title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
อุตตม แจงยิบลุยงานใต้วินัยการเงินการคลัง ชี้ในงบกลางใช้ฉุกเฉิน 1 แสนล้าน
วันที่ 26 ก.ค. 2562 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อภิปรายเรื่องการรักษาวินัยการเงินการคลัง ในที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งเป็นวันที่สองของการแถลงนโยบายรัฐบาล โดยชี้แจงหลัง ส.ส. อภิปราย ว่า ตามที่ ส.ส. พูดถึงการตั้งงบประมาณ 4 แสนล้านบาท หรือที่เรียกว่า งบกลาง นั้น มี 11 รายการ ที่เป็นงบฉุกเฉินจริงๆ 1 แสนล้านบาทเท่านั้น ส่วนกรณี พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ มาตรา 45 มีการตั้งงบประมาณ 5 หมื่นล้าน มาแต่เดิม หรือเรียกว่าทุนสำรองจ่าย เพื่อใช้จ่ายกับเหตุจำเป็นฉุกเฉินจริงๆ จะนำมาใช้พร่ำเพรื่อไม่ได้ หรือกรณีเงินที่มีไม่เพียงพอ และต้องผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่สำคัญถ้ามีการนำไปใช้ จะต้องตั้งงบชดเชยทันที และที่ผ่านมายังไม่เคยมีการใช้ เป็นกลไกการใช้เงินฉุกเฉินจริงๆ,ในเรื่องการตั้งงบประมาณขาดดุล ขอเสริมจากที่ ส.ส. อภิปรายไปแล้วว่า รัฐบาลพิจารณาให้สอดรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนั้นเป็นอย่างไร มีความจำเป็นหรือไม่ รวมทั้งสอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนา โดยใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนไปได้ ซึ่งการจะใช้งบประมาณส่วนนี้ ก็ยังอยู่ใต้วินัยการเงินการคลัง ประกอบด้วย พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2561, พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 และ พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมอยู่เสมอ ทั้งนี้ ระดับหนี้สาธารณะต่อจีดีพีปัจจุบันลดลงเหลือร้อยละ 42 ถือว่ายังอยู่ในกรอบร้อยละ 60 สำหรับระยะยาว กระทรวงการคลัง ภายใต้ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ต้องทำแผนการคลังระยะปานกลาง (Medium Term Fiscal Framework: MTFF) 3-5 ปี เพื่อเป็นกรอบทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นการมองไปข้างหน้า,ขณะที่เรื่องความเหลื่อมล้ำของประชาชน การเข้าถึงแหล่งเงินทุกของคนรายได้น้อย รัฐบาลก็ให้ความสำคัญ จะอำนวยความสะดวกสินเชื่อเงินทุนให้คนที่มีรายได้น้อย ผู้ประกอบการรายย่อย ปัจจุบันให้กู้ยืมไปแล้ว 3.8 ล้านล้านบาทหรือ 41% ของสินเชื่อธนาคารทั้งหมดสำหรับภาคครัวเรือน และรัฐบาลกำลังพัฒนาแหล่งเงินทุนทางเลือกอื่นให้เข้าถึงและได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น อาทิ นาโนไฟแนนซ์ ส่งเสริมให้มีผู้ให้สินเชื่อรายใหม่กับผู้มีรายได้น้อย แต่ก็ยังอยู่ใต้การกำกับของรัฐ รวมทั้งใช้เรื่องเทคโนโลยี หรือฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ให้เข้าถึงให้ได้ ต่อมาเรื่องการส่งเสริมการออม ก็กำลังดำเนินการ จากเดิมปี 2558 มีสมาชิก 3.9 แสนคน ปัจจุบันเพิ่มเป็น 1.57 ล้านคน,อย่างไรก็ตาม ในเรื่องหนี้ครัวเรือนนั้นเติบโตตามการเติบโตเศรษฐกิจ ซึ่งหัวใจสำคัญคือเอาไปใช้เพื่อสร้างรายได้ ที่อยู่อาศัย หรือรถ มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังดำเนินการเรื่องก่อหนี้ครัวเรือนอย่างครบวงจร ให้ข้อมูล ทักษะเกี่ยวกับการก่อหนี้ครัวเรือน ให้ก่อหนี้ให้เหมาะสม ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาก็ต้องมีการดูแลคนที่ประสบปัญหาจริงๆ และท้ายที่สุดให้ความสำคัญเรื่องนี้มาก ต้องทำให้สถานภาพอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เมื่อคืนนี้ มูดีส์อินเวสเตอส์เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศปรับความน่าเชื่อถือของไทยเป็น แนวโน้มเชิงบวก และฟิทช์ เรทติ้งส์ ก็ปรับเช่นกัน สะท้อนว่าความน่าเชื่อถือของนักลงทุนทั้งในและนอกประเทศเรื่องการเงินการคลังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่รัฐบาลก็ไม่นิ่งนอนและวางใจเด็ดขาด เพื่อขับเคลื่อนนโยบายตอบโจทย์พี่น้องประชาชน ให้ประเทศเข้มแข็งมากขึ้น.
รมว.คลัง แจง งบกลาง 4 แสนล้าน เป็นเงินฉุกเฉิน 1 แสนล้าน ไม่ได้ใช้พร่ำเพรื่อ ชี้ รัฐบาลให้ความสำคัญการลดความเหลื่อมล้ำเข้าถึงแหล่งเงินทุน โว มูดีส์ ปรับขึ้นความน่าเชื่อถือไทย
ข่าว,การเมือง
ประชุมสภา,อุตตม สาวนายน,ประชุมรัฐสภา,แถลงนโยบายรัฐบาล,การเงินการคลัง,มอนิเตอร์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1623513
‘ปิดแจ้งเตือน 1 วัน’ เปลี่ยนพฤติกรรมคนนับ 2 ปี
ถ้ามีคนชวนให้คุณผู้อ่าน รับคำท้าห้ามรบกวน (Do Not Disturb Challenge) โดยให้ปิดการแจ้งเตือนทั้งหมดไปเลยเป็นเวลา 1 สัปดาห์ หลายคนคงกำลังส่ายหน้าบอกว่านานไป ขอลดเวลาเป็น 1 วันอาจจะมีคนสนใจมากขึ้น เหตุการณ์แบบเดียวกันเกิดขึ้นกับทีมวิจัยทีมหนึ่ง หลังจากที่ไม่มีใครอยากเข้าร่วมคำท้า 1 สัปดาห์เลยแม้แต่น้อย จนต้องยอมลดเวลา โดยมีผู้เข้าร่วม 30 คนที่ยอมรับคำท้าปิดแจ้งเตือนเป็นเวลา 1 วันเต็ม หนึ่งในคณะวิจัย มาร์ติน ปิเอลอต (Martin Pielot) จากบริษัทโทรคมนาคมสเปน Telefónica เปิดเผยผลการทดลองว่า คนที่เข้าร่วมหลายคนแสดงท่าทีกระวนกระวายกว่าปกติ เนื่องจากกลัวว่าจะพลาดข้อมูลสำคัญๆ ไป รวมถึงยังถูกคนที่ติดต่อเข้ามาทางช่องทางต่างๆ บอกว่าพวกเขาตอบช้ากว่าปกติ นอกจากนี้ พวกเขายังรู้สึกว่าขาดการเชื่อมต่อเครือข่ายทางสังคมทำให้รู้สึกเหมือนพลาดข้อมูลสำคัญ อย่างไรก็ตาม การรับคำท้านี้ก็มีข้อดีที่ทำให้ผู้เข้าร่วมมีอาการวอกแวกน้อยลง อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่างๆ ด้วย หากไม่มีคนที่คาดหวังให้คุณต้องตอบข้อความไวๆ คุณก็จะไม่มีความรู้สึกเครียดตอนรับคำท้านี้ แต่ถ้าคุณมีเจ้านายที่ต้องการให้คุณตอบแบบด่วนจี๋ มันก็เป็นอีกเรื่องเลย ปิเอลอตกล่าว ข้อมูลระบุว่า ผู้เข้าร่วม 10 คนแจ้งว่า พวกเขาต้องการปิดการแจ้งเตือนจากบางแอปพลิเคชัน ขณะเดียวกัน กว่าครึ่งตั้งเป้าว่าจะทำคำท้านี้บ่อยขึ้นในอนาคต งานร่วมวิจัยกับ ลุซ เรลโล (Luz Rello) จากมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน (Carnegie Mellon University) ชิ้นนี้ ทำการทดลองขึ้นเมื่อปี 2015 และติดตามผลผู้เข้าร่วม 2 ปีให้หลังด้วย ในปี 2017 คณะผู้วิจัยพบว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มที่เพิ่งกล่าวถึงยังทำตามเป้าที่ตั้งเอาไว้ และยังมีอีก 18 เปอร์เซ็นต์ที่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการแจ้งเตือนของตัวเองไปเลยอ้างอิง:
หนึ่งในคณะวิจัย มาร์ติน ปิเอลอต (Martin Pielot) จากบริษัทโทรคมนาคมสเปน Telefónica ทำการทดลองท้ากลุ่มตัวอย่างให้ปิดการแจ้งเตือนทั้งหมดไปเลยเป็นเวลา 1 วัน คนที่เข้าร่วมการทดสอบหลายคนแสดงท่าทีกระวนกระวายกว่าปกติ รวมถึงถูกคนที่ติดต่อเข้ามาบอกว่าตอบช้ากว่าปกติ นอกจากนี้ พวกเขายังรู้สึกว่าขาดการเชื่อมต่อเครือข่ายทางสังคม เพราะกลัวว่าจะพลาดข้อมูลสำคัญไปการรับคำท้านี้ก็มีข้อดีที่ทำให้ผู้เข้าร่วมมีอาการไขว้เขวน้อยลง อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่างๆ ด้วย
null
null
https://thestandard.co/news-world-turnoff-notifications-for-a-day-change-your-behavior-like-2-years/
เพลิงไหม้ รง.แปรรูปขี้เลื่อยที่จะนะ คาดไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา19.00 น.วันที่ 21 ก.ย. พ.ต.อ.คมกฤษ ศรีสง ผกก.สภ.จะนะ ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้ภายในโรงงานกรีนไบโอแมส ตั้งอยู่ริมถนนสายจะนะ-นาทวี หมู่ 8 บ้านนาปรือ อ.จะนะ จ.สงขลา จึงนำกำลังตำรวจจำนวนหนึ่งพร้อมประสานขอรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลบ้านนา อ.จะนะ และเทศบาลเมืองนาทวี รวมกว่า 10 คัน และหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ไปตรวจสอบ ,ที่เกิดเหตุพบเป็นโรงงานแปรรูปขี้เลื่อย อัดแท่งเป็นเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม ต้นเพลิงลุกไหม้ขึ้นบริเวณกลางโรงงาน ซึ่งมีทั้งกองขี้เลื้อย และแท่งขี้เลื่อยไม้ที่อัดเสร็จแล้วกองอยู่ ทำให้เป็นเชื้อเพลิงติดไฟอย่างดีไฟได้ลุกโหมไหม้ขึ้นอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงเข้าฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามขยายวงกว้างไปทั้งโรงงาน รวมถึงอาคารสำนักงานที่ตั้งอยู่หน้าตัวโรงงาน โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด แต่ยังต้องฉีดน้ำเลี้ยงไว้เพื่อไม่ให้ไฟลุกไหม้ขึ้นอีก ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไฟได้เผาผลาญกองขี้เลื้อยและแท่งไม้อัดเสียหายไป 2 ใน 3 ส่วนของโรงงาน ส่วนอาคารออฟฟิศที่อยู่ด้านหน้าไม่ได้รับความเสียหาย และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ครั้งนี้,จากการสอบสวน นายชัยยุทธ บุญรัตนะ เจ้าของโรงงาน เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ภายในโรงงาน เนื่องจากโรงงานหยุด 1 วัน ขณะเกิดเหตุคนงานชาวพม่าซึ่งพักอยู่ภายในแคมป์ใกล้กับโรงงาน เห็นกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาและเกิดเปลวไฟขึ้น จากนั้นไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถควบคุมได้ จึงรีบแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร และไม่น่าจะเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบแต่อย่างใด เนื่องจากก่อนเกิดเหตุไม่มีใครเห็นบุคคลภายนอกเข้าไปภายในโรงงาน อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ เจ้าหน้าที่วิทยาการจะเข้าตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ส่วนความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้.
เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานขี้เลื่อยอัดแท่ง อ.จะนะ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 3 ชม. จึงสามารถคุมเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นไร้เจ็บ คาดไฟฟ้าลัดวงจร เชื่อไม่น่าเกี่ยวโยงกับเหตุความไม่สงบ
ข่าว,ทั่วไทย
ไฟไหม้โรงขี้เลื่อย อ.จะนะ,เพลิงไหม้โรงงานกรีนไบโอแมส,ถนนสายจะนะ-นาทวี บ้านนาปรือ,ชัยยุทธ บุญรัตนะ,เจ้าของโรงงานกรีนไบโอแมส,คมกฤษ ศรีสง,ผกก.สภ.จะนะ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/news/local/526910
ตั้งกก.สอบแล้ว 2 ตร.ทางหลวง มือโบก หากผิดจริงโดนเชือด วินัย-อาญา
วันที่ 29 ม.ค.61 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความและคลิปวิดีโอในโลกโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทางหลวงพระนครศรีอยุธยา กรณีมีอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกันเมื่อวันที่ 28 ม.ค.61 บริเวณถนน 347 กม.25 ต.เกาะเกิด อ.บางปะอิน พนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน พบรถยนต์ 3 คันได้รับความเสียหาย คือ ทะเบียน กบ 5915 นครสวรรค์, ทะเบียน กน 61 อุบลราชธานี และรถบรรทุก ทะเบียน 72-5397 สมุทรปราการ ว่า เบื้องต้นทราบว่า ตำรวจทางหลวงฯ ได้รับร้องเรียนจากผู้ใช้รถใช้ถนนว่า เส้นทางดังกล่าวมีรถบรรทุกวิ่งช่องทางด้านขวา ลักษณะแช่เป็นเวลานาน ทำให้เกิดปัญหาจราจรจึงออกแผนการตรวจและจับผู้กระทำความผิด,ซึ่งวันเกิดเหตุน่าจะเกิดจากความผิดพลาดในการปฏิบัติหน้าที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เรื่องที่เกิดขึ้นมีการดำเนินการทางวินัยตำรวจทั้งสองนาย ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่และให้รายงานตัวที่ บก.ทล. พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ว่ามีการกระทำผิดวินัย หรือกฎระเบียบอย่างไรบ้าง ซึ่งทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เน้นย้ำการปฏิบัติงานของตำรวจต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง และข้อบังคับที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ,ตำรวจที่ไม่ปฏิบัติตามนโยบายผู้บังคับบัญชา ก็จะไม่เข้าข้างอยู่แล้ว หากผลตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีความผิด จะดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด รองโฆษก ตร. กล่าวทิ้งท้าย.
รองโฆษก ตร.เผย ต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง 2 ตำรวจทางหลวงโผล่โบกรถกะทันหัน ทำรถชนกัน 3 คันรวดที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ลั่นหากพบผิดจริง ฟันวินัย-อาญาเด็ดขาด
ข่าว,อาชญากรรม
ตำรวจโบกรถ,ตำรวจทางหลวง,ฮาวา อรวี ชูชื่น,ตั้งกก.สอบ,ตำรวจ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1189850
หลักฐานยัน สาวเบลเยียมป่วยจิต เคยคิดฆ่าตัวตาย ก่อนผูกคอดับบนเกาะเต่า
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 3 ก.ค.2560 พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.กองปราบปราม เปิดเผยถึงกรณี น.ส.เอลิส ดัลเลอมาเน อายุ 30 ปี ,สาวเบลเยียม, ถูกพบแขวนคอตายบนเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา รอง ผกก.5.บก.ป. พ.ต.ท.มนต์ชัย เพ็งเลิศ สว.กก.5.บก.ป. จัดทีมงานลงพื้นที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี หารายละเอียดและหลักฐาน รวมทั้ง สอบพยานแวดล้อมต่างๆ เพื่อสรุปสาเหตุการตาย,พล.ต.ต.สุทิน กล่าวต่อว่า นอกจากส่งตำรวจ กก.5.บก.ป.ลงพื้นที่แล้ว ยังได้ประสานสถานทูตเบลเยียม ติดต่อหานางมิเชล ฟาน เอทเทน มารดา ของ น.ส.เอลิส ที่ได้รับข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่ในกระเป๋าเดินทางของ น.ส.เอลิส เพื่อขอความร่วมมือนำคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ของผู้ตาย มาตรวจสอบว่ามีข้อมูลอะไรที่มีประโยชน์ นำมาใช้ในการคลี่คลายการเสียชีวิตครั้งนี้บ้าง รวมทั้งให้ตรวจสอบข้อมูลหลักฐานทางแพทย์จากนิติจิตเวช โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ที่ผู้ตายได้เคยเข้าไปรักษาหลังจากเคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วด้วยการกระโดดลงจากรถไฟท้องที่ สน.นพวงศ์ เพื่อนำมาประกอบวางแนวทางการสืบสวนต่อไป,รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป พร้อมชุดสืบสวนได้เดินทางไปขอข้อมูลจากพนักงานสอบสวน สน.นพวงศ์ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ น.ส.เอลิส พยายามฆ่าตัวตาย ด้วยการกระโดดลงจากรถไฟ อีกทั้งยังได้ประสานไปที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา เพื่อขอข้อมูลทางการแพทย์ของ น.ส.เอลิส และในวันออกจากรพ.ว่ามีบุคคลใดมารับตัวออกไปหรือไม่อย่างไร รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ใน,ส่วนชุดสืบสวนของ กก.5.บก.ป. นำโดยพ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา รอง ผกก.5.บก.ป. พ.ต.ท.มนต์ชัย เพ็งเลิศ สว.กก.5.บก.ป. ที่ลงไปหาข้อมูลที่เกาะเต่า วันนี้ได้มีการประชุมเพื่อหาแนวทางการสืบสวน โดยได้แบ่งกำลังลงไปค้นหาจุดที่พักของ น.ส.เอลิส ว่าไปพักที่ใดหลังจากเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้เกสต์เฮาส์เดิมที่พักอยู่ เนื่องจากในจุดดังกล่าวยังไม่มีข้อมูลยืนยันที่แน่นอน รวมทั้งสอบพยานแวดล้อมว่า ระหว่างที่ น.ส.เอลิส พักอยู่ที่เกาะเต่า มีเพื่อนสนิทหรือไม่ เพื่อนำมาประกอบแนวทางการสืบสวน,ส่วนการติดตามตัว นายรามัน อันเดรียส ผู้ที่คลั่งลัทธิ สัตยะ สาอี บาบา ที่มีความสนิทสนมกับผู้ตายชุดสืบสวนได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจค้นเข้าเมือง (สตม.) เพื่อขอข้อมูลการเข้าออกประเทศ เพื่อติดตามตัวมาสอบถาม.
กองปราบจัดทีมไขปม สาวเบลเยียม แขวนคอตายบนเกาะเต่า พบประวัติเข้ารักษาอาการทางจิต รพ.สมเด็จเจ้าพระยา หลังพยายามโดดลงรถไฟฆ่าตัวตาย เร่งประสานมารดานำโน้ตบุ๊กตรวจสอบข้อมูล
ข่าว,อาชญากรรม
ผูกคอตาย,ฆ่าตัวตาย,สาวเบลเยียม,เกาะเต่า,สุราษฎร์ธานี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/992988
เมฆ เอาจริง จ๋า เอาไง?พร้อมมั้ย กินเด็ก
โดนข้อหา กินเด็กหลังจากเก็บหัวใจใส่เซฟเพราะเข็ดรักอยู่พักใหญ่ก็เริ่มมีคนจับพิรุธขุดประเด็นว่า วีเจจ๋า–ณัฐฐาวีรนุช ทองมี กำลังซุ่มคบพระเอกน้องใหม่ใสกิ๊ก เมฆ–จิรกิตติ์ ถาวรวงศ์ โดยมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายใน IG งานนี้จริงไม่จริงไม่รู้ แต่ที่แน่ๆฝ่ายหญิงเสียหายฝ่ายชายเลยแอ่นอกแมนๆออกมาให้สัมภาษณ์ก่อน โดยยอมรับว่าเป็นปลื้ม พี่จ๋า ตรง สเปก และเป็นฝ่ายเดินหน้าจีบก่อนเอาล่ะสิ เด็กมันไม่ได้จีบเล่นๆ และลงทุนออกมาปกป้องซะขนาดนี้ อยากรู้ว่า พี่จ๋า จะมีทีท่าอย่างไร เปิดหัวใจให้มั้ย? วันนี้มีคำตอบวีเจพี่จ๋า ยอมเปิดใจแบบไม่กั๊กเรื่องความรักกับ ทีมข่าวบันเทิง หมดเปลือก,หลังจากเมฆออกมาพูดว่าชอบและเดินหน้าจีบ จ๋า ได้คุยกับ เมฆ เรื่องข่าวรึยัง? ได้คุยกันแล้วสถานการณ์เป็นอย่างนั้นเลย พอเค้าพูดกับสื่อแบบนั้นยอมรับว่าตกใจ ไม่คิดเค้าจะพูด จ๋ารู้จักเค้ามานานแล้วตั้งแต่เค้าเป็นศิลปินฝึกหัด 2 ปีแล้ว แต่มาปีนี้เค้าทำงานเยอะ คนรู้จักเค้าเยอะ คนก็เลยพูดถึงกลายเป็นประเด็น แต่เค้าเพิ่งพูดเร็วๆนี้เอง จริงๆเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับจ๋า ก่อนหน้าเคยพูดจ๋าเลือกได้ขอเลือกสิ่งดีๆเพราะมีผลกับชีวิตจ๋า จ๋าตัดสินใจอย่างไรกับครั้งนี้? ไม่ตัดสินใจอะไร คิดแค่เรื่องตัวเองก่อนดีกว่า แต่ต้องขอบคุณเค้าที่พูดออกมา เท่าที่จ๋ารู้จักเค้าก็เป็นคนดีจิตใจดี เค้าเป็นสุภาพบุรุษไม่อยากทำให้เราเดือดร้อน คนมาเม้าท์เรา เค้าเป็นผู้ชายออกมาพูดมันโอเคเป็นสิ่งที่ดีที่ผู้ชายต้องทำแบบนี้ คบกันล่ะเป็นไปได้มั้ย? ไม่รู้สิ คงตอบไม่ได้ จ๋าไม่อยากเอาเรื่องใครมาพูด ต้องใช้เวลาไปเรื่อยๆ ใครที่ใช่จ๋าจะออกมาบอกเองค่ะ แต่ปีนี้ความรักไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับจ๋า วัยต่างกัน 15 ปีทำให้ลังเลในการตัดสินใจคบกันหรือเปล่า? อายุมากกว่าหรือน้อยกว่ามีผลทั้งนั้นไม่ใช่แค่เรื่องอายุ เป็นเพราะจ๋าเข็ดกับการคบคนอายุน้อยกว่าหรือเปล่า? บอกเลยอายุมีปัญหาแตกต่างกัน อายุมากกว่าไม่ได้หมายความว่าพร้อม อายุเท่ากันไม่ได้หมายความว่าเข้าใจกัน เป็นที่รายบุคคลมากกว่า เพราะจ๋าเจอมาหมดแล้วจะเป็นเด็กโตหรือเท่ากัน,หลังมีข่าวฟีดแบ็กที่จ๋าเจอ? คนรอบข้างที่สนิทๆกันตกใจไม่ได้พูดอะไรไม่ดีนะ แต่คนข้างนอกเชียร์อันนี้ยอมรับว่างง จ๋าอยู่ตรงนี้มานานเฉยๆ นะ มองตัวเรายังไงมากกว่าแต่เค้าก็พูดดี ดีใจแอบขอบคุณ ตอนนี้สถานภาพจ๋ากับเมฆคือ? เค้าอยากพิสูจน์ก็แล้วแต่เค้า จ๋ายังเหมือนเดิมไม่อยากมาบีบคั้นต้องตอบ ด้วยเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ แล้วปีนี้ชีวิตจ๋ามีสิ่งดีๆเข้ามาเยอะมาก เรียนจบปริญญา–เอกแล้วจะรับปริญญา 17 มี.ค. หลังๆขยันลงรูปคู่นะยังไงเนี่ย? เค้ามาขอถ่ายรูปคู่แล้วถามจ๋าลงได้ไหมจ๋าก็บอกว่าลงได้ จ๋าชัดเจนไม่ได้คบกัน เค้าจีบก็ไม่เป็นไร พอเค้าลงรูปเลยกลายเป็นเปิดตัวรึเปล่า จ๋าเลยลงรูปแล้วระบุว่าไม่ได้เป็นการเปิดตัวนะ เอาจริงๆตอนนี้ยังไม่อยากมีแฟนนะเพราะเวลาโสด งานจะเยอะ อย่างปีนี้ทั้งละคร ซีรีส์หนังไทย หนังเทศกาล หนังร่วมทุนติดต่อเข้ามา จ๋าดีใจมาก.
โดนข้อหา กินเด็ก!!หลังจากเก็บหัวใจใส่เซฟเพราะเข็ดรักอยู่พักใหญ่ก็เริ่มมีคนจับพิรุธขุดประเด็นว่า วีเจจ๋า– ณัฐฐาวีรนุช ทองมี กำลังซุ่มคบพระเอกน้องใหม่ใสกิ๊ก เมฆ–จิรกิตติ์ ถาวรวงศ์ โดยมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายใน IG
null
เมฆ,จิรกิตติ์ ถาวรวงศ์,วีเจจ๋า,ณัฐฐาวีรนุช ทองมี,ไอจี,กินเด็ก,ความรัก,ศิลปินฝึดหัด,สุภาพบุรุษ,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/content/570814
เอาที่พี่สบายใจ ชีเปลือยเดินโทงๆ ทั่วสนามบินสเปน ก่อนหายตัวปริศนา
บรรดาผู้คนที่อยู่ในสนามบินปัลมาเดอมาร์ยอร์กา ประเทศสเปน ต่างเกิดอาการมึนงงกันทั่วหน้า เมื่อกระทาชายนิรนามคนหนึ่งซึ่งอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ไม่มีเสื้อผ้าติดกาย หรือกระเป๋าเดินทางแม้แต่สักชิ้นเดียว จู่ๆ ก็มาปรากฏตัวขึ้น จนกลายเป็นจุดสนใจของชาวบ้านชาวเมืองไปโดยปริยาย,นอกจากนี้ กระทาชายนิรนามซึ่งไร้ซึ่งเสื้อผ้าพันกายแม้แต่สักชิ้นเดียวรายนี้คงกลัวว่า ตัวเองยังเป็นจุดสนใจไม่พอ ชีเปลือยรายนี้จึงได้สร้างความน่าประหลาดใจเพิ่มเติม ด้วยการเดินแก้ผ้าโทงๆ ไปทั่วสนามบิน ทั้งๆ ที่อยู่ในช่วงเวลาที่มีผู้คนพลุกพล่าน แถมเมื่อโชว์เปลือยจนเป็นที่พออกพอใจแล้ว เขาจึงไปนั่งพักที่เก้าอี้ตัวหนึ่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีท่าทีสะทกสะท้านแต่อย่างใด และเมื่อผ่านไปไม่นาน จึงได้ลุกขึ้นและเดินหายเข้าไปในห้องน้ำของสนามบิน,และนั่นคือภาพสุดท้ายของชีเปลือยนิรนามรายนี้ ที่ได้จากกล้องวงจรปิดของสนามบิน ก่อนที่มนุษย์ประหลาดผู้นี้จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โดยเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่พอที่จะระบุได้เพียงว่า ชายโชว์เปลือยรายนี้ เป็นผู้ชายในวัยกลางคน และน่าจะเป็นชาวต่างชาติเท่านั้น และจนถึงเวลานี้ยังไม่มีใครสามารถสรุปได้ว่าเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นนี้ เป็นความตั้งใจโชว์ของดีของพวกกลุ่มคนนิยมชอบเปลือยกายในที่สาธารณะ หรือ อาจจะเป็นเพียงการแสดงรายการแนวล้อกันเล่นเท่านั้น , ,อย่างไรก็ดี เมื่อภาพของชายดังกล่าวไปปรากฏอยู่ตามสื่อต่างๆ ในประเทศสเปน บรรดาชาวดินแดนกระทิงดุ ต่างออกมาเรียกร้องให้มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยสนามบินให้มากกว่านี้ รวมถึงส่วนใหญ่ยังได้ตำหนิเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยที่สุดแสนจะหละหลวมด้วย.,ขอบคุณข่าว-ภาพ dailymail
ชีเปลือยปริศนา แก้ผ้าเดินโทงๆ ทั่วสนามบินในประเทศสเปน ชาวกระทิงดุ สุดงง รุมตำหนิ รปภ.สุดหละหลวม
ข่าว
ชีเปลือย,แก้ผ้า,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,สเปน,สนามบิน
https://www.thairath.co.th/news/957200
ต๋อง เข้ารอบศึกสอยคิวเวิลด์ โอเพ่น
การแข่งขันสนุ้กเกอร์รายการสะสมคะแนนโลก รายการที่ 2 ประจำซีซั่นใหม่ 2016-17 เวิลด์ โอเพ่น รอบคัดเลือก ที่เปรสตัน เพื่อคัดหาสุดยอดนักสอยคิวไปแข่งขันรอบสุดท้าย ที่หยูฉวน ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 25-31 ก.ค.นี้ ปรากฏว่า ต๋อง ศิษย์ฉ่อย รัชพล ภู่โอบอ้อม นักสอยคิวขวัญใจชาวไทย อดีตมือ 3 ของโลก ที่ได้สิทธิ์ไปเล่นไวลด์การ์ดอีก 2 ปี ยังคงรักษาฟอร์มเฉียบ เมื่อออกคิวเอาชนะ โรเบิร์ต มิลกินส์ มือ 21 ของโลก ชาวอังกฤษ 5-2 เฟรม,จากชัยชนะครั้งนี้ทำให้ต๋องผ่านรอบคัดเลือกได้ 2 รายการติดต่อกัน หลังจากก่อนหน้านี้เพิ่งกำชัยมาได้ในรายการอินเดียน โอเพ่น ซึ่งต๋องจะเข้าไปเล่นรอบแรกในเดือนก.ค.นี้ เจอกับเดเนียล เวลล์ส นักสอยคิววัย 27 ปี ชาวเวลส์ มืออันดับ 87 ของโลก ที่ปราบเทียน เป็ง เฟย ของจีน ในรอบเดียวกันขาดลอย 5-0 เฟรม,ขณะที่ 2 ดาวรุ่งของไทย ซันนี่ สายล่อฟ้า อรรคนิธิ์ ส่งเสริมสวัสดิ์ กับ ไฟว์ นครนายก บุญญฤทธิ์ เกียรติกุล กอดคอกันตกรอบ ชวดลุยแดนมังกรไปอย่างน่าเสียดาย หลังทั้งคู่พ่ายแบบเฉียดฉิว โดย ซันนี่ แพ้ จ้าว หยู่ หลง จากจีน 4-5 เฟรม ทั้งที่อุตส่าห์นำก่อน 3-1 และ ไฟว์ แพ้ ไมค์ ดันน์ ไปด้วยสกอร์เดียวกัน 4-5 เฟรม
ต๋อง ศิษย์ฉ่อย พิชิต โรเบิร์ต มิลกินส์ 5-2 เฟรม ในศึกสอยคิวสะสมคะแนนโลก รายการที่ 2 ที่เปรสตันทำให้เข้ารอบ 2 รายการติดต่อกัน
null
ต๋อง ศิษย์ฉ่อย,เวิลด์ โอเพ่น,รัชพล ภู่โอบอ้อม,สนุ้กเกอร์
https://www.thairath.co.th/content/631187
ร่วมสำรวจการทำซ้ำในงานศิลป์ในนิทรรศการ Possession: เจ้า-ของ
นำผลงานเก่าจากศิลปินยุคก่อน มาดัดแปลง เป็นงานศิลปะร่วมสมัยMoment No.12 ของ โอลิเวีย โนทาโร ชาวสวิตเซอร์แลนด์ คืนชีวิตให้กับภาพเขียนอายุ 95 ปี ของศิลปินนิรนาม ไม่เพียงสะท้อนภาพสังคมปัจจุบัน ที่มักหยิบยืมและทำซ้ำผลงานรวมถึงเทคนิค ที่สืบทอดจากอดีต หากยังตั้งคำถามถึงความเป็นต้นแบบทางศิลปะ ว่าใครเป็นเจ้าของที่แท้จริงของงานสร้างสรรค์นั้น 1 ในผลงานจากศิลปินนานาชาติ 20 คน ที่สำรวจการหยิบยืมงานศิลปะดั้งเดิมที่มีอยู่ มาสร้างสรรค์เป็นงานของตนเอง จัดแสดงในนิทรรศการ Possession: เจ้า-ของโอลิเวีย โนทาโร ศิลปิน เล่าวว่า งานของเธอเป็นการแสดงเพนท์สีที่ไม่มีวันจบ เธอได้คืนชีวิตให้กับภาพที่ตายไปแล้ว ด้วยการระบายสีเปลี่ยนพื้นหลัง ซึ่งนอกจากจะสร้างตัวตนใหม่ให้กับภาพวาดเก่าแล้ว เธอยังใส่ตัวตน ความรู้สึก รวมถึงประสบการณ์ส่วนตัวลงไปเช่นกันด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้การหยิบยืมและผลิตซ้ำงานศิลปะ ทำได้ไม่ยาก หากมนต์เสน่ห์ของการถ่ายทอดงานศิลป์ด้วยฝีมือมนุษย์ อาจทำให้หลายคนตั้งคำถาม ถึงเอกลักษณ์ที่แท้จริงของศิลปินร่วมสมัย รวมถึงความแตกต่างของการหยิบยืม และการลอกเลียนแบบขณะที่สตีฟ ฮอว์ลีย์ เล่าว่า ศิลปินที่มาแสดงงานครั้งนี้ ล้วนสร้างสรรค์ผลงานโดยอาศัยงานของคนอื่น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งนี่เป็นเรื่องธรรมดา เพราะการทำงานตลอด 30 ปีของเขา ก็ได้หยิบยืมสิ่งที่คนอื่นเคยทำ มาปรับเปลี่ยน และสร้างสรรค์ให้เกิดเอกลักษณ์ในงานของเขาเองด้าน เถกิง พัฒโนภาษ อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า มีเส้นแบ่งระหว่างการหยิบยืมกับการลอกเลียนแบบอย่างชัดเจน ถ้าผลิตซ้ำก็ต้องให้เครดิตคนทำด้วยร่วมสำรวจการทำซ้ำในงานศิลป์ และค้นหาความหมายที่แท้จริงของการครอบครอง ในนิทรรศการ Possession: เจ้า-ของ จัดแสดงถึงวันที่ 5 พฤษภาคม ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลงานของศิลปินยุคก่อน มีส่วนช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลังไม่น้อย จนมีคำถามว่าท้ายที่สุดแล้ว ผลงานที่ออกมานั้นเป็นของใครกันแน่ ศิลปินนานาชาติ 20 คน นำข้อสงสัยนี้มาสะท้อนผ่านงานศิลปะในนิทรรศการ Possession: เจ้า-ของ
ศิลปะ-บันเทิง
นิทรรศการ,เจ้า-ของ,เถกิง
https://news.thaipbs.or.th/content/157324
สมศักดิ์ มั่นใจสุโขทัยกวาด ส.ส.ยกจังหวัด ลุ้น บิ๊กตู่ สไกป์เย็นนี้
เมื่อวันที่ 14 มี.ค.62 ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ ผู้สมัคร ส.ส.สุโขทัย เขต 1 เบอร์ 12 นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 เบอร์ 1 และ นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เบอร์ 1 เข้าสักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหง เพื่อความเป็นสิริมงคลและขอพรให้ประสบความสำเร็จ,ต่อมา นายสมศักดิ์ กล่าวถึงภาพรวม ที่ จ.สุโขทัย ว่า จ.สุโขทัย และพรรคพลังประชารัฐถือว่ามีความพร้อมสูงสุด เหลือ 10 กว่าวันก่อนเลือกตั้ง ผลสำรวจจากภาคส่วนต่างๆ ที่เราสัมผัสกับพี่น้องประชาชน ให้การต้อนรับพรรคพลังประชารัฐอย่างดียิ่ง ในนโยบายหลายๆ ประเด็น โดยเฉพาะผู้สมัครทั้ง 3 เขต มีศักยภาพส่วนตัวอยู่แล้วทำให้เสริมกัน การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคน่าจะได้รับการชูมือได้รับชัยชนะทั้ง 3 เขต ในอดีตที่ผ่านมาตนไม่ได้ลงไปสัมผัสพี่น้องโดยตรง ส่วนใหญ่เป็นผู้สมัคร ส.ส.แต่ครั้งนี้ตนตั้งใจลงไปเอง และไปบอกนโยบายกับประชาชน เพราะนโยบายหลายๆ ข้อที่อดีต ส.ส.หลายคนช่วยกันเขียนนั้น เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน ตนภูมิใจที่ได้ไปบอกกับพี่น้องประชาชนให้เข้าใจด้วยตัวเอง และเมื่อเข้าใจแล้วเชื่อว่าพวกเขาจะเลือกพรรคพลังประชารัฐ ส่วนเวทีปราศรัยใหญ่เย็นวันนี้ที่สนามทะเลหลวง อาจจะมีเซอร์ไพรส์ มีสไกป์จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกฯ พรรค หรืออาจจะนำวิดีโอมาเปิด แต่รายละเอียดยังไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไร,ใน จ.สุโขทัย มีการเผาป้ายกันบ้าง แต่ไม่มีปัญหาอะไรเยอะ หากใครทำลายทรัพย์สมบัติคนอื่น เชื่อว่าพี่น้องประชาชนคงไม่ยอม และการใช้อำนาจมืดหรือมาเฟียมาข่มขู่ใน จ.สุโขทัย ไม่มี เพราะตำรวจทหารทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ทุกฝ่ายได้รับผลเชิงบวกเชิงลบเหมือนไม่มีอะไรน่ากลัว ส่วนการฮั้วกันอย่างพรรคตระกูลเพื่อบางเขตให้พรรคที่ 1 ลง บางเขตเป็นพรรคที่ 2 ถ้ามองชัดๆ มันดำเนินการมาโดยชัดเจน ส่วนผู้บริหารระดับสูงอาจจะคุยกันมาตลอด พรรคการเมืองเก่าดูเหมือนจะผิดทิศทาง ต่างคนไม่ผ่อนสั้นยาว ถ้าเป็นแบบนี้โอกาสการจัดตั้งรัฐบาลอาจจะยากขึ้น เพราะวันนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันหนัก ทวงบุญคุณกัน นายสมศักดิ์ กล่าว,เมื่อถามว่า มีคนวิจารณ์ว่าท่านใช้อำนาจจาก อบจ.มาช่วยในการหาเสียงภายใน จ.สุโขทัย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ผมช่วย อบจ.มากกว่า อบจ.ไม่เคยมาช่วยผมหรือผู้สมัครเลย เพราะมีงบประมาณในกรอบ งบฯ น้อยมาก ผมว่าผู้สมัครขยันเดินและนโยบายที่ดีมากกว่า ที่จะช่วยให้ได้รับชัยชนะ,ด้าน นางพรรณสิริ กล่าวว่า มั่นใจว่าประชาชนมีความคิด มีความตั้งใจ มั่นใจในความสามารถของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ที่นำความสงบสู่บ้านเมือง การทำงานเรามีผลงานมาต่อเนื่อง เราพัฒนาตามนโยบายของพรรค ทั้งเรื่องภาคการเกษตร เช่น ข้าว ยาสูบ นอกจากนี้เรื่องการท่องเที่ยวที่เรามีมรดกโลก การลดความเหลื่อมล้ำและสวัสดิการต่างๆ รวมทั้งเรื่องการรักษาพยาบาล บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ชาวบ้านชอบมาก เพราะเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น,ด้าน นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ปัญหาที่ดินเป็นปัญหาที่มีมาตลอด เราจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ ในการเดินหาเสียงตนมั่นใจว่า ประชาชนในเขต 2 จะให้ความไว้วางใจเลือกเข้ามาเป็นผู้แทน,ด้าน นายจักรวาล กล่าวว่า เขต 3 มีพื้นที่มาก ดังนั้นต้องเน้นการเข้าถึงในพื้นที่ ตนทำพื้นที่มาตลอด ดูแลทั่วถึงนโยบายของพรรคประชาชนเริ่มเข้าใจ ว่านโยบายต่างๆ ทำได้จริงและเข้าถึงประชาชน ไม่เหมือนพรรคอื่นที่เน้นนโยบายเก่าๆ เน้นที่ตัวพรรคไม่ได้เน้นที่ผู้สมัคร
สมศักดิ์ มั่นใจ พลังประชารัฐ ได้ ส.ส.สุโขทัย ยกจังหวัด ชี้มีศักยภาพเข้าถึงชาวบ้าน-นโยบายพรรคโดนใจ แย้มอาจมีเซอร์ไพรส์ ลุ้นนายกฯ อาจสไกป์เวทีปราศรัยเย็นนี้
เลือกตั้ง
เลือกตั้ง62,หาเสียง,พลังประชารัฐ,สมศักดิ์ เทพสุทิน,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1519101
แผน ร้องเรียนสอบ ทนายดัง ให้ข้อมูลเท็จผ่านสื่อ ทำเสียหายต้องออกจากงาน
วันที่ 14 มีนาคม นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ แผน พยานในคดีหวย 30 ล้าน เดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภาทนายความฯ และขอให้ตรวจสอบการทำงานของ ทนายท่านหนึ่ง หลังไปออกรายการช่องหนึ่ง พร้อมกล่าวพาดพิงและให้ข้อมูลเท็จ จนทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง,นายแผน ระบุว่า วันนี้เดินทางมาร้องเรียนทนายความรายหนึ่ง ที่ไปออกรายการโทรทัศน์ ซึ่งให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง นอกจากนี้ยังไปพูดเชื่อมโยงกับสถานที่ทำงานและคนในที่ทำงานของตนเอง ทำให้เกิดความวุ่นวาย เกิดผลกระทบกับตนเอง จนถึงขั้นออกจากงาน,โดยส่วนหนึ่งมีการระบุว่า เตรียมดำเนินคดี กับผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยเอ่ยพาดพิง ว่าถูกข่มขู่ให้รับสารภาพและกลับคำให้การ ตนใช้แค่คำว่าตำรวจแนะนำว่าให้รับสารภาพเท่านั้น และถึงแม้ห้องที่สอบสวนจะเป็นห้องเล็ก แต่ก็ตำรวจวนเวียนเข้าออกหลายนาย ตนยังยืนยันว่า ไม่รู้จักกับพยานฝั่งครูปรีชา ใคร่ครวญ รายอื่นเป็นการส่วนตัวรวมถึงไม่รู้จักครูปรีชา และ ร.ต.ท.จรูญ เป็นการส่วนตัวเช่นกัน,ขณะที่นายพัฒนา จาติเกตุ อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ เดินทางมารับเรื่องด้วยตนเอง เปิดเผยว่า โดยหลังจากนี้จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการมารยาทสอบสวน หากมีผลว่ามีความผิด จะมีโทษ 3 สถาน คือ ภาคทัณฑ์ ห้ามเป็นทนายความ, มีกำหนดไม่เกิน 3 ปี และเพิกถอนใบอนุญาตทนายความ,ขณะเดียวกัน นางสาวกนกพรรณ หมวกไสว หรือ ฟ้า เดินทางอาสามาด้วยกัน เนื่องจากอยู่กรุงเทพฯ และเห็นเป็นคนบ้านเดียวกันกับแผน ส่วนตัวเพิ่งรู้จักกัน โดยขอเบอร์ติดต่อไว้ ขณะ นายแผน ไปศาล และหลังจากที่ขอถอนตัวจากการเป็นพยานฝั่งครูปรีชาแล้ว ตนก็ไม่คิดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับฝั่งครูปรีชา ส่วนทิศทางของคดีก็ไม่หนักใจ อยากให้ประชาชนรอจนถึงกระบวนการของศาล ก่อนตัดสินใส่ร้ายตนเอง.
นายแผน พยานในคดีหวย30ล้าน ร้องสภาทนายความ หลังถูกทนายรายหนึ่ง ออกรายการโทรทัศน์ให้ข้อมูลเท็จ จนเกิดความเสียหาย ถึงขั้นต้องออกจากงาน
ข่าว,ทั่วไทย
หวย 30 ล้าน,นายแผน,ร้องเรียน,สภาทนายความ,ให้ข้อมูลเท็จ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1227857
ชาวมุสลิมโรฮีนจารัฐยะไข่ หนีทหารเมียนมา ข้ามชายแดนเข้าบังกลาเทศ
เมื่อ 17 พ.ย. 59 สำนักข่าวบีบีซี รายงาน ชาวมุสลิมโรฮีนจาหลายร้อยคน อพยพข้ามชายแดนเข้าไปในประเทศบังกลาเทศ หลบหนีภัยทหารเมียนมาปราบปรามชาวมุสลิมโรฮีนจา ในรัฐยะไข่ โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์และเจ้าหน้าที่บังกลาเทศหลายคนเผยว่า มีชาวโรฮีนจาบางคนโดนยิงเสียชีวิตอย่างน่าสลด ขณะพวกเขาพยายามหลบหนี,ข่าวแจ้งว่า มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 130 คน ในระหว่างที่กำลังทหารรัฐบาลเมียนมาปฏิบัติการทางทหารในรัฐยะไข่ ซึ่งเป็นรัฐที่มีชาวมุสลิมโรฮีนจาอาศัยอยู่จำนวนมากกว่า 1 ล้านคน ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา,ก่อนหน้านี้ บรรดานักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิมนุษยชนต่างชาติ เปิดเผยว่า มีบ้านเรือนของชาวโรฮีนจาในหลายหมู่บ้านของรัฐยะไข่ โดนไฟไหม้วอดวายไปกว่า 400 ร้อยหลัง เนื่องจากโดนเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพรัฐบาลเมียนมาโจมตี และทางรัฐบาลได้ออกมายอมรับว่ากองกำลังทหารรัฐบาลมีการโจมตีทางอากาศในรัฐยะไข่จริง แต่เนื่องจากโดนกลุ่มชายฉกรรจ์หลายร้อยคนยกกำลังบุกโจมตีกำลังทหารก่อนจนต้องขอกำลังสนับสนุนทางอากาศ อีกทั้งยังเกิดการปะทะกันระหว่างกำลังตำรวจทหารกับกลุ่มคนร้ายเป็นระยะๆ,ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ตึงเครียดกระทบกระทั่งกันระหว่างชาวพุทธกับชาวมุสลิมโรฮีนจาในรัฐยะไข่ อีกทั้ง ยังเกิดเหตุกำลังทหารรัฐบาลเมียนมาโดนโจมตีในช่วงเดือนที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ตำรวจทหารสิ้นชีพไปอีก 9 นาย ซึ่งทางการเมียนมาคาดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มคนร้ายชาวมุสลิมโรฮีนจา นับแต่นั้น ทหารรัฐบาลเมียนมาได้รับคำสั่งให้ปิดพื้นที่รัฐยะไข่ และตัดขาดความช่วยเหลือด้านมนุษยชน ไม่อนุญาตให้นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนเข้าไปในรัฐนี้ ขณะที่ตอนนี้ มีชาวมุสลิมโรฮีนจานับแสนคนยังคงอาศัยอยู่ในเต็นท์ เพิงพักชั่วคราว นับตั้งแต่เกิดเหตุจลาจลระหว่างชาวพุทธกับชาวมุสลิมในรัฐยะไข่ เมื่อปี 2555
สื่อนอกรายงาน ชาวมุสลิมโรฮีนจาในรัฐยะไข่หลายร้อยคน หอบลูกหลานข้ามชายแดนเข้าไปในบังกลาเทศ หนีภัยกำลังทหารเมียนมาบุกปราบปรามกลุ่มคนร้ายก่อเหตุรุนแรงในรัฐยะไข่
null
เมียนมา,โรฮีนจา,รัฐยะไข่,มุสลิมโรฮีนจา,อพยพหลายร้อยคน,เผาหมู่บ้านโรฮีนจา
https://www.thairath.co.th/content/785776
พบเบาะแสใหม่ผู้ก่อเหตุยิง 2 พี่น้อง จ.พัทลุง
เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2563 ตำรวจกองบังคับการ 6 กองบัญชาการกองปราบปราม ลงพื้นที่เพื่อติดตามเส้นทางที่กลุ่มผู้เหตุยิงนายทวี ชูจันทร์ อายุ 57 ปี และนายณัฐกิตต์ ชูจันทร์ อายุ 55 ปี เสียชีวิต ขณะเดินเข้าบ่อนไก่ชน เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมาจากการลงพื้นที่พบว่ารถคันที่ใช้ก่อเหตุและใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนีเป็นรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน สีขาวไม่ใช่รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้ารุ่นคัมมรี่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ลำปำ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตำรวจภาค 9 และตำรวจกองปราบกระจายกำลังลงพื้นที่แกะรอยเส้นทางการหลบหนีของกลุ่มผู้ก่อเหตุจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่าก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขับรถเก๋งสีขาววนเวียนอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุหลายรอบและไปนั่งทานอาหารรอที่ร้านริมหาดแสนสุขลำปำ สถานที่ท่องเที่ยวของ จ.พัทลุง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร จากนั้นก็ได้ขับรถเก๋งไปจอดยังจุดเกิดเหตุรอเป้าหมายนานรวมชั่วโมง โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดไปสิ้นสุดในพื้นที่ ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุงสำหรับชนวนการก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตัดเหลือ 2 เรื่อง คือปมขัดแย้งในบ่อนการพนันไก่ชน แต่ไม่ทิ้งประเด็นชู้สาว ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้ารู้เบาะแสกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว
ตำรวจกองปราบปราม ลงพื้นที่เร่งแกะรอยเส้นทางการหลบหนีของกลุ่มผู้ก่อเหตุยิง 2 พี่น้องเซียนพนันไก่ชน เบื้องต้นรู้เบาะแสกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว
อาชญากรรม
พัทลุง,ยิงเซียนไก่,บ่อนไก่ชน
https://news.thaipbs.or.th/content/295214
ตึงเครียด ตร.ยันธรรมกายขนเสาวางปิดถนน ส่งชุดเคลื่อนที่เร็วประกบสื่อ
วันที่ 13 ธ.ค. ภายหลังมีการนำเสาเข็มคอนกรีตมาวางขวางถนนเลียบคลองแอนสอง- สาม หน้าทางเข้าประตูธรรมอุทยาน วัดพระธรรมกาย ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ปิดกั้นพื้นถนนทางสาธารณะ ทำให้รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ (,ธรรมกายปิดถนน ขนเสาเข็มวางขวางทางสาธารณะ-ระดมศิษย์นั่งสวดมนต์ล้อม,),ต่อมาเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.ท.เศรษฐกร ชัยวีระวงศ์ รอง ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ สว.สส. พร้อมตำรวจจราจรได้นำรถยกมายกเสาเข็มที่ขวางกลางถนนออก โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงนำเสาเข็มออกไปกองไว้ข้างทาง เพื่อให้ใช้เส้นทางสัญจรได้,พ.ต.ท.เศรษฐกร เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 00.10 น. ที่ผ่านมา ตนเองพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกตรวจพื้นที่บริเวณถนนเลียบคลองแอนสอง-สาม พบรถเก๋งและกลุ่มคน  เมื่อเข้าไปดูก็เห็นว่ามีเสาเข็มขนาดใหญ่วางขวางถนนอยู่ จึงทำการตรวจสอบพบรถเก๋งโตโยต้า รุ่นโซลูน่า สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จอดอยู่ไม่ไกลกับเสาเข็มที่นำมาขวางถนน เมื่อกลุ่มคนดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงพากันขับรถหลบหนีมาที่ทางเข้าบริเวณประตู 5 แล้วขับรถเข้าไปด้านในวัดพระธรรมกาย ตนจึงลงรถเข้าไปสอบถาม แต่ไม่ได้คำตอบจาก รปภ.ที่ดูแลหน้าประตู จึงได้บอกไปว่าทำแบบนี้ทำไม่ถูก เพราะการนำสิ่งของมาขวางทางสาธารณะ เพื่อกีดขวางไม่ให้รถสัญจรผ่าน เป็นการทำผิดกฎหมายชัดเจน ,กองเสาเข็มที่นำมาขวางกลางถนนนั้น น่าจะเป็นฝีมือคนของวัดพระธรรมกาย เพราะได้ขับรถตามมาติดๆ โดยรถที่ขับมานั้นได้เลี้ยวเข้าทางประตู 5 เข้าไปในวัดพระธรรมกาย ส่วนการขนเสาเข็มน่าจะนำออกมาทางประตูทางเข้าธรรมอุทยาน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังหาหลักฐานและเร่งหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี พ.ต.ท.เศรษฐกร กล่าว,ส่วนบริเวณประตู 7 ของวัดพระธรรมกาย ด้านถนนคลองหลวง ต.คลองสอง อ.คลองหลวง ทางเจ้าหน้าที่ของวัดได้เปิดประตูเพียงแค่ด้านเดียว เพื่อให้ทางคณะศิษย์ของวัดเข้าได้เพียงอย่างเดียว ห้ามสื่อมวลชนเข้า ส่งผลให้บรรดานักข่าวจากสำนักต่างๆ ไม่สามารถเข้าสู่บริเวณวัดพระธรรมกายได้ อนุญาตให้เฉพาะกลุ่มลูกศิษย์วัดพระธรรมกายและเจ้าหน้าที่วัดเท่านั้นที่เข้าสู่วัดได้ ทางพระมหานพพร ปุญฺญชโย ผู้ช่วยผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ต้องขออภัยไปยังสื่อมวลชนด้วยที่ต้องปิดประตู 7 เพราะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทางวัดขอความร่วมมือมา เนื่องจากขณะนี้มีผู้เข้ามาสวดมนต์ปฏิบัติธรรมที่วัดเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น และต้องขอขอบคุณทาง สภ.คลองหลวง ด้วยที่มีการตั้งด่านตรวจก่อนถึงทางเข้าวัด,เมื่อถามว่า จะเกิดกรณีกลุ่มลูกศิษย์ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อีกหรือไม่ พระมหานพพร กล่าวว่า มีกลุ่มลูกศิษย์เข้ามาที่วัดจำนวนมาก ต้องดูหน้างาน ขณะนี้จึงให้ความเชื่อมั่นไม่ได้ แต่ยืนยันว่าจะอำนวยความสะดวกเต็มที่,ต่อคำถามว่า ขณะนี้พระธัมมชโย พักรักษาอาการอาพาธอยู่ที่อาคารใดในวัด พระมหานพพร กล่าวว่า ครั้งล่าสุดที่เห็น ก็เห็นพร้อมกับที่มีการพาสื่อมวลชนไปเยี่ยมอาการหลวงพ่อธัมมชโยที่อาคารดาวดึงส์ ส่วนกรณีที่มีการนำเสาคอนกรีตขนาดใหญ่มาขวางถนนเลียบคลองแอน ด้านประตู 15 และที่มีกลุ่มลูกศิษย์สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า พระมหานพพร กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่เห็นกรณีที่มีการปิดถนนบริเวณประตู 15 อย่างไรก็ตามคาดว่าเป็นมาตรการคัดกรองของทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของวัด ส่วนลูกศิษย์ที่ใส่หน้ากากอนามัย บางคนใส่ บางคนก็ไม่ใส่ คนที่ใส่อาจจะแพ้ฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง ซึ่งหน้ากากดังกล่าววัดไม่ได้ทำแจก รวมถึงการตั้งข้อสังเกตว่าวัดมีเครื่องปั่นไฟนั้น ยืนยันว่าวัดมีเครื่องปั่นไฟมานานแล้ว,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางวัดได้จัดคณะศิษย์ที่เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เวลาสื่อไปถ่ายทำบริเวณจุดใด ก็จะมีเจ้าหน้าที่ของทางวัดตามไปบันทึกภาพตลอดเวลา โดยการเก็บภาพนั้นจะส่งเข้าไลน์กลุ่มของทางวัดโดยตรง.,** ข่าวที่เกี่ยวข้อง ,คลิกที่นี่, **
ตร.คลองหลวงเผยเสาเข็มที่ขวางถนนข้างคลองแอน ฝีมือคนวัดธรรมกายแน่นอน เพราะขับรถหลบหนีเข้าทางประตู 5 กองทัพนักข่าวถูกสกัดไม่ให้เข้าไปด้านใน พร้อมมีกองกำลังเคลื่อนที่เร็วของทางวัดตามติดถ่ายรูปในทุกจุดที่สื่อฯ เข้าไป
null
ธัมมชโย,ธรรมกาย,จับ ธัมมชโย,ธรรมกายปิดถนน,ข่าวธรรมกาย
https://www.thairath.co.th/content/809792
แม่ค้าเครื่องสำอาง หลอกสาวลงทุนส่งของเรือนจำ สูญร่วมแสน-เหยื่อเพียบ
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 23 พฤศจิกายน ร.ต.อ.ธวัช หนอสิงหา รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง ได้รับแจ้งจาก น.ส.ปภัสสร เล็กศิริ อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 154/6 ม.1 ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยเอกสารนำมาแจ้งความดำเนินคดีกับ นางสาวชนัญชิดา (บีม) เพชรภู อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 75 หมู่ 4 ตำบลเขวา อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม กรณี นางสาวชนัญชิดา หลอกให้ร่วมลงทุนส่งของไปขายในเรือนจำกลางระยอง,นางสาวประภัสสร เล่าว่าได้รู้จักกับ นางสาวชนัญชิดา ซึ่งขายเครื่องสำอางอยู่ที่ตลาดสตาร์พลาซ่ารู้จัก มาประมาณ 5 ปี ตนเป็นลูกค้าซื้อครีมผลิตภัณฑ์ความสวยงามที่ขายให้กับตนมาตลอด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม เวลา 15.00 น. ขณะที่ตนทำงานอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ได้มีไลน์ของ นางสาวชนัญชิดา ไลน์เข้ามาพร้อมกับบอกว่ามีงานให้ทำโดยจะมีการจัดส่งสินค้าเข้าเรือนจำกลางจังหวัดระยอง ได้ส่งรูปถ่ายรถเรือนจำ เป็นรถส่งของเข้าในเรือนจำ และยังได้รู้จักคนใหญ่คนโตที่อยู่ในเรือนจำ สร้างความเชื่อถือให้ตน โดยจะได้ผลตอบแทน 10-20 เปอร์เซ็นต์ ต่อใบสั่งซื้อในแต่ละครั้งและให้โอนเงินเข้าบัญชีของนางสาวชนิดา,ทั้งนี้ได้ร่วมลงทุนด้วย โดยการโอนยอดเงินไปทั้งหมดจำนวน 11 ครั้ง รวมเป็นเงิน 207,772 บาท และได้ยอดเงินลงทุนกลับคืนมาจำนวน 5 ครั้ง เป็นเงิน 213,317 บาท ยังมียอดที่ยังไม่ได้คืนอีกจำนวน 94,455 บาท ซึ่งได้ติดต่อขอเงินที่เหลือคืนแต่ถูกปฏิเสธตลอดมา ว่ากำลังรอเช็กจากเรือนจำ,เธอกล่าวต่อว่า ต่อมาวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมาได้มีไลน์ของ พ.ต.รัฐกฤษณ์ ใจจริง ไลน์เข้ามาที่ตน ได้แนะนำตัวว่าเป็นผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดระยอง แจ้งตนว่า นางสาวชนัญชิดา ที่ได้ส่งของให้กับสวัสดิการร้านค้าในเรือนจำจริง แต่ขณะนี้ทางเรือนจำได้ยกเลิกสัญญาไปแล้วประมาณ 1 ปี และยังมีผู้เสียหายที่ถูก นางสาวชนัญชิดา ได้หลอกลวงอีกกว่าจำนวน 50 รายเป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ทราบว่า นางสาวชนัญชิดา ได้ถูกจับกุมตัวแล้วเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ได้รับการประกันตัวแล้ว ตนจึงมาแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวมาดำเนินคดีด้วย,ทางด้าน ร.ต.อ.ธวัช หนอสิงหา รองสารวัตร (สอบสวน) ก็ได้สอบปากคำเพิ่มเติมพร้อมรวบรวมเอกสารเพื่อดำเนินการต่อไป.
สาวระยอง ตกเป็นเหยื่อแม่ค้าขายเครื่องสำอาง หลอกร่วมลงทุนส่งของขายในเรือนจำ ภายหลังทราบจาก จนท. เรือนจำว่า ผู้ต้องหาเคยส่งของจริง แต่เลิกสัญญาไปแล้วเป็นปี ซ้ำมีเหยื่ออีก 50 ราย โดนหลอกเหมือนกัน
ข่าว,ทั่วไทย
ส่งของเข้าเรือนจำ,หลอก,ลงทุน,สูญเงิน,ระยอง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1134608
ประกบยิงโจ๋ ม.4ตายสยอง ฉุนขับรถปาดหน้า ตัดไฟที่ขอใช้
เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 3ธ.ค.61 พ.ต.ท.สมยศ สมบัติมาก สว.หน.สภ.หนองตรุด อ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ บริเวณริมถนนภายในหมู่บ้าน ม.5 บ้านสะพานเคียน ต.นาโต๊ะหมิง หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภูริทัศน์ ชัยศร สว.สส.ภ.จว.ตรัง และกำลังชุดสืบสวน ก่อนแจ้งประสานมายัง ตร.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.ตรัง และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ,บริเวณริมถนนข้างทางพบผู้เสียชีวิต 1 ราย (ไม่ทราบชื่อ) ทราบเป็นเด็กนักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนเอกชนดัง จ.ตรัง สภาพนอนตายหงายท้องสวมหมวกกันน็อก เลือดไหลกระเซ็นออกมาทางปากและจมูก สวมเชื้อคอโปโล สีกรมท่า นุ่งกางกางยีนส์ขายาว มีบาดแผลถูกยิงเข้าบริเวณศีรษะและมีแผลบริเวณท้ายทอยเสียชีวิตคาที่ ใกล้กับพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ S สีน้ำเงินคาดดำ ทะเบียน กษท 148 ตรัง ล้มคะแคงอยู่ ตรวจหาหลักฐานในที่เกิดเหตุพบปลอกระสุนปืนลูกซอง ขนาดเบอร์ 12 สีขาว ตกอยู่ 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนเจ็บอีกรายถูกนำส่ รพ.ศูนย์ตรัง ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อภายหลัง คือ นายรัชพล กลับจิตร อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158 ถ.พัทลุง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ถูกยิงเข้าบริเวณแขน 1 นัด ,ขณะที่แนวทางการสืบสวนสอบสวน ตร.ทราบตัวผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุแล้ว กระทั่งได้จัดกำลังไปปิดล้อมขนำภายในสวนยางพารานานกว่า 3 ชั่วโมง รอประเมินสถานการณ์ก่อนเข้าไปเนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืนและมีความมืด ต่อเมื่อตัดสินใจบุกเข้าไปพบเพียงลูกและภรรยานอนอยู่จึงถอนกำลังออกมา ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุได้มารับจ้างกรีดยางและอาศัยในขนำภายในสวนได้ขอต่อพ่วงกระแสไฟฟ้าที่บ้านแม่ของ นายรัชพล ผู้บาดเจ็บ กระทั่งเมื่อตอนกลางวัน ผู้ก่อเหตุได้ขับรถปาดหน้าผู้บาดเจ็บและเขม่นหน้ากัน ช่วงค่ำผู้บาดเจ็บเลยไปดึงสายไฟออก จึงทำให้ผู้ก่อเหตุโกรธแค้นระหว่างที่คนเจ็บและผู้ตายขับรถอยู่ภายในหมู่บ้านจึงขับ จยย.ตามประกบยิงดังกล่าว ส่วนผู้ตายคาดว่าน่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ ตร.จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว. 
แค้นจัด! คนร้ายประกบยิงโจ๋วัย 17 นักเรียน ม.4ดับคาที่ อีกรายบาดเจ็บ คาดสาเหตุปมขัดแย้งขับรถปาดหน้า และตัดกระแสไฟฟ้า ตร.รู้ตัวคนก่อเหตุ นำกลังปิดล้อม 3 ชม.แต่ไร้วี่แววเจอเพียงลูกกับเมีย
ข่าว,อาชญากรรม
ประกบยิง,ขับรถปาดหน้า,ตัดไฟฟ้า,ตรัง,ยิงเด็กม.4,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1435530
สลด นักมวยปล้ำจังโก้ สิ้นใจหลังปะทะ มิสเตริโอ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 22 มี.ค. เกิดอุบัติเหตุสุดช็อกขึ้นในวงการมวยปล้ำ เมื่อ เปโดร อกัวโย จูเนียร์ นักสู้ชื่อดังชาวเม็กซิโก เจ้าของ ฉายา เอล ไฮโจ เดล เปรโร อกัวโย ได้เสียชีวิตคาสังเวียนขณะขึ้นปล้ำกับ เรย์ มิสเตริโอ อดีตดาวดังจากศึก ดับเบิลยูดับเบิลยูอี ในการแข่งขันที่เมือง ติฆัวนา ประเทศเม็กซิโก,เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) อกัวโย จูเนียร์ ในวัย 35 ปี ได้ขึ้นปล้ำในประเภททีมกับ มานิค จากทีเอ็นเอ โดยพบกับทีมของ ไทเกอร์ อูโน จากทีเอ็นเอ และ มิสเตริโอ อดีตซุปเปอร์สตาร์ร่างเล็กจากศึกดับเบิลยูดับเบิลยูอี,และในตอนที่ มิสเตริโอ กระโดดดร็อปคิกใส่ รามิเรซ ให้อีกฝ่ายไปพิงกับเชือกเส้นกลาง เพื่อตั้งต้นใช้ท่าไม้ตาย 619 ก็ได้เกิดความผิดพลาดร้ายแรงขึ้น เมื่อ รามิเรซ โดนเชือกกระแทกอย่างแรงจนหมดสติ และทำให้หลอดลมทางเดินหายใจหยุดทำงาน ก่อนที่จะโดน มิสเตริโอ วิ่งมาจับเชือกแล้วหมุนตัวเตะ แต่ รามิเรซ กลับนั่งคุกเข่านิ่งไร้ปฏิกิริยาตอบสนอง ก่อนที่ร่างจะลงไปกองกับเชือกเส้นสุดท้าย,อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นนักมวยปล้ำ 3 คนที่เหลือก็ยังคงสู้กันต่ออีกสักพัก จน มิสเตริโอ สังเกตเห็นความผิดปกติและได้เข้ามาเช็กอาการของ รามิเรซ ก่อนจะรีบเรียกทีมแพทย์เข้ามาดู แต่ รามิเรซ ก็ไม่มีท่าทีตอบสนอง ทำให้ต้องรีบพาตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ในขณะที่การแข่งขันก็ยังคงดำเนินต่อไป,หลังจากนั้นในช่วง 01.00 น. ของวันเสาร์ที่ผ่านมา ก็ได้มีการประกาศยืนยันว่า อกัวโย จูเนียร์ ได้สิ้นใจแล้วในวัยเพียง 35 ปี ซึ่งทางโรงพยาบาลระบุว่า รามิเรซ ได้เสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บที่กระดูกต้นคอ,จากเหตุการณ์อันน่าสลดดังกล่าว ทำให้สำนักงานอัยการรัฐบาฮากาลิฟอร์เนีย ต้องเข้ามาสอบสวนเรื่องนี้อันเนื่องจากเป็นการทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตโดยประมาท ส่วนทาง บริษัท เดอะ แครช ผู้จัดการแข่งขันรายการนี้ยังไม่ได้ให้ความเห็นแต่อย่างใด.
เกิดเรื่องเศร้าขึ้นในวงการผ้าใบ เมื่อ เปโดร อกัวโย รามิเรซ นักมวยปล้ำชาวเม็กซิโก เสียชีวิตต่อหน้าผู้ชมนับพันคน ขณะที่ขึ้นเวทีแข่งกับ เรย์ มิสเตริโอ อดีตดาวดังจากศึก ดับเบิลยูดับเบิลยูอี
null
มวยปล้ำ,เปโดร อกัวโย รามิเรซ,เรย์ มิสเตริโอ,เม็กซิโก,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,นักมวยปล้ำตาย
https://www.thairath.co.th/content/488402
ราเยวัชนำทัพช้างศึกซ้อม เน้นความสัมพันธ์ในทีม-ฟื้นฟูร่างกาย
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 19 มี.ค. 61 มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย นำลูกทีมประเดิมฝึกซ้อมครั้งแรก ที่สนามอินทรีจันทรสถิตย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 46 ระหว่างวันที่ 22-25 มีนาคม 2561 ภายใต้ปฏิทินฟีฟ่าเดย์,นักเตะช้างศึกเดินทางมารายงานตัวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก่อนที่ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซอร์เบีย จะนำลูกทีมประเดิมฝึกซ้อมต่อทันที นำโดย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตู จากทีมโอเอช ลูเวิน ที่ตามมาสมทบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับ ฟิลิป โรลเลอร์ ที่ถูกเรียกเข้ามาแทน นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม รวมถึงผู้เล่นจากทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตามมาสมทบหมดแล้วเช่นกัน ขาดเพียง 3 ผู้เล่นอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่เพิ่งกลับจากประเทศญี่ปุ่น,ขณะที่การฝึกซ้อมครั้งนี้มีบรรยากาศที่คึกคัก ใช้เวลาประมาณ 90 นาที โดยราเยวัชเน้นไปที่เรื่องความสัมพันธ์ในทีม และการฟื้นฟูสภาพร่างกายเท่านั้น อีกทั้งก่อนการฝึกซ้อม ทางด้าน ผช.รัชด ชมภูนิช รักษาการแทนรองอธิการบดี ฝ่ายพัฒนาเชิงยุทธศาสตร์และสื่อสารองค์กร และ ผศ.น.ท.หญิง ดร.งามวิลัย ผิวเหลือง รักษาการแทนรองอธิการฝ่ายกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้มอบกระเช้าให้กับทีมชาติไทยด้วยตัวเอง เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วย,สำหรับทีมชาติไทย จะพบกับ ทีมชาติกาบอง ในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 46 รอบแรก วันที่ 22 มีนาคม 2561 เวลา 19.30 น. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ถ่ายทอดสด.
มิโลวาน ราเยวัช นำทัพช้างศึกชุดใหญ่ ลงซ้อมครั้งแรกที่สนามอินทรีจันทรสถิตย์ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลุยศึกคิงส์คัพ นัดแรก พบทีมชาติกาบอง 22 มี.ค.นี้
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
มิโลวาน ราเยวัช,ทีมชาติไทย,ช้างศึก,คิงส์คัพ,ฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 46
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1232877
ฉลาดชาย รมิตานนท์ เสียชีวิตแล้ว (2485-2561)
ฉลาดชาย รมิตานนท์ นักวิชาการด้านมานุษยวิทยา และหนึ่งในผู้ก่อตั้งศูนย์สตรีศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 75 ปี รดน้ำศพที่วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่13 ก.พ. 2561 ในเพจ แจ้งข่าวว่า ฉลาดชาย รมิตานนท์ นักวิชาการด้านมานุษยวิทยา และผู้ก่อตั้งศูนย์สตรีศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เสียชีวิตแล้ววันนี้ รวมอายุ 75 ปี โดยจะมีการรดน้ำศพในเวลา 17.00 น. และสวดพระอภิธรรมศพเวลา 19.00 น. ที่ศาลาบุญทวีประสงค์ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จ.เชียงใหม่ โดยทางเจ้าภาพของดรับพวงหรีดฉลาดชาย รมิตานนท์ เกิดเมื่อ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2485 เป็นนักวิชาการด้านมานุษยวิทยาที่มีบทบาทสำคัญคนหนึ่งในภาคเหนือ ทั้งยังเข้าร่วมสนับสนุนการต่อสู้ของชาวบ้านในเรื่องสิทธิในทรัพยากร ที่ดินทำกิน และป่าชุมชนอยู่อย่างสม่ำเสมอนอกจากนี้ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์สตรีศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 ซึ่งต่อมาเปิดเป็นหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาในปี พ.ศ. 2543 โดยปัจจุบันศูนย์สตรีศึกษา อยู่ภายใต้ภาควิชาสตรีศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่โดยผลงานวิชาการที่สำคัญเช่นผีเจ้านาย ตีพิมพ์ครั้งแรกโดย โครงการตำรามหาวิทยาลัย สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม เมื่อปี 2527ป่าไม้สังคมเพื่อการพัฒนาชนบท = Social forestry for rural development ตีพิมพ์โดย โครงการนโยบายสาธารณะ สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย ในปี 2528พัฒนาการศาสตร์มาร์กซิสม์ว่าด้วยสังคมวิทยา (Sociology ใน Marx : The first hundred years) แปลโดย ฉลาดชาย รมิตานนท์ ในปี 2529ระบบความเชื่อและพิธีกรรมกับการรักษาพยาบาลในล้านนา ฉลาดชาย รมิตานนท์ เขียนร่วมกับ อานันท์ กาญจนพันธุ์ ในปี 2532ไท เป็นบรรณาธิการร่วมกับวิระดา สมสวัสดิ์ และ เรณู วิชาศิลป์ ในปี 2541เล่าเรื่องเบื้องต้น สตรีศึกษา สตรีนิยม จัดพิมพ์เมื่อปี 2555 เนื่องในโอกาส หกสิบปี วิระดา สมสวัสดิ์ 23 กรกฎาคม 2555นอกจากนี้ฉลาดชายยังเขียนบทความเพื่อแสดงทัศนะเผยแพร่ในเว็บไซต์ประชาไทในโอกาสต่างๆ ด้วย และสำหรับบทความที่ฉลาดชายแสดงทัศนะทางสังคมในด้านต่างๆ ยังถูกรวบรวมไว้ในเว็บไซต์ของศูนย์สตรีศึกษา ภาควิชาสตรีศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่อีกด้วย
ฉลาดชาย รมิตานนท์ นักวิชาการด้านมานุษยวิทยา และหนึ่งในผู้ก่อตั้งศูนย์สตรีศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 75 ปี รดน้ำศพที่วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ฉลาดชาย รมิตานนท์ (ที่มา:
สังคม
obituary,ฉลาดชาย รมิตานนท์,มานุษยวิทยา,เชียงใหม่
https://prachatai.com/journal/2018/02/75409
ระงับทุกรายการ แชมป์ เข้าขอโทษเอกอัครราชทูตตุรกี ปมพาดพิงประธานาธิบดี
วันที่ 27 ก.ค. 61 สถานเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทย เปิดเผยภาพขณะที่ นายอัชฌา สุวรรณปากแพรก ผู้บริหารฝ่ายข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 28 พร้อมด้วย แชมป์ พีรพล เอื้ออารียกูล เข้าพบเจ้าหน้าที่สถานทูตตุรกี เพื่อขอโทษกับ นางเอฟเรน ดาเดเลน อักกุน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทย โดยมีการระบุข้อความว่า,ผู้แทนจากช่อง 28 ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่สถานทูตเพื่อขอโทษที่นำเสนอข่าวเมื่อวานนี้ ที่ผู้สื่อข่าวได้นำเสนอข่าวอย่างไร้เหตุผลและไม่สามารถยอมรับได้ ซึ่งกล่าวถึงประธานาธิบดีแห่งตุรกีและประเทศตุรกี,ขณะที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก Ch3Thailand ได้โพสต์คลิปและระบุข้อความว่า สถานีโทรทัศน์ช่อง 28 ออกประกาศขออภัยเป็นอย่างยิ่งต่อความผิดพลาดในการดำเนินรายการแชมป์ ที่มีการใช้คำพูดไม่เหมาะสม และเสียใจกับเหตุการณ์ที่พาดพิงต่อภาพลักษณ์ของประธานาธิบดีตุรกี โดยสถานีจะรับผิดชอบอย่างจริงจัง ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำอีก,ทางผู้บริหารขอน้อมรับต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมทั้งแสดงความเสียใจและขออภัยอย่างยิ่งต่อประธานาธิบดีรวมถึงประชาชนชาวตุรกี โดย,ทางสถานีได้ลงโทษด้วยการระงับรายการของ นายพีรพล ทันทีทุกรายการ โดยห้ามปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับรายการของสถานีอย่างไม่มีกำหนด,.,T.C. Bangkok Büyükelçiliği - Embassy of the Republic of Turkey in Bangkok,Ch3Thailand
แชมป์ พีรพล พร้อมผู้บริหาร เข้าขอโทษเอกอัครราชทูตตุรกี กรณีวิพากษ์วิจารณ์พาดพิงประธานาธิบดี ด้านต้นสังกัดสั่งระงับทุกรายการทันที ห้ามปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับรายการของสถานีไม่มีกำหนด
ข่าว,สังคม
แชมป์ พีรพล,แชมป์ ช่อง 3,ประธานาธิบดีตุรกี,สถานทูตตุรกี,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1343035
ยูสตาเกียว-อัคห์เมตอฟ ประกบคู่ก่อนเจอกัน 26 ม.ค.นี้ คู่เอกมวยกรง ONE
เจเฮ ยูสตาเกียว และ ไครัต อัคห์เมตอฟ ประกบคู่ในงานแถลงข่าว  ศึก ONE : Global Superheroes เตรียมพร้อมระเบิดศึก 26 ม.ค.นี้ที่มะนิลา,22 มกราคม 2018  มะนิลา, ฟิลิปปินส์ วัน แชมเปียนชิพ (ONE Championship) บริษัทผู้ผลิตสื่อรายการกีฬาที่ใหญ่ที่สุดระดับโลกของเอเชีย ได้จัดงานแถลงข่าวศึก ONE : Global Superheroes เมื่อวันที่ 22 มกราคม ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม, City of Dreams มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์,สำหรับคู่เอกของเวทีนี้จะเป็นการพบกันระหว่างขวัญใจเจ้าถิ่น เจเฮ ยูสตาเกียว (Geje Eustaquio) พบ ไครัต อัคห์เมตอฟ (Kairat Akhmetov) ยอดฝีมือจากคาซัคสถาน ซึ่งไฟต์นี้มีตั๋วผู้ท้าชิงแชมป์โลกรุ่นฟลายเวตเป็นเดิมพัน โดยจะระเบิดความมันกันในคืนวันศุกร์ที่ 26 มกราคมนี้ ที่ Mall of Asia Arena มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์,ภายในงานนอกจากคู่เอกแล้ว ยังมี ชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้ก่อตั้ง และประธาน วัน แชมเปียนชิพ, เว่ย ซู (Wei Soo) ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ Global Citizen และ เควิน เบนนิ่ง (Kevin Benning) ผู้บริหารของ City of Dreams มะนิลา พร้อม 2 คู่รอง โจชัว พาซิโอ (Joshua Pacio) ดวลกับ หลาน หมิง เฉียง (Lan Ming Qiang) และ เอริค เคลลี่ (Eric Kelly) พบ ราฟาเอล นูเนส (Rafael Nunes) ร่วมแถลงด้วย,ชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธาน และซีอีโอ วัน แชมเปียนชิพ ผมรู้สึกเป็นเกียรติทุกครั้งที่ได้กลับมามะนิลาอีกครั้ง เพราะประเทศฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศที่เห็นคุณค่าของศิลปะการป้องกันตัว และนี่เป็นสาเหตุที่จัดการแข่งขันที่ฟิลิปปินส์อยู่เรื่อยๆ เพื่อให้แฟนๆ ได้ชมกัน และในปี 2018 นี้ เราได้จัดการแข่งขันที่นี่มากถึง 4 ครั้งด้วยกัน ซึ่งการแข่งขันครั้งแรกในปีนี้ และเวทีแรกในมะนิลาของเราประจำปีนี้ จะทำให้บรรดาผู้ชมลุ้นจนนั่งไม่ติด กับการแข่งขันศิลปะการป้องกันตัวที่แท้จริงและน่าตื่นตาตื่นใจมากกว่าเดิม,เว่ย ซู (Wei Soo) ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ Global Citizen กล่าวว่า เรามีความตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ ONE Championship ในการถ่ายทอดสดครั้งนี้ สำหรับ ONE Championship เข้าถึงผู้คนหนุ่มสาวนับล้าน และเราอยากจะร่วมกันเชิญชวนพวกเขาเหล่านั้นมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันที่ดุเดือดระดับโลก นับตั้งแต่ที่เราได้เปิดตัว Global Citizen ในปี 2012 มีผู้ชมมากกว่า 13 ล้านคน และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะผลักดันและขยายการแข่งขันนี้ไปทั่วโลกผ่านความร่วมมือครั้งนี้ ,เจเฮ ยูสตาเกียว ขวัญใจชาวฟิลิปปินส์วัย 28 ปี กล่าวว่า ผมรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจที่ได้เป็นคู่เอกของ ONE Championship เวทีแรกของปีนี้ที่มะนิลา มันจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับปีที่น่าอัศจรรย์ของผม คู่แข่งของผมไม่ง่ายเลย ไครัต อักห์เมตอฟ เป็นถึงอดีตแชมป์โลกรุ่นนี้ เป็นหนึ่งในคู่ต่อสู้ที่เก่งที่สุดที่ผมจะได้ปะทะฝีมือ แต่ผมรู้ว่าต้องเอาชนะเขาอย่างไรบนสังเวียนกรง ถ้าผมชนะเขาในครั้งนี้ ผมจะได้ขึ้นสังเวียนชิงชัยกับ อาเดรียนโน่ โมราเอส และผมเชื่อว่าสักวันหนึ่งผมคงได้เป็นแชมป์โลกรุ่นฟลายเวตอย่างแน่นอน,ด้าน ไครัต อักห์เมตอฟ ยอดฝีมือวัย 30 ปี กล่าวว่า การเสียแชมป์เป็นอะไรที่ทำใจยากสำหรับผม ผมต้องการมากกว่าแค่การทวงเข็มขัดแชมป์คืน แต่การเจอกันครั้งล่าสุดกับ เจเฮ ยูสตาเกียว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ตอนนี้ผมพร้อมทิ้งทุกสิ่งไว้ข้างหลัง ชัยชนะที่สวยงามพร้อมโอกาสได้ทวงเข็มขัดแชมป์คืนเป็นสิ่งที่ผมต้องการมากที่สุด ผมตั้งตารอที่จะขึ้นสังเวียนกับ อาเดรียนโน่ โมราเอส เป็นครั้งที่สาม ผมจะพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าผมเก่งที่สุดในรุ่นฟลายเวต และแน่นอนว่าก่อนจะไปถึงฝันนั้น ผมจะต้องเอาชนะเจเฮให้ได้เสียก่อนในวันศุกร์นี้,คู่รองของรายการในรุ่นสตรอว์เวต ขวัญใจเจ้าถิ่นอีกคน โจชัว พาซิโอ กล่าวว่า ตอนเริ่มต้นอาชีพ ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ผมใช้เวลา 2-3 ปีก่อนก้าวขึ้นมาแข่งในเวทีใหญ่ขนาดนี้ ผมผลักดันตัวเองให้เก่งขึ้นด้วยการซ้อมอย่างหนัก ขอบคุณสำหรับโอกาสที่มอบให้ ผมจะแสดงฝีมือให้ชาวโลกเห็นในครั้งนี้,ด้าน หลาน หมิง เฉียง นักกีฬาชาวจีน คู่แข่งของพาซิโอ กล่าวว่า เป็นเกียรติมากสำหรับการเปิดตัวในศึก ONE Championship ครั้งนี้ และรู้สึกว่าเก่งพอที่จะแข่งขันในระดับสูง โจชัว พาซิโอ ยังหนุ่มแน่นและกระหายชัยชนะเหมือนผม ผมเชื่อว่าการแข่งขันนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะได้ทดสอบฝีมือตัวเอง มันคงน่าตื่นเต้นไม่น้อยถ้าผมจัดการเขาได้ต่อหน้าแฟนๆ ของเขา ผมมองไปข้างหน้าถึงการแจ้งเกิดที่มะนิลาแล้ว,อีกหนึ่งคู่รองของรายการ เอริค เคลลี่ จอมเก๋าเจ้าถิ่น ที่จะดวลกับราฟาเอล นูเนส ชาวบราซิล กล่าวว่า ผมต้องยอมรับว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่ในที่ที่ควรจะเป็นบนเส้นทางอาชีพ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ผมต้องซ้อมหนักกว่าเดิม เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าผมยังอยู่แถวหน้าในรุ่นเฟเธอร์เวตของ ONE Championship ผมซ้อมหนักตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อให้แฟนๆ ได้เห็นฟอร์มที่ดี ผมเพิ่มโปรแกรมซ้อมไปอีกเพราะผมได้เรียนรู้จากข้อผิดพลาดในการแข่งที่ผ่านๆ มา,ราฟาเอล นูเนส นักกีฬาบราซิล วัย 30 ปี กล่าวว่า ผมไม่ได้ลงแข่งขันมาพักใหญ่แล้ว แต่ผมยังรู้สึกตลอดว่าถ้าได้แข่งก็ยังอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเอง ผมรักการแข่งขัน การที่ร้างเวทีไปนานแล้วได้ประลองกับ เอริก เคลลี่ ถือเป็นไฟต์ที่ดีในการคืนสนาม ผมเห็นภาพตัวเองโจมตีเขาลงไปกองกับพื้นแล้วปิดบัญชี เอริก เคลลี่ เป็นนักกีฬาที่ยอดเยี่ยม แต่ผมรู้สึกเหนือกว่าเขาทุกด้านจริงๆ,สำหรับ เจเฮ ยูสตาเกียว ชาวฟิลิปปินส์ ถือเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ดีที่สุดคนนึงของเอเชีย และได้รับการยอมรับอย่างสูงในทักษะด้านวูซู ตลอด 7 ปีบนเส้นทางอาชีพเขาได้รับชัยชนะหลายครั้งด้วยทักษะอันยอดเยี่ยม จนได้รับโอกาสพบกับ ไครัต อักห์เมตอฟ เพื่อชิงตั๋วไปชิงแชมป์โลกรุ่นฟลายเวตในศึก ONE : Global Superheroes ครั้งนี้,ด้าน ไครัต อักห์เมตอฟ อดีตแชมป์โลกรุ่นฟลายเวตของ ONE ถือเป็นนักกีฬาประสบการณ์สูงของวงการอีกคน ด้วยสถิติสุดโหด ชนะ 24 พ่ายแค่ครั้งเดียว เมื่อครั้งที่แพ้คะแนน อาเดรียนโน่ โมราเอส จนเสียเข็มขัดแชมป์โลกช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว,อักห์เมตอฟเชี่ยวชาญด้านมวยปล้ำและมีพลังโจมตีรุนแรง สำหรับไฟต์ล่าสุดใน ONE Championship เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว เจ้าตัวก็พบกับ ยูสตาเกียว นี่เอง และเป็นฝ่ายชนะคะแนนไปได้ ดังนั้นนี่จึงเป็นการรีแมตช์พร้อมโอกาสไปชิงเข็มขัดแชมป์โลกคืนมาของเจ้าตัวนั่นเอง,โจชัว พาซิโอ วัย 22 ปี ดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดของฟิลิปปินส์ เขาถนัดด้านวูซูและมีอาวุธหลากหลาย จากชัยชนะ 10 ไฟต์ มีเพียงครั้งเดียวที่ชนะคะแนน ที่เหลือเป็น 4 น็อกเอาต์ และ 5 ซับมิสชั่น ไฟต์ล่าสุดของเจ้าตัวคือการชนะน็อกรุ่นพี่เพื่อนร่วมชาติ รอย โดลิเกวซ ในยกที่สอง ตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะยกระดับตัวเองอีกขั้นด้วยการพบ หลาน หมิง เฉียง,ด้าน หลาน หมิง เฉียง นักกีฬาวัย 24 ปีจากจีน ถือเป็นน้องใหม่ของ ONE Championship ในรุ่นสตรอว์เวต มีดีกรีแชมป์แซนด้าของแดนมังกรมาแล้ว เขามีพรสวรรค์ด้านการโจมตี และตอนนี้พร้อมแล้วที่จะแจ้งเกิดบนเวที ONE ด้วยการดวลกับพาซิโอ,จอมแกร่งในรุ่นเฟเธอร์เวต เอริค เคลลี่ ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ดีที่สุดของฟิลิปปินส์ ถนัดในกีฬาวูซูและมีเทคนิคการออกอาวุธแพรวพราวขั้นสูง จากชัยชนะ 12 ครั้ง เป็นการซับมิสชั่นคู่แข่งถึง 9 ไฟต์ และ 1 น็อกเอาต์ กับชนะคะแนน 2 ไฟต์ โดยการชนะที่น่าประทับใจที่สุดของเจ้าตัวคือการซับมิสชั่น ร็อบ ลิซิต้า เมื่อปี 2014,ด้านคู่แข่ง ราฟาเอล นูเนส นักกีฬาจากเซา เปาโล ประเทศบราซิล เจ้าของสถิติชนะ 10 แพ้ 1 เขาเป็นถึงอดีตแชมป์พรีเมียร์ เอฟซี รุ่นไลต์เวต สร้างชื่อในบ้านเกิดด้วยฟอร์มบนเวทีที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดย 10 ไฟต์แรกในอาชีพเขาชนะรวด เป็นเจ้าของบราซิเลียน ยูยิตสู สายน้ำตาล ซึ่งการพบกับ เอริก เคลลี่ ครั้งนี้น่าติดตามชมเป็นอย่างยิ่ง
เจเฮ ยูสตาเกียว และ ไครัต อัคห์เมตอฟ ประกบคู่ในงานแถลงข่าว ศึก ONE : Global Superheroes เตรียมพร้อมระเบิดศึก 26 ม.ค.นี้ที่มะนิลา
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
เจเฮ ยูสตาเกียว,ไครัต อัคห์เมตอฟ,ONE Championship,วัน แชมเปี้ยนชิพ,ศึกสังเวียนเดือด
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1184475
หนูจะเป็นคนดี ลูกชายดีใจเจอหน้าแม่ในคุก ก้มกราบเท้า กอดกันผ่านกรงขัง
วันที่ 8 ก.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฤชวีพัฒน์ หรือ ช่างกอล์ฟ จิราวัฒน์มงคล เจ้าของแฟนเพจ ,นางฟ้าซาลอน, ได้เปิดเผยเรื่องราวซาบซึ้งใจของ ผู้ต้องขังหญิงรายหนึ่ง อายุ 51 ปี ที่หวังเพียงได้รูปถ่ายของลูกชายมาติดตัวเพราะต้องอยู่ในคุกอีกหลายปี ตนจึงสัญญาว่าจะถ่ายรูปลูกชายมาให้ จึงเดินทางไปพบกับเด็กชายวัย 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 อาศัยอยู่กับพ่อตาบอด ที่ต้องออกไปทำงานรับจ้างเพื่อหาเงินส่งลูกเรียน,จากในตอนแรกที่คิดเพียงแค่ถ่ายรูปแล้วปริ้นต์ไปให้แม่ของเขา ก็ได้มีความคิดใหม่ว่าเราน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้ ตนจึงตัดสินใจไปขอความอนุเคราะห์จากทางเรือนจำเพื่อพาเด็กชายไปหาแม่ที่เรือนจำ เมื่อเด็กชายได้เจอแม่ก็ได้ก้มกราบเท้า และโผเข้ากอดแม่ผ่านลูกกรงเรือนจำ,,เป็นภาพที่ทำให้ทั้งเจ้าหน้าที่ และผู้ต้องขังที่อยู่บริเวณนั้น อดกลั้นนำ้ตาไม่ไหว แม้กระทั่งตัวฉันเองก็น้ำตาซึมไปด้วย พวกเขาได้รับอนุญาตให้ได้พูดคุยกันบริเวณด้านหน้าแดน 3 ประมาณ 15 นาที ก็ต้องแยกจากกัน แม่ก็ต้องกลับเข้าไปในแดนขัง 3 ส่วนลูกก็ต้องกลับไปเรียนหนังสือ, และก่อนจากลูกชายได้บอกกับแม่ว่า ,แม่ครับหนูรักแม่ หนูจะเป็นเด็กดี และตั้งใจเรียน หนูรอแม่นะครับ,,อย่างไรก็ตาม เด็กคนนี้ครอบครัวยากจนมาก หากท่านใดต้องการช่วยเหลือ ด้านทุนการศึกษาสามารถติดต่อได้ที่ คุณครูอรัญญา สุขเจริญ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสำนักทอง จ.ระยอง โทร 038-634-371 หรือที่ เรือนจำกลางระยอง เป็นต้น.,นางฟ้าซาลอน
ภาพสะเทือนใจ! เพจ นางฟ้าซาลอน สานฝันให้แม่ลูกได้เจอกัน พาเด็กชายวัย 14 ปี ก้มกราบแม่ในคุก กอดกันผ่านลูกกรง ลั่นคำสัญญาหนูจะเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน
ข่าว,สังคม
นางฟ้าซาลอน,กราบแม่,แม่ติดคุก,กราบเท้าแม่,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1371911
ศาลฎีกาสั่งคุก 5 โจรใต้เบอร์ซาตู ก่อการร้าย ฆ่าคน ข่มขู่แบ่งแยกดินแดน
4 จำนวน 33 ปี ส่วนจำเลย 2, 3 จำนวน 13 ปี,เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 ธ.ค.2558 ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีก่อการร้าย ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายมุสตอปา เจ๊ะยะ, นายอิลยาส หรืออิสยาส มันหวัง, นายอุสมาน ปะชี, นายยูไล โสะปนแอ และนายมะอาซี บุญพล ทั้งหมดเป็นสมาชิกขบวนการเบอร์ซาตู ในกลุ่มบีอาร์เอ็น คอร์ดิเนต ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1,คดีนี้อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างเดือน พ.ย. 2529 - ธ.ค.2547 จำเลยทั้งหมดร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายและก่อการร้ายในรูปแบบต่างๆ ในเขตพื้นที่ จ.ปัตตานี เพื่อแบ่งแยกดินแดน โดยสร้างความปั่นป่วนให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน มุ่งหมายเพื่อบังคับ ขู่เข็ญรัฐบาลไทย ให้ยินยอมแบ่งแยกดินแดน จ.ปัตตานี จ.ยะลา จ.นราธิวาส และบางส่วนของ จ.สงขลา ออกจากราชอาณาจักร เพื่อสถาปนาเป็นรัฐอิสระปกครองตนเอง เรียกว่า รัฐปัตตานี หรือรัฐปัตตานีดารุสสาลาม,โดยเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2547 ทั้ง 5 คน ร่วมกันวางแผนยิง ด.ต.โมหามัด เบญญากาจ ถึงแก่ความตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เหตุเกิดที่ ต.บานา ต.สะบารัง ต.ตะลุโบะ อ.เมืองปัตตานี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือและซิมการ์ดที่ใช้ติดต่อสื่อสารไว้เป็นของกลางได้,ชั้นจับกุมจำเลยที่ 1-4 ให้การรับสารภาพ แต่ปฏิเสธสู้คดีในชั้นศาลเช่นเดียวกับจำเลยที่ 5 ที่ต่อสู้คดีมาโดยตลอด คดีนี้ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นใดที่ยืนยันบ่งชี้ให้ชัดเจนว่าใครเป็นคนร้ายยิงผู้ตาย มีเพียงคำรับสารภาพของจำเลยทั้ง 5 ที่เขียนด้วยลายมือ แม้โจทก์จะมี นายชาลี กระแสร์ ทนายความ ยืนยันว่าจำเลยให้การด้วยความสมัครใจไม่มีการข่มขู่ก็ตาม,แต่ในชั้นพิจารณา จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธอ้างว่า รับสารภาพชั้นสอบสวนโดยไม่สมัครใจ และเมื่อพิจารณาระยะเวลาในช่วงการสอบสวนจำเลยหลายชั่วโมง และเป็นเวลากลางคืน ย่อมทำให้จำเลยเกิดความเครียด และไม่อยู่ในวิสัยของปุถุชนจะให้การได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งเจ้าพนักงานไม่สามารถตรวจยึดอาวุธปืน หรือมีประจักษ์พยานเห็นคนร้ายลงมือยิงผู้ตาย หรือมีพยานหลักฐาน มั่นคง มีน้ำหนักน่าเชื่อถือว่า พวกจำเลยกระทำผิด พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนยกฟ้องตามศาลชั้นต้น อัยการโจทก์ยื่นขออนุญาตฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้งหมดตามความผิดด้วย,ศาลฎีกา ประชุมตรวจสำนวนปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่าพยานโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนาย เบิกความรับฟังข้อเท็จจริงว่า ได้ร่วมกันตรวจสอบข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือและซิมการ์ดที่ยึดได้จากเหตุการณ์ระเบิดรถจักรยานยนต์ใน จ.ปัตตานี และเหตุการณ์ยิงเจ้าหน้าที่เสียชีวิต เมื่อปี 2547 จึงทราบว่า พวกจำเลยใช้โทรศัพท์ติดต่อสื่อสารกัน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามพฤติกรรมพวกจำเลยนานเดือนเศษ ประกอบกับคำให้การรับสารภาพของจำเลยที่ 1 และ 4 ในบันทึกข้อเท็จจริง ว่า มีหน้าที่คอยเฝ้าดู ผู้ตายซึ่งทำงานอยู่ศาลากลางจังหวัดปัตตานี เพื่อรายงานให้ผู้กระทำความผิดรายอื่นๆ ทราบ โดยจำเลยที่ 5 เป็นผู้ชักชวนให้มาร่วมกระทำผิด หลังยิงผู้ตาย จำเลยที่ 5 ยังโทรศัพท์มาแจ้งว่าเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว โดยคำรับสารภาพของจำเลยเป็นไปด้วยความสมัครใจ ไม่ได้ถูกบังคับ เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวมีญาติและทนายความมาสังเกตการณ์อยู่ด้วย พยานหลักฐานทั้งหมดจึงรับฟังได้ มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ,ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนให้ยกฟ้องพวกจำเลยนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น พิพากษากลับว่า จำเลยที่ 1, 4 และ 5 มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ฆ่าผู้อื่น และสนับสนุนการก่อการร้ายให้จำคุกจำเลยทั้ง 3 ไว้ตลอดชีวิต คำให้การของจำเลยที่ 1 และ 4 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุกจำเลยที่ 1 และ 4 ไว้คนละ 33 ปี 4 เดือน ส่วนจำเลยที่ 5 คงจำคุกไว้ตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ 2 และ 3 มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการก่อการร้าย จำคุกคนละ 20 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 2 และ 3 ไว้คนละ 13 ปี 4 เดือน ริบของกลาง,นายกิจจา ฮาลีอิสเฮาะ ทนายความจากชมรมนักกฎหมายมุสลิม เปิดเผยว่า ถือว่าคดีถึงที่สุดแล้ว ก็คงจะกลับไปประชุมกับทีมทนายความ ว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ขอตั้งข้อสังเกตว่าในคดีอุ้ม นายสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม ที่หายตัวไปนั้น หลักฐานในคดีเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์ติดต่อ ไม่ค่อยมีน้ำหนักให้รับฟังในชั้นศาล ซึ่งต่างไปจากคดีนี้ แต่ก็เคารพคำพิพากษาของศาล.
ศาลฎีกา พิพากษาคดี 5 คนร้ายขบวนการเบอร์ซาตู ก่อการร้าย ฆ่าคนตาย และข่มขู่หวังแบ่งแยกดินแดนเป็น รัฐปัตตานี สั่งจำคุกจำเลย 5 คน ตลอดชีวิต จำเลย 1, 4 จำนวน 33 ปี ส่วนจำเลย 2, 3 จำนวน 13 ปี
null
โจรใต้,พิพากษาโจรใต้,จำคุกโจรใต้,เบอร์ซาตู,แบ่งแยกดินแดน,ก่อการร้าย,รัฐปัตตานี,ฆ่าคนตาย,พิพากษาจำคุก,ศาลฎีกา,บีอาร์เอ็น คอร์ดิเนต,กทม.,ข่าว,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/555909
สุดซอย สะท้อนอะไร?
ผู้เขียนขอออกตัวก่อนว่า มิปรารถนาพรบ.นิรโทษกรรมสุดซอยด้วยเหตุผลคือไม่ต้องการล้างผิดให้กับฆาตกร แต่จากการเป็นคนนอกที่เฝ้ามองและเฝ้าเชียร์ขบวนการเสื้อแดงอยู่ห่างๆและเอาใจช่วยเสมอรวมทั้งเป็นคนหนึ่งที่เลือกพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งที่ผ่านมา จะดีจะชั่วด้วยเหตุผลเดียวคือ ไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร เป็นเหตุผลเดียวที่ยังคงเลือกเพื่อไทยแม้จะกล้ำกลืนฝืนทนกับพฤติกรรมห่วยๆ ทัศนะแย่ๆของบุคลากรทั้งหลายทั้งแหล่ที่ออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองที่ไม่ค่อยจะได้เรื่อง หรือหลงทิศผิดทางกันก็บ่อยผู้เขียนถือว่า การเข้าร่วมเคลื่อนไหวกับพรรคการเมือง ทักษิณ และคนจำนวนมากมีจุดร่วมเดียวกันคือต้านอำนาจนอกระบบและผลพวงของการรัฐประหาร และคิดแทนใครหลายๆคนที่ออกไปสู้รบ บาดเจ็บ ล้มตาย รวมทั้งถูกจับกุมคุมขังว่าเขาและเธอเหล่านั้นมีจุดร่วมทางความคิดเช่นเดียวกัน และเป็นการตาย บาดเจ็บ เพื่อให้เกิดรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพื่อให้เกิดอำนาจรัฐที่เราบอกใครต่อใครในเวลานั้นได้เต็มปากเต็มคำว่า เป็นรัฐบาลที่เราเลือกมากับมือและได้รับชัยชนะท่วมท้นให้เป็นรัฐบาล ถึงขนาดพูดกันว่าเลือกกี่ครั้งกี่ครั้งก็ยังได้เป็นรัฐบาลหลังได้เป็นรัฐบาลแล้ว การเดินทางของคนเสื้อแดงกับรัฐบาลต่างประนีประนอมและประคองซึ่งกันและกันบางครั้งทุลักทุเล บางคราวพูดไม่ออก ประชาชนจำนวนมากรู้และเข้าใจ อำนาจโครงสร้างส่วนบนของสังคมไทย เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึง แต่มีกฎหมายคอยปิดกั้น และไล่ล่ากลุ่มคนที่เห็นต่าง ความเป็นรัฐบาลในโครงสร้างเก่า จึงเลือกที่จะไม่แตะบ่วงที่รัดคอผู้คน อาจเพราะกลัวว่าบ่วงจะมารัดคอตัวเองมาจนถึงเวลานี้ มี พรบ.นิรโทษกรรมสุดซอยเกิดขึ้น ด้วยความเป็นกองเชียร์ดีเด่นมาตลอดจึงแอบคิดเอาว่า เฮ้ยสงสัยจะโยนหินถามทาง หยั่งกระแสเช็คเรตติ้งหรือเปล่านะ แหย่แล้วค่อยถอย ซึ่งเป็นทริคที่ใช้มาตลอด สู้ๆ ถอยๆ ถอยๆ สู้ๆ แต่ล่วงเลยมาจนวันนี้ที่รัฐสภากำลังอภิปรายพรบ.กันอย่างดุเดือด ผู้เขียนหวั่นๆว่าสงสัยงานนี้คนอยู่แดนไกลสั่งลุยเองซะล่ะมั้ง จนอดรู้สึกหดหู่ใจแทนพี่น้องเสื้อแดงจำนวนหนึ่งที่เป็นกาลิเลโอเดินทางไปไกลแล้ว ที่ว่าคนอยู่แดนไกลและบรรดาพลพรรคเลือกที่จะแลกเลือดเนื้อของเสื้อแดง เกี๊ยเซี๊ยะกับอำนาจนอกระบบเพื่อที่จะให้เรื่องแล้วๆกันไป และตัวเองจะได้กลับบ้าน ถ้าเหตุการณ์จะจบลงแบบนั้น ในฐานะกองเชียร์ดีเด่นเสื้อแดง จึงอยากแสดงความห่วงใยและฝากการแลกเปลี่ยนต่อไปดังนี้ปรากฎการณ์สุดซอยสำหรับผู้เขียนสะท้อนให้เห็นว่า1.โครงสร้างการเมืองไทยมันไม่เปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่นัก รัฐบาลที่ว่าเราคิดว่าเป็นรัฐบาลของประชาชนจำนวนกว่า 15 ล้านเสียงที่เลือกเข้าไปพูดให้ถึงที่สุด ก็ขี้ขลาดเกินกว่าจะเป็นผู้นำเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอำนาจในแง่ของการขยายพื้นที่สิทธิ เสรีภาพทางความคิด การแสดงออกทางการเมือง การเห็นต่าง รวมทั้งไม่สามารถปกป้องผู้คนที่ออกมาต่อสู้เพื่อให้พวกตนได้เป็นรัฐบาลได้2.เมื่อโครงสร้างการเมือง และอำนาจทางการเมืองไม่เปลี่ยน ปรากฏการณ์สุดซอยจึงเกิดขึ้นและเป็นผลลัพธ์ของการตกลงกันทางอำนาจของชนชั้นนำ สู้กันแล้วเมื่อไม่มีฝ่ายใดชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เรื่องที่จะเอาผิดกันก็ให้จบๆเรื่องกันไป ผู้เขียนคิดว่า เราอาจจะได้เห็นใครบางคนกลับบ้านและกลับมาอย่างเป็นผู้เรียบร้อยนั่งพับเพียบหมอบกราบกันเลยทีเดียวเชียว3.ผู้เขียนคิดว่า คงมีหลายคนที่รู้สึกว่าการต่อสู้ที่ผ่านมาของเรามันสูญเปล่า ขมขื่น ผิดหวัง ผู้เขียนอยากให้กำลังใจว่ามันไม่ได้สูญเปล่าเลย การต่อสู้ที่ผ่านมามีคุณูปการมากในสังคมไทย เรามีกาลิเลโอมากขึ้น และเกิดการตระหนักว่าศักดิ์ศรีของคนจน คนชนบท คนหาเช้ากินค่ำมันมีค่าและทัดเทียมกับพวกผู้ลากมากดี คนชั้นกลางที่รังเกียจนักการเมือง และมีคุณปการอื่นๆอีกมากมายที่เรารู้และนึกถึงได้เองในใจ เช่นเดียวกันกับเรารู้และจดจำได้ว่าใครคือฆาตกรท้ายสุด ผู้เขียนไม่ได้โน้มเอียงไปในทางที่เอาปรากฏการณ์นี้มาก่นด่านักการเมือง แต่อยากให้ตระหนักและระมัดระวังในการต้องสัมพันธ์กับบุคคลากรเหล่านั้น คำว่า ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร เป็นคำพูดที่จริงเสมอในแวดวงคนที่ทำงานและคุ้นเคยกับนักการเมือง ผู้เขียนยังคงยืนยันว่า ถึงแม้นักการเมืองแบบไทยๆจะเป็นสปีชี่ส์พิเศษที่พลิกไปพลิกมาได้ตามความผันแปรของอำนาจ และการอยู่รอด แต่เราก็ยังต้องยืนยันในการมีอยู่ของนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ที่เราสามารถก่นด่า วิจารณ์ รวมทั้งเลือกได้ ถอดถอนได้ และเมื่อตระหนักถึงความแสบของพวกเขาเหล่านั้นในปรากฏการณ์สุดซอยครั้งนี้ พึงระลึกด้วยว่า อำนาจนอกระบบ แสบกว่าหลายต่อหลายเท่านักไม่ว่าสุดซอยจะนำมาซึ่งการสุดทางของทักษิณ เพื่อไทย และเสื้อแดง หรือไม่ก็ตาม ผู้เขียนขอเสนออย่างอ่อนน้อมต่อพี่น้องเสื้อแดงว่า ใช้เวลานี้มาทบทวนและจัดวางความสัมพันธ์ และกำหนดการเคลื่อนไหวไปข้างหน้าในเชิงให้บทเรียนต่อกันและกันบ้างจะดีไหม และท้ายที่สุดอีกครั้ง ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อญาติของผู้เสียชีวิต ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ผลของการต่อสู้ได้ถูกจารึกไว้ในการรับรู้ของผู้คนแล้ว การถูกเอามาฉวยใช้เกิดจากความสามานย์ของคนที่ใจหยาบช้าเท่านั้น
ผู้เขียนขอออกตัวก่อนว่า มิปรารถนาพรบ.นิรโทษกรรมสุดซอยด้วยเหตุผลคือไม่ต้องการล้างผิดให้กับฆาตกร
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
กองเชียร์เสื้อแดงคนหนึ่ง,คนเสื้อแดง,ทักษิณ ชินวัตร,นิรโทษกรรม,สุดซอย,เหตุการณ์สลายการชุมนุม
https://prachatai.com/journal/2013/10/49511
บิ๊กป้อม ลั่นฉีก รธน.ไม่ได้ จวก อนาคตใหม่ หวังหาเสียง
เมื่อวันที่ 30 พ.ค.61 ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประกาศจุดยืนพรรคจะฉีกรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 ว่า การพูดดังกล่าวเป็นการหาเสียง เป็นนโยบายพรรคเขา เพื่อโปรโมตให้ประชาชนสนใจ เพราะเขาอยากทำงานการเมือง แต่เรื่องนี้ตนยืนยันว่าการฉีกรัฐธรรมนูญไม่สามารถทำได้ จะไปฉีกได้อย่างไร เรื่องนี้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการอยู่,ขณะที่แนวคิดนิรโทษกรรมคดีการเมืองนั้น เขาก็พูดไป เรื่องนี้ต้องให้ กกต.ดูว่าผิด หรือถูกอย่างไร ทั้งนี้ตนคิดว่าการที่เขาพูดแบบนี้เป็นการหาเสียงล่วงหน้า,เมื่อถามว่า การประกาศนโยบายแบบนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่า จะเช็กบิล คสช.หลังจากลงจากอำนาจ พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า คสช.ทำอะไรผิด คสช.ไม่ได้ทำอะไรผิดสักเรื่อง ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะทำอะไร ท่านนายกฯสั่งให้ตรวจสอบทุกเรื่อง ทั้งการอนุมัติงบประมาณ หรือการทำงานต่างๆ ทุกเรื่อง ทุกอย่างจะคิดเองทำเองไม่ได้ เพราะต้องคำนึงถึงกฎหมาย และยืนยันว่า คสช.ทำทุกอย่างตามกฎหมาย ,เมื่อถามถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้วีซ่าประเทศอังกฤษ 10 ปี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องไปถามกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งก็ต้องไปดู น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้วีซ่าในฐานะอะไร
ประวิตร ลั่นฉีก รธน.ไม่ได้ ตอกหน้าพรรคอนาคตใหม่ หาเสียงล่วงหน้า ย้ำ คสช.ทำทุกอย่างตามกฎหมาย
ข่าว,การเมือง
ประวิตร วงษ์สุวรรณ,รัฐธรรมนูญ,แก้ รธน.,หาเสียง,พรรคการเมือง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1294927
หลังมาตรการลดหย่อนโทษ สตม. ไต้หวันสิ้นสุด พบแรงงานไทยผิดกฎหมายมอบตัว 726 คน
คน เป็นคนไทย 726 คนRadio Taiwan International รายงานเมื่อช่วงเดือน ก.ค. 2562 ว่าเพื่อลดจำนวนแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายซึ่งมีจำนวนประมาณ 50000 คน และชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวแต่อยู่เลยกำหนดโดยหางานทำอย่างผิดกฎหมายอีกประมาณ 40000 คน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไต้หวัน ได้จัดโครงการพิเศษให้การลดหย่อนโทษสำหรับผู้เข้ารายงานตั้งตั้งแต่ 1 ม.ค. จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2562 ในระหว่างโครงการ แรงงานต่างชาติที่หลบหนีนายจ้างและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่เลยกำหนดวีซ่าที่เข้ารายงานตัว จะไม่ถูกกักกันและจะได้รับการลดหย่อนโทษปรับจากสูงสุด 10000 เหรียญไต้หวันเหลือ 2000 เหรียญไต้หวัน และลดระยะเวลาถูกจำกัดการเดินทางเข้าไต้หวันด้วยโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแถลงว่า ช่วงระหว่างโครงการพิเศษดังกล่าว มีชาวต่างชาติพำนักอาศัยในไต้หวันอย่างผิดกฎหมายถูกส่งกลับทั้งหมด 25967 คน ในจำนวนนี้ เป็นแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไต้หวันในฐานะนักท่องเที่ยวแต่อยู่เลยกำหนดวีซ่าเข้ามอบตัว 17195 คน เป็นคนไทย 726 คน นอกจากนี้ยังตรวจพบและจับกุมชาวต่างชาติผิดกฎหมาย 8772 คน เป็นคนไทย 302 คน และจับกุมนายจ้างที่ว่าจ้างชาวต่างชาติเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 1023 คน นายหน้าเถื่อน 192 คน ผลงานการจับกุมชาวต่างชาติผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น 68% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนผลงานการจับกุมนายจ้างและนายหน้าผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น 59% และ 46% ตามลำดับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเปิดเผยข้อมูลพบว่า นอกจากเริ่มมีการตรวจและกวาดล้างชาวต่างชาติผิดกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2555 แล้ว ยังมีการตรวจจับการว่าจ้างและการจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมๆ กันไปด้วย โดยสามารถจับกุมนายจ้างที่ว่าจ้างชาวต่างชาติเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 13140 คน นายหน้าเถื่อน 2408 คนนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2562 นี้เป็นต้นไป สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะยังตรวจเข้มต่อไป และจะหารือกับกระทรวงแรงงานเพื่อเพิ่มโทษนายจ้างที่ว่าจ้างและบริษัทจัดหางานที่จัดหางานชาวต่างชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะเดียวกันะอัตราค่าปรับและโทษสำหรับชาวต่างชาติที่ทำผิดกฎหมายจะกลับมาเหมือนเดิม กล่าวคือจะต้องเสียค่าปรับตามกำหนดเวลาที่หลบหนีหรืออยู่เกินกำหนดดังนี้ไม่เกิน 10 วัน เสียค่าปรับ 2000 เหรียญไต้หวัน11 วันขึ้นไป ไม่เกิน 30 วัน เสียค่าปรับ 4000 เหรียญไต้หวัน31 วันขึ้นไป ไม่เกิน 60 วัน เสียค่าปรับ 6000 เหรียญไต้หวัน61 วันขึ้นไป ไม่เกิน 90 วัน เสียค่าปรับ 8000 เหรียญไต้หวัน91 วันขึ้นไป เสียค่าปรับ 10000 เหรียญไต้หวันนอกจากนี้ แรงงานต่างชาติที่หลบหนีนายจ้างหรือชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไต้หวันและอยู่เลยกำหนดวีซ่า เดิมจะถูกจำกัดห้ามเดินทางเข้าสู่ไต้หวัน 3-5 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2562 นี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะถูกตรวจพบหรือเข้ามอบงานตัว จะถูกจำกัดสิทธิ์การเดินทางเข้าไต้หวันเป็นเวลานานถึง 8 ปีจากสถิติใหม่ล่าสุดของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ณ สิ้นเดือน พ.ค. 2562 ในไต้หวันมีแรงงานต่างชาติทั้งหมด 705595 คนโดยในจำนวนนี้ หลบหนีนายจ้างกลายเป็นแรงงานผิดกฎหมายและยังไม่ถูกตรวจพบจำนวนทั้งหมด 48449 คน ในจำนวนนี้ แรงงานอินโดนีเซียมีจำนวนหลบหนีมากที่สุด 22822 คน ครองอัตราส่วน 47% แรงงานเวียดนามอยู่อันดับสอง มีจำนวน 22266 คน ครองสัดส่วน 46% อันดับ 3 ได้แก่คนงานฟิลิปปินส์ มีจำนวน 2576 คน คิดเป็นสัดส่วน 5.3% สำหรับแรงงานไทยที่หลบหนีและยังไม่ถูกตรวจพบมีจำนวน 784 คน คิดเป็นสัดส่วน 1.6% ในจำนวนนี้เป็นแรงงานไทยเพศชาย 652 คน เพศหญิง 132 คน
เพื่อลดจำนวนแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายในไต้หวันสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไต้หวัน ได้จัดโครงการพิเศษให้การลดหย่อนโทษสำหรับผู้เข้ารายงานตั้งตั้งแต่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย. 2562 พบ มีชาวต่างชาติเข้ามอบตัว 17195
แรงงาน,ต่างประเทศ
ไต้หวัน,แรงงานไทยในต่างประเทศ,แรงงานไทยในไต้หวัน
https://prachatai.com/journal/2019/08/83688
หนุ่มถูกกรีดหน้าในปาร์ตี้คริสต์มาสยังสาหัสผู้ต้องหาปัดให้การชั้นสืบสวน
จากกรณีโลกโซเชียลได้เผยแพร่ภาพนายฟิว (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดบริเวณใบหน้า และตามลำตัวกว่า 10 แผล จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในงานปาร์ตี้ Bad Christmas ในสตูดิโอย่านซอยลาดพร้าว 80 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 24 ธ.ค.59 ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ทราบตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายกมลภู แดงพานิชยการ อายุ 24 ปี ก่อนจะเชิญตัวมารับทราบข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้ (,หนุ่มหน้าตาดีถูกกรีดหน้า-ตัวเหวอะ ในปาร์ตี้คริสต์มาส คาดเหตุหึงหวง,),ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 ม.ค.2560 ที่ รพ.นนทเวช นายอาร์ม (นามสมมติ) เพื่อน นายฟิว (นามสมมติ) และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ อาการของน้องฟิวแพทย์ผู้ให้การรักษาระบุว่า ได้ผ่าตัดต่อเส้นประสาทที่ใบหน้าจำนวน 2 เส้น และต่อท่อน้ำลาย ต่อเส้นเอ็นข้อมือข้างขวา โดยอาจจะต้องมีการผ่าตัดอีกครั้งหนึ่ง และยังคงต้องให้อาหารผ่านเส้นเลือด ทั้งนี้ แพทย์ลงความเห็นว่า ผู้บาดเจ็บยังมีอาการสาหัสและต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ,นายอาร์ม กล่าวต่อว่า ภายหลังเกิดเหตุได้มีการติดต่อมาจากทางด้านผู้ก่อเหตุ ที่เป็นพ่อของผู้ที่ลงมือทำร้ายมาติดต่อขอเยี่ยมและจะขอเจรจาพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ทางนายฟิวยังไม่พร้อมที่จะพูดคุยใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนทางด้านคดีความวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เข้ามาสอบปากคำนายฟิวเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะทำการส่งสำนวนให้ทางผู้บังคับบัญชาพิจารณาว่า จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่ ,ด้าน พ.ต.ท.เชาวฤทธิ์ เงินฉลาด รอง ผกก.(สอบสวน) สน.วังทองหลาง กล่าวว่า ขณะนี้ ต้องตรวจสอบสำนวนคดีก่อนว่าจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะนี้ ทางผู้ต้องหายังไม่ยอมให้การใดๆ และจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน.
คืบหน้ากรีดหน้าหนุ่มหล่อ ล่าสุดอาการยังสาหัสต้องดูแลใกล้ชิด ขณะที่ในส่วนคดี ตร.วังทองหลางระบุ ผู้ต้องหาชายวัย 24 ปียังไม่ยอมให้การใดๆ จะขอให้การในชั้นศาล แต่สอบปากคำผู้เสียหายแล้ว ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
null
กรีดหน้า,กรีดหน้าเหวอะ,ทำร้ายร่างกาย,สน.วังทองหลาง,หึงหวง
https://www.thairath.co.th/content/827293
เล่นละครสดหน้า สตช. กระตุ้นสังคมตระหนักปัญหาความรุนแรง หลัง จ่านิว ถูกรุมตี คดีไม่คืบ
เหตุมีคนดูพร้อมท่องประโยคสุดท้ายของละครที่ว่า เราคือเมล็ดพันธุ์ เหยียบเราให้จมดิน เราจะงอกขึ้นมาใหม่ ได้6 ก.ค.2562จากเหตุการณ์ทำร้ายร่างกาย สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักกิจกรรมทางการเมือง กลุ่ม Start up people จนบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ณ ปากซอยรามอินทรา 109 กรุงเทพฯ โดยที่เหตุการณ์ความรุนแรงครั้งนี้ นับว่าเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่กลุ่มบุคคลนิรนามได้กระทำความรุนแรงต่อเขา และที่ผ่านมาได้มีนักกิจกรรมทางการเมือง ที่ส่งเสริมประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนถูกทำร้ายร่างกายมาไม่น้อยกว่า 16 ครั้ง แต่ทว่าเจ้าหน้าที่รัฐแทบทั้งหมดไม่สามารถดำเนินการจับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้เลยนั้นวานนี้ (5 ก.ค.62) เวลาหลังเคารพธงชาติ 18.00 น. ที่บริเวณสกายวอล์ค หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) คณะละครมาร็องดูและประชาชนประมาณ 8 คน จัดกิจกรรมแสดงละครสดกระตุ้นเตือนสังคมจากกรณีความรุนแรงต่อนักกิจกรรมดังกล่าว ท่ามกลางผู้คนที่เดินไปมาบริเวณนั้น โดยนักแสดงทั้ง 8 คน แต่งกายในชุดเสื้อเชิ้ตขาว กางเกงดำ คล้ายสิรวิชญ์ พร้อมพูดข้อความที่เป็นการแสดงความเห็นในเชิงซ้ำเติมต่อกรณีที่สิรวิชญ์ถูกทำร้าย ก่อนทิ้งท้ายด้วยประโยคว่าเราคือเมล็ดพันธุ์ เหยียบเราให้จมดิน เราจะงอกขึ้นมาใหม่ ก่อนที่ทุกคนจะเดินหายไปกลมกลืนกับผู้คนที่เดินทางบริเวณนั้น ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการแสดงสำหรับความเป็นมาและเหตุผลที่ต้องออกมาจัดกิจกรรมในครั้งนี้นั้น ศรชัย ฉัตรวิริยะชัยนักการละครเป็นผู้ก่อตั้งคณะละครมาร็องดูกล่าวว่า เริ่มแรกเดิมที่อยากจะทำการแสดงเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการแสดงความคิดเห็นบนโลกออนไลน์ในกรณีจ่านิวที่ถูกออกมาในเชิงลบและรุนแรง ซึ่งโดยส่วนตัวรู้สึกสะกิดใจกับเรื่องนี้ว่าทำไมคนบางกลุ่มถึงมีความคิดเห็นกับคนที่โดนทำร้ายร่างกายซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า คนที่โดนทำร้ายจะตายหรือเปล่า ไม่ใช่เพียงกรณีจ่านิวแต่รวมถึงกรณีของเอกชัย หงส์กังวาน ว่าทำไมถึงต้องโดนเผารถ หรือโดนทำร้ายร่างกายถึง 8 ครั้ง มันเป็นไปได้อย่างไร แล้วทำไมคนในสังคม และ รัฐบาล ยังไม่ทำอะไร เราจึงรู้สึกว่ามันไม่มีความปลอดภัย เป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ที่แสดงว่า คุณอย่ามาหือ อย่ามาสงสัย ไม่งั้นคุณจะโดน ดังนั้นจึงรู้สึกว่าบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้เอื้อให้สังคมเกิดปัญญาในการพูดคุย หรือ การรับฟัง ไม่เกิดแน่นอนถ้าเป็นเช่นนี้ ก็เลยคิดว่าอยากจะทำการแสดง ได้รับการติดต่อจากนักกิจกรรมคนอื่นๆ ให้มาดูแลในส่วนออกแบบการแสดงว่าจะทำอย่างไรให้น่าสนใจผู้ก่อตั้งคณะละครมาร็องดู กล่าวต่อว่า เมื่อเราอยากจะทำการแสดงจึงโทรไปหาคนในกลุ่มว่าอยากทำ Performance ให้ออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งโดยปกติแล้วกลุ่มมาร็องดูทำงานหลายแบบแต่ถ้าเป็น Performance ที่ทำอยู่นี้ไม่ได้ทำเท่าไหร่ ถ้าทำก็จะเป็นประเด็นทางการเมืองที่เรารู้สึกว่าละครอื่นๆ ของเรามันยังใช้ไม่ได้ ต้องเป็น Performance อีกแบบหนึ่งไปเลยคือให้คนดูมีส่วนร่วมศรชัย กล่าวด้วยว่า กิจกรรมครั้งนี้ไม่ใช่คนในคณะละครมาร็องดูทั้งหมด เรียกได้ว่า มาร็องดูอาจจะมาดูในส่วนของทิศทางทางศิลปะของงานชิ้นนี้ แต่คนที่มามีส่วนร่วมก็มีหลากหลาย อย่างคนที่เป็นนักศึกษาก็มี แต่ก็ยังไม่ได้ตั้งชื่ออะไรกันจริงจังทิศทางของการเคลื่อนไหวต่อจากนี้นั้น ศรชัย กล่าวว่า ต้องบอกก่อนว่าจริงๆที่ทำงานชิ้นนี้คือไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพียงแต่เราต้องการสะท้อนเสียงของคนที่พูด แสดงความเห็นในเฟซบุ๊คหรือในโซเชียลมีเดียที่เขาแสดงความเห็นกันแบบรุนแรง ซึ่งมันเป็นเพียงแค่ตัวหนังสือ ดังนั้นแนวคิดก็คือว่าเราจะเอาเสียงเหล่านั้น ออกมาทำให้เป็นภาพและการเคลื่อนไหวเพื่อที่จะให้รู้ว่าคำพวกนี้คุณรับได้ไหม หากพูดกับลูกหรือคนที่คุณรัก คุณจะรับได้ไหม อยากให้เขาเกิดการปะทะตรงนี้เพื่อให้เกิดการทบทวน เพราะถ้ามันอยู่ในจอมันไม่เห็นหรอก แต่เราทำให้มันกลายเป็นร่างกาย เป็นเสียง เป็นผัสสะ ให้เขารับรู้ด้วยเซนส์ของเขาทั้งหมดแล้วให้ตัดสินใจเองว่ามันรุนแรงหรือมันไม่รุนแรงผู้ก่อตั้งคณะละครมาร็องดู กล่าวสำหรับการประเมินผลจากการจัดแสดงครั้งนี้ ศรชัย กล่าวว่าส่วนตัวชอบมากที่ผู้ชมได้มีส่วนร่วมในปฏิบัติการครั้งนี้ เรียกว่าเกินความคาดหมาย ซึ่งบางคนก็เดินผ่านไปแต่ว่าหลายๆ คนเขาหยุดดูและหยุดฟัง เมื่อสักครู่มีคนมาบอกว่าในตอนที่เราพูดประโยคสุดท้ายว่า เราคือเมล็ดพันธุ์ เหยียบเราให้จมดิน เราจะงอกขึ้นมาใหม่ มีเด็กสองคนที่ดูอยู่ตลอดแล้วท่องประโยคนี้เดินออกไปหลังจากจบการแสดง ทำให้รู้สึกว่าสาส์นตัวนี้มันได้เข้าไปทำงานในใจคน ซึ่งการเคลื่อนไหวในครั้งต่อๆ ไปก็ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น แต่ในตอนนี้เราก็ได้ความเป็นเพื่อนกับผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวในตรงนี้และเราก็จะสานต่อไปเป็นเรื่องอื่นๆเช่นเดียวกับ อ้อมทิพย์ เกิดผลานันท์ หนึ่งในผู้เข้าร่วมแสดงละครนี้ กล่าวถึงเหตุผลที่ร่วมว่าปกติทำกิจกรรมทางการเมืองอยู่ แล้วก็เราทำละครอยู่ด้วยเหมือนกันแล้วก็พอได้ยินว่ามีกิจกรรมแบบ Performance Art ตนก็เลยสนใจเพราะเราไม่เคยทำกิจกรรม Performance Art ด้วยตัวเองมาก่อน แล้วได้ยินชื่อคณะละครมาร็องดู มานานแล้ว เห็นว่าเขาทำเกี่ยวกับการเมืองก็เลยอยากมาลองดู พอได้มาลองก็รู้สึกว่าแปลกดี มันดูมีอะไรทำในการประท้วงในการทำกิจกรรมทางการเมืองในพื้นที่สาธารณะ ปกติแค่ชูป้าย แต่อันนี้มันค่อนข้างมี อะไรด้วยจุดประสงค์แบบนี้ แปลกดีอ้อมทิพย์ กล่าวเกี่ยวกับความรุนแรงทางการเมืองว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแทบจะบ่อยมาก ยิ่งช่วงหลังๆ ซึ่งมันไม่ควรมีใครต้องถูกทำร้ายกันเพราะความเห็นต่างทางการเมือง และมันไม่สามารถการันตีความปลอดภัยได้ด้วยรัฐแห่งนี้ มันจำเป็นมากเพราะสุดท้ายแล้วถ้ามันไม่มีการทำอะไร ต่อไปมันอาจเป็นลูกคุณหลานคุณเองก็ได้ มันไม่มีใครรู้ มันไม่มีระบบรัฐเข้ามาตรวจสอบสำหรับคณะละครมาร็องดูเป็นคณะละครเพื่อการเคลื่อนไหวทางสังคมคำว่า มาร็องดู มาจาก มาลองดู ซึ่งหมายถึงละครเวทีรูปแบบใหม่ที่เชื้อเชิญให้ผู้ชม ลองขบคิด แก้ไขปัญหาที่นำเสนอในละคร หรือแม้กระทั่งลุกขึ้นมา ลองเล่น กับนักแสดงของเราในละครซึ่งหยิบยกปัญหาซึ่งเกิดขึ้นจริงในสังคมไทยของเรามา ลองแก้ไข เพื่อที่ผู้ชมจะได้เกิดความตระหนักรู้ว่าความคิดของเขาสามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริงมากน้อยแค่ไหน พูดอีกอย่างก็คือ ละครของเราจะกระตุ้นให้เกิด นักทำผู้มีความคิด มากกว่า นักคิดผู้ทำไม่เป็น ที่คิดอยู่บนหอคอยแต่ไม่เคยลงมือแก้ไขปัญหาและเผชิญอุปสรรคในชีวิตจริง พวกเราเชื่อว่าสังคมไทยยังขาดคนแบบนี้อีกมาก(ดูเฟซบุ๊คแฟนเพจ)
คณะละครมาร็องดู และประชาชนเล่นละครสดบนสกายวอล์คหน้า สตช. กระตุ้นสังคมตระหนักถึงปัญหาความรุนแรง ผ่านการอ่านข้อความที่เย้ยหยัน จ่านิว หลังถูกทำร้าย ผู้จัดปลื้มสำเร็จเกินคาด
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
มัลติมีเดีย,คณะละครมาร็องดู,การทำร้ายร่างกาย,ความรุนแรงทางการเมือง,สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์,อ้อมทิพย์ เกิดผลานันท์,ศรชัย ฉัตรวิริยะชัย,จ่านิว
https://prachatai.com/journal/2019/07/83303
HAPPY NEW YEAR ดารายกทัพส่งสุขปีใหม่ 2017 แด่แฟนไทยรัฐ
สวัสดีปีใหม่แด่แฟนๆ ชาวไทยรัฐออนไลน์ทุกๆ ท่าน เทศกาลส่งความสุขอย่างนี้ บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จึงพาเหล่าดาราชื่อดัง มาส่งความสุขร่วมอวยพรปีใหม่ให้กับผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์ทุกๆ ท่าน ตลอดช่วงเวลาแห่งความสุข เฉลิมฉลองต้อนรับปีไก่ทอง 2560 ไม่ว่าจะเป็น หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ, สิงโต ปราชญา เรืองโรจน์ นักแสดงนำจากซีรีส์เรื่อง SOTUS The Series พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง, พัดพัด รัตน์ฟ้า ไชยชื่นจิตต์, พรีม รณิดา เตชสิทธิ์ และ ไอซ์ อามีนา กูล  ,หนูนา หนึ่ง ธิดา โสภณ นางเอกคนสวยจากภาพยนตร์เรื่อง พรจากฟ้า ได้มาอวยพรปีใหม่แด่แฟนๆ ชาวไทยรัฐว่า ,ขอให้มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต มีเงินทองไหลมาเทมา และมีความสุขตลอดปี ,ด้านนักแสดงหนุ่มคลื่นลูกใหม่ จากซีรีส์เรื่อง SOTUS The Series พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง สิงโต ปราชญา เรืองโรจน์ ก็ขอใช้โอกาสนี้อวยพรแฟนๆ ,ขอให้พบเจอแต่สิ่งดีๆ ทั้งตลอดปีและตลอดไป,สาว พัดพัด รัตน์ฟ้า ไชยชื่นจิตต์ ก็ได้ฝากคำอวยพรมาให้แด่แฟนๆ ชาวไทยรัฐออนไลน์ว่า ,ขอให้เป็นปีที่ดีสำหรับทุกคน คิดอะไรก็สมความปรารถนาทุกประการ เริ่มต้นใหม่และทำอะไรใหม่ๆ นะคะ สวัสดีปีใหม่ค่ะ,นางเอกสาว พรีม รณิดา เตชสิทธิ์ แม้ตัวอยู่ไกล แต่ก็ได้ส่งใจและคำอวยพรมาฝากแฟนๆ ทุกคนว่า ,ขออวยพรให้ทุกๆ คนมีความสุขมากๆ มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา และมีแต่ความเจริญๆ ยิ่งขึ้นไปค่ะ,ไอซ์ อามีนา กูล ก็ขอส่งสุขปีใหม่ 2017 แด่แฟนๆ ไทยรัฐออนไลน์ทุกคนว่า ,ปีใหม่นี้ขอให้ทุกคนมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ขึ้นปีใหม่แล้วขอให้ทุกคนยิ้มเบิกบานหัวใจ ทำอะไรก็ขอให้สำเร็จทุกๆ อย่างนะคะ
หนูนา-สิงโต-พัดพัด-พรีม-ไอซ์ ส่งตรงคำอวยพรจากใจให้แฟนๆ ไทยรัฐ ต้อนรับปีใหม่ 2560
null
หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ,สิงโต ปราชญา เรืองโรจน์,พัดพัด รัตน์ฟ้า ไชยชื่นจิตต์,พรีม รณิดา เตชสิทธิ์,ไอซ์ อามีนา กูล
https://www.thairath.co.th/content/825841
ป.โทซึมเศร้า รมควันฆ่าตัว
อีกรายอจ.เลิกแฟน จุดเตาอั้งโล่ช่วยทัน,สาวปริญญาโทป่วยเป็นโรคซึมเศร้ารมควันฆ่าตัวตายคารถปิกอัพ จุดไฟในเตาอั้งโล่ปิดประตูจอดรถทางเข้าร้านอาหารของลุง พอมาดูพบกลายเป็นศพแล้ว อีกรายครูหนุ่มเครียดแฟนสาวตีจากตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยจุดไฟรมควันในห้องพัก โชคดีเพื่อนข้างห้องได้กลิ่นควันไฟรีบแจ้งตำรวจมาช่วยไว้ได้ทันเลยรอดตายฉิวเฉียด,สาวปริญญาโทป่วยเป็นโรคซึมเศร้ารมควันฆ่าตัวตายคารถปิกอัพรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 8 ส.ค. ร.ต.อ.กฤษณะ คำกังวาฬ รอง สว. (สอบสวน) สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี รับแจ้งจากนายกรกฤช ทองประหยัด อายุ 65 ปี เจ้าของสวนอาหาร ครัวไทรงาม 2 ตั้งอยู่ หมู่ 1 ต.บ้านงิ้ว อ.สามโคก ว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบหลานสาวนอนเสียชีวิตภายในรถปิกอัพบริเวณทางเข้าสวนอาหาร หลังรับแจ้งรีบรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.สมเกียรติ สีมาคุปต์ ผกก. ชุดสืบสวน อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูและแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม,ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าประตูทางเข้าสวนอาหาร ครัวไทรงาม 2 พบรถปิกอัพโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีขาว หมายเลขทะเบียน กย 8808 พระนครศรีอยุธยา ในรถพบศพหญิงนอนบนเบาะคนขับที่ปรับเอนนอนลงไปโดยมีผ้าห่มวางอยู่เหนือศีรษะ บริเวณพื้นวางเท้าฝั่งคนขับมีกุญแจรถตกอยู่ ส่วนที่พื้นวางเท้าเบาะหน้าข้างคนขับมีเตาอั้งโล่วางอยู่ในเตามีเศษถ่านและขี้เถ้าจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน,สอบถามนายกรกฤช เปิดเผยว่าผู้ตายเป็นหลานชื่อ น.ส.โศรยา หรือพีร์ จริตงาม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/1 ต.เทศบาลสาย 10 อ.ขลุง จ.จันทบุรี เป็นลูกของน้องสาว ก่อนหน้านั้นเคยทำงานเป็นเซลส์ขายรถ ภายหลังลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัวพร้อมกับเรียนปริญญาโทที่มหาลัยแห่งหนึ่งควบคู่ไปด้วย ผู้ตายจะไปมาหาสู่ที่บ้านตนแต่ไม่บ่อยนัก ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ส.ค. น้องสาวได้ก๊อปปี้ข้อความไลน์ของผู้ตายส่งมาให้ดูเขียนว่า เดือนหน้าพีร์ไปบวชชีนะ พีร์ตอบไม่ได้ว่านานเท่าไหร่ ไม่ต้องแปลกใจนะค่ะ ถ้าติดต่อไม่ได้ ถ้าออกปฏิบัติธรรมเมื่อไหร่จะติดต่อกลับนะค่ะ เหนื่อยๆท้อๆ อยากอยู่เงียบๆ สักพักไปคนเดียว ไม่ต้องห่วงนะค่ะ,นายกรกฤชกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังทราบจากน้องสาวด้วยว่า ผู้ตายมีอาการซึมเศร้า ต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เป็นประจำ ช่วงเช้าก่อนพบศพ กำลังจะขับรถออกไปทำธุระ ระหว่างนั้นนายสมยศ ป้องป้อม อายุ 60 ปี คนดูแลร้านมาบอกว่าเห็นรถหลานสาวตนจอดอยู่ ตนให้ไปเรียกแต่นายสมยศบอกว่าเขานอนหลับ รู้สึกเอะใจและผิดสังเกต เลยเดินมาดูที่รถพบมีเตาอั้งโล่และกลิ่นควัน รีบเขย่าตัวหลานพบว่าเสียชีวิตแล้วจึงรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว เบื้องต้นคาดสาเหตุมาจากปัญหาส่วนตัวและจากเหตุที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เจ้าหน้าที่นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง,อีกรายเมื่อเวลา 10.30 น. วันเดียวกัน ร.ต.อ.ณัฏฐพล อุดน้อย รอง สว. (สอบสวน) สภ.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี พร้อมมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและหน่วยแพทย์กู้ชีพ รพ.ปทุมธานี ไปตรวจสอบเหตุคนรมควันหวังฆ่าตัวตายในห้องพักเลขที่ 28 ชั้น 4 อาคาร 8 หมู่บ้านเอื้ออาทรคูบางหลวง ต.คูบางหลวง พบประตูห้องถูกล็อกด้านในจึงพังประตูเข้าไป แต่ภายในห้องยังมีห้องนอนที่ปิดล็อกประตูอีกชั้นหนึ่งจึงพังเข้าไปอีก พบชายนอนหมดสติทราบชื่อนายศักย์วริษฐ์ แก้วล้อมกาย อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/28 หมู่ 5 ต.คูบางหลวง ในห้องพบเตาถ่านอั้งโล่ที่ไฟเริ่มดับมอดลงและพบยานอนหลับตกเกลื่อนพื้นห้องจึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและรีบนำตัวนายศักย์วริษฐ์ส่ง รพ.ปทุมธานี ให้แพทย์รักษาจนพ้นขีดอันตรายแล้ว,จากการสอบปากคำญาติทราบว่า นายศักย์วริษฐ์ มีอาชีพเป็นอาจารย์สอนอยู่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ภายหลังเริ่มมีอาการเครียดและซึมเศร้า เนื่องจากเลิกรากับแฟนสาวมาได้ประมาณ 2 เดือน อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ นายศักย์วริษฐ์เครียดจนก่อเหตุจะฆ่าตัวตายโดยการจุดไฟในเตาอั้งโล่ในห้องพัก แต่โชคดีที่มีเพื่อนข้างห้องและญาติได้กลิ่นควันไฟออกมาจากห้องตะโกนเรียกไม่ยอมเปิดประตูเลยแจ้งตำรวจมาช่วยไว้ทัน
สาวปริญญาโทป่วยเป็นโรคซึมเศร้ารมควันฆ่าตัวตายคารถปิกอัพ จุดไฟในเตาอั้งโล่ปิดประตูจอดรถทางเข้าร้านอาหารของลุง พอมาดูพบกลายเป็นศพแล้ว
ข่าว,ทั่วไทย
สาวปริญญาโท,โรคซึมเศร้า,ฆ่าตัวตาย,รมควันฆ่าตัวตาย,รถปิกอัพ,ปทุมธานี,ข่าวหน้า1
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1633773
บุกทลายบ่อนไพ่สเตอร์คารีสอร์ทดังเมืองอุบลฯ
เมื่อวันที่ 19 เม.ย.58  ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา กองกำลังรักษา ความสงบเรียบร้อย จังหวัดอุบลราชธานี นำโดย พ.อ.ธนศักดิ์ มิตรภานนท์ ผู้บังคับการ กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ สนธิกำลังตำรวจอำนวยการโดย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ แสงจันทร์ ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี พ.ต.อ.สถาพร เอมโอษฐ์ ผกก.สส.ภ.จ.อุบลราชธานี สั่งการให้ พ.ต.ท.ทศพร เส็งเรียบ สว.กก.สส.ภ.จ.อุบลราชธานี พ.ต.ท.สุพจน์ จงอุตสาห์ รอง ผกก. สภ.เมืองอุบลราชธานี พ.ต.ท.บวรศักดิ์ คำรังษี สว.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหารกว่า 30 นาย เข้าปิดล้อม แพรวพันธ์รีสอร์ท ถ.พนม ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี บุกเข้าทลายบ่อนการ พนัน ไพ่เสเตอร์ ชื่อดัง สามารถจับกุมนักพนัน 16 ราย ชาย 3 คน หญิง 13 คน พร้อมของกลาง ไพ่ 3 สำหรับ เงินสดอีก จำนวนหนึ่ง สมุดบัญชีผู้เล่นอีก 4 เล่ม,ด้าน พ.ท.สุรกิจ เปิดเผยว่าจากการสอบสวนทางการข่าวทราบว่า รีสอร์ทดังกล่าวได้มี นักพนันหญิง-ชาย ลักลอบเล่นการพนัน เร่งสนธิกำลังกับตำรวจชุดสืบสวนเข้าดำเนินการปิดล้อมจับกุมจนได้ของกลางและผู้ต้องหาดังกล่าว,จากการแยกสอบสวนนักพนันบางรายรับสารภาพเข้ามาเล่นไพ่สเตอร์จริง ขณะบางรายให้การปฏิเสธ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดอาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้ง จนท.คุมตัวนักพนันนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานีดำเนินต่อไป
ทหาร-ตำรวจสนธิกำลังบุกทลายบ่อนการพนันไพ่ ลอบเปิดในรีสอร์ทดัง รวบ16 เซียนพนันชาย-หญิง พร้อมของกลาง
ข่าว,ทั่วไทย
ทหาร-ตำรวจสนธิกำลัง,บุกทลาย,บ่อนพนันไพ่,รีสอร์ทดัง,เซียนพนัน,กองกำลังรักษา ความสงบเรียบร้อย จังหวัดอุบลราชธานี,แพรวพันธ์รีสอร์ท,เมืองอุบลราชธานี
https://www.thairath.co.th/news/local/493754
ไทยพีบีเอส คว้า 3 รางวัลโทรทัศน์ทองคำปี 2560
ณเดชน์ คูกิมิยะ กล่าวขอบคุณชื่อตัวละครอย่างเภตรา และนางเอกของเรื่องกับทีมงานเบื้องหลังละครเล่ห์ลับสลับร่าง ที่ทำให้ณเดชน์ได้สวมบทผู้หญิงในร่างผู้ชาย จนชนะใจกรรมการ คว้ารางวัลดารานำชายดีเด่น ครั้งที่ 2 จากเวทีโทรทัศน์ทองคำ ปี 2560 เสมือนกำลังใจบนเส้นทางการแสดง 8 ปีของพระเอกดัง ขณะที่คู่ขวัญอย่างญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ ก็คว้ารางวัลดารานำหญิงดีเด่นจากเรื่องคลื่นชีวิต ซึ่งตามบุคลิกตัวละครต้องแสดงอารมณ์แตกต่างแข็งนอกอ่อนใน จนนางเอกสาวนิยามว่าเป็นอีกบทบาทที่รักที่สุดส่วนรางวัลดาราสนับสนุนชายดีเด่นเป็นของหลุยส์ สก็อต จากเรื่องเพลิงบุญ ซึ่งละครเรื่องนี้ยังคว้ารางวัลบทละครโทรทัศน์ดีเด่นอีกด้วย ฝ่ายรางวัลดาราสนับสนุนหญิงดีเด่น เป็นของเปรี้ยว ทัศนียา จากละครเรื่องเพลิงพระนาง ที่นับเป็นรางวัลแรกในชีวิตการแสดงและแม้เรตติ้งหน้าจอไม่แรงเท่าฟีดแบคออนไลน์ แต่ท้ายที่สุด รากนครา ก็คว้ารางวัลประเภทละครไปถึง 3 รางวัล ได้แก่องค์ประกอบศิลป์ดีเด่น ผู้กำกับดีเด่น และละครดีเด่นแห่งปี 2560 ซึ่งเป็นกำลังใจของคนเบื้องหน้าและเบื้องหลังขณะเดียวกัน เรื่องราวของคนโยเดียที่ถูกกวาดต้อนไปหลังสงคราม เหลือร่องรอยในแผ่นดินเมียนมา ชวนคนดูตั้งคำถามและหาคำตอบไปพร้อมกัน เป็นโจทย์ใหญ่ของการทำงานเล่าเรื่องทางประวัติศาสตร์ ซึ่งที่ผ่านมายังถูกพูดถึงผ่านรายการโทรทัศน์ไม่มากนัก ด้วยความมุ่งมั่นส่งเสริมความรู้และสร้างทัศนคติที่ดีต่อกัน ทำให้รายการโยเดียที่คิด(ไม่)ถึง ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้รับรางวัลรายการส่งเสริมความรู้ทั่วไปดีเด่น สอดคล้องกับแนวทางนำเสนอรายการที่เปิดพื้นที่เนื้อหาหลากหลาย จนได้รับอีก 2 รางวัลสำคัญ คือรางวัลสถานีส่งเสริมความรู้และศิลปวัฒนธรรมดีเด่น และรางวัลสถานีส่งเสริมรายการเด็ก เยาวชน สตรีและครอบครัวดีเด่น มาอย่างต่อเนื่องเสมอทั้งนี้ รางวัลโทรทัศน์ทองคำปี 2560 มอบให้คนทำงานเป็นครั้งที่ 32 บอกได้ถึงความยาวนานของวงการโทรทัศน์ และรางวัลที่เป็นกำลังใจ ท่ามกลางยุคดิจิตอลทีวีที่คนดูมีทางเลือกหลากหลาย นำไปสู่ความท้าทายของการผลิตสื่อโทรทัศน์ช่วงชิงเรตติ้ง รวมถึงดึงคนดูจากช่องทางออนไลน์คืนมาด้วย ขณะเดียวกันก็ต้องคงคุณภาพรายการ ข่าวสาร หรือละครที่ตรงใจผู้ชมสมกับรางวัลเกียรติยศ
ไม่น้อยกว่า 30 ปีกับการมอบรางวัลโทรทัศน์ทองคำให้ผู้ผลิตรายการ ข่าวสาร ละคร เพื่อให้สร้างสรรค์รายการที่ดีมีคุณภาพ ปีนี้ ไทยพีบีเอส ได้รับ 3 รางวัล โดยเฉพาะประเภทส่งเสริมความรู้และศิลปวัฒนธรรมดีเด่น ส่วนแวดวงละคร ณเดชน์-ญาญ่า คว้ารางวัลดารานำดีเด่นทั้งคู่
ศิลปะ-บันเทิง
รางวัลโทรทัศน์ทองคำปี 2560,ไทยพีบีเอส,โยเดียที่คิด(ไม่)ถึง,ส่งเสริมความรู้และศิลปวัฒนธรรมดีเด่น,ผู้ผลิตรายการ
https://news.thaipbs.or.th/content/271376
ร่องรอยแผ่นดินไหว บ้านเรือนเสียหาย 80 หลัง
วันนี้ (22 ก.พ.2562) หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง และเกิดซ้ำต่อเนื่อง ทำให้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งเตรียมงบประมาณในการซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายวิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ กรมโยธาธิการและผังเมือง เข้าตรวจสอบบ้านของนายนวล ตานาคา ชาวบ้านทุ่งฮั้วพัฒนา ต.ทุ่งฮี้ว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 4.9 เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเกิดการสั่นไหวรวมกว่า 30 ครั้ง จากรอยเลื่อนพะเยาจากการตรวจสอบบ้านหลังนี้เสาค้ำยันตัวบ้านเกิดร่องรอยแตกจำนวน 6 จุด สามารถมองเห็นเหล็กด้าน จึงต้องปิดประกาศสีแดง ไม่ให้มีผู้อยู่อาศัย เพื่อป้องกันอันตรายนายนวล เล่าว่า ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก และยังกังวลว่าหากเกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีกจะไม่ปลอดภัย จึงจะย้ายไปอยู่บ้านญาติก่อน และขอบคุณหน่วยงานที่จะเข้ามาช่วยซ่อมแซมบ้านขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งฮั้ว ได้ระดมกำลังนายช่างจากองค์การบริหารส่วนตำบลข้างเคียง และจากหน่วยงานต่างๆ หารือแนวทางการซ่อมแซมบ้านเรือนให้แก่ประชาชน และเตรียมงบประมาณเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการสำรวจและจัดสรรการใช้จ่ายงบประมาณสำหรับ แผ่นดินไหวครั้งนี้ จากการสำรวจของเจ้าหน้าที่พบมีพื้นที่ได้รับผลกระทบใน อ.วังเหนือ 7 ตำบล 20 หมู่บ้าน มีบ้านเรือนเสียหาย 80 หลัง ศาสนสถาน 6 แห่ง และสถานที่ราชการอีก 8 แห่ง หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะมีการให้ความรู้แก่ประชาชน และผลักดันให้มีการซ้อมแผนในทุกระดับ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยใยพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว
เจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหายหลังเกิดแผ่นดินไหว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง พบ 7 ตำบล 20 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 80 หลัง ได้รับผลกระทบ เร่งหารือแนวทางซ่อมแซมและเยียวยาผู้ประสบภัย
ภัยพิบัติ
แผ่นดินไหว,แผ่นดินไหวลำปาง,วังเหนือ,บ้านร้าว,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/277930
น้ำท่วม รพ.พรานกระต่าย เริ่มคลาย จนท.ลุยทำความสะอาด เตรียมรับผู้ป่วย
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหาร ป้องกันและบรรเทาสารธาณภัยจังหวัด ร่วมกับแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล เข้าร่วมทำความสะอาดห้องต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วมเวชภัณท์และเอกสารข้าวของเสียหาย และพร้อมจะเปิดรับผู้ป่วยเข้ารักษาอีกครั้งในช่วงเย็น ส่วนคนไข้ที่ย้ายออกได้จำหน่ายชื่อออกไปแล้วไม่รับกลับ ผู้ป่วยที่มาพบแพทย์ในช่วงนี้เจ็บป่วยเกี่ยวกับถูกสัตว์มีพิษกัดต่อยเป็นส่วนมาก หลังจากที่เกิดฝนตกหนักจนมีน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่เขตเทศบาลำบลพรานกระต่าย จนรถสัญจรผ่านไม่ได้ ที่หนักสุดคือโรงพยาบาลพรานกระต่าย ซึ่งระดับน้ำท่วมสูงมากจนเกือบจะเข้าตึกผู้ป่วย จนโรงพยาบาลต้องตัดสินใจย้ายผู้ป่วยจำนวน 34 ราย ออกจากโรงพยาบาลไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในอำเภอใกล้เคียงแทน จนเมื่อน้ำลดจนเข้าสู่ภาวะปกติ ทางโรงพยาบาลได้ระดมกำลังกันร่วมทำความสะอาด โดยมีเจ้าหน้าที่ข้างต้นเข้าช่วย,ในส่วนของการรักษาพยาบาลผู้ป่วยยังคงมีแพทย์และพยาบาลให้การรักษาผู้ที่เดินทางมาพบแพทย์ จากการสอบถามทราบว่า ผู้ป่วยในช่วงน้ำท่วมส่วนใหญ่จะถูกสัตว์มีพิษ เช่น ตะขาบ แมงป่อง งู และมดมีพิษกัดหรือต่อย เนื่องจากสัตว์มีพิษหนีน้ำท่วมมา ในส่วนของผู้ป่วยที่ถูกย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น ทางโรงพยาบาลได้จำหน่ายชื่อออกไปแล้วคงไม่รับกลับมา แต่จะรับผู้ป่วยรายใหม่ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเย็นวันนี้ หากน้ำประปาและอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกอย่างเป็นปกติแล้ว,สำหรับพื้นที่น้ำท่วมส่วนใหญ่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว มีเพียงถนนบุญยงค์พิทักษ์ ระยะทางประมาณ 300 เมตร ที่รถยนต์ยังผ่านไม่ได้ ส่วนรถกระบะสามารถผ่านได้แล้ว นอกจากนั้นยังมีถนนสายไป จ.สุโขทัย ตั้งแต่ปากทางเข้าโรงพยาบาลพรานกระต่าย ระยะทาง 500 เมตร ยังมีน้ำท่วมขังแต่รถทุกชนิดสามารถผ่านได้ ขณะที่ร้านค้าต่างๆ ในตลาดพรานกระต่ายยังมีร่องรอยการถูกน้ำท่วม กระสอบที่กั้นหน้าร้านยังวางอยู่เพราะเกรงจะมีฝนตกทำให้น้ำท่วมอีก ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่บอกว่าตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยพบเห็นฝนที่ตกหนักและยาวนานที่สุดแบบนี้มาก่อน,ส่วนที่หมู่ 1 ต.หนองปลิง พ.อ.โสภณ นันทสุวรรณ ผบ.กกล.รส.จว.กำแพงเพชร เดินทางไปเยี่ยมชาวบ้าน ซึ่งบ้านเรือนยังถูกน้ำขังในระดับสูง โดยที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่แอ่งกระทะ เมื่อฝนตกลงมามากก็จะท่วมขังเพราะน้ำไม่มีทางระบาย ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลหนองปลิง ต้องนำเครื่องสูบน้ำมาสูบให้ลงอีกด้านหนึ่งของถนนเพื่อระบายน้ำ.
หมอ พยาบาล จนท.รพ.พรานกระต่าย ร่วมทหาร ทำความสะอาด รพ. หลังน้ำท่วมจากฝนตกหนักลดลง เตรียมพร้อมรับผู้ป่วย ขณะหมู่ 1 ต.หนองปลิง ทหารติดเครื่องสูบน้ำช่วยระบายหลังพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ ทำน้ำท่วมขัง
ข่าว,ทั่วไทย
น้ำท่วม,พรานกระต่าย,น้ำท่วมโรงพยาบาล,รพ.พรานกระต่าย,กำแพงเพชร
https://www.thairath.co.th/news/local/north/946287
พายุลูกเห็บถล่ม อุดรฯ บ้านพังหลายสิบหลัง เสาไฟฟ้าล้ม 30 ต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 2 เมษายน ได้เกิดพายุฝนและลมแรงลูกเห็บถล่มอำเภอน้ำโสม จ.อุดรธานี โดยเฉพาะหมู่ 4 ต.นางัว และหมู่ 5 ต.บ้านหยวก มีลมพายุพัดอย่างรุนแรง หอบเอาหลังคาและสังกะสีปลิวไปตามแรงลม ก่อนจะมีลูกเห็บขนาดเท่าไข่นกกระทา ตกลงมาอย่าหนัก ทำให้บ้านเรือนชาวบ้านนับ 10 หลังคาเรือนได้รับความเสียหาย,ชาวบ้านต่างตกใจ วิ่งหาที่หลบซ่อน พายุฝนตกอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงก็สงบลง ชาวบ้านต่างออกมาดูมีลูกเห็บที่ตกลงมาขาวโพลนเต็มพื้นดินเต็มไปหมด ก่อนจะนำถังน้ำ กะละมัง มาเก็บลูกเห็บที่ยังไม่ละลายมารวบรวมเอาไว้ ชาวบ้านต่างบ่นว่า ต้องทำใจ เพราะเมื่อเข้าฤดูร้อน ก็จะเกิดพายุฤดูร้อน บริเวณหมู่บ้านทุกปี และทำให้บ้านพังเสียหายทุกปี แต่ต้องทำใจเพราะไม่รู้ว่า จะย้ายบ้านหนีไปอยู่ที่ไหน และต้องซ่อมบ้านทุกปีเช่นเดียวกัน แต่ปีนี้พายุน่าจะหนักกว่าทุกปี เพราะหอบเอาลูกเห็บตกลงมาด้วย,ขณะที่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เกิดพายุลูกเห็บพัดถล่มในพื้นที่ ต.หนองไผ่ ต.พังงู เช่นกัน โดยเฉพาะ ต.พังงู มีบ้านเรือนถูกพายุลูกเห็บพัดกระหน่ำหลังคาสังกะสีปลิวว่อนหลายหลัง กระแสไฟฟ้าดับทั้งตำบล เสาไฟฟ้าแรงสูงหลายสิบต้นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร หักโค่นขวางถนน ทำให้การจราจรติดขัดบนถนนสายหนองหาน-กุมภวาปี จนต้องปิดถนนจากสี่แยกบ้านขาวัว หมู่ที่ 14 ต.พังงู อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ทั้งนี้ รถจะเข้ากรุงเทพฯ ให้วิ่งเข้า อ.ประจักษ์ศิลปาคม และเข้าเส้นทางหลักขอนแก่น-อุดรธานี เพื่อให้ กฟภ.อำเภอหนองหาน เข้ามาเก็บกู้เสาไฟที่ล้มขวางถนน และซ่อมแซมให้ใช้ไฟฟ้าได้เร็วที่สุด,ด้าน พ.ต.ท.รัฐพล เพ็ญสงคราม รอง ผกก.ป.สภ.หนองหาน กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งชาวบ้านว่ามีพายุลูกเห็บถล่มบ้านเรือนราษฎร และเสาไฟฟ้าล้มปิดถนนประมาณ 30 ต้น ก็รีบนำเจ้าหน้าที่ออกช่วยเหลือชาวบ้านในเบื้องต้น และให้เจ้าหน้าที่ปิดถนนสายหนองหาน-กุมภวาปี ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนใช้เส้นทางอื่น โดยคาดว่า กฟภ. จะใช้เวลาพอสมควรในการเก็บกู้เสาไฟฟ้า.
พายุลูกเห็บขนาดถล่ม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ทำบ้านเรือนพังเสียหายหลายสิบหลัง ชาวบ้านโอดต้องซ่อมแซมบ้านทุกปี ไม่รู้จะย้ายหนีไปไหน ขณะ ต.พังงู อ.หนองหาน เสาไฟฟ้าล้มกว่า 30 ต้น ไฟดับทั้งตำบล ปิดถนนเร่งซ่อมแซม
null
ลูกเห็บ,พายุลูกเห็บ,ไข่นกกระทา,น้ำโสม,อุดรธานี,บ้านพังเสียหาย,หลังคา,สังกะสี,พายุฤดูร้อน,ซ่อมแซมบ้าน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ภูมิภาค,ทั่วไทย,หนองหาน
https://www.thairath.co.th/content/600264
สารวัตรยิงขาผัวคลั่ง แทงเมียตายแล้วถือมีดไล่อาละวาดใน รพ.ห้วยยอด
เมื่อเวลา 21.55 น. วันที่ 18 ส.ค.62 พ.ต.ท.ปัณฑิวัฒน์ เพชรหล่อ สารวัตร (สอบสวน) สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง รับแจ้งเหตุพยายามฆ่าที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 6 ต.ปากแจ่ม หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประดิษฐ์ ชัยพล ผกก. พ.ต.ท.รัฐกรณ์ ภักดีวานิช รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน และ ตร.สายตรวจ 20 ก่อนแจ้งประสานไปยังหน่วยกู้ภัยบรรเทาห้วยยอด รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ส่วนคนเจ็บถูกหามส่ง รพ.ห้วยยอด ถูกมีดปลายแหลมแทงเข้าบริเวณราวนมซ้าย 2 แผล ราวนมขวา 2 รวมทั้งหมด 4 แผล เสียชีวิตระหว่างทาง ทราบชื่อคือ นางจัน สมบูรณ์ อายุ 45 ปี เป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ,ชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายราเชน ขาวนิ่ม อายุ 39 ปี ชาวบ้าน ม.2 ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เป็นอดีตสามีที่แยกทางกันไปเกือบ 2 ปีแล้ว เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ตร.ได้วิ่งถือมีดปลายแหลมและมีดพร้า ไปขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน กจ 4870 ตรัง ที่จอดไว้ที่หน้าบ้านของภรรยาหลบหนีการจับกุมและมุ่งหน้าไปทาง รพ.ห้วยยอด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตร.ได้วิทยุแจ้งสกัดตามเส้นทางและขับรถไล่ตามมาติดๆ และสั่งตรึงกำลังที่บริเวณโรงพยาบาลดังกล่าว เนื่องจากผู้ก่อเหตุตะโกนบอกจะตามไปดูใจภรรยา ,เมื่อผู้ก่อเหตุขี่ จยย.มาถึงโรงพยาบาล ยังไม่หยุดคลั่ง คว้ามีดพร้าบุกเข้าไปบริเวณด้านหน้า รพ.ถามหาภรรยาว่าอยู่ห้องไหน และพยายามจะถือมีดพร้าผลักประตูห้องฉุกเฉินเข้าไป ส่งผลให้เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล ตื่นตระหนกตกใจวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่เวรเปล รปภ. หน่วยกู้ภัยฯ และตำรวจ พยายามเข้ามาห้ามปราม แต่ยังไม่หยุดคลั่งพยายามจะเข้าไปหาภรรยาให้ได้ พร้อมกับใช้มีดพร้าเอื้อมจะฟันเจ้าหน้าที่ฯ ที่มาขวางพลาดไปโดนเคาน์เตอร์ หลังเกลี้ยกล่อมนานหลายนาที สถานการณ์ทำท่าจะบานปลาย ระหว่างนั้น พ.ต.ต.วีระชัย หนูชู สวป.สภ.ห้วยยอด ที่นำกำลังมาระงับเหตุได้ตัดสินใจใช้อาวุธปืนพกขนาด 11 มม.ยิงเข้าหน้าขาขวา จำนวน 1 นัด จนล้มทรุดลงก่อนเข้าไปชาร์จตัวไว้ได้ในที่สุด และรีบนำตัวไปให้แพทย์ช่วยเหลือรักษาหลังถูกยิง อาการปลอดภัยแล้ว ,พ.ต.อ.ประดิษฐ์ ชัยพล ผกก.สภ.ห้วยยอด กล่าวว่า เหตุการณ์นี้สืบเนื่องจากผู้ต้องหาเป็นอดีตสามีที่แยกทางกันไปเกือบ 2 ปีแล้ว มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน มีอาการมึนเมาชอบทำร้ายภรรยา วันเกิดเหตุมาตามง้อขอคืนดีแต่ไม่สำเร็จจนเกิดความโกรธแค้นใช้อาวุธมีดปลายแหลมกระหน่ำแทง 4 แผลจนเสียชีวิต จากการสอบปากคำผู้ต้องหามีสติดี และยอมรับว่าได้ถือมีดพร้ามาที่ รพ. เพื่อจะมาดูอาการของภรรยา แต่พอมาถึงเจอกับเจ้าหน้าที่เข้ามาขัดขวางและเกิดอาการคลุ้มคลั่งจึงใช้อาวุธมีดพร้าไล่ฟันตำรวจ และเจ้าหน้าที่ภายใน รพ.เมื่อดูสถานการณ์แล้วท่าจะบานปลาย จึงยิงหน้าขาเพื่อระงับเหตุ ขณะที่ผู้ต้องหาตะโกนบอกว่า ทำไมไม่ยิงให้ถูกหัวจะได้ตาย และผู้ต้องหายังได้ปฏิเสธการรักษาด้วย,เบื้องต้นแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ส่วน พ.ต.ต.วีระชัย ที่ยิงขาผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ขณะเข้าระงับเหตุ จะได้สืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินการไปตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป.
สารวัตร สภ.ห้วยยอดใช้ 11 มม.ยิงขาผัวคลั่งที่ก่อเหตุแทงเมียสาหัสหลังไปง้อขอคืนดีแล้วไม่ยอม หลังญาติพาคนเจ็บส่งรพ.แต่ขาดใจตายก่อน ผัวคลั่งตามมาจะดูเมียโดนห้ามเลยเอามีดไล่ฟันทำแตกตื่นทั้ง รพ.
ข่าว,ทั่วไทย
ยิงขาคนร้าย,หนุ่มคลั่ง,ผัวแทงเมีย,สภ.ห้วยยอด,โรงพยาบาลห้วยยอด,โมโหแทงเมียตาย,ตรัง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1641111
มาร์ค ดักทางปมถอดถอน ปู-สมศักดิ์-นิคม
วันที่ 11 พ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า รู้สึกลำบากใจเพราะการถอดถอนเป็นการลงโทษทางการเมือง และกำลังจะลงโทษทางการเมืองกับนักการเมืองตามรัฐธรรมนูญปี 50 แต่เรากำลังจะเอาบุคคล กลุ่มบุคคลที่ไม่ได้มาตามรัฐธรรมนูญปี 50 มาพิจารณาเรื่องนี้ หากพฤติกรรมอย่างนี้ไม่มีโทษทางการเมืองเลย ก็เป็นการส่งสัญญาณที่ผิด หากในรัฐสภาที่ออกแบบมาใหม่ มีประธานที่ยังทำหน้าที่แบบนี้ได้อีก ก็บอกได้ว่า จะออกแบบการเมือง อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ได้การเมืองที่สุจริต,นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ยอมรับว่า ตนเจ้าหลักการ เพราะถ้าตอบคำถาม ณ สถานการณ์หนึ่งแล้วถูกใจคน แต่เราจะไม่มีทางคำตอบที่จะตอบเหตุการณ์ต่อไปในอนาคต หรือย้อนกลับไปเทียบเคียงกับอดีตได้ ถ้าเราไม่มองหลักการทางการเมืองแล้ว อะไรจะเกิดขึ้น และเชื่อว่ากระบวนการถอดถอนหลังจากนี้ สมมติว่าสำเร็จ และชอบด้วยกฎหมาย คิดว่าฝ่ายที่ถูกถอดถอนจะหยิบเรื่องนี้มาเป็นประเด็นโจมตีไปอีกไม่จบไม่สิ้นหรือไม่ ซึ่งถ้าตนจำเป็นต้องเขียนรัฐธรรมนูญชั่วคราว ก็อาจจะต้องเขียนทางออกอย่างเป็นทางที่ 3 ก็ได้ว่า เรื่องแบบนี้อาจจะต้องรอสภาฯ ที่มาจากการเลือกตั้งมาจัดการ.
อภิสิทธิ์ ดักทางกรณีถอดถอน สมศักดิ์-นิคม-ยิ่งลักษณ์ แนะทางออกที่สามอาจต้องรอสภาฯ หลังเลือกตั้ง
เลือกตั้ง
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,พรรคประชาธิปัตย์,ถอดถอน,สมศักดิ์,นิคม,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,สภา,รัฐธรรมนูญ,เลือกตั้ง,นายกฯ,นายกรัฐมนตรี,อดีตนายกฯ
https://www.thairath.co.th/content/462715
แล้งพ่นพิษหลายพื้นที่ ขาดน้ำใช้-ผักสดราคาแพงขึ้น 10 บาท
สถานการณ์ภัยแล้งพ่นพิษหลายพื้นที่ ชาวสวนชัยนาทเริ่มหยุดเพาะปลูก เนื่องจากไม่มีน้ำเพียงพอ ส่งผลให้ผักส่งออกตลาดปรับขึ้น 5-10 บ. ด้าน จ.นครสวรรค์ แล้งขยายวงกว้าง ปชช.ต้องซื้อน้ำกักตุน จากการขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค ส่วนที่ ต.วังมหา อ.ท่าตะโก ชาวบ้านเร่งทำฟางอัดก้อน เพื่อหารายได้ช่วงหน้าแล้ง เผย ยอดสั่งจองสูงถึง 5 หมื่นก้อน/เดือน,วันที่ 7 มี.ค. 59 สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุด วันนี้ ตรวจสอบระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ระดับน้ำเหนือเขื่อนยกตัวขึ้นอยู่ที่ 14.45 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ขณะที่ระดับน้ำท้ายเขื่อนทรงตัวอยู่ที่ 6.02 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยเขื่อนเจ้าพระยาคงอัตราการระบายน้ำไว้ที่ 80 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรักษาระบบนิเวศ ผลักดันน้ำเค็มและผลิตน้ำประปา รวมไปถึงการสำรองน้ำไว้ใช้ในการอุปโภค บริโภคของประชาชน ในจังหวัดภาคกลางและกรุงเทพมหานคร ซึ่งระดับน้ำถัดจากหลายวันต่อจากนี้จะมีท่าทีว่าลดลงอย่างต่อเนื่องแน่นอน ตามแผนของกรมชลประทาน ทั้งยังไม่มีนโยบายที่จะปรับการผันน้ำให้แก่เกษตรกรภายในจังหวัดชัยนาทไปใช้เพื่อการเกษตรอย่างแน่นอน,จากสภาพที่แห้งแล้งในระยะนี้ ส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนบางส่วนเริ่มหยุดการเพาะปลูก จากที่ไม่มีน้ำรดพืชผัก ทำให้ราคาผักสดที่ตลาดสดภาษีซุง อำเภอเมืองชัยนาท แหล่งซื้อขายผักและอาหารสดแห่งใหญ่ของ จ.ชัยนาท ปรับราคาผักขึ้นหลายรายการ เช่น กะหล่ำปลี ผัดกาดขาว คะน้า ผักบุ้งจีน และถั่วฝักยาว มีการปรับราคาขึ้นรายการละ 5-10 บาท ส่วนต้นหอม ผักชี และผักตั้งโอ๋ ที่มีการปรับราคาขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงจำหน่ายในราคา กก. ละ 80 บ.,แม่ค้าผักสดรายหนึ่งในตลาดภาษีซุง เปิดเผยว่า ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เริ่มมีผักหลายๆ ชนิดออกสู่ตลาดน้อยลงและราคาส่งหน้าสวนแพงขึ้น เนื่องจากชาวสวนที่ปลูกผักหลายรายหยุดทำการเพาะปลูก เนื่องจากไม่มีน้ำเพียงพอที่จะนำมาใช้รดผักในสวน คาดว่า จะมีผู้ทยอยเลิกปลูกผักอีกจำนวนมาก และผักสดน่าจะมีราคาแพงขึ้นอีกอย่างแน่นอน หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป,ด้านชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ที่ 5, 7, 9, 11 และ 12 ตำบลเนินมะกอก อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ จำนวนรวมกว่า 800 ครัวเรือน ต้องซื้อน้ำจากรถบรรทุกน้ำของทางองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ที่นำมาจำหน่ายในราคาถูก หลังประสบกับปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคมานานนับเดือน,นายอ่อง ปิ่นอ่อน ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 9 ตำบลเนินมะกอก เล่าว่า ตนเองต้องซื้อน้ำจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่นำมาจำหน่ายในราคาเที่ยวละ 30 บาท เพื่อนำน้ำมาใส่โอ่งที่เตรียมกักเก็บไว้ เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะสามารถใช้ได้ประมาณ 5-7 วัน น้ำก็จะหมดลง และต้องสั่งซื้อน้ำอีกครั้ง ซึ่งพบว่าหมู่บ้านข้างเคียง ก็ประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำ และต้องซื้อน้ำจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อนำมาใช้เช่นเดียวกัน ,ส่วน นายณรงค์ แสงสุวรรณ ชาวบ้านในพื้นที่ ต.วังมหา อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ เร่งทำฟางอัดก้อน เพื่อส่งขายให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวนม ทั้งในจังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งสามารถสร้างรายให้ได้เป็นอย่างดีในช่วงหน้าแล้งนี้ โดยกล่าวว่า ในทุกๆ วัน จะตระเวนหาซื้อตามนาข้าว หลังการเก็บเกี่ยวตามพื้นที่ต่างๆ ในราคาไร่ละ 40 บาท เพื่อนำมาทำเป็นฟางอัดก้อน ส่งขายในราคา 14-15 บาท/ก้อน (15 กิโลกรัม) โดยจากปกติจะมียอดการสั่งจอง 10,000 ก้อน/เดือน แต่มาในช่วงนี้มียอดการสั่งจองสูงถึง 50,000 ก้อน/เดือน,ทั้งนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวนมที่ต้องการกักตุนฟางอัดก้อนในระยะยาว เพื่อไว้เป็นอาหารสำหรับวัวนมในช่วงหน้าแล้ง.
สถานการณ์ภัยแล้งพ่นพิษหลายพื้นที่! ชาวสวนชัยนาทเริ่มหยุดเพาะปลูก เนื่องจากไม่มีน้ำเพียงพอ ส่งผลให้ผักส่งออกตลาดปรับขึ้น 5-10 บ. ด้าน จ.นครสวรรค์ แล้งขยายวงกว้าง ปชช.ต้องซื้อน้ำกักตุน จากการขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค
ข่าว,ทั่วไทย
ภัยแล้ง,ข่าวภัยแล้ง,ภัยแล้ง 59,สาเหตุภัยแล้ง,พื้นที่ภัยแล้ง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ชัยนาท,เขื่อนเจ้าพระยา,ชาวสวน,ผักสด,ผักราคาแพง,ตลาดสดภาษีซุง,หยุดเพาะปลูก,ขาดแคลนน้ำ,ซื้อน้ำ,กักตุนน้ำ,ฟางอัดก้อน,เลี้ยงวัวนม,อาหารวัวนม,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/news/local/587173
นาตาลี เดวิส ขำแฟนหนุ่มขอแต่งงานในวันเกิด แต่ทำเซอร์ไพรส์ไม่เป็น (คลิป)
เป็นอีกหนึ่งคู่หวานที่คบหาดูใจกันมานานจนใกล้เข้าสู่ประตูวิวาห์ปลายปีนี้สำหรับอดีตนักร้องสาวดูโอ นาตาลี เดวิส และ ตู้ ณะ อิทธิกร แฟนหนุ่มนักการทูต ซึ่งทั้งคู่ก็ได้ไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งมาแล้ว ล่าสุดเมื่อถึงวันคล้ายวันเกิดอายุ 32 ปีของนาตาลีเมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2562 ที่ผ่านมา แฟนหนุ่มก็ขอแต่งงานในระหว่างทานข้าววันเกิดด้วย แม้จะทำเซอร์ไพรส์ไม่เป็น และไม่มีการคุกเข่าขอแต่งงานเหมือนคู่รักหลายๆ คู่ แต่ก็เป็นโมเมนต์น่ารักที่หลายคนประทับใจ,โดยนาตาลีได้โพสต์คลิปแฟนหนุ่มขอแต่งงาน พร้อมทั้งเขียนข้อความบรรยายว่า เซอร์ไพรส์กว่า คือไม่มีเซอร์ไพรส์ กร้ากกกกก เห็นมั้ยล่ะ บอกแล้วว่าคุณตู้เป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย ใครก็ได้ สอนนางทำเซอร์ไพรส์ที 555555555 ยังดีนะที่เอาแหวนมา ทาดาาาา~ Ithikorn Tu Trit เอ็นดูพี่เค้านะคะ #LastBirthdayAsAMiss #ntlitk #ntlitklol,ด้านตู้ แฟนหนุ่ม ก็ได้โพสต์ภาพบรรยากาศตอนที่ขอแต่งงาน พร้อมทั้งเขียนข้อความว่า When a man loves a woman, you take her out with her family, feed her well, make her laugh a lot, and then give her a ring. And yes, this was a post pre-wedding photoshoot proposal, but it must be done officially hahaha. Love you to the Galaxy and back ja 6 August 2019 (B.E. 2562).#ความรักสุกงอม #HerBD #NTLITKLOL ซึ่งแปลได้ประมาณว่า เมื่อผู้ชายรักผู้หญิง คุณพาเธอมาจากครอบครัวของเธอ ดูแลเธอให้ดี ทำให้เธอหัวเราะเยอะๆ และให้แหวนเธอ ใช่แล้ว นี่คือภาพขอแต่งงานหลังถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง แต่มันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำอย่างเป็นทางการนะ,เล่นเอาคนโสดตายเรียบ อิจฉาตาร้อนเลยทีเดียว เพราะถึงแม้จะทำเซอร์ไพรส์ไม่เป็น แต่ก็เป็นสิ่งที่แฟนหนุ่มตั้งใจทำเพื่อนาตาลีคนเดียวจริงๆ.
นาตาลี เดวิส โพสต์คลิปตู้ แฟนหนุ่มนักการทูต ขอแต่งงานในวันเกิดอายุครบ 32 ปี แม้จะไม่มีโมเมนต์คุกเข่าขอแต่งงานเหมือนคู่รักหลายๆ คู่ แต่เป็นโมเมนต์น่ารักที่หลายคนประทับใจ
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
นาตาลี เดวิส,นาตาลี เดวิส ถูกขอแต่งงาน,นาตาลี เดวิส แต่งงาน,ณะ อิทธิกร,นาตาลี เดวิส แฟน,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1632676
ยังไร้ร่องรอย บินแอร์เอเชีย อินโดฯหยุดค้นหาทางอากาศชั่วคราว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการอินโดนีเซีย สั่งระงับปฏิบัติการทางอากาศเพื่อค้นหาเครื่องบินโดยสารแอร์บัส 320-200 ของสายการบินแอร์เอเชียอินโดนีเซีย เที่ยวบินที่ QZ8501 ที่ขาดการติดต่อกับหอบังคับการบินเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (28 ธ.ค.) แล้วเมื่อเวลา 17:30น. วันเดียวกัน และจะเริ่มปฏิบัติการอีกครั้งในเวลา 7:00 น. วันจันทร์ (29 ธ.ค.) หรือเร็วกว่านั้น หากสภาพอากาศดี,นาย เอฟ. เฮนรี บัมบัง สุลิสตีโย หัวหน้าสำนักงานกู้ภัยอินโดนีเซีย เผยว่า ในวันอาทิตย์เครื่องบินของกองทัพอินโดนีเซีย 2 ลำและเฮลิคอปเตอร์อีก 1 ลำถูกส่งไปค้นหาเที่ยวบิน QZ8501 ในน่านน้ำบริเวณเกาะบังกา และเกาะเบลิตัง ในทะเลชวา แต่ไม่พบร่องรอยของเครื่องบินที่หายไป ส่วนการค้นหาในวันจันทร์จะมีเรือและเครื่องบินอย่างละ 3 ลำจากมาเลเซีย ถูกส่งมาช่วยค้นหา ขณะที่สิงคโปร์เสนอจะส่งเครื่องบิน C130 และออสเตรเลีย ก็เสนอจะให้ความช่วยเหลือด้วย,ทั้งนี้ เที่ยวบินที่ QZ8501 บรรทุกผู้โดยสาร 155 คน และลูกเรืออีก 7 คน โดยเครื่องบินลำนี้ติดต่อกับหอบังคับการบินในกรุงจาการ์ตาครั้งสุดท้ายเมื่อเวลา 6:13 น. วันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อขอไต่ระดับขึ้นไปที่ความสูง 38,000 ฟีต เพื่อหลีกเลี่ยงกลุ่มเมฆหนา ขณะบินจากเมืองสุราบายาในอินโดนีเซีย ไปยังประเทศสิงคโปร์ โดยออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติ จูอันดา ในเมืองเมืองสุราบายา ในจังหวัดชวาตะวันออก เมื่อเวลา 5:35น. วันเดียวกัน,ผู้โดยสารและลูกเรือของเที่ยวบิน QZ8501 เป็นชาวอินโดนีเซียถึง 155 คน, ชาวเกาหลีใต้ 3 คน และเป็นชาวสหราชอาณาจักร, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และฝรั่งเศส อีกชาติละ 1 คน กัปตันมีชั่วโมงการบินทั้งหมด 6,100 ชั่วโมง ขณะที่ผู้ช่วยนักบิน มีชั่วโมงบิน 2,275 ชั่วโมง
ทางการอินโดนีเซียสั่งระงับปฏิบัติการทางอากาศเพื่อค้นหาเครื่องบินโดยสาร ของสายการบินแอร์เอเชีย ที่หายสาบสูญไปเมื่อวันอาทิตย์เป็นการชั่วคราว และจะเริ่มค้นหาอีกครั้งในเช้าวันจันทร์
null
แอร์เอเชีย,แอร์เอเชียอินโด,แอร์เอเชียหาย,แอร์เอเชียตก,QZ8501,#‎QZ8501,airasia,เครื่องบินหาย,เครื่องบินตก,ลูกเรือหาย,เครื่องบินแอร์เอเชีย,ข่าวแอร์เอเชีย,ข่าวเครื่องบินหาย,ไทยรัฐออนไลน์,สายการบินแอร์เอเชีย,แอร์เอเซีย,อินโดนีเซีย,หยุดค้นหา,เครื่องบินโดยสาร,แอร์บัส 320,ขาดการติดต่อ,หอบังคับการบิน,ข่าวต่างประเทศ
https://www.thairath.co.th/content/471784
ทูลกระหม่อมหญิงฯ ทรงโพสต์ Good morning จากเชียงใหม่ เราจะเดินไปด้วยกัน
ทรงโพสต์ภาพผ่านอินสตาแกรม Good morning จากเชียงใหม่ และว่า เราจะเดินไปด้วยกัน,เมื่อวันที่ 8 ก.พ.62 ,ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี, ทรงโพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนพระองค์ @nichax โดยระบุว่า Good morning ค่ะทุกคน วันนี้เราจะเริ่มวันกันที่สะพานนวรัฐ จังหวัดเชียงใหม่ ตอน 6 โมงเช้า แล้วเราจะเดินไปด้วยกัน,อันที่จริงรูปนี้เป็นภาพจากเมื่อเราไปทำงาน To Be Number One ที่เชียงใหม่และลำปาง และไปทำงานที่พิษณุโลก ระหว่างนั้นดิฉันก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนหลายๆสถานที่ โดยเฉพาะวัด เพราะเชียงใหม่มีวัดเยอะมาก ถ้าเราจะไปไหว้พระ 9 วัดที่เชียงใหม่คงใช้เวลาไม่นาน เพราะวัดอยู่ติดๆ กันหมด ตอนที่ดิฉันอยู่เชียงใหม่คราวนี้ก็ยังได้ใส่บาตรทุกวันด้วย,แต่วันนี้จะเริ่มที่สะพานนวรัฐซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำปิงเก่าแก่ซึ่งทำด้วยไม้สัก สร้างเมื่อประมาณปี 2433 และได้รับการสร้างใหม่ให้เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กเมื่อปี 2510 หลังจากเราเดินข้ามสะพานนี้แล้ว เราก็เริ่มวันด้วยกาแฟที่ร้านกาแฟริมปิงซักแก้วนึงจะได้สดชื่นและกระฉับกระเฉง.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง ,- ,ทูลกระหม่อมหญิงฯ เล่าเรื่องครั้งทรงพระเยาว์ เคยเดินขึ้นดอยสุเทพเป็น 10 รอบ,- ,เราจะแย่กันหมด ทูลกระหม่อมหญิงฯ ทรงห่วงราษฎร หลังฝุ่นพิษฟุ้งทั่วเมือง,- ,พระอารมณ์ขัน ทูลกระหม่อมหญิงฯ ทรงโพสต์ไอจี ฝึกงานใหม่ขับรถแท็กซี่,#ทูลกระหม่อมหญิง #ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ ทรงโพสต์ภาพผ่านอินสตาแกรม Good morning จากเชียงใหม่ และว่า เราจะเดินไปด้วยกัน
ข่าว,สังคม
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี,ข่าวโซเชียล,To Be Number One,เชียงใหม่,ทูลกระหม่อมหญิง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1491166
จับคนเลี้ยงช้างสุรินทร์ ลงขันค้างาช้างแอฟริกา
คนเลี้ยงช้างที่บ้านกระโพ อ.ท่าตูม สุรินทร์ ร่วมลงขันกันไปซื้องาช้างแอฟริกามาขายให้พ่อค้าทำเครื่องประดับ ตำรวจบุกจับได้คาศูนย์คชศึกษา ยึดของกลาง 51 กิ่ง มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท สารภาพซื้อมาจากนนทบุรี ได้กำไรเที่ยวละ 7 หมื่น-1 แสน  ,เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 1 ม.ค.58 ที่ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารสำนักงานตำรวจภูธรสุรินทร์ พล.ต.ต.กาญจน์พศ ชัยศิริชาญพนา ผบก.ภ.สุรินทร์ และพ.อ.ศักดิ์ชัย ทองนุ่ม รองผบ.จ.ทบ.สุรินทร์ ร่วมแถลงการจับกุมนายกัมพล หรือเรียม น้อมถนอม อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 14 ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ พร้อมของกลางงาช้างจากแอฟริกา 51 กิ่ง ถูกตัดเป็นท่อน แต่ละท่อนยาวประมาณ 50 เซนติเมตร น้ำหนัก 134.7 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 5,388,000 บาท และรถปิกอัพ อีซูชุ 4 ประตู สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กฉ 4858 บุรีรัมย์,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมที่กระท่อมหลังศูนย์คชศึกษา บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงแจ้งข้อกล่าวหามีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (งาช้าง) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ป่า และนำเข้าหรือพาสิ่งของที่ยังไม่ได้เสียภาษี สิ่งของที่ยังไม่ผ่านพิธีศุลกากร ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร โดยระหว่างแถลงข่าวได้รายงานทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ให้พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร.ทราบด้วย จากนั้นได้ส่งตัวให้ พ.ต.ท.สมนึก สุภัคไพบูลย์ผล สวญ.สภ.กระโพ นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป,พล.ต.ต.กาญจน์พศ ชัยศิริชาญพนา ผบก.ภ.สุรินทร์ กล่าวว่า หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบค้างาช้างในพื้นที่ จึงรายงานไปยัง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร.ทราบ พร้อมกำชับให้ตำรวจสุรินทร์เร่งสืบสวนเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดี โดยพ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล รองผบก.ภ.สุรินทร์ พ.ต.ท.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ รองผกก.สส. พ.ต.ต.ชาตรี ทรงพระ สว.สส. ร.ต.ต.ฉัตรพัฒน์ ภาสดา รอง สว.สส.ได้นำกำลังชุดปฏิบัติการปรามปราบยาเสพติดและชุดสืบสวนภูธรจังหวัด ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.กระโพ ออกสืบสวนจนสามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ในที่สุด,อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนนายกัมพล ให้การสารภาพรับว่า ได้แอบซื้อขายงาช้างมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 โดยเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา ได้ขับรถยนต์กระบะไปที่ จ.นนทบุรี จากนั้นมีพ่อค้างาช้าง ขับรถยนต์ของตนไปเอางาช้าง ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นที่ใด โดยงาช้างทั้งหมดซุกซ่อนไว้ในก้นถังน้ำแข็ง นำปลาทะเลวางทับไว้ แล้วใช้น้ำแข็งวางทับอีกชั้นเพื่อพรางตาเจ้าหน้าที่ตามจุดตรวจ หลังได้รับของแล้วได้จ่ายเงินให้ก่อนครึ่งหนึ่ง ที่เหลือจ่ายทีหลัง ก่อนจะขับรถกลับมา จ.สุรินทร์ช่วงเวลาค่ำของวันที่ 31 ธันวาคม 2557 แต่ระหว่างนำงาช้างลงจากรถไปซุกซ่อนไว้ในกระท่อมรอขายให้กับลูกค้าก็ถูกเจ้าหน้าที่บุกเข้าจับกุม,งาช้างนี้หากไม่ถูกจับจะมีลูกค้าที่ติดต่อซื้อขายกันเป็นประจำ มาซื้อไปในราคากิโลกรัมละ 4 หมื่นบาท โดยจะนำงาช้างเหล่านี้นำไปทำเป็นเครื่องประดับ หรือวัตถุมงคล ส่วนตัวเองก็เป็นคนเลี้ยงช้าง มีช้างพลาย 1 เชือก แต่เห็นว่าการซื้อขายงาช้างได้กำไรดี จึงรวบรวมเงินกับเพื่อนบ้าน และส่วนหนึ่งมาจากพ่อค้าเครื่องประดับนำมาให้เป็นทุนนำไปซื้องาช้าง เมื่อได้มาแล้วก็จะมารับหมดอย่างช้าไม่เกิน 4-5 วัน ซึ่งแต่ละครั้งทำกำไรให้ประมาณ 7 หมื่นถึง 1 แสนบาท นายกัมพลกล่าว
คนเลี้ยงช้างที่บ้านกระโพ อ.ท่าตูม สุรินทร์ร่วมลงขันกันไปซื้องาช้างแอฟริกามาขายให้พ่อค้าทำเครื่องประดับ ตร.บุกจับได้คาศูนย์คชศึกษา ยึดของกลาง 51 กิ่ง มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท สารภาพซื้อมาจากนนทบุรี ได้กำไรเที่ยวละ 7 หมื่น-1แสน
ข่าว,ทั่วไทย
จับคนเลี้ยงช้าง,ค้างาช้าง,งาช้างแอฟริกา,ยึดงาช้าง,งาช้างค่า5ล้าน,กัมพล น้อมถนอม,บ้านกระโพ,ท่าตูม,สุรินทร์,ข่าวภูมิภาค
https://www.thairath.co.th/news/local/472298
ด่วน ชง ศบค.ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ คุม COVID-19 อีก 1 เดือน
วันนี้ (21 พ.ค.2563) พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แถลงว่าจากการประชุมเพื่อพิจารณาต่อหรือไม่ต่อ พระราชกำหนดการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 31 พ.ค.2563 ที่ประชุมมีมติพิจารณา ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต่ออีก 1 เดือน โดยจะครอบคลุมการประกาศใช้ต่อไปอีก 1 เดือน จนถึง 30 มิ.ย.นี้ ด้วยเหตุผลทางด้านตัวเลขทางด้านสาธารณสุขของสถานการณ์ผู้ป่วย COVID-19พล.อ.สมศักดิ์กล่าวว่า แม้ว่าไทยจะประสบความสำเร็จ แต่การผ่อนคลายแต่ละระยะๆต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดการระบาดรอบที่ 2 โดยเฉพาะในช่วง 1 เดือนข้างหน้า จะมีการผ่อนคลายระยะที่ 3 และ 4 ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น และจะต้องมีเครื่องมือที่ใช้การควบคุมสถานการณ์นี้ ทั้งนี้ สมช.จะเสนอรายงานต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคติดต่อโคโรน่า 2019 (COVID-19) หรือ ศบค.ในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 26 พ.ค.นี้ส่วนโรงเรียนที่จะเปิดเทอมในวันที่ 1 ก.ค.นี้จะต้องระมัดระวัง หลังจากพบว่าในหลายประเทศที่มีการเปิดเรียนเช่น เกาหลีใต้ ก็เริ่มพบการระบาดระลอก 2 แล้ว ดังนั้นต้องควบคุมอ่าน
มติที่ประชุมสมช.เสนอให้ ศบค.ขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต่ออีก 1 เดือน ถึงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ เหตุผลสถานการณ์ระบาดโรค COVID-19 ในไทย และระดับโลกยังน่าห่วง ต้องมีเครื่องมือควบคุมเพื่อเตรียมเข้าสู่ผ่อนปรนระยะ 3 และ 4
การเมือง
COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,ศบค.
https://news.thaipbs.or.th/content/292731
พบลูกหมีควาย หลงกับแม่ ไล่จับไก่ชาวบ้าน อุทยานฯทับลานดูแลใกล้ชิด (คลิป)
วันที่ 27 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 4 (ลำปลายมาศ) อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา นายประวิทย์ แสงสกุล หัวหน้าเขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 4 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันให้อาหารและดูแลลูกหมีควาย ที่คาดว่าพลัดหลงจากแม่ ออกมานอกเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน และถูกชาวบ้านไปพบเข้าเมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา และแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ให้ไปรับตัวมาดำเนินการควบคุมดูแลเพื่อความปลอดภัยของลูกหมี,จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทราบว่า ลูกหมีตัวดังกล่าวเป็นลูกหมีควาย สีดำ เพศเมีย น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม คาดว่าอายุประมาณ 5 เดือน โดยชาวบ้านที่พบบอกว่า ไปเจออยู่บริเวณท้ายบ้านใหม่ทานตะวัน ต.บ้านราษฎร์ อ.เสิงสาง ขณะที่ลูกหมีตัวดังกล่าวกำลังไล่จับไก่ของชาวบ้าน จนทำให้ไก่ของชาวบ้านแตกตื่น จึงออกมาดูและพบลูกหมีดังกล่าว ก่อนที่จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ไปรับตัวมาดูแล,โดยสภาพตอนที่พบครั้งแรก ลูกหมีมีอาการเหนื่อยล้าอย่างมาก จึงนำตัวมาดูแลที่เขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 4 (ลำปลายมาศ) และให้อาหารจำพวกนม และผลไม้อย่างกล้วยน้ำว้า และข้าวโพด ซึ่งหลังจากที่รับตัวมาดูแลเป็นเวลา 1 คืน พบว่าอาการลูกหมีเช้านี้แข็งแรงขึ้น แต่ยังคงมีอาการหวาดผวาและระวังตัวเองอย่างมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเกิดจากการที่ลูกหมีตัวดังกล่าว ไม่ชินกับสภาพแวดล้อมใหม่,โดยหลังจากนี้ทางนายประวิทย์ แสงสกุล หัวหน้าเขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 4 ได้แจ้งไปยังสถานีวิจัยสัตว์ป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่ เพื่อมารับตัวลูกหมีไปดูแลและดำเนินการตามหลักวิชาการเพื่อให้ลูกหมีตัวนี้ปลอดภัยที่สุด.
พบลูกหมีควาย เพศเมีย พลัดหลงกับแม่ ออกมานอกเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่อำเภอเสิงสาง จ.นครราชสีมา เตรียมประสานผู้เชี่ยวชาญดูแลใกล้ชิด
ข่าว,ทั่วไทย
ลูกหมีควาย,หมีควาย,อุทยานแห่งชาติทับลาน,ลูกหมี พลัดหลงกับแม่,นครราชสีมา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1669961
โอกาสและความท้าทายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กับการคุ้มครองสิทธิแรงงานข้ามชาติ
มีข่าวกรณีแรงงานข้ามชาติจากประเทศพม่าคนหนึ่งทำงานอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร และผ่านการพิสูจน์สัญชาติเมื่อเดือนมกราคม 2554 เรียบร้อยแล้ว ได้ประสบอุบัติเหตุล้มศีรษะกระแทกพื้นจนอาการสาหัส แต่เมื่อเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ตรวจสอบประวัติกลับพบว่า แรงงานยังไม่ได้เข้าสู่ระบบประกันสังคม ตามพรบ.ประกันสังคม พ.ศ. 2533 ทำให้ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยตนเองเป็นเงินร่วมแสนกว่าบาท แต่เนื่องจากแรงงานไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา ทำให้ต้องออกมารักษาตามมีตามเกิดและเสียชีวิตในเวลาต่อมา สถานการณ์ดังกล่าวนำมาสู่การตั้งคำถามทั้งต่อนายจ้าง สำนักงานประกันสังคม และกระทรวงแรงงาน ถึงช่องว่างการดูแลและคุ้มครองการเข้าถึงสิทธิแรงงานข้ามชาติที่ยังมีการละเลยและไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอยู่ รวมถึงขาดการตรวจสอบและติดตามจากนายจ้าง จนนำมาสู่ความสูญเสีย ความหวั่นวิตกของแรงงานข้ามชาติจำนวนมากที่ผ่านกระบวนการพิสูจน์สัญชาติเรียบร้อยแล้ว และต้องเข้าสู่ระบบประกันสังคมตามที่กฎหมายระบุไว้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ เฉพาะที่ จ.สมุทรสาครเพียงจังหวัดเดียว มีแรงงานที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติแล้วกว่า 70000 คน แต่กลับมีแรงงานเข้าสู่ระบบประกันสังคมเพียง 10000 กว่าคนเท่านั้น นี้คือช่องว่างที่น่าหวาดหวั่นต่อคุณภาพชีวิตแรงงานข้ามชาติ ซึ่งถือว่าเป็นผู้ใช้แรงงานคนหนึ่งยิ่งนัก นี้ไม่นับว่าโดยทั่วไปแล้วแรงงานข้ามชาติจำนวนมากต่างก็ยังเข้าไม่ถึงสิทธิขั้นพื้นฐานและบริการสาธารณะที่รัฐจัดให้ เช่น การรักษาพยาบาล การศึกษา สิทธิสวัสดิการอื่นๆ รวมถึงการต้องเผชิญกับความยากจนอันเนื่องมาจากภาวะของการถูกจำกัดสิทธิ์ในการเดินทางเพื่อการประกอบอาชีพ และความรู้สึกด้อยคุณค่า ไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่ไม่เท่าเทียมคนอื่น น้อยเนื้อต่ำใจในชะตากรรมที่เผชิญ กรณีดังกล่าวทำให้นึกถึงตัวอย่างรูปธรรมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2 แห่งที่เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจในท้องถิ่นโดยตรงและสามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการอุดช่องว่างดังกล่าวนี้ได้ ท้องถิ่นหนึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดการการอยู่ร่วมกันของคนต่างชาติพันธุ์ อีกท้องถิ่นหนึ่งเป็นเรื่องของการจัดการปัญหาสุขภาพของคนในชุมชน เทศบาลเชิงดอย ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ต้องเผชิญกับปัญหาที่เป็นผลมาจากการอยู่ร่วมกันกับประชากรต่างชาติพันธุ์กลุ่มลาหู่ที่ไม่มีสัญชาติไทยที่อพยพลงมาจากบนดอย จ.เชียงราย เข้ามาเป็นแรงงานรับจ้างในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้มาอาศัยอยู่ร่วมกับคนเมืองในหมู่บ้านแม่ดอกแดง และนำมาซึ่งปัญหาการอยู่ร่วมกันในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไม่ถึงการพัฒนาสถานะบุคคล การไม่สามารถควบคุมเรื่องการย้ายเข้าย้ายออกของคนลาหู่ การไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากร ธรรมชาติในชุมชน การต้องมาใช้สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานร่วมกัน ความไม่สมดุลในการจัดการวิถีชีวิตวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน และปัญหาเรื่องการเข้าไม่ถึงการศึกษาของเด็กลาหู่ ปัญหาดังกล่าวได้สร้างความอึดอัดคับข้องใจและการแบ่งฝักฝ่ายคนในหมู่บ้าน จนในที่สุดเทศบาลตำบลเชิงดอย จึงได้ร่วมกับสำนักงานประสานงานวิจัยเชิงบูรณาการ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ สำนักงานคริสตจักรภาคที่ 6 ลาหู่ และหน่วยงานพัฒนาและบริการสังคม สภาคริสตจักรในประเทศไทย ลุกขึ้นมาแก้ปัญหาผ่านกระบวนการวิจัยเพื่อท้องถิ่น ชักชวนคนเมืองและคนลาหู่มาแสวงหาคำตอบในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ จนในที่สุดเทศบาลเชิงดอยจึงได้ออกเป็นเทศบัญญัติกำหนดแนวทางการจัดการในการอยู่ร่วมกันในชุมชนบ้านแม่ดอกแดงขึ้นมา เทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้จับมือกับโรงพยาบาลแม่แตง และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่แตง ผลักดันโครงการหน่วยปฐมภูมิใกล้บ้านใกล้ใจ พัฒนาให้เกิดคลินิกชุมชนเมืองแกนซึ่งเป็นศูนย์แพทย์ชุมชนขึ้นมา ปรัชญาของศูนย์แห่งนี้ ก็คือ เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยยามใด ชาวบ้านไม่ว่าจะเป็นใคร เชื้อชาติใดก็ตาม จะต้องนึกถึงเป็นอันดับแรก ปัจจุบันศูนย์แพทย์ชุมชนแห่งนี้ดูแลประชากร 16 หมู่บ้าน รวมประมาณ 13000 คน โดยมีแพทย์และพยาบาลมาทำการตรวจรักษาทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ มีอุปกรณ์ทางการแพทย์และรถพยาบาลบริการรับส่งผู้ป่วยจากบ้านถึงศูนย์แพทย์ชุมชนตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้เทศบาลเมืองเมืองแกนสนับสนุนงบประมาณด้านการบริหารจัดการ ส่วนบุคลากร ยา เวชภัณฑ์ได้รับงบประมาณจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เมื่อประชาชนในพื้นที่ได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้ผู้ป่วยลดลงโดยเฉพาะวัณโรคซึ่งพบว่ามีผู้ป่วยในชุมชนเป็นจำนวนมาก แน่นอนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวนมากย่อมมองว่าการอพยพเข้ามาของแรงงานข้ามชาติเป็นการเบียดเบียนทรัพยากร สวัสดิการ และโอกาสการมีงานทำซึ่งจำกัดอยู่แล้ว แต่ในข้อเท็จจริงก็ต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาด้านโครงสร้างประชากร เนื่องจากมีสัดส่วนประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่อัตราการเกิดต่ำลงเรื่อยๆ รวมทั้งยังประสบภาวการณ์ขาดแคลนแรงงานในบางภาคการผลิต เช่น ประมง ประมงทะเลต่อเนื่อง คนรับใช้ในบ้าน แต่เมื่อแรงงานข้ามชาติส่วนใหญ่ที่เข้ามาทำงานแล้ว ต่างต้องอยู่ในชุมชนที่แออัด สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เข้าไม่ถึงการคุ้มครองสิทธิแรงงานข้ามชาติ โอกาสที่จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ และสุขภาพอนามัยที่เลวร้ายของแรงงานข้ามชาติและคนไทยโดยรวมในท้องถิ่นก็เป็นเรื่องกระทบที่จะติดตามมาอย่างแน่นอน หลายท้องถิ่นอาจจะกล่าวว่า พ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ พ.ศ.2542 และแผนการถ่ายโอนฯ พ.ศ.2545 ที่เป็นการกระจายอำนาจภารกิจของรัฐไปสู่ท้องถิ่น ก็ไม่ได้ระบุภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิแรงงานข้ามชาติ มีเพียงระบุในเรื่องของ ส่งเสริมสุขภาพวัยทำงาน เท่านั้น อย่างไรก็ตามคงปฏิเสธไม่ได้ว่า แรงงานข้ามชาติ ก็ถือเป็น แรงงาน คนหนึ่งเช่นเดียวกัน ในปัจจุบันบริบทต่างๆได้เอื้อต่อการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆในการทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อการคุ้มครองสิทธิแรงงานข้ามชาติ เช่น การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กระบวนการสมัชชาสุขภาพเชิงประเด็น/เชิงพื้นที่ ภายใต้การสนับสนุนของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ การจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชน ภายใต้ พรบ.ส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. 2550 รวมถึงบทบาทของสหภาพแรงงานไทยในระดับพื้นที่ เช่น สหภาพในคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย กระทั่งบทบาทขององค์กรพัฒนาเอกชนด้านต่างๆ เหล่านี้ต่างมีส่วนสำคัญยิ่ง จากตัวอย่างจะเห็นยุทธวิธีน่าสนใจที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 2 แห่งนำมาใช้ คือ การพัฒนาให้เกิดความร่วมมือร่วมใจของฝ่ายต่างๆในชุมชนที่เป็นแกนสำคัญในการเข้ามาดำเนินงานร่วมกัน มุ่งไปที่ผลประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นเป็นสำคัญ ดังนั้นถ้าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเริ่มต้นทำงานเพื่อการคุ้มครองและเข้าถึงสิทธิแรงงานข้ามชาติ การเริ่มต้นด้วยการเน้นกระบวนการสร้างการเรียนรู้เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงวิธีคิดเรื่องทัศนคติเชิงชาติพันธุ์จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ผ่านกิจกรรมต่างๆที่ออกแบบร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาจุดร่วมของปัญหา ค้นหาความรู้ที่จะนำมาใช้ในการจัดการปัญหา ออกแบบแนวทางการพัฒนากลไกการแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องกับบริบทความเป็นประชากรกลุ่มเฉพาะของแรงงานข้ามชาติ ตลอดจนการพัฒนารูปแบบในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อจะนำไปสู่การปรับวิธีคิดให้เกิดการยอมรับและเคารพต่ออัตลักษณ์และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ของแรงงานข้ามชาติ การส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจอันดี การเคารพความแตกต่างทางชาติพันธุ์ การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในท้องถิ่น และในที่สุดการเคารพสิทธิในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องก็จะติดตามมา เพราะเอาเข้าจริงแล้ว ปัญหาการละเมิดสิทธิแรงงานข้ามชาติเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาการอยู่ร่วมกันในชุมชน ที่สาเหตุสำคัญเกิดจากความไม่เข้าใจกัน มาจากอคติหรือการรับรู้ข้อมูลข้อเท็จจริงไม่ตรงกัน ทำให้เกิดการกีดกันและผลักไสคนอีกกลุ่มหนึ่งไปอยู่ชายของของสังคม และเข้าไม่ถึงสิทธิต่างๆที่พึงมีพึงได้ วันนี้ท้องถิ่นแต่ละท้องถิ่นคงไม่สามารถปฏิเสธการมีอยู่ของแรงงานข้ามชาติจากประเทศเพื่อนบ้านได้แล้ว ดังนั้นการจัดการแรงงานข้ามชาติอย่างเป็นระบบที่ดีผ่านกลไกความร่วมมือของผู้เกี่ยวข้องฝ่ายต่างๆในท้องถิ่น โดยเฉพาะการนำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถือเป็นปรากฏการณ์ในเชิงบวกซึ่งจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง กล่าวคือ แรงงานอพยพข้ามชาติจะได้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ท้องถิ่นก็จะได้กำลังแรงงานในสาขาที่ขาดแคลนจริง ซึ่งการจัดการลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องที่ท้องถิ่นใดท้องถิ่นหนึ่งจะจัดการได้ด้วยตนเองเพียงลำพัง แต่จำเป็นต้องสร้างความร่วมมือกับฝ่ายต่างๆที่พร้อมเอื้ออำนวยและเป็นพันธมิตรอยู่แล้ว [1] นักวิจัยในโครงการวิจัยเรื่อง : ปัญหาและข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อขับเคลื่อนความเป็นธรรมทางสุขภาวะของแรงงานข้ามชาติ ร่วมกับนายณัฐพงษ์ มณีกร และนางรำพึง จำปากุล จากหน่วยงานพัฒนาและบริการสังคม สภาคริสตจักรในประเทศไทย ได้รับทุนวิจัยจากชุดโครงการความไม่เป็นธรรมด้านเศรษฐกิจและแรงงาน: ปัญหาและข้อเสนอเชิงนโยบาย ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ระยะเวลาดำเนินการ 1 มีนาคม 2554 – 31 กรกฎาคม 2555
ในช่วงหลายเดือนมานี้ตามหน้าข่าวหนังสือพิมพ์กระแสหลักมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิแรงงานข้ามชาติบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเมื่อกลางเดือนสิงหาคม 2554
คุณภาพชีวิต,แรงงาน,เศรษฐกิจ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น,แรงงานข้ามชาติ
https://prachatai.com/journal/2011/10/37214
พิเชษฐ แนะรัฐ 8 ข้อ เร่งแก้ราคาปาล์มตกต่ำ
เมื่อวันที่ 29 เม.ย. มีรายงานว่า นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีต ส.ส.กระบี่หลายสมัย พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรี ได้ออกมาแนะนำการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันที่กำลังตกต่ำอย่างหนักในรอบนับสิบปี ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังราคาปาล์มตกลงมาอยู่ที่ 2.50-3.00 บาทต่อกิโลกรัม ว่า รัฐต้องดำเนินการประกอบด้วย 1. รัฐบาลประกาศรับซื้อน้ำมันปาล์มจากโรงกลั่นในประเทศจำนวน 5 หมื่นตัน ในราคากิโลกรัมละ 40 บาท เพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน (ใช้ทุนสำรองไม่เกิน 2 พันล้านบาท) 2. ให้โรงกลั่นซื้อน้ำมันจากโรงสกัด ในราคากิโลกรัมละ 34 บาท 3. ให้โรงสกัดซื้อผลปาล์มจาก เกษตรกรในราคากิโลกรัมละ 5 บาท (ผลปาล์ม 6 กิโลกรัม ได้น้ำมันดิบ 1 กิโลกรัม ต้นทุนประกอบการ 2 บาท กำไร 2 บาท),4. น้ำมันปาล์มเป็นอาหาร อาจส่งออกไปขายประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว เขมร พม่า เวียดนาม และจีน ในราคามิตรภาพ 5. อีกส่วนหนึ่งส่งไปช่วยเหลือเพื่อการกุศลแก่ประเทศเนปาล ที่กำลังประสบภัยพิบัติอย่างร้ายแรงขณะนี้ ในเชิงมนุษยธรรม 6. โครงการนี้อาจขาดทุนก็เพียง 1-2 ร้อยล้านบาท อยู่ในวิสัยที่รับได้ และมีเหตุผลความชอบธรรม 7. ประกาศให้ทราบว่า วิกฤติครั้งนี้ เกิดจากกลไกตลาดถูกบิดเบือนเพราะการนำเข้า รัฐบาลจำเป็นต้องส่งออกน้ำมันจำนวน 5 หมื่นตัน เพื่อปรับกลไกตลาดให้คืนสู่ปกติ 8. ให้ผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม เพิ่มสำรองน้ำมันดิบตั้งแต่บัดนี้ เพื่อไว้ใช้ชดเชยในฤดูกาลที่ผลผลิตน้อย รัฐบาลมีนโยบายจะไม่ยอมให้มีการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบอีกต่อไป,นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้ นายพิเชษฐ ยังได้โพสต์ระบุเหตุผลที่ทำให้ปาล์มราคาร่วงอย่างหนักอีกว่า การนำเข้าน้ำมันปาล์มเป็นทุจริตคอร์รัปชัน กินประโยชน์จากการค้าโควตานำเข้า เป็นวงจรอุบาทว์ในวงการน้ำมันปาล์มที่ติดต่อสืบเนื่องกันมาหลายสิบปีแล้ว โดยมีเกษตรกรชาวสวนปาล์ม เป็นเหยื่อที่น่าสงสาร แก้ปัญหาปาล์มน้ำมัน ต้องแก้ที่การทุจริตค้าโควตาของราชการที่เกี่ยวข้อง นอกจากนั้น ต้องมีการสอบสวนราชการที่ให้ข้อมูลเท็จ จนนำมาสู่การนำเข้าน้ำมันปาล์ม 5 หมื่นตัน และบอกว่าจะไม่มีการนำเข้าน้ำมันปาล์มอีก ราคาปาล์มจะกลับสู่ภาวะปกติทันที
พิเชษฐ แนะ 8 วิธีการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาปาล์มตกต่ำอย่างหนักในรอบสิบปี อ้างสาเหตุเกิดจากการทุจริตจากการนำเข้า
null
ราคาปาล์มตกต่ำ,ราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ,น้ำมันปาล์ม,ปาล์ม,แก้ปัญหาราคาปาล์ม,อดีต ส.ส.กระบี่,ข่าวการเมือง,พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/495897
มาทั้งโขลง กองทัพช้างบุกไร่ขนุน ชาวบ้านถ่ายคลิป โดนไล่กระเจิง (คลิป)
ช้างใกล้ๆวันที่ 12 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคลิปจากฝีมือชาวบ้าน เป็นภาพโขลงช้างป่ากว่า 30 ตัวลงมาจากป่าอุทยานแห่งชาติเขาอ่างฤาไน ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก เข้ามาในสวนไร่ยางพาราและสวนขนุน เนื้อที่กว่า 20 ไร่ กัดกินพืนไร่ของชาวบ้านจนได้รับความเสียหาย และกำลังพากันเดินกลับเข้าป่าในช่วงสายวันที่ 11 ม.ค. 63ในคลิปจะเห็นว่าช้างในโขลงมองเห็นชาวบ้านยืนถ่ายภาพอยู่ จึงหยุดแล้วหันมามอง ก่อนวิ่งเข้าใส่จนชาวบ้านต้องเผ่นหนีเพื่อเอาตัวรอดต่อมาเวลา 12.30 น. วันที่ 12 ม.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเขาใหญ่ หมู่ 4 ตำบลพลวงทอง อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี พบกับ นางสาวอาภาพร พูลสวัสดิ์ ชาวบ้านคนที่ถ่ายคลิปช้างป่า เล่าว่า ตนกำลังเก็บน้ำยางพาราได้ยินเสียงดังเหมือนมีอะไรมาเหยียบต้นไม้จึงได้ออกมาดู พบโขลงช้างป่ากว่า 30 ตัวกำลังเดินผ่านกระท่อมที่พัก ตนกับลูกชายจึงยืนถ่ายคลิป พอถ่ายได้สักพัก ช้างมองเห็นและวิ่งเข้าใส่ทันที ตนกับลูกชายจึงต้องรีบวิ่งหนีเข้ากระท่อมเพื่อหลบช้างจนผ่านไปเกือบ 30 นาทีช้างจึงได้เดินหนีไปอยากฝากเตือนชาวสวนที่อาศัยอยู่ในสวนยางพารา หากพบเห็นช้างให้รีบหลบทันที อย่าออกมาถ่ายรูปช้างเด็ดขาด เพราะช้างจะหูไวตาไวมาก เมื่อวานนี้ก็เกือบหนีไม่ทันเช่นกันส่วนนายเจียดจำนงค์ รัตนะ อายุ 73 ปี เจ้าของสวนขนุน เผยว่า สวนขนุนมีเนื้อที่กว่า 20 ไร่ ช้างป่าลงมาหากิน 2 วันติดกันแล้ว ซึ่งเป็นการลงมาหากินตามปกติ แต่มีคนมาไล่จนทำให้ช้างโมโหทำลายต้นขนุนไปหลายต้น อยากฝากเตือนลูกหลานว่า หากพบช้างป่าให้อยู่ห่างๆ อย่าเข้าใกล้ หรือเข้าไปไล่ เพราะช้างลงมาหากินตามธรรมชาติ พอกินอิ่มก็กลับขึ้นเขา แต่ถ้าเมื่อใดที่ไปไล่ หรือท้าทาย ช้างอาจจะเข้าไปทำร้ายจนถึงแก่ชีวิตได้.
โขลงช้างป่าเขาอ่างฤาไนเกือบ 30 ตัว ยกทัพลงเขาหากินในสวนยาง สวนขนุน ชาวบ้านที่ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี แม่กับลูกชายเห็นเลยถ่ายคลิปเก็บไว้ ช้างหยุดยืนมองหน้า ก่อนไล่ควบหนีกันกระเจิง เตือนอย่าถ่ายภาพ
ข่าว,ทั่วไทย
ช้างไล่คน,คลิปช้างป่า,ถ่ายคลิปช้าง,คลิปช้างไล่คน,ช้างป่าเขาอ่างฤาไน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1745788
บิ๊กตู่ ลั่น อยากทิ่มปาก จตุพร จ้อ มีชัย เขียนร่างฯรธน.ไม่ผ่าน
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 59 ที่มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ตั้งใจร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้ไม่ผ่านประชามติ ว่า ไอ้คนพูดเนี่ยใคร ไปเอาอะไรทิ่มปากมันสักทีซิ มีใครจะบ้าทำอะไรแบบนั้น เขาอธิบายแล้วว่าเขาออกแบบมาแบบนี้ เพื่ออะไร แล้วในส่วนของการเข้ามาของนักการเมืองเป็นอย่างไร แล้วที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ย้อนกลับไปสู่สาเหตุของปัญหาที่ตนมายืนตรงนี้ ท่านก็เห็นว่าปัญหาของประเทศอยู่ตรงไหน ทางด้านการเมือง การเข้าสู่อำนาจ การตรวจสอบอำนาจ การใช้อำนาจ ผลประโยชน์ทับซ้อน การไม่ทั่วถึงไม่เป็นธรรม ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ นั่นเขาถึงต้องมีกติกาออกมา,ถ้าท่านบอกว่าพูดยังงั้นแล้ว ท่านก็ไปบอกไอ้คนพูดสิ ออกมายืนเข้าแถวสัญญาประชาคมว่า ต่อไปนี้ผมจะไม่ทุจริต ต่อไปนี้ผมจะมีธรรมาภิบาล ดังนั้นอย่ามาไล่กับผม เข้าใจรึยัง อย่าไปฟังเขามากผมขี้เกียจฟัง ฟังแล้วโมโห เสียอารมณ์หมด วันนี้ยิ่งอารมณ์ดีมาตลอด นายกฯ กล่าว และบอกกับสื่อมวลชนว่า พวกเธอก็อย่าไปฟังเขา อย่าไปขยายความให้เขา เขาพูดในบ้านก็เรื่องของเขา
นายกฯ ลั่นอยากหาอะไรทิ่มปาก จตุพร หลังชี้ มีชัย ตั้งใจเขียน รธน. ไม่ให้ผ่านประชามติ ท้าแน่จริงทำสัญญาประชาคมเลย เลิกทุจริต
null
ประชามติ,ร่างรัฐธรรมนูญ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,คว่ำ ร่าง รธน.,จตุพร พรหมพันธ์ุ,เสื้อแดง,นปช.,กรธ.,ประชาธิปไตย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/566674
เกาหลีใต้ จับตาเครียด โสมแดงบ้าระห่ำ คาดทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปอีก 9ก.ย.
เมื่อ 7 ก.ย.60 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงาน นายกรัฐมนตรี ลี นัก-ยอนแห่งเกาหลีใต้ กล่าวต่อที่ประชุมด้านความมั่นคง ในกรุงโซล เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 7 ก.ย. คาดว่า เกาหลีเหนือ ภายใต้การนำของคิม จอง อึน จะทดสอบขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีป (ICBM) ในวันเสาร์ที่ 9 ก.ย.นี้ และเห็นว่า มีความจำเป็นที่ต้องใช้มาตรการพิเศษมาหยุดยั้งความบ้าระห่ำของคิม จอง อึน หลังจากก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้พบสัญญาณบ่งชี้ว่า เกาหลีเหนือ ไม่สนเสียงประณามของประชาคมโลก ยังคงมีการเคลื่อนไหวที่จะทดสอบขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีปครั้งใหม่อีก,ซีเอ็นเอ็น ยังเผยด้วยว่า บรรดาชิ้นส่วนสุดท้ายในการติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ ทาด (THAD) ของสหรัฐฯ ได้ถูกส่งมาถึงฐานทัพแห่งหนึ่ง ที่เมืองซองจู ห่างจากกรุงโซลไปทางใต้ราว 300 กิโลเมตรแล้ว ท่ามกลางการชุมนุมประท้วงของชาวเกาหลีใต้ในพื้นที่หลายร้อยคน ที่คัดค้านการติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธทาดในพื้นที่พวกตนอาศัยอยู่ เพราะเห็นไม่เพียงแต่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและใต้เลวร้ายลง และเป็นผลลบต่อคาบสมุทรเกาหลีแล้ว ยังผลักดันให้เกาหลีใต้เดินหน้าเข้าสู่สงครามกับเกาหลีเหนือด้วย,ขณะที่ มีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังยื่นข้อเสนอต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ให้ลงโทษเกาหลีเหนือ ที่ทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ก.ย. ไม่ว่าจะเป็นทั้งดำเนินมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ ห้ามขายน้ำมัน และอายัดทรัพย์สินของคิม จอง อึน ขณะที่ คาดว่า จีน และรัสเซีย ซึ่งเป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็น คงวีโต้ คัดค้านมาตรการลงโทษใดๆ อีกต่อเกาหลีเหนือ
นายกฯ เกาหลีใต้ คาด เกาหลีเหนือ จะทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป เสาร์ที่ 9 ก.ย.นี้ ชี้จำเป็นต้องใช้มาตรการพิเศษมาหยุดความบ้าระห่ำของเกาหลีเหนือ ขณะที่สหรัฐฯ ผลักดันให้ยูเอ็นออกมาตรการใหม่มาลงโทษอีก รวมทั้ง อายัดทรัพย์ คิม จอง อึน
ข่าว,ต่างประเทศ
เกาหลีเหนือ,ทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป,ทดสอบระเบิดนิวเคลียร์,คิม จอง อึน,ระบบต่อต้านขีปนาวุธทาด
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1062962
ธนาธร ท้า บิ๊กตู่ ดีเบตว่าที่นายกฯ ปิยบุตร ตะเพิดพ้นการเมืองไทย
เมื่อวันที่ 1 ก.พ.62 ที่ร้าน DX Playground Cafe & Bistro เมืองทองธานี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) พร้อมด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ร่วมแถลงข่าวและแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 10 อันดับแรกของพรรค,โดย นายปิยบุตร กล่าวว่า บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 คือ นายธนาธร ลำดับที่ 2 คือ ตน ที่จะผลักดันเรื่องกฎหมาย 3. น.ส.วรรณวิภา ไม้สน 4. นายพิธา ลิ้มเจริญรันต์ 5. น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ รองหัวหน้าพรรค 6. พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรค 7. น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค 8. นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ 9. นายธัญวารินทร์ สุขะพิสิษฐ์ และ 10. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ทั้งนี้พรรคจะเปิดเผยว่าที่ผู้สมัครบัญชีรายชื่อพรรคอีก โดยในวันที่ 5 ก.พ.นี้ พรรคจะแถลงภาพรวม ส.ส.ของพรรคทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อรวมถึงบัญชีนายกฯ เพื่อส่งสัญญาณให้ประชาชนรู้ว่าเราไม่ได้มาเล่นๆ,ด้าน นายธนาธร กล่าวว่า ทุกคนล้วนได้รับการยอมรับในสังคม และมีความรู้ความสำเร็จในวิชาชีพที่เคยทำมาทั้งสิ้น ถือเป็นความภูมิใจในการรวมตัวคนที่มีความหลากหลายและความภาคภูมิใจ,เมื่อถามว่า มั่นใจว่า 10 คน ที่เปิดตัวในวันนี้เป็น ส.ส.ในสภาหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า เรามั่นใจ และเชื่อว่าพรรคจะได้เกิน 10 ที่นั่ง ทั้งนี้เราพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นรัฐบาลและฝ่ายค้าน แม้เราจะเป็นคนหน้าใหม่ทางการเมือง แต่ไม่ใช่คนที่ไม่มีประสบการณ์ อย่างไรก็ตามพรรคจะเปิดเผยว่าที่ผู้สมัครบัญชีรายชื่อพรรคอีกในเร็วๆ นี้ รูปแบบทางการเมืองที่ผ่านมา กลุ่มการเมืองทั้งหลายต้องการ ส.ส. ไม่ว่า 10-20 คน เพื่อให้ได้เก้าอี้รัฐมนตรี นำไปให้นายทุน แต่พรรคของเราไม่ใช่ พรรคของเราไม่มีนายทุน พรรคเลือกคนที่เหมาะสม จากแวดวงนั้นๆ เข้ามาทำงานการเมือง เราพร้อมที่จะบริหาร ถือเป็นโฉมหน้าของรัฐมนตรีพรรค ที่ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพราะนายทุน แต่ตั้งขึ้นมาเพราะความเหมาะสม ทั้งนี้พรรคจะส่งผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อประมาณ 100-150 คน เลือกจากคนสมัครผ่านการสรรหาเข้ามา โดยในวันที่ 5 ก.พ. พรรคจะแถลงข่าวภาพรวม ส.ส.ของพรรคทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ เพื่อส่งสัญญาณให้ประชาชนรู้ว่าเราไม่ได้มาเล่นๆ และในวันที่ 6 ก.พ. ทุกคนจะได้ทราบรายชื่อนายกฯ ของพรรคว่าจะมีทั้ง 3 ชื่อหรือไม่,เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ที่ผ่านมา เสียงตอบรับว่าที่ ส.ส.เขตของพรรคเป็นอย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า ทุกคนครึกครื้นเต็มที่ อาจจะมีอุปสรรคบ้าง แต่ไม่ได้ทำให้เราท้อถอย เราพร้อมขยับเต็มที่เพื่อพิสูจน์ความจริงใจกับประชาชน และยังคงให้ความสำคัญกับการหาเสียงทางออนไลน์ ทั้งนี้บัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรคเบื้องต้นยังมีเพียงตนคนเดียว และตนพร้อมรอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดีเบตในฐานะผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกฯ ที่เท่าเทียมกัน,เมื่อถามถึงกรณี พรรคพลังประชารัฐ ส่งหนังสือเทียบเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ ลงบัญชีรายชื่อนายกฯ นายปิยบุตร กล่าวว่า การเทียบเชิญไม่ได้หมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์ เพิ่งเป็นนักการเมือง แต่ประยุทธ์เป็นนักการเมืองมาตั้งแต่ 22 พ.ค.2557 ที่ยึดอำนาจ และเป็นการเข้าสู่อำนาจโดยไม่เข้าตามตรอกออกตามประตู การเลือกตั้งที่จะมาถึงครั้งนี้จึงไม่ใช่เรื่องที่จะมาเถียงกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯคนนอกหรือคนใน เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนนอกมานานแล้ว ผ่านการฉีกรัฐธรรมนูญมา 5 ปี การเลือกตั้งครั้งนี้คือเครื่องมือชุบตัวสำหรับการสืบทอดอำนาจ ซ้ำรอยกับประวัติศาสตร์ พรรคสหประชาไท ของจอมพลถนอม กิตติขจร พรรคสามัคคีธรรม ของ รสช. เริ่มจากการยึดอำนาจชุบตัวผ่านการเลือกตั้งเพื่อสืบทอดอำนาจ ,ผมเห็นว่าออกจากอำนาจไปเลยด้วยซ้ำ ครองอำนาจมา 5 ปี แล้วยังจะเอาต่อ ความเห็นผม ไม่ใช่ออกจากนายกฯ หัวหน้า คสช. แต่ควรจะออกจากการเมืองไทยไปได้แล้ว นายปิยบุตร กล่าว
อนาคตใหม่ เปิดตัว 10 ส.ส.บัญชีรายชื่อแรก ธนาธร เบอร์ 1 ปิยบุตร เบอร์ 2 เตรียมเปิดตัว ส.ส. 5 ก.พ.นี้ ด้าน ธนาธร ท้า บิ๊กตู่ ดีเบต ปิยบุตร ไล่นายกฯ พ้นการเมืองไทย
เลือกตั้ง
เลือกตั้ง62,อนาคตใหม่,ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,ปิยบุตร แสงกนกกุล,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1485403
แล้วลุงตู่ก็ขึ้นเวที ยอมตายเพื่อแผ่นดินผืนนี้ (คลิป)
ชวน ยันซํ้าไม่หนุน ประยุทธ์ สุดารัตน์ขอ 6 เดือนแก้ปัญหา อนาคตใหม่-เสนอทางออก,ทุกพรรคถือฤกษ์ดีตรงกันจัดเวทีปราศรัยใหญ่ ลุงตู่ ทิ้งทวนโค้งสุดท้ายขึ้นเวทีพลังประชารัฐ ครวญเพลง หยุดตรงนี้ที่เธอ อุตตม โวจูงมือ 150 ส.ส. เข้าสภาชิงจับขั้วตั้งรัฐบาล แต่ยังไม่เปิดโควตาให้พรรคไหนเป็นพิเศษ กอบศักดิ์ บอกเร็วเกินไปมาพูดตอนนี้ มาร์ค ปัดยังไม่คุยจับมือกับใคร,ชัชชาติ ฟุ้งเป็นแกนหลักหาพันธมิตร 376 เสียงฟอร์ม ครม. เจ๊หน่อย เชื่อหลังศึกเลือกตั้งฝุ่นตลบ เสี่ยหนู ยันยังไม่เคยเปิดดีลกับพรรคไหน ธนาธร ชู จบลุงตู่-จบพลังประชารัฐ-จบ ส.ว. ประเทศสงบ ประธาน กกต.ตั้ง 35 อนุ กก.ตรวจสอบโกงเลือกตั้ง เลขา กกต.เผยยอดร้องทุจริตแล้ว 95 เรื่อง ลั่น 24 มี.ค.พร้อมทุกพื้นที่ แรมโบ้-ศุภชัย ล่อกันนัวต่างฝ่ายต่างยื่น กกต.เอาผิดคู่แข่งปมจ้างกล่าวหาซื้อเสียง พีเน็ต-วีวอทช์แท็กทีมเกาะติด แฉจ้างฟังปราศรัย 200-300 บาท/หัว บิ๊กป้อม การันตีไม่มีปฏิวัติ,แล้วก็มาถึงดีเดย์วันเลือกตั้ง 24 มี.ค. หลัง,บรรดาพรรคการเมืองต่างทุ่มเททุกสรรพกำลัง เดินสายหาคะแนนเสียงกันทุกวิธี จนหลายกรณีนำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีกัน ต้องรอวัดใจประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งที่จะชี้ชะตาว่าอนาคตของประเทศจะเดินไปทางไหนกกต.ปล่อยขบวนรถขนหีบบัตร,เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 มี.ค. ที่ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อม พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกันปล่อยรถขนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด และนอกราชอาณาจักร ที่มีการคัดแยก ตามรายเขตแล้ว เพื่อส่งไปยัง 15 ศูนย์ไปรษณีย์ อาทิ พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี นครสวรรค์ ชุมพร ทุ่งสง พิษณุโลก เด่นชัย นครราชสีมา ขอนแก่น และอุบลราชธานี เพื่อกระจายต่อไปยังไปรษณีย์ที่อยู่ในเครือข่าย โดยระหว่างการคัดแยกบัตรมีตัวแทนพรรคเพื่อไทยเพียงพรรคเดียวที่มาขอสังเกตการณ์การคัดแยกบัตรผ่านกล้องวงจรปิดที่ทางไปรษณีย์ไทยจัดเตรียมไว้,จรุงวิทย์ เผยยอดร้องโกง 95 เรื่อง,พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยเตรียมเข้าร้องต่อ กกต. กรณีผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมาของพรรค ถูกใส่ร้ายว่าทำการซื้อเสียงที่ อ.เสิงสาง ว่า ทราบว่าเรื่องดังกล่าวมีการแจ้งความดำเนินคดี สำนักงาน กกต.จังหวัดต้องรายงานมายัง กกต. แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวในทางสอบสวนข้อ เท็จจริงพยานหลักฐานที่ได้อาจต่างกัน กกต.มีพนักงานสอบสวนอยู่ทุกพื้นที่ ทุกครั้งเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจะส่งพนักงานสอบสวนลงไปตรวจสอบหาข้อมูลและรายงานกลับมายัง กกต.กลาง แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นอย่างที่เป็นข่าว เบื้องต้นขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้งเข้ามาแล้ว 95 เรื่อง,มั่นใจไม่มีบัตรเลือกตั้งปลอม,เลขาธิการ กกต.ยังกล่าวถึงความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. ว่า มีความพร้อมในทุกพื้นที่ ยืนยันว่าการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. จะ ไม่มีบัตรเลือกตั้งข้ามเขต หรือบัตรปลอม เพราะบัตรเลือกตั้งแต่ละเขตมีสีแตกต่างกัน และมีรหัสที่บัตร สามารถตรวจสอบได้ ขอให้ผู้ไปใช้สิทธิตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้สมัครที่ติดอยู่หน้าหน่วยเลือกตั้งว่ามีผู้สมัครคนใดถูกเพิกถอนสิทธิการสมัคร เพราะมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงระยะเวลาใกล้วันเลือกตั้ง โดยเมื่อวันที่ 21 มี.ค. ศาลฎีกาเพิ่งมีคำสั่งถอนรายชื่อ ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อของพรรคไทยรักษาชาติ จำนวน 108 คน ออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. อยากให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนใช้สิทธิ,แรมโบ้ โร่ฟ้อง กกต.เอาผิด ภท.,ที่สำนักงาน กกต. นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 10 พรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือถึงประธาน กกต. ขอให้ตรวจการทุจริต 3 เรื่อง 1.การใช้เงินจ้างเพื่อฟังการปราศรัยของพรรคภูมิใจไทย โดยมีหลักฐานเป็นคลิป และเงินของผู้สมัคร ส.ส.พรรคคู่แข่ง 2.การปราศรัยเพื่อใส่ร้ายตนในทุกเวที 3.มีการติดป้ายหาเสียงที่ผิดต่อระเบียบ กกต. นายสุภรณ์กล่าวว่า ขอปฏิเสธกรณีที่นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า ตนมีส่วนเกี่ยวของกับการกระทำทุจริตใน อ.เสิงสาง โดยเป็นผู้วางแผนสร้างหลักฐานใส่ร้ายคู่แข่ง ยืนยันว่านายประยุทธ บัวประดิษฐ์ ผู้ถูกกล่าวหา ไม่ใช่หัวคะแนนตน แต่ยอมรับว่านายประยุทธเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กรณีนายศุภชัยให้สัมภาษณ์พาดพิงนั้น ให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบอยู่หาก พบว่ามีถ้อยคำทำให้ตนและพรรคเสียหาย จะดำเนินการตามกฎหมาย,ศุภชัย ลั่นอาจถึงขั้นยุบพรรค,ต่อมานายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย นำนายพรชัย อำนวยทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมาเขต 10 เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าว นายศุภชัยกล่าวว่า การที่นายดี สิมตะมะ รับเงินมาปรักปรำผู้สมัครของพรรค ภายหลังได้รับสารภาพว่ารับคำสั่งรับเงินมาจากนายประยุทธ บัวประดิษฐ์ ที่เป็นหัวคะแนนและคนใกล้ชิดของผู้สมัครคู่แข่ง และยังเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐตลอดชีพ นายพรชัยจะดำเนินคดีเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด พร้อมกันนี้ ยังนำภาพถ่ายแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้สมัครคู่แข่งกับนายประดิษฐ์ มามอบเป็นหลักฐาน แต่มีข้อกังวลว่าตำรวจได้สรุปสำนวนสั่งฟ้องไปแล้ว โดยไม่มีการขยายผลเบื้องหลังของนายประยุทธ จึงมายื่นหนังสือขอให้ กกต.สอบสวนให้เป็นที่สิ้นสุดว่ามีกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ รู้เห็นเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าวหรือไม่ เพราะอาจถึงขั้นถูกยุบพรรคได้,ศรีวราห์ ชี้สร้างหลักฐานเท็จ,ที่ สภ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยภายหลังร่วม สอบปากคำนายดี สิมตะมะ อายุ 60 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.หนองหลัก อ.เสิงสาง กับนายประยุทธ บัวประดิษฐ์ อายุ 45 ปี ผู้สนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.พรรค หนึ่งนานร่วม 5 ชั่วโมง ว่า มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงเกิดขึ้นจริง ของกลางเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ใส่ซอง 3 ซอง มีการสร้างหลักฐานเท็จกล่าวหาผู้สมัครคู่แข่ง ได้แจ้งข้อหาทั้งคู่ฐานแจ้งความเท็จ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้หนาแน่น ส่วนคดีซื้อเสียงจะส่งให้ กกต.ดำเนินการต่อไป กรณีนี้เป็นการกระทำความผิดทั้งกฎหมายอาญาปกติ และกฎหมายเลือกตั้ง เรื่องนี้ไม่ใช่การใส่ร้าย เนื่องจาก กกต.มีการวินิจฉัยแล้วว่าไม่ใช่ ส่วนจะเกี่ยวโยงกับพรรคการเมืองไหน เป็นเรื่องที่ กกต.จะดำเนินการ อีกเรื่องได้สั่งการเป็นพิเศษคือ ห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจอมงบประมาณ อย่าให้มีเสียงเข้าหู งบประมาณที่ได้รับไปต้องใช้ให้หมด ถ้าใช้ไม่หมดเท่ากับตนไปของบประมาณกับ กกต.เท็จ ถ้าหน่วยไหนใช้งบประมาณไม่หมดให้รายงานชี้แจง,ปธ.กกต.ตั้ง 35 ทีมตรวจสอบโกง,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ได้ลงนามคำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ 137/2562 เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง จำนวน 35 คณะ รวม 175 คน โดยระบุอำนาจหน้าที่ให้มีอำนาจพิจารณาและวินิจฉัยคำร้อง และปัญหาหรือข้อโต้แย้งตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด ในการพิจารณาวินิจฉัยปัญหาหรือข้อโต้แย้งเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และที่เกี่ยวกับการยื่นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งทุกระดับและงานอื่นตามที่ กกต.มอบหมาย คณะอนุกรรมการวินิจฉัยฯดังกล่าว จะทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองสำนวนทุจริตเลือกตั้งที่จังหวัดส่งเข้ามา และเสนอความเห็นต่อ กกต.ว่าสมควร สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง สั่งเลือกตั้งใหม่ หรือยกคำร้อง,ที่ปรึกษา-ผู้เชี่ยวชาญ กกต.พรึบ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยฯของ กกต.ชุดนี้มีการแต่งตั้งมากถึง 35 คณะ เพิ่มขึ้นจากอดีตที่จะตั้งเพียง 25 คณะ และยังพบว่ามีการตั้งที่ปรึกษา หรือผู้เชี่ยวชาญประจำ กกต. มาทำหน้าที่ประธานคณะอนุกรรมการวินิจฉัยฯในหลายคณะ เช่น นาย อนุชา จันทร์สุริยา ที่ปรึกษาประธาน กกต. ทำหน้าที่ประธานอนุกรรมการวินิจฉัยคณะที่ 1 นางธีราลักษณ์ รมยานนท์ ที่ปรึกษานายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ ทำหน้าที่ประธานอนุกรรมการวินิจฉัยคณะที่ 2 พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี นายประดิษฐ์ จันติกาโร ผู้เชี่ยวชาญประจำนายปกรณ์ มหรรณพ ทำหน้าที่ประธานอนุกรรมการวินิจฉัยคณะที่ 12 และคณะที่ 19 พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้เชี่ยวชาญประจำนายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ทำหน้าที่ประธานอนุกรรมการวินิจฉัยคณะที่ 18 นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี นายสมดี คชายั่งยืน ผู้เชี่ยวชาญประจำนาย ธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ทำหน้าที่อนุกรรมการคณะที่ 28 และคณะที่ 35 เป็นต้น,พีเน็ต-วีวอทช์แท็กทีมเกาะติด,ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) และเครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์เลือกตั้งเพื่อประชาธิปไตย (วีวอทช์) ร่วมกันแถลงรายงานสถานการณ์การเลือกตั้งล่วงหน้า เมื่อวันที่ 17 มี.ค. และข้อสังเกตต่อการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ว่า แม้การเลือกตั้งล่วงหน้าจะมีประชาชนตื่นตัวออกมาใช้สิทธิกันล้นหลาม แต่ยังพบว่ามีปัญหาในการจัดการเลือกตั้ง อยู่หลายประการ อาทิ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากไม่เข้าใจกติการูปแบบใหม่ มีความผิดพลาดอาจส่งผลให้เกิดบัตรเสียจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมี ทหาร และตำรวจ คอยติดตามตรวจบัตรอาสาสมัครผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้ง ถือเป็นพฤติกรรมคุกคามผู้สังเกตการณ์เลือกตั้งของพีเน็ตและวีวอทช์ที่ได้รับอนุญาตจาก กกต.,แฉจ้างฟังปราศรัย 200–300 บ./หัว,น.ส.ลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ รองประธานพีเน็ต กล่าวว่า จากการส่งอาสาสมัครลงพื้นที่สังเกตการณ์การเลือกตั้ง พบว่าหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง มีหลายพรรคการเมืองเสนอให้เงินประชาชนมาฟังปราศรัย ในราคา 200-300 บาทต่อคน มีการจัดตั้งหัวคะแนนเกณฑ์ชาวบ้านมาให้การสนับสนุนพรรค การเมือง ข้อมูลเหล่านี้ทางพีเน็ตส่งเรื่องร้องเรียนไปยัง กกต.แล้ว แต่ กกต.ยังไม่มีท่าทีใดที่แสดงให้เห็นว่าจะจัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม นอกจากนี้ ยังกังวลว่าจะเกิดบัตรเสียเป็นจำนวนมาก,ด้านนายโอมาร์ หนุนอนันต์ ผู้ประสานงาน กลุ่มวีวอทช์ กล่าวว่า วีวอทช์อยากให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม เราหวังว่า กกต.จะรีบแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งล่วงหน้า ไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำในการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้,ปชป.ปล่อยคาราวานต้านซื้อเสียง,ช่วงเช้าวันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ร่วมปล่อยขบวนรถ Not for sale ต้านการซื้อสิทธิขายเสียง ออกรณรงค์ป้องปรามการซื้อสิทธิขายเสียง นายอภิสิทธิ์กล่าวย้ำว่า วันที่ 24 มี.ค. เป็นโอกาสสำคัญ หากทุกคนอยากเห็นความเจริญและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ต้องสร้างประชาธิปไตยที่สุจริต ไม่เช่นนั้นเราจะไม่มีวันสร้างระบบสังคมและเศรษฐกิจที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างยั่งยืน ประชาธิปไตยที่สุจริตต้องเริ่มต้นจากกระบวนการเลือกตั้งที่สุจริต เสรี และเป็นธรรม ครั้งนี้มีสโลแกน ไม่มีของแจก ไม่มีเงินให้ มีแต่ความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะรับใช้ประชาชน มีรายงานจากพื้นที่ต่างๆ ถึงการทุจริตแบบเดิมๆ โดยเฉพาะการซื้อเสียง และการใช้อำนาจรัฐเข้ามาหลายพื้นที่ ทำให้ประชาชนถูกกดดัน,มาร์ค ย้ำพรรคอันดับ 1 มีสิทธิก่อน,นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่า จะจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่จำเป็นต้องได้เสียงข้างมาก และมีการไปคุยกับพรรคการเมืองอื่นไว้ก่อนแล้วว่า จะจัดได้อย่างไร พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีการไปคุยเรื่องจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคอื่น โดยธรรมชาติพรรคที่ได้คะแนนมากที่สุดอยู่ในฐานะที่ดีกว่าคนอื่นอยู่แล้ว เพื่อรวบรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล ทุกอย่างต้องว่าไปตามธรรมชาติ ทราบว่าพรรคพลังประชารัฐมีการไปอ้างว่าคุยกับบุคคลหนึ่งแล้ว เพื่อที่ไปคุยกับอีกพรรคการเมืองหนึ่งในเรื่องนี้,บิ๊กแต้ม เผยใช้อำนาจรัฐข่มขู่,พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 9 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในเขตเลือกตั้งของตน มีบางพรรคใช้วิธีส่อไปในทางทุจริต ทั้งแจกของ อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง หลายครั้งก่อนหน้านี้ พอเข้าโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง เริ่มมีการซื้อเสียงสูงถึงหัวละ 1,000 บาท มีการจดชื่อ เก็บบัตรประชาชน และค่อยทยอยแจกเงินตามโพยที่จดสำคัญที่สุดมีการใช้อำนาจรัฐข่มขู่ประชาชนให้เลือกผู้สมัครของบางพรรคด้วย เราจึงรณรงค์ให้ประชาชนรู้เท่าทันพฤติกรรมที่เป็นต้นตอของวงจรอุบาทว์,ศิริโชค โวยทุ่ม 22 ล้านที่สงขลา,นายศิริโชค โสภา ผู้สมัคร ส.ส.สงขลาเขต 7 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ช่วงคืนวันที่ 21 มี.ค. มีประชาชนในพื้นที่หลายคนโทรศัพท์ และส่งข้อความมาหา แจ้งให้ทราบว่ามีการจ่ายเงินซื้อเสียงของพรรคขนาดกลางพรรคหนึ่ง หลังจากให้หัวคะแนนไปเก็บรายชื่อ และเลขบัตรประชาชนมาก่อนหน้านี้ ทำในลักษณะเดียวกับที่ จ.พัทลุง ทราบว่ามีเงินจำนวน 12 ล้านบาท ไปที่ผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา กระจายไปตามหัวคะแนนและเงินอีกส่วนหนึ่งประมาณ 10 ล้านบาท ที่เตรียมใช้ซื้อเสียงในพื้นที่ อ.นาทวี และ 2 ตำบล ใน อ.สะเดา ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ต่างทราบแต่ก็วางเฉย ชาวบ้านจะได้หัวละ 500-1,000 บาท ขึ้นอยู่กับพื้นที่ และการอมเงิน,วัชระ เย้ยหุ่นเชิด ลุงกำนัน,นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากทราบว่าคำพูดของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ที่ประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯต่อ เป็นมติพรรคหรือไม่ หรือคำพูดของนายสุเทพเป็นมติพรรคในทุกเรื่อง ถ้าเช่นนั้นหัวหน้าพรรคนี้เป็นนอมินี หรือหุ่นเชิดของลุงกำนันหรือ ที่มาเป็นตัวหนังตะลุงให้ลุงกำนันเชิดซ้ายหันขวาหัน ส่วนการนัดประชาชนชุมนุมที่ราชดำเนินอีกนั้น เพื่อสร้างเงื่อนไขให้ทหารยึดอำนาจอีกครั้งใช่หรือไม่ คนบริสุทธิ์บาดเจ็บล้มตายยังไม่เพียงพออีกหรือ การชุมนุมครั้งที่ผ่านมาถ้ายุติตามที่ผู้ใหญ่พรรคประชาธิปัตย์แนะนำ จะไม่มีเหตุการณ์รัฐประหารเกิดขึ้นแน่,สุเทพ ย้ำมาสู้กันอีกตั้งเลือก รปช.,ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค รปช. โพสต์ลงเฟซบุ๊กระบุว่า ก่อนจดปากกาในคูหา ถามตัวเองก่อนว่าอยากให้ประเทศของเราเป็นแบบไหน รับได้ไหมหากต้องกลับมาอยู่ในวังวนเดิมไม่รู้จบ หากใครที่มองเห็นว่าประเทศยังไม่ปลอดภัย เหมือนกับผม มาสู้กันอีกสักตั้งครับ คิดว่าทำเพื่อประเทศของเรา เลือกพรรครวมพลังประชาชาติไทย,ชัชชาติ ฟุ้งเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล,ช่วงเช้าที่สวนพฤกษชาติคลองจั่น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ย่านคลองจั่น ช่วยนายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้สมัคร ส.ส.กทม. หาเสียงระหว่างเดินทักทายประชาชนได้พบกับนายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ หรือไอติม ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ต่างทักทายจับมือกันก่อนแยกย้ายกันไปเดินหาเสียง นายชัชชาติกล่าวว่า การแข่งขันช่วงโค้งสุดท้ายเชื่อว่าทุกพรรคมียุทธศาสตร์อยู่แล้ว ขอให้สู้กันอย่างเต็มที่ เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐมาระบุถึงการจับมือตั้งพรรคร่วมรัฐบาล นายชัชชาติตอบว่า ตัวแปรสำคัญคือ ส.ว. 250 คน แต่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยคว้าคะแนนเสียงอันดับ 1 อยู่แล้ว และต้องเป็นตัวหลักในการหาพันธมิตรมาจับมือกัน ถ้ารวมกันได้ 376 เสียง ก็ไม่ต้องกังวลเรื่อง ส.ว. 250 เสียง และมั่นใจว่าเราจะคว้าเสียงข้างมากและเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะทุกคน คงไม่อยากให้ ส.ว.แต่งตั้ง มีเสียงเหนือมติประชาชน,เจ๊หน่อย ชี้หลังเลือกตั้งฝุ่นตลบ,ที่ตลาดนัดหมู่บ้านเสรี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ช่วยนายวิตต์ ก้องธรนินทร์ ผู้สมัครส.ส.กทม. หาเสียง โดยยังคงตอกย้ำให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยให้ถล่มทลาย ให้ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และได้คะแนนเสียงมากกว่า ส.ว. 250 คน คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ตามที่นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าพรรคที่สามารถรวบรวมเสียงได้มากที่สุด มีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาลนั้น คงเป็นเพราะเห็นว่าตนเองจะไม่ได้เสียงลำดับที่ 1 แน่นอน จึงพยายามวางกฎเกณฑ์หรือมารยาทที่แตกต่างจากอดีต หากพรรคลำดับ 1 ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ค่อยเปิดโอกาสให้แข่งขันกันต่อ เป็นวัฒนธรรมที่ทำมาทุกครั้ง การพูดเช่นนี้สะท้อนว่าสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. พยายามว่าร้ายพรรคการเมือง วันนี้ไปอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐทั้งหมด เชื่อว่าหลังการเลือกตั้งจะมีงูเห่า หรือล็อบบี้ ส.ส.ในลักษณะเชิญกึ่งอุ้มไปหาผู้มีอำนาจ เพื่อบังคับให้ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ และจะมีเหตุการณ์พยายามซื้อตัว ส.ส.รายบุคคล เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์กลับมาสู่อำนาจให้ได้ โดยไม่สนวิธีการจะผิดกฎหมาย ไม่ถูกต้องตามจริยธรรม ผิดธรรมเนียมปฏิบัติ,พวกหนุน ลุงตู่ สร้างความกลัว,ที่เขตบางขุนเทียน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ ลงพื้นที่ช่วยนายสุไพรพล ช่วยชู ผู้สมัคร ส.ส.กทม. หาเสียง นายจตุพรให้สัมภาษณ์กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐขึ้นป้าย เลือกความสงบ จบที่ลุงตู่ ว่า เหมือนเป็นการสร้างสถานการณ์ น่ากังวลสอดคล้องกับที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค รปช. ระบุให้เจอกันที่ราชดำเนินอีกครั้ง จะเห็นว่าพรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ต่างแบ่งงานกันทำ โดยเฉพาะชูเรื่องความสงบทำให้ผู้คนวิตก บรรยากาศแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น,เสรีพิศุทธ์ ขอเสียงเป็นนายกฯ,ที่ จ.สตูล พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายสมพงษ์ สระกวี แกนนำพรรคเสรีรวมไทย นายวิภัชภณ สุธากุล ผู้สมัคร ส.ส.สตูล เขต 1 จัดขบวนแห่เดินหาเสียงตามร้านค้ารอบตลาดสดเทศบาลเมืองสตูล มีบรรดาพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยเข้ามาพูดคุยด้วยความสนใจ ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ขอคะแนนเสียง ให้เลือกตนเป็นนายกฯ เพื่อส่ง พล.อ.ประยุทธ์ กลับบ้าน จะนำเงินที่ใช้ซื้อเรือรบ ซื้อรถถัง มาพัฒนาเศรษฐกิจ,เสี่ยหนู ยันไม่เคยคุยตั้งรัฐบาล,ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งว่า ช่วง 60 วันที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยและผู้บริหารพรรคลงพื้นที่อย่างหนัก สิ่งที่เราทราบคือพี่น้องเบื่อความขัดแย้ง และมีปัญหาความยากจน พรรคหาเสียงด้วยความสุจริต และยึดถือหลักกฎหมาย เราพร้อมแข่งขัน และยอมรับผลของการเลือกตั้ง เรายึดถือว่าผู้จะดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯ ต้องมีเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของ ส.ส. พรรคไม่ต้องการให้เกิดปัญหารัฐบาลเสียงข้างน้อย เพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งนายกฯ แต่ไม่มั่นคง พรรคไม่เคยจับมือกับใครทั้งนั้นและไม่เคยคุยกับใครทั้งสิ้น การตัดสินใจจะเกิดขึ้นหลังจากที่เราได้รับฟังเสียงประชาชน ขอให้ ส.ส.เคารพศักดิ์ศรีของตนเอง รวมเสียงให้ได้ 376 คน เลือกนายกรัฐมนตรี อย่าให้คนอื่นมาช่วยเราเลือกเลย,หนุนผู้ชนะลำดับ 1 ตั้งรัฐบาล,ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ถ้าภูมิใจไทยได้รับเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 นายกฯ ต้องชื่ออนุทินเท่านั้น แต่หากมาเป็นอันดับ 2 เรายอมให้พรรคเบอร์ 1 ตั้งรัฐบาล เราไม่ขัดหลักประชาธิปไตย เราเห็นด้วยที่หลายพรรคไม่ต้องการให้อำนาจอื่นเข้ามาแทรกแซง สุดท้ายหวังว่าประชาชนจะมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้มากที่สุด เพื่ออนาคตของคนไทย และประเทศไทย,กัญจนา มั่นใจกวาดสุพรรณฯ,ที่ จ.สุพรรณบุรี น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) พร้อมคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรค ลงพื้นที่ช่วยนายสรชัด สุจิตต์ ผู้สมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี หาเสียงบริเวณเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี น.ส.กัญจนากล่าวว่า เป็น 50 เมตรสุดท้าย ถือว่าประทับใจในทุกพื้นที่ที่ได้ไปช่วยผู้สมัครหาเสียง สำหรับการแข่งขันในพื้นที่จ.สุพรรณบุรี เราไม่เคยหวั่นแต่ก็ไม่ประมาท ลงพื้นที่เองทุกเขต แม้เขตเลือกตั้งที่ 3 เหมือนเป็นช้างชนช้างระหว่างนายจองชัย เที่ยงธรรม ผู้สมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคภูมิใจไทย และนายประภัตร โพธสุธน ผู้สมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา แต่ไม่หนักใจ เพราะพรรคเราอยู่ในใจพี่น้องชาวสุพรรณบุรีมาเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว ยากมากที่พรรคไหนจะเข้ามาแทรกได้,ลั่นเป็นพรรคไซส์กลางต้องเจียมตัว,น.ส.กัญจนากล่าวถึงกรณีนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าไม่จำเป็นที่พรรคชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 จะได้สิทธิจัดตั้งรัฐบาลก่อน ว่า ที่ผ่านมาเคยมีรัฐบาลพรรคเดียวแค่ครั้งเดียวเท่านั้น นอกนั้นเป็นรัฐบาลผสมทั้งหมด รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันออกแบบให้มีรัฐบาลผสม อยากให้กำลังใจกับทุกพรรค ส่วนเราเป็นพรรคขนาดกลางถึงขนาดเล็ก จะคอยดูพรรคใหญ่รวบรวมเสียง บุคลิกของเราเจียมตัวไม่กล้าตั้งเงื่อนไขขอเข้าร่วมรัฐบาลกับใคร แต่ยังไม่มีพรรคไหนมาทาบทาม หรือติดต่อมา การจะเลือกไปอยู่กับพรรคใดต้องเป็นพรรคที่ให้เราได้ทำตามนโยบายที่เรานำเสนอไว้กับประชาชน,เทวัญ แวะส่องพระขอคะแนน,ที่ตลาดสดประปา และตลาดสดจิระ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นำทีมผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เดินรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยมีแฟนคลับนำเสื้อสีเหลืองสมัยที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และนายเทวัญ เป็น ส.ส. มาโชว์ให้ดูว่ายังเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ขณะที่เดินรณรงค์และทักทายแบบเดินปราศรัยใกล้ชิดกับประชาชน พร้อมแวะพักสร้างสีสันการหาสียงด้วยการขอหยุดส่องวัตถุมงคลกับแฟนคลับสายพระเครื่อง เนื่องจากนิยมชมชอบวัตถุมงคล และของเก่าเป็นพิเศษ,สุวัจน์ วอนอย่าปิดประตูตาย,ขณะที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา พร้อมคณะผู้บริหารพรรค ทำพิธีบวงสรวงสักการะดวงทิพยวิญญาณท้าวสุรนารี เนื่องในโอกาสพิธีเฉลิมฉลอง วันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี ณ บริเวณสี่แยกประตูพลล้าน นายสุวัจน์กล่าวว่า ยิ่งใกล้เลือกตั้งยิ่งเห็นการจับขั้วชัดเจน เหมือนมี 3 ขั้ว คาดว่าประชาชนจะออกมาใช้สิทธิมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และจะได้ผลการเลือกตั้งที่แม่นยำที่สุด การจัดตั้งรัฐบาลย่อมได้คำตอบและผ่านการกลั่นกรองจากประชาชน พรรคชาติพัฒนาไม่แบ่งขั้ว ไม่สร้างปัญหาและไม่สร้างเงื่อนไข เป็นมิตรกับทุกฝ่าย ยึดหลักการว่าก่อนเลือกตั้งคือการเมือง แต่หลังเลือกตั้งต้องเห็นแก่บ้านเมือง ต้องร่วมมือกันประนีประนอมกัน อย่าปิดประตูตายทางการเมือง เพราะหากปิดประตูตายทางการเมืองบ้านเมืองจะเดินต่อไปไม่ได้,อุตตม โวจูงมือ 150 ส.ส.ตั้งรัฐบาล,ด้านนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ช่วงโค้งสุดท้ายนี้จากการประเมินคะแนนไว้หลายทาง มั่นใจว่าพรรคมีโอกาสมากต่อบทบาทผู้นำจัดตั้งรัฐบาล คาดว่าจะได้ ส.ส.เข้าสภามากถึง 140 -150 ที่นั่ง การฟอร์มตั้งรัฐบาลทุกสมัยที่ผ่านมา คือพรรคที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ โดยพรรคมั่นใจว่าจะสามารถรวบรวมเสียงให้ได้มากกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ที่มี 500 เสียงได้แน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มองพรรคการเมืองใดเป็นพิเศษ หรืออยู่ในโควตา ต้องรอดูผลการเลือกตั้งก่อน และเมื่อรับทราบถึงผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ พรรคจึงจะหารือต่อการรวบเสียงจัดตั้งรัฐบาลต่อไป,กอบศักดิ์ ชี้เร็วเกินไปพูดตั้ง รบ.,นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวระหว่างลงพื้นที่หาเสียงย่านถนนข้าวสาร เขตพระนคร กทม. ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะคุยกันเรื่องการตั้งรัฐบาล วันที่ 24 มี.ค.ประชาชนจะเป็นพระเอก เป็นคนตัดสินใจว่านโยบายพรรคไหนที่เขาโดนใจ ผู้สมัครคนไหนที่เขาชอบ นายกฯคนไหนที่มั่นใจว่าเอาอยู่ พรรคไหนเป็นพรรคที่เข้าถึงพึ่งพาได้ เชื่อว่าเสียงเงียบที่ต้องการความสงบ จะออกมาใช้เสียง แสดงพลังให้โอกาสประเทศไทยไปต่อ,ลุ้น บิ๊กตู่ ขึ้นเวทีพลังประชารัฐ,ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ท่ามกลางการจับตาว่าจะตัดสินใจขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่พรรคพลังประชารัฐช่วงเย็นหรือไม่ โดยเมื่อเวลา 09.30 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า นางอาร์มิดา ซัลเซียะฮ์ อาลิสจะฮ์บานา เลขาธิการบริหารคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) เข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยนางอาร์มิดา กล่าวว่า ESCAP จะจัดการประชุม Asia-Pacific Forum on Sustainable Development (APFSD) ครั้งที่ 6 ในวันที่ 27-29 มี.ค.62 และการประชุมประจำปี สมัยที่ 75 ในวันที่ 27-31 พ.ค.62 รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเข้าร่วมประชุมด้วย,ปัดข่าวดีล 6 พรรคขอดูผลก่อน,ต่อมาเวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาเทพหัสดิน กทม. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวก่อนขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ว่า พรรคจะหาเสียงจนนาทีสุดท้าย มั่นใจแคมเปญที่ออกมาจะดึงดูดประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกพรรคเราได้ ส่วนกระแสข่าวการจับมือกับ 6 พรรคเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันไม่เป็นความจริง เรื่องของตัวเลขและการจัดตั้งรัฐบาลจะเกิดขึ้นภายหลังการปิดหีบเลือกตั้ง ขอให้ดูผลการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.เชื่อจะรู้ผลแต่ละพรรคได้คะแนนเท่าไหร่อย่างไม่เป็นทางการ ภายใน 2 ชั่วโมง ตอนนี้เป็นเพียงการคาดเดา และส่วนตัวมองว่าพรรคที่ได้อันดับที่ 1 ต้องเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลก่อน พรรคลำดับที่ 2 ต้องว่าตามขั้นตอน,ร้อง กกต.สอบ สุเทพ-เบญญา,ช่วงบ่ายที่สำนักงาน กกต. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องขอให้ กกต.ไต่สวนสอบสวนและวินิจฉัยกรณีนางเบญญา นันทขว้าง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ถ้าฝ่าย ปชต.กงเต๊กชนะเลือกตั้ง ที่สุดก็จะปฏิวัติอีกรอบ และกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ปราศรัยขู่ว่า ถ้าเลือกพรรคเพื่อเจอกันราชดำเนิน เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 92 (2) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และหรือมาตรา 73 (5) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่ นายศรีสุวรรณกล่าวว่า คำว่า ปฏิวัติ เป็นถ้อยคำแสลงที่สุดในระบอบประชาธิปไตย สื่อให้หวาดกลัวต่อการไปใช้สิทธิหากไม่เลือกฝ่ายตน อาจเป็นการข่มขู่ประชาชนหรือไม่ เอาเงื่อนไขที่จะไปที่ราชดำเนินสร้าง สถานการณ์นำไปสู่การยึดอำนาจอีกรอบหรือไม่,บิ๊กป้อม เมิน เทือก ขู่ก่อม็อบ,ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์ (อผศ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.ว่า ไม่ห่วงอะไร ไม่มีพื้นที่ไหนน่ากังวล ไม่ได้สั่งการให้ติดตามกลุ่มเป้าหมายใด รวมถึงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐชูสโลแกน เลือกความสงบจบที่ลุงตู่ จะสงบจริงหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ก็ไม่รู้ เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อถามว่า แต่มีคนไม่ค่อยมั่นใจว่าหลังเลือกตั้งจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างสงบดี,การันตีหลังเลือกตั้งไม่มีปฏิวัติ,เมื่อถามถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ออกมาระบุว่าหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งจะจัดชุมนุมบนถนนราชดำเนิน พล.อ.ประวิตรตอบว่า เป็นเรื่องของนายสุเทพ ขอให้ไปถามนายสุเทพ เมื่อถามว่า มีการจับตามองว่าคืนวันที่ 24 มี.ค. พล.อ.ประวิตร อาจมีส่วนสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่มี ตนไม่ได้รับการประสานมา เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะได้กลับมาเป็นนายกฯต่อ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ก็แล้วแต่ประชาชน เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวหลังการเลือกตั้งอาจจะมีการปฏิวัติเกิดขึ้นอีก พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่มี,ยกเพลงพระราชนิพนธ์สอนใจ,เมื่อเวลา 20.15 น. รายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ได้ปรับรูปแบบให้นางมีเรีย เบนเนเดดตี้ หรือนัท มีเรีย ศิลปิน มาเป็นผู้ดำเนินรายการ มีนายจิรายุส วรรธนะสิน นายสหรัถ สังคปรีชา นายจอห์น รัตนเวโรจน์ ร่วมพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เปิดรายการด้วยเพลงชะตาชีวิต บทเพลงพระราชนิพนธ์ โดย พล.อ.ประยุทธ์อธิบายถึงบทเพลงพระราชนิพนธ์เกี่ยวข้องกับศาสตร์พระราชา อาทิ เราสู้ ชะตาชีวิต เมนูไข่ พรปีใหม่ เราเหล่าทหารราบ 21 และความฝันอันสูงสุด เป็นต้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอแค่ความรักสามัคคีคืนมา จะต้องไม่มีความขัดแย้งอีกต่อไป ต้องถวายความจงรักภักดี ทั้งนี้ก่อนปิดรายการ มีการอัญเชิญเพลงชะตาชีวิตมาร้องร่วมกัน,เวที พปชร.คึกคักเล็งเป้าตั้งรัฐบาล,สำหรับบรรยากาศการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคการเมืองต่างๆ ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. เมื่อเวลา 17.30 น. ที่สนามกีฬาเทพหัสดิน สนามกีฬาแห่งชาติ พรรคพลังประชารัฐจัดเวทีปราศรัยใหญ่ เปิดใจประชารัฐ รวมใจประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค พร้อมทีมผู้สมัคร ส.ส. กทม. โดยมีประชาชนร่วมฟังปราศรัยอย่างคับคั่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีพิธีกรตะโกน พลังประชารัฐ รัฐบาล กระตุ้นบนเวทีตลอดเวลา ทั้งนี้ มีการเชื่อมสัญญาณโทรทัศน์ไปยังเวทีในต่างจังหวัด ขณะที่นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ต้องอยู่นาทีสุดท้าย เพราะจะมีคนที่พี่น้องรอเป็นเวทีสุดท้ายของชัยชนะพลังประชารัฐ,บิ๊กตู่ เซอร์ไพรส์ปรากฏตัวขึ้นเวที,กระทั่งเวลา 19.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกฯของพรรค ได้ปรากฏตัว ด้วยเสื้อเชิ้ตขาวแขนยาวพับแขน เดินขึ้นเวทีโดยมีประชาชนส่งเสียงต้อนรับนำดอกกุหลาบมามอบให้ ท่ามกลางเสียงพิธีกรและประชาชนตะโกนส่งเสียงเชียร์ ลุงตู่ๆ พร้อมเปิดเพลงหยุดตรงนี้ที่เธอของ ฟอร์ด สบชัย ไกรยูรเสน ประกอบ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ร้องคลอตามไปด้วย ก่อนขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยทักทายกับประชาชนโชว์ลีลาแบบสุดเหวี่ยง,พร้อมยอมตายเพื่อแผ่นดินนี้,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปราศรัยว่า สัญญาว่าจะดูแลคนทั้ง 77 จังหวัด เดินไปข้างหน้าเพื่ออนาคตที่ดีกว่า มาวันนี้เพื่อขอบคุณคนไทยทั้งประเทศที่ให้ความร่วมมือกันมาตลอด 5 ปี จะทำต่อไปให้ดีที่สุด เราต้องรวมพลังกัน อยากบอกว่าทุกวันนี้มีความสุขทุกครั้ง ที่ได้พบประชาชนทุกจังหวัด มีทั้งคนรักคนไม่รัก แต่ที่นี่คิดว่ารักตนหมดทุกคน สิ่งเหล่านี้คือกำลังใจให้ตนและทุกคนทำงานต่อไป เราต้องเติมใจให้กัน จับมือกันให้เข้มแข็งเดินหน้าไปด้วยกัน ถ้า 68 ล้านคนจับมือกันจะทำได้ทุกอย่าง ลุงอยู่มา 5 ปีรู้ดีว่าอะไรคือปัญหาและอุปสรรค เราต้องช่วยถางทางตรงนี้ให้โล่ง ลุงก็ถางมาโล่งพอสมควรแล้ว เราต้องทำให้เกิดความสงบสุขเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่ามัวนั่งรอต้องลุกขึ้นก้าวเดินไปพร้อมๆกับผม พยุงกันไป ลากกันไป เข็นกันไปก็ต้องทำ ผมให้ได้ทั้งชีวิตและจิตใจ ผมจะยอมตายเพื่อแผ่นดินผืนนี้ แผ่นดินที่ให้ผมเกิด ให้ผมมีที่กินอยู่หลับนอนและมีอาชีพ ผมต้องรักษาแผ่นดินนี้ไว้ เพื่อลูกหลานในอนาคต ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะมีพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ ใครจะมาทรยศแผ่นดินนี้ไม่ได้เด็ดขาด เราจะต่อสู้เพื่อรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์,ปชป.เปิดลานคนเมืองแฟนเพียบ,เวลา 16.00 น. ที่ลานคนเมืองหน้าศาลาว่าการ กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์จัดเวทีปราศรัยใหญ่ บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักมีสมาชิกและประชาชนผู้สนับสนุนจำนวนมากทยอยเข้าจับจองพื้นที่รับฟังการปราศรัย จนล้นพื้นที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. กล่าวปราศรัยว่า เหตุที่ร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นพรรคที่ให้โอกาสคนรุ่นใหม่ร่วมสืบทอดอุดมการณ์ เราจะไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯแน่นอน มีคำถามถึงการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ว่า แม้พยายามอ้างว่าสร้างความสงบมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา แต่หากเป็นนายกฯต่อไปจะกลายเป็นชนวนก่อให้เกิดความขัดแย้งใหม่ ขอฝากถึงคนรุ่นใหม่กว่า 7 ล้านคน ทบทวนและตัดสินใจระหว่างความสะใจชั่วครู่ กับการเปลี่ยนแปลงที่ทำได้จริง และยั่งยืนกว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้,กรีด เฮียกวง ทำคนจนหมดจริงๆ,จากนั้นนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยว่า ที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ พูดว่า จะทำให้คนจนหมดไป ก็จริง วันนี้คนจนหมด จนหมดทุกคน สาเหตุเพราะไม่สามารถข้ามพ้นประเทศรายได้ปานกลางไปได้ และภาพรวมรายได้ก็ยังลดลงเพราะภาวะเงินเฟ้อ ทั้งที่เศรษฐกิจควรทรงตัว ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์เราดูแลประชาชนให้ทุกจังหวัดมาตลอด 5 ปี แม้รัฐบาลนี้จะมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีคนเก่งๆเข้ามาทำงานก็จริง แต่เขาทำงานให้รัฐบาลซึ่งเป็นคนแต่งตั้งเขามา สนช.มีหน้าที่ทำกฎหมายตามที่รัฐบาลสั่ง ไม่ได้มาดูแลประชาชนเหมือนพวกเรา พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเลือกปฏิบัติเหมือนที่คนภาคใต้ถูกมีการเลือกปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากคำสั่งของเจ๊อะไร เป็นคนตัวขาวใจดำ ใจจืด ใจไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ใจไม่นักเลง ใจจืดใจดำ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการปราศรัยของนายชวน ปรากฏว่า ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งเป็นบิดาของ ม.ล.อภิมงคล โสณกุล ผู้สมัคร ส.ส.กทม. มายืนฟังที่บริเวณหน้าเวทีด้วย เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามาให้กำลังใจบุตรชายหรือ ม.ร.ว.จัตุมงคลระบุสั้นๆว่า มาฟังเพื่อหาความรู้เพิ่มเติม,หมดเวลาเผด็จการ-คนโกงแล้ว,ต่อมานายอภิสิทธิ์กล่าวปิดท้ายปราศรัยใหญ่ว่า สมัยเป็นรัฐบาลเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ คนแดนไกลปรามาสเด็กสองคน คือตนและนายกรณ์ จาติกวนิช แต่สุดท้ายเราแก้วิกฤตินั้นได้ ตอนนี้เราเป็นหนุ่มแล้ว วิกฤติรอบนี้ไม่รุนแรงเหมือนครั้งที่แล้ว ฉะนั้นมรดกที่รับจากรัฐบาลนี้พรรคประชาธิปัตย์แก้ได้แน่ แต่น่าเสียดายที่สุด คือทำไมพรรคอื่นใช้การเลือกตั้งครั้งนี้ให้ประชาชนเป็นหมากในกระดาน เล่นสงคราม บีบประชาชนเลือกข้าง ระหว่างความโกรธกับความกลัว พรรคหนึ่งได้ยินคำว่าทุจริตเหมือนโดนน้ำร้อนสาด บางพรรคพูดจริงจังแต่ตอนเป็นรัฐบาลกลับไม่ทำ ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเล่นกับความกลัว กลัวระบอบทักษิณ กลัวบ้านเมืองวุ่นวาย บอกว่าต้องข้าพเจ้าเท่านั้นบ้านเมืองจึงสงบ ถามว่า พฤติกรรมของพรรคนี้ต่างจากระบอบทักษิณหรือไม่ เอาอำนาจรัฐเอาเปรียบเลือกตั้งหรือไม่ เคยบอกว่าบางคนเป็นคนไม่ดี แต่เมื่อคนเหล่านี้ไปอยู่พรรคที่หนุน พล.อ.ประยุทธ์ ก็กลายเป็นคนดีและยกเลิกคำสั่งทันที วันนี้จึงหมดเวลาของเผด็จการ และหมดเวลาคนโกง ถึงเวลาเดินหน้าประชาธิปไตยสุจริตแล้ว,คนแน่นฮอลล์เวทีเพื่อไทย,ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง พรรคเพื่อไทยจัดปราศรัยใหญ่ เลือกเพื่อไทยให้ถล่มทลาย เป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล บรรยากาศ เป็นไปอย่างคึกคัก แกนนำพรรค อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯของพรรค และทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม. อาทิ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เข้าร่วม มีประชาชนมาร่วมฟังการปราศรัยจนเต็มอาคารกีฬาเวสน์ 2 และล้นออกไปถึงลานด้านหน้าอาคาร แกนนำพรรคได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับเดินวนขวา 3 รอบ เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนจะเริ่มเปิดเวทีปราศรัย ขณะที่บรรดาแกนนำทยอยเดินทางมาถึงสถานที่ปราศรัยอย่างคึกคัก,ชัชชาติปชต.ต้องตรวจสอบได้,จากนั้นนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า หลังเลือกตั้งเราจะไล่อนาคตทันได้อย่างไร พรรคเพื่อไทยจะพาพวกเราไปสู่อนาคตได้ดีที่สุด เพราะประเทศหยุดอยู่กับที่มากว่า 5 ปี ในอาเซียนเราเติบโตต่ำที่สุด วันนี้เปรียบเหมือนคนเป็นไส้ติ่งกำลังจะแตกแล้วให้มาแค่บัตรคนจน ให้มาแค่ยาแก้ปวด มันแก้ปัญหาไม่ได้ วันนี้จึงต้องซ่อมและสร้างใน 4 ปีโดยพรรคเพื่อไทย ที่เขาบอกว่าจะไม่สงบก็เพราะว่าทำกันเองหรือไม่ เพราะไม่เห็นมีใครทำ พรรคเพื่อไทยมีแต่จะสร้างความมั่นใจ และเดินหน้าต่อเท่านั้น ส่วนเรื่องประชาธิปไตยทุกอย่างต้องตรวจสอบได้ ที่ผ่านมาตรวจสอบได้ไหม นี่คือเหตุผลที่เราจะปล่อยให้อยู่ต่อไม่ได้ ต้องเลือกพรรคเพื่อไทย เพราะเราเข้าใจวิธีทำ เราทำเป็น เราทำได้ 24 มี.ค.เลือกทีมเพื่อไทย เพื่อพาประเทศสู่อนาคต,ชีวิตการเมืองไม่ได้โรยด้วยกลีบ,คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กล่าวปราศรัยว่า 27 ปีที่แล้วเป็นวันสำคัญสำหรับตน วันที่ 22 มี.ค.2535 ได้เป็น ส.ส.ครั้งแรกวันนี้ เมื่อ 27 ปีที่แล้ว สุดารัตน์ได้เกิดทางการเมืองใน กทม. เริ่มชีวิตการเมืองที่ไม่ง่าย พอเลือกตั้งเสร็จก็มีคณะรัฐประหารเกิดขึ้นคล้ายกับรัฐประหารที่ผ่านมา มีการร่างรัฐธรรมนูญเอื้อให้คนนอกมาเป็นนายกฯจนเกิดการต่อต้านของประชาชน เกิดเป็นพฤษภาทมิฬ ตัวละครคล้ายกันมาก ผบ.ทหารสูงสุดขณะนั้นนามสกุลเดียวกับ ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน คนร่างรัฐธรรมนูญก็ชื่อนายมีชัย ฤชุพันธุ์ วันนั้นฝ่ายประชาชนเป็นฝ่ายชนะ วันนี้นายมีชัยมีการพัฒนาเพราะนอกจากเปิดทางนายกฯคนนอกแล้ว ยังมี ส.ว. 250 คนมาร่วมเลือกนายกฯ เส้นทางการเมืองของตนไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบ มีแต่การต่อสู้ แต่มายืนอยู่ตรงนี้ได้ เพราะกำลังใจจากพี่น้องทุกคน หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลขอเวลา 6 เดือนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และเวลาของเราตรงเพราะนาฬิกาไม่ได้ไปยืมใครมา,คนแห่ฟัง อนค.ปราศรัยใหญ่พรึบ,ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์กีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง พรรคอนาคตใหม่จัดปราศรัยใหญ่ เวทีสุดท้ายก่อนเข้าคูหา บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เวทีถูกจัดอย่างทันสมัย มีจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่หลายจุด พร้อมผู้บรรยายภาษามือ สมาชิกพรรคและประชาชนกลุ่มผู้สนับสนุนต่างสวมเสื้อยืดสกรีนชื่อพรรคและตราสัญลักษณ์พรรค ทยอยเข้ามาจับจองที่นั่งรับฟังการปราศรัยล่วงหน้านับชั่วโมง จนเกือบเต็มความจุของอาคาร ทั้งยังมีครอบครัวของบรรดาแกนนำร่วมมาให้กำลังใจ ขณะที่ด้านหน้ามีตัวแทนของไอลอว์ร่วมตั้งโต๊ะรณรงค์ล่าชื่อให้ครบ 10,000 รายชื่อ เพื่อยื่นร่างกฎหมายยกเลิกคำสั่งมาตรา 44 ของ คสช. เสนอต่อสภาหลังการเลือกตั้ง ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก,ธนาธร ชูสามจบประเทศสงบ,นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า พวกเรามั่นใจเต็มที่ว่า พรรคอนาคตใหม่จะได้ ส.ส.ทั่วทุกภูมิภาค เรานำเสนอทางออกให้ประเทศออกจากความขัดแย้งอย่างสันติ ถ้า ส.ว.เข้ามามีบทบาทเลือกนายกฯเมื่อไร จะไม่นำไปสู่ความสงบสุข และจะเป็นต้นตอของความขัดแย้ง พรรคเชื่อว่าจะสงบสุขได้ต้อง 3 จบ จบลุงตู่ จบพลังประชารัฐ และจบ ส.ว. สงบแน่นอน ดังนั้นพรรคที่ไม่อาจรวบรวมเสียงข้างมากได้ พรรคไหนที่ไม่โหวตรับรองนายกฯที่มาจากเสียงข้างมาก พรรคไหนคือพรรคที่เปิดสวิตช์ ส.ว. ทำให้ ส.ว.มีโอกาสทำงานได้ นั่นหมายความว่าพรรคนั้นจะนำสังคมไปสู่ความวุ่นวาย ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะขึ้นปราศรัยเวทีพรรคพลังประชารัฐ ประชาชนจะได้เลือกไปเลยระหว่างแคนดิเดตนายกฯที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ หรือแคนดิเดตนายกฯที่ชื่อนายธนาธร ประชาชนต้องการใคร มีโอกาสฟังวิสัยทัศน์แต่ละคนจะได้ตัดสินใจเลือกได้ถูกต้อง,ปิยบุตร ดีลตั้งรัฐบาลดูถูก ปชช.,นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การเลือกอนาคตใหม่ คือการเลือกเพื่ออนาคต เพื่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ให้ประเทศไทยกลับไปเป็นแบบเดิม ระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมาคนไทยจำนวนมากต้องการการเปลี่ยนแปลง ต้องการเดินหน้าไปสู่อนาคตใหม่นั่นคือความมั่นใจที่เรามี ส่วนแนวทางการปิดสวิตช์ 250 ส.ว.แต่งตั้ง ของพรรคอนาคตใหม่นั้น คำว่า ส.ส.ต้องเป็นตัวแทนราษฎร ไม่ใช่ผู้แทนของเผด็จการ นั่นคือพันธกิจที่ต้องร่วมกันผนึกกำลัง ไม่ให้ คสช.สืบทอดอำนาจได้ หาก ส.ส.ร่วมมือกัน เชื่อว่าจะไม่มีการสืบทอดอำนาจ ประชาธิปไตยเป็นเรื่องสำคัญ อยากให้ตั้งภารกิจร่วมกันว่าจะช่วยกันต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจริงหรือไม่ ต้องการต่อสู้การสืบทอดอำนาจของ คสช.จริงหรือไม่ ถ้าใช่ก็ต้องร่วมกันสกัดกั้นอำนาจ คสช. สกัดกั้นไม่ให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อ ส่วนจะแบ่งว่าใครเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อีก 2 วันจะถึงการเลือกตั้ง แต่มีข่าวว่าเจรจาตั้งรัฐบาลล่วงหน้าแล้ว ถือเป็นการดูถูกประชาชนอย่างที่สุด
ทุกพรรคถือฤกษ์ดีตรงกันจัดเวทีปราศรัยใหญ่ ลุงตู่ ทิ้งทวนโค้งสุดท้ายขึ้นเวทีพลังประชารัฐ ครวญเพลง หยุดตรงนี้ที่เธอ อุตตม โวจูงมือ 150 ส.ส. เข้าสภาชิงจับขั้วตั้งรัฐบาล แต่ยังไม่เปิดโควตา
เลือกตั้ง
เลือกตั้ง62,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,หาเสียง,ลุงตู่,สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์,ข่าวหน้า1,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1526561
เลขแรงส่งท้ายปี หญิงใบ้ ดวงจะรวยต้อนรับปีใหม่ 2018
เผลอแป๊บเดียวสิ้นปีแล้ว เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว บัดนี้ถึงเวลาเฉลิมฉลองยกใหญ่ กับเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ,หญิงใบ้, ก็มาปรากฏกายเช่นเคย วันนี้มาบอกใบ้ความหวังให้กับตัวเอง รวมไปถึงทุกคนด้วย พร้อมกับอวยพรดังๆ ให้ทุกคนรวยๆ ไปพร้อมๆ กัน เอาเป็นว่าถือว่าเป็นความสุขส่งท้ายปีแล้วกันเนอะ,โดยเรื่องเล่าของวันนี้ มีความน่าสนใจเช่นเคย ชอบเรื่องไหนก็โหวตกันเข้ามา แต่เราขอเริ่มตั้งแต่เรื่องแรก เรื่องของการเลื่อนวันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล,1. จากเดิมเป็น 30 ,สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ประกาศเลื่อนวันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล จากปกติที่ออกวันที่ 1 ของทุกเดือน แต่สำหรับงวดนี้ เลื่อนมาเป็นวันที่ 30 ธันวาคม เนื่องจากวันที่ 31 ธันวาคม และ 1 มกราคม เป็นหยุดสิ้นปี และวันปีใหม่,สำหรับเวลาในการออกสลากฯ ก็เป็นเวลาเดิม คือตั้งแต่ 14.30-16.00 น. ส่วนที่อยากให้ดูคือ ภาพประกอบด้านบน 42 , 24 หญิงใบ้ชอบมากกกกกก,2. เลขเด็ดอ่างน้ำมนต์,ขึ้นชื่อว่าอ่างน้ำมนต์ แน่นอนต้องมีหยดน้ำตาเทียน ถ้ามีน้ำตาเทียน แน่นอนต้องเกาะกลุ่มเป็นตัวเลข และอ่างที่โด่งดังที่สุด ก็ต้องอ่างน้ำมนต์ของตาทอง งิ้วราย แห่งวัดสว่างอารมณ์ จ.นครปฐม ยิ่งถ้าใกล้วันหวยออกเมื่อไหร่ คนนี้แน่นขนัดวัด เดินชนกันเป็นรถบั๊มพ์เลย,#งวดนี้ก็เช่นกัน, ตาดีได้ ตาร้ายได้ ถ้าจัดไปตามๆ กัน หากใครเพ่งอ่างน้ำมนต์แล้วยังเนรมิตตัวเลขไม่ได้ หญิงใบ้ บอกชัดๆ พิมพ์ชัดๆ ก็เพราะเห็นชัดๆ ตัวเดียว นั่นคือเลข 4 แต่ถ้าเอาแบบมองเบลอๆ ก็มีเลข 9 ด้วย ฮ่าๆ ก็ว่ากันไป,ส่วนที่เขียนชัดๆ คือที่แผงลอตเตอรี่ของแม่ค้าแห่งวัดดัง ซึ่งเขียนด้วยปากกาหมึกม้า (งงมั้ยก็ปากกาตราม้าไง ไม่รู้ลองเสิร์ชดูนะ) ได้แก่ 41, 91 และ 214,3. ทะเบียนรถนายกฯ ตู่,มาต่อกันที่ทะเบียนรถที่โลกต้องระบือ ใครไม่รู้จักคำนี้ ก็ไปหาเอา ถือว่าหญิงใบ้สอนภาษาไทยไปในตัว แม้จะโบราณนิดๆ (ฮ่าๆ) เหตุการณ์มีอยู่ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนหล่อ เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่เมืองสองแคว งานนี้อารมณ์ดีได้คุยเล่นกับไก่เหลืองหางขาว ว่าอะไรรู้มั้ย?,นายกฯ บอกว่า ไม่ต้องกลัว คสช.นะ,นั่นยิ้มแย้มเชียวท่าน พาคนรอบข้างฮาตรึมไปอีก แถมงานนี้ยังซื้อสุนัขพันธุ์บางแก้วทั้งหมด 3 ตัว โดยเป็นของท่าน 1 ตัว ส่วนอีก 2 ตัว เป็นของ บิ๊กป๊อก และ บิ๊กฉัตร สนนราคาอยู่ที่ 25,000 บาท ซึ่งนายกฯ ก็ใจดีอีก ราคาเจ้าสุนัขตัวละ 6,000 บาท ที่เหลือทิป,เล่าไปไกลเกือบลืมทะเบียนยานพาหนะ ดูจะจะ 5 กด 5550 ป๊าดแผงลอตเตอรี่เมืองสองแคว พับกระดานกลับบ้านกันเลย คนแห่ซื้อ 55, 50 และ 05 เข้าไปอีก,4. ดาวเคราะห์เกือบชนโลก,โอ๊ยเรื่องนี้ไม่เล่าไม่ได้ มันมีผลกระทบต่อพวกเราโดยตรง เพราะไม่อย่างนั้นคำว่า ยังมีงวดหน้าเสมอ จะหายไปทันที ถ้าโลกเราถูกดาวเคราะห์ชน,คือเมื่อวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมา คุณเอ๊ยมวลมนุษยชาติเกือบไม่มีโอกาสเสี่ยงโชคอีกต่อไป เพราะสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 15 เมตร ซึ่งถูกตั้งชื่อให้ว่า 2017 YZ4 จะพุ่งผ่านระหว่างโลกกับดวงจันทร์ โดยดาวดวงนี้เพิ่งถูกนักดาราศาสตร์ค้นพบเมื่อ 3 วันก่อน,สำหรับดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ เป็นดาวเคราะห์น้อยดวงที่ 52 ที่เคลื่อนผ่านโลก กับดวงจันทร์ ด้วยความเร็วมากกว่า 21,000 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 33,789 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยระยะห่างที่ดาวเคราะห์น้อย 2017 YZ4 อยู่ห่างจากโลก เป็นระยะทางแค่ประมาณ 139,433 ไมล์ หรือ 224,348 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นระยะห่างที่ใกล้พอ ที่บรรดานักดาราศาสตร์จะใช้คำว่า เกือบจะชนโลก,โอ้วดีงาม เจ้าพระคุณทูนหัว ใจหายวูบเหมือนไอ้ตูบตกน้ำ อะไรก็ได้หญิงใบ้ยังอยากมีชีวิตเพื่อเสี่ยงโชคต่อไป,ฮ่าๆๆๆ ชัดเจน,เอาล่ะก่อนจากกันไปในปีเก่าปีนี้ ,หญิงใบ้, ขออวยพรให้ทุกคนร่ำรวย เฮงๆ ถูกลอตเตอรี่รับทรัพย์กันทั่วหน้า เพื่อต้อนรับปีหน้าที่จะมาถึง แต่ก่อนจะจากไป ขอร่ายเลขมหัศจรรย์อีกนิด เกี่ยวกับวันเดือนปี,- วันออกสลากฯ 30 ธันวาคม 2560,- วันสิ้นปี 31 ธันวาคม 2560,- วันปีใหม่ 1 มกราคม 2561,- ปีเก่า 2017 ,- ปีใหม่ 2018,จัดค่ะคุณอย่ามัวแต่อ่าน มันจะปิดรับแล้ว,ฮ่าๆ สุขสันต์วันปีใหม่ค่ะ.
หญิงใบ้ มาปรากฏกายเช่นเคย วันนี้มาบอกใบ้ความรวยให้กับตัวเอง รวมไปถึงทุกคนด้วย เพื่อส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ไปดูสิว่ามีเลขเด็ดอะไรบ้าง
ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์
หญิงใบ้,หวย,เลขเด็ด,หวย หญิงใบ้,งวด 30/12/60
https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1164997
ผุดฝนหลวงสุราษฎร์ฯช่วยภัยแล้ง
เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ซึ่งตั้งอยู่ริมคลองท่าใหญ่ ต.ท่าดี อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช มีการสูบน้ำเข้าสู่ระบบการผลิตประปาสำหรับจำหน่ายให้กับประชาชนในเขตตัวเมือง และชานเมืองนครศรีธรรมราช จำนวนกว่า 8 หมื่นครัวเรือน ตลอด 24 ชั่วโมง,จากการสำรวจพบว่าต้นน้ำจากเทือกเขาหลวงกำลังลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ลำคลองทุกสายระดับน้ำเริ่มลดลงเช่นกัน จากภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้น คาดว่าหากฝนไม่ตกภายในเดือนนี้ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราชจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน การลงพื้นที่สำรวจแหล่งน้ำเพื่อวางแผน และหามาตรการรับมือภัยแล้งในเบื้องต้นประเมินว่าหากฝนทิ้งช่วงต่อไปปัญหาภัยแล้งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างแน่นอน ขณะนี้ทางกองทัพภาค 4 ได้จัดเตรียมพร้อมทั้งกำลังพล พาหนะและอุปกรณ์ต่างๆในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ได้สำรวจว่ามีพื้นที่ไหนบ้างเหมาะสำหรับการสร้างฝายมีชีวิตเพื่อชะลอน้ำแก้ปัญหาภัยแล้งในระยะยาวต่อไป,ทางด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง 7 หน่วยทั่วประเทศ กำลังเร่งปฏิบัติการบรรเทาปัญหาภัยแล้งอย่างเต็มที่ และเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อน จากการปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.-3 มี.ค. มีฝนที่ตกคิดเป็นร้อยละ 55.6 ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ สระบุรี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม และกาญจนบุรี ล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกในพื้นที่ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี และ อ.ครบุรี อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ได้สร้างความชุ่มชื้นและลดอุณหภูมิได้ในระดับหนึ่ง และจะมีการเปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเพิ่มอีก 1 แห่งที่ จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. เพื่อดูแลพื้นที่การเกษตรภาคใต้ตอนล่างที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ส่วนมาตรการขุดเจาะบ่อบาดาลของรัฐบาลได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าต้องขุดให้ได้ 4,000 บ่อภายในเดือน เม.ย.นี้.
กำลังทหาร มทบ.41 ค่ายวชิราวุธ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่สำรวจระดับน้ำในลำคลองสายต่างๆในพื้นที่ อ.ลานสกา แหล่งน้ำสายหลักที่ไหลผ่านตัวเมืองและเป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช
null
ค่ายวชิราวุธ,นครศรีธรรมราช,ลำคลอง,ฝนตก,ฝนหลวง,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/content/587573
ตร.สน.สุทธิสาร ร่วมกรมทรัพย์สินฯ จับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ 5 ล้าน
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่7 ต.ค. ที่ สน.สุทธิสาร พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร พร้อมด้วย พ.ต.ท.จิรวัฒน์ ยอดกระโหม รอง ผกก.ป.สน.สุทธิสาร ชุดจู่โจม สน.สุทธิสาร และเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.นฤมล บูรณะพิมพ์. อายุ 50 ปี และ น.ส.เพียงอัมพร ศรีโยธี อายุ 43 ปี พร้อมของกลางสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า จำพวก กระเป๋าถือสตรี,กระเป๋าสตางค์,เข็มขัด,รองเท้า,เนคไท,ผ้าพันคอ,ตุ้มหู,แหวน และกำไลข้อมือ ของยี่ห้อ หลุยส์ วิตตอง, ชาเนล ,cuuci, ซีลีน, เฮอร์เมส, prada, diar และ bur berry จำนวน 280 รายการ ราคารวมประมาณ 5 ล้านบาท โดยสามารถจับกุมได้ที่ตลาดหลังการบินไทย แขวง จอมพล เขตจตุจักร กทม.,พ.ต.อ.เติมเผ่า กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า มีการลักลอบขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อยู่ในตลาดหลังการบินไทย จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบตามร้านค้าต่างๆ จนพบกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนพร้อมของกลางจึงควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม,พ.ต.อ.เติมเผ่า กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่า ได้นำสินค้าปลอมดังกล่าวมาจากประเทศจีน และเกาหลี ก่อนจะนำมาขายที่ตลาดดังกล่าว ซึ่งตนเป็นผู้ค้าส่งโดยในแต่ละวันจะมีผู้ค้ารายย่อยมาติดต่อขอซื้อ และนำไปขายในที่ ต่างๆ,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา จำหน่าย เสนอจำหน่าย มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าทีมีเครื่องหมายการค้าที่ ปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร โดยผิดกฎหมาย นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.สุทธิสารดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป.
ผกก.สน.สุทธิสาร นำกำลังตร.ร่วม จนท.กรมทรัพย์สินทางปัญญา จับสินค้าละเมิดสิขสิทธิ์ มูลค่า 5 ล้านบาท หลังตลาดการบินไทย เขตจตุจักร พร้อมแจ้งข้อหา ผู้ต้องหาหญิง 2 ราย
ข่าว,ทั่วไทย
สน.สุทธิสาร,สินค้าละเมิดสิขสิทธิ์,มูลค่า 5 ล้านบาท,กรมทรัพย์สินทางปัญญา,ลักลอบขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1092715
เอนก มองมีโอกาสเป็นไปได้ พท.-ปชป. จับมือต้าน รบ.ทหาร
ไม่ใช่แค่เปลือก ,เมื่อวันที่ 28 พ.ย.60 นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง แสดงความเห็นถึงกรณีความเป็นไปได้ของการจับมือกันของสองพรรคใหญ่ เพื่อคัดค้านการมีนายกรัฐมนตรีคนนอกว่า มีโอกาสเป็นไปได้แต่ไม่ง่าย เพราะการเมืองตามหลักแล้วเป็นศาสตร์ว่าด้วยการทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ แต่ต้องมีการสื่อสารกับฐานมวลลชนทั้งสองฝ่าย ซึ่งมีฐานคะแนน ฐานเสียงชัดเจนอยู่คนละขั้ว เรื่องนี้จึงขึ้นอยู่กับมวลชนทั้งสองพรรคว่า มีความคิดเห็นอย่างไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้พูดกันได้ทั้งนั้น แต่จะทำได้จริงหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เห็นว่าเริ่มมีสัญญาณความขัดแย้งที่ลดลง ทั้งนี้ยังไม่กล้าสรุปว่าลดลงไปมากแค่ไหน อย่างไรก็ตามทุกคนต้องปรับตัวให้เข้ากับการเมืองที่จะมาถึง ไม่เช่นนั้นจะทำให้การเมืองกลับไปเป็นแบบเดิมอีก ซึ่งประเทศจะไม่มีทางออก ส่วนที่พรรคการเมืองทั้งสองพรรคมีแนวคิดจับมือกัน เพื่อต้านไม่ให้มีรัฐบาลที่มาจากทหารนั้น ในแง่ของความเป็นจริงทั้งรัฐธรรมนูญ ทั้งสมาชิกวุฒิสภา ที่ คสช.ได้สร้างไว้ จะไม่มีทหารมาร่วมเลยก็คงยาก ต้องกลับไปคิดแบบสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ให้มากขึ้น ซึ่งเป็นยุคที่ไม่มีพรรคทหาร แต่ก็สามารถบริหารประเทศ และทำงานกับพรรคการเมืองต่างๆ ได้ดี มีการให้โอกาสและมีการตรวจสอบ รวมทั้งมีการใช้คนหลากหลายให้เหมาะสมกับความรู้ความสามารถ พร้อมชี้ว่าทหารบริหารประเทศมีส่วนดี ที่เมื่อเข้ามาหลังการรัฐประหาร ไม่ได้เข้ามาเพื่ออยู่ถาวร แต่การเข้ามานั้นเป็นสิ่งที่สังคมเรียกร้องให้มาช่วยลดความขัดแย้ง,ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นข้อเสนอจากฝ่ายที่มีแนวคิดทางด้านประชาธิปไตย ที่อยากจะรักษาระบบไว้ ซึ่งหลังเลือกตั้งหากจะทำงานร่วมกัน ในฐานะที่เป็นฝ่ายรัฐบาลร่วมหรือฝ่ายค้านร่วมก็เป็นเรื่องของอนาคต แต่มุมมองส่วนตัวอยากเพิ่มเติมว่า ความเป็นพรรคการเมืองต้องรับผิดชอบต่อส่วนรวม อย่างไรก็ตามก่อนการเลือกตั้ง พรรคการเมืองควรจะมีโอกาสที่จะคิดหาแนวทางร่วม เพื่อทำให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงประชาธิปไตยที่มีแต่เปลือกหรือแต่ชื่อ เพราะประชาธิปไตยเป็นระบอบที่คิดว่าดีที่สุด ดังนั้นในการที่จะเดินหน้าคืนสู่ประชาธิปไตย ก็ควรให้ประชาชนมีโอกาสมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น และมีโอกาสได้เสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเอง.
เอนก มองโอกาสองพรรคใหญ่จับมือกันเป็นไปได้ ชี้พรรคการเมืองต้องสื่อสารกับมวลชนให้เข้าใจ บอกสัญญาณความขัดแย้งเริ่มลดลง ด้าน หญิงหน่อย ระบุจะจับมือหรือไม่ เป็นเรื่องอนาคต แนะพรรคการเมืองหาทางออกร่วม ทำ ปชต.อย่างแท้จริง
ข่าว,การเมือง
เอนก เหล่าธรรมทัศน์,นายกฯคนนอก,ตั้งรัฐบาล,พท.-ปชป.,ประชาธิปไตย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1138193
ปธน.สี จิ้นผิง สุดเสียใจ ในหลวง ร.9 สถิตอยู่ในดวงใจชาวไทย-จีนนิรันดร์
พร้อมสรรเสริญพระเกียรติคุณ ในหลวง ร.9 พระองค์จะสถิตอยู่ในดวงใจของพสกนิกรชาวไทยและจีนชั่วนิรันดร์ ,เมื่อ 19 ต.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ฮวาง คโย-อัน นายกรัฐมนตรีแห่งเกาหลีใต้ เดินทางมาลงนามแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา,ด้านสำนักข่าวซินหัว ของจีน รายงาน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนได้ส่งสาส์นแสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มายังสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่า ในนามของประชาชนชาวจีนและข้าพระพุทธเจ้า, สี จิ้นผิง ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และขอแสดงความเสียใจอย่างจริงใจมายังพระบรมวงศานุวงศ์องค์อื่นๆ และปวงชนชาวไทย,ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้สรรเสริญพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระองค์ทรงเป็นผู้นำในการพัฒนาประเทศ และทรงส่งเสริมสายสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนและไทย โดยชี้ว่า ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสองประเทศในวันนี้ เชื่อมโดยตรงกับความสำคัญอันยิ่งใหญ่ และความพยายามส่วนพระองค์ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะที่ ประธานาธิบดีจีน ยังระบุด้วยว่า การส่งเสริมมิตรภาพระหว่างจีนกับไทยได้ก่อให้เกิดผลมากมายหลายอย่าง,ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ขอแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล ถือเป็นความสูญเสียอันใหญ่หลวงของปวงชนชาวไทยและจีน และพระองค์จะทรงสถิตอยู่ในดวงใจของพสกนิกรไทย-จีน ชั่วกาลนาน
นายกฯ เกาหลีใต้ ลงนามแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะที่ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ส่งสาส์นแสดงความเสียใจมายังสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
null
ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ,ประวัติในหลวง,รูปในหลวง,ภาพในหลวง,พระราชดำรัส,พระราชกรณียกิจ,สี จิ้นผิง,ไทย-จีน,ปธน.จีน,นายกฯ เกาหลีใต้
https://www.thairath.co.th/content/758826
ซากดาวฤกษ์อาจอธิบายต้นกำเนิด รังสีคอสมิกนอกโลก
ที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์เชื่อกันว่ารังสีคอสมิกเกิดจากคลื่นกระแทก (shock wave) เป็นผลมาจากการระเบิดของซุปเปอร์โนวา (supernova) ทำให้เกิดริ้วรายของรังสีอนุภาคพลังสูงพุ่งไปทั่วจักรวาล,ตลอดเวลาที่ผ่านมา เหล่านักดาราศาสตร์ก็ได้ศึกษาเนบิวลาปู (The Crab Nebula) ซึ่งมองผ่านกล้องโทรทรรศน์แล้วมีลักษณะคล้ายปู แต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มดาวปู เนื่องจากเนบิวลาแห่งนี้เป็นเศษซากของดาวฤกษ์กลุ่มดาววัวที่ระเบิดอย่างรุนแรงแบบที่รู้จักกันว่าซุปเปอร์โนวา เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ.1597 อยู่ห่างจากโลก 6,500 ปีแสง ถือเป็นตัวอย่างในการเรียนรู้ที่ดีที่สุดถึงแหล่งกำเนิดรังสีคอสมิก โดยเมื่อเร็วๆนี้นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยอริโซนา ในสหรัฐอเมริกา และมหาวิทยาลัยพอตส์ดัม ในเยอรมนี ได้พยายามไขความกระจ่างเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดรังสีคอสมิกเพิ่มขึ้น ด้วยการอาศัยแบบจำลองรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าที่เห็นจากเนบิวลาปู การศึกษาพบว่าลำแสงแม่เหล็กไฟฟ้าที่กระจายออกจากเนบิวลาปูอาจเกิดจากประชากรเดี่ยวๆของอิเล็กตรอน ซึ่งสมมติฐานแต่เก่าก่อนบอกว่าเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งแหล่งกำเนิดก็แตกต่างจากที่นักวิทยาศาสตร์เคยคิด,นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์กลุ่มนี้เผยว่า การเข้าใจถึงความเร่งอนุภาคของวัตถุในอวกาศจะช่วยในการถอดรหัสต้นกำเนิดอนุภาคพลังงานสูงอย่างรังสีคอสมิกที่พบได้เกือบทุกหนแห่งในจักรวาล และหากได้ศึกษาร่วมกับข้อมูลคลื่นกระแทกที่พุ่งกระทบมายังโลกอันเกิดจากการระเบิดของพลาสมา (plasma) บนพื้นผิวดวงอาทิตย์ อาจเพิ่มข้อมูลเชิงลึกในการอธิบายกลไกความเร่งในวัตถุแบบที่เกิดขึ้นที่เนบิวลาปูได้.
แหล่งกำเนิดของรังสีคอสมิก (cosmic rays) ซึ่งเป็นรังสีที่มีอนุภาคพลังงานสูงจากอวกาศพุ่งเข้ามาในโลกอยู่บ่อยครั้ง เป็นหนึ่งในคำถามที่ท้าทายมากที่สุดของเหล่านักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ว่าเกิดขึ้นจากอะไรและมาจากที่ไหน
ข่าว,ต่างประเทศ
ดาวฤกษ์,รังสีคอสมิก,cosmic rays,The Crab Nebula,plasma,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1067852
ปาร์ค จี ซุง สุดปลื้ม ผีแดง ได้ อิบรา ร่วมทีม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 26 ก.ค. ว่า ปาร์ค จี ซุง อดีตกองกลางทีมชาติเกาหลีใต้ และ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด  ปลาบปลื้มที่อดีตต้นสังกัดสามารถดึง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าชาวสวีเดน มาร่วมทัพได้,อิบราฮิโมวิช วัย 34 ปี หมดสัญญากับปารีส แซงต์ แชร์แมง และตกลงย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบไม่มีค่าตัวเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา และได้รับอนุญาตจาก โชเซ มูรินโญ ผู้จัดการทีม ให้พักอย่างต่อเนื่อง และเมื่อวานนี้เจ้าตัวก็ปรากฏตัวในแมนเชสเตอร์แล้ว เพื่อเตรียมฝึกซ้อมกับทีมในวันพฤหัสบดีนี้ จากนั้นจะเดินทางไปที่สวีเดนกับทีมเพื่อเล่นเกมอุ่นเครื่องกับกาลาตาซารายในวันเสาร์นี้ ซึ่ง ปาร์ค จี ซุง ได้ออกมากล่าวต้อนรับ อิบราฮิโมวิช อย่างเป็นทางการ และเชื่อว่านักเตะรายนี้จะช่วยทีมได้มากอย่างแน่นอน,แน่นอน ผมคิดว่าสโมสรต้องการคนที่มีคาแรกเตอร์สุดยอดแบบเขา เขามีประสบการณ์มากมายและเขาจะสามารถแสดงคาแรกเตอร์ของเขาได้ทั้งในห้องแต่งตัวและในสนาม เขาจะมีอิทธิพลต่อนักเตะในทีมโดยเฉพาะกับนักเตะดาวรุ่ง พวกเขาสามารถเรียนรู้หลายอย่างจากเขาแล้วแสดงมันออกมาในสนาม ปาร์ค กล่าว
ปาร์ค จี ซุง อดีตมิดฟิลด์ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปลาบปลื้มที่อดีตต้นสังกัดสามารถดึง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยอดดาวยิงชาวสวีเดน มาร่วมทัพได้ ระบุ จะมีประโยชน์กับทีมอย่างแน่นอน
null
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ปาร์ค จี ซุง,ซลาตัน อิบราฮิโมวิช,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/673951
สะอาด ปลอดภัย 10 เรื่องต้องรู้ ราชกิจจาฯ ควบคุมมาตรฐาน ปลาร้า คือ?
วงการอาหารอีสานกลับมาคึกคักอีกระลอก เมื่อมีประกาศราชกิจจาฯ ออกมาเมื่อวาน ระบุเกี่ยวกับการควบคุมมาตรฐานการผลิต ปลาร้า ให้สะอาด ปลอดภัย ต่อผู้บริโภคมากขึ้น,วันนี้ ,ไทยรัฐออนไลน์, จะพาไปเจาะลึก 10 รู้จักเกี่ยวกับการถนอมอาหารของคนไทยที่มีมาเนิ่นนาน รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับประกาศฉบับดังกล่าว งานนี้นักชิมสายแซ่บนัวก็เป็นปลื้มไม่น้อย เพราะจะได้มั่นใจในการรับประทานปลาร้าที่สด สะอาด ถูกสุขลักษณะมากขึ้น,นอกจากนี้ เรายังจะพาคุณไปส่องวิธีทำเมนูเด็ดจากปลาร้าต่างๆ รู้หรือไม่? ปลาร้าสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลาย ไม่ใช่แค่ใส่ในส้มตำ ,1. ปลาร้า คืออะไร?,ปลาร้า จัดเป็นการถนอมอาหารแบบโบราณอย่างหนึ่ง คนสมัยก่อนเมื่อหาปลามาได้เยอะๆ กินไม่หมดในคราวเดียว ก็มักจะนำปลาที่เหลือมาถนอมเก็บไว้ มีทั้งการย่างเป็นปลาแห้ง ทำเป็นปลาเค็ม ปลาร้า ปลาส้ม เป็นต้น,สำหรับการหมักปลาร้านั้น คนไทยเรารู้จักวิธีการถนอมอาหารแบบนี้มาเนิ่นนานแล้ว เมื่อก่อนคนที่มีฝีมือเท่านั้นจึงจะทำปลาร้าเป็น และทำออกมาได้สะอาด ปลาร้าจัดเป็นเครื่องปรุงอย่างหนึ่ง โดยนำปลาร้ามาปรุงรสเค็มให้อาหารเมนูต่างๆ,ต่อมาในยุคปัจจุบันมีการผลิตปลาร้าในรูปแบบอุตสาหกรรมมากขึ้น ผลิตเป็นน้ำปลาร้าบรรจุขวดส่งขาย บางเจ้าก็ทำสะอาดดี แต่บางเจ้าก็พบว่ามีสิ่งปลอมปน ไม่สะอาด เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค,2. ประกาศราชกิจจาฯ 
ควบคุมมาตรฐานปลาร้า,เมื่อวันที่ 17 เมษายน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องกำหนดมาตรฐานสินค้า : ปลาร้าตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551,ระบุว่าด้วยคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรเห็นสมควรกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรเรื่อง ปลาร้า เป็นมาตรฐานทั่วไปตาม พ.ร.บ.มาตรฐานสินค้าเกษตร 2551 เพื่อส่งเสริมสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพ มาตรฐาน และปลอดภัย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 มาตรา 15 และมาตรา 16 แห่งพ.ร.บ.มาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ.2551,ประกอบมติคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตร ในการประชุมครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2561 รมว.เกษตรและสหกรณ์จึงออกประกาศกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร : ปลาร้า มกษ. 7023-2561 ไว้เป็นมาตรฐานทั่วไป,3. กระบวนการผลิต,รายละเอียดเกี่ยวกับประกาศราชกิจจาฯ ฉบับนี้ ระบุให้ควบคุมมาตรฐานตั้งแต่กระบวนการผลิต ปลาร้า กล่าวคือ การผลิตต้องทำอย่างสะอาด ใช้ปลาที่สด ตาใส ต้องทำความสะอาดปลาอย่างดี ควักเครื่องในออก ล้างให้สะอาด (ยกเว้นปลาตัวเล็ก),4. ความเค็มต้องถึง,สำหรับการหมักปลาร้าเพื่อถนอมอาหาร เกลือ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เกลือที่นำมาทำปลาร้า ต้องสะอาด ไม่มีสิ่งปลอมปน ต้องใส่เกลือให้ได้ 18% ของน้ำหนักปลา เพื่อให้ได้ความเค็มในระดับที่ดี ปลาจะได้ไม่เน่าเสีย,5. เครื่องหมักต้องสะอาด,สำหรับเครื่องที่นำมาใช้ในการหมักปลาร้า ได้แก่ รำข้าว ข้าวคั่ว ทั้งสองอย่างนี้ต้องเลือกมาอย่างดี ทำใหม่ๆ สะอาด ไม่มีสิ่งปลอมปน และต้องนำมาคั่วจนสุกและมีกลิ่นหอม จึงจะนำมาหมักปลาได้,6. เกณฑ์คุณภาพ,ส่วนประกอบและเกณฑ์คุณภาพ ประกาศราชกิจจาฯ ประกอบด้วยคุณลักษณะทางกายภาพของปลาร้าที่ดี ต้องคลุกเคล้ากันพอดี ไม่แห้งหรือเละเกินไป เนื้อปลานุ่ม หนังไม่ฉีกขาด มีสีตามลักษณะเฉพาะของเนื้อปลา กลิ่นหอมตามลักษณะเฉพาะของปลาร้า ,ต้องไม่มีกลิ่นเหม็นคาว เหม็นอับ เหม็นเปรี้ยว ,อันนี้สำคัญมาก,7. ผ่านการตรวจสอบพยาธิ,เมื่อนำมาตรวจสอบ ต้องไม่พบพยาธิตัวจี๊ดและตัวอ่อนพยาธิใบไม้ในตับ ไม่มีสิ่งแปลกปลอม เช่น แมลง ชิ้นส่วนสัตว์อื่นที่ไม่ใช่ปลา และปลาชนิดอื่นที่ไม่ได้ระบุในฉลาก ห้ามใช้สีและวัตถุกันเสีย สารปนเปื้อนอื่นๆ ตรวจสอบแล้วต้องไม่เกินค่ามาตรฐานที่กำหนด,8. เมนูยอดฮิต ส้มตำปลาร้า ,สำหรับเมนูที่ปรุงจากปลาร้าที่คนไทยรู้จักกันดี คงหนีไม่พ้น ส้มตำปลาร้า คนไทยนิยมรับประทานกัน และชาวต่างชาติก็รู้จักเมนูนี้เช่นกัน หลายคนอาจจะชอบตำไทยแบบไม่ใส่ปลาร้า แต่ก็มีชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่รับประทานปลาร้าเป็น แถมติดใจอีกต่างหาก,9. ปลาร้าสับ ปลาร้าทอด,นอกจากส้มตำปลาร้าแล้ว ส่วนใหญ่คนไทยมักจะนำปลาร้าทำปรุงเป็น ปลาร้าสับทรงเครื่อง เครื่องจิ้มรสแซ่บรับประทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ ผักสด และกับข้าวอย่างอื่น ช่วยให้เจริญอาหารมากทีเดียว,นอกจากนี้ก็ยังมี ปลาร้าทอด หรือ ปลาร้าทอดสมุนไพร ที่นำปลาร้าที่ทำจากปลาตัวใหญ่ มาล้างเครื่องหมักออกให้สะอาดก่อน จากนั้นซับให้แห้ง แล้วนำไปทอด พร้อมกับทอดเครื่องสมุนไพรต่างๆ เช่น หอมเจียว กระเทียมเจียว พริกทอด ใบมะกรูดทอด ตะไคร้ทอด โรยไว้บนตัวปลา บีบมะนาวสดๆ ลงไป แค่นี้ก็อร่อยเริด ,10. หลนปลาร้า,ปิดท้ายกับอีกหนึ่งเมนูเด็ด นั่นคือ หลนปลาร้า เป็นเครื่องจิ้มอีกอย่างที่ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ได้อร่อยมาก วิธีทำก็คล้ายกับการหลนเต้าเจี้ยว หลนปูเค็ม นั่นแหละ เพียงแต่เปลี่ยนมาใช้น้ำปลาร้าแทน นิยมใส่เนื้อปลาดุก หน่อไม้ และเครื่องหลนต่างๆ เช่น ตะไคร้ ข่า หอมแดง กระชาย ใบมะกรูด มะเขือเปราะ พริกชี้ฟ้าแดง-เขียว เป็นต้น,ที่มาภาพบางส่วน : ,technologychaoban,, ,plaraonline,, ,kaidee,, ,ครัวพิศพิไล,, wongnai 
ปลาร้า ราชกิจจา คุมมาตรฐานปลาร้า ส้มตำปลาร้า ประวัติปลาร้า ปลาร้าคืออะไร ประโยชน์ปลาร้า ราชกิจจาคุมปลาร้าคืออะไร เรามีคำตอบ
ไลฟ์สไตล์,อาหาร
ปลาร้า,ประกาศราชกิจจาฯ ปลาร้า,เมนูปลาร้า,ส้มตำปลาร้า,ปลาร้าทอด
https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/1258671
ชบาแก้ว คอนเฟิร์มลับแข้งฝรั่งเศส-เบลเยียม ก่อนบู๊ฟุตบอลโลก
มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม ระบุ แม้ฟีฟ่าจะรับรองการแข่งขัน คิดคะแนนแรงกิ้ง แต่เกมอุ่นเครื่อง 2 นัดนี้ไม่เน้นมาก จะขอดู ระบบและแท็กติกของทีมเป็นหลัก ส่วนในรอบสุดท้ายหวังเข้าสู่รอบ 16 ทีมให้ได้,ความเคลื่อนไหว ชบาแก้ว ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ภายใต้การดูแลของ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม และ โค้ชหนึ่ง ดร.หนึ่งฤทัย สระทองเวียน กุนซือของทีม ที่กำลังเดินหน้าเตรียมทีมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในศึกฟุตบอลโลกหญิง ฟีฟ่า วูเมนส์ เวิลด์คัพ 2019 ระหว่างวันที่ 7 มิ.ย.-7 ก.ค.นี้ ที่ประเทศฝรั่งเศส,ล่าสุด มาดามแป้ง นวลพรรณ เปิดเผยหลังงานแสดงโชว์ถ้วยชนะเลิศฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก FIFA Womens World Cup 2019 Trophy Tour ที่ไทยว่า เหลือเวลาอีก 2 เดือนฟุตบอลโลกหญิง 2019 ก็จะเริ่มขึ้น ตนคิดว่าทีมของเราถือว่ามีความพร้อมมากๆ ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เราซ้อมหนัก เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางไปเก็บตัวที่ยุโรปช่วงเดือน พ.ค. โดยยืนยันแล้วว่าเราจะอุ่นเครื่อง 2 เกม คือทีมชาติฝรั่งเศส เจ้าภาพในครั้งนี้ และทีมชาติเบลเยียม ทีมอันดับ 20 ของโลก,ผู้จัดการทีมชบาแก้วกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม แม้ฟีฟ่าจะรับรองการแข่งขันให้มีการคิดคะแนนแรงกิ้งก็ตาม แต่เกมอุ่นเครื่อง 2 นัดนี้ เราคงไม่ได้เน้นผลอะไรมาก เพราะเป็นการดูระบบและแท็กติกของทีม แน่นอนว่าเราต้องป้องกันปัญหาอาการบาดเจ็บของนักเตะทุกคนด้วย เพราะครั้งนี้เราหวังว่าจะเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายให้ได้ สุดท้ายอยากจะบอกว่ากำลังใจที่สำคัญที่สุดคือแรงเชียร์จากแฟนบอลชาวไทยทุกคน,สำหรับโปรแกรมของแข้งสาวไทย ในศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2019 นัดแรกวันที่ 12 มิ.ย.62 ไทย พบสหรัฐฯ เวลา 02.00 น. (ตามเวลาไทย), วันที่ 16 มิ.ย.62 ไทย เจอ สวีเดน เวลา 23.00 น. (ตามเวลาไทย) และวันที่ 21 มิ.ย.62 ไทย ดวล ชิลี เวลา 02.00 น. (ตามเวลาไทย) ทั้งนี้ ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย เคยผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายของศึกฟุตบอลโลกหญิงมาแล้ว 1 ครั้ง ในปี 2015 ที่ประเทศแคนาดา และเอาชนะไอวอรีโคสต์ ไปได้ 3-2 แต่แพ้ให้ นอร์เวย์ 0-4 และเยอรมนี 0-4 ก่อนตกรอบด้วยการเป็นจบอันดับ 3 ของตารางในกลุ่มบี.
ชบาแก้ว แข้งสาวไทย ชุดลุยศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2019 ที่ฝรั่งเศส ยืนยันได้เจ้าภาพฝรั่งเศสและเบลเยียม ทีมอันดับ 20 ของโลก อุ่นเครื่องในระหว่างการเก็บตัวที่ยุโรป เดือน พ.ค.
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
ชบาแก้ว,ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย,ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก,มาดามแป้ง,นวลพรรณ ล่ำซำ
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1534351
ทุ่ม 6 แสนล้านเนรมิต อีอีซี รัฐบาลฝันหวานหวังดูดนักลงทุนสุดเหวี่ยง
หลังปี 60 นักลงทุนแห่ขอรับส่งเสริมลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายถล่มทลาย,นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าการพัฒนาโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ว่า วันที่ 1 ก.พ.นี้ จะประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ด อีอีซี) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยวาระสำคัญ คือ จะทบทวนเป้าหมายเม็ดเงินลงทุนในพื้นที่อีอีซี โดยจะเพิ่มขึ้นเป็น 600,000 ล้านบาทในระยะเวลา 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 60-64 จากเดิมกำหนดไว้ที่ 500,000 ล้านบาท,นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ปรับเป้าหมายเม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้น เพราะการลงทุนในอีอีซีปีที่ผ่านมา มีการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายสูงถึง 250,000 ล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าใน 5 ปี จะลงทุนเฉลี่ยปีละ 100,000 ล้านบาท ดังนั้น การประชุมบอร์ดอีอีซีชุดใหญ่ จะเสนอให้พิจารณาเม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้น เพราะปีนี้ ผมเห็นภาพที่ชัดเจนแล้ว ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน และร่าง พ.ร.บ.อีอีซี ที่เป็นไปตามคาดการณ์,สำหรับผลการประชุมในครั้งนี้ ได้ข้อสรุปว่า ทุกเรื่องที่ดำเนินงานมายังเดินได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซี 5 โครงการ ที่คาดจะมีเงินลงทุน 600,000 ล้านบาท โดยกำหนดกรอบเวลาทำงานที่ชัดเจน ได้แก่ 1.โครงการรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมระหว่างสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา ที่ร่างเงื่อนไขหลักเกณฑ์การเสนอโครงการประกวดราคา (ทีโออาร์) จะแล้วเสร็จ และประกาศให้เอกชนยื่นขอลงทุนได้เดือน ก.พ.นี้,2.โครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา จะประกาศทีโออาร์เดือน ก.ค.นี้ 3.โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) จะประกาศทีโออาร์เดือน มี.ค.นี้ 4.โครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 จะประกาศทีโออาร์ เดือน มิ.ย.นี้ และ 5.โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ประกาศทีโออาร์เดือน ส.ค.นี้ สั่งการให้สำนักงานอีอีซี ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เดินสายการโรดโชว์นักลงทุนทั่วโลกให้มากที่สุด เพราะปีนี้การลงทุนในอีอีซีจะเป็นรูปธรรม ส่วนเป้าหมายนักลงทุนรายใหญ่ 30 ราย ทยอยมาแล้ว ล่าสุด ลาซาด้า ได้หารือเพื่อปรับแผนการลงทุนใหม่ที่จะเพิ่มขึ้น,ด้านนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ อีอีซี กล่าวว่า การประชุมบอร์ด อีอีซี วันที่ 17 ม.ค.นี้จะพิจารณาอนุมัตินิคมอุตสาหกรรมรวม 18 แห่งให้เป็นเขตส่งเสริมอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการลงทุนในอีอีซีรวมพื้นที่ 26,000 ไร่ รองรับการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยในพื้นที่ดังกล่าว ส่วนหนึ่งจะมีนิคมอุตสาหกรรมที่จะรองรับการลงทุนที่เน้นภาษาจีนโดยเฉพาะ ซึ่งอยู่ใน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เป็นพื้นที่ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) 3,000 ไร่,พื้นที่ทั้งหมดเป็นของเอกชนที่ทำอยู่แล้ว แต่ผมจะจัดพื้นที่ส่วนหนึ่งเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรม เป้าหมายเพื่อประกาศเป็นเขตส่งเสริมการลงทุน จากเดิมที่ประกาศแล้ว 2 พื้นที่คือ นิคมฯสมาร์ทพาร์ค และนิคมฯเหมราช 4 ส่วนพื้นที่นิคมฯแห่งใหม่ 18 แห่ง อาทิ ของบริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม (ทีเอฟดี 2), นิคมฯอมตะนคร, นิคมฯปิ่นทอง 1-5, นิคมฯเหมราช ชลบุรี เป็นต้น.
อุตตม เล็งเสนอ บิ๊กตู่ วันที่ 1 ก.พ.นี้ เพิ่มเม็ดเงินลงทุนระยะ 5 ปีในอีอีซี เป็น 6 แสนล้านบาท จากเดิม 5 แสนล้าน ลุยสร้างสาธารณูปโภค-คมนาคมขนส่ง หวังดึงดูดการลงทุนเต็มที่
ข่าว,เศรษฐกิจ
อุตตม สาวนายน,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,การลงทุน,ทีโออาร์,คณิศ แสงสุพรรณ
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1178368
จาตุรนต์ แนะ รบ.จ่าย 5 พัน ผู้สมัครไปก่อน พบซ้ำซ้อนหักคืนภายหลัง
วันที่ 13 เม.ย. นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กถึงมาตรการเยียวยา 5 พันบาท ผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 ว่า โครงการนี้กำลังประสบปัญหายุ่งเหยิงและแก้ไม่ตกง่ายๆ ทำให้การจ่ายเงินล่าช้าและผู้ที่ตกงานหยุดงานขาดรายได้นับสิบล้านคน ต้องอยู่โดยไม่มีเงินใช้มา 3 สัปดาห์ และยังไม่มีใครรู้ว่า จะได้รับเงินกันเมื่อไหร่ การที่ตัวเลขผู้สมัครขอรับการเยียวยาในโครงการนี้มีมากเกินกว่าที่คาดไว้มาก เป็นเพราะโครงการนี้ไม่ได้กำหนดให้ชัดแต่ต้นว่า จะเยียวยาเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบเฉพาะจากการที่ทางราชการสั่งปิดสถานที่ต่างๆ และหยุดดำเนินกิจการ ที่สำคัญไม่มีนโยบายช่วยให้ผู้ประกอบการที่ต้องปิดกิจการ ให้สามารถรักษาคนงานไว้อย่างที่หลายประเทศทำกัน จึงทำให้มีคนตกงานหยุดงานมากว่าที่ควรจะเป็นหลังจากนั้น การที่กิจการหลายประเภทถูกสั่งให้ปิดก็ส่งผลกระทบต่อกิจการอื่นที่ไม่ได้ถูกสั่งปิด ทำให้ต้องปิดไปด้วย และเมื่อเวลาล่วงเลยไป กิจการอีกจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศ ในภาพรวมก็ต้องปิดลงหรือไม่ ก็ต้องปลดหรือลดคนงาน ผู้เดือดร้อนจึงมากขึ้นอีกหลายเท่าและต่างก็ต้องการใช้สิทธิ์จากโครงการนี้เริ่มแรกรัฐบาลประกาศจะเยียวยา คนเพียง 3 ล้านคน แต่มีคนสมัครเข้ามามากก็ปรับเพิ่มตัวเลขเป็น 8-9 ล้านคน ล่าสุด มีผู้สมัครมากถึง 21 ล้านคน ในจำนวนนี้มีทั้งผู้ที่เข้าหลักเกณฑ์และไม่เข้าหลักเกณฑ์ แต่เนื่องจากมีฐานข้อมูลอยู่น้อย ทั้งคนที่อยู่ในระบบภาษี คนทำงาน คนว่างงาน อาชีพอิสระ เกษตรกร คนยากจนและผู้รับสวัสดิการ ล้วนไม่มีข้อมูลที่ครอบคลุมและชัดเจน การคัดกรองจึงยุ่งยากและใช้เวลานานถึงวันนี้เพิ่งมีการคัดกรองไป 7.99 ล้านคน เท่ากับยังไม่ได้คัดกรองอีก 13 ล้านคน ผ่านเกณฑ์ไปเพียง 1.68 ล้านรายเท่านั้น หากยังดำเนินการได้ช้าอย่างนี้ ถึงสิ้นเดือนก็อาจยังคัดกรองไม่เสร็จก็ได้ หมายความว่า คนหลายล้านคนที่ไม่มีรายได้จะต้องอยู่กันไปโดยไม่มีเงินใช้เป็นแรมเดือนทีเดียวทางออกเฉพาะหน้าที่ดีที่สุดขณะนี้ รัฐบาลคงต้องยอมจ่ายเงินให้ผู้ที่สมัครขอรับเงินไปก่อนแล้วทำการตรวจสอบคัดกรองต่อไป หากพบว่า ผู้ที่รับเงินเยียวยาไปซ้ำซ้อนกับการได้รับสิทธิ์เยียวยาในโครงการอื่นก็ค่อยหักคืนภายหลังโดยระหว่างที่ตรวจสอบ รัฐบาลควรใช้เวลาจัดระบบเกี่ยวกับการเยียวยาและสวัสดิการทั้งระบบทั้งหลายเสียใหม่ ให้เกิดความชัดเจนมีประสิทธิภาพ เพื่อรับมือกับปัญหาเฉพาะหน้าและวิกฤติทางเศรษฐกิจที่จะรุนแรงและอยู่กับเราไปอีกนานเสนอให้จ่ายไปก่อนอย่างนี้ ฟังดูอาจน่าตกใจ แต่หากลองคิดกันดูดีๆ บางประเทศเขาจ่ายเงินให้ทุกคนในประเทศไปก่อนก็มี สำหรับประเทศไทยเรานั้น ผู้เดือดร้อนมีจำนวนมากกว่า 21 ล้านคน ที่สมัครมาด้วยซ้ำ ถ้ากลัวปัญหาจ่ายซ้ำซ้อน ก็แก้ไม่ยากเพราะโครงการอื่นๆ ส่วนใหญก็ยังไม่ได้จ่าย ถ้าผู้ที่ควรใช้สิทธิ์จากโครงการอื่นมารับเงินจากโครงการ 5000 บาทไป ถึงเวลาจะมารับสิทธิ์จากโครงการอื่นก็สามารถหักเงินที่รับไปคืนมาได้ นายจาตุรนต์ กล่าว
จาตุรนต์ ฉายแสง แนะ ทางออกเฉพาะหน้าดีสุด รัฐยอมจ่ายเยียวยา 5 พันบาท ผู้สมัครขอรับเงินไปก่อน แล้วคัดกรอง หากพบใช้สิทธิ์ซ้ำซ้อนโครงการอื่น ค่อยหักคืนในภายหลัง
ข่าว,การเมือง
โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,เราไม่ทิ้งกัน,ไวรัสโคโรนา,จาตุรนต์ ฉายแสง,จ่ายเงินเยียวยา,ซ้ำซ้อนหักคืนภายหลัง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1819826
พบศพแล้ว ร่างของ 3 หนุ่ม อ.มหาราช เผยถูกยิงทิ้งก่อนฝังดิน
ความคืบหน้า กรณีชายหนุ่ม 3 คนในพื้นที่ อ.มหาราช หายตัวไปจากบ้าน และญาติเชื่อว่าถูกอุ้มฆ่า ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. พ.ต.ท.ธรากร สกุลปิยะเทวัญ สว.(สอบสวน) สภ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งว่ามีคนพบศพถูกฝังดิน บริเวณริมคลองท่อ 6 หมู่ 4 ต.บ้านนา จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สมชัย อนิวัตกูลชัย ผกก. สภ.มหาราช แพทย์เวร รพ.มหาราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิพุทไธสวรรย์ รุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุเป็นถนนลูกรัง ระยะทาง 3-4 กม. เรียบคันคลองท่อ 6 หลุมแรก พบศพ นายสำรวย วงษ์อักษร อายุ 32 ปี ชาวบ้าน ม.4 ต.บ้านนา อ.มหาราช ภายในกางเกงพบยาบ้าจำนวน 7 เม็ด หลุมที่ 2 พบ 2 ศพทับกัน คือ นายสมพาล บุญสนุน อายุ 39 ปี ชาวบ้าน ม.4 ต.บ้านนา อ.มหาราช และศพ นายไพรรัช หอมชะเอม อายุ 35 ปี ชาวบ้าน ม.6 ต.บ้านนา อ.มหาราช ทั้ง 3 ศพมีร่องรอยการถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน จมอยู่ในคลอง เจ้าหน้าที่นำขึ้นมาและใกล้กันยังพบโทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง ถูกเผาฝังทิ้งไว้ใกล้กับยอปลา ห่างจากจุดที่พบรถประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน,สอบสวนทราบว่าทั้ง 3 คนขี่รถจักรยานยนต์ไป 3 คัน นั่งกินเหล้าอยู่ที่กระต๊อบใกล้ที่เกิดเหตุ แล้วทั้ง 3 คนหายตัวไปพร้อมกับรถ จยย. เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 60 เวลาประมาณ 19.00 น. ญาติๆ จึงได้แจ้งความที่ สภ.มหาราช และออกตามหา จนกระทั่งวันนี้ เวลา 14.00 น. ญาติผู้ตายพบน้ำมันเครื่องลอยอยู่ในคลองท่อ 6 จึงให้กู้ภัยลงไปงม พบรถจยย. 2 คันของผู้ตาย อีก 1 คันหายไป และห่างออกไป 100 เมตร พบโทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง ถูกเผาฝังทิ้งไว้ใกล้กับยอปลา และได้ทำการค้นหาต่อจนกระทั่งพบจุดเป็นหลุมฝังศพ จำนวน 2 หลุม อยู่ริมฝั่งคลองตรงข้ามกับจุดที่พบรถ จยย. ห่างกันประมาณ 100 เมตร ญาติมาดูยืนยันว่าใช่ศพทั้ง 3 คนที่หายไป,พ.ต.อ.สมชัย อนิวัตกูลชัย ผกก. สภ.มหาราช กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คนฆ่าอย่างโหดเหี้ยมยิงทิ้งแล้วฝังดิน สาเหตุเบื้องต้นเรื่องแค้นส่วนตัวและยาเสพติด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.
พบร่างแล้ว 3 หนุ่มที่หายตัวไปจาก อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ในหลุม 2 หลุม ริมฝั่งคลองตรงข้ามกับจุดที่พบรถ จยย. โดยญาติของทั้ง 3 คนยืนยันตัวถูกต้อง ตร.พบถูกฆ่าโหดเหี้ยมยิงทิ้งก่อนฝังดิน พุ่งปมแค้นส่วนตัว และยาเสพติด
ข่าว,อาชญากรรม
ฆ่าฝังดิน,3 หนุ่มมหาราช,อ.มหาราช,พระนครศรีอยุธยา,พัวพันยาเสพติด,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1037732
ประยุทธ์ ชี้ค่าแรง 300 บ. ทำสาหัส ต่างชาติจะไม่มาลงทุน แต่แรงงานข้ามชาติทะลัก
8 มิ.ย.2558 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการค่าจ้าง เตรียมพิจารณาโครงสร้างค่าจ้างใหม่ โดย รายงานด้วยว่าเนื่องด้วยระยะทางระหว่างนักข่าวและนายกรัฐมนตรีอยู่ห่าง ทำให้นายกรัฐมนตรีเข้าใจคำถามผู้สื่อข่าวว่า เป็นการขอเพิ่มค่าจ้างและตอบว่า ตอนนี้จะหาเงินจากตรงไหนได้ที่จะมาขึ้นค่าแรง ขอถามซิ เรียกร้องอะไรกันมาบ้าง ค่าแรง ค่ารักษาพยาบาล การศึกษา แล้วรายเรามีหรือไม่ มีเพิ่มขึ้นหรือยัง เราต้องให้เวลาในการสร้างความเข้มแข็งตรงนี้ก่อน ตนบอกแล้วว่า ใครอยากจะขึ้นค่าแรง ต้องไปที่กระทรวงแรงงานในการไปทดสอบเรียนรู้ที่จะได้ค่าแรงตามคุณวุฒิพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ถ้าค่าแรงเหมาจ่ายทั้งหมดมันไปกันไม่ได้ เพราะ 1.ไม่มีเงิน 2.ไม่มีใครเขาจ้าง แล้วจะทำอย่างไร ตอนนี้ค่าแรง 300 บาท ส่วนใหญ่ใครเป็นคนได้ แรงงานต่างด้าวใช่หรือไม่ ถ้าขึ้นมาต้องขึ้นให้เขาด้วยหรือไม่ หรือไม่ต้องขึ้น ขึ้นแค่คนไทยอย่างเดียว รู้หรือไม่ว่าเป็นอย่างไร ต้องขึ้นทั้งประเทศ เท่ากับว่า เราให้คนต่างชาติเยอะแล้ว เขาจะมามากขึ้น เพราะคนไทยไม่ทำ อีกทั้งเขาจะเข้ามาประเทศไทยเพราะค่างแรงขั้นต่ำที่บ้านเขาอยู่ที่เพียง 100-150 บาท ไม่เกิน 200 บาท คิดแบบที่ตนคิดบ้าง ถ้ารวยเท่าไหร่ตนก็ให้ได้คิดแบบที่ผมคิดบ้าง ถ้ารวยเท่าไหร่ผมก็ให้ได้ อย่าปลุกระดมออกมา มันจนทุกคน ไม่ใช่เฉพาะแรงงาน จะเอาอะไรกันนักหนา ก็รู้อยู่ว่าเรากำลังสร้างความเข้มแข็ง กำลังให้คนเข้ามาลงทุน แค่ 300 บาทก็หนักหนาสาหัสพออยู่แล้ว ที่เขาจะไม่ลงทุน ซึ่งไม่ใช่ความผิดของผมหรือของใคร แต่ไปถามซิว่าใครทำมา มันควรมาทีละขั้นตอน จะก้าวกระโดดขึ้นไปอีกผมให้ไม่ได้ เพราะไม่มีเงิน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
8 มิ.ย.2558 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการค่าจ้าง เตรียมพิจารณาโครงสร้างค่าจ้างใหม่ โดย กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
แรงงาน,เศรษฐกิจ
การลงทุน,ค่าแรง300บาท,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,แรงงานข้ามชาติ
https://prachatai.com/journal/2015/06/59672
หน่วยกู้ภัยจีนตรวจสอบพื้นที่ได้กว่าร้อยละ 90 หลังเกิดแผ่นดินไหวที่ กุ้ยโจว-ยูนนาน
ภาพมุมสูงจากการสำรวจทางอาการเผยให้เห็นความเสียหายของเมืองหลัวเจ้อเฮอ ในมณฑลยูนนาน ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เสียหายมากที่สุดหลังเกิดแผ่นดินไหว 5.7 และ 5.6 ริกเตอร์ เมื่อวันศุกร์ มีรายงานว่า แรงสั่นสะเทือนอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นส่งผลให้ก้อนหินกลิ้งตกลงจากเขา และแผ่นดินไหวยังทำให้ดินถล่มทับแม่น้ำหลายจุดทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำงานยากลำบากนอกจากนี้ยังมีรายงานว่า รถพยายาลของทีมกู้ภัยและรถของสื่อมวลชนเกือบติดอยู่ท่ามกลางดินถล่ม เนื่องจากเกิดแรงสั่นสะเทือนอาฟเตอร์ช็อกขึ้นระหว่างเดินทางไปช่วยเหลือประชาชน แต่เคราะห์ดีที่สามารถออกจากจุดเสี่ยงดินถล่มได้อย่างปลอดภัยขณะที่ทางการส่งทีมฉุกเฉินด้านธรณีวิทยา 5 ทีม ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค 22 คน ลงพื้นที่แผ่นดินไหวเพื่อทำการสำรวจพื้นที่อันตรายทางธรณีวิทยา พบว่า มีดินยุบตัว 61 จุด ดินถล่มใหญ่ 3 จุด และ พบรอยแยกตามแนวหุบเขา 6 รอยสำนักข่าวเอเอฟพี รายงานอ้างตามสถานีวิทยุแห่งชาติจีนว่า ขณะนี้หน่วยกู้ภัยที่รัฐบาลกลางส่งลงพื้นที่ประสบภัยบริเวณรอยต่อมณฑลกุ้ยโจวและยูนนานเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตสามารถตรวจสอบพื้นที่หุบเขาห่างไกลได้ร้อยละ 90 แล้ว และ เกือบถึงพื้นที่ที่ถูกตัดขาดพื้นที่สุดท้ายแล้วขณะที่ความช่วยเหลือต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรถพยาบาล เต็นท์พักอาศัย อาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ยังคงทยอยขนส่งเข้าพื้นที่ และมีการตั้งเต็นท์หน้าโรงพยาบาลเพื่อรองรับผู้บาดเจ็บที่ยังเดินทางมารักษาตัวอย่างต่อเนื่องส่วนยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการยังอยู่ที่ 81 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 820 คน บ้านถล่ม 7000 หลัง ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 201000 คน และยังมีพยากรณ์อากาศว่าจะเกิดพายุฝนช่วงเย็นวันอาทิตย์ทำให้สถานการณ์ของผู้ประสบภัยค่อนข้างเลวร้าย และอาจเกิดโคลนถล่ม กระทบต่อการส่งความช่วยเหลือ มีรายงานว่ารัฐมนตรีคลังของจีน จัดงบประมาณกว่า 5000 ล้านบาท เพื่อให้การช่วยเหลือมณฑลที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวแล้ว
หน่วยกู้ภัยจีนเร่งค้นหาผู้ที่อาจรอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ ( 7 ก.ย.) และสามารถตรวจสอบพื้นที่ห่างไกลได้ร้อยละ 90 แล้ว ขณะที่แรงสั่นสะเทือนอาฟเตอร์ช็อกยังทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ล่าช้า และ เสี่ยงจะเกิดดินและหินถล่มเพิ่ม
ต่างประเทศ
กู้ภัย,ดินถล่ม,ผู้รอดชีวิต,อาฟเตอร์ช็อก,แผ่นดินไหว
https://news.thaipbs.or.th/content/110161
แนวต้านโผล่ไม่หยุด
หยั่งเชิงถามกระแสสังคมพร้อมไขก๊อกออกจากตำแหน่ง หากไม่เป็นที่ต้องการของประชาชน,ฝ่ายหนึ่งมีมวลชนมาให้กำลังใจ บิ๊กป้อม เชียร์ให้นั่งทำงานต่อไป ออกมาปลอบขวัญอาการน้อยใจที่ถูกล่อเป้าเรื่องนาฬิกาหรูมาตลอด 2 เดือนเต็ม ประกาศยังให้ความเชื่อมั่นทำหน้าที่ต่อ โปรยยาหอมทำประโยชน์ให้ประเทศมากมาย แต่ถูกการเมืองจ้องเลื่อยขาเก้าอี้,กองหนุนโผล่เปิดตัวทันที ไม่ปล่อยให้ ลุงป้อม โดนรุมสกรัมฝ่ายเดียว,ผิดกับคำตอบของอีกฝ่ายในโลกไซเบอร์ มีการล่าชื่อขับไล่พี่ใหญ่ให้ลาออกจากตำแหน่ง ผลโพลจากสารพัดเพจดังออกมาตรงกันเป๊ะ ไม่ให้วีซ่าต่ออายุ,ชาวเน็ตส่วนใหญ่ไม่ปลื้มให้อยู่ต่อ ระดมพลังเข้าชื่อหลายหมื่น ส่อเค้าเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ กดดันให้รีบยกธงขาว,กองหนุน–กองแช่งให้คำตอบไม่ตรงกันต้องลุ้นกันต่อไป พี่ใหญ่ จะยอมถอดใจหรือไม่,แต่ที่แน่ๆระหว่างที่ บิ๊กป้อม กำลังถูกรุกไล่ต้อนเข้ามุม มันก็มีคิวแทรกเรื่องอื่นโผล่เข้าผสมโรงเขย่าเสถียรภาพรัฐบาลควบคู่ไปด้วย ตามสัญญาณของ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ที่ออกปาก ศึกหนักยังไม่จบ,ท็อปบูตยังอยู่ในความเสี่ยงเผชิญแรงเสียดทานอีกหลายด่าน,ที่ส่อเค้าเข้มข้นขึ้นตามลำดับคือ การปลุกกระแสต่อต้านรัฐบาลทหารอย่างต่อเนื่อง คัดค้านการสืบทอดอำนาจของ คสช.,ตัวอย่างที่เห็นกันชัดๆจากช็อตเคลื่อนไหวของขบวนการนักศึกษาหัวโจกเดิมๆ,ที่นัดแสดงกิจกรรมต่อต้านการสืบทอดอำนาจ สลับสับเปลี่ยนสถานที่กระตุกหนวด คสช.อยู่เป็นระลอกๆ,วัดพลังท้าทายอำนาจพิเศษ หยั่งเชิงจะจุดกระแสต่อต้านติดหรือไม่,สร้างความปั่นป่วนให้ คสช. จนต้องไล่แจ้งความดำเนินคดี 39 ผู้ชุมนุมสกายวอล์ก ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ชุมนุมเกิน 5 คน เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล,รีบตัดไฟแต่ต้นลมไม่ให้มีการเคลื่อนไหวท้าทายของกลุ่มอื่นๆตามมา,ในคิวที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ออกมายอมรับ มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนต่างๆทางการเมืองมากขึ้นในช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง,ภูมิต้านทานที่เคยเป็นจุดแข็งของท็อปบูตย่อมถูกกัดกร่อนไปตามกาลเวลา ยิ่งอยู่นานเครดิตความน่าเชื่อถือย่อมลดทอนไปตามธรรมชาติการเมืองแบบไทยๆ,ก็เป็นธรรมดาที่ต้องระแวงการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนที่ตั้งท่าขยับตัวในเวลานี้,แม้กระทั่งขบวนพาเหรดล้อการเมืองในงานฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ–ธรรมศาสตร์ ยังถูกโยงอยู่ในข่ายถูกคุมเข้ม ส่งทีมสอดแนมทหาร-ตำรวจจับตามองการเตรียมจัดกิจกรรมอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ,ตีกรอบควบคุมการแสดงสิทธิเสรีภาพทางความคิดของกลุ่มนักศึกษาสารพัด ตั้งแต่การห้ามล้อเลียนเรื่องนาฬิกาหรู ห้ามทำหุ่นล้อผู้นำทหาร ผู้นำประเทศ,ตั้งท่าสแกนยิบหุ่นขบวนพาเหรดล้อการเมืองทุกตัวก่อนลงสู่สนาม,ในยามที่ต้นทุนรัฐบาลหดหาย กองหนุนร่อยหรอ เห็นใครเคลื่อนไหวอะไรๆก็เข้าข่ายหวาดระแวง เสียวสันหลังไปหมด แม้แต่กีฬาประเพณีประจำปียังหนีไม่พ้นถูกจ้องจับผิด,ยิ่งรัฐบาลเบรกการแสดงสิทธิและความเห็นมากขึ้นเท่าใด,ก็สุ่มเสี่ยงต่อการถูกครหาใช้อำนาจปิดกั้นการแสดงพลังบริสุทธิ์ของภาคประชาชนมากขึ้นเท่านั้น,โดยเฉพาะหากมีกรณีเปรียบเทียบเลือกจับผิดเฉพาะม็อบฝ่ายตรงข้าม แต่ไม่เอาผิดม็อบที่เคลื่อนไหวสนับสนุนรัฐบาล เหมือนเพิ่มหัวเชื้อกระตุกแนวร่วมอื่นๆให้รวมพลังฮึดสู้ คสช.,กระแสแนวต้านชักขยายวงออกไปเรื่อยๆจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวขาประจำ ลามเข้าสู่สายนักวิชาการ กลุ่มปัญญาชนที่กล้าออกมากดดัน คสช.มากขึ้น,ยังไม่นับรวมกลุ่มพรรคการเมือง ระดับมืออาชีพที่จ้องฉวยจังหวะเข้าผสมโรง หากรัฐบาลพลาดท่าเพลี่ยงพล้ำ,แนวต้านโผล่ไม่หยุด พร้อมประจันหน้าทหารมากขึ้นทุกที,ทีมข่าวการเมือง รายงาน
คำถามเดียวกันแต่ได้คำตอบไปคนละทางตามคิวที่ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
ข่าว,การเมือง
ประวิตร วงษ์สุวรรณ,ออกจากตำแหน่ง,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,รัฐบาล,วิเคราะห์การเมือง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1194143
ไทม์ไลน์ 2 พรรคใหญ่ ยังต้องฟันฝ่าอะไร กว่าถึงวันเปิดประชุมสภา เลือกนายกฯ
ไทม์ไลน์ ,28 มี.ค.62 เริ่มด้วย  2 พรรคใหญ่ เพื่อไทย พลังประชารัฐ ประกาศแข่งกันตั้งรัฐบาล เปิดดีลแข่งกันดึงพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งที่ลับและที่แจ้ง ลุ้นระทึก แจกใบแดง เหลือง ส้ม ดำ,ล่าสุด วันเดียวกัน กกต.ผลคะแนน ป๊อบปูล่าโหวตแบบไม่เป็นทางการ 100% พลังประชารัฐ ได้ 8.4 ล้านคะแนน เพื่อไทย 7.9 ล้านคะแนน อนาคตใหม่ 6.2 ล้านคะแนน ประชาธิปัตย์ 3.9 ล้านคะแนน และภูมิใจไทย 3.7 ล้านคะแนน ,9 พ.ค. 62 กกต.รับรองผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ครบ 95% ให้สามารถเปิดสภาได้ตามกฎหมายกำหนด,11 พ.ค. 62 ประกาศรายชื่อ ส.ว. 250 คน,23 พ.ค. 62 เปิดประชุมสภาครั้งแรก,นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต., กล่าวกับ ,ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์, ว่า กรณีการแจก ใบแดง ใบเหลือง ใบส้ม ต้องจับตาให้ดี เพราะจะแจกกันตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงหลังวันเลือกตั้ง เป็นเวลา 1 ปี แน่นอนว่าจะส่งผลต่อกระบวนการแข่งกันจัดตั้งรัฐบาลในช่วงนี้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง เหตุเพราะจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของแต่ละพรรคจะเกิดการ ชักเข้า ชักออก ประสบกับความไม่แน่นอน ดังนั้นกรณีพรรคเพื่อไทยชิงความได้เปรียบด้วยการประกาศจับมือ 6 พรรคการเมืองล็อกเป้าจัดตั้งรัฐบาลก่อน จึงมีผลในเชิงจิตวิทยา เหมือนแค่ดึงน้ำให้ไหลมารวมกันเท่านั้น ทั้งต้องจับตาวันเปิดสภานัดแรก ว่าแต่ละพรรคการเมืองจะโหวตเลือกแคนดิเดตนายกฯ กันอย่างไร เพราะพรรคที่มี ส.ส. 25 เสียง ก็สามารถเสนอชื่อนายกฯ ได้ ไม่จำเป็นต้องมี ส.ส.ถึง 250 หรือ 376 เสียง แต่อย่างใด.
กาไว้ในปฏิทิน เปิดไทม์ไลน์ 2 พรรคใหญ่ เพื่อไทย พลังประชารัฐ แข่งกันตั้งรัฐบาล หนทางข้างหน้ายังต้องผจญปัญหา อุปสรรคอะไร จนถึง 23 พ.ค. วันเปิดประชุมนัดแรก
เลือกตั้ง
เพื่อไทย,พลังประชารัฐ,เปิดประชุมสภา,เลือกตั้ง62,ข่าวร้อน,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1531586
ความเป็นมาของระเบียบชุดนักเรียนไทย อังกฤษ และอเมริกา และข้อถกเถียงสากล
สังคมไทยเองก็มีการรับรู้และกระตือรือร้นในการมีส่วนร่วมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อย่างมาก อาจเพราะด้วยยุคข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็ว ทำให้ประเด็นเล็กๆสามารถถูกจุดให้ติดได้และลุกลามดังไฟทุ่งประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดตอนนี้คงหนีไม่พ้นประเด็นชุดนักเรียน-นักศึกษา ที่มีการถกเถียงกันมากมายระหว่างฝั่งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บทความนี้แปลและเรียบเรียงขึ้นจากส่วนหนึ่งในเปเปอร์ของผู้เขียนเรื่อง School Uniform in Thailand; comparing to British and American เพื่อศึกษาและทำความเข้าใจประวัติศาสตร์ที่มาของชุดนักเรียนในประเทศไทย และต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่หลายคนมักอ้างถึงเป็นประจำเพื่อเปรียบเทียบและเพื่อให้เห็นการพัฒนาการ ของสังคม ที่อำนาจผ่านกฎระเบียบพยายามเข้าแทรกซึมผ่านเครื่องแบบในระบบการศึกษาชุดนักเรียนของไทยเริ่มมีขึ้นครั้งแรกในสมัยการวางรากฐานการศึกษาไทย ในสมัยรัชกาลที่ 5 ราว พ.ศ. 2428 โดยเครื่องแบบนักเรียนในยุคแรกประกอบไปไปด้วย1. หมวกฟาง มีผ้าพันหมวกสีตามสีประจำโรงเรียน ติดอักษรย่อนามโรงเรียนที่หน้าหมวก2. เสื้อราชปะแตนสีขาว ดุมทอง3. กางเกงไทย (กางเกงขาสั้นอย่างที่นักเรียนใช้อยู่ในปัจจุบัน)4. ถุงเท้าขาว หรือดำ5. รองเท้าดำทั้งนี้ ถุงเท้า รองเท้า ในขณะนั้นเป็นของราคาแพง จึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีทุกคน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีใช้เอกสารข้อกำหนดอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการแต่งกายเครื่องแบบนักเรียนเกิดขึ้นภายหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง2475 ในสมัยของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ในพระราชบัญญัติเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2482 และตามด้วย ระเบียบกระทรวงธรรมการ ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2482 ซึ่งกำหนดรายละเอียดยิบย่อยมากมายตั้งแต่หัว(หมวก)จรด(รอง)เท้าทั้งของชายและหญิง แยกประเภทโรงเรียนข้อกำหนดเรื่องเครื่องแบบนี้ถูกเปลี่ยนแปลงหลายครั้งตามสถานการณ์ เช่นในช่วงสงครามโลก เสื้อผ้าขาดแคลน จึงต้องลดกฎระเบียบลงให้น้อยลงในปัจจุบันประเทศไทยได้ใช้กฎระเบียบการแต่งกาย ตาม พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่กำหนดไว้ใน พระราชบัญญัติเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2551 ประกอบกับระเบียบปฏิบัติของโรงเรียนต่าง ๆ เองเครื่องแบบนักเรียนในประเทศอังกฤษเกิดขึ้นครั้งแรกในรัชสมัยของพระเจ้าเฮนรี่ที่8 (พ.ศ.2034-2090)โดยเครื่องแบบนักเรียนในยุคแรกนั้นไม่ได้ถูกใส่โดยนักเรียนชั้นสูง หากแต่เป็นนักเรียนยากจนที่ใส่ เพื่อเป็นการแยกระหว่างนักเรียนจากโรงเรียนยากไร้กับโรงเรียนอื่น อีกกว่า300ปีต่อมา ที่นักเรียนในโรงเรียนรัฐบาลเริ่มมีการใส่เครื่องแบบ โดยเครื่องแบบในสมัยนั้นถูกเรียกว่า bluecoat หรือ เสื้อคลุมสีน้ำเงิน เพราะเครื่องแบบหลักนั้นคือเสื้อโค๊ทยาวคล้ายแจ๊กเกตสีน้ำเงิน ซึ่งสีน้ำเงินเป็นสีที่ถูกที่สุดในการย้อมผ้าในขณะนั้นและยังเป็นสีซึ่งสื่อถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนอีกด้วยในปี 1870 มีการออกระเบียบการศึกษาชั้นต้น1870 (Elementary Education Act 1870) ทำให้การศึกษาชั้นต้นมีการแพร่หลายในประเทศอังกฤษและเวลส์ เครื่องแบบนักเรียนได้รับความนิยมและแพร่หลายขึ้นมากขึ้น นักเรียนทุกคนมีเครื่องแบบเป็นของตัวเอง เครื่องแบบนักเรียนในยุค 1920s ประกอบไปได้เสื้อสูทกั๊ก(blazer) เนคไท และกางเกงขายาวสุภาพในปี 1960 ความนิยมของเครื่องแต่งกายชุดนักเรียนเริ่มเสื่อมลง เนื่องจากการปฎิวัติสังคม (social revolution) หลังสงครามโลกครั้งที่2 เครื่องแบบยิบย่อยที่มีราคาแพงก็ไม่เป็นที่นิยมอีกต่อไป บวกกับการปฎิวัติของหนุ่มสาว ในยุค60 แนวคิดทางชนชั้นและระเบียบที่กักกันเสรีภาพถูกท้าทายโดยคนหนุ่มสาว โรงเรียนหลายแห่งยกเลิกเครื่องแบบนักเรียนลงในที่สุดในสหรัฐอเมริกา โรงเรียนรัฐส่วนใหญ่ไม่มีการบังคับให้ใส่เครื่องแบบนักเรียน หากจะมีเพียงกฎเล็กๆน้อยๆหรือ dress codes เช่น การกำหนดความยาวของกระโปรงไม่ให้สั้นเกินควร หรือเรื่องรอยสักที่ไม่เหมาะสม (รอยสักรูปโป๊ หรือสัญลักษณ์แก๊ง) อย่างไรก็ดีในช่วงปีที่ผ่านมาอ้างอิงจาก National Association of Elementary School Principals (NAESP) โรงเรียนหลายแห่งในสหรัฐฯมีการกำหนดเครื่องแบบเพิ่มมากขึ้น จาก3% ในปี 1997 เป็น 21% ในปี 2000 และในปี 2009 มีโรงเรียนถึง 21รัฐ ที่มีการกำหนดให้นักเรียนสวมเครื่องแบบอย่างไรก็ดี ทั้งสหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ไม่ปรากฎว่ามีกฎข้อบังคับในการแต่งกายในระดับอุดมศึกษา(มหาวิทยาลัย) แต่อย่างใดข้อถกเถียงเรื่องเครื่องแบบนักเรียนในสหรัฐอเมริกาเริ่มมีขึ้นในราวปี 1980 โดยมีการยกเหตุผลว่าการมีเครื่องแบบนักเรียนนั้นเป็นการลิดรอนกักกันความคิดแบบปัจเจกและเสรีภาพในการแสดงออก ถึงแม้ว่าฝ่ายสนับสนุนจะยกเหตุผลว่าการมีอยู่ของเครื่องแบบนั้นจะทำให้ผู้ปกครองและตัวนักเรียนลดแรงกดดันจากค่านิยมแฟชั่นและเป็นการประหยัดเงินในการหาซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆฝ่ายที่สนับสนุนการใช้เครื่องแบบนั้นอ้างว่าการใส่เครื่องแบบ จะทำให้ผู้เรียนสนใจกับการเรียนมากกว่ามัวแต่สนใจชุดที่ใส่ และการทำงานเมื่อเรียนจบหลายแห่งก็มีเครื่องแบบของบริษัทที่บังคับ การมีเครื่องแบบก็จะทำให้นักเรียนได้เตรียมตัวไปสู่การทำงานในอนาคต ทั้งนี้ความสำคัญของเครื่องแบบอีกอย่างหนึ่งคือมันจะทำให้ความรุนแรงในสังคมลดลงไปด้วย เช่นกลุ่มอันธพาลก็จะไม่สามารถแยกแยะเด็กออกได้ว่าอยู่กลุ่มที่เป็นอริกันหรือปล่าว (ในอเมริกานั้นกลุ่มแก๊งค์จะมีชุดเสื้อผ้าประจำกลุ่ม)อย่างไรก็ดี ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการใส่ชุดนักเรียนนั้นให้เหตุผลว่า มันเป็นการละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิเหนือร่างกายของเด็กที่จะเลือกว่าสิ่งไหนเหมาะสมและน่าสนใจต่อเขา ทั้งนี้การต้องซื้อเครื่องแบบนักเรียนหาใช่การประหยัดไม่ หากแต่เป็นการเพิ่มภาระโดยใช่เหตุ โดยเฉพาะกับครอบครัวที่มีลูกหลายคน การอ้างเรื่องลดความรุนแรงของกลุ่มอันธพาลนั้นก็เหลวไหล เพราะไม่ว่าจะมีหรือไม่มีเครื่องแบบนั้น อันธพาลก็พร้อมที่จะทำร้ายหรือใช้ความรุนแรงได้ทุกเมื่ออยู่ดีจะเห็นได้ชัดว่าหากมาเปรียบเทียบกับประเทศไทย ข้อถกเถียงเหล่านี้ ก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหน้าสื่อสังคมออนไลน์ทุกวัน หากแต่จะมีเรื่องเกียรติศักดิ์ศรีพ่วงท้ายเข้ามาด้วย ฝ่ายสนับสนุนมักยกประเด็นชุดนักเรียน-นักศึกษาพระราชทาน หรือความภาคภูมิใจต่อสถาบันการศึกษา โดยที่ไม่สนใจประเด็นสากลอย่างสิทธิเสรีภาพเหนือร่างกาย และการแสดงออก ประเด็นเรื่องค่าใช้จ่ายก็เป็นที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน โดยฝ่ายสนับสนุนมักจะเป็นบุคคลจำพวกที่ไม่เดือดเนื้อร้อนกระเป๋าต่อค่าใช้จ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งเครื่องแบบอันมีเกียรติ แต่ไม่เคยนึกถึงอีกหลายคนที่เดือดร้อนต่อภาระนี้ ดังจะเห็นได้จากข่าวที่ผู้ปกครองหลายคนแห่กันเข้าโรงรับจำนำในช่วงก่อนเปิดเทอม เพื่อหาซื้ออุปกรณ์และชุดเครื่องแบบให้ลูกหลานการถกเถียงเรื่องการมีอยู่ของเครื่องแบบนักเรียนนั้นมีมาอย่างต่อเนื่องทั้งในสหรัฐอเมริกาและไทย มันได้ก้าวล่วงและส่งผลสะเทือนตั้งแต่ปัญหาความปลอดภัยของเด็กไปจนถึงเรื่องเสรีภาพส่วนบุคคล ประเด็นสิทธิและสาธารณประโยชน์ถูกยกมาถกเถียงกันมากที่สุดในสหรัฐฯ ต่างจากในไทยที่มักยกเรื่องเกียรติภูมิและความภาคภูมิใจที่ฟังดูเป็นเรื่องที่ตื้นเขินพอสมควรมาเป็นประเด็นหลักของฝ่ายสนับสนุน- ยุกติ มุกดาวิจิตร อำนาจนิยมของเครื่องแบบ - ชุดนักเรียนไทยอยู่ตรงไหน http://siamuniform.blogspot.com/2013/01/blog-post_6.html The history of School Uniform; Chris Carson; http://www.ehow.com/about_5431878_history-school-uniform.html http://histclo.com/schun/country/eng/schuneng.html http://histclo.com/schun/hist/schun-hist.html http://schooluniforms.com/uniformsusa.html http://www.ehow.com/about_5462433_school-uniforms.html ผลการศึกษาในปี1999 ที่ลองบีช แคลิฟอเนีย พบว่าการออกกฎให้มีเครื่องแบบนั้นทำให้ความรุนแรงในโรงเรียนลดน้อยลง อาชญากรรม และการกดขี่ทางเพศก็ลดน้อยลงถึง90% และการทำลายข้าวของก็ลดลงถึง70% http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=378418
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ดูเหมือนสังคมไทยจะมีความตื่นตัวมากขึ้นต่อระบบการศึกษาในประเทศ ตั้งแต่เรื่องเนื้อหาแบบเรียน ไปจนถึงเรื่องกฎระเบียบ
ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน,การศึกษา
รักษ์ชาติ์ วงศ์อธิชาติ
https://prachatai.com/journal/2013/09/48726
โจรบาปย่องเงียบ ปีนวัดงัดกุฏิเจ้าอาวาส ลักเงินกฐินกว่า1ล้าน
เมื่อเวลา 09.20 น.วันที่ 25 พ.ย.58 พ.ต.ต.ภูเบศ ทองเหี่ยง พนักงานสอบสวนเวร สภ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุคนร้ายงัดกุฏิเจ้าอาวาสวัดโฉลกศิลาราม หมู่ 4 ต.ลำพูน ได้ทรัพย์สินไปจำนวนมาก จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชินวัฒน์ เปรมสง่า ผกก. พ.ต.ท.นิคม ชัยเจริญ รอง ผกก.สส.และตำรวจ พฐ.8 เข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐาน,ที่เกิดเหตุเป็นกุฏิเจ้าอาวาส สร้างด้วยปูนแบบ 2 ชั้น พบพระครูธีรธรรมพิมล เจ้าอาวาส และเจ้าคณะตำบลควนสุบรรณ อ.บ้านนาสาร รอพบเจ้าหน้าที่ พร้อมนำตรวจที่เกิดเหตุ พบว่า คนร้ายเปิดฝ้าเพดานห้องน้ำชั้น 2 เพื่อเข้าไปในกุฏิ ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป เป็นเงินสด จำนวน 1 ล้านบาทเศษ สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท ที่เก็บไว้ภายในห้องนอนของเจ้าอาวาส ถูกคนร้ายนำไปทั้งหมด จากการตรวจสอบพบว่า ที่ด้านหลังกุฏิ มีรองเท้ารัดส้นสีดำ เบอร์ 41 ถูกถอดทิ้งไว้ 1 คู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน,พ.ต.อ.ชินวัฒน์ เปรมสง่า ผกก.สภ.บ้านนาสาร กล่าวว่า จากการสอบถามพระครูธีรธรรมพิมล เจ้าอาวาส ในเบื้องต้นทราบว่า ทางวัดได้จัดทอดกฐิน เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่าน หลังเสร็จพิธีสามารถนับเงินได้จำนวน 600,000 บาท และยังมีส่วนที่เหลือที่ยังไม่ได้นับอีกจำนวนหนึ่ง จึงเก็บรวบรวมไว้ในถุง รวมทั้งหมดจำนวน 4 ถุง คาดว่าเป็นเงินทั้งสิ้น ประมาณ 800,000 บาท เมื่อรวมกับเงินทำบุญของญาติโยมก่อนหน้านี้อีก 200,000 บาท เป็นเงินประมาณ 1 ล้านบาทเศษ นำไปเก็บไว้ในกุฏิที่เป็นห้องนอน เพื่อรอเจ้าหน้าที่ธนาคาร ซึ่งนัดหมายกันว่า จะเดินทางมานับและรับเงินไปในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 25 พ.ย.,ก่อนเกิดเหตุตั้งแต่เวลา 07.00 น. พระครูธีรธรรมพิมล ได้ออกจากกุฏิไปปฏิบัติศาสนกิจที่หอฉัน แต่ด้วยที่เป็นวันพระ จึงมีญาติโยมมาร่วมทำบุญเป็นจำนวนมาก โดยใช้เวลาอยู่ร่วม 2 ชั่วโมง จึงกลับเข้ากุฏิ ซึ่งเมื่อไปถึงก็พบว่า เงินสด 4 ถุง ที่วางไว้ในห้องนอนหายไปแล้ว โดยมีร่องรอยถูกงัดเข้ามาจากชั้น 2 ของกุฏิ,พ.ต.อ.ชินวัฒน์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบหาลายนิ้วแฝงของกองพิสูจน์หลักฐาน 8 เบื้องต้น คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมีเพียง 1 คนเท่านั้น ซึ่งได้ประสาน กก.ตชด.ที่ 41 นำสุนัขตำรวจเข้าตรวจสอบกลิ่นจากรองเท้าของกลางที่ตรวจยึดได้ เบื้องต้นคาดว่าผู้ที่ก่อเหตุ น่าจะเป็นบุคคลที่อาศัย หรืออยู่ในบริเวณใกล้เคียงวัด เนื่องจากรู้เส้นทางเข้าออก และช่วงเวลาปลอดคนเป็นอย่างดี ซึ่งได้ให้ชุดสืบสวน ออกหาข่าวภายในวัดที่มีพระภิกษุสามเณรอยู่รวม 60 รูป ล่าสุด พอจะทราบเบาะแสของคนร้ายรายนี้แล้ว.
เจ้าอาวาสวัดที่ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี นำงินที่ได้จากทอดกฐิน และเงินทำบุญใส่ถุง 4 ถุงเก็บไว้ในกุฏิที่จำวัด รอธนาคารมารับ พอดีเป็นวันพระใหญ่ขึ้น15ค่ำมีมาทำบุญเยอะ อยู่ที่หอฉันนานกลับเข้ากุฏิปรากฏว่าโดนโจรงัดลักเอาไปเกลี้ยง
null
งัดกุฏิ,ลักเงินพระ,เงินทอดกฐิน,เงินกว่าล้าน,พระครูธีรธรรมพิมล,วัดโฉลกศิลาราม,บ้านนาสาร,สุราษฎร์ธานี,ลักทรัพย์,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/content/541945
อุทยานฯแจง คุก ป้าสีนวล รุกที่ป่าสงวน
โ มีที่อยู่นอกพื้นที่ป่า และเป็นเจ้าของที่ดิน ส.ป.ก. มีการลงชื่อในทำบันทึกขอคืนพื้นที่แล้วแต่ไม่ปฏิบัติตาม แถมรุกที่ป่าเพิ่ม ที่สำคัญศาลพิจารณาจากภาพถ่ายทางอากาศ ยืนยันพื้นที่พิพาทเป็นป่า ไม่มีการครอบครองทำประโยชน์ เป็นการเจตนาบุกรุกที่ป่า ยืนยันรัฐบาลไม่รังแกคนยากไร้,โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติฯ แจงกรณีศาลพิพากษาลงโทษ ป้าสีนวล รุกป่ากลายเป็นกระแสดราม่าสื่อโซเชียลนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. นายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีสื่อออนไลน์นำเสนอข่าวศาลจังหวัดชัยภูมิ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุกนางสีนวล พาสังข์ อายุ 61 ปี ชาวบ้านซับหวาย ต.ห้วยแย้ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ เป็นเวลา 5 เดือน 10 วัน ให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 150,000 บาท และให้ออกจากที่ดินทำกิน ในคดีอุทยานแห่งชาติไทรทองฟ้องนางสีนวล ในข้อหาบุกรุกป่า ศาลอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา,โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติฯกล่าวว่า คดีนี้มีข้อเท็จจริงสำคัญ 3 เรื่องที่สังคมควรรับทราบ เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดคือ นางสีนวลบุกรุกที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติไทรทอง ภายหลังคำสั่ง คสช.ที่ 66/2557 และนางสีนวลไม่ได้เป็นผู้ยากไร้ ผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ไร้ที่ดินทำกิน ตามคำสั่งดังกล่าว โดยมีที่อยู่อาศัยนอกเขตอุทยานแห่งชาติไทรทอง และยังเป็นผู้มีรายชื่อครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.อีกด้วย ทางอุทยานแห่งชาติไทรทองได้ดำเนินการอย่างละมุนละม่อมจากเบาไปหาหนัก เริ่มจากการเจรจาขอคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้บุกรุก จัดทำบันทึกข้อตกลงโดยผู้ต้องหายินยอมลงลายมือชื่อตกลงว่าจะมีการเก็บเกี่ยวผลผลิตให้แล้วเสร็จก่อนจะออกจากพื้นที่ แต่กลับไม่ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลง และยังมีการบุกรุกที่ดินเพิ่มเติมอีก 6 ไร่เศษ เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย,นายสมโภชน์กล่าวว่า ศาลชั้นต้นวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศปี พ.ศ.2545 เห็นว่าพื้นที่พิพาทยังคงมีสภาพเป็นป่า มีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น ยังไม่มีการเข้าทำประโยชน์ และจำเลยก็รู้ว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตอุทยานแห่งชาติ เป็นการเจตนาบุกรุกที่ดินภายในเขตอุทยานแห่งชาติ พิพากษาจำคุกจำเลย พร้อมทั้งให้จำเลยและบริวารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง พืชผลอาสินออกจากเขตอุทยานแห่งชาติ และให้ชดใช้ค่าเสียหาย,โฆษกกรมอุทยานฯกล่าวอีกว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ได้รังแกคนยากไร้ พิจารณาได้จากการที่รัฐบาลให้ประชาชนภายใต้มติ ครม. 30 มิ.ย.2541 และคำสั่ง คสช.ที่ 66/2557 ให้คนยากจนที่ไม่มีที่ทำกินสามารถอยู่ในที่ทำกินตนเองได้ รวมถึง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 และ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ผลักดันในรัฐบาล คสช.และ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีมาตราที่ให้คนจนทั้ง 2 กลุ่มอยู่ในป่าอนุรักษ์ได้อย่างมีเงื่อนไขตามกฎหมาย
ฆษกกรมอุทยานฯ แจงยิบเหตุและผลศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก ป้าสีนวล รุกป่าอุทยานแห่งชาติไทรทอง เพื่อสร้างความเข้าใจให้สังคมหลังเกิดปมดราม่าในสื่อโซเชียล ระบุป้าสีนวลไม่ใช่คนยากไร้
ข่าว,ทั่วไทย
รุกป่าสงวน,โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติ,ป้าสีนวล,สีนวล พาสังข์,อุทยานแห่งชาติไทรทอง,ชัยภูมิ,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1586190
ร.ต.อ.เฉลิม กำชับเจ้าหน้าที่ดูแลสถานการณ์ใต้ พร้อมเตรียมหารือเคอร์ฟิวชายแดนใต้
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวังการดูแลความปลอดภัยใน พื้นที่ชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอชายแดน จังวัดสงขลา หลังเกิดเหตุโจมตีฐานปฎิบัติการในอำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาสเมื่อคืน (12 ก.พ.) ที่ผ่านมา จนทำให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 17 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นแกนนำคนสำคัญของกลุ่มอาร์เคเค ซึ่งจนถึงขณะนี้ได้มีการประกาศเคอฟิวส์ในพื้นที่ 6 ตำบล ของจังหวัดนราธิวาส และปัตตานีเพื่อให้เจ้าหน้าที่คัดกรอง และตรวจค้นกลุ่มผู้ก่อเหตุที่หลบหนีไปได้กว่า 30 คน เพราะเชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจะกลับมาปฏิบัติการอีกครั้ง ขณะที่อาจจะต้องมีการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นทีเสี่ยงบางเวลา โดยจะไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน โดยจะขอหารือหน่วยงานความมั่นคงวันพรุ่งนี้ก่อน ขณะที่ในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดน จังหวัดสงขลา ทั้ง อำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย รวมทั้ง อำเภอหาดใหญ่ ทางกองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดสงขลา ได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยให้เฝ้าระวังในพื้นที่เป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการลอบเข้ามาก่อเหตุรุนแรง และตอบโต้เจ้าหน้าที่ ขณะที่การข่าวด้านความมั่นคงได้เฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวของแกนนำแนวรวมอย่าง ใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มของนายเจ๊ะมะ วานิ ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้
รอง นายกรัฐมนตรี กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเตรียมหารือการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่เสี่ยงเพิ่ม โดยเชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจะกลับมาปฏิบัติการอีกครั้ง
การเมือง
ชายแดนใต้,นราธิวาส,บาเจาะ,ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง,สงขลา,สถานการณ์ใต้,เคอร์ฟิว
https://news.thaipbs.or.th/content/146776
มิตรผล ร่วมพัฒนาชุมชนบ้านเม็ง จ.ขอนแก่น หนุน ศก.ฐานราก
เมื่อวันเสาร์ที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา นายวรวัฒน์ ศรียุกต์ ผู้อำนวยการด้านบริหารองค์กรเพื่อความยั่งยืน กลุ่มมิตรผล กล่าวภายในงาน ฮักแพงโฮมคน ตำบลมิตรผลร่วมพัฒนาเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ที่จัดขึ้นที่บ้านนาหว้านาคำ ตำบลบ้านเม็ง อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น ว่า การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน นับเป็นการร่วมสนับสนุนและสานพลังตามแนวนโยบายประชารัฐ สร้างความเข้มแข็งจากเศรษฐกิจฐานราก ภายใต้โครงการ 1 ตำบล 1 sme เกษตรของรัฐบาล ซึ่งกลุ่มมิตรผลได้ร่วมลงนามความร่วมมือในโครงการดังกล่าวเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา,โครงการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนของกลุ่มมิตรผลดำเนินการอยู่ใน 9 ตำบล ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ที่ตั้งของโรงงานมิตรผลทั้ง 6 แห่ง ประกอบด้วย ต.หนองใหญ่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด, ต.บ้านเม็ง และ ต.กุดกว้าง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น, ต.บ้านแก้ง และ ต.โคกสะอาด อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ, ต.โคกขมิ้น อ.วังสะพุง จ.เลย, ต.แจงงาม อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี, ต.ไม้ดัด อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี และ ต.สมสะอาด อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ โดยการดำเนินงานในแต่ละพื้นที่มีความคืบหน้าตามลำดับ ตั้งแต่การช่วยให้ชุมชนได้รู้จักตัวเอง การขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชน การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนจนถึงการสร้างความยั่งยืน,สำหรับการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน ประกอบด้วยการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างบูรณาการ 5 ด้านสำคัญ ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านสุขภาวะ ด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และด้านจิตใจนั่นเอง,ขณะที่ นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการกลุ่มมิตรผล และหัวหน้าคณะทำงานด้านการพัฒนาเกษตรสมัยใหม่ กล่าวด้วยว่า สำหรับแนวทางประชารัฐนั้น มีงบดำเนินงานชุมชนละ 5 แสนบาท จากงบประมาณรวมทั้งหมด 35,000 ล้านบาท ส่วนที่เลือกชุมชน บ้านนาหว้านาคำ ตำบลบ้านเม็ง เป็น 1 ในชุมชนที่อยู่ในโครงการ เนื่องจากเป็นชุมชนที่มีความพร้อมในหลายด้าน ซึ่งนอกจากจะดูแลช่วยเหลือส่งเสริมการปลูกอ้อยซึ่งเป็นอาชีพหลักแล้ว ยังมีการแนะนำอาชีพเสริม สร้างรายได้ให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย,นายอิสระ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้มีความคืบหน้าพอสมควร ชาวบ้านมีความเข้าใจ มีการปฏิบัติงานที่เป็นรูปธรรม มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ความเป็นอยู่ในด้านต่างๆ ดีขึ้น ภาพรวมเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นตาม โดยในพื้นที่ภาคอีสานกังวลปัญหาเพียงอย่างเดียวคือ ภัยแล้ง ถ้ามีการเตรียมรับมือ ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไร
กลุ่มมิตรผล ลงพื้นที่ ต.บ้านเม็ง จ.ขอนแก่น ติดตามผลพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน สานนโยบายประชารัฐ เผย มีการส่งเสริมอาชีพหลัก แนะนำอาชีพเสริม ช่วยชาวบ้านมีรายได้ ความเป็นอยู่ดีขึ้น หวังดัน ศก.ประเทศดีขึ้นตาม
null
มิตรผล,กลุ่มมิตรผล,พัฒนาชุมชน,ฮักแพงโฮมคน,ตำบลบ้านเม็ง,ขอนแก่น,ประชารัฐ,เศรษฐกิจพอเพียง,ขับเคลื่อนชุมชน,นโยบายรัฐ,เศรษฐกิจฐานราก,อิสระ ว่องกุศลกิจ,วรวัฒน์ ศรียุกต์,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/587139
พระสงฆ์นัดชุมนุมหน้าพระบรมรูปทรงม้าพรุ่งนี้ ค้านปฏิรูปพุทธศาสนา
เมื่อเย็นวันที่ 30 มี.ค. มีรายงานข่าวแจ้งว่า พระเมธีธรรมาจารย์ รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ที่ปรึกษาสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการนัดชุมนุมสวดเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อคัดค้านรายงานและข้อเสนอของคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่มี นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธาน ที่ให้มีการจัดการทรัพย์สินของวัดและพระภิกษุ รวมถึงเสนอให้ปรับปรุงกฎมหาเถรสมาคม หรือ มส. ฉบับที่ 24 พ.ศ.2541 ว่าด้วยการแต่งตั้งและถอดถอนพระสังฆาธิการ,ว่าพระสงฆ์และฆราวาสจะมาร่วมกันสวดมนต์ในวันที่ 31 มีนาคมนี้ อย่างแน่นอน โดยจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น เป็น 1 หมื่นรูป จากเดิม 5 พันรูป ถึงแม้จะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ แต่ทาง สนพ. ก็ยังยืนยันว่าจะไม่ถอยอีกแล้ว ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจาก สนพ. ระบุว่า เมื่อเร็วๆ นี้ตัวแทนรัฐบาลได้เข้าหารือผู้แทน มส. เพื่อหาทางออกกรณีที่พระสงฆ์ระบุว่าจะออกมาสวดมนต์ ทำให้ มส. ต้องเชิญตัวแทนสนพ.เข้าหารือ แต่ก็ไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้ กระทั่งมีการยืนยันว่า จะมีการชุมนุมของพระสงฆ์ เพื่อสวดมนต์ดังกล่าว,อย่างไรก็ตาม ในช่วงค่ำวันเดียวกัน ศูนย์แถลงข่าวมหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยแพร่ข้อมูลผ่านโซเชียล ระบุว่า ประกาศเลื่อนประชุมสงฆ์ การเจริญพระพุทธมนต์ ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันที่ 31 มีนาคม ออกไป โดยให้เหตุผลว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้หารือร่วมกับมหาเถรสมาคม และสมาชิก สปช. 5 คน มี พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาส ประธานอนุกรรมาธิการกิจการศาสนา พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ เป็นต้น ได้ทำข้อตกลง หาทางออกด้วยสันติ แก่พระสงฆ์และชาวพุทธ จนได้ข้อยุติในเรื่องนี้,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเลิกประชุม มส. มีกระแสข่าวลือเกิดขึ้นตามมามากมาย มีทั้งการเลื่อนและไม่เลื่อนออกชุมนุม โดยมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านโลกโซเชียลกันอย่างต่อเนื่อง
พระสงฆ์และกลุ่มนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา ยืนยันนัดชุมนุมเพื่อสวดมนต์คัดค้านการปฏิรูปพระพุทธศานา ในวันพรุ่งนี้ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ขณะที่ศูนย์แถลงข่าวมหาเถรสมาคม ประกาศขอเลื่อนการชุมนุมออกไป ท่ามกลางความสับสน
ข่าว,ทั่วไทย
พระสงฆ์นัดชุมนุม,ชุมนุม,ม็อบพระสงฆ์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,สวดมนต์คัดค้านการปฏิรูปพระพุทธศานา,คัดค้านการปฏิรูปพระพุทธศานา,ค้านปฏิรูปพุทธศาสนา,ลานพระบรมรูปทรงม้า,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/news/local/490088
ตร.เชื่อผู้ก่อเหตุฆ่าอดีตนายกฯ สงขลา เป็นคนละกลุ่มกับที่ยิง กำนัน ต.วัดจันทร์
ตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา กว่า 100 นาย เข้าค้นพื้นที่เป้าหมาย 3 จุด คือ ที่ ต.วัดจันทร์ อ.สทิงพระ ต.ม่วงงาม และ ต.บางเขียด อ.สิงหนคร เพื่อรวบรวมหลักฐาน คลี่คลายคดียิงถล่ม นายสิทธิชัย ชุมอิน กำนัน ต.วัดจันทร์ อ.สทิงพระ เสียชีวิต พร้อมคนสนิท เมื่อ 4 วันก่อนจุดที่เข้าค้นเป็นบ้านเครือข่ายที่มีความขัดแย้งกับผู้ตาย และมีรถยนต์ลักษณะเดียวกับที่ผู้ก่อเหตุใช้ แต่การตรวจค้นไม่พบรถยนต์ และอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งบัญชีธนาคาร การใช้โทรศัพท์มือถือ ว่าเกี่ยวข้องกับคดีอื่นหรือไม่ล่าสุด พนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างขออนุมัติหมายจับกุมมือปืน ซึ่งขึ้นบัญชี อันดับ 4 ที่ตำรวจภูธรภาค 9 ต้องการตัว และเชื่อว่า เป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุส่วนคดียิง นายอธิป ด้วงมาก หนึ่งในผู้ต้องหาลอบสังหาร นายพีระ ตันติเศรณี อดีตนายกเทศมนตรีนครสงขลา เมื่อ 2 วันก่อน ตำรวจกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ เบื้องต้น ตั้งประเด็นสืบสวน 2 เรื่อง คือ ความขัดแย้งส่วนตัว และการเมืองท้องถิ่น เนื่องจากผู้ตายเคยเป็นผู้ต้องสงสัย คดียิงนายจำนงค์ สุวรรณมณี กำนันตำบลปากแตระ เสียชีวิตด้วย แต่ตำรวจเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุทั้งสองคดี ไม่ใช่กลุ่มเดียวกัน
เจ้าหน้าที่ระบุว่าผู้ที่ก่อเหตุยิงผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าอดีตนายกเทศมนตรีนครสงขลา ไม่น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่ยิงกำนัน ต.วัดจันทร์ อ.สทิงพระ โดยวันนี้ได้ระดมกำลังกว่า 100 นาย ตรวจค้นเป้าหมาย เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดี
ภูมิภาค
กำนัน,ฆาตกรรม,นายกเทศมนตรี,มือปืน,สงขลา
https://news.thaipbs.or.th/content/192095
ชาวบึงกาฬพร้อมรอดู บั้งไฟพญานาค แห่จองที่ริมน้ำโขงแน่นยาวหลาย กม.
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 13 ต.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เริ่มเดินทางเข้าสู่ จ.บึงกาฬ เพื่อรอชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคในคืนวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งทำให้การจราจรบนถนนสายบึงกาฬ – ปากคาด เริ่มมีรถยนต์หลั่งไหลไปรอชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคที่เกิดขึ้นบริเวณวัดอาฮงศิลาวาส ต.ไคสี อ.เมืองบึงกาฬ และบริเวณลานพญานาค ต.ปากคาด ยาวไปจนถึงบ้านนากั้ง ต.นากั้ง ในอำเภอปากคาด ระยะทางยาวหลายกิโลเมตร มีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาจับจองพื้นที่ ปูเสื่อ กางเต็นท์ รับประทานอาหารเย็น เตรียมรอชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ซึ่งจุดนี้เองที่ประชาชนรู้จักกันดี ในนามสะดือแม่น้ำโขง หรือจุดที่ลึกที่สุดของแม่น้ำโขง,สำหรับจังหวัดบึงกาฬ มี 4 อำเภอ ที่มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขง ได้แก่ อ.เมืองบึงกาฬ อ.ปากคาด อ.บุ่งคล้า และ อ.บึงโขงหลง ระยะทางยาวกว่า 130 กิโลเมตร จุดที่สามารถรับชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ได้นั้นมีอยู่ 3 แห่ง หลักๆ คือ บริเวณหน้าลานพญานาค ต.ปากคาด อ.ปากคาด วัดอาฮงศิลาวาส อ.เมืองบึงกาฬ และริมแม่น้ำโขงบ้านท่าสีไค ต.ดงบัง อ.บึงโขงหลง ซึ่งในปีนี้คาดว่าช่วงเทศกาลออกพรรษา ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ จะมีเงินสะพัดหลายล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจในชุมชนคึกคักเป็นพิเศษ,อย่างไรก็ตาม ช่วงหัวค่ำเมื่อ เวลา 18.15 น.มีรายงานว่าบริเวณบ้านท่าสีไค ตำบลดงบัง อำเภอบึงโขงหลงจังหวัดบึงกาฬ มีบั้งไฟพญานาค ลูกแรกขึ้นจากแม่น้ำโขงแล้ว ส่วนที่บริเวณลานพญานาค ริมแม่น้ำโขงตำบลปากคาดอำเภอปากคาด พบบั้งไฟพญานาค ลูกแรก ขึ้นจากแม่น้ำโขงเมื่อ เวลา 18.45 น.
ประชาชนเดินทางมาบึงกาฬ จับจองพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงตรงจุด สะดือแม่น้ำโขง เพื่อรอชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคในคืนวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 11 โดยยาวตั้งแต่ อ.เมือง - อ.ปากคาด ระยะทางหลายกิโลเมตร
ข่าว,ทั่วไทย
บึงกาฬ,สะดือแม่น้ำโขง,บั้งไฟพญานาค,15 ค่ำ เดือน 11,อ.ปากคาด,ออกพรรษา,แม่น้ำโขง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1681635
วินธัย ชี้ นปช.จัดรำลึกคอกวัว 10 เม.ย. ต้องขอ กกล.รส.
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่าแกนนำ นปช. ทั้งหมดจะร่วมกันทำบุญรำลึกครบรอบ 5 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุมที่แยกคอกวัวในวันที่ 10 เม.ย. เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต ที่วัดพลับพลาไชยว่า ในเบื้องต้นทาง คสช. ยังไม่ได้รับแจ้งว่า จะมีการจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้ หากจะมีการจัดกิจกรรมขึ้นจริง ทางผู้จัดงาน ควรแจ้งเรื่องนี้ให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ของกองทัพภาคที่ 1 ที่ทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ กทม. ได้รับทราบเสียก่อน เพื่อพิจารณาว่าสามารถจัดกิจกรรมได้หรือไม่ เพราะบางกิจกรรมนั้น บางคนมองได้หลายมุม โดยเฉพาะกิจกรรมที่มีลักษณะเชิงการเมือง, พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า ส่วนที่เกรงว่ากิจกรรมดังกล่าว มีการรวมตัวของบุคคลระดับแกนนำ นปช. หลายคนนั้นอาจจะขัดต่อมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2557 และคำสั่งหัวหน้า คสช. 3/2558 เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติหรือไม่นั้น เรื่องนี้จะต้องให้เจ้าหน้าที่ กกล.รส. รับทราบ และพิจารณารายละเอียดการจัดกิจกรรมก่อนว่า จะอนุญาตให้ดำเนินการได้หรือไม่ เพื่อให้ได้รับทราบถึงเจตนา เนื่องจากอาจมีคนหลายคนมองเป็นเจตนาอื่นได้.
วินธัย แจง นปช.จัดงานรำลึกครบรอบ 5 ปี สลายม็อบแยกคอกวัว 10 เม.ย. ต้องแจ้งขออนุญาต กกล.รส.ก่อน ชี้กิจกรรมที่มีลักษณะเชิงการเมือง
null
นปช.,รำลึก,สลายม็อบ,คอกวัว,10เมษายน,คสช.,อุทิศส่วนกุศล,วัดพลับพลาไชย,ขออนุญาต,กิจกรรมทางการเมือง,มาตรา44,ม.44,วินธัย สุวารี,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/491134
บานประตูคลองส่งน้ำ ชัยนาท-ป่าสัก พัง น้ำทะลักเข้าพื้นที่เกษตร
ภาพ : นายต้นเมืองละโว้,บานประตูคลองส่งน้ำ ชัยนาท-ป่าสัก ต้านแรงน้ำไม่ไหว ชำรุดเสียหาย น้ำทะลักเข้าพื้นที่ทำการเกษตร หน่วยทหารพื้นที่ ร่วมกับชลประทาน เร่งนำบิ๊กแบ็กอุดท่อด้านท้ายน้ำ เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่นาข้าวรอเก็บเกี่ยว กว่า 9,000 ไร่,วันที่ 11 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำ ที่ลพบุรี ว่า ยังคงน่าเป็นห่วง ปริมาณน้ำที่สะสมมากกว่าที่คาดการณ์ ทั้งน้ำทุ่งและน้ำป่าที่หลากจากที่สูง เนื่องจากฝนตกสะสมหลายวัน และน้ำที่ระบายมาจากเจ้าพระยาออกสู่ฝั่งซ้าย ไหลผ่านจังหวัดลพบุรี มีระดับที่สูงมาก ทำให้น้ำที่ท่วมในพื้นที่อำเภอบ้านหมี่ ไม่สามารถจะระบายลงสู่คลองชัยนาทป่าสักได้เอง เพราะในขณะนี้ ระดับน้ำในคลองส่งน้ำชัยนาท-ป่าสัก บางช่วงมีระดับสูงกว่า ระดับน้ำในทุ่ง,และเมื่อเวลาประมาณ 06.20 น. แรงดันน้ำในคลองส่งน้ำชลประทาน ชัยนาท-ป่าสัก ทำให้บานประตูเหล็กปิดเปิดระบายน้ำ ของไซฟ่อนหนองเกวียนหัก บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 77+900 ริมคลองชัยนาท-ป่าสัก ต.หนองเต่า เกิดการชำรุดเสียหาย น้ำจากคลองส่งน้ำชัยนาทป่าสักจำนวนมากได้ไหลทะลักลงสู่พื้นที่ เขตตำบลพุคา ตำบลหนองเต่า อำเภอบ้านหมี่ และ ตำบลบางลี่ อำเภอท่าวุ้ง ,นายสุปกิต โพธิ์ปภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 10 ได้นำกำลังทหารจาก ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ โดยกองพันปฏิบัติการจิตวิทยา และ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองพลทหารปืนใหญ่ โดย กรมทหารปืนใหญ่ที่ 72 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายเครื่องจักรกล สำนักงานชลประทานที่ 10 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาช่องแค บูรณาการร่วมกัน ช่วยกันบรรจุกระสอบทรายลงในกระสอบถุงบิ๊กแบ็ก เพื่อนำมาอุดท่อด้านท้ายน้ำ ป้องกันความเสียหาย และลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่พื้นที่เพาะปลูกด้านท้ายน้ำ ของอำเภอบ้านหมี่ และ อำเภอท่าวุ้ง ซึ่งกำลังจะเก็บเกี่ยวข้าว กว่า 9,000 ไร่ ในอีกไม่กี่วันนี้ด้วย.
บานประตูคลองส่งน้ำ ชัยนาท-ป่าสัก ต้านแรงน้ำไม่ไหว ชำรุดเสียหาย น้ำทะลักเข้าพื้นที่ทำการเกษตร หน่วยทหารพื้นที่ ร่วมกับชลประทาน เร่งนำบิ๊กแบ็กอุดท่อด้านท้ายน้ำ เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่นาข้าวรอเก็บเกี่ยว กว่า 9,000 ไร่
ข่าว,ทั่วไทย
ลพบุรี,ประตูส่งน้ำพัง,พื้นที่การเกษตร,บิ๊กแบ็ก,น้ำท่วม
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1096279
จีน เตือนนักศึกษาประเมินความเสี่ยงศึกษาต่อสหรัฐฯ
วันนี้ (4 มิ.ย.2562) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงศึกษาธิการจีนประกาศเตือนนักศึกษาและนักวิชาการให้ประเมินความเสี่ยงในการเดินทางไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา หลังจากสหรัฐอเมริกาเริ่มใช้มาตรการจำกัดการให้วีซ่าแก่นักศึกษาจีน ขยายเวลาในการพิจารณาออกวีซ่า และอัตราของการปฏิเสธวีซ่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะที่คณะกรรมการกองทุนการศึกษาของรัฐบาลจีน เปิดเผยว่า เมื่อเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นักศึกษาที่ได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลจีน 182 คน จากจำนวนทั้งหมด 1353 คน ไม่สามารถเดินทางไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาได้ตามกำหนด เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับวีซ่าด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ยืนยันว่าสหรัฐอเมริกายินดีต้อนรับนักศึกษาจีนที่เข้าเรียนอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ยังชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่พิจารณาออกวีซ่าอย่างละเอียดขึ้น เนื่องจากนักศึกษาบางส่วนถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสอดแนมความเคลื่อนไหวของสหรัฐอเมริกาทั้งนี้ จำนวนของนักศึกษาจีนที่ลดลง อาจส่งผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาในระยะยาว เนื่องจากปัจจุบันจีนถือเป็นประเทศที่มีนักศึกษาเดินทางไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกามากที่สุดในโลก
สหรัฐอเมริกายังต้อนรับนักศึกษาจีนที่เดินทางมาเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา หลังจากกระทรวงศึกษาจีนเตือนถึงความยุ่งยากของกระบวนการพิจารณาวีซ่าเรียนต่อสหรัฐอเมริกาที่เข้มงวดมากขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
ต่างประเทศ
จีน,พลเมือง,เรียนต่อ,สหรัฐฯ,วีซ่า,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/280608
ไฟไหม้รถ 6 ล้อ อบจ.น่าน คนขับกระโดดหนีรอดตายหวุดหวิด
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 59 พ.ต.ท.สมเกียรติ รวมเงิน พงส.สภ.เมืองน่าน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า เกิดเหตุไฟไหม้รถบรรทุก 6 ล้อ บนถนนกิโลเมตรที่ 4 ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่กู้ภัย อบต.ผาสิงห์ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองน่าน และเจ้าหน้าที่ อบจ.น่าน พร้อมรถดับเพลิง กำลังระดมฉีดนำ้สกัดไฟที่กำลังลุกไหม้ด้านหน้ารถบรรทุก 6 ล้อ ของ อบจ.น่าน ทะเบียน 80-4189 น่าน โดยใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ส่วนห้องโดยสารเสียหายทั้งหมด,นายนริศ สารรัตนะ อายุ 56 ปี พนักงานขับรถ ส่วนกองช่าง อบจ.น่าน เปิดเผยว่า หลังเสร็จงานที่บ้านสันเจริญ ต.ผาตอ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ได้ขับรถบรรทุก 6 ล้อคันดังกล่าวกลับ เพื่อนำรถไปเก็บที่ อบจ.น่าน ขณะขับมาสักพักได้กลิ่นเหม็นไหม้และมีควันออกมาจากหน้ารถ จึงจอดและพยายามใช้น้ำที่ติดมาในรถดับไฟ แต่ไฟได้ลุกโหมอย่างรวดเร็ว จึงรีบกระโดดหนีออกจากตัวรถเอาชีวิตรอด,ด้าน พ.ต.ท.สมเกียรติ กล่าวว่า สันนิษฐานเบื้องต้นน่าจะเกิดจากระบบไฟฟ้าช็อต จึงทำให้เกิดไฟลุกไหม้ แต่ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบในสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งแล้ว เพื่อตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง.
รถ 6 ล้อ ส่วนกองช่าง อบจ.น่าน ไฟลุกไหม้เครื่องยนต์กลางทาง หนุ่มใหญ่พนักงานรีบกระโดดหนีออกจากรถเอาชีวิตรอด จนท.ดับเพลิงรุดสกัด พบส่วนหัวรถวอด ตร.คาด ระบบไฟฟ้าช็อต
ข่าว,ทั่วไทย
ไฟไหม้รถ,ไฟช็อต,เครื่องยนต์ช็อต,ไฟไหม้รถ 6 ล้อ,สมเกียรติ รวมเงิน,รถ อบจ.น่าน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/news/local/594067
ตะลึง เจอผึ้งยักษ์ใหญ่สุดในโลกอีกครั้งที่อินโดฯ หลังไม่เจอเกือบ 40 ปี
เมื่อ 22 ก.พ.62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าของกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่าทั่วโลก Global Wildlife Conversation พบผึ้งยักษ์ ตัวใหญ่ที่สุดในโลกอีกครั้ง บนเกาะโมลุกกะ หรือมาลูกู ของอินโดนีเซีย หลังหายสาบสูญไม่มีใครเห็นผึ้งยักษ์ชนิดนี้อีกเลยมานานนับ 38 ปี,ผึ้งยักษ์ดังกล่าว ซึ่งรู้จักในชื่อ ผึ้งยักษ์วอลเลซ มีตัวโตขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือของคนวัยผู้ใหญ่ และเป็นผึ้งตัวเมีย โดยถูกพบเพียงตัวเดียว และมันยังมีชีวิตอยู่ ระหว่างที่ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าทีมนี้ออกสำรวจบนเกาะโมลุกกะ,บีบีซี เผยว่า ผึ้งยักษ์ตัวใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งรู้จักในชื่อ ผึ้งยักษ์วอลเวซ โดยตั้งชื่อตาม นายอัลเฟรด รัสเซล วอลเลซ นักธรรมชาติวิทยาและนักสำรวจชาวอังกฤษ ที่ได้อธิบายถึงผึ้งยักษ์ชนิดนี้ตั้งแต่ในปี 2401 จากนั้น นักวิทยาศาสตร์ได้พบตัวอย่างของผึ้งยักษ์วอลเลซอีกจำนวนมากในปี 2524 ก่อนจะไม่มีใครเห็นผึ้งชนิดนี้อีกเลยนับแต่นั้น กระทั่งมาเจออีกครั้ง ในจังหวัดโมลุกกะเหนือ บนเกาะโมลุกกะ ทางภาคตะวันออกของประเทศอินโดนีเซีย,มันน่าตื่นเต้นอย่างมากที่ได้เห็น บูลด็อกบินได้ ผึ้งยักษ์ ตัวใหญ่นี้อีกครั้ง หลังจากพวกเราไม่มั่นใจว่ามันยังหลงเหลืออยู่บนโลกนี้อีกหรือไม่ เคลย์ บอลต์ ช่างภาพถ่ายรูปด้านประวัติศาสตร์ธรรมชาติ กล่าวด้วยตื่นเต้นดีใจ หลังจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าทีมนี้ได้พยายามออกติดตามหาและหวังจะถ่ายรูปผึ้งยักษ์วอลเลซในอินโดนีเซีย มาตั้งแต่เดือนมกราคม ที่ผ่านมา,บีบีซี รายงานว่า ผึ้งยักษ์วอลเลซ เป็นผึ้งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีระยะห่างระหว่างปีกทั้งสองข้างกว้างถึง 6 ซม. โดยผึ้งยักษ์วอลเลซตัวเมียมักทำรังอยู่ในจอมปลวก โดยใช้กรามขนาดใหญ่ในปากด้านบนของมันดูดยางไม้เหนียวมาทำรัง และเพื่อป้องกันการถูกปลวกรุกราน โดยการพบผึ้งยักษ์วอลเลซอีกครั้งในจังหวัดโมลุกกะเหนือ บนเกาะโมลุกกะ ทำให้เกิดความหวังขึ้นมาว่าป่าในเขตนี้ยังคงเป็นหนึ่งในถิ่นที่อยู่อาศัยของแมลงที่หายากที่สุด และพยายามเสาะหามากที่สุดในโลกอีกด้วย
ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่า สุดดีใจ พบผึ้งยักษ์วอลเลซ ขนาดใหญ่สุดในโลก ตัวโตขนาดเท่าหัวแม่มือผู้ใหญ่ อีกครั้งในอินโดนีเซีย หลังไม่เจอมานานเกือบ 4 ทศวรรษ
ข่าว,ต่างประเทศ
ผึ้งยักษ์,ผึ้งยักษ์วอลเลซ,เจอผึ้งยักษ์,โมลุกกะ,อินโดนีเซีย
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1502570
เมื่อ Uniqlo ช่วยลดโลกร้อนด้วยการสร้างสรรค์กางเกงยีนส์รักษ์โลก
เพื่อให้สมกับหลักปรัชญาของแบรนด์ Uniqlo อย่าง LifeWear เครื่องแต่งกายที่ดีจึงไม่ใช่แค่มีดีไซน์ที่สวยงาม มีคุณภาพการใช้งานที่ยาวนาน และเหมาะสำหรับทุกคน หากแต่ยังต้องเป็นเครื่องแต่งกายที่ถูกผลิตขึ้นภายใต้แนวคิดรู้รับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการใช้กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการสร้างสรรค์ไอเท็มประจำวันที่จะทำให้โลกของเราน่าอยู่ยิ่งขึ้นเมื่อพูดถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม คนจำนวนมากมักพุ่งเป้าไปที่วัสดุย่อยสลายยากอย่างพลาสติกที่ตกเป็นจำเลยในฐานะตัวการทำลายสิ่งแวดล้อม แต่ถ้าว่ากันจริงๆ แล้ว ไม่ใช่แค่การลดปริมาณการใช้พลาสติกเท่านั้นที่ช่วยลดภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน ปัจจัยสี่ของคนเราอย่างเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มก็เป็นอีกหนึ่งตัวการทำลายสิ่งแวดล้อมอันดับต้นๆ ของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับธุรกิจฟาสต์แฟชั่นที่เน้นการผลิตปริมาณมาก ซื้อง่ายขายคล่อง และมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างสั้น จากข้อมูลในปี 2015 พบว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นได้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นจำนวนกว่า 1715 ล้านตัน รวมถึงขยะมูลฝอยปริมาณ 92 ล้านตัน โดยเฉลี่ยใช้น้ำไปกว่า 79000 ล้านลูกบาศก์เมตรในการผลิตเสื้อผ้า ซึ่งเทียบเท่าน้ำที่เติมเต็มสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐาน** จำนวน 32 ล้านสระระยะหลังเราจึงได้ยินแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นต่างๆ เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Uniqlo ที่เคลื่อนไหวในเรื่องนี้อย่างจริงจัง นับตั้งแต่พวกเขาประกาศยุติการใช้ถุงพลาสติกภายในร้าน (คลิกอ่าน Uniqlo ประกาศหยุดใช้ถุงพลาสติก พร้อมเปลี่ยนเป็นถุงกระดาษทั่วโลก เริ่มกันยายนนี้) เพื่อเปลี่ยนมาใช้ถุงกระดาษ และในอนาคตก็มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะงดแจกถุงใส่สินค้าหากลูกค้าเปลี่ยนมาใช้ถุงผ้าในการช้อปปิ้งมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการตัดตอนการใช้วัสดุสิ้นเปลืองอย่างถุงไปโดยปริยาย รวมถึงแผนในการเปลี่ยนแพ็กเกจในการใส่สินค้าใหม่ให้สอดรับกับสภาวะโลกร้อนมากขึ้นอีกด้วยความพยายามของ Uniqlo ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เมื่อพวกเขาเล็งเห็นว่าหากกระบวนการผลิตเสื้อผ้าเป็นหนึ่งในขั้นตอนทำลายสิ่งแวดล้อม แล้วทำไมเราจึงไม่คิดค้นวิธีการที่จะทำให้กระบวนการผลิตเสื้อผ้าสะอาดยิ่งขึ้น และใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้น้อยลง แทนที่จะผลักความรับผิดชอบไปให้ผู้บริโภคเพียงลำพังแนวคิดนี้จึงถูกต่อยอดไปสู่การผลิตกางเกงยีนส์ที่สามารถลดปริมาณการใช้น้ำในการฟอกลงถึง 99%* และมีอัตราลดลงโดยเฉลี่ยกว่า 90% เมื่อศูนย์นวัตกรรมยีนส์ฟาสต์รีเทลลิ่ง (FR Jeans Innovation Center) ของกลุ่มฟาสต์รีเทลลิ่ง (Fast Retailing Group) เจ้าของแบรนด์ Uniqlo ในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประสบความสำเร็จในการผลิตกางเกงยีนส์ที่ช่วยลดโลกร้อนได้มากที่สุดเท่าที่ Uniqlo เคยผลิตมากางเกงยีนส์เป็นสินค้าที่ผ่านขั้นตอนการฟอกเพื่อความสวยงามเท่านั้น ผมจึงมองว่านี่เป็นขั้นตอนที่สิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติอย่างน้ำสะอาด ผมจึงอยากคิดค้นวิธีการผลิตกางเกงยีนส์ที่รับผิดชอบต่อสังคมด้วยการฟอกที่ใช้น้ำน้อยที่สุด และในอนาคตอาจพัฒนาไปสู่การลดปริมาณการใช้สารเคมีในการผลิตได้ด้วย กล่าวโดย มาซาอากิ มัตซึบาระ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของศูนย์นวัตกรรมยีนส์ฟาสต์รีเทลลิ่งมาซาอากิ มัตซึบาระ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของศูนย์นวัตกรรมยีนส์ฟาสต์รีเทลลิ่งในขณะที่แบรนด์อื่นมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนมาใช้วัสดุรีไซเคิลอย่างขวดพลาสติกในการทำผ้ายีนส์ แต่สิ่งที่ Uniqlo ทำคือการใช้นวัตกรรมใหม่ในการสร้างสรรค์กางเกงยีนส์ที่ยังคงความรู้สึกของผ้ายีนส์อย่างผ้าฝ้ายเดนิม 100% จากไคฮาระ ซึ่งเป็นผู้ผลิตผ้าเดนิมชั้นนำของโลก แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนมากขึ้นด้วยการเปลี่ยนมาใช้เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กระดับนาโนเมตรและโอโซนเพื่อลดการใช้น้ำจนแทบเรียกได้ว่าไม่ใช้เลย รวมถึงการเปลี่ยนจากการใช้หินภูเขาไฟในการชะล้างผ้ายีนส์ที่ทำให้เกิดตะกอนตกค้างและบุบสลายได้ง่าย มาเป็นหินสังเคราะห์ที่สามารถใช้งานได้กึ่งถาวรและไม่ทิ้งสิ่งปฏิกูลในน้ำเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กระดับนาโนเมตรและโอโซนตัวอย่างหินภูเขาไฟที่ก่อให้เกิดสิ่งปฏิกูลนอกจากนั้นในศูนย์นวัตกรรมยีนส์ฟาสต์รีเทลลิ่งยังสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เป็นมิตรกับพนักงานยิ่งขึ้น จากเดิมที่การฟอกยีนส์และการขึ้นริ้วต่างๆ ที่เกิดจากโรงงานต้องใช้แรงงานมือในการขัดยีนส์ทีละตัว ซึ่งกินเวลามาก อีกทั้งยังก่อให้เกิดฝุ่นละอองและสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พวกเขาจึงเปลี่ยนมาใช้วิธียิงเลเซอร์ในกระบวนการนี้แทน ด้วยวิธีการนี้ทำให้ทางแบรนด์สามารถประหยัดเวลาในการผลิตได้มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดมลพิษในโรงงานได้อีกด้วย และที่สำคัญพวกเขายังสามารถขายกางเกงยีนส์เหล่านี้ได้ในราคาปกติ โดยที่ไม่ต้องบวกเพิ่มเป็นสินค้าพิเศษเหมือนแบรนด์อื่นๆเครื่องเลเซอร์กางเกงยีนส์หนึ่งในนวัตกรรมใหม่ของศูนย์นวัตกรรมยีนส์ฟาสต์รีเทลลิ่งอันที่จริงกระบวนการผลิตยีนส์รูปแบบใหม่นี้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่กางเกงยีนส์ทรงกระบอกของผู้ชายในคอลเล็กชัน Fall/Winter 2018 ของ Uniqlo และคอลเล็กชัน Sustainable Capsule Collection ของ J Brand ที่ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่อยู่ใต้ชายคาเดียวกันซึ่งคุณอาจจะเคยผ่านตามาบ้างแล้ว หลังจากที่ได้มองด้วยตาเปล่าและสัมผัสของจริง เราพบว่ายีนส์ที่ผ่านการฟอกแบบใหม่นี้แทบไม่ต่างจากเทคนิคการทำดั้งเดิม ตัวยีนส์ยังคงให้อารมณ์เหมือนยีนส์วินเทจที่เนื้อผ้ามีความอ่อนนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง สีและริ้วต่างๆ มีความเป็นธรรมชาติแม้จะถูกยิงด้วยเลเซอร์ เหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากแพตเทิร์นในการยิงเลเซอร์นั้นถูกออกแบบโดยนักออกแบบยีนส์ที่ดีไซน์และขึ้นตัวอย่างก่อนในคอมพิวเตอร์ เพื่อให้มั่นใจว่าริ้วรอยเหล่านั้นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เหมาะกับยีนส์ทรงต่างๆ อย่างแท้จริงกางเกงยีนส์ที่ฟอกระดับต่างๆทางฟาสต์รีเทลลิ่งระบุว่าภายในปี 2019 กางเกงยีนส์จำนวนกว่า 10 ล้านตัว หรือประมาณเกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนกางเกงยีนส์ทั้งหมดที่ฟาสต์รีเทลลิ่งผลิตขึ้นต้องใช้กระบวนการผลิตนี้ก่อนปรับเปลี่ยนอย่างเบ็ดเสร็จในปี 2020 ที่คาดว่าหากพวกเขาทำได้จริง กางเกงยีนส์จำนวนกว่า 40 ล้านตัวของบริษัทในกลุ่มจะช่วยลดปริมาณการใช้น้ำไปกว่า 3000080 ล้านลิตร หรือเติมเต็มสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานสากลได้ถึง 1470 สระ รวมถึงปริมาณสารเคมีที่ใช้ก็ลดลงอีกด้วยและนี่คือหนึ่งในความตั้งใจของ Uniqlo ที่เราไม่ได้มองว่าเป็นเพียงความอาจหาญกับการที่แฟชั่นแบรนด์อยากลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงโลกด้วยสินค้าอย่างกางเกงยีนส์ เพราะหากแบรนด์ยักษ์ใหญ่ต่างๆ ในอุตสาหกรรมแฟชั่นเริ่มขยับเขยื้อนตัวพร้อมกัน แม้เป็นเพียงก้าวเล็กๆ แต่แรงกระเพื่อมที่ส่งต่อถึงผู้บริโภคย่อมมีมากกว่า และเมื่อนั้นการเปลี่ยนแปลงจึงจะเกิดขึ้นอย่างยั่งยืน โดยที่ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงขึ้นสำหรับสินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป*อ้างอิงจากการเปรียบเทียบระหว่างกางเกงยีนส์ Uniqlo ทรงกระบอกสำหรับผู้ชายในปี 2007 กับปี 2018**สระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานสากลมีความยาว 50 เมตร ความกว้างระหว่างช่องว่าย 2.5 เมตร จำนวน 10 ช่องว่าย และมีความลึก 2 เมตรภาพ: Courtesy of Uniqloพิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์อ้างอิง:
ศูนย์นวัตกรรมยีนส์ฟาสต์รีเทลลิ่ง (FR Jeans Innovation Center) ของกลุ่มฟาสต์รีเทลลิ่ง (Fast Retailing Group) เจ้าของแบรนด์ Uniqlo สามารถผลิตกางเกงยีนส์ที่ลดปริมาณการใช้น้ำในการฟอกลงถึง 99% และมีอัตราลดลงโดยเฉลี่ยกว่า 90%ภายในปี 2020 กางเกงยีนส์จำนวนกว่า 40 ล้านตัวของบริษัทในกลุ่มจะช่วยลดปริมาณการใช้น้ำไปกว่า 3000080 ล้านลิตร หรือเติมเต็มสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานสากลได้ถึง 1470 สระ รวมถึงปริมาณสารเคมีที่ใช้ก็ลดลงอีกด้วย
null
null
https://thestandard.co/uniqlo-fr-jeans-innovation-center/
วงเสวนาเห็นด้วยตั้ง ส.ส.ร 3 แก้ไขรัฐธรรมนูญ
ในเวทีราชดำเนินเสวนาทางเลือกการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญมีอดีต ส.ส.ร.นักวิชาการ และนักการเมืองหลายคนเข้าร่วมเสวนา โดยผู้ร่วมเสวนาเห็นตรงกันกับแนวทางการตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมายกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกระบวนการที่ประชาชนมีส่วนร่วมเท็จจริง และเห็นว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 มีเนื้อหาสาระบางส่วนที่สมควรแก้ไข เนื่องจากถือเป็นข้อขัดแย้งทางการเมืองที่สำคัญด้านกลุ่มนักวิชาการคณะนิติราษฎร์จัดอภิปรายในหัวข้อ ล้มล้างผลพวงรัฐประหาร - นิรโทษกรรม - ปรองดอง โดยเสนอให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และให้ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยเสนอให้มีคณะกรรมการยกร่างภายใต้ชื่อ คณะกรรมการจัดทำรัฐธรรมนูญ นิติรัฐและประชาธิปไตย จำนวน 25 คน โดยมีที่มาจาก ส.ส. 20 คน และให้อีก 5 คนมาจาก ส.ว. นอกจากนี้ ยังเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญเป็นระบบสภาเดียวคือสภาผู้แทนราฎร และ ลดองค์กรอิสระบางแห่งที่ไม่จำเป็นลงส่วนการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพื่อยื่นแก้ไขกฏหมายต่อสภาฯภายใน 112 วัน ล่าสุดคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112รวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนได้แล้วกว่า 1000 คนด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คัดค้านกลุ่มบุคคลที่เรียกร้องการปฏิวัติรัฐประหาร และการเปลี่ยนแปลงนอกระบบรัฐธรรมนูญหลังมีผลสำรวจออกมาว่าประชาชนมีแนวโน้มเห็นด้วยกับการยึดอำนาจเพิ่มขึ้นโดยนายอภิสิทธิ์มองว่าหากไม่พอใจการบริหารงานรัฐบาลควรใช้กลไกระบบดำเนินการ ซึ่งมีช่องทางตามรัฐธรรมนูญดำเนินการอยู่ก่อนหน้านี้ เอแบคโพลเสนอผลสำรวจประเด็นการเมืองที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงบานปลายในหมู่ประชาชนร้อยละ 54 มองว่าเป็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและ การแก้ไขกฎหมายที่กระทบต่อสถาบันสำคัญของชาติ และจากการสำรวจยังพบว่ามีแนวโน้มของคนที่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 5 ในเดือนมกราคม 2553 มาอยู่ที่ร้อยละ 18 ในเดือนมกราคม 2555 โดยประชาชนเกินครึ่งหรือร้อยละ 52 จะไม่ออกมาต่อต้านหากมีการยึดอำนาจเกิดขึ้น
ผลสำรวจระบุประชาชนกังวลประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นชนวนความขัดแย้งบานปลายทางการเมือง ขณะที่วงเสวนาการแก้รัฐธรรมนูญสนับสนุนให้มีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนคณะนิติราษฎร์เสนอให้มีคณะกรรมการจัดทำรัฐธรรมนูญโดยมี ส.ส.และ ส.ว.เป็นกรรมการ
การเมือง
คณะนิติราษฎร์,นักวิชาการ,รัฐธรรมนูญ,วงเสวนา,ส.ส.ร
https://news.thaipbs.or.th/content/61150
5 เพลงที่ ดี้ แต่ง ยกให้คนไทยที่รักในหลวง
1.ต้นไม้ของพ่อ ธงไชย แมคอินไตย์ ขับร้อง อภิไชย เย็นพูนสุข แต่งทำนองเรียบเรียง ฉันเขียนเนื้อร้อง เนื่องในวาระครองราชย์ครบ 50 ปี เมื่อ พ.ศ.2539,2.ของขวัญจากก้อนดิน ธงไชย แมคอินไตย์ ขับร้อง ฉันเขียนทั้งทำนองและเนื้อร้อง เรียบเรียงโดย สราวุธ เลิศปัญญานุช เนื่องในวาระเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อ พ.ศ.2542,3.รูปที่มีทุกบ้าน ธงไชย แมคอินไตย์ ขับร้อง ทำนองโดย อภิไชย เย็นพูนสุข เรียบเรียงโดย วีรภัทร์ อึ้งอัมพร ฉันเขียนเนื้อร้อง เนื่องในวาระเฉลิมพระชนมพรรษา 80 ปี เมื่อ พ.ศ.2550,4.ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป อัสนี วสันต์ โชติกุล ขับร้อง ฉันเขียนทั้งทำนองและเนื้อร้อง เรียบเรียงโดย สราวุธ เลิศปัญญานุช เนื่องในวาระเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ เมื่อ พ.ศ.2554,5.คำพ่อสอน สำราญ ช่วยจำแนก (อี๊ด วงฟลาย) ขับร้อง ฉันเขียนทั้งทำนองและเนื้อร้อง เรียบเรียงโดย ชาญวุฒิ บุญแย้ม แต่งให้เป็นเพลงประจำมูลนิธิพระดาบส,จักขอประกาศว่า ถึงแม้จะมีระบบลิขสิทธิ์อันใดอย่างใดก็ตาม ตามกฎหมายฉันขอถือว่าเพลงทั้ง 5 นี้ คนไทยที่รักภูมิพลมหาราชาเป็นเจ้าของได้สอบถามผู้เกี่ยวข้องในรายชื่อทั้งหมดแล้ว ก็ยินดีมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้วมิได้คิดใดอื่น คนไทยผู้ใด องค์กรเอกชน ประสงค์จะนำไปแจกจ่าย ดาวน์โหลด ทำซ้ำ ขับร้องใหม่ ดัดแปลงด้วยเจตนาที่งดงาม ฉันขอพูดในนามของทุกคนที่เกี่ยวข้องว่าไม่ต้องขออนุญาตอันใดทั้งสิ้น รายการโทรทัศน์ สื่อทุกสื่อไม่ต้องมาขอลายเซ็นเป็นลายลักษณ์อักษรจากฉันเพลงเหล่านี้ เป็นของคนไทยทุกคนแล้วยกเว้นในกรณีเดียวคือการนำไปหาผลประโยชน์เข้าส่วนตัวเท่านั้น นอกนั้นแล้ว เชิญเผยแพร่ด้วยจิตกุศลเถิด.
ชัดเจนในเจตนา ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค ประกาศยกเพลงที่แต่งเพื่อเทิดพระเกียรติในหลวง ยกให้คนไทยทั้งหมด ดี้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงเรื่องลิขสิทธิ์เพลงว่าเพลงที่ฉันแต่งเกี่ยวเนื่องกับเบื้องสูงมีดังต่อไปนี้
null
ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,นิติพงษ์ ห่อนาค
https://www.thairath.co.th/content/762101
คิมเบอร์ลี่ เผยเหตุผลทำไมไม่ปลงผม-ถือหมอนงานบวช พระหมาก (คลิป)
เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่มาร่วมงานบวชของพระเอกหนุ่ม หมาก ปริญ สุภารัตน์ เข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดพระยาสุเรนทร์ เขตคลองสามวา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สำหรับนางเอกสาว คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ และเมื่อเสร็จพิธีดังกล่าว นักข่าวเลยถาม คิม ถึงการบวชของพระเอกหนุ่มครั้งนี้ว่ารู้สึกยังไงบ้าง รวมถึงเรื่องที่เจ้าตัวไม่ได้ร่วมถือหมอนในพิธีแห่นาคด้วย,ซึ่ง คิม เผยว่า ตอนที่ปลงผมใกล้จะได้ห่มผ้าเหลืองแล้ว ก็รู้สึกดีใจและตื้นตันไปกับพระ มีแอบน้ำตาไหล รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ลูกผู้ชายควรทำ เราเห็นพระตั้งใจที่จะบวชเพื่อทดแทนคุณพ่อแม่มาประมาณ 3 ปีแล้ว เขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนตัวเอง เข้าใจโลกมากขึ้น บางทีก็สอนเราด้วยซ้ำ ถามว่าตั้งใจจะมาใส่บาตรวันไหน ก็เป็นพรุ่งนี้ค่ะ มาตอนเช้าแล้วก็ไปเชียงรายด้วย ซึ่งคิมก็ได้เคลียร์คิวไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว ถามว่าจะไปกี่วันก็คิดว่าน่าจะไปใส่บาตรสองวันค่ะ ก็คงไปกับพี่สาว,ถามว่าได้พูดคุยอะไรกับพระก่อนห่มผ้าเหลืองไหม ก็ไม่ได้พูดอะไรค่ะเพราะเราก็เห็นว่าเขาตั้งใจในการท่องบทสวดมาก ซึ่งเขาสมองไวมากสามารถท่องได้เร็วมากเราก็ไม่ห่วงอะไรเลยค่ะแค่บอกเขาว่าท่องให้ได้ซึ่งตนก็เชื่อว่าเขาทำได้อยู่แล้วเพราะเขาสมองดีอยู่แล้ว และที่คิมไม่ได้ปลงผมหลวงพี่ เพราะเราอายุน้อยกว่า,ส่วนที่ไม่ถือหมอนไม่ใช่ว่ากลัวอาถรรพณ์ จริงๆ หนูไม่ได้ถือขนาดนั้น แต่ก็มีคะแนนโหวตว่าห้ามถือดีกว่า เพื่อความสบายใจเราก็เลยไม่ถือ ผู้ใหญ่ก็บอกว่าถ้าถือแล้วจะมีเรื่องไม่ดี แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าถือแล้วจะไม่ได้แต่งงานหรือเปล่า คือก็แล้วแต่ความเชื่อ อีกอย่างหลวงพี่หมากก็มีพี่สาวก็ให้พี่สาวเป็นคนถือ และคิมถือชุดสังฆทานแทน จริงๆ อยากเดินข้างหน้า เพราะอยากเป็นนางฟ้าค่ะ (ยิ้ม).
คิมเบอร์ลี่ดีใจและตื้นตันใจหมาก ปริญ เข้าพิธีอุปสมบท มีแอบน้ำตาไหล เผยฝ่ายชายตั้งใจมาตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว เล็งเคลียร์คิวไปร่วมใส่บาตรที่เชียงราย 2 วัน แจงสาเหตุที่ไม่ได้ปลงผมและไม่ถือหมอน
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ,หมาก ปริญ สุภารัตน์,หมาก คิม,หมาก ปริญ บวช,คิมเบอร์ลี่ งานบวชหมาก ปริญ,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1133108
กลาโหม พร้อมตั้งศูนย์ซ่อมอาวุธในไทย โรงซ่อมรถถัง รถเกราะ รถสายพาน ปี62


เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 60 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าในนโยบายเสริมสร้างอุตสาหกรรมป้องกันประเทศว่า มีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะกับประเทศจีน และได้ตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงกลาโหมไทย และจีน พิจารณาแนวทางการจัดตั้งโรงงานซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ และแนวทางการดำเนินการด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ขณะนี้ตกลงกันในการซ่อมบำรุงขั้นต้น และจัดตั้งคลังสะสมชิ้นส่วนซ่อมที่สำคัญๆ สำหรับรถถัง VT-4 รถสายพานลำเลียงพล VN-1 รวมทั้งซ่อมบำรุงรถสายพานลำเลียงพล T-85 ที่มีใช้ในกองทัพบก เมื่อพูดคุยกับกระทรวงกลาโหมจีนแล้วได้ให้ไทยเสนอแผนงานที่เขาต้องสนับสนุน และปลาย ก.ย.60 ที่ผ่านมาได้กำหนดรูปแบบในการจัดตั้งโรงงานขึ้นมาโดยมีผู้แทนจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม และ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เข้ามาร่วมให้ข้อมูลด้วย เพราะทั้งหมดต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ปี 2542 ซึ่งกำหนดให้ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) ถือหุ้น 51% สำหรับเงินที่จะใช้ในการจัดตั้งจะจัดสรรจากงบประมาณที่จัดสรรจากรัฐบาล หรือจากงบฯ ที่ภาคเอกชนระดมทุนร่วมกันอีก 49% จะเป็นของจีน ซึ่งอาจจะเป็นบริษัท โนรินโก้ หรือบริษัทที่เป็นผู้แทนของรัฐบาลจีนกำหนดขึ้นมา
,โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวอีกว่า ทั้งนี้กระทรวงกลาโหม ได้กำหนดแผนงานไว้ 3 ระยะด้วยกัน 1. ระยะสั้นคือ ปี 2560-2564 ก็จะมีการจัดตั้งโรงงานซ่อมบำรุงสนับสนุนโดยตรง ให้กับรถถัง ม.พัน 6 ที่จังหวัดขอนแก่น และจัดตั้งคลังสะสมชิ้นส่วนซ่อมในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และ ซ่อมบำรุงรถสายพานลำเลียง T-85 ของกองทัพบก อีก 80 คัน โดยจะดำเนินการให้เสร็จในปี 2562 สำหรับระยะกลางคือปี 2565-2569 จะจัดตั้งโรงซ่อมยุทโธปกรณ์ พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีตามแผนการลงทุนไทย–จีน และในระยะที่ 3 ตั้งแต่ปี 2570 จะเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ภาคเอกชนในการร่วมดำเนินการมากขึ้น ถือว่าภาพรวมของงานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาโครงการที่ผ่านการวิจัย เช่น กล้องตรวจการณ์เวลากลางคืน อากาศยานไร้คนขับ เสื้อเกราะกันกระสุน การผลิตกระสุนปืนใหญ่ ที่ผ่านการวิจัยเพื่อมาพัฒนาผลิตสู่การใช้งานจริง ถือเป็นภาพรวมในส่วนที่เราเดินหน้าไปมากกับจีน 
,พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า สมาคมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ จะมีภาคเอกชนเป็นสมาชิกได้ดำเนินการกับภาครัฐมานานแล้ว ซึ่งพร้อมจะเข้ามาระดมทุนเข้ามาร่วมผลิต หรือเป็นตัวแทนให้กับภาครัฐ นำไปสู่การดำเนินการในระยะสุดท้าย ที่ต้องการให้ พ.ร.บ.อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ที่กำลังร่างอยู่ทำให้ภาคเอกชนแข็งแรง และยืนอยู่ได้ด้วยตนเอง จากกฎหมายตัวเดิมที่ไม่สามารถตอบสนองในเรื่องการผลิตไปสู่การจำหน่ายเชิงพาณิชย์ โดยกระทรวงกลาโหม ได้รับคำแนะนำจากกระทรวงการคลัง ว่าต้องปรับ สทป.เป็นองค์กรมหาชน การพัฒนาเทคโนโลยีต่อไปการลงทุนด้านนี้ก็จะเหมือนกับต่างประเทศ หรือทางจีน ที่ใช้บริษัทเอกชนที่เป็นผู้แทนรัฐบาลในการลงทุน การคัดเลือกจะพิจารณาจากเอกชนที่มีความรู้ ความชำนาญในด้านต่างๆ 
,จะเห็นได้ว่าเฟสแรกเป็นการขอต่อรองเพิ่มเติมจากการจัดหา ทั้งศูนย์ซ่อมที่ขอนแก่น และ คลังสะสมอะไหล่ที่โคราชของรถถังจีน วีที-4 จะเห็นได้ว่าในอดีตเราซื้ออะไรมา เราซื้ออย่างเดียว ไม่ได้กำหนดอะไร พอมารัฐบาลปัจจุบันก็บอกว่าซื้ออย่างเดียวไม่ได้แล้ว ยกตัวอย่างเช่น ประกอบจากข้างนอกมาก่อน 30 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลืออีก 40 เปอร์เซ็นต์ต้องมาประกอบข้างใน และที่เหลือต้องมาถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับเรา ไม่ใช้ซื้อแล้วยกมาทั้งหมด นอกจากนั้น ในส่วนประเทศอื่นก็มีความร่วมมือทางเทคนิคทางทหารกับ รัสเซีย ซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติ สำหรับยูเครน ก็อยากมาลงทุนร่วมกับเรา แต่เขายังไม่มีความพร้อม เนื่องจากมีปัญหาสงครามของเขา ทำให้สายการผลิตกับต่างประเทศไม่ได้ ในส่วนของตะวันออกกลาง อยากลงทุนเรื่องรถยนต์บรรทุกทางทหาร ขณะนี้ความสัมพันธ์เรากับประเทศต่างๆ ค่อนข้างดี พล.ท.คงชีพ กล่าว,
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ไปศึกษาเรื่องสิทธิประโยชน์ในการลงทุนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เหมือนการลงทุนในเชิงพาณิชย์ด้วย เราก็จะผลักดันตรงนี้ไปควบคู่กับเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่มีอุตสาหกรรมด้านอื่นๆ ด้วย ดังนั้น อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ทางบีโอไอก็จะต้องไปคุยเรื่องสิทธิประโยชน์กับคนที่จะเข้ามาลงทุนด้วย ทั้งนี้ เชื่อว่าแนวทางที่ทำอยู่นี้น่าจะทำให้อุตสาหกรรมป้องกันประเทศเดินต่อไปได้ เพราะไทยมีความได้เปรียบเรื่องภูมิยุทธศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางทางบอกในอาเซียน และ ประเทศรอบบ้านก็จะมีส่วนที่มีอาวุธจีนเข้าประจำการ การลงทุนครั้งนี้อาจจะพัฒนาเป็นศูนย์ซ่อมในอาเซียนก็ได้ เรื่องนี้ถือว่าเป็นการริเริ่มนโยบายของ พล.อ.ประวิตร ถือเป็นผลงานของท่าน การซื้ออาวุธต้องมีการลงนามในเอ็มโอยู เรื่องขั้นตอนการซื้อ การประกอบในประเทศไทย และมีการถ่ายทอดเทคโนโลยี อะไหล่ซ่อมบำรุง
,เมื่อถามว่า จะถือว่าเป็นการหมดยุคของค่าคอมมิชชั่นจัดซื้ออาวุธ พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า จะใช้คำว่าว่าหมดยุคคอมมิชชั่น หมดยุคนายหน้า คงไม่ได้ เพราะตนไม่ทราบ แต่ พล.อ.ประวิตร ต้องการให้การจัดหาอาวุธผูกเรื่องผลประโยชน์ที่กองทัพได้รับ ต่อไปจะเป็นการซื้อตรงแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล มีการต่อรองเพื่อขอให้เขาเข้ามาประกอบในไทย ถ่ายทอดเทคโนโลยี ตั้งโรงงานซ่อมบำรุงร่วมกัน พัฒนาไปสู่ในเรื่องการร่วมผลิต.
ก.กลาโหม เปิดแผนตั้งศูนย์ซ่อมอาวุธในไทย พร้อมจับมือกับจีน จัดตั้งโรงงานซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ โรงซ่อมรถถัง รถเกราะ รถสายพานลำเลียง คาดเสร็จปี 2562
ข่าว,การเมือง
VT-4,รถถังVT-4,รถสายพานลำเลียงพล,VN-1,โรงซ่อมรถถัง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1165983
เตือนพิษ แมงกะพรุนกล่อง อันตรายถึงชีวิต แนะวิธีป้องกัน การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
สถาบันโรคผิวหนัง เตือนภัยอันตรายจาก แมงกะพรุนกล่อง เมื่อไปเที่ยวทะเล ดำน้ำ ชี้ควรเรียนรู้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อป้องกันอันตรายถึงชีวิตนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ในช่วงมีวันหยุดทำให้คนส่วนใหญ่วางแผนการท่องเที่ยวพักผ่อนหลากหลาย เช่น ไปเที่ยวทะเลเล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมทางน้ำ ดำน้ำ เล่นเจ็ตสกี ซึ่งบางครั้งอาจทำให้ผิวหนังไหม้แดด หรือได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบเศษหิน เศษแก้ว ได้รับพิษจากสัตว์น้ำทะเล หอยเม่น แมงกะพรุนชนิดต่างๆ โดยเฉพาะแมงกะพรุนกล่อง ดังนั้น จำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการป้องกันและปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อช่วยลดอันตรายจากพิษที่ได้รับ จะได้เที่ยวอย่างปลอดภัยและมีความสุขทางด้าน แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อันตรายจากแมงกะพรุนกล่อง คือเมื่อหนวดของมันสัมผัสได้ถึงตัวกระตุ้นที่เป็นแรงกดร่วมกับสารเคมีที่อยู่บนผิวของเหยื่อ จะมีการฉีดสารพิษเข้าสู่ผิวของเหยื่อ ทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตและปอดล้มเหลว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ผิวหนังแพ้หรือผิวหนังตายได้ พิษจากแมงกะพรุนชนิดนี้มีความรุนแรงมาก หากบริเวณสัมผัสเกินร้อยละ 10 ของผิวหนังทั่วตัว อาจทำให้เสียชีวิตได้ภายใน 5 นาที โดยเฉลี่ยการเสียชีวิตจะเกิดภายในเวลา 20 นาที หลังสัมผัสแมงกะพรุนกล่องสำหรับการป้องกัน เช่น ไม่ลงเล่นน้ำขณะมีแมงกะพรุน สวมถุงน่อง เสื้อผ้า หรือชุดดำน้ำจะสามารถป้องกันการปล่อยพิษจากแมงกะพรุนกล่องได้ ส่วนใหญ่ผู้ที่โดนแมงกะพรุนกล่องจะมีอาการเพียงเล็กน้อย แต่บางคนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตอย่างไรก็ตาม เบื้องต้นหากโดนหนวดของแมงกะพรุนกล่อง อย่าแกะหรือขยี้ เนื่องจากหนวดยังสามารถปล่อยพิษต่อได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง ให้ใช้น้ำส้มสายชูชะล้างบริเวณที่หนวดเกาะอยู่และบริเวณรอบๆ เป็นเวลา 30 วินาที ค่อยแกะหนวดโดยใช้ผ้าปัดออก หากโดนตาให้ล้างด้วยน้ำเกลือ หรือน้ำเปล่า แล้วรีบไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจดูแผลและสังเกตอาการ หากมีอาการระบบหัวใจและปอดล้มเหลวจะต้องปฏิบัติการกู้ชีพโดยด่วนแล้วรีบส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยเร็ว.
สถาบันโรคผิวหนัง เตือนภัยอันตรายจาก แมงกะพรุนกล่อง เมื่อไปเที่ยวทะเล ดำน้ำ ชี้ควรเรียนรู้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อป้องกันอันตรายถึงชีวิต
ข่าว,ทั่วไทย
แมงกะพรุนกล่อง,แมงกระพรุน,สถาบันโรคผิวหนัง,เที่ยวทะเล,วิธีการป้องกัน,กรมการแพทย์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/1899004
ค่าฝุ่นละอองยังน่าห่วง แม่สอดเครื่องบินลงไม่ได้ ลำปางมีไฟป่า
วันที่ 8 มี.ค. นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด เปิดเผยว่า ค่าฝุ่นละอองในพื้นที่ชายแดนจังหวัดตาก เช้านี้วัดได้ 162 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน,เบื้องต้น ได้สั่งการสาธารณสุขอำเภอ นำหน้ากากอนามัยแจกประชาชนแล้ว รวมทั้งได้สั่งการรถบรรทุกน้ำจาก อปท.ทุกแห่ง บูรณาการฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดปัญหาหมอกควันที่ฟุ้งกระจาย,นอกจากนี้ ยังส่งผลให้เครื่องบินสายการบินนกแอร์ ไม่สามารถลงที่สนามบินแม่สอดได้ ต้องนำเครื่องไปลงที่สนามบินพิษณุโลกแทน,ทั้งนี้ หมอกควันที่เกิดขึ้น มีสาเหตุมาจากฝั่งจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา มีการเผาป่าในหลายพื้นที่ โดยพบจุดความร้อนบนเทือกเขาตะนาวศรี,ส่วนสถานการณ์หมอกควันที่ลำปาง นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผวจ.ลําปาง เปิดเผยว่า หลายพื้นที่ยังเกิดไฟป่าจากการเผาถางทําไร่ และเกิดจากฝีมือมนุษย์อยู่ เช่น อ.แม่เมาะ, อ.แจ่ห่ม, อ.เมือง, อ.งาว, อ.เมืองปาน และที่มีแนวโน้มรุนแรง มีการจุดไฟเผาป่าจากการแผ้วถางคือ อ.แม่เมาะ และ อ.งาว,เพี่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่าและการจุดไฟจากฝีมือคน จึงสั่งการให้นายอําเภอทุกอําเภอสั่งการใหักํานันและผู้ใหญ่บัานมีการประชาสัมพันธ์ถึงมาตรการลงโทษทางกฎหมายอย่างเฉียบขาด ซึ่งมีการจับปรับเป็นตัวอย่างมาแล้วในท้องที่ อ.แม่ทะ จํานวน 2 ราย เพื่อใหัประชาชนมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังไฟป่าให้ได้มาก และคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้น จะไดัประสานทางป่าไม้เขต และหน่วยเคลื่อนที่เร็วของทหาร มทบ.32 ลําปาง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายจิตอาสา ออกลาดตะเวนในเขตดอยป่าเขาทั้งกลางวันและกลางคืน,ส่วนสถานการณ์ล่าสุด ได้รับรายงานจากเทศบาลตําบลท่งผึ้ง อ.แจ้ห่ม ว่า ที่บริเวณแถบป่ากว้างในพื้นที่ ต.แจ้คอน และ ต.ทุ่งผึ้ง นายถวิล กุญชร นายกเทศบาลตําทุงผึ้ง นําเจ้าหน้าที่ อปพร.จิตอาสา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่า อ.แจ้ห่ม กว่า 50 คน พร้อมอุปกรณ์ดับไฟป่าเข้าทําแนวกันไฟ และเข้าสกัดไฟป่าที่ไหม้ค้างคืนได้สําเร็จ ไม่เกิดไหม้ลามเป็นวงกว้างได้,สำหรับสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขาดเล็ก ยังน่าเป็นห่วงอยู่ในเขต พื้นที่ อ.เมือง ในเขตดอยพระบาท ต.พระบาท ยังทรงตัวอยู่ที่ 174 ไมโครกรัม.
ค่าฝุ่นละอองภาคเหนือยังน่าห่วงหลายจังหวัด ที่แม่สอด ผลพวงจากการเผาป่าฝั่งเมียนมา ทำเครื่องบินลงสนามบินแม่สอดไม่ได้ ขณะที่ลำปาง ยังมีไฟป่าหลายพื้นที่ ซึ่งเกิดจากฝีมือมนุษย์ จับปรับแล้ว 2 ราย
ข่าว,ทั่วไทย
ค่าฝุ่นละออง,หมอกควัน,ไฟป่า,แม่สอด,ลำปาง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1222745
ตามหาตัวเศรษฐีมะกัน ถูกหวยเมกะ 4 หมื่นล้าน
ชาวบ้านเมืองซิมป์สันวิลล์ เมืองเล็กๆของรัฐเซาท์แคโรไลนาในสหรัฐฯ ต่างมีทฤษฎีต้องสงสัยถึงปริศนาลอตเตอรี่ มีคนถูกแจ็กพอตเมกะ มิลเลียนส์ มูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (เกือบ 47,000 ล้านบาท) ซื้อจากร้านเคซี มาร์ต ช่วงวันที่ 20 ต.ค. ก่อนออกรางวัลช่วงดึก 23.00 น. ของวันที่ 23 ต.ค.ปีก่อน แต่ยังไม่มีใครทราบตัวตน บางคนคาดว่าผู้ที่ถูกหวยไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายอาจเสียชีวิตไปแล้ว หรือบางทีอาจหนีคดีอยู่ และกลัวถูกตรวจสอบประวัติย้อนหลัง บางทีหวยอาจตกหล่นถูกทิ้งถังขยะจนสูญหาย หรือบางทีคนถูกหวยจะยังมีชีวิตตามปกติ แล้วแอบไปรับรางวัลเงียบๆ เป็นเงินก้อนเดียว 878 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 27,500 ล้านบาท),ขณะที่นายจี พาเทล พนักงานร้านเคซี มาร์ต เผยว่า ทางร้านเองก็ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ที่ซื้อหวยเลขที่ออก รวมถึงไม่ทราบว่าขายเมื่อไหร่หรือขายให้ใคร ส่วนทางเจ้าหน้าที่ก็นำเทปจากกล้องวงจรปิดไปตรวจสอบ โดยทั้งนี้หวยก้อนใหญ่ดังกล่าวมีกำหนดรับรางวัลได้ก่อนเวลา 17.00 น. วันที่ 19 เม.ย.นี้.
เจ้าหน้าที่เร่งตามหาตัวผู้โชคดีที่ถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่กว่า 4.7 หมื่นล้านบาท แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ปรากฏตัวมารับรางวัลทั้งที่ถูกตั้งแต่เดือนต.ค.ปีก่อน และจะหมดสิทธิ์รับในเดือนเม.ย.นี้แล้ว
ข่าว,ต่างประเทศ
ตามหาคนถูกหวย,ลอตเตอรี่,เมกะ มิลเลียนส์,สหรัฐ,แจ็กพอต
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1505101
โรมา เดือด ไล่ขย้ำบาร์ซาท้ายเกม 4-2 ศึกไอซีซีคัพ
การแข่งขันฟุตบอลอินเตอร์เนชันแนล แชมเปียนส์คัพ 2018 ประจำวันพุธที่ 1 ส.ค. ที่สนามเอทีแอนด์ที สเตเดียม เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา พบกับ หมาป่าเหลืองแดง โรมา,เปิดฉากครึ่งแรกมา 7 นาที บาร์เซโลนา ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก ราฟินญา จากนั้นนาทีที่ 35 โรมา ตามตีเสมอเป็น 1-1 จาก สเตฟาน เอล ชาราวี ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้,กลับมาเล่นต่อครึ่งหลังถึง นาทีที่ 50 บาร์ซา ขึ้นนำ 2-1 จากการซัดจ่อๆ ของ มัลคอม แนวรุกป้ายแดงชาวแซมบ้า,แต่ทว่าสถานการณ์หลังจากนั้นกลายเป็นโรมาที่เหนือกว่า และได้ประตูตีเสมอเป็น 2-2 จาก อเลสซิโอ ฟลอเรนซี แค่นั้นยังไม่พอ นาทีที่ 83 โรมา หนีเป็น 3-2 จาก ไบรอัน คริสตันเต,เข้าสู้ช่วงท้ายเกม โรมา มาได้จุดโทษ และเป็น ดีเอโก เปรอตติ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด พาโรมาหนีเป็น 4-2,ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม โรมา เอาชนะ บาร์เซโลนา ไปได้ 4-2
หมาป่าเหลืองแดง เร่งเครื่องช่วงท้ายเกม เอาชนะ เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา ไปได้ 4-2 ในศึกอินเตอร์เนชันแนล แชมเปียนส์คัพ 2018
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
โรมา,บาร์เซโลนา,อินเตอร์เนชันแนล แชมเปียนส์ คัพ 2018,ผลบอล
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1345623
มาดูกับมาดาม: แอบรักออนไลน์ แชตจนฟินคู่จิ้นออนไลน์
คุณผู้อ่านเคย , ใครไหมคะ? ถ้าเคยเชื่อว่าละคร , คงจะโดนใจแน่ๆ เหล่าสมาคมคนเคย แอบรัก คงจะอินจิ้นเว่อร์กันไม่น้อย เมื่อได้เห็นวีรกรรมสาวบ้างานมาดนิ่งอย่าง , (แอน ทองประสม),เรื่องราวความรักของอวัศยาเริ่มต้น เมื่อดันมีหนุ่มหล่อใสกิ๊กอย่าง , (หมาก ปริญ สุภารัตน์) โผล่มาช่วยชีวิตเธอจากอุบัติเหตุรถชนในวันหนึ่ง หลังจากนั้นป้าเฉิ่มอวัศยา เจ้าของฉายา , ประจำออฟฟิศ เลยเก็บภาพหนุ่มใจดีไปฝันถึง โดยไม่สนใจเลยว่าเจ้านายหนุ่มหล่อซิกแพ็กอย่าง , (ปีเตอร์ คอร์ปไดเรนดัล) จะแอบหลงรักและพยายามเรียกร้องความสนใจจากเธอตลอด,ความรักของป้าเฉิ่มประจำออฟฟิศกำลังจะพบแสงสว่างอยู่แล้ว ถ้าลิปดาจะไม่ชวน , (คิมเบอร์ลี แอน โวเทมัส) รุ่นน้องคนสวย ดีกรีนักเรียนนอกจากบอสตัน มาร่วมงานด้วย ปราณนต์เลยต้องลงสนามแข่งขันกับพริบพราวแบบเลี่ยงไม่ได้ เพื่อช่วงชิงตำแหน่งโบรกเกอร์หุ้นในบริษัทนารากรของลิปดา,อวัศยารู้ดีว่าปราณนต์เสียเปรียบพริบพราวทุกประตู เพราะไม่ได้เรียนจบมาตรงๆ แถมประสบการณ์ก็เท่ากับศูนย์เพราะเคยทำแต่งานวิศวกร มีแต่ใจล้วนๆ ที่อยากจะเรียนรู้งาน ป้าเฉิ่มประจำออฟฟิศสงสาร เลยถือโอกาสใช้ , ที่จงใจตั้งขึ้นใหม่ภายใต้ชื่อ , คอยให้คำปรึกษาเรื่องงาน และก็ลามปามไปถึงเรื่องส่วนตัวอื่นๆ ส่งผลให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แม้จะไม่เคยเห็นหน้ากันเลยก็ตาม,เพลงประกอบ: อยากรู้หัวใจตัวเอง โดย วี วิโอเลต วอเทียร์ ,แน่นอนว่าความลับไม่มีในโลกค่ะ ตัวจริง ของคุณแอบรักจะถูกเปิดเผยด้วยวิธีไหน? ผลการแข่งขันระหว่างปราณนต์และพริบพราวจะลงเอยเช่นไร? และลิปดาจะมีโอกาสเลิกแอบรักและสารภาพความจริงกับอวัศยาหรือเปล่า? คุณผู้อ่านต้องตามติดขอบจอค่ะ รับรองได้ว่าแซ่บไม่เหมือนใครแน่ๆและนั่นก็ถือเป็นจุดเด่นของละครเรื่องนี้ค่ะ,ถ้าใครที่เคยชมละครแอบรักออนไลน์มาตั้งแต่ต้น คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพระเอกทั้งสองหล่อแซ่บมากอุ๊บส์ ออกตัวแรงไปนิด จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่นั้นค่ะ แรงดึงดูดแรกของเรื่องเลยก็คือ ดาราแม่เหล็กทั้งสี่คนค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ,และ, ซึ่งผลก็ไม่ผิดหวังค่ะ เพราะเคมีของทั้งสี่เข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ รับมุก ส่งมุกกันให้วุ่นไปหมด จนคนดูหน้าเครียดอย่างมาดามยังอดยิ้มตามไม่ได้,นอกจากนี้ยังมีดาราเสริมทัพ สร้างสีสันให้กับเรื่องอีกมากมายเลยค่ะ ทั้ง ,และ, เรียกเสียงหัวเราะได้ดีทีเดียว กับบรรดามุกเกาะกระแสที่ทำให้หลายคนถึงกับกรามค้าง แต่แรงดึงดูดเด่นที่สุด คงหนีไม่พ้นการปะทะกันระหว่างสองนักแสดงสาว , และ , ตัวแทนหญิงสาวสมัยใหม่ในสังคมเมือง แต่มีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันลิบลับเลยค่ะ,ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์สวยงามของดารานำหญิงทั้งสองที่ทำให้ละครกลายเป็นที่สนใจ แต่เพราะการแสดงและการเล่าเรื่องการแข่งขันแย่งความเป็นหนึ่งในเรื่องงานและเรื่องหัวใจต่างหาก ที่ทำให้ตัวละครทั้งสองมีเสน่ห์ขึ้นมา การชิงดีชิงเด่นของตัวละครเอกหญิงเพื่อเป็น ที่หนึ่ง ในสายตาตัวละครเอกชายในละครไทยเป็นพล๊อตปกติค่ะ แต่ในละครส่วนมาก มักเป็นการแข่งขันที่ไม่ค่อยสูสีนัก แถมน่าเบื่อและเป็นมุกเดิมๆ ที่ถ้าคอละครความจำไม่เสื่อม ก็คงพอจะเดากันได้ ไม่พลาดแม้แต่บทละคร แต่การต่อสู้ระหว่างตัวละคร อวัศยา กับ พริบพราว กลับไม่ซ้ำซากแบบนั้นค่ะ ที่สำคัญสูสีกันเลยทีเดียว เพราะแต่ละคนก็มี จุดขาย ที่แตกต่างกันออกไป,สาวบ้างาน มาดนิ่ง เป๊ะเวอร์ทุกขั้นตอน อย่าง , จะเอาชนะสาวบ้างาน (ไม่น้อย) แต่เต็มไปด้วยสีสันและความสวยอย่าง , ได้หรือไม่ , กับ , คงต้องตามลุ้นกันต่อนะคะ รับรองว่าไม่เหมือนใครแน่ๆ เซียนไลน์ที่ว่าแน่ ต้องลองดูเรื่องนี้ค่ะ ดูสิว่าคุณๆ จะสามารถ แอบรัก ได้ลึกลับกว่าตัวละครเรื่องนี้หรือเปล่า แต่ที่แน่สุดๆ คือ , กับ , ที่ร้อนแรงและฮอตเว่อร์ขึ้นทุกวัน ใครไม่อยากพลาดกระแสแอบรัก ตามไปลุ้นกันได้ ในละครแอบรักออนไลน์ค่ะ,ติดตามเรื่องย่อละครได้ที่นี่ค่ะ รับรองครบทุกฉาก ,http://www.thairath.co.th/ent/novel/abrakonline,จนกว่าจะพบกันใหม่,มาดามอองทัวร์,Twitter: ,@MadamAutuer
เรื่องราวความรักของสี่หนุ่มสาวตัวแทนคนยุคใหม่เมื่อเรื่อง แอบรัก กลายเป็นเรื่องไม่ลับอีกต่อไป
null
แอบรักออนไลน์,เรื่องย่อแอบรักออนไลน์,เรื่องย่อละคร,ละครช่อง3,#แอบรักออนไลน์,แอน ทองประสม,ปีเตอร์ แอน,หมากคิม,หมาก ปริญ,คิมเบอร์ลี่,มาดูกับมาดาม,มาดามอองทัวร์,#MadamAutuer,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/476239
เมาแล้วขับ หนุ่มใหญ่ซิ่งกระบะชนยายดับ อาการออก ชาวบ้านรุมต่อยดุเดือด (คลิป)
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 28 ม.ค.62 ร.ต.อ.จารึก โพธิ์ทอง ร้อยเวรสอบสวน (สภ.พานทอง) พร้อมกับกู้ภัยสว่างอุทยานฯ พานทอง ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนคนเดินเท้า บริเวณหน้าคอนโดพานทอง เส้นทางพานทอง-บ้านเก่า หมู่ 1 ต.บ้านเก่า อ.พานทอง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ,ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นหญิงสูงอายุ 1 ราย นอนหมดสติ ชีพจรอ่อน อยู่กลางถนน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบปฐมพยาบาลให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ก่อนทำการปั๊มหัวใจหวังจะยื้อชีวิต แต่ก็ไม่เป็นผล ผู้บาดเจ็บอาการสาหัสมากจึงเสียชีวิตที่โรงพยาบาลพานทอง นอกจากนี้ยังพบรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีเขียว ทะเบียน บม 8679 ลพบุรี จอดอยู่สภาพด้านหน้าพังยับ,ขณะที่คนขับนั้นเป็นชายอายุประมาณ 50 ปี มีอาการคล้ายคนเมาสุราพูดจาวกวนไม่รู้เรื่อง จึงทำให้ผู้เห็นเหตุการณ์และประชาชนที่ยืนให้กำลังใจหญิงสูงอายุอยู่นั้นเกิดมีอารมณ์โกธรแค้นที่เมา จึงชกใส่ไปที่คนขับรถกระบะคันดังกล่าวหลายหมัด กู้ภัยฯ ต่างช่วยกันห้ามไว้ได้ ซึ่งเกิดเหตุการณ์ชุลมุนอยู่พักใหญ่,ต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นางสายชล โรสัจสะ อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/1 หมู่ 1 ต.บ้านเก่า อ.พานทอง จ.ชลบุรี ซึ่งพักอาศัยอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ,สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ขณะที่ยายกำลังข้ามถนนจะกลับบ้าน หลังจากที่ได้เดินไปซื้อไก่ย่างอีกฝั่ง แต่จู่ๆ รถกระบะคันดังกล่าวก็ขับมาด้วยความเร็วชนจนยายกระเด็นไปไกลกว่า 30 เมตร ซึ่งผู้คนในละแวกนี้รู้จักผู้เสียชีวิตเป็นอย่างดี ต่างคนต่างมารุมล้อมดูอาการขณะที่กู้ภัยกำลังช่วยเหลือ,อย่างไรก็ตาม ทางด้านคนขับรถกระบะนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปเป่าวัดแอลกอฮอล์ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาขับรถประมาทให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และขับรถขณะมึนเมาสุรา เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
สยองใจ! หนุ่มใหญ่เมาหนักขับกระบะชนคุณยายวัย 76 ขณะเดินข้ามถนน ร่างกระเด็นไปไกลกว่า 30 เมตร เผยชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์หลายสิบคน อดใจไม่ไหวอาการออก พูดจาไม่รู้เรื่อง รุมต่อยยับ ห้ามกันวุ่น
ข่าว,ทั่วไทย
เมาแล้วขับ,เมาชนคนตาย,ซิ่งกระบะ,ชนคนข้ามถนน,รุมต่อย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1482015
นิด้าโพล ชี้ ปชช.เชื่อบอลไทยไปไม่ถึงบอลโลก หวัง เนวิน เป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ
จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) พบว่า ประชาชนถึงร้อยละ 63.53 เชื่อว่าฟุตบอลไทยไม่มีโอกาสไปแข่งฟุตบอลโลก เพราะยังขาดความสามารถและต้องมีประสบการณ์ให้มากกว่านี้ แต่ร้อยละ 36.47 คิดว่าฟุตบอลไทยจะไปถึงบอลโลกได้ หากได้รับการฝึกซ้อมที่มีระบบและมีระเบียบวินัย และจากคำถามว่าต้องการให้ใครเป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พบว่า ร้อยละ 46.67 เลือกนายเนวิน ชิดชอบ ส่วนนายสนธยา คุณปลื้ม และนายวรวีร์ มะกูดี ได้รับเลือกรองลงมาตามลำดับในขณะที่การสำรวจถึงทีมฟุตบอลไทยที่เป็นที่นิยมนั้น สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้รับการเลือกมากที่สุด ถึงร้อยละ 32.76 อันดับ 2 ได้แก่สโมสรชลบุรี เอฟซี ร้อยละ 24.46 รองลงมาเป็นสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และผลสำรวจว่า ประชาชนอยากจะบอกอะไรนายกสมาคมการกีฬาแห่งประเทศไทย พบว่าส่วนใหญ่ต้องการมาตรฐานทางการกีฬาที่ดีขึ้น โดยต้องการการพัฒนา ส่งเสริมและสร้างมาตรฐานทางการกีฬา รวมถึงมาตรฐานของกรรมการตัดสินให้อยู่ในระดับสากล และไม่เล่นพรรคเล่นพวกในการคัดเลือกนักกีฬา ถึงร้อยละ 27.81 รองลงมาร้อยละ 17.07 อยากให้นายกสมาคมฯ ปรับระบบโครงสร้างให้สามารถดูแลทุกสมาคมกีฬาได้อย่างทั่วถึง และร้อยละ 9.93 อยากให้ทางสมาคมฯ ดูแลสวัสดิการของนักกีฬา พร้อมเพิ่มค่าอัดฉีดเพื่อเพิ่มขวัญและกำลังใจ
นิด้าโพล เผย ผลสำรวจเกินครึ่งเชื่อบอลไทยไปไม่ถึงบอลโลก และอยากเห็น เนวิน นั่งเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอลฯ ขณะที่ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าความนิยมมากสุด ส่วนสิ่งที่อยากบอกนายกสมาคมการกีฬาฯ คือต้องการมาตรฐานทางการกีฬาที่ดี
สังคม
นายก,นิด้า,บอลโลก,บอลไทย,บังยี,บุรีรัมย์,วรวีร์,เนวิน,โพล
https://news.thaipbs.or.th/content/91632
บิ๊กกุ้ย ชี้เหตุ พงส.ผูกคอดับ ไม่กระทบแผนปฏิรูป ตร.
เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 59 พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ประธานอนุกรรมาธิการปฏิรูปกิจการตำรวจ ในคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สปท.กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.จันทร์ ชัยสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน สน.เทียนทะเล ผูกคอตาย ภายในบ้านพักเลขที่ 631 หมู่บ้านพระปิ่น 5 ซอยเอกชัย 109 แขวงบางบอน เขตบางบอน กทม. หลังเคยไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ทบทวนการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 6/2559 เกี่ยวกับการยุบเลิกตำแหน่ง และเงินประจำตำแหน่งพนักงานสอบสวน ตามคำสั่ง คสช.ที่ 6/ 2559 เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมาว่า เบื้องต้นตนทราบข่าวดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่รู้รายละเอียดข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทำงาน หาข้อเท็จจริงว่าสาเหตุการตายและแรงจูงใจคืออะไร อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้คงไม่กระทบต่อแผนงานปฏิรูปตำรวจ ถ้าทำตามแผนระยะยาวที่ตนวางไว้,ด้าน พล.ร.อ.พระจุณ ตามประทีป สมาชิก สปท. และอดีตคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปโครงสร้างอำนาจหน้าที่ และกระบวนการทำงานของตำรวจ เพื่อประโยชน์ประชาชน สปช. กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่หาข้อเท็จจริง ตนไม่อยากวิจารณ์ แต่ส่วนตัวเรื่องปฏิรูปตำรวจที่ทำอยู่ยังไม่ตรงตามที่ประชาชนต้องการ ที่อยากให้แยกอำนาจสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และประชาชนต้องมีส่วนร่วมกับการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่รู้ข้อเท็จจริง จึงต้องหาสาเหตุกันไป แต่ตนไม่อยากให้บานปลายเพราะสงสาร พล.อ.ประยุทธ์ ที่ตั้งใจทำงาน เจ้าตัวเครียดหลังร้องเรียนนายกฯ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พ.ต.ท.จันทร์ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายกฯ เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อนร่วมงานบอกว่า เจ้าตัวเกิดอาการเครียด กังวล หลังจากยื่นหนังสือร้องเรียนกับนายกฯ ไปแล้ว.
วรพงษ์ เชื่อ เหตุ พงส.ผูกคอตาย ไม่ส่งกระทบแผนปฏิรูปตำรวจระยะยาวที่วางไว้ ด้าน พระจุณ บอกสงสาร บิ๊กตู่ ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เพราะนายกฯ ตั้งใจทำงาน
null
ปฏิรูปตำรวจ,พงส.ผูกคอตาย,ยกเลิก พงส.,วรพงษ์ ชิวปรีชา,ปฏิรูปกิจการตำรวจ,ตำรวจ,กตร.,แต่งตั้งโยกย้าย ตร.,แยก พงส. ออกจาก สตช.,โครงสร้าง ตร.,สปท.,มาตรา 44,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/576612
ขายถูกๆ เจ้าของรีสอร์ตภูทับเบิก เลหลังบ้านน็อกดาวน์ เฟอร์นิเจอร์
เมื่อวันที่ 7 ก.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การรื้อถอนรีสอร์ตบนภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีเจ้าหน้าที่เข้าเก็บเศษซากสิ่งปลูกสร้างขนใส่รถบรรทุกนำมาทิ้งที่อำเภอหล่มเก่า ส่วนผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาลนั้น พบว่ามีผู้ประกอบการบางรายประกาศขายบ้านที่โครงสร้างทำด้วยเหล็ก หรือบ้านน็อกดาวน์ไปหลายรายแล้ว เช่น รีสอร์ตสเตชั่นภูทับเบิก ได้ประกาศขายบ้านจำนวน 3 หลัง ที่เจ้าของสร้างมาในราคาหลังละเกือบ 200,000 บาท ขายลดราคาเหลือเพียงหลังละ 60,000 บาท,นอกจากนี้ ยังมีบ้านแค็ปซูลหลากสี จำนวน 14 หลัง ที่เจ้าของก่อสร้างรวมเฟอร์นิเจอร์ภายในทั้งทีวีเครื่องทำน้ำอุ่นและที่นอนมูลค่ารวมตกหลังละ 100,000 บาท ได้ขายเลหลังในราคาหลังละ 50,000 บาทเท่านั้น ภายหลังจากที่ประกาศขายเพียงไม่กี่วันมีผู้สนใจติดต่อจับจองซื้อจนหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว สอบถามผู้ที่มาซื้อทราบว่าจะนำไปวางไว้ในไร่ในสวนที่อำเภอใกล้เคียง เพราะเห็นว่าราคาไม่แพงและยกไปตั้งไว้และอยู่อาศัยได้ทันที,ส่วนแกนนำม้งที่ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาขัดขวางการปฏิบัติการเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามคำพิพากษาและคำสั่งคสช.ที่ 35/2559 นั้น ในชั้นพนักงานสอบสวนจำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการจังหวัดหล่มสักพิจารณา ต่อมาเช้าวันนี้พนักงานอัยการจังหวัดหล่มสักได้นำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องที่ศาลจังหวัดหล่มสัก กระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. ศาลได้มีคำพิพากษาปรับเงินคนละ 1,000 บาท จำเลยทั้งหมดจึงชำระค่าปรับก่อนเดินทางกลับภูทับเบิกทันที
เจ้าของรีสอร์ตภูทับเบิก เพชรบูรณ์ เปิดเลหลังขายบ้านน็อกดาวน์ เฟอร์นิเจอร์ ลดราคามากกว่าครึ่ง ขายดีหมดเกลี้ยงในพริบตา ขณะที่ศาลสั่งปรับเงิน ชาวบ้านขัดขวางเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน คนละ 1,000 บาท
ข่าว,ทั่วไทย
รื้อรีสอร์ตภูทับเบิก,ม้งภูทับเบิก,รีอสอร์ตภูทับเบิก,เพชรบูรณ์,เลหลังบ้านน็อกดาวน์
https://www.thairath.co.th/news/local/715430
แม่ น้องเบิร์ด โวย อนุฯ คอป.สอบข้อเท็จจริง ถามปรองดองได้ไหม เรียกค่าเสียหายเท่าไร
ทั้งนี้ นางนารีกล่าวถึงเหตุการณ์ในวันที่ 15 พ.ค.53 ว่า เบิร์ดได้ออกจากบ้านไปช่วยดับไฟที่ไหม้ตู้โทรศัพท์หน้าซอยงามดูพลีก่อนแล้ว ในช่วงบ่าย แล้วกลับมากินข้าว จากนั้นเมื่อทราบว่ามีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บก็ออกจากบ้านไปอีก เขาถูกยิงที่ศรีษะหลังจากเข้าไปช่วยเหลือคนเจ็บออกจากพื้นที่กระสุนได้ 2 คนในจำนวน 3 คน โดยขณะปฏิบัติงานนั้นมีเครื่องแบบกู้ภัย รวมถึงถือธงสัญลักษณ์กาชาดด้วยสำหรับ ประวัติของเบิร์ดนั้น ผู้เป็นแม่เปิดเผยว่า เบิร์ดเป็นลูกชายคนเล็กในบรรดาลูก 4 คน และมีนิสัยชอบช่วยงานอาสาสมัครมาตั้งแต่ยังเล็ก อายุ 10 กว่าปีก็ไปนั่งเฝ้าดูรถดับเพลิงที่สถานีดับเพลิงใกล้บ้าน และเมื่อโตขึ้นก็มักติดตามไปช่วยงานดับเพลิงเป็นประจำ รวมทั้งงานอาสาสมัครช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจนกระทั่งเรียนหนังสือไม่จบ และออกมาทำงานรับจ้างขนของ ขายขนมปัง ขับมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ขับแท็กซี่ ในช่วงเหตุการณ์สึนามิเบิร์ดก็ลงพื้นที่ไปเป็นอาสาสมัคร และเมื่อสอบเข้าเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิปอเต๊กตึ๊งเต็มตัวเบิร์ดรู้สึก ภูมิใจมาก
31 มี.ค.54 นางนารี แสนประเสริฐศรี แม่ของนายมานะ แสนประเสริฐศรี หรือ เบิร์ด อาสากู้ภัยมูลนิธิปอเต็กตึ๊งที่ถูกยิงที่ศรีษะเสียชีวิตบริเวณปากซอยงามดู พลี เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 ให้สัมภาษณ์ว่า
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
การสลายการชุมนุมเดือนพฤษภาคม 2553,คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ,คอป.,นารี แสนประเสริฐศรี,น้องเบิร์ด,บ่อนไก่,มานะ แสนประเสริฐศรี
https://prachatai.com/journal/2011/03/33816
บิ๊กตู่ประกาศบ้าง รับรธน. พร้อมคำถามพ่วง
ถ้า รธน.แท้ง ไม่หวน กลับมาร่างอีก วัชระ ซัด บิ๊กตู่ ชี้นำข่มขู่ส่อผิด ก.ม. จาตุรนต์ หยันนายกฯ กลัวแพ้ดิ้นทิ้งทวน กกต. ตั้งโปรเจกเตอร์จอยักษ์รายงานคะแนนแบบเรียลไทม์ สมชัย คาด 3 ทุ่ม 7 ส.ค. รู้ผลไม่เป็นทางการ เตือน ปชช.ห้ามเซลฟี่ในหน่วยเสี่ยงติดคุก ขอร้องอย่าใส่เสื้อ เยสหรือโน เห็นชอบ-ไม่เห็นชอบ มาใช้สิทธิ ยิ่งลักษณ์ ขึ้นศาลให้การคดีจำนำข้าว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ข้องใจถูกเรียกฟ้องแพ่ง ก่อนคดีอาญา-ป.ป.ช.เร่งชี้มูลความผิดก่อนคดีจีทูจีข้าวเก๊ บุญทรง ตร.เชียงใหม่แจ้งจับ เมียจาตุรนต์ พาผู้ต้องการปลอม รธน.ซุกวัด,สิ้นสุดการรอคอย คนไทยได้ร่วมกันตัดสินชี้ชะตากำหนดอนาคตประเทศ โดยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมพร้อมการติดตามนับผลการลงคะแนน คาดการณ์จะสามารถรู้ผลอย่างไม่เป็นทางการได้ภายใน 21.00 น. วันที่ 7 ส.ค.,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 5 ส.ค. บรรยากาศการเตรียมความพร้อมการทำประชามติของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตลอดทั้งวัน ได้มีการจัดเตรียมพื้นที่บริเวณลานชั้น 2 ของสำนักงานจัดเตรียมพื้นที่แถลงข่าว รวมทั้งจุดอำนวยความสะดวกให้แก่สื่อมวลชน ที่จะมาเกาะติดการออกเสียงประชามติ รวมถึงการเตรียมความพร้อมการรายงานผลประชามติ ติดตั้งจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ 2 จอ ที่จะเป็นการแสดงผลคะแนนแบบเรียลไทม์ รายภาค รายจังหวัด และกราฟฟิกวงกลมรูปโดนัท ที่จะใช้สีส้มบอกคะแนนไม่เห็นชอบ และสีน้ำเงินบอกคะแนนเห็นชอบ ทั้งประเด็นร่างรัฐธรรมนูญ และคำถามพ่วง โดยในการแถลงข่าวของนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งในช่วงบ่ายวันเดียวกันมีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศจำนวนมากมารอทำข่าวอย่างคึกคัก,เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย นำกล่องพลาสติกขนาดใกล้เคียงกับหีบบัตรลงคะแนนประชามติของ กกต. มามอบให้นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.ผ่านเจ้าหน้าที่ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบราคาที่ กกต.จัดซื้อ เนื่องจากกล่องที่มีขนาดและคุณสมบัติใกล้เคียงกันซื้อได้ในราคาขายปลีก ใบละ 215 บาท พร้อมตั้งข้อสังเกตการจัดซื้อหีบบัตรลงคะแนนประชามติของ กกต.เพียง 5 หมื่นใบ แต่มีหน่วยลงคะแนนมีกว่า 9 หมื่นหน่วย จึงขอให้ กกต.ชี้แจงด้วยว่าจะใช้หีบบัตรลงคะแนนแบบใด นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ สตง. และ ป.ป.ช.เข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย,ต่อเวลา 14.00 น. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง แถลงเตือนประชาชนให้ระมัดระวังสิ่งที่ต้องพึงระวังในช่วงวันออกเสียงประชามติว่า ต้องไม่มีการแจกจ่ายสุราตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 6 ส.ค. ถึงเวลา 24.00 น. วันที่ 7 ส.ค.ทั่วราชอาณาจักร ขณะเดียวกันการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 6 ส.ค. จนถึงเวลา 16.00 น. ของวันที่ 7 ส.ค.ขอความร่วมมือให้นำเสนอเรื่องการรณรงค์การออกเสียงประชามติเป็นหลัก หลีกเลี่ยงการวิพากษ์ วิจารณ์ว่าร่างรัฐธรรมนูญดีหรือไม่ดีอย่างไร หรือควรรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง ขอความร่วมมือผู้ทำกิจกรรมและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่รณรงค์รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ขอให้ยุติการจัดรายการ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 6 ส.ค. เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารด้วยตัวเอง แม้ไม่มีข้อห้ามตามกฎหมาย แต่ก็มีความสุ่มเสี่ยง กลายเป็นความผิดได้ จึงขอร้องให้ทั้ง 2 ท่านยุติ,นายสมชัยกล่าวต่อว่า ส่วนประชาชนไม่ห้ามใส่เสื้อที่มีข้อความ yes หรือ no รับหรือไม่รับ เห็นชอบ-ไม่เห็นชอบ แต่ขอความร่วมมือ ไม่จำเป็นไม่ควรใส่เสื้อที่มีข้อความแสดงจุดยืนออกมาใช้สิทธิ เพราะหากเกิดความวุ่นวาย เช่น การโต้เถียง ชกต่อยจะกลายเป็นประเด็นก่อความวุ่นวาย เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 61 (1) สำหรับการถ่ายภาพ ทำนอกหน่วยได้ แต่ขอให้สังเกตอาณาเขตพื้นที่ลงคะแนน จะมีเชือกกั้นแถบสีเหลือง รวมทั้งห้ามถ่ายภาพการลงคะแนน ห้ามเซลฟี่ในหน่วย เพราะจะผิดกฎหมายอาญาชัดเจน มีโทษจำคุก ส่วนการถ่ายภาพผลการนับคะแนนทำได้ โดยขอให้ประชาชนช่วยกันถ่ายภาพผลการนับคะแนนโพสต์ลงเฟซบุ๊ก แล้วติด #ผลประชามติ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และองค์กรต่างๆ ตรวจสอบว่าคะแนนตรงกับที่ กกต.รายงานหรือไม่,นายสมชัยกล่าวว่า สำหรับการรายงานผลอย่างไม่เป็นทางการ จะไม่สามารถนำไปอ้างอิงได้ เพียงแต่บอกแนวโน้มที่ กกต.คาดการณ์ว่า ภายในเวลา 21.00 น. วันที่ 7 ส.ค. จะทราบผลร้อยละ 95 และถ้าหากผลคะแนนห่างกันเกินกว่า 1 ล้านคะแนน ค่อนข้างมั่นใจว่าผลคะแนนอย่างเป็นทางการไม่น่าพลิกไปจากนี้ แต่ถ้าห่างกัน 6-7 แสนคะแนน ทำให้คะแนน 5 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือจะมีความหมายอย่างยิ่ง เพราะชนะวันนี้อาจจะแพ้ในอีก 3 วัน ซึ่งเป็นวันประกาศผลคะแนนอย่างเป็นทางการ กกต.จะมีการประกาศผลเป็นทางการเพียงครั้งเดียวไม่มีการประกาศซ้ำหลายครั้งเหมือนสมัยรุ่นพี่ที่ทำมา เมื่อตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว กกต.จะลงนามทั้ง 5 คนเพื่อส่งนายกรัฐมนตรีดำเนินการตามสมควรต่อไป,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชัยยังได้สอบถามถึงกล่องพลาสติกที่นายเรืองไกรนำมามอบให้ กกต.ทดแทนหีบบัตรที่นายสมชัยทำแตกว่า อยู่ที่ไหนตนอยากเห็นจะได้นำมาทุ่ม ไม่ทราบว่าหีบบัตรประชามติที่ กกต.ซื้อสูงกว่าราคาตลาดหรือไม่ เพราะการจัดซื้อเป็นเรื่องสำนักงานจากการประกวดราคาตามปกติ แต่ยืนยันว่าทุกหน่วยมีหีบบัตรเพียงพอแน่นอน ส่วนใครที่บอกว่าหีบกระดาษทนทานกว่าขอให้มาแถลงข่าวพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม กังวลว่าจะเกิดเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในคืนวันที่ 6 ส.ค. ขนาดวันที่ตนไปจัดบิ๊กเดย์ที่ จ.ปัตตานี ยังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ 2 จุด,ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 09.30 น. ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (ร.ร.นายร้อย จปร.) เขาชะโงก จ.นครนายก พล.อ.หญิง สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเป็นองค์ประธานในพิธีวันคล้ายวันกำเนิดโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าครบ 129 ปี พร้อมทรงวางพานพุ่มและจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ณ ศาลาวงกลม ก่อนเสด็จเข้าหอประชุมโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เป็นประธานพิธีถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์ 10 รูป โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม และนายทหารชั้นผู้ใหญ่เฝ้ารับเสด็จ ก่อนหน้านั้นตั้งแต่ช่วงเช้า มีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ศิษย์เก่า ร.ร.นายร้อย จปร.วางพานพุ่มถวายสักการะพระบรมรูป ร.5 มีบุคคลสำคัญเข้าร่วมโดยพร้อมเพรียง อาทิ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ.,ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนเป็นศิษย์เก่าที่นี่ และเคยเป็นทหารใส่เครื่องแบบทหารนอกราชการมาใน 2 สถานะคือ ตำแหน่งนายกฯและในฐานะศิษย์เก่า อยากพูดในฐานะหัวหน้า คสช.ว่าเราเข้ามาเพื่อทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยมากขึ้นจนมีเสถียรภาพ เพื่อเดินหน้าประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่เป็นสากล ประเทศมีบทเรียนที่จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนและมีรัฐธรรมนูญ รัฐบาลและ คสช.เดินหน้ามาโดยลำดับทุกอย่างก้าวหน้า แต่ปัญหาความขัดแย้งยังมีอยู่ รัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ผ่านมาก็มีทั้งดี ดีมากและดีน้อย แต่ไม่มีรัฐธรรมนูญ ฉบับไหนถูกใจคนได้ 100% คงเป็นไปได้ยาก ที่ผ่านมาเราพยายามเดินหน้าปฏิรูปให้ได้ รัฐบาลไม่ต้องการสืบทอดอำนาจ ตนพูดเสมอว่าเราจะต้องเลือกตั้งปี 2560 เพราะเป็นสัญญาที่ให้ไว้ทั้งในและต่างประเทศ จะเข้าไปสู่กระบวนการเหล่านั้นได้คือการร่างรัฐธรรมนูญ แต่ก็มีปัญหาเกิดขึ้นมาอีก อยากให้เข้าใจว่าเราต้องการเดินหน้าประเทศ ทำอย่างไรให้ประเทศชาติมีเสถียรภาพอีกอย่างน้อย 5 ปี,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ไม่อยากให้มองว่า การร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นการร่างโดยทหาร แต่เป็นการร่างโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ทหารเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการจัดกระบวนการให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญ โดยนำเอาพื้นฐานของเดิม ปัจจุบันและอนาคตมาใส่ไว้ ถ้าไม่ทำแบบนี้ทุกอย่างจะเป็นแบบเดิม จำเป็นต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมาให้ได้ เพื่อให้ทันตามโรดแม็ปที่ประกาศไว้ ยืนยันว่า ประชาชนมีส่วนร่วมตามขั้นตอนอยู่แล้ว มีเพียงบางพวกเท่านั้นที่ไม่ให้ความร่วมมือ ไปบังคับไม่ได้ ส่วนการทำประชามติถ้าคิดว่าเป็นการสืบทอดอำนาจ ตนไม่จำเป็นต้องไปประกาศไว้แบบนั้นทั้งให้มีการเลือกตั้งและการทำประชามติ เพราะรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) กำหนดไว้ชัดเจน สิ่งที่จะเกิดขึ้น 2 วันข้างหน้านี้ถือเป็นอนาคตของประเทศ อย่าให้ใครมาบิดเบือนหรือชี้นำในทางที่ไม่ถูกต้อง ขอให้ประชาชน อดทนสักระยะหนึ่ง อย่าขัดแย้งกันด้วยเรื่องการลงประชามติ,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า หลายท่านถามมาหลายครั้งแล้วว่ามีความคิดเห็นอย่างไร กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ขอตอบในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ได้ปรึกษาฝ่ายกฎหมายมาแล้ว ขอยืนยันว่าไม่ใช่การชี้นำ ส่วนตัวจะไปร่วมลงประชามติและจะลงเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงคำถามพ่วงประชามติ เพราะถ้าเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งก็ไปไม่ได้ทุกอย่างจะกลับไปที่เดิม ที่สำคัญต้องใช้เวลาที่เหลือร่างกฎ– หมายลูก ยังมีอีกหลายขั้นทั้งการออก พ.ร.บ.กฎกระทรวง ระเบียบสำนักนายกฯ รวมถึงระเบียบอื่นที่เกี่ยวพันเชื่อมโยง เราอย่ามาทะเลาะเรื่องรัฐธรรมนูญกันอีกเลย ขอให้ดูพิจารณาให้ดี ในส่วนของตนได้ผ่านการพิจารณาด้วยตัวเองแล้ว และก็รับได้ ไม่ถือว่าโน้มน้าวชักชวน แล้วแต่ประชาชนตัดสินใจ อย่ามาว่าตนเพราะเปิดทุกอย่างให้แล้ว ถ้าจะเป็นเผด็จการอย่างที่หลายคนว่ามา ไม่จำเป็นต้องให้มีการลงประชามติ และไม่ต้องประกาศให้มีการเลือกตั้งในปี 60 อยากให้ทุกคนมองกันตรงนั้น,เมื่อถามว่า ขณะนี้ประเทศไทยพร้อมจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พร้อมหรือไม่พร้อมอยู่ที่ตัวเรา คนไทยทั้ง 67 ล้านคน ไม่ใช่คนอื่น ไม่ใช่ต่างประเทศ เพราะไม่ได้มาร่วมชะตากรรมและมาลำบากกันในวันนี้ สิ่งที่ขอร้องคืออยากให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพความมั่นคง ส่วนที่เคยระบุว่าไม่ให้กลัวผีที่มองไม่เห็นนั้น เพราะหลายคนไปวาดภาพไว้ เป็นเพียงคำเปรียบเทียบในส่วนที่มองไม่เห็น เรื่อง คสช.จะสืบทอดอำนาจ ในอดีตมีผีอยู่เหมือนกัน จะต้องทำอย่างไรให้มีคาถาป้องกันผีให้ได้ คล้ายกับการไปเลือกตั้งจะต้องมีรัฐธรรมนูญให้ได้ รัฐธรรมนูญเปรียบเสมือนยันต์กันผี และทำอย่างไรให้คนดีอยู่ได้ โดยไม่ต้องหวาดกลัว ทุกอย่างจะเริ่มต้นได้ต้องมีรัฐธรรมนูญที่เหมาะสม ถ้าใช้แบบเดิมก็กลับไปที่เก่า,เมื่อถามอีกว่ามีคนสงสัยว่าถ้าร่างรัฐธรรมนูญผ่านแล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะไปไหน นายกฯกล่าวว่า ไม่รู้เหมือนกัน ควรจะกลับบ้าน ไม่อยากให้ไปคิดตรงนั้น คืออย่าไปกลัวผีที่มองไม่เห็น ตนก็ยังอยู่แต่เป็นเรื่องของกระบวนการต่อไป อย่ามากังวลกับตน ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็เป็นคนไทยและไม่ทำลายประเทศไทย,ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงช่วงเวลาที่จะออกไปใช้สิทธิลงประชามติว่า พวกเธอคนละเขตกับฉัน ไม่เกี่ยวกับฉัน เมื่อถามย้ำว่า นายกฯจะออกมาใช้สิทธิกี่โมง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า แล้วพวกคุณจะมากันกี่โมง พวกคุณตื่นกันกี่โมง ตี 4 ไหมล่ะ เธออย่ามาบังคับฉัน เธอต้องให้ฉันไปใช้สิทธิก่อน แล้วพวกเธอค่อยไปใช้สิทธิของพวกเธอ ฉันจะไปลงประชามติประมาณ 8-9 โมงเช้า เมื่อถามว่า ยังมีคัมภีร์กันผีอื่นอีกหรือไม่ หลังบอกอย่าเพิ่งกลัวผีที่ยังมองไม่เห็นตัวในการทำประชามติ และขอให้คนไทยช่วยกันร่ายคาถาป้องกันผีในอนาคตให้ได้ นายกฯตอบว่า อย่าไปกลัวผี มองผีตัวเดิมก่อน อย่าไปกลัวผีที่มองไม่เห็น ส่วนผมมีพระจะกลัวอะไร ทำตัวเองให้ดีแล้วกัน,เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.กล่าวผ่านรายการคืนความสุขให้คนในชาติตอนหนึ่งว่า วันที่ 7 ส.ค.นี้ เป็นวันออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเครื่องมือนำไปสู่การเลือกตั้ง การจัดตั้งรัฐบาล ถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญก็ยังไม่อาจจัดการเลือกตั้งได้ ขอเชิญชวนพี่น้องทุกท่านที่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปออกไปใช้สิทธิให้ถล่มทลายไปให้มากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ชาติไทย ขอร้องท่านไปให้เต็ม ไม่ต้องกลัว,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แต่ใครก็ตามที่ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย อลหม่าน เกิดการบาดเจ็บสูญเสีย จะลงโทษอย่างเด็ดขาด อย่าให้โอกาสนี้เป็นประเด็นความขัดแย้งขึ้นมาใหม่ เป็นวิกฤตการณ์ทำร้ายประเทศ ถ้า ผ่าน จะมีการประกาศใช้จัดทำกฎหมายที่จำเป็นต่อการเลือกตั้ง แล้วจัดให้มีการเลือกตั้งตามโรดแม็ป ภายในปี 60 ถ้า ไม่ผ่าน เรายังมีความจำเป็นต้องจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อยู่ดีจะต้องทำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไม่ให้กระทบกับโรดแม็ป หลายคนจับจ้อง ถ้าตรงนี้มันไปไม่ได้ท้ายสุดต้องกดดันรัฐบาล คสช.อยู่ดี,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้วิตกกังวลกับสถานการณ์ ประเทศชาติจะเปลี่ยนแปลงด้วยความขัดแย้งโดยการลงประชามติไม่ได้ ตนไม่ยอมอยู่แล้ว ประโยชน์ของบ้านเมืองต้องมาก่อนประโยชน์ส่วนบุคคล ไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน คงต้องรักษาคำพูด จะอยู่เคียงคู่พี่น้องประชาชนต่อไปเท่าที่เวลาเปิดโอกาสให้ทำ เพื่อจะดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ตราบจนกระทั่งส่งต่อภารกิจให้รัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้งได้เรียบร้อย โดยไม่มีการสืบทอดอำนาจ จะไม่ยอมให้ผู้ใดก่อความเดือดร้อนวุ่นวาย ฉวยโอกาสทำผิดกฎหมาย สร้างความขัดแย้งหรือขัดขวางการพัฒนาและการปฏิรูปประเทศเป็นอันขาด เมื่อผลการออกเสียงประชามติปรากฏชัดเจนไม่ว่าจะเป็นประการใด คสช.และรัฐบาลจะได้ชี้แจงแนวทางปฏิบัติให้ทราบ จะได้คลายกังวลผ่านทางสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ส่วนตัวคิดเหมือนกับนายกฯ ไม่ได้ขัดแย้งกัน เคยเห็นตนขัดแย้งกับนายกฯหรือไม่ เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯออกมาระบุว่าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่ไร้ประโยชน์ และสืบทอดอำนาจให้ คสช. พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเพียงความคิดของนายทักษิณ ที่ไม่มีสิทธิลงประชามติ พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ สำหรับกรณีกลุ่ม นปช.ให้ประชาชนเป็นสายสืบประชาธิปไตยไปสังเกตการณ์ทุกหน่วยลงประชามตินั้น ไปสืบได้เลย เราทำชัดเจนไม่มีปัญหาอยู่แล้ว กระทรวงมหาดไทยได้ตั้งศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย คสช. และเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมดำเนินการ ในภาพรวมของทั้งประเทศ ขอให้ไว้ใจได้ว่าจะไม่มีการทุจริต คิดว่าไม่รู้จะทำไปทำไม,พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า มั่นใจว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะเรียบร้อย แต่จะติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด วันที่ 7 ส.ค.ส่วนกลางจะตั้งศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตาม พ.ร.บ.ประชามติที่ห้องประชุมชั้น 5 กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย,วันเดียวกัน นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ส่งหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดว่า ด้วยปรากฏว่ายังคงมีการปล่อยข่าวลือข่าวลวงบิดเบือนข้อเท็จจริงว่า หากการลงประชามติผ่านไปได้จะมีการปฏิรูปหรือลดทอนอำนาจหน่วยราชการหรือยุบเลิก อปท.หรือยกเลิกโครงการกองทุนต่างๆ ของรัฐรวมทั้งโครงการสวัสดิการด้านที่อยู่อาศัย สร้างความสับสนและความไม่มั่นใจ ขอให้ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหาร อปท.ชี้แจงข้อเท็จจริงผ่านสื่อทุกช่องทางในพื้นที่โดยเน้นย้ำบ่อยๆจนถึงเวลา 18.00 น.วันที่ 6 ส.ค.,นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ หลังวันที่ 7 ส.ค.รัฐบาลจะหารือแนวทางที่จะดำเนินการต่อไป หากร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงผ่าน คสช.จะไม่อยู่ต่ออีก 5 ปี คสช.และ ครม.จะสิ้นสุดลงเมื่อเลือกตั้งมีรัฐบาลใหม่ ต้องเตรียมสังคายนาคำสั่ง คสช.ทั้งหลายตั้งแต่รัฐธรรมนูญผ่าน ส่วน สปท.ต้องสลายตัวไปภายใน 4-5 เดือน หากร่างรัฐธรรมนูญผ่าน สนช.จะอยู่จนถึงมีการเลือกตั้ง ไม่มีการแปรสภาพเป็น ส.ว.แน่นอน เนื่องจาก สนช.ส่วนใหญ่เป็นข้า-ราชการ อีกทั้ง ส.ว.ต้องคัดคนที่เหมาะสมอีกแบบหนึ่ง ไม่เหมือน สนช. แต่ถ้ารัฐธรรมนูญไม่ผ่าน ความยุ่งยากเรื่องธุรการขั้นตอนต่างๆจะมากขึ้น เพราะต้องร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะหาใครมาร่าง จะร่างโดยวิธีใด ใช้เวลาเท่าไร เมื่อถามว่าจะรับร่างเองหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า หากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ที่ประชุมร่วม ครม.-คสช.จะหาคนมาร่างแทนจนได้ แต่ส่วนตัวเขียนนิยายเก่งกว่าเขียนรัฐธรรมนูญ,เมื่อเวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นำโดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. พร้อมคณะทั้ง 21 คน ได้พบสื่อมวลชนพร้อมตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญเป็นนัดสุดท้ายก่อนลงประชามติ โดยนายมีชัย ได้ตอบคำถามตอนหนึ่งถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. แสดงความเห็นรับร่างรัฐธรรมนูญเป็นสัญญาณบวกหรือไม่ว่า บวก บวก บวก แบบ อินฟินิตี้ ทำให้อุ่นใจหมดความกังวลใจว่าไม่มีใครที่บิดเบือน เพราะมีคนไปบิดเบือนว่านายกฯสั่ง สนช. ให้ไม่รับร่างฯ การที่นายกฯออกมาพูดก็ดี อย่างน้อยงานที่ กรธ.ทำให้เรามีกำลังใจขึ้นมาแปลว่ามันใช้ได้ เมื่อถามอีกว่าจะเป็นการส่งสัญญาณไปถึงแฟนคลับทางการเมืองของลุงตู่ด้วยหรือไม่ นายมีชัยไม่ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้มและพยักหน้า,นายมีชัยกล่าวว่า หากร่างรัฐธรรมนูญถูกคว่ำตนไม่รู้สึกอะไร เราทำดีที่สุดตามหน้าที่ หากไม่ทำถึงจะรู้สึกเสียใจ จะรับหรือไม่รับเป็นสิทธิ หากร่างถูกคว่ำตนคงไม่ควรกลับมาร่างรัฐธรรมนูญอีกแล้ว เมื่อถามว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ระบุว่า ไม่กกต.ก็ กรธ.จะเป็นแพะหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน นายมีชัยกล่าวว่า เวลาที่คุณจะเป็นแพะคาดการณ์อะไรไม่ได้หรอก บทจะเป็นแพะก็ต้องเป็น โทษกันไปโทษกันมา หลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงอย่าไปคาดการณ์มัน แต่หากร่างรัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น คือ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างและการปฏิรูปสิ่งต่างๆ จะนำไปสู่วิถีชีวิตที่ดี ประชาชนจะมีส่วนร่วมกับโครงสร้างทางการเมืองมากขึ้น,เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.ว่า การลงประชามติครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา จะนับคะแนนเฉพาะคนที่มาใช้สิทธิเท่านั้นว่า จะเลือกอนาคตประเทศให้ไปทางใด อยากให้ทุกคนทำเต็มที่จะได้ไม่เสียใจกับผลที่ออกมา เชื่อว่าทุกคนห่วงในเรื่องความโปร่งใสการทำประชามติในครั้งนี้ เพราะเป็นการตัดสินใจอนาคตของประเทศ อยากให้ประชาชนพิจารณาเนื้อหาทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อใช้วิจารณญาณได้อย่างเต็มที่ และไม่ขอแสดงความเห็นหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ขอให้ผลลงคะแนนออกมาก่อน ทุกคนต้องช่วยกันทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ หากทุกคนใช้สิทธิเต็มที่ จะได้ผลที่สะท้อนความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง หากมาใช้สิทธิน้อยผลที่ได้จะไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการในหลักของประชาธิปไตย,ด้านนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ โพสต์เฟซบุ๊กเลิกหากินกับทักษิณได้แล้วว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ออกมาใส่ร้ายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพราะมันคือไพ่สุดท้ายของนายสุเทพคือ เอานายทักษิณออกมาหากิน นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ถ่ายทอดมุมมองนายทักษิณ ถึงหลักการที่ดีของรัฐธรรมนูญ 6 ข้อ เปรียบเทียบกับหลักการในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ไม่มีตอนใดเลยที่แสดงความเห็นว่าควรรับหรือไม่อย่างไร นายสุเทพยังมุสาต่อไปอีกว่านายทักษิณส่งสัญญาณให้พวกตนคว่ำร่างฯ ส่วนคนที่ออกมาพูดว่าหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ จะมีคนออกมาไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ทำให้ไม่มีความชอบธรรมที่จะอยู่ต่อไปคือนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ไปบรรยายให้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ขณะที่นายสุเทพใช้วิธีสกปรกออกมาบิดเบือนใส่ร้ายนายทักษิณ ส่วนนายมีชัยใช้วิธีสร้างความหวาดกลัวให้ประชาชน เพื่อต้องการให้ร่างฯผ่าน ทั้งสองคนให้การสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์หัวหน้าเผด็จการ ที่ชอบอ้างตัวเป็นคนดี แต่หนีการตรวจสอบ พฤติกรรมของทั้งสามคนจึงไร้คุณค่าทางการเมือง บาลีเรียกว่าโมฆบุรุษทางการเมืองเทียบไม่ได้กับนิสิตหญิงที่กล้าหาญต่อสู้กับเผด็จการ,นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่พูดทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าคิดอย่างไรกับร่างรัฐธรรมนูญ แต่คงเป็นเพราะโค้งสุดท้ายมีแนวโน้มว่าฝ่ายไม่รับร่างมีน้ำหนักมากกว่า แค่ลุงกำนันออกมาห้อยนกหวีดยังไม่พอ ลุงตู่จึงต้องแต่งเครื่องแบบทหารออกมาประกาศรับร่างด้วย เท่ากับออกใบเสร็จว่า ทั้งตัวร่างและคำถามพ่วงตรงเป๊ะตามใจแป๊ะ ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัว พล.อ.ประยุทธ์คือผู้ได้ประโยชน์โดยตรงสูงสุดจากร่างนี้ ทั้งคงอำนาจมาตรา 44 จนกว่าจะมี ครม.เลือกตั้ง นิรโทษกรรมทุกอย่างไม่ต้องรับผิดชอบอะไร มีอำนาจแต่งตั้งส.ว.250 คน และมีโอกาสเป็นนายกฯคนนอกต้องพูดว่านายกฯ รับร่างเพราะตัวเองได้ประโยชน์ ถ้าผู้มีอำนาจสูงสุดแสดงออกแบบนี้ จะมีหลักประกันเรื่องความเป็นกลางของเจ้าหน้าที่รัฐได้อย่างไร,นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศจะลงเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง คงเป็นเพราะกลัวแพ้ ทั้งที่มันไม่เหมาะที่นายกฯและหัวหน้าคสช.ที่มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงกับร่างรัฐธรรมนูญ จะประกาศแบบนี้ ถ้าร่างนี้ผ่านผู้ได้ประโยชน์มากที่สุดในประเทศไทยคือ พล.อ.ประยุทธ์ คสช.จะมีอำนาจเต็มและอ้างความชอบธรรมได้ว่าประชาชนเห็นชอบแล้ว ทำอะไรได้อีกมาก มีภูมิต้านทานจากกฎหมาย ไม่ต้องรับโทษใดๆ แม้ทุจริตคอร์รัปชันก็ตาม หลังเลือกตั้งยังมีอิทธิพลตั้ง ส.ว.250 คน มาเลือกนายกฯ กำหนดแผนปฏิรูป และยุทธศาสตร์ชาติ พูดได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะมีบทบาทสืบทอดกำกับการ บริหารประเทศไปอีกนาน อยู่ที่ประชาชนว่าจะยอมให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีบทบาทบริหารประเทศไปอีกยาวนานหรือไม่,นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนไปใช้สิทธิในการลงประชามติในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ไม่ว่าท่านจะคิดหรือมีความเห็นอย่างไร พึงพอใจกับกระบวนการประชามติหรือไม่ เพราะในที่สุดผลการลงคะแนนในวันที่ 7 ส.ค.จะผูกพันทุกคนในการกำหนดกฎหมายสูงสุดของประเทศ ขอขอบคุณรัฐบาลและ คสช.ที่ยืนยันว่าไม่ว่าผลของการลงคะแนนจะเป็นอย่างไร จะเดินหน้าประเทศตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวและโรดแม็ป และมั่นใจว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศจะไม่ยอมให้คนกลุ่มเล็กๆที่ต้องการเห็นความวุ่นวายในบ้านเมืองไม่ว่ารัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติหรือไม่ ประสบความสำเร็จในการสร้างความปั่นป่วน การตัดสินใจในการลงประชามติจะได้อยู่บนพื้นฐานของเนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญ,นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ ระบุจะไปลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงในฐานะคนไทยว่า อาจมองได้ว่าเป็นการชี้นำโน้มน้าวอย่างเห็นได้ชัด เพราะพูดในชุดข้าราชการ และเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นเจ้าของอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ตามมาตรา 44 เพียงผู้เดียว พูดเสียงดังฟังชัดขนาดนี้ ย่อมส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้ใต้บังคับบัญชา อาจมีผู้นำไปร้องเรียน กกต.ว่าเป็นเหตุให้การออกเสียงประชามติไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ก็ได้ ยิ่งบอกว่าถ้าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ประเทศจะเข้าสู่วังวนเดิม ดูเสมือนคล้ายข่มขู่สังคมหรือไม่ การพูดเช่นนี้สุ่มเสี่ยงว่าทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฯ มาตรา 56 และมาตรา 61 (3) หรือไม่ เพราะข้าราชการทุกคนต้องวางตัวเป็นกลาง จะชี้นำไม่ได้เป็นอันขาด มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี,นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ตอนหนึ่งว่า การที่ฝ่ายระบอบทักษิณนำโดยนายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯประกาศคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ และขับไล่ คสช. ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับปราบโกง กีดกัดคนโกงกลับเข้ามาเป็นนักการเมือง หากผ่านประชามติ การเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น พรรคการเมืองจะต้องเป็นพรรคการเมืองของประชาชน ไม่ใช่พรรคการเมืองของนายทุนหรือครอบครัวหรือตระกูลใดตระกูลหนึ่งอีกต่อไป ส่วนการบริหารราชการแผ่นดินต้องทำตามหลักธรรมาภิบาล เปิดเผยต่อประชาชน การโยกย้ายแต่งตั้งไม่ใช้เส้นสายอิทธิพลอีกต่อไป นักการเมืองจะไม่สามารถมีอิทธิพลเหนือข้าราชการ เหนือระบบราชการ ไม่สามารถใช้อิทธิพลแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ สมคบกับข้าราชการที่เป็นสมุนบริวารได้อีกต่อไป ตัดทางทำมาหากินของนักการเมืองเลว จึงไม่ต้องแปลกใจฝ่ายระบอบทักษิณสมุนบริวารต้องทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านประชามติ,เวลา 15.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ นำตัวนางเนติธัช อภิรติมัย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 ถนนสนามบินเก่า ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ เทศบาลตำบลช้างเผือก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหารเลขที่ 45/2559 ในข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ส่งมอบให้ ร.ต.อ.ธิติ เปฏะพันธุ์ รอง สว. (สอบสวน) กก. 1 บก.ป. เพื่อลงบันทึกประจำวันตามขั้นตอนหลังคุมตัวครบ 7 วัน ก่อนประสาน พ.ต.อ.อรรคเดช เตจ๊ะราษฎร์ ผกก.สอบสวนกลุ่มงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ รับตัวไปดำเนินคดี,ทั้งนี้มีรายงานว่าจากการสืบสวนทราบว่า นางเนติธัช เป็นผู้ต้องหาที่เกี่ยวโยงกระทำความผิดเผยแพร่จดหมายส่งไปรษณีย์ในหลายพื้นที่ในภาคเหนือ มีเนื้อหาในลักษณะบิดเบือนร่าง รธน. โดยกระทำการร่วมกับนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายก อบจ.เชียงใหม่ ทั้งนี้นางเนติธัชได้ทำจดหมายขึ้นมา 7,562 ฉบับ ขณะเดียวกันแนวทางการสืบสวนพบความสัมพันธ์ว่านางเนติธัชนั้นสนิทสนมกับนายคเชน เจียกขจร นายกเทศมนตรีตำบลช้างเผือก โดยทำหน้าที่เป็นเลขานุการของนายคเชน,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.อรรคเดช เตจ๊ะราษฎร์ ผกก. (กลุ่มงานสอบสวน) บก.ภ.จ.เชียงใหม่ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ให้ดำเนินคดีนางจิราภรณ์ ฉายแสง ภรรยานายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ ในข้อหาช่วยเหลือผู้อื่นกระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษโดยให้ที่พำนักโดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยกระทำการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม โดยนางจิราภรณ์ต้องสงสัยมีส่วนร่วมในการช่วยซ่อนเร้นแก่นายวิศรุต คุณะ-นิติสาร ผู้ต้องหากระทำความผิด พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่หลบหนีคดีที่มีการนำจดหมายบิดเบือนแจกจ่ายทางไปรษณีย์จำนวนมากใน จ.เชียงใหม่ โดยพาไปฝากที่วัดสระเกศวรมหาวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม.,อีกเรื่อง เมื่อเวลา 08.00 น. วันเดียวกัน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี และทีมทนาย เดินทางไปขึ้นศาล ซึ่งศาลนัดไต่สวนพยานจำเลยปากแรกฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ละเลยไม่ยับยั้งความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว โดยมีบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีต ส.ส. อาทิ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว. ศึกษาธิการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และมวลชนจำนวนมากมอบดอกไม้ให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง ของเธอ และเพลง แสงดาวแห่งศรัทธา ตะโกนเชียร์ยิ่งลักษณ์สู้ๆ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของกำลังตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย,น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นสืบพยานว่า มั่นใจในการนำเสนอพยานเอกสาร และพยานบุคคลต่อสู้คดีโดยจะทำให้เต็มที่เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้ทำอะไรผิดตามที่มีการกล่าวอ้าง ส่วนการเรียกค่า เสียหายทางละเมิดจริงๆแล้วต้องให้คดีอาญาเสร็จสิ้นก่อน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เอกสารที่ตนได้ร้องขอความเป็นธรรมกับคณะกรรมการความรับผิดทางละเมิดไม่ได้ถูกนำมาพิจารณา และการฟ้องร้องค่า เสียหายต่างๆนั้น ตนได้พ้นจากภารกิจหลังปฏิวัติแล้วช่วงนั้นไม่ได้ดูแลรับผิดชอบ จึงต้องขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ด้วย ยืนยันโครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่มีประโยชน์และเราต้องการช่วยเหลือชาวนาอย่างแท้จริง,จากนั้นเวลา 09.30 น. ศาลเริ่มการไต่สวน โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเพื่อแถลงเปิดคดีตามเอกสารเพาเวอร์พอยต์ที่จัดเตรียมไว้ สรุปประเด็นสำคัญ 6 ข้อ ให้องค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คนพิจารณา ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยืนยันว่าปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โครงการรับจำนำข้าวเป็นนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐเมื่อแถลงนโยบายต่อสภา ย่อมมีผลผูกพันที่ ครม.ต้องปฏิบัติ ให้ความคุ้มค่า ไม่ได้มุ่งแสวงหาผลกำไร หากจะคิดเพียงกำไร-ขาดทุน ทุกโครงการก็มีผลขาดทุนหมดต้องทำเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ยกระดับข้าวไทย ส่วนที่กำหนดราคารับจำนำ 15,000-20,000/ตัน เพื่อให้มีรายได้เทียบเท่ารายได้ขั้นต่ำวันละ 300 บาท รับจำนำข้าวทุกเมล็ดก็เพื่อให้สิทธิชาวนาทุกรายไม่เลือกปฏิบัติ ข้อกล่าวหาว่าบิดเบือนกลไกตลาดนั้นไม่เป็นความจริง เพราะปีแรกมีเกษตรกรเข้าสู่โครงการ 58% ปีถัดมายังมีถึง 50% ดังนั้น จำนวนข้าวอีกครึ่งพ่อค้าคนกลางสามารถซื้อจากเกษตรกรได้ตามปกติ,น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า การระบายข้าวอ้างอิงจากราคาตลาดโลกในการส่งออกและตามรายงานศึกษาของหน่วยงานทั้งไทย-ต่างประเทศ ระบุว่ามีความคุ้มค่า ชาวนามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นและหนี้ลดลง ดังนั้นการที่ ป.ป.ช.นำรายงานของอนุกรรมการปิดบัญชีระบุว่าโครงการได้รับความเสียหายจึงไม่ถูกต้อง เพราะไม่ได้มีหน้าที่ประเมินความคุ้มค่า ยิ่งไปกว่านั้น ป.ป.ช.กล่าวหาตนทราบเรื่องปิดบัญชีแล้วแต่ไม่ยกเลิกโครงการนั้นไม่สมเหตุสมผล โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีต รมว.คลัง ยืนยันกับตนว่า โครงการไม่มีความเสียหายยังอยู่ในกรอบการเงินการคลัง และมีประโยชน์โดยรวม ที่ ป.ป.ช.กล่าวหาตนนั้นยังไม่มีพยานชัดเจนว่า มีความเสียหายในพื้นที่ไหน และมีใครเป็นผู้กระทำผิด โครงการจำนำข้าวมีการป้องกันความเสียหายด้านการคลังและงบประมาณอย่างเคร่งครัด มติ ครม.กำหนดวงเงินหมุนเวียนไม่เกิน 500,000 ล้านบาท และเงินกู้ไม่เกิน 20% ทำประกันภัยข้าว ตนจึงไม่ได้ละเว้นเพิกเฉยให้เกิดความเสียหาย ตนไม่เคยละเลยการตรวจสอบจำนวนข้าวแต่ทำหน้าที่เป็นไปตามกรอบ,น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า การระบายข้าวแบบจีทูจี ตนตั้งคณะอนุกรรมการมาไต่สวนและมีการปรับ ครม. แทนที่ ป.ป.ช.จะเร่งรีบไต่สวนของนายบุญทรง ในฐานะผู้ปฏิบัติงาน กลับกล่าวหาตนก่อนในฐานะผู้ให้นโยบายเป็นการเลือกปฏิบัติไม่เป็นธรรม การแจ้งข้อกล่าวหากับการไต่สวนของ ป.ป.ช.มีเอกสารเพียง 49 แผ่น ไม่มีหลักฐานว่าตนกระทำการไม่ชอบหรือทุจริต สรุปสำนวน 2 เดือนเศษ แต่โครงการอื่นใช้เวลา 5 ปี ขณะที่คดีนายบุญทรง ใช้เวลา 8เดือนเศษหลังจากสรุปสำนวนตน เป็นการเร่งรัดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รวมทั้งนำเอกสารที่มีเพิ่มอีก 60,000 แผ่นที่ไม่ได้ไต่สวนชั้น ป.ป.ช.มาปรักปรำกับที่จะมีการส่งเอกสารละเมิดคดีแพ่งทั้งที่คดีอาญายังไม่มีข้อยุติ พยานโจทก์และ ป.ป.ช.มีแต่ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อโครงการจำนำข้าว และโจทก์ยังนำหลักคิดกำไร-ขาดทุนมาประเมินกับโครงการรัฐที่ช่วยเหลือโดยไม่ยึดความคุ้มค่า อีกทั้งพยานโจทก์ยังให้การแตกต่างและขัดแย้งกันเองกับเอกสาร ส่วนปัญหาข้าวสารถุงได้มอบหมายนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรง-ไพศาล รมว.พาณิชย์ ตรวจสอบแล้วในที่สุดมีการยกเลิก ทั้งนี้ตนยืนยันไม่ได้เพิกเฉยหรือยินยอมให้มีการทุจริต,น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวด้วยว่า พบเอกสารของคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว (นบข.) ฉบับหนึ่ง จึงขอตั้งข้อสงสัยว่า ที่กล่าวถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดที่ระบุว่า ประธาน นบข.ให้ข้อสังเกตว่า หน้าที่ของคณะกรรมการคือ ประเมินความเสียหายและนำส่งข้อมูลให้กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังตั้งเรื่องโดยไม่ต้องพิจารณาประเด็นความยุติธรรม แต่ต้องดำเนินการตามกรอบเวลาให้ทันการส่งฟ้อง มิฉะนั้นจะถือเป็นความบกพร่องของ 3 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ดังนั้น ตนจึงหวังให้ศาลเป็นที่พึ่งให้ความเป็นธรรม,ภายหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ แถลงเปิดคดีเสร็จ นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักการสอบสวน ในฐานะคณะทำงานคดีจำนำข้าว ได้ซักค้าน โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยันว่า มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อเกิดปัญหาและเข้าใจการใช้อำนาจยับยั้งโครงการ เมื่ออัยการถามว่า เหตุใดจึงมีการยุติโครงการบริหารจัดการน้ำและปรับปรุงเปลี่ยนหลักเกณฑ์เงินที่ส่งเข้ากองทุนน้ำมันได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า กรณีที่โครงการบริหารจัดการน้ำต้องยุติไปเพราะทำตามคำสั่งของศาลปกครอง ส่วนการจัดการกองทุนน้ำมันเป็นคนละภารกิจที่ไม่อาจนำมาเทียบเคียงได้ อัยการถามอีกว่า จำเลยอบรมหลักสูตรวิทยาลัยตลาดทุน รุ่นเดียวกับนายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ อดีตรองอัยการสูงสุด (ประธานคณะทำงานร่วมอัยการและ ป.ป.ช.) และจำเลยได้รับเลือกเป็นประธานรุ่นด้วย หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบยอมรับว่า ได้เข้าอบรมจริง แต่บุคคลที่ร่วมอบรมมีหลากหลายและมี ป.ป.ช.ด้วย แต่ไม่สนิทกับใครเป็นพิเศษ,เมื่ออัยการถามว่า การระบายข้าวแบบจีทูจี เป็นลักษณะอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า ตนดูในระดับนโยบาย ถ้าเอาคำถามในระดับปฏิบัติมาถามจะไม่ถูกต้อง และเรื่องจีทูจีไม่ได้อยู่ในสำนวน ป.ป.ช.ตั้งแต่ต้น มาถามตนเหมือนเอาข้อหามายัดไว้ เรื่องข้าวหายระหว่างการระบายข้าวแบบจีทูจีได้ตรวจสอบในวันเดียวกันทั่วประเทศ เชิญ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการ ร่วมด้วยแต่ไม่ได้เข้าร่วม จึงยังไม่ได้มีการยอมรับข้อเท็จจริงส่วนนี้ ทั้งยังเคยขอให้ ป.ป.ช.เดินเผชิญสืบในพื้นที่ แต่ ป.ป.ช.ไม่ได้ตรวจสอบ เมื่อพิสูจน์แล้วว่าข้าวไม่ได้หาย อคส.ก็ยืนยัน รัฐบาลชุดนี้ก็ยอมรับและข้อเท็จจริงตนไม่เคยเห็นสัญญาจีทูจีเลย ได้เห็นทราบก็ตามที่ปรากฏใน ครม.เท่านั้น อย่างไรก็ตามการไต่สวนครั้งหน้านายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.เกษตรฯ จะเป็นพยานฝ่ายจำเลยเข้าไต่สวนในวันที่ 19 ส.ค.
ประยุทธ์ ทิ้งหมัดตรงโค้งสุดท้าย ประกาศ รับ รธน.พร้อมคำถามพ่วง โต้รัฐบาลไม่คิดสืบทอดอำนาจ ลั่นรักษาคำพูด รธน.ผ่านหรือคว่ำเดินหน้าตามโรดแม็ป อ้อนคนไทยแห่ไปใช้สิทธิให้ถล่มทลาย มีชัย ยิ้มอุ่นใจผู้นำส่งสัญญาณทางบวก
เลือกตั้ง
ข่าวหน้า1,ประชามติร่างรัฐธรรมนูญ,ประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2559,คำถามพ่วง,ร่างรัฐธรรมนูญ,กกต.,สมชัย ศรีสุทธิยากร,ออกเสียงประชามติ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,เลือกตั้ง,รายการคืนความสุขฯ,ประชามติ,7 ส.ค.59,รณรงค์ใช้สิทธิ์,ป่วนประชามติ,โรดแม็ป,การเลือกตั้ง,ผลประชามติ,จำนำข้าว,เรียกค่าเสียหาย,งานเฉลิมพระเกียรติ,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,ข่าวการเมือง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐ,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/content/682982
ก้าวแรกสู่อวกาศ เมื่ออุปกรณ์และงานวิจัยของไทยถูกลำเลียงพร้อมจรวด New Shepard ของ Blue Origin
กลางสัปดาห์ที่แล้ว เราได้เห็นข่าวบริษัทจากไทยส่งสัมภาระและอุปกรณ์ต่างๆ ขึ้นไปกับจรวด New Shepard ของบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ Blue Origin ซึ่งก่อตั้งโดย เจฟฟ์ เบโซส์ (ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งอีคอมเมิร์ซ Amazon)mu Space คือผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีอวกาศและดาวเทียมจากไทยที่ได้ร่วมส่งอุปกรณ์บรรจุสิ่งของต่างๆ หรือ Payload ขึ้นไปกับจรวดของ Blue Origin ลำดังกล่าวที่ปฏิบัติภารกิจขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันพุธที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นประเทศสหรัฐอเมริกา อุปกรณ์ที่ว่ามีน้ำหนักสัมภาระรวมราว 6 กิโลกรัม ประกอบไปด้วยสิ่งของทดลองทางวิทยาศาสตร์และงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยต่างๆ และหน่วยงานด้านอวกาศของประเทศไทย ได้แก่จะเห็นได้ว่าสิ่งของต่างๆ ที่ถูกส่งขึ้นไปกับ New Shepard ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นอุปกรณ์และงานวิจัยเพื่อหาค้นหาคำตอบของเป้าหมายในภารกิจครั้งนี้ เราได้พูดคุยกับ เจมส์-วรายุทธ เย็นบำรุง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท มิว สเปซ แอนด์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด เพื่อไขข้อสงสัยของเป้าหมาย ที่มาที่ไป และแผนการในอนาคตทั้งหมดสาเหตุที่ Blue Origin เลือกทำงานร่วมกันกับ mu Space ก็เพราะบริษัทจากไทยรายนี้ถือเป็นบริษัทดาวเทียมเจ้าแรกในเอเชียที่เซ็นสัญญาร่วมเป็นพันธมิตรกับพวกเขา และถือเป็นพันธมิตรรายที่ 3 ของโลก (อ่านบทความต่อได้ที่ thestandard.co/muspace/)วรายุทธบอกว่าการทดสอบลำเลียงสัมภาระขึ้นไปบนอวกาศและนำกลับลงมาสู่พื้นโลกในครั้งนี้นับเป็นการทดสอบครั้งแรกดำเนินไปเพื่อสองภารกิจหลัก ประการแรกคือ mu Space ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับชุดอวกาศและเซนเซอร์สำหรับใช้ในอวกาศในอนาคต นี่เป็นขั้นแรกก่อนที่เราจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องแต่งกายอัจฉริยะ (Smart Apparel) ออกมาสำหรับใส่ในชีวิตประจำวัน มีเซนเซอร์วัดอุณหภูมิร่างกาย ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับสุขภาพของผู้ที่สวมใส่หรือไลฟ์สไตล์ มีทั้งหมด 7 เวอร์ชันด้วยกัน ซึ่งชุดอวกาศจะถูกปล่อยออกมาในเจเนอเรชันที่ 4 ถ้าเราเริ่มต้นด้วยการปล่อยชุดอวกาศออกมาเลยมันอาจจะเป็นการก้าวกระโดดเกินไป ในขณะเดียวกันฝั่งธุรกิจก็จะต้องสอดรับกับสิ่งที่เราทำด้วยส่วนภารกิจที่สองคือการดำเนินตามโรดแมปภารกิจที่ 10 ของ mu Space ในการเดินทางและส่งสัมภาระไปยังดวงจันทร์ โดยเปิดให้มหาวิทยาลัยหรือทีมบุคคลทั่วไปได้ร่วมกันประกวดส่งสัมภาระขนาด 40000 กิโลกรัม ซึ่งได้รับความร่วมมือจากภาคการศึกษาทั้งในไทยและต่างประเทศ ภารกิจการส่งสัมภาระขนาด 6 กิโลกรัมของ mu Space ในครั้งนี้กับ Blue Origin ถือเป็นครั้งแรก โดยอุปกรณ์ทั้งหมดได้ถูกส่งขึ้นไปยังอวกาศก่อนนำกลับลงมายังภาคพื้นดินอย่างปลอดภัยผ่านแคปซูลของตัว New Shepard เพื่อศึกษาว่าในสภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างสิ่งต่างๆ อย่างไร และวรายุทธก็เชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเปิดประตูไปสู่การที่ Blue Origin อาจจะมองหาทำเลของประเทศในแถบเอเชียเป็นหนึ่งในฐานปล่อยจรวดในอนาคตมากขึ้นในอนาคตอาจจะมี Launch Pad ในเอเชียค่อยๆ ถูกพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ เราอาจจะได้เห็นการปล่อยจรวดจากประเทศในฝั่งเอเชียมากขึ้น แต่ก็อาจจะต้องใช้เวลาอยู่เหมือนกัน แน่นอนว่าประเทศไทยก็จะได้รับประโยชน์จากการที่ mu Space ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในด้านนี้มาก เราจะเริ่มทรานสฟอร์มตัวเองออกมาเป็น site based ของเอเชียและสหรัฐอเมริกาทั้งในแง่ของการทำโปรแกรมท่องเที่ยวอวกาศเชิงพาณิชย์ หรือวิสัยทัศน์ของเรากับการปฏิบัติภารกิจบนดวงจันทร์
พุธที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา หน่วยงานจากไทย นำโดย mu Space ได้นำส่งสัมภาระประกอบด้วยอุปกรณ์และงานวิจัยต่างๆ ขึ้นไปกับจรวด New Shepard ของบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ Blue Origin อุปกรณ์และงานวิจัยที่ว่าประกอบด้วยอุปกรณ์ห้ามเลือดจากสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี Carbon Nanotube อาหารในสภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำ ผ้าสำหรับทดลองพัฒนาและผลิตเป็นชุดอวกาศเจมส์-วรายุทธ เย็นบำรุง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท มิว สเปซ แอนด์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด บอกว่าการส่งสัมภาระในครั้งนี้ระหว่าง Blue Origin และบริษัทของตนเป็นการร่วมมือกันครั้งแรก ซึ่งในอนาคตจะช่วยให้ประเทศในแถบเอเชียเป็นฐานตั้งมั่นปล่อยจรวด รวมถึงช่วยพัฒนาโครงการต่างๆ ทางอวกาศของบริษัท
null
null
https://thestandard.co/mu-space-blue-origin/
อิกวาอิน ฮีโร่ ฟ้าขาวหืดจับอุ่นเฉือน ฮอนดูรัส หวิว 1-0
การแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องทีมชาติ ประจำวันเสาร์ที่ 28 พ.ค. เอสตาดิโอ ซาน ฮวน เดล บิเซนเตนาริโอ เป็นการพบกันระหว่างพลพรรค ฟ้าขาว อาร์เจนตินา พบกับ ลอส ชาตราชอส ฮอนดูรัส โดยในเกมนี้ เคราร์โด มาร์ติโน กุนซือทีมชาติอาร์เจนตินาวาง เซร์คิโอ โรเมโร เฝ้าเสา แผงกองหลังนำโดย รามิโร ฟูเนส โมริ, นิโคลัส โอตาเมนดี แนวรุก กอนซาโล อิกวาอิน ค้ำแดนหน้า โดยมี ลิโอเนล เมสซี, อังเคล ดิ มาเรีย, เอริค ลาเมลา คอยสนับสนุน ขณะที่ฝั่งของฮอนดูรัสมี โดนิส เอสโคเบร์ พร้อมวาง มาร์โค ตูลิโอ เวกา เป็นตัวทีเด็ดในแดนหน้า,เริ่มเกมมา เป็นฝั่งทีม ฟ้าขาว อาร์เจนตินา ที่เดินหน้าปูพรมบุกกดดัน ลอส ชาตราชอส ฮอนดูรัส อยู่นาน ก่อนมาได้ลุ้น ในนาทีที่ 27 จากจังหวะที่ นิโคลัส โอตาเมนดี วอลเลย์ลูกเตะมุมจากการเปิดของ อังเคล ดิ มาเรีย แต่บอลยังหลุดกรอบออกหลังไป,คล้อยหลังมาอีก 4 นาที เจ้าถิ่นได้ประตูออกนำ 1-0 เมื่อ กอนซาโล อิกวาอิน รับลูกเปิดของ มาร์กอส โรโฆ ก่อนแตะลอดขากองหลังฮอนดูรัสหลุดไปยิงแสกหน้า โดนิส เอสโคเบร์ เข้าไปอย่างเหนือชั้น และเป็นประตูที่ 7 จาก 4 นัดในทุกรายการ รวมทั้งทีมชาติและสโมสร,หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มกันได้ จบครึ่งแรก อาร์เจนตินา ออกนำ ฮอนดูรัส ไปก่อน 1-0,เข้าสู่ครึ่งหลัง เกมผ่านไปได้เพียง 15 นาที ลิโอเนล เมสซี ถูกเปลี่ยนออกจากสนามด้วยอาการบาดเจ็บบริเวณหลัง ทำให้ต้องส่ง เอเวอร์ บาเนก้า ลงสนามแทน ส่วน ลิโอเนล เมสซี ปรี่เดินเข้าอุโมงค์ออกไปเช็กอาการทันที และต้องลุ้นกันว่าเจ้าตัวจะหายทันศึก โคปา อเมริกา ในเดือนหน้าหรือไม่,ช่วงเวลาที่เหลือ เกมยังเป็นของเจ้าบ้านฟ้าขาวอยู่เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็เพลาเกมลงจนไม่มีจังหวะจบสกอร์ให้ได้ลุ้นประตูเพิ่ม จบเกม ทีมชาติอาร์เจนตินา เปิดบ้านเอาชนะ ทีมชาติฮอนดูรัสไป 1-0.,ผลการแข่งขันคู่อื่นๆ ที่น่าสนใจ,ไอร์แลนด์เหนือ 3-0 เบรารุส,สโลวาเนีย 3-1 จอร์เจีย,โครเอเชีย 1-0 มอลโดวา,ไอซ์แลนด์ 1-1 ฮอลแลนด์
พลพรรค ฟ้าขาว อาร์เจนตินา หืดจับกว่าจะบดเอาชนะ ลอส ชาตราชอส ฮอนดูรัส ไปหวุดหวิด 1-0 จากประตูโทนของ กอนซาโล อิกวาอิน พร้อมกับสังเวยอาการเจ็บของ ลิโอเนล เมสซี ในเกมอุ่นเครื่องก่อนสู้ศึก โคปา อเมริกา
null
ฟ้าขาว,อาร์เจนตินา,ลอส ชาตราชอส,ฮอนดูรัส,กอนซาโล อิกวาอิน,ลิโอเนล เมสซี,อังเคล ดิ มาเรีย,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์,ผลบอล,ฟุตบอลอุ่นเครื่อง,โคปา อเมริกา 2016
https://www.thairath.co.th/content/627219
ไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง นครศรีฯ ยังวิกฤต เหตุน้ำในผิวดินลดต่ำ หลังไหม้ป่าไปแล้วกว่า 20000 ไร่
ไฟที่ไหม้ป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช กินเนื้อที่กว่า 20000 ไร่ ทำให้เจ้าหน้าที่กว่า 5000 นาย ต้องระดมกำลังเข้าจำกัดวงล้อมของไฟอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าสมบูรณ์ใน 4 อำเภอ คือ อ.เชียรใหญ่ อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ชะอวด และอ.ร่อนพิบูลย์ ที่อยู่ในภาวะวิกฤตินอกจากนี้ยังมีจุดที่น่าเป็นห่วงในพื้นที่ป่าในโครงการศึกษาพันธุ์ไม้เสม็ดขาวครบวงจร มูลนิธิชัยพัฒนา ในพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ในต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ ที่ถูกไฟไหม้ไปแล้วกว่า 600 ไร่ และยังคงลุกลามต่อเนื่อง จึงเกรงว่าพื้นที่ทั้งหมด 1900 ไร่ อาจจะได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ป่าพรุ ซึ่ง ความเสียหายที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการนำข้อมูลไปทูลเกล้าทูล กระหม่อมถวายรายงานแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ที่ทรงห่วงใยในสถานการณ์ไฟไหม้ป่าอย่างมากจากการบินสำรวจยังพบว่า มีพื้นที่ที่มีไฟไหม้ป่าพรุรุนแรงประมาณ 33 จุด และมีข้อมูลว่า น่าจะเกิดจากฝีมือของผู้ที่ลักลอบเข้าไปเผาพื้นที่ป่า โดยนายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศตั้งรางวัลนำจับ 50000 บาท สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสคนเผาป่าพรุ เพื่อให้มีการแจ้งข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนมากขึ้นขณะที่นายธนากร รักธรรม หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่า พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้รายงานถึงสถานการณ์ระดับน้ำในพื้นที่ป่าพรุ พบว่าลดลงผิดปกติ จากเดิมที่มีระดับน้ำเหนือผิวดินไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตร ส่งผลทำให้พื้นป่าได้รับความเสียหายมากขึ้น
สถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราชเลวร้ายลงไปอีก เนื่องจากระดับน้ำในผิวดินรอบป่าพรุลดลงผิดปกติ ล่าสุด ไฟที่ลุกไหม้ได้สร้างความเสียหายให้พื้นที่ป่าแล้วกว่า 20000 ไร่
ภูมิภาค
คุมไฟป่า,นครศรีธรรมราช,ป่าพรุควนเคร็ง,มูลนิธิชัยพัฒนา,อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช,ไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง
https://news.thaipbs.or.th/content/105357
เป็นไปได้ ชาวนาขายข้าวเกวียน 3.5 หมื่น ทหารช่วยเกี่ยว-สี-ขาย ครบวงจร
วันที่ 9 พ.ย. 59 พล.ต.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ได้สั่งการให้ พ.อ.นิโรธ ทองม่วง ผบ.ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา และ พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1201 นำกำลังอาสาสมัครทหารพราน ร้อย ทพ.1201 และอาสาสมัครทหารพราน ฉก.กรม.ทพ.12 รวมกว่า 50 นาย เดินทางเข้าไปช่วยเหลือชาวนาเกี่ยวข้าวในแปลงนาตามหมู่บ้านชายแดน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กว่า 10 หมู่บ้าน ซึ่งนอกจากช่วยเกี่ยวข้าวแล้ว ยังช่วยเหลือชาวนานำข้าวเปลือกที่เกี่ยวแล้วไปหาสถานที่ตาก โดยขอความร่วมมือจากเจ้าของลานมันในพื้นที่ เป็นที่ตากข้าวเปลือกเพื่อลดความชื้น,นอกจากนี้ พล.ต.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ยังสั่งการให้ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 ช่วยเหลือชาวนาในการนำข้าวเปลือกไปสีเป็นข้าวสาร โดยประสานไปยังโรงสีชุมชนบ้านโสนน้อย ม.2 ต.ท่าข้าม ซึ่งเป็นโรงสีหลักในการสีข้าวให้กับชาวนาในพื้นที่ จากนั้นได้ร่วมกับผู้นำท้องถิ่นและชาวนาเจ้าของข้าว บรรจุข้าวสารที่สีแล้วใส่ถุงพลาสติกใส ถุงละ 1 กก. แล้วให้หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 นำไปวางขายที่บริเวณตลาดในเขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ในราคา 3 ถุง 100 บาท ซึ่งมีพ่อค้า ประชาชนชาวอำเภออรัญประเทศ มาช่วยซื้ออุดหนุนข้าวสารของชาวนาโดยตรง โดยไม่ผ่านคนกลางกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นข้าวที่ปลูกโดยไร้สารเคมี และเป็นข้าวที่ปลูกในท้องถิ่น เพียง 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ทหารพรานสามารถขายข้าวสารให้ชาวนาได้ถึงกว่า 1,000 กก. ซึ่งเป็นที่พอใจของชาวนาเป็นอย่างมาก,ทั้งนี้ ชาวนาต่างขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ช่วยเหลือทำให้ชาวนาในเขต ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ ผ่านพ้นวิกฤติราคาข้าวตกต่ำ และสามารถขายข้าวได้ราคาสูงถึงเกวียนละ 3.5 หมื่นบาท. 
ทหารพรานกองกำลังบูรพาสระแก้วลุยช่วยเหลือชาวนาชายแดน อ.อรัญประเทศ แบบครบวงจรทั้งลงเกี่ยวในแปลงนา ขนไปตาก หาโรงสี บรรจุถุง แล้วนำไปวางขายให้เสร็จสรรพ มีพ่อค้าประชาชนแห่ซื้อพรึบเดียวหมด ได้ราคาถึงเกวียนละกว่า 3.5 หมื่นบาท
ข่าว,ทั่วไทย
ข้าว,ชาวนาขายข้าว,ทหารช่วยชาวนา,ทหารช่วยเกี่ยวข้าว,ข้าวราคาถูก,ข้าวเกวียนละ3.5หมื่น,กองกำลังบูรพา,ทหารพราน,สระแก้ว
https://www.thairath.co.th/news/local/778336