่ ภาระเงินกู้ของลูกหลานก็จะลดลง ซึ่งไทยมีประสิทธิภาพในการลดเงินกู้ ขณะเดียวกันก็ยังสามารถพัฒนาประเทศได้ จากเงินนอกงบประมาณ ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบฯ ไม่สามารถแตะต้องได้ โดยงบกระทรวงกลาโหมมี 1 หมื่น 9 พันล้านบาท ซึ่งสามารถเอาไปใช้จ่ายใน 3 กระทรวง หรือยกตัวอย่าง สร้างรถไฟทางคู่ จากนครปฐม ไปหัวหิน ลงทุน 2 หมื่นล้าน หรือเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด จนถึง 6 ปี จำนวน 5 ล้าน จะใช้เงิน 2 หมื่นล้านบาท เท่ากับเงินงบประมาณของกระทรวงไม่มีคนเห็น เอาไปใช้โดยไม่ต้องขอสภา ซึ่งมองไม่เห็นในการใช้จ่ายอย่างไร ตรวจสอบไม่ได้,นอกจากนี้ ถามว่า เงินนอกงบประมาณมาจากที่ใด หรือการให้สัมปทานทีวีช่องหนึ่ง ไม่มีการเปิดประมูลให้รายใหม่ หรือช่องทีวี วิทยุต่างๆ ของกลาโหมให้ใครบ้าง และได้งบประมาณเท่าไร โดยขอรายละเอียดค่าเช่ามักซ์ของช่อง 5 นำไปใช้ในภารกิจที่ไม่ได้เขียนกำหนดไว้ พร้อมยกตัวอย่างกลาโหม นำเงินไปทำภารกิจสนามม้า สนามมวย ที่ไม่เกี่ยวกับภารกิจของกลาโหม ซึ่งมีจำนวนเท่าไร ไม่มีข้อมูล รวมถึงสัญญาระหว่างกลาโหมกับเอกชน รายได้เท่าไรไม่มีใครรู้ รายได้ตรวจสอบไม่ได้ แม้แต่สถานะการเงิน,หลายคนถามว่าถ้ายกเลิกทหาร จะเอากำลังที่ไหนไปช่วยน้ำท่วม ซึ่งเงินนอกงบประมาณ สามารถเอาไปสร้างเขื่อนเก็บน้ำ ทำชลประทานให้ดีขึ้น เชื่อว่าจะเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ต้องทำงบอย่างโปร่งใส แม้ลาออกจากกรรมาธิการฯ ไปแล้ว แต่ให้ ส.ส.อนาคตใหม่ที่ทำหน้าที่ ขอรายละเอียด เพื่อขอเสนอตัดงบ นำไปใช้อุดหนุนงบ 63 ลองดูกลาโหมจะให้คำตอบที่ถามหรือไม่ ยังมีเรื่องซับซ้อนอีกมากมาย เรื่องลงทุนอาวุธ งบก่อสร้างอาคาร,อย่างไรก็ตาม อาทิตย์นี้จะไลฟ์สดอีกครั้ง ขอประชาชนอย่าเสียใจที่ตนลาออกจากกรรมาธิการฯ ชุดนี้ โดยคนของพรรคจะทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพได้ พร้อมย้ำเราไม่จำเป็นต้องทำงานการเมืองผ่านสภาอย่างเดียว ทั้งนี้ตนไม่ได้ตั้งพรรคอยากเป็น ส.ส. ไม่ได้อยากได้ยศถา แต่ต้องการเปลี่ยนแปลงเมืองไทย ไม่ว่าอยู่ตรงไหนก็ทำงานเต็มที่ในการรณรงค์อย่างหนักแน่น โดยเฉพาะการยกเลิกคำสั่ง คสช. 27 คำสั่ง ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ แก้ระเบียบรับทหารใหม่ ตามนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง รวมถึงการต่อต้านความอยุติธรรมในสังคม โดยงานในสภาไม่ทิ้ง จะทำเต็มที่โดยสนับสนุนคนของอนาคตใหม่ในสภาอย่างเต็มที่ เพื่อให้การเมืองเดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ. | ธนาธร ไลฟ์สด แจงเหตุลาออกกรรมาธิการฯงบ 63 อัดยับเงินนอกงบกลาโหม ตรวจสอบไม่ได้ ลงทุนซับซ้อนมากมาย ทำภารกิจนอกเหนือทั้งสนามม้า สนามมวย ไม่โปร่งใส | ข่าว,การเมือง | ธนาธร,ธนาธรยกเลิกเกณฑ์ทหาร,ธนาธรอัดงบกลาโหม,เงินนอกงบประมาณกลาโหม,กลาโหม,ธนาธรเล่นนอกสภา,ข่าวร้อน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1714766 |
โสมชบาจ๊ะจ๋า 21/12/61 | สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตร ที่มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ อ.องครักษ์ นครนายก วันที่ 26 ธ.ค. เวลา 09.00 น.,ไม่เจอหลานๆมา 4 ปี คุณปู่ปิ่น–คุณย่าเต็มทิพย์ เตชะศิริวรรณ ดีใจสุดๆ เมื่อครอบครัวลูกชาย ปิยะ–พรรณผอร จากอเมริกา พา หลานแอล หลานเอียน มาเยี่ยม 10 วัน ส่วนฝ่ายคุณยาย ม.ล.เติมแสง สรรพโส จองคิวพาหลานๆไปเที่ยวขอนแก่น 3 วัน โดยพาหลานชายคนโต อาจ–พุทธิ โกศลกุล ที่ได้เกียรติบัตรเรียนดีจาก kis ไปดูรอยเท้าไดโนเสาร์ที่ภูเวียงด้วย,ระหว่างงานศพบิดา ร.อ.ศิริ จุลเสวก ที่วัดธาตุทอง บุตรีคนสวย สิริโสภา ถูกแขกเหรื่อชมไม่หยุด ว่าเป็นศาลาสวดอภิธรรม ที่ตกแต่งได้โก้เรียบหรูที่สุด ด้วยไอเดียเพื่อนรัก คุณจอม ที่เปลี่ยนม่านและเก้าอี้วัดออก แล้วทำม่านขาวให้ใหม่ พร้อมจัดเก้าอี้สวยสีขาวล้วนมาใช้ ให้เข้ากับดอกไม้ขาวทั้งงาน จึงเรียบหรู และหอมกรุ่นด้วยเทียนหอมของโจ มาโลน,ขยันเสาะหาแบรนด์ดีๆ ล่าสุด กฤษณ์–กษมา โชคพิพัฒนผล บิ๊กบอสบุญถาวร ไลฟ์สไตล์เฟอร์นิเจอร์ ได้เฟอร์นิเจอร์สแกนดิเนเวีย JYSK ดีไซน์เก๋เกินราคา มาให้เลือกใช้ ที่บุญถาวร สาขาใหม่ ราชพฤกษ์,เขาใหญ่อากาศกำลังดีมาก จึงยก Orchestra สามสิบชีวิต ไปบรรเลงเพลงเพราะๆเคล้าบรรยากาศตลาดนัดแบบฝรั่งเศส ตั้งแต่สี่โมงเย็น วันเสาร์ที่ 29 ธ.ค. ตั้งแต่ ในงาน Provence Fair 2018 ซึ่งจัดขึ้นระหว่าง 28-31 ธ.ค. ที่ Provence เขาใหญ่ ตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึงสองทุ่ม,ขนซื้อสะสมเสื้อผ้า และของสวยงามไว้มาก ธรรมนิติ์ ภูวเสถียร เลยเอาไปจัดนิทรรศการ เครื่องแต่งกาย และศิลปะสิ่งทอลื้อเมืองเงิน ที่หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ 22-26 ธ.ค.ให้สาวกเสื้อโก้และเครื่องเงินงาม ที่ตั้งตารอ ได้แบ่งไปใช้เชยชม,หมอสูติฯสุดเปรี้ยว หมอ มดเอ็กซ์ นพ.จิรพล กุมภลำ เดินเข้าออกระหว่าง รพ.นนทเวชที่ทำงานกับที่ physique 57 จนคนไข้ที่เป็นคุณแม่ตั้งครรภ์รอคำแนะนำ เพื่อจะมีหุ่นหลังคลอดแบบเดียวกับคุณหมอ ที่ขยันทำท่ามดเอ็กซ์โชว์สมชื่อ,จีรานุช ภิรมย์ภักดี แต่งตัวสวย ให้สัมภาษณ์ไทยแลนด์ แทตเลอร์ ยาวเหยียด เรื่อง passion นาฬิกา patek phillippe ที่สืบทอดมาจากบิดา จำนงค์ อย่างเต็มเปี่ยม พอหนังสือออก คุณน้อง–จีนานุช อึ้งมาก เพราะเพื่อนๆ อาทิ วิชุดา รัตนเพียร น.อ.จิรพล เกื้อด้วง ทิพย์สุดา ถาวรามร ไม่มีใครสนใจถามว่าสัมภาษณ์เรื่องอะไร แต่รุมถามและชมแต่รองเท้าหรู วาเลนติโน่ โดยไม่ทักแม้แต่ 24 รุ่นล่าใน ข้อมือ ที่ได้มาหมาดๆ จากงานเปิดตัวที่เจนีวา.,โสมชบา | เขาใหญ่อากาศกำลังดีมาก พีรยา บุนนาค จึงยก Orchestra สามสิบชีวิต ไปบรรเลงเพลงเพราะๆเคล้าบรรยากาศตลาดนัดแบบฝรั่งเศส | null | พีรยา บุนนาค,เขาใหญ่,ศิริ จุลเสวก,โสมชบาจ๊ะจ๋า,โสมชบา | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/hisoceleb/1450025 |
2 หนูน้อยนักเรียนหวิดดับ ฝนตกน้ำนองไฟรั่ว ช็อตสลบหวิดดับที่กำแพงเพชร | เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (29 พ.ค.) ได้เกิดฝนตกอย่างหนักในพื้นที่ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร จนถึงเวลา 15.30 น. โรงเรียนเลิก ที่โรงเรียนบ้านน้ำดิบ หมู่ 8 ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ได้เกิดเหตุเด็กนักเรียนหญิง 2 คนถูกไฟฟ้าช็อตจนหมดสติทั้งคู่ โดยทั้ง 2 คนเป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกัน คนโตอายุ 11 ปี (ยังไม่ทราบชื่อ) เรียนชั้น ป.5 ส่วนคนน้องชื่อ ด.ญ.ชลดา ฉัตรอ่อน อายุ 9 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.3 ครูรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลกำแพงเพชร ส่วนที่หน้าห้องไอซียูโรงพยาบาลกำแพงเพชร เมื่อเวลา 20.30 น. ครูบาโชคชัย เจ้าอาวาสวัดน้ำดิบ พร้อมด้วยผู้ปกครองของเด็กทั้ง 2 คนและญาติพี่น้อง ได้เดินทางมาเยี่ยมดูอาการของเด็กทั้ง 2 คนด้วยความเป็นห่วงจนแน่นหน้าหน้าไอซียู,จากการสอบถาม นายสุพะศิน อยู่ยอด ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า ที่โรงเรียนสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึง ป.6 มีนักเรียนทั้งสิ้น 110 คน ช่วงก่อนเกิดเหตุโรงเรียนเลิกแล้ว แต่ฝนตกหนักมากจนน้ำเจิ่งนองภายในโรงเรียนทั่วไป ต่อมาได้รับแจ้งว่ามีเด็กนักเรียน 2 คนถูกไฟฟ้าช็อต และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนตนเพิ่งมารับตำแหน่งได้ไม่นาน ทราบแต่เพียงว่าระบบไฟฟ้าได้มีการเปลี่ยนสายใหม่เมื่อประมาณ 2 ปีเศษที่ผ่านมา จึงยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดไฟฟ้าช็อต ต้องรอเจ้าหน้าที่จากสำนักงานไฟฟ้ามาตรวจสอบก่อน,ด้าน น.ส.สุณีย์ วงษ์เหมอะ ครูประจำชั้น ป.4 และเป็นผู้นำตัวเด็กทั้ง 2 ส่งโรงพยาบาล เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุโรงเรียนเลิกแล้วแต่ฝนตกหนัก ครูได้ช่วยกันต้อนเด็กๆ ให้ขึ้นไปอยู่บนขั้น 2 ของโรงเรียนจนหมด พร้อมทั้งสับคัตเอาต์ตัดกระแสไฟฟ้าภายในตัวอาคารเรียน จนถึงเวลาเกิดเหตุฝนเริ่มซาเม็ดลง เด็กหญิงชลดาได้ชักชวนพี่สาวให้ลงไปเอากระเป๋านักเรียนที่ชั้นล่างอีกอาคารที่อยู่ใกล้กัน ต่อมาไม่นานก็ได้ยินเสียงเด็กๆ พากันตะโกนเอะอะ เมื่อมาดูก็พบว่าเด็กทั้ง 2 คนนอนหมดสติ โดยคนพี่ไม่ได้สวมรองเท้า กระเด็นออกมาอยู่ห่างจากประตูเหล็กห้องเครื่องเสียงหลังเวทีการแสดง ,ส่วน ด.ญ.ชลดาอยู่ติดกับประตูเหล็ก ครูทั้งหมดสัณนิษฐานว่าเด็กคงถูกไฟฟ้าช็อต จึงใช้ไม้เขี่ยตัว ด.ญ.ชลดาออกห่างจากประตูเหล็ก จากนั้นก็รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยแพทย์ได้ระดมช่วยกันรักษา ทำให้เด็กคนพี่ฟื้นอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องนอนพักรักษาตัวต่อไปอีก ส่วนเด็กหญิงชลดาแพทย์ต้องนำเข้าห้องไอซียูเนื่องจากอาการหนัก,ส่วนที่โรงเรียน นายถนัดกิจ น่วมอินทร์ ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.กำแพงเพชร พร้อมเจ้าหน้าที่รีบเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุกลางดึก โดยนายถนัดกิจเปิดเผยว่า นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชรทราบข่าว ได้สั่งการให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นจากการวัดกระแสไฟฟ้าที่ประตูเหล็ก พบว่ามีแรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 172.1 ดูจากในเบื้องต้นเห็นว่ามีการต่อไฟฟ้าแบบชั่วคราวหลายจุดมาก โดยเฉพาะการเดินสายไฟฟ้าแบบพันกับโครงเหล็กหลายแห่ง ซึ่งถ้าสายไฟฟ้าชำรุดกระแสไฟฟ้าก็รั่วไปตามโครงเหล็กและประตูเหล็กทั่วไป ดังนั้นจึงต้องตัดสายเมนที่ต่อมาถึงตรงบริเวณเกิดเหตุออกก่อน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก ,ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กำแพงเพชร กล่าวอีกว่า หลังจากที่ตัดสายเมนออกแล้ว จากการวัดค่ากระแสไฟฟ้าพบว่าเป็นศูนย์ ไม่มีกระแสไฟฟ้าผ่านลงมาถึงอีก และในวันนี้ (30 พ.ค.) จะได้มาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าจุดที่กระแสไฟฟ้ารั่วอยู่ตรงจุดใด เพื่อจะได้แก้ไขต่อไป. | กำแพงเพชรฝนตกหนัก 2 ด.ญ.พี่น้องนักเรียน ร.ร.บ้านน้ำดิบ ลุยฝนมาหยิบกระเป๋าหลังโรงเรียนเลิก คนพี่ไม่ได้ใส่รองเท้ามือไปแตะถูกประตูเหล็กโดนไฟช็อต ส่วนคนน้องมาจับตัวพี่จึงถูกไฟดูดตามสลบหวิดดับ | ข่าว,ทั่วไทย | กำแพงเพชร,ไฟฟ้าช็อต,เด็กนักเรียน,โรงเรียนบ้านน้ำดิบ,ไฟช็อตหวิดดับ,ฝนตกหนัก,ไฟฟ้ารั่ว,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1580015 |
รวบแล้ว จะโป๋ อู่แหล ชาวเขาคลั่งยา ฆ่าเมียกับลูกสาว7ขวบ แทงยับ2ศพ | (ภาพจากพันเอกชัยยันต์ สิรสุนทร),ทหารชุดปราบปรามยาเสพติดภาคเหนือ ร่วมกับชาวบ้านล่าตัวหนุ่มชาวเขา ที่ฆ่าเมียกับลูกสาว 2 ศพ คาหมู่บ้านใน อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เหตุจากเสพยาจนคลุ้มคลั่ง แล้วหนีเข้าป่า จนสามารถจับตัวได้ นำส่งตำรวจดำเนินคดี,วันที่ 22 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ว่า จากเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ยงยุทธ ทาสุวรรณ พนักงานสอบสวน สภ.ไชยปราการ รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายที่บ้านป่าหนา หมู่ 6 ต.แม่ทะลบ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชำนาญ ถนัดหนังสือ ผกก. นำกำลังรุดไปตรวจสอบ,พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงชาวเขา และเด็กรวม 2 คน ทราบว่าชื่อ นางสาวนาฟู อู่แหล อายุ 31 ปี และเด็กหญิงอายุ 7 ขวบ ทั้งสองเป็นแม่ลูกกัน สภาพศพถูกแทงด้วยของมีคมทั่วร่าง เบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายจะโป๋ อู่แหล อายุ 33 ปี สามีและพ่อของผู้เสียชีวิต ซึ่งเสพยาเสพติดเป็นประจำ มีอาการคลุ้มคลั่งบ่อยๆ ก่อนเกิดเหตุกลับจากไปทำสวนกับภรรยาและลูก มีปากเสียงกันก่อนใช้มีดแทงภรรยา ลูกเข้าห้ามจึงถูกแทงเสียชีวิตไปด้วย,ต่อมา พันเอกชัยยันต์ สิรสุนทร ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมที่ 1 ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ สั่งการชุดปฏิบัติการที่ 3 นำกำลังร่วมกับผู้นำหมู่บ้านและราษฎรบ้านป่าหนา หมู่ 6 ต.แม่ทะลบ อ.ไชยปราการ ออกติดตามจนสามารถจับกุมตัว นายจะโป๋ อู่แหล ผู้ต้องหาคดีฆ่าภรรยาและลูกสาวได้ ในป่าห่างจากหมู่บ้านประมาณ 4 กิโลเมตร จากนั้นควบคุมตัวไปยัง โรงเรียนบ้านป่าหนา และประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชยปราการ เข้ามารับตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีต่อไป. | ทหารชุดปราบปรามยาเสพติดภาคเหนือ ร่วมกับชาวบ้านล่าตัวหนุ่มชาวเขา ที่ฆ่าเมียกับลูกสาว 2 ศพ คาหมู่บ้านใน อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เหตุจากเสพยาจนคลุ้มคลั่ง แล้วหนีเข้าป่า จนสามารถจับตัวได้ นำส่งตำรวจดำเนินคดี | ข่าว,ทั่วไทย | ฆ่าเมียกับลูก,ชาวเขาฆ่าเมีย,คลั่งยา,เสพยาเสพติด,ทหารจับ,ฆ่า2ศพ,ไชยปราการ | https://www.thairath.co.th/news/local/730489 |
มอยส์ยืดเลย | หลังจากชีคมันซูร์ บิน ซาเอ็ด อัล นาห์ยาน มหาเศรษฐีจากอาบู ดาบี เข้ามาเทกโอเวอร์แมนฯซิตี้เมื่อปี 2008 ด้วยวงเงิน 210 ล้านปอนด์ เรือใบ ก็พุ่งทะยานไม่หยุด,เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยพูดถึงทีมร่วมเมืองในเชิงหยามหยันว่า เหมือนเพื่อนบ้านที่ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวาย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องทนฟังไปอย่างนั้น,เวลาผ่านไป เรือใบไม่ใช่แค่เพื่อนบ้านน่ารำคาญแล้ว แต่กลายเป็นเพื่อนบ้านที่พูดเสียงดังแล้วแมนฯยูต้องเงี่ยหูฟัง,แมนฯซิตี้ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัยในยุคของชีคมันซูร์ ฤดูกาล 2011-12 และ 2013-14, แชมป์เอฟเอคัพ 2011, ลีกคัพ 2014 และ 2016, คอมมิวนิตี้ชิลด์ 2012,หลังยุคของเฟอร์กี้ แมนฯยูยังไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกอีกเลย และต้องเสียเวลาทดลองใช้โค้ชถึง 3 คน ต้องดิ้นรนติดท็อปโฟร์ให้ได้,ต่างจากแมนฯซิตี้ที่เตรียมการจีบเป๊ป กวาร์ดิโอลา มาหลายปี จนได้ตัวมาคุมทีมสมใจ นำสไตล์ต่อบอล ทำชิ่ง เปิดเกมรุกสวยงามเข้ามาใส่ทีมราวกับเป็นบาร์เซโลนา ทีมเก่าของเป๊ป,ไม่ใช่การสร้างทีมชุดใหญ่ เรือใบยังทุ่มทุน ใส่อคาเดมีแห่งใหม่ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2014 และมีทีมเครือข่าย ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป ประกอบด้วย แมนฯซิตี้, เมลเบิร์น ซิตี้ และนิวยอร์ก ซิตี้ เอฟซี,แมนฯซิตี้อาจจะยังเทียบกับผีแดงไม่ได้ในด้านฐานแฟนบอลทั่วโลก แต่ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับความสำเร็จ ถ้าเรือใบทำได้ต่อเนื่อง อนาคตก็มีโอกาสขยายกลุ่มกองเชียร์ขึ้นมาทาบรัศมีได้,ประวัติศาสตร์และความยิ่งใหญ่ของเรือใบยังเทียบแมนฯยูไม่ได้ แต่การตั้งคำถามว่า แมนฯซิตี้เป็นเบอร์ 1 ของเมืองหรือยัง รวมทั้งการ หาวิธีพิชิตเรือใบ ที่ใครๆก็พูดถึงว่า ต้องทำอย่างไร เหมือนครั้งหนึ่งที่ทีมอื่นต้องหาวิธีหยุดยั้งผีแดง ก็เพียงพอที่จะยกระดับแมนฯซิตี้ขึ้นมาแล้ว,ส่วนเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์มีเกมล็อกถล่ม ขุนค้อน เวสต์แฮม พลิกเชือด แชมป์เก่า เชลซี 1-0 เป็นผลงานน่าทึ่งของเดวิด มอยส์,ตอนที่เวสต์แฮมแต่งตั้งมอยส์ แฟนขุนค้อน บ่นอุบ ผมเองก็เช่นกันที่ไม่เชื่อน้ำยาของเขา แต่ฟอร์ม 2 นัดหลังสุดที่เกือบเก็บแต้มจากแมนฯซิตี้ และชนะเชลซี ทำให้ผู้คนต้องคิดใหม่,มอยส์ใช้กลยุทธ์ตั้งรับโต้กลับได้อย่างมีประสิทธิภาพในการรับมือกับเรือใบและสิงห์บลู วันพุธนี้มีเกมพรีเมียร์ลีก เวสต์แฮมเล่นในบ้านเจออาร์เซนอล เรียกได้ว่า 3 นัดที่เจอยักษ์ใหญ่ ใครๆก็ต้องคิดว่า ทีมของมอยส์แพ้รวดแน่ๆ,แต่เมื่อเห็นฟอร์มอันเหนียวแน่น 2 นัดหลังสุดแล้ว น่าหนักใจแทนปืนใหญ่อยู่เหมือนกัน สไตล์แบบนี้เหมาะกับการเล่นกับทีมใหญ่ แต่ถ้าเจอกับทีมต่ำกว่าท็อป 6 ขุนค้อนจะเปิดเกมบุกเก็บชัยชนะเพื่อหนีตกชั้นได้หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป.,โต้ บ้านแหลม | ป่านนี้แฟนบอลคงทราบผลดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ไปแล้วนะครับ ก่อนเกมมีข้อถกเถียงในหน้าสื่ออังกฤษมากมายว่า เรือใบสีฟ้าเป็นเบอร์ 1 ของแมนเชสเตอร์หรือยัง? | null | ตะลุยฟุตบอลโลก,โต้ บ้านแหลม,พรีเมียร์ลีก,เดวิด มอยส์,เวสแฮมต์ ยูไนเต็ด | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1149542 |
หมาถูกทิ้งกลายเป็นจรจัด ขย้ำหัว 4 ขวบเลือดอาบ ไขคำตอบใครต้องรับผิดชอบ | หมาถูกทิ้งกลายเป็นจรจัด ขย้ำหัวเด็ก 4 ขวบ เป็นแผลฉีก เลือดอาบ ถามใคร หรือ หน่วยงานจะรับผิดชอบได้บ้าง ด้าน ผู้ผลักดัน พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ฯ ไขคำตอบ ระบุหากตามเจ้าของเดิมได้ ก็เอาผิดได้ แถมมีอีก 1 ข้อหาแถม ปรับไม่เกิน 4 หมื่น ส่วนหากเป็นสุนัขจรจัด ไม่สามารถเรียกร้องหน่วยงานใดได้ ,เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. มีรายงานว่า สมาชิกเฟซบุ๊กชื่อ เอี้ยน เฟย ได้โพสต์ข้อความ พร้อมภาพถึงเรื่องราว กรณี หลานสาววัย 4 ขวบ ถูกสุนัขกัดที่บริเวณศีรษะ จนเป็นแผลยาวและต้องเย็บหลายสิบเข็ม พร้อมตั้งคำถามว่าจะสามารถทำอะไรสุนัขจรจัดได้หรือไม่ เนื่องจากกังวลว่าจะผิด พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์,ล่าสุด ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ได้สอบถามคุณเอี้ยน เฟย เปิดเผยว่าหมาจรจัดตัวดังกล่าว ชื่อ เจ้าหลง เป็นหมาที่เจ้าของบ้านหลังเดิมทิ้งไว้ และเคยบอกว่าเป็นหมาดุชอบกัดเด็ก แต่ไม่มีใครมาจับไปเสียที กระทั่งมีชาวเมียนมาย้ายบ้านเข้ามาและให้อาหารอยู่เป็นประจำ จึงทำให้มันไม่ไปไหน,ครั้งแรก หลานผมถูกหมาตัวนี้กัดที่แขน ขณะกำลังนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านขณะกำลังนั่งอยู่หน้าบ้านเล่นกับน้องชายวัย 3 ขวบ ซึ่งเป็นจังหวะที่แม่ผมไปเข้าห้องน้ำพอดี ทำให้ต้องพาไปหาหมอฉีดยาที่ รพ.หัวหิน พอผมทราบข่าวก็พยายามจะจับมันแต่ไม่สำเร็จเพราะมันดุมากขนาดเอาไม้แหย่ทำท่าจะตีมันยังกัดไม้ดึงไปเลย,พอมาถึงเย็นวานนี้ (7 มิ.ย.) หลานสาวตนวัย 4 ขวบเดินเอาขยะไปทิ้งหน้าบ้าน เจ้าหลงเดินตามหลังมา แล้วกระโดดขย้ำกัดหัวหลานสาว พี่สาวตน แม่ของน้องโอชิเก็น (หลาน) ก็รีบวิ่งมาเอาลูกและคนแถวนั้นก็ช่วยกันจับหมาแต่เจ้าหลงมันวิ่งเข้าป่าสับปะรดหายไป จากนั้นก็ระดมกันช่วยกันตามจับ โดยมีการขอความช่วยเหลือไปยังมูลนิธิต่างๆ ให้มาช่วยด้วย กระทั่งจับได้ไปปล่อยที่อื่นที่ไกลจากบ้านผู้คน,นอกจากนี้ ทีมข่าวฯ ยังโทรสอบถาม นางกรรณิกา พวงเพชร อายุ 32 ปี มารดาของเด็กหญิงเหยื่อ เจ้าหลง เปิดเผยว่า เหตุเกิดบริเวณบ้านซึ่งเป็นห้องแถว บ้านหนองขอนเหนือ ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตอนนี้ได้พาน้องกลับจากล้างแผล โดยคุณหมอเย็บให้น้องไม่ต่ำกว่า 3 เข็ม ซึ่งเป็นการเย็บแบบห่างๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยน้องต้องไปทำแผลทุกวัน แต่ก็ยังอาศัยอยู่ที่เดิม และต้องจ่ายค่ารักษาเองทั้งหมด ตอนนี้จ่ายไป 500-600 บาทแล้ว และคงต้องเตรียมเงินไว้ เพราะหมอนัดฉีดยาอีกครั้งในวันที่ 10 มิ.ย. ซึ่งทุกครั้งที่ไปจะเสียเงินไม่ต่ำกว่า 200-300 บาท,โชคดีอยู่อย่างหนึ่งคือน้องเป็นเด็กร่าเริง ไม่มีปัญหาเรื่องขวัญผวา แต่ปัญหาคือ คุณพ่อคุณแม่ต้องหยุดงานเพื่อมาคอยดูแลน้อง ปกติคุณแม่ต้องลงเขื่อนเพื่อหากุ้งปลา มาขาย แต่ถ้าไม่มีใครดูน้อง น้องอาจจะขวัญเสียได้ ซึ่งตอนที่โดนหมาขย้ำ น้องมีอาการตกใจมาก แล้วมีอาการจะสลบ เราคอยปลุกไม่ให้น้องหลับ โดยสภาพมีเลือดอาบตั้งแต่ศีรษะลงมา น้องเข้มแข็งมากไม่ร้องไห้เลย,หมาตัวที่กัดเป็นหมาพันธุ์ไทยผสม ซึ่งตัวใหญ่มาก เรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่รู้จะเอาผิดกับใคร บางครั้งเห็นแล้วก็สงสาร เคยให้อาหารบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เจ้าของ จึงอยากถามไปยังสื่อว่า หมาจรจัดมากัดลูกสาวแบบนี้ จะมีหน่วยงานไหนจะรับผิดชอบบ้าง เพราะที่ผ่านมาต้องจ่ายเงินค่ารักษาด้วยตัวเอง ครอบครัวก็เป็นคนหาเช้ากินค่ำ,ทั้งนี้ ทีมข่าวฯ ได้สอบถามเรื่องนี้ไปยัง นายชัยชาญ เลาหศิริปัญญา อดีตเลขาธิการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ผลักดัน พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ กล่าวว่า สุนัขตัวนี้ถูกปล่อย หากจะเอาผิดเจ้าของเดิม (ถ้าสามารถตามตัวได้) ก็สามารถเอาผิดได้ โดยมีความผิดฐานปล่อยสุนัข ซึ่งตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณสัตว์ฯ มีกรณีการดูแลสวัสดิภาพด้วย ซึ่งการปล่อยสัตว์นั้นมีความผิด ปรับเงินไม่เกิน 40,000 บาท และอาจจะเรียกร้องค่าเสียหาย,แต่หากตามตัวไม่ได้ หมาตัวนี้กลายเป็นสุนัขจรจัด แม้ที่ผ่านมาจะเคยให้อาหาร แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าเป็นเจ้าของ เพราะมีความเมตตาต่อสัตว์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นหมาจรจัด ด้วยเหตุนี้ จึงไม่สามารถเอาผิดและเรียกร้องกับใครได้ ที่ผ่านมา เคยมีอยู่เคสหนึ่งที่หมาจรจัดกัดคน จากนั้นเขามีการฟ้องเรียกค่าเสียหายกับ กรุงเทพมหานคร กล่าวหาว่าไม่ดูแล แต่ทาง กทม. ได้ออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบ เนื่องจากหมาจรจัดใน กทม. มีนับแสนตัว หากทุกคนโดนกัดฟ้อง กทม. ก็คนรับสภาพนี้ได้,สิ่งที่อยากแนะนำ คือ อยากให้ชุมชนช่วยกันดูแล เช่น จับสุนัขไปทำหมัน ฉีดยา ฉะนั้น เวลากัดใครจะได้ไม่แพร่เชื้อไปยังผู้ถูกกัด ส่วนบ้านไหนที่มีเด็กเล็ก ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เผลอไม่ได้ แม้จะเป็นสุนัขที่เลี้ยงในบ้านก็ยังสามารถกัดได้ ดังนั้นจึงต้องเลี้ยงอย่างระมัดระวัง หากไม่ได้เลี้ยงยิ่งต้องระมัดระวัง | เด็กหญิง 4 ขวบถูกหมาจรจัด ถูกเจ้าของเดิมทิ้ง ขย้ำหัวแผลฉีก เลือดอาบ ถามใคร หรือ หน่วยงานจะรับผิดชอบได้บ้าง ด้าน ผู้ผลักดัน พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ฯ ไขคำตอบ ระบุหากตามเจ้าของเดิมได้ ก็เอาผิดได้ แถมมีอีก 1 ข้อหา | ข่าว | หมาจรจัด,สุนัขจรจัดกัด,หมากัด,เรียกค่าเสียหาย,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/966748 |
เวียดนามอ่วม ดีเปรสชันถล่มก่อนเข้าไทย น้ำท่วม โคลนถล่ม ตาย 37 หาย 40 | เมื่อ 12 ต.ค.60 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า อิทธิพลพายุดีเปรสชันเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศเวียดนาม ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักมากในภาคเหนือและภาคกลางของประเทศ จนก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วถึงอย่างน้อย 37 ราย และสูญหายอีก 40 ราย จนถึงวันพฤหัสฯ ที่ 12 ต.ค.,สำนักงานป้องกันหายนะภัยแห่งชาติเวียดนาม แจ้งว่า นอกจากจะมีผู้เสียชีวิตและสูญหายรวมแล้วเกือบ 80 รายแล้ว เหตุอุทกภัยและดินโคลนถล่มใน 6 จังหวัด ทางภาคเหนือและภาคกลางของประเทศ ยังทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 21 ราย บ้านเรือนกว่า 200 หลัง พังเสียหายหมด และเกือบ 18,000 หลัง ได้รับความเสียหาย หรือโดนน้ำท่วม ขณะที่ประชาชนกว่า 17,000 ครัวเรือน ต้องถูกอพยพออกจากบ้านไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว,ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันหายนะภัยแห่งชาติเวียดนามยังเปิดเผยว่า จังหวัดฮหว่าบิ่ญ ทางภาคเหนือของประเทศ เป็นจังหวัดที่ประสบหายนะภัยจากน้ำท่วมดินถล่มหนักที่สุด ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 11 ราย สูญหาย 21 ราย โดยในจำนวนนี้มีบ้านเรือนของเหยื่อเคราะห์ร้าย 4 ครอบครัว ถูกดินโคลนถมทับ คร่า 6 ศพ และสูญหาย 12 ราย,ทั้งนี้ ดีเปรสชันที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ได้เคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน เมื่อเช้าวันที่ 10 ตุลาคม ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังลาว รวมทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือของไทย ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาของไทยได้ประกาศเตือนให้ 52 จังหวัดของไทย ระวังฝนตกหนัก-น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก. | ฤทธิ์พายุดีเปรสชันถล่มเวียดนาม อ่วมอรทัยฝนตกหนักใน 6 จังหวัดทางภาคเหนือและภาคตะวันออก จนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม ดับสลดแล้วอย่างน้อย 37 ศพ สูญหายอีก 40 ราย บ้านพังยับกว่า 200 หลัง | ข่าว,ต่างประเทศ | ดีเปรสชัน,ดีเปรสชันถล่มเวียดนาม,น้ำท่วมฉับพลัน,ดินโคลนถล่ม,เวียดนาม | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1096767 |
แนะ สูตร 5 P แก่นักธุรกิจสตรีรุ่นใหม่ เคล็ดลับความสำเร็จในการทำธุรกิจ | เสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจ ร่วมทั้งสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ในกลุ่มผู้ประกอบการและเครือข่ายสตรีในภูมิภาคอาเซียน สหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดประชุมสมัชชาเครือข่ายผู้ประกอบการสตรีอาเซียน ประเทศไทย ในหัวข้อ Women Technology & Innovation โดยในงาน คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานสหพันธ์สมาคมฯ ได้เปิดพื้นที่ในการสร้างเครือข่ายและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ของนักธุรกิจรุ่นพี่และรุ่นใหม่ เพื่อยกระดับมาตรฐานในการพัฒนาตนเองและธุรกิจก้าวสู่ระดับภูมิภาคและระดับโลกต่อไป,ในงาน อนุสรี ทับสุวรรณ จากสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มาบรรยายในเรื่อง บทบาทหญิงไทยในยุค 4.0 ว่า บทบาทของผู้หญิงไม่ว่ายุคไหนไม่ได้มีหน้าที่เดียว ต้องมี 2 หน้าที่ คือ บทบาทในครอบครัวและบทบาทในหน้าที่การงาน ซึ่งเราต้องแบ่งเวลาให้พอดี งานบ้านต้องไม่เสีย งานอาชีพก็ต้องทำให้มีรายได้ เมื่อโลกเปลี่ยนไปสู่ยุคสังคมดิจิทัล เราก็ต้องก้าวตามให้ทัน อย่าคิดว่าสิ่งที่เรารู้นั้นเพียงพอแล้ว ต้องเสริมความรู้เพิ่มเติมตลอด ดังนั้น ผู้หญิงยุค 4.0 จึงต้องปรับทั้งในด้านครอบครัว และธุรกิจอาชีพ ไม่ปรับจะกลายเป็นเวอร์ชั่น 0.0 คนที่อยู่ข้างหลังเป็นภาระทางสังคม ผู้หญิงยุค 4.0 จึงต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง แนวคิด วิธีปฏิบัติเพื่อก้าวทัน สังคม เป็นพลังประเทศชาติ และรักษาครอบครัว สถาบันที่เล็กที่สุด แต่สำคัญที่สุดให้ได้ เพื่อเป็นกำลังสำคัญ และสมกับเป็นหญิงไทยยุค 4.0 นอกจากนี้ ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ผู้หญิงยุคนี้ขอย้ำต้องไม่แก่และไม่จน ผู้หญิงเรานอกจากการมีความสามารถในการช่วยเหลือครอบครัวในด้านรายได้ จะทำให้เรามีความทัดเทียมผู้ชาย โดยไม่ต้องไปเรียกร้องสิทธิ ความเสมอภาคด้วยซ้ำ เพราะถ้าเรามีเงิน เราก็ไม่ต้องง้อมาก สำหรับนักธุรกิจสตรีรุ่นใหม่ ขอแนะนำสูตร 5 P เคล็ดลับในการประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ คือ Product ผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการทำธุรกิจ ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ำกับของเดิมที่มีอยู่แล้ว, Potential market โอกาสทางการตลาด, สินค้ามา ถูกเวลาและถูกจังหวะ, Plan วางแผนธุรกิจ และ Promotion โฆษณาประชาสัมพันธ์.,โปรย,(จากซ้าย) อนุสรี ทับสุวรรณ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว, คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ร่วมส่งเสริมศักยภาพสตรีไทยให้ก้าวไกลสู่อาเซียนและปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงของโลก. | เสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจ ร่วมทั้งสร้างความร่วมมือและแลก เปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ในกลุ่มผู้ประกอบการและเครือข่ายสตรีในภูมิภาคอาเซียน สหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมกับ | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | บทบาทหญิงไทยในยุค 4.0,กระทรวง พม.,ศักยภาพทางธุรกิจ,อนุสรี ทับสุวรรณ,ความสำเร็จในการทำธุรกิจ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/869951 |
ทำแฟนเก่าท้องแต่ไม่ได้รัก แฟนใหม่จะให้อภัยไหม? | ใจอยู่ดี โสดก็เหงา แต่ไม่เท่าเขาก็ไม่รัก แน่นอนว่าเราบังคับใจใครไม่ได้จริงๆ ได้แต่ปลอบกันไป ไม่เป็นไรค่ะ โสดก็ต้องโสดให้สุข มีคู่ก็ต้องเลือกคนที่ทำให้เรามีความสุข ถ้าอยู่ใกล้ใครแล้วทุกข์ กลับมาสุขแบบโสดๆ ก็ไม่ได้แย่ พูดจบปั๊บ เห็นข้อความหนึ่งในทวิตเตอร์ น้องใหม่ ดาวิกา ทวีตเอาไว้ รถติดฟัง green wave ด้วยเรื่องความรักอะโสดก็ดี แหม น้องพี่สวยขนาดนี้ ไม่โสดนานหรอก,โลกนี้เจ๋งตรงนี้ ไม่มีอะไรจริงแท้แน่นอน จะบอกว่า มีคู่สิถึงจะมีความสุข ก็ไม่แน่เสมอไป บางทีการไม่มีใคร ไม่ต้องเอาสุขทุกข์ของเราไปผูกขาใคร ก็สบายใจไปอีกแบบ ที่มีคู่ทุกข์แล้ว ทุกข์อีก ทุกข์ซ้ำๆ ซากๆ ก็มีล่าสุด มีผู้ชายคนหนึ่งฝากคำถามเอาไว้ อ่านซ้ำมาซ้ำไป ปัญหาความรักมากมาย บางทีเรานั่นแหละคือสาเหตุใหญ่,ผมทำแฟนเก่าท้องได้สองสัปดาห์ แต่ผมก็คบแฟนใหม่อยู่ เขาทราบเรื่องหมดแล้ว ตอนนี้มีปัญหา คือ ทางแฟนเก่าปฏิเสธ ไม่ให้ผมเข้าไปยุ่งเกี่ยวอีก ซึ่งผมต้องการแสดงความรับผิดชอบ ในทุกอย่างที่จะเกิดขี้นมา ผมผิดไหมครับที่ผมจะรักกับคนใหม่ ซึ่งแฟนเก่าที่คบกันมานานมากแล้ว ผมไม่ได้รักเขา ทุกอย่างคือใจหมดรักกันไป แค่สิ่งที่เกิดขึ้นมาคือลูก ผมพยายามแสดงความรับผิดชอบทุกอย่าง กลับถูกปฏิเสธมาว่าไม่ให้ไปยุ่ง ทางแฟนใหม่ก็เสียใจ และเขายังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะทำยังไง แต่เขาให้ผมกลับไปรับผิดชอบแฟนเก่า ทั้งที่ใจเขาก็ยังไม่อยากเสียผมไป โดยหวังลึกๆ ว่าจะมีโอกาสได้กลับมาเริ่มกันใหม่ สิ่งที่ผมคิด คือ เขากลัวว่า ถ้าเขายังคบผมต่อ ผมจะนึกถึงแฟนเก่า แต่ผมบอกแล้วว่า ส่วนตรงนั้นไม่มีแล้ว มีแค่ความรับผิดชอบที่กำลังจะเกิดขึ้น พี่อ้อยว่าผมกับแฟนใหม่ยังสามารถไปต่อได้ไหมครับ,เรื่องนั้นคงต้องถามแฟนใหม่ค่ะ แค่พี่ห่วงวิธีการใช้ชีวิตของน้องเหลือเกิน ทำทุกอย่างดูง่ายไปหมด ง่ายจนทำร้ายคนรอบๆ ตัวเหมือนไม่แคร์หัวใจใครสักคน รักแฟนใหม่มากมาย แต่ก็ยังไปมีอะไรกับแฟนเก่าทั้งที่บอกว่าไม่ได้รักเขาแล้ว มีลูกกับคนที่ตัวเองไม่รัก แล้วมาทำร้ายความไว้วางใจทั้งหมดของคนที่ตัวเองรัก จะให้แต่ละฝ่ายทำใจยอมรับยังไง,แฟนเก่ามีความสัมพันธ์ทางกาย แต่ไม่ได้อยู่ในหัวใจ น้องอยากรับผิดชอบ เป็นพ่อของเด็ก แต่ไม่เอาแม่แล้วนะ ไม่รักแล้ว จะให้เขาทำใจว่าอะไรเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินไปเดินมาในบ้าน เพราะพลาดทำเราท้องเลยต้องรับผิดชอบแบบแกนๆ อยู่ให้ในบ้านครบๆ แต่ไม่ได้จบที่ความอบอุ่น กับคนใหม่จะเสียใจแค่ไหน จะกอดเขาลงยังไง ถ้าคนที่เรากอดคือพ่อของลูกคนอื่น ขมขื่นจะตายน้อง รักก็ไม่สนิทใจ เขารักเราเขาไม่เห็นมีใคร น้องรักเขาตรงไหนถึงไปมีอะไรกับคนอื่นจนเธอท้อง ไม่แปลกเลยที่แต่ละคนในชีวิตของน้องตัดสินใจแบบนี้ แฟนเก่า คงไม่อยากได้พ่อของลูกที่รับผิดชอบดี๊ดีแต่ไม่มีใจ แฟนใหม่คงไม่อยากได้ผู้ชายที่บอกว่ารักเราสุดหัวใจ แต่ก็ไปทำผู้หญิงคนอื่นท้อง ตอนนี้น้องไม่ได้อยู่ในฐานะผู้เลือกแล้ว ตอนที่เลือกได้ น้องไม่เลือก น้องปล่อยชีวิตตัวเองไหลไปตามความรู้สึก ความรับผิดชอบ ไม่ควรเกิดตอนที่มีผลของความเอาแต่ใจออกมาฟ้องใครต่อใครมากมาย,จริงๆ ความรับผิดชอบควรเกิดขึ้นทุกวินาทีโดยเฉพาะความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ความรับผิดชอบต่อความรู้สึกของคนที่เรารัก คนรักกัน ไม่ทำร้ายกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง ไม่ใช่ทำใจเขาพัง แต่ถ้าปิดบัง ก็ถือว่าไม่เป็นไร มันใช่หรือ ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน ที่ต่างเลือกกันและกัน ไม่ใช่ ฉัน ผูกขาดการเลือกอยู่เพียงผู้เดียว ทำแฟนเก่าท้อง ก็ต้องรับผิดชอบไง แต่ยังอยากคบแฟนใหม่นะ เพราะยังไงคนนี้ก็รัก คนเก่า เราแค่เป็นพ่อของลูกเขา แต่ไม่ได้ผูกพันอะไร ถือว่ารับผิดชอบแล้วไง ตอบโจทย์ความเป็นแมนในใจเรา แต่ไม่คิดถึงใจเขา ใจใครทั้งนั้น,ตอนนี้คงทำได้แค่ตั้งสติค่ะ คนเก่า ที่ทำเขาท้อง ปรึกษาเขาอยากให้ชีวิตเดินหน้าไปแบบไหน ครอบครัวเขาว่ายังไง ต่อให้ไม่ได้สร้างครอบครัวด้วยกัน แต่การส่งเสียเลี้ยงดู น้องคงรู้ว่าต้องทำ กับคนใหม่ เขาให้อภัยเราไหวไหม ที่สำคัญ ถ้ารู้สึกผิดต้องคิดทำอะไรต่อ อย่าปล่อยใช้ชีวิตตามอำเภอใจ มีปัญหาเมื่อไหร่ค่อยมาแก้เอา บางทีเราแก้ไม่ไหวจริงๆ ถ้าปัญหานั้นมันทำร้ายหัวใจใครต่อใครมากมาย คำว่า รัก ใช้ไม่ได้ ถ้าไม่ได้รู้สึกแบบนั้นจริงๆ หรือในที่สุดแล้ว น้องยังไม่ได้รักใคร นอกจากเอาแต่ใจตัวเอง จนสามารถนอกใจคนที่รักโดยไม่คิดอะไร ท้องเมื่อไหร่ค่อยแก้ปัญหากันไป อย่างที่น้องเป็นอยู่นี่ไง อย่าเรียกร้องความเข้าใจ ตราบใดที่เราใส่ใจความรู้สึกของอีกฝ่ายน้อยเหลือเกิน,IG: ,DJAoy | วันหนึ่งนั่งจัดรายการอยู่ที่ Green Wave พูดถึงเรื่องความโสด ซึ่งเป็น 1 ในปัญหาความรักของคนเมือง เราบ่นคำว่าเหงากันง่าย บางทีก็พูดๆ ไป ทั้งที่ไม่ได้รู้สึกเท่าไร บางคนเหงาเพราะไม่มีใคร และมีอีกมากมายที่มีคนข้างกาย แต่เหงา | คนดังนั่งเขียน,ข่าว | คนดังนั่งเขียน,ดีเจพี่อ้อย,ทำแฟนเก่าท้อง,แฟนใหม่,ความรัก | https://www.thairath.co.th/news/924782 |
สตรีไทย ร้อยรวมใจประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิง ร.9 | เมื่อวันที่ 19 พ.ค.60 ที่หอประชุมมนังคศิลา หลานหลวง กรุงเทพฯ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมกับองค์กรสมาชิก และองค์กรเครือข่าย จัดโครงการ ร้อยรวมใจสตรีไทยประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ เพื่องานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,ดร.วันดี กล่าวว่า สภาสตรีฯ จัดโครงการดังกล่าวเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ อีกทั้งเพื่อให้เกิดความรักความสามัคคี โดยการทำกิจกรรมจิตอาสาประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ โดยสภาสตรีแห่งชาติฯ จะเปิดการอบรบประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์โดยครูจิตอาสา ระยะที่ 1 จำนวน 9,999 ดอก ระหว่างวันที่ 19 พ.ค. - 18 มิ.ย.60 (เว้นวันหยุดราชการ) ที่หอประชุมมนังคศิลา และศูนย์ฝึกอาชีพสตรีไทย-จีน อาคารด้านหน้าบ้านมนังคศิลา ถนนหลานหลวง เขตดุสิต กรุงเทพฯ,ดร.วันดี กล่าวต่อว่า ระยะที่ 2 นั้นช่วงระหว่างวันที่ 19 มิ.ย. – 1 ส.ค.60 เป็นการขยายการประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์สู่องค์กรสมาชิกและองค์กรเครือข่าย โดยครูจิตอาสาประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ ร่วมกันประดิษฐ์ จำนวน 99,999 ดอก มี 4 แบบ ได้แก่ ดอกดารารัตน์ ดอกกุหลาบ ดอกกล้วยไม้ และดอกพุดซ้อน ซึ่งแต่ละดอกสื่อความหมายถึงความจงรักภักดีที่สตรีไทยร่วมใจกันทำถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,สำหรับ ดอกดารารัตน์ หรือดอก Daffodil เป็นดอกไม้ทรงโปรดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และพระราชทานให้กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ อยู่เสมอ เมื่อครั้งยังทรงศึกษาและประทับอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ดอกดารารัตน์นิยมใช้มอบให้แก่บุคคลอันเป็นที่รัก เพื่อบอกว่าไม่เคยหวังสิ่งใดตอบแทน และยังหมายถึง เกียรติยศ ความกล้าหาญ สัญลักษณ์ของความหวัง ชื่อดอกดารารัตน์ยังมีความหมายที่ลึกซึ้ง โดยคำว่า ดารา หมายถึง ดวงดาว คือสิ่งที่อยู่สูงสุด คำว่า รัตน์ หมายถึง แก้ว คือ สิ่งที่มีค่า,ดอกกุหลาบ เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักอันบริสุทธิ์ด้วยอานุภาพแห่งความจงรักภักดีของทวยราษฎร์ที่ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อถวายความอาลัยเป็นครั้งสุดท้ายแด่พระองค์ท่านผู้เป็นกษัตริย์ที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย,ดอกกล้วยไม้ เป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง ความรัก และความสง่างาม สมดังพระมหากรุณาธิคุณในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนของพระองค์,ดอกพุดซ้อน เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแรง สมบูรณ์ ความเจริญมั่นคง และรักแท้ ในความเป็นมงคล เชื่อกันว่าไม่ว่าจะเป็นพุดชนิดใด จะส่งผลให้มีความเจริญ มั่นคง แข็งแรงสมบูรณ์ ดั่งพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นที่พระองค์สร้างโครงการมากมายสร้างความแข็งแรงสมบูรณ์ให้เกิดกับพสกนิกรของพระองค์. | สภาสตรีแห่งชาติฯ ร้อยรวมใจสตรีไทยประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ 109,998 ดอก มี 4 แบบ ดอกดารารัตน์-ดอกกุหลาบ-ดอกกล้วยไม้-ดอกพุดซ้อน เพื่องานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวง รัชกาลที่ 9 | ข่าว,การเมือง | สภาสตรีฯ,สภาสตรีแห่งชาติฯ,ดอกไม้จันทน์,พระราชพิธีถวายพระเพลิง,รัชกาลที่ 9 | https://www.thairath.co.th/news/politic/946342 |
อนาคตใหม่ มั่นใจเต็มร้อย กวาด ส.ส. ทุกภาค จัดตั้งรัฐบาลได้ (คลิป) | นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมด้วยนายปิยบุตร แสงกนกกุลเลขาธิการพรรค เดินทางมาถึงอาคารกีฬาเวสน์หนึ่งท่ามกลางประชาชนที่สนับสนุนและคนรุ่นใหม่ที่มารอให้กำลังใจ และเตรียมฟังปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย ที่เป็นการเน้นย้ำไปช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งว่า ทำไมประชาชนต้องเลือกพรรคอนาคตใหม่,นายปิยบุตร กล่าวก่อนขึ้นปราศรัย ว่า จนถึงวันนี้มีความมั่นใจอย่างมาก ว่า จะได้ ส.ส. ในทุกภูมิภาค และพรรคจะเป็นพรรคระดับชาติหลังการเลือกตั้ง ตลอดจนนโยบายทั้งหมดของพรรคได้พูดและประกาศไปหมดแล้ว วันนี้จะมาเน้นย้ำอีกครั้งว่าพรรคจะเป็นทางเลือกหลัก หากเลือกพรรคอนาคตใหม่ประเทศไทยจะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิม ซึ่งตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ไม่มีการจัดเลือกตั้ง มั่นใจมากว่า คนไทยต้องการที่จะเปลี่ยนประเทศหลังเผชิญความยากลำบากมาตลอดระยะเวลา 5 ปี ของรัฐบาล คสช. และไม่ต้องการให้ประเทศอยู่ในระบอบเผด็จการต่อไป,นายธนาธร กล่าวเพิ่มเติมว่า พรรคได้ประกาศจุดยืน และจุดประเด็นความเปลี่ยนแปลง และวิธีที่จะก้าวข้ามความขัดแย้งไปได้อย่างไร พรรคอนาคตใหม่เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะหยุดพรรคที่มาจากการสืบทอดอำนาจ และหยุด ส.ว. ที่มาจาก คสช. และยุติระบอบเผด็จการ,หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยังกล่าวถึง กรณีที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐกล่าวว่า พรรคที่จัดตั้งรัฐบาลไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคที่ได้เสียงข้างมากนั้น ถือว่า เป็นการดูถูกเสียงของประชาชน ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ก้าวหน้า หลังจากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอีก 2 วัน ทั้งประเทศจะเห็นว่าประชาชนตัดสินใจได้ชัดเจนว่า ต้องการนายกฯชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ นายกรัฐมนตรีที่ชื่อธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศได้จริง. | อนาคตใหม่ มั่นใจเต็มร้อยสามารถกวาด ส.ส. ได้ทุกภูมิภาค และจัดตั้งรัฐบาลได้ เชื่อคนไทยเข็ดกับความลำบากตลอด 5 ปีรัฐบาล คสช. อีก 2 วันรู้ ชื่อนายกฯ | เลือกตั้ง | เลือกตั้ง62,อนาคตใหม่,ปราศรัย,นโยบาย,กวาด ส.ส.,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1526366 |
ส.บาส ทุ่มงบ 5ล้าน จัดแข่งยัดห่วงเยาวชนและประชาชนทั่วประเทศ | จัดแข่งทั้งประเภทชาย-หญิงในรุ่น 14 ปี, 16 ปี, 18 ปี และประชาชนทั่วไป ระเบิดศึกทั้งหมด 8 โซนทั่วประเทศก่อนมาชิงชนะเลิศกันที่ยิม จ.ราชบุรี 1-8 ต.ค.นี้,เมื่อ 20 มี.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 24 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท., จตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัททีโอเอ, พล.ท.เฉลิมเกียรติ โพธิ์ทองนาค นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย และนิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อุปนายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลฯ ร่วมแถลง ข่าวจัดบาสฯ TOA เยาวชน และประชาชน ดิวิชั่น 2 ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2560,รายการนี้นับเป็นมิติใหม่แห่งวงการบาสเกตบอล ที่กระจายการแข่งขันไปทุกภูมิภาคของประเทศตั้งแต่ระดับอายุไม่เกิน 14 ปี, 16 ปี และ 18 ปี นอกจากนี้ยังเพิ่มประเภทประชาชนทั่วไป (ดิวิชั่น 2) ทั้งชาย-หญิงอีกด้วย โดยรายชื่อผู้เล่นที่ส่งในจังหวัดใดจะต้องมีผู้เล่นที่เกิดในจังหวัดนั้นอย่างน้อย 6 คน และให้คนภายนอกจังหวัดแต่ต้องอยู่ภายในโซนนั้นๆ ได้อีกไม่เกิน 6 คน คัดทีมที่ชนะเลิศในแต่ละโซนมาชิงชนะเลิศกันที่ จ.ราชบุรี ระหว่าง 1-8 ต.ค.นี้,การแข่งขันแบ่งออกเป็น 8 โซน ประกอบด้วย 1. ภาคกลาง 1 แข่งขันที่สนามบาสฯ ไฮเทค ทุ่งครุ ระหว่าง 2-11 พ.ค., 2. ภาคกลาง 2 แข่งขันที่โรงยิมฯ ม.ราชภัฎเพชรบุรี จ.เพชรบุรี ระหว่าง 19-28 พ.ค., 3. ภาคเหนือตอนบน แข่งขันที่โรงยิมฯ อบจ.เชียงราย ระหว่าง เม.ย.-พ.ค. (ยังไม่ระบุวัน), 4. ภาคเหนือตอนล่าง แข่งขันที่สนามเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ระหว่าง 3-10 เม.ย., 5. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน แข่งขันที่ อบจ.ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 18-27 เม.ย., 6. ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง แข่งขันที่สนามบาสเกตบอล ร.ร.สตรีศิริเกศ จ.ศรีสะเกษ ระหว่าง 23-31 พ.ค., 7. ภาคใต้ตอนบน แข่งขันที่ ร.ร.กัลยาณีศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 7-19 เม.ย., 8. ภาคใต้ตอนล่าง แข่งขันที่สนามกีฬากลาง จ.พัทลุง ระหว่างวันที่ 1-12 พ.ค. ส่วนรอบชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย มีกำหนดแข่งขันที่โรงยิมเนเซียม จ.ราชบุรี ระหว่างวันที่ 1-8 ต.ค. สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย โทร. 09-2962-5762 | สมาคมกีฬายัดห่วงทุ่มกว่า 5 ล้านบาท จัดแข่งบาสฯเยาวชนและประชาชนทั่วประเทศ ในชื่อการแข่งขัน TOA เยาวชน และประชาชน ดิวิชั่น 2 ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2560 | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | สมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย,สกล วรรณพงษ์,พล.ท.เฉลิมเกียรติ โพธิ์ทองนาค,ข่าวกีฬา,ข่าว | https://www.thairath.co.th/sport/others/891180 |
โควิดก็ต้องกลัว ฝนมาก็ต้องระวังไข้เลือดออก หากมี 4 อาการนี้ควรรีบพบหมอ | นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านกำลังจะเข้าสู่ฤดูฝน บางพื้นที่ฝนตก มีน้ำขังในภาชนะ เศษวัสดุ จานรองต้นไม้ ขยะ ยางรถยนต์เก่า ที่อาจมีไข่ยุงลายแห้งติดอยู่ก่อนแล้วหลายเดือนจะกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายเมื่อได้รับน้ำ เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก ซึ่งในปีนี้ถึงแม้จะมีจำนวนผู้ป่วยน้อยกว่าปี 2562 แต่ก็ยังพบผู้ป่วยมากกว่าปี 2560 และ 2561 และมีพื้นที่เสี่ยงสูงต่อการระบาดจำนวน 224 อำเภอ ใน 60 จังหวัดส่วนใหญ่เป็นอำเภอเมือง และอำเภอที่เป็นเมืองใหญ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานศึกษา ศูนย์ราชการ สถานที่ท่องเที่ยว นิคมอุตสาหกรรม สำหรับกลุ่มเสี่ยงยังคงเป็นเด็กวัยเรียน 5-14 ปี แต่กลุ่มเสี่ยงที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงขึ้นเป็นวัยผู้ใหญ่อายุ 35 ปีขึ้นไปทั้งนี้ จึงขอให้ประชาชนใช้โอกาสช่วงอยู่บ้านเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 และป้องกันโรคไข้เลือดออกควบคู่ไปด้วย โดยทำความสะอาด กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายภายในบ้านและรอบบริเวณบ้านก่อนเข้าสู่ฤดูฝนซึ่งเป็นฤดูกาลระบาดของไข้เลือดออกนอกจากนี้ อากาศที่เย็นชื้น เชื้อโรคหลายชนิดจะมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้น ประชาชนอาจป่วยจากโรคระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ได้อีกด้วย จึงขอให้ประชาชนสวมหน้ากากผ้า ล้างมือบ่อยๆ กินร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัว หลีกเลี่ยงการไปในที่ที่คนเยอะๆ แต่หากหน้ากากผ้าชื้นหรือเปียกฝนขอให้เปลี่ยนผืนใหม่4 อาการต้องสังสัยจะเป็นไข้เลือดออก1. ผู้ป่วยมีไข้สูง 2 วัน อาการไม่ดีขึ้น อ่อนเพลีย ซึมลง ปัสสาวะสีเข้ม2. หรือผู้ป่วยมีไข้ลดแล้ว แต่อาการแย่ลง ซึมกว่าเดิม เบื่ออาหาร ขอให้สงสัยว่าเป็นไข้เลือดออกและรีบพบแพทย์ทันที3. ผู้ป่วยไข้เลือดออกจะมีอาการคล้ายไข้หวัดทั่วไป เช่น ปวดศีรษะ ตัวร้อน คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามตัว4. สำหรับอาการเด่น คือ ไข้สูงเฉียบพลัน แต่ส่วนมากไม่มีน้ำมูก ไม่ไอ อาจมีจุดเลือดออกเล็กๆ กระจายอยู่ตามแขน ขา ลำตัว และรักแร้พบ 10 จังหวัดมีคนป่วยไข้เลือดออกสูงที่สุดข้อมูลจากกองระบาดวิทยา ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 14 เม.ย. 63 มีรายงานผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสะสม 8746 ราย ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 599 ราย ผู้ป่วยเสียชีวิต 6 ราย และในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 10 อันดับแรก ดังนี้ ระยอง อ่างทอง นครราชสีมา พิจิตร ระนอง เลย ขอนแก่น พังงา สมุทรสงคราม และร้อยเอ็ดดูแลตัวเองช่วงมีโควิด-19 และไข้เลือดออกนพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อและที่ปรึกษากรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคไข้เลือดออกจะมาเร็วกว่าปกติ เพราะฝนเริ่มตกเร็วตั้งแต่หน้าร้อนและอีกปัจจัยคือ โรคโควิด-19 ที่ส่งผลให้คนไทยอยู่บ้านมากขึ้น ขณะที่ยุงลายเป็นยุงบ้านการอยู่บ้านมากขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยที่มีโอกาสถูกกัดและป่วยมากขึ้นทั้งนี้ โรคไข้เลือดออก เมื่อมาในช่วงที่มีโรคโควิด-19 ระบาด ก็ยังไม่น่ากังวลเรื่องการวินิจฉัยโรค เพราะแพทย์สามารถแยกได้พอสมควร เพราะไข้เลือดออกปกติเป็นในเด็กโต อายุระหว่าง 8-15 ปี ส่วนใหญ่มาด้วยไข้สูงมาก ไม่ค่อยมีอาการหวัด ไอ เด็กหลายคนป่วยหน้าแดงเพราะพิษไข้ ทำให้พอแยกได้ ส่วนโรคโควิด-19 จะเป็นทุกอายุและมักพบในหนุ่มสาว อาการส่วนใหญ่เหมือนไข้หวัด จึงต่างจากไข้เลือดออกอย่างไรก็ตาม โรคไข้เลือดออกและโรคระบบทางเดินหายใจ จะพบการระบาดจำนวนมากในเดือน พ.ค. จึงเป็นความเสี่ยงที่คนป่วยจะเกิดการเจ็บป่วยซ้ำซ้อนซึ่งการป่วย 2 โรค ทำให้การรักษายากขึ้น อาการรุนแรงมากขึ้น ดังนั้น ในยุคนี้เรารู้ว่าแต่ละโรคมีความเสี่ยงมาจากอะไรก็ป้องกันตัวเสีย โรคระบบทางเดินหายใจ ต้องหลีกเลี่ยงการไปพื้นที่ที่มีคนจำนวนมาก สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ กินอาหารร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัว ส่วนไข้เลือดออก ป้องกันได้ตั้งแต่ตอนนี้คือ ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ทำความสะอาดบ้านเรือนอย่าให้มีมุมอับ และระวังตัวเองอย่าให้ยุงกัด | โควิด-19 ยังมีการระบาดแม้ตัวเลขของผู้ติดเชื้อลดลงแต่ก็ไว้ใจไม่ได้ ในขณะที่ โรคไข้เลือดออก โรคประจำฤดูฝนกำลังกลับมาอีกครั้ง แนะหากมี 4 อาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ | ข่าว,สังคม | โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,ไข้เลือดออก,ไข้เลือดออกระบาด,ฤดูฝน,ยุงลาย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1833116 |
ผ่านฉลุย สนช.ไฟเขียว พ.ร.บ.ยาสูบ เข้มหวังลดสิงห์อมควันหน้าใหม่ | ,เมื่อวันที่ 3 มี.ค.60 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.เป็นประธาน ได้ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระ 3 ด้วยมติเอกฉันท์ 202 คะแนน งดออกเสียง 8 และเห็นชอบให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตามที่ประชุม สนช.ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นวันที่สอง รวมใช้เวลาทั้งสิ้นกว่า 7 ชั่วโมง ทั้งนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการปรับปรุง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2535 และ พ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 มีจำนวนทั้งสิ้น 79 มาตรา ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นไปตามที่ กมธ.ได้แก้ไข ซึ่งสาระสำคัญที่น่าสนใจ อาทิ การมีคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ จำนวน 23 คน โดยมี รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน, คณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบจังหวัด พร้อมทั้งกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่ง กมธ.ได้ตัดคุณสมบัติต้องห้าม ที่ระบุว่า ห้ามเป็นโรคเสพติดผลิตภัณฑ์ยาสูบออกจากร่างเดิม นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้แก้ไขคำนิยาม โรคเสพติดผลิตภัณฑ์ยาสูบ โดยตัดคำ โรค ทิ้ง เหลือเพียงคำว่า เสพติดผลิตภัณฑ์ยาสูบ เท่านั้น ,อย่างไรก็ตามเนื้อหาสำคัญของร่างกฎหมายดังกล่าว อยู่ที่มาตรา 26 กำหนดไม่ให้ขายหรือให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ จากกฎหมายเดิมที่กำหนดอายุไว้ที่ 18 ปี หากฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ได้กำหนดไม่ให้ผลิตหรือนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาสูบ เพื่อขายในราชอาณาจักรประเภทบุหรี่ซิกาแรตที่มีขนาดบรรจุต่ำกว่า 20 มวนต่อซอง หรือต่อภาชนะบรรจุบุหรี่ซิกาแรต และห้ามไม่ให้มีการแบ่งขายผลิตภัณฑ์ยาสูบประเภทบุหรี่ซิกาแรต,ขณะที่ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิก สนช.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ. กล่าวต่อที่ประชุมในตอนท้ายว่า กฎหมายฉบับนี้ใช้มานานแล้ว ซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหานักสูบหน้าใหม่ได้ ดังนั้นจึงต้องมีการปรับปรุง เพื่อให้กฎหมายมีความสมบูรณ์ ต้องขอบคุณรัฐบาลที่มีความกล้าหาญในการเสนอกฎหมาย ซึ่งเป็นไปตามอนุสัญญาองค์กรระหว่างประเทศ กฎหมายที่ออกมามีส่วนที่ดีคือสามารถแก้ไขเรื่องของเด็กและเยาวชนที่จะเข้าสู่ด้วยการห้ามแบ่งซองขาย อายุเด็ก การซื้อขาย และคณะกรรมการจังหวัดควบคุมการส่งเสริมการตลาด ซึ่งคิดว่ากฎหมายที่ออกไปในลักษณะนี้น่าจะป้องกันเยาวชนเป็นนักสูบหน้าใหม่ได้ถึงปีหนึ่งถึง 2 แสนคนน่าจะลดจำนวนลงได้ ขอบคุณสมาชิกที่ใช้เวลา 7 ชั่วโมง 45 นาที เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ยาก เพื่อทำให้กฎหมายที่ออกไปมีความสมดุลระหว่างผู้ที่สูบและไม่สูบ ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายดังกล่าว. | สนช.มีมติเอกฉันท์ 202 งดออกเสียง 8 ผ่านร่าง พ.ร.บ.ยาสูบ หลังถกนาน 2 วัน ไม่ห้ามคนติดบุหรี่ เป็นบอร์ด ออกกฎเข้มห้ามขายสิงห์นักสูบหน้าใหม่อายุไม่ถึง 20 ปี จากเดิม 18 ปี พร้อมห้ามแบ่งขาย | null | พ.ร.บ.ยาสูบ,ยาสูบ,บุหรี่,สิงห์อมควัน,พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ | https://www.thairath.co.th/content/872941 |
กองทัพภาค 4 ตั้ง 21 ศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ | นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุถึงสถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ว่า ได้ให้ทางจังหวัดที่ประสบอุทกภัยเฝ้าระวังและรายงานสถานการณ์ทุก 3-4 ชั่วโมง และให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน ขณะที่ยังคาดว่าน้ำที่ท่วมจากสถานการณ์ฝนตกหนักในแต่ละจังหวัดจะคลี่คลายโดยเร็ว เพราะปกติสถานการณ์น้ำในภาคใต้จะเป็นลักษณะไม่ท่วมขังยาวนาน โดยจะมีการระบายน้ำลงทะเลได้เร็วสำหรับจังหวัดที่ยังเป็นห่วงในขณะนี้ได้แก่ นครศรีธรรมราช ชุมพร และ สุราษฎร์ธานี โดยในวันพรุ่งนี้ ( 4 ม.ค.) จะมีการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับทราบในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ขณะที่ พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงแนวทางการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคต้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับการปฏิบัติการเตรียมพร้อมให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพเตรียมกำลังพล ยานพาหนะ พร้อมทั้งยุทโธปกรณ์ช่วยเหลือประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ โดยให้ติดตามเฝ้าระวัง ตรวจสอบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจัดกำลังพล ยุทโธปกรณ์ เตรียมพร้อมเพื่อช่วยเหลือหากสถานการณ์มีความเปลี่ยนแปลง เพื่อการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันเหตุการณ์ขณะที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 ได้จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยขึ้นตรงจำนวน 21 ศูนย์ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนร่วมกับ ร่วมกับ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดที่ประสบภัย และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เข้าช่วยเหลือประชาชน โดยจัดกำลังพล ยานพาหนะทั้งเรือและรถ พร้อมทั้งยุทโธปกรณ์จำนวนมากเร่งดำเนินการ ขนย้ายผู้ประสบภัย ผู้เจ็บป่วย และสิ่งของไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวที่เป็นพื้นที่สูง แจกจ่ายอาหาร น้ำดื่ม และถุงยังชีพ รวมทั้งจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ เพื่อการรักษาพยาบาลให้กับผู้ประสบภัยในจังหวัดสงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฏร์ธานี ชุมพร นราธิวาส ปัตตา นีและ ยะลา | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกำชับเหล่าทัพเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้พร้อมทั้งให้กองทัพภาคที่ 4 ตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยเข้าช่วยเหลือประชาชนทันที ขณะที่วันพรุ่งนี้ ( 4 ม.ค.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะมีการรายงานสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี | ภูมิภาค | ครม.ช่วยน้ำท่วม,น้ำท่วมใต้,รมว.มหาดไทย,ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย | https://news.thaipbs.or.th/content/57054 |
สายตรงจากต่างแดน : วิทวัส ศรีวิหค ประธานจัดพิธีงานวันพ่อแห่งชาติ ณ นครนิวยอร์ก | สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก ร่วมกับ คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ร่วมจัดพิธีและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของ ,พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9, งานวันชาติ และวันพ่อแห่งชาติโดยมี ,วิทวัส ศรีวิหค, ออท. ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก เป็นประธานในพิธีทำบุญใส่บาตรและเจริญพระพุทธมนต์ ถวายพานพุ่มหน้าพระบรมฉายาลักษ์ฯ และกล่าวนำถวายราชสดุดี,นิพนธ์ เพ็ชรพรประภาส, กสญ. ณ นครนิวยอร์ก นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทีมประเทศไทยและชุมชนชาวไทย ในรัฐนิวยอร์กและรัฐใกล้เคียงเข้าร่วมงาน ท่ามกลางสายฝนและมีหิมะตกลงมาตลอดทั้งวัน,สำหรับวันนี้ (8 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. ,วัดธัมมาราม นครชิคาโก, จัดกิจกรรมวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ รัชกาลที่ 9 โดยมี กงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก เป็นประธานจากนั้นมีพิธีมอบสัมฤทธิบัตรแก่ นักเรียน ร.ร.พุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดธัมมาราม ด้วย,14 ธ.ค. 18.00 น. ,บุญส่ง อนันตสุคนธ์, จัดเลี้ยงฉลอง 3 ตำแหน่งให้แก่ ,แหม่ม-ภาวดี, ไปคว้ามาจากประเทศ ฟิลิปปินส์ ได้แก่ Mrs.Grand Universe Ambassador Philippines 2019, Mrs.Congeniality 2019 และ Mrs.Gloval Eco-Tourism 2019 พร้อมฉลองวันเกิดของคนเกิดเดือนธันวาคม ที่ร้านอิ่มอร่อย เมืองมอนติเบลโล จองโต๊ะที่ บุญส่ง อนันตสุคนธ์ โทร.562-7 87-5676,ส่วน ,ครูแต๋ว-สุวัฒนา ปิ่นวัฒนะ, ฝากขอบคุณ กลุ่มศิลปินชานกรุง ที่จัดงานวันเกิดการกุศลหาทุนสร้างห้องน้ำให้แก่ วัดนาบุญ เมืองไวท์เวอร์เตอร์ในวันเสาร์ที่ 14 ธ.ค.นี้ ที่ ร้านสิริไทย คูซีน เมืองเบอร์แบงก์,ลุ้นแต้มที่ ,ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิ้น มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2019, เข้านมัสการพระสงฆ์ วัดพุทธประทีป เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนขึ้นเวทีชิงมงกุฎ มิสยูนิเวิร์ส 2019 วันนี้,ศรีวงศ์ อาญาสิทธิ์, เข้าหารือ กับ ,มังกร ประทุมแก้ว, กสญ. ณ นครลอสแอนเจลิส และ ,กมลภัทร ภริยา, เรื่องการจัดงาน ไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ครั้งที่ 15รวมทั้งงานฉลองงาน ไทยนิวเยียร์ฯ ครบ 15 ปี ที่อคาเดียฯ 25 ม.ค.,นับเป็น ตำรวจที่สร้างชื่อเสียงให้ชาวไทย ,พีท เพิ่มแสงงาม, นายตำรวจหน่วยสุนัขกู้ระเบิด แอลเอพีดี เพราะทำงานดีและมีมนุษยสัมพันธ์ดีกับทุกคน,ออสเตรเลีย,เตรียมพร้อม ,สมชาย ศิริบูรณ์, เจ้าของร้านอาหาร Thai on the Hill ที่เพิร์ธ เตรียมตบแต่งร้านใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิม เพื่อต้อนรับลูกค้าจองกันมาก ในช่วงคริสต์มาสและโปรโมตอาหารไทยให้ดังไปทั่วออสเตรเลีย,เกริ่นเอาไว้ก่อน ,อุดม แผนทัด, อดีตเจ้าของร้านไทย พัทยา ซิดนีย์ เตรียมนัดเพื่อนฝูง เช่น ,ชลอ จันทร์งู, ดำรงค์ รัตนธี, อดีตเจ้าของร้านอาหารไทยและเพื่อนฝูงอีกหลายคนร่วมสังสรรค์ในวันคริสต์มาส ที่คฤหาสน์หลังใหญ่ย่านโบตานีงานนี้ อรียา แผนทัด ภรรยา ขอเข้าครัวเอง,นี่อีกราย ,วิรัช พลเดช, เจ้าของร้านอาหารไทยหลายแห่งในซิดนีย์ บินกลับไปพักผ่อนที่ จ.สุพรรณบุรี บ้านเกิดนานหลายเดือน กลับมาซิดนีย์คราวนี้เลี้ยงหลานอย่างเดียวให้หายคิดถึง,เยอรมนี,วัดไทยมิวนิก กิซิ่ง, ขอเชิญพี่น้องชาวไทยร่วมทำบุญ ตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลฯ วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ รัชกาลที่ 9 และ วันพ่อแห่งชาติ ในวันนี้ (8 ธ.ค.) เริ่มเวลา 10.00 น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ถวายอาหารเพล ที่วัดไทยมิวนิกสอบถาม ,คุณตุ่ม, โทร.080-65642,จรินทร หาลาภ, วิศวกรไฟฟ้าฝ่ายวิจัยพัฒนาการไฟฟ้านครหลวงและคณะเข้าร่วมดูงานและสัมมนาทางด้านวิชาการกับเจ้าหน้าที่พลังงานไฟฟ้าแห่งชาติเยอรมัน ที่แฟรงก์เฟิร์ต โดยมี โสภิดา หย่ง คนดังเมืองนี้ประสานงาน,สุขสันต์วันเกิดกับ ,อรดี ไอคุม, รองนายกสมาคมธารา บริจาคเงินก้อนใหญ่ให้กับ Kinder Hospis Stermenbruke ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยที่ช่วยเด็กและสตรี ซึ่งเริ่มเป็นมะเร็ง,มิสเตอร์แบล็ก,[email protected], | สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก ร่วมกับ คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ร่วมจัดพิธีและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล | null | สายตรงจากต่างแดน,มิสเตอร์แบล็ก,วิทวัส ศรีวิหค,สถานกงสุลใหญ่,นิวยอร์ก,วันพ่อแห่งชาติ,เฉลิมพระเกียรติ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1721101 |
อุปสรรคปราบค้ามนุษย์ | จะจับกุมและดำเนินคดีใครบ้าง และจริงจังแค่ไหน เท่าที่เป็นข่าวมีการจับกุมผู้ต้องหาหลายคน รวมทั้งผู้ขอออกใบอนุญาตตั้งสถานบริการ มีการขอหมายจับเสี่ยใหญ่เจ้าของโรงนวด และตั้งข้อหา 13 ข้อหา รวมทั้งบังคับค้าประเวณีและค้ามนุษย์,สังคมกำลังติดตามดูว่า ในที่สุด จะจับกุมเสี่ยใหญ่เจ้าของโรงนวดตัวจริงได้หรือไม่ เพราะอาจหลบหนีออกนอกประเทศ จึงอาจดำเนินคดีได้แค่ระดับพนักงาน ในระยะแรกมีข่าวเล่าลือด้วยซ้ำว่า การกวาดล้างครั้งนี้เป็นปฏิบัติการทางการเมืองตามใบสั่ง เพื่อสกัดกั้นนักการเมืองบางกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับกามพาณิชย์ ไม่ใช่การปราบปรามอาชญากรรมที่แท้จริง,แต่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดียืนยันไม่ใช่การเมือง แต่เป็นการปราบปรามการบังคับค้าประเวณีเด็ก ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอได้รับร้องเรียน ในการจับกุมวันแรกมีการเปิดเผยว่า มีชื่อข้าราชการเกี่ยวข้อง 20 คน อยู่ในบัญชีของเจ้าหน้าที่ผู้ใช้บริการทางเพศฟรี ไม่มีข่าวว่าพบรายชื่อบัญชีจ่ายส่วย เหมือนกับเมื่อบุกจับสถานอาบอบนวดนาตารี,ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ระบุว่า หากข้าราชการเรียกรับสินบนจากผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ข้าราชการผู้นั้นจะเป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง มีโทษจำคุกถึง 12 ปี กฎหมายระบุด้วยว่า การช่วยเหลือด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ผู้กระทำผิดค้ามนุษย์ไม่ให้ถูกจับกุม ก็ต้องรับโทษเช่นเดียวกับผู้ทำผิด,กฎหมายการปราบปรามการค้ามนุษย์ของไทย ประกาศใช้ตั้งแต่ปี 2551 แต่ปัญหานี้เพิ่งจะได้รับความสนใจจริงจังในช่วงรัฐบาล คสช. เนื่องจากสหรัฐอเมริกาจัดอันดับประเทศในด้านการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ อยู่ที่เทียร์ 3 เมื่อปี 2557 รัฐบาลไทยจึงต้องเริ่มแก้ปัญหาอย่างจริงจัง จึงถูกลดอันดับเป็นเทียร์ 2.5 ประเทศที่ต้องเฝ้าระวัง จนถึงปัจจุบัน,ผลการเอาจริงของรัฐบาล ทำให้ปัญหาการบังคับใช้แรงงานและบริการลดลงไปมาก โดยเฉพาะแรงงานประมงต่างชาติ แต่การค้ามนุษย์ที่ยังรุ่งเรืองอยู่ ได้แก่ การบังคับค้าประเวณี ปัญหาโสเภณีเด็ก มีการจับกุมดำเนินคดีมากขึ้น เพราะไทยเป็นประเทศท่องเที่ยว มีแหล่งค้าประเวณีมากมาย เชื่อว่าสถานที่แบบวิคตอเรียยังมีอีกมากใน กทม.,ปัญหาและอุปสรรคสำคัญในการแก้ปัญหาการบังคับค้าประเวณี ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า สถานค้าประเวณีอยู่ได้ด้วยการติดสินบนข้าราชการ จึงไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ตัวอย่างเช่น กรณีนาตารี แม้จะมีบัญชีรายชื่อส่วนเจ้าหน้าที่รับส่วย แต่เรื่องกลับเงียบหายไป ปัญหาสำคัญคือ การสอบสวนของตำรวจ ซึ่งมีเสียงเรียกร้องให้ปฏิรูปโดยด่วน แต่ยังนิ่งเฉย. | ข่าวเกี่ยวกับการจับกุมสถานอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท ค่อยๆจางหายไป แต่สังคมยังจับตามองอยู่ | null | วิคตอเรีย ซีเครท,ค้ามนุษย์,ค้าประเวณี,อาบอบนวด,บทบรรณาธิการ | https://www.thairath.co.th/news/politic/1184370 |
โทษไปเรื่อย มูรินโญ ส่งมือขวาบ่นหลังเกม ประชดเปาเป่าดีเกิน | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 30 ต.ค. ว่า รุย ฟาเรีย มือขวาของ โชเซ มูรินโญ นายใหญ่ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์หลังเกมที่เสมอกับ เบิร์นลีย์ 0-0 โดยออกแนวประชด มาร์ค แคลตเทิร์นเบิร์ก ผู้ตัดสินในเกมนี้ว่าทำหน้าที่ได้ดีเหลือเกิน,โชเซ มูรินโญ ถูกส่งตัวขึ้นไปนั่งบนอัฒจรรย์ระหว่างเกมดังกล่าวหลังไปกล่าวหา มาร์ค แคลตเทิร์นเบิร์ก ที่ปฏิเสธจุดโทษจังหวะที่ จอน ฟลาเนแกน ไปชนใส่ มัตเตโอ ดาร์เมียน ล้มลงในเขตโทษ,กระทั่งหลังเกม โชเซ มูรินโญ ดูเหมือนจะเดือดจัดไม่ยอมมาให้สัมภาษณ์สื่อ ก่อนจะส่ง รุย ฟาเรีย มือขวาลงมาให้สัมภาษณ์พร้อมกล่าวประชดผู้ตัดสินในเกมนี้แทน,ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนะ ฟาเรีย กล่าวถึง มูรินโญ ตอนโดนไล่ มันไม่สำคัญว่าโชเซพูดอะไรหรอก สิ่งสำคัญคือผู้ตัดสินสิ่งที่ผู้ตัดสินเขียนรายงานของเขานั่นแหละ ผมคิดว่าผู้ตัดสินทำหน้าที่ได้ดีมาก (เสียงประชด) ผมจะไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้,ฟาเรีย ยังกล่าวถึงเกมดังกล่าวอีกว่า ผมคิดว่าเราต้องยินดีกับเด็กๆของเรานะ มันเป็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยม ตอนที่มี 11 คนเราก็มีเกมที่โดดเด่น สร้างสรรค์โอกาสได้มากมาย แต่มันไม่เป็นประตู,แม้ว่าจะเหลือ 10 คนแต่เราก็ควบคุมเกมได้ดี นักเตะของเราทำได้อย่างยอดเยี่ยมและเล่นด้วยความเชื่อ ทัศนคติและใจสู้อย่างยิ่ง,ผู้คนที่อยู่ในสนามน่าจะรู้สึกว่านักเตะของเราทำได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว เราสู้จนวินาทีสุดท้าย เราต้องทำงานต่อไปและจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา,บางครั้งคุณสร้างโอกาสได้เพียงสองสามครั้งแต่เป็นประตูทั้งหมด หรือคุณสร้างโอกาสได้มากมายแต่ยิงประตูไม่ได้ นี่แหละฟุตบอล | โชเซ มูรินโญ นายใหญ่ของ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่ง รุย ฟาเรีย มือขวาไปให้สัมภาษณ์หลังเกม พร้อมประชดผู้ตัดสินว่าทำหน้าที่ได้ดีเหลือเกินในเกมที่เสมอกับ เบิร์นลีย์ 0-0 เมื่อคืนนี้ | null | พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,โชเซ มูรินโญ,รุย ฟาเรีย,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/768291 |
ใบตองแห้ง: สายตรงยิ่งลักษณ์ ทำไมทำลาย30บาท | ที่เลือกพรรคเพื่อไทย เลือกข้างชัดเจน ใครจะว่าเป็นแดงก็ไม่เถียง แต่ผมก็มีจุดยืนที่เป็นอิสระ นั่นคือเลือกเพื่อไทยมาสู้กับอำมาตย์ รัฐประหารตุลาการภิวัตน์ เพื่อแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยเราไม่ได้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเพื่อให้นักการเมืองมีอำนาจ แต่เราต่อสู้เพื่อที่จะให้อำนาจทุกอำนาจตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์ได้ อยู่ใต้ประชาชน ไม่มีอำนาจแฝง ที่ใช้อำนาจโดยไม่ต้องรับผิดชอบประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องให้ประโยชน์ต่อประชาชน เหมือนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ของพรรคไทยรักไทย เป็นนโยบายสำคัญที่ทำให้ประชาชนเห็นคุณค่าของประชาธิปไตย กินได้ตั้งแต่เริ่มรัฐบาลไทยรักไทย มาจนไม่เอารัฐบาลทักษิณ วิพากษ์วิจารณ์ทักษิณ หนุนให้ไล่ทักษิณ แต่ไม่เอา ม.7 ไม่เอารัฐประหาร ต่อต้านตุลาการภิวัตน์ และวิพากษ์วิจารณ์ เหน็บแนม ลัทธิประเวศ สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม ผมก็ยังยืนหยัดสนับสนุนนโยบาย 30 บาท เพราะมั่นใจว่าให้ประโยชน์ประชาชนสูงสุด ผมโต้แย้งทั้งพวกเหลืองเกลียดทักษิณ ที่โจมตี 30 บาท แดงเกลียดหมอประเวศ ที่ต้องการให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปยึด สปสช.และองค์กร ส.ทั้งหลายผมเริ่มเข้าใจ 30 บาท ตั้งแต่ปี 2544 ที่พรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้ง เพราะไปสัมภาษณ์หมอวิทิต อรรถเวชกุล ผอ.รพ.บ้านแพ้ว องค์การมหาชน ที่ปัจจุบันเป็น ผอ.องค์การเภสัชกรรม และถูกหมอประดิษฐ์สั่ง DSI เข้ามาสอบรพ.บ้านแพ้วเป็น รพ.นำร่อง ทดลองระบบ 40 บาทรักษาทุกโรค ไม่ใช่รัฐบาล ทรท.ทดลองหรอกนะครับ แต่ทำมาตั้งแต่รัฐบาล ปชป.เพียงแต่ ปชป.ไม่มีความกล้าหาญ ปลัดประเทศไม่เคยคิดทำเรื่องใหญ่ที่เป็นการปฏิรูประบบ รพ.บ้านแพ้วทำได้ในสิ่งที่ใครก็ไม่เชื่อคือรับเงินค่าหัวต่อประชากร ดูเหมือนแค่ 800 กว่าบาทในขณะนั้น เก็บค่ารักษาครั้งละ 40 บาท แต่อยู่ได้ กำไรด้วย โอเค รพ.บ้านแพ้วมีตึกใหญ่ อุปกรณ์ทันสมัย เกิน รพ.ชุมชนทั่วไป แต่มันก็พิสูจน์ว่าถ้ารัฐบาลเพิ่มค่าหัวอีกหน่อย 30 บาทไปได้สบายๆ30 บาทเกิดจากความกล้าตัดสินใจของทักษิณ บวกกับไอเดียของหมอสงวน นิตยารัมภ์พงศ์ และความมีอุดมการณ์มั่นคง มีเครือข่ายองค์กรเป็นปึกแผ่น ของแพทย์ชนบทและเครือข่าย ลัทธิประเวศ ตลอดจนลักษณะพิเศษของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งแพทย์ ไม่ว่าชนบทหรือในเมือง อย่างน้อยก็เป็นผู้ประกอบวิชาชีพที่มีจรรยาบรรณต้องเข้าใจว่า เมื่อประชาชนเดินเข้าไปรับการรักษา โดยจ่ายเพียง 30 บาท ถ้าแพทย์ไม่มีจรรยาบรรณ ก็แจกแค่ยาแก้ปวด เหมือนใช้สิทธิประกันสังคมใน รพ.เอกชน แต่แพทย์พยาบาลส่วนใหญ่ในกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ทำอย่างนั้น ที่บางคนด่า 30 บาทว่าไม่ยอมรักษา ปัญหามักเกิดกับ รพ.เอกชนเกรดบีเกรดซี ที่มาเข้าโครงการ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ซึ่งมี รพ.รัฐน้อย แต่ในต่างจังหวัด ในชนบท มีปัญหาน้อยกว่า ที่จริงนี่เป็นจุดอ่อน ที่ทำให้คนจนเมืองได้อานิสงส์ 30 บาทด้อยกว่าคนชนบท30 บาทไม่ใช่แค่ประชานิยม แต่ยังเป็นการปฏิรูประบบ ปฏิรูปการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเดิมกระทรวงสาธารณสุขให้งบประมาณตามขนาดของ รพ.โดยไม่ดูว่า รพ.นั้นรับภาระดูแลคนไข้มากน้อยเพียงไร จังหวัดใหญ่ๆ หรือจังหวัดใกล้กรุงเทพฯ มีตึกใหญ่ มีหมอเยอะ ก็ได้งบเยอะ จังหวัดไกลๆ ทางอีสาน รพ.บ้านนอก ได้งบน้อย 30 บาทเกลี่ยงบใหม่หมด จ่ายตามรายหัวประชากร แต่การปฏิรูประบบนี้ก็เกิดแรงต้าน จากแพทย์พยาบาลใน รพ.ศูนย์ รพ.จังหวัด ซึ่งถูกตัดงบเกือบเหี้ยน ต้องไปรอ รพ.ชุมชนส่งต่อคนไข้ แล้วคิดเงินค่ารักษา ต้องจำกัดจำนวนบุคลากร ไม่รับมากเกินจำเป็น แล้วก็โวยวายกันว่าขาดทุน แต่ผลก็คือในปี 45-46 รพ.แถวอีสานที่ขาดแคลนแพทย์พยาบาลมาตลอด เพิ่งจะมีโอกาสได้เอารถบัสไปรับนักเรียนพยาบาล30 บาทยังปฏิรูประบบด้วยการจัดตั้ง สปสช.ขึ้น เป็นผู้ถืองบประมาณค่าใช้จ่ายรายหัวของประชาชน แล้วซื้อบริการจากกระทรวงสาธารณสุขและ รพ.เอกชนที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ต่างจากสวัสดิการข้าราชการ และประกันสังคม ซึ่งมีลักษณะเป็นกองทุน 3 กองทุนในประเทศไทย ที่จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับประชาชน 70 ล้านคน แล้วแต่ใครจะใช้สวัสดิการกองทุนไหนกระทรวงสาธารณสุขเปลี่ยนสภาพจากผู้ถืองบประมาณไปเป็นผู้ให้บริการ โดย สปสช.เป็นผู้ว่าจ้างและจ่ายเงินแทนประชาชน ซึ่งที่ผ่านมา เกือบ 12 ปี สปสช.ร่วมกับองค์การเภสัช ที่มีเครือข่ายหมอประเวศอย่างหมอวิชัย โชควิวัตน ไปเป็นประธานบอร์ด และหมอวิทิตเป็น ผอ.ก็สามารถบริหารจัดการซื้อยาและอุปกรณ์ต่างๆ ในราคาถูก เพียงพอต่องบประมาณค่าใช้จ่ายรายหัวก็อย่างที่ผมเคยยกตัวอย่าง สปสช.จ่ายค่าฟอกไต ให้ รพ.เอกชน 1500 บาท ขณะที่กรมบัญชีกลางยังจ่าย 2000 บาทอยู่เลย ทั้งที่เป็นหน่วยงานรัฐด้วยกัน อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เคยซื้อราคาแพง สปสช.ก็อาศัยการต่อรองเพราะซื้อจำนวนมาก (และไม่มีใต้โต๊ะ) จนซื้อได้ถูก เช่น เลนส์ตาเทียม 4-5 พันบาท ซื้อได้ 700 บาทอย่าตกใจนะครับ ราคายาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ในบ้านเรา บวกกำไรไม่รู้กี่ต่อ ลองซื้อยาตามร้านขายยาทั่วไปแล้วไปเทียบกับร้านขายยาหน้าศิริราชดูก็ได้ ไม่งั้นพวกสาวๆ ดีเทลยาคงไม่เดินเข้าหาหมอกันขวักไขว่ระหว่างผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข กับเครือข่ายหมอประเวศ ยังมีเบื้องหลังฝังใจกันอยู่ด้วย เพราะคดีทุจริตยาสมัยหมอปรากรม วุฒิพงศ์ เป็นปลัด ก็แพทย์ชนบทกับเครือข่ายหมอประเวศนี่แหละ ขุดคุ้นจนหมอปรากรมตกเก้าอี้การสถาปนา 30 บาทรักษาทุกโรค ที่เป็นทั้งสวัสดิการสังคมและการปฏิรูประบบ ในช่วงปีแรกๆ จึงเจอแรงต่อต้านอย่างหนักหน่วง ทั้งทางการเมืองจากพรรคแมลงสาบ ทั้งในกระทรวงสาธารณสุขเอง จากผู้บริหาร จากบุคลากรใน รพ.ศูนย์ รพ.จังหวัด ตลอดจนบริษัทยา แพทย์พาณิชย์ แพทยสภา แต่หมอเลี้ยบที่เป็นแม่ทัพใหญ่ในตอนนั้น ได้อำนาจเต็มจากทักษิณ ได้การสนับสนุนจากแพทย์ชนบทและเครือข่ายหมอประเวศ ตั้งแต่หมอมงคล ณ สงขลา ที่เป็นปลัดกระทรวง หมอหงวน หมอวิชัย ฯลฯ เดินหน้าผลักดันจนสำเร็จ ออก พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ ตั้ง สปสช.ขึ้น แล้วหมอเลี้ยบจึงพ้นจาก รมช.สาธารณสุขไปเป็น รมว.ไอซีทีสมัยนั้นผมสัมภาษณ์หมอเลี้ยบ 2 ครั้ง หมอหงวน และทีมแพทย์ชนบท รวมหลายครั้ง จำได้ว่าหมอเลี้ยบพูดว่าเมื่อตั้ง สปสช.มี พ.ร.บ.หลักประกัน ก็ถือว่าฝ่าด่านได้แล้ว ต่อไปนี้ใครจะมารื้อระบบก็ทำได้ยากแล้วปรากฏว่าคนที่พยายามรื้อระบบในตอนนี้คือพรรคเพื่อไทยเองที่จริงความพยายามนี้มีมาตั้งแต่สมัยเจ๊หน่อยลอยหน้าลอยตาอยู่ในกระทรวงสาธารณสุข เมื่อหมอเลี้ยบพ้นไป กลุ่มผู้บริหารที่เสียอำนาจให้ สปสช.ก็มาเกาะอยู่กับเจ๊หน่อย และเป็นกลุ่มที่พรรคเพื่อไทยใช้งานตั้งแต่วิทยา บุรณศิริ ถึงหมอประดิษฐ์ถ้าพูดให้ถึงที่สุด สำหรับนักการเมือง พวกเขาต้องการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่เอาไปหาเสียงได้ แต่ไม่ต้องการปฏิรูประบบ ถ้าจะมีกองทุน ก็ต้องเป็นแบบประกันสังคม ที่รัฐมนตรีแรงงานสั่งซ้ายหันขวาหันได้ จัดซื้อจัดจ้างได้ เอาเงินไปใช้อะไรก็ได้ (ถึงไม่ยอมรับ พ.ร.บ.ประกันสังคมฉบับประชาชนเข้าชื่อ)ฝ่ายการเมืองไม่ได้ต้องการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพ และประหยัด แต่ต้องการอะไรก็ได้ที่เหมือนจำนำข้าว 15000 ชาวนาได้เงิน แต่รั่วไหลเรี่ยราดขาดทุนไม่นับกระนั้นก็อย่าลืมว่าจำนำข้าว 15000 ชาวนาได้เงินแล้วจบนะครับ ไม่เหมือนสวัสดิการรักษาพยาบาลซึ่งสำคัญที่คุณภาพ ต้องมีบุคลากรที่มีอุดมการณ์ มีจรรยาบรรณ มีระบบบริหารจัดการที่ดีความพยายามทำลายแพทย์ชนบท และพยายามทำลายระบบ สปสช.จึงเท่ากับทำลาย 30 บาทนั่นเอง ซึ่งหมอประดิษฐ์กำลังเดินหน้าทั้ง 2 อย่าง ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตามอันที่จริง กลุ่มแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร ที่รวมตัวขับไล่หมอประดิษฐ์ จะบอกว่าเป็นเครือข่ายหมอประเวศหมดก็ไม่ใช่ แต่เนื่องจากแกนกลางของระบบสาธารณสุข อยู่ที่ สปสช.และองค์กรตระกูล ส.อีก 5 ส.ซึ่งมี สสส.ไม้เบื่อไม้เมากับผมเป็นธงนำ ล้วนก่อตั้งมาโดยการผลักดันของเครือข่ายหมอประเวศ จึงต้องตั้งประเด็นว่า ผู้รักประชาธิปไตยที่ต่อสู้รัฐประหารตุลาการภิวัตน์ ควรมีท่าทีต่อลัทธิประเวศอย่างไรแน่นอน เราเห็นกันชัดๆ ว่าหมอประเวศโดดเข้ามา ปฏิรูปประเทศไทย แบบไม่ปฏิรูปโครงสร้าง ร่วมกับอานันท์ อุ้มรัฐบาลมือเปื้อนเลือด เราเห็นกันชัดๆ ว่าหมอชูชัย ศุภวงศ์ สมัยเป็นเลขาธิการกรรมการสิทธิฯ อุ้ม อ.อมรา พงศาพิชญ์ ไปมอบตัวกับอภิสิทธิ์ถึงราบ 11 เราเห็นกันชัดๆ ว่าหมอวิชัย เอียงข้างไหนตอนเป็นกรรมการสอบสื่อ เราเห็นกันชัดๆ ว่า ทพ.กฤษดา เรืองอารีรัตน์ อดีตผู้จัดการ สสส.เดินเข้าทำเนียบไปบริจาคเงินให้พันธมิตร ฯลฯ ขณะที่หมอมงคลก็เข้าไปเป็น รมว.สาธารณสุขในรัฐบาลขิงแก่ หมอพลเดช ปิ่นประทีป ก็เข้าไปเป็น รมช.พัฒนาสังคมคนเหล่านี้มีปัญหาทัศนะประชาธิปไตย เชื่อว่าตัวเองเป็นคนดี ไม่เชื่อระบอบที่ให้ประชาชนตัดสินใจ ประชาธิปไตยไม่ได้หมายความว่ามีการเลือกตั้งแล้วให้นักการเมืองเข้ามาปู้ยี่ปู้ยำตามอำเภอใจ แต่การเลือกตั้งเป็นพื้นฐานของสิทธิประชาธิปไตย ทำให้ประชาชนมีอำนาจต่อรอง มีอำนาจตัดสินใจด้วยตัวเองอันที่จริง การที่หมอประเวศตั้งองค์กรตระกูล ส.ขึ้นมาได้ ก็อาศัยการที่ประชาชนมีอำนาจต่อรองในระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่แค่บารมีส่วนตัวของหมอประเวศ แต่มีพลังทางสังคมสนับสนุน ให้สร้างองค์กรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน (บารมีของหมอประเวศก็มาจากประชาชนนั่นละครับ)ก็เหมือนความเชื่อของหมอประเวศเรื่องชุมชนเข้มแข็ง ฝังใจกับเศรษฐกิจชุมชนจนปฏิเสธการพัฒนาทุนนิยม ซึ่งชาวบ้านเขาต้องการแต่ในอีกด้านหนึ่ง เราก็ต้องยอมรับว่า ในแนวคิดพัฒนาทุนนิยมแบบพรรคเพื่อไทย ที่มีรูโหว่เบ้อเร่ออยู่ เรื่องความเหลื่อมล้ำ กับแนวคิดแบบหมอประเวศ ที่มีรูโหว่เบ้อเร่ออยู่ เรื่องปฏิเสธทุนนิยม ถ้ามัน match กันได้ ก็คือสิ่งที่เราต้องการแบบเดียวกับประชาธิปไตยแบบเพื่อไทย ที่ถ้าปล่อยไปถึงที่สุด นักการเมืองก็ไม่ต้องการให้ประชาชนเข้มแข็ง แต่ตอนนี้พวกเขากำลังต่อสู้กับอำมาตย์เท่านั้น ส่วนหมอประเวศอยากเห็นชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งอันที่จริงเป็นรากฐานประชาธิปไตย แต่กลับไปเชียร์รัฐประหารเสียได้ฉะนั้นถ้ามองเครือข่ายหมอประเวศอย่าง 2 ด้าน สมองของพวกเขามีปัญหาเรื่องโครงสร้างส่วนบน เรื่องทิศทางของสังคม เรื่องผูกขาดความดี เชื่อแต่คนดีในพวกตัวเอง ผูกขาดองค์กรต่างๆ ไว้แต่พวกตัวเอง (เหมือนหมอพลเดชเชื่อว่าน้องสาวเดินมาสมัครงานเอง ฮิฮิ) แต่ถ้าอยู่ในฐานะกลไกที่ทำงานเพื่อประชาชน เครือข่ายหมอประเวศก็มีประโยชน์อย่างยิ่งเพราะมีพื้นฐานอุดมการณ์ ความดีความสุจริตส่วนบุคคล โดยเฉพาะในการทำงานด้านสาธารณสุขการจัดการกับเครือข่ายหมอประเวศจึงไม่ใช่การทำลาย แต่ต้อง กด ไว้ไม่ให้มาเคลื่อนไหวทางการเมือง ทางสังคม ที่จะกลายเป็นปฏิปักษ์ประชาธิปไตย ขณะเดียวกันก็สนับสนุนและผลักดันเต็มที่ในการเป็นกลไกของนโยบายรัฐเพื่อผลประโยชน์ประชาชนพูดอย่างนี้ไม่ใช่ผมด่าลัทธิประเวศแล้วมากลับกลอก แต่ต้องแยกแยะเป็นเรื่องๆ ถ้านักการเมืองจะเข้าไปทำลายระบบ สปสช.ผมไม่เอากับนักการเมืองแน่ ผมด่า สสส.แต่ถ้าฝ่ายการเมืองฮุบ สสส.ก็คงวิบัติฉิบหาย แนวทางที่ควรจะเป็นคือต้องให้พลังทางสังคม ตัวแทนประชาชนที่หลากหลายขึ้น เข้าไปคานอำนาจระหว่างการเมืองข้างหนึ่ง หมอประเวศข้างหนึ่ง ไม่ให้ใครผูกขาดได้แล้วที่ยืนเรียงแถวอยู่กับหมอประดิษฐ์เพื่อร่วมกันกระทืบแพทย์ชนบทและเครือข่ายหมอประเวศก็คือ ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข กับแพทย์ รพ.ศูนย์ รพ.จังหวัด ซึ่งต่อต้าน 30 บาทมาตลอด และไม่ใช่เสื้อแดงที่ไหน สลิ่มถมไป นอกจากนี้ยังมีแพทย์พาณิชย์ แพทยสภา รพ.เอกชน และบริษัทยา ที่จ้องตาไม่กระพริบ เลียปากแผล็บๆพูดหยาบๆ ก็บอกได้ว่าไม่มีใครแม่-อยู่ที่ราชประสงค์ซักคนขณะเดียวกันยังมีเซอร์ไพรส์ ที่สื่อส่วนใหญ่ ในสื่อกระแสหลักซึ่งเชียร์รัฐประหารตุลาการภิวัตน์หน้ามืดตามัว กลับเต้นตามหมอประดิษฐ์เสียนี่ ไม่รู้มีบริษัท PR ดีอยู่ในกระทรวง (ฮิฮิ) หรือเป็นอย่างที่ผมเคยทักท้วง สสส.ว่าดันให้งบสถาบันอิศราไปอบรมผู้บริหารสื่อ โดยเอาพวกแพทยสภา แพทย์พาณิชย์ ตัวแทนบริษัทยา เข้ามาอบรมด้วย ทำให้พวกนี้เข้าถึงสื่อ ล็อบบี้ยิสต์ของแพทย์พาณิชย์บางคน ไม่ต้องทำงานทำการอะไร วนเวียนอยู่แถวสภา สร้างสัมพันธ์กับข่าว เจ็บไข้ได้ป่วยหาโรงพยาบาลให้ นี่ยังไม่นับหนังสือพิมพ์หัวม่วงที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับหมอมงคลมาตั้งแต่สมัยเป็นเลขา อ.ย.แล้วขยายเรื่องเฉพาะตัวมาต่อต้านแพทย์ชนบททุกเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องที่เขาทำประโยชน์ให้ประชาชน เล่นข่าวถล่มองค์การเภสัชฯ ปูพื้นให้หมอประดิษฐ์ลาก DSI มาเล่นงานหมอวิทิตเรื่องสอบหมอพิพัฒน์นี่ไม่ใช่รัฐประหารกลั่นแกล้งนะครับ เพราะหลังถูกแพทย์ชนบทโวยว่ามีการล็อกสเปก คนที่เข้ามาปลดล็อกคือ น.พ.สุชัย เจริญรัตนกุล รมว.สาธารณสุข ที่ค่อนแคะกันว่าเป็นหมอแม่ยายทักษิณนั่นแหละหมอประดิษฐ์กำลังจะทำลาย 30 บาทใน 2 ด้านคือทำลายระบบที่ สปสช.กุมงบประมาณ กำหนดราคายาและค่ารักษาพยาบาล กับทำลายความเข้มแข็งของแพทย์ชนบท ซึ่งเป็นด่านหน้าของ 30 บาทตั้งแต่ยุควิทยา บุรณศิริ ฝ่ายการเมืองเข้ามายึดอำนาจในบอร์ด สปสช.ร่วมกับแพทย์พาณิชย์ มีเสียงข้างมากจนทำให้ผู้แทนภาคประชาชนฝ่ายต่างๆ กลายเป็นเสียงข้างน้อย อันที่จริง ตอนนั้น ฝ่ายการเมืองจะเปลี่ยนตัวเลขา สปสช.จาก นพ.วินัย สวัสดิวร แต่มีกระแสต้านแรง จึงต่อรองให้ นพ.วินัยเป็นต่อ แต่ให้ตั้งรองเลขาเพิ่ม 2 ตำแหน่ง ซึ่งผลการคัดเลือกก็ได้ นพ.อรรถสิทธิ์ กาญจนสินิทธิ์ กับ น.พ.สัมฤทธิ์ ศรีธำรงสวัสดิ์ รายแรกเป็นอดีต ส.ส.ไทยรักไทย เข้า สปสช.ไปโดยที่พนักงานใส่ชุดดำต้อนรับจากนั้นหมอ ประดิษฐ์ก็ประกาศนโยบาย พวงบริการ อ้างว่าจะรวมโรงพยาบาล 5-6 จังหวัดในพื้นที่ใกล้เคียงกันเข้าเป็นพวงบริการ แต่ละพวงดูแลประชากรราว 5 ล้านคน มีประโยชน์ที่สามารถจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์รวมกัน แบ่งปันทรัพยากรและสถานที่ แต่ขณะเดียวกันก็จะปรับวิธีการจ่ายเงินของ สปสช. จากเดิมที่ รพ.เบิกจาก สปสช.เอง แต่ปี 57 นี้จะโอนงบไปยังเขตบริการทั้ง 12 เขต ให้ผู้ตรวจราชการ สธ.ควบคุมดูแลถามว่าผมเชื่อ สปสช.มากกว่าผู้ตรวจไหม ใช่ทั้งโดยตัวบุคคลและระบบ บอกแล้วว่าในความดีความสุจริตส่วนบุคคล เครือข่ายหมอประเวศที่เป็นอิสระเชื่อถือได้มากกว่าข้าราชการที่อยู่ใต้อำนาจการเมือง แต่ สปสช.โดยตัวระบบก็มีคณะกรรมการชุดต่างๆ ที่กำหนดราคากลาง ทั้งราคายาและค่ารักษาพยาบาล ซึ่งมีตัวแทนภาคประชาชน เครือข่ายผู้ป่วยต่างๆ เข้าไปอยู่ด้วย มีการตรวจสอบอำนาจ ไม่ใช่มอบให้ผู้ตรวจคนเดียวบางเรื่องที่กระจายไปให้ รพ.จัดซื้อจัดจ้างเอง เขาก็มีระบบของ รพ.ซึ่งการเมืองเข้าไปแทรกแซงได้ยาก มีการเปรียบเทียบราคา ใครซื้อได้ถูกกว่า แพงกว่า แต่นี่ รพ.กำลังจะถูกรวบอำนาจจัดซื้อไปไว้ที่ผู้ตรวจคนเดียวในภาพรวม นี่เป็นการทำลายระบบซึ่งให้ สปสช.เป็นตัวแทนผู้ใช้บริการ กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ให้บริการ มีการตรวจสอบและคานซึ่งกันและกัน สปสช.ตรวจสอบคุณภาพ ต่อรองราคา สธ.ก็ตรวจสอบควบคุมคุณภาพ ร.พ.ในสังกัดตัวเองและเสนอราคาสังคมทั่วไปยังไม่เข้าใจการแยกและคานอำนาจนี้ ยังคิดว่าเป็นระบบเดิมซึ่งกระทรวงสาธารณสุขดูแลทุกอย่าง ในด้านแพทย์ชนบท นอกจากการวางแผนขั้นบันไดยกเลิกเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย อย่างที่ผมเขียนไปแล้ว ยังมีปัญหา P4P ที่จะสร้างความปั่นป่วนไม่ว่าหมอในเมืองหรือหมอชนบทกรณีเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย หมอประดิษฐ์ใช้วิธีพูดตบตาประชาชน เช่นยกตัวอย่าง รพ.บางบัวทอง ไม่ได้เป็นชนบทแล้ว แต่มีสักกี่ รพ.ที่เป็นอย่างบางบัวทอง และอันที่จริง ชมรมแพทย์ชนบทไม่ได้ติดใจตรงนี้ พวกเขายินดีให้ปรับ รพ.บางส่วนเป็น รพ.ชุมชนเมือง ประเด็นที่เหมือน ตบหัว กันอย่างแรง ก็คือการยกเลิกเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายที่เพิ่มให้แพทย์ที่ทำงานเกิน 20 ปี ไม่เว้นแม้แพทย์ใน รพ.กันดาร ซึ่งเท่ากับแสดงท่าทีไม่แยแสหมอที่อุทิศตัวอยู่ในชนบทเกิน 20 ปี ทำนองว่าพวกเมริงไม่มีปัญญาไปไหนรอด ยังไงก็ไม่ลาออกอันที่จริง กรณีนี้ แพทย์ชนบทเองก็มีจุดอ่อน คือมีปัญหาท่าทีที่แข็งกร้าวกับแพทย์ใน รพ.ศูนย์ รพ.จังหวัด การขอเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายในสมัยออเหลิม แพทย์ชนบทได้ฝ่ายเดียว แม้สมควรได้มากกว่า แต่ก็ยิ่งตอกลิ่มความขัดแย้งที่มีมาตั้งแต่เริ่มต้น 30 บาท นอกจากนี้ เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายของพยาบาล ก็ได้น้อยมากเมื่อเทียบกับหมอ จะสังเกตได้ว่าพยาบาลส่วนใหญ่ไม่ออกมาม็อบ กระนั้นสิ่งที่ควรสร้างความเป็นธรรมก็คือการเพิ่มเบี้ยเหมาจ่ายให้พยาบาลและแพทย์ในเมืองในจังหวัด ไม่ใช่หันมาใช้ P4Pแต่สังเกตไหมครับว่าครั้งนี้ ทันตแพทย์ ฮือออกมาไล่หมอประดิษฐ์อย่างแข็งขัน สาเหตุก็เพราะ P4P นั่นเอง หมอประดิษฐ์กับ สธ.รู้จักพูดว่า เป็นการจ่ายตามผลงาน ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย สังคมก็คล้อยตาม ผมฟังตอนแรกยังเขียนไปว่าน่าจะเอามาผสมผสานได้ เพราะคิดว่าเป็นระบบแบบ รพ.เอกชน ที่หมอตรวจที ได้ 500-1000 นับหัวกันไป แต่ที่ไหนได้ หมอฟันที่รู้จักกันโทรมาด่าให้ฟังระยับ เขาอธิบายว่ามันคือระบบจู้จี้จุกจิก เห็นหมอพยาบาลเป็นกรรมกรในโรงงานนรก ซอยแต้มย่อยยิบ ว่าทำอย่างนั้นอย่างนี้ได้กี่แต้ม เฉพาะของทันตแพทย์ มีบัญชี 400 กว่าประเภท ทำอะไรให้จดไว้หมด ขูดหินปูนกี่แต้ม ถอนฟันกี่แต้ม ฉีดยาชากี่แต้ม ตัดไหมกี่แต้ม ที่สำคัญคืองานด้านป้องกันกลับให้แต้มน้อยมาก ทั้งที่ควรให้ความสำคัญนพ.วชิระ บถพิบูลย์ อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท ให้สัมภาษณ์โต้คณบดีศิริราชที่สนับสนุน P4P ว่าระบบที่ศิริราชใช้และอ้างว่าสามารถดึงแพทย์พยาบาลไม่ให้สมองไหล อันที่จริงคล้ายกับเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายมากกว่า แต่ P4P ที่กระทรวงสาธารณสุขเอาใช้นี้ ขอยกตัวอย่างพยาบาล เช่น พยาบาลพลิกตัวคนไข้ได้ 0.3 แต้ม ฉีดยา 0.5 แต้ม เช็ดตัว 1 แต้ม ส่งต่อผู้ป่วย 40 แต้ม CPR ได้ 25 แต้ม เป็นต้นนี่มันไม่ใช่ระบบที่เหมาะกับงานสาธารณสุข ซึ่งการตรวจวินิจฉัยโรคเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คุณบอกไม่ได้หรอกว่าตรวจคนไข้ 2 คนได้แต้มเท่ากัน ยิ่งทันตแพทย์ยิ่งมีปัญหามาก เพราะงานทันตกรรมเป็นงานฝีมือ ทำช้าทำเร็วแล้วแต่ความเชี่ยวชาญ แล้วแต่ปัญหาของคนไข้ อะไรนิดอะไรหน่อยก็ให้บันทึกแต้มไว้ คนเขาจะทำงานนะครับ ถ้าต้องล่าแต้มแลกเงินอย่างนี้ สะบัดก้นไปอยู่เอกชนดีกว่าไม่ใช่แค่แพทย์ชนบท ตอนนี้หมอในเมืองอาจสะใจที่เห็นแพทย์ชนบทดิ้นพล่าน แต่ต่อๆ ไป พวกหมอในเมืองก็จะรำคาญเหมือนกันถ้าจะวางระบบจ่ายตามผลงาน วัดการทำงานจริง ก็ไม่จำเป็นต้องจุกจิกเหมือนจับผิดอย่างนี้ ก็นับรวมเวลาไปสิ หรือกลัวคนงานจะอู้ประเด็นนี้ผมไม่คิดว่าหมอประดิษฐ์จงใจ แต่ไม่เข้าใจ (เพราะไม่เคยเป็นหมอ เคยแต่คุมคนงาน) เรื่องเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายก็อาจฟังแต่เพื่อนหมอในเมืองที่ตาร้อนผ่าวกับเบี้ยเลี้ยงแพทย์ชนบท ไม่ตระหนักว่ามันคือระบบที่สามารถดึงแพทย์รุ่นใหม่ๆ ไปอยู่ รพ.ชุมชน ซึ่งเป็นด่านหน้าของระบบรักษาพยาบาล การยกเลิกแล้วเอา P4P ไปใช้ไม่ใช่แค่สมองไหลแต่ไล่สมองแต่ในภาพรวมการรุกทุกด้าน แสดงท่าทีฝ่ายการเมืองที่ต้องการกุมอำนาจ กุมงบประมาณ และต้องการข้าราชการที่สั่งได้ มากกว่าคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ประชาชนได้รับ ซึ่งน่าประหลาดใจว่านี่คือหมอประดิษฐ์ สายตรง ยิ่งลักษณ์ จนเห็นได้ว่า แม้จะถูกแพทย์ชนบททั่วประเทศติดป้ายขับ ในพรรคก็ไม่มีแรงกระเพื่อมแม้แต่น้อยศึกนี้ยืดเยื้อแน่ เพราะหมอประดิษฐ์มาสายตรง ขณะที่แพทย์ชนบทก็ไม่เคยกลัวใคร อยู่ที่ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทย ว่าจะกล้าทำลายนโยบายที่เป็นมรดกล้ำค่าที่สุดของพรรคไทยรักไทยหรือไม่ ยิ่งกว่านั้น ถ้าไม่ถอย ก็จะกระทบขบวนใหญ่ ที่ต้องไปรบกับศาลรัฐธรรมนูญ กับพรรคแมลงสาบ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและนิรโทษกรรม ใบตองแห้ง 24 เม.ย.56 | แพทย์ชนบท ทันตแพทย์ภูธร เภสัชกรชนบท กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ จะรวมตัวกันขับไล่ น.พ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ในวันนี้ ถึงแม้ข้อกล่าวหาบางข้อเว่อร์ไปบ้าง แต่ผมขอชูมือสนับสนุน ทั้งๆ | การเมือง,คุณภาพชีวิต,สังคม | 30 บาทรักษาทุกโรค,P4P,ชมรมแพทย์ชนบท,ประดิษฐ์ สินธวณรงค์,สาธารณสุข,สุขภาพ,เครือข่ายประเวศ,เบี้ยขยัน,ใบตองแห้ง-ออนไลน์ | https://prachatai.com/journal/2013/04/46367 |
สรรพากร มั่นใจชนะคดีภาษีหุ้นชิน | วันนี้ (28 เม.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครบกำหนด 30 วัน ตามระยะเวลายื่นอุทธรณ์ประเมินภาษีจากการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น ของนายทักษิณ ชินวัตร กว่า 17600 ล้านบาท หลังสรรพากรพื้นที่ภาค 3 ปิดประกาศแจ้งการประเมินที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2560นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า สรรพากรพื้นที่รายงานว่าทีมกฎหมายของนายทักษิณ ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีแล้ว เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2560 โดยกรมฯ ไม่ได้ตั้งทีมต่อสู้คดีเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากต้องการดำเนินการตามขั้นตอนและระเบียบวิธีปฏิบัติปกติ แม้คดีนี้มีความซ้ำซ้อนและมูลค่าเรียกเก็บสูงก็ตามรายงานจากกระทรวงการคลัง ประเมินว่า กรมสรรพากรมีโอกาสชนะหรือแพ้คดีนี้ มีสัดส่วนพอ ๆ กัน เนื่องจากการใช้กฎหมายมาตรา 61 แห่งประมวลรัษฎากร มาแจ้งประเมินภาษีตัวแทนและตัวการไม่เคยปรากฎมาก่อน อีกทั้งไม่เคยมีคำพิพากษาของศาลในอดีตรองรับขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายขั้นสูงให้ความเห็นว่ากฎหมายดังกล่าว สามารถดำเนินการเรียกประเมินได้โดยไม่ต้องออกหมายเรียกแม้มีประเด็นโต้แย้งอยู่บ้าง จึงสมควรให้ศาลใช้ดุลพินิจตัดสินและสร้างบรรทัดฐานการใช้ช่องทางกฎหมายดังกล่าว รวมทั้งเป็นบทเรียนข้าราชการและนักการเมืองในคดีที่ใช้นิติกรรมอำพรางซ้ำซ้อนเพื่อหลบเลี่ยงภาษีในอนาคตด้วย | กระทรวงการคลัง ประเมินโอกาสชนะหรือแพ้คดีภาษีหุ้นชินคอร์ป มีสัดส่วนพอๆ กัน โดยมีเวลาพิจารณาภายใน 2 ปีตามระเบียบปฏิบัติปกติ หลังทีมกฎหมายนายทักษิณ ชินวัตร ยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีซื้อขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น | สังคม | สรรพกร,คดีภาษีหุ้นชินคอร์ป,ทักษิณ ชินวัตร,กระทรวงการคลัง,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/262008 |
สุเทพ พลิ้วไม่เคยหนุน บิ๊กตู่ นั่งนายกฯต่อ ยันไม่ตั้งพรรคนาม กปปส. | เมื่อวันที่ 21 พ.ค.61 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) กล่าวถึงกรณีมีบุคคลอ้างชื่อกลุ่ม กปปส.นัดชุมนุมเพื่อแสดงออกว่าไม่อยากเลือกตั้งในวันที่ 27 พ.ค.นี้ ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียว่า ตนและแกนนำ กปปส.ไม่มีความคิดว่าไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง โดยบทบาทของ กปปส.ยุติตั้งแต่ คสช.เข้าควบคุมสถานการณ์ในวันที่ 22 พ.ค.57 อีกทั้ง กปปส.เคารพรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้มีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จุดยืนชัดเจนว่าเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.ดำเนินการให้มีการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ขอตั้งข้อสังเกต โดยเห็นว่ามีผู้พยายามสร้างสถานการณ์เพื่อไม่ให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น กลุ่มหนึ่งคาดคิดว่าหากมีการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ อาจจะทำให้ฝ่ายรัฐบาล คสช.ได้เปรียบในการเลือกตั้ง จึงคิดเอาเองว่าหากทำให้การเลือกตั้งยืดออกไป หรือไม่เกิดขึ้นจะทำให้ภาพลักษณ์ของ คสช.ตกต่ำลง และยิ่งนานเท่าไรภาพลักษณ์ของ คสช.จะตกต่ำมากขึ้น จึงพยายามหลายวิธีการไม่ให้เลือกตั้ง โดยบางฝ่ายทำท่าทีว่าอยากให้มีการเลือกตั้ง แต่เป็นการยั่วยุให้เกิดปัญหาจน คสช.ไม่อาจจัดการเลือกตั้งได้ จึงขอฝากไปถึงคนกลุ่มนี้ว่าหากอยากให้มีการเลือกตั้งให้อยู่เฉยๆ ก็จะมีการเลือกตั้งได้,นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ยังมีกลุ่มคนที่คิดเลยเถิดไปถึงขั้นให้มีรัฐบาลแห่งชาติ แล้วไม่ต้องมีการเลือกตั้ง ซึ่งทั้งสองความคิดนี้ไม่ใช่ของ กปปส. เพราะเราไม่ต้องการให้ประเทศเกิดภาวะดังกล่าว ตนทราบว่า กปปส.เป็นผู้รักชาติ รักแผ่นดิน จึงขอใช้โอกาสนี้ฝากไปถึงมวลชน กปปส.ติดตามสถานการณ์การเมืองด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังอย่าตกเป็นเครื่องมือให้ฝ่ายใดทั้งสิ้นที่ไม่จริงใจกับระบอบประชาธิปไตย ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ ไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง เชื่อว่า ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือเดินหน้าตามโรดแม็ปก็จะช่วยให้ประเทศผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อไปได้ ดังนั้นจะไม่มีการชุมนุมใดๆ ของกปปส.ที่จะทำให้เกิดความยุ่งเหยิงต่อบ้านเมืองมากไปกว่านี้ ทั้งนี้เชื่อว่าหลังตนแถลงข่าวนี้ จะสามารถยุติการชุมนุมในวันที่ 27 พ.ค.นี้ได้ เพราะเชื่อว่าประชาชนไว้ใจตนว่าสิ่งที่ตนพูดและตัดสินใจเป็นการตัดสินใจตามความคิดเห็นของ กปปส.ส่วนใหญ่ โดยไม่ต้องการให้เกิดเหตุม็อบชนม็อบ ที่จะทำให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง ดังนั้นไม่ว่าใครก็ตามที่สร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดการแตกแยกในหมู่ประชาชนล้วนเป็นคนที่ทำบาปต่อแผ่นดินทั้งสิ้น,ส่วนที่จะมีการเลือกตั้ง ก.พ.ปี 62 นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นการคาดการณ์บนพื้นฐานของความจริง คือการเตรียมการด้านกฎหมายต่างๆ ความพร้อมที่จะจัดการเลือกตั้งทั่วไป เหตุสุดวิสัยอาจจะมีได้ แต่ต้องเป็นเหตุสุดวิสัยที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ซึ่งขณะนี้ยังไม่เห็นเหตุสุดวิสัยที่ต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ทั้งนี้ที่ผ่านมาไม่เคยพูดว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ คนต่อไป เพียงแต่สนับสนุนให้ท่านทำหน้าที่นายกฯ ในขณะนี้ให้สมบูรณ์ ทั้งนี้ในส่วนของกลุ่ม กปปส.ยืนยันว่า จะไม่ตั้งพรรคการเมืองในชื่อของ กปปส.และบรรดาแกนนำ กปปส.หลักที่เป็นนักการเมืองกลับสู่พรรคการเมืองของตนเองแล้ว มีเพียงตนที่ไม่ได้กลับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ถ้าประชาชนคิดตั้งพรรคการเมืองและมีอุดมการณ์ ความคิดในทิศทางเดียวกับที่ตนคิด ก็อาจจะไปร่วมกับประชาชนด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่มี สำหรับ 4 ปีที่ คสช.บริหารประเทศ ก็เห็นว่าได้ช่วยทำให้สถานการณ์สงบสุข ขณะเดียวกัน คสช.มีความตั้งใจปฏิรูปประเทศ ซึ่งหลายเรื่องตรงกับเจตนารมณ์ของประชาชน เช่น การปฏิรูปตำรวจ แม้ว่าหลายอย่างจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ก็ตาม แต่ถือว่าพอรับได้เพราะดูที่เจตนาที่ตั้งใจทำ และมีการเริ่มต้นโดยกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญปัจจุบันแล้ว | สุเทพ ยัน กปปส.ไม่นัดชุมนุมไม่อยากเลือกตั้ง ชงสังเกต 2 กลุ่ม 2 แนวคิด เตือน ปชช.อย่าตกเป็นเครื่องมือ พลิ้วไม่ตั้งพรรคชื่อ กปปส.แต่พร้อมหนุนพรรคอื่น ถ้าอุดมการณ์ตรงกัน | เลือกตั้ง | สุเทพ เทือกสุบรรณ,กปปส.,มปท.,เลือกตั้ง,นายกฯ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1287734 |
หนุ่มใหญ่อุบลฯ บุกยิงแฟนเด็กดับคาบ้านเพื่อน เหตุปันใจไปรักหญิงอื่น | วันที่ 9 พ.ค. 62 ร.ต.อ.ประกรรษวัต เณรแขก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายในบ้านเลขที่ 30 บ้านข่าโคม ต.ปะอาว พร้อมด้วย พ.ต.ท.พรศักดิ์ เหลือนาค รองผู้กำกับสอบสวน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิจีการกุศลจีตัมเกาะอุบลราชธานี รุดไปยังที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านแบบชั้นเดียวหลังคาสูง โดยจุดเกิดเหตุเป็นห้องนอน พบศพผู้ตาย คือ ชายอายุ 18 ปี เป็นเพื่อนกับลูกชายเจ้าของบ้าน มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนพกสั้นที่บริเวณขมับขวา 1 นัด,จากการสอบสวนเจ้าของบ้านซึ่งเป็นแม่เพื่อนคนตาย ทราบว่า ระหว่างนั่งกินข้าวเช้าอยู่ที่แคร่กลางบ้าน นายวีระพงษ์ อายุ 31 ปี ชาวบ้านดอนชี ต.หนองขอน อ.เมืองอุบลราชธานี ห่างจากหมู่บ้านของตนประมาณ 1-2 กิโลเมตร ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีขาวมาจอดที่หน้าบ้าน และเดินเข้ามาถามหาลูกชาย ตนจึงตะโกนเรียกและบอกว่ายังนอนอยู่ในห้องกับเพื่อนๆ นายวีระพงษ์ จึงเดินเข้าไปในห้อง ก่อนให้ลูกชายและเพื่อนรวม 3 คนออกมาจากห้อง โดยให้เหตุผลว่าต้องการพูดคุยกับผู้ตาย เพื่อปรับความเข้าใจ หลังมีเรื่องทะเลาะกัน,จากนั้นลูกชายของตน และเพื่อนในหมู่บ้านที่มานอนพักด้วยกัน ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปเติมน้ำมัน พักเดียวก็ได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงปืน 1 นัด ก่อนที่นายวีระพงษ์ จะเดินออกมาจากห้อง จึงถามว่าเสียงอะไร ซึ่งนายวีระพงษ์ก็บอกว่าเป็นเสียงประทัด ก่อนเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์ขับออกไป ตนจึงลุกเข้าไปดูในห้องนอนเกิดเหตุ พบคนตายนอนเอาผ้าห่มคลุมโปง เมื่อดึงผ้าห่มออกก็พบว่าถูกยิงเสียชีวิต จึงตะโกนเรียกคนในบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่มาดูที่เกิดเหตุ,นอกจากนี้ จากการสอบถามจากกลุ่มเพื่อนคนตายที่อยู่ด้วยกันทราบว่า มือปืนกับคนตายได้คบหาเป็นแฟนกันแบบชายรักชายมานานกว่า 1 ปี แต่ระยะหลังผู้ตายต้องการเลิกกับมือปืน เพราะไปติดพันหญิงสาวคนหนึ่ง ทำให้นายวีระพงษ์โกรธแค้นถึงกับเคยส่งข้อความผ่านเฟซบุ๊กมาบอกคนตายว่า ,เมื่อเราไม่มีความสุข ก็อย่าหวังจะมีความสุขเช่นกัน, ก่อนจะมาก่อเหตุขึ้น,ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้รับการติดต่อจาก บิดาของมือปืนที่บ้านดอนชีว่า ลูกชายที่ก่อเหตุโทรศัพท์มาบอกจะขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ในเร็วๆ นี้ ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุขึ้นทางครอบครัวไม่ทราบ เพราะลูกชายไม่ได้กลับเข้าบ้านมานานแล้ว หลังเคยมาบอกว่าชอบผู้ชายด้วยกัน ทำให้ครอบครัวรับไม่ได้ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งพ่อของมือปืนให้บอกลูกชาย ยินดีให้ความเป็นธรรม และหากรีบเข้ามอบตัว ก็จะได้รับความเมตตาจากศาล อย่ารอให้เจ้าหน้าที่ต้องติดตามจับกุมได้ในภายหลัง. | เกิดเหตุ หนุ่มใหญ่อุบลฯ บุกยิงแฟนเด็กดับคาบ้านเพื่อน สาเหตุปันใจไปรักหญิงอื่น ด้านพ่อผู้ก่อเหตุเผย ลูกชายจะขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ในเร็วๆ นี้ | ข่าว,ทั่วไทย | บุกยิง,ชายรักชาย,ยิงแฟนหนุ่ม,ยิงแฟน,อุบลราชธานี | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1564021 |
เสถียรธรรมสถาน เตรียมเปิดแคมปัสที่ 2 หุบเขาโพธิสัตว์ ที่เพชรบุรี | เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2562 แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน กล่าวว่า หลังจากที่ได้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถานมาแล้วกว่า 33 ปี ได้แสดงให้โลกเห็นว่า เมื่อผู้หญิงเข้ามาบวชแล้วสามารถทำอะไรให้กับสังคมโลกได้บ้าง ซึ่งที่ผ่านมาเสถียรธรรมสถานได้ทำโครงการต่างๆ มากมาย เพื่อช่วยให้คนพ้นทุกข์ และในโอกาสที่ตนกำลังจะก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 4 ในการเข้ามาบวชเป็นแม่ชี จึงได้มีโครงการสร้างเสถียรธรรมสถานแห่งที่ 2 ขึ้นที่แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวแวดล้อมด้วยหุบเขา พร้อมทั้งจะมีการอัญเชิญพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ขนาดใหญ่ไปประดิษฐาน และจะมีการจัดสร้างสถูปขนาดใหญ่ ในพื้นที่เสถียรธรรมสถาน 2 ดังนั้นจึงเรียกพื้นที่นี้ในอีกชื่อหนึ่งว่า หุบเขาโพธิสัตว์ สำหรับพระอารยตารามหาโพธิสัตว์นี้ เป็นพระโพธิสัตว์ในร่างสตรีของพุทธศาสนา นิกายวัชรยาน ที่ชาวทิเบตนับถือ ดังเช่นที่ชาวพุทธนิกายมหายานนับถือพระโพธิสัตว์กวนอิม หรือเจ้าแม่กวนอิม ,แม่ชีศันสนีย์ กล่าวด้วยว่า เสถียรธรรมสถาน 2 นี้ มีความคืบหน้าไปมาก โดยจะใช้ช่วงวันอาสาฬหบูชา 16 ก.ค. และเข้าพรรษา 17 ก.ค. เปิดตัวสถานที่แห่งนี้อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมปลูกป่า ปลูกชีวิต และในวันที่ 18 ก.ค. จะมีการบวชแม่ชี ทั้งนี้เป้าหมายของการสร้างเสถียรธรรมสถานแห่งที่ 2 นี้ ต้องการให้เป็นพื้นที่ ปลูกป่า ปลูกชีวิต ปลูกหัวใจโพธิสัตว์ ถวายเป็นพุทธบูชา โดยปลูกป่า คือ สร้างกายภาพให้แข็งแรง มีป่าอันอุดม บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญา ส่งเสริมให้เกิดการบรรลุธรรม ปลูกชีวิต คือ กินดี อยู่ดี ทำอย่างไรไม่ป่วย ด้วยอาหารที่ปลอดสารพิษปนเปื้อน ช่วยให้มีร่างกายแข็งแรง พึ่งตนเองได้ และปลูกหัวใจโพธิสัตว์ ช่วยให้มีจิตใจที่สงบเย็น และเป็นประโยชน์ต่อสรรพชีวิต รวมทั้งจะเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียง เป็นพื้นที่ปลอดขยะด้วย | แม่ชีศันสนีย์ เผย เสถียรธรรมสถาน มีโครงการสร้างแห่งที่ 2 ขึ้นที่แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ชื่อ หุบเขาโพธิสัตว์ โดยอัญเชิญพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ขนาดใหญ่ไปประดิษฐาน พร้อมจัดสร้างสถูปขนาดใหญ่ | ข่าว,ทั่วไทย | แม่ชีศันสนีย์,แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต,เสถียรธรรมสถาน,เสถียรธรรมสถาน 2,หุบเขาโพธิสัตว์,อ.แก่งกระจาน,เพชรบุรี,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1600813 |
ซู จี ถูกริบรางวัลเกียรติยศด้านเสรีภาพ ชิ้นที่ 7 | วันนี้ (23 ส.ค.2561) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะกรรมการนครเอดินเบรอะเตรียมพิจารณาเพิกถอนรางวัลเสรีภาพแห่งเอดินเบรอะที่เคยมอบให้แก่ออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา เมื่อปี 2548 เพื่อยกย่องในการยืนหยัดเพื่อสันติภาพและประชาธิปไตยในเมียนมา หลังจากถูกทหารกักบริเวณในบ้านพักในช่วงเวลานั้นความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากประธานคณะกรรมการส่งจดหมายเรียกร้องให้ ซู จี เคลื่อนไหว เพื่อเปิดทางให้ชาวโรฮิงญาเดินทางกลับภูมิลำเนาในรัฐยะไข่ได้อย่างปลอดภัย แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งรางวัลเกียรติยศดังกล่าวถือเป็นรางวัลที่ 7 ที่องค์กรต่างๆ ประกาศเพิกถอน หรือประกาศให้เป็นโมฆะ เนื่องจาก ซู จี ปฏิเสธและหลีกเลี่ยงที่จะต่อสู้เพื่อชาวโรฮิงญาก่อนหน้านี้ ซู จี กล่าวต่อที่ประชุมในสิงคโปร์ถึงภัยคุกคามจากการก่อการร้ายในรัฐยะไข่ของเมียนมา ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อภูมิภาค แต่หลีกเลี่ยงการใช้คำว่าโรฮิงญาในการกล่าวถึงกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มนี้ ซึ่งนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ชาวโรฮิงญามากกว่า 700000 คน อพยพหนีความรุนแรงในรัฐยะไข่ไปยังบังกลาเทศขณะที่งานวิจัยชิ้นใหม่ของ Save the Children ชี้ว่า เด็กชาวโรฮิงญาที่หนีความรุนแรงเข้าไปยังบังกลาเทศโดยไม่มีพ่อแม่เดินทางไปด้วย ซึ่งครึ่งหนึ่งของเด็กทั้งหมด กลายเป็นเด็กกำพร้าจากเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น ขัดแย้งกับการศึกษาชิ้นเดิมที่ระบุว่า เด็กและพ่อแม่พลัดพรากจากกันในระหว่างการอพยพและอาจจะได้กลับมาพบกันในอนาคตด้านเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือที่ทำงานในค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเด็กมากกว่า 6000 คน ที่ไม่ได้พบหน้าพ่อแม่อีกนับตั้งแต่อพยพมายังค่ายแห่งนี้ ซึ่งเด็กบางส่วนข้ามพรมแดนมาด้วยตัวเอง ก่อนจะไปอาศัยอยู่กับญาติ หรือเพื่อนบ้านภายในค่ายผู้อพยพ ขณะที่ส่วนหนึ่ง ระบุว่า ได้เห็นพ่อแม่ของตัวเองถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม | ออง ซาน ซู จี จะถูกยึดรางวัลเกียรติยศด้านสันติภาพ เพิ่มอีก 1 รางวัล หลังจากไม่ยอมเคลื่อนไหวเพื่อช่วยเหลือชาวโรฮิงญาและแสดงท่าทีไม่ยอมรับสถานะชาวโรฮิงญาในฐานะประชากรส่วนหนึ่งของเมียนมา | ต่างประเทศ | ซู จี,ออง ซาน ซู จี,เมียนมา,รางวัลเสรีภาพ,สันติภาพ,รัฐยะไข่,โรฮิงญา,บังกลาเทศ,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/274160 |
กกต. ยกคำร้องปมถือหุ้นสื่อ 3 ส.ส. เสรีรวมไทย ส่วนอีก 3 รอคำวินิจฉัยศาล รธน. | กกต. ยกคำร้องปมถือหุ้นสื่อ 3 ส.ส. พรรคเสรีรวมไทย ชี้บริษัทสิ้นสภาพก่อนสมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังมีอีก 3 ส.ส. ที่ต้องรอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ18 มี.ค. 2563 รายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.ที่ 24/2563 เรื่องการเลือกตั้ง ส.ส.แบ่งเขตเลือกตั้ง โดยก่อนการประกาศผลการเลือกตั้ง กกต.ได้รับคำร้องว่า ปิณญาดา ตันติมนตรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต 8 กทม.พรรคเสรีรวมไทย (ผู้ถูกร้องที่ 1) ชูเดช พันทวี ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต 11 กทม.พรรคเสรีรวมไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) มกฤษณ์ จ่าทองคำ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต 1อุตรดิตถ์ พรรคเสรีรวมไทย (ผู้ถูกร้องที่ 3) ฉวี พงษ์พนัศ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต 2 พระนครศรีอยุธยา พรรคเสรีรวมไทย (ผู้ถูกร้องที่ 4) มหวรรณ กะวัง ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต 1 เชียงใหม่ พรรคเสรีรวมไทย (ผู้ถูกร้องที่ 5) และภาณุพล จอมศรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต 2 พะเยา พรรคเสรีรวมไทย (ผู้ถูกร้องที่ 6 ) ได้มีการกระทำอันฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 42 (3) โดยผู้ถูกร้องที่ 1- 6 เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เนื่องจากเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆกกต.ได้พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้ว เห็นว่ากรณีผู้ถูกร้องที่ 456 เป็นผู้ถือหุ้นและเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วน 2 แห่ง แต่จากการตรวจสอบรายการในหนังสือรับรองของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนที่เป็นห้างหุ้นส่วนร้าง ซึ่งนายทะเบียนได้ขีดชื่อออกจากทะเบียนแล้ว ตามมาตรา 1273/3 ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีผลทำให้บริษัทดังกล่าวสิ้นสภาพนิติบุคคล ก่อนสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้นผู้ถูกร้องที่ 456 จึงไม่เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จึงมีคำสั่งยกคำร้องในส่วนของผู้ถูกร้องที่ 456 ส่วนผู้ถูกร้องที่ 123 ให้รอผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้องเสียก่อน | กกต. ยกคำร้องปมถือหุ้นสื่อ 3 ส.ส. พรรคเสรีรวมไทย ชี้บริษัทสิ้นสภาพก่อนสมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังมีอีก 3 ส.ส. ที่ต้องรอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ18 มี.ค. | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | พรรคเสรีรวมไทย,การถือหุ้นสื่อ,กกต. | https://prachatai.com/journal/2020/03/86830 |
Prachatai Eyes View: ท่องเมืองทวาย ตามรอย Dawei Project | Prachatai Eyes View: ท่องเมืองทวาย ตามรอย Dawei Projectสถานการณ์ล่าสุด โครงการท่าเรือน้ำลึกและเขตนิคมอุตสาหกรรมทวาย ความหวังเพื่อการพัฒนาอันโชติช่วงของอาเซียนโดยรัฐบาลไทยและรัฐบาลพม่าดูเหมือนจะประสบภาวะชะงักงันระลอกสอง จากปัญหาการเมืองภายในของไทยขณะนี้ หลังจากการดำเนินการโดยเอกชนอย่าง บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ผู้ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลพม่าเมื่อปี 2553 ประสบปัญหาการดำเนินงานล่าช้าจนต้องเปลี่ยนมือที่ผ่านมา สำนักงานพัฒนาความร่วมมือเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ของไทย กับ Foreign Economic Relation Department ของประเทศพม่า ได้ร่วมทุนจัดตั้ง บริษัท ทวาย เอสอีแซด ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด ในรูปแบบของนิติบุคคลเฉพาะกิจ (Special Purpose Vehicle: SPV) เพื่อบริหารโครงการฯ โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น 50 ต่อ 50 และได้เชื้อเชิญนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นเข้าร่วมลงทุนด้วย แต่การเจรจายังไม่ได้ข้อยุติขณะที่การดำเนินงานโครงการฯ ในพื้นที่ชะลอลง เพื่อรอรับการลงทุนครั้งใหม่ เมื่อวันที่ 16-19 ก.พ.2557 สมาคมพัฒนาทวาย (DDA) ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาชนท้องถิ่นของทวาย ร่วมกับเสมสิกขาลัย (SEM) และโครงการฟื้นฟูนิเวศในภูมิภาคแม่น้ำโขง (TERRA) จัดทริปลงพื้นที่ เพื่อร่วมรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการในทวาย โดยเฉพาะในประเด็นผลกระทบที่เกิดกับประชาชน…หลังจาก เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2556 ตัวแทนสมาคมพัฒนาทวายได้เดินทางมายื่นจดหมายร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของไทย โดยระบุถึงข้อกังวลเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิทธิชุมชนของโครงการฯ ซึ่งลงทุนโดยบริษัทไทยและผลักดันโดยรัฐบาลไทยข้อมูลจากสมาคมพัฒนาทวายที่เรารับรู้ก่อนการเดินทาง ระบุว่า โครงการทวายจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวทวายกว่า 83000 คน ใน 3 พื้นที่ คือ 1.พื้นที่ 204.5 ตร.กม.ของการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกและเขตนิคมอุตสาหกรรมทวายในเขตนาบูเล่ ซึ่งมีประชากร 32274 คน จาก 3977 ครัวเรือน ใน 21 หมู่บ้าน จะต้องถูกอพยพ2.หมู่บ้านกาโลนท่า ซึ่งมีแผนก่อสร้างเขื่อนที่แม่น้ำตะลายยาร์ เพื่อนำน้ำไปใช้ในเขตนิคมอุตสาหกรรม มีประชากรประมาณ 1000 คน จาก 182 ครัวเรือน จะต้องถูกอพยพ และ 3.พื้นที่ก่อสร้างถนนระยะทาง 132 กิโลเมตรที่เชื่อมต่อระหว่างเขตนิคมอุตสาหกรรมทวายกับบ้านพุน้ำร้อนของประเทศไทย มีประชากรประมาณ 50000 คน จะได้รับผลกระทบ…เราข้ามด่านตรงจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรน บ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เดินทางด้วยรถตู้ขนาดเล็กวิ่งไปบนถนนลูกรังทำมือซึ่งบางส่วนซ้อนทับกับเส้นทาง โครงการสร้างถนนเชื่อมต่อจากโครงการทวายถึงชายแดนไทย ที่ยังคงมีคนทำทางอยู่เป็นระยะ ผ่านจุดตรวจทั้งของ KNU และรัฐบาลพม่า ถึง 6 จุดการเดินทางมุ่งหน้าสู่ทวายข้ามแม่น้ำตะนาวศรี ระยะทางราว 130 กม. ใช้เวลานานถึง 5 ชั่วโมง และ 4 วัน หลังจากนั้น เวลาส่วนใหญ่ของเราก็หมดไปกับการเดินทางตามรอย โครงการท่าเรือน้ำลึกและเขตนิคมอุตสาหกรรมทวาย และการรับฟังเรื่องราวของคนในพื้นที่ผลกระทบ…ที่วัดเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี ชื่อ Yalaing Kyaung Gyi ที่หมู่บ้านยาลาย (Yalaing) ในนาบูเล (Nabule) ซึ่งเดิมเคยอยู่ในแผนต้องถูกโยกย้ายเนื่องจากการก่อสร้างโครงการฯโก เล ลวิน (Ko Lay Lwin) วัย 45 ปี เล่าว่าทั้งหมู่บ้านและวัดแห่งนี้ไม่อยู่ในโครงการฯ แล้ว หลังจากที่มีการปรับแผนเป็นครั้งที่ 3 โดยมีเพียงที่ทำกินบางส่วนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งสำหรับชาวบ้านนี่เป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ก็ไม่มีอะไรมารับประกันว่าโครงการที่เปลี่ยนแผนไปมานี้จะไม่มากระทบพวกเขาในสักวันหนึ่งโก เล ลวิน บอกด้วยว่า สิ่งที่ชาวบ้านต้องการขณะนี้คือค่าชดเชยที่เป็นธรรม แต่สถานการณ์ที่ผ่านมาการให้ค่าชดเชยจะมากน้อยขึ้นอยู่กับการต่อรอง ชาวบ้านแต่ละคนแม้อยู่ในพื้นที่ใกล้กัน แต่ค่าชดเชยก็ไม่เหมือนกัน อีกทั้งเอกสารหลักฐานก็ไม่ชัดเจน บางคนได้เพียงกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่เขียนเพียงว่าได้จ่ายค่าชดเชยแล้ว ซึ่งเขาเชื่อว่านี่เป็นช่องทางหนึ่งของการทุจริตคอรัปชั่น…ที่หมู่บ้านรองรับผู้อพยพบาวา (Bawar) ที่นี่คือที่ดินทำกินเดิมของชาวบ้านบาวาซึ่งถูกนำมาใช้สร้างหมู่บ้านจำนวน 480 หลังคาเรือน เพื่อรองรับผู้อพยพจากโครงการฯ แต่ขณะนี้มีผู้อพยพเพียงครอบครัวเดียวที่อาศัยอยู่ที่นี่ โดยไม่มีที่ดินทำกิน ไม่มีไฟฟ้าใช้ และจะมีรถน้ำเข้ามาส่งน้ำทุกๆ 3 วัน เพราะแม้จะมีแทงค์น้ำแต่ก็ไม่ได้เปิดใช้งานโจว (Kyaw) อายุ 40 ปี คนดูแลหมู่บ้านและทำหน้าที่เป็นล่าม เขาพูดไทยได้เพราะเคยไปทำงานที่เมืองไทย เล่าว่าที่นี่จะมีคนดูแลแบ่งเป็นกะกลางวัน 10 คน กลางคืน 20 คน เมื่อก่อนก็มีไฟฟ้าใช้จากการปั่นไฟ แต่พอคนไทยย้ายกลับไปก็ไม่มีไฟใช้…ที่หมู่บ้านพายาดัต (Pa Ya dut) 1 ใน 6 หมู่บ้านที่ต้องย้ายออกจากพื้นที่ในล็อตแรก เนื่องจากอยู่ในเขตก่อสร้างอุตสาหกรรมหนัก เราแวะกินข้าวที่นี่และได้คุยกับคนขายน้ำอ้อยที่พูดไทยคล่องมากเพราะเธอทำงานที่เมืองไทยมาเป็น 10 ปี ล่าสุดเธอทำงานโรงงานทำยางที่ระนอง ก่อนจะย้ายกลับมาอยู่บ้านตอนที่เธออยู่เมืองไทยทำงานได้ค่าจ้างวันละ 315 บาท ถ้ารวมโอทีค่าล่วงเวลา 15 วันเธอรับเงิน 7500 บาทเธอบอกว่าคนแถวหมู่บ้านนี้ไปทำงานที่เมืองไทยกันเยอะ ไปอยู่ที่ระนองก็มาก เพื่อนเธออีกคนซึ่งเป็นเจ้าของร้านน้ำอ้อยตัวจริงก็เพิ่งกลับมาจากการไปทำงานที่กรุงเทพฯถามเธอว่าคิดอย่างไรกับโครงการนิคมอุตสาหกรรมที่ทวาย เธอบอกว่า ถ้าโครงการฯ มาแล้วพวกเธอได้ทำงานก็ดี แต่ถ้ามาแล้วบ้านเธอต้องถูกย้ายออก เธอก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร…ที่วัด Le Shuang Thang Ai Kyaung ในหมู่บ้านเลชอง (Le Shuang) ชาวบ้านจาก หมู่บ้านเลชอง (Le Shuang) พายาดัต (Pa Ya dut) และ เท็นจี (Htein Gyi) ในนาบูเล่ (Nabule) ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากการถูกโยกย้าย กว่า 20 คน มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และปัญหาหลากหลายรูปแบบ แต่สิ่งที่พวกเขายืนยันเหมือนกันคือชีวิตของพวกเขาผูกติดกับผืนดินที่อยู่อาศัย ไม่สามารถย้ายไปที่ไหนได้ให้ตายก็ไม่ย้าย เรายอมตายที่นี่ Aung Ba ชาวบ้านวัย 66 ปี จากหมู่บ้านเลชองกล่าวAye Lin กล่าวว่า สำหรับนักลงทุนที่จะเข้ามา ชาวบ้านไม่ต้องการย้ายจากที่ดิน หากจะเอาที่ดินทำกินไปก็ต้องจ่ายในราคาที่ชาวบ้านพอใจ และที่สำคัญชาวบ้านไม่เอาอุตสาหกรรมสกปรก เพราะที่ดินจะคงอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน หากมีอุตสาหกรรมปล่อยมลพิษ ชาวบ้านก็อยู่ต่อไปไม่ได้เมื่อถามว่าการพัฒนาแบบไหนที่ชาวบ้านต้องการ ดูเหมือนพวกเขายังคิดไม่ตก แต่สิ่งที่ถูกยืนยันกลับมาคือการไม่เอาอุตสาหกรรมสกปรกและการพัฒนาที่สุดโต่งไปแบบใดแบบหนึ่ง พร้อมเสนอว่าในพื้นที่นี้น่าจะมีการพัฒนาการประมงและการเกษตรไปพร้อมกันด้วย ให้เกิดความสมดุล…ที่หมู่บ้านกาโลนท่า (Ka Lone Htar) ใน Yebyu พื้นที่ผลกระทบจากการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำตะลายยาร์ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำทวาย เพื่อป้อนน้ำให้นิคมอุตสาหกรรมในโครงการฯ เริ่มมีการเข้ามาในพื้นที่เมื่อปี 2553 ด้วยข้ออ้างการสำรวจพื้นที่เพื่อสร้างถนน แต่ต่อมาเมื่อชาวบ้านรู้ว่าเป็นการสร้างเขื่อนซึ่งจะทำให้ชาวบ้าน 182 ครัวเรือนต้องถูกโยกย้าย จึงเกิดการต่อต้านจากข้อมูลการปรับแผนโครงการครั้งล่าสุด เขื่อนบนแม่น้ำตะลายยาร์ จะเริ่มต้นพัฒนาในปี 2563 ขณะนี้การเดินหน้าโครงการฯ ในพื้นที่จึงดูเหมือนหยุดชะงักไปPyinna Wonta พระแกนนำการต่อสู้ของชาวบ้านหมู่บ้านกาโลนท่า กล่าวว่า ถึงอย่างไรโครงการก็จะกลับมา แต่ก็จะสู้ให้ถึงที่สุด ที่ผ่านมาถือเป็นยุคแรกของการต่อสู้ เป็นการฝึกฝนเรียนรู้ ทำให้ชาวบ้านเข้มแข็งขึ้นกว่าแต่ก่อน ต่อไปถ้าบริษัทเข้ามาก็จะสู้ได้เพราะมีประสบการณ์มาแล้ว…ที่บ้านเมียวพิว พื้นที่ผลกระทบจากเหมืองแร่เฮ็นดา (Heing Da) ซึ่งลงทุนโดยบริษัทไทย เราพบกับวาวา หญิงสาวอายุ 26 ปี เธอทำงานในส่วนธุรการและเป็นล่ามให้กับบริษัทอิตาเลียนไทย หลังจากกลับมาอยู่บ้านได้ 1 ปี เพื่อดูแลพ่อที่ป่วยก่อนที่พ่อจะเสียชีวิตลง ทำให้เธอต้องกลับมาอยู่ที่บ้านอย่างถาวรเพื่อดูแลแม่ แต่ที่ดินเดิมของครอบครัวเธอกลับทำการเพาะปลูกไม่ได้เพราะน้ำปนเปื้อนสารเคมีจากเหมืองแร่ที่อยู่เหนือหมู่บ้านขึ้นไปไหลเข้าท่วมหมู่บ้านวาวา บอกว่า เมื่อเทียบกัน บริษัทอิตาเลียนไทยช่วยเหลือโรงเรียน นำขนม เสื้อผ้ามาแจกเด็กๆ มีการทำถนนด้วย ดีกว่าบริษัทเหมืองที่ไม่เคยมีอะไรมาให้ชาวบ้านตอนนี้วาวากำลังรอบริษัทอิตาเลียนไทยเปิดรับสมัครคนเข้าทำงานรอบใหม่ในเดือน มิ.ย.นี้ แม้ว่าเงินค่าตอบแทนจะน้อยเมื่อเทียบกับที่เมืองไทย คือราว 200 บาทต่อวัน แต่เธอก็ได้อยู่บ้านดูแลครอบครัว และดีกว่าไม่มีงานทำ เพราะถึงตอนนี้จะให้เธอไปทำงานหนักอย่างรับจ้างตัดหญ้า เธอก็ทำไม่ได้แล้ว…ที่ชุมชนกามองต่วย ต้นน้ำตะนาวศรี Saw Kao ประธานกลุ่มท้องถิ่นในนามวิถีชีวิตชุมชนยั่งยืนและการพัฒนา (Community Sustainable Livelihood and Development: CSLD) ซึ่งเป็นการรวมตัวของชาวกะเหรี่ยง 12 หมูบ้าน ที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการถนนเชื่อมสู่ไทย เล่าถึงสถานการณ์ในพื้นที่หลังเริ่มมีการดำเนินโครงการว่า ถนนที่ตัดผ่านมานอกจากจำทำลายพื้นที่เกษตรและทำให้เกิดตะกอนดินตกลงไปในแม่น้ำแล้ว ยังนำพาธุรกิจการทำเหมืองแร่และการทำไม้เข้ามาในพื้นที่ด้วยSaw Kao กล่าวด้วยว่า กระบวนการสันติภาพที่ผ่านมาเป็นเหมือนการเปิดให้คนภายนอกเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรในพื้นที่ประธานกลุ่มท้องถิ่นในนามวิถีชีวิตชุมชนยั่งยืนและการพัฒนาให้ความเห็นว่า ในอดีตความขัดแย้งนำมาซึ่งการสูญเสียมากมาย การหยุดยิงไปจนถึงการเจรจาสันติภาพเป็นสิ่งที่ดี และสุดท้ายมันควรนำมาซึ่งความสงบสุขปลอดภัยของคนในพื้นที่ เป็นความหวังสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป และการพัฒนาต่างๆ ต้องไม่ทำลายความสุข ความปลอดภัยตรงนี้ด้วยตอนนี้ การเข้ามาของบริษัทต่างๆ ทำให้ชาวบ้านวิตกกังวลว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป ในอนาคต | Prachatai Eyes View: ท่องเมืองทวาย ตามรอย Dawei Project สถานการณ์ล่าสุด โครงการท่าเรือน้ำลึกและเขตนิคมอุตสาหกรรมทวาย | การเมือง | Dawei,DDA,ทวาย,เมืองทวาย,โครงการท่าเรือน้ำลึกและเขตนิคมอุตสาหกรรมทวาย | https://prachatai.com/journal/2014/02/51992 |
แตงโมบททรหดเลิฟซีน5ชาย ชีวิตจริง หยุดนิ่งเรื่องรัก | แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์, ถูกจับวางเหมาะเจาะให้รับบท ,มณียง, นักการตลาดสาวเจ้าเสน่ห์ เชือดเฉือนอารมณ์กับ 5 หนุ่ม ละครร้อนแรงที่สุดแห่งปี ทางช่อง 8 เรื่อง ,ทรายย้อมสี, เชือดเฉือน 5 หนุ่ม ทั้ง, ฟลุค-เกริกพล, กฤตฎ์ อมรชัยฤกษ์, ซัน-ประชากร, บอล-วิทวัส, และ ,มาร์ค-อภิวิชญ์, ,แตงโม, ยอมรับว่าแซ่บที่สุด ส่วนชีวิตจริง ทุกประสบการณ์ก็พาให้ ,แตงโม, มาถึงวันนี้,เริ่มจากเรื่องนี้พัวพันกับหนุ่มๆ เยอะเชียว?, ,เยอะแยะยุ่งเหยิงมากมาย มณียงเป็นผู้หญิงที่ไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ อยากเด่น อยากดังมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ กับพี่ฟลุคก็ไปพัวพันกับเค้า แต่เค้ามีภรรยา คนที่สอง พี่กฤตฎ์เป็นลูกค้าที่บริษัท เค้าจะเปย์มากแต่เค้ามีคู่หมั้นแล้ว ส่วนมาร์ค เป็นน้องมาฝึกงานในออฟฟิศ เป็นคนไม่มีพิษมีภัยแต่เราชอบบอกว่าเค้าเด็ก ขณะที่บอลเรารู้อยู่แล้วว่าเค้าจงรักภักดี รักเราตั้งแต่เด็ก แต่เค้าจน ขณะที่ ซันเป็นดาราเอื้อประโยชน์ ทำให้เรามีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นแฟนดารา,เป็นบทที่แรงที่สุดมั้ย?, ,แรงที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยเล่นมา ก่อนหน้านี้ที่เคยเล่น มันแรงเรื่องการปะทะคนนั้นคนนี้ แต่อันนี้แรงด้วยตัวเอง เป็นเรื่องที่เลิฟซีนกับผู้ชายเยอะที่สุด เอาที่แสดงมารวมกันยังไม่เยอะเท่าเรื่องนี้เรื่องเดียว เลิฟซีน ที่ยากที่สุดคือต้องปล้ำผู้ชายตั้ง 2 คน,ตัวละครนี้สะท้อนหรือสอนอะไร? ,สอนเยอะเลย ทุกๆระยะเค้าจะมีความสุขน้อยมาก แทบไม่มีเลย เหมือนจะสุขแต่ไม่สุข เพราะอยากได้สิ่งที่เกินตัว ไม่รู้จุดสิ้นสุดว่า คำว่าพออยู่ตรงไหน หาทั้งเรื่องสุดท้ายก็ไม่เจอเลย,ในฐานะเราเป็นผู้หญิง มีหลักยังไงในการถ่ายเลิฟซีน? ,เรื่องนี้ลำบากใจมาก เพราะมันเปลืองตัวมาก แต่ด้วยความที่เป็นละครที่ช่องผลักดันมากที่สุด เราก็ตกกระไดพลอยโจน ต้องไปให้สุด เราจะมาถ่วงก็ไม่ได้ ไม่งั้นอรรถรสก็จะหายไป เค้าอยากให้แซ่บสุด เราก็ต้องแซ่บตาม,เล่นเลิฟซีนล่ะ หนุ่มๆแต่ละคนต่างกันมั้ย? ,ต่างกันตามระดับอายุ ที่หนึ่งยกให้พี่ฟลุค ก็ตามประสบการณ์ ซันเหงื่อไหลเป็นหยดเลย พี่กฤตฎ์คุมสติได้ดี มาร์คก็มีเกร็งบ้าง ส่วนบอลลึกซึ้งมากสุดคือจับมือ (ยิ้ม),ถ้าเป็นชีวิตจริงจะเลือกหนุ่มในละครคนไหนใน 5 คน? ,เราจะเก็บบอล บ้านๆไม่หวือหวา กับมาร์คที่ทำให้เราเป็นเด็กได้ไว้ เพราะเค้าจริงใจ,ไม่สนผู้ชายเปย์เลยเหรอ? ,ในชีวิตจริงหนูเป็นสายเปย์นะ หนูไม่ค่อยชอบให้คนมาเปย์ มันจะรู้สึกว่าเค้ามีอำนาจเยอะ ขออะไรที่เท่าเทียมดีกว่า รักษาศักดิ์ศรีเราด้วย เมื่อก่อนเคยมีซึ่งมันไม่ได้ผลกับหนู ถ้าจะทะเลาะแล้วมาซื้อของให้ ไม่เอา ไม่ชอบอะไรแบบนี้,เลือกมาร์ค แสดงว่าลึกๆ ชอบผู้ชายอายุน้อยกว่า? ,ไม่ได้ชอบผู้ชายอายุน้อยกว่า แต่ชอบผู้ชายที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ ส่วนเรื่องตัวเลขของอายุ มันวัดไม่ค่อยได้ อยู่ที่คุณวุฒิวัยวุฒิมากกว่า,ชีวิตจริงเราก็ดูเป็นผู้หญิงที่ทัน ผู้ชายไปซะหมด? ,คงเพราะหนูมีความเป็นผู้ชายสูง โตมากับพ่อ เลยจะ หาคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าเราอีกสเต็ปมันยากมาก อาจจะต้อง 40 ขึ้น หรือมีครอบครัวมาแล้ว,เคยรู้สึกว่าตัวเองทันผู้ชายเกินไปมั้ย? ,รู้สึกนะ รู้เลยว่าบางทีผู้หญิงที่ยอมโง่บ้าง มีความสุขกว่าเราเยอะ,ถึงตอนนี้ไม่คิดมีรักใหม่เหรอ? ,ก็เปิดใจได้นะ แต่คนคนนั้นก็ต้องอดทนที่จะพิสูจน์ ข้อจำกัดหนูเยอะด้วย แต่ถ้าไม่เจอมันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญในชีวิตหนูอีกแล้ว คือหนูสามารถมีความสุขโดยการอยู่คนเดียวได้ เพราะว่าคำตอบที่สูงสุดในชีวิตหนูไม่ใช่การมีครอบครัวที่มีสามีภรรยา แต่เป็นการรับใช้พระเจ้าเต็มตัวมากกว่า ก็เลยไม่ได้ขวนขวายหรือนั่งเพ้อตามหารักแท้ คือไม่เคยน้อยใจโชคชะตาว่า ทำไมไม่ส่งใครมารักเรา เมื่อก่อนเคยเป็นแต่เดี๋ยวนี้ไม่เป็นแล้ว เพราะว่าหนูเข้าใจว่า พระเจ้าน่าจะส่งหนูมาทำอย่างอื่นมากกว่า,หรือเพราะมีน้องอีสเตอร์ ลูกบุญธรรม เติมเต็มเรื่องมีครอบครัวทำให้ได้สัมผัสความเป็นแม่? ,เรารู้สึกอย่างนั้นนะ เราอยู่กับเค้าเห็นอารมณ์ พัฒนาการของเค้า มันเป็นปฏิกิริยาระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ โมไม่เคยเลี้ยงเด็กแบบนี้มาก่อน ก่อนหน้านี้เคยอยากมีลูกมาก พออีสเตอร์เกิดคือจบเลย ลูกมาเองโดยที่เราไม่ต้อง คลอด เค้าเติมเต็มเรา คุณพ่อเห่อหลาน รักมาก บ้านก็แฮปปี้ มีชีวิตชีวา,แล้วความสุขของแตงโมตอนนี้คืออะไร? ,คือการที่เราได้ดูแลคนที่อยู่ในการดูแลของเรานี่แหละ และเราได้รู้จักพระเจ้ามากขึ้น,คนมองว่าเราแรง เดี๋ยวจะอารมณ์ขึ้นลงอีกรึเปล่า เรารู้สึกยังไง?,ปล่อยเค้ามองไปค่ะ เดี๋ยวเวลาผ่านไปเค้าก็จะเห็นเอง. | เรียกว่าฝีมือการแสดงและประสบการณ์พาให้สาว แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ ถูกจับวางเหมาะเจาะให้รับบท มณียง นักการตลาดสาวเจ้าเสน่ห์ เชือดเฉือนอารมณ์กับ 5 หนุ่ม ละครร้อนแรงที่สุดแห่งปี ทางช่อง 8 เรื่อง ทรายย้อมสี | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ซุปตาร์ดาวดัง,แตงโม นิดา,นิดา พัชรวีระพงษ์,ละคร ทรายย้อมสี,ละครช่อง 8,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/975847 |
ซ้อมรับมือการสู้รบชายแดนไทย-พม่า | หน่วยงานด้านความมั่นคง จังหวัดตาก ร่วมกับฝ่ายต่างๆ จำลองเหตุสถานการณ์การให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยการสู้รบชาวพม่ากว่า 300 คน จากประเทศพม่า เข้ามาบริเวณชายแดนไทย ด้านอำเภอแม่สอด เพื่อเตรียมความพร้อม หากมีการสู้รบเกิดขึ้นระหว่างทหารพม่ากับกลุ่มชาติพันธุ์ด้านจังหวัดเชียงใหม่ ทหารกองกำลังผาเมือง ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และศูนย์ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนอำเภอฝาง ซ้อมแผนอพยพชาวบ้านนอแลขอบด้ง ตำบลม่อนปิ่น และบ้านคุ้มปางม้า ตำบลแม่งอน บริเวณชายแดนไทย-พม่า เข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย โดยจำลองเหตุการณ์พม่าสู้รบกับกลุ่มชาติพันธุ์ ทำให้กระสุนตกฝั่งไทยและมีชาวบ้านบาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าหากเกิดเหตุการณ์จริงจะสามารถรับมือได้อย่างทันท่วงทีส่วนที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลพม่าเตรียมสถานที่ถึง 3 เมืองเพื่อรองรับผู้อพยพชาวพม่าจากศูนย์อพยพในไทย พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า หากเป็นจริงจะทำให้ผู้อพยพชาวพม่ามีโอกาสใช้ชีวิตและเสรีภาพในการดำรงค์ชีวิตที่ดีกว่า แต่ต้องให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเจรจา โดยศูนย์อพยพที่อยู่ความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 3 มีทั้งหมด 7 ศูนย์กว่า 100000 คน | จังหวัดตาก และเชียงใหม่ซ้อมแผนอพยพผู้ที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย-พม่า เพื่อเตรียมความพร้อม หากเกิดการสู้รบระหว่างทหารพม่ากับกลุ่มชาติพันธุ์ | ภูมิภาค | ชายแดน,ซ้อม,พม่า,รับมือ,สู้รบ | https://news.thaipbs.or.th/content/28804 |
หญิงฝรั่งเศส ผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้ารายแรกของโลก 11 ปีก่อน เสียชีวิตแล้ว | เมื่อวันที่ 7 ก.ย.59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าว นางอิสซาเบล ดินัวร์ หญิงชาวฝรั่งเศส วัย 49 ปี ซึ่งนับเป็นบุคคลที่ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้าเป็นรายแรกของโลกเมื่อปี 2548 เสียชีวิตแล้ว เนื่องจากผลจากการผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้า ซึ่งต้องใช้ยากดการทำงานของระบบภูมิต้านทานโรคอย่างหนัก ทำให้ร่างกายดินัวร์อ่อนแอลง และป่วยด้วยโรคมะเร็งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะอายุ 49 ปี,บีบีซี แจ้งว่า สาเหตุที่ทางโรงพยาบาลในเมืองอาเมียง เพิ่งแจ้งข่าวการเสียชีวิตของดินัวร์ในหลายวันต่อมา เพราะเคารพในความเป็นส่วนตัวของครอบครัวของเธอต่อการจากไปของดินัวร์,ทั้งนี้ อิสซาเบล ดินัวร์ ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้าเป็นคนแรกของโลก หลังจากใบหน้าของเธอต้องเสียโฉมอย่างหนัก โดยเฉพาะ จมูก ปาก และคาง จากการถูกสุนัขที่เลี้ยงไว้ขย้ำกัด โดยเมื่อปี 2552 ดินัวร์ เคยให้สัมภาษณ์กับนักข่าวบีบีซีว่า ทุกครั้งที่เธอส่องกระจก เธอจะได้เห็นใบหน้าที่ผสมผสานกันระหว่างใบหน้าของเธอกับใบหน้าของคนที่บริจาคใบหน้ามาให้ ซึ่งเธอรู้สึกว่า ผู้บริจาคใบหน้านี้อยู่กับเธอตลอดเวลา,ด้าน นสพ.ฟิกาโร เคยรายงานว่า ดินัวร์ต้องเจ็บป่วยจากการที่ร่างกายของเธอปฏิเสธการผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้าอีกครั้ง ซึ่งอาการต่อต้าน ทำให้เธอป่วยด้วยโรคมะเร็ง ถึง 2 ชนิด | เศร้าหญิงฝรั่งเศส อิสซาเบล ดินัวร์ บุคคลแรกที่ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้ารายแรกในโลก เสียชีวิตแล้ว หลังผลข้างเคียงจากการปลูกถ่ายใบหน้า ที่ต้องใช้ยากดภูมิต้านทานหลายขนาน ส่งผลร่างกายอ่อนแอ และป่วยด้วยโรคมะเร็งถึง 2 ชนิด
| null | ผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้า,รายแรกของโลก,อิสซาเบล ดินัวร์,หญิงฝรั่งเศส,ยากดภูมิต้านทาน,มะเร็ง,เสียชีวิต | https://www.thairath.co.th/content/714813 |
เสรีพิศุทธ์ เตือนรัฐบาลอย่าให้มีการทุจริต พ.ร.ก.เงินกู้ฯ | วันนี้ (13 เม.ย.2563) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดโรงทานที่วัดเจ้าอาม บางขุนนนท์ ซึ่งถือเป็นการแบ่งเบาภาระและช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 โรงทานดังกล่าว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 30 เม.ย.2556 และปีนี้เริ่มเข้าสู่ปีที่ 8 แต่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของของไวรัส จึงไม่ได้จัดงานครบรอบโรงทานเหมือนเช่นทุกปีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวหลังจากรับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากประชาชนที่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาคนละ 5000 บาท ว่า เกิดจากการที่รัฐบาลไม่ได้คำนึงถึงความเดือดร้อนเป็นรายบุคคล แต่ใช้เกณฑ์เหมารวมเป็นสาขาอาชีพทำให้มีการตกหล่นเป็นจำนวนมาก และเห็นว่าที่รัฐบาลต้องรีบทำคือควรทบทวนวิธีการเยียวยาให้ทั่วถึงและรวดเร็วพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังแสดงความเป็นห่วงถึงการใช้เงินกู้เป็นจำนวนมากในการช่วยเหลือประชาชน เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ คือภาษีของประชาชน ดังนั้นจะต้องไม่มีการทุจริตและจะต้องเปิดกว้างให้มีการตรวจสอบมากกว่านี้ ไม่ใช่พอใครวิพากษ์วิจารณ์อะไร ก็ออกมาใช้กฎหมายปิดปากหรือกล่าวหาว่าขัดขวางการแก้ปัญหาไวรัส COVID-19ทั้งที่หลายฝ่ายออกมาแนะนำในสิ่งที่ดี แต่รัฐบาลก็ไม่เคยฟัง ยังคงใช้แต่วิธีการเดิม ๆ ในการแก้ปัญหา | หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะ ประธาน กมธ.ป.ป.ช. เตือนรัฐบาลอย่าให้มีการทุจริตเรื่องการใช้เงินกู้จำนวนมาก ในการช่วยเหลือประชาชนในวิกฤตCOVID-19 อย่างเด็ดขาด | การเมือง | COVID-19,พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส,เสรีรวมไทย,กรรมาธิการ ป.ป.ช. | https://news.thaipbs.or.th/content/291081 |
เอ็นจีโอคัดค้านขึ้น ค่าแท็กซี่ซ้ำเติมคนจน | นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ออกโรงคัดค้านแนวคิดการขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ของกระทรวงคมนาคมว่า ตามที่กระทรวงคมนาคมและกลุ่มสหกรณ์รถแท็กซี่ พยายามผลักดันให้มีการปรับอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่ โดยจะเสนอปรับขึ้นค่าโดยสารเริ่มต้นกิโลเมตรที่ 0-1 อัตราค่ามิเตอร์ 35 บาท กิโลเมตรที่ 2-50 อัตราค่ามิเตอร์เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12% กิโลเมตรที่ 51-150 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8% และมากกว่า 151 กิโลเมตรเป็นต้นไป อัตราค่ามิเตอร์เพิ่มขึ้น 15% และหากรถติดไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 1.50 บาท/นาที เป็น 2.50 บาท/นาทีนั้นข้อเสนอดังกล่าวสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนขอคัดค้านอย่างเต็มที่ ทั้งนี้เพราะหากปล่อยให้แท็กซี่ย่ามใจขึ้นราคาได้ตามอำเภอใจ ทั้ง ๆ ที่ราคาตามมิเตอร์แท็กซี่ในอดีตที่ผ่านมามิได้สะท้อนปัญหาต้นทุนและราคาที่แท้จริง จนสามารถสร้างผลกำไรให้กับผู้ประกอบการและคนขับได้อย่างเต็มกอบเต็มกำในอดีตที่ผ่านมา จนทำให้เกิดแท็กซี่เพิ่มขึ้นมามากกว่า 100000 คันในปัจจุบัน ทำให้คนต่างจังหวัดทิ้งบ้านทิ้งครอบครัวเข้ามาทำงานขับแท็กซี่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลกันเป็นจำนวนมาก แต่พอราคาก๊าซเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่กลับร่วมหัวกันจ้องที่จะมาผลักภาระเอาเปรียบผู้โดยสารหรือผู้บริโภคอย่างไม่ละอาย ในยามที่ข้าวยากหมากแพงไปทั้งแผ่นดิน หลังวิกฤตการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมาจนถึงบัดนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมมิอาจยอมรับได้เมื่อพิจารณาถึงการบริหารจัดการระบบรถแท็กซี่และการคำนวณต้นทุนของการขับแท็กซี่แต่ละคันแล้วจะพบว่าปัจจุบันมีแท็กซี่วิ่งให้บริการจริงเพียง 7- 80000 คันเท่านั้น และส่วนใหญ่ที่วิ่งอยู่บนท้องถนนมีผู้โดยสารเพียง 60 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ส่วนอีก 40 เปอร์เซ็นต์เป็นการวิ่งรถเปล่าตระเวนหาผู้โดยสาร ทำให้สูญเสียพลังงานหรือเผาก๊าซไปฟรี ๆ โดยเปล่าประโยชน์ ทั้ง ๆ ที่รัฐบาลควรจะกำหนดมาตรการให้รถแท็กซี่จอดรอรับผู้โดยสารเป็นจุด ๆ มากกว่า เพื่อช่วยลดปัญหาการจราจรและปัญหาควันพิษ หรือส่งเสริมมาตรการโทรเรียกแท็กซี่ผ่านศูนย์ฯ ซึ่งได้มีการลงทุนและกำหนดให้รถแท็กซี่มีระบบดังกล่าวไปแล้ว แต่กลับไม่ส่งเสริมหรือบังคับให้มีการใช้อย่างเต็มศักยภาพเมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายและรายได้ต่อกะของแท็กซี่ ๆ จะมีรายจ่ายกะละประมาณ 7-900 บาทจากค่าก๊าซและค่าล้างรถเท่านั้น แต่มีรายได้เฉลี่ยต่อกะ 1200-1500 บาท ซึ่งจะมีเงินเหลือเฉลี่ย 500 บาทขึ้นไป ซึ่งมากกว่าอัตราค่าแรงขั้นต่ำที่รัฐบาลจะประกาศใช้ในวันที่ 1 เมษายนนี้อีก ซึ่งแม้ราคาก๊าซจะปรับขึ้นไปอีกเท่าตัว ก็ไม่ทำให้รายได้ลดลงมากนัก เพราะรัฐบาลยังอุดหนุนแท็กซี่ผ่านนโยบายบัตรเครดิตพลังงานอยู่มาก ซึ่งยังทำให้แท็กซี่อยู่ได้ในปัจจุบันและในอนาคตที่สำคัญการแก้ปัญหาดังกล่าวนั้น รัฐบาลต้องต้องควบคุมค่าเช่าของอู่แท็กซี่ เพื่อให้คนขับแท็กซี่เช่ารถมาขับได้ในราคาค่าเช่าที่เป็นธรรม และหากใช้มาตรการย้อนศร โดยปรับลดราคาแท็กซี่ลงมาเริ่มต้นที่ 30 บาท เชื่อว่าจะจูงใจให้คนใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่าการจะปรับราคาแท็กซี่ให้สูงขึ้น จะทำให้ผู้บริโภคที่มีรถไม่อยากนำรถส่วนบุคคลของตนออกมาขับลูกค้าของแท็กซี่ก็จะเพิ่มขึ้นทวีคูณ ทั้งนี้หากรัฐบาลยังดื้อดึงที่จะรวมหัวกับกลุ่มสหกรณ์รถแท็กซี่ขึ้นราคาค่าแท็กซี่เอาเปรียบผู้โดยสาร สมาคมฯก็จะร่วมมือกับผู้โดยสารทั่วกรุงฟ้องศาลปกครองเพิกถอนหรือยับยั้งมติดังกล่าวโดยทันที | ถือเอาเปรียบผู้โดยสารทั้งที่ต้นทุนต่ำกว่าผลกำไรมาอย่างยาวนานนับสิบปี แต่พอราคาก๊าซเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่กลับผลักภาระให้ผู้บริโภคทันที ทั้งๆที่ราคา ควรเริ่มต้นที่ 30 บาทเท่านั้น | เศรษฐกิจ | กลุ่มสหกรณ์รถแท็กซี่,ค่าแท็กซี่,ต้นทุน,ผลกำไร,ผู้บริโภค,สมาคมต่อต้านโลกร้อน | https://news.thaipbs.or.th/content/75572 |
เปิดร่าง พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงปลอดภัย ขจัดอาชญากรไซเบอร์ | วันนี้ (1 มี.ค.2562) ไทยพีบีเอสออนไลน์ เปิดร่างหลังจากที่ประชุม สนช.มีมติ 133 เสียง งดออกเสียง 16 เสียง เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่ยังมีความกังวลในสื่อสังคมออนไลน์ว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้อาจเป็นการเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่สามารถละเมิดสิทธิของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นเรื่องต่างๆ หรือไม่สำหรับร่างกฎหมายกำหนดให้มีคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (กมช.) มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ และมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน 7 คน ที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรีนิยามภัยคุมคามทางไซเบอร์ใน พ.ร.บ.ไซเบอร์ได้ให้ความหมายของคำว่าภัยคุกคามทางไซเบอร์ ไว้ในมาตรา 3 ซึ่งหมายถึงการกระทำหรือการดำเนินการใดๆ โดยมิชอบโดยใช้คอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมไม่พึงประสงค์โดยมุ่งหมายให้เกิดการประทุษร้ายต่อระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือ และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงที่จะก่อให้เกิดความเสียหายหรือส่งผลกระทบต่อการทำงานของคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากข้อความดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ภัยคุกคามทางไซเบอร์นั้นไม่ได้ครอบคลุมถึงการดำเนินการเกี่ยวกับเนื้อหาหรือการแสดงความคิดเห็นของประชาชนแต่อย่างใด แต่เป็นการระบุถึงระบบคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ข้อสังเกตอีกประการ คือ คำจำกัดความของความที่ว่า ข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งยังไม่สามารถตีความได้ชัดเจนว่าจะครอบคลุมเรื่องเนื้อหาหรือไม่แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการแฮกข้อมูลหรือการเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลและเอกชนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะสามารถจัดการกับผู้โจรกรรมข้อมูลผ่านไซเบอร์เหล่านี้ได้ย้อนคดีสะเทือนความมั่นคงทางไซเบอร์เว็บไซต์สำนักนายกรัฐมนตรี (www.opm.go.th) ถูกแฮกหน้าเว็บเพจที่แสดงรายชื่อคณะรัฐมนตรี และทำการเปลี่ยนชื่อตำแหน่งของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น พร้อมข้อความโจมตี โดย แฮกเกอร์ได้ระบุว่า การแฮกครั้งนี้เป็นฝีมือของ Unlimited Hack Team พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีข่าวการแฮกเข้าอีเมลส่วนตัวของบุคคลสำคัญในรัฐบาลว่า ยังไม่มีข้อมูลด้านการข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหม และกองบัญชาการกองทัพไทย เคยโดนแฮกเว็บไซต์มาแล้วเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล เว็บไซต์สำนักนายกรัฐมนตรี เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา และเว็บไซต์สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เกิดปัญหาระบบล่มและไม่สามารถเข้าใช้งานได้ตลอดทั้งวัน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาระบุว่า อาจเป็นการแฮกข้อมูลจากการต่อต้านกรณีซิงเกิล เกตเวย์ธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงไทย ยอมรับพบข้อมูลลูกค้าที่ใช้บริการผ่านออนไลน์ถูกโจรกรรมข้อมูลออกนอกระบบ เร่งให้ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์หลักฐานดิจิทัล เพื่อปิดช่องโหว่ทางไซเบอร์3 ระดับภัยคุกคามทางไซเบอร์สำหรับสาระสำคัญของ พ.ร.บ.ไซเบอร์ นั้น ประกอบด้วย มาตรา 59 การพิจารณาเพื่อใช้อำนาจในการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ คณะกรรมการจะกำหนดลักษณะของภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ดังต่อไปนี้(1)ภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับไม่ร้ายแรง หมายถึง ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญถึงระดับที่ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศหรือการให้บริการของรัฐด้อยประสิทธิภาพลง(2)ภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับร้ายแรง หมายถึง ภัยคุกคามที่มีลักษณะการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยมุ่งหมายเพื่อโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศและการโจมตีดังกล่าว มีผลทำให้ระบบคอมพิวเตอร์หรือโครงสร้างสำคัญทางสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ ความมั่นคงของรัฐ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การป้องกันประเทศ เศรษฐกิจ การสารธารณสุข ความปลอดภัยสาธารณะ หรือความสงบเรียบร้อยของประชาชนเสียหายจนไม่สามารถทำงานหรือบริการได้(3)ภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับวิกฤติ หมายถึง ภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับวิกฤติมีลักษณะ ดังต่อไปนี้-เป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เกิดจากการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ในระดับสูงขึ้นกว่าภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับร้ายแรง โดยส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศของประเทศในลักษณะที่เป็นวงกว้าง จนทำให้การทำงานของหน่วยงานรัฐหรือการให้บริการของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศที่ให้กับประชาชนล้มเหลวทั้งระบบ จนรัฐไม่สามารถควบคุมการทำงานส่วนกลางของระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐได้หรือการใช้มาตรการเยียวยาตามปกติในการแก้ไขปัญหาภัยคุกคามไม่สามารถแก้ไขได้และมีความเสี่ยงที่จะลุกลามไปยังโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอื่นๆ ของประเทศ ซึ่งอาจมีผลทำให้บุคคลจำนวนมากเสียชีวอตหรือระบบคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์จำนวนมากถูกทำลายเป็นวงกว้างในระดับประเทศ-เป็นภัยคุกตามทางไซเบอร์อันกระทบหรืออาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐหรืออาจทำให้ประเทศหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของประเทศตกอยู่ในภาวะคับขันหรือมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญาการรบหรือการสงคราม ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการเร่งด่วนเพื่อรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเอกราชและบูรณภาพแห่งอาณาเขต ผลประโยชน์ของชาติ การปฏิบัติตามกฎหมาย ความปลอดภัยของประชาชน การดำรงชีวิตโดยปกติสุขของประชาชน การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ความสงบเรียบร้อยหรือประโยชน์ส่วนรวม หรือการป้องปักหรือแก้ไขเยียวยาความเสียหายจากภัยพิบัติสาธารณะอันมีมาอย่างฉุกเฉินและร้ายแรงทั้งนี้ รายละเอียดของลักษณะภัยคุกคามทางไซเบอร์ มาตรการป้องกัน รับมือ ประเมิน ปราบราม และระงับภัยคุกคามทางไซเบอร์แต่ละระดับ ให้คณะกรรมการเป็นผู้ประกาศกำหนดจนท.ตรวจสอบภัยคุกคามไซเบอร์ ต้องยื่นคำร้องต่อศาลนายปริญญา ยังได้อธิบายเกี่ยวกับความกังวลในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ในการดำเนินการตรวจสอบภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยทันทีและไม่ต้องยื่นคำร้องต่อศาล ว่าโดยในมาตรา 64 ระบุว่า ในการรับมือและบรรเทาความเสียหายจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับร้ายแรง กกม.มีอำนาจออกคำสั่งเฉพาะเท่าที่จำเป็นเพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ให้บุคคลผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ผู้ครอบครอง ผู้ใช้คอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์หรือผู้ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีเหตุผลอันเชื่อได้ว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ หรือได้รับผลกระทบจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ดำเนินการ ดังต่อไปนี้(1) เฝ้าระวังคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ในช่วงระยะเวลาใดระยะเวลาหนึ่ง(2) ตรวจสอบคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์เพื่อหาข้อบกพร่องที่กระทบต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ วิเคราะห์สถานการณ์ และประเมินผลกระทจากภัยคุกคามทางไซเบอร์(3) ดำเนินมาตรการแก้ไขภัยคุกคามทางไซเบอร์เพื่อจัดการข้อบกพร่องหรือกำจัดชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ หรือระงับบรรเทาภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ดำเนินการอยู่(4) รักษาสถานะของข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ด้วยวิธีการใดๆ เพื่อดำเนินการทางนิติวิทยาศาสตร์ทางคอมพิวเตอร์(5) เข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องเฉพาะเท่าที่จำเป็น เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ในกรณีมีเหตุจำเป็นที่ต้องเข้าถึงข้อมูลตาม (5) ให้ กกม.มอบหมายให้เลขาธิการ ยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อมีคำสั่งให้เจ้าของกรรมสิทธิ์ ผู้ครอบครอง ผู้ใช้คอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ หรือผู้ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่งดำเนินการตามคำร้องทั้งนี้ คำร้องที่ยื่นต่อศาลต้องระบุเหตุอันคารเชื่อว่าบุคคลใดบุคคลหนึ่งกำลังกระทำหรือจะกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งที่ก่อให้เกิดคุกตามทางไซเบอร์ในระดับร้ายอรง ในการพิจารณาคำร้องให้ยื่นเป็นคำร้องไต่สวนคำร้องฉุกเฉินและให้ศาลพิจารณาไต่สวนโดยเร็วผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของ กกม.ตามมาตรา 64 (1) และ (2) โดยไม่มีเหตุอันควร ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 300000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10000 บาท นับแต่วันที่ครบกำหนดระยะเวลาที่ กกม.ออกคำสั่งให้ปฏิบัติจนยกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้องนอกจากนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง กกม.ตามมาตรา 64 (3) และ (4) หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลตามมาตรา 64 (5) โดยไม่มีเหตุอันควร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับขีดกรอบ จนท.ตรวจสอบ-เข้าถึง-ยึดคอมพิวเตอร์มาตรา 65 ในการป้องกัน รับมือ และลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับร้ายแรง กกม.มีอำนาจปฏิบัติการหรือสั่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเฉพาะเท่าที่จำเป็นเพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ในเรื่อง ดังต่อไปนี้(1) เข้าตรวจสอบสถานที่ โดยมีหนังสือแจ้งถึงเหตุอันควรไปยังเจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานที่เพื่อเข้าตรวจสอบสถานที่นั้น หากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ หรือได้รับผลกระทบจากภัยคุกคามทางไซเบอร์(2) เข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ ทำสำเนา หรือสกัดคัดกรองข้อมูลสารสนเทศหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีเหตุอันควรเชื่อว่าเกี่ยวข้องหรือได้รับผลกระทบจากภัยคุกคามทางไซเบอร์(3) ทดสอบการทำงานของคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องหรือได้รับผลกระทบจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ หรือถูกใช้เพื่อค้นหาข้อมูลใดๆ ที่อยู่ภายในหรือใช้ประโยชน์จากคอมพิวเตอร์นั้น(4) ยึดหรืออายัดคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ หรืออุปกรณ์ใดๆ เฉพาะเท่าที่จำเป็นซึ่งมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ เพื่อการตรวจสอบหรือวิเคราะห์ ทั้งนี้ ไม่เกิน 30 วัน เมื่อครบกำหนดเวลาดังกล่าวให้ส่งคืนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ใดๆ แก่เจ้าของกรรมสิทธิ์ หรือผู้ครอบครองโดยทันที หลังจากเสร็จสิ้นการตรวจสอบหรือวิเคราะห์ในการดำเนินการตาม (2) (3) และ (4) ให้ กกม.ยื่นคำร้อง ต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อมีคำสั่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามคำร้อง ทั้งนี้ คำร้องต้องระบุเหตุอันสมควรเชื่อได้ว่าบุคคลใดบุคคลหนึ่งกำลังกระทำหรือจะกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งที่ก่อให้เกิดภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับร้ายแรง ในการพิจารณาคำร้องให้ยื่นเป็นคำร้องไต่สวนคำร้องไต่สวนคำร้องฉุกเฉินและให้ศาลพิจารณาไต่สวนโดยเร็วผู้ใดขัดขวางหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของ กกม. หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติการตามคำสั่งของ กกม. ตามาตรา 65 (1) หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลตามมาตรา 65 (2) (3) หรือ (4) โดยไม่มีเหตุอันสมควร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับภัยคุกคามระดับวิกฤติ ดำเนินการทันทีไม่ต้องยื่นศาลมาตรา 66 ในกรณีที่เกิดภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับวิกฤติ ให้เป็นหน้าที่และอำนาจของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในการดำเนินการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ตามกฎหมายว่าด้วยสภาความมั่นคงแห่งชาติและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องมาตรา 67 ในกรณีที่เป็นเหตุจำเป็นเร่งด่วน และเป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับวิกฤติ คณะกรรมการอาจมอบหมายให้เลขาธิการมีอำนาจดำเนินการได้ทันที เท่าที่จำเป็น เพื่อป้องกันและเยียวยาความเสียหายก่อนล่วงหน้าได้ โดยไม่ต้องยื่นคำร้องต่อศาล แต่หลังจากการดำเนินการดังกล่าว ให้แจ้งรายละเอียดการดำเนินการดังกล่าวต่อศาลที่มีเขตอำนาจทราบโดยเร็วในกรณีร้ายแรงหรือวิกฤติเพื่อประโยชน์ในการป้องกัน ประเมินผล รับมือ ปราบปราม ระงับ และลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ ให้เลขาธิการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ หรือ กกม. มีอำนาจขอข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและต่อเนื่องจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยผู้นั้นต้องให้ความร่วมมือและให้ความสะดวกแก่คณะกรรมการหรือ กกม. โดยเร็วในมาตรา 67 นี้ สื่อสังคมออนไลน์มีความกังวลเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์แบบ Real time ซึ่งในร่าง พ.ร.บ.ฉบับก่อนการแก้ไข ได้มีการกำหนดว่า กกม.มีอำนาจขอข้อมูลเวลาจริงจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ แต่ฉบับล่าสุด มีการตัดคำว่า เวลาจริง แล้วเติมคำว่า ที่เป็นปัจจุบันและต่อเนื่องแทนเลขาธิการสมาคมความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ (TISA) ระบุว่าข้อมูลปัจจุบันหมายถึง ข้อมูลที่ถูกโจมตีจากแฮกเกอร์ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ใช่การพูดคุยกับภรรยา การไปเที่ยว ซึ่งการตรวจสอบจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตีไซเบอร์ ซึ่งมีเหตุจำเป็นต้องขอข้อมูลนั้น ถ้าไม่ให้ต้องขอหมายศาล ซึ่งสามารถอุทธรณ์ได้ 2 แบบ คือ อุทธรณ์คำสั่งคณะกรรมการและอุทธรณ์คำสั่งศาลมาตรา 68 ผู้ที่ได้รับคำสั่งอันเกี่ยวกับการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์อาจอุทธรณ์คำสั่งได้เฉพาะที่เป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับไม่ร้ายแรงเท่านั้นมาตรา 69 ห้ามมิให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ เปิดเผยหรือส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการที่ได้มาตามพระราชบัญญัตินี้ให้แก่บุคคลใด ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับการกระทำเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือผู้กระทำความผิดตามกฎหมายอื่นหรือเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบหลังจากนี้ อาจต้องรอจับตารายละเอียดของลักษณะภัยคุกคามทางไซเบอร์ มาตรการป้องกัน รับมือ ประเมิน ปราบราม และระงับภัยคุกคามทางไซเบอร์แต่ละระดับ รวมถึงความชัดเจนของคำต่างๆ ที่คณะกรรมการจะเป็นผู้ประกาศกำหนดต่อไป ตามที่มีกำหนดไว้ในมาตรา 59 ของ พ.ร.บ.ไซเบอร์ ฉบับนี้อ่าน | เปิดร่าง พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ขจัดมือแฮกเกอร์เจาะข้อมูลรัฐบาลและเอกชน พร้อมไขข้อสงสัย พ.ร.บ.ฉบับนี้ เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ละเมิดสิทธิประชาชนจริงหรือ? | สังคม | พ.ร.บ.ไซเบอร์,สนช.,ละเมิดสิทธิ,ข้อมูลคอมพิวเตอร์,ภัยคุกคามทางไซเบอร์,การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/278080 |
กะเหรี่ยงแก่งกระจาน ร้องกรรมการสิทธิ์ฯ สอบอุทยานเผาบ้าน | ซึ่งถูกจับกุมและเผาทำลายบ้านพัก ส่งหนังสือร้องเรียนถึง น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในกรณีดังกล่าว ในหนังสือร้องเรียนลงวันที่ 22 ส.ค.2554 ระบุว่านายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จำนวนมากใช้อาวุธปืนขู่บังคับ จับกุม และเผาทำลายบ้านพักของนายน่อแอะ โดยมีชาวกะเหรี่ยงกว่า 30 ครอบครัวถูกเผาทำลายบ้านเรือนและยุ้งข้าว และส่วนใหญ่หลบหนีไปเพราะความกลัว มีเพียง 5 ครอบครัวที่ยินยอมลงมาอยู่ที่บ้านโป่งลึก บางกลอย ในหนังสือยังระบุข้อร้องเรียนต่อการกระทำของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานด้วยว่า ได้ทำการเผารื้อถอนบ้านพักอาศัยของชาวกะเหรี่ยง ทำลายยุ้งข้าวเปลือก ยึดเงินสดจำนวน 20000 บาทของนายน่อแอะและบิดา ยึดเครื่องมือเลี้ยงชีพ และบังคับให้ละทิ้งถิ่นฐานโดยปราศจากเครื่องมือยังชีพและเครื่องนุ่งห่ม โดยร้องเรียนให้กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติสอบสวนข้อเท็จจริง และนำผลการสอบสวนไปดำเนินคดี และดำเนินการทางวินัย นายกระทง โชควิบูลย์ ผู้ใหญ่บ้านบางกลอย หมู่ 1 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน กล่าวว่า ตนยืนยันว่าชาวกะเหรี่ยงที่ถูกอพยพจากป่าล้วนเกิดในประเทศไทยทั้งหมด แต่เจ้าหน้าที่กลับพยายามผลักดันให้ข้ามไปยังฝั่งพม่า ส่วนผู้ที่ถูกอพยพมายังบ้านโป่งลึก บางกลอย มีจำนวน 39 คนซึ่งตนได้ทำทะเบียนประวัติไว้หมดแล้ว ซึ่งขณะนี้พักพิงอยู่กับญาติพี่น้อง และไม่มีที่ทำกิน ส่วนกรณีการจับกุมนายน่อแอะ มี่มิ ในข้อหานำอาวุธปืนเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้นายน่อแอะได้รับการประกันตัวแล้ว | ความคืบหน้ากรณีอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี อพยพชาวกะเหรี่ยงออกจากป่าแก่งกระจานใกล้ชายแดนไทย-พม่า เมื่อเดือน พ.ค.-มิ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดนายน่อแอะ มี่มิ ชาวกะเหรี่ยงสัญชาติไทย | คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,สิ่งแวดล้อม | กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ,กะเหรี่ยง,ต้นน้ำเพชรบุรี,แก่งกระจาน | https://prachatai.com/journal/2011/08/36676 |
นักเคลื่อนไหวชุมนุมร้องรัฐบาลพม่าปล่อยนักข่าวดีวีบีและนักโทษการเมืองทั้งหมด | กลุ่มรณรงค์ปล่อยตัวนักข่าวพม่า ชุมนุมหน้าสถานทูตพม่าในกรุงเทพฯ เรียกร้องให้ปล่อยตัว ละละ วิน และผู้สื่อข่าวดีวีบีรวม 17 คนที่ถูกทางการพม่าจับกุมวันนี้ (9 ก.ย. 54) เมื่อเวลา 10.00 น.องค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty international: AI) สำนักข่าวดีวีบี รวมไปถึงองค์กร นักเคลื่อนไหวที่ทำงานด้านประเด็นพม่าและสิทธิมนุษยชนที่รวมตัวกันในนาม กลุ่มรณรงค์ปล่อยตัวนักข่าวพม่า (The Free Burma VJ Campaign) ได้รวมตัวหน้าสถานทูตพม่าประจำประเทศไทย ในกรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าคืนอิสรภาพให้กับนางละละ วิน นักข่าวสถานีโทรทัศน์เสียงประชาิธิปไตยแห่งพม่า หรือ ดีวีบี และนักข่าวอีก 16 คนจากสำนักข่าวเดียวกัน รวมไปถึงเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองในพม่าทั้งหมดผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักเคลื่อนไหวที่มาร่วมตัวกันในวันนี้ราว 25 คน มีการสวมหน้ากากที่เป็นรูปใบหน้าของนางละละ วิน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการเรียกร้อง อีกทั้ง ได้มีการอ่านแถลงการณ์โดยตัวแทนจากองค์การนิรโทษกรรมสากล และตัวแทนสำนักข่าวดีวีบีได้อ่านหนังสือระบุข้อเรียกร้องเรียกร้องให้ทางการ พม่าปล่อยตัวนักข่าวดีวีบีทั้ง 17 คน รวมไปถึงนักโทษการเมืองอย่างเร่งด่วนจากนั้น ตัวแทนจากสำนักข่าวดีวีบีได้เดินเข้าไปในสถานทูตพม่า เพื่อยื่นจดหมายให้กับเจ้าหน้าที่สถานทูตพม่าโดยตรง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าขวางไว้ โดยระบุว่าเป็นธรรมเนียมของสถานทูตที่จะไม่ออกมารับจดหมาย ดังนั้น จึงต้องยื่นจดหมายดังกล่าวผ่านทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเอชานหน่าย ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ดีวีบี และหัวหน้ากองบรรณาธิการกล่าวว่า ไม่มีข้อหาอะไรที่จะไปจับกุมหละหละวิน เธอไม่ควรถูกจับ ไม่สมควรจะไปอยู่ในคุกแม้เพียงวันเดียว เราเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าปล่อยเธอให้เป็นอิสระทันทีเยอราดีน เมย์ ผู้ประสานงาน Free Burma VJ campaign กล่าวว่า เราไม่ควรปล่อยให้รัฐบาลทหารพม่าทำลายชีวิตของหละหละวิน เพียงเพราะเธอไปสัมภาษณ์พระ และทำงานให้ DVB นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมกลุ่ม Free Burma VJ campaign ต้องจัดประท้วงในวันนี้ เราขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลพม่าปล่อยตัว ผู้สื่อข่าววิดีโอทั้ง 17 คน ซึ่งพวกเขาถูกตัดสินอย่างไม่ยุติธรรม ให้ต้องโทษจำคุกเป็นระยะเวลาหลายสิบปีสำหรับนางละละ วิน ซึ่งเพิ่งอายุครบ 27 ปี เมื่อ 29 ส.ค. ที่ผ่านมานั้น ถูกจับในวันที่ 11 ก.ย. 52 ขณะที่กำลังสัมภาษณ์พระรูปหนึ่งที่วัด ในเมืองป่าโคะกู่ ภาคมะเกว ตอนบนของพม่า และต่อมาถูกศาลพม่าสั่งจำคุกเป็นเวลา 27 ปี ขณะที่ผู้ที่ร่วมประท้วงรายหนึ่งกล่าวว่า หากรัฐบาลในชุดปัจจุบันต้องการปฏิรูปประเทศ สิ่งที่ควรทำก็คือปล่อยนักโทษการเมืองที่ถูกกุมขังทั้งหมด และนางละละ วินก็เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่า ประเทศพม่ายังมีสิ่งที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงทั้งนี้ นักข่าวของดีวีบีถือว่ามีบทบาทสำคัญอย่างมากในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารทัน เหตุการณ์จากในพม่าออกสู่สายตาชาวโลก โดยเฉพาะในช่วงการประท้วงใหญ่ของพระสงฆ์ในปี 2550 ที่จบลงด้วยการที่รัฐบาลออกมาปราบปรามผู้ที่ออกมาประท้วง จนทำให้มีประชาชนเป็นจำนวนมากต้องล้มตายและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รัฐบาลพม่าถูกนานาชาติวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอีกทั้งมีรายงานด้วยว่า ในวันนี้ (9 ก.ย.54) มีการนัดออกมารวมตัวรณรงค์ในลักษณะเดียวกันนี้ที่หน้าสถานทูตพม่าทั้งใน ฝรั่งเศส อังกฤษ และในสวิตเซอร์แลนด์ด้วย | กลุ่มรณรงค์ปล่อยตัวนักข่าวพม่า ชุมนุมหน้าสถานทูตพม่าในกรุงเทพฯ เรียกร้องให้ปล่อยตัว ละละ วิน และผู้สื่อข่าวดีวีบีรวม 17 คนที่ถูกทางการพม่าจับกุม การประท้วงหน้าสถานทูตพม่่าในกรุงเทพฯ เมื่อ 9 ก.ย. | ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน | Burma VJ,DVB,Free Burma VJ,ดีวีบี,นักโทษการเมืองพม่า,พม่า,ละละ วิน,สื่อมวลชน,สื่อมวลชนพม่า,เสรีภาพสื่อ | https://prachatai.com/journal/2011/09/36849 |
เปิด 11 เคล็ดลับ ปลดหนี้หลักล้านใน 4 ปี หลังหลงผิดเป็นทาสบัตรเครดิต | คุณ ,นางงามยิ้มแฉ่ง, สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้ตั้งกระทู้แบ่งปันประสบการณ์ ปลดหนี้หลักล้าน ใน 4 ปี โดยจุดเร่ิมต้นของการเป็นหนี้คือการใช้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อต่างๆ ประกอบกับการใช้ชีวิตสนุกสนาน กินเที่ยวรูดกระจาย สุดท้ายไม่มีเงินจ่าย โดนหมายศาลเรียกไปไกล่เกลี่ย ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตใหม่ โดยมีหลักๆ 11 ข้อ ดังนี้,1. ตัดทุกสิ่งที่ฟุ่มเฟือยออกให้หมด อย่างเราเลิกใช้น้ำหอม เลิกซื้อเสื้อผ้า เปลี่ยนครีมอาบน้ำเป็นสบู่ บุหรี่ เหล้า,2. วางแผนงานเงิน อย่างเราจะทำค่าใช้จ่าย 3 เดือนล่วงหน้า ว่าเราจะต้องจ่ายออกเท่าไหร่ รับเท่าไหร่,3. มีแผน 2 เสมอ เราเข้าใจว่า การมีแผนสองสำหรับคนไม่มีเงินมันวางแผนยาก แต่เราต้องทำ เพราะเรื่องไม่คาดคิดมันจะเกิดเสมอ,4. พึ่งตัวเองให้ได้มากที่สุด ยืมคนอื่นให้น้อยที่สุด,5. อย่าเอาหนี้มาต่อหนี้ ที่ว่าดอกถูกมาปิดดอกแพงนะ บอกคำเดียวว่าอย่า,6. หาช่องทางทำเงินเพิ่ม ของเราอยาก แต่ไม่มีเวลา เพราะทำโอทีหนักมาก,7. เวลาเป็นสิ่งสำคัญ หนี้สะสมมาขนาดนี้ กว่าจะหมดต้องใช้เวลาแน่นอน,8. ตั้งสติ บางครั้งชีวิตเราจะร้ายกับเราจนทำให้เราเกือบเสียสติ แต่เราต้องตั้งสติ,9. ควรผ่อนคลายบ้าง ออกไปพบเพื่อน ร้านข้าว ร้านส้มตำ ไม่จำเป็นต้องแพง อย่าทำแบบเรา เพราะจะเครียดมาก,10. พยายามรับสายเจ้าหนี้ทุกสาย แม้มันจะยากในช่วงแรก แต่ขอให้รับ,11. เพื่อนแท้ ไม่ใช่ว่าเราจะไปขอความช่วยเหลือจากเขา แต่เขาจะอยู่ข้างเราเสมอ แม้จะช่วยอะไรเราไม่ได้ก็ตาม,สำหรับใครที่อยากอ่านเรื่องราวการปลดหนี้ตลอด 4 ปีของเจ้าของกระทู้ฉบับเต็มๆ (,คลิกที่นี่,),นางงามยิ้มแฉ่ง | เปิดเคล็ดลับ 11 วิธีปลดหนี้หลักล้านใน 4 ปี หลังตกเป็นทาสบัตรเครดิต กินเที่ยวช็อป รูดกระจายจนหนี้พุ่งจนไม่มีเงินจ่าย | ข่าว,สังคม | ปลดหนี้,หนี้,บัตรเครดิต,ข่าวโซเชียล,ใช้หนี้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1375421 |
สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 21 - 27 ต.ค. 2555 | วันที่ 20 ต.ค. นายสมมาต ขุนเศษฐ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดถึงการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน หรือ กรอ.สัญจร ในวันพรุ่งนี้ ที่มีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า ภาคเอกชนจะเสนอให้รัฐบาลพิจารณาชะลอการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ทั่วประเทศ ซึ่งจะบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. ปี 2556 ในส่วน 70 จังหวัดที่เหลือออกไปก่อน โดยให้คงค่าจ้างขั้นต่ำไว้จนถึงปี 2558 หลังจากนั้น จะขอให้มีการพิจารณาปล่อยให้ค่าแรงเป็นไปตามกลไกตลาด โดยให้แต่ละพื้นที่มีการแข่งขันกันเองอย่างเสรีทั้งนี้ การกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ควรให้แก่แรงงานที่จบการศึกษาขั้นต่ำประถมศึกษาปีที่ 4 ขึ้นไป เพื่อให้แรงงานพัฒนาด้านการศึกษาไม่ใช่ให้เป็นการทั่วไป และขอให้รัฐบาลหามาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงนำร่องไปแล้วด้วย เนื่องจากแบกรับภาระไม่ไหว อีกทั้ง ทำให้ความสามารถทางการแข่งขันต่ำลงอย่างไรก็ตาม นายสมมาต คาดว่า ในปีหน้าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มพบความยากลำบาก จากปัญหาเศรษฐกิจโลกทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรป ทำให้การหาตลาดยากขึ้น หากมีภาระค่าแรงเข้ามาเพิ่มก็จะยิ่งซ้ำเติมให้ขีดความสามารถทางการแข่งขัน ต่ำลง(มติชน 21-10-2555)กองวิจัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เผยตัวเลขผู้ประกันตนที่ขึ้นทะเบียนขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึง กันยายนที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ขอใช้สิทธิแล้ว 2 แสนคน แบ่งเป็นการลาออกจากงานเอง 1.79 แสนคน และถูกเลิกจ้าง 2.7 หมื่นคน ทั้งนี้ข้อมูลพบว่า แรงงานอุตสาหกรรมที่มีผู้ประกันตนลาออกและถูกเลิกจ้างมากที่สุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย1. อุตสาหกรรมการผลิต มีผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน 7.9 หมื่นคน แบ่งเป็น การลาออกเอง 6.7 หมื่นคน และถูกเลิกจ้าง 1.2 หมื่นคน2. อุตสาหกรรมการขายส่ง การขายปลีก การซ่อมยานยนต์และรถจักรยานยนต์ มีผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน 4 หมื่นคน แยกเป็น ลาออกเอง 3.6 หมื่นคน และถูกเลิกจ้าง 3898 คน3. อุตสาหกรรมที่พักแรมและบริการด้านอาหาร มีผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน 1.4 หมื่นคน แบ่งเป็น ลาออกเอง 1.2 หมื่นคน และถูกเลิกจ้าง 2341 คน4. กิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุนอื่นๆ มีผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน 1.3 หมื่นคน แยกเป็นการลาออกเอง 1.1 หมื่นคน และถูกเลิกจ้าง 1436 คน5. การก่อสร้าง มีผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน 9980 คน แบ่งเป็น การลาออกเอง 7536 คน และถูกเลิกจ้าง 2444 คนส่วนสาเหตุการลาออกจากงาน อาทิ การเปลี่ยนงาน ไปประกอบธุรกิจส่วนตัว ดูแลคนในครอบครัว และหมดสัญญาจ้าง(อินโฟร์เควสท์ 22-10-2555)นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ครม.ได้เห็นชอบให้ข้าราชการลาอุปสมบท ในโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 28 กรกฎาคม 2555 โดยไม่ถือเป็นวันลาตามที่ กรมการศาสนา(ศน.) กระทรงวัฒนธรรม(วธ.) เสนอนางสุกุมล กล่าวต่อไปว่า สำหรับการใช้สิทธิการลาดังกล่าว กำหนดระยะเวลาอุปสมบทไม่เกิน 15 วัน โดยให้สิทธิแก่ข้าราชการ (ยกเว้นข้าราชการการเมือง และข้าราชการส่วนท้องถิ่น) พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และพนักงานรัฐวิสาหกิจที่เคยลาอุปสมบทระหว่างรับราชการมาแล้วสามารถลาอุปสมบทเพื่อเฉลิมพระเกียรติตามมติคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ได้อีก ส่วนผู้ที่ไม่เคยลาอุปสมบทระหว่างรับราชการ หากได้ลาอุปสมบทเพื่อเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้แล้ว จะไม่กระทบสิทธิในการลาอุปสมบทในอนาคต นอกจากนี้ การใช้สิทธิตามมติคณะรัฐมนตรี ผู้ลาจะต้องเข้าร่วมอุปสมบทในโครงการที่ส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐหรือภาคเอกชนจัดขึ้นเป็นโครงการอย่างชัดเจน หากอุปสมบทเป็นเอกเทศ โดยไม่ได้เข้าร่วมโครงการ จะไม่ได้รับสิทธิในการลาดังกล่าวกิจกรรมโครงการนี้ เราจะจัดพร้อมกันในเดือน ธันวาคม เพื่อเปิดโอกาสให้ข้าราชการได้มีโอกาสบำเพ็ญคุณงามความดี เพื่อถวายเป็น พระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ด้วยการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ และเพื่อเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนในการทำความดีที่สำคัญผู้เข้าร่วมอุปสมบทจะ ได้รับการอบรมตามหลักสูตรศาสนาศึกษา สำหรับผู้บวชระยะสั้นตามที่กรมการศาสนาหรือคณะสงฆ์กำหนดด้วยรมว.วัฒนธรรม กล่าว(เนชั่นทันข่าว 22-10-2555)เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมด้านภาษาต่างประเทศให้แก่นัก เรียน นักศึกษา และแรงงานไทย เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ซึ่งกระทรวงแรงงานร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่าขณะนี้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ได้ร่วมกับสถานศึกษาสังกัด ศธ.จัดตั้งศูนย์ดังกล่าวขึ้นแล้วในสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค (สพภ.) และศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด (ศพจ.) จำนวน 27 แห่งทั่วประเทศ เช่น นนทบุรี สุพรรณบุรี มหาสารคาม อุบลราชธานีนพ.สมเกียรติกล่าวว่า ขณะนี้มีสถานศึกษาสังกัด ศธ.เข้าร่วมเป็นศูนย์อบรมย่อย จำนวน 50 แห่ง และได้จัดทำหลักสูตรอบรมด้านภาษา เช่น ภาษาอังกฤษเพื่อการทำงาน ภาษาอังกฤษเพื่อการบริการและการขาย ภาษาอังกฤษเพื่อการนวด ภาษาจีนเพื่อการทำงาน ภาษาพม่าเพื่อการสื่อสาร โดยตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนที่ผ่านมา มีผู้เข้ารับการอบรมแล้ว จำนวน 2576 คนได้ให้ กพร.ขยายการจัดตั้งศูนย์อบรมด้านภาษาต่างประเทศให้ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่ว ประเทศภายในปีนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่มีนโยบายต้องการเร่งพัฒนาทักษะด้านภาษา ต่างประเทศและภาษาอาเซียนให้แก่นักเรียน นักศึกษา และแรงงานไทยในสาขาต่างๆ เนื่องจากปัจจุบันคนไทยมีจุดอ่อนในเรื่องนี้ นพ.สมเกียรติกล่าว(ประชาชาติธุรกิจ 23-10-2555)นายสมมาต ขุนเศษฐ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ไม่สามารถเสนอให้ชะลอการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันที่เหลือ 70 จังหวัดที่จะมีผลในวันที่ 1 มกราคม 2556 ในเวทีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.) ที่มีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานที่เกาะสมุยเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา เนื่องจากตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ขอให้ไปหารือกับนายกรัฐมนตรีในเวทีอื่นแยกออกไปถ้าเป็นเวทีอื่น ส.อ.ท.คงแค่ยื่นเรื่องเสนอ หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีคงให้กระทรวงแรงงานไปดูแล แน่นอนว่ากระทรวงแรงงานจะเดินหน้าขึ้นค่าแรงต่อไป เรื่องนี้ ส.อ.ท.ทำดีที่สุดแล้ว ดังนั้นผู้ประกอบการโดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม หรือเอสเอ็มอี คงต้องทำใจและดูแลตัวเองต่อไป นายสมมาตกล่าวนายสมมาตกล่าวว่า ทั้งนี้ ช่วงไตรมาส 2 (เมษายน-มิถุนายน) ของปี 2556 คาดว่าจะเห็นผลชัดเจนขึ้นจากผลกระทบค่าแรง เพราะจะส่งผลถึงราคาวัตถุดิบ ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ขณะเดียวกันยังมีผลจากเศรษฐกิจโลกที่ยังถดถอยโดยเฉพาะสหภาพยุโรป อาจทำให้เอสเอ็มอีต้องทยอยปิดกิจการลง และค่าแรงยังมีผลต่อจิตวิทยาทำให้ราคาสินค้าปลายทางขยับตามอย่างเลี่ยงไม่ ได้ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเพราะค่าครองชีพจะสูงกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นรัฐบาลต้องเร่งดูแลเพราะมาตรการที่ระบุว่าจะช่วยเหลือเอสเอ็มอียัง ไม่เป็นรูปธรรมรายงานข่าวจากคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ประจำเดือนตุลาคม แจ้งว่า ในการประชุมที่ผ่านมาได้พิจารณาวาระค่าแรงเพื่อกลั่นกรองก่อนเสนอกรอ.ซึ่งมี ตัวแทนจาก สศช.เข้าหารือด้วย โดย สศช.ได้ขอให้กกร.เสนอเรื่องดังกล่าวเป็นการส่วนตัวกับนายกรัฐมนตรีเพราะเห็น ว่าเป็นเรื่องใหญ่ควรหารือกันนอกรอบก่อน ไม่ควรเสนอเข้า กรอ.ทันที ขณะเดียวกันทาง ส.อ.ท.เองยังมีความเห็นที่ต่างกันเพราะระดับแกนนำใน ส.อ.ท.ต่างเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากค่าแรง ทำให้ไม่มีการผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง(มติชน 23-10-2555)รศ.ดวงสุดา เตโชติรส อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (มทร.พระนคร) เปิดเผยว่า จากผลการประชุมคณะกรรมการบริหารงานบุคคลสำหรับพนักงานมหาวิทยาลัย มทร.พระนคร ครั้งที่ 4 /2555 ที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติอนุมัติร่างประกาศคณะกรรมการบริหารงานบุคคลสำหรับพนักงาน มหาวิทยาลัย มทร.พระนคร มีผลคับใช้ตั้งวันที่ 1 ตุลาคม 2555 จำนวน 2 เรื่อง คือ เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อเลื่อนค่าตอบ แทนพนักงานมหาวิทยาลัย และเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการเลื่อนค่าตอบแทนพนักงานมหาวิทยาลัย ส่งผลให้การปรับโครงสร้างเงินเดือนเท่าเทียมกับข้าราชการรศ.ดวงสุดา กล่าวว่า นอกจากนี้จากการอนุมัติร่างประกาศดังกล่าว ยังสะท้อนให้เห็นว่า มทร.พระนคร ดูแลพนักงานมหาวิทยาลัยไม่น้อยไปกว่าข้าราชการ ขณะนี้ได้เร่งปรับลูกจ้างชั่วคราวให้เป็นพนักงานมหาวิทยาลัย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำระหว่างพนักงานมหาวิทยาลัย ข้าราชการ และลูกจ้างชั่วคราวในสถาบันการศึกษา ที่สำคัญคณะกรรมการสวัสดิการภายใน มทร.พระนคร ยังได้จัดสวัสดิการให้พนักงานมหาวิทยาลัย 2 ประเภท คือ 1.ประเภทสวัสดิการสงเคราะห์ ได้แก่ กรณีสมรส กรณีคลอดบุตร กรณีเจ็บป่วย กรณีถึงแก่กรรม ส่วนประเภทที่ 2 กรณีจัดกิจกรรม หรือสวัสดิการประเภทอื่น ได้แก่ กรณีประสบภัยจากการปฏิบัติงาน และเกิดความเสียหายร้ายแรงต่อร่างกาย กรณีสนับสนุนค่าเชื้อเพลิงในการเดินทางไปร่วมพิธีศพ กรณีสนับสนุนในการตรวจสุขภาพประจำปี กรณีสนับสนุนค่าประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับบุคลากร และยังให้ความช่วยเหลือบุคลากรที่ประสบปัญหาอุทกภัยด้วยพนักงานมหาวิทยาลัยเป็นส่วนสำคัญในการผลักดัน มทร.พระนครให้มีคุณภาพ โดยที่ผ่านมาผู้บริหาร มทร.พระนคร ห่วงใย เอาใจใส่สวัสดิการของบุคลากรทุกคน รวมทั้งได้ปรับเงินเดือนให้ผู้ที่จบการศึกษาปริญญาตรี 15000 บาท เพื่อให้บุคลากรของ มทร.พระนครมีขวัญและกำลังใจในการทำงาน จึงขอเชิญชวนให้บุคลากรที่มีสิทธิในสวัสดิการดังกล่าวมาใช้สิทธิอย่าง เต็มที่ เพราะเป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครจัดไว้ให้ แล้วรศ.ดวงสุดา กล่าว(แนวหน้า 23-10-2555)นายนคร ศิลปอาชา อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน(กพร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีส่งมอบกำลังแรงงานคุณภาพให้แก่สถานประกอบการใน จังหวัดอุบลราชธานีใน 3 สาขาจำนวน 39 คน แบ่งเป็นสาขาช่างซอมรถยนต์ สาขาเครื่องมือช่างกลและสาขาช่างสีอุตสาหกรรมว่า กพร.ได้ให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค(สพภ.)และศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด (ศพจ.)พัฒนาทักษะฝีมือแรงงานตามโครงการระบบประกันคุณภาพการพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อผลิตแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของสถานประกิจการและ เพิ่มผลิตภาพแรงงานให้แก่ภาคอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการปรับขึ้นค่าจ้างขั้น ต่ำเป็นวันละ 300 บาท ทั้งนี้ กพร.ตั้งเป้าหมายจะพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้แก่ผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปทั้งผู้ที่จบม.3 ปวช. ปวส.ที่ว่างงานตลอดทั้งปี โดยตั้งเป้าหมายจะพัฒนาให้ได้ประมาณ 3 แสนคน ภายใต้งบประมาณกว่า 2 พันล้านบาท ทั้งนี้ เยาวชนและผู้ว่างงานที่สนใจสมัครเข้าอบรมได้ที่สพภ.และศฝจ.ทุกแห่งอธิบดีกพร. กล่าวอีกว่า ผู้ที่เข้าอบรมจะได้รับการพัฒนาทักษะฝีมือด้านช่างในสาขาที่สมัครเข้าอบรม และทักษะภาษาอังกฤษ รวมถึงอบรม 9 พฤติกรรมสู่ความสำเร็จ เช่น ความอดทน ซื่อสัตย์ มีวินัยโดยใช้เวลาอบรมและฝึกงานในสถานประกอบการรวมประมาณ 15 เดือน เมื่อจบหลักสูตรอบรมแล้ว สถานประกอบการจะรับผู้ผ่านการอบรมเข้าทำงานโดยได้รับค่าจ้างมากกว่าวันละ 300 บาท นอกจากนี้ กพร.จะร่วมกับผู้ประกอบการต่างๆในการฝึกอบรมพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่แรงงานที่ ทำงานอยู่ในสถานประกอบการต่างๆจำนวน 3 ล้านคนโดยใช้สถานประกอบการเป็นศูนย์ฝึกอบรมด้วยเชื่อว่าโครงการระบบประกันคุณภาพการพัฒนาฝีมือแรงงาน จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในสาขาต่างๆในภาพรวมของประเทศได้ หลังจากนี้กพร.จะขยายผลโครงการนี้โดยขอให้กรมการจัดหางาน(กกจ.)ซึ่งจัดงาน นัดพบแรงงานในจังหวัดต่างๆเป็นประจำทุกเดือน ช่วยสำรวจปัญหาความขาดแคลนแรงงานของสถานประกอบการในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ต่างๆ เมื่อมีข้อมูลในเรื่องนี้แล้วกพร. จะได้เร่งฝึกอบรมแรงงานป้อนให้แก่สถานประกอบการโดยในส่วนของปัญหาการขาดแคลน แรงงานสาขาก่อสร้างนั้น กพร.จะนัดประชุมร่วมกับสมาคมผู้รับเหมาก่อสร้างเพื่อจะได้รู้ถึงความต้องการ ด้านแรงงานที่แท้จริง รวมทั้งประสานกับกกจ.ให้จัดงานนัดพบแรงงานโดยเน้นสาขาช่างก่อสร้างด้วย นายนคร กล่าว(เนชั่นทันข่าว 24-10-2555)เมื่อเร็วๆนี้ นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์ข้อมูลกำลังคนด้านแรงงานจังหวัดชลบุรี ณ ห้องประชุมพระพิพิธโภไคย ศาลากลางจังหวัดชลบุรี ตามที่จังหวัดชลบุรี ได้จัดทำศูนย์กำลังคนด้านแรง ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกระทรวงแรงงาน สถาบันการศึกษา สมาคมบริหารงานบุคคลภาคตะวันออก รวมถึงสถานประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ของจังหวัดชลบุรี โดยจัดหางานจังหวัดชลบุรี ได้เชิญผู้ประกอบการกว่า 70 แห่ง มาเปิดรับสมัครงานกว่า 5000 อัตรานายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า จังหวัดชลบุรี ได้จัดทำโครงการศูนย์กำลังคนด้านแรงงาน (CHONBURI LABOUR BANK) ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกระทรวงแรงงาน สถาบันการศึกษา สมาคมบริหารงานบุคคลภาคตะวันออก รวมถึงสถานประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ของจังหวัดชลบุรี ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ กลุ่มอุตสาหกรรมโรงแรมและบริการ และกลุ่มโลจิสติกส์เนื่องจากจังหวัดชลบุรี รวมถึงจังหวัดเขตรอยต่อโดยรอบ มีอัตราการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หลายแห่ง เป็นกลุ่มจังหวัดที่มีความต้องการแรงงานจำนวนมากหลายประเภท มีการหลั่งไหลของแรงงานจากทั่วทุกภูมิภาคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้ามาทำงานและประกอบอาชีพในภาคอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม การท่องเที่ยวและภาคเกษตรกรรม ความต้องการกำลังแรงงานจำนวนมากทำให้เกิดการแข่งขันด้านแรงงานสูง สถานประกอบการต่างๆ ต้องเสียค่าใช้จ่ายในแต่ละปีสูงมากเพื่อการสรรหาแรงงาน กาจัดทำฐานข้อมูลด้านแรงงานเถื่อนเป็นยุทธศาสตร์ใหม่ ที่จะช่วยแก้ปัญหาแรงงานระยะยาวและเป็น Chonburi Model อีกด้วยศูนย์กำลังคนด้านแรงงานจังหวัดชลบุรี เป็นแนวทางการพัฒนาระบบข้อมูลเพื่อการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนกำลังคน ซึ่งเกิดจากปัญหาการผลิตแรงงานไม่เพียงพอ และคุณภาพกำลังคนไม่ตรองกับความต้องการของผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นปัญหาเชิงนโยบาย การจัดทำฐานข้อมูลกำลังคนเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยแบ่งเบาปัญหาดังกล่าว และเป็นหนทางในการเสนอแนะการพัฒนากำลังคนให้มีประสิทธิภาพ โดยความร่วมมือทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยงานด้านการศึกษา และผู้มีส่วนได้เสีย การจัดเก็บข้อมูลความต้องการแรงงานจากสถานประกอบการ นายจ้าง นักบริหารงานบุคคล หน่วยงานบริการจัดหางาน ผ่านช่องทาง Website http//:www.cld.go.th หลังจากนั้นผู้จัดการข้อมูลทำหน้าที่จัดเก็บ จำแนก ประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ และยุทธศาสตร์ในการพัฒนากำลังคนของจังหวัดต่อไป(ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 24-10-2555)นายปรีชา อินทรชาธร จัดหางานจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า สำนักงานแรงงานในมาเลเซียแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการร้องทุกข์ของแรงงาน หญิงไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศมาเลเซีย โดยบริษัทนายจ้างในประเทศมาเลเซียมีการจ้างแรงงานหญิงไทยด้วยการ เสนอให้แต่งงานกับผู้ประกอบการ หรือเจ้าของบริษัท มีการวางเงินสินสอดให้ครอบครัวของแรงงานหญิงไทยและมีการทำสัญญากัน เป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับเงื่อนไขในการทำงาน พร้อมทั้งจัดทำใบอนุญาตทำงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เนื่องจากเจ้าของบริษัทมีภรรยาอยู่ก่อนแล้วหลายคน ตามหลักการของศาสนาอิสลามผู้ชายจะสามารถสมรสกับสตรีได้ไม่เกิน 4 คน ทำให้หญิงไทยไม่สามารถทำใจยอมรับได้จึงเดินทางกลับประเทศไทยสำนักงานจัดหางาน จ.ยโสธร จึงขอประชาสัมพันธ์ให้แรงงานหญิงไทยที่จะเดินทางไปทำงานในมาเล เซียตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัดก่อนตัดสินใจเดินทางไปทำงานในลักษณะดัง กล่าว หากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางาน จ.ยโสธร โทรศัพท์หมายเลข 0-4572-2057(แนวหน้า 24-10-2555)นายจักรพร อุ่นจิตต์ ผู้อำนวยการสถาบันการก่อสร้างแห่งประเทศไทย กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์อุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในขณะนี้พบว่า ผู้ประกอบไม่สามารถขยายงานได้ตามแผนที่วางไว้ และเริ่มชะลอรับงานใหม่สาเหตุเนื่องมาจากการขาดแคลนแรงงานกว่า 300000 คน โดยเฉพาะโครงการบ้านที่อยู่อาศัย ที่ส่งผลให้การส่งมอบบ้านให้ลูกค้าล่าช้าตามไปด้วย และยังคาดการณ์ว่าแรงงานที่มีในปัจจุบันไม่เพียงพอสำหรับโครงการก่อสร้างใน ปี 2555-2556นายจักรพร ยังกล่าวถึงแรงงานของไทยในปัจจุบันว่า แรงงานไทยตอนนี้เฉลี่ยมีอายุมากขึ้น อีกทั้งเด็กใหม่มักจะเลือกงานบริการมากกว่าที่จะใช้แรงงาน โดยเฉพาะในภาคก่อสร้างที่ถูกมองว่าเป็นงานหนัก แม้ว่าเอกชนพยายามหาเทคโนโลยีมาทดแทน แต่ก็ไม่สามารถจะรองรับได้ทั้งหมดนอกจากนี้ สถาบันฯ ยังประเมินว่า ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบ หลังจากกรณีที่ พม่ามีการรณรงค์ให้แรงงานที่อยู่ในต่างประเทศกลับเข้าไปทำงานในประเทศ เพื่อรองรับการขยายตัวในการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่ รวมถึงระบบสาธารณูปโภค จากการที่พม่าได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในปี 2556 ด้วย(Mthai News 24-10-2555)ที่มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก ศ.ดร.สุจินต์ จินายน อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยพล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่ 3 นายวัฒนา พัทรชนม์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายวชิรศักดิ์ เล้าประเสริฐ นายกสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และพลเอก ดร.ศิริ ทิวะพันธุ์ ประธานสถาบันพัฒนาสี่แยกอินโดจีน ได้ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่าง 5 หน่วยงาน ในการจัดฝึกอบรมพนักงานขับรถบรรทุก เพื่อผลิตพยักงานขับขี่รถที่มีคุณภาพ ลดปัญหาการขาดแคลนพนักงานขับรถในภาคการขนส่ง พร้อมทั้งยกระดับพนักงานขับรถให้มีความรู้ ความสามารถทั้งในเรื่องของการขับขี่รถที่ถูกต้องปลอดภัย และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่ง เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของสังคม และรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน สนับสนุนกำลังพลซึ่งปลดประจำการให้มีทักษะวิชาชีพ และมีแหล่งงานรองรับที่ชัดเจน และถือว่าเป็นกิจกรรมนำร่องในการบูรณาการ ความร่วมมือทุกภาคส่วนในการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมต่อไป โดยเบื้องต้นผู้เข้ารับการอบรมจะมาจากกำลังพลซึ่งปลดประจำการในสังกัดกองทัพ ภาคที่ 3 ซึ่งมีระยะเวลาในการฝึกอบรมทั้งสิ้น 12 สัปดาห์ทั้งนี้ทางวิทยาลัยโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน มหาวิทยาลัยนรศวร ได้เล็งเห็นความสำคัญของการยกระดับวิชาชีพพนักงานขับรถบรรทุก ทั้งนี้การจัดการโซ่อุปทาน ในอุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์ ยังถือว่าขาดแคลนเป็นอย่างมาก และจากการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ของระบบโลจิสติกส์ไทยใน ปัจจุบันพบว่าประสิทธิภาพของการจัดการโลจิสติกของไทยยังต่ำกว่าประเทศคู่ค้า ทั้งในด้านศักยภาพผู้ขับขี่และด้านต้นทุน จำเป็นต้องปรับปรุงประสิทธิภาพในทุกระดับเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การ เป็นประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนดังกล่าวดร.ดุษฏี สถิรเศรษฐวี รองผอ.วิทยาลัยโลจีนติกส์และโซ่อุปทาน มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดเผยว่า สมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ได้มาปรึกษาวิทยาลัยฯ อยากพัฒนาพนักงานขับรถบรรทุกที่มีคุณภาพ และให้มีเพียงพอกับความต้องการของผู้ประกอบการ ที่ปัจจุบัน มีรถบรรทุก 30 % ที่ต้องจอดอยู่เฉย ๆ เนื่องจากขาดพนักงานขับรถบรรทุก จึงปรึกษากับกรมการขนส่งทางบก และได้รับคำตอบว่ามีโครงการอบรมพนักงานขับรถบรรทุก แต่คนที่จะเข้ามาในตลาดนี้มีไม่มาก และสถิติการเกิดอุบัติเหตุก็มีมาก พนักงานขับรถขาดการควบคุมยานพาหนะอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ประเทศไทย กำลังจะเปิดเสรีอาเซียน หากผู้ขับรถบรรทุกมีไม่เพียงพอ ก็จะขาดโอกาส จึงประสานกับกองทัพภาคที่จัดทำโครงการนี้ขึ้นมา โดยดึงกำลังพลที่ใกล้จบประจำการ มาฝึกอบรมเป็นพนักงานขับรถบรรทุก มีระยะเวลาฝึกอบรม 12 สัปดาห์ ทั้งภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ และภายหลังจากการฝึกอบรม ผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับใบอนุญาตขับขี่รถบรรทุกของกรมการขนส่งทางบก และมีโอกาสได้เข้าทำงานกับผู้ประกอบการขนส่งสินค้า ที่เป็นสมาชิกสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย โดยมีรายได้และสวัสดิการที่เหมาะสม(เนชั่นทันข่าว 24-10-2555)24 ต.ค. 55 - เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศเผยแพร่ข่าวการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยใน อิสราเอล ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะกันอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในเมืองเอสโก โดยระบุว่าด้วยวันนี้ (๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๕) นายมนัสวี ศรีโสดาพล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีแรงงานไทยได้รับบาดเจ็บจากการปะทะระหว่าง อิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ในเมืองเอสโก (Eshkol) ใกล้บริเวณฉนวนกาซา โดยมีประเด็นสำคัญสรุปได้ดังนี้๑. สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้รายงานว่า เมื่อวันนี้ (๒๔ ต.ค. ๒๕๕๕) เวลา ๐๗.๐๐ น. (เวลาท้องถิ่น) ได้มีการปะทะกันระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส โดยมีการยิงจรวดจากฉนวนกาซาเข้ามาในเมือง Eshkol ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของอิสราเอล ทำให้แรงงานไทย ๓ คน ซึ่งกำลังทำงานในฟาร์มเลี้ยงไก่ได้รับบาดเจ็บ โดยจำนวน ๒ คนบาดเจ็บสาหัส และ ๑ คน บาดเจ็บเล็กน้อย ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ทางการอิสราเอลได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ไปรับผู้บาดเจ็บเพื่อนำส่งโรงพยาบาลโซโรกา (Soroka) ในเมืองเบียเชวา (Beer Sheva)๒. ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บทั้งสามที่โรงพยาบาลดังกล่าวแล้ว เพื่อเตรียมประสานงานและให้ความช่วยเหลือ โดยทราบว่าผู้ที่บาดเจ็บสาหัส ๒ คน อยู่ระหว่างการผ่าตัด ทั้งนี้ ได้มีการดำเนินการประสานแจ้งให้ญาติแรงงานไทยดังกล่าว ซึ่งมีภูมิลำเนาที่ จ.อุดรธานี (๒ คน) และ จ.นครพนม (๑ คน) แล้ว๓. นอกจากนี้ นายมนัสวีให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีแรงงานไทยในอิสราเอลประมาณ ๓๐๐๐๐ คน โดยมีประมาณ ๒๗๐๐๐ คน ทำงานในภาคการเกษตร และในกรณีที่แรงงานไทยได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีนั้น หากเป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทางการอิสราเอล และบริษัทจัดหางานจะรับผิดชอบด้านการรักษาพยาบาล.(ไทยรัฐ 24-10-2555)นายอนุสรณ์ ไกรวัฒนุสสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายบัญญัติ ศิริปรีชา อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ณ กรุงอาบูดี สหรัฐอาหรับเอมิเรต ว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายสเหมียน ศรีสะอาด แรงงานไทยจาก จ.ตาก อายุ 41 ปี ถูกนำขึ้นศาลอาบูดาบี ในข้อหานำยาพาราเซตามอล 500 มิลลิกรัม จำนวน 195 เม็ด ยาแก้แพ้ จำนวน 195 เม็ด และยาแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ (Tramadol) จำนวน 30 เม็ด เข้าประเทศ โดยนายสเหมียน ถูกจับที่สนามบินอาบูดาบี ซึ่งศาลตัดสินจำคุก 1 ปี ปรับ 20000 ดีแรห์ม หรือประมาณ 178000 บาท และจะถูกเนรเทศ ห้ามเข้ายูเออีตลอดชีวิตทั้งนี้ เมื่อเดือนสิงหาคม 2554 ทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ออกประกาศ เรื่อง ยารักษาโรคต้องห้ามและเข้มงวด 374 รายการ ส่วนหนึ่งเป็นยาสามัญประจำบ้านที่คนไทยซื้อหากันได้ตามร้านขายยาทั่วไป แต่ประเทศยูเออีห้ามนำเข้า ดังนั้น แรงงานไทยทุกคนที่จะเข้ามาทำงานในประเทศยูเออี ไม่ควรนำยาเข้ามาโดยเด็ดขาด ยกเว้นมีใบรับรองแพทย์เป็นภาษาอังกฤษระบุว่า จำเป็นต้องใช้เพื่อรักษาโรคดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีแรงงานไทยถูกจับมาแล้ว 4 รายขอเตือนให้แรงงานทุกคนควรระมัดระวังในเรื่องนี้ให้มาก ก่อนเดินทางออกจากประเทศไทย กำชับให้กรมการจัดหางาน (กกจ.) เร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับแรงงานไทย และสั่งให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนหางานสุวรรณภูมิสอบถามแรงงานไทยอีกครั้ง ก่อนการเดินทางด้วย อย่างไรก็ตาม แรงงานที่จะเดินทางไปทำงานที่ยูเออีสามารถตรวจสอบรายละเอียดสิ่งของต้องห้าม ก่อนการเดินทางได้ที่ www.overseas.doe.go.th(เนชั่นทันข่าว 25-10-2555)ดร.กฤษดา แสวงดี อุปนายกสภาการพยาบาล กล่าวปาฐกถาเรื่องการเตรียมความพร้อมพยาบาลไทยสู่อาเซียน ตอนหนึ่งว่า จากการสำรวจความเข้าใจของบุคลากร 7 สาขาที่จะเปิดให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานได้หลังเปิดประชาคมอาเซียน นั้น พบว่า บุคลากรด้านการพยาบาลมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้เพียง10% เท่านั้น ในขณะที่ความท้าทายในระบบบริการสุขภาพที่จะเกิดจากการรวมเป็นประชาคม นั้นมีหลายเรื่องทั้งโรคติดต่อ โรคอุบัติใหม่ และการควบคุมโรค การเคลื่อนย้ายแรงงานซึ่งถือเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมากเพราะปัจจุบัน ประเทศไทยยังขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์อีกเยอะทั้งนี้ การขาดแคลนกำลังคนเป็นเรื่องสำคัญเพราะผู้ป่วยมากขึ้น โรคมีความซับซ้อนมากขึ้น ที่สำคัญคือการออกจากระบบของแรงงานภาครัฐ ซึ่งพบว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกทำให้ตลาดงานเปิดมากขึ้น เมื่อมีเมดิคัลฮับมีการส่งเสริมให้ต่างชาติเข้ามารักษาในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เป็นบริการของโรงพยาบาลเอกชน ทำให้ต้องใช้พยาบาลมากขึ้น ซ้ำเติมปัญหาความขาดแคลน แต่ตนยังไม่กังวลเรื่องพยาบาลจากต่างประเทศจะเข้ามาแย่งงานของพยาบาล ในประเทศไทย เพราะยังมีข้อกำหนดเรื่องการสอบใบอนุญาตที่ต้องทำตามข้อกำหนดของประ เทศไทยอยู่ แต่ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ว่าข้อกำหนดการขอใบอนุญาตจะคุ้มครองพยาบาล ไทยได้ถึงเมื่อไหร่เพราะหากบุคลากรในประเทศ ไทยเองไม่มีความพร้อมอาจจะมีการเรียกร้องให้มีการแก้ไขข้อกำหนด เพื่อให้มีการนำเข้าพยาบาลต่างประเทศเข้ามาทดแทนเราต้องเตรียมความพร้อมของตัวเองให้เป็นคนที่มีคุณภาพ ภาษาต้องดี อย่าให้กลายมาเป็นอุปสรรค ที่ผ่านมาเคยมีคนถามว่าทำไมเราไม่ผลิตพยาบาลเพิ่มขึ้น ถ้าเหลือ เราก็ส่งออกได้ แต่ดิฉันตอบไปว่า เราเป็นผู้ผลิตนักวิชาชีพที่ต้องดูแลชีวิตคน ไม่ใช่ผลิตเครื่องจักรเราต้องการผลิตคนที่มีคุณภาพ มีสมรรถภาพสากล ไม่ใช่ผลิตเอาปริมาณ เพราะฉะนั้น เราต้องมาทบ ทวน ว่าเราพร้อมเพียงใด อะไรที่เป็นจุดแข็ง อะไรเป็นจุดอ่อน และจะพัฒนาอย่างไร ดร. กฤษดากล่าวศ.เกียรติคุณ ดร.วิจิตร ศรีสุพรรณ นายกสภาพการยาบาล กล่าวว่า การก้าวเข้าสู่ประชา คมอาเซียนจำเป็นมากที่ต้องผลิตพยาบาลเพิ่มให้เพียงพอที่จะบริการผู้ ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นด้วย แต่ปัจจุบันยังมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมด โดยในส่วนของพยาบาลนั้น ขณะนี้ขาดแคลนพยาบาลทำงานอยู่ประ มาณ 40000 คน ในขณะที่กำลังการผลิตทำได้ปีละ 8500 คน คาดว่าภายใน 4 ปีนี้น่าจะมีพยาบาลเพียงพอ แต่ต้องดึงคนให้อยู่ในระบบให้ได้อาจารย์ที่สอนด้านการพยาบาลมีประ มาณ 4000 คน แต่ประมาณ 30% คือผู้ที่มีอายุเกิน 50 ปีขึ้นไป ในอีก 10 ข้างหน้าหากไม่มีตำแหน่งรองรับคนเหล่านี้ หรือตำแหน่งใหม่ให้คนก้าวเข้ามา จะทำให้อาจารย์สอนด้านการพยาบาลขาดแคลนได้เช่นกัน นายกสภาการพยาบาลกล่าวผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้ากรณีพยาบาลลูกจ้างเรียกร้องให้บรรจุ เป็นข้าราชการ ศ.ดร.วิจิตรกล่าวว่า การเพิ่มอัตรากำลังคนของกระทรวงสาธารณสุขขึ้นอยู่กับ ก.พ. อีกทั้งยังเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ไม่ให้เพิ่มอัตราข้าราชการ ซึ่งตนเห็นว่าต้องเปลี่ยนนโยบาย ว่าวิชาชีพใดที่ขาดแคลนไม่ต้องใช้ข้อกำหนดเหมือนวิชาชีพอื่นและที่ ผ่านมาสภาการพยาบาลได้ทำหนังสือถึงรัฐบาลเพื่อชี้ให้เห็นถึงความ สำคัญของพยาบาลหลายครั้งแล้ว ก็ได้คำตอบเหมือนเดิม คือรับทราบและอยู่ระหว่างดำเนินการ แต่เมื่อวันที่22 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้มีโอกาสได้พบกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี จึงได้สอบถามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวโดยนายกิตติรัตน์ได้แจ้งกับตน ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงในเรื่องดังกล่าวจึงได้เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินเรื่องให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้.(ไทยโพสต์ 25-10-2555)เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายมนัสวี ศรีโสดาพล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ กล่าวถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือแรงงานไทยได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่กอง กำลังปาเลสไตน์ยิงจรวดถล่มบริเวณฉนวนกาซา ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล รายงานว่าแรงงานไทย 3 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ อาศัยอยู่ในเมืองเอชโคล ซึ่งทำงานในนิคมเกษตรของเมืองดังกล่าว ทั้งนี้ คนไทย 3 คนนี้ได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลโซโรกา เมืองเบียเชวาแล้ว และแพทย์กำลังผ่าตัดช่วยชีวิต ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทยฯกำลังติดตามผลการผ่าตัด ขณะเดียวกันก็ได้ติดต่อไปยังญาติของทั้ง 3 คนเพื่อแจ้งข่าวให้ทราบด้วยนายมนัสวี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ยังได้เดินทางไปเยี่ยมแรงงานไทยอีกหลายคนที่อยู่ในนิคมเกษตรดังกล่าว เพื่อปลอบขวัญ ให้กำลังใจ และให้คำแนะนำในกรณีที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ทางการอิสราเอลมีแนวทางปฏิบัติมาตรฐานในกรณีเช่นนี้อยู่แล้ว ซึ่งจะมีการนำส่งโรงพยาบาล การอพยพ และการให้ค่าชดเชย ซึ่งกรณีนี้บริษัทที่นำแรงงานข้ามาได้ให้การช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายของ แรงงานไทยที่ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว สถานเอกอัครราชทูตไทยฯจะได้ติดตามการชดเชยและให้ความช่วยเหลืออย่างดีที่สุด แก่คนไทยที่ได้รับบาดเจ็บครั้งนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลไทยขอขอบคุณรัฐบาลอิสราเอลที่ให้การดูแลแรงงานไทย และอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทยฯในการเข้าเยี่ยมแรง งานไทยอย่างใกล้ชิดเมื่อถามว่ามีแรงงานไทยต้องการขอกลับประเทศหรือไม่ นายมนัสวี กล่าวว่า ยังไม่มีแรงงานไทยคนใดร้องขอเดินทางกลับ เมื่อถามต่อว่าสถานเอกอัครราชทูตไทยฯประเมินสถานการณ์อย่างไร นายมนัสวี กล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยฯมองว่าเหตุการณ์นี้เป็นการปะทะที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ยังไม่ใช่สถานการณ์สงคราม ซึ่งเรามีแผนที่รองรับอยู่แล้ว โดยตอนนี้ได้มีการเตือนคนไทยให้ระมัดระวังในการดำรงชีวิต อย่างไรก็ตาม การอพยพคนไทยกลับประเทศนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ละคนว่าต้องการจะกลับประเทศหรือไม่ ทั้งนี้ รัฐบาลไทยมีความกังวลต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องกลับเข้าสู่กระบวนการเจรจา สันติภาพ(เดลินิวส์ 25-10-2555)เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ศ.กิตติคุณ ดร.คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ที่ประชุมสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีมติเห็นชอบนโยบายการบริหารงานบุคคลของจุฬาฯ พร้อมโครงสร้างอัตราเงินเดือนใหม่ ซึ่งจะครอบคลุมการปรับเงินเดือนให้แก่พนักงานมหาวิทยาลัยที่เข้าใหม่ สายปฏิบัติการ ปริญญาตรี สาขาทั่วไป 16500 บาท จากเดิม 11000 บาท และจะเพิ่มขึ้นจนถึงกว่า 20000 บาทในสาขาขาดแคลนส่วนพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการ อัตราแรกเข้า ปริญญาเอก 35450 บาท จากเดิม 21000 บาท ปริญญาโท 25100 บาท จาก 14000 บาท ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 พร้อมกันนี้จะปรับเพิ่มเงินเดือนให้แก่พนักงานมหาวิทยาลัยเดิม จำนวนร้อยละ 70 ของจำนวนพนักงานมหาวิทยาลัยทั้งหมด 5000 คน ในอัตราที่เหมาะสม เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงานและเพื่อที่มหาวิทยาลัยจะได้ คัดสรรบุคลากรที่มีศักยภาพรองรับการทำหน้าที่ทางวิชาการเพื่อรับใช้สังคมต่อ ไป(เดลินิวส์ 26-10-2555) | กรอ.เล็งเสนอนายกฯ พิจารณาชะลอค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท วันที่ 20 ต.ค. นายสมมาต ขุนเศษฐ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดถึงการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน หรือ กรอ.สัญจร ในวันพรุ่งนี้ | คุณภาพชีวิต,แรงงาน,สังคม | สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ | https://prachatai.com/journal/2012/10/43366 |
เจสซิกาแชมป์ โปรโม ซิวที่ 2 ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018 | กับเลกซี ธอมป์สัน จากสหรัฐฯ ที่ได้อันดับ 2 ร่วม 4 สโตรก คว้าแชมป์แอลพีจีเอเป็นรายการที่ 5 ในขณะที่ โปรเม เอรียา จุฑานุกาล จบในอันดับ 5 ร่วม และ โปรแหวน พรอนงค์ เพชรล้ำ เครื่องร้อนวันสุดท้ายไล่ขึ้นมาอยู่อันดับ 7 ร่วม,วันที่ 26 ก.พ.61 กอล์ฟ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018 ซึ่งเป็นการแข่งขันครั้งที่ 12 ชิงเงินรางวัลรวม 1.6 ล้านเหรียญ หรือราว 51 ล้านบาท ที่สยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส เมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันสุดท้าย มีแฟนกอล์ฟเข้าชมการแข่งขันล้นหลามหนาตายิ่งกว่าทุกปี จากการที่ 2 พี่น้อง โมรียาและเอรียา จุฑานุกาล มีโอกาสลุ้นที่จะแย่งชิงตำแหน่งแชมป์กับ เจสซิกา คอร์ดา โปรสาวอเมริกันวัย 24 ปี ซึ่งเป็นผู้นำ แต่แม้ โปรโม โมรียา จุฑานุกาล ซึ่งตามหลังเจสซิกาอยู่ 4 สโตรก จะทำผลงานได้ดีด้วยการทำ 5 อันเดอร์ในรอบสุดท้ายนี้ แต่เจสซิกาก็โชว์ฝีมือคงเส้นคงวา ทำได้ 5 อันเดอร์เช่นกัน และจบด้วยสกอร์รวม 25 อันเดอร์ ซึ่งเป็นสถิติใหม่ของการแข่งขัน ลบสถิติเดิมที่เอมี ยาง แชมป์ปีที่แล้ว ทำไว้ 22 อันเดอร์ คว้าแชมป์แอลพีจีเอไปเป็นรายการที่ 5 โดยมีโมรียา จุฑานุกาล ได้อันดับ 2 ร่วมกับเลกซี ธอมป์สัน แชมป์ปี 2016 จากสหรัฐฯ ด้วยสกอร์ 21 อันเดอร์ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ที่นัก,กอล์ฟไทยได้รองแชมป์ใน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ หลังจากก่อนหน้านี้ เอรียา จุฑานุกาล ได้รองแชมป์ในปี 2013 สำหรับอันดับ 4 ได้แก่ ลีมินจีจากออสเตรเลีย 18 อันเดอร์และในอันดับท็อปเทน ยังมีนักกอล์ฟสาวไทยอีก 2 คนคือ โปรเม เอรียา จุฑานุกาล ซึ่งได้อันดับ 5 ร่วมกับเฝิงซานซาน มือ 1 ของโลกจากจีน ด้วยสกอร์ 17 อันเดอร์ และ โปรแหวน พรอนงค์ เพชรล้ำ ซึ่งเครื่องร้อนวันสุดท้าย ทำวันเดียว 8 อันเดอร์ ไล่ขึ้นมาจบในอันดับ 7 ร่วม ด้วยสกอร์ 16 อันเดอร์,ทางด้านโปรสาวไทยอีก 3 คนที่ได้รับเชิญลงแข่งขันในรายการนี้ โปรกิ๊ฟ เบญญาภา นิภัทร์โสภณ อันดับ 40 ร่วม 4 อันเดอร์ โปรอ๊าย ศรัณย์พร ลางคุลเกษตริน อันดับ 51 ร่วม 1 โอเวอร์ และ โปรออม สุภมาส แสงจันทร์ อันดับ 56 ร่วม 3 โอเวอร์,สำหรับนักกอล์ฟที่น่าสนใจคนอื่นๆนั้น โคจิน–ยอง แชมป์ออสเตรเลียนโอเพ่นเมื่อสัปดาห์ก่อนจากเกาหลีใต้ อันดับ 7 ร่วมกับพรอนงค์ เพชรล้ำ กับบรู๊ค เฮนเดอร์สัน จากแคนาดาและบริทานี ลินซิคัม จากสหรัฐฯ มิเชล วี โปรสาวอเมริกันจอมแฟชั่น อันดับ 11 ร่วม 15 อันเดอร์ เอมี ยาง แชมป์ปี 2017 และ 2015 อันดับ 14 ร่วม 12 อันเดอร์ แอนนา นอร์ดควิสต์ แชมป์ปี 2014 อันดับ 19 ร่วม 11 อันเดอร์ ปาร์คซังฮยุน มืออันดับ 2 โลกจากเกาหลีใต้ อันดับ 22 ร่วม 10 อันเดอร์ ริวโซยอน มืออันดับ 3 ร่วมจากเกาหลีใต้ อันดับ 22 ร่วม 10 อันเดอร์ ลิเดีย โค อดีตมือ 1 โลกจากนิวซีแลนด์ อันดับ 31 ร่วม 6 อันเดอร์ | เจสซิกา คอร์ดา นักกอล์ฟสาวอเมริกันวัย 24 ปี ทำสถิติใหม่ของการแข่งขัน ฮอนด้าแอลพีจีเอไทย-แลนด์ ด้วยสกอร์ 25 อันเดอร์ เป็นทัวร์นาเมนต์เรคคอร์ด ทิ้งห่าง โปรโม โมรียา จุฑานุกาล | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018,เอรียา จุฑานุกาล,โมรียา จุฑานุกาล,กอล์ฟ,เจสซิกา คอร์ดา | https://www.thairath.co.th/sport/others/1213867 |
โผล่แล้ว ต้น รูปหล่อ หลอกแต่งสาวใหญ่ ครูที่เลยโดนไป 7 ล้าน | สืบเนื่องจากวันที่ 27 ก.ย.60 ที่ผ่านมา ครูแดง (นามสมมติ) อายุ 56 ปี อดีตข้าราชการครู จ.เลย เข้าร้องทุกข์ว่า ถูกนายรุ่งรดิส หรือต้น คงแก้ว อายุ 40 ปี หลอกจดทะเบียนสมรสวันแรกหายเข้ากลีบเมฆ ตั้งแต่ปี 2558 สูญเงินไปกว่า 7 ล้านบาท และยังพบว่ายังมีข้าราชการครูอีกหลายจังหวัด ถูกหลอกให้โอนเงินนับล้านบาท แต่ไม่กล้าเปิดเผยตัว กลัวอับอาย เพราะเป็นข้าราชการ โดยครูแดงได้เข้าแจ้งความต่อ พงส.สภ.วังสะพุง ในข้อกล่าวหาลักทรัพย์ในเคหสถาน ทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียก แต่นายต้นยืนยันปฏิเสธ และจะฟ้องกลับครู พร้อมร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อ จนต้องออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 ,จนกระทั่งเวลา 12.00 น. วันที่ 14 พ.ย. นายต้นพร้อมด้วยนางอนัญพัทธ์ แก้วคำ อายุ 56 ปี แม่และหญิงสาวที่คาดว่าเป็นแฟนสาว ได้ดอดเข้าพบ ร.ต.อ.ธนพงษ์ ชาวเชียงตุง พงส.สภ.วังสะพุง เจ้าของคดี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาลักทรัพย์ในเคหสถาน ตามหมายเรียกครั้งที่ 2 ระหว่างที่ พงส.สอบสวนกำลังสอบปากคำนายต้นอยู่ ครูแดงพร้อมลูกสาว ซึ่งเป็นคู่กรณีได้มาที่โรงพักหลังทราบข่าวว่านายต้นเข้ามอบตัว จึงเดินทางมาดูหน้า โดยลูกสาวครูแดงตรงเข้าไปสอบถามนายต้นว่า ลูกผู้ชายหรือเปล่า และเกิดบันดาลโทสะตบไปที่หัว 1 ครั้ง จนเกิดชุลมุน ทาง พงส.และตำรวจ 3-4 นาย ต้องออกมากันให้ออกไปข้างนอก ไม่ให้มีเรื่อง,ขณะเดียวกัน ครูแดง กับแม่นายต้น ได้นั่งอยู่บริเวณข้างนอกห้องสอบสวน ครูแดงได้ถามแม่นายต้นว่า ทำไม่ถึงได้หลอกกันแบบนี้ แต่ไม่มีคำตอบหรือคำโต้แย้งใดๆ ออกมา จนกระทั่งพนักงานสอบสวนได้นำตัวนายต้นขึ้นรถกรงขังส่งศาลจังหวัดเลย โดยมีแม่ แฟนสาว พร้อมด้วยครูแดงและลูกสาวเดินทางติดตามไปที่ศาลด้วย,ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายต้น ถึงเรื่องการเข้ามอบตัวและเรื่องร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อ นายต้นกล่าวว่า จะร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อ หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการทางกฎหมายว่า ตนเป็นผู้บริสุทธิ์ก่อนเท่านั้น ตอนนี้ไม่สามารถพูดอะไรได้ ผู้สื่อข่าวสอบถามอีกว่า ศาลจังหวัดจันทบุรี และศาลอาญากรุงเทพใต้ มีการแจ้งข้อกล่าวหาเดียวกันเมื่อเดือนที่ผ่านมาใช่หรือไม่ นายต้นตอบใช่ จากนั้น พงส.ได้นำตัวนายต้นขึ้นรถกรงขังตำรวจส่งศาลจังหวัดเลย,ส่วนที่ศาล แม่ของนายต้นพยายามขอประกันตัวลูกชาย แต่ทางศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหามีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง มูลค่าความเสียหายมีมาก จึงไม่อนุญาตให้ประกันตัว ทางด้านครูแดงหลังรับว่าศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ถึงกับดีใจ กล่าวว่านายต้นได้หลอกลวงคนอื่นจนได้รับความเดือดร้อนมากหลายคน แต่ไม่มีใครกล้าออกมาแจ้งความ กลัวครอบครัวแตกแยก วันนี้สมควรที่จะต้องติดคุกเพื่อชดใช้กรรมที่ก่อไว้. | มาแล้ว ต้น หนุ่มรูปหล่อ ถูกครูวัย 56 ปี ที่เลย แจ้งความหลอกจดทะเบียนสมรส สูญเงินไปกว่า 7 ล้าน ดอดพบ พงส. หลังถูกแจ้งความลักทรัพย์ในเคหสถาน ลูกสาวเจ้าทุกข์บุกตบบนโรงพัก ก่อนที่ศาลจะไม่ให้ประกัน เพราะที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง | ข่าว,ทั่วไทย | หลอกแต่งงาน,หลอกจดทะเบียนสมรส,หลอกครูแต่งงาน,หลอกสาวใหญ่,เลย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1126280 |
ซูมบ้าน 30 ล้านของ บุ๋ม ปนัดดา สไตล์โมเดิร์น สวยแค่ไหนไปดูกัน | ประกาศขายบ้านอย่างไม่เป็นทางการสำหรับพิธีกรสาวมากความสามารถ ,ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี, ทางไอจีส่วนตัว ,boompanadda , โดยสาวบุ๋มประกาศขายผ่านไอจี เป็นคลิปวิดีโอสั้นที่แพนให้เห็นถึงบรรยากาศที่ตั้งของบ้านหลังงาม บอกว่าบ้านของเธออยู่หลังมุมวิวดี ราคารวมแล้วอู้หู 30 ล้านบาทแหนะ แต่งานนี้ ดร.สาวบอกยอมขาดทุน เอาแค่ 26 ล้านปลายๆ แถมบิวต์อิน และอยากได้อะไรก็ขอให้บอก เผื่อในบ้านมี,วันน้ีไทยรัฐออนไลน์เลยต่อสายตรงไปหา ดร.บุ๋ม สอบถามถึงบ้านหลังดังกล่าวที่จะขายนั้น การก่อสร้างเป็นยังไง และภายในบ้านตกแต่งสไตล์ไหน โดยเธอเล่าให้เราฟังว่า ,บ้านพี่เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นสวยงาม ตามใจเราเลย, ,(หัวเราะ) สีขาวส่วนใหญ่ เน้นสะอาดตา,สาเหตุที่ต้องขาย,คือเราแต่งงานเราเลยย้ายบ้าน บ้านนี้มีพื้นที่ 80 ตารางวา 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ มีบิวต์อินทั้งบ้าน ติดแอร์ทั้งหลัง ห้องน้ำมีแยกส่วนค่ะ บ้านหลังใหม่ของบุ๋ม 200 ตารางวา บุ๋มอยากเลี้ยงหมา ที่สำคัญบ้านเราต้องใช้พื้นที่เยอะในการเลี้ยงหมา (หัวเราะ) และอีกหน่อยถ้าขายบ้านหลังเดิมนี้ได้ คุณแม่ก็จะได้มาอยู่กับเราค่ะ ,มุมโปรด ห้องโปรด,ที่ใช้งานบ่อยจะเป็นห้องข้างล่างโต๊ะกินข้าวค่ะ ห้องรวมด้านล่างนี่คือใช้บ่อยสุด เอาไว้รวมตัวกัน,อยากขายเดี๋ยวบ้านโทรมหมด,บ้านหลังเก่า คือหลังที่จะขายนี่คุณแม่อยู่ เราก็อยากให้คุณแม่มาอยู่ด้วยกัน คือเอาจริงๆ มันก็ผ่อนไหวค่ะ แต่มันเหนื่อยมากค่ะ แล้วอีกอย่างบ้านนี้ถ้าไม่มีคนอยู่มันจะโทรมค่ะ ปล่อยไว้เฉยๆ เนี่ยมันโทรมหมด เอาจริงๆ เราอยู่มาเพียง 2 ปีเอง เราดูแลดี ใช้งานน้อย ถามว่าถ้าขายให้อะไรมั้ย อยากได้อะไรก็เอาไปเลยจ้า (หัวเราะ),พื้นที่สีเขียว มีสวนไว้ปลูกต้นไม้ ,มีค่ะ ดูแลเองบ้าง ตอนนี้ก็ลงต้นไม้แน่นไปหมด แล้วบอกเลยว่าบ้านบุ๋มดีนะคะ อยู่หลังมุม มองลงมาจากห้องข้างบนหน้าบ้าน เห็นพื้นที่ส่วนกลางเลย ตามรูปในไอจีเลยจ๊ะ ถ้าขายได้ก็ดี ไม่รู้จะเก็บไว้ทำอะไรแล้ว.,เอาเป็นว่าถ้าแฟนๆ สนใจ ติดต่อไปที่ไอจี ,boompanadda, ได้เลยจ้า. | เป็นกระแสยกใหญ่ หลังประกาศขายบ้านสวยสไตล์โมเดิร์นสวยงาม บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี | ไลฟ์สไตล์,บ้าน | บ้านบุ๋ม ปนัดดา,บ้านบุ๋ม ปนัดดา 30ล้าน,ขายบ้าน,บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี,ตกแต่งบ้าน | https://www.thairath.co.th/lifestyle/home/homedecor/1200033 |
ใหม่-สุคนธวา ยิ่งโสดยิ่งเสน่ห์แรง ชั่งใจเดินหน้าคบ ต้น หรือ พี่ตรัย คนรักเก่า | ทั้งคนรักเก่าอย่างหนุ่ม ตรัย–ตรัยธนิษฐ์ หรือ แทค–ภรัญยู หลังจากตกเป็นข่าวให้ลุ้น รวมถึง ดีเจ ต้น–สรพงษ์ จิตต์สุนทร มาแรงแซงทางโค้งเล่นประกาศจีบใหม่บนเฟซบุ๊ก สาวใหม่ถือโอกาสเคลียร์ทันที สถานะตอนนี้โสดค่ะ โสดนานหรือยัง ตั้งแต่ ก.ค. ตัดสินใจนานมาก ตัวเค้าบอกเลยไม่ได้เลวร้ายเจ้าชู้ขนาดนั้น ไม่ได้ยุ่งใครก่อนแต่มีปัจจัยหลายอย่างทำให้เรามีปัญหากัน สวยเหนื่อย (หัวเราะ) ก็มีความรู้สึกว่าชีวิตเราควรมีคุณค่ามาก กว่านี้ ควรทำมาหากิน เรียน หรือรักพ่อแม่จากที่มากๆให้มากกว่านี้ เลยตัดสินใจเลิกเหอะก็เลิกกันไป ช่วงตัดสินใจเลิกกับตรัยใหม่ๆ เค้ารั้งเราบ้างมั้ย ช่วงแรกไม่ได้ติดต่อกันเลยถามว่าเพราะมือที่ 3 หรือเปล่า? ใหม่ไม่อยากพูดอะไรมาก พอเลิกกันใหม่ไม่มีใคร ส่วนพี่เค้ามีแฟนแล้วไปคิดเอาเองคืออะไร? คือโลกมันกลม หลายคนรู้จักแฟนใหม่ของพี่ตรัย แต่ก็ได้ยินมาว่าเค้ามีปัญหากัน มาตอนนี้พี่ตรัยมีติดต่อกลับมา ไม่รู้เป็นเพราะใหม่มีข่าวกับผู้ชายคนนั้นคนนี้มาจีบหรือเปล่า?,ก่อนหน้านี้ใหม่ก็มีข่าวกับแทค–ภรัณยู ยังไงกันเหรอ กับแทคเอง ชอบมั้ยเอาเป็นว่าไม่ได้ยินจากปากเค้าแต่ได้ยินจากคนอื่นมา แทคเคยบอกใหม่เป็นไอดอล เป็นผู้หญิงในสเปกนะ แต่ไม่เคยพูด กับใหม่ จีบเป็นแฟน ตอนแรกใหม่ไม่รู้ ตอนหลังๆ ที่แทครู้ว่าใหม่เลิกกับพี่ตรัยมีการคุยกัน แทคไลน์มายอมรับมีการติดต่อกัน คุยลักษณะไหนที่ใหม่เคยให้สัมภาษณ์ไม่รู้เหมือนกันจีบหรือเปล่า พี่นักข่าวถามให้ใหม่หน่อยเพราะใหม่ก็อยากรู้คำตอบ เพราะใหม่ไม่รู้เหมือนกัน ถึงจะเป็นคนแบบนี้แต่ไม่ได้มีนิสัยหน้าด้านไปถามแทคจีบเหรอ ใหม่ไม่ใช่คนแบบนั้นเลยเฉยๆ จังหวะได้คุยกับแทคแต่สุดท้ายแทคก็ไม่ได้จีบใหม่แล้วเพราะแทคเห็นว่ามีคนคนนึงมาจีบใหม่ คนนั้นๆเป็นเพื่อนสนิทแทค แทคเลยบอกเฟดให้ กลายเป็นพี่คนนี้เดินหน้าจีบ,กับพี่ต้นที่ประกาศจีบใหม่ทางเฟซบุ๊ก ใหม่รู้จักพี่เค้าได้ยังไง เค้าเป็นเจ้าของรายการนึง ที่เป็นหุ้น ส่วนกับพี่โจม ทีวีธันเดอร์ ชื่อรายการ สปอร์ตไอดอล ใหม่ไปออกรายการในฐานะแขกรับเชิญ ตอนนั้นเค้ามีแฟน เราไม่ได้อะไร และใหม่เลิกกับพี่ตรัย พอเค้าเลิกกับแฟนก็มีการทักในช่องทางโซเชียล ตอนนี้ถือว่าคบเป็นแฟนกันแล้วหรือยัง คุยกันแต่ยังไม่ใช่แฟน เท่าที่คุยกันนิสัยใจคอโอเคค่ะ คุยกันได้เพราะว่ารักพ่อแม่ มีความกตัญญู ซึ่งใหม่ชอบคนที่รักพ่อแม่ มีความกตัญญู เค้าทำมาหากิน จากประวัติเค้ามาจากคนไม่มีมาก่อน ใส่ถุงเท้า ขาดๆ รับทุนจากในหลวง แอกทีฟตัวเองจนมีวันนี้ ใหม่รู้สึกคล้ายเราเพราะเราเคยจนมาก่อน เราทำมาหากินจนพ่อแม่มีกินวันนี้ และเค้าเข้ามาทางเพื่อนใหม่ มาทางพ่อแม่ด้วยก็ช่วยๆกันดู ถือว่าใช้ได้เลยคุยมากกว่าคนอื่น แต่ถามว่ามีคนอื่นมาจีบใหม่มั้ยมีคนอื่นมาจีบตลอด ใหม่ก็ไม่ได้ปิดบัง เค้าก็รู้,กับพี่ตรัยโอกาสรีเทิร์น มีคนเชียร์ให้กลับไปคืนดีกัน แต่ใหม่ต้องชั่งใจ เราจะกลับไปเจออะไรเหมือนเดิมมั้ย ถามว่ารักมั้ยก็ยังมีบ้างก็คบกันมา 7 ปี สิ่งที่ใหม่กลัวมาก โปรช่วงแรกๆนี่ แหละ ไม่มีใครไม่เจ้าชู้ ใหม่ยอมรับกลัวการเริ่มต้นใหม่ ยังเคยโพสต์จะกลับไปเป็นแบบเดิมจะรับได้มั้ย หรือเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน เราไม่รู้จะเจออะไร เหมือนดวงความรักของใหม่ไม่ค่อยดีนัก ใช่ค่ะ ขอบคุณพี่ต้นด้วย มีคนบอกแมนพอสมควรชอบใหม่ จีบใหม่ ไม่เหมือนผู้ชายหลายคนไม่จีบไม่ชอบหรือกั๊ก อันนี้เค้าชัดเจนจีบผ่านเฟซฯ เพิ่งคุยกัน 2 เดือนเอง เอาตรงๆ ถ้าไม่มีเรื่องพี่ตรัยเข้ามา ใหม่คงตัดสินใจได้ง่ายกว่านี้ค่ะ. | โสดแล้วเนื้อหอมกรุ่นจริงๆ ถึงขนาดตกเป็นข่าวกับหนุ่มๆไม่ขาด ล่าสุด สาว ใหม่–สุคนธวา เกิดนิมิตร แวะมาสวัสดีปีใหม่ ถือโอกาสอัพเดต สถานการณ์หัวใจ หนุ่มคนไหนจะมาวิน | null | ใหม่ สุคนธวา,ตรัย ตรัยธนิษฐ์,ต้น สรพงษ์,แทค ภรัญยู,ความรักดารา | https://www.thairath.co.th/content/828741 |
หลานนายกเล็ก ซิ่งบิ๊กไบค์ พุ่งชนกระบะพังยับ เจ็บ 4 | เวลา 11.00 น. วันที่ 11 ก.ค.58 พ.ต.ต.กิตติพล สมสิทธิ์ พงส. สภ.เมืองหนองบัวลำภู พร้อมกู้ภัยคุณธรรม ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณสามแยกถนนสาย หนองบัวลำภู-โนนสัง หน้าโรงเรียนบ้านวังน้ำขาวชนูปถัมภ์ บ.วังน้ำขาว ต.หนองบัว อ.เมืองหนองบัวลำภู พบรถปิกอัพโตโยต้า ไฮลักซ์ สี่ประตูสีน้ำเงิน ทะเบียน กข 8553 หนองบัวลำภู สภาพมีรอยชนที่ซุ้มล้อหน้าติดประตูด้านซ้าย กระจกหน้าและกระจกประตูแตกเสียหาย ข้ามรถไปพบรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ยี่ห้อ ดูคาติ รุ่นมอนเสตอร์ 796 ทะเบียน 3 กณ 4980 กรุงเทพฯ มีรอยชนบริเวณหน้ารถพังเสียหาย คนเจ็บจากรถทั้งสองคัน จำนวน 4 คน ถูกนำส่ง รพ.หนองบัวลำภู,จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า รถปิกอัพ มีนายหนูหล้า ใจกว้าง อายุ 65 ปี เป็นคนขับ นางคำปอน ใจกว้าง อายุ 65 ปี นั่งข้าง และ นางทองขำ โพธิ์ศรี อายุ 60 ปี นั่งตอนหลัง ขับมาจากบ้านที่ อ.โนนสัง เพื่อจะไปงานพระราชทานเพลิงศพ พระศาสนดิลก อดีตเจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภูที่วัดพิศาลรัญญาวาส เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นสามแยกทางลัดไปทางวัดพิศาล โดยรถพ่วงที่วิ่งสวนทางมาชะลอความเร็ว นายทองขำจึงเลี้ยวรถ,ขณะเดียวกันมีรถบิ๊กไบค์ที่ นายนรากร เกษทองมา อายุ 20 ปี หลานนายกเทศมนตรีตำบลนากลาง จ.หนองบัวลำภู ขับแซงรถพ่วงขึ้นมาแล้วชนรถปิกอัพเข้าอย่างจัง จนทั้งรถและร่างของนายนรากร กระเด็นลอยไปตกอีกฟาก จากนั้นเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่ รพ.หนองบัวลำภู พบคนเจ็บในรถปิกอัพบาดเจ็บเล็กน้อยจากเศษกระจกบาดตามร่างกาย ส่วนคนขับบิ๊กไบค์ แขนหัก แพทย์ให้นอนรอดูอาการก่อน | หลานนายกเทศมนตรีตำบลนากลาง จ.หนองบัวลำภู ซิ่งบิ๊กไบค์แซงรถพ่วงพุ่งชนกระบะเข้าเต็มแรง จนรถและร่างกระเด็นไปตกอีกฟาก เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ 4 ราย คนในรถปิกอัพบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนขับบิ๊กไบค์แขนหักรอดูอาการ | ข่าว,ทั่วไทย | หนุ่มซิ่งบิ๊กไบค์,พุ่งชนรถกระบะ,หลานนายกเทศมนตรี,ตำบลนากลาง,หนองบัวลำภู,คนขับแขนหัก,สภาพรถพังยับ,รพ.หนองบัวลำภู,ทางลัดไปวัดพิศาลรัญญาวาส,ขับแซงรถพ่วง,แขนหัก,บาดเจ็บเล็กน้อย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,นายนรากร เกษทองมา,อุบัติเหตุ | https://www.thairath.co.th/news/local/510960 |
ทหารนัดบก.บห.ฟ้าเดียวกัน ก่อนรวบขังกองปราบ อ้างทำผิดเงื่อนไขปล่อยตัวรอบแรก | ทหารนัด ธนาพล อิ๋วสกุล บก.บห.ฟ้าเดียวกัน ดื่มกาแฟเมื่อบ่าย ก่อนพาไปค่ายและคุมตัวส่งกองปราบ ขัง 7 วัน เบื้องต้น ยังไม่ตั้งข้อหา ระบุธนาพลโพสต์เฟซบุ๊กฝ่าฝืนเงื่อนไขปล่อยตัวผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ก.ค.2557) เวลาประมาณ 12.30น. นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารวารสารฟ้าเดียวกัน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารโทรศัพท์เรียกตัวไปพบที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในซอยพหลโยธิน 7 แต่ภายหลังเจ้าหน้าที่ทหารนอกเครื่องแบบไม่ทราบชื่อ ยศ ตำแหน่งและจำนวนแน่ชัดได้ควบคุมตัวนายธนาพลด้วยรถยนต์นั่งส่วนบุคคลออกไปยังกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (สนามเป้า) จากนั้นจึงนำตัวนายธนาพลส่งต่อไปยังกองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อกักตัวตามกฎอัยการศึกอีก 7 วันทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนที่ติดตามเหตุการณ์นี้เปิดเผยว่า ได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ทหารพระธรรมนูญคือ พันโทบุรินทร์ ทองประไพ ผู้รับผิดชอบแล้ว เบื้องต้นแจ้งเหตุเพียงว่า นายธนาพลได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กที่ฝ่าฝืนเงื่อนไขการปล่อยตัว ทนายความเปิดเผยว่าฝ่ายทหารยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆทั้งนี้ นายธนาพลเคยถูกจับกุมจากเหตุการณ์ชุมนุมต้านรัฐประหารที่บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และภายหลังมีรายชื่อเป็นหนึ่งในผู้ถูกเรียกให้มารายงานตัวตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 5/2557 จนถูกควบคุมตัวครบ 7 วันตามกฎอัยการศึกก่อนที่จะปล่อยตัวออกมาโดย คสช. ได้กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรและห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง จนกระทั่งมาถูกกักตัวตามกฎอัยการศึกเป็นครั้งที่สองในวันนี้ | ทหารนัด ธนาพล อิ๋วสกุล บก.บห.ฟ้าเดียวกัน ดื่มกาแฟเมื่อบ่าย ก่อนพาไปค่ายและคุมตัวส่งกองปราบ ขัง 7 วัน เบื้องต้น ยังไม่ตั้งข้อหา ระบุธนาพลโพสต์เฟซบุ๊กฝ่าฝืนเงื่อนไขปล่อยตัว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ | การเมือง | คณะรักษาความสงบแห่งชาติ,คสช.,ธนาพล อิ๋วสกุล,ฟ้าเดียวกัน,รัฐประหาร,รัฐประหาร 2557 | https://prachatai.com/journal/2014/07/54435 |
เข้าตากรรมการ | ทำให้ สมเด็จฮุน เซน นายกฯกัมพูชา ต้องออกมาชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลกัมพูชาไม่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ช่วยเหลือ อดีตนายกฯปู อย่างที่สื่อมวลชนต่างประเทศรายงานข่าวกันครึกโครม,โดยย้ำว่า อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ไม่ได้เดินทางผ่านประเทศกัมพูชาแน่นอน,รีบเคลียร์เสียก่อน เพื่อป้องกันปัญหาบานปลาย,แม่ลูกจันทร์ กราบเรียนว่า การที่นายกฯกัมพูชาออกมาปฏิเสธข่าวอย่างสิ้นเชิง ทำให้เกิดคำถามใหม่ตามมาว่า ถ้าอดีตนายกฯปูไม่ใช้กัมพูชาเป็นทางผ่าน,จะใช้เส้นทางไหนออกจากประเทศไทย??,เพราะยังมีทางออกอีก 3 ประตู,1.ข้ามแม่น้ำโขงผ่านประเทศลาว,2.ข้ามเข้าเขตพม่าทางเชียงราย,3.ล่องใต้ผ่านเข้ามาเลเซีย,แต่ในความเป็นจริง ไม่มีประตูไหนจะชัวร์เท่าผ่านกัมพูชา,แม่ลูกจันทร์ ชี้ว่า อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์จะหนีออกทางไหน? จะมีข้อตกลงลับกับใครหรือไม่?,รอให้ฝุ่นหายจางเสียก่อน ความจริงจะโผล่ออกมาเอง,แต่ประเด็นที่น่าสนใจกว่า และน่าจับตามากกว่าคือ อนาคตของพรรคเพื่อไทย หลัง 2 พี่น้อง ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ต้องถูกไล่ล่าพ้นเวที,การเมืองไทย,พรรคเพื่อไทยจะถึงคราวล่มสลาย หรือยัง??,ถ้าพรรคเพื่อไทยยังดำรงอยู่ใคร จะเป็น แม่ทัพคนใหม่ นำพรรคเพื่อไทยต้านแรงเสียดทานจากทุกทิศทุกทาง,แม่ลูกจันทร์ เชื่อว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ไม่ใช่คนในตระกูลชินวัตรแน่นอน,คนที่จะชูธงพรรคเพื่อไทยคนต่อไป ต้องมีความเป็นผู้นำ มีภาพลักษณ์ดี มีพรรษาการเมืองสูง ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านหนักผ่านเบา กับพรรคมายาวนาน,ต้องรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลการ เมืองทุกแง่ทุกมุม,ข้อสำคัญ ต้องมีความยืดหยุ่น รู้จังหวะถอย รู้จังหวะชน ไม่ใช่ เดินหน้าลุยแลกหมัดตะพึดตะพือ,อ้อถ้าเป็นคนธรรมะธัมโม ชอบเข้าวัดทำบุญ เวลาไปไหนมีพระนำก็ยิ่งดี,ผู้ที่คุณสมบัติเหมาะสมตามตำราพิชัยสงครามมากที่สุด,คือคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์,แม่ลูกจันทร์ ยํ้าว่าความจริง พรรคเพื่อไทยมีขุนพลใหญ่ที่เหมาะสม จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่อีกหลายคน,แต่ในสถานการณ์ต้องปักหลัก ปะทะกับอำนาจ คสช. คุณหญิงเจ๊หน่อย น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าทุกคน,อย่างไรก็ตาม ยังมีเวลาอีก 1 ปีก่อนเลือกตั้งใหญ่ เพื่อ รีเซ็ต และ รีแบรนด์ พรรคเพื่อไทยให้เข้าที่เข้าทาง,เป็นโอกาสเหมาะที่จะดึงคนรุ่น ใหม่เลือดดีไฟแรงเข้ามาเสริมศักยภาพพรรคเพื่อไทยให้เป็นพรรคการ เมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้ายิ่งกว่าเดิม,เป็นพรรคฝ่ายค้านเจ๋งๆ ดีกว่า เป็นรัฐบาลเชยๆ.,แม่ลูกจันทร์ | เพราะถูกพาดพิงว่ารู้เห็น เป็นใจให้อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลบชะแว้ปออกไปขึ้น ฮ.ที่เกาะกง ไปลงที่สนามบินพนมเปญ แล้ว นั่งเครื่องบินต่อไปสิงคโปร์ ก่อนขึ้นเครื่องบินส่วนตัวไปดูไบ | ข่าว,การเมือง | สำนักข่าวหัวเขียว,แม่ลูกจันทร์,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,พรรคเพื่อไทย,สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1053132 |
ไม่รอด ชายโดดสะพานดิ่งเจ้าพระยา ศพลอยข้างวัด พบมาจากชัยภูมิ | เวลา 07.00 น. วันที่ 7 มิ.ย. 62 ร.ต.อ.เลิศวรรธน์ อุทัยนาง รอง สว.(สอบสวน) สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีผู้พบศพชายที่กระโดดสะพานปทุมธานี 1 ถนนรังสิตปทุมธานี ม.5 ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี แล้วศพลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้างวัดโสภาราม ต.บางปรอก อ.เมืองปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูรุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้นำเรือไปลากศพมาไว้ที่บริเวณท่าน้ำหน้าวัดโสภาราม แต่เนื่องจากพื้นที่รับผิดชอบเป็นของ สภ.สวนพริกไทย จึงต้องลากศพไปขึ้นที่ท่าน้ำหน้าวัดมะขาม ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี พร้อมประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม มาร่วมตรวจสอบ,หลังจากนำศพขึ้นมา เบื้องต้นพบว่าเป็นชายคนเดียวกันกับที่มีคนตกปลาเห็นกระโดดสะพานปทุมธานี 1 โดยจากการดูคลิปที่สวมเสื้อยืดมีแถบสีส้ม ซึ่งตรงกัน และตรวจค้นในกระเป๋ากางเกงพบบัตรประชาชนระบุชื่อนายสมบูรณ์ ขำชัยภูมิ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 337 ม.1 ต.หนองบัวใหญ่ อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ หลังจากชันสูตรศพแล้วได้มอบให้มูลนิธิฯ นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อผ่าพิสูจน์การเสียชีวิตอีกครั้ง พร้อมติดต่อประสานไปทางญาติผู้ตายเพื่อหาสาเหตุการฆ่าตัวตายครั้งนี้ต่อไป. | พบแล้วชายฉกรรจ์ที่มีคนเห็นกระโดดน้ำกลางสะพานปทุมธานี กลายเป็นศพลอยเจ้าพระยาโผล่ข้างวัด บัตรระบุ อายุ 39 เป็นชาว จ.ชัยภูมิ คาดเจตนาฆ่าตัวตาย | ข่าว,ทั่วไทย | กระโดดสะพาน,กระโดดเจ้าพระยา,กระโดน้ำฆ่าตัวตาย,กระโดดน้ำ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1586341 |
ทดสอบ HONDA JAZZ RS PLUS CVT | จักรกล Honda กับแนวคิด The Power of Dream ทำให้ Jazz และรถหลายรุ่น เช่น City / Civic / HR-V / CR-V กลายรถรุ่นขายดีของ Honda ส่งผลบุญให้แบรนด์รูปตัว H นำโด่งด้านตัวเลขรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ขายในประเทศ ด้วยประสิทธิภาพและคุณลักษณะที่เหมาะสมของการขับขี่ทั้งในเมืองและเดินทางไกลถึงจะทำตัวเป็นรถเล็กราคาไม่ถูก Jazz RS คือแฮตช์แบ็กอเนกประสงค์ 5 ประตูที่มีพร้อมทั้งสมรรถนะและความดุดัน จากรุ่นแรกสุดมาจนถึงรุ่นล่าสุด ด้วยยอดขายที่ดีทำให้ Jazz กลายเป็นโมเดลรถรุ่นสำคัญอีกหนึ่งรุ่นของ Honda จากความสามารถในการทำตลาดได้อย่างก้าวกระโดด ยอดขายที่ดีนั้น นอกจากการตลาดที่มีความเข้มข้นในสไตล์ของ Honda แล้ว ยังเกิดจากความนิยมชมชอบของลูกค้าที่บอกต่อๆ กันไปแบบปากต่อปากหลังจากการขับใช้งาน ทำให้ตัวเลขยอดขายของ Jazz ตั้งแต่เวอร์ชั่นแรกจนถึงเวอร์ชั่นล่าสุด เป็นไปแบบพุ่งทะยานก่อนการมาถึงของ Mazda 2,เมื่อเวลาเดินทางมาถึงการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์แบบ Minor change โดยเฉพาะรุ่นสูงสุด RS Plus ค่าย Honda จัดหนักอัดเทคโนโลยีใหม่ของระบบขับเคลื่อนและระบบความปลอดภัยชนิดเต็มสูบ รูปลักษณ์แบบสปอร์ตที่ถูกปรับปรุงทั่วทั้งคัน ส่งผลให้ Honda Jazz RS 2017 กลายเป็นยนตรกรรมขนาดกะทัดรัดที่มีความน่าใช้งานหากไม่คิดถึงความแสบของรถเล็กคู่แข่งอย่าง Mazda 2 ,Honda Jazz 2017 รุ่นและราคา,Honda Jazz 1.5 S M/T 555,000 บาท,Honda Jazz 1.5 S A/T 594,000 บาท,Honda Jazz 1.5 V A/T 654,000 บาท,Honda Jazz 1.5 V+ A/T 694,000 บาท,Honda Jazz 1.5 RS A/T 739,000 บาท,Honda Jazz 1.5 RS+ 754,000 บาท (คันทดสอบ),HONDA JAZZ RS Plus ปรุงแต่งรถเล็กด้วยมาดสปอร์ตแฮตช์แบ็ก อุปกรณ์เฉพาะรุ่น RS รอบคัน ไล่จากกระจังหน้าดีไซน์ใหม่พร้อมสัญลักษณ์ RS เป็นกระจังหน้าของ Honda ยุคใหม่ที่พบเห็นได้ทั่วไปไม่ว่าจะเป็น City/ Jazz / Civic / HR-V / Accord / CR-V ไฟหน้าแบบใหม่ให้แสงโทนสีขาวที่สว่างมากกว่าไฟหน้าของ Jazz รุ่นก่อนปรับโฉม พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (DRL) Daytime Running Lights แบบ LED,มิติตัวถังของ Jazz RS Plus มีความยาว 4,035 มิลลิเมตร มากกว่า Jazz รุ่นมาตรฐานที่ยาว 3,989 มิลลิเมตรอยู่นิดเดียว ความกว้างของตัวรถ 1,695 มิลลิเมตร สูง 1,525 มิลลิเมตร ความสูงระดับนี้ทำให้ห้องโดยสารมีพื้นที่เหนือศีรษะเหลือเฟือ ส่วนความสูงจากพื้นถึงใต้ท้อง 135 มิลลิเมตร พอลุยน้ำท่วมไม่เกิน 20 เซนติเมตรได้บ้างแต่ก็ทุลักทุเลเต็มกลืน ระยะห่างฐานล้อ วัดจากดุมล้อหน้าไปหลัง 2,530 มิลลิเมตร น้ำหนักรถทั้งคันอยู่ที่ 1,086 กิโลกรัม หนักกว่า Jazz รุ่น S M/T เกือบๆ 50 กิโลกรัม จากอุปกรณ์ของรุ่นท็อปสุดที่มากกว่ารุ่นต่ำสุดตามระดับของค่าตัว ,สปอยเลอร์หน้าติดตั้งชิ้นงานพลาสติกมีลวดลายคล้ายกับคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมไฟตัดหมอก สปอยเลอร์หลังเฉพาะตัวรุ่น RS ดูดีมีความสปอร์ตในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยครีบรีดอากาศใต้สปอยเลอร์เลียนแบบคาร์บอนไฟเบอร์ กระจกมองข้างสีดำ ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้วยัดยาง bridgestone turanza ไซส์ 185 /55R16 ไฟท้ายใช้หลอดไฟแบบผสมทั้งหลอดปกติและหลอด LED รูปทรงของไฟท้ายทรงยาวที่แปะขนานไปกับเสาท้ายไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ นอกจากสีภายนอกใหม่ สีส้มฟีนิกซ์ เฉพาะรุ่น RS,ภายในห้องโดยสารของ Jazz RS Plus ติดตั้งเบาะนั่งแบบใหม่หุ้มด้วยผ้าสีเทาดำตกแต่งเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีส้ม ภายในพื้นที่ห้องโดยสารเน้นความกว้างขวาง จากความสูงของหลังคาที่มากกว่าแฮตช์แบ็กทั่วไปคล้าย MINI MPV เบาะนั่งอัลตร้าซีท สามารถพับและปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ถึง 4 รูปแบบการใช้งาน พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อพับเบาะหลังราบลงกับพื้น,อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการขับขี่ครบครัน เริ่มจาก มาตรวัดเรืองแสงที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีของ Jazz เป็นมาตรวัดแบบเข็มทั้งวัดรอบและวัดความเร็ว มาตรวัดด้านขวาสุดเป็นจอแสดงผล MID multi information display หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาดเล็กคอยแจ้งเตือนเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย อุณหภูมิ ทริปมิเตอร์ A/B ระดับของเชื้อเพลิงที่เหลือในถัง ,พวงมาลัยทรงสามก้านหุ้มด้วยไวนิลดูมีราคาถูกไปนิดและไม่ค่อยจะเข้ากับรูปแบบสปอร์ตของเบาะผ้าสีดำเย็บตะเข็บด้วยด้ายสีส้ม พวงมาลัยแนวมัลติฟังก์ชันติดตั้งสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง สวิตช์ปรับตั้งความเร็วอัตโนมัติและสวิตช์รับและวางโทรศัพท์ไร้สายระบบบลูทูธ HondaLink Application *เฉพาะ Smart Phone บางรุ่น,ระบบปรับอากาศอัตโนมัติสั่งงานด้วยการสัมผัสไปที่แผงควบคุม ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ ของที่ขาดไม่ได้สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ในปัจจุบัน,ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วแบบใหม่ รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย รองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI และพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน เป็นจอภาพส่วนกลางใช้ระบบควบคุมอัจฉริยะสั่งงานด้วยการสัมผัสบนหน้าจอ รองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI Audio Display หน้าจอแสดงผลในโหมดเครื่องเสียง Fuel Consumption Display แสดงผลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน Hands Free Telephone แสดงผลการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Siri Eye Free Mode รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri *สำหรับ iPhone 4s ขึ้นไป รองรับ HomdaLink Navigation Application พร้อม Multi-angle Rearview Camera กล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ เพิ่มมุมมองในการถอย โดยสามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ทั้งแบบ 130 องศา และมุมมองจากด้านบน,เครื่องยนต์ของ Honda Jazz RS Plus เป็นเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียงแบบ 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร วางตามขวางขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้าตามแบบอย่างของบรรพบุรุษ Jazz ทุกประการ เครื่องยนต์ตัวเล็กกะทัดรัดมีกำลังสูงสุด 117 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตรที่ 4,700 รอบต่อนาที ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติแบบสายพานพูเลย์ CVT ใหม่ พัฒนาภายใต้ Earth Dreams Technology พร้อมล็อกอัพ ผู้ขับสามารถชิพเกียร์ได้ถึง 7 สปีด Honda Jazz รุ่นสูงสุดราคา 7.54 แสนบาท ยังติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control เพื่อความสบายยามวิ่งออกทางไกลโล่งๆ พร้อมระบบช่วยขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน ECO Assist ปุ่ม ECON เครื่องยนต์ของ Jazz ยังปรับจูนระบบจุดระเบิดมาเป็นอย่างดีเพื่อรองรับเชื้อเพลิงพลังงานทางเลือก E85 ราคาลิตรละ 19 บาท ประหยัดกันไปครับพี่น้อง ,สภาพการขับขี่ควบคุมในเมือง เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 1,497 ซีซี 117 แรงม้า บนแรงบิด 14.9 กิโลกรัม/เมตร ทำงานอย่างขยันขันแข็งในรอบต่ำที่ตำแหน่งเกียร์ S การพุ่งออกจากสัญญาณไฟจราจรด้วยความรวดเร็วจากขนาดที่เล็กและน้ำหนักที่เบาแค่ 1 ตัน เมื่อลองขับไปตามตรอกซอกซอยที่คับแคบ เจ้า Jazz ก็ทำตัวได้น่ารักดีและให้ความรู้สึกกระชับฉับไวคล่องตัวใช้ได้ ขับง่ายขับสบายเหมาะกับมือใหม่ที่เพิ่งจะถอยรถเป็นคันแรก,เกียร์อัตโนมัติสายพานล็อกอัพ CVT 7 สปีดยังออกแบบมาเพื่อการทดกำลังที่รอบต่ำสำหรับการขับในเมืองที่มีรถราคับคั่ง รอบเครื่องที่ไม่สูงมากจนเกินไปในตำแหน่งเกียร์เดินหน้าปกติหรือเกียร์ D ส่งผลให้มันมีความประหยัดเชื้อเพลิงอยู่ในเกณฑ์ดีไม่ว่าจะวิ่งในเมืองหรือทางไกล เนื่องจากช่วงทดสอบนั้นเท้าค่อนข้างหนักไปนิดเลยทำได้แค่ 11.7 กิโลเมตรต่อลิตร จุดเด่นของเจ้า Jazz ก็คือระยะโอเวอร์แฮงค์ที่สั้นกุดทำให้วงเลี้ยวแคบได้ใจ เมื่อต้องกลับรถ หรือถอยเข้า-ออก ในจุดที่คับแคบพวกมือใหม่ก็สามารถหมุนพวงมาลัยได้อย่างคล่อง ส่วนคุณภาพของการขับขี่แทบจะไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเจ้า Jazz รุ่นก่อนปรับโฉม ,พวงมาลัยไฟฟ้ามีความเบาสบายมือ ในย่านความเร็วต่ำน้ำหนักของพวงมาลัยแบบคงที่ทำให้เบาสบายมือ เมื่อขับเร็วขึ้นมันก็ยังเบาอยู่เท่าเดิม อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร ของ RS Plus ทำได้ 10.84 วินาที บ่งบอกอะไรบางอย่างสำหรับตัวตนของเจ้า Jazz ในร่างทรงรุ่นซิ่งว่ามันไม่ใช่รถบ้านจ่ายกับข้าวที่อืดเป็นเต่าคลาน กดคันเร่งลงไปในตำแหน่งเกียร์ S เมื่อพบเจอกับทางโล่ง การตอบสนองของเครื่องยนต์ ชุดส่งกำลัง CVT และระบบบังคับเลี้ยวที่ออกแนวเบาเกิน จะสานต่อความต้องการของคุณได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ สำหรับรถเล็กคันหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อเน้นการขับขี่ในเมืองเป็นแต่ขับออกทางไกลในแบบที่ไม่ติดลูกบ้ามากเกินไปก็เป็นรถที่ใช้งานได้ดี,ขับทดสอบพ้นจากเขตเมืองเข้าสู่ทางไฮเวย์ข้ามจังหวัดจากกรุงเทพฯ ไปยังระยอง ถึงแม้ว่า Jazz RS จะมีเรือนร่างเป็นรถเล็กทรงป้อม แต่การยึดเกาะกับผิวถนนในขณะที่ใช้ความเร็วเดินทาง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงช่วงล่างและยางรวมถึงชุดบังคับเลี้ยวก็ยังให้ความมั่นใจได้ดีพอสมควร เสียงลมและเสียงบดไปกับผิวถนนของยางจะเริ่มเข้ามาให้ได้ยินที่ความเร็ว 100 กิโลเมตรเป็นต้นไป โดยจะเพิ่มความดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น การเก็บเสียงของรถยนต์ราคา 7.5 แสนบาทคงเทียบไม่ได้กับรถยนต์ราคาเรือนล้านหรือหลายล้าน ,ยางติดรถมาจากโรงงานเป็นยางยี่ห้อ Bridgestone รุ่น Turanza ไซส์ 185/55R16 เท่ากันทุกล้อ ยางมีกริ้บที่ชัดเจนในด้านแรงยึดเกาะ ทำงานกับช่วงล่างของเจ้า Jazz แม้จะมีเสียงดังลอดเข้ามาให้ได้ยินบ้างในบางครั้งที่ผมใช้ความเร็วสูงเกินกว่า 110-130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ก็ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับรถเล็กที่มีค่าตัวระดับนี้ ยางรุ่น Turanza ออกแบบให้ช่วยลดแรงต้านกับผิวถนน แต่ยังคงประสิทธิภาพที่ดีของการยึดเกาะ รวมถึงการรีดน้ำออกจากร่องยางอย่างรวดเร็ว และยังช่วยลดเสียงรบกวนได้อีกนิดหน่อย ที่ย่านความเร็วสูงเสียงยางเริ่มดังหึ่งๆเข้ามาในห้องโดยสาร เจ้า Jazz RS Plus ก็ยังคงให้ความรู้สึกที่นิ่งและมีความเสถียรใช้ได้เมื่อเจอกับผิวถนนเรียบๆ บนมอเตอร์เวย์ ,Jazz RS Plus วิ่งได้ดีทั้งบนทางสายหลักและถนนสายรองที่มีผิวพื้นขรุขระ มันสามารถรับมือกับทางลูกรังได้อย่างน่าทึ่ง จากประสิทธิภาพของระบบรองรับแบบง่ายๆ ที่ปรับเซตค่าความแข็งของสปริงและโช้คอัพออกมาในแนวกลางๆไม่ย้วยหรือกระด้างมากเกิน สำหรับการใช้ความเร็วเดินทางบนไฮเวย์ สัมผัสของปลายประสาทที่ผมได้รับคล้ายกับการผสานเป็นเนื้อเดียวกันระหว่างเส้นทางกับตัวรถทดสอบ,ล้ออัลลอยขอบ 16 นิ้ว ลายใหม่ สีดำสลับสีเงินกับหน้ายาง 185 เหมาะสมกับขนาดและน้ำหนักของตัวรถเป็นอย่างดี หากอยากเท่อยากหล่อหันไปคบกับล้อขอบ 17 หรือ 18 นิ้ว กับขนาดหน้ายางที่ใหญ่ขึ้น รวมถึงความสูงที่ลดลงจากยางแบบแก้มเตี้ยล้อโต คงต้องทำใจในเรื่องของความกระด้างสะเทือน และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่จะเพิ่มขึ้นมา เป็นสัจธรรม เมื่อต้องการที่จะหล่อกว่าล้อ 16 นิ้ว โดยหาล้อขนาดใหญ่กว่าโรงงานมาใส่ก็จะต้องกระแทกสะเทือนเป็นเรื่องธรรมดา,แรงบิด 14.9 กิโลกรัม/เมตร หรือ 146 นิวตัน-เมตร จากเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC สูบกินเชื้อเพลิงทางเลือกเอทานอล E85 ลิตรละ 19 บาท ย่านของกำลังในรูปแรงบิด เหมาะสมกับขนาดและน้ำหนักตัว 1,086 กิโลกรัม สมรรถนะที่ได้รับจากเครื่องยนต์และเกียร์อยู่ในเกณฑ์ที่กำลังดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป Jazz 2017 เป็นรถที่ถูกออกแบบมาเพื่อการขับขี่ทุกวันในชีวิตประจำวัน,มันวิ่งได้ดีทั้งความเร็วต่ำและพุ่งทะยานไปตามแรงเท้าเมื่อคุณต้องการใช้ความเร็วแบบรีบเร่ง ที่ย่านความเร็วปานกลางบนถนนเรียบๆ ความรู้สึกที่สัมผัสได้ ทำให้ลืมไปว่ากำลังขับรถที่มีมิติตัวถังเล็กกะทัดรัด อย่างไรก็ตามสมรรถนะโดยรวมของมันก็ยังคล้ายกับรุ่น SV Plus รุ่นปี 2014 ชนิดแยกกันไม่ออก แทบจะเหมือนกันทุกอย่างยกเว้นของแต่งในรุ่น RS ที่โดนใจวัยแรง,ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและกันโคลงเหล็ก ส่วนช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบคานแข็งทอร์ชั่นบีม ให้ความมั่นใจพอสมควรในย่านความเร็วเดินทางที่ถูกกฎหมาย การถ่ายเทมวลน้ำหนักในโค้งหรืออาการโคลงตัวเกิดขึ้นไม่มากนัก Jazz นับเป็นรถเล็กที่ควบคุมได้ง่ายคันหนึ่งในวงการรถ City Car มันมีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้รถใหญ่ราคาแพงนั้นดูแพงเกินประสิทธิภาพค่าตัวมากไปหน่อย สัมผัสของพวงมาลัยจัดการกับทางคดเคี้ยวดีใช้ได้แต่ไม่ควรขับเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ประสิทธิภาพของการยึดเกาะยังไม่ถึงกับเด็ดขาดเท่าที่ควรเนื่องจากขนาดของตัวถัง รูปแบบของช่วงล่าง ยางและล้อ กลไกของระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้าที่เซตมาเบาเกินไปนิด,การเปลี่ยนทิศทางหรือหักพวงมาลัยแบบกะทันหันที่ย่านความเร็วสูง ไม่แนะนำให้ทำ เนื่องจากระยะฐานล้อไม่ได้ยาวมากและหน้ายางแค่ 185 กับสัดส่วนความสูง 1,525 มิลลิเมตรที่มากกว่าซีดานบางรุ่น ซึ่งส่งผลให้การยึดเกาะอยู่ในเกณฑ์กลางๆ หากอยากหนึบเป็นตุ๊กแกคงต้องมองหาสปริงและโช้คของ Mugen กับล้อแนวๆ ขอบ 18 นิ้ว พร้อมยางสปอร์ตหนึบๆ มาลงแทนที่ของเดิม รับรองได้ว่าคุณจะได้อารมณ์ช่วงล่างของ Jazz รุ่น RS แท้ๆ ที่หลายคนอยากได้ แต่คงต้องควักกระเป๋ากันหนักพอสมควรเลยทีเดียว,รุ่น RS Plus มีเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 6 ดอกคุณภาพระดับปานกลางที่ใช้งานได้จริง มันรองรับทุกอย่างเท่าที่คุณต้องการ เช่น CD/MP3 USB AUX HDMI แถมยังมีโหมดเชื่อมต่อกับระบบนำทางจากโทรศัพท์มือถือ ที่สั่งงานด้วยเสียงได้อีกด้วย ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลในรุ่นสูงสุด มีหน้าจอที่ใช้งานได้ง่าย แอร์สั่งงานด้วยระบบสัมผัสในรถยนต์ที่มีค่าตัวไม่ถึง 8 แสนบาท แตะนิ้วลงไปเบาๆ สำหรับการปรับความเร็วพัดลมแอร์ ทิศทางของลมและระดับความเย็นภายในห้องโดยสาร ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สามารถโอ้อวดพรรคพวกเพื่อนฝูงได้,รถ Honda Jazz รุ่นปรับโฉม 2017 ยังคงมีการขับที่เหมือนกับรุ่นเดิมแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนอกจากอุปกรณ์ของรุ่น RS ที่เพิ่มเข้ามา มันไม่ใช่รถที่เร็วและแรงแบบแฮตช์แบ็กตัวกลั่นคู่แข่งอย่าง Mazda 2 ดีเซล แต่มันเป็นรถ 5 ประตูแบบอเนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้ดีในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่วนใหญ่ผู้คนทั่วไปใช้มันขับเดินทางไปทำงานแบบเช้ากลับเย็น ซึ่งบางครั้งในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็พาครอบครัวเล็กๆ ออกเดินทางไกลไปพักผ่อนต่างจังหวัด เป็นรถเล็กที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้คนที่ใช้ชีวิตในเมืองได้ดีสมราคาค่าตัว จากพื้นที่ของห้องโดยสารและพื้นที่สำหรับการขนสัมภาระที่ส่วนท้ายเมื่อพับเบาะหลัง น้ำหนักตัวและขนาดที่พอเหมาะพอดี ส่งผลให้มันมีความคล่องตัวทั้งในและนอกเมือง,ท่านั่งขับแบบสบายๆ ใน New Jazz 2017 ทำให้คุณหรือใครในครอบครัวสามารถสนุกกับมันได้บ้างในบางจังหวะที่ถนนโล่ง ย่านของกำลัง 117 แรงม้า การยึดเกาะที่พอตัว เกียร์ CVT แปรผันที่คุณสามารถคาตำแหน่งเกียร์ที่ต้องการได้ในเส้นทางภูเขา อุปกรณ์ในรุ่นสูงสุด RS Plus ออกแนวรถซิ่งแต่ไม่ได้รุนแรงหนักแน่นเหมือนกับ RS สายพันธุ์แท้ ราคาค่าตัว 7.5 แสนบาท กับศูนย์บริการที่มีอยู่ทั่วไปรวมถึงราคาขายต่อที่หล่นไม่มากเจ็บไม่หนักเมื่อกลายเป็นรถมือสอง สำหรับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 11.7 กิโลเมตรต่อลิตร ไม่ได้จิบเชื้อเพลิงเหมือนคู่แข่งแต่ก็ขับได้สนุกพอตัว เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ความสามารถของรถคู่แข่งอย่าง Mazda 2 ดีเซล ได้เข้ามาเบียดบังลูกค้าเก่าของ Honda Jazz ไปเยอะพอสมควรเลยทีเดียว,Honda Jazz RS Plus CVT,เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ,แบบเครื่องยนต์SOHC i-VTEC,วาล์ว4 วาล์วต่อสูบ พร้อมระบบวาล์วแปรผัน i-VTEC,ปริมาตรความจุ1,497 ซีซี,กระบอกสูบคูณช่วงชัก73.0 mm x 89.4 mm,อัตราส่วนกำลังอัด.10.3:1,กำลังสูงสุด80 กิโลวัตต์ 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที,แรงบิดสูงสุด.146 นิวตันเมตร 14.9 กิโลกรัม/เมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที,ระบบควบคุมการเปิด-ปิดลิ้นปีกผีเสื้อแบบอิเล็กทรอนิกส์,ระบบเกียร์CVT พร้อม Shifting Control of Connering Gravity,ระบบขับคับเลี้ยวแรคแอนพีเนียนพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าผ่อนแรงหมุน,อัตราทดพวงมาลัย.15.3,พวงมาลัยหมุนสุด3 รอบ,รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด5.1 เมตร,ระบบรองรับ,ด้านหน้าอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลง,ด้านหลัง.ทอร์ชั่นบีมแบบ H-shape,ระบบเบรก,ด้านหน้าดิสเบรกแบบมีช่องระบายความร้อน,ด้านหลัง.ดรัมเบรก,ล้อและยางอัลลอย 16x6J 185/55R16,ยางอะไหล่T135/80 D15,มิติตัวถัง,ความกว้าง.1,695 มิลลิเมตร,ความยาว4,035 มิลลิเมตร,ความสูง1,525 มิลลิเมตร,ระยะฐานล้อ.2,530 มิลลิเมตร,ระยะห่างล้อคู่หน้า1,476 มิลลิเมตร,ระยะห่างล้อคู่หลัง1,465 มิลลิเมตร,ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้อง 135 มิลลิเมตร,ความจุถังเชื้อเพลิง40 ลิตร,น้ำหนัก.1,086 กิโลกรัม,อุปกรณ์รุ่น RS Plus CVT,– ไฟตัดหมอกคู่หน้า,– กระจังหน้า สีดำ แบบกลอสซี่ พร้อมคิ้วโครเมียมรมดำ,– สเกิร์ตข้างและสปอยเลอร์หลัง,– คิ้วฝากระโปรงท้าย แบบโครเมียมรมดำ,– กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมพับไฟฟ้า,– ล้ออัลลอย 16 นิ้ว,– ขนาดล้อ 16x6 J,– ขนาดยาง 185/55 R16,– วัสดุหุ้มเบาะ ผ้าแบบสปอร์ต,– ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด,– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ,– พนักเท้าแขนด้านหน้า พร้อมกล่องเก็บแท็บเล็ต,– ที่วางแก้วน้ำ 7 ตำแหน่ง,– ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า,– ลำโพง 6 ตัว,– ราวมือจับ 4 ตำแหน่ง,– ไฟเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเสียงเตือน,– ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ,– ม่านถุงลมด้านข้าง,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,[email protected],Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/ | รีวิวแฮตช์แบ็กยอดนิยมคนวัยทำงาน Honda Jazz ไมเนอร์เชนจ์รุ่น RS Plus CVT ค่าตัว 754,000 บาท | ข่าว,ยานยนต์ | อาคม รวมสุวรรณ,HondaHonda Jazz,Honda Jazz Minor change 2017 | https://www.thairath.co.th/news/auto/testdrive/1016020 |
บุกจับสมาชิกแก๊ง กังเพ มาเฟียเกาหลี หนีคดีมาอยู่พัทยา | เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 29 ส.ค. พ.ต.ท.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผกก.สภ.นาจอมเทียน ช่วยราชการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ภ.จว.ชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันจับกุมตัว นายซอง อิน ซิก (Seone in sik) อายุ 33 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ผู้ต้องหาตามหมายจับของตำรวจสากล (Red Notice) ในคดียาเสพติด,ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอช.ภ.จว.ชลบุรี ได้รับการประสานงานจากกองการต่างประเทศในการสืบหาติดตามตัว นายซอง อิน ซิก อดีตสมาชิกแก๊งกังเพ เป็นแก๊งมาเฟียชื่อดังในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับของตำรวจสากล ในคดียาเสพติด จำนวน 3 หมาย และได้หลบหนีเข้ามากบดานอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.53 จนถึงปัจจุบัน,ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายซอง อิน ซิก พักอาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านสิริน บ้านเลขที่ 13/28 ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดพัทยา นำกำลังเข้าตรวจค้นพร้อมจับกุมตัว นายซอง อิน ซิก และตรวจยึดรถยนต์ BMW สีเทา ทะเบียน ชง 7012 กรุงเทพฯ เนื่องจากไม่สามารถแสดงเอกสารคู่มือประจำรถ,นอกจากนี้ จากการตรวจภายในบ้านพักหลังดังกล่าว พบเอกสารบันทึกการส่งตัวหญิงสาวไปทำงานตามร้านสถานบันเทิงต่างๆ ที่ประเทศเกาหลีใต้ เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้ตรวจสอบต่อไป,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด และจะประสานงานไปยังสถานทูตเกาหลีใต้ เพื่อส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศบ้านเกิดต่อไป. | จนท.ศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ บุกจับชายชาวเกาหลีใต้อดีตสมาชิกแก๊งมาเฟีย กังเพ มีหมายจับคดียาเสพติดของตำรวจสากล 3หมาย หนีมาอยู่ที่พัทยาตั้งแต่ปี53 พบเอกสารส่งหญิงไปทำงานสถานบันเทิง เตรียมส่งตัวกลับไปดำเนินคดี | ข่าว,ทั่วไทย | จับชาวเกาหลีใต้,มาเฟียเกาหลี,แก๊งกังเพ,หนีมาอยู่พัทยา,หนีคดียาเสพติด,3หมายจับ,ตำรวจสากล,ศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ,พัทยา,ชลบุรี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,อาชญากรรม,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/news/local/521633 |
แม่น้ำมูลล้นตลิ่งทะลักเข้าเขตชั้นใน พื้นที่เทศบาลนครอุบลฯ แล้ว | เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2560 สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดอุบลราชธานี หลังแม่น้ำมูลล้นตลิ่งไหลท่วมชุมชนสองฝั่งแม่น้ำมูลในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี เทศบาลเมืองวารินชำราบเป็นวงกว้าง ล่าสุดไหลทะลักเข้าพื้นที่ชั้นในของชุมชนท่ากอไผ่ อำเภอวารินชำราบ แม้ทางจังหวัดได้นำกระสอบทรายมาปิดกั้นพื้นที่จุดเสี่ยงริมแม่น้ำ หลังจากที่น้ำเริ่มไหลเข้าพื้นที่ภายใน ชาวบ้านบางรายถือโอกาสนำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์มาล้างทำความสะอาด ส่วนเด็กนักเรียนและวัยรุ่นต่างพากันมาเล่นน้ำและถ่ายรูปลงโซเชียล ขณะที่แม่ค้าขายลูกชิ้นก็ไม่ยอมทิ้งโอกาสจอดขายให้กับชาวบ้านที่มาเล่นน้ำดังกล่าว,จากสถานการณ์ปัจจุบันที่กระสอบทรายไม่สามารถป้องกันน้ำได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากมีชาวบ้านได้ยกกระสอบทรายออก เนื่องจากทำให้บ้านของประชาชนที่โดนน้ำท่วมอยู่แล้วสูงขึ้นมากกว่าปกติ จึงต้องเปิดให้น้ำไหลออกจนเข้าพื้นที่ชั้นใน และคาดว่าพื้นที่ชั้นในแม่น้ำมูลฝั่งชุมชนท่าก่อไผ่ หาดสวนยา ท่าบ้งมั่ง ระดับน้ำแม่น้ำมูลล่าสุดเพิ่มขึ้นอีก 12 เซนติเมตร ทำให้มีน้ำสูง 7.44 เมตร โดยน้ำล้นตลิ่ง 44 เซนติเมตร อัตราการไหลความเร็วของน้ำ 2,564 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เกินอัตรารองรับของปริมาณที่ 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที. | แม่น้ำมูลเอ่อล้นตลิ่ง ไหลทะลักเข้าเขตชั้นในของเทศบาลนครอุบลราชธานีแล้ว โดยแนวกระสอบทรายเอาไม่อยู่ เนื่องจากมีชาวบ้านได้ยกกระสอบทรายออก เพราะทำให้บ้านที่โดนน้ำท่วมอยู่แล้วสูงขึ้นมากกว่าปกติ | ข่าว,ทั่วไทย | อุบลราชธานี,แม่น้ำมูล,น้ำล้นตลิ่ง,น้ำท่วมอุบลราชธานี,น้ำท่วม | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1027461 |
พิษยูเค Brexit ยังแรง ค่าเงินปอนด์ยวบ ทำสถิติใหม่ ต่ำสุดรอบ 31ปี | เมื่อ 6 ก.ค.59 สำนักข่าวบีบีซี รายงานผลกระทบจากสหราชอาณาจักร (ยูเค) Brexit ออกจากสหภาพยุโรป(อียู) ยังส่งผลต่อตลาดหลักทรัพย์และค่าเงินปอนด์ สเตอร์ริงของอังกฤษอย่างต่อเนื่อง หลังจากยูเคทำประชามติเมื่อ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ค่าเงินปอนด์ของอังกฤษ ได้ทำสถิติอ่อนตัวต่ำสุดครั้งใหม่ ในตลาดเอเชีย ลดลงมาเหลือเพียง 1.2798 ดอลลาร์ต่อปอนด์เท่านั้น ซึ่งถือเป็นค่าเงินปอนด์ที่ต่ำสุดในรอบ 31 ปี,บีบีซี แจ้งว่า ค่าเงินปอนด์ที่อ่อนตัวต่ำสุดเช่นนี้ เนื่องจากผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ออสเตรเลียและญี่ปุ่นได้รับผลกระทบ ทำสถิติต่ำสุดเช่นกัน ขณะที่บรรดานักลงทุนก็พากันเทขายเงินปอนด์เพื่อหันไปถือเงินสกุลอื่นที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า โดย ผลจากยูเค เบรกซิต ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดเงิน ตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เงินหายไปจากตลาดแล้ว หลายล้านล้านดอลลาร์ และค่าเงินปอนด์ก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง,ข่าวแจ้งว่า นอกจากค่าเงินปอนด์ทำสถิติต่ำสุดเหลือเพียง 1.2798 ดอลลาร์ต่อปอนด์แล้ว ตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียก็ยังคงร่วงต่อเนื่อง อาทิ ตลาดหุ้นนิกเคอิ 225 ของญี่ปุ่น ลดลงแล้วเกือบ 3% และตลาดฮั่งเส็งในฮ่องกง ลดไป 1.9% ส่วนตลาดหุ้นในอินโดนีเซีย อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ปิดตลาดการซื้อขาย เนื่องจากเป็นวันหยุด | ยูเคจะออกจากอียูยังพ่นพิษไม่หยุด ส่งผลค่าเงินปอนด์สเตอร์ริงของอังกฤษ ทำสถิติใหม่ อ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 31 ปี ลดลงมาเหลือแค่ 1.2798 ดอลลาร์ต่อปอนด์ | null | สหราชอาณาจักร,ยูเค ออกจากอียู,สหราชอาณาจักร ออกจากอียู,สหภาพยุโรป,ค่าเงินปอนด์ ร่วง,เงินสกุลปอนด์สเตอร์ริง,ตลาดหุ้นร่วง,Brexit,ผลกระทบยูเค ออกจากอียู,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/656136 |
การสอบครูผู้ช่วย โดยไม่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ ว่าด้วยข้อสังเกตบางประการ | สำหรับคนทั่วไปนั้นอาจไม่คุ้นกับคำว่า ครูผู้ช่วย เท่าใดนัก ตามกฎหมายแล้ว ครูผู้ช่วยเป็นตำแหน่งผู้สอนในหน่วยงานการศึกษา ก่อนจะขึ้นไปเป็นครู หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็น ครูแรกบรรจุในช่วงทดลองงานในเวลา 2 ปี ซึ่งก็คือการก้าวขาไปเป็นครูในระบบราชการแล้วนั่นเอง ดังนั้น ครูผู้ช่วยจึงเป็นตำแหน่งที่เป็นประตูแห่งโอกาสทั้งในนามผู้ต้องการเป็นครูเอง สถาบันการศึกษาและนักเรียนที่จะได้รับบุคลากรเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งครูผู้ช่วย เกิดขึ้นจากเกิดจากการที่ยกเลิกระบบ อาจารย์ 1 อาจารย์ 2 อาจารย์ 3 และให้มีเพียง ครูผู้ช่วย และครู แล้วบวกเพิ่มวิทยฐานะเข้าไประบบการศึกษาเป็นที่คาดหวังของคนในสังคมไทยว่าจะเป็นรากฐานสำคัญที่จะสร้างความเจริญก้าวหน้าเทียบทันกับอารยประเทศ ทั้งยังเป็นแพะรับบาปถึงความล้าหลัง เมื่อมีเหตุการณ์เชิงประจักษ์ต่างๆ แสดงออกมา เช่น ผลคะแนนสอบที่ตกต่ำลง ฯลฯ ตัวแทนของระบบการศึกษาที่เลี่ยงไม่พ้นจะกล่าวถึง ครู ที่ต้องแบกรับภาระนี้ กระนั้นครูก็ตกเป็นเป้าของการโจมตี เมื่อตกเป็นข่าวต่างๆนานา ทั้งข้อเบาและหนัก ไม่ต่างจากข้าราชการอย่างตำรวจ หรือพระที่เป็นตัวแทนของรัฐที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนในท้องถิ่นต่างๆ ปี 2557 จำนวนครูที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีมากถึง 402412 คน จากจำนวนทั้งหมด 641793 คน ด้วยจำนวนบุคลากรมหาศาลนั้น จึงนำมาซึ่งปัญหาจากปริมาณที่มากนี้ไปด้วยบทบาทของครูนั้นค่อนข้างกว้างขวาง และครูก็มีประเภทที่แตกต่างกันไป หากแยกตามการสอน ในโรงเรียนประถมศึกษามีครูปฐมวัย ครูสังคมศึกษา ครูคณิตศาสตร์ ครูภาษาไทย ครูภาษาอังกฤษ ครูภาษาจีน ครูศิลปะ ครูพลศึกษา ครูเกษตร ครูงานบ้าน-งานประดิษฐ์ ครูวิทยาศาสตร์ ฯลฯ ส่วนครูระดับมัธยมศึกษา ก็คล้ายกันแต่อาจเพิ่มเติมครูวิทยาศาสตร์ที่แยกไปตามสาขาเช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ในระดับประถม หรือมัธยมที่ขาดแคลน ครูคนเดียวอาจสอนหลายวิชา และเป็นทั้งครูประจำชั้นพร้อมกับการสอนวิชาอื่น หลายครั้งพบว่าการสอนไม่ตรงกับวุฒิครู เช่น ครูที่จบเกษตรมาต้องมารับภาระสอนวิชาคอมพิวเตอร์และสังคมศึกษา และครูในโรงเรียนนั้นก็มีหลายแบบ ตั้งแต่ครูที่เป็นข้าราชการทั้งครูใหม่อย่างครูผู้ช่วย ครูที่มีวิทยฐานะต่างๆ (สมัยก่อนคือ ตำแหน่งอาจารย์ 1 2 3) ผู้บริหาร ขณะที่ครูอัตราจ้างก็เป็นตำแหน่งชั่วคราวที่เป็นสัญญาระยะสั้นเมื่อเทียบกับข้าราชการในสายอื่นๆอาจนับได้ว่า หนัก พอดู ขณะที่ความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมทำให้อาชีพต่างๆขยายตัวมากขึ้น ทางเลือกของอาชีพจึงมีมากกว่าการเป็นครู ปัญหานี้เป็นที่ตระหนักกันดีมาอย่างน้อยตั้งแต่ พ.ศ.2488 ที่รัฐบาลเห็นว่า ผู้มีความสามารถไม่ได้ทำอาชีพครูเหมือนเดิมแล้ว จึงตั้ง คุรุสภา ขึ้นมามีฐานะเป็นนิติบุคคลที่เน้นเรื่องนโยบายการศึกษา วิชาการ วินัยครู และการรักษาผลประโยชน์ครู และกำหนดให้ครูต้องเป็นสมาชิกคุรุสภาแต่เดิมนั้นการดำรงอาชีพครูนั้นมิได้มีความจำเป็นต้องใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในปี 2546 ที่รัฐบาลไทยรักไทยผลักดันให้เกิด พระ ที่มีผลบังคับวิชาชีพครู เป็นวิชาชีพควบคุมที่ต้องได้รับใบอนุญาตก่อน ตั้งแต่นั้นมาผู้สอบบรรจุครู มีข้อบังคับว่าจะต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ หรือพูดอีกแบบก็คือ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูนั้นเพิ่งเกิดขึ้นไม่ถึง 15 ปีนี่เอง แม้ว่าจะมี มาตั้งแต่ปี 2488 ต่างจากใบประกอบโรคศิลปะของแพทย์ (อย่างช้าในปี 2479 ตาม ) ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรม () ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรม () ที่เริ่มมาอย่างยาวนานความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องที่สำคัญก็คือ การปรับหลักสูตรให้สายครุศาสตร์ต้องเรียนเป็นเวลา 5 ปี นั่นคือวิชาการ 4 ปี บวกกับการฝึกสอนในโรงเรียนอีก 1 ปี เมื่อปี 2547 การออกแบบให้เรียนเช่นนี้ก็อ้างว่าเพื่อเสริมทักษะการสอนให้เข้มข้นมากขึ้นดังที่กล่าวมาแล้วว่า การสร้างเขตแดนของวิชาชีพครูในนามของใบอนุญาตประกอบวิชาชีพนั้นเริ่มต้นได้ช้ากว่าวิชาชีพอื่นๆ ทั้งที่เป็นอาชีพที่มีบทบาทมาอย่างยาวนาน การเน้นความเป็นครูที่ตัวบุคคล จริยามารยาท และความเป็นครูที่ศักดิ์สิทธิ์ และผู้มีพระคุณจึงถูกตอกย้ำอยู่เสมอ ผ่านพิธีกรรมการไหว้ครูที่สืบเนื่องมาจากพิธีกรรมในสังคมจารีต ตำแหน่งแห่งที่ของครูจึงอยู่ท่ามกลางแนวคิดแบบเก่า และซ้อนทับกับสถานะของวิชาชีพในโลกสมัยใหม่ภาพของ แสงเรืองๆ และ แม่พิมพ์ ที่เหนื่อยยากตรากตรำทำงานหนัก (เพลงแม่พิมพ์ของชาติ) แต่ภาพในเชิงธุรกิจก็คือ ครูเป็นเรือจ้าง (เพลงพระคุณที่สาม) กลับเป็นภาพในแง่ไม่ดีนัก ดังนั้นครูในอุดมคติ อาจนับเป็นคนดีในอุดมคติ อาจเทียบเคียงได้กับพระภิกษุที่เคยเป็นครูในสมัยโรงเรียนวัดอย่างไรก็ตามสถานะของครู มิได้รับการยกระดับในเชิงนโยบายเท่าที่ควร โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ สถาบันฝึกหัดครู กว่าจะได้รับการยกระดับมาเป็นการเรียนการสอนระดับวิทยาลัยครู ก็ต้องรอจนถึงปี 2518 และหากมองด้วยแว่นของสังคมไทยที่เห็นว่า การเป็นมหาวิทยาลัยนั้นแสดงถึงความสูงส่งกว่าทางด้านระดับทางวิชาการ กว่าวิทยาลัยครูจะเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏ ก็ต้องรอจนถึงปี 2547 (ก่อนหน้านั้น ปี 2538 เป็นเพียงสถาบันราชภัฏ) ทุกวันนี้นับเป็นมหาวิทยาลัยระดับรองที่ไม่ได้อยู่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) และที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ การได้รับการจัดสรรงบประมาณที่น้อยยิ่งกว่าน้อย หากเทียบในปี 2560 มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับงบประมาณ 13933378100 บาท จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 5572408400บาท ม.ธรรมศาสตร์ 3790583600 บาท ม.เชียงใหม่ 5942550400 บาท ขณะที่ ม.ราชภัฏเชียงใหม่ 780401900 บาท ม.ราชภัฏพระนครศรีอยุธยา 396126100 บาท ม.ราชภัฏนครรราชสีมา 539805500 บาท ม.ราชภัฏนครศรีธรรมราช 603833000 บาท ม.ราชภัฏกาญจนบุรี ได้รับงบประมาณเพียง 364469100 บาท งบประมาณของ ม.มหิดลนั้นมีมากกว่า ม.ราชภัฏกาญจนบุรีถึงกว่า 38 เท่ายังไม่นับว่า ม.ราชภัฏเหล่านี้ติดขัดระเบียบตามพระราชบัญญัติทำให้ไม่สามารถปรับตัวทางด้านธุรกิจได้ดีนัก บางแห่งที่มีความสนใจจะลงทุนก็เจอปัญหาระเบียบราชการ การแข่งขันในแง่นี้จึงยิ่งกลายเป็นปัญหาอีก งบประมาณที่น้อยจึงเป็นปัญหาโดยรากฐานที่สัมพันธ์กับศักยภาพการผลิตบัณฑิต งานวิจัยและองค์ความรู้ด้านการศึกษาให้มีความเป็นไปได้ เช่นเดียวกับวิชาชีพสาขาอื่นๆ ที่ได้รับการสนับสนุนอย่างมหาศาลมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานการเลือกเรียนครูในช่วงหนึ่งแล้วจึงเป็นอาชีพที่ไม่ใช่หมุดหมายของนักเรียนมากนัก เห็นได้ชัดจากระบบสอบคัดเลือกเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในยุคก่อน วิชาชีพครูไม่ได้รับความนิยมเมื่อเทียบเท่ากับสายแพทย์ วิศวกร บัญชี เศรษฐศาสตร์ ฯลฯ จนกระทั่งกลางทศวรรษ 2550 ที่คะแนนสอบเข้าสายศึกษาศาสตร์/ครุศาสตร์กระเตื้องขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมิอาจปฏิเสธได้ว่า วิชาชีพครูที่เป็นข้าราชการนั้นมีมั่นคงสูง ได้รับความเคารพนับถือ มีเครดิตทางการเงิน และยังมีสวัสดิการแบบราชการที่ครอบคลุมถึงครอบครัว พื้นที่แห่งวิชาชีพนี้จึงมีลักษณะเป็นพื้นที่แห่งการแข่งขันโดยตัวของมันเองไปด้วย การปิดระบบด้วยการให้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู จึงทำให้ระบบดังกล่าวแคบลง โอกาสเข้าสู่งานในการสอบแข่งขันที่มีผู้เข้าแข่งขันน้อยรายจึงมีความเป็นไปได้มากกว่า นั่นอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ในระยะหลังที่คะแนนสอบวิชาด้านนี้สูงขึ้น และการเข้าสอบแข่งขันเพื่อเรียนวิชาชีพครูในม.ราชภัฏต่างๆ ก็คึกคักขึ้นด้วยการเรียน 5 ปี ก็ดี หรือการสอบครูโดยต้องมีใบประกอบวิชาชีพก็ดี เป็นข้อถกเถียงมาระยะหนึ่งในสังคมไทยถึงข้อดี ข้อเสียและการปรับเปลี่ยน ปี 2551 ได้มีผู้เสนอให้ผลิตครูที่มีคุณภาพเช่นในอดีตที่มีสถาบันอุดมศึกษาเฉพาะทางในการผลิตครู คือ วิทยาลัยวิชาการศึกษา (College of education) โดยจัดตั้งตามภาคภูมิศาสตร์ ภาคละ 1 แห่ง โดยจัดตั้งเป็นองค์การมหาชนตามพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ.2542 เปิดสอนตั้งแต่ระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก ปี 2554 ถึงกับมีการเสนอให้เรียนถึง 6 ปีแล้วได้วุฒิปริญญาโทไปด้วย ข้อเสนอต่างๆ ยังไม่มีข้อยุติ จนกระทั่งเร็วๆนี้ที่รัฐบาลเผด็จการเข้ามาจัดการปฏิรูปการศึกษา ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีความวิตกเรื่องคุณภาพของครู และปัญหาครูขาดแคลนในบางสาขาวิชา รวมไปถึงปัญหาในการสอบครูผู้ช่วยเดิมนั้นดำรงอยู่จริง พบว่ามีการทุจริตการสอบครูผู้ช่วย เหตุการณ์ใหญ่โตที่รู้กันไปทั่วเกิดขึ้นเมื่อปี 2556 ยังพบว่ามีการเปิดสอบ และบรรจุครูที่ไม่สอดคล้องบัญชีผู้สอบได้ที่ขึ้นรอไว้อยู่ ทั้งที่มีกำหนดระยะเวลาที่ขึ้นบัญชีอยู่ราว 2 ปี ข้อมูลในปี 2559 พบว่า มีผู้ขึ้นบัญชีจำนวน 11333 คน บรรจุได้ 3854 คน สละสิทธิ์ 115 คนและคงเหลือจำนวน 7364 คน หรือปัญหาการรับสินบนเพื่อจัดการเรื่องย้ายบัญชีข้ามเขตพื้นที่หลายฝ่ายเห็นกันว่า เมื่อมีปัญหาเช่นนี้แล้ว ก็นับว่าต้นทางสู่การเป็นครูนั้นไม่สง่างาม โดยเฉพาะเมื่อเจอปัญหาทุจริต การวิ่งเต้น เล่นเส้นสาย จะเห็นได้ว่า หากมองจากสายตาที่ห่วงใย แวดวงการศึกษา บุคลากรครู โดยเฉพาะเรื่องครูผู้ช่วยนั้น มีเรื่องน่าหนักใจและน่าเป็นห่วง เช่นเดียวกับปัญหาทางการเมืองระดับประเทศ ในที่สุดการแก้ไขปัญหาก็มาด้วยอำนาจจากปากกระบอกปืน การปฏิรูปการศึกษามากับรัฐบาลเผด็จการ รัฐบาลชุดนี้เข้ามาควบคุมระบบการศึกษาในหลายต่อหลายเรื่อง แต่ในกรณีครูผู้ช่วยนั้นเห็นได้ชัดจากการเข้ามาพยายามแทรกแซงการจัดสอบครูผู้ช่วย ด้วยการออกประกาศที่มีนัยว่า ผู้ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครูก็มีสิทธิ์สอบครูผู้ช่วยได้เช่นกันแน่นอนว่า ประกาศนี้สร้างความขัดแย้งกันระหว่างผู้สนับสนุนและคัดค้าน โดยฝ่ายแรกก็ต้องการรักษาผลประโยชน์และสิทธิ์ของตน และเหตุผลทางวิชาชีพ ส่วนฝ่ายหลังก็ให้เหตุผลว่า การแข่งขันอย่างเปิดกว้างน่าจะเปิดโอกาสให้ได้ครูที่มีคุณภาพมากกว่า ซึ่งเป็นฐานความคิดร่วมกันของคนจำนวนมากที่รับทราบปัญหาการศึกษาว่ายากที่จะแก้ไขดังที่กล่าวมาเบื้องต้น ฝ่ายประธานประธานสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) ได้ออกมาโต้แย้ง ในวันเดียวกันรัฐบาลก็ประกาศใช้อำนาจมาตรา 44 ออกคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2560 เรื่อง การบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มาตรา 44 จึงเป็นการสำแดงอำนาจขึ้นมาเพื่อรวบอำนาจการบริหาร โดยการปลด ก.ค.ศ. เดิมแล้วแต่งตั้งใหม่ ลดจำนวนจาก 31 เหลือ 15 คน ทั้งยังให้อำนาจอีกหลายประการซึ่งคงไม่ใช่ประเด็นสำคัญในบทความนี้ ซึ่งการบริหารงานบุคคลถือเป็นหัวใจสำคัญหนึ่งที่สัมพันธ์กับการสอบครูผู้ช่วยนั่นเอง ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจากกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่คิดว่า นโยบายของตนนั้นประเสริฐที่สุด ทั้งที่เรื่องทั้งหลายเป็นประเด็นสาธารณะที่ควรถกเถียงกัน ต่อรองกันว่าควรจะตัดสินใจร่วมกันอย่างไร แม้ระบบเดิมจะมีปัญหาเพียงใด ก็พึงจะตัดสินใจกันตามครรลองที่เป็นประชาธิปไตยและบรรยากาศถกเถียงที่เปิดกว้างกว่านี้หลังจากรัฐบาลนี้หมดอายุไขลง ก็ควรจะเป็นเวลาที่เราควรจะทบทวนถึงประเด็นต่างๆของการศึกษา ในประเด็นว่าด้วยการสอบครูผู้ช่วยนั้น ยิ่งคงต้องถกเถียงกันระหว่างฝ่ายสนับสนุนและคัดค้านการให้สิทธิ์ผู้สอบที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู และนโยบายที่ออกมาก็ควรจะต้องประกาศทิ้งช่วงเวลาให้ยาวนานกว่านี้ เช่น ประกาศเลยว่าอีก 5 ปีข้างหน้า นักศึกษาที่เรียนจบ 4 ปี ก็สามารถสอบครูได้ ใครยังต้องการเรียนครู 5 ปี ก็ยังทำได้อยู่และรัฐบาลอาจจะต้องมีแต้มต่อให้ หรือต้องให้พวกที่เรียน 4 ปีมีเงื่อนไขที่ต้องผ่านประสบการณ์ฝึกสอน หรือกระทั่งการปรับหลักสูตรเหลือ 4 ปีเท่ากัน หรืออาจต้องเป็นการผสมผสานกัน อย่างที่บอก การถกเถียงมันควรเกิดอย่างกว้างขวางและทำให้มันงอกเงยได้มากไปกว่านี้ ในแผ่นดินที่เปิดกว้าง แผ่นดินที่มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น.อาจารย์ประจำสาขาวิชาสังคมศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางสำนักงานสถิติแห่งชาติ. จำนวนครู/อาจารย์ (แบบจัดชั้นเรียน) จำแนกตามสังกัด ทั่วราชอาณาจักร ปีการศึกษา 2549-2557. สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม 2560 จาก http://service.nso.go.th/nso/web/statseries/statseries06.htmlคุรุสภา. ความเป็นมา. สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม 2560 จาก http://www.ksp.or.th/ksp2013/profile/index.php?l=th&tid=2&mid=12&pid=10พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546. เล่ม 120 ตอนที่ 52 ก 11 มิถุนายน 2546 น.15 สุรชัย เทียนขาว. ทบทวนแนวทางการผลิตครูการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (8 ธันวาคม 2551) อ้างถึงใน Wasawat Deemarn. การผลิตครู 5 ปี กับ บทความ ทบทวนแนวทางการผลิตครูการศึกษาขั้นพื้นฐาน สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม 2560 จาก https://www.gotoknow.org/posts/228764พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 133 ตอนที่ 84 ก 23 กันยายน 2559 น. มติชนออนไลน์. แต้มแอดมิสชั่นส์ครุศาสตร์ พุ่งสูงกว่าวิทยาศาสตร์-มนุษยศาสตร์ ปธ.คุรุสภาเผยคนเก่งเรียนครูเพิ่ม. สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม 2560 จาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1413805399 (20 ตุลาคม 2557) สุรชัย เทียนขาว. ทบทวนแนวทางการผลิตครูการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (8 ธันวาคม 2551) อ้างถึงใน Wasawat Deemarn. การผลิตครู 5 ปี กับ บทความ ทบทวนแนวทางการผลิตครูการศึกษาขั้นพื้นฐาน สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม 2560 จาก https://www.gotoknow.org/posts/228764 unigang. ยกเลิกครูหลักสูตร5ปีในปี56. สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม 2560 จาก http://www.unigang.com/Article/12537 คม ชัด ลึก. เงินสะพัด200ล้านสอบทุจริตครูผู้ช่วย. สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม 2560 จาก http://www.komchadluek.net/news/edu-health/154966 (29 มีนาคม 2556) Thai Hot NEWS. สรุปจำนวนผู้สอบแข่งขันได้ขึ้นบัญชี กศจ.ในการสอบครูผู้ช่วย พ.ศ.2558-2559. สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม 2560 จาก http://www.thai-hotnews.com/news/26663 (3 กุมภาพันธ์ 2560) กระทรวงศึกษาธิการ. สพฐ.สั่งบัญชีครูยึดหลักพื้นที่ ถ้าข้ามเขตต้องให้ ก.ค.ศ.เห็นชอบ/หวังแก้ปัญหาเรียกรับเงินเมื่อขอย้าย. สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม 2560 จาก http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=36693&Key=hotnews (28 เมษายน 2557) กระทรวงศึกษาธิการ. สพฐ.สั่งบัญชีครูยึดหลักพื้นที่ ถ้าข้ามเขตต้องให้ ก.ค.ศ.เห็นชอบ/หวังแก้ปัญหาเรียกรับเงินเมื่อขอย้าย. สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม 2560 จาก http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=36693&Key=hotnews (28 เมษายน 2557) มติชนออนไลน์. ประธาน ส.ค.ศ.ท.ฉะ ศธ.เปิดกว้าง ป.ตรีทุกสาขาสอบครูได้ หวั่น น.ศ.เมินเรียน ครุศาสตร์-ศึกษาศาสตร์. สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม 2560 จาก http://www.matichon.co.th/news/503357 (21 มีนาคม 2560) กรุงเทพธุรกิจออนไลน์. สั่งม.44ปลดบอร์ดก.ค.ศ.ชุดเดิม รื้อระบบบริหารขรก.ครู. สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม 2560 จาก http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/746411 (21 มีนาคม 2560) | 1. รู้จักตำแหน่ง ครูผู้ช่วย สำหรับคนทั่วไปนั้นอาจไม่คุ้นกับคำว่า ครูผู้ช่วย เท่าใดนัก ตามกฎหมายแล้ว ครูผู้ช่วยเป็นตำแหน่งผู้สอนในหน่วยงานการศึกษา ก่อนจะขึ้นไปเป็นครู หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็น | สิทธิมนุษยชน,การศึกษา | การสอบครูผู้ช่วย,ครูผู้ช่วย,ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์,วิเชิด ทวีกุล,ใบประกอบวิชาชีพ | https://prachatai.com/journal/2017/03/70719 |
มทร.วิทยาเขตบางพระ จับมือ HPE พัฒนาคนสายไอที รองรับ EEC สู่ยุค 4.0 | ,เมื่อวัวันที่ 16 ก.ย. ได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU)และความร่วมมือทางการศึกษาวิจัยและพัฒนาระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลภาคตะวันออกวิทยาเขตบางพระ (มทร.ตอ.)กับบริษัทHPEเพื่อพัฒนาบุคลากรและนักศึกษาของสถาบัน เพื่อรองรับ EEC โดยมี ดร.อภิชาต ทองอยู่ ที่ปรึกษาเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และ ประธานคณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากร ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก EEC-HDC เป็นประธานและสักขีพยาน โดย ทาง มทร.ตอ.มี รศ.ฤกษ์ชัย ฟูประทีปศิริ อธิการบดี มทร.ตอ. เป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจ และ คุณพลาศิลป์ วิชิวานิเวศน์ กรรมการผู้จัดการบริษัทฮิวเลตต์แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ลงนาม นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานภาคธุรกิจมาร่วมงานเพื่อร่วมเป็นสักขีพยานในครั้งนี้เช่น บริษัท เคิร์ส คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น มหาชน เป็นต้น,คุณพลาศิลป์ วิชิวานิเวศน์ ได้กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่าเป็น การแสดงถึงความให้ความสำคัญต่อการพัฒนาการศึกษาในยุค ไทยแลนด์ 4.0 โดยที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก และ HPE ได้ตระหนักถึงประโยชน์และความสำคัญของการร่วมมือ ระหว่างสถาบันการศึกษา และบริษัทธุรกิจเอกชนในด้านการศึกษาและพัฒนาบุคลากร การบริหารจัดการองค์ความรู้ การวิจัย การบริการวิชาการ การสร้างระบบนิเวศน์ที่เหมาะสมและเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศขององค์กร (Enterprise Information Technology) อันประกอบด้วย High Performance Computing (HPC), Hyper Converged Infrastructure (HCI), Artificial Intelligent (AI) และ Internet of Thing (loT) เป็นต้น เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันระดับประเทศและภูมิภาค ถือเป็นการสร้างการศึกษารูปแบบใหม่ให้เยาวชน และตอบโจทย์ ทุนมนุษย์ ในศตวรรษที่ 21,ดร.อภิชาต ทองอยู่ ที่ปรึกษาเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และ ประธานคณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากร ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก EEC-HDC ได้กล่าวว่า HPE ในฐานะอุตสาหกรรมไอทีชั้นนำของอเมริกา จับมือกับ มทร.ตอ.เพื่อ สร้างโมเดลการศึกษาแบบ Type A, ตามแนวทางของ EEC Model ที่ EEC HDC ออกแบบ เพื่อปรับทิศสู่ Demand driven education เป็นการขจัดความสูญเปล่าล้มเหลวทางการศึกษา สร้างอนาคตที่ชัดเจนทักษะสูงรายได้ดี เปิดทางการพัฒนาให้บุคลากรทางการศึกษาและนักศึกษา ได้มีประสบการณ์ความรู้ ทักษะก้าวหน้าสอดรับสังคมโลกแห่ง ศตวรรษที่ 21,ความร่วมมือระหว่าง HPE กับ มทร.ตอ จะเป็นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้าน IT ที่จะหนุน Digital transformation Ed. ในเรื่อง computer, AI, Iot, Big data ฯลฯ ที่เป็นความรู้และทักษะสำคัญ,ในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค 4.0 ของสังคม อีกทั้งจะก่อให้เกิดการขับเคลื่อนการผลิตและพัฒนาบุคคลากรทางการศึกษาโดยการจัดทำข้อมูล Big data ด้านการศึกษาของ สนง.กศ.เขต 8 ในพื้นที่EEC. รวมทั้งการพัฒนาและจัดทำ Business model ระหว่าง HPE กับ มทร.ตอ. ในการพัฒนา 3 ส่วนได้แก่ academic, service, development. ที่จะสร้าง win-win solution ให้ทุกฝ่าย,ทางHPE ยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาของประเทศไทย ร่วมกับ มทร.ตอ. ที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลาและมีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ EEC HDC ซึ่งผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่นี้จะเกิดขึ้นกับทุกฝ่ายที่เข้าร่วมความร่วมมือ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับสังคม และประเทศชาติโดยรวมอย่างมีคุณค่า. | มทร.ภาคตะวันออกวิทยาเขตบางพระ จับมือ HPE ร่วมพัฒนาบุคลากรสายไอทีและเทคโนโลยีเพื่อรองรับการเติบโตของ EEC ในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสังคม และประเทศชาติ | ข่าว,ทั่วไทย | ราชมงคลภาคตะวันออก,HPE,ไอที,ยุค4.0,อีอีซี,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1662993 |
ญาติมีหวัง คดีบึมเก๋งฆ่า ส.อ.ในค่าย ตชด.ที่ระนอง ตร.ชี้อาจถูกฆาตกรรม | ความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดรถยนต์ของทหาร ในกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 415 หรือค่ายตชด.ระนอง ทำให้ สิบเอกสุพัฒน์ธนชัย มากประสิทธิ์ หรือ หมึก เสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา ,นายพิษณุ พงษ์ทองปาน อายุ 50 ปี ชาวบ้าน ม.1 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร พี่ชายที่นับถือของผู้ตายและมีบ้านอยู่ห่างจากบ้านของสิบเอกสุพัฒน์ธนชัย ที่กำลังสร้างเพียงไม่กี่ 100 เมตร เปิดเผยว่า ทุกครั้งที่ หมึกลงมาเยี่ยมบ้าน ก็จะมาหาตนเองทุกครั้ง และทุกครั้งที่หมึกมาก็จะระบาย ปรับทุกข์ ในการทำงานของหมึกให้ฟัง โดยตนเองก็พยายามห้ามปราบในการทำงานหลายเรื่อง ว่าบางที่การทำงานอาจจะไปทับเส้นและสร้างความไม่พอใจให้กับคนในพื้นที่ ซึ่งอาศัยอยู่ร่วมกัน และหมึกเป็นทหาร ส่วนเค้าเป็นตำรวจชายแดน บางสิ่งบางอย่างให้เลี่ยงๆ ไปบางอย่างจริงจังมากกับการทำงานที่อาจจะขัดหรือขวางเค้าโดยไม่ตั้งใจ ,พี่ชายที่นับถือของผู้ตาย กล่าวต่อว่า เหมือนเป็นลางสังหรณ์ ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ หมึกได้มาบอกลาตนเองเพื่อกลับไปปฏิบัติงาน ตนยังกำชับเลยว่าหมึกรอดตายมา 2 ครั้งแล้วนะ ก็อย่าประมาท เพราะครั้งที่สามนั้นคงไม่เปิดโอกาสให้มีลมหายใจแน่ ซึ่งเป็นคำพูดที่ทิ้งให้กับหมึก และหลังจากนั้นหมึกขึ้นรถสตาร์ทรถยนต์คันที่เกิดเหตุกว่าครึ่งชั่วโมงกว่าจะติด และเมื่อกลับไปที่กองร้อย ตชด.ที่ระนอง เพียงวันเดียวก็มาทราบข่าวว่าหมึกโดนระเบิดเสียชีวิต,นายพิษณุ กล่าวอีกว่า ตามที่เป็นข่าว่าระเบิดเป็นของหมึกนั้น ตนเองนับว่าเป็นคนใกล้ชิดและสนิทสนมมากเป็นพิเศษ รู้ดีว่าหมึกนั้นไม่เคยพกปืนและระเบิดเลย แม้ส่วนตัวจะเคยบอกให้พกปืนบ้าง แต่หมึกบอว่าพกก็ตาย ไม่พกก็ตาย อยู่ที่ว่าเราจะตายที่ไหนเมื่อไหร่เท่านั้น จึงอยากให้ขอความเป็นธรรมให้ครอบครัวหมึกด้วย และเรื่องนี้ถือว่าเป็นเวรกรรมใครก่อใครทำอะไรลงไปกับหมึก ก็จะได้ชดใช้กรรมนั้นอยู่ที่ช้าหรือเร็ว ,ด้าน นางสาวชญานันท์ มากประสิทธิ์ พี่สาวของผู้ตาย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ได้รับข่าวจากตำรวจชุดคลี่คลายคดีของน้องชาย ว่าจากการสอบสวนและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ให้น้ำหนักไปทางฆาตกรรม ไว้ก่อน แต่ไม่ทิ้งในประเด็นอื่น ซึ่งเพียงเท่านี้ก็รู้สึกอุ่นใจที่การทำงานของทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ทำงานและรายงานให้ครอบครัวได้ทราบเป็นระยะ ซึ่งทางครอบครัวเองก็อยากให้สาวให้ถึงและจับกุมตัวการในการสังหารน้องชายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว และอยากให้ได้ตัวก่อนที่จะฌาปนกิจศพน้องชาย เพราะอย่างน้อยทำให้น้องชายนอนตายตาหลับ. | พี่สาว ตชด.ที่ถูกวางระเบิดรถเก๋งตายในค่าย ตชด.ที่ระนอง เผย ตร.ชุดสืบสวนแจ้งว่า น่าจะถูกฆาตกรรม ด้านพี่ชายที่นับถือของผู้ตาย ระบุเชื่อเป็นฝีมือคนในลงมือ เพราะสถานที่ราชการคนนอกเข้า-ออกยาก | ข่าว,อาชญากรรม | วางระเบิดรถ,วางบึมฆ่าทหาร,สุพัฒน์ธนชัย มากประสิทธิ์,ระนอง,ฆาตกรรม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1392874 |
สนามบินสุวรรณภูมิสั่งเก็บขวดน้ำแดงหน้า ยักษ์สุริยาภพ ย้ำไม่อนุญาตวางของเพื่อกราบไหว้บูชา | วันนี้ (4 ธ.ค.2560) จากกรณีที่มีผู้นำภาพขวดน้ำแดงซึ่งวางอยู่ตรงฐานประติมากรรมยักษ์สุริยาภพ ซึ่งอยู่ภายในห้องโถงอาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 มาโพสต์เผยแพร่ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ จนกลายเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจในสื่อสังคมออน์ไลน์อยู่ในขณะนี้นั้นท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2560 เวลาประมาณ 17.08 น. ได้มีชายคนหนึ่งนำน้ำแดงมาวางไว้ที่ฐานของประติมากรรมยักษ์สุริยาภพ ตามภาพที่ปรากฏ ซึ่งในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ทำความสะอาด ทสภ. ได้พบเห็นและเข้ามาเก็บขวดน้ำแดงดังกล่าวพร้อมทำความสะอาดไปเรียบร้อยแล้วสำหรับประติมากรรมยักษ์ ที่ตั้งอยู่ภายในห้องโถงอาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 มีทั้งหมด 12 ตน โดย ทสภ.ได้นำมาติดตั้ง เพื่อแสดงให้ชาวต่างชาติได้เห็นถึงศิลปะ เอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างไรก็ตาม ทสภ.ไม่อนุญาตให้มีการนำสิ่งของต่างๆ มาวางไว้ ในลักษณะของการกราบไหว้บูชา ทั้งนี้ ทสภ. ใคร่ขอความร่วมมือจากผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใน ทสภ.ไม่นำสิ่งของต่างๆ มาวางไว้บนฐานประติมากรรมรูปยักษ์ดังกล่าว ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดพบเห็น จะเข้าดำเนินการเก็บสิ่งของดังกล่าวไปทิ้งโดยทันที ทั้งนี้เพื่อความเป็นระเบียบร้อยและเป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัย | ทสภ.สั่งเก็บขวดน้ำแดงวางให้ ยักษ์สุริยาภพ ย้ำไม่อนุญาตให้นำสิ่งของต่างๆ มาวางไว้ ในลักษณะของการกราบไหว้บูชา | เศรษฐกิจ | สนามบิน,สุวรรณภูมิ,น้ำแดง,ทสภ.,ประติมากรรมยักษ์,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/268252 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.