title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
เทศน์ทศชาติ เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จฯพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 | จึงจัดงานเทศน์ทศชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา และในวาระที่สายปัญญาสมาคมฯ ก่อตั้งครบ 80 ปี โดยชมรมผู้รู้คุณแผ่นดิน เป็นเจ้าภาพในพระชาติที่ 5 ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมทบทุนกิจการในอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ภายในงานมีคณะกรรมการชมรมคณะครูและนักเรียนโรงเรียนสายปัญญาฯ เข้าร่วมในพิธี ณ หอประชุมชั้น 5 โรงเรียนสายปัญญาฯ,ทั้งนี้ ทศชาติชาดก เป็นชาดกที่สาคัญ กล่าวถึง 10 ชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ ก่อนจะเสวยพระชาติมาเกิดเป็นเจ้าชายสิทธัตถะแห่งศากยวงศ์ และตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า นาม พระสมณโคดม ชาดกทั้ง 10 เรื่องจะกล่าวถึงการบำเพ็ญบารมีต่างๆ และปรากฏหลักธรรมที่สามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต การปฏิบัติต่อผู้อื่น การครองเรือน การปกครอง เป็นต้น ซึ่งหลักธรรมในทศชาติเป็นแนวทางที่ทำให้ผู้ปฏิบัติตาม สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างราบรื่น แบ่งออกเป็นหลักธรรมเด่นๆ 2 ลักษณะ ได้แก่ หลักธรรมอันเกิดจากการปฏิบัติ เพื่อสั่งสมบารมีในตนและนำไปใช้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม และหลักธรรมอันเกิดจากการปฏิบัติเพื่อผู้อื่น,สำหรับพระชาติที่ 5 คือพระชาติพระมโหสถ ที่ทรงบำเพ็ญปัญญาบารมี (ทำใจให้เต็มด้วยปัญญา) ด้วยการใช้ปัญญาอันเฉียบแหลม ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ จนสามารถฟันฝ่าอุปสรรคของชีวิต ทั้งเป็นผู้ทรงคุณธรรมยอมไว้ชีวิตผู้ที่คิดทำร้ายตน. | การเทศน์ทศชาติ ทศบารมี นับเป็นประเพณีสำคัญในพระพุทธศาสนาของไทยมาแต่โบราณกาล ซึ่งหลักธรรมในทศชาติถือเป็นมหากุศลแก่ผู้ที่ได้รับฟัง คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ในฐานะประธานชมรมผู้รู้คุณแผ่นดิน | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | เทศน์ทศชาติ ทศบารมี,สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ,งานเทศน์ทศชาติเฉลิมพระเกียรติ,ปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล,ชมรมผู้รู้คุณแผ่นดิน | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/1353146 |
หลายเมืองทั่วโลกร่วมอวยพรวันเกิด ออง ซาน ซูจี ปีที่ 65 | ผู้นำหลายประเทศส่งสารอวยพรวันเกิด ขณะที่หลายเมืองทั่วโลก ร่วมจัดกิจกรรมอวยพรวันเกิด ออง ซาน ซูจีนางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ และปัจจุบันถูกกักบริเวณในบ้านพักริมทะเลสาบอินยา ในนครย่างกุ้ง ฉลองวันเกิดปีที่ 65 ที่บ้านพักเมื่อวาน (19 มิ.ย.) ด้วยการเลี้ยงอาหารกลางวันบรรดาคนงานก่อสร้าง ที่มาช่วยซ่อมแซมเรือนพักขนาด 2 ชั้นที่นางพำนักอยู่ โดยไม่สามารถเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงที่สมาชิกพรรคฝ่ายค้านร่วมกันจัดให้ โดยรัฐบาลทหารพม่าอนุญาตให้ผู้สนับสนุนนำของขวัญไปให้กับนาง แต่ต้องมีการบันทึกภาพการเข้าออกในบริเวณบ้านพักไว้ในย่างกุ้งแม้ว่านางซูจีจะไม่ได้มาร่วมงานด้วย ได้ผู้สนับสนุนซูจีกว่า 300 คน ได้จัดงานฉลองเล็กๆ ที่บ้านพักแกนนำพรรค NLD คนหนึ่ง มีการทำบุญเลี้ยงพระ จุดเทียน 65 เล่ม ปล่อยนกพิราบ 65 ตัว ปลูกต้นไม้ 20000 ต้น รวมทั้งแจกของให้กับเด็กยากไร้ทั้งนี้ พม่าขยายเวลาในการกักบริเวณนางซูจี เมื่อปีที่แล้ว หลังจากนางถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดฐานละเมิดกฎการควบคุมตัว เมื่อมีชายจอห์น ยิตทอว์ ชาวอเมริกันว่ายน้ำไปยังบ้านพักของนางนอกจากนี้มีรายงานการจัดงานวันเกิดให้กับนางออง ซาน ซูจี ในหลายประเทศ ทั้งในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ดับลิน ในไอร์แลนด์ ไทเป ในไต้หวัน ปารีสและสตาร์สบูร์ก ในฝรั่งเศส เบลเยี่ยม หลายเมืองในสวีเดน บาร์เซโลน่าในสเปน ทรอนด์เฮม แบร์เกน และคริสเตียนซุน ในนอร์เวย์ โตรอนโตในแคนาดา นิวยอร์กและวอชิงตันดีซี ในสหรัฐอเมริกา ซิดนีย์ในออสเตรเลีย โอ๊คแลนด์ในนิวซีแลนด์ กรุงเทพ ตาก และเชียงใหม่ ในประเทศไทย มะนิลา และดาเวาในฟิลิปปินส์ นิวเดลี ในอินเดียนอกจากนี้มีการจัดงานวันเกิดให้ออง ซาน ซูจี ที่กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ค โดยเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. นักกิจกรรมได้เขียนภาพนางออง ซาน ซูจีที่ย่านกลางเมือง และเชิญชวนผู้คนเขียนข้อความอวยพรวันเกิดนางออง ซาน ซูจี ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกงนักกิจกรรมพยายามประท้วงที่อาคารที่ตั้งสถานทูตพม่าในฮ่องกง เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางออง ซาน ซูจี นอกจากนี้มีการจัดวันเกิดให้นางออง ซาน ซูจี ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ที่ประเทศสิงคโปร์ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และที่เมืองบูชอน ทางตะวันตกของกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ด้วยด้านนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องให้ผู้นำรัฐบาลทหารพม่าปล่อยตัวนางซู จี และนักโทษการเมืองคนอื่นๆ ทั้งหมด โดยกล่าวว่า นักโทษการเมืองทั้งหมดในพม่า รวมทั้งนางซูจี ควรได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไขโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ได้เข้าร่วมกระบวนการทางการเมืองในขณะที่พม่ากำลังจะมีการเลือกตั้งในปีนี้ด้านประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา บารัก โอบาม่า ระบุในสารอวยพรวันเกิดของนางออง ซาน ซูจี ว่าขอส่งสารแสดงความปรารถนาดีของข้าพเจ้าไปยังนางออง ซาน ซูจี ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเพียงคนเดียวที่ยังถูกจองจำ ในโอกาสที่วันคล้ายวันเกิดของท่านเวียนมาในปีที่ 65 ในวันที่ 19 มิ.ย. ขอชื่นชมความมุ่งมั่น ความกล้าหาญ และการเสียสละส่วนตัวทุ่มเททำงานเพื่อมนุษยชนและการเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยในพม่า จะเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราทุกคนผู้ยืนอยู่เคียงข้างเสรีภาพและความยุติธรรมด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาส่งคำอวยพรไปถึงนางออง ซาน ซูจี โดยนายฟิลิป โครวลีย์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวในแถลงการณ์ว่า การต่อสู้อย่างทรหดของนางซูจี เพื่อสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคนในพม่า เพื่อให้พวกเขาได้มีเสรีภาพ จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับประชาชนไปจนวาระสุดท้ายของโลกรัฐบาลอังกฤษออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาลทหารพม่าปล่อยตัวนางซูจีทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข โดยนายวิลเลียม เฮก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ กล่าวว่า การกักบริเวณนางออง ซาน ซูจี ต่อไปพร้อมกับนักโทษการเมืองอีกกว่า 2100 คนในพม่า เป็นการฝ่าฝืนกฎสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และทำให้การเลือกตั้งในปลายปีนี้ไร้ความสง่างาม ส่วนนายเจเรมี บราวนี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ายเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า รัฐบาลทหารพม่าควรยอมรับข้อเสนอการเจรจาของนางออง ซาน ซูจี เพื่อช่วยนำพาประเทศไปสู่การมีรัฐบาลพลเรือนที่โปร่งใสตรวจสอบได้ด้านกลุ่มผู้นำอาวุโสโลก หรือดิ เอลเดอร์ ก่อตั้งโดยเนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ และมีสมาชิกเป็นผู้นำเก่าของนานาประเทศ เช่น นายโคฟี่ อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ นายจิมมี่ คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ อาร์กบิชอป เดสมอนต์ ตูตู เดินทางมาประชุมร่วมกันที่แอฟริกาใต้ และออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลทหารพม่าปล่อยตัวนางออง ซาน ซู จี ผู้นำประชาธิปไตยที่ยังถูกกักบริเวณอาร์กบิชอปตูตู กล่าวว่า ความแตกแยกร้าวลึกในสังคม อันเกิดจากการปกครองโดยรัฐบาลทหารพม่ามากว่าครึ่งศตวรรษ และเรียกร้องให้มีการปรองดองเพื่อ สร้างสรรค์สันติภาพและความมั่งคั่งให้กับประชาชนพม่าจิมมี่ คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และผู้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2002 กล่าวว่า ในขณะที่นางออง ซาน ซูจี ถูกจองจำมาหลายปี ขอเรียกร้องไปยังประชาคมโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นส่วนของพม่าในอาเซียนให้ตระหนักว่า นี่เป็นการกดขี่และเป็นการชี้นำที่ผิดของรัฐบาลทหารพม่าที่กีดกันนางออง ซาน ซูจี และนักกิจกรรมทางการเมืองนับพันๆ ให้พ้นจากการเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตประเทศของพวกเขาทั้งนี้กลุ่มประเทศอาเซียนหรือสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถูกวิจารณ์อย่างหนักอันเนื่องมาจากอาเซียนมีนโยบายไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศสมาชิกรวมทั้งพม่านอกจากนี้ นายวินติน (Win Tin) หนึ่งในผู้ก่อตั้งพรรคเอ็นแอลดีอาวุโสอายุ 81 ปี ซึ่งเพิ่งถูกปล่อยตัวในเดือนกันยายนปี 2551 หลังถูกรัฐบาลทหารพม่าจองจำ 19 ปี ได้เขียนจดหมายด้วยลายมือส่งไปถึงหนังสือพิมพ์ (the Independent) ของอังกฤษ นายวินตินเขียนจดหมายว่า ข้าพเจ้าต้องการกล่าวซ้ำและป่าวประกาศข้อความของนางออง ซาน ซูจีที่ว่า โปรดใช้เสรีภาพของท่านเพื่อบอกเล่าเรื่องของพวกเรา ข้าพเจ้าอยากเพิ่มข้อความเข้าไปอีกว่า โปรดนำเสรีภาพมาให้พวกเรามากยิ่งๆ ขึ้นไปอีก เพื่อพม่า อันเป็นประเทศของเรา พวกเรากระหายเสรีภาพ พวกเรารอคอยบางคน บางองค์กร บางชาติจะนำเสรีภาพมาสู่พวกเราขณะที่หนังสือพิมพ์ (the Guardian) ของอังกฤษเผยแพร่ภาพที่ไม่เคยตีพิมพ์ที่ไหนของนางออง ซาน ซูจี เพื่อระลึกถึงวันเกิดของเธอ โดยเป็นภาพที่ได้รับจากครอบครัวของนางออง ซาน ซูจี เป็นภาพของนางออง ซาน ซูจี ก่อนที่จะกลับไปยังพม่าในปี 1988 เป็นภาพก่อนที่จะถูกกักบริเวณภายในบ้านWorld unites to honour Suu Kyi DVB 19 June 2010 Aung San Suu Kyis desperate plea to the world By Andrew Buncombe Asia Correspondent The Independent Friday 18 June 2010 Aung San Suu Kyi: the unseen photo album the Guardian 17 June 2010 Aung San Suu Kyis 65th Birthday Celebrated In Over 22 Cities Worldwide Burma Campaign 18 Jun 2010 | ออง ซาน ซูจี ซึ่งถูกกักบริเวณในบ้านพักริมทะเลสาบ ในย่างกุ้ง เลี้ยงอาหารคนงานที่มาซ่อมแซมบ้าน ในโอกาสวันเกิดปีที่ 65 ส่วนสมาชิกพรรคเอ็นแอลดีจัดทำบุญเลี้ยงพระ ปล่อยนก และปลูกต้นไม้ 2 หมื่นต้น | ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน | นักโทษการเมือง,พม่า,พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย,ย่างกุ้ง,อองซานซูจี,อาเซียน,เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ | https://prachatai.com/journal/2010/06/30046 |
เกาหลีเหนือ เปิดโรงเรียนฝึกสอนฟุตบอลนานาชาติ | เกาหลีเหนือเปิดตัวโรงเรียนฝึกสอนฟุตบอลนานาชาติ ที่กรุงเปียงยาง ซึ่งมีนักฟุตบอลชาย-หญิงรวม 80 คน ซึ่งใช้ผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีเหนือเป็นผู้ดูเเล เเต่ในอนาคตทาง จาง ซองเเต็ก ลุงของคิม จองอึน ผู้นำหมายเลข 1 ของเกาหลีเหนือ มีเเผนดึงตัวผู้ฝึกสอนชาวต่างชาติฝีมือดีเข้ามาเสริมสร้างทักษะให้กับนักกีฬา เพื่อเป้าหมายในการสร้างนักฟุตบอลฝีเท้าดีขึ้นมาติดทีมชาติในอนาคต หลังจากเกาหลีเหนือ สามารถผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลลีกรอบสุดท้าย 2 ครั้ง ในปี 1966 เเละล่าสุดในปี 2010 ที่เเอฟริกาใต้การเเข่งขันเทนนิสเฟร้นช์โอเพ่น ที่โรลังด์กาโรส ประเทศฝรั่งเศส รอบ 16 คนสุดท้าย โนวัค จอโควิช มือ 1 จากเซอร์เบีย พลิกสถานการณ์กลับมาชนะ ฟิลิปป์ โคห์ลชไรเบอร์ จากเยอรมันนี 3-1 เซต คะแนน 4-6 6-3 6-4 และ 6-4 ทำให้จอโควิช เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย พบทอมมี ฮาส จากเยอรมันนีอีกคู่ มาเรีย ชาราโปวา มือ 2 จากรัสเซีย ชนะ สโลเน่ สตีเฟนส์ จากสหรัฐอเมริกา 2 เซตรวด คะแนน 6-4 6-3 | ประเทศเกาหลีเหนือ เปิดตัวโรงเรียนฝึกสอนฟุตบอลนานาชาติ เพื่อสร้างนักฟุตบอลขึ้นมาสู่ทีมชาติในอนาคต | กีฬา | ฟุตบอล,เกาหลีเหนือ,เปิดตัว,โรงเรียน | https://news.thaipbs.or.th/content/174144 |
จับแล้ว สองหนุ่มขับสปีดโบ๊ตเกาะล้าน ข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวจีน | วันที่ 3 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี เมื่อช่วงค่ำคืนวันที่ 2 ก.ย. 58 ที่ผ่านมา ร.ต.ท.หญิง ช่อผกา พฤกษชาติ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว พัทยา สอบปากคำ 2 นักท่องเที่ยว สาวชาวจีน อายุ 23-24 ปี หลังจากเธอทั้งสองคนอ้างว่า ถูกคนร้ายล่วงละเมิดทางเพศ เหตุเกิดที่บนเกาะล้าน ม.7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูลกับผู้สื่อข่าว โดยให้เหตุผลว่า อยู่ในระหว่างสอบสวนหาข้อเท็จจริง ส่วนบรรยากาศภายในห้องสอบสวน ทางตำรวจได้สอบปากคำผู้เสียหาย ผ่านล่ามแปลภาษาจีน โดยใช้เวลาสอบเครียดนานกว่า 7 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ,ต่อมาเวลา 03.00 น. วันที่ 3 ก.ย. ทางพนักงานสอบสวน ได้นำผู้เสียหายพาขึ้นรถเก๋ง ออกจาก สภ.พัทยา ไปโดยไม่ทราบที่หมาย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น,ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 3 ก.ย. พ.ต.ท.ปวัชร์ชัย สุดสคร รอง.ผกก.ปป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหายชาวจีนทั้ง 2 คน ให้การว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายทั้ง 2 คน ได้พบกับ นายสุรชัย หาญเชิงชัย อายุ 22 ปี และ นายพีมะ เราะเนาะ อายุ 19 ปี พนักงานเรือสปีดโบ๊ต ธนชล ที่บริเวณหาดหน้าบ้านเกาะล้าน แล้วได้ขอเช่าเรือ เพื่อไปเล่นน้ำที่หาดนวล ในราคา คนละ 200 บาท จากนั้น นายสุรชัยและนายพีมะ จากนั้นผู้เสียหายทั้ง 2 คน ได้ใช้เวลาลงไปเล่นน้ำที่หาดนวลเป็นเวลากว่า 40 นาที ภายหลังจากเล่นน้ำเสร็จ ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน ได้พาขับเรืออ้อมหลังเกาะ แล้วจอดบริเวณโขดหินซึ่งเป็นจุดที่ปลอดคน จากนั้นทั้ง 2 คน พยายามข่มขืนผู้เสียหายทั้ง 2 คน โดยใช้ไขควงเป็นอาวุธในการข่มขู่ จนสำเร็จความใคร่ และได้ส่งกลับที่เดิมบริเวณหาดหน้าบ้าน,จากนั้น ผู้เสียหายชาวจีนทั้ง 2 คน ได้เดินทางเข้าแจ้งความเพียงว่า พาสสปอร์ตหาย เนื่องจากกลัวและอับอาย แต่ผู้เสียหายทั้ง 2 ได้นำเรื่องราวทั้งหมดไป เล่าให้กับเจ้าหน้าที่สถานทูตจีนฟัง เจ้าหน้าที่สถานทูต จึงนำคำให้การของนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้งสองคน พร้อมหลักฐานเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.หญิง ช่อผกา พฤกษชาติ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา,พ.ต.ท.ปภัชชัย สุดสาคร กล่าวต่อว่า ภายหลังรับแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยาสนธิกำลังร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว เมืองพัทยา สนธิกำลังร่วมกันลงพื้นที่หาข่าวทันที โดยใช้พยานหลักฐานชัดเจนโดยเฉพาะรูปถ่าย ที่ผู้เสียหายทั้งสองคน ถ่ายผู้ก่อเหตุไว้ระหว่างรอเล่นน้ำที่หาดนวล ซึ่งเห็นรูปร่างหน้าตา และรูปพรรณสัณฐานชัดเจน จนนำไปสู้การจับกุมโดยใช้เวลาเพียงหลังจากแจ้งความเพียงไม่ถึง 2 ชม.,เมื่อเวลา 15.00 น.( 3 ก.ย.58 ) พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมจับกุม นายสุรชัย หาญเชิงชัย อายุ 22 ปี และ นายพีมะ เราะเนาะ อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยาเลขที่ จ.423/2558, จ.424/2558 ในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประกาศใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายผู้อื่นในสภาวะที่สามารถขัดขืนได้ โดย นายสุรชัย และนายพีมะ ยอมรับสารภาพ ,โดยทั้ง 2 ยอมรับว่า ลงมือข่มขืนจริง เนื่องจากเห็นนักท่องเที่ยวสาวจีน ทั้ง 2 คน ถ่ายรูปแล้วเซ็กซี่ ประกอบกับดื่มสุราทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ จึงตัดสินใจ ลงมือข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวจีนบนเรือ หลังสอบสวน จึงส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | ตร.จับแล้ว! สองหนุ่มขับเรือสปีดโบ๊ต เกาะล้าน พัทยา ใช้ไขควงเป็นอาวุธข่มขู่ จี้ บังคับขืนใจ 2 สาวนักท่องเที่ยวชาวจีน ด้านผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เตรียมนำตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย
| ข่าว,ทั่วไทย | ข่มขืน,2สาวจีน,เกาะล้าน,พัทยา,อาวุธข่มขู่,ไขควง,2สาวนักท่องเที่ยว,ช่อผกา พฤกษชาติ,พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา,ชลบุรี,บางละมุง,ปภัชชัย สุดสาคร,รอง.ผกก.ปป.สภ.เมืองพัทยา,ธนชล,เรือ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ภูมิภาค,ทั่วไทย,สปีดโบ๊ต | https://www.thairath.co.th/news/local/522740 |
ใช้กฎอัยการศึก นำ 6 ผู้ต้องสงสัย ถล่ม 15 ศพ ชรบ.ลำพะยา ส่งซักถาม | ขณะที่ อ.โคกโพธิ์ ประกาศห้ามขึ้นเขานางจันทร์ ,เมื่อช่วงย่ำรุ่งวันที่ 14 พ.ย. เจ้าหน้าที่ทหาร ทก.ยว.จาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ทหารพราน เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจ จ.ยะลา และกองกำลังพิเศษ ได้รับคำสั่งจาก พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4/ผอ.รมน.ภาค 4 ให้นำกำลังเข้าปิดล้อม ตรวจค้นบ้านเป้าหมายจำนวน 9 จุด ในพื้นที่ จ.ยะลา จำนวน 4 อำเภอ คือ อ.เมืองยะลา อ.กรงปินัง อ.บันนังสตา และ อ.กาบัง,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหารได้ใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก เพื่อตรวจค้นและเชิญตัวผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้อง และร่วมเข้าโจมตีป้อมชุดคุ้มครองตำบลลำพะยา บ้านทุ่งสะเดา หมู่ 5 ต.ลำพะยา อ.เมืองยะลา เป็นเหตุให้ ชรบ. และราษฎรเสียชีวิต 15 ราย บาดเจ็บ 5 ราย เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา,สำหรับ อ.เมืองยะลา หมู่บ้านเป้าหมายที่เข้ากดดันตรวจคันโดยเฉพาะ คือ บ้านต้นหยี หมู่ 7 ต.ลำพะยา เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อยู่ห่างจากจุดที่คนร้ายบุกเข้าโจมตี ชคต.ลำพะยา ประมาณ 4 กิโลเมตรเศษ และเป็นเขตติดต่อ อ.ยะหา ซึ่งสามารถข้ามไป อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ได้ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ต้องใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก เข้าตรวจค้นหาตัวบุคคลเป้าหมาย จนในที่สุดสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยในพื้นที่บ้านต้นหยีไว้ได้ 1 คน ซึ่งมีเบาะแสว่า เป็นบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในการประกอบวัตถุระเบิดแสวงเครื่องที่นำใช้ในการก่อเหตุครั้งนี้,เมื่อรวมกับอำเภออื่น เจ้าหน้าที่ทหารสามารถควบคุมตัวไว้ได้จำนวน จำนวน 6 คน มีนายไซนู้ญฮาบีดีน ดอเลาะกาเต, นายอาหาหมัดหูสนี บอเกาะ, นายเพาซี เจ๊ะและ, นายสาลาฮูดดีน ลำเดาะ, นายมารูวัน สาและ และ นายสุดิน เจ๊ะแว,หลังจากเสร็จสิ้นยุทธการปิดล้อมตรวจค้น เจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัวบุคคลทั้ง 6 ส่งไปยังหน่วยซักถาม โดย 3 คนแรกส่งไปที่ กรมทหารพรานที่ 41 ค่ายวังพญา ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา 3 รายหลัง ถูกส่งเข้าศูนย์ซักถาม กรม ทพ.43 และ ขกท.(ศูนย์ซักถามหน่วยข่างกรองการทหาร) ตั้งอยู่ในค่ายอิงคยุทธบริหาร หมู่ 7 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป,ขณะเดียวกัน มีประกาศอำเภอโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ลงวันที่ 13 พ.ย. โดย นายเศวต เพชรนุ้ย นอภ.โคกโพธ์ เรื่อง ขอความร่วมมือบุคคลทั่วไป งดขึ้นไปบนเขานางจันทร์เป็นการชั่วคราว ระบุว่า จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายชุดดำปกปิดใบหน้าใช้อาวุธสงครามยิงจุดตรวจ ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 15 ราย บาดเจ็บ 5 ราย ทางการพิสูจน์ได้ว่าพวกคนร้ายได้หลบหนีไปทางเทือกเขานางจันทร์ รอยต่อระหว่าง อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และ อ.เมืองยะลา จึงได้สนธิกำลัง 3 ฝ่ายเข้าปฏิบัติการเชิงรุกบริเวณเทือกเขานางจันทร์ อาจมีผลกระทบต่อประชาชนและป้องกันการเข้าใจผิดของเจ้าหน้าที่ที่ขึ้นไปปฏิบัติการ ดังนั้น เพื่อป้องกันการสูญเสีย จึงขอให้งดขึ้นไปบนเทือกเขาดังกล่าวเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 13-23 พ.ย.นี้ | กอ.รมน.ภาค 4 ใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก ตรวจค้นเป้าหมายใน 4 อำเภอของยะลา หาตัวผู้เกี่ยวข้องโจมตีป้อม ชคต.ลำพะยา เสียชีวิต 15 ศพ ล่าสุดคุมตัว 6 ผู้ต้องสงสัยส่งหน่วยซักถาม | ข่าว,ทั่วไทย | ยิง15ศพ,ยิง15ศพ ยะลา,ยิงชรบ. ยะลา,ยิงป้อมหมู่บ้านทุ่งสะเดา,ลำพะยา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1704328 |
มหาวิทยาลัยอีสาน ถูกเพิกถอนใบอนุญาต มีผล 31 ต.ค.นี้ | นักศึกษามหาวิทยาลัยอีสาน จังหวัดขอนแก่น นำหลักฐานเข้ายื่นคำร้องกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน เพื่อขอโอนย้ายสถานศึกษาไปเรียนยังสถาบันอื่น ตามที่คณะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยจัดเตรียมไว้ หรือจะขอรับค่าธรรมเนียมการศึกษาคืน ก่อนที่คำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งมหาวิทยาลัยอีสาน กระทรวงศึกษาธิการ จะมีผลภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ด้านนายธีรภัทร์ ทองแก้วกูล อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยอีสาน ระบุว่า จากการสอบถามนักศึกษาส่วนใหญ่ไม่ประสงค์จะย้ายสถานศึกษา เพราะไม่มั่นใจว่าสถานศึกษาปลายทางจะเปิดรับนักศึกษาเหล่านี้หรือไม่ โดยส่วนใหญ่ต้องการให้คณะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยเปิดการเรียนการสอนนักศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทที่มีมากกว่า 8000 คนไปจนกว่าจะจบหลักสูตรขณะที่นายอัษฎางค์ แสวงการ ตัวแทนผู้รับใบอนุญาตมหาวิทยาลัยอีสาน เข้ายื่นต่อศาลปกครองขอนแก่น เพื่อขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน กรณีการเพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งมหาวิทยาลัยอีสาน โดยให้เหตุผลว่า การเพิกถอนใบอนุญาตจะส่งผลกระทบต่อนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยกว่า 8000 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลทั้งนี้ มหาวิทยาลัยอีสาน เกิดปัญหาการซื้อขายใบประกาศนียบัตรวิชาชีพครู หรือวุฒิ ป.บัณฑิต วิชาชีพครู เมื่อปี 2551 จนนำไปสู่การเข้ามาควบคุมมหาวิทยาลัยของคณะกรรมการควบคุม กระทั่งมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งมหาวิทยาลัยในที่สุดส่วนการเยียวยาของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สกอ. มีคำยืนยันว่า นักศึกษาที่นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษา และคณะกรรมการควบคุมฯ ได้พิจารณาอนุมัติปริญญาบัตรให้แล้ว แต่ยังไม่ได้ออกใบปริญญาประมาณ 800 คนนั้น จะเร่งออกใบปริญญาบัตรให้แก่นักศึกษา ส่วนนักศึกษาที่ประสงค์จะเรียนต่อ ก็ต้องย้ายสถาบันไปยังสถานศึกษาแห่งอื่นแทน ส่วนการดูแลอาจารย์และผู้ปฏิบัติงาน จะมีการจ่ายค่าชดเชยให้ แต่ทุกคนต้องปฏิบัติตามข้อบังคับมหาวิทยาลัย | ตัวแทนผู้รับใบอนุญาตมหาวิทยาลัยอีสาน เข้ายื่นต่อศาลปกครองขอนแก่น ให้ไต่สวนฉุกเฉินการเพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งมหาวิทยาลัย โดยอ้างว่าจะส่งผลกระทบต่อนักศึกษาและบุคลากรกว่า 8000 คน ส่วนการโอนย้ายสถานศึกษาไปยังสถาบันอื่น ก่อนที่คำสั่งเพิกถอนใบจัดตั้งวิทยาลัยอีสาน กระทรวงศึกษาธิการจะมีผลภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ | สังคม | กระทรวงศึกษาธิการ,ถอนใบอนุญาต,นักศึกษา,มหาวิทยาลัยอีสาน,ใบประกาศนียบัตรวิชาชีพครู | https://news.thaipbs.or.th/content/117635 |
อิเชีย ความหอมในแบบเจ้าหญิงที่มีเอกลักษณ์ | ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกุหลาบสายพันธุ์พิเศษ มารังสรรค์ตามแบบฉบับซิสเล่ย์ ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล เมื่อเร็วๆนี้,ภายในงานจึงเหมือนเดินอยู่ในสวนกุหลาบสวย รับกับกลิ่นน้ำหอมสดชื่น อ่อนหวาน และดึงดูดใจ ซึ่ง ผู้บริหารซิสเล่ย์ รุจิตร เล่าถึงการรังสรรค์ความหอมใหม่ล่าสุดว่า อิเชีย เป็นน้ำหอมที่ได้แรงบันดาลใจของกุหลาบสายพันธุ์พิเศษ ที่เติบโตในปราสาท วานซุท (Lançut Castle) ประเทศโปแลนด์ ซึ่งจะคลี่กลีบเผยความงดงามของใจกลางดอกสีทองเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ในเดือนพฤษภาคม มอบกลิ่นหอมที่แตกต่างและโดดเด่นเหนือกว่ากุหลาบทั้งหลาย ทำให้เคาน์เตส อิซาเบลล์ ดอร์ นาโนผู้ก่อตั้งเครื่องสำอางซิสเล่ย์ นำมาใช้เป็นต้นกำเนิดของเสน่ห์ความหอมล่าสุดและนำชื่อย่อในภาษาโปลิชของเธอเอง ว่า อิเชีย (Izia) มาใช้ด้วย อีกหนึ่งความพิเศษคือ ขวดบรรจุในรูปแบบคริสตัลใส ในแบบประติมากรรมแอ็บสแตร็ค เป็นการออกแบบของศิลปินระดับโลกบรอนิสลอฟ คริสท็อฟ (Bronislaw Krzysztof) อีกด้วย,พร้อมกันนี้ยังบอกอีกว่า บ่อยครั้งที่กลิ่นน้ำหอม สามารถทำให้เราระลึกใครบางคนที่ใช้กลิ่นน้ำหอมนี้ขึ้นมาได้ทันที ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม เพราะผัสสะของกลิ่น สามารถตราตรึงใจได้ยาวนานกว่าสัมผัสในรูปแบบอื่น การเลือกน้ำหอมของเราในแต่ละวัน หรือแต่ละโอกาส จึงขึ้นอยู่กับว่า เราอยากให้ผู้คนจดจำเราแบบไหน นั่นคือเหตุผลที่ซิสเล่ย์พิถีพิถันในการสร้างน้ำหอมแต่ละชิ้นให้มีเอกลักษณ์ ละเมียดละไมดุจผลงานศิลปะชั้นสูง เพื่อให้น้ำหอมของซิสเล่ย์แต่ละกลิ่นมีบุคลิกภาพที่แตกต่าง สามารถสะกดผู้คนให้หลงใหล และเดินทางไปสู่โลกแห่งจินตนาการตามแรงบันดาลใจเบื้องหลังความหอม และจดจำความมีเสน่ห์เฉพาะตนของผู้ใช้ได้อย่างไม่รู้ลืม และพบกับความหอมหรูโรแมนติกนี้ได้แล้วที่เคาน์เตอร์ของซิสเล่ย์ทุกสาขา. | หอมละมุนรับซัมเมอร์ ไปกับ ซิสเล่ย์ โดย รุจิตร สุธนะเสรีพร ผู้บริหารซิสเล่ย์ในประเทศไทย ได้เปิดตัว อิเชีย (Izia) น้ำหอมหรูโรแมนติกในแบบเจ้าหญิง | ข่าว | อิเชีย,ซิสเล่ย์,รุจิตร สุธนะเสรีพร,น้ำหอม,กลิ่นน้ำหอม | https://www.thairath.co.th/news/886435 |
หกกลับ ชีวิตอำมาตย์ หกรอบนักษัตร สุเมธ ตันติเวชกุล | ผม เป็นอำมาตย์ 100% ในชีวิตไม่เคยทำอะไร นอกจากเป็นข้าราชการ อำมาตย์ก็คือข้าราชการ มียศ มีศักดิ์ ใช่แล้วไง แล้วตอนบ้านเมืองจนมุม ก็มีแต่พวกอำมาตย์กู้ชาติ ถ้าผมตายก็ตาย ไม่รู้จะเตือนอย่างไร จำนวนคนอวิชชามันเยอะ ถ้าเขาฟังก็ฟัง เขาด่าเราก็ไม่ด่าตอบ ทำตามบทบาทหน้าที่ ทำได้เท่านี้ แล้วก็ทำไม่เคยหยุด เสาร์-อาทิตย์ ก็ทำงาน สุเมธ ตันติเวชกุล นับเป็นบุคคลสำคัญของป้อมค่ายฝั่งอนุรักษ์นิยมที่ชีวิตมีสีสันอย่างมาก เขาเรียนระดับปริญญาตรีที่เวียดนาม มีประสบการณ์ที่ฝรั่งเศส ก่อนจะกลับมาลุยงานต่อสู้คอมมิวนิสต์ และคุมโครงการในพระราชดำริ ว่ากันว่าเขาทำงานไม่หยุด แม้อายุจะเลยวัยเกษียณมาแล้วก็ตาม ด้วยความที่เขาเป็นคนทำอะไรจริงจัง เป็นผู้ใหญ่เสียงดังโผงผาง พูดจาขวานผ่าซาก แต่ก็เปี่ยมไปด้วยบารมีอันเป็นที่เกรงใจแก่ผู้น้อยทั้งหลายระยะ หลังพบว่า เขามีพฤติกรรมที่น่ากังขา และมีความลักลั่นไม่สมเหตุสมผลในคำเทศนา ดุจจะสวนทางกับสิ่งที่เขากระทำ แต่ด้วยขนบของสังคมไทยที่ยังคงรักษาลำดับชั้นของสังคม มักจะละเว้นการวิพากษ์วิจารณ์ ผู้อาวุโส คนดี นี่จึงทำให้ ผู้อาวุโส คนดี จึงทำหน้าเคร่งขรึมลอยหน้าลอยตาเข้ามามีบทบาทสำคัญในสถาบันทางสังคมมากขึ้น เรื่อยๆ ไม่ว่าจะด้วยความเกรงใจหรือเกรงกลัวก็ตาม ขณะที่หากเป็นคนที่ไม่มีต้นทุนทางสังคมและอยู่ในวัยเยาว์ กลับต้องเผชิญกับคำปรามาส และดูถูก การอ้างเหตุผลและถกเถียงกันอย่างอิสระ เป็นหนทางที่น้อยครั้งที่จะนำไปสู่การหาคำตอบ ขณะที่ข้ออ้างของการอาบน้ำร้อนมาก่อน ประสบการณ์ เส้นสายและการอุปถัมภ์ กลับเป็นยาสามัญประจำบ้านในการแก้ปัญหาตั้งแต่ระดับเล็กๆ ไปจนถึงปัญหาของชาติสุเมธจึงเป็นอีกหนึ่งในคนดีและผู้อาวุโสที่ผู้ เขียนเห็นว่า ควรถูกตั้งคำถามจากพฤติกรรมและปรากฏการณ์ที่ผ่านมา การที่ใครคนใดคนหนึ่งผลิตข้อเขียนและอุดมการณ์ อันส่งผลกระทบต่อสังคมสาธารณะ โดยไร้การตรวจสอบและการตั้งคำถามนั้น มิใช่สัญญาณที่ดีของสังคมประชาธิปไตย มิใช่หนทางของสังคมแห่งความหวังและจินตนาการ ผู้เขียนเชื่อว่าการที่เราจะปิดตาแกล้งทำตาบอดข้างเดียวให้กับ การเมืองของคนดี อาจทำให้เรามืดบอดไปจริงๆ กับหนทางการไปข้างหน้า และนั่นคือ ความฉิบหายที่เราต้องแบกรับบทความนี้ตั้งใจเสนอ เนื่องในโอกาสที่ครบ 6 รอบนักษัตรชีวิตของสุเมธใน วันที่ 26 สิงหานี้ โดยใช้ข้อมูลหลักมาจากหนังสือ 72 ปี แห่งประสบการณ์ หลักคิด และแรงบันดาลใจ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ที่จัดทำโดยคณะทำงานมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ระบุไว้ว่าจัดทำ เพื่อระลึกถึงคุณูปการที่ท่านได้ผลักดันมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว มั่นคง และต่อเนื่อง สุเมธ เกิดในตระกูลโบราณที่เคยเป็นเจ้าเมืองและคหบดีเมืองเพชรบุรีมาก่อน เขาลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2482 สุเมธเล่าว่า เขาได้รับการสอนมาเป็นอย่างดีในคุณสมบัติที่ต้องนอบน้อมถ่อมตน ถึงขนาดว่า เวลาทวดพาไปตลาด เจอแม่ค้าทวดสอนให้ยกมือไหว้แม่ค้า สุเมธเข้าใจว่า ถูกเลี้ยงดูและโตขึ้นมาอย่างแบบนั้น คือไม่ลืมตัว ถ่อมตน ถือว่าทุกคนเท่าเทียมกันในสังคม เขา เล่าว่า เติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมของบ้านเรือนไทยหมู่ที่มีอยู่ด้วยกัน 5 หลัง ขณะที่มารดาคือ ประสานสุข ตันติเวชกุล ที่มีคำนำหน้าเป็นท่านผู้หญิง ทำงานเป็น ต้นเครื่อง ในวังสวนจิตรลดา เป็นข้าราชบริพารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะที่บิดาคือ อารีย์ ตันติเวชกุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลถนอม กิตติขจร ในปี 2501 เป็นรัฐบาลที่ 2 หลังจากที่สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ใช้กำลังทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพิบูลสงครามในปี 2500 อย่างไรก็ตามจากการสัมภาษณ์ได้ระบุว่า พ่อและแม่ของเขาแยกทางกันอยู่ตั้งแต่เขายังอายุ 5 ปี ได้ส่งผลต่อบุคลิกภาพของเขาด้วย นั่นคือโชค ดีที่มีแม่เป็นหลัก แม่แทนทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าสังเกตให้ดีกิริยามารยาทของผมบางทีเป็นผู้หญิง เพราะถูกแม่สอนมาตลอด เดินดังก็ไม่ได้ต้องโดนเอ็ด แม้เขาจะไม่ได้ตัดพ้อและฟูมฟาย แต่ก็ตระหนักถึงสภาพแวดล้อมที่ดีงามรายล้อมตัวเขาอยู่ ถึงขนาดกล่าวว่า หากเกิดมาในสลัมแล้วชีวิตต้องแก่งแย่งปากกัดตีนถีบ เพื่อความอยู่รอด เมื่อโตมาก็ต้องมีชีวิตแบบนั้น ฉันใดก็ฉันนั้นขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ความเท่าเทียมในสายตาของสุเมธนั้นเป็นอย่างไรกันแน่?ชีวิต ของสุเมธในวัยเรียน ถูกส่งไปเรียนโรงเรียนสาธิตละอออุทิศ ที่กรุงเทพฯ ก่อนจะกลับมาที่เพชรบุรีเพื่อหลบไฟสงคราม พอจบสงครามโลกครั้งที่ 2 สุเมธก็กลับไปเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ณ โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก จากนั้นเขาได้ศึกษาต่อ ณ โรงเรียน ผู้ดี วชิราวุธวิทยาลัย ราวๆปี 2497-2498 คนดังร่วมรุ่นก็คือ อดิศัย โพธารามิก พล.อ. แป้ง มาลากุล ณ อยุธยา ฯลฯ และในสถาบันแห่งนี้เองที่เป็นโอกาสที่ทำให้เขาได้เฝ้ารับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นครั้งแรกหลัง จากจบวชิราวุธวิทยาลัย สุเมธมีโอกาสไปศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ประเทศเวียดนาม ในขณะนั้นยังอยู่ในสถานการณ์สงครามที่เวียดนามต้องการจะปลดปล่อยตนเองจาก ประเทศเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศส ทำให้เขาต้องย้ายเข้าไปเรียนต่อในลาว และฝรั่งเศสตามลำดับ สุเมธบันทึกว่า ในครั้งนั้นได้โอกาสรับเสด็จในหลวง รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถฯ ที่ทั้งสองพระองค์เสด็จเวียดนามเมื่อ วันที่ 18-21 ธันวาคม 2502หลังจากที่ได้อนุปริญญาตรีทางปรัชญาที่ลาวแล้ว จากนั้นก็ไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส เขาสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีทางรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกรอนอบ ปริญญาโทและเอกทางรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยมองเปลิเอ วิทยานิพนธ์ของสุเมธทำเรื่อง ระบบการปกครองแบบทหาร เป็นตัวจบการศึกษาในปี 2512 วิทยานิพนธ์นี้ได้รับพิจารณาให้เป็นวิทยานิพนธ์เกียรตินิยม พร้อมคำสดุดีจากคณะกรรมการ สำหรับการใช้ชีวิตอยู่ในฝรั่งเศสนั้น เป็นสิ่งที่แตกต่างไปจากสังคมไทย ทำให้ได้พบเจอประสบการณ์ที่เขาไม่อาจหาได้ สุเมธเล่าว่าเมืองที่เขาเคยอยู่ Lyon มีการนัดหยุดงานประท้วงอยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้นเขายังเคยทำงานพิเศษเป็นกรรมกรในโรงงานน้ำแร่ Evian ที่นั่นทำให้เขาเห็นความแตกต่างจากสังคมไทยอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นก็คือ การที่ประธานบริษัทที่เข้ามาตรวจงาน หากเห็นว่างานล้นก็จะเข้ามาช่วย สุเมธเลือกอธิบายว่า นั่นคือการปกครองบริหารคนอย่างเข้าถึงจิตวิทยา ว่า อย่าสั่งอย่างเดียวต้องร่วมทำ ด้วย นั่นคือวิธีคิดแบบคนที่ถูกฝึกมาให้เป็นเจ้าคนนายคน ขณะที่โอกาสการทำงานของสุเมธนั้น มาจากโครงสร้างระบบการหมุนเวียนแรงงานที่เปิดโอกาสให้กรรมกรหยุดพักร้อน และเป็นช่วงที่รับนักศึกษาเข้ามาทำงานแทนอย่าง ไรก็ตามประสบการณ์กรรมกรครั้งนั้นสุเมธถือว่า ได้สอนอะไรหลายอย่างให้กับเขา ให้ความรู้สึกมากมาย รู้สึกถึงความเหนื่อยยากของชีวิตกรรมกร เงินแต่ละสิบแต่ละร้อยต้องแลกกับหยาดเหงื่อท่วมกาย รู้สึกและรู้ค่าของเงินอีกมาก ขณะที่ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2554 พรรคการเมืองอย่าง เพื่อไทย นำเสนอนโยบายค่าแรง 300 บาท รวมถึงพรรคการเมืองอื่นๆเสนอนโยบายประชานิยม สุเมธกลับชี้ว่าผมเหมือนอยู่ในความฝันเวลาขับรถไป เห็นทุกป้ายสร้างความฝันให้ผมว่าแรงงานระดับล่างกำลังจะได้รับเงิน 300 บาทต่อวัน และจะปลดหนี้ไม่มีหนี้แล้วแต่เผลอแป๊บเดียวความฝันผมก็หายไป นโยบายต่างๆ กำลังบอกว่าเศรษฐกิจดี แต่มองว่าจะส่งผลเสียนานัปการไม่เหลืออะไรเลย คนไทยแม้แต่เด็กเล็ก ผู้ใหญ่ตามบ้านนอกมีคนเอาของไปล่อ เกิดความอยากได้ กลายเป็นคนหิวกระหายและนิสัยเสียไปหมด สุเมธ กลับมาอยู่เมืองไทยในปี 2512 ด้วยความที่จบรัฐศาสตร์การทูตจึงได้งานที่กระทรวงต่างประเทศ เข้าใจว่าก่อนจะเข้าทำงาน ได้ไปกราบในหลวงที่หัวหินด้วย ในฐานะที่สุเมธเป็นลูกข้าราชบริพาร การเข้าเฝ้าครั้งนั้น ในหลวงรับสั่งถามเรื่องการศึกษาและสถานที่ทำงาน เมื่อทรงทราบว่าเป็นกระทรวงต่างประเทศพระองค์ก็ทรงเฉยและไม่ทรงคุยต่อ ในเวลาต่อมา ก่อนที่สุเมธจะเข้าทำงาน ณ กระทรวงต่างประเทศ ก็ได้ข่าวจากเพื่อนว่า ที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ต้องการคนเรียนจบปริญญาเอก และได้ชักชวนสุเมธให้มาทำงานร่วมกัน สุเมธจึงกลับไปเข้าเฝ้าในหลวงอีกครั้ง และกราบบังคมทูลเรื่องดังกล่าว ในครั้งนี้พระองค์ทรงรับสั่งว่า จากนั้นก็มีพระกระแสรับสั่งคุณหญิงมณีรัตน์ บุนนาค ว่า นั่นคือ ความเป็นมาของงานแรกที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในตำแหน่ง วิทยากรโท กองวางแผนกำลังคน เมื่อปี 2512 ปีต่อมาเขาได้ย้ายไปสังกัด กองวางแผนเตรียมพร้อมทางเศรษฐกิจ ในบันทึกยังระบุว่า กองวางแผนเตรียมพร้อมนั้นมีไว้เตรียมรับกับสงคราม จนคลอดออกมาเป็น แผนเตรียมพร้อมแห่งชาติ ไว้แล้ว แต่อย่างไรก็ตามเขาแสดงความเห็นว่า แผนดังกล่าวเมื่อเสร็จแล้วก็เก็บอยู่ในตู้มิได้มีปฏิบัติการใดๆ สุเมธได้โต้เถียงกับพวกนายทหารที่ดูแลนโยบายด้านความมั่นคง เกี่ยวกับยุทธวิธีทางทหาร สุเมธไม่เห็นด้วยในการประเมินว่าจะต้องใช้สงครามเต็มรูปแบบต่อสู้กับการรบ แบบกองโจรของคอมมิวนิสต์ อย่างไรก็ตามในครั้งนั้น เขาถือว่า ได้รับการดูถูกว่าเป็นเพียงความเห็นของข้าราชการพลเรือน จึงทำให้เขามีมานะในการเรียนต่อที่วิทยาลัยการทัพบก ปรากฏว่าเขาสำเร็จการศึกษาในรุ่น 23 ที่มีเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง ประมณฑ์ พลาสินธุ์ (อดีตผู้บัญชาการทหารบก) ศิรินทร์ ธูปกล่ำ ฯลฯ หลัง 6 ตุลาคม 2519 ยุครัฐบาลหอย ธานินทร์ กรัยวิเชียร ขณะนั้นสุเมธ อยู่ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 6 และรักษาการหัวหน้ากองวางแผนเตรียมพร้อมและพัฒนาเพื่อความมั่นคง เขาเล่าว่า ได้เข้าพบเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สิทธิ เศวตศิลา ในยศพลอากาศเอก เพื่อนำเสนอแนวทางการต่อสู้ว่า ควรเปลี่ยนเป็นแนวทางการพัฒนาในพื้นที่สีแดง ใช้การต่อสู้ทางความคิด ครั้งนั้น สิทธิ รับปากว่าจะนำเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ เงื่อนไขของสุเมธในการแก้ไขปัญหาก็คือ จะต้องมีอำนาจและงบประมาณอยู่ในมือ ส่วนอำนาจในระดับชาติ ใช้อำนาจของคณะกรรมการเตรียมพร้อมแห่งชาติอนุมัติแผนและโครงการ แล้วนำเรื่องขออนุมัตินายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี ขณะที่อำนาจเชิงปฏิบัตินั้น ขอให้แต่งตั้งเขาเป็นเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับ พื้นที่กองทัพภาคทั้ง 4 ภาค โดยมีแม่ทัพภาคเป็นประธาน โดยที่อำนาจก็ยังอยู่ใน อำนาจสั่งการของแม่ทัพภาคในฐาน ผู้บัญชาการกองอำนวยการรักษาความมั่่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค ใน ที่สุด นายกรัฐมนตรีก็อนุมัติ การดำเนินการครั้งนั้นมี บุญญรักษ์ นิงสานนท์ เป็นมือขวา และพิมลศักดิ์ สุวรรณทัต เป็นมือซ้าย ครั้งนั้น สุเมธเองก็ได้บรรจุเป็นกำลังพลของ กอ.รมน. ความหมายของ การบรรจุ นั้นหมายถึง เป็นบุคลากรที่ต้องปฏิบัติการในพื้นที่สู้รบ สุเมธ กล่าวอย่างภูมิใจว่า ตั้งแต่ได้รับงานนี้จนถึงปี 2524 เขาได้ลงสนามรบทั่วประเทศที่มีการก่อการร้ายในทุกภาค ลงไปวางแผนวางโครงการโดยการเมืองนำการทหาร ซึ่งเขาอ้างว่า เป็นต้นตอของคำสั่งที่ 66/23 การลงพื้นที่เพื่อประสานกับแม่ทัพภาคต่างๆ ทำให้เขาเจอกับ เปรม ติณสูลานนท์ แม่ทัพภาคที่2 เขายังเล่าต่อไปว่า ชีวิตนอนกลางสนามรบ สะพายปืน โดดร่ม ถูกยิง เฉียดกับระเบิด เฮลิคอปเตอร์ตกกลางป่าที่อุทัยธานีสุเมธ พยายามบ่ายเบี่ยง กอ.รมน. ที่ได้เสนอบรรจุเป็นกำลังพล แต่ก็ไม่ยอม ซ้ำยังย้อนกลับไปว่า ป้องกันชาติบ้านเมืองต้องจ้างกันด้วยหรือ ผู้อ่านต้องเข้าใจเสียก่อนว่า ในสถานการณ์สงครามเช่นนี้ พวกข้าราชการเหล่านี้จะมีเบี้ยเลี้ยงพิเศษและวันราชการนับทวีคูณ การปฏิเสธคงแค่เป็นการแก้เกี้ยว เพราะในที่สุด กอ.รมน.ก็ตั้งการเบิกจ่ายน้ำมันให้เดือนละ 80 ลิตร เบี้ยเลี้ยงประมาณ 1000 บาท และได้วันทวีคูณมา 9 ปี ซึ่งกรณีสุเมธ เขาได้อายุราชการเพิ่มตอนเกษียณอีกต่างหากการ ทยอยเข้ามามอบตัวของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ หลังนโยบาย 66/23 แสดงให้เห็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของรัฐไทย สุเมธบันทึกโดยไม่พูดให้หมดถึงปัจจัยสาเหตุความพ่ายแพ้ของพรรคคอมมิวนิสต์ แห่งประเทศไทย (พคท.) อย่างจริงจัง นั่นคือ สถานการณ์แตกหักระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์จีนและโซเวียตรัสเซีย ความคุกรุ่นของความขัดแย้งระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์ในอินโดจีน ขณะเดียวกันภายใน พคท.เองก็ประสบปัญหาการแตกแยกทางความคิดภายในพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เอง โดยเฉพาะระหว่างคณะนำกับนักศึกษารุ่นใหม่ที่เข้าไปพยายามมีบทบาทในพรรค สุเมธสรุปเอาเองอย่างไร้บริบททางประวัติศาสตร์ว่า ทฤษฎีโดมิโน่อันเป็นการอธิบายถึงการคุกคามของลัทธิคอมมิวนิสต์ที่ฝรั่งเสนอ มาหยุดที่เมืองไทย เพราะ เราแก้แบบไทยไม่ตามฝรั่งเขาที่ใช้อาวุธมากมายมหาศาล แต่สุดท้ายต้องแก้ไข คนและความคิดอุดมการณ์ ชัยชนะที่ได้มาจากภาวะที่ง่อนแง่นของพคท. ทำให้ฝ่ายรัฐ โดยเฉพาะสุเมธย่ามใจในการนิยามความสำเร็จอย่างพิลึกพิลั่น เช่นการพูดว่า ขณะที่การอธิบายว่า ก็เป็นการละเลยที่จะไม่พูดถึงการใช้อาวุธสงครามหนักถล่มฐานที่มั่นของ พคท. ซึ่งเป็นการกสกัดกั้นเชิงยุทธวิธีที่ต้องทำงานควบคู่กันหลัง การขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเปรม ในปี 2523 ก็ได้มีการตั้ง สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ซึ่งเคยเป็นหน่วยงานหนึ่งในกองวางแผนเตรียมพร้อมด้านเศรษฐกิจ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปรมได้ทาบทามสุเมธให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วย ขณะนั้นเขาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองวางแผน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สุเมธ วิเคราะห์ว่า โครงการพระราชดำริมีลักษณะสนับสนุนยุทธศาสตร์การรักษาความมั่นคงภายในของ ฝ่ายทหาร ด้วยการรุกทางยุทธศาสตร์การเมือง เพื่อช่วงชิงพื้นที่เดิมใต้อิทธิพลคอมมิวนิสต์กลับมา และฟันธงว่า โครงการพัฒนาของโครงการพระราชดำริมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงได้ มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าการพัฒนาตามแนวทางของรัฐบาล ซึ่งแน่นนอนว่าโครงการฯ มีเป้าหมายหลักในการแก้ไขปัญหาความยากจนในชนบททุรกันดาร ในลำดับความสำคัญต่ำที่รัฐบาลมองข้ามไป ต่อ มาในปี 2531 สุเมธก็ได้รับตำแหน่งเลขามูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งมูลนิธิมีวัตถุประสงค์เพื่อ เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนในลักษณะของการดำเนินงานพัฒนาต่างๆ จนเป็นเหตุให้การแก้ไขปัญหาไม่สอดคล้อง หรือทันกับสถานการณ์ที่จำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องกระทำโดยเร็ว มูลนิธินี้ในหลวงทรงดำรงตำแหน่งเป็นนายกกิตติมศักดิ์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ประธาน สุเมธได้รับความไว้วางใจในเรื่องการเงิน จนได้รับฉายาจากในหลวงว่า ถุงเงิน ภารกิจ อันหนักหนาของสุเมธ ทำให้เกิดที่มาของคำว่า ข้าราชการ ซี 22 ได้มาจากการทำงานควบ 2 ตำแหน่งงาน นั่นคือ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกปร. ที่อยู่ในระดับ ซี 11 ทั้งคู่ และวลี ซี 22 ก็ยังปรากฏการอ้างอิงอยู่เสมอในหมู่คนรู้จักของสุเมธ ซี 22 จึงเป็นสิ่งที่สะท้อนภาพลักษณ์ของสุเมธว่า เป็นคนทุ่มเททำงานหนักและเอาจริงเอาจัง และมีความสำคัญเพียงใดในแวดวงราชการเดือน มีนาคม 2535 ก่อนเหตุการณ์นองเลือดในเดือนพฤษภาคม นายกรัฐมนตรี อานันท์ ปันยารชุน ที่มาจากการรัฐประหาร อนุมัติหลักการแยก กปร. ออกจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยยกฐานะเป็นหน่วยงานระดับกรม สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามมีผลทางกฎหมายก็เมื่อ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2536 มีผลบังคับใช้ในเดือน กันยายน 2536 แสดงให้เห็นได้ชัดถึงความสำคัญของหน่วยงานกปร.ที่โตเกินจะอยู่ในสภาพัฒน์ แล้วหาก เราจะดูพัฒนาการทางความคิดและการปฏิบัติผ่านร่องรอยที่เป็นลายลักษณ์อักษร แล้ว จะเห็นได้ว่าในช่วงแรกที่เขาลงสนามรบกับคอมมิวนิสต์จะมีงานเขียนไม่มาก เท่าที่พบก็คือ (2525) การพัฒนาชนบทตามระบบ กชช. ใน ชนบทไทย 2527 (2527) บทบาทของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในการสนับสนุนความมั่นคงของชาติใน พื้นที่ชนบทของประเทศ (2529) สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความสอดคล้องที่ชนิดา ชิดบัณฑิตได้นำเสนอว่า อุดมการณ์ด้านการพัฒนาของไทยมีความเชื่อมโยงกับสงครามเย็น โดยเฉพาะเมื่อเขาดำรงตำแหน่งเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาในปี 2531 ทำให้เกิดงานเขียนแนวเทิดพระเกียรติในด้านการพัฒนาขึ้น ได้แก่ (2531) ในปี 2536 เขาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ คณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) จึงทยอยมีงานทางด้านวิชาการที่เป็นระบบมากขึ้น นั่นคือการจัดสัมมนาดังนี้ (2537 : ราชบุรี) บทความ มูลนิธิชัยพัฒนา : พระราชดำริเพื่อนำปวงไทยให้บรรลุถึง ชัยชนะแห่งการพัฒนา ใน จิตวิทยาความมั่นคง (2538) แนวพระราชดำริและการพัฒนาชนบท ใน (ครั้งที่ 3 : 2542 : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) แม้กระทั่งการหนังสืออนุสรณ์งานศพในนาม โครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (2539) กระแส พระราชดำรัสเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2540 ทำให้คำว่า เศรษฐกิจพอเพียง ได้ถือกำเนิดอย่างเป็นทางการ (ขณะที่สุเมธอ้างว่า ในหลวงตรัสเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2517) ด้วยความใกล้ชิดกับในหลวงและภารกิจงานที่เขารับผิดชอบมีส่วนเกี่ยวข้องอย่าง มากกับชุดความคิดนี้ สุเมธจึงถือว่า เป็นอรรถกถาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในการเผยแพร่ความคิดนี้ออกสู่สาธารณะมากที่สุด คนหนึ่งการ ทำความดีนั้นน่าเบื่อ ประการถัดไป การทำความดีนั้นมันยาก ทำไมมันยากเพราะมันไปสวนกระแสชีวิตของมนุษย์ เพราะมนุษย์คือสัตว์อย่างหนึ่งที่ถูกกระตุ้นโดยแรงตัณหา แรงอาฆาต กิเลส ความอยาก นี่คือ นิยามความดีของสุเมธที่ได้เรียนรู้มาจากในหลวง ความดีเหล่านี้เป็นความบริสุทธิ์ที่อยู่ตรงข้ามกับกิเลส ตัณหา แต่กระนั้นก็มิได้หมายความว่า จะมุ่งให้ทุกคนละกิเลสได้หมด แต่การจะเป็นคนดีนั้นหัวใจสำคัญก็คือ ขอเพียงควบคุมกิเลสให้ได้คำ สรรญเสริญที่เป็นรูปธรรมของสุเมธ ก็คือ การได้รับรางวัลการันตีความเป็น คนดี จากสถาบันต่างๆ ได้แก่ รางวัลบุคคลตัวอย่าง ประจำปี 2537 จาก มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ รางวัลผู้บริหารราชการดีเด่น (ครุฑทองคำ) ปี 2538 จากสมาคมข้าราชการพลเรือน และได้รับโล่ห์รางวัลเชิดชูเกียรติ บุคคลผู้ประพฤติปฏิบัติตนชอบด้วยความซื่อสัตย์สุจริต จากสำนักงาน ป.ป.ป. ปี 2540 ที่น่าสนใจก็คือ สุเมธระบุว่า รางวัลนี้ไม่มีใครได้มานานมากแล้วเพราะคนที่ได้ล่าสุดคือ สิทธิ จิระโรจน์ ซึ่งมีอายุห่างจากสุเมธกว่า 20 ปี แน่ นอนว่า คนดี นั้นจะต้องเอาใจใส่พุทธศาสนา ฝักใฝ่ต่อการขัดเกลาทางธรรมของตน สุเมธบันทึกเอาไว้ว่า เขาผ่านการบวชมา 4 ครั้ง เณร 1 ครั้ง และบวชพระ 3 ครั้ง โดยสองครั้งหลังเป็นการบวชวัดป่า เขาเล่าต่อไปว่า ครั้งล่าสุดคือเมื่ออายุได้ 65 ปี หากเทียบแล้วก็อยู่ราวๆปี 2547 ครั้งนั้นบวชอยู่ที่สกลนคร ในสายอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งถือว่าเป็นอาจารย์ใหญ่ของพระป่านิกายธรรมยุตในยุคปัจจุบัน การ บวชครั้งล่าสุดนี้ทำให้รู้สัจธรรมว่าร่างกายต้องการอาหารน้อยนิด กินแบบอดอยาก มีน้ำตาลน้อยลง ไขมันก็ไม่อุดตัน ร่างกายก็แข็งแรงแม้ว่าน้ำหนักจะหายไปถึง 8 กก. ไม่ต้องมาอ่านหนังสือพิมพ์ ดูทีวี มีผ้านุ่งเพียง 4 ผืน กับบาตรเท่านั้น ทำให้ซึ้งสัจธรรมอีกข้อว่า ชีวิตเราเกิดมาจากการขอ อยู่ได้ด้วยความเมตตา มีความสุขที่สุดจากคนที่ไม่มีอะไรไม่ต้องรับรู้ในสิ่งที่ไร้สาระ นั่งสมาธิกระทั่งพบพลังจิตอันว่างเปล่า อันเป็นพลังบริสุทธิ์ ปีที่บวชครั้งสุดท้ายยังตรงกับการที่เขาเริ่มดำรงตำแหน่ง ประธานมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด 2547 ในวัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ ระบุว่า นั่นจึงมิใช่เรื่องแปลกอันใดที่ สุเมธยังมีตำแหน่งกรรมการตรวจสอบ และกรรมการธรรมาภิบาล ในบริษัทเครือซิเมนต์ไทย (SCG) ด้วยในปัจจุบัน ดัง นั้นคนดีในเชิงการเมือง จึงมิได้เป็น ความดี ด้วยตัวของมันเอง แต่การเป็นคนดีเช่นนี้จะมีความสามารถในควบคุมกิเลสให้อยู่หมัดทั้งในกิเลส ส่วนตัว และครอบคลุมไปถึงกิเลสของสังคมด้วย การอธิบายเช่นนี้เข้ากันได้อย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับแนวคิด เผด็จการโดยธรรม ของพุทธทาส ที่เชื่อมั่นในตัวบุคคลที่มีศีลธรรมและความดีอยู่เต็มเปี่ยม ว่า เมื่อทุกอย่างเริ่มต้นด้วยคนดีแล้วปัญหาทุกอย่างก็ไม่ต้องห่วงแล้วว่าแก้ อย่างไร ซึ่งทัศนะเช่นนี้ได้สร้างความชอบธรรมให้กับการรัฐประหารทุกครั้งที่ผ่านมา และที่กำลังจะเกิดขึ้นภารกิจ งานจำนวนมากที่สุเมธได้ทุ่มเท ตลอดชีวิตราชการ นอกจากจะสร้างผลงานอันเป็นที่ประจักษ์แล้ว ยังสร้างเครือข่ายการทำงานอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการทำงานอุทิศให้กับในหลวงเรื่อยมา จึงไม่เรื่องแปลกที่สุเมธเป็นบุคคลต้นแบบที่สำคัญของคนรุ่นใหม่ (เมื่อเดือนเมษายน 2554 เขาได้ออกรายการ The Idol คนบันดาลใจ ทางช่อง Modern Nine ด้วย) ข้าราชการ และกลุ่มอนุรักษ์นิยม เขาถือเป็นทรัพยากรบุคคลอันมีค่ายิ่งสำหรับองค์กรต่างๆ ที่ต้องการเขาไปเป็นส่วนหนึ่ง สุเมธครบวาระเกษียณอายุเมื่อปี 2542 แต่เราพบว่าก่อนหน้านั้นสุเมธดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ในส่วนที่เป็นหน่วยงานของรัฐได้แก่ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (2537-2539) กรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (2537-2539) ประธานกรรมการ องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (2540-2541)ในส่วนของธุรกิจเอกชน ได้แก่ กรรมการ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) (2537-2544) กรรมการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (2539-2540) ที่ปรึกษาของคณะกรรมการและคณะกรรมการบริหาร บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (2540-2541) กรรมการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (2540-2543)การ ทำงานมาตลอดชีวิตราชการ ทำให้เขาเป็นที่กว้างขวาง ดังที่พบว่าเขาได้รับเชิญให้เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยหลายแห่ง ต้องเข้าใจเสียก่อนว่าตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยนั้น เดิมเป็นเพียงตำแหน่งทางเกียรติยศ ถือได้ว่าเป็นสภาเกียรติยศ หรือสภาตรายางที่ไม่มีอำนาจ ที่น่าสนใจก็คือ หลังการปฏิรูปการศึกษาในช่วงปี 2542 สภามหาวิทยาลัยได้รับการกระจายอำนาจการบริหารจากสำนักงานคณะกรรมการอุดม ศึกษา (สกอ.) และคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในอุดมศึกษา (กพอ.) ได้โอนอำนาจบริหารให้มาอยู่กับสภามหาวิทยาลัย ยกเว้นแต่ การของบประมาณจากรัฐบาล และการแต่งตั้งที่ต้องสู่ระบบโปรดเกล้าฯ ก็คือ การแต่งตั้งตำแหน่งนายกสภาและกรรมการสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี และศาสตราจารย์ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากสภาตรายาง มาเป็น สภารับผิดชอบ ที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้นทางกฎหมาย ดังนั้นตำแหน่งในสภามหาวิทยาลัยจึงมีความสำคัญมากขึ้นหลังปี 2542 ผลของการกระจายอำนาจ ทำให้แต่ละสถานศึกษา ปรับตัวในการดึงบุคลากรที่มีบารมี ความรู้ความสามารถเข้ามาร่วมทำงานมากขึ้น ผู้ที่จะมาอยู่ในสภายิ่งจำเป็นก็ต้องมีพลังขับเคลื่อนมากพอสำหรับ มหาวิทยาลัยนั้นๆด้วยประจวบเหมาะกับที่ช่วงสุเมธ เกษียณอายุราชการในปี 2542 เขาได้รับตำแหน่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยหลายแห่ง บางแห่งก็เป็นกรรมการตั้งแต่ก่อนเกษียณ เช่น กรรมการสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (2541-2543) กรรมการสภามหาวิทยาลัยทักษิณ (2542-2544) กรรมการสภามหาวิทยาลัยบูรพา (2544-?) กรรมการสภามหาวิทยาลัยศิลปากร (2549-2551) เชื่อได้ว่า สิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับการปรับตัวของมหาวิทยาลัยจากการปฏิรูปการศึกษาที่ เน้นการกระจายอำนาจดังที่กล่าวมาแล้ว การได้รับการเชิญไปเป็นกรรมการสภา คาดว่าเนื่องมาจากการที่เป็นคนที่มีทุนทางสังคมสูงและมีเครือข่ายที่น่าจะ เป็นประโยชน์กับมหาวิทยาลัยต่างๆได้ โปรดสังเกตว่าอำนาจที่จะเชื่อมกับการโปรดเกล้าฯ ไม่ได้อยู่ในมือของมหาวิทยาลัย สภามหาวิทยาลัย แต่ไปอยู่กับเครือข่ายภายนอกอย่าง ไรก็ตาม ในสายตาผู้เขียนเห็นว่า ช่วงเวลาที่มีนัยทางการเมืองอย่างมากก็คือ การที่สุเมธ ดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กินเวลาถึง 3 วาระ เป็นระยะเวลา 6 ปี (2548-2554) เพียงการเสนอชื่อ สุเมธ จากกรรมการสรรหานายกสภามหาวิทยาลัย ก็เกิดข้อสงสัยจากประชาคมธรรมศาสตร์ต่างๆกันไปว่า ใครเป็นคนเสนอชื่อ ชื่อนี้มาได้อย่างไร ไม่ใช่คนธรรมศาสตร์ จะเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยได้หรือ มีเสรีภาพทางวิชาการไม่ได้ใช้ระบบบังคับบัญชา จะทำได้หรือ แต่อย่างไรก็ตามไม่พบว่า นอกจากข้อสงสัยดังกล่าวแล้ว มีอุปสรรคใดๆหรือไม่ที่ขัดขวางการเข้ามาดำรงตำแหน่งของสุเมธ นอกจากนั้นความเชื่อมโยงระหว่างสุเมธกับธรรมศาสตร์นั้น อาจนับได้ตั้งแต่ปี 2513 ที่เขาไปสอน เขาเริ่มไปสอนทฤษฎีการเมือง ที่คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ จุดนั้นน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่เขามีความสัมพันธ์กับธรรมศาสตร์ เขาอ้างว่า ลูกศิษย์รุ่นแรกเขาคือ นพดล เฮงเจริญ ซึ่งได้ดำรงตำแหน่งถึง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นในทางคอนเนคชั่นไม่น่าจะเป็นที่กังขาเท่าใดนัก การเข้ามาของสุเมธ อยู่ในช่วงที่สังคมไทยกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตทางการเมือง การนัดพบระหว่างสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีกับสุเมธ เพื่อทาบทามอย่างให้ดำรงตำแหน่งนายกสภาฯ มีการบันทึกไว้ว่าม ประเด็นที่พูดคุยของสุเมธแสดงความเป็นห่วงของสถานการณ์ของบ้านเมืองตั้งแต่ เมื่อแรกพบ การ ถ่ายทอดอุดมการณ์ เศรษฐกิจพอเพียง ในธรรมศาสตร์อย่างเป็นระบบนั้น เข้าใจได้ว่ามาจากสุเมธนั่นเอง พบการบันทึกจาก สมคิด เลิศไพฑูรย์ว่า สุเมธเป็นผู้ถ่ายทอดแนวคิดดังกล่าวให้นักศึกษาหลายคณะฟัง โดยเฉพาะคณะนิติศาสตร์ ที่ระบุว่าจะมีการบรรยายในช่วงที่มอบประกาศนียบัตรแก่ผู้จบการศึกษา ประกาศนียบัตรกฎหมายมหาชน ปีละ 2 รุ่น บารมีและความสามารถที่โดดเด่นของสุเมธในตำแหน่งนายกสภาฯ ทำให้เป็นที่รักใคร่แก่เหล่าอาจารย์นักบริหาร ดังที่เราพบว่า สมคิด เลิศไพฑูรย์ เชิดชูสุเมธอย่างสูงส่งในกรณีที่สุเมธปฏิเสธไม่รับตำแหน่งนายกสภา มหาวิทยาลัยอีกวาระหนึ่งนั้นว่าเป็นเรื่องไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง และความเหนือชั้นของสุเมธเป็นเรื่องที่นำทฤษฎีการแบ่งอำนาจ ของ Montesquieu มาเทียบใช้ยังไม่ได้ เพราะมีการระแวดระวังเรื่องการหลงอยู่ในอำนาจเป็นอย่างดีดูเหมือนสมมุติฐานของ Montesquieu จะใช้ได้กับคนทั่วไป แต่ใช้ไม่ได้เลยกับนายกพอเพียงที่ชื่อสุเมธ ตันติเวชกุล ของพวกเรา สมคิดคงลืมไปว่า สุเมธอยู่ในตำแหน่งนี้มาแล้วถึง 3 วาระ 6 ปีต้น ทศวรรษ 2540 กลายเป็นยุคหายนะของเศรษฐกิจทุนนิยมฟองสบู่ของไทย ในอีกด้านหนึ่งมันได้แผ้วถางให้แก่อุดมการณ์อนุรักษ์นิยมรูปแบบใหม่ขึ้นมาบน ซากศพทุนนิยมที่เต็มไปด้วยหนี้เน่าและหายนะทางเศรษฐกิจ ในเวลาเดียวกัน สังคมไทยเริ่มกลับมาเงี่ยหูฟังเสียงก้องตะโกนจาก นักพัฒนาเอกชน เอ็นจีโอ ที่สมาทานความคิดสำนักคิดชุมชนนิยม หมู่บ้านนิยม ชนบทนิยม และนั่นคือโอกาสทองของการสถาปนาความรู้และอำนาจกระแสรองของพวกเขา แต่อย่างไรก็ตามการเฟื่องฟูของภูมิปัญญาสายนี้ มิได้ยืนได้ด้วยตัวของมันเอง แต่ยังมีพลังทางอนุรักษ์นิยมและพลังทางการเมืองขนาดมหาศาลที่หนุนเสริมอีก ด้วยสุเมธบันทึกไว้ถึงความสำเร็จของการจับมือกับคนหลายฝ่ายในการจัด ทำ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 (2540-2544) เขาร่วมกับคนอย่างประเวศ วะสี ในฐานะผู้อาวุโสแห่งค่าย ภาคประชาชน ที่แผนนี้เปลี่ยนมาใช้คำว่า เอาคนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่เคยเรียกกันว่า รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ก็เกิดขึ้นจากสสร. อันเป็นการร่วมมือกันระหว่าง ภาคประชาชน นักพัฒนาเอกชน และผู้ตื่นตัวทางการเมืองทั่วประเทศ ความสำเร็จนี้ยังถูกอ้างอิงเรื่อยมาจากองค์กรพัฒนาเอกชน ที่หวังจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศ เช่น สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนาที่ พลเดช ปิ่นประทีป เป็นเลขาธิการ อ้างว่า การดำเนินการจัดทำแผน 8 ถือว่าเป็นเวทีสาธารณะครั้งแรกของประเทศไทยที่ระดมความเห็นจากทั้ง 8 ภาคทั่วประเทศ นอก จากนี้สุเมธยังได้เดินสายไปบรรยายที่ต่างๆเรื่องเกี่ยวกับ เศรษฐกิจพอเพียง โดยอิงอยู่กับในหลวง และชุดคุณค่าทางศีลธรรมแบบชาติ-ศาสนาพุทธเถรวาทนิยม สุเมธได้เดินสายบรรยายเรื่องราวดังกล่าวอย่างไม่ย่อท้อ อุดมการณ์อนุรักษ์นิยมเช่นนี้ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ อดีตอันดีงาม พุทธศาสนาแบบเถรวาทไทย และมีศัตรูที่สำคัญก็คือ ฝรั่งตะวันตกแต่ พลังเหล่านี้ดูจะเป็นคู่ตรงข้ามกับพลังของกลุ่มทุนและการเมืองสายพันธุ์ใหม่ ที่ถือกำเนิดมาจากรัฐธรรมนูญ 2540 อย่างรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่นำโดย ทักษิณ ชินวัตร ที่แต่เดิมอาจกล่าวได้ว่า เหล่านักคิดแนวท้องถิ่นนิยม นักเคลื่อนไหวทางสังคมจำนวนไม่น้อย มีส่วนร่างนโยบายให้กับพรรคไทยรักไทยด้วย อย่างไรก็ตาม แนวทางการพัฒนาของไทยรักไทยที่เน้นไปทั้งสองขา คือ ทั้งเน้นการค้าขายกับตลาดต่างประเทศ และกระตุ้นการใช้เงินภายในประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ในสายตาของสุเมธแล้ว ถือว่าเป็นการกระตุ้นให้เกิดความละโมบ แน่นอนว่าขัดกับหลักการของความดีที่ต้องพยายามควบคุมกิเลส นโยบายทางเศรษฐกิจเช่นนี้จึงขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงกับอุดมการณ์ที่สุเมธ สมาทานหลังช่วงฮันนีมูนกับรัฐบาล ก็เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อรัฐบาลไทยรักไทย สุเมธเคยบรรยายในปี 2545 ว่า สังคมไทยมีโรค 4 บ้า นั่นก็คือ บ้าเงิน บ้าอำนาจ บ้าวัตถุ และบ้าฝรั่ง (ตะวันตก) แต่ก็ยังไม่ได้เป็นการเจาะจงเท่าในปี 2547 ที่เขาเขียนบทความที่ชื่อ เศรษฐกิจพอเพียง หัวใจเศรษฐกิจไทย ไม่ใช่ dual track การจั่วหัวเช่นนี้เป็นการวิจารณ์นโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลไทยรักไทยโดยตรง ในบทความได้ตอกย้ำถึงหลักคิดของเขาอย่างชัดเจนพระ เจ้าอยู่หัวทรงเริ่มต้นที่ฐานราก แต่ไม่รากหญ้า ผมเกลียดคำนี้มาก ไม่เคยพูดมาที่สาธารณะเลย เพราะอะไร เพราะเราแปลมาจาก grass root ของฝรั่ง ตามฝรั่งจนเนรคุณคนที่เลี้ยงดูเรามา เราเคยให้เกียรติชาวไร่ชาวนามาตลอด เคยเรียกว่ากระดูกสันหลังของชาติ พอถึงยุคนี้ไม่สำนึกบุญคุณ ดูถูกดูแคลนพวกเขาว่ารากหญ้า เดี๋ยวนี้คนไทยขาดสติอย่างแรง เอะอะอะไรก็ตามฝรั่งจนลืม ความหมายของตัวเองในฐานะ ประธานมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด ได้แสดงข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่น ต่อรัฐบาลทักษิณ เนื่องในโอกาสที่รัฐบาลตั้งแคมเปญประกาศสงครามกับคอรัปชั่นในวันที่ 1 ตุลาคม 2547 ขณะที่ภาพลักษณ์ของรัฐบาลและตัวทักษิณเอง กำลังมีปัญหามากขึ้นทุกทีในสายตาของนักวิชาการ มีการแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ทักษิณในหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็น กรณีปราบปรามยาเสพติดจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในช่วงปี 2546 ประเด็นการลุกฮือของชาวมลายูในภาคใต้ กรณีมัสยิดกรือเซะ เมษายน 2547 กรณีตากใบ 2547 กรณีที่รัฐบาลมีความพยายามจะออกสลากเพื่อซื้อสโมสรลิเวอร์พูลเป็นจำนวนเงิน กว่า 46000 ล้านบาท ในปีเดียวกันรัฐบาล ทักษิณยิ่งประสบกับปัญหาอย่างหนักหน่วง เมื่อเครือข่ายต่อต้านทักษิณ ชินวัตร ขยายตัวเป็นทวีคูณ จากการที่สนธิ ลิ้มทองกุล และเครือข่ายผู้จัดการ ลงสนามต่อต้านทักษิณด้วยในปี 2548 มีการวิพากษ์วิจารณ์การคอรัปชั่น และยกประเด็นการละเมิดอำนาจพระมหากษัตริย์ ในปีต่อมา การขายหุ้นชินคอร์ปก็ยิ่งกลายเป็นผลลบอย่างมากต่อทักษิณ และครอบครัว ในกรณีเลี่ยงภาษีและขายหุ้นให้ต่างชาติซึ่งเชื่อกันว่ามีผลต่อความมั่นคงของ ชาติ ความง่อนแง่นของรัฐบาลทำให้ในที่สุดทักษิณแก้เกมด้วยการยุบสภาเพื่อเลือก ตั้งใหม่ ในด้านหนึ่งทักษิณก็ถูกกล่าวหาว่า ยุบสภาเพื่อหนีการตรวจสอบ การเลือกตั้งทั่วไปในเดือน เมษายน 2549 ขณะที่พรรคฝ่ายค้าน อย่างพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยและพรรคมหาชน ประกาศคว่ำบาตรการเลือกตั้ง พรรคไทยรักไทย กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง อย่างไรก็ตามความตึงเครียดทางการเมืองก็ยังไม่จบสิ้น เมื่อรัฐบาลถูกกล่าวหาจากเครือผู้จัดการกรณี ปฏิญญาฟินแลนด์ ในเดือนมิถุนายน 2549ข่าวและข้อมูลการทุจริตและฉ้อฉลของทักษิณ ชินวัตร ได้โหมกระแสไฟแห่งการเกลียดชังของชนชั้นนำ ชนชั้นกลาง นักคิด นักวิชาการจำนวนมาก ความอึดอัดทางการเมืองเหล่านี้เองนำไปสู่การเรียกร้องหาข้อยุติที่มีธงอยู่ แล้วคือให้ ทักษิณออกไป โดยไม่สนใจวิธีการว่า จะเป็น ประชาธิปไตย หรือไม่วิธีการ อประชาธิปไตย ข้อแรก ก็คือ ข้อเสนอการแก้ไขปัญหาด้วย นายกรัฐมนตรีพระราชทาน จาก มาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ทักษิณเว้นวรรคทางการเมือง สิ่งนี้เป็นการเสนอโดยหลายฝ่าย ทั้งนักวิชาการและนักการเมือง หนึ่งในนั้นก็มี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ซึ่งกรรมนี้เอง เป็นที่มาของการถูกล้อเลียนในนามของ มาร์ค ม.7 แน่นอนว่า ภาพลักษณ์ที่ย่ำแย่ของทักษิณ ยังส่งผลต่อความเน่าเหม็นของนักการเมืองคนอื่นในระบบด้วย ดังนั้นการที่จะหาคนมาเป็นนายกรัฐมนตรี จึงควรจะเป็นคนนอกที่ ไม่มีผลประโยชน์ เป็นกลาง และจะต้องมีคุณสมบัติที่ถึงพร้อมในความเป็น คนดี ที่มีศีลธรรม ไม่โกงกิน และอาจรวมถึงเป็นผู้มีสกุลรุนชาติ ได้รับการอบรมมารยาทเป็นอย่างดีด้วยในขณะนั้นมีข่าวลือว่า คนที่มีคุณสมบัติที่จะดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีพระราชทาน ก็คือ สุเมธ ตันติเวชกุล จากการให้สัมภาษณ์ สุเมธ ก็ใช้เทคนิคเดิมก็คือ กล่าวปฏิเสธทั้งยังยกเหตุผลมาอ้างพัลวันว่า กระนั้น วิธีการขอนายกพระราชทานก็มีอันตกไป พวกรักบ้านเมืองจนหน้ามืดตามัวมีอันฝันสลาย เมื่อในหลวงทรงปฏิเสธทางอ้อม ผ่านพระราชดำรัสต่อคณะผู้พิพากษาที่ว่า อย่าง ไรก็ตาม ความสั่นคลอนของรัฐบาลถูกขย่มด้วยการปฏิบัติการทางการเมือง และสงครามข่าวอย่างมหาศาล แม้กรณีคาร์บอมบ์ เดือนสิงหาคม 2549 ที่มุ่งร้ายเอาชีวิตนายกรัฐมนตรี ก็ถูกทำให้เป็นเรื่องตลกในนาม คาร์บ๊อง ความอึมครึมและคลุมเครือทางการเมืองที่ผูกติดแน่นเป็นเงื่อนตายเหล่านี้ ในที่สุดก็ถูกทะลวงด้วยอำนาจของปากกระบอกปืน รถถังได้ออกมายาตรายึดสถานที่สำคัญ ควบคุมการสื่อสารสาธารณะในจุดใหญ่ นี่เป็นวิธีการ อประชาธิปไตย ข้อที่สองที่ได้ผลอย่างชะงัด ด้วยฐานคิดที่เชื่อว่าการเอาคนเลวๆหนึ่งออกจากอำนาจ แล้วทุกอย่างจะจบอย่าง ไรก็ตามเรื่องข่าวลือดังกล่าวก็คงส่งผลต่อข้อมูลในการวิเคราะห์ข่าวอื่นๆ ด้วย ดังที่พบกว่าหลังการรัฐประหาร Shawn W. Crispin นักข่าวจาก Asia Times เขียนวิเคราะห์ว่า สุเมธ เป็นผู้มีความเป็นไปได้ที่จะถูกเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี คู่กับอีกคนคือ พลากร สุวรรณรัฐ ในวันที่ 21 กันยายน 2 วันหลังจากรัฐประหาร แต่แล้ว นายกรัฐมนตรีจากรัฐประหาร กลับมาหวยออกที่ สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายทหารยศพลเอก อดีตผู้บัญชาการทหารบก และขณะนั้นดำรงตำแหน่งองคมนตรี ซึ่งสุรยุทธ์ก็เข้าข่าย คนดีมีศีลธรรม จริยธรรม ฝักใฝ่พุทธศาสนา แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเข้ามาสู่แวดวงการเมืองในระบบ ทำให้ คนดี อย่างเขาถูกตรวจสอบ กรณีที่โด่งดังเป็นอย่างมาก และทำให้สุรยุทธ์เปลืองตัวและเกือบเสียคน ก็คือ คดีละเมิดป่าสงวน ณ เขายายเที่ยง การที่คนดีได้มาอยู่ในระบบการเมืองแบบรัฐสภาที่ทำให้เกิดการตรวจสอบต่อ สาธารณะได้ก็ทำให้คนดีเกิดอาการไม่เป็นเหมือนกัน หรือนี่จะเป็นคราวเคราะห์ของสุรยุทธ์ แต่เป็นโชคดีของสุเมธ?ข้อ กล่าวหาที่อาจกล่าวได้ว่า เสียดสีกับสิ่งที่สุเมธเทศนาที่สุด นั่นก็คือ สุเมธขับรถสปอร์ตหรูหรา ยี่ห้อเฟอร์รารี่ มาบรรยายเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งข้อความระบุต่อไปว่า สุเมธ ซื้อรถคันงามต่อมาจาก ชุมพล ณ ลำเลียง ด้วยราคา 500000 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น เรื่องเล่านี้น่าจะเป็นเรื่องโจ๊กเสียมากกว่า อย่างไรก็ตามโจ๊กเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่ากันสนุกๆ หรือใช้นินทาลับหลังกันในวงแคบๆ เท่านั้น ความน่าจะร้อนไปถึงสุเมธ จนทำให้ต้องแก้ข้อกล่าวหาผ่านสื่อมวลชน ดังนี้ผมขับรถ แอคคอร์ดเก่าๆ ยามเห็นเขาก็ให้ผมไปจอดข้างหลัง แต่ถ้าลองเป็นเบนซ์มาเขาให้จอดข้างหน้า หรือผมไปซื้อรถโฟล์ก 37000 บาท แต่ซ่อมไปแสนกว่าบาท แถมตอนออกจากราชการ ผมก็ใช้เงิน 5 แสน ซื้อรถสปอร์ต เพราะอยากได้ โคโรลล่า มือสอง แต่ใครไม่รู้ไปเขียนแซวมาผมถอยเฟอร์รารี่ กลายเป็นข่าวคึกโครมไปทั่ว เทศกาล ที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 6-10 ก.พ.2550 ณ ภัตตาคาร The Dome ซึ่งอยู่บนยอดหอคอยงาช้างของตึกสเตททาวเวอร์นั้น เป็นการรับประทานอาหารมื้อค่ำราคาสุดโหด ตัวเลขกลมๆตกอยู่ที่มื้อละ 1 ล้านบาท และบวกค่าบริการอีก 7 เปอร์เซ็นต์ ข่าวนี้เป็นที่สนใจต่อสำนักข่าวบีบีซี และหนังสือพิมพ์การ์เดียนของอังกฤษ อีกด้วย มีการตั้งข้อสังเกตว่า ในเวลาไล่เลี่ยกัน สุเมธ ในฐานะ เลขาธิการมูลนิธิ ชัยพัฒนา ได้แสดงบรรยายประกอบการสัมนา เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี วันคล้ายวันสถาปนาสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ 6 หัวข้อ ความพอเพียงด้านอาหารและโภชนาการ เพื่อสมดุลแห่งชีวิต ซึ่งเขากล่าวไว้ว่า ความจริงร่างกายมนุษย์ต้องการอาหารไม่มากนัก ทานให้อิ่มก็พอ แต่ที่เรากินกันเยอะอย่างทุกวันนี้ เป็นการกินส่วนเกิน เรียกว่า โรคสังคม ที่ เหนือความคาดหมายก็คือ รายได้จากเทศกาลอาหารสุดหรูระดับโลก ส่วนหนึ่งนำมาสมทบแก่องค์กรที่ทำงานเพื่อสังคม หนึ่งในนั้นก็มีชื่อของ มูลนิธิชัยพัฒนา อยู่ด้วยสุเมธ มักจะแสดงให้เห็นในบันทึกถึงความใจกว้าง ไม่รับในสิ่งที่ไม่ควรจะได้ ดังเช่น สิทธิพิเศษของข้าราชการที่ปฏิบัติราชการในช่วงสงครามคอมมิวนิสต์ในปลาย ทศวรรษ 2510 ต่อต้นทศวรรษ 2520 เขากล่าวปฏิเสธไว้ในบันทึกด้วยเหตุผลว่า ป้องกันชาติบ้านเมืองต้องจ้างกันด้วยหรือแต่สุดท้ายในบันทึกของเขาเองก็ ระบุว่าเขารับทั้งเบี้ยเลี้ยงและอายุราชการทวีคูณ เช่น เดียวกับรางวัลพ่อตัวอย่าง สุเมธปฏิเสธไม่รับเช่นเคย เนื่องจากว่าเขาไม่เคยมีเวลาได้เลี้ยงลูก เพราะไม่มีเวลาให้ อย่างไรก็ตามทางผู้มอบรางวัลก็อ้อนวอนให้ไปรับโดยให้เหตุผลว่า ถึงไม่ได้เลี้ยงลูกตัวเองก็เลี้ยงลูกคนอื่น ดูแลเด็กเล็กในต่างจังหวัด ในชนบท สุเมธก็เคยอิดออดที่จะไม่รับตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่ได้เรียนจบธรรมศาสตร์จะเป็นได้อย่างไร ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจรับตำแหน่งที่มีวาระ 2 ปีต่อครั้ง อีกกรณีหนึ่งก็คือ เมื่อครั้งสุเมธได้รับการทาบทามให้ดำรงตำแหน่งเป็นวาระที่สาม ในช่วงใกล้ครบวาระที่สองในปี 2552 สุเมธ แจ้งที่ประชุมสภาว่าจะไม่ขอรับหน้าที่ในวาระที่สาม แต่ด้วยความที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ขอร้องให้อยู่ต่อ เนื่องจากเห็นว่าสุเมธมีศักยภาพมากพอที่จะผลักดันงานให้ลุล่วง โดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนแปลงของมหาวิทยาลัยที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงอธิการบดี ในปลายปี 2553 และก็เป็นอีกครั้งที่สุเมธ กลับคำปฏิเสธ และมุ่งมั่นทำงานตามคำขอร้องต่อไป มีคนถามผมว่าจะกลับไปวงการเมืองอีกไหม ไม่แล้ว เหตุผลว่าไม่แล้วเพราะอะไร? ก็ให้พวกคุณเนี่ย เมืองไทย Next Generation Go on Man ไม่งั้น ตาแก่คนนี้เอาอีกแล้ว พันศักดิ์ วิญญูรัตน์ อายุ 68 ปีตลอด ชีวิตการทำงานจนถึงทุกวันนี้ ชีวิตผมไม่เคยลาพักร้อนเลย ตั้งแต่ทำงานราชการไม่เคยลาพักร้อน ไม่รู้จัก นี่ขนาดเกษียณมา 12 ปี ก็ยังไม่รู้จักคำว่าเกษียณ ทำงานทุกวัน เสาร์อาทิตย์ก็ต้องทำ โดยเฉพาะงานตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ไปเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ บางที่ก็เชิญไปสอน ไปบรรยาย ซึ่งโครงการปริญญาโทชอบสอนวันเสาร์อาทิตย์ ก็ต้องไป ชีวิตไม่รู้จักคำว่าเสาร์อาทิตย์ ไม่รู้จักวันหยุด หรือปีใหม่ คือ ชีวิตมอบให้การทำงานจริงๆ สุเมธ ตันติเวชกุล อายุ 72 ปีคำถามก็คือ อะไรคือสิ่งที่เรียกว่าพอ? | ผม เป็นอำมาตย์ 100% ในชีวิตไม่เคยทำอะไร นอกจากเป็นข้าราชการ อำมาตย์ก็คือข้าราชการ มียศ มีศักดิ์ ใช่แล้วไง แล้วตอนบ้านเมืองจนมุม ก็มีแต่พวกอำมาตย์กู้ชาติ ถ้าผมตายก็ตาย ไม่รู้จะเตือนอย่างไร | การเมือง,สังคม | ชนชั้นนำ,ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์,มูลนิธิชัยพัฒนา,สุเมธ ตันติเวชกุล,เฟอร์รารี่,เศรษฐกิจพอเพียง | https://prachatai.com/journal/2011/08/36646 |
กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ | วันนี้ (27 พ.ค.62) เวลา 18.37 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ณ พระที่นั่งทรงธรรม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ในการนี้ท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซ่น โดยเสด็จด้วยในการนี้ทรงวางพวงมาลาหลวง พวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และ พวงมาลาส่วนพระองค์ ที่หน้าโกศศพพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ถึงแก่อสัญกรรมเนื่องจากระบบหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2562 สิริอายุรวม 99 ปี เกิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2463 เป็นบุตรของรองอำมาตย์โทหลวงวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์) และนางวินิจทัณฑกรรม (ออด ติณสูลานนท์) สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา และเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 7 - 8 ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และที่โรงเรียนเท็ฆนิคทหารบก (ปัจจุบัน คือ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า) โดยเป็นรุ่นที่ 5เริ่มรับราชการเป็นผู้บังคับหมวดประจำกรมรถรบ ปฏิบัติหน้าที่ ณ สมรภูมิรบปอยเปต ประเทศกัมพูชา ในกรณีพิพาทในอินโดจีนระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลฝรั่งเศส ได้รับทุนไปศึกษาต่อที่ The United States Army Armor School รัฐเคนตักกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งสำคัญทางราชการทหาร อาทิ ผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า แม่ทัพภาคที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่รองผู้อำนวยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ทั่วไปฝ่ายทหาร และ ผู้บัญชาการทหารบกพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 16 ของประเทศไทย โดยก่อนหน้านั้นเคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นวุฒิสมาชิก สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตามลำดับนอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมทั้งสิ้น 3 ครั้ง รวมเวลาทั้งสิ้น 8 ปี 5 เดือน มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ ดำรงตำแหน่งองคมนตรี เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2531 และประกาศยกย่อง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ไว้ในฐานะรัฐบุรุษ และเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2541 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้เป็นประธานองคมนตรี จนถึง วันที่ 13 ตุลาคม 2559 จากนั้นดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรี ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2559 ถึงปัจจุบัน | สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และ รัฐบุรุษ | พระราชสำนัก | เปรม,ประธานองคมนตรี,รัฐบุรุษ,พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ | https://news.thaipbs.or.th/content/280394 |
ออกหมายจับอีก 6 คนร้ายถล่มป้อมลำพะยา ฆ่า 15 ศพ-รวบ 3 ผู้ต้องสงสัย | วันที่ 5 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.อิศเรศ สงวนงาม รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา พร้อมด้วยชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับผู้ต้องหา ในคดีร่วมกันก่อการร้าย ฆ่า และโจมตีจุดตรวจ ชคต. ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา เป็นเหตุให้ ชรบ. และราษฎรเสียชีวิต 15 คน บาดเจ็บ 5 คน เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 6 ราย,มี 1.นายมะอีซอ เจ๊ะโซ๊ะ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/7 หมู่ 3 บ้านป่าพ้อ ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา 2.นายฮีลมี ยีเล๊าะ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/2 หมู่ 4 บ้านปอเยาะ ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา 3.นายพรุกอน บือราเฮง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 5 บ้านบาตันใน ต.ลิดล อ.เมืองยะลา 4.นายอัซฮา ตือง๊ะ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/4 หมู่ 5 บ้านบาตันใน ต.ลิดล อ.เมืองยะลา 5.นายอิสตีซาน กาซอ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 245/1 หมู่ 1 บ้านลำใหม่ ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา และ 6.นายอุสมาน นิแว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 234/2 หมู่ 1 บ้านลำใหม่ ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา,ศาลจังหวัดยะลา ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาข้างต้น ทั้ง 6 ราย เป็นหมายจับเลขที่ 281/2562, 282/2562, 283/2562, 284/2562, 285/2562 และ 286/2562 ลงวันที่ 5 ธ.ค. 2562 ตามลำดับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว,สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัย (ชรบ.) พร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่งอยู่ในป้อมชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) ลำพะยา คนร้ายร่วม 20 คน มีอาวุธปืนสงครามและลูกซองครบมือวางแผนบุกเข้าไปยิงถล่ม เป็นเหตุให้ มีผู้เสียชีวิต 15 ราย และบาดเจ็บอีก 5 ราย,ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้หลักฐานจากการตรวจเลือดของคนร้ายที่ถูกยิงบาดเจ็บในที่เกิดเหตุจนสามารถออกหมายจับในเวลาต่อมารวมแล้วจำนวน 6 คน นอกจากนั้น ยังเข้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา และ ในต.บันนังสตา อ.บันนังสตา อีกจำนวนหนึ่ง และล่าสุดทาง ภ.จ.ยะลา ได้เสนอหลักฐานพร้อมขอหมายจับอีกจำนวน 6 ราย ศาลจังหวัดยะลาได้อนุมัติเป็นที่เรียบร้อยดังกล่าว,ล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงสนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยคดีดังกล่าว จำนวน 3 ราย มี นายอับดุลฮาลิม คามิส อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 2 ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา นายซากีริง คามิส อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 5 ต.ลิดล อ.เมือง จ.ยะลา และนายมะนาวาวี คามิส อยู่บ้านเดียวกัน ทั้งหมดเป็นลูกพี่ลูกน้อง โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมตัวที่บ้านพักข้างต้น เบื้องต้นได้ส่งตัวนายอับดุลฮาลิม คามิส ไปยังหน่วยซักถามเพื่อสอบขยายผลที่ ศูนย์ซักถาม ศชต. ส่วนนายกีริง กับนายมะนาวาวี คามิส ถูกส่งตัวไปยังหน่วยซักถามกรมทหารพรานที่ 41 ค่ายวังพญา อ.รามัน จ.ยะลา | ตำรวจยะลา ขอหมายจับผู้ต้องหาโจมตีป้อมชุดคุ้มครอง ต.ลำพะยา จ.ยะลา อีก 6 คน ล่าสุดสามารถควบคุมผู้ต้องสงสัย เข้าสู่กระบวนการซักถาม ได้อีก 3 คน | ข่าว,ทั่วไทย | ยิง15ศพ,ยิง15ศพ ยะลา,ยิงชรบ. ยะลา,ลำพะยา,ออกหมายจับ ยิง15ศพ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1720225 |
สถานการณ์หลังประกาศยุติชุมนุม 19-20 พ.ค.53 (21.30 น.) | 21.30 น. มีรายงานข่าวว่า เกิดเพลิงไหม้ที่ซอยราชวิถี1 ซึ่งเป็นซอยที่ทะลุซอยรางน้ำ ใกล้สามเหลี่ยมดินแดง โดยเพลิงได้ลุกไหม้ตึกแถวบริเวณกลางซอยมากว่า 2 ชั่วโมงแล้ว ชาวบ้านในซอยดังกล่าวแจ้งว่า เพลิงที่ไหม้ธนาคารนครหลวงซึ่งถูกเผาเมื่อวานได้ปะทุขึ้นมาอีกครั้งและลามถึงอาคารข้างเคียง ชาวบ้านได้แจ้งหน่วยดับเพลิงรวมถึงหน่วยอื่นๆ หลายหน่วย แต่ทุกหน่วยงานปฏิเสธที่จะเข้ามาเพราะเป็นพื้นที่อันตราย ในเบื้องต้นชาวบ้านพยายามช่วยกันดับไฟ แม้ไฟเริ่มเบาลงแต่ก็ยังไม่สงบจนถึงขณะนี้อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงกับจุดที่เพลิงไหม้ไม่กล้าหนีออกมาจากบ้าน เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากการซุ่มยิง ขณะนี้กำลังรอการประสานระหว่างศูนย์เอราวัณและทหารเพื่อเข้าไปรับชาวบ้านในซอยดังกล่าว19:21 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่ค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ควบคุมตัว 5 แกนนำ นปช. ประกอบด้วยนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ นายขวัญชัย ไพรพนา นายวิภู แถลง นายนิสิต สินธุไพร และนายเจ๋ง ดอกจิก พร้อมด้วยแนวร่วม นปช.อีก 31 คน เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ตลอดทั้งวันไม่มีกลุ่ม นปช.หรือญาติพี่น้องของแกนนำ นปช และแนวร่วมเข้าไปเยี่ยม แต่อย่างใด อีกเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในค่ายนเรศวรยังตรวจเข้มผู้ผ่านเข้าออก ร่วมทั้งห้ามสื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพในพื้นที่ควบคุมตัวแกนนำ นปช.และกลุ่มแนวร่วมอย่างไรก็ตามได้มีการย้ายแกนนำ นปช.ทั้ง 5 คน จากกองร้อยปฏิบัติการพิเศษไปไว้ในพักรับรองซึ่งมีอยู่ 2 หลัง ห่างจากกองร้อยปฏิบัติการพิเศษประมาณ 500 เมตร และในดงสนติดชายทะเลและรอบๆ บ้านพักมีการวางลวดหนาม พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ พร้อมอาวุธครบมือ คอยเดินตรวจ และห้ามบุคคลภายนอก และนักท่องเที่ยวเข้าใกล้บ้านพักดังกล่าวผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าต่อมาได้มีรถตำรวจกองปราบนำตัวนายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช.พร้อมด้วย นายแพทย์เหวง โตจิราการ และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช.มาที่บ้านพักรับรอง และได้มีการเรียกรถพยาบาลของค่ายนเรศวรเข้าไปที่บ้านพักรับรองดังกล่าวใช้เวลานานประมาณ 30 นาที รถพยาบาลก็วิ่งออกไป18.13 น.นายถนอม อ่อนเกตุพล ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.ในฐานะโฆษก กทม.สรุปสถานที่ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ จากการวางเพลิงของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่าจากรายงานของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบว่า มีสถานที่ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ทั้งสิ้น จำนวน 36 จุด ดังนี้ 1.ศูนย์การค้าเซ็น เซ็นทรัลเวิลด์ สี่แยกราชประสงค์ เสียหายทั้งหมด 2.โรงภาพยนตร์สยามสแควร์ เสียหายทั้งหมด อาคาร 8 ชั้นทรุดตัว 3.อาคารตลาดหลักทรัพย์ ถนนรัชดา เขตคลองเตย เสียหายจำนวนมาก 4.อาคารมาลีนนท์ 2 อาคาร และอาคารจอดรถ เสียหายเป็นจำนวนมาก 5.ธนาคารกรุงเทพ สาขาพระราม 4 เขตคลองเตย 6.การไฟฟ้านครหลวง คลองเตย เสียหายทั้งหมด 7.ธนาคารกรุงเทพ สาขาอโศก ดินแดง เสียหายเกือบทั้งหมด8.ธนาคารออมสิน สาขาดินแดง เสียหายชั้นล่างเล็กน้อย 9.ธนาคารกรุงเทพ สาขาดินแดง เสียหายทั้งหมด 10.อาคารสำนักงาน ป.ป.ส.เสียหายชั้นล่างทั้งหมด 11.ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ข้างสำนักงาน ปปส.เสียหายทั้งหมด 12.ธนาคารกรุงเทพ สาขาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เสียหายบางส่วน 13.ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุขุมวิท 83 เสียหายเล็กน้อย 14.ธนาคารกสิกรไทย สาขางามดูพลี เสียหายทั้งหมด 15.ธนาคารกรุงเทพ สาขาสาธุประดิษฐ์ เสียหายเล็กน้อย 16.ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนจันท์ เสียหายเล็กน้อย 17.ธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานเหลือง เสียหายมาก 18.ธนาคารนครหลวงไทย สาขาตลาดปีนัง เขตคลองเตย เสียหายบางส่วน 19.อาคารล๊อกซ์เล่ย์ เขตคลองเตย เสียหาย 3 ชั้น 20.ห้างเซ็นเตอร์วัน อนุสาวรีย์ชัยฯ เสียหายทั้งหมด21.ร้านแมคโดนัลด์ สาขาข้างห้างเซ็นเตอร์วัน 22.ห้างวัตสัน อนุสาวรีย์ชัยฯ เสียหายทั้งหมด 23.ร้านหนังสือดอกหญ้าอนุสาวรีย์ชัยฯ เสียหายบางส่วน 24. ธนาคารกสิกรไทย สาขาอนุสาวรีย์ชัยฯ เสียหายทั้งหมด 25.ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาอนุสาวรีย์ชัยฯ เสียหายบางส่วน 26.ร้านก๋วยเตี๋ยวพระนคร อนุสาวรีย์ชัยฯ เสียหายบางส่วน 27.ร้านทอง พหลโยธิน ซอย 1 เสียหายเกือบทั้งหมด 28.ธนาคารกรุงเทพ สาขาหัวลำโพง เสียหายเล็กน้อย 29.ธนาคารกรุงไทย สาขาหน้าโรงเรียนมาแตร์เดอี เสียหายบางส่วน 30. ห้างบิ๊กซี ราชดำริ เสียหายเป็นจำนวนมาก 31.ตึกสหชาติ (ตึกร้าง) บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ภายในเสียหายทั้งหมด32.ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาประชาชื่น เสียหายเฉพาะตู้เอทีเอ็ม 33.ธนาคารกรุงเทพ สาขาสยามสแควร์ ซอย 6 34.ธนาคาร ซีไอเอ็มบี สาขาสยามสแควร์ 35.ตึกแถวสี่ชั้น 30 ห้อง สยามสแควร์ซอย 5 36.ธนาคารนครหลวงไทย สาขาราชปรารภ ไฟไหม้ล่าสุด เวลาประมาณ 16.30 น.ส่วนอาคารมหาทุนพลาซ่า เพลินจิต ที่ก่อนหน้านี้ กทม.ได้รายงานว่าเป็นสถานที่ที่เกิดเพลิงไหม้และได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมดนั้น จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าไม่ได้เกิดเพลิงไหม้แต่อย่างใด16.00 น. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ นายมิเคเล รานีเญลี เจ้าหน้าที่แผนกกงสุล สถานเอกอัคราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย เป็นตัวแทนของสถานทูตมาติดต่อขอรับศพนายฟาบิโอ โปเลงกี (Mr.Fabio Polenghi) ช่างภาพอิสระชาวอิตาเลียน ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์จราจลในพื้นที่กรุงเทพมหานคร บริเวณสวนลุมพินี เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาเพียง 5 นาที ซึ่งแพทย์ได้อธิบายให้นายมิเคเล ทราบถึงขั้นตอนและผลการชันสูตรศพว่า บาดแผลกระสุนปืนทะลุขั้วหัวใจ ทำลายปอด ตับ เสียโลหิตเป็นปริมาณมาก ลักษณะของกระสุนมาจากมุมสูง16.00 น. พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า แพทย์สถาบันนิติเวชรับศพมาชันสูตรจากเหตุการณ์จราจลเมื่อวานนี้ จำนวน 10 ศพ โดยในจำนวนนี้ รับมาจากการเสียชีวิตในวัดปทุมวนารามวรวิหารจำนวน 6 ศพ เป็น ชาย 5 หญิง 1 โดยจำนวนนี้เป็นชายไม่ทราบชื่อ 2 ราย หากประชาชนคิดว่าเป็นญาติให้มาติดต่อสอบถามได้ที่โรงพยาบาล ส่วนทางตำรวจก็จะเร่งประชาสัมพันธ์ด้วย โดยสถาบันนิติเวชจะถ่ายรูปใบหน้าเพื่อเผยแพร่ไปยังสื่อต่างๆส่วนการแจ้งผู้สูญเสีย ทาง สตช.เปิดศูนย์รับแจ้งคนหายจากเหตุการณ์นี้ ก็รับทราบจากทางวิทยุ หรือ 191 ขณะนี้ทางตำรวจอยู่ระหว่างการแจ้งข้อมูล หากประชาชนพบว่าญาติหรือเพื่อนที่มาร่วมชุมนุมยังเดินทางกลับบ้านก็ให้นำหลักฐานของผู้สูญหาย กับสถานีตำรวจใกล้บ้าน ซึ่งทางโรงพักจะนำข้อมูลส่วนนี้มายังทะเบียนประวัติอาชญากร เพื่อประสานข้อมูลกับสถาบันนิติเวชวิทยา ในการจัดทำข้อมูลคนหายเมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตได้ติดใจถึงสาเหตุการตายของช่างภาพชาวอิตาเลียนรายนี้หรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ไม่ได้ติดใจอะไร วันนี้เป็นเพียงการติดต่อขอรับศพ และญาติจะเดินทางมารับศพในวันพรุ่งนี้20.00 น.ขอนแก่น มีแกนนำเสื้อแดงในพื้นที่โดนคุมตัวแล้ว 17 คน ไปที่กรมทหารราบที่ 8 (ค่ายศรีหราชเดโชไชย) ห่างจากตัวเมือง ขอนแก่น ประมาณ 4 กิโลเมตร ผู้สื่อข่าวคาดเป็นแกนนำที่ก่อความวุ่นวายเมื่อวานนี้ (19 พ.ค.)ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตยังมี 1 ราย ชื่อ นายทรงศักดิ์ ศรีหนองบัว อายุ 33 ปี จากเหตุการณ์ที่ไปชุมนุมหน้าบ้านนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย และได้ถูกยิงเสียชีวิตด้านนายประจักษ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าใครเป็นคนยิง เพราะขณะนั้นตนเองไม่อยู่บ้าน ซึ่งมีเพียงแต่แม่ยาย อายุ 78 ปี คนแก่อายุ 60 ปี และหลานอยู่ในบ้านซึ่งได้หนีออกจากบ้านพักทางด้านหลังขณะเกิดเหตุการณ์ จึงไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร เพราะคนในบริเวณดังกล่าวก็มีจำนวนมากที่รักตนเอง และช่วงนั้นชุลมุนจึงไม่ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดความวุ่นวายขึ้นที่บ้านพักดังกล่าว ซึ่งได้รับความเสียหายมาก เพราะมีการโจมตีด้วยระเบิด จึงตัดสินใจพาครอบครัวมาอยู่ที่กรุงเทพฯจนกว่าเหตุการณ์จะสงบในส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเหตุการณ์ในพื้นที่ขณะนี่ ซึ่งใกล้กับช่วงเวลาประกาศ เคอร์ฟิว หลังจากการสลายการชุมนุมเมื่อช่วงบ่าย ได้มีการนำกำลังเจ้าหน้าที่จากจังหวัดใกล้เคียงเข้ามาสมทบกว่า 500 นาย19.00 น. สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกแถลงการณ์ร่วม เรื่อง การคุกคามสื่อมวลชนในเหตุจลาจล ย้ำสื่อมวลชนไม่ใช่ คู่ขัดแย้ง เพียงแต่ทำหน้าที่นำข้อเท็จจริงมาเปิดเผยต่อสาธารณะแถลงการณ์ยังระบุประณามการข่มขู่คุกคามผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนและสำนักงานสื่อมวลชนทุกแขนงทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการกระทำของกลุ่มแนวร่วม นปช.ที่นอกจากจะสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและสร้างความหวาดกลัวแก่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนแล้ว ยังเป็นการลิดรอนเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนอีกด้วย และขอเรียกร้องให้กลุ่มแนวร่วม นปช.ยุติการข่มขู่คุกคามสื่อมวลชนโดยทันทีนอกจากนี้ องค์กรวิชาชีพทั้งสองได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับสื่อมวลชนอย่างเต็มที่15:20 นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเมื่อการมอบตัวเสร็จสิ้น นายวีระ กล่าวเปิดใจถึงเหตุการณ์จราจลที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (19 พ.ค) ว่า ตนขอขอบคุณทางตำรวจที่ได้ให้โอกาสแก่ตน ที่ออกมาพูด ตนขอขอบคุณ และฝากไปยังสื่อทุกแขนงที่จะได้นำข่าวสารนี้ออกไปสู่พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มพี่น้องคนเสื้อแดงในวันนี้ตนได้สวมเสื้อแดงมาเพื่อที่จะยืนยัน ว่าคนเสื้อแดงไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยกับคนไทยที่รักชาติ และกับทุกสถาบัน พวกเราต่อต้านเผด็จการและสร้างสรรค์ประชาธิปไตยแต่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 -3 วันที่ผ่านมา ตลอดจนมาถึงวันนี้ มันเป็นโศกนาฎกรรม ที่ทำให้พวกตน และรวมถึงตนด้วย มีความเศร้าใจและใคร่ขอกราบเรียนไปยังพี่น้องคนเสื้อแดงทุก ๆ คนว่า หากเป็นเสื้อแดงแท้ เป็นเสื้อแดงจริง ขอให้ยึดมั่นแนวทางสันติ และอหิงสาที่เราได้ดำเนินร่วมกันมาตลอด ตนเคยพูดย้ำแล้วย้ำเล่า นับครั้งไม่ถ้วนว่า พวกเรามีชีวิตต่อสู้ เพื่อประชาธิปไตย แต่วิธีการต่อสู้ของเรา ต้องสันติอหิงสา อันนี้ คงจะไม่มีใครจะมาเถียงเราได้ว่าไม่เป็นความจริง ที่พวกเราได้เคยตกลงร่วมกันส่วนเหตุที่เกิดเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา อาจจะทำให้พี่น้องตกอยู่ในอารมณ์โกรธ และผิดหวัง ตนมีความเข้าใจ ก็อยากจะให้ทุกฝ่าย มีความเข้าใจด้วยเช่นกัน อยากให้ทุกฝ่าย หันหน้าเข้าหาสันติ สลายความโกรธที่มีต่อกัน แม้ว่ามันจะทำได้ยาก แต่ขอเรียนว่า ความโกรธไม่อาจจะสร้างสันติได้อย่างแท้จริง และประชาธิปไตยก็ไม่อาจจะสร้างขึ้นได้ด้วยความแค้น ความอคติ สิ่งที่ดีงามจะสร้างขึ้นได้ ด้วยความอหิงสาจากนั้นตำรวจได้นำตัว 3 แกนนำ นปช.ที่มามอบตัวในวันนี้ คือ นายวีระ มุสิกพงษ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นพ.เหวง โตจิราการ ไปควมคุมตัวที่ค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี15.00 น. นายกิตติ สิงหาปัด ผู้ประกาศข่าวในรายการข่าว 3 มิติ ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ของตัวเอง http://twitter.com/kitti3miti ว่า สรุปจากห้องประชุม คือ รายการข่าวแรกที่ออกอากาศสดคือ เที่ยงวันทันเหตุการณ์พรุ่งนี้ (21 พ.ค.)ทั้งนี้ คืนนี้จะไม่มีรายการข่าว 3 มิติ เนื่องจากระบบยังไม่รองรับ คาดว่าจะพร้อมในคืนพรุ่งนี้(21 พ.ค.)นอกจากนี้ มีรายงานว่า รายการทางช่อง3 เริ่มจะกลับมาออกอากาศได้อีกครั้งในเวลา 18.00 น. วันนี้ แต่เป็นรายการเก่า15:00 รายงานแจ้งว่า ช่วงกลางวัน รถเมล์ ขสมก.ให้บริการในทุกเส้นทางตามปกติยกเว้นจุดเจ้าหน้าที่ความมั่นคงยังไม่เปิดการจราจร และ พื้นที่เสี่ยง สำหรับผู้เดินทางสามารถโทรศัพท์สอบถามข้อมูลได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 184 รถไฟฟ้าBTS และรถไฟใต้ดิน MRTยังงดให้บริการต่อเนื่อง ส่วนจะมีการเริ่มเปิดให้บริการวันใดจะมีการแจ้งอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยได้ปิดให้บริการตั้งแต่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมาเรือด่วนเจ้าพระยาให้บริการ แต่เปิดตั้งแต่ 06.00-18.00 น. เรือโดยสารคลองแสบแสบ แจ้งงดให้บริการระหว่างวันที่ 20-21 พ.ค.สำหรับเส้นทางการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น หลายจุดเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ โดยจุดใต้ทางด่วนดินแดงรถจากถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้าสามารถใช้จุดกลับรถใต้ทางด่วนไปยังถนนวิภาวีรังสิตขาออกได้แล้ว ส่วนบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงไปยังราชปรารภและอนุสาวรีย์ชัยฯ เจ้าหน้าที่ กทม.อยู่ระหว่างทำความสะอาดพื้นผิวการจราจรคาดว่าจะสามารถเปิดการจราจรได้ก่อนเย็นวันนี้ขณะที่บริเวณ 4 แยกราชประสงค์ เจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดการจราจร รวมทั้งบริเวณแยกศาลาแดง ถนนราชดำริ และบางจุดรอบสวนลุมพินี แนะให้ผู้ใช้รถใช้ถนนตรวจสอบข้อมูลก่อนการเดินทาง14:45 นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงว่า 1.ขอให้พี่น้องเสื้อแดงยุติการก่อจลาจลในทุกแห่ง 2.ขอให้เสื้อน้ำเงินหยุดสวมรอยก่อจลาจลเพื่อป้ายเสื้อแดง 3.ขอให้กลุ่มผู้ฉวยโอกาสหยุดการกระทำ 4.ขอให้เจ้าหน้าที่หยุดสังหารประชาชน และกลับที่ตั้ง 5.ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันดึงฟืนออกจากกองไฟ ที่กำลังลุกโชนเผาไหม้ประเทศไทยให้เบาบางและมอดดับลงกราบขอโทษผู้ได้รับความเสียหาย ผมไม่อาจแสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายทางการเงินได้ แต่ยินดีแสดงความรับผิดชอบทางกฎหมายทุกประการ นายก่อแก้ว กล่าว14.00 น.สมบัติ บุญงามอนงค์ โพสข้อมูลบนเฟสบุ๊ค เชิญชวนผู้คนในโลกออนไลน์ร่วมทำกิจกรรม ภายใต้สโลแกน หยุดฆ่า หยุดเผา หยุดรัฐบาลอภิสิทธิ์ ในเวลา บ่าย 3-6 โมงเย็น นัดพบใต้ทางด่วนลาดพร้าว 71 ใกล้อิมพีเรียลลาดพร้าว บ่าย 3 โมง ยืนยันแนวทางสันติวิธี เรียกร้องให้มีการดำเนินคดีกับคนที่เข่นฆ่าประชาชน14.00 น.มีรายงานแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัว นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ หนึ่งในแกนนำ นปช.หลังจาก เดินออกมาจากวัดปทุมวนาราม โดย นายวรวุฒิ หลบอาศัยในวัด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ไปที่ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรีนอกจากนี้ ยังมีข่าวจับนายพิเชษฐ์ ทาบุดดา หรือ ดีเจ.ต้อย นักจัดรายการวิทยุชุมชน แกนนำกลุ่มชักธงรบ นปช.จังหวัดอุบลราชธานี โดยเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปที่ค่ายทหาร มทบ 22 แล้ว13:55 น.ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ว่า ถูกเพลิงไหม้หมดเกือบทั้งอาคาร และยังมีไฟคลุกรุ่นอยู่ภายในอาการอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำรถน้ำฉีดสกัดเพลิงเพื่อไม่ให้ลุกไหม้ขึ้นมาอีก ซึ่งเพลิงได้ลุกไหม้ไปจนถึงชั้น 11 ของอาคารล่าสุดตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีอาคารด้านหน้าชั้น 1-4 ถล่มลงมาบางส่วนแล้ว นอกจากนี้ถนนโดยรอบเจ้าหน้าที่ปิดทุกเส้นทางรอบการชุมนุม บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงาไม่อนุญาตให้บุคคลเข้าบริเวณดังกล่าว เนื่องจากต้องรอให้เจ้าหน้าที่สรรพวุธตรวจสอบหาวัตถุระเบิดอย่างละเอียดอีกครั้งส่วนบริเวณอาคารเกสรพล่าซ่า พบเพียงรอยกระสุนถูกยิงกระจกแตกจำนวน 5-6 รู แต่อาคารไม่ได้ถูกเผา ขณะที่แยกประตูน้ำเจ้าหน้าที่พบระเบิดคีโม จึงทำการเก็บกู้เรียบร้อย13.50 น.ทวิตเตอร์ของจส.100 รายงานว่า นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เดินทางเข้าช่วยเหลือผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่หลบซ่อนอยู่ในห้างอัมรินทร์พลาซ่ากว่า 10 คน ตั้งแต่เมื่อคืน เนื่องจากกลัวความผิดไม่กล้าออกมา สุดท้ายต้องโทรขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ให้รับตัวออกมา13.30 น. นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำนปช.อีกคน ได้เดินทางมาเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนกองปราบเช่นกัน ขณะเดียวกันก็ยังไม่มีกลุ่มประชาชนกองเชียร์เดินทางมาให้กำลังใจแต่อย่างใดทั้งนี้ แกนนำ นปช.แจ้งว่าเบื่้องต้นยืนยันมาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและจะปฎิเสธในทุกข้อกล่าวหา13.00 น. วันที่ 20 พ.ค.นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานนปช.และน.พ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช.ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม โดยมี พล.ต.ท.ไถง ปศราจากศัตรู ผบช.ก.เป็นผู้ควบคุมการสอบสวน ซึ่งทั้งสองยังมีสีหน้ายิ้มแย้ม13:15 น.พ.ต.อ วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักดิ์ รอง ผบก.จ.นครราชสีมา ให้สัมภาษณ์ในฐานะได้รับมอบหมาย เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวน ติดตามจับกุม นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน แกนนำ นปช. ผู้ต้องหาคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการรายงาน หรือเบาะแสข้อมูลการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ของนายสุภรณ์ แต่อย่างใด แต่ได้มีการสั่งการให้ จนท.ชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาข้อมูลทางลับ ตามสถานที่ต่างๆ ที่คาดว่า นายสุภรณ์ จะใช้เป็นแหล่งกบดานซุกซ่อนตัว13.00 น.ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ขอนแก่น จำนวน 500 นาย พร้อมอาวุธ ได้เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ชุมนุมอยู่บริเวณสวนรัชดานุสรณ์ ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ที่ชุมนุมกันอยู่กว่า 100 คน โดยเมื่อทหารไปถึงกลุ่มผู้ชุมนุมได้แตกฮือหนีกระเจิงไปคนละทิศละทาง ก่อนที่ทหารจะยืนตรึงกำลังในพื้นที่ หวั่นเกรงผู้ชุมนุมจะกลับมาอีก ซึ่งล่าสุดเมื่อเวลา 13.50 น.ไม่มีคนเสื้อแดงเหลือในพื้นที่เลย12.35 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่านักนิติวิทยาศาสตร์ นำโดยแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ DSI ร่วม 100 คนเข้าตรวจสอบข้อมูลหลักฐาน ทั้งอาวุธและลูกกระสุนปืืน ลายนิ้วมือ และ DNA บริเวณที่หน้าสถานีตำรวจแห่งชาติ แยกเฉลิมเผ่า มีรถ 6 ล้อจอดอยู่หลายคันนอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้าไปเก็บหลักฐานข้อมูลที่วัดปทุมฯ ซึ่งขณะนี้ไม่มีผู้ชุมนุมอยู่แล้ว พบปะทัดยักษ์เหลืออยู่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่เก็บเป็นหลักฐาน ผู้เสียชีวิต 6 รายส่วนใหญ่จากกระสุนปืนด้านสุนีย์ เหลืองวิจิตร เป็นเลขาธิการพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณืว่าผู้ชุมนุมส่วนใหญ่วิตกเรื่องความไม่ปลอดภัย และไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่จะส่งถึงบ้านจริงหรือไม่ เพราะได้ทราบข่าวว่าผู้ชุมนุมที่ไปขึ้นรถที่สนามศุภฯ ก่อนหน้านี้บางส่วนถูกนำไปส่งที่สถานีตำรวจนอกพื้นที่ ที่ตชด.คลอง 5 และที่ราบ 11 อย่างไรก็ตาม เมื่อได้มีการพูดคุยกันผู้ชุมนุมมีความวางใจมากขึ้นนอกจากนี้เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจ ทางพรรคก็มีการขอเบอร์โทรศัพท์คนขับรถ จดเลขทะเบียนรถ และประสานทางจังหวัดต่างๆ เอาไว้ด้วยทั้งนี้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี DSI เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ได้จัดเตรียมนักนิติวิทยาศาสตร์ 40 คน แยกเป็น 4 ชุด เพื่อเข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุวางเพลิงเผาอาคารต่างๆ ในส่วนของดีเอสไอจะส่งพนักงานสอบสวนไปสอบปากคำผู้ต้องหาที่ค่าย ตชด. อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และค่ายนเรศวร จ.เพชบุรี12.30 น.เหตุเพลิงไหม้ ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน ภายในตัวอาคารยังมีไฟลุกไหม้ โดยเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานคร 5 คัน ได้ระดมฉีดน้ำเข้าใส่ โดยยังมีเปลวเพลิงอยู่ที่บริเวณชั้น 3 ของตัวอาคาร ภายในอาคารของร้านหนังสือดอกหญ้า ถูกเปลวเพลิงเผาไหม้ทั้งหมดแล้ว และโครงสร้างบางส่วนของตัวอาคารได้พังลงมา ขณะที่ไฟยังคงไหม้อยู่ด้านในเจ้าหน้าที่ทำการดับไฟได้ลำบาก ทำได้เพียงฉีดนำ้เลี้ยงไม่ให้ไฟไหม้ลามอาคารใกล้เคียง ขณะนี้มีการนำเชือกมากั้นบริเวณ ไม่ให้คนเข้าใกล้ได้รับอันตรายหากอาคารถล่ม ส่วนผู้ที่อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียงตางออกมายืนดู แสดงความหวั่นเกรงว่าอาคารจะพังถล่มลงมาส่วนผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าที่บริเวณแยกประตูน้ำ-ถนนสารสิน และถนนเพลินจิต-อีงรีดูังค์ เป็นพื้นที่อันตราย ยังต้องเฝ้าระวังอยู่12.00 น.เจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.22 ได้แบ่งกำลังออกเป็น 3 สาย มีกำลังพลสายละ 200 คน ไปทำการปิดสถานีวิทยุชุมชนคลื่น 91 และคลื่น 99 ของกล่ม นปช. สามารถยึดเครื่องส่งวิทยุจากกลุ่ม นปช. คลื่น 91 ได้เพียง 1 เครื่องส่วนคลื่น 99 ทางกลุ่ม นปช.ได้นำหลบหนีไปก่อน และอีกสายหนึ่งเจ้าหน้าที่ทหารรจำนวน 200 คน ได้เดินทางไปยังซอยบูรพาใน เขตเทศบาลนครอุบลราชธานี เป็นบ้านของนายพิเชษฐ์ ทาบุดดา แกนนำกลุ่ม นปช.อุบลราชธานี เข้าจับกุมนายพิเชษฐ์ และนำตัวไปควบคุมตัวทำการสอบสวนที่ มทบ.22 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราช จังหวัดอุบลราชธานีที่จังหวัดอุบลราชธานี หลังจากที่มีการประกาศ เคอร์ฟิว วิทยุชุมชนของกลุ่ม นปช.ได้มีการกระจายเสียงระบุถึงเหตุการณ์ที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (19 พ.ค.) ถึง 3 ราย และปล่อยข่าวว่าผูุ้ชุมนุมจะทำการเคลื่อนไหวไปยังสถานที่ราชการหลายแห่ง ทำให้หน่วยงานราชการของ จ.อุบลราชธานี เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ได้มีการขนย้าย เอกสาร เครื่องคอมพิวเตอร์กันจ้าละหวั่นกลัวว่ากลุ่ม นปช.จะมาเผาสำนักงานขณะที่ประชาชนส่วนหนึ่ง ที่เดินทางไปดูสภาพศาลากลางจังหวัดหลังเก่าที่สร้างมานานถูกเผาเสียหาย และได้นำน้ำ เครื่องดื่ม มามอบให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาทำงานอยู่ตามสำนักงานที่ตั้งอยู่ในบริเวณศาลากลาง เพื่อที่จะเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ได้มีกำลังใจที่จะทำงานต่อไป11.30 น.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเพลิงไหม้ตึกเซ็นเตอร์วัน บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มาตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ตึกและร้านค้าที่อยู่ใกล้เคียงพื้นที่ดังกล่าวได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ซึ่งก็รวมถึงอาคารของสำนักงานของมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ที่เป็นอาคาร 4 ชั้นเชื่อมติดกับตึกเซ็นเตอร์วัน ก็เกิดเพลิงลุกลามไหม้อาคารเสียหายไปด้วย โดยเฉพาะพื้นที่ชั้น 2 ถึงชั้น 4 เสียหายมากที่สุดเพราะมีผนังด้านข้างที่ติดกันกับเซนเตอร์วัน ส่วนที่ชั้นล่างก็มีน้ำที่เกิดจากการเข้าไปดับไฟท่วมอย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กว่า 30 คนของมูลนิธิฯ ก็พยายามจะเข้ามาขนของและเอกสารสำคัญออกจากตึก แต่ไม่สามารถนำออกมาได้เท่าไหร่ สำคัญเพราะ มีปัญหาความไม่ปลอดภัยในการเข้าพื้นที่อาคาร จนถึงขณะนี้จึงได้แต่มารอดูสถานการณ์อยู่รอบๆบริเวณ และยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ สำหรับอาคารดังกล่าวเป็นอาคารทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่มูลนิธิฯ เพิ่งย้ายมาเช่าเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น11.30 น. วันที่ 20 พ.ค.คนเสื้อแดงกว่า 100 คน เตรียมแห่ศพนายทรงศักดิ์ ศรีหนองบัว อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 12 หมู่ 8 บ้านหนองตูม ต.หนองตูม อ.เมือง ขอนแก่น ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะกันที่บ้านพักของนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ อดีตรมช.คมนาคม ซึ่งมีบ้านพักอยู่ริมบึงแก่นนครเขตเทศบาลนครขอนแก่นและทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และ บาดเจ็บกว่า 10 คน โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมาในขณะที่นางบุญเรือง ศรีหนองบัว อายุ 59 ปี แม่ของผู้ตาย กล่าวว่า นายทรงศักดิ์ เป็นลูกชายคนโตและเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว ก่อนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ผู้ตายได้มาทำงานที่ร้านวิเชียรเซ็นเตอร์ตามปกติ และพอเลิกงานประมาณ 16.30 น.ได้ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาทางริมบึงแก่นนคร และมาพบกับกลุ่มผู้ชุมนุมกำลังล้อมบ้านนายประจักษ์อยู่ จึงได้เข้าร่วมชุมนุมด้วยแต่จากนั้นก็ถูกยิงจนเสียชีวิตเสียใจมาก ไม่รู้ว่าลูกมาเข้าร่วมชุมนุมด้วย ก่อนหน้านี้เคยเห็นลูกชายบอกมาร่วมชุมนุมได้ครั้งสองครั้งแต่ไม่คิดว่าจะมีเหตุรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตแบบนี้ และอยากจะเอาศพลูกกลับบ้านไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี แต่แกนนำบอกขอเอาไว้แห่เพื่อประจานความโหดเหี้ยมครั้งนี้ก่อน นางบุญเรือง กล่าวนายปราโมทย์ สัจจรักษ์ ผู้ว่าราชการ จ.ขอนแก่น นำเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น จำนวน 20 นาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าตำรวจจาก สภ.เมืองขอนแก่น และตำรวจวิทยาการที่ 23 เข้าตรวจสอบความเสียหายของศาลากลาง จ.ขอนแก่น ทั้งหลังเก่าและหลังใหม่หลังจากถูกลุ่มคนเสื้อแดงบุกฝ่าด่านเจ้าหน้าที่เข้าไปจุดไฟเผาจนเกือบวอดทั้งหลังนายปราโมทย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้น ยังไม่สามารถที่จะสรุปความเสียหายได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกำลังเก็บข้อมูลทางคดี เพื่อนำไปเป็นหลักฐานรายงานให้ส่วนกลางทราบก่อนที่จะมีการดำเนินคดีต่างๆ กับกลุ่มคนเสื้อแดงที่บุกเผาศาลากลาง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสอบสวนหาข้อมูลทั้งหมด11.40 น.รายงานข่าวแจ้งว่า นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช.อีกคนหนึ่ง จะเข้ามอบตัวกับทางกองปราบ ในเวลา 13.30 น. และอาจมีแกนนำ นปช.คนอื่นๆ เดินทางมามอบตัวพร้อมกันด้วยผู้สื่อข่าวแจ้งด้วยว่า รายงานข่าวเกี่ยวกับการจับกุมตัวนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรองได้แล้วนั้น ไม่มีการนำตัวอริสมันต์มาควบคุมตัวที่ค่ายนเรศวร และไม่มีเจ้าหน้าที่หน่วยใดออกมารับรองว่ามีการจับตัวนายอริสมันต์ได้11:31 น.ผู้สื่อข่าวรายงานจากถนนบรรทัดฐานมุ่งหน้าแยกเจริญผลว่า ได้ปิดการจราจรบริเวณดังกล่าวเนื่องจากจะใช้ถนนดังกล่าวจะใช้เป็นพื้นที่ที่สำหรับรถบัสนำผู้ชุมนุมเดินทางกลับล่าสุดมีรถ บขส.เส้นทางสายอีสานประมาณ 10 คันวิ่งเข้าบริเวณดังกล่าวมุ่งหน้าไปสนามศุภชลาศัยเพื่อขนผู้ชุมนุมกลับบ้านผู้ชุมนุมหลายพันคนอยู่เต็มพื้นที่ สตช.เตรียมไปขึ้นรถที่สนามศุภฯ11.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ขณะนี้ผู้ชุมนุมหลายพันคนที่รวบตัวกันบริเวณวัดปทุมฯ ได้มารวมตัวกันจนเต็มพื้นที่แล้ว และมีการจัดแยกออกเป็นภูมิภาค จากนั้นจะเดินเท้าออกไปทาง ประตูติด ถ.อังรีดูนังต์ เพื่อเดินเท้าต่อไปที่สนามศุภชลาศัย โดยในเบื้องต้นคาดว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะนั่งรถไปส่งด้วย11.00 น.สรรเสริญ แก้วกําเนิด โฆษก ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กล่าวว่า ได้มีการประกาศพื้นที่ห้ามออกจากเคหะสถานต่อไปอีก 3 วัน ในพื้นที่เดิม คือทุกจังหวัดที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่มีการเปลี่ยนแปลงเวลาเป็น ตั้งแต่ 21.00น.-05.00น.เครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (HRLA) มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (CrCF) สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) ออกแถลงการณ์ แสดงความขอบคุณต่อการประกาศยุติการชุมนุมและการเข้ามอบตัวของแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (นปช.) ที่ได้แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อชีวิตและความปลอดภัยประชาชน ทั้งนี้ ระบุว่า แกนนำ นปช. ที่เข้ามอบตัว รวมถึงผู้ถูกกล่าวหาที่เข้ามอบตัวหรือถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมีสิทธิ็ได้รับการปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรมและได้รับการคุ้มครองสิทธิในกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่11.00 น. มติชนออนไลน์ รายงานว่า พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า มีการสร้างสถานการณ์วางเพลิง เผาทรัพย์ ส่วนหนึ่งก็เพื่อลักทรัพย์ ขโมยทรัพย์ เชื่อว่าเป็นการวางแผนโดยเห็นได้จากแกนนำบางคนยุยงให้เกิดเผยทำลายทรัพย์ทั่วประเทศ พร้อมประกาศรับผิดชอบเองผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นได้เปิดคลิปวิดีโอ ขณะนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จแห่งชาติ(นปช.) กล่าวว่า เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเองพ.อ.สรรเสริญ กล่าวเพิ่มว่า วันนี้ทหารจะเข้าตรวจสอบรายละเอียดพื้นที่สุ่มเสี่ยงรอบราชประสงค์ ถึงเซ็นทรัลเวิลด์ แยกเพลินจิต แยกประตูน้ำ แยกสารสิน ทั้งพื้นราบและเข้าค้นอาคารสถานที่ ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่หลบซ่อนของชายชุดดำ11.00 น.มติชนออนไลน์รายงานว่า ที่ห้องประชุมมณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) ค่ายกาวิละ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานในการประชุมร่วมกับกองบัญชากำลัง จ.เชียงใหม่ นำโดยนายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ พล.ต.ต.ชานุกร ตัณฑโศกล ผบ.มทบ.33 พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 เพื่อประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า มีแนวโน้มเป็นไปได้ว่าจะลงไปปฏิบัติการใต้ดินตามที่คาดเดาไว้ ซึ่งการทำงานก็ไม่แตกต่างกัน เพราะทหารเป็นไปได้ทั้งเจ้าพนักงานและผู้ช่วยพนักงาน ขณะนี้เรากำลังติดตามพูดคุยกับแกนนำกลุ่มที่ไปกรุงเทพฯ และกำลังกลับมา โดยเฉพาะการจัดกำลังไปดูแลประชาชนที่ดินทางกลับมาด้วย เพื่อผูกมิตรและดูท่าทีเพื่อปรับทัศนคติด้านข่าวสารแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ยอมรับว่าในขณะเกิดเหตุอาจชุลมุนและกำลังมีมาก อาจทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่กล้าดำเนินการ แต่ตอนนี้กำลังทหารมากกว่า น่าจะแก้ไขปัญหาได้แล้วทั้งหมด ทั้งนี้ เชื่อว่าเป็นการคับแค้นใจที่ไม่บรรลุตามต้องการ จึงแสดงออกโดยไม่มีเหตุผล10.30 น. นายอนันต์ ชัยยุทธ ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคขอนแก่น เปิดเผยว่า วันนี้ได้ประกาศปิดสำนักงาน 1 วัน หลังจากมีกลุ่มคนเสื้อแดงขู่ว่าจะบุกเข้าเผาสำนักงาน ทำให้ตนต้องสั่งเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อม นำเอกสารสำคัญออกจากสำนักงาน และเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่สำคัญออกจากสำนักงานให้หมดเพื่อป้องกันการบุกเข้ามาทำลายของคนเสื้อแดงคิดว่าสาเหตุที่คนเสื้อแดงขู่เผาสำนักงานประปาส่วนภูมิภาค เพราะอยากจะตัดน้ำตัดไฟเหมือนกับที่กรุงเทพฯได้ทำกับคนเสื้อแดงทำให้เขาโกรธแค้นและจะเอาคืนบ้าง แต่อย่างไรก็ตามเพื่อความไม่ประมาททางสำนักงานได้เตรียมพร้อมตั้งรับเอาไว้แล้วด้วยการสั่งปิดบริการ 1 วันจนกว่าเหตุการณ์จะสงบนายอนันต์ กล่าว10.30 น. มีบุคคลไม่ประสงค์ดีโทรศัพท์เข้ามาขู่วางระเบิดที่ชั้น 2 อาคารศาลากลาง จ.เชียงใหม่ จึงมีการเร่งอพยพพนักงาน ข้าราชการทุกหน่วยออกจากและสั่งปิดทำการทันที โดยประสานหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดจากตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 มาตรวจสอบข้อเท็จจริง10.30 น.ห้างเซ็นเตอร์วันบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ ไฟยังคงโหมกระหน่ำอยู่ด้านใน ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต มีประชาชนมารอลุ้มให้ดับไฟได้โดยเร็ว ตู้้เอทีเอ็มโดยรอบห้างถูกทุบทำลายทั้งนี้ ห้างเซ็นเตอร์วันที่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้าไปเผาตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ตลอดทั้งคืนเจ้าหน้าที่ได้พยายามเข้าไปดับเพลิงให้ดับโดยเร็ว แต่พอเพลิงเริ่มสงบลงได้ไม่นาน ก็เกิดเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นมาอีก เป็นอย่างนี้ไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถทำการดับเพลิงให้สงบลงได้08.30 น.รายงานข่าวจากวัดปทุมฯ แจ้งว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาเจรจา กับ การ์ด นปช.ซึ่งติดค้างอยู่ในวัดปทุมฯ และเป็นตัวแทนชาวบ้านร่วม 2000 คนเจรจาหาทางกลับบ้าน ในระหว่างคุยกันอยู่นั้น มีเสียงปืนสั้นดังขึ้น 2 นัด ทำให้คนวิ่งหลบกันวุ่นหลังการเจรจาตำรวจหน่วยอรินทราช และพลร่มหญิง 50 คน ได้ประสานและคุ้มกันให้ประชาชนข้ามฝั่งจากวัดไปยัง สตช.เพื่อขึ้นรถกลับภูมิลำเนา ชุดแรกมีประชาชนประมาณ 10 คน ที่ยอมข้ามไปขึ้นรถที่ สตช.เนื่องจากส่วนใหญ่ยังคงไม่ไว้วางใจรัฐ เกรงจะได้รับอันตรายหรือถูกดำเนินคดี และอยากให้ตำรวจประสาน ส.ส.พรรคเพื่อไทยเพื่อมาร่วมส่งตัวกลับบ้านด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงได้ทยอยออกมาเรื่อยๆ10.15 น.ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ คัดกรองคน ตรวจค้นอาวุธ แยกแยะผู้ชุมนุม คาดกระบวนการต่างๆ เหล่านี้ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง10.05 น.มีรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้ชุมนุมราว 2000-3500 คน ทยอยออกมาจากวัดไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างตรวจอาวุธ และแยกผู้ชุมนุมตามภูมิลำเนาต่างๆ โดยตำรวจประสานว่าจะมีรถมารับซึ่งเป็นรถที่จัดไว้ที่สนามศุภฯ เบื้องต้นน่าจะเดินเท้าออกไปโดยให้ตำรวจไปส่งเพื่อความปลอดภัยผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ชุมนุมยังสับสนกับบรรยากาศเมื่อคืน บางคนยังคงมีความเครียดแค้น ทั้งนั้ในช่วงเช้าก่อนกำลังตำรวจเข้ามาเจรจามีเสียงปืนยิงสิบกว่านัด คาดเป็นการปะทะเนื่องจากความหวาดระแวง เนื่องจากเมื่อคืนยังมีการปะทะอยู่ปะปลายเป็นระยะ จากนั้นหลังสอบทุ่ม ได้มีเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบมาประจำอยู่ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเจรจาในเวลาประมาณ 7.30 น.และได้ทยอยออกมาชุดแรก 10 กว่าคน ปลอดภัยเลยได้ทยอยออกมาเรื่อยๆส่วนศพ 6 ศพ ภายในวัดปทุมฯ ที่ยังไม่มีการเคลื่อนย้าย ต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่นิติเวชเข้าพิสูจน์ศพตามกระบวนการ ศพ 1 ใน 6 พบว่ามีเครื่องหมายกาชาดติดอยู่ที่เสื้อ อีกศพเป็นปอเต็กตึ๊ง ที่เหลืออีก 4 ศพ เป็นชุมนุม08.00 น.ผู้สื่อข่าวได้โทรไปสอบถามข้อมูล นพ.พิชิต ศิริวรรณ รอง.ผอ.สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์สภากาชาดไทย เกี่ยวกับเด็กที่ติดอยู่ในวัดปทุมวนารามว่าจะมีการเข้าได้รับคำตอบว่า ตรงนี้ถือเป็นหน้าที่นี้เป็นของสภากาชาด แต่สถานการณ์ในขณะนี้เชื่อว่ารัฐบาลสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ ตอนนี้ทำได้เพียงเข้าไปรับคนเจ็บเท่านั้น เพราะการเข้าออกในทำได้ยาก และพื้นที่ยังมีความไม่ปลอดภัยอยู่06.50 น.วันที่ 20 พ.ค.นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย สรุปเหตุการณ์เหตุเพลิงไหม้ จากการลอบวางเพลิงของกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. จนถึงเช้าวันนี้ ว่า มี32 แห่งที่ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหาย แบ่งเป็น 5 ธนาคาร 17 สาขา ล่าสุด ธ.กสิกรไทยอนุสาวรีย์ชัย ฯ ธนาคารกรุงเทพ 10 จุด ธนาคารกรุงไทย 2 จุด ธนาคารออมสิน 1 จุด ธนาคารกสิกรไทย 2 จุด ธนาคารออมสิน 1 จุด และธนาคารนครหลวงไทย 2 จุดนอกจากนี้ ยังมีโรงภาพยนตร์สยาม และอาคารในสยามซอย 4-5 อาคารสูง 8 ชั้นพังยุบลงมา / ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิล์ด / โรงแรมเซนทราแกรนด์ / การไฟฟ้านครหลวง สาขาคลองเตย / อาคารมาลีนนท์ / อาคารตลาดหลักทรัพย์ / ห้างสรรพสินค้าเซ็นเตอร์วัน / อาคารมหาทุนพลาซ่า เพลินจิต / อาคารไม่มีชื่อข้างสำนักงาน ป . ป . ส ./ ร้านสะดวกซื้อ ตรงข้ามสำนักงาน ป . ป . ส . /. ร้านขายทอง บริเวณถนนพหลโยธิน ซอย 1/. ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือพระนคร อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ / โรงแรมแกรนด์ไดมอน พันทิพย์ และล่าสุด ที่บิ๊กซี ราชดำริ ไฟไหม้แต่เจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ยากลำบาก03.00 น. เพลืงยังคงไหม้ห้างบิ๊กซี ขณะนี้ได้ลามจากชั้น 1 ไปชั้น 2 และ 3 แล้ว02.00 น. 20 พ.ค. มีรายงานว่า พบกลุ่มควันและแสงเพลิงที่ห้างบิ๊กซี ราชดำริ ตรงข้ามกับห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ถูกเผาก่อนหน้านี้ ไทยรัฐรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของ กทม.เข้าตรวจสอบแล้ว23.50 น. ไอเอ็นเอ็นรายงานว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายใน ซื่อตรงคอนโด ซึ่งตั้งอยู่ภายใน ซ.ลาดพร้าว 87 แยก 7 โดยระหว่างที่เกิดเพลิงไหม้ มีเสียงคล้ายหท้อแปลงระเบิดเสียงดังสนั่น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเสียงจากหม้อแปลงระเบิดหรือไม่ ส่วนเพลิงที่ลุกไหม้นั้นจากการตรวจสอบแล้วพบว่ามีเหตุเกิดขึ้นจริง โดยเพลิงได้เกิดขึ้นที่ชั้น 8 ของคอนโด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการใช้น้ำควบคุมสถานการณ์ของ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ขณะที่บริเวณปาก ซ.พหลโยธิน ซ.1 เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านทองไม่ทราบชื่อ และกำลังลุกลามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโกลาหล ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังเร่งระดมรถน้ำเข้าสกัดกั้นอย่างเร่งด่วนแล้ว23.10 น.กลุ่ม จยย. ปาระเบิดเพลิงเผา ธนาคารกรุงเทพสาขารัตนาธิเบศธ์ และตู้เอทีเอ็ม ย่านถนนสายรวด ก่อนเผ่นหนีส่วนคลองเตย ศอฉ.ตัดไฟเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน23.00 น. รายงานข่าวทีวีไทยแจ้งว่า ขณะนี้เพลิงที่โหมห้างสรรพสินค้าเซํนทรัลเวิร์ด ด้าน ZEN มากว่า 8 ชั่วโมงได้มอดสนิทแล้ว โดยสภาพอาคารได้ทรุดตัวลงมา22.55 น. ทีวีไทยสัมภาษณ์ นพ.ปิยลาภ วสุวัต ศัลยแพทย์กองอุบัติเหตุ รพ.พระมงกุฎ กล่าวว่า ที่วัดปทุมวนาราม มีผู้บาดเจ็บ 7 ราย สมัครใจออกมารับการรักษาห้าราย ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากกาชาดว่ามีศพ9 ราย ยังเข้าไปเคลื่อนย้ายศพไม่ได้22.50 น. แหล่งข่าวรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 6 ศพ ห่อด้วยเสื่อวางอยู่ในศาลาวัด ขณะมีพระสงฆ์สวด โดยหนึ่งในนั้นเป็นเพศหญิง และมีผู้ระบุว่าเป็นหน่วยกาชาดที่อยู่ด้านวัดปทุมฯ ชื่อ เกด อายุ 20 ปีเศษ ขณะนี้กำลังตามหาญาติ ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกยิงแต่ไม่สามารถระบุได้ว่าโดนที่ส่วนใดเนื่องจากมีเสื่อห่อศพไว้22.08 มาร์ค แมคคินนอน ทวีตขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันรีทวีต ตอนนี้ผู้บาดเจ็บทุกคนได้มีรถพยาบาลมานำออกไปแล้ว อาจเป็นสิ่งที่ทวิตเตอร์ช่วยได้ พร้อมกันนี้เขายังได้ทวีตรูปภาพของผู้บาดเจ็บที่ได้มีการเจรจาหยุดยิงเพื่อให้นำคนเจ็บออกไปได้ 22:06 น.นายถนอม อ่อนเกตุพล ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ขณะนี้มีไฟไหม้ทั่วกรุงเทพมหานคร 27 จุด ในจำนวนนี้เป็นธนาคารกรุงเทพ 10 สาขา รวมทั้งสาขาสะพานเหลือง ซึ่งเริ่มเกิดเหตุเมื่อเวลา 19.44 น.ที่ผ่านมา และเป็นห้างสรรพสินค้า 2 แห่ง คือเซ็นทรัลเวิร์ดและเซ็นเตอร์วัน โดยที่เซ็นเตอร์วันนั้นผู้ก่อเหตุเป็นวัยรุ่นเกือบ 200 คน ในอาการมึนเมา เจ้าหน้าทีรักษาความปลอดภัยพยายามห้ามปรามแล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ที่เซ็นทรัลเวิร์ดยังไม่สามารถควบคุมได้ รวมทั้งที่โรงภาพยนตร์สยามที่ยังไม่สามารถเข้าถึงที่เกิดเหตุ เพราะมีการยิงปะทะเป็นระยะ อาคารทรุดลงมาตั้งแต่ช่วงเย็น นอกจากนี้ไฟยังลุกลามไปห้องข้างเคียง 3-4 คูหาโดยพรุ่งนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้สั่งให้เข้าตรวจสอบโครงสร้างของอาคารที่เกิดไฟไหม้ รวมทั้งสะพานต่างๆซึ่งเป็นโครงสร้างเหล็ก จากนั้นจะประกาศเป็นเขตอันตรายต่อไป22.00 น. รายงานจากขอนแก่น ระบุเหตุปะทะที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย มีผู้บาดเจ็บ 7 ราย และยังคงมีการเผายางหน้าศาลจังหวัดอยู่ในขณะนี้21.15 น.ผู้พักอาศัยอยู่ในคอนโดแกรนด์ไดมอนใกล้เซ็นทรัลเวิร์ลหวั่นผวา จากสถานการณ์ตอนนี้ตึกเซ็นทรัลเวิร์ลใกล้ถล่ม และถนนถูกปิดไปไหนไม่ได้ พยายามโทรขอความช่วยเหลือเพื่อให้ทางราชการมาช่วยอพยพคนในตึกแต่โทรไม่ติด21.05น. ภัทระ คำพิทักษ์ บรรณาธิการข่าวโพสต์ทูเดย์ให้สัมภาษณ์ทีวีไทย ระบุว่าไม่ได้เกิดเพลิงไหม้ที่อาคารที่ทำการโพสต์ทูเดย์และบางกอกโพสต์แต่อย่างใด โดยในช่วงบ่ายได้มีการย้ายพนักงานออกจากทั้งสองสำนักงาน เหลือไว้เพียงบางส่วนที่จำเป็น ทั้งนี้ มีการบุกทำลายอาคารใกล้เคียงอาคารล็อกซเลย์ มีอาคารถูกเผา รวมถึงสำนักงานไฟฟ้า แต่การ์ดของบริษัทล็อกซเลย์และคนในชุมชนช่วยกันป้องกันทำให้สถานการณ์เบาบางลงทั้งนี้ ภัทระ กล่าวว่า เนื่องจากไฟฟ้าถูกตัด ส่งผลให้มีข้อจำกัดในการทำงาน ทำให้หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ฉบับวันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.) จะเป็นฉบับพิเศษที่มีจำนวนหน้าน้อยกว่าปกติซึ่งมี 30 หน้ากระดาษ21.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานเหลือง และถนนจันทน์21.00 น.มีรายงานเสียงระเบิดดังมาจากบริเวณห้างคาร์ฟูร์ สาขาปู่เจ้าเจ้าสมิงพราย ประชาชนที่อยู่บริเวณใกลเคียงออกมายืนดูเหตุการณ์จำนวนมาก21.00 น. รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ ศอฉ. ได้ขอให้เจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม อนุญาตให้นำเด็กที่ปลบภัยอยู่ในวัดออกเพื่อเปิดทางให้เข้าเคลียพื้นที่ เจ้าอาวาสปฏิเสธ และยืนยันว่า ขณะนี้ทุกคนปลอดภัยอยู่แล้วในวัด20:51 น.คุณเมี่ยง ประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ในชุมชนหลังธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานเหลือง ถ.พระราม 4 โทรศัพท์แจ้งข้อมูลสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ว่าขณะนี้ไฟไหม้ธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานเหลือง ยังโหมหนัก20.30 น. มติชนออนไลน์ รายงานว่า นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวเมื่อเย็นวันที่ 19 พฤษภาคมว่า หลังแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศยุติการชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ และเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว กลุ่มผู้ชุมนุมได้กระจายก่อเหตุรุนแรงทั่วพื้นที่กรุงเทพฯเบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีการลอบวางเพลิงรวม 12 จุด ซึ่งบางแห่งสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่บางแห่งยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้เพราะถูกกลุ่มผู้ชุมนุมสกัดกั้น ซึ่งจะประสานให้ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) จัดเจ้าหน้าที่คุ้มกัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่กองบรรเทาสาธาณภัยสามารถเข้าพื้นที่เพื่อปฏิบัติงานได้ โดยจุดที่ถูกลอบวางเพลิง ประกอบด้วย 1.สยามพารากอน และสยามสแควร์ 2.โรงแรมเซ็นทารา 3.ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 4.อาคารแห่งหนึ่งย่านบ่อนไก่ 5.ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงไทย สาขาอโศก6.ป.ป.ส.และร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น 7.ธนาคารกรุงเทพ และสาขาธนาคารออมสิน สาขาดินแดง 8.อาคารมาลีนนท์ 9.ธนาคารกรุงเทพ และห้างโลตัส พระราม 4 10.การไฟฟ้านครหลวง สาขาคลองเตย 11.ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และ 12.ธนาคารกรุงเทพ สาขาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ20.28 มาร์ค แมคคินนอน ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ทวิตว่า - เจ้าหน้าที่พยาบาลบอกว่า มี 7 คนเสียชีวิต 10 คนบาดเจ็บ ภายในวัดปทุมฯ ซึ่งควรจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ คาดว่าตอนนี้คนประมาณ 1500 - 2000 คน ที่ตกอยู่ในความหวาดกลัว20.00 มาร์ค แมคคินนอน ทวิตว่า เราเป็นเพียงผู้สื่อข่าวที่เหลืออยู่ในวัด ผู้คนรอบตัวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หน่วยกาชาด ไม่สามารถนำรถพยาบาลเข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บ เพราะยังมีการยิงอยู่20.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ที่ จ.ขอนแก่นแจ้งว่า ข่าวจากผู้ชุมนุมมีการแจ้งว่าจากเหตุปะทะมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย บาดเจ็บอีก 8 ราย ขณะนี้ผู้สื่อข่าวกำลังรอการยืนยันจากโรงพยาบาล ในส่วนเจ้าหน้าที่ ขณะนี้มีการประสานงานของเพิ่มกำลังตำรวจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดใกล้เคียง และประสานไปยัง ศอฉ.ขอนแกนเพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อมาควบคุมสถานการณ์การชุมนุมที่กระจายอยู่ในหลายจุด19.45 จากทวิตเตอร์ของมาร์ค แมคคินนอน ระบุ อย่างน้อย 5 บาดเจ็บอยู่รอบตัว ซึ่งเป็นจุดปฏิบัติการของหน่วยพยาบาลในสวนหลังวัดปทุมฯ หนึ่งในนั้นเป็นเพื่อนเพื่อนร่วมงานยังคงมีการยิงต่อเนื่อง19.45 น. ชุมชนบ้านกล้วย ได้ประกาศเสียงตามสายว่า สุเหร่าชุมชนอาจณรงค์จับผู้ต้องสงสัยมีระเบิดเพลิงได้ 1 คน ขณะนี้ถนนเกษมราษฎร์ ย่านคลองเตย ท่าเรือ ถ.พระราม4 เริ่มปิดทางเข้าออกซอยแล้ว คนในชุมนุมจัดเวรยามเฝ้าทางเข้าออกเพื่อระวังภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในคืนนี้19.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีอผู้ชุมนุม เหลืออยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ราว 200 คน19.00 น. อย.ส่งยาระงับอาการเจ็บปวดให้โรงพยาบาล 6 แห่งในกทม. 10000 หลอด ประกอบด้วย รพ.รามาธิบดี 2000 หลอด รพ.ราชวิถี 2000 หลอด รพ.เลิดสิน 2000 หลอด รพ.พญาไท 1 จำนวน 1000 หลอด กล้วยน้ำไท 1 จำนวน 1000 หลอด และรพ.พระมงกุฎเกล้าฯ 2000 หลอด19.00 น. ฝ่ายกิจการพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แจ้งว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศห้ามประชาชานออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 20.00 น.วันที่ 19 พ.ค.จนถึง 06.00 น.วันที่ 20 พ.ค.53 ผู้โดยสารท่านใดที่จำเป็นต้องเดินทางมาขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในช่วงเวลาดังกล่าว ให้แสดงหนังสือเดินทาง บัตรโดยสาร แก่เจ้าหน้าที่พนักงานของรัฐบริเวณด่านตรวจตามจุดต่างๆ ด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คอลเซ็นเตอร์ 02-132-188818.59 น.รท.วิศิษฐ์ อิ้วประภา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้มีสายการบินที่ประกาศยกเลิกเที่ยวบินเชียงใหม่ - สุวรรณภูมิ และกรุงเทพฯ-ดอนเมือง หลังรัฐบาลประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่กรุงเทพฯ คือ การบินไทย ยกเลิก 2 เที่ยวบิน นกแอร์ 1 เที่ยวบิน ทั้งหมดเป็นเที่ยวบินที่ออกหลังเวลา 20.00 น.ส่วนสายการบินบางกอกแอร์เวยส์ ยังไม่ยกเลิกเที่ยวบินที่จะเดินทางไปสุวรรณภูมิ แต่หากผู้โดยสารไม่ประสงค์จะเดินทางสามารถนำตั๋วมาคืนเงินได้ สำหรับสายการบินแอร์เอเชีย ที่มีเที่ยวบินจากเชียงใหม่ - สุวรรณภูมิ จำนวน 2 เที่ยวบินในคืนนี้ ยังยืนยันให้บริการตามปกติ สำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัยได้วางกำลังไว้อย่างเข้มงวดแล้ว18.50 น.กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงได้เคลื่อนพลไปที่บริเวณร้านไก่ย่างวนิดารสเลิศ ติดกับมิตรภาพ เขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของ นายวิเชียร คุณกิตติ พ่อของนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากนั้นมีแผนจะเคลื่อนไปที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น ขณะที่ พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รักษาการ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เตรียมหารือ นายปราโมทย์ สัจจรักษ์ ผู้ว่าฯ ขอนแก่น ถึงการประกาศเคอร์ฟิว หลังสถานการณ์รุนแรง18.20 น.พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุจินต์ นิจพาณิชย์ เดินทางมาที่บ้าน นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ริมบึงแก่นนคร เพื่อควบคุมสถานการณ์ หลังกลุ่มผู้ชุมนุมนับ 100 คนไม่ยอมเคลื่อนย้ายออกไป โดยอ้างว่าเพื่อต้องการให้ตำรวจหาตัวคนร้ายที่ยิงกลุ่มผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่งที่บริเวณหน้าบ้านล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน บาดเจ็บนับ 10 คน ขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่นประกาศรับบริจาคเลือดทุกกรุ๊ป เนื่องจากมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก18:13 น.แบงก์ชาติสั่งสถานบันการเงินทั่วประเทศ ปิดทำการตั้งแต่ 20-21 พ.ค. เหตุห่วงความปลอภัย พนักงาน ลูกค้า รวมถึงสินทรัพย์ พร้อมยอมรับธนาคารพาณิชย์มีปัญหาเคลียร์ริ่งเช็กล่าช้า จากการขนส่งที่ไม่สะดวก ขณะที่ ธปท.ผ่อนปรนไม่ต้องเสียค่าปรับ พร้อมสั่งสำรองเงินให้เพียงพอความต้องการของประชาชน ส่วนตลาดหุ้น ก็ปิดทำการ ตั้งแต่ 20-21 พ.ค.เช่นเดียวกัน18.10 น.ศอฉ.ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง เพิ่มในพืนที่ 2 จังหวัด คือ จ.กาฬสินธุ์ และจ.มุกดาหารแจ้ง บขส.งดวิ่งรถออกจาก กทม.หลัง 2 ทุ่มทุกเส้นทางนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า ตั้งแต่เวลา 20.00 น.วันนี้ (19 พ.ค.) รถ บขส.และรถร่วม บขส.จะหยุดให้บริการเที่ยววิ่งออกจาก กทม.ไปต่างจังหวัดทุกเส้นทาง ส่วนผู้ที่ซื้อตั๋วโดยสารที่ระบุเวลาหลัง 20.00 น. ให้ไปติดต่อที่สถานี เพื่อใช้ตั๋วเดินทางในวันถัดไป18.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาคารเซ็นทรัลเวิร์ล พลาซ่า (อาคารเวิร์ลเทรด เซ็นเตอร์ เดิม) โดนเผาเสียหายหนัก อาจกระทบโครงสร้าง อาคารอาจถล่มได้ทุกเวลา17.45 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตัวแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่เข้ามอบตัว เมื่อช่วงเวลา 13.30 น.ที่ผ่านมา เพื่อทำการสอบสวนที่ค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ด้วยเฮลิปคอปเตอร์ ยกเว้นนายจุตพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ซึ่งมีรายงานข่าวว่า ใช้เอกสิทธิ์ ความเป็น ส.ส. ขณะนี้ตำรวจกำลังติดตามตัวแกนนำที่ยังไม่สามารถควบคุมตัวได้ทั้งนี้ แกนนำที่เข้ามอบตัวประกอบด้วย นายขวัญชัย ไพรพนา นายจุตพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายนิสิต สินธุไพร นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิกปณิธาน แจงเตรียมปรับผังรายการทีวีสู่รายการพิเศษทุกช่อง17.15 น.นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจงเตรียมปรับรายการโทรทัศน์สู่ผังรายการพิเศษทุกช่อง เพื่อรายงานสถานการณ์ความคืบหน้าให้ประชาชนได้ทราบ17.10 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน จ.อุบลราชธานี มีการเผาอาคารศาลากลางจังหวัดอุบล ขณะนี้คืนพื้นที่แล้ว ผุ้ชุมนุมเดินทางกลับไปรวมตัวกันที่สถานนีวิทยุชุมชนเสียงประชาชนเพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่เข้าบุกยึด มีรายงานผู้บาดเจ็บ 6 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว บาดเจ็บสาหัสอยู่ในห้อง ICU จำนวน 2 คน หนึ่งในนั้นเป็นหญิง17.05 น.เฮลิคอปเตอร์บินวนแยกประตูน้ำ ประกาศให้ผุ้ชุมนุมเดินทางกลับบ้าน17.00 น.สำนักข่าว Mcot รายงานว่า นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ถูกจับตัวได้ที่สถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต ก่อนถูกคุมตัวไปสอบที่ค่ายทหารนเรศวร17.00 น.กลุ่มเสื้อแดงขอนแก่นกว่า 300 คน พร้อมรถบรรทุกยางรถยนต์เดินทางไปยังบ้านพักนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ อดีตรมช.คมนาคม พรรคภูมิใจไทย ริมบึงแก่นนคร ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น เพื่อเผาแต่มีเสียงคล้ายปืนดังขึ้นหลายนัด ทำให้มีผู้บาดเจ็บ จำนวน 10 ราย17.00 น.มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์บินลงที่บริเวณดาดฟ้าอาคารมาลีนนท์ (ช่อง 3) เพื่อช่วยเหลื่อผู้ที่ติดอยู่ในอาคารแล้วทหาร-มหาดไทย ตั้งโต๊ะที่สนามศุภฯ สอบประวัติก่อนส่งกลับบ้าน16.45 น. ว่า ที่บริเวณสนามศุภชลาศัย มีการตั้งเตนท์เพื่อส่งผู้ชุมนุมกลับบ้านมาตั้งแต่เวลาบ่ายโมง โดยการตั้งโต๊ะแบ่งเป็นสองขั้นตอน ขั้นแรกเป็นโต๊ะที่ดูแลโดยทหาร ซึ่งจะทำการจดชื่อสกุลตามบัตรประชาชน สอบประวัติขั้นต่อมา เป็นโต๊ะที่ดูแลโดยกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจัดกลุ่มตามจังหวัดและภาคเพื่อให้ประชาชนไปขึ้นรถที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ เป็นรถบัสปรับอากาสและรถเมล์ ซึ่งมีจุดหมายปลายทางคือสถานีขนส่งหมอชิตและสถานีรถไฟบางซื่อจากการสอบถาม มีประชาชนประมาณ 200-300 คนที่กลับไปแล้ว แต่ในเวลานี้ ยังไม่มีประชาชนเข้ามาแจ้งความจำนงเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน มีประชาชนหลายสิบคนมารอรับญาติที่ยังออกมาไม่ได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารเองก็ไม่อนุญาตให้เข้าไปข้างใน16.20 น.ผู้ชุมนุมที่ขอนแก่นรวมตัวกันที่บริเวณถนนมิตรภาพ มีการบุกไปเพื่อจุดไฟเผาในหลายพื้นที่ จุดหลักอยู่ที่สถานี NBT โดยมีการเผาป้าย NBT ด้วย และจวนผู้ว่าราชการจังหวัด มีเพลิงไหม้หลังศาลากลางจังหวัดขอนแก่น รายงานเพิ่มเติมต่อมาระบุว่า ศาลากลางทั้งเก่าและใหม่ถูกเผาแล้ว16.20 น. เนชั่นทีวีรายงานว่า NBT ขอนแก่นถูกเผาแล้ว16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันอยู่จำนวนมากซึ่งก่อนหน้านี้ได้ประกาศตัวเป็นอิสระ ได้บุกทุบทำลาายธนาคารไทยพาณิชย์และเซเว่นอีเลฟเว่น ที่ตั้งอยู่บนเส้นทางไปสามเหลี่ยมดินแดง16.15 น.โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจเผยแพร่ประกาศเคอร์ฟิวส์ห้ามประชาชนออกจากบ้าน 20.00 น.วันนี้ ถึง 06.00 น.20 พ.ค.53 ในพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและพื้นที่ตามประกาศ รวมกว่า 20 จังหวัด ลงนามโดยนายกรัฐมนตรีช่อง 3 งดออกอากาศ-โรงหนังสยามถล่ม-ชม.เซ็นทรัลแอร์พอร์ทพลาซาปิดแล้ว16.10 น.ลานจอดรถอาคารมาลีนนท์เกิดไฟไหม้ กลุ่มคนเสื้อแดงจากคลองเตยเดินทางมาที่อาคารมาลีย์นนท์ พยายามทุบกระจก จากนั้นเดินทางต่อไปที่หนังสือพิมพ์ ขณะนี้ช่อง 3 ไม่สามารถออกอากาศได้ พนักงานติดอยู่บนอาคารจำนวนหนึ่ง16.05 น.ผู้ได้รับบาดเจ็บทยอยนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลแจ้งขอรับเลือดเพิ่ม16.00 น.โรงหนังสยาม ตรงสยามพารากอนเพลิงลุกไหม้จนตัวอาคารถล่มลงมาแล้ว และธนาคารไทยพาณิชย์สาขาใกล้เคียงเกิดไฟไหม้15.40 น.เชียงใหม่เซ็นทรัลโรบินสัน-แอร์พอร์ทพลาซาปิดบริการ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เกิดเหตุระเบิด และกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วน แยกเดินทางไปที NBT เชียงใหม่ ที่จวนผู้ว่ามีเสียงปืนดังขึ้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายใน รถพยาบาลเข้าไปแล้วยังออกไม่ได้ ที่สะพานนวรัตน์รถดับเพลิงถูกยึดอยู่15.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.เชียงใหม่ บ้านพักปลัดจังหวัดเชียงใหม่ มีกลุ่มควันขึ้นมา รถดับเพลิงถูกผู้ชุมนุมยึด และมีการปิดถนนท่าแพ15.22 น กลุ่มเสื้อแดง จ.อุดรธานี พังประตูบุกเข้าศาลากลางจังหวัด พร้อมทุบกระจกประตูทุกบานและทำลายทรัพย์สินราชการ จากนั้นได้เผาอาคารศาลากลางหลังเก่าจนเกิดเพลิงลุกไหม้15.22 น. พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว แถลงข่าวการมอบตัวของ 6 แกนนำ นปช. ประกอบด้วย จตุพร พรหมพันธุ์-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ-นิสิต สินธุไพร-ขวัญชัย ไพรพนา-เจ๋ง ดอกจิก โดยตำรวจตั้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อ 5 แกนนำ มีเพียง จตุพร ที่มีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครอง ต้องแจ้งที่ประชุมสภาฯ ว่าจะคุ้มครองต่อไปหรือไม่15.15 น. ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถ.รัชดา กลุ่มคนไม่ทราบฝ่ายได้บุกเผาบริเวณชั้นล่าง แจ้งเตือนผู้สื่อข่าวภาคสนามที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงกลุ่มคนไม่ทราบฝ่าย กำลังมีอารมณ์โกธรแค้น ไล่นักข่าว หวังทำร้ายร่างกายให้หลีกห่าง15.15น. ที่เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานบ้านพักปลัดจังหวัดเชียงใหม่ มีกลุ่มควันขึ้นมา รถดับเพลิงถูกผู้ชุมนุมยึด และมีการปิดถนนท่าแพ15.00น. อุบลราชธานี มีรายงานผุ้ชุมนุมถูกยิงเสียชีวิตแล้ว 2 ราย เป็นชาย 1 หญิง1 โดยกลุ่มผู้ชุมนุมระบุว่ายิงมาจากฝั่งเจ้าหน้าที่ ส่วนผู้ชุมนุมนั้นมีไม้ บั้งไฟ น้ำมัน ยางรถยนต์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ายังไม่เห็นอาวุธอื่นตัวอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลฯ ชั้นบนนั้นพังถล่มลงมาแล้ว ยังไม่มีรถดับเพลิงเข้ามาแต่อย่างใดนนทบุรี ผุ้ชุมนุมราว 500 กว่าคน เผายางรถยนต์ เตรียมบุกเผาศาลากลางมีรายงานข่าวมีการทุบทำลายกระจกห้างสรรพสินค้าอื่นๆ ในย่านราชประสงค์แล้วขสมก.ประกาศหยุดเดินรถทุกเส้นทางเกิดเพลิงไหม้ที่ตึกด้านหน้าการไฟฟ้านครหลวงคลองเตย14.45 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ส่วนตัว โดยระบุว่า ขอชื่นชมแกนนำคนเสื้อแดง ที่ได้ตัดสินใจรักษาชีวิตพี่น้องเสื้อแดง ด้วยการยอมมอบตัวกับตำรวจ ผมขอแสดงความเสียใจกับพี่น้องที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ14.40 น. บ่อนไก่ ผู้ชุมนุมประกาศไม่ยอมรับการตัดสินใจของแกนนำ มีกลุ่มไอ้โม่งทุบเอทีเอ็ม และมีกลุ่มควันเกิดขึ้นที่การไฟฟ้านครหลวงย่านนั้น14.39น. เสียงตามสายจากชุมชนบ้านกล้วย มีการประชาสัมพันธ์ให้บ้านที่มีถังดับเพลิงเตรียมหน้าบ้าน เพื่อใช้ในยามฉุกเฉินได้ทันท่วงที14.38น. ที่แยกคลองเตย มีไฟไหม้สองจุด จุดหนึ่งใกล้ธนาคารกสิกร สาขาคลองเตย ส่วนซีพีเฟรชมาร์ทถูกทุบ และผู้ชุมนุมมีความพยายามบุกไปช่องสาม14.30 น. อนุสาวรีย์ชัยฯ ผู้การแต้มพยายามประชาสัมพันธ์ให้ผู้ชุมนุมกลับบ้านแต่ไม่เป็นผล ประชาชนยังคงรวมตัวกันและพร้อมจะลุกฮือนอกจากนี้ยังเกิดกลุ่มควันขึ้นที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ และเมื่อมองจากมุมสองจะเห็นว่ามีกลุ่มควันซึ่งคาดว่าเป็นการเผายารถยนต์ที่สารสิน บ่อนไก่ สามเหลี่ยมดินแดง นานา ประตูน้ำ ฯ14.20 น. ที่อิมพีเรียล ลาดพร้าว ยังมีมวลชนเผายางบนถนนฝั่งขาเข้า ควันคลุ้ง ขณะที่ขาเข้ารถติดขัดอย่างมากส่วนที่เซียร์ รังสิต มีคนนำยางรถยนต์จุดไฟเผา เกิดควันคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ14.20 น. ขอนแก่นเผาศาลากลางหลังเก่าวอดทั้งหลัง และลามถึงศาลากลางหลังใหม่แล้ว ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 23 เข้าเสริมกำลังแต่ยังไม่ได้มีคำสั่งให้ดำเนินการใดๆส่วนที่มุกดาหาร ไฟไหม้ศาลากลางเช่นกัน เจ้าหน้าที่ยังเข้าควบคุมเพลิงไม่ได้ ถูกผู้ชุมนุมขัดวางทั้งนี้ ไม่ได้มีกลุ่มแกนนำชัดเจน มวลชนประมาณ 500 คนอารมณ์รุนแรงมาก14.00 น. ศอฉ. แถลงหลังยึดสวนลุมพินี ได้กระชับวงล้อมแยกสามย่าน อังรีดูนังต์ ประตูน้ำ ระหว่างนั้นกลุ่มก่อการร้ายสร้างสถานการณ์สร้างความเสียหายอย่างมาก ศอฉ.จำเป็นต้องจัดเจ้าหน้าที่รุกคืบหน้าต่อไป 13.45 น.ก็สามารถเข้ากดดัน ทำให้กลุ่มแกนนำก่อการร้ายบนเวทีหยุดการชุมนุม ประกาศขอเข้ามอบตัว ศอฉ. สามารถควบคุมสถานการณ์ในภาพรวมไว้ได้แล้ว พยายามอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางสู่ภูมิลำเนา ขอให้ไปรวมกันที่สนามกีฬา ลำดับต่อไปจะดำเนินการควบคุมตัวแกนนำ ขณะนี้ทหาร ตำรวจหยุดปฏิบัติการในภาพรวมแล้ว และได้เปิดเส้นทางให้ประชาชนเดินทางกลับบ้านทางแยกปทุมวัน14.00 น. สปริงนิวส์รายงานว่า หลังจากแกนนำประกาศสลายการชุมนุมและเข้ามอบตัวได้มีเอ็ม 79 ยิงลงมา 4 ลูกและทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 3-4 นาย 13.47 น. หลังแกนเข้ามอบตัวบริเวณราชประสงค์ ผุ้ชุมนุมบางส่วนซึ่งมีอารมณ์โกรธแค้น เข้าทุบกระจกห้างเกษรพลาซ่า และเกิดเพลิงไหม้ขึ้นบริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลเวิรลด์ เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะๆ ขณะที่หลายคนหนีเข้าไปหลบรพ.ตำรวจ16.15 น.โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจเผยแพร่ประกาศเคอร์ฟิวส์ห้ามประชาชนออกจากบ้าน 20.00 น.วันนี้ ถึง 06.00 น.20 พ.ค.53 ในพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและพื้นที่ตามประกาศ รวมกว่า 20 จังหวัด ลงนามโดยนายกรัฐมนตรี16.10 น.ลานจอดรถอาคารมาลีนนท์เกิดไฟไหม้ กลุ่มคนเสื้อแดงจากคลองเตยเดินทางมาที่อาคารมาลีย์นนท์ พยายามทุบกระจก จากนั้นเดินทางต่อไปที่หนังสือพิมพ์ ขณะนี้ช่อง 3 ไม่สามารถออกอากาศได้ พนักงานติดอยู่บนอาคารจำนวนหนึ่ง16.05 น.ผู้ได้รับบาดเจ็บทยอยนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลแจ้งขอรับเลือดเพิ่ม16.00 น.โรงหนังสยาม ตรงสยามพารากอนเพลิงลุกไหม้จนตัวอาคารถล่มลงมาแล้ว และธนาคารไทยพาณิชย์สาขาใกล้เคียงเกิดไฟไหม้15.40 น.เชียงใหม่เซ็นทรัลโรบินสัน-แอร์พอร์ทพลาซาปิดบริการ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เกิดเหตุระเบิด และกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วน แยกเดินทางไปที NBT เชียงใหม่ ที่จวนผู้ว่ามีเสียงปืนดังขึ้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายใน รถพยาบาลเข้าไปแล้วยังออกไม่ได้ ที่สะพานนวรัตน์รถดับเพลิงถูกยึดอยู่18.00 น.รายงานจากทวิตเตอร์ โดยมาร์ค แมคคินนอน ระบุว่า ยังมีการปะทะดุเดือดบริเวณรอบๆ วัดปทุมวนาราม มีแก๊สน้ำตา อย่างน้อย 3 คนถูกยิง ซึ่งอาจจะเป็นบริเวณ ด้านในหรือด้านนอกวัด | เพลิงไหม้ตึกกลาง ซ.ราชวิถี 1 หน่วยดับเพลิงไม่กล้าเข้า ชาวบ้านไม่กล้าออกหวั่นโดนยิง 21.30 น. | การเมือง | การชุมนุมเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2553 | https://prachatai.com/journal/2010/05/29607 |
คุก 7 เดือน เสี่ยขาว เจ้าของซานติก้าผับ เลี่ยงภาษีสรรพสามิต | วันที่ 14 มีนาคม ที่ห้องพิจารณา 904 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.4050/2553 ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือ เสี่ยขาว อายุ 53 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัท ไวท์ แอนด์ บราเธอร์ส์ (2003) จำกัด ผู้บริหารซานติก้าผับ ย่านเอกมัย เป็นจำเลยในความผิดฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ต่อกรมสรรพสามิต รวมยอดเงินทั้งสิ้น 85,382,470.67 บาท เหตุเกิดที่แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. เกี่ยวพันกัน, ,คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยเป็นกรรมการผู้จัดการซานติก้าผับ มีหน้าที่ควบคุมดูแลรับผิดชอบกิจการต่างๆ ภายในร้าน รวมทั้งมีหน้าที่ต้องยื่นแบบภาษี แต่จำเลยไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี โดยมีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี มีความผิดรวม 4 กระทง พิพากษาลงโทษจำคุกกระทงละ 3 เดือน รวมจำคุก 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ส่วนข้อหาแจ้งความเท็จ และข้อหาอื่นๆ ให้ยกฟ้อง เนื่องจากคดีขาดอายุความ, ,ต่อมา จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลยกฟ้อง ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันไม่ยื่นแบบรายการภาษีเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีสรรพสามิตประจำเดือนมกราคม 2548 - ธันวาคม 2551 จากนั้นอัยการโจทก์ยื่นฎีกาให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมาย, ,โดยวันนี้ นายวิสุข หรือ เสี่ยขาว เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาตามกำหนดนัด พร้อมกับทนายความ ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษากันแล้ว เห็นว่าพยานบุคคลและพยานเอกสารที่โจทก์นำสืบมารับฟังประกอบกันฟังได้ว่า แม้บริษัท ไวท์แอนด์บราเธอร์ส (2003) จำกัด จะจดทะเบียนเปลี่ยนตัวกรรมการผู้มีอำนาจจากจำเลยเป็นบุคคลอื่นแล้ว แต่จำเลยยังคงเข้าไปดูแลกิจการของสถานบริการซานติก้าผับแต่เพียงผู้เดียว ทั้งด้านบริการลูกค้าและด้านการเงิน ด้วยการจ่ายเงินเดือนพนักงานร่วมกับผู้ถือหุ้นอื่น สั่งจ่ายเงินจากบัญชีบริษัทเป็นค่าใช้จ่ายสถานบริการซานติก้าผับ และเมื่อมีรายได้จากการดำเนินงาน ก็จะนำเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของจำเลย,แสดงให้เห็นว่าจำเลยยังคงเป็นเจ้าของสถานบริการซานติก้าผับ ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการสถานบริการ ตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ.2527 มาตรา 4 จำเลยจึงต้องมีหน้าที่ยื่นแบบรายการภาษีสรรพสามิต และชำระภาษีสรรพสามิต การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามกฎหมาย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมิได้เป็นผู้ประกอบกิจการสถานบริการซานติก้าผับ หรือร่วมกับ บริษัท ไวท์ แอนด์บราเธอร์ส (2003) จำกัด จึงไม่มีหน้าที่ต้องยื่นแบบรายการภาษีสรรพสามิต และชำระภาษีสรรพสามิตนั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย,ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 มาตรา 4,48(2), 164 ฐานไม่ยื่นแบบภาษีเพื่อหลีกเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีสรรพสามิต รวม 4 กระทง สำหรับความผิดในรายปี 2558 โจทก์ฎีกาให้ลงโทษจำเลยเฉพาะการไม่ยื่นแบบรายการภาษี และไม่ชำระภาษีของเดือน พ.ย. และ ธ.ค. ให้จำคุก 1 เดือน ส่วนความผิดอีก 3 กระทงนั้นให้จำคุกกระทงละ 2 เดือน รวมจำคุก 7 เดือน โดยไม่สมควรรอการลงโทษ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์, ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นายวิสุข หรือ เสี่ยขาว นอกจากคดีหลบเลี่ยงภาษีแล้ว ก่อนหน้านี้ได้รับโทษจำคุก 3 ปีแล้ว ตามคำพิพากษาศาลฎีกา เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2558 ในคดีหมายเลขดำ ที่ อ.541/2553, 648/2553 และ 753/2553 ที่อัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ ยื่นฟ้องเป็นจำเลย ร่วมกับพนักงานดูแลสถานบันเทิงดังกล่าว และนักร้องกับบริษัทรับจ้างติดตั้งไฟและจัดดอกไม้เพลิง รวม 7 คน ฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับบาดเจ็บสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ กรณีเกิดเพลิงไหม้ซานติก้าผับ ย่านเอกมัย คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2551 จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 67 คน บาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัส 103 คน ซึ่งศาลฎีกาพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก 3 ปี เช่นเดียวกับผู้บริหารบริษัทรับจ้างติดตั้งไฟฯ,กระทั่งเวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวเสี่ยขาวกลับไปควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร. | ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 7 เดือน ไม่รอลงอาญา เสี่ยขาว เจ้าของซานติก้าผับ ที่ถูกไฟไหม้ตาย 67 ราย ฐานไม่ยื่นเสียภาษี เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพทันที | ข่าว,อาชญากรรม | ซานติก้าผับ,จำคุก,เสี่ยขาว,ไฟไหม้ผับ,ไม่รอลงอาญา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1228143 |
พปชร.ถกรับมือภัยแล้ง จ่อเสนอรัฐ เพิ่มการผันน้ำภาคตะวันตกช่วย | พปชร.ถกรับมือภัยแล้ง จ่อเสนอรัฐ เพิ่มการผันน้ำภาคตะวันตกช่วย ด้าน ส.ส.กาญจนบุรี พร้อมเปิดพื้นที่ เผย เกษตรกรได้รับสิทธิ์เท่าผู้ประสบภัยแล้ง-สัปดาห์หน้า หารือฝุ่น PM 2.5เกินค่ามาตรฐานวันที่ 12 ม.ค. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แถลงภายหลังการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภาคตะวันตก โดยหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาภัยแล้ง โดยจะนำน้ำจากภาคตะวันตกมาช่วยวิกฤติภัยแล้ง และผลักดันน้ำเค็ม เนื่องจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณไม่เพียงพอ พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลมีความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหา แต่ปัญหาประเทศมีความซับซ้อน ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาล คสช.มีจุดอ่อน ขาดการยึดโยงกับประชาชนที่ไม่มีระบบผู้แทนราษฎร ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐจะนำข้อมูลจากประชาชนผ่าน ส.ส.มาเสนอต่อรัฐบาลขณะที่ พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า วิกฤติภัยแล้งที่ต้องการปริมาณน้ำกว่า 3 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่ภาคตะวันตกมีความสามารถสนับสนุนน้ำมาใช้ได้กว่าร้อยละ 50 จากเขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ์ และเขื่อนแม่กลอง คาดว่าปริมาณน้ำจะเพียงพอจนจบฤดูแล้งนี้ พร้อมยืนยันว่าชาวจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรีพร้อมเสียสละนำน้ำในพื้นที่ช่วยแก้ปัญหาภัยแล้ง ซึ่งเรื่องการขาดแคลนน้ำจืด เบื้องต้นรัฐบาลได้ดำเนินการผันน้ำจากภาคตะวันตกอยู่แล้ว และพร้อมเปิดพื้นที่ให้รัฐบาลนำน้ำไปใช้เพิ่มเติมส่วนการทำประชาพิจารณ์กับชาวบ้านและเกษตรกรในพื้นที่แล้วหรือไม่นั้น พล.อ.สมชาย ย้ำว่า ขณะนี้น้ำจากเขื่อนภาคตะวันตกอยู่ในเกณฑ์สมดุลอยู่ปีละ 1.1 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร และมีเหลือบ้าง จึงสามารถนำส่วนที่เหลือไปผันน้ำได้เพิ่มเติม ทั้งนี้เกษตรกรภาคตะวันตกจะได้รับสิทธิ์เท่ากับเกษตรกรที่ประสบภัยแล้งภาคอื่น และจะเพิ่มระบบส่งน้ำรูปแบบชลประทานในพื้นที่เพิ่มขึ้นด้วยด้าน น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ จะหยิบยกปัญหาภัยแล้งให้เป็นวาระอย่างยั่งยืน ไม่ใช่การแก้ปัญหาแบบปีต่อปี เพราะปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกปี ดังนั้น ส.ส.ทุกภาคและผู้บริหารพรรคจะประสานไปยังรัฐมนตรีเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการบริหารจัดการน้ำในระยะยาวสำหรับการประชุมสัปดาห์หน้าจะหารือถึงปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน โดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐจะเข้าร่วมประชุม พร้อมเชิญผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล น.ส.วทันยา กล่าว. | พปชร.ถกรับมือภัยแล้ง จ่อเสนอรัฐ เพิ่มการผันน้ำภาคตะวันตกช่วย ด้าน ส.ส.กาญจนบุรี พร้อมเปิดพื้นที่ เผย เกษตรกรได้รับสิทธิ์เท่าผู้ประสบภัยแล้ง-สัปดาห์หน้า หารือฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน | ข่าว,การเมือง | ภัยแล้ง,สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์,ผันน้ำภาคตะวันตกช่วย,PM 2.5,พลังประชารัฐ,สมชาย วิษณุวงศ์,ส.ส.กาญจนบุรี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1745673 |
มาตรฐานในการตัดสิทธิทางการเมือง | สื่อมวลชนรายงานข่าวไม่แตกต่างกันว่าเป็นการพบปะเลยประชุมร่วมกันของแกนนำของแต่ละพรรคการเมือง คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ดูเหมือนจะยอมรับความสำคัญของบุคคลเหล่านี้ในพรรคการเมืองต่างๆ เพราะไม่ได้มีการปฏิเสธเกิดขึ้นแต่อย่างใด ภายหลังการประชุมคุณอภิสิทธิ์ก็ยังได้ชี้แจงถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งตกลงกันระหว่างผู้ประชุมข้อสงสัยที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากเป็นคำถามว่าในฐานะที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง บุคคลที่เข้าร่วมการประชุมกับคุณอภิสิทธิ์ในฐานะแกนนำหรือตัวแทนของพรรคการเมืองสามารถจะกระทำเช่นนั้นได้หรือไม่การเพิกถอนสิทธินักการเมืองหรือที่เรียกกันว่าการตัดสิทธิทางการเมืองของนักการเมืองจำนวนมากด้วยคำวินิจฉันของศาลรัฐธรรมนูญ ได้นำมาซึ่งข้อถกเถียงว่าการตัดสิทธิทางการเมืองนั้นมีความหมายครอบคลุมกว้างขวางเพียงใด สำหรับการกระทำบางอย่างมีบทบัญญัติที่กำหนดเอาไว้อย่างชัดเจน เช่น เพิกถอนสิทธิในการลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นระยะเวลา 5 ปี ห้ามดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองแต่การกระทำหลายอย่างก็ไม่มีความชัดเจนว่าจะสามารถกระทำได้หรือไม่ หรือหากกระทำไปแล้วจะมีขอบเขตจำกัดเอาไว้ในลักษณะเช่นไร ดังการมีบทบาทในการช่วยผู้อื่นหาเสียงในการเลือกตั้งจะสามารถกระทำได้หรือไม่ หรือหากเป็นเพียงแค่การถ่ายรูปคู่กับผู้รับสมัครเลือกตั้งเท่านั้นโดยไม่มีการพูดอะไรแม้แต่สักคำเดียวประเด็นต่างๆ เหล่านี้ได้กลายเป็นข้อถกเถียงในคราวเลือกตั้งครั้งล่าสุด และได้มีคำวินิจฉัยไว้อย่างน่าสนใจจากทาง กกต.ว่าการช่วยหาเสียงให้กับบุคคลผู้ลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ถือว่าเป็นหน้าที่สำคัญของกรรมการบริหารพรรคการเมือง ดังนั้น บุคคลที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองย่อมไม่สามารถทำหน้าที่ในลักษณะเช่นนี้ได้ประเด็นสำคัญของการวินิจฉัยก็คือ การพิจารณาจากบทบาทที่เป็นจริงของบุคคลที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองว่ามีอยู่ในลักษณะเช่นไร หากทำหน้าที่ในแบบเดียวกับที่กรรมการบริหารพรรคกระทำก็ควรต้องถูกห้าม แม้จะไม่ได้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองด้วยการระบุชื่ออยู่ในทะเบียนอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรก็ตามเหตุผลแบบที่กล่าวมานี้ก็น่าจะรับฟังเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากไปมองแค่ชื่อในทะเบียนพรรคการเมืองเพียงอย่างเดียว เราก็อาจเห็นบรรดาผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองทั้งหลายเข้าไปยุ่มย่ามในพรรคการเมืองเต็มไปหมดแต่ไม่ปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริหารของพรรค รวมถึงอาจไปชี้นิ้วสั่งซ้ายหันขวาหันในพรรคการเมืองได้แต่พอมานึกถึงการประชุมระหว่างคุณอภิสิทธิ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีกับผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเพื่อคุยกันเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ชวนให้สงสัยเป็นอย่างยิ่งบุคคลต่างๆ เหล่านี้มาประชุมในฐานะแกนนำของพรรคการเมืองสถานะดังกล่าวเป็นที่ยอมรับและรับรู้กันโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองก็ตาม การกำหนดแนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นที่เข้าใจร่วมกันระหว่างพรรคการเมืองก็ย่อมต้องให้บุคคลที่มีพลังอยู่ในพรรคมาร่วมประชุม ส่วนหนึ่งก็คงต้องเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ปรากฏรายชื่อเป็นตัวหนังสือชัดเจนแต่อีกหลายคนซึ่งอาจใหญ่กว่าชื่อที่ถูกเขียนอย่างเป็นทางการก็ได้มาเข้าร่วมด้วยเมื่อตกลงเป็นที่เข้าใจร่วมกันแล้ว ก็จะนำไปสู่ปฏิบัติการในทางการเมืองซึ่งแต่ละพรรคต่างก็ล้วนต้องปฏิบัติตามตามแนวทางที่ได้ตกลงกันเอาไว้จะปฏิเสธหรือว่าการประชุมที่บ้านพิษณุโลกที่ร่วมด้วยบรรดาผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเพียงลูกกระจ๊อกปลายแถว เอาเข้าจริงนี่คือเจ้าของพรรคการเมืองตัวจริงเสียงจริงมากกว่าที่ถูกอุปโลกน์กันเสียอีกไม่แน่ใจว่าทาง กกต.จะมีคำอธิบายอย่างไรกับเหตุการณ์เหล่านี้ ดูเหมือนจะไม่มีความเห็นใดๆ ออกมาแม้แต่น้อย ทั้งที่การประชุมที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นเรื่องแอบทำกันในห้องนอนเหมือนแอบมีเมียน้อย แต่โจ่งแจ้งและบอกกล่าวล่วงหน้ามาอย่างชัดเจน จึงมีความหมายไปอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเดาว่าเพราะเห็นว่าการกระทำนี้ไม่ได้ขัดต่อข้อห้ามในเรื่องตัดสิทธิทางการเมืองอันนี้เป็นปัญหาสำคัญที่ควรต้องตอบเพราะหากยึดเอาหลักการที่ กกต.วางเอาไว้ในการวินิจฉัยกรณีหาเสียงโดยผู้ตัดสิทธิทางการเมืองแล้ว บทบาทในการประชุมครั้งนี้โจ๋งครึ่มไม่น้อยไปกว่าการช่วยหาเสียงด้วยซ้ำคุณอภิสิทธิ์จะเชิญคุณเนวินมาร่วมประชุมในฐานะอะไรหรือ จะตอบว่าเป็นเพราะคิดถึงอ้อมกอดที่ทำให้ก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็คงยากจะเชื่อได้ได้เคยมีข้อกล่าวหาแบบนี้เกิดขึ้นบางแล้ว แต่คำชี้แจงที่เคยเกิดขึ้นก็คือว่าข้อเท็จจริงแตกต่างกันดังนั้นผลของการวิจัยจึงมีความแตกต่าง จำเป็นต้องกล่าวไว้ล่วงหน้าเลยว่ากรณีที่กำลังกล่าวถึงนี้ผู้เขียนก็ตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างการช่วยหาเสียงในการเลือกตั้งกับการร่วมประชุมแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน ข้อสงสัยที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ที่มาตรฐานในการวินิจฉัยการกระทำที่มีสาระในลักษณะเดียวกันว่าจะให้ผลอย่างไรอยากรู้เหมือนกันว่าจะมีความเห็นอย่างไรเกิดขึ้นกับองค์กรที่ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งในกรณีที่เกิดขึ้นกับฝ่ายที่ยืนตรงกันข้ามกับพรรคประชาธิปัตย์ จำได้ไหมครับว่าในคราวถกเถียงเรื่องการมีบทบาทช่วยในการหาเสียงของผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง มีการให้ความเห็นทั้งส่วนตัวและองค์กรเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาสอบสวนอย่างเป็นเรื่องเป็นราวอย่างรวดเร็วแต่กลับกรณีการประชุมในครั้งนี้ทำไมถึงได้เงียบสนิทราวกลับว่าไม่มีองค์กรนี้อยู่ในสังคมไทยในท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่ยังไม่ยุติลง การทำหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือและการยอมรับจากทุกฝ่ายเป็นเงื่อนไขหนึ่งจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการนำสังคมไทยกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่นำเอาความขัดแย้งทางการเมืองเข้าสู่การวินิจฉัยขององค์กรทางการเมืองได้ขอให้เข้าใจว่าทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นกล่าวหาว่ามีการเลือกปฏิบัติหรือสองมาตรฐานเกิดขึ้นแต่ต้องการตั้งคำถามถึงหลักการในการวินิจฉัยกรณีเรื่องตัดสิทธิทางการเมืองจะวางอยู่บนมาตรฐานอย่างไรต่างหาก | คำถามที่อยากชวนใหช่วยกันขบคิด เฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่าง กกต.ถ้าให้คำตอบที่มีเหตุผลได้ก็จะเป็นประโยชน์แก่สังคมการเมืองไทยไม่น้อย รวมทั้งทำให้ผู้เขียนหายความคับข้องใจได้ | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | การแก้ไขรัฐธรรมนูญ,สมชาย ปรีชาศิลปกุล,สิทธิทางการเมือง | https://prachatai.com/journal/2009/10/26262 |
บาส-ปอป้อ ควง กิ๊ฟ-วิว ฉลุยรอบ 2 ขนไก่เฟรนช์ โอเพ่น | นักตบลูกขนไก่ประเภทคู่ของไทยทั้ง บาส-ปอป้อ และ กิ๊ฟ-วิว โชว์ฟอร์มสุดเฉียบขาด ตีตั๋วเข้าสู่รอบสองแบดมินตันรายการใหญ่ที่ฝรั่งเศสได้สำเร็จ,วันที่ 24 ต.ค.62 การแข่งขันแบดมินตันเอชเอสบีซี เวิลด์ ทัวร์ ซุปเปอร์ 750 รายการ โยเน็กซ์ เฟรนช์ โอเพ่น 2019 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 750,000 เหรียญ (ประมาณ 22.8 ล้านบาท) โดยวันนี้ยังเป็นการชิงชัยในรอบแรก,โดยในประเภทคู่ผสม บาส-ปอป้อ เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ของไทย และเป็นมือวางอันดับ 2 ของรายการ พบกับ ธอม ชีคเกล กับ เดลฟีน เดลรู ของฝรั่งเศส 2-0 เกม 21-15, 21-16 เข้ารอบไปพบกับ ลู่ ไค กับ เฉิน หลู จากจีน,ขณะที่ประเภทหญิงคู่ กิ๊ฟ-วิว จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ รวินดา ประจงใจ พบกับ ไมเกน เฟรอร์การ์ด และ ซารา ไทเกอเซ่น จากเดนมาร์ก 2-0 เกม 21-16, 21-17 เข้ารอบสองไปพบกับ ลี โซ ฮี กับ ชิน ซึง ชาน เต็ง 5 ของจากเกาหลีใต้. | นักตบลูกขนไก่ประเภทคู่ของไทยทั้ง บาส-ปอป้อ และ กิ๊ฟ-วิว โชว์ฟอร์มสุดเฉียบขาด ตีตั๋วเข้าสู่รอบสองแบดมินตันรายการใหญ่ที่ฝรั่งเศสได้สำเร็จ | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | แบดมินตัน,เฟรนช์ โอเพ่น,บาส-ปอป้อ,เดชาพล พัววรานุเคราะห์,ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย,จงกลพรรณ กิติธรากุล,รวินดา ประจงใจ | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1689110 |
ตงฟง จับมือ ลีสซิ่งกสิกร ลุยตลาดรถบรรทุกเล็ก | เมื่อวันที่ 13 พ.ย. นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า แม้ภาพรวมตลาดรถยนต์ของไทยในปีนี้จะชะลอตัวลง แต่ตลาดรถบรรทุกขนาดเล็กยังมีแนวโน้มที่ดีตามการขยายตัวของธุรกิจเอสเอ็มอี เนื่องจากเป็นรถราคาประหยัด มีขนาดเล็ก ต้นทุนการใช้งานที่ต่ำ มีความคล่องตัวเหมาะกับการใช้งานของเอสเอ็มอี ดังนั้น บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด และบริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำในธุรกิจการผลิตและจำหน่ายรถบรรทุกขนาดเล็ก จึงร่วมกันเปิดโครงการ ตงฟง เยส เพื่อช่วยลูกค้าที่ต้องการขายรถยนต์ตงฟงเก่าและแลกซื้อรถยนต์ตงฟงใหม่ หรือลูกค้าที่ต้องการซื้อรถยนต์มือสองที่มีการรับประกันคุณภาพโดย ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) โดยลีสซิ่งกสิกรไทยจะสนับสนุนสินเชื่อเช่าซื้อแก่ลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ,สำหรับปี 2558 คาดว่าทิศทางความต้องการตลาดรถยนต์เชิงพาณิชย์จะปรับตัวดีขึ้นจากปัจจัยบวก โดยเฉพาะเรื่องการลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชน ที่จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นชัดเจนกว่าปีนี้ โดยการเปิดเสรีทางการค้าภายใต้กรอบ AEC จะเป็นอีกแรงหนุนหนึ่งที่สำคัญทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการขนส่งมีการขยับขยายเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องราคาสินค้าเกษตรที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ประกอบกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังสะสมอยู่ จะยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดรถยนต์ รวมทั้งปี 2558,นายสุรัตน์ กล่าวต่อว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ปี 2558 มีโอกาสขยายตัวไม่ต่ำกว่า 5% ตลาดรถบรรทุกขนาดเล็ก นับเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูง แต่มีบริษัทรถยนต์ที่ทำการตลาดอย่างจริงจังเพียงไม่กี่ยี่ห้อ รวมทั้งล่าสุด การที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีด้านเศรษฐกิจที่สำคัญเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลงทุนตั้งโรงงานและขยายการลงทุนในช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ ก็เพิ่มจากปีที่แล้ว 10% และ 6% ตามลำดับ จึงเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจไทย เชื่อว่าเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว ตลาดรถบรรทุกขนาดเล็กจะเป็นตลาดรถยนต์กลุ่มแรกๆ ที่ฟื้นตัว และการที่ตงฟงลงมาทำการตลาดรถยนต์มือสอง จะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเฉพาะรายเล็กๆ หรือที่เริ่มต้นธุรกิจใหม่ที่มีเงินทุนจำกัด สามารถมีรถบรรทุกที่เหมาะไว้ใช้งานในธุรกิจได้มากขึ้น,นายพิทยา ธนาดํารงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตงฟงฯ กล่าวว่า ตงฟง มอเตอร์ส ได้จับมือกับลีสซิ่งกสิกรไทยเดินหน้าเปิดโครงการรถมือสอง ตงฟง เยส โดยรับเทิร์นและจำหน่ายรถตงฟงมือสองผ่านทางเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายรถตงฟง 50 สาขาทั่วประเทศ ภายใต้โครงการนี้ ลูกค้าสามารถขายรถยนต์ตงฟงเก่าและแลกซื้อรถยนต์ตงฟงใหม่ หรือซื้อรถมือสองได้ที่ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ตงฟงทั่วประเทศ โดยมีลีสซิ่งกสิกรไทย เป็นผู้สนับสนุนสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ตงฟงทั้งรถมือหนึ่งและมือสองด้วยเงื่อนไขที่พิเศษ โดยมีเป้าหมายในปี 2558 ที่ 300 คัน ทั้งนี้ รถยนต์ตงฟงมือสองที่จะจำหน่ายเข้าสู่ตลาดทุกคันจะถูกส่งกลับไปปรับสภาพ และตรวจสอบคุณภาพใหม่หมดทุกคันที่โรงงานประกอบรถยนต์ของตงฟง เพื่อควบคุมมาตรฐานด้านคุณภาพให้ผู้บริโภคอุ่นใจ และมั่นใจกับรถยนต์ตงฟงได้ทั้งรถมือหนึ่งและมือสอง และสำหรับรถยนต์ตงฟงมือสองทุกรุ่นจะมีการรับประกันคุณภาพ 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร,อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะทำให้ราคาขายรถมือสองของตงฟงมีความเหมาะสม สร้างความมั่นใจแก่ลูกค้ามากขึ้น และจะช่วยผลักดันทั้งยอดขายรถยนต์ใหม่และรถยนต์มือสองควบคู่กันในส่วนภาพรวมการจำหน่ายรถบรรทุกขนาดเล็กของตงฟงในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีอัตราเติบโตคงที่จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งนับว่าเป็นเซ็กเมนต์รถยนต์ ที่ได้รับผลกระทบน้อยมากจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจของประเทศ ตลาดรถบรรทุกขนาดเล็กนั้น มีเอกลักษณ์ในแง่ที่มีผู้จำหน่ายอยู่เพียงไม่กี่ราย แต่มีฐานลูกค้าที่ชัดเจน เพราะฉะนั้น การดูแลลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ จึงมีการจัดตั้งโครงการสนับสนุนตลาดรถมือสองดังกล่าวขึ้น เพื่อดูแลลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ของรถยนต์ตงฟง โครงการ ตงฟง เยสถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่จะยกระดับภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นในยี่ห้อรถยนต์ตงฟง ในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน สำหรับแบรนด์รถยนต์จากจีนในตลาดประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นก้าวสำคัญที่จะพัฒนาแบรนด์รถยนต์จีนให้เท่าเทียมกับแบรนด์อื่นในตลาดทั่วไป,นายพิทยา กล่าวอีกว่า ยอดขายของรถยนต์ตงฟงในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ มีจำนวน 1,814 คัน และภายในสิ้นปีนี้คาดว่า สามารถทำยอดขายได้ถึง 2,300 คัน ตามเป้าที่ตั้งไว้ โดยลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และมีกลุ่มลูกค้าที่เริ่มสนใจเป็นเจ้าของธุรกิจเล็กๆ ต้องการรถบรรทุกขนาดเล็กดัดแปลงเพื่อค้าขายสินค้า หรือรถอาชีพจำนวนมากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ก็ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถยนต์ตงฟงได้ง่ายขึ้น | ตงฟง มอเตอร์ส จับมือกับ ลีสซิ่งกสิกรไทย ลุยตลาดรถบรรทุกขนาดเล็ก เปิดตัวโครงการ ตงฟง เยส! สนับสนุนสินเชื่อ ชี้ตลาดรถบรรทุกขนาดเล็กในไทยยังสดใส | null | รถบรรทุกขนาดเล็ก,ลีสซิ่งกสิกรไทย,ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด,รถจีน,รถยนต์,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/463115 |
เฟซบุ๊กไลฟ์ในศาล วัฒนาโดนอีกคดีข้อหา ละเมิดอำนาจศาล คุก 1 เดือน ปรับ 500 บ. | ยิ่งลักษณ์ และวิพากษ์ปมหมุดคณะราษฏร21 ส.ค.2560 เมื่อเวลา 19.17 น. เฟซบุ๊กแฟนเพจ โพสต์ข้อความพร้อมรายงานว่าศาลอาญา มีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว วัฒนา เมืองสุขอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และแกนนำพรรคเพื่อไทยหลังจากพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ยื่นขอฝากขังคดีในข้อหายุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์โดยตีราคาประกัน 200000 บาท และไม่กำหนดเงื่อนไขนอกจากนี้ศาลได้สั่งจำคุก 1 เดือน ปรับ 500 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี ในข้อหาละเมิดอำนาจศาล จากการที่ วัฒนา ถ่ายถอดสดผ่านเฟชบุ๊กระหว่างรอการพิจารณาภายในศาล รายงานว่าวันนี้ (21 ส.ค.60) วัฒนา พร้อมทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวน ปอท. ตามหมายเรียกให้มายื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร หลังจากถูกดำเนินคดีในข้อหายุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และความผิดตาม พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ กรณีโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาลักษณะปลุกระดมมวลชนมาให้กำลังใจ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันตัดสินคดีโครงการรับจำนำข้าว รวมถึงกรณีโพสต์ความเห็นวิพากษ์วิจารณ์เรื่องหมุดคณะราษฏรหลังจากนั้นพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายวัฒนามาขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญา ซึ่งท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว และอยู่ระหว่างการไต่สวนกรณีที่วัฒนาคัดค้านคำร้องฝากขัง ระหว่างนั้นวัฒนา ได้เฟซบุ๊กไลฟ์ในห้องรับคำร้องขอฝากขังประมาณ 5 นาที ทำให้ศาลตั้งเรื่องละเมิดอำนาจศาลว่าประพฤติตนไม่เหมาะสม และไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ซึ่งหลังจากที่ไต่สวนคำร้องฝากขังแล้ว ศาลจะดำเนินการไต่สวนขอกล่าวหาละเมิดอำนาจศาลจนมีคำตัดสินดังกล่าวด้าน วัฒนา ระบุว่าไม่ทราบว่าในพื้นที่ศาลไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ แต่ก่อนที่จะเผยแพร่ภาพสด ได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่แล้ว ว่าใช้โทรศัพท์ได้หรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าใช้ได้ จึงได้หยิบโทรศัพท์ออกมาใช้ | วัฒนา ถูกศาลสั่งจำคุก 1 เดือน ปรับ 500 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปีข้อหาละเมิดอำนาจศาล เหตุเฟซบุ๊กไลฟ์ในศาล ระหว่างไต่สวนกรณีที่วัฒนาคัดค้านคำร้องฝากขังคดี ม.116 และ พ.ร.บ.คอมฯ เหตุโพสต์ให้กำลังใจ | การเมือง,สิทธิมนุษยชน,ไอซีที | ม.116,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,ละเมิดอำนาจศาล,วัฒนา เมืองสุข,หมุดคณะราษฏร,เฟซบุ๊กไลฟ์ | https://prachatai.com/journal/2017/08/72922 |
บิ๊กตู่ รับไทยเหลื่อมล้ำ สั่งสมมานาน วอนทุกคนเข้าใจสถานะประเทศ | ก้าวไปข้างหน้า,เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ติดตามข่าวที่ระบุว่าประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก แล้วรู้สึกไม่สบายใจ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะข้อมูลที่ปรากฏอาจคลาดเคลื่อนและไม่สมบูรณ์ อีกส่วนหนึ่งเพราะคนไทยบางคนมองประเทศตัวเองว่าย่ำแย่ ทำให้คนส่วนใหญ่เสียกำลังใจ,นายกฯ ยอมรับว่าปัญหาความเหลื่อมล้ำยังมีอยู่จริง เช่นเดียวกับหลายประเทศ ถือเป็นปัญหาที่สั่งสมมานาน คนไทยส่วนใหญ่อยู่ในภาคการเกษตรและมีรายได้น้อย เมื่อเทียบกับนักธุรกิจหรืออาชีพอิสระอื่นๆ ที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และมีโอกาสเข้าถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตมากกว่า รัฐบาลจึงได้ประกาศลดความเหลื่อมล้ำในสังคมเป็นวาระเร่งด่วน และบรรจุไว้ในแผนปฏิรูประยะยาว,นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังห่วงใยผู้มีรายได้น้อยมากกว่า 11 ล้านคนเป็นอย่างมาก ตัวอย่างที่ได้ดำเนินการคือการจัดสรรที่ดินทำกินในพื้นที่ของรัฐให้แล้ว 61 จังหวัด เนื้อที่รวมกว่า 317,000 ไร่ และมีแผนจะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้ธุรกิจรายย่อย ปฏิรูประบบภาษีและกระจายการถือครองที่ดิน และยกระดับคุณภาพชีวิตทุกด้าน ซึ่งถูกกำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ที่จะค่อยๆ เห็นผลทุก 5 ปี จึงขอให้คนไทยทุกคนเข้าใจสถานะประเทศ พัฒนาตนเอง และร่วมมือกับภาครัฐผลักดันบ้านเมืองให้ก้าวไปข้างหน้า. | บิ๊กตู่ ไม่สบายใจไทยติดอันดับโลกเหลื่อมล้ำมากสุด ชี้ข้อมูลอาจคลาดเคลื่อน รับปัญหาสั่งสมมานาน ลั่นยกระดับคุณภาพชีวิตทุกด้าน วอนคนไทยเข้าใจสถานะประเทศ พัฒนาตนเองร่วมมือรัฐผลักดันบ้านเมือง | ข่าว,การเมือง | เหลื่อมล้ำ,ไทยเหลื่อมล้ำมากสุด,ลดเหลื่อมล้ำ,คนไทยรายได้น้อย,ยุทธศาสตร์ชาติ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1440271 |
บอร์ดประกันสังคมมีมติปล่อยกู้รัฐบาล 2 แสนล้านเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน | ไม่เห็นด้วยเนื่องจากผู้ประกันตน 13 ล้านคนจะได้รับผลกระทบ8 มิ.ย. 2558 - รายงานเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ว่า นายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงข่าวกระทรวงการคลัง ชักชวนกองทุนประกันสังคม ร่วมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลจำนวน 200000 ล้านบาทโดย กรรมการบอร์ด สปส. บางคนเห็นว่าควรกระจายการลงทุนว่า ปีนี้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) มีงบประมาณการลงทุนสูงที่สุดจำนวน 400000 ล้านบาท คณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ เรื่องการลงทุนที่เป็นยุทธศาสตร์ เป็นการลงทุนในภาครัฐต่างๆ เช่น การก่อสร้างระบบรถไฟ ระบบบริหารน้ำ โดยแบ่งงบประมาณการลงทุนไว้ 200000 ล้านบาทให้รัฐบาลกู้ โดยมีข้อแม้ว่ารัฐจะต้องออกพันธบัตรค้ำประกันให้ สปส. ดอกเบี้ยประมาณร้อยละ 3 – 3.5 ซึ่งได้เสนอมติไปยังกระทรวงการคลังแล้ว กระทรวงการคลังเห็นชอบในหลักการ และหากดำเนินการต่อไป กระทรวงการคลังต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อกู้เงิน ส่วนกรณีที่เครือข่ายแรงงานมีความเป็นห่วงในเรื่องความมั่นคงและความคุ้มค่าในการลงทุน แม้ผลตอบแทนอาจไม่มากเท่ากับการนำเงินไปลงทุนต่างประเทศ แต่ได้ผลตอบแทนในอัตราที่คุ้มค่า ส่วนเรื่องของความมั่นคง ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะรัฐบาลเป็นผู้ประกัน ทั้งนี้ จะระบุรายละเอียดการจ่ายเงินคืนและผลตอบแทนใน พ.ร.บ. ยืนยันว่าไม่กระทบต่อการจ่ายเงินกรณีบำเหน็จและบำนาญชราภาพแน่นอน นอกจากจะมีการออกพันธบัตรเพื่อกู้เงิน สปส.แล้ว พ.ร.บ.นี้จะออกพันธบัตรเพื่อใช้หนี้เงินสมทบที่รัฐค้างจ่าย สปส.เป็นเงินกว่า 80000 ล้านบาทด้วย โดยที่ผ่านมาไม่มีการนำเงินให้รัฐบาลกู้ในลักษณะนี้มาก่อน และในเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลหรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ให้ สปส.ปล่อยเงินกู้ด้าน น.ส.วิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับมติของ สปส.ให้รัฐบาลกู้เงินไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพราะอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของกองทุนและอนาคตของผู้ประกันตนกว่า 13 ล้านคน เนื่องจาก สปส.ต้องทยอยจ่ายเงินสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพให้ผู้ประกันตน หากนำเงินไปลงทุนจำนวนมากโดยไม่มีหลักประกัน อาจกระทบต่อการจ่ายเงินสิทธิประโยชน์ดังกล่าว ทั้งนี้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ จะขอเข้าพบ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านและสอบถามรายละเอียดอีกครั้ง | คณะกรรมการประกันสังคมมีมติปล่อยกู้ 2 แสนล้าน สำหรับให้รัฐบาลลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีข้อแม้ให้รัฐบาลออกพันธบัตรค้ำประกัน ดอกเบี้ย 3-3.5% กระทรวงการคลังเตรียมออกกฎหมายรองรับ - ส่วน คสรท. | แรงงาน,เศรษฐกิจ | ประกันสังคม,โครงสร้างพื้นฐาน | https://prachatai.com/journal/2015/06/59668 |
วอนช่วยหนุ่มป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ชีวิตรันทด ไม่มีเงินรักษา | วอนผู้มีจิตเมตตา ช่วยเหลือหนุ่มป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย ฐานะยากจน ซ้ำเมียสติไม่ดี ลูกชายวัย 19 พิการทางสมอง ส่วนคนเล็กกำลังเรียนชั้นประถม มีชีวิตสุดรันทด ไม่มีเงินค่ารักษา ฝ่ายปกครองให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นเรื่องเครื่องอุปโภคบริโภค,เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐพงษ์ ศิริบุญ นายอำเภอพรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร พร้อมนางมยุรี อินทพงษ์ นายก อบต.หนองหัววัว นางณัฎยา หญ้าลาภ สาธารณสุขอำเภอพรานกระต่าย และนายระ หอมรื่น กำนันตำบลหนองหัววัว เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของ นายดาวเรือง ศิริพล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/4 ม.7 บ้านคลองขมิ้น ต.หนองหัววัว อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร,จากการตรวจเยี่ยม พบบ้านปูนปลูกติดกับพื้น ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างโดยเหล่ากาชาด จ.กำแพงเพชร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเข้าสู่ 60 ปี แห่งการบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2553 ที่บริเวณเพิงพักข้างบ้าน พบนายดาวเรือง เจ้าของบ้านซึ่งมีร่างกายซูบผอม นอนซมอยู่บนที่นอนด้วยอาการของโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย ใกล้กันพบ นางจอย สดใส อายุ 43 ภรรยา ซึ่งเป็นคนสติไม่ค่อยดี มีบุตร 2 คน คนโต คือ นายฐิติพงศ์ ศิริพล อายุ 19 ปี เป็นคนพิการทางสมอง พูดไม่ได้ คนที่ 2 คือ ด.ช.บริรักษ์ ศิริพล อายุ 9 ขวบ อยู่โรงเรียนบ้านบางลาด ชั้นประถมปีที่ 3,นายระ หอมรื่น กำนันตำบลหนองหัววัว และเป็นผู้ใหญ่บ้าน ม.7 บ้านคลองขมิ้น เปิดเผยว่า นายดาวเรือง ซึ่งเป็นลูกบ้านของตน มีพี่น้อง 10 คน นายดาวเรือง เป็นคนที่ 9 พี่น้องยังมีชีวิตครบทั้ง 10 คน แต่ละคนมีฐานะยากจนมากทุกคน ส่วนนายดาวเรือง เมื่อมีครอบครัวแล้วก็แยกครอบครัวมา ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป ต่อมานายดาวเรือง ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัว ได้ล้มป่วยมาแล้ว 3 เดือน หลังไปเข้าทำการรักษาที่ รพ.กำแพงเพชร แพทย์ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย ภายในครอบครัวจึงไม่มีใครสามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้เลย ตนจึงได้ให้ลูกบ้าน ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านในหมู่เดียวกัน หมุนเวียนมาให้การดูแลช่วยเหลือ และบริจาคเงินได้ 3,000 บาท ไว้เป็นทุนเวลาเดินทางไปหาหมอ,ทางด้าน นายณัฐพงษ์ ศิริบุญ นายอำเภอพรานกระต่าย ได้มอบเงิน 1,000 บาท ให้นายระ หอมรื่น กำนันตำบลหนองหัววัว เพื่อไปเปิดบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาพรานกระต่าย หมายเลขบัญชีออมทรัพย์ ชื่อนายระ หอมรื่น เพื่อนายดาวเรือง ศิริพล เลขบัญชี ที่ 02004932558 เพื่อมีผู้มีจิตศรัทธา จะช่วยเหลือจะโอนมาให้การช่วยได้ต่อไป และยังได้มอบหมายให้ นายณัฎยา หญ้าลาภ สาธารณสุขอำเภอ นำนายดาวเรือง ศิริพล ไปให้แพทย์ที่ รพ.พรานกระต่าย ดูแล เพราะไม่สามารถกินอะไรได้นอกจากนมเท่านั้น,ขณะที่ นางมยุรี อินทพงษ์ นายก อบต.หนองหัววัว ได้นำข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องอุปโภคบริโภค ผ้าห่มกันหนาว พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จำนวน 2,000 บาท และก่อนหน้านี้ ก็ได้มอบเบี้ยยังชีพคนพิการให้กับนายฐิติพงษ์มาเป็นประจำทุกเดือนแล้ว และจะได้ร่วมกับกำนันตำบลหนองหัววัวให้การช่วยเหลือครอบครัวนี้ต่อไป จึงขอวิงวอนผู้มีจิตศรัทธาช่วยเหลือ หมายเลขบัญชีออมทรัพย์ ชื่อนายระ หอมรื่น เพื่อนายดาวเรือง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาพรานกระต่าย เลขบัญชี ที่ 02004932558 | วอนผู้มีจิตเมตตา! ช่วยเหลือหนุ่มป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย ฐานะยากจน ซ้ำเมียสติไม่ดี ลูกชายวัย 19 พิการทางสมอง ส่วนคนเล็กกำลังเรียนชั้นประถม มีชีวิตสุดรันทด ไม่มีเงินค่ารักษา | ข่าว,ทั่วไทย | ธารใจไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ช่วยเหลือ,ยากจน,กำแพงเพชร,พรานกระต่าย,บ้านคลองขมิ้น,นายดาวเรือง ศิริพล | https://www.thairath.co.th/news/local/477643 |
เจ้าฟ้าหญิงนักพัฒนา เพื่อประโยชน์สุขปวงประชา | และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯไปถึง ณ ที่นั้น เจ้าฟ้าหญิงนักพัฒนา ก็ได้ตามเสด็จฯไปแบ่งเบาพระราชกรณียกิจ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ปวงประชา,เหตุที่ชอบการพัฒนาช่วยเหลือประชาชนนั้น เห็นจะเป็นเพราะความเคยชินตั้ง แต่เกิดมาจำความได้ ก็เห็นพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ทรงคิดหาวิธีการต่างๆที่จะยกฐานะความเป็นอยู่ของคนไทยให้ดีขึ้น ได้ตามเสด็จฯไปเห็นความทุกข์ยากลำบากของพี่น้องเพื่อนร่วมชาติก็คิดว่าช่วยอะไรได้ควรช่วย ไม่ควรนิ่งดูดาย เมื่อโตขึ้นพอมีแรงทำอะไรก็ทำไปอย่างอัตโนมัติ โดยทำตามพระราชกระแส หรือทำตามแนวพระราชดำริ การช่วยเหลือประชาชนเป็นหน้าที่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องทำประจำอยู่แล้วการรู้หนังสือเป็นความจำเป็นสำหรับทุกชาติที่กำลังพัฒนา ตลอดจนเป็นกิจกรรมที่ต้องร่วมมือกันส่งเสริมให้บรรลุผลให้ได้ ถ้าปราศจากพื้นฐานการรู้หนังสือของประชาชนในประเทศแล้ว ความพยายามในการดำเนินการพัฒนาคงไร้ผล การรู้หนังสือเป็นส่วนหนึ่งของวิธีการที่จะนำไปสู่จุดมุ่งหมายอันสูงสุด พระราชดำรัสดังกล่าวของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สะท้อนได้ดีถึงพระราชปณิธานอันแน่วแน่ที่ทรงอุทิศพระองค์เพื่อตามรอยเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในการพัฒนาประชาชนให้สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งตัวเองตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีการศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญ,สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงถือเป็นต้นแบบของนักพัฒนาที่มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน โดยทรงยึดหลักว่าการพัฒนาต้องเหมาะสมกับสภาพภูมิศาสตร์ เชื้อชาติ วัฒนธรรมท้องถิ่น คติความเชื่อทางศาสนา ตลอดจนภูมิหลังทางเศรษฐกิจและสังคม ที่สำคัญคือ นักพัฒนาที่ดีต้องมีความรัก ความห่วงใย ความรับผิดชอบ และความเคารพในเพื่อนมนุษย์ มีพระราชดำริว่าในการพัฒนาเรื่องใดๆก็ตาม จำเป็นต้องใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เหมาะสม โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาของเด็กและเยาวชน ซึ่งทรงใส่พระราชหฤทัยยิ่ง,โครงการแรกที่ทรงริเริ่มในปี 2523 หลังสำเร็จการศึกษาจากรั้วจุฬาฯ จึงเป็นโครงการที่ทรงทำในโรงเรียน ทรงเริ่มต้นด้วยโครงการอาหารกลางวัน ผักสวนครัว ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน 3 แห่ง ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, ราชบุรีและกาญจนบุรี โดยทรงใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ โครงการดังกล่าวเป็นการสอนให้นักเรียนทำการเกษตรเพื่อนำมาประกอบเป็นอาหารกลางวัน ต่อมาได้ขยายเป็นโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ครอบคลุมกว่า 700 โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ และมีขอบข่ายการพัฒนาครบทุกด้าน ทั้งการศึกษา สุขภาพอนามัย สาธารณสุข วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น สิ่งแวดล้อม ตลอดจนการสร้างงานสร้างอาชีพ โดยโรงเรียนจะเป็นศูนย์กลางของชุมชนในการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยให้ดีขึ้น,ทุกครั้งเมื่อเสด็จฯเยี่ยมโรงเรียนตามท้องถิ่นทุรกันดาร พระองค์ไม่ได้ทรงเยี่ยมราษฎรเท่านั้น แต่ทรงเป็นนักพัฒนาการศึกษาเต็มพระองค์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงผสมผสานการศึกษากับการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างกลมกลืน โดยทรงตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อไปตามโรงเรียน ไม่ว่าประถม หรือมัธยม ก็ต้องพยายามไปดูว่านักเรียนได้รับอาหารที่พอสมควรถูกต้องหรือเปล่า ถ้าไม่ถูกต้อง ไม่มีอะไรบำรุงสมอง ก็ไม่มีแรง ทำให้ศึกษาได้ไม่ดี,ด้วยความที่ทรงให้ความสำคัญแก่เด็กและเยาวชนทุกกลุ่มทุกวัย จึงโปรดเกล้าฯให้จัดทำโครงการต่างๆเกื้อหนุนการศึกษาของเด็กและเยาวชนในทุกวัย นอกจากนี้ ยังใส่พระทัยเรื่องคุณภาพและปริมาณของครูในโรงเรียนขนาดเล็กในชนบท ดังจะเห็นได้จากโครงการระบบอี-เลิร์นนิ่งของการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม และการจัดอบรมครูให้ใช้ไอซีที ตลอดจนการทำโครงงานในการเรียนการสอน,เป็นที่ทราบกันดีว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระปรีชายิ่งด้านการศึกษา ทรงริเริ่มการทรงงานในโครงการต่างๆอย่างเป็นรูปธรรม และทรงดูแลติดตามอย่างใกล้ชิด จนแนวพระราชดำริต่างๆเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ อีกทั้งยังทรงได้รับการยกย่องเฉลิมพระเกียรติคุณจากหลายองค์การในระดับนานาชาติว่า ทรงเป็นผู้นำและผู้รู้จริงจากการปฏิบัติในการพัฒนาการศึกษาให้ถ้วนทั่วแก่ทุกกลุ่มชนในถิ่นทุรกันดาร รวมถึงผู้ด้อยโอกาสทุกกลุ่ม สอดคล้องกับเป้าหมายของยูเนสโกเรื่อง การศึกษาเพื่อทุกคน หรือ Education for All,ผลจากความสำเร็จในการพัฒนาการศึกษาของเด็กและเยาวชนไทยอย่างยั่งยืน ยังกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ได้น้อมนำแนวพระราชดำริดังกล่าวของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปเป็นโรลโมเดลในการพัฒนาการศึกษาในประเทศด้วย,พระราชกรณียกิจนานัปการในด้านการศึกษาของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถือเป็นแบบอย่างของการพัฒนาการศึกษาไทยแก่ผู้ด้อยโอกาส โดยไม่คำนึงถึงชนชั้นวรรณะ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร ผู้พิการ ผู้ลี้ภัย ผู้ต้องโทษคุมขัง หรือเด็กป่วยเรื้อรัง ก็ล้วนแต่ได้รับพระกรุณาธิคุณเสมอกัน,แวดวงชีวิตของฉันแต่ไหนแต่ไรมา มีอยู่สองประการคือ วงการวิชาการ แวดวงของครูบาอาจารย์ผู้รู้ในสาขาวิชาต่างๆ ทั้งในสายศิลปวัฒนธรรมและเทคโนโลยี กับอีกวงการคือ เรื่องของการพัฒนาสังคมให้เจริญก้าวหน้า งานที่เห็นพ่อแม่ทำมาตลอด ตั้งแต่รู้ความคือ การทำให้ผืนแผ่นดินและทุกคนในแผ่นดินมีความเจริญรุ่งเรือง เน้นหนักในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ผู้ที่มีความทุกข์ยาก เราคลุกคลีอยู่กับผู้ที่ลำบากยากแค้น หาทางบรรเทาความเดือดร้อนของคน เป็นที่ประจักษ์ชัดถึงความเป็นเจ้าฟ้าหญิงนักพัฒนาเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน,เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ในวันที่ 2 เมษายน ศกนี้ ขอ น้อมเกล้าฯ ถวายพระพรให้ทรงพระเกษมสำราญ และทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน.,ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม,ทีมข่าวหน้าสตรีไทยรัฐ | พระราชภารกิจการทรงงานใน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีอเนกอนันต์ จนกล่าวได้ว่าทั่วทั้งแผ่นดินที่ใดที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช บรมนาถบพิตร | ข่าว,พระราชสำนัก | สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี,เจ้าฟ้าหญิงนักพัฒนา,เฉลิมพระชนมพรรษา,พระราชกรณียกิจ,ทีมข่าวหน้าสตรีไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/news/royal/1244456 |
วิษณุ เปิดเผยยังมีชื่อ ขรก.พัวพันทุจริตอีก 2 ชุด | วันนี้ (21 เม.ย.2558) หลังการประชุมของคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เปิดเผยว่าจะมีรายชื่อข้าราชการที่พัวพันการทุจริตจากศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ส่งถึงนายกรัฐมนตรีเป็นชุดที่ 2 และ 3 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเอกสารหลักฐานนายวิษณุยืนยันว่าการดำเนินการของ ศอตช. ไม่ได้เจตนากลั่นแกล้งหรือเล่นงานใครและพร้อมจะให้ความเป็นธรรมในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ทั้งนี้อาจต้องอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งให้เปิดตำแหน่งใหม่เพื่อรองรับการปรับโยกข้าราชการระดับสูงกรณีที่มีชื่อพัวพันการทุจริต ซึ่งน่าจะมาสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี หลังจากสอบข้อเท็จจริงไม่พบความเกี่ยวข้องก็สามารถย้ายกลับไปสังกัดหน่วยงานเดิมได้สอดคล้องกับข้อกำชับของนายกรัฐมนตรีที่ได้กล่าวระหว่างการประชุม คตช. เมื่อช่วงเช้า ซึ่งระบุว่าหากการดำเนินการตามระบบใดมีความล่าช้าก็จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 เพื่อปลดล็อคที่เป็นอุปสรรคในการทำงานเนื่องจากรัฐบาลมีเวลาจำกัด แต่ก็ยืนยันว่าจะใช้อย่างเป็นธรรม รัดกุมและถูกต้อง | ก่อนเดินทางไปอินโดนีเซียนายกรัฐมนตรีได้ประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ โดยได้กล่าวย้ำที่จะใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว เพื่อปลดล็อคที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐบาล สอดคล้องกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย ที่ระบุว่าต้องใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งย้ายข้าราชการระดับสูงเพื่อตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีมีชื่อพัวพันกับการทุจริตและยอมรับว่าจะเปิดเผยรายชื่อเพิ่มเติมออกมาเร็วๆนี้ | การเมือง | ขรก.พัวพันทุจริต,ข่าวการเมือง,คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ,คตช.,ทันข่าว16.00,รายชื่อข้าราชการทุจริต,ศอตช.,ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ | https://news.thaipbs.or.th/content/499 |
อภิสิทธิ์ ห่วงเกษตรกร แนะรัฐเข้าช่วยเหลือ ควบสร้างรายได้ | เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 58 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีปัญหาภัยแล้งที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจชาติว่า ภัยแล้งเป็นเรื่องที่น่าห่วงที่สุด เพราะรัฐบาลยังไม่ได้คิดถึงเรื่องการขาดรายได้ของเกษตรกร จำเป็นต้องคิดเรื่องนี้ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการน้ำให้เกษตรกรใช้ในการอุปโภคบริโภค ไม่ใช่แค่พูดถึงการบริหารจัดการน้ำด้านเดียวเพราะหลายพื้นที่ไม่มีโอกาสที่จะปลูกข้าวให้ได้ผลผลิตที่น่าพอใจ เช่นในพื้นที่ลุ่ม ถ้าถูกเลื่อนการเพาะปลูกออกไป ก็ยังต้องเสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมในช่วงปลายฤดูฝน ขณะที่อีกหลายพื้นที่ไม่สามารถทำนาได้เลย รัฐบาลต้องตัดสินใจให้ชัดเจนในการช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อไม่ให้ลงทุนแล้วเกิดความเสียหายในภายหลังซ้ำอีก ส่วนมาตรการพักชำระหนี้สินของรัฐบาล แม้จะพักหนี้สินให้ 6 เดือนแล้ว แต่อีกเดือนต่อจากนั้น เกษตรกรก็ยังไม่มีรายได้ จึงต้องคิดเร่งโครงการสร้างรายได้ให้เกษตรกรโดยด่วน โดยระบุให้ชัดว่าพื้นที่ไหนไม่ให้ปลูกข้าว พร้อมกำหนดการชดเชยที่เหมาะสมให้ชาวนายัน,นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ตนลงพื้นที่ไปดูต้นทุนน้ำที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี พบว่าแม้น้ำแล้ง แต่ก็เป็นโอกาสที่จะเร่งทำโครงการเล็กๆ เหมือนขนมครกในพื้นที่ลุ่ม ที่ยังสามารถกักเก็บน้ำเป็นหย่อมๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยที่ไม่กระทบต่อภาพใหญ่ของการระบายน้ำ ที่ต้องเร่งทำทันที ก่อนที่น้ำจะมา ทั้งนี้รู้สึกแปลกใจว่า ในบางพื้นที่เหตุใดจึงยังไม่มีการประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติภัยแล้ง ทั้งยังไม่มีการกำหนดมาตรการชดเชยจากรัฐที่ชัดเจน ทั้งที่ข้อเท็จจริงหากใช้ระบบประกันรายได้ให้เกษตรกรก็จะมีการอุดหนุนช่วยเหลือเกษตรกรได้ทันที ไม่ว่าจะเกิดปัญหาภัยแล้งเหนือน้ำท่วม เพราะเป็นการประกันรายได้ให้เกษตรกรโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับกลไกตลาด แต่จะเป็นหลักประกันว่าเกษตรกรจะมีรายได้ที่แน่นอน ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นที่รัฐบาลต้องเร่งเพิ่มกำลังซื้อให้เกษตรกร ไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นประชานิยม เพราะมีขอบเขตจำกัดและมีระบบตรวจสอบที่ชัดเจน,นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ถ้ายังไม่มีการกระจายเงินลงท้องถิ่นเพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้เกษตรกรและประชาชนก็จะเกิดภาวะฝืดเคืองยิ่งขึ้น ในขณะที่เกิดความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกมาซ้ำเติมอีก โดยขณะนี้ตัวเลขเงินเฟ้อก็ติดลบ ยอดส่งออกสินค้าไปต่างประเทศเดือน พ.ค.ล่าสุดก็ติดลบ จึงน่าเป็นห่วงมากเท่ากับว่า ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาภาวะเงินฝืดเคืองและของแพง ขณะที่นโยบายบางเรื่องของรัฐกลับซ้ำเติมค่าครองชีพของประชาชนให้สูงขึ้น เช่น การพิจารณาจำกัดโควตานำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ หรือนโยบายพลังงาน ที่จะขึ้นภาษีแอลพีจีภาคขนส่งซึ่งจะกระทบต่อต้นทุนการผลิต ทำให้สินค้าราคาแพงขึ้นอีก ซึ่งตนเรียกร้องมานานว่า ขอให้รัฐบาลทบทวน พร้อมต้องตัดสินใจให้ความสำคัญก่อนคือ การเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชนในภาคชนบท ให้มีรายได้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้หมุนเวียน อย่าหวังกับโครงการเมกะโปรเจกต์ว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในทันที เพราะต้องใช้เวลาไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในทันที และเงินที่ลงไปก็หมุนเวียนในขอบเขตที่จำกัดด้วย. | อภิสิทธิ์ ยันวิกฤติภัยแล้งน่าห่วงเกษตรกร เสนอแนะรัฐเข้าช่วยเหลือควบสร้างรายได้ให้ หวังพยุงโดยประกันราคาช่วยสร้างหลักประกันได้ เหตุนโยบายรัฐซ้ำเติมเศรษฐกิจ เพราะต้องเผชิญภาวะเงินฝืด-ของแพง | null | ภัยแล้ง,น้ำแล้ง,แห้งแล้ง,ชลประทาน,แก้ภัยแล้ง,ขุดบ่อบาดาล,ทั่วประเทศ,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์,เขื่อนป่าสักชนสิทธิ์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/509200 |
เร่งซิมเติมเงิน3.6ล้านเบอร์-ขู่ตัดสัญญาณ ปรับค่ายมือถือร้อยละ 3 หากพบใช้ก่อการร้าย | วันนี้ (25 ส.ค. 2558) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.เผยว่า กสทช.มีคำสั่งทางปกครองส่งหนังสือถึงผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนทุกราย เพื่อแจ้งข้อความสั้น (SMS) ไปที่ผู้ใช้งานระบบเติมเงิน หากไม่ลงทะเบียนซิมจะขอระงับการใช้งานเครือข่าย ทำให้ซิมเบอร์มือถือใช้งานไม่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2558 เป็นต้นไป โดยขณะนี้ มีประชาชนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนแสดงตัวในระบบเติมเงิน 14 ล้านเลขหมาย ซึ่งในจำนวนนี้มี 3.6 ล้านเลขหมายที่มีความเคลื่อนไหวในการใช้งาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมาหลังผู้ให้บริการทุกรายเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน ระหว่างวันที่ 1 ก.พ.-31 ก.ค. 2558 พบว่ายังมีผู้ใช้เบอร์มือถือ 69.5 ล้านเลขหมาย ยังไม่ได้ลงทะเบียนจะถูกระงับการใช้งานโทรศัพท์ ไม่สามารถโทรออกและใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ แต่ยังสามารถโทรออกเบอร์ฉุกเฉินได้ ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นอกจากนี้ หากพบว่ามีการนำเบอร์มือถือของเครือข่ายใดที่เป็นระบบเติมเงินแต่ไม่ได้ลงทะเบียน นำไปใช้ก่อวินาศกรรมหรือก่อเหตุอาชญากรรม กสทช.จะมีคำสั่งปรับทางปกครองกับผุู้ให้บริการในอัตราร้อยละ 3 ของรายได้ปี 2557 ตามประกาศสำนักงาน กสทช.เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์การบังคับทางปกครองในการกิจการโทรคมนาคม วันที่ 29 ธ.ค.2557 เนื่องจากส่งผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ พร้อมจะดำเนินคดีอื่นๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้อง | กสทช.เตือนผู้ใช้ซิมเติมเงิน 3.6 ล้านเบอร์ เร่งลงทะเบียนแสดงตัว ยันตัดสัญญาณ 1 ต.ค.58 เผยเตรียมปรับเงินค่ายมือถือ 3% ของรายได้ปี 57 หากพบผู้ใช้บริการนำซิมไม่ลงทะเบียนไปใช้ก่อวินาศกรรม-อาชญากรรม | สังคม | thaipbs,Thaipbsnews,กสทช.,ก่อการร้าย,ค่ายมือถือ,ซิมเติมเงิน,ตัดสัญญาณซิมเติมเงิน1ต.ค.58,วินาศกรรม,อาชญากรรม,ไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/4664 |
ทบ.เปิดค่ายทหารเป็นจุดพักรถให้ประชาชนที่เดินทางไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ | วันนี้ (27 ต.ค.2559) พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่ทางสำนักพระราชวังกำหนดเปิดให้ประชาชนเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2559 ในส่วนของกองทัพบก ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย (กอร.รส.) ได้เตรียมความพร้อมในทุกด้าน เพื่อให้สามารถรองรับประชาชนจำนวนมากได้อย่างเหมาะสมและได้รับความสะดวกอย่างดีที่สุดภายใต้แนวทางของรัฐบาลโดยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบหมายให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยในทุกจังหวัด ประสานการปฏิบัติร่วมกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเดินทางเป็นส่วนรวม ตามที่กระทรวงมหาดไทยจัดลำดับการเดินทางของแต่ละจังหวัดไว้แล้วในช่วงวันที่ 29 ตุลาคม 2559 – 20 มกราคม 2560 โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ในแต่ละพื้นที่จะเข้าช่วยดูแลประชาชนตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการเดินทางของแต่ละจังหวัด พร้อมทั้งได้เปิดค่ายทหารตามเส้นทางผ่านเป็นจุดพักรถพักคน ระหว่างทางด้วยสำหรับในพื้นที่ภาคเหนือ มีจุดพักรถระหว่างทางอยู่ที่ค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น และค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา ขณะที่ภาคใต้ ใช้พื้นที่ค่ายธนรัตน์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนภาคตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคกลาง มีจุดพักระหว่างทางจะอยู่ที่พุทธมณฑลสาย 4 ซึ่งในทุกจุดพักระหว่างทางจะมีเจ้าหน้าที่ทหารร่วมให้การดูแลประชาชน พร้อมจัดสิ่งอำนวยความสะดวกด้านอาหาร เครื่องดื่ม สุขา และบริการแพทย์รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า หลังประชาชนเดินทางเข้าสู่พื้นที่ กทม.ได้มีการจัดจุดพักรอไว้ 2 แห่ง คือศูนย์ประชุมอิมแพค เมืองทองธานี และพื้นที่พุทธมณฑล โดยทางกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 1 จะเข้าช่วยบริหารจัดการทั้งเรื่องพื้นที่จอดรถ การเปลี่ยนพาหนะไปยังจุดรับส่งบริเวณถนนราชดำเนิน และเข้าสู่พื้นที่สนามหลวงต่อไป รวมทั้งการให้คำแนะนำการปฏิบัติในการเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพนอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2559 กองทัพบกจะนำนักศึกษาวิชาทหาร นักเรียนนายร้อย นักเรียนพยาบาล จาก 4 เหล่าทัพ และนักเรียนแพทย์ทหารของกองทัพบก จำนวน 200 คนต่อวัน เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่โดยรอบพระบรมมหาราชวัง เน้นการจัดระเบียบบุคคลที่จะเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ รวมทั้งการร่วมเป็นจิตอาสา เพื่อดูแลสิ่งของที่นำมาบริการประชาชนในพื้นที่สนามหลวงด้วย ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ประชาชนจะเดินทางเข้ามากราบถวายบังคมพระบรมศพนั้น เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในนามของรัฐบาลจะร่วมกันดูแลประชาชนและบริหารจัดการทุกกิจกรรมที่จัดขึ้นในบริเวณโดยรอบพระมหาราชวังและสนามหลวงให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย เกิดภาพลักษณ์ที่ดีและให้ประชาชนได้รับความสะดวกสามารถเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ ตามที่ตั้งใจไว้อย่างดีที่สุด จึงขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่และเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมพ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ กองทัพบกกำหนดจะจัดพิธีบำเพ็ญกุศลปัณรสมวาร ถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่กองบัญชาการกองทัพบก | กองทัพบกอำนวยการความสะดวกการเดินทางให้ประชาชนจากทุกจังหวัดเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ เปิดค่ายทหารเป็นจุดพักรถระหว่างทาง พร้อมเสริมนักศึกษาวิชาทหารและนักเรียนทหารจากทุกเหล่าทัพ ร่วมดูแลประชาชน | สังคม | ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ในหลวง,สวรรคต,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,กองทัพบก,ค่ายทหาร,จุดพักรถ,กราบถวายบังคมพระบรมศพ | https://news.thaipbs.or.th/content/257087 |
ผู้ต้องหาพม่าซัด จนท.-สถานทูต ออกวีซ่าปลอม | วีซ่าปลอม, รับสารภาพมีนายหน้าชาวเมียนมาด้วยกัน รับอาสานำหนังสือเดินทาง ไปขอวีซ่าจากสถานทูตไทย ณ นครย่างกุ้ง โดยไม่ต้องเดินทางไป ทำเอง ยอมจ่ายค่าบริการคนละ 8,500 บาท แลกกับสะดวกรวดเร็วไม่ต้องรอนาน ขณะที่ชาวเมียนมาที่ถูกจับที่ด่านแม่สอดเปิดปากหมดเปลือก มีนายหน้าเป็นเจ้าของร้านกาแฟหน้าสถานทูตไทย ณ นครย่างกุ้ง รับอาสาไปทำให้ หลังจากเข้าไปติดต่อทำวีซ่าด้วยตัวเอง แล้วเจอลูกเล่นจากเจ้าหน้าที่อ้างเอกสารไม่ครบให้ไปหาเพิ่ม แต่พอนายหน้าพาไปทำ กลับได้วีซ่าทันที แต่กลายเป็นของปลอม,หลังจากเจ้าหน้าที่งานคนเข้าเมือง ตม.จ.สระแก้ว จับกุม 3 ชาวเมียนมา คือนายซอจ่อ โซเลน อายุ 18 ปี นายซอปา วุทนา อายุ 18 ปี และ น.ส.นาวพา กะมาว อายุ 19 ปี ที่ถือพาสปอร์ตสัญชาติเมียนมาแต่มีตราประทับวีซ่าของสถานทูตไทย ณ นครย่างกุ้ง เป็นของปลอม จับกุมได้เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ขณะทั้ง 3 คนนำพาสปอร์ตมาต่อวีซ่าเพื่อขออยู่ในราชอาณาจักรไทยต่ออีก 30 วันนั้น,ต่อมาเมื่อตอนสายวันที่ 20 ก.ค. พ.ต.ต.ไชยา มณีสุทธิ์ สว. (สอบสวน) สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นำตัวทั้ง 3 คนออกจากห้องขังมาให้ จนท.ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จ.สระแก้ว สอบสวนผ่านล่ามชาวเมียนมา ทั้ง 3 คน ยอมรับว่า ไม่ทราบว่าตราประทับวีซ่าเป็นของปลอม พร้อมระบุว่ามีชาวเมียนมาที่เมืองเมียวดี ชื่อนายซี ดู มารับอาสาไปทำหนังสือ เดินทางพร้อมทั้งขอวีซ่าเข้าประเทศไทยจากสถานทูตไทย ณ นครย่างกุ้ง ให้โดยไม่ต้องเดินทางไปทำด้วยตนเอง คิดค่าทำและบริการคนละ 8,500 บาท พวกตนเห็นว่าปกติชาวเมียนมาไปทำหนังสือเดินทางจะเสียค่าใช้จ่ายในการทำหนังสือเดินทางเล่มละ 4,500 บาท เสียค่าธรรมเนียมวีซ่าอีกประมาณ 40 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,300 บาท ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนถึงจะได้วีซ่าและอาจจะไม่ได้รับพิจารณาให้วีซ่าทุกคน ดังนั้นพวกตนเห็นว่าเพิ่มเงินอีกแค่ 2,000 กว่าบาท แต่ไม่ต้องรอเวลาถึง 1 เดือน จึงยอมจ่ายเงินให้นายซี ดู ไปคนละ 8,500 บาท โดยไม่รู้ว่าเป็นตราประทับวีซ่าปลอม เพราะนายซี ดู บอกว่าไปทำที่สถานทูตไทย ณ นครย่างกุ้ง,พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จ.สระแก้ว เผยว่า คดีนี้หลังจากพนักงานสอบสวนได้สอบสวนเสร็จสิ้น ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การว่านายซี ดู ชาวเมียนมา ที่เมืองเมียวดีเป็นผู้รับเงินไปทำให้ถือว่าเข้าข่ายกระทำผิด พนักงานสอบสวนสามารถ ขออำนาจศาลจังหวัดสระแก้วออกหมายจับนายซี ดู ผู้ต้องหาชาวเมียนมารายนี้ได้ในเร็วๆนี้ คาดว่าแก๊งนี้น่าจะเป็นแก๊งเดียวกันกับที่ ตม.เมียวดี ของประเทศเมียนมา ดำเนินการจับกุมและขยายผลอยู่ ขณะนี้ได้สั่งกำชับ จนท.ตม.ประจำจุดตรวจหรือด่านตรวจขาออกราชอาณาจักรทั้งด่านพรมแดนอรัญประเทศ,จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ด่านพรมแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ให้เข้มงวดกวดขันในการตรวจเอกสารการเดินทางของชาวต่างด้าวที่จะเดินทางผ่านเข้า-ออกราชอาณาจักรไทยอย่างละเอียดโดยให้ จนท.ทุกคน รอบคอบในการตรวจดูบริเวณรอยตราประทับวีซ่าอย่างเข้มงวดทุกรายด้วย,ส่วนการสอบสวนนายมิน มิน ทูน อายุ 37 ปี ชาวเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ผู้ต้องหาที่ใช้ตราประทับวีซ่าปลอมและถูกตำรวจ ตม.แม่สอด จ.ตาก จับกุมก่อนหน้านี้นั้น นายมิน มิน ทูน ให้การกับ ร.ต.อ.ปิยพันธุ์ สุวรรณโรจน์ รอง สว. ตม.จ.ตาก เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ระบุว่า ก่อนหน้านี้เคยเดินทางมาประเทศไทยรวมทั้งหมด 13 ครั้ง ผ่านจุดตรวจสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก 4 ครั้ง ผ่านท่าอากาศยานดอนเมือง 9 ครั้งก่อน ถูกจับกุมไปยื่นเอกสารทำวีซ่าที่สถานทูตไทย ณ นครย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2561 กับเจ้าหน้าที่หญิง คนหนึ่งประจำอยู่ที่ช่องรับเอกสารหมายเลข 2 ที่พูดภาษาไทยและภาษาเมียนมาได้ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเอกสารไม่ครบให้ไปหาเพิ่ม,นายมิน มิน ทูน ให้การอีกว่า หลังออกจากสถานทูตไทย ณ นครย่างกุ้ง ได้มานั่งพักที่ร้านกาแฟหน้าสถานทูต เจ้าของร้านกาแฟมาสอบถามว่าได้วีซ่าหรือยัง จึงตอบไปว่ายังไม่ได้ เจ้าของร้านกาแฟจึงอาสาเป็นนายหน้ารับทำวีซ่าให้ โดยมีค่าใช้จ่ายเป็นเงินเมียนมาจำนวน 297,000 จ๊าด หรือประมาณ 6,939 บาท กับเงินดอลลาร์สหรัฐฯอีก 200 เหรียญ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 6,692 บาท จึงตกลงทำวีซ่ากับเจ้าของร้านกาแฟและจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวไป จากนั้นเจ้าของร้านกาแฟนำตนไปทำหนังสือ เดินทางที่สถานทูตไทย ณ นครย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2561 พบกับเจ้าหน้าที่หญิงคนเดิมที่ช่องเดิมและเป็นผู้รับเอกสารไปทำวีซ่า แล้วนายหน้าได้ให้ตนไปรอที่ร้านกาแฟ พักใหญ่ก็นำหนังสือเดินทางมาให้ จนเมื่อวันที่ 4 เม.ย.2561 ได้เดินทางมาเมืองไทยและกลับออกไปเมื่อวันที่ 16 พ.ค. แล้วเดินทางมาไทยอีกเป็นครั้งที่สองเมื่อวันที่ 10 ก.ค.แต่คราวนี้ถูกจับกุมตัวที่ด่านแม่สอดในข้อหาใช้ตราประทับวีซ่าปลอม ดังกล่าว,ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากการจับกุมชาวเมียนมาใช้ตราประทับวีซ่าปลอมที่ด่าน ตม. สระแก้ว ด่าน ตม.แม่สอดแล้ว ยังจับกุมชาวเมียนมาใช้ตราประทับวีซ่าปลอมที่ด่านตรวจถาวรไทรโยค ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้อีก 9 ราย ตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากการสอบสวนทั้งหมดให้การว่าทำหนังสือเดินทางมาจากประเทศเมียนมาและกำลังจะไปทำงานที่ภูเก็ตจึงได้ให้พรรคพวกไปทำวีซ่าขออยู่ต่อในราชอาณาจักรที่ด่าน ตม. ภูเก็ตโดยเสียค่าใช้จ่ายคนละ 3 พันบาท แต่ถูกตำรวจจับกุมข้อหาใช้ดวงตราประทับวีซ่าปลอมเสียก่อน | ตำรวจ ตม.สระแก้วสอบ 3 ชาว เมียนมาที่ใช้ตราประทับวีซ่าปลอม รับสารภาพมีนายหน้าชาวเมียนมาด้วยกัน รับอาสานำหนังสือเดินทาง | ข่าว,ทั่วไทย | วีซ่าปลอม,เมียนมา,สระแก้ว,แม่สอด,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1338835 |
ท่าเรือ บุกอัด พัทยา ไทย-เทค ยับคาบ้าน 5-1 | การแข่งขันฟุตซอล เอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก 2017 เกมที่ 8 ของฤดูกาล ประจำวันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม 2560 โดยคู่ที่น่าสนใจ พัทยา ไทย-เทค เปิดสนามโรงเรียนเมืองพัทยา2 รับมือ สิงห์คลองเตย การท่าเรือ ฟุตซอล คลับ ที่หวังเก็บสามแต้มให้ได้ เพื่อลุ้นขึ้นไปเป็นจ่าฝูงชั่วคราว,เริ่มเกมในครึ่งแรก การท่าเรือ สาดเกมรุกเข้าใส่เจ้าถิ่นอย่างหนัก และทำประตูนำห่างถึง 3-0 จากการยิงของ มาร์กอส วินิซิอุส น.4, อรรถพล แตงร่ม น.15 และ อนุกูล มินิ น.19,จากนั้นในครึ่งหลัง การท่าเรือ บวกเพิ่มอีก 2 ประตู หนีห่างเป็น 5-0 จากผลงานของ ธนากร เพ็ญพกูล น.34 กับ สราวุฒิ ใจเพชร น.35 ขณะที่ พัทยา ไทย-เทค มาได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 5-1 ในนาที 38 สามารถ กาฬภักดี ยิงบอลไปแฉลบตัว มาร์กอส วินิซิอุส เปลี่ยนทางเข้าประตู,ทำให้จบเกม การท่าเรือ ฟุตซอล คลับ บุกมากำชัยเหนือ พัทยา ไทย-เทค ไปได้ตามคาด 5-1 เก็บแต้มเพิ่มเป็น 18 คะแนน เท่ากับ แบงค็อก บีทีเอส และ เกษมบัณฑิต แต่ประตูได้เสียดีกว่า ทำให้ขึ้นเป็นจ่าฝูงชั่วคราว,ส่วนผลคู่อื่นมีดังนี้,สมุทรสาคร ชนะ ห้องเย็นท่าข้าม 3-2,กรมทางหลวง แพ้ ม.เกษมบัณฑิต 0-1,ศรีสะเกษ ฟุตซอลคลับ แพ้ สุราษฏร์ธานี 1-3 | โต๊ะเล็กการท่าเรือฯ ยังคงรักษาฟอร์มถล่มตาข่ายได้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบุกไปยัดเยียดความปราชัยให้กับ พัทยา ไทย-เทค ถึงถิ่น 5-1 เก็บสามแต้มสำคัญ พร้อมแซงขึ้นไปเป็นจ่าฝูงชั่วคราวได้สำเร็จ | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | ผลฟุตซอล,ฟุตซอลลีก,เอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก 2017,การท่าเรือ ฟุตซอล คลับ,พัทยา ไทย-เทค | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/933462 |
ส่อเลื่อนเลือกตั้ง วิษณุ หารือ กกต.ต้องไม่กระทบพระราชพิธีฯ | วันนี้ (3 ม.ค.2562) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย เผยภายหลังหารือร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นานเกือบ 2 ชั่วโมงกับว่าประเด็นในการหารือเกี่ยวกับปฏิทิน และรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 พ.ค.นี้ เพื่อให้ กกต. นำไปพิจารณาตัดสินใจกำหนดจัดวันเลือกตั้ง ที่ไม่กระทบต่อพระราชพิธีทั้งนี้ แม้จะไม่ได้พูดตรงๆว่าควรจะเลื่อนเลือกตั้งจาก 24 ก.พ.นี้ออกไป แต่การที่รองนายกรัฐมนตรีวิษณุเครืองาม ไปชี้แจงกับ กกต.ว่า พระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอาจจะทับซ้อนกับกิจกรรมทางการเมืองหลังเลือกตั้ง คงจะเห็นคำตอบชัดว่าการเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปแต่การเลื่อนนี้ก็ไม่สามารถเลื่อนไปหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษกได้ต้องเลือกก่อน เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เพียงแต่วันไหนนั้น ยังไม่ชัดเจนรองนายกรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะชี้ชัดว่า จะเลื่อนวันเลือกตั้งหรือไม่ โดยยังย้ำเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะพิจารณากำหนดและประกาศวันเลือกตั้ง หลังมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งอยู่ในขั้นตอนของพระราชอำนาจ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลได้ทำหน้าที่แนะนำและให้คำปรึกษาหารือกับ กกต.แล้วโดยเฉพาะเงื่อนเวลาของการจัดการเลือกตั้งการกำหนดวันเลือกตั้ง และการเดินหน้าตามกฎหมายหลังการเลือกตั้ง จะต้องไม่ทับซ้อนกับเวลา ในการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งไม่ใช่แค่วันที่สำนักพระราชวังประกาศ 3 วัน คือ 4 -6 พ.ค.นี้ เท่านั้นแต่ยังต้องมีพระราชพิธีต่างๆก่อน 15 วัน และหลังอีก 15 วันด้วย ซึ่งถ้าเทียบวันแล้ว ช่วงก่อนคือตั้งแต่ 19 เม.ย.นี้เป็นต้นไป และช่วงหลัง จะไปสิ้นสุด 21 พ.ค.นี้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 121 กำหนดไว้ว่า ภายใน 15 วันนับแต่ประกาศผลเลือกตั้ง ส.ส. ให้มีการประชุมรัฐสภาครั้งแรก ด้วยเหตุนี้ รองนายกรัฐมนตรี จึงชี้ว่า วันเลือกจะเป็นวันที่ 24 ก.พ.นี้ หรือไม่ก็ได้ แต่ควรกำหนดให้มีขึ้นก่อนวันงานพระราชพิธี และกิจการทางการเมือง ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังเลือกตั้ง ต้องไม่ทับซ้อนกับการจัดงาน และเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนวุ่นวาย ก็ควรมีรัฐบาลเลือกตั้ง หลังงานพระราชพิธีเสร็จสิ้นแล้ว | วิษณุ เข้าหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประเด็นปฎิทิน และรายละเอียดงานพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก 4-6 พ.ค.นี้ แย้มวันเวลาที่เหมาะสมเลือกตั้งอาจไม่ใช่ 24 ก.พ.นี้ แต่ต้องไม่ทับซ้อนเวลาในการจัดงานพระราชพิธีฯ ของรัฐบาล | การเมือง | เลือกตั้ง 2562,เลือกตั้ง,นักการเมือง,นายวิษณุ เครืองาม,รองนายกรัฐมนตรี,กกต.,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/276743 |
ชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ประกันตน เรียกร้อง สปส. หยุดสร้างภาพการรักษาพยาบาล ที่ยังไม่มีกลไกรับประกันคุณภาพให้ผู้ประกันตน | ชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ประกันตน เรียกร้องสำนักงานประกันสังคมหยุดสร้างมายาภาพว่าผู้ประกันตนจะได้บริการที่ดีขึ้นในกรณีการเปลี่ยนวิธีการจ่ายเงินผู้ป่วยใน และโรคค่าใช้จ่ายสูงในลักษณะ DRG (ตามกลุ่มโรค) เพราะหากสำนักงานประกันสังคมไม่มีกลไกในการติดตามคุณภาพ หรือการจ่ายค่าบริการ DRG ที่เกินกว่าระบบสวัสดิการข้าราชการและบัตรทองก็จะไม่ทำให้เกิดคุณภาพที่ดีได้จริง ทำให้ผู้ประกันตนซึ่งเป็นผู้รับภาระค่ารักษาพยาบาลเพียงกลุ่มเดียวในปัจจุบันเสียประโยชน์ และต้องจ่ายเงินค่าบริการสุขภาพเพิ่มขึ้น แต่ในทางกลับกันโรงพยาบาลเอกชนซึ่งเป็นผู้ให้บริการได้ประโยชน์ถึงแม้การจ่ายเงินตามระบบ DRG จะเป็นวิธีการที่ดีและเหมาะสมเพื่อให้การจ่ายค่าใช้จ่ายให้หน่วยบริการสอดคล้องกับภาระโรคที่รพ.รับภาระ แต่บริการที่ผู้ประกันตนได้รับจะดีขึ้นตามเงินที่จ่ายหรือไม่ ต้องมีปัจจัยอื่น ๆ ประกอบอีกหลายประการ เช่น ในแต่ละโรคที่ว่า รพ.ให้บริการได้มาตรฐานของการรักษาหรือไม่ ระบบติดตามตรวจสอบคุณภาพที่เท่าทันการรักษาของรพ.มีจริงหรือไม่ เพราะขณะนี้ปัญหาคุณภาพและมาตรฐานบริการเป็นเรื่องที่ผู้ประกันตนต้องดำเนินการและต่อรองด้วยตนเองทั้งสิ้น อัตราการจ่ายต่อ 1 RW นี้ไม่มีที่ไปที่มาขาดเหตุผลทางวิชาการที่รองรับ เพราะ สปส.จ่ายค่า 1 RW ที่ 15000บาทสูงเกินกว่าระบบบัตรทองและข้าราชการ ทั้งที่ระบบสวัสดิการก็จ่ายเงินต่อโรคที่สูงกว่าบัตรทองมาก ซึ่งทำให้ส่งผลต่อกองทุนประกันสังคมในด้านอื่นๆ ได้ชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ประกันตนเรียกร้องให้สำนักงานประกันสังคม ทบทวนการจ่ายเงินต่อโรคในอัตรา15000 บาทครั้งนี้ รวมทั้งให้สำนักงานประกันสังคม พัฒนากลไกและระบบติดตามตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานบริการสำหรับผู้ประกันตนพร้อมเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้องควบคุมและกำหนดมาตรฐานการจ่ายเงินให้กับหน่วยบริการ ตลอดจนทำให้มาตรฐานการรักษาพยาบาลสำหรับทุกคนมีมาตรฐานเดียว และทำให้การจ่ายเงินจากระบบต่าง ๆ สอดคล้อง และใกล้เคียงกันเพื่อลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเป็นธรรมในระบบบริการสาธารณสุข ตลอดจนพัฒนากลไกให้ระบบหลักประกันสุขภาพทั้งสามระบบมีการประสานงาน สร้างกำลังต่อรองกับโรงพยาบาลเอกชน ให้ยอมรับราคากลางที่ไม่ค้ากำไรเกินควร เพื่อมีกลไกกำหนดราคาและคุณภาพการรักษาพยาบาล ไม่ใช่สนับสนุนให้เกิดกติกาที่สร้างความไม่เท่าเทียมและเกิดการเลือกปฏิบัติเพิ่มขึ้น รวมทั้งสะท้อนให้เห็นว่าโรงพยาบาลเอกชนมีอิทธิพลต่อการกำหนดราคากลางที่สูงเกินความจำเป็นและจะนำไปสู่การล้มละลายของระบบสุขภาพ | พร้อมเรียกร้องรัฐมนตรีสาธารณสุขทำให้มาตรฐานการรักษาพยาบาลสำหรับทุกคนมีมาตรฐานเดียว และทำให้การจ่ายเงินจากระบบต่าง ๆ เหมือนกัน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเป็นธรรมในระบบบริการสาธารณสุข | สังคม | ชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ประกันตน,ประกันคุณภาพ,ผู้ประกันตน,รักษาพยาบาล,สปส. | https://news.thaipbs.or.th/content/53305 |
โบโน ยู2 จักรยานล้มต้องผ่าตัดแขน หลังเพิ่งเฉียดตายบนเครื่องบิน | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โบโน นักร้องนำของวงร็อก ยู2 (U2) ของประเทศไอร์แลนด์ ประสบอุบัติเหตุจักรยานล้มที่ เซ็นทรัลพาร์ก ในเมืองแมนฮัตตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (16 พ.ย.) ได้รับบาดเจ็บที่แขนจนต้องรับการรักษาด้วยการผ่าตัด และต้องยกเลิกการปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ ทูไนท์ โชว์ ของสหรัฐฯ ด้วย,ในแถลงการณ์ซึ่งเผยแพร่ลงในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของวงยู2 ระบุว่า ดูเหมือนว่าเราต้องร่วมรายการ ทูไนท์ โชว์ วันหลังเสียแล้ว เราขาดคนไปคนหนึ่ง โบโนได้รับบาดเจ็บที่แขนในเหตุจักรยานล้มที่เซ็นทรัลพาร์ก และจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อรักษามัน เราแน่ใจว่าเขาจะฟื้นตัวสมบูรณ์ในเร็วๆ นี้ เพราะฉะนั้น พวกเราจะกลับมา ขอบคุณมากจิมมี ฟอลลอน (พิธีกรรายการทูไนท์ โชว์) และทุกคนในรายการที่เข้าใจ,ทั้งนี้ โบโน เพิ่งรอดพ้นจากการประสบอุบัติเหตุร้ายแรงเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากประตูเครื่องบิน เลียร์เจ็ท 60 ดี-ซีจีอีโอ เครื่องบินส่วนตัวของเขา หลุดออกจากเครื่องบิน ขณะกำลังเดินทางจากเมืองดับลินไปยังกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี เพื่อร่วมงานประกาศรางวัลดนตรีนานาชาติ บัมบี ทำให้กระเป๋าเดินทางของเขาและเพื่อนกระเด็นออกจากห้องโดยสาร และเครื่องบินต้องลงจอดฉุกเฉิน | โบโน นักร้องนำของวง ยู2 ประสบอุบัติเหตุจักรยานล้ม จนต้องเข้ารับการผ่าตัดแขน และต้องยกเลิกกำหนดการออกรายการโทรทัศน์ | null | โบโน,นักร้องนำ,ยู2,ยูทู,U2,วงร็อก,จักรยานล้ม,ผ่าตัด,เซ็นทรัลพาร์ก,นิวยอร์ก,แมนฮัตตัน,สหรัฐ,ทูโนท์ โชว์,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/463977 |
รถบรรทุกเพียบ ฝุ่นฟุ้ง ปอดติดเชื้อ ชาวบ้านระทม ฉีดน้ำดับฝุ่นเดือนละ 3 พัน (คลิป) | เมื่อเร็วๆ นี้ ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับฝุ่นละอองปกคลุมในเขตยานนาวาปริมาณมาก ทีมข่าวจึงลงพื้นที่สำรวจฝุ่นละอองในเขตพื้นที่ดังกล่าว พบว่า มีปริมาณฝุ่นละอองฟุ้งกระจายจำนวนมาก เนื่องจากมีรถบรรทุกใช้ถนนเส้นนี้ตลอดทั้งวัน จึงได้ทำการทดลองถึงปริมาณของฝุ่นว่ามีมากน้อยเพียงใด,สำหรับขั้นตอนการทดลองทีมข่าวได้นำกระดาษทิชชูเปียก มาเช็ดบริเวณกระจกหลังรถคันหนึ่งที่จอดอยู่ปากพระราม 3 ซอย 74 เพื่อดูปริมาณฝุ่นที่เกิดขึ้น หลังจากเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง ปรากฏว่า บริเวณกระจกหลังรถที่ทำการทดลองมีฝุ่นละอองติดที่กระดาษทิชชูเปียกอย่างเห็นได้ชัด,ทั้งนี้ ในการลงพื้นที่ของทีมข่าวทำให้เห็นถึงปัญหาว่า แท้จริงแล้วไม่ได้มีเพียงฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ก่อความเดือดร้อนให้กับประชาชนเพียงเท่านั้น แต่ยังมีฝุ่นปูน และฝุ่นดิน จากรถบรรทุกที่สัญจรผ่านเส้นทางนี้ด้วย อีกทั้ง รถบรรทุกยังขับขี่ด้วยความรวดเร็ว ทำให้ฝุ่นละอองฟุ้งกระจายทั่วชุมชน,แต่อย่างไรก็ดี ไม่ว่าฝุ่นนั้นจะมาจากธรรมชาติ หรือเป็นฝุ่นที่มนุษย์ก่อขึ้น ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายเช่นกัน,รถบรรทุกเข้า-ออก ไม่ต่ำกว่า 50 รอบ ชาวบ้านเดือดร้อน ฝุ่นฟุ้ง,ทีมข่าวได้เข้าไปสอบถามข้อมูลกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนเชื้อเพลิง พระราม 3 ซอย 74 โดยคุณลุงสุชาติ (นามสมมติ) อายุ 60 ปี เปิดใจเล่าถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่า พื้นที่บริเวณนี้ มีปริมาณฝุ่นจำนวนมาก ประมาณ 3-4 ปีแล้ว เนื่องจากมีรถบรรทุก ขนปูนที่ใช้ถนนเส้นนี้เข้าออกอยู่ทุกวัน เกือบตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว ชาวบ้านต้องคอยเช็ดถูอยู่ตลอดเวลา,สำหรับต้นเหตุที่ฝุ่นในชุมชนเยอะกว่าปกตินั้น ลุงสุชาติ อธิบายว่า ทุกวันจะมีรถบรรทุกขนดิน ขนปูน วิ่งเข้าออกในชุมชมมากกว่า 50 รอบต่อวัน และรถบรรทุกเหล่านี้จะเยอะในช่วง 10 โมงเช้าถึงเที่ยง โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนต้องช่วยกันฉีดน้ำดับฝุ่นกันทั้งวัน นอกจากนั้น รถบรรทุกที่ใช้เส้นทางนี้มักจะชอบขับเร็ว เมื่อเลี้ยวโค้งมาเศษปูน เศษดิน หล่นตามพื้น ฝุ่นฟุ้งกระจายเต็มถนน จึงจำเป็นต้องฉีดน้ำเพื่อให้ถนนเปียกอยู่ตลอด และต้องสวมหน้ากากอนามัยด้วย, คุณลุงสุชาติ กล่าว,จ่ายเองนักเลงพอ ชาวบ้านชุมชนเชื้อเพลิง จ่ายค่าน้ำฉีดฝุ่นเดือนละ 3 พัน,ทีมข่าวถามว่า มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลบ้างหรือไม่นั้น ลุงสุชาติ ตอบว่า มีแต่น้อย หน่วยงานทางภาครัฐไม่ค่อยมาช่วยจัดการปัญหาในเรื่องนี้เช่นกัน ล่าสุดมาเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว เอารถน้ำมาฉีดล้างถนนให้ แต่หลังจากวันนั้นก็ไม่เห็นใครมาฉีดน้ำอีก มีแต่ชาวบ้านที่ต้องแก้ไขปัญหากันเอง อย่างบ้านของตนเสียค่าน้ำในการฉีดฝุ่น เดือนละประมาณ 3,000 บาท,กรมควบคุมมลพิษ วัดค่าฝุ่น อึ้ง อ่านค่าไม่ได้ ทั้งที่ฝุ่นเต็มกล่อง,นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ ชาวบ้านหลายคนในชุมชนเริ่มได้รับผลกระทบทางสุขภาพ เช่น มีอาการไอแห้ง ถี่ๆ คันตามร่างกาย และอาการเวียนหัว ซึ่งตนยังไม่มีโอกาสได้ไปพบแพทย์ แต่หลักๆ คิดว่า ฝุ่นที่ส่งผลต่อร่างกายน่าจะเป็น ฝุ่นจากปูน มากกว่าฝุ่น PM 2.5 จึงได้รวมตัว ล่ารายชื่อคนในชุมชน เพื่อแจ้งเรื่องกับทางหน่วยงานต่างๆ ให้มาช่วยแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง, ลุงสุชาติ ตั้งข้อสังเกต,ออกกำลังกาย ไม่สูบบุหรี่ ตรวจสุขภาพทุกปี เป็นปอดติดเชื้อ,ขณะเดียวกัน นายภัทรกร (นามสมมติ) ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า เห็นฝุ่นละอองในเขตพื้นที่ ที่อยู่มีปริมาณฝุ่นที่หนาแน่น ไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล รวมถึงปัญหาเหล่านี้ส่งผลต่อสุขภาพของตน เพราะปกติตนเป็นคนที่ออกกำลังกายบ่อย ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ ตรวจร่างกายประจำปีตลอด แต่พอช่วงหลังๆ เริ่มมีอาการไอแห้ง หายใจติดขัด ตื่นมาต้องหายาพ่นตลอด จึงตัดสินใจไปตรวจที่โรงพยาบาล และได้พบว่าตนเองเป็นปอดติดเชื้อ สาเหตุหลักคิดว่าเกิดจากฝุ่น PM 2.5 เพราะเมื่อก่อนเวลาออกไปทำงานไม่เคยใส่หน้ากากอนามัย จึงส่งผลให้ร่างกายได้รับผลกระทบเช่นนี้, นายภัทรกร ระบุ,ผอ.เขตยานนาวา ใช้ 3 มาตรการ แก้ปัญหาฝุ่น,เมื่อทางทีมข่าวได้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้ติดต่อไปยัง ,นายสุทัศน์ รุจิณรงค์ ผู้อำนวยการเขตยานนาวา, เพื่อสอบถามถึง ปัญหาเรื่องฝุ่นละอองที่ทางประชาชนในเขตยานาวาได้รับ และมาตรการในการแก้ไขปัญหา,ผู้อำนวยการเขตยานนาวา กล่าวว่า ตอนนี้ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ในเขตยานาวา อยู่ที่ 57 AQI เกินค่ามาตรฐานมาแค่ 7 เท่านั้น ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ล้างถนน และขอความร่วมมือกับทางภาคเอกชนหาแนวทางให้ค่าฝุ่นละอองลดลงเหลือน้อยที่สุด ซึ่งทางเขตได้ใช้วิธีแก้ไขฝุ่นตามมาตรการ 3 ส่วน ดังนี้,1.การฉีดน้ำทุกวัน ,2.การขอความร่วมมืออาคารที่กำลังก่อสร้าง ,3.การปล่อยควันดำ จะมีเจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจรถควันดำ,ฉีดน้ำทุกวันเป็นไปไม่ได้ อ้างถนนพัง พื้นที่การรถไฟฯ,นายสุทัศน์ กล่าวต่อว่า พื้นที่พระราม 3 ทางเขต ได้มีการจัดการเรื่องฝุ่นอยู่อย่างต่อเนื่อง มีการฉีดน้ำล้างบริเวณโรงเรียนนนทรีวิทยาคมทุกวัน ในช่วงประมาณ 3 ทุ่ม และได้ประสานกับสำนักการโยธา เนื่องจากตรงนั้นเป็นส่วนของโครงสร้างสะพาน,ขณะที่ ฝุ่นที่มาจากรถบรรทุกนั้น ทางเขตได้ส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจลงไปดูแล แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า พื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ของการรถไฟ ซึ่งถนนไม่ดีอยู่ก่อนแล้ว ทางเขตจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ไปล้างถนนเป็นช่วงๆ ประมาณเดือนละครั้ง เพราะหากจะฉีดทุกวันคงเป็นไปไม่ได้ โดยจะเน้นเป็นถนนสายหลักก่อน ช่วงพระราม 3 หน้า ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จนถึง ชุมชนเชื้อเพลิง และประมาณวันที่ 7 ก.พ. จะมีการเรียกประชุม เพื่อหาแนวทางแก้ไขฝุ่นละอองร่วมกันกับภาคเอกชน, ผอ.เขตยานนาวา กล่าว.,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน,อ่านข่าวเกี่ยวข้อง,ครอบครัวละหมื่นกว่า ส่องราคาหน้ากาก N 95 อีก 100 วัน ฝุ่น PM 2.5 จะเจือจาง,ต้อง 100 ม. หลักคิดวิศวกรรัสเซีย ฉีดน้ำลดฝุ่น PM 2.5 ได้ 100% (คลิป),ตกมาตรฐานโลก ผ่านมาตรฐานไทย สุดมึน ไฉนค่าวัดฝุ่นละออง PM2.5 ไม่เท่ากัน?,เปิดใจ 2 อาชีพพื้นที่วิกฤติ PM2.5 ไร้หน้ากากป้องกัน แต่จำทนคลุกฝุ่นพิษ,ฝุ่น PM2.5 หมาแมวหน้าสั้นสูดพิษมากกว่า สัตวแพทย์แนะ 5 วิธีรับมือ | ชาวบ้านในชุมชนเชื้อเพลิง ร้องเรียนฝุ่นละอองฟุ้งทั่วพื้นที่ ถนนพัง รถบรรทุกวิ่งเข้า-ออก จนสุขภาพแย่เป็นปอดติดเชื้อ | สกู๊ปไทยรัฐ | ฝุ่นละอองPM2.5,ยานนาวา,รถบรรทุก,ชุมชนเชื้อเพลิง,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/scoop/1487825 |
อุรชา โบรกเกอร์รับโอนหุ้น ชูวงษ์ และแม่ มอบตัว ตร. ปฏิเสธทุกข้อหา | วันนี้ (26 ส.ค.2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล ซึ่งเป็นผู้รับโอนหุ้นชูวงษ์ แซ่ตั๊ง มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท และ น.ส.ศรีธรา พรหมา แม่ของ น.ส.อุรชา พร้อมด้วยทนาย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปรามเพื่อสอบปากคำหลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันลักทรัพย์ ส่วน น.ส.ศรีธรา ถูกแจ้งข้อหา รับของโจรโดย น.ส.อุรชาปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่ามีความสนิทสนมกับนายชูวงษ์ รวมทั้งรู้จักกับ พ.ต.ท.บรรยิน และได้มีการโอนหุ้นจริง โดยขั้นตอนการโอนหุ้นได้มาอย่างถูกต้อง ยืนยันไม่มีการปลอมแปลงเอกสาร ส่วน น.ส.ศรีธรา ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาเช่นกันด้าน พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รองผู้บังคับการกองปราบปราม ระบุว่ากรณีจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่ที่คำให้การ ซึ่งอาจพิจารณาให้ยื่นประกันตัวในขั้นพนักงานสอบสวนได้ และล่าสุดพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวน.ส.อุรชา เข้าห้องควบคุมตัวแล้ว เพื่อเตรียมส่งฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ขณะที่ยังอยู่ระหว่างสอบปากคำ น.ส.ศรีธรา | หนึ่งในผู้รับโอนหุ้นจากนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง เข้ามอบตัวตำรวจกองปราบปราม โดยปฏิเสธทุกข้อหา | อาชญากรรม | ข่าวอาชญากรรม,คดีชูวงษ์,ชูวงษ์ แซ่ตั๊ง,ทันข่าว11.00,บรรยิน,อุรชา วชิรกุลฑล,โบรกเกอร์,โอนหุ้นชูวงษ์ | https://news.thaipbs.or.th/content/4686 |
ออกเงียบๆ เห็ดถอบ หลงฤดู ชาว อ.สารภีแห่เก็บไปปรุงเมนูเด็ด | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ส.ค.58 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากผู้ที่สัญจรไปมา ว่ามีชาวบ้าน หมู่ที่ 4 ต.สารภี อ.สารภี เชียงใหม่ หลายสิบคน ทำการคุ้ยเขี่ยดิน สร้างความงุนงง สงสัยแก่ชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมาเป็นอย่างมาก หรือว่าหาสมบัติอะไร เพื่อความกระจ่างในเรื่องนี้ ทางผู้สื่อข่าวจึงรุดไปตรวจสอบ ที่บริเวณถนนสายเชียงใหม่ – ลำพูน (สายไม้ต้นยาง) หน้าสุสานปิงห่าง หมู่ที่ 4 ต.สารภี อ.สารภี ทันที,เมื่อเดินทางไปถึงก็พบชาวบ้านหลายสิบคน ก้มหน้า ใช้ไม้คุ้ยเขี่ยดินกัน ก็พบว่าเป็นการหาเห็ดถอบ หรือ(เห็ดเผาะ) ซึ่งชาวบ้านจะนำไปประกอบอาหารเป็นเมนูพิเศษ ซึ่งบางรายเก็บได้หลายสิบเม็ด ลักษณะของเห็บถอบป่าเป็นสีขาว ลูกโตประมาณ ลูกปิงปอง เมื่อชาวบ้านที่ทราบข่าวว่ามีเห็ดถอบออกริมถนนสายต้นไม้ยาง ก็ต่างแห่กันมาหากันอย่างไม่ขาดสาย เห็บถอบที่ออกใต้ดินต้นไม้ยางนา ซึ่งถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน ถนนสายเก่ามีแต่ต้นไม้ยางขึ้นตลอดสาย ที่ชาวนำมาปลูกนับร้อยปีมาแล้ว และอนุรักษ์เอาไว้จึงเป็นสัญญาลักษณ์ของถนนสายนี้,จากการสอบถา มนายวรเดช เต็มดี กำนันตำบลสารภี ซึ่งได้ร่วมหาเห็ดกับชาวบ้านด้วย กล่าวว่า วันนี้ได้มีชาวบ้านมาหาเห็ดถอบ (เห็ดเผาะ) เห็ดถอบใต้ต้นไม้ยาง ปกติเห็บถอดจะออกในช่วงเก็บลำไย แต่ว่าปีนี้ฝนตกลงมาช้าประกอบกับสภาพอากาศไม่เป็นใจทำให้เห็ดถอบออกมาช้า กว่าปีที่ผ่านมา โดยชาวบ้านได้คุ้ยเขี่ยดินหาเห็ดถอบ ตามถนนสายต้นไม้ยางนี้มาได้หลายสิบปีแล้ว ที่ผ่านมาบางคนไม่กล้านำไปรับประทานกลัวเป็นเห็ดพิษ แต่พอเวลาผ่านไปหลายปี ก็ยังมีคนมาเก็บไปกินโดยไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด ส่วนเห็บถอบป่าเริ่มหมดแล้ว ต่อมาจึงทำให้คนที่ทราบข่างต่างมาคุ้ย เขี่ยดินหาเห็บถอบกันทุกวันในช่วงฤดูฝน,กำนันตำบลสารภี กล่าวด้วยว่า เห็ดถอบ ริมถนนสายเชียงใหม่-ลำพูนนี้ใต้ต้นไม้ยางนา จะมีสีขาว ต่างกับเห็ดถอบที่ออกบนดอย ในป่าเขา ที่มีเปลือกมีสีดำ คนที่นำไปรับประทานบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เห็ดถอบที่นี่ ไม่เหนียว เหมือนเห็ดถอบป่า นำไปประกอบอาหารก็อร่อยกว่ามาก ทั้งการนำไปต้มกินกับน้ำพริกตาแดง นำไปแกง นำไปผัดใส่หมู เป็นต้น. | ชาว อ.สารภี จ.เชียงใหม่ รุมเก็บเห็ดถอบ (เห็ดเผาะ) ใต้ต้นยาง ริมถนนสายใต้ต้นไม้ยางนา เชียงใหม่ - ลำพูน โดยเห็ดถอบที่พบมีลักษณะสีขาว รสชาติอร่อย กรอบนอกนุ่มใน คาดเพราะฝนตกช้าและอากาศไม่เป็นใจทำให้เห็ดออกมาช้า | ข่าว,ทั่วไทย | เห็ดถอบ,เห็ดเผาะ,เห็ดถอบสารภี,ต.สารภี,อ.สารภี,เชียงใหม่,วรเดช เต็มดี,เก็บเห็ดถอบ,ถนนสายเชียงใหม่ – ลำพูน,ถนนสายต้นยาง,เห็ดเผาะสีขาว,ข่าวทั่วไทย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/519188 |
สนช.รับหลักการร่าง พ.ร.ป.ศาล รธน. มีชัย จัดเต็มอาวุธ เครื่องมือ เกราะกันถูกละเมิดศาล | สนช.มติเอกฉันท์รับหลักการร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญประธาน กรธ. ระบุให้อาวุธและเครื่องมือสามารถปกป้องตนเองจากการถูกละเมิดศาลได้ พร้อมกลไกให้ศาลรัฐธรรมนูญทำงานได้รวดเร็วมากขึ้น28 ก.ย. 2560 รายงานข่าวระบุว่าการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ (28 ก.ย.60) พรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยมีวาระสำคัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เป็นผู้เสนอโดยที่ประชุม สนช.มีมติเอกฉันท์รับหลักการร่าง พ.ร.ป.ดังกล่าว ด้วยคะแนน 198 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างกฎหมาย 22 คน กำหนดกรอบการทำงาน 50 วัน แปรญัตติภายใน 7 วันมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ชี้แจงว่า ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับที่ 7 ที่เสนอต่อ สนช. ในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ดำเนินการตามมาตรา 77 อย่างครบถ้วน และส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาพร้อมนำกลับมาปรับปรุงตามข้อติติงของศาลรัฐธรรมนูญ แม้บางเรื่อง กรธ.จะไม่เห็นด้วยกับบางประเด็น แต่ก็ไม่ขัดข้อง เช่น เรื่องการจัดตั้งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่อยากให้นำมาใส่ไว้ในกฎหมาย กรธ.จึงได้ตัดหมวดนี้ออกไป แต่ส่วนที่ กรธ.ไม่ได้ปรับตามข้อเสนอของศาลรัฐธรรมนูญ คือ การขอให้เติมข้อความว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจใช้มาตรการชั่วคราวกับองค์กรต่าง ๆ ในประเทศ แต่ กรธ.เห็นว่า หากศาลรัฐธรรมนูญจะลงไปวินิจฉัยเองว่าเรื่องต่าง ๆ ถูกต้องหรือไม่ อาจทำให้เป็นปัญหา เกิดวิกฤติและอันตรายในประเทศได้ เพราะในทางปฏิบัติ ศาลรัฐธรรมนูญจะดำเนินการเหมือนศาลอาญาและศาลแพ่งไม่ได้ยืนยันว่าร่างกฎหมายลูกทุกร่างที่เกี่ยวกับองค์กรอิสระ กรธ.ใช้หลักเดียวกัน คือ ผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญให้ดำรงตำแหน่งอยู่ต่อไป ยกเว้นมีเหตุพิเศษอื่น เช่น กรณีของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่ให้พ้นจากตำแหน่งทุกคน เนื่องจากต้องเป็นไปตามหลักสากล และ กรธ.ไม่เห็นด้วยที่จะกำหนดว่า เมื่อมีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพ้นจากตำแหน่งกรณีครบวาระ จะไม่ให้มีการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญใหม่จนกว่าจะมี ส.ส. เพราะเห็นว่าน่าจะไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ อีกทั้งขณะนี้มี สนช.ทำหน้าที่แทน ส.ส.และ ส.ว.อยู่แล้ว แต่หาก สนช.จะปรับเปลี่ยนประเด็นต่าง ๆ ในภายหลัง กรธ.ก็ไม่ขัดข้อง มีชัย กล่าวประธาน กรธ. กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ สาระสำคัญยังกำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่หลักในการพิจารณาคดีว่าด้วยความชอบของรัฐธรรมนูญในกฎหมายต่าง ๆ การดูแลองค์กรที่ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญว่ามีความขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตลอดจนปัญหาคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและหน้าที่ใหม่ของรัฐธรรมนูญปี 2560 คือให้คำปรึกษาข้อสงสัยขององค์กรที่ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญได้ก่อนที่จะเกิดข้อพิพาทระหว่างองค์กร เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจนบานปลายในอดีต ซึ่งกำหนดให้มีตุลาการ 9 คน มีองค์ประกอบตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด โดยต้องมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 7 คนทำหน้าที่ขณะที่ กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิก สนช. อภิปรายสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว เพราะเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญต้องมีอยู่อย่างเข้มแข็งต่อไป เนื่องจากที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรที่ทำให้บ้านเมืองผ่านวิกฤติไปได้ และเชื่อว่าการพิจารณาร่างดังกล่าว ได้พิจารณาเพิ่มเติมอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมืองเป็นปัจจุบันอย่างดีด้าน มีชัย กล่าวย้ำต่อที่ประชุม สนช.อีกครั้ง ว่า กรธ.ได้ให้อาวุธและเครื่องมือให้แก่ศาลรัฐธรรมนูญไว้แล้ว โดยศาลรัฐธรรมนูญสามารถปกป้องตนเองจากการถูกละเมิดศาลได้ นอกจากนี้ ยังเขียนกลไกให้ศาลรัฐธรรมนูญทำงานได้รวดเร็วมากขึ้นด้วยที่มา : | สนช.มติเอกฉันท์รับหลักการร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญประธาน กรธ. ระบุให้อาวุธและเครื่องมือสามารถปกป้องตนเองจากการถูกละเมิดศาลได้ พร้อมกลไกให้ศาลรัฐธรรมนูญทำงานได้รวดเร็วมากขึ้น 28 | การเมือง | การละเมิดศาล,การวิจารณ์ศาล,ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ,ศาลรัฐธรรมนูญ,สนช. | https://prachatai.com/journal/2017/09/73451 |
โรงแรมสุดเท่กับเส้นสายแลนด์สเคปฟอร์มสามเหลี่ยม | ตะกั่วป่า หรือชื่อเดิมว่า ตะโกลา อดีตเคยเป็นเมืองท่าศูนย์กลางการค้าขายสำคัญของจังหวัดพังงา เรือสินค้าต่างถิ่นมากมายมักมาเทียบท่าค้าขาย ไม่ว่าจะเป็นดีบุก ผ้าไหมเนื้อดี เครื่องเทศ เครื่องกระเบื้องจากจีนและเครื่องแก้วสุดประณีตจากอาหรับ ซึ่งพวกเขาต่างเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลโดยมีกลุ่มดาว La Vela หรือกลุ่มดาวเรือใบ ช่วยนำทางคณะผู้เดินเรือมายังแผ่นดินผืนนี้,แม้ตะกั่วป่าวันนี้จะไม่ใช่เส้นทางการค้า แต่ก็ยังมีผู้เดินทางต่างถิ่นแวะมาเยี่ยมเยือนในฐานะเมืองท่องเที่ยวสำคัญ จากประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและทัศนียภาพของท้องทะเลที่สวยติดอันดับ นี่จึงเป็นที่มาของการเปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่ในชื่อ LA VELA KHAO LAK ภายใต้รูปลักษณ์สุดโมเดิร์นริมหาดบางเนียง,ความโดดเด่นของที่นี่คือการนำรูปทรง สามเหลี่ยม ซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจาก เรือใบ มาถ่ายทอดเรื่องราวและสร้างเอกภาพของงานออกแบบ นอกจากตัวอาคารและห้องพักที่ได้รับการตกแต่งภายใต้คอนเซ็ปต์นักเดินทาง ผสมผสานกลิ่นอายของเมืองตะกั่วป่า และวัสดุจากธรรมชาติ การออกแบบบริบทรอบๆ อย่างแลนด์สเคปก็มีส่วนสำคัญ เพื่อช่วยเชื่อมโยงพื้นที่พักผ่อนแต่ละโซนเข้าด้วยกัน โดยเป็นฝีมือของคุณป๊อก-อรรถพร คบคงสันติ ภูมิสถาปนิกจาก T.R.O.P.,ความโฉบเฉี่ยวของเส้นสายชวนตื่นเต้นคือภาพที่หลายๆ คนมองเห็น แต่ใช่จะมีเพียงความหวือหวาอย่างเดียว เพราะทุกพื้นที่ได้รับการออกแบบฟังก์ชั่นที่เข้าถึงง่ายแถมยังช่วยสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ตั้งแต่ก้าวแรกที่สัมผัส ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่เปรียบเสมือน มหาสมุทร เชื่อมตัวอาคารที่พักทั้งซ้าย-ขวาเข้าด้วยกัน โดยมีคอร์ตรูปสามเหลี่ยมขนาดใหญ่สองฝั่งเพื่อให้รับกับรูปทรงอาคารบีชคลับ และเพื่อไม่ให้อาคารบีชคลับที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าหาดบดบังมุมมองจากห้องพัก จึงออกแบบให้อาคารยกตัวสูงขึ้นจากพื้นดิน เสมือนกรีดสเปซแล้วพับขึ้นมา เพื่อซ่อนสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ไว้ใต้เนินหญ้าที่ลาดเอียง ส่งผลให้เส้นทางที่เชื่อมไปยังชายหาดมีลักษณะถูกกดให้ลาดลง นำไปสู่อุโมงค์เดินลอดใต้สระน้ำ เปลี่ยนผ่านความรู้สึกระหว่างเดินจากผืนมหาสมุทรจำลองหรือสระว่ายน้ำ ไปบรรจบกับท้องทะเลในธรรมชาติสุดปลายทางเดิน เพื่อเปิดประสบการณ์การเข้าถึงชายหาดในรูปแบบที่ไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน,ผืนน้ำเหนืออุโมงค์ยังได้ออกแบบให้เชื่อมต่อเป็นผืนเดียวกันได้อย่างแยบยล เพิ่มความเอ็กซ์คลูซีฟด้วยการเข้าถึงสระว่ายน้ำได้ง่ายๆ จากระเบียงหน้าห้องพักชั้น 1 ได้ทันทีแบบไม่เสียความเป็นส่วนตัว เพราะผู้ออกแบบได้ทำแนวต้นไม้กั้นระหว่างห้องพักในองศาที่ช่วยบังสายตาจากภายนอกได้อย่างดี,งานภูมิสถาปัตยกรรมของโปรเจกต์นี้คือการเชื่อมพื้นที่ทุกส่วนเข้าด้วยกัน ภาพรวมทั้งหมดนี้จึงนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งของนักออกแบบว่าจะสื่อไอเดียลงไปอย่างไรให้ดูแนบเนียน ชนิดที่ผู้ใช้งานไม่รู้ตัว ภายใต้เส้นสายที่ดูหวือหวาแต่กลับเข้าถึงง่ายและช่วยสร้างความรู้สึกรีแล็กซ์ผ่อนคลาย,หากได้มาพักผ่อนที่นี่ เราเชื่อว่าไม่เพียงคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนแบบชิลๆ ยังจะได้ชมงานดีไซน์ที่แทรกตัวอยู่ตามมุมต่างๆ ราวกับได้ชมงานศิลปะที่เราสามารถเข้าไปเป็นส่วนประกอบได้ท่ามกลางหาดทราย สายลม แสงแดด,ติดตามงานออกแบบที่ผสมผสานพื้นที่สีเขียวให้เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตได้ และอีกหลากหลายไอเดียในการสร้างสรรค์มุมสีเขียวแบบใกล้ตัวอีกมากมาย ได้ใน room bookazine หรือ ,ที่นี่, | ความโดดเด่นของที่นี่คือการนำรูปทรง สามเหลี่ยม ซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจาก เรือใบ มาถ่ายทอดเรื่องราวและสร้างเอกภาพของงานออกแบบ | ไลฟ์สไตล์,บ้าน | บ้าน,ออกแบบ,ออกแบบโรงแรม,ไอเดียแต่งบ้าน,LA VELA KHAO LAK | https://www.thairath.co.th/lifestyle/home/homedecor/1221022 |
โรคใบจุดเบญจมาศ | อาการเริ่มแรกจะอยู่ที่ใบส่วนล่างใกล้ดิน เกิดจุดสีน้ำตาลขนาดเล็ก ขอบแผลมีสีเหลือง เมื่อขนาดของแผลขยายใหญ่ขึ้น กลางแผลจะมีจุดสีเทาดำขึ้นอยู่กระจัดกระจาย นี่แหละสปอร์เชื้อรา ตัวการที่ทำให้เกิดการระบาด จากนั้นโรคจะค่อยๆลุกลามขึ้นไปส่วนบน และแสดงอาการเน่าไปสู่ยอด,เมื่อแผลลุกลามมากใบจะเน่าแห้งทั้งใบและหักพับติดอยู่กับลำต้น หากระบาดรุนแรงแผลจะลามขยายติดกัน ทำให้ใบไหม้ ร่วงหล่น และลุกลามถึงใบยอดจนใบไหม้ทั้งต้น,ให้เกษตรกรหมั่นตรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพบโรคให้ตัดส่วนที่เป็นโรคและเก็บใบเป็นโรคที่ร่วงหล่นไปเผาทำลาย,นอกแปลงปลูก,แปลงที่เกิดโรคระบาด งดการให้น้ำแบบพ่นฝอย ควรเปลี่ยนมาให้น้ำในระบบน้ำหยดแทน เพราะสปอร์เชื้อราสามารถแพร่ระบาดไปตามลม และติดไปกับเศษซากจากพืชที่เป็นโรคร่วงหล่นสะสมอยู่ในดิน รวมทั้งแพร่ไปได้ดีกับน้ำ ติดไปกับการสัมผัสของแมลงและเครื่องมืออุปกรณ์การเกษตร,หากกำจัดไปแล้วโรคยังคงระบาดอยู่อีก ให้พ่นด้วย ไดฟีโนโคนาโซล 25% อีซี อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ โพรพิโคนาโซล 25% อีซี อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ คลอโรทาโลนิล 50% เอสซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นทุก 7 วัน,หลังจากหมดฤดูปลูกแล้ว เกษตรกรควรทำความสะอาดและกำจัดวัชพืชในแปลงปลูกโดยเก็บเศษซากพืชไปเผาทำลายนอกแปลงปลูก จากนั้นตัดแต่งใบแก่ออก เพื่อให้ต้นโปร่งอากาศถ่ายเทสะดวก,การปลูกในฤดูถัดไปให้ใช้กิ่งพันธุ์ที่ปลอดโรค ควรปลูกให้มีระยะปลูกที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงปลูกต้นเบญจมาศชิดกันเกินไป เพื่อลดการระบาดส่วนพื้นที่เกิดโรคระบาด ควรปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียนแทน.,สะ–เล–เต | ระยะนี้ฝนตกชุกความชื้นสูง เอื้อให้เชื้อราเจริญเติบโตและแพร่ได้รวดเร็ว กรมวิชาการเกษตร เตือนเกษตรกรผู้ปลูกเบญจมาศเฝ้าระวังการระบาดของโรคใบจุด ที่เกิดได้ทุกระยะการเจริญเติบโต | null | โรคใบจุด,เบญจมาศ,โรคระบาด,ปลูกเบญจมาศ,เกษตรกรบนแผ่นกระดาษ,เกษตร | https://www.thairath.co.th/news/local/1360043 |
ป.จับแก๊ง ตกควาย ตุ๋นเหยื่อลงทุนซื้อที่ดิน สุดท้ายชวนเล่นพนันหมดตัว | เครดิตภาพ: ตำรวจกองปราบ,ตำรวจกองปราบฯ โชว์ผลงานตามจับแก๊งหลอกลงทุนซื้อที่ดิน ก่อนลวงเหยื่อเปิดห้องตามโรงแรม ชวนเล่นพนันจนเสียหมดตัวแล้วเผ่นหนี สอบประวัติพบมีหมายจับติดตัว 6 หมาย ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์,เมื่อวันที่ 3 มี.ค.60 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป) พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วิชิรศรีสุกัญญา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.บุญลือ ผดุงถิ่น รองผกก.2 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกก.2 บก.ป. จับกุมตัว นายพระนาย แสงดี หรือ วิชัยดิษฐ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/187 ซอยหทัยราษฎร์ 35 แขวงและเขตคลองสามวา กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ จ 175/2552 ลงวันที่ 28 พ.ค. 2552 ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่น โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ใน ต.บ่อแร่ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง,การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมร่วมกับพวกหลอกผู้เสียหายว่าเป็นนายหน้ารับซื้อที่ดิน โดยหลอกว่าจะให้เงินส่วนแบ่งจากการซื้อขายที่ดินกับผู้เสียหายหากติดต่อดำเนินการในการหาที่ดินให้ได้ ต่อมาเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อก็จะชักชวนไปเปิดห้องตามโรงแรม หรือรีสอร์ต ต่างๆ โดยอ้างว่าเป็นการเจรจาเรื่องซื้อขายที่ดิน ก่อนที่จะเริ่มชักชวนให้เล่นการพนัน (กำถั่ว,ไพ่) และโกงพนันผู้เสียหายจนทำให้เสียเงินจำนวนมาก ก่อนที่จะแยกย้ายหลบหนี โดยทางผู้เสียหายได้ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้หลายท้องที่ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการออกหมายจับและถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว,จากสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุลักษณะดังกล่าวจริง โดยจะมีการเข้าไปตีสนิทเหยื่อก่อนที่จะอ้างผลกำไรที่จะได้จากการลงทุนซื้อที่ดิน ซึ่งเมื่อเหยื่อหลงกลก็จะชักชวนไปเล่นการพนันแล้วโกงพนัน ซึ่งหลังจากได้เงินมาแล้วก็จะแยกย้ายกันหลบหนี ก่อนที่จะไปหาเหยื่อรายใหม่ตามจังหวัดอื่นๆ,เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ดำเนินคดีต่อไป,ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่ายังถูกออกหมายจับอีกทั้งหมด 6 หมาย ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ อีกด้วย ซึ่งอายุความของหมายจับจะหมดอายุในปี 2562 | ตำรวจกองปราบฯ โชว์ผลงานตามจับแก๊งหลอกลงทุนซื้อที่ดิน ก่อนลวงเหยื่อเปิดห้องตามโรงแรม ชวนเล่นพนันจนเสียหมดตัวแล้วเผ่นหนี สอบประวัติพบมีหมายจับติดตัว 6 หมาย ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ | null | หลอกลงทุนซื้อที่ดิน,ชวนเล่นพนันหมดตัว,แก๊งตกควาย,กองปราบ,หลอกลวง | https://www.thairath.co.th/content/873310 |
นายกฯ ชี้แจงเหตุน้ำท่วมรังสิต-ดอนเมือง | น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยยอมรับสาเหตุที่น้ำเข้าท่วมพื้นที่ย่านรังสิต อนุสรณ์สถานถนนวิภาวดีรังสิต ฐานทัพอากาศ มาจนถึงด้านหน้า ศปภ. เกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งกรณีที่กรมชลประทานไม่สามารถเข้าไปซ่อมแซมในส่วนที่ชำรุดของปิดประตูระบายน้ำคลอง 1 รังสิตได้ และไม่สามารถปิดประตูระบายน้ำ เนื่องจากปริมาณน้ำที่มาก และความแรงของน้ำที่ไหล หากฝืนหรือดันน้ำไปมากกว่านี้ อาจทำให้ประตูระบายน้ำพัง และส่งผลให้เกิดความสูญเสียมากกว่าทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) จะประชุม ครม. และพิจารณาประกาศให้สินค้าบางประเภท เป็นสินค้าควบคุม โดยเฉพาะน้ำดื่ม พร้อมกันนั้นก็ยอมรับว่ารัฐบาลไม่สามารถประกาศให้เป็นวันหยุดราชการได้ เนื่องจากต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานจึงขอความร่วมมือภาคเอกชนบางส่วนประกาศหยุดงาน เพื่อลดการจราจรในภาวะวิกฤตน้ำท่วมขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ยืนยันที่จะเฝ้าระวังจุดเชื่อมต่อของกรุงเทพฯ ตลอด 24 ชั่งโมง แต่ด้วยปริมาณน้ำที่มาก อาจเป็นเหตุให้ท่วมพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงเทพฯ แต่ก็เชื่อมั่นว่าจะไม่ท่วมทุกเขต หรือ ทั้ง 50 เขตของกรุงเทพฯ ดังนั้นคนกรุงเทพฯต้องเตรียมตัวให้พร้อม โดยไม่ตื่นตระหนกสำหรับการประชุมของ ศปภ. วันนี้ (24 ต.ค.) เริ่มต้นขี้นเมื่อเวลา 11.30 น.ที่ผ่านมานี้ โดยนายกรัฐมนตรี ได้เชิญ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาร่วมหารือ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานครด้วย หลังจากนั้นจะมีการประชุมคณะกรรมการจัดการน้ำในช่วงบ่ายนี้ | นายกฯชี้แจงสาเหตุที่น้ำเข้าท่วมย่านรังสิต เรื่อยมาจนถึงถนนวิภาวดีรังสิต ด้านหน้า ศปภ. เพราะไม่สามารถปิดประตูระบายน้ำคลอง 1 รังสิตได้ | การเมือง | ดอนเมือง,นายก,น้ำดื่ม,น้ำท่วม,ประตูระบายน้ำคลอง 1,รังสิต,วิภาวดีรังสิต,ศปภ. | https://news.thaipbs.or.th/content/41453 |
สุดกลั้น เพื่อนสาวแม็กซิมคนดัง ไปหา มะนาว ป่วยมะเร็งโคม่า กอดกันร่ำไห้โฮ | ความคืบหน้าอาการป่วย มะนาว แม็กซิม ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านปรางไม้ เลขที่ 12หมู่ 1 ต.สระประดู่ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ เพื่อเยี่ยมอาการป่วยของ น้องมะนาว พบบรรยากาศที่บ้านมีญาติๆ และเพื่อนๆ เดินทางมาเยี่ยม ให้กำลังใจ จำนวนมาก,อาการของน้องมะนาววันนี้ มีอาการดีขึ้น พูดคุยได้มากขึ้น ไม่ค่อยเหนื่อย เช่น 2 วันก่อน สีหน้าดีขึ้น ยิ้มแย้ม หัวเราะได้ ส่วน แม่ ของมะนาว บอกว่าอาการน้องดีขึ้นวันนี้ ไม่ต้องใช้ถังอ๊อกซิเจน แต่ก็ยังวางใจ ไม่ได้ วันนี้ มะนาว สามารถกินโจ๊ก ได้เยอะขึ้น โดยใน 1 วัน น้องมะนาว ต้องใช้ผ้าอ้อมเกือบ 10 ชิ้น ต่อวัน,และวันนี้ (30 พ.ค.) เวลา 17.50 น. เอมมี่ อมลวรรณ หรือ เอมมี่ แม็กซิม ได้เดินทางมาเยี่ยม มะนาว แม็กซิม ที่บ้านโดยมากับพี่ชาย พี่สะใภ้ และน้องชาย โดยทั้งคู่ได้โอบกอดกันแน่น ด้านเอมมี่ ได้บอกกับแม่ของน้องมะนาว ว่า ถ้าขาดอะไร หรือต้องการอะไร ให้โทรหาเอมมี่ได้ตลอดเวลา ,วอนผู้ใจบุญท่านใดที่จะช่วยเหลือน้องมะนาวสามารถโอนเข้าบัญชีโดยตรงเลขบัญชีบัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี น.ส.วิราลักษณ์ สุทธิประภา เลขบัญชี 7962208058 หรือ ติดต่อเบอร์โทร 080 238 7479 แม่น้องมะนาว ได้. | เพื่อนนางแบบ แม็กซิม คนดังเดินทางมาเยี่ยม มะนาว แม็กซิม โดยทั้งคู่ได้โอบกอดกันแน่นและร้องไห้โฮ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | มะนาว แม็กซิม,มะนาว แม็กซิม เป็นมะเร็ง,เอมมี่ แม็กซิม,เอมมี่ อมลวรรณ,มะนาว แม็กซิม มะเร็ง,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1295416 |
มติ ครม.ย้าย ชาญเชาวน์ พ้นปลัด ยธ. นั่งผู้ตรวจราชการแทน | เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 พ.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.มีมติโยกย้าย นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ จากปลัดกระทรวงยุติธรรม มาดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการพิเศษ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรม ได้หารือทำงานร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด ทั้งในเรื่องการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ปฏิรูปกฎหมาย ปฏิรูปตำรวจ และการขับเคลื่อนการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน ซึ่งอยากได้คนมาช่วยงาน ใน 3 เรื่อง คือ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ปฏิรูปตำรวจ และการปฏิรูปกฎหมาย รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดำเนินการปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และการปฏิรูปการศึกษา ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด จึงเห็นควรให้ นายชาญเชาวน์ มาช่วยงาน,นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จึงได้ทำเรื่องขอตัวนายชาญเชาวน์ มาช่วยงานตรงนี้ และได้หารือกับนายชาญเชาวน์เรียบร้อยแล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และนายชาญเชาวน์ ก็ยินดี การโยกย้ายครั้งนี้ ถือเป็นระบบปกติทางราชการ และนายชาญเชาวน์เอง ถือเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ และที่ประชุมครม.ยังได้มีมติรับโอน นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมแทน | ครม.มีมติย้าย ชาญเชาวน์ พ้นปลัดยธ.นั่งผู้ตรวจราชการพิเศษ สำนักนายกฯ อ้าง เหตุนายกฯ อยากได้ช่วยงานปฏิรูป กฎหมาย-ตร.-ศึกษา พร้อมโอน วิศิษฏ์ นั่งปลัดยธ.แทน | ข่าว,การเมือง | มติครม.,ชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ,ปลัดกระทรวงยุติธรรม,ผู้ตรวจราชการพิเศษ,ย้ายชาญเชาวน์ | https://www.thairath.co.th/news/politic/950063 |
ประเทศต้องมาก่อน | ถือว่าเป็นความสูญเสียอย่างแท้จริงของนานาประเทศซึ่งรักสันติภาพ,ข้อความบางตอนของพระราชสาส์น กล่าวว่า นายโคฟี อันนัน ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อถวายพระเกียรติด้วยตนเอง ในนามของสหประชาชาติ โดยทูลเกล้าฯถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ ของโครงการพัฒนาสหประชาชาติกล่าวได้ว่า ไม่มีสัญลักษณ์แห่งการประกาศพระเกียรติคุณอื่นใด ที่จะทำให้องค์การสหประชาชาติ ได้เข้ามาใกล้ชิดอยู่ในจิตใจของปวงชนชาวไทย เท่ากับการทูลเกล้าฯถวายรางวัล,อันนันเป็นชาวแอฟริกันคนแรก ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการสหประชาชาติ บิดาเป็นผู้บริหารธุรกิจใหญ่ในประเทศกานา อันนันเคยได้รับรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดระดับโลก อันได้แก่รางวัลโนเบลสันติภาพ เนื่องจากเป็นผู้อุทิศตนเพื่อสร้างสันติภาพของโลก รวมทั้งส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งต่อสู้กับความยากจนและโรคภัยไข้เจ็บ,เขาได้รับยกย่องเป็นรัฐบุรุษของโลก เป็นผู้นำโลกที่ได้รับความนิยมสูงสุดผู้หนึ่ง หลังจากพ้นจากตำแหน่งเลขาธิการยูเอ็นก็ยังเดินหน้าต่อไปในการเสริมสร้างสันติภาพและความปรองดอง เคยได้รับเชิญจากคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ให้เดินทางมาเยือนไทย เพื่อแนะนำการสร้างความปรองดอง,อดีตเลขาธิการยูเอ็นเดินทางมาประเทศไทยอีกในปี 2555 ตามคำเชิญของ คอป. ซึ่งมี ศ.คณิต ณ นคร เป็นประธาน เขาได้ฝากข้อเสนอแนะถึงนักการเมืองไทยทุกคนผ่านทาง คอป.ว่า นักการเมืองทั้งหลายต้องถือว่าประเทศต้องมาก่อน ประเทศชาติใหญ่กว่าบรรดานักการเมือง ไม่ทราบว่านักการเมืองได้รับฟังหรือไม่ และเมื่อฟังแล้วได้ใส่ใจในข้อเสนอแนะหรือไม่,แต่เชื่อว่าจะเป็นการรับฟังแบบที่เรียกว่า ฟังหูซ้ายทะลุออกหูขวาเสียมากกว่า เพราะในกว่าสิบปีที่ผ่านมา ได้เกิดความ แตกแยกและความขัดแย้งรุนแรงในสังคมไทย อันมีสาเหตุจากการแบ่งสีแบ่งฝ่ายของนักการเมือง นำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงหลายครั้ง เป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจ โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถึงสองหน,รัฐบาลอย่างน้อย 2 คณะ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาและแนะแนวทางสร้างความปรองดองถึง 2 คณะ นอกจาก คอป.แล้ว ยังมีสถาบันพระปกเกล้าที่ได้รับการมอบหมายให้วิจัยเพื่อสร้างความปรองดอง คณะกรรมการทั้งสองคณะทำรายงานเสนอแนะไว้มากมาย แต่ไม่มีใครสนใจนำไปปฏิบัติ การเมืองไทยจึงจมปลักอยู่ในน้ำเน่า และอาจจมต่อไป. | สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยไปยังเลขาธิการสหประชาชาติ ในการที่นายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการยูเอ็น ถึงแก่อนิจกรรม | null | บทบรรณาธิการ,โคฟี อันนัน,โคฟี อันนัน เสียชีวิต,อดีตเลขาธิการยูเอ็น,สหประชาชาติ | https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1359714 |
โจรโจ๋-ชิงทองนศ. แทงพลเมืองดีเจ็บ | ชาวบ้านแถบนั้นต่างยกย่องให้เป็นแบบอย่างที่ดีกับเยาวชน,พลเมืองดีช่วยตำรวจจับโจร เปิดเผยเมื่อวันที่ 27 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล รอง ผบก.น.4 ว่าช่วงค่ำของวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.เชน ศรีกรุงไกร สวป.สน.วังทองหลาง พร้อมกำลังสายตรวจ สน.วังทองหลางและชาวบ้าน ร่วมกันจับกุมนายศุภชัย หรือใหม่ หนูชู อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 261/1 หมู่ที่ 7 ต.ดอนประดู่ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น มีดพกปลายแหลม 1 เล่ม จับกุมได้ที่ทางเท้าริมคลองแสนแสบ ชุมชุนรามคำแหง 53 ซอยรามคำแหง 53 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.,สอบสวนนายอนุพงษ์ ขวัญทอง อายุ 22 ปี และ น.ส.พัชราวัลย์ ฤทธิ์ อายุ 21 ปี ทั้งคู่เป็น นศ.มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 ที่เป็นผู้เสียหาย ให้การว่า ถูกนายศุภชัยใช้มีดจี้ชิงสร้อยคอทองคำของนายอนุพงษ์ไป ระหว่างนั้นมีนายอนุทิน หรือนุก ณ ลำปาง อายุ 22 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง เข้าไปช่วยจับคนร้าย จนถูกมีดแทงเข้าที่แผ่นหลังได้รับบาดเจ็บ ก่อนนำส่ง รพ.นพรัตน์ราชธานี อาการปลอดภัย,ด้านนายอนุทิน ณ ลำปาง พลเมืองดี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังเดินไปส่งแฟนสาวที่พักอยู่ในซอยดังกล่าว ได้ยินคนร้องตะโกนว่า ให้ช่วยจับโจรด้วย เป็นจังหวะที่คนร้ายวิ่งผ่าน จึงวิ่งไล่กวดคนร้ายตามไปติดๆ เกิดการต่อสู้ชุลมุนจนล็อกตัวผู้ต้องหาไว้ได้พร้อมสร้อยของกลาง ระหว่างนั้นรู้สึกเจ็บที่แผ่นหลังและมีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก ก่อนพบว่าถูกแทง เจ้าหน้าที่จึงช่วยนำส่งโรงพยาบาล แพทย์เย็บบาดแผล 15 เข็ม ให้นอนพักฟื้นเพื่อดูอาการ,เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนและพกพาอาวุธมีด ก่อนนำตัวส่ง ร.ต.ท. หญิงจิรภา จันนะรา พงส.สน.วังทองหลาง ดำเนินคดี พร้อมรอให้นายอนุทินพลเมืองดีที่ได้รับบาดเจ็บอาการดีขึ้นเพื่อสอบปากคำแจ้งข้อหาเพิ่มกับผู้ต้องหารายนี้ต่อไป,มีรายงานว่าหลังเกิดเหตุชาวบ้านในละแวกดังกล่าวต่างกล่าวขวัญแสดงความชื่นชมความกล้าหาญของนายอนุทินเป็นอย่างมาก ถือเป็นพลเมืองดีตัวอย่างให้กับเยาวชนที่น่ายกย่อง | โจรวัยรุ่นเหิม ใช้มีดพกจี้ นศ.รามฯปี 1 คณะรัฐศาสตร์ ขณะเดินริมคลองแสนแสบ ชุมชนรามคำแหง 53 ได้สร้อยทองหนัก 1 บาท วิ่งหนีผ่านหน้าหนุ่มพนักงานบริษัทที่เดินไปส่งแฟน ถูกตะครุบไว้ทันควัน ไม่วายใช้มีดแทงพลเมืองดีเจ็บ | ข่าว,ทั่วไทย | โจรวัยรุ่น,จี้,นักศึกษา,คลองแสนแสบ,พลเมืองดี,ถูกแทง | https://www.thairath.co.th/news/local/477540 |
ถูกเหลือเชื่อ บ.อินเดียออกสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ฟรีดอม251 ถูกสุดในโลก แค่133 บาท | เมื่อ 18 ก.พ. 59 สำนักข่าวบีบีซี รายงาน บริษัท ริงกิ้ง เบลส์ ในอินเดีย เผยโฉมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Freedom 251 (ฟรีดอม 251) ออกมาให้ชาวอินเดียและชาวโลกต้องฮือฮากันแล้ว ด้วยสนนราคาถูกแสนถูก จนครองแชมป์สมาร์ทโฟนราคาถูกที่สุดในโลก เพียงเครื่องละ 251 รูปี (หรือ 3.67 ดอลลาร์ แค่ประมาณ 132.12 บาทเท่านั้น เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา,ประชาสัมพันธ์หญิงของบริษัท ริงกิ้ง เบลส์ เผยกับนักข่าวเอเอฟพี ถึงประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟน รุ่น Freedom 251 ว่า แม้ทางบริษัทจะตั้งราคาขายไว้ถูกมาก แต่กลับมีสเปกไม่ได้ด้อยอย่างที่หลายคนคิด เพราะนอกจากจะมีความจุขนาด 8GB แล้ว ยังมีกล้องหน้าและกล้องหลัง โดยทาง บริษัท ริงกิ้ง เบลส์ ได้ยกให้สมาร์ทโฟน รุ่น ฟรีดอม 251 เป็นรุ่นแฟลกชิพ หรือ เรือธง ของทางบริษัทเลยทีเดียว โดยคาดว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยาว์ที่ครองใจผู้บริโภคได้ไม่ยาก ในขณะที่ อินเดีย ถือเป็นตลาดมือถือใหญ่อันดับ 2 ของโลก และมีชาวอินเดียใช้สมาร์ทโฟนในประเทศกันแล้วมากนับ 1 พันล้านคน,สำนักข่าวเพรสทรัสต์ ในอินเดียแจ้งว่า บริษัท ริงกิ้ง เบลส์ เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาเมื่อ 2-3 เดือนก่อน และได้ออกสมาร์ทโฟน ราคาถูกที่สุดในอินเดียรุ่นหนึ่งออกมาแล้ว โดยตั้งราคาขายไว้ที่เครื่องละ 2,999 รูปี จากนั้น ได้สร้างกระแสฮือฮา ด้วยการออกสมาร์ทโฟนรุ่นถูกที่สุดในโลก ในราคาแค่ 251 รูปีเท่านั้น | คงขายดีมาก บริษัทผลิตสมาร์ทโฟนน้องใหม่ในอินเดีย ออกสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ฟรีดอม 251 ตั้งราคาขายไว้ถูกที่สุดในโลก เพียงแค่เครื่องละ 133 บาทเท่านั้น | null | สมาร์ทโฟนรุ่นฟรีดอม 251,สมาร์ทโฟนถูกสุดในโลก,มือถือถูกสุดในโลก,มือถืออินเดียถูกสุดในโลก,บริษัท ริงกิ้ง เบลส์,รุ่นFreedom251,มือถือเครื่องละ133 บาท,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/579243 |
จร.กลางมาแปลก-จับไม่ปรับ 12 ข้อหา ให้ไปอบรมแทน | ทดลองทำถึงสิ้นปี-เฉพาะ บก.จร.ไม่เกี่ยว สน.ท้องที่,วันที่ 20 ก.ย. ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. กล่าวว่า กองบังคับการตำรวจจราจรจะทำโครงการ จับไม่ปรับ เข้ารับการอบรม โดยจะให้ โอกาสผู้ขับขี่ที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 จำนวน 12 ข้อ และได้รับใบสั่ง ให้แสดงเจตนาไม่จ่ายค่าปรับ โดยขอเข้ารับการอบรม ณ หน่วยที่ออกใบสั่งให้แทน เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.ถึงวันที่ 30 ธ.ค.2560 ทั้งนี้ สามารถเข้ารับการอบรมได้ทุกวันเสาร์ เวลา 10.00-11.00 น. อย่างไรก็ตาม หากพบผู้กระทำผิดซ้ำจะถูกจับปรับอย่างจริงจัง ทั้งนี้กรณีได้รับใบสั่งแบบอิเล็กทรอนิกส์ และแบบส่งทางไปรษณีย์ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ทั้งนี้ ในเบื้องต้นจะดำเนินการเฉพาะในส่วนที่ตำรวจจราจรกลางจับกุมเท่านั้น ยังไม่รวมถึงตำรวจ จราจรท้องที่ อย่างไรก็ตาม หากได้ผลดีจะขยายไปยัง สน.พื้นที่ในเขตนครบาลต่อไป,สำหรับความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 จำนวน 12 ข้อ ได้แก่ 1. ผู้ขับขี่รถ จยย. และคนโดยสารไม่สวมหมวกนิรภัย 2.ผู้ขับขี่ คนโดยสารไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 3.ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย 4.ขับรถในขณะใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ 5.ขับรถแซงในที่คับขันฯ 6. นำรถสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงมาใช้ในทางเดินรถ 7.ขับรถด้วยอัตราความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด 8.ขับรถย้อนศร 9.รถ จยย.ซ้อนสาม 10.ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรบนพื้นทาง 11. ขับรถโดยประมาทฯ 12. ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ไม่แต่งกายตามที่กฎหมายกำหนด. | วันที่ 20 ก.ย. ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. กล่าวว่า กองบังคับการตำรวจจราจรจะทำโครงการ จับไม่ปรับ เข้ารับการอบรม โดยจะให้ โอกาสผู้ขับขี่ที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 | ข่าว,ทั่วไทย | จิรพัฒน์ ภูมิจิตร,พ.ร.บ.จราจรทางบก,จับไม่ปรับ เข้ารับการอบรม,ตำรวจจราจร,ใบสั่งแบบอิเล็กทรอนิกส์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1075994 |
ยอดตาย-สูญหายจากวาชิถล่มฟิลิปปินส์พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง | สำนักงานบรรเทาสาธารณภัยฟิลิปปินส์รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายล่าสุด จากเหตุน้ำท่วมฉับพลันเนื่องจากอิทธิพลของพายุวาชิที่พัดเข้าฟิลิปปินส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อยู่ที่ 1080 คน จากเมื่อวานนี้ (22 ธ.ค.) ที่มีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิต 1010 คนแต่ที่น่าวิตกคือยอดผู้สูญหายที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากขณะนี้ญาติๆ ของผู้สูญหายที่อาศัยในเมืองห่างไกล และไม่สามารถติดต่อญาติของตัวเองที่เดินทางมาทำงานที่เมืองคากายัน เดอ โอโร่ และเมืองอิลิกัน ต่างเริ่มทยอยให้ข้อมูลผู้สูญหายกับทางการมากขึ้น เช่นเดียวกับผู้บาดเจ็บที่พอหายตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เริ่มติดตามหาญาติตัวเอง ทำให้ตอนนี้ตัวเลขผู้สูญหายเพิ่มสูงถึง 1079 คนแล้ว แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า ผู้ที่สูญหายอาจรวมอยู่ในจำนวนผู้เสียชีวิตที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ศพได้เสร็จสิ้น โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเน้นการค้นหาร่างผู้เสียชีวิต และดูแลผู้ได้รับผลกระทบก่อน จึงจะจัดการเรื่องพิสูจน์ศพ | ภัยพิบัติจากพายุวาชิในฟิลิปปินส์อาจเลวร้ายกว่าที่คิด เนื่องจากขณะนี้มีรายงานตัวเลขผู้สูญหายเพิ่มเป็นกว่าพันคน นอกเหนือจากยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน | ต่างประเทศ | น้ำท่วม,พายุวาชิ,ฟิลิปปินส์ | https://news.thaipbs.or.th/content/55115 |
รวบน้องโรส พีอาร์สาวสวย ซุกยาเคตามีนในเสื้อชั้นใน จากบ่อนเขมรเข้าไทย | เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 พ.ค. พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1201 (ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1201) ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ พ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผกก.(สส) สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว สนธิกำลังร่วมกันตั้งจุดตรวจค้นยาเสพติดและสิ่งของผิดกฎหมายลักลอบเข้าไทย บริเวณจุดตรวจร่วม อ.05 ร้อย ทพ.1201 หน้าด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามนโยบายสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ของ พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1,ต่อมา จนท.ชุดปฏิบัติการร่วมได้ตรวจพบหญิงสาว ผิวขาว หน้าตาสวย รูปร่างเซ็กซี่ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ใส่เสื้อแขนยาวสีดำ สะพายกระเป๋าผ้าขนาดใหญ่สีดำ เดินข้ามด่านพรมแดนอรัญประเทศ จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย เมื่อถึงจุดตรวจร่วม อ.05 ฯ หญิงสาวคนดังกล่าวแสดงท่าทางมีพิรุธ จนท.สังเกตเห็นลักษณะตาปรือๆ คล้ายคนเสพยาเสพติด จึงเรียกตรวจสอบพบถือหนังสือเดินทางประเทศแคนาดา และมีบัตรประชาชนไทย ระบุว่า ชื่อ น.ส.ชารอน ลอแมน ชื่อเล่น น้องโรส ลูกครึ่งไทย-แคนาดา อยู่บ้านเลขที่ 9/5 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี,จากนั้น จนท.ฯ จึงให้ อส.ทพ.หญิง (อาสาสมัครทหารพรานหญิง) ของ ชค.กรม.ทพ. 12 (ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12) ตรวจค้นร่างกาย และกระเป๋าผ้าสีดำอย่างละเอียดในห้องตรวจค้น ซึ่งการจากตรวจค้น จนท.พบยาเคตามีนชนิดเกล็ดสีขาว บรรจุในถุงพลาสติกใส ขนาดเล็ก จำนวน 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 0.617 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อชั้นในด้านซ้ายของ น.ส.ชาลอน ลอแมน หรือ น้องโรส ซึ่งเมื่อ จนท.ตรวจพบยาเคตามีน น.ส.ชาลอน ลอแมน หรือน้องโรส ถึงกับตกใจหน้าซีด จนท.จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนที่กองร้อยทหารพรานที่ 1201 ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว,จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.ชารอน ลอแมน หรือน้องโรส รับสารภาพว่า เป็นลูกครึ่งไทย-แคนาดา ถือพาสปอร์ตแคนาดา และมีบัตรประชาชนไทย ทำงานเป็นสาวพีอาร์หรือสาวนั่งดริงก์ตามสถานบันเทิงต่างๆ ได้เดินทางออกไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในบ่อนกาสิโน ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา และยอมรับว่า เสพยาเคตามีนกับเพื่อนในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยซื้อยาเคตามีนมาจากชายชาวกัมพูชาที่หน้ากาสิโนฝั่งปอยเปตในราคาถุงละ 1,000 บาท แล้วนำมาเสพกับเพื่อนๆ ในห้องพักในบ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปต ส่วนยาเคตามีนที่เหลือได้ซุกซ่อนไว้เพื่อจะนำไปเสพต่อที่ฝั่งไทย จนท.จึงควบคุมตัว น.ส.ชารอน ลอแมน พร้อมของกลาง ส่งให้ สว.(สอบสวน) สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว นำไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายและดำเนินคดีต่อไป | รวบน้องโรส พีอาร์สาวสวย ลูกครึ่งไทย-แคนาดา สุดเซ็กซี่ ซุกยาเคตามีนในเสื้อชั้นใน จากบ่อนกัมพูชาเข้าไทย จนท.จับได้คาด่านอรัญประเทศ สระแก้ว | ข่าว,ทั่วไทย | ยาเคตามีน,ซุกยาในเสื้อชั้นใน,บ่อนเขมร,จับยา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1289286 |
ส.ศิวรักษ์:มารวิชัย ถ้อยคำจากกัลยาณมิตรถึง นพ.วิชัย โชควิวัฒณ์ | ทางประชาไทจึงได้ขอนำเสนอคำปาฐกถาฉบับเต็มเพื่อความครบถ้วนของเนื้อหา ข้าพเจ้ากับวิชัย เป็นกัลยาณมิตรกัน ก็กัลยาณมิตรนั้น ท่านเปรียบว่าเป็น ปรโต โฆษะ คือเสียงแห่งมโนธรรมสำนึกจากภายนอก ที่คอยเตือนสติเรา กล่าวคือกัลยาณมิตรย่อมพูดในสิ่ง ซึ่งบางครั้งเราก็ไม่อยากรับฟัง แต่เมื่อฟังแล้วนำไปใคร่ครวญดู อาจเป็นคุณประโยชน์ ที่ทำให้เกิดความสำนึก ในทางตรึกตรอง เพื่อสำรวจตรวจตราตนเอง ว่าตนบกพร่องไปในทางใดบ้าง เพื่อแก้ไขปรับปรุงตนให้ดีขึ้น ยิ่งเจริญจิตสิกขา จนถึงขึ้นโยนิโสมนสิการ ย่อมช่วยให้ลดความเห็นแก่ตัวได้มาก จนอาจดำเนินชีวิตไป เพื่อเกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ ยิ่งกว่าเพื่อประโยชน์ของตน และญาติมิตรของตนเท่านั้น ฉะนั้นคำพูดของข้าพเจ้า ณ ที่นี้ จึงเป็นถ้อยคำของกัลยาณมิตร ที่มอบให้วิชัยโดยเฉพาะ หากคนอื่นใดจะรับฟังได้แค่ไหนก็สุดแท้ ในที่นี้ จะว่าข้าพเจ้าเป็นคนที่รู้จักชอบพอกับวิชัยมานานกว่าใครๆ หมดก็เห็นจะได้ อย่างน้อยวิชัยก็รู้จักข้าพเจ้าหรืองานหนังสือของข้าพเจ้าแต่ก่อนเราพบปะกัน ณ สำนักกลางนักเรียน คริสเตียน ในปี พ.ศ. 2509 นั้นแล้ว และตั้งแต่นั้นต่อมา ก็เป็นมิตรสหายกันเรื่อยมา จนเป็นกัลยาณมิตรของกันและกัน แม้เราจะต่างวัยกัน แต่เราก็เรียนจากกันและกัน โดยที่ข้าพเจ้าก็ได้รับอุปการคุณจากเยาวมิตร มาตลอด โดยเฉพาะก็วิชัย และเพื่อน ๆ ร่วมอาชีพของเขาในแวดวงการแพทย์ ซึ่งช่วยดูแลทุกข์สุขให้ข้าพเจ้า ทั้งทางร่างกายและอื่นๆ เป็นเหตุให้ข้าพเจ้าสำนึกในบุญคุณของพวกเขาทุกคน ยิ่งตอนนี้ข้าพเจ้าเป็นชายชรา ซึ่งมีพยาธิรบกวนอยู่เนืองๆ ย่อมต้องพึ่งหมอเป็นพิเศษ นั่นเป็นอารัมภบท ซึ่งเป็นมธุรสวาจา ต่อแต่นี้ไป จะเป็นคำพูดตรง ๆ จัง ๆ อย่างไม่เกรงใจ เป็นข้อ ๆ ไปดังต่อไปนี้ 1) เท่าที่ข้าพเจ้ารู้จักวิชัยตลอดมา แต่เมื่อเขาแรกเข้ามหาวิทยาลัยจนบัดนี้ เห็นว่าเขาเป็นคนจริง ที่อุทิศตนเพื่อความถูกต้อง ดีงาม มาโดยตลอด อย่างไม่เคยเปลี่ยนจุดยืน กล้าคิด กล้าพูด และ กล้าทำอะไร ๆ นอกกระแสหลัก ทั้งยังมีความสามารถในการโยงใยให้ใคร ๆ มาร่วมงานด้วยได้มาก หากพวกที่ยืนหยัดอยู่ในกระแสหลัก ย่อมถือว่าวิชัยเป็นศัตรูเอาเลย แม้คนพวกนี้อาจจะไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรก็ได้ โดยที่คนพวกนี้มักไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะก็การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง ที่ท้าทายการรวบอำนาจไว้อย่างรวมศูนย์ ที่ไม่มีการตรวจสอบอย่างเปิดเผยและโปร่งใส เพราะฉะนั้นวิชัยจึงต้องกระทบกับอำนาจในกระแสหลักมาเป็นระลอก ๆ จนเกือบตลอดชีวิต เคราะห์ดีที่ยังเอาตัวรอดมาได้จนบัดนี้ โดยเราต้องไม่ลืมว่าท่านที่มีความสามารถยิ่งกว่าวิชัย และมีคุณธรรมยิ่งกว่าวิชัย ได้โดนพวกกระแสหลักเอาชนะมาเป็นระลอก ๆ ตลอดมา เช่น นายปรีดี พนมยงค์ นายกุหลาย สายประดิษฐ์ และนายป๋วย อึ๊งภากรณ์ เป็นต้น แม้สตรีอย่างท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค็ ก็ไม่ได้รับการเหลียวแลจากผู้ที่มีอำนาจเช่นกัน เราจะเชื่อเรื่องเคราะห์และโชคหรือไม่ก็สุดแท้ แต่ขอให้ฟังคำของจูเลียส ซีซาร์ ซึ่งนับว่ายิ่งใหญ่กว่าใคร ๆ ในทางตะวันตก ซีซาร์กล่าวว่า ความสำเร็จที่สำคัญโดยเฉพาะ ในยามสงครามนั้น ขึ้นอยู่กับโชค เมื่ออ้างฝรั่งแล้วก็ต้องอ้างญี่ปุ่นบ้าง เทรเวอร์ เลกเกต ซึ่งเป็นพุทธศาสนิกชนชาวอังกฤษและเป็นผู้สอนคาราเต้ที่มีชื่อเสียงที่สุดในลอนดอน เล่าว่าเพื่อนญี่ปุ่นเคยพาเขาเข้าไปยังสโมสรของคนรวยญี่ปุ่นในกรุงโตเกียว ซึ่งรับสมาชิกเฉพาะมหาเศรษฐีเท่านั้น เทรเวอร์ถามเพื่อนญี่ปุ่นว่าความสำเร็จของเขาและพวกมหาเศรษฐีนั้นขึ้นอยู่กับอะไร เพื่อนคนนั้นตอบว่าโชค แน่นอนทุกคนฉลาด ทุกคนขยัน แทบทุกคนมีอัจฉริยภาพพิเศษ แต่ถ้าโชคไม่เข้าข้างแล้ว ไม่มีทางได้รับความสำเร็จได้เลย อย่างน้อยก็ในทางโลกๆ โดยที่พวกนี้จะใช้สัมมาชีพหรือมิจฉาชีพ นั่นเป็นอีกประเด็นหนึ่ง ถ้าทำใจได้เช่นนี้แล้ว ก็คงมองไปที่ทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ได้ว่าตอนนี้โชคยังเข้าข้างเขาอยู่ เฉกเช่นหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ ที่รับใช้บุคคลทั้งสองนี้ก็เช่นกัน แต่ว่าสักวันหนึ่งโชคอาจไม่เข้าข้างเขาก็ได้ และเมื่อถึงเวลานั้นแล้วก็ขออย่าให้เราไปสมน้ำหน้าเขากันเอาเลย กล่าวคือโชคจะวิวัฒน์ไปทางไหน ก็ขอให้ดูนามสกุลของวิชัย เอาไว้ดี ๆ โดยเราต้องไม่ลืมว่า ซีซาร์เองก็ถูกฆ่าตายในวัยฉกรรจ์ โดยเยาวมิตรที่สนิทกับเขาเป็นอย่างยิ่ง แล้วทักษิณจะโดนชะตากรรม เช่นนั้นบ้างไหม ใครจะไปรู้ ขอกลับมาที่วิชัย ว่าที่แล้วๆ มาโชคเข้าข้างเขามากน้อยแค่ไหน ก็สุดแท้ แต่กุศลจรรยาของเขาเองก็เป็นปัจจัยซึ่งสำคัญเหนืออื่นใด เมื่อชมแล้วก็ต้องติ คือวิชัยประกอบกิจการด้วยกุศลเจตนาเป็นที่ตั้งนั้น ข้าพเจ้าไม่เคยสงสัย แต่ใคร่ขอเตือนว่าวิชัยรับงานการกุศลมาทำมากเกินไป ทั้ง ๆ ที่วิชัยสามารถในการบริหารงาน แต่งานนั้นๆ ย่อมจะแหวกออกไปจากกระแสหลักได้ยาก ทั้ง ๆ ที่พวกเราท้าทายกระแสหลัก แล้วเราจะแหวกว่ายไปให้พ้นวงวัฎฎะนี้ได้อย่างไร ถ้าเราไม่มีเวลาให้อย่างเพียงพอ และไม่มีเวลาพินิจพิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง โดยหาจะเพื่อนร่วมงานที่มีเวลาและสามารถอย่างเป็นพิเศษได้อย่างไร หาไม่ก็ได้แต่ทำงานไปกันวัน ๆ อย่างลงร่อง โดยจะพูดให้วิชัยโกรธก็ได้ว่าหน่วยงานต่างๆ ที่เขารับเป็นผู้บริหารนั้น มีอะไรที่วิเศษมหัศจรรย์อันควรอวดได้ว่าแหวกว่ายไปพ้นสถาบันหลักต่างๆ การที่วิชัยรับงานมาทำมากเกินไป อาจะเป็นเพราะหาใครไม่ได้ หรือเพราะความมีน้ำใจของวิชัย ประกอบไปกับความเกรงใจแบบไทย ๆ แต่นี่ไม่เป็นข้อดีสำหรับวิชัย เพราะการรับงานมาทำมากเกินไป จะทำให้วิเศษพิสดารออกไปกระไรได้ ทั้งยังเป็นการเปลืองตัว เปลืองเวลา และเปลืองความคิดไปมิใช่น้อย มนุษย์เราควรมีเวลาพัก มีเวลาฟัง มีเวลาตรึกตรอง และมีเวลาภาวนา เพื่อรู้จักศักยภาพที่แท้ของตนเอง และของผู้อื่น เพื่อสามารถนฤมิตรสิ่งซึ่งประเสริฐให้ได้อย่างดีที่สุดเท่าที่เรามีศักยภาพ บัดนี้วิชัยก็เข้าเขตปัจฉิมวัยแล้ว หวังว่าคำเตือนจากกัลยาณมิตร ผู้ชราคนนี้ คงมีประโยชน์ ยิ่งกว่าคำบริภาษที่ท้าทายวิชัยในบัดนี้ โดยเฉพาะก็จากพวกสื่อมวลชนที่ทำตัวเป็นสื่อมวลสัตว์ (วลีนี้เป็นของป๋วย อึ๊งภากรณ์ ไม่ใช่ของ ส.ศิวรักษ์) ถ้าเรารู้จักวางท่าที่ที่ถูกต้องในการรับฟังคำด่า น่าจะเป็นคุณยิ่งกว่าเป็นโทษ 2) ใช่แต่วิชัยจะรับงานมาทำมากเท่านั้นก็หาไม่ หากแวดวงที่วิชัยเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ก็มักเป็นแวดวงของแหล่งทุนและแหล่งที่มีอำจาจอย่างแอบแฝงหรือหาไม่อีกด้วย ไม่ว่าจะ สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) ไม่ใช่เป็น ส.ศ.ษ ฯลฯ นอกเหนือจากการเป็นกรรมการอยู่ภายใต้ ความอุปถัมภ์หรือ ความเป็นผู้นำของ นายอานันท์ ปันยารชุน และนายแพทย์ประเวศ วะสี โดยเราต้องตราไว้ด้วยว่าทั้งสองท่านนี้เป็นบุคคลสาธารณะ ซึ่งมีคนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ และเป็นเป้าให้โจมตีอยู่มิใช่น้อย การเข้าไปข้องแวะและร่วมงานกับบุคคลเช่นนี้ สมควรมากน้อยเพียงใด หรือไม่ ก็ขอให้เจ้าตัวตอบตัวเองก็แล้วกัน คณะกรรมการที่อ้างว่ามีความอิสระต่าง ๆ หากรับเงินมาจากรัฐบาล หรืออะไรก็สุดแท้ ถ้าการดำเนินงานนั้นๆ มีข้อบกพร่อง หรือไม่ชัดเจน ไม่โปร่งใส ให้ตรวจสอบไม่ได้ โดยมหาชน คนที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย แม้จะมีความสุจริตเพียงใด ก็จำต้องรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์จากคนวงนอก ยิ่งเปิดกว้างในการรับฟังได้เท่าไร จะเป็นคุณประโยชน์เท่านั้น 3) สิ่งซึ่งวิชัยต้องตราไว้อีกประการหนึ่งก็คือวิชัยเป็นหมอ เป็นนายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน พวกหมอรู้กันบ้างไหม ว่าคนในสังคมไทยเขาเอือมระอาพวกคุณกันจนกระทั่งรายการโทรทัศน์ ก็เอาไปโฆษณาชวนเชื่อให้เยาวชนร้องกันว่าอยากเป็นหมอ เพราะหมอในเมืองไทยนั้น นอกจากจะชำนาญในการรักษาโรคทางร่างกายแล้วยังสามารถเยียวยารักษาโรคทางธุรกิจสังคมได้อีกด้วย นอกเหนือไปจากการบริหารจัดการต่างๆ โดยที่องคาพยพของสถาบันต่างๆ ที่แพทย์พวกนี้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยล้วนก็เป็นไปในทางเผด็จการ ในทางรวมศูนย์อำนาจ อย่างไม่โปร่งใสแทบทั้งนั้น ไม่ว่าจะการเป็นอธิการบดีหรือนายกสภามหาวิทยาลัย โดยที่สถาบันนั้น ๆ รับใช้คนรวยและคนมีอำนาจแทบทั้งสิ้น และมิใยต้องเอ๋ยถึงว่าระบบทุนนิยมและอำนาจนิยมครอบงำพวกเขากันแค่ไหน เขาเข้าใจโครงสร้างทางสังคมอันอยุติธรรมบ้างไหม มิใยต้องเอ่ยถึงว่าเขาเข้าใจแค่ไหน ถึงการทำงานอย่างเป็นองค์รวม แทนที่จะเป็นไปอย่างเสี่ยงๆ ยิ่งจะให้เข้าถึง ความงาม ความดี และความจริงด้วยแล้ว อย่าให้เอ่ยถึงเลย แม้วิชัยจะต่างไปจากหมอในกระแสหลักเป็นจำนวนมาก หากวิชัยไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมอย่างมากมายของพวกแพทย์ ซึ่งมีความหวังดีหรือที่มือถือสากปากถือศีลก็สุดแท้ วิชัยก็ต้องได้รับวิบากกรรม ร่วมกับพวกหมอทั้งหลายเหล่านั้นอยู่เองเป็นธรรมดา โดยอาจกล่าวด้วยได้ว่า หมอจำนวนมิใช่น้อยที่มีบทบาทจำเพาะในทางการแพทย์ โดยมุ่งเพียงเยียวยารักษาโรค อย่างไม่ไปเกี่ยวข้องกับกิจการต่าง ๆ ทางสังคม และไม่ได้หวังความร่ำรวยส่วนตัวหรือเข้าไปข้องแวะกับคนมีอำนาจ หมอพวกนี้มักไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง หากอุทิศตนเพื่อวิชาชีพโดยเฉพาะ อันเราควรก้มหัวให้เขาเหล่านี้อันอย่างงามๆ หมอฉันใด ครูก็ฉันนั้น พระพุทธเจ้าทรงเป็นทั้งครูและหมอ เราควรเดินตามรอยพระพุทธบาท ยิ่งหมอที่มีความเป็นครู รวมอยู่ในตัวคน ๆ เดียวหายากยิ่งขึ้นด้วยแล้ว เราจึงต้องการยิ่งนัก สำหรับหมอและครูที่อ่อนน้อมถ่อมตน ที่เห็นว่าทุกๆ คนสำคัญ โดยไม่สยบยอมกับอำนาจหรือเงินตรา ถ้าในช่วงปัจฉิมวัยเช่นนี้ วิชัยและเพื่อนๆ ของเขาในวงการแพทย์ จะหันมาอุทิศตน เพื่อก่อให้เกิดครูและแพทย์เช่นนี้ได้ จะเป็นมรดกชิ้นสุดท้ายที่ควรแก่การฝากเอาไว้อย่างยิ่ง ดังที่วิชัย กับเยาวมิตรของเขาได้เริ่มมาอย่างน่าทึ่งกับชมรมแพทย์ชนบท และแพทย์ที่อุทิศตนเพื่อสังคม ที่มีมาเป็นระลอกๆ นั้น ควรแก่การก้มหัวให้อย่างยิ่ง เฉกเช่นหมอสงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ที่ตายจากไปแล้วเป็นต้น และถ้าเป็นไปได้ หมอของเราต้องเป็นอิสรภาพจากการครอบงำจากการแพทย์แผนฝรั่ง เราไม่ต้องปฎิเสธการแพทย์ตะวันตก แต่อย่าให้การแพทย์แผนนั้นครอบงำเรามากเกินไป มิใยต้องเอ่ยถึงบรรษัทยาข้ามชาติที่ครอบงำในทางเภสัชกรรมและในทางสาธารณสุขของเราด้วย เมื่อไรเราเริ่มเห็นคุณค่าของอายุรเวช ไม่แต่ของไทยเรา แต่รวมถึงอายุรเวชของเพื่อนบ้าน ตั้งแต่ พม่า ลาว เขมร ลังกา และอินเดีย ตลอดจนจีนและธิเบต หากจีนนั้นต้องระวังความเป็นอภิมหาอำนาจของเขาไว้ด้วย ดังที่เราแทบไม่เคยสังวรกันมาเอาเลยกับความเป็นอภิมหาอำนาจของสหรัฐอเมริกา ถ้าวิชัยกับเยาวมิตรที่เคยร่วมขบวนการแพทย์ชนบทมา จะเริ่มขบวนการแพทย์ที่มีความเป็นพุทธ นี่จะเป็นสิ่งที่วิเศษมหัศจรรย์จริง ๆ พุทธในที่นี้หมายถึงความตื่น ยิ่งกว่าการมุ่งไปที่ลัทธิศาสนา การแพทย์ที่ตื่นจากโลภ โกรธหลงมากเท่าไร ก็จะมีบทบาทร่วมกับขบวนการของราษฎรในทางปลุกมโนธรรมสำนึกให้สังคมไทยได้ตื่นขึ้นจากการครอบงำ และอาการอันมอมเมาต่างๆ จากกึ่งจริง กึ่งเท็จ กึ่งดิบกึ่งดี ที่เต็มไปอย่างเต็มที่ในสังคมไทยกระแสหลักในบัดนี้ 4) ที่จริงข้าพเจ้าควรจะยุติปัจฉิมกถาไว้แต่เพียงนี้ หากยังต้องขอกล่าวแถมท้าย ว่าผู้ที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับวิชัยในบัดนี้ ที่เป็นสื่อมวลชนกระแสหลักนั้น ถ้าใช้คำของนายป๋วย อึ๊งภากรณ์ ก็คือพวกนี้เป็นสื่อมวลสัตว์ แต่ถ้าเป็นเพียงสัตว์เดรัจฉานก็ไม่เลวร้ายอะไรมากนัก อย่างเก่งก็เป็นดัง Animals Farm ตามที่ยอช ออเวล พรรณนาเอาไว้ แต่สัตว์ที่ใช้สื่อเพื่อรับใช้อำนาจนิยมและทุนนิยมนั้นเลวร้ายยิ่งนัก ดัง คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้รับความสำเร็จมาแล้วในอีหรอบนี้ โดยรัฐบาลไทยได้ยกย่องเฒ่าสารพัดพิษ ให้เป็นปูชนียบุคคลในระดับโลกเอาเลย สยามรัฐ ในสมัยคึกฤทธิ์มีความเลวร้ายเพียงใด มติชน และ ข่าวสด ภายใต้การนำของ ขรรค์ชัย บุนปาน ก็มีความเลวร้ายฉันนั้น พร้อมกันนั้น ก็ขอให้ตราไว้ด้วยว่า ราษฎรตาดำๆ นั้น รู้เท่าทันสื่อมวลชนกระแสหลักยิ่งขึ้นทุกทีแล้ว แม้พวกไพร่ตาแดงๆ เป็นจำนวนมากยังไม่รู้เท่าทันความกระร่อนของทักษิณ ชินวัตรก็ตาม แต่ถ้าพวกเราหันหน้าเข้าหากัน กับคนตาดำๆ และตาแดงๆ หรือตาสีเหลืองๆ หากเปิดกว้างเข้าหากัน เราก็น่าจะช่วยกันและกันให้ตื่นขึ้นจากการครอบงำต่างๆ ได้หวังว่าวิชัยและเยาวมิตรของเขา จะรวมอยู่กับพหุชนในขบวนการที่เอาชนะ การครอบงำ การมอมเมาต่างๆ โดยจะใช้คำว่า มารวิชัยก็ได้ และถ้าถึงตอนนั้น โชคก็จะวิวัฒน์ ไปในทางที่เป็นคุณงาม ความดีอย่างแท้จริง | หมายเหตุ: สืบเนื่องจากข้อท้วงติงเรื่องการนำเสนอข้อเท็จจริงเพียงบางส่วนของข่าว \ส.ศิวรักษ์ ให้กำลังใจหมอวิชัย อ้างคำอาจารย์ป๋วยด่าสื่อ(บางฉบับ) เลวกว่าเดรัจฉาน รับใช้นักการเมือง\ | การเมือง | ขรรค์ชัย บุญปาน,วิชัย โชควิวัฒน,สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ,สุลักษณ์ ศิวรักษ์ | https://prachatai.com/journal/2011/10/37294 |
งานวิจัยสื่อยุโรปเผย ประเทศที่มีสื่อสาธารณะเข้มแข็ง มีฝ่ายขวาหัวรุนแรงน้อย | ก็ได้นำเสนอข้อมูลการวิจัยระบุว่าในประเทศในยุโรปที่มีสื่อสาธารณะที่เข้มแข็งและเป็นอิสระจะมีกลุ่มฝ่ายขวาหัวรุนแรงน้อยกว่า นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้สิทธิลงคะแนนเสียงมากกว่าและมีเสรีภาพสื่อมากกว่าด้วย9 ส.ค. 2559 รายงานการวิจัยของสหภาพการกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งยุโรป (European Broadcasting Union หรือ EBU) เกี่ยวกับความเกี่ยวข้องระหว่างสือสาธารณะกับสังคมและประชาธิปไตยระบุว่าประเทศที่มีสื่อสาธารณะที่มีทุนดีและได้รับความนิยมจะมีฝ่ายขวาหัวรุนแรงน้อยกว่าและมีเสรีภาพสื่อมากกว่านอกจากนี้รายงานการวิจัยยังระบุอีกว่าในประเทศที่สื่อสาธารณะมีส่วนแบ่งตลาดสูงมักจะมีผู้ไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงมากกว่า อีกทั้งยังมีความสอดคล้องกันของข้อมูลที่ว่ายิ่งประเทศมีส่วนแบ่งตลาดของสื่อสาธารณะสูงก็จะยิ่งมีการควบคุมไม้ให้การทุจริตคอร์รัปชั่นแพร่หลายได้ดีกว่าด้วยโรแบร์โต ซัวเรซ แคนเดล หัวหน้าฝ่ายบริการข้อมูลสื่อของ EBU ซึ่งเป็นผู้ทำการวิจัยกล่าวว่า ความสอดคล้องไปในทางเดียวกันของข้อมูลนี้ถือว่าน่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการถกเถียงกันเรื่องการไปออกเสียงเลือกตั้งน้อย มีการทุจริตคอร์รัปชั่นและการเติบโตของการเมืองฝ่ายขวาเพิ่มขึ้นในยุโรปแต่สำหรับงานวิจัยของแคนเดลแล้วสิ่งที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้คือความเข้มแข็งของสื่อสาธารณะซึ่งมีส่วนในการเสริมสร้างประชาธิปไตยด้วย แคนเดลกล่าวว่าถึงแม้จะระบุชี้ชัดไม่ได้เสียทีเดียวว่าสื่อโทรทัศน์และวิทยุสาธารณะจะนำทางไปสู่ประชาธิปไตยที่ดีขึ้นและการทุจริตคอร์รัปชั่นที่น้อยลง แต่พวกเราก็นำเสนอข้อมูลให้เห็นว่าปัจจัยเหล่านี้มีส่วนเชื่อมโยงกันแคนเดลระบุอีกว่าหน้าที่หลักของสื่อสาธารณะคือการนำเสนอข่าวซึ่งควรจะเป็นอิสระถ้าพวกเขามีทรัพยากรที่เหมาะสมพวกเขาจะสามารถผลิตข่าวสารที่มีคุณภาพมากขึ้นและทำให้ผู้ชมเชื่อถือได้ ในงานวิจัยอื่นของ EBU ระบุว่าจากการสำรวจ 33 ประเทศ ในยุโรปผู้คนส่วนใหญ่ราวร้อยละ 55 เชื่อวิทยุมากที่สุด ร้อยละ 48 เชื่อโทรทัศน์ และเชื่ออินเทอร์เน็ตกับโซเชียลมีเดียน้อยที่สุด เนื่องจากว่าผู้คนยังคงมีความรู้สึกแน่นแฟ้นกับวิทยุและโทรทัศน์ที่เป็นแหล่งข้อมูลและความบันเทิงหลักๆองค์กร EBU ที่ทำการวิจัยเรื่องนี้เป็นสหภาพสื่อแพร่ภาพและกระจายเสียง 73 แห่งในยุโรปที่มีสมาชิกอย่างบีบีซี แชนแนลโฟร์ และไอทีวีของอังกฤษ | หลังจากที่มีปรากฏการณ์ Brexit และการเติบโตขึ้นของฝ่ายขวาหัวรุนแรงในยุโรป สหภาพการกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งยุโรป (EBU) | ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน | กลุ่มขวาจัด,สหภาพการกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งยุโรป,สื่อสาธารณะ,สื่อสารมวลชน | https://prachatai.com/journal/2016/08/67371 |
มึนแก้ปัญหาลอตเตอรี่แพง | พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการกองสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นประธานในการแถลง นโยบายการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ว่า ซึ่งเป็นแบบคละเลขกัน เพื่อลดจำนวนการซื้อขายสลากรวมชุด 5 ใบลง แต่ยอมรับว่าปัจจุบันยังพบปัญหาการขายสลากเกินราคา จึงส่งผู้ตรวจของสำนักงานสลากฯ ลงไปตรวจสอบในพื้นที่เพื่อสรุปผลหลังจากทำสลากรวมชุดแบบคละ ใน 3 เดือน ซึ่งจะสรุปผลได้ภายในเดือน พ.ค.นี้,อย่างไรก็ตาม ถ้าวิธีการนี้ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาราคาสลากเกินราคาได้ สำนักงานสลากฯเตรียมทบทวนการนำพิมพ์สลากรวมชุด ถึง 90 ล้านใบ เพราะขณะนี้พิมพ์สลากทำตามแค่จำนวนสั่งจอง-ผู้ซื้อเท่านั้น ดังนั้นการเพิ่มการพิมพ์สลากจะทำตามใจผู้สั่งจอง-ผู้ซื้ออย่างเดียวไม่ได้ เพราะถ้าหากมีการพิมพ์มาก จนทำให้มีแต่ผู้ขายไม่มีผู้ซื้อก็จะกระทบกับตลาดสลาก เหมือนอย่างยางพาราที่คนแห่ปลูกมากสุดท้ายขายไม่ได้,การที่สำนักงานสลากฯ ออกสลากรวมชุด 2 ใบ หรือการรวมชุดแบบ 2-2-1 คือ การจัดชุด 2 ใบ เป็นจำนวน 2 เล่ม และจัดชุด 2 ใบ อีก 2 เล่ม และมี 1 เล่ม ที่เป็นใบเดี่ยว โดยมีตัวเลขคละกันนั้น ผมไม่ได้คาดหวังให้แก้ปัญหาสลากเกินราคาได้ทั้งหมด เพราะมันเป็นปัญหายาวนาน แต่สำนักงานสลากฯ คาดหวังว่าการออกสลากแบบนี้จะทำให้ประชาชนสามารถซื้อสลาก 2 ใบ ในราคา 160 บาท ได้มากขึ้น,นอกจากนี้ สำนักงานสลากฯ ยังอยู่ในช่วงรวบรวมข้อมูลว่าในอนาคตจะมีการออกผลิตภัณฑ์อะไรใหม่หรือไม่ เช่น สลากออนไลน์ หรือลอตโต้ หวยเลขท้าย 2 เลขหรือ 3 เลข เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการทบทวนถึงผลกระทบต่างๆให้ถี่ถ้วน และอาจต้องรอรัฐบาลใหม่ ชให้เกิดขึ้นชัดเจนก่อน อย่างสลากออนไลน์ ขณะนี้กฎหมายยังไม่ได้ประกาศ และกว่าจะผ่านก็หลายขั้นตอน ซึ่งยังเป็นเรื่องที่ห่างไกล,อย่างไรก็ตาม ในวานนี้ (29 มี.ค.62) กองสลากฯ ได้เชิญตัวแทนจำหน่าย และผู้ซื้อจองภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ภาคอีสาน จำนวนกว่า 500 คน มาชี้แจงนโยบายต่างของสำนักงานสลากฯได้ดำเนินการ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากผู้ขายสลากเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขระบบซื้อขายสลากให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามผู้จองซื้อสลาก พบว่า ผู้ค้าสลากฯส่วนมากยังต้องการโควตาสลากเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เล่ม เพราะยังไม่เพียงพอความต้องการขาย ทำให้ปัจจุบันยังต้องไปพึ่งตัวแทนการขายสลาก (ยี่ปั๊ว) อยู่,ปัจจุบันผู้ขายสลากส่วนใหญ่มีการใช้เทคโนโลยีในมือถือ อาทิ โปรแกรมไลน์เชื่อมโยงข้อมูลกัน หรือมานัดเจอกัน เพื่อนำเลขสลากที่ตัวเลขใกล้เคียงกันมารวมชุดกัน จึงยังทำให้มีสลากราคาแพงออกมา ดังนั้นกองสลากฯ จึงเปิดใช้แอปพลิเคชัน GLO Lottery ขึ้นมาเพื่อตรวจว่าใครเป็นผู้ค้าตัวจริงหรือผู้ค้าตัวปลอม ซึ่งภายในแอปจะมีการรับเรื่องร้องเรียนด้วย. | ที่ผ่านมาสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้มีการทำสลากรวมชุด 2 ใบ ในราคา 160 บาท เริ่มตั้งแต่งวดวันที่ 1 มี.ค.2562 จำนวน 57 ล้านใบ | ข่าว,เศรษฐกิจ | ลอตเตอรี่,หวย,ปัญหาลอตเตอรี่แพง,สลากเกินราคา,สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล,จำหน่ายสลาก,บุญส่ง จันทรีศรี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1533131 |
สถานีขนส่งเนืองแน่น ประชาชนหลั่งไหลกลับบ้าน ในเทศกาลสงกรานต์ | เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 เม.ย.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนในกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดต่างๆนั้นว่า ตั้งแต่ช่วงเที่ยงเป็นต้นมา ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ก็มีประชาชนพร้อมสัมภาระกองโตเดินทางมารอขึ้นรถไฟเพื่อกลับบ้านเกิดไปหาครอบครัวกันเป็นจำนวนมาก ทำให้เก้าอี้นั่งในสถานีมีไม่เพียงพอ หลายคนต้องนั่งรอที่พื้น บ้างก็นอนหลับด้วยความเหนื่อยล้า ขณะเดียวกัน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดตัว โครงการ 1+1=0 รถไฟไทยปลอดภัยทุกเส้นทาง เพื่อรณรงค์ลดอุบัติเหตุของผู้ขับขี่ยานพาหนะผ่านบริเวณจุดตัดทางรถไฟ ให้ข้อมูลและด้านการขับขี่ผ่านจุดตัดรถไฟฯ จำนวน 4 ข้อได้แก่ 1.หยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร 2.ห้ามขับรถแซงขึ้นหน้ารถอื่นภายในระยะ 30 เมตร ก่อนถึงทางเดินรถที่ตัดข้ามทางรถไฟ 3.จอดรถห่างจากทางรถไฟไม่ต่ำกว่า 15 เมตร 4.สังเกตป้ายหยุดป้าย ระวังรถไฟ และรอจนแน่ใจจึงจะขับผ่านไปได้,ส่วนที่สถานีขนส่งกรุงเทพ (หมอชิต 2) เริ่มหนาแน่นไปด้วยผู้คนที่หอบหิ้วกระเป๋าสัมภาระมาซื้อตั๋วโดยสาร ซึ่งสงกรานต์ปีนี้ บขส.ได้เพิ่มเที่ยวรถโดยสารอีก 2,000 เที่ยว จากที่มีวิ่งปกติ 6,000 เที่ยว รวมเป็น 8,000 เที่ยว ให้เพียงพอต่อการเดินทางของประชาชน,จากนั้นเวลา 14.00 น. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมนำคณะมาร่วมงาน สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์ ออเจ้าเมาไม่ขับ จัดโดยมูลนิธิเมาไม่ขับ เพื่อร่วมรณรงค์การไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับขี่รถโดยสาร พร้อมตรวจเยี่ยมการเดินทางกลับบ้านของประชาชน และร่วมตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถ,ขณะที่ ตั้งแต่ 21.00 น.จนถึง 00.00 น. ยังคงมีประชาชนมารอรถโดยสารเพื่อเดินทางไปยังต่างจังหวัดอย่างเนืองแน่นทั้งชั้น 1 และชั้น 3 โดยตั๋วโดยสารเดินทางไปยังภาคเหนือ และอีสานเต็มทุกเที่ยวตั้งแต่วันนี้. | บรรยากาศที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 และ สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือ หัวลำโพง ประชาชนเดินทางมารอขึ้นรถโดยสาร และ รถไฟเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วยหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ | ข่าว,ทั่วไทย | เทศกาลสงกรานต์,วันสงกรานต์2561,กลับบ้าน,หมอชิต 2,หัวลำโพง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1253474 |
รีวิว 5 ผลิตภัณฑ์ล้างเมกอัพ ถูกและดี สาวผู้รักการแต่งหน้าต้องมีให้ได้ | ผู้หญิงสมัยนี้แต่งหน้าเก่งและสวยขึ้น มีเครื่องสำอางมากมายถูกผลิตออกมาตอบสนองความต้องการของผู้หญิงแบบครอบคลุมทุกความต้องการ ผ่านนวัตกรรมสีสันเมกอัพสารพัดเฉด และสาวๆ ก็ดูจะสนุกกับการแต่งแต้มเติมความสวยบนใบหน้าจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน แต่เหนือสิ่งอื่นใด กฎแห่งความสวยที่เป็นพื้นฐานของทุกสิ่งคือความสะอาด THE STANDARD จึงคัดผลิตภัณฑ์เช็ดล้างเครื่องสำอางที่ผ่านการลองใช้จริงแล้วพบว่าเวิร์ก นี่คือผลการรีวิวผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางถูกและดีที่สาวผู้รักการแต่งหน้าควรต้องมีให้ได้ 1.Biore Makeup Remover Perfect Cleansing Water – Acne Care What: บิโอเร คลีนซิ่ง วอเตอร์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่สาวไทยคุ้นเคยชื่อนี้เป็นอย่างดี หลายคนเป็นแฟนของแบรนด์นี้จากผลิตภัณฑ์อื่นๆ ด้วย แต่ครั้งนี้บิโอเร เปิดตัวคลีนซิ่ง วอเตอร์ สูตรใหม่ แอคเน่ แคร์ เป็นสูตรที่พัฒนาขึ้นมาราวกับรู้ว่าสาวไทยกำลังฮิตใช้น้ำเกลือเช็ดหน้า แต่จริงๆ แล้วนี่เป็นสูตรเฉพาะที่บิโอเร นำเอาข้อดีของน้ำเกลือและใบชิโซะมินต์ (พืชชนิดหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น) มาเป็นส่วนผสมสำคัญมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว มีค่า pH เทียบเท่าผิวหน้า ไม่มีแอลกอฮอล์ ไร้สี ไร้กลิ่น We Say: เป็นคลีนซิ่ง วอเตอร์ ที่เช็ดเมกอัพออกได้น่าประทับใจตั้งแต่สำลีแผ่นแรก เมื่อลองใช้กับดวงตา เช็ดมาสคาร่าและคิ้ว ก็หลุดง่ายรวดเร็ว (แม้แต่เครื่องสำอางสูตรกันน้ำ) ไม่แสบตา ระหว่างเช็ดบนผิวมีสัมผัสที่นุ่มนวล เหมาะกับสาวๆ ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย และเป็นสิวขนาด 90 ml. ราคา 129 บาท 2. Bifesta Cleansing Lotion Sebum What: บิเฟสต้า คลีนซิ่ง โลชั่น ซีบั่ม เป็นโลชั่นที่สร้างมาเพื่อเช็ดเครื่องสำอางและทำความสะอาดผิวหน้าควบคู่กัน ภายในคลีนซิ่งโลชั่นขวดนี้ มีหลายจุดเด่นเป็นโลชั่นสูตรน้ำที่มีคุณสมบัติเช็ดทำความสะอาดและกระชับรูขุมขนไปในตัวจากสารบำรุงไฮยาลูโรเนต (Hyaluronate) ลักษณะเป็นน้ำบางเบา มีสารทำความสะอาดสองชนิดช่วยดูดจับเมกอัพและสิ่งสกปรกบนผิวหน้า ที่สำคัญเป็นสูตรปราศจากแอลกอฮอล์ ไม่มีน้ำหอม ไม่มีสี และไม่มีส่วนผสมของสารพาราเบน We Say: สิ่งที่โดดเด่นของ บิเฟสต้า คลีนซิ่ง โลชั่น ซีบั่ม เมื่อใช้เช็ดลงบนผิวหน้าคือความชุ่มชื่น เช็ดแล้วไม่รู้สึกว่าผิวหน้าแห้งหรือตึง ตรงกันข้ามหลังเช็ดทำความสะอาดเสร็จ จะรู้สึกว่าผิวนิ่มๆ ดึ๋งๆ ชอบที่โลชั่นเป็นเหมือนน้ำ เทลงบนสำลีก็สามารถใช้ได้เลย ไม่ต้องเขย่าก่อนใช้ให้เสียเวลา เช็ดเมกอัพออกได้ดี แค่แผ่นแรกที่เช็ดเมกอัพก็หลุด 70 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นเช็ดซ้ำอีก 3-4 ครั้ง ก็สะอาดหมดจด ไม่ต้องล้างน้ำซ้ำ เหมาะกับผิวผสม-ผิวมัน ขนาด 60 ml. ราคา 95 บาท 3. Maybelline New York Eye + Lip Makeup Remover What: เมย์เบลลีน นิวยอร์ก อาย + ลิป เมกอัพ รีมูฟเวอร์ ขวดนี้ จริงๆ สาวไทยใช้กันมานาน และจัดเป็นไอเท็มลูกรักของบิวตี้เลิฟเวอร์หลายคน เป็นโลชั่นสำหรับเช็ดเมกอัพ โดยเช็ดได้ทั้งบริเวณดวงตาและริมฝีปาก แบรนด์เคลมว่าจุดเด่นสามารถเช็ดเมกอัพสูตรกันน้ำได้สะอาดโดยการเช็ดเบาๆ เพียงครั้งเดียว We Say: หลังจากใช้เช็ดบนผิวที่มีเมกอัพติดอยู่ เราพบว่าจากการใช้งานจริง การเช็ดเบาๆ เพียงครั้งเดียว เมกอัพหลุดออกไม่หมด โดยเฉพาะลิปสูตรเนื้อแมตต์ที่ติดแน่น ต้องอาศัยการเช็ดแผ่นสำลีซ้ำไปเรื่อยๆ ราว 3-4 แผ่น จึงจะสะอาดและไม่ทิ้งคราบเมกอัพให้เห็น เวลาจะใช้ต้องเขย่าขวดก่อนเพื่อให้ส่วนผสมของรีมูฟเวอร์เข้ากันดี หลังเช็ดทำความสะอาดเสร็จ จำเป็นต้องล้างหน้าด้วยโฟมอีกครั้งด้วยขนาด 40 ml. ราคา 99 บาท 4. Nivea Makeup Clear Eye Makeup Remover What: นีเวีย เมกอัพ เคลียร์ เป็นสูตรขจัดอายเมกอัพและมาสคาร่ากันน้ำโดยเฉพาะ และนีเวียบอกข้อดีว่าเป็นสูตรไฮเดรชันที่จะคงความชุ่มชื่นให้ผิวได้ดี ผสมวิตามิน E จากน้ำมันดอกทานตะวัน ปราศจากแอลกอฮอล์ และสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวแพ้ง่าย นี่เป็นอายเมกอัพรีมูฟเวอร์น้องใหม่จากนีเวีย แต่ก็ได้รับเสียงรีวิวจากผู้ใช้จริงว่าเวิร์กสุดๆ ยิ่งมาสคาร่ากันน้ำติดทน เช็ดไม่กี่ครั้งก็หลุดออกง่ายดายไม่มีสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น น้ำหอม พาราเบน และ แอลกอฮอล์ We Say: เป็นรีมูฟเวอร์สำหรับดวงตาที่ใช้แล้วเวิร์กจริง ก่อนใช้ต้องเขย่าขวดก่อน แล้วค่อยเทผลิตภัณฑ์ลงบนสำลี วางแปะไว้บริเวณที่จะเช็ดทำความสะอาดสักครู่ แล้วเช็ดออก พบว่าคราบเครื่องสำอางต่างๆ หลุดออกมาง่ายมาก โดยเฉพาะเมื่อทดลองกับมาสคาร่ากันน้ำ ก็ได้ผลลัพธ์อันน่าประทับใจ แถมไม่แสบตา หลังใช้รู้สึกชุ่มชื่นสะอาดขนาด 125 ml. ราคา 199 บาท 5. DOVE Wipe-Off Cleansing Micellar Water What: โดฟ ไวพ์-ออฟ คลีนซิ่ง ไมเซลลาร์ วอเตอร์ คือผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางบนผิวหน้า และสาวๆ สามารถใช้ได้กับการเช็ดรอบดวงตาและริมฝีปาก จุดเด่นของโดฟ คือมีสิ่งที่เรียกว่า Nutrium Moisture เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์บิวตี้เซรั่ม 40 เปอร์เซ็นต์ มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดอย่างหมดจด โดยที่ผิวจะยังคงเนียนนุ่มชุ่มชื่น แน่นอนว่ามีสิ่งที่เป็นข้อดีที่ปลอดภัยต่อผิวของเราอีกเช่น การผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังว่าอ่อนโยนต่อผิว ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ปราศจากแอลกอฮอล์และพาราเบน ใช้ได้ทั้งตอนเช้าและก่อนนอน โดยไม่ต้องล้างน้ำซ้ำ We Say: โดฟ ไวพ์-ออฟ คลีนซิ่ง ไมเซลลาร์ วอเตอร์ ใช้เช็ดเมกอัพได้โอเค เครื่องสำอางต่างๆ หลุดออกได้ดี แต่อาจจะต้องเช็ดซ้ำ 2-3 ครั้ง ผิวจึงจะเริ่มสะอาด แต่เพื่อความมั่นใจว่าสะอาดจริง เราลองเช็ด 3-4 ครั้ง และพบว่าคราบต่างๆ บนผิวหายไปทั้งหมด และเมื่อจับดูผิวหลังเช็ดทำความสะอาดจะมีความนิ่มและสดชื่น ไม่มีการระคายเคืองและได้ฟีลแบบสะอาด ชุ่มชื่น ตัวนี้แนะนำว่าหากใครยังไม่เคยใช้ มันน่าลองทีเดียว ขนาด 235 ml. ราคา 369 บาท | กฎแห่งความสวยที่เป็นพื้นฐานของทุกสิ่งคือความสะอาด ผลิตภัณฑ์เช็ดล้างเครื่องสำอางจาก 5 แบรนด์ อาทิ Biore Bifesta Maybelline Nivea และ Dove ที่ผ่านการลองใช้จริงแล้วพบว่าเวิร์ก นี่คือผลการรีวิวผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางถูกและดีที่สาวผู้รักการแต่งหน้าต้องมีให้ได้ | null | null | https://thestandard.co/5makeupremover/ |
นึกว่าล้อเล่น พนักงานชายสุดซวย ส่งโน้ตขอความช่วยเหลือ ติดในตู้ATM | (ภาพจากยูทูบ:watssup designer NEWS),ไม่โจ๊กพนักงานชายดูแลตู้ ATM ผิดพลาดอย่างแรง ล็อกประตูขังตัวเอง จนติดอยู่ในตู้ ATM เครื่องหนึ่งในรัฐเทกซัส แถมลืมโทรศัพท์ไว้ในรถ หัวใส ใช้วิธีสอดกระดาษโน้ตเขียนข้อความออกมาขอความช่วยเหลือจากคนมากดเงิน จนบางคนคิดว่าเป็นเรื่องตลก,เมื่อ 14 ก.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเกิดเรื่องฮือฮา ชายคนหนึ่งซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้ดูแลตู้เอทีเอ็ม ประสบอุบัติเหตุคาดไม่ถึง ล็อกประตูผิดพลาด จนทำให้เขาต้องติดอยู่ภายในห้องด้านหลังตู้เอทีเอ็มเครื่องหนึ่ง ในเมืองคอร์ปัส คริสตี รัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา หนำซ้ำ ชายผู้นี้ยังต้องเจอกับเรื่องแย่ๆ ตามมาอีก เมื่อเขาเกิดลืมโทรศัพท์มือถือไว้ในรถปิกอัพก่อนเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในตู้เอทีเอ็มอีกด้วย,ข่าวแจ้งว่า ในที่สุด ชายคนนี้ได้เกิดความคิดให้คนที่มากดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ด้วยการสอดกระดาษเขียนข้อความออกมาจากช่องรับสลิปใบบันทึกรายการของตู้เอทีเอ็ม เพื่อขอความช่วยเหลือจากคนที่มากดเงินให้โทร.แจ้งเจ้านายเขาด้วย,ช่วยด้วย ผมติดอยู่ในนี้ ผมไม่มีโทรศัพท์ กรุณาโทรหาเจ้านายของผม ที่หมายเลข 21) ข้อความบนกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งที่พนักงานชายคนนี้สอดออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือ จากคนที่มาใช้บริการตู้เอทีเอ็ม ซึ่งบางคนคิดว่า กระดาษโน้ตนี้มีคนมาแกล้งเขียนเล่นตลกๆ เท่านั้น กระทั่งมีคนหนึ่ง ได้โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ ให้มาตรวจสอบที่ตู้เอทีเอ็มเครื่องนี้,เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งเผยกับสถานีข่าว KrisTV ว่า พวกตนได้ยินเสียงเบาๆ รอดออกมาจากตู้เอทีเอ็ม กระทั่งจึงช่วยกันเปิดประตู และสามารถช่วยให้พนักงานชายคนนี้ออกจากห้องด้านหลังตู้เอทีเอ็มออกมาได้ หลังจากติดอยู่ในนั้นนานกว่า 2 ชม. | พนักงานชายดูแลตู้ ATM ผิดพลาดอย่างแรง ล็อกประตูขังตัวเอง จนติดอยู่ในตู้ ATM เครื่องหนึ่งในรัฐเทกซัส แถมลืมโทรศัพท์ไว้ในรถ หัวใส ใช้วิธีสอดกระดาษโน้ตเขียนข้อความออกมาขอความช่วยเหลือจากคนมากดเงิน จนบางคนคิดว่าเป็นเรื่องตลก | ข่าว,ต่างประเทศ | ชายติดในตู้ATM,ติดในตู้เอทีเอ็ม,พนักงานดูแลตู้เอทีเอ็ม,เทกซัส,สหรัฐฯ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1004550 |
ชมความแซ่บ มาช่า-น้องกาย ถ่ายแบบคู่กัน หล่อสวยเหมือนเป็นพี่น้อง | หลังจากที่เจอดราม่าบนไอจีส่วนตัวจนทำให้นักร้องนักแสดงสาว มาช่า วัฒนพานิช ทนไม่ไหว ตอกกลับชนิดแซ่บได้ใจ ก่อนจะใช้พื้นที่ไอจีระบายถึงเหตุการณ์ที่มีคนก่อกวนในไอจีมานานเกือบ 2 ปี และรู้ตัวว่าใครเป็นคนทำ พร้อมทั้งขอร้องให้หยุดการกระทำดังกล่าว ล่าสุดเมื่อเหตุการณ์ดราม่าผ่านพ้นไป มาช่าเลยพักเบรกดราม่าด้วยภาพเบื้องหลังการถ่ายแบบคู่กับ กาย ชัยทรรศ ลูกชายสุดรักซะหน่อย,งานนี้คุณแม่มาช่าลงภาพถ่ายแฟชั่นเซตคู่กับน้องกายลงไอจีและเขียนข้อความว่า เปลี่ยนอารมณ์เอาภาพที่ถ่ายแบบมาให้ดูกันบ้าง พอหายคิดถึง กัน ต้นเดือนหน้า มาเรื่อยๆ นะคะ รอดูกันนะ SEND YOU ALL OUR LOVE, ENERGY, BE HAPPY EVERYONE WITH LOVE @guychaitat #marshalife #guyshalife ก่อนจะโพสต์ภาพน้องกายอีกภาพ ซึ่งเป็นภาพที่เห็นรอยสักด้านหลังของน้องกายที่เขียนชื่อของมาช่าไว้ โดยมีแฟนๆ เข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมว่าหล่อสวยมากๆ ดูไปดูมาเหมือนเป็นพี่น้องกันมากกว่าแม่ลูกซะอีก คุณแม่หน้าเด็กมาก ,นอกจากนี้มาช่ายังได้โพสต์ภาพเดี่ยวของตัวเองในชุดว่ายน้ำ รวมทั้งภาพชุดว่ายน้ำคู่กับ ใหญ่ อมาตย์ นิมิตภาคย์ และ ใหม่ รัชดา พ่วงพวงงาม ช่างภาพและช่างทำผมชื่อดัง ทำเอาแฟนๆ ถึงกับบอกว่าแซ่บคูณสามไปเลยจ้า. | หลังผ่านพ้นเหตุการณ์ดราม่า ล่าสุด มาช่า วัฒนพานิช พักเบรกดราม่าด้วยภาพเบื้องหลังการถ่ายแบบคู่กับ กาย ชัยทรรศ ลูกชายสุดรัก แต่แฟนๆ หลายคนลงความเห็นว่าหล่อสวยเหมือนเป็นพี่น้องมากกว่า | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | มาช่า วัฒนพานิช,กาย ชัยทรรศ,มาช่า กาย,มาช่า กาย เซ็กซี่,มาช่า กาย ถ่ายแบบ,อินสตาแกรมดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1532786 |
สว.จร ยัน ตำรวจไม่ได้สั่งให้เข็นย้อนศร หลังคลิปว่อนเน็ต ชี้ อันตรายเท่ากัน | แชร์ว่อนโซเชียล คลิปอ้างตำรวจ สั่ง ปชช. จูง จยย.ย่านรังสิต สารวัตรจราจรคลองหลวง ยัน ไม่ใช่แนวทาง ชี้ อันตรายเท่ากับขับขี่ คาดประชาชนเข็นเอง หวั่นโดนจับปรับ,เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจ YouLike (คลิปเด็ด) ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากคุณ Mos Pornwiphu เป็นเหตุการณ์ขณะประชาชนย่านโรงกษาปณ์ รังสิต เดินจูงรถจักรยานยนต์ อย่างเป็นระเบียบ โดยมีข้อความระบุว่า มอเตอร์ไซค์ย้อนศร ตร.แก้เข็ดให้เข็นกลับไปจุดยูเทิร์น,ล่าสุด พ.ต.ต.สารยุทธ แสงทอง สว.จร. สภ.คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า จากคลิปดังกล่าวเป็นจุดตรงข้ามโรงกษาปณ์ ยืนยันว่าไม่ใช่แนวทางของตำรวจที่ให้ประชาชนเข็นรถย้อนศร เนื่องจากมีความอันตรายเท่ากับการขับขี่ย้อนศร ทั้งนี้คาดว่าประชาชนอาจจะต้องการขับย้อนมุ่งหน้าฝั่งขาเข้า แต่เห็นตำรวจปฏิบัติหน้าที่อยู่ จึงเลือกที่จะเข็นรถเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คลิปเพียง 15 วินาทีไม่สามารถระบุเรื่องราวได้อย่างชัดเจน และต้องชี้แจงให้ทราบว่า การเข็นรถย้อนศรดังกล่าว เข้าข่ายความผิด กีดขวางจราจร ตาม พรบ.จราจรทางบก หากเจ้าหน้าที่พบสามารถถูกจับปรับได้ มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท และเพื่อความปลอดภัยขอแนะนำให้ประชาชนขับรถตามกฎจราจรจะดีที่สุด. | แชร์ว่อนโซเชียล! คลิปอ้างตำรวจ สั่ง ปชช. จูง จยย.ย่านรังสิต สารวัตรจราจรคลองหลวง ยัน | null | ประชาชน,เข็น,จูง,รถจักรยานยนต์,ทางคู่ขนาน,ถนน,พหลโยธิน,โรงกษาปณ์,รังสิต,คลองหลวง,สายตรวจโซเชียล,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/572351 |
ชาวบ้านแห่ขอเลขเด็ด พญาเต่างอย บนบานถูกรางวัลที่ 1 ถวายผักบุ้งทองคำ | ยิ่งใกล้วันหวยออก ประชาชนเดินทางมากราบไหว้ พญาเต่างอย จ.สกลนคร เป็นจำนวนมาก ส่วนเลขเด็ดที่มีผู้พบเห็นในขันน้ำมนต์ได้แก่ 27 35 45 147 หมดเกลี้ยงแผง ล่าสุดนักเสี่ยงโชคบนบานหากถูกรางวัลที่ 1 จะถวายผักบุ้งทองคำให้พญาเต่างอย,เมื่อวันที่ 29 ส.ค.59 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสกลนคร รายงานบรรยากาศที่สวนสาธารณะ ริมน้ำพุง อ.เต่างอย จ.สกลนคร ถึงการเดินทางมากราบไหว้ขอพรและขอโชคลาภจากพญาเต่างอย เพราะเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์จริง ให้โชคลาภมาแล้วนับไม่ถ้วน จนมีผู้นำเครื่องเซ่นไหว้มาถวายจำนวนมาก ซึ่งจากข่าวที่ปรากฏออกไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาไม่ขาดสาย บ้างก็มีอาการเจ็บป่วย ขอพรให้หายจากโรคภัย บ้างก็ขอพรสิ่งดีๆ เพื่อความเป็นสิริมงคล แต่ก็มีประชาชนส่วนใหญ่ขอโชคขอลาภจากพญาเต่างอย ทำให้บรรยากาศในวันนี้ มีผู้เดินทางมากราบไหว้กันหนาตาหลายพันคน ทำให้เกิดการค้าขายบริเวณโดยรอบเป็นจำนวนมาก เช่น ร้านขายเสื้อผ้า ที่มีสัญลักษณ์พญาเต่างอย ร้านขายดอกไม้ ร้านขายน้ำแดง ร้านขายเต่า และร้านขายแตงกวาและผักบุ้ง เพราะเชื่อว่าเต่าชอบผักบุ้งและแตงกวา จึงนำผักบุ้งมาถวาย,สำหรับเลขเด็ดประจำงวดนี้ ก็เป็นเรื่องปกติที่จะขายเกลี้ยงแผง ผู้ค้าสลากซึ่งตั้งแผงขายรอบๆ รูปปั้นพญาเต่าถึง 4 ทิศ นับร้อยราย พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หาสลากกินแบ่งเลขสวยๆ มาขายไม่ทันกันเพราะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยเลขเด็ดที่มีบอกว่าได้จากขันน้ำมนต์ ก็มีเลข 27 35 45 147 ซึ่งหาซื้อไม่ได้เพราะหมดเกลี้ยง นอกจากสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้วยังมีสินค้าจำพวกของที่ระลึกก็ขายดีเช่นกัน,ขณะเดียวกันมีนักเสี่ยงโชคบางคนบอกว่า หากท่านให้โชคถูกสลากรางวัลที่ 1 จะซื้อต้นผักบุ้งทองคำมาถวาย ซึ่งก็ถือเป็นความเชื่อความศรัทธาของแต่ละบุคคล ถ้าไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ทำแล้วสบายใจ และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว ทางอำเภอเต่างอย สนับสนุนกันเต็มที่ ซึ่งในอนาคตจะมีการก่อสร้างสวนน้ำบริเวณลำน้ำพุง ให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อนหย่อนใจ หลังจากกราบไหว้พญาเต่างอยเพื่อความเป็นสิริมงคล,นายประนอม วิดีสา อดีตนายก อบต.เต่างอย กล่าวว่า ความเป็นมาของพญาเต่างอย ที่ก่อสร้างขึ้น เป็นความเห็นของ นายโสภณพงษ์ เหตานุรักษ์ อดีตนายอำเภอเต่างอย ซึ่งปัจจุบันย้ายไปรับตำแหน่งที่อื่นแล้ว บอกว่าน่าจะหาสัญลักษณ์ให้กับอำเภอเต่างอย จึงร่วมกันสร้างพญาเต่าขึ้นมา ใช้เงินก่อสร้าง 2 ล้านบาท โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ โดยมีพิธีพุทธาภิเษก วันที่ 5 เดือน 5 ปี 2555 หรือเสาร์ห้า หลังจากครูบาอาจารย์ทำพิธีเสร็จ ก็มีพายุพัดมืดฟ้ามัวดิน เต็นท์พังยับ ต่อมาหลังจากนั้นฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล มีคนทรงเจ้าบอกว่าสาเหตุที่ฝนไม่ตก เป็นเพราะในปากของพญาเต่าคาบแก้ว ท่านดูดพ่นน้ำไม่ได้ จึงปรึกษากับตนให้ไปนำลูกแก้วออก ครั้งพอตนเอาออกแล้ว ตกเย็นฝนก็ตกลงมาซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ถ้าใครไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ ส่วนความศักดิ์สิทธิ์ หรือโชคลาภนั้น สุดแล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน. | ยิ่งใกล้วันหวยออก ประชาชนเดินทางมากราบไหว้ พญาเต่างอย ที่อำเภอเต่างอย สกลนคร เป็นจำนวนมาก ส่วนเลขเด็ดที่มีผู้พบเห็นในขันน้ำมนต์ได้แก่ 27 35 45 147 หมดเกลี้ยงแผง ล่าสุดนักเสี่ยงโชคบนบานหากถูกรางวัลที่ 1 จะถวายผักบุ้งทองคำ | null | เลขเด็ดพญาเต่างอย,พญาเต่างอย,หวยเต่างอย,เลขเด็ดไทยรัฐ,ผักบุ้งทองคำ,สกลนคร,เลขเต่างอย1ก.ย.,เลขเด็ดพญาเต่างอยงวด 1 ก.ย. | https://www.thairath.co.th/content/705334 |
ฟักทองผ้าโพกหัว | แต่เจ้าสิ่งนี้ผลใหญ่กว่าหลายเท่าตัว ไม่ใช่มะม่วงหิมพานต์ยักษ์แต่ประการใด,แต่เป็นฟักทอง มีชื่อเรียกเป็นฝรั่งว่า Turban Squash แปลเป็นไทยต้องบอกว่า ฟักทองผ้าโพกหัว หรือ ฟักทองใส่หมวก,ไม้แปลกพันธุ์นี้ถูกจำแนกตามพฤกษศาสตร์ให้เป็นพืชตระกูลแตง (Cucurbitaceae) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cucurbita maxima ต้นเลื้อยยาว 3-4 ม. เจริญเติบโตได้ดีในช่วงปลายฝนต้นหนาว ผลมีขนาดใหญ่ขนาด 20-40 ซม. น้ำหนักผลประมาณ 1-2 กก.,ที่ปลายดอกมีฝาครอบคล้ายผ้าโพกหัวที่รวมตัวกันอยู่ตรงกลางแล้วขยายออกเป็นฐานกระเปาะ ผิวผลบางและเรียบ มีสีหลากหลาย เช่น สีเขียวจุดด่างดำ สีส้ม สีแดง สีเหลือง หรือลายทาง มีเนื้อสีส้ม เนื้อละเอียด มีความหนาและแน่น โดยช่องว่างตรงกลางผลเต็มไปด้วยเมล็ดแบนสีครีม,ปรุงอาหารได้ ทั้งอบ นึ่ง คั่ว นำไปประกอบอาหารกับเนื้อสัตว์และผัก หรือนำไปปรุงกับซุปสตูและซอสแต่ส่วนใหญ่มักจะมาใช้เป็นไม้ประดับ เพราะมีรูปทรงแปลกและสีสดใส มีหลากสีสันให้เลือกมากมาย,Turban Squash เป็นที่รู้จักกันในประเทศฝรั่งเศสมาตั้งแต่ พ.ศ.2361 ปัจจุบันสามารถพบได้ทั่วไป ตามร้านขายของชำและตลาดเกษตรกรในสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชียและออสเตรเลีย,ส่วนเมืองไทยไม่มี จะได้เห็นเฉพาะในงาน เจียไต๋แฟร์ ที่เขามักเอาของแปลกมาให้คนไทยได้รู้จักกันเท่านั้น. | เก็บตกจากงาน เจียไต๋แฟร์ ที่เพิ่งจบไป แวบไปมุดโรงเรือนพืชผักแปลกๆที่เห็นสีส้มสดอมแดงห้อยมีติ่งใต้ผลยื่นออกมา คล้ายมะม่วงหิมพานต์สีแดงบางพันธุ์ของภาคใต้บ้านเรา | ข่าว,ทั่วไทย | เจียไต๋แฟร์,ฟักทองผ้าโพกหัว,ฟักทองใส่หมวก,ฟักทอง,เกษตร | https://www.thairath.co.th/news/local/1471096 |
เร่งขยายผลคดียิงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.ยะลา | วันนี้ (14 ม.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดยะลาตรวจสอบจุดเกิดเหตุบ้านเลขที่ 27 หมู่ 7 บ้านปอเยาะ ต.กาบัง อ.กาบัง หลังเมื่อวานนี้ (13 ม.ค.)มีผู้ก่อเหตุ 2 คน ใช้อาวุธปืนสั้น ขนาด 11 มม. ยิงนายวาริน แสงจันทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดยะลา เขต 2 พรรคพลังชาติไทย เสียชีวิต ขณะเดียวกันพบศพนางรอกีเยาะ สะแปอิง ภรรยาของนายวาริน ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ใกล้กันน.ส.ซะบันนา แสงจันทร์ ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า กลับจากเมืองยะลาถึงหน้าบ้านเป็นช่วงที่ผู้ก่อเหตุกำลังยิงพ่อและแม่เห็นผู้ก่อเหตุ 2 คน ใส่ชุดสีดำหลบอยู่ใต้ต้นกล้วยข้างบ้าน 1 คน อยู่บนบ้าน 1 คน เมื่อผู้ก่อเหตุรู้ว่ามีคนเห็นเหตุการณ์ได้หลบหนีไปด้านหลังบ้าน ส่วนตัวเองก็หนีไปบ้านเพื่อนแม่ที่อยู่ใกล้กัน แต่มีน้องชายอายุ 5 ปี อยู่ในเหตุการณ์ไม่ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งปมการสังหารไว้ 3 ประเด็นคือ 1. ผู้ก่อเหตุรุนแรงอาจระแวงว่าผู้ตายเป็นสายให้เจ้าหน้าที่เพราะผู้ตายเป็นชาวไทยพุทธ จากนอกพื้นที่มาเข้าอิสลาม2. ความขัดแย้งส่วนตัว และ 3. ประเด็นการเมือง เนื่องจากผู้ตายได้ประกาศตัวจะลงสมัคร ส.ส.พรรคพลังชาติไทย ในเขต 2 จ.ยะลา อาจถูกฝ่ายการเมืองคู่แข่งสั่งจัดการก็ได้ ซึ่งฝ่ายชุดสืบสวนจะทำการสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป | เจ้าหน้าที่ขยายผลคดีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.ยะลา ถูกยิงเสียชีวิตพร้อมภรรยา ตั้งประเด็นสอบสวน เรื่องการเมือง ความขัดแย้งส่วนตัว และเหตุความไม่สงบในพื้นที่ | ภูมิภาค | ยะละ,ความไม่สงบ,3จังหวัดชายแดนภาคใต้,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/276983 |
บ่อแก้ว-โคกยาว เฮ นายอำเภอยอมหยุดเส้นตายไล่รื้อ 25 ต.ค.นี้ | ที่จะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตอันปกติสุขของประชาชนวันนี้ (24 ต.ค. 57 ) ตัวแทนชาวบ้านชุมชนบ่อแก้ว ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร และชุมชนโคกยาว ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ กว่า 30 คน เดินทางเข้าพบนายเจนเจตน์ เจนนาวิน นายอำเภอคอนสาร เพื่อยื่นหนังสือให้รับทราบขบวนการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลกับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ถึงแนวทางทางแก้ไขปัญหาผลกระทบความเดือดร้อน ให้ชะลอ ยุติการดำเนินการใดๆที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชน เพื่อให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไปนายเด่น คำแหล่ ชาวบ้านชุมชนโคกยาว กล่าวว่า นายอำเภอคอนสาร พร้อมปลัดอาวุโส ได้ลงมารับหนังสือด้วยตนเอง รวมทั้งได้ร่วมประชุมกับพี่น้องถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่าได้รับหนังสือจากทางสำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรี และจากจังหวัดชัยภูมิ ถึงผลการประชุมระหว่างรัฐบาลกับตัวแทน ขปส. เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2557 โดยมี หม่อมหลวงปนัดดา ดิษกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อแจ้งให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ชะลอและยุติการดำเนินการใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตอันปกติสุขของประชาชน เป็นที่เรียบร้อยแล้วนายเด่น กล่าวอีกว่า ตามที่นายอำเภอคอนสาร ได้ประชุมวางแผนขอทวงคืนผืนป่าสงวนแห่งชาติภูมิซำผักหนาม อ.คอนสาร เมื่อวันที่ 8 ต.ค.57 และในที่ประชุมมีมติให้ให้ชาวชุมชนโคกยาว และชุมชนบ่อแก้ว รื้อถอนเองภายใน 19 วัน หากไม่ดำเนินตาม จะเข้ามาดำเนินการรื้อถอนเอง หลังจากวันที่ 25 ต.ค.57 ในวันนี้ตามที่นายอำเภอแจ้งแต่พวกตนในที่ประชุมว่า เข้าใจปัญหาร่วมกันแล้ว พร้อมกับจะดำเนินตามนโยบายร่วมกันต่อไป นอกจากนี้ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชย.4 (คอนสาร) แล้วว่าจะไม่ให้มีการไล่รื้อชุมชนทั้งสองพื้นที่แต่อย่างใด เพราะเจ้าหน้าที่หน่วยงานท้องถิ่น ต้องสนองรับทำตามแนวนโยบายตามคำสั่งที่ ให้ชะลอและยุติการดำเนินการใดๆ เป็นการต่อไปมาถึงขณะนี้พวกเราทั้งพี่น้องบ้านบ่อแก้ว ต่างแสดงออกถึงความดีใจกันมาก ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ รับทราบและเข้าใจถึงปัญหา พร้อมที่จะร่วมกันแก้ไขผลกระทบ ด้วยความเป็นธรรม ถูกต้องและยั่งยืนต่อไปนั้น ความหวาดระแวง ที่ต่างกลัวกันว่าจะถูกกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาไล่รื้อ ก็พอคลายความกังวลลงกันไปบ้าง หลายวันแล้วที่ทำให้นอนไม่ค่อยหลับ จากนี้ไปความปกติสุขของพวกตนก็จะคงคืนกลับมาถึงความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตอีกครั้ง นายเด่น กล่าว | ชาวบ้าน บ่อแก้ว-โคกยาว จ.ชัยภูมิ เฮ หลังนายอำเภอคอนสารสนองนโยบายจากการประชุมระหว่างรัฐบาลกับตัวแทนชาวบ้านเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 57 ให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ชะลอและยุติการดำเนินการใดๆ | การเมือง,คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,สิ่งแวดล้อม,สังคม | ชุมชนบ่อแก้ว,ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม,ขปส.,คอนสาร,ชัยภูมิ,ชุมชนโคกยาว,สำนักข่าวปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน | https://prachatai.com/journal/2014/10/56181 |
วิทยาศาสตร์แห่งความขี้เกียจ อะไรทำให้เราเกียจคร้าน | การได้นั่งๆ นอนๆ ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องออกกำลังกาย ไม่ต้องทำอะไรเลย น่าจะเป็นเรื่องแสนสุขแสนสบายของมนุษย์ทุกคนใช่ไหมครับ เขาถึงมีคำพูดว่า นั่งกินนอนกิน ซึ่งหมายถึงการมีชีวิตแสนสุขแบบเศรษฐีที่ไม่ต้องทำงานแต่ในอีกด้านหนึ่ง การมีชีวิตแบบนั้นคือสิ่งที่หลายคนเรียกว่าเป็นความ ขี้เกียจ ซึ่งเอาเข้าจริงต้องบอกคุณว่ามันเป็นสภาวะที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน เพียงแต่บางคนอาจจะเกิดมากน้อยแตกต่างกันไปแต่คำถามก็คือ เอ๊ะ แล้วทำไมบางคนถึงแลดู ขี้เกียจ มากกว่าคนอื่น แต่บางคนก็ขี้เกียจน้อยกว่า แล้วไอ้เจ้าความรู้สึกแสนสบายเวลาไม่ได้ทำอะไรเลยนั้นน่ะ ทำไมเราถึงรู้สึกอย่างนั้น มีกลไกหรือกระบวนการอะไรเกิดขึ้นกับสมองของเราหรือเปล่า ถึงทำให้เรารู้สึกว่าความขี้เกียจเป็นความรู้สึกสุดยอดอย่างหนึ่งของการมีชีวิตอยู่เอาเข้าจริงแล้ว ต้องบอกคุณว่าความขี้เกียจในระดับที่เรียกได้ว่าเป็น มันฝรั่งบนโซฟา หรือ couch potato ที่ฝรั่งเขาเรียกกันนั้น มันมีปัจจัยที่ลงลึกไปถึงระดับยีนของคุณเลยนะครับจริงเหรอ? ถ้าอย่างนั้นความขี้เกียจก็ไม่ใช่แค่ นิสัย ของเราแล้วสิ แต่เมื่อมันฝังอยู่ในยีน ก็แปลว่าเราไม่ต้องขยันก็ได้นี่นาเดี๋ยวก่อนครับ อย่าเพิ่งด่วนสรุปแบบนั้น เพราะแม้ว่าความขี้เกียจอาจจะอยู่ในยีนของเรา แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะเอาชนะมันไม่ได้หรอกนะครับอย่างไรก็ตาม ก่อนจะไปถึงวิธีเอาชนะความขี้เกียจระดับยีน เรามาเรียนรู้กันหน่อยดีกว่าไหมครับว่าทำไมคนเราถึงเกิดความขี้เกียจขึ้นมาได้นักวิทยาศาสตร์บอกว่า กลไกวิวัฒนาการทำให้มนุษย์เรามีความชอบพอหรือมีความรู้สึกในแง่บวกกับ 3 เรื่องคุณพอตอบได้ไหมครับว่าเรื่องอะไรบ้างใช่แล้ว อย่างแรกสุดก็คือเรื่องอาหาร กลไกวิวัฒนาการทำให้เราชอบพอกับอาหาร โดยเฉพาะรสหวาน เพราะรสหวานเป็นรสแห่งพลังงาน เรารู้ว่าไอ้นั่นกินได้ ไอ้นี่กินไม่ได้ บางอย่างกินแล้วตาย เพราะนี่คือกลไกที่จะทำให้เรามีชีวิตรอด ดังนั้นอาหารจึงเป็นความชอบสำคัญของมนุษย์อย่างหนึ่งอย่างที่สองย่อมหนีไม่พ้นเรื่องเซ็กซ์ เพราะถ้าอาหารทำให้เราแต่ละคนมีชีวิตอยู่ได้ เซ็กซ์ก็เป็นตัวการทำให้เราสืบเผ่าพันธุ์ต่อ ดังนั้นมนุษย์จึงชอบกินและชอบเซ็กซ์ สองอย่างนี้คือสิ่งที่ทำให้มนุษย์อยู่รอดสืบต่อมาได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราได้ กินๆ นอนๆ อยู่กับบ้าน (ซึ่งก็คือการขลุกอยู่กับอาหารและเซ็กซ์นั่นแหละ) ก็ย่อมเป็นภาวะสุขสบายอย่างที่สุดแล้วใช่ไหมครับแล้วอย่างที่สามล่ะครับ มันคืออะไร จะทำให้เราแสนสุขสบายมากขึ้นได้อย่างไรบอกไปคุณอาจไม่เชื่อหรอกนะครับ แต่เพราะธรรมชาติได้จัดสรรให้เรามาอย่างสมดุลยิ่ง สิ่งที่ทำให้มนุษย์มีความสุขมากในอย่างที่สามคือการออกกำลังกายครับหา การออกกำลังกายเหรอ?ใช่แล้วครับ การออกกำลังกายนี่แหละที่เป็นหนึ่งในสามเรื่องที่ธรรมชาติหรือกลไกวิวัฒนาการคอย บงการ ให้เราอยากทำทั้งสามเรื่อง เวลาที่เราได้กิน ได้มีเซ็กซ์ และได้ออกกำลังกาย ร่างกายจะ สมนาคุณ หรือตบรางวัลให้เราด้วย ระบบโดพามีน (Dopamine System) คือสมองจะหลั่งสารแห่งความสุขชนิดนี้ออกมา การออกกำลังกายในยุคก่อนประวัติศาสตร์หมายถึงการล่าสัตว์หรือหาของป่า มันจึงสำคัญเสียยิ่งกว่าอาหารและเซ็กซ์เสียอีกครับ เพราะว่ามันคือต้นตอของการทำให้มนุษย์มีชีวิตอยู่รอดได้คำถามถัดมาก็คือ แล้วความรักชอบในการออกกำลังกายนี่มันฝังอยู่ในยีนเราเลยหรือ รู้ได้อย่างไรกันมีการศึกษาวิจัยเยอะมากนะครับที่บอกว่าความขี้เกียจ (ซึ่งเป็นด้านตรงข้ามกับการออกกำลังกาย) เป็นเรื่องที่ ฝัง อยู่ในยีนของเราเลย แต่มีการศึกษาหนึ่งที่เห็นภาพชัดเจนดี เขาเอาหนูมา 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งให้มันวิ่งในวงล้อนานกว่ากลุ่มอื่นๆ ซึ่งเราก็รู้อยู่ว่าหนูเป็นสัตว์ที่แพร่พันธุ์เร็ว เขาพบว่าหนูที่วิ่งเยอะกว่าหนูอื่น เมื่อมีลูก ลูกก็จะวิ่งเยอะมากขึ้นตามไปด้วย จนเมื่อผ่านไป 10 รุ่น (หรือ 10 ชั่วหนู) ปรากฏว่าหนูรุ่นใหม่ในกลุ่มที่วิ่งเยอะนี้จะวิ่งมากกว่าหนูอีกกลุ่มหนึ่งถึง 75% แล้วพอผ่านไปถึง 16 รุ่น ปรากฏว่าหนูกลุ่มนี้วิ่งมากถึงวันละ 7 ไมล์ ขณะที่หนูอีกกลุ่มหนึ่งวิ่งแค่วันละ 4 ไมล์เท่านั้นการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าแรงขับเคลื่อนในการใช้กำลังกายของหนู (ซึ่งสะท้อนมาถึงมนุษย์ด้วย) เป็นเรื่องที่อยู่ในยีน เราได้รับสืบทอดยีนแห่งการทำกิจกรรมต่างๆ มาจากรุ่นพ่อแม่นักวิทยาศาสตร์พบด้วยว่าหนูที่วิ่งเยอะกว่าจะมีระบบโดพามีนที่แข็งแรงกว่าหนูที่วิ่งน้อย นั่นแปลว่าการถ่ายทอดความสามารถและแรงขับนี้จะยิ่งแข็งแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย เพราะคนที่ เสพติด การออกกำลังกายในแบบที่ลึกลงไปถึงพันธุกรรม (Genetically Addiction) ก็จะยิ่งกระหายโหยหาการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้นไปอีก สมองจะทำงานเหมือนคนติดยาเสพติดอย่างนิโคตินหรือโคเคน แล้วพอไปออกกำลังกายก็ยิ่งทำให้ ตัวรับ โดพามีนมีมากและทำงานได้ดีขึ้นไปอีก ความรู้สึกของการออกกำลังกายจึงแหลมคม ละเอียดอ่อน และโปร่งเบาสบายอ้าว แล้วคนขี้เกียจล่ะนักวิทยาศาสตร์บอกว่าคนที่ขี้เกียจถึงระดับเป็น couch potato นั้นอาจมีโอกาสเกิดการกลายพันธุ์ของยีนที่มีชื่อว่า SLC35D3 ซึ่งงานวิจัยนี้ (ดู) บอกว่าการกลายพันธุ์ของยีนนี้ส่งผลให้การควบคุมกิจกรรมทางกายแปรปรวนไปที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะเมื่อเกิดการกลายพันธุ์ของยีนตัวนี้ ตัวรับโดพามีนจะเสียไปหรือลดน้อยลง ดังนั้นต่อให้ออกกำลังกายมากแค่ไหนก็อาจไม่ได้รู้สึกแสนสุข เบาสบาย ล่องลอยเหมือนพวกที่ได้รับสืบทอดอาการเสพติดการออกกำลังกายมาจากบรรพบุรุษมีงานวิจัยหลายชิ้นที่บอกว่าระบบโดพามีนนั้นเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย เคยมีการทดลองหนึ่งของออกซ์ฟอร์ดที่สแกนสมองอาสามัครที่มีสุขภาพดี 40 คนด้วยระบบ MRI (ดูรายละเอียดได้) เพื่อดูว่าเวลาที่อาสาสมัครเหล่านี้ตัดสินใจจะ ลงแรง ทำอะไรบางอย่าง สมองส่วนไหนทำงานบ้าง พบว่าเวลาคนเราตัดสินใจจะทำอะไรบางอย่าง สมองส่วน Premotor Cortex จะเป็นส่วนหลักที่ทำงานก่อนหน้าที่สมองส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวจะเริ่มทำงานที่จริงแล้วการทดลองที่ว่านี้ เป้าหมายของผู้ทดลองคือการดูว่าสมองส่วนไหนที่รับผิดชอบเรื่องความเข้าอกเข้าใจหรือเห็นอกเห็นใจผู้อื่น (Apathy) แต่เขาพบว่ามันสอดคล้องกับการ ลงแรง ทำอะไรบางอย่างด้วยเหมือนกัน เพราะถ้าเราเห็นคนกำลังเดือดร้อน คนที่ขี้เกียจก็อาจเลือกไม่ช่วยเหลืออะไร เพราะมันต้องใช้เรี่ยวแรง แต่คนที่มีความเห็นอกเห็นใจ สมองส่วนนี้จะทำงานขึ้นมาทันที และที่ย้อนแย้งมากก็คือถ้าเป็นคนไม่เห็นอกเห็นใจคนอื่นหรือเห็นแก่ได้ (Apathetic People) สมองส่วนนี้จะทำงานเวลาที่พวกเขาได้รับอะไรบางอย่าง ไม่ใช่การให้ความช่วยเหลือคนอื่นดังนั้นการ กระโดด จากการตัดสินใจว่าจะทำอะไรบางอย่างไปสู่การทำสิ่งนั้นจริงๆ (ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย ลงมือทำงาน หรือช่วยเหลือคนอื่น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการกระทำที่ ไม่ขี้เกียจ) จึงต้องใช้สมองหลายส่วนทำงาน ซึ่งในแง่หนึ่งเป็นการใช้พลังงานของร่างกายเหมือนกัน และถ้ามองในแง่นี้ เราก็อาจอธิบายได้ด้วยว่าทำไมความขี้เกียจจึงมักถูกนำไปผูกไว้กับความไม่มีคุณธรรม เพราะความขี้เกียจแปลว่าเรามักไม่ตัดสินใจ take action ซึ่งอาจหมายถึงการช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อนได้ด้วยแล้วถ้าความขี้เกียจเป็นเรื่องที่ลงลึกไปถึงยีนของเรา เราจะเอาชนะมันได้อย่างไรกันล่ะนี่ หลายคนอาจสงสัยใช่ครับ ยิ่งรู้แบบนี้ ยิ่งอาจทำให้คุณเปลี่ยนแปลงตัวเองลำบากมากขึ้น เพราะคุณอาจเริ่มมีข้ออ้างกับตัวเองว่า โอ๊ย ที่ฉันขี้เกียจอย่างนี้ไม่ใช่เพราะฉันอยากขี้เกียจนะ แต่เป็นเพราะยีนของฉันต่างหากเล่า แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณ ขี้เกียจทางยีน คือไม่ค่อยจะมีตัวรับโดพามีนที่เป็นรางวัล ก็ต้องไม่ปล่อยให้ยีนของคุณเป็นปัจจัยเดียวที่ควบคุมตัวคุณ คุณสามารถสร้าง ระบบรางวัล ต่างๆ ขึ้นมาให้ตัวเองได้ ซึ่งรางวัลที่ว่า ถ้าให้ง่ายที่สุดก็คือการตอบสนองต่อกลไกวิวัฒนาการอีก 2 อย่างที่เราว่ากันมาข้างต้นนั่นแหละครับ มันคืออาหารกับเซ็กซ์ นั่นแปลว่าคุณอาจจะสัญญากับตัวเองได้ว่า ถ้าทำงานนี้เสร็จ หรือไปออกกำลังกายเสร็จแล้วจะอนุญาตให้กินไอศกรีมได้สักถ้วย หรือไปออกเดตกับคนที่คุณพึงใจเหล่านี้คือการ เทรน หรือฝึกสมองของคุณ ซึ่งต้องบอกคุณด้วยนะครับว่ายีนไม่ใช่เรื่องที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ยีนนั้นมีการเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่า Epigenetics (ซึ่งหลายคนแปลว่าเป็น ยีนเหนือยีน) อันสลับซับซ้อนเกินกว่าจะมาเล่าในที่นี้ แต่มันมีผลทำให้ยีนของเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยผลของสิ่งแวดล้อม (โดยที่ไม่ได้เปลี่ยนลำดับของดีเอ็นเอ) เช่น มีการศึกษาพบว่าอาการ Trauma รุนแรงบางอย่าง (เช่น การถูกกักตัวและทรมานในค่ายนาซี) ก็ส่งผลต่อไปยังรุ่นลูกได้เหมือนกัน แต่อาจไม่ได้ส่งผลต่อเนื่องยาวนาน (ดูบทความ ที่บอกว่าต้องระวังการใช้คำว่า Epigenetics ให้ดี)แต่เอาเป็นว่าความขี้เกียจของคุณ อาจ เป็นผลจากยีนก็ได้ แต่กระนั้นก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะ ฝึก ตัวเองให้ขยันขึ้นไม่ได้ เพราะในอีกด้านหนึ่ง การปล่อยให้ตัวเองขี้เกียจก็คือการ ฝึก ให้ตัวเองคุ้นชินกับความขี้เกียจนั้นด้วยเหมือนกันวิทยาศาสตร์ของความขี้เกียจจึงไม่ได้สร้างความชอบธรรมให้กับความขี้เกียจ แต่คือการขุดลึกลงไปถึงเหตุผลที่คนบางคนขี้เกียจมากกว่าคนอื่นแต่หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องตัวใครตัวมันแล้วนะครับภาพประกอบ:Nisakorn Rittapai | ทำไมบางคนถึงแลดู ขี้เกียจ มากกว่าคนอื่น แต่บางคนก็ขี้เกียจน้อยกว่า แล้วไอ้เจ้าความรู้สึกแสนสบายเวลาไม่ได้ทำอะไรเลยนั้นน่ะ ทำไมเราถึงรู้สึกอย่างนั้น มีกลไกหรือกระบวนการอะไรเกิดขึ้นกับสมองของเราหรือเปล่านักวิทยาศาสตร์บอกว่า กลไกวิวัฒนาการทำให้มนุษย์เรามีความชอบพอหรือมีความรู้สึกในแง่บวกกับ 3 เรื่องคือ อาหาร เซ็กซ์ และการออกกำลังกาย เมื่อได้ทำสิ่งเหล่านี้ ร่างกายจะ สมนาคุณ หรือตบรางวัลให้เราด้วย ระบบโดพามีน โดยสมองจะหลั่งสารแห่งความสุขชนิดนี้ออกมา นักวิทยาศาสตร์บอกว่า คนที่ขี้เกียจอาจมีโอกาสเกิดการกลายพันธุ์ของยีนที่มีชื่อว่า SLC35D3 ทำให้ตัวรับโดพามีนเสียไปหรือลดน้อยลง ความขี้เกียจของคุณ อาจ เป็นผลจากยีน แต่กระนั้นก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะ ฝึก ตัวเองให้ขยันขึ้นไม่ได้ เพราะในอีกด้านหนึ่ง การปล่อยให้ตัวเองขี้เกียจก็คือการ ฝึก ให้ตัวเองคุ้นชินกับความขี้เกียจนั้นด้วยเหมือนกัน | null | null | https://thestandard.co/the-science-of-laziness/ |
กกต. เผยไม่มีหน้าที่ตรวจสอบ ประยุทธ์ เล่นเฟสบุ๊ก-ทวิตเตอร์ ชี้ไม่ใช่พรรคการเมือง | ระดมทุนของพรรคการเมือง19 ต.ค. 2561 พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ใช้สื่อโซเชียลประชาสัมพันธ์ตัวเอง ในขณะที่คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 13/61 ห้ามไม่ให้พรรคการเมืองหาเสียงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ว่า กกต.มีหน้าที่ดูแลเฉพาะพรรคการเมือง แต่นายกรัฐมนตรีไม่ใช่พรรคการเมือง จึงไม่ได้อยู่ภายใต้คำสั่งนี้พ.ต.อ.จรุงวิทย์ เปิดเผยถึงการเปิดรับลงทะเบียนองค์กรที่มีสิทธิแนะนำชื่อบุคคลเพื่อสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ด้วยว่า ได้กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศ เปิดรับลงทะเบียนองค์กรระหว่างวันที่ 15-24 ต.ค. 2561 ซึ่งปรากฏว่า ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา คือ ระหว่างวันที่ 15-18 ต.ค. 2561 มีผู้แทนองค์กรมาลงทะเบียนองค์กร จำนวน 29 องค์กร จาก 14 จังหวัดทั่วประเทศ กทม.มากที่สุด 10 องค์กร รองลง คือ พัทลุง ศรีสะเกษ สระแก้ว นนทบุรี พิษณุโลก ลำปาง หนองคาย นครปฐม ร้อยเอ็ด ปทุมธานี ตราด ตรัง และกาญจนบุรี จังหวัดละ 1 องค์กรพ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับองค์กที่มีสิทธิลงทะเบียน ประกอบด้วย องค์กรที่กฎหมายจัดตั้ง เช่น สภาทนายความ แพทยสภา อัยการ องค์กรของรัฐต่าง ๆ เป็นต้น และองค์กรที่เป็นนิติบุคคล เช่น สมาคม มูลนิธิ เป็นต้น โดย กกต.เปิดรับลงทะเบียนไม่เว้นวันหยุดราชการ ซึ่งหากพ้นกำหนดแล้วองค์กรที่ไม่ยื่นลงทะเบียนก็ไม่สามารถส่งผู้สมัคร ส.ว.ได้ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ทุกองค์กรมาลงทะเบียน โดย กกต.จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้รับทราบโดยทั่วถึงส่วนที่มีองค์กรมาลงทะเบียนน้อยจะง่ายต่อการฮั้วหรือไม่นั้น ก็ไม่ห่วงในเรื่องนี้ เพราะกฎหมายกำหนดมาตรการป้องกันการฮั้วอยู่แล้ว โดยคนที่มีคะแนนไม่ถึง 10%4 คนจะให้เลือกใหม่ โดยคนที่ไม่มีคะแนนเลยจะไม่มีสิทธิเลือก นอกจากนี้ยังมีผู้สมัครอิสระที่จะมาสมัครในอนาคตด้วย จึงเชื่อว่าจำนวนผู้สมัครไม่น่าจะน้อย เพราะหน้าที่ ส.ว.ครั้งนี้มีความสำคัญ เนื่องจาก ส.ว.ทั้ง 250 คนร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีด้วย พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวพ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวด้วยว่า สัปดาห์หน้า กกต. จะเสนอที่ประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องการบริจาค ระดมทุนของพรรคการเมืองว่าอะไรบ้างที่ควรเปิดให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมให้ถูกต้อง จะได้ไม่ติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย โดยอาจเสนอไปยัง คสช.ให้เป็นข้อยกเว้นหรือไม่ เพราะบางกิจกรรมที่มีความจำเป็นต้องเปิดให้ดำเนินการได้ เพื่อการเดินหน้าสู่การเลือกตั้งที่สุจริต เที่ยงธรรม ทั้งนี้ได้ทราบจากวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีว่ากำลังเตรียมการเรื่องที่ คสช.จะพบกับพรรคการเมือง แม่น้ำห้าสาย รวมถึง กกต. ตามข้อ 8 ในคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/60 อยู่แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร ซึ่งส่วนตัวก็อยากให้เกิดขึ้นโดยเร็ว จะได้มีความชัดเจนในเรื่องการปฏิบัติของพรรคการเมือง | เลขาธิการ กกต. ชี้ ประยุทธ์เล่นโซเชียลมีเดียประชาสัมพันธ์ตัวเองได้ เพราะไม่ใช่พรรคการเมือง กกต. ไม่มีอำนาจตรวจสอบ เผยยอดองค์กรลงทะเบียนเสนอชื่อ ส.ว. มีแล้ว 29 องค์กร เตรียมคุย คสช. เรื่องการบริจาค | การเมือง | กกต,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,โซเชียลมีเดีย,คำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 13/2561 | https://prachatai.com/journal/2018/10/79228 |
ประมงบึงกาฬ บุกทำลายเครื่องมือจับปลาเถื่อน | เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 20 มิ.ย. นายสุวิทย์ คชสิงห์ ประมงจังหวัดบึงกาฬ สนธิกำลัง ทหาร กกล.รส.บึงกาฬ หน่วยอนุรักษ์ประมงน้ำจืดเขื่อนน้ำอูนสกลนคร ผู้นำชุมชน และอาสาสมัครอนุรักษ์หนองกุดทิงจำนวนกว่า 50 คน ร่วมกันรื้อถอนเครื่องมือที่กางกั้นทางเดินสัตว์น้ำในพื้นที่ต้นน้ำของหนองกุดทิง แหล่งชุ่มน้ำโลก ต.โนนสมบูรณ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นเครื่องมือทำการประมงผิดกฎหมาย มีผู้ลักลอบติดตั้ง เพื่อดักจับปลาในฤดูวางไข่ทำให้ปลาไม่สามารถขยายพันธุ์ได้ โดยกลุ่มผู้ที่ลักลอบจะนำตาข่ายมากางขวางกั้นตั้งแต่พื้นดินด้านล่างขึ้นมาจนเหนือน้ำ ทำให้ปลาไปไหนไม่ได้ แถมยังสร้างเพิงพักมุงหลังคาอย่างดีกันแดดกันฝน เพื่อนั่งนอนรอจับปลาที่มาติดกับดักแล้วนำไปขาย,หนองกุดทิง เป็นหนองน้ำขนาดใหญ่มีความกว้างโดยเฉลี่ย 22,000 ไร่ ลึก 5-10 เมตร มีความหลากหลายทางชีวภาพประกอบด้วยสัตว์น้ำกว่า 250 สายพันธุ์ มีปลาที่เป็นเอกลักษณ์ไม่มีที่ใดในโลก 20 สายพันธุ์ พืชน้ำกว่า 200 ชนิด มีนกพันธุ์ต่างๆ กว่า 40 ชนิด เป็นที่ทำมาหากินของประชาชนกว่า 2,000 ครัวเรือน ปลูกข้าวนาปี นาปรัง และปลูกพืชผักระยะสั้นขาย ด้วยความอุดมสมบูรณ์ดังกล่าว จึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลกแห่งที่ 11 ของไทย และมีที่อนุรักษ์เด็ดขาด คือ ไม่ให้คนผ่านไป เลี้ยงสัตว์ จับสัตว์ทุกชนิดในบริเวณนั้นมากกว่า 5 แห่ง จึงมีนกและสัตว์น้ำอาศัยอยู่เพื่อเพาะพันธุ์อย่างมากมายตลอดทั้งปี | ประมง จ.บึงกาฬ พร้อมทหาร กกล.รส. บุกทำลาย เครื่องมือจับปลาเถื่อนในหนองกุดทิง เบื้องต้นพบตาข่ายและเพิงพักมุงหลังคา สำหรับนั่งตกปลา | ข่าว,ทั่วไทย | ประมง,ประมงจ.บึงกาฬ,บุกทำลาย,หนองกุดทิง,อุดมสมบูรณ์,เครื่องมือจับปลาเถื่อน,เครื่องมือจับปลา,ข่าว,ข่าวสังคม,ข่าวทั่วไทย,จ.บึงกาฬ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/506418 |
เริ่มแล้ว ถกแบน 3 สารพิษ อนุทิน ย้ำชัดเซย์โน เมินฝ่ายต้านไม่หนุน ภท. | เมื่อวันที่ 22 ต.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ที่กระทรวงอุตสาหกรรม การประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายเริ่มขึ้นแล้ว โดยมี นายภานุวัฒน์ ตริยางกรูศรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม และรักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมประชุม ขณะที่บริเวณชั้น 1 กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีกลุ่มสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย และเครือข่ายเกษตรกร ผู้แทนสมาคมเกษตรกร แกนนำเกษตรกร และครอบครัวเกษตร 5 ล้านครอบครัว กว่า 100 คน มารอฟังผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ด้วยความสงบ,ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบฯ ถึงกรณีการประชุมเพื่อพิจารณายกเลิกการใช้สารเคมีอันตรายในภาคเกษตร 3 ชนิด คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลไพริฟอส ว่า เท่าที่ทราบจะมีการประชุมเวลา 09.30 น.วันนี้ (22 ต.ค.) ที่กระทรวงอุตสาหกรรม ไม่รู้ว่าจะมีการเลื่อนหรือไม่ กระทรวงสาธารณสุขชัดเจนตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค.ที่มีการประชุมในกระทรวงแล้ว โดยตัวแทนของกระทรวง 3 คน คือ อธิบดีกรมการแพทย์ เลขาธิการ อย. และอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะไปร่วมประชุม โดยเรามีมติชัดเจนคือการแบนสารพิษ 3 สาร,เมื่อถามว่า กังวลกับผลที่จะตามมาหรือไม่ เพราะฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยประกาศไม่สนับสนุนพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าววว่า ตนทำตามหน้าที่ รมว.สาธารณสุข ให้นโยบายเพื่อรักษาสุขภาพของพี่น้องประชาชนสำคัญกว่าเรื่องพรรค. | เกษตรกรกว่า 100 ปักหลักฟังผลถกแบน 3 สารพิษ ด้าน เสี่ยหนู ย้ำชัดไม่เอา เมินฝ่ายต้านไม่หนุน ภูมิใจไทย ลั่นทำตามหน้าที่ รมว.สธ. เห็นสุขภาพ ปชช.สำคัญกว่าเรื่องพรรค | ข่าว,การเมือง | สารพิษ,แบน 3 สารพิษ,3 สารพิษ,อนุทิน ชาญวีรกูล,ภูมิใจไทย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1687693 |
การโจมตีของไวรัสคอมพิวเตอร์เรียกค่าไถ่เริ่มลดลง | วันนี้ (16 พ.ค.2560) สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า การแพร่กระจายของไวรัสคอมพิวเตอร์เรียกค่าไถ่ วอนนาคราย เริ่มลดลง หลังโจมตีส่งผลกระทบต่อระบบคอมพิวเตอร์ใน 150 ประเทศ โดยเมื่อวานนี้่มีรายงานการโจมตีครั้งใหม่ทั่วโลกเกิดขึ้นไม่มาก ขณะที่โฆษกสำนักงานตำรวจยุโรป (ยูโรโปล) เปิดเผยว่า การแพร่กระจายของไวรัส วอนนาคราย ในยุโรปเริ่มทรงตัวส่วนทวีปในเอเชีย ซึ่งสำนักงานส่วนใหญ่ปิดก่อนที่ไวรัส วอนนาคราย จะเริ่มแพร่กระจาย เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ได้รับผลกระทบน้อยกว่าที่คาดการณ์กันไว้ โดยทางการอินเดีย เปิดเผยว่า ระบบคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่รอดพ้นจากการโจมตีไวรัสวอนนาคราย ขณะที่หน่วยงานดูแลเว็บไซต์ของรัฐและซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้ติดตั้งโปรแกรมความปลอดภัยของไมโครซอฟท์ด้านบริษัทไมโครซอฟท์ออกแถลงการณ์วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆที่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลจุดอ่อนของระบบความปลอดภัยเอาไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เนื่องจากการโจมตีทางไซเบอร์ในครั้งนี้เป็นผลมาจากกลุ่มแฮคเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า Shadow Brokers สามารถเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่แล้วไวรัสวอนนาครายทำงานโดยเข้าไปล็อกไฟล์ข้อมูลต่างๆ ทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถเปิดไฟล์ได้ก่อนที่จะเรียกร้องเงินค่าไถ่จำนวน 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 10000 บาท ในสกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์ เพื่อแลกกับรหัสปลดล็อกไฟล์ โดยการเรียกเงินค่าไถ่มีกำหนดเส้นตายให้จ่ายในเวลา 3 วัน หากผ่านไป 7 วันยังไม่มีการจ่ายเงินค่าไถ่ไฟล์ดังกล่าวจะถูกลบทิ้งทันทีซึ่งทีมฉุกเฉินของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐอเมริกา ระบุว่าการจ่ายค่าไถ่ไม่ได้รับประกันว่าจะได้ไฟล์กลับคืนมา | แม้ว่าการโจมตีของไวรัสคอมพิวเตอร์เรียกค่าไถ่ หรือแรนซั่มแวร์ จะเริ่มลดลง แต่ยังคงสร้างความวิตกเป็นวงกว้าง | ต่างประเทศ | ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,อังกฤษ,รัสเซีย,ไวรัส,ไวรัสคอมพิวเตอร์,คอมพิวเตอร์,เรียกค่าไถ่,ไวรัสเรียกค่าไถ่,วอนนา ดีคริปเตอร์,Wanna Decryptor,วอนนา คราย,Wanna Cry,สำนักงานตำรวจยุโรป,ยูโรโปล,Europol,บิทคอยน์,Bitcion | https://news.thaipbs.or.th/content/262506 |
ด.ญ.วัย 13 ปี สุดทน พ่อเลี้ยงตบตีแม่ อัดคลิปแจ้ง ตร. | เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 26 มี.ค. 2558 นางสี (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี พร้อมเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) อายุ 13 ลูกสาว เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.กิตติพงษ์ ตังควาณิชย์ พงส.สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ว่าเมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ถูกนายโจ (นามสมมติ) อายุ 37 ปี ชาว จ.จันทบุรี แฟนหนุ่มทำร้ายร่างกาย ขณะอยู่ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ถนนทหาร ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เนื่องจากไม่พอใจที่นางสีไม่ให้เงินไปซื้อยา โดยระหว่างเกิดเหตุเด็กหญิงเอ ซึ่งเห็นเหตุการณ์ได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปวิดีโอความยาวเกือบ 1 นาทีไว้เป็นหลักฐาน ก่อนมอบคลิปวิดีโอดังกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่,เวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้เดินทางไปยังที่ห้องเช่าดังกล่าว พบโจ อยู่ในอาการมึนเมาอย่างหนัก ภายในบ้านพบข้าวของกระจายเกลื่อน เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวนายโจ มาสอบสวนที่ สภ.วารินชำราบ แต่นายโจ ขัดขืน จนต้องใส่กุญแจมือ นำตัวมาสงบสติอารมณ์ พร้อมทั้งตรวจหาสารเสพติด พบมีผลเป็นบวก,เบื้องต้นนายโจ ให้การปฏิเสธ ไม่ยอมรับว่าเสพยา และทำร้ายร่างกายนางสี และเด็กหญิงเอแต่อย่างใด แต่เมื่อได้เห็นคลิปที่ตัวเองทำร้ายร่างกายนางสี จึงยอมจำนนด้วยหลักฐาน พร้อมยอมรับว่าเสพยาบ้าจริง,จากการสอบถาม นางสีเผยว่า ตนเองเพิ่งรู้จักอยู่กับโจ ได้ประมาณ 1 เดือน ช่วงแรกที่คบกันนายโจ ไม่มีพฤติกรรมแบบนี้มาก่อน หลังจากที่ตกลงคบกัน นายโจได้มาพักอาศัยกับตนที่ห้องเช่าดังกล่าว หลังจากนั้นนายโจ ไม่ยอมทำงาน เริ่มมีพฤติกรรมออกไปดื่มสุราเป็นประจำ จนมีปากเสียงทะเลาะกันถึงขั้นลงมือตบตี เกือบ 10 ครั้ง และครั้งนี้ นายโจได้มาขอเงิน คาดว่าจะไปซื้อยาบ้า แต่ตนไม่ให้ ทำให้นายโจไม่พอใจ ลงมือทำร้ายร่างกายตนต่อหน้าลูกสาวตน โดยที่เด็กหญิงเอ ได้แอบถ่ายคลิปไว้ จนถูกนายโจทำร้ายร่างกายอีกคน ตนจึงตัดสินใจมาแจ้งความ,ร.ต.ท.กิตติพงษ์ ตังควาณิชย์ เผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายโจ เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) และทำร้ายร่างกายผู้อื่น ขณะเดียวกันสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จ.อุบลราชธานี และบ้านพักเด็กและครอบครัว ทราบเรื่องที่นายโจ ทำร้ายนางสีและเด็กหญิงเอ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าดูแลเรื่องสภาพร่างกาย จิตใจ รวมถึงการดำเนินคดีตามกฎหมายกับโจ ล่าสุดนางสีและเด็กหญิงเอ ได้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ พม.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว. | เด็กหญิง อายุ 13 ปี สุดทนพ่อเลี้ยงติดยา ทำร้ายตบตีแม่ อัดคลิปวิดีโอเข้าแจ้งความกับตร.สภ.วารินชำราบ ขณะที่ พม.อุบลฯ รับตัว 2 แม่-ลูก เยียวยาสภาพร่างกายและจิตใจ พร้อมดำเนินคดีกับพ่อเลี้ยง | ข่าว,ทั่วไทย | เด็กหญิงถ่ายคลิป,พ่อเลี้ยง,ทำร้ายแม่,ติดยา,ทะเลาะวิวาท,ทำร้ายร่างกาย,เสพยาเสพติด,วารินชำราบ,อุบลราชธานี,ไทยรัฐออนไลน์,ภูมิภาค,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ตบตี | https://www.thairath.co.th/news/local/489519 |
น้ำเค็มทะลักเข้าท่าจีนแรงสุดรอบ 30 ปี | ต่างประสบกับฝันร้ายอย่างคาดไม่ถึง จากปัญหาน้ำทะเลเอ่อไหลทะลักเข้ามาในแม่น้ำท่าจีน นับเป็นวิกฤติที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี เรือกสวนไร่นา พืชผลทางการเกษตร ฝรั่ง มะม่วง ชมพู่ เนื้อที่หลายหมื่นไร่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ปลาที่เลี้ยงในกระชังล้มตายเป็นเบือ โดยเฉพาะสวนกล้วยไม้พืชเศรษฐกิจส่งออกที่ทำรายได้เป็นอันดับต้นๆของประเทศได้รับความเสียหายย่อยยับ,กลุ่มเกษตรกรผู้เดือดร้อนเข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าว พร้อมกับเรียกร้องให้ทางกรมชลประทานช่วยเร่งระบายน้ำจากเขื่อนเพื่อไล่น้ำเค็มให้เจือจาง ขณะเดียวกันยังร่วมกันบริจาคเงิน 2 ล้านบาท ช่วยเหลือตัวเองไปพลางด้วยการนำกระสอบทรายบิ๊กแบ็กนับพันถุงไปปิดกั้นคลองจินดา ต.บางช้าง จ.นครปฐม ลำคลองที่เชื่อมต่อจากแม่น้ำท่าจีนพื้นที่ติดต่อ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร และ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี เพื่อไม่ให้น้ำเค็มไหลทะลักเข้ามาในพื้นที่,หลังจาก ไทยรัฐ ได้นำเสนอเรื่องราวความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด กรมชลประทาน กรมเจ้าท่า รวมทั้งทหารได้ส่งกำลังเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้าน โดยนำอุปกรณ์เครื่องมือมาช่วยวางกระสอบทรายบิ๊กแบ็กปิดคลองจินดา พร้อมกับติดตั้งเครื่องสูบน้ำสูบน้ำเค็มออก ขณะเดียวกันได้ประสานไปยังเขื่อน 2 แห่ง เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท และเขื่อนวชิราลงกรณ์ จ.กาญจนบุรี ให้เร่งปล่อยน้ำจืดมาไล่น้ำเค็ม นอกจากนี้ยังได้ระดมรถน้ำนำน้ำมาแจกจ่ายช่วยเหลือเกษตรกรและชาวบ้านที่เดือดร้อน จนสถานการณ์คลี่คลายลงในที่สุด,จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เห็นถึงความสามัคคีปรองดองของชาวบ้าน 2 จังหวัดที่เดือดร้อนที่จับมือกันเพื่อช่วยเหลืออย่างยั่งยืน และนำไปสู่การผลักดันให้สร้างเขื่อนเพื่อป้องกันน้ำเค็มไหลเข้าคลองจินดาอย่างถาวร ขณะเดียวกันตัวแทนเกษตรกรได้นำกระเช้าผลไม้และกล้วยไม้ เดินทางขอบคุณผู้สื่อข่าวที่กองบรรณาธิการ นสพ.ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต กทม. ที่ช่วยเป็นปากเสียงให้กับชาวสวนซึ่งได้รับความเดือดร้อนกว่า 2 หมื่นไร่ ค่าเสียหายหลายร้อยล้านบาท จนกระทั่งได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐในที่สุด. | ช่วงปลายปี 2557 คาบเกี่ยวต้นปี 2558 เกษตรกรชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน รวมทั้งผู้ประกอบการฟาร์มเลี้ยงปลา โดยเฉพาะเกษตรกรในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และ อ.สามพราน จ.นครปฐม | null | น้ำเค็ม,แม่น้ำท่าจีน,ฟาร์มเลี้ยงปลา,กระทุ่มแบน,สามพราน,ระบายน้ำเค็ม,เขื่อนเจ้าพระยา,เขื่อนวชิราลงกรณ์,ข่าว,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/556130 |
อดีตนายก อบต.สุดทน ลูกชายติดยาขนาดหนัก ขอจบปัญหายิงดับคาบ้าน | อดีตนายก อบต.ที่สะบ้าย้อย สงขลา มีลูกชายวัย 22 ปี ติดยาอย่างหนัก ทั้งเคยเรียกตำรวจมาจับ ทั้งพาไปบำบัดแต่ก็หวนกลับไปเสพอีก สุดท้ายเกิดเรื่องขึ้นในบ้าน พ่อลูกแย่งปืนกัน พ่อแย่งได้ยิงใส่ราวนมไป 1 นัด ตายคาที่ ,เวลา 12.30 น. วันที่ 28 ธ.ค. เหตุยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 27/5 บ้านทัพหลวง หมู่ 1 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา พ.ต.อ.กองทัพ เสนาทิพย์ ผกก.สภ.สะบ้าย้อย พ.ต.ท.ศราวุธ เจี้ยงเต็ม รอง ผกก.สอบสวน และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ,ทราบชื่อผู้สื่อชีวิตคือ นายมานพ ทันประจำสินธุ์ อายุ 22 ปี ถูกยิงเข้าราวนมขวา 1 นัด นอนเสียชีวิตอยู่หน้าบ้านเกิดเหตุ ซึ่งเป็นพักของผู้ตาย ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายสามารถ ทันประจำสินธุ์ อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ของ นายมานพ และเป็นอดีตนายก อบต.คูหา หลังก่อเหตุได้ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาว,จากนั้นได้ควบคุมตัว นายสามารถ ไปยัง สภ.สะบ้าย้อย พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ซึ่งนายสามารถก็ยอมรับสารภาพแต่โดยดี พร้อมยื่นขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และได้รับอนุญาตให้ประกัน เนื่องจากเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ เป็นที่เคารพของคนในหมู่บ้าน,ส่วนสาเหตุมาจากเรื่องที่ลูกชายติดยาอย่างหนัก เคยให้ตำรวจไปจับตัวที่บ้านหลายครั้ง รวมทั้งเคยพาไปเข้ารับการบำบัด แต่ก็ไม่ยอมเลิก หวนกลับมาเสพอีกจนหมดปัญญาที่จะรักษาเยียวยา,โดยขณะเกิดเหตุ นายมานพ ได้พยายามที่จะนำอาวุธปืนลูกซองยาวออกจากบ้าน แต่ถูก นายสามารถ ผู้เป็นพ่อเข้าไปห้ามไม่ให้เอาออกไป เพราะเกรงว่าจะไปก่อเรื่อง จึงได้เกิดยื้อแย่งและกระทบกระทั่งกันขึ้น สุดท้าย นายสามารถ ผู้เป็นพ่อแย่งปืนได้ และยิงใส่ลูกชายไป 1 นัด ล้มลงขาดใจตายคาที่ต่อหน้าต่อตา ด้วยความโกรธ บันดาลโทสะ รวมทั้งปัญหาของลูกชายที่ติดยาเสพติด ผู้เป็นพ่ออดทนอดกลั้นมานาน สุดท้ายก็ระงับอารมณ์ไม่อยู่ ยิงลูกชายตายคามือเพื่อจะจบปัญหา,ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจาก นายสามารถ ผู้เป็นพ่อ แต่ทางตำรวจเผยว่า เจ้าตัวยังไม่พร้อมที่จะพบใคร เพราะสภาพจิตใจยังย่ำแย่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัว และต้องมาฆ่าลูกชายด้วยมือของตัวเอง | อดีตนายกอบต.ที่สะบ้าย้อย สงขลา มีลูกชายวัย22ปีติดยาอย่างหนัก ทั้งเคยเรียกตำรวจมาจับ ทั้งพาไปบำบัดแต่ก็หวนกลับไปเสพอีก สุดท้ายเกิดเรื่องขึ้นในบ้าน พ่อลูกแย่งปืนกัน พ่อแย่งได้ยิงใส่ราวนมไป1นัด | ข่าว,อาชญากรรม | พ่อฆ่าลูก,พ่อยิงลูก,ลูกติดยา,พ่อฆ่าลูกติดยา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1456955 |
ซิโก้กับบทบาทกุนซือทีมชาติไทย | เชื่อว่าหลายคนยังคงจำลูกโหม่งแจ้งเกิดของซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 17 เมื่อ พ.ศ.2536 กันได้ ซึ่งประตูนี้ทำให้ไทยชนะพม่า 4-3 คว้าแชมป์ซีเกมส์ได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 5 และเป็นสมัยแรกในนามทีมชาติของนักเตะจากขอนแก่นเจ้าของท่าตีลังกาสุดคลาสสิกล่าสุดข่าวคราวของอดีตนักเตะทีมชาติไทย ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในการเข้ามารับตำแหน่งกุนซือทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ครั้งที่ 27 ที่พม่าในปลายปีนี้ (56) หลายคนแซวแบบติดตลกว่า นี่เป็นการถือเคล็ดให้ซิโก้คุมนักเตะไทยไปปราบพม่าอีกครั้ง ส่วนตัวของซิโก้แล้ว เขาพร้อมรับตำแหน่งนี้ แม้จะเคยฝันร้ายมาแล้วกับการเป็นผู้ช่วยสตีฟ ดาร์บี้ ทำทีมชาติไทยตกรอบแรกซีเกมส์ที่ลาวมาแล้ว โดยเขามองว่าไม่ว่าจะเป็นเขา หรือใคร มานั่งตำแหน่งนี้ ก็ไม่สำคัญเท่าการบริหารจัดการและความร่วมมือจากทุกฝ่ายในฐานะนักเตะ เฉพาะซีเกมส์ ซิโก้ คว้าแชมป์ได้ถึง 4 สมัยติดต่อกัน ในปี 2536 2538 2540 และ 2542 ทำได้ทั้งหมด 17 ประตู และยังคว้าดาวซัลโวประจำซีเกมส์ในปี 2542 อีกด้วย เมื่อทำไป 7 ประตูแต่ถ้ามองในบทบาทผู้ฝึกสอน ซิโก้ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ปี 2006 - 2007 ในตำแหน่งผู้เล่นและผู้ฝึกสอน เขาพาทีมฮองอันยาลาย ของเวียดนาม จบที่ 2 ปี 2008 คุมทีมจุฬา-สินธนา จบอันดับ 8 ในไทยลีก ปี 2009 คุมชลบุรีเอฟซี ได้รองแชมป์ไทยลีก และพาทีมเข้ารอบ 8 ทีมเอเอฟซี คัพ ปี 2010 กลับไปคุมทีมฮองอันยาลายอีกครั้ง จบกลางตาราง ปี 2011 คุมทีมบีบีซียู ได้ขึ้นชึ้นมาเล่นไทยลีก ก่อนที่จะลาออกเมื่อทำผลงานช่วงต้นฤดูกาลไม่ดีและ ปี 2012 คุมทีมแบงคอก เอฟซี ดิวิชั่น 1 จบอันดับที่ 10 | การเข้ามารับตำแหน่งผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ครั้งที่ 27 ที่ประเทศพม่าในปลายปีนี้ (56)ถือเป็นงานที่ท้าทายไม่น้อย คำถามที่ตามมาก็คือนักเตะที่ประสบควาสำเร็จอย่างซิโก้ จะประสบความสำเร็จในฐานะผู้ฝึกสอนได้หรือไม่ และต้องทำอย่างไรนักเตะไทยจึงจะกลับมาครองความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง | กีฬา | ซิโก้,ซีเกมส์,ทีมชาติไทย,ฮองอันยาลาย,เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง | https://news.thaipbs.or.th/content/137284 |
ทักษิณประดิษฐ์คำ กระโปรงลายพราง มาแดกดันรัฐบาลทหาร | เชิญแขกงานแต่งอุ๊งอิ๊ง,แห่เบิร์ธเดย์ ทักษิณ กลางกรุงลอนดอน ลูกหลาน เครือญาติ แกนนำ-อดีต ส.ส.เพื่อไทย ตบเท้ากว่า 100 ชีวิต ประดิษฐ์ เด็กเก่า ปชป.ดอดหารือจ่อร่วมหอลงโรง พท. ทักษิณ ยันฟิตปั๋งแข็งแรงเหมือนอายุ 30 ข้องใจใครลือป่วย รับการได้อยู่บ้านคือความสุขที่สุด ฉะยับรัฐบาลสวมกระโปรงลายพราง เตะถ่วงเลือกตั้ง เข้าไม่ถึงหัวอกประชาชน โวเลือกตั้งเมื่อไหร่เพื่อไทยแลนสไลด์มากกว่าเดิม นคร เด็กเก่า ปชป.ออกโรงแฉเองขบวนการล้มทักษิณ วรชัย เย้ยพลังดูดเริ่มไม่ขลังหลังหัวจ่ายสะดุด ปชป.จี้อีก บิ๊กตู่ เปิดหน้าเล่นแมนๆ อย่ามัวปากแข็ง เชื่อ ทักษิณ ไม่กล้ากลับไทยมาเสี่ยงคุก,กระดานข่าวการเมืองช่วงสุดสัปดาห์ไปคึกคัก ณ ต่างแดน บรรดาแกนนำ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย แห่กันไปฉลองวันเกิด 69 ปี นายทักษิณ ชินวัตร ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยมีไฮไลต์วลีเด็ดเชิงการเมืองจิกกัดรัฐบาล คสช.เช่นเคย,เบิร์ธเดย์ 69 ปี ทักษิณ แขกเพียบ,เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบ 69 ปี ของนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่า งานเลี้ยงดังกล่าวจัดขึ้นช่วงค่ำ ของวันที่ 26 ก.ค. ตามเวลาประเทศอังกฤษ ช้ากว่า ประเทศไทย 6 ชั่วโมง ที่ร้าน Mosimanns Club มีแขกมาร่วมงานประมาณ 100 คน มีญาติพี่น้อง อาทิ นางพินทองทา ชินวัตร บุตรสาว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็ก และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ ว่าที่ลูกเขยคนเล็ก นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว เพื่อนชาวต่างประเทศของนายทักษิณจำนวนหนึ่ง ส่วนแกนนำและอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่เดินทางไปร่วมด้วย อาทิ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีต รมว.พลังงาน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต รมว.ศึกษาธิการ นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ อดีต ส.ส.กทม. นายปรีชาพล พงษ์พานิช อดีต ส.ส.ขอนแก่น น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยงานเลี้ยงเริ่มขึ้นเวลา 18.30 น. จัดโต๊ะกลมแบบฝรั่ง 4 โต๊ะ โต๊ะละ 10 คน และมีโซนจัดเลี้ยงอีกส่วนอยู่อีกชั้นหนึ่งของร้านอาหาร,ประดิษฐ์ เด็กเก่า ปชป.ดอดหารือ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณได้นั่งร่วมโต๊ะ กับนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นายพิชัย นริพทะพันธุ์ และเพื่อนชาวต่างชาติ อาหารส่วนใหญ่เป็นเมนูฝรั่ง สเต๊กเนื้อ สเต๊กปลา สเต๊กแกะ นอกจากนักการเมืองพรรคเพื่อไทยแล้ว ยังมี นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีข่าวจะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. เดินทางไปพบนายทักษิณด้วย แต่ไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยง คาดว่าจะมีการพูดคุยเป็นการส่วนตัวแยกจากบรรดาอดีต ส.ส.คนอื่นๆ,โต้ป่วยหนักยังฟิตเหมือนอายุ 40,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณได้กล่าวกับเพื่อนฝูงบนโต๊ะอาหารว่า วันเกิดปีนี้มีความสุขที่สุด เพราะมีเพื่อนฝูงโทรศัพท์และส่งไลน์มาอวยพร จำนวนมาก ข่าวลือที่ว่าป่วยหนักนั้น ยืนยันว่าไม่เป็น ความจริง ยังสุขภาพแข็งแรงเหมือนคนอายุ 40 ปี หรือดูไปดูมาอาจเหมือนคนอายุ 30 ปีด้วยซ้ำ,ขณะที่บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก ชื่นมื่น บุตรสาว 2 คน คือ น.ส.พินทองทา และ น.ส.แพทองธารได้หอมแก้มนายทักษิณ โดยนายทักษิณได้กล่าวแนะนำว่าที่ลูกเขยคนเล็กให้เพื่อนๆ และแขกที่มาร่วมงานได้รู้จัก โดยนายทักษิณใช้เวลาอยู่ในงานเลี้ยงวันเกิดจนถึงเวลาประมาณ 22.30 น. จึงขอตัวไปพักผ่อน ระบุว่า คนแก่ขอตัวไปนอนก่อน,ครวญได้อยู่บ้านคือความสุขที่สุด,ด้านนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนาย ทักษิณ ได้โพสต์อินสตาแกรมเป็นคลิปวิดีโองานฉลองวันครบรอบวันเกิด โดยนายทักษิณกล่าวว่า คืนนี้เป็นคืนอบอุ่นที่ได้อยู่กับลูกๆหลานๆ เพื่อนที่ดี เพื่อนนักธุรกิจ พี่น้อง ลูกเขย ปีนี้ตนอายุอยู่ปลายเลข 6 ปีหน้าจะขึ้นเลข 7 ซึ่งถือว่าแก่มาก แต่สายเลือดการลงทุนมีอยู่ในดีเอ็นเอ ทำให้ตนดูอายุเพียง 40-50 ปี เราไม่สามารถนำเลขอายุให้กลับมาได้ แต่สามารถลดอายุได้ด้วยการดูแลสุขภาพ ออกกำลัง อยากบอกว่า ความสุขที่สุดคือ การได้อยู่บ้านคือสิ่งดีที่สุด และสุขภาพคือทุกสิ่ง เงินไม่ใช่ทุกสิ่งแต่ก็เป็นเกือบทั้งหมด แต่ถ้ามีทั้งเงินและสุขภาพ เราก็จะมีทุกอย่าง วันนี้ตนมีความสุขมากที่อยู่ท่ามกลางญาติและลูกๆ ถือเป็นคืนที่มีความสุข ที่สุดในชีวิตคืนหนึ่ง,ซัดรัฐทหารกระโปรงลายพราง,นายทักษิณกล่าวว่า วันนี้มีทั้งนักการเมืองนัก ข่าวบีบีซีไทย จะขอพูดเรื่องการเมืองสักหน่อยตนไม่ได้สนใจสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะเริ่มต้นจากการรัฐประหาร มีรัฐบาลทหารที่สวมกระโปรงลายพราง ทำตัวไม่เป็นสุภาพบุรุษ มีความพยายามถ่วงการเลือกตั้ง เรื่องนี้ตนนั่งดูและหัวเราะอยู่ไกลๆ ยิ่งเขาอยู่นานเท่าไหร่ ประชาชนจะยิ่งไม่มีความสุข เพราะเขาไม่เข้าใจหัวใจประชาชน แต่เราเข้าใจประชาชน นั่งอยู่ในหัวใจประชาชนรู้ว่าต้องการและหวังอะไร ตอนนี้ประชาชนเริ่มไม่มั่นใจในอนาคตตัวเองเพราะค่าครองชีพสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่อนาคตในการกำหนดรายได้ไม่ได้อยู่ที่ประชาชน ทำให้พวกเขามองหาพรรคการเมืองที่จะแก้ปัญหาให้กับเขา ตนเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยคือสิ่งที่ตอบโจทย์สำหรับคนไทย และเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะได้ชัยชนะอย่างถล่มทลายมากกว่าแลนสไลด์ด้วยซ้ำ,เชิญร่วมงานแต่งลูกสาวล่วงหน้า,ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายทักษิณยังได้กล่าวแสดงความยินดีกับ น.ส.แพทองธาร บุตรสาวคนเล็กที่จะมีงานวิวาห์ในเดือน มี.ค.62 พร้อมเชิญชวนแขกในงานไปร่วมงาน แต่ยังไม่ระบุสถานที่ชัดเจน โดยนายทักษิณจะไปร่วมงานดังกล่าวด้วย ทั้งนี้หลังจากเสร็จสิ้นงานเลี้ยงวันเกิดที่ประเทศอังกฤษ นายทักษิณจะไปยังนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเดินทางต่อมายังทวีปเอเชีย สำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ขณะนี้สามารถปรับตัวกับการอยู่ต่างประเทศได้แล้ว โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์มีสุขภาพแข็งแรงดี ทุกๆ วันจะออก กำลังกาย และควบคุมอาหาร รักษารูปร่าง พร้อมขอความร่วมมืออดีต ส.ส.ที่มาเยี่ยมเยียนงดคุยการเมือง,นคร สาวไส้ขบวนการล้ม ทักษิณ,วันเดียวกัน นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ก่อนหน้านี้ตนเป็น ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ อยู่ฝ่ายตรงข้าม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หลังการเลือกตั้งปี 2544 รัฐบาลนายทักษิณ บริหารบ้านเมืองเก่งมากจึงยังชนะเลือกตั้ง ทั้งที่พวกเราและแนวร่วมฝ่ายอนุรักษนิยม มีความพร้อมและใช้วาทกรรมทำลายล้าง ร่วมกันขย้ำนายทักษิณให้ตายคามือ การสมคบคิดทำลายอำนาจประชาชนมีอยู่จริง ตนได้รับรู้จากเหตุการณ์จริง ฝ่ายเราพ่ายแพ้เพราะทำเพื่อนายทุน ขุนศึก และศักดินาอำมาตย์ ขอโทษท่านและน้องสาวท่าน ขออนุญาตมาร่วมอุดมการณ์นำพาประเทศข้ามพ้นความขัดแย้ง ยุคมืดของเผด็จการวันคล้ายวันเกิดครบ 69 ปี อย่าพึ่งเป็นอะไรไปเสียก่อนเชื่อว่าอีกไม่นาน ฝ่ายประชาธิปไตยและประชาชนจะเป็นฝ่ายชนะ,ลั่นพูดความจริงไม่กลัวโดนฟ้อง,นายนครให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้มีหลายพรรคทาบทามตนมา แต่ยังไม่ตัดสินใจต้องให้ปลดล็อกการเมืองก่อน ส่วนจะไปอยู่พรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น ยังไม่ถึงกับร้อยเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ขยับอะไรไม่ได้ แต่ได้มีการพูดคุยกันไว้บ้างในส่วนของเพื่อไทย เมื่อถามว่า โพสต์ข้อความรุนแรงไม่กลัวพรรคประชาธิปัตย์ออกมาด่าหรือ นายนครตอบว่า ไม่กลัว เพราะพูดความจริง ใครกล้าปฏิเสธให้มาบอกเลย ยืนยันได้หมดทุกเหตุการณ์ เมื่อถามย้ำว่า ข้อความที่โพสต์มีหลักฐานหรือไม่ และกลัวโดนฟ้องหรือไม่ นายนครตอบว่า ไม่กลัว ตนยืนยันในความจริง ใครจะอะไรตนพร้อมชน และรับผิดชอบทุกคำพูด เป้าหมายที่สำคัญคือต้องการสู้กับระบอบเผด็จการ ถ้าพูดกันแบบลูกทุ่ง ไม่มึงก็กูอยู่กันไม่ได้ไปข้างหนึ่ง และพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง,แฉพลังดูดไม่ขลังหัวจ่ายสะดุด,นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรที่กำลังทาบทามอดีต ส.ส.เข้าสังกัดอย่างต่อเนื่องว่า กลุ่มสามมิตรเป็นอีกกลุ่มที่เคลื่อนไหวสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้กลับมาเป็นนายกฯต่ออย่างชัดเจน เท่าที่ลองนับๆ ดูจนถึงขณะนี้มีพรรคหรือกลุ่มการเมืองประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์มากถึง 9 พรรคแล้ว เมื่อมีการเลือกตั้งจะทำให้คะแนนเป็นเบี้ยหัวแตก ไม่มีพรรคใดได้คะแนนเป็นกอบเป็นกำ ส่งผลให้ได้คะแนนในบัญชีรายชื่อน้อยลง เหตุนี้จึงยังไม่มีพรรคตัวจริง เพราะพล.อ.ประยุทธ์ไม่มั่นใจในอนาคตทางการเมืองของ ตัวเอง จึงยังไม่ประกาศชัดเจนว่าจะร่วมงานกับพรรคใด ที่สำคัญนโยบายแก้ไขปัญหาบ้านเมืองที่ผ่านมายังไม่ตอบโจทย์ประชาชน เกษตรกรจนลง ปัญหาทุจริตแก้ไม่ได้ ทำให้กลุ่มสามมิตรเริ่มเกิดความไม่มั่นใจ ลังเลว่าควรไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ หรือตั้งพรรคใหม่เอง จะเห็นว่าขณะนี้พลังดูดเริ่มไม่ขลัง เพราะจ่ายเงินไม่เต็มที่ พลังดูดก็เลยไม่เต็มที่ตามไปด้วย หาก พล.อ.ประยุทธ์มั่นใจผลโพลว่าจะได้กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง ขอแนะนำให้ประกาศตัวเลยว่าจะร่วมงานกับพรรคใด คะแนนเสียงจะได้ ไม่กระจายไปที่อื่น,ปชป.จี้ บิ๊กตู่ เปิดหน้าเล่นแมนๆ,นายอิสสระ สมชัย อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตร ว่า การออกมาปฏิเสธตั้งพรรคเอง หรือในอนาคตจะแยก หรือร่วมกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ปฏิเสธไปก็เท่านั้น พฤติกรรมแสดงออกมันชัดเจน ตำแหน่งเลขาฯกับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐก็คนใน ครม.ของรัฐบาลนี้ จริงอยู่ที่กลุ่มสามมิตรยังไม่ได้เป็นพรรคการเมือง แต่มีการเตรียมการนานแล้ว นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ไปที่ จ.อุบลราชธานีก็ยอมรับว่าคุยกับนักการเมืองจริง จากนั้นก็ให้สัมภาษณ์มั่นใจว่าหลายพรรคสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ให้เป็นนายกฯต่อ นายสนธิรัตน์เป็นคณะผู้ก่อการที่จะตั้งพรรค เดินหมากทางการเมืองมาตลอด ส่วนนายกฯจะรู้เห็นหรือไม่สังคมเป็นผู้พิจารณา แบบนี้ก็เหมือนเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง ปากบอกไม่ใช่ ไม่ชอบ ไม่ทำ แต่พฤติกรรมนั้นทำ ตั้งพรรคได้ก็ดี แนะนำว่าหากมีคนถามก็อย่าปฏิเสธเลย วันนี้บอกไม่ทำ แต่ถ้าตอนหลังเกิดทำขึ้นมาแล้วคุณไม่อายเขาเหรอ,เชื่อ ทักษิณ ไม่กล้ากลับมาเสี่ยงคุก,นายอิสสระกล่าวถึงความเคลื่อนไหวแกนนำพรรคเพื่อไทยที่บินไปอวยพรวันเกิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า หลายคนตั้งคำถามว่านายทักษิณเคลื่อนไหวเพื่ออะไร อยากกลับบ้านใช่หรือไม่ ซึ่งตนมองว่านายทักษิณไม่ใช่คนพร้อมที่จะกลับมาติดคุก ถ้ากลับมาต้องกลับมาต่อสู้คดี ล่าสุดมีหมายจับใบที่ 5 แล้ว บางคดีมีคนติดคุกล่วงหน้านายทักษิณไปแล้ว ถ้าวันนี้นายทักษิณจะกลับมาประเทศไทยเพราะเหตุอะไร ถ้าออกกฎหมายนิรโทษกรรมก็ซ้ำรอยเดิมตอนประชาชนออกมาต้าน ถามว่าประชาชนจะรับได้หรือไม่ เชื่อว่านายทักษิณคงไม่กลับมา ประเทศไทยแล้ว เพราะถ้ากลับมาต้องขึ้นศาลหลายคดี จะติดคุกหรือไม่ก็อีกเรื่อง แต่นายทักษิณคงไม่อยากเสี่ยง,มทภ.2 ชี้การเมืองอีสานนิ่ง,พล.ท.ธรากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 (กกล.รส.ทภ.2) กล่าวถึงการติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวทางการเมืองในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงนี้ ว่า การเคลื่อนไหวเป็นเรื่องปกติ นักการเมืองในพื้นที่ต้องไปพบปะทุกฝ่ายกันอยู่แล้ว เพราะทุกคนก็เป็นคนไทยด้วยกัน มีความรักความสามัคคี และอยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าไปได้ ส่วนการเคลื่อนไหวดูด ส.ส. ในพื้นที่ภาคอีสานนั้น คิดว่านักการเมืองทุกคนรู้จักคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เป็นพี่เป็นน้องกัน ดังนั้นจึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ไม่รุนแรง และไม่มีกลุ่มใต้ดินเคลื่อนไหวแล้ว ขณะเดียวกันคิดว่านักการเมืองในพื้นที่พวกเขาก็ต้องเตรียมการเลือกตั้ง และทุกฝ่ายต้องปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมาย,ไฟเขียวเคลื่อนไหวพบปะ,เมื่อถามว่า จับตาการเคลื่อนไหวกลุ่มใดเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ท.ธรากรตอบว่า ยังไม่มี เพราะยังไม่ใกล้ช่วงเลือกตั้ง ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า กลุ่มสามมิตรออกมาเคลื่อนไหวดูด ส.ส. ฝ่ายทหารติดตามและตักเตือนหรือไม่ พล.ท.ธรากรตอบว่า ถ้าเขายังไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เราจะไปตักเตือนได้อย่างไร การออกมาเคลื่อนไหวพบปะพูดคุยนั้น คิดว่าเป็นเรื่องปกติ เขาก็ต้องทำ เพราะการไปพบปะ ไปเยี่ยมเยียนกัน จะไปกันกี่กลุ่ม จะไปกันกี่คน ก็ทำได้ทั้งนั้น เพราะไม่ผิดกฎหมาย แต่ขอว่าอย่าทำอะไรที่ผิดและละเมิดกฎหมายเลย ก็เท่านั้นเอง ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าบิ๊กทหารในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ไปดูด ส.ส. ในภาคอีสานนั้น ขอถามว่าทหารจะไปดูดอะไรใครได้ ดูดไม่ได้หรอก เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องจิตใจของหลายๆ ฝ่าย เพียงแต่ในพื้นที่พวกเราก็มักจะเจอนักการเมืองเป็นประจำอยู่แล้ว ทั้งงานวัด งานสำคัญต่างๆก็มักจะเจอหน้ากันอยู่แล้ว ทักทายกันตามปกติอยู่แล้ว,เลขาฯวุฒิยันเลือก ปธ.กกต.ได้,นายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่นายเจษฎ์ โทณวณิก ที่ปรึกษา กรธ. ระบุว่าการเลือกประธาน กกต.วันที่ 31 ก.ค. อาจผิดมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. เพราะยังคัดเลือกไม่ครบ 7 คน ว่าที่ผ่านมาทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มองประเด็นในมาตรา 12 ตรงกัน ไม่มีใครทักท้วง โดยยืนยันว่าถ้าได้ กกต. 5 จาก 7 คน สามารถดำเนินการเลือกประธาน กกต. ได้เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทูลเกล้าฯก่อนปฏิบัติหน้าที่ ไม่ต้องรออีก 2 คน เพราะตามกฎหมายประธาน กกต. มีอำนาจหน้าที่เฉพาะตัวที่กรรมการ กกต.ไม่มี หากไม่สามารถเลือกได้อาจเกิดปัญหาต่อการปฏิบัติหน้าที่ สำนักงานเลขาฯ ก็วางแผนงานตามขั้นตอนของกฎหมายจึงทำให้มีขั้นตอนการเลือกประธาน กกต.ในวันที่ 31 ก.ค. คงต้องดำเนินไปตามแผนงานจนกว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง หากยังมีประเด็นข้อกฎหมายใดที่ยังไม่ชัดเจน เห็นควรจะหาข้อยุติก่อนหรือไม่ ซึ่งจะอยู่ที่ กกต. 5 คนจะตกลงกัน เพราะสำนักงานเลขาฯไม่มีอำนาจตัดสินใจ,วิษณุ คลำทางออกไพรมารี,นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีมอบหมายสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ยกร่างแก้ไขคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ว่า นอกจากแนวทางการทำไพรมารีโหวตแล้ว เรื่องอื่นไม่มีอะไรคืบหน้า ทั้งหมดมันนิ่งหมดแล้ว ขณะนี้เราฟังอยู่ว่าใครแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้อย่างไร เมื่อถามว่าการแก้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เกี่ยวกับการจัดทำไพรมารีโหวต ที่ สนช.เป็นผู้เขียน ได้ฟังความคิดเห็น สนช.แล้วหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ก่อนการหารือกับพรรคการเมืองได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือ เชิญประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมืองมาด้วย ถือว่า สนช.ได้ให้ความเห็นแล้ว และตั้งแต่การหารือกับพรรคการเมือง เมื่อมีการรายงานนายกฯแล้ว ท่านก็ไม่ได้สอบถามอะไรเพิ่มเติม เพราะเข้าใจชัดเจนว่ามีประเด็นติดค้างแค่เรื่องไพรมารีโหวต,ปลื้มไทยติดอันดับนวัตกรรมโลก,เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาว่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมารัฐบาล และ คสช.ได้ดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาในอดีตและวางรากฐานการพัฒนาประเทศก้าวข้ามกับดักไปข้างหน้า สามารถสร้างความเชื่อมั่นจากประชาคมโลก อาทิ เรื่องการบินพลเรือน (ICAO) การประมงที่ถูกต้องตามหลักสากล (IUU) และสถานการณ์ค้ามนุษย์ที่อยู่ในระดับที่ดีขึ้น (TIP report) ล่าสุดองค์การทรัพย์สินทางปัญญาแห่งโลก (WIPO) ได้ประเมินผลดัชนีนวัตกรรมโลกประจำปี 2561 โดยประเทศไทยดีขึ้นถึง 7 อันดับจากอันดับที่ 51 มาเป็นอันดับที่ 44 ในปีนี้จากทั้งหมด 126 ประเทศทั่วโลก และยังถูกจัดให้เป็นผู้นำด้านการส่งออกสินค้าสร้างสรรค์ สินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง การจดทะเบียนอนุสิทธิบัตร ที่สำคัญเป็น 1 ใน 20 ประเทศที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาด้านนวัตกรรม ถือเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่สากลให้การยอมรับประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศมากขึ้น,แปลกใจอีสานใต้ค่าจีดีพีต่ำ,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การเดินทางไปตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ที่ จ.อุบลราชธานี-อำนาจเจริญ เพื่อติดตามประเมินผลการขับเคลื่อนในระดับปฏิบัติและรับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชน ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น แต่ที่แปลกใจคือกลุ่มจังหวัดเหล่านี้มีผลผลิตที่หลากหลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมแปรรูปทางการเกษตรของภาคอีสาน แต่ทำไมยังมีผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัวต่ำที่สุดในประเทศ คงเป็นเพราะยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ เนื่องจากโครงการพัฒนาต่างๆในอดีต ไม่กระจายมาถึงและไม่มียุทธศาสตร์ที่ต่อเนื่อง ทั้งนี้ ครม.เสนอโครงการที่เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติมีความจำเป็นเร่งด่วนอาทิ ระบบโลจิสติกส์ ทั้งทางถนน ทางราง ทางอากาศ เพื่อการท่องเที่ยวและเชื่อมโยงการค้าชายแดน การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร แก้ไขปัญหาอุทกภัย ยกระดับการผลิต และสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร,ชวนคนไทยรักษาศีลงดสุรา,พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เชิญชวนพุทธศาสนิกชนทำบุญ รักษาศีล ฟังธรรม ละเว้นจากอบายมุขเนื่องในโอกาสวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา อบรมสั่งสอนลูกหลานให้เรียนรู้พระธรรมคำสั่งสอนและแนวทางการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องเพื่อให้เกิดความสุขที่แท้จริง อยากให้ใช้โอกาสนี้งดดื่มสุราตลอดห้วงเวลา 3 เดือนหรือตลอดชีวิตจะถือเป็นมหากุศล หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ขอให้ดื่มอย่างมีสติ รวมถึงการงดสูบบุหรี่ เชื่อว่าถ้าทุกคนทำได้ชีวิตดีขึ้น ช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยมีเหตุการณ์วิกฤติเกิดขึ้นหลายอย่าง แต่เพราะความร่วมมือร่วมใจ เห็นอกเห็นใจกัน จึงช่วยให้คลี่คลายไปในทางที่ดี อยากให้ทุกคนร่วมกันอธิษฐานให้เหตุการณ์น้ำท่วมใน สปป.ลาวผ่านไปได้ด้วยดีโดยเร็ว ช่วงวันหยุดยาว 4 วัน นายกฯขอให้ผู้ที่เดินทางไปทำบุญหรือพักผ่อนกับครอบครัวใช้ความระมัดระวังในการขับรถให้ปลอดภัยและมีความสุข พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายช่วยอำนวยความสะดวกดูแลอย่างเต็มที่ | แห่เบิร์ธเดย์ ทักษิณ กลางกรุงลอนดอน ลูกหลาน เครือญาติ แกนนำ-อดีต ส.ส.เพื่อไทย ตบเท้ากว่า 100 ชีวิต ประดิษฐ์ เด็กเก่า ปชป.ดอดหารือจ่อร่วมหอลงโรง พท. ทักษิณ ยันฟิตปั๋งแข็งแรงเหมือนอายุ30 | เลือกตั้ง | ทักษิณ ชินวัตร,กระโปรงลายพราง,เลือกตั้ง,ไพรมารีโหวต,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/news/politic/1343154 |
คค.คุมเข้มตรวจสอบการเดินทาง ขอปชช.ไปสนามบินล่วงหน้า 3 ชม. | กระทรวงคมนาคม แนะนำประชาชนที่จะเดินทางตั้งแต่ช่วงนี้ถึงหลังเทศกาลสงกรานต์ให้เผื่อเวลาเดินทางล่างหน้า 3 ชั่วโมง เนื่องจากสนามบินทุกแห่งจะเพิ่มความเข้มงวดในระบบรักษาความปลอดภัย ประชาชนอาจไม่ได้รับความสะดวกในบางช่วง และเกิดความล่าช้า เนื่องจากขั้นตอนตรวจสอบที่ละเอียดมากขึ้น โดยเฉพาะการตรวจรถยนต์ผ่านเข้าออก ขณะที่รถยนต์ที่จอดทิ้งอยู่ภายในสนามบินนานกว่า 2 ชั่วโมง และค้างคืน จะถูกเฝ้าระวังเป็นเป็นพิเศษด้าน บริษัท ขนส่งจำกัด จะหารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงบ่ายวันนี้ (3 เม.ย.) เพื่อวางแผนรับมือการเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ของผู้โดยสารในช่วงนี้ ไปจนถึงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเมื่อวานนี้ (2 เม.ย.) นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กำชับให้เฝ้าระวังสถานีขนส่งเนื่องจากเป็นพื้นที่เปิด และขอให้มีเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหากเห็นว่าจำเป็น พร้อมระบุว่านายกรัฐมนตรี สั่งกระทรวงคมนาคมให้เข้มงวดในมาตรการรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะสถานที่สาธารณะ ส่วนสถานการณ์ความไม่สงบขณะนี้ ได้ประเมินร่วมกับฝ่ายความมั่นคงแล้วเห็นว่าเริ่มคลี่คลายมากขึ้น แต่ยังต้องอยู่ในช่วงเฝ้าระวังขณะที่ นายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ให้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก ตรวจสอบรถต้องสงสัยที่อาจถูกนำไปใช้ก่อเหตุความไม่สงบ ซึ่งเบื้องต้นกรมการขนส่งทางบกยืนยันว่า สามารถตรวจสอบข้อมูลจากได้หากรถคันใดเข้าข่ายต้องสงสัยแม้รถคันนั้นจะใช้ทะเบียนปลอม ขณะเดียวกันในระยะยาว ยังมีแนวทางคิดค้นวิธีล็อกแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ไม่ได้ถูกถอดออกได้จนกว่าจะมีเจ้าหน้าที่กรมขนส่งทางบกเป็นฝ่ายถอดทะเบียนให้ เพื่อป้องกันคนร้ายนำสับเปลี่ยนป้ายทะเบียนปลอม | กระทรวงคมนาคม แจ้งให้ประชาชนที่ใช้บริการสนามบินทุกแห่งทั่วประเทศขณะนี้ ให้เผื่อเวลาเดินทางอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เนื่องจากสนามบินทุกแห่งจะใช้เวลาตรวจสอบรถยนต์ พร้อมสั่งกรมการขนส่งทางบกจับตาข้อมูลรถต้องสงสัยที่อาจถูกนำไปใช้ก่อเหตุความไม่สงบ | สังคม | กระทรวงคมนาคม,ตรวจสอบ,รถต้องสงสัย,รถยนต์,สนามบิน | https://news.thaipbs.or.th/content/77023 |
แก๊งปาร์ตี้บางบัวทอง 5 คน ยืนยันปฏิเสธทุกข้อหา ขอชี้แจงกับสื่อฯ | (แฟ้มภาพ),ยังมั่นใจ ไม่ได้ทำผิด เผย 5 ผู้ต้องหาแก๊งปาร์ตี้บ้านบางบัวทอง ยืนยันปฏิเสธทุกข้อหา พร้อมต้องการชี้แจงกับสื่อมวลชนด้วยตัวเอง ก่อนนำตัวฝากขัง ขณะที่ตำรวจเตรียมค้านประกัน เหตุคดีโทษสูง,เวลา 10.30 น. วันที่ 18 ต.ค. ที่ สน.บุคคโล พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พร้อม พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รอง ผบก.น.8 เดินทางมาร่วมสอบปากคำ นายชัยพล หรือคิว พรรณา อายุ 29 ปี นายนที หรือตี๋ สถิตพงษ์สถาพร อายุ 33 ปี พี่ชายนายคิว น.ส.พิกุลทอง หรือเฟิร์ส บุญตา อายุ 24 ปี แฟนสาวนายคิว นายโกเมศ หรือปิงปอง ฤทธิ์นิธิฤกษ์ อายุ 35 ปี และ นายกฤษฎา หรือโนบิตะ โลหิตดี อายุ 27 ปี กรณีปาร์ตี้บ้านบางบัวทอง มีผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง กระทำอนาจาร และต่อมามีผู้ที่ไปร่วมในปาร์ตี้ คือ พริตตี้สาว ลันลาเบล เสียชีวิต ,ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ถูกศาลอาญาธนบุรี อนุมัติหมายจับ ในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิด ฐานพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใดๆ, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุ 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยที่บุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง หรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย ซึ่งทั้ง 5 คนถูกฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.8 และ สน.บุคคโล จับกุมตัวเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 5 คนให้การปฏิเสธ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมพนักงานสอบสวน ได้แยกตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย สอบคนละห้องกัน โดยผู้ต้องหาทุกรายแม้จะให้การปฏิเสธ แต่มีความประสงค์จะชี้แจงกับสื่อมวลชน ซึ่งขณะนี้ทางผู้บังคับบัญชากำลังพิจารณาว่า จะทำการแถลงข่าวและเปิดโอกาสให้ผู้ต้องหาชี้แจงต่อสังคมหรือไม่ หากมีการแถลงข่าว,คาดว่าเวลา 14.00 น. วันนี้จะคุมตัวทั้ง 5 รายไปแถลงข่าวที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จากนั้นจะมีการทำบันทึกจับกุม และบันทึกการสอบสวน เพื่อส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 ฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรีทันที โดยพนักงานสอบสวนจะแนบคำร้องขอคัดค้านการให้ประกันตัวต่อศาลด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงหากปล่อยตัวไป เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุร้ายประการอื่น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลจะพิจารณาอย่างไร | ยังมั่นใจ ไม่ได้ทำผิด เผย 5 ผู้ต้องหาแก๊งปาร์ตี้บ้านบางบัวทอง ยืนยันปฏิเสธทุกข้อหา พร้อมต้องการชี้แจงกับสื่อมวลชนด้วยตัวเอง ก่อนนำตัวฝากขัง ขณะที่ตำรวจเตรียมค้านประกัน เหตุคดีโทษสูง | ข่าว,อาชญากรรม | ลันลาเบล,ลัลลาเบล,ข่าวลัลลาเบล,แก๊งปาร์ตี้บางบัวทอง,น้ำอุ่น,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1685015 |
ส้มเดกาปอง ปลูกเก็บผลขายราคาดี | ส้มชนิดนี้ มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมจากประเทศญี่ปุ่น เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างส้มแมนดาริน กับส้มเขียวหวาน แต่ไม่ได้บอกว่าผสมพันธุ์ด้วยวิธีใด และชื่อของส้มที่นำไปผสมพันธุ์กันชื่อพันธุ์อะไร จากนั้นเกษตรกรชาวญี่ปุ่นได้ทำการปรับปรุงพันธุ์ด้วยการนำเอาต้นกล้าที่เพาะได้ไปปลูกเลี้ยงจนต้นโต มีดอกและติดผลอยู่เป็นเวลานานและหลากหลายวิธี แล้วนำเอาต้นกล้าที่คัดสรรดีที่สุดไปปลูกเลี้ยงจนต้นโตมีดอกและติดผล ปรากฏว่าผลมีขนาดใหญ่มาก น้ำหนักเฉลี่ยระหว่าง 1 กิโลกรัมต่อผล ผิวของผลแปลกเหมือนกับผิวผลมะกรูด บวกกับผิวผลน้อยหน่า แต่เปลือกผลจะแกะง่าย เนื้อในรสชาติหวานจัดวัดความหวานได้มากกว่า 13 องศาบริกซ์ รับประทาน อร่อยมาก เชื่อว่าเป็นส้มกลายพันธุ์แบบถาวรแล้วแน่นอน จึงตั้งชื่อว่า ส้มเดกาปอง ดังกล่าว พร้อมนำเอาผลออกวางขายครั้งแรกที่เมือง นางาซากิ ประมาณปี พ.ศ.2515 ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อไปรับประทานอย่างแพร่หลาย และได้กระจายพันธุ์ปลูกไปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย,ส้มเดกาปอง มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เป็นไม้พุ่ม ต้นสูงประมาณ 3-5 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับรูปรีกว้าง ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบ กลีบดอกเป็นสีขาวมีกลิ่นหอมเย็นเช่นเดียวกับดอกส้มทั่วไป ผล รูปทรงกลมมีจุกบริเวณหัวของผล ผิวผลแปลกตามที่กล่าวข้างต้น เปลือกผลบางและสามารถแกะเปลือกได้ง่าย เนื้อในเป็นสีเหลืองอมส้ม รสชาติหวานจัดไม่มีรสเปรี้ยวเจือปนเลย มีเมล็ดไม่มากนัก ได้รับการขนานนามว่า เป็นส้มที่รับประทานเนื้อในอร่อยที่สุดในโลก มีดอกและติดผลตามฤดูกาลปีละครั้ง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง และเสียบยอด ปลูกได้ในดินทั่วไปและทุกพื้นที่ของประเทศไทย,มีกิ่งตอนหรือต้นพันธุ์แท้ขายเพียงที่เดียวคือ ติดต่อ สวนณัฐพนธ์ฟาร์ม บ้านเลขที่ 48/4 หมู่ 7 ต.โคกไม้ลาย อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี โทร. 08–6383–3061, 08–6348–2347, 09–5593–2468 เหมาะจะปลูกเพื่อเก็บผลกินในครัวเรือนและเก็บผลขายได้ราคาดี และสุดคุ้มมาก นอกจาก ส้มเดกาปอง แล้วยังมีไม้ผลแปลกๆจำหน่ายด้วย ราคาสอบถามกันเองครับ.,นายเกษตร | ส้มเดกาปอง มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เป็นไม้พุ่ม ต้นสูงประมาณ 3-5 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับรูปรีกว้าง ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบ กลีบดอกเป็นสีขาวมีกลิ่นหอมเย็นเช่นเดียวกับดอกส้มทั่วไป | ข่าว,ทั่วไทย | ส้มเดกาปอง,พันธุ์ส้ม,ส้มเขียวหวาน,เกษตรกรบนแผ่นกระดาษ,นายเกษตร,เกษตร | https://www.thairath.co.th/news/local/1408820 |
เปิดวิธีลงทะเบียน เราไม่ทิ้งกัน เพียงไม่กี่ขั้นตอน แล้วรอรับเงิน 5000 | เปิดขั้นตอน ลงทะเบียน เว็บไซต์เราไม่ทิ้งกัน รับเงิน 5000 บาท เพื่อเยียวยาจากผลกระทบเชื้อไวรัส โควิด-19 ระบาดเริ่มแล้ววันแรก เปิดให้แรงงาน ลูกจ้าง ผู้ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัส โควิด-19 ได้ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com รับเงิน 5000 เพื่อเยียวยาสนับสนุนต่อเนื่อง 3 เดือน โดยไม่มีกำหนดเวลาปิด จะเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง1. เข้าเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.comแล้วคลิกคำว่า ลงทะเบียนมาตรการชดเชยรายได้2. จากนั้นจะเป็นรายละเอียดข้อความตกลงยินยอม ให้คลิกเครื่องหมายถูกที่ ตกลงและยอมรับตามเงื่อนไข แล้วกด ยืนยัน3. กรอกข้อมูลผู้ลงทะเบียน ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ Email รายได้ต่อเดือน และหมายเลขโทรศัพท์มือถือคนใกล้ชิด4. เลือก ช่องทางที่ท่านประสงค์รับเงิน โดยจะมีให้เลือกระหว่าง5. กรอกข้อมูลที่อยู่ผู้ลงทะเบียนที่สามารถติดต่อได้6. กรอกข้อมูลการประกอบอาชีพ อาทิ อาชีพ/ตำแหน่ง ระยะเวลาการประกอบอาชีพ7. เลือกท่านเป็นผู้ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ในเรื่อง ดังต่อไปนี้8. โปรดเลือกข้อมูลที่ตรงกับท่านโปรดเลือกอาชีพของท่าน ระบุเลขใบอนุญาตใบขับขี่สาธารณะ และ สังกัด9. คลิกเครื่องหมายหน้าข้อความ 10. พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงอยู่ในภาพด้านซ้าย ใส่กล่องทางด้าน แล้วคลิกคำว่า ลงทะเบียน11. ระบบจะส่งเลขรหัส OTP ให้ผู้สมัครทางโทรศัพท์จำนวน 6 ตัว โดยให้นำเลขรหัส OTP กรอกลงช่องข้อมูลดังกล่าว แล้วกด ยืนยัน12. เมื่อเสร็จเรียบร้อย จะขึ้นข้อความว่า ระบบได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านเรียบร้อยแล้ว โปรดรอการแจ้งยืนยันผลการได้รับสิทธิ์ ตามมาตรการฯ ทาง SMS และ Email ที่ลงทะเบียนไว้. | เปิดขั้นตอน ลงทะเบียนเว็บไซต์เราไม่ทิ้งกัน รับเงิน 5000 บาท เพื่อเยียวยาจากผลกระทบเชื้อไวรัส โควิด-19 ระบาด | ข่าว,เศรษฐกิจ | เราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนรับเงิน 5000,www.เราไม่ทิ้งกัน.com,วิธีรับเงิน5000,โควิด-19,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1805919 |
เปรมชัย ดอดพบ ศรีวราห์หลังหายหน้า 25 วันรับทราบข้อหาล่าสัตว์ | วันนี้ (2 มี.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 12.25 น.หลังจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางถึงสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจสำนวนการสอบสวนคดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก ปรากฎว่านายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเว๊ลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คนได้เดินทางเข้าพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีล่าสัตว์ป่าแล้วซึ่งเป็นการเข้ามาพบพนักงานก่อนกำหนดนัดวันที่ 5 มี.ค.นี้ซึ่งการปรากฎตัวของนายเปรมชัย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 25 วันหลังจากวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมาได้ถูกควบคุมตัวไปที่ สภ.ทองผาภูมิ โดยก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อปากคำเพิ่ีมเติมได้พูดคุยกับพล.ต.อ.ศรีวราห์ ประมาณ 10 นาที โดยไม่ได้มีสีหน้าเคร่งเครียดจากนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยืนยันว่า นายเปรมชัย และพวกรับทราบข้อกล่าวหาในคดีล่าสัตว์ป่าแล้ว และหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบสำนวนคดีต่างๆว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ถ้าขัดแย้งก็สามารถเรียกมาสอบสอบเพิ่มเติมได้ ถ้าสอบถามแล้วก็ได้ปล่อยตัวนายเปรมชัย กลับบ้านไปพล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า นายเปรมชัย เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนก่อนกำหนดดังนั้นวันที่ 5 มี.ค. ก็ไม่จำเป็นต้องมาอีก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีประเด็นที่จะต้องสอบสวน แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เป็นเรื่องในสำนวน ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานที่ตำรวจรับผิดชอบ ได้ดำเนินการไปหมดแล้ว ที่เหลือเป็นส่วนอื่นคาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องให้พนักงานอัยการได้ไม่เกินฝากขังครั้งที่ 4 หรือก่อนวันที่ 26 มี.ค.นี้ต่อมาเวลา 14.16 น.นายเปรมชัย ได้เดินออกจาก สภ.ทองผาภูมิมาขึ้นรถส่วนตัวที่จอดรออยู่โดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กล่าวสั้นๆว่าเสร็จแล้วเหนื่อยมาก ตำรวจถามเยอะ จากนั้นขอตัวเดินทางกลับไปกินยาอ่านข่าวเพิ่มเติม | เปรมชัย และพวก เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีล่าสัตว์ทุ่งใหญ่ ก่อนกำหนด 5 มี.ค.นี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 25 วัน โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ บอกว่าเปรมชัย รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ปล่อยตัวกลับบ้าน | สิ่งแวดล้อม | ล่าสัตว์ป่า,เปรมชัย กรรณสูต,เสือดำ,อิตาเลียนไทย,ทุ่งใหญ่นเรศวร,ข่าวไทยพีบีเอส,กาญจนบุรี,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/270679 |
มาเลเซียยืนยันซากชิ้นส่วนเครื่องบินเป็นของโบอิ้ง 777 - พบอีกซากชิ้นส่วนโลหะ | วันนี้ (2 ส.ค.2558) นายเหลียว เตียง ไล่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมาเลเซีย เปิดเผยว่าซากชิ้นส่วนปีกเครื่องบินที่พบบนเกาะเรอูนิยงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (29 ก.ค.2558) ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินโบอิ้ง 777 จริง ซึ่งเครื่องบินดังกล่าวเป็นรุ่นเดียวกับเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลนส์ เที่ยวบินที่ MH370 กัวลาลัมเปอร์-ปักกิ่ง ซึ่งหายไปจากจอเรดาร์เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ข้อมูลดังกล่าวได้รับการยืนยันโดยเจ้าหน้าที่จากฝรั่งเศส คณะกรรมการความปลอดภัยทางการคมนาคมแห่งสหรัฐอเมริกา และบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินโบอิ้ง ร่วมกับคณะสืบสวนของมาเลเซีย ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมการบินพลเรือนมาเลเซีย และสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส ทั้งนี้ซากชิ้นส่วนปีกเครื่องบินโบอิ้ง 777 ที่พบได้ถูกลำเลียงไปถึงเมืองตูลูสของฝรั่งเศสแล้วเมื่อวานนี้ โดยคณะสืบสวนมีกำหนดจะเริ่มทำการตรวจสอบชิ้นส่วนดังกล่าวในวันพุธนี้ (5 ส.ค.2558) ขณะที่กรมการบินพลเรือนมาเลเซียได้ขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานการบินของประเทศต่างๆ ในมหาสมุทรอินเดีย เพื่อร่วมสังเกตการณ์ว่ามีการพบวัตถุคล้ายซากเครื่องบินเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อช่วยในการไขปริศนาการหายสาบสูญไปของเที่ยวบิน MH370ล่าสุด มีรายงานว่ามีการพบซากชิ้นส่วนโลหะเพิ่มเติมอีกหลายชิ้นบนเกาะรีอูนิยง สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าได้พบซากชิ้นส่วนที่ลักษณะคล้ายประตูเครื่องบินบริเวณชายหาดของเมืองเซนต์เดนิสของเกาะรีอูนิยง โดยชิ้นส่วนดังกล่าวมีร่องรอยการสลักสัญลักษณ์ที่ชิ้นส่วนโลหะด้วย โดยเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าวัตถุที่พบล่าสุดเป็นส่วนประกอบของเครื่องบินหรือมีความเกี่ยวข้องกับเที่ยวบิน MH370 ที่สูญหายไปหรือไม่ | เจ้าหน้าที่คณะสืบสวนยืนยันซากชิ้นส่วนปีกเครื่องบินที่พบเป็นของเครื่องบินโบอิ้ง 777 จริง แต่ยังรอการตรวจสอบกลางสัปดาห์นี้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สที่หายสาบสูญไปหรือไม่ ขณะที่ทางการมาเลเซียประสานงานประเทศในมหาสมุทรอินเดียร่วมสังเกตการณ์การพบซากวัตถุเพิ่มเติม | ต่างประเทศ | thaipbs,Thaipbsnew,ข่าว19.00,ข่าวต่างประเทศ,ชิ้นส่วนMH370,ชิ้นส่วนเครื่องบิน,มหาสมุทรอินเดีย,มาเลเซีย,มาเลเซียแอร์ไลน์ส,เกาะรีอูนิยง,เที่ยวบิน MH370 | https://news.thaipbs.or.th/content/4058 |
นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของผู้กำกับสุดอาร์ต เต๋อ นวพล | นึกว่ากำลังดูหนังรักโรแมนติคปนเศร้าซะอีก เพราะใครจะรู้ว่าภาพตรงหน้าไม่ได้มาจากหนังเรื่องใหม่ของผู้กำกับสุดอาร์ต เต๋อ นวพล แต่เป็นภาพสดๆ ที่มองออกมาจากหน้าต่างบานกว้างของแกลเลอรี่ศิลปะ ที่ผู้กำกับหนุ่มแทนให้เป็นจอหนัง และให้ผู้ชมนิทรรศการฟังเสียงบรรยายบทที่เขียนขึ้นมาตามความรู้สึก อย่างกำแพงสีขาวที่ด้านในมีต้นไม้มากมาย แท้จริงไม่ใช่บ้านของนางเอกตามบท แต่ว่าเป็นกำแพงของสถานทูตเดนมาร์ก ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแกลเลอรี่พอดีนิสัยชอบเฝ้าสังเกตผู้คนและสิ่งรอบตัว ที่นำมาเป็นไอเดียทำหนังได้ทุกเมื่อ เป็นลายเซ็นที่ทำให้ผลงานภาพยนตร์ของเต๋อ เป็นเอกลักษณ์ ถ่ายทอดผ่านนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรก I Write You A Lot ใช้ศาสตร์การเขียนบทมาปรับเป็นศิลปะแสดงสดได้อยากลงตัว เพราะหลังจากเขียนสคริปต์แล้ว ก็จะปริ้นต์บทออกมาจัดแสดงเป็นส่วนหนึ่งของงาน ทำให้นิทรรศการของ เต๋อ นวพล มีเรื่องเล่าไม่ซ้ำตลอด 8 สัปดาห์ที่จัดแสดงที่มาของชื่อนิทรรศการ I Write You A Lot หรือ ผมเขียนคุณขึ้นมา ยังต้องการนำเสนอว่าแต่ละคนล้วนมีชุดความจริงที่ไม่เหมือนกัน สื่อผ่านภาพถ่ายคนแปลกหน้าจากสถานที่ต่างๆ ที่ เต๋อ นวพล ถ่ายเองและเขียนบทประกอบในมุมมองส่วนตัว อย่างภาพผู้ชายเอียงคอที่ผู้กำกับหนุ่มเขียนบทว่าเขากำลังปวดคอ หรือภาพชายชาวเกาหลีที่กำลังเท้าเอวรอสัญญาณไฟจราจร ก็เขียนบทให้เขากำลังออกกำลังยืดเส้นยืดสาย ซึ่งทุกมุมมองของผู้กำกับหนุ่มอาจไม่ใช่แบบเดียวกับทุกคนที่มีชุดความคิดต่างกันการติดตั้งภาพถ่ายในรูปแบบ LightBox ที่ดูเหมือนโปสเตอร์หนังตามโรงภาพยนตร์ รวมถึงภาพถ่ายส่วนใหญ่ยังมาจากช่วงเวลาขณะไปเทศกาลหนังในต่างประเทศทั้งเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และโรมาเนีย บอกได้ว่าโลกของหนังมีอิทธิพลต่อชีวิตผู้กำกับหนุ่ม นิทรรศการ I Write You A Lot จัดแสดงถึงวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ที่บางกอก ซิตี้ ซิตี้ แกลเลอรี่ สาทร ซอย 1 | สมกับเป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของ เต๋อ นวพล ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้กำกับสุดอินดี้ที่งานแต่ละชิ้นชวนคิดได้หลากหลาย ซึ่งมองไปทางไหนแฝงด้วยเรื่องของภาพยนตร์ในนิทรรศการ I Write You A Lot | ศิลปะ-บันเทิง | ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,นิทรรศการเดี่ยว,ผู้กำกับ,เต๋อ นวพล,นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ | https://news.thaipbs.or.th/content/253308 |
10 ปีงบฯ กลาโหม จาก 2549-2559 เพิ่มกว่า 100 เปอร์เซนต์ | การร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนและสหพันธรัฐรัสเซียของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2559 ถูกตั้งคำถามว่ามีนัยยะสำคัญต่อการจัดซื้อรถถังจากประเทศนี้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้เพียง 3 เดือน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงก็เดินทางไปรัสเซียด้วยเช่นกันแม้ในเว็บไซด์ของทำเนียบรัฐบาลจะประกาศว่า การเดินทางครั้งนี้เป็นเพียงการกระชับความสัมพันธ์ แต่ก็มีวาระสร้างความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาความมั่นคงรูปแบบใหม่งบประมาณจัดซื้อรถถังถูกบรรจุไว้ในงบของกองทัพบกเป็นงบผูกพัน 3 ปี วงเงินกว่า 9000 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อรถถังทดแทนของที่ใช้มานานกว่า 50 ปีรศ.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิ์รักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันความมั่นคงและนานาชาติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยระบุว่าหากรัฐบาลตัดสินใจให้กองทัพบกซื้อรถถังจากรัสเซียต้องดูรายละเอียดอย่างอื่น ไม่เพียงแค่ความชอบพอกับรัฐบาลทหารเท่านั้นตอนนี้รัสเซียเป็นที่ยอมรับในการใช้อาวุธ เทคโนโลยีของเขาไม่เป็นรองใครแม้กระทั่งสหรัฐฯ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าไปซื้ออะไรมา เช่น รถถังของรัสเซียได้รับการยอมรับ แต่ในอดีตเราใช้รถถังในระบบอเมริกัน ถ้าจะเปลี่ยนไปใช้ของรัสเซียก็เป็นไปได้อยู่ แต่ต้องระวังให้มีความโปร่งใสในการจัดซื้อ และซื้อของที่คุ้มค่า มีคุณภาพและใช้ร่วมกันได้กับอาวุธอื่นๆ ที่เรามีอยู่ และต้องระวังไม่ให้จุดยืนทางการเมืองเป็นตัวชี้นำ เช่น ทางฝั่งตะวันตกไม่ชอบเราขึ้นมา เราก็เลยไปซื้อของที่ด้อยคุณภาพกว่ามาจากฝั่งประเทศที่คุยกับเราได้ ต้องระวังตรงนี้ รศ.ฐิตินันท์กล่าวกว่าสองปีของการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 งบประมาณการจัดซื้อยุทโธปกรณ์เป็นประเด็นหนึ่งที่ถูกจับตาหลังการแปรญัตติงบประมาณปี 2559 แม้หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณมากที่สุดจะยังเป็นกระทรวงศึกษาธิการซึ่งได้รับงบประมาณ 500000 ล้านบาท แต่กระทรวงกลาโหมก็เป็น 1 ใน 5 หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณสูงเป็นอันดับ 4 โดยได้รับงบ 207000 ล้านบาท รองจากงบกลางและกระทรวงมหาดไทยน่าสังเกตว่า ปี 2559 กระทรวงกลาโหมได้รับงบประมาณสูงกว่าปี 2558 ถึง 14000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 7.3 ในจำนวนนี้ กองทัพบกได้รับงบประมาณสูงถึง 102000 ล้านบาท โดยกองทัพบกมีแผนใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างความปรองดองสมานฉันท์และเสริมสร้างระบบป้องกันประเทศหากมองย้อนไปเมื่อปี 2549 ก่อนการยึดอำนาจจากรัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร กระทรวงกลาโหมได้รับงบประมาณเพียง 85000 ล้านบาท หลังจากนั้นงบประมาณกระทรวงนี้ก็เพิ่มขึ้นกว่า 120000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 100 เปอร์เซ็นต์นักวิชาการด้านความมั่นคงอธิบายว่า การเพิ่มขึ้นของงบประมาณมีความเป็นเหตุเป็นผลทั้งเรื่องความมั่นคงในภูมิภาคและการปลดประจำการของอาวุธกระทรวงกลาโหมยังมีแผนจะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์อีกหลายประเภท เฮลิคอปเตอร์ เครื่องบินลำเลียง เครื่องบินฝึกและโจมตี ก็อยู่ในแผนที่เตียมจะจัดซื้อ แต่ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุด คือแผนจะซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ด้วยวงเงิน 36000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งงบประมาณศึกษาความเป็นไปได้แล้วกว่า 200 ล้านบาท | งบประมาณสำหรับการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกระทรวงกลาโหมถูกวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง หลังการเดินทางเยือนรัสเซียของนายกรัฐมนตรีเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 2559 ซึ่งมีผู้ตั้งคำถามว่าเป็นการเดินทางเพื่อเจรจาจัดซื้อรถถังทดแทนรุ่นเดิมด้วยวงเงิน 9000 ล้านบาทหรือไม่ | การเมือง | หทัยรัตน์ พหลทัพ,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,งบกลาโหม,งบประมาณ,รัฐประหาร,คสช.,ซื้ออาวุธ,รถถัง,เรือดำน้ำ | https://news.thaipbs.or.th/content/252635 |
รู้หรือไม่? เจาะ 10 ข้อพระเมรุมาศ สถานที่ประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลิง | ไม่กี่วันมานี้ ได้ยินข่าวว่าที่สนามหลวงกำลังปรับพื้นที่ใหม่ ทั้งด้านฝั่งเหนือและฝั่งใต้ มีการปรับพื้นดิน ลาดยาง และย้ายเต็นท์แจกอาหารให้ไปอยู่ในโซนเดียวกันอย่างเป็นระเบียบ เพื่อจัดพื้นที่ให้พร้อมสำหรับการก่อสร้างพระเมรุมาศ สำหรับใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ,พระเมรุมาศ จะมีการก่อสร้างในช่วงต้นปีหน้า รวมถึงอาคารรายล้อมอื่นๆ อีกหลายอาคาร วันนี้ ,ไทยรัฐออนไลน์, เลยขอพาคุณทราบถึงความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพระเมรุมาศ และอัพเดตความคืบหน้าล่าสุด ในการเตรียมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,ใครยังไม่เคยรู้มาก่อน เชิญตามมาอ่านที่นี่,1. พระเมรุมาศ สร้างสำหรับราชวงศ์ชั้นสูง,พระเมรุมาศ เป็นสถานที่ที่ใช้ประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระมหากษัตริย์ พระอัครมเหสี พระบรมราชินี พระราชชนนี พระบวรราชเจ้า พระยุพราช และสำหรับการสิ้นของราชวงศ์ชั้นสูงที่ใช้ราชาศัพท์ว่า สวรรคต (ส่วนพระเมรุ เช่นเดียวกับพระเมรุมาศ แต่มีขนาดเล็กลง ใช้สำหรับราชวงศ์ที่ทรงฐานานุศักดิ์ใช้ราชาศัพท์ว่า ทิวงคต หรือ สิ้นพระชนม์),2. ตำนานเขาพระสุเมรุ,ว่ากันว่าพระเมรุมาศเปรียบเหมือน เขาพระสุเมรุ ตามคติความเชื่อแบบพราหมณ์ เรื่อง เขาพระสุเมรุ ที่เชื่อกันว่า พระมหากษัตริย์ ทรงเป็นสมมติเทพที่เสด็จฯ ลงมายังโลก เมื่อสวรรคตก็มีการส่งเสด็จฯ กลับสู่เขาพระสุเมรุตามเดิม ทั้งนี้ เขาพระสุเมรุ เป็นขุนเขาใจกลางจักรวาล ตั้งอยู่เหนือผืนน้ำ 84,000 โยชน์ มีภูเขารองรับ 3 ลูก โดยส่วนฐานคือ ตรีกูฏ (สามเส้าหรือสามยอด) มีภูเขาล้อมรอบ 7 ทิว เรียกว่า สัตตบริภัณฑคีรี บนทิวเขามีเทวดาจตุมหาราชิกและบริวารสถิตอยู่ ส่วนบนยอดเขาพระสุเมรุ คือ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อย่างที่หลายคนคงเคยได้ยิน,3. การก่อสร้างพระเมรุมาศ,พระเมรุมาศ จะมีการจัดสร้างเป็นสถาปัตยกรรมชั่วคราวที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยมีพระเมรุทองอยู่ภายใน ถือเป็นงานสร้างครั้งประวัติศาสตร์ เพราะต้องอาศัยผู้ชำนาญด้านศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์และศาสนา มาร่วมกันออกแบบและจัดสร้างให้ถูกต้องที่สุด,นอกจากพระเมรุมาศแล้ว ยังต้องก่อสร้างอาคารประกอบหลังอื่นๆ อีกหลายอาคาร เช่น โบสถ์ วิหาร มีระเบียงล้อมรอบ ซึ่งเรียกว่าทับเกษตรหรือที่พัก ส่วนด้านยอดบนสูงสุดของพระเมรุมาศ จะต้องมีการจารึกพระปรมาภิไธยหรือพระนามาภิไธย และเศวตฉัตร,4. ปี 2527-2554 เคยก่อสร้างมาแล้ว 4 ครั้ง,มีข้อมูลระบุว่า ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 9 ประเทศไทยได้มีการจัดสร้าง พระเมรุมาศ และ พระเมรุ ทั้งหมด 4 ครั้งด้วยกัน ได้แก่,- พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ในปี 2527 ,- พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในปี 2538,- งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในปี 2551,- งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ในปี 2554,5. มีการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย,โดยจากอดีตถึงปัจจุบัน การก่อสร้างพระเมรุมาศและพระเมรุ มีการปรับเปลี่ยนวัสดุมาเรื่อยๆ จากไม้เนื้อแข็งเปลี่ยนมาเป็นเรซิ่น เพื่อลดการใช้ไม้และเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการก่อสร้าง และในยุคต่อๆ มา ได้มีการติดตั้งลิฟต์ภายในมณฑลพิธี เพื่อความสะดวกในการเสด็จฯ ของพระบรมวงศานุวงศ์และเจ้านายชั้นผู้ใหญ่,6. อัพเดตความคืบหน้า,สำหรับการเตรียมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนั้น ในส่วนของรายละเอียดการก่อสร้างพระเมรุมาศ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงเป็นองค์วินิจฉัยปัญหาต่างๆ เช่น พระเมรุมาศรูปแบบใด สีอะไร แบบสูงหรือแบบต่ำ เป็นต้น,ล่าสุด มีข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปปรับพื้นที่ในท้องสนามหลวง โดยปรับผิวดิน ลาดยาง และเคลื่อนย้ายเต็นท์แจกอาหารทั้งหมด ออกไปจัดโซนไว้ที่ด้านข้างสนามหลวง เพื่อเตรียมพื้นที่ด้านในให้ว่าง พร้อมต่อการก่อสร้างพระเมรุมาศ ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า,7. เตรียมก่อสร้างหลายอาคาร,นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา เลขาธิการพระราชวัง ระบุอย่างไม่เป็นทางการว่า งานพระราชพิธีต้องมีสิ่งก่อสร้างหลายอย่างที่ท้องสนามหลวง นอกจากพระเมรุมาศซึ่งเป็นหัวใจแล้ว ยังจะต้องมีศาลาทรงธรรมที่สำหรับประทับและรับแขก มีศาลาพลับพลาสำหรับประชาชน พร้อมด้วยสิ่งก่อสร้างอื่นๆ สถานที่สำหรับพระสงฆ์ขึ้นนั่งสวดประจำสี่ทิศ ซึ่งครั้งนี้อาจจะต้องมีการขยายขนาดให้กว้างใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา,8. คนไร้บ้าน ย้ายออกจากสนามหลวง,คนเร่ร่อนจำนวนกว่า 400 คน ไม่สามารถเข้ามาพักพิงภายในพื้นที่ท้องสนามหลวงได้อีกต่อไป โดยทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนได้เข้ามาดูแลคนกลุ่มนี้ เพราะไม่สามารถให้เข้ามาค้างในพื้นที่ดังกล่าวได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่จะใช้ในพระราชพิธีสำคัญของประเทศ,9. จัดระเบียบซุ้มแจกอาหาร,จากการเรียกคืนพื้นที่ท้องสนามหลวงทางตอนใต้ เพื่อเตรียมก่อสร้างพระเมรุมาศ ทำให้ต้องขยับขยายและจัดระเบียบซุ้มแจกอาหารฟรี โดยย้ายไปอยู่ทางฝั่งซ้ายและขวาของท้องสนามหลวง บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และตรงข้ามฝั่งศาลฎีกา โดยช่วงเช้าแจกอาหารเวลา 06.00-09.00 น. ส่วนกลางวัน เริ่มแจกเวลา 11.00-14.00 น. และเย็นแจกอาหารเวลา 16.00-20.00 น. และปิดท้องสนามหลวงในช่วงเวลา 21.00 น.,10. เจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย,ในช่วงการเตรียมงานพระราชพิธีฯ และการเตรียมก่อสร้างพระเมรุมาศ ประชาชนและอาสาสมัครทุกฝ่าย ควรให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างดี อย่าแสดงกิริยาไม่เหมาะสม,- กลุ่มวัยรุ่นที่แต่งกายไม่เหมาะสม, ถ่ายรูปเซลฟี่ในกิริยาที่ไม่เหมาะสม จะมีสายตรวจจากกระทรวงวัฒนธรรมเข้ามาดูแล อาจมีการตักเตือน หรือเชิญให้ออกจากพื้นที่,- กลุ่มนักท่องเที่ยว จะมีสายตรวจจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้ามาดูแล ตักเตือน และอำนวยความสะดวก,ส่วนความคืบหน้าอื่นๆ เราจะติดตามอย่างใกล้ชิด หากมีอะไรอัพเดตเพิ่มเติม จะนำมารายงานให้ทราบกันต่อไป. | ไม่กี่วันมานี้ ได้ยินข่าวว่าที่สนามหลวงกำลังปรับพื้นที่ใหม่ ทั้งด้านฝั่งเหนือและฝั่งใต้ มีการปรับพื้นดิน ถนนลาดยาง และย้ายเต็นท์แจกอาหารให้ไปอยู่ในโซนเดียวกันอย่างเป็นระเบียบ เพื่อจัดพื้นที่ให้พร้อมสำหรับการก่อสร้างพระเมรุมาศ | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | พระเมรุมาศ,พระราชพิธีถวายพระเพลิง,เตรียมพื้นที่ สนามหลวง พระเมรุมาศ,เตรียมก่อสร้าง พระเมรุมาศ,สนามหลวง เคลียร์พื้นที่,ปรับพื้นที่สนามหลวง ก่อสร้าง พระเมรุมาศ,ก่อสร้างพระเมรุมาศ ปีหน้า 2560,เตรียมสร้าง พระเมรุ 2560,พระราชพิธี ถวายพระเพลิง พระบรมศพ,ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ,ประวัติในหลวง,รูปในหลวง,ภาพในหลวง,พระราชดำรัส,พระราชกรณียกิจ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/772937 |
งบ อปท. รับใช้ชนชั้นใดกันแน่ | องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เกิดขึ้นตามแนวคิดกระจายอำนาจให้ประชาชนในท้องถิ่นต่างๆ มีส่วนร่วมในการตัดสินใจต่ออนาคตตนเองมากขึ้น เพื่อให้นโยบายและกิจกรรมทั้งหลายรับใช้คนในพื้นที่มากยิ่งขึ้นข้อวิพากษ์ต่อการทำงานและใช้จ่ายงบประมาณของ อปท. จากคนจำนวนมาก โดยเฉพาะชนชั้นกลางในเมือง คือ การกระจายอำนาจ ภาระงานและงบประมาณให้แก่ อปท. เป็นการกระจายการผูกขาดและคอร์รัปชั่นให้เปลี่ยนจากกลุ่มการเมืองระดับ จังหวัด ภูมิภาค และชาติ มาอยู่ในมือนักการเมืองและกลุ่มอิทธิพลในท้องถิ่นอย่างไรก็ตาม งานวิจัยจำนวนมากสะท้อนว่า การผูกขาดอำนาจของกลุ่มการเมืองในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นน้อยกว่าระดับ ชาติ และการคอร์รัปชั่นที่ว่าก็มีมากนั้น จำนวนไม่น้อยซึ่งเกิดจากความไม่เชี่ยวชาญในการกรอกบัญชี และทำตามขั้นตอนแบบราชการ ซึ่งมีกระบวนการแบบรัฐประศาสนศาสตร์ที่เน้นการตรวจสอบขั้นตอนต่างๆ อย่างละเอียดยิบเข้ามากำกับโดยที่ไม่มีการฝึกอบรมบุคลาการของ อปท. ให้มีความพร้อม หรือบางที่ อปท. ก็ต้องควักเงินมากขึ้นเพื่อจ้างคนมาทำเรื่องนี้โดยเฉพาะแต่บทความนี้จะกล่าวถึงการใช้งบประมาณที่ไม่ได้เป็นการคอร์รัปชั่น แต่มีข้อโต้แย้งจากผู้ที่ไม่ได้ประโยชน์ เช่น การนำงบมาจัดงานประจำปี งานรื่นเริง กีฬา และสันทนาการ ในพื้นที่ซึ่ง อปท. รับผิดชอบชนชั้นกลางจำนวนมากที่ก่นด่า อปท.ในพื้นที่ซึ่งตนเข้าไปอยู่อาศัย ก็เพราะต้องการให้ อปท. นำงบประมาณมาทำโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อความสะดวกในชีวิตประจำวัน และการทำมาหากินยกตัวอย่าง อบต.น้ำแพร่ อ.หางดง นำงบมาจัดงานลอยกระทง งานกีฬา และงานบุญประเพณี ซึ่งไม่ตรงกับความต้องการ ปรับปรุงถนน และสร้างสะพานใหม่ ของชนชั้นกลางที่มาอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร มาเที่ยวรีสอร์ต และมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ เช่น ปั่นจักรยานหรือวิ่งงานบุญ งานประเพณี และกิจกรรมสันทนาการเหล่านั้น ตอบสนองต่อคนในชุมชนโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นเด็ก สตรี คนชรา หรือคนหนุ่มสาวที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ อปท. นั้นหากจะสรุปในเชิงวิชาการว่า กิจกรรมเหล่านั้นที่เกิดในพื้นที่ซึ่งมี อปท. เป็นผู้สนับสนุน ก็เท่ากับว่า วิถีชีวิตและความเป็นชุมชนยังมีให้เห็น โดยต้องไม่ลืมว่า อปท. ก็มีบทบาทสำคัญในการหนุนเสริมกิจกรรมนี้จากตัวอย่าง กิจกรรมทั้งหลายที่ยังหลงเหลืออยู่ใน อบต.น้ำแพร่ อาจสามารถฉายภาพ ความเข้มแข็งของชุมชนแบบที่เป็นภาพอุดมคติในการแก้สารพัดปัญหาตามแนวทาง ชุมชนนิยมที่ชนชั้นกลางใฝ่ฝัน ซึ่งย้อนแย้งต่อเสียงก่นด่าที่ชนชั้นกลางถากถาง อปท. เพราะภาพชุมชนในอุดมคตินั้นกลับยังพอมีเหลืออยู่ใน อบต.น้ำแพร่ดังนั้น แทนที่เราจะวิพากษ์วิจารณ์โครงการทั้งหมดที่ใช้งบประมาณไปในกิจกรรมที่ไม่ ได้เป็นประโยชน์กับเราโดยตรง แล้วกลับมาคิดใหม่อีกครั้ง ถึงการจัดลำดับความสำคัญในการกำหนดว่าจะนำงบประมาณและทรัพยากรที่มีอยู่ อย่างจำกัดมาใช้อย่างไร และตอบสนองต่อใคร เป็นจำนวนเท่าไรการจัดลำดับความสำคัญโดยมีหลักการซึ่งเป็นที่ยอมรับของชุมชน และร่วมกันตัดสินใจอย่างมีส่วนร่วม จึงจำเป็นสร้างขึ้นมาโดยอิงอยู่กับ เป้าหมาย อุดมคติ และเชื่อมโยงกับปริมาณประชากรที่จะได้ประโยชน์จากโครงการ หรือกิจกรรมเหล่านั้นด้วยเงื่อนไขที่กล่าวมาข้างต้น สิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องถามชาวบ้านเจ้าของพื้นที่อย่างกว้างขวางเสียก่อนว่าต้องการโครงการ ประเภทใด และจะใช้งบประมาณไปในสัดส่วนเท่าไร มิใช่การคิดแทนชาวบ้าน หรือก่นด่า การจัดสรรงบประมาณของ อปท. โดยไม่เข้าใจบริบทของแต่ละท้องถิ่นข้อควรตระหนัก คือ ไม่มีสูตรสำเร็จใดๆ ที่จะสามารถ ลอกแบบ กันได้อย่างกว้างขวาง และสามารถนำไปใช้ในทุกพื้นที่ทันทีโดยไม่ต้องปรับปรุงให้สอดคล้องกับแต่ละ ท้องถิ่นกระบวนการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และการรับฟังความคิดเห็นเชิงรุกของ อปท. จึงเป็นกระบวนการที่รัฐ และประชาสังคมต้องผลักดันและตรวจสอบ มากเสียยิ่งกว่าการไปจับจ้องและจับผิดว่า ทำไม อปท. ไม่ทำในสิ่งที่ผู้วิจารณ์ต้องการให้ทำ แต่ผู้วิจารณ์ทั้งหลายมีสิทธิเป็นอย่างยิ่งในการเข้าไปมีส่วนร่วมใน ทุกกระบวนการตัดสินใจผมเขียนบทความนี้ บนพื้นฐานของความต้องการถนนเรียบ และคอสะพานที่ปลอดภัย แต่ก็เข้าใจความจำเป็นของ อบต. ที่ต้องการรักษาความสัมพันธ์ในชุมชน | องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เกิดขึ้นตามแนวคิดกระจายอำนาจให้ประชาชนในท้องถิ่นต่างๆ มีส่วนร่วมในการตัดสินใจต่ออนาคตตนเองมากขึ้น เพื่อให้นโยบายและกิจกรรมทั้งหลายรับใช้คนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น | คุณภาพชีวิต | การกระจายอำนาจ,ทศพล ทรรศนกุลพันธ์,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | https://prachatai.com/journal/2012/02/39259 |
ซี130อินโดตกดับทั้งลำนับร้อย | เครื่องยนต์เกิดขัดข้องบินได้2นาทีก็ร่วงใส่บ้าน,โลกสลดอีก เครื่องบินซี 130 ของกองทัพอากาศอินโดนีเซีย โหม่งพสุธาหลังทะยานขึ้นฟ้าได้เพียง 2 นาที แล้วเกิดขัดข้องทางเทคนิคพุ่งลงตกใส่บ้านคนจนระเบิดไฟลุกท่วม โฆษกกองทัพอากาศอินโดฯ ยอมรับร้อยกว่าชีวิตบนเครื่องตายเรียบ ส่วนชาวบ้านเคราะห์ร้ายยังไม่รู้ยอดที่แน่ชัด,เกิดอุบัติเหตุทางอากาศครั้งร้ายแรงอีกครั้งที่สร้างความเศร้าโศกให้กับญาติผู้เสียชีวิต เปิดเผยโดยสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันอังคารที่ 30 มิ.ย. ว่า เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินลำเลียง เฮอร์คิวลิส ซี-130 ของกองทัพอินโดนีเซีย ประสบเหตุตกลงใส่เขตชุมชน ในเมืองเมดาน บนเกาะสุมาตรา ส่งผลให้เครื่องบินระเบิดลุกเป็นไฟ ก่อความเสียหายแก่อาคารบ้านเรือนราษฎรหลายหลัง ตลอดจนรถยนต์หลายคันบนพื้นดินเสียหายยับเยิน เบื้องต้นทางการอินโดนีเซียระบุผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องบินเสียชีวิตทั้งหมด 12 คน ประกอบด้วย นักบิน 3 คน พลนำร่อง 1 นาย กับช่างเทคนิค 8 นาย อีกทั้งทำให้ผู้คนบนพื้นดินเสียชีวิตด้วยจำนวนหลายสิบคน ในจำนวนนี้มีเด็กด้วย,เจ้าหน้าที่ทางการอินโดนีเซียระบุ ก่อนเกิดเหตุสลดใจที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาราว 12.08 น.ของวันอังคาร ตามเวลาท้องถิ่น เครื่องบินลำดังกล่าวเพิ่งทะยานขึ้นจากสนามบินเมืองเมดานไปเพียง 2 นาที แล้วประสบปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้อง เครื่องบินสั่นและร่อนลงต่ำ แล้วพุ่งตกลงในย่านชุมชนโดยตกบนบ้าน 2 หลังของประชาชน ห่างจากฐานทัพอากาศเมืองเมดานเพียง 5 กม. ทำให้เกิดระเบิดอย่างรุนแรง ลำตัวเครื่องบินฉีกขาดยับเยิน อาคารพังเสียหาย ขณะที่หน่วยกู้ภัยและรถพยาบาลเร่งรุดเข้าพื้นที่เกิดเหตุ ปฏิบัติการกู้ภัยเบื้องต้น ลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตที่พบเบื้องต้นได้ 38 ศพ รวมทั้งเด็ก 1 คน โดยยังไม่ทราบแน่ชัดและแยกไม่ออกว่าร่างเหยื่อเคราะห์ร้ายเป็นผู้โดยสารบนเครื่องบินหรือเป็นชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่เบื้องล่าง ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ได้ค้นพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจาก 38 ศพเป็น กว่า 50ศพ,ต่อมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน อ้างถ้อยแถลงของนายดวี บาดาร์มานโต โฆษกกองทัพอากาศอินโดนีเซีย ระบุว่า เครื่องบินทหารลำดังกล่าว นอกจากมีลูกเรือทั้งหมด 12 คนแล้ว ยังมีผู้โดยสารอีก 101 คน รวมผู้คนบนเครื่องบินทั้งหมด 113 ชีวิต และจากข้อถามของผู้สื่อข่าวว่า มีผู้รอดชีวิตบนเครื่องบินหรือไม่ นายดวี บาดาร์มานโต กล่าวว่า ไม่มีใครรอดชีวิตแม้แต่คนเดียว จากการที่ได้ไปดูสถานที่เกิดเหตุมาด้วยตัวเอง,ในเวลาต่อมา นายอีโก ฮาดี หัวหน้าตำรวจเกาะสุมาตราเหนือ เปิดเผยต่อสื่อมวลชน ระบุเบื้องต้นทราบว่าเครื่องบินลำดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสารราว 50 ชีวิต แต่กองทัพอากาศอินโดนีเซียเปิดเผยหลังจากนั้นว่าจำนวนผู้โดยสารบนเครื่องบินมีมากกว่านั้น เพราะเครื่องบินออกจากกรุงจาการ์ตา พร้อมผู้โดยสารจำนวนหนึ่ง จากนั้นเครื่องบินลงจอดและแวะรับผู้คนอีก 2 แห่ง ทำให้ไม่ทราบจำนวนผู้คนบนเครื่องบินอย่างแน่ชัด อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารส่วนใหญ่บนเครื่องบินเป็นสมาชิกครอบครัวเหล่าทหารอากาศ โดยอินโดนีเซียใช้วิธีการลักษณะนี้ช่วยลำเลียงขนส่งผู้คนไปตามเกาะแก่งต่างๆ ซึ่งอินโดนีเซียมีเขตเวลาแตกต่างกันถึง 3 โซน,รายงานข่าวระบุด้วยว่า เหตุเครื่องบินประสบอุบัติเหตุตกที่เมืองเมดานลักษณะเดียวกันนี้ เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อปี 2548 เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737 ของสายการบินมานดาลา เที่ยวบินในประเทศ ประสบเหตุตกหลังทะยานขึ้นบินไม่นาน ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องบินเสียชีวิตทั้งหมด 143 ศพ กับชาวบ้านเบื้องล่างอีกราว 30 ศพ ทั้งนี้ เมืองเมดานเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซียที่อยู่นอกเกาะชวา มีประชากรพักอาศัยหนาแน่นราว 2 ล้านคน,ต่อมาเวลา 21.39 น.ตามเวลาในไทย โฆษกกองทัพอากาศของอินโดนีเซียแถลงว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่เก็บกู้ได้จากที่เกิดเหตุเครื่องบินลำเลียงพล ซี-130 ตกในเมืองเมดาน ล่าสุดมีเพิ่มเป็น 74 ศพแล้ว และว่าเครื่องบินลำนี้ผลิตในสหรัฐฯ เมื่อปี พ.ศ.2507 และมั่นใจว่ายังอยู่ในสภาพดี ขณะที่ พล.อ.ท.อากัส ซูปริอัตนา ผู้บัญชาการกองทัพอากาศของอินโดฯ ระบุว่านักบินได้แจ้งหอควบคุมว่าต้องนำเครื่องบิน บินกลับเพราะเครื่องยนต์ขัดข้อง แต่เครื่องบินได้ตกขณะกำลังเลี้ยวขวากลับสนามบิน,ทั้งนี้ ตามข้อมูลของเครือข่ายความปลอดภัยการบิน ระบุว่า มีอุบัติเหตุร้ายแรงเกี่ยวข้องกับเครื่องบินกองทัพหรือตำรวจอินโดฯถึง 10 ครั้งในรอบกว่า 10 ปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงสถิติด้านความปลอดภัยทางการบินและเครื่องบินเก่าของอินโดฯ และเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว เครื่องบินโดยสารเที่ยวบิน QZ8501 ของสายการบินแอร์เอเชีย อินโดนีเซีย ตกลงทะเลระหว่างบินจากเมืองสุราบายาในอินโดฯไปที่สิงคโปร์ มีผู้เสียชีวิตยกลำ 162 คน | โลกสลดอีก เครื่องบินซี 130 ของกองทัพอากาศอินโดนีเซีย โหม่งพสุธาหลังทะยานขึ้นฟ้าได้เพียง 2 นาที แล้วเกิดขัดข้องทางเทคนิคพุ่งลงตกใส่บ้านคนจนระเบิดไฟลุกท่วม | null | ข่าวหน้า1,เครื่องบินตก,ซี 130,กองทัพอากาศอินโดนีเซีย,เฮอร์คิวลิส ซี-130,อินโดนีเซีย,เครื่องบินโดยสาร,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/508626 |
ลอดช่องน้ำกะทิกับเชื้อก่อโรค | ขนมไทยทั้ง 4 ชนิด เป็นขนมที่แม่บ้านสมัยโบราณนำมาจัดเป็นสำรับไว้ทานหลังเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ แสดงถึงความเป็นอยู่ ประเพณี และวัฒนธรรมตามวิถีไทยที่ร้อยเรียงเรื่องราวจากสิ่งใกล้ตัว จวบจนปัจจุบันน้อยคนนักที่จะรู้ชื่อโบราณ รู้จักกันเพียงแค่ชื่อสมัยใหม่เท่านั้น,ลอดช่อง เป็นหนึ่งในขนมไทยโบราณที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า โดย นำข้าวเจ้าไปแช่น้ำไว้ 1 คืน ก่อนนำมาโม่จนเป็นแป้งน้ำ กรองด้วยผ้าข้าวบางจนได้น้ำแป้งสำหรับลอดช่องผสมกับน้ำใบเตย น้ำปูนใส และส่วนผสมอื่น นวดให้แป้งคงตัวนำไปตั้งไฟค่อยๆ กวนจนแป้งเหนียวข้นและสุก นำมากดบนพิมพ์เป็นเส้นในน้ำเย็นรอเส้นลอยก็ตักขึ้น ทานพร้อมน้ำกะทิจากน้ำตาลมะพร้าวและน้ำแข็ง,เป็นของหวานทานแก้ร้อนได้ดี ทว่าหากเลือกทานแบบไม่ระมัดระวังอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้เพราะลอดช่องที่เราซื้อมาทานนั้น อาจมีเชื้อก่อโรค เช่น บาซิลลัส ซีเรียส ปนเปื้อนได้,เชื้อชนิดนี้พบทั่วไปในธรรมชาติทั้งดิน น้ำ อากาศ ฝุ่นละออง หากกระบวนการผลิตลอดช่องไม่สะอาดและผู้ผลิตไม่รักษาสุขลักษณะส่วนบุคคลให้ดีเพียงพอ โอกาสที่เชื้อจะปนเปื้อนก็สูง เชื้อชนิดนี้มักพบปนเปื้อนในอาหารที่ทำจากข้าว ธัญพืชและแป้ง,ถ้าเราทานอาหารที่มีเชื้อ บาซิลลัส ซีเรียส ปนเปื้อนเข้าไปจะทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ ทำให้มีอาการอาเจียนและท้องร่วง,ตามประกาศกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เรื่อง เกณฑ์คุณภาพ ทางจุลชีววิทยาของอาหารและภาชนะสัมผัสอาหาร ฉบับที่ 3 กำหนดให้พบเชื้อชนิดนี้ปนเปื้อนในขนมหวานหรือขนมไทย ได้ไม่เกิน 100 ซีเอฟยู/กรัม,วันนี้สถาบันอาหาร ได้สุ่มตัวอย่างลอดช่องน้ำกะทิจากร้านค้าและยี่ห้อต่างๆ จำนวน 5 ตัวอย่าง ในเขตกรุงเทพฯ เพื่อนำมาวิเคราะห์การปนเปื้อนของเชื้อบาซิลลัส ซีเรียส,ปรากฏว่า ทุกตัวอย่างพบการปนเปื้อน และมี 1 ตัวอย่าง พบปนเปื้อนเกินเกณฑ์คุณภาพที่กำหนด,เห็นอย่างนี้แล้ว ขอแนะว่าเลือกซื้อจากร้านที่สะอาด และทำสดใหม่ เพื่อความปลอดภัยจะดีกว่า. | หากกล่าวถึงขนมไทยโบราณ 4 ชนิดที่น้อยคนจะคุ้นชื่อ ได้แก่ ไข่กบ หรือเม็ดแมงลัก นกปล่อย หรือลอดช่อง บัวลอยหรือข้าวตอก และอ้ายตื้อ หรือข้าวเหนียว ขนมไทยทั้ง 4 ชนิด เป็นขนมที่แม่บ้านสมัยโบราณนำมาจัดเป็นสำรับไว้ทานหลังเก็บเกี่ยว | null | ลอดช่องน้ำกะทิ,ลอดช่อง,เชื้อโรคในอาหาร,มันมากับอาหาร,ขนมไทย | https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/review/1146563 |
ปะทะเดือด แก๊งปล้นทองนาทวี ซ่อนบนเขา ทิ้งสัมภาระเอาตัวรอด | เวลา 17.30 น.วันที่ 27 ก.ย. กำลังเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม จังหวัดปัตตานี ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจทหารพราน ที่ 43 และหน่วยเฉพาะกิจสงขลา ได้ปะทะกับผู้ก่อการร้าย บริเวณเทือกเขานางจันทร์ พื้นที่บ้านกระแซะ หมู่ 1 ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยปะทะกันนานประมาณ 5 นาที กลุ่มคนร้ายซึ่งมีจำนวน 4-5 คน แต่งกายชุดดำพร้อมอาวุธครบมือได้ล่าถอยและหนีหายไปในป่า ส่วนฝ่ายเจ้าหน้าที่ปลอดภัยทุกนาย,จากการตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นลักษณะฐานที่พักชั่วคราว พบกระเป๋าใส่สัมภาระ เต็นท์นอน กระสอบใส่เครื่องครัว เช่น หม้อหุงข้าว เตาแก๊ส กล่องโฟมใส่อาการ รองเท้า ที่คนร้ายทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไปตรวจสอบอย่างละเอียดและเก็บลายนิ้วมือแฝงเอาไว้เป็นหลักฐาน, ,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกลาดตระเวนเพื่อตรวจค้นแหล่งพักพิงและซ่อนตัวของกลุ่มผู้ก่อการร้าย กลุ่ม นายอับดุลเลาะ บาราเฮง หลังจากขยายผลการซักถามมาจาก นายเดะแว อาแว ซึ่งถูกควบคุมตัวเมื่อ 15 กันยายนที่ผ่านมาในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา ทราบว่ามีการตั้งฐานซ่อนตัวอยู่บนเทือกเขานางจันทร์ จึงวางแผนเข้าตรวจค้นแต่คนร้ายไหวตัวทัน เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ก่อนหลายชุดและเกิดการยิงปะทะกันขึ้น,สำหรับคนร้ายกลุ่มนี้เชื่อว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล้นทอง ที่ห้างทองสุธาดา ที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา กวาดทองไปมากที่สุดในประวัติศาสตร์หนักกว่า 2 พันบาท มูลค่าเกือบ 50 ล้านบาท | หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม ยกพลขึ้นเขานางจันทร์ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา หลังได้เบาะแส แก๊งปล้นทอง 50 ล้าน อ.นาทวี หนีซ่อนตัว เกิดปะทะประมาณ 5 นาที ก่อนฝ่ายตรงข้ามล่าถอย ทิ้งสัมภาระกระจัดกระจาย | ข่าว,ทั่วไทย | โจรใต้,โจรใต้ปล้นทอง,ปะทะโจรใต้,ปล้นทองนาทวี,ปล้นทอง50ล้าน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1670341 |
Bluetamp Cafe มนต์เสน่ห์ของเมืองกรุง | ร้านนี้เป็นที่รู้จักในหมู่คนที่ชื่นชอบกาแฟ เป็นร้านที่คุณแนน (sometime blue) แนะนำให้ไปลอง ก้าวแรกที่เข้าไป ทำไมคนเยอะนักวะ คนยอมที่จะรอคิวเพื่อเข้าไปนั่ง ทั้งๆ ที่อากาศร้อนพอควร ผมก็ไปนั่งรอ แต่ที่ประทับใจน้องคนที่จัดคิว ก็ต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี โดยที่ไม่ทราบว่าผมมาจากไหน นี่ล่ะครับ Service mind ที่หลายคนต้องการ วันที่ไปเป็นช่วงเสาร์บ่ายๆ,กาแฟที่นี่เป็นสไตล์ออสเตรเลีย ที่มีสูตรที่แตกต่างกับอิตาลีหรือฝรั่งเศส มีหลายอย่างที่มีความเฉพาะตัว ผมได้สั่งทานด้วยกัน 2 แก้ว เป็นกาแฟนม 1 อย่าง และกาแฟดำหนึ่งอย่าง ที่เป็นไฮไลต์คือ Piccoio Latte แก้วเล็กที่เป็น Espresso+นม จำนวนน้อยๆ จึงมีความเข้มข้นที่เรียกว่า เต็มเปี่ยมด้วยกาแฟ ส่วนนมตีได้หวานพอดี แต่อย่าเอาไปเทียบกับ Latte ปกตินะครับ อันนั้นจะหวานกว่า เสิร์ฟมาพร้อมบราวนี่คำเล็กๆ ใครที่ชอบต้องบอกว่า แม่เจ้า (ตัวที่ใช้ทำเป็น House blend ระหว่างไทย + ต่างชาติ),ส่วนอีกแก้วเป็นกาแฟดำ อเมริกาโน แต่ที่ได้ชิมคำแรกมีกลิ่นพีช สตรอว์เบอร์รี หอมเหมือน Black Tea ผมว่าตัวนี้เด็ดมาก Ethiopia เป็น Wash process สะอาดมากครับ ใครที่ชอบแนวนี้ผมว่าตัวนี้โคตรลงตัว ในการชงจะเป็น Longblack,ร้านอยู่ที่ 56 ซอย ลาดพร้าว 73 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10310 โทรไปคุยก่อนได้ที่ 0925517300,Rating : ชาตินี้ต้องกิน,เรื่องและภาพโดย,ดร.ธนา ทุมมานนท์,Cupping Specialist,ชวนคุยกันที่ Facebook กลุ่ม กาแฟไหนเด็ด บอกกันด้วย | ร้านกาแฟและอาหารแนวออสเตรเลีย มีกาแฟที่หอมเด็ด ใครที่ชอบแนวจัดจ้านแต่หอมกรุ่นต้องร้านนี้ | ข่าว | กาแฟ,Specialty coffee,Bluetemp,ดร.ธนา ทุมมานนท์ | https://www.thairath.co.th/news/1382397 |
ขุดคลองเชื่อมอันดามัน-อ่าวไทย ฝันคนใต้ที่กำลังจะกลายเป็นจริง | แนวคิดการดำเนินงานการขุดคลองไทย (คลองกระ) เพื่อเชื่อมทะเลอ่าวไทยกับทะเลอันดามันของไทย มีมานานตั้งแต่รัชสมัยของ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพื่อให้ติดต่อค้าขายกับชาติยุโรปได้แนวคิดนี้ยังคงสืบทอดต่อกันมาหลายยุคหลายสมัยจนตราบเท่าปัจจุบันนี้ ซึ่งมีแนวคลองไทยทั้ง 2A 5A 7A และ 9Aต่อมาในปี พ.ศ.2544 คณะกรรมาธิการของวุฒิสภา ได้รื้อฟื้นและ ศึกษาเรื่องการขุดคลองไทยขึ้นใหม่อีกครั้ง และได้ให้ความเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ให้ดำเนินการขุดคลองไทยตามแนวเส้นทาง 9A เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2548โดยเริ่มต้นขุดจากฝั่งทะเลอันดามันที่ อ.สิเกา ผ่าน อ.วังวิเศษ-อ.ห้วยยอด อ.รัษฎา จ.ตรัง ผ่านไปยัง อ.ทุ่งสง-อ.ชะอวด-อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช พาดผ่าน อ.ป่าพะยอม-อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และออกทะเลฝั่งอ่าวไทยที่ อ.ระโนด จ.สงขลา มีความยาว 135 กม. กว้าง 400 ม. และความลึก 30 ม.ทำให้ พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้ให้ความสนใจ ได้ร่วมจัดตั้ง สมาคมคลองไทย เพื่อศึกษาถึงผลกระทบพร้อมรวบรวมความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่เสนอไปยังรัฐบาล กระทั่งมีการแต่งตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการขุดคลองไทยและการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ขึ้นผลการศึกษาพบว่าการขุดคลองไทยจะทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประเทศไทย เกิดเส้นทางการเดินเรือใหม่ของภูมิภาคและโลก ประหยัดพลังงาน เวลา ทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศพล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ ส.ส.พรรคพลังชาติไทย หนึ่งในผู้ร่วมผลักดันการขุดคลองไทย เปิดเผยว่า โครงการขุดคลองไทยแนว 9A จะเกิดขึ้นแน่นอน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาศึกษาของกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อสรุปผลส่งให้รัฐบาล ส่วนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการทางรัฐบาลจะให้การดูแลช่วยเหลือการขุดคลองไทย จะสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยไม่น้อยกว่าปีละ 4 ล้านล้านบาท ส่วนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้จะเกิดขึ้นทันที เมื่อรัฐบาลได้อนุมัติให้มีการขุดคลองไทย ซึ่งต่างประเทศพร้อมจะเข้ามาร่วมลงทุน ประเทศไทย จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการนี้ผมจะนำตัวแทนของ ส.ส.พรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน เข้าพบกับนายกฯ เพื่อขอความชัดเจนในการขุดคลองไทยและระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร หากรัฐบาลไม่ดำเนินงาน การขุดคลองไทย ส.ส.ทั้ง 500 คน ในสภาฯก็จะร่วมกันยกร่างกฎหมายพิเศษขึ้น เพื่อขุดคลองไทยโดยเฉพาะ พล.ต.ทรงกลด กล่าวพล.ต.ทรงกลด กล่าวอีกว่า ไม่มีใครจะมายับยั้งโครงการนี้ได้ จะนำเอาโครงการ EEC มาเป็นแบบอย่าง ทำให้การดำเนินงานง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น โครงการนี้จะทำให้บางประเทศสูญเสียผลประโยชน์ด้าน นายณรงค์ ขุ้มทอง หน.กลุ่มกลุ่มอำนวยการคลองไทย เปิดเผยว่า คลองไทยจะเป็นเส้นทางเศรษฐกิจใหม่ของโลกที่ไปเชื่อมต่อกับโครงการ BRI ของจีน และ Indo pacific ของอเมริกา มีส่วนสำคัญต่อระบบการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกที่มนุษย์ร่วมกันสร้างสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และจะนำรายได้เข้าประเทศไทยมากมาย รวมทั้งแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างสันติวิธี เพราะคลองไทยจะสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างความเจริญไปทั่วทั้งภาคใต้คลองไทยจะเป็นแหล่งธุรกิจ แหล่งอุตสาหกรรม มีคลังสินค้าเป็นศูนย์กลางกระจายการขนส่ง และมีคลังเก็บรักษาสินค้าจากประเทศทั่วโลก เป็นศูนย์กลางธนาคารธุรกิจการค้า การเดินเรือระหว่างประเทศเป็นศูนย์รวมภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรผลิตอาหารสำเร็จรูปของไทยเพื่อการส่งออก เป็นศูนย์จำหน่ายให้บริการอาหาร น้ำดื่ม น้ำใช้ ให้กับเรือต่างๆ สร้างรายได้ให้กับประเทศได้อย่างมหาศาลจะเป็นเส้นทางขนส่งที่สำคัญทั้งในยามปกติและยามสงครามของประเทศ เรือประมงไทยทั้งฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทยซึ่งมีอยู่กว่า 45000 ลำ สามารถไป-มา ได้สะดวกรวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มผลผลิตรวมกันไม่น้อยกว่า 50000 ล้านบาท/ปี พื้นที่ที่แนวคลองไทยตัดผ่านจะได้รับประโยชน์จากความเจริญประเทศไทย จะมีอำนาจต่อรอง ถ่วงดุลอำนาจทางเศรษฐกิจ การเมือง และทางทหาร ระหว่างประเทศมหาอำนาจของโลก เพราะศักยภาพของ คลองไทย จะเป็นคลองเดินเรือหลักที่สำคัญของโลกสามารถให้เรือผ่าน 300-350 ลำ/วัน และรองรับเรือใหญ่ขนาด 350000-500000 ตันได้ จะกลายเป็นหัวใจหลักของการขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางไปตะวันออกไกล (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น)ที่สำคัญไทยจะมีต้นทุนการผลิตน้ำมันถูกกว่าประเทศสิงคโปร์ เพราะระยะทางการขนส่งน้ำมันใกล้กว่า ไม่ต้องอ้อมไปผ่านถึงประเทศสิงคโปร์อีกต่อไป นายณรงค์ กล่าวย้ำดังนั้นโครงการคลองไทยถือเป็นหัวใจของชาติ เป็นอีกความหวังของยุทธศาสตร์การต่อสู้เอาชนะความยากจน สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของชาวไทยทั่วประเทศ.สุธรรม คงเพชร | แนวคิดการดำเนินงานการขุดคลองไทย (คลองกระ) เพื่อเชื่อมทะเลอ่าวไทยกับทะเลอันดามันของไทย มีมานานตั้งแต่รัชสมัยของ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพื่อให้ติดต่อค้าขายกับชาติยุโรปได้ | ข่าว,ทั่วไทย | คลองไทย,ขุดคลองไทย,ขุดคลองเชื่อมทะเล,ขุดคลองเชื่อมทะเลอันดามัน,เส้นทางเศรษฐกิจใหม่,คลองกระ,เชื่อมทะเลอ่าวไทยกับทะเลอันดามัน | https://www.thairath.co.th/news/local/1893220 |
ส่งผิดชีวิต(ไม่)เปลี่ยนแล้วจ้า ไลน์เพิ่มฟีเจอร์ ลบแชตใน 24 ชั่วโมง | เคยไหมกับอาการ ส่งไลน์ผิดชีวิตเปลี่ยน ซึ่งบางครั้งการส่งข้อความผิดคน หรือผิดกรุ๊ป มันถึงกับทำให้เราหน้าชาจนเอาไปแทรกแผ่นปูนได้โดยไม่เจ็บเลยนะ,ล่าสุดนี้ เป็นข่าวดีของคนชอบส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชันไลน์ เพราะถือจะมือลั่น หรือส่งข้อความผิดให้ใครโดยไม่ตั้งใจก็สามารถลบได้ภายใน 24 ชั่วโมง ,ไลน์ เปิดให้ทุกคนอัพเดตพร้อมกันแล้วในเวอร์ชัน 7.18.0 โดยเพิ่มฟีเจอร์ Unsend ให้ผู้ใช้ที่ส่งข้อความผิดลบข้อความได้ง่ายๆ ผ่านการกดข้อความนั้นๆ ค้างไว้ แล้วเลือกที่ Unsend เท่านี้ข้อความที่ส่งผิดหรือต้องการลบก็จะหายไป แล้วขึ้นเป็นข้อความว่า You unsent message แทนที่ข้อความนั้นๆ ซึ่งประโยคนี้จะไม่สามารถลบได้ และอีกฝ่ายก็จะเห็นเช่นกันว่าเรามีข้อความที่ลบออกไป,ที่สำคัญ ฟีเจอร์นี้สามารถลบได้ทั้งข้อความที่เป็นตัวหนังสือ ไฟล์เสียง รูปภาพ วิดีโอ และลิงก์ ภายใน 24 ชั่วโมงนับจากเวลาส่ง ไม่ว่าจะเป็นข้อความแบบตัวต่อตัว หรือส่งเข้ากรุ๊ปก็สามารถลบได้เช่นเดียวกัน,นอกจากนี้ ไลน์ยังระบุอีกด้วยว่า ฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้ทั้งบนมือถือ และคอมพิวเตอร์เลยนะ,เอ้าใครชอบส่งผิดบ้าง ยกมือให้ดูหน่อย | ไลน์ แชตแอปพลิเคชันสุดฮิต ผุดฟีเจอร์ใหม่ ลบข้อความที่ส่งออกไปได้ใน 24 ชั่วโมง เอาใจคนชอบส่งผิด | ข่าว,ไอที | ข่าวไอที,ไลน์,ไลน์ ลบข้อความ,ส่งข้อความผิด,ลบข้อความแชทไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/tech/1154693 |
พายุฤดูร้อนถล่มลำพูนยับ เสาไฟฟ้าโค่นกว่า 20 ต้น | เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 22 เม.ย.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดลำพูนได้เกิดพายุฤดูร้อนและลมพัดแรง พัดเอาเสาไฟฟ้า บริเวณในโรงงานนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือฝั่งตะวันตก กว่า 20 ต้น หักโค่นล้มลงระเนระนาดไปทั้งแถบ นอกจากนั้นยังมีรถยนต์อีกหนึ่งคันที่ถูกสายไฟฟ้าและสายโทรศัพท์เกี่ยวเอาไว้จนส่งผลให้โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมกว่า 60 โรงงาน เกิดไฟดับไปกว่า 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดลำพูนต้องเร่งระดมคนงานเข้าไปแก้ไขปัญหาเบื้องต้นกัน,ขณะเดียวกันในพื้นที่อำเภอเมืองลำพูน โดยเฉพาะตำบลเมืองลำพูน และตำบลบ้านกลางเขตอำเภอเมืองจังหวัดลำพูน เกิดพายุลมแรงพัดเอากิ่งไม้ต้นไม้หักโค่นล้มขวางถนนสายต่างๆ เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น พายุลมแรงยังพัดเอาหลังคาห้างจำหน่ายสินค้าแม็คโครและบิ๊กชีที่ตั้งอยู่ในตำบลบ้านกลางอำเภอเมืองลำพูนเสียไปจำนวนมาก โดยเฉพาะห้างจำหน่ายสินค้าแม็คโคร ต้องปิดและหยุดการขายลงชั่วคราว เนื่องจากบริเวณโซนเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังคาถูกลมพัดปลิวออกไป เจ้าหน้าที่ต้องเร่งแก้ไขปัญหา และปิดขายลงชั่วคราว,นอกจากนี้ ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองลำพูนพายุลมยังพัดเอาต้นไทรยักษ์หักโค่นขวางถนนหน้าวัดพระธาตุหริภุญชัย เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองลำพูนต้องปิดถนนและเร่งตัดกิ่งไม้และลำต้นกันวุ่น หวั่นเกิดอันตรายแก่ประชาชนผู้สัญจรไปมา และทำให้บ้านเรือนชาวบ้านบางส่วนถูกพายุลมพัดเอาหลังคาบ้านปลิวไปหลังละ 5-10 แผ่น โชคดีที่ลมพายุมาเร็วและไปเร็วจึงไม่สร้างความเสียหายที่ใหญ่หลวง และขยายวงกว้างจนทำให้ชาวบ้านพากันเดือดร้อน,ล่าสุด นายถนอม ปัญญาวงศ์ ผู้อำนวยการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดลำพูน ได้สั่งการเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟฟ้าดับในโรงงานนิคมอุตสาหกรรมแล้ว คาด 2 ชั่วโมงสามารถแจกจ่ายไฟฟ้าได้ตามปกติ | พายุฤดูร้อนถล่มลำพูนยับ เสาไฟฟ้ากว่า 20 ต้น ล้มระเนระนาดไปทั้งแถบ ส่งผลให้ไฟฟ้าในโรงงานนิคมอุตสาหกรรมดับนานกว่า 2 ชั่วโมง จนท.รุดลงพื้นที่แก้ไขปัญหาไฟฟ้าดับกันวุ่น | ข่าว,ทั่วไทย | พายุฤดูร้อน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,เสาไฟฟ้าโค่น,ลำพูน,เสาไฟฟ้าล้ม,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/news/local/494569 |
ตำรวจยะลาล้อมป่าเชิงเขาที่ อ.กรงปินัง ปะทะคนร้ายก่อนทิ้งปืนหนีไปได้ | เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ธ.ค.62 พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล ผบก.ภ.จ.ยะลา สั่งการให้ พ.ต.ท.สถาพร เหล่ามูล สว.บก.สส.ภ.จ.ยะลา นำกำลัง ชป.แกะดำ 1 ชุดปฏิบัติการ ประสานเจ้าหน้าที่ทหารพราน กรม ทพ.47 ออกปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ป่าเชิงเขาท้ายหมู่บ้านตะโละสะโต หมู่ 6 ต.สะเอะ อ.กรงปินัง หลังสืบทราบว่า คนร้ายกลุ่มที่เข้าโจมตีชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) ลำพะยา อ.เมืองยะลา จนทำให้ ชรบ.เสียชีวิต 15 ราย บาดเจ็บ 5 ราย เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา หลบหนีการจับกุมเข้าไปหลบซ่อนตัวในพื้นที่ดังกล่าว,ขณะที่กำลังของเจ้าหน้าที่ ดาหน้าเข้าไป ปรากฏว่า พวกคนร้ายไหวตัวได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ เจ้าหน้าที่จึงได้หลบเข้าที่กำบังพร้อมยิงตอบโต้จนเกิดการปะทะกันขึ้นอย่างดุเดือดชั่วครู่หนึ่ง เสียงปืนจากฝ่ายคนร้ายเงียบลง เมื่อเข้าเคลียร์พื้นที่พบที่พักชั่วคราวลักษณะการสร้างอย่างลวกๆ โดยใช้ผ้าพลาสติกผืนใหญ่คลุมโครงไม้ รวมจำนวน 8 หลัง พบเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวนหนึ่ง,นอกจากนั้นยังพบอาวุธปืนเล็กยาวจู่โจมแบบ เอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก และอาวุธปืนสั้นยังไม่ทราบขนาดอีก 1 กระบอก คาดว่าเป็นของคนร้ายที่ลนลานหลบหนีแล้วทิ้งไว้เพื่อเอาตัวรอด เบื้องต้นทราบว่า มีจำนวน 2 คน ลักษณะการแต่งกายที่สามารถมองเห็นได้ คือ สวมเสื้อยืดสีดำและสีน้ำเงิน ฝ่ายเจ้าหน้าที่ จึงได้วิทยุแจ้งเครือข่ายในพื้นที่และท้องที่ใกล้เคียง ตั้งด่านตรวจสกัดคนร้ายตามเบาะแส แต่ยังไร้วี่แวว. | ตำรวจยะลาพร้อมกับ ทหารพราน ออกปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ป่าเชิงเขาท้ายหมู่บ้านตะโละสะโต อ.กรงปินัง ก่อนปะทะกับคนร้ายจนคนร้ายหลบหนีไปทิ้งปืนไว้ 2 กระบอก คาดมีอย่างน้อย 2 คน เร่งตามสกัดจับ | ข่าว,อาชญากรรม | ปะทะโจรใต้,ปะทะคนร้าย,ยะลา,ป่าเชิงเขา,หมู่บ้านตะโละสะโต,กรงปินัง,ยิงป้อมชรบ.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1718468 |
เช็กด่วน ผู้ป่วย โควิด-19 จำนวน 827 คน อยู่ในจังหวัดไหนบ้าง | เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 63 นายแพทยทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โควิด-19 โดยวันนี้ (24 มี.ค.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 106 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสม ผู้ป่วยสะสมเพิ่ม 827 ราย และมีผู้เสียชีวิต เพิ่ม 3 ราย รวมทั้งสิ้น 4 รายโดยแพทย์หญิงวลัยรัตน์ ไชยฟูผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา ได้เผยแพร่ตัวเลขผู้ป่วยสะสม827 ราย ใน47 จังหวัด ดังนี้กทม. 349 รายนนทบุรี 47 รายชลบุรี 30 รายสมุทรปราการ 26 รายปัตตานี 26 รายอุบลราชธานี 15 รายเชียงใหม่ 9 รายประจวบคีรีขันธ์ 7 รายนครปฐม 7 รายสุราษฎร์ธานี 7 รายนราธิวาส 6 รายปทุมธานี 6 รายบุรีรัมย์ 5 รายสระแก้ว 5 รายนครราชสีมา 4 รายกระบี่ 4 รายสมุทรสาคร 4 รายกาญจนบุรี 4 รายสุรินทร์ 4 รายเพชรบูรณ์ 3 รายขอนแก่น 3 รายสระบุรี 3 รายอุดรธานี 3 รายนครศรีธรรมราช 2 รายร้อยเอ็ด 2 รายสุโขทัย 2 รายฉะเชิงเทรา 2 รายปราจีนบุรี 2 รายพัทลุง 2 รายระยอง 2 รายราชบุรี 2 รายศรีสะเกษ 2 รายกาฬสินธุ์ 1 รายสุพรรณบุรี 1 รายเชียงราย 1 รายเลย 1 รายแพร่ 1 รายจันทบุรี 1 รายตาก 1 รายนครนายก 1 รายนครสรวรรค์ 1 รายยโสธร 1 รายลพบุรี 1 รายหนองบัวลำภู 1 รายอยู่ระหว่างสอบสวน 172 ราย | เช็กด่วน ผู้ป่วย โควิด-19 จำนวน 827 คน สะสมอยู่ในกรุงเทพฯ สูงถึง 349 ราย | ข่าว,สังคม | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสอู่ฮั่น,ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน,วลัยรัตน์ ไชยฟู,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1802586 |
ประกาศ พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน สร้างรถไฟฟ้าสีเหลือง ลาดพร้าว - สำโรง | มีรายงานว่า เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. 2558 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนด เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ดังกล่าว เพื่อดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดสร้างโครงการขนส่งด้วย ระบบรถไฟฟ้า สถานที่จอดรถสำหรับผู้โดยสาร และกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการรถไฟฟ้าตามโครงการรถไฟฟ้า สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง,ทั้งนี้ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 กับมาตรา 5 วรรคสาม และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 ประกอบกับมาตรา 35 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้,มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. 2558,มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป,มาตรา 3 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับได้มีกำหนดสี่ปี,มาตรา 4 ที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินกิจการ รถไฟฟ้า ในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดสร้างโครงการขนส่งด้วยระบบรถไฟฟ้า สถานที่จอดรถสำหรับผู้โดยสาร และกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการรถไฟฟ้าตามโครงการรถไฟฟ้า สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง,มาตรา 5 ให้ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้,มาตรา 6 เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้ อยู่ในท้องที่เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้าย พระราชกฤษฎีกานี้,มาตรา 7 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้,http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/A/097/1.PDF | ราชกิจจาฯ เผยแพร่ พ.ร.ฎ.กำหนดเขตเวนคืนที่ดิน สร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง พื้นที่ กทม.ในเขตจตุจักร-ห้วยขวาง-วังทองหลาง-บางกะปิ-สวนหลวง-ประเวศ-บางนา ส่วนสมุทรปราการในเขต อ.บางพลี และ อ.เมือง | null | เวนคืนที่,เวนคืนที่สร้างรถไฟฟ้าสีเหลือง,รถไฟฟ้าสายสีเหลือง,เวนคืนที่สร้างรถไฟฟ้า,ราชกิจจาฯเวนคืนที่,พื้นที่เวนคืนสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง,บางกะปิ,บางพลี,สมุทรปราการ,เขตที่ดินเวนคืน,ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง,ประเวศ,สวนหลวง,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,โครงการรถไฟฟ้า | https://www.thairath.co.th/content/530547 |
ใบตองแห้ง: ฉุกเฉินโหว่ท้ายครัว | ไม่สามารถควบคุมผับบาร์อาบอบนวดโรงเรียนอนุบาลให้รักษาระยะห่าง เดี๋ยวเด็กวิ่งไล่ปล้ำกันจะทำยังไงไม่ผิดคาดอีกเช่นกัน พล.อ.ประวิตร ประธานกรรมการสรรหาวุฒิสภา ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นการเข้ามาคุมพรรคการเมืองอย่างเป็นทางการ ของพี่ใหญ่ คสช. ซึ่งเปรียบเสมือน 2 หัวหน้าพรรคใหญ่แต่ช่างเถอะ ยุคนี้ไม่มีใครแยแสความชอบธรรม สนใจเรื่องทำมาหากินมากกว่า เช่นถ้าปรับ ครม.ใครจะมาเป็นทีมเศรษฐกิจชุดใหม่เพราะกรรมการบริหาร พปชร. ประกาศชัดเจน ตั้งทีมเศรษฐกิจใหม่ นำโดยทั่น ศ.ดร. บิ๊กอาย นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ความเชื่อมั่นคงพุ่งปรี๊ด ยิ่งกว่าไปทำหน้ามาใหม่ ส่งสัญญาณต้องการปรับ ครม.ไล่ทีมอุตตมแม้ประยุทธยังกั๊ก บอกว่าต้องมีโควตากลาง แต่สี่กุมารคงรอดยาก แม้ทีมสมคิด–อุตตม ล้มเหลวมามาก แต่จะเอาใคร ถ้านักการเมืองได้นั่งคลัง นักลงทุนคงหัวร่อก๊าก ต่อให้หากูรูคนใหม่ แต่จะมีเทคโนแครตคนไหน อยากเอามือไปซุกหีบกับประยุทธ์ประวิตรในสถานการณ์อย่างนี้รัฐบาลประยุทธ์จึงเหมือนนุ่งกางเกงตูดขาด หลังบ้านโหว่ พรรคการเมืองวุ่นวาย ต้องการปรับ ครม.ต่างตอบแทน ตั้งแต่พรรคแกนนำ พรรคแมลง ไปจนพรรคแมงหวี่ ที่เสนอชื่อ เต้ พระรามเจ็ด ความเชื่อถือของประชาชนต่อพรรคการเมืองตกต่ำสุดในขณะที่เบื้องหน้ากลับเสริมอำนาจ รัฐราชการเข้มแข็งควบคุมจับกุมปราบปราม ฉวยความกลัวโควิดมาปั่น ให้ประชาชนอยู่ใต้คำสั่งรัฐเวชกรรมอำนาจนิยม โดยอ้าง New Normal ควบคุมวิถีชีวิต ความมีอิสระเสรี มาตรการหลายเรื่องคนส่วนใหญ่เห็นว่าไร้สาระ แต่ก็จะมีสื่อหรือประชาชนที่อยากเป็น เด็กดี ไล่จี้ขี้ฟ้องจ้องจับผิดช่วยราชการอำนาจฉุกเฉินเสริมรัฐเป็นใหญ่ ผนึกทหารตำรวจฝ่ายปกครองสาธารณสุข พลเมืองอาสา ควบคุมประชาชน ทั้งทางการเมืองและการใช้ชีวิตโดยอ้างสุขภาพ ในระบบบริหารก็ฟื้นระบอบพ่อเมือง สดุดีผู้ว่าฯ แทนที่จะมุ่งสู่เลือกตั้งท้องถิ่น ใช้อำนาจจัดระเบียบสังคม ทั้งที่ไม่เกี่ยวโควิด เช่น ไล่จับเด็กแว้น รถซิ่ง เล่นการพนัน แล้วแถมข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งดูเหมือนจะทำให้คนพอใจกับการใช้ยาแรงในภาพกว้างคือรัฐประยุทธ์ ปีกที่เป็นรัฐราชการ ภาคจับกุมควบคุมปราบปราม ทหารตำรวจ เข้มแข็งขึ้น ฟื้นความนิยมให้ประยุทธ์ แต่รัฐราชการภาคเศรษฐกิจ ย่ำเท้าหรือถอยหลัง ไม่มีหัวคิดสร้างสรรค์ ปรับตัวไม่ทัน ซ้ำมาตรการควบคุมขัดขวางการกลับสู่ภาวะปกติ เช่นเปิดโรงเรียนก็ต้องสลับกันอยู่บ้าน เรียนออนไลน์ เพิ่มภาระใช้จ่าย เปิดผับบาร์ก็ให้ไปนั่งพับเพียบ ได้ผลทางศีลธรรมส่วนปีกการเมือง มีแต่ลงเหวไปเรื่อย ๆ ยิ่งมายิ่งเสื่อม โดยประยุทธ์ปัดความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะไม่ว่า พปชร.จะใส่หน้ากากอุตตม หรือหน้ากากป้อม ก็คือพรรคที่ตั้งมาเพื่อสืบทอดอำนาจ อย่าลอยตัวเป็นคนดีคนซื่อไม่เกี่ยวนักการเมือง | ศบค.ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ผิดคาด การ์ดอย่าตก ๆ ไม่งั้นที่ทำมาจะเป็นศูนย์หมด ต้องรอให้ทั้งโลกมีผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ 28 วัน จึงเลิกใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ เจ้าหน้าที่ไม่มีกฎหมาย | การเมือง,สิทธิมนุษยชน,คุณภาพชีวิต | ศบค.,พ.ร.ก.ฉุกเฉิน,โควิด-19,ใบตองแห้ง | https://prachatai.com/journal/2020/06/88391 |
ชาร์ล ชวาร์ตเซล โปรแอฟริกาใต้ ขึ้นเป็นผู้นำกอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพวันแรก | กอล์ฟเอเชี่ยนทัวร์รายการไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ ที่สนามอมตะ สปริง คันทรีคลับ จังหวัดชลบุรี ในปีนี้ (55) มีนักกอล์ฟระดับโลกหลายคนเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งวันแรกปรากฏว่า ชาร์ล ชวาร์ตเซล โปรมือ 32 ของโลกจากแอฟริกาใต้ เจ้าของแชมป์เมเจอร์รายการ เดอะ มาสเตอร์สเมื่อปีที่แล้ว ทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการเก็บ 7 เบอร์ดี้ไม่เสียแม้แต่โบกี้เดียว คะแนนรวม 7 อันเดอร์ รั้งตำแหน่งผู้นำเดี่ยวส่วนฐิติพันธ์ช่วยประคอง โปรดาวรุ่งวัย 20 ปีของไทยทำ 6 เบอร์ดี้ ไม่เสียโบกี้เช่นกัน อยู่อันดับ 2 ตามหลังชวาร์ตเซลแค่ 1 สโตรก ด้าน ลี เวสต์วู้ด โปรมือ 4 ของโลกจากอังกฤษ แชมป์เก่าปีที่แล้ว (54)กลับทำผลงานไม่ดีนัก ขณะที่ผลงานของนักกอล์ฟไทยรายอื่น กิรเดช อภิบาลรัตน์ถาวร วิรัตน์จันทร์ ประหยัด มากแสง พรหม มีสวัสดิ์ธงชัย ใจดี และ อานนท์ ว่องวานิช ที่เพิ่งคว้าแชมป์กอล์ฟคิงส์คัพที่จังหวัดขอนแก่นมีอาการบาดเจ็บที่หลัง หลังจากเล่นไปได้เพียงแค่สามหลุมต้องถอนตัวจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย | การแข่งขันไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ วันแรก ตำแหน่งผู้นำตกเป็นของ ชาร์ล ชวาร์ตเซล โปรจากแอฟริกาใต้ ส่วนฐิติพันธ์ ช่วยประคอง โปรดาวรุ่งของไทยทำผลงานได้ยอดเยี่ยมตามหลังผู้นำเพียง 1 สโตรก | กีฬา | กอล์ฟ,แข่งขัน,แชมเปี้ยนชิพ,แอฟริกาใต้ | https://news.thaipbs.or.th/content/131286 |
สธ.เตือน ปชช. ระวัง โรคฉี่หนู ช่วงฤดูฝน | ข้อมูลการเฝ้าระวังโรคจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าปีที่ผ่านมา (2557) พบผู้ป่วยโรคไข้ฉี่หนูทั้งหมด 2263 คน เสียชีวิต 25 คน ส่วนสถานการณ์ในปี 2558 ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน พบผู้ป่วยแล้ว 225 คน เสียชีวิต 4 คน ส่วนใหญ่พบในอาชีพเกษตรกรเกือบร้อยละ 50 โดยจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด คือ ระนอง นครศรีธรรมราช ศรีสะเกษ น่าน และสตูลสำหรับโรคฉี่หนู (โรคเลปโตสไปโรสิส) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนในน้ำหรือที่ชื้นแฉะ โดยมีหนูเป็นพาหะหลักในการแพร่เชื้อ รวมทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด ซึ่งเชื้อโรคฉี่หนูจะเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนัง รอยแผล รอยถลอก เยื่อบุของตา จมูก ปาก หรือผิวหนังปกติที่แช่น้ำเป็นเวลานาน รวมทั้งติดจากการกินอาหารหรือน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อนเข้าไปผู้ป่วยมักแสดงอาการหลังได้รับเชื้อ 1-2 สัปดาห์ คือมีไข้สูงฉับพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และเบื่ออาหาร ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจมีอาการแทรกซ้อนคือตัวเหลือง ตาเหลือง ไตวาย หรืออาการทางสมองและระบบประสาท อาจถึงเสียชีวิตได้ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคแนะนำประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำ ย่ำโคลนที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน หากจำเป็นขอให้สวมถุงมือยาง ใส่รองเท้าบูทยาง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ หมั่นล้างมือบ่อยๆ ชำระร่างกายหลังลุยน้ำ ดื่มน้ำต้มสุกและรับประทานอาหารที่ปรุงสุก รวมทั้งทำความสะอาดที่อยู่อาศัยเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของหนู | กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนระวังโรคไข้ฉี่หนู ซึ่งเป็นโรคติดต่อที่มาพร้อมกับช่วงฤดูฝน ปีนี้พบผู้ป่วยแล้วกว่า 200 คน แนะหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำ ย่ำโคลนที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน หากจำเป็นให้สวมถุงมือยาง ใส่รองเท้าบูทยาง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ | สังคม | กระทรวงสาธารณสุข,ข่าววันใหม่,ข่าวสังคม,โรคฉี่หนู,ไข้ฉี่หนู | https://news.thaipbs.or.th/content/1476 |
สังคมป่วยจิตไปรักษากับคนจิตป่วย? ธุรกิจร่างทรง เงินหมุนหมื่นล้าน | เชื่อหรือไม่? ปี พ.ศ.2539 ร่างทรงในประเทศไทย มีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1 แสนคน และสร้างวงเงินหมุนเวียนในประเทศ ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท,ตัดกลับมา ยุคประเทศไทย 4.0 ภายใต้การนำของรัฐบาลลุงตู่ ยุคที่มีร่างทรงเล่นเฟซบุ๊ก แสดงอภินิหาร โชว์บรรดาลูกศิษย์ลูกหา จนโดนชาวบ้านประชาชีถล่มเสียยับเยิน มันมีความแตกต่าง หรือคล้ายคลึงกันหรือไม่อย่างไร?,อะไรคือ ต้นเหตุที่ทำให้เกิด ร่างทรง ในประเทศไทย และแน่นอนร่างทรง เหล่านั้น มีความน่าเชื่อถือได้มากน้อยขนาดไหน ของจริงหรือของปลอม?,วันนี้ ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, จึงขออาสาพาไปพบกับบุคคลที่น่าจะเป็นคนเดียวในประเทศไทย ที่ใช้ความเพียรพยายามค้นหาคำตอบเหล่านั้น ผ่านงานวิจัยทางวิชาการ ของตนเอง ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2541-2542,โดยเธอผู้นี้ จะมาพร้อมกับคำตอบทั้งหมด ผ่านความพยายามค้นคว้าในงานวิจัย กระบวนการเข้าสู่ร่างทรง ที่เกิดจากการศึกษา ร่างทรง มากถึง 38 กรณีศึกษา,ผลการศึกษาพบ ร่างทรงในประเทศไทย มี 3 เชื้อชาติ ไทย ฮินดู จีน,เธอผู้นั้น มีชื่อว่า, ผศ.ดร.พิม เดอะ ยง ประธานสาขาวิชาไทยและอาเซียนศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, โดยอาจารย์สาว เล่าให้ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ฟังในเบื้องต้นว่า จากการทำงานวิจัยเมื่อปี พ.ศ.2541-2542 พบว่า ร่างทรงในประเทศไทย เท่าที่พบอยู่ มีด้วยกัน 3 ประเภท คือ 1. แบบไทย 2. แบบฮินดู 3. แบบจีน โดยแต่ละแบบจะแตกต่างกัน ในเรื่องของเทพเจ้า ที่เข้ามาประทับกับร่างทรง,อย่างไรก็ดี เท่าที่ศึกษาค้นคว้า พบว่า ในต่างประเทศเอง ก็มีความเชื่อในเรื่องของการทรงเจ้า เช่นเดียวกัน โดยในต่างประเทศนั้น จะมีความเชื่อเรื่องการทรงเจ้า ผูกโยงเข้ากับการบูชาบรรพบุรุษ และบูชาเทพเจ้า เพื่อขอพรให้ชีวิตมีแต่ความสุข ไม่เจ็บ ไม่ป่วย อย่างเช่น ชนเผ่าในแอฟริกา ก็จะมีความเชื่อว่า ร่างทรงสามารถทำนายอนาคตที่จะเกิดขึ้นได้ รวมถึงยังรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้อีกด้วย ซึ่งความเชื่อดังกล่าวจะมีความคล้ายคลึงกับความเชื่อ เรื่องการเข้าทรงของประเทศไทย,เปิด 3 สาเหตุ ทำไมต้องเกิดมา เป็นร่างทรง ของทวยเทพ,สำหรับประเด็นนี้ ผศ.ดร.พิม เปิดเผยว่า จากการทำวิจัย พบว่า สาเหตุของการที่คนส่วนใหญ่ยินยอมที่จะมาเป็นร่างทรง มีอยู่ด้วยกัน 3 เหตุผลหลักๆ คือ,1. มีอาการป่วยที่รักษาไม่หาย, โดยสาเหตุนี้ นับว่าเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งจากการสำรวจในครั้งนั้น เช่น มีอาการปวดหัวอย่างหนัก แขนขาไม่มีแรง คลุ้มคลั่ง รักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันเท่าไรก็ไม่หาย ทำให้ต้องหันไปพึ่งพาการรักษา กับ เหล่าร่างทรง โดยเมื่อไปถึง ก็จะถูกผู้ที่เป็นร่างทรง จี้จุดถึงอาการป่วยว่า ไม่มีทางรักษาหายจนกว่าจะยอมให้องค์เทพลงมาประทับร่าง เพื่อทำภารกิจบนโลกมนุษย์,ซึ่งภารกิจที่เหล่าองค์เทพ ต้องการให้ทำนั้นก็คือ การช่วยเหลือมนุษย์บนโลกให้หลุดพ้นจากความทุกข์ ด้วยการแก้เคล็ด และสะเดาะเคราะห์ต่างๆ,2. ฝันว่าเห็นเทพมาขอใช้ร่าง, ซึ่งกรณีนี้ ส่วนใหญ่มักจะพูดตรงกันว่า เหล่าทวยเทพต่างๆ จะมาเข้าฝัน เพื่อขอลงมาประทับร่าง ทำภารกิจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์,3. สืบทอดตามความเชื่อภายในครอบครัว จากรุ่นสู่รุ่น, สำหรับประเด็นนี้ เนื่องจากคนไทยเรา มักมีความเชื่อในเรื่องของการบูชาผีบรรพบุรุษ หรือ บูชาเทพเจ้ากันมาอย่างช้านาน ครอบครัวไหนที่มี พ่อ แม่ หรือ ปู่ ย่า ตา ยาย ที่เป็นร่างทรง ก็มักปลูกฝังลูกหลานให้เคารพบูชาผีบรรพบุรุษ และเทพเจ้า ด้วยกันทั้งครอบครัว และเมื่อถึงวัยที่พ่อ แม่ หรือใครในครอบครัวล่วงลับไป คนเหล่านั้น ก็จะต้องสืบทอดการเป็นร่างทรง ตามความเชื่อ ที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เกิดนั่นเอง,ยอมรับ วิทยาศาสตร์ ยังพิสูจน์ ร่างทรง ไม่ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคล,ผศ.ดร.พิม บอกเล่าถึงงานวิจัยในครั้งนั้นเพิ่มเติมอีกว่า การเข้าทรง สำหรับสังคมไทย หากจะว่ากันจริงๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับการไปปรึกษาจิตแพทย์มากนัก ผิดแต่เพียง ตามความเชื่อของคนไทย หากไปพบจิตแพทย์ ก็มักจะถูกสังคมมองว่า น่าจะมีความผิดปกติทางจิต ซึ่งใครที่ถูกมองเช่นนั้นก็มักจะเกิดความอับอาย ซึ่งแตกต่างจากเวลาที่ไปพบกับร่างทรง ที่มักจะไม่เกิดการถูกวิพากษ์วิจารณ์ในลักษณะนั้น ซึ่งประเด็นนี้ เห็นได้ชัดว่า มีความแตกต่างจากในต่างประเทศ ที่หากเกิดภาวะความเครียดเมื่อไหร่ ก็มักจะไปปรึกษาจิตแพทย์ ได้ทันที โดยที่คนในสังคม ไม่ได้มองว่าคนคนนั้นมีความผิดปกติ,ส่วนการ เข้าทรง ถือว่าเข้าข่ายเป็นการหลอกลวงประชาชนหรือไม่นั้น ส่วนตัว ก็คงบอกไม่ได้ เพราะวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน ยังไม่มีเครื่องไม้เครื่องมืออะไร ที่จะมาพิสูจน์เรื่องนี้ได้ชัดเจน เพราะจากการสำรวจก็มีพบเช่นกันว่า มีร่างทรงที่เชื่อว่าตนเองมีเทพประทับร่างจริงๆ และต้องการที่จะช่วยเหลือคนที่กำลังประสบปัญหา โดยไม่ได้หวังเงินทองอะไรตอบแทน,แต่ในจำนวนนี้ หากถามว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาหาผลประโยชน์ โดยการหลอกลวงประชาชนหรือไม่ มันก็คงปฏิเสธได้ยาก ฉะนั้น มันก็คงต้องขึ้นอยู่กับความเชื่อและวิจารณญาณส่วนบุคคล,ปี 2539 ร่างทรงในไทย มี 1 แสนคน สร้างเงินหมุนเวียนในประเทศ 20,000 ล้านบาท,อย่างไรก็ดี เมื่อถึงยุคไทยแลนด์ 4.0 เท่าที่ตนเองทราบ ยังคงไม่ได้มีการสำรวจซ้ำ ว่า ปัจจุบันตัวเลขของร่างทรงในประเทศไทย มีเพิ่มขึ้นหรือลดลง จึงไม่ทราบแน่ชัดว่าท้ายที่สุดแล้ว ระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 22 ปีนี้ จำนวนของร่างทรงในประเทศไทยยุครัฐบาลลุงตู่ มีจำนวนเพิ่มขึ้น หรือลดลง จากที่เคยมีอยู่ถึง 1 แสนคน หรือไม่ อย่างไร?,ศาสนวิทยา มอง การเข้าทรง คล้ายกับ การถูกผีสิง แต่ยอมรับ บางรายสามารถทำเรื่องเหนือความคาดหมายได้,ด้าน ,ดร.ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์ นักวิชาการด้านศาสนวิทยา, อธิบายถึงความเชื่อเรื่องการเข้าทรง ในมุมมองทางด้านศาสนวิทยา ให้ทีมข่าวฯ ฟังว่า การเข้าทรง เป็นเรื่องเดียวกับเรื่องของ การถูกผีสิง แต่ต่างกันที่ผีสิงเกิดขึ้นอย่างไม่ได้เต็มใจ แต่การเข้าทรง เกิดขึ้นจากความเต็มใจ ซึ่งถือว่าเป็นความเชื่อทางศาสนาอย่างหนึ่งที่มีมาอย่างยาวนาน บวกกับสังคมยอมรับความเชื่อดังกล่าวมาช้านานแล้ว,ร่างทรง ทางศาสนวิทยาถือเป็นขั้นสุดยอดของศาสนาโบราณ ในแง่ของการบูชาเทพเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นแค่การกราบไหว้บูชา และความต้องการเชื่อมต่อกับเทพเจ้า ผ่านการพูดคุย การโต้ตอบกัน,ซึ่งเมื่อก่อนคนไทยเราก็มีการเชื่อในเรื่องของการนับถือบูชา นับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือแม้แต่นับถือบรรพบุรุษกันมาอยู่แล้ว เมื่อเกิดการนับถือสิ่งเหล่านี้ ก็เกิดการอยากติดต่อสื่อสารกับเหล่าเทพ หรือผีบรรพบุรุษต่างๆ อยากที่จะสื่อสาร หรืออยากที่จะให้เทพมาปรากฏให้เห็นกันแบบเป็นๆ จึงทำให้เกิดการทรงเจ้าขึ้น,นักวิชาการชี้ ร่างทรงไทย มีทั้งของจริง และหลอกลวง,แต่ถึงแม้การเข้าทรงจะมีมานานตามความเชื่อของคนไทย ก็ต้องบอกว่าปัจจุบันมีทั้งคนที่เข้าทรงจริงๆ กับคนที่ต้องการหาผลประโยชน์ก็มี โดยพวกนี้ จะแบ่งออกได้เป็น 4 กรณี คือ,1. ร่างทรง จำพวก เสแสร้ง โดยจำพวกนี้ คือพวกที่หวังผลประโยชน์บางอย่าง,2. ร่างทรง จำพวก อุปาทาน ทั้งอุปาทานเดี่ยว และอุปาทานหมู่ ซึ่งเกิดจากความเชื่อเรื่องวิญญาณแบบฝังรากลึกในจิตใจมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งทำให้รู้สึกว่าตนเองเป็นเทพเจ้าจริงๆ,3. ร่างทรง เนื่องจากมีอาการจิตประสาท ป่วยเป็นโรคบางโรค กระทั่งทำให้เกิดอาการหูแว่ว เกิดภาพหลอน ทำให้หลุดออกจากความเป็นจริง,4. ร่างทรง ประเภท สามารถรู้ในสิ่งลึกลับ ที่คนอื่นไม่รู้ ซึ่งประเด็นนี้ ดร.ศิลป์ชัย บอกเล่ากับทีมข่าวว่าฯ ว่า ส่วนตัวเองก็เคยมีประสบการณ์พบเจอกับ ร่างทรง ที่สามารถบอกเล่าเหตุการณ์ในอดีตที่เคยเกิดขึ้นของบุคคลที่เข้าไปพบได้ ทั้งๆ ที่ไม่เคยพบเจอกันมาก่อน และบางรายถึงขั้นสามารถทำนายเหตุการณ์บางอย่างที่จะเกิดขึ้นกับบุคคลที่เข้าไปพบได้อย่างถูกต้อง ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้มีการสนทนากันมาก่อนหน้านี้ได้,ร่างทรงยุค 4.0 Marketing ขั้นเทพ ภาษาเทพ ตำหนักเว่อร์วัง สร้างสิ่งเร้ากระตุ้นคนเลื่อมใสศรัทธา,นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งคำถามที่ทางทีมข่าวฯ ต้องการที่จะหาคำตอบ นั่นก็คือ ปัจจัยอะไรที่ทำให้คนเราเชื่อว่า ร่างทรงทั้งหลายนั้น มีเหล่าองค์เทพประทับอยู่จริง,สำหรับประเด็นดังกล่าว ดร.ศิลป์ชัย กล่าวว่า เท่าที่มีข้อมูลในปัจจุบันปัจจัยสำคัญที่มีส่วนอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร่างทรงทั้งหลาย ก็คือ การสร้างบรรยากาศกระตุ้นให้บุคคลเกิดความคล้อยตาม ซึ่งหนึ่งในวิธีที่นิยมใช้กันก็คือ การตกแต่งสถานที่ประทับให้อลังการ และการแต่งองค์ทรงเครื่องให้ดูคล้ายคลึงกับองค์เทพ ที่อ้างว่ามาประทับอยู่ในร่าง เพื่อให้คนที่มีความเชื่อเรื่องเหล่านี้ เกิดความเชื่อถือมากยิ่งขึ้นไปอีก,จากนั้นก็จะแสดงการร่ายรำ และพูดภาษาที่อ้างว่าเป็นภาษาเทพ ให้แก่บรรดาลูกศิษย์ ซึ่งสำหรับคนที่มีความเชื่อในเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เมื่อเจอบรรยากาศความขลังที่สร้างขึ้น ก็จะยิ่งทำให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธามากยิ่งขึ้นไปอีก, ,ดร.ศิลป์ชัย นักวิชาการด้านศาสนวิทยา กล่าวทิ้งท้ายกับทีมข่าวฯ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน | เชื่อหรือไม่? จำนวนเงินมหาศาลถึง 20,000 ล้านบาท คือจำนวนเงินหมุนเวียนในประเทศ จาก ร่างทรง 1 แสนคน เมื่อปี 2539! | สกู๊ปไทยรัฐ | ร่างทรง,คนทรงเจ้า,องค์เทพ,ทรงเจ้า,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/scoop/1301176 |
รอง ผกก.นบพิตำ ดับคาบ้านพัก คาดหัวใจวายเฉียบพลัน เมียเผยป่วยมานาน | วันที่ 23 ต.ค. 58 ร.ต.ท.สุรศักดิ์ อร่ามเรือง พนักงานสอบสวน สภ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่า พบศพของ พ.ต.ท.ปรัชญาชัย อ้วนเส้ง ตำแหน่ง รอง ผกก.ป.สภ.นบพิตำ นอนเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ในบ้านพักของข้าราชการตำรวจ บริเวณ สภ.นบพิตำ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น แล้วพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรุดไปยังที่เกิดเหตุ,ที่เกิดเหตุ เป็นบ้าน 2 ชั้น ห้องนอนชั้นบน พบศพ พ.ต.ท.ปรัชญาชัย อ้วนเส้ง อายุ 56 ปี ตำแหน่ง รอง ผกก.ป.สภ.นบพิตำ ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เลขที่ 359 หมู่ 7 ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นอนคว่ำหน้าอยู่บนที่นอน สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ นุ่งกางเกงสามส่วนสีขาว มีผ้าห่มสีชมพูห่มร่างอยู่ โดยมี นางระเบียบ อ้วนเส้ง อายุ 55 ปี ภรรยายืนร่ำไห้ข้างศพตลอดเวลา,ตรวจสอบสภาพศพ พ.ต.ท.ปรัชญาชัย เริ่มแข็ง คาดเสียชีวิตมาแล้ว 10 ชั่วโมง ตรวจชันสูตรพลิกศพ อย่างละเอียด ไม่พบบาดแผลตามร่างกาย แพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า เกิดจากมีโรคประจำตัว โรคหัวใจ ทำให้หัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และภรรยาก็ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของสามี เพราะสามีป่วยเป็นโรคประจำตัวมานานแล้ว,ด้าน นางระเบียบ ให้การว่า มีอาชีพเป็นครูสอนวิชาพละ โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ทุ่งสง ส่วนสามี อดีตเคยเป็น ตชด.กก.ตชด 42 ทุ่งสง เพิ่งย้ายมาเป็น รอง ผกก.ป. ที่สภ.นบพิตำ ได้ไม่นาน ซึ่งปกติตนจะมาเยี่ยมสามี ที่ สภ.นบพิตำ เป็นประจำ ซึ่งเมื่อคืน ตลอดทั้งคืน ตนได้พยายามโทรศัพท์หาสามีทั้งคืน ก็ไม่รับสาย กระทั่งรุ่งเช้าจึงขับรถมาดูสามีที่บ้านพักตำรวจ ก็พบสามีนอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนดังกล่าว โดยที่ผ่านมาสามีพยายามรักษาอาการป่วยมาโดยตลอด ไม่คิดว่าสามีจะมาเสียชีวิต นางระเบียบกล่าวด้วยน้ำตา ก่อนรับศพไปจัดการตามประเพณีต่อไป. | สลด! รอง ผกก.ป.สภ.นบพิตำ เมืองคอน เสียชีวิตคาบ้านพัก ตรวจสอบไม่พบบาดแผลตามร่างกาย ด้าน ภรรยาไม่ติดใจการเสียชีวิต เผย ผู้ตายป่วยโรคหัวใจมานาน คาดหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน | ข่าว,ทั่วไทย | ปรัชญาชัย อ้วนเส้ง,รอง ผกก.ป.,ป่วยโรคหัวใจ,หัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน,รองผู้กำกับเมืองคอนเสียชีวิต,โรคประจำตัว,นครศรีธรรมราช,สภ.นบพิตำ,บ้านพักตำรวจ,นอนหลับเสียชีวิต,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/534348 |
รักไร้เพศ พลอย-โม โอเคเลิฟแรง | เดี๋ยวๆ เดี๋ยวนะ ยังๆ ยังไม่ได้เลิก ตรงกันข้ามยิ่งนานวันยิ่งรักเธอ มากขึ้นทุกวันๆ เมื่อคืนวันดีๆ วันลอยกระทงแสนสุข นางร้ายหน้าแจ่มเว่อร์ โม อมีนา พินิจ ควงแฟนทอมชื่อ พลอย ไปลอยๆ กระทงอย่างสุขล้นทะลักแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณยอดพิมานริเวอร์วอล์ก Yodpiman River Walk แถวปากคลองตลาด กรุงเทพ,หลังจากเหนื่อยหนัก จากการลุยเป็นออแกไนซ์ จัดประกวดเทพบุตรยอดพิมาน นางนพมาศยอดพิมาน และหนูน้อยนพมาศ จากนางร้ายพักแป๊บมาช่วยดันเด็กใหม่ เรียกว่างานนี้จบไปแบบราบรื่นจัง โอเคกว่าที่คิดไว้เยอะ ถึงแม้จะมีอุปสรรคบ้างให้คิดให้แก้ไขกันไป แต่โมและทีมงานสตรองๆ ก็ทุ่มเทตั้งใจเกินร้อย โดยเฉพาะมีขุ่นแม่สายแซ่บ น็อต กฤติน จิกิตศิลปิน คอยให้คำปรึกษาแนะนำเกือบทุกอย่างให้ได้ จนทำให้ยอดพิมานริเวอร์วอล์ก กลายเป็นอีกแหล่งฮอตของการลอยกระทง ที่สุดแสนประทับใจใครหลายคนไปแล้ว,บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ เก็บภาพความสุขความทรงจำอันแสนหวานของ โม-พลอย มาให้ดูกันชัดๆ อีกครั้ง เพื่อตอกย้ำให้เห็นว่า ความรักไม่จำกัดเพศ ถ้าใจตรงใจ เข้าใจดูแลกันและกันอย่างเป็นดี ก็ก่อเกิดเป็นความรักเรา ที่สุดแสนหวานฉ่ำชื่นได้. | เดี๋ยวๆ เดี๋ยวนะ! ยังๆ ยังไม่ได้เลิก ตรงกันข้ามยิ่งนานวันยิ่งรักเธอ มากขึ้นทุกวันๆ เมื่อคืนวันดีๆ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | โม พลอยแฟนทอม ลอยกระทง2018,ยอดพิมานริเวอร์วอล์ก Yodpiman River Walk,ลอยกระทงยอดพิมาน2018,บุรุษยอดพิมา,กอสซิป | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1427091 |
น้ำตาล รับเคยเป็น โรคซึมเศร้า | Organic Smile เพียงแค่ยิ้มแล้วส่งต่อไป, ของ สำนักพิมพ์, GEEK BOOK, (กี๊ก บุ๊ก) ในเครือโมโน กรุ๊ป ที่ต้องการให้ภาพของคนดังได้มีส่วนช่วยเหลือน้องๆใน ,มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม, ในการระดมทุนเพื่อนำไปผ่าตัดช่วยเหลือเด็กที่ประสบปัญหาโรคปากแหว่งเพดานโหว่,งานนี้ ,น้ำตาล–พิจักขณา วงศารัตนศิลป์, เผยว่า เมื่อก่อนตาลเคยคิดว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ เพราะว่าตัวตาลเองไม่ได้เติบโตมาพร้อมที่จะเป็นศิลปิน นักแสดง ก่อนหน้านี้ตาลเรียนครูมาค่ะ แล้ววันหนึ่งตาลก็มาเป็นดารา จะต้องอยู่ท่ามกลางผู้คน เป็นบุคคลสาธารณะ ดังนั้น มันก็เลยทำให้เราไม่ได้ตั้งรับในเรื่องของคำวิจารณ์หรือเรื่องอื่นๆ มีคนมาตัดสินเราจากสิ่งที่ได้ยินได้รับฟังมา หรือตัดสินเราจากการอ่านเพียงไม่กี่บรรทัด ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ตาลดาวน์มากๆ รู้สึกเศร้า และมันก็ทำให้คนรอบข้างของเราหม่นไปด้วย จนเริ่มคิดได้ ตัวเราเองต้องเข้มแข็ง ต้องยิ้มรับกับทุกสถานการณ์ หลังจากคิดได้ตาลมุ่งไปปฏิบัติธรรมไปเป็นลูกศิษย์ของท่าน ว.วชิรเมธี ทำให้เราได้ใส่ใจกับธรรมะมากขึ้น ก็เลยทำให้จิตใจเราสงบ เมื่อก่อนเราอาจจะเป็นทุกข์กับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ทำให้เราเป็นคนคิดมาก ธรรมะสอนให้เราอยู่กับปัจจุบัน จากนั้นตาลก็มุ่งมั่นที่จะสร้างรอยยิ้มให้ตัวเอง รวมถึงคนอื่นๆ ที่ตาลจะช่วยเหลือได้ ตาลอยากจะเป็นกำลังใจให้กับน้องๆ ที่ประสบปัญหาโรคปากแหว่งเพดานโหว่ รวมถึงคนอื่นๆ ที่กำลังคิดว่าชีวิตเรากำลังแย่ ให้ทุกคนมองทุกอย่างในแง่บวกมากขึ้น อยากให้ยึดหลักสายกลาง มาสูงสุด ไม่ต่ำสุด ใช้ชีวิตในทุกๆวันให้มีความสุขก็พอค่ะ. | ส่งยิ้มเพื่อทำบุญร่วมกันผ่านการร่วมบันทึกภาพรอยยิ้ม ใน หนังสือ Organic Smile เพียงแค่ยิ้มแล้วส่งต่อไป | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | น้ำตาล พิจักขณา,มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม,โมโนกรุ๊ป,โรคซึมเศร้า,ปากแหว่งเพดานโหว่,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1154765 |
จ.เชียงราย ได้รับรางวัลการอนุรักษ์ป่าชุ่มน้ำ | วันนี้ (8 มิ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ป่าชุ่มน้ำลุ่มน้ำอิง บ้านบุญเรือง อ.เชียงของ จ.เชียงราย บนเนื้อที่ 3706 ไร่ มีสภาพอุดมสมบูรณ์ เพราะได้รับการอนุรักษ์ป่าจากชาวบ้านที่อยู่รอบป่าแห่งนี้ ช่วยกันปกป้องดูแล จนล่าสุดป่าชุ่มน้ำลุ่มน้ำอิง บ้านบุญเรือง ได้รับรางวัลเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก จากโครงการพัฒนาของสหประชาชาติ หรือ UNDP ซึ่งเป็นรางวัลสิ่งแวดล้อมระดับนานาชาติชุมชนบ้านบุญเรือง เป็นหมู่บ้านเครือข่ายที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสภาประชาชนลุ่มน้ำอิง ตั้งแต่ปลายปี 2558 ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานเพื่อปกป้องป่า จนได้รับการยอมรับจากองค์กรระดับสากลชาวบ้าน ระบุว่า รู้สึกดีใจที่ได้รับรางวัล และประกาศให้ทั่วโลกได้ทราบว่าการยืนยันสิทธิของชุมชนต่อทรัพยากรที่ชาวบ้านใช้ร่วมกันได้ ใช้อย่างชาญฉลาดและยั่งยืน ภายใต้กระบวนการการมีส่วนร่วมของชุมชน เห็นถึงความเข้มแข็งของชุมชน และที่สำคัญเป็นการทำงานที่เชื่อมร้อยเครือข่ายในนามสภาประชาชนลุ่มน้ำอิงที่อยากจะเห็นสิทธิชุมชนต่อการจัดการทรัพยากรดิน น้ำ ป่า อย่างมีส่วนร่วมและยั่งยืน | ป่าชุ่มน้ำลุ่มน้ำอิง บ้านบุญเรือง อ.เชียงของ จ.เชียงราย บนเนื้อที่ 3706 ไร่ ได้รับรางวัลเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก จากโครงการพัฒนาของสหประชาชาติ หรือ UNDP | ภูมิภาค | ป่าชุ่มน้ำ,ป่าชุ่มน้ำลุ่มน้ำอิง,บ้านบุญเรือง,เชียงราย,วันสิ่งแวดล้อมโลก,UNDP | https://news.thaipbs.or.th/content/293399 |
ฟลอเรนซ์ดีใจ ตั๊กชวนเล่นหนัง ยอมไม่สวยเพื่อ เพื่อนฉันฝันสลาย | ฟลอเรนซ์ วนิดา เฟเวอร์, พลิกคาแรกเตอร์ครั้งสำคัญในภาพยนตร์ ,เพื่อนฉันฝันสลาย, หรือ ,Sad Beauty, ผลงานพ้อยท์ อัพ ฟิล์มส์ จากค่ายเอ็ม พิคเจอร์ส ฟลอเรนซ์ เผยว่า ในเรื่องรับบทเป็น โย นางแบบ นักแสดงดาวรุ่งปากกล้า แต่ชีวิตกำลังแย่ลงเพราะใช้ชีวิตประมาท เที่ยวเตร่ไปวันๆ ชอบทำอะไรประชดชีวิตจนถูกแบน ท่ามกลางเรื่องที่แย่นั้น เธอมีเพื่อนสนิทที่รักและเข้าใจเธอทุกอย่าง และเช่นกันเธอก็รักเพื่อนมากพอที่จะทำอะไรเพื่อปกป้องเพื่อนได้ บุคลิกของฟลอเรนซ์ก็ตรงกับคาแรกเตอร์ที่ตั๊ก บงกช เขียนออกมา,แต่ในเรื่องราวก็จะมีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ใช่เลย หนังเรื่องนี้ติดต่อมาตอนที่ฟลอเรนซ์อยู่เมืองนอก พอมาอ่านบทดูเห็นว่าเป็นบทที่น่าเล่น เป็นคาแรกเตอร์ที่จะมีอะไรให้เล่นเยอะ ทั้งซีนดราม่าที่ต้องใช้อารมณ์เยอะๆ หรือแม้แต่ต้องสะบักสะบอม แทบจะไม่ห่วงสวยให้เห็นในหนังเลย อ่านเรื่องย่อและบทก็เรียกได้ว่าเป็นบทที่ต้องให้ค้นหาเยอะ มีหลากหลายอารมณ์ เรื่องราว ซึ่งมันก็มาจากชีวิตจริง ฟลอเรนซ์คิดว่าเรื่องนี้คนดูหนังน่าจะได้รับแง่คิดดีๆที่ตั๊กเขาอยากจะสื่ออะไรคนดูเยอะอยู่ และถ้านับกันจริงๆ จากเรื่องแรกทวิภพและมาเล่นเรื่องนี้ ถือว่าเป็นการคืนจอเงินกับบทเด่นในรอบ 10 ปีของตัวเองก็ว่าได้ เรื่องนี้มีอะไรให้ได้คิดเยอะค่ะ อย่างเรื่องของเพื่อนที่เป็นความผูกพัน เป็นมิตรภาพที่ดีต่อกัน และเป็นเพื่อนที่ตายแทนกันได้ คนเราจะต้องมีเพื่อนใช่มั้ยคะ ถ้าไม่มีเพื่อนที่เรารัก และรักเรา ก็คงไม่มีความปรารถนาที่ดีๆให้ต่อกัน ฟลอเรนซ์เห็นความตั้งใจ ที่ตั๊กคิดสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา ที่เราใส่ใจทำให้ดีที่สุด และเชื่อว่าพอออกมา ก็จะทำให้คนได้รับกลับไปหวนถึงมิตรภาพของเพื่อนมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่คบกันเฉยๆ แต่ต้องดูแลซึ่งกันและกันมากกว่าเดิม. | กลับมาทำงานบนแผ่นดินไทยอีกครั้ง นักแสดงสาว ฟลอเรนซ์ วนิดา เฟเวอร์ พลิกคาแรกเตอร์ครั้งสำคัญในภาพยนตร์ เพื่อนฉันฝันสลาย หรือ Sad Beauty | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ฟลอเรนซ์ วนิดา เฟเวอร์,เพื่อนฉันฝันสลาย,ภาพยนตร์,ตั๊ก บงกช,Sad Beauty,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1188462 |
เทพไท ขอรัฐเยียวยาค่าภัตตาหาร ภิกษุสงฆ์ เดือนละ 3 พัน ตกวันละ 100 | นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ปชป. ขอรัฐบาลเยียวยาค่าภัตตาหารภิกษุสงฆ์ ตั้งแต่ เม.ย.-มิ.ย. เดือนละ 3 พัน ตก 100 บาทต่อวัน ช่วงโควิด-19 ระบาด บอกจากเดิมวันละ 60 บาท น้อยเกินไปวันที่ 6 มิ.ย. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุถึงมาตรการเยียวยาพระสงฆ์ที่บิณฑบาตไม่ได้จากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 รูปละ 60 บาท โดยจะส่งเงินไปให้วัดแต่ละแห่งเป็นผู้บริหารเงิน ตั้งแต่เดือน เม.ย.-มิ.ย. รวม 3 เดือน ว่า ไม่ทราบว่า รัฐบาลมีหลักเกณฑ์ในการเยียวยาพระภิกษุสงฆ์อย่างไรบ้าง แต่ส่วนตัวเห็นว่า การเยียวยาให้แก่พระภิกษุสงฆ์วันละ 60 บาทนั้น น้อยเกินไป เพราะค่าครองชีพยุคปัจจุบัน เมื่อเปรียบเทียบกับการเยียวยาให้แก่ประชาชนทั่วไป เดือนละ 5000 บาท ตกเฉลี่ยวันละ 167 บาท แต่พระภิกษุสงฆ์กลับได้รับค่าเยียวยาน้อยกว่า 3 เท่า หรือเดือนละ 1800 บาท อาจจะไม่เพียงพอกับค่าภัตตาหารในการฉันเช้า ฉันเพลแต่ละมื้อ ตกเฉลี่ยมื้อละ 30 บาท ไม่พอแม้แต่จะซื้อก๋วยเตี๋ยว หรือข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว และนำ้ดื่มได้ ซึ่งในสถานการณ์ขณะนี้ พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ก็ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกัน เพราะมีการงดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา กิจนิมนต์ลดน้อยลง ทำให้ขาดแคลนจตุปัจจัยที่ฆราวาส ญาติโยมทำบุญถวายพระภิกษุสงฆ์ตามประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมาดังนั้นเพื่อความเหมาะสมตามฐานานุรูป จึงขอเสนอให้รัฐบาลถวายเงินเยียวยาพระภิกษุสงฆ์ สามเณร รูปละ 100 บาทต่อวัน หรือประมาณเดือนละ 3000 บาท แด่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ที่มีจำนวน 250000 รูปเท่านั้น ซึ่งใช้เงินงบประมาณจำนวนไม่มากเลย เมื่อเทียบกับวงเงินการเยียวยาให้แก่ฆราวาส หรือประชาชนทุกกลุ่มจำนวน 44-48 ล้านคน และการถวายปัจจัยเยียวยาให้พระภิกษุสงฆ์ในครั้งนี้ ถือว่ารัฐบาลได้ใช้โอกาสนี้สร้างบุญกุศลให้กับประเทศชาติอีกด้วย นายเทพไท กล่าว | นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ปชป. ขอรัฐบาลเยียวยาค่าภัตตาหารภิกษุสงฆ์ ตั้งแต่ เม.ย.-มิ.ย. เดือนละ 3 พัน ตก 100 บาทต่อวัน ช่วงโควิด-19 ระบาด บอก จากเดิมวันละ 60 บาท น้อยเกินไป | ข่าว,การเมือง | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,เยียวยาภิกษุสงฆ์,เทพไท เสนพงศ์,ประชาธิปัตย์,ส.ส.นครศรีธรรมราช ปชป.,ค่าภัตตาหาร,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1862508 |
รีโว่แต่งจี๊ด | จึงเดินหน้าลุยปะฉะดะต่อเนื่องในทุกผลิตภัณฑ์ชนิดนันสต็อปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย,โดยในงาน บิ๊ก มอเตอร์ เซล 2018 ณ ไบเทค บางนา กระหึ่มระหว่างวันที่ 18-26 ส.ค.2561 (วันนี้เป็นวันสุดท้าย) อันเป็นหนึ่ง,ในงานแสดงรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ของไทยช่วงไตรมาสที่ 3,ค่ายโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ยกทัพรถยนต์โตโยต้าหลากหลายรุ่น ภายใต้แนวคิด Live Aliveออกไปใช้ชีวิต,นำเสนอนวัตกรรมยานยนต์และ 4 เทคโนโลยีใหม่ของโตโยต้า ที่จะสามารถตอบโจทย์ทุกการขับขี่ เพื่อออกไปค้นพบประสบการณ์และแรงบันดาลใจใหม่ในทุกการเดินทาง,โดยตั้งใจกระตุ้นตลาดรถ รวมถึงเพิ่มช่องทางในการเลือกซื้อให้กับนักเลงรถที่กำลังเล็งซื้อรถคันใหม่,จึงจัดแคมเปญส่งเสริมการขายหลากรูปแบบเพื่อเอื้อต่อการตัดสินใจเป็นเจ้าของรถโตโยต้าในทุกรุ่น,ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความเร้าใจและฉลองยอดผลิตรถยนต์โตโยต้าในไทยครบ 10 ล้านคัน ค่ายโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ยังจัดให้พิเศษ,เมื่อจองรถโตโยต้าทุกรุ่น ลุ้นรับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท รวมมูลค่า 10 ล้านบาท,สำหรับไฮไลต์พิเศษของบูธโตโยต้าในงานบิ๊ก มอเตอร์ เซล 2018 นอกจากการแสดงรถยนต์โตโยต้าหลากหลายรุ่น,อย่างเช่น โตโยต้า ซี-เอชอาร์ รถซับคอมแพ็กต์เอสยูวีรุ่นใหม่ ยนตรกรรมแห่งความสมบูรณ์แบบ ดีไซน์รูปลักษณ์ทรงเหลี่ยมของมุมเพชรให้มีความสปอร์ต หรูหรา ล้ำสมัย เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ,โดยได้เพิ่มทางเลือกให้กับนักเลงรถที่ชอบความเร้าใจกับ โตโยต้า ซี-เอชอาร์ ทีอาร์ดี สปอร์ตทิโว ที่ตกแต่งพิเศษในสไตล์เอ็กซ์ตรีมสปอร์ต,นอกจากนี้ยังได้จัดแสดง โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ รุ่นตกแต่งพิเศษ แกร่งเกินนิยาม,มาพร้อมดีไซน์มาดแกร่ง ดุดัน ชุดแต่งพิเศษรอบคัน พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ลายใหม่สีดำ ห้องโดยสารดีไซน์ใหม่โทนสีดำ เข้มเต็มอารมณ์ สร้างความแตกต่างที่เหนือระดับ เปี่ยมด้วยสมรรถนะที่แข็งแกร่งเกินนิยาม,สะท้อนภาพลักษณ์ของผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์รักการผจญภัย พร้อมลุยฝ่าไปในทุกเส้นทาง,ขณะเดียวกัน เพื่อเอาใจนักเลงรถกระบะที่ชื่นชอบการตกแต่งรถให้ดูเท่ฉกรรจ์ดูจี๊ดจ๊าดมากขึ้น,ที่บูธโตโยต้ายังได้จัดแสดงรถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นตกแต่งพิเศษถึง 2 คัน 2 สไตล์ โดยสำนักแต่งชั้นนำอย่าง พีเอสพี (PSP) ซึ่งถือเป็นเอตะทัคคะการแต่งรถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่,คือ รุ่น พีเอสพี บุลเล็ต เวอร์ชั่น แปลงไฮลักซ์ รีโว่ 4 ประตู ตกแต่งในสไตล์ เอ็กซ์ตรีม เรซซิ่ง ทุกสายตาต้องจับจ้องด้วยสีทองของตัวรถ,และ รุ่น ไวด์ โอเวอร์ เฟนเดอร์ ให้อารมณ์ดุดัน และโดดเด่นบนท้องถนน สอดรับกับล้อแม็ก ขนาด 18 นิ้ว เต็มซุ้มล้อ สาวกรถซิ่งต้องตาลุกวาว,ว้าว,อัลคาโปน,[email protected] | ปีนี้ ค่ายโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เจ้าพ่อตลาดรถยนต์บ้านเรา ดูเหมือนจะกินดีหมีหัวใจเสือ จึงเดินหน้าลุยปะฉะดะต่อเนื่องในทุกผลิตภัณฑ์ชนิดนันสต็อปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย | ข่าว,ยานยนต์ | มอเตอร์วอร์ส,อัลคาโปน,โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย,โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่,โตโยต้า ซี-เอชอาร์ | https://www.thairath.co.th/news/auto/news/1361966 |
พล.อ.ประยุทธ์ ส่งสารยินดีเลือกตั้งพม่าเรียบร้อย ชมมีผู้ใช้สิทธิจำนวนมาก | 10 พ.ย.2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีสารแสดงความยินดีต่อการจัดการเลือกตั้ง ถึงนายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาโดยระบุว่า ตามที่เมียนมาได้จัดการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย. 2558 ซึ่งเป็นไปโดยสงบเรียบร้อย นั้น พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีสารแสดงความยินดีต่อการจัดการเลือกตั้งดังกล่าวถึงนายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยได้แสดงความชื่นชมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนที่ได้ส่งเสริมและพยายามดำเนินการให้การจัดการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม และแสดงความยินดีที่มีชาวเมียนมาได้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก ตลอดจนได้ย้ำเจตนารมณ์ของรัฐบาลไทยในการสนับสนุนพัฒนาการทางการเมืองและกระบวนการปรองดองแห่งชาติในเมียนมา อันจะนำพาประเทศไปสู่สันติภาพ ความมีเสถียรภาพ และความเจริญก้าวหน้า ซึ่งจะยังประโยชน์แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศต่อไปในโอกาสเดียวกันนี้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีสารแสดงความยินดีต่อการจัดการเลือกตั้งดังกล่าวถึงนายวันนะ หม่อง ลวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาด้วยเช่นกัน โดยได้เน้นย้ำว่า การเลือกตั้งทั่วไปในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับพัฒนาการทางการเมืองในเมียนมาและได้ขอบคุณฝ่ายเมียนมาที่ได้ให้การต้อนรับคณะสังเกตการณ์การเลือกตั้งจากประเทศไทยที่ได้เข้าไปสังเกตการณ์การจัดเลือกตั้งในเมียนมา ระหว่างวันที่ 5 – 9 พ.ย. 2558 เป็นอย่างดีรัฐบาลไทยสนับสนุนกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตย และกระบวนการสันติภาพในเมียนมามาโดยตลอด ภายหลังการเลือกตั้ง ประเทศไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกฝ่ายในเมียนมา รวมทั้งรัฐบาลใหม่ของเมียนมาเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เพื่อเสถียรภาพ การพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนของทั้งสองประเทศและภูมิภาค | 10 พ.ย.2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีสารแสดงความยินดีต่อการจัดการเลือกตั้ง ถึงนายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยระบุว่า | การเมือง,ต่างประเทศ | การเลือกตั้ง,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,พม่า | https://prachatai.com/journal/2015/11/62358 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.