title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
ด่านสะเดาคุมเข้มชาวต่างชาติเข้า-ออกประเทศ ตั้งจุดตรวจ 4 จุดหลัก | เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 58 พ.ต.ท.ดนยวรรธนน์ กอสนาน รรก.ผกก.ตม.สะเดา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุระเบิดใจกลางกรุงเทพมหานครเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้สถานณ์ตามด่านชายแดน อ.สะเดา มีความตึงเครียด เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีความวิตกกังวลกับความไม่ปลอดภัยกับชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้ด่านทุกด่านเพิ่มความเข้มงวด โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่มีลักษณะเป็นชาวตะวันออกกลางหรือแขกขาว ซึ่งระยะหลังกลุ่มนี้เข้าออกประเทศไทยมากขึ้น พร้อมรับคำสั่งจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกรุงเทพและสตช. ทุกระยะ,โดยทั่วไปยังคงปกติ ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบประจำจุดต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมตรวจเข้มรถและยานพาหนะเข้าออกทุกคัน ต้องตรวจทั้งเอกสารและรถส่วนบุคคลต้องเปิดกระโปรงท้าย ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการซ่อนตัวหลบหนีจากกลุ่มผู้ที่เกี่ยวโยงกับการก่อเหตุ,ในส่วนห้องกัก ตม.สะเดา เจ้าหน้าที่ยังคงคุมเข้มห้องกักที่ควบคุมชาวอุยกูร์ ที่เหลือจำนวน 23 คน ห้ามมิให้บุคคลภายนอกเข้าออก รวมทั้งองค์กรต่างๆ ต้องมีการขออนุญาตเป็นทางการหากขึ้นไปเยี่ยมชาวอุยกูร์ ต้องมีเจ้าหน้าที่ตม.อย่างน้อย 3 คนประกบเยี่ยมทุกครั้ง ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ที่ไม่หวังดีแอบบอกข่าวเรื่องอุยกูร์ที่ได้ส่งกลับไปให้ประเทศจีน จะทำให้เกิดการจลาจลในห้องกักแน่นอน,ด้านนายทวีวุฒิ สังขศิริ นายอำเภอสะเดา เปิดเผยว่าได้ร่วมกับ พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผกก.สภ.สะเดา ในการตรวจเข้มเส้นเข้าออกเมืองสะเดาและเมืองท่องเที่ยวบ้านด่านนอกที่ตั้งแหล่งบันเทิงและแหล่งท่องเที่ยว โดยตั้งจุดตรวจร่วมกับทหาร ตำรวจ และกองร้อยอาสา 4 จุดหลัก คือ จุดตรวจห้วยคู ถนนสายสะเดา-เขาน้ำค้าง จุดตรวจทับโกบ ที่ถนนปาดังเบซาร์ จุดตรวจถนนกาญจนวณิชย์ บ้านด่านนอก และจุดตรวจทางไปเขื่อนด่านนอก ซึ่งเป็นเส้นทางลัดไปอ.นาทวี โดยสถานการณ์ทั่วไปยังปกตินักท่องเที่ยวและชาวบ้านต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ | ด่านสะเดาคุมเข้มชาวต่างชาติเข้า-ออกด่าน โดยเฉพาะชาวตะวันออกกลางหรือแขกขาว สั่งห้ามบุคคลภายนอกเข้าออกห้องกักที่ควบคุมชาวอุยกูร์ ด้าน นายอำเภอ สั่งตั้งจุดตรวจ 4 แห่ง สถานการณ์ประชาชนทั่วไปยังปกติ | ข่าว,ทั่วไทย | ระเบิดราชประสงค์,ระเบิดแยกราชประสงค์,ระเบิดพระพรหม,ระเบิดสยาม,ด่านสะเดา,ด่านชายแดนไทย,ไทย-มาเลย์,คุมเข้มด่าน,ตั้งจุดตรวจ,ชาวอุยกูร์,นักท่องเที่ยว,ชาวต่างชาติ,ประชาชน,คนไทย,จุดตรวจ,ข่าว,ข่าวสังคม,สะเดา,สงขลา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/519151 |
ยันครม. ไฟเขียว ถึง 2 รอบตั้งบรรษัทน้ำมัน | สกนธ์ สงสัย หม่อมอุ๋ย กินยาอะไรมา ลั่นไม่เคยกลัวใคร วิป สนช.ใส่เกียร์ห้าเดินหน้าลุย ซาวเสียงยังก้ำกึ่งส่อปรับแก้ถ้อยคำ คปพ.เสียงอ่อยนายกฯเข้าใจผิด หนุนตั้งบรรษัทน้ำมันฯแต่ต้องวางกรอบเวลาให้ชัด ทหารร่วมแจมไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจ ภาคเอกชนเชื่อสุดท้ายต้องงัด ม.44 ส.อ.ท.งงจะแก้ไปทำไมของเก่าดีอยู่แล้ว ปตท.สผ.ขอให้ชัดเจนเอาไงแน่ มนูญ จวกต้มยำทำแกงจนเละเทะ พิชัย ถามหวังยึดปตท.หรือเปล่า วิษณุ-สมชัย ยักไหล่ไม่สน นพดล ขู่ฟ้อง 157 รีดภาษีชินคอร์ปให้ศาลชี้ขาด พท.โอดถูกกระทำไม่มีสิ้นสุด,สังคมจับตามองผลการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันที่ 30 มี.ค. เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ปิโตรเลียม และร่าง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม หลัง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ออกมาแฉว่ามีการสอดไส้เปิดช่องให้มีการจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ ว่าสุดท้ายจะออกมาเช่นไร,เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 29 มี.ค. ที่รัฐสภา พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ปิโตรเลียม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเจตนารมณ์ที่บัญญัติมาตรา 10/1 ไว้ในร่างพ.ร.บ.ปิโตรเลียม เปิดช่องให้มีการจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของ สนช.วันที่ 30 มี.ค. ว่า ตั้งแต่สมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประเทศไทยมีการจัดหาแหล่งพลังงานจนมีคำว่า โชติช่วงชัชวาล จนมี พ.ร.บ.ปิโตรเลียมใช้บังคับมาถึงปัจจุบัน 40 ปี แต่มาตรา 22 (14) ของ พ.ร.บ.ปิโตรเลียมพูดไว้ เรื่องเดียวคือ การให้สัมปทาน วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ทั่วโลกใช้ทั้งวิธีสัมปทาน การแบ่งปันผลผลิต และจ้างบริการ สนช.จึงตั้งคณะขึ้นมาศึกษาเรื่องปิโตรเลียม มีภาคประชาชน อาทิ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ร่วมด้วย ผลออกมาต้องมีทั้งการสัมปทาน แบ่งปันผลผลิต และจ้างบริการ และยังบอกว่าเรื่อง การแบ่งปันผลผลิตต้องตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติขึ้นมา เพื่อดำเนินธุรกิจตรงนั้นตามหลักการ,พล.อ.อกนิษฐ์กล่าวอีกว่า หลังจาก กมธ.ศึกษาแล้วจึงส่งไปยังรัฐบาล ขณะเดียวกัน พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ ประธาน กมธ.พลังงาน สนช. พาคณะที่มีทั้งทหารและพลเรือน ไปพบและชี้แจงผลการศึกษากับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี จากนั้นรัฐบาลจึงเสนอร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมเข้ามา เสนอมาทั้ง 3 วิธีการ คือ การสัมปทาน แบ่งปันผลผลิต และจ้างบริการ เหมือนที่เราศึกษา ทุกอย่างทำตามขั้นตอน เราถามกลับไป 2 ครั้ง ครม.ก็ยังยืนยันมาแบบเดิม โดยให้มีบรรษัทน้ำมันแห่งชาติเมื่อมีความพร้อม แต่ให้มีหน่วยงานเข้ามาศึกษาว่าลักษณะควรเป็นอย่างไร เหมือนการสร้างบ้านต้องออกแบบ ถอดแบบ หาช่างมาก่อสร้างก่อน ต้องใช้เวลา ไม่ใช่ออกกฎหมายวันนี้พรุ่งนี้จะตั้งได้เลย,เมื่อถามว่ากดดันหรือไม่ พล.อ.อกนิษฐ์ตอบว่า การร่างกฎหมายจะให้ถูกใจคนทั้งประเทศไม่ได้ เมื่อถามว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธรแสดงความกังวลกรณีจะให้กรมพลังงานทหารเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง พล.อ.อกนิษฐ์ตอบว่า ท่านอาจเข้าใจคลาดเคลื่อน กรมการพลังงานทหาร กระทรวงกลาโหม มีหน้าที่เตรียมการเรื่องพลังงานสำหรับการป้องกันประเทศ ไม่ใช่ทำธุรกิจ มันคนละบริบทเพราะ พ.ร.บ.ฉบับนี้รัฐมนตรีผู้รักษาการคือ รมว.พลังงาน คนละกระทรวง คนละภารกิจหน้าที่กัน เมื่อถามย้ำว่ากังวลกับการเคลื่อนไหวของเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) หรือไม่ พล.อ.อกนิษฐ์ตอบว่า ไม่กังวล ส่วนเสียงวิจารณ์ว่าผู้ที่พิจารณากฎหมายฉบับนี้ส่วนใหญ่เป็นทหารอาจมีส่วนได้ส่วนเสียนั้น ขอให้ไปดูรายชื่อ กมธ.ได้เลย รวมถึงตนไม่ได้มีหุ้นใน ปตท.สักบาทเดียว ไม่คิดจะลงทุนด้านนี้ด้วย และกล้ายืนยันแทน กมธ.ทั้ง 21 คนว่า ไม่มีใครมีผลประโยชน์ทับซ้อนเรื่องนี้,พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ ประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม สนช. กล่าวว่า เป็น 1 ใน 6 สนช.ที่ผลักดันให้มีการตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ แต่การผลักดันไม่ใช่อยู่ดีๆจะทำ เรื่องนี้ไม่มีการสอดไส้ ก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกันหลายฝ่าย มีทั้งอยากให้ตั้ง และไม่อยากให้ตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ สุดท้ายก็สรุปให้มี ทุกอย่างเราทำตามขั้นตอน ส่วน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกฯ ที่ออกมาคัดค้าน ตนไม่เคยรู้จัก ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ไม่รู้กินยาอะไรมาจากไหนถึงได้ออกมาแบบนี้ ร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมฯถือว่าจบในชั้น กมธ.แล้ว เป็นเรื่องของที่ประชุมใหญ่ สนช.จะดำเนินการอย่างไร ส่วนตัวไม่ได้กดดันอะไร และไม่เคยกลัวใคร,ด้านนายสมชาย แสวงการ เลขานุการวิป สนช. กล่าวว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมและร่าง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม สนช.จะเดินหน้าไปตามกระบวนการปกติ ไม่จำเป็นต้องถอนร่างออก เพราะทุกอย่างผ่านการพิจารณาของวิป สนช.แล้ว โดยเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ โดยเฉพาะการบัญญัติมาตรา 10/1 เกี่ยวกับการตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ ไม่ได้สอดไส้เนื้อหาตามที่มีบางฝ่ายกล่าวหา แม้ กมธ.วิสามัญฯจะเพิ่มเติมเนื้อหาให้มีการตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติเข้าไปในร่าง พ.ร.บ. แต่เมื่อได้รับความเห็นชอบจาก ครม.แล้ว จึงไม่ถือว่าเป็นการแก้ไขเกินหลักการของร่างกฎหมายแต่อย่างใด,ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวจากรัฐสภาว่า แนวโน้มการลงมติร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม เสียง สนช.ยังก้ำกึ่งอยู่ โดยเฉพาะประเด็นมาตรา 10/1 เรื่องการตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ จะรอฟังเหตุผลจาก กมธ.ก่อนว่ามีความจำเป็นเพียงใด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการเสนอทางออกปัญหามาตรา 10/1 ให้มีการปรับถ้อยคำในมาตราดังกล่าว จากที่ระบุว่าให้มีการตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติเมื่อมีความพร้อม มาเป็นการกำหนดให้ ครม.ดำเนินการตั้งคณะกรรมการศึกษาความเป็นไปได้ และรูปแบบการตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ เพื่อให้มีความชัดเจนมากกว่าการกำหนดพิจารณาเมื่อมีความพร้อม ซึ่งไม่มีขอบเขตการดำเนินการที่แน่นอน,ที่ห้องประชุมมูลนิธิ 14 ตุลาฯ แยกคอกวัว เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) โดยนายธีระชัย ภูวนาทนรานุบาล น.ส.รสนา โตสิตระกูล ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ร่วมกันแถลงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พาดพิง คปพ.กดดันให้มีการจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ โดยนายปานเทพกล่าวว่า นายกฯกำลังไม่เข้าใจและเข้าใจผิดอยู่หลายเรื่อง การบัญญัติให้มีการจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ ไม่ใช่เพราะ คปพ.ไปกดดัน แต่เกิดจากผลการศึกษาของ กมธ.วิสามัญฯศึกษาการบังคับใช้ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม 2514 ของ สนช. ที่ระบุชัดเจนว่าจำเป็นต้องตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ,นายปานเทพกล่าวอีกว่า สาเหตุที่ภาคประชาชนไม่รับกฎหมายฉบับนี้ เพราะไม่มีการกำหนดระยะเวลาการจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ เพื่อรับโอนทรัพย์สินปิโตรเลียมในแหล่งบงกช และแหล่งเอราวัณ ที่ใกล้หมดสัญญาสัมปทาน มีมูลค่า 2 แสนล้านบาทต่อปี จึงต้องตั้งองค์กรของรัฐเพื่อรับโอนทรัพย์สินก่อนการประมูลรอบต่อไป หากไม่ทันจะทำให้ชาติสูญเสียอธิปไตยเหนือแหล่งปิโตรเลียมหลายสิบปี รวมถึงไม่ระบุว่าจะมีการประมูลผลประโยชน์ตอบแทนสูงสุดต่อรัฐ ไม่มีการแก้ไขผลการศึกษาของ สนช. เช่น การเปิดช่องให้ใช้ดุลพินิจ ลดหย่อนค่าภาคหลวง ภาษี ผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษได้อย่างกว้างขวาง ไม่มีราคากลางจัดซื้อจัดจ้าง และยังไม่มีบทบัญญัติป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนของข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ กลุ่มคปพ.จะเข้ายื่นหนังสือคัดค้านกฎหมายดังกล่าว ต่อประธาน สนช.ในวันที่ 30 มี.ค.,นายปานเทพกล่าวต่อว่า หน้าที่ของบรรษัทน้ำมันฯ คือรับโอนทรัพย์สินจากทุกแหล่งที่หมดสัญญาสัมปทาน รับโอนระบบท่อก๊าซเพื่อหยุดการผูกขาด ให้เกิดการแข่งขันอย่างแท้จริง และขายปิโตรเลียมตามสิทธิ์ที่รัฐได้จากระบบแบ่งปันผลผลิต และจ้างบริการ แต่การจะใช้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่แทนบรรษัทน้ำมันฯนั้นไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นเอกชนและต่างชาติถือหุ้นเกือบครึ่ง หรือจะใช้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติก็ไม่คล่องตัว ด้วยระเบียบราชการ ทั้งนี้บรรษัทน้ำมันฯควรมีทุกภาคส่วนเข้ามาจัดการ รวมถึงฝ่ายทหาร การมีทหารเข้ามาร่วมดูแลไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจ เพราะน้ำมันถือเป็นยุทธปัจจัยสำคัญของชาติ แต่ไม่ใช่ให้ทหารเป็นหลัก ควรต้องมีองค์ประกอบที่หลากหลายเพื่อถ่วงดุลอำนาจ ส่วนการตรวจสอบควรต้องมีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน สนช. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และภาคประชาชน เข้ามาร่วมด้วย,วันเดียวกัน สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจจัดเสวนา พ.ร.บ.ปิโตรเลียมสะดุด ฉุดประเทศไทยเสียโอกาส โดยนายบวร วงศ์สินอุดม รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่สามารถตัดสินใจให้ความชัดเจนในร่างพ.ร.บ.ปิโตรเลียมฯได้ ภาคเอกชนเห็นว่าสุดท้ายแล้วรัฐบาลอาจจำเป็นต้องใช้อำนาจมาตรา 44 บังคับใช้ พ.ร.บ.ปิโตรเลียมฉบับเดิม เพื่อเปิดประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติบงกช และแหล่งเอราวัณ ที่จะสิ้นสุดสัมปทานปี 2565-2566 หรือบังคับใช้มาตรา 44 กับร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมฉบับใหม่ แต่ ต้องมีการบังคับแบบเข้มข้นเพื่อกำหนดรายละเอียดไปด้วย ตนไม่เชื่อมั่นว่าร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมฯจะมีขอยุติเร็วๆนี้ ต้องยอมรับว่าหากผู้รับสัมปทานรายเดิม คือ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. และบริษัท เชฟรอน ประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ชนะการประมูลแหล่งบงกชและแหล่งเอราวัณ จะยิ่งทำให้กำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติมีความต่อเนื่อง สิ่งที่ไม่เข้าใจท่าทีของรัฐบาล คือ จะแก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียมทำไม ทั้งที่ของเก่าก็ดีอยู่แล้ว หากปริมาณก๊าซฯมีปัญหาจะกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าของประเทศ,นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ ปตท.สผ. กล่าวว่า ปตท.สผ. ต้องการให้รัฐบาลเร่งสรุปความชัดเจนร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมฯ และร่าง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม เพื่อเปิดประมูล 2 แหล่งก๊าซให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อปริมาณก๊าซที่จะลดลงทันทีหลังหมดสัมปทาน หากสิ้นสุดอายุสัมปทานแล้วยังไม่มีการผลิต รัฐบาลจะสูญเสียค่าภาคหลวงและภาษีปิโตรเลียมทันที 240,000 ล้านบาทต่อปี สูญเสียการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในประเทศ 160,000 ล้านบาท ดังนั้น รัฐบาลต้องตัดสินใจให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ภาคเอกชนเตรียมตัวก่อนการลงทุนจริงในอีก 5 ปีก่อนหมดอายุสัมปทาน ขณะนี้ ปตท.สผ.พยายามรักษาระดับการผลิตไว้ โดยยังคงลงทุนเจาะหลุมผลิต แต่หากสิ้นปีนี้ยังไม่ชัดเจน การลงทุนอนาคตจะสะดุด การผลิตก๊าซในปี 2565-2566 จะลดลงทันที,ด้านนายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมฯถูกต้มยำทำแกงจนเละเทะ ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรกันแน่ ระหว่างการวางหลักการว่าด้วยระบบการบริหารจัดการการสำรวจและผลิต และการแบ่งปันผลประโยชน์ กับการวางโครงสร้างระบบการบริหารจัดการด้านพลังงาน โดยหลักการ พ.ร.บ.ปิโตรเลียมควรเป็นกฎหมายแม่บทว่าจะบริหารจัดการโดยใช้ระบบใด ระบบสัมปทาน แบ่งปันผลผลิต จ้างผลิต หรือระบบผสมผสาน (Hybrid) เป็นต้น ควรกำหนดให้ชัดเจนเพื่อทุกรายจะได้แข่งขันบนกติกาเดียวกันอย่างยุติธรรม และควรแยกกฎหมายต่างหากว่าด้วยเรื่องการบริหารกิจการพลังงาน ว่าจะใช้ระบบใด ชาตินิยม สังคมนิยม เสรีนิยม สังคมชาตินิยม หรือประชาสังคมนิยม เพื่อกำหนดรูปแบบและโครงสร้างการบริหารให้สอดคล้องกับระบบ,นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ต้องรอผลการพิจารณาของ สนช.จะสรุปอย่างไร แต่กรมเชื้อเพลิงพลังงานยืนยันว่าปัจจุบันโครงสร้างการกำกับและการปฏิบัติด้านพลังงานถือเป็นรูปแบบของบรรษัทพลังงานแห่งชาติ (NOC) อยู่แล้ว การกำกับดูแลโดยรัฐบาลมีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ที่รับนโยบายตรงจากกระทรวงพลังงาน ฝ่ายปฏิบัติคือ ปตท.สผ. ทำหน้าที่สำรวจและผลิต มี ปตท.ดูแลลูกค้า เป็นรัฐวิสาหกิจที่ถูกกำกับโดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นรูปแบบที่มีศักยภาพ การบริหารจัดการมีการคานอำนาจกันอยู่ แต่หากจะเสนอให้ตั้ง NOC ขึ้นมาใหม่จริง รัฐบาลควรต้องกำหนดให้ชัดเจน เพราะอาจนำมาซึ่งการผูกขาด และเกิดความเสี่ยงต่อการลงทุน แต่หากต้องจัดตั้งบรรษัทพลังงานฯขึ้นมาจริง อาจต้องมี พ.ร.บ.มารองรับโดยเฉพาะ จึงต้องศึกษาให้รอบคอบก่อน แต่กรมเชื้อเพลิงฯได้เตรียมกฎหมายลูกไว้รองรับแล้ว 5 ฉบับ และ 1 ประกาศ ซึ่งจะมีระบบแบ่งปันผลผลิต และสัญญาจ้างบริการเพิ่มเติม นอกเหนือจากระบบสัมปทาน,ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กมธ.ควรเพิ่มเนื้อหาให้ชัดว่าต้องมีองค์กรขึ้นมาบริหารจัดการภายในเมื่อไร ให้ทันกับการเปิดทางเลือกให้ประเทศ อาจไม่ต้องเขียนรายละเอียดทั้งหมด เพราะอาจทำให้กฎหมายล่าช้า แต่เขียนให้มีกรอบเวลา หลักการให้ชัดว่าอำนาจขอบเขตขององค์กรแต่ละด้าน วันนี้เราสุดโต่งทางใดทางหนึ่งไม่ได้ อยากให้รัฐบาลจริงจังเรื่องการปฏิรูปพลังงาน ปัญหาขณะนี้คือเวลาคืนสัมปทานต้องมีองค์กรมาทำหน้าที่บริหารจัดการทรัพย์สินที่ได้คืนมา ในกรณีที่ต้องแบ่งปันผลผลิตจำเป็นต้องมีอีกองค์กรหนึ่งขึ้นมา ขณะที่รัฐบาลบอกว่า ปตท.สามารถทำทุกอย่างได้ ก็มีปัญหาเรื่องการผูกขาด เช่น ท่อก๊าซที่ต้องแยกออกมาให้มีการดูแลต่างหาก เพราะ ปตท.ไม่ได้ถือหุ้นโดยรัฐบาลร้อยเปอร์เซ็นต์ การต้องมีองค์กรมารองรับไม่เห็นว่าเป็นการขัดหลักการ แต่ควรมีความชัดเจน,นายพิชัย นริพทะพันธ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า เท่าที่ติดตามยังไม่เห็นมีความชัดเจนว่าจะตั้งบรรษัทน้ำมันฯขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร ตั้งขึ้นมาเพื่อต้องการยึด ปตท.ใช่หรือไม่ ถ้าเป็นอย่างนั้นจะสร้างความวุ่นวายได้ หรือการจัดตั้งครั้งนี้จะมีใครเข้ามาบริหารจัดการ ถ้าเป็นทหารเข้ามาบริหารจัดการจะเชื่อถือในความโปร่งใสได้หรือไม่ว่าจะไม่เกิดปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน แต่ถ้าจัดตั้งบรรษัทน้ำมันฯเพราะต้องการแข่งขันกับ ปตท. ขจัดปัญหาการผูกขาด ถือว่ารับได้ ไม่ใช่ตั้งขึ้นมาเพื่อจะยึด ปตท. แต่อยากให้ผู้มีอำนาจศึกษาโมเดลจากต่างประเทศให้ดีก่อน หลายประเทศที่ประสบความสำเร็จด้านน้ำมัน ไม่มีการจัดตั้งบรรษัทขึ้นมา เช่น สหรัฐอเมริกา เป็นการดำเนินการของเอกชน สำหรับไทยไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะวัตถุประสงค์ไม่ชัดเจนว่าตั้งขึ้นมาเพื่ออะไร,อีกเรื่อง ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมยื่นฟ้องกรมสรรพากร กรณีดำเนินการ เรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้นชินคอร์ปโดยมิชอบ ว่า ตามระเบียบหน่วยงานราชการที่ถูกฟ้อง พนักงานอัยการจะแก้ต่างให้ ที่ผ่านมากรมสรรพากรถูกฟ้องไม่รู้กี่เรื่องแล้ว แพ้บ้างชนะบ้าง รัฐบาลคงไม่ได้ช่วยอะไรนอกจากเขาต้องการก็บอกมาได้ กรมสรรพากรไม่ได้ตกอกตกใจอะไร มีแต่สื่อที่ไปตกใจแทนเขา อธิบดีกรมสรรพากรถูกฟ้องมานับไม่ถ้วนแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาจะตั้งศาลภาษีอากรขึ้นมาทำไม เมื่อถามว่าคดีนี้ถ้ารัฐแพ้เจ้าหน้าที่รัฐจะเป็นอย่างไร นายวิษณุตอบว่า ตามระเบียบก็ไม่มีอะไร เขาทำตามอำนาจหน้าที่ พนักงานอัยการถึงเข้ามาแก้ต่างให้ ดังนั้น จะไม่มีผลทางด้านวินัยกับเจ้าหน้าที่ผู้นั้น ยกเว้นว่าการแพ้คดีนั้นเป็นความบกพร่องชัดเจน เช่น ไม่นำพยานเข้าสืบในศาลตามกำหนดนัด หรือละทิ้งคดี ทำให้รัฐไม่ได้ภาษี อย่างนี้ถือว่ารัฐเสียประโยชน์,เมื่อถามว่ากรณีนี้ถูกมองว่ากระทบต่อการปรองดองของรัฐบาล นายวิษณุตอบว่า คนจะคิดอย่างไรก็ได้ แต่เรื่องนี้รัฐบาลตั้งใจแต่ต้นให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ที่ผ่านมาพอเรื่องเงียบคนก็หาว่าซูเอี๋ยกัน พอทำก็บอกว่ากลั่นแกล้งลำเอียง เล่นงานเฉพาะบางคน ในโลกนี้มองได้ทั้งสองด้าน ความโชคร้ายก็คือเราไม่สามารถจับมันขึ้นมาทั้งสองด้านได้ในเวลาเดียวกัน อยากให้เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดา คือปล่อยให้เรื่องไปศาลเป็นคนกลางตัดสิน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า กรณีกรมสรรพากรติดป้ายเรียกเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ปฯ ที่หน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ไม่ใช่เรื่องของตน เป็นเรื่องของกรมสรรพากร,นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรมสรรพากรทำหน้าที่เต็มที่อยู่แล้ว ล่าสุดได้ปิดประกาศประเมินภาษีที่หน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า โดยความคืบหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป เป็นเรื่องที่กรมสรรพากรทำหน้าที่ตามกฎหมาย แต่นายทักษิณสามารถอุทธรณ์ได้ ถ้าอุทธรณ์แล้วไม่เป็นที่พอใจ สามารถยื่นศาลภาษีได้ ส่วนการจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ทำให้คดีภาษีดังกล่าวมีความยืดเยื้อจนเกือบหมดอายุความ โดยได้ตั้งคณะกรรมการแล้ว โดยมีนายยุทธนา หยิมการุณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน อยู่ระหว่างดำเนินการมีความคืบหน้า 50-60 เปอร์เซ็นต์ โดยต้องรอสรุปว่าใครผิดใครถูก ใครเกี่ยวข้องบ้าง ผิดวินัยมากน้อยแค่ไหน จึงดำเนินการลงโทษต่อไป,ด้านนายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เท่าที่ทราบเดิมกรมสรรพากรระบุว่า ไม่สามารถเรียกเก็บภาษีดังกล่าวได้ พอนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ออกมาบอกว่าเป็นอภินิหารทางกฎหมาย ก็ยิ่งสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับระบบกฎหมายประเทศนี้ ทำไมไม่ใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมาตามที่บัญญัติไว้ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ เช่น ต้องการสร้างให้คนทั่วไปเข้าใจผิดและเกี่ยวพันกับพรรคเพื่อไทย หรือผู้มีอำนาจต้องการทำลายเครดิตฝ่ายตรงกันข้าม ไม่อยากให้บ้านเมืองเราทำลายกันโดยขาดการยั้งคิด ฝ่ายที่ถูกกระทำจะมีความรู้สึกว่าถูกกระทำแบบไม่มีสิ้นสุด มีหลายเรื่องที่ถูกกระหน่ำอยู่ข้างเดียว,ช่วงเช้าที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จัดสัมมนา การรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. กล่าวเปิดสัมมนาว่า กฎหมายว่าด้วย ป.ป.ช. ถือเป็นหัวใจของร่างรัฐธรรมนูญในการปราบปรามการทุจริต ตัดขั้นตอนที่พะรุงพะรังออก ให้กรรมการ ป.ป.ช.มีอำนาจมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไต่สวนเบื้องต้นได้ ไม่ต้องตั้งอนุกรรมการ ตั้งคณะทำงาน ส่วนการประพฤติมิชอบให้ส่วนราชการดูแลกันเอง ภายใต้การกำกับของ ป.ป.ช. สร้างกระบวนการไต่สวนให้รวดเร็ว มีกรอบเวลา ไม่ปล่อยให้หมดอายุความที่อัยการ จุดสำคัญ ป.ป.ช.ตรวจสอบหน่วยงานของรัฐและองค์กรอิสระทั้งหมด จึงต้องหาลู่ทางผู้ที่จะมาตรวจสอบการทำงานของ ป.ป.ช.ด้วย หากไม่สุจริต สำหรับกลไกลงโทษข้าราชการต้องหาจุดพอดี หลายหน่วยงานลงโทษตามคำสั่ง ป.ป.ช.ด้วยความอึดอัด เพราะเชื่อว่าไม่ผิด บางทีก็ไปฟ้องศาลปกครอง,ขณะที่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า การไต่สวน ป.ป.ช.เสนอในร่างกฎหมายลูกกำหนดเวลาไว้ที่ 2 ปี ส่วนคดีอาญาข้ามชาติที่ต้องใช้ความร่วมมือจากต่างประเทศอาจขยายระยะเวลาได้ การทำงานมีทั้งกระจายอำนาจ และมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่แต่ละพื้นที่ ส่วนเรื่องความรวดเร็วมีศาลทุจริตคอยดูแล เชื่อว่าจะทำให้เกิดความเกรงกลัว อนาคตคดีจะลดลง และเพื่อประสิทธิภาพเสนอให้เพิ่มอำนาจสืบสวนสอบสวนแบบพิเศษ เหมือนการปราบอาชญากรรมข้ามชาติ เพิ่มอำนาจรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับการเงิน ขอขยายเวลาอายัดทรัพย์สินเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคดีระหว่างประเทศ ที่ต้องมีการสอบเส้นทางการเงิน ติดตามทรัพย์สินคืนสู่รัฐให้ได้มากที่สุด และสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดถือเป็นจุดสำคัญ การทำสงครามกับการทุจริตจึงจะชนะ,นายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ร่างกฎหมายที่ ป.ป.ช.เสนอกรอบเวลาการไต่สวนข้อเท็จจริง ถือว่าล่าช้า ไม่ตรงความต้องการของประชาชน ส่วนคณะกรรมการต้องเปิดเผยโปร่งใสตรวจสอบได้ กระบวนการสรรหา ป.ป.ช.สำคัญที่สุด การปล่อยให้คดีทุจริตหมดอายุความต้องไม่มี ขนาดองค์กรต้องกระชับ ข้อท้วงติงเรื่องหน่วยงานต่างจังหวัด เห็นว่าต้องตัดให้กระชับลงเหลือไม่มากเป็นระดับภาค ไม่ใช่แพร่กระจายไปทุกที่,พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงคุณสมบัติกรรมการองค์กรอิสระตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ ที่ทำให้เข้าข่ายต้องพ้นจากตำแหน่งว่า ป.ป.ช.เสนอกฎหมายลูกให้ กรธ.พิจารณา โดยมีเนื้อหาคุ้มครองให้กรรมการ ป.ป.ช.อยู่ในตำแหน่งต่อไป เป็นการทำตามหน้าที่ ขึ้นอยู่กับ กรธ.และ สนช.พิจารณาเห็นด้วยหรือไม่ รัฐธรรมนูญใหม่กำหนดคุณสมบัติกรรมการ ป.ป.ช. ต่างจากรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา การพิจารณาคุณสมบัติต้องขึ้นอยู่กับกรรมการสรรหา ตนเข้ามาทำงานตามกฎหมาย เมื่อกรรมการสรรหาเห็นเป็นอย่างไร ก็พร้อมทำตาม,อีกเรื่อง ที่ท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวปฏิเสธถึงกระแสข่าวเตรียมจัดการเลือกตั้งในท้องถิ่นว่า ไม่เคยระบุเช่นนั้น เพียงแค่สมมติว่าน่าจะมีเลือกตั้งท้องถิ่น ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะกฎหมายลูกยังไม่ออก และไม่สามารถใช้มาตรา 44 มาดำเนินการได้ ทุกอย่างต้องรอรัฐธรรมนูญ หากรัฐธรรมนูญออกก็ต้องว่าไปตามนั้น ส่วนกรณีจะมีการออกกฎหมาย เรื่องการยึดทรัพย์หากมีการซื้อสิทธิขายเสียงในการเลือกตั้งหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่ใช่นักการเมือง ต้องรอกฎหมายออกมาก่อน รัฐบาลยืนยันเดินตามโรดแม็ปและกฎหมายทุกอย่าง,พล.อ.ประวิตรยังปฏิเสธตอบคำถาม กรณีมีกระแสข่าวจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังสงกรานต์ หลังมีคณะครูและอาจารย์คณะครุศาสตร์ และคณะศึกษาศาสตร์ ร่วมกันล่ารายชื่อ 50,000 รายชื่อเสนอปลด นพ.ธีรเกียรติ เจริญเศษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ พ้นจากตำแหน่งว่า เป็นเรื่องที่ผู้สื่อข่าวคิดไปกันเอง ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดๆ เป็นเรื่องเลอะเทอะ ยืนยัน ไม่มีผลกระทบใดๆต่อ ครม.ชุดปัจจุบัน,พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ หลัง สตง.ผ่านการตรวจสอบโครงการดังกล่าวแล้ว ว่า เรื่องยังไม่มาถึงตน ยังอยู่ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ไม่จำเป็นต้องเร่งรัด ส่วนปัญหาเรื่องงบประมาณนั้นสามารถยืดเวลาออกไปได้ แต่ไม่ให้เกินปีงบประมาณปี 60 ส่วนที่มีกระแสต่อต้านการจัดซื้อนั้น ไม่รู้สึกอะไร เนื่องจากทำตามขั้นตอนทุกอย่าง เป็นเรื่องความมั่นคง อธิบายความจำเป็นมานานกว่า 10 ปีแล้ว และยืนยันว่าทำตามความต้องการของเหล่าทัพ ส่วนจะเข้าที่ประชุม ครม.ได้เมื่อไหร่นั้น ขึ้นอยู่ที่เลขาธิการ ครม. เมื่อถามว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำถือว่าเป็นความสำเร็จในยุคนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า คงไม่เกี่ยวกับความสำเร็จ,ด้าน พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เรื่องเรือดำน้ำถึงมือแล้ว ส่วนจะสามารถส่งเข้า ครม.ได้ทันสัปดาห์หน้าหรือไม่นั้น ขณะนี้กำลังพิจารณาดูร่างสัญญาให้เรียบร้อย,ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ผู้บริหารสำนักงาน กกต. โดย พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาการเลขาธิการ กกต. เคยให้ความเห็นกับ กมธ.ด้านการปกครองท้องถิ่น สปท. พร้อมมีข้อเสนอว่า หากรัฐบาลจะดำเนินการปฏิรูปองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควรจัดทำเรื่องกฎหมายให้แล้วเสร็จเสียก่อน และการเลือกตั้งท้องถิ่นควรมีขึ้นหลังการเลือกตั้งใหญ่ ส.ส. เพราะถ้าเลือกตั้งก่อน นักเลือกตั้งระดับชาติจะลงไปสนับสนุนผู้สมัครท้องถิ่นให้ได้รับเลือกตั้ง เพื่อมาเป็นฐานการเมืองของตัวเอง ขณะนี้ กกต.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นฉบับใหม่ไปแล้ว อยู่ระหว่างการปรับแก้ก่อน หากรัฐบาลแสดงท่าทีที่ชัดเจนจะให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนจริง กกต.จะเร่งพิจารณาและเสนอร่างกฎหมายดังกล่าว,ที่รัฐสภา มีการประชุม สนช. มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. เป็นประธาน เพื่อพิจารณาวาระแถลงปิดคดีถอดถอนนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ กรณีการออกหนังสือเดินทางให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยมิชอบ ทันทีที่ ป.ป.ช.ในฐานะผู้กล่าวหาแถลงปิดคดีจบ ปรากฏว่า นายสุรพงษ์ได้ร้องขอให้มีการตรวจสอบองค์ประชุม เพราะเห็นว่าสมาชิกอยู่ในห้องประชุมไม่ถึง 50 คน อาจขัดต่อระเบียบการประชุมของ สนช. จนนายสุรชัยต้องกดออดเพื่อนับองค์ประชุม จนมีสมาชิก สนช.หลายคนลุกขึ้นทักท้วงที่ปล่อยให้บุคคลภายนอก คือนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยเข้ามาร่วมประชุม จนเกิดการโต้เถียงกันอยู่นานหลายชั่วโมง ก่อนประธานฯนัดลงมติในวันที่ 30 มี.ค. เวลา 10.00 น. จากเหตุวุ่นวายดังกล่าวสร้างความไม่พอใจ แก่ สนช.จำนวนมาก จนคาดว่าคะแนนถอดถอนจะสูงกว่าทุกคดีที่ผ่านมา,อีกเรื่อง น.ส.วลัยรัตน์ ศรีอรุณ รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการจริยธรรม สปท. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมพิจารณากรณีนายอนุสร จิรพงศ์ สปท. ถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายพนักงานเสิร์ฟร้านอาหารย่านอารีย์ เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา ว่าวันนี้เป็นการประชุมเพื่อพิจารณาเอกสารชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร ที่นายอนุสรยื่นต่อคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 27 มี.ค.เท่านั้น คณะกรรมการฯมาร่วมประชุมไม่เต็มคณะ จึงขอเลื่อนการพิจารณาเพื่อลงมติกรณีดังกล่าวในวันที่ 3 เม.ย. ยืนยันว่าจะทราบมติที่ชัดเจนของคณะกรรมการฯแน่นอน,วันเดียวกันเวลา 15.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ได้ออกกำลังกายประจำสัปดาห์ ร่วมกับคณะทำงาน ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล โดยได้ย้ายมาออกกำลังกายภายในตึกสันติไมตรี เป็นสัปดาห์ที่ 2 เนื่องจากสภาพอากาศที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ยังคงมีสภาพอากาศที่ร้อน ทั้งนี้ นายกฯได้ใช้เวลาเต้นแอโรบิกประมาณ 27 นาที จากนั้นได้เดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า โดยไม่มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์เตรียมที่จะออกกำลังกายด้วยการรำไทเก็ก แต่ปรากฏว่ามีเพียงการเต้นแอโรบิกเท่านั้น เจ้าหน้าที่ทำเนียบฯ ต่างบอกเสียดาย | อกนิษฐ์ ยัน สนช.แก้ ก.ม.ปิโตรเลียมตามกระแสโลก เผย ครม.รู้เห็นตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ ถามไป 2 รอบ ยืนยันกลับมาทั้ง 2 รอบให้ไฟเขียวปัดข้อหาทับซ้อนท้าสอบไม่เคยถือหุ้น ปตท. | หนังสือพิมพ์ | วิษณุ เครืองาม,ม.44,อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์,พ.ร.บ.ปิโตรเลียม,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/newspaper/899691 |
นาทีสะพรึง เซียะเหมิน แอร์ ฝ่าฝนลงจอดที่มะนิลา ไถลออกนอกรันเวย์ พังยับ (คลิป) | เมื่อ 17 ส.ค.61 สำนักข่าวรอยเตอร์ และสื่อต่างประเทศ รายงาน เกิดอุบัติเหตุระทึก เครื่องบินโดยสารของสายการบินเซียะเหมิน แอร์ (XiamenAir) ลื่นไถลออกนอกรันเวย์ ขณะกัปตันพยายามนำเครื่องบินฝ่าสายฝนซึ่งตกกระหน่ำอย่างหนัก ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติมะนิลา ในกรุงมะนิลา เมืองหลวงฟิลิปปินส์ เมื่อเช้าตรู่วันที่ 17 ส.ค. เป็นเหตุให้เครื่องบินได้รับความเสียหายอย่างหนัก เดชะบุญ ผู้โดยสาร 157 คน และลูกเรือ 8 คน รวม 165 ชีวิต ปลอดภัย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะถูกอพยพลงจากเครื่องบิน,ข่าวแจ้งว่า เครื่องบินโดยสารของสายการบินเซียะเหมิน แอร์ลำนี้ เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 เที่ยวบิน MF 8667 จากเมืองเซียะเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน มายังกรุงมะนิลา โดยกัปตันได้พยายามนำเครื่องบินลงจอดเป็นครั้งที่ 2 ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้าย มีฝนตกหนัก จนทำให้เครื่องบินลื่นไถล ไปสงบนิ่งอยู่ใกล้รั้วของสนามบิน และปีกเครื่องบินด้านซ้ายได้รับความเสียหายหนัก จากการกระแทกพื้นดินอย่างรุนแรง หลังเกิดเหตุ ทางการท่าอากาศยานมะนิลา ได้สั่งปิดรันเวย์ และสนามบินเป็นการชั่วคราว ,ขณะเดียวกัน ได้มีผู้โดยสารบนเที่ยวบิน MF 8667 ของเซียะเหมิน แอร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของสายการบินไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ ได้ถ่ายคลิปวิดีโอขณะเครื่องบินลงจอด ล้อแตะรันเวย์ของสนามบินมะนิลา ทว่าหลังจากนั้น คลิปวิดีโอได้ดำมืดไปสักพัก ขณะเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์ และผู้โดยสารต่างอยู่ในความตื่นตระหนก ต่างตะโกนให้ทุกคนรีบ อพยพลงจากเครื่องบินอย่างเร่งด่วน ด้วยความหวาดกลัวกันสุดๆ | ผู้โดยสารกว่า150 ชีวิต สุดระทึกเครื่องบินโดยสารเซียะเหมิน แอร์ไลน์ ลื่นไถลออกนอกรันเวย์ ขณะกัปตันพยายามนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินในกรุงมะนิลา จนปีกฝั่งซ้ายเครื่องบินพังยับ | ข่าว,ต่างประเทศ | เซียะเหมิน แอร์,เครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์,สนามบินมะนิลา,มะนิลา,ฟิลิปปินส์ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1356618 |
พบศพหนุ่มเปลือยกาย สักลายทั่วตัว ลอยอืดกลางแม่น้ำแควใหญ่ | ,วันที่ 29 เม.ย. ร.ต.อ.พงศธร พัขรเลขากุล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองกาญจนบุรี ว่า มีพลเมืองดีโทรศัพท์มาแจ้งว่า พบศพลอยอยู่ในแม่น้ำแควใหญ่ หมู่ 4 ต.หนองบัว อ.เมืองกาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานให้มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ออกทำการตรวจสอบและพบว่ามีศพลอยอยู่กลางแม่น้ำ จึงสั่งการให้ทำการลากศพผู้เสียชีวิตรายนี้เข้ามาไว้ริมฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำหนองบัว จากนั้นจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภุชงค์ ณรงค์อินทร์ รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.วิทวัช น้อยพานิช สว.สส.ฯ พ.ต.ต.กฤตย์ วงษ์ศรีเมือง สวป.ฯ และ ร.ต.อ.ทศพล มีทรัพย์มาก รอง สวป.ฯ พร้อมแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนาฯ,จากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์และตำรวจพบว่า ผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 50-60 ปี สูงประมาณ 160-165 ซม. รูปร่างท้วม ผิวขาว ลักษณะศีรษะเถิก สภาพศพเน่าขึ้นอืด เปลือยกายล่อนจ้อน เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5-6 วัน ตามร่างกายมีบาดแผลฉีกขาดและรอยถลอกหลายแห่ง ที่บริเวณหน้าอกพบรอยสักเป็นรูปเสือเผ่น ตามแขน ขา ข้อมือ ด้านหลังมีรอยสักทั่วทั้งตัว ซึ่งแพทย์ไม่สามารถยืนยันได้ว่า บาดแผลที่พบตามร่างกายของผู้ตายเป็นบาดแผลที่เป็นสาเหตุทำให้ผู้ตายเสียชีวิต เนื่องจากเสียชีวิตมาเป็นเวลาหลายวัน เนื้อเยื่อตามร่างกายเริ่มเน่าเปื่อย อีกทั้งผู้ตายก็ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่สามารถระบุได้ว่า ชื่ออะไร หรือเป็นใครมาจากไหน จึงต้องส่งศพไปสถาบันนิติเวชฯ เพื่อให้แพทย์ทำการผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุการตาย,ภายหลังจากที่พบศพ พ.ต.อ.ชูศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ทราบเรื่องจึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี นำกำลังตำรวจชุด กก.สส.ลงพื้นที่เพื่อร่วมสืบสวนคลี่คลายคดี และหาเบาะแสของผู้เสียชีวิตรายนี้ โดยให้ตรวจสอบไปตาม สภ.ต่างๆ ในพื้นที่และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง เพื่อตรวจสอบว่าพื้นที่ใดมีการแจ้งความคนหายไว้บ้างในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาหรือไม่ เพื่อเป็นเบาะแสแนวทางในการติดตามหาเบาะแสของผู้ตายต่อไป,ล่าสุดเวลา 19.30 น. พ.ต.ท.วิทวัช น้อยพานิช สว.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเปรียบเทียบลายนิ้วมือ น่าเชื่อว่าผู้เสียชีวิตคือ นายปุ้ย พรมเนตร อายุ 51 ปี ขอทำบัตรประชาชนที่ อำเภอสวนผึ้ง จ.ราชบุรี โดยทางตำรวจกำลังติดตามหาตัวญาติเพื่อสอบถามข้อมูลต่างๆ ต่อไป. | พบศพหนุ่มอายุประมาณ 50 ปี สักลายเต็มตัว ลอยอืดเปลือยกายในแม่น้ำแควใหญ่ เมืองกาญจน์ สภาพศพคาดเสียชีวิตมา 5-6 วันแล้ว ตร.เตรียมติดต่อญาติเพื่อสอบหาสาเหตุการเสียชีวิต | ข่าว,ทั่วไทย | ศพหนุ่มเปลือยกาย,ลอยขึ้นอืด,สักลายทั่วตัว,แม่น้ำแควใหญ่,สภ.เมืองกาญจนบุรี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1268552 |
อุตตม-ศักดิ์สยาม เคลียร์ปมปลดบอร์ดรัฐวิสาหกิจ | วันนี้ (7 ส.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง จัดประชุมเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ 19 แห่ง ผู้บริหารบริษัทในเครือรัฐวิสาหกิจ 5 แห่ง ที่มีวงเงินลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อรับนโยบายในการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และจัดทำการลงทุนใหม่ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 2562 ให้เติบโตได้ตามเป้าหมายภายหลังการประชุม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ระบุว่า การเบิกจ่ายงบลงทุนโครงการของกระทรวงคมนาคม ต่ำกว่าเป้าหมาย เพราะบอร์ดฯ ไม่มั่นใจนโยบายรัฐบาลใหม่จึงได้กำชับเร่งรัดการเบิกจ่าย และรายงานความคืบหน้า ให้ตนรับทราบทุกสัปดาห์ส่วนปัญหาการทบทวนการทำงานของประธานบอร์ดการบินไทยว่า กระทรวงคมนาคม ในฐานะกระทรวงต้นสังกัดของการบินไทย เห็นว่า การประเมินผลทำงานของประธานบอร์ดฯ ถือเป็นเรื่องปกติ เพื่อไม่ให้มีอุปสรรคในการทำงาน โดยกำหนดเกณฑ์คะแนนชี้วัดคุณภาพการทำงาน (KPI) คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร จะยังเหมาะสมกับตำแหน่งประธานบอร์ดการบินไทยหรือไม่ ภายในสัปดาห์หน้าขณะที่ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังประสานการทำงานกับกระทรวงคมนาคมอย่างใกล้ชิด รวมทั้งติดตามการทำงานของบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ผ่านกลไกของสำนักงานคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ โดยกรณีของการบินไทย ก็ไม่มีความขัดแย้งใดๆ กับกระทรวงต้นสังกัดไม่เพียงแต่การบินไทย แต่ประธานบอร์ดรัฐวิสาหกิจทั้ง 45 แห่ง ต้องเข้ากระบวนการประเมินการทำงานใหม่เช่นกัน หากไม่ผ่านการประเมิน ผู้ที่กระทรวงต้นสังกัดคัดเลือกเข้ามา ก็ต้องผ่านเกณฑ์คุณสมบัติทักษะความเชี่ยวชาญเพียงพอจะบริหาร ตามเกณฑ์ ที่สคร.กำหนดรายงานข่าวจากกระทรวงการคลังแจ้งว่า ขณะนี้ มีประธานบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ยื่นหนังสือแจ้งการลาออกจากตำแหน่งแล้ว 2-3 แห่ง แต่ยังไม่มีบอร์ดการบินไทยขณะเดียวกัน บอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย กำลังพิจารณาข้อกฎหมาย เนื่องจากคำสั่งแต่งตั้งบอร์ดมาจาก ม.44 ก่อนตัดสินใจลาออกยกทั้งชุด เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลใหม่สำหรับขั้นตอนการสรรหาประธานบอร์ดรัฐวิสาหกิจ แบ่งเป็น 2 กรณี 1.หากประธานบอร์ดลาออก แต่ยังครบองค์ประชุมบอร์ด กรรมการบอร์ดที่เหลือ สามารถสรรหาผู้ได้รับการนำเสนอชื่อ แล้วเสนอให้ สคร. พิจารณาคุณสมบัติ หากไม่ติดขัด สคร.จะส่งให้คณะกรรมการกลั่นกรองฯ ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน หากคณะกรรมการชุดนี้เห็นชอบ ก็สามารถแต่งตั้งประธานบอร์ดคนใหม่ได้ เพียงแต่รายงานแจ้งนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน คนร.รับทราบ โดยไม่ต้องเข้า ครม. ยกเว้นบอร์ดบางแห่งที่มีกฎหมายกำหนด เช่น ธนาคารออมสิน เป็นต้น2.กรณีบอร์ดลาออกยกชุด กระทรวงต้นสังกัดจะเป็นผู้พิจารณากรรมการ แต่ต้องเป็นไปตามสัดส่วน โดยต้องมีกรรมการ ที่เชี่ยวชาญโดยตรง หรือ direct pool ในบอร์ดรัฐวิสาหกิจนั้น ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 และมีคุณสมบัติในมิติต่างๆ ตาม สคร.กำหนด จากนั้นก็เสนอเข้า คณะกรรมการกลั่นกรองฯ และ คนร.ตามลำดับนอกจากนี้ นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ สคร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของรัฐวิสาหกิจ ปี 2562 มีผลการเบิกจ่ายในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ต.ค.2561- มิ.ย.2562) จำนวน 129815 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 87 ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม โดยเป็นผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณจำนวน 71525 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจปีปฏิทินจำนวน 58290 ล้านบาทขณะที่ นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวว่า ที่ประชุมฯ สั่งให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ตั้งผู้จัดการโครงการ หรือ โปรเจกต์ แมนเนจเมนท์ เพื่อเป็นคนกลาง ประสานงานกับ สคร.เพื่อแก้ไขอุปสรรค และเร่งรัดโครงการ หลังประเมินว่า ยังเหลืองบลงทุนรัฐวิสาหกิจ ที่ต้องลงทุนภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ไม่น้อยกว่า 140000 ล้านบาท ไม่นับรวมเงินลงทุนที่เบิกจ่ายต่ำกว่าเป้าหมาย และต้องเร่งรัดเบิกจ่ายภายในไตรมาส4 เช่นกันอีก 31000 ล้านบาท | ประธานบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ทยอยยื่นใบลาออกแล้ว 2-3 แห่ง หลังการเมืองกดดัน ขณะที่ รมว.คลัง ย้ำไม่มีข้อขัดแย้งกับ รมว.คมนาคม ปมเล็งปลดประธานบอร์ดการบินไทย ชี้คนใหม่ต้องผ่านเกณฑ์คุณสมบัติของ สคร.เช่นกัน | เศรษฐกิจ | งบประมาณ,รัฐวิสาหกิจ,การบินไทย,คลัง,คมนาคม | https://news.thaipbs.or.th/content/282566 |
ขอหมายจับหุ้นใหญ่ วิคตอเรีย ศรีวราห์ ยังไม่ฟัน ตร.ผิด ลงอ่างสยิว | พร้อมพวก,วันนี้ 16 ม.ค.61 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องกับสถานบริการ วิคตอเรีย ซีเครท อาบอบนวด เบื้องต้นขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการขออำนาจศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกับสถานบริการดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 8 คน โดยหนึ่งในนั้นคือ นางสาวศศิธร วิระเทพสุภรณ์ หุ้นส่วนใหญ่ของสถานบริการดังกล่าว โดยถูกตั้งข้อหารวมทั้งสิ้นกว่า 10 ข้อหา ทั้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์, กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง, ค้าประเวณี, และสถานบริการ,นอกจากนี้จากการตรวจสอบของ พล.ต.อ.ธรรมศกดิ์ ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 พบว่านางสาวศศิธรมีการถือหุ้นในบริษัทต่างๆ ที่มีการเปิดเป็นสถานประกอบการรูปแบบของอาบอบนวด นวดแผนโบราณ และเลาจ์ กว่า 10 บริษัท ในย่านอินทามระและดินแดง ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการวางแผนเพื่อเข้าตรวจสอบทั้งหมดเพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานใช้ประกอบในสำนวนคดี ทั้งนี้มองว่าถึงแม้คดีดังกล่าวจะผ่านมาเป็นเวลา 3 วันแล้ว ก็ไม่ทำให้พยานหลักฐานเสียหาย แต่หากทาง DSI และกรมการปกครองยังไม่ส่งข้อมูลการสืบสวนสอบสวนมาให้ ก็อาจมีผลต่อรูปคดีได้ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีการประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและ DSI,ส่วนกรณีที่ในระหว่างการเข้าตรวจค้นสถานบริการดังกล่าวพบว่า มีการติดชื่อของเสี่ยกำพล หรือนายกำพลไว้ จากการตรวจสอบพยานหลักฐานในเบื้องต้น ยังไม่พบว่ามีบุคคลใดที่อยู่เหนือไปกว่านางสาวศศิธร แต่ต้องรอข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ จาก DSI และกรมการปกครอง เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวนหาผู้บงการที่อาจอยู่เหนือกว่านางสาวศศิธรขึ้นไป หากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอพบว่าไปถึงบุคคลใดนอกเหนือจากนางสาวศศิธร ก็จะดำเนินการออกหมายจับตามขั้นตอนกระบวนการต่อไป,ส่วนกรณีของโพยการรับรองร้อยเปอร์เซ็นต์ให้กับนายตำรวจและเจ้าหน้าที่ในระดับต่างๆ จากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นพบว่า มีเพียงตำแหน่งเท่านั้นไม่มีชื่อของบุคคล หรือนายตำรวจที่มีการกล่าวถึง ซึ่งยากต่อการออกหมายจับและดำเนินคดี ทั้งนี้หากหน่วยใดมีข้อมูลรายชื่อของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เรียกรับผลประโยชน์ หรือได้รับการรับรองร้อยเปอร์เซ็นต์จากสถานบริการดังกล่าว สามารถส่งข้อมูลมาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ หากมีข้อมูลครบถ้วนสามารถออกหมายจับในข้อหาสนับสนุนให้มีการค้ามนุษย์ได้,นอกจากนี้ยังให้ 4 กองบัญชาการที่มีรายชื่อตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจในโพยรับรองร้อยเปอร์เซ็นต์ของสถานบริการดังกล่าว ตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายตำรวจทุกนายที่อาจเกี่ยวข้องกับโพยดังกล่าวแล้ว ประกอบด้วย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กองบัญชาการตำรวจนครบาล และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ทั้งที่หากพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนายใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง จะดำเนินการทางวินัยและทางกฎหมายทันที,ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สน.วังทองหลาง นายสิรภพ นิยมเดช หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา 5 ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เข้าให้การในฐานะผู้จับ ผู้กล่าวหาในคดีอาญาที่ 43/2561 กรณีการตรวจจับสถานบริการ วิคตอเรีย ซีเครท เพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อประกอบการพิจารณาของพนักงานสอบสวนว่าจะแจ้งข้อหาค้ามนุษย์เพิ่มเติมหรือไม่ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง,นายสิรภพ เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาให้การเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ในการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหา รวม 6 คน คือ นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย อายุ 67 ปี ผู้จัดการ นายชัยณรงค์ อันสุข อายุ 54 ปี นายมนัส อ่วมทับ อายุ 49 ปี นายเอกณพัชร์ จารุวัฒน์ปฐมกุล อายุ 30 ปี นายสมชาย แสงอุดม อายุ 53 ปี และนายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ อายุ 56 ปี พนักงานเชียร์แขก ในข้อหาเป็นธุระจัดหาและค้าประเวณี เพื่อให้คดีเริ่มต้นสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม ส่วน น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ออนเซน และกรรมการผู้ขอใบอนุญาต ในวันเข้าจับกุมนั้นไม่พบตัว น.ส.ศศิธร ไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า ส่วนการจะแจ้งข้อหาใดหรือไม่นั้น เป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนที่จะพิจารณาตามพยานหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอหรือไม่ หรือเข้าข่ายในความผิดใด ส่วนนายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือป๋ากบ อายุ 56 ปี ยังไม่ให้การซัดทอดถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด,นายสิรภพ เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับเอกสารข้อมูลต่างๆ ที่พบในวันเข้าจับกุม มอบให้พนักงานสอบสวนไปก่อนหน้านี้ ส่วนบัญชีรายชื่อที่อาจมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐเข้าไปใช้บริการที่ตรวจพบนั้นได้ส่งเรื่องมอบให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกทางหนึ่ง ตนไม่กังวลใจที่ตำรวจพื้นที่จะเป็นผู้ทำคดีนี้ ค่อนข้างมีความมั่นใจ เนื่องจากชุดทำงานไม่มีเพียงตำรวจ สน.วังทองหลาง แต่มีชุดทำงานจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมทำคดีด้วย,รายงานข่าวแจ้งว่า ผลการตรวจอายุกระดูกในเบื้องต้นพบว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี รวม 3 คน คาดว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ต่ำกว่า 6 คน ส่วนหญิงสาวจำนวน 113 คน แบ่งเป็นมีหญิงที่อยู่ในกลุ่มต้องสงสัยอยู่ในความดูแลของสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการ จ.นนทบุรี 3 คน อีก 25 คนที่เข้าข่ายต้องสงสัยอยู่ระหว่างการคัดแยกอยู่ในความดูแลของบ้านพักของ พม. ไม่ใช่หญิงไทยอยู่ในความดูแลของ สตม. 82 คน และหญิงไทยถูกเปรียบเทียบปรับและปล่อยตัว 3 คน. | ศรีวราห์ เผย อยู่ระหว่างขอศาลออกหมายจับหุ้นส่วนใหญ่อาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท ส่วนกรณีโพยรับรองสีกากี ลงอ่างสยิว 100% ยังยากต่อการฟันผิด เหตุมีเพียงตำแหน่งเท่านั้น ไม่มีชื่อ ขณะที่กรมการปกครองเข้าร้องทุกข์ดำเนินคดี ป๋ากบ | ข่าว,อาชญากรรม | วิคตอเรีย,วิคตอเรีย ซีเครท,หมายจับ,อาบอบนวด,โพยอาบน้ำฟรี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1178673 |
ศึกยิมนาสติกเอเชีย ได้ฤกษ์เปิดฉากแล้ว | กทำได้ยิ่งใหญ่กว่าเจ้าภาพก่อนหน้านี้ ขณะที่ 2 สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ณัฐชา มานิตกุล เดวิส และ กรปรียา แฟรงค์ ลงซ้อมยอมรับตื่นเต้น แต่ไม่กดดัน พร้อมสู้เต็มที่เพื่อประเทศไทย,การแข่งขันกีฬายิมนาสติกศิลป์ชิงแชมป์เอเชีย 2017 ซึ่งสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ร่วมกับกรมพลศึกษา และธนาคารออมสิน จัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 16-21 พฤษภาคม 2560 ที่อาคารยิมเนเซียมนิมิบุตร ภายในสนามกีฬาแห่งชาติ โดยมีนักกีฬาจาก 25 ชาติเข้าร่วมแข่งขัน รวมทั้งสิ้น 600 คน,สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา มีนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยนายชาติชาย พยุหะนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และนาวาตรีศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เข้าร่วมงาน โดยมีนักกีฬายิมนาสติกจาก 25 ชาติร่วมพิธีเปิดกันอย่างพร้อมหน้า ในการนี้ สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ได้จัดการแสดงยิมนาสติกเด็กเล็ก ในชุดที่ได้รับรางวัลจากรายการไทยแลนด์ก๊อตทา-เล้นท์ โชว์ลีลาความสามารถยิมนาสติกผสมผสานการละเล่นกีฬาพื้นบ้าน ประกอบเสียงเพลงต้อนรับนักกีฬาทุกชาติ ท่ามกลางบรรยากาศ แสง สี เสียง เพื่อเป็นการให้เกียรติและสร้างความอบอุ่น ความประทับใจให้กับนักกีฬาและผู้บริหารทุกชาติ,ด้านสนามแข่งขัน ได้ติดแอร์อย่างเย็นฉ่ำ โดยสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย จัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เป็นครั้งแรกที่มีอุโมงค์ให้นักกีฬาแต่ละชาติได้เดินออกสู่สนามอย่างสมศักดิ์ศรี ส่งผลให้ผู้แทนจากสมาพันธ์ยิมนาสติกแห่งเอเชีย และผู้บริหารแต่ละชาติต่างกล่าวชื่นชมถึงสถานที่จัดการแข่งขันว่าจัดได้ยิ่งใหญ่สมกับเป็นการแข่งขันยิมนาสติกรายการชิงแชมป์เอเชีย เนื่องจากสนามฝึกซ้อมทำได้อย่างมาตรฐาน รวมถึงสนามแข่งขันที่สมบูรณ์แบบ ดีกว่าการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียในทุกๆครั้งที่ผ่านมา,ขณะที่นักกีฬายิมนาสติกทีมชาติไทย ได้เดินทางมาซ้อมกันครบทุกคนแล้ว โดย 2 สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน น.ส.ณัฐชา มานิตกุล เดวิส และ น.ส.กรปรียา แฟรงค์ ที่เดินทางมาร่วมแข่งขันชิงแชมป์เอเชียเป็นครั้งแรก ในนามทีมชาติไทย และลงซ้อมเป็นที่เรียบร้อยยอมรับว่าตื่นเต้น แต่ไม่กดดัน เนื่องจากเคยร่วมแข่งขันรายการเยาวชนในทวีปยุโรปอย่างหลายทัวร์นาเมนต์ แต่รายการนี้ไม่ยืนยันว่าจะสามารถ คว้าเหรียญรางวัลได้ เนื่องจากไม่เคยเห็นนักกีฬายิมนาสติกของทวีปเอเชียแข่งขันจริง จะเห็นแต่เพียงแค่วีดิโอเท่านั้น จึงประเมินความสามารถของคู่แข่งขันไม่ได้ แต่ยืนยันว่าจะทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อชื่อเสียงแผ่นดินของแม่ คือประเทศไทย | ยิมนาสติกชิงแชมป์เอเชีย 2017 เปิดฉากแล้ว พิธีเปิดอลังการ ใช้นักกีฬายิมนาสติกเด็กเล็กกว่า 100 ชีวิต ร่วมสร้างสีสันผสมกลมกลืนเข้ากับแสงสีเสียง ผู้แทนสหพันธ์ยิมนาสติกเอเชีย ทึ่งการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ยืนยัน พึงพอใจ เนื่องจา | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | ยิมนาสติกศิลป์ชิงแชมป์เอเชีย 2017,กีฬายิมนาสติก,สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย,กรมพลศึกษา,สนามกีฬาแห่งชาติ | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/943802 |
มุมมองผู้สื่อข่าวกับทีมแมนฯยู | การประกาศลงจากตำแหน่งกุนซือของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำให้คนในวงการฟุตบอลตกใจทั่วโลก และคาดการณ์ว่า เดวิด มอยส์ ที่จะหมดสัญญา การคุมทีมเอฟเวอร์ตัน จะเข้ามานั่งเก้าอี้ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แทนโดยแฟนบอลปีศาจแดงจะเห็นการทำทีม ที่ไม่ใช่แบบที่เซอร์ อเล็กซ์ ซึ่งทำมาตลอดเกือบ 27 ปี ในการสร้างสรรค์เกมได้ตื่นเต้น ตลอด 90 นาทีเต็ม ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงเป็นเกมที่ดูสนุกซึ่งการก้าวเข้ามาของ เดวิด มอยส์ รูปแบบฟุตบอลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเปลี่ยนไป ผู้สื่อข่าวสายกีฬา ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เชื่อว่าเกมของปิศาจแดงอาจจะสนุกน้อยลง แต่จะเป็นเกมที่มีคุณภาพมากขึ้นขณะที่ บีบีซี สื่อมวลชนอังกฤษ รายงานข่าวของ เวย์น รูนีย์ ที่เริ่มออกมาพูดว่าอยากย้ายสโมสร แม้ก่อนหน้านี้จะเคยให้ข่าวแบบนี้ แต่จบลงด้วยการต่อสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีก 5 ปีแต่อนาคตของดาวยิงทีมชาติอังกฤษรายนี้ อาจกลับมาทบทวนอีกครั้ง เมื่อเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ประกาศลาออก พร้อมกับข่าวของสโมสร ที่ยืนยันว่า เวย์น รูนีย์ ไม่ได้มีไว้ขาย แต่ถ้าเวย์น รูนีย์ ยังยืนยัน ว่าคงจะต้องกลับมาพูดคุยถึงอนาคตของ ศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษรายนี้อีกครั้งการเรียกร้องที่อยากจะออกจากสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เวย์น รูนีย์ เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 ปี และสื่อมวลชนอังกฤษพุ่งเป้าถึงสาเหตุที่ เวย์น รูนีย์ อยากจะย้ายทีมอาจจะเกี่ยวกับการมาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของเดวิด มอยส์ ที่ทั้ง 2 คนนี้ เคยทำงานร่วมกันสมัยที่อยู่กับ เอฟเวอร์ตัน จนเวย์น รูนีย์ ย้ายออกจากเอฟเวอร์ตันในเดือนสิงหาคม ปี 2004 | ในยุคที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อนาคตของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ เดวิด มอยส์ กุนซือคนใหม่ของทีม ที่กำลังจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ สื่อมวลชนของไทยมองว่าแนวทางการเล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปลี่ยนไปและอาจจะไม่สนุกเร้าใจเหมือนเดิม | กีฬา | ปีศาจแดง,สื่อมวลชน,เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน,เวย์น รูนีย์,แมนฯยู,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | https://news.thaipbs.or.th/content/168238 |
แม่น้ำสายหลักในอีสานเริ่มแห้งขอด กระทบการทำเกษตร | เจ้าหน้าที่โยธาเครื่องกลขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุบลราชธานี เร่งนำรถแบ็กโฮขุดลอกคลองส่งน้ำระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ส่งน้ำที่สูบจากแม่น้ำชีไปช่วยชาวบ้าน 5 หมู่บ้านในตำบลท่าไห อำเภอเขื่องใน เพื่อใช้ทำนาปรังและปลูกพืชระยะสั้นกว่า 1500 ไร่ ที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้ง นอกจากนี้ยังได้นำรถแบ็กโฮลงพื้นที่ทุกตำบล เพื่อขุดลอกคลองที่ตื้นเขิน และทำแก้มลิงเก็บกักน้ำไว้ใช้ รวมทั้งตั้งเครื่องสูบน้ำดึงน้ำจากลำน้ำสาขาเข้าสู่ระบบชลประทาน เพื่อหล่อเลี้ยงพื้นที่การเกษตรเกือบ 6 ล้านไร่สภาพอากาศแห้งแล้งยังส่งผลให้แม่น้ำชีที่ไหลผ่านบ้านหนองบัว ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ แห้งขอดจนเห็นเนินทราย ชาวบ้านต้องนำกระสอบทรายทำเป็นทำนบกั้นน้ำไว้ใช้ เพื่อป้องกันการขาดแคลนน้ำสำหรับปลูกข้าวนาปรังทดแทนนาข้าวที่เสียหายจากน้ำท่วม และใช้เลี้ยงสัตว์ขณะที่โครงการชลประทานศรีสะเกษเตือนชาวนาที่ทำนาอยู่ในเขตชลประทาน ให้ทำนาปรังเพียงครั้งเดียว เพื่อสำรองน้ำไว้สำหรับเลี้ยงสัตว์และปลูกพืชระยะสั้น หลังหันมาทำนาปรังทดแทนที่เสียหายจากน้ำท่วมเพิ่มขึ้นกว่า 30000 ไร่ จะส่งผลให้ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในอนาคต | สภาพอากาศที่แห้งแล้ง ทำให้ในหลายจังหวัดภาคอีสานเริ่มประสบกับปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะน้ำในแม่น้ำหลักหลายสายเริ่มแห้งขอด ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร | ภูมิภาค | ขุดคลอก,น้ำท่วม,ภัยแล้ง,แม่น้ำชี,แม่น้ำแห้ง | https://news.thaipbs.or.th/content/57957 |
ลุ้นชูวิทย์-เสธ.หิ ได้รับอภัยโทษ | รวมปล่อย30,000คน แต่สนธิ-หมอเลี้ยบ ผู้พันตึ๋งไม่เข้าเกณฑ์,ซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานอภัยโทษ นักโทษชั้นดีผ่านเกณฑ์ปล่อยตัว 3 หมื่นราย อีก 3 วันได้รับอิสรภาพ ฮือฮาเจ้าพ่ออ่าง ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ -เสธ.หิ ผู้ต้องขังรื้อบาร์เบียร์ เข้าข่ายได้สิทธิ์นักโทษชั้นดี ส่วน พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ ผู้พันตึ๋ง ถูกลดชั้นเป็นนักโทษชั้นเลว นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หมอเลี้ยบ อดีต รมว.กระทรวงไอซีที กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ศาลฎีกาตัดสินจำคุก 20 ปี คดีทำเอกสารค้ำเงินกู้เท็จมูลค่า 1,000 ล้าน เป็น 2 นักโทษชั้นกลาง ไม่ได้รับการอภัยโทษ,ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 มีพระมหา-กรุณาธิคุณพระราชทานอภัยโทษ ในโอกาสแรกนับแต่ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ มีประกาศราชกิจจานุเบกษาเรื่อง พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2559 เพื่อเป็นการแสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 สมควรพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป,กรณีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ต้องขังที่จะได้รับการอภัยโทษ จากเรือนจำทั่วประเทศ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า เรือนจำแต่ละแห่งอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนการปล่อยตัวผู้ต้องขังประมาณ 30,000 รายจากเรือนจำทั่วประเทศ ซึ่งเรือนจำแต่ละแห่งมีคณะกรรมการตรวจคุณสมบัติผู้ต้องขังในเรือนจำเข้าหลักเกณฑ์หรือไม่ สำหรับพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้จะเป็นผู้ต้องขังชั้นดี-ชั้นเยี่ยม ไม่ใช่ผู้ต้องโทษคดีฆ่าข่มขืน ฉ้อโกงประชาชน หรือค้ายาเสพติด ส่วนชั้นกลางลงมา-ชั้นเลวมาก จะไม่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษ ทั้งลดวันต้องโทษ และปล่อยตัว ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษฉบับนี้ คาดว่าจะสามารถปล่อยตัวผู้ต้องขังที่ได้รับการอภัยโทษลอตแรกได้ภายใน 3 วัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องโทษน้อยไม่เกิน 2 ปี,สำหรับกลุ่มผู้ต้องขังที่มีชื่อเสียงที่เข้าข่ายได้รับสิทธิ์อภัยโทษปล่อยตัวรอบนี้ อาทิ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ และผู้ต้องขังคดีรื้อบาร์เบียร์ที่ต้องโทษจำคุกคนละ 2 ปี อาจได้รับสิทธิ์ หากคุณสมบัติครบถ้วน แต่ขณะนี้ทราบว่ากรณีนายชูวิทย์ คณะกรรมการพิจารณายังไม่ส่งเรื่องมายังกรมราชทัณฑ์ คาดว่าอยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนจะมีการปล่อยตัววันไหนขึ้นอยู่กับคณะกรรมการพิจารณาแต่ละเรือนจำ หลังจากนั้นจะนำเอกสารให้ศาลพิจารณา หากศาลอนุมัติจะส่งหนังสือไปยังเรือนจำทำการปล่อยตัว,ผู้ต้องโทษรายนั้นๆ ส่วนนายเฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋ง กระทำความผิดซ้ำจนถูกนำตัวเข้าคุมขังตามกำหนดโทษที่ได้รับการพักไว้ในเรือนจำกลางบางขวาง ไม่เข้าข่ายได้รับการอภัยโทษ เพราะถูกลดชั้นปรับเป็นนักโทษชั้นเลว อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าว,สำหรับนายชูวิทย์กับพวก 30 คน ถูกจับกุมในคดีสั่งกลุ่มชายฉกรรจ์รื้อบาร์เบียร์ ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี เมื่อวันที่ 28 ม.ค.59 ส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อมาขอโอนย้ายไปเป็นผู้ช่วยผู้คุมที่ทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ จนถึงปัจจุบัน และหากได้รับเอกสารจากศาลยืนยันการปล่อยตัว จะถูกปล่อยที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์,นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องขังในคดีสำคัญ อาทิ คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้บริษัทในกลุ่มของบริษัท กฤษดามหานคร ศาลพิพากษาจำคุก 18 ปี เป็นนักโทษชั้นดีเยี่ยม จะได้รับการลดวันต้องโทษ 1 ใน 4 ของโทษ ส่วนนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือ พิมพ์ในเครือผู้จัดการ และอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ผู้ต้องขังคดีทำเอกสารรายงานการประชุมเท็จ ค้ำประกันกู้เงิน ธนาคารกรุงไทยกว่า 1,000 ล้าน ศาลฎีกาตัดสินจำคุก 20 ปี ไม่ได้เข้าหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษฉบับนี้ เนื่องจากนายสนธิเป็นนักโทษชั้นกลาง รวมถึง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หรือหมอเลี้ยบ อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 1 ปี เมื่อวันที่ 25 ส.ค.59 เนื่องจากเป็นผู้ต้องขังชั้นกลางเช่นกัน,ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสแรกนับแต่ขึ้นทรงราชย์ สืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ.2559 ว่า หลักเกณฑ์ในการพระราชทานอภัยโทษ คล้ายกับหลักเกณฑ์ในการพระราชทานอภัยโทษเนื่องในวโรกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 และในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อให้โอกาสแก่ผู้ต้องขังประพฤติตนเป็นพลเมืองดี และจากการสำรวจเบื้องต้นผู้ที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษถึงขั้นปล่อยตัว มีนักโทษชั้นดีหรือดีเยี่ยม ตามหลักเกณฑ์ที่วางไว้ และได้รับโทษมาแล้วเป็นส่วนใหญ่ มีประมาณ 3 หมื่นคน ส่วนผู้ได้รับการพระราชทานอภัยโทษด้วยการลดโทษลงมามีประมาณ 6-7 หมื่นคน ส่วนรายชื่อผู้ได้รับการปล่อยตัวจะเป็นใครบ้างนั้น ไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาคณะกรรมการตาม พ.ร.ฎ.ดังกล่าว,สำหรับรายชื่อผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์ได้รับการอภัยโทษ มีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เข้าหลักเกณฑ์และเงื่อนไข คาดว่า พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือ เสธ.หิ จะได้รับการพิจารณาปล่อยตัวเช่นเดียวกับนายชูวิทย์ด้วย ส่วนผู้ต้องขังในคดีรื้อบาร์เบียร์ เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ และ พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือ เสธ.หิ จำคุกเป็นเวลา 2 ปี ส่วนจำเลยอื่น 29 คน รวมทั้ง พ.ต.ธัญเทพ ธรรมธร หรือ เสธ.แอ๊ป ศาลลงโทษจำคุก 2 ปี 15 วัน ถึง 4 ปี ถูกฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ทางกรมราชทัณฑ์ยังต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล ว่าเข้าหลักเกณฑ์ได้รับการอภัยโทษด้วยหรือไม่ | ซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานอภัยโทษ นักโทษชั้นดีผ่านเกณฑ์ปล่อยตัว 3 หมื่นราย อีก 3 วันได้รับอิสรภาพ ฮือฮาเจ้าพ่ออ่าง ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ -เสธ.หิ ผู้ต้องขังรื้อบาร์เบียร์ เข้าข่ายได้สิทธิ์นักโทษชั้นดี ส่วน พ.ต.เฉลิมชัย | null | ข่าวหน้า1,ร.10 พระราชทานอภัยโทษ,ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์,หิมาลัย ผิวพรรณ,นักโทษชั้นดี | https://www.thairath.co.th/content/809542 |
ปะการัง เริ่มฟอกขาว 10% น้ำทะเลอุ่นขึ้นทะลุ 31 องศาฯ | วันนี้ (28 เม.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต รายงานว่า จากการติดตามสถานการณ์อุณหภูมิผิวหน้าน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเว็บไซต์ภัยพิบัติ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ของอุณหภูมิผิวหน้าน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยค่าอุณหภูมิมากกว่า 30 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา จึงได้ทำการสำรวจการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิน้ำทะเล และสถานภาพปะการังบริเวณหาดในยาง อุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ตจากการสำรวจพบว่าอุณหภูมิน้ำทะเลที่ระดับความลึก 1-4 เมตร มีอุณหภูมิ 31 องศาเซล เซียส ปะการังในพื้นที่ประมาณร้อยละ 10 เกิดการฟอกขาว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโคโลนีของปะการังเขากวาง และปะการังดอกเห็ด นอกจากนี้ยังพบว่าบางโคโลนีของปะการังโขด เริ่มมีสีซีดจาง แต่ยังไม่พบการตายของปะการังจากการฟอกขาวทั้งนี้หากอุณหภูมิยังคงสูงอยู่อย่างต่อเนื่อง จะทำให้สถานการณ์ปะการังฟอกขาวรุนแรงขึ้น และส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของแนวปะการังทั้งในระยะสั้น และระยะยาวภาพ:ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 ภูเก็ตไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์ รศ.สุชนา ชวนิชย์ อาจารย์ประจำภาควิชวิทยาศาสตร์ ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทยาลัย ระบุว่า แนวโน้มปะการังทะเลไทยเกิดปัญหาเสื่อมโทรมทั้งจากการท่องเที่ยว การประมง แต่ในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมาปะการังเผชิญปัญหาภาวะโลกร้อน จากระดับน้ำทะเลที่มีอุณหภูมิสูงมากขึ้น จะเห็นว่าช่วงฤดูร้อน ปะการังฟอกขาวมากขึ้น ซึ่งทิศทางการเสื่อมโทรมของปะการังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เราไม่ต้องให้เกิดปรากฎการณ์แบบการเสื่อมโทรมแบบก้าวกระโดดภาพ:ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 ภูเก็ตนักวิชาการ ระบุว่า ปะการังจะฟอกขาวได้ก็ต่อเมื่ออุณหภูมิน้ำทะเลสูงเพิ่มขึ้น ซึ่งน้ำทะเลอ่าวไทย อุณหภูมิน้ำทะเลจะอยู่ที่ 30 องศาเซลเซียส ไม่เกิน 31 องศาเซลเซียส แต่ถ้าอุณภูมิสูงมากกว่า 31-32 องศาเซลเซียสจะมีโอกาสเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวได้ส่วนทะเลอันดามันมีอุณหภูมิน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 28-29 องศาเซลเซียล ถ้าอุณหภูมิมากว่า 30 องศาเซลเซียส จะทำให้เกิดปะการังฟอกขาวได้ ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิทะเลแต่ละที่ ซึ่งการวัดที่ แสมสาร สัตหีบ จ.ชลบุรี ในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 30-31 องศาเซลเซียล ถือว่าอยู่ในอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงที่จะเกิดปะการังฟอกขาวส่วนปะการังกิ่ง ปะการังโขด พบมากในทะเลไทย ซึ่งต้องเฝ้าติดตามดูสถานการณ์ที่เปลี่ยน แปลง ในอนาคตหาเกิดเหตุสุดวิสัยจริงๆ กับปะการังที่ทำให้ไม่สามารถขยายพันธ์ุได้การ นำสเปิร์มมาแช่เยือกแข็งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทางทีมวิจัย จุฬาฯ ดำเนินการในขณะนี้ เพื่อรองรับการสูญพันธ์ุหรือ การลดลงของปะการังบางสายพันธุ์ การผสมเทียมจะทำให้ปะการังมีโอกาสรอดได้ 40-50% นับว่าเป็นอัตราสูงเมื่อเทียบกับธรรมชาติที่มีโอกาสรอดเพียง 0.001 เท่านั้นสำหรับปัจจุบัน มีปะการังที่พบในประเทศไทย กว่า 70 สายพันธ์ุ มากกว่า 200 ชนิด ทั้งในอ่าวไทย และอันดามัน แต่ภัยคุกคามที่เกิดจากมนุษย์ และโลกร้อน ส่งผลให้ปะการังตาย หรือเกิดปรากฎการณ์ฟอกขาวในแต่ละปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนแบบนี้ และทำให้บางสายพันธ์ุเสี่ยงสูญพันธ์ุภาพ:ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 ภูเก็ต | น้ำทะลฝั่งอันดามันที่ระดับความลึก 1-4 เมตรมีอุณหภูมิสูงขึ้นแตะ 31 องศาเซลเซียส เริ่มพบปะการังเขากวาง ปะการังดอกเห็ด และปะการังโขด ที่เริ่มฟอกขาวประมาณ 10% นักวิชาการ ระบุปีนี้ร้อนจัดแนวโน้มน่าเป็นห่วง | สิ่งแวดล้อม | ปะการังฟอกขาว,อากาศร้อน,อุทยานแห่งชาติสิรินาถ,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/279613 |
บิ๊กน้อย นำ ส.ว. กมธ. สัมมนาทิศทางพัฒนากีฬา หวังช่วยหลังวิกฤติโควิด | แก้ไข ผลักดันผ่านช่องทางวุฒิสภาเมื่อวันที่ 16 ส.ค.63 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ลาดพร้าว พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ สมาชิกวุฒิสภาในฐานะประธานกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภา เปิดการสัมมนา ทิศทางการพัฒนากีฬาและอุตสาหกรรมกีฬาไทย จากสถานการณ์โควิด-19 โดยมีหน่วยงานราชการ สมาคมกีฬา ผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมกีฬา จำนวน 300 คน เข้าร่วมกิจกรรมพล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวเปิดสัมมนาความตอนหนึ่งว่า การกีฬามีคุณค่าในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และส่งผลต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ซึ่งทุกประเทศก็เป็นเช่นเดียวกัน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการปฏิรูปประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการทำแผน ทั้งนี้การสัมมนานอกจากจะเป็นการให้กำลังใจคนในแวดวงกีฬาแล้ว ยังมีความสำคัญต่อการพัฒนากีฬาและแก้ไขปัญหาในวงการกีฬาหลังเกิดโควิด โดยเป็นการรับฟังปัญหาจากผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง และรับฟังแนวทางในการเยียวยาแก้ไขจากส่วนราชการต่างๆ ซึ่งกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภาจะรวบรวมผลการสัมมนาไปดำเนินการตามกระบวนการทางวุฒิสภาเพื่อผลักดันและขับเคลื่อนแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อไป. | บิ๊กน้อย นำวุฒิสมาชิก หน่วยราชการ สมาคมกีฬา ผู้ประกอบการ จัดสัมมนา ทิศทางการพัฒนากีฬาและอุตสาหกรรมกีฬาไทย จากสถานการณ์โควิด-19 หวังต่อยอดพัฒนาประเทศ และให้กำลังใจแวดวงกีฬา เพื่อเยียวยา | ข่าว,ทั่วไทย | บิ๊กน้อย,สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์,กมธ.การกีฬา,ทิศทางพัฒนากีฬา,โควิด,โควิด-19,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1911404 |
เลวาน ยิงชัย พี่เสือ ลิ้นห้อยเคี้ยวบ๊วยไม่อร่อย 1-0 ยังนำฝูง | การแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี ประจำวันที่ 13 ธ.ค. เป็นการพบกันในคู่ระหว่าง เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิก เปิดบ้านอัลลีอันซ์ สเตเดียมพบกับ เอฟซี โคโลญจน์ ทีมบ๊วย,เกมในครึ่งแรกเสือใต้บุกหนักแต่เจาะแนวรับของทีมบ๊วยไม่ได้ จบครึ่งแรกเสมอแบบไร้สกอร์ 0-0,กระทั่งนาทีที่ 60 เสือใต้ ก็ได้ประตูออกนำจนได้ 1-0 บัวเต็ง ชิพฝห้กับ มุลเลอร์ โขกชงต่อให้ เลวานดอฟสกี ยิงโล่งๆเข้าไป,อีก 5 นาทีต่อมาเสือใต้ไม่ได้ลูกที่สองเหลือเชื่อ โกมาน ได้โขกเหน่งๆแต่บอลไปจูบคานอย่างน่าเสียดาย,เสือใต้ยังไม่ได้ลูกที่สอง ฮาเมส โรดริเกซ ได้ปั่นโค้งๆบอลกำลังเสียบเสาอยู่แล้วแต่ ทิโม ฮอร์น เซฟได้อย่างเหลือเชื่อ,พอเสือใต้ไม่ได้ประตูในช่วงท้ายเกมนาทีสุดท้าย โคโลญจน์ เกือบช็อกตีเสมอ ลูคัส คลันเตอร์ ได้ปั่นด้วยขวาแต่ ทอม สตาร์ก ปัดเอาไว้ได้,จากนั้นเสือใต้รักษาสกอร์นำไว้ได้สำเร็จ จบเกมการแข่งขัน บาเยิร์น มิวนิก เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ โคโลญจน์ หืดจับ 1-0 เก็บสามแต้มรั้งจ่าฝูงต่อไปหนีห่าง ชาลเก อันดับสอง 9 แต้ม,ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่นมีดังนี้,ฮอฟเฟนไฮม์ ชนะ สตุ๊ดการ์ด 1-0,ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 1-0,แฮร์ธา เบอร์ลิน ชนะ ฮันโนเวอร์ 3-1,ชาลเก ชนะ เอาก์สบวร์ก 3-2 | โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี สวมบทซัลโวประตูชัยพา เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิก เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ทีมบ๊วย โคโลญจน์ หืดจับ 1-0 เก็บสามแต้มรั้งจ่าฝูงต่อไป | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | บุนเดสลีกา,บาเยิร์น มิวนิก,เอฟซี โคโลญจน์,โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี,ผลบอล | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/1152363 |
ไม่ซ้ำรอยเหมือนปี 60 ผู้ว่าฯ สกล ยันมีบริหารจัดการเฝ้าระวังน้ำท่วมตลอด (คลิป) | เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2562 นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 23-28 สิงหาคม 2562 จังหวัดสกลนคร ได้รับอิทธิพลจากร่องความกดอากาศต่ำ ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ส่งผลทำให้เกิดน้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมฉับพลันในเขตพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวานรนิวาส และอำเภออากาศอำนวย,ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวต่อว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนคร ได้ประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยอุทกภัยแล้ว 2 อำเภอ 14 ตำบล 146 หมู่บ้าน 646 ครอบครัว ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,918 คน ในส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ สำหรับ พายุโซนร้อน โพดุล ที่กำลังเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 30 สิงหาคม 2562 อาจทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ทำให้ชาวบ้านหวาดผวาจากน้ำท่วม ซึ่ง นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย จะลงพื้นที่ในวันที่ 30 ส.ค.,นายวิทยา กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ทุกอำเภอ ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แจ้งเตือนประชาชนในระดับสูงสุดในพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมทั้งให้จัดตั้งชุดเผชิญเหตุและเข้าเผชิญเหตุช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่หากมีสถานการณ์เกิดขึ้น ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจเทศบาลนครสกลนคร ให้ปักธงสัญลักษณ์แจ้งเตือนระดับน้ำหนองหาร เป็น สีน้ำเงิน หมายถึง สถานการณ์อยู่ในภาวะเฝ้าระวังให้ติดตามข้อมูลข่าวสารใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ (War Room) ให้โครงการชลประทานจัดการจราจรน้ำ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสกลนคร ทำการพร่องระบายน้ำหนองหารเพื่อรองรับน้ำใหม่,ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันได้แบ่งมอบพื้นที่หน่วยงานรับผิดชอบ ระบบการสื่อสาร/การตอบโต้ข่าวสารที่เป็นเท็จ Information Operations (IO) เพื่อสร้างความเข้าใจในสถานการณ์ที่ถูกต้องให้กับประชาชน และขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกว่าจะเกิดน้ำท่วมเช่นเดียวกับปี 2560. | ผู้ว่าฯ สกลนคร ย้ำขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกกับพายุโพดุล ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมและแบ่งเขตรับผิดชอบกันอย่างเป็นระบบ รับประกันว่าจะไม่มีเหตุการณ์ซ้ำรอยกับน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2560 | ข่าว,ทั่วไทย | พายุโพดุล,โพดุล,พายุโซนร้อนโพดุล,สกลนคร,น้ำท่วม,วิทยา จันทร์ฉลอง,หนองหาร,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1648803 |
กรมการกงสุล เปิดทำ พาสปอร์ตรุ่นใหม่ รูปเล่มเก๋ ดีเดย์ 8 ก.ค.นี้ | ให้บริการชั่วคราวแทนนายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการกงสุลจะเปิดให้บริการทำหนังสือเดินทางรุ่นใหม่ ในวันที่ 8 ก.ค.63 พร้อมกันท่ัวประเทศ ที่สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดโดยจะปิดบริการทำหนังสือเดินทางที่กรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะ ไปจนถึงสิ้นปี เพื่อปรับปรุงสถานที่และติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ แต่ได้เปิดสำนักงานชั่วคราวเป็นศูนย์บริการใหญ่อีกแห่งที่ ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ (มาบุญครอง) เพื่อให้บริการเต็มรูปแบบแทนที่กรมการกงสุลระหว่างปิดปรับปรุงสำหรับหนังสือเดินทางรุ่นใหม่จะมีรายละเอียดในรูปเล่มมากขึ้นกว่ารุ่นเก่า เท่าที่สามารถเปิดเผยได้ มีดังนี้1.การถ่ายภาพจะมีการเก็บรูปหน้าจริงไว้ในหนังสือเดินทางด้วย2.ลายเซ็นจะนูนสัมผัสได้3.มีภาพช้างยกงวงอยู่ในหน้าหนังสือเดินทาง เวลากรีดทั้งเล่มจะเห็นภาพช้างยกงวงขึ้นลง4.หน้าหนังสือเดินทางทุกหน้าจะพิมพ์ภาพสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ชาติไทย ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา จนถึงรัตนโกสินทร์ พร้อมคำบรรยายสถานที่ เพื่อให้ความรู้แก่คนไทยทุกคน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่จะได้ศึกษาระหว่างนั่งรอขึ้นเครื่องบินหรือเดินทางนอกจากนี้ยังมีบริการให้ถือหนังสือเดินทางได้ 10 ปี ซึ่งจะให้บริการได้ตั้งแต่เดือน ส.ค.63 ส่วนรายละเอียดการเก็บข้อมูลทางชีวภาพตัวบุคคล เช่น ม่านตา และอื่นๆ เป็นการเก็บข้อมูลชั้นความลับในทางราชการไม่เป็นที่เปิดเผยนายชาตรี เปิดเผยอีกว่า นอกจากเปิดสำนักงานชั่วคราวศูนย์ใหญ่ที่ศูนย์การค้าเอ็ม บี เคฯ แล้ว ได้เปิดสำนัก งานหนังสือเดินทางชั่วคราวในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพิ่มอีก 3 แห่ง ดังนี้ส่วนในต่างจังหวัดเพิ่มอีก 4 แห่ง ดังนี้นอกจากที่เปิดบริการอยู่เดิม 14 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเปิดบริการวันจันทร์-พุธ-ศุกร์ ยกเว้นสถานี MRT ปิดปรังปรุง จะเปิดบริการเดือน ส.ค. ส่วนในต่างจังหวัดช่วงนี้เปิดบริการวันจันทร์-พุธ-ศุกร์ ได้แก่ ขอนแก่น เชียงใหม่ นครราชสีมา สงขลา ยะลา อุบลราชธานี เมืองพัทยา อุดรธานีส่วนเปิดบริการเฉพาะวันพุธ ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต นครสวรรค์ เชียงราย พิษณุโลก และจันทบุรี หลังจากสถานการณ์การแพร่ะบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายจึงจะเปิดบริการทุกวัน. | กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เปิดทำหนังสือเดินทางรุ่นใหม่ ดีเดย์ 8 ก.ค.63 พร้อมกันทั่วประเทศ โดยปิดศูนย์ใหญ่ที่กรมการกงสุลเพื่อปรับปรุงถึงสิ้นปี แนะใช้ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ | ข่าว,สังคม | กรมการกงสุล,พาสปอร์ต,พาสปอร์ต 10 ปี,พาสปอร์ตรุ่นใหม่,ทำพาสปอร์ต,passport,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1883493 |
สมาคมข้าราชการอาวุโส | คณะกรรมการชุดใหม่ของสมาคมล้วนเคยเป็นอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของหลายหน่วยงานดังนี้,นายไพโรจน์ พรหมสาส์น, เป็นนายกสมาคม โดยมีอุปนายกสมาคม ประกอบด้วย นายเผด็จภัย มีคุณเอี่ยม อดีตรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุพล ศรีพันธุ์ อดีตอธิบดีกรมการท่องเที่ยว พลตรีหญิงพูลศรี เปาวรัตน์ อดีตนายทหารปฏิบัติการพิเศษ ศปก.ทบ. และนายภาณุ สังขะวร รองเลขาธิการ ก.พ.,ส่วนกรรมการ ได้แก่ นายกู้เกียรติ สุวรรณลักษณ์ อดีตรองปลัดกระทรวงเกษตรฯ นายทนงศักดิ์ อุทยานานนท์ อัยการอาวุโส นายปรีชา ออประเสริฐ อดีตอธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายสุขสันต์ มลิทอง อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ พลเอก พบสุข สุธรานันท์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ บก.สส. นายทวี ศรีคร้ามครัน อดีต ผชช. กรมการพัฒนาชุมชน ดร.สมโภชน์ นพคุณ อดีตรองเลขาธิการ ก.พ. ดร.ภัทรียา สุมะโน อดีตรองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ รศ.ดร.ดารณี อุทัยรัตนกิจ อดีต ผอ.โรงเรียนสาธิตเกษตร นายจเด็จ อินสว่าง อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายธรรมรักษ์ การพิศิษฎ์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ ระดับ 11 ส.ศ.ช. พลตำรวจเอก สุนทร ซ้ายขวัญ อดีตรอง ผบ.สตช. พลโท กมล สุวภาพ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก นางจุฬารัตน์ สุธีธร อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง นายภักดี รัตนผล อดีตผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย นายวสันต์ วรรณวโรทร อดีตรองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น,นางพรรณี แก่นสุวรรณ, อดีต ผวจ.ปราจีนบุรี เป็นกรรมการและนายทะเบียน นางไพเราะ สุดสว่าง อดีตรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นกรรมการและเหรัญญิก นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ อดีต ผวจ.เชียงใหม่ เป็นกรรมการและเลขาธิการสมาคม นางสาววรญา เกษมพุทธคุณ (นิติกร สำนักงาน ก.พ.) ผู้ช่วยเลขาธิการสมาคม,นอกจากนั้นยังได้มีประกาศแต่งตั้งอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในอดีตเป็นที่ปรึกษาสมาคมชุดใหม่ ดังนี้ นายจีระพงษ์ สิวายะวิโรจน์ (หัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี) นายอรุณ งามดี (อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์) นายมานิต วิทยาเต็ม (อธิบดีกรมศุลกากร) คุณหญิงอุไรวรรณ ศิรินุพงศ์ (รองอธิบดีกรมธนารักษ์) นายยรรยง คุไรวาท (ผอ.ขสมก.) ดร.ทิวา สรรพกิจ (อธิบดีกรมป่าไม้) ดร.บุญปลูก ชายเกตุ (เลขาธิการ ก.พ.), ,นายศรีภูมิ ศุขเนตร (ปลัดกระทรวงคมนาคม) พลเอก ธีรเดช มีเพียร (ปลัดกระทรวงกลาโหม) นายขจัดภัย บุรุษพัฒน์ (เลขาธิการ สมช.) นายพรชัย นุชสุวรรณ (ผอ.สำนักงบประมาณ) ร้อยตำรวจตรี เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ (ปลัด กทม.) นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ (ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี) นายธีรยุทธ์ หล่อเลิศรัตน์ (รองเลขาธิการ ก.พ.) นายสีมา สีมานันท์ (เลขาธิการ ก.พ.) นางพรนิภา ลิมปพยอม (ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ) นางเบญจวรรณ สร่างนิทร (เลขาธิการ ก.พ.) นายสมภพ อมาตยกุล (ประธาน อ.ก.พ.) นาย คุรุจิต นาครทรรพ (ปลัดกระทรวงพลังงาน) นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช (อธิบดีกรมการประกันภัย) นายแพทย์ธีรชัย ฉันทโรจน์สิริ (ผอ.รพ.สถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์) นางปาริชาติ คชรัตน์ (อธิบดีกรมการบินพลเรือน) นางเมธินี เทพมณี (เลขาธิการ ก.พ.ปัจจุบัน) นายปรีชา นิศารัตน์ (รองเลขาธิการ ก.พ.),คณะกรรมการและที่ปรึกษาสมาคมชุดนี้มีวาระการดำเนินงาน 3 ตั้งแต่ พ.ศ.2560-2563.,ซี.12 | สมาคมข้าราชการอาวุโสแห่งประเทศไทยได้จัดการประชุมใหญ่และมีมติเป็นเอกฉันท์เลือกนายไพโรจน์ พรหมสาส์น อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นนายกสมาคมคนใหม่ | null | มุมข้าราชการ,ซี.12,สมาคมข้าราชการอาวุโส,ไพโรจน์ พรหมสาส์น,นายกสมาคมข้าราชการอาวุโส | https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/997444 |
ใจหายวาบ โจรย่องฉกทรัพย์หลับไม่รู้เรื่อง เจ้าของเบเกอรี่สูญเงินร่วมแสน | เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 ธ.ค. นายธีระยุทธ์ ทิพย์วงศ์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/1 หมู่บ้านสุมลฑา หมู่ 2 ต.ท่ายาง พ่อค้าเปิดร้านขายเบเกอรี่ในตลาดสดเทศบาลท่ายาง เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.พงษ์วุฒิ วุฒิพงษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนพร้อมกับภรรยา และลูก รวม 5 คน นั่งกินข้าวดูทีวีด้วยกันอยู่ภายในบ้าน หลังจบรายการข่าวตอนสามทุ่ม ก็ชวนกันเข้านอน โดยภรรยา และลูกนอนด้วยกันภายในห้องใหญ่ ส่วนตนนอนอยู่หน้าทีวีกลางบ้าน,ก่อนเข้านอนภรรยาได้วางกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง ภายในมีเงินสดที่เก็บสะสมจากการเปิดร้านขายเบเกอรี่ที่ต้องใช้จ่ายหมุนเวียนเกือบ 50,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้น พร้อมพระรูปเหรียญหลวงปู่ทวดองค์เล็กเลี่ยมทอง 1 องค์ รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 70,000 บาท และเอกสารสำคัญทางราชการหลายรายการ วางไว้ที่ชั้นวางของกลางห้องเป็นประจำทุกวัน ,นายธีระยุทธ์ กล่าวต่อว่า พอตื่นเช้ามาเตรียมตัวจะไปเปิดร้านขายของ ก็ไม่เห็นกระเป๋าใส่เงินที่วางอยู่บนชั้น ถึงกับใจหายวาบเกิดความเสียดายที่ทรัพย์สินถูกคนร้ายเข้ามาขโมยไป จึงเดินสำรวจรอบตัวบ้าน ไปพบรอยเท้าของคนร้ายที่ปีนเข้ามาทางหน้าต่างข้างบ้าน ก่อนย่องเข้ามาฉกเอากระเป๋าใส่เงินหลบหนีออกไปทางกำแพงหลังบ้าน ซึ่งเป็นป่ารก ตัดสินใจเข้าแจ้งความให้ตำรวจเร่งตามจับตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย | พ่อค้าขายเบเกอรี่ที่ทุ่งใหญ่ เมืองคอน ตกดึกหลับสนิทกันทั้งบ้าน โจรย่องเบางัดหน้าต่าง เช้าตื่นขึ้นมาตกใจ ฉกเงินสด สร้อยทองคำ พระเลี่ยมทอง บัตรเอทีเอ็ม มูลค่าร่วมหลายแสนบาท | ข่าว,ทั่วไทย | หลับ,งัดบ้าน,ฉกทรัพย์,ย่องเบา,นครศรีธรมราช,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1142962 |
‘ไม่อยากเห็นเธอร้องไห้’ ฟุตบอลหญิงทีมชาติอังกฤษกับความพ่ายแพ้ที่ชนะใจผู้ชม | จากที่เฝ้าติดตามฟุตบอลโลกหญิงมาตั้งแต่ต้น ผมมีคำถามหนึ่งที่ติดในใจมาตลอดครับว่าบนโลกใบนี้จะมีทีมหญิงที่ไหนหยุดสหรัฐอเมริกาได้ไหมเท่าที่เฝ้าดู ความหวังมีไม่มากนัก เพราะแม้หลายทีมจะเล่นได้ดี แต่จะหาทีมใดที่เล่นในมาตรฐานเดียวกับชาติที่ถือเป็นมหาอำนาจของฟุตบอลหญิงนั้นยังเป็นเรื่องที่ยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฟุตบอลโลกหนนี้ที่แข้งสาวจากดินแดนแห่งเสรีภาพมีพัฒนาการทางการเล่นก้าวไปไกลกว่าเดิมอิตาลีเป็นทีมที่ผมชื่นชอบในสไตล์การเล่น แต่พวกเธอไปไม่ถึงดวงดาว เช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่สรีระของพวกเธอกลายเป็นข้อเสียเปรียบ ไม่อาจใช้เชิงฟุตบอลเข้าต่อสู้ได้เหมือนก่อนเนเธอร์แลนด์เป็นอีกทีมที่น่าสนใจ พวกเธอมีเกมรุกที่ดุดัน โดยเฉพาะลูกเซตเพลย์ทีเด็ดแต่ทีมที่เป็นความหวังสูงสุดคือทีม สิงโตสาว หรือ The Lioness อังกฤษ ที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจตลอดรายการตั้งแต่นัดแรกเป็นต้นมาถึงจะชอบดูฟุตบอลอังกฤษ แต่ผมไม่ใช่แฟนทีมชาติอังกฤษ แน่นอนว่าไม่ได้เป็นแฟนทีมหญิงด้วย แม้ว่าตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมาจะเห็นข่าวของฟุตบอลหญิงชิงพื้นที่สื่อได้มากพอสมควรเพิ่งจะมาในฟุตบอลโลกหนนี้ครับที่ผมได้เห็น ได้ดู ได้ติดตามมากหน่อยและพบว่าทีมชาติหญิงของอังกฤษทีมนี้ไม่ธรรมดามันมีความรู้สึกว่าหากจะมีทีมไหนหยุดสหรัฐอเมริกาได้ ก็ต้องทีมของ ฟิล เนวิลล์ นี่ล่ะแดนหลังมี สเตฟ เฮาจ์ตัน ปราการเหล็กที่เป็นภรรยาของ สตีเฟน ดาร์บี อดีตนักเตะเยาวชนของลิเวอร์พูล ผู้โชคร้ายป่วยเป็นโรคร้ายเซลล์ประสาทเสื่อม (ซึ่งนั่นยิ่งทำให้อยากเอาใจช่วยเธอมากขึ้น) ลูซี บรอนซ์ แบ็กขวาจอมลุยที่ฟิลบอกว่าเก่งที่สุดในโลก จิลล์ สกอตต์ กองกลางเชิงสูง นิกิตา พาร์ริส ปีกจรวดที่ถูกยกย่องว่าเป็น The Next Big Thing ของวงการฟุตบอลหญิง (ส่วนตัวผมรู้สึกเหมือนเห็น ราฮีม สเตอร์ลิง ที่เป็นผู้หญิง) ในแดนหน้ายังมี ฟราน เคอร์บี และเอลเลน ไวต์ (บ้างก็เรียกเธอว่า White Hot เพราะฟอร์มร้อนแรงในรายการนี้)อังกฤษเล่นฟุตบอลแบบมีสไตล์ มีระบบระเบียบ มีวิธีการเล่น ที่สำคัญพวกเธอมีใจ และเป็นสิงโตสาวที่ใจใหญ่มากด้วยแต่ถึงตรงนี้หลายคนก็คงทราบผลแล้วนะครับว่าพวกเธอทำไม่สำเร็จ อังกฤษถูกหยุดไว้ที่รอบรองชนะเลิศเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน เมื่อพ่ายต่อสหรัฐอเมริกาไปแบบหวุดหวิด 2-1 อย่างน่าเสียดายเสียดายแรกที่ลูกยิงของ เอลเลน ไวต์ ถูกตัดสินว่าล้ำหน้าจาก VAR ซึ่งเป็นการตัดสินที่ถูกต้องแล้วเสียดายต่อมาคือลูกจุดโทษในช่วงก่อนหมดเวลาแค่ 3 นาที แต่ สเตฟ เฮาจ์ตัน กัปตันทีมที่ถูกมอบหมายให้เป็นคนทำหน้าที่ยิงไปติดเซฟของ อลิสซา แนเฮอร์ ที่เดาทางถูก พุ่งไปรับได้แบบไม่มีกระฉอกและเสียดายที่สุดคือนักเตะเกือบทั้งหมดยกเว้น เอลเลน ไวต์ เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน พวกเธอสู้ประสบการณ์ความเก๋า ความนิ่ง และความเชิด (จนหลายคนหมั่นไส้) ของนักเตะสหรัฐอเมริกาไม่ไหวสหรัฐอเมริกาเป็นทีมที่ดีกว่าชัดเจนครับ ขนาดว่าในเกมนี้พวกเธอไม่มี เมแกน ราปิโน กัปตันทีมสาวห้าวที่เป็นที่จดจำจากผมสีม่วงและวาจาห้าวหาญที่กล้าชนกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนและหายตัวไปจากรายชื่อของทีมอย่างปริศนาแม่จิ้งจอกสาว อเล็กซ์ มอร์แกน ซึ่งฉลองวันเกิดอายุครบ 30 ปีของเธอด้วยประตูที่ 2 ของทีมและเป็นประตูชัยในเกมนี้ด้วยท่าฉลองวันเกิด จิบชา ที่ทำให้เกิดสงครามบนโซเชียลมีเดีย นำทีมสยบอังกฤษได้อย่างไม่ถึงกับยากเย็นนอกจากเธอยังมี คริสเตียน เพรสส์ (ที่ทำประตูขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว) ลินซีย์ โฮแรน จอมทัพตรงกลางสนาม ไปจนถึง โรส ลาเวลล์ จอมพลิ้วที่สร้างสรรค์เกมได้อย่างโดดเด่นตั้งแต่ต้นเกมยิ่งช่วงท้ายเกมหลังจาก สเตฟ เฮาจ์ตัน ยิงจุดโทษพลาด ซึ่งยังเหลือเวลาในช่วงทดเวลาบาดเจ็บอีก 7 นาที เราจะเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างทั้งสองทีม โดยเฉพาะเรื่องของประสบการณ์ ขณะที่นักเตะอังกฤษร้อนรนจนเตะทิ้งเตะขว้าง เรี่ยวแรงกำลังวังชาหมดไปพร้อมๆ กับกำลังใจตามเวลาที่หมดลง นักเตะสาวมะกันเก็บบอลเล่นอย่างมีสติ ฆ่าเวลาอย่างชำนาญราวกับเป็นนักฆ่ามืออาชีพ (และพวกเธอก็เป็นจริงๆ)ก่อนที่เวลาจะหมดลง และสิงโตสาวก็ไม่อาจสะกดกลั้นน้ำตาได้อีกเอลเลน ไวต์ ดาวยิงที่ถูกปฏิเสธประตูที่ 7 ในรายการ ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ฉันกำลังจะร้องไห้ ฉันเสียใจมากที่ไม่ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศขณะที่ สเตฟ เฮาจ์ตัน ซึ่งปกติไม่ได้มีหน้าที่ในการสังหารจุดโทษ แต่เพราะ นิกิตา พาร์ริส มือสังหารอันดับหนึ่งพลาดมาแล้ว 2 ครั้งในรายการนี้ ทำให้เธอในฐานะมือสังหารลำดับต่อมาถูกมอบหมายตั้งแต่ต้นเกมให้รับหน้าที่และเธอพลาด ก็กล่าวอย่างหัวใจสลายว่าเธอ ทำให้ทีมต้องผิดหวังสะเทือนหัวใจสำหรับคนที่ได้เห็นยิ่งนักหลังเกมจบ ฟิล เนวิลล์ ผู้จัดการทีมที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากการทำหน้าที่ ทั้งๆ ที่ตอนรับตำแหน่งถูกวิจารณ์อย่างมาก (เพราะฟิลเคยถูกมองว่าเป็นพวกเหยียดเพศ) จึงขอร้องลูกทีมเพียงสิ่งเดียวอย่าร้องไห้เหตุผลนั้นเรียบง่ายครับ เพราะนักเตะอังกฤษทุกคนได้สู้อย่างสุดหัวใจ และเขาก็ไม่รู้จะเรียกร้องอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้วสำหรับคนอังกฤษเองก็เช่นกัน ถึงจะผิดหวังเพราะคาดหวังเอาไว้สูงกว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่พวกเธอเข้ารอบตัดเชือกได้แบบไม่มีใครคาดหวัง ถึงขั้นที่ฟิลบอกว่าถ้าคราวนี้ตกรอบอีกก็ถือว่า ล้มเหลวแต่มันก็เป็นความล้มเหลวที่เข้าใจได้พวกเธอเจอกับทีมแชมป์โลก ชาติที่มีจำนวนนักฟุตบอลหญิงลงทะเบียนมากถึงเกือบ 4 แสนคน นักฟุตบอลหญิงมีค่าเหนื่อยเฉลี่ยสูงกว่าพวกเธอ 2 เท่า และในขณะที่ Womens Super League (WSL) มีผู้ชมเฉลี่ยแค่นัดละ 833 คนในลีก National Womens Super League (NWSL) ของสหรัฐอเมริกา มีผู้ชมเฉลี่ยถึง 6000 คน (มากกว่าฟุตบอลไทยลีกอีก)สหรัฐอเมริกามี พื้นฐาน ที่ดีกว่าทุกอย่าง สู้ได้ขนาดนี้ก็ดีแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือการที่ Lioness ทุกคนทำให้ชาวอังกฤษไม่เพียงแค่จะสนใจ ซึ่งวัดได้จากตัวเลขสถิติผู้ชม ฯลฯ ที่จับต้องได้พวกเธอยังเอาชนะใจคนทั้งชาติและอาจรวมถึงการชนะใจคนอีกมากมายทั่วโลกThe Lion Queen (ผมเรียกเอง) เป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนมากมาย และน่าจะทำให้เด็กรุ่นใหม่ไม่ว่าจะหญิงหรือชายภูมิใจที่จะสวมเสื้อทีมชาติอังกฤษออกมาเตะฟุตบอลเล่นกันในสนาม หรือข้างถนน หรือที่ไหนก็ตามตรงนี้ก็นับเป็นชัยชนะได้เช่นกันในอนาคต เรื่องการพัฒนาวงการฟุตบอลหญิงในอังกฤษเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยคราวนี้ก็ทำให้ผู้คนรับรู้ สนใจ และเข้าใจได้มากขึ้นแต่มันเป็นเรื่องระยะยาวที่เอาไว้ทีหลังได้เวลานี้ขอเวลาสักวันสองวันให้เหล่าสิงโตสาวได้ทำใจและเตรียมใจพวกเธอยังเหลืออีก 1 นัดให้ลงสนามอย่างน้อยขอเหรียญทองแดงปลอบใจกลับบ้านก็ยังดีพิสูจน์อักษร: | ทีมที่เป็นความหวังสูงสุดว่าจะหยุดสหรัฐอเมริกาได้คือทีม สิงโตสาว หรือ The Lioness อังกฤษ ที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจตลอดรายการตั้งแต่นัดแรกเป็นต้นมาอเล็กซ์ มอร์แกน ฉลองวันเกิดอายุครบ 30 ปีของเธอด้วยประตูที่ 2 ของทีมและเป็นประตูชัยในเกมนี้ด้วยท่าฉลองวันเกิด จิบชา ที่ทำให้เกิดสงครามบนโซเชียลมีเดียเอลเลน ไวต์ ดาวยิงที่ถูกปฏิเสธประตูที่ 7 ในรายการ ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ฉันกำลังจะร้องไห้ ฉันเสียใจมากที่ไม่ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศหลังเกมจบ ฟิล เนวิลล์ ผู้จัดการทีมที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากการทำหน้าที่ ทั้งๆ ที่ตอนรับตำแหน่งถูกวิจารณ์อย่างมาก (เพราะฟิลเคยถูกมองว่าเป็นพวกเหยียดเพศ) จึงขอร้องลูกทีมเพียงอย่างเดียว อย่าร้องไห้ | null | null | https://thestandard.co/the-lioness/ |
ฆ่าโหดสาวแทงพรุน10แผล ฝีมือสามี อีกคนเข้าห้ามเจอกะซวกดับ คาดปมหึงหวง | เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 ต.ค.60 พ.ต.ท.เด่นพงศ์ อุทัยรังษี สารวัตรเวร (สอบสวน) สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง ได้รับแจ้งว่า ที่ร้านอาหารต้นยอคาราโอเกะ ต.ห้วยนาง เปิดให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม มีเหตุทำร้ายร่างกาย มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุเชษฐ์ แก้วขาว ผกก.สภ.ห้วยยอด เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง รุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุภายในร้าน พบศพ นางนุชรี อุปถัมภ์ อายุ 25 ปี สาวร้านคาราโอเกะ ชาว จ.ตรัง มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดปลายแหลม เข้าที่บริเวณเนินอกด้านซ้าย นับ 10 แผล ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อต่อมา คือ นางสิริพรรณ ลิ้มฉุ้น อายุ 51 ปี ชาว จ.ตรัง มีบาดแผลฉกรรจ์ตรงหน้าอก 1 แผล ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.ห้วยยอด ในเวลาต่อมา,พ.ต.อ.สุเชษฐ์ แก้วขาว เปิดเผยว่า จากการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นางนุชรี ผู้ตายได้มีปากเสียงกับ นายกิตติศักดิ์ หรือบัง เพ็ชรมีศรี อายุ 30 ปี ผู้เป็นสามี อาชีพรับจ้างแบกไม้ยางพารา โดยมีสาเหตุมาจากเรื่องหึงหวง เนื่องจาก นางนุชรี เป็นคนหน้าตาดี ทำให้มีผู้ชายมาติดพัน และพูดคุยหลายคน ก่อนถูก นายกิตติศักดิ์ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจ้วงแทงจนถึงแก่ความตาย ส่วนนางสิริพรรณ เป็นแม่ยกของ นางนุชรี เข้าไปห้ามปราม ทำให้ถูกแทงสวนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา รวมเป็น 2 ศพ ก่อนที่ นายกิตติศักดิ์ จะหลบหนีไป,ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับแล้ว กำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ล่าสุดทางผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ได้ประสานพาเข้ามอบตัวแล้ว ทั้งนี้ทราบว่า ผู้ตายเพิ่งแต่งงานได้ประมาณ 3 เดือน วางเงินสินสอด 40,000 บาท และสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท แต่หลังจากอยู่กินกันได้ประมาณ 1 เดือน ผู้ตายได้หลบหนีไปอยู่กรุงเทพฯ กระทั่งกลับมาทำงานร้านคาราโอเกะ เมื่อสามีมาพบจึงมีปากเสียงกัน และก่อเหตุดังกล่าว. | หนุ่มรับจ้างแบกไม้ยางพารา ใช้มีดแทงเมีย 10 แผล ตายคาที่ภายในร้านคาราโอเกะ คาดปมหึงหวง ขณะที่แม่ยกของเมีย เข้ามาห้าม เจอแทงอีกคนจนสาหัส ก่อนไปตายที่ รพ. จ่อประสานมอบตัว | ข่าว,อาชญากรรม | ผัวฆ่าเมีย,ผัวแทงเมีย,ตรัง,หึงหวง,คาราโอเกะ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1094175 |
บริดเจ็ต โจนส์กับไวน์ของเธอส่งผลกระทบอย่างไรต่อทัศนคติของผู้หญิงและอุตสาหกรรมไวน์? | คุณคงจำภาพหญิงสาวจ้ำม่ำ ขี้เมา แถมยังชอบคุยกับตัวเองเหมือนนางเอกละครหลังข่าวประเทศไทยที่ชื่อ บริดเจ็ต โจนส์ จาก Bridget Joness Diary ได้ใช่หรือไม่? เธอคือตัวละครหลักในภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ซึ่งดัดแปลงมาจากนิยายชื่อเดียวกันของเฮเลน ฟีลดิง (Helen Fielding) ที่เล่าเรื่องของผู้หญิงโสดคนหนึ่งที่ชีวิตรักนั้นวุ่นวายอย่างน่าหมั่นไส้ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายมาแล้วทั้งหมด 3 ภาคในระยะเวลากว่า 17 ปีตั้งแต่ปี 2001 ในแฟรนไชส์หนังเรื่องนี้ คุณอาจจะจำได้ว่าหล่อนนั้นเคยใส่บราและกางเกงในตัวน้อยวิ่งตามผู้ชายกลางหิมะมาแล้วในหนังภาคแรก สอนผู้หญิงไทยในคุกร้องเพลง Like A Virgin ของมาดอนน่า ในหนังภาค 2 หรือล้มหน้าทิ่มเพราะจิกส้นสูงเดินบนบ่อโคลนในหนังภาคล่าสุด แต่สิ่งหนึ่งที่คุณอาจไม่เคยสังเกตหรือไม่เคยรู้นั่นคือ เครื่องดื่มแสนโปรดของเธออย่าง ไวน์ นั้นก็เป็นสิ่งที่น่าจดจำไม่แพ้เรื่องราวในหนังเลยทีเดียวไม่ใช่เพราะว่าเธอเป็นสาวขี้เมาที่มีรสนิยม แต่การยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มของบริดเจ็ต โจนส์ทุกครั้งกลับมีเรื่องราวมากกว่านั้น เพราะผู้หญิงเปิ่นๆ คนนี้ส่งผลกระทบอย่างมหาศาลให้กับอุตสาหกรรมไวน์โลกมาแล้วอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อครั้งที่บริดเจ็ต โจนส์ภาคแรกออกฉายในปี 2001 หนังค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในบ้านเกิดอย่างเกาะอังกฤษ ในสหรัฐอเมริกาเอง หรือแม้แต่ในประเทศออสเตรเลียเอง หนังก็ทำรายได้ติด 1 ใน 10 หนังทำเงินของปี แถมยังทำรายได้สูงกว่าหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Pearl Harbor เสียอีก หลังจากนั้นในปี 2004 หนังภาคต่อของบริดเจ็ต โจนส์ในชื่อ Bridget Joness Diary: The Edge of Reason ก็สามารถต่อยอดความสำเร็จในประเทศออสเตรเลียได้จนขนาดที่ในอีกปีให้หลังจากหนังภาค 2 ออกฉายพบว่า มีบทความออกมาสนับสนุนการดื่มไวน์ของบริดเจ็ต โจนส์ว่า มีประโยชน์ โดย ริชาร์ด ฟาร์เมอร์ (Richard Farmer) ได้เขียนเรื่องราวดังกล่าวลงในเว็บไซต์ของกลุ่มผู้ผลิตและประกอบการอุตสาหกรรมไวน์ในออสเตรเลีย เขานำเอายอดขายไวน์ในออสเตรเลียขึ้นมาอ้างอิงกับภาพยนตร์เรื่องนี้พร้อมกับกล่าวว่า อุตสาหกรรมไวน์ออสเตรเลียควรจะต้องขอบคุณบริดเจ็ต โจนส์นะ ฟังดูน่าขัน เพราะเพียงแค่หนังเรื่องเดียว ผู้หญิงคนเดียว และไวน์แก้วเดียวคงจะไม่สามารถส่งผลกระทบอะไรต่ออุตสาหกรรมเครื่องดื่มมีจริตได้ขนาดนั้นซึ่งฟาร์เมอร์ได้อ้างอิงจากบทความของเจมส์ แม็กคอย (James McCoy) นักวิจัยจาก Mintel บริษัทวิจัยการตลาดชื่อดังในอังกฤษอีกทอดหนึ่ง แม็กคอยได้ทำการวิจัยและยกเอาคาแรกเตอร์ของผู้หญิงโสดวัยทำงานแต่กระเป๋าหนักขึ้นมาเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักในงานวิจัยของเขา ซึ่งเขาพบว่าพวกหล่อนที่มีคุณสมบัติครบตามข้างต้น เลือกจ่ายเงินเพื่อซื้อไวน์มากขึ้นโดยให้นิยามว่าเป็น Bridget Jones Generation กล่าวคือ ผู้หญิงในยุคนั้นหันมาเริ่มต้นบริโภคไวน์มากขึ้นทั้งในบ้านและนอกบ้าน ด้วยยอดขายไวน์ที่พุ่งสูงขึ้น 30% ตั้งแต่ปี 1999 จนถึงปี 2003 อันเป็นช่วงที่ภาพยนตร์ภาคแรกของบริดเจ็ต โจนส์ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ซึ่งส่งผลให้ยอดขายและยอดส่งออกของไวน์จากประเทศออสเตรเลียพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วยไม่ใช่แค่ในออสเตรเลียเท่านั้น แต่การที่มีผู้หญิงแบบบริดเจ็ตเกิดขึ้นมาบนโลกนั้นส่งผลไปถึงการปรับเปลี่ยนค่านิยมของ ผู้หญิง กับ การดื่มไวน์ ไปอย่างสิ้นเชิง อย่างในบทความหนึ่งในปี 2004 โดยวิกตอเรีย เจมส์ (Victoria James) จากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอย่าง The Japan Times เองก็ยังเคยกล่าวว่า เราเห็นยุคอนาคตของอุตสาหกรรมไวน์แล้วล่ะ และเราจะเรียกมันว่ายุคบริดเจ็ต โจนส์ ที่กล่าวเช่นนั้นก็เพราะเจมส์ได้เล็งเห็นว่าบริดเจ็ต โจนส์คือผู้ที่เปลี่ยนแปลงค่านิยมการดื่มไวน์ในกลุ่มผู้หญิงไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้การดื่มไวน์นั้นเข้าถึงได้ง่ายดายขึ้นมากกว่าจะเป็นแค่เรื่องของเครื่องดื่มสำหรับคนวัย 50 ขึ้นไป และทำให้ไวน์ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องดื่มชนิดหนึ่ง แต่หมายถึงการบ่งบอกไลฟ์สไตล์ส่วนตัวอีกด้วย และกลายเป็นว่าผู้หญิงในวัยที่อ่อนกว่า ที่มีอายุราวประมาณ 20-30 ปีหันมาดื่มไวน์กันมากขึ้น เพราะแลดูดี มีระดับ แถมยังไปได้ดีกับอาหารหลายๆ จานอีกด้วยแต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่ด้านบวกเท่านั้น เพราะใน Bridget Joness Diary: The Edge of Reason ภาค 2 ของบริดเจ็ต โจนส์ เคยมีฉากที่ตัวเอกของเรื่องเปิดไวน์ชาร์ดอนเนย์หนึ่งขวดและพร่ำเพ้อกับตัวเองและไดอะรีของเธอว่า Dear diary Ive failed again Ive poured an enormous glass of Chardonnay and Im going to put my head in the oven. แปลได้ว่าไดอะรีที่รัก ฉันทำพลาดอีกแล้ว ฉันรินชาร์ดอนเนย์แก้วใหญ่ไว้ดื่ม และกำลังจะเอาหัวตัวเองมุดเข้าไปในเตาอบ ซึ่งฟังๆ ดูแล้วอาจเป็นเพียงแค่ถ้อยความที่เธอกำลังรู้สึกอาดูรกับชีวิตรัก แต่การเลือกหยิบไวน์ชาร์ดอนเนย์ขึ้นมาดื่มกลับไม่ใช่เรื่องที่เธอและผู้เขียนนิยายตัดสินใจถูกนัก พอๆ กับการให้มาสคาร่าของนางไหลเปรอะหน้าเพื่อแสดงความบัดซบของชีวิต ออซ คลาก (Oz Clarke) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์ในเกาะอังกฤษได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ The Telegraph เกี่ยวกับประเด็นที่ว่า ยอดขายไวน์ชาร์ดอนเนย์ในอังกฤษตกลงก็เพราะบริดเจ็ต โจนส์ ในปี 2008 ซึ่งเป็นระยะเวลา 4 ปีให้หลังจากหนังภาค 2 ของบริดเจ็ตออกฉาย จนเราแอบตั้งคำถามกับประเด็นที่คลากกล่าว มันจะเป็นไปได้จริงๆ หรือ? ทั้งๆ ที่ชาร์ดอนเนย์คือเพื่อนแท้ยามยากของบริดเจ็ตทั้งเวอร์ชันนิยายและหนังเชียวนะ (ถึงแม้เวอร์ชันภาพยนตร์บริดเจ็ตจะดื่มทุกอย่างที่มี แอลกอฮอล์ ก็ตาม) แต่มันเป็นไปแล้วจริงๆ เพราะยอดขายของไวน์ขาวรสชาติสดชื่นยอดฮิตขวดนี้ตกลงราว 7.5 ล้านขวดในระยะเวลา 12 เดือนหลังจากหนังออกฉาย ซึ่งคลากโบ้ยความผิดนี้ให้กับบริดเจ็ต โจนส์ไปอย่างหน้าตาเฉยคลากให้เหตุผลที่เขากล่าวอ้างว่ายอดขายของชาร์ดอนเนย์ในอังกฤษตกฮวบลงเพราะบริดเจ็ต โจนส์ว่า ก่อนหน้านี้ชาร์ดอนเนย์เป็นไวน์ที่เซ็กซี่มาก ใครๆ ก็ต่างชอบ จนกระทั่งบริดเจ็ต โจนส์ถือแก้วชาร์ดอนเนย์ นั่งพร่ำบ่นชีวิต มันเลยกลายเป็นไวน์ที่ไม่เก๋อีกต่อไป ซึ่งในปีเดียวกันกับที่บทความดังกล่าวเผยแพร่ออกมา กลับกลายเป็นว่าไวน์ขาวประเภทอื่นๆ อย่าง ซาวิญง บลอง (Sauvignon Blanc) หรือ ปิโน กรีจิโอต์ (Pinot Grigio) ขายดิบขายดีขึ้นมาแทนที่ชาร์ดอนเนย์ไปเสียการที่บริดเจ็ต โจนส์เลือกชาร์ดอนเนย์ให้เป็นไวน์ที่อยู่กับเธอยามหมองเศร้า และ ออซ คลาก บอกว่าเธอทำให้มันกลายเป็นไวน์ที่ไม่เก๋อีกต่อไป อาจเป็นเพราะคาแรกเตอร์ของไวน์ชาร์ดอนเนย์ที่มักจะเป็นไวน์รสชาติสดชื่น อบอวลไปด้วยกลิ่นผลไม้บางๆ อาจจะไม่ควรหยิบขึ้นมาดื่มในสถานการณ์เช่นเดียวกันกับในหนังหรือไม่ ออซ คลาก ยังหยิกแกมกัดบริดเจ็ต โจนส์อีกว่า เอาอย่างนี้ ผมอยากจะขายไวน์ประเภทหนึ่งที่ทำให้ผู้ดื่ม ดื่มแล้วรู้สึกอนาถใจ หดหู่กับชีวิต ผมขอตั้งชื่อมันว่าชาร์ดอนเนย์ดีไหม?คงมีคนน้อยคนจะเคยคาดคิดว่าบทบาทของตัวละครอย่าง บริดเจ็ต โจนส์ จากหนังโรแมนติกคอเมดี้จะเคยสร้างผลกระทบอย่างมากมายเพียงแค่เธอดื่มไวน์ไม่กี่แก้วเท่านั้น ถึงแม้เรื่องราวเหล่านี้จะผ่านไปเป็นสิบปีแล้ว แต่มันก็เป็นบันทึกเล็กๆ ของประวัติศาสตร์โลกที่โยงภาพยนตร์เข้ากับเครื่องดื่มอย่างไวน์ได้อย่างน่าประหลาดใจปนชวนขันได้ไม่น้อยทีเดียวว่าแล้วก็หาชาร์ดอนเนย์หอมๆ สักขวดมาเปิดพร้อมกับหยิบ Bridget Jones มาชมช่วงสุดสัปดาห์นี้หน่อยจะเป็นไรPhoto: Giphy อ้างอิง: | Bridget Jones คือนิยายจากปลายปากกาของเฮเลน ฟีลดิง (Helen Fielding) ซึ่งเธอเขียนเรื่องราวของหญิงสาววัยขึ้นเลข 3 ที่ยุ่งเหยิงทั้งเรื่องงาน ความรัก และชีวิต ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1996 ก่อนจะมีภาคต่ออีก 2 เล่มในปี 1999 และ 2013เจมส์ แม็กคอย (James McCoy) นักวิจัยจาก Mintel บริษัทวิจัยการตลาดในอังกฤษทำการวิจัยเรื่องการบริโภคไวน์ของผู้หญิงในช่วงปี 2005 เขาให้นิยามผู้หญิงโสดวัยทำงานแต่กระเป๋าหนักว่าเป็น Bridget Jones Generation กล่าวคือผู้หญิงในยุคนั้นหันมาเริ่มต้นบริโภคไวน์มากขึ้นทั้งในบ้านและนอกบ้านวิกตอเรีย เจมส์ (Victoria James) จาก The Japan Times ในประเทศญี่ปุ่นกล่าวว่า เราเห็นยุคอนาคตของอุตสาหกรรมไวน์แล้วล่ะ และเราเรียกมันว่ายุค บริดเจ็ต โจนส์ ที่กล่าวเช่นนั้นก็เพราะเจมส์ได้เล็งเห็นว่าบริดเจ็ต โจนส์คือผู้ที่เปลี่ยนแปลงค่านิยมการดื่มไวน์ในกลุ่มผู้หญิงไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้การดื่มไวน์นั้นไม่ใช่แค่เรื่องของคนวัย 50 ปีขึ้นไปเท่านั้น | null | null | https://thestandard.co/jacobscreek-bridget-joness-diary/ |
ชำนาญ จันทร์เรือง: พนักงานอัยการกับการดำเนินคดีปกครอง | การดำเนินคดีของพนักงานอัยการถือเป็นอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ.2498 ซึ่งกำหนดให้พนักงานอัยการมีอำนาจหน้าที่ดำเนินคดีแพ่งแทนรัฐบาลในศาลทั้งปวง จึงทำให้พนักงานอัยการมีบทบาทในการดำเนินคดีแพ่งของรัฐค่อนข้างมาก โดยบทบาทดังกล่าวมีที่มาจากกฎหมายได้กำหนดให้พนักงานอัยการมีหน้าที่และบทบาทที่มาจากการปฏิบัติหน้าที่เป็นเสมือนทนายแผ่นดิน การเข้ามาดำเนินคดีปกครองของพนักงานอัยการ หากพิจารณาพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ.2498 แล้ว จะเห็นได้ว่า ไม่มีบทบัญญัติในมาตราใดกำหนดให้พนักงานอัยการมีอำนาจดำเนินคดีปกครองแทนรัฐ และเมื่อพิจารณาระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดว่าด้วยองค์คณะฯ และการมอบอำนาจให้ดำเนินคดีปกครองแทน พ.ศ.2544 บัญญัติเรื่องนี้ไว้ในข้อ 20 วรรคสอง ว่าคู่กรณีซึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอาจมอบอำนาจให้ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยงานทางปกครองนั้นหรือของหน่วยงานทางปกครองที่เจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดอยู่ หรือพนักงานอัยการฟ้องคดีหรือดำเนินคดีปกครองแทนได้ พนักงานอัยการจึงอาจได้รับมอบอำนาจเข้ามาดำเนินคดีปกครองแทนหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ ถ้าหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐได้มีหนังสือมอบอำนาจให้ดำเนินคดีแทน ระบบวิธีพิจารณาคดีปกครอง ระบบวิธีพิจารณาคดีปกครองมีลักษณะสำคัญประการหนึ่ง คือ เป็นวิธีพิจารณาแบบ ไต่สวน ที่มีความแตกต่างจากระบบวิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งเป็นวิธีพิจารณาแบบ กล่าวหา ซึ่งระบบกล่าวหานั้นเป็นระบบที่คู่ความเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการดำเนินกระบวนพิจารณา ศาลจะทำหน้าที่เพียงควบคุมให้คู่ความปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ดังเห็นได้จากมาตรา 84 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ทำให้อาจกล่าวได้ว่าจากลักษณะของระบบกล่าวหาที่มีหลักว่า \ผู้ใดกล่าวอ้าง ผู้นั้นนำสืบ\ มีผลให้คู่ความที่ดำเนินคดีแพ่งมีแนวความคิดในการฟ้องคดีหรือต่อสู้คดีไปในแนวทางที่ต้องปกป้องผลประโยชน์ของตนเองหรือของลูกความของตนเองให้มากที่สุด จะไม่ปรากฏว่าแนวปฏิบัติในการเตรียมคดีแพ่งมุ่งเน้นที่การค้นหาความจริงว่า ข้อพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยมีอยู่เช่นใด ศาลควรตัดสินไปในแนวทางที่จะคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความทุกฝ่ายอย่างไร แต่ต่างฝ่ายต่างก็พยายามจะชี้นำคดีไปในแนวทางที่สรุปว่า การกระทำของตนในนิติกรรมหรือนิติเหตุที่พิพาทนั้น ได้กระทำไปโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงมีสิทธิเรียกร้องจากคู่กรณี หรือการกระทำของตนมิได้เป็นเหตุให้อีกฝ่ายเสียหาย คู่กรณีจึงไม่มีสิทธิเรียกร้องจากตน ต่างฝ่ายต่างมุ่งทำลายความน่าเชื่อถือของน้ำหนักพยานของฝ่ายตรงข้าม ดังเห็นได้จากในระบบวิธีพิจารณาความแพ่งได้ยอมรับระบบคำท้าในการดำเนินคดีแพ่ง เป็นต้น แต่ในคดีปกครองนิติสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากการออกกฎเกณฑ์หรือการออกคำสั่ง ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่ายปกครองดำเนินการได้เองฝ่ายเดียว มิใช่ตั้งอยู่บนหลักความเท่าเทียมกันเช่นการผูกนิติสัมพันธ์ระหว่างบุคคลตามกฎหมายมหาชน ทั้งยังทำเป็นเอกสารหรือเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งเกือบทั้งหมดจะอยู่ในการครอบครองของฝ่ายรัฐหรือหน่วยงานทางปกครอง จึงเป็นการยากที่เอกชนจะหาพยานหลักฐานมาพิสูจน์ยืนยันข้อกล่าวอ้างของตน ดังนั้น การถือหลักในการค้นหาข้อเท็จจริงอย่างเคร่งครัดว่าเป็นหน้าที่ของคู่ความหรือคู่กรณีที่จะต้องพิสูจน์ข้อกล่าวอ้างของตนเช่นคดีทั่วๆ ไปย่อมอาจจะเกิดความไม่เป็นธรรมในการต่อสู้คดีได้ ด้วยเหตุนี้ในคดีปกครองศาลจึงมีหน้าที่มากไปกว่าการรับฟังข้อเท็จจริงตามที่คู่ความหรือคู่กรณีกล่าวอ้าง โดยจะมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบ แสวงหาข้อเท็จจริง และการดำเนินกระบวนพิจารณาซึ่งเรียกว่า ระบบไต่สวน โดยยึดหลักการสร้างดุลยภาพระหว่างประโยชน์สาธารณะกับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของเอกชน จากลักษณะความแตกต่างในการดำเนินคดีแพ่งกับคดีปกครองในประเด็นต่างๆ ดังกล่าว ซึ่งพนักงานอัยการมีความคุ้นเคยในการดำเนินคดีแพ่ง จึงมีประเด็นที่น่าคิดว่าการมอบอำนาจให้พนักงานอัยการเข้ามาดำเนินคดีปกครองแทนหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะมีผลเป็นการช่วยให้การดำเนินคดีปกครองของศาลปกครองเป็นไปด้วยความรวดเร็วถูกต้องมีข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านหรือไม่ หรือจะมีผลทำให้การดำเนินกระบวนพิจารณามีความล่าช้าโดยไม่มีเหตุจำเป็น เช่น การจัดทำคำให้การในลักษณะการตัดอำนาจฟ้องของผู้ฟ้องคดี โดยอ้างเหตุต่างๆ แล้วขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งยกฟ้องผู้ฟ้องคดี หรือในกรณีที่หน่วยงานทางปกครองออกกฎหรือคำสั่งที่มีความผิดพลาดอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งหน่วยงานทางปกครองควรที่จะได้รับคำปรึกษาหรือคำแนะนำให้แก้ไขกฎหรือคำสั่งดังกล่าว ซึ่งจะทำให้เหตุแห่งการฟ้องคดีหมดไป แต่กลับต้องมาเสียเวลาในการต่อสู้คดี เป็นต้น ดังนั้น ถ้าหากพิจารณาถึงความคุ้นเคยในการดำเนินคดีแพ่งของพนักงานอัยการที่มุ่งจะรักษาประโยชน์ของรัฐจนมีผลกระทบต่อการคุ้มครองความเป็นธรรมของเอกชน อาจกล่าวได้ว่า ความเคยชินในการดำเนินคดีแพ่งมีลักษณะที่ตรงกันข้ามกับหลักการในการดำเนินคดีปกครองที่ใช้ระบบไต่สวนเป็นหลักในการพิจารณาคดีที่ศาลจะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการแสวงหาข้อเท็จจริง จริงอยู่ศาลอาจแก้ไขข้อขัดข้องดังกล่าวโดยศาลแสวงหาข้อเท็จจริงโดยไม่ต้องรอการช่วยเหลือจากพนักงานอัยการ แต่การดำเนินคดีของพนักงานอัยการในแนวทางที่เคยชินอาจมีผลให้การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีปกครองของศาลมีความล่าช้าได้ ฉะนั้น พนักงานอัยการที่ต้องรับผิดชอบในการดำเนินคดีปกครองจะต้องมีการปรับเปลี่ยนแนวความคิดและวิธีปฏิบัติในการดำเนินคดีปกครองเสียใหม่ เพราะมิเช่นนั้นแทนที่พนักงานอัยการจะมีส่วนช่วยให้มีการรักษาความสมดุลระหว่างประโยชน์สาธารณะ กับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน กลับจะเป็นเหตุขัดขวางในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน เพราะมุ่งแต่จะคุ้มครองประโยชน์ของรัฐตามความเคยชินที่ได้ถือปฏิบัติในการดำเนินคดีแพ่งมาตลอด สรุป กล่าวโดยสรุปเห็นว่าจากการเปิดทำการของศาลปกครองไทยมาได้ 10 ปีแล้วการนำเอาแนวความคิดในการดำเนินคดีแพ่งของพนักงานอัยการมาใช้กับการดำเนินคดีปกครองจะเป็นผลเสียต่อการดำเนินคดีปกครองแทนที่จะทำให้เกิดดุลยภาพระหว่างประโยชน์สาธารณะกับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ แต่กลับมุ่งคุ้มครองสิทธิประโยชน์เฉพาะของตัวความเท่านั้น ซึ่งตัวความในที่นี้ก็หมายถึงหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐนั่นเองและหน่วยงานที่ได้รับประโยชน์โดยตรงก็คือสำนักงานอัยการสูงสุดที่มีการขยายอัตรากำลังเพิ่มแผนกคดีปกครองจนมีอธิบดีอัยการแผนกคดีปกครองเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ทั้งที่มิได้มีพื้นฐานด้านกฎหมายมหาชนหรือกฎหมายปกครองแต่อย่างใด จึงถึงเวลาแล้วที่น่าจะต้องมีการทบทวนการดำเนินคดีปกครองของพนักงานอัยการกันอย่างจริงจังเสียที ---------------------------------------- หมายเหตุ เผยแพร่ครั้งแรกในกรุงเทพธุรกิจฉบับประจำวันพุธที่ 1 มิถุนายน 2554 | ภาพจาก noyava (CC BY-NC-SA 2.0) แต่เดิมก่อนที่จะมีการจัดตั้งศาลปกครองขึ้นมาในประเทศไทย การดำเนินคดีปกครองถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคดีแพ่งในศาลยุติธรรม | คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,สังคม | ชำนาญ จันทร์เรือง,กระบวนการยุติธรรม,คดีปกครอง,อัยการ | https://prachatai.com/journal/2011/06/35213 |
รู้จัก เป็ด เชิญยิ้ม บิ๊กตลก เบื้องหลังสั่งเชือด จียอน พ้นจอ | ถ้าพูดถึงนักแสดงตลกของเมืองไทย หนึ่งในนั้นต้องมี เป็ด เชิญยิ้ม ผู้ที่โลดแล่นอยู่ในวงการตลกมาเป็นสิบๆ ปี และยังเป็นผู้ปั้นนักแสดงตลกให้มีชื่อเสียงมาแล้วหลายท่าน บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปทำความรู้จักกับตลกท่านนี้,นักแสดงตลก เป็ด เชิญยิ้ม หรือ ดร.ธัญญา โพธิ์วิจิตร ศึกษาจบปริญญาเอกเมื่อต้นปี พ.ศ. 2558 ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,ทั้งอดีตยังเป็นผู้ก่อตั้งคณะ เชิญยิ้ม คณะตลกที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เคยรับตำแหน่งเป็นนายกสมาคมศิลปินตลกแห่งประเทศไทย และเป็นรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน),ปัจจุบัน เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท โคเมดี้ ไลน์ ผู้ผลิตรายการ ตลกก่อนบ่ายคลายเครียด และรายการตลกอื่นๆ ทางไทยทีวีสีช่อง 3 โดยปัจจุบันมอบคณะเชิญยิ้มให้ ถั่วแระ เชิญยิ้ม และ ชูษี เชิญยิ้ม เป็นผู้ดูแล,นอกจากเป็นผู้ผลิตรายการตลก เป็ด เชิญยิ้ม ยังเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล ตรัง เอฟซี, ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยชุดอายุ 19 ปี รวมถึงเป็นกรรมการกลางของสภาบริหารสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย,ครอบครัว เป็ด เชิญยิ้ม ได้สมรสกับ ก้ามปู ปัทมสูตร มีลูก 3 คน คือ 1. นายสมัญญา โพธิ์วิจิตร 2. นายภัทรศักดิ์ โพธิ์วิจิตร 3. น.ส.ชัญานิษ โพธิ์วิจิตร โดยลูกชายคนโต สมัญญา สมรสกับ พัสรี เอี่ยมชาวนา ลูกของโย่ง เชิญยิ้ม ถือว่าเป็นทองแผ่นเดียวกันเป็นที่เรียบร้อยเลยก็ว่าได้,ผลงานของ เป็ด เชิญยิ้ม ผ่านการแสดงทั้งละครและภาพยนตร์มากกว่าสามสิบเรื่อง เรียกได้ว่าเป็นนักแสดงที่มากด้วยประสบการณ์อีกท่านของวงการบันเทิง โดยมีผลงานละครปัจจุบันเรื่อง มอม ทางช่อง ไทยพีบีเอส,ส่วนกระแสดราม่าตอนนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องการปลดนักแสดงสาว จียอน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องคิว หลายคนมีการพูดถึงนักแสดงว่าพอเริ่มดังแล้วเรื่องมาก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้โดนปลดออกจาก 2 รายการ เบื้องหลังเกิดจาก เป็ด รับ จียอน เข้ามาทำรายการเพราะเพื่อนๆ มาฝากฝังเอาไว้ หลัง จียอน หมดสัญญาจากที่เดิม แรกๆ อะไรก็ดี มุกไหลลื่น แต่จู่ๆ ก็เกิดข่าวลือไปว่านักแสดงสาวเกาหลีเอ่ยปากไม่อยากเป็นตลก,โดย เป็ด เชิญยิ้ม ก็ได้เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้น เนื่องจากนักแสดงสาวไม่สามารถให้คิวได้ตามเดิมเพราะต้องแบ่งเวลาให้กับงานอีกที่ ทำให้ตนรู้สึกไม่โอเค แต่เขาก็ยืนยันว่าไม่โกรธ หากเจอหน้าก็จะคุยและสั่งสอน บอกตนเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้จะคิดรังแกเด็ก บอกยินดีคืนงานให้หากเข้ามาคุยมาขอโทษเป็นเรื่องเป็นราว แต่หาก จียอน ไม่อยากเป็นตลก รังเกียจ ก็กลับเกาหลีไป. | ชื่อของ เป็ด เชิญยิ้ม กลับมาเป็นที่สนใจของทุกคนอีกครั้ง เมื่อบิ๊กตลกผู้นี้คือผู้ที่สั่งเชือด จียอน ดาราสาวเกาหลีที่มาโด่งดังในไทย เพราะประโยคสะท้านวงการ ถ้ารังเกียจตลกก็กลับเกาหลีไป | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | เป็ด เชิญยิ้ม,ซอ จียอน,เป็ด จียอน,เป็ด ปลด จียอน,ตลก | https://www.thairath.co.th/entertain/news/898376 |
อังกฤษช็อกต่อ เดวิด คาเมรอน ประกาศลาออก หลังผลประชามติ Brexit ชนะ | ขณะที่อดีตนายกฯโทนี แบลร์ บอกถือเป็นวันที่แสนเศร้าของประเทศชาติ,เมื่อ 24 มิ.ย. สำนักข่าวบีบีซี รายงาน นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ ออกมาประกาศจะลาออกจากตำแหน่ง ภายในเดือนตุลาคมนี้ หลังผลการลงประชามติ ออกมาว่า ฝ่าย Brexit สนับสนุนให้สหราชอาณาจักร (ยูเค) แยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) เป็นฝ่ายชนะ เหนือฝ่ายต้องการให้อยู่ต่อ ด้วยคะแนน 52% ต่อ 48%,นายกรัฐมนตรีคาเมรอน ซึ่งออกมาประกาศตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตการเมืองของเขา ที่หน้าบ้านพักนายกฯ เลขที่ 10 บนถนนดาวน์นิ่ง ในกรุงลอนดอน โดยมี นางซาแมนธา ภริยายืนอยู่เคียงข้าง กล่าวว่า เขาจะพยายามทำให้รัฐนาวาอังกฤษแล่นต่อไปอย่างราบรื่น ในช่วงไม่กี่สัปดาห์และไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่การมีผู้นำคนใหม่เป็นสิ่งที่จำเป็น โดย นายคาเมรอน ยังกล่าวด้วยว่า เขาได้ทูลแจ้งเรื่องนี้ต่อสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 แล้วว่า จะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นช่วงเวลาสั้นๆ จากนั้นจะส่งมอบหน้าที่ให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในช่วงที่พรรคอนุรักษ์นิยมจะมีการร่วมประชุมใหญ่ในเดือนตุลาคมที่จะถึง,ประชาชนในอังกฤษ ได้โหวตออกจากสหภาพยุโรป และความประสงค์ของพวกเขาจะต้องได้รับการเคารพ นายกรัฐมนตรีคาเมรอน กล่าวถึงการตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง ในฐานะที่เขาเป็นแกนนำเรียกร้องให้ยูเค อยู่กับ อียู ตามเดิม ขณะที่อดีตนายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์ของอังกฤษ กล่าวถึง ผลประชามติที่ออกมาฝ่ายต้องการให้สหราชอาณาจักรออกจากอียูชนะ นับเป็นวันที่แสนเศร้าของประเทศชาติ,ทั้งนี้ ผลการลงประชามติที่ออกมา ปรากฏว่า ประชาชนในอังกฤษ และเวลส์ เป็นสองประเทศใน 4 ประเทศของสหราชอาณาจักร ที่คะแนนเสียงฝ่ายต้องการให้ ยูเค ออกจาก อียู มากกว่าฝ่ายต้องการให้อยู่ต่อ ผิดกับสกอตแลนด์และไอร์แลนด์เหนือ ที่ฝ่ายสนับสนุนให้ ยูเค อยู่ต่อกลับมีคะแนนมากกว่าโหวตให้ออกจาก อียู,,ช็อกโลก ลงประชามติยูเค ฝ่ายหนุน ออก จากอียูชนะ เงินปอนด์ร่วงหนัก อ่านข่าวต่อได้ที่ | ชาวอังกฤษ ตะลึงต่อ ผลโหวตฝ่าย Brexit สหราชอาณาจักรออกจากอียู ชนะ ส่งผล เดวิด คาเมรอน ตัดสินใจลาออกจากนายกรัฐมนตรีอังกฤษแล้ว เพียงแต่จะอยู่ในตำแหน่งจนถึงเดือน ต.ค.นี้ | null | ยูเค ลงประชามติ,สหราชอาณาจักร ลงประชามติ,ยูเค ออกจากอียู,สหราชอาณาจักร,Brexit,สหภาพยุโรป,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/646364 |
ตูน บอดี้สแลม เผยภาพเครื่องสวนหัวใจ 50 ล้านบาท จากเงินบริจาคก้าวคนละก้าว | ตั้งใจทำกิจกรรมดีๆ เพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง สำหรับร็อกเกอร์หนุ่ม ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม ที่เคยทำกิจกรรมวิ่งจากภาคใต้ (อ.เบตง จ.ยะลา) ไปภาคเหนือ (อ.แม่สาย จ.เชียงราย) ในโครงการ ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือ รพ.ต่างๆ ทั่วประเทศ เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา จนได้ยอดบริจาคเงินสูงกว่าพันล้านบาทและเงินกว่า 91 ล้านบาท ได้ถูกนำมาบริจาคให้กับ รพ.เจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของหนุ่มตูน โดยเงินจำนวนดังกล่าวได้นำไปซื้อเครื่องสวนหัวใจที่ทันสมัย ดูเผินๆ เหมือนยานอวกาศ แต่ราคาสูงลิบถึง 50 ล้านบาท และยังนำเงินอีกส่วนมาทำศูนย์หัวใจ ห้องผ่าตัดทรวงอกและหัวใจ รวมไปถึงห้องพักฟื้นพิเศษแผนกหัวใจที่มีอุปกรณ์รองรับผู้ป่วยที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพโดย ตูน บอดี้สแลม ได้โพสต์ภาพตัวเองและทีมงานมูลนิธิก้าวคนละก้าว เมื่อตอนเดินทางไป รพ.เจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี พร้อมทั้งเล่าถึงเรื่องราวดีๆ ที่เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจจากทุกคนในการบริจาคเงินว่า พี่ๆ คุณหมอเล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนหากมีเคสเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจเร่งด่วนจะต้องส่งต่อไป รพ. ที่ใกล้ที่สุดที่สามารถช่วยเหลือได้ ก็คือที่นครปฐมซึ่งต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงครึ่งจาก รพ.เจ้าพระยายมราช นี้ หลายๆ ครั้งก็เกิดความสูญเสียขึ้นระหว่างทางพอมีเครื่องสวนหัวใจที่ทันสมัยมากๆ เครื่องนี้ตั้งอยู่ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช สุพรรณบุรีซึ่ง เครื่องมือที่ดูเผินๆ เหมือนยานอวกาศชิ้นนี้ ใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท จากเงินบริจาคของคนไทยใจดีทุกๆ คนจากโครงการ#ก้าวคนละก้าวเพื่อ11โรงพยาบาลทั่วประเทศและ ณ วันที่ได้คุยกับคุณหมอ เครื่องมือนี้ก็ช่วยชีวิตคนไข้ให้รอดชีวิตไปแล้วนับร้อยรายทั้งจากคนในสุพรรณฯ และจากจังหวัดข้างเคียงส่วนห้องอีกหนึ่งห้องที่เห็นมีสัญลักษณ์ก้าวคนละก้าวที่ผนังห้องก็คือห้องผ่าตัดหัวใจโดยเฉพาะซึ่งอุปกรณ์และเครื่องมือในห้องนี้ทั้งหมดก็เกิดจากงบประมาณที่ได้จากโครงการ#ก้าวคนละก้าวเพื่อ11โรงพยาบาลทั่วประเทศเมื่อปลายปี 2560 เช่นเดียวกันซึ่งที่ผ่านมาจากปากคำของคุณหมอที่รับผิดชอบห้องผ่าตัดนี้ก็ได้ใช้งานและช่วยรักษาชีวิตคนไข้โรคหัวใจไปแล้วกว่า 30 ชีวิตและสิ่งที่ดีที่สุดก็คือ เครื่องมือเหล่านี้ก็จะถูกใช้กับคนป่วยทุกๆ คนอย่างเท่าเทียมทุกๆ คนมีสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์และบริการที่ทันสมัยเหล่านี้ได้เหมือนๆ กัน แค่อยากบอกเล่าเรื่องราวที่น่าประทับใจนี้ให้ทุกๆ คนได้มีความสุขและมีรอยยิ้มไปพร้อมๆ กันครับ #เพราะความสุขนี้เป็นของทุกคน #ก้าวคนละก้าว#เพราะเราเชื่อในพลังเล็กๆ รักป.ล. ท่าน ผอ.และคุณหมอที่นี่ฝากมาบอกว่า หากมีคุณหมอทางด้านหลอดเลือดหัวใจ หรือหลอดเลือดสมองมาเพิ่มอุปกรณ์เหล่านี้ก็จะสามารถสร้างประโยชน์ช่วยชีวิตคนป่วยได้มากยิ่งขึ้นหมอๆ ท่านใดสนใจเรียนเชิญมาประจำที่ รพ.เจ้าพระยายมราช นี้นะครับคนสุพรรณฯ ยินดีต้อนรับครับ :)โดยมีแฟนๆ รวมไปถึงคนในวงการบันเทิงต่างเข้ามาอนุโมทนาสาธุบุญเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งชื่นชมในความตั้งใจดีๆ ของทีมก้าวคนละก้าว และผู้ร่วมทำบุญทุกคนด้วย. | ตูน บอดี้สแลม เผยภาพเครื่องสวนหัวใจมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ใน รพ.เจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมาจากการบริจาคเงินในโครงการก้าวคนละก้าว เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ตูน บอดี้สแลม,ตูน อาทิวราห์,ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย,ก้าวคนละก้าว,ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ,ข่าวบันเทิง,อินสตาแกรมดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1889252 |
ชาวเน็ตโวยเอาอีกแล้ว ตู้คอนเทนเนอร์ ร่วงจากรถบรรทุก ทับเก๋ง คนเจ็บ 1 | แฟนเพจเฟซบุ๊ก ,JS100 Radio, โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า อุบัติเหตุเมื่อเวลา 12.51 ของวันนี้ (27 ธ.ค. 60) #ถนนนครอินทร์ จากวงเวียนบางขุนกอง ไปถนนกาญจนาภิเษก บนต่างระดับช่วงทางลงถนนกาญจนาภิเษก รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ทำตู้หล่นใส่รถเก๋ง ขวางช่องทางขวา บาดเจ็บ 1 คน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการเคลื่อนย้าย (ภาพจาก : บางใหญ่11),ทั้งนี้ มีชาวโซเชียลเข้าไปคอมเมนต์ใต้โพสต์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เช่น ,Aod Sport : ตู้พวกนี้ไม่มีล็อกเลยเคยถามเขาบอกว่าถ้าล็อกแล้วถ้าตู้คว่ำ จะทำให้หัวลากคว่ำไปด้วย รถจะเสียหายเยอะ ดูสิถ้าไม่ล็อกหัวลากไม่เสียหาย แต่ชีวิตและทรัพสินคนอื่นล่ะ ผมไม่เข้าใจจริงๆๆ,Kanjana Wantanachaisaeng: ชีวิตคนไทย บนท้องถนน ตอนนี้เสี่ยงตายทุกนาที น่ากลัวจริง,ดลวัฒน์ เจริญรักษ์ : เกิดบ่อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก แก้กันไม่ได้เลยเหรอ?,จรรยา ศุกรีรัตน์ :ถ้าสังเกตดูจะพบว่า ตู้คอนเนอร์ไม่ได้ล็อก เพียงแต่วางไว้บนรถเฉยๆ พอมีเรื่องก็ตรวจกัน ทำไมไม่เอาผิดกับผู้ประกอบการสักที,ณัฐพร จันทจร : ชีวิตแขวนไว้กับจุด CG ของตู้คอนเทนเนอรแล้ว ลุ้นว่ามันเป็นตู้เปล่า หรือตู้เต็ม,Nathawut Watanapalin : อุบัติเหตุคือสิ่งที่คาดการณ์ไม่ได้ แต่นี่ถือเป็นความประมาทของรถบรรทุก เพราะบางครั้งเราคิดไม่ได้ว่ามีโอกาสเกิดแบบนี้ขึ้น ต้องทำให้รัดกุมกว่านี่ การบรรทุกคอนเทนเนอร์ต้องปลอดภัยกว่านี้ ตรวจสอบก่อนออกเดินทาง,(ขอบคุณภาพจาก บางใหญ่11) | ชาวเน็ตโวยเอาอีกแล้ว ถามหามาตรฐานที่ถูกต้อง หลังตู้คอนเทนเนอร์ร่วงจากรถบรรทุก ทับเก๋ง มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ที่ถนนกาญจนาภิเษก | ข่าว,สังคม | คอนเทนเนอร์,คอนเทนเนอร์ร่วง,ตู้คอนเทนเนอร์หล่นทับรถ,ตู้คอนเทนเนอร์หล่นทับ,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1163940 |
ตร.เชียงราย จับอาวุธสงคราม คาดเตรียมส่งขายชายแดน | ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายยึด เครื่องยิงจรวดอาร์พีจี 12 กระบอก ลูกจรวดอาร์พีจี 16 ลูก ปืนเอ็น 16 จำนวน 6 กระบอก และปืนอาก้า 17 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนรวม 35 รายการ จากนายสว่าง ใจแก้ว ชาวอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หลังตำรวจสืบทราบจะมีการลักลอบนำอาวุธสงครามมาเก็บในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า เพื่อเตรียมส่งออกขายให้กับกลุ่มชาติพันธุ์ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จึงนำกำลังเข้าไปตรวจค้นที่บ้านของนายสว่าง และพบอาวุธซุกซ่อนอยู่ โดยนายสว่างรับสารภาพว่า มีอาชีพทำนา และรับจ้างขนลำเลียงอาวุธส่งไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่รู้ที่มาของอาวุธ แม้จะรับจ้างทำมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งละ 10000 บาท โดยนำเงินมาซ่อมรถไถนาและทำนา ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย สั่งให้เจ้าหน้าที่คุมเข้มตามแนวชายแดนและขยายผล ติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการ พร้อมตรวจสอบหาที่มาของอาวุธสงคราม เนื่องจากเป็นอาวุธเก่าที่ผ่านการตกแต่ง ทำความสะอาด พร้อมสำหรับใช้งาน | ตำรวจจังหวัดเชียงราย ยึดอาวุธสงครามพร้อมกระสุนจำนวนมากจากชาวเชียงราย โดยเชื่อว่าจะส่งขายให้กับขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ชายแดน | อาชญากรรม | ชายแดน,ตร.เชียงราย,อาวุธสงคราม | https://news.thaipbs.or.th/content/93934 |
คลิปจากเหยื่อ เปิดนาทีเมียหลวงปรี๊ด ไล่ชนรถผัวกับกิ๊ก เสย 5 คันรวด (คลิป) | สืบเนื่องมาจากกรณีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน 5 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย บนถนนรังสิต-นครนายก ขาเข้า มุ่งหน้ารังสิต ปากทางถนนพระองค์เจ้าสาย หมู่ 2 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้ข้อมูลว่า เหตุดังกล่าว เกิดจากภรรยา ได้ติดสัญญาณติดตามไว้ในรถเบนซ์สามี และตามมาจนมาพบว่า สามีได้ไปรับสาวขึ้นนั่งหน้า คาดว่าน่าจะเป็นภรรยาใหม่ ก่อนจะขับรถไล่พุ่งชน,ล่าสุด 14 พ.ค.ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว นำคลิปกล้องหน้ารถยนต์ตนเอง ออกมาเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมกับเล่าเรื่องราวก่อนโดนลูกหลง ที่ทำให้รถยนต์ตนเองเสียหายและเด็กในรถยนต์เกิดอาการตกใจจนร้องไห้,ระบุข้อความส่วนหนึ่งว่า เพราะสาเหตุ ความประมาท เลิ่นเล่อ ความเห็นแก่ตัว ความบ้าตัณหา ความหึงหวง ไร้สติ (ซึ่งดูจากโปรไฟล์โดยรวมของผู้ที่ทำให้เกิดเหตุนั้น การศึกษาดี หน้าที่การงานดี (ระดับหัวหน้า/ผจก) ฐานะทางการเงินก็ดี) โดยที่ไม่คิดถึงว่าคนอื่น/ผู้ร่วมโลกท่านอื่น จะได้รับความเสียหายมากน้อยเพียงใด ณ ตอนนี้ บอกได้เลยว่าจิตใจไม่ปกติ วิตกจริต คิดไปต่างๆ นาๆ ถ้าเราไม่โชคดี เราคงไม่ได้อยู่กับลูกและครอบครัว คลิปนี้เราไม่ได้จะประจานใครนะ แค่จะช่วยบอกเพื่อนๆ ไว้เป็นอุทาหรณ์ ต้องระวัง และทำอะไรต้องมีสติที่สุด,โดยคลิปดังกล่าวมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นเป็นจำนวนมากพร้อมตำหนิถึงเหตุการณ์นี้ รวมถึงเด็กในรถยนต์เกือบเป็นเหยื่อ หากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงกว่านี้,ขณะที่ทนายชื่อดัง นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นผ่านแฟนเพจทนายคู่ใจ ถึงกรณีนี้ว่า อาจเข้าข่ายมีความผิดอาญา พร้อมกับอ้างอิงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยข้อความส่วนหนึ่งระบุว่า ชนจนแขนหักมันไม่ได้จบแค่เปรียบเทียบนะครับ จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ต้องถูกดำเนินคดีอาญาต่อ ไม่ว่าจะเป็นว่าด้วยเรื่องประมาทขับไปชน มาตรา 300 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือเจตนาชน ตามมาตรา 297 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี,-ข่าวที่เกี่ยวข้อง-,เห็นกิ๊กนั่งหน้ารถ เมียหลวงปรี๊ด พุ่งชนเบนซ์ผัว เสยระนาว 5 คันรวด | โซเชียลแห่วิจารณ์ คลิปจากกล้องหน้ารถของเหยื่อผู้เสียหาย จับภาพอุบัติเหตุ เมียหลวงขับรถไล่ชนสามีที่นั่งมากับกิ๊ก เป็นเหตุให้รถยนต์เสียหาย 5 คันรวด บาดเจ็บหลายราย บนถนนรังสิต-นครนายก | ข่าว,ทั่วไทย | กล้องหน้ารถ,คลิป,รถยนต์,เมียหลวง,เมียน้อย | https://www.thairath.co.th/news/local/940788 |
บิ๊กป้อม ย้ำเลิกต่อทะเบียนบัส 2 ชั้น วางแผนคุมเข้มอุบัติเหตุสงกรานต์61 | เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 มี.ค. 2561 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ฐานะประธานกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) เพื่อพิจารณาแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2560–2563 ภายใต้วิสัยทัศน์ มุ่งมั่นสู่มาตรฐานการสัญจรที่ปลอดภัยด้วยกัน โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพศิฐ รมว.คมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม,พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า ที่ประชุมจะมีการหารือมาตรการป้องกัน และดูแลความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ และความปลอดภัยทั่วไปว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดความสูญเสีย ส่วนที่นายกฯ ระบุว่าไม่อยากใช้สถิติเป็นตัวชี้วัดนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องพิเศษ แต่เป็นเจตนาที่ไม่ต้องการให้มีคนบาดเจ็บ หรือล้มตายเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว ถ้ายังมีการเสียชีวิตอยู่ก็ยังไม่ถือว่าประสบความสำเร็จ ,เมื่อถามถึงมาตรการ 7 วันอันตรายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตอนนี้เราก็วางมาตรการอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง เราพยายามที่จะไม่ให้มีผู้เสียชีวิต แต่ประชาชนก็ต้องช่วยตัวเองด้วย ทั้งในการขับรถหรือการใช้ถนน รวมถึงเรื่องการดูแลความเร็ว อย่ากินยาบ้า เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต และทำให้ทางราชการเสียหายไปด้วย ซึ่งเกิดจากคนๆ เดียว ขณะเดียวกัน ก็ยังคงมีมาตรการยึดรถเหมือนเดิม,เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบคนขับรถโดยสารอย่างไร ไม่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับกรณี 18 ศพ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เราไม่ทราบว่ากินยาบ้ามา จะทำอย่างไรได้ เมื่อถามถึงมาตรการดูแลรถบัส 2 ชั้น เป็นไปได้หรือไม่ที่จะไม่ให้นำมาใช้แล้ว รองนายรัฐมนตรี กล่าวว่า เราไม่ให้ต่อทะเบียนเพิ่มเติมแล้วตั้งแต่ปี 58 เป็นต้นมา ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมกำลังดำเนินการตรวจสอบเพื่อปรับปรุงให้มีความแข็งแรงขึ้น,ส่วนรถ บขส.นั้นก็กำลังเร่งพิจารณาว่าจะทำอย่างไรให้ปลอดภัยกับประชาชนที่ใช้รถมากที่สุด ในอนาคตอาจจะมีรถ 2 ชั้นอยู่ แต่ที่ไม่ได้มาตรฐานก็ไม่ให้วิ่งและปลดไป เมื่อถามถึงมาตรการห้ามนั่งท้ายรถกระบะ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่ให้นั่งท้าย เราอนุโลมให้นั่งท้ายในที่ปลอดภัย อย่าไปนั่งตรงขอบกระบะ ผู้ขับก็ควรใช้ความเร็วน้อยๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะดูแลเรื่องนี้,เมื่อถามต่อกรณี นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ยังเคลื่อนไหวตอบโต้ คสช.ไปเรื่อยๆ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยระบุว่า ไม่เอาแล้ว เรื่องการเมืองไม่เอาแล้ว จากนั้นก็เดินออกจากวงสัมภาษณ์ แล้วเดินเข้าห้องประชุมไปทันที. | บิ๊กป้อม ย้ำเลิกต่อทะเบียนรถบัสสองชั้น ให้คมนาคมดูแลที่มีใช้อยู่ให้แข็งแรง ชี้คุมเข้มวางมาตรการเจ็ดวันอันตรายช่วงสงกรานต์เต็มที่ ปัดตอบ สมชัย เคลื่อนไหววิจารณ์ต่อเนื่อง | ข่าว,การเมือง | บิ๊กป้อม,7 วันอันตราย,เทศกาลสงกรานต์,รถบัสคว่ำ,วังน้ำเขียว,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1236646 |
ธปท.โปร่งใส เผยการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรก | ปัญหาความขัดแย้งทางความคิดระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานและผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับนโยบายการเงิน ทำให้วันนี้(21 ส.ค.) นายประสาร ไตรรัตน์วรกุลผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องออกมาเปิดเผยกระบวนการพิจารณานโยบายการเงินต่อสาธารณะชนเป็นครั้งแรก ในรอบ 10 ปี โดยผู้ว่าการธปท.กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) จะพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายแต่ละครั้ง ต้องใช้นักเศรษฐศาสตร์สาขาต่างๆ และเจ้าหน้าที่ รวมกันกว่า 80 คน วิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 1 เดือน เพื่อนำมาหาเครื่องมือการเงินที่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจหลายครั้ง ก่อนเสนอกรรมการ กนง. พิจารณาลงมติในขั้นสุดท้ายแม้ปัจจุบัน ธปท. จะใช้กรอบนโยบายควบคุมการขยายตัวของเงินเฟ้อ แต่ก็มีความยืดหยุ่นและมีเครื่องมือการเงินเพียงพอ ที่จะสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวตามศักยภาพได้ แม้จะต้องเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจโลกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวอีกว่า เคยแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ กับนายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว แต่ยังไม่สามารถปรับความเข้าใจในบางประเด็นได้ ทั้งนี้ ธปท. เตรียมจัดประชุมสัมมนาวิชาการประจำปี ในปลายเดือนหน้า เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินที่แตกต่าง ก่อนพิจารณาประกาศนโยบายการเงินประจำปี 2556นายประสาร กล่าวอีกว่า การปรับนโยบายการเงินตามภาวะเศรษฐกิจ ยึดหลักความจำเป็นและกฎหมายกำหนดเท่านั้น พร้อมหยิบยกกรณีศึกษาการใช้นโยบายการผูกค่าเงินบาทกับทองคำ ค่าเงินสกุลอื่นและการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน ที่ผ่านมา ถือเป็นบทเรียนความล้มเหลวในการใช้นโยบายดังกล่าว | ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยกระบวนการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อสาธารณะชนครั้งแรก ในรอบ 10 ปี ซึ่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย บอกว่า ต้องการแสดงความโปร่งใสและแลกเปลี่ยนความเห็นที่แตกต่าง | เศรษฐกิจ | กระบวนการ,กำหนด,ธปท.,นโยบาย,อัตราดอกเบี้ย | https://news.thaipbs.or.th/content/106260 |
จักรภพ เพ็ญแข: 3 ปีขบวนประชาธิปไตย | มวลชนที่รักและเคารพครับทีมงานประชาไทขอให้ผมเขียนรายงานประเมินผลสามปีของการทำลายล้างขบวนประชาธิปไตยและสังหารหมู่พี่น้องประชาชน ณ ใจกลางกรุงเทพมหานครเมื่อ พ.ศ.2553ทั้งตลอดแนวถนนราชดำเนินและในบริเวณแยกราชประสงค์ ผมรับชวนด้วยเงื่อนหนึ่งข้อ นั่นคือผมสามารถประเมินผลได้เพียงจากภายนอกเท่านั้น เนื่องจากผมได้เดินทางออกจากประเทศไทยมาตั้งแต่ พ.ศ.2552 หลังสลายชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ข้อมูลข่าวกรองที่ผมได้รับ และจะนำมาประเมินร่วมด้วย ก็เป็นข้อมูลที่ผมไม่อาจยืนยันได้เต็มที่ รายงานต่อไปนี้จึงถูกถ่วงดุลด้วยข้อจำกัดดังกล่าวนั้นสามปีที่ผ่านมาผมมองย้อนกลับไปถึงความแตกร้าวทางความคิด บางซื่อ-หัวลำโพง ที่ทำให้แกนนำหลายคนยังมองกันกันไม่ติดหรือไม่สนิทใจมาจนบัดนี้ ยิ่งเวลาผ่านไปผมยิ่งรู้สึกว่านั่นเป็นสาระสำคัญของขบวนการต่อสู้ภาคประชาชน ฝ่ายบางซื่อชูธงสะสมชัยชนะและสงวนเลือดเนื้อ ฝ่ายหัวลำโพงอ้างความมุ่งมั่นของประชาชน บวกกับแรงหนุนจากผู้นำการเมืองที่มิได้อยู่ในสนามให้เดินหน้าต่อ ทั้งสองฝ่ายมีเหตุผลของตนเองและยังคงปกป้องท่าทีของตนเองอย่างรุนแรง คงเพราะตระหนักดีว่านี่คือสิ่งที่ประวัติศาสตร์จะนำมาประเมินซ้ำอย่างไม่รู้จบ ความแตกร้าวเรื่องนี้ ถือเป็นภัยต่อเอกภาพในระยะต้น แต่ในระยะยาวแล้วถือเป็นคุณ เพราะทำให้เราเข้าใจชัดเจนว่าพลังของฝ่ายเสื้อแดงอยู่ตรงไหนและปุ่มต่างๆ ที่ใช้กดแสดงพลังเหล่านั้นอยู่ที่ใด ผมเชื่อว่า บทเรียนจากการนองเลือดครั้งที่ 1 ในปีนั้น คือเมื่อวันที่ 10 เมษายนเป็นแรงกระตุุ้นสำคัญสำหรับฝ่ายที่ต้องการลงบางซื่อ ยิ่งเมื่อพลตรีขัตติยะ สวัสดิผลหรือ เสธ.แดง ถูกสังหารในวันที่ 13 พฤษภาคมคืออีกเดือนเศษๆ ต่อมานั้น ฝ่ายบางซื่อก็ยิ่งมั่นใจในจุดยืนของตนเอง โอกาสจะ ถนอมรัก กับฝ่ายหัวลำโพงในช่วงนั้นจึงหมดไป การก้าวลงจากเวที นปช. ของคุณวีระ มุสิกพงศ์ส่งผลให้ข่าวกรองจากฝ่ายอำมาตย์ลดน้อยลงไป เหลือแต่ข่าวกรองบ้างไม่กรองบ้างที่ส่งมาจากต่างประเทศ การรับมือกับสรรพกำลังของฝ่ายเจ้าของบ้านจึงทำได้ไม่เต็มที่ และยังถูกหลอกล่อให้เตรียมความพร้อมต่อเนื่องกันหลายสิบวัน ด้วยความเชื่อว่าจะถูกบุก ทำให้ทั้งแกนนำและมวลชนเกิดความเหนื่อยเพลีย ระแวงสงสัย และอารมณ์สั้นลง เมื่อการสังหารหมู่มาถึง เราจึงเหลือแต่ใจของมวลชนเป็นอาวุธแต่เพียงอย่างเดียว สิ่งอื่นๆ ที่อาจเรียกว่าอาวุธนั้นล้วนอยู่ในสภาพไก่รองบ่อนทั้งสิ้น แต่เมื่อเอ่ยวลีไก่รองบ่อนออกมาแล้ว ก็ต้องเอ่ยต่อไปว่า บ่อนไก่ กลับไม่ใช่ไก่รองบ่อน เรากลับได้รับความร่วมมือจากมวลชนที่รู้จักพื้นที่บ่อนไก่เป็นอย่างดี บวกทักษะของนักสู้ประจำถิ่น ตามอาชีพซึ่งเดิมทีเราเคยรู้สึกว่าอยู่คนละข้างกับกฎหมาย จนสามารถตรึงกำลังได้นานกว่าพื้นที่อื่นๆ ทั้งที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากประทัดยักษ์และยางรถยนต์ ในเหตุการณ์หน้างานนั้น มองจากภายนอกคงสรุปได้ว่า การสั่งการจากนอกพื้นที่ไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับผู้ที่รู้ข่าวกรองในพื้นที่ ไม่ว่ามีอยู่ในมือกี่แหล่งก็ตาม ทักษะในการต่อสู้ของผู้ที่เป็นทหารเก่า นักเลงเก่า คนคุมบ่อน ฯลฯ กลับเป็นทักษะที่ช่วยชีวิตผู้คนเอาไว้ได้มากมาย ผมเห็นว่าคนเหล่านี้เป็นวีรชนที่ยังไม่มีใครสรรเสริญ (unsung heroes) และอย่าได้คิดประมาทเจตนา พลีชีพ ของมวลชนผู้ตาสว่าง ผู้นำและแกนนำจึงต้องใช้ความระมัดระวังรอบคอบเป็นทวีคูณในความเกี่ยวข้องทุกประการกับมวลชนเรามาลองมองภาพใหญ่ขึ้นบ้าง โดยเฉพาะในเหตุการณ์หลังจากนั้น ผมมีความรักและชื่นชมต่อแกนนำ นปช. แทบทุกท่าน และยังคงรู้สึกเช่นนี้จนถึงปัจจุบัน แต่ต้องขอให้ข้อคิดเห็นว่า ความหมกมุ่นกับ นปช. และการเน้นให้ นปช. ผูกขาดงานมวลชนแต่เพียงผู้เดียวในนามขบวนประชาธิปไตยนั้น ถือเป็นกรอบที่แคบเกินไปสำหรับอารมณ์ทางการเมืองของมวลชนภายหลังเหตุการณ์ 19 พ.ค. นปช. ยังคงควรเป็นแกนนำในขบวนประท้วงและชุมนุม เนื่องจากมีประสิทธิภาพ มีประสบการณ์ และมวลชนจำนวนมากให้ความเชื่อถือ แต่ไม่ควรใช้วิธีทางตรงหรืออ้อมในการจำกัดและกำจัดกลุ่มย่อยๆ ที่มีจุดประสงค์เดียวกันลงไป กลุ่มย่อยๆ เหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อขบวนประชาธิปไตยและ นปช. ในการเสริมฐาน นปช. ให้เป็นองค์กรการเมืองที่ใหญ่โตซับซ้อนขึ้น เสมือนสร้างระบบนิเวศที่เป็นประชาธิปไตยขึ้นมาห่อหุ้ม ผมเชื่อว่าบรรยากาศอย่างนั้นมีประโยชน์กว่า นปช. ที่โดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมศักดินาอำมาตย์ เพราะสามารถทำหน้าที่ได้ทั้งแนวร่วม ตัวช่วย และข้ออ้างในเหตุการณ์ทางการเมืองต่อๆ ไป ซึ่งจะต้องอาศัยต้นไม้ที่มีหลายกิ่งก้านสาขาและมีรากที่แข็งแรงมั่นคงมาสนับสนุน นปช. ควรวางตัวเป็นบริษัทแม่ หรือ holding ที่ทำงานร่วมกับบริษัทลูกหรือบริษัทสาขาคือ subsidiary ได้อย่างกลมกลืน เหตุผลหลักที่ผ่านมาเป็นเพราะว่าเกรงจะถูกแย่งชิงทรัพยากรในการทำงานหรืออำนาจสูงสุดในการสื่อสารกับมวลชน จึงเผลอเห็นองค์กรย่อยเหล่านี้เป็นผู้เล่นที่น่ารำคาญหรือแม้กระทั่งศัตรูคู่แข่ง จนเสียประโยชน์ที่ควรจะได้รับไปมาก ผมมั่นใจว่า ผู้นำการเมืองในปัจจุบันไม่มีใครมองว่าใครจะเป็นคู่แข่งกับ นปช. ได้ และจะเดินหน้าสนับสนุนต่อไปอย่างน้อยก็ในฉากหน้า เท่าที่ผ่านมาสามปี เราเสียเวลามากไปหน่อยกับความวิตกจริตเหล่านั้น ซึ่งผมเชื่อว่าคงเป็นอดีตไปแล้วสิ่งหนึ่งที่ผมเคยเสนอเมื่อครั้งร่วมบริหารตั้งพีทีวี จนมาเป็น นปก. และ นปช. แต่ยังไม่ได้ทำเลยนั้น มาวันนี้สมควรเร่งทำและทำชนิดหวังผลสัมฤทธิ์ด้วย นั่นคือการจำแนกประเภทมวลชนผู้สนับสนุนฝ่ายเราออกเป็นสาขาอาชีพและประสบการณ์ต่างๆ ระบอบอำมาตย์ศักดินาประสบชัยชนะและครองบ้านเมืองมานานหลายชั่วอายุคน ทำให้บุคลากรที่มีความสามารถหลั่งไหลไปสังกัดและให้ความภักดี แทบไม่มีใครช่วยงานใหญ่ในฝ่ายประชาชน ซึ่งยังคงเป็นผู้แพ้ในทางการเมืองอยู่ เราควรเริ่มแยกประเภท (sort out) มวลชนและผู้สนับสนุนฝ่ายเราออกเป็นสาขาอาชีพ ทักษะ ประสบการณ์ และความถนัด เพื่อสร้างเครือข่ายทั้งภายในประเภทและระหว่างประเภทเหล่านี้ขึ้นเป็นเครือข่ายทางเศรษฐกิจและสังคมใหม่ นี่เป็นหนทางลัดอย่างหนึ่งในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของขบวนประชาชน เราควรมีวิศวกร แพทย์ ครู พระ ทนายความ สถาปนิก ผู้บริหารสถานศึกษา เจ้าของโรงงาน ช่างฝีมือทุกๆ ด้าน ผู้ประกอบการรายใหญ่ ผู้ประกอบการขนาดกลาง-ขนาดย่อม นักกีฬาอาชีพ เจ้าของไนท์คลับ คนทำอาหาร ผู้บริหารโรงแรม ฯลฯ ที่กล้าแสดงตัวเองว่าเป็นมวลชนฝ่ายประชาธิปไตย ถึงมีฝ่ายตรงข้ามแฝงตัวเข้ามาบ้างก็ให้แฝงไป เพราะงานของเราเปิดเผยและชัดเจน จนอาจโน้มน้าวให้สายที่แฝงตัวมาเหล่านั้นแปรเปลี่ยนเจตนาไปได้ ความบกพร่องอย่างหนึ่งของฝ่ายประชาธิปไตยคือ เรามุ่งสร้างแต่นักการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งก็ได้คนการเมืองตั้งแต่เกรดสูงไปถึงเกรดต่ำ โดยไม่คิดนำคุณสมบัติอื่นๆ มาใช้เลย คนทุกคนไม่อาจจะเป็นนักการเมืองที่ดีได้ นิสัยใจคอและสันดานเราล้วนแล้วแต่ต่างกัน ควรเลิกประเพณีว่าใครอยากทำงานเพื่อบ้านเมืองก็ต้องยอมตัวเป็นนักการเมืองเท่านั้น แต่หาทางให้คนที่มีภูมิรู้และทักษะที่แตกต่างกันเข้าสู่การเมืองได้หลายช่องทาง บทเรียนของเราสอนเรามาแล้วว่า มวลชนผู้มีวุฒิภาวะในทางประชาธิปไตยทุกคนล้วนเป็นประโยชน์อย่างสูงต่อการพัฒนาประชาธิปไตย ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนและส่วนใดของขบวนประชาธิปไตยก็ตามทีประการสุดท้าย การทำงานร่วมกันเป็นเครือข่ายระหว่าง นปช. กลุ่มพลังฝ่ายประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทย และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องมีประสิทธิภาพกว่าสามปีที่ผ่านมา แกนภายในขบวนประชาธิปไตยของเราครบถ้วน รัฐบาลกำหนดและผลักดันนโยบาย พรรคเพื่อไทยโดยผ่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและบางส่วนของวุฒิสภาสร้างและปรับปรุงกฎหมาย ตลอดจนปฏิบัติการถ่วงดุลอำนาจ นปช. ร่วมกับกลุ่มพลังประชาธิปไตยในการโน้มน้าวประชามติให้หันเหมาทางเรามากขึ้น โดยใช้ประโยชน์จากทักษะของมวลชนอย่างที่ผมเสนอมาเป็นเครื่องมือ เราไม่ได้น้อยหน้ากว่าเขาในเชิงปริมาณและความทันสมัยของแนวคิด แต่เรายังตามเขาอยู่ไม่น้อยในการจัดการภายในองค์กรของเราเองโดยสรุปแล้ว สามปีที่ผ่านมานี้ถือเป็นเวลาที่มีประโยชน์ต่ออนาคตของพวกเรามาก | มวลชนที่รักและเคารพครับ ทีมงานประชาไทขอให้ผมเขียนรายงานประเมินผลสามปีของการทำลายล้างขบวนประชาธิปไตยและสังหารหมู่พี่น้องประชาชน ณ ใจกลางกรุงเทพมหานครเมื่อ | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.),คนเสื้อแดง,จักรภพ เพ็ญแข | https://prachatai.com/journal/2013/05/46793 |
ซีที สแกน กับการสอบสวนคดีฆาตกรรม ตัวช่วยไขปริศนาการเสียชีวิต | หรือ ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์นานแล้วแต่ในส่วนงานนิติเวชวิทยาของไทย เครื่องซีที สแกนเพิ่งถูกนำมาช่วยเสริมประสิทธิภาพในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงของสาเหตุการเสียชีวิตและการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของศพนิรนามเห็นได้จากคดีอาชญากรรมที่อยู่ในความสนใจของสังคมอยู่ในขณะนี้ ทั้งกรณีการเสียชีวิตของ ที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำขณะถูกควบคุมตัวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และและซุกซ่อนชิ้นส่วนไว้ในตู้แช่แข็งที่อาคารพาณิชย์ ย่านสุขุมวิท กทม. ซึ่งกระบวนการชันสูตรศพล้วนใช้วิธี ซีที สแกน เข้าไปเกี่ยวข้อง ให้สัมภาษณ์ ถึงวัตถุประสงค์ของการริเริ่มนำเครื่อง ซีที สแกน มาใช้ในงานนิติพยาธิว่า เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการทำงาน โดยสถาบันนิติเวชวิทยาได้ศึกษาการใช้เครื่องซีที สแกน มาช่วยพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว แต่เพิ่งสั่งซื้อมาใช้ภายในประเทศเมื่อต้นปี 2559 และจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2559 สาเหตุการเสียชีวิตของผู้คนในปัจจุบันซับซ้อนมากขึ้น ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตที่ถูกส่งมาชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา ตร. ก็มีมากขึ้น ปัจจุบันมีร่างผู้เสียชีวิตถูกส่งมาชันสูตรประมาณปีละประมาณ 6000 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติที่เสียชีวิตในเมืองท่องเที่ยวหลักหลายร้อยคนต่อปี โดยสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นมักเป็นอุบัติเหตุ และการเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุเครื่องซีที สแกน ช่วยให้ทราบผลการชันสูตรเร็วขึ้นประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะลดขั้นตอนการนำศพไปต้มหม้อแรงดันเพื่อแยกเนื้อเยื่อและกระดูกออกจากกัน โดยเฉพาะในกรณีศพนิรนามที่สภาพศพเริ่มเสื่อมสลาย ไม่สามารถบ่งบอกเพศ สัญชาติ หรือช่วงอายุของผู้เสียชีวิตได้ ซึ่งที่ผ่านมาต้องใช้เวลาในขั้นตอนดังกล่าวนานเป็นสัปดาห์ จากนั้นต้องนำกระดูกที่ได้มาเรียงต่อกัน เพื่อตรวจสอบทางกายภาพจากสะโพกเชิงกรานว่าเป็นเพศใด รอยต่อของกระโหลกชิดมากน้อยแค่ไหนเพื่อประเมินอายุของผู้ตาย เป็นต้นกว่าจะเสร็จกระบวนการชันสูตรทั้งหมดใช้เวลา 1 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน แล้วแต่ความซับซ้อนของสาเหตุการเสียชีวิต แต่ถ้าเข้าเครื่องซีที สแกน จะสามารถทราบผลได้ภายในไม่กี่วินาที และหากเป็นการสแกนทั้งร่างใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก็สามารถระบุเพศและตั้งข้อสันนิษฐานจากลักษณะทางกายภาพเบื้องต้นได้ว่าศพนั้นเป็นคนเชื้อชาติใด ซึ่งระยะเวลาการชันสูตรที่สั้นลงย่อมส่งผลดีต่อรูปคดีในหลายด้าน ทั้งการติดตามคนร้ายหรือลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นตามมานอกจากนี้ เครื่องซีที สแกนยังให้ผลการวินิจฉัยที่แม่นยำมากขึ้น โดยเฉพาะในกรณีของอุบัติเหตุและการถูกยิง ที่เนื้อเยื้อ หลอดเลือด และกระดูกของศพอาจได้รับความเสียหายหนักอยู่แล้ว การผ่าพิสูจน์ด้วยมือคนอาจทำให้รอยแผลหรือวิถีกระสุนผิดเพี้ยนไปจากเดิม หรือแม้แต่ในคนที่นำสิ่งเสพติดหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกาย ผ่านการกลืนลงกระเพาะหรือสวนเข้าทางทวารหนักที่ขดลำไส้อาจบดบัง ซึ่งการเอกซเรย์ 2 มิติไม่สามารถมองเห็นวัตถุได้ แต่หากเข้าเครื่องซีที สแกน จะช่วยลดอุปสรรคในจุดนี้ เพราะภาพเอกซเรย์ 3 มิติ บนจอคอมพิวเตอร์ที่ได้นั้นเสมือนจริง ซึ่งเป็นผลจากการประมวลผลภาพนับ 1000 รูป จากกล้องของเครื่องซีที สแกน ที่หมุนได้ 360 องศา ทำงานจับภาพระหว่างฉายรังสีการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 3 มิติ จะได้ผลดีที่สุดกับผู้ที่เสียชีวิตไม่เกิน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นเนื้อเยื่อจะเริ่มเสื่อมสลาย แต่หากเป็นศพแช่แข็งก็จะพอยืดเวลาออกไปได้ อย่างไรก็ตาม การชันสูตรศพยังคงต้องอาศัยเทคนิคผ่าตัดพิสูจน์เป็นหลัก เพราะต้องพิจารณารายละเอียดของสีและลักษณะเนื้อเยื่ออื่นๆ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่ และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ก่อนนำศพเข้าเครื่องซีที สแกน เจ้าหน้าที่สถาบันนิติเวชวิทยาจะถ่ายรูปร่างผู้เสียชีวิตอย่างละเอียดทุกซอกมุมเพื่อเก็บเป็นหลักฐานไว้เปรียบเทียบหลังเสร็จสิ้นกระบวนการ เพื่อความโปร่งใสขณะนี้มีเพียงสถาบันนิติเวชวิทยา ตร. และ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมเท่านั้นที่ใช้เครื่องซีที สแกน ในเชิงนิติเวชวิทยาอย่างสมบูรณ์ โดยเครื่องซีที สแกนของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตั้งอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานีแม้ว่าการใช้เครื่องซีที สแกนในการชันสูตรศพจะเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่ในประเทศไทย แต่ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา มีการใช้เทคโนโลยีนี้ในการตรวจเอกลักษณ์บุคคลมาเป็น 10 ปี หลังจากพัฒนาเสร็จสิ้นในปี 2543 พ.ต.อ.ปกรณ์ให้ข้อมูลด้วยว่า บางประเทศ อย่างเช่น สวิตเซอร์แลนด์มีการใช้เครื่องซีที สแกน ตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตของศพทุกศพ เพราะมีผู้เสียชีวิตต่อปีไม่มากนักหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียก็นิยมใช้เครื่องซีที สแกน ช่วยในการชันสูตรศพเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และมาเลเซียเครื่องซีที สแกนยังมีประโยชน์มากในกรณีที่หลักศาสนาห้ามผ่าร่างกายผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ก็จะใช้การเอกซเรย์ศพเพื่อตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตแทน ซึ่งช่วยไขความกระจ่างได้มากนอกจากการไขข้อเท็จจริงสาเหตุการเสียชีวิตแล้ว เครื่องซีที สแกน จะช่วยให้ความเป็นธรรมต่อผู้เสียชีวิตในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาตามหลักศาสนาอิสลามไม่อนุญาตให้ผ่าศพชาวมุสลิม เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด ข้อเท็จจริงในเรื่องสาเหตุการเสียชีวิตจึงไม่กระจ่างชัด จนถึงขณะนี้เครื่องซีที สแกน ของสถาบันนิติเวชวิทยา ตร. เปิดใช้งานเพื่อไขสาเหตุการเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 20 กรณี มีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติที่ญาติแจ้งความประสงค์ผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตว่าไม่ต้องการให้มีการผ่าพิสูจน์ศพ ซึ่งทุกคดีได้รับคำตอบที่น่าพอใจทั้งนี้ สถาบันนิติเวชวิทยาไม่ได้ใช้เครื่องซีที สแกน ตรวจทุกศพที่ถูกส่งมา แต่จะใช้ในคดีที่มีความซับซ้อน หรือหากญาติผู้เสียชีวิตร้องขอตรวจจะมีค่าบำรุงรักษาเครื่องเทียบเท่ากับการรับบริการทางการแพทย์อยู่ที่ 8000-10000 บาท ที่เหลือยังคงเป็นการตรวจพิสูจน์ด้วยการเอกซเรย์ 2 มิติ แบบดิจิทัลที่ให้ประสิทธิผลการตรวจในระดับคุณภาพในอนาคต สถานบันนิติเวชวิทยา ตร. ยังมีความสนใจศึกษาในเรื่องการฉีดสารทึบแสง ซึ่งเป็นสารที่ปรับส่วนผสมให้เหมาะกับสภาพศพ ที่ใช้ควบคู่กับการทำซีที สแกน เพื่อวินิจฉัยการทำงานของเส้นเลือด หลอดเลือด ว่าเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เสียชีวิตด้วยหรือไม่ | ทางการแพทย์ ซีที สแกน ไม่ใช่นวัตกรรมใหม่ แต่ในส่วนงานนิติเวชวิทยาที่ต้องสืบหาความจริงจากศพ เครื่องเอกซเรย์ 3 มิตินี้เป็นเทคโนโลยีที่เพิ่งถูกนำมาช่วยเสริมประสิทธิภาพในการชันสูตรให้แม่นยำยิ่งขึ้น รวมถึงพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลจากศพนิรนาม | อาชญากรรม | ซีที สแกน กับงานสืบสวน,ซีที สแกน ศพ,นวัตกรรมทางการแพทย์กับการสืบสวนศพ,ร่างผู้เสียชีวิต,ซีที สแกน กับการชันสูตร,ชันสูตร,สถาบันนิติเวชวิทยา,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 3 มิติ,Computerized Tomography,ธวัชชัย อนุกูล,ดีเอสไอ,ชายต่างชาติถูกหั่นแช่แข็ง,ศพนิรนาม,ตายปริศนา,ปกรณ์ วะศินรัตน์,นพ.(สบ 4),นิติพยาธิ,สถาบันนิติวิทยาศาสตร์,กระทรวงยุติธรรม,สืบจากศพ,สิรินภา อิ่มศิริ,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/256488 |
พลเมืองดีกลายเป็นฆาตกร แจ้ง ตร.พบศพสาวในบ่อบำบัด ที่แท้บีบคอฆ่าเอง | วันที่ 17 มิ.ย. 59 พ.ต.ท.นิพนธ์ ก่อเกียรติตระกูล สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองนครปฐม ได้ควบคุมตัว นายสมคิด เอี่ยมสะอาด อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 7 ต.พระประโทน อ.เมืองนครปฐม พ่อบ้านดูแลบ่อบำบัดน้ำเสีย ของโรงงานทำไส้กรอกไก่ตะนาวศรี บริษัท ทีรีดดิ้ง ฝั่งตรงข้ามศาลเจ้าพ่อเสือหนองอาเสี่ย หมู่ 5 ต.พระประโทน อ.เมืองนครปฐม ไปสอบปากคำ พร้อมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ,ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายสมคิด ได้ไปแจ้งความที่โรงพักว่า พบศพหญิงสาวนิรนามไม่ทราบชื่อ เสียชีวิตลอยอืดอยู่ในบ่อบำบัดน้ำเสีย แต่นายสมคิดให้การวกวนจนมีพิรุธ ตำรวจจึงเค้นสอบจนยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุฆ่าหญิงดังกล่าวเอง ทราบชื่อภายหลังว่า น.ส.ฮันนี่ ระวังคดี อายุ 36 ปี ชาว ต.พระประโทน อ.เมืองนครปฐม,จากนั้น นายสมคิด ได้สารภาพอย่างหมดเปลือกว่า เมื่อหลายปีก่อน เคยคบหากับ น.ส.ฮันนี่ เพราะ น.ส.ฮันนี่ เป็นคนหน้าตาดีมีหนุ่มมาติดพันมาก แต่ไม่ยอมอยู่กินด้วย และไปคบกับชายอื่นจนต้องเลิกรากันไป กระทั่งเมื่อคืนวันที่ 12 มิ.ย. 59 เวลา 21.30 น. ตนได้พบกับ น.ส.ฮันนี่ กำลังเดินอยู่ในตัวเมืองนครปฐม จึงชวนนั่งดื่มเหล้ายาดองที่ร้านใกล้จุดเกิดเหตุ นั่งดื่มกินกันจนเมา ทำให้นึกถึงอดีตที่เคยรักกัน น.ส.ฮันนี่ พูดถึงเรื่องเก่า ตนเลยของขึ้นพูดไปว่าหากจะคบกับตนอย่าคบกับชายหลายคน และขอร้องว่าอย่าไปยุ่งกับชายต่างด้าว จนเกิดทะเลาะมีปากเสียงกันรุนแรง,นายสมคิด ให้การถึงนาทีสังหารว่า น.ส.ฮันนี่ ลุกจะเดินหนี ตนจึงกระชากตัวมาแล้วตบที่ใบหน้า 2 ครั้ง ก่อนจะผลักลงไปในบ่อบำบัดน้ำเสีย แล้วกดน้ำจนแน่นิ่ง จากนั้นรีบหนีออกจากที่เกิดเหตุ ปล่อยทิ้งไว้ 2 วัน จึงทำทีไปแจ้งตำรวจว่าพบศพหญิงลอยอืดอยู่ในน้ำ,หลังผู้ต้องหารับสารภาพ ตำรวจได้นำตัวไปทำแผนฯ พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา นำตัวส่งดำเนินดีต่อไป. | ลุงวัย 51 ปี พ่อบ้านโรงงานไส้กรอก ที่นครปฐม ตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตายโดยเจตนา หลังสวมบทพลเมืองดีไปแจ้งตำรวจว่า พบศพผู้หญิงในบ่อบำบัดน้ำเสีย แต่มีพิรุธเลยถูกเค้นสอบ จนยอมสารภาพว่าตัวเองคือฆาตกร จับอดีตแฟนกดน้ำเอง | null | บีบคอฆ่า,จับแฟนกดน้ำ,ฆ่าสาว,ฆ่าทิ้งบ่อบำบัด,สมคิด เอี่ยมสะอาด,จับพ่อบ้าน,ฆาตกรรม,นครปฐม,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/641120 |
พม่าปูนบำเหน็จมือปราบขิ่นยุนต์ | ศูนย์ข่าวภาคเหนือ- 7 ธ.ค.47 สำนักข่าว S.H.A.N รายงาน โดยอ้างจากรายงานของแหล่งข่าวผู้ใกล้นายทหารพม่าว่า พลตรีมิ้นหล่าย แม่ทัพภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มกองบัญชาการอยู่ที่เมืองล่าเซี่ยวในรัฐฉาน อาจได้รับการเลื่อนตำแหน่ง เนื่องจากเขาเป็นผู้ที่มีบทบาทในการนำไปสู่ปฏิบัติการปลดพลเอกขิ่นยุ้นต์ออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา พลตรีมิ้นหล่าย ได้ออกคำสั่งให้เหล่าทหารภายใต้การบังคับบัญชาบุกเข้าตรวจค้นห้องทำงานของเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง หรือหน่วยนะซะคะ ที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของพลเอกขิ่นยุ้นต์ ซึ่งควบคุมดูแลด่านตรวจชายแดนระหว่างรัฐฉาน-จีน ในการตรวจค้นครั้งนั้นทางเจ้าหน้าที่สามารถยึดทรัพย์สินต่างๆ รวมทั้งทองคำแท่งซึ่งรวมมูลค่าแล้วไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านจ๊าต(120 ล้านบาท) จากเหตุการณ์ยึดทรัพย์สินในครั้งนั้น ได้นำไปสู่การปลดพลเอกขิ่นยุ้นต์ ในเวลาต่อมา ส่วนพลตรีมิ้นหล่ายได้เดินทางไปยังกรุงย่างกุ้งแล้วเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเข้ารับการเลื่อนตำแหน่ง ก่อนออกเดินทาง เขาได้มอบภาระหน้าที่ของเขาไว้ให้กับพลจัตวาละมิ้น เป็นผู้รับผิดชอบแทนแหล่งข่าวบอกว่าหากพลตรีมิ้นหล่ายได้รับเลื่อนตำแหน่ง โดยผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนเขานั้นมีแนวโน้มว่าน่าจะเป็นพลตรี ต่าเอ แม่ทัพภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ที่มีกองบัญชาการอยู่ที่เมืองหม่งหยั่ว สำหรับท่าทีของพลตรีต่าเอกับการนำไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยในประเทศนั้น เป็นเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 46 เขาได้กล่าวในที่ประชุมที่อำเภอป๊อกทอว่า วันไหนที่นางอองซาน ซูจี ได้ปกครองประเทศ วันนั้นคือวันที่สงครามกลางเมืองจะระเบิดขึ้น พร้อมกันนั้นเขาได้กล่าวว่า จะขัดขวางการขึ้นมามีอำนาจในการปกครองประเทศของนางอองซาน ซูจี ให้ถึงที่สุด หลังจากที่พลเอกขิ่นยุ้นต์ถูกปลด พลตรีมิ้นหล่ายเป็นคนที่ 2 ที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง โดยคนที่หนึ่งนั้นได้แก่ พลตรีหม่องอู แม่ทัพภาคตะวันตก ที่มีกองบัญชาการ.อยู่ที่เมืองชิดตวย ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สำหรับพลตรีมิ้นหล่าย ก่อนหน้านั้นทราบว่าเขาเป็นนายทหารคนสนิทของพลเอกรองอาวุโสหม่องเอ โดยตำแหน่งที่เขาจะได้รับการแต่งตั้งในครั้งนี้ มีข่าวที่ไม่ยืนยันว่า อาจจะเป็นเลขาธิการคนที่ 2 ในสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ หรือเอสพีดีซี ซึ่งเป็นสภาสูงสุดในพม่า ในที่นี้หากเรียงตามลำดับผู้นำของพม่าอย่างเป็นทางการแล้ว พลตรีมิ้นหล่ายจัดอยู่ในอันดับที่ 4 โดยอันดับที่หนึ่งนั้นได้แก่ พลเอกอาวุโสตานฉ่วย รองลงมาคือพลเอกรองอาวุโสหม่องเอ และพลตรีเต็งเส่ง เลขาธิการคนที่ 1 แต่มีหลายคนบอกว่าผู้ที่ดำรงตำแหน่งเลขาคนที่ 1 นั้นคือพลพลเอกฉ่วยมาน ไม่ใช่พลโทเต็งเส่ง | ศูนย์ข่าวภาคเหนือ- 7 ธ.ค.47 สำนักข่าว S.H.A.N รายงาน โดยอ้างจากรายงานของแหล่งข่าวผู้ใกล้นายทหารพม่าว่า พลตรีมิ้นหล่าย แม่ทัพภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มกองบัญชาการอยู่ที่เมืองล่าเซี่ยวในรัฐฉาน | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2004/12/1579 |
ช้างป่าทำร้ายพระมรณภาพใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ | สภาพพื้นที่ป่าใกล้หมู่บ้านห้วยผึ้ง ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่พบศพของพระพายัพ ฉันทสโล พระสำนักสงฆ์วัดใจ ที่อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 400 เมตร โดยจากสภาพศพที่พบมีร่องรอยฟกช้ำ แขนขาหัก และแผลลึกหลายแห่งตามลำตัว ประกอบกับหลักฐานรอยเท้าช้างในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่า พระพายัพถูกช้างป่าทำร้ายจนมรณภาพทั้งนี้ ตรงกับข้อมูลที่ชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนวานนี้ พระพายัพ ซึ่งเป็นพระธุดงค์ที่มาจำวัดแห่งนี้เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ได้หายไปหลังเดินไปสรงน้ำบริเวณแหล่งน้ำใกล้พื้นที่ป่า และเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ได้ยินช้างร้องเสียงดัง จึงคาดว่าพระพายัพอาจเดินไปเจอช้าง และถูกทำร้ายสำหรับเหตุช้างป่าทำร้ายชาวบ้านจนเสียชีวิตครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 6 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยพบว่าช้างที่ก่อเหตุเป็นช้างที่อาศัยอยู่ในป่าละอู อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และในป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่ที่พบปัญหาบุกรุกพื้นที่เพื่อทำไร่และเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน | ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอีกพื้นที่ที่เกิดปัญหาระหว่างคนกับช้าง ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ป่า โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีชาวบ้านถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิตแล้ว 5 คน โดยล่าสุดเป็นพระสงฆ์ | ภูมิภาค | ช้างป่า,ทำร้าย,ประจวบคีรีขันธ์,พระ,มรณภาพ | https://news.thaipbs.or.th/content/58728 |
รัฐฯสั่งแก้ค้า ไม้หอม กรมศุลฯ-ไซเตส ตั้งกฎเหล็กคุม | เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่สำนักคุ้มครองพันธุ์พืช กรมวิชาการเกษตร น.ส.ดวงเดือน ศรีโพธา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยอนุสัญญาไซเตสด้านพืช สำนักคุ้มครองพันธุ์พืช กรมวิชาการเกษตร เปิดเผยกับ ทีมข่าวไทยรัฐ ถึงการป้องกันการสวมสิทธิ์-สวมซาก ไม้ป่า แทน ไม้ปลูก ในการส่งออก-นำเข้าไม้กฤษณา ว่า ยอมรับว่าปัญหาการสวมสิทธิ์-สวมซาก ไม้กฤษณา ซึ่งเป็นไม้ป่ามีมานานแล้ว และยากที่จะหามาตรการมาป้องกัน ทางไซเตสจึงต้องทำประวัติผู้ประกอบการทุกรายไว้ เพื่อดูข้อมูลพื้นฐาน ว่าจะมีการสวมสิทธิ์-สวมซากไม้ป่าออกขายหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่พบว่าเป็นการทำไม้ปลูกมากกว่า ซึ่งการสวมสิทธิ์-สวมซาก ก็อาจมีหลุดรอดไปบ้าง ซึ่งตรงนี้ยังเป็นปัญหาที่แก้ยาก,น.ส.ดวงเดือน กล่าวต่อว่า หลังจากปัญหาการค้าไม้กฤษณากลายเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ และมีข้อเสนอให้มีการแก้ไข ทางรัฐบาลจึงสั่งการให้ กรมศุลกากร และ ไซเตส ผนึกกำลังกันในการออกมาตรการป้องกันการสวมสิทธิ์ไม้ป่า โดยจะมีการทำงานแบบบูรณาการ มีการตรวจร่วมกัน และจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลกันแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือที่เรียกว่า (เนชั่นแนล ซิงเกิล วินโดว์) คือการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ในธุรกิจค้าไม้กฤษณา , ,เมื่อมีการส่งออก-นำเข้า ผ่านด่านศุลกากร ทางศุลกากรก็จะขอดูเอกสารจากผู้ประกอบการ ว่าผ่านการตรวจสอบจากไซเตสแล้วหรือยัง เพื่อเป็นการสกัดกั้นการสวมสิทธิ์ไม้ป่า ซึ่งโครงการนี้เริ่มทำมาระยะหนึ่งแล้ว แต่จะเริ่มสมบูรณ์แบบในช่วงต้นปีหน้าเป็นต้นไป โดยข้อมูลทุกอย่างจะถูกแชร์มาที่ไซเตส และทุกหน่วยงานจะร่วมกันตรวจสอบ น.ส.ดวงเดือน กล่าว และว่า ซึ่งทาง ไซเตส มั่นใจว่าหากมีการนำระบบเชื่อมโยงข้อมูลมาใช้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว ก็จะสามารถควบคุมปัญหาการสวมสิทธิ์ไม้ป่า ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และหากพบการกระทำความผิด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที. | กรมศุลฯ-ไซเตส ตื่น! หลังรัฐบาลสั่งผนึกกำลังทำงานแบบบูรณาการ ตรวจสอบการส่งออก-นำเข้าไม้กฤษณา เผยเตรียมใช้ระบบออนไลน์ เชื่อมโยงข้อมูลถึงกัน เริ่มดีเดย์ต้นปี 59 เพื่อสกัดกั้นการสวมสิทธิ์ไม้ป่าเพื่อการค้าเน้นชายแดนจุดผ่านไม้ป่า | null | ไม้กฤษณา,ไม้ป่า,ไม้หอม,อนุสัญญาไซเตส,ป้องกันการสวมสิทธิ์,สวมซาก,ส่งออก,นำเข้า,ผิดกฎหมาย,กรมศุลกากร,เชื่อมโยง,ข้อมูล,ผู้ประกอบการ,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/550774 |
คนขับแท็กซี่ ร้องก.พลังงาน ชะลอขึ้นค่าก๊าซเอ็นจีวี-แอลพีจี ถึง 16 ส.ค. | ทั้งนี้ กลุ่มสมาชิกสหกรณ์แท็กซี่รวมตัวบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าเพื่อยืนยันว่า จะตรึงค่าโดยสารเป็นเวลา 3 เดือนนับจากนี้ หลังกระทรวงพลังงานชะลอการขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีและแอลพีจีออกไป แล้วค่อยหารือแนวทางค่าโดยสารอีกครั้งก่อนวันที่ 16 ส.ค.ก่อนหน้านี้กลุ่มแท็กซี่ได้ยื่นขอให้กระทรวงคมนาคมปรับขึ้นค่ามิเตอร์เฉลี่ยร้อยละ 12 แต่ประเมินว่าหากขึ้นมิเตอร์ในช่วงนี้ จะเป็นการเพิ่มภาระสำหรับผู้โดยสาร และทำให้ผู้ใช้บริการน้อยลงกลุ่มแท็กซี่ยังเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งคณะทำงานดูแลสวัสดิการให้ผู้ขับแท็กซี่กว่า 100000 คน เช่น จัดหาร้านขายอาหารสำเร็จรูปราคาถูก และจัดตั้งมูลนิธิเพื่อคนขับแท็กซี่ ส่วนการสอบถามผู้ขับแท็กซี่เกี่ยวกับโครงการบัตรเครดิตพลังงาน ที่มีส่วนลดเอ็นจีวีกิโลกรัมละ 2 บาท และมีวงเงิน 3000 บาทต่อเดือน พบว่าส่วนใหญ่ไม่นิยมใช้วงเงินในบัตรเครดิต แม้จะสมัครเข้าร่วมโครงการ เพราะไม่สะดวกในการชำระเงินตามรอบบิล และเห็นว่าการใช้เพียงบัตรส่วนลดราคาก๊าซ 2 บาท สะดวกและเหมาะสมแล้วพล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่า จะไม่ยกเลิกบัตรเครดิตพลังงาน และจะสมนาคุณสำหรับผู้มีเครดิตดี มีรายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน ระบุว่า ปัจจุบันมีหนี้เสียที่เกิดจากบัตรนี้ร้อยละ 85 จากผู้ใช้บัตรทั้งหมด คิดเป็นเงินกว่า 8000000 บาท ในช่วงเวลา 4 เดือน | แม้กระทรวงพลังงานยืนยันจะคงมาตรการบัตรเครดิตพลังงาน พร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้น แต่จากการสำรวจผู้ขับแท็กซี่ พบว่า ใช้บัตรเครดิตพลังงานน้อยลง พร้อมราคามิเตอร์ออกไปจนถึงวันที่ 16 ส.ค. หลังจากที่รัฐบาลชะลอปรับราคาพลังงานเชื้อเพลิง | เศรษฐกิจ | กระทรวงพลังงาน,บัตรเครดิต,เอ็นจีวี,แท็กซี่,แอลพีจี | https://news.thaipbs.or.th/content/85297 |
เด็กแว้น ยังรวมกลุ่มแข่งขันบนท้องถนน-ค้านแนวคิดใช้อุปกรณ์สกัดจับ | ทีมข่าวไทยพีบีเอสได้ตรวจสอบถนนจตุรมิตร ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผ่านโทรศัพท์สายด่วน 191 ว่ามีการแข่งขันรถจักรยานยนต์ในช่วงกลางคืน และพบว่า มีเยาวชนซึ่งอายุต่ำกว่า 18 ปี และ อายุเกิน 18 ปี มารวมกลุ่มกันและขับรถจักรยานยนต์บนนถนนดังกล่าว และ มีการขับขี่ที่เข้าข่ายเป็นอันตรายคือ การขับรถศร โดยทีมข่าวยังไม่พบว่า สถานีตำรวจในพื้นที่นำอุปกรณ์สกัดจับมาใช้เพื่อสกัดจับรถจักรยานยนต์ดังกล่าวกลุ่มเยาวชนที่ขับรถจักรยานยนต์บนถนนดังกล่าวไม่เห็นด้วยกับการนำอุปกรณ์สกัดจับนี้มาใช้ เพราะเกรงว่า อาจเกิดอุบัติเหตุกับชีวิตและร่างกายได้ พร้อมมองว่า ตำรวจควรใช้มาตรการเดิมคือ การนำรถยนต์มาปิดถนน หรือ ตั้งด่านสกัดจับเหมือนที่ผ่านมาส่วนถนนที่มีการร้องเรียนว่ามีการขับรถจักรยานยนต์แข่งกันมากที่สุดคือ ถนนเพชรบุรี ขาเข้า ตั้งแต่แยกประตูน้ำ-แยกอุรุพงษ์ ถนนเพชรบุรี ขาออก ตั้งแต่แยกชิดลมเพชร-แยกอโศกเพชร ถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกสามเหลี่ยมดินแดง-แยกตึกชัย ถนนพระราม 4 ตั้งแต่แยกกล้วยน้ำไท-แยกคลองเตย ถนนวิภาวดีรังสิต ตั้งแต่ที่หน้าสนามบินดอนเมือง-ใต้ด่วนดินแดง และ ถนนประดิษฐ์มนูธรรมสำหรับมาตรการจับรถจักรยานยนต์แข่งขับบนถนนเป็นนโยบายที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 2 และ 7 จะต้องบูรณาการร่วมกัน เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกัน รวมถึงควรมีการตั้งรองผู้บัญชาการในแต่ละภาคเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ โดยมีอุปกรณ์สกัดจับที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งจัดทำคือ อุปกรณ์ที่เป็นเครื่องมือลักษณะเป็นแขนกล มีความยาวประมาณ 4เมตร และมีเหล็กปลายแหลม ตั้งขึ้นมา เมื่อรถจักรยานยนต์ที่มีการขับแข่งกันผ่านเครื่องมือนี้จะทำให้ยางรถรั่ว และ ค่อย ๆ แบนลง ในระยะทางประมาณ 30-50เมตร ซึ่งจะง่ายต่อการเข้าจับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว โดยยืนยันว่า อุปกรณ์เหล่านี้ได้ผ่านการทดสอบมาแล้ว 6 เดือนและไม่เป็นอันตรายทำให้เกิดอุบัติเหตุ | ทีมข่าว ไทยพีบีเอส สำรวจพื้นที่ที่ได้รับการร้องเรียนว่า มีการแข่งขับรถจักรยานยนต์มากที่สุด หลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมนำอุปกรณ์สกัดจับรถจักรยานยนต์มาใช้ โดยยังพบว่า มีกลุ่มวัยรุ่นนำรถจักรยานยนต์มาขับขี่บนถนนสาธารณะอยู่ | อาชญากรรม | กวนเมือง,วัยรุ่น,อุปกรณ์สกัดจับ,เด็กแว้น,แข่งจักรยานยนต์,ไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/119759 |
ฟาน กัล หวังผีแดงบุกสอยสวอนซี ฉลองคุมทีมนัดที่ 50 | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 28 ส.ค. ว่า หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีม ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หวังว่าลูกทีมจะแสดงให้เห็นว่าพวกเขาพัฒนาไปเพียงใดแล้ว ด้วยการบุกไปล้างตา หงส์ขาว สวอนซี ซิตี้ ในเกมลีกวันอาทิตย์นี้ หลังแพ้หงส์ขาว ไปทั้ง 2 หนในฤดูกาลแล้ว โดยเกมนี้จะเป็นการคุมทีมนัดที่ 50 ของเขากับปิศาจแดงอีกด้วย,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล พ่าย สวอนซี คาบ้านไป 1-2 ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกของฤดุกาล 2014-15 แล้วก็บุกไปแพ้หงส์ขาวอีกครั้งด้วยผลการแข่งขันเดิมในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา,เกมนัดแรกของผมคือเกมกับสวอนซีและเราแพ้ นัดนี้จะเป็นนัดที่ 50 ที่ผมคุมทีมและผมหวังว่าเราจะแสดงให้เห็นได้ว่าเราพัฒนาไปแค่ไหนแล้ว เราเตรียมพร้อมมาดีในปีนี้ ผมไม่อยากแพ้พวกเขาอีก สวอนซีเป็นทีมเดียวที่เราไม่สามารถเอาชนะหรือเก็บได้สักคะแนนในฤดูกาลที่ผ่านมา ผมหวังว่าเราจะสามารถทำได้ดีขึ้น และแสดงให้เห็นว่าเราดีขึ้นกว่าเมื่อปีที่แล้ว ฟาน กัล กล่าว | หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หวังว่าลูกทีมจะแสดงให้เห็นว่าพวกเขาพัฒนาไปเพียงใดแล้ว ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่จะบุกไปเยือน สวอนซี ซิตี้ ในวันอาทิตย์นี้ และอยากเห็นทีมคว้าชัยชนะเหนือหงส์ขาวหลังแพ้ทั้งไปและกลับในซีซั่นก่อน | null | พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,หลุยส์ ฟาน กัล,สวอนซี ซิตี้,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/521483 |
จับ ตัวนาก เพื่อนซี้เจ้าตูบ อารมณ์เปลี่ยนกลายเป็นดุ อาละวาดกัดคน (คลิป) | เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 25 เม.ย. เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 ได้ลงพื้นที่ บ้านไผ่ล้อม ต.นครสวรรค์ออก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ หลังรับแจ้งมีตัวนาก กัดชาวบาดเจ็บไปแล้ว 3 ราย โดยเมื่อไปถึงพบว่าเป็นตัวนากขนาดใหญ่ เพศผู้ กำลังนอนอยู่กับสุนัขของคนในหมู่บ้าน แต่ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ทางเจ้าหน้าที่จึงใช้ปืนลูกดอกยิงยาสลบ และใช้เวลาในการจับตัวนากดังกล่าวเป็นเวลา 15 นาที จึงสำเร็จ,นายสมาน สุขประเสริฐ อายุ 43 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าให้ฟังว่า นากตัวนี้คาดว่าน่าจะเป็นของคนในหมู่บ้านข้างเคียงที่เลี้ยงไว้ ซึ่งเห็นตั้งแต่ 2 เดือนที่ผ่านมา โดยมันชอบมาเดินเที่ยวเล่นในหมู่บ้าน อีกทั้งยังมีลักษณะนิสัยที่ค่อนข้างเชื่อง ไม่ดุร้าย จนคุ้นเคยกับสุนัขของชาวบ้านไปแล้ว แต่ช่วงหลังมานี้ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันได้กัดชาวบ้านบาดเจ็บไป 3 ราย,ในส่วนของทางเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 เผยว่า หากผู้ใดมีไว้ครอบครองและเลี้ยงไว้ที่บ้านถือว่ามีความผิดตามกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่า โดยนากตัวนี้ทางเจ้าหน้าที่จะนำตัวส่งให้กับสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี ต่อไป. | ใครเอามาเลี้ยง!! ตัวนากเพศผู้ อาละวาดกัดคนในชุมชน เจ็บไป 3 ราย ชาวบ้านบอกคนในหมู่บ้านข้างเคียงเอามาเลี้ยง เห็นมาตั้งแต่ 2 เดือนก่อน แรกๆ ดูเชื่อง ชอบคลุกคลีนอนอยู่กับสุนัข จนมาช่วงหลังกลับมีนิสัยดุร้าย ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่มาจับ | ข่าว | ตัวนาก,ไล่กัดคน,ยิงยาสลบ,ปากน้ำโพ,นคนสวรรค์ | https://www.thairath.co.th/news/923245 |
ยังไม่ใช่เวลาของคนเก่ง หนุ่มโอดสอบราชการได้ที่1 แต่กลับชวดงาน | ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ,Fome Min Cism Chanapon, โพสต์ข้อความว่า ตนเองได้ไปสอบคัดเลือกในตำแหน่งจ้างเหมาบริการ (ลูกจ้างรายปีเงินเดือนหมื่นห้า) ของหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง ระดับภูมิภาค เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.61 มีผู้สมัครสอบกว่า 40 คน โดยภาคเช้าสอบความรู้ความสามารถทั่วไป+ตำแหน่ง ภาคบ่ายสอบสัมภาษณ์ และก็จะประกาศผลในวันเดียวกันวันนั้นเลย,โดยตนสอบสัมภาษณ์เสร็จเวลา 17.00 น. ได้จองตั๋วรถกลับกรุงเทพฯ เพราะต้องกลับไปทำงานต่อ จนกระทั่งเวลา 19.00 น. ก่อนเวลารถออก 30 นาที มีคณะกรรมการสอบคนหนึ่งฝากคนมาแจ้งว่า คะแนนสอบของตนเยอะที่สุด ยังไม่อยากให้กลับเพื่อรอรายงานตัวในวันถัดไป พร้อมกับยืนยันว่าอย่างไรตนก็ได้แน่นอน,จนเวลาประมาณ 20.00 น. ทางเว็บไซต์ของหน่วยงานดังกล่าวได้ประกาศผลอย่างเป็นทางการ ปรากฏว่าชื่อของตนอยู่ในอันดับ 2 วันถัดมาจึงทำเรื่องขอดูคะแนนสอบเพื่อความสบายใจ พบว่าคะแนนสอบของตนทั้งหมดได้ 169/100 คะแนน และจุดพีคอยู่ตรงที่คณะกรรมการสอบได้เสนอลำดับชื่อไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งชื่อของตนอยู่อันดับ 1 แต่หัวหน้าใหญ่ของหน่วยงานดังกล่าวบอกว่าให้ชื่อของตนไปอยู่ลำดับที่ 2 แล้วให้ใครไม่รู้มาอยู่แทนที่ และยังบอกอีกว่า,,พี่อยากให้เราเคารพในการตัดสินใจของคณะกรรมการนะคะ พี่เห็นคะแนนของเราแล้ว คะแนนของเราสูงมากพี่เชื่อว่าเราสอบได้ พี่เชื่อว่าเราทำงานเก่ง แต่ครั้งนี้อาจจะยังไม่ใช่เวลาของเราก็ได้ค่ะ,,อย่างไรก็ตามเจ้าของโพสต์ระบุอีกว่า ไม่ขอดำเนินการร้องเรียนใดๆเนื่องจากมีหลักฐานไม่ชัดเจน และกระทรวงดังกล่าวเป็นกระทรวงที่ตนทำงานอยู่ จึงไม่อยากให้เสียชื่อเสียงไปมากกว่านี้ เป็นต้น.,Fome Min Cism Chanapon | คนไม่ใช่ยังไงก็ไม่ใช่! หนุ่มสอบเข้าราชการคะแนนนำอันดับ 1 แต่ถูกคลื่นใต้น้ำผลักลงเป็นอันดับ 2 พร้อมเหตุผลเจ็บจี๊ด ทำงานเก่ง คะแนนสูง แต่อาจยังไม่ถึงเวลาของน้อง | ข่าว,สังคม | สอบราชการ,คะแนนสอบ,จ้างเหมาบริการ,ข่าวโซเชียล,โกงคะแนนสอบ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1315936 |
MITSUBISHI ปรับปรุงบริการหลังการขายเน้นเอาใจใส่ลูกค้า | Mitsubishi Motor Thailand ดำเนินงานปรับปรุงศูนย์บริการและการซ่อมบำรุงที่รวดเร็วทันใจ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า โดยร่วมกับเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศ เพื่อยกระดับและให้ความสำคัญสูงสุดในด้านบริการหลังการขาย สร้างบรรยากาศใหม่ภายในโชว์รูมและศูนย์บริการ การปรับปรุงภาพลักษณ์โชว์รูมและศูนย์บริการทั้งสิ้น 34 แห่ง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานใหม่ของ Mitsubishi Motor,มาตรฐานใหม่ของโชว์รูมและศูนย์บริการ Mitsubishi ด้วยโทนสีดำ สีขาว และสีเทา พร้อมเส้นสายสีแดง ออกแบบให้สะท้อนถึงอัตลักษณ์ใหม่ของ Mitsubishi Motor โดยมี ไดนามิก สโลป อันเป็นเอกลักษณ์แสดงความโดดเด่นที่ภายนอกอาคารโชว์รูม ขณะที่ภายในโชว์รูมก็ได้รับการตกแต่งใหม่ พร้อมกันนี้ยังได้จัดแสดงรถยนต์มิตซูบิชิให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น,ภายในปีงบประมาณ 2562 Mitsubishi Motor Thailand วางแผนการดำเนินงานปรับภาพลักษณ์โชว์รูมและศูนย์บริการอีก 65 แห่ง โดยจะทำการปรับปรุงจนแล้วเสร็จทั้งหมด 240 แห่งทั่วประเทศภายในสิ้นปีงบประมาณ 2564,รายชื่อโชว์รูมและศูนย์บริการ Mitsubishi ภาพลักษณ์ใหม่,กรุงเทพมหานคร:,ภูมิภาค:,1,บริษัท มิตซู ออโตเวิร์ค จำกัด (สาขาอาคาร ซี ดับเบิ้ลยู),บริษัท มิตซู บีเอ็นที จำกัด (สำนักงานใหญ่),บริษัท เอ็น เค ซี มอเตอร์ จำกัด (สำนักงานใหญ่),บริษัท มิตซูอยุธยา (ไทยธาดา) จำกัด (สำนักงานใหญ่),บริษัท มิตซู วิภาวดี จำกัด (สำนักงานใหญ่),บริษัท ไทยธาดา มอเตอร์ จำกัด (สำนักงานใหญ่),บริษัท มิตซูชัยพร จำกัด ,บริษัท มิตซูชลบุรี จำกัด (สาขาพัทยา),บริษัท กวงไถ่มอเตอร์เซลส์ จำกัด ,บริษัท มิตซู พัทยา จำกัด,บริษัท มิตซูรุ่งเจริญ จำกัด (สำนักงานใหญ่),บริษัท มิตซูชลบุรี จำกัด (สาขาระยอง),บริษัท ห้างไทยธาดา (1971) จำกัด (สำนักงานใหญ่),บริษัท มิตซู เอสซี สิงห์บุรี จำกัด ,บริษัท วี.เอ็ม.เอส.คาร์ เซลล์ จำกัด ,บริษัท มิตซูพันล้าน จำกัด ,บริษัท มิตซู อิมเพรสชั่น จำกัด,บริษัท แสงชัยมอเตอร์เซลส์ จำกัด (สาขาแม่โจ้),บริษัท มิตซู เซควอญ่า จำกัด,บริษัท ทีเคซี มิตซูตาก จำกัด (สาขาแม่สอด),บริษัท มิตซู เอส.พี.กรุ๊ป จำกัด (สาขาซีคอนบางแค),บริษัท มิตซูเชียงใหม่ จำกัด (สำนักงานใหญ่),บริษัท มิตซู ออโต้เฮ้าส์ จำกัด,บริษัท วี กรุ๊ป มิตซูออโต้เซลล์ จำกัด (จังหวัดพิษณุโลก),บริษัท มิตซู เอส.พี.กรุ๊ป บางใหญ่ จำกัด ,บริษัท มิตซูนครขอนแก่น จำกัด (สำนักงานใหญ่),บริษัท เอเบิล มอเตอร์ส จำกัด (สำนักงานใหญ่),บริษัท มิตซูเจียงหนองคาย จำกัด (สาขาเมืองอุดรธานี),บริษัท สิทธิผลเซลส์ จำกัด (สาขาลำลูกกา),บริษัท มิตซูไทยยนต์ จำกัด (จังหวัดอุบลราชธานี),บริษัท มิตซู ออโต้ หาดใหญ่ จำกัด,บริษัท มิตซูไทยยนต์กลการ จำกัด,บริษัท วังกระบี่ จำกัด,บริษัท จ.วินิต จำกัด (สำนักงานใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช),อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,[email protected],Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/ | Mitsubishi Motor Thailand ยกระดับโชว์รูมทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เน้นบริการหลังการขายเอาใจลูกค้า | ข่าว,ยานยนต์ | Mitsubishi Motor Thailand,Pajero Sport,Xpander,Triton,อาคม รวมสุวรรณ | https://www.thairath.co.th/news/auto/news/1605041 |
นครบาลกระจายกำลังตรวจค้นยาเสพติดย่านดินแดง | ตำรวจนครบาลกระจายกำลังเข้าตรวจค้นยาเสพติดในชุมชน 3 แห่ง ย่านดินแดง คือ ชุมชนตรอกข้าวสาร ชุมชนตลาดเกียรติ และชุมชนซอยชานเมืองแยก 8 เพื่อต้องการตัดวงจรการขายปลีกยาเสพติด และเพื่อลดจำนวนผู้เสพให้ลดลงเป้าหมายปิดล้อมตรวจค้นชุมชนทั่วทั้งพื้นที่กรุงเทพมหานครจะทำอย่างต่อเนื่อง 4 วัน โดยตำรวจกำหนดเป้าหมายให้แต่ละพื้นที่จับผู้ค้ารายย่อยได้วันละ 1 คน และหากปฏิบัติตามได้จริง ใน 4 วัน จะสามารถจับผู้ค้าได้กว่า 300 คนนอกจากการตรวจค้นชุมชน ตำรวจยังจับนายช่วย เลียบแสง ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด ที่ตำรวจสืบทราบว่านายช่วยใช้อาชีพขับรถแท็กซี่บังหน้า ก่อนนัดลูกค้าซึ่งทำทีเป็นผู้โดยสาร ให้มารับของในรถ หรือไปตามจุดนัดพบต่างๆ เบื้องต้นนายช่วยรับสารภาพว่าเป็นผู้คายาเสพติดทั้งนี้มีรายงานว่า เช้านี้ (13 ม.ค.) ตำรวจนครบาลจะแถลงสรุปผลการทำงานกวาดล้างยาเสพติดตามจุดต่างๆ และมีผู้ต้องหา 1 คนเป็นผู้ช่วยพยาบาลของโรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งลักลอบจำหน่ายยาบ้าในโรงพยาบาลด้วย | รุ่งเช้าที่ผ่านมา ตำรวจนครบาลระดมกำลังตรวจค้นชุมชนในย่านดินแดง 3 จุด ตามเบาะแสที่ได้รับแจ้งข้อมูล เพื่อจับเครือข่ายยาเสพติดและผู้ค้ารายย่อย | อาชญากรรม | ดินแดง,ตรวจค้น,ยาเสพติด | https://news.thaipbs.or.th/content/59284 |
Next Station ไห่หนาน… ตั้งแต่ 1 พ.ค. เป็นต้นไป คนไทยเที่ยวมณฑลไห่หนานฟรี ไม่ต้องขอวีซ่า | เพิ่งกลับมาจากวันหยุดยาวไม่ทันไร เชื่อว่าใจหลายคนกำลังร่ำร้องปักหมุดเที่ยวอีกในวันหยุดถัดไป เราขอแนะนำคุณปักหมุดยังมณฑลไห่หนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เพราะตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป นักท่องเที่ยวไทยที่จะเดินทางไปยังมณฑลนี้จะไม่ต้องขอวีซ่าอีกต่อไปสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะบริหารกิจการตรวจคนเข้าเมืองแห่งรัฐ สาธารณรัฐประชาชนจีน ประกาศเตรียมยกเลิก วีซ่า เป็นระยะเวลา 30 วันสำหรับการเข้าเยือนมณฑลไห่หนานให้แก่นักท่องเที่ยว 59 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย อังกฤษ เยอรมนี อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย โรมาเนีย สหรัฐอเมริกา แคนาดา บราซิล เม็กซิโก ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บรูไน คาซัคสถาน เบลารุส กาตาร์ โมนาโก และไทย ฯลฯ โดยจะมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ เพื่อสนับสนุนนโยบายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เปิดกว้างมากขึ้นมณฑลไห่หนาน เป็นมณฑลที่มีขนาดเล็กสุดของประเทศจีน ตั้งอยู่ล่างสุดของประเทศ ประกอบด้วยหมู่เกาะมากมาย เป็นเมืองริมทะเลแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ในเขตร้อน มีหาดทรายสวย และได้รับขนานนามว่า ฮาวายแห่งเมืองจีนทั้งนี้ นโยบายยกเลิกวีซ่าถูกประกาศขึ้นโดยประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ระหว่างการปราศรัยในพิธีฉลองวาระครบรอบ 30 ปี การจัดตั้งมณฑลไห่หนานและเขตเศรษฐกิจพิเศษไห่หนานเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยหวังให้มณฑลไห่หนานขยายการปฏิรูป เปิดเขตทดลองการค้าเสรี เขตทดลองนิเวศวิทยาแห่งชาติ การท่องเที่ยวระหว่างประเทศและศูนย์การบริโภค รวมไปถึงเขตโลจิสติกส์ทางยุทธศาสตร์แห่งชาติด้วยPhoto: shutterstock | คณะบริหารกิจการตรวจคนเข้าเมืองแห่งรัฐ สาธารณรัฐประชาชนจีน ประกาศเตรียมยกเลิก วีซ่า เป็นระยะเวลา 30 วัน สำหรับการเข้าเยือนมณฑลไห่หนานแก่นักท่องเที่ยว 59 ประเทศ เริ่ม 1 พฤษภาคม 2561 | null | null | https://thestandard.co/hainan-offer-30-day-visa-free-period-for-visitors-from-59-countries/ |
กราบหัวใจสุดสตรอง พรีม รณิดา เผย 5 วิธีดูแลพี่ชายเป็น ดาวน์ซินโดรม | อาจจะเป็นโรคที่เป็นฝันร้ายของหลายๆ ครอบครัว แต่สำหรับครอบครัวนางเอกสาวคนดัง ,พรีม รณิดา เตชสิทธิ์, ที่มีพี่ชายเป็น กลับมีความสุขมาก ถึงแม้พี่ชายจะมีพัฒนาการช้า แต่ก็สามารถดูแลตัวเองได้ โดยพรีมเล่าโมเมนต์น่ารักๆ ของเธอกับพี่ชาย และวิธีดูแลเอาใจใส่ผู้ป่วยโรคนี้ให้เราฟังว่า ,ทุกวันนี้จะเเนะนำคลิปยูทูบดูกัน พี่เป็นคนที่ชอบเพลง ชอบฟังเพลง ชอบดูมิวสิกวิดีโอ แล้วก็จะชอบสรรหาอะไรดูไปเรื่อยๆ ซึ่งบางทีเขาก็จะดูแบบวน ดูแต่ในสิ่งที่เขารู้จัก พรีมก็จะแบบ เฮ้ยยูร้องเพลงใหม่เพลงนี้ดิก็จะร้องเพลงด้วยกัน เหมือนพี่จะชอบดนตรี ก็จะอยู่ตรงนั้น ก็จะมีคีย์บอร์ดเป็นของตัวเอง,อย่างพี่ชายเป็น คือมันจะเเตกต่างกับเด็กออทิสติกตรงที่ว่า จะไม่ใช่คนที่ถ้ามีความสามารถแล้วก็คือจะเเบบอัจฉริยะไปด้านนั้น แต่ก็คือก็จะหมกมุ่นกับสิ่งนั้น อยู่ที่บ้านพี่ก็จะเล่นคีย์บอร์ดทุกวัน พรีมก็จะเเบบเอ๊ย ลองเพลงใหม่กัน บางทีก็เป็นพวกเพลงแบบง่ายๆ ก็จะสอนเขาเล่น ให้เขากดตามเบอร์ของคีย์บอร์ดจนเขาทำได้ ไม่ก็แบบเล่นวีอ่ะ ที่มันเป็นแบบมีรีโมต ก็จะเล่นเทนนิสด้วย หาอะไรทำด้วยกัน,1. แค่ชื่อก็น่ากลัวจริงไหม,ไม่น่ากลัว เราโตมาด้วยกันเลย ยังไงมันก็เป็นเรื่องทางพันธุกรรมค่ะ ที่มันก็มีแต่การกระตุ้นไม่ให้แย่ลง มันไม่ใช่โรคที่รักษาจนหายได้ มีเเต่ว่าเราอยากพัฒนาเขาไปในทางไหน อย่างเช่น ตอนเด็กๆ แม่ก็จะคอยบอกหนูตลอดเลยว่าต้องฝึกให้จอห์นนี่จับสิ่งของเยอะๆ นะ เพราะว่ากล้ามเนื้อของเขาตอบสนองช้า มันจะควบคุมได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเหมือนคนปกติ ตอนเด็กๆ พรีมก็จะแบบลองจับอันนี้ดูนะ ยูทำได้มั้ย ยูจับตะเกียบได้มั้ย ทุกวันนี้ก็ยังจับไม่ได้ แต่ก็ดีขึ้นแล้ว เหมือนจะพยายามหาอะไรที่มันท้าทายสำหรับเขาเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ หลายๆ ครอบครัวมองว่าโรคนี้มันน่ากลัว ดูไม่สมบูรณ์แบบ แต่เชื่อเถอะค่ะ ว่าไม่ต้องสมบูรณ์แบบอย่างใครเขาก็มีความสุขในแบบเราได้ ,2.ทุกวันนี้ยังมีอะไรห่วงจอห์นนี่,ไม่ค่อยค่ะ เพราะว่ามีแม่คอยดูแลอยู่ พรีมจะดูห่างๆ แต่อย่างตอนไปเกาหลี พรีมพาพี่จอห์นนี่ไปด้วย ก็ได้พี่ๆ ที่บ้านช่วยกันดูแลค่ะ,3.แล้วพรีมทำงานนอกบ้าน เขาแสดงความห่วงเรายังไงบ้าง?,ใช่ พี่จะรู้ จะสังเกตได้เลยจากเมื่อก่อนแบบพรีมไม่ได้ทำงาน พรีมก็อยู่บ้านเป็นวัยรุ่นปกติ จนกระทั่งต้องถ่ายละคร ต้องออกกองแต่เช้า กว่าจะกลับมาอีกที 4 ทุ่ม-5 ทุ่ม คือบางทีพี่ก็นอนแล้ว พี่ก็จะถามแม่ว่า เจนนี่ไปไหน เขาเรียกพรีมว่าเจนนี่ เขาก็จะถามว่าไปไหน ดึกรึเปล่า ดึกคือต้องออกแต่เช้ามั้ย ทุกๆ ครั้งที่กลับบ้านเขาก็จะกอด อย่างน้อยต้องกอดต่อวันครั้งนึง เขาน่ารักมากค่ะ,4.เขารู้เรื่องเยอะขึ้นจากเมื่อก่อน,พี่เขาใจดี เขาก็จะมีมุมแบบหวงๆ ตลกมากมันก็จะมีบางทีเราไปมหาลัย ก็จะมีรุ่นพี่มาหยอดๆ มากินข้าว พี่ชายเหมือนจะรู้ เขาก็จะไม่เเสดงท่าทางอะไรที่มันดูหวง แต่สายตาเขาอ่ะจะเป็นการมองพรีมกับรุ่นพี่แบบ รู้นะ จ้องไปเรื่อยๆ จนทำให้พรีมแบบอย่ามามองแบบนั้นได้มั้ย (หัวเราะ),5.วิธีดูแลเขา?,เรื่องของความรู้สึก เราต้องใส่ใจเขามากๆ เราไม่ควรใจร้อนกับเขา เราต้องใจเย็นๆ คือเขาพัฒนาการได้ แต่ช้าเท่านั้นเอง เรื่องนี้พรีมว่าสำคัญ ไม่ว่ากับครอบครัวไหนนะคะ เราไม่ควรรีบเร่งหรือให้ทุกอย่างตามใจเรา เราต้องเข้าใจตัวเขามากๆ ทุกวันนี้แม่กับพรีมจะเข้าใจพี่จอห์นนี่ทุกอย่าง และจะให้เวลาเขาเต็มที่ค่ะ ถ้าเขาอยากเรียนรู้อะไร. | ดาวน์ซินโดรม อาจจะเป็นโรคที่เป็นฝันร้ายของหลายๆ ครอบครัว แต่สำหรับครอบครัวนางเอกสาวคนดัง พรีม รณิดา เตชสิทธิ์ ที่มีพี่ชายเป็น ดาวน์ซินโดรม กลับมีความสุขมาก ถึงแม้พี่ชายจะมีพัฒนาการช้า แต่ก็สามารถดูแลตัวเองได้ พรีมเล่า | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | ดาวน์ซินโดรม,พรีม รณิดา,รณิดา เตชสิทธิ์,จอห์นนี่ พี่ชาย พรีม,วิธีดูแล ดาวน์ซินโดรม | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/love/1038407 |
ชวน-อภิสิทธิ์ อาลัยสิ้น สุรินทร์ พิศสุวรรณ | วันนี้ (30 พ.ย.2560) เวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ถึงแก่อนิจกรรม ด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ที่โรงพยาบาลรามคำแหงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเสียดายและเสียใจกับการจากไปของนายสุรินทร์ เพราะไม่ได้เตรียมรับกับข่าวดังกล่าว แม้จะรู้ว่า การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา แต่นายสุรินทร์มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและปฏิบัติงานอย่างปกติ จึงไม่คิดว่าจะจากไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตนรู้สึกสะเทือนใจนายชวน กล่าวเพิ่มเติมว่า นายสุรินทร์ มีบทบาทสำคัญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเป็นบุคคลหนึ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทย อีกทั้งช่วยหาเสียงให้ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ จนได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการใหญ่ องค์การการค้าโลก (WTO)นอกจากนี้ ระหว่างที่นายสุรินทร์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องสำคัญทุกวันนี้ คือ ทำให้ความขัดแย้งระหว่างประเทศลดลงไป และการประสานส่งทหารไปติมอร์ตะวันออก เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและแสดงศักยภาพของไทยขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งข้อความผ่านไลน์ แสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับการสูญเสียบุคลากรที่มีคุณค่า ไม่ใช่เฉพาะสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นความสูญเสียของประเทศและสังคมโลกด้าน น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อการจากไปของนายสุรินทร์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตเลขาธิการอาเซียน เนื่องจากนายสุรินทร์มีบทบาทอย่างสูงในการดำเนินนโยบายต่างประเทศไทย และเป็นผู้ที่ขับเคลื่อนอาเซียนให้มีความก้าวหน้าและเป็นที่ยอมรับในเวทีระหว่างประเทศ นอกจากนี้ นายสุรินทร์ยังเป็นบุคคลสำคัญที่นานาประเทศให้การยอมรับในด้านความรู้ความสามารถ และเป็นผู้ที่มีคุณูปการต่อการต่างประเทศไทยและเวทีระหว่างประเทศ | นายชวน หลีกภัย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อาลัยกับการจากไปของนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ชี้บุคลากรที่ทรงคุณค่าของประเทศและสังคมโลก ขับเคลื่อนอาเซียนให้มีความก้าวหน้าและเป็นที่ยอมรับ | การเมือง | ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,สุรินทร์ พิศสุวรรณ,สุรินทร์,อดีตเลขาธิการอาเซียน,ชวน หลีกภัย,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ | https://news.thaipbs.or.th/content/268153 |
จตุพร ลั่นใครดอดร่วมวง สปท. พ้นสภาพ นปช. | จตุพร ยันจุดยืน นปช. ไม่ขอเกี่ยวดอง สปท. ลั่นใครอยากเข้าร่วม พ้นสภาพเสื้อแดง ย้ำจุดยืนนักปชต. คือการได้มาซึ่งสภาจากการเลือกตั้ง แนะพรรค-กลุ่มการเมือง ไม่ควรเข้าร่วมวงสภาปฏิรูปฯ ชี้ 4 แกนนำบุกบ้าน ป๋าเปรม ยังสู้ตามขั้นตอนกฎหมาย,เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 58 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวผ่านรายการมองไกล ออกอากาศทางยูทูบ ตอนหนึ่งถึงกรณี 4 แกนนำ นปช. ถูกศาลตัดสินจำคุก 4 ปี ในคดีเคลื่อนขบวนชุมนุมไปที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่า พวกตนพูดกันเสมอว่าเอาคดีก่อการร้ายที่มีโทษประหารชีวิตเสียก่อนดีไหม เพราะถ้าประหารชีวิตก็ไม่ต้องไปติดคุก ซึ่งไม่ได้พูดด้วยความท้าทาย แต่ตนเห็นอาการสะใจ โดยบางคนบางฝ่ายลืมนึกว่าตัวเองต้องคดีเหมือนกัน ตนไม่เคยซ้ำเติมใคร แกนนำบางฝ่ายไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีการต่อสู้ แต่ถูกคำพิพากษา 85 ปี เคยมีครั้งใดหรือไม่ที่ตนไปซ้ำเติมเขา พอศาลพิพากษาก็ถือว่าทุกอย่างยุติ และก็เข้าใจในชะตากรรมนี้ ซึ่งยังต้องมีกระบวนการต่อสู้ทางกฎหมายในขั้นต่อไปอีก ,ขณะนี้กระบวนการยุติธรรมยังไม่สิ้นสุด ยังถือว่าทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์ ตนพูดเสมอว่าทั้งหมดนั้นเป็นชะตากรรม แกนนำ นปช.ทั้งหมดที่บอกว่าสู้แล้วรวยนั้น สู้แล้วก็ตาย ไม่ก็ติดคุก ทุกสิ่งทุกอย่างยากลำบากสำหรับนักต่อสู้ทั้งสิ้น ตอนต่อสู้ก็ต่อสู้กับศัตรู รบชนะเสร็จหมู่มิตรก็มองว่าจะเป็นปัญหา ตอนรบเป็นระดับผู้บัญชาการ พอรบชนะมาต่อแถวพลทหาร หลังจากนั้นก็ตระเวนไปขึ้นศาล ไม่มีใครอยากให้เข้าใกล้ ยกเว้นเวลาที่ประเทศเป็นปัญหา,นายจตุพร กล่าวต่อว่า สำหรับการสรรหาสภาขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศ (สปท.) ที่ระบุว่า จะมีการเปิดพื้นที่ให้กับบรรดาพรรคการเมือง โดยล่าสุดรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ออกมาระบุว่า พรรคการเมืองส่งชื่อไปแล้ว มีการสอบถามว่าได้มีการติดต่อมาที่ตนบ้างหรือไม่ เขาไม่มีทางติดต่อตน เชื่อว่าเขารู้ว่าตนคิดเช่นใด เพราะบทเรียนปีเศษถ้าฟังกันบ้างตนบอกชัดเจนว่าพรรคการเมือง กลุ่มการเมืองที่มีความเห็นต่างนั้น ไม่ควรเข้าไปอยู่ในแม่น้ำ 5 สาย แต่ท้ายที่สุดก็ไปตั้งเขาเป็น สนช. สปช. กรรมาธิการยกร่าง และมีตำแหน่งในรัฐบาล และคนเหล่านี้ก็ใช้ความเป็นปฏิปักษ์มาเล่นงานปฏิปักษ์กันต่อ เป็นสิ่งที่เป็นปัญหา ตนไม่รู้ว่าในบรรดาคนเสื้อแดงใครได้รับการทาบทามบ้าง แต่ฟังไว้ว่าตนไม่ได้มีอุปสรรคปัญหากับ สปท. และตนเองมีความเห็นว่าทั้งกลุ่มการเมือง พรรคการเมือง ไม่ควรจะเข้าร่วม ความจริงตนไม่เห็นด้วยกับที่มาของ สปท.ตั้งแต่ต้น,จุดยืนของ นปช.ชัดเจนคือไม่เข้าไปร่วม และถ้าคนๆ ใด ในขบวนการที่เคยร่วมต่อสู้กันมาเข้าไปร่วม อย่าได้บอกว่าเขาเป็น นปช. คนเสื้อแดงเป็นแล้วไม่มีที่ลาออก ตายไปแล้วก็ยังออกไม่ได้ แต่ว่ามันจะพ้นจากตำแหน่งนั้นไปเพราะพฤติกรรม ถ้าพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์กับประชาชน ทำในสิ่งที่สวนทางกับความรู้สึก แม้ว่าผมกับใครก็ตาม ซึ่งผมไม่รู้ว่าใครแอบถูกทาบทามไปบ้าง เพราะเขาไม่มีวันจะกล้ามาทาบทามผม ,ดังนั้น ใครก็ตามถ้าตัดสินใจเช่นนั้น จริงอยู่เป็นสิทธิเสรีภาพ แต่ท่านไม่ใช่ นปช. ส่วนท่านจะเป็นเสื้อแดงหรือไม่นั้น ประชาชนเขาจะตัดสินท่านเอง เหตุการณ์วันเวลาจะได้กรองกาก ของหยาบบ้าง เพื่อให้ได้ในสิ่งที่มีความละเอียดมากยิ่งขึ้น แต่ผมจะไม่มีวันที่จะไปชี้หน้าคนที่เข้าร่วมของแต่ละฝ่าย เพราะแต่ละฝ่ายก็แสดงความคิดเห็นกันต่างกรรมต่างรูปแบบ ผมอยากจะบอกว่าปีกว่าบทเรียนแม่น้ำ 5 สาย ยังไม่พออีกหรือ เพราะจุดยืนของนักประชาธิปไตยคือสภาที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และอยู่ภายใต้กติกาที่เป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้องเท่านั้น นายจตุพร กล่าว | จตุพร ยันจุดยืน นปช. ไม่ขอเกี่ยวดองสปท. ลั่นใครอยากเข้าร่วม พ้นสภาพเสื้อแดง ย้ำจุดยืนนักปชต. คือการได้มาซึ่งสภาจากการเลือกตั้ง แนะพรรค-กลุ่มการเมือง ไม่ควรเข้าร่วมวงสภาปฏิรูปฯ | null | จตุพร พรหมพันธุ์,ประธานนปช.,เสื้อแดง,สภาปฏิรูปประเทศ,สปท.,จุดยืน นปช.,แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/526017 |
มิ้นต์ ชาลิดา ไม่ยุ่งดราม่าน้องชายอยู่ในเหตุการณ์คนรุมทำร้ายสาว (คลิป) | กลายเป็นดราม่าไปแล้ว เมื่อนักแสดงหนุ่ม ม่อน ธนัชชัย น้องชายนางเอกสาว มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง ถูกโยงว่าอยู่ในเหตุการณ์ที่มีคนรุมทำร้ายผู้หญิงแต่ไม่เข้าไปช่วยห้ามปราม หลังจากที่ผู้หญิงคนดังกล่าวเข้าไปทักดาราวัยรุ่นชาย แต่กลับเจอกะเทยดักตบ เจอ มิ้นต์ ในงานเปิดตัว HUAWEI P30 Series Super Camera Smartphone ณ ห้องแมคโนเลีย บอลรูม ชั้น 10 โรงแรม Waldorf Astoria Bangkok นักข่าวเลยถามถึงเรื่องดังกล่าว,ล่าสุดมีข่าวน้องม่อนอยู่ในเหตุการณ์รุมทำร้ายผู้หญิง ได้เห็นข่าวรึยัง?,ก็เห็นค่ะ ก็น้องแหละค่ะที่เป็นคนบอก (หัวเราะ) ถามว่าเขาเล่าให้ฟังยังไงบ้าง เอาจริงๆ รายละเอียดเรื่องทั้งหมดมิ้นต์ไม่ได้ทราบอย่างแน่ชัดว่าเรื่องราวเกิดขึ้นอะไรยังไงค่ะ,แต่ทำไมเขาถึงโยงมาเป็นน้องเรา?,(หัวเราะ) อันนี้ก็งงเหมือนกันค่ะ,มิ้นต์มีโอกาสถามน้องรึยัง?,คือมิ้นต์เป็นคนที่ไม่อยากถามอะไรมากค่ะ ด้วยความที่มิ้นต์อยากให้เขาเติบโตในวงการ เราได้แค่บอกแค่เตือน แต่สุดท้ายแล้วสุดแต่ใจเขาไขว่คว้าให้ตัวเอง อย่างเรื่องที่เกิดขึ้น เราก็ไม่ทราบอะไรที่แน่ชัด แต่ว่าก็ทราบจากน้อง ซึ่งเขาก็ได้บอกเล่าว่ามันมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจริง แต่เราฟังความฝั่งเดียวไม่ได้ค่ะ เราก็คงต้องฟังทั้งสองฝั่ง แต่ทั้งหมดทั้งมวล มิ้นต์ก็ไม่ปักใจเชื่อทั้งสองฝั่งร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะว่าถึงเวลาพูดตรงๆ เวลาแอลกอฮอล์เข้าปากคนเราก็ไม่รู้ว่าอะไรมันเป็นยังไงนะคะ ก็ไม่ได้เข้าข้างน้องหรือไม่ได้ฟังความอีกฝ่าย ดังนั้นคงต้องให้เป็นเรื่องของทั้งสองฝ่ายดีกว่า,แสดงว่าม่อนยืนยันกับมิ้นต์ว่าอยู่ในเหตุการณ์?,ก็ได้เล่าว่าได้ไปสถานที่บันเทิง มิ้นต์ก็เคยเตือนเขาตลอดว่าทำอะไรต้องระมัดระวัง เพราะว่าเราอยู่ในสื่อ แต่สุดท้ายอย่างที่บอกว่าวัยรุ่นน่ะถ้าไม่ให้เขาลองให้เขารู้เขาเห็น สุดท้ายเขาต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง,มันอาจมีผลกระทบกับชื่อเสียงของน้อง?,เตือนตลอดค่ะ น้องจะรู้ เพราะว่ามิ้นต์ไม่ได้เป็นพี่ที่สปอยล์และเข้าข้าง อย่างที่บอกคือเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ให้เขาได้เรียนรู้และรู้จักแก้ปัญหาด้วยตัวของเขาเองค่ะ,ห่วงเขามั้ยเพราะมันก็มีข่าวออกมา?,ถ้าด้วยความเป็นพี่มันเป็นห่วงอยู่แล้วค่ะ น้องชายมันดื้อน่ะพูดตรงๆ (หัวเราะ) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขับรถ การเจอผู้คน วัยรุ่นก็คือวัยรุ่น เราได้แค่บอกแค่สอน อย่างคุณพ่อคุณแม่มิ้นต์สอนพูดจนปากเปียกปากแฉะ แต่เด็กผู้ชายน่ะค่ะ ถ้าเกิดเขาฟังแล้วทำตามก็อีกเรื่องนึง (ยิ้ม) แต่ไม่เป็นไรค่ะ ก็ให้เรียนรู้การแก้ปัญหาด้วยตัวเขาเอง,ในส่วนของผลกระทบกับงานล่ะ?,คือมิ้นต์มีความรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องที่คอขาดบาดตายร้ายแรงขนาดนั้น หรือทะเลาะวิวาทกัน เรื่องนี้มิ้นต์มองว่าเกิดจากการหยอกล้อกันมากกว่า อาจจะพูดไม่เข้าหูกัน แต่อย่างที่บอกมิ้นต์ไม่ได้ทราบรายละเอียดร้อยเปอร์เซ็นต์,พอมีข่าวออกมาอีกฝ่ายได้ติดต่อมาบ้างไหม?,อันนี้ไม่ทราบเลยค่ะ เพราะว่าด้วยกรณีที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดกับตัวของน้องมิ้นต์เองตรงๆ แค่อยู่ในเหตุการณ์ แต่ม่อนก็บอกมิ้นต์ตรงๆ ว่าม่อนได้ห้ามแล้ว แต่มิ้นต์ก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น,คุณพ่อคุณแม่ทราบเรื่องหรือยัง?,ก็ทราบค่ะ เพราะว่าตัวน้องเป็นคนบอกเอง เขาบอกก่อนที่จะมีข่าวออกมา เพราะมิ้นต์เป็นคนที่ไม่ได้นั่งอ่านข่าวหรือเช็กข่าวอยู่แล้ว,คุณแม่ว่ายังไงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น?,แม่ก็พูดตลอดว่าบอกแล้วนะให้ระวัง. | มิ้นต์ ชาลิดา ไม่ขอยุ่งดราม่าน้องชายอยู่ในเหตุการณ์ที่ผู้หญิงถูกรุมทำร้าย ขอให้เป็นเรื่องของทั้งสองฝ่ายและให้น้องแก้ปัญหาเอง ที่ผ่านมาทั้งตนและพ่อแม่คอยเตือนตลอด รับเป็นห่วงน้องหลังมีข่าว | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | มิ้นต์ ชาลิดา,ม่อน ธนัชชัย,น้องชาย มิ้นต์ ชาลิดา,ดราม่าดารา,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1532008 |
(เก็บตก)ประมวลภาพจุดเทียนเขียนสันติภาพ หนุนเลือกตั้ง (27-31 ม.ค.) | ต่อต้านการรัฐประหารและสนับสนุนให้เคารพเสียงของคนทั้งประเทศเดินหน้าเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.นี้ โดยประชาไทได้รวบรวมภาพกิจกรรมในพื้นที่ต่างๆ ที่จัดกิจกรรมที่ต่างๆ ที่ยังไม่ไดรายงานในรอบสัปดาห์(27-31 ม.ค.)ผ่านมาดังนี้นักศึกษานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร จัดกิจกรรม จุดเทียน เขียนสันติภาพ ขึ้นภายในมหาวิทยาลัย ด้วยความตั้งใจของ นศ.ที่อยากมีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบ้านเมืองจากวิกฤติในครั้งนี้ และให้สังคมรับรู้ว่าเยาวชน นศ.ทางอีสานเหนือก็สนับสนุนสันติภาพและไม่ต้องการความรุนแรงให้เกิดขึ้นในสังคมไทยเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา Silhouette Democrazy รายงานว่ากิจกรรมที่ชื่อ จุดเทียนย้อนแสง ครั้งที่ 3 และครั้งสุดท้ายในชื่อตอนว่า ซ้อมกาก่อนเข้าคูหา รอเลือกตั้ง ต้านรัฐประหาร โดยครั้งแรกจัดในวันที่ 15 ครั้งที่สองในวันที่ 23 ในเดือนมกราคมนี้ กิจกรรมจัดบริเวณใต้ต้นโพธิ์ใกล้กับคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง นอกจากกิจกรรมเดิมคือ ครั้งนี้ได้จัดทำคูหาเลือกตั้งจำลองเพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแสดงสัญลักษณ์เรียกร้องการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมราวๆ 50 คน งานเริ่มต้นด้วยการล้อมวงและจุดเทียนย้อนแสง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ร่วมกันกับผู้ต้องการการเลือกตั้งทั่วประเทศ โดยย้ำว่าการเคลื่อนไหวนี้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดไม่ใช่ศัตรู ยกเว้นแต่รัฐประหารและการใช้อำนาจอันบิดเบี้ยวเช่นเคย หลังจากนั้นก็นับถอยหลังสู่วันเลือกตั้งอีก 3 วัน และเปล่งเสียงตะโกนพร้อมกันว่า ไปเลือกตั้ง 3 ครั้ง จากนั้นทุกคนก็นำเอาเทียนไปปักไว้ที่โคนต้นโพธิ์ | 1 ก.พ.2557 ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรม จุดเทียนเขียนสันติภาพ เพื่อเรียกร้องให้ยุติการเคลื่อนไหวที่จะนำไปสู่ความรุนแรง | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | การเลือกตั้ง,การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57,ความเท่าเทียม,จุดเทียนเขียนสันติภาพ,สันติภาพ | https://prachatai.com/journal/2014/02/51556 |
บิ๊กตู่ บินถึงญี่ปุ่น เตรียมร่วม พระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันนี้ | นายกฯ พร้อมคณะ เดินทางถึงกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แล้ว เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น และหารือทวิภาคีกับ ชินโซะ อาเบะ นายกฯ ญี่ปุ่น โดยมีกำหนดการเยือนระหว่าง 21-24 ต.ค.นี้,เมื่อวันที่ 22 ต.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอช,า นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมภริยา และคณะ ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น โดย พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ มีกำหนดการเยือนญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 21-24 ต.ค.นี้,โดยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะแห่งญี่ปุ่น นั้นจะจัดขึ้นวันที่ 22 ต.ค.2562 เวลาประมาณ 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ซึ่งเร็วกว่าไทย 2 ชม.) ณ ท้องพระโรง มัตซึโนมะ หรือท้องพระโรงใหญ่ ในพระราชวังหลวง กรุงโตเกียว โดยคาดว่าจะมีพระราชอาคันตุกะ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมพิธีกว่า 2,500 คน,ส่วนวันพุธที่ 23 ต.ค.2562 พล.อ.ประยุทธ์ จะเข้าพบหารือทวิภาคีกับ นายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ณ ทำเนียบรับรองของรัฐบาลญี่ปุ่น โดยนายชินโซะ อาเบะ และภริยา จะร่วมเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ณ โรงแรมนิวโอตานิ โตเกียว,จากนั้นในวันพฤหัสบดีที่ 24 ต.ค.2562 เวลา 00.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ ภริยา และคณะ จะเดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะ กรุงโตเกียว กลับประเทศไทย และจะถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ในเวลา 04.50 น. | นายกฯ พร้อมคณะ เดินทางถึงกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แล้ว เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น และหารือทวิภาคีกับ ชินโซะ อาเบะ นายกฯญี่ปุ่น โดยมีกำหนดการเยือน | ข่าว,การเมือง | ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกฯ,บิ๊กตู่,ญี่ปุ่น,นายกฯเยือนญี่ปุ่น,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1687575 |
เรื่องเล่าจาก ล่ามประจำพระองค์ ทรงจำแสนประทับใจกษัตริย์รัชกาลที่ 9 | ล่ามภาษามลายูประจำพระองค์, ถูกกลั่นกรองเป็นสามเรื่องราวชวนซาบซึ้งน้ำตาไหล ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ขอเรียบเรียงความทรงจำอันตราตรึงใจเก็บไว้ในรายงานพิเศษชิ้นนี้ ,เรื่องเล่าจาก ล่ามประจำพระองค์ ทรงจำแสนประทับใจกษัตริย์รัชกาลที่ 9,ว่าที่ร้อยโทดิลก ศิริวัลลภ ล่ามภาษามลายูประจำพระองค์, ผู้ถวายงานแด่พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ย้อนเล่าถึงเหตุการณ์ครั้งเก่าก่อนให้ทีมข่าวฟังด้วยความภาคภูมิว่า,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จแปรพระราชฐานประทับ ณ ตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ พร้อมทั้งเสด็จเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อทั้งสองพระองค์ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับประชาชนที่มารอรับเสด็จ กลับไม่สามารถสื่อสารกับประชาชนให้เข้าใจตรงกันได้ เนื่องจากชาวไทยมุสลิมใช้ภาษามลายูเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงรับสั่งให้นายอำเภอรือเสาะสรรหาล่ามในพื้นที่ที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งในสมัยนั้น คุณดิลก กำลังรับราชการครู และเป็นผู้เดียวใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่เรียนจบการศึกษาชั้นปริญญาตรี ทั้งยังเป็นผู้มีความประพฤติดี มีคุณธรรม และเสียสละ จึงได้รับเลือกจากทางการให้เป็น ,ล่ามภาษามลายู,ว่าที่ร้อยโทดิลก เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นอย่างภาคภูมิว่า ,ผมก็บอกว่า ได้พระพุทธเจ้าข้า แต่ต้องขอนายอำเภอก่อนพระพุทธเจ้าข้า,เมื่อครูดิลก กราบทูลสมเด็จพระนางเจ้าฯ ไปเช่นนั้น พระองค์ทรงนิ่ง ไม่ตรัสเรื่องใดๆ ต่อ จึงทำให้ครูดิลกตกใจมาก เกรงว่าตนเองจะเผลอไผลพูดอะไรผิดไป แต่สุดท้ายก็มิได้เป็นอย่างที่ครูดิลกคิด เนื่องจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงรอพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินกลับจากเยี่ยมเยียนประชาชน เพื่อทูลแจ้งเรื่องชักชวนครูดิลกไปเป็นล่ามมลายูประจำพระองค์,คุณดิลกเต็มใจจะไป แต่คุณดิลกบอกให้เราขออนุญาตนายอำเภอก่อน นายอำเภอจะอนุญาตไหม นายอำเภอตอบเสียงดังลั่นว่า อนุญาตพระพุทธเจ้าข้า, ว่าที่ร้อยโทดิลก จำเหตุการณ์ครั้งเก่าก่อนได้ดี,ว่าที่ร้อยโทดิลก ยอมรับว่า ภายหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ตนกลับมานั่งทบทวนกับตัวเองว่า เหตุใดจะต้องขออนุญาตจากนายอำเภอก่อน เพราะบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้าล้นแผ่นดินอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้ ตนจึงเกรงว่าอาจถูกผู้หลักผู้ใหญ่ของทางการตำหนิ แต่ผู้ใหญ่ทุกๆ ท่านกลับชื่นชมว่า ครูดิลก เป็นข้าราชการที่ดี เที่ยงตรง เพราะปฏิบัติตามขั้นตอนทุกอย่าง,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มักเสด็จพระราชดำเนินไปยังบริเวณที่เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ บ่อยครั้ง พร้อมพระราชทานแนวพระราชดำริการป้องกันและแก้ไขน้ำท่วมแก่ประชาชนเสมอ ซึ่งหนึ่งในพื้นที่ที่พระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนิน ก็คือ อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส,ว่าที่ร้อยโทดิลก เล่าถึงเหตุการณ์ที่ประสบพบเจอด้วยตัวเองว่า,แต่พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า วิทยุไปถามสิว่าที่ภูเขาทองมีประชาชนมาหรือยัง,ช่วงเวลานั้น ราวๆ 10 โมงเช้าเห็นจะได้ ทางภูเขาทองได้วิทยุตอบกลับมาว่า ราษฎรมารอพระเจ้าอยู่หัวเต็มพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดแล้ว,ท่านเลยรับสั่งว่าอย่างนั้นก็ต้องไป ในเมื่อประชาชนรอเราอยู่ อย่างไรเราก็ต้องไป พร้อมรับสั่งว่าใครไม่กล้าไปก็กลับ แต่ฉันจะไป, ว่าที่ร้อยโทดิลก กล่าวถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วยความตื่นเต้นไม่น้อย,ผมขอใช้คำว่า รถดำน้ำ ด้านหน้าของตัวรถพระที่นั่งของพระเจ้าอยู่หัวจมน้ำเลย, ว่าที่ร้อยโทดิลก บอกเล่าด้วยความซาบซึ้งในพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 9 สุดหัวใจ,ว่าที่ร้อยโทดิลก ผู้นี้มีโอกาสได้ตามเสด็จฯ มาเนิ่นนานถึง 42 ปี ซึ่งมีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่ยังคงจดจำจวบทุกวันนี้ โดยมีอยู่วันหนึ่งหลังจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ กำลังเสด็จพระราชดำเนินกลับจากปัตตานี,ว่าที่ร้อยโทดิลก ย้อนเล่าถึงเรื่องราวหนหลังว่า ,ส่วนรถมอเตอร์ไซค์คันนั้น ขับไปชนล้อของรถยนต์พระที่นั่ง สมเด็จพระนางเจ้าฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ รีบเสด็จลงมาดูผู้ที่ขับมอเตอร์ไซค์ชนในทันที ว่าคนผู้นั้นได้รับบาดเจ็บอย่างไรบ้าง,ส่วนคนเมาพูดเสียงดังลั่นได้ยินไปทั่วกันว่า ผมตายไหมเนี่ย โดยที่ยังไม่รู้ว่ารถที่พุ่งเข้าไปชนนั้นเป็นรถของใคร,สมเด็จพระนางเจ้าฯ รับสั่งในทันทีว่า อย่ายิงเขา เราต้องช่วยเขา, ว่าที่ร้อยโทดิลก กล่าวถึงเหตุการณ์ครั้งเก่าก่อนอย่างละเอียด,,สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ ยังทรงถือถุงน้ำเกลือขึ้นรถพยาบาลให้ผู้บาดเจ็บ โดยที่ไม่ถือพระองค์เลย, ว่าที่ร้อยโทดิลก ประทับใจในน้ำพระทัยของทุกพระองค์,แม้ว่า ผู้บาดเจ็บเป็นข้าราชการผู้หนึ่ง ซึ่งทุกพระองค์สามารถเอาโทษได้ แต่ทุกพระองค์ทรงมีพระเมตตาไม่ถือโทษโกรธชังข้าราชการผู้นั้นแต่อย่างใด,ข้าพระพุทธเจ้า บริษัท วัชรพล จำกัด และบริษัทในเครือ ,(สัจภูมิ ละออ - ร้อยกรอง) | จากร้อยเรื่องราวสุดแสนประทับใจของ ล่ามภาษามลายูประจำพระองค์ ถูกกลั่นกรองเป็นสามเรื่องราวชวนซาบซึ้งน้ำตาไหล ทีมข่าว ขอเรียบเรียงความทรงจำอันตราตรึงใจเก็บไว้ในรายงานพิเศษชิ้นนี้ | null | ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,เจ๊ดำ | https://www.thairath.co.th/content/753191 |
ส.ว.ร่วมเสวนา สปก. 7 หมื่นไร่ ที่กระบี่ | เดียวกันทุกฝ่าย อย่ามาทำลายล้างกันทาง การเมือง แกนนำกลุ่มเรียกร้องที่ดินทำกินข้องใจแจก ส.ป.ก.ที่กระบี่ ให้เกษตรกรยากจนตัวจริง หรือนอมินีนายทุน ขู่แจกผิดพลาดอาจถึงขั้นยุบพรรค ธรรมนัส เตรียมลงพื้นที่สอบข้อมูลเชิงลึกกรณีการมอบ ส.ป.ก.ที่ผ่านมา,หลังจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ออกมาพูดพาดพิงถึงนักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ถือครองที่ดิน ส.ป.ก.อยู่หลายคนนั้น นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าไม่มี ส.ส.ของพรรคคนใดเข้าไปยุ่งกับที่ดิน ส.ป.ก.พร้อมขอให้มีการตรวจสอบโดยใช้มาตรฐานกฎหมายเดียวกันกับทุกฝ่าย อย่าทำแบบลูบหน้าปะจมูก หรือหวังแค่ทำลายกันทางการเมือง,เมื่อวันที่ 17 พ.ย. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวพาดพิงว่ามีนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ถือครองที่ดิน ส.ป.ก.ด้วยว่าจากการตรวจสอบ และสอบถามเพื่อน ส.ส.ของพรรค ยังไม่ปรากฏว่ามี ส.ส.คนใดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับที่ดิน ส.ป.ก. ส่วนที่มีข่าวปรากฏว่านายสมัชชา เอ่งฉ้วน อดีตผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้ได้รับเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.ด้วยนั้น แม้นายสมัชชามีนามสกุลเดียวกับนายอาคม เอ่งฉ้วน อดีตรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน เพราะนายสมัชชาเป็นผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ในนามพรรคพลังประชารัฐ ลงแข่งขันกับนายสุชีน เอ่งฉ้วน ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ลูกชายนายอาคม ด้วยเหตุที่มีนามสกุลเดียวกันอาจทำให้เกิดความสับสนกับข้อมูลในเรื่องนี้ได้ อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง ดำเนินการตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ลูบหน้าปะจมูก และต้องใช้มาตรฐานทางกฎหมายเดียวกันกับทุกฝ่ายโดยไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อให้เจตนารมณ์ของกฎหมาย ส.ป.ก. ที่ต้องการให้เกษตรกรผู้ยากไร้ ถือครองที่ดินได้ไม่เกิน 50 ไร่ต่อคน,อยากจะเรียนให้รัฐบาลทราบว่า ตอนนี้สังคมกำลังจับตามองการทำงานเรื่องนี้ของรัฐบาล ว่าจะมีการเลือกปฏิบัติ หรือมีการกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่ อย่านำเอาประเด็นที่ดิน ส.ป.ก.มาทำลายล้างกันทางการเมืองเหมือนกับเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา นายเทพไทกล่าว,ช่วงสายวันเดียวกัน นายสมใจ นวลนุ่ม อดีตผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย หนึ่งในแกนนำเคลื่อนไหวเรียกร้องที่ดินทำกินในสวนปาล์มหมดสัมปทานของ จ.กระบี่ 7.8 หมื่นไร่ กล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ มอบเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ให้กับนายสมัชชา เอ่งฉ้วน อดีตผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ พรรคพลังประชารัฐ ที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักว่า นำเรื่องนี้หารือกับนายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย เพราะมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากกลุ่มคนไร้ที่ดินทำกิน เคยเรียกร้องให้รัฐนำที่ดินสวนปาล์มหมดสัมปทานจำนวน 7.8 หมื่นไร่ดังกล่าว มาจัดสรรให้คนจนที่ไม่มีที่ดินทำกิน แต่การมอบที่ ส.ป.ก.เมื่อวันที่ 12 พ.ย. กลับมีผู้ได้รับมอบหลายคนอยู่ในข่ายน่าสงสัยว่าจนจริงหรือไม่ เป็นเกษตรกรจริงหรือไม่ เป็นนอมินีของนายทุนหรือไม่ เรื่องนี้หากดำเนินการผิดพลาด อาจเป็นชนวนนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองบางพรรคได้,นายสมใจกล่าวต่อว่า ได้ประสานงานกับนายพิพัทธ์ ชนะสงคราม ประธานสถาบันธรรมาภิบาลไทย เตรียมจัดเวทีเสวนาเรื่องการปฏิรูปที่ดินป่าสัมปทาน 16 ปีที่รอคอย กำหนดจัดเวทีเสวนาในวันที่ 23 พ.ย.ที่ศาลาประชาคม อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ จะมีกลุ่มตัวแทนชาวบ้านที่เคลื่อนไหวเรียกร้องที่ดินทำกินใน จ.กระบี่ ทุกกลุ่มมาร่วมงาน รวมทั้งนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำวุฒิสภา นอกจากนี้ยังได้รับการประสานจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ว่าจะมาร่วมรับฟังปัญหาข้อเท็จจริงกรณีการจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.ในพื้นที่ จ.กระบี่ รวมถึงตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกกรณีการมอบ ส.ป.ก.ที่ผ่านมาด้วย ส่วนนายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรคฯ มีกำหนดจะลงพื้นที่ จ.กระบี่ วันที่ 21 พ.ย. เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลปัญหาทั้งหมด ทั้งปัญหาการพิจารณาการออก ส.ป.ก. และปัญหาที่ดินรัฐที่หมดสัมปทาน 7.8 หมื่นไร่ ซึ่งบางส่วนถูกนำมาจัดสรรเป็นที่ ส.ป.ก.เพื่อหาแนวทางดำเนินการในขั้นตอนต่อไป | เทพไท ลั่นไม่มี ส.ส.ปชป. คนใดไปยุ่งเกี่ยวที่ดิน ส.ป.ก. จี้หน่วยงานรีบเคลียร์ให้ชัด ปม สมัชชา เอ่งฉ้วน ได้สิทธิ์ในที่ ส.ป.ก. ไม่เลือกปฏิบัติหรือทำลูบหน้าปะจมูก ย้ำต้องยึดมาตรฐานกฎหมาย | ข่าว,การเมือง | เทพไท เสนพงศ์,ธรรมนัส พรหมเผ่า,ที่ดิน สปก.,สมัชชา เอ่งฉ้วน,ที่ดินทำกิน,สังศิต พิริยะรังสรรค์,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/news/politic/1706421 |
พ่อแม่ ศรีรัศมิ์ โดนจำคุก 2 ปี 6 เดือน (ชมคลิป) | คดีแอบอ้างเบื้องสูง ส่งฟ้องอีกแก๊งผิด 112,ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 5 ปี พ่อ-แม่ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ ในคดีความผิด ม.112 แอบอ้างและกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ติดคุกเมื่อปี 46 จำเลยทั้งคู่รับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุกไว้คนละ 2 ปี 6 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ วันเดียวกัน อัยการยื่นฟ้อง เอกชัย พลอยหิน อ้างเบื้องสูงวิ่งคดียาเสพติด โดยศาลประทับรับฟ้องและให้เบิกตัวจากเรือนจำมาสอบคำให้การในเช้าวันที่ 12 มี.ค.,ศาลสั่งจำคุกพ่อ-แม่ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ คดีความผิดตามมาตรา 112 คนละ 5 ปี โดยเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 มี.ค. ที่ห้องเวรชี้ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้องนางวันทนีย์ สุวะดี อายุ 66 ปี และนายอภิรุจ สุวะดี อายุ 72 ปี มารดาและบิดาท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวนายอภิรุจ จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ซึ่งอยู่ในชุดนักโทษ ไม่สวมรองเท้า ถูกคุมตัวแยกเดี่ยว มีเจ้าหน้าที่เดินประกบใกล้ชิด ขณะที่นางวันทนีย์อยู่ในชุดนักโทษ มีผ้าปิดปากคาดหน้า ถูกคุมตัวมาจากทัณฑสถานหญิงกลาง ทั้งคู่อยู่ในท่าทีสงบเดินก้มหน้าเข้าในห้องขังแยกจากจำเลยอื่น ก่อนถูกคุมตัวเข้าห้องเวรชี้ ชั้นล่างอาคารศาลอาญา,ศาลอ่านคำฟ้องโจทก์สรุปว่า ก่อนเกิดเหตุคดีนี้ น.ส.แสงระวี มณีจันทร์ แอบอ้างว่ารู้จักกับจำเลยที่ 2 ต่อมามีเหตุชาวบ้านในเขต ต.วัดเพลง และ อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี โจษขานกันว่า มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับจำเลยที่ 2 ที่ให้การอุปการะเลี้ยงดู เมื่อจำเลยที่ 1 ทราบข่าวเกิดความไม่พอใจ น.ส.แสงระวี โดยวันที่ 19 ธ.ค.46 จำเลยทั้งสองสั่งให้ตำรวจไปนำตัว น.ส.แสงระวี รวมทั้งบิดา มารดา และญาติมาพบจำเลยที่บ้านใน จ.ราชบุรี ก่อนร่วมกันหมิ่นประมาท และดูหมิ่นต่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎ ราชกุมาร องค์รัชทายาทโดยคำพูดสื่อความหมายให้เข้าใจว่า เรื่องดังกล่าวได้มีการกราบทูลสมเด็จ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงทราบแล้ว เรื่องจะรุนแรงมากขึ้น และ น.ส.แสงระวีจะต้องรับโทษอย่างหนัก ทำให้ น.ส.แสงระวีและครอบครัวเกิดความเกรงกลัว,จากนั้นจำเลยทั้งสองให้ตำรวจนำตัว น.ส.แสงระวีไปดำเนินคดีฐานฉ้อโกง ด้วยความเกรงกลัว น.ส.แสงระวีจำยอมรับสารภาพตามข้อกล่าวหา ถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 24 เดือน การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการแสวงหาประโยชน์เพื่อข่มขู่ กลั่นแกล้งผู้อื่น และเสื่อมเสียพระเกียรติยศต่อองค์รัชทายาท ต่อมาวันที่ 9 ก.พ.58 เจ้าพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาภายหลังจำเลยทั้งสองเข้ามอบตัวในชั้นสอบสวน โดยให้การปฏิเสธ ศาลได้สอบคำให้การจำเลยทั้งสองว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่า จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ และไม่ต้องการทนายความ,ต่อมา ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีนี้ทันที ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยคนละ 5 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยทั้งสองไว้คนละ 2 ปี 6 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ ทันทีที่อ่านคำพิพากษาเสร็จเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมตัวจำเลยทั้งสองเดินทางกลับทันที ก่อนจะไปแยกกันที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ และทัณฑสถานหญิงกลาง ขณะที่จำเลยทั้งสองยังคงอยู่ในอาการนิ่งสงบเช่นเดิม,ต่อมาเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเอกชัย หรือเอฟ พลอยหิน อายุ 28 ปี เป็นจำเลยฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทหรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เรียกหรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยวิธีทุจริต ผิดกฎหมายหรือโดยอิทธิพลของตนให้กระทำหรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณ หรือเป็นโทษแก่บุคคลใดและมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของผู้อื่นซึ่งได้ รับอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,คำฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.51 ในเวลากลางวัน จำเลยได้กล่าวอ้างต่อ น.ส.บุษกร อุ่นใจ ผ่านทางโทรศัพท์ว่าสามารถช่วยเหลือนายไพฑูรย์ เนมีแสน สามี น.ส.บุษกร ถูกขังอยู่ในเรือนจำพิเศษจังหวัดราชบุรีให้หลุดพ้นจากคดีเกี่ยวกับยาเสพติดได้ โดยเรียกค่าใช้จ่าย 2 ล้านบาท พร้อมนัดหมายให้ไปพบกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรี เมื่อไปถึงที่ร้าน จำเลยได้แสดงตนต่อ น.ส.บุษกร และนายบรรเทิง เนมีแสน พ่อนายไพฑูรย์ว่า เป็นหลานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา (พระยศในขณะนั้น) ทำให้นายบรรเทิงเชื่อว่า จำเลยจะช่วยเหลือนายไพฑูรย์ได้จริง ตกลงจะชำระเงินตามที่จำเลยเรียกร้อง ต่อมาวันที่ 22 ธ.ค.51 เวลากลางวันจำเลยได้นัดหมายให้นายบรรเทิงและ น.ส.บุษกรนำเงินไปมอบให้ที่ รร.โกลเด้นส์ซิตี้ จ.ราชบุรี,แต่นายบรรเทิงหาเงินสดได้เพียง 1.3 ล้านบาท มอบให้แก่จำเลย โดยจำเลยบอกจะนำเงินไปดำเนินการให้เรียบร้อย แสดงให้เห็นว่าจำเลยจะนำเงินดังกล่าวไปจูงใจเจ้าพนักงานให้กระทำผิดกฎหมาย และจำเลยมีเจตนาสื่อสารให้ผู้ฟังเห็นว่า จำเลยมีความใกล้ชิดกับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยาม มกุฎราชกุมาร สามารถอาศัยบารมีของพระองค์ช่วยเหลือได้ แต่เมื่อจำเลยรับเงินไปแล้ว ปรากฏว่า นายไพฑูรย์ไม่ได้รับการประกันตัว และถูกศาลพิพากษาจำคุก การกระทำของจำเลย เป็นการแอบอ้างพระราชอำนาจไปกระทำการอันเป็นการทุจริตหรือผิดกฎหมาย ย่อมทำให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎ ราชกุมาร เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ถูกดูหมิ่นเกลียดชังได้อันเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรืออาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เรียกหรือยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยวิธีทุจริตผิดกฎหมาย หรือโดยอิทธิพลของตนให้กระทำหรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณหรือเป็นโทษ แก่บุคคลใด,นอกจากนี้ จำเลยยังบังอาจมีปืนยาวลูกซองเดี่ยวขนาด 12 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนลูกซอง 11 นัด ปืนยาวเดี่ยวแบบสไลด์แอ็กชั่น 1 กระบอก ปืนออโตเมติก 9 มม. 1 กระบอก ซองกระสุนปืน 2 อัน ปืนออโตเมติก .38 SUPER 1 กระบอก ซองกระสุนปืน 2 อัน ปืนออโตเมติก .380 จำนวน 1 กระบอก ซองกระสุนปืน 2 อัน กระสุนปืน 9 มม. 13 นัด กระสุนปืน .38 SUPER 17 นัด และกระสุนปืน .380 จำนวน 14 นัด โดยปืนดังกล่าวเป็นของบุคคลอื่นซึ่งได้รับอนุญาต จากนายทะเบียน และอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนดังกล่าวอยู่ในสภาพที่สามารถใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตไว้ในครอบครองของจำเลย โดยจำเลยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มี เหตุเกิดที่ ต.จอมบึง อ.จอมบึง ต.โคกหม้อ อ.เมือง ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพ พนักงานอัยการขอคัดค้านการประกันตัวจำเลยเนื่องจากเป็นคดีสำคัญที่เป็นความ ผิดต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และมีอัตราโทษสูงเกรงว่าจะหลบหนี ศาลประทับรับฟ้องไว้และให้เบิกตัวจำเลยจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯมาสอบคำให้การในวันที่ 12 มี.ค. เวลา 09.00 น.,สำหรับนายเอกชัยมีความสัมพันธ์กับครอบครัวนายอภิรุจ สุวะดี เนื่องจากบ้านสวนส้มทิพย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นของมารดานายเอกชัยนั้น อยู่ติดกับบ้านนายอภิรุจ ทั้ง 2 บ้านมีความสนิทสนม นับถือกัน ไปมาหาสู่กันบ่อยๆ กระทั่งนายเอกชัยใช้นำไปแอบอ้างดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า นายเอกชัยเคยเป็นคนกลางรับเงินวิ่งเต้นจากนายวิศิษฎ์ สัจพจน์นุกูล เพื่อเปิดบ่อน นัมเบอร์วัน ย่านเหม่งจ๋าย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารกับตำรวจเข้าจับกุม ขณะนั้นนายเอกชัยไม่ได้ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด | ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 5 ปี พ่อ-แม่ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ ในคดีความผิด ม.112 แอบอ้างและกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ติดคุกเมื่อปี 46 จำเลยทั้งคู่รับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุกไว้คนละ 2 ปี 6 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า1,แอบอ้างเบื้องสูง,วันทนีย์ สุวะดี,อภิรุจ สุวะดี,ศรีรัศมิ์ สุวะดี,กฎหมายอาญามาตรา 112,แสงระวี มณีจันทร์,ราชบุรี,ดำเนินคดีฐานฉ้อโกง | https://www.thairath.co.th/news/local/486413 |
อิตาลี ถล่ม รัสเซีย 53-17 จุดซิวชัยนัดแรกรักบี้ชิงแชมป์โลก | การแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลก 2011 ที่ประเทศนิวซีแลนด์ เกมนัดที่ 2 ของกลุ่มซี อิตาลี พบกับ รัสเซีย โดยนัดแรกทั้ง 2 ทีมต่างแพ้มาด้วยกันทั้งคู่ เกมนี้ เซร์คิโอ้ ปาริสเซ่ กัปตันทีมของอิตาลี หลุดเข้าไปวางไทร์แรกให้กับทีมขึ้นนำไปก่อน 7-0 จุดก่อนที่ อิตาลี จะมาได้อีก 8 ไทร์ในช่วงเวลาที่เหลือ และเอาชนะ รัสเซีย ไปได้แบบขาดลอยในเกมนี้ 53-17 จุดทั้งนี้ นับว่าเป็นชัยชนะนัดแรกของอิตาลีในรักบี้ชิงแชมป์โลกครั้งนี้ และยังเป็นครั้งแรกของอิตาลีในรักบี้ชิงแชมป์โลกที่ทำคะแนนได้เกิน 50 แต้มใน 1 นัด โดย อิตาลี มี 5 คะแนน อยู่อันดับ 3 ของกลุ่มซี ส่วน รัสเซีย แพ้ 2 นัดรวด อยู่อันดับสุดท้ายของกลุ่ม ส่วนในนัดต่อไป อิตาลี จะพบกับ สหรัฐอเมริกา และ รัสเซีย จะพบกับ ไอร์แลนด์ ทีมจ่าฝูงของกลุ่ม | รักบี้ชิงแชมป์โลก 2011 ที่ประเทศนิวซีแลนด์ อิตาลี เก็บชัยชนะนัดแรกหลังถล่ม รัสเซียไปขาดลอย 53-17 จุด | กีฬา | ชิงแชมป์โลก,นิวซีแลนด์,รักบี้,รัสเซีย,อิตาลี | https://news.thaipbs.or.th/content/34868 |
ผวา ม็อบชาวอินโดฯ 2แสน รวมพลังประท้วงใหญ่หน 2 ไล่ผู้ว่ากรุงจาการ์ตา | เพื่อร่วมละหมาด และเรียกร้องให้ม็อบสลายการชุมนุมอย่างสงบ,เมื่อ 2 ธ.ค. 59 สำนักข่าวเอพีรายงาน ชาวมุสลิมหัวอนุรักษ์นิยมอย่างน้อย 200,000 คน นัดรวมพลังกันที่อนุสาวรีย์แห่งชาติ ในกรุงจาการ์ตา ชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่เป็นหนที่ 2 เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. เพื่อขับไล่ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา นายบาสุกี ซาฮายา ปูร์นามา หรือมีชื่อเล่นเรียกขานว่า อาฮ็อค พ้นจากตำแหน่ง ฐานดูหมิ่นคัมภีร์อัลกุรอานของศาสนาอิสลาม และขณะนี้อยู่ระหว่างโดนคำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว,เอพี แจ้งว่า ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด หรือ โจโกวี ซึ่งถือเป็นพันธมิตรทางการเมืองกับ นายปูร์นามา และแสดงความฉุนเฉียวต่อชาวมุสลิมสายแข็งที่ออกมาชุมนุมประท้วงไล่ นายปูร์นามา พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาเป็นครั้งแรกนั้น ได้เดินทางมายังบริเวณอนุสาวรีย์แห่งชาติ ซึ่งรู้จักในชื่อ โมนาส อย่างไม่มีใครคาดคิด ในวันศุกร์ที่ 2 ธ.ค. เพื่อร่วมพิธีละหมาดร่วมกับฝูงชนผู้ประท้วงด้วย โดยประธานาธิบดีวิโดโดยังได้เรียกร้องให้ผู้ประท้วงสลายการชุมนุมด้วยความสงบ,ด้านโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติของอินโดนีเซีย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดมีผู้มาร่วมชุมนุมประท้วงในคราวนี้ถึงประมาณ 200,000 คน โดยทางการได้มีการระดมกำลังตำรวจ 22,000 นาย และทหาร 5,000 นาย มาคอยรักษาความสงบเรียบร้อย,ข่าวแจ้งว่า องค์กรหลายองค์กรซึ่งเป็นแกนนำจัดการชุมนุมประท้วงไล่ นายปูร์นามา พ้นตำแหน่งผู้ว่าการกรุงจาการ์ตานั้น ได้พยายามที่จะนัดรวมพลังกันที่อนุสาวรีย์แห่งชาติ เพื่อลดปัญหากีดขวางการจราจร แต่ก็ต้องเจอกับปัญหาที่มีฝูงชนหลั่งไหลมาร่วมชุมนุมประท้วงจนเต็มพื้นที่ในเวลารวดเร็ว โดยการประท้วงครั้งแรก เมื่อวันที่ 4 พ.ย. มีฝูงชนนับแสนคนร่วมออกมาประท้วงขับไล่ นายปูร์นามา ซึ่งเป็นชาวอินโดนีเซียเชื้อสายจีน นับถือศาสนาคริสต์ จนนับว่าเขาเป็นผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาคนแรกในรอบครึ่งศตวรรษ ที่ไม่ใช่ชาวมุสลิม ซึ่งการประท้วงที่ดำเนินไปจนถึงช่วงค่ำคืน ได้นำไปสู่การเกิดเหตุความรุนแรง จนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บหลายสิบคน,,ชาวอินโดฯหลายหมื่น ฮือประท้วงขับไล่ผู้ว่ากรุงจาการ์ตา หมิ่นอิสลาม | ชาวอินโดฯ นับ 2 แสนคน ชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่หนสองในกรุงจาการ์ตา ขับไล่ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา นับถือคริสต์ พ้นตำแหน่งฐานดูหมิ่นคัมภีร์อัลกุรอานของศาสนาอิสลาม ด้านประธานาธิบดีโจโก วิโดโด มาที่ชุมนุมอย่างไม่มีใครคาดคิด | null | ประท้วง ไล่ผู้ว่ากรุงจาการ์ตา,ดูหมิ่นคัมภีร์อัล กุรอาน,อินโดนีซเซีย,บาสุกี ปูร์นามา,ดำเนินคดี ผู้ว่ากรุงจาการ์ตา | https://www.thairath.co.th/content/800307 |
เปิดเรตติ้ง อกเกือบหักแอบรักคุณสามี ตอนแรก แอน ทองประสม ชื่นใจ (คลิป) | เพิ่งออนแอร์ไปได้ตอนแรก สำหรับละครเรื่อง อกเกือบหัก แอบรักคุณสามี ของผู้จัดมากฝีมืออย่าง แอน ทองประสมซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่า เห็นฟีดแบ็กในคืนแรก หายเหนื่อยไปได้เปาะหนึ่ง แต่ต้องรอลุ้นในตอนต่อไปว่าฟีดแบ็กจะเป็นยังไง เพราะในแต่ละวันที่ออกอากาศก็เหมือนต้องนับหนึ่งใหม่ ลุ้นใหม่ทุกครั้งโดยเรตติ้ง อกเกือบหักฯ ที่ออกอากาศในตอนแรก ที่ฉายคืนวันอังคารที่ 21 เมษายน 2563 เปิดตัวได้ดีที่เรตติ้งเฉลี่ยทั่วไทย 2.895 ส่วนในโซนกรุงเทพฯ ได้เรตติ้งเฉลี่ย4.43ซึ่งออกอากาศแค่ตอนแรกเรตติ้งก็สูงทีเดียว เหมือนจะมากอบกู้เรตติ้งช่อง 3 ได้ เพราะแค่ตอนแรกเมื่อเทียบกับตอนจบของเรื่อง ดั่งดวงหฤทัย ก็ถือว่าสตาร์ตได้ดีทีเดียว เพราะ ดั่งดวงหฤทัย ตอนจบได้เรตติ้งเฉลี่ยทั่วไทย 2.2 และ กทม.อยู่ที่ 4.2งานนี้ แอน ทองประสม ได้เปิดใจถึงฟีดแบ็กของละครในตอนแรกกับทีมข่าวบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ว่าฟีดแบ็กละครเป็นยังไงบ้าง?ก็ตามดูทุกช่องทางนะคะ ส่วนใหญ่ก็ชมเยอะว่าน่ารักดี แต่ก็มีติติงอะไรบ้างให้เราไปแก้ไข โดยภาพรวมคนก็ชื่นชม มีความประทับใจในตัวละครของเรา ภาพสวยเราก็ดีใจค่ะ ส่วนมากเค้าจะชมเรื่องภาพค่ะ ชมเรื่องความสวยงามของตัวละคร เรื่องเสื้อผ้า โลเกชั่นน่ารักๆ เค้าชมมาค่ะเรื่องราวก็สนุก?ใช่ๆ ตอนแรกคนก็จะคิดว่าเรื่องราวจะเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ แต่มันไม่ใช่ค่ะ มันเป็นเลิฟสตอรี่ เพียงแต่ว่าแอนเอาคอมเมดี้มาแต้มแล้วก็พาดด้วยดราม่านิดนึงค่ะคนบางคนที่เข้าใจว่ามันเป็น โรแมนติกคอมเมดี้ มันไม่ได้เบอร์นั้นค่ะ มันจะเป็นเลิฟสตอรี่นำมากกว่า บางคนที่เค้ารอดูโรแมนติกคอมเมดี้มันก็อาจจะไม่ใช่พอเค้ากลับมาดูก็เริ่มจับทางได้ว่ามันเป็นเลิฟสตอรี่ แต่ส่วนใหญ่เค้าก็ยอมรับในสิ่งที่เรานำเสนอ เพราะเค้าได้ชื่นชมละครไปแล้วโดยเฉพาะแฟนนิยาย ไม่มีใครว่าอะไร ว่าเราทำไม่เหมือนในนิยาย เราทำเหมือนแน่ๆ แต่อาจจะมีขยายเพิ่มเติมให้มันมากกว่านิยาย เพราะมันยาวกว่า ส่วนใหญ่เค้าจะชอบกันค่ะฟีดแบ็กดีอย่างนี้ แอน หายเหนื่อยมั้ย?คือจริงๆ บอกตรงๆ ว่า แอนตัดสินวันที่ออกอากาศนะคะ ไม่ใช่ฟีดแบ็กที่แอนอุ้มไป EP.2 ได้ อย่างวันนี้เค้าให้คะแนน EP.1 เท่านี้ พอ EP.2 แอนก็ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เราก็ต้องรอดูคนดูให้คะแนนแหละ แอนก็รอดูทุกวัน ด้วยความที่เราเป็นคนทำงานแล้วคนดูเค้าไม่ยี้ เราก็อ้าแขนรับด้วความภูมิใจค่ะยังไงก็ฝากติดตาม ขอบคุณคนดูทุกคน ขอบคุณคนที่เข้าไปทวีต แสดงความคิดเห็นในแพลตฟอร์มต่างๆ มันทำให้แอนเห็นในงานแอนทันที ไปปรับแก้ไขในอนาคตได้และขอบคุณที่เค้าเสียเวลามานั่งพิมพ์ นั่งลงรูป นั่งแคป แอนรู้สึกเห็นพลังงานที่ทุกคนเอ็นจอย ที่ทุกคนมีความสุข แอนก็ขอบคุณสำหรับความตั้งใจ ทุกฟีดแบ็กแอนน้อมรับมาก ที่พูดให้แอนไปพัฒนาอย่างจริงๆ ขอบคุณค่ะส่วนทางประเทศจีนฟีดแบ็กดีมากค่ะ ก็ประมาณ 10 ล้านวิวแล้ว เค้าเพิ่งส่งมา คืนเดียวก็เยอะแล้ว เพราะทางประเทศจีนคนเค้าก็เยอะกว่าเรา เค้าก็เอ็นจอยเหมือนกัน เห็นเริ่มมีซับไทเทิลแล้วก็ดีใจ จริงๆ มีทั้งไปทางประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ด้วยนะคะ แต่รายละเอียดแอนยังไม่ทราบ ต้องถามช่องว่าขายไปเท่าไร ยังไง แต่กับประเทศจีน ตอนนี้เรากับเค้าก็ได้ดูไปพร้อมกันค่ะ. | แอน ทองประสม ดีใจเรตติ้งละครตอนแรกได้การตอบรับดี แต่ต้องรอลุ้นใน EP.ต่อๆ ไป เผยละครนำไปขายที่ประเทศจีน ได้ฟีดแบ็กดีมาก ปาไป 10 ล้านวิวแล้ว | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | แอน ทองประสม,อกเกือบหักแอบรักคุณสามี,แอนทอง,ข่าวบันเทิง,ละคร,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1828484 |
สุรพศ ทวีศักดิ์: ปัญหาทางสายกลางทางการเมืองแบบประเวศ วะสี | แต่ความเป็นอนุรักษ์นิยมของเขาคือ การยืนยันหลักพุทธธรรมปรับใช้เป็นทางออกของสังคม การไม่วิพากษ์อุดมการณ์ชาติ ศาสนา กษัตริย์ โดยเฉพาะสถานะและอำนาจของสถาบันกษัตริย์ สถาบันสงฆ์ กองทัพ ตุลาการว่าเป็นอุปสรรคต่อการกระจายอำนาจตามข้อเสนอของเขาเองหรือไม่อย่างไร ผลก็คือ ทำให้ข้อเสนอด้วย เจตนาดี ต่อบ้านเมืองของเขาตกอยู่ในสภาพ พายเรือในอ่าง มองไม่เห็นหนทางว่าการกระจายอำนาจที่ฟังดูสวยงามนั้นจะเป็นไปได้ในทางปฏิบัติอย่างไรล่าสุด ในสถานการณ์ที่รัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการถูกไล่จากกระแส แฟลซม็อบ ที่ขยายไปตามมหาวิทยาลัยในพื้นที่ทุกภาคของประเทศ หมอประเวศออกมาชี้ให้เห็น วิกฤต อีกครั้ง (ดู ว่าจากนั้นก็อธิบายสาเหตุของวิกฤตและทางออกเป็นประเด็นๆ เช่น สมุทัย-สังคมเชิงอำนาจกับการขาดสมรรถนะทางปัญญา การเมืองที่แตกแยกและมุ่งเอาชนะกันไม่มีสมรรถนะทางปัญญา รัฐมนตรีโควต้าพรรคไม่การันตีว่าจะมีสมรรถนะทางปัญญา จะคิดเพียงล้มรัฐบาลเท่านั้นไม่ได้แต่ต้องคิดว่าทำอย่างไร จะต้องพลิกวิธีคิดจึงจะได้รัฐบาลที่มีสรรถนะและบริหารประเทศได้ วิธีได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีด้วยวิถีทางสายกลางทางการเมืองจะพลิกสถานการณ์แม้ครั้งนี้หมอประเวศค่อนเข้างจะอธิบายปัญหาได้สอดคล้องกับความเป็นจริงที่คนระดับชาวบ้านทั่วไปพูดกันมานานมากแล้ว เช่นว่า แต่เมื่อหมอประเวศเสนอทางออกจากวิกฤตโดยอ้างหลักพุทธธรรม มัชฌิมาปฏิปทา ที่เขาเรียกว่า ทางสายกลางทางการเมือง เขากลับเสนอว่า ถ้าเชื่อว่ามีสิ่งที่เรียกว่า ทางสายกลางทางการเมือง คำถามคือ ระหว่าง ประชาธิปไตยสมานฉันท์ แบบที่หมอประเวศเสนอ กับ ประชาธิปไตยเสียงข้างมาก ที่ยอมรับกันทั่วไป อะไรน่าจะเป็น ทางสายกลาง ได้มากกว่าคำตอบย่อมจะเป็นว่า ถ้าเรายอมรับหลักการพื้นฐานว่าระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบที่เชื่อมโยงประชาชนที่มีความคิด ความเชื่อ อุดมการณ์ที่แตกต่างหลากหลายให้ต่อสู้ต่องรองกันภายใต้กติกาที่เสรีและเป็นธรรม ประชาธิปไตยเสียงข้างมากน่าจะเป็นทางสายกลางมากกว่า เพราะนี่คือทางออกที่ไม่ต้องใช้อำนาจปืน หรือการเข่นฆ่ากันของกลุ่มอำนาจทางการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ และประชาชนที่มีความแตกต่างหลากหลายทางความคิด ความเชื่อ ความต้องการและอื่นๆส่วนประชาธิปไตยสมานฉันท์น่าจะเป็น ทางสุดโต่ง มากกว่า เพราะข้อเรียกร้องให้ประชาชน หรือ ส.ส.ที่เป็นตัวแทนของประชาชนมีความคิดเห็นแบบเดียวกันและมีมติเอกฉันท์เลือกนายกฯ แม้ในสภาวะปกติก็ยังถือว่าเป็นข้อเรียกร้องที่สุดโต่ง เพราะขัดกับธรรมชาติของความแตกต่างหลากหลายทางความคิดเห็น ยิ่งในสภาวะวิกฤติความขัดแย้งทางความคิดและอุดมการณ์ประชาธิปไตยในปัจจุบัน ข้อเรียกร้องนี้ยิ่งสุดโต่งมากขึ้นถามว่า มติเอกฉันท์ เป็นไปได้ไหม เป็นไปได้ครับ แต่เป็นไปได้ใน ระบบ คสช. เช่น สนช.ที่ คสช.ตั้งมาก็มีมติเอกฉันท์บ่อยๆ ในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณประจำปีที่รัฐบาลเผด็จการทหารทำขึ้น และผ่านร่างกฎหมายอื่นๆ จำนวนมหาศาล แต่กฎหมายเหล่านั้นหาใช่กฎหมายที่ยึดหลักความยุติธรรมตามกรอบนิติรัฐ (rule of law) ในระบอบเสรีประชาธิปไตยไม่ หากแต่เป็นกฎหมายตามคำสั่งของกลุ่มผูกขาดอำนาจนำทางการเมืองตามกรอบนิติอยุติธรรม (rule by law) เพราะอะไรครับ ก็เพราะมันเป็นมติเอกฉันที่ได้มาจากวิถีคิดเชิงอำนาจแบบที่หมอประเวศวิจารณ์นั่นเองเราจึงนึกภาพไม่ออกว่า จะให้ ส.ส.เลือกนายกฯ ด้วยมติเอกฉันท์ตามข้อเสนอของหมอประเวศด้วย กระบวนการที่ชอบธรรม แบบไหนกัน หมอประเวศเสนอให้เรา พลิกวิธีคิด หรือ เปลี่ยนวิธีคิดใหม่ แต่กลับเสนอว่า ให้ ส.ส.เลือกนายกฯ ด้วยมติเอกฉันท์ตามแบบประชาธิปไตยเอกฉันท์เชิงพุทธ หรือแบบการเลือกพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นวิธีการแบบโบราณและยุคกลางของชุมชนนักบวชที่มีลักษณะเฉพาะ หรือไม่ได้ซับซ้อนเหมือนสังคมทางโลกในยุคสมัยใหม่ เป็นข้อวิพากษ์ต่อจริยธรรมของหมอประเวศโดยตรงเกี่ยวกับการอ้างหลักพุทธธรรมในทางการเมือง เช่น อ้างสัมมาปฏิบัติ มัชฌิมาปฏิปทาเป็นต้น ถ้าคุณอ้างหลักพุทธธรรมดังกล่าวอย่าง ซื่อตรง ต่อหลักการที่อ้าง สิ่งแรกที่คุณต้องทำก็คือการต่อต้านรัฐประหารและเผด็จการทุกรูปแบบ เพราะรัฐประหารปล้นอำนาจของประชาชนคือ มิจฉาปฏิบัติ เพราะมันคือ มิจฉากัมมันตะ (การกระทำที่ผิด) ไม่ใช่ สัมมากัมมันตะ (การกระทำที่ถูกต้อง) ในมัชฌิมาปฏิปทาพูดอีกอย่างคือ ทางสายกลางตามหลักพุทธธรรมมีหลักเกณฑ์เฉพาะที่ชัดเจนในตัวมันเองว่าทำแบบไหนถูก ทำแบบไหนผิด เช่น ปล้นอำนาจประชาชนยังไงก็ผิดหลักทางสายกลางในพุทธธรรม และไม่ใช่จะอ้างมั่วๆ ได้ว่าการปล้นอำนาจประชาชนเป็นไปตามหลักอิทัปปัจจยตานะเว้ย เมื่อมีนักการเมืองโกงจึงมีการปล้นอำนาจ นี่ไม่ใช่เลย เพราะนักการเมืองโกงไม่จำเป็นต้องลงเอยด้วยรัฐประหาร และหลักมัชฌิมาปฏิปทาก็ไม่ใช่หลักที่จะนำมาอ้างได้อย่างสมเหตุสมผลว่า ให้ทุกฝ่ายหาทางประนีประนอมเพื่อสร้าง มติเอกฉันท์ เลือกนายกฯ (คนกลาง อีกหรือ ใครคือคนกลาง?) เพื่อขจัดความขัดแย้งทางความคิด ทางการเมืองและอื่นๆ กล่าวโดยสรุป ปัญหาของหมอประเวศคือ การไม่ยึดอุดมการณ์และแนวทางประชาธิปไตยอย่างแท้จริงเพื่อเป็นทางออกของปัญหาขัดแย้งทางการเมือง จึงทำให้สร้างข้อเสนอ ช่องทางพิเศษ ซึ่งในที่สุดแล้วก็เข้าทางฝ่ายเผด็จการหรือฝ่ายอนุรักษ์นิยมอยู่ดี และช่องทางพิเศษที่เสนอแต่ละครั้งก็ไม่ใช่ช่องทางที่จะทำให้ระบบอำนาจของสถาบันกษัตริย์ สถาบันสงฆ์ กองทัพ ระบบตุลาการถูกกำกับตรวจสอบภายใต้หลักเสรีภาพและประชาธิปไตยได้จริง | ศ.นพ.ประเวศ วะสีน่าจะเป็นปัญญาชนฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่ก้าวหน้าที่สุดในยุคปัจจุบัน พิจารณาจากข้อเสนอเรื่อง กระจายอำนาจ ทั้งในโครงสร้างทางการเมืองระดับชาติ ระบบราชการ ลงไปถึงระดับชุมชน | การเมือง,วัฒนธรรม | สุรพศ ทวีศักดิ์,ประเวศ วะสี,ทางสายกลาง | https://prachatai.com/journal/2020/03/86827 |
เก๋ไก๋ แปลกใหม่ น้องแนท พร้อมควบ ตุ๊ก ตุ๊ก ไทยแลนด์ ลุ้นมิสยูนิเวิร์ส (ชมคลิป) | ก่อนหน้านี้ก็มีกระแสทั้งด้านบวกและลบ สำหรับชุดประจำชาติประจำปี 2015 ตุ๊กตุ๊ก ไทยแลนด์ ของเวที มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ แต่ถึงจะโดนกระแสด้านลบวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม แต่ทางกองประกวดก็ไม่มีการเปลี่ยนแผนแต่อย่างใด, และในวันนี้ ทางกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ก็ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวชุดประจำชาติ ประจำปี 2015 ตุ๊กตุ๊ก ไทยแลนด์ ซึ่ง น้องแนท อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 จะสวมขึ้นเวทีเพื่อชิงชัยในการประกวดชุดประจำชาติบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2015 ณ เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีสาวงาม 80 ประเทศร่วมชิงมงกุฎ, ซึ่งงานนี้ น้องแนท ได้เปิดเผยถึงความรู้สึกในวันนี้ว่า ตื่นเต้นมากๆ ค่ะ สำหรับการเปิดตัวชุดประจำชาติในวันนี้ สำหรับชุดนี้แนทชอบมากนะคะ และหลายๆ คนก็ชอบชุดนี้ด้วยเหมือนกัน เพราะมันบ่งบอกถึงความเป็นไทยได้ดีทีเดียว และแนทก็ขอกำลังใจจากคนไทย ช่วยส่งแรงใจร่วมเชียร์ด้วยนะคะ,สำหรับชุดประจำชาติ ตุ๊กตุ๊ก ไทยเลนด์ เป็นงานออกแบบรูปแบบวัฒนธรรมสมัยนิยม หรือ วัฒนธรรมกระแสนิยม อาจกล่าวได้ว่า นับเป็นครั้งแรกที่ได้มีการผสมผสานศาสตร์และศิลปะการออกแบบวิศวกรรมยานยนต์และการออกแบบพัสตราภรณ์ เข้าด้วยกัน เพื่อนสร้างสรรค์ผลงานพิเศษ. | น้องแนท อนิพรณ์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ พกพาความมั่นใจเต็มร้อยเปิดตัวชุดประจำชาติไทย ตุ๊กตุ๊ก ไทยเลนด์ พร้อมขอกำลังใจจากคนไทยช่วยส่งแรงเชียร์ให้ในวันประกวด | null | แนท อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์,แนท มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์,มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015,มิสยูนิเวิร์ส 2015,น้องแนท ชุดตุ๊กตุ๊ก,ประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2015,ข่าว,บันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์,บันเทิงไทยรัฐออนไลน์,ประกวดนางงาม,นางงาม,แนท นางงาม,แนท อนิพรณ์,อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์,ประกวด | https://www.thairath.co.th/content/542190 |
แค่ไม่กี่เทคนิคก็มีสิทธิ์ได้งาน ส่อง 3 คำแนะนำ ทำเรซูเม่ขั้นเทพ | หากพูดถึงการสมัครงานในอดีต คนส่วนใหญ่นิยมส่งเอกสารทางไปรษณีย์ เพื่อความสะดวกในการสมัครงานโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางทั้งยังสามารถส่งไปได้หลายๆ องค์กร แต่ในยุคดิจิตอลวิธีการสมัครงานก็เปลี่ยนแปลงไปสู่การส่งเรซูเม่ผ่านอีเมล เรื่องความสะดวกคงไม่ต้องพูดถึง ความสบายยิ่งไม่ต้องบอก และไม่ใช่เพียงคนส่วนใหญ่จะเลือกวิธีนี้ แต่อาจกล่าวได้ว่าแทบทุกคนล้วนมีประสบการณ์ในการส่งอีเมลเพื่อสมัครงานกันทั้งสิ้น,แม้ว่าการส่งอีเมลสมัครงานนั้นสามารถทำได้ทั่วไป แต่คุณรู้หรือไม่? เรซูเม่ที่ดีนั้นควรมีลักษณะอย่างไร เทคนิคอะไรที่จะช่วยให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคล หรือ HR สนใจในตัวคุณ,สำหรับเรซูเม่ หรือ Resume นั้น คือ จดหมายแนะนำตัวในการสมัครงาน เป็นการเขียนประวัติส่วนตัวโดยย่อ ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน รวมถึงความถนัด ความสามารถพิเศษ หรือเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครเอง ซึ่งการเขียนเรซูเม่ที่ดี จะช่วยให้สามารถดึงดูดความสนใจของฝ่ายทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการถูกเรียกสัมภาษณ์หรือได้งานมากขึ้น,ซึ่งเรามีคำแนะนำจากเว็บไซต์จ๊อบไทยดอทคอม (JobThai.com) กับเทคนิคสำคัญ 3 ประการ ที่จะช่วยให้ HR สนใจเรซูเม่ของคุณ เพิ่มโอกาสในการถูกเรียกสัมภาษณ์หรือได้งานเพิ่มขึ้น,1. ข้อมูลส่วนตัว,ถือเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในเรซูเม่ ควรประกอบไปด้วยรูปภาพ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ประวัติการศึกษา หากอยากใส่ภาพถ่ายก็สามารถทำได้แต่ควรเป็นรูปที่เห็นใบหน้าตรงชัดเจนและแต่งกายสุภาพเรียบร้อย เนื่องจากรูปถ่ายจะเป็นสิ่งแรกที่ HR เห็นจากเรซูเม่ของผู้สมัคร นอกจากนี้ควรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลติดต่อกลับทั้งเบอร์โทรศัพท์ และเลือกใช้อีเมลที่ดูเป็นทางการ เช่น ชื่อ.นามสกุล@xxx.com เป็นต้น,2. ประสบการณ์การทำงาน ประสบการณ์พิเศษ,ใช้เทคนิคการเรียบเรียงข้อมูลจากปัจจุบันไปหาอดีตเสมอ สำหรับคนที่มีประสบการณ์การทำงานมาแล้วสามารถระบุได้ว่าเคยทำงานที่ไหนมาบ้าง รวมถึงขอบเขตหน้าที่ที่รับผิดชอบ และการอบรมที่เคยเข้าร่วม ส่วนนิสิต นักศึกษาจบใหม่ การระบุประสบการณ์พิเศษเป็นการช่วยให้เรซูเม่ดูน่าสนใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมเป็นอาสาสมัคร การออกค่าย การฝึกงาน ตลอดจนการทำงาน Part-Time ทั้งนี้ประสบการณ์พิเศษจะเป็นปัจจัยสนับสนุนว่าผู้สมัครเป็นบุคคลที่มีความสามารถรอบด้านและมีความรับผิดชอบ,3. ทักษะและความสามารถ,ทักษะที่หลากหลายจะช่วยให้เรซูเม่ของผู้สมัครดูน่าสนใจและได้เปรียบคู่แข่ง ฉะนั้นผู้สมัครจำเป็นต้องค้นหาและดึงความสามารถที่เป็นจุดเด่นออกมาให้มากที่สุด โดยเฉพาะทักษะที่จำเป็นในตำแหน่งงานที่สมัครเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งาน อาทิ ทักษะด้านภาษา ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาที่ 3 รวมถึงทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่จำเป็นและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้,นอกจากเทคนิคข้างต้น การทำให้เรซูเม่เป็นที่น่าประทับใจและดูเป็นมืออาชีพนั้น ควรระบุสิ่งสำคัญให้ชัดเจนอีก 3 ประการ คือ,ระบุจุดมุ่งหมายในอาชีพที่ชัดเจน,การระบุจุดมุ่งหมายในการทำงานที่ชัดเจนและสอดคล้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร เช่น ตั้งเป้าหมายระยะสั้นว่าจะทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จได้อย่างไร หรือการตั้งเป้าหมายระยะยาวในช่วงเวลา 3-5 ปีข้างหน้าในเส้นทางอาชีพว่าจะเป็นไปในทิศทางใด เป็นต้น เพราะถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและสร้างแรงจูงใจที่สำคัญแก่องค์กรในการเลือกรับผู้สมัครคนดังกล่าวเข้าทำงานเพื่อสร้างผลงานและขับเคลื่อนองค์กรได้ต่อไป,เขียนข้อมูลให้สั้น กระชับ และเข้าใจง่าย,เรซูเม่ที่ดีควรมีความกระชับ ทั้งในแง่ของการใช้ภาษาและการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนตามหัวข้อที่กำหนด ทั้งข้อมูลส่วนตัว ประวัติการศึกษา และประสบการณ์การทำงาน เป็นต้น โดยความยาวที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 2 หน้ากระดาษ A4 ดังนั้น ผู้สมัครต้องคัดเลือกเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นกับตำแหน่งงานที่สมัคร เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจเนื้อหาของเรซูเม่ได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้การจัดเรียงลำดับข้อมูลจากปัจจุบันย้อนไปหาอดีต,การตั้งชื่อและการสร้างไฟล์,ถือเป็นสิ่งที่ผู้สมัครงานมักมองข้าม การตั้งชื่อไฟล์เรซูเม่อย่างมืออาชีพควรใช้ชื่อ-นามสกุลจริงของผู้สมัคร และควรระบุด้วยว่าเป็น Resume ยกตัวอย่างเช่น Resume_Name เพื่อให้ HR ทราบว่าไฟล์ที่ส่งมานั้นคือไฟล์อะไร เนื่องจากการสมัครงานแต่ละครั้งต้องมีการแนบไฟล์อื่นๆ อาทิ ไฟล์รูป ทรานสคริปต์ ฯลฯ นอกจากนี้การเลือกสร้างไฟล์ไม่ว่าจะเป็น MS Word, PDF ควรดูรายละเอียดของประกาศงานว่า HR ต้องการไฟล์ประเภทไหน แต่หากไม่ได้ระบุไว้ การเลือกใช้ไฟล์ PDF จะเหมาะสมกว่าเนื่องจากการเปิดไฟล์ประเภท MS Word นั้น มีโอกาสที่เนื้อหาซึ่งถูกจัดวางไว้จะเคลื่อนจากที่ตั้งค่าไว้. | เปิดเทคนิคการจัดทำเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ เพียง 3 ข้อง่ายๆ การันตีสร้างสีสันให้เอกสารโดดเด่น เพิ่มโอกาสถูกเรียกสัมภาษณ์จาก HR องค์กรที่หมายปอง… | ข่าว,ไอที | เทคนิคเขียน เรซูเม่,Resume,เทคนิค Resume,Resume ที่ถูกต้อง,จ๊อบไทยดอทคอม,JobThai.com,เว็บหางาน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์,ข่าวไอที | https://www.thairath.co.th/news/tech/636316 |
โจ๋ปราจีนฯ ควบเก๋งพาพวกจ่อถล่มอริ โดนดักยิง ดับ 1 สาหัส 1 | เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 22 ก.พ. ร.ต.ท.สุมิตร อัครเนตร ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี รับแจ้งมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนนข้างวัดหนองจวง หน้าบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ที่ 10 ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีอาการสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเป็นการด่วน โดย พ.ต.อ.ประโชติ กันหะ ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี พ.ต.อ.ชีวธันย์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.เฉลียว ปิ่นแก้ว สวป.เมืองปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปราจีนบุรี และหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบศพนายกิตติธัช แหวนเงิน อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ที่ 5 ต.ไม้เค็ด อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าที่บริเวณกลางหลัง กระสุนอยู่ที่บริเวณราวนมซ้าย ส่วนบริเวณคิ้วซ้ายมีแผลแตกยาวประมาณ 2 เซนติเมตร จากการตรวจร่างกายไม่พบหลักฐานแต่อย่างใด ข้างศพผู้ตายพบรองเท้าแตะสีขาวจำนวน 2 คู่ หมอนและผ้าห่ม,จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบมีดอีโต้ มีดดาบซามูไร รถจักรยานยนต์ ขวดเบียร์ และกระจกหน้ารถจักรยานยนต์ ตกแตกกระจัดกระจายอยู่บนพื้นถนน ตลอดระยะทาง 50 เมตร เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อไปตรวจสอบหารอยนิ้วมือแฝง ส่วนศพผู้เสียชีวิตทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบให้หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ,ขณะที่กลุ่มวัยรุ่น ซึ่งนั่งดื่มเบียร์อยู่ที่บริเวณชั้นล่างของบ้านใกล้จุดเกิดเหตุ ระบุ ก่อนเกิดเหตุได้มีรถยนต์สีดำ และรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขับไล่ยิงกันมา ทำให้ตกใจต่างวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ จึงได้นำตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดไปทำการตรวจหาเขม่าดินปืน และทำการสอบสวน ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อตรวจสอบผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายพสธร คำชาย อายุ 19 ปี บ้านเลขที่ 154 หมู่ที่ 10 ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ถูกยิงด้วนยอาวุธไม่ทราบชนิดเข้าที่บริเวณกลางหลัง มีอาการสาหัส ซึ่งทางแพทย์เร่งรีบรักษาพยาบาลเป็นการด่วน,จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตได้มาที่บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมกับร้องตะโกนท้าทายเข้าไปในบ้านว่า ,ให้พวกมึงระวัง เดี๋ยวกูจะมาใหม่, หลังจากทั้ง 2 คน ขับรถออกไปไม่นาน ได้มีรถจักรยานยนต์และรถยนต์เก๋งสีดำ ขับมาจอดหน้าบ้าน โดยผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตได้ลงจากรถยนต์เก๋งสีดำ ซึ่งขับโดย นายอานน์ งามรูป อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ที่ 6 ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ถูกกลุ่มวัยรุ่นที่ดักซุ่มอยู่ตามข้างทาง ใช้อาวุธปืนและมีดเข้าไล่ทำร้าย ทำให้ นายกิตติธัช เสียชีวิต และนายพสธร บาดเจ็บ ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่เหลือได้ขับรถหนีไปคนละทิศคนละทาง. | ขาโจ๋ยกพวกมาหาเรื่อง ถูกดักยิงจนเจ็บสาหัส อีกคนตาย ตร.สอบเค้นกลุ่มวัยรุ่นตั้งวงดื่มเบียร์ในบ้านใกล้จุดเกิดเหตุ บอกเห็น จยย. 2 คัน ขับไล่ยิงเก๋งสีดำ จนตกใจต้องหนีกระเจิงเอาตัวรอด | null | วัยรุ่นทะเลาะ,ยกพวกตีกัน,ปราจีน,ดงขี้เหล็ก,ยิงวัยรุ่นปราจีน,โจ๋ยกพวก,ประโชติ กันหะ,ยิงวัยรุ่น,มีดฟัน,ดักยิง,ข่าวภูมิภาค,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/580697 |
โชว์ขัดจรวด ปรับ 500 ปล่อยกลับบ้าน ตร.แนะจะโพสต์ภาพหื่นให้เซนเซอร์ | จากกรณีหญิงสาวคนหนึ่งถูกกระทำอนาจาร โดยชายหนุ่มนำอวัยวะเพศ ออกมาโชว์สำเร็จความใคร่ต่อหน้า ขณะที่กำลังรอรถตู้ที่วินรถตู้ในตัวเมืองปราจีนบุรี ต่อมาหญิงสาวดังกล่าวได้นำคลิปโพสต์ลงเฟซบุ๊ก เพื่อเตือนภัยคนอื่นๆ และต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดี ทำให้เจ้าของวินรถตู้ทราบเรื่อง เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีฐานกระทำอนาจารฯ เนื่องจากสถานที่ใช้เป็นที่นั่งของผู้โดยสาร ขณะเดียวกันผู้ที่โพสต์ คือหญิงสาวที่น่าจะเป็นฝ่ายเสียหาย กลับอาจถูกดำเนินคดีตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วยน้ัน (,กลับตาลปัตร คลิปชายขัดจรวด คนโพสต์ส่อผิด พรบ.คอมพ์ ติดคุกไม่เกิน 5 ปี,),หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี นำโดย พ.ต.ท.วรวุฒิ สุวรรณวิก รอง ผกก.สส. ได้ติดตามสืบสวนจนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายบัณฑิต พิมพา อายุ 40 ปี อยู่ ต.หน้าเมือง อำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ทำงานอยู่ที่ห้างดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองปราจีนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุไม่ยอมไปทำงาน และได้ขอลาออก แล้วหลบหนีไปอาศัยอยู่กับญาติที่กรุงเทพฯ,ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อกับญาติ ให้ช่วยประสานพานายบัณฑิตเข้ามอบตัว จนกระทั่งเวลา 19.30 น. วันที่ 2 ส.ค.59 พ.ต.อ.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้รับการติดต่อจากนายบัณฑิต เพื่อมอบตัวกับ ร.ต.ท.หญิงนฤมล ควรรำพึง พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้รับทราบ ตามความผิด มาตรา 388 ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล หรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาท,นายบัณฑิต พิมพา ได้นั่งสวมหมวกแก็ปสีดำ พร้อมใส่แว่นดำเพื่อปกปิดใบหน้า โดยมีญาติติดตามมามอบตัวประมาณ 4-5 คน ซึ่งทาง พ.ต.อ.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผกก. ได้ซักถามเกี่ยวกับการกระทำอนาจารในครั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า กระทำไปโดยไม่เจตนา เนื่องจากช่วงกลางคืนตนไปดื่มเหล้ามา แล้วเข้าไปในวินรถตู้พบหญิงสาว จึงกระทำการดังกล่าวต่อหน้าหญิงสาว ยอมรับว่าเพิ่งจะทำเป็นครั้งแรก หลังจากรับทราบข้อกล่าวหา ทางเจ้าหน้าที่ได้เปรียบเทียบปรับเป็นเงินจำนวน 500 บาท,ส่วนทางด้านผู้เสียหาย หลังจากที่โพสต์คลิปชายหนุ่มในขณะที่กำลังทำลามกอนาจาร ได้มีกระแสในเรื่องของการโพสต์ภาพอนาจาร ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ มีโทษหนักจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่ากฎหมายลงโทษเกี่ยวกับการกระทำผิดแตกต่างกันมาก ซึ่งต่อไปหากมีภาพเป็นหลักฐาน ต้องแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ห้ามนำไปเผยแพร่ทางโซเชียล ส่วนคนร้ายเมื่อรู้ว่าโทษไม่หนัก และไม่มีใครลงภาพประจานหรือลงแจ้งเบาะแสในสื่อทางอินเทอร์เน็ต อาจไม่มีความเกรงกลัวกฎหมายและมาก่อเหตุซ้ำอีก,เรื่องนี้ ทาง พ.ต.อ.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้อธิบายว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูเจตนาเป็นหลัก เนื่องจากผู้โพสต์ต้องการแจ้งเหตุที่เป็นภัย และต้องการเบาะแสของคนร้าย ซึ่งหลังจากที่โพสต์ทำให้มีผู้รู้จักแจ้งชื่อที่อยู่คนร้ายมาเป็นจำนวนมาก จึงเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขาดเจตนาที่จะกระทำเพื่อประจานหรือสื่อไปในทางอนาจาร,อย่างไรก็ตาม ขอเตือนผู้ที่มีหลักฐานแบบเดียวกันนี้ ควรแจ้งความร้องทุกข์ และหากจะโพสต์ขอให้เซนเซอร์ส่วนที่เห็นว่าไม่สมควรก่อน ส่วนรายนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่เป็นเหตุลหุโทษ มีโทษแค่ปรับเท่านั้น โดยได้ตั้งข้อหากระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น และได้มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงสั่งปรับเป็นเงิน 500 บาท ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี กล่าว. | หนุ่มหื่นโชว์อวัยวะเพศทำท่าสำเร็จความใคร่ ในวินรถตู้ปราจีนฯ ต่อหน้าสาว เข้ามอบตัวอ้างทำไปเพราะเมา ผิดลหุโทษปรับ 500 กลับบ้านได้ ขณะที่สาวที่โพสต์อาจโดนพ.ร.บ.คอมฯ โทษสูงถึง 5 ปี ผกก.แนะต่อไปจะโพสต์ภาพแบบนี้ ให้เซนเซอร์ก่อน | null | โชว์หื่น,สำเร็จความใคร่,โชว์อวัยวะเพศ,หนุ่มหื่นมอบตัว,วินรถตู้,โพสต์ภาพอนาจาร,พรบ.คอมพิวเตอร์,ขัดจรวด,ปราจีนบุรี,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าว | https://www.thairath.co.th/content/680513 |
ส่ง โดรน ชิงเผาเชื้อเพลิงในป่าสูง แก้หมอกควัน 9 จว.ภาคเหนือ | วานนี้ (10 ม.ค.2562) พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลภายใต้การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า ได้ให้ความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าทั้งในประเทศและระดับอาเซียน โดยปฏิบัติการเชิงรุกชิงเผาช่วงต้นฤดูการเกิดไฟป่าในพื้นที่เสี่ยง 9 พื้นที่ทางภาคเหนือ ได้แก่ จ.เชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย ลำพูน ตาก แพร่ แม่ฮ่อง สอน พะเยา และน่านโดยนำร่องที่แม่แจ่มใช้เทคโนโลยี 4.0 มาประยุกต์ใช้กับการชิงเผาด้วยการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เป็นครั้งแรก ซึ่งนอกจากจะช่วยจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่สูงชันที่เข้าถึงได้ยากแล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่าย ลดเวลา และแรงงานคนได้อีกด้วยด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยถึงสถานการณ์ไฟป่าปี 2561 ว่า ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พบจุดความร้อน จำนวน 3753 จุด โดยมีการดับไฟป่า จำนวน 513 ครั้ง พื้นที่เสียหายรวม 20212 ไร่ ภาคเหนือตอนบน ตรวจพบจำนวน 2417 จุด ภาคเหนือตอนล่าง จำนวน 453 จุดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 570 จุด ภาคกลาง จำนวน 298 จุด และภาคใต้ จำนวน 15 จุด ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบปี 2560 กับ ปี 2561 พบว่ามีจำนวนลดลงถึง 541 จุด จากสถิติดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานบรรลุผลสัมฤทธิ์ที่ตั้งไว้ได้เป็นอย่างดีทั้งนี้กรมป่าไม้จะสร้างความรับรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชนเรื่องการป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันแล้วยังส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความเข้มแข็งของเครือข่าย ตลอดจนช่วยเพิ่มประสิทธิ ภาพในการป้องกันและควบคุมไฟป่าอีกด้วย | กรมป่าไม้ นำร่องใช้เทคโนโลยีใหม่ชิงเผาเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าสูงชัน โดยใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน เป็นครั้งแรก บริเวณอ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เพื่อแก้ปัยหาหมอกควันไฟป่า 9 จังหวัดพื้นที่ภาคเหนือ ขณะที่ปี 2561 พบจุดความร้อนในเขตป่าสงวนเพียง 3753 จุด | สิ่งแวดล้อม | กรมป่าไม้,ไฟป่า,แม่แจ่ม,เชียงใหม่,เผา,ชิงเผา,โดรน,ทส.,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/276921 |
ทักษิณ ชินวัตร ชี้เลือกตั้ง 24 มีนา ไม่ชอบมาพากล | และบอกว่าเผด็จการทหารพร้อมที่จะทำลายระบบทั้งระบบเพื่อที่จะคงอยู่ในอำนาจผมรู้ว่าเผด็จการทหารที่ปกครองประเทศไทยอยู่ต้องการคงอยู่ในอำนาจ แต่ผมก็ไม่สามารถนึกไปถึงขนาดว่าพวกเขาจะเล่นกันถึงขั้นปรับแก้ผลการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทยระบุในบทความที่เขียนลงสื่อนิวยอร์กไทม์นำเสนอเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา เขาบอกว่าเขาแปลกใจมากที่รัฐบาลทหารทำถึงขนาดนี้และเชื่อว่าคนไทยคนอื่นๆ ก็คงรู้สึกแปลกใจแบบเขาเช่นกันบทความในนิวยอร์กไทม์ระบุว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งไทยยกเลิกประกาศผลการเลือกตั้งในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาแล้วเลื่อนมาประกาศในช่วงบ่ายของวันจันทร์ (25 มี.ค.) แทน แต่ว่าตัวเลขที่เปิดเผยออกมานั้นเปลี่ยนกลับไปกลับมา ทักษิณตั้งข้อสังเกตว่าไม่เคยมีการประกาศผลการเลือกตั้งล่าช้าถึงขนาดนี้มาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองสมัยใหม่ของไทยนั่นแสดงให้เห็นว่าเผด็จการทหารกลัวผลการเลือกตั้งนี้อย่างเห็นได้ชัดนอกจากนี้ยังมีกรณีที่ในบางพื้นที่จำนวนของบัตรลงคะแนนมีมากกว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง หรือในบางพื้นที่จำนวนผู้มาใช้สิทธิก็มีมากกว่าจำนวนประชากรในพื้นที่ มีการออกผลการเลือกตั้งของผู้สมัครบางรายที่ไม่ตรงกับรายงานของเจ้าหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง มีจำนวนของบัตรเสียเยอะมากจนผิดปกติ และยังมีรายงานว่าบัตรลงคะแนนบางส่วนที่ระบุว่าเป็นบัตรเสียกลับถูกนับเป็นคะแนนให้กับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคตัวแทนของกองทัพ ถึงแม้ว่าในเวลาต่อมาจะมีการแก้ไขข้อผิดพลาดบางส่วนก็ตาม แต่ดูจากวิธีการที่เผด็จการทหารใช้แล้วก็น่าจะเห็นได้ชัดว่ามีการแทรกแซงผลการเลือกตั้งอย่างหนักถ้าหาก กกต.มีอำนาจหน้าที่ในการลงโทษแบบที่รู้จักกันว่าเป็นการให้ใบแดงกับผู้สมัครที่ทำผิด กกต.ก็สมควรให้ใบแดงกับตัวเอง ทักษิณระบุในบทความทักษิณระบุว่าเผด็จการทหารเป็นผู้แต่งตั้ง กกต.ชุดนี้ และทำการแทรกแซงการทำงานขององค์กรและสถาบันที่ควรจะเป็นอิสระ นอกจากนี้ยังเขียนรัฐธรรมนูญที่มีเล่ห์กลและเอื้อต่อตนเอง ประเทศไทยเหมือนจะไม่สามารถเปลี่ยนกฎหมายอาญาที่ล้าหลัง หรือแม้กระทั่งข้อกำหนดการจดทะเบียนรถ แต่กลับเขียนรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ได้บ่อยๆ ทักษิณระบุในบทความในบทความวิพากษ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญฉบับล่าสุดของเผด็จการทหารต่อไปว่ามีการทำให้พรรคใหญ่ๆ อ่อนแอลง มีการปฏิบัติสองมาตรฐานในแง่การตัดสินใจว่าใครควรจะได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือนิยามว่าใครเป็น เจ้าหน้าที่รัฐ มีการปฏิบัติต่อคู่แข่งทางการเมืองเสมือนเป็นศัตรูแต่ไม่ว่าหัวหน้าเผด็จการทหารจะอนุญาตให้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ก็ตามทักษิณก็ประเมินว่าเผด็จการทหารเหล่านี้จะพยายามหาทางกุมอำนาจเอาไว้แบบไม่มียางอาย และเตือนว่าฝ่ายเผด็จการทหารอาจจะพยายามใช้วิธีการล่อ ส.ส. จากพรรคเล็กๆ ให้มาเข้าร่วมกับพวกเขาบทความที่ตีพิมพ์ในนิวยอร์กไทม์มีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเหตุการณ์ในคืนวันที่ 24 มี.ค. ที่ประธาน กกต. ตอบว่า เขายังบอกผลคะแนนไม่ได้เพราะ ไม่มีเครื่องคิดเลข อยู่กับตัว ทักษิณมองว่าเขาตอบแบบเสียดสี เป็นไปได้ว่าเขาถูกสั่งให้หยุดการประกาศผลการนับคะแนนจากระบบการเลือกภายใต้รัฐธรรมนูญปัจจุบันทักษิณประเมินว่าพรรคพลังประชารัฐอาจจะเป็นคนเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ได้โดยที่ไม่ได้ ส.ส. เสียงข้างมากในสภา ซึ่งนั่นจะทำให้เกิดรัฐบาลที่ขาดเสถียรภาพมาก นอกจากนี้ทักษิณยังแสดงความเป็นห่วงอีกว่าถ้าหากไม่มีการเคารพในกฎเกณฑ์กติกาแบบนี้ ประเทศไทยที่กำลังต้องการการลงทุนจากต่างชาติเพราะผลลบทางเศรษฐกิจจากการบริหารผิดพลาดของเผด็จการทหารอาจต้องเผชิญปัญหา เพราะเศรษฐกิจโลกกำลังจะเข้าสู่ภาวะลมปะทะในไม่ช้านี้ รัฐบาลถัดไปจะสามารถเผชิญกับปัญหาท้าทายนี้ได้หรือไม่สิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับว่าพรรคใดพรรคหนึ่งจะชนะหรือแพ้ มันเกี่ยวกับว่าไทยไม่ควรจะพ่ายแพ้ ผู้คนที่เป็นรัฐบาลควรจะมาแล้วก็ไปในขณะที่ระบบการเมืองยังคงอยู่ แต่รัฐบาลทหารนี้พร้อมที่จะทำลายระบบเพียงเพื่อให้พวกของตัวเองได้อยู่ในอำนาจต่อไป ทักษิณระบุในบทความเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด ประเทศไทยควรจะมีรัฐบาลที่สะท้อนเจตจำนงของประชาชน ไม่ใช่เจตจำนงของเผด็จการทหาร นี่มันเป็นช่วงเวลาที่แย่และน่าเศร้าสำหรับประเทศผม ทักษิณระบุในบทความ | ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทยที่ถูกโค่นล้มจากการรัฐประหารในปี 2006 เขียนบทความลงนิวยอร์กไทม์ ระบุว่ารัฐบาล คสช. โกงการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่่ผ่านมา | การเมือง | เลือกตั้ง 62,การเลือกตั้ง,ทักษิณ ชินวัตร,ไทย,พรรคพลังประชารัฐ,เผด็จกาารทหาร,การโกงการเลือกตั้ง,คณะกรรมการการเลือกตั้ง,กกต. | https://prachatai.com/journal/2019/03/81710 |
แจ้งข้อหาเพิ่ม ปิยฉัตร บงการฆ่าสามเณรปลื้ม | วันนี้ ( 12 มิ.ย.2560 ) พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครศรีธรรมราช เผยความคืบหน้า คดีฆาตกรรมสามเณรปลื้ม ในวัดวังตะวันตก อ.เมืองนครศรีธรรมราช ว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ปิยฉัตร อรุณสกุล (บิว) หนึ่งในผู้ต้องหา เพิ่มอีก 1 ข้อหา ฐานความผิดบงการฆ่าและจ้างวานฆ่าสามเณรปลื้ม หลังจากสอบสวนพบว่า น.ส.ปิยฉัตร เป็นผู้ดำเนินการสั่งฆ่าสามเณรปลื้มทั้งหมดผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครศรีธรรมราช ระบุว่า การตรวจสอบทรัพย์สินและเส้นทางเงิน น.ส.ปิยฉัตร และนายเด่นชัย สามี ตำรวจรอเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ทรัพย์สินสูญหาย จากนั้นตำรวจจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม และดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินกลุ่มผู้ต้องหาอย่างเต็มที่พระครูพรหมเขตคณารักษ์ เจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก จ.นครศรีธรรมราช รูปปัจุบัน ระบุว่า ทางวัดยังตรวจสอบทรัพย์สิน และของมีค่าที่หายออกจากวัด เพื่อใช้เป็นหลักฐานมอบให้ทนายความ แจ้งความดำเนินคดี ผู้ต้องหาฆ่าสามเณรปลื้ม ฐานความผิดยักยอกทรัพย์ หลังเข้ามาเก็บผลประโยชน์ ทำให้วัดเกิดความเสียหายทั้งนี้ คาดว่าอีก 2 วัด จะมอบหมายให้ทนายความ เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุแน่ชัดได้มีทรัพย์สินใดบ้างสูญหาย ขอเวลาตรวจสอบอีกระยะหนึ่ง | ตำรวจแจ้งข้อหา น.ส.ปิยฉัตร อรุณสกุล(บิว) หนึ่งในผู้ต้องหาฆ่าสามเณรปลื้ม เพิ่มอีก 1 ข้อหา บงการฆ่าสามเณรปลื้ม ขณะที่ เจ้าอาวาสวัดวังตะวันตกรูปปัจจุบันขอเวลาอีก 2 วัน รวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งความดำเนินคดีกลุ่มผู้ต้องหา ฐานความผิดยักยอกทรัพย์สินวัด | อาชญากรรม | สามเณรปลื้ม,วัดวังตะวันตก,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/263364 |
ฟอร์บส์ จัดอันดับ ราชัน ทีมฟุตบอลมูลค่าสูงสุด 3 ปีซ้อน | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 7 พ.ค. นิตยสารฟอร์บส์ เผยผลการจัดอันดับสโมสรฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงที่สุดของโลก ปรากฏว่า อันดับหนึ่งยังคงเป็น ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลา ลีกา สเปน ที่รักษาแชมป์ไว้ได้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยมีมูลค่า 3,263 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ ซึ่งลดลงจากปีก่อน 5% และถ้าคิดรวมสโมสรกีฬาทุกชนิด เรอัล มาดริด ถือเป็นทีมกีฬาที่มีรายได้สูงที่สุดในโลกที่ 746 ล้านดอลลาห์สหรัฐ,ขณะที่อันดับ 2 เป็น บาร์เซโลนา จากศึก ลา ลีกา สเปน เช่นกัน โดยมีมูลค่า 3,163 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ ซึ่งลดลงจากปีก่อน 1 เปอร์เซนต์ ตามด้วยอันดับ 3 คือ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีมูลค่า 3,104 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10%,สรุปทีมฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงที่สุด 10 อันดับแรก จากนิตยสารฟอร์บส์,1. เรอัล มาดริด (สเปน) 3,263 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ,2. บาร์เซโลนา (สเปน) 3,163 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ ,3. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 3,104 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ ,4. บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี) 2,347 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ ,5. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ) 1,375 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ,6. เชลซี (อังกฤษ) 1,370 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ ,7. อาร์เซนอล (อังกฤษ) 1,307 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ ,8. ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 982 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ ,9. ยูเวนตุส (อิตาลี) 837 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ,10. เอซี มิลาน (อิตาลี) 775 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ | ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ถูกจัดอันดับโดยนิตยสาร ฟอร์บส์ ให้เป็นสโมสรฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงที่สุดของโลกเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่ บาร์เซโลนา อยู่ในอันดับ 2 และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 3 | null | ฟอร์บส์,เรอัล มาดริด,ทีมฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงที่สุด,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/497249 |
อัลไซเมอร์ ภัยร้ายลุกลามสู่วัยทำงาน | วันนี้ (31 ส.ค.2561) นพ.เขษม์ชัย เสือวรรณศรี แพทย์ผู้ชำนาญการด้านประสาทวิทยา เปิดเผยว่า ภาวะโรคความจำเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ ปัจจัยเสี่ยงของผู้ป่วยโรคนี้มีความสัมพันธ์กับอายุที่มากขึ้นจากสถิติผู้ป่วยอัลไซเมอร์พบได้ในกลุ่มทั่วไปเฉลี่ยอายุ 65 ปี มีสัดส่วนร้อยละ 5 กลุ่มอายุ 75 ปีเฉลี่ยร้อยละ 15 และกลุ่มอายุ 85 ปีประมาณร้อยละ 30- 40ขณะเดียวกันกลุ่มคนวัยทำงานมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะโรคความจำเสื่อมเพิ่มขึ้นเนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตนพ.สุธี ศิริเวชฏารักษ์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด แนะนำว่ากลุ่มคนวัยทำงานสามารถฟื้นฟูและกายภาพบำบัดขจัดความเครียดที่สะสมได้ เพื่อป้องกันการจดจำของสมองที่อาจจะสับสน ส่งผลให้สมาธิไม่ดี ความจำไม่ดี หรืออาจจะส่งผลให้เกิดโรคภาวะซึมเศร้า วิธีการแก้ไขสามารถป้องกันดูแลสมองให้แข็งแรงได้ด้วยการหมั่นตรวจสุขภาพ การพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกาย และหมั่นฝึกให้สมองได้ทำกิจกรรมทั้งนี้ ปัจจุบันมักพบเห็นผู้สูงอายุถูกทิ้งในที่สาธารณะ หรือผู้สูงอายุมักหลงลืมเส้นทางกลับบ้านบ่อยครั้ง โดยแพทย์มองว่าอนาคตจากนี้อาจพบเห็นมากขึ้น เนื่องจากกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาครัฐ ควรออกมาตรการรองรับดูแลกลุ่มผู้สูงอายุเหล่านี้7 อาการบ่งบอกว่าสมองอ่อนล้า และความจำแย่ลง1.มีปัญหาในการนอนหลับ2.ระบบย่อยอาหารมีปัญหา หรือระบบภูมิต้านทานอ่อนแอ3.หลงลืมง่าย4.ไม่มีสมาธิ ใจลอย5.เหนื่อยล้าเรื้อรัง หรือรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลาแต่นอนไม่หลับ6.วิตกกังวล7.ซึมเศร้า อารมณ์แปรปรวน | แพทย์ผู้ชำนาญการด้านประสาทวิทยา ระบุสถานการณ์โรคความจำเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุมากขึ้น เสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการดูแลก่อนเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุในอนาคต | สังคม | อัลไซเมอร์,โรคความจำเสื่อม,วัยทำงาน,ผู้สูงอายุ,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/274317 |
ระยองผุด โรงรมควัน อุ้มชาวสวนยาง | แต่วันนี้ จ.ระยอง แหล่งสวนผลไม้ใหญ่ และพื้นที่ปลูกยางมากที่สุดในภาคตะวันออก นายไชยา บุญญานุภาพ สหกรณ์จังหวัด จึงไม่รอช้าที่จะร่วมกับภาคีเครือข่าย เร่งพัฒนาสถาบันเกษตรกรให้เข้มแข็ง,หลังมองเห็นตลาดกลางยางพาราระดับประเทศเป็นเพียงแหล่งซื้อขายเฉพาะสมาชิกห้องค้า ยังไม่เป็นระบบสากลเหมือนต่างประเทศ ชาวสวนยางจึงยังถูกกดราคาให้ต่ำกว่ามูลค่าความเป็นจริง,เพื่อพัฒนาให้เป็นตลาดซื้อขายล่วงหน้าตามระบบสากล เกษตรกรสามารถซื้อขายและส่งมอบสินค้ายางกันได้จริง และที่มากไปกว่านั้นอาจสามารถชี้นำราคาที่เป็นธรรมให้แก่เกษตรกรและลูกค้าได้,ด้วยเหตุนี้ สถาบันการเกษตรในพื้นที่ จ.ระยอง จึงผุดแนวคิดการแก้ปัญหาด้วยตนเอง ด้วยรูปแบบการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิตยาง โดยจังหวัดมอบหมายให้ชุมนุมสหกรณ์ จ.ระยอง รับเป็นแม่งานก่อสร้างโรงรมควันยาง ในพื้นที่หมู่ 9 ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง,แต่ด้วยข้อจำกัดของเกษตรกร จึงต้องขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากจังหวัด ผ่านทางสหกรณ์ จ.ระยอง นำไปใช้ก่อสร้างโรงงานไว้แก้ปัญหาราคายางอย่างยั่งยืน,นายไชยา บุญญานุภาพ กล่าวว่า ภายใต้งบประมาณที่อนุมัติให้ 23,400,000 บาท ถูกนำไปใช้ก่อสร้างโรงรมควันยาง พร้อมจัดซื้ออุปกรณ์อย่างครบครัน โดยมีพิธีเปิดใช้งานมาแล้วหลายเดือน,ทั้งหมดนี้ จึงเกิดจากแนวคิดการแก้ปัญหาชาวสวนยางถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยนำผลผลิตเข้าสู่การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม ตามกระบวนการรมควันและอัดก้อนยางพารานำออกจำหน่าย,ขอเพียงทำจริงไม่อิงนิยาย รายได้ไม่หายไปไหน ตกอยู่กับเกษตรกรชาวสวนยางอย่างแน่นอน,นิตยา ทุมมานนท์ | ปัญหาชาวสวนยางถูกพ่อค้าคนกลางกดราคาเอารัดเอาเปรียบยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่องแบบไม่มีท่าว่าจะหมดไป แม้ว่าภาครัฐจะตีกรอบล้อมคอกไว้อย่างต่อเนื่อง! | ข่าว,ทั่วไทย | ชาวสวนยาง,ปลูกยาง,ยางพารา,แปรรูปสร้างมูลค่ายางพารา,มองทั่วทิศเมืองไทย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1155337 |
สืบตลิ่งชันเจ๋งวันเดียวรวบ 3 ราย เครือข่ายขนยานรกลงใต้ ของกลาง 14 ล้าน | เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 8 ก.พ. 60 ที่ สน.ตลิ่งชัน พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบช.น. พร้อม พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงศ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.7 และ พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ รอง ผบก.น.7 ร่วมกันแถลงข่าวผลงานฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน ฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.ตลิ่งชัน และ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหารับจ้างขนยาบ้าและยาไอซ์ลงสู่พื้นที่ภาคใต้ จำนวน 3 คดี ได้ผู้ต้องหา 3 ราย ยึดของกลางเป็นยาไอซ์ 2 กิโลกรัม และยาบ้า 60,000 เม็ด รวมมูลค่า 14 ล้านบาท,คดีแรก เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 8 ก.พ. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พร้อม พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.นพรัตน์ สินมา ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. นำกำลังจับกุม นายวรวุฒิ หรือ ยอร์ค แหยมสุขสวัสดิ์ อายุ 28 ปี ชาว จ.สระบุรี พร้อมของกลางกระเป๋าเป้บรรจุ ยาไอซ์ 2 กิโลกรัม มูลค่า 2 ล้านบาท โดยจับกุมตัวได้ในสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) ขณะกำลังเดินทางมุ่งหน้าไปส่งของกลางในพื้นที่ จ.ภูเก็ต สอบสวน นายวรวุฒิ ยอมรับว่า มีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับส่งเอกสารให้ธนาคารแห่งหนึ่ง รายได้ไม่พอใช้ จึงรับงานจากเอเย่นต์ ชื่อ นายโอ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ผ่านทางโทรศัพท์ ให้เดินทางไปรับกระเป๋าดังกล่าวที่มีคนนำมาวางไว้จากหน้าวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.ภูเก็ต หากทำสำเร็จจะได้ค่าจ้าง 50,000 บาท แต่ตำรวจตามรวบได้เสียก่อน,คดีที่สอง เมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.วีรศักดิ์ กลั่นเกิด รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน พร้อม พ.ต.ท.พัฒนพงษ์ ปัดสำราญ สว.สส.สน.ตลิ่งชัน นำกำลังจับกุม นายสุรศักดิ์ หรือ บ่าว นิลบวร อายุ 27 ปี ชาว จ.ตรัง พร้อมของกลางกระเป๋าเป้ บรรจุยาบ้า 40,000 เม็ด มูลค่า 8 ล้านบาท โดยจับกุมตัวได้ในสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) ขณะกำลังเดินทางมุ่งหน้าไปส่งของกลางในพื้นที่ จ.สงขลา สอบสวน นายสุรศักดิ์ ยอมรับว่า มีอาชีพรับจ้างกรีดยางที่ จ.ระยอง แต่รายได้ไม่พอใช้ จึงรับงานจากเอเย่นต์ ชื่อ นายต้น (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ผ่านทางโทรศัพท์ ให้เดินทางไปรับกระเป๋าดังกล่าวจากหน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.สงขลา โดย นายต้น โอนเงินงวดแรกมาให้แล้ว 50,000 บาท หากทำสำเร็จจะได้ค่าจ้างเพิ่มเติมอีก 20,000 บาท แต่ถูกตำรวจรวบเสียก่อน,และคดีที่สาม เมื่อเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.ธนโชติ ฤกษ์ดี รอง ผกก.ป.สน.ตลิ่งชัน นำกำลังชุดจู่โจม สน.ตลิ่งชัน เข้าจับกุม นายสุขี หรือ จุก ศรีพัฒน์ อายุ 31 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ พร้อมของกลางกระเป๋าเป้ บรรจุยาบ้า 20,000 เม็ด มูลค่า 4 ล้านบาท โดยจับกุมตัวได้ในสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) ขณะกำลังเดินทางมุ่งหน้าไปส่งของกลางในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ สอบสวน นายสุขี ยอมรับว่า ทำงานรับจ้างทั่วไปอยู่ที่บ้านเกิดรายได้ไม่พอใช้ จึงรับงานจากเอเย่นต์ ชื่อ นายหรั่ง (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ผ่านทางโทรศัพท์ให้เดินทางไปรับกระเป๋าดังกล่าวที่ถูกนำมาวางทิ้งไว้ในพื้นที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ หากทำสำเร็จ นายหรั่ง จะโอนเงินค่าจ้างให้ จำนวน 60,000 บาท แต่ถูกตำรวจสืบทราบและตามรวบได้เสียก่อน,พ.ต.อ.สุธีร์ กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คดีนี้เกิดขึ้นภายในวันเดียวกัน โดยการสนธิกำลังกันของเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน และฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.ตลิ่งชัน ที่สำคัญได้ตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางขณะกำลังรอขึ้นรถโดยสารมุ่งหน้าไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ เบื้องต้นตนเชื่อว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายนี้ น่าจะเป็นเครือข่ายเดียวกันกับกลุ่มเอเย่นต์ที่ทาง บช.ปส.กำลังเฝ้าติดตามพฤติกรรมอยู่ โดยหลังจากนี้จะประสาน บช.ปส.และ ป.ป.ส.กทม.เข้ามาร่วมสืบสวนขยายผล โดยเฉพาะเบอร์โทรศัพท์เอเย่นต์ที่ติดต่อมาสั่งการให้ผู้ต้องหา ทั้ง 3 ราย ไปทำงาน ก่อนติดตามตัวมาดำเนินคดีร่วมกันต่อไป,สำหรับพื้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ หรือสายใต้ใหม่นั้น ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ต้องหาได้หลายราย ยึดยาบ้าได้เกือบ 2 แสนเม็ด และ ยาไอซ์กว่า 20 กิโลกรัม ทำให้หลังจากนี้ต้องมีการเฝ้าระวังและจับตาดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดกว่าในอดีต รอง ผบช.น. กล่าวทิ้งท้าย. | รอง ผบช.น.จับมือ ผู้การ น.7 พร้อมด้วยฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน แถลงจับ 3 ผู้ต้องหาขนยาเสพติด ได้คาสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ พร้อมของกลางยาบ้า 6 หมื่นเม็ด ไอซ์อีก 2 กิโลกรัม มูลค่า 14 ล้านบาท ขณะเตรียมส่งลงใต้กระจายสู่ลูกค้ารายย่อย | null | ขนยาเสพติด,จับยา สายใต้ใหม่,ฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน,ยาบ้า,ยาไอซ์ | https://www.thairath.co.th/content/854442 |
การประยุกต์ใช้ GIS กับการป้องกันพิบัติภัยธรรมชาติ | ผลงานจีไอเอสที่มา ผศ.สมบัติ อยู่เมือง ภาควิชาธรณีวิทยา จุฬาฯ www.gisthai.org=================================ประชาไท-21 ม.ค.48 ผศ.สมบัติ อยู่เมือง ภาควิชาธรณีวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวในงานสัมมนา การประยุกต์ใช้ GIS และข้อมูล Remote Sensing เพื่อการประเมินผลกระทบสภาพทางกายภาพและธรณีวิทยาในพื้นที่ประสบธรณีพิบัติภัย จากการเกิดคลื่นยักษ์ (tsunami) ซึ่งจัดโดยภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สิ่งที่ทีมงานของพวกเราทำนั้นเริ่มทำตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.47 คือวันที่เกิดเหตุ และตอนนี้ทางเรามีการประสานงานร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรธรณีวิทยา เราทำข้อมูลในช่วง2-3 สัปดาห์หลังจากเกิดเหตุการณ์ และให้ข้อมูลบางส่วนกับภาครัฐ เพื่อไปบริหารที่ภูเก็ต เราส่งภาพแผนที่เพื่อจะได้เห็นภาพที่เกิดขึ้น ผมอยากให้มองว่าภูมิศาสตร์ วิทยาศาสตร์ โลกศาสตร์ เป็นเรื่องเดียวกัน เรื่องนี้ไม่มีขอบเขต อย่างภูมิศาสตร์ไม่ใช่แค่แผนที่ แผ่นหนึ่งแล้วมาระบายสี เขียนชื่อแม่น้ำ แต่ภูมิศาสตร์เป็นวิทยาศาสตร์ ผมจะพูดเรื่อง GIS กับ RS คำว่า GIS ย่อมาจาก คือกระบวนการทำงานเกี่ยวกับข้อมูลในเชิงพื้นที่ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้กำหนดข้อมูลและสารสนเทศ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับตำแหน่งในเชิงพื้นที่ เป็นระบบข้อมูลข่าวสารที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ แต่สามารถแปลความหมายเชื่อมโยงกับสภาพภูมิศาสตร์อื่นๆ ในรูปข้อมูลเชิงพื้นที่และข้อมูลเชิงบรรยาย ซึ่งสามารถอ้างอิงตำแหน่งที่อยู่จริงบนโลกได้ ส่วน เรียกย่อๆว่า ก็คือ โดยเครื่องมือวัด ไม่มีการสัมผัสกับสิ่งที่ต้องการตรวจวัดโดยตรง การสำรวจโดยใช้วิธีนี้เป็นการเก็บข้อมูลที่ได้ข้อมูลจำนวนมาก ในบริเวณกว้างกว่าการสำรวจภาคสนาม การนำข้อมูลมาช่วยในด้านการประเมิน เพื่อให้เห็นรูปร่างหน้าตา เห็นจินตนาการได้ชัดเจนขึ้น เพราะหากลองหลับตานึกภาพคลื่นยักษ์ว่าถล่มตรงไหนในภาคใต้ ทุกคนจินตนาการไม่เท่ากัน ความรู้สึกของแต่ละคนมีข้อมูลในสมองไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นความตระหนกตกใจจะไม่เท่ากัน ยกตัวอย่าง เช่น เพื่อนบ้านที่อยู่ตรงข้ามบ้านผม เขาถามว่าไประยองปลอดภัยไหม จะพาลูกไปเที่ยวทะเล หมายความว่ายังไงครับ หมายความว่า กลายเป็นว่าหนังสือพิมพ์ ทีวีนำเราไปหมดแล้ว และไม่ใช่มีเพียงคนเดียวที่ถามเราแบบนี้นะ เพื่อนผมที่เป็นนายพลยังถามว่า แถวๆหัวหิน ประจวบจะโดนหรือเปล่า นี่คือสิ่งที่ตอบอะไรเราบางอย่างในเชิงความรู้ ซูนามิไม่ไกลตัวเราเลย มันใกล้มาก เราต้องเข้าใจว่าจะอยู่กับมันอย่างไรที่มีโอกาสรอดมากว่าคนอื่นหรือช่วยคนอื่นได้ GIS เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราทำงานได้อย่างเป็นระบบ ให้เราเห็นภาพข้อมูลที่มีการเปรียบเทียบการวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การทำทางเลือกในหลายๆแบบ เพื่อให้นำไปสู่การจัดการที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่มานั่งเถียงกันบนโต๊ะแล้วก็ไม่มีอะไรอยู่ในมือเพราะอย่างนั้นไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นวิทยาศาสตร์ เราควรต้องพูดคุยกันด้วยข้อมูลและหลักฐานทุกอย่าง การประมวลผลโดยเชิงสถิติและโอกาสความเป็นไปได้ อย่าให้ใครนำเราในเชิงโหราศาสตร์ เราต้องมีองค์ความรู้ในแต่ละด้านประกอบ ในเรื่องคลื่นซูนามิที่เกิดขึ้นมีคนทำงานก่อนเราเสมอ เราอ้างอิงกับเขาได้ เราศึกษาทฤษฎี ศึกษาตำราได้ สิ่งที่เราต้องศึกษาต่อเรื่องนี้ เช่น อย่างเรื่องแผ่นดินที่เกิดผลกระทบกับซูนามิจะทำอย่างไร เกิดกับอะไรบ้าง ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมีอะไรบ้าง ขั้นตอนในการทำงานสำคัญมากเพราะต้องมีคนที่มีองค์ความรู้ สิ่งแรกที่เราจะพูดถึงคือเชิงพื้นที่ มี เรากำลังเล่นกับชายฝั่งทั้งหมด ต้องดูว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ถ้าเราไม่มีครูใหญ่ ไม่ดูตำราสากลเราไม่สามารถตรัสรู้เป็นพหูสูตรได้ คนที่ทำก่อนเราในอดีตมีมากมาย องค์ความรู้พื้นฐานที่สำคัญมาก เราต้องเข้าใจก่อน ประเด็นเรื่องความเสี่ยงโอกาสในการเกิด การจัดการทางด้านสากลทำอย่างไร ต้องพยายามทำให้เป็นวิทยาศาสตร์ ส่วนการจัดการความเสี่ยง กิจกรรมหลักๆในการจัดการพิบัติภัย ลดโอกาสในการเกิดความเสียหาย เราสู้กับซูนามิไม่ได้ เราสู้กับแผ่นดินไหวไม่ได้ เราสู้กับน้ำท่วมไม่ได้ แต่เราอยู่กับมันให้มีความเสียหายน้อยที่สุดได้อย่างไร ผมใช้คำว่า หรือ เพราะคำว่า ในคำพูดสามารถทำได้ แต่ไม่ใช่ทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ ฉะนั้นควรจะใช้ลด หรือบรรเทาซึ่งเป็นคำที่ใช้ในสากลส่วนใหญ่น่าจะเหมาะสมกว่า สิ่งที่เป็นหัวใจก็คือ คือฐานขององค์ความรู้ที่ทำให้คุยกันรู้เรื่อง คือข้อมูลเชิงพื้นที่ซึ่งสำคัญมากเพราะหลังจากดูข้อมูลแล้ว จะเป็นเรื่องกระบวนการว่าจริงๆ ควรทำอย่างไรในการจัดการพิบัติภัย ผมไม่ทราบว่า ติดกระดิ่งรอบอ่าวแล้วพอไหม ติดทุ่นรอบประเทศไทยแล้วนอนอยู่ที่บ้านพอไหม โดยเฉพาะรูปธรรมที่กำลังคิดทำอยู่ในระดับประเทศชาติควรเป็นอย่างไร เราต้องพูดและทำความเข้าใจข้อมูลให้ตรงกันเสียก่อน องค์ความรู้ในเชิงวิชาการ GIS และ Remote จึงเป็น เป็นตัวเป็นตน วัดได้ประมวลผลได้ วิเคราะห์ได้ ติดตามได้ แล้วเอามาสู่การปฏิบัติจริงได้เช่น ภูมิศาสตร์เชิงระบบ คือการจัดทำแผนที่การประเมินผล การจะลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจะทำอย่างไร การทำทุกอย่างให้เป็นรูปธรรมต้องอาศัยข้อมูลภูมิศาสตร์เชิงระบบ ผมคิดว่าการทำแผนที่ต้องอาศัยศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์และศีลธรรม เพราะถ้าผมใช้สีไม่ดีแผนที่ออกมาก็ดูไม่รู้เรื่อง จะเลือกโทนสีอย่างไร จัดภาพให้องค์ประกอบที่สมบูรณ์ คำอธิบายก็ต้องเข้าใจง่าย ต้องใช้วิธีการทางเทคนิคและศิลปะในการทำแผนที่ และในที่สุด แผนที่ที่ได้ก็คือตัวหนังสือที่สามารถจะเก็บข้อสนเทศไว้ทุกอย่าง เพราะถ้าไม่มีแผนที่จะอธิบายได้ยากมาก รูปหนึ่งรูปจะอธิบายได้ดีกว่าใช้คำ 1000 คำเลย จากความเจริญก้าวหน้าทางวิชาการระบบภูมิศาสตร์สู่ระบบคอมพิวเตอร์ หัวใจของ GIS ไม่ใช่แค่แผนที่ที่เป็นโครงเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีคำอธิบายในแผนที่ นั่นคือฐานข้อมูลซึ่งนำมาสู่ GIS วิเคราะห์ สังเคราะห์ จำแนกได้ และมีความหมายมากกว่าแผนที่ธรรมดา เรากำลังจัดทำระบบการลดความเสี่ยงจากผลกระทบทั้งคลื่นยักษ์และคลื่นไม่ยักษ์ เราให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เก็บข้อมูล ความหมายของข้อมูลกับการศึกษามีความสำคัญมาก ทำอย่างไรให้การศึกษาของเราออกไปเป็นระบบ ข้อมูลที่ให้ต่อสาธารณะควรเป็นข้อมูลวิทยาศาสตร์ที่สามารถทำความเข้าใจได้ สาธารณชนจำเป็นต้องเข้าใจในเชิงวิชาการและธรรมชาติว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไร ผมคิดว่าการจัดการปัญหาต้องวิเคราะห์ความเสี่ยงในพื้นที่และประสานเชื่อมโยงกันเพื่อนำไปสู่การประเมิน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ แล้วทุ่มงบประมาณลงไปซ่อมแซม ฟื้นฟู โดยไม่รู้ว่าทำแล้วจะส่งผลอย่างไร จะได้รับผลกระทบอีกไหม พื้นที่ที่เทงบลงไปมี อัตราความเสี่ยงมากแค่ไหน เป็นการฟื้นฟูโดยไม่มีข้อมูลของพื้นที่มาประกอบซึ่งไม่ใช่การฟื้นฟูที่ยั่งยืน ปัจจุบันผมคิดว่า เรากำลังถูกยกระดับในด้านความเสี่ยงเทียบเท่ากับญี่ปุ่น กับเกาะสุมาตรา ทั้งที่เราไม่มีเสี่ยงขนาดนั้น แต่ไปใช้คำพูดที่ทำให้เราเสี่ยงมากเพื่อจะให้มีงานทำ ผมถือว่าเป็นนักวิชาการที่แย่มาก ใช้วิกฤตเป็นโอกาสในทางที่ไม่ดี เพราะการพูดอะไรต้องมีข้อมูลให้รอบคอบเพื่อหาทางรับมือได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม หากถามนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกว่า ตอนนี้ประเทศไทยควรจะทำอะไร เขาบอกเสียงเดียวกันคือ ผมคิดว่า คนที่เก่งที่สุดในการทำงานไม่ใช่คนที่รู้ทุกเรื่อง แต่ต้องเป็นคนที่รู้ว่าสามารถเลือกใครมาช่วยงานแล้วทำให้งานทุกอย่างเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ สร้างเครือข่ายจัดข้อมูลที่ดี ปัญหาของเราคือ ถึงเรามีข้อมูลเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่รู้จะวิเคราะห์อย่างไร ไม่รู้จะบริหารอย่างไรและต้องให้องค์ความรู้ต่อสาธารณะในทุกๆระดับ นี่เป็นสิ่งที่จำเป็นในการเรียนรู้เพื่อนำไปสู่การทำงานในตอนนี้ให้ทันการ นี่เป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกันคิดต่อไป
วิทยาศาสตร์บัณฑิตสาขาธรณีวิทยา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาธรณีวิทยา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยปัจจุบัน ศึกษาปริญญาเอก ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรองผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกรรมการภูมิศาสตร์สนเทศแห่งชาติกรรมการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษากรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและนิเทศศาสตร์ | ผลงานจีไอเอส ที่มา ผศ.สมบัติ อยู่เมือง ภาควิชาธรณีวิทยา จุฬาฯ www.gisthai.org ================================= ประชาไท-21 ม.ค.48 สิ่งที่เราเห็นไม่ใช่การพยากรณ์ หรือการทำนายแต่มันคือวิทยา ศาสตร์ | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/01/2381 |
อินเดียสั่งจัดมาราธอนต่อ แม้เมืองมีปัญหาฝุ่นควันเสี่ยงต่อสุขภาพ | แม้ว่าฝุ่นควันจะปนเปื้อนหนักจนหมอออกมาเตือนเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพและก่อนหน้านี้ก็เคยมีการเรียกร้องให้มีการเลื่อนการจัดมาราธอน27 พ.ย. 2560 ภาวะฝุ่นควันในเดลีทำให้โรงเรียนหลายแห่งต้องหยุดการเรียนการสอนเป็นเวลาหลายวัน เว็บไซต์สถานทูตสหรัฐอเมริกา ระบุว่าระดับของมลภาวะในอากาศที่มีขนาดเล็กสุดและอันตรายที่สุดอยู่ที่ระดับ 200 มากกว่าระดับปลอดภัยตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ 8 เท่าการจัดมาราธอนดังกล่าวมีการวิ่งเป็นระยะทาง 21 กม. มีนักกรีฑาบางคนที่แสดงความไม่พอใจสภาพมลภาวะที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ นักวิ่งรายหนึ่งชื่อโรหิต โมฮาน อายุ 30 ปี ที่มาจากบังกาลอร์พูดถึงสภาพอากาศในการวิ่งครั้งนี้ว่ามันทำให้เขาแสบตา คอแห้ง น้ำมูกไหล นักวิ่งบางส่วน เช่น อะเบย์ เซน อายุ 30 ปี แสดงความไม่พอใจที่ถูกบังคับให้ต้องใส่หน้ากากอนามัยวิ่งเนื่องจากมันทำให้เขาหายใจลำบากแต่ก็มีนักวิ่งหลายคนที่บอกว่าสภาพอากาศไม่ได้เลวร้าย เช่น นักวิ่งชื่อ ไซกัต มาเนอร์จี บอกว่าอากาศ สดใสและสบาย บีร์ฮานู เลกีส นักวิ่งจากเอธิโอเปียที่ชนะการแข่งขันมาราธอนกล่าวว่าตอนแรกเขาก็กลัวเรื่องมลภาวะแต่สำหรับเขาแล้วมัน ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นแพทย์เตือนว่าการวิ่งท่ามกลางมลภาวะหนักๆ อาจจะทำให้เกิดอาหารหอบหืด ทำให้สภาพปอดแย่ลง และเพิ่มโอกาสหัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมองขณะที่ในโซเชียลมีเดีย มีคนทำวิดีโอเชิงเสียดสีการวิ่งมาราธอนฝ่าฝุ่นควันในครั้งนี้ โดยทำภาพนักวิ่งสูบบุหรี่จัดติดต่อกันและสูดเอาควันพิษเข้าไปในช่วงที่กำลังเตรียมการแข่งขันก่อนหน้านี้ สมาคมแพทย์อินเดียเคยเรียกร้องให้ศาลสูงเดลีสั่งเลื่อนการจัดวิ่งมาราธอนออกไปก่อน แต่ก็ถูกตอบกลับมาว่าทางผู้จัดงานได้ระมัดระวังป้องกันในเรื่องนี้อย่างเหมาะสมแล้ว วิธีการที่พวกเขาใช้คือการฉีดพ่นน้ำเกลือเพื่อทำให้ระดับฝุ่นควันลดลง ฝนตกปรอยๆ ในช่วง 1 วันก่อนการเริ่มงานก็ทำให้มลภาวะลดลง แต่ทางสถานทูตสหรัฐฯ ในอินเดียก็ยังคงประกาศว่าระดับมลภาวะเกินกว่า 200 หน่วยเป็นระดับที่ผู้คนควรจะทำกิจกรรมออกกำลังกายภายนอกอาคารแม้ว่าจะมีนักกรีฑาบางคนที่ยกเลิกการวิ่งเพราะคิดถึงความเสี่ยงเรื่องสุขภาพ แต่นักวิ่งที่ชื่อสิทัมมองว่าการเข้าร่วมมาราธอนในวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมาเป็นการแสดงออกเพื่อต่อต้านแบบหนึ่ง สิทัมบอกว่าเขารู้ดีว่ามลภาวะอยู่ในระดับแย่และสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพเขาได้แต่เขาก็ยังจะเข้าร่วมต่อไปเดอะการ์เดียนระบุว่าเดลีถูกจัดให้เห็นเมืองหลวงที่มีมลภาวะสูงสุด และทางการของเดลีก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่สามารถจัดการปัญหาได้My eyes are burning: Delhi holds half marathon despite pollution warning The Guardian 19-11-2017 | เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้มีการจัดวิ่งมาราธอนของผู้คนมากกว่า 30000 คนในมหานครเดลีท่ามกลางฝุ่นควันคละคลุ้งจนนักวิ่งบางคนต้องสวมหน้ากากกันมลภาวะวิ่งไปด้วย อีกทั้งยังต้องวิ่งกันต่อไปจนถึงสัปดาห์หน้า | คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ,สิ่งแวดล้อม | กีฬา,ปัญหาหมอกควัน,มลภาวะทางอากาศ,มาราธอน,อินเดีย,เดลี | https://prachatai.com/journal/2017/11/74310 |
โสมขาวประกาศแผน สร้างขีปนาวุธทรงพลังขึ้น รับมือเกาหลีเหนือทดสอบ ICBM | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดี มูน แจ-อิน แห่งประเทศเกาหลีใต้ ประกาศในวันเสาร์ที่ 29 ก.ค. ว่า อีกไม่นานพวกเขาจะเริ่มการพูดคุยกับรัฐบาลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับการขอผ่อนคลายข้อจำกัดด้านขีปนาวุธตามสนธิสัญญาทวิภาคี ให้พวกเขาสามารถสร้างขีปนาวุธที่ทรงพลังมากขึ้น เพื่อตอบโต้เกาหลีเหนือที่เพิ่งดำเนินการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ครั้งที่ 2 ไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา,คำประกาศของนายมูน เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเกาหลีเหนือดำเนินการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปเมื่อคืนวันศุกร์ โดยยิงจากเมืองมูพยอง-นี ใกล้ชายแดนประเทศจีน เมื่อวันศุกร์ บินขึ้นไปที่ความสูงถึง 3,700 กม. พุ่งไปไกลถึง 1,000 ม. และลอยอยู่กลางอากาศนานประมาณ 45 นาที ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า หากจรวดลูกนี้ยิงในมุมราบตามมาตรฐาน มันอาจพุ่งถึงเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ เช่น ลอสแอนเจลิส, ชิคาโก หรือแม้แต่นิวยอร์ก,เกาหลีใต้ต้องการขีปนาวุธใหม่เพื่อให้สามารถยิงโจมตีลึกเข้าไปในเกาหลีเหนือได้ และอาจจะเป็นหนึ่งในวิธีสร้างแรงกดดันแก่ประเทศจีน ให้ใช้อิทธิพลกดดันให้เกาหลีเหนือยอมละทิ้งโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์ โดยนายมูนให้ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ติดต่อกับพลโท เอช. อาร์. แมคมาสเตอร์ ที่ปรึกษาความมั่นคงของนายทรัมป์ เพื่อเสนอเริ่มการเจรจาทันที ซึ่งนายแมคมาสเตอร์ก็เห็นด้วย. | ประธานาธิบดีเกาหลีใต้เตรียมขอสหรัฐฯ ให้อนุญาตให้พวกเขาสามารถสร้างขีปนาวุธที่ทรงพลังมากขึ้น เพื่อตอบโต้เกาหลีหนือที่เพิ่งดำเนินการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป | ข่าว,ต่างประเทศ | เกาหลีเหนือ,ขีปนาวุธข้ามทวีป,ICBM,มูน แจ อิน,สหรัฐ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1020356 |
วันหยุด คนทะลักเที่ยวหาดบางแสนแน่นขนัด จนท.ต้องเตือน เว้นระยะห่าง | นักท่องเที่ยวทะลักแน่นชายหาดบางแสน ในวันหยุด ทั้งที่ยังเปิดไม่เต็มรูปแบบ ไม่มีเตียงผ้าใบ ไม่มีผู้ประกอบการขายอาหาร ทำให้การจราจรติดยาว เจ้าหน้าที่ต้องออกมาอำนวยความสะดวก พร้อมเตือน การเว้นระยะห่างเวลา 14.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. ที่บริเวณหาดบางแสน ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ได้เกิดการจราจรติดขัดยาวกว่า 2 กิโลเมตร ในเส้นถนนสายล่าง หรือ สายลงชายหาด จากที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนในช่วงวันหยุด ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี หลังจากมีการเปิดหาดบางแสน อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2563 และมีการจัดระเบียบใหม่ ในรูปแบบ บางแสน New normal ทำให้ในวันนี้ยังไม่มีเตียงผ้าใบ และไม่มีผู้ประกอบการขายอาหารพบว่า นักท่องเที่ยวต่างนำอาหารมานั่งแบบปูเสื่อแทน และลงเล่นน้ำทะเลกันเป็นจำนวนมาก ตลอดชายหาดกว่า 5000 คน ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แสนสุข เทศกิจเทศบาลเมืองแสนสุข รวมถึงกู้ชีพทางทะเลฉลามขาว ต้องลงพื้นที่ ออกมาเตือนการเว้นระยะห่าง ลดความแออัด ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด ของโควิด–19 หลังจังหวัดชลบุรี ไม่พบผู้ป่วยสะสมมา 40 วันแล้ว รวมถึงอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และกำชับ ไม่ให้มีการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ในพื้นที่ชายหาดอย่างเด็ดขาดนายกิตติพงษ์ ไตรบุญ กู้ชีพทางทะเลฉลามขาว เผยว่า ชายหาดบางแสน จะมีการเปิดอย่างเป็นทางการ โดยมีพ่อค้าแม่ค้ามาจำหน่ายอาหารทะเล ในวันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน นี้ แต่ในวันนี้คนมาเป็นจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้น ในการเดินประชาสัมพันธ์การลงเล่นน้ำ การระมัดระมัด อย่าไปสัมผัสสัตว์ทะเลที่มีพิษ พร้อมทั้งห้ามจำหน่าย หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในพื้นที่ชายหาด โดยทางเทศบาลเมืองแสนสุข มีการปิดป้ายเตือนตลอดแนวชายหาด มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง นอกจากนี้ ยังต้องคอยเฝ้าระวังในเรื่องเด็กพลัดหลงอีกด้วยด้าน นางสาวจุฑารัตน์ แสนสุข อายุ 24 ปี กล่าวว่า รู้สึกดีใจ หลังจากทราบว่าชายหาดบางแสนเปิดแล้ว ก็ได้เดินทางมาจากโคราช พร้อมกับทางครอบครัว 6-7 คน มาพักผ่อน เนื่องจากมีเพื่อนอยู่ที่จังหวัดชลบุรี แต่ก็อยากฝากเตือนให้มีการเซฟตัวเอง ในการเว้นระยะห่าง และควรใส่แมสก์มาด้วย | นักท่องเที่ยวทะลักแน่นชายหาดบางแสน ในวันหยุด ทั้งที่ยังเปิดไม่เต็มรูปแบบ ไม่มีเตียงผ้าใบ ไม่มีผู้ประกอบการขายอาหาร ทำให้การจราจรติดยาว เจ้าหน้าที่ต้องออกมาอำนวยความสะดวก | ข่าว,ทั่วไทย | บางแสน,ชายหาดบางแสน,เที่ยวบางแสน,แห่เที่ยวบางแสน,เปิดหาด,โควิด-19,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1860374 |
เปิด 4 เหตุฉุกเฉินจำเป็นรีบด่วนในการออก พระราชกำหนด ตามรัฐธรรมนูญ 60 | รัฐธรรมนูญ 2560 ระบุถึง 4 เหตุฉุกเฉินจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ในการออก พระราชกำหนด หรือ พ.ร.ก.ทั่วไปตาม ม.172 ประกอบด้วย 1. รักษาความปลอดภัยของประเทศ 2. รักษาความปลอดภัยสาธารณะ 3. รักษาความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ และ 4. ป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ30 ก.ย.2562 จากกรณีวันนี้เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วน ของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562 โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ โดยระบุไว้เป็นหมายเหตุประกอบท้าย พ.ร.ก. ว่า เป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยของประเทศ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกำหนดนี้ นั้นประชาไท จึงชวนมาทำความรู้จัก พระราชกำหนด หรือ พ.ร.ก. โดยใน พบว่า การออก พ.ร.ก.นั้น บัญญัติมี 2 ประเภท คือ 1. พระราชกำหนดทั่วไปตามมาตรา 172 และ 2. พระราชกำหนดที่เกี่ยวด้วยภาษีอากรหรือเงินตราตามมาตรา 174 ซึ่งในที่นี้จะเน้นที่ พ.ร.ก.ทั่วไปตามมาตรา 172โดยในมาตรา 172 บัญญัติไว้ว่าในกรณีเพื่อประโยชน์ในอันที่จะ พระมหากษัตริย์ จะทรงตราพระราชกําหนดให้ใช้บังคับดังเช่นพระราชบัญญัติก็ได้การตราพระราชกําหนดตามวรรคหนึ่ง ให้กระทําได้เฉพาะเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นกรณีในการประชุมรัฐสภาคราวต่อไป ให้คณะรัฐมนตรีเสนอพระราชกําหนดนั้นต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณา โดยไม่ชักช้า ถ้าอยู่นอกสมัยประชุมและการรอการเปิดสมัยประชุมสามัญจะเป็นการชักช้า คณะรัฐมนตรี ต้องดําเนินการให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติพระราชกําหนดโดยเร็ว ถ้าสภาผู้แทนราษฎรไม่อนุมัติหรือสภาผู้แทนราษฎรอนุมัติแต่วุฒิสภาไม่อนุมัติและสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันการอนุมัติด้วยคะแนนเสียงไม่มากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ให้พระราชกําหนดนั้นตกไป แต่ทั้งนี้ไม่กระทบต่อกิจการที่ได้เป็นไปในระหว่างที่ใช้พระราชกําหนดนั้นหากพระราชกําหนดตามวรรคหนึ่งมีผลเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกบทบัญญัติแห่งกฎหมายใด และพระราชกําหนดนั้นต้องตกไปตามวรรคสาม ให้บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่มีอยู่ก่อนการแก้ไขเพิ่มเติม หรือยกเลิก มีผลใช้บังคับต่อไปนับแต่วันที่การไม่อนุมัติพระราชกําหนดนั้นมีผลถ้าสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาอนุมัติพระราชกําหนดนั้น หรือถ้าวุฒิสภาไม่อนุมัติและ สภาผู้แทนราษฎรยืนยันการอนุมัติด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ของสภาผู้แทนราษฎร ให้พระราชกําหนดนั้นมีผลใช้บังคับเป็นพระราชบัญญัติต่อไปการอนุมัติหรือไม่อนุมัติพระราชกําหนด ให้นายกรัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในกรณีไม่อนุมัติ ให้มีผลตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาการพิจารณาพระราชกําหนดของสภาผู้แทนราษฎรและของวุฒิสภา และการยืนยันการอนุมัติ พระราชกําหนด จะต้องกระทําในโอกาสแรกที่มีการประชุมสภานั้น ๆนอกจากนี้มาตรา 173 ยังบัญญัติไว้ด้วยว่าก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภาจะได้อนุมัติพระราชกําหนดใด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาจํานวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ของแต่ละสภา มีสิทธิเข้าชื่อเสนอความเห็นต่อประธานแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิกว่าพระราชกําหนดนั้น ไม่เป็นไปตามมาตรา 172วรรคหนึ่ง และให้ประธานแห่งสภานั้นส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ภายในสามวันนับแต่วันที่ได้รับความเห็นเพื่อวินิจฉัย และให้รอการพิจารณาพระราชกําหนดนั้นไว้ก่อน จนกว่าจะได้รับแจ้งคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคําวินิจฉัยภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับเรื่อง และให้ศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งคําวินิจฉัยนั้นไปยังประธานแห่งสภาที่ส่งความเห็นนั้นมาในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพระราชกําหนดใดไม่เป็นไปตามมาตรา 172 วรรคหนึ่ง ให้พระราชกําหนดนั้นไม่มีผลใช้บังคับมาแต่ต้นคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าพระราชกําหนดใดไม่เป็นไปตามมาตรา 172วรรคหนึ่ง ต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจํานวนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมดเท่าที่มีอยู่นอกจากนี้ สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร ยังออกเอกสารอธิบาย ตามรัฐธรรมนูญ 2562 เขียนโดย แดนชัย ไชวิเศษ นิติกรชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานบริการวิชาการ 1 สำนักวิชาการ ระบุไว้ชัดเจนว่า พ.ร.ก.เป็นกฎหมายที่พระมหากษัตริย์จะทรงตราขึ้นให้ใช้บังคับดังเช่นพระราชบัญญัติโดยการถวายคำแนะนำของคณะรัฐมนตรีที่เห็นว่าเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ เพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศหรือป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ ซึ่งไม่สามารถตราพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)มาใช้บังคับให้ทันต่อสถานการณ์เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการตรา พ.ร.บ.นานพอสมควร ซึ่งอาจจะไม่ทันกับสถานการณ์ในกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ | รัฐธรรมนูญ 2560 ระบุถึง 4 เหตุฉุกเฉินจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ในการออก พระราชกำหนด หรือ พ.ร.ก.ทั่วไปตาม ม. 172 ประกอบด้วย 1. รักษาความปลอดภัยของประเทศ 2. รักษาความปลอดภัยสาธารณะ 3. | การเมือง,การศึกษา | พระราชกำหนด,พ.ร.ก. | https://prachatai.com/journal/2019/10/84555 |
คึกคัก Bike อุ่นไอรัก ซ้อมปั่นทั่วไทย | วันนี้ (2 ธ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดกิจกรรมปั่นจักรยาน Bike อุ่นไอรัก ในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ ประชาชนที่ลงทะเบียนร่วมกิจกรรม ใช้เวลาช่วงวันหยุด เข้ารับสิ่งของพระราชทานตามพื้นที่ที่กำหนดบรรยากาศประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทยอยเข้าได้รับพระราชทานสิ่งของที่สนามศุภชลาสัยเป็นวันสุดท้าย ก่อนที่ช่วงบ่ายตามจุดต่างๆ จะมีการซ้อมใหญ่ ปั่นจักรยานเสมือนวันจริงวันทิพย์ โกมลประเสริฐกุล หนึ่งในผู้ลงเบียนกิจกรรมปั่นจักรยาน ไบค์ อุ่นไอรัก ระบุว่ารู้สึกปลื้มใจและภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมไบค์อุ่นไอรักครั้งนี้ เนื่องจากคราวที่แล้วพลาดโอกาสเข้าร่วมปั่น Bike for dad ครั้งนี้มีโอกาสลงทะเบียนได้ จึงเดินทางมารับเสื้อและสิ่งของพระราชทานแต่เช้าขณะที่ มนูญ ประสบภักดี ระบุว่า ชื่นชอบปั่นจักรยานอยู่แล้ว แต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ปั่น จึงตัดสินใจลงทะเบียนร่วมปั่น Bike อุ่นไอรัก ซึ่งมีประโยชน์ทั้งต่อสุขภาพและเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในครอบครัวได้เพิ่มความอบอุ่นและสร้างความทรงจำที่ดีร่วมกันศึกษาเส้นทาง-เตรียมร่างกาย ซ้อมปั่น Bike อุ่นไอรักขณะที่นักปั่นจักรยานหลายจังหวัดทั่วไทย เริ่มเตรียมสภาพร่างกาย ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยาน Bike อุ่นไอรัก ที่จะจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ โดยนักปั่นจักรยานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นัดรวมตัวกันที่บริเวณหอนาฬิกาหัวหินเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อซ้อมปั่นจักรยานนายจีรวัฒน์พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน ทำการชี้แจงให้นักปั่นทุกคนถึงการเตรียมพร้อมร่างกาย เครื่องแต่งกาย จะต้องสวมหมวกนิรภัย และอุปกรณ์ป้องกันอันตรายให้รัดกุม ซึ่งการปั่นในครั้งมีนักปั่นหน้าใหม่เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งการใช้ความเร็ว และสภาพร่างกาย โดยเส้นทางเริ่มตั้งแต่หอนาฬิกา-อ่างเก็บน้ำเขาเต่า ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร การปั่นจะปั่นเป็นขบวนเรียง 3 ใช้ความเร็วไม่เกิน 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงส่วนใน จ.อ่างทองนายหาญ บัวทอง อายุ 77 ปี ชาว ต.บ้านแห อ.เมืองอ่างทอง นำรถจักรยานยนต์ ที่ดัดแปลงติดไฟใส่หลังคา พร้อมทั้งอัญเชิญพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัฐกาลที่ 10 มาติดบริเวณด้านหน้าก่อนที่จะนำออกมาซ้อมปั่นบนถนนอ่างทอง-ป่าโมกทุกคืน เพื่อเตรียมเข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานอุ่นไอรักในวันที่ 9 ธ.ค.นี้เช่นกันกิจกรรมซ้อมปั่นอุ่นไอรัก ภาคอีสานเช่นเดียวกับข้าราชการและประชาชนใน จ.มหาสารคาม ที่ได้ร่วมซ้อมปั่นจักรยาน ในกิจกรรม Bike อุ่นไอรัก เพื่อเตรียมพร้อมและสำรวจเส้นทาง โดยกำหนดเส้นทางปั่นรวม 3 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 ระยะทาง 29 กิโลเมตร กลุ่มที่ 2 ระยะทาง 18 กิโลเมตร และกลุ่มที่ 3 ระยะทาง 5 กิโลเมตร จุดสตาร์ทจะเริ่มที่หน้าอาคารศาลากลางจังหวัดมหาสารคามไปตามเส้นทางหมายเลข 291 มุ่งหน้าไปยังอ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจานขณะที่ จ.บึงกาฬประชาชนยังคงเดินทางเข้ามารับเสื้อพระราชทาน หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เพื่อสวมใส่ในกิจกรรม Bike อุ่นไอรัก ก่อนจะร่วมซ้อมปั่นจักรยาน Bike อุ่นไอรัก เพื่อทำความเข้าใจแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ทั้ง 4846 คน | ประชาชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ลงทะเบียนกิจกรรมปั่นจักรยาน Bike อุ่นไอรัก ทยอยเดินทางรับสิ่งของพระราชทานที่สนามศุภชลาสัยตั้งแต่เช้า ขณะที่ประชาชนทั่วไทยเริ่มซ้อมปั่นจักรยานเพื่อศึกษาเส้นทางและเตรียมร่างกายร่วมปั่นพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ | สังคม | ไบค์อุ่นไอรัก,Bike อุ่นไอรัก,ปั่นจักรยาน,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/276056 |
เอเมรี มาแปลก เปิดใจแฮปปี้กับปืนใหญ่ แม้เปิดหัวพรีเมียร์แพ้ 2 เกมรวด | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 18 ส.ค. ว่า อูไน เอเมรี กุนซือของ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ยืนยันว่าเขาแฮปปี้กับฟอร์มของทีมแม้แพ้ต่อ เชลซี 2-3,ปืนใหญ่ในยุคของ เอเมรี พ่ายแพ้ในศึกพรีเมียร์ลีก 2 เกมติดต่อกัน หลังเจอทีเด็ดของ มาร์กอส อลอนโซ ยิงประตูชัยให้กับเชลซีในช่วง 10 นาทีสุดท้าย,หลังเกม เอเมรี กล่าวว่า เราต้องการชนะ นั่นคือแนวทางที่เราต้องการเสมอแต่มันชัดเจนว่าเกมรับของเราเสียไปสามประตูแต่เราก็มีโอกาสที่จะได้ประตูหลายต่อหลายครั้ง,ในครึ่งแรกเราสร้างโอกาสที่ยิงประตู และนั่นทำให้ผมแฮปปี้ ผมมองเกมและคิดว่าเราทำได้ดีในสนาม แต่พวกเขามีตัวสำรอง โอกาสที่มีและเปลี่ยนเป็นประตูและนั่นคือความแตกต่างของเกมวันนี้,การตอบสนองของเราเป็นไปด้วยดี เรามีโอกาสที่จะเสมอ 2-2 และเราก็สมควรที่จะทำได้มากกว่านี้ในครึ่งแรก ผมคิดว่าในครึ่งหลังเราไม่ได้กดดันและครองบอลอย่างที่เราทำในครึ่งแรก และโมเมนต์ของเรา โอกาสของเรา เราไม่ได้ทำอย่างที่พวกเขาทำ,นั่นคือเหตุผลที่สกอร์จบลงที่ 3-2 แต่นี่คือหนึ่งในการก้าวต่อไป ในครึ่งหลังเราเล่นมิดฟิลด์สองคน อายุ 19 จับคู่กับ 21 พวกเขาพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง ผมแฮปปี้นอกเหนือจากผลการแข่งขัน | อูไน เอเมรี กุนซือของ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล เปิดใจหลังเกมที่แพ้ต่อเชลซี 2-3 และเป็นการแพ้ 2 เกมรวดในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | อาร์เซนอล,อูไน เอเมรี,เชลซี | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1357458 |
สลด พบศพทารกห่อผ้าฝังดิน คาดแม่ใจยักษ์คลอดเสียชีวิต นำมาทิ้งไว้ | สวนออกหาเบาะแส นำตัวแม่ใจยักษ์มาดำเนินคดี ,เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.61 พ.ต.ท.วิชิต ลุนผา สารวัตร(สอบสวน) สภ.ย่อยบางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งพบศพเด็กทารกถูกทิ้งไว้ในลานดินภายในซอยทองชัช หน้าโรงงานผลิตพัดลม หมู่ที่ 3 ตำบลนาดี อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร จึงเดินไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร,ที่เกิดเหตุพบศพทารกแรกคลอดเพศชายนอนตะแคง ห่างไปเล็กน้อยมีผ้าขนหนูสีชมพูสภาพเปื้อนเลือด 1 ผืน และยังพบถุงหูหิ้วภายในมีรกเด็กอยู่ ใกล้กันมีลอยขุดหลุมเพื่อฝังศพทารก ซึ่งบริเวณโดยรอบมีต้นไม้ปกคลุม จากการสอบถาม นายสุภาพ ดีกระจ่าง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ตำบลนาดี อำเภอเมืองสมุทรสาคร บอกว่าเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ตนกับญาติได้ขับรถเข้ามาดูที่ดินในบริเวณดังกล่าว และญาติของตนได้มองเห็นศพเด็กทารกจึงได้บอกตน จึงได้จอดรถลงมาดูและรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ,ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า แม่ใจยักษ์รายนี้น่าจะเป็นแรงงานข้ามชาติ ที่ตั้งท้องแล้วได้คลอดลูกออกมาแล้วเสียชีวิต จึงได้นำศพทารกห่อผ้าขนหนูและนำรกใส่ถุงหูหิ้วมาฝังตรงที่ดังกล่าว แต่หลุมที่ขุดไม่ลึกจึงทำให้สุนัขมาขุด และลากศพทารกออกมาจนมีคนมาพบซึ่งจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกหาเบาะแสในบริเวณใกล้เคียง กับที่พบศพว่ามีใครตั้งครรภ์ใกล้คลอดบ้างหรือไม่ เพื่อหาตัวแม่ใจยักษ์รายนี้มาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | สมุทรสาคร-พบศพเด็กทารกถูกนำมาทิ้งภายในลานดิน หน้าโรงงานผลิตพัดลม คาดเป็นแรงงานต่างด้าวคลอดลูกแล้วเสียชีวิต จึงนำศพมาฝังทิ้ง แต่หลุมที่ขุดไม่ลึกพอ จนทำให้สุนัขขุดขึ้นมา เบื้องต้นประสานชุดสืบ | ข่าว,อาชญากรรม | ศพทารก,พบศพทารก,พบศพทารกฝั่งดิน,แม่ใจยักษ์,ทารกเสียชีวิต,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1321043 |
ไอซีทีจ่าย 120 ล้าน บล็อคเว็บโป๊ในแท็บเล็ต ป.1 | (27 ส.ค.55) น.อ.สุรพล นะวะมวัฒน์ ที่ปรึกษา รมว.การกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจรับโครงการแท็บเล็ตป.1 เปิดเผยว่า ขณะนี้ไอซีทีได้เลือกให้บริษัท เอส เอ พี (SAP Company) ผู้ผลิตโปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ จัดทำโปรแกรมเพื่อป้องกันการเข้าเว็บไซต์ไม่เหมาะสม หรือ เว็บไซต์ลามกอนาจารผ่านทางแท็บเล็ตป.1 หลังจากพบปัญหาว่าแท็บเล็ตป.1 ที่แจกฟรีนั้นสามารถเข้าเว็บไม่เหมาะสมได้ทันทีที่เชื่อมต่อกับสัญญาณอินเทอร์เน็ตทั้งนี้ การว่าจ้างดังกล่าวมีมูลคค่า 120 ล้านบาท ระยะเวลา 1 ปี และจะเซ็นสัญญากับทางเอสเอพีในวันที่ 31 ส.ค.นี้ โดยทางเอสเอพีต้องส่งมอบโปรแกรมหลังเซ็นสัญญา 90 วัน ซึ่งจะเริ่มติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวในแท็บเล็ตป.1 จำนวน 1 ล้านเครื่องได้ประมาณวันที่ 1 ธ.ค.สำหรับโปรแกรมดังกล่าวจะมีคำสั่งควบคุมการใช้งาน 9 คำสั่ง เช่น คำสั่งเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของเด็กป.1 ว่า เข้าเว็บใดบ้าง จำกัดสิทธิ์ในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ โดยโปรแกรมจะระบุไว้ว่าสามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์ใดได้และไม่สามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์ใดได้ เป็นต้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหกรณีดังกล่าวขึ้นมาอีกนอกจากนี้ จะขอความร่วมมือกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะที่กำกับดูแลผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์ (ไอเอสพี) ให้ช่วยระงับเว็บไซต์ที่เข้าข่ายนำเสนอเนื้อหาไม่เหมาะสม เนื่องจากทางไอเอสพีจะมีทีมงานที่ทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว ดังนั้น หากร่วมมือกันทุกทางก็จะช่วยให้การใช้งานแท็บเล็ต ป.1 มีคุณภาพเพื่อการศึกษาตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริงมากขึ้นน.อ.สุรพล กล่าวว่า กรณีที่ไอซีทีถูกมองว่าเหตุใดจึงไม่ติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวลงในตัวเครื่องตั้งแต่แรกนั้น เนื่องจากงบประมาณที่ใช้ในการจัดซื้อแท็บเล็ตป.1 เป็นเพียงจัดการซื้อตัวเครื่อง ไม่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์และโปรแกรมต่างๆ และตามวัตถุประสงค์ของการใช้งานแท็บเล็ตป.1 ได้ระบุชัดเจนว่า ใช้แท็บเล็ตป.1 เพื่อเป็นอุปกรณ์เสริมในเรียน และเน้นเข้าใช้งานตำราเรียนแบบออฟไลน์เป็นหลักทางคณะทำงานมีงบประมาณสำหรับจัดซื้อซอฟต์แวร์ไว้แล้ว ไม่ใช่ทำแบบวัวหายแล้วล้อมคอก แต่ดำเนินการทุกอย่างมีขั้นตอนและระยะเวลา ซึ่งเมื้อเกิดปัญกาก็รีบดำเนินการทันทีน.อ.สุรพลกล่าวอย่างไรก็ตาม ระหว่างที่อยู่ในช่วงติดตั้งโปรแกรมบล็อคเว็บไซต์ ซึ่งบางโรงเรียนสามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ ทางครูต้องสอนให้เด็กรู้จักใช้แท็บเล็ตในการค้นหาข้อมูลแบบเหมาะสมด้วย | (27 ส.ค.55) น.อ.สุรพล นะวะมวัฒน์ ที่ปรึกษา รมว.การกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจรับโครงการแท็บเล็ตป.1 เปิดเผยว่า ขณะนี้ไอซีทีได้เลือกให้บริษัท เอส เอ พี | ไอซีที | การเซ็นเซอร์,นโยบายแจกแท็บเล็ต,เว็บโป๊ | https://prachatai.com/journal/2012/08/42310 |
รู้จัก สาธิต มมร. โรงเรียนสำหรับสามเณร | คุณยายสุกัญญา ตรีสวัสดิ์ วัย 74 ปี ผู้นี้,หลังจากที่ ,ไทยรัฐออนไลน์, มีโอกาสร่วมกิจกรรมอาสาใน, ค่ายอิคคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญา, ค่ายกระตุ้นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของชมรมฝึกพูดภาษาอังกฤษในที่สาธารณะ Thai Airways International Toastmasters Club ที่ สาธิต มมร. อ.ด่านซ้าย จ.เลย ซึ่งเปิดสอนมานาน 6 ปีแล้ว โรงเรียนนี้อยู่ภายใต้, โดยสามเณรทุกรูปที่เรียนที่นี่จะต้องจำวัดตลอดระยะเวลาที่ศึกษาอยู่ โดยไม่เสียค่าเล่าเรียนใดๆ แต่มีระเบียบบังคับ คือ จะต้องเรียนภาษาบาลี รวมถึงไม่รับเข้าเรียนกลางคัน ขณะที่บริเวณโดยรอบโรงเรียนเป็นภูเขา และสวนผลไม้ เงียบสงบ,ที่มาที่ไปของ สาธิต มมร.,คุณยายสุกัญญา, เล่าให้ ,ไทยรัฐออนไลน์, ฟังว่า ก่อนหน้านี้เคยถวายทุนการศึกษาให้สามเณรรูปหนึ่ง จนกระทั่งสามเณรรูปนั้นสามารถสอบเปรียญธรรม 5 ประโยค ได้ และบวชพระ จนกระทั่งมาเป็นครู ต่อมาสามารถจบเปรียญธรรม 9 ประโยค ซึ่งในปัจจุบันทราบข่าวว่าท่านต้องการปลีกวิเวกไป เพื่อหลุดพ้น ต่อมาทราบว่า วัดพระราม 9 มีโครงการศาสนทายาท จึงมีความสนใจ ประกอบกับ ตนเองไม่ชอบใจพระบางรูปที่มีพฤติกรรม และปฏิกิริยาบางอย่างไม่เหมาะสม ทำให้รู้สึกว่า หากต้องการพระที่ดี จะต้องสร้างเอง ซึ่งการสร้างโรงเรียนจึงเหมาะสมสำหรับสามเณรที่จะฝึกฝนตนให้เป็นพระที่ดี และเป็นสิ่งที่มั่นคง ซึ่งขณะนั้นวัดพระราม 9 ก็หาที่อยู่นาน เพราะยังไม่เจอที่ที่เหมาะสม,ตอนนั้นก็หาที่อยู่นาน เพราะที่ที่ดี ที่เหมาะแก่การเรียน ต้องไกล กว้าง อากาศดี อาหารการกินไม่กันดารมาก เราก็เลยถวายที่ดินของเราสร้างโรงเรียน แต่มีข้อแม้ว่า อธิการของ มมร. เป็นผู้มารับ,จากนั้น การเดินหน้าสร้างโรงเรียนจึงเริ่มต้นขึ้น แต่เส้นทางไม่ได้ราบรื่นเลย เนื่องจากคุณยายสุกัญญา เล่าว่า ช่วงแรกๆ ยังไม่มีใครเห็นด้วยที่จะเปิดให้เป็นโรงเรียนสาธิต มมร. เพราะยังไม่เคยมีมาก่อนเลย แต่คุณยายก็พยายามผลักดันมาเรื่อย ถึงขนาดปิดรีสอร์ตของตัวเองเพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับบุคลากร โดยที่ช่วงหนึ่ง คุณยายสุกัญญาจะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดของโรงเรียนอยู่แรมปี จนกระทั่งทุกอย่างเริ่มเรียบร้อย,เริ่มสอนตั้งแต่ปีที่หนึ่งเลย เริ่มรู้วิธีว่าจะดูแลเณร ที่มาด้วยไม่แน่ใจ หรือพระส่งมายังไง ซึ่งเราดูแลเหมือนยายดูแลหลาน พอปีหนึ่งสำเร็จก็ยกที่ 40 กว่าไร่ให้ มมร.เลย เท่าที่ทราบเป็นที่ผืนแรก ที่ มมร.เป็นเจ้าของ จากนั้นก็ติดต่อขอสร้างอาคารเรียนกับหอพัก ตึกละ 60 ล้านบาท ส่วนวัดพระราม 9 ก็สร้างหอฉัน ส่วนดินฉันก็สร้างวิหาร ด้านญาติโยม ก็มาสร้างเจดีย์ให้,การเรียนการสอน-กฎระเบียบ สาธิต มมร.,คุรยายสุกัญญา, ระบุว่า การเรียนที่ สาธิต มมร.นั้น สามเณรจะเรียนทั้งวิชาสามัญ และภาษาลี รวมถึงเปรียญธรรมด้วย ซึ่งภาษาบาลีนั้น เป็นวิชาบังคับของสามเณรที่จะเข้ามาเรียนที่นี่ หากไม่ต้องการเรียนภาษาภาษาบาลี ก็ไม่สามารถสมัครเข้าเรียนได้ โดยในแต่ละปีการศึกษาจะรับสามเณร 60 รูปเท่านั้น และจะไม่รับกลางคัน นอกจากนี้ เมื่อคุณยายสุกัญญา รับอาสาดูแลโรงเรียนนี้ ทำให้คุณยายมีแนวคิดในการฝึกเณร ในทุกๆ เรื่อง เช่น การกิน อยู่ การพูด การเดิน รวมถึงความคิด ซึ่งเณรที่นี่ ถือว่า ทำผลงานได้ดี เนื่องจากขณะนี้ผลสอบทางพุทธศาสตร์ของ สาธิต มมร.อยู่ในอันดับที่ 3 ของประเทศ รองจากวัดวังน้อย และวัดไผ่ดำ ขณะเดียวกัน สามเณรที่นี่จะได้ดำนา เกี่ยวข้าว ทำสวนด้วย เพราะที่นี่ปลูกข้าวกินเอง ไม่ได้ส่งขาย,เณรที่นี่ไม่มีน้ำอัดลม ไม่สนับสนุนให้กินยา หรือฉันนู่นนี่ เพราะจะฉันอาหารที่มีประโยชน์ นอกจากนี้ ต้องผืนเรื่องการติดเกม ซึ่งเราก็จะมีเณรพี่ เป็นผู้ช่วยดูแลอีกที ตอนปี 2555 เกิดวิกฤติมีพระอาจารย์ลาออกไป ซึ่งตอนนั้น พระมหารัตนา พระอาจารย์ฝ่ายปกครอง ท่านเรียนอยู่ ทำให้พี่เณรดูแลน้อง ก็ช่วยกันสอนทั้งภาษาบาลี และนักธรรม ตรี โท เอก ผ่าน 100% แต่เราก็ไม่ได้ห้ามเณรนะว่าหากต้องการลาออก เพียงแต่บางครั้งรู้สึกเสียดายฝีมือของบางรูปที่น่าจะเรียนต่อไปไกลกว่านี้,คุณยายสุกัญญา, กล่าวต่อว่า การสอน และดูแลสามเณรวัยรุ่นนั้น แก้ไขไปตามสถานการณ์มากกว่า ที่สำคัญจะพยายามสอนให้เณรตั้งเป้าหมาย และตั้งใจทำบางสิ่งบางอย่างก่อน ซึ่งคุณยายเองจะมีโน้ตสั้นๆ ที่เขียนเตือนใจเณรไว้ เพื่อบอกให้เณรรู้ว่า มันไม่ง่ายเลยที่จะเดินเส้นทางตรงนี้ เพราะบางครั้ง เจอเณรดื้อ หรือเจอปัญหา แต่พอเห็นเณรรูปเดียวพัฒนาขึ้นมา ก็ดีใจแล้ว รู้สึกดีขึ้น,ขาดครูสอนภาษาบาลี,ด้าน ,พระมหารัตนา พระอาจารย์ฝ่ายปกครองของ สาธิต มมร.ที่อยู่มานาน 5 ปี, เปิดเผยกับ ,ไทยรัฐออนไลน์, กล่าวอีกว่า ที่นี่อากาศดี เหมาะสมแก่การเรียน การศึกษา และการฝึกใน ซึ่งเป็นผลดีต่อการศึกษา และปฏิบัติธรรมสำหรับ เณร นอกจากนี้ โรงเรียนยังเปิดโอกาสให้เด็กที่ไม่มีทุนทรัพย์ เข้ารับการศึกษาด้วย แต่บังคับให้เรียนภาษาบาลีด้วย หากไม่อยากเรียน ก็สมัครเรียนไม่ได้ อย่างไรก็ตาม สาธิต มมร.ยังประสบปัญหาการขาดแคลนครูสอนภาษาบาลี,อุปสรรคของการเรียนที่นี่ คือ การขาดแคลนครูสอนภาษาบาลี เพราะหายาก แต่สำหรับพระ และสามเณรแล้ว การรู้ภาษาบาลี จะทำให้ได้เรียนรู้คำสอนของพระพุทธเจ้าจากต้นตำรับเลย ถ้าเราตั้งใจ ไม่ว่าสิ่งนั้นลำบากนาดไหน ไม่นานเราจะประสบความสำเร็จ ไม่ควรท้อแท้ก่อนว่าไม่เห็นผล,สำหรับการดูแลสามเณรที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นเช่นนี้ สามเณรแต่ละรูปจะมีพฤติกรรม และความคิดไม่เหมือนกัน บางครั้งเกิดปัญหา จะต้องมีการลงโทษ เช่น นั่งสมาธิ พาไปเดินภูเขา เดินหลายชั่วโมง หรือกระทั่งให้ไปสงบสติอารมณ์ในป่าช้า 2-3 คืน เพื่อจะได้ทบทวนตัวเอง ทั้งนี้ นอกจากกฎของพระธรรมวินัยที่ต้องปฏิบัติแล้ว โรงเรียนอนุญาตให้มีโทรศัพท์มือถือได้ แต่สามารถมาขอเครื่องได้ในช่วงบ่ายวันเสาร์ และนำมาคืนในเย็นวันอาทิตย์ ขณะเดียวกัน ในคืนวันเสาร์ จะสามารถดูภาพยนตร์เรื่องใดก็ได้หนึ่งเรื่อง อย่างไรก็ตาม ในการเล่นอินเทอร์เน็ต จะมีทั้งครูสามัญ และเณรพี่คอยดูแลควบคุมอีกที,ก้าวต่อไปของ สาธิต มมร.,คุณยายสุกัญญา, เปิดเผยภาพในอนาคตของ สาธิต มมร.ว่า หากเป็นไปได้ ต้องการให้พื้นที่แห่งนี้ ขยายการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษาด้วย เป็นอีกหนึ่งแคมปัสของ มมร. หากมีงบประมาณ และมีความพร้อมมากกว่า ซึ่งหากเป็นไปได้ ตนเองยินดีจะบริจาคที่ดินเพิ่มเพื่อขยับขยาย ขณะเดียวกัน ในส่วนของการคาดหวังต่อเณรนั้น คุณยายต้องการให้เณรไปช่วยเหลือคนอื่นต่อ,ดิฉันไม่ได้หวังร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าทุกรูปจะต้องจบไปเรียนต่อด้านศาสนา แต่ตอนแรกหวังเยอะ ซึ่งก็มีพระอาจารย์มาเตือนเหมือนว่า อย่าคาดหวังมาก สอนคนเป็นพันให้ดีสักคนเดียว ก็ถือว่าดีมากแล้ว ตอนนี้จะบอกเณรว่า ยายทำให้เณร แต่เณรไม่ต้องมาตอบแทนโดยตรง ขอให้เณรไปดูแลคนคนอื่นแทนยาย ถ้าไม่ดูแลคนอื่น ถือว่าติดหนี้ยาย ขณะเดียวกัน จะไม่ตีกรอบว่า ถ้าเณรอยากลาออก บางทีก็เสียดาย เพราะมีเณรเก่งเยอะ ตอนนี้ก็มี รูปหนึ่งบอกว่า จะเรียนให้จบ ดร. และจบเปรียญ 9 ในคนคนเดียว ซึ่งเราก็อยากให้กลับมาสอนที่โรงเรียนต่อ เพราะรู้นโยบาย รู้วัตถุประสงค์กันดีอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ขาดครูด้านบาลี,ไทยรัฐออนไลน์, ถามว่า เพราะเหตุใดคุณยายสุกัญญาจึงอาสาทำงานตรงนี้ ทั้งๆ ที่ตนเองมีกิจการที่จะสร้างรายได้ได้มากมาย คุณยายสุกัญญา ระบุว่า ก่อนที่จะเริ่มทำ คุณยายอายุ 60 กว่าแล้ว ซึ่งคิดว่า การที่ได้มาทำงานตรงนี้ มีการวางแผนไว้แล้ว เป็นใครก็ไม่รู้ ที่ทำให้เราทำหลายอาชีพ ต้องหาซื้อที่ดินกว้างๆ พอมาเจอโครงการนี้ก็กระโดดใส่เลย และแม้ตนเองจะเป็นคนที่มีปัจจัยสี่ครบเหมือนคนอื่นๆ แต่สิ่งที่ตนมีแตกต่าง คือ มีกำลังใจที่เข้มแข็ง,ตอนที่เราเจอวิกฤติ ใครๆ หนีหมด เรายืนอยู่คนเดียว บอกเณร ตอนนี้เหมือนสงคราม เหลือแค่ยายกับเณร ทำไงเราถึงจะรอด ซึ่งตอนนี้สภามหาวิทยาลัยรับแล้ว เดี๋ยวก็จะให้งบประมาณมาช่วยค่าใช้จ่าย 80% ก็จะทำให้เราไม่ต้องแบกค่าใช้จ่ายเหมือนเมื่อก่อน ยายสู้แค่ตาย,อาจเรียกได้ว่า สาธิต มมร. เป็นโรงเรียนสาธิตแห่งแรกของประเทศไทย ที่เปิดมานาน 6 ปี มีสามเณร พระอาจารย์ รวมถึงครูสามัญ จำนวนหนึ่ง ที่ยังถือว่าน้อย แต่หากระบุลงไปถึงบรรยากาศโดยรอบแล้ว ค่อนข้างเอื้อต่อการเรียน ฝึกฝน และปฏิบัติธรรม เป็นอย่างดี ซึ่งในอนาคต ประเทศไทยอาจมีพระที่มีความสามารถในการเผยแผ่ศาสนาที่จบจากที่นี่ก็เป็นได้. | จุดเริ่มต้นของการผลักดันโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย หรือ สาธิต มมร. มาจากโครงการศาสนทายาท ที่มีวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก เป็นผู้ริเริ่ม แต่สำหรับผู้ที่ทำให้เกิดเป็นรูปเป็นร่างตลอด 6 ปีที่ผ่านมานั้น คงหนีไม่พ้น | null | สาธิตมมร.,สุกัญญา ตรีสวัสดิ์,มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย,มมร.,พระมหารัตนา,ด่านซ้าย,เลย,บวชเรียน,การศึกษา,สังคม,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/463615 |
เพื่อนกันแท้ๆ ยังทำกันได้ลง หวังดีให้นอนบ้าน เนียนขโมยพระสมเด็จ | เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 25 ม.ค.62 ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง รับแจ้งจากนายมานะ ธรรมชัยตา อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ที่ 7 ตำบลเถินบุรี อ.เถิน จ.ลำปาง ว่าขอให้ช่วยสกัดรถทัวร์สีฟ้าขาว พิษณุโลก -เชียงใหม่ หมายเลขข้าง รถ ม.4 ค155-1 หมายเลขทะเบียน 10-1548 สุโขทัย หลังถูกนายสุรพงษ์ หรือนายเต้ ตระกูลรักษ์ อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดลพบุรี ขโมยสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท พร้อมพระสมเด็จเลี่ยมทอง 1 องค์ มูลค่ากว่า 100,000 บาท หลบหนีขึ้นรถทัวร์คันดังกล่าว,ร.ต.อ.อดุลย์ อกตัน รอง สวป. สภ.เขลางค์นคร พร้อมด้วย สายตรวจและตำรวจจราจร จึงร่วมกันสกัดรถคันดังกล่าวได้ ที่บริเวณสี่แยกภาคเหนือ (แยกหลักกิโลยักษ์) ตำบลชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง และพบนายเต้ อยู่ภายในรถทัวร์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวลงมาจากรถเพื่อทำการตรวจค้น ปรากฏว่าพบสร้อยคอทองคำพร้อมพระสมเด็จเลี่ยมทอง อยู่ภายในกระเป๋าเดินทางโดยนายเต้ รับสารภาพว่าได้ขโมย มาจากบ้านของผู้เสียหายจริง,ต่อมาผู้เสียหาย ซึ่งขับรถติดตามมา เมื่อเห็นหน้านายเต้ด้วยความโมโหจึงได้ต่อว่านายเต้ และยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าสร้อยคอทองคำ พร้อมพระสมเด็จเลี่ยมทองเป็นของตนเอง พร้อมเปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายเต้ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเพื่อนที่รู้จักคุ้นเคยกันมาตลอด ได้เดินทางมาหาตนที่บ้าน จึงให้พักผ่อนอยู่ที่บ้าน ส่วนตนก็ออกไปทำสวน แต่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายเต้ บอกว่าอยากจะกลับบ้าน ตนจึงมาส่งที่สถานีขนส่งจังหวัดลำปาง สาขาอำเภอเถิน,กระทั่งเมื่อตนกลับถึงบ้าน เมื่อเปิดโทรศัพท์ดูพบว่าข้อมูลต่างๆ ในโทรศัพท์ ถูกลบออกไปทั้งหมด รวมทั้งเบอร์โทรศัพท์ของนายเต้ก็ถูกลบไปด้วย จึงเฉลียวใจและขึ้นไปตรวจดูทรัพย์สิน จึงพบว่าสร้อยคอทองคำ พร้อมพระสมเด็จเลี่ยมทอง และเงินสดอีกจำนวนหนึ่งที่เก็บไว้ในห้องหายไป จึงมั่นใจว่านายเต้ขโมยไปอย่างแน่นอน จึงโทรแจ้ง 191 เพื่อให้สกัดรถคันดังกล่าว ส่วนตนก็รีบขับรถตามมา จนกระทั่งตำรวจสามารถรวบตัวนายเต้ได้ดังกล่าว. | เพื่อนกันไม่น่าทำกันแบบนี้! หนุ่มใหญ่ใจดี ให้เพื่อนมาอาศัยที่บ้าน ส่วนตัวเองออกไปทำสวน สุดท้ายเพื่อนสนองคุณฉกพระสมเด็จเลี่ยมทอง ยังดีแจ้งตร.สกัดรถทัวร์ ตามคืนมาได้ | ข่าว,ทั่วไทย | ขโมยพระสมเด็จ,พระสมเด็จ,เพื่อนขโมยพระ,เพื่อนกันแท้ๆ,ลำปาง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1479983 |
ญาญ่า ปลื้ม ณเดชน์ ใช้รูปที่ถ่ายให้ประเดิมโปรไฟล์เปิดไอจี ลุ้น หวานใจจะลงรูปอะไร | @kugimiyas ต้องการใช้คล้องจองกับสาว ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ หวานใจรึเปล่า แถมไอจีนี้ยังติดตาม ญาญ่า เป็นคนแรก และมี ญาญ่า มาติดตามคนแรกเช่นกัน พอเจอ ญาญ่า มาร่วมงาน เซ็นทรัล/เซน เวิลด์ พรีเมียร์ วอทช์ แอนด์ จิวเวลรี เอ็กซ์โป แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์,ถามถึงเรื่องที่ณเดชน์เปิดไอจีเป็นของตัวเองแล้ว?,ใช่ค่ะ เอ่อ หนูก็ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ดีๆ ก็เล่นคือเค้าบ่นมานานมากแล้วว่าอยากมีไอจีเป็นของตัวเอง น่าจะรู้สึกว่ามีรูปในสต๊อกแล้วมั้ง แต่อันนี้ก็ต้องไปถามพี่เค้าอีกทีค่ะ,เค้าเคยเกริ่นๆ กับเราใช่มั้ยว่าอยากเปิดไอจีส่วนตัว?,พูดตลอดเลยค่ะว่าอยากทำไอจีที่เป็นของตัวเอง แต่หนูไม่ได้รู้ล่วงหน้าว่าเค้าจะเปิดเมื่อวาน,หรือจะเปิดเพื่อลงภาพน่ารักๆระหว่างณเดชน์-ญาญ่า?,หนูกลัวว่าจะเป็นรูปตลกๆของหนูมากกว่า (หัวเราะ) หนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าพี่แบร์เค้าจะลงรูปประมาณไหน,ชื่อไอจีก็ใช้คล้ายๆกัน?,จบด้วย S ใช่มั้ยคะ จริงๆ ของหนูคำว่า Urassayas มันมาจากความหมาย อินสตาแกรมของอุรัสยา เพียงแค่มันไม่มีอะพอสทรอฟี ( ) เอาจริงๆ เลยนะคะเมื่อคืนหนูกำลังจะนอน แล้วพี่แบร์โทร.มาบอกว่าเปิดไอจีแล้วนะ ก็เลยไม่รู้ว่าเค้าจะตั้งชื่ออะไร มันดึกมากแล้วค่ะ หนูว่าเค้าก็คงเพิ่งคิดชื่อออกเลยเปิด,เหมือนเป็นการบอกกลายๆ มั้ยว่าเป็นคูกิมิยะ ของอุรัสยา?,หู้ยหนูว่าเค้าไม่ได้คิดลึกขนาดนั้นแน่นอน,คนแรกที่เค้าฟอลโลก็เป็นเรา คนเลยคิดว่าเราเป็นคนแนะนำให้เปิด หรือเป็นคนเปิดให้เค้าเองเลย?,ไม่ๆ อันนี้เค้าทำเองเลยค่ะ น่าจะอยากลงรูปให้แฟนๆได้ดู,หรือเราเคยบอกเค้าว่าให้มีไอจีเถอะ อยากให้มี?,ไม่นะคะ ไม่ได้รู้สึกว่าพี่แบร์ต้องมีแต่เชื่อว่าทุกคนอยากให้มี เพราะพี่เค้าก็เป็นคนถ่ายรูปสวย ไอเดียก็ดี,ได้แนะนำอะไรพี่เค้ามั้ย?,หนูแค่บอกว่า ลงรูปได้แล้ว (หัวเราะ) แค่นั้นค่ะ,รูปโปรไฟล์ที่เค้าเลือกก็เป็นฝีมือการถ่ายของเรา?,ใช่ค่ะ หนูไม่ได้ถามว่าทำไมถึงเลือกรูปนี้ แค่เค้าลงก็ดีใจแล้วค่ะ เค้ามีอินสตาแกรมให้ทุกคนได้ดูก็ดีแล้วค่ะ,ลุ้นมั้ยว่ารูปแรกที่เค้าลง จะเป็นรูปเรารึเปล่า?,ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าเค้าจะมาแนวไหน ต้องคอยดูกันค่ะ,ตัวพี่เค้ามีแอบกั๊กรูปของเราไว้เยอะไหม?,ไม่ค่ะ หนูมีทั้งหมดแล้ว,เห็นว่าปีนี้เราก็ติดโพลผู้หญิงสวยที่สุดในโลก ซึ่งสาวไทยมีลิซ่า แบล็กพิงก์ และใหม่ดาวิกา ติดด้วย?,ขอบคุณมากๆ ค่ะ อย่างที่พูดทุกๆ ครั้งเลยค่ะ ญ่าคิดว่าผู้หญิงไทยสวยมาก ก็ดีใจที่ทั่วโลกเค้าสนใจพวกเราค่ะ จริงๆความสวยที่มีมันแล้วแต่คนค่ะ ที่ตั้งลำดับมาก็ดีค่ะ ต้องขอบพระคุณมากๆ แต่ความสวยมันมีแล้วแต่คน. | แฟนคลับจุดพลุ เมื่อถึงเวลาที่พระเอกฮอต ณเดชน์ คูกิมิยะ มีอินสตาแกรมเป็นของตัวเอง ไม่ทันไรแฟนคลับแห่ตามอย่างรวดเร็วพุ่งหลักแสน แต่งานนี้หนีไม่พ้นโดนแซวชุดใหญ่ว่า ชื่อที่ใช้ในอินสตาแกรม | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์,ญาญ่า อุรัสยา,ณเดชน์ คูกิมิยะ,ญาญ่า ณเดชน์,ญาญ่า ณเดชน์ แฟน,ไอจี,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1670191 |
โรคต่อมลูกหมากกับชายสูงวัย (ตอนที่ 1) ต่อมลูกหมากคืออะไร | ต่อมลูกหมากเป็นอวัยวะที่อยู่ใต้กระเพาะปัสสาวะ ต่อมนี้จะโอบล้อมรอบท่อปัสสาวะไว้ในวัยหนุ่ม โดยมีขนาดประมาณผลวอลนัต และจะขยายขนาดมากขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น ถ้าส่วนที่ขยายใหญ่นั้นไปกดเบียดบริเวณท่อปัสสาวะ ก็จะส่งผลให้มีอาการปัสสาวะลำบาก หรือปัสสาวะไม่พุ่งตามมาได้,โรคต่อมลูกหมากโต เป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 50 ปี จากการศึกษาพบว่า ในผู้ชายที่มีอายุประมาณ 60 ปี จะมีโอกาสตรวจพบโรคต่อมลูกหมากโตได้ประมาณร้อยละ 50–60 โดยความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจสูงถึงร้อยละ 80 ในผู้ชายที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป ทั้งนี้อาการของผู้ป่วยแต่ละคนอาจมากน้อยต่างกัน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดที่โตเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ไปกดทับด้วย โดยถ้าไปกดเบียดท่อปัสสาวะพอดีก็อาจมีอาการมากได้,การรักษาโรคต่อมลูกหมากโตนั้นมีหลายวิธี โดยมักจะเริ่มด้วยการรับประทานยาก่อน ในปัจจุบันมียาหลายชนิดที่ให้ผลการรักษาค่อนข้างดี และผลข้างเคียงไม่มาก แต่หากรักษาด้วยการรับประทานยาแล้วไม่ได้ผล แพทย์จะพิจารณารักษาด้วยวิธีการผ่าตัด เพื่อนำเนื้อต่อมลูกหมากส่วนที่ปิดกั้นท่อปัสสาวะออก ทำให้ผู้ป่วยปัสสาวะได้คล่องมากขึ้น,วิธีที่ดีที่สุดคือ หมั่นเฝ้าระวังและสังเกตอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับสภาพร่างกายของเรา หากมีอาการที่ผิดปกติเกิดขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง ให้รู้ถึงสาเหตุ และสามารถปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง ก่อนที่อาการต่างๆ เหล่านั้นจะลุกลามมากเกินเยียวยา,นายแพทย์เปรมสันต์ สังฆ์คุ้ม ,คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี | มนุษย์เราตั้งแต่แรกเกิดจนเข้าสู่วัยกลางคน โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ก็จะแวะเวียนมาหา ไม่มีใครสามารถหลีกหนีไปได้ เช่นเดียวกับโรคของต่อมลูกหมาก ซึ่งมักพบในชายที่มีอายุ 40–50 ปีขึ้นไป | null | โรคต่อมลูกหมาก,ชายสูงวัย,เปรมสันต์ สังฆ์คุ้ม,โรงพยาบาลรามาธิบดี,ผู้สูงอายุ,ผู้ชาย,การรักษา,อาการของโรค,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,thariath | https://www.thairath.co.th/content/599472 |
ป.ป.ช.ชง กก.พิจารณาสำนวน ปารีณา สัปดาห์หน้า ไม่เกิน เม.ย.63 รู้ผล | วันที่ 3 ธ.ค.,นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช., กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบที่ดินของ ,นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ, ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน และได้สอบปากคำพยานบุคคลพอสมควรแล้ว พร้อมจะส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาให้ความได้ในสัปดาห์หน้าว่า จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ยังไม่ถึงขั้นชี้มูลความผิด แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เพราะอยู่ในสำนวน,ส่วนกรณีที่นางสาวปารีณา อ้างว่า มีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินคลาดเคลื่อน นั้นย้ำว่า สามารถร้องขอต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดเวลา ซึ่ง ป.ป.ช. จะต้องดูจากพยานหลักฐาน ว่าคลาดเคลื่อนโดยจงใจหรือมีเจตนาหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมานักการเมืองหลายคนขอมาเป็นปกติ หากมีการแจ้งตกหล่นหรือลืมแจ้งสามารถส่งเพิ่มเติม แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับกรรมการ ป.ป.ช. และกรณีของ นางสาวปารีณา แจ้งมีที่ดิน 1,700 ไร่ แต่มีครอบครองจริง เพียง 691 ไร่นั้น เป็นเรื่องที่มีอยู่ในสำนวนอยู่แล้ว,ส่วนการตรวจสอบว่า นางสาวปารีณา จงใจแจ้งทรัพสินเท็จหรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบย้อนไปถึงถือครองตั้งแต่ต้นก่อนการเป็น ส.ส. ด้วย ว่าเหตุใดเพิ่งมาแจ้งทรัพย์สินในปี 2562 ทั้งที่ครอบครองมาตั้งแต่ปี 2553 แต่ทั้งหมดก็ต้องดูที่เจตนา เพราะองค์ประกอบของความผิดตามกฎหมายฉบับปัจจุบันต่างกับกฎหมายในอดีต ซึ่งกฎหมายเดิมให้ตรวจสอบกรณีไม่ยื่นหรือยื่นเท็จ แต่กฎหมายใหม่ ต้องมีเจตนาไม่ยื่นหรือมีเจตนาแจ้งเท็จ จึงจะมีความผิดตามกฎหมาย,อย่างไรก็ตาม การแจ้งทรัพย์สินซึ่งเป็นที่ดินนั้น ตามกฎหมายของ ป.ป.ช. นั้นกำหนดให้ แจ้งเฉพาะที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์-มีโฉนด มีความเป็นเจ้าของจริง ส่วนที่ดินที่ไร้เอกสารสิทธิ ภบท.5 นั้น ยังเป็นประเด็นข้อกฎหมาย ที่ ป.ป.ช. ต้องตีความกัน และกำลังศึกษาอยู่ เพราะมี ส.ส. แจ้งเข้ามามีหลายราย พร้อมยืนยันว่า เรื่องนี้จะได้ข้อยุติใน 180 วัน หรือ 6 เดือน นับตั้งแต่มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบ คาดว่า ไม่เกินเดือนเมษายนปี 2563 จะรู้ผล | เลขา ป.ป.ช. จ่อ ชงกรรมการสัปดาห์หน้า พิจารณาสำนวน ปารีณา ยืนยันดูเจตนาแจ้งเท็จหรือไม่ ในกรอบ 180 วัน คาด ไม่เกินเม.ย. 63 รู้ผล | ข่าว,การเมือง | ปารีณา ไกรคุปต์,ปารีณา,ป.ป.ช.,วรวิทย์ สุขบุญ,ดูเจตนาแท้งเท็จ,ส.ส.ราชบุรี พลังประชารัฐ,ยุติใน 180 วัน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1716936 |
สธ.ตรวจเข้มแรงงานไทยกักตัว 8 คนมาจากแทกู-คยองซังเหนือ | วันนี้ (9 มี.ค.2563) นพ.ธนารักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ COVID-19 ว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 50 คน รักษาหายดีกลับบ้านได้แล้ว 33 คน เสียชีวิต 1 คน ยังมีผู้ป่วยอยู่ในโรงพยาบาล 16 คน ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1 คน โดยในกลุ่มผู้ป่วยที่รักษาหายกลับบ้านได้ส่วนใหญ่หายเอง ไม่ได้รับยาต้านไวรัส ส่วนผู้ป่วยที่อาการหนักมีการรักษาอย่างเต็มที่ด้วยยาหลายชนิดที่สามารถหาได้ขณะนี้มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคเพิ่มขึ้น 152 คน รวมแล้วขณะนี้มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 4518 คน ในจำนวนนี้กลับบ้านแล้ว 2729 คน ส่วนอีก 1789 คนยังอยู่ระหว่างการรับการรักษา แต่ในส่วนนี้มีความชัดเจนแล้วว่าไม่ติดเชื้อนพ.ธนารักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แรงงานไทย 186 คนไม่มีไข้ เฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงส่วนเรื่องการรับแรงงงานไทยนอกระบบกลับจากเกาหลี ขณะนี้รับไว้ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ 186 คน เป็นชาย 88 คน หญิง 98 คน ในจำนวนนี้มีแรงงาน 8 คนเดินทางมาจากเมืองแทกูและคยองซังเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ค่อนข้างมาก และมีกลุ่มที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ 18 คนคือ เด็ก หญิงตั้งครรภ์และผู้มีโรคประจำตัว ซึ่งทุกคนอาการปกติ ไม่มีไข้ แต่อย่างไรก็ตามจะจะมีการตรวจวัดไข้และสอบถามอาการทุกวัน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงสำหรับการดูแลผู้เดินทางจากเกาหลีใต้ มีการจัดกลุ่มผู้เดินทางเป็น 3 กลุ่มคือ ชาวต่างชาติ ผู้เดินทางคนไทย และกลุ่มแรงงาน เมื่อมาถึงประเทศไทยจะมีจุดจอดและพื้นที่คัดแยกจำเพาะ หากพบว่ามีไข้จะนำส่งโรงพยาบาลตามขั้นตอนที่กำหนด หากพบวีซ่าหมดอายุ จะจัดรถเพื่อนำไปส่งยังพื้นที่ควบคุมโรคที่รัฐกำหนด หากเป็นผู้เดินทางอื่นๆ จะถูกส่งตัวไปพื้นที่ควบคุมโรคใกล้ภูมิลำเนา ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดเตรียมไว้ โดยมีระบบเฝ้าระวังติดตามอาการจนครบ 14 วันเตรียมใช้ยา ฟาวิพิราเวียร์ รักษาผู้ป่วย COVID-19นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ ได้กล่าวถึงเรื่องแนวทางการรักษาผู้ป่วย COVID-19 ว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยตั้งแต่อาการน้อย ไปจนถึงอาการมาก และอาการวิกฤต จึงต้องมีการวางกรอบแนวทางการรักษาร่วมกันหลายสถาบัน และศึกษาจากต่างประเทศในส่วนของข้อมูลเปรียบเทียบด้วยส่วนเรื่องยา มีการซื้อยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ชื่อ ฟาวิพิราเวียร์ ที่ประเทศจีนรับรองในการใช้รักษาผู้ป่วย COVID-19 เข้ามาเพิ่ม ทำให้ขณะนี้มียาอยู่ 40000 - 50000 เม็ด โดยพยายามกระจายไปให้ครอบคลุมกับหน่วยบริการที่ดูแลผู้ป่วย เบื้องต้นมีการหารือและมีข้อสรุปจากศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินของกระทรวงสาธารณสุขว่า ยาส่วนหนึ่งอยู่ที่กรมควบคุมโรค โดยมีสถาบันบำราศนราดูร เป็นสถาบันหลักที่ดูแลรักษาผู้ป่วย ส่วนที่ 2 อยู่ที่กรมการแพทย์ ที่ดูแลในส่วนของโรงพยาบาลราชวิถี และสถาบันโรคทรวงอก เป็นต้น ครอบคลุมไปถึงโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครและเอกชน ส่วนที่ 3 กระจายไปตามเขตสุขภาพ โดยเฉพาะโรงพยาบาลใหญ่ๆ ในต่างจังหวัดนพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์สำหรับสารตั้งต้นในการผลิตยา ทางองค์การเภสัชกรรม (อภ.) อยู่ระหว่างเจรจากับประเทศที่มีสารตั้งต้น ซึ่งขณะนี้มีการประมาณการตั้งแต่ดีที่สุด จนถึงมีผู้ป่วยมากที่สุด โดยมาตรการต่างๆ ที่จะดำเนินไปหลังจากนี้จะช่วยลดการแพร่ระบาดและลดจำนวนผู้ป่วย พร้อมยืนยันว่าจะมีการประมาณการให้เพียงพอ แต่อย่างไรก็ตามจะต้องปรับตามสถานการณ์เป็นระยะๆนอกจากมาตรการทางยาแล้ว ยังมีมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่กระจายและการติดเชื้อในโรงพยาบาล ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นและได้ดำเนินการในทุกโรงพยาบาลและสถาบันทางการแพทย์ | กระทรวงสาธารณสุข ระบุตรวจคัดกรองแรงงานไทยนอกระบบกลับจากเกาหลีใต้ 186 คน ไม่มีไข้ แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อ พร้อมเผยขณะนี้มียาใช้รักษาผู้ป่วย COVID-19 กว่า 5 หมื่นเม็ดส่งกระจายตามโรงพยาบาล | สังคม | COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่,แรงงานไทย,ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่,ฟาวิพิราเวียร์,กักตัว | https://news.thaipbs.or.th/content/289657 |
เครือข่ายประชาชนน้ำโขงฯ ชวนผู้ห่วงใยสายน้ำ ลงชื่อค้านเขื่อน | ประกาศเจตนารมณ์หยุดเขื่อนในแม่น้ำโขงและคันค้านการสร้างเขื่อนไซยะบุรี สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 – 15 พ.ค.54 เครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง-ล้านนา เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขง 8 จังหวัด จัดการเสวนาเพื่อหารือแนวทางการขับเคลื่อนกรณีคัดค้านการสร้างเขื่อนไซยะบุรี พร้อมจัดพิธีสืบชะตาแม่น้ำและบวชวังสงวนคอนผีหลง-ผาพระ มีผู้เข้าร่วมกว่า 200 คน จาก 3 อำเภอริมแม่น้ำโขงในจังหวัดเชียงราย ได้แก่ เชียงแสน เชียงของ เวียงแก่น และ 7 จังหวัดในภาคอีสานที่แม่น้ำโขงไหลผ่าน ได้แก่ เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านจากแม่น้ำสาขาของลุ่มน้ำโขง ลุ่มน้ำสาละวิน และองค์กรแนวร่วมอีกหลายองค์กร วันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา เครือข่ายประชาชน 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง ได้จัดทำคำประกาศเจตนารมณ์ร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว ปกป้องแม่น้ำโขงจากการสร้างเขื่อน พร้อมเชิญชวนผู้ที่รักและห่วงใย สายน้ำที่หล่อเลี้ยงผู้คนสองฝากฝั่งตลอดแม่น้ำโขงร่วมลงนามประกาศเจตนารมณ์ดังกล่าว ให้หยุดการสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขงและเดินหน้าคัดค้านการสร้างเขื่อนไซยะบุรีปกป้องแม่น้ำโขงให้ไหลอย่างอิสระ โดยเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์โครงการสื่อชุมชนลุ่มน้ำโขง คำประกาศดังกล่าวมีเนื้อหาดังนี้ คำประกาศเจตนารมณ์ เครือข่ายประชาชน 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง \ร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว ปกป้องแม่น้ำโขงจากการสร้างเขื่อน\ 15 พฤษภาคม 2554 ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง จังหวัดเชียงราย พวกเราเครือข่ายประชาชน 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขงผู้พึ่งพิงอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำโขง มาหลายชั่วอายุคน มาร่วมกันวันนี้เพื่อประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันในการที่จะปกป้องแม่ของเรา จากการทำลายด้วยการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง โดยเฉพาะเขื่อนไซยะบุรี เราลูกแม่น้ำโขงขอประกาศว่าจะรวมใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อปกป้องแม่ของเราให้ถึงที่สุด เพื่อดำรงไว้ซึ่งความสมดุลทางธรรมชาติ อันจะเป็นประโยชน์ต่อลูกหลานและเพื่อนร่วมโลกสืบไป เราขอเรียกร้องให้ภาคส่วนต่างๆผู้มีเจตนารมณ์เดียวกันได้มาร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพวกเรา ร่วมลงนามของท่านที่นี่ ทั้งนี้ ที่ผ่านภาคประชาชนในประเทศไทย มีการการต่อต้านโครงการเขื่อนบนแม่น้ำโขงสายหลัก โดยการเดินสายจัดการประชุมเพื่อปรึกษาหารือและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนใน 8 จังหวัด รวมทั้งได้ออกแถลงการณ์คัดค้านโครงการดังกล่าวทั้งต่อรัฐบาลไทย-ลาว และบริษัท ช.การช่าง ส่วนความเคลื่อนไหวในต่างประเทศ จากเวทีประชุมคณะกรรมการร่วม (Joint Committee Special Session) 4 ประเทศ (กัมพูชา ลาว ไทย และเวียดนาม) ของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง หรือ เอ็มอาร์ซี (Mekong River Commission: MRC) ที่นครหลวงเวียงจันทน์ เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ประเทศเวียดนามก็แสดงทางทีคัดค้าน โดยที่เสนอให้ชะลอโครงการไป 10 ปี เพื่อศึกษาผลกระทบให้รอบด้านก่อน ล่าสุดรัฐบาลลาวก็ได้ประกาศชะลอโครงการสร้างเขื่อนไซยะบุรีไปอีก 1 ปี อย่างไรก็ตาม ผลจากการหารือ เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา เครือข่ายประชาชน 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง ได้กำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวใน 4 ประเด็น คือ (1) รณรงค์ต่อต้านการสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขงโดยเฉพาะเขื่อนไซยะบุรี โดยตัวแทนรับมอบป้ายต้นแบบไปติดแสดงเจตนารมณ์บริเวณท่าเรือริมฝั่งแม่น้ำโขงในเขตพื้นที่จังหวัดของตน เพื่อให้เกิดการรับรู้ในวงกว้างทั้งในประเทศไทยและเพื่อนบ้านฝั่งลาว (2) ทำหนังสือขอบคุณในนามเครือข่ายฯ ไปยังรัฐบาลเวียดนามที่มีความเห็นคัดค้านในเวที MRC และธนาคารไทยพาณิชย์ 1 ใน 4 แหล่งเงินกู้ ของ บริษัท ช.การช่าง ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานก่อสร้างเขื่อนจากรัฐบาลลาวได้ยื่นขอกู้ไว้ ได้ถอนตัวจากการให้กู้ (3) เตรียมพร้อมในการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองทันที หากมีการลงนามซื้อ-ขายไฟระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) และบริษัท ช.การช่าง และ (4) จัดประชุมเครือข่ายภาคประชาชนในประเทศไทยโดยเชิญตัวแทนจากเวียดนาม เขมรและลาวเข้าร่วมด้วย และแสวงหาความร่วมมือทั้งจาก MRC และรัฐบาลประเทศที่ร่วมสนับสนุน MRC เพื่อยกระดับแม่น้ำโขงไปสู่ประเด็นระดับนานาชาติต่อไป เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก: เครือข่ายประชาชนน้ำโขงฯ สืบชะตาแม่น้ำ ประกาศร่วมใจปกป้องแม่น้ำจากเขื่อน ดูภาพบรรยากาศเพิ่มเติม: องค์กรแม่น้ำเพื่อชีวิต | เครือข่ายประชาชน 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขงเชิญร่วมลงนามประกาศเจตนารมณ์หยุดการสร้างเขื่อน พร้อมเดินหน้าคัดค้านการสร้างเขื่อนไซยะบุรี ในลาว เผยเตรียมยื่นฟ้องศาลปกครองทันทีหากมีการลงนามซื้อ-ขายไฟ ภาพ: | สิทธิมนุษยชน,สิ่งแวดล้อม,สังคม | ประกาศเจตนารมณ์,เขื่อนบนแม่น้ำโขง,เขื่อนไซยะบุรี,เครือข่ายภาคประชาชน 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง | https://prachatai.com/journal/2011/05/34908 |
ที่ไหนบ้าง งด บริการถุงพลาสติก 4 ธ.ค.นี้ | ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ พร้อมใจกัน ให้บริการถุงพลาสติกในวันพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.) เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมไทย พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนพกถุงผ้า หรือตะกร้า ไปใส่สินค้าทดแทนการใช้ถุงพลาสติก เพื่อร่วมกันลดปริมาณขยะถุงพลาสติก โดยมีห้างสรรพสินค้าและร้านค้าจำนวนมากตอบรับเข้าร่วมแคมเปญดังกล่าว ประกอบด้วย1. เซ็นทรัล (Central)2. โรบินสัน (Robinson)3. เซ็นทรัล ฟู๊ด ฮอลล์ (Central Food Hall )4. ท็อปส์ มาร์เก็ต (Tops market)5. ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ (Tops SUPERSTORE)6. ซูเปอร์คุ้ม (Tops Superkoom)7. ท็อปส์ เดลี่ (Tops daily)8. แฟมิลี่มาร์ท (FamilyMart)9. ไทวัสดุ10. บ้าน แอนด์ บียอนด์ (Baan & Beyond)11. เพาเวอร์ บาย (Power Buy)12. ซูเปอร์สปอร์ต (Supersports)13. บีทูเอส (B2S)14. เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป15. ออฟฟิศเมท ( OfficeMate)16. วัตสัน (Watsons)17. เดอะมอลล์ (The Mall)18. เอ็มโพเรียม (Emporium)19. เอ็มควอเทียร์ (Emquartier)20. พารากอน (Paragon)21. บลูพอร์ต (Bluport) 22. กูร์เมต์ มาร์เก็ต (Gourmet Market)23. โฮมเฟรชมาร์ท (Home Fresh Mart)24. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (Big C)25. เทสโก้ โลตัส (Tesco Lotus)26. สมาคมผู้ค้าปลีกไทย27. แม็คโคร (makro)28. ซีพี ออลล์ (CPALL)29. เซเว่น-อีเลฟเว่น (7-ELEVEN)30. ฟู้ดแลนด์ (Foodland)31. ฟิวเจอร์พาร์ค (Futurepark)32. แม็กซ์แวลู (Maxvalu)33. SPAR Fresh & Easy Food Market (ในปั้มบางจาก)34. จิฟฟี่ (Jiffy) ในปั้ม ปตท.35. ซีพี เฟรชมาร์ท (CP Fresh Mart)36. บู๊ทส์ (Boots)37. อิเซตัน (Isetan)38. โฮมโปร (HomePro)39. อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (Index livingmall)40. ไชยแสง ซูเปอร์สโตร์41. ไชยแสง ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ 42. เค แอนด์ เค ซุปเปอร์ค้าส่ง (หาดใหญ่)43. แจ่มฟ้าเซฟมาร์ท (ลำพูน)44. ซี. เจ. ซูเปอร์มาร์เก็ต (CJ Supermarket )45. ที.เอ็ม.เค. ซุปเปอร์มาร์เก็ต (กาญจนบุรี)46. มาเธอร์ มาเช่ ซุปเปอร์มาเก็ต (กระบี่)47. วรรณกิจเจริญ48. วรรณ (WANSuperstore) (ระยอง)49. ลอว์สัน (LAWSON 108 )50. แสงทอง ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (ระยอง)51. เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท (FN Outlet)52. ธนพิริยะ (เชียงราย)53. ซีโอแอล54. ชุมพรโอเชี่ยนกรุ๊ป (ชุมพร)55. โอเชี่ยน ชอปปิ้งมอลล์ ชุมพร | ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ เข้าร่วมแคมเปญรณรงค์งดให้บริการถุงพลาสติก เริ่มวันแรกพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.) | สิ่งแวดล้อม | งดให้ถุงพลาสติก,ถุงพลาสติก,ห้างสรรพสินค้า,ร้านสะดวกซื้อ,วันสิ่งแวดล้อมไทย,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/276084 |
หมายเหตุจากกรุงกัมพูชาถึงกรุงสยาม ว่าด้วยการพัฒนาและการไล่ที่ | พื้นที่ว่างเปล่าแทบไม่เหลือให้เห็น จะว่าไปแล้ว หากพิจารณาจากประวัติศาสตร์ที่เคยมีการอพยพผู้คนออกไปใช้แรงงานในยุคเขมรแดงเรืองอำนาจ จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิตของประชาการหลายล้านคน รวมไปถึงสงครามกลางเมืองอันเป็นการสู้รบระหว่างเขมรแดงและเจ้าสีหนุฝ่ายหนึ่ง กับฝ่ายรัฐบาลที่สนับสนุนโดยเวียดนามที่เพิ่งยุติลงในช่วงต้นทศวรรษที่ 90 กัมพูชาถือว่าพัฒนาประเทศได้รวดเร็วเลยทีเดียวกรุงพนมเปญในวันนี้ ท้องถนนสว่างไสว มีธุรกิจและร้านค้าต่างๆ กระจายอยู่ทั่วไป ด้วยอัตราค่าจ้างแรงงานที่ต่ำ กัมพูชาจึงเป็นเสมือนแม่เหล็กดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะจากเวียดนามและจีน โดยเฉพาะจีนซึ่งเป็นประเทศที่ให้เงินสนับสนุนแก่รัฐบาลกัมพูชามากที่สุด การเข้ามาของนักลงทุนต่างชาติ ทำให้กรุงพนมเปญที่มีขนาดเล็กอยู่แล้วคับแคบลงในพริบตา เมื่อการขยายตัวของเมืองมาถึงขีดจำกัด ทางเลือกที่ทางการกัมพูชาเลือกใช้ก็คือ การบังคับไล่ที่ เพื่อการพัฒนาในอดีต ใจกลางกรุงพนมเปญมีทะเลสาบที่เรียกว่า บองกัก ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้มีชุมชนชาวบ้านที่มีวิถีชีวิตผูกพันกับน้ำอาศัยอยู่นับพันครัวเรือน ต่อมาเมื่อการพัฒนากลืนกินพื้นที่ว่างไปหมด ก็มาถึงคราวของพื้นน้ำ รัฐบาลกัมพูชาตัดสินใจให้สัมปทานแก่บรรษัทเอกชนเข้าทำการถมทะเลสาบเพื่อจะได้นำที่ดินมาใช้ในการพัฒนา ซึ่งส่งผลให้ชาวบ้านหลายพันครัวเรือนต้องถูกไล่ที่ ซึ่งการไล่ที่ ไม่ได้หมายถึงการสูญเสียบ้านแต่เพียงอย่างเดียว มันยังหมายถึงการสูญเสียวิถีชีวิตและอัตลักษณ์ไปด้วยการบังคับไล่ที่อาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในเมืองไทย เนื่องจากมันไม่ได้เกิดขึ้นใจกลางกรุง รวมทั้งยังไม่มีภาพชาวบ้านที่ถูกไล่ที่ชุมนุมประท้วงโดยสันติเพื่อยืนยันสิทธิของเขาก่อนโดนไล่ตีหัวร้างข้างแตกแบบที่ปรากฏในกัมพูชา ทว่าประเทศไทยก็ใช่ว่าจะปราศจากซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ การสร้างเขื่อนรวมไปถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งรัฐอื่นๆ เช่น ถนน และทางด่วน ก็ก่อให้เกิดคำถามทั้งเรื่องการไล่ที่และสูญเสียวิถีชีวิตได้เช่นกัน จริงอยู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเป็นสิ่งจำเป็นต่อรัฐและประชากรโดยรวม (คำถามที่ว่า ใครคือประชากรโดยรวมทั้งหมด ยังเป็นคำถามที่จำเป็นต้องตอบแต่ ณ ที่นี้จะขอแขวนไว้ก่อน) ทว่ารัฐเองก็จำเป็นจะต้องตอบคำถามให้ได้ว่า จะประกันความยุติธรรมแก่ผู้ถูกย้ายที่อย่างไรการบังคับเอาที่ หรือที่เรียกกันแบบน่ารักๆ ว่า การเวรคืนที่ดินนั้น เป็นสิ่งที่ทำกันอยู่ทั่วไปในหลายๆ ประเทศ การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ นั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีการเรียกคืนที่ดิน เพราะหลายต่อหลายครั้ง การสร้างโครงสร้างพื้นฐานก็ต้องทำในพื้นที่ที่มีผู้อาศัยอยู่แล้ว หากไม่มีการเวนคืนที่ดิน โครงการพัฒนาก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งในบางโครงการก็คงก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ได้ก่อให้เกิดความเจริญและการพัฒนาอย่างไรก็ดีหากจะมีการเวนคืนที่ดิน คำถามอย่างน้อยสองข้อที่ควรจะต้องตอบให้ได้เสียก่อนก็คือ หนึ่ง โครงการพัฒนานั้นเป็นประโยชน์ต่อใคร และสอง หากอ้างหลักประชาธิปไตยที่ต้องรักษาผลประโยชน์เพื่อคนส่วนมาก (การพัฒนา) แล้วคนส่วนน้อยที่ถูกบังคับให้เป็นผู้เสียสละย้ายที่ รัฐมีมาตรการดูแลพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร นี่ยังไม่นับรวมไปถึงคำถามด้านสิ่งแวดล้อมที่ว่า ผลที่ได้จากการพัฒนาและราคาที่ต้องจ่ายในแง่ความเสียหายของระบบนิเวศสิ่งแวดล้อมในระยะยาวนั้นมันคุ้มกันไหมในกรณีกัมพูชานั้น คำตอบของคำถามทั้งสองข้อ ดูจะไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ ประการแรกที่ว่า การพัฒนานั้นเป็นผลประโยชน์ต่อใคร ในกรณีของการบังคับย้ายที่ชุมชนทะเลสาบบองกักนั้น เห็นได้ชัดว่า เป็นประโยชน์ต่อนายทุนโดยแท้ เนื่องจากเป็นการสัมปทานที่ดินให้แก่เอกชน มิใช่ถมเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งรัฐ รัฐอาจอ้างว่าการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจจะส่งผลดีต่อประเทศโดยรวม หากแต่เมื่อพิจารณาโดยใกล้ชิดแล้วก็จะเห็นได้ว่า มันเป็นเพียงข้ออ้าง เพราะแท้ที่จริงแล้ว ผลประโยชน์ทางธุรกิจในกัมพูชาก็กระจุกตัวอยู่แต่ในหมู่นายทุนและผู้นำระดับสูงในพรรครัฐบาลเท่านั้น จริงอยู่การขยายตัวของภาคธุรกิจ อาจก่อให้เกิดการจ้างงานและรายได้ แต่เมื่อพิจารณาถึงค่าจ้างแรงงานที่ต่ำในกัมพูชาแล้วการจ้างงานที่เกิดขึ้นก็เป็นแต่เพียงการขยายตัวของการสะสมทุนและขูดรีดแรงงานโดยที่ผลประโยชน์ทางธุรกิจไม่ได้ตกถึงมือและท้องของผู้ใช้แรงงานแม้แต่น้อยในส่วนของคำถามที่ว่า รัฐมีการดูแลผู้ที่ต้อง เสียสละ ย้ายที่ออกไปมากน้อยหรือไม่อย่างไรนั้น ในกรณีชุมชนบองกัก สิ่งที่ชาวบ้านได้รับจากรัฐบาล ไม่ใช่การจ่ายเงินชดเชย หากแต่เป็นความแห้งแล้งและความรุนแรงชาวบ้านส่วนหนึ่งถูกย้ายไปอยู่ใกล้ๆ กับเมืองพนมอุดง เมืองหลวงเก่าของกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันเป็นเพียงพื้นที่แห้งแล้ง ลองจินตนาการดูว่า คนที่เคยอาศัยทำมาหากินกับน้ำ เมื่อต้องมาอยู่ในพื้นที่แห้งแล้ง พวกเขาจะทำอย่างไร จริงอยู่ชาวบ้านบางส่วนที่ยอมย้ายแต่โดยดี อาจได้รับค่าตอบแทนบ้าง แต่มันคงเป็นเงินจำนวนไม่มากนัก และเมื่อเทียบกับวิถีชีวิตที่สูญเสียไป ค่าชดเชยนั้นคงเป็นได้แค่เศษกระดาษที่ช่วยให้พอประทังชีวิตได้ไปอีกไม่กี่มื้อ ส่วนชาวบ้านที่รวมตัวกันคัดค้านการย้ายที่โดยสันติก็ได้รับแจกท็อปบูท ลูกกระสุนและทัวร์ห้องกรงจากทางรัฐไปตามระเบียบกรณีการบังคับไล่ที่ในกัมพูชาอาจจะดุเดือดรุนแรงเกินไปหากจะนำมาเปรียบเทียบกับการเวนคืนที่ดินเพื่อการพัฒนาในเมืองไทย แต่มันก็เกิดคำถามหลายข้อที่ทำให้เราต้องฉุกคิดและตอบคำถามเหล่านั้น คำถามแรกเกี่ยวกับผู้ได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนา แน่นอน โครงการเขื่อนหรือโครงการถนนบางโครงการอาจดูเป็นโครงการที่เป็นสาธารณะประโยชน์มากกว่าการไล่ที่ทะเลสาบบองกัก ซึ่งแน่นอนว่า เป็นผลประโยชน์ของกลุ่มทุน แต่หากพิจารณาให้ลึก ผลประโยชน์ที่ดูเป็นสาธารณะในเมืองไทยแท้จริงแล้วก็กระจุกตัว โดยเฉพาะโครงการเขื่อนที่ไม่ว่าจะผลิตไฟฟ้าหรือป้องกันน้ำท่วม ก็ดูจะเป็นประโยชน์ที่เป็นคนเมือง ในขณะที่บางครั้งคนที่เสียสละถูกไล่ที่เพื่อการสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้ากลับเข้าถึงไฟฟ้าได้ยากลำบาก ในส่วนของคำถามที่ว่า เมื่อย้ายที่แล้ว มีการดูแลผู้ถูกย้ายที่มากน้อยแค่ไหน ในประเทศไทยอาจมีการชดเชยที่ดูดีกว่าในกัมพูชา แต่ว่าในระยะยาว รัฐไทยก็คงไม่สามารถตอบโจทย์เรื่องการสูญเสียวิถีชีวิตและอัตลักษณ์ได้ดีไปกว่าทางการกัมพูชาเสียเท่าไหร่แน่นอนว่า ในอนาคต รัฐไทยก็คงจะผุดโครงการที่ทำให้คนบางกลุ่มต้องถูกบังคับย้ายที่เพื่อแลกกับการพัฒนาขึ้นมาอีก คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกๆ โครงการพัฒนา มีราคาที่จะต้องจ่ายไป ซึ่งก็คือวิถีชีวิตและอัตลักษณ์ของคนบางกลุ่มซึ่งมักจะเป็นกลุ่มคนชายขอบ (ไม่ได้หมายถึงเฉพาะคนชนบทที่ห่างไกลจากศูนย์กลางความเจริญ แต่รวมถึงกลุ่มคนชั้นล่างที่ไร้อำนาจ เช่น กลุ่มคนจนเมืองที่อาศัยในเขตชุมชนแออัด ซึ่งอาจถูกไล่ที่เพื่อการสร้างทางด่วนด้วย) นอกจากนี้ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่ได้ถูกพิจารณารวมในบทความนี้ก็เป็นราคาที่ต้องจ่ายไปบทความชิ้นนี้ไม่ได้เขียนขึ้นเพื่อต่อต้านการพัฒนาดังกล่าว เพราะคงเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริงที่จะยุติโครงการพัฒนาทั้งหลาย แต่บทความชิ้นนี้ อยากจะเสนอว่า ก่อนลงมือทำการเวนคืนหรือไล่ที่ชาวบ้านเพื่อการพัฒนา รัฐควรทำการศึกษาอย่างจริงจังเสียก่อนว่า การพัฒนาเหล่านั้นจะยังประโยชน์แก่ใคร แก่คนส่วนใหญ่หรือคนเพียงหยิบมือในสังคม และหากแม้โครงการพัฒนาดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่จริง รัฐก็จำเป็นจะต้องพิจารณาให้ถ้วนถี่ว่า จะทำอย่างไรกับคนส่วนน้อยที่ต้องเสียสละวิถีชีวิตและอัตลักษณ์ เพราะต้องไม่ลืมว่า ในสังคมประชาธิปไตย แม้สิทธิของคนส่วนน้อยก็ต้องได้รับความคุ้มครองเช่นกัน โดยเฉพาะกรณีที่คนส่วนน้อยต้องเสียสละอัตลักษณ์และวิถีชีวิตของตนเพื่อคนส่วนใหญ่ การชดเชยด้วยเงินคงไม่เพียงพอ การชดเชยด้านการฝึกอาชีพเพื่อปรับตัวกับชีวิตใหม่ การรื้อฟื้นและพิทักษ์อัตลักษณ์ รวมไปถึงการให้เครดิตแก่การเสียสละของพวกเขา ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ควรต้องทำและท้ายที่สุดคงต้องฝากถึงเพื่อนมิตรประชาชน โดยเฉพาะชนชั้นกลางและผู้มีอันจะกินในเมืองที่มักเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาเหล่านี้ว่า หากชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบเดินทางมาเรียกร้องความเป็นธรรม (มาประท้วงนั่นแหละ) ได้โปรดอย่าโวยวายว่า พวกนี้มาทำรถติดเศรษฐกิจย่อยยับ บลาๆๆ เพราะแม้นท่านจะจ่ายภาษี แต่อย่างน้อยท่านก็ไม่ต้องเป็นกังวลว่า จะถูกไล่ที่เหมือนพวกเขาเหล่านั้น | ข่าวการบังคับไล่ที่ชาวบ้าน เป็นข่าวที่พบเห็นได้ในหนังสือพิมพ์หลายๆ ฉบับในกัมพูชา ใครที่เคยมากรุงพนมเปญเมื่อสักกยี่สิบปีก่อน หากได้กลับอีกคราคงจะจำไม่ได้ ด้วยตึกรามบ้านช่องขึ้นจนแน่นขนัด | คุณภาพชีวิต,เศรษฐกิจ | กัมพูชา,การพัฒนา,การไล่ที่,อานนท์ ชวาลาวัณย์ | https://prachatai.com/journal/2012/08/41943 |
ตร.ชี้ศพชายต่างชาติถูกแช่แข็งมาแล้ว 8 ปี | วันนี้ (27 ก.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานนำอุปกรณ์ตรวจพิสูจน์สถานที่เกิดเหตุ เข้าตรวจหาหลักฐานภายในอาคารพาณิชย์ซอยสุขุมวิท 56 เป็นครั้งที่ 2 เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม หลังเข้าตรวจค้นขบวนการปลอมหนังสือเดินทางและพบชิ้นส่วนศพแช่ในตู้แช่แข็งพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรอผลการผ่าชันสูตรศพจากแพทย์นิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ คาดว่าจะรู้ผลใน 1-2 วัน ส่วนการออกหมายจับนายปีเตอร์ แอนดรู โคลเตอร์ หรือนายวิเลี่ยม จอนสัน ข้อหาฆ่าผู้อื่น ขณะนี้หลักฐานค่อนข้างครบถ้วนแล้ว เหลือแต่หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และผลการชันสูตรศพ เบื้องต้นทราบว่าชิ้นส่วนศพถูกแช่มา 8 ปีมีรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.ต.ท.ศานิตย์ นำพยานซึ่งเป็นหญิงไทยไปชี้จุดเกิดเหตุบริเวณบ้านพักย่านเอกมัยที่นายปีเตอร์เป็นผู้เช่า ซึ่งพยานให้ข้อมูลตรงกับทิศทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจขณะที่ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง สหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ยืนยันว่า นายอารอน โทมัส กาเบรียล นายเจมส์ ดักลาส ผู้ต้องหา เป็นคนสัญชาติอเมริกัน และอยู่ระหว่างตรวจสอบสัญชาติของนายปีเตอร์ แอนดรู โคลเตอร์ก่อนหน้านี้ ตำรวจเคยจับผู้ต้องหาสัญชาติอเมริกัน 4-5 คน ที่มีความเชี่ยวชาญในการปลอมหนังสือเดินทางและตรวจจับได้ยาก ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหากลุ่มนี้หรือไม่ | ตำรวจชี้ชิ้นส่วนศพชาวต่างชาติถูกแช่ในตู้แช่แข็งไม่ต่ำกว่า 8 ปี ขณะที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสถานที่พบชิ้นส่วนศพภายในซอยสุขุมวิท 56 เป็นครั้งที่ 2 | อาชญากรรม | ฆ่าหั่นศพ,หั่นศพแช่แข็ง,แช่แข็งศพชายต่างชาติ,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/256148 |
ก.เกษตรฯ จัดระบบปลูกข้าว รับน้ำท่วม | กระทรวงเกษตรและสหกรณ์วางแผนจัดทำระบบเพาะปลูกข้าวในปี 2555 โดยนำปัญหาน้ำท่วมมาเป็นปัจจัยสำคัญ โดยจะมีรูปแบบระบบการปลูกถึง16 รูปแบบ จากเดิมที่มีแค่เพียง 4 รูปแบบ เพื่อให้เก็บเกี่ยวข้าวได้ก่อนน้ำท่วม ซึ่งจะจัดระบบพื้นที่เพาะปลูกในปีนี้จำนวน 1.5 ล้านไร่ เป็นพื้นที่นำร่องนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จะต้องให้ความรู้เกษตรกร ทั้งวิธีการเพาะปลูก การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ และการลดต้นทุน เพื่อให้พัฒนาระบบการเพาะปลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากว่าปัจจุบันการเพราะปลูกข้าวมีความเสี่ยงที่จะเสียหายจากภัยธรรมชาตินอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า การปลูกข้าวตลอดทั้งปีทำให้ต้นทุนการผลิตข้าวสูง ขณะที่คุณภาพข้าวลดลงเพราะเกษตรกรใช้ข้าวอายุสั้น ซึ่งกระทรวงฯ จะให้จัดระบบปลูกข้าวใหม่ โดยให้ปลูกข้าวปีละ 2 ครั้ง จากเดิมที่นิยมทำ 3 ครั้งต่อปี เพื่อลดต้นทุนการผลิตและตัดวงจรการระบาดของศัตรูพืช รวมทั้งส่งเสริมให้ปลูกพืชหลังนาเพื่อปรับปรุงดิน | จากปัญหาน้ำท่วมในปีที่ผ่านมา ในปีนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงวางแผนจัดระบบปลูกข้าว ซึ่งจะเน้นเพาะปลูกให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำเพื่อลดความเสี่ยงของเกษตรกร โดยตั้งเป้าพื้นที่นำร่องไว้ 1.5 ล้านไร่ | เศรษฐกิจ | กระ่ทรวงเกษตรและสหกรณ์,ธีระ วงศ์สมุทร,น้ำ่ท่วม,ปลูกข้าว | https://news.thaipbs.or.th/content/62678 |
สมาชิกบ้านเลขที่ 111 เตรียมร่วมงานพรรคเพื่อไทย | นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล เลขาธิการมูลนิธิ 111 ไทยรักไทย เปิดเผยว่า จะมีอดีตสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่กำลังพ้นโทษการถูกตัดสิทธิทางการเมือง ประมาณ 50 - 60 คน กลับมาช่วยงานการเมืองของพรรคเพื่อไทย และ บางส่วนจะมีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยในวันที่ 30 พ.ค.ได้เชิญอดีตกรรมการบริหารพรคไทยรักไทยทั้ง 111 คน มาร่วมงานฉลองหลังพ้นเว้นวรรคทางการเมือง ซึ่งจะมาหรือไม่ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีสมาชิกบ้านเลขที่ 111 จำนวน 35 คน ที่แสดงความประสงค์ต้องการร่วมงานทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย โดยในวันอังคารที่ 8 พ.ค. กลุ่มสมาชิกบ้านเลขที่ 111 บางส่วนจะหารือกันเกี่ยวกับเรื่องการสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ส่วนการแบ่งมอบภารกิจจะมีการหารือต่อไประหว่างผู้บริหารระดับสูงของพรรค สำหรับกลุ่มสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่แสดงความประสงค์จะร่วมงานทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล เช่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาลนายจาตุรนต์ ฉายแสงนายพงศ์เทพ เทพกาญจนานายวราเทพ รัตนากรนายวันมูหะมัด นอร์ มะทา รวมถึงนายอดิศร เพียงเกษ และ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตแกนนำ นปช. ขณะที่เอแบคโพลเปิดเผยผลวิจัยความพอใจของประชาชนต่อคณะรัฐมนตรีในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา และการปรับคณะรัฐมนตรี พบว่า มีรัฐมนตรีหลายคนไม่เป็นที่รู้จักของประชาชน เช่น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังมี นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ส่วนรัฐมนตรีที่ประชาชนพึงพอใจการทำงานในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา และคะแนนสอบผ่านเกินครึ่ง ได้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ขณะที่ รัฐมนตรีที่ประชาชนพึงพอใจน้อย ได้แก่ นายบุณทรง เตริยาภิรมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ | ผลสำรวจประชาชนกลุ่มตัวอย่างพบว่า มีรัฐมนตรีที่ประชาชนไม่รู้จักหลายคน โดยเฉพาะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ขณะที่อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 35 คน ได้แจ้งความประสงค์จะเข้าร่วมงานทางการเมืองกับรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย หลังพ้นโทษถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี | การเมือง | จาตุรนต์,นิวัฒน์ธำรงค์,บุญทรง,พงษ์เทพ,รัฐมนตรี,วราเทพ,วิชิต,โลกลืม | https://news.thaipbs.or.th/content/83282 |
ขบวนการเรียกค่าหัวคิวแรงงานข้ามชาติ | ไทยพีบีเอสบันทึกภาพขณะกลุ่มขบวนการขนแรงงานต่างด้าวที่ทำงานผิดกฏหมายจากประเทศมาเลเซีย จ่ายเงินค่าหัวคิวแรงงานต่างด้าว ให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภอสะเดา จ.สงขลา ที่คอยเก็บเงิน หลังนายหน้าขนแรงงานชาวเมียนมาและกัมพูชาลักลอบจากประเทศมาเลเซีย หลบหนีเข้าประเทศ ขึ้นรถตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ที่จอดรอบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อนำไปยังศูนย์กักกันแรงงานต่างด้าว และทำประวัติแรงงานหลบหนีเข้าเมืองเหล่านี้ ให้เป็นแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในประเทศ เพื่อง่ายต่อการส่งกลับประเทศปลายทางไทยพีบีเอสตรวจสอบพบว่าการเก็บเงินค่าหัวคิวจากแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าประเทศ แรงงานเหล่านี้ต้องจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่หัวละ 8000 บาท ในแต่ละวันมีขบวนการลักลอบนำแรงงานหลบหนีเข้าประเทศ นับร้อยต่อวันและขบวนการนี้ทำมานานกว่า 5 ปี คิดผลประโยชน์ที่เจ้าเรียกเก็บรวมมูลค่ามหาศาลขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าประเทศขบวนการนี้จะตระเวนหาแรงงานชาวเมียนมาและกัมพูชา ที่ลักลอบเข้าทำงานผิดกฎหมายตามรัฐต่าง ๆ ในประเทศมาเลเซีย และต้องการกลับบ้านเกิดเมื่อนายหน้าได้แรงงานที่ต้องการก็จะซุกซ่อนแรงงานมาท้ายกระโปรงรถยนต์จากประเทศมาเลเซียโดยมีเจ้าหน้าที่ด่านตรวจประเทศมาเลเซียที่รู้เห็นกับขบวนการนี้และปล่อยผ่านด่านตรวจ จากนั้นเมื่อถึงประเทศไทยขบวนการค้าแรงงานข้ามชาติ จะนำแรงงานนำขึ้นรถตรวจคนเข้าเมืองของไทย ที่จอดรอรับไปศูนย์กักกัน โดยใช้ช่องว่างกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง ทำประวัติแรงงานผิดกฎหมายเหล่านี้ ให้เป็นแรงงานที่เข้าทำงานผิดกฎหมายในประเทศเพื่อง่ายต่อการส่งกลับเนื่องจากฏหมายตรวจคนเข้าเมือง ไม่อนุญาตให้แรงงานต่างด้าวที่ทำงานผิดกฎหมายจากต่างประเทศ เข้ารายงานตัวกลับขอกลับบ้านได้ แต่อนุญาตให้แรงงานต่างด้าวที่ทำผิดกฎหมายในประเทศไทย เข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ขอกลับประเทศได้ เจ้าหน้าที่จึงอาศัยช่องว่างกฏหมายแสวงหาผลประโยชน์ ด้วยการนำแรงงานเหล่านี้มาฟอกตัวให้เป็นแรงงานในประเทศ เพื่อง่ายต่อการส่งกลับ | เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.2558) ไทยพีบีเอส เปิดภาพหลักฐานว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐนำพาแรงงานผิดกฏหมายจากมาเลซีย เข้ามาทางด่านอำเภอสะเดา จ.สงขลา จากนั้น นำมาปลอมแปลงประวัติเพื่อจะส่งตัวกลับประเทศ เราตรวจสอบพบว่า แรงงานกลุ่มนี้ต้องจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่รัฐเพื่อเข้าประเทศถึง 8 พันบาทต่อคน ทำมาแล้วอย่างน้อย 5 ปีไม่เคยถูกตรวจสอบ | ภูมิภาค | กัมพูชา,มาเลซีย,สงขลา,สะเดา,เมียนมา,แรงงาน,แรงงานต่างด้าว | https://news.thaipbs.or.th/content/1283 |
วันแห่งความรักนำโชค หนุ่มใหญ่วัย 55 โสดและรวยเพราะถูกหวย 12 ล้าน | เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 62 ร.ต.อ.อุไร อันทระบุตร รองสารวัตรสอบสวน สภ.ช่องสามหมอ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ได้รับแจ้งจาก นายวรวิทย์ ยิ่งพันธุ์ อายุ 55 ปี ว่าถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 เลขที่ 074824 ประจำวันที่ 16 ก.พ.62 จำนวน 2 ใบ คิดเป็นเงิน 12 ล้านบาท,นายวิทย์ เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 14 ก.พ. เป็นวันวาเลนไทน์ ตนไปทำธุระที่ตลาดคอนสวรรค์ เลยแวะซื้อลอตเตอรี่จากแม่ค้าที่นั่งขายอยู่บริเวณหน้าธนาคารออมสิน สาขาอำเภอคอนสวรรค์ จำนวน 2 ฉบับ ซึ่งปกติตนเองก็ไม่ค่อยได้ซื้อ,ทั้งนี้ เดือนนี้เป็นเดือนแห่งความรักเลยตัดสินใจหาซื้อ แต่เลข 14 ไม่มี เลยหยิบเลข 24 แทน ซึ่งตนหวังเพียงรางวัลเลขท้าย 2-3 ตัวเท่านั้น และก็ไม่ได้คิดว่าจะถูกรางวัลที่ 1,นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่า ตนเองมีอาชีพทำนาทำสวน และยังเป็นโสด ไม่มีครอบครัว อยู่ตัวคนเดียว สำหรับเงิน 12 ล้านบาทนี้ เบื้องต้นคงยังไม่นำไปใช้ทำอะไร ขอวางแผนการใช้จ่ายก่อน และถือว่าเป็นความโชคดีที่พี่สาวของตนเองก็ถูกรางวัลข้างเคียงอีกกว่า 10 ฉบับ เป็นความโชคดีทั้งครอบครัวในวันวาเลนไทน์จริงๆ | โชคชะตานำพาให้เขาถูกหวย หนุ่มใหญ่วัย 55 ปี อยากซื้อเลข 14 ก.พ. วันวาเลนไทน์ แต่ที่แผงไม่มีเลยหยิบ 24 มาแทน 2 ใบ ปรากฏถูกรางวัลที่ 1 รับไปเลย 12 ล้าน แย้มตอนนี้โสดจ้า | ข่าว,ทั่วไทย | ถูกหวย,ถูกหวย 12 ล้าน,หนุ่มโหญ่ถูกหวย,ชัยภูมิ,ถูกหวยวันวาเลนไทน์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1498365 |
ครูชัยภูมิเรียกร้องแก้ปัญหาแชร์ล็อตเตอรี่ | สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูชัยภูมิเตรียมรวมตัวชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดวันพรุ่งนี้ เพื่อเรียกร้องให้อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ทบทวนคำสั่งที่มีไปก่อนหน้านี้ โดยระบุว่าการทำงานของคณะกรรมการบริหารสหกรณ์ชุดเก่าเป็นตามขั้นตอน และไม่สามารถยื่นเรื่องถอดถอนได้นายประทีป พลมณี ตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูชัยภูมิ จำกัด เปิดเผยว่า สมาชิกกว่า 9000 คน เห็นว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นการเอื้อประโยชน์ให้คณะกรรมการบริหารสหกรณ์ชุดเก่า ซึ่งทุจริตนำเงินไปลงทุนแชร์ล็อตเตอรี่ จนสหกรณ์ขาดสภาพคล่องเกิดภาระหนี้กว่า 290 ล้านบาท จนไม่สามารถปันผลให้สมาชิกได้แม้เรื่องอยู่ระหว่างการตรวจสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แต่ติดปัญหากรณีอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์มีคำสั่งดังกล่าวออกไป ทำให้การดำเนินคดี เพื่อติดตามเงินกลับคืนสหกรณ์ล่าช้าออกไปอีกนอกจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดชัยภูมิยังมีสหกรณ์ในจังหวัดร้อยเอ็ด เลย และอีกหลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ประสบปัญหากรรมการบริหารนำเงินปันผลของสมาชิกไปลงทุนแชร์ล็อตเตอรี่ จนสหกรณ์ขาดสภาพคล่องเช่นกัน ทำให้สมาชิกเรียกร้องให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ ตรวจสอบการทำงานของกรรมการบริหาร เพื่อนำเงินหลายร้อยล้านบาทมาปันผลให้สมาชิก ขณะที่การดำเนินคดียังไม่มีความคืบหน้า | ความคืบหน้าปัญหาแชร์ล็อตเตอรี่ที่จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์มีคำสั่งว่าคณะกรรมการบริหารชุดเก่าไม่มีความผิดสร้างความไม่พอใจให้กับสมาชิกสหกรณ์ฯเตรียมเคลื่อนไหวหน้าศาลากลางจังหวัดพรุ่งนี้ เรียกร้องให้ทบทวนคำสั่งดังกล่าว เพราะเห็นว่าเอื้อประโยชน์ให้ผู้กระทำผิด | ภูมิภาค | ครู,ชัยภูมิ,ล็อตเตอรี่,แชร์ | https://news.thaipbs.or.th/content/64054 |
ฟีบ้า เตรียมรับรองนักบาสไทยชุดซีเกมส์แข่งในนาม คกก.โอลิมปิก | หลังจากสหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ หรือ ฟีบ้า ได้เข้ามาเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยระหว่างขั้วอำนาจใหม่ และเก่าของสมาคมบาสเกตบอลให้จับมือทำงานร่วมกันดูแลนักกีฬาชุดซีเกมส์ ก่อนมีการเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ดร.ณัฐ อินทรปาน ในฐานะ คณะกรรมโอลิมปิกสากล และหัวหน้าคณะทำงานของฟีบ้าฝ่ายไทย ที่จะทำหน้าที่คนกลางในการแก้ไขปัญหาได้นำทั้ง 2 อดีตนายก คือ นายสุรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา และนายคณาพงษ์ คณินวรพันธ์ มาเยี่ยมชมการฝึกซ้อมของนักกีฬาบาสเกตบอลหญิง ที่ถือว่าเป็นตัวเต็งในการคว้าเหรียญทองท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นกันเองดร.ณัฐ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ทั้ง 2 ฝ่ายได้ทำการเซ็นชื่อเห็นชอบว่านักกีฬาทั้งชาย และหญิงชุดนี้ รวมถึงโค้ชทีมชายคือ ไมเคิล เรย์ ริชาร์ดสัน และ โค้ชทีมหญิงคือ ซัลวา ตอเร่ คอปป้า จะเป็นทีมที่เข้าแข่งขันซีเกมส์อย่างเป็นทางการ และปราศจากข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น โดยจะรายงานเรื่องนี้ต่อฟีบ้าที่กำลังรอทำการรับรอง รายชื่อนักกีฬาชุดนี้ เพื่อส่งต่อให้คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในการส่งรายชื่อนักกีฬาเข้าแข่งขันกีฬาซีเกมส์ต่อไปสำหรับการตั้งเป้าของทีมนักกีฬาหญิงชุดนี้ ทางผู้ควบคุมทีมก็มั่นใจว่าจะเป็นทีมที่สามารถลบอาถรรพ์ คว้าเหรียญทอง กลับมาหลังจากที่ทำได้ครั้งสุดท้ายคือซีเกมส์ที่ จังหวัดเชียงใหม่ ปี 2538 หรือ 16 ปีมาแล้ว โดยโค้ชชาวอิตาลี ที่ควบคุมทีมอย่างดุดัน ร่วมกับโค้ชชาวไทยอย่าง กาญจนา ประสานชัยมนตรี โดยช่วงนี้การฝึกซ้อมจะเน้นความคล่องตัวในการครองบอล บวกกับเกมส์ตั้งรับที่เหนียวแน่น น่าจะทำให้ทีมบาสหญิงของไทยกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง | ทีมบาสเกตบอลชุดสู้ศึกซีเกมส์ของไทยได้รับข่าวดี เมื่อทางสหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติเตรียมรับรองนักกีฬาไทยเข้าแข่งขัน โดยจะส่งในนามของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย | กีฬา | คกก.โอลิมปิก,ซีเกมส์,นักกีฬา,บาส,ฟีบ้า,รับรอง,แข่ง | https://news.thaipbs.or.th/content/28420 |
ห้ามนำเข้าขยะพิษ ทั้งอิเล็กทรอนิกส์-พลาสติก | เลิกใบอนุญาตรง.ผิดเงื่อนไข,ล้อมคอกขยะพิษ ประวิตร วงษ์สุวรรณ สั่งตั้งคณะกรรมการขันนอตทุกหน่วยงาน ห้ามนำเข้าเศษอิเล็กทรอนิกส์และพลาสติกทำผิดเงื่อนไขใบอนุญาต กำชับกรมศุลกากรสแกนถี่ยิบขบวนการแจ้งสำแดงเท็จ ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรมต้องเพิ่มบทลงโทษโรงงานที่ทำผิด หากใช้ช่องทางกฎหมายปกติไม่ได้ผลพร้อมงัด ม.44 ออกมาจัดการ คาดโทษเจ้าหน้าที่รับสินบน หรือบกพร่องถือว่าทุจริตในหน้าที่,รัฐบาลขันนอตคุมเข้มห้ามนำเข้าขยะพิษอิเล็กทรอนิกส์ผิดเงื่อนไข เปิดเผยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ถึงการแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ว่า ไม่มีแล้ว ไม่ให้มีการนำเข้ามาในประเทศไทยอีกแล้ว เรื่องใดที่อาจต้องใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาจะต้องตั้งคณะกรรมการบูรณาการปัญหา,ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เสนอที่ประชุมให้กระทรวงอุตสาหกรรมยกเลิกใบอนุญาต เพื่อไม่ให้นำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ต่อไปจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา มี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน มีทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ กรมศุลกากรที่ดูแลการนำเข้าและการขนย้าย กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้อนุญาตตั้งโรงงาน กระทรวงมหาดไทยเกี่ยวข้องกับท้องถิ่นที่ตั้งโรงงานเพื่อพิจารณาเรื่องนี้,ไม่ใช่เฉพาะแค่ขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่อาจจะมีการนำขยะอื่นเข้ามาอีก ต้องมาออกข้อกำหนดว่าถ้าไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและเป็นภาระเกิดผลกระทบและไม่คุ้มค่าจะไม่อนุญาตให้นำเข้ามา ที่นำเข้าได้ก่อนหน้านี้มีสาเหตุจากการอนุญาตตามโควตา แต่บริษัททำผิดเงื่อนไขนำเข้ามาเกินและเป็นขยะที่ไม่ถูกต้อง จึงต้องหยุดด้วยการยกเลิกการอนุมัติให้นำเข้าก่อน เมื่อกำหนดประเภทการอนุญาตให้นำเข้าแล้ว หากยังพบว่าทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมาย รมว.มหาดไทยกล่าว,พล.อ.อนุพงษ์กล่าวอีกว่า กระทรวงมหาดไทยคือท้องถิ่นต้องรับผิดชอบเรื่องพื้นที่ แต่ยังติดปัญหาการเข้าไปตรวจสอบอาจกลายเป็นการบุกรุกพื้นที่ จึงต้องบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นควบคู่กันไปด้วย โดยจะไปหามาตรการเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปตรวจสอบไม่โดนฟ้องในภายหลัง และไม่ให้เกิดช่องทางที่ท้องถิ่นเข้าไปทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ควร ส่วนความจำเป็นต้องใช้มาตรา 44 หรือไม่นั้น หากจำเป็นก็จะใช้ แต่ถ้าได้รับอนุญาตแล้วทำผิดเงื่อนไขต้องยกเลิกการอนุญาต โดยไม่ต้องใช้มาตรา 44 แต่ใช้วิธีแก้กฎกระทรวงที่มีการอนุญาต เพื่อแก้ปัญหาต่อไป โดยจะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ ระหว่างนี้ ต้องตรวจที่สนามบินและศุลกากรไม่ให้เล็ดลอดเข้ามาได้อีก,ขณะที่ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมมีมาตรการเร่งด่วนคือ ระงับการอนุญาตนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์จากโรงงานที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามอนุสัญญาบาเซล ให้ผลักดันนำกลับขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติกที่สำแดงเท็จพร้อมดำเนินคดีผู้กระทำความผิด หากนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติกแล้วส่งไปโรงงานกำจัดที่ไม่ถูกต้องตามใบอนุญาตให้ส่งกลับไปยังโรงงานที่ได้รับอนุญาต หรือนำไปกำจัดให้ถูกต้อง พร้อมดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดกฎหมาย รัฐบาลจะเพิ่มความเข้มงวด การพิจารณาใบอนุญาตการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติก กำหนดเงินประกันกรณีเกิดความเสียหาย กรมศุลกากรต้องเข้มงวดการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ที่สำแดงว่าเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติก กระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องเพิ่มความเข้มงวดการตรวจสอบโรงงานขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติก และเพิ่มบทลงโทษผู้กระทำความผิด,พล.ท.คงชีพกล่าวว่า พล.อ.ประวิตรสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กรมควบคุมมลพิษ กรมศุลกากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดยให้พิจารณาเร่งด่วนในประเด็นห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติกหรือขยะสารพิษในทันที หากจำเป็นที่ต้องใช้มาตรการ 44 แก้ปัญหาเพราะเห็นว่ากฎหมายปกติใช้ไม่ได้ก็ต้องดำเนินการ พร้อมยังกำชับเจ้าหน้าที่ให้ทำงานอย่างเข้มแข็ง ห้ามรับสินบน หากบกพร่องจะถือว่าทุจริตในหน้าที่ | ล้อมคอกขยะพิษ ประวิตร วงษ์สุวรรณ สั่งตั้งคณะกรรมการขันนอตทุกหน่วยงาน ห้ามนำเข้าเศษอิเล็กทรอนิกส์และพลาสติกทำผิดเงื่อนไขใบอนุญาต กำชับกรมศุลกากรสแกนถี่ยิบขบวนการแจ้งสำแดงเท็จ | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า 1,ขยะอิเล็กทรอนิกส์,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,ขยะพิษ,ขยะพลาสติก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1313549 |
เมสซี่ พอใจกับเกมเอล กลาซิโก้ระหว่าง บาร์ซ่า - มาดริด | ฟุตบอลลาลีก้า สเปน ในศึกเอล กลาซิโก้ ที่สนามคัมป์นู ซึ่งจบลงด้วยผลเสมอกันไป 2-2 และ ลิโอเนล เมสซี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ต่างทำคนเดียว 2 ประตูในนัดนี้ให้ต้นสังกัดของตัวเอง หลังจบเกม เมสซี่ กล่าวว่า การพบกันของบาร์เซโลน่า และ รีล มาดริด มักเป็นเกมที่พิเศษเสมอ เพราะทั้ง 2 ทีมต่างเป็นทีมที่ดีที่สุดในโลก และเต็มไปด้วยนักเตะฝีเท้าดีมากมายทำให้เกมนี้เต็มไปด้วยความสวยงามและมีความสมดุลของเกม ส่วนการนำรีล มาดริด อยู่ 8 คะแนนในลาลีก้า เมสซี่ กล่าวว่า การแข่งขันยังเหลืออีกหลายยาวไกล และอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้สำหรับบาร์เซโลน่าเพิ่งจะเสมอเป็นนัดแรกหลังชนะรวดในลีก 6 นัดก่อนหน้านี้ ทำให้ความหวังที่ ติโต้ บิยาโนบ้า จะเป็นโค้ชคนแรกที่พาบาร์ซ่าชนะรวด 7 นัดในลีกต้องหมดลงขณะเดียวกัน ชาวปาเลสไตน์ที่เคยถูกคุมขังในเรือนจำของอิสราเอลได้ออกมาประท้วงสโมสรบาร์เซโลน่าด้วยการเตะฟุตบอลในสีเสื้อของทีมบาร์เซโลน่า และทีมรีล มาดริด ที่ฉนวนกาซ่า โดยพวกเขาต้องการเรียกร้องให้สื่อทุกสำนักงดการถ่ายทอดสดเกมเอลกลาซิโก้ หลังมีข่าวว่านายจิลาด ชาลิต ทหารชาวอิสราเอล จะเดินทางไปชมเกมที่สนามคัมป์นูตามคำเชิญของบาร์เซโลน่า แม้ว่าก่อนหน้านี้บาร์เซโลน่าจะปฏิเสธว่าไม่ใช่การเชิญของสโมสรตามที่เป็นข่าวก็ตาม สำหรับนายจิลาด ชาลิต ถือเป็นทหารอิสราเอลที่มีส่วนร่วมในการสังหารประชาชนชาวปาเลสไตน์ ก่อนจะถูกกลุ่มฮามาสจับกุมตัวได้เมื่อปี 2006 และเพิ่งได้รับการปล่อยตัวเมื่อปีที่แล้วมีรายงานด้วยว่าบาร์เซโลน่าได้ส่งคำเชิญให้นายมาห์มูด ซาร์ซัค อดีตนักเตะทีมชาติปาเลสไตน์เข้าร่วมชมเกมดังกล่าวเพื่อความเป็นธรรมของทั้ง 2 ฝ่าย แต่นายมาห์มูด ซาร์ซัค ปฏิเสธเข้าร่วมชมเกมในสนามเดียวกับนายจิลาด ชาลิต | ลิโอเนล เมสซี่ ยอมรับว่าพอใจกับเกมเอล กลาซิโก้ระหว่าง บาร์เซโลน่า กับ รีล มาดริด เพราะทั้ง 2 ทีมเล่นได้อย่างสวยงาม ก่อนจะจบลงด้วยผลเสมอกัน 2-2 | กีฬา | บาร์ซ่า,บาร์เซโลน่า,ฟุตบอล,มาดริด,รีล มาดริด,ลาลีก้า,สเปน,เมสซี่,เอล กลาซิโก้ | https://news.thaipbs.or.th/content/116983 |
ประสานงา มิตซูบิชิ ชน ฮอนด้า ถนนสาย 3079 ศรีมหาโพธิ ดับ 1 เจ็บ 3 | ประกอบกับเส้นจราจรไม่ชัด และมืด
,เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 13 ม.ค. 61 ร.ต.อ.ชัชวาล แสงสุวรรณ พนักงานสอบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญ จุดศรีมหาโพธิ ว่า มีอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถเก๋ง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 ราย หลังจากรับแจ้งพร้อมกำลัง รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณบ้านหนองกระทุ่ม หมู่ที่ 7 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ถนน สาย 3079 นิคม 304 มุ่งหน้าบ้านโคกขวาง พบเก๋งชนประสานงากันได้รับความเสียหายทั้งคู่ คันแรกเป็นรถเก๋งมิตซูบิชิ สีแดง ทะเบียน กง 4607 นครนายก สภาพด้านหน้าพังยับเยิน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่ง รพ.ศรีมหาโพธิ คือ น.ส.วิศิณี อัครหัทยาภักดิ์ อายุ 27 ปี เป็นผู้ขับ, น.ส.ปรียาภรณ์ จันทร์สว่าง และ น.ส.โสรญา จันทร์สว่าง อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 26/5 หมู่ 6 ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา อีกคันเป็นรถเก๋งฮอนด้า สีดำ ทะเบียน 5กร 5072 กรุงเทพมหานคร ได้รับความเสียหายด้านหน้าพังยับเช่นเดียวกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย ยังไม่ทราบชื่อ
,จากการสอบในเบื้องต้นทราบว่า น.ส.วิศิณี อัครหัทยาภักดิ์ ทำงานที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง หลังเลิกงานได้ขับรถเก๋งมิตซูบิชิ ทะเบียน กง 4607 นครนายก เพื่อเดินทางกลับที่พักในตัวเมืองพร้อมด้วย น.ส.โสรญา จันทร์สว่าง และน.ส.ปรียาภรณ์ จันทร์สว่าง เมื่อขับรถไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ได้เกิดเฉี่ยวชนกับรถเก๋งฮอนด้าที่วิ่งสวนทางมา ส่งผลให้คนในรถทั้ง 2 คัน บาดเจ็บ และเสียชีวิตดังกล่าว
,ส่วนการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า อาจมาจากถนนบริเวณที่เกิดเหตุเป็นถนนคอขวด 2 ช่องจราจร ประกอบกับเส้นจราจรไม่ชัดและมืด ไม่มีไฟส่องสว่าง ทำให้เกิดอุบัติเหตุบริเวณนี้เป็นประจำ ซึ่งรายละเอียดจะทำการสอบสวนต่อไป. | อุบัติเหตุเก๋งมิตซูบิชิชนประสานงาฮอนด้า บริเวณถนนสาย 3079 นิคม 304 บ้านหนองกระทุ่ม ศรีมหาโพธิ ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เจ็บ 3 ราย ซึ่งบริเวณดังกล่าว ตร.เผยได้เกิดเหตุประจำ และเป็นถนนคอขวด 2 ช่องจราจร | ข่าว,ทั่วไทย | ประสานงา,เก๋งชนประสานงา,ถนนสาย 3079,ชนดับ1เจ็บ3,ศรีมหาโพธิ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1176873 |
5 เคล็ด(ไม่)ลับ ดูแล เล็บ ยังไงไม่ให้เปราะบาง ฉีก หักง่าย | จริงอยู่กับคำกล่าวที่ว่า ,ผู้หญิงอย่าหยุดสวย ,แม้ว่าการเพ้นท์หรือทาเล็บจะช่วยเสริมบุคลิกให้สาวๆ ดูสวยงามและโดดเด่นแล้ว มันยังเป็นปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ ,เล็บ, ของเราเปราะบางได้ง่ายด้วยนะ หากใครกำลังประสบปัญหาดังกล่าวอยู่ อย่าเพิ่งกลุ้มใจไปค่ะ,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ ,มีทริคดูแลให้ ,เล็บ, ที่เปราะบางกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง จะมีวิธีไหนบ้างไปดูกันเลย,ก่อนอื่น เรามาดูกันดีกว่าว่า เล็บเปราะบาง เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง?,1. ร่างกายขาดสารอาหารบางชนิด,ธาตุเหล็ก เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเล็บ นอกจากนี้ยังมีสารอาหารที่สำคัญไม่แพ้กันคือ วิตามินบี สังกะสี และโปรตีน,2. ขาดความชุ่มชื้น ,การล้างมือบ่อยๆ การสัมผัสผลิตภัณฑ์สารเคมีก็ทำให้ความชุ่มชื้นของตัวเล็บเสียไปด้วย ทำให้เล็บเปราะบางมากขึ้น และหักง่าย ซึ่งทางที่ดีนั้นเปลี่ยนมาเป็นการทาครีมบำรุงจะดีกว่าค่ะ,3. พฤติกรรมเสี่ยงต่อเล็บ,การใช้เล็บแงะ แกะ ฉีกกับของแข็ง นอกจากทำให้เล็บฉีกขาดง่าย ยังส่งผลให้เล็บบิ่นผิดรูปอีกด้วย,4. การทำเล็บบ่อย,ในที่นี้เราไม่ได้ห้ามให้สาวๆ หยุดทำนะ เพียงแต่ควรเว้นช่วงบ้าง ให้เล็บได้พักผ่อน เพราะเล็บที่เราล้างหรือขูดออก รู้หรือไม่ว่าหน้าเล็บเราก็ถูกขูดออกไปด้วย นี่แหละสาเหตุที่ทำไมเล็บถึงบางและฉีกง่าย,วิธีการดูแลเล็บเปราะหักง่าย,1. รับประทานอาหารหลากหลาย,อย่างที่กล่าวไปข้างต้น การรับประทานอาหารประเภท วิตามินบี ธาตุเหล็ก สังกะสี โปรตีน หรือง่ายๆ คือ การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ จะช่วยสร้างให้เล็บมีความแข็งแรง,2. ดื่มน้ำเยอะๆ,การดื่มน้ำเยอะๆ นอกจากจะช่วยให้ร่างกายได้รับความชุ่มชื้น เล็บก็พลอยชุ่มชื้นไปด้วย แต่ไม่รวม กาแฟ ชา น้ำอัดลมนะ,3. ปกป้องมือและเล็บด้วยการใส่ถุงมือ,หากจำเป็นต้องสัมผัสสารเคมี แนะนำให้ใส่ถุงมือด้วยนะจ๊ะ เพื่อป้องกันไม่ให้สารเคมีเข้าไปทำลายหน้าเล็บค่ะ,4. ลดการทาเล็บ,ข้อนี้อาจจะขัดใจสาวๆ หลายคน แต่ถ้าสภาพเล็บเราแย่เราก็ต้องทนนะ เพื่อให้เล็บกลับมาสุขภาพแข็งแรงอีกครั้ง ถ้าสภาพเล็บพร้อมแล้ว ก็ค่อยไปทำสวยกันนะจ๊ะ,5. ทาครีมบำรุง,เบสิกสุดๆ กับวิธีนี้ คุณสาวๆ ต้องขยันทานะ ท่องไว้ว่า ยิ่งทาบ่อยได้ยิ่งดี นอกจากมือจะนุ่มแล้ว เล็บก็ชุ่มชื้นด้วย. | ปัญหาเรื่อง เล็บ โดยเฉพาะ เล็บเปราะบาง ส่งผลให้เล็บฉีกหักง่าย เกิดขึ้นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยเฉพาะสาวๆ ที่รักการทำเล็บเป็นชีวิตจิตใจ | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | เล็บ,วิธีดูแลเล็บเปราะ,เล็บเปราะ,ความงาม,สุขภาพเล็บ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/beauty/1490270 |
18 ล้อ เกี่ยวสายไฟฟ้าแรงสูง ทำเสาไฟ ล้ม 17 ต้น ย่าน ถ.เทพารักษ์ | เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 ธ.ค.60 ร.ต.อ.หญิง ศุภนันท์ จิตรเนียม รองสว.(สอบสวน) สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีรถเทรลเลอร์ 18 ล้อเฉี่ยวชนสายไฟบริเวณถนนเทพารักษ์ขาออกช่วง กม.ที่ 21 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง ทำให้สายไฟถูกดึงรั้ง และมีเสาไฟบางต้นล้มทับบ้านประชาชนที่อยู่ริมถนน จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญู,ในที่เกิดเหตุ ตรงข้ามซอยไทยประกัน 1 ถนนเทพารักษ์ พบรถเทรลเลอร์ 18 ล้อ บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์เปล่า ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียนหัวลาก 70-0692 นครพนม และพ่วงท้ายหมายเลขทะเบียน 70-0693 นครพนม ของบริษัท วายทูเค ชิปปิ้ง จอดอยู่ข้างถนน ด้านบนของหลังคารถหัวลากเกี่ยวสายไฟฟ้าคาอยู่ ทำให้เสาไฟฟ้าบริเวณดังกล่าวหักโค่นและล้มลงจำนวน 17 ต้น ระยะทางยาวกว่า 600 เมตร ส่งผลให้การจราจรติดขัดยาวกว่า 2 กิโลเมตร โดยมีเสาไฟฟ้าบางต้นหักโค่นใส่แผ่นป้ายชื่อบริษัท และหลังคาบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในละแวกดังกล่าว ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับในบริเวณดังกล่าว แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต,สอบสวน นายสราวุธ กิจนารา อายุ 44 ปี คนขับรถเทรลเลอร์ 18 ล้อ ให้การเบื้องต้นว่า ตนขับรถคันดังกล่าวมาตาม ถ.เทพารักษ์ ขาออก เพื่อมารับสินค้า จังหวะที่กำลังเลี้ยวซ้าย เพื่อนำรถเข้าจอดบริเวณลานดินที่อยู่ริมถนนเทพารักษ์ หลังคาของหัวรถก็ไปเกี่ยวเข้ากับสายไฟ ทำให้สายไฟถูกดึงรั้งลงมาและเสาไฟฟ้าหักโค่นล้มมาทับบ้านเรือนประชาชน และห้างร้านในบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหายจำนวนมาก,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อประสานไปยังการไฟฟ้านครหลวง ให้มาตัดกระแสไฟ ก่อนจะเกิดอันตรายกับประชาชน และปักเสาใหม่ เพื่อจ่ายไฟให้ประชาชนได้ใช้งานตามปกติ โดยคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟให้ใช้ได้ครบภายในคืนนี้ ส่วนคนขับรถทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมก่อนแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป. | รถบรรทุก 18 ล้อ เกี่ยวสายไฟฟ้าแรงสูง ทำเสาไฟหักล้ม 17 ต้น บริเวณถนนเทพารักษ์ ขาออก ช่วง กม.ที่ 21 ต.บางเสาธง สมุทรปราการ ไฟดับ จนท.เร่งซ่อม คาดจ่ายไฟเป็นปกติภายในคืนนี้ โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต | ข่าว,ทั่วไทย | รถบรรทุก 18 ล้อ,เกี่ยวสายไฟฟ้าแรงสูง,เสาไฟฟ้าล้มหัก,เทพารักษ์,สมุทรปราการ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1161472 |
หมอแฮร์ริส เตรียมกลับออสเตรเลีย พ่อเสียชีวิต ในวันเสร็จภารกิจถ้ำหลวง | เมื่อ 11 ก.ค. 61 สื่อต่างประเทศรายงาน นายแพทย์ริชาร์ด แฮร์ริส วิสัญญีแพทย์ชาวออสเตรเลีย จะเดินทางจากประเทศไทย กลับออสเตรเลีย ภายในเร็วๆนี้ หลังได้รับแจ้งข่าวเศร้า จากนายแพทย์แอนดรูว์ เพอร์ซี ผู้อำนวยการ Clinical Service ของ South Australian Ambulance Service (SAAS MedSTAR) ซึ่งให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมง ที่รัฐเซาท์ออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลียว่า บิดาของนายแพทย์แฮร์ริสได้เสียชีวิตแล้ว เมื่อคืนวันอังคารที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา,นายแพทย์แอนดรูว์ เพอร์ซี ผู้อำนวยการ Clinical Service ของ SAAS MedSTAR ได้ออกแถลงการณ์ว่า เป็นความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ในการยืนยันว่าบิดาของนายแพทย์แฮร์ริสได้จากไปเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากภารกิจช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ได้ประสบความสำเร็จเพียงไม่นาน โดยนายแพทย์เพอร์ซี ยังระบุว่า นายแพทย์แฮร์ริสจะกลับออสเตรเลียเร็วๆ นี้ และขอร้องถึงความเป็นส่วนตัวของครอบครัวในช่วงเวลาที่เศร้าโศกนี้,ขณะที่ แถลงการณ์ของนายแพทย์เพอร์ซี ยังได้ระบุด้วยว่า ทีม SAAS รู้สึกภูมิใจอย่างเหลือเชื่อต่อภารกิจที่นายแพทย์แฮร์ริสได้ทำที่ถ้ำหลวง แฮร์ริสเป็นผู้ชายที่เงียบๆ และใจดี ซึ่งไม่เคยคิดทบทวนรอบสองเกี่ยวกับการช่วยเหลือสนับสนุนในภารกิจของเขา พวกเรารู้สึกดีใจที่แฮร์ริสและเด็กๆ-โค้ชทีมหมูป่าปลอดภัย ซึ่งแฮร์ริสยังมีบทบาทที่โดดเด่น ในความช่วยเหลือสนับสนุนของออสเตรเลียในภารกิจนี้ แถลงการณ์จากนายแพทย์เพอร์ซี,ด้านเว็บไซต์ Sydney Morning Herald ระบุว่า เบื้องต้น ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้บิดาของนายแพทย์แฮร์ริส เสียชีวิตแต่อย่างใด ทั้งนี้ นายแพทย์แฮร์ริส ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการดำน้ำในถ้ำ จนเป็นหนึ่งในฮีโร่ช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่า นอกจากจะเป็นแพทย์ที่เข้าไปตรวจและประเมินสุขภาพของเด็กๆ และโค้ชทีมหมูป่า ก่อนภารกิจลำเลียงพาออกจากถ้ำจะเริ่มขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาแล้ว นายแพทย์แฮร์ริสยังได้ประเมินเด็กๆ เป็นรายบุคคลก่อนที่ทีมนักประดาน้ำจะพาดำน้ำออกจากถ้ำหลวงด้วย เพื่อต้องการให้มั่นใจว่าเด็กทุกคนมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะดำน้ำออกไปอย่างปลอดภัย,อ่านข่าว,ปล่อยไว้อาจไม่รอด หมอแฮร์ริส เปลี่ยนแผน พา4หมูป่าอ่อนแอสุดออกถ้ำก่อน,สุดเศร้า หมอแฮร์ริส ได้รับข่าว พ่อเสียชีวิต หลังเสร็จภารกิจถ้ำหลวง | หมอแฮร์ริส หนึ่งในฮีโร่ช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวง เตรียมกลับออสเตรเลีย ได้รับแจ้งข่าวพ่อเสียชีวิต ไม่กี่ชั่วโมง หลังเสร็จภารกิจที่ถ้ำหลวง | ข่าว,ต่างประเทศ | ถ้ำหลวง,13ชีวิตติดถ้ำหลวง,หมอแฮร์ริส,ริชาร์ด แฮร์ริส,หมอฮีโร่ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1332181 |
พม่ามอบที่ดินไม่ครบ ทำสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 ล่าช้า เสร็จไม่ทันสิ้นปี60 | เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ไทยและเมียนมา ลงนามเอ็มโอยูก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมยและตองยิน แห่งที่ 2 วงเงิน 3,910 ล้านบาทอย่างเป็นทางการ หลังมีการวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อ 30 ส.ค.58 โดยจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 60 ไทยให้ความช่วยเหลือค่าก่อสร้างในฝั่งเมียนมา เพื่อเชื่อมเส้นทางรองรับปริมาณการเดินทางและสินค้าที่เพิ่มมากขึ้นของสองฝั่งและหนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด แต่ขณะนี้เจออุปสรรคเพราะเมียนมาส่งมอบพื้นที่ให้ได้แค่ครึ่งเดียวอาจทำโครงการล่าช้า ส่วนสะพานแห่งที่ 1 ขณะนี้การจราจรแออัดมาก เพราะมีรถสินค้าข้ามมากจนบางวันรถตกค้างข้ามไม่ทัน,นายจงจิต เต็งยะ ผู้อำนวยการทางหลวงตากที่ 4 เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างถนนสาย 130 และสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 บริเวณบ้านวังตะเคียน ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด และสะพานลูกอีก 6 แห่ง การก่อสร้างสะพานไม่มีปัญหาขณะนี้คืบหน้าไปกว่า 92 เปอร์เซ็นต์ ส่วนถนนฝั่งไทย 17 กิโลเมตร ขณะนี้คืบหน้าไปแล้ว 58 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้ อุปสรรคคือทางฝั่งเมียนมายังส่งมอบที่ดินไม่ครบ จากการประชุมร่วมทางเมียนมารับปากจะมอบให้ครบในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่จนบัดนี้ได้เพียง 2.2 กิโลเมตร ยังขาดอีกครึ่งหนึ่ง ทำให้การก่อสร้างถนนฝั่งเมียนมาที่ต่อช่วงจากหัวสะพานต้องชะงัก ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากการเวนคืนที่ดินของเขาล่าช้าจึงทำให้เกิดปัญหากับการก่อสร้างอาจจะไม่แล้วเสร็จตามสัญญา | พม่าส่งมอบพื้นที่สร้างถนนเชื่อมสะพานมิตรภาพ ไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ไม่ครบตามสัญญา ทำโครงการล่าช้าเสร็จไม่ทันสิ้นปีนี้ คาดสาเหตุจากการเวนคืนที่ดิน | ข่าว,ทั่วไทย | สะพานมิตรภาพ แห่งที่ 2,ไทย-เมียนมา,ตาก,เวนคืนที่ดิน,สร้างสะพานมิตรภาพ | https://www.thairath.co.th/news/local/838717 |
อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล เราไม่ทิ้งกัน ขึ้นแบบนี้จะได้รับเงิน 5000 ไหม | สถานะเราไม่ทิ้งกัน เช็กชัดๆ ขึ้นข้อความ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลที่นำส่งเพิ่ม หรือ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลที่ขอทบทวนสิทธิ์ อยู่ขั้นตอนไหน มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยา 5000 บาทหรือไม่จากกรณีรัฐบาลเปิดมาตรการเยียวยาลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ นอกระบบประกันสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 จะได้รับเงินสนับสนุนรายละ 5000 บาทต่อเดือน โดยต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เท่านั้น ซึ่งล่าสุดได้ปิดการลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ไปแล้ว แต่ยังเปิดเว็บให้ตรวจสอบสถานะ ยกเลิกการลงทะเบียน ยื่นทบทวนสิทธิ์ เปลี่ยนแปลงข้อมูลการรับเงิน และยื่นข้อมูลเพิ่มเติมได้ล่าสุด นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เผยว่า ประชาชนสามารถเข้าไปตรวจสอบสถานะล่าสุดด้วยตนเองได้ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com โดยคลิกคำว่า ตรวจสอบสถานะ (ปุ่มสีเทา) ซึ่งเป็นวิธีการที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดเนื่องจากจะมีการปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันทุกวัน ไม่มีค่าใช้จ่ายและลดการเผชิญความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยหน้าจอจะแสดงผลเป็นสถานะต่างๆสำหรับวิธีตรวจสอบสถานะได้ง่ายๆ ว่าได้รับเงินมาตรการเยียวยา 5000 บาท หรือไม่ได้ทันที เพียงทำตาม 3 ขั้นตอนต่อไปนี้1. เข้าไปที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com2. เลือกเมนู ตรวจสอบสถานะ หรือ (คลิกที่นี่)3. กรอกข้อมูลส่วนตัว อาทิ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ และ วัน/เดือน/ปี เกิดทั้งนี้ เมื่อทำการ ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนมาตรการเยียวยาฯ จะมีข้อความดังกล่าวขึ้นดังต่อไปนี้หากขึ้นข้อความว่า : อยู่ระหว่างปรับปรุงสถานะการลงทะเบียนของท่าน (ไม่สามารถยกเลิกการลงทะเบียนได้)ความหมาย คือ ได้รับสิทธิ์ รอการโอนเงินหากขึ้นข้อความว่า :ท่านได้รับสิทธิ์มาตรการเยียวยา 5000 บาท กระทรวงการคลังจะดำเนินการโอนเงินให้ท่านโดยเร็วที่สุดความหมาย คือได้รับสิทธิ์ โปรดรอรับการโอนเงินเข้าบัญชีหรือพร้อมเพย์ที่ได้ลงทะเบียนไว้หากขึ้นข้อความว่า : อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลที่นำส่งเพิ่มความหมาย คือโปรดรอการตรวจสอบข้อมูลหรือการลงพื้นที่ของผู้พิทักษ์สิทธิ์ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้อย่างรวดเร็วหากขึ้นข้อความว่า : อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลที่ขอทบทวนสิทธิ์ความหมาย คือ โปรดรอการตรวจสอบข้อมูลหรือการลงพื้นที่ของผู้พิทักษ์สิทธิ์ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้อย่างรวดเร็วหากขึ้นข้อความว่า : ไม่ได้รับสิทธิ์ความหมาย คือไม่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองสามารถขอทบทวนสิทธิ์ได้ ยื่นทบทวนสิทธิ์ (ปุ่มสีม่วง)อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังได้กำหนดปิดรับยื่นทบทวนสิทธิ์ในวันอาทิตย์ที่ 10 พ.ค. 2563 เวลา 24.00 น. | สถานะเราไม่ทิ้งกัน เช็กชัดๆ ขึ้นข้อความ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลที่นำส่งเพิ่ม หรือ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลที่ขอทบทวนสิทธิ์ อยู่ขั้นตอนไหน มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยา 5000 หรือไม่ | ข่าว,เศรษฐกิจ | เราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน,www.เราไม่ทิ้งกัน.com,เงินเยียวยา 5000 บาท,โควิด-19,ตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน,สถานะเราไม่ทิ้งกัน | https://www.thairath.co.th/news/business/1837629 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.