title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
ตร.ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงคดีจับบ่อนพนัน 3 จุด ใน จ.นครราชสีมา คาดรู้ผลใน 15 วัน | วันนี้ (14 ธ.ค.2558) ผู้ต้องหาทั้ง 142 คนที่ถูกจับกุมในคดีร่วมกันลักลอบเล่นการพนันและพนันเอาทรัพย์สินกันโดยผิดกฎหมาย ถูกตำรวจนำตัวจากสโมสรกรมทหารราบที่ 23 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ไปยังศาลแขวงจังหวัดนครราชสีมา เพื่อส่งฟ้องศาล โดยมีญาติมารอที่หน้าศาล เพื่อยื่นขอประกันตัวหลังจากเมื่อ 2 วันก่อน ทหารค่ายสุรธรรมพิทักษ์ สนธิกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมกลุ่มผู้ลักลอบเล่นการพนันรวม 3 จุดใน ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา จนทำให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.นครราชสีมา สั่งย้าย 5 เสือสถานีตำรวจภูธรจอหอไปช่วยราชการปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัด โดยขาดจากหน้าที่และตำแหน่งทางสังกัดเดิมตั้งแต่วานนี้ (13 ธ.ค.2558) พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและให้สรุปผลสอบภายใน 15 วันหนึ่งในทีมชุดสอบสวนข้อเท็จจริงเปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนพยานในเชิงลึก ทั้งเจ้าของรีสอร์ทและเจ้าของบ้านทั้ง 3 แห่งที่เปิดให้มีการลักลอบเล่นพนัน เพื่อหาความเชื่อมโยงว่ามีตำรวจในท้องที่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ เนื่องจากการจับกุมนักพนันในครั้งนี้มีผู้ต้องหาจำนวนมาก และเป็นไปได้หรือไม่ที่ตำรวจท้องที่จะไม่ทราบความเคลื่อนไหว ซึ่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงครั้งนี้ ทีมสอบสวนยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย | การจับกุมบ่อนพนัน 3 จุด ใน ต.จอหอ จ.นครราชสีมา ล่าสุด ถูกขยายผลหาความเชื่อมโยงว่ามีตำรวจในท้องที่รู้เห็นหรือเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เป็นประเด็นสำคัญข้อหนึ่งที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ต้องหาคำตอบ และสรุปผลให้ได้ภายใน 15 วัน | อาชญากรรม | คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง,จอหอ,นครราชสีมา,บ่อนพนัน | https://news.thaipbs.or.th/content/6712 |
อดีตตร.ดาเวาอ้าง ดูเตร์เต สั่งหน่วยสังหารวางระเบิดมัสยิด-ฆ่านักข่าว | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นาย อาร์ตูโร ลาสกานาส อดีตตำรวจเมืองดาเวา และผู้อ้างตัวว่าเป็นหน่วยสังหาร (death squad) ในเมืองแห่งนี้ กล่าวหาประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตร์เต ว่า ผู้นำรายนี้เป็นผู้สั่งการให้วางระเบิดมัสยิดและสังหารนักข่าวคนหนึ่ง ในสมัยที่เขายังเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองดาเวา,นายลาสกานาสเปิดเผยเรื่องดังกล่าวระหว่างการแถลงข่าวในช่วงเช้าวันจันทร์ (20 ก.พ.) ตรงข้ามกับคำพูดของเขาระหว่างการให้การต่อคณะกรรมการวุฒิสภาเมื่อปี 2016 ที่บอกว่าเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยสังหาร และเป็นการสนับสนุนคำพูดของนาย เอดการ์ มาโตบาโต อดีตมือปืนในปีเดียวกัน รวมทั้งคำกล่าวอ้างของอดีตสมาชิกคนหนึ่งของหน่วยสังหารจำนวน 300 คน ซึ่งกล่าวหาประธานาธิบดีดูเตร์เตว่า ลงมือสังหารผู้ต้องสงสัยก่ออาชญากรรมด้วยตัวเอง,ผมเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เริ่มเรื่องนี้ นายลาสกานาสกล่าว เราปฏิบัติตามคำสั่งโดยตรงของดูเตร์เต (สมัยเป็นนายกเทศมนตรี) การฆ่าทั้งหมดที่เราทำในเมืองดาเวา พวกเราฝังหรือไม่ก็โยนศพของพวกเขาลงทะเล นายลาสกานาสเผยอีกว่า หน่วยสังหารนี้ก่อเหตุสังหารและอาชญากรรมอื่นๆ มากมาย ไม่ว่าจะด้วยคำสั่งจากนายดูเตร์เตหรือผู้ช่วยของเขา,หน่วยสังหารยังได้รับคำสั่งจากนายดูเตร์เตให้วางระเบิดมัสยิดแห่งหนึ่งในเมืองดาเวาเมื่อปี 1993 เพื่อแก้แค้นเหตุวางระเบิดโบสถ์ซานเปโดร มันเป็นความจริง ผมเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับคำสั่งโดยตรงจากนายกเล็กดูเตร์เต นายลาสกานาสกล่าว และอ้างอีกว่า เขายังได้รับคำสั่งจากผู้ช่วยของดูเตร์เตให้สังหารนาย ฮวน ปาลา นักข่าววิทยุ ซึ่งเป็นคดีที่ยังปิดไม่ลงมาจนถึงทุกวันนี้ และได้เงินตอบแทน 3 ล้านเปโซ,นอกจากนี้ นายลาสกานาสอ้างด้วยว่า เขาต้องสังหารพี่น้องของตัวเอง 2 คนขณะทำงานให้หน่วยสังหารเพราะความศรัทธาอย่างมืดบอด,ด้านนายมาร์ติน อันดานาร์ เลขาธิการฝ่ายการสื่อสารของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ออกมาปฏิเสธคำพูดของนายลาสกานาส โดยชี้ว่าเป็นข้อกล่าวหาที่หวังผลทางการเมือง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน, สำนักงานผู้ตรวจราชการแห่งรัฐสภา และคณะกรรมการยุติธรรมแห่งวุฒิสภาได้เคลียร์ข้อกล่าวหาเรื่องการฆ่าโดยไม่เคารพกฎหมายของประธานาธิบดีดูเตร์เต รวมทั้งเรื่องความเกี่ยวข้องของเขากับหน่วยสังหารในเมืองดาเวาไปแล้ว | อดีตตำรวจเมืองเดเวาผู้อ้างตัวว่าเป็นแกนนำของหน่วยล่าสังหารในเมืองดาเวา ซึ่งว่ากันว่ามีความเกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต อ้างว่า ได้รับคำสั่งจากผู้นำรายนี้ให้สังหารคนมากมาย | null | โรดริโก ดูเตร์เต,เมืองดาเวา,วางระเบิก,อาชญากรรม,หน่วยสังหาร | https://www.thairath.co.th/content/862856 |
เกรท เข้มตบจูบ ชิปปี้ คนละขอบฟ้า เชือดเฉือนพาฟิน | คนละขอบฟ้า, ผลงานจากค่าย, เมคเกอร์ เค, โดยผู้จัด ,จิ๋ม–มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช, และ ,หนุ่ม–กฤษณ์ ศุกระมงคล, เพราะปมในใจของเขาและเธอจึงเกิดเป็นเรื่องราว นำแสดงโดยพระเอกเข้ม ,เกรท–วรินทร ปัญหกาญจน์, รับบท, ชินภัทร, ชายหนุ่มใจร้อนโมโหร้ายที่เคยมีปมเกลียดกลัวผู้หญิง มาประกบคู่สาวสดใส ,ชิปปี้–ศิรินทร์ ปรีดียานนท์, รับบท, ชนิกา, สาวดื้อรั้นชอบเอาชนะ พร้อมถ่ายทอดอารมณ์,ในเรื่องราวของ,ชินภัทร, ชายหนุ่มเจ้าของสวนยางถูกตราหน้าจากชาวบ้านว่าเป็นฆาตกรข่มขืนด้วยจดหมายลาตายของ, ศิริกัญญา, ว่าที่เจ้าสาวของ ,ปานธง, เพื่อนสนิท, ชินภัทร, จนทำให้ทั้งคู่แตกหักกันตั้งแต่นั้นมา, ชนิกา, นักศึกษาไทยในอเมริกา สาวปาร์ตี้ตัวแม่ มีรูมเมทคือ, ศันสนีย์, ซึ่ง ,ศันสนีย์, แอบรัก ,พัธนินทร์, แฟนหนุ่มคนไทยของ ,ชนิกา, อยู่ วันนึงบ้าน, ชนิกา, ล้มละลาย ,ศันสนีย์, เห็นโอกาสเลยแนะนำให้ ,ชนิกา, ไปทำงานกับ ,ชินภัทร, โดยตัวเองหวังจะฮุบ ,พัธนินทร์, มาเป็นของตน,เมื่อได้ร่วมงานกัน ,ชนิกา, ต้องทนทำงานกับคนโมโหร้ายอย่าง ,ชินภัทร, โดยมี ,ปานธง, คอยช่วยเหลือเพราะเขาก็แอบรัก, ชนิกา, อยู่ ด้านแม่ของ ,ชินภัทร, หมายมั่นไว้ว่าจะให้ ,ชินภัทร, แต่งงานกับ, อมีนา ชินภัทร, รู้แล้วว่าแม่พยายามจะจับคู่ให้เขากับ ,อมีนา ชินภัทร, จึงเสนอให้ ,ชนิกา, แต่งงานกับเขาเพื่อแลกกับการซื้อบ้านคืน การแต่งงานของ, ชินภัทร, กับ ,ชนิกา, เกิดขึ้นท่ามกลาง การถูกจับผิดจากทุกคนรอบตัว โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัวว่ากำลังรักกัน แต่ด้วยทิฐิทำให้ทั้งสองไม่ยอมเข้าใจกันเสียที,เมื่อทิฐิอยู่เหนือความรัก ทำให้คนสองคนเหมือนอยู่ไกลกัน ,คนละขอบฟ้า, ทั้งยังมีปัญหามากมายเป็นบททดสอบ, ชินภัทร, และ ,ชนิกา, อย่างไม่จบสิ้น ความรักของทั้งคู่จะลงเอยอย่างไรและเมื่อความจริงใกล้จะถูกเปิดเผยว่าสุดท้ายแล้ว ,ชินภัทร, เป็นฆาตกรจริงหรือไม่ ติดตามเรื่องราวต่อไป ร่วมด้วย, โย่ง-อนุสรณ์, มิ้นท์-ณัฐวรา วงศ์วาสนา, ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์, เขม-นราวิชญ์ จิตรบรรจง, กิ่ง-สุภัทรา ทิวานนท์, หวานหวาน-อรุณณภา พาณิชจรูญ, เง็ก-กัลยา เลิศเกษมทรัพย์, ดี้-ชนานา นุตาคม ฯลฯ, ติดตามชมละคร ,คนละขอบฟ้า, ออกอากาศทุกคืนวันจันทร์–อังคาร ,ทางช่อง 3HD, เริ่มตอนแรก 6 ธ.ค.นี้ และหาอ่านได้ใน นสพ.ไทยรัฐ ทุกวัน.,ติดตามอ่านนิยายเรื่อง คนละขอบฟ้า ได้ที่นี่ | พร้อมลงจอเชือดเฉือนอารมณ์กันถึงบทบาทกับละครดราม่าเข้มข้น เรื่อง คนละขอบฟ้า ผลงานจากค่าย เมคเกอร์ เค โดยผู้จัด จิ๋ม–มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช และ หนุ่ม–กฤษณ์ ศุกระมงคล เพราะปมในใจของเขาและเธอจึงเกิดเป็นเรื่องราว นำแสดงโดย | null | คนละขอบฟ้า,เกรท–วรินทร,ชิปปี้–ศิรินทร์,โย่ง อาร์มแชร์,ช่อง 3 | https://www.thairath.co.th/content/794431 |
เล็ก บ้านดอน ออก กวป. ตั้งภาคีพลังประชาชนจัดเวที พิทักษ์รัฐบาล ต้านกบฏ เย็นวันนี้ | ชี้หน้ากากขาวมีสิทธิชุมนุมได้ตามระบอบประชาธิปไตย ปมปัญหาใหญ่คือ รธน.50 ระดมพลังประชาชนหนุนสภาแก้นายพงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา หรือ เล็ก บ้านดอน อดีตประธานกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ในฐานะประธานกลุ่มภาคีพลังประชาชน (ภปช.) แถลงยืนยันลาออกจาก กลุ่ม กวป. และเปิดตั้วกลุ่มกลุ่มภาคีพลังประชาชน พร้อมด้วยแกนนำอีกกว่า 10 คน เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ณ ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าวโดยเล็ก บ้านดอน แถลงด้วยว่าเนื่องจากปัจจุบันระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยถูกคุกคามจากหลายฝ่ายที่แสดงตัวเป็นผู้ต่อต้านหลักการประชาธิปไตย ทั้งภาคการเมือง ภาคประชาชนจัดตั้งและองค์กรต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ 50 ซึ่งเป็นปัญหาที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย พร้อมทั้งกลุ่มเครือขายที่แสดงท่าทีรับใช้ฝ่ายอำมาตยาธิปไตยยังขัดขวางถ่วงความเจริญของประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง จึงตนเองและพวกจึงรวมตัวกันเพื่อตั้งกลุ่มภาคีพลังประชาชน เพื่อดำเนินการในการพิทักษ์ระบอบประชาธิปไตยและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเสียงข้างมาก เรียกร้องให้เกิดความเป็นธรรมแก่สังคมและประเทศทั้งนี้จะมีการจัดชุมนุมและเวทีปราศรัย ชื่อ ภาคีพลังประชาชน พิทักษ์รัฐบาล ต่อต้านกบฏ ที่อนุสาวรีย์ปราบกบฏ (วงเวียนบางเขน) ในวันที่ 14 มิ.ย.เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป เพื่อป้องปรามกลุ่มที่มีความพยายามรัฐประหารล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มหน้ากากขาวที่มีการเรียกร้องให้ทหารและองค์กรอิสระตาม รัฐธรรมนูญ 50 ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลในขณะนี้ รวมทั้งเวทีนี้จะเป็นการนำข้อมูลมาเผยแพร่ให้กับประชาชนให้รับรู้และตื่นตัวต่ออันจะนำไปสู่การป้องกันไม่ให้เกิดการล้มรัฐบาลต่อไปสำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาวและกลุ่มคนไทยรักชาติรักแผ่นดินที่ชุมนุมที่สนามหลวงนั้น ประธานกลุ่มภาคีพลังประชาชน ยืนยันว่าไม่ว่ากลุ่มใดย่อมมีสิทธิในการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย แต่ที่กลุ่มตนจะชุมนุมนี้ก็เพื่อป้องปรามความพยายามที่ทำลายระบอบประชาธิปไตย เรียกร้องให้ทหารหรือองค์กรอิสระที่ไม่มีการยึดโยงกับประชาชนมาล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และเรียกร้องกลุ่มเหล่านั้นมาสู้กันในระบอบนี้ที่ประชาชนจะเป็นคนตัดสินดีกว่าในระบอบประชาธิปไตยที่ผ่านการเลือกตั้งจากประชาชน เราสามารถตรวจสอบได้ แต่การรัฐประหารเราไม่สามารถตรวจสอบได้เลย เล็ก บ้านดอน กล่าวสำหรับเหตุผลที่แยกจาก กวป. นั้น เล็ก บ้านดอน กล่าวว่า เกิดจากแนวทางยุทธศาสตร์บางเรื่องที่ไม่ตรงกัน แต่จุดยืนยังคงตรงกัน คือต้องการให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย อำนาจเป็นของประชาชนโดยแท้เหมือนกัน ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน แต่เพื่อความสบายใจกันจึงได้แยกมาเคลื่อนในส่วนของกลุ่มที่มีแนวทางตรงกัน และยังคงมีการติดต่อกันกับ กวป. อยู่เล็ก บ้านดอน กล่าวว่า กลุ่มภาคีพลังประชาชน ต้องการที่จะเห็นบ้านเมืองนี้เปลี่ยนแปลง จากต้นทางของปัญหาความขัดแย้งที่เกิดมาจากการรัฐประหารปี 49 คนกลุ่มหนึ่งก็ออกรัฐธรรมนูญ 50 เพื่อสถาปนาอำนาจกลุ่มตนเอง เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญต่างๆ และรัฐธรรมนูญ 50 ก็มีเงื่อนไขที่ถูกออกแบบไว้เพื่อป้องกันผลประโยชน์ของคนกลุ่มดังกล่าวไว้ ทำให้การบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ถูกแทรกแซงตลอด ทั้งที่บางกรณีก็ไม่มีความจำเป็น ดังนั้นทางกลุ่มจะเคลื่อนไหวตรวจสอบองค์กรอิสระทุกองค์กรที่ไม่ได้มีการยึดโยงกับอำนาจของประชาชนประธานกลุ่มภาคีพลังประชาชน มองว่าสิ่งที่ต้องแก้ไขที่สำคัญที่สุด คือรัฐธรรมนูญปี 50 หากแก้ตรงนี้ ทุกอย่างมันก็ไปโดยอัตโนมัติ โดยทางกลุ่มจะพยายามใช้พลังอำนาจของประชาชนในการผลักดันช่องทางของรัฐสภาเพื่อให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยใช้เหตุใช้ผลและชาติกับประชาชนเป็นหลักล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ ภปช. นำโดยเล็ก บ้านดอนและแกนนำ ภปช.ร่วมกับ พันตรีพุทธินาถ พหลพลพยุหเสนา ลูกชายคนที่ 4 ของ พลเอกพระยาพหลฯ สักการะอัฐิของคณะราษฎร 2475 10 วันก่อน 81 ปี 2475 ที่ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร | ตั้ง ภาคีพลังประชาชน พิทักษ์รัฐบาล ต่อต้านกบฏ ชุมนุม 5 โมงเย็นวันนี้ที่อนุสาวรีย์ปราบกบฏ เล็ก บ้านดอน นั่งประธาน ยันออกจาก กวป. ระบุแนวทางไม่ตรงกัน แต่จุดยืนเดียวกัน | การเมือง | กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย,กวป.,การเลือกตั้ง,คณะราษฎร,พงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา,พุทธินาถ พหลพลพยุหเสนา,ภปช.,ภาคีพลังประชาชน,ระบอบประชาธิปไตย,สิทธิการชุมนุมา,หน้ากากขาว,อนุสาวรีย์ปราบกบฏ,เล็ก บ้านดอน,แก้รัฐธรรมนูญ | https://prachatai.com/journal/2013/06/47212 |
สายป่านขอโทษ โพสต์คลิปของลับโผล่ น้อมรับผิดพลาดครั้งใหญ่ ขอจำเป็นบทเรียน | สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข, มือลั่นโพสต์คลิปลงไอจีสตอรี่ส่วนตัว ,@apinnya, เป็นคลิปสั้นๆมีชายหนุ่มนอนเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือบนเตียง โดยที่ สายป่าน ได้แท็กชื่อไอจี ,@nantawut_bs, ซึ่งเป็นของหวานใจ ,วุฒิ-นันทวุฒิ บุญรับทรัพย์, แต่ทำเอาหลายคนถึงกับอึ้งขยี้ตาแทบไม่ทันเพราะดันไปโฟกัสที่ใต้ผ้าห่มเหมือนมีของลับผู้ชายโผล่ออกมา กลายเป็นประเด็นฮือฮาแฟนคลับเข้าไปคอมเมนต์กันรัวๆ แถมยังถูกมือดีแคปเจอร์หน้าจอเก็บภาพนี้และแชร์กันต่ออย่างรวดเร็ว แตกประเด็นวิพากษ์วิจารณ์หวือหวาไปทั่วโซเชียล,ย้อนดูความรักระหว่าง สายป่าน กับ วุฒิ เพิ่งเริ่มปลูกต้นรักรวดเร็วตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ฝ่ายชายจึงถูกมองว่าเป็นมือที่สามแทรกกลางระหว่าง สายป่าน กับ,อาเบย์-ณรัฐ, แฟนหนุ่มคนก่อนที่เลิกรากันแบบไร้วี่แววมาก่อน ซึ่ง สายป่าน ก็ยืนยันว่าเลิกกับ อาเบย์ มาได้ครึ่งปีแล้วและยืนยันว่า วุฒิ ไม่ได้เป็นมือที่สาม งานนี้พอเปิดตัวคบหา ความหวานของทั้งคู่ก็มีให้เห็นผ่านโซเชียล ทั้งรูปคู่สวีต ไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่กลับต้องมาเป็นข่าวสะดุดก็เพราะของลับหลุดนี่เอง,งานนี้ หลายคนคาดการณ์ว่า สายป่าน จะออกมาชี้แจงยังไง ซึ่งไม่นานหลังภาพหลุด นางเอกสาวก็โพสต์ภาพอีโมชั่นยกมือไหว้ พร้อมเขียน ข้อความใต้ภาพในอินสตาแกรมส่วนตัวชี้แจงว่า จากกรณีไอจีสตอรี่ที่ป่านลง ป่านต้องขอโทษอย่างที่สุด ทั้งหมดเกิดจากความไม่ตั้งใจและขาดความรอบคอบ จนเกิดความผิดพลาดของตัวป่านเอง ป่านขออนุญาตชี้แจงดังนี้นะคะ 1.ป่านตั้งใจบันทึกสตอรี่สั้นๆนี้ในไอจีอีกอันที่ป่านใช้เล่นกับเพื่อนๆ 5 คน และตั้งเป็นส่วนตัวเอาไว้โดยที่ไม่ได้ตั้งใจให้เห็นอะไรทั้งนั้น 2.ป่านไม่ทันสังเกตว่าในคลิปสั้นๆ ได้บันทึกอะไรไว้บ้าง เพราะป่านเองโฟกัสที่หน้าจอโทรศัพท์ที่อยู่ในมือ 3.ทันทีที่รู้ตัวป่านก็รีบลบสตอรี่ดังกล่าว แต่ด้วยความเร็วของโซเชียล ทำให้เรื่องราวที่ถูกแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว เกินกว่าที่ป่านจะแก้ไขอะไรได้อีก ทั้งนี้ป่านต้องขอโทษทุกคนอีกครั้งค่ะที่ได้ทำผิดพลาดไป เรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นบทเรียนให้ป่านทำอะไรอย่างมีสติและรอบคอบทุกครั้งโดยเฉพาะการโพสต์สตอรี่ ที่เป็นคลิปสั้นๆ และลงทันทีแบบนี้ ขอโทษจากใจค่ะ ฟากหนุ่ม วุฒิ-นันทวุฒิ ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร. | สร้างความตื่นตะลึง ต้อนรับปีจอ เมื่อนางเอกสาวมาดเซอร์ สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข มือลั่นโพสต์คลิปลงไอจีสตอรี่ส่วนตัว @apinnya เป็นคลิปสั้นๆมีชายหนุ่มนอนเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือบนเตียง | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | สายป่าน อภิญญา,สายป่าน ความรัก,สายป่าน แฟนใหม่,วุฒิ นันทวุฒิ แฟนใหม่ สายป่าน,อินสตาแกรมดารา,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1169720 |
คลังเผยยังไม่พบกักตุน หลัง ครม.ขึ้นภาษี เหล้า-บุหรี่ ดีเดย์ 16 ก.ย.นี้ | หลังครม.ขึ้นภาษีเหล้า-บุหรี่-ไพ่ เริ่ม 16 ก.ย.นี้ ปลัดกระทรวงการคลังเผยยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการกักตุนสินค้าดังกล่าว ยันปรับปรุงภาษีหวังขยายฐานภาษีให้กว้างมากขึ้น13 ก.ย. 2560 จากกรณีวานนี้ (12 ก.ย.60)สมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงว่าด้วยกำหนดอัตราโครงสร้างภาษี 3 สินค้า คือ เหล้า ยาสูบ หรือ บุหรี่ และไพ่ ซึ่งออกตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต 2560 ฉบับใหม่ ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.ย. นี้ คาดว่าจะประกาศลงราชกิจจานุเบกษาก่อนวันที่มีผลบังคับใช้ หรือในวันที่ 15 ก.ย. 2560 หลังจากนั้นกรมสรรพสามิตจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับอัตราภาษีและ พ.ร.บ.อีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาเหล้า ยาสูบ หรือ บุหรี่ และไพ่ แพงขึ้นนั้นล่าสุดวันนี้ (13 ก.ย.60) สมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานจาก อธิบดีกรมสรรพสามิต ว่ามีการกักตุนสินค้าประเภทเหล้า บุหรี่ ก่อนที่ภาษีสรรพสามิตใหม่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 16 ก.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้เหล้า ไวน์ เบียร์ บุหรี่ ปรับราคาขึ้น โดยกระทรวงการคลังยืนยันว่าการปรับปรุงภาษีสรรพสามิตครั้งนี้ เพื่อขยายฐานภาษีให้กว้างมากขึ้นและให้รัฐบาลมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเท่าเดิมไม่ได้ต้องการเพิ่มภาระให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภค ดังนั้น ผู้ประกอบการไม่ต้องกักตุนสินค้ารายงานข่าวระบุด้วยว่า ภาษีสรรพสามิตใหม่จะกำหนดเพดานภาษีขึ้นอยู่กับปริมาณแอลกอฮอล์ในเครื่องดื่มแต่ละชนิด จะมีผลทำให้สุราที่มีดีกรีสูง เช่น เหล้าขาว ถูกจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น ส่วนการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตบุหรี่ จะเก็บจากราคาขายปลีกและปริมาณอีกมวนละ 1.50 บาท หรือซองละ 30 บาท สำหรับซอง 20 มวนโดยเมื่อวานที่ผ่านมาพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยรายละเอียดว่ากล่าวว่า ในที่ประชุมครม.ได้มีมติปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต เหล้า บุหรี่ และไพ่ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้หวั่นทำให้มีการกักตุนสินค้า รอให้มีผลตามกฏหมาย ก่อนซึ่งเบื้องต้น เหล้าจะปรับเพิ่มตามดีกรี หรือ ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ ส่วนบุหรี่จะมีการจัดเก็บ อัตราภาษีต่อมวน และเก็บตามอัตราของราคาบุหรี่ และในเบื้องต้นที่กรมสรรพสามิตได้อธิบายต่อครม. ว่า กรณีของสุราไม่ได้จัดเก็บจากมูลค่าหรือราคาเท่านั้น แต่จะจัดเก็บจากดีกรีหรือความแรงของแอลกอฮอล์ สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการดูแลสุขภาพของประชาชน และมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่เก็บภาษีจากราคาหน้าโรงกลั่นมาเป็นตามราคาขายปลีก ส่วนบุหรี่ จะมีการเก็บภาษีทั้งในส่วนของมูลค่าหรือราคา และยังมีการจัดเก็บภาษีจากปริมาณหรือคิดอัตราภาษีต่อมวนด้วย | หลังครม.ขึ้นภาษีเหล้า-บุหรี่-ไพ่ เริ่ม 16 ก.ย.นี้ ปลัดกระทรวงการคลังเผยยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการกักตุนสินค้าดังกล่าว ยันปรับปรุงภาษีหวังขยายฐานภาษีให้กว้างมากขึ้น 13 ก.ย. 2560 จากกรณีวานนี้ (12 | เศรษฐกิจ | กรมสรรพสามิต,ภาษีบุหรี่,ภาษีสรรพสามิต,ภาษีเหล้า,ไพ่ | https://prachatai.com/journal/2017/09/73210 |
10 ไอเทมของแต่งบ้าน ตามสไตล์คนอิตาเลียน | จะพาทุกคนไปรู้จัก ,อิตาเลียนไลฟ์สไตล์, ไปดูกันซิว่าของใช้ภายในบ้านที่บ่งบอกถึงความเป็นคนอิตาเลียน ต้องมีอะไรบ้าง? แต่ขอเกริ่นก่อนว่า อิตาลี ถือเป็นนครแห่งศิลปะโลก วิถีชีวิตของชาวอิตาเลียนไม่ว่าจะเป็นด้านสถาปัตยกรรม การออกแบบ และงานดีไซน์ แฟชั่น รวมถึงวัฒนธรรมการกิน ล้วนแต่มีสุนทรียะของศิลปะแทรกซึมลงไปอยู่ในทุกอณู เรียกว่าเป็นศิลปะแห่งวิถีชีวิต หรือไลฟ์สไตล์ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าค้นหา เราจึงอยากแนะนำ 10 ไอเทมเก็บตกจากงานซีดีซี อิตาเลียน เฟสติวัล 2018 ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์สุดโก้ของชาวอิตาเลียนเป็นที่สุด,เริ่มกันด้วยไอเทมสะท้อนไลฟ์สไตล์ของคนชาติอิตาลี ได้เด่นชัดที่สุดนั่นคือ การตกแต่งบ้านและการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ ที่ต้องบอกว่าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นของชาวอิตาเลียนรังสรรค์และออกแบบมาอย่างประณีต โดดเด่น และต้องสามารถใช้สอยได้อย่างสะดวกสบาย เก้าอี้รูปสุนัข จากแบรนด์มาจีส สร้างสรรค์ชิ้นงานโดย เออร์โร เออาร์นิโม ผ่านแนวคิดระหว่างของเล่นกับเฟอร์นิเจอร์ ดึงดูดความสนใจของเด็กๆ ด้วยสีสันที่สดใส มาพร้อมกับรูปแบบที่โดดเด่นสวยงาม นำไปสู่การเล่นที่มีจินตนาการอันกว้างไกล,2. เก้าอี้พักผ่อน,ตามมาด้วย เก้าอี้พักผ่อน แอลซี 4 แชส เลานจ์ ของแบรนด์ คาสสินา เก้าอี้ที่มีความสมบูรณ์แบบทั้งด้านการดีไซน์ ฟังก์ชั่นการใช้งาน,3. เก้าอี้ตัวเอส,จากแบรนด์ แคปเปลลินี่ ที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ ทอม ดิกซัน โมเดลไอคอนของการดีไซน์เก้าอี้ทั่วโลก สำหรับคนอิตาเลียนจึงไม่ใช่แค่เฟอร์นิเจอร์ แต่คือผลงานศิลป์ที่ผสมผสานนวัตกรรม,4. แชนเดอเลียร์,แชนเดอเลียร์ เทรดดิชั่นแนล กลาส มูราโน่ จากแบรนด์ ซิกโนเรทโต แลมปาดาริ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1990 เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่สร้างขึ้นที่เกาะมูราโน่ ที่โด่งดังด้านศิลปะการทำกระจกสี โดย มาสเตอร์ จิอานนี่ และ ลอริส ซิกโนเรทโต ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง มีความประณีตงดงาม สามารถนำไปตกแต่งได้อย่างลงตัวทั้งสไตล์คลาสสิก หรือสไตล์โมเดิร์น,5. เก้าอี้ออฟฟิศ,จากแบรนด์ คูลิก ซิสเต็มส์ เก้าอี้สำหรับวัยทำงานที่มีความเสี่ยงเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม เพราะออกแบบด้วยนวัตกรรมที่รองรับสรีระเพื่อการนั่งทำงานโดยเฉพาะ จึงช่วยป้องกันภาวะปวดกระดูกสันหลัง และลดอาการปวดเอว มีหลากหลายรุ่นเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของทุกวัย และสรีระที่แตกต่างกัน,6. โต๊ะลีม,โต๊ะดีไซน์สุดเก๋ จากแบรนด์ มาจีส โต๊ะที่ผสานนวัตกรรมให้สามารถปรับระดับความสูงได้ ทำให้เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่ใช้เป็นโต๊ะกาแฟไปจนถึงโต๊ะรับประทานอาหาร ใช้งานได้ทั้งบริเวณภายในบ้านและนอกบ้าน,7. กระทะไร้น้ำมัน,ต่อมาด้วย กระทะไร้น้ำมัน แบรนด์ โฟลนอล ซึ่งไอเทมที่สะท้อนไลฟ์สไตล์การทานอาหารเช้าของชาวอิตาเลียน ซึ่งจะทานเป็นของหวานกับเครื่องดื่มร้อน อย่าง แพนเค้ก ราดด้วยโยเกิร์ต หรือช็อกโกแลต ชาวอิตาเลียนจะไม่กินของคาวในมื้อเช้าเด็ดขาด และมื้อเช้าจะกินหลังจากตื่นนอนไม่นาน,8. หม้อต้มกาแฟ,ถัดมาคือ หม้อต้มกาแฟยอดฮิตจาก แบรนด์ เบียเล็ตติ สะท้อนไลฟ์สไตล์การดื่มกาแฟของคนอิตาเลียน ซึ่งรักในวัฒนธรรมการดื่มกาแฟแบบฉบับของตนเองมากคือ ดื่มกาแฟล้วนๆ แก้วเล็กๆ ข้นๆ ที่เรารู้จักกันดีในชื่อ เอสเพรสโซ่ จึงไม่แปลกหากจะเห็นว่าคนอิตาเลียน มีหม้อต้มกาแฟสดติดบ้านแทบทุกคน หรือเห็นว่านิยมพกพาหม้อต้มกาแฟติดตัว เวลาเดินทางไปทำงานออกนอกบ้านด้วย,9. สกู๊ตเตอร์,ใครหลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่า วิถีไบเกอร์ เป็นอิตาเลียนไลฟ์สไตล์ คือ คนอิตาเลียนผูกพันกับรถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์มากว่า 100 ปี และที่สำคัญประเทศอิตาลี ถือเป็นแหล่งต้นกำเนิดรถจักรยานยนต์ เริ่มกันด้วย เวสป้า 946 เรด ซึ่งต่างจากรุ่นอื่นด้วยสไตล์ล้ำสมัยและการประกอบที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการคัดเลือกมาแต่เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของยานยนต์ส่วนบุคคล เวสป้าจึงเดินทางเข้าสู่เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่ผสมผสานแบบแผนเดิมและนวัตกรรมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว,10. โมโต กุซซี่ วี 7 III สโตน,รุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีรูปลักษณ์ที่ดูแข็งแกร่งและหล่อเหลายิ่งกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ โดยเปลี่ยนมาใช้วัสดุสีดำด้านทั้งหมด โดยสีใหม่นี้เข้ากับลวดลายเฉพาะตัว มีเส้นผ่านศูนย์กลางหน้าจอวงกลมแสดงการมองเห็นถึง 100 มม. เบาะนั่งมีสายจับสำหรับผู้ซ้อนท้าย ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากยุค 70 พร้อมผิวสัมผัสแบบซาติน.,ไอเท็มแต่งบ้านที่สั่งออนไลน์แล้วสะดวกกว่า ประหยัดกว่า พร้อมรับ ,คูปอง lazada | โฮมมี่ จะพาทุกคนไปรู้จัก อิตาเลียนไลฟ์สไตล์ ไปดูกันซิว่าของใช้ภายในบ้านที่บ่งบอกถึงความเป็นคนอิตาเลียน ต้องมีอะไรบ้าง? | ไลฟ์สไตล์,บ้าน | ของแต่งบ้าน,แต่งบ้าน,อิตาเลียนไลฟ์สไตล์,สไตล์คนอิตาเลียน,โฮมมี่ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/home/homedecor/1325061 |
สมุทรสาคร สาวซิ่งเก๋งเสียหลักตกคลองดับอนาถ คาซากรถ | เมื่อเวลาประมาณ 03.30 น. ของวันที่ 7 พฤศจิกายน 2558 พ.ต.ท.เอื้อ จันทร์กล้า พนักงานสอบสวน สภ.ย่อยบางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีรถยนต์ตกลงไปในคลอง ช่วงทางโค้งปากทางเข้าโรงเรียนบ้านหนองหาดใหญ่ หมู่ที่ 6 ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร,ในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน 4 กฒ 8380 กรุงเทพมหานคร ตกลงไปในคลอง ด้านหน้ารถพังเสียหาย กระจกประตูข้างด้านหลังแตกทั้ง2ข้าง ซึ่งต่อมา ได้มีการประสานรถยกนำรถยนต์คันดังกล่าวขึ้นมาจากคลอง ภายในพบศพ นางสาวสุพรรณี กมลนันท์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 7 ต.หนองตาไก้ อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด นอกจากนี้ ยังพบเอกสารของผู้เสียชีวิต มีทั้งใบขับขี่ กรมธรรม์การครอบครองรถยนต์คันดังกล่าว และเงินสดอีก 3,480 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน,จากการสอบถามคนในละแวกใกล้ที่เกิดเหตุ ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นคาดว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะไม่ชำนาญเส้นทาง เมื่อขับรถมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งอาจจะมองไม่เห็น จึงทำให้รถเสียหลักพุ่งชนข้างทาง ก่อนจะพลิกตกลงไปในคลอง ทำให้คนขับจมน้ำเสียชีวิต ทั้งนี้ ก็จะได้ส่งศพไปยังสถาบันนิติเวช เพื่อทำการชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง ต่อไป. | สมุทรสาคร สาววัย 33 ปี ซิ่งเก๋งเสียหลักตกลงไปในคลองกลางดึก เสียชีวิตอยู่ในรถที่จมอยู่ในน้ำ ตร. คาดอาจไม่ชำนาญเส้นทาง เพราะเป็นทางโค้ง ทำให้มองไม่เห็นจนเกิดเหตุสลด | ข่าว,ทั่วไทย | รถยนต์ตกคลอง,สาว 33 ปี ขับรถตกคลอง,ไม่ชำนาญทาง,ดับอนาถ,เสียชีวิต,สมุทรสาคร,สาว33ปี,เสียหลัก,บางน้ำจืด,สุพรรณี กมลนันท์,บ้านหนองหาดใหญ่,จมน้ำ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ภูมิภาค,ทั่วไทย,เอื้อ จันทร์กล้า,พนักงานสอบสวน สภ.ย่อยบางน้ำจืด | https://www.thairath.co.th/news/local/537732 |
เดินหน้าศูนย์ไบโอดีเซลครบวงจร | กรุงเทพฯ- 9 ก.พ.48นายพรชัย รุจิประภา รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานจะส่งเสริมการผลิตไบโอดีเซล โดยให้ทำเป็นศูนย์การผลิตไบโอดีเซลแบบครบวงจร ซึ่งจะมีพื้นที่ปลูกปาล์มประมาณ 60000 ไร่ โรงงานหีบน้ำมัน โรงไฟฟ้า และโรงงานผลิตไบโอดีเซล ทั้งนี้โรงงานแต่ละแห่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1800 ล้านบาท ใช้พื้นที่ประมาณ 60000 ไร่ โดยจะมีกำลังการผลิตไบโอดีเซลได้ประมาณ 1 แสนลิตรต่อวัน โดยกระทรวงพลังงานจะส่งเสริมการผลิตไบโอดีเซลทั้งหมดจำนวน 85 หน่วยผลิตทั่วประเทศ คิดเป็นเงินลงทุนทั้งสิ้น 1.53 แสนล้านบาท ซึ่งจะสามารถผลิตไบโอดีเซลได้ประมาณ 8.5 ล้านลิตรต่อวัน กระทรวงพลังงานอาจพิจารณาลงทุนเป็นโครงการนำร่อง โดยการผลิตไบโอดีเซลจากปาล์มน้ำมันที่ได้จากโครงการเอสพีวี ซึ่งจะให้ บมจ.ปตท หรือ บมจ.บางจาก ปิโตรเลียม จัดตั้งบริษัทเอสพีวีเป็นรายแรกก่อน หลังจากนั้นหากมีผู้สนใจที่จะเข้าไปดำเนินการก็สามารถทำได้ | กรุงเทพฯ- 9 ก.พ.48 นายพรชัย รุจิประภา รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานจะส่งเสริมการผลิตไบโอดีเซล โดยให้ทำเป็นศูนย์การผลิตไบโอดีเซลแบบครบวงจร ซึ่งจะมีพื้นที่ปลูกปาล์มประมาณ 60000 ไร่ | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/02/2692 |
มาแล้ว เลขเด็ดพญาเต่างอย งวดนี้ไม่มีหงอย เอาไปเลย เน้นๆ 3 ตัว | นักเสี่ยงโชคยังคงหลั่งไหลมากราบไหว้ พญาเต่างอย รูปปั้นเต่ายักษ์ ริมน้ำพุง อ.เต่างอย จ.สกลนคร โดยไม่หวั่นฟ้าฝน ส่งผลให้การค้าขายของที่ระลึกผ้าฝ้ายย้อมครามขายดีไปด้วย รองผวจ.มาตรวจ บอกเรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะเชื่อไม่เชื่อ ,วันที่ 28 ส.ค. 59 ที่รูปปั้นเต่ายักษ์พญาเต่างอย ริมน้ำพุง อ.เต่างอย จ.สกลนคร แม้ว่าท้องฟ้ามืดครึ้มเหมือนฝนจะตก แต่ยังมีประชาชนและนักท่องเที่ยว หลั่งไหลเข้ากราบไหว้ขอพรพญาเต่างอยอย่างไม่ขาดสาย นำเม็ดเงินเข้าสู่พื้นที่เดือนละหลายล้านบาท,ทั้งนี้ ผลพลอยได้ที่เห็นชัดจะเป็นธุรกิจค้าขายของฝาก โดยเฉพาะเสื้อผ้าฝ้ายย้อมคราม ปักรูปเต่าน้อยที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มีให้เลือกหลากหลายขนาด ของผู้ใหญ่สนนราคาอยู่ที่ตัวละ 250 บาท ส่วนของคุณหนูตัวละ 150 บาท จนแทบจะผลิตไม่ทันต่อความต้องการของนักท่องเที่ยว,อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ขายดีสุดต้องเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ตั้งแผงเรียงรายรอบๆ พญาเต่างอยหลายสิบเจ้า โดยที่เจ้าของแผงจำหน่ายสลากกินแบ่งทุกคน จะคอยเช็กเลขเด็ดพญาเต่างอยล่วงหน้าทุกงวด เพื่อที่จะได้สั่งซื้อสลากฯ ให้ตรงตามเลขเด็ดพญาเต่า ซึ่งจะขายดีแบบเกลี้ยงแผงในเวลาอันรวดเร็ว บางเจ้าสั่งซื้อมากกว่า 300 ชุด สามารถขายหมดภายในไม่กี่วัน,สำหรับเลขเด็ดพญาเต่างวดวันที่ 1 ก.ย. ที่จะถึงนี้มีอยู่สามตัวด้วยกัน คือ 19-35 และ 45 ซึ่งก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล,ขณะที่ นายธวัช ศิริวัธนนุกูล รอง ผวจ.สกลนคร ได้เดินทางไปตรวจดูความเรียบร้อยของสถานที่ และพบปะพูดคุยกับนักท่องเที่ยว พร้อมกับเปิดเผยว่า เรื่องแบบนี้เป็นความเชื่อที่ห้ามกันไม่ได้ แต่เรื่องที่ดีก็คือ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่,ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บริเวณดังกล่าวมีการปั้นรูปปั้นพญานาค 4 ตน หันหน้าลงลำน้ำพุง ตามความฝันของผู้สูงอายุ ที่ฝันเห็นพญานาคไม่สามารถขึ้นมาหาพญาเต่างอยได้ ซึ่งการก่อสร้างรูปปั้นพญานาคใกล้แล้วเสร็จ 2 ตน ส่วนอีก 2 ตน ยังไม่ลงมือก่อสร้าง | นักเสี่ยงโชคยังคงหลั่งไหลมากราบไหว้พญาเต่างอย รูปปั้นเต่ายักษ์ ริมน้ำพุง อ.เต่างอย จ.สกลนคร โดยไม่หวั่นฟ้าฝน ส่งผลให้การค้าขายของที่ระลึกผ้าฝ้ายย้อมครามขายดีไปด้วย รองผวจ.มาตรวจ บอกเรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับว่า | null | หวย,พญาเต่างอย,เลขเด็ด,เลขเด็ดพญาเต่างอย,งวด1ก.ย.59,สกลนคร | https://www.thairath.co.th/content/704214 |
นิพิฏฐ์ เฉ่งเซตซีโร่ กกต.เหมาเข่ง โวยอ้างเหตุปลาสองน้ำฟังไม่ขึ้น | เมื่องวันที่ 7 มิ.ย. 60 ที่รัฐสภา นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการเซตซีโร่ กกต.ว่า ถ้า กกต.ชุดปัจจุบันคนใดมีคุณสมบัติถูกต้องตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ก็ไม่มีเหตุผลเพียงพอจะไปเซตซีโร่ การอ้างเหตุเรื่องปลาสองน้ำถือว่าไม่มีเหตุผล อยากให้มีปลา 3-4 น้ำในองค์กรด้วยซ้ำ จะได้มีหลายน้ำคอยถ่วงดุลกันทั้งคนเก่าและคนใหม่ องค์กรอิสระในประเทศที่เป็นประชาธิปไตย จะมีวาระเหลื่อมกับวาระของรัฐบาลไม่จบไปพร้อมรัฐบาล เพราะต้องการให้ไปตรวจสอบรัฐบาล แต่ปัญหาประเทศไทย คือ รัฐบาลต้องการตั้งองค์กรอิสระด้วยมือรัฐบาลทั้ง 100% จึงมีข้อครหาว่าต้องการครอบงำองค์กรอิสระหรือไม่ ถ้าคนตั้งองค์กรอิสระประกาศชัดเจนว่าตั้งองค์กรอิสระแล้วจะไม่อยู่ในอำนาจต่อก็ทำได้ แต่ผู้มีอำนาจขณะนี้ไม่ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า จะอยู่ในอำนาจต่อหรือไม่ ดังนั้นจึงไม่ควรตั้งหรือเซตซีโร่องค์กรอิสระ เพื่อไม่ให้ถูกนินทาว่า ต้องการครอบงำองค์กรอิสระอยากให้ยึดตามรัฐธรรมนูญ อย่าทำอะไรเหนือรัฐธรรมนูญ จะเกิดปัญหาเพราะไม่ว่าจะเซตซีโร่ กกต.องค์กรเดียวหรือองค์กรอิสระทุกแห่งก็จะเกิดปัญหาทั้งหมด ส่วนที่ กกต.ตั้งท่าตรวจสอบ 9 รัฐมนตรีที่มีปัญหาเรื่องการถือครองหุ้นไม่ถูกต้องนั้น ถ้าเป็นการดำเนินการตามกฎหมายก็ตรวจสอบได้ อย่าไปมองว่าเป็นการเอาคืน | นิพิฏฐ์ โวยเซตซีโร่ กกต. อ้างเหตุปลาสองน้ำฟังไม่ขึ้น เชียร์ให้มีปลาหลายน้ำในองค์กรไว้คอยถ่วงดุลกัน เตือนรัฐบาลอย่าทำอะไรเหนือ รธน. จ้องครอบงำตั้งองค์กรอิสระเอง | ข่าว,การเมือง | นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ,ปชป.,กกต.,เซตซีโร่,รีเซต กกต. | https://www.thairath.co.th/news/politic/965282 |
ฟันดาบไทยตั้งเป้าคว้า 4 เหรียญทองซีเกมส์ | ทีมฟันดาบไทยตั้งเป้าคว้า 4 เหรียญทองจากฟอยล์ทีมชายและฟอยล์บุคคลหญิงรวมทั้งเซเบอร์ทีมชายและบุคคลชาย ในการแข่งขันซีเกมส์ปลายปีนี้ที่ประเทศอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ ซึ่งขณะนี้ได้ตัวแทนนักกีฬา 12 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย สถาบัน นุชประไพ ซึ่งติดทีมชาติชุดซีเกมส์เป็นครั้งแรก ยืนยันว่าไทยน่าจะทำได้ตามเป้า ส่วนเรื่องกิตติศัพท์กองเชียร์ของเจ้าภาพไม่น่าจะเป็นอุปสรรค เพราะฟันดาบไม่ใช่กีฬายอดนิยมเหมือนกับกีฬาฟุตบอลส่วนการแข่งขันฟันดาบชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยประจำปี 2554 ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ในประเภทฟอยล์ทีมชาย ผลปรากฎว่า รอบชิงชนะเลิศ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นฝ่ายชนะ กองทัพอากาศไป 45-43 คะแนน คว้าเหรียญทองได้สำเร็จ ขณะที่มหาวิทยาลัยรัตนบัญฑิต ที่มีพัฒนพงศ์ ศรีสวัสดิ์ และมหาวิทยาลัยกรุงเทพที่มีสถาบัน นุชประไพ นักกีฬาทีมชาติทั้งคู่ทำได้ดีที่สุดเพียงแค่เหรียญทองแดงเท่านั้น โดยวันนี้ (8 ก.ย.) จะเป็นการแข่งขันวันสุดท้ายในประเภทเอเป้ทีมชาย ส่วนเซเบอร์ทีมชายและฟอยล์ทีมหญิง เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป จากนั้นในวันที่ 17-22 กันยายนนี้ก็จะมีการแข่งขันฟันดาบไทยแลนด์โอเพ่น 2011 ซึ่งคาดว่าจะมีนักกีฬากว่า 10 ชาติเดินทางมาร่วมแข่งขัน | ทีมฟันดาบไทยไม่หวั่นกองเชียร์เจ้าภาพอินโดนีเซีย ในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 26 ปลายปีนี้ พร้อมตั้งเป้าคว้า 4 เหรียญทอง | กีฬา | ซีเกมส์,ฟันดาบ,อินโดนีเซีย,เหรียญทอง | https://news.thaipbs.or.th/content/32613 |
ปภ.แนะวิธีปฏิบัติตนและอพยพออกจากอาคารที่เกิดเพลิงไหม้อย่างปลอดภัย | ภาพประกอบจากแฟ้มข่าว,ปภ.แนะประชาชนเรียนรู้วิธีปฏิบัติตนและอพยพออกจากอาคารที่เกิดเพลิงไหม้รุนแรง ให้รีบออกจากพื้นที่ ใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูกและปาก หมอบคลานต่ำใช้บันไดหนีไฟ ห้ามใช้ลิฟต์ ไม่เข้าไปจุดอับของอาคาร และไม่หนีเข้าห้องน้ำ หรือ ขึ้นชั้นบนดาดฟ้า,กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะวิธีปฏิบัติตนและอพยพออกจากอาคารที่เกิดเพลิงไหม้อย่างปลอดภัย โดยตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก ประเมินสถานการณ์ในเบื้องต้น หากเพลิงไหม้เล็กน้อย ให้ใช้ถังดับเพลิงควบคุมเพลิงในเบื้องต้น หากเพลิงไหม้รุนแรง ให้รีบอพยพออกจากพื้นที่ โดยใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูกและปาก หมอบคลานต่ำหรือย่อตัวใกล้กับระดับพื้นมากที่สุด ใช้บันไดหนีไฟในการอพยพออกจากอาคาร ห้ามใช้ลิฟต์และบันไดในอาคารเป็นเส้นทางอพยพหนีไฟ ไม่เข้าไปอยู่ในบริเวณที่เป็นจุดอับของอาคาร ไม่หนีเข้าไปอยู่ในห้องน้ำ ไม่ขึ้นไปอยู่ชั้นบนหรือดาดฟ้าของอาคาร กรณีไฟลุกลามติดเสื้อผ้า ให้รีบถอดเสื้อผ้าออก ห้ามวิ่งอย่างเด็ดขาด เพราะไฟจะลุกลามเร็วขึ้น กรณีติดอยู่ในอาคาร ให้โทรศัพท์แจ้งเหตุ พร้อมระบุตำแหน่งที่ติดอยู่ ห้ามกลับเข้าไปในอาคารที่เกิดเพลิงไหม้ เพราะอาจได้รับอันตรายจากไฟคลอกหรือโครงสร้างอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้,นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ฤดูร้อนเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยสูง ซึ่งเมื่อเกิดอัคคีภัยผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ส่วนใหญ่เกิดจากการสำลักควัน เนื่องจากไม่มีความรู้ ในการอพยพหนีไฟอย่างถูกวิธี เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะวิธีปฏิบัติตนและอพยพออกจากอาคารที่เกิดเพลิงไหม้ ดังนี้,การปฏิบัติตนเมื่อเกิดเพลิงไหม้ ตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก ประเมินสถานการณ์ในเบื้องต้น หากเพลิงไหม้เล็กน้อย ใช้ถังดับเพลิงควบคุมเพลิงในเบื้องต้น และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาควบคุมเพลิง หากเพลิงไหม้รุนแรง ตะโกนบอกหรือกดสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ เพื่อแจ้งให้ผู้อื่นทราบ พร้อมอพยพออกจากพื้นที่เกิดเพลิงไหม้ และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาควบคุมเพลิง ก่อนออกจากห้องให้ใช้มือสัมผัสผนังหรือลูกบิดประตู หากไม่ร้อน ให้เปิดประตูออกไปช้าๆ และอพยพตามเส้นทางหนีไฟที่ปลอดภัย หากมีความร้อนสูง ห้ามเปิดประตูออกไป เพราะอยู่ในวงล้อมของกองเพลิง ให้ใช้ผ้าหนาๆ ชุบน้ำอุดตามช่องที่ควันไฟสามารถลอยเข้ามาได้ ปิดพัดลมระบายอากาศและเครื่องปรับอากาศ เพื่อป้องกันการสูดดมควันไฟ พร้อมโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อบอกตำแหน่งที่ติดอยู่ และส่งสัญญาณให้ผู้อื่นทราบ,การอพยพออกจากพื้นที่เกิดเพลิงไหม้ ใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูกและปาก หรือใช้ถุงพลาสติกใสขนาดใหญ่อัดอากาศบริสุทธิ์แล้วนำมาครอบศีรษะ เพื่อป้องกันการสูดดมควันไฟ เข้าสู่ร่างกาย ทำให้หมดสติและเสียชีวิต หมอบคลานต่ำหรือย่อตัวใกล้กับระดับพื้นมากที่สุด เนื่องจากอากาศบริสุทธิ์อยู่เหนือระดับพื้นไม่เกิน 1 ฟุต เพื่ออพยพไปสู่ประตูทางออกฉุกเฉินที่ใกล้ที่สุด ใช้บันไดหนีไฟในการอพยพออกจากอาคาร เนื่องจากมีช่องระบายอากาศ จึงช่วยลดการสูดดมควันไฟเข้าสู่ร่างกาย,ไม่ใช้บันไดภายในอาคารเป็นเส้นทางอพยพหนีไฟ เพราะบันไดมีลักษณะเป็นปล่อง ทำให้ควันไฟและเปลวเพลิงลอยขึ้นมาปกคลุม จึงเสี่ยงต่อการสำลักควันไฟและถูกไฟคลอกเสียชีวิต ห้ามใช้ลิฟต์ในการอพยพหนีไฟ เพราะเมื่อเกิดเพลิงไหม้ไฟฟ้าจะดับ ทำให้ติดค้างภายในลิฟต์ ขาดอากาศหายใจเสียชีวิตได้ ข้อควรรู้ในการอพยพหนีไฟ ,ไม่เข้าไปอยู่ในบริเวณจุดอับของอาคาร อาทิ ห้องใต้ดิน เพราะยากต่อการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ ไม่หนีเข้าไปอยู่ในห้องน้ำ เพราะปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการดับไฟ ทำให้ถูกไฟคลอกเสียชีวิตได้ ไม่ขึ้นไปอยู่ชั้นบนหรือดาดฟ้าของอาคาร เพราะไฟจะลุกลามจากชั้นล่างขึ้นสู่ชั้นบน ทำให้เสี่ยงต่อการได้รับอันตราย ยกเว้นกรณีที่ไม่สามารถอพยพหนีไฟลงสู่ชั้นล่างได้,กรณีไฟลุกลามติดเสื้อผ้า ให้รีบถอดเสื้อผ้าหรือใช้วิธีนอนราบกับพื้นและกลิ้งตัวไปมาให้ไฟดับ ห้ามวิ่งอย่างเด็ดขาด เพราะไฟจะลุกลามเร็วขึ้น ห้ามกลับเข้าไปในอาคารที่เกิดเพลิงไหม้ เพราะอาจถูกไฟคลอกหรือได้รับอันตรายจากโครงสร้างอาคารที่อาจพังถล่มลงมา,ทั้งนี้ การเรียนรู้วิธีปฏิบัติตนและอพยพหนีไฟอย่างถูกต้อง จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการได้รับอันตราย ทำให้สามารถเอาตัวรอดจากเหตุเพลิงไหม้ได้อย่างปลอดภัย. | ปภ.แนะประชาชนเรียนรู้วิธีปฏิบัติตนและอพยพออกจากอาคารที่เกิดเพลิงไหม้รุนแรง ให้รีบออกจากพื้นที่ ใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูกและปาก หมอบคลานต่ำใช้บันไดหนีไฟ ห้ามใช้ลิฟต์ ไม่เข้าไปจุดอับของอาคาร และไม่หนีเข้าห้องน้ำ หรือ ขึ้นชั้นบนดาดฟ้า | null | ไฟไหม้,เพลิงไหม้,หนีออกจากอาคาร,หนีไฟ,อพยพหนีไฟ | https://www.thairath.co.th/content/878797 |
จ่ายแล้ว บริษัทตะกั่วนัดมอบค่าเสียหาย 20 ล้าน 8 ชาวบ้านคลิตี้ | ความคืบหน้ากรณีศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา (แผนกคดีสิ่งแวดล้อม) คดีแพ่งหมายเลขดำ ที่ 106/2546 หมายเลขแดง ที่ 1565/2549 ระหว่าง นายกำธร ศรีสุวรรณมาลา ที่ 1 กับพวกรวม 8 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัด จำเลยที่ 1 และ นายคงศักดิ์ กลีบบัว จำเลยที่ 2 รวม 2 คน ในข้อหา ละเมิดตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 โดยสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายให้กับชาวบ้านทั้ง 8 ราย เป็นจำนวนเงิน 20,200,000 บาท เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา,เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 59 นายสุรพงษ์ กองจันทึก ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษากะเหรี่ยงและพัฒนา สภาทนายความ และ ว่าที่ ร.ต.สมชาย อามีน กรรมการสิ่งแวดล้อม ทนายความผู้ช่วยเหลือคดีจากสภาทนายความ เปิดเผยว่า ทนายความฝ่ายจำเลยมีการนัดหมายจ่ายเงินให้กับชาวคลิตี้ ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องทั้งหมด 8 คน ในวันนี้ ภายหลังศาลจังหวัดกาญจนบุรี อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา (แผนกคดีสิ่งแวดล้อม) สั่งให้บริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัด ชดใช้ค่าเสียหายให้กับชาวบ้านทั้ง 8 ราย เป็นจำนวนเงิน 20,200,000 บาท เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา (,สู้คดี 10 ปีจบแล้ว ศาลฎีกาสั่ง บ.ตะกั่ว ชดใช้ชาวบ้านคลิตี้ 20 ล้าน,) โดยทนายความทั้งสองฝ่ายร่วมเป็นพยาน,ทั้งนี้ โจทก์ทั้ง 8 คน ที่ได้รับเงิน ประกอบด้วย นายกำธร ศรีสุวรรณมาลา โจทก์ที่ 1 ได้รับเงินจำนวน 2,150,000 บาท นายบุญพิทักษ์ ศรีสุวรรณมาลา โจทก์ที่ 2 ได้รับเงินจำนวน 2,650,000 บาท นายนิคม นาสวนกิตติ โจทก์ที่ 3 ได้รับเงินจำนวน 2,150,000 บาท นางกาญจนา หรือ วิไลวรรณ นาสวนกิตติ โจทก์ที่ 4 ได้รับเงินจำนวน 2,150,000 บาท นางสาววัศยา นาสวนกิตติ โจทก์ที่ 5 ได้รับเงินจำนวน 3,150,000 บาท นางมะนุเมีย ทองผาภูมิเจริด โจทก์ที่ 6 ได้รับเงินจำนวน 2,150,000 บาท นางสาววรรณา ทองผาภูมิเจริด โจทก์ที่ 7 ได้รับเงินจำนวน 2,650,000 บาท และ นายบุญช่วย ทองผาภูมิเจริด โจทก์ที่ 8 ได้รับเงินจำนวน 3,150,000 บาท ซึ่งหลังจากได้รับเงินแล้วเสร็จ ชาวคลิตี้ทั้ง 8 คน ต่างก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เพราะการต่อสู้คดีครั้งนี้ถือว่าใช้ระยะเวลาที่นานถึง 13 ปี จากการสอบถามทั้ง 8 คน ทราบว่าจะนำเงินเอาไว้สำหรับรักษาตัวเวลาป่วย และส่วนหนึ่งตั้งเป็นกองทุนให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อนเมื่อยามเจ็บไข้ ชาวบ้านจะได้มีเงินไปรักษา,อย่างไรก็ตาม แม้ว่าชาวบ้านจะได้เงินชดเชยแล้ว แต่ยังมีคดีที่ค้างอยู่อีกคือ กรณีที่ชาวบ้านคลิตี้ 151 ราย ฟ้องร้องบริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัด กับกรรมการทั้ง 4 คน ในฐานความผิดเดียวกัน โดยยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 1,041,952,000 บาท โดยศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษาให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้ง 151 ราย เป็นเงินจำนวน 36,060,000 บาท ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา. | 8 เหยื่อเหมืองแร่ตะกั่วคลิตี้ จ.กาญจนบุรี เฮ! บริษัทคู่กรณียอมจ่ายเงินค่าเสียหายตามคำพิพากษาแล้ว 20 ล้านบาท ขณะอีกคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฎีกา | null | ชาวคลิตี้,บริษัทตะกั่ว,กาญจนบุรี,เหมืองแร่ตะกั่วคลิตี้,เหมืองแร่ตะกั่ว,ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ | https://www.thairath.co.th/content/721718 |
กมธ.วิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญ เห็นด้วยให้เลือกตั้ง ส.ว. | กมธ.วิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญ สนับสนุนที่มา ส.ว.จากการเลือกตั้งทั้งหมด และไม่เห็นด้วยหากห้ามเครือญาตินักการเมืองลงสมัคร23 เม.ย.56 ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ อภิปรายกันถึงประเด็นที่มาและคุณสมบัติของสมาชิกวุฒิสภา ที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการที่ ส.ว.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด แต่มีความเห็นแตกต่างกันในประเด็นแวดล้อมต่างๆนางอานิก อัมระนันทน์ กรรมาธิการสัดส่วนจากพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ ส.ว.มีที่มาจากการเลือกตั้งในรูปแบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 150 คน และไม่ควรดำรงตำแหน่งต่อเนื่องกัน 2 สมัย เพื่อให้ห่างไกลจากการเมืองและคงไว้ซึ่งความเป็นกลางเพื่อถ่วงดุลในสภานายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ กรรมาธิการสัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่าควรมีการเปลี่ยนระเบียบและหลักการที่เกี่ยวข้องกับ ส.ว.โดยอธิบายเงื่อนไขให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี หรือจะสามารถเป็น ส.ว.ติดต่อกันได้หรือไม่ รวมไปถึงเรื่องคุณสมบัติของคนที่จะมาเป็น ส.ว.ด้วยนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม กรรมาธิการสัดส่วนพรรคเพื่อไทย เห็นว่าไม่ควรจำกัดเรื่องของสมัยหรือวาระการดำรงตำแหน่งของ ส.ว. หรือการห้ามเครือญาตินักการเมืองลงสมัคร โดยเห็นว่าควรปล่อยให้การสมัครเลือกตั้ง ส.ว.เป็นไปอย่างอิสระขณะที่นายมงคล ศรีกำแหง กรรมาธิการสัดส่วน ส.ว. สนับสนุนให้ ส.ว. มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด เนื่องจากเป็นการคืนอำนาจให้กับประชาชนในการเลือกผู้แทนของตัวเอง และไม่เห็นด้วยที่จะกำหนดห้ามเครือญาตินักการเมืองลงสมัครเป็น ส.ว.ที่มา | กมธ.วิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญ สนับสนุนที่มา ส.ว.จากการเลือกตั้งทั้งหมด และไม่เห็นด้วยหากห้ามเครือญาตินักการเมืองลงสมัคร 23 เม.ย.56 ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย | การเมือง | กรรมาธิการ,มอนิเตอร์,รัฐธรรมนูญ 2550,เลือกตั้ง,ส.ว. | https://prachatai.com/journal/2013/04/46355 |
ชาวเพชรบูรณ์ ทิ้งหอมแดง มาปลูกดอกดาวเรือง รายได้ 6 แสนบาทต่อเดือน | เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 59 นางชฎาภรณ์ ตรีพิทักษ์ อายุ 36 ปี เกษตรกรในพื้นที่หมู่ 8 ต.บ้านโภชน์ อ.หนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อก่อนตนปลูกหอมแดงเป็นหลัก แต่ต่อมาประสบกับปัญหาขาดทุนมาโดยตลอด จึงมองหาพืชที่สามารถทำรายได้ให้ตลอดทั้งปี ประกอบกับตนชอบปลูกดอกไม้อยู่แล้วจึงคิดว่าการปลูกดอกดาวเรืองขายน่าจะเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง จึงได้ทำการศึกษาและสอบถามจากผู้รู้ รวมถึงช่องทางการตลาด รวมทั้งเดินทางไปดูงานพื้นที่ที่มีการปลูกตามจังหวัดต่างๆ,ทั้งนี้ ในพื้นที่ของตนสามารถปลูกหอมแดงได้ 400 กิโลกรัมต่อที่ดิน 1 ไร่ ซึ่งได้ปลูกหอมแดงทั้งหมด 20 ไร่ หรือประมาณ 8,000 กิโลกรัม ส่งขายกิโลกรัมละ 40-50 บาท รายได้รวมจะอยู่ที่ 400,000 บาท ซึ่งใน 1 ปีจะสามารถปลูกหอมแดงได้ 1–2 ครั้ง สำหรับการปลูกดอกดาวเรืองจำนวน 20 ไร่ จะส่งขายได้ครั้งละ 20,000 บาท โดยจะเก็บทุกๆ 3 วัน ซึ่งต้นดาวเรืองจะเก็บดอกได้นานประมาณ 2–3 เดือน ทั้งนี้ ทำรายได้จากการขายดาวเรืองได้เดือนละ 600,000 บาท ซึ่งดาวเรืองจะปลูกได้ดีทั้งในฤดูฝนและฤดูหนาว,นางชฎาภรณ์ กล่าวว่า ตนเริ่มปลูกดาวเรืองเพียงแค่ 1 ไร่ เนื่องจากยังไม่มั่นใจ โดยที่ผ่านมาเคยได้ยินปัญหาเกี่ยวกับการปลูกดาวเรืองอยู่บ้าง แต่เมื่อมาปลูกเองก็ไม่พบปัญหาเหล่านั้น เพียงแต่ต้องหมั่นดูแลอย่างต่อเนื่อง จากนั้นจึงได้ขยายพื้นที่ปลูกเป็น 5 ไร่ 10 ไร่ และ 20 ไร่ ตามลำดับ และกำลังจะขยายพื้นที่ปลูกต่อไปอีกในรุ่นต่อไป,สำหรับรุ่นที่กำลังปลูกนี้เริ่มกำลังออกดอก เก็บไปแล้ว 2 ครั้งโดย 3 วันเก็บครั้ง และหากดูแลดีๆ ก็จะสามารถเก็บได้ไปอีกประมาณ 2 เดือน ซึ่งช่วงนี้อยู่ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาพอดี ราคาจะดีมากเพราะเป็นที่ต้องการของตลาด และนำไปส่งที่ตลาดสี่มุมเมือง ซึ่งก็จะมีลูกค้าประจำอยู่แล้ว จึงทำให้ไม่ต้องห่วงในเรื่องการตลาด,นางชฎาภรณ์ กล่าวต่อว่า หากหมดรุ่นนี้ก็จะหยุดพักดินไว้โดยการปลูกปอเทือง และไถกลบเพื่อให้เป็นปุ๋ย และจะลงมือปลูกต้นดาวเรืองอีกครั้งในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากในช่วงฤดูหนาวจะดูแลค่อนข้างง่าย และมีระยะเวลาในการเก็บดอกยาวนานกว่าหน้าฝน อีกทั้ง จะมีการขยายพื้นที่ออกไปอีก ทำให้พื้นที่บริเวณนี้เหลืองสะพรั่งต้อนรับเทศกาลท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยในปีที่ผ่านมาได้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมจำนวนมาก | เกษตรกรชาวเพชรบูรณ์ หันมาปลูกดอกดาวเรืองส่งขายแทนหอมแดง รับรายได้ประมาณ 600,000 บาทต่อเดือน ล่าสุด เตรียมเคลียร์พื้นที่ปลูกเพิ่มอีก รับหน้าท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว | null | ปลูกดาวเรือง,ปลูกดาวเรืองส่งขาย,เกษตรกรชาวเพชรบูรณ์,รายได้เกิน 6 แสน,ขายดอกดาวเรือง,รายได้งาม,เลิกปลูกหอมแดง,หนองไผ่,เพชรบูรณ์,ข่าว,เกษตร,ข่าวเกษตร,ทั่วไทย,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/644532 |
รถบัสทัศนศึกษาเสียหลักตกถนน เสียชีวิต 1 บาดเจ็บ 24 | วันนี้ (18 มี.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถบัสโดยสาร 2 ชั้น บรรทุกนักเรียนจาก จ.หนองบัวลำภู ไปทัศนศึกษาที่ จ.จันทบุรี และชลบุรี หลังคนขับหักหลบรถบรรทุกบนถนนสาย 304 บริเวณทางโค้งหน้าวัดทับลานอุทยานสวรรค์ หมู่ที่ 1 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ทำให้รถเสียหลักตกถนน เป็นเหตุให้ ด.ญ.อรทัย เชื้อสุข อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนโคกน้ำเกี้ยง อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งนั่งมาในรถเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และได้รับบาดเจ็บอีก 24 คนทั้งนี้ ตำรวจและอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยต้องใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ในการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บออกจากรถบัสโดยสารที่พลิกตะแคงอยู่ริมถนน เพื่อส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว มีเพียง ด.ญ.จิรประภา ศรีโพนทอง อายุ 14 ปี ที่ยังบาดเจ็บสาหัส เพราะสะโพกหลุดด้านนายไกรรัตนน์ บุญคลองแพง ผู้อำนวยการโรงเรียนโคกน้ำเกี้ยง เปิดเผยว่า ครูและนักเรียนรวม 40 คน ออกเดินทางจากโรงเรียนโคกน้ำเกี้ยง จ.หนองบัวลำภู ตั้งแต่เวลา 21.00 น. ของวันที่ 17 มีนาคม เพื่อไปทัศนศึกษาที่จ.ชลบุรี และ จ.จันทบุรี ด้วยรถโดยสารอีกคัน แต่เมื่อถึง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ได้เกิดล้อหลังหลุด เจ้าของรถบัสจึงติดต่อให้นายประจวบ โชคบัณฑิต ขับรถบัสคันเกิดเหตุไปรับคณะครูและนักเรียนเพื่อเดินทางต่อ แต่เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง มีรถตู้โดยสารวิ่งประกบด้านขวา นายประจวบจึงหักหลบ รถจึงเสียหลักพลิกตะแคงลงข้างทางเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว โดยหลังเกิดเหตุ ได้สั่งยกเลิกการทัศนศึกษาครั้งนี้แล้ว | เกิดอุบัติเหตุรถบัสโดยสาร 2 ชั้น บรรทุกนักเรียนจาก จ.หนองบัวลำภู ไปทัศนศึกษาที่ จ.จันทบุรี และชลบุรี แต่เมื่อถึงทางโค้งหน้าวัดทับลานอุทยานสวรรค์ จ.ปราจีนบุรี คนขับหักหลบรถบรรทุก ทำให้รถเสียหลักตกถนน เป็นเหตุให้นักเรียนเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บอีก 24 คน | อาชญากรรม | อุบัติเหตุ,ทัศนศึกษา,นักเรียน,รถบัสโดยสาร,หนองบัวลำภู,วัดทับลานอุทยานสวรรค์,ปราจีนบุรี,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/278486 |
หึงโหดฆ่าเผาเมีย ติดเล่น เฟซ-ไลน์ | ตัวผัว-ลูก3ขวบไฟลวกสาหัส,พิษรักแรงหึง ผัวหนุ่มระแวงเมียสาวนอกใจ หลังจับได้ว่าเล่นเฟซบุ๊กและแชทไลน์คุยกับเพื่อนชาย ส่งข้อความขู่จะฆ่าทิ้งจนฝ่ายหญิงหวาดกลัว ต้องหอบลูกหนีไปอาศัยนอนบ้านแม่ ยังตามราวีไม่เลิกบุกบ้านแม่ยายกลางดึก เห็นลูกเมียนอนหลับเลยใช้น้ำมันเบนซินราดแล้วจุดไฟเผา เหยื่อดิ้นทุรนทุรายร้องขอความช่วยเหลือ ผัวโหดโผเข้ากอด 2 แม่ลูกที่เปลวเพลิงลุกท่วมร่าง หวังให้ไฟไหม้ย่างสดตายยกครัว เพื่อนบ้านเข้าช่วยดับไฟพาส่งโรงพยาบาล แต่แม่ทนความเจ็บปวดทรมานไม่ไหวสิ้นใจสยอง ส่วนพ่อกับลูกอาการยังโคม่า,ผัวหึงอำมหิตราดน้ำมันจุดไฟเผาเมียลูกและตัวเองหวังย่างสดยกครัว เปิดเผยเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 23 ก.พ. ร.ต.อ.นิติธร ถามะพันธ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองอำนาจเจริญ รับแจ้งมีคนใช้น้ำมันราดลูกเมียแล้วจุดไฟเผาในบ้านเลขที่ 201 บ้านทับเมย หมู่ 5 ต.โนนหนามแท่ง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สว่าง จงสมชัย ผกก.สภ.เมืองอำนาจเจริญ และหน่วยกู้ภัยอำนาจเจริญ ไปที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ในห้องนอนมีเศษเสื้อผ้า ที่นอน ตู้เย็น พัดลม ถูกไฟไหม้เกรียม รวมทั้งผนังบ้านและฝ้าเพดาน มีคราบเขม่าไฟไหม้เสียหาย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมี 3 คน คือนายประครอง กิจช่วย อายุ 30 ปี สามี น.ส.ขนิษฐา โชติเนตร อายุ 21 ปี ภรรยา และ ด.ช.นิรวิทย์ กิจช่วย วัย 3 ขวบ ลูกชาย ญาตินำส่ง รพ.อำนาจเจริญ ทั้งหมดอาการสาหัส ร่างกายถูกไฟลวกกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ต้องส่งรักษาต่อ รพ. สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี แพทย์นำเข้าห้องปลอดเชื้อพร้อมให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ต่อมา น.ส.ขนิษฐาได้เสียชีวิตลง,สอบปากคำนางอมร โชติเนตร อายุ 46 ปี แม่ของ น.ส.ขนิษฐาให้การทั้งน้ำตาว่า เมื่อช่วง 2 ทุ่มเศษ นายประครอง ลูกเขย กับ น.ส.ขนิษฐา ลูกสาวมีปากเสียงทะเลาะกัน สาเหตุจากความหึงหวง เนื่อง จากเห็นเมียเล่นเฟซบุ๊กและแชตไลน์คุยกับเพื่อนทั้งชาย-หญิง เลยระแวงจะปันใจให้ชายอื่น แม้ น.ส.ขนิษฐาจะอธิบายอย่างไรสามีก็ไม่ยอมฟัง จากนั้น น.ส.ขนิษฐาได้พาลูกชาย ขี่รถ จยย.ไปทำบุญเวียนเทียนที่งานนมัสการพระมงคลมิ่งเมืองในตัวจังหวัด ตกดึกถึงกลับเข้าบ้าน แต่ไม่ยอมไปนอนบ้านตัวเองที่อยู่ติดกัน โดยบอกกับพ่อแม่ว่า สามีส่งข้อความทางไลน์ข่มขู่จะฆ่าหากกลับมาถึงบ้าน ตนรู้จักนิสัยลูกเขยคนนี้ว่าเป็นคนขี้หึงและโมโหร้าย เกรงลูกสาวและหลานชายจะไม่ปลอดภัย จึงให้นอนในห้องนอน ส่วนพ่อกับแม่ออกมานอนด้านนอก,นางอมรให้การต่อไปว่า กระทั่งตกดึกได้ยินเสียงลูกสาวร้องขอความช่วยเหลือ รีบลุกไปดูเห็นไฟลุกท่วมห้องนอน ส่วนลูกเขยลูกสาวและหลานชาย มีเปลวไฟลุกท่วมร่าง และไฟลามติดกับข้าวของเครื่องใช้อย่างรวดเร็ว ตนรีบตะโกนขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านมาช่วยดับไฟ ขณะที่ลูกสาววิ่งออกมาหมดสติอยู่หน้าบ้าน ส่วนลูกเขยโอบกอดลูกชายเอาไว้ สภาพผิวพุพองจากการถูกไฟลวกทั้งตัว จากนั้นช่วยกันนำผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คน ส่งโรงพยาบาล,ด้านนายแถลง กอทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.โนนหนามแท่ง เปิดเผยว่า นายประครองเป็นหลานชายของนายก อบต.แห่งหนึ่ง มีอาชีพขายสินค้าโอทอป จำพวกกระติ๊บข้าวและหวดนึ่งข้าว ที่ผ่านมามีพฤติกรรมหึงหวงเมียสาวจนเคยทำร้ายร่างกายผู้อื่นมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขั้นจุดไฟเผาลูกเมีย,ร.ต.อ.นิติธร ถามะพันธ์ เจ้าของคดี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภายในบ้านของนายประครอง ตำรวจพบขวดบรรจุน้ำมันเบนซิน 1 ขวด พร้อมมีดอีก 2 เล่ม วางอยู่บนหัวเตียง คาดว่าคงเตรียมการไว้หากเมียและลูกกลับจากทำบุญเวียนเทียนและนอนหลับ นายประครองคงจะลงมือทำร้ายหรืออาจจุดไฟเผาบ้านให้ไหม้วอดวายก็เป็นได้ แต่เมื่อฝ่ายหญิงหนีไปนอนบ้านพ่อแม่ จึงตามไปใช้น้ำมันราดแล้วจุดไฟเผาหวังฆ่ายกครัว เบื้องต้นอายัดตัวนายประครอง ไว้ดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะพฤติกรรมแห่งคดีที่เตรียมการมาเป็นเจตนาฆ่าอย่างชัดเจนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามจะต้องสอบปากคำผู้ต้องหาอีกครั้ง หากอาการทุเลาลงจนพอจะให้การได้ | พิษรักแรงหึง ผัวหนุ่มระแวงเมียสาวนอกใจ หลังจับได้ว่าเล่นเฟซบุ๊กและแชทไลน์คุยกับเพื่อนชาย ส่งข้อความขู่จะฆ่าทิ้งจนฝ่ายหญิงหวาดกลัว ต้องหอบลูกหนีไปอาศัยนอนบ้านแม่ ยังตามราวีไม่เลิกบุกบ้านแม่ยายกลางดึก เห็นลูกเมียนอนหลับ | null | ข่าวหน้า1,อำนาจเจริญ,ผัวหึงเมีย,ราดน้ำมันจุดไฟเผา,เล่นเฟซบุ๊ก,แชทไลน์,จุดไฟเผาในบ้าน,น้ำมันราดลูกเมีย,ประครอง กิจช่วย,ขนิษฐา โชติเนตร,นิรวิทย์ กิจช่วย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/581541 |
นักท่องเที่ยวโอด เกาะพีพีหาดไม่สวย ป้ายโฆษณา-เรือคายัควางเต็ม | เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2561 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวว่ามีผู้ประกอบการท่องเที่ยวนำป้ายโฆษณาขายบริการนำเที่ยว และเรือคายัค มาวางเป็นจุดๆตลอดแนวชายหาดอ่าวโล๊ะดาลัม ม.7 เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยว โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย และบางครั้งสร้างความรำคาญ รบกวนนักท่องเที่ยวที่กำลังนอนอาบแดดพักผ่อนตามชายหาด ไม่สมกับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดกระบี่ และของโลก ,นายวัฒน เริงสมุทร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ชายหาดบางแห่งของจังหวัดกระบี่ คล้ายกับตลาดเปิดท้ายไปเสียแล้วและเหมือนกับเป็นเรื่องปกติ ของการท่องเที่ยววิถีไทย เพราะเราไม่เคยไปเห็นและสัมผัสความเป็นมาตรฐานการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวสุดยอด กิจกรรมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ผู้ที่เกี่ยวข้อง ยังไม่ค่อยเห็นความสำคัญ บริหารจัดการเน้นแต่รายได้เป็นหลัก ไม่ได้คำนึงถึงความเป็นระเบียบ เสื่อมโทรมของแหล่งท่องเที่ยว,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับชายหาดอ่าวโล๊ะดาลัม ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 60 ได้มีนักท่องเที่ยวร้องเรียนมาแล้วครั้งหนึ่ง จนทางเจ้าหน้าที่อุทยานหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต้องสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ารื้อเตียงผ้าใบ เก้าอี้และร่ม ที่ทางผู้ประกอบการนำ ไปบริการให้นักท่องเที่ยวเช่า ตลอดแนวชายหาด รวมถึงเรือคายัค กว่า 100 ลำ ที่วางตลอดแนว โดยให้รื้อออกเพราะผิดกฎประกาศของจังหวัดกระบี่ ห้ามไม่ให้มีการนำสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆลงมาในชายหาด. | ชายหาดเกาะพีพี แหล่งท่องเที่ยวระดับโลกแต่มีสภาพเละไม่สวยงามเหมือนเก่า ป้ายโฆษณาขายบริการนำเที่ยว เรือคายัค วางกีดขวางเกลื่อนตลอดแนวชายหาด ไร้เงาเจ้าหน้าที่กวดขัน | ข่าว,ทั่วไทย | หาดอ่าวโล๊ะดาลัม,อุทยานหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี,จัดระเบียบชายหาด,กระบี่,เกาะพีพี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1266499 |
สตง.เบรก กสทช. ชี้เลื่อนเก็บค่าประมูลทีวีดิจิทัลไม่ได้ | ตอบข้อหารือกรณี กสทช.ส่งหนังสือให้ สตง. พิจารณาให้ความเห็นว่า การที่ กสทช. จะเลื่อนกำหนดระยะเวลาในการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตของผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล สามารถดำเนินการได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และมีความเหมาะสมหรือไม่โดย สตง. ระบุว่า การที่ กสทช.มีมติให้เลื่อนกำหนดระยะเวลาในการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ออกไปเป็นเรื่องที่ไม่สามารถดำเนินการได้ทั้งนี้ สตง. ให้เหตุผลประกอบ 2 ข้อ คือ 1.พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 มิได้มีการกำหนดอำนาจหน้าที่ กสทช.ไว้โดยตรง ให้สามารถเลื่อนการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตฯ ได้ ประกอบกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกประกาศฉบับที่ 80 /2557 ลงวันที่ 9 ก.ค.2557 โดยให้ถือว่าเงินที่ได้จากการประมูลคลื่นความถี่ของกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วให้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน ดังนั้น กสทช. อาจไม่มีอำนาจและหน้าที่จะอนุญาตให้เลื่อนกำหนดระยะเวลาในการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ได้2. เงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล ประเภทบริการทางธุรกิจ ระดับชาติ ได้ระบุถึงระยะเวลาการชำระค่าธรรมเนียมให้ใช้คลื่นความถี่เท่ากับราคาที่ชนะการประมูลคลื่นความถี่ไว้ในข้อ 13 อย่างชัดเจน ซึ่งเท่ากับเป็นการทำสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างกันดังนั้น การแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงใดๆ ที่ได้ทำเป็นหนังสือและได้ลงนามไว้แล้วนั้นมิสามารถกระทำได้ นอกจากการแก้ไขดังกล่าวเป็นความจำเป็นและไม่ทำให้ราชการเสียหาย หรือเป็นการแก้ไขที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับทางราชการทั้งนี้ กสทช.กำหนดให้ผู้ประกอบการทีวีดิทัลทั้ง 24 ช่อง จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมงวดที่ 2 ในวันที่ 24 พ.ค. 2558 รวมมูลค่ากว่า 8124 ล้านบาท โดย บอร์ด กสทช. ชุดใหญ่ จะหารือเรื่องนี้เป็นวาระพิเศษ ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ก่อนหน้านี้ กสทช. ได้ทำหนังสือหารือไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เนื่องจากเห็นว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายและการใช้อำนาจ กสทช. โดยล่าสุด อสส. ทำหนังสือตอบกลับแล้วว่า กสทช.ไม่สามารถเลื่อนกำหนดเวลาการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตได้ | 21 พ.ค. 2558 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) | ไอซีที | กสทช.,การประมูลทีวีดิจิตอล,ทีวีดิจิตอล,สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน | https://prachatai.com/journal/2015/05/59392 |
มูลนิธินโยบายสุขภาวะ ชี้ก.พลังงานรวบรัดเร่งทำแผนพีดีพี-ประเมินเศรษฐกิจสูงเกินจริง | ก่อนหน้าการสัมมนาระดมความคิดเห็นการปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2553-2573 หรือ พีดีพี 2010 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 กระทรวงพลังงาน เปิดเผยข้อมูลการปรับปรุงล่วงหน้าเพียง 3 วัน ทำให้มูลนิธินโยบายสุขภาวะ ตั้งข้อสังเกตถึงความรวบรัดในการระดมความเห็น ทั้งที่แผนนี้มีผลกระทบกับคนทั้งประเทศ นอกจากนี้ยังเปิดฟังความเห็นเพียงครั้งเดียวในกรุงเทพฯ ขณะที่กระทรวงพลังงานระบุว่าแผนทั้งหมดปรับตามการประมาณการเศรษฐกิจและนโยบายของรัฐนอกเหนือจากนี้ มูลนิธินโยบายสุขภาวะ ยังเห็นว่าแผน พีดีพี ฉบับล่าสุดนี้ นำเป้าหมายแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี มาคำนวณเพียงร้อยละ 20 เท่านั้น หรือช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้เพียง 3000 เมกกะวัตต์ แทนที่จะเป็น 17500 เมกะวัตต์ ทำให้ไม่ต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม และเห็นว่าแผนพีดีพีได้ใช้ตัวเลขประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงเกินไป เห็นได้จากความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด หรือ พีคในปีนี้ ที่สูงเป็นประวัติการณ์ถึงกว่า 26000 เมกะวัตต์ ทั้งๆที่ กระทรวงพลังงาน ประเมินไว้แล้วว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าจะอยู่ 27000 เมกะวัตต์ ซึ่งการให้ข้อมูลในลักษณะนี้ กระทรวงอาจใช้เป็นข้ออ้างสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มนอกจากนี้ การประเมินตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สูงเกินจริง ทำให้กระทรวงพลังงานปรับแผนใช้ก๊าซธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนั้นก็หมายถึงค่าไฟฟ้าที่ประชาชนต้องจ่ายจะสูงขึ้นด้วย โดยหากแผนปรับปรุงฉบับที่ 3 ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ค่าไฟฟ้าเมื่อสิ้นสุดแผน หรือในปี 2573 หรืออีก 18 ปี ค่าไฟจะสูงขึ้นเกือบเท่าตัว หรือหน่วยละ 5-6 บาท จากปัจจุบันที่หน่วยละ 3 บาทการปรับปรุงครั้งที่ 3 นอกจากจะผนวกแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก 25 เปอร์เซ็นใน 10 ปี และแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี และเหตุผลสำคัญคือปรับให้สอดคล้องกับนโยบายโครงสร้างพื้นฐานรัฐบาล เช่น โครงการรถไฟฟ้า 10 สาย และรถไฟฟ้าความเร็วสูง 2 สาย ที่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าเพิ่มขึ้น | มูลนิธินโยบายสุขภาวะ ตั้งข้อสังเกตถึงความรวบรัดในการระดมความเห็น ในการสัมมนาระดมความคิดเห็นการปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2553-2573 หรือ พีดีพี 2010 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 กระทรวงพลังงาน เปิดเผยข้อมูลการปรับปรุงล่วงหน้าเพียง 3 วัน และเปิดฟังความเห็นเพียงครั้งเดียวในกรุงเทพฯ ขณะที่กระทรวงพลังงานระบุว่าแผนทั้งหมดปรับตามการประมาณการเศรษฐกิจและนโยบายของรัฐ | เศรษฐกิจ | พลังงาน,พัฒนา,มูลนิธินโยบายสุขภาวะ,เศรษฐกิจ,แผนพีดีพี | https://news.thaipbs.or.th/content/89567 |
หนุ่มช่างไฟประชดรัก ผูกคอดับบนต้นมะขามข้างบ้านแฟน | เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.58 พ.ต.ท.พงศ์อิทธิ์ ศรีแจ่มใส พนักงานสอบสวน สภ.บึงสามพัน อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งเหตุคนผูกคอเสียชีวิต 1 ราย จึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างบึงสามพันธรรมสถาน และแพทย์เวรโรงพยาบาลบึงสามพัน รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุในบ้านหมู่ 3 ต.สระแก้ว อ.บึงสามพัน,ที่เกิดเหตุพบศพ นายณรงค์เดช ปั้นทอง อายุ 34 ปี ใช้สายไฟแรงสูงสีดำผูกคออยู่กับต้นมะขามข้างบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้หน่วยกู้ภัยนำศพลงมาข้างล่าง แพทย์เวรชันสูตรศพระบุเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 ชั่วโมง,สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นช่างไฟฟ้า ซึ่งก่อนหน้าไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างนั้นได้เล่นเฟซบุ๊กคบหากับ น.ส.ศิรินภา บุญส่ง อายุ 29 ปี แฟนสาว กระทั่งต่อมาถูกจับส่งตัวกลับเมืองไทย จึงเดินทางมาอาศัยอยู่กับแฟนสาวพร้อมพ่อตาในบ้านหลังดังกล่าวได้ราวเดือนเศษ,ช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 04.00 น. เพื่อนบ้านใกล้เคียงได้ยินเสียงคนในบ้านของ น.ส.ศิรินภา ทะเลาะกันเสียงดังและเงียบไป ต่อมาช่วงเช้าตรู่บิดาของ น.ส.ศิรินภา ได้ออกมาพบผู้ตายผูกคอเสียชีวิตกับต้นมะขามข้างบ้าน จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ,เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดต่อพี่สาวผู้ตายที่อยู่ต่างจังหวัด โดยพี่สาวผู้ตายให้การว่า ผู้ตายเป็นคนขี้น้อยใจ และพี่สาวก็ยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำศพส่งโรงพยาบาลบึงสามพัน จากนั้นส่งต่อไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้งที่โรงพยาบาลพุทธชินราชจังหวัดพิษณุโลก และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป. | เกิดเหตุสลดใจ หนุ่มช่างไฟกลับจากเกาหลีประชดรัก ใช้สายไฟผูกคอดับคาต้นมะขามข้างบ้านแฟนสาวที่เพชรบูรณ์ เบื้องต้นทราบว่ามีปากเสียงกัน ด้านพี่สาวผู้ตายเผยน้องชายขี้น้อยใจ แต่ยังไม่ปักใจเชื่อ ให้ ตร.สืบสวนสาเหตุการตายต่อไป | ข่าว,ทั่วไทย | เกิดเหตุสลด,หนุ่มช่างไฟผูกคอดับ,ใช้สายไฟผูกคอ,เสียชีวิตมานาน,แพทย์ชันสูตรศพ,มาพักบ้านแฟนสาว,หลังกลับจากเกาหลีใต้,ดับตาต้นมะขามข้างบ้าน,ทะเลาะวิวาทกับแฟนสาว,เป็นคนขี้น้อยใจ,ยังไม่ปักใจเชื่อ,ข่าว,ไทยรัญออนไลน์,ข่าวสังคม,อาชญากรรม | https://www.thairath.co.th/news/local/506165 |
ข้อความจากใจ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ถึงทุกคน ฝากผ่าน เหมี่ยว ปวันรัตน์ | หลังจากที่ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ถูกหามส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วนหลังวูบกลางกองละคร ด้วยอาการเส้นเลือดในสมองตีบ และตอนนี้อ๊อฟก็นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อาการดีขึ้นตามลำดับ,และงานนี้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในวงการแวะเวียนไปเยี่ยมและให้กำลังใจผู้กำกับคนเก่งมากมาย และ 1 ในนั้นก็คือ เหมี่ยว ปวันรัตน์ นาคสุริยะ,โดยเหมี่ยวได้โพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรมของตัวเองเป็นรูปภาพใบหน้าคน พร้อมแคปชั่นว่า ไปเยี่ยมพงษ์พัฒน์มา คนป่วยหน้าใสเลยทีเดียว พูดได้เป็นคำๆ ต่อเนื่องเป็นเรื่องเป็นราว ก่อนกลับขอให้เพื่อนเขียนอะไรให้หน่อย เซ็นชื่อก็ได้ เป็นหลักฐานว่าฉันมาเยี่ยมแล้ว มันเลยวาดรูปตัวเองให้มาแบบนี้, , หลังจากที่เหมี่ยว ปวันรัตน์ โพสต์รูปไป ก็มีแฟนๆ เข้ามาให้กำลังใจและอวยพรให้ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ หายจากอาการป่วยและกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมอีกครั้งไวๆ,นอกจากนี้ ยังมีไอจีของรายการโต๊ะข่าวบันเทิง ก็ได้เผยรูปภาพที่เป็นลายมือที่แม้จะกระยึกกระยือของ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ แต่ข้อความที่เขียนกลับเต็มไปด้วยความสู้ว่า รอหน่อยนะ พร้อมรูปภาพผู้ชายมีหนวด โดยในไอจีได้ให้แคปชั่นว่า,พี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ และครอบครัว ขอขอบพระคุณสื่อมวลชนเป็นอย่างยิ่ง และได้ฝากข้อความ ถึงทุกท่านและทีมงานละคร มา ณ ที่นี้ด้วย จากลายมือของพี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์.,
,
| เหมี่ยว ปวันรัตน์ โชว์ฝีมือการวาดภาพของ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ หลังไปเยี่ยมเพื่อนที่นอนพักรักษาตัวด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | เหมี่ยว ปวันรัตน์,อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ป่วย,อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ เส้นเลือดในสมองตีบ,อ๊อฟ พงษ์พัฒน์,ดาราป่วย,อินสตาแกรมดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1361435 |
แคท รัตกาล ตัดทางโลก วางไมค์หันหน้าเข้าสู่ทางธรรมตลอดชีวิต?? | ถ้าพูดถึงชื่อ แคท รัตกาล อาร์สยาม หรือ พุทธชาติ ยศแก้วอุด ทุกคนก็คงคุ้นหู และรู้จักผลงานเพลงของเธอเป็นอย่างดีเพราะเพลงของสาวแคทล้วนฮิตติดลมบนทั้งสิ้น อย่างเช่นเพลง อย่ากึ๊ดนัก, ก้อนหินสิ้นใจ, ป้อจายลั้นลา แต่เชื่อเหลือเกินว่าน้อยคนที่จำหน้าเธอได้ จนเมื่อไม่นานมานี้เธอประกาศวางไมค์ลาวงการ หันหน้าเข้าสู่ทางธรรมตลอดชีวิต งานนี้รายการ คนดังนั่งเคลียร์ ทางช่อง 2 จึงขอเจาะลึกเรื่องจริงที่ทำให้เธอลาวงการ น้อยใจเพลงดังแต่คนไม่ดังจริงหรือไม่ ? สู้นักร้องใหม่ๆ ไม่ไหวจริงหรือไม่ ? และจะหันหน้าเข้าสู่ทางธรรมตลอดไปจริงหรือไม่ ? เราไปฟังคำตอบจากปากเจ้าตัวกันเลย,ร้องเพลงมานาน แต่คนไม่จำหน้า? อาจจะเป็นเพราะชีวิตแคทไม่ได้หวือหวาก็ได้ แคทไปไหนก็ไปคนเดียว แคทไม่ค่อยเป็นข่าว ไม่ค่อยทำข่าว ไม่ค่อยมีอะไร ไปไหนก็ไปคนเดียว คิดได้ก็ไปเลย แล้วส่วนใหญ่ที่ไปก็ไปแต่วัด เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เห็นอยู่แล้ว เพราะคนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยไปวัด แคทก็จะทำกิจกรรมอยู่ที่วัด คนก็ไม่เห็นว่าแคททำอะไร สุดท้ายก็เป็นข่าว อยู่ๆ ออกมาบอกจะวางไมค์? ก่อนที่เราจะออกจากวงการ เราอยู่ในนามของบริษัท รูปแบบของบริษัท เพราะฉะนั้นเราต้องมีการแจ้งบริษัทให้เรียบร้อยว่าตั้งแต่สิ้นปีเป็นต้นไป แคทจะไม่รับงานแล้วนะคะ ทุกคนก็ถามทำไม จะย้ายค่ายเหรอ จะไปทำอะไร เราก็ต้องบอกเหตุผลไปว่าพี่จะไปปฏิบัติธรรมตลอดไปนะ พี่จะไม่รับงาน งานทางโลกก็จะไม่ทำ ธุรกิจต่างๆ ก็จะไม่ทำ ก็ต้องแจ้งฝ่ายที่ดูแลสัญญา ฝ่ายที่รับงานให้เขาจะได้เคลียร์ให้จบ ว่าสิ้นปีเราจะไม่ทำงานแล้วนะ, ,ดูจริงจังมาก? ตอนแรกเราจะไม่บอกใคร แต่มันเป็นไปไม่ได้ เราต้องบอกไม่งั้นมันจะมีความเสียหาย แล้วทำไมไม่บอกผู้ใหญ่ที่มีอำนาจอนุมัติให้ออกหรือไม่ให้ออกก่อน? พี่เณร (ผู้บริหารค่ายอาร์สยาม) ทราบแล้วค่ะ ทราบตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนแรกพี่เณรก็คงคิดว่าหนูพูดเล่นๆ แต่พอหลังจากแคทกลับจากอินเดียครั้งที่ 2 ก็เลยคุยกับพี่เณรเป็นเรื่องเป็นราว หนูอยากจะออกจากวงการแล้ว หนูอยากจะไปปฏิบัติธรรม พี่เณรเขาก็บอกว่าพี่นึกว่าเธอพูดเล่น (หัวเราะ) หนูเลยบอกว่าหนูพูดจริง แต่อาจจะเหมือนหนูพูดเล่น เพราะหนูยังมีงานเพลงออกมาเรื่อยๆ ตอนนี้ทางค่ายโอเคกับการออก? อนุมัติแล้ว(ยิ้ม) เฮียฮ้อทราบไหม? ก็น่าจะทราบ ถ้าพี่เณรเอาเอกสารไป (หัวเราะ) ทำไมถึงคิดจะไปปฏิบัติธรรม? มันเกิดจากความคิดที่เปลี่ยนไป มันเริ่มจากการที่แคทเริ่มสอบโปรกอล์ฟ ทีนี้เราทำยังไงให้เราสอบผ่าน ฝีมือพอจะฝึกฝนกันได้ แต่ว่าในเรื่องขออารมณ์มันลำบากมาก ถ้าฝีมือได้ แต่อารมณ์ไม่สามารถควบคุมเกมได้ เป็นคนสมาธิสั้น อารมณ์ฉุนเฉียว ตื่นเต้นง่าย ถ้าอยากตีกอล์ฟดีก็ต้องเป็นคนมีสมาธิ เราก็เลยปฏิบัติธรรมตั้งแต่นั้นมา ตอนปี 2548,ใครเป็นคนพาธรรมมาสู่ชีวิต จนวันนี้ถึงจุดเปลี่ยน? ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติมาตั้งแต่ปี 48 มันก็เริ่มติด ติดการฟังครูบาอาจารย์ต่างๆ ก็ได้มีโอกาสฟังพระอาจารย์จรัญ แห่งวัดหลวงขุนวิน ท่านก็พูดเรื่องสวนกระแสทางโลกที่ว่าความจริงคนเรามันไม่สวย เราก็แบบอะไร นี่เราก็เห็นอยู่ว่ามันไม่เหี่ยว (ยิ้ม) เราก็ไม่เข้าใจ แต่พอเราฟังไปเรื่อยๆ ให้เราพิจารณาความไม่สวยไม่งามเพื่อให้เราได้ลดละเรื่องของกามกิเลสต่างๆ เราฟังไปเรื่อยๆ มันมีความจริงอยู่ในนั้นอยู่แล้ว จนเราเข้าใจธรรม มากขึ้นๆ. | ถ้าพูดถึงชื่อ แคท รัตกาล ทุกคนก็คงคุ้นหู และรู้จักผลงานเพลงของเธอเป็นอย่างดี เพราะเพลงของสาวแคทล้วนฮิตติดลมบนทั้งสิ้น แต่เชื่อเหลือเกินว่าน้อยคนที่จำหน้าเธอได้ จนเมื่อไม่นานมานี้เธอประกาศวางไมค์ลาวงการ หันหน้าเข้าสู่ทางธรรม | null | แคท รัตกาล,แคท รัตกาล อาร์สยาม,อาร์สยาม,ค่ายเพลง,วางไมค์,เฮียฮ้อ,เพลง,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์,พุทธชาติ ยศแก้วอุด | https://www.thairath.co.th/content/493686 |
วิษณุอ้างสมัยปู ใช้รัฐมนตรีแจงแทน | พท.เย้ยตู่หนีสภา เด็กกลัวบ้านผีสิง,พท.ดาหน้าขย่ม บิ๊กตู่ เจ๊หน่อย ย้อนทำไมต้องให้ทวงสำนึก ร่าง รธน.มากับมือดันทำผิดซะเอง รู้ตัวว่าผิดสารภาพซะก็จบ เย้ยอย่าทำตัวเป็นเด็กกลัวบ้านผีสิง โฆษก พท.กระทุ้งหนีสภาฯคือการแสดงความรับผิดชอบหรือ จุรินทร์ ชี้เป็นสิทธิ์ฝ่ายค้าน ไม่มีปัญหาถ้ายึดขั้นตอน เทพไท หนุนใช้เวทีสภาฯแก้ปัญหา วิษณุ ชี้ช่องให้คนอื่นแจงแทน อ้างยุค ยิ่งลักษณ์ ยังทำได้ รัฐบาลเร่งกระตุ้น ศก.สุดตัว จุรินทร์ ชงปาล์ม 4บาท/ กก.เข้า ครม. มาอีกชุดใหญ่ประกันรายได้ข้าว 5 ประเภท มท.จ่อถลุงงบฯค้างท่อ 6 แสนล้าน สุดารัตน์ อัดกระตุ้นไม่ตรงจุด วัฒนา ฉะ ไม่บ้าก็เสียสติหว่านเงินไร้ผล พท.จวกเสพติดแจกเงินพร่ำเพรื่อ,ตามที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ประกาศเสียงดังฟังชัดไม่ได้กลัวการเข้าไปชี้แจงตอบข้อซักถามในสภาผู้แทนราษฎร,ฉะ บิ๊กตู่ ทำไมต้องให้ทวงสำนึก,เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ส.ค. ที่วัดสุวรรณาราม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นขอเปิดอภิปรายนายกรัฐมนตรี เป็นการทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า กรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบตามรัฐธรรมนูญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไม่ใช่สิ่งที่ต้องเรียกร้อง แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำ เหตุใดเราต้องพูดถึงการถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วน ทั้งที่เป็นรัฐธรรมนูญที่ พล.อ.ประยุทธ์ผลักดันและร่างขึ้นมาเอง เพื่ออำนวยให้กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง แต่กลับไม่ปฏิบัติตาม และไม่ใช่การทำผิดครั้งแรก หลังจากใช้รัฐธรรมนูญมา 2-3 ปี พล.อ.ประยุทธ์ทำสิ่งที่ขัดรัฐธรรมนูญหลายครั้ง แต่เพราะเป็นหัวหน้า คสช.มีมาตรา 44 อยู่ วันนี้ไม่มีแล้วแต่ยังทำผิดรัฐธรรมนูญ พล.อ.ประยุทธ์ควรทำสิ่งที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญกำหนด เหมือนกลัดกระดุมเสื้อถ้าเม็ดแรกผิดเม็ดต่อไปผิดหมด,รู้ตัวว่าผิดสารภาพซะก็จบเรื่อง,คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า การเสนออภิปรายของฝ่ายค้านเพื่อให้เคลียร์ปัญหา เป็นความหวังดีไม่มีเจตนาร้ายต่อนายกฯ เพราะกลัวว่าการทำงานของรัฐบาลจะเป็นโมฆะ เช่น การอนุมัติเงิน 5 หมื่นล้านบาทไปช่วยเกษตรกร ถ้ามีคนไม่เห็นด้วยร้องเรียนขึ้นมา หากในอนาคตมีการตัดสินว่าผิดรัฐธรรมนูญจริง เงินที่แจกลงไปพื้นที่แล้วจะไม่สามารถเอาคืนได้ เมื่อรู้ว่าตัวเองทำผิดและสารภาพว่าทำผิด ก็ควรแก้ไขด้วยตัวเอง แต่นี่ปล่อยเวลามาเป็นเดือนไม่ทำอะไร และจะบริหารงานต่อ การแก้ไขจะเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา เสียโอกาสชาวบ้าน,อย่าทำตัวเป็นเด็กกลัวบ้านผีสิง,คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า เมื่อนายกฯไม่มีปัญญาแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ก็เอาเข้าสภาฯให้ร่วมกันคิดร่วมกันแก้ นายกฯคิดอย่างไร สภาฯมีความเห็นอย่างไรปรึกษากันให้ถูกต้อง ไม่มีใครอยากจองล้างจองผลาญตามที่รัฐบาลพูด นายกฯจุดไฟขึ้นมาเองก็เผาไหม้ตัวเอง พรรคฝ่ายค้านเพียงแค่จะไปช่วยดับให้ จะได้มาช่วยทำงานให้ประชาชน เรื่องทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ทำตัวเองทั้งนั้น อย่ากลัวสภาฯท่านต้องไปทำความเข้าใจกับระบอบประชาธิปไตย และการทำงานในระบบรัฐสภาใหม่ นายกฯจะกลัวการเข้าสภาฯเหมือนเด็กกลัวเข้าบ้านผีสิงอย่างที่สื่อมวลชนเขียนไม่ได้ ส่วนข้ออ้างว่าเรื่องอยู่ในชั้นผู้ตรวจการแผ่นดิน ทางผู้ตรวจการแผ่นดินก็ทำไป ทางสภาฯก็ดำเนินการไป รัฐธรรมนูญ พล.อ.ประยุทธ์ก็ผลักดันเอง มีมาตรา 152 ให้มาปรึกษาหารือกันเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วทำไมจึงไม่ใช้สภาฯแก้ไขปัญหา เมื่อนายกฯยืนยันว่ามาจากวิถีประชาธิปไตยต้องไม่กลัวสภาฯ,ไม่ต้องกังวลต่อการตรวจสอบ,นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์เปรียบเทียบสถานการณ์ประเทศไทยว่า ต่อให้นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ มาบริหารก็เอาไม่ไหวนั้น ท่านคงคุ้นชินกับการพูดฝ่ายเดียวมาตลอด 5 ปี ไม่ต้องกังวลต่อระบบการตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์มักอ้างว่ามาจากระบอบประชาธิปไตย หัวใจของระบอบประชาธิปไตยคือการตรวจสอบถ่วงดุล การวิพากษ์วิจารณ์ภายใต้กรอบกติกา คนเป็นผู้นำต้องมีความอดทนที่จะรับฟัง ยิ่งเป็นสภาฯที่ประชาชนเลือกมายิ่งหนีไม่พ้น ถ้า พล.อ.ประยุทธ์คิดว่ามีความพยายามที่จะให้รัฐบาลเป๋ นั่นคือสาเหตุที่ต้องรีบแก้รัฐธรรมนูญทำให้การเมืองเข้มแข็ง ประเทศจะได้เดินต่อไปได้ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นปัญหาทำให้การเมืองอ่อนแอ พล.อ.ประยุทธ์และคนในรัฐบาลมักโฆษณาชวนเชื่อว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้คือฉบับที่ดีที่สุด แต่ตัวเองกลับเลี่ยงที่จะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ห้ามคนอื่นวิจารณ์,ไหนบอกจะรับผิดชอบแต่ผู้เดียว,นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปของพรรคฝ่ายค้าน เป็นการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ หากไม่ดำเนินการอาจถูกมองว่าปล่อยปละละเลยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ที่ผ่านมาดูเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ กำลังหลบเลี่ยงหนีปัญหา การกระทำสวนทางกับคำพูด บอกว่าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว แต่รับผิดชอบได้เพียงแค่การไม่พูดถึงเรื่องถวายสัตย์ฯ อีก บอกว่าไม่กลัวสภาฯพร้อมมาชี้แจง แต่ที่ผ่านมาหนีสภาฯตลอด ขนาดประธานสภาฯยังแฉว่า พล.อ.ประยุทธ์หนีสภาฯโดยไม่เคยแจ้งเหตุผล ไม่ลาให้ถูกต้อง พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถหนีปัญหาหนีสภาฯได้ตลอด ทางที่ดีหันกลับมาแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง สิ่งใดทำผิดกลับไปดำเนินการให้ถูกต้อง อย่าประวิงเวลา โดยเฉพาะหากไม่แก้ไขก่อนที่จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2563 หากเกิดปัญหาขึ้นมาจะส่งผลกระทบต่อประเทศและประชาชน,ปชป.มั่นใจวิป รบ.คุมเกมอยู่,ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การดำเนินการของฝ่ายค้านตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เป็นสิทธิ์ที่ทำได้อยู่ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาว่าญัตติถูกต้องหรือไม่ เมื่อถามว่าเป็นการซ้อมใหญ่ก่อนการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯหรือไม่ นายจุรินทร์ตอบว่า ไม่ทราบ ส่วนการขอเปิดอภิปรายจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลหรือไม่ เห็นว่าเป็นการยื่นอภิปรายโดยไม่ได้มีการลงมติ ถือเป็นกระบวนการตรวจสอบปกติของรัฐสภา ยืนยันจะไม่เป็นปัญหาหากยึดตามขั้นตอน เมื่อถามว่าถึงมาตรการคุมเข้ม ส.ส.ในการโหวตในสภา ไม่ให้แพ้พรรค ฝ่ายค้านอีก นายจุรินทร์ตอบว่า การลงมติเรื่องข้อบังคับการประชุมสภาฯ ไม่ใช่เรื่องของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เป็นเรื่องของกรรมาธิการ และการลงมติของที่ประชุมเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน,เทพไท หนุนใช้สภาฯแก้ปัญหา,นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การยื่นอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งบัญญัติขึ้นในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นสิทธิ์ของพรรคฝ่ายค้าน เป็นเรื่องน่ายินดีที่ทุกฝ่ายกำลังใช้ช่องทางของสภาฯ แก้ปัญหาของพี่น้องประชาชน รวมถึงปัญหาทางการเมืองในขณะนี้ อยากเห็นการเมืองเข้าสู่ระบบมากกว่าการเมืองนอกระบบ หรือการเมืองบนท้องถนน เชื่อว่าจะเกิดผลดีกับทั้ง 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายค้านจะใช้เวทีเป็นที่ซักถามข้อสงสัยให้จบสิ้นกระบวนความ ส่วนนายกฯจะได้ตอบคำถามค้างคาใจของฝ่ายค้านอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องอ้อมค้อม ส่วน ส.ส.ได้รับฟังทั้งสองฝ่ายใช้ดุลพินิจว่าฝ่ายใดมีเหตุมีผลกว่ากัน สนับสนุนการใช้กระบวนการทางรัฐสภาแก้ปัญหาทุกด้าน ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญและเคารพกับการประชุมสภาฯ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายที่เคารพกติกาในระบอบประชาธิปไตยโดยการใช้เหตุผล,พปชร.มั่นใจนายกฯชี้แจงได้,นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า มั่นใจว่านายกฯจะสามารถชี้แจงได้ตามกลไกระบบรัฐสภา ที่สำคัญเรื่องเข้าสู่กระบวนการของผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาแล้ว ทางที่ดีพรรคฝ่ายค้านควรรอการพิจารณาก่อน ดีกว่ามายื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพราะฝ่ายค้านไม่สามารถตัดสินเรื่องนี้ได้ ไม่เกิดประโยชน์อะไร แทนที่รัฐบาลจะได้เอาเวลาไปทำงานให้กับประชาชน กลับต้องมาสาละวนอยู่กับเกมการเมืองของฝ่ายค้าน เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันแล้วว่ามีขั้นตอนแก้ปัญหาอยู่แล้ว และมีฝ่ายกฎหมายดูแลอยู่ ไม่เข้าใจพรรคฝ่ายค้านที่พยายามเอาเป็นเอาตายกับเรื่องนี้มาก ทั้งที่สุดท้ายแล้วทราบแก่ใจดีว่าจะเป็นอย่างไร,ภท.ปัดไม่เจตนาทิ้งงานสภาฯ,พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตามที่มีการเปิดเผยว่ามีรัฐมนตรีและ ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยขาดประชุมสภาฯ และไม่ได้ลงมติในการพิจารณาข้อบังคับการประชุมสภาฯนั้น ไม่ได้มีเฉพาะ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยเท่านั้น อย่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ที่สังคมเห็นแล้วว่าตั้งแต่รับตำแหน่ง ไม่ได้เว้นว่างจากการทำหน้าที่เลย รัฐมนตรีและ ส.ส.ที่ไม่ได้เข้าประชุม ต่างมีเหตุผลความจำเป็น ยืนยันว่าทุกคนให้ความสำคัญกับงานในสภาฯ ช่วงที่ผ่านมาอยู่ในช่วงการปรับการทำงานให้สอดคล้องกันทั้งในหน้าที่ ส.ส. และรัฐมนตรี พยายามให้เกิดความสมดุล เป้าหมายเพื่อประชาชน,วิษณุ ชี้ช่องให้คนอื่นแจงแทน,ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะทำหนังสือถึงนายกฯให้ชี้แจงเหตุผลที่ไม่ไปตอบกระทู้ที่สภาฯนั้น หากมีหนังสือถามมาจำเป็นต้องชี้แจง ส่วนที่ฝ่ายค้านยื่นขอเปิดอภิปรายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 นายกฯไม่จำเป็นต้องตอบด้วยตัวเอง อยู่ที่เขาตั้งคำถามใคร เพราะมาตรา 152 ไม่ใช่การถามตัวบุคคล เป็นการถามรัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลตอบ หากใครเกี่ยวข้องก็ไปตอบ เมื่อถามว่าหากเป็นการถามเรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณ มอบคนอื่นไปตอบได้หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ถึงอย่างไรนายกฯต้องไปอยู่ดี เพราะเขาถามรัฐบาล นายกฯเป็นหัวหน้ารัฐบาลถ้าว่างก็ต้องไป เชื่อว่าท่านจะไป เพียงแต่นายกฯอาจจะตอบ 2-3 ประโยคแล้วให้คนอื่นตอบแทน เพราะคนที่รู้มีเยอะ ส่วนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 เป็นการอภิปรายเฉพาะตัว แต่ให้คนอื่นลุกขึ้นชี้แจงได้,อ้างเฉยยุค ยิ่งลักษณ์ ยังทำได้,เมื่อถามว่า เริ่มมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนายกฯหนีสภาฯ นายวิษณุตอบว่า ไม่ได้มีปัญหา ถ้านายกฯติดภารกิจก็ไปไม่ได้อยู่ดี มีมาตลอด สมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ เมื่อมีการถามเรื่องโรงแรมโฟร์ซีซัน ก็ให้คนอื่นไปตอบ เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกต ครม.ยังไม่มีมติเกี่ยวกับนโยบาย และมาตรการต่างๆ มีแต่การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง เพราะหวั่นเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า นโยบายออกมาแล้วตั้งหลายเรื่อง ทั้งภัยแล้ง การรับมือสถานการณ์ฮ่องกง การติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุระเบิดใน กทม. การแต่งตั้งโยกย้ายปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด หากเป็นโครงการอะไรต้องสอบถามหน่วยงานต่างๆก่อน วันที่ 20 ส.ค. จะมีเรื่องเกี่ยวกับนโยบายออกมามาก เพราะหน่วยงานเริ่มชี้แจงกลับมาแล้ว,เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วสุด,นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลจะดำเนินการต้องเร่งให้เร็วที่สุด เน้นกระตุ้นการบริโภคภายใน เพิ่มรอบการหมุนของเม็ดเงินกระจายไปยังกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มฐานรากที่เป็นคนกลุ่มใหญ่ พร้อมเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่กำลังเกิดขึ้น เช่น ปัญหาภัยแล้ง ราคา พืชผลการเกษตร จะเชื่อมโยงกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะต่อไป นายกฯเน้นย้ำต้องดูแลประชาชนระดับฐานราก ที่มีอยู่ 40 เปอร์เซ็นต์ ให้คนกลุ่มนี้เงยหน้าอ้าปากได้จริง ควบคู่กับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่น ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ทำให้เกิดการจ้างงาน ดึงดูดการลงทุน ส่งเสริมการท่องเที่ยว การจัดทำงบประมาณปี 63 รัฐบาลจะไม่ละเลยแก้ไขปัญหาความยากจน ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย,ปลื้มเอกชนสหรัฐฯขานรับอีอีซี,นางนฤมลกล่าวอีกว่า ประเทศไทยยังคงเนื้อหอม คณะผู้บริหารสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (USABC) นำผู้บริหารบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ อาทิ CISCO, P&G, Agoda, Chevron Bayer, FedEx เยี่ยมชมสถาบันวิทยสิริเมธี ในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ จ.ระยอง ตั้งอยู่ในเขตอีอีซี ประทับใจศักยภาพและความก้าวหน้าทางวิชาการ บริษัทสหรัฐฯแสดงความสนใจนำข้อมูลไปเผยแพร่แก่นักธุรกิจสหรัฐฯรายอื่น และจะกลับมาเยี่ยมชมอีอีซีอีกครั้ง เพื่อศึกษาข้อมูลเชิงลึกนำมาประกอบการตัดสินใจเข้ามาลงทุน,จุรินทร์ ตีปี๊บรีแบรนดิ้ง ปชป.,วันเดียวกันเวลา 09.30 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ พรรคประชาธิปัตย์จัดระดมสมองสร้างสรรค์พรรคประชาธิปัตย์ ด้วยศาสตร์ 4 DNA มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน มีแกนนำพรรค ส.ส.รวมถึงสมาชิกพรรคเข้าร่วม นายจุรินทร์กล่าวเปิดงานว่า ต้องการระดมความคิดเห็นรอบด้านแบบ 360 องศา และหาคำตอบร่วมกัน ไปสู่การสร้างแบรนด์พรรคให้แข็งแกร่ง โดยทุกคนมีส่วนร่วมสำคัญทำอย่างไรให้ประชาธิปัตย์แข็งแกร่งในทุกพื้นที่ เพื่อโอกาสให้เราได้รับเลือกตั้งในเขตนั้นๆ และคะแนนฐานของพรรคมากขึ้น การสร้างแบรนด์จะทำภายใต้ยุทธศาสตร์คืออุดมการณ์ DNA จะมีทั้งที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม พรรคจะมีการสร้างอาคารที่ทำการพรรคขึ้นมาใหม่ ต้องออกแบบว่าต้องหน้าตาอย่างไร เพื่อสะท้อน DNA ประชาธิปัตย์,ชงปาล์ม 4 บาท/กก.เข้า ครม.,นายจุรินทร์ยังกล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือผลผลิตการเกษตรว่า หลังการประชุม ครม. เศรษฐกิจเมื่อวันที่ 16 ส.ค. กระทรวงพาณิชย์เร่งขับเคลื่อนในส่วนของราคาสินค้าเกษตร และการส่งออก โดยเฉพาะปาล์ม จะมีการประชุมคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ในวันที่ 19 ส.ค. เพื่อกำหนดราคาปาล์มไว้ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 4 บาท จากนั้นจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ส่วนสินค้าเกษตรตัวอื่น เช่น ยางพารา ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง อยู่ในแผนของกระทรวงอยู่แล้ว ได้รับรายงานว่าราคาผลไม้ดีขึ้น กระทรวงพาณิชย์เตรียมรองรับฤดูกาลผลไม้ไว้แล้ว เช่น มังคุด ลองกอง ลำไย ได้ทำเอ็มโอยูกับสายการบินในประเทศ อาทิ นกแอร์ แอร์เอเชีย ไทยสไมล์ และบางกอกแอร์เวย์ส เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ใช้บริการ สามารถโหลดผลไม้ท้องถิ่นใต้ท้องเครื่องได้ฟรี 20 กิโลกรัม,มาเป็นชุดประกันรายได้ข้าว,ต่อมาที่ศูนย์วิจัยข้าว จ.ปทุมธานี นายจุรินทร์ แถลงหลังการประชุม 3 ฝ่าย ประกอบด้วยกระทรวงพาณิชย์ ตัวแทนผู้ประกอบการ และตัวแทนเกษตรกรสมาคมชาวนาว่า ที่ประชุมเห็นร่วมกันว่าโครงการประกันรายได้ข้าว ในข้าว 5 ประเภท ได้แก่ 1.ข้าวเปลือกเจ้าในราคา 10,000 บาท/ตัน ความชื้น 15% ประกันรายได้ให้ไม่เกิน 30 ตัน/ครัวเรือน หรือไม่เกิน 40 ไร่ 2.ข้าวเหนียว ประกันที่ตันละ 12,000 บาท/ตัน ไม่เกิน 16 ตัน หรือไม่เกิน 40 ไร่ 3.ข้าวหอมมะลิ 15,000 บาท/ตัน ไม่เกิน 40 ไร่ 4.ข้าวหอมนอกพื้นที่ 14,000 บาท/ตัน ไม่เกิน 40 ไร่ 5.ข้าวหอมปทุม ไม่เกิน 11,000 บาท/ตัน ไม่เกิน 40 ไร่ โดยจะเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (นบข.) และให้เกษตรกรชาวนาขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อน ส่วนมาตรการช่วยเหลือคู่ขนาน จะลดต้นทุนการผลิต ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าเก็บเกี่ยว การส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี และโครงการประกันภัยพืชผล พร้อมสนับสนุนการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและสร้างนวัตกรรมการผลิต,มท.จ่อถลุงงบฯค้างท่อ 6 แสน ล.,นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวถึงแนวทางการนำเงินงบประมาณของท้องถิ่น (งบฯค้างท่อ) มาใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 ไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 ว่า รมว.มหาดไทย ได้สั่งการสำรวจงบประมาณที่เหลืออยู่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ราวๆ 6 แสนล้านบาท ที่ยังไม่มีข้อผูกพันทางสัญญา หรือรอการเบิกจ่าย เพื่อขอความร่วมมือให้นำงบประมาณส่วนนี้มาพัฒนาในพื้นที่ หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ให้เกิดการหมุนเวียนใช้จ่ายในท้องถิ่น จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด โครงการที่จะสามารถใช้จ่ายในปี 2562 ที่เหลือได้ ต้องทำสัญญาภายในเดือน ส.ค.นี้ เชื่อมั่นว่า อปท.ทุกแห่งพร้อมให้ความร่วมมือ ไม่มีใครรอเกียร์ว่างให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน เพราะทุกคนต้องการสร้างผลงานให้ประชาชนประจักษ์ทั้งสิ้น,สุดารัตน์ นำทีมลุยบางกอกน้อย,เวลา 07.30 น. วันเดียวกัน ที่วัดสุวรรณาราม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมนายพงศ์พันธ์ ยอดเมืองเจริญ นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ลงพื้นที่เขตบางกอกน้อย ทั้งหมดได้เข้ากราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม และเดินชมจิตรกรรมฝาผนัง จากนั้นสักการะอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งมารอต้อนรับ พร้อมมอบดอกกุหลาบสีแดงให้กำลังใจ,อัด รบ.กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ตรงจุด,คุณหญิงสุดารัตน์ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า เราเห็นด้วยว่าควรกระตุ้นเศรษฐกิจ มาตรการของรัฐบาลที่ออกมามีทั้งสิ่งที่เราเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ที่เห็นด้วยคือการยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีน และอินเดีย ที่เป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคเพื่อไทยมาตลอด ส่วนเม็ดเงินที่ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 3 แสนล้านบาท เราเป็นห่วง 2 ประเด็น คือ 1.ขณะนี้เปรียบเสมือนหน้าแล้งมีน้ำน้อย เม็ดเงินได้ถูกใช้ไปส่วนหนึ่งแล้ว จึงเหลือเม็ดเงินที่จะลงไปกระตุ้นน้อยมาก และ 2.ในภาวะน้ำมีน้อย รัฐบาลต้องเลือกใช้วิธีรดน้ำ จะหยดที่โคนต้น หรือจะสเปรย์ทิ้ง มาตรการของรัฐบาลที่ออกมาถือว่าเป็นการใช้น้ำไม่คุ้มค่า ใช้วิธีสเปรย์เบี้ยหัวแตก ไม่ได้อัดลงไปตรงจุด แม้การท่องเที่ยวจะเป็นหนึ่งในวิธีการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ถ้าเทียบกับอัดเงินลงไปที่เกษตรกรฐานราก ให้เขามีเงินไปจับจ่ายในตลาด หรือทำให้เอสเอ็มอีฟื้นสิ่งที่เราอยากเห็นคือการเลิกซื้ออาวุธ เลิกซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น เศรษฐกิจวันนี้ไม่ใช่วิกฤติแต่เป็นหายนะ หวังว่าประชุม ครม.สัปดาห์หน้าจะทบทวนสิ่งที่ฝ่ายค้านติติงด้วยความหวังดี,ยกบางกอกน้อยโมเดลไม่ง้อรัฐ,เมื่อถามถึงนโยบายการท่องเที่ยวเมืองรอง คุณหญิงสุดารัตน์ตอบว่า การท่องเที่ยวในชุมชนเป็นเรื่องที่ต้องสนับสนุน เป็นเรื่องที่มาควบคู่กับการกระจายอำนาจ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือรัฐส่วนกลางไปคิดแทนคนท้องถิ่น จัดงบประมาณไม่ตรงกับความต้องการของประชาชน แม้พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่วันที่ 20 ส.ค. เราจะแถลงก้าวต่อไปของเพื่อไทยยุคใหม่ จะมีโครงการชื่อว่า นวัตกรรมแก้จน และ โครงการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน โดยชุมชนบางกอกน้อยจะเป็นโมเดลตัวอย่าง เพื่อทำให้เห็นว่าแม้ไม่มีอำนาจรัฐ แต่ถ้าเราพึ่งพาและร่วมมือกับคนในชุมชน จะสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว และอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีได้,จวกเสพติดแจกเงินพร่ำเพรื่อ,นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ของ ครม.เศรษฐกิจ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจถือว่ามีประโยชน์หากเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ ไม่นำมาใช้พร่ำเพรื่อ สิ่งที่เกิดขึ้นตลอด 5 ปีที่ผ่านมาและยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง คือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถูกนำมาใช้กระตุ้นตอนเศรษฐกิจหมดแรง มีแรงได้ไม่กี่เดือนก็ฟุบอีก แล้วต้องกระตุ้นกันใหม่ เป็นวัฏจักรที่ไม่ถูกต้องและอันตราย รัฐบาลก็ไม่ควรเสพติดหรือมีความสุขกับวัฏจักรนี้โดยไม่ทำอย่างอื่น เพราะแนวทางการบริหารเศรษฐกิจแบบนี้ทำให้งบประมาณจำนวนมหาศาลถูกนำไปใช้กับมาตรการแบบชั่วคราว ไร้การกำหนดทิศทางระยะยาว ส่งผลให้การพัฒนาโครงสร้างและทิศทางหลักของประเทศ ถูกละเลย หากพื้นฐานประเทศไม่ได้ถูกพัฒนา อีกไม่นานภาระทางการคลังจะเป็นข้อจำกัดสำหรับมาตรการกระตุ้นรอบใหม่ เมื่อนั้นเราจะหมดกระสุนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ,ฉะไม่บ้าก็เสียสติหว่านเงินไร้ผล,ขณะที่นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เงินที่รัฐบาลใช้กระตุ้นเศรษฐกิจมาจากภาษีประชาชน เรียกว่างบลงทุน ใช้ไปแล้วต้องเกิดผลตอบแทนกลับมาในรูปภาษี แต่ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำมา 5 ปี มีแต่ทำให้คนจนลง จัดเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้ามาตลอด แปลว่าการแจกเงินไม่ได้ผล เพราะไม่ทำให้คนเห็นอนาคต เงินที่แจกไปไม่ก่อให้เกิดการผลิตที่ยั่งยืน ใช้ไปครั้งเดียวหมด ไม่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง แต่รัฐบาลยังจะเอาวิธีที่ไม่เคยได้ผลมาใช้ต่อไป ถ้าไม่บ้าก็เสียสติ หัวใจสำคัญของการบริหารคือความเชื่อมั่น หากผู้นำหรือรัฐบาลไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ ประชาชนจะหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งประชาชนและผู้ประกอบการต่างไม่เชื่อมั่นในตัวผู้นำและรัฐบาล ตามผลสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แบบนี้ถมเงินลงไปเท่าไรก็ไม่ได้ผล เพราะต้นตอของปัญหาอยู่ที่ตัว พล.อ.ประยุทธ์ ออกไปทุกอย่างจะดีขึ้น,ธนาธร ดูแปรรูปยางที่นครฯ,วันเดียวกัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนาคตใหม่ พร้อมนายรังสิมันต์ โรม นายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์ นายสมชาย ฝั่งชลจิตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษกพรรคฯ ร่วมลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อรับฟังปัญหาจากประชาชนเกี่ยวกับการแปรรูปยางพารา ที่สหกรณ์กองทุนสวนยางโสตประชา จำกัด นายธนาธรกล่าวว่า ดีใจที่ได้มาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการแปรรูปยาง นี่คือแนวทางแห่งอนาคตของประเทศ คือใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีมาแปรรูปสินค้าการเกษตร ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมามีโอกาสเดินทางไปดูโรงงานแปรรูปยางในหลายพื้นที่ หลายจังหวัด ที่ผ่านมาสิ่งที่รัฐบาลพยายามคิดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา มีเรื่องของยางและสินค้าเกษตรอื่นอยู่ด้วย ตนเห็นว่ามีความจำเป็นในระยะสั้น ประชาชนจำนวนมากต่างมีวิถีชีวิตผูกพันอยู่กับสินค้าทางการเกษตร แต่ทุกวันนี้พืชเศรษฐกิจหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นยางพารา ปาล์ม ข้าว มันสำปะหลัง ต่างราคาตกหมด มาตรการอุดหนุนราคาสินค้าเกษตรจึงมีความจำเป็น แต่ในระยะยาวอนาคตต้องอยู่ที่การแปรรูป ฝากให้นายเจนวิทย์ไปผลักดันในคณะกรรมาธิการฯ เพื่อให้เกิดโครงการวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีการแปรรูปจริงจัง,โพลยก รัฐบาลตู่ มีผลงาน–ซื่อสัตย์,อีกเรื่อง สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจำนวน 1,082 คน เรื่องความต่างของผลงานระหว่างรัฐบาล พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 80.3 ระบุว่าผลงานรอบ 5 ปีของ รัฐบาลลุงตู่ เช่น การก่อสร้างด้านคมนาคม สถานีรถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ ทางต่างระดับปากช่องโคราช การต่อเติมสนามบิน เป็นสิ่งที่จับต้องได้แตกต่างจากรัฐบาลอื่น และส่วนใหญ่ยังเห็นว่ารัฐบาลที่ซื่อสัตย์ทำประโยชน์ส่วนรวมได้มากกว่ารัฐบาลที่มีคดีติดโกง เมื่อถามถึงสิ่งที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลนี้เร่งสร้างมากที่สุด อันดับ 1 คือแก้ปัญหาค่าครองชีพ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ อันดับ 2 แก้ปัญหายาเสพติด อันดับ 3 ช่วยด้านการศึกษาของคนยากจน ส่วนอันดับรองลงไปได้แก่ การดูแลสุขภาพประชาชน เพิ่มความปลอดภัย แก้ปัญหาว่างงาน แก้ปัญหาเกษตรกร แก้ภัยแล้ง ภัยพิบัติ แก้ระบบภาษี แก้ปัญหาความแตกแยกของคนในสังคม | พท.ดาหน้าขย่ม บิ๊กตู่ เจ๊หน่อย ย้อนทำไมต้องให้ทวงสำนึก ร่าง รธน.มากับมือดันทำผิดซะเอง รู้ตัวว่าผิดสารภาพซะก็จบ เย้ยอย่าทำตัวเป็นเด็กกลัวบ้านผีสิง | ข่าว,การเมือง | ประยุทธ์ จันทร์โอชา,สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์,ฝ่ายค้าน,วิษณุ เครืองาม,ชี้แจง,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/news/politic/1639970 |
กบอ. ชี้แจง ป.ป.ช. แนวทางป้องกันทุจริต | นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะทำงานด้านกฎหมาย ในฐานะตัวแทนคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ และอุทกภัย หรือ กบอ. เข้าพบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อชี้แจงแนวทางการป้องกันการทุจริตในการประมูลโครงการบริหารจัดการน้ำ ภายใต้พระราชกำหนด 350000 ล้านบาทโดยนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกและจัดซื้อโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน กล่าวว่า แม้การประมูลโครงการจะใช้วิธีพิเศษ แต่ได้ดำเนินการด้วยความรอบคอบ โดยผ่านการปรึกษากับอัยการ และกฤษฎีกามาโดยตลอด แต่พร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำของ ป.ป.ช.นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองปลัดกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ในฐานะเลขาธิการสำนักงานนโยบาย และบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ ระบุถึงความคืบหน้าการคัดเลือกผู้ประมูลโครงการบริหารจัดการน้ำว่า อนุกรรมการคัดเลือกด้านเทคนิคที่มีนายอภิชาต อนุกูลอำไพ เป็นประธาน อยู่ระหว่างตรวจทานข้อเสนอการออกแบบ และก่อสร้างของเอกชน เพราะมีเอกสารและข้อมูลจำนวนมากที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และรัดกุมทั้งนี้ หาก ป.ป.ช. ยอมรับแนวทางป้องกันการทุจริต ของกบอ. ได้ คาดว่าการพิจารณาในขั้นตอนเทคนิคจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสัปดาห์นี้ และเรียกเอกชนเข้าต่อรองราคาในสัปดาห์หน้า | คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ.คาดว่าจะสามารถเรียกเอกชน ผู้ชนะประมูลด้านเทคนิคเข้าต่อรองราคา สัปดาห์หน้า หากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. รับได้กับแนวทางปัองกันทุจริตของ กบอ. ซึ่งได้เข้าชี้แจงวันนี้ | การเมือง | กบอ.,ชี้แจง,ทุจริต,ป.ป.ช.,แนวทาง | https://news.thaipbs.or.th/content/173938 |
แจงปมรถนำขบวน ประภัตร เบียดรถชาวบ้าน | วันนี้ (17 มิ.ย.2563)สื่อสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับคลิปวิดีโอรถที่มีโลโก้สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตร ขับเบียดรถประชาชน โดยเจ้าของคลิปวิดีโอดังกล่าว คือ น.ส.พัชรินทร์ วิกิตเศรษฐ์ เล่าว่า ขณะขับรถมาตามปกติพบรถมีตราโล่ห์ และเปิดไซเรน เบียดเข้ามาเป็นคันแรก หลังจากนั้นมีรถตู้สีบรอนซ์อีก 2 คันที่มีสัญลักษณ์ สป.กษ.เบียดตามกันมาอย่างกระชั้นชิด อาจส่งผลกระทบต่อการขับขี่ได้ และอยากย้อนถามไปยังนายกรัฐมนตรี ที่เคยมีมติห้ามให้รถนำขบวนมีผลกระทบกับประชาชนด้าน นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบถามถึงเหตุการณ์ในวันที่เกิดเหตุโดยละเอียด พบว่าวันเกิดเหตุ คือ วันที่ 12 มิ.ย.เป็นขากลับจากการลงพื้นที่ปฏิบัติราชการของผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่ จ.จันทบุรีสำหรับขบวนรถมีทั้งหมด 6 คัน ซึ่งในขณะเกิดเหตุเป็นถนนสวนกัน 2 เลน มีรถยนต์สัญจรไปมาคับคั่ง พนักงานขับรถได้ส่งสัญญาณขอทางแล้ว และมีปัจจัยหลายประการที่ทำให้ต้องรีบตัดสินใจในการควบคุมรถยนต์ให้ผ่านไปได้ทันขบวน จึงทำให้เห็นภาพรถยนต์ส่วนราชการ ขับผ่านรถยนต์คันหนึ่งไปอย่างรวดเร็วทีมข่าวเดินทางไปที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่า รถตู้หนึ่งในขบวนดังกล่าวจอดอยู่ แต่คนขับซึ่งเป็นลูกจ้างไม่ได้มาปฎิบัติหน้าที่ และมีรายงานข่าวแจ้งว่า ขบวนดังกล่าวเป็นขบวนภารกิจลงพื้นที่ของนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง และติดตามมาตรฐานผลไม้ส่งออกที่ จ.ตราด และจันทบุรี มีข้าราชการร่วมขบวนรวม 20 คนสำหรับหลักเกณฑ์การใช้รถตำรวจนำขบวน ตามหนังสือสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ระบุว่าผู้ที่มีสิทธิขอรถตำรวจนำขบวน เช่น ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา รองประธานรัฐสภา รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และผู้นำฝ่ายค้านโดยในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ผู้บังคับการตำรวจจราจรมีอำนาจพิจารณาอนุญาตเป็นครั้ง ๆ ส่วนนอกเขตให้ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง มีอำนาจพิจารณาอนุญาตด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในกรณีนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วว่าเป็นของตำรวจหน่วยงานใด และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เคยย้ำแล้วว่า รถนำขบวนต้องไม่ให้เกิดผลกระทบต่อจราจร และกระทบประชาชนให้น้อยที่สุด | ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ชี้แจงกรณีขบวนรถที่มีโลโก้สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตร ขับเบียดรถประชาชน ซึ่งเป็นขบวนรถของ ประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรฯ พร้อมตักเตือนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำชับไม่ให้ทำประชาชนเดือดร้อน แต่สำหรับคู่กรณีถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ | สังคม | ประภัตร โพธสุธน,รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์,ปลัดกระทรวงเกษตร | https://news.thaipbs.or.th/content/293716 |
พบเด็กและผู้ต้องสงสัยลักทารกที่ รพ.ร้อยเอ็ด ตร.เร่งสอบหาหลักฐานพิสูจน์ | จากกรณีที่เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 23 ธ.ค.58 พ.ต.ท.สมัย มงคลชู พงส.ผนก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งจาก รพ.ร้อยเอ็ดธนบุรี ซึ่งเป็น รพ.เอกชน ใน จ.ร้อยเอ็ด ว่า พบเด็กหญิง อายุประมาณ 1 วัน ที่สงสัยว่า เป็นเด็กที่ถูกลักจากตึกหอผู้ป่วยสูติกรรม โรงพยาบาลร้อยเอ็ด เมื่อเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน พร้อมผู้แสดงตัวว่าเป็นแม่ซึ่งเพิ่งคลอดอยู่ที่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.รอบเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ดเมื่อตอนบ่ายวันเดียวกัน เข้ามารับการบริการของโรงพยาบาลร้อยเอ็ดธนบุรี และสมัครใจอยู่พักรักษาร่างกายใน รพ.ร้อยเอ็ดธนบุรี จึงเดินทางไป รพ.ร้อยเอ็ดธนบุรี พร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อสอบถามข้อมูลจากคณะแพทย์,ผลการประชุมคณะแพทย์ รพ.ร้อยเอ็ดธนบุรี ระบุว่า ตามขั้นตอนการรับผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาล เริ่มจาก แพทย์ตรวจอาการผู้ป่วย ที่ก่อนหน้าได้ตรวจในภายในช่องคลอดของหญิงผู้แสดงตัวเป็นแม่ของเด็กแล้ว ถ้าดูตามขนาดร่างกายของเด็กนั้น ในช่องคลอด ต้องมีรอยแผลฉีกขาดหลายแผล แต่ที่พบเป็นเพียงมีเลือดซึมออกมาเท่านั้น และที่สะดือของเด็กที่พบ ปรากฏว่า แห้งแล้ว แตกต่างจากเด็กที่เพิ่งคลอดซึ่งยังเปียกอยู่และเอกสารตรวจสุขภาพประจำตัวเด็ก เป็นของ รพ.ร้อยเอ็ด ที่ผู้แสดงตัวเป็นแม่ นำมาแสดงกับ รพ.ร้อยเอ็ดธนบุรี นั้น มีความผิดปกติ ที่กระดาษจดบันทึกด้านหน้าถูกตัดออกไปแล้ว 4 แผ่น และที่ช่องเขียนชื่อเด็ก มีรอยคราบน้ำยาลบหมึกพิมพ์,หลังจากตำรวจทราบผลการประชุมของคณะแพทย์ รพ.ร้อยเอ็ดธนบุรี แล้ว จึงไปเชิญนายโชคชัย บุญวิเศษ อายุ 30 ปี ผช.ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.โนนสว่าง อ.เกษตรวิสัย และ น.ส.อนงค์ วาธิคุณ อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร อ.เกษตรวิสัย ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของ ด.ญ.ปริยาภัทร บุญวิเศษ อายุ 1 วัน ซึ่งถูกคนร้ายลักไปจากเตียงคนป่วยพักรักษาร่างกายหลังคลอด ในตึกหอผู้ป่วยสูติกรรม ใน รพ.ร้อยเอ็ด เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ น.ส.อนงค์ วาธิคุณ กำลังเข้าห้องน้ำ ไปที่ห้องอนุบาลเด็กแรกเกิดของ รพ.ร้อยเอ็ดธนบุรี โดยมีการจัดเอาเด็กที่ต้องสงสัยนอนปะปนอยู่กับเด็กคนอื่นรวมจำนวน 6 คน ปรากฏ ว่า เมื่อสองผัวเมียเห็นเด็กหญิงซึ่งนอนรวมกันกับเด็กคนอื่น ได้พากันโผเข้ากอดเด็กซึ่งทั้งสองคนมั่นใจว่าเป็นลูกของตนเอง ทั้งสองผัวเมียพากันหันมาไหว้ตำรวจและแพทย์,ต่อจากนั้นแพทย์ตรวจเลือดของนายโชคชัย และ น.ส.อนงค์ ปรากฏว่า เด็กพร้อมด้วย น.ส.อนงค์ และ นายโชคชัย มีเลือดกรุ๊ปบี เหมือนกัน หลังจากที่ 2 สามีภรรยาเห็นเด็กแล้ว ตำรวจจึงให้กลับไปที่ รพ.ร้อยเอ็ด ส่วนผลการตรวจเลือดของหญิงที่อ้างว่าคลอดลูกใหม่เข้ามารักษาใน รพ.ร้อยเอ็ดธนบุรี พร้อมกับสามี ปรากฏว่าทั้งสองคนมีเลือด กรุ๊ปเดียวกัน คือ กรุ๊ปโอ นอกจากนั้น ตำรวจ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้ขอความร่วมมือสามีของหญิงต้องสงสัย ไปขุดเอารกของเด็ก ซึ่งฝังไว้ข้างบ้านของตนเอง ที่บ้านหลังหนึ่งที่บ้านแก่นทราย ต.รอบเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด มาให้ตำรวจเพื่อนำเอาเก็บในห้องแช่แข็งของตู้เย็น เพื่อเตรียมการตรวจพิสูจน์ที่ สถาบันนิติเวช ,อย่างไรก็ตาม ฝ่ายสามี พร้อมด้วยแม่ของสามี และหญิงที่ต้องสงสัย ยังยืนยันว่า เด็กเป็นลูกของตนเอง ที่เพิ่งคลอดที่บ้านเมื่อตอนบ่ายวันเดียวกันต่อมา ,ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 23 ธ.ค.58 นพ.เกรียงไกร โกวิทางกูร ผอ.รพ.ร้อยเอ็ดไปพบ พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด. ที่ชั้น 7 ของ รพ.ร้อยเอ็ดธนบุรี เพื่อปรึกษาหารือกันอย่างเร่งด่วน มีความเห็นร่วมกันว่า จะเชิญหญิงต้องสงสัยพร้อมสามี พร้อมด้วย น.ส.อนงค์ และ นายโชคชัย ไปตรวจดีเอ็นเอที่สถาบันนิติเวช โดยด่วน เพื่อเป็นหลักฐานสำหรับดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.,นพ.เกรียงไกร โกวิทางกูร ผล.รพ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีเอกสารการตรวจสุขภาพเด็กของ รพ.ร้อยเอ็ด หายไปจำนวน 1 เล่ม นั้น ได้ให้เจ้าหน้าที่ รพ.ร้อยเอ็ด ไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองร้อยเอ็ดว่า เอกสารหาย เอาไว้แล้ว. | ตร.ร้อยเอ็ด ไปตรวจสอบผู้ต้องสงสัยลักเด็ก และทารกที่หายไปคาดว่าจะอยู่ที่ รพ.ร้อยเอ็ดธนบุรี ขณะที่ พ่อแม่ของเด็กที่หายไปตรวจเลือดพบกรุ๊ปเดียวกันกับเด็กที่คาดว่าจะถูกลักมา ด้าน ผอ.รพ.ร้อยเอ็ด แนะส่งตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ความจริง | null | ลักเด็ก,ขโมยทารก,ข่าว,โรงพยาบาลร้อยเอ็ด,รพ.ร้อยเอ็ดธนบุรี,สมัย มงคลชู,สภ.เมืองร้อยเอ็ด,โชคชัย บุญวิเศษ,อนงค์ วาธิคุณ,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์,ขโมยเด็กร้อยเอ็ด | https://www.thairath.co.th/content/553488 |
เศร้า ชาวนาแพร่ ออกไปตัดหญ้าเตรียมปลูกข้าว เจอฟ้าผ่าดับคาที่ | เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 24 พ.ค. 2560 ร.ต.อ.สมชาย ไร่ห้วย รอง สว.สอบสวน สภ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ ได้รับแจ้งว่าเกิดฟ้าผ่าคนตายที่บริเวณกลางทุ่งนาบ้านน้ำรัดหมู่ที่ 2 ต.น้ำรัก อ.หนองม่วงไข่ ศพยังอยู่กลางทุ่งนา หลังจากได้รับแจ้งแล้วได้ประสานไปยังแพทย์เวร โรงพยาบาลหนองม่วงไข่ พร้อมรถกู้ชีพ รพ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ รุดไปที่เกิดเหตุ,เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่ากลางทุ่งนามีเครื่องตัดหญ้าชนิดสะพายตกอยุ่ และศพ ต่อมาทราบชื่อคือ นายสมโภชน์ เสาแดน อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 224 หมู่ที่ 2 บ้านย่านยาว หมู่ที่ 2 ต.น้ำรัก อ.หนองม่วงไข่ สภาพศพหมวกและเสื้อถูกเผาไหม้ เมื่อตรวจชันสูตรพบว่าที่บริเวณศีรษะลงมามีสภาพไหม้เกรียมทั้งหมด คาดว่าฟ้าจะผ่าลงมากลางศีรษะพอดี ในขณะที่กำลังตรวจชันสูตรนั้นฝนก็ได้ตกลงมามีฟ้าร้องเสียงดัง ชาวบ้านจึงได้รีบนำศพกลับมาที่บ้านของผู้ตายทันที,จากนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้เข้ามาทำการตรวจสอบและพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ตาย ในขณะที่ญาติ เพื่อนบ้าน ต่างพากันมามุงดูและร้องไห้ระงมทั้งบ้าน,นางตอน เสาแดน อายุ 48 ปี ภรรยาผู้ตาย เผยว่า ผู้ตายได้ออกบ้านไปในช่วงบ่ายพร้อมกับเครื่องตัดหญ้าสะพายเพื่อที่จะไปตัดหญ้าคันนา เพราะอีกสองวันก็จะลงมือหว่านข้าว แต่ในช่วงเย็นวันนี้ก็เกิดฝนตกหนักพร้อมเสียงฟ้าร้องเสียงดัง ก็ไม่นึกว่าจะเกิดฟ้าผ่าสามีตน พอมีชาวบ้านมาบอกก็รีบออกไปดูพร้อมกับญาติๆ ก็พบว่าสามี ถูกฟ้าผ่าจนเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่ฟ้าผ่าลงมากลางตัวผู้ตายนั้น คาดว่าในขณะที่ผู้ตายกำลังถือเครื่องตัดหญ้า ซึ่งเป็นทั้งเหล็กอะลูมิเนียมบนเครื่องตัดหญ้าอาจจะเป็นสายล่อฟ้า ทำให้ฟ้าเกิดผ่าลงมาที่ตัวผู้ตาย. | หนุ่มใหญ่ชาวนาที่ จ.แพร่ ออกไปตัดหญ้าเตรียมพื้นที่นาเพื่อปลูกข้าว เกิดพายุฝนกระหน่ำกะทันหันในขณะที่กำลังถือเครื่องตัดหญ้าอยู่ ฟ้าผ่าเปรี้ยงลงศีรษะดำเป็นตอตะโก ล้มเสียชีวิตคาที่ เพื่อนบ้านพาศพกลับบ้านญาติร้องระงม | ข่าว,ทั่วไทย | ฟ้าผ่าตาย,ฟ้าผ่าชาวนา,สภ.หนองม่วงไข่,อ.หนองม่วงไข่ | https://www.thairath.co.th/news/local/north/951482 |
หุ้นสื่อ แอปเปิลเดลี ทะยานขึ้น 1100% หลังถูก ตร.ฮ่องกงบุกค้น-เจ้าของถูกจับ คนแห่ซื้อหลายแสนฉบับ | จากกรณีที่ทางการฮ่องกงใช้กำลังตำรวจบุกตรวจค้นสื่อแอปเปิลเดลีและจับกุม จิมมี ไหล รวมถึงผู้บริหารหลายราย ชาวฮ่องกงก็ทำการประท้วงการลิดรอนเสรีภาพสื่อในครั้งนี้ด้วยการแห่ซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับนี้หลายแสนเล่มตั้งแต่เพิ่งออกจำหน่ายจนหมดแผง นอกจากนี้ยังมีคนแห่ซื้อหุ้นของบริษัทจนทำให้หุ้นสูงขึ้น 11 เท่า12 ส.ค.2563 หลังจากที่ทางการฮ่องกงบุกตรวจค้นสื่อวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลฮ่องกงและจีน แอปเปิลเดลี และจับกุม จิมมี ไหล รวมถึงผู้บริหารหลายรายในวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา แต่ตกมาอีกวันหนึ่งในวันที่ 11 ส.ค. หุ้นของบริษัทเน็กซ์มีเดียจำกัดที่เป็นเจ้าของสื่อแห่งนี้ก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 1100 ซึ่งว่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 7 ปีคาสเตอร์ ปัง ประธานฝ่ายวิจัยของบริษัทให้คำปรึกษาด้านการเงินคอร์แปซิฟิกยามาอิจิประจำฮ่องกงกล่าวว่ามีตัวเลขการซื้อหุ้นรายย่อย (retail investors buying) ของเน็กซ์มีเดียสูงขึ้นเป็นจำนวนมาก และเมื่อเทียบราคาเสนอซื้อ-ขาย กับขนาดของการซื้อขายเป็นรายๆ ไปแล้วจะพบว่าส่วนใหญ่เป็นการซื้อหุ้นขนาดที่เล็กมาก แต่ก็มีจำนวนมากสื่อบลูมเบิร์กระบุว่ามีการจัดตั้งจากเว็บบอร์ดชาวฮ่องกงในการจัดการช่วยกันซื้อหุ้นนี้ พวกเขาตั้งข้อสังเกตว่าถึงแม้รัฐบาลจีนกับฮ่องกงจะพยายามใช้มาตรการต่างๆ กีดกันการแสดงออกของกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง แต่ชาวฮ่องกงก็ยังคงพยายามหาวิธีทางอื่นๆ ในการที่จะแสดงออกเชิงประท้วงรัฐบาลฮ่องกงและจีนบลูมเบิร์กระบุอีกว่าไหลถือหุ้นร้อยละ 71 ของเน็กซ์ดิจิทัล และในช่วงที่มีการประท้วงสื่อฉบับนี้ก็มีมูลค่าตลาดเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 2600 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 10400 ล้านบาท)นอกจากนี้กลุ่มผู้สนับสนุนสื่อแอปเปิลเดลีที่ถูกเล่นงานจากทางการยังแสดงการสนับสนุนด้วยการแห่กันออกไปต่อคิวซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ตั้งแต่ช่วงที่หนังสือพิมพ์ออกวางแผงสดๆ ในช่วงเวลา ตี 2 ของวันที่ 11 ส.ค. มีผู้คนบางส่วนบอกว่าพวกเขาไม่เคยซื้อหนังสือพิมพ์นี้เลยตั้งแต่สิบปีที่แล้ว แต่ในตอนนี้พวกเขาซื้อเพื่อแสดงการสนับสนุน มีบางคนบอกว่าพวกเขาพยายามสนับสนุนด้วยการซื้อไป 10 ชุด และนำไปแจกจ่ายเพื่อนหรือคนทั่วไป เจ้าของแผนชายรายหนึ่งบอกว่าพวกเขาขายหมดทั้ง 200 ฉบับภายใน 30 นาทีมีหญิงวัยรุ่นรายหนึ่งที่ซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว ระบุว่า พวกเขาต้องการแสดงออกให้เห็นถึงความไม่พอใจต่อทางการจีน และแสดงให้รัฐบาลจีนเห็นว่าพวกเขาไม่กลัว และจะต่อสู้กลับถ้าหากจะมีการกดขี่ข่มเหงลิดรอนเสรีภาพกรณีคนแห่ซื้อหนังสือพิมพ์ในครั้งนี้ทำให้แอปเปิลเดลีต้องตีพิมพ์เพิ่มจากเดิม 350000 ฉบับ จากเดิมตีพิมพ์ออกมาวันละ 70000 ฉบับ เพื่อให้รับต่อความต้องการ และเมื่อถึงช่วง 8 โมงเช้าของอีกวันหนึ่งพวกเขาก็ต้องพิมพ์เพิ่มอีก 200000 ฉบับเพราะมีหลายพื้นที่ที่ขายหมดแผง | จากกรณีที่ทางการฮ่องกงใช้กำลังตำรวจบุกตรวจค้นสื่อแอปเปิลเดลีและจับกุม จิมมี ไหล รวมถึงผู้บริหารหลายราย | การเมือง,เศรษฐกิจ,สิทธิมนุษยชน,ต่างประเทศ | หุ้น,แอปเปิลเดลี,สื่อสารมวลชน,เสรีภาพสื่อ,จิมมี ไหล,จีน,การประท้วง,ฮ่องกง | https://prachatai.com/journal/2020/08/88999 |
สนธิ ยืนยันไม่ทราบเรื่อง-ไม่ได้รับการติดต่อ ม.นเรศวร เสนอสอนวิชา รักชาติยิ่งชีพ | สนธิ ลิ้มทองกุล ยืนยันไม่ทราบเรื่องและไม่ได้รับการติดต่อ กรณีอาจารย์ ม.นเรศวร เสนอสอนวิชา รักชาติยิ่งชีพ ดึงฝั่ง กปปส.-กองเชียร์ประยุทธ์มาสอน11 ม.ค. 2563 รายงานว่าจากกรณีที่ในโซเชียลมีเดียมีการแชร์ภาพเอกสารการสอนของ ดร.ภาคภูมิ ทรัพย์สุนทร รองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือตอนล่าง อาจารย์ภาควิชาชีวเคมี มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก ที่เสนอให้สภามหาวิทยาลัยเปิดสอนในรายวิชา รักชาติยิ่งชีพ My Beloved Country วิชาศึกษาทั่วไป หมวดที่ 1 จำนวนหน่วยกิต 3 (2-2-5) โดยมีนายภาคภูมิ ทรัพย์สุนทร เป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบรายวิชา พร้อมเชิญ 18 ผู้ทรงคุณวุฒิเฉพาะด้านเข้ามาร่วมสอนและบรรยายให้นักศึกษา ส่วนใหญ่เป็นนักเคลื่อนไหวฝั่ง กปปส. และผู้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หนึ่งในนั้นระบุชื่อนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการด้วยนั้นเฟสบุ๊ค คุยทุกเรื่องกับสนธิ ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล โพสต์ข้อความระบุว่า มีแฟนๆ สอบถามเข้ามาเยอะมากสำหรับเรื่อง อาจารย์ ม.นเรศวร เสนอเปิดวิชา รักชาติยิ่งชีพ เชิญ 18 ผู้ทรงคุณวุฒิคนดีมาสอน โดยมีชื่อคุณสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นหนึ่งในผู้ทรงคุณวุฒิ จากการที่ได้สอบถามคุณสนธิเเล้ว คุณสนธิบอกว่าไม่ทราบเรื่องและไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จาก ม.นเรศวร จึงเเจ้งทุกท่านมา ณ ที่นี้ครับ | สนธิ ลิ้มทองกุล ยืนยันไม่ทราบเรื่องและไม่ได้รับการติดต่อ กรณีอาจารย์ ม.นเรศวร เสนอสอนวิชา รักชาติยิ่งชีพ ดึงฝั่ง กปปส.-กองเชียร์ประยุทธ์มาสอน11 ม.ค. | การเมือง,สังคม,การศึกษา,คุณภาพชีวิต | สนธิ ลิ้มทองกุล,มหาวิทยาลัยนเรศวร,ภาคภูมิ ทรัพย์สุนทร,วิชารักชาติยิ่งชีพ | https://prachatai.com/journal/2020/01/85869 |
ปลดปืน รปภ. ชิงเงินแบงก์ โจรบุกเดี่ยว คว้าไปหวานๆ รวม 8.7 แสน | วิ่งขึ้นรถ จยย.หลบหนี ใช้เวลาปฏิบัติการเพียงนาทีเดียว หลังเกิดเหตุ ผบช.น. บอกมั่นใจจับได้แน่ มีพยานเห็นคนร้ายเดินดูลาดเลา คล้ายชั่งใจอยู่หลายรอบควงปืนบุกเดี่ยวชิงเงินแบงก์ เปิดเผยเมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 22 ม.ค. ร.ต.อ.บุญยิ่ง กลิ่นสมเชื้อ รอง สวป.สน.ทุ่งครุ รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ธนาคารกรุงเทพ สาขาเทสโก้โลตัส ประชาอุทิศ เลขที่ 825 ถนนประชาอุทิศ ซอย 58/2 แขวงและเขตทุ่งครุ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล ผกก.สน.ทุ่งครุ ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งครุ กก.สส.บก.น.8 บก.สส.บช.น. และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานที่เกิดเหตุภายในธนาคารกรุงเทพ อยู่ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส ที่เป็นอาคารชั้นเดียว ติดลานจอดรถ บนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ โดยตำรวจใช้เชือกกั้นพื้นที่ ป้องกันผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในจุดเกิดเหตุเด็ดขาดสอบสวนนายประวิทย์ ละม่อนมารดา อายุ 66 ปี พนักงานขี่รถ จยย.แกร็บไบค์ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าด้วยอาการตื่นตระหนกว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามประตูทางเข้าด้านหน้าธนาคารใกล้ร้านสุกี้เอ็มเค เพื่อรอรับออเดอร์ลูกค้าที่ติดต่อมาสั่งอาหาร พบคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 160 ซม. สวมหมวกนิรภัยแบบครึ่งใบสีชมพู มีหมวกไหมพรมปิดศีรษะและใบหน้า แต่งกายในชุดเสื้อคลุมสีดำ กางเกงยีนส์และถุงมือสีดำ สะพายเป้สีดำ เดินมาจากลานจอดรถด้านข้างอาคารห้าง คนร้ายเดินเข้าประตูธนาคารปรี่ไปหา รปภ.ของธนาคาร คนร้ายชักปืนลูกโม่สีดำ ไม่ทราบขนาดจี้ที่เอว รปภ. ก่อนหยิบปืนลูกโม่ .38 ออกจากเอวของ รปภ. จากนั้นเดินไปที่เคาน์เตอร์ 3 หยิบเงินสดใส่เป้สีดำ ก่อนคนร้ายวิ่งหลบหนีออกจากธนาคารมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถด้านข้าง ขี่รถ จยย.ยามาฮ่า สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มุ่งหน้าไปทางถนนประชาอุทิศ ฝั่งขาเข้านายศักจิรชพงษ์ เพ็ชรรักษ์ อายุ 30 ปี รปภ.ผู้ประสบเหตุให้ข้อมูลเพิ่มด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุยืนดูแลความเรียบร้อยอยู่ตรงจุดกรอกใบเบิกจ่าย ตรงโต๊ะกลางธนาคาร มีคนร้ายเป็นชาย เดินเข้ามาประชิด ควักปืนลูกโม่ .38 ลำกล้อง 2 นิ้ว มาจี้ที่ลำตัว พูดด้วยสำเนียงภาคกลางว่า หยุด ยกมือขึ้น ก่อนค้นตามตัวหยิบปืนลูกโม่ .38 ที่เอวของตนไปใส่เป้ที่สะพายมา จากนั้นปีนข้ามเคาน์เตอร์ที่ 3 ไปด้านหลังหยิบเงินในลิ้นชักใส่เป้ไปได้ประมาณ 8.7 แสนบาท เท่าที่จำได้ขณะนั้นมีพนักงานนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ที่ 1 เพียงคนเดียว และมีลูกค้ารอเบิก-ถอนเงินอีก 1 คนด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า หลังเกิดเหตุประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บหลักฐานทั้งหมดในจุดเกิดเหตุแล้ว นอกจากนี้ยังพบหลักฐานสำคัญเป็นซองปืนของคนร้ายที่ทำตกไว้ 1 ชิ้น เบื้องต้นพบคนร้ายเตรียมการมาดี แต่งกายมิดชิด มีปืนข่มขู่พยาน ส่วนยอดเงินที่ถูกชิงทรัพย์ไปยังอยู่ระหว่างการตรวจนับของเจ้าหน้าที่ธนาคาร ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงบรรดาผู้ประกอบการร้านทอง ร้านสะดวกซื้อและเจ้าหน้าที่ธนาคาร หากเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้อย่าขัดขืนต่อสู้คนร้าย หากเผชิญเหตุจริงๆ ขอให้ตั้งสติจดจำรูปพรรณสัณฐานและยานพาหนะ รวมถึงอาวุธของคนร้ายให้ได้มากที่สุด สำหรับคนร้ายรายนี้มั่นใจว่าจะจับตัวได้แน่นอนมีรายงานว่า หลังเกิดเหตุชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. ตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบ พบก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 09.30 น. มีชายต้องสงสัยรูปพรรณสัณฐานใกล้เคียงคนร้าย เดินดูลาดเลาอยู่หลายรอบ โดยเฉพาะเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของห้างที่อยู่ใกล้ประตูทางเข้า-ออกธนาคาร ฝั่งในห้าง จนเจ้าหน้าที่บริเวณนั้นจดจำได้ จึงแจ้งข้อมูลให้ฝ่ายสืบสวนเก็บบันทึกรายละเอียดไว้ ทั้งนี้ คนร้ายใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 1 นาที ตรวจสอบคนร้ายขี่รถ จยย.มาจากซอยประชาอุทิศ 62 หลังก่อเหตุหลบหนีมุ่งหน้าถนนประชาอุทิศ ฝั่งขาเข้า ทะลุออกได้หลายทางทั้งถนนพระราม 2 ถนนสุขสวัสดิ์และถนนพุทธบูชา อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเพื่อหาเบาะแส | โจรกรุงร่างสันทัดฉายเดี่ยว ควงปืนลูกโม่ปล้นธนาคารกรุงเทพ สาขาเทสโก้ โลตัสประชาอุทิศ ใจเย็นขู่นิ่มๆ หยุด ยกมือขึ้น ก่อนปลดปืนจากเอว รปภ. กระโดดข้ามเคาน์เตอร์หยิบเงิน 8.7 แสนบาทใส่เป้ | ข่าว,ทั่วไทย | โจรปล้นธนาคาร,ปล้นธนาคาร,ชิงทรัพย์ธนาคาร,ชิงทรัพย์,ปล้นเงิน,โจรบุกเดี่ยว,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1753928 |
อธิบดี สถ.ลั่นเดินหน้าแก้ปัญหาขยะ ขับเคลื่อนท้องถิ่นเป็นที่พึ่ง ปชช. | เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 60 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น(สถ.) กระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานชมรมแม่บ้านกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ สถ. เนื่องในโอกาสที่เข้ามารับหน้าที่ใหม่ โดยมีข้าราชการระดับสูงของ สถ.ร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง,โดย นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า มีงานเร่งด่วนที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ให้เข้ามาแก้ปัญหาหลายเรื่อง อาทิ ปัญหาขยะในจังหวัดต่างๆ ซึ่งกลายเป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ปัญหาถนนที่อยู่ในความรับผิดของท้องถิ่นทั่วประเทศขวางทางน้ำ ซึ่งเป็นต้นเหตุของน้ำท่วม และการขับเคลื่อนให้ท้องถิ่นเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง,ทั้งนี้ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับให้ท้องถิ่นสนับสนุนการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ โดยสนับสนุนทีมงานที่สามารถทำงานอย่างคล่องตัว เพื่อผลสัมฤทธิ์ของการทำงาน อย่างไรก็ตาม ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ย้ำให้ทุกกรม การทำงานต้องเห็นผลงานใน 1 เดือน,อย่างไรก็ตาม การเข้ามารับหน้าที่ครั้งนี้ถือเป็นงานที่ท้าทาย เนื่องจาก สถ.เป็นกรมใหญ่ มีภารกิจคลอบคลุมทั่วประเทศ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากข้าราชการ และ องค์กรปกครองท้องถิ่น สิ่งสำคัญต้องทำงานเป็นทีมทั้งส่วนกลางและภูมิภาคด้วยความสามัคคี ในส่วนของข้าราชการตนจะส่งเสริมและสนับสนุนข้าราชการพันธุ์ใหม่ ที่มีความรู้ความสามารถให้ก้าวหน้าในหน้าที่ โดยให้ข้าราชการรุ่นพี่เป็นพี่เลี้ยงให้กับรุ่นน้อง และหลังจากนี้การทำงานจะเข้มข้นขึ้น เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในทุกด้าน | อธิบดี สถ.คนใหม่เริ่มงานวันแรก ประกาศเดินหน้าแก้ปัญหาขยะ และถนนขวางทางน้ำ ต้นเหตุทำให้น้ำท่วม ประกาศหนุนข้าราชการพันธุ์ใหม่ให้มีความก้าวหน้าในหน้าที่ | ข่าว,ทั่วไทย | อธิบดี สถ.คนใหม่,กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น,สถ.,สุทธิพงษ์ จุลเจริญ,ท้องถิ่น,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1087264 |
เพอร์เฟกต์ระดับนึง หอก เกรมิโอ ชี้ มีดีพอคว่ำชุดขาว | ดาวยิงตัวเก่งของเกรมิโอ ออกมาประกาศความมั่นใจก่อนเกมว่า ทีมแชมป์แห่งทวีปอเมริกาใต้มีดีพอที่จะเอาชนะราชันชุดขาว เพื่อซิวแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลกในปีนี้,สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 16 ธ.ค.ว่า ลวน วิเอรา ดาวยิงตัวความหวังของ เกรมิโอ การันตีว่า ยอดทีมแห่งแดนกาแฟมีดีพอที่จะเอาชนะเรอัล มาดริด ในเกมนัดชิงดำศึกชิงแชมป์สโมสรโลก,ทีมแชมป์จากทวีปอเมริกาใต้ สามารถหักด่าน ปาชูกา มาได้ในเกมนัดตัดเชือก 1-0 ก่อนเข้าสู่รอบชิงดำไปพบกับพลพรรคราชันชุดขาว ช่วงกลางดึกคืนวันเสาร์นี้,โดยก่อนเกม ลวน ได้ออกมาเผยถึงความมั่นใจของเกรมิโอว่า ทุกทีมในทัวร์นาเมนต์นี้ต่างมีคุณภาพด้วยกันทั้งสิ้น เรามีเกมที่ยากลำบากกับปาชูกาในรอบรองฯ ขณะที่ เรอัล มาดริด เองก็เช่นกัน แต่สิ่งที่เราต้องทำก็คือ แสดงให้ทุกคนเห็นว่าทำไมเราถึงกลายเป็นของอเมริกาใต้ และก็มีดีพอที่จะเอาชนะ มาดริด ได้เหมือนกัน,สำหรับนัดชิงชนะเลิศศึกชิงแชมป์สโมสรโลก 2017 ที่จะมีขึ้นที่สังเวียน ชีค ซาเยด สปอร์ตส์ ซิตี้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในคืนวันเสาร์นี้. | ดาวยิงตัวเก่งของเกรมิโอ ออกมาประกาศความมั่นใจก่อนเกมว่า ทีมแชมป์แห่งทวีปอเมริกาใต้มีดีพอที่จะเอาชนะราชันชุดขาว เพื่อซิวแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลกให้ได้ | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | ลวน วิเอรา,เกรมิโอ,เรอัล มาดริด,ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1154783 |
อุณหภูมิเริ่มลดแล้ว อุตุฯ เผยอีสานวันนี้เย็นลง กทม.สูงสุด 33 องศา | เมื่อวันที่ 18 ม.ค.62 กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศลักษณะทั่วไป ระบุ พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงด้วย,สำหรับภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่อง และบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะ 1-2 วันนี้ ,ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อไปอีก ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง,พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.,ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส ,อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส,สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส,สำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.,ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.,ภาคตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส,ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ,กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. | กรมอุตุนิยมวิทยา เผย ภาคอีสานจะมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส ขณะที่ กทม.และปริมณฑลอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย | ข่าว,ทั่วไทย | กรมอุตุนิยมวิทยา,พยากรณ์อากาศ,อากาศวันนี้,สภาพอากาศ,อุณหภูมิลด,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/1472556 |
ประสานทนายบิดาชาวญี่ปุ่นรับเด็กอุ้มบุญ 13 คน | นายวิทัศน์ เตชะบุญ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ระบุหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง มีคำตัดสินให้นายชิเกตะ มิตสึโตกิ พ่ออุ้มบุญชาวญี่ปุ่น ซึ่งยื่นคำร้องขอเป็นผู้ปกครองเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญ 13 คน เมื่อปี 2558 เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย และมอบสิทธิ์ในการดูแลเด็กทั้งหมดในวันนี้ (20 ก.พ.2561) ว่า ได้พูดคุยกับทนายความของนายชิเกตะแล้ว โดยจะต้องส่งพี่เลี้ยงเด็กมาฝึกอบรมและทำความคุ้นเคยกับเด็กทั้งหมดก่อนเนื่องจากเด็กมีอายุ 3-4 ปี อาจต้องใช้ระยะเวลาปรับตัวไม่เกิน 7 วัน และจะส่งนักสังคมสงเคราะห์ไปให้คำแนะนำเพิ่มเติม เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะเด็กวัยนี้จะปรับตัวเข้ากับพี่้้เลี้ยงและผู้ปกครองได้ง่าย โดยทางญาติและผู้แทนของนายชิเกตะได้เดินทางมาเยี่ยมเด็กที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ดอย่างสม่ำเสมอเบื้องต้นจะให้เด็กไปพักอยู่ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่นายชิเกตะจัดเตรียมไว้ รวมถึงมีพี่เลี้ยงดูแลให้เด็กค่อยๆ ปรับตัว และหลังจากเด็กทั้งหมดกลับประเทศญี่ปุ่นแล้ว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะประสานติดตามอีกสักระยะหนึ่ง หรือประสานสถานทูตช่วยติดตามคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2557 หลังตำรวจเข้าตรวจค้นคอนโดย่านลาดพร้าวและพบพี่เลี้ยงเด็ก 9 คน ในจำนวนนี้เป็นหญิงท้อง 1 คน พร้อมเด็กทารก 9 คน โดยนายชิเกตะ เป็นพ่อของเด็กที่เกิดจากการจ้างแม่อุ้มบุญชาวไทย โดยว่าจ้างให้คลินิกรับฉีดตัวอ่อนและจ้างหญิงไทยอุ้มบุญ เกิดปัญหาการตีความข้อกฎหมาย เนื่องจากขณะนั้นยังไม่มีกฎหมายอุ้มบุญในประเทศไทยกระทั่งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งให้กระทรวงสาธารณสุข จัดทำกฎหมายคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์และมีผลบังคับใช้ 30 กรกฎาคม 2558 | อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ระบุได้ประสานทนายบิดาชาวญี่ปุ่นให้จัดส่งพี่เลี้ยงมาฝึกอบรมและทำความคุ้นเคยกับเด็กอุ้มบุญ 13 คน หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมีคำตัดสินให้บิดาชาวญี่ปุ่น เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายในวันนี้ (20 ก.พ.) | สังคม | อุ้มบุญ,ชาวญี่ปุ่น,กรมกิจการเด็กและเยาวชน,ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง,ชิเกตะ มิตสึโตกิ,บิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/270413 |
จ่อขึ้นภาษีขยะครัวเรือน แก้ปัญหาขยะชุมชน | วันนี้ ( 30 มิ.ย.2559 ) ปัจจุบันประเทศไทยมีขยะมากถึงปีละ 27 ล้านตัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ยคนไทยผลิตขยะประมาณ 1 กิโลกรัมต่อวัน ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งต้องเผชิญกับปัญหาขยะล้นเมือง ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถจัดการกับขยะภาคครัวเรือนและขยะติดเชื้อที่ให้มีประสิทธิภาพได้กองขยะหลายล้านตันของเทศบาลนครนครศรีธรรมราชสร้างความกังวลต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคให้กับประชาชนบริเวณใกล้เคียง หลังพบวัวป่วยเป็นแผลติดเชื้อขนาดใหญ่บริเวณข้อเท้า และบางตัวตายลงโดยไม่ทราบสาเหตุ จากการคุ้ยอาหารจากกองขยะแห่งนี้ จุดเดียวกันนี้ ยังพบขยะติดเชื้อของสถานพยาบาลในจังหวัด ที่นำมาทิ้งไม่ถูกวิธี และไม่สามารถกำจัดด้วยวิธีฝังกลบได้ขยะกว่า 2 แสนตัน บนอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการแก้ปัญหา เนื่องจากกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งห้ามไม่ให้ท้องถิ่นดำเนินการกำจัดขยะ จนกว่าจะมีการออกกฏหมายมารองรับ แม้ก่อนหน้านี้ เทศบาลได้ทำประชาพิจารณ์และมีมติให้กำจัดขยะนอกเกาะสมุยปัญหาขยะเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดความยั่งยืน จนกำหนดเป็นโรดแม็ปนำไปสู่แผนแม่บทบริหารจัดการขยะมูลฝอยของประเทศ ปี 2559-2564 ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเน้นลดปริมาณขยะจากต้นทาง หนึ่งในมาตรการนี้ คือ การจัดเก็บค่าขยะต่อเดือนราคาเดียวทุกครัวเรือน ซึ่งมีเพดานสูงสุดประมาณ 200 บาท วิจารย์ สิมาฉายาอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า แม้จะกำหนดอัตราสูงสุดของการจัดเก็บขยะ แต่อัตราการจัดเก็บที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) เก็บนั้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10-40 บาท จึงทำให้แต่ละแห่งจัดเก็บค่าขยะได้น้อย ดังนั้นหากจัดเก็บค่าขยะอัตราใหม่ จะช่วยลดภาระขาดทุนในการบริหารจัดการขยะของ อปท.ได้อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกระทรวงมหาดไทยเตรียมเสนอร่างกฎหมายรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา | ประเทศไทยมีขยะมากถึงปีละ 27 ล้านตัน ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งเผชิญกับปัญหาขยะล้นเมือง ไม่สามารถจัดการกับขยะภาคครัวเรือนและขยะติดเชื้อให้มีประสิทธิภาพได้ เตรียมเสนอแนวคิดจัดเก็บภาษีขยะต่อเดือนราคาเดียวทุกครัวเรือน เพื่อแก้ปัญหาขยะชุมชน | สิ่งแวดล้อม | ภาษีขยะ,ปัญหาขยะชุมชน,ขยะ,กรมควบคุมมลพิษ,ขยะเกาะสมุย,นครศรีธรรมราช,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/253585 |
ร้องกองปราบ หลอก ปชช.ระดมทุน ประมูลรถหรูส่งขายเต็นท์ เสียหายนับ10ล้าน | เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายระพี สุขยืด อายุ 34 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย จำนวน 15 คน รวมตัวกันเดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ธงชัย โตเจริญ รองสว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. พร้อมนำเอกสารหลักฐานการโฆษณา การพูดคุยผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์และการโอนเงิน หลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกให้ระดมเงินทุนจัดซื้อรถยนต์หรูจากการขายทอดตลาดโดยการประมูลแล้วนำไปวางขายเต็นท์รถ อ้างผลกำไรงาม มีผู้หลงเชื่อจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท,นายระพี กล่าวว่า ตนกับกลุ่มผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์หลังถูก นายนัฐพล อุดมแก้ม อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 158 ม.1 ต.หนองยาง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา น.ส.ทัศนีย์ บุญรอด อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 444/21 ม.1 ต.ปรุใหญ่ อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายธนพล อาจวงษ์ อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 121 ม.2 ต.บางไทรป่า อ.บางเลน จ.นครปฐม กับพวกอีก 1 ราย (ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง) ได้สร้างกลุ่มในเครือข่ายสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก (ชื่อแชร์เงินทองรายวัน รายอาทิตย์ รายเดือน) เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา,นายระพี กล่าวต่อว่า จากนั้นได้โฆษณาชวนระดมเงินทุนในการจัดซื้อรถยนต์จากการประมูล ขายทอดตลาด หากประมูลได้จะนำไปวางขายตามหน้าเต็นท์รถ ก่อนหักผลกำไรมาแบ่งกัน รวมถึงยังอ้างว่าเป็นเจ้าของเต็นท์รถยนต์ โอ้ มาย ก้อด คาร์เซ็นเตอร์ (OMG CAR CENTER) มีการโชว์รูปรถหรู โชว์รูปการประมูลรถต่างๆ ทำให้ดูมีความน่าเชื่อถือ และตนเห็นว่าได้ผลตอบแทนดี ให้ร้อยละสิบบาทต่อวัน จึงร่วมลงทุนไปทั้งหมด 500,000 บาท ภายใน 10 วันแรก ได้รับเงินปันผลตามที่บอกไว้จริง แต่ต่อมาเริ่มถูกปฏิเสธบ่ายเบี่ยง และไม่ได้รับเงิน จึงได้เดินทางไปยังคอนโดมิเนียมที่พักของกลุ่มคนร้ายย่านนนทบุรี พบว่ากลุ่มดังกล่าวกำลังเก็บข้าวของขึ้นรถอย่างเร่งรีบเตรียมหลบหนี ทำให้ทราบว่าถูกหลอกอีกทั้งมีผู้เสียหายอีกหลายคน จึงนัดรวมตัวกันเข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม,นางพัชรินทร์ ยิ้มแย้ม อายุ 30 ปี เจ้าของเต็นท์รถยนต์มือสอง จ.สระบุรี ผู้เสียหาย กล่าวว่า คนร้ายกลุ่มนี้ยังมีพฤติการณ์หลอกเช่ารถจากเต็นท์รถเพื่อไปจำนำต่อ ซึ่งตนตกเป็นเหยื่อเมื่อเดือนกันยายน ปี 2560 คนร้ายกลุ่มนี้เช่ารถไป 3 คัน ลักษณะแต่งกายดี อ้างว่ามีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ฐานะมั่นคง จึงหลงเชื่อให้เช่าก่อนถูกเชิดไปทั้ง 3 คัน แต่สามารถติดตามรถกลับคืนมาได้ 1 คัน,ร.ต.อ.ธงชัย กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไว้เพื่อดำเนินการ แต่เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก จึงได้แนะนำกลุ่มผู้เสียหายที่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อความสะดวกในการเดินทางให้ไปแจ้งความกับท้องที่ของแต่ละบุคคล ก่อนประสานส่งสำนวนมาที่กองปราบปรามรับดำเนินการต่อไป. | กลุ่มผู้เสียหายร้องกองปราบ โดนหลอกระดมเงินทุนจัดซื้อรถยนต์หรูจากการขายทอดตลาด โดยการประมูลแล้วนำไปวางขายเต็นท์รถ อ้างให้กำไรงาม ก่อนถูกเชิดเงินไปเสียหายนับ 10 ล้านบาท | ข่าว,อาชญากรรม | หลอกระดมทุน,ประมูลรถหรู,กองปราบปราม,ระดมเงินทุน,ฉ้อโกง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1212875 |
เปิดเพลงดังไป พี่สุดเซ็งทุ่มลำโพงลงพื้น น้องชายโมโหเรียกเพื่อนรุมทืบ | เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.62 พ.ต.อ.จิราวัฒน์ ศักดิศรีวัฒนา ผกก.สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี รับแจ้งเกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่บริเวณลำคอ ร้องขอความช่วยเหลืออยู่บริเวณริมถนนสายศรีราชา - หนองค้อ จึงรีบรุดไปตรวจสอบ,ทั้งนี้ พบนางสาวเอ (นามสมมติ) แฟนสาวพยายามพยุงตัวนายไก่ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากการถูกอาวุธมีดทำครัวแทงเข้าที่บริเวณลำคอข้างขวา จนเป็นบาดแผลลึก เจ้าหน้าที่จึงได้รีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลแหลมฉบัง,โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พานางสาวเอ ไปชี้จุดเกิดเหตุ ภายในบ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่บริเวณห้องนอนชั้น 2 พบข้าวของกระจัดกระจายอยู่เต็มห้อง พบมีดทำครัวเปื้อนเลือดตกอยู่บนกองเลือด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน,นางสาวเอ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกับสามีได้เดินทางจากโคราช เพื่อมาเยี่ยมแม่สามีที่ป่วย จากการถูกผึ้งต่อย มาพักอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้ไม่นาน สามีตน ซึ่งเป็นพี่ชายก็อาศัยนอนอยู่ด้านล่าง ส่วนด้านบนจะมีน้องชาย คือ นายหมู (นามสมมติ) อายุ 18 ปี และเพื่อนอาศัยอยู่ จนกระทั่งเมื่อกลางดึก ของวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา น้องชายและพวกเปิดเพลงเสียงดัง ส่งผลให้นายเอ เกิดอาการไม่พอใจเดินขึ้นไปจับลำโพงทุ่มลงมาด้านล่าง,ทั้งนี้ 2 พี่น้องและเพื่อน เกิดการทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง นายหมู และเพื่อนต่างไม่พอใจ จึงได้พากันรุมกระทืบนายไก่ไม่ยั้ง หลังจากนั้นนายหมู ได้เดินไปคว้ามีดทำครัว เข้ามาแทงพี่ชาย เข้าที่บริเวณลำคอด้านขวาเป็นแผลลึก อาการสาหัส,จากนั้น นายไก่ ก็ได้วิ่งหนีตายลงมาจากชั้นบน จึงได้พยายามพาตนวิ่งออกไปจากบ้านไกลกว่า 2 กิโลเมตร และหาหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าหญ้าริมถนน เนื่องจากถูกนายหมูและเพื่อนไล่ติดตามเพื่อทำร้ายร่างกายต่อ จนกระทั่งรุ่งเช้า จึงได้ออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หนองขามได้กระจายกำลังออกติดตามหาตัวคนร้ายซึ่งเป็นน้องชายของผู้บาดเจ็บแล้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ติดตามตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายไล่ติดตามผู้บาดเจ็บ เพื่อนำมาประกอบรูปคดี และจะติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป | ศึกสายเลือดเพราะเปิดเพลงเสียงดัง พี่ชายวัย 26 ปีทุ่มลำโพงลงพื้นด้วยความโมโห หลังน้องชายพร้อมเพื่อนเปิดเพลงเสียงดัง ก่อนชวนเพื่อนมาแลกหมัด น้องวิ่งเอามีดไล่แทงคอพี่ชายเจ็บ | ข่าว,สังคม | ศึกสายเลือด,พี่ชายถูกน้องชายแทง,เปิดเพลงเสียงดัง,ศรีราชา,เรียกเพื่อนรุมทืบ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1599068 |
มึนตึ้บ อนาคตใหม่ ประกาศกร้าว ฉีกรัฐธรรมนูญ 60 ทำไม? คสช.ยังเฉย | เมื่อวันที่ 29 พ.ค.61 นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมืองใหม่หลายพรรคได้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมาว่า พรรคคนไทยขอตั้งคำถามไปถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าเหตุใดจึงปล่อยให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองขึ้น เพราะในขณะที่พรรคการเมืองที่จัดตั้งใหม่สามารถหาสมาชิกและจัดประชุมพรรค ตลอดจนเดินสายหาเสียงได้อย่างอิสระ แต่สำหรับพรรคการเมืองเดิมในระบบกลับถูกแช่แข็งอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งเป็นผลมาจากคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ที่เหมือนให้พรรคใหม่และพรรคเก่าลักลั่นกันเพียงเดือนเดียว ก็หนักพออยู่แล้ว แต่ในทางปฏิบัติกลับไม่มีความชัดเจนใดๆ จาก คสช. เกี่ยวกับการปลดล็อคทางการเมือง ที่จนถึงขณะนี้ก็ไร้สัญญาณเกี่ยวกับการนัดพูดคุยกับตัวแทนพรรคการเมืองที่เคยกำหนดว่าจะมีขึ้นในเดือน มิ.ย.แต่อย่างใด จนทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกันแล้วไม่ต่ำกว่า 2 เดือน ซึ่งพรรคคนไทยในฐานะพรรคการเมืองที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญฉบับเก่า ก่อนการรัฐประหารของ คสช.เพียง 5 เดือน จึงถือว่าพรรคคนไทยเป็นผู้เสียประโยชน์โดยตรง ที่ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้เลย กระทั่งยื่นบัญชีรายรับ-รายจ่ายต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ยังไม่สามารถทำได้,ที่ผ่านมาพรรคคนไทยก็เคารพกรอบกติกามาตลอด ทั้งที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง แม้จะเสียประโยชน์มากที่สุดก็ตาม ก็ไม่เคยคิดจะทำอะไรที่ล้ำเส้น หรือเพื่อสร้างความวุ่นวายแต่อย่างใด เมื่อเวลายิ่งผ่านไป คสช.กลับไร้ความชัดเจน ก็ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนเป็นพลเรือนชั้น 2 หรือเป็นพรรคการเมืองลูกเมียน้อย เพราะถูกถ่างความได้เปรียบเสียเปรียบไปเรื่อยๆ ดังนั้น คสช.จึงจำเป็นต้องรีบพิจารณายกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 โดยเร็วที่สุด นายอุเทน ระบุ,นายอุเทน ยังกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีความเคลือบแคลงในดุลยพินิจของ คสช.เกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็นด้านการเมืองของพรรคการเมือง หรือกลุ่มต่างๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงการเลือกปฏิบัติของ คสช. เพราะในขณะที่บางพรรคเพียงแค่วิพากษ์วิจารณ์ผลงานของ คสช.ก็ถูกดำเนินคดี ในทางกลับกัน กรณีพรรคอนาคตใหม่ที่ใช้เวทีประชุมพรรคและเลือกผู้บริหารพรรค ประกาศจะล้มล้างรัฐธรรมนูญ 2560 กลับถูกมองว่าเป็นสิทธิเสรีภาพที่สามารถทำได้ ทั้งที่หากตีความในรายละเอียดก็หมิ่นเหม่ที่จะขัดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ฐานแสดงความคิดเห็นในเชิงยุยงปลุกปั่นให้เกิดความรู้สึกเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังอาจจะเป็นการตอกลิ่มความขัดแย้งให้เกิดขึ้น ซ้ำเติมสถานการณ์ในช่วงหลังจากครบรอบ 4 ปี คสช.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาพรรคคนไทยก็เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องได้รับการแก้ไข เพราะรัฐธรรมนูญที่ดีต้องเขียนโดยสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ซึ่งส่วนตัวแล้วยอมรับว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้แก้ไขได้ยาก เพราะมีการเขียนผูกปมเอาไว้ทำให้ยากต่อการแก้ไข แต่เมื่อถึงเวลาเหมาะสมก็ต้องหาทางแก้ไขในเนื้อหาที่มีปัญหา โดยใช้เสียงข้างมากในสภาฯ ต่อไป,ด้าน นายปวริศ ผุดผ่อง โฆษกพรรคคนไทย กล่าวเสริมว่า ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 บัญญัติให้เอาผิดกับบุคคลที่กระทำให้ปรากฏต่อบุคคลด้วยวาจาเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนหรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย ย่อมเป็นความผิด ซึ่งในกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ต่างพูดในทำนองว่า พรรคอนาคตใหม่จะฉีกรัฐธรรมนูญ เป็นการพูดเพื่อหวังผลให้ประชาชนสนับสนุนแนวคิดการยกเลิกรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน แบ่งฝักแบ่งฝ่ายและนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ซึ่ง คสช.ในฐานะผู้รักษาความสงบเรียบร้อยต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ด้วย. | พรรคคนไทย บี้ คสช.โละคำสั่ง 53/2560 ทำพรรคใหม่-เก่า ได้เปรียบเสียเปรียบ ข้องใจบิ๊กตู่ คุยปลดล็อกมิ.ย. แต่ยังไร้ความชัดเจน แปลกใจ พรรคอนาคตใหม่ ประกาศฉีก รธน. แต่ คสช.ไม่ว่าอะไร | ข่าว,การเมือง | พรรคคนไทย,พรรคอนาคตใหม่,อนาคตใหม่,รัฐธรรมนูญ60,คสช.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1294129 |
พริกอั่ว | วันนี้ น่าจะเป็นไส้อั่วแปลงกายก็ว่าได้ ทั้งเครื่องปรุงก็ไม่ได้ต่างไปจากไส้อั่วนัก แทนที่จะใช้ไส้หมูก็เปลี่ยนเป็นใช้พริกหนุ่มหรือพริกหยวกแทน เนื่องจาก คุณเบนซ์–วันวิสาข์ มังกรไพบูลย์ สาวเหนือจากลำปาง ค่อนข้างจะรักษาหุ่นให้ฟิตแอนด์เฟิร์ม เธอจึงไม่พยายามรับประทานอาหารที่อุดมไขมัน จึงต้องหาวิธีดัดแปลง ซึ่งเป็นที่มาของพริกอั่ว,ในวันนี้ คุณเบนซ์-วันวิสาข์ เดิมเป็นผู้เชี่ยวชาญสอนภาษาจีนให้กับมหาวิทยาลัยและสถาบันต่างๆ มานานถึง 15 ปี เพราะทั้งชีวิตของเธอนั้น ที่บ้านส่งเสริมให้เรียนภาษาจีนมาโดยตลอด ตั้งแต่อนุบาล จนกระทั่งจบปริญญาโทคณะวรรณคดี ของมหาวิทยาลัยหัวเฉียว เมืองเซียะเหมิน ประเทศจีน เพิ่งจะมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อถูกชักชวนจากเพื่อนฝูงและคนรู้ใจ ให้ร่วมหุ้นทำธุรกิจฟิตเนส มิโกลรี่ ฟิตเนส เธอจึงยิ่งต้องใส่ใจกับเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษ พร้อมกับบอกเล่าถึงเมนู ไส้อั่วว่า เป็นเมนูโปรด กินมาแต่เด็ก แต่ต้องห้ามใจอย่างแรง เพราะทำลายสุขภาพมาก แต่ชาวเหนือ นอกจากจะมีไส้อั่ว ก็ยังมีการนำเอาผักมาผ่ากลาง และยัดไส้หมูสับปรุงรส โดยผักที่นิยมก็มีหน่อไม้ พริกหยวก คนเหนือจะนิยมทำกินกัน จึงเป็นทางออกของคนรักสุขภาพอย่างเธอ เมื่อนึกอยากกินไส้อั่ว ก็นำมาดัดแปลง โดยเปลี่ยนจากเนื้อหมูมาเป็นเนื้อไก่ ซึ่งเป็นโปรตีนที่เหมาะกับคนที่ออกกำลังกาย เสริมสร้างกล้ามเนื้อมากกว่า และจากปกติที่ต้องใช้วิธีการนึ่งแล้วไปชุบแป้งทอดกรอบ เราก็เพียงนำไปนึ่งเพียงอย่างเดียวก็ได้ เรียกว่า อร่อยน้อยหน่อย ได้สุขภาพมากหน่อย,เครื่องปรุง : เนื้อไก่บด 3 ขีด/รากผักชี / แครอทหั่นลูกเต๋าเล็กๆ/พริกไทย/ซีอิ๊วขาว/น้ำมันหอย/น้ำปลา/พริกหยวกเม็ดโต เนื้อแข็ง สดใหม่/ แป้งทอดกรอบ/น้ำเย็นวิธีทำ 1) เตรียมพริก หยวก โดยการนำมาผ่ากลางเพียงด้านเดียว อย่าให้ตัวพริกขาดออกจากกัน แคะไส้กลางและเม็ดออกให้หมด 2) นำเนื้อไก่บดมาผสมกับรากผักชีโขลก แครอทหั่นลูกเต๋าเล็กๆ ปรุงรสด้วยพริกไทย ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำปลา ตามใจชอบว่าต้องการความเข้มข้นมากน้อยเพียงใด แล้วยัดใส่ในพริกหยวกให้เต็มสวยงาม 3) เตรียมซึ้งหรือลังถึง พอน้ำเดือด ลดไฟระดับกลางเรียงพริกที่เตรียมไว้ในลังถึง นึ่งพอสุกประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ นำขึ้นพักไว้ให้เย็น 4) ผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็นตามสัดส่วนข้างฉลาก 5) ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน พอร้อนได้ที่ นำพริกยัดไส้ชุบแป้งลงทอด ความหนาบางของแป้งแล้วแต่ความชอบ ทอดจนออกสีเหลืองทองสวย ตักขึ้นซับน้ำมัน พร้อมเสิร์ฟได้เลย,เคล็ดลับ : ที่นึ่งพริกไม่สุกเต็มร้อย เพราะเมื่อนำมาทอดอีกครั้ง เนื้อไก่จะได้ไม่แห้งกระด้างเกินไป. | ในบรรดาอาหารเหนือ ไส้อั่ว ถือเป็นเมนูที่ขึ้นหน้าขึ้นตาเมนูหนึ่ง และคนทุกภาคก็จะคุ้นเคยทั้งหน้าตาและรสชาติด้วย แต่เมนู พริกอั่ว | ไลฟ์สไตล์,อาหาร | ตั้งสำรับคาวหวาน,พริกอั่ว,เบนซ์ วันวิสาข์,วันวิสาข์ มังกรไพบูลย์,อาหารเหนือ,ข่าว,ข่าวสตรี,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/502786 |
เลขาฯ กกต.ย้ำ เลือกตั้งถ้ากา ไทยรักษาชาติ เป็นบัตรเสียทันที | เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2562 พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงถึงกรณีขั้นตอนหลังศาลมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ ว่า สำคัญที่สุดคือการประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้รับทราบถึงกรณี ที่หากมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้กับพรรคไทยรักษาชาติ จะถือว่าเป็นบัตรเสียทันที เพราะว่าขาดคุณสมบัติ โดยได้มีการประสานกับหน่วยเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรทั้ง 97 ประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหลังจากนี้คณะกรรมการการเลือกตั้งจะนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยื่นต่อศาลฎีกา ให้ถอนชื่อผู้สมัคร ส.ส.ทั้งแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขตเลือกตั้งออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัครต่อไป,ส่วนกรณีที่แกนนำและสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ สามารถย้ายไปสังกัดพรรคอื่นๆ และช่วยลงพื้นที่หาเสียงได้หรือไม่นั้น นายจรุงวิทย์ กล่าวว่า สามารถทำได้ เนื่องจากทั้งแกนนำและสมาชิกพรรคไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ,กรณีที่มีการตั้งถามถึง ขั้นตอนการขอให้มีการยุบพรรคพลังประชารัฐที่ใช้เวลานานกว่าการยื่นยุบพรรรคไทยรักษาชาติ นายจรุงวิทย์ ตอบว่า เนื่องจากทั้งสองกรณีนั้นต่างกัน กรณีการยุบพรรคไทยรักษาชาตินั้นสามารถทำได้เลย ไม่ต้องมีการรวบรวมข้อมูล เพราะมีมติอยู่แล้วว่าผิดจริง แต่กรณีการขอให้มีการยุบพรรคพลังประชารัฐนั้น ต้องมีระยะเวลาในการรวบรวมข้อมูลก่อนเพื่อส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณา จึงช้ากว่า แต่คาดว่าจะส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาได้ภายสัปดาห์หน้า. | เลขาฯ กกต.ยันลงคะแนนเลือกตั้งกาให้ ไทยรักษาชาติ เป็นบัตรเสีย ขณะที่ แกนนำและสมาชิกที่ไม่โดนตัดสิทธิ์ ไปช่วยพรรคอื่นหาเสียงได้ แจงยุบเร็วเพราะผิดชัด แต่พลังประชารัฐต้องใช้เวลาดูข้อมูลจึงนาน | เลือกตั้ง | พรคไทยรักษาชาติ,กกต.,บัตรเสีย,พรรคพลังประชารัฐ,ยุบไทยรักษาชาติ,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1514226 |
ตั้ง คกก.สอบข้อเท็จจริงกรณี ผกก.ทุ่งยางแดง มีพฤติกรรมข่มขู่ผู้ใต้บังคับบัญชา | วันนี้ (14 ก.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจภูธรทุ่งยางแดงกว่า 20 นาย รวมกันตัวทำหนังสือร้องเรียนไปถึงผู้บังคับบัญชาและแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อร้องเรียนถึงพฤติกรรมของ พ.ต.อ.พฤกษ์ เลี้ยงสุข ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทุ่งยางแดง โดยอ้างว่ามีพฤติกรรมข่มขู่ผู่ใต้บังคับบัญชา ดูหมิ่นถากถางและใช้อำนาจปกครองโดยมิชอบ พร้อมหลักฐานเป็นคลิปเสียงที่ถูกแอบบันทึกไว้ โดยอ้างว่าถูกผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทุ่งยางแดงว่ากล่าวด้วยถ้อยคำที่รุนแรงพ.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว มีการร้องเรียนจริง และจากการสืบหาข้อมูลเบื้องต้นจากหลายทางก็พอมีมูล ซึ่งอาจมีความเครียดจากการทำงาน ก็ต้องไปตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป แต่ขณะนี้ได้ให้ผู้บังคับบัญชาของ พ.ต.อ.พฤกษ์ พิจารณาเรื่องการย้ายออกนอกพื้นที่ก่อน เพื่อลดแรงกดดัน แรงต่อต้านต่างๆ จากทั้งข้าราชการและคนในพื้นที่ด้วยด้าน พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้ง 2 ฝ่าย คือทั้งผู้กำกับและผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้รองผู้บังคับการจังหวัดปัตตานี เป็นประธาน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2-3 วัน โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยกันในระดับหนึ่งตอนนี้ก็เริ่มเข้าใจกันแล้ว ฉะนั้นจึงไม่น่าจะมีปัญหาด้าน ส.ต.ท.สมประสงค์ สนธนะ ผู้บังคับหมู่งานปราบปราม สถานีตำรวจภูธรทุ่งยางแดง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร้องเรียน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ทางตำรวจได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังจเรตำรวจ และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้มาแล้ว เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน แต่ไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งส่งหนังสือถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี และแม่ทัพภาคที่ 4 เบื้องต้น พอใจกับการแก้ปัญหาระดับหนึ่ง และจะรอฟังผลการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นธรรมกับทุกฝ่ายขณะที่ผู้กำกับการทุ่งยางแดงที่ถูกร้องเรียน ตอนนี้ไม่อยู่ที่โรงพักแล้ว สอบถามเจ้าหน้าที่แจ้งว่าอยู่ในระหว่างลาพัก โดยมี พ.ต.ท.นริศ กะแจ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม รักษาราชการแทน ซึ่งเมื่อสอบถาม พ.ต.ท.นริศ ระบุว่า ปัญหาดังกล่าวไม่สามารถให้ข่าวได้ และไม่ทราบข้อเท็จจริง เกรงว่าเมื่อให้ไปแล้วจะเกิดผลกระทบในวงกว้าง จึงอยากให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้ให้ข้อมูล | ตำรวจทุ่งยางแดงร่วมลงชื่อทำหนังสือถึงแม่ทัพภาคที่ 4 อ้างถึงพฤติกรรมของผู้กำกับการทุ่งยางแดงใช้อำนาจโดยมิชอบมีพฤติกรรมข่มขู่ และดูหมิ่นผู้ใต้บังคับบัญชา ล่าสุด ทางต้นสังกัดได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย | ภูมิภาค | ข่มขู่,ดูหมิ่น,ตำรวจทุ่งยางแดง,ตำรวจ,ทุ่งยางแดง,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/266069 |
ชนบนทางด่วน ตาย1 เจ็บ13 เก๋งเซลส์แมนเสยท้ายรถขนคนงาน อ้างหลับใน | เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 16 ธ.ค. พ.ต.ท.พลัฏฐ์ ทับทิม รองผกก.(สอบสวน) สน.ทางด่วน 1 รับแจ้งเหตุมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก บริเวณบนทางด่วนพิเศษฉลองรัช แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยทาง พิเศษฉลองรัช มูลนิธิร่วมกตัญญู และเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง,ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน อยู่บริเวณทางขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าจตุโชติ กม.22+900 ฝั่งขาออก บริเวณเลนซ้ายสุดพบรถเก๋งมาสด้า รุ่นมาสด้า 2 สีแดง หมายเลขทะเบียน กฉ988 ปทุมธานี สภาพรถหันหน้ากลับบริเวณหน้ารถพังยับเยิน ตรวจสอบภายในรถพบนายวาที ช้างพลายเพชร อายุ 32 ปี เป็นผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอก ห่างออกไป 100 เมตร พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2ฒข 8384 กรุงเทพมหานคร สภาพโดนชนท้ายรถด้านขวา ข้างตัวรถได้รับความเสียหายจากการกระแทกกับแท่งแบริเออร์ข้างทาง,ตรวจสอบภายในรถพบนายนิมิตร ทะหมุน อายุ 51 ปี เป็นผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และยังมีคนงานเป็นชาย 1 คน นั่งอยู่ข้างคนขับหมดสติอยู่ภายในรถเจ้าหน้าที่ต้องนำร่างออกมาทำการช่วยเหลือเป็นการด่วนก่อนที่ชายดังกล่าวจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้บริเวณที่เกิดเหตุโดยรอบมีผู้บาดเจ็บนอนร้องขอความช่วยเหลือเกลื่อนถนน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องรีบนำผู้บาดเจ็บเข้าข้างทาง เพื่อทำการปฐมพยาบาลก่อนนำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่ง รพ.พญาไทนวมินทร์ 8 คน เป็นชาย 5 คน หญิง 3 คน รพ.นพรัตน์จำนวน 4 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน และรพ.สายไหมเป็นชาย 1 คน รวมมีผู้บาดเจ็บจำนวน 13 คน,จากการสอบถามนายวาที กล่าวว่าตนมีอาชีพเป็นเซลส์แมนให้กับบริษัทบี แอนด์ เจ เอ็นเตอร์ไรส์ จำกัด ก่อนเกิดเหตุตนกำลังเดินทางกลับที่พักย่านปทุมธานีหลังตนเพิ่งจะกลับจากการออกบูธแถวสีลม เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุตนเกิดอาการวูบไปก่อนจะมารู้สึกตัวอีกทีรถของตนก็ชนท้ายกระบะเข้าอย่างแรงจนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว,นายนิมิตร กล่าวว่าตนเพิ่งรับคนงานจำนวน 10 กว่าคน มาจากย่านประตูน้ำเพื่อเดินทางไปทำงานที่ย่านสายไหม เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังขับรถอยู่ที่เลนซ้ายสุด จู่ๆ ก็มีรถยนต์พุ่งชนด้านท้ายรถอย่างแรงจนทำให้รถเสียหลักชนเข้ากับข้างทาง,ด้าน พ.ต.ท.พลัฏฐ์ กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับผู้ใด เพราะต้องรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บก่อน ซึ่งหลังจากนี้จะให้ทาง รพ. ที่ผู้ขับขี่รถยนต์ทั้ง 2 คัน รักษาตัวอยู่ตรวจเลือดเพื่อหาผลปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดว่ามีหรือไม่ และต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนจะนำมาสรุปสำนวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ส่วนชายที่เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใครเนื่องจากตามตัวไม่พบเอกสารระบุตัวตน ซึ่งต้องนำศพส่งนิติเวช รพ.ตร. เพื่อชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตและพิสูจน์บุคคลจากลายนิ้วมือว่าผู้ตายเป็นใคร ก่อนจะติดต่อญาติให้มารับศพต่อไป. | เซลส์แมนอยู่ปทุมธานี ขับรถเก๋งกลับจากไปออกบูธย่านสีลม ใช้ทางด่วนฉลองรัช ถึงสายไหมตอนตีห้า ชนท้ายรถกระบะบรรทุกคนงาน ตาย 1 บาดเจ็บ 13 อ้างหลับใน ตำรวจส่งตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ด้วย | ข่าว,ทั่วไทย | ชนรถคนงาน,ชนตาย1เจ็บ13,หลับใน,รถเก๋งชนรถบรรทุกคนงาน,ชนบนทางด่วน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1154423 |
ตร.สุพรรณบุรี ยังคงไล่ล่าเฝ้าระวังโจรชิงเงิน 5 ล้านอย่างต่อเนื่อง | เมื่อเวลา 22.00 น.ของวันที่ 22 พ.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การติดตามไล่ล่าคนร้ายที่ควงปืนบุกเดี่ยว จี้ชิงเงินสดกว่า 5 ล้านบาทจากรถขนเงินของธนาคารกรุงไทยขณะจะนำเงินใส่ตู้เอทีเอ็ม ในปั้ม ปตท.ที่อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี (,คนร้ายบุกเดี่ยว ยิงขู่ 3 นัด จี้รถขนเงิน ธ. ชื่อดังฉกเงิน 5 ล้านกว่า,),ทั้งนี้ทีมชุดไล่ล่าได้กระจายกำลังกันเข้าตรวจค้นจุดเป้าหมายต่างๆที่คาดว่าคนร้ายจะเอาเงินไปซุกซ่อนไว้ จนถึงช่วงค่ำกำลังทั้งหมดจึงกลับเข้ามาที่สภ.สองพี่น้องและได้เข้าประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.7 ทันที โดยใช้เวลาประชุมนานเกือบ 3 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ,พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นบ้านของกลุ่มผู้ต้องสงสัยบางกลุ่ม ยังไม่พบอะไรที่จะบ่งชี้ว่าจะเชื่อมโยงไปถึงการกระทำความผิดแต่คาดว่าจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ภายใน 7 วัน ช่วงนี้ตนได้สั่งการให้ตำรวจทุกชุดที่ระดมกำลังมาอยู่ในพื้นที่ออกปูพรมติดตามหาข่าว หาพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง โดยในวันพรุ่งนี้จะให้ทีมชุดสืบสวนของ บก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนีให้สรุปให้ได้,ขณะเดียวกันพ.ต.อ.ชัยรินทร์ แก้วสุวรรณ ผกก.สส. กอง 2 ภ.7 ได้สั่งการให้กำลังทั้งหมดที่เข้ามาในพื้นที่ ออกตระเวณปูพรมในพื้นต.ดอนมะนาวและใกล้เคียงตลอดทั้งคืน รวมทั้งตรวจสอบแหล่งจำหน่ายหมวกกันน็อคและเสื้อที่คนร้ายสวมใส่ในวันก่อเหตุเพื่อให้ทราบว่าใครมาซื้อไปด้วย. | ชุดไล่ล่าตร.สุพรรณบุรี ยังคงกระจายกำลังตรวจค้นจุดเป้าหมาย 4 จุด เพื่อค้นหาคนร้ายบุกปล้นรถขนเงินธนาคารกรุงไทยอย่างต่อเนื่อง | null | จี้ชิงเงิน,ชิงเงินรถขนเงิน,ปล้นรถขนเงิน,อ.สองพี่น้อง,สุพรรณบุรี | https://www.thairath.co.th/content/790892 |
จับตา ขบวนการ ภราดรภาพมุสลิม หลังฮุสนีย์ หมดอำนาจ | ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตากรุณาเสมอ ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสฑูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีแด่ผู้อ่านทุกท่านและแล้วรองประธานาธิบดีอุมัร สุไลมาน รองประธานาธิบดีอียิปต์ ได้ออกมาแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลอียิปต์ว่า ประธานาธิบดีฮุนีย์ มูบาร๊อก ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว ตามข้อเรียกร้องของประชาชนนับล้านคนที่ชุมนุมขับไล่เขามาอย่างต่อเนื่องเป็น เวลา 18 วันติดต่อกันโดยฮุสนีย์ มูบาร๊อกได้ส่งมอบอำนาจในการปกครองประเทศให้แก่คณะผู้บัญชาการกอง ทัพ ซึ่งมี นายมุฮัมหมัด ฮุสไซน์ ฏอนฎอตวีย์ รมว.กลาโหม เป็นหัวหน้าคณะหลังจากทราบข่าวการสละตำแหน่งของผู้นำเผด็จการที่ปกครองประเทศมา อย่างยาวนานถึง 3 ทศวรรษ ประชาชนชาวอียิปต์ต่างออกมาร่วมกันเฉลิมฉลองตามท้องถนนเป็นที่น่าสังเกตว่า การที่กองทัพกลายเป็นผู้สืบทอดอำนาจต่อจากนายฮุสนีย์ มูบาร๊อกนั้น มีลักษณะคล้ายกับการทำรัฐประหาร ทั้งที่ตามรัฐธรรมนูญแล้วฮุสนีย์ มูบาร๊อก ควรจะคืนอำนาจให้แก่ประธานรัฐสภาไม่ใช่ผู้นำกองทัพแต่อย่างใดทั้งนี้ คณะผู้บัญชาการกองทัพได้ประกาศว่าจะทำการยกเลิกกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่ง ถูกประกาศบังคับใช้มาเป็นเวลา 30 ปี ทันทีที่สถานการณ์จลาจลในประเทศสงบลง นอกจากนี้ พวกเขาจะทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นมีความเป็นอิสระและ ยุติธรรม รวมทั้ง จะทำให้กิจการธุรกิจต่างๆ ภายในประเทศกลับมาดำเนินการได้เป็นปกติอีกครั้งหนึ่งคำถามที่ชาวโลกยากทราบว่าต่อไปใครจะครองอำนาจหลังจากการเลือกตั้ง หากย้อนกลับไปดูตลอด ๑๘ วันของการประท้วงพบว่าผู้นำการประท้วงครั้งนี้ คือกลุ่มยุวชน เอพริล 6 มูพเมนท์ หรือแปลว่า ขบวนการ 6 เมษา โดยมีพันธมิตรพรรคฝ่ายค้านต่างๆร่วมกันสนับสนุนโดยอ้างว่าประธานาธิบดีฮุสนี ย์ มูบาร๊อกใช้อำนาจเผด็จการปกครองประเทศกว่า สามสิบปีเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง มิหนำ่ซำคนส่วนใหญ่ของประเทศยังว่างงานและยากจนตลอดทั้งใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ จำกัดศัตรูทางการเมืองทุกวิธีทางอย่างโหดเหี้ยมจริงอยู่ผู้นำการประท้วงครั้งนี้ คือกลุ่มยุวชน เอพริล 6 มูพเมนท์ ร่วมกับพันธมิตรพรรคฝ่ายค้านต่างๆแต่โดยเชิงลึกพบว่า แกนนำเยาวชนหลายคนเป็นสมาชิก ของขบวนการ ญามาอ๊ะอิควานมุสลิมูน หรือแปลเป็นไทยได้ว่า ภราดรภาพมุสลิมจากเหตุผลดังกล่าวทำให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป (ผู้นำด้านเสรีประชาธิปไตย) ไม่กล้ากดดันฮุสนีย์ ให้ลงจากตำแหน่งเหมือนผู้นำเผด็จการอื่นๆในโลกตะวันออกอย่างทันทีหรืออกหน้า ออกตาในช่วงแรก(๕ กุมภาพันธ์ ๕๔) สหรัฐอเมริกาพันธมิตรด้านผลประโยชน์อย่างแนบแน่นกับฮุสนีย์ ได้กล่าวเพียง เป็นนัยยะเท่านั้นว่าประธานาธิบดีฮุสนีย์ ควรลงจากอำนาจ ประธานาธิบดีโอบามาแห่งสหรัฐฯ ประกาศจุดยืนอย่างอ้อมๆ ว่า ผมเชื่อว่าประธานาธิบดีมูบาร๊อกเป็นห่วงประเทศของเขา เขาหยิ่งทะนง แต่เขาก็เป็นคนรักชาติ…สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำเขาคือ เขาจำเป็นต้องปรึกษาผู้ที่อยู่รอบตัวเขาในรัฐบาลเขาจำเป็นต้องฟังสิ่งที่ได้รับการร้องขอโดยประชาชนชาวอียิปต์ และตัดสินใจเกี่ยวกับเส้นทางข้างหน้าอย่างเป็นระเบียบ แต่มีความหมาย และจริงจัง การที่โอบามาไม่ได้กล่าวออกมาอย่างชัดเจน แต่การเลือกใช้คำพูดของเขาแสดงให้เห็นชัดว่าข้อเรียกร้องให้มีการเปลี่ยน ผ่านทางการเมืองในทันทีของสหรัฐนั้นไม่ได้หมายรวมถึงพันธมิตรคนสนิท ซึ่งเป็นศูนย์กลางนโยบายตะวันออกกลางของสหรัฐฯ และมีประโยชน์ร่วมกับอิสรอเอลอเมริกาและตะวันตกทราบดีว่า หากประธานาธิบดีฮุสนีย์ ยอมลงจากเก้าอี้อย่างทันทีในขณะนั้นและจัดให้มีการเลือกตั้งจะทำให้กลุ่มการ เมืองภายใต้ร่มธงของขบวนการ ภราดรภาพมุสลิม ขึ้นครองอำนาจแทนทันทีซึ่งสิ่งนี้โลกตะวันตกเกรงกลัวมากว่าและปัจจุบันหลังจากฮุสนีย์ประกาศลาออกและคณะผู้บัญชาการกองทัพได้ประกาศ ว่าจะทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นมีความเป็นอิสระและ ยุติธรรม อเมริกาและตะวันตกยังกังวลอยู่ลึกๆทำไม? เพราะแนวคิดทางการเมืองของขบวนการภราดรภาพมุสลิม คือ การสร้างรัฐภายใต้ อิสลามานุวัตร ผ่านกระบวนการประชาธิปไตยกล่าวคือเป้าหมายคือการสร้างรัฐอิสลามอุดมคติในยุค โลกาภิวัตร โดยใช้กระแสกระบวนการประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมไม่ใช่ประชาธิปไตยแบบเสรีนิยม ตะวันตกการขึ้นมีอำนาจของขบวนการอิสลามในแต่ละประเทศซึ่งใช้กระบวนการ ประชาธิปไตยนั้นกำลังเป็นกระแสที่ถูกตอบรับในโลกมุสลิม ไม่ว่าที่อัลจีเรียเมื่อสิบกว่าปี (หลังจากนั้นถูกปฏิวัติโดยทหาร) ตุรกี ปาเลสไตน์ จอร์เดน เยเมนและที่อื่นๆแต่กำลังเป็นภัยคุกคามโลกตะวันตกภายใต้การนำของสหรัฐ อเมริกาตะวันตกทราบดีว่า การกำเนิดขบวนการ ภราดรภาพมุสลิม นั้นเพื่อสถาปนาระบบคอลิฟะห์อิสลามมียะห์ (รัฐอิสลาม) ภายหลังจากอาณาจักรออตโตมานได้สิ้นสลายผู้นำคนแรกของ ภราดรภาพมุสลิม คือ อิหม่ามชะฮีด หะสัน อัลบันนา (ค.ศ. 1906 –1949) ท่านเป็นผู้วางหลักสูตรการสร้างบุคลิกภาพสมาชิกของขบวนการอย่างชาญฉลาดโดย สร้างให้สมาชิกเข้าใจหลักศาสนาอิสลามคือแนวทางการดำเนินชีวิตที่ไม่สามารถ แยกระหว่างศาสนจักรกับอาณาจักร โดยทุกคนต้องผ่านหลักสูตรการสร้างบุคลิกภาพมุสลิมผ่านสาส์น 20 ฉบับ กล่าวถึงหลายๆประเด็นต่างกรรมต่างวาระ ตั้งแต่คำสอนทางศาสนา จุดยืนทางการเมือง เศรษฐกิจ การจัดการองค์กร และอื่นๆหะสัน อัลบันนา เขาเริ่มก่อตั้งขบวนการ ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1932 ปี ค.ศ. 1948 ขบวนการภราดรภาพมุสลิม เข้าร่วมรบกับปาเลสไตน์เพื่อต่อต้านยิวและในเดือน พฤศจิกายน ปีเดียวกัน มะฮ์มูด อัลนักรอซี (Mahmud al-Naqrasi ) ประธานสภาอิยิปต์ ในสมัยนั้น ได้ออกคำสั่งปราบปรามขบวนการ ภราดรภาพมุสลิม ทรัพย์สินของขบวนการถูกยึด แกนนำของขบวนการหลายคนถูกจับกุมในเดือน ธันวาคม ค.ศ. 1948 อันนักรอซีถูกลอบสังหาร และขบวนการ ภราดรภาพมุสลิม ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ลงมือสังหารเขา บรรดาพรรคพวกของอัลนักรอซี ซึ่งติดตามศพเขา ต่างโห่ร้องว่า ศรีษะของอัลนักรอซี ต้องแลกด้วยศรีษะของหะสัน อัลบันนา และในวันที่ 12 เดือน กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1949 หะสัน อัลบันนาก็ถูกลอบสังหารในปีค.ศ. 1950 ขบวนการ ได้รับการปลดปล่อย เพราะคำสั่งของอัลอักรอซี ไม่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศ ขบวนการได้เลือก หะสัน อัล-หุดัยบี ( Hasan al-Hudaibi ) เป็นผู้นำ แต่เขาถูกจับหลายครั้งและในปี ค.ศ. 1954 เขาถูกตัดสินประหารชีวิต ต่อมาได้รับลดโทษ ให้จำคุกตลอดชีวิตในปี ค.ศ. 1951 วิกฤตการณ์ ความขัดแย้งระหว่าง อังกฤษ และอียิปต์ เพิ่มทวีขึ้นขบวนการ ได้เข้าโจมตีอังกฤษ ณ คลองสุเอซปี ค.ศ. 1952 เกิดการปฎิวัติโค้นล้มกษัตย์อียิปต์ซึ่งมีอังกฤษคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง การปฎิวัตินี้นำโดย มุฮัมมัด นายีบ ( Muhammad Najib ) โดยที่ได้รับการสนับสนุนจากขบวนการหลังจากการ ปฎิเสธการเข้าร่วมรัฐบาล เพราะแนวคิดของขบวนการภราดรภาพมุสลิม ไม่สอดคล้องกับรัฐบาล ด้วยเหตุนี้ ญามาล อับดุลนาซีร ( Jamal Abdunnasir ) ซึ่งเป็นประธานาธิบดีในสมัยนั้น ถือว่าขบวนการ ภราดรภาพมุสลิม ปฎิเสธการปฎิวัต ทั้งสองฝ่ายเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1954 สมาชิกขบวนการภราดรภาพมุสลิม ถูกจับ สมาชิกหลายพันคน หนีอย่างกระเจิดกระเจิง พวกเขาถูกกล่าวหาว่าพยายามลอบสังหาร ญามาล อับดุลนาซีรปี ค.ศ. 1965- 1966 ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาล กับขบวนการภราดรภาพมุสลิม ได้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งอย่างรุงแรง และไปสู่การจับกุมสมาชิกของขบวนการ สมาชิกหลายคนถูกทรมาน และสมาชิกหลายคนถูกประหารชีวิต รวมทั้งซัยยิด กุฎบ์ซึ่งเขาเป็นนักคิดนักวิชาการของขบวนการภราดรภาพมุสลิม คนที่สอง หลังจากหะสันน อัลบันนา ซึ่งถูกลอบสังหาร สมัยอันวาร์ ซาดัต (Muhammad Anwar al-Sadat) เป็น ประธานาธิบดี แห่งอียิปต์ เขาพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะจัดการขบวนการ ภราดรภาพมุสลิม แต่ท้ายสุดเขาก็ถูกลอบยิงเสียชีวิตเสียก่อนสมัยนายฮุสนีย์ก็เช่นกันพยายามทุกวิถีทางในการจัดการ ขบวนการ ภราดรภาพมุสลิม เช่นกันแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะกระแสประชาธิปไตยของโลกทำให้สมาชิกหลายคนของขบวน การ ภราดรภาพมุสลิม รับสมัครลงเลือกตั้งและชนะการเลือกเขาสู่สภาจนสามารถมีบทบาทในสภา ในขณะเดียวกันประชาชนรากหญ้าและผู้มีการศึกษาจากทุกสาขาอาชีพโดยเฉพาะผู้รู้ และเยาวชนได้เขามาเป็นสมาชิกเพิ่มจำนวนมากขึ้นทั้งทางลับและเปิดเผยการต่อต้านเผด็จการฮุสนีย์อย่างสันติได้รับการสนับสนุนอย่างออกหน้าออกตา จากผู้นำขบวนการอิสลามภราดรภาพมุสลิม คนปัจจุบันคือ มุฮัมมัด บาดีอฺ พร้อมทั้งจากปราชญ์อิสลามที่เป็นนักคิดไม่ว่าในมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัรหรือนอก มหาวิทยาลัยโดยท่านเหล่านนั้นให้ทัศนะว่า เป็นที่อนุญาตในการต่อต้านผู้นำที่อธรรมชัยค์ ดร. ยูซุฟ อัลก๊อรฎอวีย์ ได้ให้ทัศนะว่าฮุสนีย์ควรลงจากตำแหน่งอย่างไม่มีเงื่อนไขและรีบออกนอกประเทศแน่นอนที่สุด ประเทศอียิปต์หลังจากการหมดอำนาจของฮุสนีย์ มูบาร๊อกและพวกพ้องหากมีการเลือกตั้งจะเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มเสรี ประชาธิปไตยแบบตะวันตกกับอิสลามมาธิปไตยจากขบวนการเคลื่อนไหวของ ภราดรภาพมุสลิมความเป็นจริงกลุ่มต่างๆที่ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในอียิปต์มีทั้งแนว คิดสุดโต่งและสายสันติวิธีแต่ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงเฉพาะแนวสันติวิธีโดย เฉพาะพรรคฝ่ายค้านนั้นมีสองขั้วคือเสรีประชาธิปไตย กับอิสลามาธิปไตยโดยใช้กระบวนการประชาธิปไตยเป็นทางผ่านขั้วเสรีประชาธิปไตยนั้นนั้นมีแนวคิดชัดเจนว่าจะสร้างรัฐอียิปต์เป็นรัฐ ฆราวาส (secular state) ซึ่งจะมีตะวันตกคอยสนับสนุน ในขณะที่ขั้วอิสลามาธิปไตยจะอยู่ภายใต้ร่มธงของขบวนการภราดรภาพมุสลิม ซึ่งได้รับการสนับจากนักคิดและ นักการศาสนาอิสลามและตลอดระยะเวลาเกือบศตวรรษสามารถสร้างบุคลากรและสมาชิก จากหลากหลายอาชีพทั้งในกรุงไคโรและต่างจังหวัดที่สำคัญสามารถกุมคะแนนเสียง จากชนชั้นกลางของอียิปต์ด้วยเช่นกันชัยค์ ดร. ยูซุฟ อัลก๊อรฎอวีย์ ได้ให้ทัศนะต่อการเคลื่อนไหวของขบวนการอิสลามในนามประชาธิปไตยไว้ว่า หาก เฝ้าดูประวัติศาสตร์ของขบวนการเคลื่อนไหวอิสลามในยุคสมัย ใหม่ให้ใกล้เข้าไปยิ่งขึ้นจะเผยให้เห็นอย่างชัดเจนว่า อุดมการณ์อิสลาม ขบวนการเคลื่อนไหวอิสลามและการตื่นตัวเข้าสู่อิสลามไม่เคยได้เฟื่องฟูหรือ ผลิดอกออกผล เว้นแต่ในบรรยากาศของประชาธิปไตยและเสรีภาพ และจะอับเฉาและเป็นหมันก็เฉพาะในยุคของการกดขี่และการปกครองแบบทรราช ที่เหยียบย่ำเจตนารมณ์ของประชาชนที่จงรักภักดีต่ออิสลามเท่านั้น ระบอบการปกครองแบบกดขี่ดังกล่าวได้นำเอาลัทธิเซ็คคิวล่าร์ (แยกศาสนจักรกับจากอาณาจักร) ลัทธิสังคมนิยมหรือลัทธิคอมมิวนิสต์มายัดเหยียดให้กับประชาชนของตนเองโดยการ ใช้กำลังและการบังคับขู่เข็ญ ใช้การทรมานอย่างลับๆ และการสำเร็จโทษต่อหน้าสาธารณะ และใช้เครื่องไม้เครื่องมืออันโหดเหี้ยมเหล่านั้นที่ฉีกทึ้งเนื้อหนัง ละเลงเลือด บดขยี้กระดูกและทำลายจิตวิญญาณ เรา พบเห็นการปฏิบัติเหล่านี้เกิดขึ้นในประเทศมุสลิมหลายๆ ประเทศ ซึ่งรวมทั้งตุรกี อียิปต์ ซีเรีย อิรัค เยเมนใต้ โซมาเลียและรัฐต่างๆ บริเวณอัฟริกาเหนือในช่วงเวลาต่างๆ กัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยุคสมัยหรือระบอบการปกครองของเผด็จการแต่ละประเทศ ใน ทางตรงข้าม เราพบเห็นขบวนการเคลื่อนไหวอิสลามผลิดอกออกผลและเฟื่องฟูในยุคสมัยของ เสรีภาพและประชาธิปไตยภายหลังการล่มสลายของระบอบการปกครองจักรวรรดินิยม ซึ่งปกครองประชาชนด้วยความหวาดกลัวและการกดขี่ เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจะไม่จินตนาการไปหรอกว่าขบวนการเคลื่อนไหวอิสลามสามารถสนับสนุนสิ่ง หนึ่งสิ่งใดอื่นไปจากเสรีภาพทางการเมืองและประชาธิปไตยได้ เหล่า ทรราชยินยอมให้เสียง(ของระบอบ)อะไรก็ได้ดังขึ้น นอกจากเสียงของอิสลาม และยังยินยอมให้ทุกแนวความคิดได้แสดงตัวเองออกมาในรูปของพรรคการเมือง หรือองค์กรในบางประเภท ยกเว้นกระแสอิสลาม ซึ่งเป็นแนวความคิดเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่มีปากมีเสียงเพื่อประชาชาติ นี้ อย่างแท้จริง และแสดงหลักความเชื่อ คุณค่า แก่นแท้และการมีอยู่จริงของตัวเองออกมา อย่าง ไรก็ตาม เหล่านักเคลื่อนไหวอิสลามบางคนยังคงสงวนท่าทีของตัวเองเกี่ยวกับประชาธิปไตย แถมยังมีความระมัดระวังเกี่ยวกับคำว่า ประชาธิปไตย ในตัวของมันเอง สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการจะเน้น ณ ที่นี้ก็คือว่าอิสลามไม่ใช่ประชาธิปไตย และประชาธิปไตยก็ไม่ใช่อิสลามเหมือนกัน ข้าพเจ้ามิได้ปรารถนา ให้อิสลามไปสังกัดอยู่ในหลักการหรือระบอบใดๆ อิสลามมีความเป็นเอกในแง่วิธีการ จุดหมายปลายทางและแบบวิธีต่างๆ ที่เป็นของตนเอง และข้าพเจ้าเองก็มิได้ปรารถนาจะให้ประชาธิปไตยของตะวันตกได้รับการถ่ายทอดมา ยังพวกเราในสภาพที่มีอุดมการณ์และคุณค่าอันเลวร้ายพ่วงท้ายมาด้วย โดยที่เราเองไม่ได้นำเอาคุณค่าและอุดมการณ์ต่างๆ ของเราเข้าไปผนวกเข้ากับประชาธิปไตย ทั้งนี้เพื่อผสมผสานประชาธิปไตยเข้ากับระบอบที่กว้างขวางลึกซึ้งของเราจน เป็นเนื้อเดียวกัน ดังนั้นในอนาคตหากอำนาจทางการเมืองตกไปอยู่ภายใต้ร่มธงของขบวนการ ภราดรภาพอิสลาม จะทำให้อียิปต์ ตกอยู่ภายใต้ รัฐอิสลามสายซุนนีย์ที่มีความแข็งแกร่งด้านการทหารอีกประเทศหนึ่งเคียงคู่ อิหร่านซึ่งเป็นรัฐสายชีอ๊ะห์ และจะยังความกังวลกับตะวันตกและอิสรอเอลอย่างแน่นอน | ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตากรุณาเสมอ ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสฑูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีแด่ผู้อ่านทุกท่าน และแล้วรองประธานาธิบดีอุมัร สุไลมาน รองประธานาธิบดีอียิปต์ | การเมือง,ต่างประเทศ | อับดุลสุโก ดินอะ,อียิปต์ | https://prachatai.com/journal/2011/02/33089 |
คลัง ลดเป้าโครงการ ชิมช้อปใช้ มึนร้านค้าไม่สน กระตุ้นเศรษฐกิจ | เพื่อร่วมโครงการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ เพื่อรับชำระเงินจากมาตรการให้เงินเที่ยวฟรี 1,000 บาทต่อคนว่า ตั้งแต่เปิดรับสมัครในวันที่ 28 ส.ค.2562 จนถึงปัจจุบันรวม 6 วัน พบว่า มีผู้มาสมัครร่วมโครงการเฉลี่ยวันละ 500-600 ราย รวมแล้วเพียง 2,300 ร้านค้า ซึ่งน้อยกว่าเป้าเดิมที่ตั้งไว้ว่าจะมีผู้สมัครถึง 50,000 ร้านค้า ทำให้กรมบัญชีกลางได้ปรับเป้าลงมา โดยคาดว่าจะมีร้านค้าร่วมสมัครโครงการนี้ประมาณ 10,000 ร้านค้า ซึ่งเมื่อรวมกับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐและร้านค้าทั่วไปที่ติดตั้งแอปพลิเคชันถุงเงิน รวมแล้วจะมีร้านค้าในโครงการ 90,000 ร้านค้า ซึ่งเพียงพอสำหรับให้บริการผู้ที่เข้าร่วมโครงการชิมช้อปใช้ จำนวน 10 ล้านคน ที่จะลงทะเบียนใช้สิทธิในวันที่ 23 ก.ย.-15 พ.ย.62 แน่นอน,เพื่อให้ร้านค้าเข้าร่วมโครงการมากขึ้น ปัจจุบันกรมได้ปรับลดเงื่อนไขที่ยุ่งยากเพื่อให้ร้านค้าร่วมโครงการได้ง่ายขึ้น เช่น จากเดิมที่การลงทะเบียนจะต้องมีใบรับรองการจดทะเบียนการค้าของกระทรวงพาณิชย์ ปัจจุบันไม่มีก็ได้ และถ้าหากยังมีร้านค้าร่วมโครงการน้อยกว่าเป้าในวันที่ 20 ก.ย.นี้ อาจพิจารณาขยายเวลารับสมัครออกไป ส่วนร้านค้าที่กังวลว่าหากเข้าร่วมโครงการนี้จะถูกตรวจสอบภาษีย้อนหลังนั้นไม่ต้องกังวล เพราะโครงการนี้มีเวลาแค่ 2 เดือน. | นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงกรณีที่กรมบัญชีกลางเปิดรับสมัครผู้ประกอบการ ร้านค้า เข้าร่วมมาตรการ ชิมช้อปใช้ ซึ่งเป็นการรับสมัครร้านค้า ร้านอาหาร และที่พัก | ข่าว,เศรษฐกิจ | ชิมช้อปใช้,กระตุ้นเศรษฐกิจ,รับสมัคร,ผู้ประกอบการ,เข้าร่วมโครงการ,กรมบัญชีกลาง,แจกเงินเที่ยวฟรี | https://www.thairath.co.th/news/business/1652600 |
ราคาทองคำในประเทศพุ่งไม่หยุดทำสถิติใหม่ | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมค้าทองคำได้แจ้งราคาทอง (ทองคำ 96.5%) ในประเทศเช้านี้ปรับตัวสูงขึ้นจากเมื่อวานนี้บาทละ 250 บาท ตามสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก โดยระหว่างช่วงเช้าได้มีการปรับราคาไป 3 ครั้ง โดยราคาล่าสุด ราคาทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาททองคำละ 28950.00 ขายออกบาททองคำละ 29000.00 ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาททองคำละ 28425.00 ขายออกบาททองคำละ 29550.00บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า สัปดาห์นี้ราคาทองคำยังคงปรับขึ้นร้อนแรงทำจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์เนื่องจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯเดือน ก.ค.ลดลง ความไม่แน่นอนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งราคาทองคำปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง ทำให้มีแนวโน้มปรับขึ้นได้ต่อ แต่จะมีความผันผวนสูง โดยมีแนวต้าน 1980 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ และ 2000 ดอลลาร์ฯ/ออนซ์ ขณะที่มีแนวรับที่ 1930 ดอลลาร์ฯ/ออนซ์ และ 1900 ดอลลาร์ฯ/ออนซ์สำหรับสัปดาห์นี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะทราบผลในคืนนี้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯไตรมาส 2 ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีน สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน มิ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เป็นต้น. | สมาคมค้าทองคำได้แจ้งราคาทอง (ทองคำ 96.5%) ในประเทศเช้านี้ปรับตัวสูงขึ้นจากเมื่อวานนี้บาทละ 250 บาท ตามสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก โดยระหว่างช่วงเช้าได้มีการปรับราคาไป 3 ครั้ง | ข่าว,เศรษฐกิจ | ราคาทองคำ,ราคาทอง,โควิด-19,ทองรูปพรรณ,ราคาทองคำโลก,ทองคำ,ข่าววันนี้ | https://www.thairath.co.th/news/business/stocks-gold/1899845 |
หมอนอิง ฟอร์มแรง ว่ายได้แล้ว 3 ทองเอเชี่ยนเอจ | และเป็นเหรียญทองที่ 8 ของนักกีฬาไทยในรายการนี้แล้ว,การแข่งขันว่ายน้ำเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย เอเชียน เอจ กรุ๊ป แชมเปียนชิพส์ 2015 ที่สระว่ายน้ำ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ บางนา เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันวันที่สาม ไฮไลต์อยู่ที่การชิงชัยในกลุ่มเอ รุ่นอายุ 18 ปีขึ้นไป ประเภทกบ 200 เมตรหญิง หมอนอิง เพียงขวัญ ปะวะโพตะโก ออกตัวดีนำม้วนเดียวจบ แตะขอบสระเป็นคนแรกที่เวลา 2.32.34 นาที คว้าเหรียญทองที่ 3 ให้กับตัวเองในรายการนี้ และเป็นเหรียญทองที่ 8 ของนักกีฬาไทย โดยชะวัลนุช สลับลึก ได้เหรียญทองแดง ทำเวลา 2.39.75 นาที ส่วนเหรียญเงิน เป็นของดาเรีย ทาลาโนวา จากคีร์กีซสถาน ทำเวลา 2.35.52 นาที ขณะที่กรรเชียง 50 เมตรชาย กศิภัทร ช่อกระถิน ได้เพียงเหรียญเงิน หลังทำเวลา 26.11 วินาที ส่วนเหรียญทองเป็นของสุดาร์ตาวา ซิมาน จากอินโดนีเซีย ทำเวลา 25.43 วินาที เหรียญทองแดง ตรัน ดุย ข่อย จากเวียดนาม 26.17 วินาที,ส่วนฟรีสไตล์ 100 เมตรหญิง เงือกอุ้ม ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง เงือกสาวจอมเก๋า ทีมชาติไทย ทำได้ดีที่สุดเพียงเหรียญทองแดง ทำเวลา 57.53 วินาที ขณะที่ เงือกกอล์ฟ กรกาญจนา สะเพียรชัย ได้อันดับที่ 4 ทำเวลา 57.96 วินาที ส่วนเหรียญทองเป็นของเหวียน ธิ อัน เวียน จากเวียดนาม ทำเวลา 59.96 วินาที เหรียญเงินหยาง เสี่ยวหลิน จากจีน 57.06 วินาที ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ไทยสามารถเก็บเพิ่มได้อีก 1 เหรียญทองด้วย จากทีมผลัดผสมชายหญิง 4 คูณ 100 เมตร | หมอนอิง เพียงขวัญ ปะวะโพตะโก เงือกสาวไทย ฟอร์มยังร้อนแรง คว้าเหรียญทองกบ 200 เมตรหญิง ในศึกว่ายน้ำเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย เอเชียน เอจ กรุ๊ป แชมเปียนชิพส์ 2015 มาครองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นเหรียญทองที่ 3 ของเจ้าตัว | null | หมอนอิง,เพียงขวัญ ปะวะโพตะโก,เอเชียน เอจ กรุ๊ป แชมเปียนชิพส์ 2015,ว่ายน้ำ,ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง,เงือกอุ้ม,กรกาญจนา สะเพียรชัย,เงือกกอล์ฟ,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/529806 |
ผบช.น.พร้อมให้ตรวจสอบกรณีความสัมพันธ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ | กรณีพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถูกวิพากวิจารณ์ และกำลังจะถูกตรวจสอบความสัมพันธ์กับอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จากกรณีมีรูป พ.ต.ท.ทักษิณติดยศให้ และมีข้อความว่า มีวันนี้เพราะพี่ให้ ในห้องทำงาน ซึ่งในรูปมีวันเวลาที่ชัดเจน และมีรายงานว่าขณะนี้กลุ่มกรีน ได้ยื่นคำร้องต่อ ผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบจริยธรรมของพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดใจถึงกรณีภาพดังกล่าวว่า เป็นการติดยศสมัยเมื่อตัวเองได้รับตำแหน่งผู้บังคับการกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ พร้อมกันนี้ยังยืนยันด้วยว่าคดี ด.ต.วิเชียร จะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายนอกจากนี้ มีตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล เกือบ 1000 นาย รวมตัวนำดอกไม้และป้ายที่มีคำกล่าวของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ว่าผมยอมให้ตำรวจตายฟรีไม่ได้ ไม่กลัวทั้งนั้นไม่ว่าหน้าไหน มาให้กำลังใจ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล จากกรณีการเสียชีวิตของ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ | ตำรวจเกือบ 1000 นาย เดินทางมาให้กำลังใจ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในการทำคดีรถเฟอร์รารีชนตำรวจ ท่องหล่อ นอกจากนี้ยังมีเรื่อง การจะถูกตรวจสอบความสัมพันธ์กับอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนล่าสุดมีรายงานว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ พร้อมลาออกหากตรวจสอบพบทำผิดจริง | การเมือง | คำรณวิทย์,ชนตำรวจ,ทักษิณ,ลาออก,เฟอร์รารี่,ให้กำลังใจ | https://news.thaipbs.or.th/content/109789 |
บิ๊กซอคเกอรูส์ให้โอกาส อันเก คุมทีมต่อรอบเพลย์ออฟ | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เดวิด กัลลอป ซีอีโอลูกหนังสมาคมออสเตรเลียยืนยันว่า ยังคงให้โอกาส อันเก พอสเตโคกลู คุมทัพต่อไปในระยะยาว แม้ล่าสุดจะไม่สามารถพาทีมคว้าตั๋วลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติก็ตาม,สำหรับกุนซือวัย 52 ปี ถูกโจมตีอย่างหนัก หลังนำทีมออสเตรเลียจบในอันดับที่ 3 ของกลุ่ม เอ ของรอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้ายเอเชีย และต้องหล่นลงไปเพลย์ออฟกับทีมชาติซีเรียในเดือนตุลาคมนี้,โดยถึงแม้จะถูกอดีตดาวเตะชื่อดังของแดนจิงโจ้อย่าง มาร์ค บอสนิช และ ร็อบบี สเตเลอร์ โจมตีอย่างหนัก รวมถึงเรียกร้องให้ปลด พอสเตโคกลู ออกจากตำแหน่ง แต่ล่าสุด ซีอีโอของสมาคมฟุตบอลออสเตรเลียอย่าง เดวิด กัลลอป ก็ออกมาสยบข่าวลือดังกล่าวในทันที พร้อมกับยืนยันว่าจะยังคงให้โอกาส พอสเตโคกลู และทีมงาน คุมทีมต่อไปในการทำศึกเพลย์ออฟอย่างแน่นอน,สำหรับ ออสเตรเลีย จะต้องพบกับ ซีเรีย ในรอบเพลย์ออฟเกมแรกวันที่ 5 ตุลาคม ที่สนามเป็นกลางในมาเลเซีย ก่อนจะกลับมาเป็นเจ้าบ้านเกมนัดสอง วันที่ 10 ตุลาคม ซึ่งผู้ชนะจะไปเพลย์ออฟอีกรอบกับทีมอันดับ 4 ของโซนคอนคาเคฟต่อไป. | ผู้บริหารระดับสูงของ ส.บอลแดนจิงโจ้ ยืนยันไม่ปลด อันเก พอสเตโคกลู ออกจากตำแหน่ง แม้จะพาทีมชวดตั๋วลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่รัสเซียแบบอัตโนมัติ โดยพร้อมให้แก้ตัวอีกครั้งในรอบเพลย์ออฟ | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | เดวิด กัลลอป,อันเก พอสเตโคกลู,ทีมชาติออสเตรเลีย,ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก,โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/1061819 |
ทหารเร่งช่วยชาวบ้านที่ลำปางกว่า 100 หลังคาเรือน หนีน้ำป่าทะลักกลางดึก | ส่วน อ.ห้างฉัตร น้ำป่าทะลักอ่วมอีก,เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 29 ส.ค. 60 ได้เกิดน้ำท่วมทะลักลงห้วยแม่ต๋ำ เข้าท่วมบ้านทุ่งกล้วย หมู่ 12 และบ้านแม่ต๋ำ ม.6 ต.บ้านเอื้อม อ.เมือง จ.ลำปาง หลังจากได้เกิดฝนตกหนักไม่หยุดกระหน่ำลงมาร่วม 2 ชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลท่วมฉับพลัน ในขณะที่ชาวบ้านไม่รู้ตัว ทำให้มีชาวบ้านหนีตาย เนื่องจากระดับน้ำสูงกว่า 60 ซม. บางจุดสูงถึง 2 เมตร ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.32 ลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัย จำนวนกว่า 50 นาย ระดมกำลังสมทบกับจิตอาสา เข้าช่วยเหลือนำชาวบ้านออกจากบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัย ส่วนมากเป็นผู้สูงอายุและผู้ป่วย ต่อมา เมื่อเวลา 01.00 น. กลางดึกวันที่ 30 ส.ค. น้ำป่าได้ลดลง และกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ในเบื้องต้นไม่มีคนสูญหาย หรือเสียชีวิต,กระทั่งวลา 08.00 น. วันที่ 30 ส.ค. 2560 นายสมเกียรติ ตันตระกูล นายอำเภอเมืองลำปาง และเจ้าหน้าที่ทหาร รุดเข้าตรวจสอบความเสียร่วมกับ นายบุญเสริฐ โสภะ นายก อบต.บ้านเอื้อม พบว่ามีชาวบ้านได้รับความเสียหายจากน้ำป่าในครั้งนี้ 2 หมู่บ้าน กว่า 100 ครัวเรือน ส่วนมากเครื่องใช้ไฟฟ้าและกระสอบข้าวถูกน้ำพัดเสียหายจำนวนมาก และสุกรที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ในคอก น้ำป่าพัดสูญหายไป 30 ตัว ในเบื้องต้นแจ้งให้ผู้เดือดร้อนมาลงบัญชีเอาไว้เพื่อจะได้ช่วยเหลือต่อไป ส่วน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เวลาใกล้เคียงกันน้ำป่าจากอุทยานขุนตาลไหลทะลักเข้าท่วม บ้านใน ต.วอแก้ว ได้รับความเสียหายจำนวนหลายหลัง เช่นกัน,ด้าน นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผวจ.ลำปาง กล่าวหลังได้รับรายงาน ได้กำชับให้ทาง อบต.บ้านเอื้อม ช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน ขาดเหลืออย่างไรแจ้งมาทางจังหวัดได้ และให้ช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม และทั่วถึง. | ทหาร หน่วยกู้ภัย เร่งเข้าช่วยเหลือชาวบ้านหนีน้ำป่าทะลักกลางดึก หลังฝนตกไม่หยุด น้ำลำห้วยแม่ต๋ำทะลักเอ่อล้น 2 หมู่บ้าน กว่า100หลังคาเรือนเดือดร้อน หมูถูกน้ำป่าพัดสูญหายไปกว่า 30 ตัว ผวจ.ลำปาง กำชับช่วยเหลือด่วน | ข่าว,ทั่วไทย | ฝนตก,น้ำป่าหลากห้วยแม่ต๋ำ,ลำปาง,น้ำท่วม | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1054565 |
มติ เพื่อไทย ขับ จุมพฎ-ปรพล จากสมาชิกพรรค | แค่โทรไปให้กำลังใจวันนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ครั้งที่ 2 / 2553 มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเป็นประธานในการประชุม ว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคมติให้ขับ ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี และนายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร ออกจากพรรค ในข้อหาทำผิดระเบียบข้อบังคับพรรคการเมืองอย่างร้ายแรง ขาดการประชุมพรรคเป็นเวลานาน ไม่เข้าร่วมในกิจกรรมของพรรค ไปร่วมกิจกรรมกับพรรคการเมืองอื่น รวมไปถึงการไปร่วมทำกิจกรรมกับพรรคการเมืองอื่นอย่างเปิดเผย ซึ่งผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญรวมถึงกฎหมายพรรคการเมือง ที่ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องสังกัดพรรคการเมืองเดียวการกระทำของ ร.ต.ปรพล และนายจุมพฏ ชื่ออยู่พรรคเพื่อไทยตามหลักนิตินัย แต่พฤติกรรมและการปฏิบัติตัวกับอยู่อีกพรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดต่อเจตนารมณ์ในการทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชนอย่างชัดเจนนายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยโดยคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณของพรรคได้ทำหนังสือขอให้ ร.ต.ปรพลและนายจุมพฏ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ทั้งสองก็ไม่ได้ชี้แจงใดๆ กับเพิกเฉย คณะกรรมการบริหารพรรคจึงมีมติขับ ส.ส.ทั้งสองออกจากพรรค ในขั้นตอนต่อไปกรณีที่สมาชิกผู้ถูกกล่าวหาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและต้องถูกกำหนดโทษให้พ้นจากการเป็นสมาชิกให้เสนอสำนวนพร้อมความเห็นต่อที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค เพื่อให้ที่ประชุมร่วมพิจารณา หากมีมติให้พ้นจากการเป็นสมาชิกต้องมีคะแนนไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารและ ส.ส. โดยการลงมติให้ลงคะแนนลับ ตามข้อบังคับของพรรคข้อ 23นายพร้อมพงศ์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค ยังได้มีมติให้นำเรื่อง นายสมบูรณ์ วันชัยธนวงศ์ ส.ส. สัดส่วน และนายนิคม เชาว์กิตติโสภณ ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ที่กระทำขัดต่อข้อบังคับพรรคอย่างร้ายแรง เสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณของพรรคได้สอบข้อเท็จจริงและพิจารณาข้อกล่าวหา รวมถึงให้นายสมบูรณ์และนายนิคม มาชี้แจงต่อคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณของพรรคต่อไปอนึ่ง ข้อบังคับพรรคเพื่อไทยข้อที่ 23 ระบุไว้ว่าสมาชิกผู้ใดกระทำการอันเป็นการผิดวินัยและละเมิดจรรยาบรรณของพรรค ต้องได้รับโทษตามความร้ายแรงของการกระทำผิดวินัยและละเมิดจรรยาบรรณ ดังนี้ 1.ตักเตือน 2.ภาคทัณฑ์ 3.ตัดสิทธิที่พึงมีในฐานะสมาชิกตามข้อบังคับ 4.ให้พ้นจากสมาชิกภาพในกรณีสมาชิกที่ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการกระทำนั้นอาจมีผลให้สมาชิกผู้นั้นพ้นจากความเป็นสมาชิก ให้คณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณส่งผลการพิจารณาและข้อเสนอแนะให้ที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่สังกัดพรรคพิจารณา มติของที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่สังกัดพรรคให้สมาชิกผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากความเป็นสมาชิก ต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนคณะกรรมการบริหารและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคทั้งหมด การลงมติให้ลงคะแนนลับด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าถึงกรณีโฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุพรรคประชาธิปัตย์ไปทาบทามสมาชิกพรรคเพื่อไทยให้สนับสนุนรัฐบาลด้วยเงินสูงถึง 7-8 หลัก ว่า คนที่แถลงไม่ใช่คนที่น่าเชื่อถือ เพราะพูดจาในเรื่องไม่จริงมาตลอด ส่วนตัวไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เพราะเวลาพูดก็ไม่ได้เอ่ยชื่อใคร จะไปไล่ฟ้องก็ใช่ที่ แต่หากอยากจะพิสูจน์ความจริง ขอให้นายพร้อมพงศ์ ลองระบุชื่อให้ชัดเจนแล้วจะฟ้องร้องตามกฎหมายนายสุเทพเปิดเผยด้วยว่า นายนิคม เชาวกิตติโสภณ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเพียงคนเดียวที่ลงมติไว้วางใจให้รัฐบาล ได้มาพบที่ทำเนียบรัฐบาลและมีการพูดคุยกัน โดยนายนิคมอยากจะมาช่วยทำงานให้รัฐบาลเมื่อถามว่า การพูดคุยกับนายนิคมเงื่อนไขเรื่องเงินหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า นายนิคมฐานะดีกว่าตน ก็ขอให้ไปดูกันให้ดี และจริงๆ มีการพูดคุยกันเรื่องอื่นอีก แต่ขอไม่บอก ส่วนที่ว่านายนิคมจะมาร่วมงานการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์แน่นอนใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า อยากให้ฟังด้วยใจเย็น ขอให้ตั้งสติ ตนพยายามพูดจาระมัดระวังเพื่อไม่ให้นายนิคม ต้องมาลำบากด้วยเขาได้บอกกับผมว่า เขาอยู่ที่นั่นมานาน ได้เห็นอะไรต่างๆ ชัดเจน และเข้าใจทุกอย่างดี แล้วก็เห็นว่าอยู่ผิดข้างแล้ว มาอยู่ข้างรัฐบาลดีกว่า เท่านั้น แต่หากมีคนคิดแบบนายนิคม จะตามมาสัก 10 คนหรือ 20 คน ผมก็ยินดีต้อนรับอยู่แล้ว ส่วนคนที่จะออกจากพรรคประชาธิปัตย์นั้นขณะนี้ยังไม่มี นายสุเทพ กล่าวขณะที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกระแสข่าวจะดึงนายไพฑูรย์ แก้วทอง กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรมว.แรงงาน มาร่วมงานด้วยหลังจากถูกปลดจากตำแหน่งว่า พอได้ข่าวว่านายไพฑูรย์ถูกปรับออกจากตำแหน่ง ตนโทรไปให้กำลังใจ ในฐานะที่เป็นเพื่อนกันเป็นคนจังหวัดพิจิตรด้วยกัน ในภาวะที่นายไพฑูรย์กำลังเจอสถานการณ์วิกฤตซึ่งนายไพฑูรย์ ก็ขอบคุณมาเท่านั้น ไม่มีอะไรผมโทรไปให้กำลังใจเท่านั้น ในภาวะที่เขากำลังเจอกับสถานการณ์วิกฤต แต่ไม่ได้ชวนมาตั้งพรรคการเมืองใหม่ หรือชวนให้มาอยู่ด้วย ไม่เป็นความจริง และผมเองก็ไม่ใช่คนที่ฉวยโอกาส ไม่ใช่วิสัยผมที่จะเที่ยวไปดึงคนนั้น คนนี้ออกจากพรรคนั้นพรรคนี้ ไม่มี เพราะฉะนั้นคนที่ให้ข่าวก็คงจะต่อเติมไป พล.ต.สนั่น กล่าวต่อตำถามที่ว่าในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะจ.พิจิตร มีแกนหลักอยู่ 3-4 คนนี้ ดูแล้วมีความเป็นไปได้ที่จะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ยังไม่อยู่ในความคิดเลย ขณะนี้อยู่ในพรรคชาติไทยก็อบอุ่นดีอยู่แล้วที่มา: เรียบเรียงจากมติชนออนไลน์ เนชั่นทันข่าว | เพื่อไทย ลงดาบ ขับ ส.ส.เอาใจออกห่าง สมบูรณ์-นิคม ยังรอสอบ-เรียกชี้แจง ด้าน สุเทพ ปัดซื้อตัว ส.ส.พรรคเพื่อไทย รับ นิคม มาคุยเผยอยากช่วยงาน ส่วนเสธ.หนั่น ปฏิเสธข่าวทาบ ไพฑูรย์ ตั้งพรรคใหม่ | การเมือง | พรรคประชาธิปัตย์,พรรคเพื่อไทย,สมาชิกพรรค,ส.ส. | https://prachatai.com/journal/2010/06/29906 |
เช็คเด้ง 7 พันล้านบาท | ต่อเนื่อง ทั้งจำนวนเช็คสั่งจ่าย รวมทั้งมูลค่าการเรียกเก็บเงินตามเช็ค แต่หากคิดสัดส่วนเช็คคืนและเช็คเด้งกับจำนวนการสั่งจ่ายเช็คยังไม่ได้ลดลง ซึ่ง ธปท. ได้รายงานถึงยอดการเรียกเก็บเงินตามเช็คจากทั่วประเทศ ล่าสุด เดือน ก.พ.62 พบว่า มียอดการสั่งจ่ายเช็คที่เรียกเก็บรวม 4,559,009 รายการ ลดลง 9.6% จากระยะเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นยอดเงินที่สั่งจ่าย 2.58 ล้านล้านบาท ลดลง 7.8%,โดยยอดการสั่งจ่ายเช็คดังกล่าว แบ่งเป็นเช็คที่สั่งจ่ายในกรุงเทพฯและปริมณฑลสูงที่สุด 3,044,823 รายการ ลดลง 10.1% มีมูลค่า 2,264,300 รายการ ลดลง 8.1%, เช็คเรียกเก็บเงินตามเช็คข้ามเขตจังหวัด 753,277 รายการ ลดลง 9.8% มีมูลค่า 76,010 ล้านบาท ลดลง 10.7% และเป็นเช็คเก็บเงินตามเช็คภายในจังหวัดในเขตภูมิภาค 760,909 รายการ ลดลง 7% มูลค่า 239,720 ล้านบาท ลดลง 3.2% โดยมียอดสั่งจ่ายเช็คเฉลี่ยต่อวัน 239,948 รายการ ลดลง 4.8% ขณะที่ยอดเงินเฉลี่ยที่สั่งจ่ายต่อวันอยู่ที่ 135,790 ล้านบาท,อย่างไรก็ตาม แม้จำนวนเช็คที่สั่งจ่ายจะลดลง แต่สัดส่วนของเช็คคืน และเช็คที่สั่งจ่ายโดยไม่มีเงิน หรือเช็คเด้งต่อเช็คที่สั่งจ่าย ไม่ได้ลดลงตามการลดลงของการใช้เช็ค โดยในเดือน ก.พ. มียอดเช็คคืน 62,711 รายการ คิดเป็นมูลค่า 12,920 ล้านบาท หรือสัดส่วน 1.4% ของปริมาณเช็คคืนต่อเช็ครวม และ 0.5% ของมูลค่าเช็คคืนต่อเช็ครวม ซึ่งใกล้เคียงกับเดือน ก.พ.61 ที่ 1.5% และ 0.7% ตามลำดับ ส่วนเช็คเด้งมีปริมาณ 44,203 รายการ หรือ 1% ของยอดเช็คสั่งจ่ายรวมทั้งหมด และมีมูลค่าเช็คเด้ง 7,360 ล้านบาท หรือ 0.3% ของมูลค่าเช็คที่สั่งจ่าย โดยสัดส่วนปริมาณและมูลค่าเช็คเด้งต่อเช็ครวมเท่ากับเดือน ก.พ.61. | ผู้สื่อข่าวรายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์มีความสะดวกมากขึ้น และมีค่าธรรมเนียมลดลง ทำให้การใช้เช็คของคนไทยมีแนวโน้มลดลง | ข่าว,เศรษฐกิจ | การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์,เช็คเด้ง,เช็คสั่งจ่าย,เช็คคืน,ธนาคารแห่งประเทศไทย,ไม่มีเงิน,เก็บเงินตามเช็ค | https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/1529541 |
รวบ 2 โจ๋แสบ ขี่จยย.กระชากกระเป๋า รับหาเงินซื้อยาเสพ ใช้ชีวิตหรูหรา | วันที่ 4 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.น.5 ได้รับรายงานผลการจับกุมคดี จาก พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.ทองหล่อ ว่า ฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ได้นำกำลังจับกุม นายรัฐธรรมนูญ อายุ 19 ปี และนายหฤทธิ์ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตระเวนกระชากกระเป๋าเหยื่อตามท้องถนน พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 2 คัน หูฟังโทรศัพท์ไอโฟน สีขาว และแบตเตอรี่โทรศัพท์สำรอง โดยสามารถจับกุมได้ที่กลางซอยทองหล่อ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.,สืบเนื่องจาก ตลอดช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทางตำรวจ สน.ทองหล่อ รับแจ้งเหตุคนร้ายเป็นชาย 2 คนขับขี่จักรยานยนต์ก่อเหตุกระชากกระเป๋าเหยื่อตามถนนเส้นสุขุมวิท สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสของคนร้าย ตลอดจนไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อหาเส้นทางการหลบหนี,จนกระทั่งจับกุมตัวได้ขณะลงมือก่อเหตุ บริเวณกลางซอยทองหล่อ ทางเจ้าหน้าที่จึงวางแผนเมื่อผู้ต้องหาขี่รถจักรยานยนต์มายังบริเวณดังกล่าว จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ รวมทั้งแสดงหมายจับ ปรากฏว่าเป็นผู้ต้องหาตรงตามหมายจับ จึงควบคุมตัวขยายผลตรวจยึดของกลางที่เหลือได้ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ซ.เจริญกรุง 80 แขวงและเขตบางคอแหลม กทม. ก่อนคุมตัวสอบสวน ที่ สน.ทองหล่อ,จากการสอบสวน ผู้ต้องหา ให้การยอมรับสารภาพว่า นายรัฐธรรมนูญ เคยต้องโทษคดียาเสพติด มา 3 ครั้ง นายหฤทธิ์ เคยต้องโทษคดีลักรถจักรยานยนต์ 2 ครั้ง และคดียาเสพติดอีก 1 ครั้ง ก่อนจะออกมาได้ 1 ปีกว่า โดยทั้งคู่เป็นคนในชุมชนวัดลาดบัวขาว เจริญกรุง 80 จึงรู้จักกันมานาน ต่อมาได้ชักชวนกันขับขี่รถจักรยานยนต์ออกตระเวนกระชากกระเป๋า ตามถนนสายแหล่งนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน โดยเฉพาะถนนสุขุมวิท ที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดได้ก่อเหตุร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ ที่บริเวณปากซอยทองหล่อ 7 และยังรับว่าทรัพย์สินที่ได้มาจากผู้เสียหายนั้น มีเงินสดซึ่งได้นำไปแบ่งกัน จากนั้นยังมีทรัพย์สินอื่นของผู้เสียหายซึ่งได้นำไปเก็บไว้ยังบ้านพักของนายรัฐธรรมนูญ,นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าคนร้ายทั้ง 2 เคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์อีกหลายคดีในท้องที่สน.ทองหล่อ และใกล้เคียง โดยทุกครั้งจะเลือกเหยื่อเป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากจะไม่ต่อสู้ ยังจดจำใบหน้าคนร้ายไม่ได้ จึงไม่อยากแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งเมื่อได้ทรัพย์สินจะนำมาแบ่งกัน จากนั้นจะนำไปซื้อยาเคตามีนมาเสพ หนำซ้ำยังนำเงินที่ได้ไปซื้อเสื้อผ้า สินค้าแบรนด์เนม และเที่ยวเลาจน์บาร์ ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา เพื่อโชว์ในกลุ่มเพื่อนอีกด้วย,อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ ต้องทำการสืบสวนขยายผลอีกครั้ง หากมีผู้เสียหายรายใดถูกคนร้ายกลุ่มนี้ลงมือก่อเหตุ สามารถติดต่อตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อได้ทันที เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | ตำรวจรวบ 2 โจ๋แสบ ขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนกระชากกระเป๋านักท่องเที่ยว เน้นเหยื่อชาวต่างชาติ รับสารภาพนำเงินไปซื้อยาเสพ ใช้ชีวิตหรูหรา | ข่าว,สังคม | กระชากกระเป๋า,วิ่งราว,เสพยา,ข่าวโซเชียล,ทองหล่อ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1584078 |
พล.อ.ประวิตร ยืนยันทหารไม่ใช้วิธีนอกกฎหมาย คดีแฟน อุ้ม ลักขณาทำร้ายลูกนายทหาร | วันนี้ (30 พ.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษณะ อมิตรสูญ หรือ บอล แฟนของ น.ส.ลักขณา วัธนวงศ์สิริ หรือ อุ้ม นักแสดงชื่อดัง ผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกายบุตรชาย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 พร้อมทนายความ มารดา และ บุตรสาว เข้ามอบตัวกับ ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่น่ายกฤษณะ กล่าวว่า ต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจที่ไม่ได้ร่วมก่อเหตุและยอมรับว่า รู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก นอกจากนายกฤษณะ มีผู้ต้องหาที่ถูกศาลออกหมายจับวันนี้ อีก 3 คน คือ นายฐานันดร หมั่นแสวง นายอดิศักดิ์ เพ็งเหล็ง และ นายอภิวัฒน์ ณ ลำพูน พนักงานร้าน ซึ่งทั้งหมด ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจแล้วขณะที่ น.ส.ภาณุมาส อุดมขันติกุล ตัวแทนของนางพีรยา คุวานันท์ ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการเดอะเชียงใหม่ คอมเพล็กซ์ และ โรงแรมเดอะ คอร์ ระบุว่า นายกฤษณะ ไม่ได้เป็นเจ้าของ เป็นเพียงผู้ถูกว่าจ้างให้เข้ามาบริหารโรงแรมเท่านั้น และขณะนี้ ได้บอกยกเลิกสัญญาจ้างทุกอย่างกับนายกฤษณะแล้วด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ยืนยัน การดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายบุตรชาย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 เป็นไปตามกฎหมาย โดยกำชับให้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ติดตามคดีอย่างต่อเนื่อง และขอให้มั่นใจว่า ทหารจะไม่ใช่วิธีการนอกกฎหมาย หรือคุกคามผู้ก่อเหตุ | ผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกายบุตรชาย ผบ.มทบ. 38 เข้ามอบตัวกับ ตำรวจสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ ด้านรองนายกฯยืนยัน ทหารไม่ใช้วิธีการนอกกฎหมายหรือคุกคามผู้ก่อเหตุ | อาชญากรรม | บอล,อุ้มลักขณา,กฤษณะ อมิตรสูญ,น.ส.ลักขณา วัธนวงศ์สิริ,เชียงใหม่,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/258279 |
อาชญากรรมบริสุทธิ์ ของทาสชุดขาว? | ผศ.นพ.เมธี บอกว่า ท่ามกลางเสียงปี่เสียงกลองของการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อกวาดคะแนนเสียงในการเข้าสู่สภาของนักการเมือง หนึ่งในนโยบายอมตะที่ถูกนำมาใช้หาเสียงคือ นโยบายสาธารณสุข,เพราะนับแต่การก่อเกิดของ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่เดิม หมอสงวน มุ่งเฉพาะให้ คนด้อยโอกาส ได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีมาตรฐานและคุณภาพ แต่ถูกนักการเมืองแปรเปลี่ยนไปเป็นโครงการประชานิยมและแจกจ่ายงบที่มีจำกัดให้กับคนที่มีฐานะดีเข้ามาร่วมทานเค้กก้อนเล็กๆ ก้อนเดียวกันนี้ด้วย,เราจึงเห็นคนขับรถราคาหลายล้านมาแย่งรับยาราคาไม่กี่ร้อยกี่พันบาทฟรีๆ เราเห็นคนมีเงินซื้อเหล้า ซื้อแมงกะไซค์มาแต่งซิ่ง ซื้อโทรศัพท์ราคาครึ่งแสน แต่ไม่มีเงินจ่ายค่ายาหลักร้อยหลักพัน,หนำซ้ำทุกวันนี้หลาย รพ.ยังเต็มไปด้วยคนต่างด้าวทั้งที่ไม่ได้ทำประกันสุขภาพหรือตั้งใจมาเสียค่าธรรมเนียมในราคาแสนถูก เพื่อแลกกับค่ารักษาหลักแสนหลักล้านที่ไม่ต่างอะไรกับการได้ฟรี ที่น่าตกใจคือมีอาชีพนายหน้ารับพาคนต่างด้าวมาเข้าแย่งเตียง แย่งคิวตรวจกับคนไทยตาดำๆ,ในอีกมุมหนึ่ง นโยบายนี้ทำให้ภาระงานของผู้ป่วยนอก ซึ่งมีแพทย์ที่ยังรักษาผู้ป่วยและอยู่ในวัยทำงานจริงๆไม่เกิน 40,000 คน เพิ่มขึ้นทะลุปรอทไปมากกว่า 300 ล้านครั้งต่อปี หรืออีกนัยหนึ่งเฉลี่ยแล้วคนไทยเดินเข้า รพ.ในแต่ละปีมากกว่า 5 ครั้ง ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นอย่างมาก,แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับพยายามเร่งเร้าให้เข้ามารับการรักษาฟรีๆ เพิ่มขึ้นอีก เพื่อจะได้มียอดตัวเลขมาต่อยอดความภาคภูมิใจของตนเอง ทั้งๆที่ความจริงแล้วควรตั้งเป้าลดยอดการเข้า รพ.ลง เพราะหมายถึงนโยบายป้องกันโรคและการเสริมสร้างความรู้ในการดูแลตนเองประสบความสำเร็จ,ด้วยภาระงานผู้ป่วยนอกที่มากมายมหาศาล ซึ่งยังไม่นับภาระงานผู้ป่วยในอีกประมาณเกือบ 10 ล้านครั้งต่อปีภายใต้งบประมาณจำกัดจำเขี่ยผลทำให้ รพ.ตกอยู่ในสภาพ ยิ่งรักษา ยิ่งเจ๊ง,ไม่ต่างอะไรกับรัฐวิสาหกิจที่เราๆท่านๆเห็นกันตั้งแต่เด็กๆ จนทุกวันนี้เงินสำรองของแต่ละ รพ.ที่ต้องควักมาแจกจ่ายเป็นค่ายาค่าเครื่องมือแพทย์ให้กับผู้ป่วยหมดสิ้นลง จนติดตัวแดงกันทั่วหน้า ไม่ต่างอะไรกับ ขสมก. หรือการรถไฟที่นับวันจะสาละวันเตี้ยลง ซึ่งเหตุผลส่วนหนึ่งเกิดจากนโยบายประชานิยมเช่นกัน,ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือ รพ.นั้นประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรอย่างรุนแรง แต่กลับผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพ เหตุเพราะ ในตัวชี้วัด ไม่มีเรื่องของจำนวนบุคลากรที่เหมาะสม มากำกับ ทั้งๆที่งานทุกอย่างต้องเริ่มจากคนเมื่อเงินไม่พอ คนก็ไม่พอ แถมยังต้องมีงานเอกสารเพิ่มขึ้นมามากมาย ที่ต้องเบียดบังเวลาในการดูแลเอาใจใส่ผู้ป่วยไปผลการรักษาจึงไม่เป็นไปตามคาดหวัง,และตามด้วยวลีสร้างความเกลียดชัง (Hate speech)ความเสียหายจากการรักษาพยาบาล ซึ่งเป็นช่องโหว่ให้ใครบางคนเอาไปต่อยอดผลักดันเพิ่มเติมจาก ม.41 เพื่อให้เกิดนโยบายแจกเงินหลักล้านชดเชยความเสียหาย อันเป็นการซ้ำเติมฐานะการเงินของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปอีก,ผศ.นพ.เมธี บอกอีกว่า อย่างไรก็ตาม คุณูปการสำคัญอย่างหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้คือการที่ท่านรัฐมนตรีสาธารณสุข ตลอดจนผู้บริหารระดับสูงในกระทรวง ต่างยอมรับความจริงและประสานเสียงว่าคุณภาพการรักษาต้องเริ่มจากสมดุลของสองปัจจัยสำคัญ ภายใต้นโยบาย 2P Safety โดยP แรกคือ ผู้ป่วย (Patient) และอีกP คือ บุคลากร (Personnel) ปลายปีที่ผ่านมาจึงมีการทำแบบสำรวจ ภาระงานและความอ่อนล้า ของบุคลากรสาธารณสุขภาครัฐทั่วประเทศ และผลสำรวจที่ได้นั้นเป็นดังนี้,ในส่วนของ แพทย์ พบว่า โดยเฉลี่ยแล้ว 2/3 แพทย์ทั่วประเทศ ต้องอยู่เวรทุกวัน และแต่ละวันได้พักไม่เกิน 7 ชม. โดยมีอีกประมาณ 1/3 ที่ต้องอยู่เวรทุกวัน แต่ละวันได้พักไม่เกิน 4 ชม. ในขณะที่ 90% ของแพทย์ ต้องทำงานติดต่อกันมากกว่า 24 ชม. โดยมีแพทย์ 15% ที่ต้องอยู่เวรติดต่อกันทั้งอาทิตย์,ในแง่ภาระงานผู้ป่วยนอกที่มักดราม่าตามโลกโซเชียลว่า หมอหายหัวไปไหนหมด พบว่า 50% ของแพทย์ทั่วประเทศต้องตรวจคนไข้นอกเฉลี่ย 100 คนต่อวัน ในขณะที่ตามเกณฑ์มาตรฐานนั้น แพทย์สามารถตรวจคนไข้นอก (เก่าและใหม่คละกัน) ไม่ควรเกิน 8 คน/ชม. นั่นหมายความว่า 70% ของแพทย์ภาครัฐ ต้องรับภาระงานหนักกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 2-4 เท่าตัว หรืออีกนัยหนึ่งคือแพทย์ 1 คนต้องทำงานแทนแพทย์ 2-4 คน,เพื่อให้พรรคการเมืองได้หน้าจาก นโยบายประชานิยม นี้,ถัดมาในส่วนของ พยาบาล พบว่า โดยเฉลี่ยแล้ว 2/3 ของพยาบาลภาครัฐต้องทอดทิ้งครอบครัวตนเองเพื่อมาขึ้นเวรทุกวันและแต่ละวันได้นอนไม่เกิน 7 ชม. ส่วนภาระงานผู้ป่วยในกรณีที่เป็นดราม่าถูกแอบถ่ายวิดีโอคลิปนั้น พบว่า 60% ของพยาบาลต้องดูคนไข้ในมากกว่า 10 ราย ต่อวัน ทั้งๆที่ตามมาตรฐานสากลแล้วพยาบาล 1 คนไม่ควรรับผิดชอบคนไข้ในเกิน 4 คน (1:4) นั่นหมายความว่าทุกวันนี้พยาบาลไทย 100% ต้องทำงานเกินกว่าเกณฑ์ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว เพื่อให้นโยบายหาเสียงเกินจริงของพรรคการเมืองประสบความสำเร็จ,หันมาดูสภาพความเป็นอยู่กันบ้าง คำตอบจากแบบสำรวจยังให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่า 80% ของทั้งแพทย์และพยาบาลเคยต้องทำงานขึ้นเวร ทั้งๆที่ตนเองป่วยหรือต้องทอดทิ้งครอบครัวและญาติสนิทที่ป่วยไข้ไป เพื่อขึ้นเวร แลกกับค่าตอบแทนรายชั่วโมงไม่ถึงร้อยบาทที่น่ารันทดยิ่งกว่าคือ 1/3 ของทาสชุดขาวเหล่านี้ ต้องทำงานแบบไม่มีวันหยุดและทำให้ชีวิตผู้ป่วยต้องตกอยู่ในอันตรายอันเนื่องมาจากความอ่อนล้าของร่างกาย,เพื่อแลกกับเศษเงินที่หน่วยงานรัฐ ซึ่งคุมเรื่องการเงินประสานเสียงพูดว่ามากเกินพอแล้ว?,หากจะอินเทรนด์ก็ลองมาดูตัวชี้วัดเรื่อง Happinometer (มาตรวัดความสุขในการทำงาน) ที่หลายหน่วยงานนำมาใช้เพื่อประเมินว่ามีการดูแลบุคลากรในสังกัดดีมากน้อยอย่างไร พบว่า 60% ของบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องขึ้นเวรแพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักเทคนิคการแพทย์ นักรังสีเทคนิค ล้วนไม่มีความสุขในการทำงาน,จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมจึงมีภาพการกระทบกระทั่งกับ ผู้ป่วย หรือ ญาติ อยู่เนืองๆ,ทั้งหมดข้างต้นเหล่านี้คงไม่ผิดที่จะกล่าวว่า ประเทศไทยยังมีทาสแรงงานที่ไม่ได้รับการเหลียวแล หลงเหลืออยู่ ทาสชุดขาวที่ถูกบังคับให้ทำงานโดยไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.แรงงาน ที่แม้แต่สาวโรงงาน กรรมกรหาเช้ากินค่ำยังได้รับความคุ้มครอง ที่น่าเสียใจยิ่งกว่าการต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อช่วยชีวิตคน กลับถูกตีความโดยนักกฎหมายว่า การรักษาการช่วยชีวิตคนไม่ต่างอะไรจากการซื้อสินค้าหรือบริการทั่วไป,ทั้งๆที่สินค้าหรือบริการทั่วๆไปในธุรกิจบริโภคนั้น จะมุ่งเน้นเรื่องการหลอกลวง เอารัดเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ผ่านการโฆษณาชวนเชื่อ การหลอกลวงด้วยสัญญาคดโกง เพื่อดูดเงินในกระเป๋ามาสู่บริษัทห้างร้าน แต่ที่ยิ่งหนักหนาสาหัสขึ้นไปอีกคือเมื่อการช่วยชีวิตไม่ประสบความสำเร็จ กลับถูกมองว่าต้องนับเป็นความอาญา ในฐานความผิดประมาททำให้ผู้ป่วยถึงแก่ความตาย แบบเดียวกับที่อาชญากรได้รับ,ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ฐานความผิดนี้เป็นคนละประเด็นกัน เพราะฝ่ายหนึ่งจ้องจะใช้เหตุประมาทมาเป็นช่องโหว่หลีกเลี่ยงไม่ต้องรับโทษจากการกระทำที่ไปก่อความเดือดร้อนให้ผู้อื่นโดยเขาไม่อนุญาต แต่อีกฝ่ายถูกบังคับให้ต้องช่วยชีวิตคนตามที่กฎหมายบัญญัติ ที่สำคัญการกระทำเพื่อช่วยชีวิตคนนั้นมี เจตนาดี (Mens Rea) แต่แรก หาใช่การมุ่งใช้ช่องโหว่กฎหมายไปทำร้ายผู้อื่นแต่อย่างใดไม่,ในอีกสองเดือนเราจะได้เห็น รัฐบาลใหม่ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ พรรคการเมือง จะหันมาให้ความสำคัญกับคนหลักแสน เพื่อคุณภาพที่ดีของระบบสาธารณสุขในการดูแลประชากรหลักสิบล้านคน. | อาชญากรรมบริสุทธิ์ของทาสชุดขาว? เป็นหัวข้อสนทนาสำคัญจากหนึ่งในกรรมการแพทยสภา ผศ.นพ.เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ | ข่าว,สังคม | เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ,30 บาทรักษาทุกโรค,นโยบายสาธารณสุข,แพทย์,หมอ,พยาบาล,สกู๊ปหน้า1,สุขภาพ | https://www.thairath.co.th/news/society/1513088 |
ฝนตกถนนลื่นปิกอัพประสานงาดับ 1 สาหัส 2 ถนนเลย-เชียงคาน | เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 26 ธ.ค.58 พ.ต.ท.คณพศ ภูคงน้ำ พงส.สภ.เมืองเลย ได้รับแจ้งมีรถยนต์กระบะชนกัน มีผู้เสียชีวิตอยู่ที่เกิดเหตุ ถนนสายเลย-เชียงคาน ต.นาอ้อ ประสานไปยังแพทย์ รพ.เลย กู้ภัยสว่างคีรีธรรม จุดเมือง ไปยังที่เกิดเหตุร่วมกันชันสูตรพลิกศพ ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ติดอยู่ในเก๋งหน้ารถยนต์อีซูซุ สีดำ ทะเบียน กค 770 เลย จนท.กู้ภัยฯ ช่วยกันงัดรถนำผู้บาดเจ็บนำส่ง รพ.เลย ทราบชื่อ น.ส.จีรวรรณ วังคีรี อายุ 24 ปี เป็นคนขับ และนายกฤษณะ สุวรรณชาติ อายุ 24 ปี ยังไม่ทราบที่อยู่ ห่างออกไป รถกระบะ มิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน กข.1357 เลย จอดอยู่สภาพรถพังยับเยิน กระบะท้ายรถฉีกออกจากตัวรถ พบมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย ชื่อนายอนันต์ วิทยารณยุทธิ์ อายุ 41 ปี ที่อยู่ 51 หมู่ 7 ต.ชุมพวง อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา,จากการสอบสวนได้ความว่า ตามเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่มีฝนตก ขณะที่ น.ส.จีรวรรณ วังคีรี ขับรถยนต์อีซูซุสีดำ ทะเบียน กค.770 เลย มาจากทาง อ.เชียงคาน มีรถยนต์กระบะมิตซูบิซิ สีดำ ทะเบียน 1357 เลย ซึ่งมีนายอนันต์ วิทยารณยุทธ เป็นคนขับมาคนเดียว ด้วยความเร็ว รถยนต์เกิดเสียหลัก ถนนลื่นวิ่งพุ่งชนรถยนต์ของ น.ส.จีรวรรณ อย่างแรง จนตัวเองกระเด็นออกนอกรถอัดเสาไฟข้างถนนตายคาที่. | ประสานงา!! 2 หนุ่มสาวควบรถกระบะเสียหลัก เหตุฝนตกถนนลื่นจนพุ่งชนปิกอัพ หนุ่มโคราชกระเด็นออกมานอกรถอัดก๊อบปี้เสาไฟฟ้าตายคาที่ บริเวณถนนสายเลย-เชียงคาน และบาดเจ็บสาหัส 2 ราย
| null | รถกระบะประสานงา,ปิกอัพประสานงา,กระบะชนดับ1เจ็บ2,จีรวรรณ วังคีรี,กฤษณะ สุวรรณชาติ,อนันต์ วิทยารณยุทธิ์,ถนนสายเลย-เชียงคาน,คณพศ ภูคงน้ำ,พงส.สภ.เมืองเลย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/554668 |
แค่ 30 วิ เพชรมั่งคั่ง น็อกวันชนะ ซิวแชมป์มวยไทยตัดเชือก | วันที่ 12 ต.ค. เดอะแชมเปี้ยน มวยไทยตัดเชือก พิกัด 63 กิโลกรัม รอบชิงชนะเลิศ เพชรมั่งคั่ง ช.นทีทอง ดวลเดือด วันชนะ ส.ดำริ,ผลปรากฏว่านัดชิงจบไวเกินคาด เป็นทางด้าน เพชรมั่งคั่ง เล่นงานเจาะต้นขาของวันชนะ ทั้งซ้ายและขวา วันชนะ โดนแล้วอาการไม่ดี ทิ้งตัวลงไปและไม่สามารถลุกขึ้นมาสู้ต่อได้ ทำให้จบไวใช้เวลาไปเพียงแค่ 30 วินาทีของยกแรกเท่านั้น ส่งผลให้ เพชรมั่งคั่ง เป็นฝ่ายเอาชนะน็อกไปได้ยกแรก คว้าแชมป์ 63 กก. ไปในที่สุด พร้อมเงินรางวัล 5 หมื่นบาท,ผลการแข่งขันวันที่ 12 ตุลาคม 2562,แชมป์เปี้ยนได้แก่ เพชรมั่งคั่ง ช.นทีทอง,1.วันชนะ ส.ดำริ(WIN) VS เพชรเม็ดใหม่ ศิษย์น้องเล็ก,2.เพชรมั่งคั่ง ช.นทีทอง(WIN) VS แก่นพิชิต สิงหเดชายิม,3.เพชรมณี เพ็ชรจินดา VS สำโบ เรือน(WIN),4.เหินฟ้า ส.ดำริ VS พยัคฆ์น้อย อ.เพชรน้ำหนึ่ง(WIN),5.วสินชัย สมศักดิ์ก่อสร้าง VS เพชรดำ เพชรนพเก้า(WIN),6.วันชนะ ส.ดำริ VS เพชรมั่งคั่ง ช.นทีทอง(WIN),7.ลูกรัก เพ็ชรจินดา(WIN) VS เพชรมรกต ร.ร.เมืองพญาแลวิทยา | เพชรมั่งคั่ง ช.นทีทอง จัดการน็อก วันชนะ ส.ดำริ ตั้งแต่ 30 วินาทีของยกแรก คว้าแชมป์มวยไทยตัดเชือก รุ่น 63 กก. | กีฬา,มวย/MMA | เพชรมั่งคั่ง ช.นทีทอง,วันชนะ ส.ดำริ,เดอะแชมเปี้ยน มวยไทยตัดเชือก | https://www.thairath.co.th/sport/boxing-mma/1681285 |
ปลูกป่า ปลูกคน ตามพระราชปณิธานสมเด็จย่า ได้รับยกย่องเป็นต้นแบบการพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืน | ไม่เพียงให้โอกาสทางการศึกษาแก่เด็กชาวเขาตามถิ่นทุรกันดารในภาคเหนือเท่านั้น หากยัง ปลูกรัก หลากเรื่องราวลงในใจเยาวชน ให้รักในวัฒนธรรมและถิ่นกำเนิด เพื่อจะได้ไม่หลงลืมคุณค่าแห่งภูมิปัญญาท้องถิ่นของตน,เพื่อดำเนินงานตามพระราชปณิธานของสมเด็จย่าอย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่พัฒนาคน และการเติบโตของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ เลขาธิการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เผยว่า ปัจจุบันพันธกิจในการสร้างอาชีพ ที่สุจริตและยั่งยืน และการฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้บนดอยตุงสำเร็จแล้ว รายได้ของชาวบ้านบนดอยตุงเพิ่มขึ้นจาก 3,772 บาท ในปี 2531 เป็น 78,457 บาทในปัจจุบัน และกว่าร้อยละ 70 ของพื้นที่ 93,515 ไร่ของโครงการพัฒนาดอยตุงฯ เปลี่ยนเป็นป่าอนุรักษ์และป่าเศรษฐกิจ ที่อำนวยประโยชน์ให้ชุมชนกับป่าอยู่ร่วมกันได้อย่าง ยั่งยืน นอกจากนี้ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ยังขยายการดำเนินงานไปยัง จ.เชียงราย, จ.น่าน รวมถึงอีก 3 ประเทศคือ สหภาพเมียนมา, อัฟกานิสถาน และอินโดนีเซีย จนได้รับการยกย่องให้เป็น ต้นแบบการพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืนในเวทีระหว่างประเทศหลายแห่ง และมีบทบาทสำคัญในการจัดทำแนวปฏิบัติสหประชาชาติ ว่าด้วยการพัฒนาทางเลือก สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติอีกด้วย ปัจจุบันโครงการพัฒนาดอยตุงฯ ดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมตามหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีเป้าหมายในการพลิกฟื้นผืนป่าดอยตุง และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวบ้านในพื้นที่ ให้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยการฝึกอาชีพและสร้างงานให้ชาวบ้านบนดอยตุง ผ่านการดำเนินงานของ 5 หน่วยธุรกิจ ได้แก่ ท่องเที่ยว หัตถกรรม การเกษตร อาหารแปรรูป และคาเฟ่ดอยตุง ซึ่งสร้างรายได้เพียงพอเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่ปี 2545,ในฐานะผู้บริหาร งาน ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ กล่าวว่า ทุกวันนี้ โครงการพัฒนาดอยตุงฯ ได้รับการยอมรับให้เป็นธุรกิจเพื่อสังคมอันดับต้นๆ ของประเทศ ที่ผสมผสานแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนกับการพัฒนาศักยภาพของชุมชนด้านการผลิต การแปรรูปผลิตภัณฑ์ และการตลาด โดยหวังว่าจะเป็นตัวอย่างหนึ่งให้คนอื่นนำไปปรับใช้ได้ต่อไป ตอนนี้เราวางแผนที่จะเป็นฐานช่วยต่อยอดธุรกิจ เพื่อสังคมอื่นๆ ให้ยืนขึ้นได้, ,ตัวอย่างการปลูกคนของมูลนิธิฯ เพชรัช วิบูลศรีกุล หรือ อาฉาย ชาวจีน-อาข่า ถือเป็นคนดอยตุงรุ่นใหม่ ที่ตัดสินใจกลับมาทำงานที่บ้านเกิดและพัฒนาชุมชนของตนเอง หลังจากเคยทำงานที่โรงงานเซรามิกของดอยตุง และไปทำงานที่ไต้หวันนานถึง 6 ปี เมื่อกลับมายังหมู่บ้านสวนป่าอีกครั้ง เขาเริ่มศึกษางานด้านการเกษตร จนมีไร่เสาวรสเป็นของตัวเอง เมื่อพัฒนาตัวเองสำเร็จ เขาหันมาพัฒนาหมู่บ้านผ่านการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์เชิงอนุรักษ์ ถ่ายทอดภูมิปัญญาของพี่น้องอาข่าให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส โดยหวังว่า หมู่บ้านสวนป่าแห่งนี้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนต่อไป. | จากโครงการ ผู้นำเยาวชนชาวเขา ที่มุ่งปลูกคนของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อกว่า 30 ปีก่อน ซึ่งปัจจุบันคือ อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง,อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง,สมเด็จย่า,โครงการพัฒนาดอยตุง,โครงการในพระราชดำริ,อนุรักษ์ป่า,ดอยตุง,พลิกฟื้นผืนป่า,การพัฒนาอย่างยั่งยืน,แปรรูปผลิตภัณฑ์,พระตำหนักทรงงานของสมเด็จย่า,ข่าวสตรี,ไทยรัฐฉบับพิมพ์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/719910 |
ภรรยา ขอเยี่ยม บก.ลายจุด ทั้งที่ เทเวศร์-ค่ายชลบุรี ทหารปัด ไม่อยู่ทั้งสองที่ | รวมถึงมีข่าวว่าถูกนำตัวมาสอบปากคำที่ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ กรุงเทพฯ นั้นเกศสุดา บุญงามอนงค์ ภรรยาสมบัติ บุญงามอนงค์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ ได้ประสานงานกับคณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อประสานงานกับ คสช. ขอเข้าเยี่ยม นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ผู้ถูก คสช.เรียกรายงานตัว โดยได้รับการแจ้งว่า ให้ไปที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ แต่เมื่อไปถึง กลับได้รับคำตอบว่านายสมบัติไม่เคยมาที่นี่เกศสุดา กล่าวต่อว่า เนื่องจากเคยข่าวในสื่อต่างๆ ว่ามีการนำตัวสมบัติไปไว้ที่ ค่ายทหาร ร.21 รอ. ชลบุรี จึงเดินทางไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่ทหารที่ทำหน้าที่ดูแลคนที่รายงานตัวแจ้งว่า นายสมบัติไม่เคยอยู่ที่นี่ ทำให้วันนี้ เธอไม่ได้พบกับสามี จึงอยากเรียกร้องถึง คสช. ขอให้คำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของสามี โดยควรแจ้งให้ญาติได้รู้ว่าอยู่ที่ไหนอย่างไร | 10 มิ.ย.2557 กรณีสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ผู้ถูก คสช.เรียกรายงานตัว แต่ไม่ไปตามคำสั่ง จนถูกจับกุมเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีข่าวว่าถูกนำตัวไปไว้ที่ ค่ายทหาร ร.21 รอ. ชลบุรี | การเมือง | บก.ลายจุด,รัฐประหาร,รัฐประหาร 2557,สมบัติ บุญงามอนงค์,เกศสุดา บุญงามอนงค์ | https://prachatai.com/journal/2014/06/53914 |
ออกกำลังเป็นบ้าเป็นหลัง ระวังสมองเสื่อม | ออกกำลังกายนั้นดี แต่ทุกอย่างเมื่อไม่อยู่สายกลางย่อมไม่ดี หลังๆ มานี้หมอเห็นว่าผู้คนฮิตออกกำลังกายกันเยอะขึ้นโดยเฉพาะในหมู่สาวๆ ออกกันได้ทั้งเช้าทั้งเย็นเลยทีเดียว ส่วนหนุ่มๆก็ลงพุงกันเป็นแถว ผมเลยเรียบเรียงข้อมูลจากบทความใน Medscape มาให้ทุกคนได้อ่าน บทความนี้ชื่อ How Much Exercise Is Too Much for the Brain? และเค้าได้ดูข้อมูลหลักๆจาก Exercise for cognitive brain health in aging ลงในวารสารทางสมอง Neurology 2018 ซึ่งได้เอาการวิจัย 98 อัน เกี่ยวกับการออกกำลังกายมา,วิเคราะห์ (systematic review) ซึ่งบอกว่าดีต่อสมองและช่วยลดสมองเสื่อม แต่ DAPA trial ลงในวารสารการแพทย์ของอังกฤษ BMJ 2018 เอาคนที่เป็นสมองเสื่อมแล้วมาออกกำลังกายพบว่า ออกเยอะไปสมองจะแย่,แล้วเท่าไหร่ดีล่ะ เพราะออกกำลังกายนั้นข้อดีมียืดยาวนับไม่ถ้วน นอกจากหุ่นดีน่ามองแล้วการไปยกน้ำหนักโดยที่มีคนรอบข้างจ้องมอง แน่นอนต้องเพิ่มความมั่นใจได้ระดับนึง ยังเพิ่มการหลั่งสารความสุขเอ็นโดรฟิน น่าจะช่วยอายุยืน เพราะปรับโรงพลังงานของร่างกายหรือไมโทคอนเดรีย (autophagy regulator) รวมทั้งให้ร่างกายผลิตสารกัญชาธรรมชาติให้รู้สึกดี อารมณ์ดี คลายเครียดอีกด้วย นอกจากนั้นยังนอนหลับสบายอีก,การหันมาออกกำลังกายนับว่าจำเป็นมากในยุคที่นั่งติดเก้าอี้จ้องจอคอมพิวเตอร์ การออกไปเจอคนอาจจะไปเจอคู่รักที่หามานานก็ได้ (โอกาสดูจะสูงกว่าไปไหว้พระขอคู่เป็นไหนๆ) กีฬาบางอย่างเล่นเป็นทีมก็ได้เพื่อนและฝึกการทำงานเป็นทีมอีกด้วย นอกเรื่องนิดหน่อย กลับมาที่สุขภาพ ออกกำลังกายยังทำให้หัวใจและเส้นเลือดดี กระปรี้กระเปร่า ลดมะเร็ง ลดเบาหวาน แถมเรื่องบนเตียงก็ปึ๋งปั๋งแถมมาอีกด้วย,คำถามคือ การออกกำลังกายช่วยลดโอกาสสมองเสื่อมได้ไหม และออกแบบไหน จากการศึกษาใน Neurology 2018 พบว่า ในทั้งคนวัยกลางหรือสูงวัยที่ทั้งมีโรคสมองเสื่อมอ่อนๆ หรือที่สมองยังแข็งแรงดีอยู่ พบว่ายิ่งออกกำลังกายเยอะก็ยิ่งทำให้สมองดี สมองดีที่ว่านี้เค้าหมายถึง คิดเร็วขึ้น การตัดสินใจเฉียบขาดขึ้น และจะออกแบบไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็นปั่นจักรยาน วิ่ง ยกน้ำหนัก โยคะ พิลาทิส ก็ตาม ขอให้ได้อย่างน้อยอาทิตย์ละสองชั่วโมง,อันนี้ก็คงเพราะว่าถ้าออกกำลังกาย สุขภาพหัวใจและเส้นเลือดเราก็จะดีขึ้น นั่นก็แปลว่าสมองจะได้รับสารอาหารเพียงพอ นอกจากนั้นก็เป็นไปได้ว่าการที่เลือดสูบฉีดดีจะทำให้สารพิษหรือโปรตีนผิดปกติถูกล้างออกไปได้เร็วขึ้น นอกจากนั้นสารเคมีที่หลั่งออกมาตอนออกกำลังกายอาจจะมีส่วนช่วยปรับสมดุลในสมองอีกด้วย อันนี้กลับไปลองดูเพิ่มเติมในหมอดื้อตอน สมองเหี่ยวหด ถ้ายังอ้วน,แต่ออกกำลังกายกี่ชั่วโมงล่ะถึงเรียกว่ามากเกินไป ในอีกการศึกษา Dementia and physical activity (DAPA) trial จากอังกฤษเป็นการศึกษาโดยแบ่งคนไข้สูงอายุที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นสมองเสื่อมขั้นน้อยถึงปานกลางออกเป็นสองกลุ่ม (Randomised controlled trial) กลุ่มแรกเค้าให้ออกกำลังกายโดยแอโรบิกและยกน้ำหนัก 150 นาทีในหนึ่งอาทิตย์ เป็นเวลาต่อเนื่องสี่เดือนและให้ทำต่อไปเรื่อยๆ,ส่วนอีกกลุ่มดูแลตามเดิม ผลกลับผิดคาดเพราะหลังจาก 12 เดือน การทำงานของสมองในกลุ่มออกกำลังกายกลับแย่ลงมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้เคี่ยวเข็ญให้ออกกำลังกาย,ทีนี้ทำยังไงดีล่ะ ตลอดมาก็บอกทุกคนว่าให้ออกกำลังกาย พอไปดูการวิจัยอื่นๆ การออกกำลังกายก็ไม่ได้ทำให้สมองแย่ลง ทั้งนี้ การศึกษาเก่าๆอาจจะไม่ได้ให้ออกกำลังกายแบบหนักหน่วง นี่เป็นการชี้ให้เห็นว่า ในกลุ่มคนที่เป็นสมองเสื่อมไปแล้ว การออกกำลังกายมากเกินไปแบบหนักหน่วงอาจจะไม่ดี ทั้งนี้ มันคงจะเป็นเพราะมันสายเกินไปแล้ว และเส้นเลือดที่ตีบรวมกับสมองที่ทำงานอาจจะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพแล้ว พอให้ไปออกกำลังกายหนักๆ พลังงานจากการหล่อเลี้ยงของเลือดอันน้อยนิดที่เหลืออยู่จึงถูกเอาไปใช้กับกล้ามเนื้อในร่างกายจนเกินไป สมองจึงได้รับการกระทบกระเทือนเข้าไปใหญ่ แต่ข้อดีของการออกกำลังกายสำหรับคนดูแลก็คือ คนไข้ร่างกายแข็งแรงจึงสามารถช่วยเหลือตัวเองในการเดินเหินได้ง่ายกว่าถ้าเทียบกับคนที่ไม่ได้ออกกำลังกาย,สรุปว่ายังไงดีล่ะ ข้อมูลในเรื่องนี้ถึงจะมีเยอะแต่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าออกกำลังกายอะไร แบบไหน ออกนานเท่าไหร่ดีสุด ที่สรุปไม่ได้ก็คงเป็นเพราะว่าคนแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน สภาพร่างกาย ระดับไขมันหรือกล้ามเนื้อก็ไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างก็คือคนที่อ้วนลงพุงก็ควรจะออกกำลังกายแนวแอโรบิกเพิ่มอัตราการเต้นหัวใจเพื่อลดไขมันที่พุง เพราะเรารู้ว่ายิ่งไขมันรอบเอวเยอะ สมองส่วนความจำก็จะยิ่งเล็ก,ส่วนคนที่กล้ามเนื้อน้อยนิดก็ควรจะมีการยกน้ำหนักกันหน่อยเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ เพราะกล้ามเนื้อสามารถช่วยใช้น้ำตาลในเลือดได้ดีและปกป้องสมองของเราได้,ส่วนหนุ่มๆสาวๆที่ออกกำลังกายกันหนักๆก็ไม่ต้องห่วงเพราะสมองและเส้นเลือดยังดี ออกไปเถอะครับน่าจะปกป้องสมองได้ แต่ถ้าออกทั้งวันทุกวันก็อย่าลืมทานอาหารให้พอ อย่าให้ถึงกับผอมแห้งจนเกินไป และควรจะมีวันพักผ่อนด้วยเพราะร่างกายก็ต้องการการพักผ่อนในการฟื้นฟู ออกกำลังกายก็หมั่นยืดเส้นยืดสายและระวังกีฬาที่มีการกระแทกสูงเพราะอายุที่มากขึ้นก็จะตามมากับไขข้อเสื่อม ปั่นจักรยานบนถนนอย่าลืมหมวกกันน็อก ระวังรอบข้างและเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัดนะครับ และสุดท้ายฝากกัญชาไว้หน่อยเพราะดูท่าจะมีหวังในการช่วยเพิ่มพลังสมองในคนไข้สมองเสื่อมได้อยู่ไม่มากก็น้อยครับ.,หมอดื้อ | แล้วเท่าไหร่ดีล่ะ เพราะออกกำลังกายนั้นข้อดีมียืดยาวนับไม่ถ้วน นอกจากหุ่นดีน่ามองแล้วการไปยกน้ำหนักโดยที่มีคนรอบข้างจ้องมอง แน่นอนต้องเพิ่มความมั่นใจได้ระดับนึง | ข่าว,สังคม | ออกกำลังกาย,สมองเสื่อม,โรคสมองเสื่อม,หมอดื้อ,สุขภาพหรรษา | https://www.thairath.co.th/news/society/1462171 |
ฝากขัง ผู้กองต๋อง โรงพักสุทธิสาร พรุ่งนี้ ยังปฏิเสธพัวพันค้ายา | จากกรณี พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบก.ปส.2 พร้อมด้วย น.ส.ทัศพร เขี่ยวพานิช เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.2 และตำรวจนครบาล ร่วมกันจับกุม ร.ต.อ.สัมพันธ์ กันทะสอน อายุ 38 ปี ตำแหน่งรอง สวป.สน.สุทธิสาร หรือ ผู้กองต๋อง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 225/2561 ลงวันที่ 18 มิ.ย. ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์ ยาบ้า ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย สมคบตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยสามารถจับกุมได้ที่ สน.สุทธิสาร เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้น พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 มีคำสั่งให้ ร.ต.อ.สัมพันธ์ ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และให้รายงานตัวต้องคดีอาญากับผู้บังคับบัญชา ซึ่งจากการสอบสวน ร.ต.อ.สัมพันธ์ ให้การปฏิเสธ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น,ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 มิ.ย.61 มีรายงานข่าวจาก บช.ปส. แจ้งว่า จากการสอบสวน ร.ต.อ.สัมพันธ์ กันทะสอน อายุ 38 ปี รอง สวป.สน.สุทธิสาร หรือผู้กองต๋อง ที่ถูกจับกุมตัว ยังคงให้การปฏิเสธเหมือนเดิมว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทางเจ้าหน้าที่จะต้องรวบรวมหลักฐานที่มีความเชื่อมโยงทั้งด้านการเงินและการสื่อสาร ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักพัก,อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ ทางเจ้าหน้าที่ บช.ปส. จะนำตัว ร.ต.อ.สัมพันธ์ ไปยื่นคำร้องขอฝากขังที่ศาลอาญา โดยพนักงานสอบสวนมีความเห็นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุม ไม่ได้เป็นการมอบตัว จึงเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี หรืออาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานอันเป็นอุปสรรคต่อการสืบสวนสอบสวนของเจ้าพนักงาน | ผู้กองต๋อง รอง สวป.สน.สุทธิสาร ยังให้การปฏิเสธ ไม่เกี่ยวข้องพัวพันค้ายาเสพติด ตำรวจ ปส.เตรียมส่งฝากขังศาลพรุ่งนี้ พร้อมคัดค้านประกันตัว | ข่าว,อาชญากรรม | ผู้กองต๋อง,สน.สุทธิสาร,ค้ายา,ตำรวจค้ายา,ฝากขัง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1311981 |
โจรใจบาป ย่องงัดบ้านร้างอดีตครูใจบุญที่เสียชีวิตไปแล้ว 5 ปี | เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 6 ก.ค.60 พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง ว่ามีเหตุคนร้ายงัดบ้านร้าง เลขที่ 120/3 ซ.อดุลยเดช 7 ชุมชนทุ่งสว่างตะวันตก ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านอดีตข้าราชการครูบำนาญที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน จึงรุดเข้าตรวจสอบ,ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ เนื้อที่ประมาณ 120 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด จากการตรวจสอบพบร่องรอยคนร้ายใช้คีมตัดเหล็กตัดตัวยูคล้องกุญแจประตูรั้วหน้าบ้าน ก่อนเข้าไปงัดประตูไม้และตัดเหล็กหน้าต่างเพื่อเข้าไปรื้อทรัพย์สินภายในบ้าน ได้แก่ ตู้เย็นโตชิบา สีเทา ขนาด 5 คิว จำนวน 1 เครื่อง, พระพุทธรูปหน้าตักกว้าง 9 นิ้ว จำนวน 2 องค์, พระเครื่องเก็บสะสมประมาณ 20 เหรียญ, หม้อหุงต้มอะลูมิเนียม และหม้อนึ่งอะลูมิเนียมขนาดใหญ่ อย่างละ 1 ใบ รวมทั้งเครื่องทำครัวจำนวนหนึ่งหายไปด้วย ,สอบสวน นางศราพร บุตรเต อายุ 52 ปี อดีตพยาบาลชำนาญการ รพ.เทศบาลนครอุดรธานี ผู้ดูแลบ้าน ให้การว่า บ้านหลังนี้ห่างจากบ้านของตนประมาณ 800 เมตร โดยตนเป็นลูกสะใภ้เจ้าของบ้าน ที่เป็นข้าราชการครูบำนาญและเสียชีวิตไปเมื่อ 5 ปีก่อน และได้มอบให้ลูกสาวคนเล็กเป็นมรดก แต่หลังจากลูกสาวแต่งงานกับชาวต่างชาติ ก็ได้อาศัยอยู่กับสามีที่ประเทศบรูไน และมีโครงการรื้อบ้านเพื่อสร้างขึ้นมาใหม่ในช่วงปลายปีนี้ และให้ตนเป็นคนดูแล ซึ่งตนจะมาดูแลบ้านทุกวันหลังทำงานบ้านเสร็จ และเมื่อวานยังพบทรัพย์สินอยู่ที่เดิมครบถ้วน แต่วันนี้พบประตูหน้าต่างถูกงัด ทรัพย์สินถูกรื้อค้นและทรัพย์หายไป ซึ่งเป็นทรัพย์สินของแม่สามีที่สะสมมาเมื่อครั้งมีชีวิต ,ซึ่งล้วนแต่เป็นทรัพย์สินของแม่สามีที่สะสมมาเมื่อครั้งมีชีวิตอยู่กับลูกหลาน ซึ่งท่านเป็นคนชอบทำบุญจึงซื้อหม้ออะลูมิเนียมขนาดใหญ่ไว้ใส่ข้าวปลาอาหารไปโรงทานในวัด เมื่อไม่มีใครอยู่เฝ้าบ้านจึงมักจะถูกคนร้ายงัดบ้านลักทรัพย์อยู่ประจำ หากรวมทั้งครั้งนี้ด้วยก็ประมาณ 10 ครั้ง ขนาดท่านเสียชีวิตไปแล้ว ยังตามมารบกวนลักขโมยสิ่งของเป็นที่รักของท่านเมื่อครั้งมีชีวิตอยู่ไป จึงขอให้ตำรวจช่วยติดตามคนร้ายรายนี้ที่กล้าแม้แต่ขโมยของคนที่เสียชีวิตไปแล้ว มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ด้วย,เบื้องต้น ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และใช้ยานพาหนะ เช่น รถสามล้อ จักรยานยนต์พ่วงข้าง หรือรถปิกอัพ ขนทรัพย์สินไป เนื่องจากทรัพย์สินบางสิ่งมีขนาดใหญ่ และเชื่อว่าคนร้ายเป็นคนในละแวกนี้ เพราะรู้ว่าไม่มีคนอยู่บ้านเป็นเวลานานหลายปีและภายในบ้านมีทรัพย์สินมีค่า ซึ่งทางตำรวจจะได้ออกสืบสวนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | ตำรวจรับแจ้งเหตุ คนร้ายงัดบ้านข้าราชการครูบำนาญที่เสียชีวิตไปแล้ว 5 ปี กวาดทรัพย์สินคนตายไปแล้วหลายรายการ เชื่อคนร้ายเป็นคนในละแวกเดียวกัน | ข่าว,ทั่วไทย | ยกเค้า,โจรงัดบ้าน,ขโมยขึ้นบ้าน,ครูเสียชีวิต,ขโมย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/996759 |
เอไอเอสลีกยังวุ่น หลายทีมไม่แข่งตามโปรแกรม | เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 7 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ อันรักษ์ ผู้ควบคุมการแข่งขัน ส.อ.ประภาส นาคพงษ์ ประธานสโมสรปราจีนบุรี ยูไนเต็ด และนายกิตติ ปักครึ ผู้จัดการทีมสระแก้ว เอฟชี และกรรมการผู้เกี่ยวข้อง ประชุมที่สนามกีฬา อบจ.สระแก้ว จากนั้นในที่ประชุมได้มีมติเลื่อนการแข่งขันออกไป ตามที่สโมสรฟุตบอลสระแก้ว เอฟซี ได้ขอโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลฯ ในวันที่ 7 ก.พ.59 ระหว่างทีมเยือนปราจีนบุรี ยูไนเด็ด กับทีมเจ้าบ้านสระแก้ว เอฟซี ซึ่งไม่สามารถใช้สนาม อบจ.สระแก้ว เนื่องจากสนามได้ขออนุญาตแล้ว เพื่อจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนและประชาชน ประจำปี 59 รอบคัดเลือกตัวแทนจังหวัดสระแก้ว ระหว่าง 7-18 ก.พ.59,นายกิตติ ปักครึ ผู้จัดการทีมสระแก้ว เอฟชี กล่าวว่า ล่าสุด เพราะเห็นว่าควรเลื่อนการแข่งขันออกไปเพียงสัปดาห์เดียวคงไม่มีผลอะไรมากเพราะไม่พร้อมอยู่หลายประการ ไม่ว่าจะเป็นสนามก็ไม่ว่าง ทีมฟุตบอลก็ไม่พร้อม จึงมีการเลื่อนการแข่งขัน มีหนังสือขอเลื่อนเมื่อวันที่ 19 ม.ค. ด้านฝ่ายจัดการแข่งขัน มีหน้าที่ที่จัดการแข่งขันไปตามปฏิทินที่กำหนดไว้ในทุกนัดที่ไม่ลงแข่งขัน เนื่องจากมีการเลื่อนการแข่งขันจากเดิมที่กำหนดไว้ ในวันที่ 14 ก.พ.59 มาเป็นวันที่ 7 ก.พ. จึงได้มีปัญหาตามมาดังกล่าว นอกจากนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับมติในที่ประชุมของคณะกรรมการว่าจะลงความเห็นเป็นเช่นไร,นายอภิสิทธิ์ อันรักษ์ ผู้ควบคุมการแข่งขัน กล่าวว่า ได้รับรายงานจากทีมสระแก้ว เอฟซี กับทีมปราจีนบุรี ยูไนเด็ด ว่าสนามกีฬา อบจ.สระแก้ว ไม่สามารถจัดการแข่งขันฟุตบอลได้ เนื่องจากความไม่พร้อมด้านสนามแข่งขันและด้านบุคลากรที่มาปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ไม่สามารถจัดการแข่งขันฟุตบอลในวันนี้ได้ จึงได้บันทึกมติในที่ประชุมให้ผู้มีหน้าที่ได้รับทราบดังกล่าว | การแข่งขันฟุตบอลเอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 กำหนดเปิดฤดูกาล วันที่ 7 ก.พ. อย่างไรก็ตาม ความวุ่นวายทำท่าจะเกิดขึ้น เมื่อหลายทีมแสดงท่าทีว่าจะไม่ร่วมแข่งขันในวันดังกล่าว พร้อมทั้งขอให้เลื่อนไปเตะในกำหนดเดิม 14 ก.พ. | null | เอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/574143 |
รวยเละ หวยยูโรมิลเลียนส์ แตกแล้ว เศรษฐีใหม่ในUK คว้าเงิน 6 พันล้าน | เมื่อ 9 ต.ค.62 สำนักข่าว,บีบีซี, รายงาน ข่าวฮือฮา เจ้าหน้าที่สำนักงานกองสลากกินแบ่งสหราชอาณาจักร(UK) เปิดเผยมีคนถูกแจ็กพอต ลอตเตอรี่ Euromillions (ยูโรมิลเลียนส์) คว้าเงินรางวัลมหาศาล 170,221,100 ปอนด์ (ประมาณ 6.3 พันล้านบาท) ซึ่งถือเป็นเงินรางวัลลอตเตอรี่สูงที่สุดในสหราชอาณาจักรเท่าที่เคยมีมา,สำนักงานกองสลากกินแบ่งสหราชอาณาจักร ยังเปิดเผยว่า เลขแจ็กพอต ลอตเตอรี่ ยูโรมิลเลียนส์ ได้แก่ เลข 7, 10, 15, 44, 49, 3 และ 12 ซึ่งมีคนซื้อลอตเตอรี่เลขที่ถูกแจ็กพอตนี้เพียงใบเดียวเท่านั้นและอยู่ในสหราชอาณาจักร โดยขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อของมหาเศรษฐีคนใหม่ และยังไม่รู้ว่าลอตเตอรี่ใบที่ถูกแจ็กพอตนี้ เป็นของบุคคลที่ซื้อลอตเตอรี่นี้เพียงคนเดียว หรือเป็นของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง หรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง,บีบีซี ยังแจ้งว่า ถ้าผู้ที่ถูกลอตเตอรี่แจ็กพอตยูโรมิลเลียนส์ เป็นคนที่ซื้อเพียงคนเดียว จะทำให้คนผู้นี้ติดอันดับมหาเศรษฐี 1,000 คนของ Sunday Times Rich ที่ร่ำรวยที่สุดที่อาศัยอยู่หรือทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสหราชอาณาจักรเลยทีเดียว,ด้าน แอนดี้ คาร์เตอร์ ที่ปรึกษาอาวุโสคนถูกแจ็กพอตลอตเตอรี่ ของสำนักงานกองสลากกินแบ่งสหราชอาณาจักร กล่าวด้วยความดีใจว่า มีเพียงคนเดียวที่เป็นเจ้าของลอตเตอรี่ถูกแจ็กพอตซึ่งโชคดีอย่างเหลือเชื่อ คว้าเงินรางวัล 170 ล้านปอนด์ สูงสุดเท่าที่เคยมีมา และขอให้ทุกคนที่ซื้อลอตเตอรี่รีบนำลอตเตอรี่มาตรวจดูโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ | ยังไม่รู้ใครถูกแจ๊กพอต ลอตเตอรี่ ยูโรมิลเลียนส์ แตกแล้ว มีคนใน UK ซื้อลอตเตอรี่ใบที่ถูกเพียงใบเดียว คว้าเงินรางวัลสะสมสูงสุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น ถึง 170 ล้านปอนด์ หรือกว่า 6 พันล้านบาท | ข่าว,ต่างประเทศ | ยูโรมิลเลียนส์,ลอตเตอรี่ ยูโรมิลเลียนส์,ถูกลอตเตอรี่,สหราชอาณาจักร,แจ็กพอตแตก | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1678906 |
ประยุทธ์ สั่งเร่งรัดคดีทุจริตที่สร้างความเสียหายร้ายแรง - ขึ้นบัญชีดำนักธุรกิจที่มีพฤติกรรมทุจริต | 19 ธ.ค. 2559 รายงานข่าวจากเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า เมื่อเวลา 09.30 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ครั้งที่ 5/2559 โดยมี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมภายหลังการประชุม ประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ ศอตช. พร้อมด้วย รศ.จุรี วิจิตรวาทการ ประธานอนุกรรมการฯ ด้านการปลูกจิตสำนึกและสร้างการรับรู้ รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานอนุกรรมการฯ ด้านการประชาสัมพันธ์ สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการประสานความร่วมมือข้อตกลงคุณธรรม และ ดร.มานะ นิมิตมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ร่วมกันแถลงผลการประชุม สรุปสาระสำคัญดังนี้รศ.จุรี วิจิตรวาทการ กล่าวถึงการดำเนินงานในระยะเวลาที่ผ่านมาของคณะอนุกรรมการฯ ด้านการปลูกจิตสำนึกและสร้างการรับรู้ ว่า คณะอนุกรรมการฯ ได้ตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องทำให้เด็กนักเรียนได้เข้าถึงสาระสำคัญในหลักสูตรโตไปไม่โกง ซึ่งนอกจากการขับเคลื่อนร่วมไปกับทางโรงเรียนแล้ว คณะอนุกรรมการฯ ได้ดำเนินการผลิตสื่อใหม่เพิ่มเติมเพื่อส่งไปช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ของเด็ก โดยได้ผลิตแผ่นดีวีดีสื่อรณรงค์ประเภทต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่และรณรงค์อย่างกว้างขวาง ประกอบด้วย 1. สื่อประชาสัมพันธ์ หลักสูตร โตไปไม่โกง 40000 ชุด 2. สื่อแอนิเมชั่น ก้านกล้วยกับโตไปไม่โกง 40000 ชุด 3. สื่อรณรงค์ สำนึกไทย ไม่โกง 10000 ชุด 3. สื่อวิทยุรณรงค์สร้างจิตสำนึก 10000 ชุด นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้หารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทยว่าจะนำหลักสูตรโตไปไม่โกงลงไปสู่โรงเรียนส่วนท้องถิ่น พร้อมกับจะนำสื่อต่าง ๆ ไปเผยแพร่ด้วย และอาจจะมีโครงการอบรมสำนึกไทยไม่โกงให้กับเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นด้วย นอกจากนี้ มีบางประเทศในตะวันออกกลางจะขอส่งคนมาอบรมเรียนรู้หลักสูตรโตไปไม่โกง ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเจรจารศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ กล่าวว่า จะมีการกำหนดหน่วยงานที่สำคัญบางหน่วยงานที่รัฐบาลจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษในเรื่องการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ และเพื่อทำให้ขั้นตอนต่าง ๆ ของการที่จะได้รับใบอนุญาตจากทางราชการมีขั้นตอนที่ลดลง มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ซึ่งคณะกรรมการชุดที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะได้กำหนดหน่วยงานต่าง ๆ ออกมา โดยในเบื้องต้น หน่วยงานที่ควรจะถือว่าเป็นต้นแบบของการใช้ พ.ร.บ.อำนวยความสะดวก ที่จะปรับปรุงระเบียบขั้นตอนต่าง ๆ ให้รวดเร็วมากขึ้น ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. กรมศุลกากร กรมที่ดิน กรมโรงงานอุตสาหกรรม และหน่วยงานสำหรับการยื่นขอวีซ่าที่สนามบิน เพราะมีนักท่องเที่ยวและผู้ป่วยจำนวนมากที่เดินทางมาเพื่อรักษาตัวในประเทศไทย แต่การออกใบอนุญาตให้เข้าประเทศยังมีความล่าช้ามาก โดยรัฐบาลจะได้แต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษา ขึ้นมาดำเนินการในเรื่องนี้เป็นพิเศษ ซึ่งไม่ใช่เป็นการไปตรวจจับผิดแต่จะไปช่วยลดขั้นตอนการทำงาน แต่เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการเข้ามาลงทุน นักท่องเที่ยว และผู้ที่ต้องการเข้ามารักษาตัวในประเทศไทย พร้อมกันนี้ ที่ประชุม คตช. มีมติเห็นชอบให้ทั้ง 9 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต ได้ทำงานอย่างบูรณาการร่วมกันต่อไป นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเร่งรัดคดีทุจริตที่สร้างความเสียหายกับประเทศอย่างร้ายแรง เช่น โครงการบ้านเอื้ออาทร ที่ผ่านมาแล้วกว่า 20 ปี โดยให้ไปรวบรวมข้อมูลและรายงานความคืบหน้าคดีนี้ในการประชุมครั้งต่อไป และสั่งการให้รวบรวมรายชื่อขึ้นบัญชีดำนักธุรกิจที่มีพฤติกรรมทุจริต เพื่อไม่ให้คนเหล่านี้มาทำประมูลงานกับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งจะเป็นการป้องกันการทุจริตได้อีกทางหนึ่งสุทธิรัตน์ รัตนโชติ กล่าวว่า ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการประสานความร่วมมือข้อตกลงคุณธรรม ใน 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1. โครงการข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ที่ได้ดำเนินการในปีงบประมาณ 2558 จำนวน 14 โครงการ ปีงบประมาณ 2559 จำนวน 12 โครงการ และในปีงบประมาณ 2560 ดำเนินการจำนวน 9 โครงการ ซึ่งการดำเนินงานทั้งหมดและผลจากการเข้าสังเกตการณ์ได้ข้อสรุปว่า ทำให้การจัดซื้อจัดจ้างมีความโปร่งใสเกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และสามารถประหยัดงบประมาณได้2. โครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (Construction Sector Transparency Initiative : CoST) ที่ขณะนี้กรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างนำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อส่งเสริมความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ เพื่อเป็นกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (MSG) ตามหลักการของ CoST เพื่อขับเคลื่อนงานต่อไป 3. การศึกษาระบบมาตรฐานรหัสต้นทุนก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2555 ของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (ว.ส.ท.) และนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดทำฐานข้อมูลราคากลางงานก่อสร้างภาครัฐดร.มานะ นิมิตรมงคล กล่าวว่า ที่ประชุมสั่งการให้แต่ละหน่วยงานเร่งรัดการจัดทำคู่มือและแนวทางพัฒนาการให้บริการประชาชนตาม พ.ร.บ.อำนวยความสะดวก ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าการจัดทำคู่บริการประชาชน มีมากกว่า 870000 คู่มือ แต่ทาง กพร. ได้ตรวจความถูกต้องได้เพียง 35000 คู่มือ หรือ 4.3 เปอร์เซ็นต์ ที่ประชุมจึงอนุมัติให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงานประกาศใช้คู่มือที่ได้จัดเตรียมไว้แล้วออกไปก่อน และจะให้ กพร. ไปตรวจสอบพิจารณาอีกครั้ง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมการเร่งรัดเข้าไปสู่ขั้นตอนที่ 2 คือต้องมีการคิดแนวทางในการพัฒนาการให้บริการประชาชน โดยขอให้มีหน่วยงานตัวอย่างเพื่อการพัฒนาการให้บริการประชาชนเป็นการเร่งด่วน 3 หน่วยงาน คือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรมที่ดิน และกรมศุลกากร ขณะที่มีหนึ่งหน่วยงานที่เป็นตัวอย่างการพัฒนาระบบการให้บริการประชาชนที่รวดเร็วทันสมัย คือกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ที่ได้เสนอตัวโดยสมัครใจของหน่วยงานด้าน ประยงค์ ปรียาจิตต์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี สั่งการให้มีหนังสือชมเชยไปยังหน่วยงานที่มีผลงานด้านความโปร่งใสมีผลคะแนนดีเยี่ยม 2 ปีติดต่อกันรวม 157 หน่วยงาน ขณะที่มี 5 หน่วยงานที่ยังมีผลคะแนนประเมินต่ำ สำหรับในเรื่องคะแนนด้านความเชื่อมั่นจะมีส่วนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างประเทศ ที่ประชุมจึงมีมติให้นำ พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกมาใช้ในทุกหน่วยงานของรัฐ และหน่วยงานรัฐบาลที่จะรับการประเมินจากต่างประเทศ ต้องเผยแพร่ข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ 2 ภาษาทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานรัฐได้ดำเนินการปรับปรุงไปมากแล้ว แต่นักลงทุนต่างประเทศยังไม่ทราบ ทั้งนี้ ให้ทุกหน่วยงานดำเนินการให้เสร็จภายใน 30 วัน นอกจากนี้ เพื่อให้บังเกิดผลต่อการเพิ่มคะแนนอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานในประเทศด้วย จึงให้ยึดหลักว่าต่อไปนี้การทำงานภาครัฐ ต้องให้ชาวต่างประเทศเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย เข้าใจได้ง่าย และหน่วยงานต้องปฏิบัติงานจริง ซึ่งจะใช้ พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวก และหนังสือร้องเรียนของประชาชนมาใช้ในการกำกับการปฏิบัติงานพร้อมกันนี้ ประยงค์ เปิดเผยว่า สำหรับคำสั่งมาตรา 44 ที่ได้โยกย้ายข้าราชการ รวมจำนวน 353 คน นั้น ต้นสังกัดได้ดำเนินการตรวจสอบและมีคำสั่งลงโทษตามกฎหมายของแต่ละหน่วยงานแล้ว 81 ราย ขณะเดียวกัน ป.ป.ช. ได้ชี้มูลไปแล้ว 17 ราย เท่ากับว่ามีผู้ที่ถูกระงับหรือต้องพ้นจากหน้าที่ไปแล้วทั้งหมด 98 ราย และต้นสังกัดดำเนินการตรวจสอบทางวินัยตามอำนาจหน้าที่ 40 ราย ซึ่ง ปปท. จะได้ตรวจสอบรายละเอียดและนำเสนอประสานกับ ป.ป.ช. ต่อไป เพราะข้อสั่งการคือหากต้นสังกัดบอกว่าไม่มีความผิด แต่ยังมีเรื่องค้างอยู่ที่ ป.ป.ช. ก็ต้องรอผลจาก ป.ป.ช. นอกจากนี้ มีต้นสังกัดรายงานมาว่า มีอยู่ 64 เรื่องที่ต้นสังกัดกำลังดำเนินการอยู่ และมีอีก 153 เรื่องที่ต้นสังกัดยังไม่ได้รายงานมา ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ที่มีคำสั่งมาตรา 44 ระงับการปฏิบัติหน้าที่หรือย้าย เพื่อเป็นการกระตุ้นให้หัวหน้าส่วนราชการหรือต้นสังกัดใช้อำนาจหน้าที่ดำเนินการทางปกครอง วินัย กับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหาว่าเข้าไปเกี่ยวข้อง ถ้าให้อยู่ในตำแหน่งต่อไปจะก่อให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม หรืออาจไปยุ่งเกี่ยวกับพยานได้ | ที่มาภาพ เว็บไซต์ทำเนียฯ 19 ธ.ค. 2559 รายงานข่าวจากเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า เมื่อเวลา 09.30 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี | การเมือง | คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ,คดีทุจริต,ทุจริต,นักธุรกิจ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,โครงการบ้านเอื้ออาทร | https://prachatai.com/journal/2016/12/69324 |
ประกันจ่ายรายละ 3 แสน เหยื่อรถตู้ชนพ่วง สังเวย 11 ศพสยองสระแก้ว | กรณีอุบัติเหตุสยอง เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา รถตู้โดยสารไม่ประจำทางยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 34-0405 กรุงเทพมหานคร ของ หจก.นาวินทราเวล 2016 พุ่งชนประสานงากับรถบรรทุก 18 ล้อ ฮีโน่ ทะเบียน 70-1234 อุตรดิตถ์ ทะเบียนพ่วง 70-1235 อุตรดิตถ์ บนถนนสาย 317 สระแก้ว-จันทบุรี บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอวังสมบูรณ์ หมู่ 1 ต.วังใหม่ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 11 ศพ บาดเจ็บอีก 4 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวลาว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น,เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ส.ค.62 พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ลงพื้นที่ สภ.วังสมบูรณ์ โดยมี พ.ต.อ.ชัยธนันท์ จิรปัยเศรษฐ์ ผกก.สภ.วังสมบูรณ์ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจของโรงพักให้การต้อนรับ,พล.ต.ต.สุรจิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด พร้อมช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งในเบื้องต้นผู้ประกอบการรถตู้จะรับผิดชอบทั้งหมด และได้รับการประสานจากประกันอุบัติเหตุว่าจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนสำหรับญาติผู้เสียชีวิตรายละ 3 แสนบาท,ร.ต.อ.สุชาติ กอแก้วทองมา พนักงานสอบสวน สภ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว เผยว่า ได้มีญาติผู้เสียชีวิตชาวลาว จำนวน 3 ราย มาขอใบรับรองการเสียชีวิตของญาติ เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการรับศพผู้ตาย ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป,ต่อมาเวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางนันทยา ใฝ่เมตตา ขนส่งจังหวัดสระแก้ว ดร.ยุทธศักดิ์ ประเสริฐ หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่งสระแก้ว นายจรัญ มะคำไก่ ปลัดอำเภอวังสมบูรณ์ นายพิเชษฐ์ รักซ้อน กำนันตำบลวังใหม่ นายธีระยุทธิ์ ถนอมวัฒนา นายช่างหัวหน้าโครงการสระแก้ว-จันทบุรี และเจ้าหน้าที่กรมขนส่งทางบก ทหาร ตำรวจ หน่วยกู้ภัยสว่างวังสมบูรณ์ ร่วมลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อตรวจสอบข้อมูลสภาพถนน และสภาพแวดล้อมเพื่อหาข้อสรุปสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้,ดร.ยุทธศักดิ์ ประเสริฐ หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่งสระแก้ว กล่าวถึงกรณีสื่อบางสำนักนำเสนอข่าวสัญญาณ GPS รถตู้คันดังกล่าวถูกตัดนั้นว่า จริงๆ แล้วเป็นการได้รับข้อมูลข่าวสารที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ซึ่งจากการตรวจสอบอย่างละเอียดของการใช้จีพีเอสของรถตู้คันดังกล่าว ขอยืนยันว่ารถมีการใช้จีพีเอสได้อย่างถูกต้อง ส่วนที่คลาดเคลื่อนอาจเป็นไปได้ว่า ระบบจีพีเอสขึ้นที่เลขศูนย์นั้น ทำให้เข้าใจว่ามีการแก้ไขจีพีเอส จริงๆ แล้วถ้ารถมีการเคลื่อนตัวจีพีเอสถึงจะขยับขึ้นตามความเร็ว แต่ถ้าเกิดว่ามันอยู่ที่จุดศูนย์ ก็อาจจะเป็นการจอดพักแวะ จอดทานอาหาร จอดเติมน้ำมัน,จากการตรวจสอบรายละเอียดแล้ว มีการใช้ระบบจีพีเอสตลอด ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.62 ที่เริ่มรับแรงงานต่างด้าวชาวลาวจนมาถึงจุดเกิดเหตุ มีการใช้ระบบจีพีเอส ต่อเนื่องมาตลอด จนถึงจุดสุดท้ายที่ความเร็ว 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จีพีเอสก็ใช้งานปกติ จากการตรวจสอบรถตู้ที่ประสบเหตุแล้วมีการใช้ความเร็วที่ไม่เร็วมาก ส่วนมาตรฐานของรถตู้ก็ไม่ได้บรรทุกผู้โดยสารเกินแต่อย่างใด อยู่ที่ 13 ที่นั่ง รวมคนขับด้วยก็ 14 ที่นั่ง ซึ่งจากการตรวจสอบก็เพิ่งผ่านการตรวจสอบตามระเบียบของทางราชการกรมขนส่งทางบก เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2562 ที่ผ่านมานี่เอง,สำหรับเส้นทางจุดเกิดเหตุอยู่ระหว่างก่อสร้าง อยากฝากเตือนประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ใช้ความเร็วในอัตราที่กฎหมายกำหนด อีกอย่างต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อเป็นการป้องกัน และช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุเป็นเวลาค่ำมืด มีความเสี่ยงสูงสำหรับผู้ที่ขับขี่ที่ใช้ระยะเวลานานๆ ก็จะทำให้เกิดอาการอ่อนล้า อ่อนเพลียได้ ถ้ารู้ว่าอ่อนล้าอ่อนเพลีย ก็ขอให้พักผ่อนจนกว่าร่างกายจะมีความพร้อมจึงขับรถเดินทางต่อ,นายธีระยุทธิ์ ถนอมวัฒนา นายช่างหัวหน้าโครงการสระแก้ว-จันทบุรี กล่าวว่า สำหรับโครงการก่อสร้างถนนสาย 137 สระแก้ว-จันทบุรี เส้นทางในบางจุดอยู่ระหว่างก่อสร้างสะพาน ก็ได้ทำทางเบี่ยงให้รถวิ่งสวนเลนกันได้ อีกทั้งจะมีป้ายแจ้งเตือนเป็นระยะๆ ยอมรับว่าบางจุดก็อาจมืด ซึ่งมีการพิจารณาว่าจะเพิ่มแสงสว่างเพื่อความปลอดภัยกับผู้ใช้รถใช้ถนน,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถบรรทุกพ่วงคู่กรณี ติดตั้ง GPS กับ บริษัท ฟอร์ทแทร็คกิ้ง ซีสเต็ม จำกัด ความเร็วก่อนเกิดเหตุ คือ ความเร็ว 48 กม./ชม. เวลา 04.06.39 น. ความเร็ว 44 กม./ชม. เวลา 04.04.39 น. ความเร็ว 37 กม./ชม. ไม่พบการตัดสัญญาณ GPS โดยกรมการขนส่งทางบกได้มอบหมายให้สำนักงานขนส่งจังหวัดสระแก้วร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามผลทางคดีอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีการกระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกจะได้พิจารณาลงโทษในทุกกรณีความผิดต่อไป. | ผู้การสระแก้ว เผยประกันจ่ายค่าสินไหมทดแทน เหยื่ออุบัติเหตุสยอง รถตู้ชนประสานงารถพ่วงตายหมู่ 11 ศพ รายละ 3 แสนบาท พบโชเฟอร์เหยียบมา 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้านขนส่งจังหวัดแจงปมตัดสัญญาณจีพีเอส | ข่าว,อาชญากรรม | รถตู้,อุบัติเหตุรถตู้,รถตู้ชนพ่วง,11 ศพ,สระแก้ว,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1641246 |
ผัวโหดแย่งลูกกระทืบเมียสลบคาตีน มือมืดแค้นแทนยิงใส่จอมเตะดับคาที่ | สาวที่แค้นการกระทำ
,เมื่อเวลา 21.40 น. วันที่ 25 ก.พ. ร.ต.อ.จรินทร์ หลีเอบ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันตายหน้าบ้านเลขที่ 154/2 หมู่ 5 ต.นาเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.นิติ บุญจันทร์ รอง ผกก.(สอบสวน) รรท.ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช, พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.อภิชาติ คชเวช รอง ผกก.(หน.พนักงานสอบสวน),พ.ต.ต.วันชัย สุวรรณรัตน์ สว.สส., กำลังตำรวจชุดสืบสวน, แพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชและจนท.มูลนิธิใต้เต๊กตึ๊ง ไปที่เกิดเหตุเพื่อร่วมกันชันสูตรพลิกศพและสอบสวนในที่เกิดเหตุ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว บริเวณลานพื้นดินหน้าบ้านพบศพผู้ตายชื่อนายอนุชา หมิแหละหมัน อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/2 หมู่ 6 ต.นาเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 เข้ากลางแผ่นหลังทะลุหน้าอก 2 แผล นอนหงายจมกองเลือดตาย ในชุดสวมเสื้อยืดคอกลมสีเทา นุ่งกางเกงขายาวสีดำ
โดยในที่เกิดเหตุใกล้กัน จนท.พบร่างผู้บาดเจ็บเป็นเมียของผู้ตายชื่อ น.ส.เรไร กิ่งแก้ว อายุ 35 ปี บ้านเดิมอยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 9 ต.พืชอุดม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี มีบาดแผลถูกซ้อมทำร้ายร่างกายใบหน้าและลำตัวฟกช้ำทั่วร่าง นอนสลบในที่เกิดเหตุ ซึ่งจนท.ได้ช่วยปฐมพยาบาลจนฟื้นขึ้นมาและรีบนำส่ง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช โดยมีลูกสาววัย 1 ขวบ ร้องไห้ มีเพื่อนบ้านช่วยอุ้มลูกสาวไว้ตลอดเวลา
,จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ น.ส.เรไร และลูกสาววัย 1 ขวบ พักอาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านญาติให้ น.ส.เรไร และลูกสาวพักอาศัย 2 คนแม่ลูก ปรากฏว่าขณะนั้นได้มีนายอนุชา สามีซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีปากเสียงเรื่องทะเลาะกันเป็นประจำ และได้เลิกรากันได้ไม่นาน ได้เดินเข้ามาในบ้านเพื่อจะแย่งลูกสาววัย 1 ขวบไปเลี้ยงเอง แต่ น.ส.เรไรไม่ยอมให้ จนเกิดการแย่งลูกสาวกัน และมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง นายอนุชาโมโหได้ลงมือซ้อมเตะต่อย น.ส.เรไร จนสลบเหมือดคาที่ ซึ่งขณะเกิดการชุลมุนกันอยู่นั้นปรากฏจู่ๆได้มีคนร้ายไม่ทราบเป็นใครใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ยิงใส่กลางแผ่นหลังนายอนุชา 2 นัดจนล้มตายคาที่ แล้วคนร้ายได้หลบหนีหายไปกับความมืด ส่วน น.ส.เรไร จนท.มูลนิธิได้ปฐมพยาบาลจนฟื้นและรีบนำส่ง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชเพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือรักษาบาดแผลฟกช้ำต่อไปแล้ว
,ด้าน พ.ต.ท.นิติ บุญจันทร์ รอง ผกก.(สอบสวน) รรท.ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เผยว่า จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นจนท.ยังไม่ทราบคนร้ายเป็นใคร ซึ่งอาจจะเป็นเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงหรืออาจจะเป็นญาติคนใดคนหนึ่งของ น.ส.เรไร ทนเห็นนายอนุชาสามี ซ้อมเมียไม่ไหวทำให้โกรธแค้นคว้าปืนออกมายิงแล้วหลบหนี ซึ่งทางตำรวจจะได้เร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดีออกติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามก.ม.ต่อไป. | ผัวโหดกระทืบเมียสลบคาตีน หลังเปิดศึกแย่งลูกสาววัย 1 ขวบ จนเพื่อนบ้านเข้ามามุงดู สุดท้ายมีมือมืดที่อาจทนเห็นความโหดไม่ไหว ลั่นกระสุนใส่ผัวจอมโหดดับคาที่ ด้าน ตร.คาดว่าอาจเป็นเพื่อนบ้าน หรือญาติของฝ่าย | ข่าว,อาชญากรรม | ผัวโหดกระทืบเมีย,กระทืบเมียสลบ,แย่งลูกวัย1ขวบ,นครศรีฯ,ยิงผัว,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1213868 |
กสท.เตรียมหารือเพื่อพิจารณากรณีทักษิณออกช่อง 11 | ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงสำหรับการถ่ายทอดสดมวยของช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ที่ปรากฏภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้ (14ธ.ค.55) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. จะมีการประชุม ซึ่ง น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช.เตรียมเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา และยืนยันว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจการพิจารณาของ กสท.ขณะที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 พรรคร่วมรัฐบาลจึงนัดหารือกันในเวลา 12.00 น.เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขร่วมกันหลังคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ส่งรายงานถึงแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าวให้กับพรรคร่วมรัฐบาลรับทราบแล้ว เพื่อให้ได้ข้อสรุปประเด็นนี้ก่อนเปิดประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติในวันที่ 21 ธันวาคม12.00น.วันนี้ พรรคร่วมรัฐบาลจะนัดหารือ เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขร่วมกัน ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค / ขณะที่ท่าทีแต่ละพรรคเริ่มมีความเห็นสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี ให้จัดทำประชามติก่อนลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ซึ่งคาดการณ์กันว่าภายใน 1-2 สัปดาห์จะสามารถนำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรีเพื่อขอทำประชามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ | กสท.เตรียมการประชุมพิจารณา ช่อง 11 ที่มีการแพร่ภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกอากาศ ทั้งนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราที่ 291 พรรคร่วมรัฐบาลได้นัดหารือกันในเวลา 12.00 น. เพื่อให้ได้ข้อสรุปประเด็นก่อนเปิดประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติในวันที่ 21 ธันวาคม | การเมือง | กสท.,ช่อง11,ทักษิณ | https://news.thaipbs.or.th/content/132747 |
ผู้ว่าฯ อยุธยาเตรียมรับมือน้ำท่วมระลอกใหม่ | นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประชุมร่วมกับ ผู้นำชุมชนจากหมู่บ้านต่างๆ ทั้ง 16 อำเภอ กว่า 300 คน เพื่อรับมือสถานการณ์อุทกภัยรอบใหม่ รวมถึงพายุฤดูร้อนที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงนี้ตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาสำหรับมาตรการการรับมือสถานการณ์อุทกภัยนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการให้แต่ละชุมชนจัดตั้งหน่วยงานเพื่อเตรียมความพร้อมขึ้น โดยใช้บุคลากรในชุมชนประสานความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งข่าวสารความเดือดร้อน และการขอความช่วยเหลือกรณีประสบอุทกภัยให้กับผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และทางจังหวัด เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว โดยให้ใช้ประสบการณ์จากน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมามาปรับแผนรับมือนายวิทยา ระบุว่า การตั้งหน่วยงานย่อยภายในชุมชน เช่น หน่วยงานการให้ความช่วยเหลือเฉพาะเรื่องอาหาร ผู้สูงอายุ และเด็ก รวมถึงหน่วยงานการส่งต่อข่าวสาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้การช่วยเหลือเข้าถึงอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และช่วยลดปัญหาการส่งความช่วยเหลือจากส่วนกลางลงไปส่วนกรณีพายุฤดูร้อน ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีนั้น ทางจังหวัดเห็นว่า วิธีการตั้งหน่วยงานย่อยในชุมชน จะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ทางหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ชาวบ้านมักต่างคนต่างเอาตัวรอด ไม่ได้ช่วยเหลือกัน หากมีการบูรณาการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว การช่วยเหลือก็จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และสามารถใช้ได้ทั้งกรณีของพายุฤดูร้อน และสถานการณ์อุทกภัยด้วย | ผู้ว่าฯ จ.พระนครศรีอยุธยา เรียกผู้นำชุมชนใน 16 อำเภอ ร่วมประชุม เตรียมความพร้อมในการรับมือน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก พร้อมสั่งให้ทุกหน่วยงานตั้งแต่ระดับจังหวัดลงไป เตรียมการรับมือพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในช่วงนี้ด้วย | ภูมิภาค | น้ำท่วม,น้ำหลาก,ผู้ว่าฯ,พายุฤดูร้อน,อยุธยา,อุทกภัย,เตรียมความพร้อม | https://news.thaipbs.or.th/content/69223 |
สพฐ.ชี้คลิป แป๊ะเจี๊ยะ มีมูลความผิด-สอบวินัยร้ายแรง ผอ.ร.ร.สามเสน | วันนี้ (19 ก.ค.2560) นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ว่า ข้อสรุปของคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง พบว่า นายวิโรฒ สำรวล ผู้อำนวยการโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย มีมูลความผิดจริงใน 2 ประเด็น คือ มีการเรียกระดมทรัพยากรระหว่างที่มีการรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โควตาพิเศษ ประจำปี 2560 เพราะพบว่าเหตุการณ์เรียกรับเงิน 400000 บาท เกิดขึ้นในวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ห้ามระดมทรัพยากรและไม่ได้มีการออกใบเสร็จ แต่ออกให้ย้อนหลังในวันที่ 20 มิ.ย. ซึ่งผิดระเบียบกระทรวงการคลัง จึงต้องตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงเลขาธิการ กพฐ. ยังระบุว่า ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 กรุงเทพมหานคร (สพม.เขต 1) จะเสนอเรื่องให้ศึกษาธิการจังหวัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับนายวิโรฒในการเข้ามาชี้แจงข้อกล่าวหาด้วย ผลการสอบวินัยอย่างร้ายแรงมี 3 กรณี คือ 1.สอบสวนแล้วไม่พบความผิด 2.สอบสวนแล้วพบความผิดจริงต้องโดนปลดออกหรือไล่ออก และ 3.สอบสวนแล้วพบมีความผิดจริงแต่ไม่ร้ายแรงทั้งนี้ เมื่อคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงออกแล้ว สพฐ.จะพิจารณาโยกย้ายนายวิโรฒออกจากพื้นที่ทันที และให้มาช่วยราชการในส่วนกลาง พร้อมขอให้ผู้ปกครองและนักเรียนโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ไม่ต้องเป็นกังวลว่าสถาบันจะเสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคลไม่เกี่ยวกับสถาบันการศึกษา | สพฐ.ชี้กรณีคลิปผู้อำนวยการโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย เรียกรับเงิน 400000 บาท แลกรับเด็กเข้าเรียนชั้น ม.1 มีมูลความผิด เพราะเรียกรับเงินในช่วงที่กำลังรับนักเรียนและออกใบเสร็จย้อนหลัง พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง | สังคม | แป๊ะเจี๊ยะ,สามเสนวิทยาลัย,โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย,สพฐ.,วิโรฒ สำรวล | https://news.thaipbs.or.th/content/264511 |
บัวแก้วเผยกัมพูชาแจ้งผลประกันตัวศิวรักษ์ 4 ธ.ค.นี้ | ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ช่วยเหลือลูกชาย โดยระบุว่าการให้ความช่วยเหลือของกระทรวงการต่างประเทศเป็นไปด้วยความล่าช้าว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกับ น.ส.มธุรพจนา อิทธะรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุลซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการประสานงานโดยตรงกับมารดาของนายศิวรักษ์ ทราบว่า ได้มีการพูดคุยกับนางสิมารักษ์แล้วและได้ความว่า นางสิมารักษ์ ได้รับการติดต่อจากนายนพดลในช่วงเช้าและค่อนข้างใจร้อนอยากพบลูกเร็วกว่าที่ได้กำหนดไว้ ทางท่านรองอธิบดีฯ ได้คุยกับคุณแม่ แล้วคุณแม่ก็ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อเช้าคุณแม่ได้รับการติดต่อจากทางคุณนพดล ปัทมะ ซึ่งได้สอบถามสารทุกข์สุขดิบ ซึ่งคุณแม่ก็พูดถึงว่าท่านเข้าใจกระบวนการขั้นตอนของรัฐบาลและฝ่ายกระทรวงการต่างประเทศ ก็ดำเนินการอยู่และมีกระบวนการทั้งหลายที่เกี่ยวข้อง แต่คุณแม่ค่อนข้างใจร้อน จริงๆ แล้ววันที่ 7 ธ.ค. มีกำหนดการจะไปอยู่แล้ว เพราะมีกำหนดการพิจารณาในวันที่ 8 ธ.ค. เท่าที่ทราบตอนแรกจะเป็นการคุยกันในลักษณะนั้น แต่ว่าอย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายคุณแม่ก็ได้มาร่วมการแถลงข่าวอย่างที่ได้ทราบอยู่แล้ว ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศของเราก็พูดได้แต่เพียงว่าเราได้ทำเต็มที่ เรื่องของความสำคัญที่เราให้กับเรื่องนี้ เราให้ความสำคัญอย่างมาก เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ทำงานอย่างเต็มที่ เชื่อว่าทุกคนคงจะทราบว่าเราให้ความสำคัญเพียงใด และผู้ที่เกี่ยวข้องก็มีความเป็นห่วงคุณศิวรักษ์กันทั้งนั้น และพยายามทำทุกวิถีทางที่เราจะสามารถทำได้ ที่จะช่วยให้คุณแม่มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมและติดต่อประสานงานกับกัมพูชาอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา น.ส.วิมลกล่าวน.ส.วิมล กล่าวด้วยว่า ไม่ว่าจะมีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างไรก็ตาม หรือพูดถึงบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศอย่างไร นางสิมารักษ์ก็ได้พูดตั้งแต่เมื่อเช้าว่าเข้าใจถึงกระบวนการที่เกี่ยวข้อง แต่ใจร้อนอยากจะไปหาลูกอีกให้เร็วกว่าวันที่ 7 ธ.ค. ซึ่งอาจจะมีการพูดคุยกับนอกกระบวนการไปเพราะไม่ได้มาคุยกับทางกระทรวงการต่างประเทศ ในประเด็นว่าคุณแม่อยากจะไปเร็วกว่าวันที่ 7 ธ.ค. ความจริงมีการพูดถึงประเด็นว่าอยากเอาของไปให้ลูกเพิ่มเติมทั้งเสื้อผ้า ผ้าห่ม ซึ่งรองอธิบดีฯ ระบุว่าไม่ต้องห่วงเพราะสามารถประสานไปกับทางทนายเพื่อเอาของเข้าไปให้เพิ่มเติม ทั้งนี้ ขอยืนยันอีกครั้งว่าทางกระทรวงฯ ก็คงจะทำอย่างเต็มที่ต่อไป และคงจะทำหน้าที่ของเราในเรื่องนี้ ทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ก็จะคงยืนยันถึงความสำคัญที่เราให้กับเรื่องนี้และทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่ ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับการทำหน้าที่ของเรา ก็คงพูดได้เท่านี้น.ส.วิมล กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อบ่ายวันนี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศได้รับกำหนดการเพิ่มเติมจากทางกัมพูชาว่า วันที่ 4 ธ.ค.กัมพูชาจะแจ้งผลการพิจารณากรณียื่นเรื่องการขอประกันตัวนายศิวรักษ์ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ยื่นขอไป โดยกำหนดการที่ได้รับทราบเพิ่มเติมนี้ผ่านการประสานงานจากทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ในกัมพูชา | วานนี้ (30 พ.ย.) น.ส.วิมล คิดชอบ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรซึ่งถูกกัมพูชาควบคุมตัว ได้แถลงข่าวร่วมกับนายนพดล | การเมือง,สิทธิมนุษยชน,สังคม | กระทรวงการต่างประเทศ,กัมพูชา,ศิวรักษ์ ชุติพงษ์,แถลงข่าว | https://prachatai.com/journal/2009/12/26826 |
กระตุ้นเศรษฐกิจให้ทัน | โครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ที่ ,รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, เข็นออกมากระตุ้นเศรษฐกิจเป็นไพ่ใบสุดท้ายจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่การเจรจากับประเทศร่วมลงทุน จีนและญี่ปุ่นที่ รองนายกฯ ,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, และ รองนายกฯ ,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์, ต้องออกแรงไปเจรจาเอง,โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง โครงการรถไฟรางคู่ รวมถึงทางด่วนมอเตอร์เวย์ ใช้เงินลงทุนเป็นแสนล้าน เรื่องของผลประโยชน์ เงื่อนไขการเจรจา จึงไม่ใช่เรื่องที่จะตกลงกันง่ายๆ ต่างฝ่ายต่างต้องรักษาผลประโยชน์ของตัวเองให้มากที่สุด,ล่าสุด การพิจารณาคุณสมบัติและมีสิทธิ์เสนอราคาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ,ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น, ระยะทาง 172 กิโลเมตร วงเงิน 2.3 หมื่นล้านบาท มีผู้ผ่านการพิจารณา 4 ราย ได้แก่ ,อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล็อปเม้นต์, กลุ่มกิจการร่วมค้า CKCH หรือบริษัท ,ช.การช่าง ร่วมกับบริษัท ช.ทวีก่อสร้าง บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น, และ ,บริษัท ชิโน-ไทย เอนจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น, ที่จะมีการเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ ในวันที่ 8 ธ.ค. ที่จะถึงนี้,ส่วนบริษัทที่ไม่ผ่านคุณสมบัติ ได้แก่ ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง บริษัท เสริมสงวนก่อสร้าง บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนจิเนียริ่ง บริษัท ทิพากร,สำหรับโครงการดังกล่าว ,เป็นการก่อสร้างทางวิ่งรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทาง ขนานไปกับทางรถไฟเดิม, ห่างจากทางเดิม 6 เมตร โครงสร้างเป็นทางวิ่งระดับพื้นทั้งหมด ยกเว้นบริเวณสถานีขอนแก่นจะเป็นทางยกระดับ ระยะทาง 5.4 กิโลเมตร มีสะพานรถไฟจำนวน 84 สะพาน สถานีระดับพื้นดิน 18 สถานี และป้ายหยุดรถไฟ 7 แห่ง งานสร้างย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้สินค้า 3 แห่ง ได้แก่สถานีชุมทางบัวใหญ่ สถานีบ้านกระโดนและสถานีท่าพระ,นอกจากนี้ ยังมีงานก่อสร้างโยธา งานระบบระบายน้ำ สะพานลอยคนข้าม รั้วตลอดแนวของโครงการ งานสร้างถนนยกระดับ ถนนยกระดับรูปตัวยู งานระบบราง เป็นทางกว้าง 1 เมตร งานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมตลอดแนวเส้นทาง งานรื้อย้ายชุมชนและสิ่งปลูกสร้าง ที่ผู้เสนอราคาต้องรับผิดชอบเรื่องการเจรจาและจ่ายค่าชดเชยด้วย,ส่วนรถไฟความเร็วสูงที่ต้องมีการเจรจากับจีน 8-9 รอบ คาดว่าน่าจะตกลงกันได้โดยเฉพาะ, เรื่องส่วนแบ่งของผลประโยชน์, และสิทธิในบริเวณสถานีโครงการ ทั้งหมดนี้จะต้องเห็นเป็นรูปเป็นร่างได้ภายในปีหน้า,สิ่งที่จะต้องระมัดระวัง คือ ,ความโปร่งใสในการประกวดราคา, ป้องกันการฮั้ว หรือผลประโยชน์ทับซ้อน เชิงนโยบาย การเอื้อประโยชน์ต่างตอบแทนโดยผ่านตัวแทน ถ้าจะให้โปร่งใสจริงๆควรจะยึดหลักการปฏิบัติเช่นเดียวกับการประมูล 4G ของ กสทช.เป็นตัวอย่าง,กันไว้ดีกว่าแก้.,หมัดเหล็ก,[email protected] | รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ | null | คาบลูกคาบดอก,หมัดเหล็ก,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,คอลัมน์ฉบับพิมพ์,คอลัมน์,คอลัมน์ไทยรัฐ,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐ,กระตุ้นเศรษฐกิจ,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,โครงการรถไฟรางคู่,ทางด่วนมอเตอร์เวย์,เงินลงทุน,ประกวดราคา | https://www.thairath.co.th/content/542080 |
พบศพสาวนิรนามถูกฆ่าเปลือย ยัดกระเป๋าถ่วงน้ำแม่กลอง | เมื่อเวลา 11.00 น. ของ วันที่ 6 พ.ย. 2557 ร.ต.ท.เสกสรรค รัมมะอรรถ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ว่ามีคนงานเลี้ยงปลากระชังพบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ลอยอยู่กลางแม่น้ำแม่กลอง มีกลิ่นเหม็นมากและเมื่อเปิดดูพบเป็นศพถูกฆ่ายัดกระเป๋า เหตุเกิดในพื้นที่ หมู่ 2 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ชูยศ ทองอยู่ ผกก.สภ.ท่าม่วง ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและ ร่วมชันสูตรพลิกศพ,ที่เกิดเหตุ พบกระเป๋าเดินทางสีแดงแบบมีล้อเลื่อนยี่ห้อ POLOGY สีแดง กว้าง 50 เซนติเมตร ยาว 80 เซนติเมตร สูง 30 เซนติเมตร มีกุญแจปิดล็อกซิปรูดกระเป๋าอยู่ จึงทำการผ่ากระเป๋าออก พบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง สภาพศพเปลือยกายล่อนจ้อนขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณ ตรวจสอบหาหลักฐานในกระเป๋าพบก้อนหินขนาด เท่าลูกมะพร้าวใหญ่ๆจำนวน 3 ก้อน และ ก้อนหินก้อนเล็กๆ จำนวนหลายสิบก้อนบรรจุอยู่ถุงพลาสติกวางยัดอยู่ข้างศพภายในกระเป๋า นอกจากนี้ยังพบเสื้อชั้นในสีดำยี่ห้อวาโก้ 1 ตัว กางเกงในแบบจีสติงสีชมพู 1 ตัว กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล 1 ตัว กระเป๋าสตางค์สีเขียวขี้ม้า 1 ใบ ภายในกระเป๋าไม่มีหลักฐานของมีค่าใดๆ รองเท้าส้นสูงแบบผู้หญิงสีดำ 1 คู่ วางซุกอยู่,จากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ พบว่าลำคอของผู้ตายหักหมุนได้รอบ ที่บริเวณขมับด้านซ้ายมีบาดแผล 1 แห่งยาวประมาณ 3 ซม. เบื้องต้นแพทย์ยังไม่สามารถระบุบาดแผลได้ว่า บาดแผลที่พบเกิดจากถูกอาวุธใด เนื่องจากสภาพศพเน่าเปื่อยมาก เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 72 ชม.จึงมอบศพให้มูลนิธิฯ นำศพส่งสถาบันนิติเวชฯ เพื่อให้แพทย์ผ่าพิสูจน์สาเหตุการตายต่อไป,ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นแพทย์เวรยังไม่สามารถระบุได้ว่าหญิงสาวคนดังกล่าวมีอายุประมาณเท่าไหร่ แต่จากการพบหลักฐานที่อยู่ในกระเป๋าเดินทางที่ใช้สำหรับยัดศพ และมีการเจาะสะดือ คาดว่าคงเป็นวัยรุ่นที่นิยมแต่งตัวเที่ยวในเวลากลางคืน หรือไม่อาจจะเป็นโคโยตี้เต้นตามร้านอาหารหรือผับ และเชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะลงมือฆ่ามาจากที่อื่น จากนั้นจึงนำศพยัดใส่กระเป๋าเดินทางและนำก้อนหินใส่ลงไปแล้วนำมาโยนถ่วงแม่น้ำแม่กลองในช่วงเวลากลางคืน จนกระทั่งศพขึ้นอืดจึงลอยขึ้นมาจากใต้ท้องน้ำดังกล่าว จากนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีฆ่าถ่วงน้ำแม่กลอง ในพื้นที่อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เคยเกิดขึ้นและเป็นข่าวโด่งดังมาครั้งหนึ่ง เมื่อเดือนเม.ย.57 ที่ผ่านมานี้เอง ผู้ตายคือ น.ส.กัลยา ประทุมเมือง อายุ 35 ปี ซึ่งท้องแก่ 8 เดือน ศพถูกพบลอยในแม่น้ำแม่กลองพื้นที่ หมู่ 1 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ในสภาพมือ 2 ข้างถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกไนลอนสีเขียวยาวประมาณ 3 เมตร ปลายอีกข้างนำไปผูกติดกับอิฐบล็อกเพื่อถ่วงศพลงก้นแม่น้ำ และต่อมาตำรวจได้จับกุม นายภัทรพล จิตธรรม สามีผู้ตาย ซึ่งสารภาพว่า เป็นผู้ฆ่าภรรยา ด้วยเหตุบันดาลโทสะ | สยองรับลอยกระทง คนงานเลี้ยงปลากระชังพบศพหญิงสาวนิรนามถูกฆ่าเปลือยยัดกระเป๋าแดงถ่วงแม่น้ำแม่กลอง โร่แจ้งตำรวจชันสูตร ตร.คาดเป็นผู้หญิงกลางคืนโดยลงมือฆ่าจากที่อื่น แล้วนำศพยัดใส่กระเป๋ามาทิ้ง | null | ลอยกระทง,ฆ่ายัดศพ,แม่น้ำแม่กลอง,ฆ่ายัดกระเป๋า,อาชญากรรม,ฆ่าถ่วงน้ำแม่กลอง,กาญจนบุรี,สภ.ท่าม่วง | https://www.thairath.co.th/content/461728 |
คำนูณ-กษิต 2 สปท. เสียงแตกเห็นแย้ง กก.ยุทธศาตร์ชาติ (ไม่)มีอำนาจเหนือรัฐบาล | สปท. ลงมติ 164 เสียง เห็นชอบรายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน เสนอทำยุทธศาสตร์ชาติ สร้างองค์กรกำกับทิศทางการพัฒนา คำนูณ-กษิต เสียงแตกเห็นคนละทาง16 ก.พ. 2559 รายงานว่า ที่ประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มีมติเห็นชอบรายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน สปท. เรื่อง การจัดทำ การกำหนด และการขับเคลื่อนกฎหมายว่าด้วยยุทธศาสตร์ชาติ และร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ด้วยคะแนนเสียง 164 เสียง ไม่เห็นด้วย 6 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง จากผู้เข้าร่วมประชุม 174 คนโดยพันตำรวจตรี ยงยุทธ สาระสมบัติ ประธานกรรมาธิการฯ ได้กล่าวว่า การพัฒนาของประเทศไทยที่ผ่านมายังขาดความต่อเนื่อง ยึดโยงเพียงเฉพาะกับนโยบายรัฐบาลในแต่ละช่วง ทำให้ไม่สามารถผนึกพลังการพัฒนาจากภาคส่วนต่างๆ ให้มีทิศทางการพัฒนาไปในทางเดียวกันและต่อเนื่อง ดังนั้นไทยจึงจำเป็นต้องปฏิรูปกระบวนการพัฒนาประเทศและการบริหารราชการแผ่น ดิน โดยผลักดันให้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญให้มีความสำคัญ ควบคู่กับนโยบายแห่งรัฐ และมีการตรากฎหมายว่าด้วยยุทธศาสตร์ชาติ เป็นกรอบการพัฒนาประเทศ กำหนดวิสัยทัศน์ระยะยาวอย่างน้อย 20 ปี โดยคำนึงถึงผลประโยชน์แห่งชาติรองรับให้มีสภาพบังคับใช้ และความเข้าใจร่วมกันของทุกภาคส่วน และกำหนดเป็นแผนพัฒนากลุ่มภารกิจแต่ละช่วงเป็นแผนประเทศระยะกลาง 5 ปี โดยมีการบูรณาการแผนพัฒนากลุ่มภารกิจต่างๆ พร้อมมีกลไกติดตามประเมินผลและปรับแก้ตามความจำเป็น ตามที่กำหนดในร่าง พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติฯ อาทิ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายและมีการใช้ยุทธศาสตร์ชาติเป็นกรอบการขับเคลื่อนการพัฒนาร่วมกัน นำประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนด้าน รายงานด้วยว่า จากนั้นได้มีการเปิดให้สมาชิก สปท. อภิปรายแสดงความเห็น โดย คำนูณ สิทธิสมาน สปท. กล่าวว่า ตนเห็นด้วยในหลักการ ซึ่งในฐานะที่ตนเคยเป็นอดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญยืนยันได้ว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติไม่ใช่อำนาจอธิปไตยใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเพียงหน่วยงานของรัฐหน่วยงานหนึ่ง เพราะไม่ได้ใช้อำนาจนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีต้องผ่านสภาฯ ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนด้วย ยืนยันว่าคณะกรรมการยุทศาสตร์ชาติไม่ได้แฝงอำนาจของคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดอง (คปป.)ขณะที่ นิกร จำนง สปท. กล่าวว่า เห็นด้วยยุทธศาสตร์ควรจะต้องมี แต่กรอบนั้นต้องไม่เป็นสิ่งที่กดดันการทำงานของรัฐบาล แต่จะต้องได้รับการยอมรับจากประชาชน ส่วนอำนาจของคณะกรรมการยุทธศาสตร์มีอำนาจมหาศาล เช่นการเสนอให้วุฒิสภาลงโทษ ครม. หรือบุคคลหากไม่ปฏิบัติตามได้ ซึ่งคิดว่าส่วนนี้ทาง กมธ.ควรจะมีการปรับปรุงอยู่บ้างกษิต ภิรมย์ สปท. กล่าวว่า เมื่อพิจารณาแผนยุทธศาสตร์ชาติแล้ว พบว่าอำนาจของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ มีอำนาจเหนือกว่าฝ่ายบริหาร ที่จะมาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นการบอกว่าคณะกรรมการชุดนี้ไม่ใช่ คปป. ซ่อนรูปนั้น เป็นการหลอกตัวเองหรือเปล่า อีกทั้งแผนยุทธศาสตร์ชาติไม่มีอะไรที่เป็นส่วนร่วมของประชาชนเลย หากแต่เป็นการเสริมอาณาจักรของข้าราชการเท่านั้น ในเมื่อ ครม.จะทำแผนยุทธศาสตร์ชาติอยู่แล้ว ตนไม่เห็นว่าการออก พ.ร.บ.นี้จะเป็นหน้าที่ใด ๆ ของ สปท. หรือของ กมธ. และตนขอบอกว่าเราควรเอาเรื่องนี้ออกไปจากสภา ในขณะเดียวกันขอเตือนสติเพื่อนสมาชิกว่าเรามาเพื่อปฏิรูปประเทศไทยให้เป็น ของประชาชน ไม่ใช่เสแสร้งว่าปฏิรูป แล้วเสริมอำนาจของข้าราชการ กระจุกอยู่ในส่วนกลาง หรือแค่ใน กทม.เท่านั้น และเราไม่ได้มาเพื่อปรับปรุงให้ขยายอาณาจักรของข้าราชการ | สปท. ลงมติ 164 เสียง เห็นชอบรายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน เสนอทำยุทธศาสตร์ชาติ สร้างองค์กรกำกับทิศทางการพัฒนา คำนูณ-กษิต เสียงแตกเห็นคนละทาง 16 ก.พ. 2559 | การเมือง | กษิต ภิรมย์,คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ,คำนูณ สิทธิสมาน,สปท. | https://prachatai.com/journal/2016/02/64103 |
เฟอร์กี เชื่อ อัลลาร์ไดซ์ เหมาะคุมทัพสิงโตคำราม | อร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตบรมกุนซือของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงระบุ แซม อัลลาร์ไดซ์ เหมาะที่จะขึ้นแท่นคุมทัพทรีไลออนต่อจาก รอย ฮอดจ์สัน ที่โดนตะเพิดลงจากตำแหน่งไป,สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 6 ก.ค. ว่า อร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีมของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกโรงยกยอปอปั้น แซม อัลลาร์ไดซ์ เหมาะสมที่จะขึ้นไปรับตำแหน่งกุนซือของ สิงโตคำราม อังกฤษ ต่อจาก รอย ฮอดจ์สัน ที่โดนตะเพิดลงจากตำแหน่งไป หลังทำผลงานได้แย่ พาทีมตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส,อดีตกุนซือปิศาจแดงกล่าวว่า มันเป็นเรื่องยากมากที่จะคิดว่าคนที่เหมาะสมที่จะมาคุมทีมมีเพียง 3 คนในพรีเมียร์ลีก แต่หากเป็นเรื่องของประสบการณ์ผมคิดว่า แซม อัลลาร์ไดซ์ เป็นตัวเลือกที่ชัดเจน,แต่ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะมีการค้นหาผู้จัดการทีมคนใหม่ให้กว้างขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาได้เลือกผู้จัดการทีมที่ดีที่สุด,แต่ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะมีการค้นหาผู้จัดการทีมคนใหม่ให้กว้างขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาได้เลือกผู้จัดการทีมที่เหมาะสม ถ้าเป็นแซมแล้วล่ะก็ พวกเขาจะมีคนที่มีความสามารถ และรู้ตื้น ลึก บาง หนา สำหรับทีมชาติอังกฤษเป็นอย่างดี,ขอบคุณพระเจ้าที่ผมไม่สามารถเลือกได้ เพราะมันเป็นเรื่องที่ยาก แต่แซมเป็นผู้จัดการที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกแล้วในเวลานี้,ผมได้เรียกร้องไปยังเอฟเอในการตรวจสอบโปรแกรมในประเทศอังกฤษที่ไม่มีหยุดพักเบรกหนีหนาวเหมือนลีกอื่นๆ ในยุโรป,ในเยอรมนีพวกเขาได้หยุดพักในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม ซึ่งเรื่องแบบนี้ในพรีเมียร์ลีกไม่มี,นอกจากนี้ มีรายงานล่าสุดจากสื่ออิตาลีว่า โรแบร์โต มันชินี กุนซือชาวอิตาลี ที่เคยคุมทัพ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โผล่พรวดขึ้นมาเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่มีลุ้นได้คุมทีมชาติอังกฤษ ด้วยอีกคน | เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตบรมกุนซือของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงระบุ แซม อัลลาร์ไดซ์ เหมาะที่จะขึ้นแท่นคุมทัพทรีไลออนต่อจาก รอย ฮอดจ์สัน ที่โดนตะเพิดลงจากตำแหน่งไป | null | เฟอร์กี,เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน,ปิศาจแดง,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,แซม อัลลาร์ไดซ์,สิงโตคำราม,อังกฤษ,ยูโร 2016 ฝรั่งเศส,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/656257 |
รมช.ศึกษาธิการ เตรียมหารือสมาพันธ์ครู 3 จว.ใต้ วันนี้ | เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความเสียหาย อาคารเรียนโรงเรียนบ้านบางมะรวด อำเภอปานาเระ จังหวัดปัตตานี ที่ถูกไฟไหม้เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ทำให้อาคารเรียน ห้องทำงานผู้อำนวยการ และคอมพิวเตอร์พกพา หรือ แท็บเล็ต 80 เครื่อง ที่เพิ่งได้รับการจัดสรรมาเมื่อสัปดาห์ก่อน ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า เกิดจากการลอบวางเพลิงหรือไม่นายมูฮัมหมัด เจ๊ะเลาะห์ ผู้อำนวยการโรงเรียน เล่าว่า โรงเรียนอยู่ระหว่างปิดเรียนตามมติของสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะเกิดเหตุมีนักเรียนที่ไปเรียนอัลกุรอ่านประมาณ 10 คน เห็นประกายไฟเกิดขึ้นจากชั้นบนของอาคารเรียนไม้ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยิ่งทำให้ครูและนักเรียนรู้สึกไม่มั่นใจในความปลอดภัยมากขึ้น เพราะ เมื่อปี 2547 โรงเรียนแห่งนี้เคยถูกลอบวางเพลิงมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่ช่วยกันดับไฟไว้ได้ทันส่วนที่ อ.ยะรัง นายรอซาลี กูนา รองนายองค์การบริหารส่วนตำบลประจัน ถูกยิงเสียชีวิตขณะขับรถจักรยานยนต์ออกไปทำธุระนอกบ้าน บริเวณถนนสาย 410 ปัตตานี - ยะลาส่วนอีกราย นายเสรี เบ็ญดือรา ตำรวจอาสาสถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี ถูกเสียชีวิตระหว่างขับรถจักรยานยนต์เดินทางกลับบ้าน บนเส้นทางเดียวกันกับที่นายรอซาลี ถูกยิง เจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า อาจเป็นการกระทำของแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบ เนื่องจากผู้เสียชีวิตทั้งสองคนมีจิตอาสา ทำงานช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐช่วงบ่ายวันนี้(29 พ.ย.)นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพนางนันทนา แก้วจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ากำชำ อำเภอหนองจิก ที่ถูกยิงเมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมทั้งร่วมหารือกับสมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อกำหนดแนวทางการมาตรการรักษาความปลอดภัยและสร้างขวัญกำลังใจให้กับครูในพื้นที่ | รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะเดินทางไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ที่เสียชีวิตจากเหตุลอบยิงเมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมหารือกับสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยครู ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา(28 พ.ย.) เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนและลอบยิงชาวบ้านเสียชีวิต 2 คน ที่ จ.ปัตตานี | ภูมิภาค | 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้,ศึกษาธิการ,สมาพันธ์ครู,เผาโรงเรียน | https://news.thaipbs.or.th/content/129641 |
กรมสุขภาพจิตเผย นร.ชั้นประถม เป็นโรคสมาธิสั้นกว่า 3 แสนคน | ผลสำรวจในกลุ่มเด็กระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 -6 ประมาณ 5000000 คน พบว่าเป็นโรคสมาธิสั้นหรือโรคเอดีเอชดี หรือที่เรียกกันติดปากว่า โรคไฮเปอร์แอคทีฟ มีจำนวน 310000 คน ทั้งนี้รายงานของสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น ราชนครินทร์ พบว่าเด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้หากไม่รักษา จะทำให้ 2 ใน 3 หรือประมาณร้อยละ 70 ของเด็กที่ป่วยมีอาการจนถึงเป็นผู้ใหญ่ จะมีผลเสียต่อทั้งต่อเด็กและสังคม โดยพบว่า 1 ใน 4 ทำผิดกฎจราจร มีบุคลิกก้าวร้าว อีก 1 ใน 10 มีปัญหาใช้สารเสพติด หรือมีปัญหาสุขภาพจิตถึงขึ้นพยายามฆ่าตัวตาย ซึ่งมีร้อยละ 5 ที่ฆ่าตัวตายได้สำเร็จ แต่หากรักษาตั้งแต่ยังเด็กสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยมักพบในเด็กชายนพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า โรคสมาธิสั้น เกิดในวัยเด็กก่อนอายุ 7 ขวบ ยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดโรคที่แท้จริง แต่มักจะพบในผู้หญิงที่สูบบุหรี่ หรือดื่มเหล้าระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อพฤติกรรม อารมณ์ การเรียน และการเข้าสังคมกับผู้อื่นของเด็ก ไม่ใช่เด็กปัญญาอ่อน เด็กกลุ่มนี้จะมีระดับไอคิวปกติ อาการที่เป็นสัญญานโรค จะปรากฎเห็นชัดเจน 3 อาการ ได้แก่ ขาดสมาธิ ขาดความสามารถในการควบคุมตัวเอง และซุกซนเด็กสมาธิสั้น จะมีปัญหาการเรียน หรือเรียนได้แต่ไม่เต็มศักยภาพ ดังนั้นจึงแนะนำให้ผู้ปกครองและครูที่ดูแลเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น เรียนรู้เทคนิคที่ถูกต้องเพื่อช่วยในการจัดการ กับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมบางอย่างของเด็ก การตีหรือการลงโทษทางร่างกายใช้ไม่ได้ผลและจะยิ่งทำให้เด็กมีอารมณ์โกรธหรือแสดงพฤติกรรมต่อต้านและก้าวร้าวมากขึ้น ตรงกันข้าม ควรให้คำชมหรือรางวัลเมื่อเด็กแสดงพฤติกรรมที่ถูกต้องและเหมาะสม หรือควบคุมพฤติกรรมตัวเองได้วิธีสังเกตว่าเด็กเป็นโรคสมาธิสั้น คือ เด็กจะไม่สามารถทำงานที่ครูหรือพ่อแม่สั่งจนสำเร็จ ไม่มีสมาธิในขณะทำงานหรือเล่น มักไม่ค่อยฟังเวลาพูดด้วย วอกแวกง่าย ขี้ลืมบ่อย ๆ ทำงานผิดพลาดบ่อย ทำของใช้หรือของส่วนตัวหายบ่อย/ รวมทั้งจะซุกซนอยู่ไม่สุข นั่งไม่ติดที่ หรือชอบนั่งโยกเก้าอี้ ชอบวิ่ง หรือปีนป่ายสิ่งต่าง ๆ พูดมาก พูดไม่หยุด ตื่นตัวตลอดเวลาหรือดูตื่นเต้นง่าย ชอบโพล่งคำตอบเวลาครูหรือพ่อแม่ถามโดยที่ยังฟังคำถามไม่จบหากพบว่าลูกหลานมีอาการเหล่านี้ ขอให้ปรึกษาจิตแพทย์ สามารถโทรสายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือ 1667 หรือสอบถามที่สายด่วนวัยรุ่นของสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ 02-248-9999 | ผลสำรวจกรมสุขภาพจิต พบว่า เด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1ถึง 6 ทั่วประเทศ เป็นโรคสมาธิสั้นมากกว่า 300000 คน มักพบในแม่ที่สูบบุหรี่ และดื่มเหล้าขณะตั้งครรภ์ โดยโรคนี้หากรักษาตั้งแต่ยังเด็กสามารถหายขาดได้ แต่ถ้าไม่รักษา เด็กที่ป่วย 2 ใน 3 จะมีการจนเป็นผู้ใหญ่ และ 1 ใน 4 มีบุคลิกก้าวร้าว และอีก 1 ใน 10 มีปัญหาใช้สารเสพติ | สังคม | กรมสุขภาพจิต,สมาธิสั้น,เอดีเอชดี | https://news.thaipbs.or.th/content/131901 |
อพยพวุ่น มือมืดขู่วางระเบิดสนามบิน ชาร์ล เดอ โกล ในปารีส | (ภาพ: @brianshin),ตำรวจในกรุงปารีสอพยพผู้คนออกจากอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยาน ชาร์ล เดอ โกล เมื่อวันเสาร์ หลังจากถูกขู่วางระเบิด,สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศฝรั่งเศส ดำเนินการอพยพผู้โดยสารออกจากอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยาน ชาร์ล เดอ โกล ชานกรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีการขู่วางระเบิดจากบุคคลไม่ทราบฝ่าย,ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้ถูกเปิดเผยออกมามากนัก แต่ผู้โดยสารที่ชาร์ล เดอ โกล โพสต์บรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลงบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่นนาย ไบรอัน ชิน ระบุว่า เจ้าหน้าที่อพยพและปิด เกต K ของอาคารผู้โดยสาร 2E และพาผู้โดยสารไปยังเกต L ก่อนจะโพสต์ข้อความในอีก 2-3 ชั่วโมงต่อมาว่า การอพยพยุติลงแล้ว และคนส่วนใหญ่ที่เขารู้จักขึ้นเครื่องบินไปแล้ว,ทั้งนี้ เกิดขู่วางระเบิดที่ท่าอากาศยาน ชาร์ล เดอ โกล เกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากเกิดเหตุคนร้าย ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอซิส) บุกฆ่าตัดคอชายคนหนี่งที่โรงงาน แอร์ โปรดัคส์ ใกล้เมืองลียงทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ หลังจากขับรถยนต์พุ่งชนประตูหน้าโรงงาน ตามด้วยการโยนระเบิดหลายลูกจนมีผู้บาดเจ็บหลายคน | ตำรวจในกรุงปารีสอพยพผู้คนออกจากอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยาน ชาร์ล เดอ โกล เมื่อวันเสาร์ หลังจากถูกขู่วางระเบิด | null | ตำรวจ,ฝรั่งเศส,อพยพ,ผู้โดยสาร,อาคารผู้โดยสาร,ท่าอากาศยาน,สนามบิน,ชาร์ล เดอ โกล,ปารีส,ขู่วางระเบิด,ก่อการร้าย,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/507988 |
ปารีณา ยันฟาร์มไก่ถูกลอบวางเพลิงเผา ผกก.สภ.จอมบึง แนะรอผลสอบพฐ. | กรณีเกิดเหตุไฟไหม้โรงเลี้ยงไก่ เขาสนฟาร์ม อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้และ ส.ป.ก.อายัดไว้ ทำให้อุปกรณ์เลี้ยงไก่ ท่อน้ำเสียหาย ส่วนตัวโรงเรือนเสียหายเล็กน้อย คาดไฟป่าลามเข้าไปในฟาร์ม ส่วน น.ส.ปารีณา เผยให้ทนายตรวจสอบแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 12 เม.ย.63 พ.ต.อ.ไวโรจน์ แน่นพิมาย ผกก.สภ.จอมบึง จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (11 เม.ย.) น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.จอมบึง ว่าฟาร์มไก่เขาสนฟาร์ม ถูกลอบวางเพลิง โดยทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้แล้ว แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอผลพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งเข้าไปตรวจสอบตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่เกิดเหตุแล้ว ทั้งนี้เป็นสิทธิ์ของ น.ส.ปารีณา ที่จะแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ หากผลออกมาว่ามีการวางเพลิงจริงจะต้องมีการเรียกคนที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ เพื่อดำเนินการหาคนกระทำความผิด แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ ต้องรอทางพิสูจน์หลักฐานที่แน่ชัดก่อน. | เอ๋ ปารีณา เข้าแจ้งความโรงเลี้ยงไก่ เขาสนฟาร์ม ถูกมือดีลอบวางเพลิงเผาแน่นอน ผกก.สภ.จอมบึง แนะรอผลตรวจสอบจากกองพิสูจน์หลักฐานชี้ชัด | ข่าว,อาชญากรรม | ปารีณา ไกรคุปต์,ปารีณา,ไฟไหม้ฟาร์มไก่ปารีณา,ฟาร์มไก่ปารีณา,เอ๋ ปารีณา,สภ.จอมบึง,เขาสนฟาร์ม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1818764 |
หนุ่มซิ่งปิ๊กอัพหักแซงรถอีแต๋น ประสานงา โจ๋ จยย.ดับ | เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 18 พ.ย. ร.ต.อ.ศักรินทร์ วิรัตน์เกษม พงส. สภ.เวียงแก่น จว.เชียงราย รับแจ้งว่ามีเหตุรถยนต์กระบะชนประสานงากับรถจักรยานยนต์ จึงรุดไปตรวจสอบ ที่บริเวณถนนสายบ้านหล่ายงาว-บ้านหลู้ บ้านหล่ายงาว หมู่ที่ 1 ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น ที่เกิดเหตุเป็นทางโค้ง พบรถจักยานยนต์สีน้ำเงินฮอนด้าเวฟทะเบียน กลย 206ระยอง สภาพพังยับด้านหน้าชิ้นส่วนกระจายเกลื่อนถนน และพบรถยนต์กระบะนิสสันแคบสีน้ำเงินทะเบียน บน 4637พะเยา ด้านหน้าขวาพังยุบจากแรงกระแทก และส่วนท้ายมีรถอีแต๋นเสียบด้านท้ายอีกที ที่ด้านหน้ารถมีชายสวมกางเกงขาสั้นสีเทาสวมเสื้อยืดคอกลมลาย นอนเสียชีวิตกลางถนน สภาพศพขาทั้งสองหักมีบาดแผลกระดูกชาโผล่ออกมา เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อต่อมาคือนายเล่าลี แซ่ม้ง อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171 หมู่ที่6 ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย,ส่วนคนขับรถกระบะทราบชื่อต่อมาคือนายสุภาพ อนุชิตวรการ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่1/2 หมู่ 9 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ให้การว่า ตนขับรถมาจากบ้านหล่ายงาวจะเดินทางกลับบ้าน และกำลังจะแซงรถอีแต๋นที่ขับอยู่ด้านหน้า ขณะนั้นก็มีรถจักรยานยนต์ผู้ตายขับสวนมาอย่างเร็ว เมื่อเห็นพยามจะเบียดเข้าซ้ายเพื่อหลบแต่ไม่ทันทำให้ชนอัดกับรถจักรยานยนต์ที่ขับสวนมาเต็มที่ ส่วนรถอีแต๋นก็ถูกเบียดที่ด้านหน้าด้วยท้ายรถของตนดังกล่าว แต่คนรถอีแต๋นไม่ได้รับอันตราย รถได้รับความเสียหายเล็กน้อย จึงแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต. | ภัยท้องถนน หนุ่มซิงรถปิิ๊กอัพ บึ่งจะแซงรถอีแต๋น เจอโจ๋เร่งเครื่อง รถ จยย.ขับสวนมาด้วยความเร็วสูง จนประสานงากันอย่างจัง เสียชีวิตคาที 1 บนถนนสายบ้านหล่ายงาว-บ้านหลู้ เชียงราย | null | ชนประสานงา,รถปิ๊กอัพ-จยย,โจ๋ดับคาที1,เล่าลี แซ่ม้ง,สุภาพ อนุชิตวรการ,โชว์เฟอร์ปิ๊กอัพ,ศักรินทร์ วิรัตน์เกษม,พงสสภ.เวียงแก่น,ถนนสายหล่ายงาว-บ้านหลู้ | https://www.thairath.co.th/content/464151 |
กระบะแซงขวา จยย.ด้านหน้าจอดขวางลำกะทันหัน เบรกไม่ทันเสย ดับ 2 เจ็บ 1 | เมื่อวันที่ 8 เม.ย.62 พ.ต.ท.สำราญ สุขโต พงส.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถ จยย. มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนหลายราย จึงประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา รุดตรวจสอบเหตุ,ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณกลางถนนเลียบคลองส่งน้ำชลประทาน ม.8 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา พบผู้เสียชีวิตเพศหญิง ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.วันดี รุ่งแสงทอง อายุ 18 ปี มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย ลำคอหักนอนคว่ำเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคนเจ็บอีก 2 คน ทราบว่ามาด้วยกันกับ จยย.คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวส่ง รพ.พุทธโสธร ก่อนหน้าแล้ว นอกจากนี้ใกล้กันยังพบรถยนต์คู่กรณี ยี่ห้อ ฟอร์ด แรปเตอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ก 2592 ปราจีนบุรี สภาพด้านหน้ารถฝั่งซ้ายมีร่องรอยการเฉี่ยวชน ถัดออกไปประมาณ 10 เมตร บริเวณล่องถนนพบรถ จยย.ของผู้เสียชีวิต ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีขาว-ฟ้า หมายเลขทะเบียน ขคค 695 ฉะเชิงเทรา จอดล้มคว่ำอยู่ สภาพด้านข้างพังเสียหาย ,จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายวิมล บู้เตียว คนขับรถยนต์ เปิดเผยว่า ตนกำลังเดินทางกลับบ้านที่ อ.บางคล้า ขับรถตามหลังกลุ่มนักปั่นจักรยาน และ จยย.ของผู้ตาย จนมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนกำลังจะแซงขวา ทันใดนั้นรถ จยย.ที่อยู่ด้านหน้า เกิดจอดนิ่งขวางลำกลางถนน ซึ่งคาดว่ากำลังจะเลี้ยวเข้าซอย ทำให้ตนเบรกไม่ทันพุ่งชนเข้าเต็มแรง จนรถ จยย.ไถลไปไกลกว่า 10 เมตร และมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว,ขณะที่ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย ที่นำตัวส่ง รพ.พุทธโสธร ก่อนหน้านี้ มีการยืนยันจากเจ้าหน้าที่กู้ชีพว่า เสียชีวิตอีก 1 ราย ทราบชื่อ น.ส.สะใบ อรุณสวัสดิ์ อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/1 ม.9 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา และผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.สุภลักษณ์ ฉุดช้าง อายุ 17 ปี ซึ่งยังคงนอนรักษาตัวที่ รพ. ส่วนคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนผู้ขับขี่เพิ่มเติม รวมถึงผู้บาดเจ็บ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป | กระบะเร่งเครื่องแซงขวา จยย.ขับด้านหน้าดันจอดขวางลำกะทันหัน เบรกไม่ทันพุ่งชนเต็มแรง ทำ จยย.ไถลไกลกว่า 10 เมตร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 ราย | ข่าว,ทั่วไทย | กระบะชน จยย.,กระบะพุ่งชน จยย.,จยย.ถูกกระบะชน,กระบะเสย จยย.,อุบัติเหตุ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1540188 |
วิษณุ อ้างเทียบคำร้อง ประยุทธ์-ธนาธร ไม่ได้ | วันนี้ (8 ก.ค.2562) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย เปิดเผยถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่สั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ด้วยเหตุอันควรสงสัยตามคำร้อง เหตุมีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐว่า ถูกต้องและชอบธรรมตามกฎหมายแล้ว แต่การไม่ถูกต้องคือการดึงไปเป็นเกมบนท้องถนน และตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายไม่สามารถนำไปเทียบเคียงกับคำร้องของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ก่อนจะอ้างอิงว่าคำสั่งกรณี 41 ส.ส.ขาดสมาชิกภาพ เหตุถือหุ้นสื่อนั้นมีความชัดเจนในแนววินิจฉัยแล้ว จึงไม่ใช่เรื่อง 2 มาตรฐานทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายธนาธรหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว หลังรับคำร้องไว้วินิจฉัยคุณสมบัติ โดยอ้างอิงถึงเหตุอันควรสงสัย ตามมาตรา 82 วรรค 2 ตามรัฐธรรมนูญ 2560 จากมติ กกต.ที่ชี้ไว้ หลังตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ขณะที่คำร้องวินิจฉัยคุณสมบัติ 41 ส.ส.ถือหุ้นสื่อ คำสั่งไม่รับ 9 คน เพราะเอกสารชี้ชัดว่าไม่ได้ประกอบกิจการสื่อ ส่วนอีก 32 คน จำเป็นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ไม่พบเหตุอันควรสงสัยตามเอกสารคำร้อง จึงไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวสำหรับคำร้องวินิจฉัยคุณสมบัติ พล.อ.ประยุทธ์ นอกจากเอกสารตามคำร้องแล้ว ก่อนหน้านี้ กกต.และผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติเอกฉันท์ยกคำร้อง และชี้ว่าไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ | รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย อ้างว่าเทียบเคียงคำร้องขอให้วินิจฉัยคุณสมบัติ พล.อ.ประยุทธ์-ธนาธร ไม่ได้ เพราะเงื่อนไขต่างกัน แต่คำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ด้วยเหตุอันควรสงสัยตามคำร้องนั้น ศาลได้ชี้หลักเกณฑ์ไว้ในคำสั่งตามคำร้อง 41 ส.ส.ถือหุ้นสื่อ | การเมือง | ศาลรัฐธรรมนูญ,คุณสมบัติ,อนาคตใหม่,ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/281532 |
สปีดถึงบางสะพาน ตูน เต็มร้อย | วิ่งได้อย่างสดชื่น หลังรักษาขา2วัน บัวขาว-ทีมดารา ยกพวกร่วมแจม,ตูน บอดี้สแลม กลับมาฟิตอีกครั้ง หลังได้พัก 2 วัน สลัดอาการเจ็บขานำทีมงานก้าวคนละก้าวออกวิ่งจากโรงเรียน อ.ปะทิว จ.ชุมพร เข้าเขต อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ มี บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยอินเตอร์ และดารานักแสดงร่วมขบวน ก่อนเข้า อ.บางสะพาน มีนักเรียนและกลุ่มผู้สูงอายุกว่า 500 คน ปิดถนนแสดงชุดก้าวเปลี่ยนชีวิตต้อนรับอย่างอบอุ่น แถมมีอาสาสมัครกว่า 2,500 คน คอยรณรงค์ให้งดเซลฟี่กับร็อกเกอร์ หนุ่ม ป้องกันอาการเจ็บกำเริบขึ้นมาอีก ล่าสุดยอดเงิน ทะลุเกิน 330 ล้านบาทแล้ว,กลายเป็นกระแสร์ฟีเวอร์ไปแล้วสำหรับกิจกรรมการกุศลของร็อกเกอร์หนุ่ม ตูน บอดี้สแลม หรือ นายอาทิวราห์ คงมาลัย หลังนำทีม ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ วิ่งระดมเงินบริจาค 700 ล้านบาท จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เริ่มจากจุดสตาร์ตวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา จากสุดเขตแดนใต้ อ.เบตง จ.ยะลา สู่เส้นชัยเหนือสุดแดนสยาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมระยะทาง 2,191 กม. ใช้เวลา 55 วัน ตลอดเส้นทางมีศิลปินดารานักแสดงและประชาชนจำนวนมากออกมาร่วมวิ่งและบริจาคอย่างคึกคัก กระทั่งวันที่ 22 พ.ย.ขณะวิ่งมาถึงโรงเรียนบ้านบางแหวน หมู่ 4 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร ตูนเกิดเจ็บขาต้องพัก 2 วันตามคำแนะนำของแพทย์,ล่าสุด นักร้องหัวใจแกร่งกลับมาวิ่งอีกครั้ง หลังพักฟื้นร่างกายหายเป็นปกติ โดยเมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 25 พ.ย. ตูน บอดี้สแลม ที่หายจากอาการบาดเจ็บนำทีมงานออกวิ่งอีกครั้ง มีนายจิรายุ ตั้งศรีสุข หรือ เจมส์จิ ดาราชื่อดัง และ ส.ท.สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักมวยอินเตอร์เจ้าของฉายา ดำดอทคอม ร่วมวิ่งจากโรงเรียนบ้านวัดบางแหวน หมู่ 4 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร มีนายณรงค์ พลละเอียด ผวจ.ชุมพร และนายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอปะทิว มารอต้อนรับมอบเงินบริจาคพร้อมส่งตูนและทีมงานวิ่งไปยังจุดพักบ้านหนองปริก หมู่ 5 ต.ทราย–ทอง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 13.5 กิโลเมตร มีประชาชนมารอให้กำลังใจสองฟากฝั่งถนน,กระทั่งขบวนวิ่งก้าวคนละก้าวผ่านมาถึงบ้านหนองหัดไท หมู่ 10 ต.ทรายทอง ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ แฟนสาวตูน บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ และ เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ มาร่วมวิ่งร่วมขบวน ขณะที่ บัวขาว บัญชาเมฆ และ เจมส์จิ ยังคงวิ่งต่อมุ่งหน้าไปยังจุดพักบริเวณบ้านนกรีสอร์ท หมู่ 5 ต.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย ท่ามกลางประชาชนแห่มาให้กำลังใจมอบเงินเข้าร่วมโครงการอย่างอบอุ่น,ระหว่างหยุดพัก บัวขาว บัญชาเมฆ เปิดเผยว่า ติดตามโครงการก้าวคนละก้าวมาตลอดถือเป็นแนวทางของตนอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็มาวิ่งร่วมด้วย ไม่ใช่ต้องการให้ชาวบ้านร่วมบริจาคเพียงอย่างเดียว แต่อยากให้คนไทยทุกคนหันมาสนใจการออกกำลังกายกันด้วย เมื่อได้มาสัมผัสบรรยากาศจริงถือว่าสุดยอดมาก จริงๆอยากวิ่งถึงปลายทาง แต่ด้วยภารกิจที่ยังมีอยู่ เลยมาวิ่งแค่ 2 เซตก่อน จากนั้นจะหาโอกาสมาวิ่งอีกแน่นอนจนกว่าจะถึงแม่สาย,ต่อมาเวลา 16.30 น. ตูนและทีมงานออกวิ่งต่อเข้าเขต อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ มุ่งหน้าไปยังจุดบริเวณร้านแหม่มวัสดุ หมู่ 4 ต.พงศ์ประศาส์น อ.บางสะพาน และออกวิ่งไปจุดพักสุดท้ายบริเวณกรีนซีวิว หมู่ 5 ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน ช่วงนี้มีการปิดถนนเพชรเกษม-ชายทะเล ตั้งแต่หน้าวัดเขาโบสถ์สามแยกยายม่อมถึงแยกป่ายางระยะทางกว่า 500 เมตร โดยมีนักเรียนโรงเรียนบางสะพานบ้านล่าง โรงเรียนบางสะพานวิทยา พนักงานเครือสหวิริยาและกลุ่มผู้สูงอายุกว่า 500 คน มาร่วมแสดงชุด Run for Life หรือก้าวเปลี่ยนชีวิต เพื่อเป็นการเซอร์ไพรส์ตูนและทีมงานที่วิ่งมาถึง อ.บางสะพาน,ด้านนายศักรินทร์ ทุมเสน นายอำเภอบางสะพาน กล่าวว่า วันนี้ตูนและทีมงานทำเวลาได้ดีมาก ส่วนหนึ่งมาจากสภาพความฟิตของตูน หลังพักฟื้นร่างกายมา 2 วันเต็ม อีกอย่างเนื่องจากประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือหลังมีการร่วมรณรงค์ในพื้นที่ให้งดการเซลฟี่เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บกำเริบขึ้นมาอีก รวมถึงร่วมกันจัดระเบียบจากกลุ่มอาสาสมัครดูแลตูนกว่า 2,500 คน ที่กระจายไปตามจุดต่างๆ ทำให้ทีมงานถึงกับกล่าวชื่นชม และขอบคุณประชาชนชาว อ.บางสะพาน ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี,ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับการวิ่งของ ตูน บอดี้สแลม ในวันนี้ นักร้องหนุ่มขวัญใจมหาชนไม่แสดงอาการเจ็บขารบกวน ตลอดการวิ่งตูนมีสีหน้าสดชื่นทั้งวัน ทั้งนี้ คณะของตูนและทีมงานก้าวคนละก้าวจะเข้าพักที่กรีนซีวิว รีสอร์ต อ.บางสะพาน และจะออกวิ่งต่อช่วงเช้ามืดวันที่ 26 พ.ย. ส่วนยอดเงินบริจาคจนถึงช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 25 พ.ย. จำนวนกว่า 330 ล้านบาท,ด้านนายฮาบิ๊บ คอเด๊ะ อายุ 30 ปี ชาว อ.ยะหา จ.ยะลา นักปั่นจักรยานระดับชาติที่เพิ่งประสบความสำเร็จปั่นจักรยานคนเดียว 11 ประเทศในกลุ่มอาเซียนและติมอร์เลสเต ระหว่างวันที่ 2 ต.ค.2559 ถึงวันที่ 11 พ.ย.2560 รวม 408 วัน เปิดเผยว่าทราบข่าวการวิ่งของพี่ตูนขณะปั่นจักรยานอยู่ในต่างประเทศ และตั้งใจจะมาร่วมปั่นจักรยานในวันที่พี่ตูนหลังกลับจาก อ.เบตง วันที่ 11 พ.ย.ได้ปั่นจักรยานจาก อ.เบตง ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมาขณะนี้อยู่ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และจะโดยสารรถไฟไปดักรอคณะพี่ตูนที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อร่วมกิจกรรมและนำเสื้อที่ระลึก 111 ปี เล่าขานตำนานเมืองเบตงไปให้พี่ตูนเซ็นด้วย เพราะศรัทธาในแรงบันดาลใจในการวิ่งก้าวคนละก้าวของพี่ตูนที่จะช่วยเหลือโรงพยาบาลซึ่งน้อยคนที่จะทำได้ | ตูน บอดี้สแลม กลับมาฟิตอีกครั้ง หลังได้พัก 2 วัน สลัดอาการเจ็บขานำทีมงานก้าวคนละก้าวออกวิ่งจากโรงเรียน อ.ปะทิว จ.ชุมพร เข้าเขต อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ | ข่าว,ทั่วไทย | ตูน บอดี้สแลม,บางสะพานน้อย,ก้าวคนละก้าว,ประจวบคีรีขันธ์,ข่าวหน้า 1,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1136268 |
สั่งพักงานแล้ว ผช.นักบิน โพสต์โหม่งโลก 2 คนจากแอร์เอเชีย-นกแอร์ | ตามยุทธศาสตร์นายใหญ่ ส่วน พท.ยังคาใจราวีศูนย์ปราบโกงทำไม ถามนายกฯ หากไม่ผิดจะกลัวอะไร มีชัย-วิษณุ ไม่ยี่หระเสียงวิจารณ์ใช้ค่ายทหารชี้แจงร่าง รธน. ระบุบรรยากาศดี สะดวกสบาย สมชัย แนะเปิดรูระบายเชิญแกนนำ พท. แดงตัวพ่อออกทีวี ยิ่งลักษณ์ ขอเป็นอุทาหรณ์กรณีนักบินโพสต์คึก คะนอง โหม่งโลก นปช.เคืองไม่หายจี้ให้ไล่ออก-ห้ามบินตลอดชีวิต ขณะที่ กพท.เต้น ร่อนหนังสือทุกสายการบินคุมเข้มการแสดงทัศนคติและความเห็นผ่านโซเชียล นกแอร์ สั่งพักงานมือโพสต์ไลน์ 2 สัปดาห์ ส่วนคนเขียน CFIT เป็นศิษย์นักบินไทยแอร์เอเชีย ต้นสังกัดสั่งพักงานพร้อมสำรวจทัศนคติ,หลังจากที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เดินหน้าจัดตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ พร้อมขยายเครือข่ายสาขาไปทั่วประเทศ ท่ามกลางการจับตาและทักท้วงจากฝ่ายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล แต่ยังคงยืนกรานทำต่อไป พร้อมเชิญชวนให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ด้วยนั้น,เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. เวลา 10.00 น. ที่สโมสรกองทัพบก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะเชิญองค์กรสหประชาชาติ (ยูเอ็น) สหภาพยุโรป (อียู) รวมถึงสถานทูตต่างประเทศในไทยเข้ามาสังเกตการณ์ศูนย์ปราบโกงประชามติว่า ไม่ให้ตั้ง ไม่เช่นนั้นใครก็ตั้งขึ้นมาได้ การตั้งศูนย์ปราบโกงต้องมีองค์กรขึ้นมารองรับ จะไปตั้งทำไม เพราะมีหน่วยงานของภาครัฐดำเนินการอยู่แล้ว และเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องภายในประเทศ ทำไมต้องเอาใครเข้ามาวุ่นวาย เรามีทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับผิดชอบดูแลอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงเราไม่ได้ทำอะไรให้เกิดความเสียหาย,หาก นปช.เดินหน้าตั้งศูนย์ปราบโกงต่อ ผมไม่ให้เดิน พอแล้ว หยุดเถอะ ผมขอร้อง ไม่เอา หากยังเดินหน้าต่อ ผมก็มีมาตรการทางกฎหมายดำเนินการ ไปดูว่าผิดอะไรหรือไม่ หากผิดว่าไปตามนั้น แต่ตอนนี้ผมขอร้องก่อน หากจะตั้งแบบนี้ ใครๆก็ตั้งขึ้นมาได้ แบบนี้ประเทศก็ยุ่ง ไม่เช่นนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีไว้ทำไม ยุบและตั้งศูนย์นี้ขึ้นมาแทน ขอให้เชื่อมั่นว่าเราอยากให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ผมดูแลเรื่องความมั่นคงในประเทศ ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าผมจะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามนโยบายที่ได้วางไว้ พล.อ.ประวิตรกล่าว,ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติของกลุ่ม นปช.ว่า หากพูดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ไม่มีอะไรห้าม แต่ในแง่ความมั่นคงเขารู้ว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไรหรือไม่ ตนไม่ทราบ และเมื่อรู้แล้วจะสั่งการอย่างไรเขาก็มีอำนาจ เพราะแต่ละคนเคยถูกเชิญตัวมาพูดคุยและตั้งเงื่อนไขบางอย่าง เมื่อกลับไปทำก็ถือว่าผิดเงื่อนไข จึงมีการเตือนการห้าม เมื่อถามว่า การตั้งศูนย์ปราบโกงของ นปช.ถือว่าเข้าเงื่อนไข ขัดคำสั่งห้ามชุมนุมเกิน 5 คนหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า เขาเกรงว่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะคำสั่งดังกล่าวไม่ได้ห้ามเฉพาะการชุมนุมพรรคการเมือง การมาในนามของศูนย์หรืออะไรหากทำได้ ปิดประตูห้องก็ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน ต่อข้อถามว่า กังวลหรือไม่หากจะมีฝ่ายอื่นตั้งศูนย์ขึ้นมาตรวจสอบศูนย์ปราบโกงของ นปช. นายวิษณุตอบว่า เขาก็กลัวเช่นนี้ด้วยเหมือนกัน,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนกรณีกลุ่ม นปช.ตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติได้หรือไม่ว่า ไม่ขอพูดเรื่องนี้ ไม่อยากตอบเรื่องของความขัดแย้ง เคยบอกแล้วว่าอยากตั้งก็ตั้งไป อะไรที่ผิดกฎหมายก็อย่าทำ หากรวมกลุ่มกันทำผิดกฎหมาย ก็จะพิจารณาดูในเรื่องความผิด,จะให้ผมบอกยังไง จะให้บอกว่าห้ามๆ แล้วเขาก็มาว่าผม ว่าผมไปห้ามเขา คุณก็ต้องการแค่นี้ คำถามคุณต้องการแค่นั้นเอง ถ้าผมบอกว่าให้หรือไม่ให้ แล้วมันทำให้อะไรดีขึ้นหรือไม่ แล้วมันจะโกงเรื่องอะไรประชามติ โกงให้ผ่านไม่ผ่าน แล้วผมได้อะไร ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อยู่ได้ พอแล้ว พล.อ.ประยุทธ์กล่าว,นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่ม นปช.เตรียมตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติทั่วประเทศว่า การดำเนินการดังกล่าวต้องว่าไปตามกฎหมาย หากกระทำอะไรที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย จะหารือกัน 3 ฝ่าย คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ซึ่งมหาดไทยที่เป็นฝ่ายปกครองจะดูแลเกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อยทั่วไป แต่ถ้าผิดกฎหมายความมั่นคงฝ่ายทหารก็ว่าไป,นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรค ประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นปช.เตรียมเชิญองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มาสังเกตการณ์ศูนย์ปราบโกงว่า เป็นยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศไทยของระบอบทักษิณ พยายามพูดให้ดูดี แต่พฤติกรรมลงรายละเอียดจะเป็นจริงอย่างที่พูดหรือไม่ ต้องมาทบทวนดูพฤติกรรมในอดีต ประวัติที่ผ่านมาคนไทยที่หูตาสว่างต่างรู้ดีคนกลุ่มนี้ทำอะไรไว้บ้าง นัยที่ซ่อนเร้นเป็นเรื่องน่ากังวลอาจจะมีการเมืองแฝงเร้น หรืออาจจะใช้โครงการนี้รณรงค์เกี่ยวกับการทำประชามติไปในทางหนึ่งทางใด เพื่อสนองตอบระบอบทักษิณ รัฐบาลจึงมีหน้าที่จัดการให้สงบเรียบร้อย ทำให้ประชามติบริสุทธิ์ เที่ยงธรรม ต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่เหมาะสม ปล่อยไว้จะเป็นอันตรายต่อการพัฒนาประชาธิปไตยในระยะยาว,นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นลูกไม้เก่าของคนเสื้อแดงที่ต้องการขยายผลเรื่องนี้ตามความต้องการของนายใหญ่เพื่อหวังกระแสจากต่างประเทศมากดดัน คสช.และรัฐบาลอีกทอดหนึ่ง วิธีการนี้ไม่แตกต่างอะไรกับไส้ศึกพม่าสมัยเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 ที่อาจกลับชาติมาเกิด กระทรวงการต่างประเทศจึงมีหน้าที่ชี้แจงให้ยูเอ็นและสถานทูตทราบว่าบุคคลเหล่านี้มีคดีก่อการร้าย ก่อการจลาจล ครอบครองอาวุธสงครามหรือคดีใดติดตัวหรือไม่ บางคนยุให้เผาบ้านเผาเมือง มั่นใจว่าถ้าต่างชาติรู้ว่าคนเหล่านี้มีคดีติดตัวคนละกี่คดี คดีอะไรบ้าง คงประหลาดใจว่าทำไมรัฐบาลไทยถึงให้เสรีภาพกับคนที่มีประวัติร้ายแรงและแอบแฝงนัยทางการเมืองถึงเพียงนี้ ทั้งที่ในนานาอารยประเทศไม่สามารถกระทำการอย่างนี้ได้,นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ โพสต์เฟซบุ๊ก กลัวทำไมถ้าไม่คิดโกง ว่า คสช. และรัฐบาลประกาศนโยบายต่อต้านการทุจริตรวมถึงร่างรัฐธรรมนูญก็โฆษณาว่าเป็นฉบับปราบโกง แต่จะดำเนินคดีกับ นปช.ที่ตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ โดยอ้างว่าไม่เป็นกลางเพราะอยู่ในฝ่ายที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ถือเป็นคนละเรื่องกัน เพราะ นปช.ไม่ได้ขอไปชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญต่อประชาชน คสช.บางคนอ้างว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร และที่เรียกว่าครู ก ข ค กลับเดินกันให้ว่อน ไม่ผิดกฎหมาย ถ้าใครติดตามการทำงานของ คสช. จะทราบว่าคนพวกนี้กลัวการตรวจสอบ ตัวอย่างคือสั่งเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับพวกในโครงการจำนำข้าว แต่ออกคำสั่งนิรโทษกรรมตัวเองและพรรคพวกไม่ให้ถูกฟ้องกลับ,นายวัฒนาระบุว่า ตั้งแต่ยึดอำนาจ คสช. และบริวารซึ่งเรียกรวมกันว่าแม่น้ำ 5 สาย ได้บริหารประเทศโดยเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้อง จึงต้องการให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติเพื่อใช้มาตรา 279 คุ้มครองตัวเองและพรรคพวกให้พ้นจากการตรวจสอบ ในขณะเดียวกันก็ใช้ ส.ว.และองค์กรอิสระค้ำจุนอำนาจต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทุกคนคงหายแปลกใจแล้วว่าทำไมผู้นำจึงโกรธจนควันออกหูเมื่อมีคนแสดงตัวไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ จึงขอยืมคำพูดที่ท่านชอบพูดบ่อยมาใช้บ้างว่า ถ้าไม่ผิดแล้วกลัวอะไร ขนาด น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นหญิงแท้ๆ ยังกล้าเดินขึ้นศาลอย่างสง่าผ่าเผย แล้วชายชาติทหารอกสามศอกที่ยึดอำนาจของท่านมาจะหนีการตรวจสอบไม่อายบ้างหรือ,ส่วนกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และรัฐบาลจัดงานเผยแพร่เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญในค่ายทหารนั้น วันเดียวกัน เวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อกองทัพเป็นผู้รับผิดชอบ เขาก็ต้องใช้สถานที่ของเขา ก็เห็นคนไปเข้าร่วมเยอะดี ไม่น่ามีผลอะไรกับบรรยากาศที่ว่ากัน เป็นเรื่องปกติที่กองทัพใกล้ชิดประชาชน จะไปบอกให้เขาใช้สถานที่อื่น ก็ต้องไปหางบประมาณมาให้เขาอีก,เมื่อถามถึงผลสำรวจความเห็นที่ระบุว่า กว่าร้อยละ 50 คนยังไม่เข้าใจเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ นายมีชัยตอบว่า เพราะการอบรมยังไปไม่ถึงระดับครู ค. ที่มีหน้าที่ลงพื้นที่ชี้แจงชาวบ้าน ต้องรออีก 2 อาทิตย์ เชื่อว่า เมื่อไปถึงครู ค. แล้ว อีก 1 เดือน ที่เหลืออยู่จะทำให้ประชาชนรับรู้มากขึ้น แม้จะไม่ทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็จะทราบว่าในวันที่ 7 ส.ค. จะมีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญนั้นจะเกี่ยวข้องกับเขาอย่างไรบ้าง กรธ.จะพยายามประชาสัมพันธ์ ผ่านสิ่งพิมพ์ให้เข้าใจง่าย อ่านแป๊บเดียวจบ นอกจากนั้นจะเผยแพร่ผ่านสื่อวิทยุและโทรทัศน์อีกด้วย เมื่อถามถึงกระแสรณรงค์โหวตคว่ำร่าง นายมีชัยตอบว่า ก็ให้อยู่บนข้อตกลงเดียวกัน อย่าบิดเบือน ตนคงว่าอะไรไม่ได้ อยากให้สู้กันอย่างตรงไปตรงมา,นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายการเมืองวิจารณ์การจัดเวทีชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญในภูมิภาคของ กกต.ที่จัดในค่ายทหาร โดยเรียกร้องให้เปลี่ยนที่จัดเป็นสถานศึกษาว่า เรื่องนี้ กกต.เป็นผู้ดำเนินการ ตนไม่ทราบรายละเอียด จะทำตามเสียงเรียกร้องหรือไม่ขึ้นกับอยู่กับผู้จัด ไม่เข้าใจที่วิจารณ์ว่าผู้ร่วมเวทีอึดอัด เพราะเห็นผู้ร่วมเวทีที่ค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ประมาณ 500 คน จาก 14 จังหวัดภาคใต้ ไม่ได้มีความอึดอัดอะไร และมีคำถามแรงๆ ซึ่งเป็นการพูดด้วยเหตุผลไม่มีอารมณ์ บรรยากาศเป็นไปด้วยดี และที่จัดในค่ายทหารเพื่อความสะดวกในหลายด้าน จึงมีคำถามกลับว่าเหตุใดต้องเกี่ยงเรื่องสถานที่ ทหารก็ไม่ได้เข้ามายุ่งอะไร ถ้าระแวงกันก็ทำอะไรต่อยาก หลังจากนี้ก็จะมีเวทีที่ไม่เกี่ยวข้องกับทหารอีกหลายเวที,เมื่อถามถึงกรณีนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่าเวทีของ กกต. เป็นการพูดฝ่ายเดียว ไม่ให้พื้นที่คนเห็นต่าง พร้อมท้าดีเบต นายวิษณุตอบว่า มันอยู่ที่วัตถุประสงค์ เวทีนี้เปิดให้ซักถามเราเป็นฝ่ายตอบ แต่ไม่ได้บอกว่าดีหรือไม่ดี แต่บอกในสิ่งที่ยังเข้าใจผิด เพราะจากการร่วมฟังสองเวทีที่ผ่านมา เห็นว่ามีความเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่ เพราะในร่างรัฐธรรมนูญมีบางอย่างที่เป็นนัยให้ต้องตีความ เขียนอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้เกิดความชัดเจนได้ เมื่อถามมาก็ต้องตอบ จะบอกว่าพูดข้างเดียวคงไม่ใช่ ส่วนที่ท้าตนดีเบตนั้น ไม่ขอรับคำท้า เพราะไม่มีเหตุผลต้องทำเช่นนั้น ตนไม่ใช่เจ้าของกิจการนี้ และไม่ใช่เรื่องต้องเอาแพ้เอาชนะกัน,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวว่า การจัดเวทีชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของ กกต. ก่อนหน้านี้อาจเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยจึงจัดในค่ายทหาร บอกไปแล้วถ้าไม่จัดในค่ายทหารก็ให้ไปจัดที่อื่นก็แล้วกัน จัดที่ไหนก็ได้ แต่จัดในค่ายทหารแล้วเป็นยังไง ไปดูสิคนที่มาพูดวิจารณ์เคยทำอะไร และต้องการอะไร สื่อมวลชนเอาความคิดเห็นของคนที่ต่อต้านมาถาม ต้องการอะไร ต้องการให้ประเทศชาติสงบสุข มีเสถียรภาพหรือไม่ สื่อก็ฟังเรื่องเหล่านี้ แต่ก็ไม่ได้ว่า งานเหล่านี้เป็นหน้าที่ของแต่ละหน่วย ทำไมจะต้องลากตนให้มาตอบคำถาม สื่อรู้เจตนาของตน ตนรู้เจตนาของสื่อ ช่วงนี้ไม่อยากตอบอะไรทั้งสิ้นเพราะเบื่อหน่าย,ด้านนายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการจัดเวทีชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญในค่ายทหาร เพราะประชาชนที่เป็นผู้ใช้สิทธิลงประชามติไม่สะดวกในการรับฟัง เพราะต้องเดินทางในระยะไกลจากบ้านเรือนตัวเอง เห็นว่าควรจัดเวทีชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญในพื้นที่ชุมชน เช่น ที่ศาลาวัดหรือบริเวณตลาดของชุมชนทั่วประเทศ โดยกำนันผู้ใหญ่บ้านซึ่งมีความใกล้ชิดกับคนในพื้นที่ ประชาชนจะได้เข้าใจร่างรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริงก่อนไปลงประชามติ วันที่ 7 ส.ค.,เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงความคืบหน้าการเผยแพร่รายการสาระของร่างรัฐธรรมนูญของทีวีดิจิตอลที่จะเริ่มวันที่ 27 มิ.ย. ตั้งแต่เวลา 17.30-18.00 น. ที่นอกจากสถานีโทรทัศน์ช่องหลัก 6 ช่องแล้ว จะมีทีวีดิจิตอล 17 ช่อง จาก 20 ช่อง ที่ได้แจ้งผังรายการมาแล้วว่าจะนำรายการไปออกอากาศซ้ำ ตนขอเสนอแนะว่าในช่วงรายการที่ให้สถานีสามารถเชิญวิทยากรมาร่วมแสดงความคิดเห็นอยากให้เชิญผู้ที่มีความเห็นต่างทั้ง 2 ฝ่าย มาร่วมรายการอย่างเท่าเทียมกัน ตนเสนอให้เชิญนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ขณะที่อีกฝ่ายอาจเชิญ กรธ.,นายสมชัยกล่าวว่า วันที่ 14 มิ.ย.จะเปิดตัวเพลงรณรงค์การออกเสียงประชามติใหม่อีก 1 เพลง โดยในวันเดียวกันนั้นจะมีการเปิดเนื้อหาเพลง 7 สิงหาประชามติร่วมใจประชาธิปไตยมั่นคง ฉบับปรับปรุงเนื้อหาใหม่ด้วย ส่วนการตรวจสอบคลิปเพลง อย่างนี้ต้องตีเข่า (โหวตไม่เอา แล้วตีตก) นั้น พบว่าในคลิปดังกล่าวมีข้อความหยาบคาย เนื้อหาบางส่วนขัดกับสิ่งที่เป็นสาระของร่างรัฐธรรมนูญ กกต.จะนำเนื้อหาเพลงเสนอต่อ กรธ. เพื่อชี้ว่าเป็นเท็จหรือบิดเบือนหรือไม่ เมื่อ กรธ.มีความเห็นอย่างไรจะนำมาประกอบการดำเนินการตามกฎหมาย ขณะนี้ได้ตรวจสอบพบว่ายังมีคลิปเวอร์ชั่น 2 ที่เผยแพร่ในวันที่ 30 เม.ย.2559 ซึ่ง พ.ร.บ.ประชามติมีผลใช้บังคับแล้ว เบื้องต้นพบว่าเป็นการกระทำโดยคนไทยในต่างประเทศ ส่วนที่มีคนไทยในประเทศร่วมด้วยต้องพิจารณาอีกครั้งว่าผิดหรือไม่,นายสมชัยกล่าวด้วยว่า กรณีที่กลุ่มพลเมืองโต้กลับจะเปิดมินิคอนเสิร์ตวันที่ 15 มิ.ย. ที่ศูนย์ราชการนั้น เป็นสิทธิที่ทำได้ แม้จะมีข้อความหยาบคายหรือเป็นเท็จก็ไม่ผิด พ.ร.บ.ประชามติ แต่จะมีความผิดต่อเมื่อนำข้อความหยาบคาย เป็นเท็จ หรือชักจูงโน้มน้าวให้ออกเสียงทางใดทิศทางหนึ่งไปเผยแพร่ผ่านสื่อวิทยุ โทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และสื่ออื่นๆ ส่วนการจัดคอนเสิร์ตจะผิดกฎหมายความมั่นคง ประกาศคำสั่ง คสช.หรือไม่ กกต.ไม่สามารถระบุได้ อยู่ที่ฝ่ายความมั่นคงพิจารณาเอง แต่เห็นว่าการจัดกิจกรรมเวลา 16.00 น. เป็นช่วงเลิกงานจราจรอาจติดขัด อาจก่อให้เกิดความไม่พอใจพึงระมัดระวัง แต่จะเปลี่ยนเวลาหรือไม่แล้วแต่,สำหรับกรณีโซเชียลมีเดียเผยแพร่ข้อความการสนทนาที่ระบุเป็นผู้ช่วยนักบินเที่ยวบินที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางกลับจาก จ.แพร่ มายัง กทม. เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ว่า มีเหยื่อออนบอร์ด และศัพท์การบิน CFIT ที่ย่อมาจาก control flight to terrian เท่ากับ โหม่งโลก จนนายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด ทำหนังสือขอโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์โพสต์เฟซบุ๊กว่า ต้องขอบคุณคุณพาทีที่ได้ออกมาแสดงความขอโทษ และใส่ใจจะติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ อยากให้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์ เพื่อไม่ให้นำทัศนคติส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับงานบริการแบบความเป็นมืออาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากรณีเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต เพื่อจะได้เกิดความเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพ และเป็นมาตรฐานขององค์กรต่อไป,นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.กล่าวว่า เป็นเรื่องเลวร้ายต่ำทรามที่สุด ไม่ว่าจะเกิดกับสายการบินใด หากเห็นผู้โดยสารเป็นเหยื่อ เอาความตายของผู้โดยสารทุกคนเป็นเครื่องสังเวย ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเล่นสนุก ขอโทษอย่างเดียวคงไม่พอ ผู้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ดังกล่าวต้องถูกไล่ออก พร้อมกับประณามการกระทำผิดอย่างร้ายแรง อาจจะกู้ชื่อของสายการบินกลับมาได้ แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น อาจจะทำให้ผู้โดยสารอื่นๆเข้าใจว่าสายการบินเข้าข้างพวกตัวเอง หรืออาจจะคิดไปไกลถึงขั้นที่สายการบินอาจจะเห็นชอบด้วยกับข้อความดังกล่าวหรืออย่างไร และขอเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่ควบคุมใบอนุญาตนักบิน ควรยึดใบอนุญาตการบินตลอดชีวิตของคนกลุ่มนี้ด้วย,ขณะที่ น.ต.อลงกต พูลสุข ผอ.สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติการของสายการบินให้เกิดความปลอดภัย เปิดเผยว่า กฎหมาย กพท. ครอบคลุมและสามารถเอาผิดได้เฉพาะกรณีข่มขู่คุกคามด้านความปลอดภัยด้านการบินที่เกิดขึ้นจากทางวาจาหรือพฤติกรรมที่แสดงออกเท่านั้น แต่กรณีดังกล่าวเป็นการคุกคามที่เกิดขึ้นจากสื่อโซเชียลมีเดีย กฎหมายยังครอบคลุมไม่ถึง รวมทั้งขณะนี้ยังไม่มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อความดังกล่าว ส่วนเรื่องของจริยธรรมของตัวนักบินนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของแต่ละสายการบินจะต้องไปสอบสวน เอาผิดและลงโทษกันเอง กพท. มีหน้าที่ตรวจสอบและออกใบอนุญาตนักบินเท่านั้น อย่างไรก็ตาม กพท มีอำนาจในการว่ากล่าวตักเตือนไปยังสายการบินได้,ผมโทรศัพท์ไปสอบถามฝ่ายดูแลนักบินของนกแอร์แล้ว ขอให้รายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกลับมาภายใน 3-4 วัน รวมทั้งได้ส่งหนังสือไปยังสายการบินทุกสายการบิน ให้เพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลการแสดงทัศนคติและความเห็นของนักบินผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยด้านการบิน รวมทั้งให้เน้นย้ำเรื่องวินัยการบินด้วยว่าห้ามนำความเห็นส่วนตัวมาใช้ระหว่างทำการบิน น.ต.อลงกตระบุ,น.ต.อลงกตกล่าวว่า เบื้องต้นได้รับทราบว่านักบินคนดังกล่าวเป็นนักบินใหม่ที่ยังมีอายุน้อย ซึ่งความเป็นนักบินกว่าจะปลูกฝังให้เป็นมืออาชีพได้ก็ต้องใช้เวลาในการสร้างนาน 5-7 ปี ทั้งนี้ยอมรับ ว่าการเริ่มต้นเป็นนักบินก็อาจทำถูกบ้างผิดบ้าง แต่ทั้งหมดก็ต้องดูที่เจตนารมณ์ว่าทำไปเพื่ออะไร,เรื่องนี้ไม่น่าจะเข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 เพราะเป็นการโพสต์ข้อความพูดคุยกันภายใน ไม่ได้มีการประกาศออกสู่สาธารณชนให้รับทราบ จึงไม่ได้ทำให้ผู้โดยสารหรือประชาชนทั่วไปเกิดอาการแตกตื่นจนส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยทางด้านการบิน ซึ่งแตกต่างกับกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับหลายๆ สายการบิน คือกรณีที่ผู้โดยสารบนเครื่องได้พูดล้อเล่นด้วยการประกาศบนเครื่องบินว่ามีระเบิดบนเครื่อง เพราะกรณีหลังนั้นคำพูดที่ประกาศออกมาได้ทำให้เกิดความเสียหายขึ้นแล้ว เนื่องจากสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนบนเครื่องบิน ซึ่งตามกฎหมายถือว่ามีความผิดมีบทลงโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ น.ต.อลงกตกล่าว,ร.ท.นรหัส พลอยใหญ่ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ สายการบินนกแอร์กล่าวถึงการสอบสวนนักบินผู้ช่วยของสายการบินนกแอร์ที่โพสต์ข้อความผ่านไลน์ในกลุ่มของนักบินที่จบการศึกษาด้านการบินในรุ่นเดียวกันว่า จากการสอบสวนพบว่านักบินผู้ช่วยคนนี้ไม่ได้มีเจตนาร้าย เป็นการโพสต์ข้อความพูดคุยกันในกลุ่มเพื่อนนักบินด้วยความคึกคะนอง แต่มีการใช้คำไม่สุภาพคือคำว่าเหยื่อ ซึ่งปกติจะต้องใช้คำว่า VVIP ขณะนี้ได้สั่งพักการบิน 1-2 สัปดาห์ น่าเห็นใจว่านักบินผู้ช่วยคนนี้เป็นนักบินเพิ่งจบใหม่ ไม่ได้มีความคิดหรือไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง เมื่อต้องเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้ขณะนี้อยู่ในสภาพที่ตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น,ร.ท.นรหัสกล่าวว่า นักบินผู้ช่วยรายนี้ให้เหตุผลว่า มีความภูมิใจที่ได้ขับเครื่องบินที่มีอดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์โดยสารมาด้วย จึงได้ขออนุญาตนักบินในเที่ยวบินดังกล่าว ถ่ายภาพคณะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ผ่านห้องนักบิน และหลังจากโพสต์ภาพและข้อความแล้วก็ได้ปิดมือถือไป ปรากฏว่ามีเพื่อนักบินคนอื่นเข้ามาโพสต์ข้อความต่างๆ ส่วนผู้ที่โพสต์คำว่า CFIT ปรากฏว่าเป็นนักบินของสายการบินแอร์เอเชีย และหลังจากทำการบินเสร็จนักบินผู้ช่วยคนนี้ได้กลับมาโพสต์ข้อความอีกครั้งว่าได้นำเครื่องบินลงถึงที่หมายเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องการเอาผิดลงโทษนั้น เรื่องนี้ไม่ได้มีข้อกำหนดในส่วนของกฎหมายการบิน แต่เป็นเรื่องของระเบียบปฏิบัติของสายการบินนกแอร์ที่จะต้องกำกับดูแลและพิจารณาลงโทษ,ด้านนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวหลังจากทราบเรื่องว่ามีนักบินของไทยแอร์เอเชียเป็นผู้โพสต์คำว่า CFIT ได้มีการเรียกประชุมด่วนฝ่ายนักบินและตรวจสอบพบว่าเป็นศิษย์นักบินของไทยแอร์เอเชีย คือยังไม่ได้เป็นนักบิน แต่เพิ่งเซ็นสัญญารับเป็นนักบินและอยู่ในขั้นตอนการฝึกอบรมเพียง 3 วัน กว่าจะเป็นนักบินต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า 2 ปี ขณะนี้ได้สั่งพักการอบรมและให้กลับไปเริ่มต้นในขั้นตอนการทดสอบทางด้านทัศนคติ (Attitude Test) และจะต้องดูพฤติกรรม เพราะผู้ที่จะเป็นนักบินได้จะต้องมีภาวะความเป็นผู้ใหญ่เพียงพอ หากผ่านการทดสอบก็พร้อมรับเข้ามาฝึกอบรมเพื่อเป็นนักบินต่อไปได้,หลังจากทราบเรื่องได้โทรศัพท์ถึงนางสาวยิ่งลักษณ์เพื่อชี้แจงและยอมรับว่าเป็นศิษย์นักบินของไทยแอร์เอเชียที่มีการโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสม และไม่ได้มีเจตนาหรือเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองใดๆ เป็นเรื่องของความคึกคะนองเท่านั้น ซึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ได้ติดใจเอาความ แต่ได้แนะนำว่านักบินจะต้องคำถึงเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคนเป็นหลักไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดก็ตาม นายธรรศพลฐ์กล่าว,สำหรับภารกิจนายกรัฐมนตรี เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เป็นประธานประชุมการปรับปรุงประสิทธิภาพ การบริการภาครัฐกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย กล่าวตอนหนึ่งว่า ผลการประเมินในปี 2560 หากออกมาไม่ดีมีเรื่องแน่ วันนี้คนเบื่อคำว่าบูรณาการ ต้องใช้ระบบไอทีเข้ามาช่วย ควรจะรวมกลุ่มและเปิดช่องทางสื่อสารให้ส่วนราชการคุยไปพร้อมแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทาง ใช้ระบบไอทีสื่อสารเพื่อลดขั้นตอนเอกสาร ส่วนการบริหารจัดการของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ทั้ง 50 เขต อยากทราบว่ามีการควบคุมเรื่องการทุจริต หรือการทำงานที่ล่าช้าหรือไม่ เพราะมีร้องเรียนมาตลอด ที่สำคัญมีการลงโทษผู้ทำความผิดหรือไม่ โดยตัวแทน กทม.ชี้แจงว่า ไม่ทราบว่าแต่ละเขตมีการลงโทษหรือไม่ อย่างไร เพราะผู้ว่าฯ กทม.ไม่มีอำนาจตรงนี้ โดยนายกฯถามกลับว่า ตกลงผู้ว่าฯ กทม.ไม่มีอำนาจลงโทษ ผอ.เขต ใช่หรือไม่ ตัวแทน กทม.ตอบว่าใช่,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องการให้มีการขนส่งทางเรือภายในประเทศมากขึ้น ช่วงหลังเห็นน้อยลง เช่น ให้มีเรือโดยสารมาวิ่งที่คลองผดุงกรุงเกษมเพื่อระบายการจราจรจากหัวลำโพงไปยังเจ้าพระยา ต้องไปหารือกัน หากไม่เกิด มีเรื่องแน่ ขอฝากกระทรวงคมนาคม ประสานงานกับ กทม.ด้วย รอมา 2 ปีแล้ว ยังไม่มีเรือวิ่งเลย ไม่เช่นนั้นรัฐบาลจะหาเรือท้องแบนมาวิ่งเอง จะรื้อสะพานให้หมด และไม่ใช่วิ่งอยู่พักเดียวแล้วหายไป หรือทำเป็นเรือท่องเที่ยวในวันเสาร์ อาทิตย์ก็ดี ความคิดตนหากทำได้ก็ทำ หากทำไม่ได้แล้วไม่มาบอกตนก็โกรธ,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอฝากเรื่องกฎหมายต่างๆ ที่สำคัญต้องเร่งออกให้เร็วขึ้น รัฐบาลพยายามจะสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจทุกมิติ วันนี้ได้รับความเชื่อมั่น แม้จะมีฝ่ายหนึ่งมาทำลายอยู่ก็ตาม แต่ตนก็ทำเต็มที่ การค้าการลงทุนโลกดำเนินการอยู่มี 2 หน้า คือการเมืองและเศรษฐกิจ สิ่งที่ทุกคนต้องระวังให้ตนคือภัยที่จะเกิดจากภายนอกประเทศเข้ามาหลายอย่าง ภัยที่มาจากบิดเบือนประชาธิปไตย บิดเบือนสิทธิมนุษยชน มันทำให้เกิดความไม่มั่นคง เมื่อไม่มั่นคงทำให้สิ่งที่ทำล้มเหลวทั้งหมด ขอขอบคุณทุกคน ทั้งภาครัฐและเอกชน รองนายกฯและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องที่ทำให้วันนี้เดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็วใช้เวลา 1 ปีครึ่ง และตนกำลังเร่งรัดงานที่จะต้องเสร็จภายในปี 60 ก่อนเลือกตั้ง มีรัฐบาลชุดใหม่ที่ตนขับเคลื่อนเอง ไม่ว่าจะเรื่องบริหารจัดการน้ำ สาธารณูปโภคพื้นฐาน ต้องทำไปพร้อมกันทุกเรื่อง,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนยุติการพูด พล.อ.ประยุทธ์เอ่ยถามผู้เข้าร่วมประชุมว่า ไหนใครไม่ให้ผมอยู่ยกมือ เมื่อไม่มีใครยกมือ พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวว่า ขอบคุณๆ ท่ามกลางเสียงปรบมือ,ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานพิธีเปิดศูนย์เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบล รวม 7,424 แห่งทั่วประเทศ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมงาน โดยนายกฯกล่าวเปิดตอนหนึ่งว่า หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทานไว้กว่า 40 ปีแล้ว ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม คนส่วนใหญ่ยากจน ต้องเพิ่มรายได้ให้เพียงพอ ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ตอนนี้ไม่ว่าครู ทหาร ตำรวจ มีหนี้หมด ถ้าไม่มีหนี้แสดงว่าไม่มีเกียรติ แต่จะทำอะไรต้องอาศัยเวลา ต้องชัดเจน ไม่สร้างความขัดแย้ง ปฏิรูปอะไรต้องระวังไม่ให้เกิดผลกระทบ เช่น การปฏิรูปตำรวจที่โดนว่ามาก เพราะส่งผลต่อคนจำนวนมาก แต่ต้องให้กำลังใจเขา,ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายเกริกพันธุ์ ฤกษ์จำนง อธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.จะเดินทางเยือนประเทศอินเดียอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 16-18 มิ.ย.นี้ ตามคำเชิญของนายนเรนทระ โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ พร้อมรัฐมนตรีอีกหลายกระทรวง อาทิ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงเกษตรฯ พร้อมคณะผู้แทนไทย ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมด้วย โดยนายกฯและคณะจะเดินทางโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ จากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง ในวันที่ 16 มิ.ย. เวลา 14.00 น. ไปยังท่าอากาศยานกองทัพอากาศปาลาม กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย,นายเกริกพันธุ์กล่าวว่า ผู้นำทั้งสองประเทศจะหารือส่งเสริมความร่วมมือในทุกมิติ การเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างกัน ฝ่ายอินเดียจะเสนอให้เมืองพุทธคยาเป็นศูนย์รวมด้านจิตวิญญาณและการท่องเที่ยวเชิงศาสนาในลักษณะของการเดินทางแสวงบุญ ส่วนไทยส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนในอินเดีย พร้อมเชิญชวนนักลงทุนอินเดียมาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยนายกฯจะเข้าร่วมการสัมมนาทางธุรกิจไทย-อินเดีย ในช่วงค่ำของวันเดียวกัน เพื่อพบกับภาคเอกชนไทยและอินเดีย วันที่ 18 มิ.ย. นายกฯ และภริยา จะเดินทางไปยังเมืองคยา รัฐพิหาร เป็นประธานในพิธีสวดมนต์และเจริญจิตภาวนาใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่วัดมหาโพธิ์พุทธคยา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี ก่อนจะไปถวายภัตตาหารเพลและปัจจัยไทยทานแด่พระภิกษุสงฆ์ และจะประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ประตูใหญ่หน้าพระอุโบสถ ที่วัดไทยพุทธคยา,เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายไพสิฐ อิ่มเจริญกุล ทนายความกลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG เข้ายื่นหนังสือและหลักฐานเอกสารต่อ พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการ ปปง. เพื่อขอให้เพิกถอนสิทธิเรียกร้องการรับค่าเสียหาย ในโครงการก่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสียคลองด่าน งวดที่ 2 และ 3 ที่กรมควบคุมมลพิษต้องชำระให้กลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดรวมมูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท โดยนายไพสิฐยืนยันว่า กลุ่มกิจการร่วมค้าฯไม่ได้ทำกระทำความผิดในการให้การสนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำการทุจริต ตามที่ ปปง.กล่าวหา ข้อกล่าวหาดังกล่าว ป.ป.ช.ได้เคยมีมติไม่ชี้มูลความผิดมาก่อนแล้ว ทาง ปปง. จึงไม่ควรนำมากล่าวหาซ้ำ และขอเรียกร้องให้พิจารณา ข้อเท็จจริงการถูกยกเลิกสัญญาอย่างไม่เป็นธรรมของกิจการร่วมค้าฯ ซึ่งทำโดยถูกต้องตามกฎหมาย แต่กลับถูกกล่าวอ้างว่าสัญญาเป็นโมฆะจากเหตุผลทางด้านการเมืองในช่วงรัฐบาลพรรคไทยรักไทย,ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นสิทธิของกลุ่มกิจการร่วมค้าที่จะไปยื่นถอนอายัดได้ภายใน 30 วัน ตามกฎหมายฟอกเงิน ทางเลขา ปปง.ได้แจ้งทางบริษัทร่วมค้าไปเองว่า ได้มีการอายัดไว้หากบริษัทมีหลักฐานอะไรเพิ่มเติมก็สามารถนำมาแสดงได้ภายใน 30 วันนี้ ถือเป็นการใช้สิทธิปกติ เมื่อยื่นมา ปปง.ก็จะดูหลักฐานว่าฟังขึ้นหรือไม่ ถ้าฟังขึ้นก็ปล่อยไป แต่ถ้าฟังไม่ขึ้น ปปง.ก็จะไปฟ้องศาล ขั้นตอนเมื่อไปถึงศาลแล้วอาจจะมีทั้งแพ้และชนะก็ไม่เป็นไร ส่วนท่าทีรัฐบาลช่วงนี้ก็อยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไร ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ ปปง.ดำเนินการไป,นายวิษณุยังกล่าวถึงกรณียกเลิกมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 10 พ.ค. เรื่องรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงและการแก้ปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองแร่ทองคำของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ว่า เป็นการแก้ไขมติ ครม. จึงต้องยกเลิกของเดิมเพื่อออกของใหม่ เพราะมติครั้งแรกจดไม่ตรงกับความเป็นจริงในที่ประชุมขณะนั้น จึงแก้มติให้มีถ้อยคำรัดกุมตรงตามความเป็นจริงมากขึ้น และมติเดิมตนเป็นผู้ตรวจเอง แต่มีว่าถ้อยคำที่ทำให้เกิดการตีความไปได้อีกแบบจึงแก้ไขเท่านั้น ส่วนการปิดเหมืองทองคำยังคงปิดเหมือนเดิม เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าปี 2560 จะไม่มีเหมืองทองคำ นายวิษณุตอบว่า เรื่องนี้กระทรวงอุตสาหกรรมต้องไปออกคำสั่งอีกครั้ง เพราะเป็นอำนาจโดยตรง ไม่ใช่อำนาจ ครม. และเรื่องนี้ไม่ได้ใช้คำสั่ง คสช.เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนปกติทุกอย่าง,อีกเรื่องหนึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาตามมาตรการในการป้องกัน ยับยั้ง ขจัดการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุมจาก IUU Fishing ภายหลังสหภาพยุโรป (อียู) ให้เวลาอีก 1 เดือนแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จว่า กระทรวงเกษตรฯรับเรื่องเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมตามคำแนะนำแล้ว โดยให้เวลาไทยถึงสิ้นปีนี้ อียูระบุว่าเราแก้ปัญหามาถูกทางแล้ว แต่ยังไม่หมดและชี้แจงมาให้เรารับทราบ โดย รมว.เกษตรฯรับไปแก้ไข,เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มีนายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธาน สปท.คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุมเพื่อพิจารณารายงานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เรื่องการวางแนวทางมาตรฐานการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ มีสาระสำคัญคือ การแต่งตั้งตำรวจระดับสารวัตรถึงระดับผู้บัญชาการให้พิจารณาเรียงลำดับตามบัญชีอาวุโส ประกอบกับความรู้ความสามารถ และความประพฤติ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของตำแหน่งที่ว่าง ส่วนอีกร้อยละ 30 หากจำเป็นให้พิจารณาข้ามลำดับอาวุโสได้ แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจาก ก.ตร. ส่วนการแต่งตั้งตำรวจระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้นไป ให้พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโสในบัญชีเท่านั้น เพราะข้าราชการตำรวจในระดับดังกล่าวปฏิบัติราชการมานาน มีความรู้ความสามารถและ ประสบการณ์ทำงานใกล้เคียงกัน โดยสมาชิก สปท.ส่วนใหญ่ อาทิ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ นายวันชัย สอนศิริ นายนิกร จำนง ต่างอภิปรายสนับสนุนเพื่อเป็นแนวทางผลักดันการปฏิรูปตำรวจ พร้อมเสนอแนะเพิ่มเติมว่า ให้กำหนดหลักเกณฑ์ประเมินผลงานให้ชัดเจน และควรปฏิรูปตำรวจชั้นประทวนให้มีเงินเดือน สวัสดิการที่ดีควบคู่ด้วย ทั้งนี้ ที่ประชุม สปท.ลงมติให้ความเห็นชอบรายงานดังกล่าวด้วยคะแนน 138 ต่อ 4 งดออกเสียง 24 เพื่อส่งต่อให้ ครม.รับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป,พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณี ป.ป.ช.ส่งเรื่องให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ดำเนินการถอดถอนนายประชา ประสพดี อดีต รมช.มหาดไทย กรณีใช้ตำแหน่งหน้าที่แทรกแซงการดำเนินงานของคณะกรรมการองค์การตลาดในการพิจารณาการทุจริตของนายธีธัช สุขสะอาด อดีต ผอ.องค์การตลาดว่า ขณะนี้ ป.ป.ช.ส่งเรื่องการถอดถอนของนายประชาไปให้ สนช.เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังชี้มูลความผิดนายประชาในคดีอาญา ซึ่งจะส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด ส่งต่อไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทางอาญานายประชากรณีนี้ เข้าข่ายผิดมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญาด้วย อย่างไร ก็ตาม หลังจากที่ ป.ป.ช.ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดดำเนินคดีอาญา ปรากฏว่าอัยการสูงสุดเห็นว่าสำนวนของ ป.ป.ช.ยังมีข้อไม่สมบูรณ์ทางคดีอยู่ จึงส่งเรื่องกลับมาให้ ป.ป.ช.ทบทวน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการร่วมพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ระหว่างอัยการสูงสุดกับ ป.ป.ช.,ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายชัยวัฒน์ อนันตศานต์ ผอ.สำนักตรวจสอบการบริหารพัสดุและสืบสวนที่ 3 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า สตง.เดินทางมาศาลาว่าการ กทม.เพื่อเข้าพบ นพ.พีระพงษ์ สายเชื้อ ปลัด กทม.เพื่อขอตรวจสอบโครงการปรับปรุงห้องทำงานผู้ว่าฯ กทม. และคณะผู้บริหารมูลค่า 16.5 ล้านบาท ที่ สตง. เคยส่งเจ้าหน้าที่มาสังเกตการณ์ 2 ครั้ง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า การปรับปรุงตรงตามแบบแปลนและรายละเอียดราคากลาง แต่กรณีความเหมาะสมของอุปกรณ์และราคากลาง สตง.ต้องตรวจสอบอีกครั้ง คาดว่าจะสรุปผลได้ในเดือน มิ.ย. และไม่จำเป็นต้องอายัดการเข้าใช้ห้องทำงานเพราะได้รับความร่วมมือแล้ว,ด้านนายพีระพงษ์กล่าวว่า กทม.ยินดีให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ หาก สตง.สงสัยหรือต้องการข้อมูลสามารถเข้ามาตรวจสอบได้ ซึ่งข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้อง กทม.ได้ส่งให้ สตง.ไปแล้วส่วนหนึ่ง และจะรวบรวมเอกสารทั้งหมดส่ง สตง.ภายในวันที่ 15 มิ.ย. โดยยอมรับว่าการปรับปรุงห้องทำงานได้เริ่มทำไปแล้ว | บิ๊กป้อม ฮึ่มใส่ นปช.อย่าล้ำเส้นมากไป ดึงต่างชาติมาจุ้นเรื่องภายในเตือนไม่หยุดเดินหน้าศูนย์ปราบโกงเจอดีแน่ วิษณุ ชี้ฝ่ายความมั่นคงไม่สบายใจศูนย์ นปช. เข้าข่ายทำผิดเงื่อนไข คสช. ด้าน ปชป.ฉะเล่นเกมโลกล้อมประเทศไทย | null | ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,นกแอร์,ผู้ช่วยนักบิน,CFIT,โหม่งโลก,เหยื่อออนบอร์ด,พาที สารสิน,พักงาน,ข่าวการเมือง,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/638268 |
ข่าวดี หมอช้างชี้ 4 ราศีพลาดไหว้เสาร์ย้ายใหญ่ปลายปี 6 ธ.ค.นี้รับโชคอีกครั้ง | ข่าวดี คนที่พลาดไหว้ดาวเสาร์ย้าย 26 พ.ย.ที่ผ่านมา หมอช้างแนะวันที่ 6 ธ.ค.นี้ สามารถไหว้ดาวเสาร์ได้อีกครั้ง เนื่องจากเป็นวันเพ็ญเดือนอ้าย วันพระจันทร์เต็มดวงของปีในแบบปฏิทินจันทรคติ หรือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 1 ,ย้ำ ตุล เมษ พิจิก พฤษภ ไหว้รับพลัง,เตือนภัยหลัง 10 ธ.ค. ราหูคู่เสาร์ แรง ตุลกับ เมษ โคม่า), ส่งผลให้เกิดกระแสไหว้ราหูกันทั่วบ้านทั่วเมือง,ชีวิต หนักเหนื่อย เครียด ทุกข์ใจ ผิดหวัง มีปัญหาสุขภาพ มีปัญหางาน เรื่องส่วนตัวเยอะมาแล้ว ซึ่งในวันที่ 26 พ.ย.นี้ดาวเสาร์จะย้ายเข้า ราศีพิจิก อุปสรรคที่เคยมีมากมายจะลดน้อยลง ชีวิตจะมีความความราบรื่นมากขึ้น โดยเฉพาะราศีตุลที่โดนหนักกว่า ส่วนราศี,2 ราศีที่เป็นเจ้าภาพหลัก และเจ้าภาพร่วมที่กล่าวมานี้ ไม่ได้บอกว่าไม่ดี แต่อิทธิพลนี้จะส่งผลให้คนที่เกิดลัคนาหรือราศีพิจิกมีภาระความรับผิดชอบสูงขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องหน้าที่การงาน ตำแหน่งงานจะมีความก้าวหน้ามากขึ้น ระยะแรกจะส่งผลทำให้มีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบมากและเหนื่อยหนักกว่าเดิมมาก ซึ่งบางครั้งการทำงานหนัก และทำอะไรหลายอย่างในคราวเดียวกัน อาจจะเกิดข้อผิดพลาดหรือมีอุปสรรคมาก ดังนั้น จากนี้ไปอีก 2 ปีครึ่งต้องควรระวัง เรื่องผิดหวังเสียใจ ปัญหาสุขภาพ ส่วนเจ้าภาพร่วมคนที่เกิดลัคนาหรือราศีพฤษภจะมีโชคจากทางไกล แต่ให้ระวังจะมีปัญหากับคนรอบตัว แม้กระทั่งความสัมพันธ์ของเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะความรักต้องระวังเป็นพิเศษ,หมอช้างยังย้ำด้วยว่า ไม่อยากให้วิตกมาก เนื่องจากตำแหน่งของดาวเสาร์ในครั้งนี้อยู่ในตำแหน่ง ราชาโชค แบบที่บอก ซึ่งมีความหมายในเรื่องของโชคลาภ ความมั่งคั่ง และการอุปถัมภ์ส่งผลให้ 2 ราศีนี้ แม้จะเหนื่อยหนัก ทว่าก็มีโอกาสที่จะได้พบกับการเปลี่ยนแปลงของดวงชะตาที่ดีขึ้น,การทำบุญและการไหว้พระเสาร์ในวันที่ 26 พ.ย.นี้ จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะทำให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ดวงชะตา และรับพลังความเป็นราชาโชคเข้าสู่ตน ,สิ่งที่อยากจะฝาก 4 ราศีอันได้แก่ ราศีเมษ, ราศีตุล, ราศีพิจิก, ราศีพฤษภ อีกทีเพื่อเอาไว้เพื่อรับมือกับดาวเสาร์ย้ายไปราศีพิจิกในวันที่ 26 พ.ย.นี้ มี 2 เรื่องใหญ่ 1.การทำบุญใส่บาตรในตอนเช้าของวันที่ 26 พ.ย. หรือถวายสังฆทานในวันที่ 26 พ.ย.โดยเคล็ดในการทำบุญให้มีเลข 7 (ตัวเลขของดาวเสาร์) หรือเลข 10 (กำลังดาวเสาร์) โดยดอกไม้ที่ทำบุญควรจะเป็นดอกไม้สีม่วง เช่น ดอกกล้วยไม้ เป็นต้น และ 2.การไหว้ดาวเสาร์ในคืนวันที่ 26 พ.ย.นี้ ซึ่งทำได้ทุกราศี แต่ที่ห้ามพลาดก็คือ 4 ราศีที่กล่าวไปข้างต้น,สุดท้าย หมอดูชื่อดังจอมพิธีกรรม กล่าวด้วยว่าสำหรับคนที่พลาดการไหว้ดาวเสาร์เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา สามารถไหว้ดาวเสาร์อีกครั้งได้ในวันที่ 6 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ตลอดทั้งวัน,อยากจะย้ำเตือนอีกครั้ง สำหรับคนที่พลาดโดยเฉพาะ 4 ราศีที่ว่านี้ คุณสามารถไหว้รับดาวเสาร์อีกครั้งในวันที่เสาร์ที่ 6 ธ.ค.นี้ หรือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 1 เนื่องจากวันดังกล่าวเป็นวันเพ็ญเดือนอ้าย หรือวันพระจันทร์เต็มดวงของปีในแบบปฏิทินจันทรคติเพื่อรับโชคลาภจากดาวเสาร์อีกหนึ่งวัน ถามว่าไหว้ได้เวลาไหน ไหว้ได้ตลอดทั้งวัน ส่วนของไหว้ คาถาก็ใช้เหมือนเดิม ที่สำคัญย้ำผมว่าสามารถไหว้ดาวเสาร์ที่บ้านได้ไม่ผิดกติกา หมอดูชื่อดังกล่าวสรุป,**ข้อกำหนดของในการใส่บาตร**,1.จำนวนของไหว้และของใส่บาตรใช้ได้เหมือนกัน โดยสามารถไหว้ของ 7 อย่าง (ตัวเลขของดาวเสาร์) หรือ 10 อย่าง (กำลังดาวเสาร์) แล้วแต่ความพร้อม,2.สีของดาวเสาร์คือ สีดำ หรือ สีม่วง ดังนั้นของไหว้ (หรือดอกไม้ในการทำบุญ) สามารถใช้ได้ทั้งสองสีตามความสะดวก แต่ควรเป็นอาหารที่กินได้และควรมีทั้งของคาว, ของหวาน, ผลไม้เช่น ซุปไก่, น้ำองุ่น, ขนมชั้นสีม่วง, น้ำอัดลม, กาแฟดำ, บัวลอยดอกอัญชัน, สาหร่าย ของไหว้ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่าง,3.สิ่งสำคัญที่สุดคือความสบายใจในการซื้อหาและของบางอย่างที่หาได้เองอาจจะตรงกับดวงของเรามากกว่า ส่วนธูปเทียนและดอกไม้ไม่นับอยู่ในจำนวนของไหว้ ดอกไม้ที่แนะนำคือดอกกล้วยไม้สีม่วงหรือดอกบัวสีม่วง,**ขั้นตอนการไหว้ดาวเสาร์ตอนกลางคืน**,1.หลังจากเวลา 16.29 น.ของวันที่ 26 พฤศจิกายน สามารถไหว้ได้ตลอดแต่อย่าให้เลยเที่ยงคืน,2.ทิศในการไหว้ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และควรไหว้กลางแจ้ง,3.จุดธูปตามจำนวนของไหว้ 7 หรือ 10 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ พร้อมกับสวดบทบูชาพระเสาร์,**บทบูชาพระเสาร์**,ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต, ,นาภิชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตา, ,เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ โสตถิ คัพภัสสะ ฯ (10 จบ), , เมื่อธูปใกล้หมดให้ลาของไหว้ นำของไหว้มารับประทานเพื่อความเป็นสิริมงคล ทั้งนี้ ควรท่องคาถาบทนี้ก่อนทานของไหว้แต่ละอย่าง โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ. | ข่าวดี! คนที่พลาดไหว้ดาวเสาร์ย้าย 26 พ.ย.ที่ผ่านมา หมอช้างแนะวันที่ 6 ธ.ค. นี้ สามารถไหว้ดาวเสาร์ได้อีกครั้ง | null | ไหว้ดาวเสาร์,ไหว้ดาวเสาร์ 26 พ.ย.,คาถาไหว้ดาวเสาร์,พิธีไหว้ดาวเสาร์,ดาวเสาร์ย้าย,หมอช้าง,ทศพรศรีตุลา,วิธีไหว้ดาวเสาร์,เสาร์ย้ายใหญ่,26พ.ย.57,ราศีเฮง,ราศีซวย,ราศีเมษ,ลัคนา,ราศีพิจิก,ดาวเสาร์,ราชาโชค,ของดำ,คาถาบูชาดาวเสาร์,คาถาดาวเสาร์,ข่าวไทยรัฐ,ข่าวไทยรัฐไลฟ์สไตล์,ราศีตุล,ราศีพฤษภ,คำถามการไหว้ดาวเสาร์ | https://www.thairath.co.th/content/464597 |
เครือข่ายแรงงานเตรียมพบนายก-ILO ถกปัญหาความมั่นคงแรงงานข้ามชาติ | เครือข่ายจะทำการยื่นหนังสือถึง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และ องค์การสหประชาชาติ เรื่อง ความห่วงใยมั่นคงปลอดภัยของแรงงานข้ามชาติในประเทศไทย ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการพิสูจน์สัญชาติของแรงงานข้ามชาติกว่า 2 ล้านคนในประเทศไทย โดยร้อยละ 80 เป็นแรงงานข้ามชาติจากประเทศพม่า ซึ่งรัฐบาลให้ระยะเวลาการดำเนินการถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553 มิฉะนั้น แรงงานข้ามชาติเหล่านี้จะต้องถูกส่งกลับ โดยในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2553 ดังนี้ เวลา 9.00 – 10.00 น. เครือข่ายแรงงานทั้งหมดนัดพบกันหน้าตึกสหประชาชาติ (UN) ถ.ราชดำเนิน กทม. โดยผู้แทนแรงงานข้ามชาติและองค์กรแรงงานไทยจะนำการยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนของผู้ย้ายถิ่น และผู้รายงานพิเศษเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศพม่า แห่งองค์การสหประชาชาติและผู้อำนวยการองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เวลา 10.00-11.00 น. ขบวนเครือข่ายแรงงานทั้งหมดเดินรณรงค์ไปหน้าทำเนียบรัฐบาลประตู 5 เพื่อยื่นหนังสือนายกรัฐมนตรีและ แสดงภาพจำลอง (Gimmick) มาแบ่งเค้กกันเถอะ | เครือข่ายปฏิบัติการเพื่อแรงงานข้ามชาติ (ANM) เครือข่ายองค์กรด้านแรงงานข้ามชาติ (MWG) คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ทั้ง 4 | คุณภาพชีวิต | ILO,สิทธิมนุษยชน,องค์การสหประชาชาติ,แรงงานข้ามชาติ | https://prachatai.com/journal/2010/02/27711 |
มทภ.4 รับคณะ OIC เยี่ยมชมโครงการพาคนกลับบ้าน พร้อมชื่นชม รบ.ไทย | เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ก.พ.61 Mr.salin mutlu sen เอกอัครราชทูตคณะผู้แทนถาวรตุรกีประจำ OIC และคณะ ที่เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และตรวจเยี่ยมการดำเนินกรรมวิธีในการออกสัญชาติให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน ณ ศูนย์พัฒนาและฝึกอาชีพ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 โดยมี พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะให้การต้อนรับ , ,สำหรับการดำเนินงานโครงการพาคนกลับบ้านครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้นโยบายของ แม่ทัพภาคที่ 4 มุ่งเน้นเชิงคุณภาพ เป็นประการสำคัญ ต้องการแก้ไขปัญหา จชต. ให้ตรงจุด และทุ่มเททรัพยากรที่มีอยู่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อต้องการให้ผู้ที่เห็นต่างจากรัฐออกมารายงานตัวแสดงตน ทั้งนี้เห็นว่าผู้เห็นต่างจากรัฐจำนวนมากต้องการยุติ บทบาทการต่อสู้ด้วยวิธีรุนแรง และหันกลับมาร่วมมือกับรัฐ,จากการดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้ผู้ท่ีเห็นต่างจากรัฐและเคยต่อสู้กับรัฐที่หลบหนีออกจากภูมิลำเนา อยากกลับมาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม อยู่ร่วมกับครอบครัวและมาร่วมพัฒนาพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดสันติสุขอย่างยั่งยืน กอ.รมน.ภาค 4 สน. ได้ดำเนินการรับรายงานตัวบุคคลที่หลบหนีไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านประสงค์เข้าโครงการพาคนกลับบ้าน ที่หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นแนวร่วมกลุ่มพูโล และ บีอาร์เอ็น โดยได้เข้าร่วมโครงการ เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 61 โดยจัดที่พักรองรับ ณ ฉก.ทพ. 44 อ.สายบุรี จังหวัดปัตตานี เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามกรรมวิธีของโครงการพาคนกลับบ้านตามนโยบาย ผอ.รมน.ภาค 4 ท่ีมุ่งเน้นเชิงคุณภาพเป็นประการสำคัญ, ,โดยภายหลังเข้าร่วมโครงการ ทางหน่วยได้ดำเนินกรรมวิธีในการออกสัญชาติให้กับผู้เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้านในห้วงที่ผ่านมา รวม 96 ราย ขณะนี้ได้พิสูจน์สัญชาติและออกบัตรประจำตัวประชาชนแล้วจำนวน 37 ราย,Mr.salin Mutlu sen กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น OIC ในฐานะประเทศมุสลิมมีความห่วงใยสภาพความเป็นอยู่ของของชาวมุสลิมในประเทศไทยอยากให้พี่น้องชาวมุสลิมในประเทศไทยอยู่อย่างมีความสุขและรู้สึกดีใจที่ได้ลงพื้นที่มาดูการดำเนินงานโครงการที่นำผู้เห็นต่างกลับมายังประเทศไทย ขอให้การดำเนินโครงการนี้สำเร็จ โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ดี ขอชื่นชมรัฐบาลไทยที่ให้การดูแลพี่น้องมุสลิมเป็นอย่างดี ซึ่งทาง OIC พร้อมที่จะรับฟังแนวทางจากรัฐบาลไทยว่ามีนโยบายอะไรในการพัฒนาและจะดูแลความสงบสุขชาวมุสลิมในประเทศไทยอย่างไร และขอให้พี่น้องชาวมุสลิมให้ความร่วมมือกับทางรัฐบาลไทยในการพัฒนาประเทศให้มีความเจริญรุ่งเรืองต่อไป ในฐานะประเทศมุสลิมด้วยกันก็ไม่ยอมรับการใช้ความรุนแรง และอยากให้อยู่ด้วยกันอย่างสันติต่อไป , ,นายรอแม กาซอ ผู้เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน ได้กล่าวแสดงความรู้สึกต่อการเข้าร่วมโครงการว่า โครงการพาคนกลับบ้านเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้ตนได้กลับบ้าน ตนยังคิดเสมอว่าอยากกลับประเทศไทย จนประสานผ่านทางแม่ทัพภาคที่ 4 ท่านให้ ทพ.44 เดินทางไปรับที่ท่าเรือ ครั้งแรกที่ได้เหยียบแผ่นดินน้ำตาเหมือนจะไหลคิดในใจเราได้กลับบ้านจริงๆ การต้อนรับที่อยู่ที่พัก รอยยิ้มความเป็นกันเองของทุกคนที่นี่ประเทศไทยที่ตนรัก เจ้าหน้าที่ประสานงานช่วยเหลือทุกเรื่อง จนตอนนี้สิ่งที่ตนต้องการมาตลอดก็เป็นจริงนั้นก็คือบัตรประชาชน ผมคือ คนไทยประชาชนของในหลวงและทุกคนที่นี่คือคนไทยลูกหลานในประเทศไทยเป็นคนถูกกฎหมายมีสัญชาติไทยพร้อมกับพ่อลูกโลกของเราจะกลับมาพัฒนาประเทศชาติไทยต่อไป,ด้าน พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ปัจจุบันโครงการพาคนกลับบ้านได้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และได้รับการตอบรับจากผู้เห็นต่างจากรัฐมากยิ่งขึ้น ทำให้ทุกคนมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจต่อภาครัฐ และเปลี่ยนอุดมการณ์วางอาวุธและหันมาสู่กระบวนการตามแนวทางสันติวิธี ทั้งนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าจะยังคงมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในทุกมิติ เพื่อมอบโอกาสและมอบชีวิตใหม่ให้กับครอบครัวของผู้ที่เคยหลงผิดให้กลับสู่อ้อมกอดของครอบครัว และร่วมกันพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้กลับมาสงบสุขอีกครั้ง,จากนั้นเวลา14.00 น. ที่ตลาดสดพิมลชัย หรือตลาดสดรถไฟยะลา อ.เมือง จ.ยะลา คณะ OIC ได้เดินทางเพื่อประชุมรับทราบข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์รวมทั้งการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยมี พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ ศอ.บต. นายก้องสกุล จันทราช นายอำเภอเมืองยะลา พร้อมด้วย ฝ่ายทหาร ตำรวจ ให้การต้อนรับ พร้อมเดินทางไปดูที่เกิดเหตุ ภายในตลาดสดพิมลชัย โดยมีเจ้าหน้าที่ได้บรรยายภาพถ่ายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งทางคณะ OIC มีความพอใจถึงการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลไทย หลังจากนั้นได้เดินทางต่อไป | แม่ทัพภาคที่ 4 ต้อนรับ คณะ OIC ลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินการโครงการพาคนกลับบ้าน พร้อมชื่นชมรัฐบาลไทย ดูแลพี่น้องมุสลิมอย่างดียิ่ง ระบุไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง | ข่าว,ทั่วไทย | โครงการพาคนกลับบ้าน,กองทัพภาคที่4,OIC,จชต.,แม่ทัพภาคที่4,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1215048 |
นายกฯนั่งหัวโต๊ะ ประชุมแม่น้ำ 5 สาย บ่ายนี้ | เวทีการพูดคุยและหารือครั้งนี้ จะมี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และพรรคการเมืองเข้าร่วม และผลลัพธ์จะต้องได้ข้อสรุปที่สอดคล้องกับกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 11 ธ.ค.โดยเฉพาะประเด็นที่ทุกองคาพยพต้องเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งประเด็นหารือสำคัญ คือการพิจารณาวันปลดล็อกการเมือง ด้วยการยกเลิกคำสั่ง คสช.อย่างน้อย 3 ฉบับ ที่เกี่ยวพันกับกลุ่มการเมืองและพรรคการเมือง แต่อาจจะยกเว้นบางข้อในคำสั่ง คสช.ที่เกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบ ทั้งเรื่องความผิดต่อสถาบัน ความผิดเรื่องอาวุธปืนและวัตถุระเบิด รวมถึงการให้อำนาจเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยมีอำนาจในการเรียกบุคคลมารายงานตัว การยึดทรัพย์สิน หรือแม้แต่การห้ามเสนอข่าว หรือเผยแพร่สิ่งพิมพ์ การควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยกระทำความผิดต่อความมั่นคงนอกจากการเตรียมประกาศยกเลิกคำสั่ง คสช.เพื่อปลดล็อกการเมือง เพื่อสร้างบรรยากาศสู่การเลือกตั้งแล้ว ก็มีรายงานว่า คสช.เตรียมประกาศคำสั่ง คสช.อีกฉบับหนึ่ง เรื่องความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ เพื่อดูแลและควบคุมทุกสถานการณ์ ไปจนกว่ามีรัฐบาลชุดใหม่เข้าบริหารราชการแผ่นดินมีรายงานว่า คสช.อาจจะนำผลการประชุมวันนี้ ไปอ้างอิงออกคำสั่ง คสช.ฉบับใหม่ ที่ว่าด้วยมาตรการด้านความมั่นคง ซึ่งมีรายงานว่า คสช.จะใช้คำสั่งนี้ ดูแลและควบคุมสถานการณ์การเมืองและการเลือกตั้ง นับแต่ประกาศปลดล็อกไปจนถึงวันที่มีรัฐบาลเลือกตั้งเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ โดยเนื้อหาคำสั่งน่าจะกำหนดพื้นที่ให้ปลอดภัยในการหาเสียงเลือกตั้ง คุ้มครองการใช้กำลังทางทหาร ควบคุมดูแลสถานการณ์การเมืองและบ้านเมือง เพื่อรองรับกรณีฉุกเฉิน แม้ว่าขณะนี้จะมีกฎหมายปกติรองรับ ทั้ง พ.ร.บ.ความมั่นคง พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ กฎอัยการศึกษาก็ตามหลักการและเหตุผลหลักของ คสช.คือ ยังไม่แน่ใจถึงสถานการณ์บ้านเมือง ที่กำลังเดินไปยังจุดเปลี่ยนผ่าน ระหว่างรัฐบาลทหาร และรัฐบาลเลือกตั้ง หลังหน่วยงานด้านความมั่นคง พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มใต้ดิน ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มการเมือง และกลุ่มหัวหน้ารุนแรง ที่อาจจะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยการล้มการเลือกตั้ง และอาจนำไปสู่เหตุการณ์ความวุ่นวายเหมือนในอดีตได้ ในจำนวน 105 พรรคการเมือง ตามคำเชิญของ คสช.นั้น มีหลายพรรคการเมืองตอบรับเข้าร่วม ขณะที่พรรคการเมืองที่ปฏิเสธเข้าร่วม ให้เหตุผลคล้ายๆกัน คือ การไม่ยอมรับบทบาทของหัวหน้า คสช. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะนั่งหัวโต๊ะหารือกับพรรคการเมืองเรื่องการเลือกตั้ง ด้วยมีส่วนได้เสียทางการเมือง เพราะเป็นผู้ที่พรรคพลังประชารัฐ เตรียมจะเสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 30คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า เราพยายามทำตามหลักเกณฑ์ที่ถูกต้อง เมื่อ กกต.เรียกประชุมทุกครั้งเราจะไปเข้าร่วม ไม่คิดว่า รัฐบาลและ คสช.ในฐานะที่เป็นแคนดิเดตในตำแหน่งนายกฯ แล้วตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาโดยใช้ชื่อเดียวกันกับโครงการของรัฐบาล แล้วจะมาจัดการเลือกตั้งอีก โดยมี ม.44 อีกมันไม่ใช่หลักเกณฑ์ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ก็ยังสงสัยอยู่ว่า กฎหมายที่เป็นคำสั่งของ คสช.เขียนมาเพื่อให้เกิดการหารือกัน แต่ในหนังสือเชิญ พูดง่ายๆว่า เขียนมาเพื่อให้ไปฟังคำชี้แจงขั้นตอนต่างๆ ที่สำคัญคือเราไม่แน่ใจว่าจะมีโอกาสในการแลกเปลี่ยนหารือ ซักถาม จริงหรือไม่ เนื่องจากโฆษก คสช.บอกว่าจะไม่มีการตอบคำถามใดๆ ซึ่งเป็นเรื่องแปลก แต่ในมุมของ คสช. โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะรองหัวหน้า คสช.กลับเชื่อว่า เจตนาของพรรคการเมือง ที่ปฏิเสธเข้าร่วม คือการตีรวน ก่อนจะชี้ว่า ท่าทีนั้นไม่ได้ผิดไปจากการคาดการณ์และจะไม่ส่งผลกระทบกับวงหารือวันนี้ถ้าประมวลจากบริบทแวดล้อมจะเห็นว่า เป้าประสงค์ของ คสช.ที่ต้องเปิดประชุมหารือครั้งนี้ คือการจัดทำแผนและขั้นตอนการดำเนินการสู่การเลือกตั้ง แต่ในหนังสือคำเชิญอ้างอิงว่า เพื่อรับฟังความเห็นซึ่งฝ่ายการเมืองต่างก็ตีความว่า คสช.จัดทำแผนที่ว่านี้เสร็จแล้วแต่จัดเวทีนี้ขึ้นเพื่อสร้างความชอบธรรมในการดำเนินการเท่านั้นวงหารือวันนี้จะเริ่มด้วยการชี้แจงขั้นตอนดำเนินการ โดย รัฐบาล และ คสช. และในรายละเอียด จะให้ผู้เกี่ยวข้องโดยตรง เป็นผู้ชี้แจง โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะชี้แจงในมิติความมั่นคง ขณะที่ กกต.จะชี้แจงขั้นตอนการรับสมัคร หรือข้อห้ามต่างๆ ก่อนจะเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองตั้งประเด็นคำถาม | วันนี้ (7 ธ.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. จะเป็นประธานการประชุมแม่น้ำ 5 สาย และพรรคการเมือง ที่สโมสรทหารบก วิภาวดี เพื่อร่วมกันจัดทำแผน ตามข้อ 8 ในคำสั่ง คสช. ที่ 13/2561 ในเวลา 13.30 น.วันนี้ | การเมือง | เลือกตั้ง,แม่น้ำ5สาย,พรรคการเมือง,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,กกต.,นายกรัฐมนตรี,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา,แบ่งเขตเลือกตั้ง,เลือกตั้ง 2562,เลือกตั้ง 62 | https://news.thaipbs.or.th/content/276166 |
อีกแล้ว ปิกอัพเสียหลักชนเสาไฟส่องสว่าง ที่ระยอง ตาย 4 เจ็บ 3 | เวลา 22.30 น. วันที่ 7 ตุลาคม เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุรถกระบะชนเสาไฟส่องสว่าง ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดเส้นทางเขาหลวงเตี่ย ตำบลบางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง,ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บว 9758 ระยอง ชนเสาไฟส่องสว่าง ก่อนจะตกลงไปข้างทาง จากความรุนแรงส่งผลให้ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 คน ทราบชื่อต่อมา 1.นายการัณย์ วงศ์ไทย อายุ 23 ปี 2.นายคณิน สงวนนาม อายุ 22 ปี และ 3.นายธีรวัฒน์ หนูดำ อายุ 19 ปี,นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 4 ราย เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลบ้านค่าย 3 ราย ส่วนอีกรายญาติผู้ได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลบ้านค่าย เช่นกัน ภายหลังรับแจ้งว่าผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ใน 4 ราย ซึ่งอาการสาหัสได้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา ทราบชื่อ นายคณภรณ์ สืบเสนาะ อายุ 25 ปี,ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย มี 1.ด.ช.ภานุพงศ์ ถนอมมิตร อายุ 14 ปี 2.ด.ช.ภานุพงศ์ เจียฮวดหลี อายุ 14 ปี และ 3.ด.ช.ธนโชติ โตบึงกอก อายุ 14 ปี ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจ สภ.บ้านค่าย โดยเบื้องต้นทราบว่าผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตมีทั้งนั่งมาในกระบะหลังและนั่งในแคป รายละเอียดจะรายงานให้ทราบต่อไป. ,(cr.หน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล ระยอง จุดรับแจ้งเหตุ อ.บ้านค่าย) | เกิดอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลัก ชนฟาดเสาไฟส่องสว่างข้างถนน ที่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 3 ศพ ไปเสียชีวิตที่ รพ.อีก 1 รวม 4 ศพ บาดเจ็บ 3 | ข่าว,ทั่วไทย | ชนเสาไฟฟ้า,ข่าวเด่น,ชน4ศพ,นั่งกระบะท้าย,ชน4ศพ บ้านค่าย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1677660 |
วิรัช แนะกกท.ควรใช้ข้อบังคับไทย | ฟุตบอลนัดพิเศษที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ระหว่าง ทีมรวมดาราไทยลีก กับ ทีม เเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีเเฟนบอลเข้าชมกว่า 40000คนประตูเดียวในเกมนี้ เกิดขึ้นในนาทีที่ 50 จากผลงานของ ลีซอ ธีระเทพ วิโณทัย ส่งผลให้ ทีมรวมดาราไทยลีก ชนะเเมนฯยู 1-0 ถือเป็นการชนะของนักเตะไทยเป็นครั้งเเรกในรอบ 38 ปี จากการพบกันทั้งหมด 5 ครั้ง โดยหลังจบเกม เเมนฯยู ได้ออกเดินทางต่อไปยังประเทศออสเตรเลียทันที เพื่อเตรียมลงเตะกับทีมออลสตาร์เอลีก ในวันที่ 20 ก.ค.2556ขณะที่เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.2556) นายวิรัช ชาญพานิชย์ พร้อมกับนายอดิศักดิ์ เบญจศิริวรรณนายวิจิตร เกตุแก้ว และนายอรรณพ สิงห์โตทอง พร้อมสโมสรสมาชิกอีกประมาณ 70 สโมสร เดินทางมารับฟังคำชี้แจง แนวทางดำเนินการหลังยื่นหนังสือถึงสมาคมฟุตบอล เพื่อให้จัดการเลือกตั้งภายในวันที่ 23 ก.ค.2556 โดยนายวิรัชยืนยันว่า หลังจากนายวรวีร์ และผู้บริหารของสมาคมหมดวาระการรักษาการ ในวันที่ 16 ก.ค.2556 จะจับท่าทีของ กกท.และสมาคมฟุตบอลอย่างใกล้ชิด และในวันจันทร์นี้ (15 ก.ค.2556) จะทำหนังสือถึงคณะกรรมาธิการกีฬาวุฒิสภาเพื่อให้ตรวจสอบการใช้กฎหมายของ กกท.อีกด้วย พร้อมมั่นใจว่าจะไม่โดนแบนจากฟีฟ่าอย่างแน่นอน แม้จะยังมีความรู้สึกกังวลใจเล็กน้อยหากสมาคมฟุตบอลไม่จัดการเลือกตั้งภายในวันที่ 23 ก.ค.2556 กลุ่มนายวิรัช จะทำหนังสือถึง กกท. และจะรอจนถึงวันที่ 1 ส.ค.2556 ซึ่งจะครบ 30 วันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หากยังไม่มีการดำเนินการใดๆจาก กกท. จะเตรียมดำเนินการฟ้องมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ | ลีซอ ธีระเทพ วิโณทัย เป็นฮีโร่ยิงประตูชัยให้ทีมรวมดาราไทยลีก ชนะ ทีมปีศาจแดง เเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้เป็นครั้งเเรกในรอบ 38 ปี | กีฬา | กกท.,กฎหมาย,บังคับ,ลีซอ,วิรัช | https://news.thaipbs.or.th/content/183849 |
ญาญ่า ไม่ซีเรียสคนเมาท์ลงรูปพุงปลิ้น | กลายเป็นประเด็นจนได้หลังนางเอกสาวฮอตวิก 3 ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ลงรูปตอนถ่ายแบบให้กับนิตยสารเล่มหนึ่ง แต่ก็มีคนสังเกตเห็นและมีคนวิจารณ์ว่าพุงปลิ้นซะอย่างนั้น พอญาญ่ามาร่วมงาน ซีไลฟ์ แบงคอก โอเชี่ยน เวิร์ล ที่สยามพารากอน เลยให้เจ้าตัวพูดถึงรูปดังกล่าว พร้อมทั้งถามถึงแพลนวันหยุดของเจ้าตัว รวมถึงเรื่องผลงานหลังมีกระแสว่า ญาญ่าเตรียมเล่นภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต และละคร ดาวหลงฟ้า ภูผาสีเงิน ที่เคยเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่พักหนึ่งด้วย,ถามถึงรูปในไอจีที่มีคนวิจารณ์ว่าพุงปลิ้น? เป็นรูปที่หนูลงเองค่ะ (ยิ้ม) ด้วยชุดและจังหวะโพสต์มันเอียงนิดนึง จริงๆ เราเห็นก่อนลงไหม? เห็นหนูเป็นคนลงเองค่ะ ถามว่าตอนลงมีคิดไหมว่าจะกลายเป็นประเด็นไม่คิดค่ะ พอมีคนวิจารณ์แบบนี้รู้สึกยังไง? น่ารักดี น่ากอดค่ะ (ยิ้ม) แสดงว่าไม่ซีเรียส? ไม่ค่ะ คือด้วยกระโปรงแล้วเอวมันเล็กด้วย วิธีโพสต์ยืนนิดนึงถ่ายน้ำหนัก แรงโน้มถ่วงของโลกด้วยค่ะ (หัวเราะ) เขาได้ฟิตติ้งชุดให้เราก่อนไหม? ไม่ค่ะๆ คือจริงๆ แค่ยืนตรงก็จะพอดีค่ะ มีคนมาแซวเราบ้างไหม? ไม่มีค่ะ เสียเซลฟ์ไหม? หนูคิดว่าสำหรับผู้หญิงเป็นเรื่องค่อนข้างปกติค่ะ คือตอนที่ลงก็เห็นแล้วค่ะ แต่จริงๆ เอวก็ยังเหมือนเดิมค่ะ มีคนทักไหมว่าอวบขึ้นรึเปล่า? ก็ไม่นะคะ หลังจากนี้เวลาลงรูปต้องระวังมากขึ้นไหม? จริงๆ ก็ระวังอยู่แล้วค่ะ แต่มันไม่มีอะไรมากก็เลยไม่ได้คิดอะไร รู้สึกยังไงที่ถูกจับตามอง ครั้งที่แล้วเรื่องไม่แต่งหน้า ครั้งนี้ก็โดนเรื่องอ้วน? สำหรับทุกคนที่ดูก็มีคนชอบบ้างไม่ชอบบ้างเป็นเรื่องปกติค่ะ เราไม่ค่อยมีข่าวฉาว แต่คนก็พยายามหาเรื่องมาให้เราตลอด? จริงเหรอคะ แต่มันก็แค่เนื้อปลิ้นออกมานิดนึง (หัวเราะ) มีคนเข้ามาคอมเม้นต์ในไอจีไหม? ไม่ได้กลับไปดูรูปนั้นเลยค่ะ ,ปีใหม่วางแพลนยังไงบ้าง? ปีใหม่กลับบ้านค่ะ ไปนอร์เวย์กับคุณพ่อ ตอนนี้คุณพ่ออยู่ไทยค่ะ เดี๋ยวไปพร้อมกันเลย ถามว่าแพลนไปกี่วันยังไม่แน่ใจค่ะ แต่ว่าครั้งนี้ก็พักยาวเหมือนกันค่ะ อาทิตย์กว่าถึง 2 อาทิตย์ ไม่ได้พักยาวๆ แบบนี้นานแค่ไหนแล้ว? โห ตั้งแต่เข้าวงการค่ะ ปีนี้พักยาวสุดแล้ว ประมาณ 2 อาทิตย์ ต้องเคลียร์คิวกันนานไหมกว่าจะได้หยุดแบบนี้? ตั้งแต่ต้นปีแล้ว คุณแม่เคลียร์ให้ค่ะ พอคุณพ่อจะได้กลับไปที่โน่นเป็นไงบ้าง? ดีใจค่ะ เพราะจริงๆ มีครอบครัวที่นั่นอยู่แล้วค่ะ ไม่ได้กลับมา 2-3 ปีแล้ว มีชวน ณเดชน์ ไปด้วยไหม? ไม่ค่ะ ไปกันในครอบครัวหนูค่ะ ,เห็นว่าประมาณต้นปีเราไปแคสหนังต่างชาติ? อ๋อ ยังไม่เปิดกล้องค่ะ แต่ไมได้ไปแคส ไปเรียนแอ็กติ้งเฉยๆ ค่ะ คือเรื่องต้นปีอันนั้นหนูไปเรียนแอ็กติ้งที่อเมริกา ไปตั้งแต่ต้นเดือนเลยค่ะ คือมีหนังเรื่องนึงค่ะ แต่ว่ายังอยู่ในขั้นตอนเคลียร์คิวกันอยู่ ต้องรอดูค่ะ มีนักแสดงต่างชาติ ต้องรอดูค่ะ เร็วๆ นี้เดี๋ยวได้รู้รายละเอียด ก็เป็นหนังโรงค่ะ เรื่องบทก็รอๆ กันอยู่ เราทราบคนที่เราจะเล่นด้วยรึยังว่าเป็นใคร? คร่าวๆ ค่ะ แต่ยังไม่ลงตัว ถือเป็นการโกอินเตอร์ของเราด้วยไหม? ไม่ค่ะ จริงๆ เป็นบริษัทไทย ถามว่าหนังจะฉายต่างประเทศไหม ยังไม่รู้ค่ะ (หัวเราะ) จะทราบรายละเอียดเมื่อไร? น่าจะต้นปีค่ะ ทำไมถึงตัดสินใจเล่นเรื่องนี้? หนูว่าด้วยฟอร์มด้วยบทน่าสนใจ แต่ต้องรอดูอีกทีว่า สรุปแล้วจะได้เล่นรึเปล่าค่ะ เป็นหนังเรื่องแรกของเราด้วย? ใช่ค่ะ ถามว่าต้องเรียนไหมก็เรียนตั้งแต่ต้นปีแล้ว ตอนนี้เหลือเรื่องการวางคิวนักแสดงค่ะ ยังไม่แน่ใจ มีข่าวว่าเราจะได้เล่นละคร ดาวหลงฟ้า ภูผาสีเงิน? ไม่มีค่ะ หนูไม่ได้เล่น ไม่ได้ติดต่อด้วย น่าจะเป็นคนอื่นค่ะ ถ้าเขาติดต่อมาเราสนใจจะเล่นไหม? หนูไม่เคยเลือกละครเลยค่ะ ช่องเป็นคนเลือกให้หมดเลยค่ะ. | ญาญ่า-อุรัสยา ไม่ซีเรียสคนวิจารณ์ลงรูปไอจีพุงปลิ้น แจงเป็นเพราะกระโปรงเล็กและวิธีโพสต์มากกว่า เผยปีใหม่แพลนไปนอร์เวย์กับครอบครัว รับเตรียมเล่นหนังเรื่องแรก-ตอนนี้รอเคลียร์คิวให้ลงตัว ปัดมีคนติดต่อเล่นละครดาวหลงฟ้า ภูผาสีเงิน. | null | ญาญ่า อุรัสยา,อุรัสยา เสปอร์บันด์,รูป,อินสตาแกรม,พุงปลิ้น,ถ่ายแบบ,ปีใหม่,เที่ยว,นอร์เวย์,เล่นหนัง,ภาพยนตร์,ละคร,ดาวหลงฟ้า ภูผาสีเงิน | https://www.thairath.co.th/content/468088 |
หน่วยงานผู้สูงอายุมะกันแจงทั่วโลกเตรียมรับสังคมสูงวัย | สถาบันผู้สูงอายุแห่งชาติสหรัฐฯ (NIA) เปิดเผยรายงานเรื่อง โลกผู้สูงอายุ 2015--An Aging World : 2015 เนื้อหาเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายเรื่องโอกาสและงานด้านสาธารณสุขในอนาคตอันใกล้สืบเนื่องจากจำนวนผู้สูงอายุหรือผู้คนอายุตั้งแต่ 65 ปีทั่วโลกภายในปี 2593 หรือราว 34 ปีข้างหน้า อาจเพิ่มถึงกว่า 1,600 ล้านคน คิดเป็น ประชากรโลกเกือบ 17 เปอร์เซ็นต์,ทั้งนี้ ปัจจุบันประชากรโลกกลุ่มผู้อายุตั้งแต่ 65 ปี มีมากกว่า 600 ล้านคน อัตราการขยายตัวเฉลี่ย 8.5 เปอร์เซ็นต์ ถ้าอัตราการเติบโตเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องจะทำให้มีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 เท่าตัวภายในปี 2593,ริชาร์ด โฮดส์ ผู้อำนวยการเอ็นไอเอ ระบุงานศึกษาวิจัยชิ้นนี้หวังให้ทั้งภาครัฐและเอกชนทำความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นและหาทางเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหา ขณะที่รายละเอียดของงานวิจัยพบว่า ภายในปี 2593 ค่าเฉลี่ยอายุผู้คนชาวโลกจากปัจจุบันอยู่ที่ 68.6 ปี จะเพิ่มเป็น 76.2 ปี หรืออายุยืนยาวขึ้นเฉลี่ยเกือบ 8 ปี ทำให้กลุ่มผู้คนอายุ แก่มากที่สุด คือกลุ่มคนอายุตั้งแต่ 80 ปี ขยับเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันราว 126.5 ล้านคน เป็นถึง 446.6 ล้านคนภายในปี 2593 หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า. | หน่วยงานด้านผู้สูงอายุของสหรัฐฯเผยรายงานผู้สูงอายุโลก ประจำปี 2015 โดยเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกเตรียมรับมือความท้าทายเรื่องโอกาสและงานด้านสาธารณสุข เนื่องจากจำนวนผู้สูงอายุจะมีจำนวนมากขึ้น | null | สถาบันผู้สูงอายุแห่งชาติ,สังคมผู้สูงอายุ,ผู้สูงอายุมากขึ้น,คนอายุยืนขึ้น,โลกผู้สูงอายุ 2015,NIA,จำนวนผู้สูงอายุ,ประชากรโลก,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/598229 |
ศาลนัดสืบพยานจำเลยคดีปลัดสุพจน์ | นายสิงห์ทอง ใจชมชื่น พร้อมพวกรวม 3 คน ถูกนำตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกเพื่อสืบพยานจำเลยนัดแรก ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสิงห์ทองและพวกรวม 9 คน คดีร่วมกันปล้นทรัพย์บ้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งขณะนี้ก็ยังอยู่ระหว่างไต่สวน ส่วนคดีที่ศาลแพ่งนัดไต่สวนคดียึดทรัพย์ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นคำร้อง ให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์สินของนายสุพจน์ จำนวน 64998587 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ตรวจสอบแล้วชี้มูลความผิดว่า นายสุพจน์ มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ไม่สามารถชี้แจงที่มาของทรัพย์สินต่างๆ ได้ โดยศาลให้เลื่อนการไต่สวนและกำหนดแนวทางการดำเนินคดีออกไปเป็นวันที่ 25 มีนาคม เวลา 13.30 นาฬิกา เนื่องจากผู้เกี่ยวข้องยื่นคำร้องค้านและให้หาหลักฐานเพิ่มเติม | ศาลเบิกตัวจำเลยคดีปล้นบ้านอดีตปลัดกระทรวงคมนาคมเข้าสอบสวนในคดีร่วมกันปล้นทรัพย์ ขณะที่การนัดไต่สวนยึดทรัพย์ศาลให้เลื่อนการสั่งคดีไปเป็นวันที่ 25 มีนาคม หลังผู้เกี่ยวข้องยื่นค้านและให้หาหลักฐานเพิ่ม | อาชญากรรม | คมนาคม,จำเลย,ทุจริต,ปลัดสุพจน์,ปล้น,ยึดทรัพย์,ศาล | https://news.thaipbs.or.th/content/146450 |
ชนวินาศสันตะโร กลางสี่แยกหวายเหนียว เมืองกาญจน์ ตาย 2 เจ็บ 7 | เมื่อเวลา 06.44 น. วันที่ 23 มีนาคม ร.ต.อ.ภูรี เถียรประภากุล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนกันตรงถนนสายท่ามะกา-หนองตากยา บริเวณสี่แยกหวายเหนียว หมู่ 1 ต.ท่ามะกา อ.ท่ามะกา มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วริทธิ์พงษ์ ทัฬหวรงค์ ผกก.สภ.ท่ามะกา,ที่เกิดเหตุกลางถนนตรงสี่แยก พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีดำ หมายเลยทะเบียน ถก 6250 กรุงเทพฯ จอดอยู่ในสภาพพลิกคว่ำตะแคงซ้าย ด้านหน้าพังเสียหาย ที่ข้างรถพบจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 100 ซีซี สีแดง หมายเลขทะเบียน ขธจ 85 กาญจนบุรี ล้มคว่ำพังเสียหายอยู่ใกล้กันพบศพ น.ส.จลี ไผ่ล้อม อายุ 34 ปี ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 10 เมตร พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า แอคคอร์ด สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กฉ 4590 กาญจนบุรี จอดอยู่ในสภาพประตูด้านขวาพังไปทั้งแถบ,ห่างจากจุดเกิดเหตุ ลงไปในคลองชลประทานริมถนน พบรถยนต์เก๋ง โตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบีบน กต 1716 กาญจนบุรี จอดอยู่ในสภาพด้านหน้าพังเสียหาย พลิกตะแคงขวา พบร่างผู้เสียชีวิต เป็นผู้ชาย ทราบชื่อ นายราเชน ภูภักดีพันธ์ อายุ 29 ปี ชาว อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นคนขับรถเก๋งคันดังกล่าว หลังเกิดเหตุชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ได้กระโดดลงไปช่วยนำร่างขึ้นมาไว้บนถนน แต่ก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว,นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 7 ราย เจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ได้ช่วยกันนำส่ง รพ.มะการักษ์ ทราบชื่อ น.ส.อุดม รุดทัง อายุ 53 ปี, นายมารุต หว่านพืช อายุ 27 ปี, นางอุษณี เพศรักษา อายุ 51 ปี, นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส วัย 75 ปี อาการสาหัส ซี่โครงด้านซ้ายหัก 5 ซี่ แทงทะลุปอด แพทย์ต้องช่วยเหลือชีวิตเป็นการเร่งด่วน, นางเบ็ญจวรรณ สุคันชา อายุ 54 ปี, ด.ช.อภิสิทธิ์ ดีพร้อม อายุ 12 ปี และ ด.ญ.อลินภัทร พุมมี อายุ 5 ปี,จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นรถยนต์กระบะ กับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าแอคคอร์ด วิ่งตามกันมาตามถนนเลียบริมคลองชลประทาน เมื่อมาถึงจุด 4 แยก รถได้เกิดชนกัน และลื่นไถลไปเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำอยู่กลางถนน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับรถยนต์เก๋งโตโยต้าอัลติสวิ่งมาด้วยความเร็ว ลงจากสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง เบรกไม่ทัน จึงพุ่งชนรถยนต์กระบะอย่างจังก่อนจะเสียหลักพลิกตกลงไปในคลองชลประทาน จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป. | เก๋งกระบะเฉี่ยวชนกัน ก่อนไถลไปชน จยย. ล้มคว่ำกลางถนน เก๋งอีกคันลงสะพานมาเบรกไม่ทัน พุ่งชน ก่อนเสียหลักตกลงไปในคลอง บริเวณสี่แยกหวายเหนียว เมืองกาญจน์ ทำ ตาย 2 เจ็บ 7 ราย | ข่าว,อาชญากรรม | รถชน,สี่แยกหวายเหนียว,กาญจนบุรี,รถตกคลอง,อุบัติเหตุ | https://www.thairath.co.th/news/crime/893545 |
จำคุก 3 ปี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร ทุบโบราณสถาน | วันนี้ (25 เม.ย.2562) กรมศิลปากรได้แจ้งความคดีทุบทำลายโบราณสถาน วัดกัลยาณมิตร เมื่อปี 2558 ต่อสถานีตำรวจนครบาลบุปผาราม และต่อมาอัยการได้พิจารณาสั่งฟ้อง ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเมื่อวันที่22 เม.ย. ที่ผ่านมา ศาลได้มีคำพิพากษาตัดสินความผิด เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร ต้องโทษจำคุก 3 ปี แต่ทางเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรให้การรับสารภาพ ศาลจึงลดหย่อนโทษให้เหลือ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุก 1 ปี และพิพากษาให้รอลงอาญาเป็นเวลา 1 ปีนายบวรเวทรุ่งรุจี อดีตอธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก วัดกัลยาณมิตรมีการรื้อถอนศาลาราย และกุฏิในคณะ 1 ซึ่งเป็นพื้นที่โบราณสถานตามประกาศของกรมศิลปากร คดีนี้เป็นคดีแรกที่ศาลตัดสิน ซึ่งหลังจากนี้ ยังมีอีก 2 คดี กำลังอยู่ในการพิจารณาของศาล โดยจะเป็นคดีที่เกี่ยวกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุบทำลายโบราณสถานวัดกัลยาณมิตรด้านนายสิปป์บวรแก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. ในฐานะรองโฆษก พศ. ระบุว่า กรณีของเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร ถือว่าได้ดำเนินการตามหน้าที่เจ้าอาวาสวัด ที่ต้องบำรุงรักษาวัด จัดกิจการและศาสนสมบัติของวัดให้เป็นไปด้วยดี แต่การดำเนินงานไม่สอดคล้องกับกฎหมายของกรมศิลปากร จึงเกิดการฟ้องร้องขึ้นมาในทางคณะสงฆ์ถือว่าไม่ได้มีความบกพร่อง ไม่ได้ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย และไม่ได้ทำผิดพระธรรมวินัย ประกอบกับการตัดสินของศาล ให้รอลงอาญา 1 ปี ดังนั้น สถานะทางสมณเพศขยังคงอยู่ รวมไปถึงตำแหน่งทางการปกครองสงฆ์ด้วย | ศาลตัดสินให้เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร มีความผิดฐานทุบทำลายโบราณสถานภายในวัด จำคุก 3 ปี แต่รับสารภาพ จึงลดโทษ และให้รอลงอาญา 1 ปี เบื้องต้น พศ.ชี้แจงว่า เจ้าอาวาสมีเจตนาพัฒนาวัด แต่ไม่สอดคล้องกับกฎหมายของกรมศิลปากร | สังคม | วัดกัลยาณมิตร,ทุบโบราณสถาน,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/279543 |
สิ่งที่เห็น อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นกับ อาบัติ | ได้พิจารณาห้ามภาพยนตร์ไทยเรื่องนี้เข้าฉายเนื่องจากผิดกฎกระทรวงวัฒนธรรมว่าด้วยการกําหนดลักษณะของประเภทภาพยนตร์ พ.ศ. 2552 เสียก่อน จึงเกิดกระแสทั้งสนับสนุนและต่อต้านกันมากมายจากประชาชน ซึ่งส่วนมากที่ผมอ่านนั้นก็ล้วนเข้าใจว่าเป็นคนที่เคารพในศาสนาทั้งสิ้นครับ
,ผมเองเลยไปลองคุ้ยหากฏกระทรวงดังกล่าว ดูว่าห้ามอะไรฉายบ้างในประเทศไทย และส่วนไหนที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกห้ามฉายในประเทศไทย,พบว่ามีข้อนึงที่เขียนไว้ว่า,สาระสําคัญของเรื่องเป็นการเหยียดหยามหรือนําความเสื่อมเสียมาสูศาสนา หรือไม่เคารพต่อปูชนียบุคคล ปูชนียสถาน หรือปูชนียวัตถุ,เนื่องจากตัวผมเองมีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เรื่องอาบัติตั้งแต่ช่วงการถ่ายทำแล้ว, อาจจะเห็นต่างจากคณะกรรมการที่พิจารณาในข้อนี้พอสมควรครับ เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้ถึงแม้จะมีภาพของพระสงฆ์และสามเณรที่ทำผิดศีล แต่ล้วนได้รับผลกรรมและได้มีการชี้แจงข้อดีข้อเสียต่างๆ อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งมาก และ, ไม่ได้มีสาระสำคัญ, ในการเหยียดหยามและนำความเสื่อมเสียมาสู่ศาสนาเลยครับ ออกจะอยู่ในฟากตรงข้าม คือช่วยขัดเกลาให้คนห่างไกลจากการทำผิดศีลเสียด้วยครับ,ส่วนตัวเลยคิดว่าการตีความตรงนี้ระหว่างผมกับคณะกรรมการก็คงจะเห็นไม่ค่อยตรงกันนัก แต่ก็ไม่ได้ว่ากันครับ ความเห็นคนเรามักไม่ตรงกันเสมอ ยิ่งเป็นเรื่องที่จับต้องได้ยาก เช่น การตีความของภาพยนตร์แล้ว สองคนดูก็อาจจะได้รับอารมณ์ที่แตกต่างกัน,แต่ส่วนที่สำคัญยิ่งกว่าคือสาเหตุที่ภาพยนตร์จะต้องมีการ, ห้าม, ไม่ให้ฉายนั้นนอกเหนือจากที่ไปขัดต่อกฎหมายหลายๆ ส่วนที่คอขาดบาดตายซึ่งเข้าใจและยอมรับกันได้ เช่น หนังอนาจารนี่อยู่ในโซนห้ามนะครับ เขียนไว้ว่าเห็นอวัยวะเพศนี่จบเลยทันที ห้ามฉายในประเทศครับ เมืองนอกจะจำกัดไปที่อายุ 18 หรือ 21 ปีก็ว่าไปครับ (แต่บางประเทศก็ห้ามเลยเหมือนกันครับ),ทีนี้อีกสาเหตุหนึ่งคือการที่รัฐหรือผู้ดูแลกฎหมายส่วนนี้คิดไว้ว่าคนไทยในปัจจุบันยังมี ,วุฒิภาวะ, ที่ไม่พอที่จะตัดสินได้ว่าสิ่งใดดีไม่ดี ควรไม่ควร และถึงจะโตแล้วก็ตามก็ยังสามารถถูกโน้มน้าวหรือเกิดพฤติกรรมเลียนแบบได้ง่าย แยกแยะถูกผิดดีชั่วไม่ดีพอ คณะกรรมการจึงสามารถสั่งห้ามภาพยนตร์หลายๆ เรื่องได้,ฝรั่งชอบเรียกสิ่งนี้ว่า ,Media Literacy, ครับ แต่สำหรับผมชอบเรียกว่า ,ภูมิคุ้มกันสื่อ, ซึ่งเป็นวิจารณญาณสำหรับตัดสินว่าอันนี้ผิด อันนี้ถูก อันนี้หลอกลวง อันนี้จริงใจ เวลาสื่อต่างๆ ทั้งโฆษณา เพลง ภาพยนตร์ ละคร ข่าว งานเขียน งานพูดหาเสียง หรือการเล่านินทาคนของเพื่อนเราก็ตาม,ภูมิคุ้มกันนี้ทำให้เราหยุดที่จะมองสิ่งต่างๆ เร็วเกินไป หรือตัดสินอะไรเร็วเกินไปโดยขาดความยั้งคิด อย่างที่เราเห็นตัวอย่างหนังอาบัติ หรือโปสเตอร์ หรือกระทั่งชื่อแล้วคิดว่ามันจะเป็นหนังของคนนอกรีต ที่สร้างขึ้นเพื่อจะทำลายศาสนาพุทธให้ย่อยยับอับปางไปในประเทศไทย เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง,ผมแอบไปถ่ายรูปมารูปหนึ่งมาให้ผู้อ่านได้ลองพิจารณาดูกันครับ,จากรูปนั้นเรามองเห็นอะไรบ้าง? เกิดอะไรขึ้น?,ในภาพอาจจะเป็นผู้ชายหนึ่งคนที่กำลังข่มขืนคนอีกคนอยู่ หรืออาจจะเป็นคนที่กำลังปั๊มหัวใจช่วยเหลือคนอีกคนก็ได้,เราไม่สามารถรู้ได้หากข้อมูลนั้นไม่เพียงพอ และเมื่อถึงจุดนี้เราก็คงไม่สามารถที่จะวินิจฉัยและตอบอะไรได้จนกว่าจะได้รู้รายละเอียดเพิ่มเติมก่อนจะพิพากษาภาพนี้ไปก่อน และนั่นคือ ภูมิคุ้มกันสื่อ ที่กล่าวถึงที่จะทำให้เราฉุกคิดขึ้นมา ก่อนจะพลั้งตัดสินใจเชื่อ หรือไม่เชื่อสิ่งใดไปในทันทีทันใด,เช่นเดียวกับ อาบัติ ครับ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังไม่ได้ถูกฉาย ผู้คนบางกลุ่มได้ทำการตัดสินกันไปเสียก่อนแล้วว่าภาพยนตร์เรื่องนี้บ่อนทำลายศาสนาโดยที่ยังไม่ได้รับชมตัวภาพยนตร์เพื่อให้เข้าใจว่าแท้จริงแล้วนั้นภาพยนตร์จะเป็นอย่างไร
และนั่นอาจจะทำให้ผู้มีอำนาจคิดว่าการตัดสินแทนทุกคนในประเทศว่าสิ่งใดเป็นขาว สิ่งใดเป็นดำนั้นเป็นเรื่องที่ควรทำ เช่นที่เกิดกับภาพยนตร์เรื่องนี้ | ช่วงนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นกระแสตูมตามทีเดียวกับการที่คณะกรรมการพิจารณาเรตติ้งภาพยนตร์เรื่อง อาบัติ | คนดังนั่งเขียน | คนดังนั่งเขียน,คุณชายอดัม,ข่าวบันเทิง,บันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์,คอลัมน์ไทยรัฐ,คอลัมน์คนดัง,อาบัติ,ภาพยนตร์เรื่องอาบัติ,แบนภาพยนตร์,ห้ามฉาย,กระทรวงวัฒนธรรม,พระสงฆ์,ศาสนา,คอลัมน์ออนไลน์,ทำลายศาสนา,แบนหนัง,เสื่อมเสียวงการผ้าเหลือง,ผ้าเหลืองฉาว,พระชั่ว,พระดี,พระเลว,ภาพยนตร์,หนัง | https://www.thairath.co.th/content/532451 |
ปลานิลแดดเดียวหนองคาย-ไข่เค็มทอ.จากใต้ ลำเลียงไปเลี้ยงปชช.ที่สนามหลวง | วันที่ 28 ต.ค. 59 ที่วัดอุทุมพร บ้านเดื่อ ต.บ้านเดื่อ อ.เมืองหนองคาย นายสาธิต คำกองแก้ว ประมงอำเภอท่าบ่อ พร้อมด้วยตัวแทนผู้เลี้ยงปลานิลกระชังในแม่น้ำโขง อ.ท่าบ่อ ได้ประชุมหารือร่วมกับกลุ่มผู้เลี้ยงปลานิลกระชังในแม่น้ำโขง บ้านเดื่อ เนื่องจากผู้เลี้ยงปลานิลซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานพันธุ์ปลานิลให้กรมประมง และแจกจ่ายต่อให้กับประชาชนได้เลี้ยง สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ขณะนี้ประชาชน 3 อำเภอ คือ อ.เมืองหนองคาย, อ.ศรีเชียงใหม่ และ อ.ท่าบ่อ เลี้ยงปลานิลกระชังในแม่น้ำโขง 259 ราย ปริมาณปลามากกว่า 10 ล้านตัว สร้างรายได้มากกว่าปีละ 1 พันล้านบาท ถือว่าเป็นแหล่งผลิตปลานิลมากที่สุดในภาคอีสาน,นายสาธิต คำกองแก้ว ประมงอำเภอท่าบ่อ กล่าวว่า ทางประมงจังหวัดหนองคาย และตัวแทนผู้เลี้ยงปลานิล อยากจะแสดงออกถึงความจงรักภักดี และแสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในมุมที่ตัวเองทำได้ ประกอบกับเห็นว่าประชาชนไทยจำนวนมากยังคงเดินทางไปกราบเคารพพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง จึงอยากช่วยกันทำความดีถวายในหลวง ด้วยการเตรียมนำปลานิลที่เลี้ยงมาทำปลานิลแดดเดียว แล้วนำส่งให้กับสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย นำไปทอดเป็นอาหารแจกจ่ายให้กับประชาชนที่มากราบถวายบังคมพระบรมศพ,ผู้เลี้ยงปลาแต่ละคนได้แจ้งความประสงค์สมทบปลานิลตั้งแต่ 20 – 1,000 กิโลกรัม บางคนที่ปลายังเล็กไม่ได้ขนาดก็นำเงินสดช่วยจัดซื้อปลาของคนอื่น กก.ละ 65 บาท โดยเบื้องต้นกำหนดไว้ว่าจะได้ปลาประมาณ 3,000 กก. และจะส่งมอบผ่านนายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย หลังจากนั้นจะจัดส่งเข้ากรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่องเป็นระยะ นอกจากนี้ประชาชนที่นำปลานิลมาทำเป็นปลาร้าก็จะนำมาทำแจ่วปลาร้าบอง ส่งไปพร้อมกันด้วย นายสาธิต กล่าว,ที่ จ.สุราษฎร์ธานี วันเดียวกัน ชมรมแม่บ้านทหารอากาศ กองบิน 7 สุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังพลทหารอากาศ นำโดยนาวาอากาศเอกสมใจ ชัยวงษ์ ผู้บังคับการกองบิน 7 ร่วมกันทำไข่เค็ม จำนวน 9,999 ฟอง เพื่อนำไปมอบให้กองทัพอากาศ ใช้ในการประกอบอาหารเลี้ยงให้แก่ประชาชน ที่ไปร่วมแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บริเวณท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร,นาวาอากาศเอกสมใจ ชัยวงษ์ ผู้บังคับการกองบิน 7 กล่าวว่า ทางชมรมแม่บ้านทหารอากาศ กองบิน 7 ได้จัดหาไข่เป็ดในพื้นที่ อ.ท่าฉาง ซึ่งมีความเหมาะสมในการผลิตไข่เค็มให้มีความมันและแดง ทั้งนี้ ไข่เค็มที่ทางกลุ่มแม่บ้านและครอบครัวจัดทำขึ้น จำนวน 9,999 ฟอง จะลำเลียงไปมอบให้กองทัพอากาศ ใช้ในการประกอบอาหารเลี้ยงให้แก่ประชาชน ที่ไปร่วมถแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บริเวณท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 3 พ.ย.นี้. | กลุ่มผู้เลี้ยงปลานิลกระชังจ.หนองคาย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เตรียมทำปลานิลแดดเดียวสมทบเป็นเสบียงเลี้ยงประชาชนที่เดินทางไปสักการะพระบรมศพ ที่สนามหลวง ตั้งเป้า 3,000 กก. ส่วนแม่บ้านทอ.กองบิน 7 สุราษฎร์ฯ ทำไข่เค็มให้อีก 9,999ฟอง | null | ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ,ประวัติในหลวง,รูปในหลวง,ภาพในหลวง,พระราชดำรัส,พระราชกรณียกิจ,ปลานิลแดดเดียว,ไข่เค็ม,สนามหลวง | https://www.thairath.co.th/content/767331 |
ชนาธิป ฟอร์มแจ่ม ซัปโปโรเชือดอุราวะ 2-0 ศึกเจลีก | การแข่งขันฟุตบอลเจลีก ญี่ปุ่น ฤดูกาล 2017 เลก 2 นัดแรก คอนซาโดเล ซัปโปโร เปิดสนาม ซัปโปโร โดม รับการมาเยือนของ อุราวะ เรด ไดมอนส์ โดยเกมนี้ เมสซีเจชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้ออกสตาร์ตเป็น 11 ตัวจริงให้กับ ซัปโปโร ด้วย,เปิดฉากครึ่งแรกมา 2 นาที ซัปโปโร ได้ลุ้นจากจังหวะยิงของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ บอลแฉลบออกหลังไป,จากนั้น นาทีที่ 9 อุราวะ เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ทาคาฮิโร เซกิเนะ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ ยูกิ มูโตะ โหม่งเช็ดบอลหลุดเสาไกลไปนิดเดียว,ถึงนาทีที่ 32 ซัปโปโร ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย อากิโตะ ฟูกุโมริ เปิดบอลเข้าเขตโทษ และเป็น เคน โทกูระ โขกเข้าไปตุงตาข่าย,นาทีที่ 38 อุราวะ ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ โทโมอากกิ มากิโนะ ไปเล่นนอกเกมใส่แข้งซัปโปโร ผู้ตัดสินไม่รอช้า ควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที,เข้าสู่ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก ซัปโปโร เกือบได้ประตูที่ 2 จากจังหวะที่ เคน โทกูระ จ่ายบอลมาหน้าเขตโทษทางซ้ายให้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ซัดด้วยซ้ายเน้นๆ บอลแฉลบแนวรับออกหลังไป,จบครึ่งแรก คอนซาโดเล ซัปโปโร นำ อุราวะ เรด ไดมอนส์ อยู่ 1-0,กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 47 ซัปโปโร ได้ลุ้นจากจังหวะที่ อากิโตะ ฟูกุโมริ เปิดบอลโด่งเข้าเขตโทษ บอลมาเข้าทาง เคน โทกูระ โหม่งเช็ดต่อให้ โจนาธาน เฮส พยายามหาจังหวะยิงแต่โดนกองหลังมาสกัดทิ้งออกหลังไปได้ก่อน,นาทีที่ 48 อุราวะต้องมาเหลือ 9 คน เมื่อ ไดซูเกะ นาสุ กองหลังตัวสำรอง มีอาการบาดเจ็บจากการขึ้นโหม่งกับ เคน โทกูระ แล้วลงมาผิดจังหวะ ซึ่งทางอุราวะเปลี่ยนตัวครบ 3 คนไปแล้ว,จากนั้นนาทีที่ 52 ชนาธิป สรงกระสินธ์ กระชากบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนเปิดบอลอย่างแม่นยำไปที่เสาสอง แต่จังหวะสุดท้ายเพื่อนร่วมทีมหาจังหวะจบสกอร์ไม่ได้ และถัดมา 2 นาที อุราวะ เกือบได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ ซลาตัน ลูจ์บิยานคิช โหม่งไปชนเสาเต็มๆ,นาทีที่ 55 อุรวะ ได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกโขกของ วาตารุ เอ็นโดะ แต่สุดท้ายผู้เล่นของซัปโปรช่วยกันเคลียร์บอลทิ้งไปได้,ถึงนาทีที่ 64 ซัปโปโร น่าบวกประตูเพิ่ม จากจังหวะที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้บอลในเขตโทษก่อนจ่ายบอลให้ เคน โทกูโระ ซัดข้ามคานออกไปอย่างน่าผิดหวัง จากนั้น ซัปโปโร ก็เปลี่ยนตัวเอา ชนาธิป ออก แล้วส่ง เจ โบธรอยด์ ลงมาแทน,เข้าสู่ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 88 ซัปโปโร ได้ประตูหนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ชินจิ โอโนะ เปิดบอลจากฝั่งขวามาเสาสอง เจย์ โบธรอยด์ โหม่งเข้าไปตุงตาข่าย,ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม คอนซาโดเล ซัปโปโร เปิดบ้านเอาชนะ อุราวะ เรด ไดมอนส์ ไป 2-0,รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม
,คอนซาโดเล ซัปโปโร:, กู ซุง ยุน, นาโอย่า คิคูชิ, โทโมโนบุ ยาโกยาม่า, อากิโตะ ฟูกุโมริ, มาเซโด้, ฮิโรกิ มิยาซาว่า, ชินโกะ เฮียวโด, ไดกิ ซูกะ, ชนาธิป สรงกระสินธ์, เคน โทกูระ, โจนาธาน เฮส
,อูราวะ เรด ไดมอนส์ :, ชูชากุ นิชิคาวะ, เรียวตะ โมริวากิ, วาตารุ เอ็นโดะ, โทโมอากกิ มากิโนะ, โยชิอากิ โคมาอิ, โยสุเกะ คาชิวากิ, ยูกิ อาเบะ, ทาคาฮิโร เซกิเนะ, ทาดานาริ ลี, ยูกิ มูโตะ, ชินโซ โคโรกิ | คอนซาโดเล ซัปโปโร เปิดบ้านเอาชนะ อุราวะ เรด ไดมอนส์ ไป 2-0 ในศึกเจลีก เลกสอง นัดแรก เกมนี้ เมสซีเจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้ลงเล่น 64 นาที ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออก | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | ชนาธิป สรงกระสินธ์,คอนซาโดเล ซัปโปโร,อุราวะ เรด ไดมอนส์,เจลีก,เมสซีเจ | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1019711 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.