title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
บ้านใบกะเพรา ฝีมือด็อกเตอร์ อร่อยเทพๆ เมนูสิ้นคิด | ทริปเที่ยวสั้นๆวันเดียวจบสัปดาห์นี้เด็กๆที่บ้านอยากไปกินเที่ยวช็อป ตลาดน้ำไทรน้อยพวกเราไปกันแต่เช้าเกิน ก่อนจะถึงจุดหมายเลยชวนกันแวะโลตัส สาขาไทรน้อย-บางบัวทอง เข้าห้องน้ำห้องท่า กันสักหน่อย,ด้วยโชคชะตาฟ้าลิขิตในเรื่องกินๆเที่ยวๆ ก็ให้บังเอิญไปสะดุดตากับร้าน บ้านใบกะเพรา ฟู้ดคอร์ต ชั้น 1 ใกล้ห้องน้ำนั่นแหละ สะดุดใจจั๋งหนับด้วยป้าย ฟรีไข่ดาวทุกเมนู ไปแล้วเหลียวมองป้าย 11 เมนูทางเลือกยิ่งชวนหิววววไปกันใหญ่ จัดก่อนก็ได้อิ่มท้องแล้วเดี๋ยวกองทัพจะได้เดินต่อ555,ข้าวราดกะเพราหอยแมลงภู่ชิลี 55 บาทข้าวราดกะเพราหมูสับ 45 บาทข้าวราดกะเพราอกไก่ 45 บาทข้าวราดกะเพราเต้าหู้ (ถั่วเหลือง) 45 บาทข้าวราดกะเพราเนื้อโคขุนโพนยางคำ 60 บาทข้าวราดกะเพราปลา 50 บาทข้าวราดกะเพราหมูกรอบ 60 บาทข้าวราดกะเพราปลาหมึก 50 บาทข้าวราดกะเพราเป็ด 55 บาทข้าวราดกะเพรากุ้ง 60 บาทข้าวราดกะเพราจัมโบ้ เลือกได้ 4 หน้า+ไข่ดาว 4 ฟอง 189 บาท,หรือถ้าใครยังไม่สาแก่ใจจะเพิ่มไข่ต้ม, ไข่ดาว, ไข่เจียวก็ได้ เขาคิดอยู่ที่ 10, 15 บาทหากจะใส่กล่องกลับบ้านก็เพิ่มอีก 5 บาท,คุณชาย 3 นำทีมเสี่ยสั่งลุย จัมโบ้ 4 หน้ามาหนึ่ง กะเพราหมึก หมู ปลา เต้าหู้เดี่ยวๆ กะเพราเนื้อโคขุน, กุ้ง, หอยชิลี รอคิวแป๊บไม่ทันโมโหหิวก็วางเต็มโต๊ะ เปิดฉากด้วยกะเพราหอยชิลีตัวไม่ได้เล็กๆเลยนะจะบอกให้ จัดแน่นหอยพาเหรดมาเต็มโปะหน้ามาจนไม่เห็นข้าวกันเลยทีเดียวดีต่อใจในสนนราคา 55 บาท,รสชาติเผ็ดกำลังดี เครื่องถึงไม่คาว ใบกะเพราก็มาเต็มไม่เสียชื่อ เขียวสดใส สะอาดไม่หงิกงอดูหดหู่เสียชื่อผัดกะเพรา ไม่ทันวางช้อนก็หันไปแจมกะเพราเนื้อโคขุนโอ้ๆๆปริมาณสมราคา เนื้อนุ่ม ดูดีมีคุณภาพ (ไม่ใช่เศษเนื้อ) กลมกล่อมลงตัวแล้วก็ให้วนๆไปวนๆมา กุ้งบ้าง หมึกบ้าง ปลาบ้าง หมูบ้างกันอยู่พักหย่ายยยย,ที่แปลกรสลิ้นในวันนี้เห็นจะมีกะเพราเต้าหู้ (ถั่วเหลือง) เขาใช้เต้าหู้กรอบพวงเหลี่ยมๆเล็กๆที่ใส่ในต้มไข่พะโล้เอามาผ่าครึ่งทอดกรอบกำลังดีไม่แข็งไม่นิ่มจนเกินไปแล้วก็เอามาผัดกะเพราแบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ อร่อยดีไปอีกแบบ แบบว่ารักสุขภาพเหมาะกับคนที่ไม่ทานเนื้อสัตว์,เคลิ้มคล้อยไปกับข้าวกะเพราแกล้มไข่ดาวฟรีเพลินหัวใจแล้ว ยังมีซุปให้ซดคล่องๆคอแถมฟรีอีกชุดละ 1 ถ้วยด้วยนะจ๊ะจะบอกให้ น้ำซุปสต๊อกไก่ทำสดใหม่ทุกวัน ตักใส่ถ้วย ลอยใบกะเพราสดๆใส่มาด้วยให้ความหอมกรุ่นๆนิดๆซัดกะเพราแซ่บๆเผ็ดๆกลั้วซุปอุ่นๆสุดลงตัวก็ฟินเว่อร์กันไปตามระเบียบ อร่อยจนต้องบอกต่อ,ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อโลกจะกลมกลิ้งได้ขนาดนี้ เจ้าของธุรกิจ บ้านใบกะเพรา แห่งหนตำบลนี้ สืบทอดสูตรต้นตำรับดั้งเดิมมาจากคุณย่า จะเป็น รองศาสตราจารย์ ดร.วิชิต อู่อ้น คณบดีวิทยาลัย บัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม อาจารย์สมัยเรียนปริญญาโทของ คุณชาย 3 นั่นเอง,อยากจะเรียกอาจารย์ว่าเป็นเกจิด้านการตลาด แต่ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเทพด้านทำอาหารโดยเฉพาะเมนูสิ้นคิดอย่างผัดกะเพราความอร่อยไม่มีคำว่าอวยเชียร์เพื่อพวกพ้องเพื่อนฝูง แม้กระทั่งอาจารย์ เพราะถ้าชิมแล้วอร่อยก็ต้องอร่อยจริงๆ แถมคุณภาพต้องอัดแน่น เดี๋ยวแฟนๆ คุณชายตะลอนชิมจะบ่นเอาได้,ด็อกเตอร์วิชิต เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้าที่จะมาเปิดสาขาในฟู้ดคอร์ตห้าง เราเปิดให้บริการจัดส่งอาหาร รับจ้างทำข้าวกล่องมานานพอดูแล้ว สูตรคุณย่าจะเป็นผัดกะเพราจริงๆ หลักใหญ่ที่เน้นย้ำต้องไม่ใส่ถั่ว ผักอื่นๆเลย แล้ววันหนึ่งก็อยากจะขยายเปิดสาขาทำเป็นธุรกิจจริงจัง แต่รักษาความอร่อยดั้งเดิมอย่างเหนียวแน่น,เราอาศัยครัวกลางเตรียมน้ำซอส วัตถุดิบทั้งหมดเป็นชุดๆแช่แข็งแล้วส่งสดใหม่ต่อไปยังสาขาที่มีกว่าสิบแห่ง ผัดออกมาแต่ละจานจึงเป๊ะๆ คุณภาพมาตรฐานเท่าๆกัน ต้องบอกว่า ความสำเร็จเริ่มที่แรกคือฟู้ดคอร์ตโลตัส จรัญฯ แล้วก็ขยายต่อเพิ่มเรื่อยๆโลตัส ไทรน้อยแครายบางใหญ่ ลำลูกกา คลอง 2บางแค, เดอะมอลล์ ท่าพระ บางกะปิรามฯงามวงศ์วาน, บิ๊กซี ราชดำริ อยุธยารังสิต แล้วก็มีเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์,ข้อดีของการทำสาขาในฟู้ดคอร์ตเอื้อให้การบริหารจัดการง่าย อาทิ เรื่องความสะอาดมาเป็นอันดับหนึ่ง จานถ้วยช้อนชามห้างก็บริการให้เสร็จสรรพ แล้วก็ดูด้วยว่าพนักงานในร้านเราอู้ไหม อยู่ร้านหรือเปล่าโอเคไหม แถมเรื่องเงินๆทองๆ ลูกจ้างเราก็ไม่ได้จับเงินสด ลูกค้ามาซื้อก็ใช้บัตรรูดเจ้าของก็ไม่ต้องมานั่งปวดหัว,ด็อกเตอร์กระทะเหล็กตั้งเป้าไว้ว่า บ้านใบกะเพรา by D–Kitchen จะต้องมี 100 สาขา โดยมีกุญแจสำคัญ เราเรียนรู้จากคนสำเร็จวันละนิด ดีกว่าเราใช้เวลาทั้งชีวิตคิดเอง คิดแล้วก็แค่ทำ,บ้านใบกะเพรา by D–Kitchen การันตีอร่อยอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีคุณภาพมาตรฐาน จะกินสาขาไหนก็ต้องเท่าเทียมกัน เรียกว่าถ้าสั่งข้าวราดกะเพราหอยชิลีสาขาโลตัส ไทรน้อย สมมติได้หอยใหญ่จังเบอร์ 8 ตัวไปที่บิ๊กซี ราชดำริ ก็ต้อง 8 ตัวเบ้อเร่อๆคือๆกัน หรือสั่งกะเพราเนื้อโคขุนไก่กุ้งหมึก ก็ต้องมีปริมาณเนื้อเป๊ะๆ ไม่มีถั่วฝักยาว ผักอื่นๆปลอมปน ปะปนมาแม้แต่น้อยเว้นแต่เห็นสีเขียวๆที่เป็นใบกะเพราเท่านั้น,ตอกย้ำเคล็ดไม่ลับความสำเร็จความอร่อยที่เริ่มจากคุณภาพ มาตรฐานข้าวกะเพราทุกจาน สั่งตรงมาจากระบบครัวกลางที่จัดเตรียมวัตถุดิบ มาพร้อมปรุงในทุกสาขา บ้านใบกะเพรา ฟู้ดคอร์ต โลตัส ไทรน้อย เปิด 08.00-22.00 น. (ไม่มีวันหยุด) แวะมาลองได้เลยไม่ต้องสำรองที่นั่ง แต่ถ้าจะสอบถามเรื่องราวความอร่อยแนวความคิดการตลาดโทร.ไปได้ที่เบอร์ 08-6525-0819 หรือเฟซบุ๊กเพจ : บ้านใบกะเพรา by D–Kitchen,บ้านใบกะเพรา เชิญชวนให้ทุกท่านไปท้าพิสูจน์ความอร่อย ผัดกะเพรา ที่เป็น ผัดกะเพรา จริงๆเมนูสิ้นคิดที่กินแล้วไม่สิ้นหวัง ความอร่อยที่มาจากฝีมือด็อกเตอร์กระทะเหล็กปรมาจารย์ด้านการตลาดแต่เทพเรื่องผัดกะเพราตำรับคุณย่าที่กล้าท้าชนมาตรฐานเต็ม 5 ดาวทุกๆจาน.,คุณชาย 3 | ด้วยโชคชะตาฟ้าลิขิตในเรื่องกินๆเที่ยวๆ ก็ให้บังเอิญไปสะดุดตากับร้าน บ้านใบกะเพรา ฟู้ดคอร์ต ชั้น 1 ใกล้ห้องน้ำนั่นแหละ สะดุดใจจั๋งหนับด้วยป้าย ฟรีไข่ดาวทุกเมนู | null | บ้านใบกะเพรา,ร้านบ้านใบกะเพรา,คุณชายตะลอนชิม,คุณชาย 3,ฟู้ดคอร์ต,โลตัส สาขาไทรน้อย-บางบัวทอง | https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/1592503 |
เทพไท แนะ บทเรียนวิป 3 ฝ่าย ถกงานตี 3 ไม่เข้าตาปชช. ชี้ ฝ่ายค้านดีกว่า | วันที่ 27 ก.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาลว่า การแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ใช้เวลายาวนาน 34 ชั่วโมง เป็นการประชุมมาราธอนที่สุด ตนอยากเสนอความเห็นต่อ วิป 3 ฝ่ายว่า ครั้งต่อไปควรจะพิจารณาถึงระยะเวลาการอภิปรายที่เหมาะสมกว่านี้ การยืดเวลาอภิปรายถึงตี 3-4 ไม่ได้เป็นผลดีต่อฝ่ายใดทั้งสิ้น มีแต่จะสร้างความเบื่อหน่าย เพราะทำให้ผู้อภิปรายอ่อนล้า ฝ่ายรัฐบาลก็อ่อนเพลีย สมาชิกรัฐสภาผู้เข้าร่วมประชุมก็ง่วงนอน บางท่านสูงวัยมีปัญหาสุขภาพตามมา ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน พี่น้องประชาชนผู้สนใจก็ต้องหลับนอน ไม่มีใครให้ความสนใจการประชุมเท่าที่ควร นับว่าเป็นการสูญเปล่าทางการเมือง แต่ถ้าคิดว่าการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เป็นเพียงแค่พิธีกรรม ทำไปเพื่อให้ครบตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญโดยไม่สนใจเนื้อหาสาระและประสิทธิภาพของการประชุมก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะการแถลงนโยบายของรัฐบาล เป็นสัญญาณบ่งบอกทิศทางของประเทศภายใต้รัฐบาลในระยะเวลา 4 ปี ที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญ,นายเทพไท กล่าวต่อว่า ถ้าจะให้คะแนนการอภิปรายของ 3 ฝ่าย ฝ่ายรัฐบาล ตัวนายกรัฐมนตรีสอบผ่านแบบเฉียดฉิว 51% เพราะไม่สามารถควบคุมสติได้ เกิดอารมณ์แปรปรวนบ่อยครั้ง มีอารมณ์เสียเป็นช่วงๆ อย่างไม่มีเหตุผล ไม่เข้าใจข้อบังคับการประชุม นึกจะลุกขึ้นพูดก็ทะลุกลางปล้องขึ้นมา ไม่ขออนุญาตจากประธานรัฐสภาบ่อยครั้ง,ส่วนฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย ผู้อภิปรายมือฉมังมีน้อย เซียนอภิปรายมือหนึ่งไม่ได้เข้าสภาฯ เป็นจำนวนมาก เหลือเพียงสมาชิกแถว 2 เพียงไม่กี่คน ที่พอจะยืนอภิปรายได้ หรือสร้างสีสัน หรือยั่วอารมณ์ให้นายกฯปรี๊ดแตกได้ ส่วนเนื้อหาอภิปรายก็มุ่งเน้นดิสเครดิตตัวบุคคลมากกว่า ไม่เจาะลึกแนวนโยบาย,ส่วนพรรคอนาคตใหม่ มีผู้อภิปรายรุ่นใหม่หลายคน ที่อภิปรายดี เนื้อหาตรงประเด็น ทำการบ้านมาดี แต่ขาดประสบการณ์ในการอภิปราย ไม่มีลีลาหรือขาดสีสันที่น่าชวนติดตาม แต่ถือว่า สอบผ่านในเกรดดี 70% ส่วนพรรคเพื่อไทย น่าจะได้แค่ 55% เท่าพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ ซีกฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลได้ 50% มีเวลาน้อย แบ่งปันเวลาให้คนละ 3-10 นาที ทำให้อภิปรายได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ส่วนใหญ่ที่ทำได้ก็แค่อภิปรายเชียร์ หรือเอาใจนายกฯ กับพล.อ.ประวิตร หรือสนับสนุนนโยบายของพรรคตัวเอง ส่วนพวกองครักษ์ที่ลุกขึ้นประท้วงตัดเกมก็เป็นคนหน้าเดิม ทำไปเพื่อล่ารางวัลเท่านั้น,สำหรับ ส.ว.ไม่สามารถให้คะแนนได้ เพราะ ส.ว.ชุดนี้ เป็นแค่ไม้ค้ำยันรัฐบาล การอภิปรายก็เป็นไปตามใบสั่ง ส่วนใหญ่จะมาร่วมเพื่อให้ครบองค์ประชุม เวลาของการอภิปรายก็ยกให้รัฐบาลเกือบหมดสิ้น พูดได้เต็มปากว่านี่คือ นั่งร้านของรัฐบาล ที่ตั้งมาเพื่อเป็นฐานรากในการจัดตั้งรัฐบาลเท่านั้น นายเทพไท กล่าว | เทพไท แนะ บทเรียน วิป 3 ฝ่าย ถกงานตี 3 ไม่เข้าตาปชช.ให้คะแนน นายกฯ-รบ. ฉิวเฉียด ฝ่ายค้านดีกว่า ส่วนฝ่ายส.ว. ไม่สามารถให้คะแนนได้ | ข่าว,การเมือง | เทพไท เสนพงศ์,ประชุมสภา,อภิปรายนโยบายรัฐบาล,วิป 3 ฝ่าย,ถกงานตี3,ส.ส.นครศรีธรรมราช,ปชป.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1624413 |
ทวีศักดิ์ เผยอาจลาออกจากตำแหน่ง ประธานกกต.กทม. | พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร เรื่องร้องเรียนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มี 9 เรื่อง โดยเป็นคำร้องทั้งเรื่องก่อน และหลังการเลือกตั้ง ซึ่งดำเนินการแล้ว 4 เรื่อง ขณะที่อีก 5 เรื่อง จะนำเข้าที่ประชุม และสรุปให้แล้วเสร็จในวันที่ 20 มีนาคม เพื่อส่งให้กกต.พิจารณาวินิจฉัย และประกาศรับรองผลการเลือกตั้งโดยเร็วส่วนจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาข้อมูลหรือไม่นั้น ประธานกกต.กทม. ปฏิเสธให้รายละเอียด เนื่องจากถูกตำหนิจาก กกต.กลางไม่ให้เปิดเผยข้อมูลก่อนการประชุมจะมีขึ้น แต่ยอมรับว่าไม่จำเป็นต้องเชิญม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพราะไม่ได้หาเสียงใส่ร้ายใคร พร้อมย้ำถึงกฎหมายระบุชัดเจนเกี่ยวกับการหาเสียง แม้ผู้สมัครจะไม่ได้ทำด้วยตัวเอง แต่หากได้รับผลประโยชน์ ก็ต้องรับโทษด้วย ซึ่งการกล่าวปราศรัยโจมตีฝ่ายตรงข้ามในการเลือกตั้งอาจจะมีกรณีเทียบเคียง แต่ไม่สามารถยกตัวอย่างได้ ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ กกต.กลางว่าจะเข้าข่ายมาตรา 57 (5) หรือไม่ประธานกกต.กทม. ระบุด้วยว่า อาจจะลาออกจากตำแหน่งประธานกกต.กทม. เพื่อให้คนอื่นเข้ามาทำหน้าที่แทน แต่ยังคงเป็นกรรมการ กกต. กทม.อยู่ | ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร ระบุวันที่ 20 มีนาคม จะนำทุกคำร้องคัดค้านเกี่ยวกับหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ทั้งหมด เข้าสู่ที่ประชุม เพื่อเสนอ กกต.กลาง พิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง พร้อมระบุความเป็นไปได้ที่จะลาออกจากตำแหน่งประธานกกต.กทม. | การเมือง | ประธานกกต.กทม.,ผู้ว่าฯกทม.,พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา | https://news.thaipbs.or.th/content/154674 |
เคน โขกชัย ไก่ บุกเฉือน คาราบัก 1-0 ลิ่ว 32 ทีม ยูโรปาลีก | การแข่งขันฟุตบอล ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเจ ประจำวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ย. คู่ที่น่าสนใจ คาราบัก อันดับ 3 ของกลุ่ม เปิดสนาม โทฟิก บาฮรามอฟ รับการมาเยือนของ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส จ่าฝูงของกลุ่ม,เปิดฉากครึ่งแรก น.9 สเปอร์ส ได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ ไรอัน เมสัน ยิงไกลจากนอกเขตโทษ แต่บอลเหินข้ามคานออกไป,จากนั้น น.15 สเปอร์ส ได้ลุ้นอีกครั้ง เคียแรน ทริปเพียร์ หลุดมาในเขตโทษด้านขวา ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ เดเล อัลลี ซัดด้วยขวาข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย,ถัดมา 13 นาที คาราบัก ได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ อิสมายลอฟ กดเรียดด้วยขวาในเขตโทษ แต่ อูโก โยริส นายด่านสเปอร์ส เซฟไว้ได้,น.40 สเปอร์ส ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย คริสเตียน อีริคเซน เปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษ เดเล อัลลี ได้โหม่ง แต่บอลก็ตรงตัว เซฮิค นายด่านคาราบัก,น.41 เป็นโอกาสของสเปอร์ส อีกครั้ง จากจังหวะที่ เบน เดวิส จ่ายบอลจากฝั่งซ้ายเข้ากลางให้ เดเล อัลลี ตะบันด้วยขวาจากหน้าเขตโทษ บอลแฉลบกองหลังคาราบักหลุดเสาแรกออกไป,น.43 คาราบัก เกือบได้เฮจากจังหวะโต้กลับ ควินตานา พาบอลเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วซัดเน้นๆ โยริส รับกระฉอก แต่ก็ตามมาคว้าบอลเอาไว้ได้ ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0,กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง ถึง น.78 สเปอร์ส ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย คริสเตียน อีริคเซน เปิดบอลโค้งเข้ากรอบเขตโทษ แฮร์รี เคน สอดมาโหม่งเข้าไปตุงตาข่าย,ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ทอตแนม ฮอตสเปอร์ บุกไปเอาชนะ คาราบัก 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 10 คะแนน ผ่านเข้ารอบ 32 ทีมสุดท้าย ของศึกยูโรปาลีก แน่นอนแล้ว แม้จะเหลือแข่งอีก 1 นัดก็ตาม,ส่วนผลคู่อื่น ดังนี้,กลุ่ม เอ,กลุ่ม บี,กลุ่ม ซี ,กลุ่มดี,กลุ่ม อี,กลุ่ม เอฟ,กลุ่มจี,กลุ่ม เอช,กลุ่ม ไอ,กลุ่ม เจ,กลุ่ม เค,กลุ่ม แอล | แฮร์รี เคน โหม่งประตูชัยในครึ่งหลัง ช่วยให้ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส บุกไปเอาชนะ คาราบัก 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้ายของศึกยูโรปาลีก เป็นที่เรียบร้อย | null | ยูโรปาลีก,ทอตแนม ฮอตสเปอร์,คาราบัก,ผลบอล,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/542258 |
ยุทธนา เดินหน้าแจกสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ธนารักษ์ประชารัฐ ใน 15 จว. | เมื่อวันที่ 30 ก.ค.63 นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้รับมอบนโยบายมาจากรัฐบาลและกระทรวงการคลัง ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาผู้ครอบครองที่ราชพัสดุโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน กรมธนารักษ์จึงได้ริเริ่มดำเนินโครงการ ธนารักษ์ประชารัฐ มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 เพื่อสร้างความเข้าใจและการยอมรับว่าได้ถือครองที่ราชพัสดุโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อกรมธนารักษ์จะได้ดำเนินการตรวจสอบรังวัดเขตเช่าและจัดทำสัญญาเช่าที่ราชพัสดุต่อไป นายยุทธนา กล่าวต่อว่า ในเดือนสิงหาคม - กันยายน 2563 จะเดินหน้าแจกสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ประมาณ 10000 ราย ใน 15 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดขอนแก่น จังหวัดชลบุรี จังหวัดจันทบุรี จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดสุราษฎรณ์ธานี จังหวัดุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดเชียงราย จังหวัดราชบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี โดยในการแจกสัญญาเช่าในครั้งนี้ ถือเป็นเครื่องการันตีความจริงใจที่ทางราชการมีให้กับประชาชน เนื่องจากสิทธิการเช่าที่ราชพัสดุจะก่อให้เกิดความมั่นคงในด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำกินให้กับประชาชนได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นตามไปด้วยนายยุทธนา ยังได้เน้นย้ำถึงจุดยืนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยความจริงใจ โดยการลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจให้กับประชาชนด้วยตนเอง เช่น ทุ่งฟ้าผ่า จังหวัดจันทบุรี จอมทอง ฮอด ดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี แสมสาร จังหวัดชลบุรี สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี และ บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ เป็นต้น สุดท้ายนี้ นอกจากการแจกสัญญาเช่าให้กับประชาชนดังที่กล่าวมาแล้ว กรมธนารักษ์จะได้มีการจัดตลาดชุมชนตามโครงการ เปลี่ยนชุมชน เป็นห้องประชุม ในที่ราชพัสดุ ตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ในวันที่มีการแจกสัญญาด้วย ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนสถานที่ขายสินค้าให้กับชุมชน ให้มีรายได้และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน โดยยังคงคาดหวังว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป. | บิ๊กธนารักษ์ เดินหน้าแจกสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ภายใต้โครงการ ธนารักษ์ประชารัฐ สนองนโยบายรัฐบาล ในเดือน ส.ค. - ก.ย.นี้ 10000 ราย ใน 15 จังหวัด | ข่าว,เศรษฐกิจ | กรมธนารักษ์,ยุทธนา หยิมการุณ,ที่ราชพัสดุ,ธนารักษ์ประชารัฐ,แจกที่ดิน,สัญญาเช่าที่ราชพัสดุ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1900451 |
แม่บ้านฟิลิปปินส์ชนะคดีฟ้องทางการฮ่องกง | แม่บ้านชายฟิลิปปินส์ที่ทำงานในฮ่องกงมานานกว่า 20 ปีชนะคดีที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ปฏิเสธการยื่นขอสิทธิการเป็นผู้พำนักถาวรในฮ่องกง โดยศาลฮ่องกงให้ความเห็นว่า การที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองฮ่องกงปฏิเสธสิทธิของแม่บ้านในการยื่นขอเป็นผู้พำนักถาวรในฮ่องกงถือว่าขัดต่อธรรมนูญของฮ่องกงที่กำหนดไว้ว่าชาวต่างชาติที่อาศัยในฮ่องกงอย่างน้อย 7 ปีติดต่อกันมีสิทธิยื่นขอเป็นผู้มีถิ่นพำนักถาวรในฮ่องกงได้ ซึ่งที่ผ่านมาบรรดาแม่บ้านต่างชาติที่เข้ามาทำงานในฮ่องกงมักไม่ได้รับสิทธินี้ แม้จะทำงานในฮ่องกงมานาน แต่ชาวต่างชาติที่ประกอบอาชีพอื่นกลับได้รับสิทธิสำหรับคดีนี้ถือเป็นคดีตัวอย่างท่ามกลางความเห็นต่างในฮ่องกง เพราะกังวลว่าหากมีการให้สิทธิดังกล่าวจะมีแม่บ้านต่างชาติทะลักเข้ามาทำงานในฮ่องกงเพื่อหวังเป็นผู้พำนักถาวร และจะแย่งทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดในฮ่องกง แต่คาดว่าทางการฮ่องกงจะยื่นอุทธรณ์คดีในวันจันทร์ฮ่องกงมีประชากรอาศัยประมาณ 7.1 ล้านคน ในจำนวนนั้นมีแม่บ้านต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียประมาณ 290000 คน | ศาลฮ่องกงตัดสินใจแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์มีสิทธิเป็นผู้พำนักถาวรในฮ่องกงได้ หลังทำงานในฮ่องกงมานานกว่า 20 ปี กลายเป็นคดีประวัติศาสตร์ของฮ่องกง | ต่างประเทศ | คดี,ฟิลิปปินส์,ฮ่องกง,แม่บ้าน | https://news.thaipbs.or.th/content/36886 |
รายงาน : พลังคนเชียงดาว ลุกต้านไม่เอาเขื่อนกั้นแม่น้ำปิง | และผืนผ้าติดตามรถกระบะร่วมยี่สิบคันพร้อมชาวบ้านร่วม 500 คน เคลื่อนไปตามท้องถนนหลวงหมายเลข 107 หรือถนนโชตนา เชียงใหม่-ฝาง มุ่งหน้าผ่านหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงดาว สถานีตำรวจภูธรเชียงดาว ก่อนวกไปหยุดนิ่งภายในปั๊มน้ำมัน ทางเข้าสำนักงานเทศบาลตำบลเชียงดาว เมื่อลงจากรถ ทุกคนได้รวมตัวกันเป็นขบวน ขึงป้ายผ้ารณรงค์คัดค้านไม่เอาเขื่อนกั้นแม่น้ำปิง พร้อมประกาศเครื่องขยายเสียงดังก้องไปทั่วบริเวณ ก่อนมุ่งหน้าไปที่หอประชุมเทศบาล ต.เชียงดาว เพื่อแสดงเจตนารมณ์คัดค้านการจัดเวทีของกรมชลประทานเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ปิงตอนบน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ นี่คือภาพเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์ท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2554 ที่ผ่านมา เมื่อชาวบ้านโป่งอาง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นชุมชนเล็กๆ ที่มีประชากรเพียง 100 กว่าชีวิต ได้ผนึกกำลังร่วมกับพี่น้องชาวบ้านในหลายๆ พื้นที่ อาทิ ชุมชนลุ่มน้ำแม่คอง-แม่แตง เครือข่ายทรัพยากร อ.เชียงดาว และชุมชนลุ่มน้ำแม่ป๋าม อ.เชียงดาว ได้รวมตัวกันชุมนุมเคลื่อนไหว การรวมตัวชุมนุมของชาวบ้านครั้งนี้ เพื่อเรียกร้องให้ยุติการดำเนินการโครงการดังกล่าวโดยเห็นว่า ผลจากการดำเนินการจะส่งผลกระทบต่อประชาชนบ้านโป่งอางและอีกหลายชุมชนโดยตรง บรรยากาศภายในหอประชุมเทศบาลตำบลเชียงดาว มีผู้เข้าร่วมประชุมได้ทยอยเข้ามาลงชื่อเตรียมเข้าห้องประชุมประมาณสิบกว่าคน และทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อหันมามองเห็นขบวนชาวบ้านที่เคลื่อนเข้ามาหยุดตรงหน้าหอประชุมพร้อมกับเสียงประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงดังก้อง นี่เป็นเสียงสะท้อนของน้องชาวบ้าน ในการที่ทางท่านได้มาจัดประชุม ว่าเราไม่เอาเขื่อน และขอยืนยันเป็นคำเดียวที่ว่าเราไม่เอาเขื่อน ที่เรามีการเคลื่อนในวันนี้เนื่องจากที่ผ่านมาเองเราหรือทางกรามชลประทาน ทีมที่เข้ามาศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่เข้ามาในหมู่บ้านนั้น ชาวบ้านเองไม่ได้รับรู้ และไม่ได้เข้ามาบอกกล่าวให้ชาวบ้านได้รับรู้ตรงๆ แม้กระทั่งละอ่อน ยังโดนหลอกแม้กระทั่งคนเฒ่าคนแก่ในบ้านเรายังโดนหลอก แล้วท่านเป็นใครที่มาหลอกคนเฒ่าคนแก่ สง่า แนะบือ บอกย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจัง ในขณะที่ชาวบ้านหลายคนลุกขึ้นกล่าว นายนิมิต สมบูรณ์วิทย์ ตัวแทนจากทีมคณะที่ปรึกษา คณะผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ ทำการศึกษาความเหมาะสมและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม บริษัทธารา คอลซัลแตนท์ จำกัด และบริษัท พิสุทธิ์ เทคโนโลยี จำกัดและบริษัท ธารา คอนซัลแตนท์ จำกัด ได้พยายามเดินเข้าไปเจรจากับตัวแทนชาวบ้าน ว่าขอให้ชาวบ้านเข้าร่วมประชุมเสียก่อน แต่ก็ถูกชาวบ้านปฏิเสธพร้อมกับผลักเปลี่ยนกันขึ้นกล่าวโจมตีอย่างต่อเนื่อง เราไม่ยอมรับ เราขอยุติ เราขอคัดค้านทุกสิ่งทุกอย่างที่ว่าเรา จะไม่เอาเขื่อน และทางพวกท่านเองจะไม่ต้องได้เข้ามาในหมู่บ้านของเราอีก โครงการนี้เป็นเรื่องที่สกปรก หมู่บ้านโป่งอางไม่ยอม แม้ว่าตายก็ไม่ยอม จะมีการสู้จนถึงที่สุด เพราะสิ่งที่จะทำนั้นจะเป็นเรื่องของการส่งผลกระทบให้กับพี่น้องบ้านโป่งอาง นางบัวเขียว ชุมภู ตัวแทนแม่บ้านโป่งอางลุกขึ้นถือไมค์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ขณะที่นายเสาร์กุละ ตัวแทนชาวบ้านโป่งอางอีกคนหนึ่ง ก็ได้ลุกขึ้นจับไมค์พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่าครั้งแรกที่ผมได้จับไมค์ ผมก็เลยตื่นเต้น แต่ผมจะขอสู้เพื่อเอาชนะครับ อ่างเก็บน้ำแม่ปิงตอนบนหรือเขื่อน ท่านเคยมาประชาคมกับชาวบ้านเมื่อไหร่ ชาวบ้านไม่ได้รับรู้เลย ชาวบ้านบางคนไม่รู้เรื่องเลย ว่ากรมชลประทานจะมาสร้างเขื่อนบ้านเรา พวกท่านมาโกหก มาหลอกชาวบ้านทำไม พวกท่านหลอกลวงมาตลอด ท่านเอาคนเฒ่า คนแก่มาถ่ายรูปเพียงไม่กี่คน แล้วรวบรัด แล้วตีความเอาเองว่าชาวบ้านยินยอมแล้วว่าชาวบ้านเห็นดีเห็นงามกับการสร้างเขื่อน แล้วยังบอกว่าได้ผ่านการประชุมกับชาวบ้านสองครั้งแล้ว นายเสาร์ กล่าวต่อว่า วิธีการกระทำของท่าน สกปรกมาก รู้ไปทั่วประเทศ ก็อายไปทั่วประเทศ ท่านทำแบบนี้ไม่รู้ละอายใจบ้างเลยหรือ แล้วผมขอถามว่าสร้างเขื่อนขึ้นมา ชาวบ้านได้รับผลประโยชน์อะไร ชาวบ้านไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลย มีแต่เสีย กุ้ง หอย ปู ปลา ผัก หน่อไม้ ซึ่งเป็นตลาดย่อยของชาวบ้าน นาไร่ชาวบ้านจะเอาน้ำที่ไหนมาทำไร่ ไถนา เมื่อชาวบ้านไม่ได้ทำนาปลูกข้าวแล้วชาวบ้านจะเอาข้าวที่ไหนมากิน แล้วจะเอาน้ำที่ไหน มาใช้มาบริโภค ขอถามว่าท่านลองมาเป็นชาวบ้านโป่งอางดูสิ แล้วท่านจะมีความรู้สึกเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าชาวบ้านไม่ได้มีความรู้ ไม่มีการศึกษา แต่ชาวบ้านก็มีชีวิตมีจิต มีวิญญาณ มีหัวใจ เหมือนกับท่าน ชาวบ้านโป่งอางก็กินข้าวสุกเหมือนกัน ชาวบ้านโป่งอางไม่ได้กินแกลบ ในเมื่อชาวบ้านไม่เอาเขื่อน ชาวบ้านมาต่อต้าน หวังว่าท่านคงยุติการสำรวจและการศึกษาได้แล้ว นั่นเป็นน้ำเสียงถ้อยคำของตัวแทนชาวบ้านโป่งอางที่พูดออกมาจากจิตวิญญาณ กระทั่ง นายโอฬาร อ่องฬะ ผู้ใหญ่บ้านห้วยไส้ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว ได้ลุกขึ้นกล่าวย้ำถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงการนี้ชัดๆ อีกครั้งว่า การที่เราได้ร่วมในการแสดงพลังอีกครั้งหนึ่ง เพราะว่าก่อนหน้านั้นชาวบ้านได้แจ้งให้กับทางกรมชลประทาน แจ้งเตือนให้กับทางทีมที่ปรึกษาแล้วว่า สิ่งที่จะทำนั้นจะเป็นเรื่องของการส่งผลกระทบให้กับพี่น้องบ้านโป่งอาง แต่ครั้งนี้ก็ยังมีความพยายามในการจัดเวทีครั้งที่ 2 ขึ้นมาอีก ซึ่งทางชาวบ้านได้ขอให้ทางกรมชลประทานได้มีการยุติบทบาทและทางทีมที่ปรึกษาได้ถอนสัญญาการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมออกจากบ้านโป่งอาง เพราะว่าการแก้ไขปัญหาเรื่องของน้ำท่วมไม่สามารถที่จะแก้ไขได้โดยการสร้างเขื่อน ที่สำคัญคือ เขื่อนโป่งอางมีการตั้งและจะสร้างอยู่ห่างจากหมู่บ้านเพียง 1กิโลเมตร แล้วพี่น้องจะอยู่กันอย่างไรถ้าเกิดมีการสร้างเขื่อนอย่างนี้ขึ้นมา ขณะเดียวกัน นายโอฬารได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงไปยัง ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใหญ่บ้าน กรรมการและครูอาจารย์ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว กำลังทยอยเดินทางเข้ามาว่าขอให้ถอยกลับไปเสีย อยากวิงวอนไปยังผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการที่เข้าร่วมในการประชุมว่า อาจจะมีการรับรู้ข้อมูลไม่เท่าเทียมกัน และสิ่งที่เป็นผลกระทบกับหมู่เฮา คือ ผลกระทบกับบ้านพี่น้องโป่งอาง เขื่อนที่จะสร้างนั้นได้ใช้งบประมาณ 1500 ล้านบาท ซึ่งไม่มีระบบของคลองส่งน้ำ ระบบการจัดการน้ำ ซึ่งถ้าปล่อยให้สร้าง ก็จะเป็นเหมือนอนุสรณ์อัปยศที่รัฐเคยสร้างไว้ คือ ฝายยางเชียงดาว ที่มีการสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2543 จนถึงวันนี้เองฝายยางนั้นยังไม่สามารถที่จะใช้การได้ ฉะนั้น บ้านโป่งอางก็เหมือนกัน ถ้าหากมีการสร้างเขื่อน ชุมชนหมู่บ้านที่มีขนาดเล็กและมีวิถีชีวิต วัฒนธรรมของการอยู่แบบพี่แบบน้องก็จะถูกทำลายลงไปด้วย และที่ผ่านมา ภายหลังที่มีโครงการนี้เข้ามาศึกษา ก็ได้ทำให้คนในพื้นที่เกิดความแตกแยกกัน มีความขัดแย้งในพื้นที่กันแล้ว สุดท้าย ขอให้ทางตัวแทนของกรมชลประทานเข้ามารับยื่นจดหมาย ในเรื่องของการยุติการสร้างเขื่อนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม จากนั้น ทางฝ่ายนายนิมิต สมบูรณ์วิทย์ จากทีมคณะที่ปรึกษา บริษัทธารา คอลซัลแตนท์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนของทีมศึกษาได้ยอมยุติการจัดเวทีในครั้งนี้ โดยได้ขอให้นายศักดิ์พินิต ผดุงกิจ รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านให้คำปรึกษาสิ่งแวดล้อม กรมชลประทาน ออกมารับหนังสือและแถลงการณ์คัดค้านไม่เขื่อนกั้นแม่น้ำปิง จากตัวแทนชาวบ้าน ก่อนจะถอนตัวกลับไปในที่สุด และนี่เป็นเพียงครั้งแรกของชาวบ้านโป่งอางและเครือข่ายประชาชนในพื้นที่อำเภอเชียงดาว ที่ออกมาสำแดงพลังในการเคลื่อนไหว จนทำให้เวทีดังกล่าวต้องล้มคว่ำและยุติไปในที่สุด ซึ่งทำให้หลายคนมองเห็นพลังของประชาชน ซึ่งดูเหมือนมีจำนวนไม่มากแต่ก็มีพลังต่อรองและคัดค้านกับอำนาจรัฐและทุนได้อย่างเข้มแข็งและกล้าหาญ และคงจะมีการสำแดงพลังของประชาชนครั้งต่อไป ถ้าหากรัฐและทุนยังคิดและเดินอยู่ในกรอบเดิมๆ อยู่อย่างนี้? | ป่าต้นน้ำมีชีวิต คนต้นน้ำมีหัวใจ หยุดเถิดอย่าทำลาย รุกผืนป่าต้นน้ำปิง ด้วยจิตวิญญาณ ดิน ป่า และสายน้ำ STOP DAM หยุดเขื่อนกั้นแม่น้ำปิง ป้ายคำขวัญ พร้อมโลโก้สติ๊กเกอร์ติดตามเสื้อยืดสีเขียว | คุณภาพชีวิต,สิ่งแวดล้อม | น้ำท่วม,เขื่อน,เขื่อนกั้นแม่น้ำปิงตอนบน,เชียงดาว,เชียงใหม่ | https://prachatai.com/journal/2011/09/37104 |
การกุสร้างอำนาจถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดย สนช.ใต้อำนาจรัฐประหาร | ปรากฏการณ์ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติเสียงข้างมาก 190ต่อ18 เสียง เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2558 ให้ถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามข้อกล่าวหาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)ที่เชื่อว่ามีการปล่อยปละละเลยไม่ระงับยับยั้งโครงการจำนำข้าวจนนำไปสู่การทุจริต-เสียหายอย่างร้ายแรง แม้จะมีเสียงแซ่ซ้องต่อความสำเร็จครั้งแรกในประวัติศาสตร์การถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (ซึ่งล้วนล้มเหลวมาตลอดภายใต้ระบอบประชาธิปไตย) หรือกระทั่งยืนยันว่าเป็นการถอดถอนอดีตนายกฯคนแรกของไทยออกจากตำแหน่งเป็นผลสำเร็จแต่สำหรับนักกฎหมายที่ถือธรรมเป็นใหญ่กลับล้วนสลดใจต่อความอธรรมผิดธรรมชาติอย่างยิ่งของการใช้การตีความกฎหมายเบื้องหลังการอ้างอำนาจถอดถอนของสภานิติบัญญัติซึ่งมีที่มาจากอำนาจรัฐประหาร อาจฟังดูเป็นโวหารแก้ตัวทางการเมืองที่ไม่มีน้ำหนักในสายตายิ้มเย้ยของผู้ชนะ แต่เมื่อได้รับการขานรับเชิงตรรกะจากตัวแทนหนึ่งในโลกตะวันตกที่ตั้งข้อสังเกตว่าขั้นตอน/กระบวนการถอดถอนผู้ที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งกระทำโดยผู้มีอำนาจที่ก่อรัฐประหาร ทำให้ประชาคมโลกเกิดความรู้สึกว่าขั้นตอนเหล่านี้อาจเกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง(พร้อมๆกับการเรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึกและข้อจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกต่างๆ) ทั้งฝ่ายรัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ต่างเผยความหวั่นไหวไม่พอใจอย่างมาก โดยโต้แย้งกลับว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายใน ทำให้คนไทยหลายคนเกิดบาดแผลในใจ พร้อมๆกับการยืนยันว่ากระบวนการถอดถอนของสนช.เป็นไปตามหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญและยึดตามหลักนิติธรรม ขณะที่รัฐธรรมนูญ 2550 ที่บัญญัติเรื่องการถอดถอนจากตำแหน่งถูกยกเลิกไปแล้วโดยการรัฐประหาร และไม่มีบทบัญญัติใดๆในรัฐธรรมนูญปัจจุบันที่กำหนดให้บทบัญญัติในหมวด12(การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐที่ครอบคลุมถึงการถอดถอนจากตำแหน่ง)ของรัฐธรรมนูญ2550ยังคงใช้บังคับต่อไปเป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญนี้ กรณีจึงแตกต่างโดยสิ้นเชิงจากการสืบเนื่องของบทบัญญัติในหมวด 2 พระมหากษัตริย์ของรัฐธรรมนูญ 2550ซึ่งมีมาตรา2ของรัฐธรรมนูญ2557กำหนดชัดเจนให้คงใช้บังคับต่อไปเป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญและ 3.การพ้นจากตำแหน่งที่ประจักษ์ชัดจากการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งมีประกาศคสช.ฉบับที่ 5/2557(22พฤษภาคม 2557)ให้คณะรัฐมนตรีรักษาการสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ ดังนี้แล้วการถอดถอนจากตำแหน่งทั้งๆที่โดยสภาพข้อเท็จจริงไม่มีตำแหน่งทางการเมืองใดๆปรากฏอยู่โดยสิ้นเชิง ย่อมเป็นการใช้อำนาจตีความกฎหมายอย่างบิดเบือนในลักษณะแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเรื่องการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยการขยายความถึงการถอดถอน อดีตผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย ในเมื่อกฎหมายแท้จริง(ทั้งรัฐธรรมนูญ 2550ที่ถูกยกเลิกและพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2542)ไม่มีการบัญญัติเรื่องการถอดถอน อดีตผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแต่อย่างใด สิ่งที่สนช.ได้กระทำไปจึงเป็นการถอดถอนที่ขัดแย้งกับกฎหมายและความเป็นจริง เป็นเพียงการถอดถอนบนจินตนาการทางการเมืองอันแปดเปื้อนอคติ หาใช่การถอดถอนจากตำแหน่งอันชอบด้วยกฎหมายใดๆไม่ และหากเราเผลอผสมโรงกับจินตนาการอันผิดเพี้ยนนี้ ยังอาจนำไปสู่จินตนาการอันเหลือเชื่อได้ต่อว่า ก่อนการลงมติถอดถอนอดีตนายกฯในวันที่ 23 มกราคม 2558 ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีถึงสองคนในเวลาเดียวกัน คืออดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ที่กำลังรอการถอดถอนให้พ้นจากตำแหน่ง และนายกฯประยุทธ์ ที่ยังไม่ถูกถอดถอนสังคมไทยพร้อมเสียสติและขานรับกับจินตนาการอันวิปลาสได้ถึงเพียงนี้หรือบทเรียนจากกรณีดังกล่าวทำให้หลายปีต่อมา วุฒิสภาอเมริกาจึงชี้ขาดว่าเป็นเรื่องอ่อนเหตุผลในการเสียเวลาและพลังงานในการถอดถอนเจ้าหน้าที่ซึ่งพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว บรรทัดฐานการปรับใช้มาตรการถอดถอนของอเมริกาจึงยึดถือเคร่งครัดตามเจตนารมณ์ของการถอดถอนที่มุ่งปลดตำแหน่งและอำนาจเป็นการเฉพาะของเจ้าหน้าที่รัฐที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ หาใช่ต่ออดีตเจ้าหน้าที่รัฐที่พ้นจากตำแหน่งไปก่อนหน้าแล้วไม่ ในแง่มุมความคิดนี้ปรากฏการณ์ของการใช้อำนาจทางกฎหมายที่ขัดแย้งกับหลักนิติธรรมย่อมกลายเป็นสิ่งปกติสามัญในสายตาของทฤษฏีกฎหมายแนววิพากษ์ทั้งหลาย ซึ่งอาจไม่ศรัทธาเชื่อมั่นต่อการปรากฏจริงของหลักนิติธรรม(เสมอไป) รวมทั้งไม่เชื่อมั่นต่อสภาวะที่กฎหมายโดยตัวเองจะมีความชัดเจนแน่นอนจนสามารถกำหนดผลตัดสินได้อย่างถูกต้องเด็ดขาด(Legal Determinacy)ราวกับเป็นอิสระ/แยกขาดได้จากลักษณะอัตวิสัยในตัวบุคคล อุดมการณ์ หรือการต่อสู้ทางการเมืองที่เกี่ยวข้อง แต่ในขณะเดียวกันการยอมรับต่อสภาพที่คล้ายปกติของหลักนิติธรรมที่ล้มเหลวเป็นระยะๆ คงมิได้หมายถึงการจำนนยอมรับต่อสภาพความไม่ชอบธรรมในการใช้อำนาจทางกฎหมายดังกล่าวเช่นกัน หากแท้จริงแล้วสำหรับนักปฏิรูปกฎหมายที่ก้าวหน้ากลับต้องยืนหยัดต่อสู้เพื่ออุดมคติของหลักนิติธรรมที่ยืนอยู่คนละฟากกับอำนาจตามอำเภอใจ พร้อมๆกับการเพ่งความใส่ใจจริงจังต่อประเด็นทางการเมือง อำนาจหรือความขัดแย้งทางอุดมการณ์ที่อยู่เบื้องหลังความล้มเหลว/อ่อนแอของหลักนิติธรรมมากกว่า การวิพากษ์ตีแผ่การเมืองอำนาจนิยมอันล้าหลัง/อนุรักษ์นิยมที่อยู่เบื้องหลังการใช้อำนาจถอดถอนอย่างไร้ความเป็นธรรมในสังคมไทย ย่อมเป็นภารกิจอันสำคัญหนึ่งทางปัญญา พอๆกับความจำเป็นในการเปิดเผยด้านมืดของบรรดาผู้คนที่กล่าวอ้างความเป็นคนดีมีศีลธรรม แต่กลับใช้วิธีการอันมิชอบจากการแอบอ้างกฎหมายหรือหลักนิติธรรมเพื่อทำลายฝ่ายตรงข้าม เรากล้าปฏิเสธหรือไม่ว่า และผลร้ายอันจะเกิดตามมาย่อมเป็นสิ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้เช่นกัน Antonio Gramsci 2.นสพ.มติชน เสาร์ 24มกราคม 2558 | การถอดถอนจากตำแหน่งและบาดแผลในใจของสังคมไทย ปรากฏการณ์ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติเสียงข้างมาก 190ต่อ18 เสียง เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2558 ให้ถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี | การเมือง,การศึกษา | การถอดถอนตำแหน่งทางการเมือง,คณะรัฐประหาร,จรัญ โฆษณานันท์,สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.),หลักนิติธรรม | https://prachatai.com/journal/2015/03/58335 |
ขยายผลจับยาบ้า จ.น่าน ยึดของกลางเกือบหมื่นเม็ด-อายัดทรัพย์ | เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 59 พ.ต.ต.สัณห์ ล้านมา สว.สส.สภ.ปัว จ.น่าน นำกำลังออกปฏิบัติการตรวจค้นยาเสพติดพื้นที่เป้าหมายใน อ.ปัว หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นที่บ้านของ นายจิตร มูลคำ อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 98 บ้านหัวดอย หมู่ที่ 6 ต.ศิลาแลง อ.ปัว จ.น่าน หลังจากทราบว่า นายจิตร เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องยาเสพติด พบยาบ้า 49 เม็ด พร้อมทั้งอายัดทรัพย์สิน และเงินสด 290,000 บาท โดย นายจิตร ให้การซัดทอดว่าซื้อมาจาก นายต้า ราษฎรบ้านดอยติ้ว ซึ่งเป็นชาวเขาใน อ.ท่าวังผา จ.น่าน เพื่อจำหน่วยให้กับกลุ่มวัยรุ่นและเสพเอง,เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงวางแผนให้ นายจิตร โทรศัพท์สั่งยาบ้าจาก นายต้า 4 มัด นัดส่งยาบ้าริมถนนข้างโรงเรียนชุมชนศิลาแลง อ.ปัว ก่อนวางกำลังโดยรอบจุดนัดหมาย ต่อมาประมาณ 02.00 น. วันที่ 28 ก.ค. มีรถกระบะมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีเทา ทะเบียน 1 ฒซ7094 กทม. ขับมา โดยมี นายวรเทพ แซ่โซ้ง อายุ 26 ปี เลขที่ 23 บ้านดอยติ้ว หมู่ที่ 7 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ลงจากรถด้านฝั่งข้างคนขับพร้อมถุงกระดาษ 1 ใบ และรถก็ขับออกไป เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น แต่ นายวรเทพ โยนถุงกระดาษไปบนหลังคาโรงเก็บพัสดุของโรงเรียน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว นายวรเทพ พร้อมตามเก็บถุงดังกล่าว เปิดดูพบเป็นยาบ้าจำนวน 7,969 เม็ด กระทั่งผ่านไป 30 นาที กระบะคันดังกล่าวเข้ามายังจุดเดิม จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถขอตรวจค้น ทราบชื่อ นายประจวบ แซ่เฮ้อ อายุ 22 ปี อยู่ที่ 97 หมู่ที่ 12 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย บอกว่าเป็นคนขับรถมาส่งและรับกลับ,จากการสอบถาม นายวรเทพ และ นายประจวบ เบื้องต้นให้การว่ายาบ้าดังกล่าวนั้นเป็นของตนเองจริง เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมยาบ้าของกลางทั้งหมดส่ง ร.ต.อ.นิคม กันทะเสน พงส.สภ.ปัว พร้อมตั้งข้อหาร่วมกันค้ายาบ้า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | ตร.สภ.ปัว ค้นบ้านชายชาวน่าน ตามปฏิบัติการตรวจค้นยาเสพติด เจอยาบ้า 49 เม็ด ก่อนขยายผลจากการซัดทอดรวบอีก 2 คน ยาบ้าเกือบ 8 พันเม็ด พร้อมอายัดทรัพย์สิน | ข่าว,ทั่วไทย | ค้ายาบ้า,จับยาบ้า,น่าน,ขยายผลจับยาบ้า,อ.ปัว,ยาเสพติด,ยาบ้า,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/news/local/675173 |
ภัยเงียบใกล้ตัวผู้หญิง แป้งฝุ่นทาจุดซ่อนเร้น เสี่ยง มะเร็งรังไข่ จริงหรือ? | เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ศาลชั้นต้นแห่งเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา ตัดสินให้บริษัทแป้งยี่ห้อหนึ่ง จ่ายเงินจำนวน 72 ล้านดอลลาร์ให้กับครอบครัวของหญิงรายหนึ่งที่ป่วยและเสียชีวิตจากโรคมะเร็งรังไข่ โดยมีสาเหตุมาจากการใช้แป้งฝุ่นและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่มีส่วนผสมของสารทัลก์ (Talc) ซึ่งเธอได้ใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดนั้นมาเป็นระยะเวลากว่า 35 ปี,วันนี้ ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, พาผู้อ่านไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งรังไข่ ภัยร้ายใกล้ตัวผู้หญิง ว่าพฤติกรรมแบบใดมีโอกาสเสี่ยงจะเป็นโรคดังกล่าว และการใช้แป้งฝุ่นทาอวัยวะเพศจะก่อให้เกิดมะเร็งรังไข่ได้จริงหรือไม่ รวมถึงวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดเนื้อร้ายชนิดนี้ขึ้นในร่างกาย โดยมีนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็ง นั่นคือ ,นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ, เป็นผู้ให้ข้อมูลเรื่องโรคดังกล่าว,ผู้หญิง 40 ปีขึ้นไป ไม่มีลูก ไม่ให้นมลูก กินอาหารไขมันสูง เสี่ยงมะเร็งรังไข่,ทีมข่าวฯ ยิงคำถามแรกที่สงสัยแก่อาจารย์หมอผู้เชี่ยวชาญว่า สาเหตุใดที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งรังไข่ได้นั้น ,นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ, ยอมรับว่า สาเหตุของการเกิดมะเร็งรังไข่ยังไม่เป็นที่ทราบได้แน่ชัด แต่ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งรังไข่มีลักษณะเดียวกับมะเร็งเต้านม และจะพบบ่อยทางโลกตะวันตก แต่ในเมืองไทยเริ่มมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้น,โดยส่วนใหญ่ ,มะเร็งรังไข่จะพบในผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือเป็นผู้หญิงที่ไม่มีบุตร มีบุตรน้อย หรือมีบุตรแต่ไม่ได้ให้กินนมแม่ รวมทั้งผู้หญิงที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบประเทศตะวันตก เช่น ไม่แต่งงาน บริโภคอาหารไขมันสูง ไม่ออกกำลังกาย, ,ซึ่งมักจะเป็นลักษณะของผู้หญิงยุคใหม่ นอกจากนี้ หากมีญาติพี่น้องเป็นมะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ อาจมีความเสี่ยงเช่นกัน,สังเกตอาการโรคมะเร็งรังไข่ อาหารไม่ย่อย ท้องบวมโต เบื่ออาหาร,เมื่อถามอาจารย์หมอถึงวิธีการสังเกตตัวเองเมื่อเริ่มมีอาการที่เข้าข่ายจะเป็นมะเร็งรังไข่ นพ.วีรวุฒิ นิ่งคิดก่อนตอบว่า ไม่มีวิธีการสังเกต โดยได้ขยายความเพิ่มเติมว่า โรคมะเร็งรังไข่เป็นโรคที่สังเกตได้ยาก เนื่องจากว่ารังไข่มีขนาดเล็กเท่ากับปลายนิ้วก้อย และอยู่ในอุ้งเชิงกราน ซึ่งอยู่ลึกเกินจนไม่สามารถคลำหาได้เอง หรือว่าสังเกตอาการได้,ทั้งนี้ ,อาการส่วนใหญ่ที่ผู้ป่วยมาพบแพทย์ คือ ผู้ป่วยที่มีอาการของโรคลุกลามแล้ว โดยจะมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย มีท้องบวมโตขึ้น เบื่ออาหาร แน่นท้อง เนื่องจากมีการกระจายของเชื้อมะเร็งไปอวัยวะต่างๆ ในช่องท้อง ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นเมื่อเชื้อมะเร็งกระจายออกมาแล้ว,อึ้ง 75% ของผู้ป่วยที่มาหาหมอ โรคลุกลามแล้ว,สำหรับวิธีการรักษาโรคมะเร็งรังไข่ ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ อธิบายอย่างละเอียดว่า การรักษาโรคมะเร็งรังไข่จะขึ้นอยู่กับระยะของโรค หากตรวจเจอในระยะเริ่มต้น โดยส่วนใหญ่จะตรวจเจอจากการที่ผู้ป่วยไปตรวจร่างกายตามโรงพยาบาล หรือตรวจคัดกรองหามะเร็งระยะเริ่มต้น การตรวจอัลตราซาวนด์ หรือตรวจภายในและพบว่ามีก้อนเนื้ออยู่ที่รังไข่,หากตรวจเจอในระยะเริ่มต้น แพทย์จะรักษาโดยการตัดรังไข่ออกเท่านั้น แต่ถ้าเป็นในระยะที่ลุกลามแล้ว อาจจะต้องตัดทั้งหมดบริเวณนั้น ตั้งแต่มดลูก รังไข่สองข้าง ต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกราน หรืออวัยวะข้างๆ ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นลำไส้ใหญ่ กระเพาะปัสสาวะ ที่มีการลุกลามด้วย รวมไปถึงตัวเยื่อบุช่องท้อง ไขมัน พังผืดช่องท้อง แต่จะต้องตามด้วยรักษาโดยให้ยาเคมีบำบัด เพราะว่าการผ่าตัดอย่างเดียวจะรักษาไม่ได้ทั่วทั้งหมด,นอกจากนี้ ,การเป็นมะเร็งรังไข่ในระยะเริ่มแรกนั้น จะมีโอกาสหายขาดได้ถึง 90% แต่จำนวน 75% ของผู้ป่วยที่มาพบแพทย์นั้น จะเป็นกลุ่มที่โรคลุกลามแล้ว, ,คือ จะมีอาการดังกล่าวข้างต้น ฉะนั้น โอกาสในการหายขาดของผู้ป่วยกลุ่มที่โรคลุกลามนั้น อัตราการรอดชีวิตที่ 5 ปี เหลือเพียงแค่ 25% หรือ 1 ใน 4 เท่านั้น แม้ว่าผู้ป่วยจะได้รับการรักษาทั้งการผ่าตัด และยาคีโมบำบัดก็ตาม,เจอก่อนรักษาเร็ว แพทย์ ย้ำ ตรวจสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ,ทีมข่าวฯ สอบถามอาจารย์หมอถึงการป้องกันโรคมะเร็งรังไข่ว่าควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรนั้น นพ.วีรวุฒิ ให้คำแนะนำแก่ประชาชนว่า ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้เกิดโรค เช่น หากแต่งงานมีบุตรก็ควรจะให้นมบุตร และไม่ปล่อยให้ตัวเองอ้วนเกินไป รวมถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรืออาหารที่มีไขมันสูง สามารถช่วยป้องกันได้,และสิ่งที่ นพ.วีรวุฒิ เน้นย้ำเป็นพิเศษ นั่นคือ ,การตรวจสุขภาพ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากไม่ตรวจจะไม่มีทางหามะเร็งรังไข่ในระยะเริ่มต้นได้ และยิ่งถ้าปล่อยให้มีอาการออกมา จะกลายเป็นระยะลุกลามเป็นส่วนใหญ่ ฉะนั้น ประชาชนควรจะตรวจสุขภาพปีละ 1 ครั้ง, และหาข้อมูลว่าเพศชายหรือเพศหญิงมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งชนิดใดเป็นพิเศษ เพื่อตรวจเพิ่มเติมในโรคนั้น เนื่องจากบางครั้งการตรวจสุขภาพประจำปีตรวจเพียงแค่อุจจาระ ปัสสาวะเท่านั้น ไม่ได้ตรวจภายในหรืออัลตราซาวนด์ในอุ้งเชิงกราน หรือช่องท้องด้านล่าง,แป้งฝุ่นทาอวัยวะเพศ ก่อให้เกิดมะเร็งรังไข่จริงหรือ?,หลังจากเกิดกรณีของผู้หญิงรายหนึ่งในสหรัฐอเมริกาที่ป่วยเและเสียชีวิตจากโรคมะเร็งรังไข่ โดยมีสาเหตุมาจากการใช้แป้งฝุ่นและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่มีส่วนผสมของสารทัลก์ (Talc) ซึ่งเธอได้ใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดนั้นมาเป็นระยะเวลากว่า 35 ปีนั้น,ทั้งนี้ นพ.วีรวุฒิ ได้อธิบายในทางการแพทย์เกี่ยวกับการใช้แป้งหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นว่า กรณีดังกล่าวมีรายงานทางการแพทย์ที่บ่งบอกว่า อาจจะเป็นเหตุทำให้เกิดมะเร็งรังไข่ แต่จากการศึกษาตัวสารทัลก์ (Talc) ซึ่งเป็นส่วนผสมที่สำคัญในแป้ง ไม่ว่าจะเป็นแป้งทาตัว แป้งน้ำ แป้งรองพื้น แป้งทุกชนิด รวมไปถึงอายแชโดว์ จะมีสารทัลก์เป็นส่วนประกอบด้วย,นอกจากนี้ ยังเคยมีรายงานเมื่อ 10 กว่าปีก่อนในประเทศสหรัฐฯ ได้ศึกษารายงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวนี้ ทั้งหมด 16 รายงาน มีคนไข้ในรายงานทั้งหมด 12,000 ราย พบว่า ผู้หญิงที่ชอบทาแป้งฝุ่นบริเวณอวัยะเพศมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งรังไข่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 ซึ่งหากถามว่าเสี่ยงมากกว่าคนที่ไม่ทาหรือไม่นั้น ,คนที่ทาจะมีความเสี่ยงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.8% ซึ่งสูงกว่าผู้หญิงทั่วไปที่มีความเสี่ยง 1.4% เท่านั้น, ,และสารทัลก์ (Talc) ในปัจจุบันองค์การวิจัยระหว่างประเทศยังไม่ได้จัดให้เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ เพราะฉะนั้น อาจจะมีความเป็นไปได้ที่การทาแป้งฝุ่นบริเวณอวัยวะเพศจะทำให้เกิดมะเร็ง, ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ระบุ.,ทีมข่าวเฉพาะกิจ | จริงหรือ? ที่ใช้แป้งฝุ่นทาอวัยวะเพศจะก่อให้เกิดมะเร็งรังไข่ วันนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ พาผู้อ่านไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งรังไข่ ภัยร้ายใกล้ตัวผู้หญิง ว่าพฤติกรรมแบบใดมีโอกาสเสี่ยงจะเป็นโรคดังกล่าว | null | มะเร็งรังไข่,โรคมะเร็งรังไข่,มะเร็งรังไข่ เกิดจาก,มะเร็งรังไข่ เกิดจากอะไร,มะเร็งรังไข่ อาการ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,แป้งฝุ่นทาอวัยวะเพศ,แป้งฝุ่นทาจุดซ่อนเร้น,มะเร็งรังไข่อาการ,มะเร็ง รังไข่ อาการ,มะเร็งรังไข่ระยะสุดท้าย,มะเร็งรังไข่ ระยะสุดท้าย,มะเร็งรังไข่ระยะแรก,มะเร็ง รังไข่ ระยะ แรก,มะเร็ง รังไข่ ระยะ ที่ 3,โรคมะเร็งรังไข่ คือ,โรคมะเร็งรังไข่ อาการ,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/582407 |
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคแจง ได้งบ สสส. 2 ล้าน ฟื้นฟูการดำเนินงาน หลังได้รับผลกระทบไฟไหม้ช่วง พ.ค.53 | ฟื้นฟูการดำเนินงาน หลังอาคารสำนักงานได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ช่วง พ.ค.53 เพื่อให้สามารถกลับมาปฏิบัติงานสาธารณประโยชน์ในการดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคได้สืบเนื่องจากกรณี ธำรง หลักแดน รองประธานชมรมนักกฎหมายพิทักษ์ผลประโยชน์รัฐ (กพผร.) ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอให้ตรวจสอบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมกรรมการทั้งคณะรวม 17 คน กรณีที่กระทำผิดมิชอบโดยให้ความเห็นชอบอนุมัติเงินจากกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ จำนวน 3 ล้านบาท เป็นค่าปรับปรุงอาคารให้แก่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค วานนี้วันนี้ (11 ต.ค.56) มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ออกต่อกรณีดังกล่าว ชี้แจงว่า หลังอาคารสำนักงานของมูลนิธิฯ ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้อาคารศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วันบริเวณอนุสาวรีย์ชัย และลุกลามมายังอาคารสำนักงานของมูลนิธิฯ ซึ่งอยู่ติดกัน เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ทำให้ทรัพย์สินและอุปกรณ์สำนักงานของมูลนิธิฯ เสียหายเกือบทั้งหมดจนไม่สามารถทำงานได้ มูลนิธิฯ จึงจัดทำข้อเสนอการฟื้นฟูการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภค ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ งบประมาณจำนวน 2 ล้านบาท เพื่อให้มูลนิธิฯ สามารถฟื้นฟูและปฏิบัติงานสาธารณประโยชน์ที่เกี่ยวข้องด้านการคุ้มครองผู้บริโภคได้โดยเร็ว และเพื่อให้มูลนิธิฯ สามารถดำเนินโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจาก สสส. ในขณะนั้นเป็นไปตามวัตถุประสงค์และกำหนดเวลาของโครงการโดยก่อนหน้านี้มูลนิธิฯ ได้แจ้งขอรับการช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐอื่นๆ แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือเพราะอ้างว่า มูลนิธิฯ ไม่ใช่ผู้เสียหายจากไฟไหม้ที่เป็นผู้ค้าขาย นอกจากนี้ มูลนิธิยังได้รับความช่วยเหลือด้วยการบริจาคเงิน และอุปกรณ์สำนักงาน จากประชาชน และองค์กรต่างๆ จนทำให้มูลนิธิฯ สามารถกลับมาให้บริการประชาชน และปฏิบัติงานในสำนักงานเดิมได้เมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2553แถลงการณ์ระบุด้วยว่า ที่ผ่านมา มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ทำงานพิทักษ์สิทธิประโยชน์ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องและเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณะ สามารถยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศ ในหลายกรณีที่สำคัญ ทั้งยังแสดงบทบาทด้านสังคมอื่นๆ โดยเฉพาะการสนับสนุนให้ประชาชนใช้สิทธิพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ การแสดงออกทางความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ส่งเสริมการใช้ข้อมูลข้อเท็จจริงและหลักธรรมภิบาลในการพัฒนาสังคม จึงหวังว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่มีบุคคลและกลุ่มใดนำไปผูกโยงกับการเมืองมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แถลงการณ์ได้รับการสนับสนุนการฟื้นฟูการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภค ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติพฤษภาคม 2553 งบประมาณจำนวน 2 ล้านบาทจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้สามารถกลับมาปฏิบัติงานสาธารณประโยชน์ในการดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคได้19 พฤษภาคม 2553 อาคารสำนักงานของมูลนิธิฯ ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้อาคารศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วันบริเวณอนุสาวรีย์ชัย และลุกลามมายังอาคารสำนักงานของมูลนิธิฯ ซึ่งอยู่ติดกัน ทำให้ทรัพย์สินและอุปกรณ์สำนักงานของมูลนิธิฯ เสียหายเกือบทั้งหมด จนไม่สามารถทำงานได้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ ในการคุ้มครองสิทธิอันพึงมีพึงได้ของผู้บริโภค ทั้งการให้บริการรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน การจัดทำนิตยสารฉลาดซื้อ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นจริงให้ผู้บริโภคใช้สิทธิในการเลือกซื้อสินค้าและบริการ รวมถึงการมีส่วนร่วมในการผลักดันนโยบายเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคหลังจากเกิดเหตุการณ์ การทำงานคุ้มครองผู้บริโภคเป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงได้ทำจดหมายถึง สสส. เพื่อขอขยายเวลาในการจัดทำโครงการจำนวน 2 โครงการที่ได้รับการสนับสนุน อันได้แก่ 1)โครงการส่งเสริมสนับสนุนสิทธิผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ภายใต้แผนงานอุบัติเหตุ ระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2552-28 กุมภาพันธ์ 2554 และ 2) โครงการปฏิบัติการองค์การอิสระผู้บริโภค (จำลอง) ภายใต้แผนงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ ระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่ กันยายน 2552-สิงหาคม 2554 ต่อ สสส. เนื่องจากไม่สามารถทำโครงการให้แล้วเสร็จได้ตามเวลาที่ได้รับการอนุมัติ เนื่องจากวิกฤตที่เกิดขึ้น และได้จัดทำข้อเสนอการฟื้นฟูการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภค ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ งบประมาณจำนวน 2 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้มูลนิธิฯ สามารถฟื้นฟูและปฏิบัติงานสาธารณประโยชน์ที่เกี่ยวข้องด้านการคุ้มครองผู้บริโภคได้โดยเร็ว และเพื่อให้มูลนิธิฯ สามารถดำเนินโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากสสส. ในขณะนั้นเป็นไปตามวัตถุประสงค์และกำหนดเวลาของโครงการก่อนหน้านี้มูลนิธิฯ ได้แจ้งขอรับการช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เช่น สำนักงานเขตราชเทวี แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือเพราะอ้างว่า มูลนิธิฯ ไม่ใช่ผู้เสียหายจากไฟไหม้ที่เป็นผู้ค้าขาย นอกจากนี้ มูลนิธิยังได้รับความช่วยเหลือด้วยการบริจาคเงิน และอุปกรณ์สำนักงาน จากประชาชน ผู้บริโภค และองค์กรต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ เช่น สหพันธ์ผู้บริโภคสากล (Consumers International) ซึ่งเป็นเครือข่ายขององค์กรผู้บริโภค ที่มีสมาชิกมากกว่า 250 องค์กรใน 115 ประเทศ ทั่วโลก จนทำให้มูลนิธิฯ สามารถกลับมาให้บริการประชาชน และปฏิบัติงานในสำนักงานเดิมได้เมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2553มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ทำงานพิทักษ์สิทธิประโยชน์ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องและเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณะ สามารถยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศ ในหลายกรณีที่สำคัญ เช่น1. ผู้บริโภคใช้สิทธิอันพึงมีพึงได้ของตนเองเพิ่มขึ้น โดยมูลนิธิฯ มีศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค ให้บริการคำแนะนำ ให้ผู้บริโภคแก้ไขปัญหาด้วยตนเองไม่น้อยกว่า 10000 ราย ในแต่ละปี สนับสนุนการใช้สิทธิ การเจรจาไกล่เกลี่ย ให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย ไม่น้อยกว่า 1500-2000 รายต่อปี การจัดเวทีสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ ให้แก่ผู้บริโภคในวงกว้าง พัฒนาการรวมกลุ่มของผู้บริโภคเพื่อยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภค เช่น กรณีการตรวจสอบการคุ้มครองผู้บริโภคของหน่วยงานจากปัญหาแคลิฟอเนียร์ฟิตเนสว้าว การบังคับใช้กฎหมายมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม การยกระดับการคุ้มครองสิทธิประชาชนในการใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะ สร้างความตื่นตัวเรื่องความไม่เป็นธรรมด้านการเงินการธนาคาร เป็นต้น2. การใช้ข้อมูลเพื่อการเลือกซื้อสินค้า ผ่านนิตยสารฉลาดซื้อ เป็นนิตยสารรายเดือน ตีพิมพ์มาแล้วมากกว่า 20 ปี เพื่อเผยแพร่ข้อมูล ผลการทดสอบที่เป็นจริงให้กับผู้บริโภค ในการใช้เป็นข้อมูลเลือกซื้อสินค้า เพราะเชื่อว่า พฤติกรรมการซื้อแต่ละครั้ง คือการลงคะแนนให้กับตัวแบบทางเศรษฐกิจ รวมทั้งแบบแผนการผลิตสินค้าแบบใดแบบหนึ่ง และเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยผลักดันการปฏิรูปเศรษฐกิจสังคมให้เอื้อต่อประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ โดยรูปแบบการผลิตและการบริโภคคำนึงถึงประโยชน์ผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อม3. พัฒนานโยบายด้านการคุ้มครองผู้บริโภค อาทิ เรื่องหลักประกันสุขภาพมาตรฐานเดียว องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค (มาตรา 61 ตามรัฐธรรมนูญ) นโยบายด้านพลังงานที่ยั่งยืนและเป็นธรรม ความมั่นคงและความปลอดภัยด้านอาหาร และผลกระทบของเขตการค้าเสรีต่อผู้บริโภค4. สนับสนุนและพัฒนาศักยภาพองค์กรผู้บริโภค ให้มีการทำแผนคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัด และจัดตั้งศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภคในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ดำเนินกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิเพื่อสาธารณประโยชน์เกือบ 20 ปี ต้องการให้ทุกฝ่ายช่วยกันแก้ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค การหลอก การโกง ที่ยังมีทุกวัน และต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน นอกจากนี้มูลนิธิฯยังได้แสดงบทบาทด้านสังคมอื่นๆ โดยเฉพาะการสนับสนุนให้ประชาชนใช้สิทธิพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ การแสดงออกทางความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ส่งเสริมการใช้ข้อมูลข้อเท็จจริงและหลักธรรมภิบาลในการพัฒนาสังคม มูลนิธิฯ หวังว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่มีบุคคลและกลุ่มใดนำไปผูกโยงกับการเมืองมูลนิธิฯ จึงขอเรียนให้ทุกท่านทราบโดยทั่วกัน.มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค11 ตุลาคม 2556 | หลังมีผู้ร้องต่อดีเอสไอ ให้ตรวจสอบ สสส. กรณีอนุมัติเงิน ผิดวัตถุประสงค์ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคแจง ได้งบ 2 ล้านจาก สสส. | การเมือง | มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค,สสส. | https://prachatai.com/journal/2013/10/49210 |
พนง.โรงแรมเมืองพัทยา โร่แจ้งความถูกเท้าแชร์หอบเงิน 3 ล้านหนีลอยนวล | เมื่อวันที่ 25 ก.ค. น.ส.วราลักษณ์ สุนทรไชยา อายุ 44 ปี พร้อมกลุ่มเพื่อนพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งรวม 20 คน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ เสือทอง รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา หลังถูก น.ส.กานด์ชนก กฏิสุข อายุ 51 ปี ฉ้อโกงเงินจำนวนกว่าเกือบ 3,000,000 บาท แล้วหลบหนีไป,น.ส.วราลักษณ์ กล่าวว่า ตนเองรู้จักกับ น.ส.กานด์ชนก มาหลายปีเนื่องจากตนเป็นพนักงานของโรงแรมแห่งหนึ่ง และ น.ส.กานด์ชนก ได้เปิดร้านขายสินค้าอยู่ภายในโรงแรมดังกล่าว ก่อนมาสนิทสนมกันในภายหลัง จนต่อมา น.ส.กานด์ชนก ได้ชักชวนกลุ่มพนักงานคนอื่นๆในโรงแรม ให้ร่วมเล่นแชร์วงกัน ซึ่งในตอนแรกก็ได้เงินคืนพร้อมกับดอกเบี้ยตามปกติ จนทำให้ตนเกิดความเชื่อใจ ต่อมาในระยะหลัง น.ส.กานด์ชนก เริ่มขอยืมเงินตนครั้งละหลายหมื่นบาท โดยให้เหตุผลว่าจะนำเงินไปลงทุนธุรกิจ รวมทั้งสิ้นกว่า 600,000 บาท,ขณะเดียวกัน น.ส.กานด์ชนก ได้ตั้งแชร์วงราย 15 วัน มือละ 10,000 บาท โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค.59 และสิ้นสุดวันที่ 29 ส.ค.59 มีผู้ร่วมวงจำนวน 24 ราย เมื่อถึงกำหนดทุก 15 วัน คนที่เปียแชร์ก็รอว่าจะได้เงินเมื่อไหร่ น.ส.กานด์ชนก ก็มักจะเลื่อนให้ลูกแชร์ไปรับเงินในครั้งต่อไป พร้อมกับอ้างว่า ให้เงินกับลูกแชร์รายอื่นไปก่อนเนื่องจากมีความเดือดร้อนต้องใช้เงิน โดยที่ลูกแชร์รายนั้นๆ ไม่รู้เรื่องแต่อย่างใด และ น.ส.กานด์ชนก จะเก็บเงินไว้กับตัวเอง,น.ส.วราลักษณ์ กล่าวอีกว่า กระทั่งวันที่ 14 ก.ค.59 ที่ผ่านมา ได้ถึงกำหนดจ่ายเงิน น.ส.กานด์ชนก ได้เดินทางเข้ามาเก็บรวบรวมเงินกับลูกแชร์ที่โรงแรม และอ้างว่าจะนำเงินมาให้ในวันรุ่งขึ้น ต่อมาวันที่ 15 ก.ค.59 ตนเองและลูกแชร์รายอื่นได้พยายามติดต่อ น.ส.กานด์ชนก แต่ไม่สามารถติดต่อได้และหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย จึงเชื่อว่า น.ส.กานด์ชนก ได้หอบเงินหลบหนีไปแล้ว ซึ่งตนสูญเงินรวมกว่า 900,000 บาท ส่วนลูกแชร์รายอื่นๆ สูญเงินรายละ 30,000-200,000 บาท รวมมูลค่ากว่า 3,000,000 บาท,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความและลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนสอบสวนผู้เสียหายโดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียก น.ส.กานด์ชนก ผู้ถูกกล่าวหา มาสอบสวนตามกระบวนการกฎหมายต่อไป | พนักงานโรงแรมชื่อดังเมืองพัทยา 20 คน โร่แจ้งความ ถูกเท้าแชร์หอบเงินหนีประมาณ 3 ล้านบาท หลังตั้งแชร์ราย 15 วัน มือละ 10,000 บาท จำนวน 24 มือ ขณะที่ตร.เร่งตามเท้าแชร์มาดำเนินคดี | null | โกงค่าแชร์,เท้าแชร์,เท้าแชร์โกงเงิน,โกงแชร์,พัทยา,เล่นแชร์,โดนโกงแชร์,ชลบุรี,ข่าว,ทั่วไทย,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/672598 |
พาณิชย์ ปิ๊งแผนรับสังคมวัยทอง | นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจบริการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อรองรับสังคมวัยทองที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่โลกมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยให้ใช้โอกาสนี้ดึงดูดผู้สูงอายุเข้ามาใช้บริการกับสถานบริการสุขภาพและสถานพยาบาลในไทย เพราะไทยมีความพร้อม มีความหลากหลาย สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล อีกทั้งคนไทยมีหัวใจบริการ และที่สำคัญค่าใช้จ่ายเหมาะสม สามารถตอบโจทย์ผู้สูงอายุจากทั่วทุกมุมโลกได้,กระทรวงฯ ได้ตั้งเป้าหมายผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจบริการดูแลผู้สูงอายุของโลก เพราะไทยมีความพร้อมในทุกๆด้าน ทั้งสถานที่ การบริการ และค่าใช้จ่ายที่ถูก เมื่อเทียบกับประเทศอื่น และยิ่งสังคมผู้สูงอายุมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ยิ่งทำให้เป็นโอกาสของไทย ซึ่งได้เตรียมความพร้อมมาตั้งแต่ปี 54 โดยไปช่วยพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการ การบริการ เพื่อลดต้นทุน ขณะนี้มีธุรกิจที่ผ่านการพัฒนาแล้ว 442 ราย และจากนั้นได้พัฒนาต่อเพื่อให้ธุรกิจมีมาตรฐานในระดับสากล โดยมีผู้ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติแล้ว 55 ราย ขณะนี้กำลังผลักดันให้มีการสร้างเครือข่ายกับนักลงทุน หรือนักธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความร่วมมือกัน,นางอภิรดีกล่าวต่อว่า ปัจจุบันธุรกิจบริการดูแลผู้สูงอายุของไทยส่วนใหญ่ ไม่ใช่โรงพยาบาล แต่เป็นบริการที่พำนักแก่ผู้สูงอายุ ที่ไม่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเป็นประจำ โดยทั่วไปจะครอบคลุมการให้บริการที่พักค้างคืน บริการอาหาร การดูแลความสะอาดเสื้อผ้า พร้อมทั้งติดตามดูแลสุขภาพเบื้องต้นอย่างใกล้ชิด แต่ไม่ได้รักษาพยาบาล หากมีความเจ็บป่วยจะบริการนำส่งต่อแผนกคนไข้ของโรงพยาบาลใกล้เคียง เพื่อรักษาพยาบาลต่อไป,ทั้งนี้ สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1.ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุกลุ่มเดย์แคร์ หรือแบบเช้า-เย็นกลับ ซึ่งจะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตนเองได้และมีญาติมารับ-ส่ง เป็นรายวัน 2.ธุรกิจสถานบริการดูแลระยะยาว โดยผู้สูงอายุจะอาศัยในสถานบริการนั้นเลย มีญาติมาเยี่ยมเป็นครั้งคราว 3.ธุรกิจที่บริการส่งผู้ดูแล ให้ไปดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน ปัจจุบันธุรกิจบริการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวและสถานพยาบาลของไทย มีราว 400 แห่งทั่วประเทศ โดยไทยคาดว่าในปี 63 จะมีผู้สูงอายุกว่า 13 ล้านคน หรือ 19% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ และปี 73 จะเพิ่มสูงถึง 17.5 ล้านคน คิดเป็น 26.57% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ. | ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจบริการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อรองรับสังคมวัยทองที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่โลกมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยให้ใช้โอกาสนี้ดึงดูด | null | ข่าวเศรษฐกิจ,อภิรดี ตันตราภรณ์,แผนรับสังคมวัยทอง,บริหารจัดการ,ธุรกิจบริการดูแลผู้สูงอายุ,รองรับสังคมวัยทอง,สังคมวัยทอง,ผู้สูงอายุ,จำนวนผู้สูงอายุ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/667064 |
ม้วนเดียวจบ เปิดโปรไฟล์เริด มารีญา มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2017 | คว้าตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 แบบม้วนเดียวจบเพราะ ถูกจับตามองว่าเป็นตัวเต็งคว้ามงกุฎบนเวทีนี้สำหรับ มารีญา พูลเลิศลาภ หรือ มารีญา ลินน์ เอียเรียน นางแบบสาวลูกครึ่งไทย-สวีเดน วัย 25 ปี ที่พกพาความสูงถึง 184 ซม. และถ้าใครยังจำได้ เธอคนนี้แหละคือเจ้าของผลงานเพลงสุดแนว บุ๋ง ที่มีเนื้อเพลงแปลกๆ แต่น่ารัก บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ รวบรวมประวัติและผลงานของสาวคนนี้มาฝากแฟนๆ ของเธอกัน,มารีญา พูลเลิศลาภ เกิดเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2535 เป็นลูกสาวคนเล็กของ มร.โกราน เอียเรียน และ นางชนกสรวง พูลเลิศลาภ มีพี่ชายฝาแฝด 2 คน จบการศึกษาปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยอีราสมุส ประเทศเนเธอร์แลนด์ และปริญญาโทด้านการตลาดจากสตอกโฮล์ม สกูล ออฟ บิซิเนส ประเทศสวีเดน,มารีญาเกิดที่ประเทศไทย แต่พออายุ 2 ขวบต้องย้ายไปอยู่ประเทศเวียดนามเพราะคุณพ่อซึ่งเป็นวิศวกรออกแบบโรงไฟฟ้าต้องไปดูแลการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่นั่น และคุณแม่ไปเป็นอาจารย์พิเศษที่สถาบัน AIT ที่กรุงฮานอยเช่นกัน พออายุ 7 ขวบจึงกลับมาเมืองไทย จึงทำให้เธอสามารถพูดได้หลายภาษาทั้งภาษาไทย, อังกฤษ, เวียดนาม, จีน ฯลฯ,นอกจากนี้มารีญาชอบทำกิจกรรมต่างๆ นอกจากการเรียนตั้งแต่เด็กๆ อาทิ รำไทย, บัลเลต์, เต้นแจ๊ส, ฮิพฮอพ, เล่นเปียโน, ร้องเพลง ฯลฯ อีกทั้งเวลาว่างเธอชอบออกกำลังกายด้วยการเล่นเทนนิสและเทควันโด โดยเฉพาะเทนนิสที่เจ้าตัวเล่นได้ดีจนคุณครูที่โรงเรียนให้ฉายาว่ามาเรีย ซาราโปวา เมืองไทยอีกด้วย,ส่วนเส้นทางการเข้าวงการนางแบบเกิดจากตอนที่มารีญาอายุ 13 ปี และได้ไปเรียนเต้นแจ๊สกับฮิพฮอพ ครูสอนเทควันโดที่โรงเรียนเดียวกันรู้จักกับโมเดลลิ่งจึงได้ชักชวนไปเทสต์หน้ากล้องและได้ร่วมเดินแบบครั้งแรกในงานบางกอกแฟชั่นวีค,หลังจากนั้นก็มีงานติดต่อมาเรื่อยๆ ทั้งงานถ่ายแบบนิตยสารดังๆ เดินแบบตามงานแฟชั่นต่างๆ รวมถึงมิวสิกวิดีโอเพลง Play Girl ศิลปิน ซีควินท์ นอกจากนี้มารีญายังเคยเป็นศิลปินหญิงเดี่ยวสไตล์ป๊อปแดนซ์ในสังกัดสมอลล์รูม ออกมินิอัลบั้ม Maxi Single มีผลงานเพลงเนื้อหาแปลกๆ แต่น่ารักอย่าง บุ๋ง (Boong), เก็บโต๊ะ (Wait Up), เบลอ (Blur) ฯลฯ,สำหรับข่าวคราวของเธอ หากใครยังจำกันได้ เธอคนนี้เคยตกเป็นข่าวกุ๊กกิ๊กกับนักร้องหนุ่ม ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ออกมาบอกว่าเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น นอกจากนี้เธอยังเคยมีข่าวกับไฮโซหนุ่ม เต้ บรม พิจารณ์จิตร ด้วย แต่ปัจจุบันมีข่าวว่าเธอกำลังศึกษาดูใจหนุ่มนอกวงการซึ่งเป็นชาวต่างชาติชื่อเดนนี่ แต่จะใช่หนุ่มรู้ใจตัวจริงรึเปล่าคงต้องไปถามเธอเอาเองนะจ๊ะ. | คว้าตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 แบบม้วนเดียวจบเพราะเป็นตัวเต็งคว้ามงกุฎบนเวทีนี้สำหรับ มารีญา พูลเลิศลาภ นางแบบสาวลูกครึ่งไทย-สวีเดน บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ รวบรวมประวัติและผลงานของสาวคนนี้มาฝากแฟนๆ ของเธอกัน | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | มารีญา พูลเลิศลาภ,มารีญา ลินน์ เอียเรียน,มารีญา ประวัติ,มารีญา ผลงาน,มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017,กอสซิป | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1019845 |
นครราชสีมา ไล่ถล่ม ม.ภาคฯ ยับคาถิ่น 12-1 ศึกฟุตซอลลีก | การแข่งขันศึกฟุตซอล เอไอเอส ไทยแลนด์ลีก 2016 ในเกมที่ 6 ของฤดูกาล ประจำวันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน 2559 โดยคู่ที่น่าสนใจเป็นการดวลกันในเกมดาร์บีแมตช์อีสานระหว่าง มังกรอีสาน ม.ภาคฯ-ขอนแก่น รองบ๊วยของตาราง เปิดบ้านรับมือ นครราชสีมา วี-วัน อันดับ 8 ,เริ่มเกมในครึ่งแรกนาทีที่ 6 เจ้าถิ่นได้เฮก่อน เมื่อ ธนากร ใจเวช พาบอลขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนตะบันเต็มข้อลูกพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ม.ภาคฯ-ของแก่น ออกนำ 1-0 ,แต่หลังจากนั้นทีมเยือนก็มาทวงคืนทีเดียว 2 ประตูรวด ในนาที 10 และ 15 จากการยิงของ วันชัย หาวอ และ อนุพงษ์ ฤทธิธาพรม ทำให้ นครราชสีมา วี-วัน ขึ้นนำ 2-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ ,เกมในครึ่งหลัง ทีมโต๊ะเล็กหลานย่าโมอาศัยเกมรุกโต้กลับที่เฉียบคม ทำเพิ่มอีก 4 ประตู จากผลงานของ ไรอัน โกเมส น.21, บรูโน่ ฟาคันญา และ มนัสวีร์ รัตนวิศ น.24 รวมไปถึง บริบูรณ์ กลางหล้า น.28 ขยับหนีออกไปเป็น 6-1 ,จากนั้นทีมโต๊ะเล็ก ม.ภาคฯ ยังคงตั้งตัวไม่ติดโดนเจาะตาข่ายอีก 6 ลูกรวด โดน นครราชสีมา วี-วัน ทิ้งห่างไปเป็น 12-1 จากการทำประตูของ นนธพรรณ์ โพธิ์พืช น.33, บรูโน่ ฟาคันญา น.34, ไรอัน โกเมส น.35, น. 37, รตจี จันทร์น้อย ทำเข้าประตูตัวเอง น.39 และ นนธพรรณ์ โพธิ์พืช น.40 ,ทำให้จบเกม นครราชสีมา วี-วัน บุกมายำใหญ่ ม.ภาคฯ-ขอนแก่น ไปอย่างขาดลอยคาบ้าน 12-1 เก็บสามแต้มได้ตามความคาดหมาย ขณะที่เจ้าถิ่นยังควานหาชัยชนะไม่เจอ จากการลงสนาม 6 นัด หล่นลงไปอยู่ในอันดับสุดท้ายของตารางในขณะนี้. | แมวจอมพลัง นครราชสีมา วี-วัน โชว์ฟอร์มสุดโหด บุกไปไล่ถล่ม มังกรอีสาน ม.ภาคฯ-ขอนแก่น อย่างขาดลอยคาบ้าน 12-1 ในเกมดาร์บีแมตช์อีสาน ศึกฟุตซอลไทยแลนด์ลีก 2016 | null | ผลบอล,ฟุตซอล,เอไอเอส ฟุตซอลไทยแลนด์ลีก 2016,นครราชสีมา วี-วัน,ม.ภาคฯ-ขอนแก่น,แมวจอมพลัง,มังกรอีสาน,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/636794 |
ชมด้วยตาเปล่า ดาวพฤหัสบดี ใกล้โลกที่สุดในรอบปี | วันที่ (10 พ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณอุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ บรรยากาศการดูดาวพฤหัสบดีของชาวเชียงใหม่เป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนจำนวนมากไปสังเกตการณ์ดาวพฤหัสบดีที่ใกล้โลกที่สุดในรอบปี และได้พบกับปรากฏการณ์สุริยุปราคาบนดาวพฤหัสบดีด้วย โดยดวงจันทร์ยูโรปาโคจรผ่านหน้าดาวพฤหัสบดี เกิดเป็นปรากฏการณ์สุริยุปราคาบนดาวพฤหัสบดี ในช่วงเวลาประมาณ 18.20 ถึง 20.36 น.นายธนกร อังค์วัฒนะ เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ บอกว่า ดาวพฤหัสบดีจะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ ซึ่งจะอยู่ในตำแหน่งใกล้โลกมากที่สุดในรอบปี โดยวานนี้ (9 พ.ค.) เวลาประมาณ 07.10 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ที่ระยะทางประมาณ 658 ล้านกิโลเมตร จะสามารถสังเกตเห็นดาวพฤหัสบดีได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจนทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และหลังจากนี้ประชาชนจะยังสามารถชื่นชมความสวยงามของดาวพฤหัสบดีได้จนถึงเดือน ก.ย.ทั้งนี้ ดาวพฤหัสบดีอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ หมายถึงตำแหน่งที่ดวงอาทิตย์ โลก และดาวพฤหัสบดี เรียงอยู่ในเส้นตรงเดียวกัน มีโลกอยู่ตรงกลาง จึงเป็นตำแหน่งที่ใกล้โลกที่สุด นอกจากนี้การที่ดาวพฤหัสบดีอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ เมื่อดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟ้า ดาวพฤหัสบดีก็จะโผล่พ้นขอบฟ้าทางทิศตะวันออกและจะปรากฏบนท้องฟ้าให้ทองเห็นได้เป็นเวลายาวนานตลอดทั้งคืน จนถึงดวงอาทิตย์ขึ้นในเช้าวันถัดไป | เมื่อคืนดาวพฤหัสบดีใกล้โลกที่สุดในรอบปี ทำให้มีโอกาสเห็นได้ด้วยตาเปล่าทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ มีประชาชนให้ความสนใจไปดูจำนวนมาก และหลังจากนี้ประชาชนจะยังสามารถชื่นชมความสวยงามของดาวพฤหัสบดีได้จนถึงเดือน ก.ย. | วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี | ดาวพฤหัสบดี,ดวงอาทิตย์,โลก,มองเห็นด้วยตาเปล่า,สารสนเทศดาราศาสตร์,สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ,ทยานดาราศาสตร์สิรินธร,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/272126 |
ขัดวนไป เจาะ 5 วิธีสครับผิว ตื่นมาหน้าใส เนียนนุ่มสัมผัสได้ | จะต้องออกงานสำคัญในอีกไม่กี่วัน เสื้อผ้าพร้อม หน้าผมพร้อม แต่ผิวเนี่ยสิ ยังไม่พร้อมสักที ทำไงดี? ไม่ต้องกังวลไปค่ะสาวๆ วันนี้เรามีเคล็ดลับทำความสะอาดผิว สครับผิว บำรุงผิว ให้พร้อมเผยผิวเนียนใส นุ่ม ดูมีสุขภาพดี ก่อนออกงานสำคัญ,ไทยรัฐออนไลน์, ขอบอกก่อนว่า คุณควรมีเวลาเตรียมผิวอย่างน้อยสัก 6-7 วัน ก่อนจะออกงาน เพื่อการบำรุงผิวให้ดีถึงขีดสุด ส่วนจะต้องทำยังไงบ้าง มาดูกัน,1. เลือกสครับให้เหมาะกับผิว,ขั้นตอนแรกของการเตรียมผิวให้เนียนนุ่ม สดใส สุขภาพดี เริ่มต้นจากการทำความสะอาดอย่างล้ำลึกอย่างการ สครับผิว เพื่อขจัดความมันและสิ่งสกปรกออกให้หมดจด ต้องสำรวจผิวของคุณก่อนว่ามีสภาพผิวแบบไหน,- สาวผิวมัน :, ควรเลือกสครับสูตรที่กำจัดความมันได้ดี แต่ก็ยังคงให้ความชุ่มชื่น ไม่ทำให้ผิวแห้งหลังใช้ เน้นที่มีส่วนผสมของกรีนที ว่านหางจระเข้ มะนาว มะเขือเทศ มะขามเปียก โยเกิร์ต เป็นต้น,- สาวผิวแห้ง :, ควรใช้สครับสูตรเพิ่มมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้มากๆ เพื่อไม่ให้ผิวแห้งตึง และเกิดริ้วรอย เช่น ส่วนผสมพวกน้ำนมข้าว วิตามินอี น้ำมันมะพร้าว เป็นต้น,- สาวผิวผสม :, จริงๆ ก็สามารถใช้สครับผิวได้ทุกสูตร ส่วนใหญ่มักจะมีความมันเฉพาะบริเวณทีโซน ก็เน้นทำความสะอาดทีโซนเป็นพิเศษหน่อย,2. วิธีทำสครับ DIY,แต่ถ้าใครไม่อยากลงทุนซื้อสครับแบบแพงๆ มาใช้ เราก็มีวิธีการทำสครับใช้เองแบบง่ายๆ มาฝาก สามารถใช้ส่วนผสมที่มีอยู่ในครัว หรือมีอยู่แล้วในตู้เย็น หรือจะหาซื้อเกลือสครับสูตรน้ำนมตามร้านสะดวกซื้อ ก็มีขายนะจ๊ะ,- สครับน้ำนมโยเกิร์ต :, เหมาะสำหรับสาวผิวแห้ง ใช้เกลือสครับสูตรน้ำนม+นมสด+โยเกิร์ตรสธรรมชาติ คนให้เข้ากัน นำมาสครับได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย แต่ผิวหน้าให้สครับเบามือที่สุด แค่ 2-3 นาทีก็พอ แล้วล้างออก ส่วนผิวกายสครับวนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะทั่วตัว ทิ้งไว้สักพักแล้วค่อยล้างออก,- สครับโยเกิร์ตน้ำผึ้ง :, เกลือสครับ+น้ำผึ้ง+โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ผสมให้เข้ากัน เหมาะสำหรับสาวผิวธรรมดาและผิวมัน,- สครับน้ำผึ้งมะนาว :, เกลือสครับ+น้ำผึ้ง+น้ำมะนาว ผสมให้เข้ากัน เหมาะสำหรับสาวผิวมัน,- สครับมะเขือเทศแตงกวา :, เกลือสครับ+แตงกวาปั่น+มะเขือเทศปั่น+โยเกิร์ต ผสมให้เข้ากัน เหมาะสำหรับสาวผิวหมองคล้ำ ต้องการเพิ่มความสว่างใสให้ผิว,3. เคล็ดลับสครับผิว,สำหรับผิวหน้าให้เลือกสครับที่อ่อนโยนกับผิวมากที่สุด เช่น เกลือสครับผิวหน้าโดยเฉพาะ น้ำตาลสครับ กากกาแฟสครับ ส่วนผิวกายใช้สครับทั่วไปได้เลย เน้นแค่ว่าเม็ดสครับละเอียด จะได้ไม่ทำร้ายผิว ไม่ก่อให้เกิดริ้วรอย,อีกอย่าง คือ ไม่ควรสครับติดกันทุกวัน เพราะจะทำให้ผิวระคายเคือง ควรเว้นไป 2-3 วัน แล้วค่อยกลับมาสครับใหม่ วนแบบนี้ไปเรื่อยๆ สัก 1-2 สัปดาห์ก็จะรู้สึกได้ว่าผิวดีขึ้น ต้องใช้เวลานิดนึง ,4. หลังสครับผิว ต้องบำรุงด่วนๆ,หลังจากสครับผิวและอาบน้ำเสร็จ อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่ต้องทำควบคู่กันไป ก็คือการทาครีมบำรุงผิว ผิวหน้า ผิวใต้ตา ผิวกาย ผิวมือและเท้า เอาให้ครบเซตไปเลย ต้องบำรุงทั้งเช้าและเย็น ห้ามขี้เกียจเด็ดขาด,5. ตัวช่วยให้ผิวดูดี,นอกจากนี้ก่อนจะถึงวันออกงานก็ต้องดูแลสุขภาพผิวจากภายในสู่ภายนอก ด้วยการดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ งดชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอนหลับให้เพียงพอ,พอถึงวันออกงาน คุณสามารถใช้ตัวช่วยอื่นๆ มาเสริมให้ผิวดูเปล่งประกายมากขึ้น ด้วยการทาชิมเมอร์หรือไฮไลเตอร์ ลงบนผิวกาย หรือบอดี้ครีมที่ช่วยปรับสีผิวให้ขาวใสสม่ำเสมอกัน ,แค่นี้ก็อวดผิวสวยวันออกงานได้ง่ายๆ แล้วจ้า. | รีวิววิธีสครับผิวหน้า รีวิววิธีสครับผิวกาย การเตรียมผิวก่อนขัดหน้าขัดตัว ทำความสะอาดผิว ขัดขี้ไคล รีวิววิธีทำให้ผิวสะอาด เนียนใส ไร้ริ้วรอย | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | รีวิววิธีบำรุงผิว,สครับผิว,สูตรสครับผิว,สูตรบำรุงผิว,บำรุงผิว | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/beauty/1266842 |
จุดพลุโปรโมตเมืองรองไทย ททท.ดึงเวียดเจ็ทเปิดบินตรงโฮจิมินห์-ขอนแก่น | รวมถึงการเปิดจุดบินตรงจากต่างประเทศเข้าสู่เมืองหลักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ยังไม่มีเที่ยวบินประจำจากต่างชาติเข้ามา และสายการบินใดตอบรับหรือแสดงความสนใจ ททท.จะช่วยประสานกับกรมท่าอากาศยาน พิจารณาสิทธิประโยชน์พิเศษ เช่น ลดค่าธรรมเนียมในการลงจอด เพื่อแบ่งเบาภาระในการทำตลาดโดยสายการบินที่เจรจาไปแล้ว ได้แก่ กลุ่มเวียดเจ็ท เพื่อให้พิจารณาเปิดเส้นทาง โฮจิมินห์-ขอนแก่น ช่วยเปิดตลาดต่างชาติบินตรงเข้ามาในภูมิภาคนี้โดยตรง ซึ่งมองขอนแก่นว่าจะเป็นตัวเชื่อมต่อนักท่องเที่ยว กระจายลงสู่จังหวัดรอบข้างที่มีปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ท่องเที่ยว เพราะเดินทางเข้าถึงลำบาก เช่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ที่อยู่ในคลัสเตอร์เดียวกันที่ ททท.พยายามส่งเสริม,นอกจากนี้ มองว่าการเปิดเที่ยวบินตรงจากต่างชาติเข้าสู่อีสาน โดยเชื่อมต่อกับประเทศในกลุ่มอาเซียน จะทำให้ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เพราะประเทศสมาชิกอาเซียนต่างพยายามส่งเสริมตลาดแบบ 2 ประเทศ 1 จุดหมาย (Two Countries One Destination) เพื่อสร้างจุดเด่นที่น่าสนใจในการขายแพ็กเกจอยู่แล้ว อีกทั้งการท่องเที่ยวในจังหวัดตะเข็บชายแดน ยังมีการเดินทางเชื่อมต่อบนบกที่สะดวก เนื่องจากภาคอีสานมีด่านถาวรในทุกจังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น หากบริษัทนำเที่ยวจะออกแบบโปรแกรมผสมผสานระหว่างการเดินทางโดยเครื่องบิน และรถยนต์ผ่านแดนเข้า-ออกโดยไม่ต้องวนกลับมาสู่จุดหมายเดิม ก็จะยิ่งสะดวกต่อการเดินทางมากขึ้น,นายอัศวิน ยังกีรติวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทย ไลออน แอร์ กล่าวว่า หลังจากวางแผนเติบโตในเส้นทางภาคอีสาน จนสามารถสร้างส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งได้ จะพิจารณาเปิดเส้นทางบินตรงจากต่างประเทศลงจังหวัดอื่นในภาคอีสาน ได้แก่ อุดรธานีและอุบลราชธานี. | นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เริ่มเจรจากับสายการบินหลายสายให้เปิดเส้นทางบินใหม่จากต่างประเทศตรงเข้าสู่เมืองรองของไทยในกลุ่ม 55 จังหวัดมากขึ้น | ข่าว,เศรษฐกิจ | ยุทธศักดิ์ สุภสร,เที่ยวบิน,ททท.,ขอนแก่น,โฮจิมินห์ | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1187190 |
สาวน้อย โพสต์ ระบายแค้น เศร้า หมารักถูกยิงทะลุเพดานปาก แต่ทำอะไรไม่ได้ | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลแชร์ข้อความของหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 2 พ.ค.61 ว่า เวรกรรมน้อไข่ตุ๋นได้มาอยู่กับคนบ่มีเงิน บ่มีปัญญา บ่ รุ้สิส่อยแนวใด ได้แต่นั่งเช็ดแผลให้ ได้แต่นั่งเว้านำ หมากุถืกยิงกุกะไปเอาเรื่องเขาบ่ได้ เขาใหญ่ เขาดัง กุคนธรรมดา สิโตนหมาเด้เงินกะบ่ มีพาไปหาหมอดอก ได้แต่นั่งไห้ เซาไว้ๆเด้อลูกแม่หมาไผๆกะฮัก #แชร์ไปให้โลกเห้น คนมันชั่วเฮดกะหมาได้,ผู้สื่อข่าวตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ที่เกิดเหตุในพื้นที่ ของ สภ.ม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี จึงได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.อุบล โนนตูม สารวัตร (สอบสวน) สภ.ม่วงสามสิบ พร้อมรุดเข้าตรวจสอบบ้านพักเลขที่ 264 ม.1 ต.ม่วงสามสิบ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี พบนางสาวมาลินี พิณโท อายุ 17 ปี ผู้โพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าว พร้อมกับสุนัขพันธุ์ไทยเพศผู้ สีน้ำตาล อายุ 4 เดือน อยู่หน้าบ้าน,สอบถามนางสาวมาลินี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พ.ค.61 เวลาประมาณ 12.00 น. ขณะที่ตนออกไปทำธุระนอกบ้าน น้องชายได้โทรศัพท์แจ้งว่า สุนัขชื่อเจ้าไข่ตุ๋น ได้รับบาดเจ็บถูกยิงวิ่งกลับมาบ้าน เมื่อกลับมาบ้านพบเจ้าไข่ตุ๋นนอนเลือดท่วมตัว ไหลไม่ยอมหยุดหลบอยู่ในบ้าน ตรวจสอบบาดแผลพบเป็นรูกระสุนขนาดเล็ก บริเวณปากซ้ายทะลุเพดาน ฟันแตก ด้วยความสงสารที่ไม่รู้ว่า จะช่วยเหลือเจ้าไข่ตุ๋นอย่างไร จึงได้โพสต์เฟซบุ๊กเพื่อระบายความแค้น เนื่องจากไม่มีเงินพาเจ้าไข่ตุ๋นไปรักษา ทำได้แค่เพียงซื้อยาแก้อักเสบของคนมาผสมข้าวให้กินบรรเทาอาการบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุที่เจ้าไข่ตุ๋นถูกยิงน่าจะมาจากการไปไล่กัดไก่ของเพื่อนบ้านใกล้เคียง แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นบ้านไหน สงสัยแต่ก็ไม่สามารถพูดได้ ทำได้แค่ทำใจ,ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า เบื้องต้นหลังจากทราบเรื่องได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า สุนัขที่ได้รับบาดเจ็บเป็นสุนัขเพศผู้ สีน้ำตาล พันธุ์ไทย อายุประมาณ 4 เดือน มีบาดแผลคล้ายรูกระสุนขนาดเล็กทะลุลงมาเพดานในปาก ได้รับบาดเจ็บ แต่ล่าสุด สามารถเดิน วิ่งได้ตามปกติ บาดแผลยังไม่ได้รับการรักษา สอบสวนเจ้าของไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์ และไม่ทราบตัวผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจสอบบันทึกภาพที่เกิดเหตุ ไว้เบื้องต้น และจะประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ต่อไป | สาวน้อย วัยแค่ 17 ปี เมืองดอกบัว อุบลราชธานี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบายความเศร้า เจ้าไข่ตุ๋น หมารัก ถูกคนยิงปากทะลุ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้แม้แต่พาไปหาหมอ เพราะกัดไก่เพื่อนบ้าน | ข่าว,ทั่วไทย | สาวน้อยวัย 17 ปี,หมารัก,ถูกยิงปาก,โพสต์เฟซฯระบายแค้น,อุบลราชธานี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1273324 |
ซวย ป้าวัย60จะข้ามถนน ถูก จยย.ชนกระเด็น เก๋งวิ่งมาทับร่างอีก ดับสยอง | เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 16 ก.ย. 60 พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถชนเดินข้ามถนนเสียชีวิตคาที่ 1 ราย บนถนนสายท่าศาลา-สิชล ฝั่งขาขึ้น หน้าวัดเทวดาราม หมู่ 2 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งแล้วจึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ท่าศาลา และ จนท.มูลนิธิประชาร่วมใจ ไปที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบศพผู้ตายเป็นหญิงสูงอายุนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตกลางถนน,สอบสวนทราบชื่อผู้เสียชีวิต นางถาวร เพ็ชรทอง อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/1 หมู่ 2 ต.ท่าศาลา สภาพศพกะโหลกศีรษะแตกแขนขาหักตายคาที่ และใกล้ๆ ศพ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิซิ สีฟ้า ทะเบียน กค 5451 พังงา จอดอยู่สภาพด้านหน้าพังยุบ และห่างไปเล็กน้อย พบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ทะเบียน ขจก 371 ล้มลงอยู่ที่เกิดเหตุ
,สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ นางถาวร กำลังเดินข้ามถนนบริเวณดังกล่าว ได้มี นายรัชนนท์ นาคสาร อายุ 16 ปี ได้ขี่รถ จยย.คันดังกล่าวเสียหลักพุ่งชนร่างนางถาวร จนร่างนางถาวรกระเด็นล้มกลิ้งลงกลางถนน เป็นจังหวะพอดีที่มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิซิคันดังกล่าวแล่นตามหลังมาด้วยความเร็วเบรกไม่ทัน พุ่งชนเหยียบร่างนางถาวร ลากครูดไปกับพื้นถนนยาวประมาณ 30 เมตร ทำให้ นางถาวร เสียชีวิตคาที่ทันที หลังเกิดเหตุได้มี น.ส.ปรียากมล ทวีทรัพย์ อายุ 22 ปี คนขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวยืนรอมอบตัวกับตำรวจเพื่อดำเนินคดีตาม ก.ม.ต่อไป ส่วนร่างนางถาวรหลังจากร่วมทำการชันสูตรพลิกศพเสร็จแล้วได้มอบศพให้กับญาตินำศพไปจัดการตามประเพณีต่อไป. | ดวงถึงที่!! โจ๋ 16 ซิ่ง จยย.ชนคุณป้าวัย 60 กำลังจะข้ามถนนล้มกลิ้ง เป็นจังหวะเดียวกับสาวขับเก๋งมาด้วยความเร็ว เบรกไม่ทันพุ่งเหยียบร่างลากครูดไปกับพื้นถนน 30 เมตร เสียชีวิตคาที่
| ข่าว,ทั่วไทย | ชนป้าวัย60,เก๋งชนป้า,จยย.ชนป้า,ถาวร เพ็ชรทอง,นครศรีธรรมราช,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1072364 |
คนการเมือง ยังรุมจวก สนช.เผลอหลับกลางสภา สับแหลก เปลืองภาษีปชช. | วันที่ 7 มิ.ย. ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ นำทุกท่านไปชม ควันหลงหลังเกิดเหตุสื่อจับภาพ สนช.บางท่าน เผลอหลับในที่ประชุมสภา ขณะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะแถลงผ่านงบประมาณประจำปี 2562 วงเงิน 3 ล้านล้าน แม้บิ๊กตู่ได้ลงดาบ สมาชิก สนช.ที่หลับนกแล้ว โดยส่งภาพไปให้ประธานสนช. พร้อมขู่เตรียมเช็กบิล ,ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ความเห็นกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ เกี่ยวกับการหลับนกในที่ประชุมสภา ว่า เป็นถึงสมาชิก สนช. แต่ไม่ตระหนักถึงเงินเดือนที่ได้มาจากภาษีของประชาชน ทำอะไรไม่คำนึงถึงหน้าที่ของตัวเอง งบประมาณที่ชี้แจงไปกว่า3 ล้านล้านนั้น รู้เนื้อหามากน้อยมากแค่ไหน อนุมัติซื้ออะไรไปบ้าง ไม่มีใครสนใจ,โดยทางอดีตบิ๊กนายตำรวจมือปราบ ได้ให้ข้อเสนอในเรื่องการพักผ่อนให้เพียงพอ นอนตอนกลางคืน จะได้มีแรงทำงาน สำหรับปัญหาดังกล่าว จำเป็นที่จะต้องต้องแก้ไขที่ตัวบุคคลต่อไป สุดท้ายฝากถึงประชาชนไม่อยากเห็นปัญหาแบบนี้ ให้เลือกตนเป็นหน้ายกในสมัยหน้า,ในขณะที่ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ผู้ก่อตั้งพรรคเกรียน ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ที่ใช้ชื่อ สมบัติ บุญงามอนงค์ โดนได้ระบุเป็นข้อความแสบๆคันๆไว้ว่า,ว่าเรื่องแอร์ในห้องประชุมเย็นนี่จริง เย็นไร้สาระเลยทีเดียว เปิดเบาก็ร้อน เพราะท่านทั้งหลายใส่สูทประชุม สิ่งที่ควรทำ คือ มีจอระบุอุณภูมิในห้องประชุม ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และการประชุมควรกระชับ เลิกพูดจาเวิ่นเว้อและหาวิธีการลดเวลาในทางพิธีกรรมลง,คนแก่สูงอายุไม่เหมาะกับงานในสภา อาจมีบ้างแต่ไม่ใช่เต็มสภาแบบยุค สนช นี้ หามกันมาประชุม สมองคิดทันหรือเปล่าก็ไม่รู้ แถมโลกทัศน์ก็อยู่ในแบบเดิมๆ ควรมีสัดส่วนคนหนุ่มสาวเข้าไปสร้างสมดุลย์,ควรมีหลักสูตรการประชุมอย่างมีประสิทธิภาพให้กับคนที่จะเข้ามาทำงานในสภา เพื่อเสริมทักษะการประชุม อย่าลืมว่า ถ้าคุณทำช้าไป 1 นาที มีคนอีกหลายร้อยคนในห้องประชุมต้องเสียเวลาไปอีกหลายร้อยนาที,ขณะที่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการณ์รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (อดีตรักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านทวิตเตอร์ไว้ ว่า,สนช.ประชุมพิจารณางบประมาณ 3 ล้านล้าน วันเดียวผ่านฉลุย สนช.ยังนั่งหลับกัน สภาผู้แทนราษฎรประชุมพิจารณาข้ามวันข้ามคืน มีคนอ่อนเพลียแค่นั่งหลับตาถูกถ่ายรูปไปด่าว่าขี้เกียจทำงาน ไม่คุ้มเงินเดือน แต่พิจารณาวันเดียว ยังไม่ถึงเที่ยงคืนนั่งหลับแบบนี้โดนเขาด่าทำมาโวย คนผิดคือสื่อ คนหลับไม่ผิด,เดี๋ยวจะมีคนออกมาบอก หลับเพื่อชาติ หรือเปล่า ประเทศนี้มาถึงจุดที่ให้ยอมให้คนแก่มานั่งหลับ แล้วก็ผ่านงบของประเทศไปอย่างง่ายดาย แบบนี้เรียกว่า งบนอนมา หรือไม่ | เสรีพิศุทธิ์จัดหนัก สนช.หลับนกกลาง เสนอทางออกควรนอนกลางคืนให้เพียงพอ สับ เปลืองภาษีประชาชน ด้านบก.ลายจุดโพสต์เฟซ อัด คนสูงอายุ ไม่เหมาะกับงานสภา ควรมีสัดส่วนคนหนุ่มสาวเข้าไปสร้างสมดุลย์ | ข่าว,การเมือง | สนช.หลับกลางสภา,สนช.หลับในสภา,สนช.,3 ล้านล้าน,ข่าวร้อน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1303022 |
ผมรักลูกมาก อาฉลอง ตอบแล้ว ตกอับ เมียใหม่เข้ากับครอบครัวไม่ได้ | เพราะมีข่าวแว่วมาว่า ลูกๆ ทั้ง 3 ไม่ยินดียินร้ายกับภรรยาคนใหม่ของอาฉลอง อีกทั้งข่าวที่ออกมาว่า ภรรยาคนใหม่ไม่ดูแล,และเริ่มไม่มีงานเข้ามา ซึ่ง อาฉลอง ก็บอกว่า ทุกวันนี้ก็ยังทำงานอยู่เหมือนเดิม และภรรยาดูแลดีมาก ต่างคนต่างรักกัน,ข่าวว่าลูกๆ มีปัญหากับภรรยาใหม่ของอา จนอาต้องแยกบ้านออกมา?,มันนานแล้วนี่ครับ 3-4 ปีแล้ว แต่แยกบ้านนี่ผมออกมานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนแต่งงานก็ให้ลูกๆ เขาอยู่ เราก็ยกให้ลูกเขาหมดแล้วครับ,ช่วงก่อนหน้าข่าวว่าภรรยาใหม่ไม่ดูแลอาเลย?,ไม่จริงๆ เขาเอาใจใส่มากเลย ดูแลเป็นอย่างดีครับ ทำทุกอย่าง,ลูกๆ ไม่ยอมให้ภรรยาใหม่เข้ามาที่บ้าน?,มันไม่ใช่แบบนั้นครับ คือเรายกบ้านให้ลูกทั้งสามแล้วก็ให้เขาอยู่ทำมาหากินกันไปนะครับ ตอนนี้เขาก็ไปทำให้ช่อง 3 อยู่ ผมมีอะไรก็ช่วยเหลือลูกตลอด เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร คือข่าวมามันตรงกันข้ามกับความเป็นจริงนะครับ,ได้คุยกับลูกๆ เรื่องข่าวมั้ย?,คุยครับ ปกติผมจะไปตัดผมที่นั่นเป็นประจำ เมื่อไปทำเราก็แวะไปบ้านไปคุยกับลูกๆ คิดถึงหลานสองคน คิดถึงบ้าน,ข่าวนี้มีผลกระทบกับความรู้สึกอามากน้อยขนาดไหนว่าลูกๆ ไม่ยอมรับภรรยาใหม่?,นั่นเป็นเรื่องของการดำเนินชีวิตนะครับ,ข่าวเป็นจริงมั้ยที่ว่าลูกกับภรรยาใหม่เข้ากันไม่ได้เลย?,เขาก็ไม่เห็นมีอะไรกันนะ คือเราก็อยู่ทำมาหากิน ลูกเขาก็อยู่ทำมาหากินของเขา มีอะไรเราก็ข่วยเหลือลูก แนะนำกัน,ลูกกับภรรยาใหม่ได้เจอกันบ้างมั้ย?,รู้สึกว่าไม่ได้เจอกันเลย มีผมเป็นคนกลาง (หัวเราะ),เพราะไม่ได้เจอกันหรือเปล่าคนเลยคิดว่ามีปัญหากัน?,อันนี้ก็แล้วแต่ใครจะคิดนะ แต่ความจริงไม่มีอะไรนะครับ เพราะผมเป็นคนยุติธรรม รักลูกมาก กับภรรยาที่แต่งงานกันเราก็รักเขามาก เขาก็รักเรา เขาดูแลเราทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่รังเกียจว่าอายุเท่าไหร่,คิดว่าข่าวนี้เป็นการดิสเครดิตอามั้ย?,ก็อยู่ที่สื่อมวลชนนี่แหละ (หัวเราะ),ข่าวว่าอาตกอับ ไม่มีงาน ไม่มีเงินเข้ามา?,เราก็มีงานทำตลอด ช่อง 7 ก็ให้เราทำตลอดทุกเรื่อง,ข่าวว่าบริษัทเก่าของอาถูกพี่สาวของภรรยายึดไป จนอาต้องมาเปิดบริษัทใหม่?,คือบริษัทเก่านี่ทางพี่สาวภรรยานี่คือพอมันจบเรื่องทิวลิปทองไปแล้ว เราก็ไม่อยากไปเกี่ยวข้องอะไรที่มันมีปัญหา ผมก็เลยตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ ชื่อ Gold CPG entertainment เป็นของผมกับภรรยา อันเก่าก็ยกให้พี่ภรรยาเขาไป,มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกันอยู่?,มันไม่มีเรื่องอย่างนั้นนะ มีก็มีปัญหากันนิดหน่อยเท่านั้นเอง เพราะเรื่องหุ้นส่วนพี่น้องหรือหุ้นส่วนกันเนี่ย หมอดูเคยบอกผมไว้ว่าอย่าไปมีหุ้นส่วนกับใคร มีปัญหาแน่ๆ และมันก็มีปัญหาจริงๆ ก็เลยตัดไปว่าเราทำเรื่องใหม่ก็มาเปิดบริษัทใหม่ดีกว่า,บริษัทใหม่กับภรรยาตอนนี้ทำเรื่องอะไรอยู่?,ตอนนี้ทำเรื่อง หลานข้าใครอย่าแตะ หรือ พ่อตาปืนโตภาค 2 พระเอกก็คือ จิณ กับ เจด้า และมีพระเอกนางเอกอีกหลายคน ตอนนี้ถ่ายไป 60% แล้วครับ ก็สนุกสนาน เป็นแอ็กชั่นคอมเมดี้ สนุกเหมือนเดิม เหมือนพ่อตาปืนโตภาคแรก,บริษัทเก่าก็คือถอนชื่อออกมาเลยใช่มั้ย?,ใช่ๆ ถอนหมดแล้ว ไม่เกี่ยวข้องเลย ถึงแม้พี่สาวเขาจะเอาไปทำก็ให้เขาไป แต่ไม่มีชื่อของฉลอง ภักดีวิจิตร ทางภรรยาก็ไม่มีชื่อแล้วเหมือนกัน,แสดงว่าทิวลิปทองที่เกิดปัญหาทั้งหมดคือเกิดจากบริษัทของพี่สาวภรรยา?,คือบริษัทอินทรีย์นี่เราทำด้วยกันเรื่องแรกและเรื่องสุดท้ายที่ยกกองไปเนเธอร์แลนด์ ก็มีทิวลิปทองเรื่องเดียว,จากนี้จะยกกองไปไหนอีกมั้ย?,เราไม่อยากมีปัญหาก็เลยเอาแค่นั้นพอ ทำเรื่องใหม่ก็เปิดบริษัทใหม่เลยดีกว่า ไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว เขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขา เราก็ยกให้เขาไปเลย อินทรีย์อะไรก็เอาไป,เขาก็ต้องทำภายใต้ช่อง 7 มั้ย?,อันนี้ผมไม่ทราบ เขาจะไปทำที่ไหนก็แล้วแต่,แต่ของอายังทำกับช่อง 7 เหมือนเดิม?,ก็ยังทำให้ช่อง 7 อยู่ ผมทำมา 20 กว่าปีแล้ว คือเราขออะไรหรือทำอะไรเขาก็ให้เราทุกอย่าง,เห็น อังกอร์ ของลูกๆ ของเราหรือยัง?,ก็โอเคนะ อยู่ที่ประชาชน ก็เป็นสไตล์ของเขา สไตล์วัยรุ่น ก็โอเคนะ ดูตัวอย่างแล้วก็โอเค,อาสุขภาพแข็งแรงดีใช่มั้ย?,แข็งแรงดีครับ หมอตรวจแล้วบอกว่าเหมือนคนอายุ 62 แต่ตอนนี้ผมก็ 87 แล้ว. | แม้อายุจะขึ้นเลข 8 แล้ว แต่ อาฉลอง ภักดีวิจิตร ก็ยังแข็งแรง ฟิตปั๋งเหมือนเดิม ล่าสุดได้มีโอกาสเจอ อาฉลอง เลยได้สอบถามถึงปัญหาที่ผ่านมาเกี่ยวกับเรื่องครอบครัว | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | อาหลอง,ฉลอง ภักดีวิจิตร,อาฉลอง,อาฉลอง เมีย,อาหลอง ลูก,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1351017 |
ศาลนัดสืบพยานคดี เล่าต๋า กับพวกค้ายาเสพติด 11-12 ต.ค.นี้ | เมื่อเวลา 09.00 วันนี้ 13 มี.ค. 60 เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้เบิกตัว นายเล่าต๋า แสนลี่ อายุ 76 ปี นักค้ายาเสพติดระดับชาติ กับพวก รวม 5 คน จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มายังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก หลังศาลนัดตรวจหลักฐานในคดีดำ อย.5907/2559 ที่พนักงานอัยการคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายเล่าต๋า แสนลี่ อายุ 76 ปี นักค้ายาเสพติดระดับชาติ, นางอาส่าหม่า แสนลี่ อายุ 66 ปี ภรรยา, นางรพีกาญจน์ หรือจันทร์ฉาย หรือไก่ ภพเพชรลักษณ์ หรือทรายมูล อายุ 56 ปี, นายวิจารณ์ แสนลี่ อายุ 40 ปี บุตรชาย อดีตกำนัน ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และนายบารมี บารมีเกื้อกูล อายุ 37 ปี ทั้งหมดเป็นชาว จ.เชียงใหม่ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันสมคบ และร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต, พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ที่ ห้องพิจารณา 908 ศาลอาญา , ,โดยอัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2559 ระบุความผิดพวกจำเลยสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 20 ก.ย.-11 ต.ค. 2559 พวกจำเลยได้ร่วมกันกระทำผิดกฎหมายหลายกรรมต่างกัน โดยนายเล่าต๋า นางอาส่ามา และนางรพีกาญจน์ จำเลยที่ 1-3 ได้สมคบกันมียาไอซ์ 1 ถุง หนัก 994 กรัมเศษ และจำหน่ายให้แก่สายลับราคา 550,000 บาท นอกจากนี้ พวกจำเลยได้กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งมีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยนายเล่าต๋าได้ติดต่อเจรจาซื้อขายยาเสพติดกับสายลับ ขณะที่ นายวิจารณ์ และนายบารมี มีหน้าที่จัดหายาเสพติดเพื่อส่งมอบยาไอซ์ชนิดผลึกสีขาว จำนวน 20 ถุง หนัก 19 กก.เศษ จำหน่ายให้แก่สายลับ และเจ้าหน้าที่ที่อำพรางตัวเข้าล่อซื้อราคา 11 ล้านบาท โดยนายวิจารณ์และนายบารมีมีหน้าที่คุ้มกันระวังอันตรายให้นายเล่าต๋าระหว่างส่งมอบยาเสพติด,ภายหลังจากเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นจับกุม พบว่านายเล่าต๋ามีอาวุธปืนสั้น ปืนยาว รวม 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมากไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายวิจารณ์ บุตรชายได้พกพาอาวุธปืนขนาด .45 พร้อมเครื่องกระสุน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่องที่ใช้ในการติดต่อยาเสพติดของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดี เหตุเกิดบริเวณในปั๊มน้ำมัน เล่าต๋า ปิโตรเลียม เลขที่ 137 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และที่อื่นเกี่ยวพันกัน ในวันนี้ศาลได้เบิกตัวจำเลยทั้ง 5 จากเรือนจำมายังศาล, ,โดยศาลได้นัดพร้อมตรวจพยานหลักฐาน อัยการได้ทำบัญชีพยานประกอบแนวทางนำสืบพยานและขอนำพยานโจทก์เข้าสืบจำนวน 5 นัด 12 ปาก ศาลอนุญาตตามที่ขอ ส่วนจำเลยแถลงขอสืบพยานจำนวน 2 นัด 7 ปาก ศาลอนุญาต คู่ความตกลงกันนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 3, 4, 5, 6 และ 10 ต.ค. 2560 และสืบพยานจำเลยวันที่ 11-12 ต.ค. 2560 ศาลอนุญาตตามขอ จากนั้นจึงคุมตัวนายเล่าต๋ากับพวกกลับเรือนจำ, ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงกลางปี 2546 นายเล่าต๋าเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมพร้อมบุตรชาย 2 คน คือ นายวิจารณ์ และนายเกษม แสนลี่ ในข้อหาลักลอบค้ายาเสพติด, ความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน และร่วมกันจ้างวานฆ่าผู้อื่น พร้อมของกลาง เช่น รถยนต์ อาวุธปืน และวิทยุสื่อสาร โดยการจับกุมครั้งนั้นมาจากการขยายผลจากผู้ต้องหาที่ซัดทอดว่า รับเฮโรอีนมาจากเล่าต๋า ซึ่งต่อมา ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง ก่อนที่จะถูกจับกุมอีกครั้งในปี 2559 | ศาลนัดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลย ในคดีที่อัยการคดียาเสพติด ฟ้อง นายเล่าต๋า แสนลี่ นักค้ายาเสพติด ภรรยา และลูกชาย กับพวก รวม 5 คน สมคบค้ายาเสพติด-พ.ร.บ.อาวุธปืน 11-12 ต.ค.นี้ | ข่าว | เล่าต๋า แสนลี่,พ่อค้ายาบ้ารายใหญ่,จับเล่าต๋า,ราชายาบ้า,นัดสืบพยาน | https://www.thairath.co.th/news/883006 |
สั่งฟันซื้อ-ขาย คูปองทีวีดิจิตอลผ่านเว็บของมือ 2 ชื่อดัง | นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กสท. มีมติให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการกับผู้โพสต์ข้อความประกาศขอซื้อ-ขายคูปองทีวีดิจิตอล ผ่านเว็บไซต์โอแอลเอ็กซ์ (www.olx.co.th) หลังได้รับร้องเรียนจากประชาชน เนื่องจากผิดกฎหมาย เพราะเงื่อนไขการใช้งานคูปองคือนำมาแลกกล่อง หรือใช้เป็นส่วนลดซื้อทีวีดิจิตอล ไม่ใช่มาซื้อขายผ่านเว็บไซต์,ส่วนความคืบหน้าการติดตั้งโครงข่ายทีวีดิจิตอลของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) นั้น ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยในเฟสแรก โดย กสทช. อยู่ระหว่างตรวจสอบอีกแห่งที่จังหวัดเพชรบูรณ์ หากติดตั้งเรียบร้อยตามที่ยื่นขอเวลาขยายก็ไม่ต้องจ่ายค่าปรับ ส่วนกรมประชาสัมพันธ์ ยังไม่มีความคืบหน้าในการติดตั้งโครงข่าย ล่าสุดได้ทำหนังสือขออุทธรณ์ คำสั่ง กสท. โดย กสท. จะเชิญให้มาชี้แจงรายละเอียดอีกครั้ง หากไม่มีความคืบหน้าตามแผนงานก็จะสั่งปรับต่อไป,นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังรับทราบเรื่องการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการสาธารณะในระบบดิจิตอลบริการสาธารณะ ประเภทที่สาม มีวัตถุประสงค์เพื่อการกระจายข้อมูลข่าวสารเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างรัฐบาลกับประชาชนและรัฐสภากับประชาชน หรือ ช่อง 10 หลังมติ กสท. ให้สำนักงาน เชิญผู้แทนสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภามาชี้แจงข้อมูลและข้อเท็จจริงในการดำเนินการสถานี เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยสำนักงาน เตรียมจัดเวทีสาธารณะโดยเชิญผู้แทนจากสำนักเลขาธิการสภาฯ มาให้ข้อมูลความรู้และแผนการดำเนินการต่อการจัดตั้งสถานี ในวันที่ 13 มี.ค. นี้ เวลา 13.00-16.30 น. | คณะกรรมการ กสท. มีมติให้ สำนักงาน กสทช. เร่งตรวจสอบกรณีมีผู้โพสต์ข้อความประกาศขอซื้อ-ขายคูปองทีวีดิจิตอล ผ่านเว็บไซต์โอแอลเอ็กซ์ (OLX) เนื่องจากผิดกฎหมาย หลังได้รับการร้องเรียน | null | กสท.,กสทช.,คูปองทีวีดิจิตอล,ผิดกฎหมาย ขาย คูปองทีวีดิจิตอล,OLX,เว็บ OLX,เว็บขายของมือ2,สุภิญญา กลางณรงค์,กรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์,คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ | https://www.thairath.co.th/content/481632 |
จอนนี่-หลุยส์ โชว์สมศักดิ์ศรีสนุกมันส์ 25 ปี แร็พเตอร์ | จอนนี่ อันวา, และ ,หลุยส์ สก๊อตต์, ระเบิดความมันส์ บนเวทีคอนเสิร์ต ,RAPTOR EVOLUTION 25 ปี ไม่มีเกรงใจ, ที่ IMPACT เมืองทองธานี โดย ,COOL fahrenheit (คูลฟาเรนไฮต์), ในเครือ, อาร์เอส, ขอปลุกตำนานคู่หูดูโอ ,แร็พเตอร์, ซุปตาร์ยุค 90 ขึ้นมาอีกครั้งตามคำเรียกร้อง,นอกจากไม่มีเกรงใจ เรียกว่าโชว์นี้ ,ขาโยก, ยกหัวใจให้ ,จอนนี่-หลุยส์, ไปแบบไม่ต้องกังขา เพราะตลอด 25 ปีที่ผ่านมาเอาหัวใจแฟนๆไปครองได้อย่างตลอดกาล ฟังกันเพลินกับเพลงฮิต แร็พเตอร์ ,ทั้งรู้สึกอย่างไร, รู้ตัวบ้างไหม, คำเดียว, คำว่าเพื่อน, ปลอบเพื่อน, เพลงนี้มาพร้อมกระดาษดาวสีขาวสร้างบรรยากาศดูคอนเสิร์ตแบบวันวาน,และมันส์สุดขีดกับ, หลุยส์-จอนนี่, ในเพลง, เกรงใจ, กับท่าเต้นสุดฮิต เรียกว่าทุกคนลุกขึ้นมาเต้นตามแบบไม่มีเกรงใจ พร้อมแขกรับเชิญสุดเท่ 3 หนุ่ม ,โดม–ปกรณ์ ลัม-โต้ง ทูพี-ฟักกลิ้ง ฮีโร่, ที่มาร่วม ,Evolution, สร้างซีนเต้นสุดมันส์ในแบบคาดไม่ถึง เติมดีกรีความโรแมนติกด้วย ,แฟนหลุยส์ นุ่น–รมิดา, ปรากฏตัวเซอร์ไพรส์หวาน แค่นี้ก็ฟินนล่ะ | เห็นสองหนุ่ม จอนนี่ อันวา และ หลุยส์ สก๊อตต์ ระเบิดความมันส์ บนเวทีคอนเสิร์ต RAPTOR EVOLUTION 25 ปี ไม่มีเกรงใจ ที่ IMPACT | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | คอนเสิร์ตแร็พเตอร์,จอนนี่ อันวา,หลุยส์ สก๊อตต์,RAPTOR EVOLUTION 25 ปี ไม่มีเกรงใจ,คู่หูในตำนาน,ท่าเต้นสุดฮิต,นุ่น รมิดา,คอนเสิร์ต | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1658478 |
WHO ชี้ ไวรัสโคโรนาไม่ได้ระบาดหนักขึ้น หลังยอดผู้ป่วยพุ่งพรวด | สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ก.พ. 2563 ดร.ไมเคิล ไรอัน หัวหน้าโครงการสุขภาพฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้แจงในงานแถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่ของ WHO ว่า รายงานการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ หรือ โควิด-19 ที่มณฑลหูเป่ยเพิ่มขึ้นกว่า 13300 รายในคืนเดียว เกิดขึ้นหลังจาก การเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง รวมทั้งการตรวจด้วยเครื่อง ซีทีสแกน เพื่อหาการติดเชื้อในปอด แทนการที่จะรอผลตรวจจากห้องทดลองซึ่งใช้เวลานานดร.ไรอันกล่าวว่า ผู้ป่วยดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นรายที่พบตั้งแต่หลายวัน หรือหลายสัปดาห์ก่อน แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ บางรายถึงกับต้องย้อนไปยังช่วงเริ่มต้นของการระบาดในเดือนธันวาคมปีก่อนเลยทีเดียว เราเห็นจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในจีน แต่นี่ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ในแนวโน้มของการระบาดนอกจากนี้ ดร.ไรอันระบุด้วยว่า พวกเขาไม่พบการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจำนวนผู้ป่วยนอกประเทศจีนเลย ยกเว้นที่ เรือสำราญ ไดมอนด์ พริ๊นเซส ที่กำลังถูกกักกันนายชายฝั่งเมืองโยโกฮามาของญี่ปุ่น ซึ่งล่าสุดในวันพฤหัสบดีพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 44 ราย เป็นทั้งหมด 219 รายแล้ว | องค์การอนามัยโลกยืนยันว่า รายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในมณฑลหูเป่ย เพิ่มขึ้นนับหมื่นคนในวันเดียว ไม่ได้บ่งชี้ว่า เชื้อมรณะตัวนี้ระบาดหนักขึ้น | ข่าว,ต่างประเทศ | ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,โควิด-19,COVID-19,องค์การอนามัยโลก,เมืองอู่ฮั่น,ไฮไลต์ไวรัสโคโรน่า | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1771158 |
ฮู ถัง เล็งไขก๊อกกุนซือเวียดนาม หลังชวดชิงศึกซูซูกิ คัพ | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 8 ธ.ค. ว่า เหงียน ฮู ถัง เฮดโค้ชหนุ่มทีมชาติเวียดนาม ออกโรงขอโทษแฟนบอลเพื่อนร่วมชาติที่ต้องผิดหวัง หลังต้องตกรอบตัดเชือกซูซูกิ คัพ เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ระบุ อาจพิจารณาตัวเอง เพื่อเปิดทางให้กับคนที่มีความสามารถเข้ามาทำหน้าที่แทน,ทัพนักเตะดาวทอง ถึงแม้จะพยายามอย่างสุดความสามารถตลอด 120 นาที แต่ไม่สามารถพลิกสถานการณ์เป็นฝ่ายกำชัยเหนืออินโดนีเซียได้ ในเกมตัดเชือกนัดที่ 2 เสมอกันไป 2-2 ทำให้รวมผล 2 นัดพ่ายไปอย่างหวุดหวิด 3-4 ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย,หลังจบเกม กุนซือใหญ่ทีมชาติเวียดนาม กล่าวทั้งน้ำตาว่า ผมและผู้เล่นทุกคนอยากจะกล่าวขอโทษแฟนบอลจากใจจริง เราโชคร้ายที่ไม่สามารถเปลี่ยนผลงานการแข่งขันให้ออกมาดีได้ ถึงแม้จะพยายามกันอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม ผมในฐานะโค้ช ขอรับผิดชอบกับผลการแข่งขันทั้งหมดเพียงคนเดียว,บางทีผมอาจจะพิจารณาตัวเองหลังจากนี้ เพื่อหลีกทางให้กับคนที่มีความสามารถ เข้าทำงานแทนเพื่อให้ทีมชาติเวียดนามดีขึ้น ,ขณะที่ อันเฟรด รีดเดิล นายใหญ่ทีมชาติอินโดนีเซีย ซึ่งเคยมอบปลอกแขนกัปตันทีมชาติเวียดนาม ให้กับ ฮู ถัง สมัยรับงานคุมทัพดาวทองเมื่อปี 1998-2000 ได้ออกมาสนับสนุนอดีตลูกทีมคนเก่งรายนี้ พร้อมหวังว่าสมาคมฟุตบอลเวียดนาม จะยังให้โอกาสเจ้าตัวพิสูจน์ตัวเองต่อไปในฐานะเฮดโค้ชทีมชาติ | กุนซือทีมชาติเวียดนาม กล่าวขอโทษแฟนบอลทั้งน้ำตา หลังพาทีมตกรอบตัดเชือก ศึกลูกหนัง เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 แบบไปหวุดหวิด เผย อาจพิจารณาก้าวลงจากตำแหน่งในอนาคตอันใกล้ | null | เหงียน ฮู ถัง,ทีมชาติเวียดนาม,เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016,รอบรองชนะเลิศ,อัลเฟรด รีดเดิล | https://www.thairath.co.th/content/805282 |
เผยสาวจะกระโดดบางปะกง ป่วยมะเร็ง คำว่า รัก กระชากพ้นมือมัจจุราช | จากกรณีเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา พบกระเป๋าหญิงสาวพร้อมกระดาษข้อความสั่งเสีย บริเวณท่าน้ำวัดโสธรวรารามวรวิหาร ซึ่งมีใจความทำนองไม่อโหสิกรรมให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ขออยู่กับแม่น้ำไปชั่วนิรันดร์ จนกระทั่งล่าสุดสาวคนดังกล่าวติดต่อทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ มาว่า ยังมีชีวิตอยู่ วินาทีนั้นตัดสินใจจะกระโดดน้ำแล้ว แต่แฟนเป็นคนโทรมาเตือนสติ จนเปลี่ยนใจแต่ดันลืมของเอาไว้ ตามข่าวที่เสนอไปนั้น,ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 9 ม.ค. 62 ผู้สื่อข่าวไทยรัฐออนไลน์ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ ,นายตั้ม, แฟนหนุ่มสาวคนดังกล่าว พร้อมเปิดใจต่อเหตุการณ์ในวันนั้นว่า แฟนผม คบหาดูใจกันมาได้ประมาณ 7 เดือนแล้ว ตอนแรกไม่ทราบเรื่องจนมีเพื่อนทักมาบอก หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวมีโอกาสเจอแฟนไปแล้ว 1 ครั้ง,วันนั้นผมทำงานกะดึก ได้โทรศัพท์หาแฟนสาว เขาพูดว่าตอนนี้อยู่วัดหลวงพ่อโสธร แล้วตัดพ้อว่ารู้สึกไม่ดี ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว อยู่ไปก็ไม่มีใครรัก เราก็พูดปลอบใจว่า ยังมีพ่อมีผมที่รักอยู่ อย่าคิดแบบนั้นเลย แล้วก็ให้กำลังใจเค้า,หนุ่มตั้ม เผยต่อว่า ตอนนี้แฟนสาวป่วยเป็นโรคมะเร็งตับ อาจเป็นส่วนที่ทำให้วินาทีนั้น ตัดสินใจจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่ได้โทรไปพูดให้กำลังใจได้ทัน ขณะนี้ไม่ทราบว่าแฟนสาวอยู่ที่วัดอะไร เพราะโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ แต่ช่วงที่คุยล่าสุดเค้าทำใจได้ เพราะเข้าวัด ฟังธรรม นั่งสมาธิ จนรู้สึกดีขึ้นแล้ว. | แฟนหนุ่มเปิดใจ โทรปลอบแฟนสาวไม่ให้กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย บริเวณท่าน้ำวัดหลวงพ่อโสธรวรารามวรวิหาร เผยเหตุผลคาดมีส่วนทำให้คิดสั้น | ข่าว,ทั่วไทย | กระโดดน้ำ,คิดสั้นฆ่าตัวตาย,สาวโดดแม่น้ำ,ท่าน้ำวัดหลวงพ่อโสธร,เปิดใจ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1465739 |
ปชป. จี้ กรธ. ปรับร่างฯ ปม สิทธิเสรีภาพ-ปราบโกง | เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 59 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังอยู่ในระหว่างรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆ เพื่อปรับปรุงแก้ไขเป็นร่างฉบับสมบูรณ์ก่อนลงประชามติว่า แม้ร่างรัฐธรรมนูญนี้มีจุดเด่นในเรื่องความพยายามที่จะป้องกันปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันแล้ว แต่มีจุดด้อยที่ควรถูกปรับปรุงแก้ไข คือ หมวดที่เกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพ ดังนี้ 1. โครงสร้างด้านสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิที่เกี่ยวกับชุมชนถือว่าถอยหลัง ไม่มีบัญญัติชัดเจนทำให้ไม่มีหลักประกันในเรื่องสิทธิและเสรีภาพ โดยเฉพาะสิทธิชุมชน 2. บทบัญญัติเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไม่มีความชัดเจน ทั้งที่เคยมีหลักวางไว้แล้ว 3. สิทธิในการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นและชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังขาดหลักการสำคัญจึงอยากฝากถามว่า ในเมื่อในรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 มีความชัดเจนสามารถนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติที่ได้ผลมาแล้ว ทำไมจึงไม่รักษาความชัดเจนเหล่านี้ไว้ ดังนั้นขอเรียกร้องให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ปรับปรุงแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในหมวดที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและเสรีภาพให้มีความชัดเจน พร้อมที่จะนำไปปฏิบัติได้จริงเพื่อให้รัฐธรรมนูญมีความสมบูรณ์มากที่สุดต่อไป,ด้าน นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเห็นว่ามีหลายมาตราในร่างรัฐธรรมนูญที่ กรธ. ยังเขียนไม่ชัดเจน และมีข้อความขัดแย้งกัน ซึ่งควรมีการแก้ไข โดยตนมีข้อโต้แย้ง คือ 1. กรณีที่ กรธ.บอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับปราบโกง ซึ่งตนสนับสนุนและเห็นด้วยเพราะในร่างรัฐธรรมนูญเขียนไว้อย่างเข้มข้น แต่ควรเขียนเพิ่มเติมคือ ตัวบุคคลที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามการทุจริต และจะต้องเขียนกรอบวิธีการปฏิบัติงานขององค์กรอิสระที่มีหน้าที่ปราบปรามทุจริตว่า จะใช้เวลาในการจัดทำคดีแต่ละคดีนานเท่าใด แต่ กรธ.เขียนบทบัญญัติจัดการแต่นักการเมือง แต่ไม่มีเขียนไว้สำหรับกรณีของข้าราชการที่กระทำทุจริต นอกจากนี้ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขอข้อมูลด้วยการใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งไม่ได้ระบุว่าถ้าไม่ให้ความร่วมมือจะมีบทลงโทษอย่างไร ส่วนวิธีการได้มาของ ส.ว.ค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งอาจเปิดช่องให้ผู้มีอำนาจและอิทธิพลเท่านั้น สำหรับกรณีของ ส.ส.นั้น กรธ.บอกว่านายทุนครอบงำพรรคการเมือง และนายทุนอยู่ในบัญชีรายชื่อ แต่กลับเพิ่มจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ นอกจากนี้ การใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ตนเห็นว่าการใช้บัตร 2 ใบจะตรงตามเจตนารมณ์ของประชาชนและป้องกันการซื้อเสียง เพราะการซื้อเสียงมาจาก ส.ส.เขตซึ่งพยายามเอาตัวรอด แต่กลับเอาคะแนนที่ได้จาก ส.ส.เขตไปคิดจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั้งนี้ตนเชื่อว่าการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบจะมีความยุ่งยากน้อยกว่า,ประเด็นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนั้น ไม่มีทางแก้ไขได้เลยเพราะเขียนปิดทุกช่องทาง ซึ่งต้องยอมรับว่าร่างรัฐธรรมนูญนี้เกิดในช่วงรัฐประหาร ซึ่งไม่มีรัฐธรรมนูญใดที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น การกำหนดว่าการลงมติในวาระที่ 3 ต้องได้เสียงจาก ส.ส.ไม่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของทุกพรรคที่มี ส.ส. ผมคิดว่า กรธ.ไม่เคยลงเลือกตั้ง เพราะทุกพรรคการเมืองเวลาจะโหวต เขาต้องประชุมพรรคแล้วโหวตไปในทางเดียวกัน ดังนั้น เมื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้ หนทางเดียวคือฉีกรัฐธรรมนูญ ก็เหมือนกับมีการรัฐประหารไปเรื่อยๆ นายวิลาศ กล่าว | ปชป. แนะ กรธ. แก้จุดด้อย ร่าง รธน. เรื่อง สิทธิ-เสรีภาพ เพื่อสร้างหลักประกันคุ้มครองแก่ ปชช. ติงเน้นปราบแต่นักการเมืองโกง ไม่เขียนปราบ ขรก.เลวบ้าง ชี้เขียนปิดทุกช่องแก้ไข รธน.อาจทำให้ถูกฉีกอีกรอบ | null | ร่างรัฐธรรมนูญ,แก้ไขร่างฯ,องอาจ คล้ามไพบูลย์,พรรคประชาธิปัตย์,ปรับปรุงร่างฯ,สิทธิเสรีภาพ,ปราบทุจริต,ข้อด้อย รธน.,กรธ.,รัฐประหาร,บทลงโทษทุจริต,การเลือกตั้ง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/577340 |
เอื้องแซะลิ้นเหลือง หายากดอกหอมกลิ่นพะยอม | ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกของประเทศไทย ในต่างประเทศพบที่ลาว พม่า และเวียดนาม ทั้ง 2 ชนิดพันธุ์ดอกจะมีกลิ่นหอมแรงเป็นธรรมชาติ โดยกลิ่นหอมของดอกจะมีกลิ่นหอมเหมือนกับกลิ่นของดอกพะยอมทำให้เป็นที่นิยมของผู้ปลูกและเสาะหากันมาก,เอื้องแซะลิ้นเหลือง หรือ DENDROBIUM SCABRILIGUE LINDL. เป็นกล้วยไม้อิงอาศัยจำพวกที่มีการเจริญเติบโตทางด้านข้าง ลำต้นกลมคล้ายแท่งดินสอ ปลายลำต้นเรียวแหลมและเป็นข้อปล้อง สูงได้กว่า 1 ฟุต ใบเป็นใบเดี่ยวออกตามข้อของลำต้น รูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบเป็นกาบหุ้มลำต้น สีเขียวสด,ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยวๆหรือเป็นช่อ 1-3 ดอกต่อช่อที่บริเวณข้อลำต้นใกล้ปลายยอดมีกลีบเลี้ยง และกลีบดอกเป็นสีขาว ปลายกลีบแหลม กลีบปากเป็นสีเหลืองอย่างชัดเจน ดอกเมื่อบานเต็มที่กว้างประมาณ 2.5-3 ซม. ดอกมีกลิ่นหอมแรงคล้ายกลิ่นของดอกพะยอมตามที่กล่าวข้างต้น เวลามีดอกหลายๆดอกและดอกบานพร้อมกันจะดูสวยงาม และเข้าไปยืนใกล้ๆ ประมาณ 1 ฟุตจะได้กลิ่นหอมจากดอกเป็นที่ประทับใจมาก ดอกออกช่วงระหว่างเดือนธันวาคมต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ของปีถัดไป ขยายพันธุ์ด้วยการแยกต้น ซึ่ง เอื้องแซะลิ้นเหลือง จะหาได้ยากมาก ในปัจจุบันมีการนำเอาดอกไปสกัดทำเป็นน้ำหอมแต่ไม่ได้รับความนิยมนัก,การปลูก นิยมปลูกลงกระถางกล้วยไม้โดยใช้เครื่องปลูกเป็นอิฐมอญทุบเป็นก้อนเล็กๆ รองก้นกระถาง 1 ใน 3 ของความสูงของขอบกระถางแล้วนำต้นลงปลูกปิดทับส่วนบนด้วยกาบมะพร้าวแห้งตัดครึ่งตามแนวขวางยัดหรือเสียบลงไปในกระถางให้แน่น นำกระถาง ไปแขวนในที่แจ้งมีลมพัดโกรกดีตลอดทั้งวัน รดน้ำพอชุ่มวันละครั้งตอนเช้า บำรุงปุ๋ยกล้วยไม้ฉีดพ่นทั้งใบและราก 15 วันครั้ง จะทำให้ เอื้องแซะลิ้นเหลือง มีดอกสวยงามส่งกลิ่นหอมชื่นใจยิ่งครับ.,นายเกษตร | เอื้องแซะ มีด้วยกัน 2 ชนิดพันธุ์ได้แก่ เอื้องแซะลิ้นเหลือง ที่จะแนะนำในคอลัมน์วันนี้ แต่จะหายากมาก กับ เอื้องแซะลิ้นแดง ทั้ง 2 ชนิดพบขึ้นตามป่าธรรมชาติบนเขาสูงทางภาคเหนือ | ข่าว,ทั่วไทย | เอื้องแซะลิ้นเหลือง,เอื้องแซะ,ไม้ดอก,นายเกษตร,เกษตรกรบนแผ่นกระดาษ,เกษตร | https://www.thairath.co.th/news/local/1345786 |
กว่า 50 องค์กรร้อง สนช.ระงับการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.โรงงาน | องค์กรพัฒนาเอกชนและภาค ปชช. กว่า 50 องค์กรร่วมออกแถลงการณ์เรียกร้อง สนช.ระงับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.โรงงาน ชี้4 ประเด็นกระทบมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและประชาชน26 ธ.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม () เผยแพร่แถลงการณ์เครือข่ายภาคประชาสังคมเรียกร้องให้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ระงับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติโรงงาน ฉบับลดทอนมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและประชาชน โดยยก 4 ประเด็นสำคัญที่อาจจะส่งผลกระทบต่อมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและประชาชน ดังต่อไปนี้ตามที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้บรรจุวาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่) พ.ศ. เข้าเป็นวาระเร่งด่วนในการประชุมครั้งที่ 89/2561 เป็นพิเศษ วันพุธที่ 26 ธันวาคม 2561 ตามมติของคณะรัฐมนตรีที่เสนอต่อประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2561 เพื่อให้ สนช. พิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นเรื่องด่วนนั้นเครือข่ายภาคประชาสังคมดังมีรายชื่อแนบท้ายนี้ได้พิจารณาและตรวจสอบสาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้แล้วมีความเห็นว่า ร่างแก้ไขพระราชบัญญัติโรงงานฉบับนี้จะมีผลกระทบต่อการลดทอนมาตรการสำคัญในการกำกับดูแลการประกอบกิจการโรงงาน การป้องกัน และการแก้ไขผลกระทบจากการประกอบกิจการโรงงานต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจะก่อความเสียหายรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความปลอดภัยของประชาชนอย่างกว้างขวางพระราชบัญญัติโรงงานเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันและแก้ปัญหาผลกระทบที่เกิดจากการดำเนินกิจการของโรงงานอุตสาหกรรม การเร่งรัดให้ สนช. พิจารณากฎหมายสำคัญภายใต้เวลาจำกัดในลักษณะนี้เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมอนึ่ง ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งในอีกไม่กี่สิบวันข้างหน้า การเสนอและพิจารณากฎหมายที่สำคัญและจะส่งผลกระทบมากเช่นนี้ จึงควรดำเนินการภายใต้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย ขณะเดียวกันฝ่ายนิติบัญญัติก็ควรมีเวลาเพียงพอที่จะพิจารณา ไตร่ตรอง และทบทวนอย่างรอบด้าน ก่อนเสนอความเห็นในการกลั่นกรองเพื่อให้ได้กฎหมายที่มีความถูกต้องและเป็นธรรมอย่างแท้จริงทั้งนี้ ประเด็นที่น่าวิตกเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดจากร่างแก้ไขพระราชบัญญัติโรงงานฉบับดังกล่าวมีอยู่หลายประการ ดังตัวอย่างต่อไปนี้1. การแก้ไขนิยามคำว่า การตั้งโรงงาน ของร่างกฎหมาย โดยลดความหมายของการตั้งโรงงานเหลือเพียงการนำเครื่องจักรเข้ามาติดตั้งเท่านั้น เป็นการเปิดช่องว่างให้การก่อสร้างอาคารโรงงานสามารถทำได้โดยไม่ต้องรอให้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการทั้งนี้ตามมาตรา 12 ของ พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 ซึ่งเป็นกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน บัญญัติว่า ห้ามมิให้ผู้ใดตั้งโรงงานก่อนได้รับใบอนุญาต การแก้ไขนิยามคำว่า การตั้งโรงงาน จากเดิมที่หมายถึง ตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้างอาคารโรงงาน ให้เหลือเพียงความหมายว่า การนำเครื่องจักรสำหรับการประกอบกิจการโรงงานเข้ามาติดตั้ง หรือการนำคนงานมาประกอบกิจการโรงงานในกรณีที่ไม่มีการใช้เครื่องจักร จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถก่อสร้างอาคารโรงงานได้โดยไม่ต้องรอให้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4)บทบัญญัตินี้ขัดแย้งต่อเจตนารมณ์และเงื่อนไขสำคัญในการออกอนุญาตตาม พ.ร.บ. โรงงาน ที่จะต้องมีการตรวจสอบและพิจารณาถึงความเหมาะสมของทำเลที่ตั้ง ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของโรงงานก่อนการอนุญาต โดยเฉพาะสำหรับโรงงานขนาดใหญ่ที่เข้าข่ายจะต้องมีการศึกษาและจัดทำรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EIA/EHIA) เพื่อเสนอต่อหน่วยงานเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาอนุญาตและนำเอามาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบทั้งในระยะก่อสร้างและระยะดำเนินโครงการมากำหนดเป็นเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตด้วย2. การแก้ไขนิยาม โรงงาน ซึ่งจะทำให้โรงงานขนาดต่ำกว่า 50 แรงม้า หรือกิจการที่มีคนงานน้อยกว่า 50 คน ไม่ถือเป็นโรงงานตามร่างกฎหมายฉบับใหม่การแก้ไขคำนิยามนี้จะส่งผลให้โรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้เครื่องจักรน้อย คนงานจำนวนน้อย เช่น โรงงานคัดแยกและโรงงานรีไซเคิลของเสีย ตลอดจนกิจการอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 60000 แห่ง จะไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกฎหมายโรงงานทั้งนี้แต่เดิม โรงงาน หมายถึง กิจการที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมตั้งแต่ 5 แรงม้าขึ้นไป หรือใช้คนงานตั้งแต่ 7 คนขึ้นไป แม้การแก้ไขกฎหมายนี้ต้องการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กให้สามารถดำเนินกิจการได้ง่ายขึ้น ก็ควรจะมีมาตรการที่ดีกว่านี้ เนื่องจากผลจากการแก้ไขนิยามดังกล่าวจะทำให้มีโรงงานจำนวนมากที่แม้จะใช้เครื่องจักรขนาดเล็กหรือใช้คนงานจำนวนไม่มาก แต่เป็นกิจการที่มีความเสี่ยงสูงต่อสุขภาพของประชาชนและอาจก่อให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมรุนแรง ตัวอย่างเช่น กิจการคัดแยกของเสีย กิจการหล่อหลอม กิจการรีไซเคิลของเสีย และอื่นๆ กลายเป็นกิจการที่ไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลตาม พ.ร.บ.โรงงานการโอนหน้าที่ความรับผิดชอบในการดูแลกิจการที่มีความเสี่ยงสูงแก่หน่วยงานระดับท้องถิ่นโดยขาดนโยบายและมาตรการรองรับที่ดี จะเป็นการผลักภาระหนักแก่หน่วยงานท้องถิ่นที่ยังขาดศักยภาพและความเชี่ยวชาญเพียงพอในการกำกับดูแลและแก้ไขผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นหรือที่จะเกิดขึ้นในอนาคต3. การยกเลิกการต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการกฎหมายในปัจจุบันกำหนดให้ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานจะต้องมีการต่ออายุทุก 5 ปี การต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการฯ เป็นขั้นตอนหนึ่งสำหรับให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบสภาพโรงงานและเป็นมาตรการกำกับดูแลให้ผู้ประกอบการต้องทำการปรับปรุงแก้ไขโรงงานที่ประกอบกิจการมาระยะหนึ่งแล้วให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนเป็นขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่จะต้องนำเอาเรื่องร้องเรียนของประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบความเดือดร้อนจากโรงงานมาพิจารณาประกอบการต่ออายุใบอนุญาตหรือการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมให้โรงงานต้องปฏิบัติตามด้วย การยกเลิกดังกล่าวคือการลดทอนมาตรการตรวจสอบเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา ที่อาจจะส่งผลกระทบรุนแรงในระยะยาวนอกจากนี้ ร่างกฎหมายใหม่นี้ยังเอื้อให้ผู้ประกอบกิจการที่ต้องการขยายโรงงาน เพิ่มประเภทกิจการ หรือการโอน การเช่า การเช่าซื้อ และการขายกิจการสามารถทำได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่อีกด้วย4.การตัดทิ้งข้อเสนอเรื่องประกันภัยเพื่อการเยียวยาความเสียหายที่อาจเกิดจากการประกอบกิจการการที่คณะกรรมการกฤษฎีกาแก้ไขสาระสำคัญโดยตัดทิ้งข้อเสนอตามร่างกฎหมายของกรมโรงงานอุตสาหกรรม เรื่องการกำหนดให้ต้องมีประกันภัยหรือกองทุนหลักประกันเพื่อการเยียวยาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการประกอบกิจการโรงงาน หรือเพื่อการฟื้นฟูพื้นที่ตั้งโรงงานให้กลับคืนสู่สภาพเดิมหรือสภาพที่เหมาะสม สะท้อนให้เห็นว่าคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งมีกรรมการหลายคนมาจากภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ที่เป็นผู้พิจารณาและปรับแก้ร่างกฎหมายฉบับนี้ ให้ความสำคัญเฉพาะเรื่องส่งเสริมการลงทุนและการเอื้ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยละเลยไม่ให้ความสำคัญต่อเรื่องสิ่งแวดล้อมและสวัสดิภาพของประชาชน ทั้งที่ข้อเสนอเรื่องประกันภัยดังกล่าวถือเป็นกลไกสำคัญเพื่อแก้ไขปัญหาความล่าช้าในการแก้ไขเยียวยาความเสียหายทางสิ่งแวดล้อม และเป็นการสร้างธรรมาภิบาลของผู้ประกอบการภายใต้หลัก ผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย ให้เกิดขึ้นจริงเครือข่ายภาคประชาสังคมดังมีรายชื่อแนบท้ายนี้มีความเห็นว่า เมื่อรัฐบาลต้องการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อนำพาประเทศไปสู่การปฏิรูปให้ก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับปรุงกฎหมายไปในแนวทางที่ให้เกิดความสมดุลและยั่งยืนเสมอกันในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนร่างกฎหมายฉบับนี้จะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมในวงกว้าง จึงควรได้รับการพิจารณากลั่นกรองจากสภานิติบัญญัติด้วยความรอบคอบถี่ถ้วน โดยไม่มีเหตุความจำเป็นใดๆ ที่ สนช. จะต้องพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายนี้เป็นวาระเร่งด่วน จึงขอเรียกร้องให้ สนช. ยุติ และระงับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่) พ.ศ. นี้ไว้ก่อน เพื่อให้สังคมได้ร่วมกันทบทวนตรวจสอบและมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นโดยทั่วถึงอย่างแท้จริง และขอเรียกร้องให้การเสนอและการพิจารณาร่างกฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ต้องคำนึงถึงการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและการปกป้องคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและสุขภาพความปลอดภัยของประชาชนภายใต้หลักการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นสำคัญด้วย25 ธันวาคม 2561รายชื่อเครือข่ายร่วมลงชื่อ 54 องค์กรและ 20 บุคคลมูลนิธิบูรณะนิเวศมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อมEEC Watch กลุ่มศึกษาการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลุ่มคนรักษ์ต้นน้ำกลุ่มคนรักษ์หนองไผ่กลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าชีวมวล อ.หนองหาน จ.อุดรธานีกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กโบสถ์ญวนกลุ่มเฝ้าระวังน้ำผิวดิน จ.ระยองกลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออกกลุ่มรักษ์คอนสารกลุ่มรักษ์ท่าถ่าน-บ้านซ่องกลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อมบ้านแลงกลุ่มรักษ์หนองนาคำ อุดรธานีกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง (กสรก.)กลุ่มเสรีภาพแม่น้ำโขง (The Mekong Butterfly)กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมห้วยเสือเต้นและโคกหินขาว อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่นกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีขบวนการอีสานใหม่เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นเครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคอีสานเครือข่ายเทใจให้เทพาหยุดโรงไฟฟ้าถ่านหินเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนภาคใต้เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูลเครือข่ายเฝ้าระวังมลพิษและสิ่งแวดล้อมภาคประชาชนเครือข่ายเพื่อนตะวันออก วาระเปลี่ยนตะวันออกเครือข่ายรักแม่พระธรณีเครือข่ายรักษ์ชุมพรโครงการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะด้านทรัพยากรแร่โครงการปฏิบัติการเพื่อสิทธิคนจนโครงการพัฒนาคนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม มอส.ชมรมชาวบ้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมลำน้ำพองโปรเจกต์เสวนา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชนมูลนิธิสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมศูนย์กฎหมายสิทธิชุมชนศูนย์กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคมศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่นศูนย์พิทักษ์สิทธิชุมชนลุ่มน้ำชีตอนล่างศูนย์ภูมิภาคด้านสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนาอย่างอย่างยืน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ศูนย์ศึกษาชาติพันธุ์และการพัฒนา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ศูนย์ศึกษาสันติภาพและความขัดแย้ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศูนย์สร้างจิตสำนึกนิเวศวิทยาสภาองค์การลูกจ้างแรงงานสัมพันธ์แห่งประเทศไทยสมัชชาคนจนสมัชชาแปดริ้วเมืองยั่งยืนสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิตสมาคมวิถีชนบทสมาคมสถาบันชุมชนลุ่มน้ำโขงสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชนองค์กรชุมชนตำบลหนองชุมพลเหนือFTA Watchดร.สมนึก จงมีวศิน วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยศิลปากรนัทมน คงเจริญ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่นายชำนัญ ศิริรักษ์ ทนายความสิ่งแวดล้อม นักวิชาการอิสระ จ.ชลบุรีนายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล ทนายความนายอธิวัฒน์ เส้งคุ่ย ทนายความนาวิน โสภาภูมิ นักวิชาการอิสระบัณฑิต หอมเกษ ทนายความผศ.ดร.ธนพล เพ็ญรัตน์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรรศ.ดร.ประภาส ปิ่นตบแต่ง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสมพร เพ็งค่ำ นักวิชาการอิสระด้านการประเมินผลกระทบทางสุขภาพสฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระสุทธิชัย งามชื่นสุวรรณ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์แสงชัย รัตนเสรีวงษ์ ทนายความอ.ธีรวัฒน์ ขวัญใจ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์อ.ภก.ชินวัจน์ แสงอังศุมาลี อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยามอชิชญา อ๊อตวงษ์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรดร.ดรุณี ไพศาลพาณิชย์กุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่อาภา หวังเกียรติ มหาวิทยาลัยรังสิตสุนี ไชยรส อาจารย์วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิตชล บุนนาค คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | องค์กรพัฒนาเอกชนและภาค ปชช. กว่า 50 องค์กรร่วมออกแถลงการณ์เรียกร้อง สนช. ระงับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.โรงงาน ชี้ 4 ประเด็นกระทบมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและประชาชน26 ธ.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า | คุณภาพชีวิต,สิ่งแวดล้อม | มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม,ร่าง พ.ร.บ.โรงงาน | https://prachatai.com/journal/2018/12/80256 |
อุดรฯฝนตกหลายวัน ทำน้ำไหลเข้าอ่างห้วยหลวงเพิ่ม จนท.ยันเอาอยู่ | ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ถึงปริมาณน้ำตามอ่างเก็บน้ำต่างๆ ในพื้นที่ หลังจากสัปดาห์นี้มีฝนตกติดต่อหลายวัน ทำให้มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำหลัก โดยเฉพาะที่อ่างเก็บน้ำห้วยหลวง ซึ่งเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่คอยหล่อเลี้ยงชาว จ.อุดรธานี โดยสามารถเก็บกักปริมาณน้ำ 135.57 ล้าน ลบ.ม. และมีน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยประมาณ 6-7 แสน ลบ.ม. ถึงวันนี้มีน้ำเก็บกัก 61.85 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 45.62 เปอร์เซ็นต์ ของความจุอ่าง ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ควบคุมที่กำหนดไว้ 59.55 ล้าน ลบ.ม. แต่ทางอ่างเก็บน้ำห้วยหลวง ยังคงยืนยันไม่ระบายน้ำออก เนื่องจากอ่างเก็บน้ำยังคงสามารถรับปริมาณน้ำฝนที่ ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ได้ และไม่มีผลกระทบ ,นายวิชัย จาตุรงค์กร ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง เปิดเผยว่า ช่วงนี้ยังคงมีฝนตกลงมาในพื้นที่อ่างต่อเนื่อง ซึ่งทางอ่างฯ ยังคงรับน้ำปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างฯ ได้ ถึงแม้จะเกินเกณฑ์ควบคุมในช่วงนี้เพียงเล็กน้อย แต่หากยังมีฝนตกต่อเนื่อง มีน้ำไหลเข้าอ่างปริมาณมาก จะพิจารณาดูว่ามีน้ำไหลเข้าเท่าไร จะปล่อยน้ำออกจากอ่างเท่าไร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ และปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา และไหลเข้าอ่างมากน้อยเพียงใด เพราะน้ำในอ่างแห่งนี้ จำเป็นที่จะต้องเก็บน้ำไว้ใช้ผลิตประปาในเขต อ.เมืองอุดรธานี และ อ.กุดจับ รวมทั้งชาวเกษตกรที่จำเป็นต้องใช้น้ำจากอ่างในช่วงหน้าแล้งด้วย ซึ่งภาพรวมขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น. | ฝนตกติดต่อหลายวันที่อุดรธานี ส่งผลให้น้ำไหลเข้าอ่างห้วยหลวงเพิ่มขึ้น ด้าน จนท.ที่ดูแล ยันยังเอาอยู่รับได้อีกไม่มีผลกระทบ หรือ ต้องระบายน้ำออกช่วงนี้ | ข่าว,ทั่วไทย | อ่างเก็บน้ำห้วยหลวง,อุดรธานี,วิชัย จาตุรงค์กร,ฝนตกหนัก,น้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1336931 |
3สาว ม.3 ถ่ายภาพส่งตร. หนุ่มผมยาวโรคจิตขี่ จยย. ตามประกบโชว์ช่วยตัวเอง | 3 นักเรียนสาวชั้น ม.3 โรงเรียนที่ชุมพร เข้าแจ้งความ ตร. หลังโดนไอ้หนุ่มผมยาวโรคจิต ขี่ จยย. ตามประกบ ก่อนสำเร็จความใคร่โชว์ โดยไม่แคร์สายตารถที่ขับอยู่บนถนน แต่ตั้งสติหยิบมือถือมาถ่ายรูปไว้ได้ รีบแจ้ง ตร. หวั่นมีเด็กตกเป็นเหยื่ออีก ,เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 มี.ค.60 ร.ต.อ.ไพรัตน์ สิงห์พรม รองสว.(สอบสวน) สภ.ปากน้ำชุมพร จ.ชุมพร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา น.ส.จูน(นามสมมติ) อายุ 15 ปี เข้าแจ้งความกับ ตร. ว่า ถูกผู้ชายผิวดำแดง ไว้ผมยาว สวมเสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีฟ้า นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ สีเหลือง-น้ำเงิน ไม่ทราบทะเบียน ไล่ตามประกบรถจักรยานยนต์ของตัวเอง ขณะขี่ไปกับเพื่อนรวม 3 คน บนถนนสายชุมพร-ปากน้ำ ตั้งแต่เขตเทศบาลเมืองชุมพรไปจนถึงหน้าห้างบิ๊กวัน เขตเทศบาลตำบลปากน้ำชุมพร โดยมือขวาจับแฮนด์รถจักรยานยนต์ ส่วนมือซ้ายควักอวัยวะเพศออกมาสำเร็จความใคร่ พร้อมทั้งส่งเสียงโห่และร้องครวญครางไปตลอดเส้นทางกว่า 5 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้ทางโรงพักปากน้ำชุมพร ได้ปรินต์ภาพถ่ายจากโทรศัพท์มือถือที่ผู้เสียหายถ่ายไว้ได้ขณะกระทำการอนาจาร เพื่อติดตามชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป,น.ส.นุ่น อายุ 16 ปี เพื่อนที่นั่งมาด้วยกัน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันเกิดเหตุ ตนเป็นคนขับรถ น.ส.จูน นั่งกลาง และ ด.ญ.โส (นามสมมติ) เพื่อนอีกคน นั่งซ้อนมาหลังสุด มุ่งหน้าไปเที่ยวงานเปิดโลกทะเลชุมพรวันสุดท้าย ที่หน้าเทศบาลตำบลปากน้ำชุมพร ตามถนน สายชุมพร-ปากน้ำ เลยเทศบาลตำบลท่ายางไปเล็กน้อย ก็พบรถจักรยานยนต์ ของชายคนดังกล่าวขี่อยู่ด้านหน้าตนจึงเร่งเครื่องยนต์แซงขึ้นไป ชายคนดังกล่าวก็เร่งเครื่องยนต์ขับแซงหน้าตนไปอีก แล้วเหลียวมามอง 2-3 ครั้ง จึงขับแซงอีกครั้ง แต่ชายคนดังกล่าว ก็พยายามแซงขึ้นมา ก่อนใช้มือซ้ายควักอวัยวะเพศขึ้นมาสำเร็จความใคร่ แถมยังส่งเสียงโห่และร้องครวญครางไปตลอดเส้นทาง แม้จะเร่งเครื่องหนี แต่ก็ถูกไล่ประกบไม่ห่าง กระทั่งไปถึงหน้าห้างบิ๊กวัน ที่อยู่ใกล้ป้อมยามตำรวจปากน้ำชุมพร ซึ่งเป็นย่านชุมชน ชายคนดังกล่าว จึงขี่รถจยย.เข้าซอยหลบหนีไป,น.ส.นุ่น เปิดเผยอีกว่า โชคดีที่พวกเธอตั้งสติได้โดย ด.ญ.โส ได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน แล้วพากันไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อไม่ให้ชายตนดังกล่าวไปก่อเหตุกับเด็กหรือหญิงสาวคนอื่นๆ อีก โดยอยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว. | 3 นักเรียนสาวชั้น ม.3 โรงเรียนที่ชุมพร เข้าแจ้งความ ตร. หลังโดนไอ้หนุ่มผมยาวโรคจิต ขี่ จยย. ตามประกบ สำเร็จความใคร่โชว์ โดยไม่แคร์สายตารถที่ขับอยู่บนถนน แต่ตั้งสติหยิบมือถือมาถ่ายรูปไว้ได้ รีบแจ้ง ตร. หวั่นเด็กตกเป็นเหยื่ออีก | ข่าว | โรคจิต,สำเร็จความใคร่,ไอ้หนุ่มผมยาว,ชุมพร | https://www.thairath.co.th/news/893916 |
องค์กรวิชาชีพสื่อเรียกร้อง กสทช. ออกหลักเกณฑ์ให้ใบอนุญาตทีวีดิจิตอลให้เป็นธรรม | 4 สมาคมสื่อ เรียกร้อง กสทช. ออกหลักเกณฑ์การให้ใบอนุญาตทีวีดิจิตอลประเภทบริการสาธารณะ โดยพิจารณาในบอร์ดใหญ่ 11 คน ย้ำประกาศหลักเกณฑ์ให้ใบอนุญาตโครงข่ายต้องโปร่งใส เป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติวันนี้ (14 พ.ค.) เผยแพร่แถลงการณ์ของ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ซึ่งลงวันที่ 13 พ.ค. 56 โดยมีรายละเอียดดังนี้จากการที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท) กำลังพิจารณาการให้ใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรทัศน์ดิจิตอลในประเภทต่างๆ อีกทั้งกำลังอยู่ระหว่างร่างหลักเกณฑ์ประกาศการคัดเลือกผู้ได้รับการจัดสรรคลื่นทีวีในระบบดิจิตอลประเภทธุรกิจ แต่กลับไม่มีการกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับประเภท บริการสาธารณะ โดยในจำนวน 12 ช่อง มติเสียงข้างมาก กสท 3 ต่อ 2 เห็นชอบที่จะอนุญาตให้ผู้ประกอบการรายเดิมคือ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.11) และ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ทดลองออกอากาศในระบบดิจิตอลไปก่อน ทั้งที่ยังไม่มีรายละเอียดขั้นตอนกระบวนการพิจารณาใดๆ เพื่อขอรับใบอนุญาต โดยจะพิจารณาจัดสรรช่องที่เหลืออีก 8 ช่อง ด้วยอำนาจของ กสท เององค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ได้แก่ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ยังยืนยันความจำเป็นและขอเรียกร้องให้ กสท ต้องออกหลักเกณฑ์และกติกาในการคัดเลือกผู้เหมาะสมที่จะรับใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรทัศน์ดิจิตอล เนื่องจากกิจการสื่อสารมวลชนเป็นสมบัติของสาธารณะ อีกทั้งมีผลกระทบต่อสังคม โดยรวมอย่างกว้างขวาง การพิจารณาให้ใครเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ประกอบกิจการ โดยเฉพาะในกลุ่มบริการสาธารณะและชุมชน จึงต้องผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างรอบคอบ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อให้การแข่งขันเป็นธรรมกับทุกฝ่ายทั้งนี้ องค์กรวิชาชีพสื่อข้างต้น ขอเรียกร้องให้ กสท ได้เร่งรัดการออกหลักเกณฑ์เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้รับใบอนุญาตฯ โดยต้องคำนึงถึงกระบวนการมีส่วนร่วมจากประชาชนอย่างกว้างขวาง อีกทั้งต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. ชุดใหญ่ 11 คน เพราะเป็นเรื่องสำคัญจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แทนที่จะพิจารณาจากคณะกรรมการ กสท.เพียง 5 คนนอกจากนี้ ในการประกาศหลักเกณฑ์ให้ใบอนุญาตบริการสิ่งอำนวยความสะดวกและการให้บริการโครงข่ายฯ ซึ่งต้องประกาศก่อนการพิจารณาให้ใบอนุญาตฯ ควรต้องกำหนดกระบวนการที่เปิดเผย โปร่งใส และเปิดให้ภาคส่วนต่างๆ ได้มีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางด้วยเช่นเดียวกันหาก กสท ไม่กำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนประกาศต่อสาธารณะ จะถือว่าขัดต่อแผนแม่บท (Road Map) ของ กสทช.เองที่กำหนดให้ต้องมีประกาศ หลักเกณฑ์ และวิธีการรวมทั้งเงื่อนไขการจัดสรรคลื่นความถี่ ซึ่งเป็นสมบัติของส่วนรวม อันอาจนำไปสู่การฟ้องร้องคดีทางศาล จากผู้เสียหายหรือผู้มีส่วนได้เสีย อันเนื่องจากการที่ กสท ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดทั้งนี้ องค์กรวิชาชีพสื่อ ยังเห็นว่า กสทช. ไม่จำเป็นต้องให้ใบอนุญาตฯ ไปพร้อมกันทั้ง 12 ช่องในคราวเดียว แต่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของ การปฏิรูปสื่ออย่างแท้จริงองค์กรวิชาชีพสื่อ เชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันติดตาม ตรวจสอบการทำงานของ กสทช. ในประเด็นต่างๆ อย่างใกล้ชิด และเข้าไปมีส่วนร่วมในการพิจารณา จัดสรรคลื่นความถี่ฯ ดังกล่าว เพราะเกี่ยวข้องกับประโยชน์ของประชาชนโดยตรง | 4 สมาคมสื่อ เรียกร้อง กสทช. ออกหลักเกณฑ์การให้ใบอนุญาตทีวีดิจิตอลประเภทบริการสาธารณะ โดยพิจารณาในบอร์ดใหญ่ 11 คน ย้ำประกาศหลักเกณฑ์ให้ใบอนุญาตโครงข่ายต้องโปร่งใส เป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ วันนี้ (14 | คุณภาพชีวิต,ไอซีที | กสทช.,ทีวีดิจิตอล | https://prachatai.com/journal/2013/05/46724 |
ส่งออกต.ค.ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 2 ปี | กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงมาตรการเยียวยาแก่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมและส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทั้งด้านการเงิน ภาษี และแรงงาน โดยยืนยันมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ผู้ประกอบการทุกรายเข้าถึงสินเชื่ออันตราดอกเบี้ยต่ำ ส่วนผู้ได้รับผลกระทรุนแรงก็จะได้รับการยกเว้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทยกังวลว่ามาตรการนี้ไม่ต่างกับการเยียวยาในวิกฤติครั้งอื่นๆที่ผ่านมา ที่ธุรกิจเอสเอ็มอีมักเข้าไม่ถึงเงินทุน และจะกระทบต่อเนื่องไปถึงการส่งออกสินค้าในไตรมาส 2 ปีหน้า รวมทั้งอาจกระทบการจ้างงานมากกว่า 100000 คน จากบุคลากรในธุรกิจนี้ 350000 คนด้านนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยอมรับว่าการส่งออกเดือนตุลาคมที่ผ่านมาขยายตัวร้อยละ 0.3 ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวต่ำสุดในรอบ 2 ปี เพราะสินค้าหลายกลุ่มส่งออกลดลงจากอุทกภัย ทั้งนี้ประเมินว่าไตรมาสสุดท้ายการส่งออกจะลดลงร้อยละ 15 และส่งผลต่อหน้าไปไตรมาสแรกปีหน้า | อุทกภัยที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทำให้ภาวะส่งออกเดือนตุลาคมขยายตัวในอัตราต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี ส่วนมาตรการเยียวยาของรัฐบาล กลุ่มเอสเอ็มอีวิตกกังวลว่าจะไม่เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเช่นเดิม | เศรษฐกิจ | ดอกเบี้ย,น้ำท่วม,ผู้ประกอบการ,พาณิชย์,ส่งออก,เยียวยา,เอสเอ็มอี | https://news.thaipbs.or.th/content/48045 |
ผบช.น.รับ ย้าย ตร.73 ตำแหน่ง ล้างบางเครือข่ายพงศ์พัฒน์ กว่า 100 นาย | วันที่ 7 ม.ค. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยภายหลังการชี้เเจงคณะกรรมการ ก.ตร. ว่า ในครั้งนี้มีการปรับเปลี่ยนโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ทั้งหมด 73 ตำเเหน่ง แบ่งเป็น รอง ผบก.14 นาย ผกก.59 นาย ยืนยันดำเนินการตามระเบียบกฎหมายของ พ.ร.บ.ตำรวจ สามารถชี้เเจงได้
,ขณะในที่ประชุม ก.ตร ได้มีการให้ชี้เเจงรายชื่อที่เสนอโยกย้ายจำนวนหลายคน ซึ่งตนได้ชี้เเจงไปตามข้อเท็จจริงที่มีพยาน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีการกลั่นเเกล้งใคร ซึ่งที่ผ่านมามีการยื่นบัตรสนเท่ห์ 1 ราย เพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับป้ายโฆษณาบนป้อมจราจรตำรวจเท่านั้น แต่ไม่ได้มีการลงชื่อผู้ร้องเรียนเรื่องการโยกย้ายไม่เป็นธรรมแต่อย่างใด,ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ รักษาราชการแทน ผบช.ก. เปิดเผยว่า ในส่วนของ บช.ก. มีข้าราชการที่ถูกโยกย้ายออกนอกหน่วยเกือบ 100 นาย โดยเป็นในส่วนเครือข่ายของอดีต พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ุ อดีต ผบช.ก. ซึ่งพัวพันกับเรื่องน้ำมันเถื่อน บ่อนการพนัน คดีพนันฟุตบอลออนไลน์ และความผิดแต่งตั้งโดยมิชอบ ซึ่งสมัครใจขอย้าย เพราะสำนึกได้ว่ากระทำผิด ส่วนการฟ้องร้องเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรมยังไม่พบว่ามีการร้องเรียนแต่อย่างใด | พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. รับโยกย้ายตำรวจ 73 ตำแหน่ง ยันไม่กลั่นแกล้งใคร ขณะ บช.ก.ย้ายล้างบาง เครือข่ายแก๊งพงศ์พัฒน์ กว่า 100 นาย
| ข่าว,ทั่วไทย | ผบช.น.,โยกย้าย,ตำรวจ 73 ตำแหน่ง,บช.ก.,ย้ายล้างบาง,แก๊งพงศ์พัฒน์,กว่า 100 นาย,ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล,ไม่กลั่นแกล้งใคร,เครือข่าย,ก.ตร.,ข่าวสังคม | https://www.thairath.co.th/news/local/473269 |
เร่งฟื้นฟูบางสะพาน หลังเจอน้ำท่วม เผยเสียหาย 7 ตำบล | เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 พ.ย. 2561 นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบสิ่งของประทานจากมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ณ หอประชุมโรงเรียนบางสะพานวิทยา อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้เปิดเป็นศูนย์ประสานงานฯ ส่วนหน้า ซึ่งมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ได้จัดส่งถุงยังชีพประทานให้แก่จังหวัด โดยแยกเป็นถุงยังชีพสำหรับพระภิกษุสงฆ์จำนวน 50 ชุด และสำหรับราษฎรจำนวน 1,000 ชุด รวมเป็น 1,050 ชุด ,ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระราชทานโรงครัวพระราชทาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัยในเขตพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. จนกว่าจะสิ้นสุดเหตุการณ์ โดยได้มีการจัดทำอาหารปรุงสุกเพื่อนำไปแจกจ่ายประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ,สำหรับที่โรงพยาบาลบางสะพานในเช้าวันนี้ โรงพยาบาลบางสะพานได้เปิดบริการเป็นวันแรก หลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีประชาชนมารอรับบริการ เป็นจำนวนมาก โดยมี นายแพทย์สามารถ ถิระศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายเชิดชาย ชยวฑโฒ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางสะพาน นายสมยศ หลวงผาด นายช่างเทคนิคชำนาญการ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมตรวจสอบความพร้อมของระบบสาธารณูปโภคภายในโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 147 สนับสนุนกำลังทำความสะอาด รวมทั้งทหารจากกองทัพบกมาช่วยขนย้ายอุปกรณ์ทางการแพทย์กลับเข้าที่ ก่อนทำการเปิดบริการ 100% ,พล.ต.กัณฑ์ชัย ประจวบอารีย์ ผบ.มทบ.15 กล่าวว่า ทางแม่ทัพภาค 1 ได้ให้จัดตั้งจุดบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่วิกฤติ ตามสั่งการของ ผบ.ทบ. ในพื้นที่อำเภอบางสะพาน จำนวน 3 จุด โดยที่ 1 ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ โรงเรียนบางสะพานวิทยา อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดชุดแพทย์ รพ.ค่ายรามนิเวศน์ร่วมกับ จนท.ตำรวจจาก สภ.บางสะพาน จุดที่ 2 ที่ อบต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน กำลังจาก บน.5, ฉก.จงอางศึก, ชุดแพทย์ รพ.บน., ประชาชนจิตอาสา รวมถึง จนท.ตำรวจในพื้นที่ และจุดที่ 3 อบต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จัดกำลังจาก ศร., ฉก.จงอางศึก, ชุดแพทย์ รพ.ศร., ประชาชนจิตอาสาและ จนท.ตชด 147 โดยทั้ง 3 จุด จะอยู่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ โดยมี นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ร่วมมอบถุงยังชีพประทานของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จำนวน 550 ชุด ,จากนั้น ผบ.มทบ.15 ได้ร่วมกับจิตอาสาในพื้นที่ ดำเนินการทำความสะอาดและฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย อาทิ โรงเรียนอนุบาลบางสะพาน และได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเป็นขวัญและสร้างกำลังใจต่อผู้ปฏิบัติงาน,ขณะเดียวกัน ด.ต.วังทอง ศรัณวิริยะพงศ์ หัวหน้าหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงเกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ด.ต.ธำมรงค์ กำไลทอง นายสมควร สายโพธิ์ทอง หัวหน้าอาสากู้ภัยตำรวจทางหลวงอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ รับมอบสิ่งของช่วยเหลือจากผู้ประสบภัย โดยมีตัวแทนของ นายณภัทร ชุ่มจิตตรี หรือ คิง ก่อนบ่าย นักแสดงตลกชื่อดังซึ่งเป็นชาวอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ นำเงินสนับสนุนซื้อของใช้จำเป็นสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ อ.บางสะพาน ประกอบด้วย ข้าวสาร น้ำดื่ม ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โจ๊กสำเร็จรูป ผ้าอนามัย แปรงสีฟัน ยาสีฟัน แป้ง สบู่ ผงซักฟอก กระดาษชำระ ซึ่งเจ้าหน้าที่นำบรรจุใส่ถุงเป็นชุดๆ,นายสมควร สายโพธิ์ทอง กล่าวว่า อาสากู้ภัยตำรวจทางหลวงจะนำสิ่งของที่บรรจุถุงช่วยเหลือไปมอบในพื้นที่ห่างไกลย่านชนบท ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งต้องนำรถขับเคลื่อนสี่ล้อเข้าไปยังจุดที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวไม่สามารถเดินทางมารับความช่วยเหลือในตัวเมืองด้วยตนเองได้ จำเป็นต้องได้รับเครื่องยังชีพเร่งด่วน ซึ่งอาสากู้ภัยตำรวจทางหลวงมีเครือข่ายที่มีความพร้อมในการเข้าถึงพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร, ,สำหรับภาพรวมความเสียหายจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบว่า พื้นที่ประสบภัย 7 ตำบล 66 หมู่บ้าน มีผู้ประสบภัย 8,736 ครัวเรือน 16,975 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และเสียชีวิต 1 รายด้วยโรคประจำตัวหน้ามืดเป็นลมที่บ้าน เสียชีวิตขณะเดินทางมาโรงพยาบาลสนามบางสะพานวิทยา ในการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลัง 5 หลังคาเรือน ถนนสายรอง, ถนนภายในหมู่บ้านได้รับความเสียหาย 141 จุด สะพาน 18 แห่ง โรงเรียน 7 แห่ง และวัด 7 แห่ง ได้รับผลกระทบ. | หลายหน่วยงานช่วยฟื้นฟู บางสะพาน-บางสะพานน้อย หลังเจอนำ้ท่วม รพ.เปิดรับผู้ป่วยวันแรก ผบ.มทบ.15 จิตอาสาช่วยเหลือชาวบ้าน เผยพื้นที่ประสบภัย 7 ตำบล 66 หมู่บ้าน บาดเจ็บ 3 เสียชีวิต 1
| ข่าว,ทั่วไทย | น้ำท่วม,น้ำท่วมบางสะพาน,น้ำท่วมประจวบ,บางสะพานน้อย,ช่วยน้ำท่วม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1419316 |
รัฐมนตรีใหม่เข้ากระทรวงทำงาน วันแรก | นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทไทยคม กล่าวว่า ภาระกิจที่สำคัญ คือ นโยบายปรับโครงสร้างพลังงาน เพื่อให้สอดคล้องกับกลไกตลาดและต้นทุนที่แท้จริง ท่ามกลางราคาเชื้อเพลิงของตลาดโลก ซึ่งอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งนโยบายดังกล่าวจะส่งผลเป็นลูกโซ่ ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่ม ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่าการปรับเพิ่มราคาพลังงาน อาจจะส่งผลทำให้ต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อส่วนนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย ไม่รู้สึกตื่นเต้นและหนักใจ แม้จะไม่เคยรับตำแหน่งมาก่อน พร้อมยืนยันว่าการทำงานครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อรัฐบาล โดยได้รับมอบหมายให้ดูแล 4 กรม 3 รัฐวิสาหกิจ แทนนายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ อดีตรัฐมนตรีช่วยฯ ซึ่งภาระกิจแรกที่จะดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมคือการดูแลราคายาง หากทำให้ราคายางสูงกว่า120 บาทต่อกิโลกรัมได้ เชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อเกษตกร แต่ทั้งนี้ต้องดูปัจจัยแวดล้อมทางด้านการตลาด ซึ่งไม่ได้กำหนดราคาเพดานว่าจะอยู่ที่เท่าใด | รมว.พลังงาน และรมช.เกษตรและสหกรณ์คนใหม่เดินทางเข้าทำงานวันแรก โดยภาระกิจที่รออยู่คือการปรับโครงสร้างพลังงาน และการแก้ปัญหาราคายาง | การเมือง | null | https://news.thaipbs.or.th/content/61795 |
ชาวเน็ตไม่ทน รถติดไฟไอติม ทำแสบตา เตรียมถ่ายรูปให้ขนส่งสั่งปรับ | หนุ่มตั้งกระทู้ในพันทิป ,จงอย่าท้อกับพวกติดไฟไอติม(ไฟสีฟ้า,ไฟซิ่ง)ท้ายรถซิ่ง มาถ่ายรูปกันเถอะ, พร้อมโพสต์เนื้อหาว่า ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าการที่เราเอารถไปติดไฟสีฟ้านี้มันเท่ตรงไหน (บางคนว่ามันสวย ตัวเองชอบเลยให้คนอื่นดู) หรือทำให้รถแรงขึ้นรึเปล่า หรือเขาติดเพื่อให้คนที่ชอบแต่งรถเหมือนกันรู้ จะได้ขับทักทายหรือลองดันลองแข่งกัน เพราะผมเห็นพวกขับรถแข่งกันบนถนนเจอไฟสีฟ้าทีไรเป็นอันต้องลองแข่งกัน แต่มันรบกวนคนอื่นมากเวลาตามหลัง เมื่อปีก่อนมีผู้ใช้พันทิปมาโพสต์บ่นเรื่องไฟไอติมท้ายรถจะติดทำไมตามหลังแสบตา บางคนกะพริบด้วยไม่รู้เบรกหรือไม่เบรกน่ารำคาญ,ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจและกรมขนส่ง แนะนำให้ถ่ายรูปรถพร้อมป้ายทะเบียนให้ชัดเจน แล้วส่งหลักฐานให้กับกรมขนส่งเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท และต้องนำรถมาให้ตรวจสอบว่าแก้ไขแล้วหรือไม่ พอได้ฟังข่าวนั้นเราก็เจอแล้วก็ถ่ายๆ เก็บไว้ ถ่ายส่งไปแต่ไม่รู้เรื่องมันเดินจริงหรือไม่ ไม่เหมือนพวกจับความเร็วที่พอโดนก็จะมาโพสต์อวดกัน,แต่ล่าสุด มีผู้ใช้รถท่านหนึ่งที่ติดไฟสีฟ้านี้แล้วโดนคนถ่ายไปแจ้งกรมขนส่ง แล้วถูกทางกรมขนส่งออกหมายให้ไปเสียค่าปรับ พร้อมให้นำรถมาให้กับกรมขนส่งตรวจ,ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่คนที่เขาแจ้งไปได้เห็นว่าสิ่งที่พวกเขาแจ้งไปนั้นหน่วยงานของรัฐดำเนินเรื่องให้ เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับคนที่กำลังคิดจะติดหรือคนที่ติดอยู่แล้วอาจจะกลับใจถอดออก ถ้าจะจับจริงๆ ตำรวจก็สามารถจับได้,ด้านสมาชิกพันทิปต่างออกความเห็นกันว่า เป็นเรื่องที่ดีที่กรมการขนส่งไม่ปล่อยปละละเลย เพราะเวลาขับรถแสงไฟพวกนี้ทำให้แสบตา ตาพร่ามัว ควรคำนึงกันถึงความปลอดภัยมากกว่า และบางส่วนก็บอกว่าเจอบ่อยครั้ง คราวนี้คงจะได้ถ่ายภาพส่งไปบ้าง พร้อมบอกว่าอยากให้เจ้าหน้าที่จัดการให้เด็ดขาด งานนี้กลุ่มคนติดไฟประเภทนี้คงมีหนาวๆ ร้อนๆ กันบ้าง.,เจ้าของกระทู้ | ชาวเน็ตทนไม่ไหว รถติดไฟไอติม ทั้งแยงตา แสบตา พร่ามัว ตั้งกระทู้ช่วยกันถ่ายรูปให้ขนส่งสั่งปรับ บอก อยากให้เจ้าหน้าที่จัดการเด็ดขาด | ข่าว,สังคม | ไฟไอติม,ไฟท้าย,กรมการขนส่ง,ไฟซีนอน,ไฟเบรก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1086949 |
ยังคิดถึง บีร็อด มั่นใจ หงส์แดง ตีปีกจบท็อปโฟร์ซีซั่นหน้า | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 26 ก.ค. ว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือใหญ่ป้ายแดงของ กลาสโกว์ เซลติก หนุนหลังอดีตต้นสังกัดเก่าอย่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล ให้ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าตั๋วยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลที่กำลังมาถึงให้ได้,เรด แมชชีน จะไม่มีส่วนร่วมกับรายการยุโรปใดๆ ในฤดูกาล 2016/17 หลังจบอันดับที่ 8 ของตารางในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมาและพ่ายในรอบชิงชนะเลิศศึกยูโรปาลีกต่อ เซบีญา แบบน่าเสียดาย 1-3,โดยก่อนหน้าฤดูกาลใหม่ที่กำลังงวดเข้ามา เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อดีตกุนซือหงส์แดงที่เกือบพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นหนแรกในปี 2013/14 ก็เชื่อมั่นว่าทีมเก่าของเขาจะประสบความสำเร็จตามเป้าที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน,ผมคิดว่าลิเวอร์พูลมีโอกาสดีเยี่ยมที่จะคว้าตั๋วแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้ มันหวนให้ผมคิดถึงฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมมากตอนที่เราจบรองแชมป์ในฤดูกาล 2013/14 ซึ่งเป็นปีที่คุณอยากไปเล่นในบอลยุโรป แต่ถ้าคุณไม่ได้ไปบอลยุโรป คุณก็จะได้ฝึกซ้อมมากขึ้นและทำให้นักเตะเข้าขากันมากขึ้น,คุณมีเกมน้อยลง คุณสามารถซ้อมได้มากขึ้นและได้ฝึกด้วยกันมากขึ้นและจากนั้นก็หวังว่าฟอร์มของคุณจะพัฒนามากขึ้นกว่าเดิม ผมคิดว่าลิเวอร์พูลฤดูกาลนี้เซ็นสัญญานักเตะดีๆ เข้ามาและนั่นทำให้ความเป็นไปได้ที่จะเข้าขาในการทำงานร่วมกันมากยิ่งขึ้นและทำให้พวกเขามีโอกาสอันดีงามที่จะคว้าตั๋วแชมป์เปียนส์ลีกด้วยการจบท็อปโฟร์ | ถึงกายห่างกันแต่ใจยังคิดถึงเสมอสำหรับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อดีตนายใหญ่ของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ล่าสุดออกมาอวยพรให้อดีตต้นสังกัดของเขาติดท็อปโฟร์พร้อมคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกให้ได้ | null | พรีเมียร์ลีก,ลิเวอร์พูล,เบรนแดน ร็อดเจอร์ส,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/673883 |
กระบะคว่ำ ไฟลุกพึ่บ หนุ่มตะโกนร้องให้คนช่วย รอดตายฉิวเฉียด | เมื่อช่วงเช้า วันที่ 23 พ.ค. พ.ต.ท.สมศักดิ์ ศรีชะอุ่ม สารวัตร(สอบสวน) สภ.จตุรพักตรพิมาน รับแจ้งเหตุรถยนต์กระบะพลิกคว่ำ ไฟลุกไหม้ บนถนนสายจตุรพักตรพิมาน-ร้อยเอ็ด ระหว่าง กม.ที่ 21-22 พื้นที่บ้านอ้น หมู่ 13 ต.หัวช้าง อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด จึงไปที่เกิดเหตุ พบอาสาสมัครกู้ภัยอโสกจตุ และรถดับเพลิง อบต.หัวช้าง กำลังดับเพลิงที่ลุกไหม้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อเชฟโรเลต สีเทาดำ ทะเบียน บม-7407 ร้อยเอ็ด เพื่อช่วยเหลือคนขับที่ติดอยู่ในรถ และยังมีสติร้องขอความช่วยเหลือ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาทีจนสามารถนำตัวผู้บาดเจ็บออกมาจากรถได้ ในสภาพไม่ได้สติ คาดสำลักควันไฟ และมีรอยไหม้พุพองตามร่างกาย จึงรีบนำส่ง รพ.จตุรพักตรพิมาน ,ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว ชื่อนายอดิศักดิ์ นามโคตร อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 170 หมู่ 3 ต.ดงกลาง อ.จตุรพักตรพิมาน คาดเกิดจากหลับในจนรถเสียหลักพลิกคว่ำ, ,นายสมศักดิ์ สอนแสง อายุ 54 ปี เจ้าของร้านพงษ์วัสดุ ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ได้ยินเสียงรถยนต์แล่นมาด้วยความเร็วและมีเสียงดังโครมอย่างแรง เมื่อวิ่งออกไปดูพบว่ารถคันดังกล่าวเสียหลักตกถนนชนกับท่อระบายน้ำคอนกรีตล้อหงายชี้ฟ้า จากนั้นเห็นกลุ่มควันไฟ จึงเดินเข้าไปใกล้ๆ เห็นไฟกำลังลุกไหม้รถกระบะ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.หัวช้าง ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 2 กม.ให้มาช่วยเหลือ แต่หลังดับเพลิงแล้วยังไม่สามารถนำตัวคนขับออกมาได้ จึงเอารถเคลนของตนมายกรถกระบะขึ้นจากพื้น เพื่อให้อาสาสมัครกู้ภัยสามารถนำผู้บาดเจ็บออกมาได้ในที่สุด. | หนุ่มร้อยเอ็ดซิ่งกระบะตกถนน กระเด็นชนท่อคอนกรีตพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า ไฟลุกพึ่บออกไม่ได้ ร้องให้คนช่วยรอดตายฉิวเฉียด
| ข่าว,ทั่วไทย | กระบะคว่ำไฟไหม้,ไฟไหม้กระบะ,คนขับกระบะเฉียดตายไฟไหม้รถ,ช่วยคนขับกระบะไฟไหม้,ไฟลุกท่วมกระบะ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1289412 |
เงินรัฐกับบอลโลก | และที่อาจจะไม่ได้ดูนั้น ด้วยเนื่องจากค่าลิขสิทธิ์แพงมาก ประกอบกับเศรษฐกิจไม่ดี การขายโฆษณาให้คุ้มค่า ไม่ต้องพูดถึง มีแต่ขาดทุนมากมาย หรือขาดทุนมากเท่านั้น,ที่สำคัญ อันเนื่องจากประเทศไทยมีกฎ มัสต์แฮฟ ของ กสทช. บังคับให้ต้องถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีทุกนัด เพื่อให้คนไทยได้ดูบอลโลกฟรีๆ ทำให้การทำธุรกิจกับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ทำไม่ได้ในเชิงผลกำไร,ด้วยแต่เดิมช่องทางที่ทำเงินได้มาก เพื่อให้คุ้มค่ากับค่าลิขสิทธิ์บวกค่าใช้จ่ายอื่นๆ คือต้องเสียเงินดูผ่านเคเบิล หรือเปย์เปอร์วิวอะไรก็ตาม ดูฟรีมีบางนัดเท่านั้น ซึ่งจริงๆฟีฟ่าก็บังคับให้ถ่าย,ฟรีทีวีเพียงจำนวนหนึ่ง,แต่ก่อนฟีฟ่าให้ถ่ายทอดสดดูฟรีอยู่ 8 นัด ขยับขึ้นมาเรื่อยๆ จนครั้งนี้ที่เพิ่มทีมเป็น 32 ทีม บังคับถ่ายฟรีทีวีรวม 22 นัด คือ นัดเปิดสนาม, รอบสอง (8 คู่), รอบ 8 ทีม (4 คู่), รอบรอง (2 คู่), ชิงที่ 3 และชิงชนะเลิศ กับผู้ถือสิทธิ์เลือกถ่ายในรอบแรกเองอีก 5 คู่,แค่นี้ก็ครอบคลุมคู่สำคัญๆ และดูกันอิ่มเอิบแล้ว แต่ไทยเราไอเดียบรรเจิด บังคับต้องได้ดูครบหมด 64 แมตช์ จึงต้องแลกกันด้วยความปั่นป่วนที่เกิดขึ้น,กลับมาที่ความพยายามของ กกท. ที่จะเป็นแม่งาน วางแนวทางใช้เงินรัฐ เข้ามาผลักดันให้มีการถ่ายทอดสด แม้จะอ้างว่า เงินรัฐที่จะเอามานี้ ไม่เกี่ยวกับภาษีของประชาชน,แต่เมื่อเป็นเงินรัฐ พูดภาษาบ้านๆก็เงินหลวง ต้องใช้จ่ายเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนสูงสุด และเป็นตามระเบียบที่กำหนดไว้ให้ใช้ได้ ซึ่งคงต้องมาดูกันว่า เงินที่ผู้ว่าการ กกท. สกล วรรณพงษ์ ประกาศว่าภาครัฐจะออกราวๆ 500 ล้านบาทนั้น มาจากส่วนไหน มีกฎหมายรองรับไว้หรือไม่,และคงต้องมาตีความว่า การที่คนไทยจะ ได้ดูหรือไม่ได้ดูบอลโลก มีประโยชน์ เสียประโยชน์ มีผลต่อประเทศชาติ ประชาชนคนไทยขนาดไหน และเป็นเหตุเป็นผลกันหรือไม่,ยิ่งยุคนี้ มีความเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ชาวนา ชาวสวนยาง หรือกลุ่มอาชีพมากมายที่ต้องดิ้นรน ร้องขอความช่วยเหลือแก่รัฐบาลมากมาย,การเอาเงินรัฐลงขันเพื่อให้คนไทยได้ดูฟุตบอลโลกผ่านฟรีทีวี เป็นเรื่องที่สมควรกระทำ สมควรจะยกย่องสนับสนุนแน่หรือ,และนี่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกจุดรึเปล่า,อีกทั้งหากจะเทียบเคียงราคา ค่าลิขสิทธิ์ที่มีการออกข่าวเป็นตัวตั้งจากทางผู้ว่าการ กกท.นั้น คือ 1,300 ล้านบาท คงต้องย้อนหลังไปร่วม 2 ปี ราคาที่เปิดออกมา ณ เวลานั้น อยู่ราวๆ 32-33 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจะรวมทั้งฟุตบอลคอนเฟเดอเรชั่นส์คัพ, ฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก ยู-17 (ชาย, หญิง), ยู-20 (ชาย,หญิง) และฟุตบอลชายหาด ทั้งรวมลิขสิทธิ์บรอดแบรนด์ อันครอบคลุมถึงอินเตอร์เน็ต และมือถือไว้ในแพ็กเกจเดียวกัน,แต่ ณ วันนี้ เกมอื่นๆผ่านไปหมดแล้ว เหลือแต่ฟุตบอลโลกรัสเซีย หาก กกท. ยังจะซื้ออยู่ที่ตัวเลขนี้ คงต้องเกิดความสงสัยไม่น้อย,และยิ่งหากตัดอินเตอร์เน็ตกับมือถือ ซึ่งภาครัฐไม่ได้ทำธุรกิจ,ราคาคงต้องลดฮวบลงไปอีก,การได้ดูฟุตบอลโลกหรือไม่ เป็นหน้าที่ เป็นงานของ กกท.หรือ,ตัวเลขที่ประกาศออกมาเอาซะเต็มเพดานเมื่อ 2 ปีก่อนเลยหรือ,อยากรู้เหมือนกันว่า หัวหน้ารัฐ หัวขบวนผู้กำกับดูแลเงินรัฐอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเห็นดีเห็นงาม ชื่นชมกับผลงานชิ้นโบแดงนี้หรือไม่,เบี้ยหงาย | ดูจะเป็นความมุ่งมั่น และทุ่มเทกับความพยายามให้มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ของการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะตัวท่านผู้ว่าการ สกล วรรณพงษ์ ที่มีปฏิกิริยาเป็นพิเศษ จากโอกาสที่คนไทยอาจจะไม่ได้ดู | null | ฟุตบอลโลก,ถ่ายทอดสด,ฟรีทีวี,เบี้ยหงาย | https://www.thairath.co.th/sport/others/1160933 |
สมาคมสถาปนิกสยาม จัดสัมมนาใหญ่ครบรอบ 80 ปี | สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ หนึ่งในสมาคมวิชาชีพออกแบบสถาปัตยกรรม ในฐานะประชาชนรู้จักกันดีคือการจัดงานสถาปนิกประจำปี หรืองาน อาษา มีการสัมมนาเกี่ยวกับวิชาชีพโดยบุคคลสำคัญทั้งในและนอกวงการสถาปัตยกรรม ทั้งจากภายในและต่างประเทศ และสิ่งที่ได้รับความสนใจที่สุดคือ งานแสดงวัสดุก่อสร้าง โดยบริษัทผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างชั้นนำของประเทศมารวมตัวกัน,ในปีนี้ทางสมาคมฯเตรียมเปิดเวทีสัมมนาใหญ่ ASA Real Estate Forum 2018 ภายใต้แนวคิด ปรับบ้าน ปรุงเมือง : Redefined Habitat เสริมแกร่งผู้ประกอบการ ยกระดับสถาปนิกไทยสู่สากล ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ โดยร่วมกับบริษัท อัลติเมท พร๊อพเพอร์ตี้ คอร์เปอเรชั่น จำกัด เพื่อเสริมแกร่งผู้ประกอบการ ยกระดับสถาปนิกไทยสู่สากล ครั้งแรกในรอบ 80 ปีของการก่อตั้งสมาคมฯ กับการมอบรางวัลโครงการอสังหาฯ ดีเด่นแห่งปี 2018,นายอัชชพล ดุสิตนานนท์ นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า นโยบายของสมาคม ทำหน้าที่สื่อสารเพื่อให้สังคมได้มีความเข้าใจในศักยภาพด้านต่างๆของสถาปนิก เนื่องจากอุปสรรคหนึ่งของสถาปนิกคือผู้ประกอบการที่ขาดความรู้ความเข้าใจในการใช้สถาปนิกอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล บทบาทสำคัญของสมาคมคือการพัฒนาสถาปนิกให้มีองค์ความรู้อย่างครบถ้วนในทุกมิติทั้งตามหลักวิชาการ และตามหลักจรรยาบรรณในวิชาชีพที่จะต้องมีบทบาทและหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชน และมีความรับผิดชอบต่อสังคมและเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง,สำหรับการจัดสัมมนาที่จะมีขึ้นนี้ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่สถาปนิกเพื่อให้เป็น Hybrid Architect หรือ สถาปนิกคิดรอบ ประกอบกับปัจจุบันเราเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ทำให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน และแรงงานฝีมืออย่างเสรีในประเทศสมาชิกฯ สถาปนิกเป็น 1 ใน 7 อาชีพแรกที่มีข้อตกลง,ยอมรับร่วมกัน (Mutual Recognition Arrangements : MRAs) ให้สามารถเคลื่อนย้ายไปทำงานได้อย่างเสรี วันนี้จึงต้องพัฒนายกระดับมาตรฐานวิชาชีพทางหนึ่ง และเพื่อแข่งขันกับสถาปนิกต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามาพร้อมนักลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย นอกจากนั้นแนวคิดในการเพิ่มศักยภาพให้สถาปนิกอย่างรอบด้านนี้เป็นการเพิ่มโอกาสทางวิชาชีพที่เราสามารถเดินทางไปทำงานในประเทศอื่นๆได้เช่นกัน,ด้าน นายณคุณ กำนลมาศ กรรมการกลาง สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานการจัดงาน ASA Real Estate Forum 2018 และ ASA Real Estate Awards 2018 กล่าวว่า สมาคมสถาปนิกสยามฯ ร่วมกับบริษัท อัลติเมท พร๊อพเพอร์ตี้ คอร์เปอเรชั่น จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดและบูรณาการทางวิชาการจากผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เป็นเวทีเสวนาระดับประเทศ สำหรับภาคการศึกษา อุตสาหกรรม นโยบาย และภาคสังคม ในการรับฟังและร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นสู่แนวทางการพัฒนาวงการอสังหาริมทรัพย์ และวงการวิชาชีพธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนทั่วไปและบุคลากรในวิชาชีพที่เกี่ยวข้องได้เข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์และนำไปพัฒนาต่อยอดในอนาคต,โดยภายในงาน มีการสัมมนาในหัวข้อต่างๆ ได้แก่ การสัมมนาในหัวข้อ ทิศทางที่ประเทศไทยจะเดินไปจากความสำเร็จของโครงการเมกะโปรเจกต์ เพื่อเป็นการชี้นำทิศทางการลงทุนให้กับนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ ให้เห็นถึงโอกาสในการลงทุน และนำไปพัฒนาต่อยอดทางธุรกิจได้, หัวข้อ ทิศทางตลาดทุนด้านอสังหาริมทรัพย์โดยกูรูชั้นนำ, หัวข้อ การลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์โดยตรงจากนักลงทุนข้ามชาติและกองทุน โดยนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และนักการเงินผู้มีประสบการณ์, นวัตกรรม Smart City/BIM/ Universal Design, Update The New Trend of Green Building,ซึ่งการสัมมนาทั้งหมดนี้จัดขึ้นตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ 09.30-18.00 น. เพื่อเปิดโอกาสให้สถาปนิก และคนในวงการวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนทั่วไป เข้าร่วมสัมมนาในหัวข้อที่ตนเองสนใจ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น และในช่วงค่ำทางสมาคมฯได้จัดงาน Dinner Talk Awards ในหัวข้อ ปรับบ้าน ปรุงเมือง Redefined Habitat ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนและแบบบูรณาการความคิดในรูปแบบการเสวนาโดยกูรูชั้นนำผู้คร่ำหวอดในวงการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์,นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการแสดงโครงการพัฒนาอสังหา– ริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยในรูปแบบ,ดิจิทัลที่นำเสนอโดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี ในหัวข้อ ก้าวต่อไปของประเทศไทย และไฮไลต์สำคัญอีกประการหนึ่งคือภายในงานจะมีการมอบรางวัล ASA Real Estate Awards 2018 หรือรางวัลอสังหาริมทรัพย์ดีเด่น และ,รางวัลผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ดีเด่นประจำปี ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 80 ปี ของการก่อตั้งสมาคมฯ เพื่อเป็นเวทีที่ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ด้านที่อยู่อาศัยให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้บริโภคในโครงการในมิติต่างๆมากยิ่งขึ้น โดยรางวัลดังกล่าวจะผ่านการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงต่างๆ อาทิ สถาปนิก วิศวกร และอสังหาริมทรัพย์,ถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ และมีคุณค่า ที่จะช่วยยกระดับโครงการอสังหาริมทรัพย์เมืองไทยให้ได้มาตรฐานเทียบเท่าสากล,วานิชหนุ่ม,[email protected], | ที่ผ่านมามีบทบาทอย่างมากในการพัฒนาวงการวิชาชีพสถาปัตยกรรม ทั้งด้านวิชาชีพและวิชาการบทบาทของสมาคมดังกล่าว | null | สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์,สมาคมสถาปนิกสยาม,สัมมนา,ตลาดนัดหัวเขียว,วานิชหนุ่ม | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1169657 |
พนักงานการท่าเรือฯ บุกร้อง ปอท. เอาผิด ดีเอสไอ กล่าวหาโกงโอที | เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 ส.ค.60 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความ พร้อมพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย ร่วม 80 ราย เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.หญิง วลัญชรัชฎ์ คำแก่น รอง สว. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.อ.พินิจ ตั้งสกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งแถลงข่าวว่า พนักงานการท่าเรือฯ โกงค่าล่วงเวลา (โอที) เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์,นายกฤษฎา เปิดเผยว่า วันนี้มีพนักงานการท่าเรือฯ ที่เกษียณอายุและยังทำงานอยู่ เดินทางมาเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชน เพราะถูกกล่าวหาทุจริตค่าล่วงเวลา ซึ่งพนักงานการท่าเรือฯ เคยได้นำหลักฐานไปฟ้องค่าล่วงเวลาศาลแรงงานกลาง เนื่องจากการท่าเรือฯ ทำผิดกฎหมาย โดยจ่ายค่าแรงล่วงเวลาแบบเหมาจ่าย ซึ่งที่จริงแล้วตาม พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2543 ต้องเปลี่ยนค่าจ่ายล่วงเวลาเป็นรายชั่วโมง,นายกฤษฎา เปิดเผยว่า พนักงานการท่าเรือฯ ที่เสียหาย ได้ไปฟ้องศาลแรงงานกลาง ให้การท่าเรือฯ จ่ายเงินตามกฎหมายฉบับใหม่ ซึ่งเมื่อปี 56-57 ศาลแรงงานกลางได้ให้การท่าเรือฯ จ่ายเงินประมาณ 300 ล้านบาท แก่พนักงานการท่าเรือราว 300 คนเพราะเชื่อว่ามีการทำงานจริง ทำให้พนักงานรายอื่นจึงฟ้องร้อง เพราะต้องการได้เงินที่ทำงานแลกมาอย่างลำบาก จากนั้นการท่าเรือฯ กลับไปยื่นฟ้องต่อดีเอสไอ จนมีการแถลงข่าวโดยนายพินิจ เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ว่า พนักงานการท่าเรือฯ ทำหลักฐานเท็จโกงเงินรัฐหลายล้านบาท จนกระทั่งส่งเรื่องไปคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงถือว่าทางนายพินิจทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ข้อหานำเข้าข้อความเท็จสู่ระบคอมพิวเตอร์,ขณะนี้ยังมีสำนวนยื่นฟ้องอยู่ที่ศาลแรงงานกลางของพนักงานการท่าเรือฯ อีกบางส่วน ซึ่งเป็นเอกสาร 420,000 หน้า นอกจากนี้ การท่าเรือฯ ยังจ้างที่ปรึกษาทนายความ วงเงิน 20 ล้านบาท เพื่อมาต่อสู้กับพนักงานการท่าเรือฯ ซึ่งดูแล้วนำงบประมาณมาใช้ไม่สมเหตุสมผล นายกฤษฎา กล่าว,ด้าน นายระวัง อินทร์กล่อม อดีตพนักงานการท่าเรือฯ กล่าวว่า ตนต่อสู้คดีกับพวกอีก 23 คน มาตั้งแต่ปี 2547 ยื่นเรื่องกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนชนะคดี ได้เงินชดเชยเมื่อปี 53 ต่อมาพนักงานคนอื่นจึงฟ้องร้องตาม เพื่อขอความเป็นธรรมตามอีก 70 กว่าราย ทำให้นายกัมปนาท อิ่มแสงจันทร์ พนักงานการท่าเรือฯ ระดับสูง มายื่นเรื่องที่ดีเอสไอ เมื่อปี 56 และทางดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษพร้อมมีการแถลงข่าว ตนมองว่าเป็นการส่งหลักฐานเพียงฝั่งเดียว โดยที่ดีเอสไอไม่ได้มาตรวจสอบข้อมูลกับพนักงานที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ทำให้พนักงานการท่าเรือฯ ถูกมองแง่ร้าย และได้รับความเสียหาย อีกทั้งพนักงานที่ไปฟ้องศาลบางส่วนถูกบีบบังคับ ทำให้เกิดความกลัวและถอนฟ้อง เนื่องจากระแวงว่าจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย. | พนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย ร่วม 80 ราย ร้อง ปอท. ฟ้องเอาผิดเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ นำเข้าข้อมูลเท็จ ตามกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีแถลงข่าวใส่ร้ายโกงค่าล่วงเวลา | ข่าว,อาชญากรรม | การท่าเรือแห่งประเทศไทย,โกงโอที,โกงค่าล่วงเวลา,ดีเอสไอ,ปอท.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1054840 |
ลอดรูแคบ ปากลากเครื่องดำน้ำ มนุษย์กบ ฝ่าอันตรายถ้ำหลวง เผยแผนช่วยทีมหมูป่า | ยังคงค้นหากันต่อไป สำหรับโค้ชและนักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมี 13 ชีวิต ที่สูญหายเข้าไปในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย,หลังจากที่ ผบ.รบพิเศษ 1 ส่ง 18 มนุษย์กบ พร้อมหน่วยสนับสนุน ลงสำรวจถ้ำหาช่องทางระบายน้ำ หาช่องทะลวงโคลนมุดหาเด็กนักฟุตบอลใน,ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน, เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 25 มิ.ย. นั้น คาดว่า วันนี้จะมีการส่งหน่วยซีลอีก 14 นายไปสนับสนุนชุดเก่าที่มีอยู่ 18 นาย รวมทั้งสิ้น 32 นาย,ทัศนวิสัยแย่ น้ำขุ่น ลอดรูกว้างพอดีตัว ยาวนับร้อยเมตร อุปสรรคช่วยเด็ก,หนึ่งในทีมของหน่วยซีลที่รับภารกิจช่วยเหลือโค้ชและเด็กทีมหมูป่าอะคาเดมี เปิดเผยข้อมูลกับ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, ว่า อุปสรรคของการทำงานในครั้งนี้ก็คือ ทัศนวิสัยค่อนข้างแย่ มองเห็นในระยะสายตาแค่คืบหนึ่งเท่านั้น,ส่วนช่องที่ต้องดำน้ำเข้าไป กว้างแค่พอดีตัว ขณะที่มีระยะทางยาวเป็นร้อยเมตร จึงเป็นความเสี่ยงสำคัญที่นักดำน้ำ ทีมกู้ภัย ไม่กล้าที่จะเข้าไป เนื่องจากไม่สามารถนำอุปกรณ์ดำน้ำติดตัวเข้าไปได้,นอกจากนี้ คนที่สำรวจถ้ำไม่ได้เข้าไปด้วย และการสื่อสารก็ทำไม่ได้ เพราะน้ำเต็มถ้ำ ทำให้ทีมงานต้องเอาโจทย์ที่เจอออกมาถามด้านนอก และแจ้งส่งต่อกันเป็นระยะๆ,เคสนี้ความยาก คือ เราไม่รู้เส้นทาง หากคนของเราเคยสำรวจถ้ำในเวลาปกติก็คงไม่ยากหรอกครับ แต่ปัญหาคือเหมือนเราดำน้ำและไปหาเส้นทางด้วยโดยที่ไม่มีความเชี่ยวชาญเส้นทาง บางครั้งที่เราเข้ารูไปผิดรูเป็นร้อยเมตรก็ต้องออกมาไปอีกรูหนึ่ง,เมื่อวานเหลืออีกแค่ 100 เมตรสุดท้ายที่ต้องลอดรูเข้าไปก็จะถึงในจุดหาดพัทยาที่คาดว่ากลุ่มเด็กจะอยู่ตรงนั้น แต่ก่อนจะลอดรูเข้าไปในจุดนั้น มีอีกประมาณ 3-4 รู ที่ไม่รู้ว่ารูไหนที่จะเป็นรูที่แท้จริง ทุกอย่างใช้ความรู้สึกในการคลำหารู ความเป็นจริงไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะน้ำขุ่นมาก ถ้าใช่ก็ไปต่อ ถ้าไม่ใช่ก็ต้องกลับออกมา, หนึ่งในทีมมนุษย์กบ เล่าความยากในการทำงาน,ถอดถังออกซิเจนออก ใช้ปากลากอุปกรณ์ดำน้ำ ลอดรูแคบฝ่าความกลัว,หนึ่งในหน่วยซีล ยังเล่าด้วยว่า จะแบ่งการทำงาน โดยจะดำน้ำ 6 คน ถังออกซิเจนอยู่ได้ประมาณ 1 ชม. ก็ต้องกลับมาพัก โดยต้องเผื่อไว้ด้วยว่าไปลึกแค่ไหนต้องกลับมาให้ถึงด้วย จากนั้นจะส่งอีกชุดเข้าไป,และในวันนี้จะมีการส่งซีลเข้าไปเพิ่มอีก 14 คน และต่อระยะเข้าไปเมื่อวานจำกัดด้วยน้ำขึ้นสูง ถังไม่พอใช้ต่อ เมื่อวานมีแค่ส่วนทำงานแต่ไม่มีส่วนสนับสนุนที่ต้องผลัดกำลังกัน ส่งของไปเพิ่ม ซึ่งก็ต้องดำน้ำเข้าไปเช่นกัน, หนึ่งในทีมมนุษย์กบ เล่า,ฝึกเฉียดตาย ภายใต้ความกดดัน จนไร้ความกลัว,ถามว่า ทำไมต้องใช้หน่วยซีลในการช่วยเหลือในครั้งนี้ แหล่งข่าว ตอบว่า หากพูดถึงเรื่องการฝึกนั้น หน่วยซีลถูกฝึกมาหนักกว่านี้ มีความเชื่อว่า ต่อให้ไม่มีอุปกรณ์ดำน้ำจะต้องอยู่ได้ภายใน 3 นาที และมีการฝึกภายใต้ความกดดัน เค้นสุดฤทธิ์ ต้องกลั้นหายใจจนเฉียดตาย สามารถกดความกลัวและคุมสติได้,ขณะที่ เจ้าหน้าที่คนอื่นที่ไม่เคยถูกฝึกมาก่อน ไม่สามารถดำน้ำเข้าไปได้ ไม่สามารถกดความกลัวตายได้ เพราะว่าเสี่ยงมาก โดยต้องถอดอุปกรณ์ดำน้ำเพื่อไถไปตามรูมืดๆ ถ้าเป็นคนกลัวที่แคบไม่มีทางทำได้ ต้องเป็นคนที่มีความสามารถเพียงพอ มั่นใจในอุปกรณ์ ไม่กลัวความมืด หรือที่แคบ เพราะว่า เราถูกฝึกให้มีความชำนาญเรื่องการดำน้ำ ขีดความสามารถคน และทดสอบจิตใจในหลายๆ ขั้น จนมีความมั่นใจว่า ตัวเปล่าไร้ถังอากาศ อยู่ได้กี่นาที ต้องตัดสินใจได้ และอยู่ในภาวะที่ไร้ความกลัว,เผยแผนการต่อไป หากเจอกลุ่มเด็ก?,กลุ่มเด็กๆ สามารถตะโกนร้องขอความช่วยเหลือออกมาข้างนอกได้หรือไม่นั้น หนึ่งในทีมซีล เผยว่า ในกรณีที่มีน้ำท่วมปิดจนหมด เสียงก็จะก้องอยู่ภายในถ้ำในโซนที่ตัวเองอยู่ เสียงไม่สามารถทะลุผ่านน้ำได้ แต่เมื่อวานทางทีมก็มั่นใจว่า หากถังออกซิเจนไม่หมดก่อนน่าจะเข้าไปถึงจุดที่คาดว่าเด็กจะอยู่ได้,ส่วนแผนการหลังจากเจอกลุ่มเด็ก จะนำอาหารที่แพ็กใส่ถุงกันน้ำไปให้เด็กๆ และปฐมพยาบาลก่อนเป็นอันดับแรก หากจำเป็นอาจจะต้องให้หมอที่สามารถดำน้ำลึกได้เข้าไปช่วยเหลือด้านใน แต่เบื้องต้นจะให้กลุ่มเด็กสามารถดำรงชีพในถ้ำได้ก่อน โดยจะส่งคนไปอยู่เป็นเพื่อนด้วย เพื่อรอน้ำลด 3-4 วัน ถึงจะพาออกมาอย่างปลอดภัย, มนุษย์กบผู้มากประสบการณ์ กล่าว,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน | หนึ่งในทีมของหน่วยซีลที่ได้รับภารกิจช่วยเหลือโค้ชและนักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมี 13 คนที่หายตัวไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เปิดเผยข้อมูลอุปสรรค วิธีการช่วยเหลือ และแผนการหลังจากพบเจอเด็ก | สกู๊ปไทยรัฐ | ถ้ำหลวง,ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน,หายตัวในถ้ำ,มนุษย์กบ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/scoop/1318231 |
เอพีมั่นใจอสังหาฯ ปี 61 โตตาม ศก. จับมือมิตซูบิชิ เอสเตทฯ เปิด 4 คอนโด | นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ เอพี ผู้ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า เอพียกระดับความร่วมมือทางธุรกิจที่แข็งแกร่งกับมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป หรือ MECG ยิ่งขึ้นเป็นปีที่ 5 ต้นปี 2561 เอพีและมิตซูบิชิ เอสเตทฯ มีแผนที่จะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับกลาง-บนอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงต้นปี มีการลงนามสัญญาความร่วมมือพัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกัน 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 23,000 ล้านบาท โดย LIFE สุขุมวิท 62 จะเป็นโครงการแรกที่พร้อมเปิดในเดือนมีนาคม ผ่านระบบ AP i-Booking และโครงการอื่นๆ จะทยอยเปิดตัวตามแผนงานที่กำหนดไว้ ณ ปัจจุบันรวมมูลค่าโครงการร่วมทุน 5 ปี สูงถึง 74,430 ล้านบาท,ทั้งนี้ เอพีและมิตซูบิชิ เอสเตทฯ ถือเป็นพันธมิตรธุรกิจรายเดียวที่มีโมเดลร่วมทุนแบบการจัดตั้งบริษัทแม่ในไทย ภายใต้ชื่อ บริษัท พรีเมียม เรสซิเดนท์ จำกัด เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการโครงการภายใต้การร่วมทุน ซึ่งในปีนี้มิตซูบิชิ เอสเตทฯ ได้ส่งทีมงานจากญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมานั่งทำงานประจำร่วมกับทีมงานเอพีเพิ่มมากขึ้น เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการอนุมัติ และดำเนินการต่างๆ แผนการร่วมทุนกับกลุ่มมิตซูบิชิ เอสเตทฯ ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจแบบก้าวกระโดด ปีที่ผ่านมา เอพีพัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมทุนในสเกลใหญ่ขึ้น ทั้ง LIFE วิทยุ LIFE ลาดพร้าว และ LIFE อโศก-พระราม 9 ซึ่งทั้ง 3 โครงการส่งผลให้ยอดขายในส่วนคอนโดมิเนียมโตขึ้นมากถึง 180% หากเทียบกับปีก่อนหน้า,นายอนุพงษ์ กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในปี 2561 ว่า มีแนวโน้มเติบโตขึ้นตามการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจประเทศที่น่าจะเติบโตถึง 3.8–4% กิจกรรมการตลาดและบรรยากาศตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ต่อเนื่องจนถึงต้นปีนี้ การแข่งขันในตลาดอสังหาฯ ยังคงเกิดจากผู้ประกอบการรายใหญ่ประมาณ 10 ราย ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ถือครองส่วนแบ่งอยู่ประมาณ 80% ดังนั้น ผู้ประกอบการที่หวังโตต่อต้องปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงเร็วและแบ่งย่อยเป็นกลุ่มที่ซับซ้อน และต้องบาลานซ์พอร์ตสินค้าคอนโดมิเนียมและแนวราบให้สมดุล โดยเชื่อว่าสินค้าคอนโดมิเนียมที่ตอบตลาดระดับกลางถึงบนมีแนวโน้มเติบโตได้ดี เพราะมีซัพพลายในตลาดไม่มาก และสต๊อกส่วนใหญ่ถูกระบายออกไปในปีที่ผ่านมา ขณะที่สินค้าแนวราบยังโตได้ต่อเนื่องจากกำลังซื้อเรียลดีมานด์. | ผู้บริหารเอพีมั่นใจศักยภาพไทยปี 61 แข็งแกร่ง ผนึกกำลังมิตซูบิชิ เอสเตทฯ เดินหน้าลงทุนต่อเนื่องใน 4 คอนโดใหม่ ชี้ธุรกิจอสังหาฯ แข่งขันกันในหมู่ 10 รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์
| ข่าว,เศรษฐกิจ | อสังหาฯ,บ้าน,คอนโด,เอพี,อนุพงษ์ อัศวโภคิน | https://www.thairath.co.th/news/business/realestate/1172752 |
ผบ.ทบ.ถามผิดตรงไหน ปมใช้งบฯ กว่า 15 ล้าน สร้างห้องน้ำในอุทยานราชภักดิ์ | พล.อ.เฉลิมชัย ถามผิดตรงไหนเรื่อง ใช้งบฯ กว่า 15 ล้าน สร้างห้องน้ำกับร้านค้า ในอุทยานราชภักดิ์ โฆษก ทบ.ระบุเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนและนักท่องเที่ยว19 ต.ค. 2560 จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์การใช้งบประมาณกว่า 15 ล้านบาท ในการก่อสร้างห้องน้ำภายในอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งกองทัพบก โดยศูนย์การทหารราบเป็นผู้ดูแลนั้นพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ระบุสั้นๆ ภายหลัง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้กองทัพบกชี้แจงความโปร่งใสในการสร้างร้านค้าและห้องน้ำ ที่อุทยานราชภักดิ์ ว่า ถามว่าผิดตรงไหน เรื่องการสร้างห้องน้ำกับร้านค้า ซึ่งตนจะให้ชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดในการดำเนินการขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า ปัจจุบันอุทยานราชภักดิ์ ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งสำคัญของ อ.หัวหิน มีพี่น้องประชาชนมาเยี่ยมชม และสักการะพระราชานุสาวรีย์บูรพมหากษัตริย์ เป็นจำนวนมาก บางวันมีมากถึงหมื่นคน ที่ผ่านมายังไม่มีระบบร้านค้าและห้องน้ำ ไว้บริการผู้มาเยี่ยมชมภายในบริเวณพื้นที่อุทยานฯ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา มูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ จึงให้มีดำเนินการก่อสร้างอาคารร้านค้า เเละห้องน้ำ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนและนักท่องเที่ยวรูปแบบการก่อสร้างมีลักษณะรูปลักษณ์ที่เหมาะสม สอดรับตามภูมิสถาปัตยกรรม ภายในอาคารจะประกอบด้วย ร้านค้า 5 ห้อง และห้องน้ำ จำนวน 52 ห้อง แบ่งเป็นห้องน้ำชาย 21 ห้อง ห้องน้ำหญิง 27 ห้อง และห้องน้ำคนพิการ 4 ห้อง ด้วยงบประมาณของมูลนิธิฯ ประมาณ 15 ล้านบาท ความคืบหน้าปัจจุบัน ก่อสร้างไปแล้วประมาณ 80% คาดว่า จะแล้วเสร็จสามารถให้บริการได้ราวเดือนกุมภาพันธ์ 2561 พ.อ.วินธัย กล่าวรายงานข่าวระบุด้วยว่า เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2559 กองทัพบก โดยศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ ได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนให้ดำเนินการก่อสร้างอาคารร้านค้าและห้องน้ำจำนวน 5 รายการ วงเงินงบประมาณ 15950000 บาท จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการใช้งบประมาณแพงเกินไปที่มา : และ | พล.อ.เฉลิมชัย ถามผิดตรงไหนเรื่อง ใช้งบฯ กว่า 15 ล้าน สร้างห้องน้ำกับร้านค้า ในอุทยานราชภักดิ์ โฆษก ทบ.ระบุเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนและนักท่องเที่ยว 19 ต.ค. | การเมือง,วัฒนธรรม | กองทัพบก,วินธัย สุวารี,ห้องน้ำ,อุทยานราชภักดิ์,เฉลิมชัย สิทธิสาท | https://prachatai.com/journal/2017/10/73761 |
ไม่สนิทก็ติดว้าว ส่องอาการก่อนเกียร์กระจายลาตายกลับโรงงาน | เกียร์อัตโนมัติในรถของคุณ เมื่อผ่านการใช้งานมาสักระยะ ไม่ว่าจะใช้หนัก ใช้โหด โคตรลุย หรือจอดแช่ จอดยาว ไม่ค่อยได้วิ่งได้ขับ หากดูแลรักษาหรือใช้งานอย่างถูกวิธี คอยดูแลเอาใจใส่ยิ่งกว่าภรรยาที่บ้าน เฝ้าระมัดระวังขับแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่กระโชกโฮกฮาก เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามระยะ เกียร์ออโตก็จะอยู่รับใช้ไปนานแสนนาน จนบางทีเครื่องพังไปแล้วแต่เกียร์ก็ยังไม่ยอมพังตาม,เมื่อผ่านการใช้งานที่ผิดๆ มานาน เกียร์อัตโนมัติในรถของคุณอาจเกิดอาการแทรกซ้อนคล้ายคนป่วย บางครั้งยัดเกียร์ D เพื่อขับเคลื่อน แต่เกียร์กลับไม่ทำงานขึ้นมาดื้อๆ หรือทำก็ช้าเกินแบบผิดปกติ ตามมาด้วยการเสียเงินซ่อมหรือเปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่ที่แพงจนต้องไปกู้หนี้ยืมสินชาวบ้านชาวช่อง เดือดร้อนกระเป๋าแหกกันไป,เรื่องของเกียร์อัตโนมัติที่เริ่มเสื่อมสภาพนั้น มักมีสัญญาณเตือนภัยแสดงออกมาให้เห็นก่อนที่เกียร์จะลาจาก อาการต่างๆ ที่ปรากฏขณะขับใช้งาน ไม่ว่าจะยัดเกียร์ D แล้วรถไม่เคลื่อนที่ หรือเกียร์เปลี่ยนในลักษณะกระตุกกระชากจนกิ๊กที่นั่งไปด้วยถึงกับตกอกตกใจ ใส่เกียร์ถอยแต่รถดันไม่ถอยเล่นเอาหน้าแหกหมอไม่รับเย็บ,หากคุณเป็นคนจำพวกรักรถประดุจลูกน้อย ใช้รถแบบถนอม รู้จักเอาใจใส่ หมั่นดูแลรถยนต์ของตนเองโดยเฉพาะการดูแลใช้งานระบบส่งกำลังให้ถูกต้อง อายุการใช้งานของเกียร์ลูกนั้นก็จะอยู่กับคุณไปนานแสนนาน แต่ถึงจะดูแลอย่างไร อาการสึกหรอจากการใช้งานก็เกิดขึ้นอยู่ดี เร็วบ้าง ช้าบ้าง ขึ้นอยู่กับการขับการดูแลว่าถูกต้องถึงที่หรือเปล่า อาการต่างๆ ที่บ่งบอกว่าเกียร์ออโตในรถคุณกำลังจะพังนั้น มาในสองรูปแบบ ทั้งจากการมองเห็นและสัมผัสได้จากความรู้สึกก็คือ,1- น้ำมันเกียร์รั่วไหลนองพื้น,2- ใส่เกียร์ D เดินหน้า หรือเกียร์ R ถอยหลัง แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือต้องรอนานกว่าปกติ,เกียร์อัตโนมัติมีความทนทานเป็นรองเกียร์ธรรมดา เนื่องจากมีชิ้นส่วนมากกว่าแถมยังมีความสลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่าหลายเท่า อาการก่อนการลาจากของเกียร์ออโตก็มีหลากหลายให้ได้สัมผัส เช่น,- อาการกระตุกกระชากเวลาเกียร์เปลี่ยน,- การตอบสนองต่อการทดกำลังเชื่องช้าอืดอาดไม่ทันใจ หรือไม่ได้อย่างใจเหมือนตอนใหม่ๆ,-จู่ๆ เกียร์ก็ไม่เปลี่ยนเอาดื้อๆ หรือแม้แต่จะขับถอยหลัง พอยัดเกียร์ R รถก็ยังนิ่งสนิทไม่ขยับ นี่คือสัญญาณที่ส่งจากเกียร์ของคุณว่ามันกำลังจะพังนะจ๊ะ,- อาการเริ่มแรกส่วนมากจะเกิดกับเกียร์ถอย เมื่อเครื่องยนต์เย็น พอสตาร์ตตอนเช้าแล้วเข้าเกียร์ถอยหลังจะไม่นิ่มนวล เกียร์กระตุกกึก ก่อนจะไหลถอยหลัง แต่พอเครื่องร้อนอาการต่างๆ ที่บอกมาจะดีขึ้น,- หลังจากเกิดอาการยัดเกียร์ถอยแล้วรถไม่ถอย หรือต้องรอนาน คุณก็ยังคงใจเย็นทนใช้รถต่อไปเพราะงานยุ่ง ไม่มีเวลาเอาไปตรวจเช็ก หรืออยู่ในช่วงที่เงินกำลังขาดมือ พอทนใช้ไปสักระยะ เกียร์ก็จะมีอาการนี้ตามมา ช่วงจังหวะในการเปลี่ยนเกียร์จะมีอาการลื่นของผ้าคลัทช์ในช่วงจังหวะของการเปลี่ยนเกียร์ อาการขณะเกียร์เปลี่ยนจะไม่นิ่มนวลเหมือนเดิม มีกระตุกกระชากให้เห็นตลอดเวลา,- เข้าเกียร์ D แล้วรถไม่ยอมวิ่ง กดคันเร่งก็ยังทำเป็นเฉย ต้องรอจนเครื่องร้อน หรือบางทีต้องเลื่อนคันเกียร์เพื่อออกตัวในเกียร์ 2 วิ่งไปสักพักก็เปลี่ยนกลับมาที่ตำแหน่ง D ได้,- อาการต่อมาเวลาเข้าเกียร์ถอยหลัง จากที่เกิดการกระชากในตอนแรก ตอนนี้จะมีอาการเกียร์ถอยหลังไม่เข้าคือรถไม่ถอยหลังในตอนเครื่องเย็น พอ warm เครื่องจนร้อน เกียร์ถอยหลังถึงจะเริ่มทำงานตามปกติ,- ขับอยู่ดีๆ (อันนี้ชอบพูดกันมาก ว่าขับอยู่ดีๆ แท้ๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย) เวลาเหยียบคันเร่ง รอบเครื่องยนต์พุ่งกวาดขึ้น แต่ความเร็วของรถไม่ขึ้นตามรอบเครื่อง รถเร่งความเร็วได้แบบห่วยแตกราวกับหนอนชาเขียวกำลังคลาน หรือความเร็วขึ้นช้ามากๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายเมื่อมาเป็นเอาในจังหวะที่คุณต้องเร่งความเร็วเพื่อแซง,- พอลองวัดระดับน้ำมันเกียร์ดู พบว่ามันพร่องผิดปกติ น้ำมันเกียร์หายไปจากระดับที่กำหนด,- เวลาเปลี่ยนเกียร์ รถเคลื่อนตัวช้ากว่าปกติ หรือต้องรอสักพักกว่าจะไป (อาการระยะสุดท้ายก่อนเกียร์พัง) เข้าเกียร์ N ไป D เข้า N ไป R รถเคลื่อนที่ช้ามาก เวลาเข้าก็เกิดอาการเกียร์กระชาก วิ่งๆอยู่เกียร์หลุด เครื่องเย็นๆ เกียร์ไม่ค่อยเปลี่ยนคาอยู่เกียร์ 3 หรือเครื่องร้อนๆ เกียร์ก็ดื้อไม่เปลี่ยนซะงั้น,ทั้งหมดทั้งปวงคืออาการแสดงออกมาก่อนที่เกียร์ในลูกชายสุดที่รักของคุณจะพัง โชดดีหน่อยก็แค่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ พร้อมกรองเกียร์ใหม่แล้วอาการหายไป โชคร้ายหน่อยเปลี่ยนแล้วไม่หาย ก็ต้องรื้อเกียร์ออกมาซ่อมเปลี่ยนชิ้นส่วน โชคร้ายสุดๆ เกียร์พังทั้งลูกซ่อมไม่ได้ ต้องเปลี่ยนเกียร์ใหม่สถานเดียว ขอให้มีความสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ครับ.,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,[email protected],Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/ | แหวกอาการก่อนเกียร์อัตโนมัติจะพัง มีอาการอย่างไรมาดูกันนะจ๊ะ
| null | เกียร์ออโต,เกียร์อัตโนมัติ,อาการก่อนเกียร์พัง | https://www.thairath.co.th/content/841002 |
แฟชั่น ชุดราตรี มิสยูนิเวิร์ส 2018 สวยอลังการ สมเป็นสาวงามระดับโลก | อลังการดาวล้านดวงเป็นที่สุด สำหรับเหล่าสาวงาม , ทั้ง 94 ประเทศ ที่มาเดินแบบอวดโฉมโชว์ความงดงามกันบนเวทีประกวดในรอบพรีลิมฯ บอกเลยว่าชุดราตรีของแต่ละประเทศนั้น งดงาม เว่อร์วัง กินกันไม่ลงเลยทีเดียว(,ปิดฉากประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2018 อย่างสวยงาม,),โดยในรอบชุดราตรีนี้ ถือเป็นการวัดฝีมือ และการเก็บคะแนนเพื่อชิงชนะก่อนถึงรอบตัดสิน แหมดูเหมือนว่าจะไม่มีประเทศไหนยอมกันเลยนะคะ เอาล่ะงานนี้ประเทศใดจะเป็นตัวเก็ง และใกล้คว้ามงกุฎได้มากที่สุด ,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ ,ขออาสาพาสาวกแฟนคลับนางงามไปส่องความสวย งดงาม อลังการนี้เอง,เป็นอย่างไรกันบ้าง ความงดงามของเหล่าสาวงามนั้น กินกันไม่ลงเลยใช่ไหมล่ะ? ถ้าเชียร์ใครไว้ในใจก็อย่าลืมติดตามในรอบตัดสิน (Final Round) ในวันจันทร์ที่ 17 ธันวามคม 2018 นี้นะคะ แล้ว ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จะมาอัพเดตความปังในรอบตัดสินให้ทุกคนได้ชมกันอีกครั้ง ,ที่นี่ , ,อ่านข่าว(,ชาวเน็ตวิจารณ์ยับชุดราตรี นิ้ง โศภิดา วอนแบรนด์ดังพักออกแบบชุดได้แล้ว,),อ่านข่าว(,มงลง ฟิลิปปินส์ คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ,),อ่านข่าว(,รวมความสวย นิ้ง โศภิดา ทะลุ 10 คนสุดท้าย มิสยูนิเวิร์ส 2018,),อ่านข่าว(,แฟชั่น ชุดราตรี มิสยูนิเวิร์ส 2018 สวยอลังการ สมเป็นสาวงามระดับโลก,) | ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐพาชม แฟชั่น ชุดราตรี มิสยูนิเวิร์ส 2018 ในรอบพรีลิมฯ ของเหล่านางงามทั้ง 94 ประเทศ งานนี้มีแต่ความสวย ปัง งดงามอลังการสมเป็นระดับโลก | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | miss universe 2018,มิสยูนิเวิร์ส 2018,ชุดราตรี,รอบพรีลิม,แฟชั่น | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/fashion/1445075 |
สหกรณ์โคนมนครปฐม คว้าสหกรณ์ดีเด่นปี 62 มุ่งสานต่ออาชีพพระราชทาน | ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นสหกรณ์ดีเด่นระดับชาติ หลังเคยได้โล่รางวัลเมื่อปี 2554 ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าสหกรณ์มีการดำเนินงานมั่นคง และสามารถช่วยดูแลอาชีพให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในจังหวัดนครปฐมได้เป็นอย่างดี,นางสาวสังวาลย์ ทิมหอม ผู้จัดการสหกรณ์โคนมนครปฐม จำกัด กล่าวว่า สหกรณ์ดำเนินธุรกิจครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกและดูแลส่งเสริมอาชีพเกษตกรผู้เลี้ยงโคนมในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งที่สหกรณ์มีศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ โรงงานแปรรูปนม ร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องมือการเกษตรและอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับในฟาร์มโคนม มีโรงงานผลิตอาหารโคนม ซึ่งมีห้องตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหารสัตว์และวัตถุดิบ เพื่อให้อาหารโคนมได้มาตรฐานและมีคุณค่าทางโภชนาการ โดยสหกรณ์ได้ผลิตอาหารสัตว์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ อาหารผง 3 สูตร สูตรโปรตีน 16% โปรตีน 18 % และโปรตีน 21 % และอาหารเม็ด 3 สูตร ได้แก่ อาหารเม็ดสำหรับโคอายุ 6 เดือนขึ้นไป สูตรโปรตีน 14% อาหารสำหรับโคระยะให้นม สูตรโปรตีน 16% และอาหารโคระยะให้นม สูตรโปรตีน 21% โดยสหกรณ์มีแนวคิดที่จะช่วยเหลือสมาชิกลดต้นทุนอาหารสัตว์ จึงได้จัดหาแหล่งวัตถุดิบ เช่น กากถั่วเหลือง กากมอลต์ มาผลิตเป็นอาหารโคนม ทำให้สมาชิกได้ซื้อวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพดี ราคายุติธรรม ส่งผลให้น้ำนมดิบในฟาร์มมีปริมาณเพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มรายได้และลดรายจ่าย ซึ่งสหกรณ์ได้รับน้ำนมดิบที่มีคุณภาพของสมาชิกเพิ่มขึ้นปีละ 15% ส่งผลให้ธุรกิจการรวบรวมน้ำนมดิบของสหกรณ์ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และยังส่งผลช่วยสร้างงานให้คนในชุมชนมีอาชีพและมีรายได้จากการบรรจุวัตถุดิบอาหารสัตว์ด้วย,แต่ละวันสมาชิกจะรีดนมและนำมาส่งให้ที่ศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบของสหกรณ์ วันละ 2 เวลา ช่วงเช้าตั้งแต่ 06.30 – 08.20 น. และช่วงเย็นเวลา 16.30 – 18.00 น. ปริมาณน้ำนมดิบเฉลี่ยวันละ 31 ตัน สหกรณ์จะนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม ซึ่งนมพาสเจอร์ไรส์มี 5 รส ได้แก่ จืด หวาน กาแฟ โกโก้ และสตรอเบอร์รี่ ขนาดบรรจุ 200 มิลลิลิตร และ 150 มิลลิลิตร นอกจากนี้ยังมีเป็นแกลลอน 2 และ 5 ลิตร มีนมผสมวุ้นมะพร้าว 3 รสชาติ ได้แก่ หวาน กาแฟ และสตรอเบอร์รี่ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์นมสด 6 รสชาติ ได้แก่ ชาเย็น กาแฟเย็น โกโก้เย็น เมล่อน และนมสดหวานบรรจุแกลลอนขนาด 2 และ 5 ลิตร ทั้งยังมีไอศกรีมรสวานิลลาและช็อกโกแลต ซึ่งผลิตภัณฑ์นมทุกชนิดผลิตจากนมโคแท้ 100% โดยนำผลิตภัณฑ์นมวางจำหน่ายในร้านค้าสหกรณ์ 4 แห่งในจังหวัดนครปฐม ส่วนหนึ่งได้จัดส่งให้กับตัวแทนจำหน่ายที่เป็นเอกชนที่ดำเนินธุรกิจนมพาณิชย์ 4 ราย ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม กาญจนบุรี และกรุงเทพมหานครบางพื้นที่ ซึ่งอนาคตได้วางแผนพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์นมให้มีความหลากหลาย และเพิ่มช่องการทางการจำหน่ายให้เพิ่มมากขึ้น,ในปี 2561 ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ส่งเสริมองค์ความรู้ในการประกอบอาชีพการเลี้ยงโคนมให้กับสมาชิกของสหกรณ์โคนมนครปฐม จำกัด และจัดสรรงบประมาณจากโครงการไทยนิยม ยั่งยืนของรัฐบาลให้จำนวนกว่า 9 ล้านบาท เพื่อนำไปจัดซื้อเครื่องบรรจุนมถุงจำนวน 6 ตัว เครื่องฮอโมจีไนเซอร์ เครื่องพาสเจอร์ไรซ์ 1 ชุด ห้องแล็บพร้อมอุปกรณ์ตรวจคุณภาพน้ำนมดิบ และรถห้องเย็นแบบ 4 ล้อ ทำให้สหกรณ์มีความพร้อมในการรองรับปริมาณน้ำนมดิบจากสมาชิกได้เพิ่มขึ้น และช่วยพัฒนาคุณภาพน้ำนมดิบและการแปรรูปผลิตภัณฑ์นมของสหกรณ์ให้ได้มาตรฐานจนเป็นที่ยอมรับและปลอดภัยต่อผู้บริโภค, ,สำหรับหน่วยงาน สถาบันการศึกษาและสหกรณ์โคนมอื่นๆ ที่สนใจจะเข้ามาศึกษาดูงานการผลิตและแปรรูปนมพร้อมดื่มของสหกรณ์โคนมนครปฐม จำกัด สหกรณ์พร้อมรองรับ รวมถึงกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ และการเข้าเยี่ยมชมร้านจำหน่ายสินค้า,โดยสหกรณ์โคนมนครปฐม จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2514 แรกเริ่มจดทะเบียนเป็นสหกรณ์ประเภทบริการ ด้วยสมาชิกแรกตั้งจำนวน 10 คน ต่อมาในปี 2539 ได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงเป็นสหกรณ์ประเภทการเกษตร ปัจจุบันมีนายวิโรจน์ แอ่นศรี เป็นประธานสหกรณ์ฯ พร้อมคณะกรรมการ 8 ราย ร่วมบริหารภายใต้วิสัยทัศน์ ธุรกิจครบวงจร สหกรณ์มั่นคง ซื่อตรงโปร่งใส คืนกำไรสู่สังคม โดยดำเนินธุรกิจหลัก 6 ด้าน ได้แก่ ธุรกิจรวบรวมน้ำนมดิบ การแปรรูปผลิตภัณฑ์นม แปรรูปอาหารสัตว์ จัดหาสินค้ามาจำหน่าย ธุรกิจสินเชื่อ และธุรกิจส่งเสริมการเลี้ยงโคนม ซึ่งผลการดำเนินงาน 3 ปีที่ผ่านมา ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ส่งผลทำให้มีทุนการดำเนินงานและทุนสำรองที่เพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจุบันมีทุนดำเนินงาน 218,904,563.37 บาท และทุนสำรอง 67,575,496.26 บาท สมาชิก 248 คน จำนวนโคนม 8,300 ตัว ซึ่งสมาชิกจะมีรายได้จากการเลี้ยงโคนมเฉลี่ยรายละ 22,000 บาทต่อเดือน. | สหกรณ์โคนมนครปฐม ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ ปี 2562 ซึ่งได้เข้ารับพระราชทานโล่รางวัลจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ นับเป็นครั้งที่ 2 | ข่าว,ทั่วไทย | สหกรณ์โคนม,สหกรณ์โคนมนครปฐม,สหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ62,โคนม,เกษตรเลี้ยงโคนม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1566665 |
จบภารกิจอย่างงดงาม 2 นักบินอวกาศนาซา นั่งยานสเปซเอ็กซ์กลับถึงโลกแล้ว | สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า นาย ดักลาส เฮอร์เลย์ และ บ็อบ เบห์นเคน 2 นักบินอวกาศขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) นั่งแคปซูล ดราก้อน ของบริษัท สเปซเอ็กซ์ เดินทางกลับถึงโลกแล้ว ในวันอาทิตย์ที่ 2 ส.ค. 2563 หลังไปปฏิบัติภารกิจบนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) นาน 2 เดือนแคปซูลดราก้อนผ่านชั้นบรรยากาศของโลกลงมาด้วยเร็วสูงถึง 350 ไมล์ต่อชั่วโมง ก่อนใช้ร่มชูชีพ 4 ตัวลดความเร็วจนเหลือเพียง 15 ไมล์ต่อชั่วโมงเมื่อลงสู่ผิวน้ำทะเลทางตอนใต้ของเมืองเพนซาโคลา รัฐฟลอริดา ในเวลาประมาณ 14:48 น. จากนั้นแคปซูลก็ถูกนำขึ้นจากน้ำด้วยเรือเก็บกู้ ขณะที่นักบินอวกาศทั้ง 2 คนจะได้ออกจากยานแล้วรับการตรวจร่างกาย และโดยสารเฮลิคอปเตอร์กลับเข้าฝั่งเหตุการณ์นี้ถือเป็นจุดสิ้นสุดภารกิจสาธิต บริการแท็กซี่ ของบริษัท สเปซเอ็กซ์ ซึ่งใช้จรวดและยานอวกาศของตัวเองนำนักบินอวกาศสหรัฐฯ ไปส่งและกลับจากสถานีอวกาศนานาชาติ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และเป็นจุดเริ่มต้นยุคใหม่ของนาซา ที่จะใช้บริการบริษัทเอกชน อย่างสเปซเอ็กซ์ ส่งนักบินหรือเสบียงไป ISS แทนการสร้างยานอวกาศของตัวเองนาซาระบุว่า การทำสัญญากับผู้ให้บริการจรวดและยานอวกาศในภารกิจเช่นนี้ จะช่วยประหยัดงบประมาณได้หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งอาจจะถูกโยกไปใช้ในภารกิจส่งนักบินอวกาศไปยังดวงจันทร์หรือดาวอังคารแทนทั้งนี้ ผู้ให้บริการเจ้าอื่นอย่างบริษัท โบอิ้ง ก็กำลังพัฒนาแคปซูลขนส่งนักบินอวกาศเช่นกัน แต่การเปิดตัวถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากเจอปัญหาด้านซอฟต์แวร์ | 2 นักบินอวกาศนาซากลับถึงโลกแล้ว จบภารกิจสาธิตบริการ แท็กซี่ พามนุษย์ไป-กลับจากสถานีอวกาศนานาชาติของบริษัท สเปซเอ็กซ์ ซึ่งจะเป็นผู้ให้บริการจรวดกับยานอวกาศแก่นาซาในอนาคต | ข่าว,ต่างประเทศ | สเปซเอ็กซ์,สถานีอวกาศนานาชาติ,นักบินอวกาศ,นาซา,ยานอวกาศ,แคปซูลดราก้อน,กลับโลก | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1902253 |
ศึกนี้ใหญ่หลวงนัก เมื่อ LINE เปิดแนวรบแท็กซี่ต่อยอดแอพแชต | หลังจากที่ไลน์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศเปิดตัวบริการไลน์ แท็กซี่ (LINE TAXI) บริการเสริมจากแอพพลิเคชั่นแชตยอดฮิต ที่ไม่ได้แยกออกมาให้ดาวน์โหลดใช้งานเป็นแอพ แต่ผนวกรวมอยู่ในโปรแกรมแชตไลน์ เช่นเดียวกับ ไลน์เพย์ (LINE PAY) ที่เป็นบริการธุรกรรมออนไลน์ ที่ใช้เชื่อมโยงกับไลน์แชต โดยผู้ใช้งานต้องลงทะเบียนด้วยบัตรเครดิต บนไลน์เพย์ก่อน จึงมีความคล้ายคลึงกับอูเบอร์ (Uber) ที่มีการสมัครยืนยันตัวตน และใช้จีพีเอสยืนยันตำแหน่งของตัวเอง เรียกรถ และชำระเงินผ่านระบบโดยไม่ต้องควักเงินจ่าย,เว็บไซต์ ,techinasia.com, รายงานว่า ไลน์ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ บริษัทเครือข่ายแท็กซี่ใหญ่ นิฮอน โคทสึ รถแท็กซี่ญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักกันดีในเอกลักษณ์ คนขับรถสวมถุงมือสีขาว เบาะที่นั่งหุ้มผ้าซาติน ประตูเปิดอัตโนมัติ เพื่อให้ตัวเองลงจากรถสีดำ โดยนิฮอน โคทสึ ไม่ได้มีรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีย์ 7 หรือ เมอร์เซเดส เบนซ์ ซีคลาส เหมือนกับอูเบอร์ ให้บริการ และบริการ LINE TAXI ก็จำกัดอยู่แค่เฉพาะในกรุงโตเกียวและเมืองใกล้ๆ เช่น มิตทากะ หรือ มูซะชิโนะ แต่ทางบริษัทก็มีแผนจะขยายพื้นที่ให้บริการไปยังเมืองอื่นๆ ด้วยเช่นกัน,เดวิด คอร์บิน คอลัมนิสต์ของ techinasia.com กล่าวว่า การขยายการให้บริการของ นิฮอน โคทสึ จะเป็นจุดต่างที่สำคัญที่ทำให้ไลน์ สู้กับอูเบอร์ได้อย่างดี เพราะ นิฮอน โคทสึ มีจำนวนรถในกรุงโตเกียว ถึง 3,340 คัน ที่สามารถรับส่งลูกค้าที่ใช้งานไลน์แท็กซี่ได้ ขณะเดียวกัน นิฮอน โคทสึ ก็มีแท็กซี่ทั่วประเทศรวมแล้ว 23,000 คัน นั่นหมายความว่า ไลน์ มีพนักงานขับรถระดับพรีเมียม คุณภาพการให้บริการสูง แต่ไม่คล่องแคล่วในการใช้ระบบจีพีเอสนัก แต่จะมีการใช้แอพเป็นตัวรุก ขณะที่ อูเบอร์ ก็มีการทำข้อตกลงกับแท็กซี่ในท้องถิ่น ในการสร้างกองกำลังแท็กซี่เช่นกัน,สิ่งที่ไม่เหมือนอูเบอร์ คือ LINE TAXI ออกแบบมาเพื่อเป็นบริการในประเทศ เพราะตัวระบบไลน์เพย์ ต้องการเลขที่ใบขับขี่ญี่ปุ่น หรือ บัตรประกันภัย รวมทั้งบัตรเครดิตญี่ปุ่น บริการนี้จึงไม่ได้เป็นมิตรกับชาวต่างชาติมากสักเท่าไหร่,เว็บไซต์ ,Techcrunch.com, รายงานว่า ไลน์ มีสมาชิกที่ใช้งานแอ็กทีฟอยู่ขณะนี้กว่า 170 ล้านคน (จาก 500 ล้านคนที่ลงทะเบียนใช้งาน) ทั่วโลก แต่ญี่ปุ่นเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดด้วยผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านราย โดยไลน์ ประเทศญี่ปุ่นเตรียมนำเสนอ การจองรถแท็กซี่ ในสัปดาห์นี้ และก็มีแผนที่จะเปิดบริการส่งอาหารตามสั่งด้วยเช่นกัน ทั้งหมดนี้จะอยู่บนแอพพลิเคชั่นไลน์อันเดียว ตรงนี้จะมาช่วยสนับสนุนการค้าขายของทั้งแบบออนไลน์ และออฟไลน์ รวมทั้งกลุ่มที่เล่นสังคมออนไลน์เพื่อการพาณิชย์ โดยไลน์เองก็มีแผนที่จะให้บริการมิวสิกสตรีมมิ่งอยู่แล้ว ด้วยการเข้าซื้อกิจการ MixRadio ของไมโครซอฟท์ รวมทั้งเกมอีกกว่า 30 เกม ที่เป็นแอพแกนหลักที่ผูกติดกับบริการแชต,ไลน์เองก็ไม่ใช่ตัวคนเดียวที่เป็นผู้พยายามสร้างบริการที่นอกเหนือไปจากการส่งข้อความ เพราะทาง WeChat เองก็เริ่มทำแบบเดียวกันนี้ในจีนแล้วเช่นกัน โดยในสัปดาห์นี้ทาง เทนเซนต์ บริษัทแม่ก็ได้เปิดตัวบริการธนาคารออนไลน์ที่เรียกว่า WeBank ที่มีโอกาสเป็นจุดเด่นของแพลตฟอร์มวีแชต ในการส่งข้อความพร้อมกับผลักดันบริการของร้านค้าปลีกต่างๆ ช่องทางการชำระเงิน และบริการเรียกแท็กซี่ เป็นต้น. | เป็นการต่อจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญสำหรับ ไลน์ ในการผนวกบริการออนไลน์เข้ากับออฟไลน์แบบครบวงจร เมื่อแอพแชตจะสามารถทำได้สารพัดตั้งแต่สั่งบะหมี่ไปจนถึงการเรียกแท็กซี่บนแผ่นดินญี่ปุ่น | null | LINE,LINE TAXI,แอพลิเคชั่น,โปรกรมแชท,เรียกแท็กซี่,โมบายล์คอมเมิร์ซ,ธุรกิจออนไลน์,นิฮอน โคทสึ,ไลน์เพย์,อูเบอร์,ญี่ปุ่น,ข่าวไอที,ไทยรัฐออนไลน์,แชต | https://www.thairath.co.th/content/473560 |
เกษตรกรรับเงินโครงการรับจำนำข้าวแล้วกว่า 1000 ล้านบาท | นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมลักษณ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวฤดูกาลผลิต 2555 /2556 รอบแรกครั้งแรก ครั้งที่ 1 หรือ ข้าวนาปี มีปริมาณ 13.6 ล้านตัน มีโรงสีที่เปิดจุดรับจำนำ 1414 แห่ง แบ่งเป็นโรงสีในพื้นที่ 852 แห่ง และ จุดรับจำนำนอกพื้นที่ 562 แห่งส่วนรอบที่ 2 หรือข้าวนาปรัง ขณะนี้มีปริมาณข้าวเข้าสู่โครงการ 1.6 ล้านตัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์คาดว่าจะมีปริมาณ 7 ล้านตัน มีโรงสี ในพื้นที่ 585 ราย นอกพื้นที่ 56 ราย ผลผลิตที่เข้าโครงการรอบสองนี้ ส่วนใหญ่มาจากภาคกลางสำหรับปัญหาการออกใบรับรองเกษตรกรที่ล่าช้า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เร่งออกใบรับรองและ ขยายจุดรับจำนำข้าวให้มีเพียงพอกับความต้องการเกษตรกร ที่นำข้าวมาจำนำและมีผลผลิตไม่เกิน 500000 บาท เมื่อได้รับใบประทวนแล้ว สามารถนำไปรับเงินจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ได้ภายใน 3 วัน แต่หากเกิน 500000 บาท หรือ ร้อยละ 20 ของผลผลิต ต้องตรวจอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการทุจริตในการรับนำข้าวนาปรังขณะนี้ มีเกษตรกรนำข้าวมาเข้าโครงการจำนำข้าว จำนวน 160000 ล้านตัน เกษตรกร 7446 ราย ขึ้นเงินแล้ว 1000 ล้านบาท และยืนยันว่า มีเงินหมุนเวียนเพียงพอในการรับจำนำฤดูกาลนี้ส่วนปัญหาโกดัง กลางขณะนี้มีการให้เปิดโกดังกลางเพื่อเก็บข้าวในโครงการ 479 แห่งขณะที่ผลการขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าวปี2554 /2555 ยังไม่ปิดบัญชีเนื่องจากระบายข้าวยังไม่หมดจึงยังไม่สามารถสรุปผลการขาดทุนได้ | กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าขณะนี้มีข้าวเข้าโครงการรับจำนำรอบ 2 หรือข้าวนาปรังเเล้วกว่า 1600000 ตัน มีเกษตรกรขึ้นเงินเเล้วกว่า 1000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลผลิตจากภาคกลาง ซึ่งยืนยันว่ามีเงินหมุนเวียนในการรับจำนำอย่างเพียงพอ | เศรษฐกิจ | ข้าว,จำนำ,นาปรัง,รับจำข้าว,เกษตรกร,เงินหมุนเวียน,โกดัง,โรงสี | https://news.thaipbs.or.th/content/164561 |
กวป. บุกสภายื่นถอดถอน 5 ตุลาการศาล รธน.-จี้ลาออกทั้งคณะ 20 วันมาฟังคำตอบ | 8 พ.ค.56 ที่หน้าศาลรัฐธรรมนูญ หลังการชุมนุมยืดเยื้อนาน 17 วัน ของคนเสื้อแดง นำโดยกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) วันนี้เป็นวันนัดชุมนุมใหญ่เพื่อแสดงเจตนารมณ์ไม่ยอมรับตุลาการรัฐธรรมนูญทั้งคณะและเตรียมเดินทางไปยื่นรายชื่อประชาชนถอดถอนตุลาการรัฐธรรมนูญกับวุฒิสภา ทั้งนี้ การชุมนุมดังกล่าวโดยยึดสโลแกน ไม่รับอำนาจตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยกเลิกมาตรา 309 อารยะขัดขืนทั้งแผ่นดินนายพงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา หรือ เล็ก บ้านดอน นายชาญ ไชยะ หรือ หนุ่ม โคราช และนายศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษก กวป. ร่วมกันแถลงก่อนเคลื่อนการชุมนุมไปยังรัฐสภา โดยระบุว่า ตุลาการทั้งคณะต้องลาออกจากตำแหน่ง และจะเริ่มผลักดันนายจรัญ ภักดีธนากุล ที่มีความผิดร้ายแรงเป็นคนแรก โดยอีก 20 วันข้างหน้า กปว. จะยกพลใหญ่จากต่างจังหวัดอีกครั้งเพื่อเข้ามาฟังคำตอบของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบรรดาแกนนำกล่าวอีกว่า กปว. ต้องการนำกระบวนการทางการเมืองกลับเข้าสู่สภา ต้องการเห็นการตัดสินใจปัญหาบ้านเมืองภายในสภา รวมทั้งขอตำหนิสื่อมวลชนที่ไม่มาทำข่าวตั้งแต่วันแรกๆ แต่ยังดีที่มากันเยอะในวันนี้ การที่สื่อไม่สะท้อนเสียงของพวกเราเท่ากับสื่อสนับสนุนความรุนแรงและระบอบเผด็จการ อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันอีกครั้งว่าการเคลื่อนไหวของกวป.ไม่มีกลุ่มการเมืองหนุนหลัง เป็นการเคลื่อนไหวที่บริสุทธิ์ ผู้ร่วมชุมนุมทุกคนมาด้วยใจที่รักประชาธิปไตยนายพงษ์พิสิษฐ์ กล่าวว่า การคัดสรรตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทางกลุ่มต้องการให้ยึดโยงกับประชาชน ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้แทนโดยตรง แต่ต้องยึดโยงกับประชาชนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ส่วนการเสนอยกเลิกมาตรา 309 นั้นเพราะเห็นว่า มาตรา 309 ถูกใช้เพื่อปกป้องการกระทำผิดกฎหมายของคณะรัฐประหาร แล้วยังถูกใช้เป็นอาวุธทางการเมืองทำลายฝ่ายตรงข้ามอีกด้วยจากนั้นผู้ชุมนุมได้ทยอยเดินทางจากศาลรัฐธรรมนูญมายังรัฐสภาในเวลาเที่ยงวัน และแกนนำได้เข้ายื่นหนังสือเพื่อขอเป็นผู้ริเริ่มรวบรวมรายชื่อยื่นถอดถอน 5 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ต่อนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 แต่ไม่สามารถยื่นได้ เนื่องจากยังไม่ได้ดำเนินขั้นตอนตามกฎหมาย โดยเฉพาะคำร้องยื่นถอดถอนของผู้ริเริ่มที่ต้องลงลายมือชื่อพร้อมสำเนาบัตร ประชาชน จำนวน 100 คน ทั้งนี้ นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา ได้ชี้แจงถึงขั้นตอนการยื่นถอดถอนว่า ผู้ริเริ่มต้องกลับไปรวบรวมรายชื่อประชาชนที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง จำนวนไม่น้อยกว่า 20000 คน ภายใน 180 วัน จากนั้นนำรายชื่อมายื่นต่อประธานวุฒิเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง จากส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ดำเนินการ พิจารณาตามคำร้อง หากป.ป.ช.ชี้มูล ก็จะส่งกลับให้วุฒิสภาดำเนินการตามถอดถอนตามกฎหมายต่อไปด้านแกนนำ กวป. ระบุว่า ขั้นตอนการถอดถอนผ่านวุฒิสภา ใช้เวลานาน หากระหว่างนี้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเกิดตัดสินยุบพรรคการเมืองใดการเมือง หนึ่ง หรือวินิจฉัยคำร้องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายใด อาจเกิดผลเสียได้ ใครจะรับผิดชอบ จะมีกระบวนการเร่งด่วนใดที่จะยับยั้งการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ ดังนั้นเห็นว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงส่วนใหญ่ที่รับคำร้องว่าการแก้ไข รัฐธรรมนูญรายมาตรา ผิดมาตรา 68 ได้พิจารณาตัวเองลาออกไปก่อนอย่างไรก็ตาม ในเวลาประมาณ 14.00น. แกนนำ กวป. ได้กลับเข้ายื่นหนังสือจำนวน 2 ฉบับต่อ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ในฐานะรักษาการประธานวุฒิสภาฉบับแรกเป็นจดหมายเปิดผนึกสนับสนุนการกระทำของ ส.ส. และ ส.ว.จำนวน 312 คน ในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ซึ่งเห็นว่าเป็นการใช้อำนาจโดยชอบแล้ว จึงขอชื่นชม สนับสนุน และขอให้สมาชิกรัฐสภามีความมั่นคงในจุดยืน และขอวิงวอนสมาชิกรัฐสภาคนอื่นที่ยังไม่ได้ร่วมลงชื่อ ได้ลงชื่อสนับสนุนด้วย เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จไปได้ส่วนหนังสือฉบับที่ 2 เป็นหนังสือแสดงเจตจำนงเป็นผู้ริเริ่มรวบรวมรายชื่อประชาชนที่มีสิทธิเลือก ตั้ง ให้ได้ไม่น้อยกว่า 20000 รายชื่อ เพื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 5 คน ได้แก่ นายจรัญ ภักดีธนากุล นายสุพจน์ ไข่มุกด์ นายจรูญ อินทจาร นายนุรักษ์ มาประณีต นายเฉลิมพล เอกอุรุ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 271 ในข้อหาความผิด 3 ประการ ได้แก่ 1.มีพฤติการณ์ที่ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2.มีพฤติการณ์ส่อว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และ 3.ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยข้อหาทั้งหมดมาจากการที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 5 คนรับคำร้องกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราไว้พิจารณาว่าขัดกับรัฐ ธรรมนูญหรือไม่เมื่อวันที่ 3 เม.ย. วันที่ 11 เม.ย.และ วันที่ 1 พ.ค. ซึ่งขณะนี้มีผู้ร่วมเข้าชื่อแล้วกว่า 50000 คน ซึ่งภายใน 15 วัน จะคัดกรองและนำมายื่นต่อประธานวุฒิสภาเพื่อเข้าขบวนการถอดถอนต่อไปแกนนำ กวป.ระบุว่า หลังจากนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือฉบับเดียวกัน ต่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล และในเวลา 17.00 น. จะเดินทางกลับไปรวมตัวกับผู้ชุมนุมที่ปักหลักอยู่หน้าศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหารือและกำหนดท่าที ซึ่งคาดว่าภายในเวลา 24.00 น. ก็จะยุติการชุมนุมได้ | 8 พ.ค.56 ที่หน้าศาลรัฐธรรมนูญ หลังการชุมนุมยืดเยื้อนาน 17 วัน ของคนเสื้อแดง นำโดยกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) | การเมือง | กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย,กวป.,การชุมนุม,การถอดถอน,คนเสื้อแดง,ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ,ศาลรัฐธรรมนูญ | https://prachatai.com/journal/2013/05/46634 |
นายกฯ ปลื้มอันดับความสามารถการแข่งขันไทยดีขึ้น ติด 1 ใน 25 ของโลก | วันนี้ (29 พ.ค.2562) พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พอใจผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของไทย ประจำปี 2562 ซึ่งประเมินโดย International Institute for Management Development หรือ IMD ที่ปรากฏว่า ไทยมีอันดับดีขึ้นถึง 5 อันดับ จากอันดับที่ 30 เป็น 25 ซึ่งนับเป็นอันดับที่ดีที่สุดในรอบกว่า 10 ปีที่ผ่านมา โดยปีนี้ ผลการจัดอันดับดีขึ้น 3 ด้าน จากทั้งหมด 4 ด้าน คือสภาวะเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพของภาครัฐ และโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนประสิทธิภาพของภาคธุรกิจยังเป็นประเด็นท้าทายที่ไทยจะต้องพัฒนาต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำว่าความสำเร็จเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย และท้ายที่สุดคนไทยและประเทศไทยก็จะได้ประโยชน์โดยตรงทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเร่งส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ จึงทำให้อันดับเรื่องการลงทุนจากต่างประเทศดีขึ้นมาก เช่นเดียวกับการปรับปรุงกระบวนการอำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจผ่านระบบดิจิทัลทำให้การบริการรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังเพิ่มสัดส่วนการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศอย่างก้าวกระโดดนอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า สิ่งสำคัญ คือการสร้างความตระหนักและความเข้าใจให้ทุกภาคส่วนทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมมือกันยกระดับการทำงานของตนเอง โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงภาคการเกษตร ซึ่งเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนประเทศ โดยรัฐบาลเร่งส่งเสริมให้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปใช้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการ และพัฒนาคนให้พร้อมรองรับความเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน | นายกรัฐมนตรีปลื้มอันดับความสามารถการแข่งขันไทยดีขึ้น ติด 1 ใน 25 ของโลก ซึ่งนับเป็นอันดับที่ดีที่สุดในรอบกว่า 10 ปี ย้ำรัฐบาลเร่งพัฒนาทุกมิติ แนะทุกฝ่ายร่วมมือ | เศรษฐกิจ | ความสามารถการแข่งขัน,อันดับความสามารถการแข่งขัน,ไทย,IMD,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/280455 |
แม่กลอง-สัตหีบ อาหารทะเลไม่ขาดตลาด ประมงออกหาปลาปกติ | เมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 8 ก.ค.58 ที่ชมรมแพปลาจุดซื้อขายปลาเลขที่ 202/19 ถนนแหลมใหญ่ ต.แม่กลอง อ.เมืองสมุทรสงคราม นายฉัตรชัย โสภากุล ประธานชมรมแพปลา ร่วมกับนายมงคล สุขเจริญคณา นายกสมาคมเรือประมงลากคู่ ได้ปรึกษากับ นางสาวิกา ศิริบุญญาวงศ์ ประธานสหกรณ์ประมงแม่กลอง จำกัด ประชุมเจ้าของแพปลา เนื่องจากมีเรือประมงจำนวนมากที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งทาง ศปมผ.ได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วในการดำเนินการจดแจ้งเรือประมง จึงได้ออกไปหาปลาในทะเล และมีเรือประมงขนาดเล็ก 2 วัน เข้าฝั่งขายปลา จึงมีมติเปิดตลาดปลาตอนเช้ามืดเวลา 02.00 น. ของวันที่ 10 ก.ค.58 นี้เป็นต้นไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพ่อค้าแม่ค้า คนงานสะพานปลากว่า 2 พันคน ส่วนเรือประมงที่ยังรอการจดแจ้งให้ถูกต้องตามกฎหมาย ใครถูกต้องก็ทยอยออกเรือหาปลาตามปกติ,ขณะที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายปริญญา โพธิสัตย์ นายอำเภอสัตหีบ พบว่า อาหารทะเลทุกชนิด ยังมีขายตามปกติไม่ขาดตลาด แต่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นบางชนิด จากผู้นำส่งแต่ไม่สูงมากนัก,นายปรีชา หิมานันโต อดีตกำนันตำบลสัตหีบ เจ้าของร้านปรีชาซีฟู้ด ร้านอาหารซีฟู้ดชื่อดัง ริมชายหาดบ้านอำเภอ กล่าวว่า อาหารทะเลยังมีขายตามปกติไม่ได้ขาดแคลนแต่อย่างใด ส่วนราคา ที่นำมาส่งมีราคาสูงขึ้นบ้าง แต่พอรับได้ ซึ่งทางร้านไม่ได้ขึ้นราคาค่าอาหารแต่อย่างไร พร้อมยืนยันอาหารทะเลในพื้นที่สัตหีบ ไม่ขาดและ ไม่ขึ้นราคาอย่างแน่นอน ,ส่วนกระแสข่าวเรือประมงในพื้นที่สัตหีบประท้วงไม่ออกเรือนั้นไม่เป็นความจริง สาเหตุหลักเกิดจากเรือประมงยังไม่พร้อมในการปฏิบัติตามข้อกำหนด IUU จึงไม่สามารถออกเรือได้ แต่อย่างไรก็ตาม ได้มีการผ่อนผันออกไปอีก 15 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้เรือประมงขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไป ได้มีโอกาสออกเรือหาปลาและแก้ไขให้ถูกต้องตามที่ พ.ร.บ.การประมง กำหนดไว้ต่อไป พร้อมยืนยันอาหารทะเลในพื้นที่สัตหีบไม่ขาดอย่างแน่นอน ส่วนทางด้านลูกค้าที่มา รับประทานอาหารซีฟู้ด ได้กล่าวว่า อาหารทะเลที่สัตหีบ สด และราคายังคงเดิม ไม่ได้ขาดแคลนและมีราคาสูงขึ้นแต่อย่างไร. | ประมงแม่กลอง ยอมเปิดตลาดปลาเช้ามืด 10 ก.ค.นี้ ขณะที่สัตหีบ ยันอาหารทะเลไม่ขาด เรือประมงยังออกหาปลาตามปกติ หลังได้รับการผ่อนผัน อาหารทะเลทุกชนิดยังมีขายตามปกติไม่ขาดตลาด แต่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นบางชนิด | ข่าว,ทั่วไทย | เรือประมง,ลงทะเบียนเรือประมง,ฉัตรชัย โสภากุล,ประธานชมรมแพปลา,มงคล สุขเจริญคณา,เรือประมงออกหาปลา,นายกสมาคมเรือประมงลากคู่,ปริญญา โพธิสัตย์,ร้านปรีชาซีฟู้ด,นายอำเภอสัตหีบ,ปรีชา หิมานันโต,อาหารทะเล,IUU,อาหารทะเลไม่ขาดตลาด,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคมทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/news/local/510302 |
สายเกินเพล | ใช้อำนาจ ม.44 ละเมิดสิทธิประชาชนพ้นจากความเป็นสมาชิกพรรค การเมือง??,แม่ลูกจันทร์ สรุปย่อๆว่า คำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ได้สร้างผลกระทบต่อพรรคการเมืองทุกพรรคอย่างจั๋งหนับบุเรงนอง,1, ทำให้สมาชิกพรรคการเมือง หลายล้านคน ต้องพ้นจากสถานะสมาชิกพรรคการเมือง,2, ผู้ประสงค์จะเป็นสมาชิกพรรค การเมืองต่อไป ต้องไปแจ้งยืนยันขอเป็นสมาชิกพรรคซํ้าอีกครั้งด้วยตัวเอง พร้อมหลักฐานจ่ายเงินค่าสมาชิกคนละ 100 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน จนถึงวันที่ 30 เมษายน,3, หากสมาชิกพรรคการเมืองไม่ไปแสดงตัวยืนยันพร้อมชำระค่าสมาชิกภายในเวลา 30 วัน ต้องพ้นจากความเป็นสมาชิกพรรคทันที,แม่ลูกจันทร์ กราบเรียนว่าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีสมาชิกกว่า 2.6 ล้านคน และพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีสมาชิกพรรค 1.3 แสนคน ได้ยื่นหนังสือด่วนผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำสั่ง คสช.ฉบับนี้โดยเร็ว,โดยผู้ตรวจการแผ่นดินมีความเห็นเพิ่มเติมว่า แม้คำสั่ง ม.44 หน.คสช.ที่ 53/2560 จะชอบด้วยกฎหมายก็จริง,แต่คำสั่งฉบับนี้อาจละเมิดสิทธิประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง,แถมยังเพิ่มภาระประชาชนโดยไม่มีเหตุผลจำเป็น,และการให้แจ้งยืนยัน เพื่อเป็นสมาชิกใหม่ในเวลาเพียง 30 วัน ก็เป็นระยะเวลาสั้นเกินไป,ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงมีมติเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามที่พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทยได้ยื่นคำร้องมา,แม่ลูกจันทร์ เห็นด้วยที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรม-นูญให้วินิจฉัยชี้ขาดคำสั่ง 53/2560 ของ คสช.ให้เกิดข้อยุติชัดเจนและเป็นธรรม,แต่ไม่เห็นด้วยที่ผู้ตรวจการแผ่นดินดองเรื่องไว้อีก 2 เดือน,เพราะพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยส่งหนังสือด่วนถึงผู้ตรวจการแผ่นดินตั้งแต่เดือนมกราคม,กว่าผู้ตรวจการแผ่นดินจะส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญปลายเดือนมีนาคม,และกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยก็เดือนพฤษภาคม,เท่ากับ คำสั่ง คสช.ฉบับนี้มีผลใช้บังคับไปแล้ว 2 เดือน,พี่น้องประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองต้องถูกละเมิดสิทธิ์และถูกเพิกถอนสิทธิ์สมาชิกพรรค การเมืองไปแล้วหลายล้านคน,แม่ลูกจันทร์ ย้ำว่าถ้าผู้ตรวจการแผ่นดินตัดสินใจยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์,ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะมีคำวินิจฉัยออกมาปลายเดือนมีนาคม,ก่อนที่คำสั่ง คสช.ฉบับนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนเมษายน,ดังนั้น การที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน เพิ่งตัดสินใจยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญตอนนี้จึงสายเกินเพล,สรุปว่า กว่าคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินจะถึงมือศาลรัฐธรรมนูญต้องใช้เวลาเดินทางมาราธอนกว่า 70 วัน,ทั้งๆที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินกับสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญก็ตั้งอยู่ในศูนย์ราชการถนนแจ้งวัฒนะที่เดียวกัน,ตึกเดียวกัน แต่อยู่คนละชั้นเท่านั้นเอง.,แม่ลูกจันทร์ | ไปกินหัวใจเสือเซี่ยงจี๊ สิงโตมาหรืออย่างไร? ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงมีมติยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญให้ตรวจสอบ คำสั่ง คสช.53/2560 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ | ข่าว,การเมือง | ประยุทธ์ จันทร์โอชา,พรรคการเมือง,รัฐธรรมนูญ,สำนักข่าวหัวเขียว,แม่ลูกจันทร์ | https://www.thairath.co.th/news/politic/1244192 |
พล.ร.อ.เกียรติศักดิ์ ได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมรักบี้ | หลัง พล.ต.ท.เจตนากร นภีตะภัฏ ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมรักบี้แห่งประเทศไทยครบ 2 ปีตามวาระ ทำให้สมาคมรักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยจัดให้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ที่สมาคมศิษย์เก่าวชิราวุธวิทยาลัย โดยการเลือกตั้งปรากฏว่ามีผู้เสนอชื่อผู้เข้าแข่งขันจำนวน 2 รายคือ พล.ต.ท.เจตนากร นายกสมาคมคนเก่า และ พล.ร.อ.เกียรติศักดิ์ ดามาพงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือสำหรับการเลือกตั้งมีสโมสรสมาชิกที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงเข้าร่วม 33 สโมสรจากที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด 34 สโมสร โดยการเลือกตั้งใช้ระบบการลงคะแนนในบัตรเลือกตั้ง ซึ่งผลปรากฏว่า พล.ร.อ.เกียรติศักดิ์ ได้รับการสนับสนุนทั้งหมด 19 เสียง ขณะที่ พล.ต.ท.เจตนากรได้ไปเพียง 14 เสียงเท่านั้น ทำให้ พล.ร.อ.เกียรติศักดิ์ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมรักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่สำหรับ พล.ร.อ.เกียรติศักดิ์ เป็นพี่ชายของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร และปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมรักบี้ฟุตบอลราชนาวี | พล.ร.อ.เกียรติศักดิ์ ดามาพงศ์ ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมรักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่ พร้อมวางนโยบายนำทีมรักบี้ไทยประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับนานาชาติ | กีฬา | นายก,พล.ร.อ.เกียรติศักดิ์,รักบี้ | https://news.thaipbs.or.th/content/68375 |
เอนเตอร์เทน@โฮม 07/04/60 CD | ที่วันนี้วางแผงทั่วไทยแล้ว,ศิลปิน – โคลด์เพลย์ (Coldplay),อัลบั้ม – A Head Full of Dreams,จัดจำหน่าย – วอร์นเนอร์ มิวสิก,แนวเพลง – ร็อก ,A Head Full of Dreams Tour ของ โคลด์เพลย์ ศิลปินร็อก กับการแสดงสดตัวเป็นๆ คอนเสิร์ตที่แฟนเพลงชาวไทยและประเทศข้างเคียงรอคอย เย็นนี้การจราจรทั่วทั้งย่านหัวหมากและกรุงเทพฯ คงทำให้ศุกร์ที่ 7 เมษายนติดขัดราวกับวันศุกร์แห่งชาติอีกครั้ง,เพลง Hypnotised โดย โคลด์เพลย์ ,ขอขอบคุณ Coldplay Official ,Get Down ของ เจซ เคนท์ จะเป็นหนึ่งในเพลงเปิดเวทีเย็นนี้แน่นอน ศิลปินสาว นักดนตรีและโปรดิวเซอร์ ที่ทำเพลงของตัวเอง ทั้งแนวฮิพฮอพ, อัลเทอร์เนทีฟ-ป๊อป, อิเล็กโทรนิก, ไปจนถึงเร้กเก้ เธอประสบความสำเร็จกับอีพีชุดแรกที่ชื่อ My Name Is Jess Kent และความสามารถของเธอจะจารึกว่า นี่คือศิลปินอีกคนที่แฟนเพลงชาวไทยปลาบปลื้มไม่แพ้ร็อกเกอร์หนุ่มเจ้าของเวทีค่ำคืนนี้แน่นอน,เพลง Get Down โดย เจสส์ เคนท์ ,ขอขอบคุณ Jess Kent,ศิลปิน – ทไวซ์ (Twice) ,อัลบั้ม – TWICEcoaster: LANE 2,จัดจำหน่าย – บีอีซี-เทโร มิวสิก,แนวเพลง – เค-ป๊อป ,TWICE เกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี สังกัด JYP Entertainment ที่ทั้งเก้าสาวเคยสร้างปรากฏการณ์มินิอัลบั้มแรก The Story Begins Thailand Edition กลายเป็นของหายาก ขายดี ขายเกลี้ยงภายในเวลาไม่ถึงอาทิตย์ ล่าสุดพวกเธอกำลังจะพาแฟนๆ ไปสัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจกับการก้าวเข้าสู่ดินแดนแห่งความสุขของทไวซ์ ใน TWICE 1st Tour TWICELAND ,– The Opening คอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทยของพวกเธอ ในวันเสาร์ที่ 8 เมษายน ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ,เพลง Knock Knock โดย ทไวซ์,ขอขอบคุณ JYP Entertainment,ศิลปิน – เดอะ เชนสโมคเกอร์ส (The Chainsmokers) ,อัลบั้ม – Memories … Do Not Open ,จัดจำหน่าย – บีอีซี-เทโร มิวสิก, แนวเพลง – ป๊อป ,Memories … Do Not Open เป็นอัลบั้มเต็มชุดแรกของ ดรู แท็กการ์ท กับ อเล็กซ์ พอล สองหนุ่มคู่หูดีเจสุดฮอต เจ้าของเพลงฮิตข้ามปีอย่าง Closer, Roses, Dont Let Me Down, Paris และล่าสุด Something Just Like This ที่ร่วมงานกับ โคลด์เพลย์ ตัวพ่อแห่งวงการบริท ร็อก พวกเขาเพิ่งคว้ารางวัลแกรมมี่ครั้งล่าสุดในสาขา Best Dance Recording และอัดแน่นอัลบั้มด้วยอีก 10 เพลงใหม่ที่ดีงามไม่แพ้กัน เพราะได้ศิลปินเจ๋งๆ อย่าง เอมิลี่ วอร์เร็น, ฟลอริดา จอร์เจีย ไลน์, จีน อาอิโกะ และลูแอน มาร่วมงานด้วย,เพลง Something Just Like This แสดงสดโดย เดอะ เชนสโมคเกอร์ส และ โคลด์เพลย์,ขอขอบคุณ ChainsmokersVEVO,Entertain@Home หลงรัก สเมิร์ฟเฟ็ตต์ กับการผจญภัยบนจอใหญ่ใน Smurfs: The Lost Village เป็นแอนิแมชั่นสนุกสนานที่ใช้เพลง Im a Lady ของเมแกน เทรนเนอร์นำร่อง แต่ฟังแล้วโดนใจสุดๆ กลับเป็นซิงเกิ้ลดังของ อเลสโซ่ กับโทฟ โลไปซะงั้น,เพลง Heroes (We Could Be) โดย อเลสโซ่ และ โทฟ โล,ขอขอบคุณ AlessoOfficialVEVO,โชว์ไทม์ | ศุกร์แรกของเดือนเมษายน ก็ตื่นเต้นสุดขีดกับ โคลด์เพลย์ แสดงสดตัวเป็นๆ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ส่วนสาวๆ ทไวซ์ จะขึ้นโชว์ที่ธันเดอร์โดมวันพรุ่งนี้ สำหรับแฟนๆ ของ เดอะ เชนสโมคเกอร์ส จัดหนักอุดหนุนอัลบั้มแรกของหนุ่มๆ | null | เอนเตอร์เทน@โฮม 07/04/60 CD,โชว์ไทม์,ซีดีเพลง,CD,โคลด์เพลย์ | https://www.thairath.co.th/news/904426 |
พ่อใจเด็ด ตัดสินใจฆ่าลูกขี้ยา ก่อนยิงอกตัวเอง กลัวไม่ตายจ่อหัวอีกนัด | เวลา 14.50 น. วันที่ 13 ธ.ค.60 ร.ต.อ. สาโรจน์ มณีฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.นาเฉลียง ว่ามีเหตุยิงกันเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 3 บ้านสระหมื่นเชียง ต.วังโบสถ์ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเปิดเป็นร้านจำหน่ายและหล่อเสาคอนกรีต จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ทัพธนพล ปรุงประทิน ผกก สภ.นาเฉลียง แพทย์หญิง สุพิชชา แสนยาสมุทร์ แพทย์เวรโรงพยาบาลหนองไผ่ และมูลนิธิร่วมกตัญญูหนองไผ่ ไปยังที่เกิดเหตุ,พบศพ นายหวั่น สำลี อายุ 56 ปี อยู่บ้านเกิดเหตุ ลักษณะนอนหงายหันศีรษะไปทางทิศใต้และที่หน้าอกด้านซ้ายมีรอยกระสุนปืนเป็นรู 1 รู และที่หน้าผากด้านขวามีรอยกระสุนปืนทะลุหลัง 1 รู เลือดไหลนองพื้น ใกล้มือขวาพบปืนพกสั้นขนาด .38 ตกอยู่ 1 กระบอก ในกระเป๋ากางเกงมี กระสุนปืน .38 อีก 6 นัด,ส่วนผู้บาดเจ็บ ชื่อนายอัควัช สำลี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเกิดเหตุ และเป็นลูกชายของผู้ตายถูกยิงที่กลางหลัง 1 นัด และท้ายทอย 1 นัด มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งโรงพยาบาลหนองไผ่แต่เสียชีวิตระหว่างทาง,จากการสอบสวน นายณรงค์ วงษ์สาสืบ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 2 ต.บ่อไทย อ.หนองไผ่ มาทำงานเป็นลูกจ้างหล่อเสาคอนกรีต พร้อมกับลูกจ้างอีก 5 คน ขณะกำลังทำงานอยู่ก่อนเกิดเหตุ นายอัควัช สำลี ลูกชายคนตายซึ่งมีอาการเบลอๆ เนื่องจากมีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ได้เดินเข้ามาในร้านขอเงินนายหวั่น ผู้เป็นพ่อ ซึ่งครั้งแรก นายหวั่นได้ให้เงินไป 400 บาท แต่ลูกชายไม่พอใจ พูดข่มขู่ จะทำร้ายพ่อ แต่พ่อก็ไม่ให้เงินอีก ขณะที่ลูกชายโมโหเดินตรงเข้าไปรื้อค้นหาเงินและสิ่งของในรถยนต์ กระบะอีซูซุดีแมกซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กต. 743 เพชรบูรณ์ ของพ่อ ซึ่งได้แต่ยืนดู ไม่กล้าห้ามลูกชาย ก่อนที่นายหวั่นจะขี่รถจักรยานยนต์ ออกไปนอกร้าน,จนกระทั่งนายหวั่นขี่รถกลับเข้ามาในร้านอีกครั้ง แต่ลูกชายยังไม่หยุดอาละวาดทำลายข้าวของ จนผู้ตายสุดทนนำปืนพกขนาด .38 มายิงกลางหลังลูกชายและตามไปยิงซ้ำที่ท้ายทอย จากนั้นใช้ปืนกระบอกเดียวกันกดลั่นไกที่หน้าอกด้านซ้ายของตัวเองล้มลง แต่ยังลุกขึ้นจ่อยิงที่หน้าผากอีกนัดจนเสียชีวิตคาที่ ส่วนนายอัควัช ลูกชาย มูลนิธิร่วมกตัญญูหนองไผ่นำส่งโรงพยาบาลหนองไผ่และเสียชีวิตระหว่างทาง ซึ่งพ.ต.อ.ทัพธนพล ปรุงประทิน ผกก. สภ.นาเฉลียง ได้สั่งการให้นำศพไปตรวจชันสูตรที่โรงพยาบาลหนองไผ่ เพื่อดำเนินการทางคดีต่อไป. | พ่อสุดทน มีลูกติดยาเข้ามาขอเงินได้ไป400 ไม่พอใจรื้อค้นทำลายข้าวของ จนพ่อต้องขี่รถออกไปทำใจพักใหญ่ กลับมาลูกชายยังไม่หยุดอาละวาด เลยกดด้วย.38เข้ากลางหลังกับท้ายทอย ก่อนจ่ออกตัวเองล้มไปแล้วยังลุกขึ้นมาจ่อหน้าผากอีกนัดตายทั้งคู่ | ข่าว,อาชญากรรม | พ่อฆ่าลูก,พ่อยิงลูก,ฆ่าลูกฆ่าตัวตาย,พ่อใจเด็ด,ลูกขี้ยา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1152118 |
กรมควบคุมโรคประชุมป้องกันเชื้อ โคโรน่าไวรัส วันนี้ | เบื้องต้นมีคำแนะนำผู้ที่จะเดินทางไปประเทศแถบตะวันออกกลางหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด และ อย่าใกล้ชิดผู้ป่วยไข้หวัดข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่า เชื้อนี้เป็นตระกูลโคโรน่าไวรัส ตัวเดียวกับเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันชนิดรุนแรง หรือ โรคซาร์ส ซึ่งเกิดการระบาดครั้งแรกที่ประเทศจีนเมื่อปี 2546 และทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 800 คน แต่การพบเชื้อครั้งนี้ พบผู้ป่วยในประเทศแถบตะวันออกกลาง คือประเทศการ์ต้า และซาอุดิอาระเบีย 2 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 1 คนลักษณะอาการติดเชื้อโคโรนาไวรัสจะคล้ายกับเป็นหวัดทั่วไป คือ มีอาการต่อระบบทางเดินหายใจ หอบ ไอ แม้แนวโน้มการป้องกันจากองค์การอนามัยโลก ยังไม่สั่งห้ามการเดินทางระหว่างประเทศ หรือตั้งด่านควบคุมการแพร่ระบาดของโรคแต่กระทรวงสาธารณสุขของไทยออกมาตรการเฝ้าระวัง เตือนผู้เดินทางไปประเทศแถบตะวันออกกลาง ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด ไม่คลุกคลีกับผู้ที่เป็นหวัด หากไอ จาม ควรมีผ้าปิดปาก จมูก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดสำหรับผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศแถบตะวันออกกลาง โดยเฉพาะผู้ที่กลับจากการประกอบพิธีฮัจน์ หากมีอาการไข้ติดต่อกัน 2 วัน ให้รีบพบแพทย์ทันที เพื่อซักประวัติการสัมผัสโรค และวินิจฉัยอาการ | เชื้อโคโรน่าไวรัสที่สร้างปัญหาอยู่ในแถบตะวันออกกลาง วันนี้กรมควบคุมโรค เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสในไทย ผู้แทนจากองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ศูนย์ความร่วมมือควบคุมโรคแห่งสหรัฐอเมริกา รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือการเฝ้าระวัง และประเมินสถานการณ์ร่วมกันอย่างใกล้ชิด | สังคม | กรมควบคุมโรค,ซาร์ส,ตะวันออกกลาง,ประชุม,เฉียบพลันชนิดรุนแรง,โคโรน่าไวรัส | https://news.thaipbs.or.th/content/114242 |
เอ ไชยา ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ เหตุต้องมาร่วมงานรับปริญญาลูกสาว | เป็นอีก 1 ทายาทคนดังที่เข้ารับปริญญาในวันนี้ ที่มหาวิทยาลัยรังสิต สำหรับ แป้ง พรภัสร์ชนก ลูกสาวของลิเกเงินล้าน เอ ไชยา มิตรชัย หลังจากที่ตั้งใจเรียนจนจบคณะนิเทศศาสตร์ ภายใน 4 ปี มาครองได้สำเร็จ ซึ่งในวันนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ 4 คนพ่อแม่ลูกได้ร่วมถ่ายภาพด้วยกันในวันพิเศษ ซึ่งสาวแป้งและคุณพ่อเอได้เปิดใจว่า,ก็รู้สึกดีใจมากๆ ที่ครอบครัวมาแสดงความยินดีกับแป้งในวันนี้ จริงๆ พ่อเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแป้งทุกอย่างตั้งแต่อนุบาล เวลาแป้งมีกิจกรรมเขาจะเป็นคนแต่งหน้าให้ตลอด แต่พ่อไปดูเราไม่ได้,วันนี้แป้งเลยดีใจมากที่พ่อและทุกคนสามารถมายืนถ่ายรูปกับแป้งได้อย่างเปิดเผย จริงๆ ก่อนหน้านี้แป้งเรียนที่ ม.เชียงใหม่ มา 1 ปี และย้ายมาเรียนคณะนิเทศศาสตร์ที่ ม.รังสิต ซึ่งเรียนจบภายใน 4 ปีปกติ เกรดเฉลี่ยก็น่าพอใจมาก,และแป้งก็มีแพลนจะเรียนปริญญาตรีสาขาภาษาอังกฤษธุรกิจต่ออีก 1 ใบเลย เพราะแป้งอยากเรียนหลักสูตรที่เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเราไม่เก่งภาษาอังกฤษ ถ้าแป้งไปต่อปริญญาโทเลยจะทำให้เราเครียดและเรียนได้ไม่ดี,แป้งเลยอยากปูพื้นฐานภาษาให้ดีก่อนต่อปริญญาโท สำหรับงานในวงการบันเทิงของแป้งตอนนี้เราก็รับงานได้เต็มที่มากขึ้น ซึ่งแป้งก็พยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ,ด้านคุณพ่อ เอ ไชยา เปิดเผยความรู้สึกของตัวเองว่า ก็รู้สึกดีใจมากที่ลูกเรียนจบและเราก็ได้อยู่พร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว เมื่อคืนผมก็นอนไม่หลับเพราะไม่รู้จะทำตัวยังไง ด้วยความที่ผมไม่เคยเข้ารั้วโรงเรียนของลูกเลยตั้งแต่อนุบาลจนเขาเรียนจบ,บางทีผมไปก็ต้องจอดรถและรออยู่ด้านใน หรือไม่ก็ต้องไปเกาะรั้วดูลูกที่โรงเรียน มีวันนี้ที่ผมได้มีโอกาสมาแสดงความยินดีกับเขาอย่างเปิดเผย มันเป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่มาก ทั้งชื่นใจและดีใจที่สุดในโลก,จริงๆ พอแป้งเรียนจบ ผมตั้งใจว่าจะซื้อรถยนต์ให้เขา เพราะตอนนี้ลูกเริ่มมีงานเข้ามาแล้ว ก็อยากให้เขามีรถจะได้เดินทางได้สะดวก แต่แป้งก็บอกผมว่าเขายังไม่จำเป็นต้องมีรถ เพราะยังขับไม่เป็น และไม่อยากให้พ่อต้องมีภาระอีก ผมก็ตามใจเขา แต่เราคงมีทานข้าวและฉลองภายในครอบครัวกันช่วงเย็นครับ. | แป้ง พรภัสร์ชนก เปิดใจหลังคว้าปริญญาตรีมาครองจากคณะนิเทศศาสตร์ ม.รังสิต เกรดเฉลี่ยน่าพอใจมาก ฟุ้งดีใจที่วันนี้พ่อมาร่วมงานวันรับปริญญาของตนได้ หลังจากที่รอคอยมานาน ด้านพ่อเอ ไชยา ตื่นเต้นมากจนนอนไม่หลับ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | แป้ง พรภัสร์ชนก,แป้ง พรภัสร์ชนก ลูกสาว เอ ไชยา,ลูกสาวเอ ไชยา,เอ ไชยา,ดารารับปริญญา,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1155373 |
เจาะเงื่อนงำทุ่งสังหาร เผานั่งยาง โยงฆ่าตัดตอน ถอดรหัส DNA กระดูก | ซึ่งล่าสุด มีการตรวจสอบแน่ชัดแล้วว่า มีทั้งหมด 23 หลุม แต่ศพที่พบกลับยังไม่ตรงตามนั้น ซึ่งสิ่งที่ยากที่สุดในการทำงานครั้งนี้คือ การหาหลักฐานเชื่อมโยงชี้ชัดว่าผงกระดูกที่พบนั้นมีใครบ้าง,นับจากตรงนี้ ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, จะเดินหน้าไขเงื่อนงำต่างๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมกับเปิดบทสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้อง กูรูด้านต่างๆ รวมไปถึงแหล่งข่าวในพื้นที่ จะมาร่วมต่อจิ๊กซอว์ ฆาตกรรมอำพราง ครั้งนี้ว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง จะเป็นคนมีสีอย่างที่ชาวบ้านหวาดผวาจริงหรือไม่ มาเริ่มต้นกันเลย,17 พ.ย.52 เกิดคดีอุ้ม นางกุหลาบ อินทร์ศรี แม่แอร์โฮสเตส หายไปจากบ้านพัก ตำรวจ สภ.บ้านเทื่อม อ.บ้านผือ ผู้ต้องหาซัดทอดว่า จ้างตำรวจอุ้มฆ่าทิ้ง แต่หาศพไม่พบ จึงเชื่อว่าถูกฆ่าเผานั่งยาง,9 มิ.ย.57 พบศพ นางบังอร ทองอ่อน เจ้าแม่เงินกู้ถูกเผานั่งยางที่โคกเฒ่าคำภา ต.หนองแวง อ.บ้านผือ ซึ่งเป็น 1 ใน 16 จุด ที่ซึ่งถูกโยงไปถึงตำรวจในพื้นที่ แต่ไม่สามารถจับกุมใครได้ เนื่องจากไม่มีพยานกล้าชี้ตัว,13 มิ.ย.57 เจ้าหน้าที่ตามรวบ ดาบตำรวจ ปราโมทย์ บุพศรี พัวพันคดีอุ้มฆ่า และเป็นผู้มีอิทธิพล พร้อมของกลางอาวุธสงครามจำนวนมาก โดยตอนนี้ถูกคุมตัวอยู่ในเรือนจำอุดรธานี,27 ม.ค.58 ช่างเฟอร์นิเจอร์ ถูกเผานั่งยางบริเวณป่าละเมาะ ริมถนนบ้านผือ-บ้านบ่อ บ้านดงหวาย ยังจับคนร้ายไม่ได้,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้สอบถามเบื้องหลังจุดมรณะดังกล่าวกับ, นายฉันทะ ฤทธิวงศ์ นายก อบต.กุดจับ, ยอมรับว่า ตรงนั้นคือสุสานนักเลง สมัยก่อนตรงนั้นจะมีโจรลักวัวลักควายออกอาละวาด เคยมีเหตุมาฆ่าเผานั่งยางตรงนั้นกันเป็นประจำ โดยมีมานานแล้วกว่า 30-40 ปี ส่วนสาเหตุที่มาของตรงนั้น เพราะแถวนั้นมันเปลี่ยวมาก ไม่ค่อยมีใครผ่าน แม้ชาวบ้านจะพอรู้เรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่สนใจ ยิ่งเป็นเวลากลางคืน ชาวบ้านแถวนั้นเขายิ่งไม่ค่อยออกจากบ้าน,นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้สอบถาม,ชาวบ้านรายหนึ่ง, ก็บอกในลักษณะคล้ายกัน คือ สุสานนักเลง เมื่อมีการเตือนแล้วไม่ฟัง จึงเกิด ,ศาลเตี้ย ล,งทัณฑ์ด้วยวิธี เผานั่งยาง เพราะแถวนั้นไม่ค่อยมีคนผ่านไปมา เนื่องจากเป็นรอยต่อระหว่าง อ.กุดจับ กับ บ้านผือ เมื่อต่อมามีความเจริญมากขึ้น แต่ทีมสังหารซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ก็ยังคงอยู่ มีการรับงานมาทำกัน,ชาวบ้านรายเดิม กล่าว,ขณะที่ ,แหล่งข่าวน่าเชื่อถือในพื้นที่, บอกกับทีมข่าวฯ ว่า ศพที่พบ มีการตรวจ DNA ยืนยันได้เพียงศพเดียว คือ นางบังอร ทองอ่อน ส่วนที่เหลือเชื่อว่าน่าจะเป็นศพที่มีมานานแล้ว เมื่อก่อนมันเป็นป่ารก แต่มาปีนี้มันแล้งเกิดไฟไหม้ จึงมาพบ ส่วนตัวเชื่อว่า โครงกระดูกที่พบน่าจะเป็นของเก่าที่เกิดขึ้นมานานแล้ว สิบกว่าปีขึ้นไป แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ยังมีคดีที่เผานั่งยางในลักษณะนี้ ที่หนองหานอีก 2 ศพ นอกจากนี้ก็มีเผาอีก 1 คดี และนางบังอร คือคดีที่ 3 ที่พบศพการเผา ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่เคยพบมาก่อน ถึงแม้ว่าคดีของนางบังอรจะพบใกล้ๆ กับจุดเกิดเหตุ 23 หลุมก็ตาม,กลุ่มตำรวจ ตั้งแก๊งอุ้มรีด รับงานมานานแล้ว จริงหรือไม่, แหล่งข่าวรายเดิมที่เคยทำงานในพื้นที่มานาน กล่าวว่า ได้ยินข่าวเหมือนกันว่า ได้ลงมือในคดี นางบังอร ส่วน นางกุหลาบ อินทร์ศรี แม่แอร์โฮสเตส ก็เคยมาร้องเรียนให้ค้นหาศพ แต่ก็ยังไม่พบ จึงมีความเชื่อว่า นางกุหลาบ อาจจะถูกเผาเหมือนกัน เพราะจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กัน ระหว่างบ้านผือ กับ บ้านเทื่อม อยู่เส้นเดียวกัน,แหล่งข่าวน่าเชื่อถือรายเดิม กล่าวต่อว่า สมัยก่อน พื้นที่ตรงนั้นเคยเป็นที่ตั้งฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานในการปราบยาเสพติด โดยเส้นบ้านผือ น้ำโสม กระทั่ง อ.สังคม จ.หนองคาย และตรงนั้นก็มีกองกำลังอยู่หลายหน่วยงาน มีฐานปฏิบัติการตั้งอยู่หลายหน่วย แต่การจะมีแก๊งอุ้มรีดมาทำแบบนี้เชื่อว่า คสช.คงไม่ยอม,ยืนยันพบแล้ว 8 โครงกระดูกจาก 23 หลุม ยังไม่ฟันธง แก๊งตำรวจนอกรีตอุ้มรีด รอหลักฐานมัด,ในส่วนของทางคดีนั้น ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้สอบถามความคืบหน้าไปยัง ,พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4, เผยว่า ส่วนของกองบังคับการสืบสวนภาค 4 ดำเนินการแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 1.ศูนย์รับแจ้งคนหาย 2.ร่วมสอบสวนกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ กรณีชาวบ้านไม่ไว้ใจคนในพื้นที่ เราก็จะมีทีมช่วยสอบสวน 3.กรณีที่รู้ตัว เช่น พบศพนางบังอร เคสนี้ถือว่าดำเนินการได้มากแล้ว แต่เหลือในส่วนการหาตัวบุคคลมาเป็นพยานในคดี ในส่วนที่เป็นพยานวัตถุ ก็กำลังตรวจสอบกันอยู่ แต่ขอให้เป็นข้อมูลลับก่อน ส่วนกรณีนางกุหลาบ แม่แอร์โฮสเตส ,ตอนนี้เราก็กำลังตรวจดีเอ็นเอกันอยู่ แต่ก็ยังไม่เจอ ,ส่วนการเก็บหลักฐานนั้น อันนี้เป็นหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แต่จากการสอบถามทราบว่า จาก 23 หลุม พบว่า 8 หลุม ระบุได้ว่าเป็นชิ้นส่วนของกระดูกมนุษย์ แต่กำลังตรวจสอบอยู่ว่า สามารถตรวจดีเอ็นเอเจอหรือไม่ เพราะบางหลุมที่ได้มา พบเพียงกระดูกนิดหน่อย เราไม่สามารถทำภาพเชิงซ้อนในส่วนของกะโหลกได้ ส่วนกระดูกก็พบเพียงข้อต่อนิ้วมือ เป็นต้น,เมื่อถามว่า หน่วยพิสูจน์หลักฐานได้ประสานงานหน่วยงานอื่นร่วมตรวจสอบหรือไม่ พล.ต.ต.ยรรยง กล่าวว่า ได้ส่งไปยังกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ส่วนที่อื่น เช่น สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ อันนี้ไม่ตนไม่มั่นใจ เพราะเป็นเรื่องของท้องที่ แต่หลักของภาค 4 คือ ถ้ามาปรากฏตัว หรือ พบศพ จะรับผิดชอบเต็มตัว แต่สำหรับการเก็บหลักฐานก็จะให้พื้นที่ดำเนินการ,กรณีที่มีการเชื่อมโยงกับการฆ่าตัดตอนนั้น ผบก.สส.ภ.4 กล่าวว่า, ใครจะคิดก็คิดได้ แต่มันต้องมีหลักฐาน จินตนาการ หรือ พูด ก็พูดได้ แต่ทำงานต้องว่ากันด้วยหลักฐาน เราต้องหาอะไรมาชี้ให้ชัดว่ามันเกิดช่วงนั้น หรือ หลักฐานสาวถึงตรงนั้น,เมื่อถามว่าทำไมถึงมีศพเผานั่งยางบริเวณนั้นมากมาย พล.ต.ต.ยรรยง กล่าวว่า ในพื้นที่ตรงนี้มันเก่าแก่ จากที่ได้ยินมา ชาวบ้านก็ไปทำกันเองบ้าง และแต่ละจุด สิบกว่าปีขึ้นไป บางจุดอาจจะนานถึง 20 ปี ชาวบ้านพื้นที่เขารับกันได้ ยุคก่อนเขารู้กัน ซึ่งเรื่องนี้เขาก็เล่ากันเป็นนิยาย เพราะบางจุดที่เราเจอ ก็เจอแต่ลวด หรือบางทีอาจจะเอายางรถยนต์มาวางกันไว้ แต่เมื่อเจอไฟไหม้จึงเหลือแต่ลวด เป็นหลุม เมื่อตรวจสอบก็ไม่พบเศษเลย,นอกจากนี้ พล.ต.ต.ยรรยง ยังยอมรับว่า ,เรื่องที่หนักใจที่สุดคือ การตรวจสอบเรื่อง DNA เนื่องจากที่ผ่านมาตรงนั้นถูกไฟไหม้หลายครั้ง ความร้อนที่เกิดขึ้นมันทำลายหลักฐานต่างๆ ทำให้ยากต่อการตรวจ DNA นอกจากความร้อนแล้ว เวลายังทำลายอีกด้วย แต่คงต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมาชี้ชัดอีกครั้ง อย่างไรก็ดี เราพร้อมที่จะให้หน่วยงานอื่นๆ มาช่วย ถ้าสังคมอยากได้ความกระจ่าง,เพื่อความกระจ่างในการตรวจ DNA กระดูก และเหตุใดสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่เข้ามาช่วยเหลือ ทีมข่าวฯ ได้เดินทางไปศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อขอความรู้กับ, พ.ต.ท.สุพจน์ นาคเงินทอง ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในฐานะประธานคณะกรรมการเครือข่ายนิติวิทยาศาสตร์แห่งเอเชีย, ซึ่งให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง พร้อมกับเล่าเรื่องศูนย์คนหายที่อยู่ภายใต้การดูแลให้ฟังด้วย,ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยว่า ปัจจุบัน สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ทำงานภายใต้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการสนับสนุนการปฏิบัติงานตามคนหายและพิสูจน์ศพนิรนาม 2558 ปกติแล้วเวลาคนหาย ญาติก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหน แต่เมื่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีบังคับใช้ ทำให้เราได้ทำงานร่วมกันกับหน่วยงานอื่นๆ อย่างบูรณาการ โดยการช่วยคดีจะแบ่งออกเป็นส่วนๆ คือ ถ้าเป็นคนหาย ผู้ที่มีหน้าที่ช่วยเหลือติดตามก็คือ ตำรวจ และมูลนิธิกระจกเงา คนนิรนาม กระทรวงพัฒนาสังคมฯ จะเป็นคนรวบรวม ส่วน ศพนิรนาม จะมีสถาบันนิติเวช ของ สตช. และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมกันโดยมี สถาบันนิติเวช เป็นเจ้าภาพหลักในการออกแบบฟอร์มตรวจสอบ ซึ่งตอนนี้เป็นการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ โดยในเดือนมิถุนายนนี้จะมีการประชุมออกแบบหลักเกณฑ์ในการทำงานร่วมกัน,หลายคนสงสัย ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำไมไม่ร่วมไขคดีทุ่งสังหารอุดรฯ พ.ต.ท.สุพจน์ อธิบายว่า หากดูที่หลักเกณฑ์ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ในข้อ 4 จะระบุว่า การดำเนินการตามระเบียบนี้ต้องไม่กระทบต่อการใช้อำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ดังนั้นระหว่างที่เขาทำงานเราจะไม่กระทบกระเทือน จากนั้นให้ไปดูข้อ 16 ระบุว่า เมื่อหน่วยงานของรัฐได้รับแจ้งว่ามีการพบศพนิรนาม ให้หน่วยงานรัฐนั้นแจ้งข้อมูลดังกล่าวให้พนักงานทราบโดยเร็ว ซึ่งตรงนี้แปลว่าหากเขาดำเนินการเสร็จแล้ว เขาก็จะส่งข้อมูลส่วนนี้มาให้,อย่างไรก็ดี หากเมื่อดูข้อ 17 ที่ระบุว่า กรณีที่หน่วยงานรัฐใดไม่สามารถระบุได้ว่าศพนิรนามเป็นบุคคลใด หรือ ศพนิรนามต้องทำการตรวจพิสูจน์จำนวนมาก หน่วยงานรัฐนั้นอาจร้องขอให้สำนักงานเป็นผู้ดำเนินการตรวจพิสูจน์ศพนิรนามดังกล่าวก็ได้ แปลง่ายๆ คือ ถ้าเขามีงานมาก เขาสามารถร้องขอให้เรามาช่วยได้ นี่คือสาเหตุทั้งหมดว่าทำไม สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ไม่เข้าไปช่วยในคดีที่อุดรธานี,ผมเองได้โทรหา พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งก็อยู่ในชุดที่ทำงานร่วมกัน โดยบอกว่ามีอะไรให้ช่วยก็บอก นอกจากนี้ ยังได้โทรไปหา พล.ต.ท.ปิยะ สอนตระกูล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่คุมคดีนี้ โดยบอกว่าเราไม่มีข้อแม้ พร้อมจะช่วยเหลือ แต่ก็ยังไม่ได้มีการร้องขอมา จึงเชื่อว่าเขายังสามารถทำไหว ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าว,เมื่อถึงตรงนี้ ทีมข่าวฯ จึงถามว่า ขั้นตอนการตรวจสอบที่เกิดเหตุที่ถูกต้องควรจะเป็นเช่นไร พ.ต.อ.สุพจน์ กล่าวว่า เริ่มต้นด้วยการปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุ จากนั้นเข้าสู่กระบวนการ searching เดินค้นหาวัตถุพยาน เพื่อกั้นขอบเขตไม่ให้กระทบกับวัตถุพยาน จากนั้นก็ออกหาอีกรอบ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นร่างหรือโครงกระดูก อาจจะเป็นไฟแช็คก็ได้ มีคราบน้ำมัน กระสุนปืน หรือต้องขุดหรือไม่ ถ้าบางชิ้นอาจจะถูกฝังอยู่ การตรวจพื้นที่แบบนี้ควรจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ เพราะฉะนั้นเราถึงต้องตั้งหน่วย ที่ผ่านมา ไม่ค่อยมีการเทรนเรื่องพวกนี้ ดังนั้นเราจึงได้ทางประเทศอาร์เจนตินามาสอนให้ โดยเรามีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาสอนเรา,ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ยอมรับว่า การตรวจ DNA ในกระดูก เป็นอะไรที่ยุ่งยากมาก บางครั้งตรวจ 1 ชั้น ไม่เจอ ก็ต้องหาชิ้นใหม่ แล้วยิ่งถูกเผาไหม้ ก็ยิ่งจะยากขึ้นอีก ที่สำคัญในคดีของอุดรธานี มีการเผา 2 รอบ โดยเผานั่งยาง 1 รอบ แถมมีไฟป่าอีก หากเราทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ และพบว่าไม่สามารถตรวจเจอเหมือนกัน ก็จะทำให้ประชาชนไม่เกิดความรู้สึกแคลงใจกัน ทั้งนี้ในยุคของตน อยากจะทำงานร่วมกัน ไม่อยากให้เกิดความรู้สึกขบกันอย่างที่ผ่านมา ,แต่การเผานั่งยาง ใช่ว่ามันจะมีมาตรฐาน เพราะคนที่ลงมือก่อเหตุ เผาแล้วไป ก็แบบหนึ่ง แต่บางคนอาจจะเผาแล้วรอไปเรื่อยๆ ไฟใกล้ดับก็เผาใหม่ ดังนั้นจะตรวจเจอหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าเหลืออยู่เท่าไหร่,สำหรับข้อมูลคนหายในรอบปี ตั้งแต่ 29 เม.ย.58 - 29 เม.ย.59 ปรากฏว่า มีคนหายทั้งสิ้น 38 ราย โดยรับแจ้งจาก 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ 12 ราย พนักงานสอบสวน 19 ราย และยุติธรรมจังหวัด 7 ราย ส่วนในรอบ 10 ปี จ.อุดรธานี รับแจ้งคนหาย 2 ราย ประกอบด้วย นายทวี ยางขันธ์ แจ้งหายเมื่อวันที่ 22 ต.ค.50 และนายประจัด แสงภักดี แจ้งวันที่ 19 เม.ย.59 และจากการตรวจสอบรายชื่อผู้คนหายตามข่าวนั่งยาง จ.อุดรธานี พบว่ามีผู้เคยมาแจ้งกับ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ 1 ราย คือ นายกมล เหล่าโสภาพันธ์ ซึ่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้เก็บ DNA แล้ว,ส่วนให้ตรวจสอบศพปี 2558 มีการแจ้งศพจำนวน 300 ศพ ค้นหาว่าเป็นใครได้สำเร็จ 154 ราย ส่วนคนหายรับแจ้ง 30 ตรวจพบ 12 ราย ซึ่งถึงว่าวันนี้ได้ดำเนินการมาแล้ว 12 ปี มีศพที่ยังค้นหาไม่ได้ว่าเป็นใครกว่า 700 ราย โดยเก็บไว้ที่สุสานนครนายก 300 ศพ และเก็บที่สถาบัน ซึ่งเป็นโครงกระดูก 400 ราย ซึ่งศพเหล่านี้จะถูกเก็บ 20 ปี จนกว่าคดีจะหมดอายุความ,ที่ผ่านมา ทางสถาบันมีการเปิดรับตรวจสอบคนสูญหาย และตรวจศพนิรนาม โดยจะมีหน่วยงานภาครัฐช่วยส่งเรื่องเข้ามา เช่น ยุติธรรมจังหวัด ภาคเอกชน อย่างมูลนิธิกระจกเงา หรือแม้แต่คนที่เดินเข้ามาหา เราก็จะรับแจ้ง ส่วนขั้นตอนเริ่มต้นด้วยการซักถามรูปพรรณสัณฐาน เอกลักษณ์บุคคล ตำหนิต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการตรวจพิสูจน์ศพ คือ กลุ่มนิติพยาธิ เมื่อส่งศพเข้ามาก็มีกระบวนการเหมือนกัน เพื่อนำข้อมูลของคนหายและศพมาตรวจสอบ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกใส่ในฐานข้อมูลคนหายและศพ,ต่อมา รัฐบาลได้คิดที่จะอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในการแจ้งคนหาย หากได้แจ้งตำรวจ และศูนย์ดำรงธรรมแล้ว ก็สามาถแจ้งมาได้ที่ APP Spond ซึ่งดูแลโดยศูนย์ดำรงธรรม หากแจ้งแล้วก็สื่อสารกับเราได้., สืบเสาะข่าว รับเรื่องราวร้องทุกข์ สามารถส่งเรื่องราวหรือประเด็นปัญหาของท่านมาได้ที่
[email protected] หรือช่องทาง Facebook : ,ทีมข่าวเฉพาะกิจ | ยังเป็นเรื่อง ฉงน ว่าเหตุใด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติกุดจับ หมู่ 3 บ้านคำบอนเวียงชัย ต.หนองแวง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ถึงพบเป็นพื้นที่ มรณะ จุดปลิดชีพด้วยวิธีสุดโหดของหลายชีวิต นั่นก็คือการ เผานั่งยาง | null | ทุ่งสังหาร,เผานั่งยาง,อุดรธานี,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,ทุ่งสังหารอุดรธานี,ทุ่งสังหารป่ากุดจับ,ตรวจดีเอ็นเอกระดูก,สุพจน์ นาคเงินทอง,ตรวจดีเอ็นเอ,สถาบันนิติวิทยาศาสตร์,นิติเวช,ป่าสงวนแห่งชาติกุดจับ,กุหลาบ อินทร์ศรี,บังอร ทองอ่อน,ปราโมทย์ บุพศรี,นั่งยาง,ยรรยง เวชโอสถ,บ้านผือ,ฉันทะ ฤทธิวงศ์,สกู๊ป,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/613893 |
ชี้ ม.44 คสช.ยังอุดปัญหาคอร์รัปชั่นไม่หมด | วันนี้ (6 ก.ย.2560) เวทีเสวนาวิชาการ รัฐบาลใหม่-คอร์รัปชั่นเก่าเนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชั่น 2560 ไม่ได้เพียงสะท้อนถึงการใช้อำนาจพิเศษมาตรา 44 ของคสช. แต่ผู้เข้าร่วมเสวนาวิชาการ ยังชี้ถึงการใช้อำนาจรัฐในการปูทาง ด้วยยุทธาสตร์ชาติ 20 ปีอาจจะเป็นช่องว่างให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นนายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันอิศรา ตั้งข้อสังเกตถึงการใช้มาตรา 44 ของคสช. ตรวจสอบนักการเมืองท้องถิ่น และข้าราชการประจำ แต่ไม่กลับตรวจสอบในกองทัพ จึงเกิดคำถามถึงบรรทัดฐานในการตรวจสอบ และต้องการเรียกร้องให้ตรวจทุจิรตโครงการที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรณีโครงการขุดลอกคูคลองขององค์การทหารผ่านศึก โครงการอุทยานราชภักดิ์ด้านนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บอกว่า มาตรา 44 ทำให้การตรวจสอบการใชอำนาจเป็นไปได้ยาก และยังขาดการเปิดเผยถึงกระบวนการลงโทษผู้ทุจริตให้คนในสังคมรับรู้ ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลใหม่เข้ามาต้องแก้ไขให้เป็นรูปธรรมส่วนนายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารเกียรตินาคิน ชี้ว่า ปัญหาการทุจริต ยังเกิดขึ้นแม้ว่าจะมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง เพราะมีการกำหนดยุทธศาสตรชาติ 20 ปี จึงเป็นช่องว่างให้เกิดการแสวงหาผลประโยชน์ได้ | วงเสวนาวิชาการเวที รัฐบาลใหม่-คอร์รัปชั่นเก่า สะท้อนรัฐบาล คสช.กับการใช้อำนาจพิเศษ ตามมาตรา 44 ยังไม่แก้ปัญหาทุจริตได้ จริง ระบุแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีอาจเป็นช่องว่าง จี้ตรวจสอบโครงการในกองทัพ | การเมือง | ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,การเมือง,คสช.,มาตรา44 | https://news.thaipbs.or.th/content/265856 |
วิศวกร เฮง คว้า 5 แสน ทายบอลโลกไทยรัฐออนไลน์ | วิศวกร กสท จากบางแค กทม. รับโชค คว้าเงินรางวัล 5 แสนบาท จากการร่วมสนุกทายผลแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ผ่านเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ที่จัดเป็นปีแรก ยอมรับ ส่งไปรษณียบัตรทายผลมาไม่ทัน เลยลองเสี่ยงส่งคำทายทางออนไลน์ แทบไม่อยากเชื่อจะกลายเป็นผู้โชคดี เตรียมนำเงินแบ่งสองส่วน ใช้หนี้และใช้จ่าย ทำบุญ ขณะที่การจับไปรษณียบัตรทายผล ชิงรางวัลเงินสดก้อนโต 10 ล้านบาท และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย จะมีขึ้นในช่วงบ่ายวันที่ 8 ส.ค.นี้,ประกาศผลแล้วสำหรับผู้โชคดีที่,ทายผลฟุตบอลโลก 2018, ผ่านเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ ลุ้นรับรางวัลรวมกว่า 2 ล้านบาท โดยเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 ส.ค. ที่ชั้น 7 อาคาร 9 สนง.นสพ.ไทยรัฐ ถนนวิภาวดี รังสิต กทม. นายวัชร วัชรพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจโทรทัศน์และออนไลน์ ไทยรัฐกรุ๊ป น.ส.วราพรรณ วัชรพล เจ้าหน้าที่สื่อสารการตลาด ไทยรัฐออนไลน์ น.ส.อัญชิสา วัชรพล เจ้าหน้าที่พัฒนาธุรกิจ ไทยรัฐออนไลน์ ร่วมจับรายชื่อผู้โชคดีทายผลฟุต บอลโลก 2018 ผ่านเว็บไซต์ ,www.thairath.co.th/activity, หรือใช้โทรศัพท์มือถือสแกน QR Code โดยมีศิลปินดารานักร้อง มาร่วมจับรางวัลและ เป็นสักขีพยาน นำโดย นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี อ้อม-พิยดา จุฑารัตนกุล เจี๊ยบ-โสภิตนภา ชุ่มภาณี พิม-พิมประภา ตั้งประภาพร เมย์-พิชญ์นาฏ สาขากร โฟร์-ศกลรัตน์ วรอุไร เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ โทนี่ รากแก่น-ธีรชัย วิมลชัยฤกษ์ และเวย์-ปริญญา อินทชัย,พิธีจับรางวัลเริ่มขึ้นในเวลา 14.00 น. โดยนายวัชรกล่าวว่า การจัดกิจกรรมทายผลฟุตบอลโลกผ่านเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์เป็นปีแรก และเป็นช่องทางใหม่ ให้แฟนบอลร่วมสนุก 1 คน 1 สิทธิ์ ถือว่าประสบความสำเร็จมาก มีผู้ร่วมสนุกทั้งสิ้น 147,432 ใบ มีผู้ทายถูก 94,462 ใบ ต้องขอขอบคุณแฟนไทยรัฐ ที่ร่วมสนุกกันมามากมายขนาดนี้ และขอขอบคุณ 12 อภิมหาสปอนเซอร์ ที่ทำให้เกิดกิจกรรมดีๆแบบนี้ขึ้น ในอีก 2 ปีข้างหน้า คือฟุตบอลยูโร จะมีการจัดให้ทายผลฟุตบอลผ่านเว็บไซต์ ,www.thairath.co.th/activity, อีก นอกจากนี้ไทยรัฐกรุ๊ป ยังมีกิจกรรมทายผลฟุตบอลโลก 2018 ผ่านไปรษณียบัตรลุ้นรางวัลเงินสด 30 ล้านบาท และรางวัลพิเศษอีกมาก มีประชาชนส่งมาร่วมลุ้นรางวัลมโหฬาร พิธีจับรางวัลจะมีขึ้นในวันที่ 8 ส.ค.นี้ แฟนบอลต้องติดตามว่าใครจะคว้ารางวัลที่ 1 เงินสด 10 ล้านบาท,จากนั้นพิธีกรเชิญนายวัชร จับรางวัลที่ 1 จำนวน 1 รางวัล ท่ามกลางความตื่นเต้นของผู้อยู่ในงานที่ได้ร่วมลุ้นว่าใครจะโชคดีคว้าเงินสด 5 แสนบาท จากนั้นเจ้าหน้าที่โกยแผ่นรายชื่อของผู้ร่วมสนุกทายผลผ่านเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์มาได้ถูกต้องว่า ฝรั่งเศส คือแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 จำนวน 94,462 ใบ ให้กระจายอยู่กลางอากาศ และนายวัชรได้เอื้อมมือคว้าแผ่นรายชื่อมาหนึ่งใบ ส่งให้พิธีกรประกาศรายชื่อผู้โชคดี ได้แก่ นายเสกสันติ ทองสวัสดิ์ อยู่เขตบางแค กรุงเทพฯ และให้คณะกรรมการตรวจสอบความถูกต้องตามกติกาแล้วลงนามยืนยันความถูกต้องร่วมกัน,ถัดมาเป็นการจับรางวัลที่ 2 จำนวน 10 รางวัล เป็นเงินสดรางวัลละ 5 หมื่นบาท โดยมี น.ส.วราพรรณ วัชรพล เป็นผู้จับรางวัล ผู้โชคดีได้แก่ จิรัชยา วีระบุตร, ธีรชัย เกิดศิริ, เสาวณีย์ สมงาม, นิพล ถ้ำจันทร์, นิพัฒน์ สหพิทักษ์สิน, ภูยันต์ ประสานพจน์, วิทูรย์ พุ่มพันธ์, สรศักดิ์ รักพงษ์พันธ์, สุรเชษฐ์ วงษา, เคารพ พินิจนาม จากนั้น น.ส.อัญชิสา วัชรพล พร้อมกับเหล่าศิลปินดาราร่วมกันจับรางวัลที่ 3 เงินสด 1 หมื่นบาท จำนวน 100 รางวัล โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อของผู้โชคดีทั้งหมดได้ที่ ,www.thairath.co.th/activity, ,นางเอกดัง นุ่น-วรนุชกล่าวว่า ปีนี้มีความพิเศษที่ไทยรัฐกรุ๊ป จัดกิจกรรมทายผลผ่านระบบไทยรัฐออนไลน์ เพราะอินเตอร์เน็ตเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ทำให้คนร่วมสนุกเกิดความสะดวกสบาย ขอแสดงความยินดีกับผู้ได้รับรางวัลทุกคน ส่วนโฟร์-ศกลรัตน์ กล่าวว่า กิจกรรมนี้ตรงกลุ่มเยาวชน เพราะทายผลผ่านไทยรัฐออนไลน์ จะช่วยส่งเสริมให้น้องๆหันมารักและสนใจกีฬาฟุตบอลมากขึ้นแล้วยังได้ร่วมสนุกร่วมลุ้นรางวัลใหญ่ๆมากมาย,ด้านนายเสกสันติ ทองสวัสดิ์ อายุ 50 ปี วิศวกร บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังรู้ว่าเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลเงินสด 5 แสนบาท ว่า ทีแรกเจ้าหน้าที่ไทยรัฐโทรศัพท์แจ้งมา ไม่เชื่อ จนไทยรัฐยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะไม่เคยทายผลหรือส่งชิ้นส่วนชิงโชคเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ก่อนหน้านี้ตั้งใจไว้ว่าจะส่งไปรษณียบัตรร่วมสนุกทายผลฟุตบอลโลกกับ นสพ.ไทยรัฐ แต่ส่งไม่ทันเวลากำหนดอีกทั้งทุกครั้งที่ นสพ.ไทยรัฐ จัดทายผลฟุตบอลโลก จะมีไปรษณีย์นับร้อยๆล้าน กองเป็นภูเขา คิดว่าถ้าส่งมาคงจะไม่ได้รางวัลแน่ๆ เลยลองเสี่ยงโชคทายผลทางออนไลน์ดู โชคดีที่ได้รับเงิน 5 แสนบาท ตอนนี้กำลังต้องการความช่วยเหลือด้านการเงินอยู่พอดี โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ใช้หนี้สินส่วนหนึ่ง ที่เหลือจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และจะนำไปทำบุญด้วย | วิศวกร กสท จากบางแค กทม. รับโชค คว้าเงินรางวัล 5 แสนบาท จากการร่วมสนุกทายผลแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ผ่านเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ | ข่าว,ทั่วไทย | ทายผลฟุตบอลโลก,ไทยรัฐออนไลน์,จับรางวัล,ทายผลฟุตบอลโลก ไทยรัฐ,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1349555 |
กุนซือฝอยทอง เรียก ปิซซี เสียบแทน นานี เกมบู๊อันดอร์รา | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 6 ต.ค. ว่า เฟร์นานโด ซานโตส กุนซือทีมชาติโปรตุเกส ทำการเรียกตัว ปิซซี ห้องเครื่องตัวเก่งของเบนฟิกา ทีมดังในลีกโปรตุเกส เข้ามาอยู่ในทีมแทนที่ หลุยส์ นานี ปีกจอมลากเลื้อยของทีมบาเลนเซีย จากศึกลา ลีกา สเปน ในเกมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ที่จะพบกับ ทีมชาติอันดอร์รา,เจ้าของแชมป์ยูโร 2016 และเป็นแชมป์ระดับเมเจอร์หลักรายการแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ อยู่ร่วมในกลุ่มบี และมีโปรแกรมลงสนามในวันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม ที่จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมชาติอันดอร์รา รวมถึงบุกไปเยือนทีมชาติหมู่เกาะแฟโร ในวันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม นี้,ซานโตส กล่าวว่า นานี ไม่เหมาะที่จะลงสนามเผชิญกับทีมอันดอร์รา ซึ่งการติดทีมชาติครั้งนี้ของปิซซี วัย 26 ปี จะทำให้เขาสะสมหมวกทีมชาติเป็นใบที่ 4 อีกด้วย,อนึ่ง ทีมชาติโปรตุเกส เพิ่งบุกไปพ่ายให้กับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ 0-2 เมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา โดยหวังจะกลับมาคว้าชัยชนะอีกครั้งในเกมกับทีมชาติอันดอร์รา ให้ได้ | เฟร์นานโด ซานโตส เรียกตัว ปิซซี เข้ามาแทน หลุยส์ นานี ในเกมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ที่ทีมชาติโปรตุเกส จะพบกับ ทีมชาติอันดอร์รา | null | เฟร์นานโด ซานโตส,ปิซซี,หลุยส์ นานี,ฟุตบอลโลก,ฟุตบอลโลก 2018,รอบคัดเลือก,โซนยุโรป | https://www.thairath.co.th/content/745422 |
สมานฉันท์แรงงานไทยจี้ รมว.แรงงานผลักดัน พรบ.สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย และสร้างอนุสรณ์เคเดอร์ | อาชีวะอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานและการตั้งอนุสรณ์เตือนใจความปลอดภัยในการทำงาน โดยรายละเอียดมีดังนี้ที่ คสรท. ๕๑/๒๕๕๓๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓เรื่องยื่นหนังสือผลักดัน ร่างพรบ.สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวะอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานและการตั้งอนุสรณ์เตือนใจความปลอดภัยในการทำงานเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานจากการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ผ่านมา เรื่องสุขภาพความปลอดภัยกับชีวิตของผู้ใช้แรงงานยังไม่มีใครพูดถึงมากนัก แต่หลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรมโรงงานตุ๊กตาเคเดอร์ไฟไหม้ตึกถล่มคนงานต้องสังเวยด้วยชีวิต 188 ศพ บาดเจ็บ 469 ราย ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2536 นับเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญไปทั่วโลก หลังจากนั้นขบวนการแรงงาน นักวิชาการ องค์กรพัฒนาเอกชน ได้รณรงค์มาโดยตลอด จากวันนั้นถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 17 ปีแล้ว แต่คนงานก็ยังไม่มีความปลอดภัยในการทำงาน ในแต่ละปีมีคนงานประมาณ 200000 กว่าราย ที่ได้รับอุบัติเหตุจากการทำงาน มีคนงานเจ็บป่วยและเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากการทำงานเป็นจำนวนมาก หลายรายสูญเสียอวัยวะและชีวิตด้วยเหตุผลดังกล่าว องค์กรแรงงานต่างๆ จึงได้ร่วมกันผลักดันร่าง พรบ.สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวะอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ซึ่งในขณะนี้อยู่ในขั้นการพิจารณาแปรญัติในชั้นสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับ พรบ.ความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (ฉบับกระทรวงแรงงาน) และกำลังจะเสร็จสิ้น เพื่อเตรียมนำเข้าการพิจารณาของวุฒิสภาในวาระที่ 2 ต่อไปคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย กลุ่มสหภาพแรงงานอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ สภาเครือข่ายผู้ป่วยจากการทำงานและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย มูลนิธิเพื่อนหญิง จึงขอยื่นข้อเสนอต่อกระทรวงแรงงาน ให้เห็นชอบและผลักดันร่างพรบ.สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวะอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (ฉบับผู้ใช้แรงงาน) ดังนี้1. บรรจุร่าง พรบ.สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวะอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานไว้ในหมวดหนึ่งหมวดใดของร่าง พรบ.ความปลอดภัยของกระทรวงแรงงาน พร้อมทั้งมีเนื้อหาโครงสร้างอำนาจหน้าที่ คณะกรรมการ งบประมาณ ของ พรบ.สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย ฯ ที่จะจัดตั้งเป็นองค์กรอิสระ ไว้ครบถ้วน เพื่อจะได้จัดตั้ง สถาบันส่งเสริมความปลอดภัยฯ ในโอกาสต่อไป เพื่อมีองค์อรอิสระทำหน้าที่ส่งเสริมป้องกันเรื่องสุขภาพความปลอดภัย ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงแรงงาน2. ให้มีการจัดตั้งอนุสรณ์เตือนใจความปลอดภัยในการทำงาน และมีการจัดตั้งคณะทำงาน เพื่อปรึกษาหารือแนวทางในการจัดตั้งอนุสรณ์เตือนใจความปลอดภัยของคนงาน ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนแรงงาน ผู้แทนภาครัฐ นักวิชาการ องค์กรพัฒนาเอกชน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานจะเห็นความสำคัญและให้การสนับสนุนข้อเสนอของขบวนการแรงงาน จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาอย่างเร่งด่วน และขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ขอแสดงความนับถือ (นางสาววิไลวรรณ แซ่เตีย) (นางสาวสมบูรณ์ สีคำดอกแค)ประธานคณะกรรมสมานฉันท์แรงงานไทย ประธานเครือข่ายผู้ป่วยจากการทำงานฯ (นางสาวสงวน ขุนทรง) (นายจะเด็จ เชาวน์วิไล)ผู้ประสานงานกลุ่มสหภาพแรงงานอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่) ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง | 9 พ.ค. 53 - คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) ยื่นหนังสือถึงนายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ผลักดันร่างพรบ.สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย | สิทธิมนุษยชน,แรงงาน | คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.),พรบ.สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย,โรงงานตุ๊กตาเคเดอร์ | https://prachatai.com/journal/2010/05/29369 |
ฝ่ายความมั่นคงเฝ้าระวังก่อเหตุรุนแรงเชิงสัญลักษณ์ เดือน ต.ค. | วันนี้ ( 10 ต.ค.2559) เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในจังหวัดสงขลา เผยแพร่ภาพรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอ็คคอร์ท สีดำ ทะเบียน วฐ 1563 กรุงเทพ พร้อมแจ้งเตือนและประสานเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจเป็นรถที่ประกอบระเบิดเข้ามาก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ จ.สงขลา โดยเฉพาะใน อ.หาดใหญ่ รถยนต์คันดังกล่าวถูกใช้เป็นรถที่รับส่งกลุ่มผู้ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนระหว่างวันที่ 10-13 ส.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีรถต้องสงสัยที่ต้องเฝ้าระวังอีก 1 คัน คือรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิคฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า ตลอดทั้งเดือน ต.ค.นี้ ตรงกับวันสำคัญเชิงสัญลักษณ์หลายเหตุการณ์เริ่มจาก วันสถาปนากองกำลังติดอาวุธบีอาร์เอ็น ตรงกับวันที่ 10 ต.ค. วันสถาปนาขบวนการพูโล 12 ต.ค. และเหตุการณ์ตากใบ 25 ต.ค. และพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มแกนนำเข้ามาประชุมคาดว่าอาจมีการเตรียมก่อเหตุครั้งใหญ่ทั้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงจังหวัดสงขลา โดยที่ อ.หาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจเข้มบริเวณด่านตรวจด้านความมั่นคงเส้นทางเข้าเมืองหาดใหญ่ทั้ง 3 จุดเพื่อเฝ้าระวังรถที่มีการแจ้งเตือน รวมทั้งตั้งด่านตรวจเคลื่อนที่ในเส้นทางเลี่ยงเมืองและเส้นทางลัดทุกแห่ง รวมถึงการเฝ้าระวังพื้นที่ใจกลางเมืองด้านภาคเอกชน ในนามของคณะทำงานหาดใหญ่มั่นคงโมเดล ได้ระดมทุนผ่านสื่อสังคมออนไลน์จากผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อร่วมกันสนับสนุนเงินรางวัลนำจับรถเป้าหมาย ตามที่ได้มีการแจ้งเตือนให้แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแส ซึ่งล่าสุดมีการสนับสนุนเงินเข้ามาแล้วกว่า 150000 บาทผู้ประกอบการส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับมาตรการตั้งรางวัลดังกล่าว เนื่องจากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในเมืองหาดใหญ่แต่ละครั้ง สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยวของเมืองหาดใหญ่ทั้งระบบไม่ต่ำกว่า 1000 ล้านบาท | เดือน ต.ค.เป็นเดือนที่มีวันสำคัญเชิงสัญลักษณ์ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้หลายวัน ทั้งวันสถาปนากองกำลังติดอาวุธ และวันรำลึกเหตุการณ์ตากใบ ทำให้หลายหน่วยงานต้องเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังเหตุ | ภูมิภาค | ระเบิด,สงขลา,บีอาร์เอ็น,ตากใบ,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/256502 |
พบนายทุนรุกป่าชายเลน บ้านแหลม 400 ไร่ | วันนี้ (30 พ.ย.2559) เจ้าหน้าที่สำรวจแนวป่าชายเลนในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าปากทะเลและป่าสงวนแห่งชาติบ้านแหลม อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เพื่อตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนของชาวบ้านและกลุ่มนายทุน ตามแผนทวงคืนผืนป่าชายเลนของสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 โดยพบการบุกรุกเข้าทำประโยชน์ในแนวป่ารอยต่อแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติทั้ง2 แห่ง รวม 4 จุด ซึ่งมีทั้งบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ นาเกลือ ประมาณ 400 ไร่ จึงทำการบันทึกพิกัดและทำการตรวจยึด พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่บุกรุกทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนทั้งหมดนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคง จังหวัดเพชรบุรี เข้าตรวจสอบชายหาดบนเกาะเบ๊นซ์ ต.ปึกเตียน อ.ท่ายาง ซึ่งชาวบ้านร้องเรียนว่ามีการก่อสร้างบุกรุกชายหาด และเป็นต้นหตุให้ชายหาดถูกกัดเซาะเสียหายไปแล้วหลายไร่ จากการตรวจสอบพบว่า จุดที่ถูกร้องเรียนเป็นจุดที่เคยมีการดำเนินคดีเพิกถอนสิทธิการถือครองโฉนดที่ดิน ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเจ้าหน้าที่จึงทำการรังวัดเพื่อเปรียบเทียบว่ามีการก่อสร้างเพิ่มจากเดิมหรือไม่ ก่อนที่จะเสนอให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวออกจากพื้นที่ | กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตรวจยึดที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติบ้านแหลม จ.เพชรบุรี พบปรับสภาพพื้นที่เป็นบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ นาเกลือ 400 ไร่ พร้อมสอบคดียึดชายหาดเกาะเบ๊นซ์ | สิ่งแวดล้อม | ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,บ้านแหลม,เพชรบุรี,ชายหาดปึกเตียน,ป่าสงวนแห่งชาติ,กรมป่าไม้,กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง,สิ่งแวดล้อม | https://news.thaipbs.or.th/content/258269 |
กลับมาก็ยิง ฮิกัวอิน เหมาพา นาโปลี เฉือน อตาลันตา 2-1 | ศึกฟุตบอลกัลโช เซเรีย อา อิตาลี ฤดูกาล 2015/16 แมตช์ไฮไลต์ประจำวันที่ 2 พ.ค. เป็นการพบกับในคู่ระหว่าง นาโปลี ที่เพิ่งโดน โรมา เขี่ยมาอยู่อันดับ 3 ของตาราง เปิดสนาม ซาน เปาโล ต้อนรับการมาเยือนของ อตาลันตา ทีมอันดับ 14 ของตาราง,เกมนี้เจ้าถิ่นต้องการ 3 แต้มเพื่อกลับไปทวงรองจ่าฝูงคืนจาก โรมา ที่เพิ่งเอาชนะ เจนัว มา 3-2 และวันนี้ก็ได้รับข่าวดีเมื่อ กอนซาโล ฮิกัวอิน หอกว่าที่ดาวซัลโวลีก พ้นโทษแบน 3 นัด คัมแบ็กกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ส่วนทีมเยือนไม่มีลุ้นอะไรแล้วเตะให้ครบตามโปรแกรมเท่านั้น,เปิดฉากมาไม่ทันไร 10 นาทีเท่านั้น เจ้าถิ่นก็ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 มาเร็ค ฮัมซิก อาศัยทีเผลอตักบอลข้ามกองหลัง บอลหลุดไปถึง กอนซาโล ฮิกัวอิน กระโดดยิงเข้าไปอย่างสวยงาม,หลังจากนั้น นาโปลี ยังเดินหน้าบุกเป็นชุดแต่กว่าจะได้ประตูหนีห่าง 2-0 เกมต้องปาไปถึงนาทีที่ 77 และก็เป็นเจ้าเก่า กอนซาโล ฮิกัวอิน ที่ได้โขกจากลูกเปิดของ กาเยฆอน ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายไม่เหลือซาก,ถึงแม้ว่า ทีมเยือน จะมาได้ประตูปลอบใจในนาทีที่ 85 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ ราอูล อัลบิโอน กองหลังเจ้าถิ่น แต่สุดท้ายก็ไม่ทัน จบเกมการแข่งขัน นาโปลี เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ อตาลันตา หวุดหวิด 2-1 แต่ก็เป็น 3 แต้มสำคัญกลับไปแซงหน้า โรมา 2 แต้ม ขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงของตารางอีกครั้ง และเหลือเกมการแข่งขันอีกแค่ 2 นัดเท่านั้น,ศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน,ขณะที่เวทีบุนเดสลีกา เยอรมัน นัดที่ 32 เป็นศึกหนีตาย นกนางนวล แวร์เดอร์ เบรเมน รองบ๊วย งัดพลังเฮือกสุดท้าย เปิดสนาม เวเซอร์สตาดิโอน ถล่มเอาชนะ ม้าขาว สตุ๊ดการ์ด ทีมจากโซนตกชั้นเช่นเดียวกันขาดลอยถึง 6-2 เก็บ 3 แต้มสำคัญขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 15 ของตารางซึ่งเป็นโซนปลอดภัย พร้อมถีบ ม้าขาว หล่นมาเป็นรองบ๊วยแทน,ส่วนผลการแข่งขันฟุตบอลลาลีกา สเปน,- ,มาลากา ชนะ เลบันเต 3-1 | พ้นโทษแบน 3 นัดกลับมาก็ยิงทันที สำหรับ กอนซาโล ฮิกัวอิน ว่าที่ดาวซัลโวกัลโช เซเรีย อา ปีนี้ และเป็นประตูสำคัญพา นาโปลี เฉือนเอาชนะ อตาลันตา ไปแบบหืดจับ 2-1 เก็บ 3 แต้มแซง โรมา ขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงอีกครั้ง | null | กัลโชเซเรียอา,นาโปลี,อตาลันตา,เจนัว,โรมา,ข่าวกีฬา,ข่าว,ผลบอล,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/614611 |
โทรคมนาคมลดความเหลื่อมล้ำ กสทช.ชี้สร้างอาชีพคนรุ่นใหม่ทำงานในชนบทมากขึ้น | นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า และในเมือง อีกทั้งยังส่งเสริมให้คนในชนบท สร้างอาชีพ สร้างสังคมชนบทให้น่าอยู่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่น ถือเป็นกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่หรือสตาร์ตอัพในชนบทได้ด้วย ซึ่งสตาร์ตอัพนั้น มิได้เน้นเฉพาะการค้าขายออนไลน์และกลุ่มคนในเมืองใหญ่เพียงอย่างเดียว ดังจะเห็นได้จากปัจจุบันที่กลุ่มคนรุ่นใหม่หันไปทำงานอยู่ในชนบท ทำงานอยู่ที่บ้านมาก และยังสร้างอีกอาชีพใหม่ขึ้นมาอีกหลายสาขา เช่น ไลน์แมน เป็นต้น นั่นเป็นเพราะระบบโทรคมนาคมที่ดี มีคุณภาพ,เมื่อโครงข่ายอินเตอร์เน็ตเข้าถึงในพื้นที่ชนบท คนในชนบทก็สามารถใช้บริการได้อย่างเท่าเทียมกับคนในเมือง ช่องว่างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน เชื่อว่าการเข้าถึงบริการอินเตอร์เน็ตนั้น ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้ หากคนในชนบทใช้อินเตอร์เน็ตให้เกิดประโยชน์ ซึ่งขณะนี้หลายพื้นที่ของประเทศก็สามารถใช้บริการโทรศัพท์มือถือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง กสทช.กำลังเร่งดำเนินการอยู่ คาดว่าภายในปี 2562 ทุกหมู่บ้านจะมีอินเตอร์เน็ตใช้งานทั้งฟรีและเสียเงินค่าบริการ,นายฐากรกล่าวต่อว่า กสทช.ได้ดำเนินการโครงการอินเตอร์เน็ตประชารัฐจำนวน 15,732 หมู่บ้าน ตามนโยบายรัฐบาล ขณะนี้ได้ผู้ชนะประมูล เพื่อติดตั้งจุดให้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สาย สร้างศูนย์ให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาได้ภายในกลางเดือน ม.ค.62 และผู้ชนะประมูลก็จะสามารถดำเนินการได้ในเดือน ก.พ.62 โดยมีสัญญาการดำเนินงาน 1 ปี ส่วนโครงการอินเตอร์เน็ตชายขอบ 3,920 หมู่บ้านนั้น ขณะนี้ กสทช. ได้เร่งรัดให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) คู่สัญญาเร่งดำเนินการติดตั้งให้แล้วเสร็จโดยเร็ว. | ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมโทรคมนาคมได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และสามารถช่วยลดความเหลื่อมล้ำ และลดช่องว่างการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การบริการสาธารณสุข การศึกษา ระหว่างประชาชนในชนบท | ข่าว,เศรษฐกิจ | กสทช.,ฐากร ตัณฑสิทธิ์,โทรคมนาคม,ลดความเหลื่อมล้ำ,การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1460268 |
เปรูไอเดียเก๋ ใช้ แร้ง เรดาห์มีชีวิต ตรวจหาที่ทิ้งขยะผิดกฎหมาย | วันนี้ (21 ม.ค. 2559) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ภาพลักษณ์ของสัตว์ปีกขนาดใหญ่อย่างแร้งไม่สู้ดีนัก เพราะนิสัยการกินซากสัตว์ที่ล้มตายในธรรมชาติ และเมื่ออยู่ในเมืองใหญ่อย่างกรุงลิมา เมืองหลวงของประเทศเปรู พวกมันก็คุ้ยหาอาหารจากกองขยะที่มีอยู่เกลื่อนเมืองประชากร 9 ล้านคน ในลิมา สร้างขยะมากถึง 7400 ล้านตันต่อวัน สูงกว่ากรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา ที่มีประชากรอาศัยอยู่ 14 ล้านคนทั้งนี้ ปัญหาคนทิ้งขยะไม่เลือกที่โดยไม่สนใจกฎหมาย ทั้งทิ้งขยะลงทะเล แม่น้ำ หรือตามไหล่เขา สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้เจ้าหน้าซึ่งที่พยายามหาทางแก้ไข และพบว่าแร้งคือคำตอบกระทรวงสิ่งแวดล้อมของเปรู ระดมนกแร้งมาช่วยรับมือการลักลอบทิ้งขยะ โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัทโฆษณาช่วยโปรโมตโครงการนี้ฟลาวิโอ ปันติโกโซ ผู้อำนวยการฝ่ายครีเอทีฟของ FCB Mayo บริษัทโฆษณาในเปรู บอกว่า แร้งช่วยนำทางทีมงานไปถึงแหล่งลักลอบทิ้งขยะได้ไอเดียนี้ ได้จากการสังเกตพฤติกรรมของแร้ง ที่เป็นเหมือนเรดาร์มีชีวิต สามารถนำทางเราไปยังที่ทิ้งขยะได้ พวกมันเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องขยะ ไม่มีใครนำทางเราไปยังที่ทิ้งขยะได้ดีกว่าพวกมันอีกแล้ว โครงการนี้ทำขึ้นเพื่อให้พวกเราได้รับรู้ว่ามีการลักลอบทิ้งขยะที่ใดบ้าง แร้งพวกนี้ทำหน้าที่ของพวกมันด้วยการทำลายขยะ ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเราต้องทำบ้างแล้ว ผอ.ฝ่ายครีเอทีฟของ FCB Mayo ระบุส่วนหนทางแก้ไข ผู้เชี่ยวชาญจะติดอุปกรณ์ส่งสัญญาณจีพีเอสไว้กับแร้ง เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของพวกมันไปยังจุดต่างๆ ที่อาจเป็นแหล่งลักลอบทิ้งขยะ โดยนักเก็บขยะติดปีกจะบินหาแหล่งอาหารทั่วกรุง และแหล่งที่พวกมันชื่นชอบ คือพื้นที่ที่มีการลักลอบทิ้งเศษอาหาร ก่อนปักหลักกลายเป็นนักทำความสะอาดประจำแหล่งชุมชนเราปล่อยแร้ง 10 ตัวตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งลิมา อุปกรณ์จีพีเอสทำให้เราทราบว่ามันเริ่มบินเมื่อไร กินอาหารเมื่อไร พวกมันบินได้ไกลแค่ไหน บินสูงแค่ไหน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เราไม่เคยมี แต่เป็นข้อมูลสำคัญที่จะนำมาใช้ในเรื่องนี้ ซีซาร์ อารานา ตัวแทนพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ มหาวิทยาลัยซาน มาร์กอส กล่าวฮาเวียร์ เฮอร์นันเดซ จากกระทรวงสิ่งแวดล้อมของเปรู เผยว่าแร้งทั้งสิบตัวในโครงการที่จะช่วยตรวจหาพื้นที่ที่มีกองขยะสะสมจนอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ มาจากศูนย์พักพิงและช่วยเหลือสัตว์ โดยพวกมันถูกจับมาจากย่านชุมชนแออัดโครงการแร้งเตือนภัยด้านขยะนี้ มีชื่อว่า กัลลินาโซ อวิซา โดยได้รับเงินสนับสนุนจากองค์การช่วยเหลือระหว่างประเทศ ของรัฐบาลสหรัฐฯ และดำเนินการโดยพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ มหาวิทยาลัยซาน มาร์กอส ร่วมกับกระทรวงสิ่งแวดล้อม และคาดหวังว่าเมื่อเริ่มปล่อยโฆษณารณรงค์โครงการที่มีแร้งเป็นผู้แสดงนำ จะกระตุ้น ให้ประชาชนปรับเปลี่ยนทัศนคติ และพฤติกรรมลักลอบทิ้งขยะในที่ห้ามทิ้งขณะที่ ทางการของเปรูจะพยายามรวบรวมข้อมูลให้ได้ภายในระยะเวลา 2 ปี เพื่อพัฒนาแผนการทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมในกรุงลิมาได้ | แร้งเป็นสัตว์ปีกที่หลายคนตั้งข้อรังเกียจ เนื่องจากนิสัยการกินซากสัตว์หรือสิ่งสกปรก แต่ทางการของเปรู กลับใช้ประโยชน์จากนิสัยของแร้ง ช่วยตรวจสอบแหล่งลักลอบทิ้งขยะในเมืองหลวงของประเทศ | ต่างประเทศ | นกแร้ง,เปรู,กองขยะผิดกฎหมาย,กรุงลิมา,ประเทศเปรู,เรดาห์มีชีวิต,ขยะ,สิ่งแวดล้อม,ทิ้งขยะผิดกฎหมาย,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/7446 |
อังกฤษ ทดสอบเดินเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหญ่ที่สุด | วันนี้(27มิ.ย.2560) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อังกฤษเปิดตัวเรือบรรทุกเครื่องบินเฮชเอ็มเอสควีน เอลิซาเบธ ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ของประเทศ เรือลำนี้น้ำหนักกว่า6500 ตัน มีความกว้าง 75 เมตร และยาว 280 เมตร สามารถเดินทางได้ 800 กิโลเมตรต่อวัน รวมทั้งบรรทุกลูกเรือได้ถึง 1000 คน และเครื่องบินอีกกว่า 40 ลำโดยได้ทดสอบการเดินเรือครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมาจากท่าเรือรอไซธ์ในภาคตะวันออก ของสกอตแลนด์ และจะต้องทดสอบเดินเรือในทะเล อีกประมาณ 2 ปีซึ่งกำหนดการเดิมจะเข้าประจำการได้อย่างเต็มรูปแบบในปี 2563 แต่ต้องเลื่อนออกไปเป็นปี 2569 เพราะติดปัญหาทางด้านเทคนิคอังกฤษ ใช้เวลาต่อเรือบรรทุกเครื่องบินลำนี้นานถึง8 ปี และเป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ใน 2 ลำที่ต่อขึ้นพร้อม ๆ กับเรือ เฮชเอ็มเอส พรินซ์ ออฟ เวลล์ ซึ่งโครงการต่อเรือรบครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันประเทศ มูลค่ากว่า 259000 ล้านบาท | อังกฤษเปิดตัวเรือบรรทุกเครื่องบิน เฮชเอ็มเอส ควีน เอลิซาเบธซึ่งถือเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยสามารถบรรทุกเครื่องบินได้ถึง 40 ลำ และลูกเรืออีกกว่า 1 พันคน คาดว่าจะปฏิบัติการได้อย่างเต็มรูปแบบในอีก 6 ปีข้างหน้า | ต่างประเทศ | ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,อังกฤษ,เรือ,เครื่องบิน,ทะเล | https://news.thaipbs.or.th/content/263857 |
เพื่อชาติถามแสบ บ้านเมืองนี้จะอยู่อย่างไร คนเปิดเผยความผิดกลับถูกอุ้ม | นายวิโชติ วัณโณ รองหน.เพื่อชาติ ถามพลังประชารัฐแสบ บ้านนี้เมืองนี้ จะอยู่อย่างไร คนทำผิดกลับถูกมองข้าม คนเปิดเผยความผิดกลับถูกอุ้มตัว กรณีแฉ คลิปสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐในสถานที่ แจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ,วันที่ 26 ธ.ค. นายวิโชติ วัณโณ รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ได้แสดงความคิดเห็นกรณี นายเกียรติบุตร พันธุ์เลิศ เด็กหนุ่มยโสธร ถ่ายคลิป ณ สถานที่แจกบัตรสวัสดิการ แล้วมีการตั้งโต๊ะให้กรอกใบสมัครพรรค พปชร. แลกกับบัตร พร้อมให้เงิน 100 บาท กับผู้สมัครสมาชิก ซึ่งวันต่อมา ทหารได้นำตัว นายเกียรติบุตร พันธุ์เลิศ ไปให้ข้อมูลที่ สภ.เลิงนกทา ส่วนกรณีการแจกบัตรคนจนและการสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ผู้ว่าฯ และนายอำเภอออกมาปฏิเสธโดยบอกว่า เจ้าหน้าที่ไปแจกบัตรคนจนจริง แต่มีคนไปตั้งโต๊ะรับสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐในที่เดียวกันตามคลิป แต่จะผิดหรือไม่เป็นหน้าที่ กกต. ว่า,ในเรื่องนี้มีความชัดเจนว่าในขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกำลังแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ก็มีการรับสมัครสมาชิกพรรค พปชร. พร้อมกับแจกเงินให้ผู้สมัครคนละ 100 บาท การกระทำดังกล่าวเจ้าหน้าที่ของรัฐทำไม่ได้เพราะต้องเป็นกลางทางการเมือง กรณีนี้จึงเป็นความผิด กกต. ต้องดำเนินการเรื่องนี้โดยด่วน,แต่ความปรากฏว่า คนที่ออกมาเปิดเผยโดยถ่ายคลิปกลับถูกอุ้มไปโดยเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งของคสช. ที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ชั้นสัญญาบัตรขึ้นไปสามารถจับกุมคุมตัวบุคคลใดที่อาจเข้าข่ายการกระทำที่ขัดคำสั่ง คสช.คุมตัวไปคราวละ 7 วัน โดยไม่ต้องขอหมายศาล,การจับกุมคุมตัวไปเช่นนี้ ถือเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างรุนแรง และขัดต่อกติกาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ อำนาจดังกล่าวเป็นสิ่งที่น่าหวาดหวั่นและสะพรึงกลัวยิ่งนัก จึงมีคำถามว่าบ้านนี้เมืองนี้จะอยู่อย่างไรคนทำผิดกลับถูกมองข้าม คนเปิดเผยความผิดกลับถูกอุ้มตัวไปสอบสวน นายวิโชติ กล่าว | นายวิโชติ วัณโณ รองหน.เพื่อชาติ ถามพลังประชารัฐแสบ บ้านนี้เมืองนี้ จะอยู่อย่างไร คนทำผิดกลับถูกมองข้าม คนเปิดเผยความผิดกลับถูกอุ้มตัว กรณี แฉ คลิปสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐในสถานที่ แจกบัตร | ข่าว,การเมือง | เพื่อชาติ,คนทำผิดถูกมองข้าม,วิโชติ วัณโณ,พลังประชารัฐ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1455118 |
อายัด 5บัญชีศัลยกรรมเถื่อนลำปาง จับหนุ่ม29 อ้างเป็นหมอ ฆ่าโดยไม่เจตนา | เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 พ.ย.60 ที่ สภ.เขลางค์นคร ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง น.ส.จันทร์จิรา ธิวงศ์เงิน อายุ 20 ปี ชาวจังหวัดลำปาง ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของ ดีไวน์ คลินิก เวชกรรม ซึ่งตั้งอยู่ที่ 152/42 หมู่บ้านปัญญาปาร์ค ถนนสายลำปาง-แม่ทะ ตำบลพระบาท อ.เมืองลำปาง ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนพร้อมกับทนายความ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในกรณีดังกล่าว โดยขณะที่เข้าไปให้ปากคำไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับผู้สื่อข่าว,ขณะเดียวกัน มีนายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ชาวจังหวัดลำปาง ได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความไว้เป็นหลักฐานและเรียกร้องค่าเสียหาย หลังจากที่เมื่อวันที่ 10 ต.ค. จ่ายเงินในราคา 8,000 บาท เพื่อไปทำศัลยกรรมจมูกที่คลินิกดังกล่าว ปัจจุบันมีอาการคัน มีตุ่มนูนบนสันจมูก คล้ายอักเสบ พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันที่มาทำจมูกขณะที่กำลังจะผ่าตัดอยู่นั้น ได้ยินหมอเถื่อนคนดังกล่าวพูดกับบุคคลคนหนึ่งซึ่งอยู่ในห้องด้วย จับใจความได้ว่า ดูไว้ ดูไว้ ต่อไปถ้าไม่อยู่จะได้ทำเป็น อีกหน่อยก็จะได้ทำเป็นรองผู้บริหารแล้ว ทำให้ตนเองตกใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะหมอเริ่มทำการผ่าตัดแล้ว หลังจากที่ทำไปแล้วก็มีปัญหาจึงคิดจะไปเอาออก โดยไปปรึกษาแพทย์ที่คลินิกแห่งหนึ่งคิดค่าเอาซิลิโคนออก 5,000 บาท ขณะนี้ตนเองไม่มีเงินจึงมาแจ้งความเพื่อขอเงินคืนและค่าเสียหายดังกล่าว,ส่วนผู้เสียหายอีกรายคือ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ชาวอำเภอเกาะคา จ.ลำปาง ซึ่ง 1 เดือนที่ผ่านมา ได้มาเสริมจมูกกับคลินิกเถื่อนและหมอเถื่อนรายดังกล่าวในราคา 4,900 บาท แต่ปรากฏว่าจมูกอักเสบ บวม มีหนองและผิดรูป ต้องกลับมาแก้ที่คลินิกดังกล่าวถึงสองครั้ง ล่าสุดยังคงอักเสบเป็นหนอง และมีซิลิโคนโผล่ออกมา และก่อนหน้านี้เคยติดต่อกับตัวแทนคลินิกดังกล่าวเพื่อขอเงินคืน แต่เมื่อถึงเวลานัดโอนเงินก็ไม่ได้โอนเงินตามที่รับปากไว้ จึงมาแจ้งความดังกล่าว,ก่อนหน้านั้น นายคมสัน อมรพิชญ์ เภสัชกรชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง ร่วมหารือกับ พ.ต.อ.จิตตพล วงษ์วัน ผกก.สภ.เขลางค์นคร และ พ.ต.ท.ทระนง ศรีคำวัง รอง ผกก.สอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีคลินิกเถื่อนและหมอเถื่อนที่ทำอึ๋มสาวประเภทสองชาวจังหวัดลำพูนดับ เพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาและกระทรวงสาธารณสุขทราบ เบื้องต้นพบว่า คดีมีความคืบหน้าไปมากจนสามารถออกหมายจับหมอเถื่อนรายดังกล่าวได้แล้ว ส่วนจะแจ้งข้อหาเพิ่มกับผู้ที่มีชื่อเป็นเจ้าของเพิ่มอีกหรือไม่ ต้องรอการสอบสวนอีกครั้ง,ด้าน พ.ต.อ.จิตตพล วงษ์วัน ผกก.สภ.เขลางค์นคร อ.เมือง จ.ลำปาง เปิดเผยว่า หลังจากที่ศาลจังหวัดลำปางได้ออกหมายจับ นายธนัชพงศ์ จิตรธีรภิรมย์ อายุ 29 ปี หมอเถื่อนรายดังกล่าวแล้ว ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้ทำการขออายัดบัญชีคลินิกดังกล่าวจำนวน 5 บัญชี เพื่อจะทำการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ทั้งนี้คาดว่าน่าจะมีผู้เสียหายที่โอนเงินให้กับคลินิกดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้มาทำศัลยกรรม น่าจะหลายแสนบาท และได้จัดทีมสืบสวนลงพื้นที่ติดตามหมอเถื่อนรายดังกล่าวแล้ว คาดว่าน่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้หากใครมีเบาะแสของผู้ต้องหารายดังกล่าว หรือเป็นผู้เสียหาย ให้มาพบพนักงานสอบสวน สภ.เขลางค์นคร หรือโทรมาที่ 0-5420-9852,ทั้งนี้จากการสอบถามพนักงานของคลินิกดังกล่าวทราบว่า ยังไม่ได้รับเงินเดือนเดือนล่าสุดจากคลินิกดังกล่าวเลย เพราะมาเกิดเรื่องเสียก่อน ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน. | เจ้าของคลินิกเถื่อนที่ลำปาง เข้าให้การเพิ่มเติม ผู้เสียหายร้องอีก ทำจมูกอักเสบ ขณะที่ตำรวจแจ้งข้อหาหนุ่มวัย 29 ปี อ้างตัวเป็นหมอ ศัลยกรรมคนตาย ฐานฆ่าโดยไม่เจตนา ด้านพนักงานเดือดร้อนไม่ได้รับเงินค่าจ้างเดือนสุดท้าย | ข่าว,ทั่วไทย | คลีนิกเถื่อน,ศัลยกรรมเถื่อน,ฆ่าคนโดยไม่เจตนา,ตาย,ลำปาง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1119569 |
ปากคำ หน่วยกู้ภัย : Q: ยิงทำไม นี่รถพยาบาล? A: ก็พวกมึงขว้างกู | นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นในกรุงเทพมหานครที่ผ่านมา ทั้งจากปฏิบัติการ ขอพื้นที่คืน ปฏิบัติการ กระชับพื้นที่ การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงของรัฐบาล และปฏิบัติการของกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่าย ส่งผลให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินตามมาอย่างประเมินค่ามิได้ ในภาวะคับขันที่ดำเนินไประหว่างความเป็นกับความตายเช่นนี้ สิ่งที่มีค่ามากที่สุด คือความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย แพทย์ พยาบาล ทว่าความปลอดภัยของผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อลดความสูญเสียของมวลมนุษย์เอง กลับลดน้อยลงอย่างน่าใจหายประชาไท มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์ สรายุทธ อำพันธ์ ชายหนุ่มอายุ 22 ปี พนักงานประจำหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู – สภากาชาดไทย ขณะรับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ หนึ่งในผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ หลังถูกเจ้าหน้าที่ทหารยิงเข้าใส่ที่มือเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 53 เขาเป็นเจ้าหน้าที่ทางสาธารณสุขที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารรายแรกตั้งแต่เริ่มมีเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นสรายุทธเล่าว่า ตนและเพื่อน 3 คน ถูกเรียกเข้าไปเสริมพื้นที่บริเวณบ่อนไก่ เลยไปจอดรถไว้ที่ลานจอดรถโรงแรมพินนาเคิล ซอยงามดูพลีเวลาประมาณ 16.00 น.ทหารเริ่มต้อนคนเข้ามาในซอยงามดูพลี เมื่อเสียงปืนเริ่มเข้ามาใกล้ เพื่อนกู้ภัยผู้หญิงเลยบอกว่า ให้ไปหลบในรถก่อนดีกว่า จะได้ปลอดภัยธีรภัทร หัวหน้าหน่วยกู้ภัยที่ทำงานร่วมกับสรายุทธ เล่าว่า ตนได้ลงไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ทหาร แต่กลับไม่สามารถยับยั้งกระสุนปืนได้ และในตอนนั้นไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ในบริเวณนั้นแล้ว เหลือเพียงแค่รถพยาบาลของพวกเขามีการขว้างหินขว้างอะไรกันอยู่บนถนนใหญ่ด้านนอก พอมีเสียงปืนไล่ กลุ่มผู้ชุมนุมก็วิ่งเข้ามาในซอยงามดูพลี บางส่วนวิ่งเข้ามาในโรงแรมพินนาเคิล สักครู่หนึ่งมีทหารเข้ามา 7-8 นาย ทุกคนถืออาวุธปืน ทหารคนหนึ่งชี้หน้าถามผมว่า มึงด้วยหรือเปล่า? ผมก็เลยเปิดประตูรถ พยายามชูมือแสดงตัว บอกว่า ไม่เกี่ยว นี่พยาบาล พอพูดจบเขาก็ยิงเลย เพราะมีทหารบางนายมานั่งประทับปืนรออยู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นการตั้งใจยิง ธีรภัทรกล่าวสรายุทธเสริมว่า ขณะนั้นตนเห็นทหารอีกนายหนึ่งประทับปืนอยู่ที่มุมตึก ระยะไม่เกิน 10 เมตร เมื่อสิ้นคำของธีรภัทร ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าถูกยิง นึกว่าหัวหน้าถูกยิงเพราะเขาอยู่ข้างล่างรถ แต่ปรากฏว่าแขนซ้ายเราเลือดพุ่งเสียใจ เพราะวันที่ 10 เม.ย. ผมก็ช่วยพวกเขา (ทหาร) เยอะมาก ผมคิดว่าเราปลอดภัยแล้วที่อยู่บนรถพยาบาลที่มีสัญลักษณ์ทุกอย่างชัดเจน แล้วอีกอย่างก็มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทหารว่า เราไม่เกี่ยว ในใจตอนนั้นคิดว่า เขาคงมาค้นรถเราเฉยๆ อันนั้นรับได้อยู่แล้ว เพราะถือว่าไม่มาคุกคามเรา ผิดหวังครับ ถ้าวันนั้นผมกดหัวพี่ผู้หญิงไม่ทัน กระสุนคงเข้าที่หัวเขาแล้ว แต่ผมคิดว่า ผมโชคดีกว่าคนอื่น เพราะคนที่โดนทีหลังผมนั้นตายหมดธีรภัทรเสริมว่า นี่ไม่ใช่การยิงเพื่อป้องกันตัว และไม่ได้อยู่ในกฎการใช้กำลัง 3 ข้อ ของศอฉ. จากนั้นผมก็วิ่งไปดูน้องแล้วรีบพาไปส่งโรงพยาบาล ตอนออกจากโรงแรมมิราเคิลก็ต้องผ่านทหารกลุ่มนั้น ด้วยความโมโหและตกใจ ผมเลยถามไปว่า ยิงทำไม นี่รถพยาบาล? พวกเขาเลยบอกว่า ก็พวกมึงขว้างกู ก็มีบ้านนี้เมืองนี้นั่นแหละ ที่ยิงใส่รถพยาบาลสรายุทธกล่าวว่า หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็มีการประชุมกันของทางสภากาชาด ศอฉ. และศูนย์เอราวัณ มีการวางแผนว่า การเข้ารับคนเจ็บจะไม่มีการขับรถเข้าไปรับ เนื่องจากมีความอันตรายสูง นอกจากนี้ยังมีการจัดหาเสื้อเกราะให้แก่เจ้าหน้าที่กู้ภัย แต่ยังไม่สามารถแจกจ่ายได้ครบทุกคนการทำงานตอนแรกๆ กดดัน เพราะเสื้อแดงหาว่าผมขนทหาร ลำเลียงอาวุธให้ทหาร แยกราชประสงค์ประกาศห้ามรถพยาบาลเข้ามาที่ราชประสงค์ ก็เลยถอยห่างมาพักหนึ่ง พอมีการสลาย ก็มีข่าวอีกว่า รถพยาบาลจะขนอาวุธของเสื้อแดงออกมาด้านนอก สรุปแล้วคือเป็นแพะตลอด อยู่ที่ว่าใครจะปล่อยข่าวเราอย่างไร สรายุทธกล่าวสรายุทธกล่าวทิ้งท้ายถึงการรายงานข่าวของสื่อมวลชนว่า พอตูมตามขึ้นมา เจ้าหน้าที่กู้ภัย – สื่อมวลชน บาดเจ็บหรือตายนั้น มีการรายงานข่าวก็จริง แต่สาเหตุที่แท้จริงไม่มีการชี้แจง ว่าทำไมถึงถูกยิง เป็นเพราะสัญลักษณ์เขาไม่ชัดเจนหรืออะไร กลับไม่มีการชี้แจงตรงนี้ สื่อไปรายงานว่า ตรงนี้ตรงนั้นถูกเผา มันก็เหมือนเป็นการตอกย้ำเกินไป | สรายุทธ อำพันธ์ ชุดที่สวมปฏิบัติการ รถคันที่ถูกยิง รูกระสุนเข้าไปโดนพยาบาลด้านใน ภายในรถ เลือดและเนื้อของเพื่อนพยาบาลที่นั่งอยู่ในรถ เราผิดใช่ไหม ธีรภัทร - หัวหน้าหน่วยกู้ภัยที่ลงไปเจรจากับทหาร | การเมือง | การสลายการชุมนุม 13 - 19 พฤษภาคม 2553,ปากคำประวัติศาสตร์,ผู้บาดเจ็บ,สรายุทธ อำพันธ์,หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู – สภากาชาดไทย | https://prachatai.com/journal/2010/05/29681 |
ตัดเกรดแข้งลิเวอร์พูล เกมพลิกนรกดับวิลลาระทึก | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 2 พ.ย. ว่า ลิเวอร์พูล เอคโค สื่อท้องถิ่นเมืองเมอร์ซีย์ไซด์ ให้คะแนนนักเตะทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล หลังโกงความตายบุกแซงชนะ สิงห์ผยอง แอสตัน วิลลา 2-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา,อลิสสัน เบคเกอร์ (GK) 6: ดูแล้วน่าจะทำได้ดีกว่านี้ในจังหวะเสียประตู นอกจากนั้นเล่นได้ตามมาตรฐาน,เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ 8: เล่นได้ดุดันเลยทีเดียว บุกมันมาก เติมขึ้นมายิงในช่วงครึ่งแรกแต่บอลดันแฉลบออกไปน่าเสียดาย แต่สุดท้ายก็มาเปิดเตะมุมให้ มาเน โหม่งประตูชัย เป็นนักเตะที่โดดเด่นที่สุดของหงส์แดงในเกมนี้,เดยัน ลอฟเรน 7:มีปัญหาในการรับมือกับความแข็งแกร่งของ เวสลีย์ กองหน้าของวิลลา ในช่วงแรกๆ มีหลุดตำแหน่งบ้าง แต่ภาพรวมในจังหวะอื่นๆ ถือว่าเล่นเกมรับได้แน่นและแข็งแกร่งมาก,เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ 6:แม้จะไม่ใช่เกมที่ดีที่สุดของเขา แต่ก็มีโมเมนต์ดีๆ เช่นการเปิดบอลให้ ซาลาห์ หลุดไปยิงแต่ติดเซฟ และช่วยสกัดบอลบางครั้ง,แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน 7: ทุ่มเทสุดๆ สอดเติมเกมรุกได้ดี และยิ่งมีความอันตรายมากขึ้นเมื่อหงส์แดงเริ่มกดดันใส่เจ้าถิ่นอย่างหนัก จนสุดท้ายขึ้นมาโหม่งประตูตีเสมอให้กับทีมได้,อดัม ลัลลานา 6: ในช่วงครึ่งแรกต้องทำงานอย่างหนักกับเกมรับ จากนั้นครึ่งหลังเริ่มเดินเกมรุกมากขึ้น แต่จังหวะยิงในนาทีที่ 73 นั้นพลาดแบบไม่น่าเชื่อ,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 6: เริ่มเกมได้แย่มาก จ่ายบอลเสียเกือบทำทีมพัง และบางครั้งน่าจะจ่ายให้ทีมมีลุ้นได้ประตู ก็ดันจ่ายไปติดคู่แข่ง,จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม 5: มีส่วนร่วมพอสมควรในครึ่งแรก มีจังหวะผ่านบอลนิดหน่อย เล่นดีขึ้นพอสมควรหลังพักครึ่ง ก่อนจะถูกเปลี่ยนตัว,ซาดิโอ มาเน 7: ครึ่งแรกได้โขกแต่ข้ามคาน เปิดบอลให้เฟอร์มิโนยิงแต่ล้ำหน้า และโดนใบเหลืองข้อหาพุ่งล้มในช่วงท้ายครึ่งแรก จากนั้นครึ่งหลังได้โขกจ่อๆแต่ติดเซฟ กระทั่งทดเจ็บ น.90+4 โหม่งประตูชัยพาทีมคว้า 3 แต้ม กลับบ้านเฉย,โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 5: ยิงไปติดเซฟ นาทีที่ 18 จากนั้นท้ายครึ่งแรกซัดข้ามคานไปอีก จากนั้นครึ่งหลังเริ่มเงียบ และถูกเปลี่ยนตัวออก,โรแบร์โต เฟอร์มิโน 6:ไม่มีส่วนร่วมมากนักในครึ่งแรกแม้จะถอยตัวเองลงมาต่ำ แต่ก็มีจังหวะยิงประตู แต่โชคร้ายที่วีเอออาร์มองว่าเขาล้ำหน้า,สำรอง,อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด แชมเบอร์เลน 6: ลงมาในนาทีที่ 65 ไม่รอช้าลงมาก็ซัด 2 จังหวะ แต่ติดบล้อกหมดเลย ก่อนที่นาทีที่ 76 จะยิงไปโดนมือคู่แข่งแต่ไม่ได้แฮนด์บอลซะงั้น,ดิวอค โอริกี 6: ได้ซัดข้ามคานไปทีนึง,นาบี เกอิตา 5: เวลาน้อยไปหน่อย แต่ก็พยายามจ่ายบอลขึ้นหน้า | ประกาศคะแนนแข้งลิเวอร์พูลครบทุกคน พร้อมบทวิเคราะห์จัดเต็ม หลังบุกชนะ แอสตัน วิลลา | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | ลิเวอร์พูล,แอสตัน วิลลา,ตัดเกรดแข้งลิเวอร์พูล,พรีเมียร์ลีก | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1695723 |
ออสเตอร์ซุนด์สหวังซิว น้องชอ มือ 2 ทีมชาติลุยแดนไวกิ้ง | 27 ธ.ค. นายพิเชษฐ์ศักดิ์ ขยันการ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงออสเตอร์ซุนด์ส ทีมในลีกอีลิทเตน หรือลีกรองของฟุตบอลอาชีพหญิงสวีเดน ชาวไทย เปิดเผยว่า กำลังเจรจาเพื่อดึงตัว สุกัญญา ช.เจริญยิ่ง หรือ น้องชอ ผู้รักษาประตูวัย 27 ปี ไปร่วมทีมเพื่อสู้ศึกฤดูกาลหน้า,ขณะที่สถานการณ์ของ ไหม-จอย ธนีกาญจน์ แดงดา และ ธนัสถา ชาวงศ์ 2 ตัวรุกที่โชว์ฟอร์ม ได้ดีในฤดูกาลที่แล้วกับออสเตอร์ซุนด์ส จนช่วยพาทีมเลื่อนชั้นมาอยู่ลีกอีลิทเตน ได้สำเร็จ แต่ยังไม่แน่นอนว่าจะต่อสัญญาหรือไม่ หลังจากที่ทั้งคู่ยังรอความชัดเจนจากผู้ใหญ่ในสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ รวมถึงฝ่ายบริหารของฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย แต่ออสเตอร์ซุนด์ส ยังไม่หยุดที่จะเล็งหาแข้งเนื้ออ่อนสาวไทยไปร่วมทัพ,นายพิเชษฐ์ศักดิ์ กล่าวว่า ออสเตอร์ซุนด์ส ได้ศึกษาข้อมูลและการเล่นของสุกัญญามาตั้งแต่ปีที่แล้ว และหวังนำไปเป็นผู้รักษาประตูมือ 2 ของทีม,ทีมงานได้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับน้องฌอ จากทั้งไหมและจอย มาตั้งแต่ปีก่อนแล้ว ต้องยอมรับว่า เราอาจจะไม่ได้ดึงตัวน้องเขาไปเป็นมือ 1 แต่เธอจะได้ประสบการณ์ และรูปแบบการฝึกซ้อมที่เป็นมืออาชีพ แตกต่างจากที่เคยสัมผัสมาอย่างสิ้นเชิง,อย่างไรก็ตาม เรายังต้องให้เกียรติกับทางสมาคมฟุตบอลฯ อย่าง ไหม-จอย เรายังอยากได้พวกกลับไปร่วมทีมเช่นกัน แต่ก็ดูว่าพวกเธอจะเลือกอะไร ระหว่างฟุตบอลโลกที่แคนาดา หรือเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพ แต่หากจะลงตัวที่สุดคือ ให้น้องที่จะเซ็นสัญญากับออสเตอร์ซุนด์ส ได้ทั้ง 2 อย่าง เพราะการที่พวกเธอจะได้ไปปะทะแข้งกับนักเตะยุโรปทุกๆ สัปดาห์ ย่อมจะทำให้พวกเธอแข็งแกร่งขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว,ด้าน น้องชอ สุกัญญา กล่าวยอมรับแบบไม่ปกปิดว่า เธอต้องการไปค้าแข้งอาชีพที่สวีเดน เพื่อประสบการณ์ใหม่ในชีวิต,ถ้าพูดกันตรงๆ หนูอยากจะไปเล่นอาชีพที่สวีเดนมากๆ มันคงตอบอยากว่า การได้ไปฟุตบอลโลก กับได้ค้าแข้งอาชีพที่ยุโรปอะไรสำคัญมากกว่ากัน แต่การได้เซ็นสัญญานักเตะอาชีพที่สวีเดน น่าจะเป็นโอกาสที่ดีมากกว่าในระยะยาว เพราะหนูจะได้ไปเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เป็นรูปแบบสโมสรฟุตอลอาชีพจริงในยุโรป อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็คงต้องรอดูทางผู้ใหญ่ต่อไป น้องชอ กล่าวทิ้งท้าย | ออสเตอร์ซุนด์ส สโมสรฟุตบอลหญิงจากลีกรองสวีเดน ยังหวังคว้าตัว น้องชอ นายด่านมือ 2 ทีมชาติไทย ไปร่วมทีมอีกราย แม้ยังไม่ชัวร์เซ็น ไหม-จอย ที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงในแดนไวกิ้งเมื่อปีก่อน | null | พิเชษฐ์ศักดิ์ ขยันการ,ฟุตบอลหญิง,ออสเตอร์ซุนด์ส,ลีกอีลิทเตน,ฟุตบอลอาชีพหญิง,สวีเดน,สุกัญญา ช.เจริญยิ่ง,ข่าวกีฬา,น้องชอ | https://www.thairath.co.th/content/471624 |
ไวรัสซิการะบาดในบราซิล ขั้นฉุกเฉิน ทารกศีรษะเล็กเพิ่มไม่หยุด | เมื่อวันที่ 23 ม.ค.สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐฯ (ซีดีซี) ประกาศเพิ่มประเทศ ที่แจ้งเตือนหญิงตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงเดินทางไปเยือน เพิ่มมากขึ้นอีก 8 ประเทศ เนื่องจากกำลังเกิดการระบาดของไวรัสซิกา ซึ่งเป็นเหตุให้หญิงที่ตั้งครรภ์หากติดเชื้อไวรัสดังกล่าวแล้ว ทารกน้อยที่เกิดมามีโอกาสที่จะมีศีรษะขนาดเล็กผิดปกติ หลังจากไม่กี่วัน ก่อนหน้านี้ ซีดีซี ได้แจ้งเตือนหญิงมีครรภ์ควรเลี่ยงเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคลาตินอเมริกา และแคริบเบียน,ซีเอ็นเอ็นแจ้งว่า 8 ประเทศ และดินแดนที่สหรัฐฯประกาศเพิ่มเติม จากการเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซิกานั้น อยู่ในแอฟริกา และภูมิภาคโอเชียเนีย ที่เป็นชื่อเรียกกลุ่มของหมู่เกาะต่างๆในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยนักไวรัสวิทยาคนหนึ่งในบราซิล กล่าวว่า ขณะนี้ สถานการณ์ระบาดของไวรัสซิกาในบราซิล อยู่ในขั้นสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากอัตราเด็กทารกแรกเกิดศีรษะขนาดเล็ก เพิ่มไม่หยุด มากขึ้นเป็นเกือบ 4,000 รายแล้ว ,ทั้งนี้ ไวรัสซิกา ถูกพบครั้งแรกในแอฟริกา ช่วงทศวรรษ 1940 แต่ปรากฏว่า จนมาถึงวันนี้ เชื้อไวรัสซิกา ซึ่งมียุงลายบ้านเป็นพาหะ เช่นเดียวกับโรคไข้เหลือง แลไข้เดงกีนั้นได้ระบาดไปยังภูมิภาคลาตินอเมริกาแล้ว ขณะที่ นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า มีหลักฐานมากขึ้นเรื่อยๆ บ่งชี้ว่า เด็กทารกที่เกิดมามีศีรษะเล็กผิดปกติ เกี่ยวข้องกับการที่แม่ติดเชื้อไวรัสซิการะหว่างตั้งครรภ์,ส่วนอาการป่วยของคนทั่วไปจากการติดเชื้อไวรัสซิกา คือ มีไข้ และมีผื่นขึ้นตามตัว ขณะที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้แสดงอาการป่วย และยังไม่รู้วิธีการรักษา โดยมีเพียงทางเดียวในการต่อสู้กับไวรัสซิกา คือ การไม่ให้ยุงลายบ้านมาวางไข่ในแหล่งน้ำ และการป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด | สหรัฐฯแจ้งเตือนเพิ่มอีก 8 ประเทศกำลังเกิดการระบาดของไวรัสซิกา แนะหญิงตั้งครรภ์ ควรเลี่ยงเดินทางไปเยือน ขณะที่บราซิล ประกาศสถานการณ์ระบาดของไวรัสซิกาในประเทศ อยู่ในขั้นฉุกเฉิน ยอดเด็กทารกเกิดมาศีรษะมีขนาดเล็ก พุ่งไม่หยุด | null | ไวรัสซิการะบาด,ไวรัสซิกา,ระบาด,บราซิล,เด็กทารกหัวเล็ก,ทารกศรีษะเล็ก,ศรีษะขนาดผิดปกติ,แม่ตั้งครรภ์,หญิงตั้งครรภ์,ติดเชื้อ,ยุงลายบ้าน,พาหะนำโรค,สหรัฐฯ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/567058 |
โกเก ซัดชัย ตราหมี บุกเฉือน เบติส 1-0 แซงราชันขึ้นที่ 2 | การแข่งขันฟุตบอล ลา ลีกา สเปน ฤดูกาล 2015-16 ประจำวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ย. คู่ที่น่าสนใจ เรอัล เบติส ทีมอันดับ 12 ของตาราง เปิดสนาม เอสตาดิโอ เบนิโต บีญามาริน รับการมาเยือนของ ตราหมี แอตเลติโก มาดริด ทีมอันดับ 3 ของตาราง,ผลการแข่งขันปรากฏว่า แอตเลติโก มาดริด บุกไปเอาชนะ เรอัล เบติส หวุดหวิด 1-0 โดยได้ประตูในนาทีที่ 7 จากจังหวะที่ ชาบี ตอร์เรส นักเตะของเบติส โดนนักเตะของตราหมีที่เข้ามาไล่บี้กดดันจนต้องเลี้ยงบอลวนอยู่ตรงหน้าเขตโทษ สุดท้ายโดน คาร์ราสโก เข้ามาแซะบอลให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ซัดด้วยขวาเน้นๆ ในเขตโทษ อดาน นายด่านเจ้าถิ่น เซฟออกมาเข้าทาง โกเก ตามซ้ำจ่อๆ เข้าไปตุงตาข่าย,จากชัยชนะในนัดนี้ ส่งผลให้ แอตเลติโก มาดริด เก็บเพิ่มเป็น 26 คะแนน แซง เรอัล มาดริด ขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูง และมีแต้มตามหลัง บาร์เซโลนา ทีมจ่าฝูงอยู่ 4 คะแนน ส่วน เรอัล เบติส มี 15 คะแนน เท่าเดิม รั้งที่ 12,ส่วนผลคู่อื่น ดังนี้,สปอร์ติง กิฆอน แพ้ เลบันเต 0-3,บียาร์เรอัล เสมอ ไอบาร์ 1-1,กรานาดา ชนะ แอธเลติก บิลเบา 2-0 | โกเก ซัดประตูชัยตั้งแต่ต้นเกม ช่วยให้ ตราหมี แอตเลติโก มาดริด บุกไปเอาชนะ เรอัล เบติส 1-0 เก็บ 3 คะแนน แซง เรอัล มาดริด ขึ้นที่ 2 ตามหลังจ่าฝูง บาร์เซโลนา อยู่ 4 แต้ม | null | แอตเลติโก มาดริด,เรอัล เบติส,ผลบอล,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/541247 |
หม่อมอุ๋ย ปัด ไม่มีปรับ ครม.ทีมเศรษฐกิจ | วันที่ 16 ก.ค. 58 เมื่อเวลา 09.40 น. ทำเนียบรัฐบาล ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ กล่าวถึงกระแสข่าว เรียกร้องให้มีการปรับ ครม.ในส่วนของทีมเศรษฐกิจว่า ก็พวกเธอนั่นแหล่ะเป็นคนลงข่าว นายกฯ ไม่เคยพูดกับผมเรื่องนี้เลย พอมีข่าวที นายกฯ ก็มาบอกผมว่า พี่อย่าไปเชื่อนะ ไม่มี ก็คุยกันอยู่ตลอด ผมกับนายกฯ ทำงานกันสัปดาห์หนึ่งก็มานั่งคุย เคลียร์งานกันที ที่ว่ามีข่าวจะปรับเอาคนอักษรย่อ ว เข้ามาอยู่ในทีมเศรษฐกิจ ก็ไม่เห็นมี วันก่อนสื่อฯ ก็ไปลงข่าวว่า นายกฯ ตำหนิผมในที่ประชุม ครม. ซึ่งไม่ใช่ เพราะความจริงคือ นายกฯ ตำหนิทางสำนักงบประมาณ และผมเองที่เป็นคนช่วยบอกให้สำนักงบประมาณ ว่า ทำอย่างนั้น อย่างนี้สิ แต่กลับกลายเป็นว่า ข่าวไปลงในทำนองว่า นายกฯ ตำหนิผม โดยอ้างเป็นแหล่งข่าวในที่ประชุมใน ครม.ด้วย ผมก็งง ทั้งๆ ผมกับนายกฯ เป็นคนช่วยบอกให้สำนักงบฯ ทำ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ปีนี้สำนักงบประมาณ ทำได้ดีกว่าทุกปี แต่เราอยากให้ดีกว่านี้ อยากให้ชัวร์ว่า สิ้นเดือนกรกฎาคม ทุกคนเซ็นหมด ถ้าไม่หมดจะเอาคืน แต่สื่อฯ เอาไปลงสนุกสนานกันใหญ่ นายกฯ ยังบอกว่า สื่อฯ เอาไปออกกันได้อย่างไร รองนายกฯ กล่าว | หม่อมอุ๋ย ปัด ไม่มีปรับ ครม.ทีมเศรษฐกิจ โยนสื่อเอาไปลงข่าวกันเอง ยัน นายกฯ ไม่เคยคุยเรื่องนี้ แจง สื่อฯ เข้าใจผิดไปเอง ที่ไปลงข่าวนายกฯ ตำหนิตน ทั้งที่ความจริงตำหนิสำนักงบประมาณ เพียงแต่ตนเข้าไปช่วยพูดเท่านั้น | null | หม่อมอุ๋ย,ปรับครม.,เศรษฐกิจ,ทีมเศรษฐกิจ,สื่อไปลงกันเอง,นายกฯ,ปรีดิยาธร เทวกุล,รองนายกฯ,ตำหนิ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/512103 |
รวบ2หนุ่มหมี อาชญากรข้ามชาติ หนีหมายจับรัสเซีย กบดานภูเก็ต | ,เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. ที่กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (กก.5 บก.ทท.) อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท. พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผบก.ตท.(ตำรวจสากลประเทศไทย)และ พ.ต.อ.พีระยุทธ์ การะเจดีย์ รอง ผบก.ภ.ภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายโรมัน เลเดเนฟ อายุ 33 ปีและนายอเล็กซานเดอร์ บูการอฟ อายุ 42 ปี 2 ผู้ต้องหา ที่ถูกยกเลิกวีซ่าในการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทย,ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก ตำรวจสากลประจำประเทศไทยได้รับการประสานงานจากตำรวจสากลรัสเซียระบุ 2 ผู้ต้องหาดังกล่าวกระทำความผิดในต่างประเทศเกี่ยวกับการครอบครองยาเสพติดและลักลอบเข้าเมืองในลักษณะที่เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ แล้วหลบหนีการจับกุมตามหมายจับขององค์การตำรวจสากลและหมายจับของประเทศรัสเซีย เข้ามายังประเทศไทย,จนกระทั่ง พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบ.ตร.ฝ่ายต่างประเทศได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ผช.ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าฝ่ายสืบสวนสอบสวนอาชญากรข้ามชาติ บูรณาการกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สันติบาล ตำรวจสากลในประเทศไทย และตำรวจท่องเที่ยวพร้อมประสานตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตร่วมกันสืบสวนหาข่าว เบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 หลบหนีเข้ามาอยู่ใน จ.กระบี่ และ จ.ภูเก็ต นานเกือบ 2 ปี,ต่อมา เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลที่ปรากฏอยู่ในหมายจับขององค์การตำรวจสากลและหมายจับของประเทศรัสเซีย จึงประสานตำรวจสากลเพื่อรับตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 กลับไปดำเนินคดีที่ประเทศต้นทางต่อไป. | ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกับสันติบาล ตม.และภูธร รวบตัว2ชายชาวรัสเซีย หลบหนีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อาชญากรรมช้ามชาติ กบดานที่ภูเก็ตนานเกือบ2ปี มีหมายจับทั้งของตำรวจสากล และตำรวจรัสเซีย | null | จับชาวรัสเซีย,จับ2หนุ่มหมีขาว,อาชญากรรมข้ามชาติ,ตำรวจสากล,หมายจับตำรวจสากล,หนีหมายจับ,ตำรวจท่องเที่ยว,สุชาติ ธีระสวัสดิ์,ตำรวจภูเก็ต,ภูเก็ต,อาชญากรรม,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/548447 |
จับ 2 สาวสตูล คดีทองคำออนไลน์เสียหายนับสิบล้าน เจ้าตัวปัดเป็นเท้าแชร์ | เมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 ก.ย.2561 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมกำลังตำรวจกองปราบได้จับกุม น.ส.รัชนก ขาวพุทธ อายุ 32 ปี และน.ส.รัชณี ขาวพุทธ อายุ 27 ปี สองพี่น้องชาวจ.สตูล โดยตามไปจับกุมได้ที่บ้านพักในจ.สตูล โดยทั้งสองคนถูกระบุว่าเป็นเท้าแชร์ทองคำออนไลน์ และมีผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และถูกออกหมายจับได้ข้อหาร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่นโดยทุจริต หรือหลอกลวง, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ,แต่จากการสอบสวนทั้งสองคนยังให้การปฏิเสธ และบอกทั้งน้ำตาว่าไม่ได้เป็นเท้าแชร์ แต่เป็นเพียงลูกข่ายที่หาสมาชิก และถูกหลอกมาอีกทีโดยเข้าแจ้งความไว้แล้วเช่นกันที่ สภ.บึงกุ่ม สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหากลุ่มนี้ มีลักษณะแชร์ทองคำออนไลน์ คล้ายๆ กับแชร์ลูกโซ่หรือแชร์ออนไลน์อื่นๆ คือ ช่วงแรกจะได้รับค่าตอบแทนที่สูงมากและตรงเวลาแต่สุดท้ายก็ถูกเชิดเงินหนี,สองพี่น้อง ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย กล่าวให้การว่า แชร์ทองคำออนไลน์กลุ่มนี้เปิดมาประมาณ 7 เดือน ผู้ที่เข้าไปร่วมวงจะต้องนำเงินมาลงทุนซื้อทองคำอย่างต่ำเป็นทองคำหนัก 2 บาท โดยมีการกำหนดวงรอบว่าแต่ละรอบจะเล่นทองคำหนัก 100 บาทหรือ 200 บาท ซึ่งอัตราส่วนค่าตอบแทนที่จะได้ เช่น ราคาทองจริงบาทละ 20,000 แต่ซื้อได้เพียง 17,000 บาท ซึ่งมีส่วนต่างของกำไรประมาณ 3,000 บาท ซึ่งรอบแรกจะได้ทองจริงๆ แต่รอบ 2 รอบ 3 ซึ่งแต่ละคนจะหลงเชื่อ และเพิ่มวงเงินลงทุนเข้าไป สุดท้ายวงแชร์ก็ถูกปิดไปพร้อมกับเงินที่ลงทุน โดยตนทั้งสองก็เสียเงินไปราว 3 ล้านบาท เช่นกัน และมากสุดในกลุ่มนี้อยู่ที่ 8 ล้านบาท มีผู้เสียหายจากทั่วประเทศนับร้อยรายแล้วแต่ใครจะเสียมากเสียน้อย,เจ้าหน้าที่เผยว่า พฤติกรรมของเท้าแชร์ทองคำลูกโซ่ คือ เมื่อหลอกเงินจากวงแรกได้แล้วก็จะไปเปิดวงใหม่หมุนเวียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีผู้เข้าไปเล่นและสูญเสียเงินเป็นจำนวนมากวงละเป็นสิบล้าน. | ตร.กองปราบจับ 2 ผู้ต้องหาสาวสตูล ที่ถูกระบุว่าเป็นเท้าแชร์ทองคำออนไลน์ ลวงชาวบ้านลงทุนแล้วเชิดเงินหนีเสียหายนับสิบล้าน ด้านเจ้าตัวปัดเป็นเท้าแชร์ เป็นแค่ลูกข่ายหาดาวน์ไลน์ | ข่าว,อาชญากรรม | แชร์ทองคำออนไลน์,แชร์ลูกโซ่,ฉ้อโกงประชาชน,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์,สงขลา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1375785 |
DSI แจ้งให้ข้อมูลความคืบหน้าคดีเสียชีวิตเมษา-พฤษภา 53 ไม่ได้ | ดีเอสไอแจ้งประชาไทว่าให้ข้อมูลความคืบหน้าคดีผู้เสียชีวิตเมษา-พฤษภา 53 ไม่ได้เพราะไม่เข้าเกณฑ์เปิดเผยข้อมูลของทางหน่วยงาน แต่ยังอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ ได้วานนี้ (13 ก.ค.63) สำนักข่าวประชาไทได้รับจดหมายแจ้งจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เรื่องควาบคืบหน้าทางคดีของผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมเมษายน-พฤษภาคม 2553 ที่ประชาไทได้ทำหนังสือขอทราบข้อมูลไปเมื่อ 5 มิ.ย.2563 โดยข้อมูลที่ขอไปมีดังนี้ดีเอสไอได้ตอบประเด็นแรกมาว่าการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นทั้งในส่วนของพลเรือนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงนั้น ดีเอสไอเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ตามมติคณะกรรมการคดีพิเศษที่ 3/2553 เมื่อ 16 เม.ย.2553 ที่ให้การกระทำความผิดอาญากรณีก่อการร้ายการขู่บังคับให้รัฐบาลกระทำการใดๆ การทำร้ายประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ และกระทำต่ออาวุธยุทธภัณฑ์ของทางราชการอันเกี่ยวกับการชุมนุมที่มิชอบด้วยกฎหมายในช่วงปลายปี พ.ศ.2552 เป็นต้นไปในราชอาณาจักรรวมถึงความผิดต่อเนื่องหรือที่เกี่ยวพันกันเป็นคดีพิเศษทั้งนี้ดีเอสไอตอบในส่วนของความคืบหน้าคดีว่าสำนวนของผู้เสียชีวิตคนใดอยู่ในขั้นตอนใดนั้นมาว่า ข้อมูลความคืบหน้านี้เป็นข้อมูลในสำนวนการสอบสวน การเปิดเผยข้อมูลจำเป็นต้องเข้าหลักเกณฑ์ที่ดีเอสไอกำหนดไว้ 3 ข้อ ดังนี้ดีเอสไอยังระบุอีกว่าทางหน่วยงานไม่สามารถเปิดเผยให้ประชาไททราบได้เนื่องจากประเด็นดังกล่าวไม่เข้าตามหลักเกณฑ์ข้างต้น แต่ประชาไทยังสามารถใช้สิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารได้ภายใน 15 วัน ตามมาตรา 18 พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540ทั้งนี้ประชาไทจะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป | ดีเอสไอแจ้งประชาไทว่าให้ข้อมูลความคืบหน้าคดีผู้เสียชีวิตเมษา-พฤษภา 53 ไม่ได้เพราะไม่เข้าเกณฑ์เปิดเผยข้อมูลของทางหน่วยงาน แต่ยังอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ ได้วานนี้ (13 ก.ค.63) | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI),พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.2540 | https://prachatai.com/journal/2020/07/88577 |
คนไทยฮิตใช้ ไลน์-วอทส์แอพ โทรหากัน พฤติกรรมสื่อสารเปลี่ยนรับยุคดิจิทัล | สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พบว่า ช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 (ม.ค.-มี.ค.) คนไทยใช้งานโทรศัพท์มือถือลดลงจากช่วงไตรมาส 4 ของปี 2560 (ต.ค.-ธ.ค.) ถึงร้อยละ 13 หรือจากเดิมที่มีจำนวนนาทีการโทรเข้า-ออก 8900 ล้านนาที ลดลงมาเหลือที่ 7700 ล้านนาทีขณะที่ตัวเลขการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือ (Data) นั้นกลับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 16.95 จากเดิมในช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้วที่มีจำนวนการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถืออยู่ที่ 1033022 เทราไบต์ เพิ่มขึ้นเป็น 1208046 เทราไบต์ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จากข้อมูลดังกล่าว กสทช.ประเมินว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยกับการใช้งานโทรศัพท์มือถือเปลี่ยนไปพอสมควร จากเดิมที่อาจจะเคยโทรหากันด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์โดยตรง ก็เปลี่ยนมาเป็นการโทรหากันผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยแอปพลิเคชันอย่าง Line WhatsApp Skype Messenger KakaoTalk หรือแอปพลิเคชันอื่นๆ แทนนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการใช้งาน Data ผ่านโทรศัพท์ที่เพิ่มขึ้นของประเทศไทย สวนทางกับการโทรหากันโดยตรงด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ลดลง เกิดจากพฤติกรรมการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันจากการสำรวจของสำนักงาน กสทช. พบว่า การโทรศัพท์ด้วยเสียงผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์เคลื่อนที่จะใช้ปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ต ดังนี้1. Skype ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 1.64 MB ต่อนาที2. WhatsApp ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 1.52 MB ต่อนาที 3. Tango ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 1.1 MB ต่อนาที 4. Viber ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 1.01 MB ต่อนาที 5. Hangouts ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 0.68 MB ต่อนาที 6. Line และ Messenger ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ตเท่ากันที่ 0.67 MB ต่อนาที7. KakaoTalk ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 0.6 MB ต่อนาทีส่วนการโทรในรูปแบบวิดีโอคอลผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์เคลื่อนที่จะใช้ปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ต ดังนี้1. Viber ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 40.52 MB ต่อนาที 2. Hangouts ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 36.58 MB ต่อนาที 3. Skype ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 10.01 MB ต่อนาที 4. Messenger ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 5.29 MB ต่อนาที5. WhatsApp ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 4.89 MB ต่อนาที 6. Tango ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 4.72 MB ต่อนาที7. KakaoTalk ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 3.41 MB ต่อนาที 8. Line ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 2.72 MB ต่อนาทีหมายเหตุ: หน่วย 1000 กิกะไบต์ = 1 เทราไบต์ และ 1000 เทราไบต์ = 1 เพตะไบต์ | กสทช. เผยไตรมาสแรกปี 61 คนไทยใช้โทรศัพท์มือถือโทรหากันลดลงกว่าปี 60 ร้อยละ 13 แต่หันมาใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 16.95 สะท้อนพฤติกรรมการติดต่อสื่อสารของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป | สังคม | ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS,กสทช. | https://news.thaipbs.or.th/content/273742 |
ช้างศึก เจาะไม่เข้าเจ๊า โสมขาว 0-0 ชวดแชมป์คิงส์คัพ | การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 43 คู่สุดท้าย ในเวลา 19.00 น. ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา เป็นการพบกันระหว่างทีมฟุตบอลทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติเกาหลีใต้ ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี โดยได้รับความสนใจจากแฟนบอลชาวโคราชเข้าชมเกมเต็มความจุของสนาม,ซึ่งในนัดนี้ เป็นการแย่งแชมป์กันระหว่างทีมชาติไทย ที่ต้องเอาชนะด้วยผลต่างประตู 3 ลูกเป็นอย่างน้อย จึงจะคว้าแชมป์ ขณะทีมทัพ โสมขาว เกาหลีใต้ ที่เก็บชัยมาก่อนหน้านี้ 2 นัดรวด เสมอหรือแพ้น้อยกว่า 2 ก็ยังมีสิทธิ์คว้าแชมป์ได้เช่นกัน,เริ่มเกมในครึ่งแรกทีมชาติไทยเปิดเกมรุกโหมบุกอย่างหนัก หวังทำประตูขึ้นนำให้ได้เร็วที่สุด ขณะที่เกาหลีใต้ตั้งโซนคุมเกมรับหวังอาศัยจังหวะทีเด็ดในการโต้กลับ,ไทยมีโอกาสได้ทักทายก่อนในนาที 12 จากลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษของ อาทิตย์ ดาวสว่าง แต่บอลเหินข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย,และในนาที 30 ชนาธิป สรงกระสินธ์ มีโอกาสซัดไกลด้วยซ้ายจากระยะ 40 หลา บอลเกือบพุ่งเสียบเสาสองแต่ จังหวะสุดท้าย ลี ชางกึน ผู้รักษาประตูของทีมโสมขาวทุบบอลออกไปได้อย่างหวุดหวิด,จากนั้นทัพช้างศึกยังขึงเกมบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง แต่จังหวะสุดท้ายยังทำได้ไม่เฉียบคมพอ จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0,ครึ่งหลังยังคงเป็นทีมชาติไทยที่เปิดเกมบุกเข้าใจเกาหลีใต้อย่างต่อเนื่อง และนาที 51 ไทยเกือบได้ประตูขึ้นนำ จากการหลุดเข้าไปยิงของ ภิณโญ อินพินิจ แต่จังหวะสุดท้ายโดนผู้รักษาประตูเกาหลีใต้เซฟเอาไว้ได้,หลังเกมผ่านไป 60 นาที ทีมชาติไทยเปลี่ยนเอา สารัช อยู่เย็น และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ลงมาเล่นแทนมงคล ทศไกร และ อดุลย์ หละโสะ เพื่อเพิ่มความสดในแดนกลาง,กระทั่งนาที 68 เกาหลีใต้ เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวา และเป็นยอน จีมิน กัปตันทีมโสมขาวโหม่งเข้าประตูไป แต่กรรมการเป่าให้เป็นจังหวะฟาล์วเสียก่อน,หลังจากนั้น ทีมชาติไทยเปิดเกมบุกเต็มอัตราศึก พับสนามบุกอยู่ข้างเดียว แต่ยังเจาะเกาหลีใต้ไม่ได้ จบเกมทีมชาติไทย เสมอกับ เกาหลีใต้ ไปอย่างสนุก 0-0 ทำให้เกาหลีใต้คว้าแชมป์คิงส์ คัพ ครั้งที่ 43 ไปครองได้สำเร็จ ด้วยการมี 7 คะแนนจาก สามนัด ขณะที่ทีมชาติไทย ได้ตำแหน่งรองแชมป์เป็นรางวัลปลอบใจ,รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม ,ทีมชาติไทย : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์(GK), พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, สุทธินันท์ พุกหอม, อาทิตย์ ดาวสว่าง, ปกเกล้า อนันต์, มงคล ทศไกร, ภิณโญ อินพินิจ, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, อดุล หละโสะ(C),ทีมชาติเกาหลีใต้ : ลี ชางกึน(GK), ซิม ซางมิน, ปาร์ค ดองจิน, ยอน จีมิน(C), วู จูซอง, คิม ซึงจุน, คิม ฮยอน, ลี เมียงแจ, ซอง จูฮุน, ลี วูยอก, ลี ยอนแจ | ทีมชาติไทยพับสนามบุกโสมขาวตลอดทั้งเกม แต่จังหวะสุดท้ายไม่เฉียบคมพอ เสมอกันไปอย่างสนุก 0-0 ทำได้ดีที่สุดเพียงแค่ตำแหน่งรองแชมป์คิงส์ คัพ ครั้งที่ 43 เป็นรางวัลปลอบใจ | null | ฟุตบอลคิงส์คัพ,ทีมชาติไทย,ทีมชาติเกาหลีใต้,โสมขาว,ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ,โคราช,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์,ผลบอล | https://www.thairath.co.th/content/479759 |
กิน สนุก มันส์ @ เดอะมอลล์ โคราช ยกขบวนร้านอาหารดังจากกรุงเทพฯไปเสิร์ฟแซ่บหลายเด้อ | วาเลนไทน์ โดยเนรมิต 4 พื้นที่ของเดอะมอลล์ โคราช ให้เป็น อัศจรรย์เทศกาลอาหาร พร้อมความสุข ความสนุกยิ่งใหญ่ที่สุดในโคราช ได้แก่ แกรนด์ฮอลล์, เดอะมอลล์ ปาร์ค, แฟชั่นฮอลล์ และไลฟ์สไตล์ฮอลล์ บริเวณชั้น 1 พบกับสุดยอดเมนูอาหารคาว หวาน อินเทรนด์ระดับโลกและระดับประเทศ ภายใต้ 3 โซนความอร่อย ได้แก่ อร่อย XXL, อร่อยแบบ Top List Shop และอร่อยด้วย สนุกด้วย กับฟู้ดคาร์นิวัล ระหว่างวันที่ 12-14 กุมภาพันธ์นี้,เปิดความสุขกับความอร่อยแบบ XXL ครั้งแรกของร้านดัง ที่มาสร้างสรรค์ความพิเศษให้เมนูขึ้นชื่อที่อร่อยอยู่แล้ว ให้อร่อยเพิ่มแบบอัพไซส์ อิ่มเป็นก๊วนเป็นแก๊ง อาทิ ข้าวปั้นแซลมอนยักษ์ จากร้าน Miyatake Sanuki, ข้าวห่อไข่ซอสแกงกะหรี่ไก่ทอดไซส์ยักษ์ จากร้าน Pomu No Ki, เบอร์เกอร์อัพไซส์ จาก The Burger, ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเลไข่หวาน จาก ร้านรวยแซ่บ เป็นต้น ขณะที่ความอร่อยแบบ Top List Shop จากร้านที่มีชื่อ และมีปรากฏการณ์การเข้าคิวรอนับชั่วโมงที่กรุงเทพฯ ก็นำมาเสิร์ฟชาวโคราชเป็นครั้งแรกเช่นกัน ได้แก่ ชีสทาร์ต พาโบล สุดยอดชีสทาร์ตอันดับ 1 จากโอซากา, โมจิ หยดน้ำยอดนิยม จาก Kyo Roll En ฯลฯ นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกในอีสานที่ Krispy Kream จะมาแจกโดนัทกว่า 8,000 ชิ้น พร้อมขนมแจกฟรี จาก Bread Talk และ Saint Etoile ที่ Fashion Hall ชั้น 1 Snow Zone และพลาดไม่ได้ กับการสัญจรความอร่อยครั้งแรกของร้านขนมชื่อดัง อาฟเตอร์ ยู เพื่อต้อนรับวันวาเลนไทน์ โดยจัด 3 เมนูดัง ได้แก่ ชิบูย่า ฮันนี่ โทสต์, เค้กช็อกโกแลตลาวา หรือน้ำแข็งไสคากิโกริ ให้ชาวเมืองโคราชได้ลิ้มรสชาติ นอกจากนี้ ไอศกรีมระดับพรีเมียมเลื่องชื่อ แม็กนั่ม ก็มาจัดแม็กนั่ม ท็อปปิ้งบาร์ โดยนำไอศกรีมทีรามิสุ มาให้เลือกท็อปปิ้งเก๋ๆ นั่งชิลๆ ฉลองวันวาเลนไทน์ ที่ Lifestyle Hall ชั้น 1 Snow Zone,ปิดท้ายความอร่อยควบคู่ความสนุกกับ ฟู้ดคาร์นิวัล ในรูปแบบฟู้ดทรัก นำขบวนเจ้าดังจากกรุงเทพฯ มารวมตัวพร้อมเสิร์ฟความ อร่อยแบบจัดเต็ม อาทิ ข้าว แกงกะหรี่ Di-noya, ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสูตรพิเศษในคอนเซปต์ อร่อย ไม่ต้องปรุง ของร้าน ตำกะเตี๋ยว, เครปไทยเพื่อสุขภาพที่ใช้แป้งสูตรพิเศษจาก นินจาโตะ เครปไทย ฯลฯ พร้อมบูธกิจกรรม-เกม สไตล์คาร์นิวัล และ สตรีท โชว์ สุดสร้างสรรค์ที่จะมาส่งต่อความสนุกให้ชาวโคราช ในโซน Food Carnival บริเวณหน้าลาน The Mall Parc ชั้น 1 พร้อมความบันเทิงจากดารา นักแสดง นักร้อง เช่น ณเดชน์ คูกิมิยะ, บี้-สุกฤษฎิ์ และคอนเสิร์ตสุดมันส์จากศิลปินชั้นนำ, โตโน่แอนด์เดอะดัสต์, แทตทู คัลเลอร์, ซีซั่นไฟว์ รวมถึงกิจกรรมความสนุกอีกมากมาย. | ยุคนี้เรื่องของความอร่อยต้องบอกว่าไร้ขอบเขตจริงๆ เดอะมอลล์จึงทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท ยกขบวนความอร่อยระดับอินเตอร์สู่โคราช ในงาน เดอะมอลล์ โคราช ฟู้ดส์ ฟันแทสติค กิน สนุก มันส์ เทศกาลอาหารระดับโลก ที่จัดขึ้นเพื่อต้อนรับเทศกาล | ไลฟ์สไตล์,อาหาร | เดอะมอลล์ โคราช,เทศกาลอาหาร,ปรีชา ลิ้มอั่ว,ชัชวาล วงศ์จร,วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/854156 |
สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 9-15 เม.ย. 2556 | นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) เปิดเผยว่า จากการรายงานข้อมูลของศูนย์สนับสนุนผู้ประกอบการให้พร้อมจ่ายอัตราค่าจ้าง ขั้นต่ำ กระทรวงแรงงานทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 5 เมษายน 2556 พบว่ามีสถานประกอบการเลิกจ้างลูกจ้างรวม 64 แห่ง ลูกจ้างถูกเลิกจ้าง 3053 คน ในจำนวนนี้เป็นการเลิกจ้างและปิดกิจการเพราะผลกระทบการปรับค่าจ้าง 300 บาท จำนวน 3 แห่ง ในจำนวนลูกจ้าง 333 คน ทั้งหมดเป็นสถานประกอบการขนาดเล็ก นอกจากนี้ ยังมีสถานประกอบการที่ยังไม่ปิดกิจการแต่เลิกจ้างจำนวน 38 แห่ง เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา 6 แห่ง ลูกจ้างถูกเลิกจ้าง 1053 คน เพิ่มขึ้น 447 คน ส่วนการเลิกจ้างปิดกิจการอีก 23 แห่ง ลูกจ้าง 1629 คน เกิดจากผลกระทบอื่นๆนายสุวิทย์ สุมาลา รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(กสร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างว่า กรณีบริษัทมาสเตอร์ พีซ การ์เม้นท์ แอนด์ เท็กซ์ไทล์ จำกัด เขตบางขุนเทียน กทม. ซึ่งบริษัทประสบปัญหาขาดทุนสะสมและจะปิดกิจการอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 เม.ย.นี้โดยเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด 850 คน ขณะนี้กสร.ได้แก้ปัญหาใน 2 แนวทางควบคู่กันโดยเจรจาให้บริษัทปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานพ.ศ.2541 จ่ายเงินเดือนที่ค้างอยู่และเงินชดเชยการถูกเลิกจ้างให้แก่พนักงานทุกคน ทันทีที่มีการเลิกจ้าง แต่บริษัทแจ้งว่าขณะนี้ยังไม่มีเงินจ่าย แต่อีก 2 เดือนจะได้เงินจากลูกค้า 9 ล้านบาทนำมาจ่ายได้นายสุวิทย์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันในวันที่ 11 เม.ย.นี้ กสร.ได้ให้ลูกจ้างมาเขียนคำร้องคร.7 ที่กสร. หากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ก็จะใช้เงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างจ่ายเงินเดือนและเงินชดเชยให้แก่พนักงาน บริษัทมาสเตอร์ พีซฯไปก่อนและทวงคืนจากบริษัทภายหลัง รวมทั้งดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานมีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท จำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือทั้งจำทั้งปรับ.(เนชั่นทันข่าว 9-10-2556)วันนี้(10 เม.ย.) ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดอุบลราชธานี นายศุภฤกษ์บุญเรือง หัวหน้าชุดกู้ชีพตำบลแจระแม อ.เมือง พร้อมสมาชิกในหน่วยรวม 6 คน ยื่นหันงสือกับน.ส.กมลชนก วิริยะ นักวิชาการแรงงานชำนาญการ กรณีไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่กู้ชีพมานาน 2 เดือน ประกอบด้วยเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม คิดเป็นเงินเกือบ 1 แสนบาทเมื่อติดตามทวงถามจากฝ่ายการเงิน ได้รับคำตอบเพียงว่าส่งเรื่องเบิกไปแล้ว แต่เงินยังไม่ส่งมาจากกระทรวงสาธารณสุขนายศุภฤกษ์ กล่าวว่า นอกจากหน่วยของตนแล้ว ยังมีหน่วยกู้ชีพประจำตำบลอีก 2 ตำบลในอ.เมือง ที่ยังไม่ได้รับเงิน แต่ไม่กล้าออกมาเรียกร้อง สำหรับหน่วยกู้ชีพอื่นอีก 110 หน่วย ที่โอนไปอยู่กับองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ก็ยังไม่ได้รับเงิน แต่อบต.จ่ายเงินสำรองของอบต.ให้ก่อน จึงไม่เดือดร้อนหากไม่ได้รับเงินภายใน 1-2 วันนี้ พวกผมต้องหยุดปฏิบัติงานช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะไม่สามารถนำรถไปเติมน้ำมันกับปั้มที่มีเครดิตไว้ได้ เนื่องจากไม่ได้จ่ายเงินค่าน้ำมันที่ติดค้างมานาน 2 เดือนแล้วขณะที่น.ส.กมลชนกรับเรื่องร้องเรียนไว้ และจะสอบหาตัวผู้เป็นนายจ้าง เพื่อเชิญมาพูดคุยหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในวันเดียวกัน(ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 10-4-2556)วันที่ 9 เมษายน นางวรวรรณ ชาญด้วยวิทย์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านประกันสังคม สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงแรงงานเตรียมบูรณาการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เข้ากับกองทุนประกันสังคมมาตรา 40 โดยเสนอเป็นทางเลือกที่ 3 ของระบบประกันสังคมมาตรา 40 ว่ากระทรวงการคลังคงเห็นถึงศักยภาพของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ที่สามารถส่งเสริมและจัดเก็บเงินสมทบจากแรงงานนอกระบบซึ่งเข้าเป็นผู้ประกัน ตนมาตรา 40 ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีสำนักงานและเจ้าหน้าที่ ที่ครอบคลุมพื้นที่ในต่างจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ประหยัดงบประมาณและบุคลากรนางวรวรรณกล่าวว่า หากจะให้การบูรณาการเงินออมของประเทศมีความมั่นคงและมีประสิทธิภาพ รัฐบาลควรบูรณาการระบบเงินออมของแต่ละกองทุน เช่น กองทุนชราภาพของ สปส. กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) มาอยู่ภายใต้โครงสร้างระบบบำนาญแห่งชาติ เพื่อให้มีระบบการบริหารจัดการและการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดผลตอบแทน และจัดตั้งหน่วยงานที่มีความเป็นอิสระ คล่องตัว โดยมีคณะกรรมการบริหารซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงการคลังและกระทรวงแรง งาน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคอยดูแล ซึ่งจะต้องวางระบบบริหารที่มีความโปร่งใส น่าเชื่อถือและตรวจสอบได้ เนื่องจากเป็นเงินออมของคนไทยทั้งประเทศการสร้างระบบบำนาญแห่งชาติ ให้เกิดขึ้นกับคนไทยทุกคนทั้งข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และผู้ใช้แรงงาน ที่แยกเป็นแรงงานในระบบและแรงงานนอกระบบ ที่รัฐบาลควรให้ความเท่าเทียมในการสนับสนุนร่วมจ่ายเงินสมทบในอัตราที่เท่า กัน นางวรวรรณกล่าวนายอารักษ์ พรหมณี รองเลขาธิการ สปส. กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลจัดตั้งสำนักงานหลักประกันสังคมแห่งชาติขึ้นมาโดยแยกกองทุน ชราภาพออกมาจากกองทุนประกันสังคมและแยกการบริหารเงินชราภาพออกเป็นกองทุน มาตรา 33 และมาตรา 39 และกองทุนมาตรา 40 เพื่อให้มีความเป็นอิสระ คล่องตัวในการบริหารและการลงทุน ซึ่งในส่วนของมาตรา 40 ที่เป็นการส่งเสริมให้แรงงานนอกระบบ เช่น เกษตรกร แม่ค้าออมเงินทั้ง สปส.และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลังจะต้องมาหารือกันว่า จะกำหนดให้แรงงานนอกระบบทั้ง 24 ล้านคน ต้องเป็นสมาชิกกองทุนและจัดเก็บเงินสมทบผ่านระบบภาษีได้หรือไม่ เพื่อให้กองทุนมีรายได้ที่แน่นอนและสามารถนำเงินไปลงทุนได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รวมทั้งผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์ด้วย(ประชาชาติธุรกิจ 10-4-2556)สืบเนื่องจาก รัฐบาลได้มีนโยบายปรับค่าแรง 300 บาททั่วประเทศ มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2556 ซึ่งเป็นเวลาครบ 3 เดือน หรือ 1 ไตรมาส สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้จัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นจากสมาชิกอุตสาหกรรม ทั่วประเทศ เกี่ยวกับผลกระทบที่ได้รับจากการปรับค่าจ้าง โดยจัดทำระหว่างวันที่ 3 เมษายน 2556 – 11 มิถุนายน 2556 พบว่าผู้ประกอบการซึ่งส่วนใหญ่เป็น SME ได้รับผลกระทบจนถึงธุรกิจประสบการขาดทุน คิดเป็นร้อยละ 80 ขณะที่ผู้ประกอบการกว่าร้อยละ 23.33 ขาดสภาพคล่อง และผู้ประกอบการร้อยละ 10.42 แจ้งว่าอาจจะต้องถึงขั้นปิดกิจการ ซึ่งหากรัฐบาลไม่มีมาตรการช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรมอาจทำให้ต้องมีการลด ปริมาณการผลิต ซึ่งนำไปสู่การลดจำนวนพนักงาน/แรงงานรวมไปถึงการเลิกจ้าง (แต่การว่างงานในปีนี้คงไม่เห็นภาพชัดเจน เพราะแรงงานสามารถเคลื่อนย้ายไปในโรงงานขนาดใหญ่และโรงงานต่างชาติซึ่งกำลัง เข้ามาลงทุนในประเทศไทยตามการสนับสนุนของ BOI)อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ซึ่งเป็น SME ซึ่งแจ้งว่าได้รับผลกระทบจากการปรับค่าจ้างครั้งนี้กว่าร้อยละ 58 ก็ยังคิดว่าสามารถประคองธุรกิจได้ ในด้านการปรับตัวของภาคเอกชนได้ให้น้ำหนักการลดจำนวนพนักงาน/แรงงาน รวมทั้งลดการทำงานล่วงเวลาและลดสวัสดิการ ขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพแรงงานและปรับปรุงกระบวนการผลิต เช่นการลดขั้นตอนการผลิตและการนำเครื่องจักรมาทดแทนแรงงาน รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ การใช้วัสดุให้น้อยลงหรือวัตถุดิบที่มีต้นทุนต่ำ ส่วนแนวคิดในด้านการลงทุนไปต่างประเทศ ส่วนใหญ่เกือบร้อยละ 60 แจ้งว่าไม่เคยคิดที่จะย้ายฐานการผลิต แต่ผู้ประกอบการร้อยละ 26 มีแนวคิดจะย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน คือ ประเทศกัมพูชา พม่า และลาวทั้งนี้ เกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือของรัฐฯ พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 50 แจ้งว่าไม่ได้ประโยชน์จากมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ มีเพียงร้อยละ 28 ที่เห็นว่ามาตรการของรัฐฯพอช่วยได้บ้างแต่น้อยมาก ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นว่ามาตรการที่รัฐฯช่วยได้มากที่สุดคือ การชดเชยส่วนต่างของค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการช่วยเหลือสภาพคล่องด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ซึ่ง SME สามารถเข้าได้ถึงจริงรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับผลกระทบจากการปรับค่าจ้างในช่วง 1 ไตรมาสแรกของปี 2556 มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ประเภทของธุรกิจที่ตอบแบบสอบถาม :ผู้ที่ตอบแบบสอบถาม พบว่าเป็นผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมร้อยละ 85.54 และภาคธุรกิจให้บริการร้อยละ 13.46 โดยลักษณะธุรกิจของผู้ตอบแบบสอบถามพบว่า ขายในประเทศร้อยละ 47.83 เป็นผู้ประกอบการส่งออกร้อยละ 37.68 และเป็นธุรกิจรับจ้างการผลิต (OEM) ร้อยละ 14.49 นอกจากนี้พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามอยู่ในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กร้อยละ 66 และขนาดกลางซึ่งมีแรงงานอยู่ระหว่าง 300-500 คน คิดเป็นร้อยละ 26 และเป็นธุรกิจขนาดใหญ่คิดเป็นร้อยละ 8.0ด้านผลกระทบที่มีต่อผู้ประกอบการ :1. ค่าแรงที่ปรับขึ้นมีผลกระทบต่อต้นทุนรวม (Total Cost)พบว่าผู้ประกอบการซึ่งได้รับผลกระทบจากการปรับค่าแรง 300 บาท ส่งผลให้ต้นทุนรวมสูงขึ้นมากเกินกว่า 15% มีอยู่ร้อยละ 54 ผลกระทบปานกลางระหว่าง 7-10% คิดเป็นร้อยละ 24 และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบน้อยโดยมีต้นทุนรวมสูงขึ้นระหว่าง 3-5% คิดเป็นร้อยละ 18 สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับผลกระทบต่อการปรับค่าจ้างครั้งนี้คิดเป็นร้อยละ 42. ความสามารถในการปรับราคาสินค้าในช่วงเดือน ม.ค. - มี.ค. 56ผู้ประกอบการส่วนใหญ่แจ้งว่าไม่สามารถปรับราคาสินค้าได้ คิดเป็นร้อยละ 47.06 ส่วนที่สามารถปรับราคาได้ร้อยละ 52.94 โดยแบ่งเป็นปรับราคาได้น้อย 43.14% ปรับราคาได้ปานกลาง 7.84% และปรับราคาได้เท่ากับหรือมากกว่าต้นทุนที่สูงขึ้น คิดเป็นร้อยละ 1.963. ผลกระทบต่อสถานะ กำไร/ขาดทุน ของธุรกิจจากแบบสอบถาม พบว่าผู้ประกอบการซึ่งได้รับผลกระทบจากการปรับค่าแรง 300 บาททั่วประเทศจนทำให้ธุรกิจประสบปัญหาขาดทุนคิดเป็นร้อยละ 80 โดยแบ่งเป็น ขาดทุนน้อยจนถึงปานกลาง 52% และขาดทุนมาก 28% ส่วนผู้ประกอบการซึ่งธุรกิจยังคงรักษาระดับกำไรคิดเป็นร้อยละ 20 โดยแบ่งเป็น กำไรคงเดิม 12% และกำไรลดลง 8%4. ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่ขาดทุนต่อธุรกิจในอนาคตผู้ประกอบการซึ่งแจ้งว่าได้ผลกระทบต่อการปรับค่าจ้างครั้งนี้ พบว่าร้อยละ 58.33 สามารถประคองธุรกิจได้ ผู้ประกอบการร้อยละ 16.67 แจ้งว่าอาจต้องหยุดการผลิตชั่วคราว ขณะที่ต้องถึงขั้นเลิกกิจการร้อยละ 10.42 และมีเพียงร้อยละ 6.25 เท่านั้นที่แจ้งว่าไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากการประกอบธุรกิจ5. แนวทางการแก้ไขและปรับตัวของธุรกิจจากแบบสอบถามในลักษณะเป็นคำถามเปิด ผู้ประกอบการได้แจ้งแนวทางการแก้ปัญหาและการปรับตัวของธุรกิจ เรียงลำดับความสำคัญก่อนหลัง ดังนี้1. ลดจำนวนพนักงาน/แรงงาน คาดว่าจะลดลงเฉลี่ย 10-50% โดยเริ่มลดตั้งแต่ปลายปี 25552. เพิ่มประสิทธิภาพแรงงาน เช่น การอบรมทักษะแรงงาน สามารถทำงานได้หลายตำแหน่ง และเพื่อเพิ่มผลผลิต3. ลดการทำงานล่วงเวลาและลดสวัสดิการ4. ปรับปรุงกระบวนการผลิต เช่น การลดขั้นตอนการผลิต ใช้เครื่องจักรทดเพื่อแทนแรงงาน5. ลดต้นทุนการผลิต เช่น นำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ ใช้วัสดุน้อยลงหรือใช้วัสดุที่มีต้นทุนต่ำ6. อื่นๆ เช่น เพิ่มหรือเปลี่ยนประเภทสินค้า ย้ายฐานการผลิตไปยังกลุ่มประเทศ CLMV และการปรับราคาขาย6. แนวคิดในการย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศในด้านการย้ายฐานการผลิตไปลงทุนในต่างประเทศ พบว่า ผู้ประกอบการร้อยละ 59.18 ไม่มีแนวคิดในการย้ายฐานการผลิตไปในต่างประเทศ และร้อยละ 14.29 ตอบว่ามีแนวคิดแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นหรือดำเนินการอย่างไรสำหรับผู้ที่แจ้งว่ามีแนวคิดและแผนงานที่จะไปลงทุนในต่างประเทศมีร้อยละ 26.53 โดยส่วนใหญ่มีแผนที่จะเริ่มไปศึกษาและลงทุนอย่างจริงจังในกลางปี 2556 โดยเกือบทั้งหมดมีแผนจะไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งประเทศที่น่าสนใจ เรียงลำดับความสำคัญดังต่อไปนี้ 1.กัมพูชา 2.พม่า 3.ลาว 4.อินโดนีเซีย และ 5.เวียดนามมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ :แบบสอบถามเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐสามารถช่วยเหลือเยียว ยาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการได้มากน้อยเพียงใด สามารถแบ่งได้ดังต่อไปนี้1. ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์จากมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลมากน้อยเพียงใดผู้ประกอบการร้อยละ 54.39 แจ้งว่าไม่ช่วยอะไร ขณะที่ตอบว่าช่วยได้น้อย คิดเป็นร้อยละ 28.07 และช่วยได้ปานกลางร้อยละ 3.51 นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่แจ้งว่า ไม่รู้ว่ารัฐฯมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาอะไร คิดเป็นร้อยละ 14.03 ซี่งการชี้แจงเช่นนี้ ทางรัฐบาลควรจะรับไปประกอบการพิจารณา2. ผลกระทบที่มีต่อธุรกิจ หากไม่มีมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลที่เป็นรูปธรรมจากแบบสอบถามของผู้ประกอบการเกี่ยวกับผลกระทบที่มีต่อธุรกิจ หากรัฐบาลไม่มีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาที่เห็นชัดเจน พบว่าร้อยละ 42.05 จะมีการลดจำนวนคนงาน ร้อยละ 20.28 ลดปริมาณการผลิต ขณะที่ผู้ประกอบการร้อยละ 15.94 แจ้งว่าอาจต้องถึงขั้นเลิกจ้างงาน นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่บอกว่าอาจต้องเลิกกิจการหรือย้ายฐานการผลิต คิดเป็นร้อยละ 13.04 อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการร้อยละ 8.69 แจ้งว่าไม่ได้รับผลกระทบใดๆ3. ผู้ประกอบการต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลืออะไรมากที่สุดจากแบบสอบถาม ผู้ประกอบการร้อยละ 23.33 ประสบปัญหาสภาพคล่อง อันเกิดจากผลประกอบการขาดทุน โดยมาตรการที่ภาคเอกชนต้องการจากรัฐฯ เรียงลำดับความสำคัญดังต่อไปนี้1. ชดเชยส่วนต่างค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้นในระยะแรก ลดภาษีต่างๆ และลดเงินสมทบกองทุนประกันสังคม2. สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำที่สามารถเข้าถึงได้ และส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศในทุกๆ ด้าน3. งบประมาณส่งเสริมประสิทธิภาพแรงงานและเครื่องจักร(สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 12-4-2556)ทีดีอาร์ไอระบุการที่สภาผู้แทนราษฎรไม่รับหลักการร่างกฎหมายประกันสังคม ฉบับบูรณาการซึ่งภาคประชาชนร่วมกันเข้าชื่อเสนอต่อรัฐสภา ถือเป็นการเสียโอกาสในการปฎิรูประบบประกันสังคม พร้อมเปิดเผยบทวิเคราะห์ และข้อเสนอแก้ไขปรับปรุงร่างกฎหมายประกันสังคมให้มีระบบธรรมาภิบาลและการ ตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งควรลดค่าใช้จ่ายด้านบริหารเหลือร้อยละ 5ในการเสวนาสาธารณะ เรื่อง ติดตามร่างกฎหมายประกันสังคม ซึ่งสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ร่วมกับสถาบันพระปกเกล้าจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการเปิดเผยบทวิเคราะห์ร่างกฎหมายประกันสังคมของโครงการวิเคราะห์และติดตาม ร่างกฎหมาย (ThaiLawWatch)ของทีดีอาร์ไอ โดยระบุว่า ระบบประกันสังคมในปัจจุบันยังขาดแรงจูงใจให้แรงงานนอกระบบเข้าร่วมระบบ ประกันสังคมโดยสมัครใจ เนื่องจากเงินสมทบจากภาครัฐที่ให้แก่ผู้ประกันตนอยู่ในอัตราที่ต่ำ ขณะเดียวกันที่มาและหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งคณะกรรมการประกันสังคมในปัจจุบัน ยังมีลักษณะที่ไม่ครอบคลุม ส่งผลให้ผู้ประกันตนจำนวนมากขาดตัวแทนที่จะเข้าไปเรียกร้องสิทธิและดำเนิน งานเพื่อผลประโยชน์ของผู้ประกันตนอย่างแท้จริงทั้งนี้ โครงการวิเคราะห์และติดตามร่างกฎหมาย ได้เสนอแก้ไขปรับปรุงร่างกฎหมายประกันสังคม 4 ข้อสำคัญ คือ (1) รัฐบาลควรจ่ายเงินสมทบเท่ากับผู้ประกันตนในสิทธิขั้นพื้นฐาน (2) ผู้ประกันตนควรมีสิทธิเลือกตัวแทนฝ่ายผู้ประกันตนโดยตรง (3) ควรมีการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการของสำนักงานประกันสังคมให้ มีประสิทธิภาพมากขึ้น และปรับลดการจัดสรรเงินกองทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารสำนักงาน เช่น จากไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินสมทบในแต่ละปี ให้เหลือไม่เกินร้อยละ 5 เป็นต้น และ (4) ควรมีการออกแบบระบบตรวจสอบที่มีธรรมาภิบาล ได้แก่ การจัดให้มีคณะกรรมการตรวจสอบ ผู้ตรวจสอบบัญชีและผู้ตรวจสอบภายในที่มีความเป็นอิสระ และการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารต่างๆ อย่างโปร่งใสต่อสาธารณะซึ่งจากข้อมูลพบว่าประเทศไทยมีจำนวนแรงงานนอกระบบอยู่ถึง 24.6 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นแรงงานภาคเกษตร 15.1 ล้านคน ซึ่งไม่มีสิทธิเข้าสู่ระบบ จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่าไทยมีแรงงานนอกระบบที่มีสิทธิเข้าสู่ระบบ ประกันสังคมจำนวน 9.5 ล้านคน แต่ตัวเลขของแรงงานนอกระบบตามมาตรา 40 ที่รายงานโดยสำนักงานประกันสังคมปี พ.ศ. 2554 มีเพียง 590046 คน หรือเพียงร้อยละ 6.21 ของจำนวนแรงงานนอกระบบที่มีสิทธิเท่านั้น เนื่องจากสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ได้รับเป็นสัดส่วนที่น้อย แม้ว่าร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคมฉบับคณะรัฐมนตรีได้แก้ไขเพิ่มเติมให้รัฐสมทบครึ่งหนึ่งของ เงินสมทบจากผู้ประกันตน แต่ยังสร้างแรงจูงใจไม่ได้มากนัก รัฐควรจ่ายเงินสมทบเท่ากับผู้ประกันตนในสิทธิพื้นฐานเป็นอย่างน้อย เพื่อสร้างแรงจูงใจด้านนางวรวรรณ ชาญด้วยวิทย์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านประกันสังคม ทีดีอาร์ไอ เปิดเผยว่า ปัญหาที่สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ต้องเร่งแก้ไข คือ องค์กรขาดความเป็นอิสระเนื่องจากโครงสร้างองค์กรเป็นระบบราชการไม่มีความ เป็นอิสระ โดยเฉพาะการใช้เงินกองทุนประกันสังคมอย่างไม่มีประสิทธิภาพ จึงควรมีการปรับปรุง สปส.ให้เป็นองค์กรอิสระ มีการบริหารงานคล่องตัวโดยเฉพาะทางด้านการลงทุนที่จะต้องคำนึงถึงความมั่นคง ของกองทุนในระยะยาว เนื่องจากอัตราการจัดเก็บเงินสมทบในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับการจ่ายเงิน บำเหน็จและบำนาญชราภาพผู้อำนวยการวิจัยด้านประกันสังคม ทีดีอาร์ไอ ยังกล่าวอีกว่า ตัวแทนของผู้ประกันตนในคณะกรรมการล้วนมาจากสภาองค์การลูกจ้างซึ่งเป็นแค่ตัว แทนของผู้ใช้แรงงานภาคเอกชนไม่เกิน 3 แสนคนหรือร้อยละ 3 ของผู้ประกันตนเท่านั้น และถือว่าเป็นสัดส่วนที่ต่ำมากเมื่อเทียบจำนวนผู้ประกันตนอีกกว่า 10 ล้านคนที่ไม่มีตัวแทนในคณะกรรมการเพื่อดูแลผลประโยชน์ของฝ่ายลูกจ้าง โดยจากบทวิเคราะห์ร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 4 ฉบับ พบว่า ร่าง พ.ร.บ.เหล่านี้มิได้กำหนดถึงคุณสมบัติและที่มาของผู้แทนฝ่ายนายจ้างและฝ่าย ผู้ประกันตนไว้ชัดเจน เพียงแต่เพิ่มจำนวนผู้แทนฝ่ายต่างๆ ให้มากขึ้นจากกฎหมายฉบับเดิมเท่านั้น รวมทั้งเสนอว่า ตัวแทนของผู้ประกันตนควรมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากผู้ประกันตนกว่า 10.5 ล้านคนในปัจจุบัน โดยผู้ประกันตนในมาตรา 33 สามารถเลือกตั้งผ่านสถานประกอบการที่ตนเองสังกัด และผู้ประกันตนในมาตรา 39 และ 40 สามารถเลือกตั้งได้ผ่านวิธีการที่เข้าถึงได้สะดวก เช่น เลือกตั้งผ่านเว็บไซต์ ผ่านจดหมาย หรือที่สำนักงานประกันสังคมประจำจังหวัด เป็นต้น นอกจากนี้ ควรมีการกำหนดคุณสมบัติที่พึงปรารถนาและคุณสมบัติต้องห้ามของผู้ที่จะลง สมัครรับเลือกเป็นผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตนให้เหมาะสมอย่างไรก็ตาม วงเสวนาเห็นด้วยกับข้อเสนอที่จะให้มีคณะกรรมการที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงาน รวมถึงงบประมาณต่างๆของ สปส.พร้อมทั้งเสนอแนะให้ตั้งสำนักงานหลักประกันสังคมแห่งชาติ โดยดูแลเฉพาะผู้ประกันตนในมาตรา 40 ควบคู่ไปกับการศึกษาความเหมาะสมในด้านต่างๆด้วยสำหรับผู้สนใจสามารถอ่านบทวิเคราะห์ร่างกฎหมายประกันสังคมฉบับเต็มได้ ที่ http://thailawwatch.org/research-papers/social-security-analysis/(เดลินิวส์ 12-4-2556) | ก.แรงงานเผย 3 เดือนเลิกจ้างกว่า 3 พันคน นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) เปิดเผยว่า จากการรายงานข้อมูลของศูนย์สนับสนุนผู้ประกอบการให้พร้อมจ่ายอัตราค่าจ้าง ขั้นต่ำ | คุณภาพชีวิต,แรงงาน,เศรษฐกิจ,สังคม | สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ | https://prachatai.com/journal/2013/04/46241 |
พบสารพิษ ไฟไหม้โรงงานเก็บของเก่า ชลบุรี | วันนี้ (4 มี.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเหตุเพลิงไหม้โรงงานบริษัท พลาสติกเอเซียอินเตอร์เทรด จำกัด ประกอบกิจการรีไซเคิลพลาสติกเก่า ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี เมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) ศูนย์ควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ลงพื้นที่สนับสนุนการระงับเหตุเพลิงไหม้ ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี พบว่าโรงงานที่เกิดเหตุมีพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ มีอาคารโกดัง 2 อาคาร ภายนอกอาคารโกดังมีเศษพลาสติกบรรจุ ในถุงบิ๊กแบ๊กกองวางอยู่เป็นจำนวนมากสาเหตุเพลิงไหม้เบื้องต้น คาดว่าเกิดจากการเผาหญ้าข้างโรงงานแล้วลุกลามเข้ามาไหม้เศษพลาสติกในถุงบิ๊กแบ๊ก และลุกลามเข้าไปไหม้พลาสติกภายในอาคารโกดังจากการผลการวัดคุณภาพอากาศ 5 จุด ในช่วงเวลา 20.30-22.00 น.วานนี้ (3 มี.ค.) พบว่าจุดที่ 1 บริเวณที่เกิดเหตุ ขณะตรวจวัดมีกลุ่มควันจำนวนมาก มีกลิ่นเหม็นพลาสติกและยางไหม้ ตรวจพบสารฟอร์มาลดีไฮด์ อยู่ในช่วง 0.84-2.45 ppm มีค่าเกินค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสทางการหายใจระดับ 1 ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 0.9 ppm และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Total VOCs) อยู่ในช่วง 5.5 - 11 ppm มีปริมาณค่อนข้างสูง จึงแนะนำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานสวมใส่หน้ากากป้องกันกลิ่นส่วนบริเวณชุมชนนอกรัศมี 500 เมตรไม่พบสารมลพิษส่วนจุดที่ 2 บริเวณวัดกะบกคู่ ห่างจากโรงงานประมาณ 500 เมตร ตรวจไม่พบสาร ฟอร์มาลดีไฮด์และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย ขณะตรวจสอบไม่มีกลิ่นเหม็น ส่วนจุดที่ 3 บริเวณบ้านเอื้ออาทร ติดกับรั้วกำเเพงโรงงาน ตรวจพบสารฟอร์มาลดีไฮด์ อยู่ในช่วง 0.00 -0.01 ppm มีค่าไม่เกินค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสทางการหายใจระดับ 1 ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 0.9 ppm และสาร Total VOCs ตรวจไม่พบ ขณะตรวจสอบได้รับกลิ่นเหม็นเล็กน้อยสำหรับ จุดที่ 4 บริเวณสำนักงานเทศบาลตำบลท่าบุญมี (ท้ายลม) ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ตรวจไม่พบสารฟอร์มาลดีไฮด์ และสาร VOCs ขณะตรวจสอบไม่มีกลิ่นเหม็น เช่นเดียวกับจุดที่ 5 บริเวณชุมชน (ท้ายลม) ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1.5 กม. ตรวจไม่พบสารฟอร์มาลดีไฮด์ และสาร VOCs ขณะตรวจสอบไม่มีกลิ่นเหม็น ส่วนน้ำเสียจากการดับเพลิงมีค่าความเป็นกรดหรือด่าง (pH) เท่ากับ 8 โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้เวลาประมาณ 22.30 น. แต่ยังมีเปลวไฟปะทุเป็นช่วงๆ และมีเขม่าควันค่อนข้างมาก จึงต้องฉีดน้ำดับเพลิงเลี้ยงไว้ตลอดเวลา | กรมควบคุมมลพิษ ระบุกรณีไฟไหม้โรงงานรีไซเคิลพลาสติกในพื้นที่ จ.ชลบุรี เมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) พบจุดไฟไหม้สารฟอร์มาลดีไฮด์ อยู่ในช่วง 0.84-2.45 ppm และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย ( VOCs) อยู่ในช่วง 5.5 - 11 ppm เกินค่าที่กำหนดไว้ | สิ่งแวดล้อม | ไฟไหม้,โรงงานเก็บของเก่า,ชลบุรี | https://news.thaipbs.or.th/content/289521 |
ถึงเวลาไอทีเพื่อธุรกิจ จีเอเบิลเปิดเกมรุก รับเทรนด์ดิจิตอลเสริมแกร่ง | นายนาถ ลิ่วเจริญ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทจีเอเบิล ในฐานะผู้ให้บริการไอทีโซลูชั่นครบวงจร เปิดเผยว่า จากการเปลี่ยนแปลงด้านไอทีเข้าสู่ยุคดิจิตอล ทำให้องค์กรธุรกิจต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และสร้างโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจ โดยเทรนด์เทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างน่าจับตาในไทย ได้แก่ Cloud, Big Data, 4G, IoT, SaaS, Security, Mobile Banking, E-Commerce, AI, Smart Devices ซึ่งเทรนด์เทคโนโลยีดังกล่าวมีความสอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทจีเอเบิลในการให้บริการลูกค้ากลุ่มองค์กร ภายใต้รูปแบบ End-to-End Solution Partner หรือการให้บริการแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ สู่การเป็น Corporate Digital Transformation,อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทให้ความสำคัญไอทีโซลูชั่น 3 ด้าน คือ คลาวด์ (Cloud) บิ๊กดาต้า (Big Data) และซีเคียวริตี้ (Security) เนื่องจากถือเป็นเทคโนโลยีหลักที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจมุ่งสู่ยุคดิจิตอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการคาดการณ์ว่าการใช้งานคลาวด์ทั่วโลกอาจมีการเติบโตถึง 71% ในปีนี้ จากเดิม 51% ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ประเทศไทยยังมีการเติบโตเพียงเล็กน้อย แต่เชื่อว่าจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นในระยะ 3-5 ปี สำหรับการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 20-25%,ส่วนบิ๊กดาต้าถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความได้เปรียบเชิงธุรกิจให้องค์กร ซึ่งบริษัทตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และพันธมิตรทางธุรกิจ จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ Big Data Experience Center หรือ BX ในปีที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนให้เกิดการนำเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ขณะที่ ซีเคียวริตี้ มีผลวิจัยจากบริษัท Intel Security (McAfee) ระบุว่าอาชญากรรมไซเบอรทั่วโลกในปี 2558 อาจสร้างมูลค่าความเสียหายถึง 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 14 ล้านล้านบาท) จากการโจมตีบนโลกไซเบอร์ เช่น Ransomeware หรือโจรเรียกค่าไถ่ออนไลน์, การข่มขู่ด้วยเทคนิคประเภท DDoS (Distributed Denial of Service) ที่มักเกิดขึ้นกับหน่วยงานต่างๆ โดยกลุ่มบริษัทจีเอเบิลได้มุ่งเน้นบริการดังกล่าว ด้วยรูปแบบการให้บริการตั้งแต่ต้นจนจบ. | จีเอเบิล ปักธงลุย 3 โซลูชั่น คลาวด์ บิ๊กดาต้า ซีเคียวริตี้ ชูแผนธุรกิจแบบ Corporate Digital Transformation รับเทรนด์องค์กรธุรกิจยุคดิจิตอล… | ข่าว,ไอที | Gable,G-able,จีเอเบิล,ไอที ธุรกิจ,คลาวด์,บิ๊กดาต้า,ซีเคียวริตี้,Corporate Digital Transformation,Cloud,Big Data,Security,นาถ ลิ่วเจริญ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์,ข่าวไอที | https://www.thairath.co.th/news/tech/600149 |
Okinoshima เกาะนี้ผู้หญิงห้ามขึ้น! ถูกประกาศเป็นมรดกโลกแห่งใหม่ปี 2017 | เกาะที่ห้ามผู้หญิงขึ้นที่ว่านี้ก็คือ เกาะโอกิโนะชิมะ (Okinoshima) ส่วนหนึ่งของจังหวัดฟุกุโอกะ ในภูมิภาคคิวชูของญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณทางด้านทิศตะวันออกของทะเลจีนตะวันออก ซึ่งเกาะแห่งนี้ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในมรดกโลกแห่งใหม่ประจำปี 2017 เกาะศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมโบราณในช่วงศตวรรษที่ 4-9 โดยมีกฎห้ามผู้หญิงเดินทางขึ้นเกาะแห่งนี้เป็นอันขาด ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่อาจจะเป็นไปได้ว่า ชาวญี่ปุ่นในสมัยก่อนเชื่อว่า เกาะเเห่งนี้เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความบริสุทธิ์ เป็นพื้นที่ของนักบวช ผู้ชายเท่านั้นถึงจะขึ้นมาเที่ยวชมบนเกาะแห่งนี้ได้ อีกทั้งยังมีการให้เหตุผลอีกว่า เป็นเพราะผู้หญิงทุกคนมีประจำเดือน ซึ่งเป็นของเสียที่ต้องขับออกจากร่างกาย สิ่งนี้อาจทำให้พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีมลทินและมัวหมองลงได้ เกาะโอกิโนะชิมะ ยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าโอกิสึ (Okitsu Shrine) ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 เพื่อปกป้องคุ้มครองให้นักเดินเรือและชาวประมงออกแล่นเรือได้อย่างปลอดภัย และประสบความสำเร็จในการค้าขายกับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนและชาวเกาหลี จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมจึงมีการค้นพบซากเครื่องปั้นดินเผาและงานฝีมือสมัยโบราณต่างๆ บนเกาะศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เป็นจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า การค้าทางทะเลในพื้นที่แถบนี้มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมากในยุคนั้น ในปัจจุบันเกาะแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของพระนักบวชชินโตจากวัด Munakata Taisha และมีเพียงพระนักบวชของวัดนี้เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าออกจากเกาะเเห่งนี้ได้ตลอดเวลากฎระเบียบโบราณที่ยังคงปฏิบัติและสืบทอดต่อกันมาอย่างเคร่งครัดจนถึงปัจจุบัน กฎเหล็กที่สั่งห้ามผู้หญิงขึ้นเกาะเเห่งนี้โดยเด็ดขาด ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า การประกาศให้พื้นที่ที่ดูเหมือนจะกดขี่ความเป็นหญิงและสนับสนุนการเหยียดทางเพศ เหมาะสมที่จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกประจำปีนี้หรือไม่ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นชาวญี่ปุ่นกล่าวว่า การไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวผู้หญิง เดินทางขึ้นเกาะแห่งนี้ ไม่ได้มีเจตนาจะเลือกปฏิบัติต่อเพศหญิงแต่อย่างใด แต่การเดินทางข้ามทะเลเพื่อไปยังเกาะแห่งนี้ ค่อนข้างอันตรายสำหรับผู้หญิง อีกทั้งยังเป็นข้อปฏิบัติและธรรมเนียมโบราณที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาหลายร้อยปี นอกจากกฎเหล็กข้างต้นที่ทุกคนจะต้องปฏิบัติตามแล้ว ยังมีข้อห้ามบางประการสำหรับผู้ที่ต้องการจะเดินทางไปเยี่ยมชมเกาะแห่งนี้ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดอีกด้วย เช่น ผู้ชายที่เดินทางมาเพื่อที่จะขึ้นเกาะแห่งนี้ทั้งหมดจะต้องงดเว้นการทานเนื้อสัตว์ใหญ่ (สัตว์ 4 เท้า) ในช่วงก่อนวันขึ้นเกาะ อีกทั้งยังจะต้องถอดเสื้อผ้า เปลือยกาย ชำระล้างร่างกายและจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ด้วยน้ำทะเล ก่อนที่จะเดินทางขึ้นเกาะ อีกทั้งยังห้ามนำสิ่งของใดๆ บนเกาะติดตัวกลับไปด้วย รวมถึงห้ามนำสิ่งที่ได้รู้ ได้เห็น และได้ยินบนเกาะโอกิโนะชิมะไปเล่าหรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด และก่อนเดินทางกลับขึ้นฝั่ง จะต้องได้รับอนุญาตจากพระนักบวชของศาลเจ้าบนเกาะแห่งนี้เท่านั้น ถึงแม้ว่า เกาะศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่นแห่งนี้จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ทางศาลเจ้าและรัฐบาลญี่ปุ่นจะยังคงไม่เปิดเกาะแห่งนี้ให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมบนเกาะตลอดทั้งปีอย่างเเน่นอน เนื่องจากเกรงว่า นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ต้องการเดินทางมาเยือนเกาะแห่งนี้ จะทำลายความศักดิ์สิทธิ์และความเงียบสงบบนเกาะไป ข้อควรทราบอีกประการหนึ่ง สำหรับนักท่องเที่ยว (ผู้ชายเท่านั้น) ที่สนใจอยากจะเดินทางไปเยือนเกาะโอกิโนะชิมะแห่งนี้คือ เกาะศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าชมเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น (ในวันที่ 27 พ.ค. ของทุกปี) โดยใช้เวลาอยู่บนเกาะได้ราว 2 ชั่วโมง อีกทั้งยังจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเพียง 200 คนเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะมีข้อจำกัดมากมาย โดยเฉพาะในมิติที่กระทบกับหลักคุณค่าสากลในปัจจุบัน อย่างหลักสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมกัน แต่เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า เกาะแห่งนี้มีคุณค่า มีความสำคัญและผูกโยงอยู่กับประวัติศาสตร์ของดินแดนในแถบนี้ ในมิติของวิถีชีวิต การค้าขาย และการเดินเรือ ควรค่าแก่การเดินทางไปเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิตPhoto:www.okinoshima-heritage.jpอ้างอิง: | เกาะโอกิโนะชิมะ (Okinoshima) เป็นเกาะศักดิ์สิทธิ์ที่เคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมโบราณในช่วงศตวรรษที่ 4-9 โดยมีกฎห้ามผู้หญิงเดินทางขึ้นเกาะแห่งนี้เป็นอันขาด ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในมรดกโลกแห่งใหม่ประจำปี 2017เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นชาวญี่ปุ่นกล่าวว่า การไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวผู้หญิงเดินทางขึ้นเกาะแห่งนี้ ไม่ได้มีเจตนาจะเลือกปฏิบัติต่อเพศหญิงแต่อย่างใด แต่การเดินทางข้ามทะเลเพื่อไปยังเกาะแห่งนี้ ค่อนข้างอันตรายสำหรับผู้หญิง อีกทั้งยังเป็นข้อปฏิบัติและธรรมเนียมโบราณที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาหลายร้อยปีเกาะศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าชมเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น (ในวันที่ 27 พ.ค. ของทุกปี) โดยใช้เวลาอยู่บนเกาะได้ราว 2 ชั่วโมง อีกทั้งยังจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเพียง 200 คนเท่านั้น | null | null | https://thestandard.co/news-world-okinoshima-men-only-island-world-heritage-2017/ |
นิติวิทยาศาสตร์ รับผ่าพิสูจน์ศพ ลัลลาเบลรอบ 2 พรุ่งนี้ | วันนี้ (9 ต.ค.2562) ที่ ก.ยุติธรรม พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผู้อำนวยการสถานบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า หลังทางสถาบันฯ ได้รับเรื่องจากครอบครัวของ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือ ลัลลาเบล ที่ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม และแนวทางการช่วยเหลือกับกระทรวงยุติธรรม และร้องขอให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ฝ่าพิสูจน์ศพรอบ 2ทางสถาบันฯ จะเริ่มผ่าชันสูตรศพใหม่ในวันพรุ่งนี้ (10 ต.ค.62) ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ศูนย์รังสิต โดยการผ่าชันสูตรใหม่นี้จะมีการนำผลชันสูตรจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มาพิจารณา เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมในประเด็นที่ทางครอบครัวของ น.ส.ธิติมา ยังติดใจสงสัย โดยเฉพาะประเด็นการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งจะเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 21 ต.ค.นี้ เนื่องจากมีการเงื่อนเวลาการควบคุมตัวผู้ต้องหาในคดีนี้อยู่ขณะที่ นายพงษา ราตรี ทนายความของครอบครัวลัลลาเบล ระบุว่า การชันสูตรศพในวันพรุ่งนี้ เป็นส่วนของการตรวจแบบไม่ได้ผ่าซ้ำเหมือนกับครั้งแรก แต่จะเป็นการตรวจเฉพาะบางประเด็น โดยก่อนการชันสูตรจะมีการประชุมกับผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งทางครอบครัวไม่ได้ติดใจเรื่องของเวลาการเสียชีวิต แต่เป็นเรื่องของการตรวจสารเคมีบางตัวและเป็นเรื่องที่ไม่เคยตรวจมาก่อน เพื่อให้รายละเอียดในสำนวนสมบูรณ์ขึ้น | สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เตรียมผ่าชันสูตรศพลัลลาเบลอีกครั้งวันพรุ่งนี้ คลี่ปมครอบครัวสงสัย พร้อมเร่งรัดให้ทราบผลภายใน 21 ต.ค.นี้ | อาชญากรรม | ลัลลาเบล,ผ่าพิสูจน์ศพ,สถาบันนิติวิทยาศาสตร์,ก.ยุติธรรม | https://news.thaipbs.or.th/content/285010 |
ป๋าเซปป์ ซีด กรรมการวินัย ฟีฟ่า สั่งพักงาน 90 วัน | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 8 ต.ค.ว่า คณะกรรมการจริยธรรมของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า มีมติสั่งพักงาน เซปป์ แบลตเตอร์ ประธานคนปัจจุบันเป็นเวลา 90 วัน หลังจากถูกศาลในประเทศสวิตเซอร์แลนด์สอบสวนในความผิดด้านฉ้อโกงอยู่ในขณะนี้,ประธานผู้อื้อฉาวได้ประกาศพร้อมก้าวลงจากตำแหน่งหลังถูกรับเลือกให้เข้ามาสานงานต่อเป็นสมัยที่ 5 เพียงไม่นาน เนื่องจากบอร์ดฟีฟ่าหลายรายถูกเจ้าหน้าที่เอฟบีไอจับกุมกลางเมืองซูริก เนื่องจากพัวพันในคดีทุจริตเลือกประเทศเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 และ 2022 จนทำให้มีกระแสเรียกร้องการปฏิรูปองค์กรใหม่เพื่อความโปร่งใส,กระทั่งล่าสุด คณะกรรมการจริยธรรมของฟีฟ่า ได้มีคำสั่งพักการทำหน้าที่ของประธานฟีฟ่าวัย 79 ปี เป็นเวลา 90 วัน หลังจากมีการไต่สวนคดีทุจริตโดยศาลสูงของสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งยังมีแรงกดดันอย่างหนักจาก 4 สปอนเซอร์ยักษ์ใหญ่ของฟีฟ่า ที่ต้องการให้ประมุของค์กรลูกหนังโลกรายนี้ยอมก้าวลงจากตำแหน่งแต่โดยดี,อย่างไรก็ตาม ทีมกฎหมายของ เซปป์ แบลตเตอร์ ได้ออกแถลงการณ์ตอบกลับโดยทันควันว่า ได้รับทราบการแจ้งพักงานจากทางสื่อมวลชนเท่านั้น แต่ยังไม่ได้รับการแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการจริยธรรมแต่อย่างใด รวมทั้งคาดหวังว่าคณะกรรมการดำเนินการสอบสวนดังกล่าว จะมีการดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียดและรอบคอบให้แน่ชัด ก่อนที่จะมีการดำเนินการทางวินัยใดๆ ออกมาในที่สุด,นอกจากนี้ ตัวแทนของประมุขลูกหนังโลกยังได้ยืนยันความบริสุทธิ์ พร้อมชี้ว่า แบลตเตอร์ ถูกประณามจากสังคมโดยไม่มีหลักฐานใดๆ ที่แน่ชัด รวมทั้งยังไม่มีการกระทำความผิดทางกฎหมายใดๆ มาก่อนเลย. | คณะกรรมการวินัยฟีฟ่า สั่งแบน เซปป์ แบลตเตอร์ ประมุของค์กรลูกหนังโลกเป็นเวลา 90 วัน หลังจากถูกศาลในประเทศสวิตฯ เปิดการไต่สวนกรณีความผิดเกี่ยวกับการทุจริตในองค์กรระหว่างที่ดำรงตำแหน่งก่อนหน้านี้ | null | คณะกรรมการจริยธรรม,สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ,ฟีฟ่า,พักงาน,เซปป์ แบลตเตอร์,ประธานฟีฟ่า,คดีทุจริต,ฉ้อโกง,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/530854 |
8 ผู้ผลิตยางรถยนต์ยอมลดราคา 20% ในงานมหกรรมลดราคาสินค้ารับปีใหม่ | นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ให้ประสานผู้ผลิตสินค้า ผู้ประกอบการห้างค้าปลีก ค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า ผู้ประกอบการทั่วไป นำสินค้ามาร่วมลดราคาขายตั้งแต่ 10-70% ภายในมหกรรมลดราคาสินค้ารับปีใหม่ ที่กระทรวงพาณิชย์จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 ธ.ค.62-12 ม.ค.63 เพื่อลดราคาขายสินค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ และช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน,ซึ่งล่าสุดผู้ผลิตยางรถยนต์ 8 ราย ตอบรับที่จะนำสินค้ายางรถยนต์มาลดราคาขายไม่ต่ำกว่า 20% ได้แก่ บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท กู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท คอนติเนนทอล ไทรส์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท อินนิเชียล ไทร์ แอนด์ แอ็คเซสซอรี่ จำกัด, บริษัท บี-ควิก จำกัด, บริษัท โอตานิ เรเดียล จำกัด, บริษัท ป สยามอุตสาหกรรมยาง จำกัด และบริษัท มิชลินประเทศไทย จำกัด,นอกจากนี้ ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีกท้องถิ่น เข้าร่วมด้วยกว่า 20,000 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งสินค้าที่จะนำมาลดราคามีทุกหมวด ตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป อาหาร เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน วัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ชุดเครื่องนอน เครื่องเขียน เครื่องสำอาง เป็นต้น,งานครั้งนี้จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ และนานถึง 30 วัน จากปีที่ผ่านๆมา มีประมาณ 15 วันเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนที่ต้องการซื้อของขวัญ ของชำร่วยในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้เป็นอย่างดี จึงขอเชิญชวนประชาชน เตรียมตัวซื้อของขวัญ ของชำร่วยในช่วงการจัดงานดังกล่าวได้ทั่วประเทศ,นายวิชัยกล่าวต่อถึงสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในขณะนี้ว่า ยังอยู่ในภาวะทรงตัว ไม่มีสินค้ารายการใดขอปรับขึ้นราคา เข้ามายังกรม เพราะต้นทุนการผลิตยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ส่วนการจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีกวันละ 5-6 บาททั่วประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 นั้น จากการวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุน พบว่า จะมีผลทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นน้อยมากเพียง 0.006-0.6% เท่านั้น โดยสินค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ชุดนักเรียน ที่ใช้แรงงานคนในการผลิต และสินค้าที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดคือ ยาสีฟัน,ค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น ไม่มีผลทำให้ราคาสินค้าต้องปรับเพิ่มขึ้นตาม เพราะกระทบต่อต้นทุนการผลิตน้อยมากๆ ถ้าผู้ประกอบการรายใดทำเรื่องขอปรับขึ้นราคาขายมายังกรม โดยอ้างต้นทุนค่าแรงเพิ่มขึ้น จะไม่อนุญาตให้ปรับขึ้นแน่นอน. | โดยให้นำสินค้ามาร่วมลดราคาขายตั้งแต่ 10-70% ภายในมหกรรมลดราคาสินค้ารับปีใหม่ ที่กระทรวงพาณิชย์จะจัดขึ้นวันที่ 14 ธ.ค.62-12 ม.ค.63 เพื่อลดราคาขายสินค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ และช่วยลดค่าครองชีพ | ข่าว,เศรษฐกิจ | ยางรถยนต์,ลดราคา,มหกรรมลดราคาสินค้า,กระทรวงพาณิชย์,เทศกาลปีใหม่,จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ | https://www.thairath.co.th/news/business/1723525 |
ยิ่งลักษณ์ ขอเวลาแถลงการณ์ไม่ได้รับความเป็นธรรม คดีเรียกค่าเสียหายรับจำนำข้าว | วันนี้ (21 ต.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้ารับฟังการพิจารณาคดีปล่อยปละละเลยเป็นเหตุให้เกิดการทุจริต ในโครงการรับจำนำข้าว ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ระบุว่า ได้รับหนังสือคำสั่งทางปกครอง เรียกค่าเสียหายในคดีโครงการรับจำนำข้าวกว่า 35000 ล้านบาท จากระทรวงการคลังแล้วแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอเวลาที่จะเปิดแถลงการณ์ว่า การบังคับใช้ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ปี 2539 ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย และแนวทางปฏิบัติที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ในเวลาอันสมควร เมื่อถูกถามกระบวนการทางกฎหมายอยู่ในข่ายเร่งรีบหรือ รวบรัด พร้อมกับใช้อำนาจพิเศษ หรือไม่ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขบวนการตั้งแต่เริ่มต้น ก็ไม่เป็นธรรมอยู่แล้ว ซึ่งก็ได้ร้องขอมาแล้วสำหรับวันนี้ (21 ต.ค.)ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานฝ่ายจำเลย 2 ปาก นายเกษม มกราภิรมย์ อดีตกรรมการผู้ทรงวุฒิ คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง และนายวรวิทย์ จำปีรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง | น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขอเปิดแถลงการณ์ชี้ความไม่เป็นธรรมและความไม่ถูกต้องของการบังคับใช้กฎหมายความรับผิดทางเมิด ในเวลาอันสมควร หลังได้รับหนังสือเรียกค่าเสียหายโครงการจำนำข้าว รวม 35000 ล้านบาท จากกระทรวงการคลังแล้ว | การเมือง | น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,จำนำข้าว,ไม่เป็นธรรม,ความรับผิดทางละเมิด,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/256908 |
ยังไม่กลับไทย โฆษกตร. เผยญี่ปุ่น จ่อฝากขัง บิ๊กแจ๊ด ชี้พกปืนโทษแรง (ชมคลิป) | จากกรณีพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผบช.น.ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศญี่ปุ่นควบคุมตัว ในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง ภายหลังถูกตรวจพบที่สนามบินนาริตะ ขณะจะเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 22 มิ.ย.58 และมีรายงานว่า ทางพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นว่า เป็นปืนขนาดเล็กซึ่งเป็นปืนแฟชั่นที่ซื้อมา และลืมเก็บไว้ในกระเป๋านานกว่า 3 ปี จนสามารถทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่สนามบินนาริตะได้แล้ว และจะเดินทางกลับประเทศไทยในคืนวันนี้ (23มิ.ย.)นั้น ,ความคืบหน้าเรื่องนี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 23.00น. วันที่ 23 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากการให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ฝ่ายตำรวจต่างประเทศ ได้รับแจ้งจากตำรวจญี่ปุ่นว่า ในวันพรุ่งนี้ (24มิ.ย.) จะมีการฝากขัง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจ นครบาล ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศญี่ปุ่นจับกุมที่สนามบินนาริตะ ในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง,พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้พยายามประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือ พล.ต.ท. คำรณวิทย์ แต่ยอมรับว่า ทางการไทยคงช่วยเหลืออะไรได้ไม่มาก เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายของญี่ปุ่น โดยสิ่งที่ทำได้ คือการรับรองว่าเคยเป็นนายตำรวจระดับสูงของไทย ขณะที่กฎหมายญี่ปุ่นกำหนดบทลงโทษสำหรับความผิดลักษณะดังกล่าวไว้ค่อนข้างสูง คือจำคุกไม่เกิน 10 ปี แต่หากเหตุเกิดในมาเลเซียหรือสิงคโปร์ โทษสูงสุดอาจถึงขั้นประหารชีวิต,โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าปืนกระบอกดังกล่าว ผ่านเครื่องตรวจเอ็กซเรย์ที่สนามบิน ณ จุดใด และเท่าที่ทราบปืนที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ พกพาไปนั้นเป็นปืนขนาดเล็กมาก สามารถถือไว้ในฝ่ามือได้ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นปืนพกรุ่นใด รวมทั้งไม่แน่ใจด้วยว่า มีใบอนุญาตพกปืนหรือไม่,ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ประจำสนามบินสุวรรณภูมิ ระบุว่า เที่ยวบินสุดท้ายของสายการบินไทย คือเที่ยวบิน TG677 ออกจากสนามบินนาริตะ เวลา 17.30 น.เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 22.30 น. แต่วันนี้เครื่องมาถึงเร็ว ลงจอดในเวลา 21.55 น.แต่ไม่พบว่าพล.ต.ท.คำรณวิทย์ เดินทางมากับเที่ยวบินนี้แต่อย่างใด ทั้งนี้ เท่าที่ทราบ ความผิดเรื่องพกพาอาวุธปืนเข้าไปในสนามบินของญี่ปุ่น ถือว่าเป็นมาตรการที่เคร่งครัดพอสมควร ถึงแม้ว่าจะเป็นปืนแฟชั่น แต่ก็ถือว่าเป็นอาวุธปืนชนิดหนึ่ง,ทางด้านทีมงานของจ.ปทุมธานี ที่เดินทางร่วมคณะไปกับปลัดจังหวัด และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ มีรายงานว่า ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีเพียงพล.ต.ท.คำรณวิทย์ คนเดียวที่ถูกเจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นกักตัวไว้ หลังตรวจพบอาวุธปืน ส่วนคนอื่นๆได้ขึ้นเครื่องบิน เดินทางมากับเที่ยวบินตามปกติ โดยการเดินไปดูงานการกำจัดขยะในครั้งนี้ ทางผวจ.ปทุมธานี ไม่ได้ร่วมคณะไปด้วยแต่อย่างใด,อีกทั้งมีรายงานว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะได้รับการปล่อยตัว ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ โดยได้แสดงเอกสารประจำตัวข้าราชการตำรวจ และเอกสารเกี่ยวกับอาวุธปืนที่ถูกต้อง พร้อมยืนยันว่าไม่มีเจตนานำขึ้นเครื่องบิน เพียงแต่ลืมนำไปสำแดงตามระเบียบปฏิบัติที่ถูกต้อง ประกอบกับเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ได้เข้าช่วยเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่น จนเกิดความเข้าใจ กระทั่งคลี่คลายไปได้ด้วยดีในที่สุด สำหรับความคืบหน้าจะมีการรายงานต่อไป หากพล.ต.ท.คำรณวิทย์ เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ. | บิ๊กแจ๊ดอดีตผบช.น.ยังไม่เดินทางกลับไทยหลังถูกตำรวจญี่ปุ่นจับข้อหาพกพาอาวุธปืนขณะกำลังจะขึ้นเครื่องบินที่สนามบินนาริตะ โฆษกสตช.เผยพยายามช่วยเต็มที่แล้ว แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายของญี่ปุ่น ชี้โทษแรง เตรียมฝากขัง | ข่าว,ทั่วไทย | บิ๊ดแจ๊ด,คำรณวิทย์,คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง,จับบิ๊กแจ๊ด,คำรณวิทย์ถูกจับ,พกปืนขึ้นเครื่อง,สนามบินนาริตะ,ตำรวจญี่ปุ่น,ข่าว,อาชญากรรม,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,กทม. | https://www.thairath.co.th/news/local/507087 |
ปาร์ตี้เซ็กซ์เมืองพัทยา | เป็นข่าวใหญ่โตขึ้นมาอีกเรื่องราวของกลุ่มปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่ หรือ สวิงกิ้ง ที่ถูก นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง นำกำลังตำรวจเข้าตรวจค้นจับกุมภายในโรงแรมชื่อ บ้านทิวลิป อยู่ที่เขาพระตำหนักพัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี,โรงแรมจัดพื้นที่โซนสุดท้ายของโรงแรม หรือห้อง เพลย์ เป็นห้องจัดปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่ของกลุ่มผู้ที่นิยมทางเพศอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นที่นิยมในต่างประเทศ และขยับใช้พื้นที่ท่องเที่ยวเมืองไทยเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ,รวบตัวกลุ่มชายหญิงที่มาร่วมวง ปาร์ตี้เซ็กซ์ หลากหลายสัญชาติ สหรัฐอเมริกา แคนาดา จีน อินเดีย ยูเครน มาเลเซีย สิงคโปร์ เยอรมนี กัมพูชา และไทย แยกเป็นชาย 14 คน หญิง 14 คน,รวมเล่นเซ็กซ์หมู่ในโรงแรม,วันที่เข้าจับทุกคนอยู่ในสภาพเปลือยกายล่อนจ้อนกำลังร่วมรักกันอย่างไร้ยางอาย กระจายหาความสุขร่วมกันอยู่ตามพื้นห้อง บนโซฟาและอยู่บนเตียงนอน ซึ่งอยู่ภายในพื้นที่ของโรงแรมชื่อดัง,โรงแรมมีส่วนเกี่ยวข้องจัดหาพนักงานหญิง 3 คน และเครื่องดื่มมาคอยเสิร์ฟแขกที่สมัครใจเข้าร่วมรายการ ท่ามกลางแสงไฟสลัวๆภายในห้องพัก ไว้รับรองผู้ที่เข้ามาร่วมงานปาร์ตี้เซ็กซ์ร่วมกัน,จัดเตรียมอุปกรณ์เข้ามาสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มคนทั้ง 14 คู่ ตั้งแต่ ถุงยางอนามัย เจลหล่อลื่น ยาปลุกเซ็กซ์ และอุปกรณ์ช่วยกระตุ้นทางเพศ,จากข้อมูลฝ่ายปกครอง มีคนร้องเรียนที่ทนเห็นพฤติกรรมของโรงแรมที่มีการลักลอบจัดงาน ปาร์ตี้เซ็กซ์ เป็นประจำ สำหรับผู้ที่ชอบเซ็กซ์หมู่ แลกเปลี่ยนคู่นอน รวมถึงสวิงกิ้ง โดยประกาศในเว็บไซต์ต่างประเทศ มีค่าใช้จ่ายคืนละ 1,500 บาทต่อ 1 คน ซึ่งมีคนไทยที่เห็นในโฆษณาลงสมัครเข้าร่วมกิจกรรม,คนที่มาร่วมเป็นคู่รักชายหญิงที่ผ่านการจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ไม่มีการซื้อบริการทางเพศ ทุกคนสมัครใจกันมาอยู่ร่วมกันเพื่อร่วมกิจกรรมรักสลับคู่,ความนิยมทางเพศของคนละกลุ่มไม่เหมือนกัน เป็นเรื่องของกลุ่มที่มีความชอบแตกต่างกัน,สำหรับเมืองไทย ยังเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ จึงใช้การลักลอบเปิดจัดกิจกรรม ส่วนใหญ่สถานที่จัดงานเป็นโรงแรม หรือห้องเช่าชั่วคราว ที่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวหลักๆของคนไทย ที่มีชาวต่างชาตินิยมเข้ามาท่องเที่ยว พื้นที่เมืองพัทยาเป็นเป้าหมายสำคัญ,แต่โรงแรมเจ้าของสถานที่เปิดให้จัด ปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่ หรือ สวิงกิ้ง เป็นประจำ ต้องมีส่วนรับผิดชอบกับผลกระทบต่อภาพลักษณ์ความเสียหายของประเทศไทยและคนไทย,ไม่ใช่ปล่อยให้ทำผิดเป็นประจำ.,เพลิงพยัคฆ์,[email protected], | เป็นข่าวใหญ่โตขึ้นมาอีกเรื่องราวของกลุ่มปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่ หรือ สวิงกิ้ง ที่ถูก นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง นำกำลังตำรวจเข้าตรวจค้นจับกุมภายในโรงแรมชื่อ บ้านทิวลิป | null | ปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่,สวิงกิ้ง,เพศสัมพันธ์,เพลิงพยัคฆ์,เลขที่1 วิภาวดีฯ | https://www.thairath.co.th/news/local/1271761 |
ตร.เตรียมพิจารณาแกนนำปลดแอกชุมนุมผิดเงื่อนไขหรือไม่ | วันนี้ (17 ส.ค.2563) พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับคณะทำงานว่ามีบุคคลใดทำผิดกฎหมายในการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวานนี้ (16 ส.ค.) หรือไม่ รวมทั้งแกนนำ 3 คนที่ถูกศาลออกหมายจับก่อนหน้านี้และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ว่าผิดเงื่อนไขของศาลหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีพฤติกรรมใดที่ขัดต่อเงื่อนไขก็ต้องให้พนักงานสอบสวนไปยื่นขอถอนประกันต่อศาล โดยยืนยันว่าการดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่จะต้องพิจารณาข้อกฎหมายให้รอบคอบ จึงอาจยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้รอง ผบช.น. ยังกล่าวถึงกรณีที่แกนนำผู้ชุมนุมกล่าวว่ามีการออกหมายจับแกนนำ 31 คนนั้น ยืนยันว่าศาลออกหมายจับแกนนำเพียง 15 คน ส่วนจำนวน 31 คนเป็นจำนวนที่ผู้ชุมนุมกล่าวขึ้นมาเอง โดยเมื่อคืนวานนี้ (16 ส.ค.) กลุ่มแกนนำได้เดินทางไปที่ สน.สำราญราษฏร์ อ้างว่ามาแสดงตัวเพราะทราบว่ามีหมายจับ แต่ไม่ได้ควบคุมตัวไว้นั้น เพราะอาจกระทบต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากกลุ่มแกนนำอยู่ท่ามกลางมวลชนจำนวนมาก และมีการสร้างเงื่อนไขให้ตำรวจเป็นฝ่ายเข้าไปควบคุมตัวแกนนำในฝูงชน จึงมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่การมอบตัว แต่หากหลังจากนี้แกนนำจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนโดยปราศจากมวลชน ตำรวจก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายส่วนที่มีการแชร์คลิปวีดีโอในสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่าตำรวจใช้เครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ ยืนยันว่าไม่ได้มีการตัดสัญญาณอย่างแน่นอน โดยมีรายงานว่าอุปกรณ์ดังกล่าวคือเครื่องตัดสัญญาณอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน เนื่องจากพื้นที่ชุมนุมเป็นพื้นที่ควบคุมที่ห้ามใช้โดรนขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางไปประชุมและรายงานสถานการณ์กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยระบุสั้นๆ ว่าจะกลับมาให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนอีกครั้งหลังประชุมเสร็จ | ตำรวจเตรียมพิจารณาการชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอกเมื่อวานนี้ (16 ส.ค.) ว่าผิดกฎหมาย หรือผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาลที่ให้ประกันตัวแกนนำที่ถูกออกหมายจับหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ชุมนุม 15 คน | อาชญากรรม | ชุมนุมการเมือง,นักศึกษาชุมนุม,กลุ่มประชาชนปลดแอก,ออกหมายจับแกนนำ,ชุมนุม,นักศึกษา | https://news.thaipbs.or.th/content/295547 |
โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ ทำผลงานเยี่ยมในศึกที่เยอรมนี | โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ TOYOTA Gazoo Racing Team Thailand ภายใต้การสนับสนุนของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ลงสนามแข่งขันรายการระดับโลก ADAC ZURICH 24h Race Nürburgring 2018 ปีที่ 5 ที่ประเทศเยอรมนี กับความท้าทายและพิสูจน์ขุมพลังแห่งสมรรถนะที่ดีเยี่ยมของรถยนต์ Toyota Corolla Altis นำโดยนักแข่งยอดฝีมือ สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ, มานัต กุละปาลานนท์, อาทิตย์ เรืองสมบูรณ์, กรัณฑ์ ศุภพงศ์ และ เฉิน เจี้ยน หง ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ,นักแข่งรถโตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ ลงสนามออกตัวในรุ่น Super Production 3 (SP3) โดยรถหมายเลข 122 Toyota Corolla Altis ESport Nürburgring Edition ขับโดย ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ,กรัณฑ์ ศุภพงศ์, อาทิตย์ เรืองสมบูรณ์ และเฉิน เจี้ยน หง และรถหมายเลข 123 Toyota Corolla Altis ESport โดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, มานัต กุละปาลานนท์ และ ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ ลงสนามพร้อมรถแข่งจากนานาชาติ,สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ นักแข่งต้องประสบกับสภาพอากาศที่เลวร้าย หลังออกสตาร์ทไม่นานก็มีฝนตกตลอดทั้งคืนทั้งวัน ส่งผลให้หมอกลงจัดบดบังทัศนวิสัยในการขับ และยังมีสภาพถนนที่ลื่น ยากต่อการควบคุม ทำให้รถแข่งจำนวนมากเกิดอาการหมุนคว้าง และหลายคันต้องออกจากกาแข่งขันไป โดยผู้จัดประกาศพักการแข่งขันชั่วคราว จนสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย จึงได้รับสัญญาณให้แข่งต่อ ซึ่งนักแข่งทุกคันที่เหลือ พากันลงสนามขับเคี่ยวกันอีกครั้งจนครบเวลา 24 ชั่วโมง นักแข่งรถไทยใช้พลังทีมเวิร์ค ประสบการณ์ และใจที่มุ่งมั่น พร้อมรถยนต์คันแกร่ง สามารถนำรถฝ่าพายุฝนเข้าธงตราหมากรุก จบการแข่งขันสำเร็จด้วย รถหมายเลข 123 Toyota Corolla Altis ESport ขับโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, มานัต กุละปาลานนท์ และ ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ เข้าเส้นชัยได้อันดับ 11 ของรุ่น Super Production 3 (SP3) และอันดับที่ 126 แบบ Overall จากรถทั้งหมด 147 คัน,หลังจบการแข่งขัน สุทธิพงศ์ สมิตชาติ กล่าวถึงผลงานในวันนี้ว่า เป็นการแข่งที่ยากและวัดใจ วัดความอึดของนักแข่งและรถมากๆ ปกติการขับในสนามนี้ช่วงกลางคืนก็นับว่าอันตรายอยู่แล้ว พอฝนลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดหมอกขาวโพลนไปทั่ว ทำให้ระยะการมองมีปัญหามากๆ และรถต้องเผชิญกับอากาศแปรปรวน น้ำฝนเต็มถนน ทำให้หลายคันเกิดอุบัติเหตุหมุนคว้างเลยก็มี ผมถือว่ารถของเราและนักแข่งของเราทำได้ดีแล้วสำหรับสภาพอากาศที่เลวร้ายแบบนี้ วันนี้ต้องขอขอบคุณทุกแรงใจที่ส่งมาเชียร์ ขอบคุณผู้สนับสนุน ทีมนักแข่งทีมงานเบื้องหลังทุกคนที่ตั้งใจทุ่มเทและเสียสละเพื่อมาทำหน้าที่ตัวแทนประเทศร่วมกันในวันนี้ครับ | โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ เข้าเส้นชัยอันดับ 11 ของรุ่น Super Production 3 (SP3) และอันดับ 126 แบบ Overall จากรถทั้งหมด 147 คัน ในศึก ADAC ZURICH 24h Race Nürburgring 2018 ที่เยอรมนี | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์,โตโยต้า มอเตอร์,Toyota Corolla Altis,ADAC ZURICH 24h Race Nürburgring 2018 | https://www.thairath.co.th/sport/others/1281514 |
พิษ COVID-19 งดจัดสงกรานต์ บางแสน-ถนนข้าวเหนียว | จากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ระบาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายจังหวัดตื่นตัวเพื่อเลี่ยงจัดกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด วันนี้ (6 ม.ค.2563) ไทยพีบีเอสออนไลน์ รวบรวมกิจกรรมที่ยกเลิกออกไปทั้งในระดับท้องถิ่น สถาบันการศึกษา โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ที่จะมีขึ้นช่วงกลางเดือนเม.ย.นี้ รวมทั้งกิจกรรมของสถาบันการศึกษาดังนี้บางแสนงดกิจกรรม 16-17 เม.ย.นี้นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข จ.ชลบุรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าขออนุญาตแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า เทศบาลเมืองแสนสุข งดการจัดงานประเพณี ก่อพระทราย วันไหลบางแสนประจำปี 2563 ในวันที่ 16-17 เม.ย.นี้เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของการแพร่ระบาดและการติดเชื้อ เนื่องจากสาเหตุการระบาดของไวรัส COVID-19 ในขณะนี้ส่วนการเล่นน้ำในช่วงประเพณีสงกรานต์ ทางเทศบาลขอความร่วมมือทุกท่านงดการเล่นสาดน้ำในทุกกรณี เนื่องจาก อาจเกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากการสาดน้ำเทศบาลขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการให้รถกระบะที่มีการบรรทุกน้ำเพื่อเล่นน้ำ(เฉพาะรถกระบะบรรทุกถังน้ำและเล่นน้ำ)ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ เข้าสู่ถนนลงหาดบางแสน และถนนบางแสนล่างเพื่อให้ถนนใช้สัญจรสำหรับรถทั่วไปและประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่ต้องการมาใช้บริการที่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพาส่วนถนนขัาวหลาม และถนนสุขุมวิท และถนนอื่นๆ เปิดให้รถทุกประเภทได้ใช้ตามปกติครับจึงเรียนมาเพื่อทราบ และโปรดช่วยกันแชร์ครับขอนแก่นงดสงกรานต์ถนนข้าวเหนียวนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ทางเทศบาลนครขอนแก่น ได้หารือกับผู้นำชุมชนหน่วยงานต่างๆ ของจังหวัด ข้อสรุปว่าการจัดงานสุดยอดสงกรานต์อีสานถนนข้าวเหนียว ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย.ทุกปี จะงดกิจกรรมบางส่วน และจัดพิธีรดน้ำผู้ใหญ่แทนขณะที่การจัดกิจกรรมฟูลมูนปาร์ตี้ ที่ชายทะเลหาดริ้น ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงันในวันที่ 8 มี.ค.นี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาร่วม 10000 คน ก็งดจัดงานตั้งแต่เดือน มี.ค.นี้เกาะติดสถานการณ์ไวรัสCOVID-19:ททท.หารือเอกชน ยังไม่เคาะเลิกสงกรานต์ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.อยู่ระหว่างพิจารณาการจัดงานเทศกาลมหาสงกรานต์ประจำปี 2563 ว่าจะจัดงานขึ้นได้หรือไม่ โดยขอประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19อย่างต่อเนื่องไปก่อนว่าจะเป็นอย่างไรด้านนายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าภาคเอกชนจะนัดผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร มาหารือกันถึงสถานการณ์การจัดงานสงกรานต์ถนนข้าวสาร ว่าจะจัดขึ้นได้หรือไม่ แต่เบื้องต้นเชื่อว่าคงไม่ได้จัดแน่นอน เนื่องจากการแพร่ระบาด ของโควิด-19 ยังไม่คลี่คลายสช.สั่งชะลอจัดกีฬาสี-แข่งขันวิชาการนอกจากนี้นายอรรถพล ตรึกตรองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ออกหนัง สือแจ้งไปยังศึกษาธิการจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด ขอความร่วมมือชะลอจัดกรรมกีฬาสี กิจกรรมการแข่งข้นทางวิชการ การประชุมสัมมนาของครู และบุคลากร ซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลจำนวนมากที่มาจากภายนอก เพื่อป้องกันCOVID-19ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน สั่งปิดวัดถ้ำวัว 5-13 มี.ค.นี้นอกจากนี้นายพงศ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน สาธารณสุขอำเภอ และประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่่ฮ่องสอน และคณะ เข้าไปกราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดป่าถ้ำวัว แจ้งมาตรการและแนวทางการปฏิบัติเพื่อการป้องกันควบคุมโรค COVID-19 ตามนโยบายข้อสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่อง สอนโดยให้หยุดปฏิบัติศาสนกิจ ตั้งแต่วันที่ 5-13 มี.ค.นี้อ่าน | พิษโรค COVID-19 ระบาด กระทบเทศกาลวันสงกรานต์ ชัดเจน 2 พื้นที่ นำร่องงดจัดงานวันไหลบางแสน จ.ชลบุรี 16-17 เม.ย.นี้ ส่วนที่ขอนแก่น งดจัดงานอีสานถนนข้าวเหนียว 13-15 เม.ย.นี้ ขณะที่ สช.ขอความร่วมมือชะลอกิจกรรมกีฬา-แข่งขันวิชาการ การประชุม | สังคม | COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,สงกรานต์,ชลบุรี | https://news.thaipbs.or.th/content/289575 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.