title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
ถ้าแฟนติดเหล้า แล้วจะรับมืออย่างไร? | ได้ชมภาพยนตร์เรื่อง อะ สตาร์ อิส บอร์น (A Star Is Born) ฝีมือการร่วมเขียนบทบวกกำกับฯ และแสดงนำของแบรดลีย์ คูเปอร์ นักแสดงหนุ่มชาวอเมริกัน ที่เลือกแสดงคู่กับ เลดี้ กาก้า นักร้องสาวชื่อดัง โดยสร้างเป็นหนังดราม่าที่มีเพลงประกอบไพเราะเพราะพริ้งมาก แถมหนังยังออกแนวดราม่าปนโรแมนติกซะด้วย ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดีและน่าจดจำเรื่องนึงของปีนี้ทีเดียว,อะ สตาร์ อิส บอร์น เคยถูกสร้างหนังมาแล้วหลายครั้ง แต่เราขอพูดถึงเวอร์ชันล่าสุดก็แล้วกัน เนื่องจากในภาพยนตร์จะมีปมให้ฉุกคิดเกี่ยวกับความรัก, การใกล้ชิด และความหวังดีของฝ่ายชาย (พระเอก) ที่พยายามผลักดันให้ผู้หญิงที่เค้ารักจนกลายเป็นดาวจรัสแสงดวงใหม่ แต่ตัวเองกลับตกต่ำเพราะติดเหล้า จนยากที่จะแก้ไข,ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นโศกนาฏกรรมแห่งความรักที่อยากจะเล่าสู่กันฟัง หนังให้บทเรียนว่า อย่าได้ใช้ชีวิตเดินตามอย่างพระเอกเด็ดขาด ไม่งั้นหายนะมาเยือนแน่ๆ เพราะการติดเหล้ามีแต่จะทำลายตัวเอง,ต้องขอชมว่า ทั้งแบรดลีย์ คูเปอร์ และเลดี้ กาก้า ทั้งคู่มีเคมีที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี หนังเล่าเรื่องของแจ็คสัน เมน หรือแจ็ค เมน (คูเปอร์ ที่ดันร้องเพลงเพราะซะด้วย เซอร์ไพรส์จริงๆ) เป็นนักร้องคันทรีที่มีชื่อเสียง วันนึงเค้าเข้าไปในผับที่ แอลลี่ (เลดี้ กาก้า) กำลังแสดงโชว์ เป็นเพลงฝรั่งเศส ลา วี ออง โรส อยู่พอดี แจ็คพอใจในตัวแอลลี่ จึงตื๊อที่จะได้พบกับเธออีกหลังการแสดงโชว์ จนทั้งคู่เริ่มสนิทกัน,แอลลี่ร้องเพลงที่เธอแต่งขึ้นเองให้แจ็คฟัง ทำให้แจ็คประทับใจในความสามารถของเธอ และชมว่า เธอเป็นนักแต่งเพลงที่ดี แถมยังร้องเพลงได้เพราะอีกต่างหาก แต่แอลลี่กลับไม่กล้าร้องเพลงต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก เพราะ (เธอเชื่อว่า) หน้าตาของเธอนั้นไม่เป็นที่นิยมชมชอบของผู้ฟัง,แอลลี่จึงชอบอยู่เบื้องหลังมากกว่าจะเป็นนักร้อง แต่แจ็คกลับคิดสวนทางกับแอลลี่,เค้าจึงชวนแอลลี่มาที่งานคอนเสิร์ตของตัวเอง และแจ็คก็ขอให้แอลลี่ออกมาร้องเพลงที่เธอแต่งไว้ และเค้านำมาเรียบเรียงใหม่จนเป็นที่ชื่นชอบของผู้ฟังจำนวนมาก,หลังจากนั้น ทั้งแจ็คและแอลลี่ก็กลายเป็นคู่รัก-นักร้อง-นักดนตรี ที่เดินทางตระเวนทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วประเทศ แล้วทั้งคู่ก็แต่งงานกันในที่สุด,แต่แม้จะวิวาห์พาฝันกันแล้ว ทั้งพระเอกและนางเอกกลับต้องเผชิญกับอุปสรรคใหญ่หลวง นั่นคือ อาการติดเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของแจ็คฝ่ายพระเอกนั่นเอง ที่ฉุดให้เค้านับวันจะยิ่งตกต่ำลงไปเรื่อยๆ ตรงข้าม (และสวนทาง) กับแอลลี่ที่มี นักปั้นศิลปินชั้นเซียน มาทาบทามให้เข้าสังกัด และผลักดันให้เธอได้ออกอัลบั้ม จนกลายเป็นศิลปินชั้นนำอย่างเต็มตัว แถมนำพาทั้งชื่อเสียงและรางวัลเกียรติยศมาให้,การที่พระเอกเป็นคนติดเหล้า นี่แหละ ที่อยากนำมาคุยกัน เนื่องจากในชีวิตจริงก็มีคู่รักที่ฝ่ายหนึ่งเป็นคนติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้อีกฝ่ายได้ปวดหัวอยู่นะ,ในหนัง เราจะเห็นพระเอกเป็นคนขี้เหล้ามาตั้งแต่เริ่มต้น คล้ายคนที่ไม่ดื่มแล้วทำงานไม่ได้อย่างงั้นแหละ แต่ขณะเดียว กันการดื่มมากไปก็ทำให้ตัวเค้าควบคุมสติและพฤติกรรมของตัวเองไม่ได้เช่นกัน,ถามว่าทำไมคนเราถึงต้องติดเหล้าด้วยล่ะ? คำตอบที่ได้ก็สารพัด เช่น ชอบดื่มเพราะทำให้ลืมความเศร้าหรือความทุกข์, พอดื่มมากๆก็ทำให้เป็นคนร่าเริงและสนุกสนาน เคยได้ยินคำว่า เหล้าเปลี่ยนนิสัยไหมล่ะก็นั่นแหละ บางทีการดื่มเหล้ายังช่วยทำให้ลืมปมด้อยบางอย่างที่ตัวเองมีและไม่กล้าบอกใครก็เป็นได้,แล้วถ้าเผื่อใครมีแฟนเป็นคนติดเหล้า นึกรึว่า เธอหรือเค้าจะชอบใจ เพราะต้องไม่ชอบแน่ๆ เนื่องจากหากใครขึ้นชื่อว่า เป็นคนติดเหล้าแล้วละไซร้ จะเป็นคนปากเหม็นและตัวเหม็นแถมยังควบคุมการกระทำของตัวเองไม่ได้ ดังนั้น พวกขี้เหล้าจึงอาจทำอะไรที่ ขายขี้หน้า ชาวบ้านได้อย่างง่ายดายมาก,หนำซ้ำ การติดเหล้ายังเป็นอันตรายต่ออาชีพการงานของตัวเองและคู่รักด้วย,ฉะนั้น ถ้าหากสาวใดมีแฟนเป็นคนติดเหล้าละก็ สิ่งที่คุณสามารถช่วยให้แฟนมีพัฒนาการที่เป็นผู้เป็นคนที่ดีขึ้นกว่านี้ ก็ได้แก่ 1.พูดคุยให้ฝ่ายที่ติดเหล้าติดยาไปเข้ารับการรักษาหรือเข้ารับการบำบัด ให้จงได้,การติดเหล้าก็เป็นเสมือนโรคชนิดหนึ่งที่คุณในฐานะผู้อยู่เคียงข้างกับเค้า ควรสนับสนุนให้แฟนไปรักษาตัวให้หายจากอาการติดเหล้าติดยานี้สักที เพราะไม่เป็นผลดีต่อคนในครอบครัว แม้ว่าคุณจะต้องชักแม่น้ำทั้ง 5 มาอธิบายว่า ทำไมการเข้ารับการรักษาด้วยการบำบัดหรือรักษาอย่างไรก็ตามนั้น ดีต่อเค้ามากแค่ไหนก็ต้องทำ,2.ในบ้านต้องเก็บเครื่องดื่มมึนเมาออกไปให้หมด,เรียกว่า ภายในบ้านอย่าให้มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาวางไว้ให้เค้าเห็นเชียว เพราะไม่เช่นนั้น ถ้าเค้าเปรี้ยวปากอยากดื่มขึ้นมา เค้าก็จะหาวิธีดื่มมันจนได้สิน่า ดังนั้น ในฐานะที่คุณเป็นห่วงเค้าจึงควรเก็บเครื่องดื่มเหล่านี้ออกไปจากบ้านให้หมด,3.เวลาไปทานข้าวนอกบ้านกันก็อย่าให้เค้าสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด,ในเวลาที่พวกคุณอยากออกไปทานข้าวยามเย็นหรือไปดินเนอร์กัน อย่าให้เค้าสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาดื่มเชียว แม้เค้าจะอ้างว่า นานๆดื่มที ก็อย่าใจอ่อนไปเสียก่อน.,@@@@,เมอร์ลิน | ในเวลาที่พวกคุณอยากออกไปทานข้าวยามเย็นหรือไปดินเนอร์กัน อย่าให้เค้าสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาดื่มเชียว แม้เค้าจะอ้างว่า นานๆดื่มที ก็อย่าใจอ่อนไปเสียก่อน. | ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์ | ความรัก,แฟนติดเหล้า,ติดเหล้า,ร้อยแปดพันเก้า,เมอร์ลิน | https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1410841 |
คอหวยตีเลขเด็ดทะเบียนรถตำรวจ หลังพบรอยประหลาดคล้าย พญานาค | เลขเด็ด, ทะเบียนรถตำรวจ หลังพบรอยประหลาดคล้าย พญานาค เลื้อยบนฝากระโปรงรถ มีทั้ง 1191 และ 84,เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 62 ที่กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี มีรอยประหลาด คล้ายรอยพญานาค เกิดที่ฝากระโปรงรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ,กฉ 1191, อุดรธานี ซึ่งเป็นรถใช้ในงานราชการชุดสืบสวน รอยดังกล่าวคล้ายกับสัตว์เลื้อยคลาน พาดตั้งแต่ตาไฟหน้า กระโปรงรถ ไปถึงกระจกฝั่งคนขับ,นายบัญชา บ้งชมพู อายุ 39 ปี คนงานก่อสร้าง เล่าว่า ตนมารับจ้างก่อสร้างภายในโรงพัก และนอนพักอยู่ที่ศาลาหลวงพ่อองค์ดำ หน้ากองกำกับสืบสวน ห่างจากโรงรถประมาณ 20 เมตร ซึ่งตนจะเดินผ่านหน้าโรงรถประจำ,เมื่อคืนนี้ตนเห็นรถจอดตามปกติ ไม่มีรอยประหลาดแต่อย่างใด พอตื่นเช้ามาตำรวจมาบอกว่า มีรอยประหลาดพาดอยู่หน้ากระโปรงรถสืบสวน และมีตำรวจถ่ายรูปไปลงเฟซบุ๊ก ทำให้มีตำรวจเดินมาดูรอยประหลาดไม่ขาดสาย,ด้าน พ.ต.ท.รุ่งศักดิ์ มหาปัญญาวงศ์ รอง ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี เล่าว่า เรื่องดังกล่าวเป็นความเชื่อส่วนบุคคล เมื่อทราบว่ามีรอยประหลาดขึ้นบนกระโปรงรถ ตำรวจต่างก็มาดู และถ่ายรูปนำไปพินิจพิจารณาว่าเป็นรอยอะไร,โดยบางคนก็เชื่อว่าเป็นรอยพญานาค บางคนก็ว่าเป็นรอยที่เกิดจากกระทำของมนุษย์ บางคนก็บอกว่าไม่ได้สนใจที่รอยประหลาด แต่สนใจที่เลขทะเบียนรถสวย ส่วนตัวคิดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องความเชื่อ ไม่มีอะไรเสียหาย,พ.ต.ท.รุ่งศักดิ์ เล่าต่อว่า เมื่อวานนี้ (3 ต.ค.) ตำรวจสืบสวน ภ.จ.อุดรธานี ได้ติดตาม พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จ.อุดรธานี ไปกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเมืองอุดรธานี รวมทั้งไปกราบพ่อปู่ศรีสุทโธ และแม่ย่าศรีปทุมมา ที่เกาะคำชะโนด วังนาคินทร์ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พร้อมกับได้ไปขอโชคลาภที่ต้นมะเดื่อยักษ์,ทั้งนี้ ทีมงานเห็นเลข ,84, ทำให้ตำรวจพากันซื้อลอตเตอรี่ 84 หมดแผง เพราะเชื่อว่าพ่อปู่และแม่ย่าให้โชค และเช้าวันนี้ก็มีรอยประหลาดปรากฏบนรถที่ใช้ในราชการ ภายในกองกำกับสืบสวน ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเป็นรอยพญานาค แต่ก็ไม่กล้ามาทำพิธีรับโชค เพราะเกรงจะถูกครหาว่าตำรวจงมงาย แต่ได้ยินตำรวจหลายนายจะนำเลขทะเบียนไปเสี่ยงโชค | คอหวยตี เลขเด็ด ทะเบียนรถตำรวจ หลังพบรอยประหลาดคล้าย พญานาค เลื้อยบนฝากระโปรงรถ มีทั้ง 1191 และ 84 | ข่าว,สังคม | เลขเด็ด,รอยพญานาค,คำชะโนด,เลขเด็ดไทยรัฐ,หวย | https://www.thairath.co.th/news/society/1675560 |
จีนเผชิญฝุ่นควันหนัก ต้องปิดทางหลวง-ยกเลิกเที่ยวบินในเทียนจิน | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หน่วยงานปกครองในเทศบาลนคร เทียนจิน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน กำลังเผชิญปัญหาฝุ่นควันในอากาศบดบังทัศนวิสัยอย่างหนัก จนต้องสั่งยกเลิกเที่ยวบิน 35 เที่ยว และปิดทางหลวงขาเข้าและขาออกเกือบทั้งหมดในเมือง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา,สถานีตรวจสอบสภาพอากาศหลายแห่งในนครเทียนจิน วัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ได้มากกว่า 400 จุด มากกว่าค่ามาตรฐาน 300 จุดที่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์อันตราย และคาดว่าความหนาแน่นของฝุ่นควันจะพุ่งสู่ค่าสูงสุดในวันอาทิตย์และวันจันทร์นี้,ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ หน่วยงานควบคุมดูแลสภาพแวดล้อมของจีนประกาศเตือนภัยเกี่ยวกับปัญหาหมอกควันที่แพร่กระจายทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเป็นเวลา 5 วัน และออกคำสั่งให้โรงงานต่างๆ ยุติปฏิบัติงานชั่วคราว รวมทั้งแนะนำให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านและจำกัดการสัญจรบนท้องถนนกับการก่อสร้าง,ขณะที่ในวันเสาร์ 22 เมืองรวมทั้งเมืองถังชาน ในมณฑลเหอเป่ย ใกลกรุงปักกิ่ง และเมืองจื้อหนาน ในมณฑลซานตง ประกาศเตือนภัยมลภาวะขั้นสีแดง อันเป็นขั้นสูงสุด ซึ่งจะประกาศเมื่อดัชนี AQI สูงกว่า 200 จุดติดต่อกัน 4 วัน, เกิน 300 จุดเป็นเวลา 2 วัน หรือเกิน 500 จุดเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ส่วนนครเทียนจินประกาสเตือนภัยขั้นสีส้มในวันอาทิตย์ | ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนกำลังเผชิญปัญหาฝุ่นควันอย่างหนัก จนทำให้ทางการนครเทียนจินต้องออกคำสั่งปิดถนนหลวงและยกเลิกเที่ยวบินหลายสิบเที่ยว | null | เทียนจิน,จีน,ฝุ่นควัน,มลภาวะทางอากาศ,ยกเลิกเที่ยวบิน | https://www.thairath.co.th/content/815127 |
แพท ณปภา ไปเยี่ยมถึงเรือนจำ เบนซ์ ทำใจไม่ได้ไม่กล้าเจอลูก (คลิป) | แพท ณปภา มาร่วมงานเปิดตัวอาหารเสริม คอลลาเจน วิงค์ไวท์ PANCEA COLLAGEN Dietary Supplement Product (แพนเซีย คอลลาเจน ไดเอะเทรี่ ซัพพลีเม้นทส์ โปรดักส์) ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ได้เจอนักแสดง-พิธีกรสาว แพท ณปภา ตันตระกูล เลยถามถึงชีวิตหลังจากที่สามี เบนซ์ อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง ต้องเข้าเรือนจำหลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีสมคบฟอกเงินจากการค้ายาเสพติดว่าเป็นอย่างไรบ้าง,โดย แพท เผยว่าตอนนี้เป็นช่วงที่หน่วงๆ หลังเบนซ์เข้าเรือนจำ แต่ต้องเข้มแข็ง เชื่อผ่านไปได้เพราะคนอื่นยังผ่านไปได้ ซึ่งตนโชคดีกว่าหลายๆ คนเพราะมีลูกและครอบครัวที่น่ารัก รับมีร้องไห้บ้าง โดยเฉพาะเวลามองหน้าลูกซึ่งหน้าคล้ายเบนซ์มาก,พร้อมเปิดเผยว่าไปเยี่ยมเบนซ์แล้ว เบนซ์บอกว่าคิดถึงลูกมาก และถามตนว่าเลี้ยงลูกไหวไหม ซึ่งเบนซ์เองเข้มแข็งมาก ทุกครั้งที่เจอกันเขาจะยิ้มให้ ก็อยากให้ลูกเป็นกำลังใจให้เขา แต่เขาไม่กล้าเจอลูกเพราะกลัวจะยิ่งคิดถึงถ้าไม่ได้กอดไม่ได้อุ้มแล้วอาจทำใจไม่ได้ พอเบนซ์ไม่อยู่ ตอนแรกน้องเรซซิ่งก็มีมองหาพ่อบ้าง แต่ยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเพราะอายุแค่ 4 เดือน,ส่วนโอกาสได้รับการประกันตัวตนไม่ได้ถามอีกฝ่ายเพราะแยกคุยกันในเรื่องตรงนี้ ส่วนเรื่องหาเงินมาประกันตัวเป็นหน้าที่ของครอบครัวเบนซ์ ส่วนคดีตนตอนนี้รอว่าวันรายงานตัวจะมีอะไรคืบหน้าหรือไม่ รอฟัง 3 ก.ค.นี้,ซึ่งตนไม่ได้กังวลอะไร ทำตามหน้าที่ของตน และเตรียมหาเอกสารมาให้ ดีใจที่น้องเรซซิ่งฉลาด ไม่ทำให้ตนเหนื่อยเพราะเขาเข้ากับทุกคนได้ ทำให้ตนสบายใจ ยืนยันข่าวไม่มีผลกระทบกับงานเพราะหลายคนเข้าใจ ทำให้ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ส่วนโอกาสจะพาลูกออกงานตอนนี้ถ้างานไม่นานมากก็โอเค แต่ตอนนี้น้องยังเล็กอยู่ สภาพจิตใจตอนนี้ก็พร้อมรับกับทุกอย่าง. | แพท ณปภา เปิดใจออกสื่อหลังสามี เบนซ์ เรซซิ่ง ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ เผยฝ่ายชายคิดถึงลูกมาก แต่ไม่กล้าเจอหน้าลูก | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | แพท ณปภา,เบนซ์ เรซซิ่ง,เบนซ์ เรซซิ่ง ติดคุก,แพทเยี่ยมสามี,แพทเยี่ยมเบนซ์,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/977723 |
บันทึก 30 พ.ย.2556 สมรภูมิรามคำแหง | (1)แนวโน้มความรุนแรงเริ่มส่อเค้าก่อตัวช่วงหัวค่ำ ผมมาถึงรามคำแหงประมาณ 6 โมงเย็น (เพื่อมาคอยดูแฟนที่กำลังทำข่าวในพื้นที่) ใช้ถนนเส้นรามคำแหงจะเดินไปยังหน้ารามที่ตอนเย็นมีการปะทะเล็กๆ แต่มาติดผู้ชุมนุมกลุ่มย่อยไม่ทราบฝ่ายชัดเจนว่าเป็นกลุ่มไหน (แต่การแต่งกายมีนกหวีดแลัวสายธงชาติห้อยคอและธงชาติรัดข้อมือ) ปิดถนนตรงแยกวัดเทพลีลาคอยตรวจตรารถที่ผ่านไปมาถ้ามีรถหรือมอเตอร์ไซด์ที่ผู้โดยสารมีสัญลักษณ์สีแเดงจะถูกคนกลุ่มนี้รุมเข้าไปยื้อยุดฉุดกระชาก หรือเข้าไปรุมโห่ ถ้าเป็นมอเตอร์ไซด์คนขับขี่ที่ใส่เสื้อแดงก็จะถูกรุมถอดเสื้อออกมาเผาเป็นอยู่อย่างนี้ประมาณ 4-5 ครั้ง ถ้าเป็นคนธรรมดาที่น่าสงสัยว่าเป็นคนเสื้อแดงที่เดินอยู่ก็จะถูกรุมดันออกมาและโห่ร้องเป่านกหวีดใส่ แต่ไม่ถึงขั้นถูกรุมกระทืบเท่าที่เห็นอย่างมากก็ตบหัวและดันผลักเขาออกไป และโชคดีที่ตรงนั้นเหมือนจะมีผู้ชุมนุมประมาณ 2 ท่านที่คอยห้ามไม่ให้ใช้ความรุนแรงผมเก็บภาพอยู่ตรงนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง ช่วงชุลมุนมีตลอด ทั้งโห่ฮารถตู้รถเมล์ที่สงสัยว่ามีคนเสื้อแดงอยู่ มีความพยายามที่จะเอารถเมล์ 1 คันมาปิดถนน แต่คนขับรถเมล์รีบหักรถออกมาทันผมเห็นรถ 2 แถว 1 คันที่บรรทุกคนงานก่อสร้างเต็มคันที่บังเอิญใส่ชุดสีเลือดหมูก็โดนกวดโดนไล่ด้วย ขณะเดียวกันมีวิ่งไล่กวดไล่ตีกันเข้าไปในซอยอยู่บ้าง ช่วงนั้นความชุลมุนเกิดขึ้นตลอดเวลากลุ่มผู้ชุมนุมตรงแยกวัดเทพลีลาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่มีตร.ทำหน้าที่อยู่ท่านเดียว ไม่มีแกนนำคุมการชุมนุม แต่มีรถกระจายเสียงคอยประกาศว่าให้เตรียมตัวไว้คนเสื้อแดงกำลังจะกลับออกมาจากสนามราชมังคลาฯ แล้ว ตอนนั้นผมคิดว่าเสื้อแดงคงผ่านตรงนี้เข้าไปในสนามราชมังคลาฯไม่ได้ หรือแม้ตอนออกมาก็คงมีปะทะแน่นอนเมื่อผมเดินผ่านตรงนั้นไม่ได้ จึงเดินย้อนกลับมาพยายามเข้าไปทางหลังรามประมาณทุ่มครึ่งเศษๆ(2)ประมาณทุ่มครึ่งเศษๆ ผมจึงเดินย้อนกลับมาทางซ.รามคำแหง 24 เพื่อจะย้อนเข้าไปทางหลัง ม.ราม เมื่อเดินมาถึงปากซอยเจอผู้ชุมนุมเสื้อแดงพ่อแม่ลูกครอบครัวหนึ่งกำลังขี่มอเตอร์ไซด์คุยโทรศัพท์เพื่อหาทางเข้าสนามราชมังคลาฯ ผมจึงเดินไปเตือนว่าอย่าขี่ไปทางวัดเทพลีลาไม่เช่นนั้นอันตรายแน่ และถ้าเป็นไปได้ให้ถอดเสื้อแดงออกก่อน เพราะผู้ชุมนุมเป่านกหวีดขี่มอเตอร์ไซด์วนเวียนแถวนั้นตลอดเวลาหน้าปากซอยราม 24 ประชาชนยังใช้ชีวิตปกติแต่ดูตึงเครียดหลายคนดูเร่งรีบจะกลับที่พักให้เร็วที่สุด ผมเดินเข้าไปในซอย 24 จนเกืบถึงปลายๆซอยหลังราม เริ่มเห็นคนเสื้อแดงเดินกันเป็นหย่อมๆ เข้าใจว่าคนกลุ่มนี้เพิ่งมาถึงและกำลังหาทางเข้าสนามราชมังคลาฯ สักพักมีคนกลุ่มใหญ่วิ่งสวนผมออกมาและตะโกนว่า มียิงกัน ผมจึงหลบเข้าไปข้างทาง คนยังวิ่งสวนออกมาตลอดดูชุลมุนวุ่นวาย ผมเห็นแสงไฟรถหวอของตำรวจที่จอดอยู่ในปั๊มน้ำมันจึงเดินเข้าไปสังเกตุการณ์ เห็นกลุ่มคนเสื้อแดงจับกลุ่มอยู่ตรงปั๊มน้ำมันเป็นกลุ่มๆ เป็นผู้หญิงวัยกลางคนถึงสูงอายุซะส่วนมาก ผมจึงสอบถามว่าใครยิงกัน เขาตอบมาว่าไม่รู้ฝ่ายไหนยิงแต่ว่าได้ยินเสียงปืนผมเดินเข้าไปในซอย 24 หลังรามเข้าไปเรื่อยๆ ไปทางสนามราชมังคลาฯ เริ่มเจอกลุ่มคนเสื้อแดงหลายกลุ่มเดินไปทางเดียวกัน แต่มีบางส่วนก็เดินสวนออกมา ได้ยินคนเสื้อแดงหลายกลุ่มคุยกันจับใจความได้ว่าพวกเขาพยายามจะเข้าไปสนามราชมังคลาฯ แต่ข้างหน้ามีกลุ่มวัยรุ่นไม่ยืนยันว่าเป็นกลุ่มไหนตั้งด่านไว้อยู่จึงไม่สามารถเข้าไปได้ผมมาหยุดอยู่ที่ปากซอยราม 24 แยก 10 มีหญิงเสื้อแเดงคนหนึ่งวิ่งมาตะโกนบอกว่าถูกกลุ่มวัยรุ่นบังคับให้ถอดเสื้อ พร้อมตะโกนด่าทอวัยรุ่นกลุ่มนั้น สักพักคนเสื้อแดงหลายคนก็เริ่มตะโกนด่ากลุ่มวัยรุ่นที่ตั้งด่านอยู่ไกลพอสมควร ตอนนั้นเหตุการณ์ชุลมุนเริ่มมีการขว้างปาสิ่งของตอบโต้กันไปมา ทั้งเสื้อแดงและกลุ่มวัยรุ่นขว้างปาตอบโต้ไปมาสักพัก ฝ่ายกลุ่มวัยรุ่นเริ่มเคลื่อนเข้ามาใกล้กลุ่มคนเสื้อแดง คนเสื้อแดงจึงวิ่งถอยกลับไป ชาวบ้านและคนที่เดินไปเดินมาแถวนั้นจึงหาที่หลบขวดหลบไม้กันให้วุ่น สักพักได้ยินเสียงปืนดังขึ้นฟ้า 1 นัด แต่ไม่สามารถระบุแน่ชัดว่ามาจากคนกลุ่มไหนสถานการณ์ตึงเครียดผมจึงเข้าไปหลบอยู่ในร้านเกมส์ข้างๆ ขณะที่ข้างนอกกลุ่มวัยรุ่นเหมือนจะคลุมพื้นที่ตรงปากซอยแยก 10 ไว้ได้แล้วร้านเกมส์รีบปิดประตูและมีคนที่ไม่รู้เรื่องเข้ามาหลบด้วยอยู่มาก ข้างนอกเริ่มเงียบและมีเสียงด่าทอกันออกมาเป็นระยะๆ ประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนสงครามหลังรามเต็มรูปแบบที่จะเริ่มต้นประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ คือเดี๋ยวมึงอีก 5 นาทีเจอกัน(3)ร้านเกมส์ปิดล็อคประตูกระจกและดึงประตูเหล็กด้านนอกลงมาครึ่งหนึ่ง ยังมีเด็กในร้าน 2-3 คนที่ยังเล่นเกมส์โดยไม่สนใจว่าเหตุการณ์ข้างนอกจะเกิดอะไรขึ้นตอนแรกผมคิดว่าเหตุการณ์แรงสุดที่เกิดขึ้นคงเป็นแค่มวลชน 2 ฝ่ายขว้างปาสิ่งของใส่กัน แต่สักพักเริ่มมีเสียงคล้ายประทัดยักษ์บ้าง ระเบิดบ้าง ปืนบ้าง ดังถี่กันหลายครั้ง เลยทำใหัรูัว่านี่คงไม่ใช่เหตุการณ์ปกติธรรมดาแล้วกลุ่มวัยรุ่นยึดครองพื้นที่ปากซอย 10 ได้แค่ชั่วระยะเวลาเดียว หลังจากที่เสื้อแดงล่าถอยออกไปและผมได้ยินเสียงทิ้งท้ายจากชายคนหนึ่งว่า อีก 5 นาทีเจอกัน นั้น ไม่นานคนที่มาเป็นแนวหน้าคอยปะทะกับกลุ่มวัยรุ่นดูเหมือนจะเป็นชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งมีทั้งใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีแดง เสื้อสีดำ (ชายชุดดำ?) บางคนใส่หมวกกันน็อค คอยเป็นแนวหน้าให้คนเสื้อแดง แต่ผมเห็นมีผู้ชุมนุมที่เป็นผู้หญิงบางคนที่มีอารมณ์โมโหออกมายืนข้างหน้าด้วยผมมองลอดจากกระจกร้านเกมส์ออกไปมีการปะทะกันตลอดเวลา มีเสียงปืนดังเป็นระยะๆ ทั้งนัดเดียวบ้าง รัวกระสุนแบบหมดแม็คบ้าง เสียงระเบิด เสียงขวดปากันไปมา เสียงวิ่งไล่กวดกัน และซอย 10 ข้างๆ ดูจะเป็นสมรภูมิรบอันดุเดือด ได้ยินได้ฟังการด่าทอ เชียร์ให้ฆ่ากัน เอามันให้ตาย ไม่งั้นเราตายช่วงที่ผมสามารถออกมาจากร้านได้เพื่อมาเก็บภาพจะเป็นช่วงที่ฝ่ายเสื้อแดงคุมพื้นที่ปากซอย 10 ไว้ได้ ผมออกมาสังเกตุการณ์ ตอนนั้นคนเสื้อแดงส่วนมากจะเป็นชายฉกรรจ์ซะส่วนมากแล้ว ผู้หญิงและคนแก่แทบไม่เห็นแนวหน้ายังปะทะกันต่อไปเป็นอยู่อย่างนี้ร่วม 2 ชม. โดยไม่มีทหารตำรวจมาในพื้นที่ คนที่หลบอยู่ในร้านเกมส์ก็ยังออกไปไหนไม่ได้ แต่ละฝ่ายยังปะทะกันตลอด ถ้าช่วงไหนกลุ่มวัยรุ่นยึดพื้นที่ได้ผมจะได้ยินเสียงนกหวีด ถ้าช่วงไหนเสื้อแดงยึดพื้นที่ได้จะได้ยินเสียงคนคุยกันว่าให้ลุยเข้าไป พวกมันไม่มีอะไรสถานการณ์ยิ่งนานยิ่งดูบานปลายเสียงปืนและระเบิดถี่ขึ้น ผมได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกันว่ามีคนโยนขวดลงมาจากตึกร้านเกมส์ที่ผมเข้าไปหลบอยู่ผ่านไป 2 ชม. 4 ทุ่มกว่าแล้วข้างนอกยังปะทะกันดุเดือด ผมคิดว่าคงไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ เดี๋ยวรอตำรวจมาค่อยหาทางออกไป เจ้าของร้านเกมส์ปิดล็อคประตูทุกอย่างและบอกหัามทุกคนออกไปจนกว่าตร.จะมาร้านเกมส์ปิดไฟให้ทุกคนอยู่นิ่งๆ เพราะเหมือนสถานกาคณ์ข้างนอกเริ่มแรงขึ้น อยู่ๆ ทันใดนั้นมีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งประมาณ 4-5 คนไม่ทราบสังกัดแน่ชัด (แต่เห็นบางคนห้อยสายธงชาติ และผ้าสีเหลือง) เปิดประตูแผงเหล็กร้านเกมส์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และพยายามจะพังประตูร้านเข้ามาอย่างกระหายเลือดเคียดแค้น ทั้งเอาท่อแป๊บเหล็กฟาดกระจก เอาขวดเบียร์ทุบ เอาไม้ฟาด ยื้อยุดฉุดกระชากประตูบอกให้เปิด บอกให้ออกมา พวกมึงหลบกันอยู่ข้างในใช่มั้ยคนที่หลบอยู่ในร้านตกใจกันมาก ทุกคนรีบวิ่งขึ้นหนีไปชั้น 2 เพราะข้างหลังเป็นเหล็กดัดไม่มีทางออก พวกข้างนอกก็ยังพยายามพังประตูเข้ามา ผมได้ยินแต่เสียงว่าพวกมึงหลบกันอยู่ข้างในใช่มั้ยมึงออกมา ท่าทางออกอาการแค้นมากมายชั้น 2 ร้านเกมส์เป็นที่เก็บของ แถมประตูยังพัง ผมไดัยินเสียงปืนดังขึ้นถี่กันหลายนัดตรงหน้าร้านเกมส์ ไม่แน่ชัดว่าเป็นความพยายามยิงกระจกร้านเข้ามาหรือไม่ หลังจากนั้นก็มีเสียงขว้างปาก้อนหินเข้ามาที่กำแพงร้านชั้น 2 ตลอดเวลาผมกับเด็กผู้ชายช่วยกันเอาเก้าอี้ 2 ตัวใหญ่กับแอร์เก่าขนาดใหญ่มาขวางประตูชั้น 2 ไว้ เพื่อให้พวกเขาบุกเข้ามาไดัยากขึ้นเวลานั้นทุกคนตกใจมาก เด็กผู้หญิงร้องไห้ เรานั่งกันตรงกลางห้องคิดว่าจะทำอย่างไรดี เลยตกลงกันว่าถ้ามันเข้ามาได้ให้นิ่งและเงียบที่สุด ใครใส่เสื้อแดงอยู่ให้ถอดออกก่อน เพราะมีเด็กคนหนึ่งดันใส่เสื้อสีแดงมา และพยายามบอกว่าเราเป็นแค่เด็กที่เข้ามาเล่นเกมส์ไม่ใช่เสื้อแดง ขณะที่แฟนผมยังสวมปลอกแขนนักข่าวก็จะใช้โอกาสนี้บอกว่าเป็นนักข่าวหลบเข้ามาขณะที่ชายฉกรรจ์ข้างล่างยังทุบกระจกกันไม่หยุด ดูอารมณ์ของพวกนั้น ตอนนั้นผมคิดแต่เพียงว่าถ้าพวกเขาบุกเข้ามาได้จริงคงไม่มีสติจะฟังอะไรพวกเรา สิ่งแรกที่เขาน่าจะทำคือบุกเข้ามาและเอาปืนกราดยิงพวกเราตายกันทั้งหมดเพราะสัมผัสได้ถึงพลังแห่งความแค้นอย่างมากสถานการณ์ยังไม่สงบ เด็กคุมร้านเน็ตโทรแจ้งตำรวจ โทรแจ้งเจ้าของร้านว่าร้านจะถูกพังเข้ามา ขณะที่ชั้น 2 ยังมีความเสี่ยงที่หน้าต่างเป็นเหล็กดัดและบางบานไม่มีหน้าต่าง ถ้ามีใครโยนระเบิดลอดลูกกรงเข้ามาคงไม่รอดแน่ เพราะตลอดเวลานั้นเหมือนอาวุธที่ทั้ง 2 ฝ่ายใช้เริ่มหนักขึ้น ถี่ขึ้น และมีความพยายามจะปาสิ่งของจำพวกขวด ก้อนหินขึ้นมาตลอดเวลาพวกเราอยู่กันแบบเงียบที่สุด มือถือไม่ใช้เพื่อไม้ให้เขาเห็นแสงไฟว่ามีคนอยู่ เพราะตึกนีัถูกต้องสงสัยว่าเป็นทีีโยนขวดลงมาโดนกลุ่มวัยรุ่น เวลานั้นผมสื่อสารอะไรกับโลกข้างนอกไม่ได้เลยผ่านไปเกือบชั่วโมงเรายังติดอยู่บนชั้น 2 ขณะที่ข้างนอกก็ยังปะทะกันเหมือนแค้นกันมาแต่ชาติปางก่อน ผมนั่งคิดในใจว่าอะไรทำให้คนเกลียดกันถึงที่ยอมจะฆ่ากันไดัขนาดนี้ และคิดปล่อยวางว่าถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันจะทำอะไรได้บ้างเวลาที่เงียบช่างน่ากลัวเพราะมันจะตามมาด้วยเสียงระเบิดลูกใหญ่ๆ 1 ลูก กับเสียงขว้างปาของขึ้นมาชั้น 2 ทุกคนนั่งกระจัดกระจายหาที่หลบเพราะถ้าโชคไม่ดีคงมีระเบิดปาเข้ามาที่เราสัก 1 ลูกผมได้ยินเสียงคนหนึ่งตะโกนให้เผาเลย สักพักเริ่มเห็นแสงไฟเหมือนวัตถุโดนเปลวเพลิง ตอนแรกผมคิดว่าเราคงโดนเผาทั้งเป็นแล้ว เพราะไม่มีทางออก หน้าต่างเป็นเหล็กดัดทั้งหมด ลงไปข้างล่างก็คงโดนพวกนั้นไม่ยิง ก็ตีตาย เแต่พอมองออกไปนอกหนัาต่างเป็นการเผาเสื้อจึงโล่งอกไปเงียบไปสักพักผมเริ่มเห็นไฟของรถตำรวจ และเสียงจากรถตำรวจประกาศขอคืนพื้นที่ให้ทุกคนหยุด อยู่ในความสงบและกลับบัานขบวนรถตำรวจมากกว่า 20 คันขับตามกันมา พวกเราคิดว่าปลอดภัยแล้วจึงเดินลงมาและออกมาจากร้านเกมส์สภาพที่เห็นข้างนอกดูไม่จืด ถนนเต็มไปด้วยเศษแก้ว ก้อนหิน ท่อนไม้ ข้าวของพังเสียหายนี่คือเหตุการณ์ที่ผมพบเจอเมื่อคืนวันที่ 30 พ.ย. ที่ตลอด 4 ชั่วโมง คน 2 กลุ่มสามารถฆ่ากันได้อย่างอิสระเสรีเพื่ออะไรสักอย่างแม้แต่คนที่กำลังไล่ฆ่ากันก็คงตอบไม่ได้มันคือการฆ่าเพื่อฆ่าจริงๆและดูจากนี้เราคงจะต้องฆ่ากันไปอีกนาน | (1)แนวโน้มความรุนแรงเริ่มส่อเค้าก่อตัวช่วงหัวค่ำ ผมมาถึงรามคำแหงประมาณ 6 โมงเย็น (เพื่อมาคอยดูแฟนที่กำลังทำข่าวในพื้นที่) ใช้ถนนเส้นรามคำแหงจะเดินไปยังหน้ารามที่ตอนเย็นมีการปะทะเล็กๆ | การเมือง,ขีดเส้นใต้ | กปปส.,คนเสื้อแดง,นปช.,นักศึกษาราม,ม็อบนกหวีด,ราชมังคลากีฬาสถาน,เด็กเยือกเย็น | https://prachatai.com/journal/2013/12/50160 |
ปลัดแรงงาน แจง ตั้งรองอธิบดีโปร่งใส ยันระบบตรวจสอบเข้ม ไร้ส่วย | เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ม.ล.ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน แถลงชี้แจง กรณีสื่อมวลชนเสนอข่าวความไม่โปร่งใส การแต่งตั้งข้าราชการ ตำแหน่งรองอธิบดี และรองเลขาธิการในสังกัดกระทรวงแรงงาน ว่า มีการเสนอข่าวต่อเนื่องกัน 4 วัน จากเนื้อหาที่นำเสนอเชื่อว่า เป็นการให้ข้อมูลจากบุคคลที่เสียผลประโยชน์จากการแต่งตั้งโยกย้าย จึงให้ข้อมูลสร้างความเข้าใจผิด หากตรวจสอบก็ไม่ยากที่จะสาวไปให้ถึงที่มาของผู้ให้ข้อมูลทำให้กระทรวงแรงงานเสื่อมเสีย ขอยืนยันว่า การแต่งตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความโปร่งใส่ ไม่ได้รวบรัดขั้นตอน เพราะการแต่งตั้งตำแหน่งรองอธิบดีของกรมต่างๆ ได้ผ่านความเห็นชอบ และหารือร่วมกันระหว่างอธิบดีคนเก่า และอธิบดีคนใหม่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้การทำงานของผู้ปฏิบัติงานทุกคนพร้อมทำงานได้ทันและต่อเนื่อง,ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวอีกว่า มีความพยายามโยงเรื่องว่า ในกระทรวงแรงงานมีการทุจริต รับผลประโยชน์ รวมทั้งเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ซึ่งไม่มีมูลความจริง เป็นการเอาเรื่องเก่าในอดีตเป็น 10 ปี เข้ามาโยง ซึ่งในปัจจุบันเรื่องแบบนี้ไม่มีแล้ว มีการวางกฎระเบียบเข้มงวด และมีการตรวจสอบทั้งจากภายในองค์กรและหน่วยงานภายนอก มั่นใจได้ถึงความโปร่งใสถูกต้องตามระเบียบ เรื่อง เจ๊กินรวบ ก็ไม่รู้ว่าหมายถึงใคร เป็นการเอาไปพูดสื่อความหมายกันไปเอง และพยายามโยงมาที่ปลัดกระทรวงว่ามีการจัดส่งผลประโยชน์ซึ่งไม่จริง แต่ก็ยอมรับว่า เมื่อหลายปีก่อนเคยมีปัญหาเรื่องการปลอมแปลงใบรับรองการผ่านมาตรฐานฝีมือแรงงานเพื่อไปทำงานในมาเลเซีย แต่ตรวจสอบได้ มีการแจ้งความดำเนินคดี และขณะนี้คดียังไม่สิ้นสุด ขอยืนยันกระทรวงแรงงานไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด,การแต่งตั้งโยกย้ายรองอธิบดี ท่านรัฐมนตรีจะไม่ยุ่ง ไม่ล้วงลูก ให้แต่ละกรมไปคุยกันเอง แต่ต้องให้ถูกต้องตามระเบียบ ซึ่งครั้งนี้ก็โปร่งใส ตามขั้นตอนทุกอย่าง วันนี้พอจะมองเห็นแล้วว่า คนปล่อยข่าวทำลายภาพลักษณ์องค์กรเป็นใคร จะมีเรื่องแบบนี้ทุกครั้งที่มีแต่งตั้งโยกย้าย ถ้ายังไม่หยุด ก็มีกระบวนการเอาผิดเพราะสร้างความเสียหาย พยายามสร้างเรื่องว่ามีเครือข่ายผลประโยชน์ มีทุจริตมากมาย โยงไปเป็น 10 ปี ซึ่งมันล้าสมัยแล้ว สมัยนี้มีแต่การสร้างระบบป้องกัน มีการตรวจสอบตลอดเวลา วันนี้เรื่องส่วยมีที่ไหน ยังคุยกับคนใกล้ชิดว่า เคยได้แต่แคบหมู ม.ล.ปุณฑริก กล่าว | ปลัดแรงงาน แจง แต่งตั้งรองอธิบดีโปร่งใส ไม่ล้วงลูก ขู่เอาผิด ขรก. ปล่อยข่าว เจ๊กินรวบ เอี่ยวส่วย-ทุจริต ทำลายองค์กร ยันระบบตรวจสอบเข้มไร้ส่วย | null | แต่งตั้งรองอธิบดีแรงงาน,กระทรวงแรงงาน,ปุณฑริก สมิติ,แต่งตั้งโยกย้ายรองอธิบดี,ทุจริต,ค้ามนุษย์,ทำลายภาพลักษณ์องค์กร,เครือข่ายผลประโยชน์,เจ๊กินรวบ | https://www.thairath.co.th/content/745672 |
สื่อพาณิชย์กับธุรกิจระดับชาติ | มากเท่าไหร่ก็ยิ่งจะถูกเพ่งเล็งมากเท่านั้น เป็นความยากลำบากในการทำหน้าที่ซึ่งมีทั้ง คนพอใจและไม่พอใจ ยุคนี้สังคมถูกวิจารณ์ได้ สื่อก็ถูกวิจารณ์ได้เช่นกัน,ดังนั้น เมื่อสื่อมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจบนพื้นฐานของผลประโยชน์ ทำให้สื่อตกเป็นเครื่องมือของการแข่งขันทางธุรกิจ การเข้าครอบงำสื่อโดยนักธุรกิจจึงเป็นเรื่องง่ายในยุคที่เศรษฐกิจมีปัญหา แต่ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงในแวดวงสื่อที่จะทำลายทั้งสื่อและระบบธุรกิจไปพร้อมๆกัน และถ้าสื่อขาดทั้งอุดมการณ์ จิตสำนึกและจรรยาบรรณ ในการทำหน้าที่คิดแต่จะใช้อิทธิพลและสร้างผลประโยชน์ด้วยแล้ว จะนำไปถึงจุดเสื่อมเร็วขึ้น,กรณีของ กลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ ถูกร้องเรียนในหลายกรณีเช่น การฮุบที่ดินพื้นที่ราชพัสดุบางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาอีอีซี หรือการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา หรือการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้า ร้านกาแฟ และความสนใจที่จะลงทุนโครงการรถไฟฟ้าของ ปตท. หรือการดำเนินธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีในสนามบิน เช่น บริษัท คิง เพาเวอร์ ก็ถูกร้องเรียนโจมตีอย่างหนัก ยิ่งการแข่งขันสูงมากแค่ไหนการโจมตีก็จะยิ่งรุนแรงมากเท่านั้น ทำให้การดำเนินธุรกิจภายใต้กติกาทั่วไปถูกบิดเบือน ไม่ว่าจะทำตามขั้นตอนและกติกาอย่างไรก็ตาม ก็ถูกโจมตีจากสื่อที่จัดตั้งขึ้นอยู่ดี,ในขณะเดียวกัน ถ้าสำรวจดูถึงต้นทุนของสื่อบางประเภทบางสำนักบางกลุ่มธุรกิจ จะเห็นว่ามีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่กำลังมีการแข่งขันเหล่านี้ทั้งสิ้น ใช้ความได้เปรียบที่มีธุรกิจสื่ออยู่ในมือโจมตีคู่แข่งทางธุรกิจ,ยกตัวอย่างกรณีที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดขายเอกสารคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา มีผู้สนใจซื้อเอกสารประกวดราคา 31 ราย มีทั้งเอกชนจากในประเทศและต่างประเทศที่ให้ความสนใจ ชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก เช่น บีทีเอส เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ซิโนไทย บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ ช.การช่าง บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง ทีพีไอโพลีน เซ็นทรัลพัฒนา เป็นต้น จากต่างประเทศ ก็มีทั้ง จีน ญี่ปุ่น อิตาลี ฝรั่งเศส มาเลเซีย ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีของประเทศที่จะได้คัดเลือกบริษัทที่ดีที่สุดและให้ประโยชน์กับรัฐมากที่สุด,โครงการนี้จะเปิดให้เข้ายื่นซองประมูลในวันที่ 12 พ.ย.นี้ ลงนามในสัญญาประมาณเดือน ม.ค.ปีหน้า ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี เปิดให้บริการได้ปลายปี 2566 สามารถรองรับผู้โดยสารและการขยายตัวของอุตสาหกรรมการบินได้อย่างครบวงจร บริเวณพื้นที่เส้นทางเดินรถจะเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่จะก่อให้เกิดรายได้อีกจำนวนไม่น้อย จะสนับสนุนโครงการอีอีซีให้เติบโตตามเป้าหมายไทยแลนด์ 4.0 ได้เป็นอย่างดี มูลค่าโครงการ 1.2 แสนล้านก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาลแต่ถ้าการแข่งขันไม่ยุติธรรมและโปร่งใสตกอยู่ภายใต้อิทธิพลครอบงำก็จะเกิดความเสียหายอย่างมหาศาล.,หมัดเหล็ก,[email protected], | การทำหน้าที่ของ สื่อมวลชน ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ย่อมหนีไม่พ้นความขัดแย้ง การนำเสนอข่าว มีทั้งให้คุณให้โทษ มีทั้ง คนได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ ยิ่งสื่อมีอิทธิพลต่อ ภาพลักษณ์ทางสังคม | null | สื่อพาณิชย์,ธุรกิจระดับชาติ,การรถไฟแห่งประเทศไทย,คาบลูกคาบดอก,หมัดเหล็ก | https://www.thairath.co.th/news/local/1387014 |
ชีวิตตำรวจผู้น้อย | เรื่องแรก ข้อความของนายดาบตำรวจระบายความรู้สึกของชีวิตตำรวจชั้นผู้น้อย และหน้าที่ของคนที่เป็นพ่อ น่าจะเป็นตัวแทนชีวิตตำรวจที่อัดอั้นกับการทำหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย แต่บ่นไม่ได้ เป็นข้อคิดเตือนใจที่ดีกับเนื้อความที่เขียนไว้ ยามที่พ่อเหนื่อย และท้อ วันที่พ่อโดนนายด่า ประชาชนตำหนิ หนึ่งกำลังใจที่สำคัญ คงเป็นครอบครัว พ่ออาจจะไม่ได้เป็นพ่อที่ดีที่สุด แต่พ่อก็จะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด เพื่อให้ลูกโตขึ้นมาเป็นคนดีของสังคมต่อไป,ตำรวจเราสิ่งสำคัญที่สุด ก็คือ หน้าที่ แต่สิ่งสำคัญไม่แพ้หน้าที่คือ ครอบครัว พ่อไม่เคยลืมในวันที่พ่อไม่อยู่บ้าน ลูกจะอยู่ จะกิน จะนอนอย่างไร และจะคิดถึงพ่อขนาดไหน อย่าทำงานจนลืมครอบครัว อย่าคิดมากกับสภาวะสังคมในปัจจุบัน เพราะพ่อไม่สามารถบังคับให้ใครรักเราหรือบอกให้ใครอยู่ภายใต้กฎหมายได้ทุกคน,อยากให้ทุกคนหันกลับไปให้ความสำคัญกับครอบครัว ส่วนยศ ตำแหน่ง มันไม่ได้มีความสำคัญมากไปกว่าคนในครอบครัว พ่อสัญญาว่าพ่อจะกลับไปทำหน้าที่พ่อให้กับครอบครัวให้ดีที่สุด,คำสัญญาของตำรวจที่เป็นพ่อ,เรื่องที่ 2 คนเขียนมาแสดงความคิดเห็นเรื่องการแก้ไข พ.ร.บ.มวยฯห้ามมิให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีขึ้นชกมวยอาชีพในรูปแบบมวยไทยปัจจุบันบอกว่า ได้เกิดเหตุสลดขึ้นที่เวทีมวยแห่งหนึ่งย่านชานเมือง ซึ่งมีการแข่งขันชกมวยต้านยาเสพติด ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ เพชรมงคล ป.พีณภัทร ซึ่งแพ้น็อกคู่ต่อสู้ในยกที่สาม และเกิดอาการเลือดคั่งในสมอง จากการถูกชกอย่างรุนแรงที่ศีรษะ ล้มฟาดพื้นเวทีและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล,นักมวยคนนี้ยังเป็นเด็กอายุน่าจะไม่เกิน 13 ปี ตามประวัติชกมาแล้วเป็นร้อยครั้ง ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ โครงสร้างความแข็งแกร่งของกระดูก กะโหลกศีรษะมีเพียงพอหรือไม่ แต่จากการกระทบกระเทือนมาเป็นเวลากว่า 5 ปี ไม่ว่าจากฟิตซ้อมหรือชกจริง สมควรหรือไม่ที่เราจะให้เด็กวัยขนาดนี้ประกอบอาชีพแบบนี้,แม้แต่อาชีพปกติที่ไม่ต้องเอาร่างกายเข้าปะทะ เขายังไม่ให้รับเด็กเข้าทำงาน กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองเด็กและใช้แรงงานเด็กมีไว้ชัดเจน,เด็กเป็นเหยื่อนักพนันมวยมากกว่า,นักมวยมีเป็นหมื่นเป็นแสนราย ที่ประสบความสำเร็จเป็นซุปเปอร์สตาร์ มีถึง 20 รายไหมในแต่ละปี ที่เห็นๆบั้นปลายกลายเป็น สุนัขไล่เนื้อ เริ่มจากทีวีถ่ายทอดสดมวยทุกเวทีทุกช่อง งดสนับสนุนการจัดมวยเด็กอายุไม่ถึงเกณฑ์ ช่องไหนดื้อดึง ฝ่าฝืน ขอให้สปอนเซอร์ร่วมกันแบน หรือนำกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา,คิดทำให้เบ็ดเสร็จสะเด็ดน้ำเสียที.,เพลิงพยัคฆ์,[email protected], | เรื่องสั้นฉบับวันอาทิตย์ ความรู้สึกของตำรวจชั้นประทวนที่น่าอึดอัด และคนเรียกร้องให้ยกเลิกนำเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี เข้ามาชกมวยไทยเป็นอาชีพ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุเสียชีวิตแบบที่ผ่านมา | null | พนันมวย,เลขที่ 1 วิภาวดี,เพลิงพยัคฆ์,ตำรวจ,ตำรวจชั้นประทวน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/1485936 |
แห่ขอโชควัดไผ่แขก เขย่าเซียมซียักษ์ กระซิบรัก พ่อขุนช้าง(คลิป) | วันที่ 29 ก.ค. ที่วัดอุทุมพราราม หรือ วัดไผ่แขก ต.ดอนโพธิ์ทอง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ชาวบ้านและนักเสี่ยงโชคจากทั่วสารทิศ ได้เดินทางไปกราบไหว้ขอพรหลวงพ่อสำเร็จทันใจก้าวหน้า และพ่อขุนช้างมหาเศรษฐี แห่งเมืองสุพรรณบุรี พร้อมเขย่าเซียมซียักษ์ขนาดใหญ่ บางคนยืนเขย่าไปเต้นไป นอกจากนี้ ผู้ที่โชคดีจากการมากราบไว้ขอพร นำเอาประทัดหลายพันดอกมาจุดเพื่อเป็นการแก้บนด้วย,นักเสี่ยงโชคที่มา ได้นำเอาพวงมาลัย ดอกไม้ ธูป เทียน ทองคำเปลว กราบไหว้ขอพรหลวงพ่อสำเร็จทันใจก้าวหน้า ส่วนที่พ่อขุนช้างมหาเศรษฐี สุภาพสตรีส่วนใหญ่ต้องเดินไปกระซิบขอพรข้างหูพ่อขุนช้างมหาเศรษฐี จากนั้นจึงพากันมาเขย่าเซียมซี ได้เลขนำไปเสี่ยงโชค,รายหนึ่งเป็นชาวบ้านจาก จ.นครปฐม เขย่าได้เลข 0-8 อีกรายเขย่าเซียมซียักษ์ ได้เลข 3-5 นอกจากนี้ยังมีนักเสี่ยงโชคจาก จ.ปทุมธานี เขย่าเซียมซียักษ์ ได้เลข 5-1-8 โดยบอกว่าจะนำไปเสี่ยงโชคเสี่ยงดวงต่อไป พร้อมกล่าวว่าหากได้โชคจะนำเครื่องเซ่นไหว้มาแก้บนพ่อขุนช้างมหาเศรษฐี จากนั้นชาวบ้านได้ไปให้หลวงปู่ดุสิต เจิมหน้าผาก เจิมกระเป๋าเงิน เสริมดวง เพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย | คอหวยยังฮิตแห่เขย่าเซียมซียักษ์วัดไผ่แขก เมืองสุพรรณบุรี พร้อมกระซิบขอโชคจาก พ่อขุนช้างมหาเศรษฐี บอกถ้าดวงดี จะมาแก้บนให้หนำใจ | ข่าว,ทั่วไทย | เลขเด็ด,เลขดัง,วัดไผ่แขก,หวยไทยรัฐ,หวย | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1625393 |
ฟ้อง วิทยา บุรณศิริ ตั้งบอร์ด สปสช.ผิดกฎหมาย | นส.บุญยืน ศิริธรรม และนางสุนทรี เซ่งกิ่ง กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ผู้แทนเกษตรและแรงงาน เปิดเผยว่าเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อระบบบัตรทอง และในฐานะที่เป็นผู้เสียหายจากที่ต้องร่วมรับผิดชอบต่อการมีมติอื่นๆ ที่จะตามมาของคณะกรรมการ สปสช. ชุดใหม่ ที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย จึงได้ยื่นฟ้องศาลปกครองแล้วเมื่อวันที่ 27 ธค. ที่ผ่านมาเพื่อขอให้เพิกถอนการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิที่ผ่านมา เพราะ รมว.สธ. ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติไม่ปฏิบัติตาม พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติมาตรา13 ที่ให้มีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้วยความอิสระ ไม่มีใบสั่งจากผู้มีอานาจและให้กรรมการจากทุกองค์ประกอบ เป็นผู้สรรหาและคัดเลือกแต่การประชุมที่ผ่านมา กรรมการจากองค์กรพัฒนาเอกชนทั้ง 5 คนไม่ได้มีส่วนร่วมเพราะติดภาวะน้าท่วม และไม่สามารถปลีกจากภารกิจอื่นเนื่องจากการนัดประชุมกะทันหัน ทาให้การคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 7 คนที่ผ่านมาไม่ชอบด้วยกฎหมาย เหมือนครั้งปี 2546 ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในขณะนั้นสั่งให้คัดเลือกใหม่กรรมการผู้แทนเกษตรกรและแรงงานเปิดเผยต่อว่า ได้เคยมีหนังสือคัดค้านการแต่งตั้งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายไปยัง รมว.สธ.และนายกรัฐมนตรี 2 ฉบับแล้ว แต่เรื่องยังเงียบอยู่ และมีความพยายามจะจัดประชุมคณะกรรมการ สปสช.ชุดใหม่ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อออกมติให้มีการเก็บเงินผู้ป่วยและอื่น ๆ ที่จะทาให้ระบบบัตรทองอ่อนแอลง เอื้อประโยชน์กับธุรกิจเอกชน จึงต้องพึ่งอานาจศาลปกครองให้เพิกถอนการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิดังกล่าว และคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้มีการประชุมที่อาจจะออกมติที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนนพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท เปิดเผยว่าแพทย์ชนบททั่วประเทศร่วมกับเครือข่ายผู้ป่วยโรคต่างๆ ที่เคยสนับสนุนนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของรัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่ผ่านมาในอดีต กาลังจับตาดูการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลที่เข้ามาแทรกแซงเอานายทุนพรรคและพวกที่เคยคัดค้านระบบหลักประกันสุขภาพเข้ามาเป็นเสียงข้างมากในคณะกรรมการ สปสช. ชุดใหม่ ว่าจะมีมติอะไรที่เป็นการทาลายระบบบัตรทองหรือเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจเอกชนหรือไม่ ถ้ามีมติเก็บเงินประชาชนหรือทาให้ ผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคไต โรคต้อกระจก โรคฮีโมฟีเลีย ไม่สามารถเข้าถึงบริการได้ เครือข่ายต่างๆ จะฟ้องเอาผิดกรรมการอย่างแน่นอน เพราะถือว่ากรรมการชุดนี้ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย | แพทย์ชนบทจับตากรรมการชุดใหม่ไม่ให้ล้มบัตรทอง โดยกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติผู้แทนเกษตรกรและแรงงาน ยื่นฟ้องศาลปกครองให้เพิกถอนการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สปสช. ชุดใหม่ สรรหาและคัดเลือก โดยองค์ประกอบของที่ประชุมไม่ครบ | สังคม | กระทรวงสาธารณสุข,คณะกรรมการบริหาร,สปสช,เกษตร,แพทย์ชนบท,แรงงาน | https://news.thaipbs.or.th/content/56373 |
แบบไหนเข้าเกณฑ์ตรวจฟรี COVID-19 -หมอรามาฯ วอนอย่าคุกคาม | วันนี้ (16 มี.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ซึ่งล่าสุดกรมควบคุมโรคได้ออกมาเผยแพร่รายละเอียดอาการเสี่ยงแบบไหนได้สิทธิ์ตรวจ COVID-19 ฟรี ทั้งนี้ได้ออกหลักเกณฑ์ผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สามารถตรวจหาCOVID-19 ฟรี เช่น มีประวัติเสี่ยงอย่างใดอย่างหนึ่งในช่วง 14 วันก่อนมีอาการเช่นนอกจากนี้ เป็นผู้ป่วยปอดอักเสบ ที่มีประวัติอย่างอย่างหนึ่งโดยสามารถเข้าตรวจรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิ์ (บัตรทอง ประกันสังคม ราชการ)ทั้งนี้สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หมอ เตือนคนไข้อย่าคุกคาม-ขู่ทำร้ายขณะที่ นพ.สุรเวช น้ำหอม คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์เฟชบุ๊ก Dr.Surawej Numhom ว่าโรงพยาบาลรามายินดีให้บริการตรวจคนไข้ที่สงสัยโรค COVID-19 แต่ต้องขอร้องนะครับ ว่าอย่าคุกคามเจ้าหน้าที่ ทั้งขู่จะทำร้าย ทั้งทำไอใส่หน้า หรือด่าว่าเจ้าหน้าที่ต่างนานา หมอได้ฟังแล้วรู้สึกหดหู่ใจมากครับเจ้าหน้าที่ทุกท่าน หมอพยาบาล ทำงานหนักมากอยู่แล้วครับ แล้วก็ทำเต็มที่ด้วย แต่มันตรวจเร็วแบบไข้หวัดธรรมดาไม่ได้ ต้องมีขั้นตอน ต้องระวังแบบที่สุด เลยทำให้ตรวจได้ช้า ซึ่งต้องใจเย็นถ้าท่านคุกคามเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ ไม่ให้บริการนะครับขอความเห็นใจและเข้าใจกันด้วยนะครับอ่าน | กรมควบคุมโรค ออกหลักเกณฑ์ทำความเข้าใจแบบไหนเข้าเกณฑ์เสี่ยงตรวจ COVID-19 ฟรี เช่น มาจากประเทศเขตติดโรค พื้นที่การระบาด สัมผัสคนป่วย มีไข้ 37.5 โดยตรวจรักษาตามสิทธิ์บัตรทอง ประกันสังคม ราชการ ขณะที่หมอรามาธิบดี โพสต์เจอคนที่มาตรวจขู่ทำร้าย - ต่อว่าจนท. | สังคม | COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,รพ.รามาธิบดี | https://news.thaipbs.or.th/content/289883 |
จั๊กจั่น เปิดต้นเหตุ ตัวการทำอาภัพ รักใครไม่เคยสมหวัง (คลิป) | ขอเลือกงานดีกว่าโฟกัสความรัก ฟุ้งตอนนี้มีละครติดต่อเข้ามาหลายเรื่อง แต่ขอดูและเลือกบทที่ตัวเองอยากจะเล่นจริงๆ ดีกว่า,หลังจากที่ผันตัวเองมาเป็นนักแสดงอิสระ ล่าสุดนักแสดงสาว จั๊กจั่น อคัมย์สิริ ก็ได้มาโปรโมตสินค้าที่รายการ ข่าวใส่ไข่ ทางช่องไทยรัฐทีวี 32 งานนี้เหล่าพิธีกรสุดแซ่บของรายการอย่าง หนุ่ม กรรชัย, มดดำ คชาภา และ รถเมล์ คนึงนิจ ก็ไม่พลาดที่จะอัพเดตเรื่องราวข่าวคราวหลังจากที่สาวจั๊กจั่นได้เป็นนักแสดงอิสระ พร้อมคำถามแซ่บๆ ที่ถูกมองว่าเป็นน้องเนเน่ เนรคุณ ฉีกสัญญาช่อง 7 และซุ่มคบทายาทเศรษฐีติด 1 ใน 10 ของประเทศไทย ซึ่งสาวจั่นก็พร้อมเปิดใจหมดเปลือกว่า,สัญญาของจั่นจะหมดสิ้นปีพอดี ก็เลยเข้าไปขอผู้ใหญ่ทางช่อง เพราะจั่นจะมีงานช่วงกลางปีพอดีที่ธุรกิจของจั่นจะต้องไปออก และต้องมีการโปรโมต ก็รู้สึกเกรงใจ และช่องก็ใจดี ออกจดหมายให้ จริงๆ การออกจดหมายเป็นผลดีต่อจั่นนะ คนจะได้รู้ว่าจั่นเป็นอิสระแล้ว,หลายคนมองว่าจั่นเป็นน้องเนเน่ เนรคุณ อกตัญญู ฉีกสัญญาก่อน?, ไม่เนค่ะ ถ้าจั่นเป็นน้องเนเน่ก็คงไม่สามารถที่จะกลับไปแถลงที่ช่อง 7 ได้ ไม่ได้มีอะไร ด้วยความที่อายุเราเยอะแล้ว เราโตขึ้นก็อยากจะทำงานหลายๆ อย่างนอกจากงานละคร อยากจะเป็นเจ้านายตัวเองเพื่ออนาคตที่ก้าวหน้าขึ้น ก็เลยขอจบสัญญา และสัญญาก็หมดสิ้นปีนี้อยู่แล้ว และในระยะ 6 เดือนไม่สามารถทำละครได้ 1 เรื่องอยู่แล้ว ก็เลยไปขอความกรุณาผู้ใหญ่,พอออกมาเนื้อหอมมาก คนทาบทามเยอะมาก? , มีคนทาบทามเยอะค่ะ ก็ต้องขอบคุณผู้จัดที่ติดต่อมา ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี เราโตแล้วก็อยากจะทำงานที่หลากหลายขึ้นค่ะ เพราะว่าอาชีพนักแสดงจั่นไม่ทิ้งอยู่แล้ว เพราะรักและต่อยอดทางธุรกิจด้วยค่ะ,มีทุกค่ายละคร ทุกรายการที่ติดต่อมา ขอบคุณมาก รู้สึกตื่นเต้นมาก 9 ปีแล้วที่ไม่ได้เป็นนักแสดงอิสระ ถือว่าต้องขอบคุณทุกคนที่ยื่นโอกาสและบทดีๆ ให้ แต่ตอนนี้ไม่ได้ตัดสินใจหรือว่าเซย์เยสกับทางค่ายละครไหนหรือว่ารายการไหน ต้องขอเวลาศึกษาบทก่อน เพราะเป็นก้าวต่อไปของเราด้วย,ช่อง 7 ให้จั่นรักษาภาพสาวนุ่มนิ่ม ไม่ให้เซ็กซี่ จั่นเลยไม่โอเค จริงหรือเปล่า? , ไม่น่าจะจริง ช่องรู้อยู่แล้วว่าจั่นไม่ใช่คนเรียบร้อย แต่ก็ไม่ใช่คนเซ็กซี่ เป็นคนตลกมากกว่า ถ้าเค้าจะขอก็คงจะขอว่าอย่าตลกมาก เค้าไม่เห็นว่าอะไรนะคะ ภาพลักษณ์จั่นไม่เซ็กซี่อยู่แล้ว,มีแฟนเป็นทายาทอภิมหาเศรษฐีติด 1 ใน 10 ของประเทศไทย? , ไม่มี ไม่จริง ไม่มีจริงๆ เค้าคือใครหนูยังไม่รู้เลย จั่นยังโสด พูดแบบนี้เดี๋ยวคนเข้าใจผิด เดี๋ยวจะไม่มีใครเข้ามาขายขนมจีบ,เรื่องความรักยังไง? , เราต้องเอาเป็นเรื่องๆ นะคะ ถ้าเราจับปลาหลายมือมันจะไม่ดีสักอย่าง ถ้าเอางานก็ต้องเอางานก่อน ไม่มีหนุ่มๆ เข้ามา ไม่รู้สึกเหงา เดี๋ยวเค้าจะหาว่างมงาย ถ้ารักดี งานจะไม่ดี แต่ถ้ารักไม่ดี งานจะดี,แล้วก็มีคนทักจั่น ให้จั่นเอางานก่อน เดี๋ยวความรักมันจะมาเดี๋ยวก็จะมาเอง ก็โสดหลายปีแล้ว จั่นรู้พื้นดวงของตัวเองอยู่แล้ว ถ้าความรักดี เรื่องงานอาจจะไม่ดี,ซึ่งเราก็รู้สึกว่ามันเป็นอย่างนั้น ด้วยบทละครที่ค่อนข้างจะถึงเนื้อถึงตัว ถ้ามีแฟนจั่นคงทำงานลำบาก ก็คงจะต้องเกรงใจแฟน แต่ตอนนี้ก็รู้สึกแฮปปี้ดีนะ ไม่ได้เดือดร้อน ถ้าต้องมีแฟนแล้วเสียความเป็นตัวตนจั่นก็ไม่เอานะ ไม่มี ตอบเหมือนสวย (หัวเราะ),เพื่อนๆ หาแฟนให้มั้ย? , เพื่อนๆ หาให้ค่ะ แต่ว่าก็ยังไม่ใช่ มันต้องคุยกันหลายอย่าง เข้าใจกันหลายอย่าง ประสบการณ์จากคนรอบข้างด้วยเวลาเค้ามีปัญหากับแฟนก็จะเริ่มหงุดหงิด เรารู้สึกสบายใจที่ไม่ต้องเป็นอย่างนั้น เพราะว่าจั่นเป็นคนขี้หงุดหงิด เวลามีแฟนก็ติดแฟน เลยรู้ตัวเองว่ายังไม่พร้อม,แต่จั่นไม่ได้ปิดตัวเองนะคะ ก่อนหน้านี้มีเข้ามาแต่ว่ามันก็ยังไม่ถูกใจค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะถ้าจั่นมีแฟนจั่นจะบอกทุกคนแน่นอน เพื่อให้ช่วยกันดูว่าเค้าเป็นผู้ชายแท้หรือเปล่า เค้าเป็นโสดจริงหรือเปลา ไม่ได้ซุกใครเอาไว้ใช่มั้ย และเค้ามีนิสัยพื้นเพยังไง รับรองถ้ามีไม่มีปิดอยู่แล้วค่ะ | จั๊กจั่น อคัมย์สิริ แจงไม่ได้เป็นน้องเนรคุณ รับเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่เรื่องสัญญาเพราะต้องการทำธุรกิจจริงๆ ยันที่ออกจากช่อง 7 ไม่ใช่เพราะช่องไม่ยอมให้เซ็กซี่ ปัดแอบคบทายาท 1 ใน 10 ของเศรษฐีประเทศไทย ยืนยันตอนนี้โสดสนิท | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | จั๊กจั่น อคัมย์สิริ,จั๊กจั่น ฉีกสัญญาช่อง 7,จั๊กจั่น ไม่ต่อสัญญาช่อง 7,จั๊กจั่น แฟน,จั๊กจั่น โสด,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/987001 |
จัดเต็ม เครือซีพี หนุนนักกีฬาไทยลุยศึก ซีเกมส์-โอลิมปิก (คลิป) | ,วันที่ 8 สิงหาคม 2562 ณ อาคารทรู ทาวเวอร์ - ศาสตราจารย์(พิเศษ) เจริญ วรรธนะสิน รองประธานกรรมการ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.วารินทร์ ตัณฑ์ศุภศิริ รองเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย นายขจร เจียรวนนท์ กรรมการบริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด นายณฤกษ์ มางเขียว รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจอาหารสำเร็จรูป บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร นายบัญญัติ คํานูณวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพี ออลล์ และ นายสุภกิจ วรรธนะดิษฐ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่ม ด้านการพาณิชย์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมแถลงข่าวการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่าง เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในการสนับสนุนด้านอาหารและการสื่อสารให้แก่ทัพนักกีฬาไทย สำหรับการแข่งขัน 2 ทัวร์นาเมนต์สำคัญอย่างเป็นทางการ ประกอบด้วย ซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์ วันที่ 30 พ.ย. ถึง 11 ธ.ค.62 และโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่น วันที่ 24 ก.ค. ถึง 9 ส.ค.63,โดยศาสตราจารย์(พิเศษ) เจริญ วรรธนะสิน รองประธานกรรมการ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ ให้การสนับสนุนกีฬาไทยมาอย่างต่อเนื่อง และในมหกรรมซีเกมส์ 2019 และโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กำลังจะถึงนี้ ต้องขอขอบคุณเครือเจริญโภคภัณฑ์, ซีพีเอฟ, ซีพี ออลล์ ที่ให้การสนับสนุนอาหารที่มีคุณภาพตามหลักโภชนาการ รวมถึงทรู คอร์ปอเรชั่น ที่ให้การสนับสนุนด้านการสื่อสารทางไกลที่รวดเร็วทันใจแก่ทัพนักกีฬาไทยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นกำลังกายและกำลังใจอันสำคัญให้นักกีฬาไทยในการเดินทางไปทำผลงานและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ส่วนเรื่องการแข่งขันนั้น คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับการกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาต่างๆ ดูแลในส่วนการเตรียมความพร้อมและการฝึกซ้อมของนักกีฬาอย่างดีควบคู่ไปเช่นกัน และหวังว่านักกีฬาไทยจะสามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้, ,นายขจร เจียรวนนท์ กรรมการบริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กล่าวว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์มีนโยบายสนับสนุนและส่งเสริมด้านการกีฬามาโดยตลอด ซึ่งมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติให้เป็นผู้สนับสนุนหลักด้านอาหารและการสื่อสารอย่างเป็นทางการในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติของทัพนักกีฬาไทยมาโดยตลอดนับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา โดยการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2019 และโอลิมปิกเกมส์ 2020 ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญของเครือฯในการนำศักยภาพของเครือฯและบริษัทในเครือ ประกอบด้วย บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร บมจ. ซีพี ออลล์ และ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น สนับสนุนด้านอาหารที่ดีต่อสุขภาพและการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพให้แก่ทัพนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนตลอดทั้ง 2 ทัวร์นาเมนต์,เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดหญิงทีมชาติไทย ขวัญใจแฟนกีฬาชาวไทย กล่าวว่า ในฐานะนักกีฬาที่ต้องเดินทางไปแข่งขันต่างประเทศ ยอมรับว่านอกจากการฝึกซ้อมอย่างเข้มงวดแล้ว เรื่องอาหารและการสื่อสารถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักกีฬาค่อนข้างมาก ซึ่งอาหารที่ซีพีให้การสนับสนุน ทำให้นักกีฬาทีมชาติไทยได้รับประทานอาหารไทยที่คุ้นเคย และสามารถติดต่อสื่อสารกับครอบครัวที่เมืองไทยได้ตลอดเวลา ทำให้มีสมาธิกับการทุ่มเททำหน้าที่และสร้างผลงานให้กับประเทศได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์, ,ทั้งนี้ ซีเกมส์ 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พ.ย. ถึง 11 ธ.ค. 62 มี 11 ชาติในอาเซียนเข้าร่วม ชิงชัยทั้งสิ้น 56 ชนิดกีฬา โดยทัพนักกีฬาไทยลงแข่งขันรวม 1,048 คน แบ่งเป็นนักกีฬาชาย 605 คน และนักกีฬาหญิง 443 คน ขณะที่โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 ก.ค. ถึง 9 ส.ค. 63 มี 206 ชาติจากทั่วโลกเข้าร่วม ชิงชัยทั้งสิ้น 33 ชนิดกีฬา | เรียกได้ว่าจัดเต็มเลยทีเดียวเมื่อ เครือซีพี ออกมาหนุนทัพนักกีฬาไทย ซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศทั้งอาหารและการสื่อสาร สู้ 2 ศึกใหญ่ ซีเกมส์-โอลิมปิก | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | ซีเกมส์,โอลิมปิกเกมส์,นักกีฬาไทย,ทัพนักกีฬาไทย | https://www.thairath.co.th/sport/others/1633403 |
ข่าวต้นชั่วโมง 13.00 น. บีทีเอส ปรับความถี่การเดินรถ 5 นาที ถึง เที่ยงคืน | บีทีเอส ปรับความถี่การเดินรถ 5 นาที,วันที่ 24 ก.พ. 59 จากเหตุขัดข้องรถไฟฟ้าบีทีเอส บริเวณจุดสับรางทิศทางจากสถานีชิดลมมุ่งหน้าเข้าสถานีสยามสแควร์ ทำให้ความถี่ในการบริการลดลง และผู้โดยสารที่ต้องเดินทางผ่านสถานีสยามสแควร์จะต้องเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีสยาม,ล่าสุด BTS แจ้งปรับรูปแบบการเดินรถไฟฟ้าใหม่เป็นดังนี้ จากสถานี หมอชิต-บางหว้า-หมอชิต ความถี่ 5 นาที, สยาม-แบริ่ง-สยาม ความถี่ 7 นาที และจากสถานีสยาม-สนามกีฬาแห่งชาติ-สยาม ความถี่ 5 นาที จนถึงเวลา 24.00 น.,คนส่วนใหญ่พอใจ บิ๊กตู่ ลดลง ไม่ปลื้ม ฉัตรชัย,ศูนย์สำรวจความคิดเห็น นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง 1 ปี 6 เดือน ของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จำนวน 1,252 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความพึงพอใจต่อการทำงานของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐมนตรี โดยแบ่งภูมิภาคออกเป็น 5 ภูมิภาค เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการดำรงตำแหน่งครบ 1 ปี 6 เดือน ของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ พบว่า ประชาชน ร้อยละ 29.68 ระบุว่า ทำงานในตำแหน่งนายกฯ ได้ดีมาก ร้อยละ 49.92 ระบุว่า ทำงานในตำแหน่งนายกฯ ได้ค่อนข้างดี,ส่วน ความกล้าตัดสินใจของพลเอกประยุทธ์ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 84.72 ระบุว่า มีความกล้าตัดสินใจในประเด็นทางการเมืองและการบริหารที่สำคัญ ขณะที่ ร้อยละ 13.52 ระบุว่า ไม่มีความกล้าตัดสินใจในประเด็นทางการเมืองและการบริหารที่สำคัญ,สำหรับประชาชนที่ไม่ประทับใจในการทำงานของคณะรัฐมนตรี รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ 5 อันดับแรก พบว่า อันดับ 1 ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 42.96 ระบุว่า ไม่ประทับใจ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองลงมา อันดับ 2 ร้อยละ 36.40 ระบุว่าเป็น นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์,นอกจากนี้ สำหรับคณะรัฐมนตรี รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ที่ประชาชนไม่รู้จัก 5 อันดับแรก พบว่า อันดับ 1 ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 26.24 ระบุว่า ไม่รู้จัก นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รองลงมา อันดับ 2 ร้อยละ 25.52 ระบุว่าเป็น นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม,บินโดยสารเนปาล นำ 21 นทท. ไปหิมาลัย หายสาบสูญ, เกิดเหตุเครื่องบินโดยสารของ บริษัท ทารา แอร์ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจะไปเดินเขาอยู่บนเครื่องบินอย่างน้อย 21 คน หายสาบสูญในเขตเทือกเขาหิมาลัย ทางตะวันตกของประเทศเนปาล หลังเครื่องบินได้ทะยานออกจากเมืองโภคารา จะไปยังเขตจอมสอม ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นยอดนิยมของการเดินเขาหิมาลัย,อย่างไรก็ตาม ทางการได้ส่งเฮลิคอปเตอร์บินค้นหาทันที แต่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศย่ำแย่ และ ทัศนวิสัยในการมองเห็นต่ำ | บีทีเอส แจ้งปรับรูปแบบการเดินรถทั้ง 2 สาย เฉลี่ยความถี่ 5 นาที จนถึงเวลา 24.00 น. ด้าน นิด้าโพล เผย ผลสำรวจคนส่วนใหญ่พอใจการทำงาน บิ๊กตู่ ลดลง ร้อยละ 42.96 ระบุไม่ปลื้ม ฉัตรชัย รมว.เกษตรฯ | null | ข่าวต้นชั่วโมง,13.00น.,บีทีเอส,บีทีเอสขัดข้อง,ปรับรูปแบบเดินรถ,นิด้าโพล,นายกรัฐมนตรี,บิ๊กตู่,พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา,ฉัตรชัย สาริกัลยะ,รมว.เกษตรฯ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/581708 |
กานต์ เผย เสี่ยโป้ ทยอยคืน 60 ล้าน หวังจะรักษาคำพูดชดใช้เงินหมด | เฟซบุ๊ก ,Wiphakorn Karn ,หรือ กานต์ วิภากร อดีตภรรยาของ เสก โลโซ ระบุว่า โฉนดใบนี้พ่อของโป้ จะโอนให้เมื่อวานที่ผ่านมา นัดกันแล้ว โป้บอกจะจ่ายค่าโอนเอง แต่ไปๆ มาๆ ก็ไม่ได้โอนเพราะเขาไม่ยอมจ่ายค่าโอนกัน เลยนัดอีกทีวันจันทร์ และโป้บอกว่า วันที่ 5 เม.ย. จะได้เงินประมาณ 8 แสน ก็จะเอามาทยอยใช้หนี้,โดยวันที่ 15 เม.ย. จะได้เงินจากบัญชีเมียที่ถูกอายัดไว้อีก 3 ล้านบาท ก็จะเอามาคืนเราทั้งหมด และทุกๆ วันจะทยอยโอนใช้หนี้ เริ่มจาก 5,000-10,000 เดือนหน้าจะประมาณหลักแสน ทุกวัน หวังว่าคงจะรักษาคำพูดนะ คุณเคยบอกว่า ,ผมไม่ทำคนดี จำขึ้นใจ เราไม่อยากมีเรื่อง เราอยากได้เงินคืน ใครจะด่าจะอะไรเรา เราก็ไม่ว่าเพราะเราทำผิดเองที่โง่เขลา เรายอมรับผิดค่ะ,อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เสี่ยโป้ ยอมรับว่ายืมเงินกานต์ 100 ล้านจริง และต้องจ่ายดอกเบี้ย 10 ล้าน แต่มั่นใจว่าตัวเองมีคืนให้ และก็มีเอาโฉนดที่ดินอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่ง 60 ล้านที่ติดกานต์อยู่นั้น ค่อนข้างมาก แต่มั่นใจว่าต้องทยอยคืนไม่เกินปีอยู่แล้ว | กานต์ วิภากร อดีตเมีย เสก โลโซ เผย เสี่ยโป้ จะทยอยคืนเงิน 60 ล้าน หวังจะรักษาคำพูดชดใช้เงินหมด | ข่าว,สังคม | กานต์ วิภากร,กานต์ เมีย เสก โลโซ,กานต์ เสี่ยโป้,โป้ยืมเงินกานต์,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1231612 |
ลูกจ้างพอยิ้มได้ ประกันสังคมเตรียมจ่ายเงินว่างงานเพราะโควิด 4 พ.ค.63 นี้ (คลิป) | ลูกจ้างพอยิ้มได้ ประกันสังคม เตรียมจ่ายเงิน ว่างงาน ตกงาน เพราะโควิด-19 และเหตุสุดวิสัยวันที่ 4 พ.ค. นี้จำนวน 3 แสนราย ส่วนที่เหลือจะเร่งคุยนายจ้างส่งข้อมูลด่วนเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 63 นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยผ่านรายการถามตรงๆ กับจอมขวัญ ไทยรัฐทีวีช่อง 32 กรณีที่ลูกจ้างลงทะเบียนใช้สิทธิ์เพื่อรับเงินว่างงาน ตกงานจากประกันสังคมตั้งแต่เดือน มี.ค. แต่จนถึงเดือน พ.ค.ก็ยังไม่ได้รับการชดเชยว่า เงินที่ประกันสังคมนำมาจ่ายให้นั้นเรียกว่า เงินประกันการว่างงานโดยก่อนหน้านี้ การนำเงินประกันการว่างงานมาจ่ายให้ลูกจ้างนั้น ต้องดำเนินการทั้งลูกจ้าง และนายจ้าง เพราะเงินในส่วนนี้มีการนำส่งทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งต้องมีการรายงานตัว ต้องมีการส่งหนังสือของนายจ้างว่า ลูกจ้างออกแล้ว ลูกจ้างพักงาน หรือลูกจ้างต้องหยุดงาน ซึ่งค่อนข้างยุ่งยาก แต่วันนี้ ทางประกันสังคมได้ลดขั้นตอนดังกล่าวลงแล้ววันนี้เราทำได้เร็วขึ้น มีผู้ใช้สิทธิ์ตอนนี้ 1.1 ล้านคน และประกันสังคมสามารถอนุมัติเรียบร้อยแล้ว 326000 กว่าคน เงินจะโอนให้ในวันที่ 4 พ.ค. 63 นี้ โดยล่าสุดเรามีการเร่งทำข้อมูลให้เร็วที่สุด ซึ่งในส่วนนี้จะมีลูกจ้างได้รับอนุมัติอีก 1 แสนราย ส่วนอีก 5 แสนรายที่เหลือ เรารอนายจ้างมารับรอง ซึ่งทุกหน่วยงานในกระทรวงแรงงานจะออกติดตามนายจ้างทั่วประเทศ เพื่อให้รับรองลูกจ้าง โดยส่วนใหญ่พบว่า นายจ้างเหล่านี้เป็นสถานประกอบการเล็กๆ ซึ่งเราจะต้องเข้าถึงเพื่อให้ลูกจ้างได้รับเงินเยียวยาแน่นอน | ลูกจ้างพอยิ้มได้ ประกันสังคม เตรียมจ่ายเงิน ว่างงาน ตกงาน เพราะโควิด-19 และเหตุสุดวิสัยวันที่ 4 พ.ค. นี้จำนวน 3 แสนราย ส่วนที่เหลือจะเร่งคุยนายจ้างส่งข้อมูลด่วน | ข่าว,เศรษฐกิจ | ประกันสังคม,ว่างงานประกันสังคม,ว่างงาน,ตกงานประกันสังคม,เงินประกันสังคม,โควิด-19,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1834969 |
เล่นเฟซบุ๊กยังไงให้ความรักเราไม่พัง? | ซึ่งผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อกังขาว่า เป็นเพราะการจับคู่ผ่านเฟซบุ๊กทำให้คนไม่รู้สึกเกร็ง เพราะคุณไม่จำเป็นต้องมีรูปโปรไฟล์เซ็ตถ่ายอย่างตั้งใจ หรือการคอมเมนต์แต่ละครั้งก็ไม่ต้องพะวงกลัวอีกฝ่ายเข้าใจผิดว่าคุณแอบชอบ เพราะแค่รู้จัก เราก็เมนต์กันได้แล้ว,ในขณะที่การส่งข้อความหาอีกฝ่ายในเว็บจับคู่แสดงออกถึงความสนใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็นะ ใช่ว่าไม่มีข้อเสีย โดยเฉพาะระยะหลังที่เฟซบุ๊กหรือไอจีมีฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมายจนเราตามไม่ทัน เช่น จู่ๆ ระบุสถานที่โพสต์รูปหรือข้อความ ไม่ก็ฟีเจอร์จดจำใบหน้า แท็กรูปคนให้อัตโนมัติ ฯลฯ,ใครเจออย่างนี้คงอยากปิดเฟซบุ๊กไปเลยเพื่อความอยู่รอดของชีวิตคู่ เพราะมีผลการสำรวจพบว่า คนที่เล่นเฟซบุ๊กหรือเข้าไอจีวันละหลายครั้ง มักจะบอกเล่าความรู้สึกผ่านโซเชียลมีเดียตามรายงานที่ตีพิมพ์ในวารสาร Cyberpsychology, Behavior and Social Networking ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เรื่องส่วนใหญ่ที่โพสต์มักหนีไม่พ้นปัญหา เช่น การนอกใจ เลิกรา หรือหย่าร้าง,ผลสำรวจผู้ใช้งานเฟซบุ๊กจำนวน 205 คน บ่งบอกว่าพวกเขาเข้าอินเทอร์เน็ตบ่อยขนาดไหน และเคยมีปัญหากับแฟนที่เพิ่งเลิกราหรือกำลังคบกันอยู่เพราะเฟซบุ๊กบ้างหรือไม่ เลยเถิดถึงขั้นเลิกกันไปเลยหรือนอกใจแฟนเพราะเฟซบุ๊กบ้างหรือเปล่า ผลออกมาว่า, ส่วนใหญ่คนเราใช้งานเฟซบุ๊กทุกวัน คนที่เล่นเฟซบุ๊กบ่อยๆ มักมีปัญหากับคนรักและเป็นปัญหาหนักหัวเสียด้วย อีกทั้งยังเกิดกับคู่รักที่คบกันมาไม่เกิน 3 ปี หรือน้อยกว่านั้น,เล่นไม่ได้เลยครับ เพราะแฟนจะสอดส่องพฤติกรรมทุกอย่าง ไปคอมเมนต์ใครไว้บ้าง รับใครเป็นเพื่อนบ้าง ดีนะเนี่ยที่ไม่ได้รับแฟนเก่าเป็นเพื่อน เพราะวันนั้นแฟนไปไล่ดูเพื่อนผมทุกคนในเฟซบุ๊กว่ามีแฟนเก่าหรือเปล่า ชายคนหนึ่งโพสต์ระบายความอัดอั้นในโลกออนไลน์ นี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าเฟซบุ๊กเข้ามามีบทบาทและเป็นอีกหนึ่งกลไกที่มีผลต่อความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวยุคนี้,เราเลยอดคิดไม่ได้ว่าความรักยุค 2015 มีเฟซบุ๊กนี่แหละเป็นตัวทำลายความสัมพันธ์ โดยเฉพาะคู่ที่ไม่มั่นคงอยู่แล้ว ,ผลการสำรวจก่อนหน้านี้ชี้ชัดถึงปัญหาความรักที่เกี่ยวโยงกับเฟซบุ๊ก เพราะการเข้าไปดูเฟซบุ๊กของแฟนว่าวันๆ ทำอะไรบ้าง มักก่อให้เกิดอาการหึงหวง, ยืนยันจากปากของรัสเซลล์ เคลย์ตัน (Russell Clayton) ตัวตั้งตัวตีในการวิจัยครั้งนี้,นอกจากนี้ยังพบอีกว่า ,ผู้ใช้เฟซบุ๊กมักติดต่อหรือรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับผู้เล่นเฟซบุ๊กคนอื่นๆ เช่น กิ๊ก หรือคนรักเก่าที่นำพาไปสู่การนอกใจทั้งทางอารมณ์และทางกาย,แต่ถ้าคุณไม่อยากเลิกรากับแฟนเพราะโซเชียลมีเดียล่ะก็ ลองทำตามคำแนะนำจากเรา รับรองเฟซบุ๊กทำอะไรคู่ของคุณไม่ได้แน่,กฎข้อที่ 1 อย่าเปลี่ยนสถานภาพพร่ำเพรื่อ,ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ข้อผิดพลาดใหญ่หลวงของโซเชียลมีเดียคือ การทำให้เรื่องไม่เป็นเรื่องกลายเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรในกอไผ่ เวนดี้ เวลช์ (Wendy Walsh) คุณหมอผู้แต่งหนังสือ the 30-Day Love Detox ย้ำว่า คุณต้องคุยกับอีกฝ่ายก่อนจะเปลี่ยนสถานภาพ ไม่ใช่ทึกทักเอาเองว่าเขาอยากเปิดตัวว่าคบกัน เอาเข้าจริงเขากลับไม่เล่นด้วย แล้วปล่อยให้คุณเป็นแม่สายบัวรอเก้อ สิ่งที่ไม่ควรลบหรือเปลี่ยนคือ รูปถ่ายคู่กันตอนยังไม่เป็นแฟน หรือเดตสำคัญๆ ที่ควรจดจำ เมื่อความสัมพันธ์เดินทางมาถึงจุดเปราะบาง สิ่งสำคัญคือความเป็นส่วนตัว เพราะความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต้องมีระยะห่างอยู่บ้าง มันถึงจะเติบโตแน่นแฟ้น,กฎข้อที่ 2 หยุดเข้าไปวุ่นวายกับเฟซบุ๊กเขาซะที,จากที่ศึกษามา การเล่นเฟซบุ๊กวันละหลายรอบไม่ส่งผลดีอยู่แล้ว คุณต้องกำหนดว่าใน 1 วัน ควรโพสต์สเตตัสหรือถ่ายรูปลงอินสตาแกรมกี่หน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณชอบเข้าไปเช็กเฟซบุ๊กบ่อยๆ ว่าใครทำอะไร ที่ไหน แม้ตอนกำลังกินข้าวกับแฟนหรืออยู่ในโรงหนัง หรือเบื่อๆ ไม่มีอะไรทำเลยหยิบมือถือขึ้นมาดูเฟซบุ๊กชาวบ้าน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้อีกฝ่ายคิดว่าคุณไม่ไว้ใจและไม่ให้เกียรติเขา คริสตี้ ฮาร์ตแมน (Christie Hartman) คุณหมอเจ้าของงานเขียน Find the Love of Your Life Online ลงความเห็น ระวังอย่าล้ำเส้นก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของกันและกันเกินขอบเขต ถ้าอีกฝ่ายเริ่มบ่นหรือแสดงท่าทีรำคาญเมื่อคุณดูมือถือบ่อยๆ นั่นแหละสัญญาณบอกให้รู้ว่าคุณทำเกินไปแล้ว,กฎข้อที่ 3 อย่าเล่นเฟซบุ๊กตอนอารมณ์เหวี่ยง,ถ้าเพิ่งทะเลาะกับแฟนหรือโดนเจ้านายด่ามาหยกๆ สิ่งที่คุณควรทำคือ ปิดคอมพ์ (และมือถือ) ก่อนจะเดินไปสงบสติอารมณ์ อย่าใช้วิธีโพสต์ข้อความระบายสิ่งที่อัดอั้นในใจหรือพูดอะไรไม่คิด ให้เพื่อนเป็นร้อยเป็นพันคนได้อ่าน อีกอย่างเฟซบุ๊กสมัยนี้เป็นเหมือนศูนย์รวมของสิ่งที่คุณอยากและไม่อยากเห็น ไม่ว่าจะเป็นรูปเปิ่นๆ สมัยเด็ก หรือรูปแฟนคุณกับคนรักเก่า เพราะจะทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงไปอีก เฟซบุ๊กทำให้คนเรารู้สึกแย่หรือจิตตกง่ายมากๆ เวนดี้กล่าว ยิ่งกว่านั้นคุณอาจเผลอใช้ถ้อยคำรุนแรงโต้เถียงกับเขา แล้วต้องมานั่งเสียใจภายหลัง,กฎข้อที่ 4 ระวังถ้าจะเป็นเพื่อนกับคนรักเก่า,หนึ่งในฟีเจอร์เสี่ยงต่อสัมพันธ์รักที่สุดของเฟซบุ๊กก็คือ มันเป็นเครื่องมือติดต่อกับบรรดาแฟนเก่าหรือกิ๊กทั้งหลายง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ทำให้คู่รักตีกันบ้านแตกแน่นอน (ปัญหาสุดคลาสสิก ทำไมต้องเป็นเพื่อนกับแฟนเก่า) หากคุณไม่อยากทะเลาะกับคนรักเรื่องแฟนเก่า สิ่งสำคัญคือ คุณต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ว่าคุณจะเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าในเฟซบุ๊กก่อนเจอเขาหรือหลังจากคบกับเขาแล้วก็ตาม รวมถึงระมัดระวังการกระทำของตัวเองด้วย ลองนึกภาพว่ามีคนแอบก๊อบปี้สิ่งที่คุณเขียนในเฟซบุ๊กและเอาไปโพสต์ประจานในเว็บอื่นจะเกิดอะไรขึ้น สรุปก็คือ อย่าทำอะไรโง่ๆ ด้วยการโพสต์ในที่สาธารณะ,กฎข้อที่ 5 โชว์หวานบ้างก็ดี,อย่าเพิ่งคิดมากว่าโซเชียลมีเดียมีแต่ข้อเสีย ในความเป็นจริงคู่รักที่โพสต์รูปหวานๆ หรือขึ้นรูปโปรไฟล์เป็นรูปคู่ รวมถึงแชร์สิ่งต่างๆ กับแฟน มีแนวโน้มได้รับความสุขมากกว่า คริสตี้กล่าวเสริมอีกว่า การโชว์หวานเล็กๆ น้อยๆ ในโลกออนไลน์ดีต่อความสัมพันธ์ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า แม้คุณจะเล่นเฟซบุ๊ก แต่ใช่ว่าจะทอดทิ้งไม่เหลียวแลคนรัก คุณต้องให้ความสำคัญกับเขาด้วย ดังนั้นถ้าอยากจะโพสต์ข้อความบนหน้าวอลล์แฟนหรือแท็กชื่อเขาบ่อยๆ ในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาทำรีบแท็กเลย มีข้อแม้แค่อย่าโอเว่อร์จนคนหมั่นไส้ อย่างนั้นมันดูไม่ค่อยจริงใจเท่าไร,เรื่อง: WH USA | แปลและเรียบเรียง: ดร.ชีสไบท์ | ภาพ: Corbis Images,ที่มา - Womens Health Thailand,www.womenshealththailand.com,นิตยสาร Womens Health ฉบับเดือนธันวาคม 2015 | จริงอยู่ว่าทุกอย่างมักมีสองด้านเสมอ หลายครั้งที่เราได้ยินข่าวแต่งงานจากคู่ที่พบรักกันผ่านเฟซบุ๊ก น่าสังเกตว่าเดี๋ยวนี้เฟซบุ๊กจับคู่ให้คนได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องพึ่งเว็บจับคู่ออนไลน์เสมอไป | ข่าว,ไอที | เฟซบุ๊ก,ความรัก,ล้มเหลว,รักพัง,facebook,คู่รัก,เลิกกัน,นอกใจแฟน,เปลี่ยนสถานภาพ,เล่นเฟซบุ๊ก,โชว์หวาน,Corbis Images,WH USA,ดร.ชีสไบท์,Women's Health,Women's Health Thailand,โซเชียลมีเดีย,โพสต์รูปคู่,ข่าว,ข่าวไลฟ์สไตล์,ข่าวไอที,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/tech/563663 |
งูกินหาง 50 บาท ค่าเซอร์ชาร์จแท็กซี่สนามบิน เงินเข้ากระเป๋าใคร? | เมื่อเกิดทางเลือกใหม่ให้กับผู้โดยสารในสนามบินสุวรรณภูมิ จนกลุ่มแท็กซี่ขนาดใหญ่ หรือแท็กซี่แวนรวมตัวทวงถามจากกรมการขนส่งทางบก กับข้อเรียกร้องขอปรับขึ้นค่าเซอร์ชาร์จ (surcharge) จาก 50 บาท เป็น 100 ซึ่งเคยยื่น 4 ปีแล้ว ยังไม่ได้รับพิจารณา แต่กลับเกิด แท็กซี วีไอพี ซึ่งมีลักษณะรถคล้ายกัน แต่คิดค่าเซอร์ชาร์จ 100 บาท ดังที่,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,ลงพื้นที่สำรวจและนำเสนอแล้วนั้น คลิกอ่านข่าว ,ลอยแพ ทวงถาม ทรหดแค่ไหน กว่าแท็กซี่สุวรรณภูมิ จะได้เงินเซอร์ชาร์จ 50 บาท (คลิป), ,จากกรณีดังกล่าว เกิดข้อสงสัยหลายประเด็นจากกลุ่มแท็กซี่และผู้โดยสาร อาทิ ,ค่าเซอร์ชาร์จ 50 บาท จำเป็นอย่างไร ยกเลิกได้หรือไม่ อะไรทำให้แท็กซี่วีไอพีได้อนุมัติค่าเซอร์ชาร์จ 100 บาท รวมถึงประเด็นสำคัญที่สุด คือ เหตุใดผู้โดยสารต้องเป็นคนแบกรับภาระ,เรื่องของเรื่อง เก็บ 50 บาท มีที่มาจากสนามบินดอนเมือง,กำเนิดการเก็บค่าเซอร์ชาร์จ นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยกับทีมข่าวฯ ว่า เกิดขึ้นในปี 39 ซึ่งตอนนั้นสนามบินของไทยมีแห่งเดียว คือ ดอนเมือง ,ในช่วงแรกที่ให้บริการ ส่วนใหญ่รถแท็กซี่ ไม่นิยมเข้าไปรับผู้โดยสารในสนามบินดอนเมือง, เหตุเสียเวลารอคอยผู้โดยสาร ทางกระทรวงคมนาคม ต้องการให้มีรถโดยสารสาธารณะประเภทแท็กซี่เข้าไปบริการนอกเหนือรถป้ายเขียว หรือรถลีมูซีนที่มีอยู่ ซึ่งรถกลุ่มนี้ค่าโดยสารค่อนข้างแพง,จึงกำหนดให้รถแท็กซี่เข้าไปบริการในสนามบิน ,โดยคิดค่าเสียเวลาให้ เนื่องจากเป็นต้นทุนที่ต้องไปรอรับผู้โดยสาร และเป็นค่าบริการในการขนสัมภาระ, เกิดค่าเซอร์ชาร์จให้ตามประกาศกระทรวงคมนาคมไม่เกิน 100 บาท แต่ให้เก็บ 50 บาท หลังจากนั้นเมื่อ ก.ย. 2549 สนามบินสุวรรณภูมิเปิดก็ใช้อัตราเดียวกัน,หลักคำนวณค่าเซอร์ชาร์จ เผยเหตุผลักภาระให้ผู้โดยสาร ท้ายสุดเงินเข้ากระเป๋าใคร,ค่าเซอร์ชาร์จ ใช่ ค่าเรียกรอ ตามที่บางคนเข้าใจหรือไม่ นายเชิดชัย ชี้แจงข้อสงสัยนี้ว่า ค่าเซอร์ชาร์จ เป็นประกาศของกระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบกในฐานะนายทะเบียนเป็นคนเสนอ ,คำว่าเซอร์ มาจากคำว่า เซอร์วิส (service) ความหมายที่ถูกต้องคือ ค่าธรรมเนียมพิเศษจากค่าโดยสาร, โดยคิดคำนวณจากปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับต้นทุนการเดินรถ อาทิ ต้นทุนที่ต้องเสียเวลาในการรอคอย,โดยคิดคำนวณจากวันหนึ่งมีรายได้เท่าไหร่ จากนั้นคำนวณมาเป็นชั่วโมง เป็นนาที และคำนวณว่าถ้าไปที่สนามบินกว่าจะได้ผู้โดยสารต่อคัน ต้องเสียเวลารอคอยเท่าไหร่ ก็คำนวณบวกต้นทุนนั้นให้ผู้โดยสารเป็นผู้รับภาระ, เมื่อผู้โดยสารขี้นแท็กซี่ ณ จุดจอดที่กำหนดไว้ ในสนามบิน ผู้โดยสารต้องเสียค่าธรรมเนียม 50 บาท ให้กับผู้ขับขี่รถแท็กซี่โดยตรง เหตุเพราะผู้โดยสารเป็นผู้ใช้บริการ,คำเฉลย ค่าเซอร์ชาร์จแท็กซี่ VIP ไฉน 100 บาท ทั้งๆ ที่ขนาดรถใกล้เคียงแท็กซี่แวน,ซึ่งประเด็นนี้ สร้างความฉงนให้กับกลุ่มแท็กซี่สนามบินสุวรรณภูมิเป็นอย่างมาก เ,นื่องจากเรียกร้องขอเพิ่มค่าเซอร์ชาร์จจาก 50 เป็น 100 บาท ไป 4 ปี แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณา แต่ทำไมแท็กซี่ VIP กลับได้เซอร์ชาร์จ 100 บาท ทั้งที่รถมีขนาดใกล้เคียงกัน, โดยรองอธิบดีกรมการขนส่งฯ เปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างแท็กซี่วีไอพี กับแท็กซี่แวน ว่าแท็กซี่วีไอพี เป็นบริการทางเลือกอีกแบบ,มิติรถคล้ายกัน แต่ลักษณะการให้บริการของแท็กซี่วีไอพีจะมีการกำหนดมาตรฐานการให้บริการที่แตกต่างจากแท็กซี่แวน, อาทิ การแรกเข้าการเป็นแท็กซี่วีไอพีต้องเป็นในรูปนิติบุคคล ที่มีการบริหารจัดการค่อนข้างมืออาชีพ มีแผนพัฒนาบุคลากรและมาตรฐานการให้บริการ และกำหนดบังคับต้องเรียกผ่านแอบพลิเคชัน ,โดยหลักการคำนวณค่าเซอร์ชาร์จให้ 100 บาท มีปัจจัยจากต้นทุนการประกอบการทั้งหมด ซึ่งตั้งไว้สูงเพื่อมาตรฐานที่ดี,ทั้งนี้ต้นทุนรถแท็กซี่วีไอพี 1 คัน นั้นราคาสูงเท่าไร ทีมข่าวฯ สอบถามจากนายโกเมศ สุขประเสริฐ ผู้จัดการด้านการดำเนินการ เปิดเผยข้อมูลว่า รถแท็กซี่วีไอพี ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ไม่ใช้เครื่องยนต์กับน้ำมัน ใช้มอเตอร์กับไฟฟ้าอย่างเดียว ช่วยลดมลพิษ ,เฉพาะรถเปล่าๆ ราคาเกือบ 2 ล้าน หากมีการติดตั้งอุปกรณ์ เช่น มิเตอร์ ป้ายทะเบียน กล้อง CCTV หน้าตัวรถกับในรถ จนครบถ้วน ตกคันละ 2 ล้านกว่าบาท, นายโกเมศชี้แจง,คนขับเจตนาแฝง เหมา ชี้ช่องทาง ป้ายเขียว แต่ไม่ดำเนินการ,กลุ่มแท็กซี่แวนที่สนามบินสุวรรณภูมิกลับมาทวงถามข้อเรียกร้อง รองอธิบดีกรมการขนส่งฯ เปิดเผยว่า, เป็นแท็กซี่ที่จดทะเบียนนานแล้ว อยากได้ค่าโดยสารสูงกว่าแท็กซี่ปกติ เนือ่งจากรถคันใหญ่กว่า มีต้นทุนสูงการใช้เชื้อเพลิงมากกว่า, ซึ่งเมื่อปี 59 ทางกรมการขนส่งฯ การท่าฯ พยายามแก้ปัญหาให้ตรงความต้องการ,คือ เจตนาอยากเหมาค่าโดยสารมากกว่ากดมิเตอร์ เสนอทางเลือกให้เปลี่ยนประเภทรถเป็นป้ายเขียว, โดยการท่าฯ จัดที่จอดต่างหาก จะเก็บค่าโดยสารอย่างไรอยู่ที่การท่าฯ กำหนด แต่คงไม่กำหนดให้เท่ากับรถป้ายเขียวของการท่าฯ ที่มีให้บริการอยู่แล้ว เพราะสภาพรถแท็กซี่แวนสู้รถกลุ่มนั้นไม่ได้ แต่แท็กซี่ไม่เปลี่ยนป้าย,อยากให้แฟร์กับผู้โดยสารด้วย เป็นมิเตอร์ก็ต้องใช้มิเตอร์ มีกฎหมายบังคับไว้, รองอธิบดีกรมการขนส่งฯ กล่าว,งูกินหาง ปฐมเหตุแท้จริง กรมการขนส่งลั่น ต้องแฟร์กับผู้โดยสาร,อย่างไรก็ดี นายเชิดชัย ระบุอีกว่า ตั้งแต่รับข้อเรียกร้องมาแต่แรก ทั้งการท่าฯ คณะทำงาน ก็มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า การขึ้นค่าเซอร์ชาร์จไม่สามารถแก้ปัญหาให้รถแท็กซี่ได้ เพราะเจตนา คือ ต้องการรับเหมา แต่โดนลงโทษ หรือร้องเรียนอยู่เรื่อย ,ทั้งนี้ก็มีการทบทวนอยูตลอด และทางกระทรวงคมนาคมกำหนดค่าโดยสารและค่าเซอร์ชาร์จขั้นต่ำไว้แล้ว หากต้องการให้ขึ้นค่าโดยสาร ค่าเซอร์ชาร์จ จะยกเลิก หรือปรับปรุงให้เหมาะสม ทำได้ทั้งนั้น ถ้ามีเหตุมีผล มีความเป็นธรรมทั้งคนขับและผู้โดยสาร,เนื่องจากเป็นปัญหางูกินหาง ผู้โดยสารอ้างว่าบริการแย่ๆ,อยากฝากประชาชนผู้ใช้บริการ อยากได้บริการที่ดีมีคุณภาพ ราคาก็ต้องเป็นธรรมกับคุณภาพและการบริการ, นายเชิดชัยกล่าว,พร้อมเปิดเผยถึงปัญหาในขณะนี้ ต้องเจรจาทำความเข้าใจร่วมกัน เนื่องจากการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่มิเตอร์ ค่าเซอร์ชาร์จ มีเงื่อนไขและประกาศกฎกระทรวง ขณะนี้กรมการขนส่งฯ อยู่ระหว่างให้สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ศึกษา แต่ยังไม่แล้วเสร็จ,ทางราชการอยู่ตรงกลางก็ต้องดูต้องหาจุดที่ลงตัว เพราะบางทีอาจวิ่งเที่ยวเดียว แต่บอกต้นทุนสูง ถ้ากำหนดสูงก็จะไม่มีคนมาใช้บริการ, รองอธิบดีกรมการขนส่งฯ เน้นย้ำแนวทางแก้ปัญหา,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน,ภาพ ชุติมน เมืองสุวรรณ,อ่านข่าวเกี่ยวข้อง : ,ลอยแพ ทวงถาม ทรหดแค่ไหน กว่าแท็กซี่สุวรรณภูมิ จะได้เงินเซอร์ชาร์จ 50 บาท (คลิป),สืบเสาะข่าว รับเรื่องราวร้องทุกข์ สามารถส่งเรื่องราว หรือประเด็นปัญหาของท่านมาได้ที่,
,[email protected] , หรือช่องทาง Facebook : ,ทีมข่าวเฉพาะกิจ | ไขข้อสงสัย ค่าเซอร์ชาร์จ 50 บาท จำเป็นอย่างไร ยกเลิกได้หรือไม่ อะไรทำให้แท็กซี่วีไอพีได้อนุมัติค่าเซอร์ชาร์จ 100 บาท รวมถึงประเด็นสำคัญที่สุด คือ เหตุใดผู้โดยสารต้องเป็นคนแบกรับภาระ | ข่าว | ขึ้นค่าเซอร์ชาร์จ,แท็กซี่สุวรรณภูมิ,เชิดชัย สนั่นศรีสาคร,แท็กซี่ดอนเมือง,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/1381706 |
ในหลวง ร.10 เสด็จฯ พื้นที่ปัตตานี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ | สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจพื้นที่ปัตตานี พระราชทานรางวัลทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับภาคใต้และระดับประเทศ พร้อมพระราชทานโล่เกียรติคุณและเงินรางวัลแก่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่ามที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น,เมื่อเวลา 18.19 น. วันที่ 9 ธ.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เสด็จฯ ถึงสนามบินเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว สนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี โดยมีนายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายณรงค์ กอนดี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดปัตตานี พลตรีสมดุล เอี่ยมเอก ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 พลตำรวจตรีโพธ สวยสุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจภาค 9 พร้อมด้วยข้าราชการ เฝ้าฯ รับเสด็จ,จากนั้น ได้ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ ถึงพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงวางพานพุ่ม วางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ต่อจากนั้น ได้ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ ถึง มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ทรงเป็นองค์ประธานในการพระราชทานรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับภาคใต้ และระดับประเทศ ประจำปี 2560 โดยนายมูฮำมัด หะยีมูซอ ผู้ชนะเลิศการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ ได้อัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน,จบแล้ว นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการพร้อมกราบบังคลทูลเบิกตัวผู้ชนะเลิศ รองชนะเลิศ ผู้ให้การสนับสนุนการจัดงานฯ และคณะกรรมการตัดสินเข้ารับพระราชทานถ้วยรางวัล และโล่ที่ระลึก จำนวน 36 ราย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับผู้นำศาสนาอิสลาม ทรงฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับคณะกรรมการตัดสินและผู้ให้การสนับสนุน เสด็จฯ ทอดพระเนตรสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (สินค้า OTOP),จากนั้น ทรงเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปยังหอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี ในการพระราชทานโล่เกียรติคุณ และเงินรางวัล แก่ผู้แทนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น จำนวน 6 รางวัล และอิหม่ามที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น จำนวน 24 ราย ต่อด้วยการพระราชทานรางวัลผู้บริหารโรงเรียน ครูและนักเรียนโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้ ที่ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับพระราชทานรางวัล ประจำปี 2559 จำนวน 27 ราย. | สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจพื้นที่ปัตตานี พระราชทานรางวัลการทดสอบอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับภาคใต้และระดับประเทศ พร้อมพระราชทานโล่เกียรติคุณและเงินรางวัลแก่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่าม | ข่าว,พระราชสำนัก | สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว,พระราชกรณียกิจในหลวง,ในหลวง,ปัตตานี,พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/royal/1148973 |
ฝุ่น PM2.5 : สั่งทบทวนค่าฝุ่น PM2.5 -ปรับกำมะถันน้ำมันดีเซลต่ำกว่า 10 ppm | วันนี้ (4 ก.พ.2562) นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (นัดพิเศษ) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาแนวทางและมาตรการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่กทม. และปริมณฑล เพื่อออกมาตรการทั้งระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาวให้เข้มข้นขึ้นโดยมีมติเห็นชอบให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการระยะเร่งด่วนอย่างเข้มงวดที่สุด เพื่อลดผลกระทบและแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง PM2.5 ควบคู่กับสร้างความเข้าใจให้ประชาชนมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องฝุ่น PM2.5 ให้อยู่บนข้อเท็จจริง และไม่บิดเบือนความจริงในสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งการบังคับใช้กฎหมายควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษให้ชัดเจนจากการตรวจสอบพบกรุงเทพมหานครฝุ่นละออง PM2.5 สาเหตุหลักมาจากรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์และน้ำมันดีเซลปล่อยควันดำออกมามากกว่าร้อยละ 50 เพิ่มความเข้มงวดการตั้งจุดตรวจรถยนต์วัดควันดำบริเวณจังหวัดรอยต่อบนถนนสายหลักและสายรองทุกเส้นทางที่มีรถบรรทุกและรถโดยสารมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อควบคุมรถที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐานจากต่างจังหวัดไม่ให้เข้าสู่กรุงเทพมหานครต่อเนื่องทุกวันโดยกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และกระทรวงคมนาคม ได้ปรับมาตรฐานตรวจจับควันดำใหม่เป็นมาตร ฐานเดียวกันต้องไม่เกินร้อยละ 30 จากเดิมกำหนดไว้ต้องไม่เกินร้อยละ 45 ตามที่กฎหมายกำหนด หากเกินจะถูกเปรียบเทียบปรับ 5000 บาท และพ่นห้ามใช้ทันทีปลัดทส.กล่าวว่า นอกจากนี้ให้หน่วยงานท้องถิ่นที่เป็นเมืองใหญ่ติดตั้งเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น โดยกรุงเทพมหานครให้ติดตั้งทั้ง 50 เขต ต้องแล้วเสร็จภายในปีนี้ปลัดทส.กล่าวว่า ทั้งนี้จะนำร่องใช้ทั้งหมดก่อนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ด้วยการให้รถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลเก่าติดตั้งตัวกรองฝุ่นละอองเข้าสู่มาตรฐานใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำเสนอผลการประชุมให้นายกรัฐมนตรีรับทราบและพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ (5 ก.พ.) ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังฝุ่นละอองเพิ่มขึ้น 2 ช่วงเวลา คือ วันที่ 7 ก.พ.นี้ และระหว่างวันที่ 13-15 ก.พ.นี้ เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าสภาพอากาศจะปิดและลมสงบอีกครั้งนายวิจารย์ กล่าวว่า ทั้งนี้ มีมติให้คณะกรรมการควบคุมมลพิษ กลับไปทบทวนการปรับค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ราย 24 ชั่วโมงของประเทศไทยใหม่ให้สอดคล้องกับที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำในระดับที่ 3 อยู่ที่ระดับไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และปรับค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 รายปี ในระดับที่ 3 อยู่ที่ระดับไม่เกิน 15 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต้องมีการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุดก่อนประกาศใช้ค่าเฉลี่ยเกณฑ์ใหม่ในอนาคต โดยระบบคมนาคมขนส่งต้องเสร็จสมบูรณ์และตรวจสอบจากสถิติค่าฝุ่นละอองในช่วง 6-7 ปี ต้องลงอยู่ในระดับมาตรฐาน เพื่อไม่ให้ฝุ่นละออง PM2.5 ส่งผลกระทบต่อประเทศในระยะยาวอ่าน | บอร์ดสิ่งแวดล้อม สั่งทบทวนปรับเกณฑ์ค่าเฉลี่ยรายปีฝุ่น PM 2.5 ใหม่ตามความเหมาะสม พร้อมปรับมาตรฐานกำมะถันน้ำมันดีเซลต่ำกว่า 10 ppm เพื่อแก้ปัญหาต้นตอรถยนต์ควันดำ โดยจะให้ติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศให้ครบทั้ง 50 เขตใน กทม. และเมืองใหญ่ | สิ่งแวดล้อม | ฝุ่น PM 2.5,ฝุ่นละออง,ฝุ่นละอองขนาดเล็ก,มลพิษ,กรมควบคุมมลพิษ,คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ,คพ.,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/277483 |
แมนฯซิตี้วางหอกคู่ อเกวโร่ -เชโก้ รับมือเสือเหลือง ในศึกแชมเปี้ยนลีกคืนนี้ | การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ในคืนนี้ ( 3 ต.ค.) คู่ที่น่าสนใจ ในกลุ่ม ดี เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านพบกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แชมป์บุนเดสลีก้า จากเยอรมนี เกมนี้ โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้จะมีการสลับผู้เล่นบางคน จากเกมลีกนัดล่าสุดที่เฉือนชนะ ฟูแล่ม มา 2-1 โดย เอดิน เชโก้ และ เซอร์คิโอ้ กุน อเกวโร่ น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นกองหน้าคู่กัน โดยทีม แมนฯซิตี้ ไม่มีปัญหาเรื่องผู้เล่นบาดเจ็บแต่ปัญหาที่ มันชินี่ ต้องรีบแก้ไข คือเรื่องการทำเกมในแดนกลาง ซึ่งตอนนี้ พวกนักเตะเกมรุก อย่าง ดาบิด ซิลบา หรือ ซาเมียร์ นาสรี่ ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดขณะที่ทีมเยือน ของ เจอร์เก้น คร็อปป์ เพิ่งเปิดสนาม ซิกนอล อิดูน่า พาร์ค ชนะ โปรรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ในเกมลีกนัดล่าสุดมา 5-0 โดยกองหน้ายังคงเป็นหน้าที่ของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ คนเดิม ที่โดนดร็อบเป็นตัวสำรองในเกมลีกนัดล่าสุด เพื่อเก็บไว้เจอกับแชมป์จากอังกฤษ แต่สถิติการเจอกันของคู่นี้ เล่นเกมกระชับมิตร เมื่อปี 2010 และเป็น ดอร์ทมุนด์ ที่เป็นฝ่ายชนะไป 3-1 | เรือใบ-แมนฯซิตี้วางหอกคู่ อเกวโร่ -เชโก้ รับมือ เสือเหลือง-ดอร์ทมุนด์ในศึกแชมเปี้ยนลีกคืนนี้ ขณะที่ทีมเยือนวางกองหน้าตัวเก่ง เลวานดอฟสกี้ ล่าตาข่ายเช่นเดิม | กีฬา | ดอร์ทมุนด์,เรือใบ,เสือเหลือง,แชมเปี้ยนลีก,แมนฯซิตี้ | https://news.thaipbs.or.th/content/115801 |
น้ำโขงเชียงแสนเพิ่ม จีนกลับมาเดินเรือขนส่งสินค้า | เรือขนส่งสินค้าจากจีนสามารถขนส่งสินค้าในแม่น้ำโขงได้อีกครั้งผ่านท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน จ.เชียงราย หลังทางการจีนปล่อยน้ำจากเขื่อนจิ่งหง เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง และการขนส่งทางเรือ หลังระดับน้ำในแม่น้ำโขงแห้งหนัก ทำให้เรือไม่สามารถผ่านไปได้ จนต้องจอดรอเพื่อให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ระดับน้ำโขงแห้งจนไม่สามารถเดินเรือได้ นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ จ.เชียงราย ระบุว่า นอกจากปัญหาภัยแล้ง ความผันผวนขึ้นลงของระดับน้ำแม่น้ำโขง การไหลของน้ำที่ไม่ปกติยังส่งผลกระทบระบบนิเวศน์ ซึ่งสาเหตุมาจากการกักเก็บน้ำของเขื่อนในจีน อีกทั้งการพัฒนาเรื่องเขื่อนยังขาดองค์ความรู้ เพราะใช้เศรษฐกิจนำ เขื่อนหลายเขื่อนอย่างเขื่อนไซยะบุรี ยังคงมีปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม เพราะยังไม่ได้มีการศึกษาอย่างถ่องแท้แล้วค่อยลงมือทำนักวิชาการหวั่นระดับน้ำผันผวนกระทบพันธุ์ปลาขณะที่ชาวประประมง บ้านปากอิง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ระบุว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่ปลาจะเริ่มวางไข่แล้ว แต่เมื่อไม่มีน้ำปลาก็ยังไม่ขึ้นมา ต้องรอระดับน้ำเพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว และต้องมีระดับน้ำสูงมากจึงจะขึ้น สอดคล้องกับ อภิสม อินทรลาวัณย์ อาจารย์ประจำสำนักวิชาการจัดการ เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงของแม่น้ำโขงจากการสร้างเขื่อนในจีน ยังส่งผลกระทบต่อพันธุ์ปลาที่มีหลากหลายสายพันธุ์ในลุ่มน้ำจีนทั้งนี้ ข้อมูลจากเว็บไซด์ของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง หรือ MRC ระบุในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 ถึงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงฤดูแล้งของแม่น้ำโขง พบว่าปริมาณน้ำโขงที่อำเภอเชียงแสนมีความผันผวนสูงสุดในรอบ 38 ปี และพบว่าระดับน้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ -เมษายน ก่อนที่ระดับน้ำจะลดลงอย่างอย่างรวดเร็วในช่วงสงกรานต์ ซึ่งสาเหตุมาจากการเปิดและปิดเขื่อนของจี | เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแม่น้ำโขงแห้งหนักในรอบ 50 ปี ทำให้กระทบ 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขงของประเทศไทย โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีการขนส่งสินค้าทางน้ำ และมีชาวบ้านยึดอาชีพประมงน้ำจืดจำนวนมาก | ภัยพิบัติ | ภัยแล้ง,น้ำโขง,เชียงแสน,ปลา,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/282093 |
ข้างคลองบางซื่อ | ไม่อยากเห็นท่านหนีต่อ,เหตุที่ต้องลุ้น ก็เพราะเพิ่งรู้บ้านที่เคยอยู่มาแสนนาน ฝากชะตากรรมไว้กับคลองบางซื่อถ้าคลองบางซื่อระบายน้ำออกไปไม่ไหวกองทัพน้ำที่บุกประชิดก็จะทะลักเข้ากรุงเทพฯชั้นใน,ถ้าผ่านคลองบางซื่อไปได้ไปถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพฯจะจมน้ำเหมือนปี 2485 แข่งเรือกันได้ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า,จุดเล็กๆที่ผมลุ้น เครื่องสูบน้ำสองเครื่องใหญ่ที่เตาปูนสูบกันหลายวันหลายคืนจนเครื่องหนึ่งทำท่าจะพัง,เตาปูนนั้นเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ปูนซิเมนต์ไทย คนของปูนช่วยกันซ่อมเครื่องสูบน้ำ ติดแอร์เพิ่มความเย็น ประคองเครื่องให้ใช้ต่อไป จนผ่านช่วงวิกฤติไปได้,บ้านผมอยู่ข้างคลองบางซื่อ เคยถูกน้ำท่วมก็ยกพื้นไว้ 20 ซม. ได้อานิสงส์จากเครื่องสูบน้ำเตาปูน น้ำที่ปริ่มๆจะเข้าพื้นบ้าน หยุดอยู่แค่นั้น,แวะเวียนไปหาของกินตลาด อ.ต.ก. ผมจะดูระดับน้ำคลองบางซื่อ ถ้าเห็นน้ำไหลคล่องก็สบายใจ แล้วคิดว่า เมื่อไรอุโมงค์สูบน้ำยักษ์ที่ กทม.เขาสร้างจะเสร็จสมบูรณ์สักที,ดีใจเป็นนักหนา เมื่อผู้ว่าฯ กทม. อัศวิน ขวัญเมือง บอกว่า อุโมงค์เตาปูนเสร็จแล้ว ต่อไปนี้ไม่ว่าน้ำทะเลหนุนในแม่น้ำเจ้าพระยาจะหนุนมากน้อยผมก็อุ่นใจว่า อุโมงค์คงสู้ไหว,คนข้างคลองบางซื่อฝั่งเหนือแถวบ้านผมอุ่นใจ แต่คนข้างคลองบางซื่อฝั่งใต้ ก็คือกรุงเทพฯชั้นในก็ยิ่งดีใจ เพราะคลองบางซื่อทำหน้าที่ปราการด่านสุดท้ายได้มั่นคงแข็งแรง,เห็นท่านผู้ว่าฯ อัศวินหน้าดำคร่ำเครียดกับปัญหาสารพัด ไหนจะบ้านเรือนในคลองขวางทางน้ำ ไหนจะบ้านเรือนใหญ่ สองฝั่งเจ้าพระยา อุปสรรคการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ,ผมเชื่อว่า ความแน่วแน่จะทำให้ท่านผ่านปัญหาเหล่านี้ไปได้,น่าจะให้ใครทำโพลให้คะแนน ผู้ว่าฯ กทม.เหมือนโพลคะแนนนายกฯบ้าง ผมว่านะผู้ว่าฯตำรวจที่ทหารเขาเลือกมาท่านนี้หน่วยก้านดีน่าชื่นชมจริงๆ,ชมผู้ว่าฯอัศวินแล้ว มีเรื่องให้ท่านช่วยต่อข้างคลองบางซื่อ ด้านหลังตลาดหมอชิตเก่าก็หลังกรมการขนส่งทางบกนั่นล่ะครับ ตอนนี้มีปัญหารถติดหนัก สัปดาห์ละหลายๆวัน,คนแถวนั้นรู้กันว่า รถติดแถวนั้นเมื่อไหร่ แสดงว่าฝนตกหนัก น้ำท่วมสูงระดับครึ่งเมตรหลังกรมการขนส่งฯ เพราะเป็นที่ลาดต่ำข้างคลองบางซื่อ แต่ตอนนี้ฝนไม่ตกหนัก น้ำไม่มี,แต่ทำไมรถจึงติดยาวตลอดครึ่งค่อนซอย,ผู้ใหญ่ที่ผมนับถือเพิ่งปรับทุกข์ ชื่นชมกรมการขนส่งฯที่ให้บริการเรื่องต่อทะเบียนรวดเร็วทันใจอยู่หลายๆปี วันนั้นจะไปต่อทะเบียน รถติดกว่าชั่วโมง เข้ากรมการขนส่งฯไม่ได้,ต้องถอดใจ รอฤกษ์งามยามดีไปวันหลัง,ต้นเหตุของรถติดข้างคลองบางซื่อก็กรมการขนส่งฯนั่นแหละครับ ทำงานแบบคนธาตุไฟแตกหรือยังไงก็ไม่รู้ดึงดูดเอารถมากมายไปจุกรออยู่ในกรมจนทะลักออกมานอกถนน,ก็พอจะรู้ว่าคนใหญ่ในกรมการขนส่งฯท่านนั้น ทหารเขาก็เลือกมาเหมือนเลือกผู้ว่าฯ กทม. แต่เลือกคนแบบไหนงานกรมการขนส่งฯที่เคยดีเป็นที่หนึ่ง กลายเป็นงานที่โหล่,ถ้าเลือกใช้คนไม่เป็นอย่างนี้ ความหวังที่ผมตั้งท่ามีให้คสช.ก็คงจะน้อยลงและน้อยลง เวลาข้างหน้าที่หวังเผื่อๆกันว่า คะแนนนิยมจะสูงกว่าคุณทักษิณก็คงจะยิ่งไม่มี.,กิเลน ประลองเชิง | ปี 2554 น้ำท่วมใหญ่ นายกฯยิ่งลักษณ์ หนีน้ำท่วมจาก ดอนเมืองมาอยู่กระทรวงพลังงาน ข้างสวนจตุจักร เป็นที่มั่นสุดท้าย ชาวบ้านละแวกนั้นก็ลุ้นกันใจคอหาย ไม่อยากเห็นท่านหนีต่อ | null | ชักธงรบ,กิเลน ประลองเชิง,อัศวิน ขวัญเมือง,คลองบางซื่อ,น้ำท่วม | https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1066184 |
พม.ทำหน้ากากผ้าแจกกลุ่มเปราะบาง | เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม. เปิดกิจกรรม พม.อาสา ร่วมทำหน้ากากผ้า สู้ไวรัสโควิด-19 เพื่อให้อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) และจิตอาสา ทั้งเด็ก เยาวชน สตรี คนพิการ ผู้สูงอายุ และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมทำหน้ากากผ้าที่เย็บด้วยมือ เมื่อทำเสร็จแล้ว สามารถนำกลับบ้านเพื่อให้คนในครอบครัว ส่วนที่เหลือจะนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนที่ต้องการนายจุติกล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวจะจัดถึงวันที่ 15 มี.ค. เวลา 09.00-17.00 น. โดยเตรียมเจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้มาสอนการทำหน้ากากผ้าโดยนำแบบมาจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นการจัดทำหน้ากากผ้าด้วยตนเองที่สร้างความมั่นใจในการป้องกันเชื้อโรคได้ระดับหนึ่ง ทดแทนการหาซื้อหน้ากากอนามัยที่กำลังขาดแคลน นอกจากนี้ พม.กำลังหารือที่จะให้ อพม.และจิตอาสาได้ช่วยกันผลิตหน้ากากผ้าเพื่อนำไปแจกให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเปราะบางตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศด้วย ผู้สนใจเข้ามาร่วมกันทำหน้ากากผ้า โทร.0-2695-6441 หรือสายด่วน พม. 1300. | พม.อาสา ร่วมทำหน้ากากผ้า สู้ไวรัสโควิด-19 เพื่อให้อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) และจิตอาสา ทั้งเด็ก เยาวชน สตรี คนพิการ ผู้สูงอายุ และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมทำหน้ากากผ้า | ข่าว,สังคม | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,หน้ากากอนามัย,หน้ากากผ้า,ทำหน้ากากผ้า,กระทรวง พม.,ข่าววันนี้,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/society/1792984 |
ปลากัดออนไลน์ ขายเดือนละ 4 ล้าน | หลังจากนั้นทุกอย่างหายไปกับสายลม และสายน้ำ,มีการนำ ปลากัดสีเดี่ยว (Solid color) ปลากัดครึ่งวงพระจันทร์ (Half moon) ปลากัด แฟนซี (Fancy Plakat) ปลากัดคราวเทลล์ (Crown tail) ปลากัดยักษ์ (Giant Plakat) มาโชว์สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการปลากัดทั่วโลก เพราะไม่มีใครเคยได้ยลลีลาพลิ้วไหวของสีสันครีบปลา ที่โบกสะบัดไปทั่วราวแพรไหมประดับอัญมณี ที่สำคัญมันทำให้คนไทยภาคภูมิใจ ในความสามารถของนักเพาะเลี้ยงปลากัดของคนไทย ที่ไม่มีชนชาติใดผสมพันธุ์ปลากัดได้เท่าเรา,แม้วันนี้ ข่าวคราววงการปลากัดจะเงียบหายไปจากความสนใจใคร่รู้จากคนไทยด้วยกันเอง แต่ในวงการค้าขายปลาสวยงาม ปลากัดกลับไม่หยุดนิ่ง,ปัจจุบันผู้เพาะเลี้ยงปลากัดไทย มีอยู่จำนวน 2,500 ครอบครัว ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ เชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ ขอนแก่น นครปฐม ราชบุรี ระยอง และสวนจตุจักร กรุงเทพมหานคร ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี วันนี้การขายปลากัดไทยมีตลาดใหม่ที่สำคัญเกิดขึ้น มีการซื้อการขายกันทางอินเตอร์เน็ตและออนไลน์เป็นจำนวนมาก เพราะการขนส่งทำได้ไม่ยาก แค่นำปลากัดใส่ถุงพลาสติก แล้วอัดออกซิเจนเข้าไป ส่งทางไปรษณีย์ หรือจ้างแมสเซ็นเจอร์ไปส่ง ทำได้ง่าย ช่วยสร้างรายได้ส่งออกไปต่างประเทศปีละไม่ใช่น้อย เดือนละ 4 ล้านบาททีเดียว ตัวเลขนี้เรายังไม่รวมกับการจำหน่ายในประเทศ ที่ปลากัดบ้างตัวสวยเสียจนขายได้ถึงตัวละเรือนหมื่นถึงแสนบาท,น.ส.อมรรัตน์ เสริมวัฒนากุล ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์น้ำและพรรณไม้น้ำสวยงามบอกอีกว่า ปัจจุบันนี้วงการปลากัดในต่างประเทศปัจจุบันนี้ ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ถึงขั้นเอาปลากัดไทยไปเลี้ยงแล้วจัดตั้งสมาคมปลากัด แล้วใช้คำว่า Betta แทนคำว่า Plakat หรือ Siamese Fighting fish โดยสหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม และสาธารณรัฐโดมินิกัน พร้อมกับเปิดให้มีการละเล่นกัดปลา สร้างสนามประลองปลากัดอย่างถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย,ในขณะที่ไทยเจ้าของพันธุ์ปลากัด ยังต้องแอบทำกันแบบลับๆล่อๆ ส่งผลให้การพัฒนาสายพันธุ์ปลากัดเพื่อกีฬาเชิงพาณิชย์ ทำได้ยากมาก และอาจจะล้าหลังตามประเทศอื่นไม่ทัน.,ไชยรัตน์ ส้มฉุน | ปลากัดไทยอัญมณีแห่งสายน้ำ เป็นคำขนานนามของนักเพาะเลี้ยงปลากัดบ้านเราที่มีมาตั้งแต่ปี 2545 ด้วยกรมประมงร่วมกับมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ จัดสัมมนาเรื่องปลากัดไทย พร้อมกับจัดประกวดปลากัดสายพันธุ์ใหม่ ในงานวันเกษตรแห่งชาติ | null | ไชยรัตน์ ส้มฉุน,ปลากัด,ปลากัดไทย,กรมประมง,ปลากัดสีเดี่ยว,ปลากัดครึ่งวงพระจันทร์,ปลากัดแฟนซี,ปลากัดคราวเทลล์,ปลากัดยักษ์ | https://www.thairath.co.th/content/471691 |
ช่างซ่อมรถเมา ควบกระบะพุ่งชนเพิงส้มตำ แม่ค้าดับคาที่พร้อมหมา | เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 59 ร.ต.อ.ชูศักดิ์ ทัดวรพงศ์ รอง สว.สส.สภ.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักพุ่งชนร้านขายส้มตำริมถนนภายในหมู่บ้าน บ้านกระฉอด ม.5 ต.ตลาด ต.จอหอ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 ,ที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีแดง ทะเบียน บฉ 5159 นครราชสีมา สภาพเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าและเพิงร้านขายส้มตำ ทำให้ร้านพังยับเยิน ตรวจสอบภายในร้านพบศพ น.ส.แผ้ว จุนโพธิ์ อายุ 53 ปี เจ้าของร้านส้มตำ ถูกรถกระบะพุ่งชนเสียชีวิตในสภาพแขนขาขาด และพบมีสุนัขตาย 1 ตัว ซึ่งก่อนเกิดเหตุมีคนเห็นรถกระบะวิ่งมาด้วยความเร็วสูง,จากการสอบสวนเบื้องต้น นายวิเชษฐ์ จงจอหอ อายุ 45 ปี คนขับรถกระบะ ซึ่งเป็นช่างซ่อมรถยนต์ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ดื่มสุรามา และกำลังจะรีบขับรถกลับไปทำงานที่อู่ กระทั่งขับรถมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุเกิดเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า ก่อนที่จะพุ่งชนเข้าไปในร้านขายส้มตำทำให้ นางแผ้ว ซึ่งกำลังยืนขายส้มตำอยู่ถูกชนเข้าอย่างจังจนเสียชีวิตทันที จากนั้น ตำรวจจึงได้นำ นายวิเชษฐ์ ไปตรวจวัดระดับแอลกอฮอลล์ในร่างกาย ตรวจวัดได้ 202 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงได้ควบคุมตัวพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | ช่างซ่อมรถหนุ่มใหญ่ ก๊งเหล้าก่อนควบกระบะกลับอู่ในโคราช รถเสียหลักพุ่งเสยเสาไฟฟ้า ก่อนชนเพิงขายส้มตำริมทาง แม่ค้าแขนขาขาด เสียชีวิตคาที่พร้อมสุนัข 1 ตัว ตร.สภ.จอหอ จับเป่าเกิน 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ | null | ชนร้านส้มตำ,รถชนร้านส้มตำ,รถชนแม่ค้าส้มตำ,กระบะชนแม่ค้าส้มตำ,นครราชสีมา,โคราช,แม่ค้าส้มตำถูกรถชนตาย,เมาแล้วขับ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/648771 |
อภ.เตรียมทบทวนการผลิตยา หลังเกิดกรณีแพ็คยาผิดซอง | น.พ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม หรือ อภ. ในฐานะเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. กล่าวถึงกรณีการบรรจุยา 2 ชนิด ผิดพลาดว่า องค์การเภสัชกรรมจะต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ โดยได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมเร่งดำเนินการใน 4 ประเด็น คือ เร่งตรวจสอบความผิดพลาดของระบบที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะมาตรฐานการผลิตขั้นสูง GMP ที่ใช้อยู่ เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำในอนาคต พร้อมเร่งประสานกับโรงพยาบาลให้ระงับการสั่งจ่ายยาเรียกคืนยา และติดตามผู้ป่วย รวมถึงประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความศรัทธา และให้คณะกรรมการอาหารและยา เข้ามาตรวจสอบกำกับการทำงานน.พ.สุวัช เซียศิริวัฒนา ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบการปะปนของยาทั้ง 2 ประเภทเฉพาะที่โรงพยาบาลมะการักษ์เท่านั้น ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 200000 แสนเม็ด และโรงพยาบาลมะการักษ์จ่ายยาดังกล่าวไป 70000 หมื่นเม็ด ให้กับผู้ป่วย 939 คน ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ทำการประสานกับผู้ป่วยให้เอายาล็อตที่มีปัญหามาเปลี่ยนคืนแล้วขณะเดียวกันได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น เบื้องต้นสันนิษฐานว่า สาเหตุเกิดจากการสุ่มตัวอย่างตรวจปริมาณ คุณภาพของยาโดยระหว่างนี้ได้หยุดการผลิตในช่วงกลางคืน และจะปรับปรุงตารางการผลิตยาที่มีลักษณะทางกายภาพใกล้เคียงกัน ให้มีลักษณะแตกต่างกัน รวมถึงอบรมเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติตามมาตรฐาน GMP อย่างเคร่งครัดขณะที่ นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถเรียกและติดตามคืนได้แล้วกว่า 40000 เม็ด ซึ่งทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ช่วยกันเรียกยาในส่วนที่เหลือกลับคืนมาให้ได้โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้เหลือบางส่วนในอำเภอที่ห่างไกล ซึ่งมีกำหนดให้เรียกเก็บให้แล้วเสร็จภายในสองวันส่วนประชาชนที่ได้รับยาไปแล้วนั้นเกิดมีความวิตก และไม่สบายใจก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาได้ทุกเวลา | ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีมั่นใจว่า จะสามารถเรียกเก็บยาขององค์การเภสัชกรรมที่บรรจุยาผิดพลาด คืนจากผู้ป่วยได้ภายใน 2 วัน หลังจากที่เรียกคืนมาได้กว่า 40000 เม็ดแล้ว ขณะที่ องค์การเภสัชกรรมชี้แจง 2 จุดบกพร่อง บรรจุยาผิดพลาด พร้อมขอโทษผู้ป่วยโรงพยาบาล และเตรียมทบทวนการผลิตยาทั้งหมด | สังคม | ยา,ยาผิดซอง,องค์การเภสัชกรรม,อภ.,โรงพยาบาล | https://news.thaipbs.or.th/content/194816 |
ปิกอัพเสยจักรยาน เฒ่าสุโขทัยดับ ปั่นออกกำลังกายตอนเช้ามืด | เมื่อเวลา 05.50 น. วันที่ 14 ธันวาคม พ.ต.ท.ชำนาญ ประดิษฐ์ พงส. สภ.ศรีนคร รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถปิกอัพพุ่งชนรถจักรยานสองล้อแล้วหลบหนี มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าสหกรณ์โคนมศรีนคร ถนนสายสวรรคโลก-ศรีนคร ม.7 ต.คลองมะพลับ จ.สุโขทัย จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์-พยาบาล จากรพ.ศรีนคร และ หน่วยกู้ภัยข่าวภาพ ,ที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิต สวมเสื้อยืดลายขวางคลุมทับด้วยแจ็กเกตสีดำ กางเกงขายาว ทราบชื่อภายหลังคือ นายอ่ำ แก้วสีหาวงศ์ อายุ 67 ปี บ้านเลขที่ 37/1 ม.7 ต.คลองมะพลับ อ.ศรีนคร นอนตะแคงจมกองเลือดอยู่ริมถนน มุ่งหน้าเข้ามาทาง อ.สวรรคโลก สภาพศพกะโหลกศีรษะแตก ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบรถจักรยานสองล้อของผู้ตาย สภาพมีรอยเฉี่ยวชนอย่างแรง จนล้อหน้าบิดงอ ล้มอยู่กลางถนน ส่วนรถคู่กรณี มีชาวบ้านเห็นว่า เป็นรถปิกอัพสีเทาดำ ไม่ทราบยี่ห้อ และทะเบียน หลังก่อเหตุคนขับได้เร่งเครื่องหลบหนีไปทาง อ.ศรีนคร หลังทราบรายละเอียดเจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัด แต่ยังไร้วี่แวว, สอบสวนญาติทราบว่า ผู้ตายมักจะขี่จักรยานออกกำลังทุกเช้า เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ขณะที่ผู้ตายขี่จักรยานอยู่ริมถนน ได้มีปิกอัพขับสวนทางมาด้วยความเร็ว ประกอบกับเส้นทางค่อนข้างมืด เนื่องจากเป็นช่วงฤดูหนาว จึงพุ่งชนเข้าอย่างจัง จน นายอ่ำ กระเด็นตกจากรถจักรยานเสียชีวิตคาที่ ก่อนที่คนขับจะอาศัยความมืดรีบขับหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามรถปิกอัพคันที่ก่อเหตุ พร้อมคนขับ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | รถปิกอัพเสยจักรยาน บนถนนสายสวรรคโลก-ศรีนคร จ.สุโขทัย เฒ่าวัย 67 ปี ปั่นออกกำลังกายตอนเช้ามืด เสียชีวิตคาที่ ก่อนโชเฟอร์ควบรถหนี ตร.วิทยุสกัด แต่ยังไม่พบ | ข่าว,ทั่วไทย | อุบัติเหตุ,รถชน,นักปั่น,สุโขทัย,นักปั่นเสียชีวิต,ถนนสายสวรรคโลก-ศรีนคร,ชนแล้วหนี,ข่าว,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์,รถชนจักรยาน | https://www.thairath.co.th/news/local/548721 |
ต้องสู้ต่อไป | แต่ดันไปพลาดถูก ลูคัส แมตธิสเซ รองอันดับ 3 ชาวอาร์เจนไตน์ น็อกเสียก่อนในยกที่ 8 ทั้งที่การชกที่ผ่านมา เจ้าขาวถือว่าโชว์ฟอร์มได้ดีทีเดียว,ใครที่นั่งดูในวันนั้น เชื่อว่าต้องบ่นเสียดายทุกคน เพราะมั่นใจว่าหากครบยก ถิรชัยมีโอกาสที่จะชนะสูงแน่นอน เพราะวันนั้นนับได้ว่าโชว์ฟอร์ม ได้ยอดเยี่ยมทีเดียว อาจจะไม่เพอร์เฟกต์ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็นับว่าเจ๋งทีเดียว,ความพ่ายแพ้ของเจ้าขาวในวันนั้น ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งเพราะประสบการณ์ยังน้อยไปนิด รวมถึงกระดูกมวยยังไม่แกร่งพอ แต่ก็ถือว่าไม่เสียหายเท่าไหร่ เพราะอายุยังน้อย ยังมีเวลาอีกเยอะที่จะชิงแชมป์โลก,ยังเชื่อในบารมีของ แชแม้ นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ มีมากพอที่จะผลักดันเจ้าขาวขึ้นชิงแชมป์โลกอีกครั้งสบายๆ,แม้จะอายุมากแล้วแต่ก็ถ่ายทอดวิทยายุทธ์ให้กับลูกหัวแก้วหัวแหวน เสี่ยเอี๊ยง ทวีสิน เหล่าสุวรรณวัฒน์ แบบหมดเปลือก เรียกได้ว่าคุณภาพคับแก้วไม่แพ้กันแน่นอน การที่เจ้าขาวได้รับโอกาสทองครั้งนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะ เสี่ยเอี๊ยง คนนี้ที่เป็นคนประสานงานและตามผลงานอยู่ตลอด,ถือเป็นคนหนุ่มไฟแรงอีกคน เช่นเดียวกับ น้องแบงค์ เธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ของ เสี่ยฮุย สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ลูกพี่ใหญ่ของ เจ้าแหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น แชมป์โลกรุ่นซุปเปอร์ฟลายเวทสภามวยโลก ที่รับหน้าที่ประสานงานกับต่างประเทศในการทำศึกใหญ่ๆมาตลอด,บทเรียนและประสบการณ์ในครั้งนี้จะทำให้ เจ้าขาวแข็งแกร่งขึ้นอีกเยอะ และไม่สายเกินสำหรับเข็มขัดแชมป์โลกเส้นนี้ เพราะอายุเพียงแค่ 25 ปีเท่านั้น ขอเพียงจากนี้ไปอย่าเพิ่งท้อ ขยันฝึกซ้อมต่อ เพราะแชมป์โลกแต่ละคนกว่าจะก้าวไปถึงจุดสูงสุดต่างก็ต้องผ่านจุดนี้มาแล้วทั้งนั้น,คงต้องฝากถึงบรรดาแฟนหมัดมวยอย่าเพิ่งก่นด่ากันเยอะ เพราะจริงๆแล้ว วันนั้นเจ้าขาวก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว เปลี่ยนจากคำด่า มาเป็นการให้กำลังใจน่าจะเหมาะกว่า เชื่อผมเถอะครับ ไม่มีนักมวยหรือโปรโมเตอร์คนไหนอยากพบกับความล้มเหลว,ทุกคนต่างก็เสาะแสวงหาด้วยกันทั้งนั้น,ไม่เฉพาะในวงการกีฬา ไม่ว่าใครต่างก็อยากที่จะ ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตัวเองปรารถนาด้วยกัน ทั้งนั้น แต่อยู่ที่ว่าใครจะพบก่อนกันก็เท่านั้น,สู้ๆต่อไปครับ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องใช้เวลา เชื่อว่าวันหนึ่งทำเนียบแชมป์โลกของไทยต้องจารึกชื่อ ถิรชัย ศิษย์หมอเส็ง อยู่ในนั้นแน่นอน.,โจโจ้ | นึกไปแล้วยังอดเสียดายกับ เข็มขัดแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวท สมาคมมวยโลกของ เจ้าขาว ถิรชัย ศิษย์หมอเส็ง รองอันดับ 1 ชาวไทย ที่เกือบจะได้คาดไว้ที่เอวอยู่แล้ว | null | ถิรชัย ศิษย์หมอเส็ง,นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์,เสี่ยเอี๊ยง,เรียงหน้าชน,โจโจ้,อื่นๆ | https://www.thairath.co.th/sport/others/1190288 |
คอหวยฮือ ขอลูบแป้ง อึ่งเผือกลายจุด เกิดมาเพิ่งเคยเจอ | จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ วรรณณา มะเดื่อทอง ได้นำภาพอึ่งอ่างที่มีสีแปลกตามาโพสต์ในกลุ่มเฟซบุ๊ก Lampang City เพื่อสอบถามสมาชิกพร้อมโพสต์ข้อความว่า เจออึ่งหายาก เกิดมาเพิ่งเคยเห็นนี้แหละจ้าว อึ่งๆ หลังจากที่โพสต์ภาพดังกล่าวก็มีสมาชิกให้ความสนใจมาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ,ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 พ.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 10 ต.ทุ่งงาม อ.เสริมงาม จ.ลำปาง พบกับ นายเจตนิพัทธ์ ปัญญา อายุ 17 ปี เจ้าของ พร้อมนำอึ่งตัวดังกล่าวมาให้ดู ซึ่งสีของตัวอึ่งมีสีขาว ลายจุดสีดำ เป็นเพศเมียกำลังมีไข่ ซึ่งสีจะแตกต่างจากอึ่งตัวอื่นๆ ที่มีลักษณะสีออกน้ำตาลดำ ,นายเจตนิพัทธ์ เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 21 พ.ค.62 ในพื้นที่มีฝนตกจึงออกไปหาอึ่งกับแม่ ที่บริเวณภูเขาใกล้กับบ่อขยะ ห่างจากบ้านประมาณ 1 กม. ตอนแรกเดินผ่านไปก็นึกว่าเป็นก้อนหิน แต่เห็นมันขยับเองได้จึงย้อนกลับมาดูก็พบว่าเป็นอึ่ง แต่มีสีแตกต่างจากอึ่งตัวอื่นๆ จึงเรียกแม่มาดูว่าใช่อึ่งหรือไม่ เมื่อแม่ยืนยันว่าเป็นอึ่งจึงจับมาไว้ที่บ้านและนำไปโพสต์ลงเฟซบุ๊ก,ทั้งนี้ หลังจากที่โพสต์ลงไปชาวบ้านมาแสดงความเห็นจำนวนมาก บางรายก็บอกว่า ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยเจอ บางรายก็ว่าเป็นอึ่งแปลก หายาก แต่บางคนกลับตีเป็นตัวเลข ทั้ง 32 49 และอีกหลายตัวเลข บางรายถึงขั้นจะนำธูปเทียนมาไหว้ และนำแป้งมาทาตัวอึ่ง แต่ตนห้ามไว้ ส่วนอึ่งตัวนี้ยังไม่มีชื่อ แต่เรียกเล่นๆ ว่า อึ่งเผือก หากใครที่รักสัตว์จริงๆ ต้องการจะนำไปขยายพันธ์ุ ตนเองก็ยินดีที่จะมอบให้ เพราะหากจะนำไปปล่อยคืนธรรมชาติก็กลัวว่าอึ่งตัวนี้จะไม่ปลอดภัย. | อึ่งเผือกลำปาง กลายเป็นจุดสนใจของชาวบ้านและคอหวย พบเป็นตัวเมียมีไข่เต็มท้อง สีขาวลายจุดดำแปลก ไม่เคยเห็น บางคนจะขอลูบแป้ง แต่เจ้าของกลัวอึ่งจะเฉามือตายเสียก่อน | ข่าว,ทั่วไทย | หวย,เลขเด็ด,เลขดัง,หวยอึ่ง,หวยไทยรัฐ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1574245 |
สิงห์บุรี งดขายเหล้าช่วงประชามติ - กกต. ย้ายหน่วยออกเสียง 3 จุด | เมื่อเวลา 18.45 น. วันที่ 6 ส.ค. 59 บรรยากาศในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี ก่อนถึงวันออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ในวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) ซึ่งทาง กกต. ได้ห้ามจำหน่าย จ่ายแจก จัดเลี้ยงสุรา หลังเวลา 18.00 น. ของวันที่ 6 ส.ค. ถึง 24.00 น. วันที่ 7 ส.ค. ซึ่งชาวสิงห์บุรี ยังใช้ชีวิตตามปกติ ออกมาทานอาหารนอกบ้าน เช่นร้านข้าวต้ม ตั้งแต่ช่วงเย็นมีลูกค้าหนาแน่น แต่ไม่มีการจำหน่ายสุราแต่อย่างใด ส่วนแหล่งสถานบันเทิงก็ต้องปิดเช่นกันไม่มีใครกล้าฝ่าฝืน และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีผู้กระทำผิดกฎหมาย,ด้าน นายพัฒนพงศ์ อินทรวารี ผอ.กกต.จว.สิงห์บุรี แจ้งว่ามีการย้ายสถานที่หน่วยออกเสียงรวม 3 จุด จุดแรกที่หน่วยออกเสียงที่ 8 เดิมอยู่หมู่ที่ 8 ต.บางพุทรา อ.เมืองสิงห์บุรี บริเวณถนนศรีชำนิ ด้านทิศตะวันตก ย้ายไปที่ลานอเนกประสงค์ชุมชนวัดสังฆราชาวาส ด้านทิศตะวันตก ส่วนจุดที่ 2 หน่วยออกเสียงที่ 2 เดิมอยู่หมู่ที่ 1 ต.บางมัญ อ.เมืองสิงห์บุรี ย้ายไปที่วัดลานอเนกประสงค์วัดสังฆราชาวาส เช่นกัน แต่เป็นด้านตะวันออก และจุดที่ 3 หน่วยออกเสียงที่ 7 เดิมใช้ที่ทำการ อบต.สิงห์ หมู่ที่ 8 ต.สิงห์ อ.บางระจัน ย้ายไปใช้ศาลาอเนกประสงค์หมู่ที่ 8 ใน ต.สิงห์ สำหรับความพร้อมของหน่วยออกเสียงลงประชามติทั้ง 337 หน่วย ทุกหน่วยพร้อมแล้วที่จะเปิดหีบในเวลา 08.00 น. พรุ่งนี้. | บรรยากาศใน จ.สิงห์บุรี หลัง 6 โมงเย็น ร้านอาหาร สถานบันเทิง ให้ความร่วมมือไม่ขายเหล้า ขณะที่ กกต.จังหวัด ปรับเปลี่ยนหน่วยออกเสียง 3 จุด | null | ประชามติ,ลงประชามติ,ประชามติรัฐธรรมนูญ,ประชามติ 59,สิงห์บุรี,งดขายเหล้า ประชามติ,ประชามติ 2559,ประชามติ รธน.,ออกเสียงประชามติ,ประชามติ 7 ส.ค. 59,7 ส.ค. ประชามติ,ประชามติร่างรัฐธรรมนูญ,รัฐธรรมนูญ,ร่างรัฐธรรมนูญ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/683483 |
ป่วนสงขลา ระเบิด 2 ครั้งสนั่นหาดสมิหลา รูปปั้นนางเงือกทองหางกระจุย | เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. 2561 ผู้ส่อข่าวได้รับรายงานว่า เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ในเวลาไล่เลี่ยกันบริเวณชายหาดแหลมสมิหลา แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของ จ.สงขลา ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครสงขลา โดยจุดที่เกิดระเบิดอยู่ตรงบริเวณรูปปั้นนางเงือกทอง และรูปปั้นหนูกับแมว ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร และเป็นสัญลักษณ์ของชายหาดแหลมสมิหลา แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุได้เนื่องจากมืดและเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมกับปิดกั้นบริเวณจุดเกิดเหตุทั้งสองจุด แต่ในเบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ส่วนจะเป็นระเบิดชนิดใดและเกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์หรือไม่นั้นยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ที่เกิดเหตุและการประเมินเหตุการณ์ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง,ด้าน นายวีรนันท์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อสรุปสถานการณ์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงเกี่ยวกับระเบิดที่เกิดขึ้น,ล่าสุดเจ้าหน้าที่กล่าวว่าคนร้ายได้ลอบวางระเบิดเพื่อข่มขู่ มิได้หวังผล คาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ เนื่องจากเป็นเพียงระเบิดที่มีเสียงดังเท่านั้น ประกอบกับในการจุดระเบิดเป็นช่วงกลางดึก จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และไม่มีผู้เสียชีวิต แต่รูปปั้นนางเงือกทองได้รับความเสียหายบริเวณหาง ขณะนี้หน่วยเก็บกู้ระเบิด EOD จากตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมเจ้าหน้าที่สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลากั้นไม่ให้ผู้ใดเข้าที่เกิดเหตุแล้ว | ผู้ว่าฯ สงขลาพร้อมฝ่ายความมั่นคง รุดตรวจสอบพื้นที่ชายหาด หลังเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น 2 จุด ในเวลาไล่เลี่ยกัน ยังไม่ชัดเป็นการสร้างสถานการณ์หรือสาเหตุใด | ข่าว,ทั่วไทย | สงขลา,ระเบิด,หาดสมิหลา,สร้างสถานการณ์,รูปปั้นนางเงือก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1455673 |
โยอาคิม เลิฟยันเยอรมนีไม่บอยคอตยูโร | โยอาคิม เลิฟ โค้ชทีมชาติเยอรมนี ยืนยันว่าเยอรมนีจะไม่บอยคอตการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ในประเด็นการเมือง ที่นางยูไล ทีมอสเชนโก้ อดีตนายกหญิงของยูเครนถูกจับคุมขังอยู่ในเวลานี้ โดยเลิฟ กล่าวว่า การเข้าร่วมแข่งขันน่าจะให้ผลลัพธ์ในเชิงบวกมากกว่าการบอยคอต และที่เยอรมนี ฟุตบอลเป็นเกมที่ทุกคนจะได้มีความสุขร่วมกัน ขณะเดียวกัน เลิฟยังได้ประกาศ 27 รายชื่อนักเตะอินทรีเหล็กชุดสู้ศึกยูโร 2012 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งมีพลิกโผอยู่หลายคนที่มีชื่อติดทีมชุดนี้ไม่ว่าจะเป็นฌูเลียน แดรกเลอร์ กองหน้าวัย 19 ปีจากชาลเก้ ที่ยังไม่เคยติดทีมชาติมาก่อน รวมถึงแพร์ มาแตร์ซัคเกอร์ กองหลังจากอาร์เซนอล ที่ได้รับบาดเจ็บข้อเท้า และไม่ได้ลงสนามเลยนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์สำหรับนักเตะทีมชาติเยอรมนีจะเข้าแคมป์ฝึกซ้อมร่วมกันในวันศุกร์นี้ แต่จะยังไม่มีนักเตะตัวหลักหลายคนที่ติดภารกิจกับสโมสร ไม่ว่าจะเป็น เมซุต โอซิล และซามี เคดิร่า 2 นักเตะจากรีลมาดริด รวมถึงนักเตะจากดอร์ทมุนด์ และบาเยิร์นที่จะลงเตะนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลเดเอฟเบ โพคาล วันเสาร์นี้ ขณะที่นักเตะบาเยิร์นนั้นจะเดินทางมาร่วมทีมช้าที่สุด เพราะยังมีภารกิจลงเตะฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกนัดชิงชนะเลิศกับเชลซี วันที่ 19 พฤษภาคมขณะเดียวกัน โยอาคิม เลิฟ จะตัดตัวผู้เล่นให้เหลือ 23 คนสุดท้าย ก่อนที่เยอรมนีจะเดินทางไปแข่งขันยูโร 2012 ในวันที่ 29 พฤษภาคม | โยอาคิม เลิฟ โค้ชทีมชาติเยอรมนี ยืนยันจะไม่บอยคอตการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 พร้อมทั้งประกาศรายชื่อนักเตะทีมชาติชุดสู้ศึกยูโร 2012 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว | กีฬา | บอยคอต,ฟุตบอล,ยูโร,เยอรมนี,โยอาคิม เลิฟ | https://news.thaipbs.or.th/content/83543 |
2 จำเลยสาวขึ้นศาล ปฏิเสธฆ่าพี่ชายคิม จอง-อึน | เมื่อ 2 ต.ค. น.ส.สิติ ไอสิอะห์ ผู้ต้องหาสาวชาวอินโดนีเซีย กับ น.ส.ดว่าน ถิ เฮือง ผู้ต้องหาสาวชาวเวียดนาม ซึ่งถูกตั้งข้อหาลอบสังหารนายคิม จอง-นัม พี่ชายต่างมารดาของนายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ด้วยการป้ายสารพิษ วีเอ็กซ์ ที่ใบหน้าของนายจอง-นัม ในสนามบินนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เมื่อ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ภายหลังปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวต่อหน้าศาลชาห์ อาลัม ในกรุงกัวลา ลัมเปอร์ ซึ่งเริ่มพิจารณาคดีเป็นวันแรก ซึ่งหากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง อาจมีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต ท่ามกลางการเฝ้าจับมองอย่างใกล้ชิดจากรัฐบาลอินโดนีเซียและเวียดนาม ซึ่งจ้างทนายให้ช่วยพลเมืองของตน,จำเลยทั้ง 2 คนยืนยันว่า ไม่รู้ว่าสารที่ป้ายหน้าผู้ตายเป็นยาพิษ คิดว่าเป็นเพียงรายการแกล้งคนที่ตัวเองถูกว่าจ้างจากชาวเกาหลีเหนือ ขณะที่อัยการเตรียมเรียกพยานฝ่ายโจทก์ โดยชุดแรกจะเป็นเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ คาดว่าศาลจะใช้เวลาไต่สวนคดีราว 2 เดือน ขณะที่รัฐบาลเกาหลีเหนือยังปฏิเสธว่ามีไม่มีส่วนรู้เห็นและไม่ยอมรับว่าผู้ตายเป็นนายจอง-นัม แต่เชื่อว่าเขาเสียชีวิตเพราะหัวใจล้มเหลว พร้อมกล่าวโทษรัฐบาลมาเลเซียที่ร่วมมือกับเกาหลีใต้และประเทศคู่ปรปักษ์ พยายามป้ายความผิดให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ. | 2 สาวจำเลยคดีใช้ยาพิษสังหารนาย คิม จอง-นัม พี่ชายต่างมารดาของผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ เข้ารับการไต่สวนนัดแรกเมื่อวันจันทร์ โดยทั้งคู่ปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหา | ข่าว,ต่างประเทศ | ลอบสังหาร,คิม จอง นัม,ไต่สวน,คิม จอง อึน,เกาหลีเหนือ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1087820 |
กกต.จ่อเอาผิด นายก อบจ.ขึ้นเวทีหนุนพลังประชารัฐ ชี้ หากผิดถึงติดคุก | วันที่ 29 ม.ค. นายสมพล พงษ์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า เกี่ยวกับแนวทางการหาเสียงเลือกตั้ง รวมถึงการสนับสนุนการหาเสียงเลือกตั้งนั้น ทั้งว่าที่ผู้สมัคร รวมถึงข้าราชการ นักการเมืองท้องถิ่น ต้องทำความเข้าใจ เนื่องจากปัจจุบันอาจมีการเข้าใจผิด หรือไม่รู้เกี่ยวกับข้อกฎหมาย เนื่องจากในกฎหมายบอกไว้ชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการ นักการเมือง ท้องถิ่น ต้องไม่ใช้ตำแหน่ง อำนาจหน้าที่ กระทำการใดอันเป็นคุณเป็นโทษกับพรรคการเมือง รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ต้องวางตัวเป็นกลาง หากมีการขึ้นเวที หรือกระทำการใดๆ ในการช่วยว่าที่ผู้สมัครหาเสียง ถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย ซึ่งนอกจากกฎหมายเลือกตั้งยังมีมติคณะรัฐมนตรี ปี 2539 ที่ออกระเบียบไว้ ในเรื่องกำชับให้วางตัวเป็นกลาง,ในส่วนของ กกต.นครพนม ได้มีหนังสือเสนอ ผวจ.นครพนม เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2562 ในการออกคำสั่งแจ้งแนวทางการปฏิบัติตัวของ เจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการ รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่น รวมถึงบุคคลที่กฎหมายบังคับไว้ ในการวางตัวเป็นกลาง ตาม พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน 2551 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติแก่ทุกหน่วยงาน จึงขอเน้นย้ำให้ทำความเข้าใจ หากมีการกระทำผิด ไม่ว่าจะมีการร้องเรียน หรือไม่ร้องเรียน หากมีข้อมูล หรือรับทราบจากช่องทางไหนก็ตาม ทาง กกต.จะต้องมีการสืบสวน รวบรวมหลักฐาน สรุปส่ง กกต.กลางพิจารณา หากเข้าข่ายความผิดจะต้องลงโทษทางกฎหมาย มีทั้งวินัย อาญา โทษขั้นติดคุก,นายสมพล กล่าวอีกว่า สำหรับกรณี นายก อบจ.นครพนม รวมถึง ส.อบจ.ที่มีข้อมูลว่า มีการขึ้นเวทีสนับสนุนพรรคการเมืองในการหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา ทาง กกต.กำลังรวบรวมหลักฐาน สืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อสรุปส่ง กกต.กลาง เนื่องจากมีการกระทำที่เข้าข่ายความผิดในการวางตัวเป็นกลาง ตาม พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน 2551 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 รวมถึงคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ออกไว้ในการวางตัวเป็นกลาง และจะมีการเสนอ กกต.กลางพิจารณาต่อไป ยืนยันว่า กกต.เป็นหน่วยงานอิสระ ไม่ขึ้นตรงกับใคร ยืนยันทำงานตรงไปตรงมา. | กกต.จ่อเอาผิด นายก อบจ.นครพนม ขึ้นเวทีหนุนพลังประชารัฐ ยัน เร่งสืบสวน ส่งกกต.กลาง ย้ำ เตือนข้าราชการ จนท.นักการเมือง ช่วยหาเสียงผิดกฎหมายขั้นติดคุก
| ข่าว,ทั่วไทย | เลือกตั้ง62,กกต.,พลังประชารัฐ,อบจ.นครพนม,ผอ.กกต.นครพนม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1482243 |
ชาวนาอยุธยาวอนรัฐบาลทบทวนส่งน้ำรักษาข้าวใกล้เก็บเกี่ยว บางส่วนเริ่มมีปัญหาข้าวลีบจำใจเกี่ยวทิ้ง | วันนี้ (21 ก.ค.2558) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ได้ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ปลูกข้าวนาปีที่มีอายุ 3 เดือน ใน ต.มารวิชัย อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา กว่า 4000 ไร่ พบว่านาข้าวที่ตั้งท้องออกรวงสีเหลืองเริ่มมีสภาพฝ่อหลายไร่ ชาวนาในพื้นที่เปิดเผยว่าหากมีน้ำมาใช้หล่อเลี้ยงต้นข้าวอีก 10 วัน ข้าวชุดนี้ก็จะรอด ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ดังนั้น ชาวนาจึงเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาทบทวนให้ส่งน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังจะได้เก็บเกี่ยวอีกครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่กำลังประสบปัญหาเช่นเดียวกันเป็นกรณีพิเศษเพื่อให้ข้าวมีความชุ่มชื้นมีเมล็ดข้าวเต็มรวง ขณะเดียวกันพื้นที่นาของเกษตรบางรายที่พร้อมจะเก็บเกี่ยวในอีก 10 วัน ข้างหน้า ซึ่งขาดน้ำมานานหลายสัปดาห์หลังจากที่มติคณะรัฐมนตรีให้หยุดสูบน้ำ ต้องประสบปัญหาข้าวลีบทั้งหมด ต้องยอมตัดใจเกี่ยวข้อาวทิ้งเกือบ 25 ไร่ สูญเงินเกือบ 2 แสนบาท เพราะข้าวขาดน้ำมานานหลายวันทำให้เขา หมดหวังที่จะเกี่ยวข้าวได้ขณะเดียวกันในพื้นที่ ต.มารวิชัย ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาชาวนาได้ระดมเครื่องสูบน้ำสูบน้ำจากแม่น้ำน้อยในช่วงน้ำขึ้น-น้ำลง เข้าคลองสาย 4 และทอยเข้าสู่นาข้าวที่กำลังจะยืนต้นตาย ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่ชาวนาเห็นว่าน้ำยังพอมี จึงได้ได้สูบน้ำเข้านา แต่ก็ไม่มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจะมาห้ามให้หยุดสูบเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมาหรือไม่ และยังขอให้รัฐบาลเห็นใจชาวนา เพราะหากไม่ได้น้ำนอกจากข้าวจะตายแล้ว รัฐบาลยังต้องจ่ายเงินค่าเยียวยาจำนวนมาก ส่วนปริมาณน้ำต้นทุนในคลองชลประทานที่รับน้ำมาจากแม่น้ำน้อยและน้ำสายสำคัญที่เป็นความหวังของชาวนาตอนนี้มีสภาพแห้งขอด ซึ่งวันนี้ชาวนาก็จะระดมเครื่องสูบน้ำทั้งวันเพื่อให้น้ำเดินทางมาถึง ต.มารวิชัย เพื่อที่จะช่วยข้าวนาปีเกือบ 4000 ไร่ ไม่ให้ยืนต้นตาย ทั้งนี้ในพื้นที่ ต.มารวิชัย อ.เสนา มีทั้งข้าวที่กำลังออกรวงพร้อมเก็บเกี่ยวในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า และข้าวที่ปลูกใหม่อายุ 1 เดือน ชาวนาระบุว่าข้าวที่ปลูกใหม่ไม่มีความหวังจะใช้น้ำ เนื่องจากต้องใช้น้ำถึง 2 เท่าตัว ดังนั้น ชาวนาจึงเรียกร้องว่าให้รัฐบาลทบทวนเป็นกรณีพิเศษสำหรับข้าวที่กำลังจะเก็บเกี่ยว เพราะหากไม่สามารถช่วยนาชาวนาจะขาดทุนจำนวนมาก | ชาวนา จ.พระนครศรีอยุธยา รอรัฐบาลพิจารณาทบทวนการส่งน้ำให้ทำนาอีกครั้ง หลังข้าวที่ออกรวงและกำลังจะเก็บเกี่ยวได้ภายใน 2 สัปดาห์อาจยืนต้นตาย หากขาดน้ำภายใน 10 วัน ขณะที่ชาวนาบางส่วนของ ต.มารวิชัย อ.เสนา หลายคนต้องยอมเกี่ยวข้าวทิ้ง เพราะประสบปัญหาข้าวลีบ | สังคม | ข่าว12.00,ข่าวสังคม,ชาวนาอุยธยา,ต.มารวิชัย,พระนครศรีอยุธยา,ภัยแล้ง,ภัยแล้ง58,อยุธยา,อำเภอเสนา | https://news.thaipbs.or.th/content/3741 |
กฟน. เผยยอดใช้ไฟฟ้าต้นปีทำสติถิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ | นายอาทร สินสวัสดิ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า ยอดการใช้ไฟฟ้าในช่วงครึ่งปีแรกในพื้นที่รับผิดชอบของการไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. ขยายตัวร้อยละ 15-20 แต่ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงถึงร้อยละ 34 ของปริมาณใช้ตลอดทั้งปี ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ โดยสาเหตุเกิดจากการนำเข้าเครื่องจักรของและเดินสายการผลิตใหม่ภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ประกอบกับอากาศร้อนจัดในช่วงที่ผานมา ทำให้การใช้ไฟฟ้าภาคครัวเรือนสูงขึ้นนอกจากนี้ อสังหาริมทรัพย์โครงการใหม่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้ายิ่งเป็นตัวเร่งให้ปริมาณใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และแม้ว่ายอดการใช้ไฟฟ้าเริ่มเติบโตน้อยลงในช่วงฝนตกจะน้อยลง แต่คาดว่าอัตราการใช้ไฟฟ้าทั้งปีจะอยู่ที่ร้อยละ 6-7 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ที่ร้อยละ 3 เทียบกับยอดการใช้ไฟฟ้าปีที่ผ่านมาที่ติดลบร้อยละ 1.9ส่วนปัญหาไฟตกไฟดับบ่อยครั้งในฤดูมรสุม พบว่าเกิดจากแผนป้ายโฆษณาและต้นไม้ใหญ่ที่ถูกแรงลมพัดและพาดผ่านสายไฟให้เกิดปัญหาสายไฟขาด ทาง กฟน.ได้ประสานไปยังกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบให้เพิ่มความแข็งแรงและตัดแต่งกิ่งไม้ให้อยู่ในระยะปลอดภัย เพื่อประชาชนและภาคธุรกิจ | การไฟฟ้านครหลวง เผยยอดการใช้ไฟฟ้าช่วงต้นปีทำสถิติเป็นประวัติการณ์ โดยสูงถึงกว่าร้อยละ 30 ของปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งปี พร้อมประสาน กทม. ดูแลความแข็งแรงป้ายโฆษณา และต้นไม้ในพื้นที่ ป้องกันพาดผ่านสายไฟฟ้าและทำให้ไฟฟ้าดับ | วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี | กรุงเทพฯ,การไฟฟ้านครหลวง,ต้นปี,สถิติ,สูง | https://news.thaipbs.or.th/content/94089 |
พาณิชย์นำเข้าน้ำมันปาล์มล็อตแรกอีก 10000 ตันสัปดาห์หน้า | น้ำมันปาล์มดิบกึ่งบริสุทธิ์ล็อตแรก 10000 ตันที่จะนำเข้าสัปดาห์หน้าเป็นส่วนหนึ่งของปริมาณทั้งหมด 30000 ตัน ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีการนำเข้าภายในเดือน ส.ค.นี้ เพื่อแก้ปัญหาราคาสต็อกน้ำมันปาล์มที่ลดลง และ ราคาน้ำมันปาล์มในประเทศที่สูงขึ้นส่วนที่เหลืออีก 20000 ตันจะนำเข้าหลังจากนี้ โดยอยู่ระหว่างกระบวนการจัดซื้อโดยเปิดให้บริษัทจากต่างประเทศเสนอราคา โดยองค์การคลังสินค้า หรือ อคส. ซึ่งเป็นผู้นำเข้า ระบุว่า นำเข้าในราคาประมาณกิโลกรัมละ 31 บาทนายอัสนี มาลัมพุช นายกสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม กล่าวว่า น้ำมันปาล์มล็อตแรกจะกระจายให้กับบริษัทผู้ผลิตน้ำมันปาล์ม 10 บริษัทตามกำลังการผลิต ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิตยังคงสามารถจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขนาด 1 ลิตรในราคา 42 บาทได้นายอัสนี เชื่อว่า การนำเข้าน้ำมันปาล์มในครั้งนี้จะช่วยให้สต็อกสำรองน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 130000 ตัน เป็น 160000 ตัน จากสต็อกระดับปกติที่ 200000 ตันนางวิวรรณ บุณยประทีปรัตน์ เลขาธิการสมาคมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มประเทศไทย กล่าวว่า การนำเข้าน้ำมันปาล์มช่วงนี้เหมาะสมเนื่องจากปริมาณผลผลิตปาล์มลดลงและราคาน้ำมันปาล์มดิบไทยอยู่ในระดับสูงกว่ามาเลเซียกิโลกรัมละ 4 บาท การนำเข้าในเดือนนี้เชื่อว่า ไม่ส่งผลกระทบกับเกษตรกรมาก เนื่องจากขณะนี้ราคาผลปาล์มยังอยู่ในระดับสูงเฉลี่ย 5.80 บาท | ปัญหาสต็อกน้ำมันปาล์มที่ลดลงเหลือ 130000 ตันทำให้กระทรวงพาณิชย์เตรียมนำเข้าน้ำมันปาล์มอีก 30000 ตัน โดยจะนำเข้าน้ำมันปาล์มล็อตแรก 10000 ตันในสัปดาห์หน้า | เศรษฐกิจ | นำเข้า,น้ำมัน,ปาล์ม,พาณิชย์,สต็อก | https://news.thaipbs.or.th/content/103103 |
น้ำฝน กุลณัฐ ถูกสามีสั่งห้ามลงรูปลูกสาว เกรงใจไม่กล้าลงรูปคู่ | เคยบอกจะไม่แต่งงาน เพราะไม่เชื่อว่าจะเป็นจุดสูงสุดของชีวิต สำหรับ น้ำฝน กุลณัฐ แต่เมื่อคุณแม่ป่วยหนัก เลยทำให้ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ จนถึงกระทั่งแต่งงานมีลูกให้แม่หายห่วง โดยน้ำฝน ได้อุ้มลูกสาว น้องทาเรีย มาเปิดตัวครั้งแรกในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31 ,ที่เคยบอกว่าจะไม่แต่งงาน จะไม่มีลูก ทำไมถึงมีลูกและแต่งงาน? เอาจริงๆ เพื่อนจะชอบบอกว่าเป็นเจ้าสาวที่กลัวฝน การแต่งงานไม่ได้เหมือนเป็นจุดที่สูงสุดของชีวิตในตอนนั้น และอาจจะเป็นเพราะว่าเรายังไม่เจอใครที่เรารู้สึกว่าแต่งก็ได้ แล้วเราก็ยังไม่เก็ตว่าพอเจอคนที่อยากจะแต่งงานด้วย เราโอเคแล้ว เรายังไม่รู้สึกยังไง แล้วช่วงนั้นเราทะเลาะกับแม่บ่อยมากเรื่องแต่งงาน คือเค้าอยากให้เราแต่ง,ทำไมแม่ถึงอยากให้เราแต่งงาน? คือเค้ามองว่าถ้าวันหนึ่งเค้าเป็นอะไรไป เค้ากลัวว่าเราจะไม่มีเพื่อน อันนี้เป็นความห่วงของพ่อแม่ คือแม่จะชอบพูดเสมอเวลาเราทะเลาะ แม่จะไม่พูดแล้วๆ จนวันหนึ่งแม่เป็นเส้นเลือดสมองตีบ เค้าพูดไม่ได้ จนวันนี้กลับมานั่งนึกถึงวันนั้นว่าไม่น่าพูดเลย นึกถึงตอนแม่พูดแม่บ่น,ตอนนี้อยากให้แม่กลับมาพูดได้เหมือนเดิม ย้อนไปนึกถึงวันที่แม่เป็นเส้นเลือดสมองตีบวันแรก เราหาโรงพยาบาลให้แม่ลงไม่ได้ ต้องย้ายหลายโรงพยาบาลมาก ซึ่งวันนั้นฝนต้องเปลี่ยนรถพยาบาล 4 คัน แล้วในมือถือสมุดสวดมนต์อยู่ 1 เล่ม แล้วความรู้สึกเราคิดว่า แม่จะตายวันนี้เหรอ พอเราไปเจอโรงพยาบาลที่เค้ารักษาแม่ได้ แม่ก็อยู่ในไอซียู เส้นเลือดตีบของแม่เป็นส่วนที่ควบคุมร่างกายทั้งหมด,หมอบอกว่า ถ้าภายใน 3 วันนี้แม่ยังไม่สามารถกลับมาหายใจได้เอง ให้เตรียมใจไว้เลย ตอนนั้นเราอยู่ในไอซียู ซึ่งเป็นช่วงที่วัดใจเราและสามีเราด้วย เค้าจับมือเราไว้ตลอด เป็นห่วงเรา ดูแลเรา คือมันได้ใจตรงนั้นไปเลย แล้วบวกกับ 3 วัน แม่หายใจได้เอง ต่อสู้ดิ้นรนหลายๆ อย่าง ผ่านตรงนั้นไปประมาณ 2-3 เดือน เหมือนแม่เริ่มนั่งวีลแชร์ได้ ไปนั่นไปนี่ได้ เลยหันไปถามจอร์แดนว่า แต่งงานกันมั้ย ซึ่งตอนนั้นกำลังคบกันได้ประมาณ 3-4 ปีแล้วค่ะ ซึ่งเค้าเข้าใจ,ทำไมถึงไม่ค่อยชอบลงรูปสามีเลย? เค้าไม่ชอบออกสื่อ คือประมาณว่าเค้าไม่อยากลงรูปทาเรีย เพราะไม่อยากละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของลูก เราให้สิทธิ์ตัดสินใจเค้าเองว่าอยากจะลงรึเปล่า ถามว่ากลัวสามีมั้ย คือไม่ได้กลัว แต่ไม่อยากจะทะเลาะ ฝนกับจอร์แดนทะเลาะกันน้อยมาก เวลาที่เรามีปัญหาเราจะคุยกัน,แล้วก็จะคุยกันด้วยเหตุผลมากกว่า แล้วคือตอนที่เรามอง เราจะไม่ได้มองเรื่องสิทธิส่วนบุคคลของลูกขนาดนั้น แต่เราไปมองเรื่องกลัวถูกลักพาตัว กลัวนั่นกลัวนี่ เค้าก็เลยพูดมาคำหนึ่งว่า ลองคิดดูนะ ถ้าวันหนึ่งมีคนติดตามลูกเราไปเรื่อยๆ เค้าจะกลายเป็นเซเลบริตี้ที่มาจากเรา ไม่ได้มาจากตัวเค้าเอง,ซึ่งเค้าจะไม่มีชีวิตความเป็นเด็ก ถ้าวันหนึ่งทาเรียทำอะไรผิด เค้าก็จะผิดแบบเซเลบริตี้ โดนสังคมกระหน่ำ เราเห็นดาราเค้าลงรูปลูก แล้วพอดาราคนนั้นเค้าทำผิด คนก็กระหน่ำว่าไปถึงลูก อันนี้ในฐานะที่ฝนมีลูก อยากให้แยกแยะกันหน่อย,ตอนนี้แม่เป็นยังไงบ้าง? ยังพูดไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ถ้าทานอาหารต้องทานทางสายยาง ถ้าแกนอนอยู่ต้องจับแกนั่งขึ้น วันที่เราแต่งงานเค้ายังรับรู้อยู่ คือเรารู้สึกว่าแม่เรามีความจำในตอนนี้ไม่ได้ แต่เค้าจำอดีตได้ หลังจากแต่งงานไปได้สักพัก เราก็ไปถามว่าฝนแต่งงานรึยัง เค้าก็บอกว่ายัง,ถ้า ณ วันนี้สมมติว่า แม่ดูรายการอยู่ และรับรู้ได้ อยากบอกอะไรแม่? ถ้าแม่รับรู้ได้ก็อยากจะบอกว่ารักแม่ที่สุด การที่อยากจะแต่งงานเหตุผลหลักๆ มาจากเค้า การที่มีทาเรียก็มาจากเค้า หลายๆ อย่างที่ทำก็อยากให้เค้าหมดห่วง เราอยากทำให้เค้าได้มากที่สุด เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเค้า ถ้าวันหนึ่งเค้าจากเราไป ก็อยากให้รู้ว่าเราโอเค,จริงไหมที่วันหนึ่งจะไม่อยู่วงการบันเทิงแล้ว? ก็ไม่ขนาดนั้น ที่บอกจะลาวงการก็คือมีแพลนจะย้ายไปอยู่อเมริกา ก็คืออีกประมาณ 4-5 ปี ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้ไปด้วยรึเปล่า เพราะที่นั่นเรายังไม่มีงานทำ ถ้าไปอยู่ที่นั่นเราต้องมีงานทำ ก็ต้องรอดูในอนาคต ตอนนี้สามีเค้าอยู่เมืองไทย เค้าอยู่เพราะเรา งานของเค้าเค้าทำโฆษณาในเอเชีย ขึ้นอยู่ว่าเค้าจะได้ไปถ่ายทำที่ไหน แล้วคือตอนนี้เราพักงานในวงการก่อน เพราะอยากจะให้นมแม่ 100% และเราอยากจะให้นมแม่ให้ถึงที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ คิดว่าถ้าเค้าพักทานอาหารเองได้สัก 2-3 เดือน เราก็จะกลับไปทำงานละคร อาจจะรับปีละเรื่อง. | น้ำฝน กุลณัฐ เล่าสาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจแต่งงาน หลังเคยคิดมาตลอดว่า จะไม่แต่ง เพราะไม่เชื่อในความรัก | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | น้ำฝน,น้ำฝน กุลณัฐ,ลูกน้ำฝน กุลณัฐ,คุยแซ่บShow,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1114062 |
ทึ่ง 1 ปีมีครั้งเดียว ปรากฏการณ์แม่น้ำ 2 สี ท้ายเขื่อนสิริกิติ์ (คลิป) | เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทุกๆ ในช่วงฤดูฝนจะมีปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มหัศจรรย์ เกิดแม่น้ำ 2 สี ที่บริเวณท้ายเขื่อนสิริกิติ์ ต.ผาเลือด อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ และได้มีนักท่องเที่ยวใน จ.อุตรดิตถ์และจังหวัดใกล้เคียงโดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ จะเดินทางมาดูสิ่งมหัศจรรย์ดังกล่าว ในขณะนี้ก็คือแม่น้ำ 2 สี ที่บริเวณสะพานน้ำปาด เชื่อมระหว่างเขื่อนสิริกิติ์กับตลาดสดบ้านปากปาด หากประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนที่อ่างเก็บน้ำแล้วในช่วงนี้ ยังแวะเพื่อชมและถ่ายรูปคู่กับแม่น้ำ 2 สี ที่บริเวณสะพานเชื่อมระหว่างเขื่อนสิริกิติ์กับตลาดสดบ้านปากปาดได้ ,ทั้งนี้แม่น้ำ 2 สีมีแห่งเดียวในภาคเหนือ เกิดจากน้ำใสที่ไหลออกจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์มาตามแม่น้ำน่านบรรจบกับแม่น้ำปาด ที่มีสีขุ่นแดงจากน้ำฝนที่ตกบริเวณทางตอนเหนือ ไหลผ่านลำห้วยน้ำปาดมารวมกันในแม่น้ำน่าน โดยมาบรรจบกันที่บริเวณสะพานเหนือตลาดบ้านปากปาด ทำให้เกิดเป็นแม่น้ำ 2 สี มองเห็นได้อย่างชัดเจน และสวยงามน่าจะมีหนึ่งเดียวในโลก ที่สำคัญแม่น้ำ 2 สีจะเกิดเฉพาะช่วงฤดูฝนเท่านั้น และหากหมดช่วงฤดูฝนแล้วสีน้ำก็จะใสเป็นปกติทั้ง 2 สาย สำหรับท่านใดที่สนใจจะเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนที่เขื่อนสิริกิติ์ในช่วงนี้ ก็จะได้ชมปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงปีละครั้งเท่านั้น นอกจากชมแม่น้ำ 2 สีแล้ว ทางเขื่อนสิริกิติ์ยังมีสันเขื่อนที่สวยงามสามารเดินชมทิวทัศน์ได้อย่างสวยงาม และชมดอกดอนหญ้าที่ขึ้นริมทางตามเส้นทางเขื่อนฯ อีกด้วย ส่วนนักท่องเที่ยวในช่วงนี้จะมีมาน้อยเพราะเป็นช่วงฤดูฝน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาในฤดูหนาวเสียมากกว่า. | หนึ่งปีมีครั้งเดียว ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ แม่น้ำ 2 สี ไหลบรรจบกันระหว่าง แม่น้ำน่าน-ปาด ท้ายเขื่อนสิริกิติ์ ในช่วงต้นฤดูฝน | ข่าว,ทั่วไทย | แม่น้ำ 2 สี,แม่น้ำปาด,อุตรดิตถ์,น้ำปาด,เขื่อนสิริกิติ์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1297706 |
อุทยานสุสานหอย ประกาศห้ามจำหน่ายซากหอยมือเสือ-ปะการัง หากพบจับทันที | วันที่ 17 พ.ย. 59 นายเปลี่ยนประสบ ขาวนวล หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานสุสานหอย 75 ล้านปี อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้ประชุมชี้แจงขอความร่วมมือผู้ประกอบการร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก บริเวณสุสานหอย 75 ล้านปี ตำบลไสไทย อำเภอเมืองกระบี่ พร้อมทั้งแจกเอกสารประกาศของอุทยานฯ ห้ามมีซากสัตว์ทะเลต้องห้าม เช่น เปลือกหอยมือเสือ ปะการัง และกัลปังหา มาจำหน่ายอย่างเด็ดขาด หลังจากฤดูกาลท่องเที่ยวปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สนามบินกระบี่ ได้ตรวจยึดหอยมือเสือ ปะการัง จากนักท่องเที่ยว ก่อนนำขึ้นเครื่องบินได้เป็นจำนวนมาก,ด้าน นายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กล่าวว่า ขณะนี้ ทางอุทยานฯ ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการลักลอบเก็บซากสัตว์ทะเลหายากที่อยู่ในความคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 19 ฐานครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต หากพบมีการจำหน่าย จะดำเนินการจับกุมอย่างเด็ดขาด มีโทษปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท จำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ,ขณะที่ นายพิชัย ขนานใต้ ประธานชมรมร้านค้าที่ระลึกสุสานหอย 75 ล้านปี กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยมีร้านค้าถูกเจ้าหน้าที่จับกุม เนื่องจากมีสินค้าซากหอยมือเสือ กัลปังหา และปะการังมาแล้ว ทางชมรมจึงได้แจ้งเตือนห้ามมีการจำหน่าย เพราะไม่เป็นผลดี รวมทั้งร้านเองก็จะได้ช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลที่หายาก ไม่ให้มีการลักลอบจับมาขายให้กับทางร้าน และพร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ | อุทยานสุสานหอย 75 ล้านปี หมู่เกาะพีพี แจ้งผู้ประกอบการร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ห้ามมีซากสัตว์ทะเลต้องห้าม เปลือกหอยมือเสือ-ปะการัง มาขายเด็ดขาด หากพบมีการจำหน่ายจะดำเนินการจับกุมทันที | ข่าว,ทั่วไทย | อุทยานพีพี,อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา,หมู่เกาะพีพี,ซากสัตว์ทะเล,สุสานหอย 75 ล้านปี,ร้านค้าที่ระลึก,กระบี่,อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล,ห้ามจำหน่ายซากสัตว์ทะเล,ซากหอยมือเสือ,ปะการัง | https://www.thairath.co.th/news/local/785666 |
ชวนคนไทย 7 กลุ่มเสี่ยง ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 1 มิ.ย.-31 ส.ค.นี้ เตรียม 4 ล้านโด๊สดูแลเพิ่ม | หลังมีรายงานผู้ป่วยเพิ่ม 3-5 เท่าจากปี 2560-2561 26 พ.ค. 2562 นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่นับเป็นโรคระบาดประจำปี เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (influenza virus) ผู้ป่วยจะมีอาการเล็กน้อยถึงรุนแรง อาการพบบ่อยที่สุด ได้แก่ ไข้สูง คัดจมูก เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ ไอ และรู้สึกเหนื่อย ผู้ป่วยกลุ่มหนึ่งอาจมีภาวะรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ทั้งสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในปีนี้ยังมีแนวโน้มแพร่ระบาดมาก ตั้งแต่ต้นปีถึงพฤษภาคมมีรายงานผู้ป่วยแล้วกว่า 1.5 แสนราย เสียชีวิต 10 ราย เป็นการระบาดที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2560-2561 ประมาณ 3-5 เท่าในการป้องกันการแพร่ระบาดและลดความรุนแรงของโรคไข้หวัดใหญ่ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้บรรจุวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงทั่วประเทศเป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง และในปี 2562 นี้ ด้วยสถานการณ์แนวโน้มการแพร่ระบาดมาก และเพื่อให้เกิดความครอบคลุมกลุ่มเสี่ยงเพิ่มขึ้น บอร์ด สปสช.ได้อนุมัติให้จัดเตรียมวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 4 ล้านโด๊ส เพิ่มเติมจากปี 2561 ที่จัดเตรียมจำนวน 3.5 ล้านโด๊ส เพื่อให้ครอบคลุมประชาชนกลุ่มเสี่ยงเพิ่มขึ้น และร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยบริการทั่วประเทศ ในการฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ส่วนวัคซีนที่ สปสช.จัดเตรียมนี้เป็นไปตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติกำหนด โดยเป็นวัคซีนผลิตจากเชื้อตาย 3 สายพันธุ์ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) มีการระบาดมากในประเทศไทยและทั่วโลก ประกอบด้วยไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A (H1N1) เป็นสายพันธุ์เดิมมิชิแกน ชนิด A (H3N2) มีการเปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว จากสายพันธุ์สิงคโปร์เป็นสายพันธุ์สวิสเซอร์แลนด์ ใกล้เคียงกับสายพันธุ์ที่ระบาดในไทยถึงร้อยละ 87.50 และไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด B มีการเปลี่ยนแปลงจากสายพันธุ์ ยามากะตะ/ภูเก็ต เป็นสายพันธุ์ วิกตอร์เรีย/โคโรลาโด เป็นสายพันธุ์ที่พบร้อยละ 95.14 ในกลุ่มผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B ในประเทศไทยในการป้องกันการแพร่ระบาดและลดความรุนแรงของโรคไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยง สปสช.ขอเชิญชวนประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ร่วมรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2562 หรือจนกว่าวัคซีนจะหมด ที่หน่วยบริการภาครัฐและหน่วยบริการเอกชนที่ร่วมระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เลขาธิการ สปสช.กล่าว และว่า สำหรับในกรณีหญิงตั้งครรภ์ เมื่ออายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป สปสช.ได้จัดเตรียมวัคซีนไว้สำหรับทุกคน และไม่จำเป็นว่าต้องมารับการฉีดในช่วงรณรงค์เท่านั้น แต่สามารถขอรับการฉีดวัคซีนได้ตลอดทั้งปีนพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า ไข้หวัดใหญ่มีระยะฟักตัวสั้นมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีระดับแอนติบอดี้สูงอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันการติดโรค จึงต้องมีการฉีดวัคซีนทุกปีเพื่อคอยกระตุ้นให้มีระดับภูมิต้านทานอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ วัคซีนมีผลช่วยป้องกันได้ร้อยละ 60-70 ดังนั้นการดูแลตนเองด้วยการหลีกเลี่ยงหรือป้องกันตนเองจากการสัมผัสผู้ที่ป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ การทำร่างกายให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย กินอาหารที่เอื้อต่อสุขภาพ และล้างมือให้สะอาด ยังเป็นมาตรการที่จำเป็นสำหรับกลุ่มเสี่ยงและประชาชนทั่วไปที่ต้องทำควบคู่ไปด้วยกันทั้งนี้ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงที่รณรงค์วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ คือ 1) หญิงมีครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 2) เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี 3) ผู้มีโรคเรื้อรังประจำตัว ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หัวใจ หืด ไตวาย หลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน 4) ผู้สูงอายุที่อายุ 65 ปีขึ้นไป 5) ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 6) โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ 7) โรคอ้วน หรือผู้ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 100 กิโลกรัม หรือดัชนีมวลกายตั้งแต่ 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร (>100 กก./ BMI>35 kg/m²) | สปสช.ชวนประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ฉีด วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ป้องกันภาวะรุนแรง ลดอัตราเสียชีวิต เผย ปี 62 เตรียมวัคซีน 4 ล้านโด๊ส เพิ่มจากปีที่ผ่านมา 5 หมื่นโด๊ส พร้อมรับมือแนวโน้มแพร่ระบาดหนัก | สังคม,คุณภาพชีวิต | ไข้หวัดใหญ่,สุขภาพ,สปสช. | https://prachatai.com/journal/2019/05/82645 |
สื่อใหญ่ญี่ปุ่นขอโทษ หลังนักข่าวพลาดแชร์รูปของลับลงกรุ๊ปไลน์กต.ไทย | สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานว่า โฆษกสถานีวิทยุโทรทัศน์ อาซาฮี สื่อใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ขอโทษ หลังเกิดเหตุหัวหน้าทีมผู้สื่อข่าวญี่ปุ่นประจำประเทศไทย พลาด โพสต์รูปภาพ อวัยวะเพศ ของตัวเองลงในห้องสนทนาของแอพพลิเคชั่นไลน์ ที่กระทรวงต่างประเทศของไทยตั้งขึ้นเพื่อเป็นช่องทางสื่อสารแก่ผู้สื่อข่าวต่างชาติ,กระทรวงต่างประเทศของไทยได้เรียกร้องขอคำอธิบาย กรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันจันทร์ (27 ก.ค.) ซึ่ง ทางสถานีโทรทัศน์ อาซาฮี ระบุในแถลงการณ์ว่า นักข่าวผู้ไม่มีการเปิดเผยชื่อรายนี้ถูกให้ออกจากงานแล้ว เนื่องจากพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมอย่างยิ่งของเขา และระบุด้วยว่า พวกเรา (อาซาฮี) ขออภัยอย่างยิ่งต่อกระทรวงต่างประเทศของไทยและคนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง และนักข่าวผู้ก่อเหตุถูกตำหนิอย่างรุนแรงต่อเหตุการณ์นี้แล้ว,สถานีโทรทัศน์ อาซาฮีระบุด้วยว่า หัวหน้าทีมผู้สื่อข่าวชายซึ่งมีอายุอยู่ในช่วง 40 ปีรายนี้ ตั้งใจจะส่งรูปภาพต้นเหตุให้แก่เพื่อนหญิงคนหนึ่ง แต่ส่งผิดไปยังห้องสนทนาซึ่งมีนักข่าวกว่า 150 คนเป็นสมาชิกกลุ่มแทน จากนั้นเขาจึงออกจากการเป็นสมาชิกห้องสนทนานี้ทันที ก่อนจะมีคำเตือนจากเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศของไทยถูกโพสต์เข้ามาว่า เราขอเตือนสติคุณว่านี่ (ห้องสนทนา) มีไว้เพื่อการสื่อสารอย่างเป็นทางการ จะมีการดำเนินการในเรื่องนี้ ขณะที่นักข่าวคนอื่นๆต่างตั้งคำถามต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น | ทีวี อาซาฮี สื่อใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นขอโทษต่อกระทรวงต่างประเทศของไทย หลังเกิดกรณีหัวหน้านักข่าวญี่ปุ่นประจำประเทศไทย โพสต์รูป อวัยวะเพศ ลงในกรุ๊ปไลน์ที่กระทรวงต่างประเทศไทยตั้งให้นักข่าวต่างชาติ | null | สถานีโทรทัศน์,อาซาฮี,ญี่ปุ่น,แถลงการณ์,ขอโทษ,ผู้สื่อข่าว,ไทย,อวัยวะเพศ,ของลับ,โพสต์ภาพ,ห้องสนทนา,แอพพลิเคชั่น,ไลน์,กรุ๊ปไลน์,กระทรวงต่างประเทศ,ผู้สื่อข่าวต่างชาติ,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/515576 |
ปธ.กกต.ย้ำไม่หวั่น 7 สิงหาลงประชามติ พร้อมเชิญชวนออกมาใช้สิทธิ์ | เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ก.ค. ที่โรงแรมคลาสสิค คามิโอ จ.ระยอง นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานพิธีจัดประชุมเชิงปฏิบัติการคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง มี นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ นายประวิช รัตนเพียร และนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง ร่วมพิธีเปิด โดยก่อนที่จะมีการเปิดประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งทั้ง 4 คนได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการชุดใหญ่ประชุมการบริหารถกปัญหาเป็นเวลา 1.30 ชั่วโมง โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมรับฟัง,นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. เป็นประธานเปิดประชุม โดยมี นายบุณเกียรติ รักชาติเจริญ รักษาการเลขาธิการ กกต. เป็นผู้กล่าวรายงานคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ได้สิ้นสุดวาระเมื่อ 18 ก.พ.59 และได้แต่งตั้งใหม่เมื่อเดือน มิ.ย.59 เพิ่งมีการประชุมอนุกรรมการครั้งแรก จำนวน 25 คณะ ในชุดประกอบด้วย มีประธาน 1 ท่าน คณะอนุกรรมการ 4 ท่าน จำนวนทั้งสิ้น 101 ท่าน มีหน้าที่เพื่อกลั่นกรองสอบสวนหรือไต่สวนวินิจฉัยจากทาง กกต.จังหวัดเสนอขึ้นมาแล้วเสนอความเห็นให้แก่คณะกรรมการการเลือกตั้ง,นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวว่า ขอให้คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นใหม่ มีทั้งนายพล ตำรวจ ทหาร ผู้พิพากษา อัยการ และคนที่นับหน้าถือตาขอได้ศึกษาฎีกาศาลตัดสินคดีเลือกตั้งให้มาก ส่วนคนที่เคยเป็นแล้วก็เช่นกัน คนที่เป็นผู้กระทำผิดจะมีการพลิกแพลงใหม่เสมอ การลงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคม ไม่มีความหวั่นใจ มีการเตรียมความพร้อมหมดแล้ว เหลือแต่การรณรงค์อย่างเดียว และขอให้คนไทยมาลงประชามติกันมาก ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนไทยที่ต้องรู้กฎหมายศึกษากันไว้. | 5 เสือ กกต.บุกระยอง เปิดประชุมเชิงปฏิบัติการคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ด้านประธาน กกต.ย้ำไม่หวั่นใจการลงประชามติ 7 สิงหา เผยได้เตรียมพร้อมหมดแล้ว และขอเชิญชวนคนไทยมาใช้สิทธิ์ | null | ลงประชามติ,ร่าง รธน.,รณรงค์ประชามติ,ศุภชัย สมเจริญ,ประธาน กกต.,บุณเกียรติ รักชาติเจริญ,สัมมนาคำร้อง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/669341 |
สมุทรปราการเปิดตัว 7 แข้งใหม่ | นายสายันต์ แสงวงศ์ ประธานสโมสรทีมปีศาจปู-สมุทรปราการ ยูไนเต็ด และ นายวันชัย แหยมสลัม หัวหน้าผู้ฝึกสอน เปิดตัว 7 นักเตะใหม่ที่จะเข้ามาเสริมทีม ในเลกที่ 2 ประกอบด้วย ระวี พวงมี มิดฟิลด์กราบซ้าย และ จิระศักดิ์ ทองสัมฤทธิ์ ผู้รักษาประตูจากไทยฮอนด้า อนุสรณ์ สีมี และ ธนภัทร ยอดปลอบ 2 จากราชบุรี เอฟซี อุสมาน กองกลางชาวเซเนกัล จากแบงค็อก ยูไนเต็ด ฐานันดร ประราชะ และ บัวเต็ง ควาบีน่า จากตรังเอฟซี ซึ่งในรายของบัวเต็ว ควาบีน่านั้น เป็นดาวยิงชาวกาน่า เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมจาก ดิวิชั่น 2 โซนภาคกลาง-ภาคตะวันออก เมื่อปี 2008 ที่ถูกคาดหมายว่าจะสามารถมาช่วยทีมในการทำประตูในเลกที่ 2โดยทีมจบเลกแรกที่อันดับ 7 ในศึกฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ขณะที่ประธานสโมสรสมุทรปราการ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่าการย้ายเข้ามาเล่นในทีมของนักเตะชุดใหม่นี้ ไม่มีการซื้อตัวมา แต่เกิดความสมัครใจของผู้เล่นที่บางคนก็ประสบปัญหาเรื่องเวลาการทำงานไม่เอื้ออำนวย ขณะที่บางคนไม่สามารถปรับตัวเข้ากับนโยบายใหม่ของทีมเดิมได้ ซึ่งผู้เล่นทั้งหมดนี้ล้วนมีประสบการณ์ จึงมั่นใจว่าสโมสรจะมีโอกาสก้าวขึ้นสู่ดิวิชั่น 1ได้อย่างแน่นอน | สมุทรปราการ ยูไนเต็ด เสริมทัพนักเตะทีเดียว 7 คน หวังประสบความสำเร็จในการแข่งขันเลกที่ 2 ศึกฟุตบอลลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพฯและปริมณฑล | กีฬา | นักเตะ,ปริมณฑล,ฟุตบอล,ฟุตบอลลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2,สมุทรปราการ ยูไนเต็ด | https://news.thaipbs.or.th/content/18537 |
โรคภูมิแพ้ในเด็ก สาเหตุและการป้องกัน (ตอน 2) | แพ้นมวัว เป็นปัญหาที่พบบ่อยที่สุด มีรายงานพบประมาณร้อยละ 2.5-7.5 ในเด็กทารก ทั้งนี้ ขึ้นกับข้อมูลการรายงานของที่ไหนในประเทศไทยคาดว่าไม่เกินร้อยละ 10 แต่ที่น่าดีใจคือ โรคนี้ส่วนใหญ่จะหายเป็นปกติ เด็กๆ สามารถกลับมากินนมวัวได้เกือบทุกคน มีเด็กที่แพ้นมวัวจำนวนน้อยที่โตแล้วก็ยังกินนมวัวไม่ได้,สาเหตุของโรค,โรคแพ้นมวัว เกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรม ที่มีญาติพี่น้องเป็นโรคภูมิแพ้ และมีปัจจัยเสริมที่เด็กทารกได้รับการกระตุ้นด้วยนมวัวตั้งแต่อยู่ในระยะตั้งครรภ์ (แม่ดื่มนมวัว) และหลังเกิด ยังถูกกระตุ้นด้วยการกินนมวัว ไม่กินนมแม่ หรือกินนมแม่ที่มีนมวัวผสม , ,การแพ้นมวัวพบได้ทั้งในเด็กที่กินนมแม่อย่างเดียว หรือเด็กที่กินนมผงดัดแปลงสำหรับทารกตั้งแต่แรกเกิด เด็กที่กินนมแม่สามารถแพ้นมวัวจากการที่แม่ดื่มนมวัวหรือกินอาหารที่มีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์จากนม จึงมีโปรตีนนมวัวผสมออกมาในน้ำนมแม่ไปกระตุ้นให้ลูกแพ้นมวัวได้,อาการ,เด็กที่แพ้นมวัวจะแสดงอาการผิดปกติหลายๆ ระบบอวัยวะ หรือที่หนึ่งที่ใดของร่างกายได้ เช่น ผื่นผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ ผื่นลมพิษ ปวดท้องเป็นๆ หายๆ อาเจียน ท้องร่วง มีบางรายที่เกิดความผิดปกติในระบบหายใจ หอบเหนื่อย มีเสมหะดังครืดคราดเป็นระยะๆ เด็กที่แพ้นมวัว มักมีน้ำหนักตัวขึ้นช้า ซีดและอ่อนเพลีย, ,การแพ้นมวัวอย่างรุนแรง พบได้น้อยแต่มีอันตรายถึงแก่ชีวิต เด็กจะมีอาการหน้าบวม ลิ้นบวมจุกปาก เกิดขึ้นทันทีหลังกินนมและมีผื่นลมพิษ อาเจียน ท้องร่วง หอบหืด ช็อก และชักตามมาอย่างรวดเร็ว, ,เด็กกลุ่มที่เกิดอาการแพ้อย่างเฉียบพลัน ภายในเวลาเป็นนาทีถึงชั่วโมงหลังกินนมจะเกิดอาการต่างๆ ดังกล่าว กลุ่มนี้มักจะมีกลไกการแพ้ผ่านแอนติบอดีชนิด IgE, ,เด็กกลุ่มที่แสดงอาการแพ้ค่อนข้างช้า ประมาณ 7-10 วันหลังกินนม มักจะมีกลไกผ่านเซลล์ต่างๆ ในระบบคุ้มกัน,การรักษา,การรักษาที่ดีที่สุดคือ งดกินนมวัว, ,เด็กที่กินนมแม่ ให้แม่งดกินนมวัวและงดอาหารที่มีส่วนผสมผลิตภัณฑ์จากนมวัว เช่น ชีส โยเกิร์ต ไอศกรีม เนย เนยเทียม , ,เด็กที่กินนมวัว ให้งดนมและผลิตภัณฑ์จากนมวัว และให้นมชนิดอื่นที่มีสารอาหารครบถ้วน มีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ได้แก่,1. นมถั่วเหลือง ประมาณร้อยละ 50-80 ของเด็กที่แพ้นมวัว กินนมถั่วเหลืองแทนได้โดยไม่เกิดอาการแพ้ แต่ก็ต้องคอยเฝ้าสังเกต เพราะมีเด็กที่แพ้นมวัวร้อยละ 15-45 ยังมีโอกาสแพ้นมถั่วเหลืองร่วมด้วย ทารกที่เหมาะสำหรับการกินนมถั่วเหลืองเป็นอาหารหลัก ควรมีอายุอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป หากให้กินก่อนอายุ 6 เดือน พบว่ามีอัตราการแพ้นมถั่วเหลืองสูง,2. นมวัวชนิด extensively hydrolyzed formula เป็นนมวัวที่ผ่านกระบวนการย่อยด้วยเอนไซม์ ทำให้ปริมาณโปรตีนก่อแพ้ในนมวัวลดน้อยลงมาก แต่จะมีราคาสูงและรสชาติไม่ดี และมีเด็กบางคนยังแพ้นมชนิดนี้ต่อได้,นมวัวชนิด partially hydrolyzed formula ไม่เหมาะสำหรับเด็กที่แพ้นมวัว เพราะยังมีโปรตีนก่อแพ้ในปริมาณที่สามารถกระตุ้นอาการแพ้ได้,3. นมชนิด amino acid formula เป็นสูตรนมที่โปรตีนเป็นกรดอะมิโนไม่ก่อแพ้เลย แต่ราคาสูงมาก,อาการ,แพ้ยาแสดงออกที่อวัยวะต่างๆ ได้ทุกส่วน อาการทางผิวหนังเป็นอวัยวะที่พบบ่อยที่สุด เป็นผื่นที่เกิดจากยา อาจแสดงออกในลักษณะของโรคผิวหนังต่างๆ เช่น,นอกจากผื่นผิวหนังแล้ว ผู้ป่วยอาจมีไข้ มีอาการตามระบบต่างๆ เช่น ปวดท้อง ท้องร่วง อาเจียน หอบเหนื่อย ใจสั่น ช็อก ตับหรือไตวายจากผลของยาได้ นอกจากนี้ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการในระบบอื่น ๆ โดยไม่มีผื่นผิวหนังเลยก็ได้,ผู้ป่วยควรทำอย่างไร,1. หลังกินยา ถ้าเกิดอาการผิดปกติ เช่น มีผื่นที่ผิวหนัง ให้หยุดยาที่สงสัยว่าจะเป็นสาเหตุทันที,2. ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง,3. ถ้าทราบว่าแพ้ยาอะไร ให้จดบันทึกไว้ และหลีกเลี่ยงการใช้ซ้ำ,4. แจ้งให้แพทย์ผู้ทำการรักษาทราบว่าแพ้ยาอะไรบ้างทุกครั้งเมื่อเจ็บป่วยหรือจำเป็นจะต้องได้รับยา,สัปดาห์หน้ายังมีเรื่องราวของโรคภูมิแพ้ชนิดอื่นๆ ที่น่าสนใจอีก รอติดตามกันนะครับ,----------------------------------------------------------,แหล่งข้อมูล,ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สุวัฒน์ เบญจพลพิทักษ์, สาขาวิชาโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล | ศุกร์สุขภาพ สัปดาห์นี้ยังมีชนิดของโรคภูมิแพ้ที่พบในเด็กที่น่าสนใจอีก ดังนี้ แพ้นมวัว เป็นปัญหาที่พบบ่อยที่สุด มีรายงานพบประมาณร้อยละ 2.5-7.5 ในเด็กทารก | null | โรคภูมิแพ้ในเด็ก,แพ้นมวัว,อาการแพ้นมวัว,เด็กแพ้นมวัว,โรคแพ้นมวัว,การรักษาอาการแพ้นม,ศุกร์สุขภาพ,สุขภาพ | https://www.thairath.co.th/news/society/1637696 |
เรื่องกินเรื่องใหญ่ เชฟ FB โต้ชาวเน็ต ร่องกระทะปิ้งย่างไม่ได้มีไว้ต้มซุป | เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดประเด็นร้องเรียนในโลกโซเชียล กรณีลูกค้าของร้านอาหารประเภทปิ้งย่างชื่อดัง พบว่ากระทะทองเหลืองในช่องที่ใส่น้ำซุปมีขนาดแคบและตื้นเกินไป ที่จะต้มผักและใช้ช้อนตักได้ จึงร่วมกันรณรงค์ล่ารายชื่อจำนวน 5,000 คน ผ่านเว็บไซต์ ,change.org, เรียกร้องให้ปรับปรุงกระทะ ในหัวข้อ สุดทน ร้านบาบิก้อนใช้ช่องน้ำซุปแคบและตื้นใส่กะหล่ำลำบาก ช้อนก็ยากเหลือเกิน ล่าสุดมีผู้เข้าร่วมสนับสนุนกว่า 5 พันคน,เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า ปัญหาหลักของร้านมิใช่เรื่องของคุณภาพของอาหารหรือรสชาติของน้ำจิ้ม แต่เป็นช่องน้ำซุปด้านข้างของหม้อที่ไม่สัมพันธ์กับหลายสิ่งๆ ในร้าน ทั้งในเชิง UX และ UI กล่าวคือช่องน้ำซุปนั้นมีขนาดแคบและตื้นเกินกว่าที่จะใช้ในการบริโภคอาหาร,ในด้านมิติความกว้างนั้น ทุกคนคงจะทราบดีว่า มีความกว้างที่แคบเกินไปและไม่สัมพันธ์กับขนาดของช้อนตัก ทำให้เราไม่สามารถดื่มด่ำกับรสชาติน้ำซุปอันแสนอร่อยได้ นอกจากนี้ด้วยความแคบของช่องตักน้ำซุปนั้น ทำให้การใส่กระหล่ำปลีฟรีที่เราตั้งใจมารับประทานมีความยากขึ้นไปอีก สังเกตได้จากการนำกะหล่ำปลีลงไปต้มนั้นค่อนข้างยาก รวมถึงปริมาณของกระหล่ำปลีฝอยที่พลัดตกลงมาบนโต๊ะ คิดเป็น 13% ของปริมาณกะหล่ำปลีทั้งหมดของทางร้าน ทำให้ประเทศไทยสูญเสีย GDP ราว 0.02% ในแต่ละปี,พร้อมกับอ้างอิงว่า มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @malimali ได้ทวิตข้อความเชิญชวนร่วมรณรงค์ช่องใส่น้ำซุปบาร์บีคิวพลาซ่า ให้มีความกว้างขึ้นและเหมาะสมกับช้อนตักซุป จนมีคนสนใจ แห่รีทวิตกว่า 1.3 หมื่นครั้งเลยทีเดียว,ขณะที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก SchwedaKong ได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็น ชี้แจงถึงสาเหตุของกระทะปิ้งย่างที่มีลักษณะแคบและตื้น โดยระบุข้อความว่า ต้นแบบหม้อแบบนี้ เรียกว่า เจงกิสข่าน มาจากมองโกเลีย จนแพร่ถึงญี่ปุ่น การกินคือเอาเนื้อมาโปะตรงกลาง แล้วเอาผักสดมาโปะขอบหม้อ ปล่อยให้น้ำมันจากเนื้อไหลลงผัก โดยจุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อต้มผักแต่แรกแล้ว และแต่เดิมใช้ตะเกียบกิน ไม่ได้ใช้ช้อน ฉะนั้นถ้าจะทำใหม่เพื่อให้ใช้ช้อน เพื่อให้เหมาะกับคนไทย ก็เป็นการดี แต่แบบเดิมช่องใส่น้ำซุปแคบเป็นเรื่องปกติ หลังจากที่ได้เผยแพร่ออกไป ได้มีชาวเน็ตเข้ามากดไลค์และแชร์จำนวนมาก,ต่อมาผู้ใช้งานทวิตเตอร์ ก็ได้ทวิตข้อความโต้กลับเช่นกัน ระบุว่า กระทะเจงกิสข่านของร้านปิ้งย่างที่ญี่ปุ่น ใช้ต้มใส่น้ำซุปได้ พร้อมทั้งลงท้ายว่า สูตรใครสูตรมัน,ล่าสุด ,สายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์, ได้สอบถามไปยัง ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า จำกัด ซึ่งเปิดเผยถึงเรื่องนี้เพียงสั้นๆ ว่า ทางบริษัทฯ ได้รับทราบเรื่องร้องเรียนดังกล่าวแล้ว และจะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องชี้แจงในภายหลัง | ชาวเน็ตล่ารายชื่อร้องร้านอาหารปิ้งย่างชื่อดัง ให้ปรับปรุงกระทะทองเหลือง ที่มีช่องใส่น้ำซุปแคบและตื้นเกินไป ขณะที่เชฟรายหนึ่งโพสต์ FB โต้ ร่องกระทะปิ้งย่างไม่ได้มีไว้ต้มซุป | null | ร้านบาบิก้อน,กระทะ,กระทะทองเหลือง,ช่องน้ำซุปแคป,บาร์บีคิว,หมูกระทะ,กระทะปิ้งย่าง,ร้านอาหาร,ร้านปิ้งย่าง,บาร์บีคิวพลาซ่า,สายตรวจโซเชียล,ข่าว,ข่าวไทยรัฐ,ข่าวโซเชียล,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,Thairath | https://www.thairath.co.th/content/562871 |
หม่า อิง จิ่ว นั่ง ปธน.อีกสมัย ทิศทางบวกสัมพันธ์ไต้หวัน-จีน | ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันที่จัดการเลือกตั้งขึ้นเมื่อวานนี้ ( 14 ม.ค.) โดยนายหม่า อิง จิ่ว ประธานาธิบดีไต้หวันชนะการเลือกตั้งอีกสมัยสร้างความผ่อนคลายแก่รัฐบาลจีน และ สหรัฐฯ เนื่องจากแนวนโยบายสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับไต้หวันของนายหม่าขณะที่ชาวไต้หวัน มองว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาเป็นทิศทางที่ดี เนื่องจากจะทำให้เสถียรภาพระหว่างช่องแคบไต้หวันคงอยู่ต่อไป ส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจของไต้หวัน ขณะที่ชาวไต้หวันบางคน บอกว่า เห็นใจผู้สมัครจากพรรคฝ่ายค้าน แต่ต้องเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดด้านอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยในไต้หวันให้ความเห็นว่า การที่นายหม่าต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าหลังจากรับตำแหน่งสมัยที่สอง เขาจะต้องให้ความสำคัญกับภาคธุรกิจขนาดกลาง และ ขนาดเล็กให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องหลักประกันการลงทุนระหว่างจีน-ไต้หวันขณะที่ที่ชาวจีนในกรุงปักกิ่ง พอใจกับผลการเลือกตั้งไต้หวัน เพราะจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีน -ไต้หวันเป็นไปในทิศทางดี | ชาวไต้หวัน และ ชาวจีน เห็นตรงกันว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันที่นายหม่า อิง จิ่ว ได้รับการเลือกตั้งอีกครั้งเป็นทิศทางที่ดี โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ไต้หวัน | ต่างประเทศ | จีน,ประธานาธิบดี,หม่า อิง จิ่ว,เลือกตั้ง,ไต้หวัน | https://news.thaipbs.or.th/content/59647 |
ผัวเก่าโหด ถีบรถอดีตเมียแทงคอดับ ลูกเห็นเสื้อ จำได้ของพ่อ | เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 11 มิ.ย.61 ร.ต.ท.อนุพงศ์ ดอกไม้ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เสม็ด ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทและแทงกัน มีผู้เสียชีวิตริมถนนสุขุมวิท ฝั่งตรงข้ามตลาดนัดจตุจักรชลบุรี ขาเข้าเมืองชลบุรี หมู่ 4 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.ชลบุรี และกู้ภัยไตรคุณธรรม,ที่เกิดเหตุพบศพ น.ส.จิณาภา ชลรัตน์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/428 หมู่ 1 ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี พนักงานบริษัทผลิตอะไหล่รถยนต์ นอนเสียชีวิต สภาพมีบาดแผลถูกแทงที่ลำคอเป็นแผลลึก 1 แผล เลือดไหลนอง ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีฟ้า ทะเบียน จกล 428 ชลบุรี ของผู้ตายล้มอยู่ และยังมีรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า เมทอัลฟ่า สีเขียว ทะเบียน กธน 521 มหาสารคาม ล้มอยู่อีก 1 คัน
,สอบถาม นายธวัชชัย แย้มนาค อายุ 44 ปี พยานที่เห็นเหตุการณ์ เผยว่า ตนขับรถเก๋งตามมา เห็นชายรูปร่างเตี้ยขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ตามผู้ตายมา ก่อนที่จะมีปากเสียงกัน แล้วฝ่ายชายก็ถีบรถจักรยานยนต์ผู้หญิงล้มลง จากนั้นฝ่ายชายก็ชักมีดแล้วคร่อมร่างผู้หญิงแล้วจ้วงแทงเข้าที่คอ ตนจึงบีบแตร ทำให้ฝ่ายชายคนก่อเหตุตกใจ วิ่งรอบรถจักรยานยนต์หากุญแจรถของตัวเอง เพื่อจะขับหลบหนี แต่จังหวะนั้นมีรถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านมาจอดดู เพราะคิดว่ามีอุบัติเหตุ ชายคนก่อเหตุจึงรีบวิ่งหนีเข้าป่าข้างทางไป
,ต่อมา นายเอ (นามสมมติ) บุตรชายผู้เสียชีวิต มาที่เกิดเหตุพร้อมกับเผยด้วยน้ำตานองหน้าว่า ผู้ตายเป็นแม่ตนเอง ส่วนผู้ก่อเหตุหลังดูรถ จักรยานยนต์และหลักฐานเป็นเสื้อผ้าที่วางหน้ารถ ทราบว่าเป็นของนายสุรเสกข์ วรธรรมะพิทักษ์ อยู่บ้านเลขที่ 428/5 หมู่ 5 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี และเป็นพ่อตนเองที่เลิกกับแม่ไปนานแล้ว แต่ยังตามราวีแม่อยู่เสมอ เพราะแม่มีสามีใหม่แล้ว ซึ่งคาดว่าพ่อคงขี่รถ จักรยานยนต์มาเจอแม่แล้วเกิดหึงจึงชักมีดแทงเสียชีวิตดังกล่าว,อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามนายสุรเสกข์มาสอบสวนว่าได้ก่อเหตุหรือไม่เพราะสาเหตุใด จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป. | เร่งตามล่าผัวหึงโหด ถีบจยย.จนล้ม ใช้มีดจ้วงแทงอดีตเมียดับริมถนน ลูกชายมาดูศพนั่งร่ำไห้ เจอเสื้อวางหน้าจยย.อีกคัน ยันคนก่อเหตุเป็นพ่อแท้ๆ ที่เลิกกับแม่ไปแล้ว แต่ยังตามราวีอยู่เสมอ | ข่าว,อาชญากรรม | แทงกันตาย,ผัวแทงเมีย,มีดจ้วงแทง,ถีบจยย.,หึงโหด,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1304576 |
แห่ร่วมงาน ไทยแลนด์ โฟกัส นักลงทุนมั่นใจประเทศไทย ธปท.เตือนเอกชนรับมือบาทผันผวน | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร และธนาคารแห่งอเมริกา เมอร์ริล ลินซ์ จัดงานไทยแลนด์ โฟกัส (Thailand Focus) ครั้งที่ 10 โดยมีผู้จัดการกองทุนทั้งในและต่างประเทศจำนวนมากมาร่วมรับฟังข้อมูลเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศไทยจากภาครัฐและภาคเอกชน โดยได้รับเกียรติจากนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาร่วมให้ข้อมูล นโยบายทิศทางของประเทศไทย,นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า งานดังกล่าวเป็นเวทีสำคัญที่แสดงถึงศักยภาพโอกาสการลงทุนในไทย แก่ผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลก ปีนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนสถาบันต่างชาติเข้าร่วมงาน 112 ราย กองทุนต่างชาติเหล่านี้มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกัน 370,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีผู้ลงทุนสถาบันภายในประเทศเข้าร่วมงานอีก 98 ราย สะท้อนให้เห็นว่าผู้ลงทุน ยังเชื่อมั่นและสนใจลงทุนในไทย ขณะที่มีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) มาร่วมให้ข้อมูลผู้จัดการ กองทุน 140 บริษัท ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 11.75 ล้านล้านบาท หรือ 77% ของมูลค่าตลาดรวม ฯลฯ,น.ส.อรกัญญา พิบูลธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ สาขาประเทศไทย ธนาคารแห่งอเมริกา เมอร์ริล ลินซ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นกว่า 21% หากดูในมุมของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นแล้ว 26% กระแสเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง เพราะพื้นฐานเศรษฐกิจไทยดีกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาค และยังเป็นแหล่งลงทุนที่โดดเด่น ด้วยนโยบายเศรษฐกิจ แบบเปิดรับผู้ลงทุนต่างชาติที่เน้นกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ,นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันมีนักลงทุนสถาบันต่างชาติหลายแห่ง เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เพราะคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้,นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า การที่นักลงทุนจากทั่วโลกเข้าร่วมงานมากกว่าทุกๆปี สะท้อนให้เห็นว่ามีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคตว่าจะปรับตัวดีขึ้น และรัฐบาลก็มีโครงการผลักดัน นโยบายเศรษฐกิจอีก 3 เรื่องใหญ่ๆ อาทิ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และระบบการขนส่งทุกรูปแบบ การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับภาคเอกชนเพื่อกระตุ้นการลงทุน,นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ยืนยันว่าขณะนี้ค่าเงินบาทไม่ได้แข็งค่าอยู่คนเดียวในภูมิภาค แต่แข็งค่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาค และอยู่ในระดับกลางๆ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้น 4.5% จากต้นปี ขณะที่หลายประเทศในภูมิภาคมีค่าเงินแข็งกว่ามาก เช่น มาเลเซีย ริงกิตแข็งค่าขึ้น 9% และ ธปท.ได้ ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเห็นว่าภาคเอกชนสามารถปรับตัวได้ดี,นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส สายเศรษฐกิจการเงิน ธปท. กล่าวว่า ผู้ประกอบการต้องยอมรับกับความผันผวนของเงินบาท ที่จะมีสูงขึ้นในอนาคต และหาทางรับมือไว้ ซึ่งความผันผวนของค่าเงินจะอยู่คู่กับเราไปอีกนาน ที่ผ่านมาทุกฝ่ายก็รับทราบ เพราะเป็นผลกระทบจากตลาดต่างประเทศที่ผันผวน ซึ่งการส่งออกล่าสุดในเดือน ก.ค. ที่กลับมา ขยายตัวติดลบ 4.5% ก็ไม่ได้เป็นผลหลักๆ ที่มาจากการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงนั้น. | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร และธนาคารแห่งอเมริกา เมอร์ริล ลินซ์ จัดงานไทยแลนด์ โฟกัส (Thailand Focus) ครั้งที่ 10 | null | ไทยแลนด์โฟกัส 2016,Thailand Focus,ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย,เกศรา มัญชุศรี,อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์,วิรไท สันติประภพ | https://www.thairath.co.th/content/708669 |
ฮอกไกโดสถานที่เที่ยวในเมืองแบบง่ายๆ | 1.อาคารศาลากลาง จังหวัดฮอกไกโด : อาคารแห่งนี้ถือเป็นอดีตศาลากลาง แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปเป็นพิพิธภัณฑ์เป็นที่เรียบร้อย จุดนี้ เป็นอาคารย้อนยุค ที่ทุกคนที่ได้เห็นจะต้องถามทุกคนว่าเป็นตึกอะไร เพราะสถาปัตยกรรมและสีแดง เป็นจุดโดดเด่น ตึกนี้เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นของเมืองฮอกไกโดเลยทีเดียว ตึกนี้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติเป็นที่เรียบร้อย สถาปัตยกรรมเป็นแบบนีโอ บารอค สถานที่แห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรีนะครับ ตั้งแต่ 08.45 – 18.00 น. โดยปกติจะเปิดตลอดทั้งปี แต่จะมีหยุดบ้างในช่วงเทศกาลที่สำคัญมากๆ และวันหยุดช่วงปีใหม่,2.สวนสาธารณะ โอโดริ : สวนแห่งนี้ถือว่าเป็นจุดใจกลางเมือง มีความยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร เราจะสามารถเดินชมเก็บบรรยากาศความงามของสองฝั่งข้างทางได้ตลอด โดยเฉพาะเทศกาลหิมะประจำเมือง จะต้องมาเดินที่บริเวณถนนแห่งนี้เท่านั้น,3.ซัปโปโร ทีวี ทาวเวอร์ : เป็นหอคอยโทรทัศน์ที่สูงเป็นอันดับ 4 ในญี่ปุ่น ด้วยความสูงถึง 147.2 เมตร นอกจากเป็นเสารับส่งสัญญาณโทรทัศน์แล้ว ยังเป็นเสมือนสัญลักษณ์ประจำเมืองซัปโปโร อีกด้วย ด้านบนหอคอยสามารถขึ้นไปชมวิวได้ จุดชมวิวด้านบนจะต้องเสียค่าเข้าชม 700 เยน เปิด 09.00 - 21.30 น. อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามเทศกาลวันหยุดพิเศษ,4.หอคอยนาฬิกา ซัปโปโร : เป็นอีกหนึ่งตัวอาคารที่แสดงสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโรนี้ จุดโดดเด่นอยู่ที่หน้าปัดนาฬิกา ที่ทำจากประเทศสหรัฐอเมริกา ในปัจจุบันได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนาฬิกา ที่เก่าแก่ที่สุด ที่ยังใช้งานได้ในประเทศญี่ปุ่น เปิดตั้งแต่ 08.45 – 17.00 น. ค่าเข้าชมภายในอาคาร 200 เยน แต่ถ้าหากถ่ายภาพด้านนอกฟรี ปิดทุกวันจันทร์สัปดาห์ที่ 4 ของเดือน และวันหยุดนักขัตฤกษ์ในกรณีพิเศษ,5.สวนสัตว์มะรุยะมะ ซัปโปโร : เป็นสวนสัตว์ที่น่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีการจัดการแสดงสัตว์ที่หาชมได้ยาก และสัตว์ที่อาศัยอยู่ในเขตหนาว หลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งท่านจะสัมผัสสัตว์เหล่านี้ได้อย่างใกล้ชิด เปิดเวลา 09.00 - 17.00 น. ราคาค่าเข้าชม 600 เยน,6.ศาลเจ้า ฮอกไกโด : ศาลเจ้าแห่งนี้ชื่อเดิมว่า ศาลเจ้า ซัปโปโร เป็นศาลเจ้าที่เกี่ยวกับลัทธิความเชื่อแบบชินโต ที่เชื่อว่าจะคอยปกปักษ์รักษาชาวเกาะ ให้มีความสุข ถึงแม้จะไม่มีประวัติศาสตร์ที่นานนัก แต่คนท้องถิ่นก็นิยมมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในวัดแห่งนี้ตลอดเวลา หากใครต้องการไปเยี่ยมชมวัดแห่งนี้ เปิดตั้งแต่ 06.00 – 17.00 น.,นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายหลายที่ รวมถึงอาหารการกินอีกหลายเมนูที่น่าสนใจ หากมีโอกาสจะนำเสนอเรื่องอาหารที่ควรรับประทานในฮอกไกโดอีกครั้งในภายหลังนะครับ,ณวัฒน์ อิสรไกรศีล,ภาพประกอบ (ขอบคุณภาพสวยๆ จากทุกท่านเจ้าของภาพด้วยนะครับ) | จากครั้งที่ผ่านมา ได้เขียนถึงเรื่องเทศกาลหิมะ ที่เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น มีหลายท่านสอบถามว่า ไปที่นี่นอกจากเที่ยวในเทศกาลหิมะแล้ว มีอะไรน่าสนใจอีกบ้างหรือเปล่า แน่นอนครับ การไปเที่ยวที่ซัปโปโร ฮอกไกโดนี้ | คนดังนั่งเขียน | คนดังนั่งเขียน,ณวัฒน์ อิสรไกรศีล,ฮอกไกโด | https://www.thairath.co.th/content/471135 |
มิลาน เปิดบ้านถล่ม อาร์เซนอล 4-0 ในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก | นัดนี้เล่นกันที่เมืองดิยง ดิยง เปิดบ้านรับการมาเยือนของปารีส แซงต์ แชร์กแมง จ่าฝูงลีกเอิง เกมนี้ผ่านมาแค่14 นาที แซงต์ แชร์กแมงได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการยิงของเนเน่ กองหน้าชาวบราซิเลี่ยน หลังจากนั้น แซงต์ แชร์ก แมง หวิดได้ประตูหลายครั้ง แต่ถูกป้องกันไว้ได้หมด จบเกมแซงต์ แชร์กแมงบุกเฉือนชนะดิยง 1-0 พร้อมกับผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จขณะที่ผลการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรกเมื่อคืนที่ผ่านมา เอซี มิลาน เปิดบ้านถล่ม อาร์เซน่อล ขาดลอย 4-0 โดยมิลานได้ประตูจากเควิน ปริ๊นซ์ บัวเต็งนาทีที่ 15 โรบินโญ่ นาทีที่ 38 และ 49 ก่อนที่ซลาตัน อิบราฮิโมวิช จะมายิงจุดโทษปิดท้ายนาทีที่ 79 ทำให้โอกาสที่อาร์เซน่อลจะผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเลือนรางส่วนอีกคู่ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เปิดบ้านเฉือนชนะ เบนฟิก้า 3-2 โดยได้ประตูชัยก่อนหมดเวลาสองนาทีจากการทำประตูของโรมัน ชิโรคอฟขณะที่นิโกล่าส์ อเนลก้า อดีตกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส เดินทางถึงเมืองเซี่ยงไฮ้ เพื่อเตรียมร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ทีมดังในศึกฟุตบอลลีกจีน โดยบรรยากาศการมาถึงของอเนลก้าไม่ค่อยคึกคักเท่าไรนัก เนื่องจากแฟนบอลส่วนใหญ่คาดว่าอเนลก้าจะเดินทางมากับเพื่อนร่วมทีมที่เพิ่งจะเสร็จสิ้นการไปฝึกซ้อมที่ยุโรป สำหรับเซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว จบอันดับที่ 11 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และไม่เคยคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของจีนมาแล้วถึง 9 ปี | เนเน่ ยิงประตูชัยให้ปารีส แซงต์ แชร์กแมง บุกเฉือนชนะ ดิยง 1-0 ในศึกฟุตบอลเฟร้นช์คัพ ขณะที่ เอซี มิลาน เปิดบ้านถล่ม อาร์เซนอล 4-0 ในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก | กีฬา | ปารีส,มิลาน,ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก,อาร์เซนอล | https://news.thaipbs.or.th/content/66468 |
งาบเงินทอน อายัด 71 ล้าน อดีตผอ.พศ. | รักษาการ เลขาฯ ปปง. เผยผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 19/2560 ในคดีเงินทอนวัด ชุดแรก ผู้ต้องหา 10 คน พบพฤติกรรมเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มีมติให้อายัดทรัพย์อดีต ผอ.พศ.พร้อมพวกรวม 9 คน มูลค่า 71,939,017.91 บาท ที่เหลืออีก 1 อยู่ระหว่างรวบรวม หลักฐานความผิดให้ชัดแจ้ง,กรณีตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ป.ป.ป.) ตรวจสอบคดีทุจริตงบอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัด หรือคดีเงินทอนวัด ลอตแรก 12 วัด ผู้ต้องหา 10 คน มูลค่าความเสียหาย 60 ล้านบาท ส่วนลอตที่สอง พบการทุจริตงบอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัด รวมทั้งงบอุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและงบอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา-แผนกธรรม-แผนกบาลี 23 วัด ผู้ต้องหา 19 คน มูลค่าความเสียหาย 141 ล้านบาท ต่อมาพนักงานสอบสวนบก.ป.ป.ป.รวบรวมหลักฐานคดีส่วนแรกส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูล กระทั่งพบความผิด อยู่ระหว่างขั้นตอนอายัดทรัพย์ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อรอดำเนินการตามคำสั่งศาล,ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 ต.ค. พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รักษาราชการแทน เลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมครั้งที่ 19/2560 ว่า จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานคดีการทุจริตเงินจัดสรรงบ ประมาณอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัด พบนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กับพวกซึ่งเป็นข้าราชการในสำนักงานฯ และบุคคลใกล้ชิดอีก 8คน ประกอบด้วย นางประนอม คงพิกุล นายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ นางณัฐฐาวดี ตันตราวิสารสิทธิ นางชมพูนุท จันฤาไชย พระสุทธิพงศ์ สุทธิวังโส นายฐานพัฒน์ ม่วงทอง นายศิวโรจน์ ปิยรัตน์เสรี หรือพระเบิ้ม และ น.ส.บล ดิษฐ์ด้วง ร่วมกันกระทำการทุจริตตั้งแต่ปี 55-59 ส่วน น.ส.รสริน รวมสิน ภรรยานายวสวัตติ์ 1 ใน ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งนี้ พบกลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์ร่วมกันกระทำความผิดวางแผนเป็นขั้นตอนและแบ่งหน้าที่จัดสรรงบประมาณอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัด หลังโอนเงินงบประมาณไปให้วัด ทางวัดจะถอนเงินสดที่ตกลงเป็นค่าดำเนินการมามอบให้นายนพรัตน์ หรือบุคคลใกล้ชิดทันที,จากพฤติการณ์ของขบวนการนี้ เข้าข่ายการกระทำความผิดตาม ม.3 (5) แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 คณะกรรมการธุรกรรมจึงได้มีมติให้อายัดทรัพย์สินของนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ กับพวก รวม 9 คน ประกอบด้วยทรัพย์สินรวม 33 รายการ รวมมูลค่า 71,939,017.91บาท เพื่อรอดำเนินการตามคำสั่งศาล พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์กล่าว | รักษาการ เลขาฯ ปปง. เผยผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 19/2560ในคดีเงินทอนวัด ชุดแรกผู้ต้องหา 10 คน พบพฤติกรรมเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มีมติให้อายัดทรัพย์อดีต ผอ.พศ.พร้อมพวกรวม9คน | ข่าว,ทั่วไทย | เงินทอนวัด,ทุจริตเงินทอนวัด,ยึดทรัพย์,ผอ.พศ.,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1095345 |
ได้ฤกษ์ กกต.สตาร์ตแจกร่างฯ ลอตแรก 25 พ.ค.นี้ | เมื่อวันที่ 6 พ.ค.59 นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินงานเกี่ยวกับการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่า ทาง กกต.ได้เตรียมพร้อมทุกด้าน และได้ดำเนินการไปตามโรดแม็ปทุกประการ ขณะนี้เราได้โรงพิมพ์เพื่อมาจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญ สรุปสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ ประเด็นคำถามเพิ่มเติมและสรุปสาระสำคัญประเด็นคำถามเพิ่มเติมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว ซึ่งทางโรงพิมพ์คงจะเริ่มทยอยจัดพิมพ์ และส่งมอบเอกสารให้กกต.จำนวนหนึ่ง ในวันที่ 23 พ.ค.นี้ เพื่อให้ กกต.นำแจกจ่ายให้กับผู้เข้าร่วมงานวันคิกออฟ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 25 พ.ค.นี้ และหลังจากนั้น กกต.จะต้องรีบจัดส่งร่างรัฐธรรมนูญและเอกสารสรุปสาระสำคัญไปยังที่สถานที่ต่างๆ ให้ทันตามกำหนดการ ,ส่วนด้านการมีส่วนร่วมที่ นายประวิช รัตนเพียร กรรมการ กกต.ดูแลอยู่นั้น จะดำเนินการให้ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบล (ศส.ปชต.) ทุกตำบลติดตามการแจกจ่ายและประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงออกมาใช้สิทธิ์กันให้มากที่สุด ส่วนด้านอื่นขณะนี้ก็พร้อมดำเนินการทุกด้านแล้ว ดังนั้นคาดว่าการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่น่าจะมีปัญหา หรืออุปสรรคใดต่อการดำเนินการ,ประธาน กกต.กล่าวอีกว่า ส่วนกระแสข่าวที่วิพากษ์วิจารณ์บทบาทการทำงานของ กกต.ในขณะนี้นั้น ตนขอย้ำว่าการออกประกาศ กกต.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการแสดงความคิดเห็นในการออกเสียงประชามตินั้น ดำเนินการอยู่บนพื้นฐานของมาตรา 7 และมาตรา 61 ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ กกต.ไม่ได้มีสิ่งใดเกินเลยไปจากที่กฎหมายกำหนดไว้ การกระทำใดที่เป็นไปโดยสุจริต ไม่ขัดต่อหลักกฎหมายสามารถทำได้ เพราะบุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นต่อการออกเสียงประชามติ แต่การแสดงความเห็นต้องไม่หยาบคาย ก้าวร้าว หรือปลุกระดม ทั้งนี้ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามภายใต้กรอบของกฎหมายที่กำหนดไว้. | กกต. ย้ำกฎเหล็กไม่ขัดกฎหมาย เตรียมสตาร์ตแจกร่าง รธน.ลอตแรก 25 พ.ค.นี้ พร้อมดึงศูนย์ส่งเสริม ปชต.ตำบล ช่วยประชาสัมพันธ์ คนออกมาใช้สิทธิ์ | null | แจกร่างฯ,กกต.,ศุภชัย สมเจริญ,การจัดทำประชามติ,ร่างรัฐธรรมนูญ,โรดแม็ป,กำหนดวันแจกร่างฯ,จัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญ,สาระสำคัญร่างฯ,คำถามพ่วง,สนช.,ชี้แจงร่างฯ,ประชาสัมพันธ์ร่างฯ,สิทธิเสรีภาพ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/616499 |
23 องค์กรออกแถลงการณ์ เรียกร้อง สตช.เร่งหาตัวแกนนำกะเหรี่ยงแก่งกระจาน | รวมทั้งเร่งหาตัวผู้กระทำผิด และเรียกร้องอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสั่งหัวหน้าอุทยานแก่งกระจานออกจากพื้นที่ เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างเป็นธรรมและโปร่งใสสืบเนื่องจากกรณีที่นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย หายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่วันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา หลังถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานควบคุมตัว โดยนายพอละจีมีบทบาทสำคัญในการปกป้องสิทธิของชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย จากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เข้าทำการอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ป่า และทำการรื้อถอน เผาบ้านพัก และยุ้งข้าวของชาวบ้านเมื่อปี 2554ในขณะที่มีรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีการหายตัวไปของนายบิลลี่ โดยนายชัยวัฒน์ ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการหายตัวไปของนายบิลลี่แต่อย่างใดข่าวการหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ (บิลลี่) ซึ่งเป็นผู้นำชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2557 จนถึงวันนี้ยังไม่พบตัวนายบิลลี่ ที่ผ่านมานายบิลลี่ มีบทบาทสำคัญในการร่วมปกป้องสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองชาวกะเหรี่ยงที่หมู่บ้านของตนเองมาโดยตลอด โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้อพยพชาวบ้านที่อยู่ในป่า ทำการรื้อถอนและเผาบ้าน ตลอดจนเผายุ้งข้าวของชาวบ้านดังเป็นข่าวในช่วงปี 2554จากกรณีดังกล่าวนายบิลลี่ได้ร่วมกับชาวบ้านร้องเรียนถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ศาลปกครอง และสภาทนายความอีกทั้งนายบิลลี่ก็เป็นพยานให้กับศาลปกครองในเรื่องนี้ด้วย และต้องไปให้ปากคำแก่ศาลปกครองในวันที่ 19 พฤษภาคม 2557 นี้พร้อมกับผู้ร้องเรียนในหมู่บ้านการต่อสู้เรียกร้องดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้แก่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นอย่างมากจากการหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ (บิลลี่) ครั้งนี้ มีเหตุการณ์ที่ไม่ชอบมาพากลหลายประการ พวกเราเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม (KNCE) เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย (คชท.) ร่วมกับองค์กรพัฒนาเอกชนและเครือข่ายภาคประชาชนที่เกี่ยวข้องจึงขอเรียกร้องดังนี้1. ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งดำเนินการสอบสวนหาผู้กระทำผิดและตามหาตัวนายพอละจี รักจงเจริญ ให้พบโดยเร็วที่สุด2.ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูแลคุ้มครองครอบครัวนายพอละจี รักจงเจริญ และผู้นำชุมชนในพื้นที่ระหว่างที่ดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริง3. ขอให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีคำสั่งให้นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างเป็นธรรม โปร่งใส และลดความหวาดกลัวของคนในพื้นที่ อีกทั้งเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของนายชัยวัฒน์ด้วยจากข้อเรียกร้องดังกล่าวพวกเราหวังว่าหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการให้อย่างเร่งด่วนและขอให้คนในสังคมร่วมกันติดตาม ตรวจสอบ เพื่อธำรงความเป็นธรรมในสังคมไทยต่อไปพวกเราเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย และภาคีองค์กรพัฒนาเอกชนและเครือข่ายภาคประชาชนที่เกี่ยวข้อง เห็นว่าหากปัญหานี้ไม่ได้รับการสอบสวนและคลี่คลายให้กระจ่างในเวลาอันสมควร จำเป็นต้องยกระดับการร้องเรียนขึ้นสู่กลไกระหว่างประเทศ เช่น คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ คณะกรรมการอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทุกรูปแบบ(CERD) และเวทีถาวรว่าด้วยประเด็นชนเผ่าพื้นเมืองแห่งสหประชาชาติ (UNPFII)เป็นต้น พวกเราจะติดตามผลการร้องเรียนกับท่านอย่างใกล้ชิดจนกว่าจะพบนายพอละจี รักจงเจริญ (บิลลี่) ต่อไปด้วยจิตคาราวะเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม และเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทยร่วมกับ ภาคีองค์กรพัฒนาเอกชนและเครือข่ายภาคประชาชนที่เกี่ยวข้องวันที่ 22 เมษายน 2557 ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่1. มูลนิธิชนเผ่าพื้นเมืองเพื่อการศึกษาและสิ่งแวดล้อม (IPF)2. มูลนิธิเพื่อประสานความร่วมมือชนเผ่าพื้นเมืองแห่งเอเชีย (AIPP)3. มูลนิธิภูมิปัญญาชาติพันธุ์ (WISE)4. มูลนิธิภูมิปัญญาชนเผ่าพื้นเมืองบนพื้นที่สูง (IKAP)5. มูลนิธิช่วยเหลือเด็กชายแดนจังหวัดตาก6. มูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ภาคเหนือ)7. มูลนิธิพุทธเกษตร เชียงใหม่8. มูลนิธิรักษ์ไทย (สำนักงานภาคเหนือ)9. มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ10. ศูนย์สังคมพัฒนา สังฆมณฑลเชียงใหม่11. สมาคมศูนย์รวมการศึกษาและวัฒนธรรมของชาวไทยภูเขาในประเทศไทย (IMPECT)12. สมาคมเพื่อการศึกษาและวัฒนธรรมชาวอาข่า จังหวัดเชียงราย13. สมาคมปกาเกอะญอเพื่อพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม14. สมาคมปกาเกอะญอเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน15. สมาคมม้ง16. สมาพันธ์ชาวกะเหรี่ยงแห่งสยาม17. คณะคริสตจักรกะเหรี่ยงแบ๊บติสท์ (KBC)18. เครือข่ายกองบุญข้าว19. กลุ่มอนุรักษ์บนพื้นที่สูงอำเภอจอมทอง20. เครือข่ายกลุ่มเกษตรกรภาคเหนือ (คกน.)21. เครือข่ายพิทักษ์สิทธิมนุษยชนชาติพันธุ์ (คพสช.)22. เครือข่ายสตรีชนเผ่าแห่งประเทศไทย (IWNT)23. เครือข่ายสื่อชนเผ่าพื้นเมือง (IMN)เวลา 10.00 น. นายพอละจี รักจงเจริญ(บิลลี่) ออกเดินทางจากหมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย เข้าสู่ตัวเมือง (อ.แก่งกระจาน)เวลา 14.00 น. ชาวบ้านได้ทราบข่าวอย่างไม่เป็นทางการว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จับกุมและนำตัวไปสอบสวน โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนเวลา 06.00 น. นายพอละจี รักจงเจริญ(บิลลี่) ยังไม่กลับเข้าบ้านเวลา 08.00 น. ชาวบ้านโป่งลึก-บางกลอย เริ่มออกตามหาเวลา 21.00 น. นายกระทง โชควิบูลย์ ผู้ใหญ่บ้านบางกลอย หมู่ 1 ต. ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี แจ้งความไว้ที่สถานที่ตำรวจภูธรแก่งกระจานนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่กระจานยอมรับว่าได้จับตัวนายพอละจี รักจงเจริญ (บิลลี่)ไปจริง เพราะได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าจับกุมผู้บุกรุกป่าและพบของกลางเป็นน้ำผึ้งเป็นจำนวนหนึ่ง จึงมารับตัวไปเพื่อสอบสวนและตักเตือน ต่อมาได้ปล่อยตัวไปที่แยกหนองมะข้า หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับข่าวจากนายพอละจีอีกเลยเวลา 13.00 น. ภรรยาและเครือญาติของนายพอละจี รักจงเจริญ (บิลลี่) มาแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน และออกค้นหาตามสถานที่ต่าง ๆ ที่นายพอละจีเคยไป จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบตัวนายพอละจีภรรยาของนายพอละจี จงเจริญ ชาวบ้านและผู้แทนเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตตะนาวศรี ยื่นหนังสือต่อนายมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ที่ศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี และ พล.ต.ต. พีรชาติ รื่นเริง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี และที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี เพื่อขอความเป็นธรรมและให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน | 22 เม.ย.2557 เครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม และองค์กรเครือข่าย รวม 23 องค์กร ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งหาตัว บิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ | สิทธิมนุษยชน | กะเหรี่ยงแก่งกระจาน,การหายสาบสูญ,คนหาย,บางกลอย,บิลลี่,แก่งกระจาน | https://prachatai.com/journal/2014/04/52826 |
สวป.คลั่ง อาละวาด ซุกยาไอซ์ พบว่าป่วยทางสมอง | สอบปากคำร่วม 2 ชั่วโมง ยังให้การไม่รู้เรื่อง เบื้องต้นพบรักษาโรคประสาทอยู่ที่ รพ.สวนปรุง ตั้งแต่ปี 2555 ก่อนขอลาราชการเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา บอกจะมากู้เงินสหกรณ์ตำรวจที่ กทม.,ตำรวจวัดพระยาไกรรวบ สวป.สภ.บ้านเอื้อม จ.ลำปาง คลุ้มคลั่งอาละวาดในหอพัก ซอยเจริญกรุง 80 ค้นตัวพบยาไอซ์ 1.55 กรัม และยาระงับประสาท จาก รพ.ในจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 12 ก.ค. ที่ สน.วัดพระยาไกร พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รอง ผบช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สน.วัดพระยาไกร พ.ต.ท.นิธิ ชาญประสิทธิ์ผล รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.กฤษณะ จันทร์ประเสริฐ รอง ผกก. (สอบสวน) พ.ต.ท.กิตติ แก้วทินกร รอง ผกก.ป.สน.วัดพระยาไกร ร่วมกันสอบปากคำ พ.ต.ต.อาชันธ์ นันตะกูล อายุ 42 ปี สวป.สภ.บ้านเอื้อม จ.ลำปาง หลังถูกจับกุมในข้อหามียาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พ.ต.อ.จักราวุธกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุชายคลุ้มคลั่งภายในห้อง 305 ชั้น 3 หอพักราณี เฮ้าส์ ซอยเจริญกรุง 80 แขวงและเขตบางคอแหลม กทม. ตำรวจฝ่ายปราบปรามและฝ่ายสืบสวน สน.วัดพระยาไกร นำกำลังไปตรวจสอบ พบชายอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ส่งเสียงดังเอะอะ โวยวาย จึงเข้าควบคุมตัวนำมาสงบสติอารมณ์ เบื้องต้น ตรวจสอบตามร่างกายพบยาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) บรรจุซองใส น้ำหนักประมาณ 1.55 กรัม บรรจุอยู่ในกระเป๋ากางเกงหน้าขวา นอกจากนี้ ยังพบยาระงับประสาทจาก รพ.สวนปรุง จ.เชียงใหม่ โดยชายคนดังกล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเอื้อม จ.ลำปาง แต่เมื่อขอดูเอกสาร หลักฐานหรือบัตรข้าราชการตำรวจ กลับไม่สามารถนำมาแสดงให้ดูได้ จึงคุมตัวมาไว้ภายในห้องคุมขังของ สน.วัดพระยาไกร,พ.ต.อ.จักราวุธกล่าวต่อว่า หลังควบคุมตัวได้สอบถามไปยัง สภ.บ้านเอื้อม พบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตำแหน่ง สวป.จริง เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ลาราชการเดินทางมาที่ กทม. บอกว่าจะมากู้ยืมเงินสหกรณ์ตำรวจ ทั้งนี้จากการสอบปากคำนานร่วม 2 ชั่วโมง ผู้ต้องหายังให้การวกไปวนมาจับใจความไม่ค่อยได้ เท่าที่ทราบ ผู้ต้องหาป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและมีอาการเครียด เข้ารักษาที่ รพ.สวนปรุง จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่ปี 2555 สำหรับการดำเนินคดี ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ได้แจ้งข้อหาแล้ว โดยก่อนเที่ยงวันพรุ่งนี้จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ต่อไป | รวบ สวป.คลุ้มคลั่งอาละวาดภายในหอพัก เจรจาพูดคุยไม่รู้เรื่อง โดนจับมาที่โรงพัก ตรวจค้นในตัวพบซุกยาไอซ์ 1.55 กรัม และยาระงับประสาทของโรงพยาบาลใน จ.เชียงใหม่ | ข่าว,ทั่วไทย | คลุ้มคลั่ง,ยาไอซ์,วัดพระยาไกร,โรคประสาท,กู้เงินสหกรณ์,ยาเสพติด,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1614011 |
รัฐอัด 4 แสนล้านบาท ดันชุมชนฟื้นเศรษฐกิจ | นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมแนวทางการฟื้นฟูเกษตรกรหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ว่า ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก โดยในสัปดาห์หน้าจึงเตรียมเสนอโครงการเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาโดยจะใช้วงเงินกู้ 400000 ล้านบาท จากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท และคาดว่าทยอยเบิกจ่ายได้ในปลายเดือน พ.ค.นี้ โดยมีแนวทางพัฒนา 3 เรื่องหลัก คือ 1.การสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เข้มแข็ง เชื่อมโยงกับการตลาดและการท่องเที่ยว 2.การนำระบบดิจิทัลมาช่วยสร้างฐานข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย และ 3.การทำให้ประเทศไทยก้าวขึ้นไปเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค (Regional Hub)โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชน 400000 ล้านบาทดังกล่าว จะต้องมีแผนที่ปฏิบัติได้ และมีขั้นตอน โดยจะเริ่มจากการนำคนมาฝึกอบรม ซึ่งส่วนนี้รัฐบาลจะให้เงินเป็นค่าจ้างให้คนมาอบรมด้วย เพื่อให้คนเหล่านั้นมีรายได้ และหลังจากอบรมการประกอบอาชีพแล้ว จะสนับสนุนสินเชื่อโดยให้ดอกเบี้ยต่ำ และหาตลาดให้ โดยอยากให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีปั๊มน้ำมันอยู่ทั่วประเทศมาช่วยขายสินค้าการเกษตร เช่น แทนที่จะเติมน้ำมันแล้วแถมน้ำดื่ม อาจเป็นการให้ผลไม้แทน รวมทั้งการดึงเกษตรกรอัจฉริยะ หรือสมาร์ทฟาร์มเมอร์ เข้ามาช่วยเป็นแกนนำนอกจากนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เสนอโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและธุรกิจชุมชนสร้างไทย ให้ที่ประชุมพิจารณา 3 ด้าน 1.การสร้างความมั่นคงทางอาหาร 2.การสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจชุมชนสนับสนุนวิสาหกิจชุมชน16000 แห่ง เพื่อใช้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไม่เกิน 50% วงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อรายรวม16000ล้านบาท 3.สนับสนุนสถาบันเกษตรกร 7255 แห่ง ลงทุนปัจจัยพื้นฐาน เช่น ระบบน้ำ เครื่องจักรกล โรงเรือนเป็นต้นนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของหอการค้าไทยที่คาดว่าผลกระทบจากโควิด จะมีคนตกงาน 7.1 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้น่าจะกลับชนบท ราว 1.87 ล้านคน ทั้งนี้ ธ.ก.ส.จะของบประมาณ 55000 ล้านบาท จาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เพื่อทำโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากตามแนวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและธุรกิจชุมชนสร้างไทย. | เศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สองของปีนี้ จะได้รับผลกระทบจากโควิดอย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่าจะกระทบต่อการลงทุน การส่งออกและการท่องเที่ยวภายในประเทศ | ข่าว,เศรษฐกิจ | ฟื้นฟูเศรษฐกิจ,ฟื้นฟูเกษตรกร,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,เศรษฐกิจไทย,เศรษฐกิจชุมชน,การลงทุน,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1839746 |
แต้ว ณฐพร โล่งอก แอนดริว ติสต์แต่ฮา ไม่กดดันกระแสเชียร์แต่ง พี่ต้น รอพร้อม | แร้ด แรด แค่เอ่ยชื่อมีสะดุ้งโหยง แต่นางเอกสาวหน้าหมวย แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ ไม่แคร์ แฮปปี้ฟินกระจาย เมื่อถูกวางตัวให้เล่นเรื่องซีรีส์ เลือดมังกร ตอน แรด ประกบคู่กับ แอนดริว เกรกสัน ยิ่งร่วมงานยิ่งสนุก ฮา เพราะเจอความเกรียนปล่อยแก๊สเน่าคากองถ่ายไม่แคร์ลุค ส่วนชีวิตนอกจอไม่มีดราม่า ยังหวานชื่นมื่นแต่ไร้แพลนแต่งกับหนุ่ม ต้น-อาชว์ ไหลสกุล แฟนหนุ่มรุ่นพี่ เพราะยังไม่ถึงเวลา ใน คนดังนั่งคุย,จะต้องเล่นเรื่องนี้ แรด ฟังชื่อยังไง,ฟังตอนแรกตกใจค่ะ (ยิ้ม) ยังไม่กล้าอ่านเรื่อง เพราะพี่แดงบอกว่าอย่าเพิ่งไปอ่าน เพราะในหนังสือมันอีโรติกมาก แฟนคลับที่อ่านแล้วมาบอกเรื่องนี้มันเผ็ดมาก ใจนึงก็ดีใจ อีกใจนึงก็ตกใจ พอได้ทำงานพี่อ๊อฟ พี่แดง เค้าให้เราทำอะไรใหม่ๆอีกแล้ว ด้วยชื่อก็ภูมิใจนะ แรด (หัวเราะ) ชื่อนี้อึ้งเหมือนถูกด่ารึเปล่า มีช่วงแรกที่ไปเล่าให้กุ๊บกิ๊บฟังกิ๊บบอกว่ามันต้องชั้นไม่ใช่แก (หัวเราะ)เรื่องนี้รายล้อมขั้นเทพทั้งนั้นรับมือแต่ละคนยังไง ใช่ค่ะ สุดๆทุกคน พระเอก ยันครอบครัว เวลาอยู่ในบ้าน สไตล์พี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ จะเรียกว่าโล้งเล้งสไตล์ ปรับจูนกันยังไง นิดนึง ยังไงดีแต่เราไม่ได้โล้งเล้งกับเค้า จะทำอะไรกับเราก็ทำแต่เราแอบดื้อ แอบต่อต้าน ขั้นเทพอีกคนจะเป็นพี่ดริว เจอซีนแรกๆ วันแรก ฝีมือขนาดนี้เลยเหรอ มีจังหวะไม่เหมือนคนอื่นมีความเป็นธรรมชาติมาก,ตอนแรกๆที่รู้ต้องเล่นกับแอนดริวรู้สึกยังไง,รู้เป็นขวัญใจของหลายๆคน เวลาไปกองจะมีคนคอยเชียร์ ไปเมื่อไหร่บอกด้วยนะ ดีเนอะ ได้เล่นระวังนี้ ทุกคนอิจฉามากแต่ทุกคนจะเตือนระวังนะพี่เค้าติสต์นะ แรกๆค่อนข้างเกร็งๆ พอผ่านไปสักระยะพี่เค้าเป็นคนตลกมาก น่ารักมาก หน้านิ่งๆ มีมุก แต่เวลาหัวเราะทีอร่อยค่ะ นิสัยต่างกันสุดขั้วมีการทำลายกำแพงซึ่งกันและกันยังไง เราก็นิ่งๆนะ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็พยายามคุย พี่ดริว เข้าหามาคุยเองเลย เริ่มคุยทำให้เรากล้าที่จะคุย ค่อยๆเห็นมุมไม่เหมือนที่ใครๆพูดกันเลย เค้าจะเป็นคนมีมุมตลกๆ ปล่อยมุก แอนดริวปล่อยเรอ ปล่อยตดใส่มั้ย ไม่ๆ เค้าจะปล่อยเฉพาะเวลาพี่อ๊อฟ ปล่อยมากอง เลยปล่อยสู้กันเลย (ยิ้ม) พระเอก ผู้กำกับ ไม่ยอมกัน (หัวเราะ),เรื่องนี้เปลี่ยนบุคลิกเยอะนะ,ใส่วิก ก็มีคนถามทั้งเรื่องหัวเห็ดแบบนี้มั้ย ใช่ค่ะ แต่จะมีซีนที่เล่าทำไมเป็นแบบนี้ ซีนเดียวที่เราผมยาวถักเปียพจมาน จริงๆแต้วก็ชอบผมสั้น ยังบอกพี่แดง ธัญญา ตัดผมได้มั้ย แต่ด้วยความทรงมอส ต้องการความทุยๆ ถ้าตัดจริงจะไม่ได้แบบนั้น เลยเป็นวิกแทน แรกๆใส่วิกก็ไม่ค่อยมั่นอกมั่นใจ เพราะไม่ใช่วิกธรรมดาแต่มีหน้าม้าด้วย แรกๆมีหวั่นๆ จะรอดมั้ย พอเราเล่นไป แพน ไม่แคร์ ใครจะมองยังไง เราก็คิดแบบละครคิดก็เลยไม่ห่วงคนจะโอเค หรือไม่โอเค โดนแซวบ้างมั้ยล่ะ ก็โดนแซวค่ะ ในกองจะเรียกน้องเห็ดกัน ปกติโดนเรียกเหม่งไม่ใช่เหรอ ดีค่ะ รู้สึกหมดกังวลหัวเหม่งไป จะไปกังวลหน้าม้าแตกแทน พี่ๆเข้าฉากคอยตรวจหน้าม้าให้ ไว้ผมหน้าม้าทำให้แต้วดูเป็นเด็ก ต้นมีแซวเราบ้างเปล่า เค้าชอบผมสั้นอยู่แล้วก็บอกว่าน่ารักดี,เรื่องนี้เลิฟซีนเยอะที่สุดมั้ย,ไม่ค่ะ จะเป็นแบบน่ารักๆฟินๆนิดหน่อยไม่ได้ขนาดนั้น แต้วจัดว่าเป็นนางเอกไม่ยอมจุ๊บจริง ก็หลายคนนะ แต่บางทีแต้วก็รู้สึกจำเป็นแค่ไหนในการเล่าเรื่อง ถ้ามันจำเป็นโอเค ไม่ได้ห้ามหรืออะไร ดูบทเป็นหลักมันจะยังไง ไม่เล่นเลิฟซีนจริงเพราะแม่ห้าม ต้นขอหรือเปล่า ไม่นะ เพราะเพลิงทรนงก็เล่นจริง แต่ว่านิดเดียวมันไม่ได้ขนาดนั้น มันอยู่ที่บท ผู้กำกับ อยู่ที่วิธีการเล่าเรื่องหลายๆ อย่าง ไม่ใช่ว่าเอะอะรอตรงนี้,พอเป็นซีรีส์เรื่องที่ 4 คนคาดหวังและลุ้น แอบคิดคนเปรียบเทียบ,คิดเหมือนกัน พี่อ๊อฟวางเป้าหมาย 4 เรื่อง ไม่เหมือนกันเลย ผิดคาดด้วยซ้ำ ไม่ใช่ซีรีส์ล้างเจ้าพ่อ อีกแนวนึงเราลุ้นในความถูกใจคนดูหรือเปล่า ไม่ได้มีการเปรียบเทียบในเรื่องเดียวกัน เสนอกันคนละมูสเลย ดีใจ มีคนช่วยเชียร์เยอะ เราเองเป็นนักแสดงอยู่ในการทำงานประมาณนึง หลังการตัดต่อเป็นการเล่าเรื่องอีกแบบนึงตื่นเต้นไปกับคนดูด้วย เหมือนแต้วเป็นนางเอกคู่บุญพี่อ๊อฟ พี่แดงเลยนะ เค้าเห็นเรามาตั้งแต่เด็ก จะรู้ว่าอะไรเหมาะหรือไม่เหมาะกับเรา แต้วเชื่อมั่นในการตัดสินใจของพี่อ๊อฟ พี่แดงว่า ส่งอะไรเหมาะกับเรา เรียกว่าโตมาจากพี่อ๊อฟ พี่แดง พูดได้เหมือนกัน ถึงแม้เราจะไม่ได้เริ่มที่นี่ที่แรกแต่ทำให้เรารู้จักการแสดง,ช่วงหลังๆ กระแสชุดว่ายน้ำ บางคนเข้าใจบางคนแอนตี้เรา ทำใจรับกระแสขนาดไหน,เท่าที่ฟัง หลายคนโอนเอียงเข้าใจการเปิดรับอะไรใหม่ๆของคนไทยก็เพิ่มมากขึ้นแล้ว มันไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดอะไรเลย เราไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียด เป็นสิทธิส่วนบุคคลก็ส่วนหนึ่งแต่บังเอิญอยู่ในโซเชียลแล้วคนก็เห็น ซึ่งถามว่าเราตั้งใจให้คนเห็นมั้ยเราก็ตั้งใจ เราแอฟบรู๊ฟสมองเราแล้วว่ามันไม่ได้น่าเกลียดอะไร ยอมรับได้สิ่งที่คนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยก็เป็นเรื่องปกติสังคม คนตั้งข้อสงสัยแต้วจะเปลี่ยนแนวเดินสายเซ็กซี่หรือเปล่า ไม่หรอกค่ะ คิดว่าคงไม่เป็นเซ็กซี่เต็มตัวขนาดนั้น เหมือนเป็นไลฟ์สไตล์มากกว่า เพราะแต้วก็อยากเสนอความเป็นตัวเราจริงๆ เราไม่ได้เป็นผ้าพับไว้ขนาดนั้น เราก็มีมุมซน มีมุมอยากเปรี้ยว แต้วว่าเป็นมนุษย์มีหลายฟิว ไปทะเลครั้งต่อไปกล้าถ่ายไม่กล้าโพสต์ไอจี กล้าลง ไม่รู้สึกมันเป็นเรื่องผิดอะไร,ปีนี้หรือปีหน้ามีความเป็นไปได้ที่คิดเรื่องแต่งงาน,ยังค่ะ ทำงานก่อนค่ะ ใครหวงชีวิตโสดมากกว่ากัน ไม่รู้ คงเท่าๆกันค่ะ แม่เริ่มเกริ่นๆ มั้ย ข่าวกระตุ้นซะขนาดนั้น เราสองคนยังไม่มีการพูดถึงอะไรเลย แม่มองเราเป็นเด็กมาก ทั้งพี่ต้นหรือแม่ก็ยังไม่มีใครพูดเลย คนมองเองว่านานแล้วนะ คิดแต่งมั้ย เป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ รู้สึกกดดันมั้ยเพราะทุกคนช่วยคิด แอบลุ้นว่าถึงเวลาแล้ว ไม่กดดันอะไร แต้วก็อยากรู้จะแต่งเมื่อไหร่เหมือนกันแต่แต้วไม่รู้เพราะเรายังรู้สึกว่ายังไม่พร้อม ยังเป็นเด็กมาก หมายถึงความคิด ยังไม่ได้รับผิดชอบอะไรเยอะแยะ ช่วงหลังๆต้นกับแต้วมีเวลาไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยนะ ใช่ค่ะ ก็มี หาเวลาเจอกันเพราะช่วงนี้แต้วรอเวลาเปิดกล้องเลยหาเวลาเจอกัน ไปกินข้าวด้วยกันบ่อยๆ ระวังอ้วนนะ ไปกินกันตลอดค่ะ นี่ห้ามกันแล้ว ต่างคนต่างยั้งแล้วไม่ยั้งจะมากกว่านี้ (หัวเราะ) เวลากินใครปอบลง แต้วจะเป็นคนสั่งเยอะเวลาหิวแต่คนที่กำจัดทุกอย่างคือพี่ต้นค่ะ,มีหลายๆคนเค้าอิจฉารักกันยาวนานของเรา ไม่มีเรื่องทะเลาะกันให้เห็น,ไม่ต้องอิจฉาหรอกเพราะอะไรมันก็ไม่แน่นอน คนที่ยังไม่เจอความรักอาจจะเจอในไม่ช้าก็ได้ การยาวของการคบกันไม่ได้เป็นเครื่องตัดสินว่าใช่ แต้วว่าเอาความสุขของเราเป็นที่ตั้งดีกว่า อะไรที่เป็นความสุขก็ทำ ต้นทำตัวเป็นพี่หรือเพื่อนเวลาอยู่กับต้น ทั้งพี่และเพื่อนเลยค่ะ จะคอยเตือน ดูแล ก็มีเป็นเพื่อนด้วย เล่นหัวกัน ดูต้นเป็นแฟนที่สปอยแต้วมาก ค่ะ ขัดใจได้แต่ไม่ค่อย เรื่องทะเลาะกันก็ไม่ค่อยมีแรงๆ มีนิดหน่อยๆ โกรธกันพี่ต้นขับรถแย่ ขับรถกระชาก เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ.,ทีมข่าวบันเทิง | แร้ด แรด !! แค่เอ่ยชื่อมีสะดุ้งโหยง แต่นางเอกสาวหน้าหมวย แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ ไม่แคร์ แฮปปี้ฟินกระจาย เมื่อถูกวางตัวให้เล่นเรื่องซีรีส์ เลือดมังกร ตอน แรด ประกบคู่กับ แอนดริว เกรกสัน ยิ่งร่วมงานยิ่งสนุก ฮา | null | แต้ว ณฐพร,ณฐพร เตมีรักษ์,เลือดมังกร,แรด,แอนดริว เกรกสัน,ติสต์แต่ฮา,ต้น อาชว์,อาชว์ ไหลสกุล,คนดังนั่งคุย,ทีมข่าวบันเทิง,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/510735 |
นโยบายการกวาดล้างของทรัมป์ | นิวยอร์ก บัลติมอร์ ชิคาโก และแอตแลนตา,เขียนถึงการกวาดล้างก็นึกถึง Great Purge ที่หมายถึง การกวาดล้างครั้งใหญ่ของโจเซฟ วิสซารีโอโนวิช สตาลิน ซึ่งเอะอะอะไรขึ้นมาก็กวาดล้าง ค.ศ.1934 สตาลินเริ่มนโยบายกวาดล้างครั้งใหญ่เพื่อกำจัดศัตรูทางการเมืองโดยสั่งให้สร้างค่ายกักกันแรงงานใหม่หลายแห่งเพื่อใช้เป็นสถานที่ขังลืมและเป็นสถานที่ที่ใช้ฆ่านักโทษที่เป็นศัตรูของประชาชน,สตาลินสั่งให้ตำรวจลับเชกาไปจับบุคคลที่เป็นศัตรูของรัฐบาลโซเวียตโดยไม่มีการสอบสวนตามกระบวนการยุติธรรม ตอนนั้นคนโซเวียตกลัวกันมาก ใครทำผิดใจพวกเจ้าหน้าที่รัฐ ก็โดนข้อหาเป็นศัตรูรัฐบาลโซเวียตและโดนจับไปค่ายกักกันแรงงาน ในเวลาไม่ถึง 10 ปี ค่ายกักกันทั่วสหภาพโซเวียตมีมากกว่า 190 แห่ง มีนักโทษมากกว่า 12 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ไม่มีความผิดแต่ถูกใส่ร้ายป้ายสีทางการเมือง,กว่า 6 ล้านคนตายเพราะความอดอยากและทำงานหนักโดยไม่มีการพักผ่อน คนไหนขี้เกียจก็ถูกสุนัขที่ใช้ให้ไปรุมกัดจนตาย นักโทษเหล่านี้ถูกใช้ให้ทำโครงการต่างๆ เช่น โครงการขุดคลองเชื่อมระหว่างทะเลขาวกับทะเลบอลติก โครงการขุดเจาะบ่อน้ำมัน เหมืองถ่านหิน เหมืองทอง ฯลฯ,สมัยนาซีเข้ามารุกรานโซเวียตในสงครามโลกครั้งที่ 2 พอรบชนะทหารโซเวียตที่ไหนก็ให้แผ่นดินแถบนั้นเป็นอิสระ พอโซเวียตชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 สตาลินก็กวาดล้างเอาคนที่เคยเป็นอิสระเหล่านี้จำนวนหลายล้านคนเข้าค่ายกักกันแรงงาน ใช้แรงงานฟรีได้อีกเป็นล้าน ค่ายกักกันแรงงานจึงเกิดขึ้นทั่วทุกหัวระแหงของประเทศ,เกือบ 30 ปีก่อนหน้านั้น พอปฏิวัติล้มพระเจ้าซาร์ได้แล้ว รัฐบาลโซเวียตก็กวาดล้างนักการเมืองไปเข้าค่ายกักกันแรงงานเพื่อโดดเดี่ยวจากประชาชน หลังจากนั้นก็กวาดล้างชาวนา พวกเคร่งศาสนาและชนกลุ่มน้อย ไปเข้าค่ายกักกันแรงงาน ได้ทั้งกำจัดศัตรูทางการเมือง ได้ทั้งแรงงาน ค่ายกักกันส่วนใหญ่ตั้งในดินแดนแสนไกล โน่นครับ แถวอาร์กติก ไซบีเรียเหนือ ฯลฯ,พอสตาลินได้ขึ้นเป็นเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์โซเวียต แกก็ใช้ค่ายกักกันแรงงานเป็นเครื่องมือในการกวาดล้างประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับแก นักโทษการเมืองได้รับอภิสิทธิ์ไม่ต้องใช้แรงงาน แต่ต้องเข้าโรงเรียนอบรมการเมืองเพื่อเปลี่ยนแปลงความคิด นักการเมืองคนไหนที่กลับมายอมรับอุดมการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ก็จะได้รับอิสรภาพ,ยุคของสตาลิน คนกลัวหน่วยตำรวจลับหรือเชกากันมาก เพราะพวกนี้เป็นคนชี้ว่าใครเป็นศัตรูของรัฐและประชาชน ระยะหลังพวกที่เข้าไปอยู่ในค่ายกักกันแรงงานต้องทำงานถึงวันละ 16 ชั่วโมง ในบรรดานักโทษจะมีสายสืบปะปนอยู่เพื่อคอยจับผิดความเคลื่อนไหวของนักโทษ ผู้คุมมีสิทธิฆ่านักโทษได้ในกรณีที่มีการต่อสู้,เมื่อสตาลินตาย นิกิตา เซรเกเยวิช ครุชชอฟ มาเป็นผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียตแทน แกกล่าวสุนทรพจน์ลับประณามสตาลิน และรื้อถอนค่ายกักกันแรงงานทั่วประเทศ นักโทษที่เหลือประมาณครึ่งหนึ่งหรือมากกว่า 8 ล้านคน ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ,ปัญญาชนและนักเขียนที่เคยเป็นนักโทษได้ออกมาเขียนเรื่องราวในค่ายกักกันเป็นจำนวนมาก หลัง พ.ศ.2503 เป็นต้นมา ก็เลยเกิดกระแสวรรณกรรมค่ายกักกัน เขียนถึงความเหี้ยมโหดของสตาลิน บางคนเขียนดีจนได้รับรางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม นวนิยายดีๆ เรื่องสั้นที่อ่านแล้วประทับใจจนต้องร้องไห้เกิดในช่วงกระแสวรรณกรรมค่ายกักกันเป็นจำนวนมาก,เดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยอ่านเรื่องสั้นหรือนวนิยายชีวิตทุกข์ยากกันแล้ว แต่เรื่องราวของนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการกวาดล้างผู้อพยพของทรัมป์ มนุษย์สามารถรับรู้ได้จากโซเชียลมีเดีย ทรัมป์น่ะแก่แล้ว อีกไม่นานก็ตายกลายเป็นผี ไม่รู้ว่าคนรุ่นหลังจะเขียนหรือพูดถึงทรัมป์เหมือนสตาลินหรือไม่.,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย,[email protected] | การกวาดล้างผู้อพยพในสหรัฐฯตามนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มทำอย่างจริงจังเมื่อ 15 กรกฎาคม 2562 โดนกันหนักทั้งซานฟรานซิสโก ลอสแอนเจลิส ฮิวส์ตัน เดนเวอร์ ไมอามี นิวออร์ลีนส์ | null | กวาดล้างผู้อพยพ,สหรัฐอเมริกา,โดนัลด์ ทรัมป์,สตาลิน,สงครามโลกครั้งที่ 2,เปิดฟ้าส่องโลก,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1617465 |
ธรรมนัส จัดหนัก นำสินค้าเกษตรคุณภาพจากเกษตรกร สู่ผู้บริโภคโดยตรง | วันที่ 29 ส.ค. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดงาน ORTORKOR SMART EXPO 2019 ณ อิมแพค ฮอลล์ 7 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ว่า กระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายในการการบริหารจัดการสินค้าเกษตรครบวงจร การบริหารจัดการมาตรฐานสินค้าเกษตรสู่เกษตร 4.0 การบริหารตลาดสินค้าเกษตร การขยายตลาดสินค้าเกษตรและเชื่อมโยงตลาดไปยังตลาดในต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรสู่ความยั่งยืน และส่งเสริมการตลาดนำการผลิตภาคการเกษตร โดยองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ที่มีภารกิจหลักในการพัฒนาระบบตลาดสินค้าเกษตรคุณภาพ สร้างโอกาสทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตรคุณภาพ เพิ่มช่องทางการตลาดในการจำหน่ายสินค้าเกษตรให้กับเกษตรกร สถาบันเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร ฯลฯ ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ โดยการสร้างช่องทางการจำหน่ายสำหรับสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพของสินค้า สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร และเป็นเวทีให้เกษตรกรเรียนรู้วิถีการตลาด การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรมใหม่ สนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเป็นองค์ความรู้ที่ก่อให้เกิดตลาดสินค้าเกษตรคุณภาพแบบถาวรและยั่งยืน,วัตถุประสงค์สำคัญของการจัดงานในวันนี้คือ เป็นการเพิ่มช่องทางการตลาด หรือการขายสินค้าเกษตรผ่านตลาดออนไลน์ สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาจับจ่ายใช้สอยผ่านตลาดออนไลน์มากขึ้น นอกจากจะมีความสะดวกแล้ว ยังได้สินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานผ่านการคัดสรรจากตลาด อ.ต.ก. แล้วทั้งสิ้น ทั้งนี้ ถือเป็นช่องทางสำคัญสำหรับเกษตรกร ในการเพิ่มโอกาสการขายสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพจากมือเกษตรกรสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางอีกด้วย ร.อ.ธรรมนัส กล่าว,งาน ORTORKOR SMART EXPO 2019 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม-1 กันยายน นี้ ณ อิมแพคฮอลล์ 7 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภายในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ อาทิ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย กรมประมง กรมหม่อนไหม องค์การสะพานปลา ฯลฯ และภาคเอกชน เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพมาจำหน่าย เป็นการสร้างช่องทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตรคุณภาพและตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ประชาสัมพันธ์สินค้าที่ผลิตภายใต้แบรนด์ อ.ต.ก. (Best of อ.ต.ก.) เผยแพร่การตลาดสินค้าเกษตรคุณภาพในรูปแบบของการใช้นวัตกรรม ส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าเกษตรคุณภาพให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการยกระดับมาตรฐานสินค้าภาคการเกษตรสู่ความยั่งยืน,สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน นอกจากการจำหน่ายสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ จากสมาชิกเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสถาบันเกษตรกรจังหวัดต่างๆ แล้ว ยังมีการจัดแสดงสินค้าเกษตรคุณภาพ นิทรรศการแสดงนวัตกรรมทางการเกษตรและตลาดสินค้าเกษตรสมัยใหม่ การจัดประกวดสินค้า ผลิตภัณฑ์การเกษตร และนวัตกรรม การจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น และกิจกรรมสาธิตต่างๆ เป็นต้น รวมทั้งการเจรจาการค้าระหว่างเกษตรกรผู้ผลิต ผู้ประกอบธุรกิจค้าส่งและธุรกิจส่งออกอีกด้วย. | ธรรมนัส จัดหนัก ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง นำสุดยอดสินค้าเกษตรคุณภาพจากเกษตรกรสู่ผู้บริโภคโดยตรง ยิ่งใหญ่ ORTORKOR SMART EXPO 2019 วันที่ 29 ส.ค.-1 ก.ย. เมืองทอง | ข่าว,การเมือง | ธรรมนัส พรหมเผ่า,สุดยอดสินค้าเกษตร,สู่ผู้บริโภคโดยตรง,ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง,รมช.เกษตรและสหกรณ์,เมืองทองธานี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1648865 |
ฝ่ายความมั่นคงคุมเข้มชายแดนใต้ป้องกัน COVID แพร่ระบาด | วันนี้ (25 เม.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมร่วมกับหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ เพื่อติดตามการบริหารจัดการมาตรการกักตัวควบคุมโรคของรัฐ (State Quarantine) ที่ศาลาว่าการกลาโหมพล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ย้ำขอให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ร่วมกันดูแลสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือคนไทยที่ทยอยเดินทางกลับจากมาเลเซีย ผ่านจุดผ่านแดน เข้ามาตรการควบคุมโรคในภูมิลำเนาของตน ที่แต่ละจังหวัดกำหนดรวมทั้งดูแลผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ด้วยหลักมนุษยธรรม และต้องเป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคแห่งรัฐ พร้อมทั้งขอให้ทำงานร่วมกับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด องค์กรปกครองท้องถิ่น กำนันและผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ สนับสนุนการดูแลพี่น้องชาวไทยมุสลิมในการปฏิบัติตน เพื่อป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรค COVID -19พล.อ.ชัยชาญ ยังเดินทางไปตรวจเยี่ยมความพร้อมของสถานที่ และการดำเนินการในพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐ H2do Residence ซึ่งเป็นที่พักของพระสงฆ์ที่เดินทางกลับจากอินเดีย และโรงแรมซินนามอน เรสซิเดนท์ ซึ่งเป็นที่พักของคนไทยที่เดินทางกลับจากตุรกีและมาเลเซีย รวมทั้ง โรงแรมพาราซโซสำหรับภาพรวมสถานภาพคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศผ่านท่าอากาศยานนานาชาติ เข้าสู่กระบวนการคัดกรองและยังคงพักอยู่ในสถานที่ควบคุมโรคแห่งรัฐที่กำหนดมีจำนวน 1848 คน และยังคงอยู่ในการดูแลเฝ้าระวังกักตัวเองที่บ้านพัก 174846 คน โดยการดูแลของสาธารณสุขในพื้นที่ทั้งนี้ตั้งแต่ 18-24 เม.ย.2563 มีคนไทยเดินทางผ่านแดนกลับจากมาเลเซียรวม 2681 ราย เดินทางโดยถูกกฎหมาย 1761 ราย และลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย 920 ราย โดยทั้งหมดต้องเข้าตรวจคัดกรองในทุกด่านชายแดน และส่งต่อกลับภูมิลำเนาเข้ากักตัวควบคุมโรค ในสถานที่ที่แต่ละจังหวัดกำหนด ภายใต้การดูแลของสาธารณสุขและหลายหน่วยงานในพื้นที่นอกจากนี้ทุกเหล่าทัพได้ร่วมกับตำรวจจัดกำลังคัดกรองการผ่านเข้าออกตามแนวชายแดน จัดตั้งจุดตรวจ จุดควบคุมและสายตรวจ เพื่อดูแลความปลอดภัยทุกพื้นที่ทั่วประเทศในภาพรวม รวมทั้งให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทำสะอาดล้างสิ่งปนเปื้อนในพื้นที่สาธารณะ จัดทำหน้ากากผ้าแจกจ่ายให้ประชาชน สนับสนุนนำผลผลิตการเกษตรออกจำหน่ายในราคาพิเศษแก่ประชาชน และจัดรถครัวสนามเคลื่อนที่กว่า 160 คัน กระจายประกอบอาหารแจกจ่ายตามชุมชนต่างๆ ด้วยพร้อมทั้งยังคงความต่อเนื่อง ในการหมุนเวียนกำลังพลเข้าร่วมบริจาคโลหิตกับสภากาชาดไทย ในสภาวะการณ์โลหิตขาดแคลนแล้ว รวมกว่า 1.5 ล้านมิลลิลิตรทั้งนี้กรมแพทย์ทหารบกได้สนับสนุน ส่งมอบห้องผู้ป่วยความดันลบ ที่จัดทำขึ้น 44 ห้อง ให้กระทรวงสาธารณสุขกระจายติดตั้งในโรงพยาบาลจังหวัดต่าง คือ ปัตตานี 17 ห้อง ยะลา 17 ห้อง และนราธิวาส 10 ห้อง เรียบร้อยแล้ว | นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กำชับ กอ.รมน.ภาค 4 ร่วมกันดูแลป้องกันคนไทยกลับจากมาเลเซียและประชาชนใน 3 จชต.ให้ปลอดภัยจากเชื้อ COVID - 19 | การเมือง | COVID-19,กระทรวงกลาโหม | https://news.thaipbs.or.th/content/291666 |
อุ้ม นำทัพ เปิดโผ 27 ว่ายน้ำซีเกมส์ จุฬาฯ ให้ อุโมงค์น้ำ ฝึกเพิ่มความแกร่ง | เมื่อวันที่ 29 มี.ค. โค้ชตึก นายธนาวิชญ์ โถสกุล เลขาธิการสมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทางสมาคมได้พิจารณาคัดเลือกนักว่ายน้ำชุดสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 5-16 มิถุนายนนี้เรียบร้อยแล้ว โดยรายชื่อนักว่ายน้ำทั้ง 27 คน มีดังนี้,นักกีฬาชาย 14 คน ประกอบด้วย ณัฐพงษ์ เกษอินทร์, รดมยศ มาตเจือ , ธนกฤต กิตติยะ, นวพรรษ วงศ์เจริญ, กาวิน อเล็กซานเดอร์ หลุยส์, พีรพัฒน์ เลิศสถาพรสุข, กศิภัทร ช่อกระถิน, ศุภกฤษฎิ์ พนานุรัตน์, กฤตเมธ คำลือ, ณภัทร เวชชศาสตร์, สาริศ ธิวงศ์, เจียรพงษ์ สังขะวัตร์, กิติพัฒน์ ภิพิมพ์นันท์, ธนภูมิ เครือคำขาว, ,นักกีฬาหญิง 13 คน ประกอบด้วย เพียงขวัญ ปะวะโพตะโก, สุธาสินี แป้นแก้ว ,เงือกอุ้ม ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง, เบญจพร ศรีพนมธร, กรกาญจนา สะเพียรชัย, ภัทรวดี กิตติยะ, อารยา วงษ์วาท, เจนจิรา ศรีสอาด ,ขนิษฐา นิ่มดำ, ศุภสุตา สุนทรโชติ, ชะวัลนุช สลับลึก, ภริตา ดำรงรัตน์, เอมมิกา หิมะทองคำ,เจ้าหน้าที่และผู้สอน 8 คน ประกอบด้วย พล.ต.ธนนท์ แสงนาค (ผู้จัดการทีม), นายเยิ่น ซุน เซิน (หัวหน้าผู้ฝึกสอน), นายปิติพัฒน์ รัตนศรีเกียรติ (ผู้ฝึกสอน), นายไซม่อน โจนส์ (ผู้ฝึกสอน), นายธนวัฒน์ ปัทมชัยยันต์ (ผู้ฝึกสอน), นายโชติวิทย์ ธรรมสุจิตร (ผู้ฝึกสอน), นายอธิพงษ์ สืบสกุลสุนทร (ผู้ฝึกสอน) และ นายศักดิ์ชัย สุริยวงศ์ (ผู้ฝึกสอน),เลขาธิการสมาคมว่ายน้ำฯ กล่าวต่อว่า หลังจากนักกีฬาส่วนหนึ่งเดินทางไปฝึกซ้อมที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และได้เดินทางกลับมาเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น จากรายงานของนายเยิ่น ซุน เซิน หัวหน้าผู้ฝึกสอนได้รับทราบว่านักว่ายน้ำทุกคนแข็งแกร่งขึ้นมาก ซึ่งสมาคมจะส่งนักว่ายน้ำไปฝึกซ้อมคุนหมิงอีกครั้งในวันที่ 2 พฤษภาคมเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ขณะที่นักว่ายน้ำที่ไม่ได้ไปคุนหมิง ก็จะฝึกซ้อมในอุโมงค์น้ำ ของคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ในการฝึกนักว่ายน้ำเรื่องพลังงาน, ,ลักษณะของอุโมงค์น้ำ คือ จะปล่อยคลื่นน้ำออกมาแล้วให้นักว่ายน้ำว่ายทวนน้ำ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ต่างชาตินิยมใช้กัน ซึ่งช่วยสร้างความแข็งแกร่งและความอดทนให้กับนักกีฬา ที่ผ่านมา เราส่งนักว่ายน้ำไปฝึกซ้อมมาบ้างแล้วและได้ผลน่าพอใจ สมาคมต้องขอขอบคุณทางคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาของจุฬาลงกรณ์ฯ ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการฝึกซ้อมให้เป็นอย่างดี นายธนาวิชญ์ กล่าว. | สมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ประกาศรายชื่อนักกีฬา 27 คนที่จะเข้าแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยมี เงือกอุ้ม ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง นำทัพ
| null | ซีเกมส์ ครั้งที่ 28,สิงคโปร์,อุ้ม,ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง,สมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,อุโมงค์น้ำ | https://www.thairath.co.th/content/489885 |
โจ๋แว้นประลองความเร็วซิ่งหนีกลัวโดนจับ บิดย้อนศรชนตำรวจบางปะกงเจ็บ | เมื่อเวลา 00.00 น. วันที่ 2 ก.พ. 2560 พ.ต.ต.บุญสฤษฎิ์ ช่วยชู สว.(สอบสวน) สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ตรวจสอบเหตุรถชนกัน ภายในวัดบางสมัคร หมู่ 6 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง พบส.ต.ต.ทินภัทร มุ่งหมาย ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บางปะกง ปฎิบัติหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ซีบีอาร์ 300 สีน้ำตาล ทะเบียนตราโล่ 88756 ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ และถลอกตามร่างกาย ส่วนคู่กรณีวัยรุ่นชาย อายุ 19 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ซูเปอร์ คัพ สีชมพู ทะเบียน 1 กญ 886 ฉะเชิงเทรา ได้รับบาดเจ็บถลอกตามร่างกาย กู้ภัยทำการปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11,สอบสวนส.ต.ต.ทินภัทร ให้การว่า ขณะขี่รถจักรยานยนต์ออกตรวจบริเวณถนนหน้าหมู่บ้านของเรา หมู่ 2 ต.บางสมัคร ได้พบกลุ่มเด็กแว้นจำนวน 7-8 คัน กำลังแข่งขันประลองความเร็ว ก่อนที่จะวิทยุขอกำลังสนับสนุน ซึ่งเมื่อนำกำลังเข้าจับกุมกลุ่มเด็กแว้นต่างขี่หลบหนี โดยวัยรุ่นชายวัย 19 ปีได้พยายามขี่ชนตำรวจ และมีตำรวจอีกนายกระโดดขึ้นซ้อนท้ายแต่กระโดดลงภายหลัง ซึ่งพยายามขี่ติดตามไปจนถึงเส้นทางถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) กม. 41-42 ขณะที่วัยรุ่นดังกล่าวขี่หนีย้อนศรอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าเข้าไปในวัดบางสมัคร จนเกิดเฉี่ยวชนทำให้เสียหลักล้มลงทั้งคู่ ก่อนเข้าจับกุมวัยรุ่นวัย 19 ปีทันที,ด้านวัยรุ่นดังกล่าว ให้การว่า ได้ขี่ลองรถจริงเมื่อตำรวจมาจึงขี่หลบหนีเพราะกลัวถูกจับ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นช่วงทางโค้งและขึ้นสะพาน จึงชะลอความเร็วและได้เฉี่ยวกับรถตำรวจทำให้เสียหลักล้มลงได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นทางตำรวจจะสอบปากคำทั้งสองฝ่ายอีกครั้ง แต่จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป. | เด็กแว้นรวมตัวแข่งรถ ไปเจอตำรวจ โจ๋ 19 บิดซิ่งหนีย้อนศร ถูกไล่กวดติดตามมาถึงทางโค้งจะขึ้นสะพาน ชนโครมจยย.ตำรวจ จนกระเด็นไปทั้งคู่ ได้รับบาดเจ็บ โดนรวบทันควัน | null | แว้นซิ่งชนจยย.ตำรวจ,แว้นซิ่งหนีชนตำรวจ,ชนตำรวจเจ็บ,โจ๋แว้นชนตำรวจ,บางปะกง | https://www.thairath.co.th/content/849254 |
เข้าคุกแล้ว อดีตสมภาร ออกอุบายไล่ผี ข่มขืนสีกา ศาลตัดสิน 8 ปี | เจ้าตัวก้มหน้ารับกรรม ,สืบเนื่องจากวันที่ 14 ก.ย.61 นางสาวฟ้า (นามสมมติ) อายุ 21 ปี อยู่ ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย เข้าร้องศูนย์ดำรงธรรม จ.เลย ว่า พระบุญช่วย ผ่านสำแดง อายุ 53 ปี เจ้าอาวาสวัดถ้ำประกายเพชร บ้านโพนสว่าง ต.นาดอกคำ อ.นาด้วง จ.เลย ทักว่าตนโดนของต้องทำพิธีไล่ผีออกจากตัว เอายาสมุนไพร 108 จบ มานวดตามร่างกาย จนตัวเองรู้สึกตัวว่าไม่มีแรง จากนั้นเจ้าอาวาสใช้กำลังปลุกปล้ำ ล็อกคอ เอามืออุดปาก และข่มขืนจนเสร็จ 2 ครั้ง,ทั้งนี้ คดีนี้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ พงส.สภ.นาด้วง เมื่อวันที่ 14 ส.ค.61 ที่ผ่านมา ขณะที่ทางเจ้าอาวาสฯ ออกมาให้ข่าวว่าขอต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม พร้อมปฏิเสธ ถึงแม้ว่าดีเอ็นเอจะตรงกับของตนเอง และไม่ทราบว่าอสุจิเข้าไปอยู่ในช่องคลอดของสีกาได้อย่างไร จน นายทรงพุฒิ ชรินทร์ ผอ.สำนักพุทธศาสนา จ.เลย พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังพบเจ้าอาวาส วัดถ้ำประกายเพชร ซึ่งกล่าววาจาจะขอสึกเพื่อไปต่อสู้คดี โดยไม่อยากให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย และความศรัทธาชาวบ้านที่มีต้องหมด โดยขอทำการลาสิกขาที่วัดมณีชลขันธ์ หมู่ 1 บ้านท่าสะอาด อ.นาด้วง จ.เลย เวลา 04.00 น ของวันที่ 21 ก.ย.61 เพื่อไปสู้คดีที่ศาล,ล่าสุด วันที่ 29 พ.ย.61 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางสาวฟ้า ผู้เสียหาย ว่า เมื่อวานนี้ (28 พ.ย.) ศาลจังหวัดเลย มีการอ่านคำพิพากษาคดีของตน ก่อนที่ศาลจะพิพากษา อดีตพระบุญช่วย ผ่านสำแดง อายุ 53 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดถ้ำประกายเพชร บ้านโพนสว่าง ต.นาดอกคำ อ.นาด้วง จ.เลย ซึ่งรับสารภาพว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องจริง และไม่ขอต่อสู้คดี ศาลพิพากษาให้จำคุก 8 ปี แต่รับสารภาพลดเหลือ 4 ปี,ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังพ่อของนางสาวฟ้า เปิดเผยว่า ทราบข่าวจาก พงส.เจ้าของคดี สภ.นาด้วง ว่าศาลได้พิพากษาจำคุก 8 ปี รับสารภาพเหลือ 4 ปี นำตัวผู้ต้องหาส่งเรือนจำ โดยไม่ขอต่อสู้คดีหรืออุทธรณ์แต่อย่างใด ตนเห็นว่าจำคุก 4 ปี ไม่เพียงพอ เป็นถึงพระถึงเจ้ามากระทำแบบนี้ แต่เมื่อศาลมีดุลพินิจคำตัดสินออกมา ก็ต้องน้อมรับ ส่วนลูกสาวตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้น | อดีตพระบุญช่วย เจ้าอาวาสวัดถ้ำประกายเพชร อ.นาด้วง จ.เลย ผู้ต้องหาลวงสีกาเข้าห้องทำพิธีไล่ผี ใช้สมุนไพรนวดก่อนข่มขืนเบิ้ล 2 ครั้ง สุดท้ายยอมรับสารภาพ ศาลตัดสินจำคุก 8 ปี ลดเหลือ 4 ปี | ข่าว,ทั่วไทย | จำคุกอดีตเจ้าอาวาส,พระข่มขืนสีกา,พระไล่ผี,วัดถ้ำประกายเพชร,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1433135 |
คานคอนกรีตทับ คนขับแบ็กโฮดับ | ขณะขุดเจาะเพื่อรื้อถอน อาคารร้าง-โรงงานปลา,คานปูนขนาดใหญ่หล่นทับคนขับรถแบ็กโฮเสียชีวิตสยอง ขณะรื้อถอนอาคารเก่าย่านบางขุนเทียน ตำรวจคาดสาเหตุน่าจะเกิดจากแรงสั่นสะเทือนที่ผู้ตายกำลังขุดเจาะ จนคานปูนหล่นลงมาทับดับ จ่อเรียกผู้ควบคุมการรื้อถอนสอบปากคำหาคนรับผิดชอบ,คานปูนหล่นทับคนขับแบ็กโฮดับครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 21 ก.พ. ร.ต.ท.ณัฐพงษ์ โม้ดา พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม รับแจ้งเหตุคานคอนกรีตล้มทับคนงานเสียชีวิต ในอาคารร้างไม่มีเลขที่ ท้ายซอยบางขุนเทียน 14 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ธนเดช ทีนาคะ สวป.สน.ท่าข้าม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช หน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนเขตบางขุนเทียน,ที่เกิดเหตุเป็นอาคารโรงงานร้าง เคยประกอบกิจการทำปลากระป๋อง อยู่ในรั้วรอบขอบชิดบนพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ และกำลังอยู่ระหว่างการใช้เครื่องจักรกลขนาดใหญ่ รวมทั้งคนงานเข้ารื้อถอน มีบริษัท วสุโต้ง จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบ โดยบริเวณด้านหลังโรงงาน พบรถแบ็กโฮติดเข็มเจาะจอดอยู่ในสภาพมีคานคอนกรีตขนาดกว้าง 0.5 เมตร ยาว 3 เมตร หล่นจากตัวอาคารลงมาทับ ทำให้ผู้ควบคุมรถแบ็กโฮเสียชีวิตคาที่ตรงที่นั่งคนขับ ทราบชื่อต่อมาคือนาย อดิเทพ อินทร์ลามะ อายุ 31 ปี ชาว จ.สุรินทร์ เบื้องต้น มอบศพให้อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช ผ่าชันสูตรอีกครั้ง,พ.ต.ท.ธนเดช ทีนาคะ สวป.สน.ท่าข้าม กล่าวว่า สันนิษฐานเบื้องต้นว่า ขณะที่ผู้เสียชีวิตกำลังควบคุมรถแบ็กโฮขุดเจาะพื้นอยู่บริเวณด้านหลังอาคารร้าง แรงสั่นสะเทือนอาจจะทำให้คานคอนกรีตด้านบนหล่นลงมาทับ ขั้นตอนจากนี้ พนักงานสอบสวนจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะผู้ควบคุมการรื้อถอนมาสอบสวน หากพบเป็นความประมาทของผู้ใดจะแจ้งข้อหาดำเนินการตามกฎหมายกันต่อไป,ขณะที่นายยอด จรัสเศรษฐสิริ อายุ 25 ปี อาสาสมัครกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง รหัสคู่สายกู้ภัย 403 กล่าวว่า รับแจ้งเหตุจากเจ้าหน้าที่ทหาร ให้นำอุปกรณ์ตัดถ่างรีบมาช่วยเหลือ แต่พอมาถึง รปภ.ไซต์งานสั่งห้ามไม่ให้หน่วยกู้ภัยเข้าไปในพื้นที่ และเมื่อแจ้งปัญหาให้ศูนย์วิทยุกรุงเทพ ผู้บังคับบัญชาโดยตรงทราบได้รับคำสั่งให้ถอนกำลังออกจากที่เกิดเหตุ โดยให้ รปภ.ของไซต์งานเป็นผู้ประสานหารถอาสาสมัครหน่วยงานอื่นนำศพส่งนิติเวชแทน | คานปูนขนาดใหญ่หล่นทับคนขับรถแบ็กโฮเสียชีวิตสยอง ขณะรื้อถอนอาคารเก่าย่านบาง-ขุนเทียน ตำรวจคาดสาเหตุน่าจะเกิดจากแรงสั่นสะเทือนที่ผู้ตายกำลังขุดเจาะ จนคานปูนหล่นลงมาทับดับ จ่อเรียกผู้ควบคุมการรื้อถอนสอบปากคำหาคนรับผิดชอบ | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า1,คานปูนหล่นทับ,คานปูนทับคนงาน,คนขับรถแบ็กโฮ,รื้อถอนอาคาร,โรงงานร้าง,บางขุนเทียน,อดิเทพ อินทร์ลามะ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/482749 |
พายุถล่มสงขลา กวาดเรียบต้นยางโรงเรียนบ้านเก่า ล้มระเนระนาด | วันที่ 7 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อ.นาทวี จ.สงขลา ได้เกิดลมพายุพัดสวนยางพาราของโรงเรียนบ้านเก่า หมู่ 5 ต.คลองกวาง อ.นาทวี จ.สงขลา ซึ่งอยู่ด้านหลังโรงเรียน จนล้มถอนรากถอนโคนไปประมาณ 1 ไร่ หรือกว่า 80 ต้น จากเนื้อที่สวนยางทั้งหมด 3 ไร่ ซึ่งเป็นสวนยางของโรงเรียนบ้านเก่าที่นำรายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายของโรงเรียน ที่สำคัญสวนยางแห่งนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เคยเสด็จมาเยี่ยมชม และรับสั่งให้โรงเรียนใช้เป็นต้นแบบให้นักเรียนได้เรียนรู้การกรีดยางพาราอีกด้วย และโรงเรียนบ้านเก่าแห่งนี้ก็เป็นโรงเรียนในโครงการของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เช่นเดียวกัน,ขณะที่ เหตุการณ์ต้นยางล้ม ได้สร้างความหดหู่ใจให้กับทั้งครูและนักเรียนของโรงเรียนบ้านเก่าเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสวนยางที่มีคุณค่าทางจิตใจ และอยู่คู่มากับโรงเรียนตั้งแต่สร้างเสร็จเมื่อปี 2557 จนถึงปัจจุบัน ทั้งยังทำให้โรงเรียนได้รับโล่รางวัลสถานศึกษาพอเพียงที่มีผลการปฏิบัติที่เป็นเลิศระดับประเทศประจำปี 2559 อีกด้วย,นอกจากนี้ จากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ อ.นาทวี ถึง 4 รอบ ช่วงที่ผ่านมา ได้ทิ้งร่องรอยความเสียหายหลายจุด โดยเฉพาะถนนซึ่งถูกน้ำป่าตัดขาด 3 เส้นทาง ในพื้นที่บ้านลุ่ม ม.8 ต.สะท้อน นอกจากนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ยังช่วยกันเคลื่อนย้ายต้นไม้ใหญ่ที่ไหลมากับน้ำ ขวางลำคลองออก เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวกเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้ง จากฝนตกหนักอีกระลอกในช่วง 8-9 ธ.ค.นี้ | เกิดลมพายุพัดสวนยางพารา โรงเรียนบ้านเก่า อ.นาทวี จ.สงขลา ส่งผลให้ต้นไม้ล้มถอนรากถอนโคน ประมาณ 80 ต้น ขณะที่น้ำป่าไหลหลาก ทำถนนถูกตัดขาด 3 เส้นทาง ด้านชาวบ้านเตรียมรับมือฝนตกหนักอีกระลอกช่วง 8-9 ธ.ค.นี้ | ข่าว,ทั่วไทย | พายุถล่ม,ต้นไม้โค่น,โรงเรียนบ้านเก่า,สวนยางพารา,สงขลา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1146737 |
สงกรานต์ถนนข้าวเหนียวคึกคัก คนนับแสนเล่นคลื่นมนุษย์ ทำลายสถิติ | เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 เม.ย. 61 นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า งานสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูณเสียงแคน และถนนข้าวเหนียว ของจังหวัดขอนแก่น ในแต่ละปี กิจกรรมที่ได้รับความสนใจและมีนักท่องเที่ยว และเข้าร่วมกิจกรรมมากขึ้นทุกปีคือการเล่นคลื่นมนุษย์ บนถนนข้าวเหนียว หรือถนนศรีจันทร์ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่วกิจกรรมดังกล่าวเริ่มมาตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปี 2560 ระยะทาง 1.5 กม. จุดเริ่มต้นอยู่ที่สี่แยกถนนศรีจันทร์ ตัดกับถนนหน้าเมือง ยาวไปตามถนนศรีจันทร์ถึงรางรถไฟ หรือ ซีรีส์ ตอนที่ 1,
,ในปี 2561 คลื่นมนุษย์ ตอนที่ 2 ซึ่งเทศบาลนครขอนแก่น ได้กำหนดกิจกรรมที่ว่าคลื่นมนุษย์ย้อนยุคสุดประตูเมือง หรือซีรีส์ ตอนที่ 2 เริ่มต้นอยู่ที่สี่แยกถนนศรีจันทร์ ตัดกับถนนหน้าเมือง ยาวไปตามถนนศรีจันทร์ถึงประตูเมือง ระยะทางประมาณ 2 กม. และในปี 2562 ซีรีส์ตอนที่ 3 คลื่นมนุษย์สุดถนนมิตรภาพ
,นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า เสน่ห์ของถนนข้าวเหนียวที่จังหวัดขอนแก่นคือคลื่นมนุษย์ ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมีความสามัคคี ร่วมใจกันทำคลื่นมนุษย์ ซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี
,วันแรกของการทำคลื่นมนุษย์ ในงานสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูณเสียงแคน และถนนข้าวเหนียว ของจังหวัดขอนแก่น ปี 2561 ก็มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่าวันแรกของปีที่แล้วหลายหมื่นคน เพราะวันแรกของปี 2561 จำนวนคนที่ร่วมกันทำคลื่นมนุษย์ 106,215 คน มากกว่าปีที่ผ่านมากว่าสามหมื่นคน ถือว่าเป็นการทำลายสถิติตัวเองตั้งแต่วันแรก นายธีระศักดิ์ กล่าว. | สงกรานต์ถนนข้าวเหนียวคึกคัก อัดแน่นไปด้วยผู้คน นักท่องเที่ยว โดยปีนี้ได้จัดทำคลื่นมนุษย์ที่มีมากถึง 106,215 คน ถือเป็นการทำลายสถิติตัวเองตั้งแต่วันแรก หลังกิจกรรมดังกล่าวเล่นมาตั้งแต่ปี 2546 | ข่าว,ทั่วไทย | สงกรานต์,สงกรานต์2561,เล่นน้ำสงกรานต์,ถนนข้าวเหนียว,ขอนแก่น,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1255969 |
โจ๋เมืองคอน คว้าเหล็กขูดชาร์ปแทงหนุ่มวัย 24หลังทุบตีหาว่าลักยาบ้า-ไอซ์ | เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.59 ร.ต.อ.พิทยา เทวเดช รอง สว.(สอบสวน) สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งว่ามีเหตุแทงกันได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณแพปลา บ้านด่านภาษี หมู่ 9 จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงและกำลังตำรวจชุดสืบสวน ไปยังที่เกิดเหตุ,ทั้งนี้พบแต่เพียงกองเลือด ส่วนคนถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำส่งโรงพยาบาลท่าศาลา และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อ นายจีระพงษ์ หรือ ไมค์ ชาวสวย อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดหนองคาย สภาพศพมีบาดแผลถูกแทงด้วยเหล็กขูดชาร์ป เข้าบริเวณหน้าอกและลำตัวจำนวน 4 แผล ส่วนคนร้ายคือนายมดแดง (นามสมมติ) อายุ 19 ปี,นายมดแดง สารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับผู้ตายได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทและชกต่อยกัน โดยผู้ตายคิดว่าตนขโมยยาบ้า 20 เม็ด และยาไอซ์ 24 หลอด ซึ่งตนก็ตอบปฏิเสธไปว่าไม่รู้ไม่เห็น แต่นายจีระพงษ์ ยังไม่เชื่อ ตนถูกนายจีระพงษ์ใช้ท่อนไม้ทุบตีหลายครั้ง ก่อนที่ตนจะใช้เหล็กขูดชาร์ปแทงเข้าหน้าอกและลำตัว จากนั้นตนได้หลบหนีไปจากที่เกิดเหตุ และนำเหล็กขูดชาร์ปโยนทิ้งคลองในหมู่บ้านก่อนถูกตำรวจชุดสืบสวนตามจับกุมได้ดังกล่าว | โจ๋เมืองคอนวัย 19 ไม่ทน หลังหนุ่มวัย 24 ใช้ไม้ทุบกล่าวหาว่าขโมยยาบ้าและยาไอซ์ไป ก่อนใช้เหล็กขูดชาร์ป จ้วงแทง 4 แผลเสียชีวิต | null | เหล็กขูดชาร์ป,ยาบ้า,ยาไอซ์,สภ.ท่าศาลา,นครศรีธรรมราช | https://www.thairath.co.th/content/811332 |
รัฐเปิดรับซื้อไฟจากครัวเรือน โซลาร์ภาคประชาชน ขายหน่วยละ 1.68 บาท | นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.), การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เปิดรับสมัครประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ โซลาร์ภาคประชาชน ที่จะมีกำลังการผลิตติดตั้งครัวเรือนละไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ และมีอัตราการรับซื้อไฟฟ้าที่ 1.68 บาทต่อหน่วย ระยะเวลารับซื้อไฟฟ้ารวม 10 ปี รวม 1,000 เมกะวัตต์ โดยมีต้นทุนติดตั้งแผงโซลาร์อยู่ที่ 35,000 บาทต่อกิโลวัตต์ ซึ่งหากลงทุน 10 กิโลวัตต์ ต้นทุนรวมทั้งอุปกรณ์และค่าติดตั้งจะอยู่ที่ 400,000 บาทต่อพื้นที่ขนาด 50 ตารางวา,ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีประชาชนได้สอบถามข้อมูลเข้ามาที่กกพ.เป็นจำนวนมาก จึงอยากให้ประชาชนที่สนใจศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยเฉพาะผลประโยชน์ที่จะได้รับ เพราะต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าที่จะเกิดขึ้นโดยเฉพาะดูจากพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของตนเองก่อน ว่ามีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าจากโครงการดังกล่าวมากน้อยเพียงใด เพราะไม่ใช่เป็นการผลิตเพื่อขายไฟฟ้า แต่เป็นการผลิตเพื่อใช้เองและที่เหลือใช้จึงสามารถขายไฟฟ้าเข้าระบบได้ เช่น หากมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าช่วงกลางวันเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ก็จะทำให้ระยะเวลาในการคุ้มทุนเร็วกว่าการที่ไม่ได้ใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลากลางวัน เป็นต้น,ด้านนางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการ กกพ. กล่าวว่า กกพ.ได้กำหนดเป้าหมายปริมาณรับซื้อไฟฟ้าดังกล่าว รวมปีละ 100 เมกะวัตต์ แบ่งพื้นที่ดำเนินการออกเป็น กฟน. 30 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ส่วน กฟภ. 70 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ 74 จังหวัด โดยเปิดรับประชาชนที่สนใจยื่นความจำนงเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.นี้และหมดเขตลงทะเบียนภายในปีนี้ ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย คือ กฟน., กฟภ. จะพิจารณาและทยอยประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการพิจารณาทางเว็บไซต์ของการไฟฟ้า และแจ้งผ่านทางอีเมลตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป็นต้นไป เพื่อลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามขั้นตอนต่อไป. | กระทรวงพลังงานได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.), การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เปิดรับสมัครประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ โซลาร์ภาคประชาชน | ข่าว,เศรษฐกิจ | ศิริ จิระพงษ์พันธ์,กระทรวงพลังงาน,โซลาร์ภาคประชาชน,รับซื้อไฟฟ้า,แผงโซลาร์เซลล์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1574921 |
พบอีก นร.หญิง ม.2 ถูก ผอ.ร.ร.ชวนมีเพศสัมพันธ์ – ผอ.ยังเก็บตัวเงียบ | วันนี้ (27 ม.ค.2561) ผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่ถูกร้องเรียนว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนหน้านี้ และศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา สั่งพักราชการ พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อเอาผิดทางวินัยร้ายแรงที่มีโทษถึงขั้นปลดออก หรือไล่ออกจากข้าราชการผู้ปกครองเปิดเผยว่า ในช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่ ลูกสาวเคยถูกผู้อำนวยการโรงเรียนชักชวนขึ้นรถยนต์และลวนลาม พร้อมชักชวนให้มีเพศสัมพันธ์โดยเสนอเงินค่าตอบแทน 2000 บาท แต่ลูกสาวไม่ตกลง จึงเดินทางมาแจ้งความในข้อหาอนาจารพ.ต.อ.คารม บุญสด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ระบุว่าพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจนน่าเชื่อว่า ผู้อำนวยโรงเรียนคนดังกล่าวกระทำผิดคดีอาญาในข้อหาพรากผู้เยาว์ และกระทำอนาจาร ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่ผู้อำนวยการยังไม่เข้าพบพนักงานสอบสวน รวมทั้งยังไม่ไปรายงานตัวต่อต้นสังกัดอ่านข่าวเพิ่มเติม | ผู้ปกครองนักเรียนหญิงอีกคนหนึ่ง เข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหาอนาจารกับผู้อำนวยการโรงเรียน จ.นครราชสีมา หลังลูกสาวเคยถูกชักชวนให้มีเพศสัมพันธ์ โดยเสนอเงินค่าตอบแทน 2000 บาท ล่าสุดผู้อำนวยการยังไม่มารับทราบข้อกล่าวหาและยังไม่มารายงานตัวต่อต้นสังกัด | อาชญากรรม | ผู้อำนวยการโรงเรียน,มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว,ผิดวินัยร้ายแรง,ข้อหาพรากผู้เยาว์,กระทำอนาจาร,มีเพศสัมพันธ์,ไม่รายงานตัว,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/269682 |
ภัยแล้งลำพูน ชาวนาระทม ไม่มีน้ำเลี้ยงต้นข้าว | เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 58 จากกรณีปัญหาภัยแล้ง ส่งผลกระทบหนักต่อเกษตรกรและชาวสวนทั่วไป ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะที่ จ.ลำพูน ทำให้นาข้าวเกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง บางพื้นที่ ต้นกล้าขาดน้ำถึงกับยืนต้นตาย ล่าสุด เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 16 ก.ค. 58 ทางผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บ้านหัวแคร่ ต.ศรีบัวบาน อ.เมือง จ.ลำพูน พบว่า นาข้าวทั้งสองฟากถนน สายลำพูน - ลำปาง ต่างได้รับผลกระทบ น้ำไม่มีหล่อเลี้ยงในนาข้าว ต้นข้าวที่กำลังงอกทำให้ต้นลีบ และรอวันแห้งตาย แม้ว่าจะมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ที่จะมีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำ และไหลตามลำห้วยธรรมชาติได้ ,นายปารเมศ การุณนภาพร นายช่างชลประทานอาวุโส สำนักงานโครงการชลประทาน จังหวัดลำพูน กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งยังคงมีผลกระทบต่อเกษตรกรและชาวสวนทั่วไป เนื่องจากปีนี้ฝนตกน้อย ส่งผลให้น้ำไหลเข้าในเขื่อนหลัก อย่างเขื่อนแม่งัดสมบูณ์ชล และเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ แล้วไหลลงสู่จังหวัดลำพูน น้ำมีน้อย ขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดกลางของจังหวัดลำพูน รวม 4 อ่าง ก็มีปริมาณน้ำที่เหลือน้อย ประมาณ 7.780 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 22 เปอร์เซ็นต์ ของความจุเก็บกัก มีปริมาณน้ำน้อยกว่าปี 2557,นายปารเมศ กล่าวต่ออีกว่า ในด้านการเตรียมการรองรับปัญหาน้ำต่อชาวบ้าน หากน้ำในประปาเหลือน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการ ของพี่น้องประชาชน ก็จะมีการเตรียมแผนรองรับหาแหล่งน้ำที่อื่น ซึ่งยังคงมีเหลืออยู่คอยแจกจ่ายชาวบ้าน ที่ผ่านมาเราก็ได้ร่วมกับหน่วยงานทหารเข้าทำการช่วยเหลือชาวบ้านในเขต อ.แม่ทา จ.ลำพูน ไปแล้ว ขณะที่ทางด้านเตรียมความพร้อมเราก็ได้เตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดต่างๆ รวม 16 เครื่อง เพื่อคอยรองรับปัญหาภัยแล้งนี้แล้ว ขณะที่งานด้านประชาสัมพันธ์ ก็จะออกขอความร่วมมือ และชี้แจงชาวบ้านให้ชะลอทำนาปีไปก่อน เพราะน้ำไม่เพียงพอสำหรับทำการเกษตร จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์เอาไว้ว่า ประมาณเดือนสิงหาคมนี้ ฝนจะตกลงมาพอทำนาได้ และน้ำจะไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพียงพอในการทำการเกษตร ซึ่งเราภาวนาให้เป็นไปตามคาดการณ์เอาไว้ ปัญหาภัยแล้งจะได้พ้นวิกฤติไปโดยเร็ว ,ทางด้าน นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า ปัญหาภัยแล้งปีนี้รุนแรง กระทบกับเกษตรกร ชาวไร่ชาวนาพอสมควร ในพื้นที่ จ.ลำพูน ยังคงมีน้ำเพียงพอสำหรับอุปโภค-บริโภค และคาดว่าเดือนสิงหาคม ฝนจะตกลงมาแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้ แต่หากฝนไม่ตกเกิดภาวะภัยแล้ง ทางเราก็เตรียมขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล เอาน้ำมาบรรเทาความเดือดร้อนไว้แล้ว ส่วนชาวนาเราได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ชาวนาชะลอการทำนาปีไปก่อน โดยก่อนหน้านี้ได้วางแผนการใช้น้ำไว้ เกษตรกรผู้ทำนาเอง ก็ได้ให้ความร่วมมือด้วยดี มีบางส่วนที่ยังคงคาดหวังว่าจะไม่เกิดภัยแล้ง จึงเสี่ยงทำนาไป อย่างไรก็ตาม เราประเมินสถานการณ์แล้ว จังหวัดลำพูนยังไม่กระทบในวงกว้าง ขณะที่ปัญหาชาวบ้านทะเลาะกันเรื่องแย่งน้ำนั้นยังไม่มีรายงานแต่อย่างใด | ปัญหาภัยแล้งยังหนัก ทำชาวนาลำพูนระทม ขณะชลประทานให้ชาวนาที่จะทำนาปีชะลอไปก่อน รอฝน ส.ค. นี้ ด้านรองผู้ว่าฯ ยัน พื้นที่ยังไม่มีปัญหาชาวบ้านทะเลาะแย่งน้ำกัน | ข่าว,ทั่วไทย | ภัยแล้ง,น้ำแล้ง,แห้งแล้ง,ชลประทาน,แก้ภัยแล้ง,ขุดบ่อบาดาล,ทั่วประเทศ,ชาวนา,ลำพูน,ฝนตก,ส.ค.,ชาวบ้านทะเลาะแย่งน้ำ,เขื่อนแม่งัดสมบูณ์ชล,เขื่อนแม่กวง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/news/local/512054 |
พงส.ดีเอสไอให้การ ตร. ยันธวัชชัย ไม่มีอาการป่วย-จับโดยละม่อม | 2 ราย 6 กันยายน นี้,จากกรณี นายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่กรมที่ดินจังหวัดพังงาผูกคอเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัว บนชั้น 6 อาคารดีเอสไอ เมื่อคืนวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ภายหลัง ข้อมูลการชันสูตรเบื้องต้นระบุว่า ผู้ต้องหามีเลือดออกในช่องท้อง ตับแตก เนื่องจากถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก ร่วมกับการขาดอากาศหายใจจากการถูกผูกคอ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลายว่านายธวัชชัยอาจจะไม่ได้ผูกคอเสียชีวิตด้วยตนเองนั้น,ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 3 ก.ย. ที่สน.ทุ่งสองห้อง นายวรรณชัย พรหมรักษ์ รองผู้อำนวยการศูนย์พนักงานสอบสวนพิเศษชำนาญการ กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ดร.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้ปากคำในกรณีการเสียชีวิตของนายธวัชชัย โดยใช้เวลาการสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งภายหลังการสอบปากคำเรียบร้อยแล้ว นายวรรณชัยได้รีบเดินทางกลับทันที โดยปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน เพียงระบุสั้นๆว่า ไม่ขอพูดอะไร ให้ถามทางผกก.,พ.ต.อ.ดร.มานะ กล่าวว่า ภายหลังสอบปากคำว่า วันนี้ได้นัดนายวรรณชัย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในส่วนของฝ่ายสอบสวน เป็นผู้แจ้งข้อหาและสอบปากคำนายธวัชชัยเป็นคนสุดท้ายเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ก่อนที่นายธวัชชัยจะผูกคอเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น ทั้งนี้ได้สอบปากคำนายวรรณชัยในฐานะพยานเท่านั้น โดยเน้นในส่วนของลักษณะท่าทีของนายธวัชชัยเมื่อครั้งสอบปากคำ ร่วมกับอัยการ และญาติของนายธวัชชัย พบว่านายธวัชชัยดูปกติ ไม่ได้มีอาการเจ็บป่วย พร้อมปฏิเสธข้อหาตลอดข้อกล่าวหา นอกจากนี้ได้รับการยืนยันว่าไม่พบร่องรอยว่านายธวัชชัยถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ซึ่งนายวรรณชัยไม่ทราบว่าก่อนที่ชุดจับกุมจะนำตัวมาส่งพนักงานสอบสวนนั้นได้ให้แพทย์ตรวจร่างกายหรือไม่ อย่างไรก็ตามปกติหากไม่มีเหตุให้พบพิรุธ ก็ไม่จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจร่างกายก่อนส่งพนักงานสอบสวนก็ได้,พ.ต.อ.ดร.มานะ กล่าวต่อว่า โดยก่อนหน้านี้ได้เชิญเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ชุดจับกุมมาสอบปากคำแล้ว แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่ใช่หัวหน้าชุดจับกุม จึงไม่สามารถให้ข้อมูลในภาพรวมได้ชัด แต่เบื้องต้นได้รับการยืนยันว่าเป็นการจับโดยละม่อม ไม่มีการปะทะ และไม่ได้มีการซ้อมทำร้ายร่างกายอย่างแน่นอน หลังจากนี้จะเชิญเจ้าหน้าที่ที่เป็นหัวหน้าชุดจับกุมนายธวัชชัยมาสอบปากคำในประเด็นขั้นตอนตั้งแต่การจับกุมอย่างละเอียด เพื่อประกอบสำนวนให้รัดกุม ครบถ้วนและสิ้นกระแสสงสัย,พ.ต.อ.ดร.มานะ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบห้องขังเลขที่ 6008 ตอนนี้ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในห้องได้ เพราะมีการป้องกันห้องโดยการนำพลาสติกใสมาซีนห้องขังไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไป เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนและกองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) จึงใช้ห้องขังข้างๆ กันซึ่งมีแบบแปลนเหมือนกันมาเปรียบเทียบสมมติเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่ลักษณะของห้องขังยังไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากกลัวจะเสียรูปคดี ส่วนจากการตรวจสอบห้องขังยังไม่พบหลักฐานเพิ่มเติมแต่อย่างใด,พ.ต.อ.ดร.มานะ กล่าวเพิ่มว่า ในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 5 ก.ย. นี้ ได้นัดเจ้าหน้าที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ ที่ปฐมพยาบาลช่วยชีวิตนายธวัชชัยจำนวน 3 คน และในวันอังคารที่ 6 ก.ย. นัดเจ้าหน้าที่ดีเอสไอชุดควบคุมตัวนายธวัชชัยในห้องกักขังจำนวน 2 คนมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อนำไปประกอบกับสำนวนคดีต่อไป โดยในส่วนของญาตินั้นจะนัดมาสอบปากคำในภายหลัง เป็นประเด็นเกี่ยวกับภูมิหลังและลักษณะนิสัยของนายธวัชชัยว่าแท้จริงเป็นคนอย่างไร ทั้งนี้จุดประสงค์ทางคดีเพื่อต้องการหาความจริงว่านายธวัชชัยเสียชีวิตเพราะเหตุใด ซึ่งจะต้องนำหลักฐานพยานทั้งหมดและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบกันเพื่อให้ได้คำตอบที่แท้จริง. | ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง เผย สอบปากคำพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ไม่พบพิรุธ ปม ธวัชชัย อดีตเจ้าพนักงานที่ดิน จ.พังงา ตับแตก เลือดออกในช่องท้องดับ ยันผู้ต้องหาไม่มีอาการเจ็บป่วย จับโดยละม่อม ยกเว้นการปะทะ จ่อสอบเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเพิ่มอีก | null | ผูกคอตาย,ผูกคอตายในห้องขัง,ห้องขังดีเอสไอ,ธวัชชัย อนุกูล,เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน,พังงา,เลือดออกในช่องท้อง,ตับแตกตาย,พนักงานสอบสวนดีเอสไอ | https://www.thairath.co.th/content/711510 |
ทบ.แจ้งเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ จัดงานวันเด็ก 10-12 ม.ค.นี้ | เมื่อวันที่ 9 ม.ค.62 พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ. เผยว่า กองทัพบกขอแจ้งการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ จากหน่วยทหารในพื้นที่ กทม., จ.ปราจีนบุรี, จ.สระบุรี และ จ.ลพบุรี มายังกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ สนามเป้า เขตพญาไท กทม. เพื่อเตรียมจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2562 โดยจะทำการเคลื่อนย้าย 3 วัน คือ,ในวันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม เวลา 09.00 - 10.00 น. นำอากาศยานบินจาก ศูนย์การบินทหารบก จ.ลพบุรี ปลายทาง กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ วันศุกร์ที่ 11 มกราคม ตั้งแต่เวลา 19.00 - 01.30 น. เคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ อาทิ รถสายพานลำเลียง ยานเกราะล้อยาง ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน รถถัง จากหน่วยทหารใน กทม. จ.ปราจีนบุรี และสระบุรี ปลายทาง กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ และกองบัญชาการกองทัพไทย ถ.แจ้งวัฒนะ กทม. สำหรับเส้นทางการเคลื่อนย้ายจะผ่านถนนสำคัญ อาทิ ถ.วิภาวดีรังสิต, ถ.พหลโยธิน, ถ.ทหาร, ถ.ประดิพัทธ์ และ ถ.ติวานนท์ เป็นต้น,โดยกองทัพบกจะเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์กลับที่ตั้งหน่วยทหาร หลังจากจบกิจกรรมงานวันเด็กแล้ว ในวันที่ 12 มกราคม ตั้งแต่เวลา 17.00 น. น. เป็นต้นไป ตามเส้นทางเดิม ทั้งนี้ในพื้นที่ต่างจังหวัดก็จะมีการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ในลักษณะเช่นนี้ด้วย จึงขอแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบ และขออภัยในความไม่สะดวกทั้งปวงที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์. | ทบ.จัดหนัก-จัดเต็ม งานวันเด็ก 2562 เปิดหน่วย พล.ม.2 รอ. สนามเป้า ระดมอาวุธยุทโธปกรณ์ ทั้งอากาศยาน รถถัง ปืนใหญ่ มาแสดง พร้อมแจ้งเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์จากต่างจังหวัดเข้า กทม. 10 - 12 ม.ค.นี้ | ข่าว,การเมือง | วันเด็ก,วันเด็ก2562,กองทัพบก,พล.ม.2 รอ.,เคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1465266 |
ครม.อนุมัติแนวทางป้องกันทุจริต | เปิดช่องทุนนอกลุยท่าเรือ-สนามบิน-ทางยกระดับ,ครม.อนุมัติแนวทางป้องกันทุจริต สกัดปัญหาล็อกสเปก ราคากลางสูงเกินจริง และฮั้วประมูล เปิดทางอินเตอร์เนชั่นแนล บิดดิ้งให้ต่างชาติร่วมประมูลโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่เกิน 5,000 ล้านบาท การรถไฟฯเด้งรับ เปิดทาง ซุปเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้างแก้ทีโออาร์ทางคู่ 5 สาย,นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแนวทางการปรับระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ทั้งในส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเพื่อป้องกันปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งสอดคล้อง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ. แต่จะมีผลบังคับใช้ ดังนั้น เพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพได้ก่อนที่ พ.ร.บ.ดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ จึงให้ใช้แนวทางที่ประกาศครั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.2560 เป็นต้นไป,โดยประกอบด้วยแนวทางดังนี้คือ กรณีปัญหาเกี่ยวกับการกำหนดขอบเขตของงาน (ทีโออาร์) ไม่ชัดเจน หรือกำหนดคุณลักษณะเฉพาะเป็นการล็อกสเปก และกำหนดราคากลางสูงเกินความเป็นจริงไม่สมเหตุผลเป็นการกีดกันทำให้ไม่เกิดการแข่งขัน จะแก้ไขโดยให้คณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต กำหนดให้มีผู้สังเกตการณ์ เป็นบุคลากรผู้มีความรู้ความสามารถเข้าสังเกตการณ์ตั้งแต่จุดเริ่มต้นโครงการ การกำหนดราคากลาง การจัดทำทีโออาร์ ทำให้โครงการมีความโปร่งใส พร้อมทั้งให้จัดตั้งอนุกรรมการอีก 1 ชุด ทำหน้าที่ตรวจ สอบราคากลางของการก่อสร้างต่างๆ ว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ และยังให้กรมบัญชีกลางจัดทำฐานราคากลางแทนให้หน่วยงานเป็นผู้กำหนดเอง,ขณะที่ปัญหาเรื่องการฮั้วประมูลนั้น จะมีแนวทางแก้ไขดังนี้คือ จะเพิ่มกรอบอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับหลักเกณฑ์และตรวจสอบราคากลางงานก่อสร้าง โดยให้มีอำนาจกำหนดรายชื่อผู้ประกอบการงานก่อสร้างที่มีสิทธิเป็นผู้ยื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐ จากเดิมในอดีตให้หน่วยงานต่างๆกำหนดรายชื่อเอง ซึ่งบางครั้งมีโอกาสเกิดการฮั้วกันได้มาก นอกจากนี้ กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันมากขึ้น โดยงานก่อสร้างที่มีวงเงินตั้งแต่ 5,000 ล้านบาทขึ้นไป มีรายละเอียดซับซ้อน มีเทคนิคเฉพาะ จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ต้องใช้บุคลากรในสาขาวิชาชีพการก่อสร้างขั้นสูง เช่น ทางยกระดับ อุโมงค์ใต้ดิน ท่าเรือขนส่ง ท่าอากาศยาน จะต้องประกาศประกวดราคานานาชาติ หรืออินเตอร์เนชั่นแนล บิดดิ้ง จะทำเฉพาะคนไทยไม่ได้ ต้องเปิดประมูลให้นานาชาติเข้าร่วม สำหรับงานอื่นที่ไม่ใช่งานก่อสร้างและมีมูลค่าตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ที่มีความซับซ้อน มีเทคนิคเฉพาะ และใช้เทคโนโลยีขั้นสูง จะต้องเปิดโอกาสให้มีผู้ประกอบการต่างประเทศเข้าร่วมได้เช่นกัน,ขณะที่ปัญหาเรื่องการซื้อผ่านคนกลางหรือเอเย่นต์โดยราคาไม่สมเหตุสมผล มีแนวทางแก้ไขปัญหาดังนี้คือ ในการจัดซื้อพัสดุที่มีรายละเอียดของสินค้าที่ซับซ้อน มีเทคนิคเฉพาะ และจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยมีผู้ผลิตน้อยราย ในส่วนนี้ต้องซื้อสินค้ากับผู้ผลิตสินค้าโดยตรง ไม่ซื้อผ่านผู้แทนจำหน่าย นอกจากจะมีความจำเป็นแต่ต้องชี้แจงได้ และยังมีแนวทางอื่นๆอีก เช่น ให้หน่วยงานภาครัฐกำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อกำกับไม่ให้ข้าราชการและส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ รับทรัพย์สิน สิ่งของ หรือประโยชน์อื่นใดมีมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท,ทั้งหมดนี้จะเป็นแนวทางช่วยลดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในประเทศไทย รวมถึงคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างหรือซุปเปอร์บอร์ดที่เพิ่งประกาศไป จะมีอำนาจจัดการดูแลโครงการที่มีมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป หรือเป็นโครงการที่สังคมสนใจ ตั้งแต่เริ่มทำแผนจนสิ้นสุดสัญญา พร้อมทั้งมีอำนาจสั่งแก้ไขและรับเรื่องร้องเรียน สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการเหล่านี้จะทำเรื่องชี้แจงส่งให้หน่วยงานที่ทำหน้าที่ประเมินความโปร่งใสของรับทราบต่อไป,วันเดียวกัน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ได้เรียกคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. และนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการ รฟท. เข้าหารือโดยได้มอบนโยบายเกี่ยวกับการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่นั้น ทาง รฟท.ก็จะต้องนำข้อมูลเสนอให้คณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซุปเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง) พิจารณา ซึ่งในส่วนของ รฟท.อยู่ระหว่างดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ 7 เส้นทาง ในจำนวนนี้มี 2 เส้นทางที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และอีก 5 เส้นทางเป็นโครงการใหม่ที่อยู่ในขั้นตอนประกวดราคา และจะมีการแก้ทีโออาร์รถไฟทางคู่ทั้ง 5 เส้นทาง หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของซุปเปอร์บอร์ดเช่นเดียวกัน,ขณะที่นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่า กรณีที่ศาลคุ้มครองชั่วคราวให้บริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด บริษัทลูกของบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารถเมล์เอ็นจีวี และให้กรมศุลกากรปล่อยรถเมล์ออกจากท่าเรือแหลมฉบังนั้น ตนยังไม่เห็นหนังสืออย่างเป็นทางการ และหากทางบริษัทนำรถเมล์ออกมาเพื่อส่งมอบได้ ขสมก.ก็จะต้องมีขั้นตอนการพิจารณาว่าจะรับมอบได้หรือไม่ เพราะจะต้องตรวจสอบเงื่อนไขในสัญญา รวมทั้งแหล่งกำเนิดของรถที่ยังค้างคาอยู่. | ครม.อนุมัติแนวทางป้องกันทุจริต สกัดปัญหาล็อกสเปก ราคากลางสูงเกินจริง และฮั้วประมูล เปิดทางอินเตอร์เนชั่นแนล บิดดิ้งให้ต่างชาติร่วมประมูลโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่เกิน 5,000 ล้านบาท | null | แนวทางป้องกันทุจริต,ล็อกสเปก,ฮั้วประมูล,โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่,กอบศักดิ์ ภูตระกูล | https://www.thairath.co.th/content/870465 |
เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับร้องเรียนกรณีให้ประกัน แอนนา รีส | เมื่อวานนี้ (25 พ.ค.2560) กลุ่มผู้เสียหายและทุพพลภาพ พร้อมเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับกรุงเทพมหานคร และเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน กรณีที่พนักงานสอบสวนให้ประกันตัว น.ส.แอนนา แฮมบาวรีส หรือ แอนนา รีส หลังก่อเหตุเมาแล้วขับชนรถยนต์ของผู้อื่นได้รับความเสียหายหลายคน ซึ่งก่อนหน้านี้ น.ส.แอนนา เคยก่อเหตุเมาแล้วขับชนตำรวจเสียชีวิตมาแล้ว และได้รับโทษให้รอลงอาญา แต่กลับมาทำผิดซ้ำ ซึ่งทางกลุ่มเครือข่ายเห็นว่าควรมีการลงโทษให้ได้สำนึกผิด เพราะเกิดการทำผิดซ้ำซากและอาจเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ จึงเรียกร้องให้ตำรวจดำเนินคดีความอย่างจริงจังกับคดีเมาแล้วขับ โดยเฉพาะผู้ทำผิดซ้ำด้าน พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า แม้พนักงานสอบสวนให้ประกันตัว น.ส.แอนนา แต่คดีความก็ยังดำเนินการตามขั้นตอน และเมื่อถึงกระบวนการศาล เป็นดุลยพินิจของศาลที่จะพิจารณา แต่ยืนยันในส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่ให้ประกันตัวกับผู้ที่ก่อเหตุซ้ำซาก และขอรับเรื่องร้องเรียนเพื่อพิจารณาเป็นแนวทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ | เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับเข้าร้องเรียนกรณีพนักงานสอบสวนให้ น.ส.แอนนา แฮมบาวรีส หรือแอนนา รีส ได้รับการประกันตัวหลังก่อเหตุเมาแล้วขับ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังเคยเมาแล้วขับรถชนรถตำรวจเสียชีวิต | อาชญากรรม | ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ,แอนนา รีส,แอนนา แฮมบาวรีส,ประกันตัว | https://news.thaipbs.or.th/content/262847 |
ดาว เสียความรู้สึกเพื่อน เอสเธอร์ ลบภาพทิ้งอันฟอลโล่ | ถึงกับเสียความ รู้สึกไปเลย เมื่อนังร้ายสาวสวย ดาว-พิมพ์ทอง วชิราคม มารู้ว่านางเอกสาว เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา อันฟอลโล่อินสตาแกรมตัวเองแถมลบภาพคู่กันทิ้งหมด ทั้งที่ก่อนนี้ก็เคยเป็นเพื่อนสนิทกันช่วงที่อยู่ช่อง 3 โดย ดาว กล่าวว่า ดาวก็เพิ่งเห็นค่ะ มีคนถามว่าทะเลาะอะไรกันรึเปล่า แต่เราก็ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน ถามว่าเสียความรู้สึกมั้ยที่เค้าอันฟอลโล่เรา แรกๆก็มีบ้าง ไม่เคยคิดว่าเพื่อนกันจะอันฟอลโล่ แต่ ณ จุดนี้เราเคารพในการตัดสินใจในเหตุผลของเค้าดีกว่า เพราะว่าเอสเองเป็นคนน่ารักมาก เอ๋อๆ ต๊องๆ เราก็ยังจำภาพเค้าตรงนั้นได้อยู่ เอสเป็นคนที่ไม่มีปัญหากับใคร,ถามเอสเธอร์บ้างมั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น? ยังไม่ได้คุยเลย ดาวเกรงใจ ตอนนี้เค้าก็งานเยอะและดาวก็พึ่งปิดกล้อง เลยไม่มีเวลามาโฟกัสเรื่องนี้ ดาวยังฟอลโล่ไอจีของเอสเธอร์อยู่มั้ย? ก็ยังตามเหมือนเดิม ยังไปกดไลค์อยู่เลย จริงๆเค้าก็อันฟอลโล่คนอื่นไปเยอะนะ ไม่ได้อันแค่เรา เค้าคงมีเหตุผลแหละ ดาวไม่คิด มากค่ะ ล่าสุดที่คุยกันนานรึยัง? นานแล้วนะคะก็เป็นปีแล้ว เค้าเองก็ออกจากช่องไปก็ไปทำงานที่อื่น มันก็ไม่ได้เจอกันเหมือนสมัยก่อน ตอนอยู่ที่ช่องเราเจอกันบ่อย จะมีโอกาสปรับความเข้าใจกันมั้ย? ถ้ามีบังเอิญเจอกันดาวก็คงจะถาม เพราะแม่เรากับแม่เค้าก็รู้จักกัน. | ถึงกับเสียความ รู้สึกไปเลย! เมื่อนังร้ายสาวสวย ดาว-พิมพ์ทอง วชิราคม มารู้ว่านางเอกสาว เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา อันฟอลโล่อินสตาแกรมตัวเองแถมลบภาพคู่กันทิ้งหมด ทั้งที่ก่อนนี้ก็เคยเป็นเพื่อนสนิทกันช่วงที่อยู่ช่อง 3 | null | ดาว,พิมพ์ทอง วชิราคม,เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา,ลบภาพคู่,อันฟอลโล่,ทะเลาะ,ไอจี,กดไลค์,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/534730 |
อินทรีเหล็ก สวมบทโหด ไล่ยำ สโลวาเกีย 3-0 ฉลุย 8 ทีมยูโร | การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือศึกยูโร 2016 รอบน็อกเอาท์ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนาม สต๊าด ปิแอร์ มัวรอย เมืองลีลล์ ประเทศฝรั่งเศส คู่ระหว่าง อินทรีเหล็ก เยอรมนี แชมป์โลกที่เข้ามาในฐานะแชมป์กลุ่มซี พบกับ สโลวาเกีย อันดับ 3 กลุ่มบี,เกมนี้ อินทรีเหล็ก เปลี่ยนทัพเล็กน้อยในแนวรุก โดยใช้ ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ ลงมาแทน มาริโอ เกิทเซ ผนึกกำลังร่วมกับ โธมัส มุลเลอร์ และ เมซุต โอซิล คอยปั้นเกมรุกให้ มาริโอ โกเมซ ทำประตู ขณะที่ สโลวาเกีย ยังใช้ มาเร็ค ฮัมซิก กับ วลาดิเมียร์ ไวส์ เป็นแกนหลักในเกมรุก,เปิดฉากมาแค่ 8 นาที เยอรมนี ได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากลูกเตะมุม โทนี โครส เปิดเข้ากลาง กองหลังสโลวาเกีย เคลียร์ไม่ขาด บอลมาเข้าทาง เยโรม บัวเต็ง ตะบันแถวสองบอลแฉลบเสียบเสาเข้าไป,มาถึงนาทีที่ 11 เยอรมนี พลาดได้ประตูที่สองอย่างน่าเสียดาย เมื่อมาได้ลูกจุดโทษแต่ทว่า เมซุต โอซิล ดันยิงไปติดเซฟ มาตุส โคซาซิค ปัดออกไป,นาทีที่ 20 เป็นโอกาสทองของ เยอรมนี อีกครั้ง ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ เปิดเข้าเขตโทษให้ มาริโอ โกเมซ โขกชงให้ เมซุต โอซิล ยิงเน้นๆแต่บอลเฉี่ยวเสาออกไปเหลือเชื่อ,เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 31 อินทรีเหล็ก ได้ลุ้นอีกรอบ โธมัส มุลเลอร์ ได้ยิงบอลเหินข้ามคานออกไป ทำให้เขายังปลดล็อกประตูในศึกยูโรครั้งนี้ยังไม่ได้,มาถึงนาทีที่ 39 เยอรมนี ได้ลุ้นลูกที่สองอีกครั้ง เมซุต โอซิล เปิดให้ ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ หมุนตัวยิงด้วยซ้ายบอลถากเสาออกไป,อีกสองนาทีให้หลัง ถือเป็นโอกาสทองตีเสมอของ สโลวาเกีย จากจังหวะลุยของ ปีเตอร์ เปคาริค บรรจงเปิดให้ ยูรัจ คุคกา เทคตัวโขกเหนือ คิมมิช แต่ มานูเอล นอยเออร์ ยังปฏิกิริยาไวบินปัดออกไป,และจากจังหวะสวนกลับ นาทีที่ 43 เยอรมนี ได้ประตูที่สอง โครส ไหลให้ ดรักซ์เลอร์ พลิกถึงเส้นหลังก่อนจบเข้ากลาง มาริโอ โกเมซ ยิงจ่อๆเข้าไป,หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม เยอรมนี ขึ้นนำ สโลวาเกีย ไปก่อน 2-0 จากประตูของ เยโรม บัวเต็ง และ มาริโอ โกเมซ โอกาสเข้ารอบต่อไปช่างสดใส,เข้าสู่ครึ่งหลัง สโลวาเกีย ได้บุกมากขึ้นนาทีที่ 49 เป็นโอกาสลุ้นทำประตูของ สโลวาเกีย จากจังหวะที่ มาเร็ค ฮัมซิก ไหลเข้ากลางให้ ยูรัจ คุคกา ตะบันเต็มข้อแต่ นอยเออร์ เซฟไว้ได้,เกมมาถึงนาทีที่ 63 เยอรมนี ที่ยังไม่มีโอกาสสับไกในครึ่งหลัง แต่มาได้ประตูหนีห่าง 3-0 จากลูกเตะมุม โทนี โครส เปิดเข้ากลางบอลขลุกขลิกก่อนมาเข้าทาง ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ ยิงเสียบเพดานเข้าไปอย่างสวยงาม,หลังจากนั้นเยอรมนี เริ่มเน้นครองเกม โอกาสทำประตูแบบจังๆไม่เกิดขึ้น กระทั่งช่วงทดเจ็บ เยอรมนี เกือบได้ประตูปิดกล่อง โทนี โครส ได้แปโล่งๆแต่ มาตุส โคซาซิค เซฟไว้ได้ ,จบเกมการแข่งขัน เยอรมนี ไล่ถล่มเอาชนะ สโลวาเกีย ขาดลอย 3-0 ตบเท้าเข้าสู่รอบควอเตอร์ไฟนอลแบบไม่มีปัญหา โดยจะเข้าไปพบกับ สเปน แชมป์เก่า หรือ อิตาลี ต่อไป,รายชื่อตัวจริงของทั้งสองทีม,เยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์ (GK), โยชัว คิมมิค, มัตส์ ฮุมเมลส์, เยอโรม บัวเต็ง, โยนาส เฮคเตอร์, โทนี โครส, ซามี เคดิรา, เมซุต โอซิล, โธมัส มุลเลอร์, ยูเลียน ดรักซ์เลอร์, มาริโอ โกเมซ,สโลวาเกีย : มาตุส โคซาซิค (GK), ปีเตอร์ เปคาริค, มาร์ติน สเคอร์เทล, แยน ดูริกา, นอร์เบิร์ต กียอมแบร์, พาทริค ฮโรซอฟสกี, มิลาน สครินเนียร์, ยูรัจ คุคกา, มาเร็ค ฮัมซิค, วลาดิเมียร์ ไวส์, มิเชล ดูริส | อินทรีเหล็ก เยอรมนี โชว์ฟอร์สมราคาเต็งแชมป์ในศึกยูโร 2016 หลังต้อนเอาชนะ สโลวาเกีย แบบขาดลอย 3-0 ตบเท้าของรอบควอเตอร์ไฟนอลไปรอพบผู้ชนะระหว่าง สเปน แชมป์เก่า หรือ อิตาลี ต่อไป | null | ยูโร 2016,เยอรมนี,อินทรีเหล็ก,สโลวาเกีย,ข่าวกีฬา,ข่าว,ผลบอล,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/647951 |
โต้ง สิริพงศ์ เคลื่อนไหวผ่านโซเชียล หลังงดออกเสียง ไม่โหวต ลุงตู่ | ภายหลังจากการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี โดยการลงคะแนนแบบเปิดเผยรายบุคคล แต่ระหว่างการลงมติด้วยการขานชื่อรายบุคคล โดยเรียงลำดับตามอักษร ปรากฏว่า นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ได้ลงมติงดออกเสียง ซึ่งสวนทางกับมติพรรคที่เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ และสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี จนเป็นที่พูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์,ล่าสุด เฟซบุ๊ก ,สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ, โพสต์อัพเดตรูปภาพหน้าปก โดยมีข้อความว่า ขอบคุณทุกคะแนนเสียงของชาวศรีสะเกษทุกคน ผมจะตั้งใจทำงานตอบแทนพี่น้องประชาชน,ทั้งนี้ ภายหลังจาก นายสิริพงศ์ โพสต์ภาพดังกล่าว ได้มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมชื่นชม ดังนี้,Netiwit Chotiphatphaisal, ขอแสดงความชื่นชมที่รับฟังเสียงประชาชน และทำตามความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ไม่ทรยศคำสัญญา สมัยหน้ารับรองว่าได้เป็นส.ส. อีกแน่นอนครับ,Puvaphat Chanasakol, ขอบคุณครับ ที่ยืนหยัดเพื่อทุกคน ผมเป็นกำลังใจให้ และจะติดตามต่อไป ในฐานะ ส.ส.น้ำดี ผู้รักษาคำพูดครับ พี่โคตรเท่,Tim Ronnin Allen, ขอบคุณที่ซื่อสัตย์ต่อตัวเองและต่อปชช. คุณกล้าหาญมากๆ ขอชื่นชมค่ะ โปรไฟล์สวยๆ อย่างนี้น่าจะเข้าสังกัดพรรคฝ่าย ปชต. เป็นกำลังใจให้นะคะ,Tanawat Teerawattanaprapa, เสี่ยโต้ง ขอบคุณนะครับที่รักษาคำพูด ภูมิใจที่สุด ถึงแม้ผมจะไม่ได้เลือกพี่ แต่พี่ก็เป็น ส.ส.เขตผมแล้ว ผมไปอวดคนอื่นทั่วไปหมดเลย ว่านี่ไง ส.ส.เขตกู เท่มั้ยล่ะ | โต้ง สิริพงศ์ ชายผู้กล้า แหกมติพรรคภูมิใจไทย เคลื่อนไหวแล้ว หลังโหวตงดออกเสียง ไม่หนุน พล.อ.ประยุทธ์ เบิ้ลเก้าอี้นายกฯ บอกจะตั้งใจทำงานตอบแทนพี่น้องประชาชน | ข่าว,สังคม | สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ,โต้ง สิริพงศ์,เลือกนายก,งดออกเสียง,ประชุมสภา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1585661 |
โจรพลาด ใช้แก๊สเจาะตู้ ATM ตลาดแม่เหียะ แต่เปิดไม่ได้ ตร.เตรียมล่าตัว | พลาดซะแล้ว ตร.เชียงใหม่ ล่าคนร้ายใช้แก๊สเจาะตู้ ATM ธนาคารไทยพาณิชย์ ในตลาดแม่เหียะ จ.เชียงใหม่ แต่ไม่สามารถเปิดตู้เซฟได้ เนื่องจากตู้มีความหนา และคาดว่าคงใช้เวลานานทำให้แก๊สที่ใช้เจาะหมด ซึ่งทาง จนท.เตรียมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดต่อไป
,เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ก.ย. 60 พ.ต.ท.ชัยกร ไชยพรหม สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุคนร้ายใช้แก๊สพยายามเจาะตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ตั้งข้างศูนย์ฟู้ดเซนเตอร์ในตลาดสดแม่เหียะ ถนนคันคลองชลประทาน ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ จึงรุดไปสอบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ที่เกิดเหตุ พบนายอฐิฐาน ธรรมยุติสัตย์ อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลตู้เอทีเอ็มของธนาคารรออยู่,จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ตู้เอทีเอ็ม ตั้งอยู่ติดกับตู้ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงเทพ แต่คนร้ายได้ใช้แก๊สตัดประตูตู้ด้านหลังของธนาคารไทยพาณิชย์ เข้าไปถึงตู้เซฟชั้นใน แต่คนร้ายไม่สามารถเปิดตู้เอทีเอ็มได้ เนื่องจากตู้เซฟมีความหนา และคาดว่าแก๊สของคนร้ายจะหมดไปก่อน จึงได้หลบหนีไป คาดว่าคนร้ายจะลงมือในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา อาศัยช่วงที่มีฝนตกด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งตรวจสอบเส้นทางการเข้าออกของคนร้าย จากภาพกล้องซีซีทีวีข้างเคียง เพื่อเร่งติดตามกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน มาดำเนินคดีต่อไป. | พลาดซะแล้ว!! ตร.เชียงใหม่ ล่าคนร้ายใช้แก๊สเจาะตู้ ATMธนาคารไทยพาณิชย์ ในตลาดแม่เหียะ จ.เชียงใหม่ แต่ไม่สามารถเปิดตู้เซฟได้ เนื่องจากตู้มีความหนา และคาดว่าคงใช้เวลานานทำให้แก๊สที่ใช้เจาะหมด ซึ่งทาง จนท.เตรียมตรวจสอบภาพจากกล้อง | ข่าว,ทั่วไทย | เจาะตู้ATM,แก๊สเจาะตู้ไทยพาณิชย์,ตู้ธนาคารATMไทยพาณิชย์,ตลาดสดแม่เหียะ,เชียงใหม่,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1066272 |
4 ผู้ประกอบการเช่ามักซ์ ถกแผนเยียวยาเลิกกิจการ 7 ช่องทีวีดิจิทัล | วันนี้ (16 พ.ค.2562) ที่สำนักงานใหญ่ บริษัท อสมท. จำกัด มหาชน เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ประกอบกิจการให้เช่าเสาสัญญาณโครงข่ายทีวีดิจิทัล (มักซ์) ทั้ง 4 ราย ได้แก่ กองทัพบกช่อง 5 สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที บริษัท อสมท. จำกัด มหาชน และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส นัดประชุมร่วมกันหลังสถานีโทรทัศน์ 7 ช่องยื่นเรื่องเลิกกิจการ ทำให้ลูกค้าของผู้ให้เช่าโครงข่ายให้ไปจากระบบด้วย เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดมาตรการชดเชยคาดว่าการประชุมในวันนี้ ผู้ประกอบการ 4 ราย จะหารือประเด็นการเยียวยาและอาจเสนอแผนงานไปยังต่อนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เพื่อขอยุบกลุ่มผู้ให้บริการโครงข่าย 1 กลุ่ม จากที่ให้บริการทั้งหมด 4 กลุ่ม เนื่องจากมีลูกค้าน้อยและคาดว่าจะพิจารณาขอให้ชดเชยค่าเช่าโครงข่ายจาก 7 ช่อง ที่ยุติประกอบกิจการ เฉพาะในส่วนผู้ให้บริการโครงข่ายทั้งหมด เป็นมูลค่าประมาณปีละ 500 ล้านบาท ต่อเนื่องไปอีก 10 ปี เป็นมูลค่าเกือบ 5000 ล้านบาทสำหรับกองทัพบกช่อง 5 เป็นเจ้าของโครงข่ายที่มีลูกค้ามากที่สุด และมีช่องไบร์ททีวี และช่องนาวทีวี ที่ขอเลิกกิจการ โดยทั้ง 2 ช่องเช่าสัญญาณออกอากาศในระบบภาพความคมชัดปกติ คิดค่าเช่าอยู่ที่ช่องละ 10 ล้านบาท บริษัท อสมท. มีลูกค้าเช่าเสาโครงข่าย 6 ราย ขณะนี้ มี 3 ช่องที่แจ้งขอยุติประกอบกิจการ คือ ช่อง 9 แฟมมิลี่ ซึ่งเป็นของ อสมท. เอง ส่วนอีก 2 ช่อง คือ ช่องสปริงนิวส์ และวอยซ์ทีวี ส่วนสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส มีลูกค้าหายไป 2 ช่อง คือ ช่อง 3 แฟมิลี่ และช่อง 3 สแตนดาร์ด ก่อนหน้านี้เคยให้ช่องไทยทีวีและโลก้าทีวีเช่าออกอากาศ แต่ยุติกิจการไปตั้งแต่ปี 2558 | ผู้ประกอบการโครงข่ายทีวีดิจิทัล 4 ราย ประชุมเสนอแผนต่อ กสทช. ขอเยียวยากรณีลูกค้าหาย 10 ปี มูลค่าเกือบ 5000 ล้านบาท หลังมีสถานีโทรทัศน์แจ้งเลิกกิจการ 7 ช่อง | เศรษฐกิจ | มักซ์,ทีวีดิจิทัล,เช่ามักซ์,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/280087 |
นักท่องเที่ยวแห่เที่ยว เมืองชูล ในเม็กซิโก หาความลับวันสิ้นโลก | นักท่องเที่ยวพากันเดินทางมาที่เมืองชูล (Xul) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ของชนพื้นเมืองชาวมายันทางภาคใต้ของเม็กซิโก เพื่อเตรียมรับวันสิ้นโลกในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ เนื่องจากชื่อเมืองมีความหมายในภาษามายันว่า สิ้นสุด อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาก็มีทั้งที่เชื่อว่าโลกจะแตกดับ เพราะปฏิทินของชาวมายันโบราณสิ้นสุดลงในวันดังกล่าว และที่เชื่อว่าเป็นการสิ้นสุดปีปฎิทินของชาวมายันเพื่อเริ่มต้นศักราชใหม่ขณะที่ชนพื้นเมืองชาวมายันในเมืองชูลส่วนใหญ่ต่างแสดงงวยงงกับกระแสข่าวลือเรื่องวันสิ้นโลกและเชื่อว่า เป็นการนำความเชื่อของชาวมายันไปตีความกันผิด ๆ เพราะชาวมายันเชื่อว่า เป็นเพียงการสิ้นสุดศักราช ไม่ได้หมายความว่าจะมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นอย่างไรก็ตาม การหลั่งเข้ามาของนักท่องเที่ยวก็จะสร้างผลพลอยได้ทางธุรกิจให้กับชาวเมืองชูล สถานตากอากาศต่างๆ ของเมือง ต่างเตรียมพร้อมรับความเฟื่องฟูทางเศรษฐกิจจากการหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยว | เมืองเล็ก ๆ ของชุมชนพื้นเมืองชาวมายันในเม็กซิโกกลายสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่พากันเดินทางเข้ามาเพื่อเตรียมรับวันสิ้นโลกในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ ซึ่งเป็นวันที่ปฏิทินของชาวมายันโบราณสิ้นสุดลง ท่ามกลางความเชื่อของคนบางกลุ่มว่าเป็นที่โลกดับสูญ | ต่างประเทศ | ชาวมายัน.วันสิ้นโลก,นักท่องเที่ยว,เมืองชูล,เม็กซิโก | https://news.thaipbs.or.th/content/133504 |
จับลุงวัย 60 ที่เชียงใหม่ลวงเด็กต่ำกว่า 15 ส่งค้ากามกับกลุ่มชอบเด็กชาย | เมื่อเวลา 13.00 นวันที่ 11 มีนาคม 2563 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจกอง กองบังคับการ สอบสวนสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 นำหมายศาลเข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่103 ถ.วัวลาย ซอย 1 ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ ที่เป็นบ้านพักของนายสุรศักดิ์ เขียวมั่ง อายุ 60 ปี จากการตรวจค้นภายในบ้านพักพบ เด็กชายอายุ 13 และ 14 ปี จำนวน 2 คน ออกมาได้ทางเจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือ นำไปไว้ที่บ้านพักเด็กชายเชียงใหม่ชั่วคราว ก่อนที่จะจับกุม นายสุรศักดิ์ เจ้าของบ้านตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ตาม หมายศาล จ.104/263 ลง 9 มีนาคม 63 ในฐานความผิด ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์ค้าประเวณีเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อสนองความใคร่เป็นธุระจัดหา นำตัวมามอบให้ พ.ต.ท.สายพิณ ทิจจารัตน์ตนา สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ดำเนินคดีอย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นได้มีผู้ปกครองเข้ามาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ว่า ลูกชายได้หายออกบ้านไป จนทราบว่าถูกผู้ต้องหารายนี้ ล่อลวงไปมีเพศสัมพันธ์ที่บ้านพัก และยังนำไป ขายบริการให้กับกลุ่มชาวเกย์ด้วยกันอีกด้วย ทางพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับ และเข้าตรวจค้นบ้านพัก และยังพบเด็กชาย 1 รายใหม่อีก 2 คนที่ถูกหลอกมาในครั้งนี้ อีกด้วยสำหรับ นายสุรศักดิ์ ผู้ต้องหารายนี้ เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองจังหวัดเชียงใหม่จับกุมเมื่อปีพ.ศ. 2552 ในความผิด ในลักษณะเดียวกันคือ หลอกเด็กชาย มาค้ามนุษย์ถูก นำตัวฟ้องต่อศาลและศาลลงโทษ 8 ปี และหลังจากที่พ้นโทษ ออกมาได้ไม่นานแทนที่จะกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีกลับมาใช้พฤติกรรมเดิมคือไปหลอกลวงเด็กแถวย่านข่วงประตูท่าแพมาค้าประเวณีอีก และจากการตรวจค้นในบ้านพัก เอาผู้ต้องหานั้นทางเจ้าหน้าที่ยังได้ยึดโทรศัพท์มือถือได้จำนวนหลายเครื่อง เชื่อว่าผู้ต้องหารายนี้น่าจะมีการแอบถ่ายคลิปขณะที่มีเพศสัมพันธ์กับเด็กเอาไปด้วยขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลต่อไป | ตำรวจภาค 5 จับ ลุงวัย 60 ปีที่เชียงใหม่คดีค้ามนุษย์ ลวงเด็กชายอายุต่ำกว่า 15 ตามย่านข่วงประตูท่าแพ มามีเพศสัมพันธ์ที่บ้านพัก และนำไปขายบริการทางเพศกับผู้มีรสนิยมเดียวกัน เร่งขยายผลเพิ่ม | ข่าว,อาชญากรรม | จับลุงวัย 60,ล่อลวงเด็ก,ค้ามนุษย์,ค้าประเวณีเด็กต่ำกว่า 15 ปี,เชียงใหม่,ตำรวจภูธรภาค 5,สภ.เมืองเชียงใหม่,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1792624 |
จับแล้วโจ๋ 17 มือส่งพัสดุยานรกให้นศ.สาวเรียนดี ที่ร้อยเอ็ด | จากกรณีพี่สาวของ น.ส.สุปราณี พลดอน หรือ ปลา นักศึกษาเรียนดี ร้องเรียนขอความเป็นธรรมว่า เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 62 เวลา 15.36 น. น้องสาวถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของอำเภอสุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด จับกุมขณะเข้าตรวจกล่องพัสดุที่เพิ่งส่งมาถึงบ้านได้เพียง 2 นาที ซึ่งในกล่องพบยาไอซ์ 10.3 กรัม ซุกซ่อนอยู่ โดยทางน.ส.สุปราณี ไม่ได้สั่งของไปและไม่รู้จักคนที่ส่งของมา แต่ก่อนหน้านี้เคยให้ที่อยู่ไปกับเพื่อน ซึ่งเพื่อนขอที่อยู่ไป เนื่องจากต้องการสั่งเสื้อคู่มาเซอร์ไพรส์แฟน แต่เกรงว่าแฟนจะเห็นเสื้อก่อนจึงขอที่อยู่ น.ส.สุปราณี เพื่อให้ส่งเสื้อไปฝากไว้ก่อน เหตุเกิดที่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมาตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น,ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 ก.ค.62 ที่สน.โคกคราม พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.โคกคราม และฝ่ายสืบสวนสน.โคกคราม ได้ควบคุมตัว นายปราบดา พรามจร หรือเต้ อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดร้อยเอ็ด ข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายยาเสพติดประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย,พ.ต.อ.อลงกรณ์ เปิดเผยว่าหลังจากที่ศาลได้อนุมัติหมายจับนายปราบดา ชุดสืบสวนสน.โคกคราม ก็ได้ทำการสืบสวน และเข้าจับกุมนายเต้ ภายในวันนี้ที่เคหะเคหะนวมินทร์ จากการตรวจสารในร่างกายไม่พบสารเสพติด ส่วนห้องพักก็ไม่พบยาเสพติด ขณะนี้ตำรวจภูธรสุวรรณภูมิกำลังเดินทางมารับตัวไปดำเนินคดีต่อ,จากการสอบปากคำนายปราบดา รับสารภาพว่าตนเป็นผู้ส่งยาเสพติดจริง โดยมีผู้ว่าจ้างได้ทักไลน์มาหาเพื่อให้จัดส่งยาเสพติดไปให้ น.ส.สุปราณี พลดอน หรือ ปลา โดยที่ตนไม่ได้รู้จักกับน.ส.สุปราณี แต่อย่างใด ส่วนวิธีการซื้อยาไอซ์นั้น ตนจะไปซื้อยาไอซ์กรัมละ 200 บาท และขายต่อไปในราคากรัมละ 400 บาท ส่วนเงินที่ได้มานำไปใช้จ่ายตามประสาวัยรุ่น ส่วนตัวนั้นไม่ได้เป็นคนเสพยาเสพติดแต่อย่างใด,เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้สอบสวน นายปราดดา เพื่อขยายผลและส่งตัวให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด มารับตัวเพื่อไปขยายผลต่อไป. | รวบโจ๋วัย 17 มือส่งพัสดุไปรษณีย์ซุกยาไอซ์ให้ นศ.สาวเรียนดีที่จังหวัดร้อยเอ็ด จนงานเข้าต้องโดนจับกุม ผู้ต้องหารับสารภาพ มีคนทักไลน์มาจ้างให้ส่งงาน โดยที่ไม่รู้จักกับเหยื่อแต่อย่างใด | ข่าว,อาชญากรรม | พัสดุยาเสพติด,พัสดุยานรก,พัสดุซุกยา,นศ.สาว,สน.โคกคราม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1608305 |
เปิดเป๋าตังค์ติ่ง จริงหรือ เสียเงินเป็นแสน แขนไม่ได้จับ | ที่มาร่วมสร้างประสบการณ์คอนเสิร์ตเป็นครั้งที่ 2 กับแฟนๆ ชาวไทย หรือ สาวๆ Girl generation ที่เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ MV นอกจากนั้นยังมี ศิลปิน ดารา เกาหลีแวะเวียนมาเรียกได้ว่าไม่ขาดสาย,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, ไม่พลาดที่จะตามติดภารกิจสุดติ่งในครั้งนี้ ขอติดสอยห้อยตามไปกับเหล่าบรรดาแฟนคลับ เพื่อเข้าล้วงลึกถึงขั้นเปิดกระเป๋าตังกันเลยทีเดียว ว่า จริงหรือไม่, เสียเงินเป็นแสน แม้แต่แขนยังไม่ได้จับ, ที่นี่มีคำตอบแล้ว,นางสาวชมพูนุท อินทร์อำนวย, หรือ ,ชมพู, อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ที่มีดีกรีเป็น ,ติ่ง, ตัวยงของ ,วงเอ็กโซ (EXO), เล่าให้ฟังว่าเริ่มชอบศิลปินเกาหลีมาตั้งแต่อายุ 15 ปี ด้วยการชอบฟังเพลง แต่มีโอกาสได้ตามติดแบบจริงจังเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว จนหลงในความสามารถบวกกับหน้าตาที่หล่อเหลา ทำให้กลายเป็นแฟนคลับไปโดยปริยาย เช่นเดียวกับ, น้องเอ นักศึกษาคณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาเกาหลี, ที่ขอยกขึ้นแท่นให้เป็นสุดยอดแฟนคลับ เพราะลงทุนบินลัดฟ้าไปหาถึงเกาหลี และจองไฟลท์บินกลับมาเมืองไทยพร้อมศิลปิน เพื่อความฟินระดับที่ใครๆ ก็อยากได้,ตามติดทุกฝีก้าว เขาเรียกว่า ติ่งจริง,น้องเอ สาวกวงเอ็กโซ เผยว่า แฟนคลับมีด้วยกันหลายแบบ แบ่งออกเป็น,แฟนคลับธรรมดา,ที่เน้นฟังเพลง สนับสนุนด้วยการให้กำลังใจผ่านโซเชียล และซื้ออัลบั้มทั่วไป แฟนคลับประเภทนี้จะไม่ค่อยได้มีโอกาสไปตามศิลปินมากนักจึงเน้นการสะสมของเยอะๆ เมื่อมีโอกาสก็จะไปชมคอนเสิร์ตบ้าง แต่สำหรับเอ ต้องเรียกว่าเป็น,แฟนคลับขั้นสูงสุด, หรือ ,ติ่ง ,ตัวจริง เพราะ ลงทุนบินไปดูคอนเสิร์ตของหนุ่มๆ มาแล้ว 4 รอบ แบ่งเป็นประเทศเกาหลี และ จีน อย่างละ 2 รอบ ส่วนที่ประเทศไทยแน่นอนว่าไม่พลาด มากไปกว่านั้น ติ่งเกาหลีบางคน ซึ่งเป็นส่วนน้อยยัง,ลงทุนจองไฟลท์บินเดียวกับศิลปิน รวมไปถึงรถตู้ตามติดทุกฝีก้าว และจองโรงแรมนอนร่วมชายคาเดียวกัน เพื่อจะได้เห็นมุมที่ศิลปินไม่เคยเปิดเผย,น้องเอ กล่าวต่อว่า เรื่องของไฟลท์บิน และ โรงแรมที่ศิลปินจะมาพัก รู้ได้จากแฟนคลับชาวเกาหลีที่สนิทกัน หรือคนวงใน ซึ่งหมายถึง พนักงานสายการบินที่บางครั้งก็อาจจะแย้มบอกมาบ้างว่าจะมาเวลาไหน วันไหน ส่วนในเรื่องของโรงแรมนั้นจะรู้ได้ง่ายกว่า เพราะส่วนมาก จะมีโรงแรมประจำที่เข้าพักหากศิลปินเคยมาเมืองไทยแล้ว ทำให้แฟนคลับพอจะเดาออกว่า ในครั้งต่อไปจะพักที่ไหน ทำให้สามารถจองได้ล่วงหน้า,ทุบกระปุก เตรียมตัวติ่ง ชอบจริงต้องลงทุน,ชมพู เผยค่าใช้จ่ายอย่างละเอียดให้กับ ทีมข่าวได้ทราบว่า หนึ่งครั้งที่ศิลปินวงโปรดจะเดินทางมาจัดคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย ต้องเตรียมเงินค่อนข้างมาก ซึ่งครั้งนี้เธอมีการเตรียมตัวไว้ตั้งแต่ทางผู้จัดคอนเสิร์ตประกาศกำหนดการออกมา เริ่มตั้งแต่คิดว่าจะไปในราคาบัตรเท่าไร เพื่อที่จะได้เตรียมเก็บออมเงิน โดยส่วนมากบัตรที่ทุกคนอยากได้นั้นก็คือบัตรราคา 4,500 บาท ซึ่งเป็นบัตรยืน และบัตรนั่งราคา 6,000 บาท หากเป็นติ่งตัวจริงแล้วต้องไม่พลาดการดูคอนเสิร์ตทั้ง 2 รอบ, ชมพูพูดขึ้นเมื่อถูกถามถึงเหตุผลว่าทำไมต้องไปคอนเสิร์ตสองรอบ,นอกเหนือไปจากการจองบัตรจากเว็บไซต์ ผู้จัดและเหล่าบรรดาสปอนเซอร์ก็จะมีกิจกรรมมาเรียกน้ำย่อยบรรดาติ่งที่พ่ายแพ้ในสงครามจองบัตร ด้วยการให้ร่วมสนุกเล่นเกมลุ้นรางวัลเป็นบัตรคอนเสิร์ต ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความ หรือซื้อสินค้าต่างๆ เพื่อลุ้นสิทธิ์ในการได้บัตรฟรี แน่นอนว่าเป็นที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ชมพู เผยกับทีมข่าวว่าตนเองก็ได้ร่วมส่งข้อความไปประมาณ 4,500 บาท แต่ก็ยังคงมีแฟนคลับคนอื่นที่ลงทุนร่วมสนุกเป็นจำนวนเงินหลักหมื่นบาท ซึ่งครั้งนี้ก็มีทั้งสมหวังและผิดหวังไปตามๆ กัน,เมื่อผิดหวังจากการจองบัตร และการร่วมเล่นเกม ยังคงมีอีกหนึ่งทางเลือกที่แฟนคลับเงินหนาพร้อมกระโจนเข้าใส่ นั่นคือบัตรอัพราคา ที่ตอนนี้มีการอัพมาถึง 2 หมื่นบาท และดูเหมือนว่าจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วที่ต้องมีการเตรียมเงินเผื่อไว้สัก 2,000-3,000 บาทในยามที่ผิดหวังจากขั้นตอนปกติ แล้วนำมาซื้อบัตรดังกล่าว,โอปป้ามาทีแน่นอนว่า สถานที่สุดฮิตนอกเหนือไปจากอิมแพค อารีน่า คงต้องเป็น สนามบินสุวรรณภูมิ ที่จะมีแฟนคลับทั้งมัธยม มหาวิทยาลัย มาคอยอย่างหนาแน่น แต่ถือว่าธรรมดา เพราะติ่งตัวจริงต้องส่งถึงโรงแรม ด้วยการจองรถตู้ติดตามและโรงแรมที่คาดว่าศิลปินจะไปพัก ค่ารถตู้ต่อคนต่อวันอยู่ที่ประมาณ 300 บาท ค่าโรงแรมหารเฉลี่ยกับเพื่อนแล้วตกคืนละ 1,000 บาท ซึ่งในส่วนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าศิลปินจะพักโรงแรมที่จองจริงๆ หรือไม่,วันคอนเสิร์ตนอกจากเตรียมตัวมากรี๊ดให้กำลังใจกันอย่างสุดเสียงแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ ของสนับสนุนไม่ว่าจะเป็น ผ้าเชียร์ แท่งไฟ โปรเจกต์สร้างความประทับใจ หรือของต่างๆ ที่บรรดาแฟนคลับจะทำขึ้นมา รวมไปถึงของที่ระลึกจากงานคอนเสิร์ตที่เรียกว่า official merchandise ที่บรรดาติ่ง ต่างยื้อแย่งกันสุดฤทธิ์ ถึงแม้สิ่งของที่ซื้อจะเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแต่อย่าดูถูกราคากันเชียว เพราะเมื่อซื้อรวมๆ แล้ว ค่าใช้จ่ายพุ่งสูงถึง 1,500 บาทเลยทีเดียว,ดูเหมือนว่าการไปคอนเสิร์ตศิลปินเกาหลีหนึ่งครั้งคงไม่ใช่แค่ต้องเตรียมเงินไว้ซื้อบัตรอย่างเดียว เพราะถ้าจะเอาให้ได้ใกล้ชิดแบบสุดๆ ก็ต้องลงทุนตามรับตามส่ง และสนับสนุนให้เต็มที่ ซึ่งสรุปเป็นค่าใช้จ่ายขั้นต่ำออกมาคร่าวๆ แล้ว ก็มีมูลค่าเป็นเงิน 21,700 บาท,อดมื้อ กินมื้อ เพื่อบัตรคอน, คงเป็นคำพูดสุดฮิตเมื่อเหล่าบรรดาแฟนคลับเกาหลีเปิดเผยถึงค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้ง และคงเกิดคำถามตามมาเช่นกันว่า เด็กๆ เหล่านี้เอาเงินจากไหนมา น้องเอ และ ชมพู ให้สัมภาษณ์ว่า ,ได้รับเงินจากพ่อแม่จริง แต่โชคดีที่ครอบครัวเข้าใจ เพราะตัวเราเองก็สามารถทำเกรดเฉลี่ยได้ดี และไม่เคยทำให้ท่านผิดหวัง มันเหมือนเป็นรางวัลที่เขาให้มากกว่า, ส่วน ชมพู ใช้วิธีการเก็บออมเงิน จากค่าขนมที่พ่อให้ใช้ในแต่ละอาทิตย์ โดยตั้งเป้าไว้เลยว่าจะเก็บเท่าไร ซึ่งไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับการใช้ชีวิตประจำวันอยู่แล้วและไม่กระทบกระเป๋าเงินพ่อแม่เพิ่มด้วย,คอนเสิร์ตนี้ใช้ใจวัดความคุ้ม, น้องเอบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังเมื่อถูกถามถึงความคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เช่นเดียวกับ ชมพู ที่ให้ความคิดเห็นว่า ในเมื่อสิ่งที่ทำไม่ส่งผลกระทบต่อใคร หรือเป็นเรื่องเสียหาย มันก็เหมือนเป็นการซื้อความสุขให้ตัวเองและก็เป็นความสุขที่คิดว่าคุ้มค่า ครอบครัวเองก็เดินทางคนละครึ่งกับเรา อะไรที่มากไป เขาก็จะเตือน เราเองก็ต้องมีขอบเขตด้วยพอสมควร,มองอีกมุม สิ่งดีๆ ที่ได้จากการติ่ง,นอกจากความสุข คือแรงบันดาลใจ, น้องเอในฐานะที่เรียนอักษรศาสตร์ เอกภาษาเกาหลี เผยว่า การชอบศิลปินเกาหลีเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เลือกเรียนทางด้านนี้ แต่โดยส่วนตัวก็เป็นคนชอบการเรียนภาษาเป็นทุนเดิม แต่เมื่อมาชอบศิลปิน จึงทำให้เริ่มศึกษาอย่างจริงจัง จนตอนนี้ตัวเองรู็สึกว่าการเรียนภาษาเกาหลีสามารถเปิดโอกาสในการทำงานได้และเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจาก ปัจจุบันบริษัทเกาหลีก็เริ่มเข้ามาตีตลาดไทยเยอะ และแน่นอนว่าต้องการคนไทยร่วมงานด้วย,นี่คือมุมมองของสาวกเกาหลี ที่ยอมเสียเงินมากมายเพื่อสิ่งที่เขาคลั่งไคล้คุ้มหรือไม่ คงขึ้นอยู่กับฐานะทางบ้านและความพยายามส่วนตัวของแต่ละคน อย่างไรก็ดี ตอนหน้า ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะตามไปส่องมาตรการของ การ์ด ว่าเข้มงวดจนถึงขั้น เรื่องมาก จนเหล่าติ่งมิอาจสัมผัสแค่ปลายเล็บ จริงหรือไม่? ,หมายเหตุ, : คำว่า โอปป้า หมายถึง พี่ชายในภาษาเกาหลี และเป็นคำที่แฟนคลับมักใช้เรียกศิลปินชาย, คำว่า ติ่ง หมายถึง คำเรียกแทนกลุ่มคน หรือกลุ่มแฟนคลับที่ชื่นชอบ และ คลั่งไคล้ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นอย่างมาก,**ขอบคุณภาพส่วนหนึ่งจาก น้องเอ - เว็บไซต์ exo.smtown.com **,อ่านเพิ่มเติม,ติ่งต้องทำใจ เปิดสาเหตุ ซุปตาร์เกาหลี เข้าถึงยาก-บัตรแสนแพง | เดือนนี้ เรียกได้ว่า สนามบินแทบแตก เมื่อบรรดาเหล่าโอปป้า และสาวๆ จากแดนกิมจิ บินตรงมาทำกิจกรรม พร้อมเปิดคอนเสิร์ตที่เมืองไทยกันอย่างหนาแน่น ไม่ว่าจะเป็น บอยแบนด์ชื่อดังอย่าง วง EXO | null | ติ่ง,EXO,Girl generation,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,แฟนคลับเกาหลี,แฟนคลับ,ชีวิตแฟนคลับ,เกาหลี,ตั๋วผี,ค่าใช้จ่าย,ข่าว,ไทยรัฐ,exo'luxion in bkk,ตาม EXO,โอปป้า | https://www.thairath.co.th/content/506019 |
เผยบิ๊กป้อม เป็นห่วงสถานการณ์ไฟใต้ ผบ.ตร.ลั่นยังควบคุมได้ | เมื่อวันที่ 30 พ.ค.62 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กล่าวถึงเหตุการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ว่า ขณะนี้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ โดยเปรียบเทียบจากช่วงถือศีลอด หรือรอมฎอน ในปี 2561 เกิดเหตุประมาณ 40 ครั้ง แต่ในปีนี้มีเหตุลดลงเหลือประมาณ 8 ครั้ง โดยเหตุการณ์ระเบิดครั้งล่าสุดในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา เชื่อว่าไม่ใช่การสร้างสถานการณ์ เป็นการหวังผล เพราะมีคนบาดเจ็บและเสียชีวิต,ขณะนี้ทราบเบาะแสของผู้ก่อเหตุแล้ว มีทั้งกลุ่มคนร้ายเดิมและกลุ่มใหม่ ที่ผ่านมาตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองมีมาตรการในการดูแลประชาชนมาโดยตลอด แต่บางช่วงเป็นจังหวะที่คนร้ายฉวยโอกาสก่อเหตุความวุ่นวาย อย่างไรก็ตามมาตรการในการดำเนินการนั้น เป็นไปตามแผนทุกครั้ง เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ตนได้ลงไปเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้เป็นประธานในงานศพของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเป็นห่วงถึงเหตุการณ์ในพื้นที่ชายแดนใต้.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง, :,The Invisible Loss - 15 ปีไฟใต้ ความสูญเสียที่มองไม่เห็น,THE INVISIBLE LOSS : EP.1 กำพร้า ซึมเศร้า 15 ปี ไฟใต้ไม่เคยมอดดับ (คลิป),โจรใต้ยิงพ่อเราปางตาย ทิ้งบ้านย้ายหนี เปิดใจดวงร้าว อดีตสาวยะลา,ให้งดบิณฑบาต 3 จังหวัดชายแดนใต้ หลังเกิดเหตุฆ่าพระในนราธิวาส | จักรทิพย์ ชี้สถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ ขณะนี้ทราบเบาะแสของผู้ก่อเหตุแล้ว
| ข่าว,อาชญากรรม | สถานการณ์ไฟใต้,บิ๊กป้อม,ผบ.ตร.,ระเบิดภาคใต้,3 จังหวัดชายแดนภาคใต้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1580408 |
หน้าฝนเสี่ยงงูเข้าบ้าน พบคนถูกงูพิษกัดในไทยพุ่งสูง | วันนี้ (28 มิ.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บางเขน เข้าจับงูเห่าในบ้านที่อาศัยหลังติดๆ กัน ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุแจ้งงูพิษเข้าบ้านในเขตเมือง ย่านที่อยู่อาศัยที่เกิดขึ้นถี่ช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมาธรรมชาติของสัตว์เลื้อนคลานที่ขยายพันธุ์ได้เร็ว โดยงู 1 ตัว ออกไข่ปีละครั้ง ครั้งละ 20-30 ฟอง ขณะที่การขยายตัวของเมืองและสิ่งปลูกสร้างที่ไปทับโพรง หรือแหล่งที่งูเคยอาศัย โดยเฉพาะพื้นที่เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่เดิมเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ยังเป็นอีกปัจจัยที่เจ้าหน้าที่ระบุว่า ทำให้งูและสัตว์เลื้อยคลานอื่นเข้ามาหลบซ่อนตัว หนีน้ำและหาความอบอุ่นให้ร่างกาย อาศัยตามท่อ มุมอับชื้นตามบ้านเรือนที่ง่ายต่อการหาอาหารและขยายพันธุ์ก่อนหน้านี้มีหลายเหตุการณ์ที่งูรุกเข้าพื้นที่ปลดทุกข์ เช่น เหตุการณ์ที่งูเห่า ความยาวกว่า 1.5 เมตร เข้ามาอยู่ในห้องน้ำภายในบ้าน และยังมีกรณีอื่นๆ ที่งูเคยเข้าไปอยู่ในคอห่านจากสถิติของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร พบว่า 5 เขตที่จับงูได้มากที่สุดคือ เขตบางเขน จตุจักร สวนหลวง บางขุนเทียน และเขตบึงกุ่ม โดยงูที่พบมากที่สุดคือ งูเหลือม งูเห่า งูเขียวพระอินทร์ และงูทางมะพร้าวคนถูกงูพิษกัดในไทยสูงเฉลี่ยปีละ 6155 คนความเจ็บป่วย หรือพิการจากการถูกตัดอวัยวะและเสียชีวิตจากเหตุงูพิษกัด ยังคงเป็นปัญหาทางสาธารณสุขของทั่วโลก เพราะแต่ละปีมีคนถูกงูพิษกัดประมาณ 2.7 ล้านคน เสียชีวิต 81000 - 138000 คน ส่วนหนึ่งในความสูญเสียนั้นเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยซึ่งจากรายงานระบาดวิทยาของกรมความคุมโรค ที่ระบุถึงอัตราความชุกของคนถูกงูพิษกัดในประเทศไทย พบว่าในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาแนวโน้มคนที่ถูกงูพิษกัดลดลงเรื่อยๆ อย่างในปี 2549 อยู่ที่อัตรา 13.25 ต่อประชากรแสนคน ลดลงมาอยู่ที่ 7.06 ต่อประชากรแสนคนในปี 2558ในทางกลับกัน ตัวเลขคนถูกงูพิษกัดแต่ละปียังคงมีค่าเฉลี่ยสูงถึง 6155 คน ส่วนใหญ่ถูกกัดในช่วงฤดูฝนต่อเนื่องถึงฤดูหนาว ที่เป็นช่วงทำงานเก็บเกี่ยวผลผลิตของเกษตรกร แต่อย่างไรก็ตามคนที่อยู่ในเขตเมือง แหล่งชุมชนก็ประมาทไม่ได้จากสถานการณ์งูพิษกัด ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดในที่ที่หลายคนคิดว่าปลอดภัยที่สุดอย่างในบ้านแพทย์ย้ำให้เซรุ่มต้านพิษงูตามจำเป็นหากถูกงูพิษกัดจะมีอาการปวดบวมรอบแผล หรือมีเลือดออกจากแผล คือข้อบ่งชี้สำคัญที่จะช่วยให้แพทย์ระบุได้ว่างูที่กัดมีพิษต่อระบบโลหิต ซึ่งพบในงูแมวเซา งูกะปะและงูเขียวหางไหม้ ที่พบมากที่สุดในประเทศไทย ขณะที่งูทีมีพิษต่อระบบประสาทคือ งูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยมและงูทับสมิงคลา จะทำให้คนที่ถูกกัดกล้ามเนื้ออ่อนแรง หนังตาตก จนถึงขั้นทำให้หยุดหายใจหากประชาชนถูกงูพิษกัด แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพิษวิทยาคลินิก ระบุว่า ควรล้างแผลด้วยน้ำสะอาดเท่านั้น ห้ามกรีด ดูดแผล และห้ามทำการขันชะเนาะ เพราะจะทำให้เกิดภาวะเนื้อตายจากการขาดเลือด บวมและเลือดออกที่แผลมากขึ้น จากนั้นรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลแม้ปัจจุบัน สถานเสาวภา สภากาชาดไทย สามารถผลิตเซรุ่มต้านพิษงูได้ครอบคลุม ทั้งงูพิษที่มีผลต่อระบบประสาทและระบบโลหิต แต่แพทย์จะใช้เมื่อมีข้อบ่งชี้จำเป็นต้องให้เท่านั้นและถึงไม่มีวิธีใดบ่งบอกได้ว่าผู้ป่วยจะแพ้เซรุ่มหรือไม่ แต่ผลการศึกษาทางการแพทย์ก็พบว่าอาการแพ้เซรุ่มต้านพิษงูอย่างมีผื่น บวม เกิดขึ้นน้อยมาก ประมาณร้อยละ 5 และไม่เคยมีผู้ป่วยเสียชีวิตจากอาการแพ้ ซึ่งแพทย์สามารถหยุดการให้เซรุ่มและให้ผู้ป่วยรับประทานยาแก้แพ้จนอาการดีขึ้นได้ หรืออาจให้เซรุ่มต่อทั้งนี้ เซรุ่มต้านพิษงูอาจไม่ได้มีเก็บสำรองไว้ใช้อยู่ในทุกโรงพยาบาล แต่เซรุ่มต้านพิษงูทุกชนิดที่สถานเสาวภาผลิตได้ก็มีเพียงพอที่จะกระจายส่งต่อไปยังสถานพยาบาลในพื้นที่ในเวลาฉุกเฉินจำเป็น | ช่วงฤดูฝนมีเหตุรับแจ้งเจองูตามบ้านเรือนมากขึ้น ช่วง 4-5 ปีมานี้เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยต้องช่วยจับงูที่เข้าบ้านเรือนประชาชนปีละไม่ต่ำกว่า 20000 ตัว หรือเฉลี่ยวันละ 100-140 ตัวและพบว่าเป็นงูพิษเพิ่มมากขึ้น | สังคม | งูเข้าบ้าน,จับงู,งูพิษ,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/281247 |
ทูลเกล้าฯยกเลิกอัยการศึกรอใช้คําสั่งม.44 บิ๊กตู่แจงเน้นความมั่นคง | เปิดช่องให้สู้3ศาลทหารปรามกมธ.ยกร่างหยุดจ้อ,บิ๊กตู่ ทูลเกล้าฯยกเลิกกฎอัยการศึก หันมาใช้ ม.44 แทน เผยเนื้อหาเน้นคุมสถานการณ์ ด้านความมั่นคง เพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่ตรวจค้น-จับกุม-สอบสวน แต่เปิดช่องให้สู้ในชั้นศาล ทหารได้ 3 ศาล บ่นพึมกลัวอะไร,นักหนาถ้าไม่ผิด มึนสื่อออสซี่ยังไม่เข้าใจประชาธิปไตยแบบไทยๆ ส่งภาษามือย้ำไทยติดกระดุมผิดเม็ดมานาน ลั่น ผมนี่แหละประชาธิปไตย วิษณุ ขออย่าระแวง รัฐใช้ยาแรง ออกตัว ม.44 ไม่ใช่เสือไม่ใช่จระเข้ บิ๊ก โชย ประเมินคลื่นลมยังนิ่ง พท.ห่วงยิ่งฉุดเศรษฐกิจทรุด กมธ.ยกร่างฯยอมกำหนดโควตาสตรีลงปาร์ตี้ลิสต์ กลับลำนายกฯแพ้ซักฟอกไปคนเดียว สภาฯยังคงอยู่ ประยุทธ์ สั่งชุดยกร่างฯเลิกพล่ามทำคนไขว้เขว สนช.ตั้งแท่นสอย บุญทรง พร้อมก๊วนโกงข้าวจีทูจี,หลังฝ่ายต่างๆออกมาวิพากษ์วิจารณ์การใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 44 แทนกฎอัยการศึก ว่าเป็นการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ยืนยันนำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อยกเลิกกฎอัยการศึกแล้ว,เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 31 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยขณะที่นายกฯเดินไปที่โพเดียมเพื่อแถลงข่าว น.ส.ซาแมนตา ฮอว์ลี ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเอบีซี ออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย ได้ตั้งคำถามเป็นภาษาอังกฤษสอบถามถึงข้อห่วงใยในสังคมโลก ว่าการร่างรัฐธรรมนูญของไทยขณะนี้จะไม่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์เดินลงจากโพเดียมมาฟังคำถามใกล้ๆ ก่อนย้อนถามกลับว่า ประชาธิปไตยในมุมมองของคุณคืออะไร คือการมีเสรีภาพ แต่วันนี้การไปไหนมาไหนตนก็ไม่ห้าม ก่อนพยายามอธิบายเป็นภาษาอังกฤษถึงความล้มเหลวในระบอบประชาธิปไตยของไทยในช่วงที่ผ่านมา และอธิบายด้วยสัญลักษณ์มือ โดยทำท่าปลดกระดุมเสื้อ เพื่อเปรียบเทียบว่าประชาธิปไตยไทยเหมือนเป็นการติดกระดุมเสื้อผิดเม็ด,จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เดินกลับไปที่โพเดียมและกล่าวว่า จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งข้อมูลไปชี้แจง ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่แบบนี้ และให้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ว่ายังไม่ต้องเอาร่างที่กำลังร่างออกมาพูด เพราะตนยังไม่ได้ดูเป็นเรื่องเป็นราว หลังจากนี้ต้องไปร่วมประชุมกับ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาการสร้างการรับรู้กลับสร้างความเข้าใจผิด อย่างออสเตรเลียก็ไม่เข้าใจแล้ว เพราะบ้านเขาไม่เคยเกิดสถานการณ์แบบบ้านเรา ไม่เคยมีการประท้วงรัฐบาลและใช้อาวุธมายิงต่อสู้กัน,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องช่วยกันอธิบายให้เขาเข้าใจ อย่ามาพูดคำว่า Freedom อย่างเดียวหรือ Democracy ผมนี่แหละ Democracy ไม่เช่นนั้นวันนี้พวกท่านจะมานั่งอย่างนี้ไม่ได้ ก็เห็นชัดเจนมีการไล่ยิงกันอยู่ที่ศาลอาญา จะไปอุปโลกน์ใครและจับกุมได้ ไม่เคยฟังข้อเท็จจริง กล่าวหาว่าเป็นการสร้างสถานการณ์จะสร้างถึงขนาดไปยิงขากันเลยหรือ โธ่ มันจะบ้าหรือเปล่า ขอให้เข้าใจกันบ้าง เจ้าหน้าที่เหน็ดเหนื่อยแล้ว วันนี้จะมานั่งกังวลเรื่องกฎหมายอีก ถ้าไม่ทำความผิดจะมากังวลอะไร รัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 44 มีอำนาจเหนือสิ่งอื่นใดแสดงว่าเป็นเผด็จการ ยืนยันว่าจะใช้อย่างสร้างสรรค์ส่วนหนึ่ง อีกส่วนใช้กับปัญหาความมั่นคง ถ้ามีการเอาปืนมายิงกันอีก เกิดความวุ่นวาย ผมก็ต้องจับมัน จับมาทันที เราจะใช้กฎหมายแบบนี้ไม่เช่นนั้นก็ต้องไปรอหมายศาล ต้องช่วยกันอธิบาย เดี๋ยวต่างชาติจะไม่เข้าใจหาว่าผมบ้าอำนาจ,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ได้พบนายโทนี แอบบ็อตต์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ที่สิงคโปร์ซึ่งต้องการให้ประเทศไทยกลับคืนสู่ประชาธิปไตยโดยเร็ว ก็บอกไปว่ากำลังเดินตามโรดแม็ปและต้องการสร้างประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่เป็นที่ยอมรับของสากล สำหรับมาตรา 44 บัญญัติไว้ว่า มีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่เกินกว่าเหตุ ไม่รู้จะกลัวอะไรกันอยู่ได้ กลัวกันเกินกว่าเหตุ เมื่อถามว่าคำสั่ง คสช.ฉบับใหม่ โดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 44 จะใช้เมื่อไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่าเร็วๆนี้ คำสั่งร่างเสร็จนานแล้ว,รอเวลาเพียงว่าจะประกาศออกมาเมื่อไหร่,เมื่อถามว่า นำขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อยกเลิกกฎอัยการศึกไปแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ได้ทูลเกล้าฯไปตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว ขึ้นอยู่ว่าจะมีการโปรดเกล้าฯลงมาเมื่อไหร่ ส่วนประกาศ คสช.ฉบับใหม่ โดยอาศัยรัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 44 ตนสามารถประกาศได้เอง จะมีเนื้อหาประมาณ 5-6 ข้อ เกี่ยวกับเรื่องความมั่นคง การใช้กำลังทหารเข้าไปทำงานได้เท่านั้น เป็นการไปช่วยงานข้าราชการต่างๆ ตำรวจก็ยังใช้กฎหมายปกติ เพียงแต่เราจะเพิ่มอำนาจในการตรวจค้นจับกุมร่วมกัน และร่วมกันสอบสวนได้บ้าง และในการควบคุมตัวของพนักงานสอบสวนจะไม่ใช้ที่ห้องขัง เพราะถือว่าเป็นเพียงผู้ต้องหา ในเรื่องของศาลทหารจะมีเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับคดีด้านความมั่นคง และตามคำสั่ง คสช.ฉบับใหม่ และจะไม่ใช้แค่ศาลเดียว แต่เป็นศาลทหารที่มี 3 ศาล ไม่ต้องมานั่งกลัว ไม่รู้จะกลัวกันไปทำไมถ้ามันไม่ผิด ขอให้ไปช่วยกันบอกด้วย,ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายความว่าศาลทหารตามคำสั่ง คสช.ฉบับใหม่ จะคล้ายกับศาลยุติธรรมปกติใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า 1.เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น สามารถจับกุมได้ทันที โดยไม่ต้อง ไปขอหมายศาล เหมือนเช่นสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่เช่นนั้นคงหนีกันจนจับไม่ได้ 2.เมื่อจับมาแล้วก็จะดำเนินการสอบสวนที่ไม่ใช่สถานีตำรวจหรือห้องขัง เพราะถือว่าเป็นแค่ผู้ต้องหา หรือผู้ต้องสงสัย ทหารก็จะไปซักร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและถ้าอันไหนที่ผิดตามคดีที่มีการกำหนดไว้ว่าอย่าทำ มีการไปละเมิดก็จะต้องขึ้นศาลทหาร อะไรที่ผิดกฎหมายปกติก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายปกติ ดังนั้น ใครที่ขึ้นศาลทหารก็ไม่ต้องกลัวเพราะจะมีถึง 3 ศาล ส่วนรายละเอียดต้องถามนายวิษณุ เครืองาม รองนายก-รัฐมนตรี ตนสั่งการไปแล้วว่าควรจะเขียนออกมาอย่างไร,เมื่อถามว่า อำนาจการจับกุมคุมขังตามคำสั่งคสช.ฉบับใหม่ จะยังอยู่ในกรอบ 7 วันใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า 7 วันเท่าเดิม แต่มีเขียนไว้ว่าหากควบคุมตัวไว้แล้วสามารถพูดคุยกันเรียบร้อยเข้าใจกัน ก็สามารถปล่อยตัวได้ทันทีโดยไม่มีคดี เว้นแต่หากมีการใช้อาวุธสงคราม เราปล่อยไม่ได้ ไม่มีการขยายเวลาจาก 7 วันเป็น 14 วัน 7 วันก็เปลืองข้าวจะตายอยู่แล้ว ไม่อยากจะกักขังสักวัน ยืนยันอีกครั้งว่าทหารไม่เคยทำร้ายประชาชน และตนก็เป็นทหารถ้าคิดจะทำร้ายประชาชน คงไม่ออกมาช่วย ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้ง ไม่ว่าจะเขตหรือสีไหนไปช่วยหมด เมื่อถามว่า การใช้มาตรา 44 ในมุมมองต่างชาติจะดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า สื่อต้องช่วยกันอธิบาย ชีวิตวันนี้ผมก็รับผิดชอบอยู่แล้ว ลูกเมียก็เดือดร้อน แต่ทำไมผมถึงยังต้องทำ แล้วทำไมสื่อไม่ไปโจมตีรัฐบาลที่แล้วว่าทำอะไรกันมาบ้าง ยืนยันว่าสิ่งที่ตนพูดวันนี้ไม่ได้ซีเรียส ยังสามารถยิ้มได้อยู่,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังให้สัมภาษณ์เสร็จ พล.อ.ประยุทธ์ยังเดินมาอธิบาย น.ส.ซาแมนต้า ฮอว์ลี่ อีกรอบ พร้อมกับขอร้องให้สื่อไทยและนักข่าวต่างประเทศช่วยอธิบายด้วย,นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรา 44 เป็นมาตราที่กว้าง พอถึงเวลาต้องลงไปสั่งอีกทีว่าจะสั่งว่าอะไร สมัยก่อนมีการสั่งยิงเป้า แต่สมัยนี้สั่งในทางสร้างสรรค์ เราเขียนลงไปว่ามาตรา 44 เอามาใช้เพื่อ 1.ความปรองดอง 2.ใช้รักษาความสงบเรียบร้อย 3.แก้ไขปัญหาความขัดแย้งในสังคม 4.เร่งรัดการปฏิรูป 5.ระงับยับยั้ง ป้องกันปราบปราม ซึ่งตรงนี้เป็นอันเดียวที่ใช้ในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อคนไม่ค่อยวางใจกฎอัยการศึก ไม่ว่าจะรุนแรงหรือไม่รุนแรง นำมาสู่การคิดต้องทบทวนแล้ว อย่าระแวงว่าจะกำหนดมาตรการใหม่แย่ไปกว่ากฎอัยการศึก เป็นไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะเลิกทำไม มีมาตรการรองรับที่เบากว่า อยู่ในระดับเดียวกับ พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร และ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และไม่รุนแรงไปกว่า 2 ฉบับนี้,นายวิษณุกล่าวต่อว่า ส่วนทำไมไม่ใช้กฎหมาย 2 ฉบับนี้เลย เพราะมีบางเรื่องที่กฎหมาย 2 ฉบับนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ไม่ครอบคลุม แต่ไม่มีอะไรที่ติงไว้ว่าเอาอำนาจพิเศษมาเล่นงานประชาชน แต่ต้องการช่วยเหลือและเยียวยาประชาชน ซึ่งกฎหมาย 2 ฉบับนี้ไม่มีมาตรการเยียวยา และบรรเทาความเสียหายที่เกิดมาแล้ว เพราะมาตรการเยียวยาไม่ต้องไปรอเสนอกฎหมายเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งใช้เวลาหลายเดือน แต่เราผนวกเข้าไปเลยในเรื่องเดียวกัน ซึ่งต้องพึ่งอำนาจพิเศษมาตรา 44 เมื่อถามว่าจะเป็นการหนีเสือปะจระเข้หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่หนีเสือปะจระเข้ แต่จะเจอตัวอื่นหรือเปล่าไม่รู้ ไม่ใช่เสือไม่ใช่จระเข้,พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปรารภในที่ประชุม ครม.ว่า ต่างประเทศเป็นกังวลต่อคำว่ากฎอัยการศึก ซึ่งในบ้านเราทุกคนเข้าใจว่าไม่ได้นำมาใช้ทุกมาตรา ใช้แค่ให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ แต่ต่างประเทศไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ดังนั้นเพื่อให้สังคมและต่างประเทศสบายใจ จึงหาแนวทางการใช้อำนาจคสช.ตามมาตรา 44 มากำหนดเป็นกฎหมายเพื่อดำเนินการเฉพาะเรื่อง ทำให้บรรยากาศโดยรวมดูดีขึ้น,ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) กล่าวว่า กกล.รส. มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ถ้ามีกฎหมายใดให้บังคับใช้ก็ต้องยึดหลักตามนั้น รวมถึงยึดหลักสิทธิมนุษยชน ฉะนั้นเครื่องมือที่มีก็จะยึดถือตามนั้น ส่วนมาตรา 44 จะเป็นเครื่องมือที่เหมาะกับสังคมไทยหรือไม่นั้น ขณะนี้กำลังวิเคราะห์กันอยู่ เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาโดยเฉพาะนายกฯที่ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าการใช้มาตรา 44 เพื่อป้องกันกลุ่มต่อต้าน คสช.หรือไม่ พล.ท.กัมปนาทตอบว่า เราประเมินสถานการณ์ทุกวันพบว่ามีความเรียบร้อยดี ยังไม่มีอะไรหนักใจ เราทราบความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด,พล.ท.กัมปนาทกล่าวว่า ส่วนข้อกังขาที่ว่ามาตรา 44 รุนแรงเกินไปหรือไม่นั้น คิดว่านิสัยคนไทยมีความโอบอ้อมอารี ไม่ชอบความรุนแรง เชื่อว่าทุกคนรักบ้านเมือง ต้องการเห็นบ้านเมืองสงบสุข ดังนั้นการดำเนินการจะเน้นย้ำผู้ใต้บังคับบัญชาเสมอ ห้ามใช้ความรุนแรงที่นอกเหนือกฎหมาย ส่วนการแสดงความคิดเห็นในสื่อโซเชียลมีเดีย ก็เน้นย้ำให้พูดคุยสร้างความเข้าใจเป็นหลัก ต้องเข้าไปตรวจสอบว่าใครเป็นคนโพสต์ข้อมูลนั้น เพื่อหาดูต้นตอแล้วพูดคุยทำความเข้าใจกัน ส่วนการเรียกตัวมาปรับทัศนคติจะไม่มีแล้ว จะใช้การพูดคุยกันแทน เวลาผมพูดกับใครต้องให้ความจริงใจต่อกัน ใช้รูปแบบ,พูดคุยสองแนวทาง คือ เราไปหาเขาบ้าง กับเขามาหาเราบ้าง ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะไม่ไปที่บ้าน เพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัวอยู่นอกเหนือกฎหมายและเป็นกระแสสังคมที่อ้างไปเอง,นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ใช้กฎหมายเพื่อเเก้ไขปัญหาให้เกิดความสงบเรียบร้อย นายกฯพิจารณาอย่างรอบคอบในการใช้กฎหมายให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด ต้องมองในทุกมิติ บางพวกอาจมองว่ามีกฎหมายเเบบนี้อาจไปละเมิดจำกัดสิทธิ กฎหมายทุกฉบับเเม้กระทั่งกฎหมายจราจรก็จำกัดสิทธิทั้งนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับในเเนวทาง และนายกฯจะไปใช้อำนาจเพื่ออะไร การทุจริตประพฤติไม่ชอบก็ไม่มี มีเเต่ทำงานหนัก เพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า คือสิ่งสำคัญที่สุด นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า การใช้อำนาจตามมาตรา 44 ถือเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว,ด้าน น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่รัฐบาลนำรัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 44 มาใช้แทนกฎอัยการศึก เพราะเห็นแล้วว่ากฎอัยการศึกมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมาก แต่การนำมาตรา 44 มาใช้อาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจหนักยิ่งกว่า จึงอยากให้ศึกษาผลกระทบให้ดี หากเศรษฐกิจเสียหายเพิ่มจะยิ่งแก้ไขยากขึ้น ทางออกดีที่สุดคือทำให้ประเทศไทยกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยเร่งด่วน เพื่อดึงความมั่นใจจากต่างประเทศกลับมา และขอให้ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับนายกฯ เพราะข้อเท็จจริงคือเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาไม่ได้ตกต่ำเลย แต่ขยายตัวอย่างดีกว่า 3% จึงทำให้การส่งออกของไทยไปสหรัฐฯเพิ่มขึ้นทั้งเดือน ม.ค. และ ก.พ. ไม่ได้ลดลงเหมือนส่งออกไปจีนที่ติดลบทั้งสองเดือน ส่วนโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาลชุดก่อนนั้น รัฐนำภาษีสรรพสามิตที่ได้รับจากการขายรถยนต์คืนให้กับประชาชนผู้ซื้อ อีกทั้งรัฐยังได้ภาษี VAT ด้วย ไม่ได้ควักเงินงบประมาณของรัฐออกมาจ่าย,นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวว่า การยกเลิกกฎอัยการศึกถือว่าถูกต้อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ชาวต่างชาติ ที่สำคัญสามารถลดการผูกโยงการประกันความเสี่ยงในการท่องเที่ยว แต่จากนี้ไปจะใช้กฎหมายฉบับไหน มาตราใด มันไม่น่ากลัวถ้าเราไม่กระทำผิด ส่วนตัวเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ใช้กฎหมายนี้ไปในทางมิชอบ ไม่ถูกต้องหรือแกล้งฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล แต่ไม่แน่ใจสำหรับคนรอบข้างนายกฯ ใครจะมั่นใจในเมื่อมาตราดังกล่าวเปรียบดังอาวุธปืนร้ายแรง หากไม่เอามาใช้ยิงมันก็ไม่อันตราย ไม่น่ากลัว เพราะเอาไว้ใช้ทั้งป้องกันตัวและทรัพย์สินได้อย่างน่าเกรงขาม แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่าถ้าคนใดคนหนึ่งหยิบมาใช้โดยไม่มีใจที่เที่ยงธรรม มีคุณธรรมดีพอ คนดีๆอาจถูกให้ร้ายหรือทำร้ายเอาได้หรือไม่ เพราะเป็นกฎหมายที่หัวหน้า คสช.ชงเอง กินเอง,นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวถึงมติคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ให้พีชทีวีและทีวี 24 งดออกอากาศ 7 วัน เนื่องจากขัดต่อประกาศ คสช.ว่า โทรทัศน์ดาวเทียมการเมืองทุกช่อง มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์การเมืองในแง่มุมต่างๆ ระดับความเข้มข้นแทบไม่แตกต่างกัน เทียบกันแล้วบางช่องยังดุเดือดร้อนแรงกว่าด้วยซ้ำ แต่กลับมีคำสั่งเฉพาะ 2 ช่องให้ยุติการออกอากาศเท่านั้น เข้าใจว่า กสท.ก็คงถูกกดดัน ถือเป็นอีกสัญญาณหนึ่งว่าฝ่ายรัฐเลือกที่จะใช้อำนาจจัดการทุกอย่างแทน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ถ้าผู้มีอำนาจไม่สามารถสร้างความยอมรับ หรือความเชื่อมั่นจากประชาชนได้ด้วยการบริหาร ก็จะกลับมาใช้กำลังเพื่อควบคุมปฏิกิริยาต่างๆ ที่จะมีผลต่อเสถียรภาพของรัฐเท่านั้น ทั้งที่ผ่านมาเราไม่ได้ไปปลุกปั่นยุยง หรือทำอะไรที่เป็นการเคลื่อนไหวใต้ดินหรือคลื่นใต้น้ำอะไร อย่างไรก็ตาม ทางทีมงานของทั้ง 2 ช่อง จะใช้ช่วงเวลาที่ยุติการออกอากาศ สรุปแนวทางการดำเนินงานที่ผ่านมา และกำหนดยุทธศาสตร์ต่อไป,วันเดียวกันเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวชี้แจงเจตนารมณ์กระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญ และการเดินสายรับฟังความคิดเห็นประชาชน 4 ภาค ต่อสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) 77 จังหวัด ว่า การยกร่างทั้ง 315 มาตรายังไม่นิ่ง ยังมีความเห็นต่างหลายประเด็น อาทิ คุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส. จึงอยากให้การจัดเวทีรับฟังความเห็นของ สปช. และ กมธ.ยกร่างฯ ทำแบบสอบถามความคิดเห็นประชาชนในคำถามลักษณะเดียวกัน และอยากให้ สปช.จังหวัด เข้ามามีส่วนร่วมทุกเวที ส่วนการจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ทำได้เพียงเตรียมความพร้อมไว้ก่อน ยังไม่สามารถเสนอได้จนกว่ารัฐธรรมนูญจะมีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ได้ทำหนังสือถึงนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. และนายพรเพชร วิชิต-ชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า กมธ.ยกร่างฯพร้อมเปิดให้สมาชิกทั้ง 2 สภาเข้าร่วมเป็นอนุกรรมาธิการจัดทำร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ แต่กฎหมายบางฉบับ กมธ.ยกร่างฯอาจต้องดำเนินการเอง อย่างไรก็ตาม คาดว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะนำไปสู่การทำประชามติ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ,ต่อมามีการประชุม กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยก่อนประชุมตัวแทนเครือข่ายองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนของผู้หญิง เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อนายบวรศักดิ์ขอให้มีการกำหนดสัดส่วนผู้หญิงต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองไว้ในรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดความเสมอภาคที่แท้จริง จากนั้น นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธานการประชุม กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาทบทวนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญรายมาตราที่ยังไม่ได้ข้อยุติ โดยเฉพาะมาตราที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ มีประเด็นที่น่าสนใจ คือ เรื่องการกำหนดสัดส่วนเพศตรงข้าม ในผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และมาตราที่กำหนดสัดส่วนสตรีในการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสภาท้องถิ่น ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 โดยนายบวรศักดิ์ชี้แจงว่า ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ กมธ.ยกร่างฯจะขอประชุมเป็นการภายใน เพื่อเร่งพิจารณามาตราที่ยังไม่ได้ข้อยุติให้แล้วเสร็จโดยเร็ว หากภายในสัปดาห์นี้ยังไม่แล้วเสร็จ อาจต้องนัด กมธ.ยกร่างฯประชุมต่อสัปดาห์หน้า,กสม.ชงสัดส่วนหญิง-ชายเท่าเทียม,นางวิสา เบ็ญจะมโน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในฐานะประธานอนุกรรมการปฏิบัติการยุทธศาสตร์ด้านสิทธิเด็ก สตรีและความเสมอภาคของบุคคล กล่าวว่า คณะอนุกรรมการปฏิบัติการยุทธศาสตร์ด้านสิทธิเด็ก สตรี และความเสมอภาคของบุคคล เสนอให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และคณะ กมธ.ยกร่างฯ พิจารณา 1.คงหลักการความเสมอภาคของหญิงและชาย ตามนัยมาตรา 30 และมาตรา 80 ของรัฐธรรมนูญ 2550 และ 2.ให้มีการกำหนดสัดส่วนการมีส่วนร่วมทางการเมืองของสตรี ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ไว้ในรัฐธรรมนูญ ด้วย การกำหนดให้มีระบบโควตาหรือสัดส่วนของสตรี,ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เป็นห่วงเวทีประชาพิจารณ์ ที่ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญจัดรับฟังความเห็นประชาชน จะทำให้เกิดความขัดแย้งในมุมมองการร่างรัฐธรรมนูญ หมายถึงพอ กมธ.ยกร่างฯไปตั้งเวทีประชาพิจารณ์ จะต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความขัดแย้งหรือโต้แย้งเกิดขึ้น ถ้าเป็นไปได้ควรจัดเวทีรูปแบบอื่นดีกว่า ซึ่งตนจะไปพูดคุยกับ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญตามที่ประชุม ครม.มอบหมายให้ประสาน เวลานี้ร่างรัฐธรรมนูญเสร็จไปหมดแล้ว เข้าสู่ที่ประชุม สปช.เพื่อแปรญัตติแล้ว ฉะนั้น ช่วงเวลาจากนี้ไป การแสดงความคิดเห็นอะไรต้องระมัดระวัง ซึ่งยังไม่มีการพูดทางออกว่าจะมีการทำประชามติหรือไม่,จากนั้นเวลา 16.30 น. น.ส.สุภัทรา นาคะผิว โฆษก กมธ.ยกร่างฯ แถลงความคืบหน้าการประชุม กมธ.ยกร่างฯว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องที่ค้างอยู่ ผ่านไปแล้ว 10 ประเด็น เรื่องที่สำคัญคือ เรื่องการกำหนดสัดส่วนสตรี ในมาตรา 76 ว่าด้วยการกำหนดสัดส่วนเพศตรงข้ามในบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.โดยผลโหวตจากที่ลงคะแนนลับ เห็นด้วย 17 เสียง ไม่เห็นด้วย 15 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง ทำให้การส่งผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคในทุกภาคจะต้องมีสัดส่วนเพศตรงข้ามไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ส่วนมาตรา 212 ที่กำหนดให้มีสัดส่วนสตรีในการเมืองระดับท้องถิ่น ที่ประชุมส่วนใหญ่เพราะเห็นว่าเป็นปัญหาในทางปฏิบัติจึงตัดมาตรานี้ออก,น.ส.สุภัทรากล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มาตรา 166 ได้ปรับถ้อยคำตัดวรรคท้ายออกไป จากเดิมที่กำหนดว่ากรณีที่นายกรัฐมนตรีถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ และผลออกมาว่าไม่ไว้วางใจ นายกฯต้องออกจากตำแหน่งและสภาผู้แทนราษฎรต้องสิ้นสุดลงไปด้วย กมธ.ยกร่างฯเขียนใหม่ว่า หากนายกฯถูกอภิปรายและลงมติว่าไม่ไว้วางใจให้นายกฯออกจากตำแหน่ง แต่สภาผู้แทนราษฎรไม่ต้องสิ้นสุดไปด้วย ยังคงทำหน้าที่ต่อไป และให้บุคคลที่ฝ่ายค้านเสนอชื่อเป็นนายกฯแนบท้ายญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นนายกฯแทน นอกจากนี้ยังแก้ไขคุณสมบัติของรัฐมนตรี โดยกำหนดให้บุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรีต้องไม่เคยจำคุก เว้นแต่เป็นความผิดที่กระทำโดยความประมาท ความผิดลหุโทษ และหมิ่นประมาท โดยต้องพ้นโทษมาแล้วห้าปีก่อนได้รับการแต่งตั้ง,ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มีนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสปช. เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณารายงานของคณะ กมธ.ปฏิรูปเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง การงบประมาณ ในวาระการจัดตั้งสถาบันวิเคราะห์งบประมาณประจำรัฐสภา โดยนายสมชัย ฤชุพันธ์ ประธานฯ รายงานว่า กระบวนการงบประมาณของประเทศกำหนดให้การใช้จ่ายเงินแผ่นดินต้องเป็นกฎหมายงบประมาณ ต้องผ่านการอนุมัติจากรัฐสภา จึงต้องวิเคราะห์แผนการใช้จ่ายของรัฐบาล ความคุ้มค่า ผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม สภาฯจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทางวิชาการอย่างเข้มแข็ง จึงเสนอให้จัดตั้งหน่วยงานอิสระภายใต้สภาฯเรียกว่า สถาบันวิเคราะห์งบประมาณประจำรัฐสภา (สงร.) เพื่อวิเคราะห์งบประมาณประจำปี สนับสนุนการดำเนินงานและเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยที่ประชุมเห็นชอบด้วยคะแนน 187 ไม่เห็นชอบ 10 และงดออกเสียง 7 และเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.สถาบันวิเคราะห์งบประมาณประจำรัฐสภา ด้วยคะแนน 181 ต่อ 12 เสียง งดออกเสียง 11,นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ท่าทีของนายบวรศักดิ์ ที่ปลุกระดม สปช.ให้ผนึกกำลังสู้เพราะหากพ่ายแพ้นักการเมืองจะพากันตายหมู่นั้น ถือเป็นทัศนคติลบที่ต้องระมัดระวัง พวกท่านกล่าวหา ส.ส. ส.ว. ในอดีตเป็นสภาผัวเมีย ทั้งที่พวกเขามาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่พวกท่านลักไก่ตั้งลูกตั้งเมีย มากินเงินเดือน รับรายได้จากภาษีอากรประชาชน สำหรับนายบวรศักดิ์ ได้เบี้ยประชุมในฐานะประธาน กมธ.ยกร่างฯครั้งละ 9,000 บาท กมธ.ยกร่างฯเฉพาะประชุมอย่างเดียว ผ่านไป 80 ครั้ง นายบวรศักดิ์มีรายได้จากค่าเบี้ยประชุม 720,000 บาท และยังคงเดินหน้าประชุมต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แบบนี้ชาวบ้านก็มีสิทธิคิดต่างพวกท่านได้หรือไม่ว่า ค่าแรงสูง แต่ผลงานสวนทางค่าจ้าง ยิ่งประชุมมากยิ่งใช้เวลานานมาก ชาวบ้านก็รอพวกท่านคืนความสุขจนเซ็ง แต่พวกท่านได้รับความสุขกันไปถ้วนหน้าเต็มๆก่อนประชาชนแล้วหรือไม่,อีกเรื่องเมื่อเวลา 09.00 น. ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุม ครม. โดยก่อนเข้าประชุม ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์เพื่อมอบบทเพลง เจ้าฟ้าของคนเดินดิน เพลงเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ 5 รอบ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยนายกฯกล่าวว่า เป็นบทเพลงที่ดี สร้างการรับรู้ที่ดี ขณะที่นายชาญชัย เคียงประคอง กรรมการบริษัท ทูบิยอง จำกัด นำนาฬิกาแขวนที่ผลิตขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ จำนวน 99 เรือน มาแจกจ่ายสื่อมวลชน ก่อนที่จะแจกจ่ายให้กับประชาชนอีก 960 เรือน ในวันที่ 2 เม.ย.ที่หน้าบริษัท ทูบิยอง จำกัด ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ สาขาตลาดพลู,จากนั้น นายอภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นำคณะกลองยาว เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อมอบสื่อรณรงค์เนื่องในประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2558 เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรม สงกรานต์ สืบสานประเพณีไทย สุขใจไทยทั่วหล้า โดยนายกฯกล่าวว่า อะไรที่ควรทำ ก็ควรทำ สิ่งที่ดีก็ให้ทำ อะไรที่สร้างความขัดแย้งไม่ควรทำ จากนั้นเดินขึ้นตึกบัญชาการเพื่อเป็นประธานประชุม ครม.,ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบเรื่องเงินสนับสนุนเด็กแรกเกิดคนละ 400 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 1 ปี ถ้าเรียบร้อยเราจะมีเงินสนับสนุนเด็กแรกเกิดจนกว่าเราจะมีเงินมากกว่านี้ก็จะให้มากกว่านี้ เช่น สนับสนุนไปถึงอายุ 5 ขวบ แต่ปีนี้ลองก่อน ทั้งนี้ จะต้องไม่อยู่ในประกันสังคมที่ดูแลอยู่แล้ว โดยต้องการให้ผู้ที่ยากจนจริงๆ นอกจากนี้ตนยังเสนอต่อที่ประชุม ครม. เพราะเป็นห่วงปัญหาเด็กฟันผุเยอะโดยเฉพาะต่างจังหวัด เพราะกินขนมของหวานเยอะจนติดเป็นยาเสพติด เราต้องหาวิธีการในเรื่องของการแจกฟลูออไรด์ในโรงเรียน บางคนบอกว่ามีอยู่ในยาสีฟันอยู่แล้ว แล้วแปรงฟันกันหรือเปล่า,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ครม.ยังหารือถึงการปรับโครงสร้างหนี้เกษตรกร ซึ่งต้องทำทั้งระบบ โดยธนาคารของรัฐจะเร่งปล่อยสินเชื่อ ส่วนหนี้เก่าก็ดูว่าจะชะลอได้หรือไม่ นอกจากนี้ ยังหารือถึงความร่วมมือกับภาคเอกชนในเรื่องเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งได้กำหนดพื้นที่ไว้แล้วและต้องออกผังเมืองให้ชัดเจน แต่ขณะนี้กฎหมายยังไม่เรียบร้อย จึงต้องการเร่งรัดให้เกิดขึ้นโดยเร็ว และยังเร่งรัดเรื่องจดทะเบียนประชาชนทุกคนที่จะระบุในบัตรประชาชนว่ามีอาชีพอะไร รายได้เท่าไร โดยกระทรวงการคลังจะประเมินรายได้ของแต่ละกลุ่มงาน ทั้งนี้ ไม่ได้มุ่งเก็บภาษี แต่จะจัดสรรเงินให้ได้ตรงกลุ่มเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐาน และยังเร่งรัดให้จัดทำแอพพลิเคชัน ทางโทรศัพท์ เพื่อให้ประชาชนค้นหาข้อมูลได้รวดเร็ว เช่น ราคาพืชผลแต่ละสัปดาห์ ภัยพิบัติ ศูนย์วันสต็อปเซอร์วิสในเรื่องสำคัญ,ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบการอำนวยความสะดวกและปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2558 โดยเตรียมและเพิ่มรถโดยสารประจำทาง ไม่ประจำทาง ตู้โดยสารรถไฟ เที่ยววิ่ง เที่ยวบินเสริมพิเศษเพื่อรองรับการเดินทางระหว่างวันที่ 9-19 เม.ย. รวมทั้งยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ระหว่าง 10-19 เม.ย. นอกจากนี้ ครม.ยังรับทราบการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษบูรพาวิถี ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี ทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี กาญจนาภิเษกบางพลี สุขสวัสดิ์ ตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันที่ 10 เม.ย.ถึง 24.00 น. วันที่ 19 เม.ย. พร้อมกับเห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ในวันเวลาเดียวกัน,ต่อมาเวลา 17.30 น. ที่บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม พล.อ.ประยุทธ์ พร้อม ครม. และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. เยี่ยมชมและรับฟังรายงานสรุปการดำเนินงานตลาดวิถีข้าว วิถีไทยจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนเดินชมตลาดศิลปะ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้ร่วมเพ้นต์สีรูปดอกไม้บนฟุตปาท โดยเติมลูกศรลงบนกลีบดอกไม้และกล่าวว่า เคยมีประสบการณ์เจ็บ นักข่าวจึงแซวว่าแสดงว่าเคยอกหักมาก่อนเรียกเสียงหัวเราะกันครื้นเครง จากนั้นนายกฯนำคณะลงเรือท้องแบนจากท่าเรือคลองผดุงฯ ล่องสำรวจลำคลองไปจนถึงท่าเรือหัวลำโพง เพื่อเตรียมเปิดเป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำ เป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการท่องเที่ยวทางน้ำ ท่ามกลางความสนใจของประชาชนตลอดสองริมฝั่งคลอง โดย พล.อ.ประยุทธ์โบกมือยิ้มทักทายท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด,พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ได้สั่งการไปยัง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนในวันประชุม ครม. เพื่อชี้แจงถึงการทำงานของรัฐบาล โดยทุกครั้งจะจดชื่อนักข่าวทุกคนแบบก่อนเข้าห้องเรียน เรื่องนี้ทำจริงไม่ได้พูดเล่น เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. เพื่อชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจระหว่างรัฐกับสื่อ ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด ไม่ใช่การปรับกลยุทธ์การให้ข่าวของรัฐบาล ยืนยันไม่ได้ทำเพื่อคุมอำนาจสื่อเพราะคุมไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งใหญ่จะตาย ส่วนรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์ จากนี้ไปจะปรับเปลี่ยนรูปแบบ โดยตนจะกล่าวแนะหัวข้อเป็นเชิงนโยบายกว้างๆ และให้รองนายกฯ และรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ หมุนเวียนกันชี้แจง โดยวันศุกร์ที่ 4 เม.ย.นี้ เป็นเรื่องความมั่นคง การค้ามนุษย์ แรงงานประมง,ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. พร้อมคณะกรรมการป.ป.ช.และเจ้าหน้าที่ ประกอบพิธีอัญเชิญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ขึ้นประดิษฐานที่แท่นพระบรมราชานุสาวรีย์ หน้าอาคาร 1 สำนักงาน ป.ป.ช. โดยคณะช่างจากสำนักช่างสิบหมู่ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เป็นผู้หล่อพระบรมรูป ร.5 ซึ่งมีขนาดสูง 3.6 เมตร ส่วนฐานรองพระบาท 0.30 เมตร โดยขณะประกอบพิธียกพระบรมรูปขึ้นวางบนแท่น จู่ๆก้อนเมฆเข้ามาบดบังแดดเปรี้ยง จนทุกคนในพิธีแหงนมองท้องฟ้า ระหว่างนั้นสายสลิงของลูกตุ้มเหล็กเกิดลื่นหลุดไหลดิ่งพุ่งลงมายังองค์พระบรมรูปฯ ท่ามกลางเสียงหวีดร้องด้วยความตกใจของผู้อยู่ในพิธี โชคดีที่เจ้าหน้าที่คณะช่างกดปุ่มบังคับให้หยุดไว้ได้ชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด ทำให้ตุ้มเหล็กอยู่ห่างจากองค์พระบรมรูปเพียงแค่ 2 นิ้ว สร้างความตกใจแก่เจ้าหน้าที่ และกรรมการ ป.ป.ช.บางคนพนมมือไหว้แล้วบอกว่าแคล้วคลาดๆ,นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการแสวงหาข้อเท็จจริงกรณีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แต่งตั้งเครือญาติมาดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ และผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัวว่า อยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่แสวงหาข้อเท็จจริง โดยขณะนี้ให้นำทั้งกรณีการร้องเรียน สนช.และ สปช.มารวมเป็นกรณีเดียวกัน เพราะมีลักษณะคล้ายกัน หลังจากนี้จะขอเอกสาร คำสั่งการแต่งตั้งจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาและสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนำมาตรวจสอบว่า ผู้ได้รับแต่งตั้งมีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ จะตรวจสอบเป็นรายๆไป ถ้าผิดก็ผิดเป็นรายบุคคล แม้ สนช.และ สปช.จะให้เครือญาติพ้นตำแหน่งแล้ว ก็ต้องตรวจสอบ เพราะมีการตั้งและรับเงินเดือนไปแล้ว,อีกเรื่อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวใจความว่า ขอโทษพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องเผชิญกับปัญหาภาวะน้ำท่วมขังสืบเนื่องจากพายุที่เข้ามา ในฐานะที่พรรคประชา-ธิปัตย์เป็นต้นสังกัดของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ขออภัยพี่น้องทุกคนต่อคำพูดที่เกิดขึ้นในการแถลงข่าวของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากรู้สึกไม่พอใจ เข้าใจดีว่าการแก้ปัญหาของ กทม. ไม่ใช่เรื่องง่ายและผู้ว่าฯ กทม. คงรู้สึกเหนื่อยและเครียด นักการเมืองที่อาสามารับใช้ประชาชน มีหน้าที่ในการทำงาน ต้องอดทนอดกลั้นต่อปัญหาและอุปสรรค รวมถึงคำถามของผู้สื่อข่าว เชื่อว่าผู้ว่าฯ กทม.ไม่มีเจตนาทำให้รู้สึกไม่ดี แต่ก็ไม่อาจหนีความรับผิดชอบต่อความรู้สึกของประชาชนได้ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขอโทษต่อชาว กทม. ที่ให้ความไว้วางใจเลือกผู้ว่าฯ กทม. จากพรรคประชาธิปัตย์ถึง 4 ครั้งติดต่อกัน พรรคฯและผู้ว่าฯ กทม.จะเดินหน้าปรับปรุงการทำงานและจะระมัดระวังมากขึ้นในการแสดงออกต่อสาธารณชน,นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการและโฆษก สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้นำส่งสำเนาพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธานผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งรับสนองพระบรมราชโองการโดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มาเพื่อทราบ เนื่องจากนางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พ้นจากตำแหน่ง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง นายศรีราชา วงศารยางกูร ดำรงตำแหน่งประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และแต่งตั้งนายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2558 ต่อไป,ที่รัฐสภา นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัต (วิป สนช.) แถลงภายหลังการประชุมว่า วันที่ 2 เม.ย.นี้จะประชุมสนช.เพื่อพิจารณาวาระสำคัญ คือการพิจารณาถอดถอนนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และนายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าระหว่างประเทศ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มาตรา 64, 66 ที่มีพฤติกรรมส่อว่าทุจริตต่อหน้าที่ กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ โดยจะพิจารณาคำขอเพิ่มเติมพยานหลักฐาน ซึ่งนายมนัสได้ยื่นขอเพิ่มเติมพยานเอกสาร 9 รายการ ส่วนสนช.จะรับพิจารณาหรือไม่ขึ้นอยู่กับที่ประชุม ทั้งนี้ในวันดังกล่าว นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. จะกำหนดวันแถลงเปิดคดี โดยคาดว่าไม่เกินปลายเดือน เม.ย.นี้ ก่อนจะตั้งคณะกรรมาธิการซักถาม แถลงปิดคดี และลงมติถอดถอนหรือไม่ ซึ่งจะกำหนดวันอีกครั้ง,นพ.เจตน์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีวาระพิจารณากฎหมายสำคัญ 3 ฉบับ คือ 1.ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย 2.ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และ 3.ร่างพ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม,ช่วงค่ำวันเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมัสกัต ประเทศโอมาน ซึ่งครอบคลุมดูแลประเทศเยเมน ได้ออกประกาศฉบับล่าสุดว่า สถานการณ์การสู้รบในประเทศเยเมนยังไม่มีท่าทีจะยุติ และมีโอกาสทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น หลายชาติต่างได้ทยอยอพยพคนของตัวเองแล้ว สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ จึงเห็นสมควรให้คนไทยทุกคนในเยเมนอพยพออกจากเยเมนโดยเร็วที่สุด แต่หากคนไทยรายใดยังยืนยันที่จะอยู่ในเยเมน ต้องยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทยฯได้ประสานข้อมูลไปยังนายซ่าอา ทับทิมใหม่ ประธานนักเรียนไทยในเยเมน เพื่อช่วยประสานรวบรวมรายชื่อคนไทยด้วยอีกทางหนึ่ง | บิ๊กตู่ ทูลเกล้าฯยกเลิกกฎอัยการศึก หันมาใช้ ม.44 แทน เผยเนื้อหาเน้นคุมสถานการณ์ ด้านความมั่นคง เพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่ตรวจค้น-จับกุม-สอบสวน แต่เปิดช่องให้สู้ในชั้นศาล ทหารได้ 3 ศาล บ่นพึมกลัวอะไร | null | ข่าวหน้า1,กฎอัยการศึก,มาตรา44,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,รัฐธรรมนูญ,ทูลเกล้าฯยกเลิกกฎอัยการศึก,ศาลทหาร,วิษณุ เครืองาม,สรรเสริญ แก้วกำเนิด,กัมปนาท รุดดิษฐ์,อนุสิษฐ คุณากร,อนุตตมา อมรวิวัฒน์,บวรศักดิ์ อุวรรณโณ,ยกร่างรัฐธรรมนูญ,เทียนฉาย กีระนันทน์,สปช.,ปรับโครงสร้างหนี้เกษตรกร,สุขุมพันธุ์ บริพัตร,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/490386 |
โบว์ เมลดา ดีใจเรียนรามจบ 4 ปี ไม่มีเวลาเข้าเรียน ฮึดอ่านหนังสือเอง | เป็นบัณฑิตป้ายแดงไปหมาดๆ สำหรับนางเอกคนสวยโบว์ เมลดา สุศรี ที่เรียนจนปริญญาตรี จากคณะสื่อสารมวลชน สาขาวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในวันนี้มีหนุ่ม มิกค์ ทองระย้า และเพื่อนๆ รวมถึงแฟนคลับมาร่วมแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก ซึ่ง โบว์ บอกว่าดีใจที่จบสักที เพราะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย อาศัยอ่านหนังสือและมาสอบเองยังยืนยันว่า ไม่ทิ้งการเรียนแน่นอน เพราะมีแพลนจะเรียนต่อปริญญาโทรู้สึกยังไงบ้าง บัณฑิตป้ายแดง?ดีใจค่ะ ดีใจมากๆ ที่จบสักทีคุณพ่อคุณแม่ว่าไงบ้าง?ก็อย่างที่เห็นกันค่ะ ก็ดีใจกันแต่ไม่ค่อยแสดงออกระยะเวลาตามเกณฑ์?4 ปีค่ะ ตามเกณฑ์เลยพอดีเป๊ะเลยค่ะจากคณะ?จากคณะสื่อสารมวลชนค่ะจบด้วยเกรดเท่าไร?ไม่รู้เหมือนกันค่ะแต่ก็น่าจะเกิน 2 เพราะว่าถ้าต่ำกว่า 2 ไม่น่าจะได้จบค่ะถือว่าเป็นเกรดที่เราพอใจมั้ย?พอใจค่ะ เพราะว่าไม่รู้ว่าได้เกรดเท่าไร หนูยังไม่ได้เข้าไปเช็กดูค่ะที่ผ่านมาหนักหน่วงขนาดไหน?พอสมควรเลยค่ะ เพราะว่าชนทั้งตารางและการทำงานด้วยก็หลายอย่างค่ะ แล้วก็ต้องเรียนเองด้วย อ่านหนังสือเองซื้อหนังสือมาอ่านเอง บางวิชาถ้ามีโอกาสก็จะเข้ามาเรียนค่ะ แต่ก็น้อยมากที่จะได้เข้ามาเรียนผลักดันตัวเองยังไงให้มีแรงฮึด?ก็มีทั้งเพื่อนด้วยค่ะ เพื่อนก็ช่วยแบบว่ามันจะต้องสอบแล้วนะ เราก็ช่วยเพื่อนด้วยเพราะว่าเราก็ต้องจบเหมือนกันเพื่อนก็ต้องจบ ลองดูว่าจะจบได้ 3 ปีครึ่ง ก็เพื่อนจบ 3 ปีครึ่งเราจบ 4 ปี เพราะว่าติดไว้ตัวนึง ยากค่ะ อ่านยังไงก็ไม่เข้าหัวก็เลยแบบว่าค่อยๆช่วงเรียนไปด้วยถ่ายละครไปด้วยหนักแค่ไหน?ก็หนักอยู่นะคะ แต่ก็เป็นคนที่ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้นค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ถ้าไหวก็สอบ ไม่ไหวก็ค่อยสอบคราวหน้าเคยมีช่วงที่ท้อมั้ย?ไม่ค่อยท้อเรื่องเรียนนะ โบว์เป็นคนที่ไม่ค่อยมีโอกาสเรียนเหมือนกับเพื่อน สมัยก่อนถ้ามัธยมก็เข้าเรียนน้อยมากๆ ก็เลยรู้สึกว่าพอมีโอกาสเรียนก็ทำเต็มที่ดีกว่าสนุกๆ ด้วย พอเห็นสิ่งที่เราอ่านมาออกสอบจะสนุก แต่ถ้าอ่านมาแล้วไม่ออกสอบอันนั้นจะไม่ค่อยสนุกเท่าไรค่ะครอบครัวมอบของขวัญอะไรให้หลังจบปีนี้?ยังไม่ได้เลยค่ะ เดี๋ยวไปทวงมาให้ (หัวเราะ)มีรีเควสต์มั้ย?ก็ไม่ได้รีเควสต์แต่ว่าแค่พูดลอยๆ เผื่อแม่กับพ่อจะได้ยินโบว์อยากได้อะไร?อยากได้บ้านให้มันเสร็จสักที แล้วก็อยากได้รองเท้า แค่นั้นค่ะแล้วตอนนี้ใกล้เสร็จรึยัง?คือตัวบ้านเสร็จแล้ว แต่เหลือตกแต่งภายในให้เรียบร้อย แค่อยากให้มันเสร็จเรียบร้อยแบบว่าบ้านจริงๆนี่เป็นสิ่งที่เราตั้งใจ?ใช่ จริงๆ ตั้งใจทำตั้งนานแล้วก็เลยติ๊ต่างขอแม่ว่า เอออันนี้ขอเป็นของขวัญละกันพี่มิกค์ ก็มอบช่อดอกไม้ช่อใหญ่ให้?ใช่ค่ะมีอย่างอื่นอีกมั้ย?ก็มีเลี้ยงข้าวค่ะ ในมื้อนั้น แล้วลูกโป่งในมื้อนั้นค่ะ ก็มีทั้งพี่ปู พี่มิกค์ พี่แป้ง พี่แป้ก มีแฟนคลับด้วยรวมๆ กันช่วยกันค่อนข้างภาคภูมิใจกับความสำเร็จของเรา?ใช่ค่ะ ดูภาคภูมิใจที่หนูจบสักทีเพราะเค้าอาจจะเห็นแววแต่ว่า จะจบมั้ยน้า พอหนูจบทุกคนก็ดีใจค่ะแฮปปี้กันก็เพราะทุกคนก็เป็นเหมือนคนในครอบครัว พี่ปูก็คือรู้จักกันมานานมากเค้าก็เห็นเราเป็นลูกเป็นหลานไปแล้วแล้วพี่มิกค์ มีบอกอะไรกับเราบ้างมั้ยนอกจากของขวัญ?คอนเกรททูเลชั่นครับ แค่นั้นเค้าเป็นรุ่นพี่คณะนี้ ระหว่างเรียนแนะนำอะไรบ้างมั้ย?ก็เคยขอคำแนะนำนะคะ วิชาวิจัยพี่มิกค์บอกว่าไม่ยากๆ แค่นั้นค่ะ (หัวเราะ) ก็เลยโอเค อ่านเองก็ได้เรียนต่อเลยมั้ย?น่าจะยังค่ะ แต่ว่าในใจมีแพลนว่าจะเรียนต่อโทแน่ๆ อาจจะเป็นในสายวิชาที่เราชอบพวกศิลปะ คือไปต่อแบบสถาบันโดยตรงเร็วๆ นี้มั้ย?โอ้โห ไม่รีบเลยค่ะเรื่องเรียน ขอแบบเอาให้มันควบคู่กันไป เอาที่เราไหวดีกว่า แต่ว่าเรียนแน่ๆ ไม่ใช่แบบว่าจะทิ้งการเรียนไปเลย ก็เรียนค่ะถ้ามีโอกาสได้เรียนก็จะเรียน. | ยินดีกับนางเอกสาวคนสวย โบว์ เมลดา คว้าปริญญาตรี คณะสื่อสารมวลชน จากม.รามคำแหง ใช้เวลาเรียนใน 4 ปี ฮึดสู้อ่านหนังสือสอบเอง แพลนเรียนต่อโท | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | โบว์ เมลดา,โบว์ เมลดา เรียนจบ,ดารารับปริญญา,โบว์ เมลดา มิกค์,ข่าวบันเทิง,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1766315 |
ทรัมพ์ สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ | นายโดนัลด์ ทรัมพ์ เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ที่อาคารรัฐสภา ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยทรัมพ์ได้วางมือซ้ายบนคัมภีร์ไบเบิลของอับราฮัม ลินคอล์น อดีตประธานาธิบดี และยกมือขาวกล่าวคำปฏิญานต่อหน้านายจอห์น โรเบิร์ต ประธานศาลฎีกา ว่า จะรักษาและปกป้องรัฐธรรนูญ โดยมีนางเมลาเนีย สตรีหมายเลข 1 คนใหม่ยืนอยู่ข้างๆ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างเบาบางจากนั้นนายทรัมพ์ได้กล่าวสุนทรพจน์รับตำแหน่งต่อประชาชนชาวอเมริกัน ยํ้าถึงนโยบายด้านต่างๆ ของรัฐบาลชุดใหม่ ในการผลักดันให้สหรัฐฯ กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เพื่อผลประโยชน์ของชาวอเมริกัน และได้กล่าวขอบคุณบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดี ที่เพิ่งหมดวาระการดำรงตำแหน่ง รวมทั้งประชาชนทุกคนพิธีสาบานตนมีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดจากการชุมนุมประท้วงของกลุ่มผู้ต่อต้านนายทรัมพ์ ซึ่งเดินทางมาที่กรุงวอชิงตัน และมีความรุนแรงเกิดขึ้น เมื่อผู้ประท้วงบางกลุ่มทุบทำลายกระจกอาคาร และรถยนต์ พร้อมขว้างก้อนหินใส่ตำรวจใกล้สถานที่ทำพิธีสาบานตน ตำรวจต้องใช้กำลังเข้าสลาย และมีรายงานตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และมีผู้ถูกจับกุม 95 คน | นายโดนัลด์ ทรัมพ์ ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ ทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง ท่ามกลางความตึงเครียดจากการชุมนุมประท้วงของกลุ่มผู้ต่อต้านที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. | ต่างประเทศ | โดนัลด์ ทรัมพ์,สหรัฐฯ,ประธานาธิบดีสหรัฐ,พิธีสาบาน | https://news.thaipbs.or.th/content/259675 |
เผาแล้วหนุ่มรับเหมาแม่สรวย ญาติร่ำไห้สุดอาลัย คุมพลทหารขอขมาหน้าศพ | เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2561 ความคืบหน้ากรณี นายศรชัย สถิตย์รักษ์ดำรง อายุ 35 ปี ซึ่งเสียชีวิตหลังขับรถผ่านด่านตรวจชุมชน บ้านแม่ต๋ำ ตำบลท่าก๊อ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ในวันที่ 2 ม.ค. และต่อมามีการจับกุม พลทหารวันชัย จำปา ทหารเกณฑ์สังกัด กองพลทหารราบที่ 17 ,เมื่อช่วงเวลา 09.30 น. นางนาสอ จะยอ แม่นายศรชัย พร้อมญาติได้รับศพของนายศรชัยที่ฝากไว้ที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ในช่วงเวลาร้องขอความเป็นธรรมในการดำเนินคดี เมื่อมีการจับกุมผู้ต้องหาแล้ว จึงมารับศพเพื่อเคลื่อนย้ายไปประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ณ สุสานวัดเม็งราย ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย โดยมีทหารจากค่ายเม็งรายมาช่วยดำเนินการในการเคลื่อนย้ายศพ บรรยากาศขณะนำศพผู้เสียชีวิตลงบรรจุในโลงศพเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ,พล.ต.ณัฐวุฒิ ชุณหะนันท์ ผบ.พล.ร.7 เป็นประธานในพิธี ร่วมกับนายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอแม่สรวย โดยมีญาติและเพื่อนผู้เสียชีวิตมาร่วมพิธีประมาณ 100 คน แต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารมาร่วมเป็นจำนวนมากหลายร้อยคน ทั้งนี้ทหารเป็นเจ้าภาพจัดหาวัด ดำเนินพิธีการ และจัดการค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมทั้งจ่ายค่าซ่อมรถ และค่าดำเนินการพิธีศพที่ผ่านมา รวมเป็นเงิน 500,000 บาท เป็นค่าชดเชยด้านมนุษยธรรม โดยไม่เกี่ยวกับคดีความ,ต่อมาเวลา 13.00 น. ทหารได้นำตัว พลทหารวันชัย มาขอขมาศพผู้เสียชีวิตและครอบครัว ที่ศาลาวัดเม็งราย โดยมีทหารคุ้มกันอย่างหนาแน่น พร้อมใส่หมวกกันน็อกเพื่อปกปิดหน้า ตามการร้องขอของผู้ต้องหาไม่ให้สื่อเปิดเผยใบหน้า เมื่อไปถึงได้นำพลทหารไปกราบศพนายศรชัย และมาขอขมาศพ โดยญาติร้องขอให้เปิดหน้าผู้ต้องหาขณะขอขมา ระหว่างการกราบขอขมา นางนาสอ แม่ผู้เสียชีวิต และน.ส.ศิริรัตน์ แยเบียง ร้องไห้โฮด้วยความโศกเศร้า พล.ต.ณัฐวุฒิ เข้าไปปลอบใจ ก่อนจะดำเนินการพิธีการฌาปนกิจต่อไป ,ด้าน นายจีระศักดิ์ ยรรยงเชิดชัยกุล ทนายความ กล่าวว่า ในส่วนคดีความขณะนี้ทางกองปราบ ได้เข้ามาร่วมตรวจพิสูจน์ศพ พร้อมเรียกทาง แม่ น้องสาว และหลาน ผู้เสียชีวิตให้ปากคำ ส่วนจะโอนคดีไปกองปราบปรามหรือไม่ยังไม่ทราบ ทั้งนี้ญาติรอดูสำนวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ยังไม่มีการหารือกันว่าจะฟ้องเองด้วยหรือไม่. | ญาตินายศรชัย หนุ่มรับเหมา อ.แม่สรวย ถูกยิงตายขณะผ่านด่านชุมชน ได้ทำพิธีฌาปนกิจศพ ณ สุสานวัดเม็งราย โดยทางทหารได้นำตัวพลทหารผู้ต้องหามาขอขมาหน้าศพ ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติ | ข่าว,ทั่วไทย | ศรชัย สถิตย์รักษ์ดำรง,ยิงตายคาด่านตรวจ,อ.แม่สรวย,หนุ่มรับเหมา,เชียงราย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1179840 |
คนร้ายขี่ จยย.ประกบยิง 2 นร.เมืองนนท์ดับ 1 เจ็บ 1 | เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 22 มี.ค.58 ร.ต.ท.สิงหา ชาลี พงส.(สบ.1) สภ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อย รัตนาธิเบศร์ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุนนทรี ว่ามีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย เหตุเกิด หน้าร้าน สหสินไทย ค้าวัสดุ ใกล้แยกสนามบินน้ำ ถนนติวานนท์ ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน ผกก.พ.ต.ท.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ศราวุธ คงคานนท์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.พล พื้นพรม สวป.,ที่เกิดเหตุอยู่หน้าทางเข้าร้าน สหสินไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเพียง รถ จยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีม่วง ทะเบียน อลม-721 กทม. ล้มอยู่ข้างทาง บริเวณพื้นถนนเจ้าหน้าที่ตำรวจพบหัวกระสุนปืนขนาด .38 แบบ หัวระเบิด จำนวน 3 หัว จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ รถกู้ชีพ ร.พ.พระนั่งเกล้า ได้นำคนเจ็บจำนวน 2 ราย ส่ง ร.พ.พระนั่งเกล้า เพื่อเร่งยื้อชีวิตไว้อย่างเร่งด่วน,ทราบชื่อคนเจ็บ คือ นายไก่ (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี เป็นนักเรียน กศน.ศูนย์วัด แคนอก ชั้ยมัธยมต้น ชาวบ้าน หมู่ 3 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี ถูกยิงเข้าที่ชายโครงด้านขวา 3 นัด แขนขวา 1 นัด อาการสาหัสแพทย์ต้องช่วยปั้มหัวใจ ก่อนนำตัวเข้าห้องผ่าตัดแต่สุดท้ายยื้อชีวิตไว้ไม่ได้ เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนนายทับ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี นักเรียน ชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี ชาวบ้าน หมู่ 2 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี ถูกยิงเข้าที่ชายโครงขวาทะลุหน้าท้อง 1 นัด แขนขวา 1 นัด แพทย์กำลังให้การรักษาอยู่,สอบสวนพยานในที่เกิดเหตุทราบว่า เห็นคนร้ายเป็นชาย 2 คน สวมเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวสีดำ สวมหมวกกันน็อก แบบ เต็มใบ ขับขี่รถ จยย.แบบหญิงสีทึบ ขับมาประกบ รถ จยย.ของผู้บาดเจ็บ แล้วคนซ้อนท้ายได้ ชักอาวุธออกมากระหน่ำยิงใส่ทั้งสองคน จนรถ จยย.ล้ม แล้วคนร้ายได้ขับรถ จยย.หลบหนีมุ่งหน้าไปทางห้าแยกปากเกร็ด ,พ.ต.ท.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นปมสัมหารไว้ 3เรื่อง ได้แก่ ถูกคู่อริต่างสถาบันไล่ยิง โกรธแค้นส่วนตัว และเหตุซึ่งหน้าที่อาจเป็นการขี่รถปาดหน้าทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจเลยไล่ยิง โดยทางตำรวจจะสืบสวนสาเหตุที่แท้จริง และจะติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป. | นักเรียน กศน. และม.6 ย่านเมืองนนทบุรี ขี่ จยย.บนถนนติวานนท์ ก่อนถูกมือมืด ประกบยิงด้วยปืน .38 จนรถล้มได้รับเจ็บสาหัส 1 ราย เสียชีวิต 1 ราย ขณะที่คนร้ายขี่ จยย.หลบหนี ไปทางห้าแยกปากเกร็ด ตร.ยังไม่ทราบปมเหตุยิงกันครั้งนี้ | ข่าว,ทั่วไทย | ยิงนักเรียน,คนร้ายประกบยิง,ยิงกัน,อาชญากรรม,นักเรียนเมืองนนท์,สิงหา ชาลี,สภ.เมืองนนทบุรี,แยกสนามบินน้ำ,ถนนติวานนท์,ต.ท่าทราย,อ.เมืองนนทบุรี,นนทบุรี,ข่าวทั่วไทย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/488479 |
ระวัง ติดเชื้อ แม่ทุม ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ยุ้ย กลับมาเล่นละคร | เอแอลเอส ALS หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง ที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ กรุงเทพฯ ต่อไปเรื่อยๆ,อดีตนักร้องชื่อดัง ยุ้ย ปัทมวรรณ ลูกสาวคนสวยของแม่ทุม แวะมาดูร้านที่กำลังจะเปิดขายของ ที่ตลาดค้าส่ง ซาซ่าเฮ้าส์อเวนิว Sasha House Avenue แถวเกษตร นวมินทร์ กรุงเทพฯ โดยยุ้ยได้อัพเดตอาการป่วยล่าสุดให้กับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ตอนที่ทรุดไปคือไม่ตอบสนองเลย ไม่ยิ้มไม่พูดไม่คุยไม่มอง แต่ว่าตอนนี้กลับมาพูดคุยได้ กลับมาจำเราได้แล้วค่ะ (ยิ้ม) คุณหมอกับพยาบาลที่นี่ดูแลประคบประหงมคุณแม่ดีมากๆ ดูแลดีมาตั้งแต่แรกแล้ว ต้องขอบคุณด้วยค่ะ,ก็ได้คุยตามตรงกับคุณหมอ เราต้องเข้าใจในตัวโรคนี้ จะมีระยะเวลาไม่นานมาก (ถอนหายใจ) ช่วงที่แม่ทรุดใกล้จะเป็นช่วงสุดท้าย แล้วก็มาติดเชื้ออีก ทุกอย่างมันค่อนข้างหมดหวังเนอะ (เสียงเศร้า) โดยโรคไม่มีทางรักษาอยู่แล้ว ยุ้ยเลยขอเรียนปรึกษากับคุณหมอ ก็ขอทางเลือกมาช่วยคุณแม่ด้วยได้มั้ย คุณหมอก็โอเค มีอะไรก็มาคุยกัน เอาเอกสารมาให้คุณหมอดู ก็ได้ยาสกัดจากเห็ดพิมาน คุณแม่ใช้แล้วก็ตอบสนองได้ดีมาก,ค่าใช้จ่ายน่าจะเยอะอยู่? ไม่มีอะไรมาก ไม่ได้สูงมากค่ะ เพราะช่วงที่หนักมันผ่านไปหมดแล้ว อาการหลังๆ นี้คือแค่ประคับประคอง ด้วยอาการของโรคนี้ มันไม่มีทางรักษาอยู่แล้ว ยาที่ช่วยได้ก็มีแต่ช่วยได้แค่ 5-10% ค่ะ ตอนนี้คุณหมอก็พยายามดูแลให้ดีที่สุด ประคับประคองไม่ให้คุณแม่ติดเชื้อเท่านั้นเอง แม่ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ ซึ่งเป็นเครื่องช่วยหายใจเครื่องใหญ่ๆ เลย แม้กระทั่งอยู่ห้องพิเศษก็ยังอยู่ไม่ได้ เพราะมันจะลำบากในการดูแลของพยาบาล ตอนแรกอยากให้แม่มานอนที่บ้าน เราก็ซื้อทุกอย่างเลย เตียงคนไข้ ออกซิเจน เครื่องช่วยหายใจทุกอย่าง แต่ก็ไม่สามารถใช้ได้ คือเครื่องช่วยหายใจที่เราซื้อมา มันแรงไม่เยอะพอที่จะช่วยแม่ค่ะ ต้องใช้เครื่องของโรงพยาบาล,ยุ้ยจะหวนคืนวงการแล้ว? ยุ้ยยังไม่ใช้คำว่าหวนคืนวงการ เพราะเวลาเรายังไม่ลงตัวดี แต่ตอนนี้รับละครแล้ว เรื่องลิขิตริษยา เล่นอยู่ฝ่ายดี คอยช่วยเหลือตั้งแต่รุ่นแม่ยันรุ่นลูกค่ะ หายไปเลยจากการแสดงนานมากๆ? อย่างน้อยก็ 6 ปีแล้ว ตั้งแต่ยุ้ยมีลูก ถึงเราจะมีพี่เลี้ยงก็ไม่ปล่อยให้ลูกอยู่กับพี่เลี้ยง ถ้าเกิดคุณแม่ยังแข็งแรงเราก็จะไม่ห่วง ไปไหนมาไหนได้ แต่ ณ วันนี้ คุณพ่อต้องไปทำงาน คุณแม่ก็ยังอยู่โรงพยาบาล หน้าที่เลี้ยงลูกคือของเราเต็มๆ คือไม่ได้ปล่อยให้ใครมาดูแล ณ ตอนนี้ลูกจะ 6 ขวบแล้ว พอไปไหนมาไหนได้บ้างค่ะ (ยิ้ม). | ยังไว้ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ ยังต้องดูแลอย่างดีไปตลอด อดีตดาราชื่อดัง ทุม ปทุมวดี เค้ามูลคดี ยังต้องรักษาอาการป่วยด้วยโรคร้าย | null | แม่ทุม ปทุมวดี เค้ามูลคดี,แม่ทุม พ่อรอง,รอง เค้ามูลคดี,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์,แม่ทุมป่วยเอเอสแอล,แม่ทุมป่วย ALS กล้ามเนื้ออ่อนแรง,ยุ้ม ปัทมวรรณ แม่ทุม | https://www.thairath.co.th/content/502399 |
สลด ตาถอยเก๋งเข้าโรงจอดรถ ไม่ทันระวังทับหลานวัย 1 ขวบดับ | เมื่อเวลา 18.45 น. วันที่ 9 ก.ค.63 ร.ต.อ.ประพันธ์ บัวศรี รองสว.สอบสวน สภ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา รับแจ้งมีเหตุรถถอยทับเด็กเสียชีวิต ภายในเขตพื้นที่บ้านเลขที่474 ม.4 ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 จุดไทยสามัคคีที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต1รายเป็นเด็กทราบชื่อคือ ด.ช. ปวพัฒน์ สุมาลี อายุ 1 ปี 3 เดือน สภาพศพร่างกายแหลกเละ ใกล้กันพบรถเก่ง อีชูชุ สีบิรนซ์ ทะเบียน ผผ 2937 นครราชสีมา จอดอยู่ส่วนคนขับทราบในเวลาต่อมาว่าคือ นายสมชาย สุมาลี อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นตาของผู้เสียชีวิตยืนรอ ให้ปากคำสอบถามตา บอกว่า ก่อนเกิดเหตุเดินทาง มาจากนอกบ้านจะถอยรถเก็บที่โรงจอดรถ ในระหว่างที่กำลังจะตั้งลำถอยรถเข้าโรงจอด หลานได้เดินเข้าไปหาตาโดยที่ ตาไม่ทันสังเกตจึงมองไม่เห็น ทำให้ถอยรถเหยียบหลานจนเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ ได้นำศพเด็กที่เสียชีวิตส่งผ่าพิสูจน์ที่ รพ.น้ำเขียวเพื่อ ประกอบสำนวนในการดำเนินคดีพร้อม สอบสวนหาสาเหตุให้แน่ชัดเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.ตาถอยรถทับหลานรถทับหลานถอยรถเข้าโรงจอดถอยรถไม่ระวังสภ.วังน้ำเขียวข่าวรถชนข่าวโคราช | สุดเศร้า ตาถอยเก๋งเข้าโรงจอดภายในบ้าน หลานเดินเข้ามาหาไม่ทันระวังรถเหยียบหลานร่างเละตายสลด ตำรวจเข้าสอบสวนหาสาเหตุก่อนดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมาย | ข่าว,ทั่วไทย | ตาถอยรถทับหลาน,รถทับหลาน,ถอยรถเข้าโรงจอด,ถอยรถไม่ระวัง,สภ.วังน้ำเขียว,ข่าวรถชน,ข่าวโคราช,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1885967 |
กกต.ยืนยันรับรอง ส.ส.เพิ่มเติมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคดี | การพิจารณารับรองความเป็น ส.ส.ของว่าที่ ส.ส.ที่เหลืออีก 14 2 คนจะสามารถลงมติรับรองเพิ่มเติมได้ 117 ส.ส.เพื่อให้องค์ประกอบของสภาผู้แทนราษฎรครบร้อยละ 95 หรือ 475 ส.ส. ในวันอังคารที่ 19 ก.ค.หรือไม่ นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการบริหารการเลือกตั้ง ยืนยันว่า ได้เร่งรัดการทำงานของฝ่ายสืบสวนสอบสวน เพื่อพิจารณาเอกสารหลักฐาน และ ข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลา 7 วันหลังการมอบหมายแล้ว ดังนั้นขึ้นอยู่กับสำนวนคดีตามคำร้องว่าจะแล้วเสร็จหรือไม่ถึงจะพิจารณารับรอง ส.ส.เพิ่มเติมได้ตามจำนวนที่วางกรอบไว้นายประพันธ์ นัยโกวิท กล่าวย้ำ ถึงหลักการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.จะต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นกลาง และ ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยปราศจากฝักใฝ่ฝ่ายใด แม้แต่การประวิงเวลาก็ตาม พร้อมชี้แจงกรณีสั่งเลือกตั้งใหม่เขต 2 จังหวัดหนองคาย ยึดหลักฐานข้อเท็จจริงเป็นหลักในการพิจารณาแล้ว และ ลงมติเอกฉันท์และแม้จะอยู่ระหว่างการรอสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่และรัฐบาลใหม่เข้าบริหารบ้านเมือง นักวิชาการ ด้านรัฐศาสตร์ สะท้อนมุมมองจากตัวเลขเสียง ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลอาจทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพสูง แต่ก็ประเด็นปัญหาเสียงข้างมากลากไปในสภา เพราะเชื่อมั่นในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่วางกรอบการตรวจสอบไว้อย่างเข็มแข็งโดยเฉพาะฝ่ายค้านสำหรับบรรยากาศการเข้ารับหนังสือประกาศรับรองการเป็น ส.ส.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ในศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ วันนี้ค่อนข้างเงียบเหงามี ส.ส.ใหม่เพียง นายอรรถพล วงศ์ประยูร ส.ส.เขต 2 สระบุรี พรรคเพื่อไทย และ นายองอาจ วงศ์ประยูร ส.ส.เขต 4 สระบุรี พรรคเพื่อไทย รวมถึงนายเชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และ นายธีระ ไตรสรณกุล เขต 5 ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยที่รับหนังสือประกาศรับรองและรายงานตัวต่อสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ | นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์แสดงความเชื่อมั่นในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่จะวางกรอบการทำงานให้ฝ่ายบริหาร และ ฝ่ายนิติบัญญัติเกิดการถ่วงดุลกันอย่างมีสมดุล ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กล่าวย้ำการรับรอง ส.ส.เพิ่มเติมขึ้นอยู่กับสำนวนคดีที่ฝ่ายสืบสวนสอบพิจารณาแล้วเสร็จ | การเมือง | Election54,กกต.,ประพันธ์ นัยโกวิท,พิจารณารับรอง ส.ส.เพิ่มเติม,รับรอง ส.ส. | https://news.thaipbs.or.th/content/23139 |
ทางหลวงเตือนช้าแช่เลนขวาเกิดอุบัติเหตุสูงสุด แนะใช้ช่องทางให้เหมาะสม | นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า การใช้ความเร็วรถยนต์ที่ต่ำกว่า 90 กม./ชม. ในช่องทางขวาสุดของถนนทางหลวง 4 ช่องทาง เป็นสาเหตุสำคัญของการอุบัติเหตุอันดับที่ 2 หรือคิดเป็นสัดส่วน 30% ของการเกิดอุบัติเหตุทั้งหมด รองจากการเสียหลักตกข้างทาง โดยมีสัดส่วนที่ 45% นำมาซึ่งความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้ถนน ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรใช้ความเร็วที่เหมาะสมตามแต่ละช่องจราจรกำหนดเพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวทั้งนี้ การกำหนดความเร็วที่เหมาะสมสำหรับในแต่ละช่องจราจร กำหนดให้ช่องขวาสุดเป็นช่องทางที่ให้รถยนต์ใช้ความเร็วได้สูงสุด และจะให้รถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็วต่ำกว่า 90 กม./ชม. อยู่ในช่องทางอื่นๆ ทางด้านซ้ายโดยกำหนดความเร็วลดหลั่นลงมาตามลำดับ การกำหนดในลักษณะนี้จะช่วยให้รถยนต์ที่วิ่งช้าไม่ทำให้ความเร็วเฉลี่ยของการจราจรในภาพรวมของถนนลดลงมากนัก และไม่เกิดการสะสมชะลอตัว นอกจากนั้น วิธีการดังกล่าวจะช่วยลดการเปลี่ยนช่องจราจรที่ไม่จำเป็นลงได้ด้วย จะเป็นการช่วยลดปัญหาอุบัติเหตุการเฉี่ยวชนและการแซงในระยะกระชั้นชิดได้ เนื่องจากช่องทางขวาสุดมีไว้สำหรับรถยนต์ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงดั้งนั้น เมื่อมีการขับขี่ด้วยความเร็วต่ำกว่า 90 กม./ชม. ในช่องทางดังกล่าว จังหวะที่รถยนต์คันที่ตามหลังมามีการเบี่ยงแซงไปช่องทางซ้ายจะเกิดจุดบอดที่คนขับรถยนต์ซึ่งอยู่ในตำแหน่งขวามองไม่เห็น จึงมีโอกาสสูงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุพุ่งชนกับรถยนต์ที่วิ่งมาในช่องทางซ้ายด้านหน้าการกำหนดช่วงความเร็วในแต่ละช่องจราจรเป็นช่วงสูงสุด-ต่ำสุด จะช่วยทำให้เกิดความแตกต่างของความเร็วในแต่ละช่องทางน้อยลง ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุชนท้ายจากความเร็วที่แตกต่าง และการเปลี่ยนช่องจราจรซึ่งเป็นสาเหตุการเกิอุบัติเหตุที่สูงเป็นลำดับที่ 2 ของการเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรใช้ความเร็วที่เหมาะสมตามแต่ละช่องจราจรกำหนด เพื่อลดอุบัติเหตุ นายสราวุธ กล่าวนายสราวุธ กล่าวด้วยว่า กรมทางหลวงและหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศ ได้แก่ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวง เตรียมเร่งดำเนินการตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งมีความห่วงใยในการใช้รถใช้ถนนทุกช่วงเวลา เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ และปัญหาการจราจรติดขัด โดยสั่งการให้กรมทางหลวงสำรวจจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และแก้ไขจุดเสี่ยงให้ครบถ้วน สำรวจไฟฟ้าแสงสว่างในเส้นทางต่างๆ และปรับปรุงป้ายจราจร หมุดสะท้อนแสง เส้นจราจรให้เห็นชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืนนอกจากนั้นยังได้เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2563 พร้อมนำเทคโนโลยีหรือใช้โดรนมาบริหารจัดการจราจรในทุกสถานการณ์ไม่เฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น รวมทั้งให้จัดทำแผนการปลูกต้นไม้ริมทางหลวงตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี | ทางหลวงเตือนขับช้าถนน 4 ช่องใช้เลนขวาสุด ทำเกิดอุบัติเหตุอันดับ 2 ของประเทศ ย้ำใช้ความเร็วให้เหมาะสม ขานรับนโยบาย รบ.ลุยสำรวจจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ พร้อมรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 63 | ข่าว,เศรษฐกิจ | กรมทางหลวง,ขับช้าแช่ขวา,สราวุธ ทรงศิวิไล,เทศกาลสงกรานต์,90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง,จุดเสี่ยง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1747303 |
ตำรวจนครปฐมวิสามัญฆาตกรรมผู้ค้ายาเสพติด | ตำรวจปราบปรามยาเสพติด จังหวัดนครปฐม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสภาพศพนายนายชานนท์ คชศิลา หรือโม่ง สะพานหัก หลังถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมระหว่างล่อซื้อยาบ้า 2000 เม็ด ในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลนครปฐมสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะเจ้าหน้าที่ล่อซื้อยาบ้าจากนายชานนท์ ซึ่งเป็นผู้ค้ารายใหญ่ในพื้นที่ นายพีระนัชช์ โรจน์เอกจิตต์ และนายมงคล บุตรโต ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาตามนัดหมาย และตรวจรับเงินจากสาย ก่อนส่งสัญญาณให้นายชานนท์ ที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์อีกคันมาส่งของให้เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับแต่ทั้งหมดพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถกระบะเข้าขวาง แต่นายชานนท์กลับยิงเจ้าหน้าที่ถูกประตูด้านขวาของรถ แล้ววิ่งหลบหนีจึงถูกวิสามัญฆาตกรรมด้านตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ขยายผลตรวจยึดของกลางเป็นยาบ้ากว่า 35000 เม็ด ยาไอซ์หนัก 85 กรัม รถยนต์ 7 คัน และทองรูปพรรณ 16 รายการ ได้จาก ด.ต.ประคอง ไชยพจน์ ตำรวจธุรการประจำสถานีตำรวจภูธรลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมพวก รวม 7 คนโดย ด.ต.ประคองถูกจับได้ขณะลักลอบขนยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านทางอำเภอเขมราฐ เพื่อไปส่งขายในจังหวัดอำนาจเจริญ ก่อนที่ตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี จะขยายผลตามจับผู้ร่วมขบวนการที่เหลือได้ที่จังหวัดร้อยเอ็ด | ตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานีขยายผลจับขบวนการค้ายาบ้า และยาไอซ์ได้ผู้ต้องหาเป็นตำรวจในจังหวัดอำนาจเจริญ 1 คนและเครือข่ายอีก 6 คน ส่วนที่จังหวัดนครปฐม ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ระหว่างล่อซื้อยาบ้า เนื่องจากยิงต่อสู้ | ภูมิภาค | ตำรวจ,นครปฐม,ยาบ้า,ยาเสพติด,ยาไอซ์,วิสามัญ,อุบลราชธานี | https://news.thaipbs.or.th/content/92892 |
สโตนส์ คิดถูก ปัดเข้าถ้ำสิงโตน้ำเงิน ก่อนเก็บของลงเรือใบ | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 28 ส.ค. ว่า จอห์น สโตนส์ กองหลังทีมชาติอังกฤษ ของ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมมหาเศรษฐีของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เผย คิดถูกต้องแล้วที่ปฏิเสธย้ายไปร่วมทีม สิงโตน้ำเงิน เชลซี ก่อนจะมีโอกาสย้ายมาร่วมงานกับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือสมองเพชร ในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม แห่งเมืองแมนเชสเตอร์,เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา โชเซ มูรินโญ ที่เวลานั้นยังกุมบังเหียนยอดทีมแห่งเดอะ บริดจ์ อยู่ ได้เดินหน้าเต็มกำลังด้วยการยื่นข้อเสนอกว่า 40 ล้านปอนด์ ราว 2,000 ล้านบาท เพื่อหวังปิดดีล อดีตนักเตะในสังกัดของ บาร์นสลีย์ ให้ได้,ผมคิดว่าผมคิดดีแล้วล่ะที่ไม่ได้ย้ายไปที่นั่น เพราะเขา (มูรินโญ) เป็นผู้จัดการทีมได้ไม่นานในปีนั้น และนั่นบางทีอาจทำให้อนาคตค้าแข้งของผมตกอยู่ในเครื่องหมายคำถามอีกครั้ง ดาวเตะวัย 22 ปี เผยกับ ลอนดอน อีฟนิ่ง สแตนดาร์ด สื่อชื่อดังของประเทศอังกฤษ,ในท้ายที่สุดแล้ว ผมไม่ได้ย้ายทีม สิ่งที่ผมทำต่อไปคือมุ่งมั่นกับการฝึกซ้อมและพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ ผมหวังว่าจะเป็นยอดนักเตะได้ในสักวัน,สำหรับผม เขา (กวาร์ดิโอลา) คือผู้จัดการทีมเก่งที่สุดของโลก ผมดีใจมากที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับเขา และผมหวังว่าผมจะได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างจากเขา,ผมมาที่นี่เพราะต้องการเป็นผู้ชนะ ผมก็เหมือนกับผู้เล่นทุกคนในโลกที่ต้องการประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์,ทั้งนี้ สโตนส์ ยังได้พูดถึงความรู้สึกหลังได้ร่วมงานกับเป๊ปด้วยว่า ผมสนุกกับการฝึกซ้อมและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากเขา เขาเป็นกุนซือที่เก่งมากและมีความเป็นมืออาชีพสูง เขาเน้นทุกรายละเอียด เขายอดเยี่ยมจริงๆ | จอห์น สโตนส์ ปราการหลังอนาคตไกล ระบุ เขาคิดถูกที่บอกปัดย้ายร่วมทัพ สิงโตน้ำเงิน เชลซี ส่งผลให้มีโอกาสเป็นลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กับ เรือใบสีฟ้า แมนฯ ซิตี้ | null | จอห์น สโตนส์,เรือใบสีฟ้า,แมนเชสเตอร์ ซิตี้,สิงโตน้ำเงิน,เชลซี,ทอฟฟีสีน้ำเงิน,เอฟเวอร์ตัน,เป๊ป กวาดิโอลา,พรีเมียร์ลีก,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/704254 |
ผกก.สน.หลักสอง ชี้แจงปม ตำรวจรุมตี ผู้ต้องหา เหตุขัดขืน ถ่มน้ำลายใส่ (คลิป) | ตลอดทาง,แฟนเพจเฟซบุ๊ก ,เห็บหมา, โพสต์คลิปวิดีโอตำรวจซ้อมผู้ต้องหา พร้อมระบุข้อความว่า ,มีพลเมืองดี ไม่ประสงค์ออกนาม (กลัวโดนเก็บ) ช่วยแชร์หน่อยๆ #แจ้งเหตุการณ์ #ตำรวจซ้อมผู้ต้องหา #สน.หลักสอง เกิดเหตุเมื่อวันที่ 07.07.2562 เวลาประมาณ 14.00 น., ทั้งนี้หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็น พร้อมวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก,ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 62 พ.ต.อ.อรรถวุฒิ นิวาตโสภณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลหลักสอง ชี้แจงเหตุการณ์ในคลิปที่แชร์กันว่า วันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากประชาชน ว่ามีคนเมายาหรือสารเสพติด อาละวาดคลุ้มคลั่ง ภายในวัดบุญยประดิษฐ์ ถนนพุทธมณฑล สาย 2,เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ จึงเดินเข้าไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ พร้อมกับขอกำลังเสริมมาช่วยกันจับกุม เพื่อนำตัวชายคนดังกล่าวไปยังสถานีตำรวจ ในระหว่างที่เข้าจับกุม ชายในคลิปได้ต่อสู้ขัดขืน บวกกับชายคนดังกล่าวมีรูปร่างใหญ่ จึงจับกุมด้วยความยากลำบาก ขณะคุมตัวขึ้นรถมายังสถานีตำรวจ ยังได้ด่าทอและถ่มน้ำลายใส่ตลอดทาง จนกระทั่งเดินทางถึงสถานีตำรวจ ก็ยังถูกถ่มน้ำลายใส่อีก เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทนไม่ไหว กระทำอย่างในคลิป ก่อนจะคุมตัวไปดำเนินคดีข้อหาเสพสารเสพติด,สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ลงมือทำร้ายชายในคลิป ว่าเกินกว่าเหตุหรือไม่ ทั้งนี้ รอผลการสอบสวน เพื่อดำเนินการต่อไป โดยขอยืนยันว่า จะไม่ปกป้องลูกน้องเด็ดขาด.,(ขอบคุณเฟซบุ๊ก เห็บหมา) | เปิดคลิปนาที ตำรวจ รุมตี ผู้ต้องหา ข้าง สน.หลักสอง ด้านชาวเน็ตแห่วิจารณ์สนั่นโซเชียล ขณะที่ ผู้กำกับ โร่ชี้แจง ระหว่างเข้าจับกุม ชายในคลิปได้ต่อสู้ขัดขืน ซ้ำยังด่าทอและถ่มน้ำลายใส่ | ข่าว,สังคม | ทำร้ายร่างกาย,ตำรวจทำร้าย,ทำร้ายผู้ต้องหา,สน.หลักสอง,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1612603 |
ดร.เจษฎา สวนกระแสปัญหาความเข้าใจ 3 สารพิษการเกษตร และเหตุผลที่ไม่ควรถูกแบน | ขณะนี้สาร 3 ชนิด อย่าง สารพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส กำลังเป็นกระแสให้พูดถึงอยู่ในตอนนี้เป็นอย่างมากบนสื่อออนไลน์ ท่ามกลางการถกกันถึงปัญหาที่แท้จริงว่า สารเคมีทางการเกษตรทั้ง 3 ชนิด อันตรายจริงหรือไม่ อย่างไร และผลกระทบทั้งหมดจะไปตกกับใครTHE STANDARD ได้สัมภาษณ์ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกี่ยวกับประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ จากมุมมองของนักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ที่มองสวนหลายหน่วยงานว่า สาร 3 ชนิดนี้ ยังไม่สมควรถูกแบนปูพื้นความเข้าใจ เกี่ยวกับสารทั้ง 3 ชนิดรศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ กล่าวว่า ปัญหาใหญ่ของประเด็นการแบนสาร 3 ชนิด คือ เรื่องความเข้าใจเกี่ยวกับสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ที่ได้รับข้อมูลเพียงด้านเดียว ไม่รอบด้าน และถูกบิดเบือนไปด้วย เพราะปัจจุบันในกระแสของการรณรงค์ให้แบนสารเคมีทางการเกษตร มีเพียงการอ้างว่า สารเหล่านี้เป็นพิษต่อสุขภาพของผู้บริโภค เกษตรกร ไปจนถึงสิ่งแวดล้อม ไปในแบบต่างๆ นานา โดยบางที่เหมารวมสาร 3 ชนิด ว่าเป็นยาฆ่าหญ้า ทั้งที่ความจริงคุณสมบัติของสารแตกต่างกันตอนนี้ถึงขนาดที่มีการบอกว่า สารทั้ง 3 ชนิด ทำให้มีผู้ป่วยกว่า 10000 ราย ขณะที่ศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี มีค่าตัวเลขที่ไม่ได้สูงระดับนั้น หรือการอ้างว่า สารพาราควอตหรือไกลโฟเซตทำให้คนเป็นโรคเนื้อเน่า ซึ่งผลทางด้านการแพทย์ก็ยืนยันว่า ไม่จริง โรคดังกล่าวเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียเท่านั้นทุกวันนี้น้อยคนมากที่จะออกมาพูดว่า สารพิษทั้ง 3 ชนิด แต่ละตัวใช้กันอย่างไร และแตกต่างกันอย่างไรบ้าง จนบางทีเกิดการนำความอันตรายของสารพิษชนิดหนึ่งไปอ้างอิงเป็นสารพิษอีกชนิดหนึ่ง จึงทำให้ผู้คนเกิดความสับสนและปักใจเชื่อกันว่า สารพิษ 3 ชนิดนี้ อันตรายเท่ากันหมดซึ่งจริงๆ แล้ว ถ้าเรามานั่งไล่ดูทีละตัวจะพบว่า สารพิษทั้ง 3 ชนิด มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้เริ่มจากตัวแรก คลอร์ไพริฟอส ถือเป็นยาฆ่าแมลง เป็นสารเคมีทางการเกษตรที่มีไว้ใช้เพื่อกำจัดแมลง และจะเกิดอันตรายต่อผู้บริโภคหากพบสารตกค้าง หากผู้ผลิตผ้าเกษตรกรใช้ไม่ถูกต้อง ซึ่งสารคลอร์ไพริฟอสเป็นสารที่สามารถแบนได้เลย เนื่องจากปัจจุบันมีสารทดแทนชนิดอื่นที่มีพิษต่ำกว่าคลอร์ไพริฟอส ก็สามารถทดแทนกันได้ส่วน 2 ชนิด ที่เป็นประเด็น คือ พาราควอต และ ไกลโฟเซต 2 ชนิดนี้ มีใช้เพื่อฆ่าหญ้าหรือกำจัดวัชพืช ซึ่งเป็นไปได้น้อยมากที่จะมีสารตกค้างถึงผู้บริโภค เพราะไม่ได้มีสารตกค้างแบบเดียวกับยาฆ่าแมลงสำหรับพาราควอตในนานาประเทศที่มีการแบนพาราควอตกัน เนื่องจากพบว่า มีความเป็นพิษในการบริโภคค่อนข้างเยอะ เพราะเมื่อทานเข้าไปจะรักษาได้ยาก ทำให้ผู้คนนิยมใช้ในการดื่มเพื่อฆ่าตัวตาย ซึ่งอันนี้มันไม่ใช่ประเด็นที่พบการตกค้างอยู่ในพืชผลทางการเกษตร เพราะยาฆ่าหญ้า 2 ชนิดนี้ เป็นยาแบบเผาไหม้ เพราะฉะนั้นเมื่อยาฆ่าหญ้าอย่างพาราควอตและไกลโฟเซตไปถูกต้นพืชไหนก็ตามที่เป็นใบพืชสีเขียวก็จะไหม้ตายหมดเลย ดังนั้น จึงไม่มีเกษตรกรคนไหนไปฉีดใส่ผลผลิตให้เสียเปล่าแน่นอนตัวสุดท้ายคือ ไกลโฟเซต เป็นยาฆ่าหญ้าที่มีความเป็นพิษต่ำมาก หากเปรียบเทียบคือ มีฤทธิ์ต่ำกว่าเกลือแกงด้วยซ้ำในปริมาณที่เท่ากัน สารพิษที่ถูกเหมารวมว่าอันตราย ซึ่งความน่าสนใจอีกอย่างเกี่ยวกับสารพิษชนิดนี้คือ ไม่มีประเทศไหนในโลกนี้แบนกันสิ่งเหล่านี้ก็เลยทำให้เกิดกระแสตามมาว่า หากยาฆ่าหญ้า 2 ชนิดนี้ ถูกแบนขึ้นมาจริงๆ เท่ากับบีบให้การเกษตรที่แพงกว่าแต่คุณภาพแย่กว่า หรือมีความเป็นพิษไม่ต่างกัน ส่วนตัวจึงเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมถึงผูกเหมารวมสารพิษทั้ง 3 ชนิดนี้ ทั้งที่มีค่าความเป็นพิษและคุณภาพเชิงเกษตรที่ต่างกันดังนั้น หากต้องการที่จะแบนจริงๆ ควรมีข้อมูลประกอบจากหลายฝ่ายที่รอบด้าน และออกมาบอกกับผู้คนว่า 3 สารชนิดนี้ต่างกัน ยกตัวอย่าง คลอร์ไพริฟอสแบนได้เลย เพราะอันตรายจริงๆ ส่วนพาราควอต ประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาและจีนมีการควบคุมการใช้อย่างเข้มงวด ขณะที่ไกลโฟเซตไม่มีความจำเป็นต้องแบน เพราะอุตสาหกรรมการเกษตรทั่วโลกก็มีการใช้กัน ซึ่งถ้าแยกเรื่องเหล่านี้ได้ เราก็จะพอมองออกว่า การแบนสารพิษไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นกับสารทั้งหมดก็ได้ข้อดี-ข้อเสีย หากการแบนเกิดขึ้นจริงในภาพรวมของข้อดีที่เกิดจากการแบนสาร 3 ชนิดข้างต้นนั้น รศ.ดร.เจษฎา ระบุว่า ข้อดีที่เกิดขึ้นคือ ภาพรวมที่มีต่อการลดการใช้สารเคมี โดยเฉพาะสารที่อาจมีการนำเข้ามาในปริมาณที่สูง แต่ในเชิงรูปธรรมไม่เป็นอย่างนั้น เพราะการทำแบบนี้เปรียบเสมือนการนำเครื่องมือทางการเกษตรของเกษตรกรออกจากมือพวกเขาไปส่วนข้อเสียก็ชัดเจนว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นอันดับแรกจากประเด็นนี้คือ เกษตรกรอันเป็นผู้ใช้สารเหล่านี้ เพราะในอนาคตพวกเขาอาจจะต้องเสียเงิน เพื่อซื้อยากำจัดวัชพืชในราคาที่สูงขึ้น แต่คุณภาพต่ำลง ซึ่งอาจจะลุกลามไปกระทบเรื่องของผลผลิตทางการเกษตร ที่พาให้กระทบต่อผู้บริโภคอาจต้องซื้อสินค้าบริโภคที่สูง และยังอาจลามไปถึงภาคสังคมและเศรษฐกิจโดยรวมที่จะได้รับผลกระทบไปด้วยแต่คนที่ไม่เสียผลประโยชน์เลยคือ พ่อค้านายทุน เพียงแค่เปลี่ยนจากการขายสารชนิดหนึ่ง เปลี่ยนไปเป็นสารชนิดหนึ่งเท่านั้น แถมยังได้กำไรเยอะชัดเจน และจะทำให้เห็นพ่อค้าหน้าใหม่เข้ามาสู่ตลาดขายสารใหม่ๆ อีกเยอะข้อเสนอถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแบนสาร 3 ชนิดผมพยายามฝากถึง คุณอนุทิน ชาญวีรกูล มนัญญา ไทยเศรษฐ์ และคนรอบข้างว่า การที่บอกว่าเป็นผู้บริหารไม่ต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้ (พูดถึงประเด็นที่มีการตอบโต้กับ BIOTHAI) ไม่ต้องอ่านงานวิจัยทุกเรื่องก็ได้ ซึ่งมันไม่จริง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระทบต่อเกษตรกรนับแสนคน หรือมากกว่านั้นก็คือหลักล้านคนผลกระทบจากประเด็นการแบน 3 สารพิษ มันเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ดังนั้นก่อนที่จะดำเนินการอยากจะให้ศึกษาข้อมูลให้รอบด้านเสียก่อน การที่ไปตีขลุมว่า ทั้ง 3 สาร เป็นพิษ โดยที่ต้องแบนทันที มันสะท้อนค่อนข้างชัดว่า คุณไม่มีความรู้จริง เกี่ยวกับเรื่องนี้ นั่นแปลว่า คุณได้ความรู้จากรอบข้าง ซึ่งเป็นความรู้เพียงฝั่งเดียว และตอนนี้ถึงเวลาที่จะต้องลุกขึ้นมาฟังความเห็นจากคนอื่นๆ โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรอันเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบที่สุด เพื่อตัดสินข้อมูลบนความรู้ของวิทยาศาสตร์ที่แท้จริงอยากให้เขาได้มองกันดีๆ ว่า สารเหล่านี้มันแตกต่างกัน จะแบนโดยการเหมารวมไม่ได้ เพราะประเด็นนี้ควรมองแยกเป็นทีละตัว เช่น สารชนิดไหนก็ตาม หากมีสารทดแทนให้เกษตรกรใช้ที่ดีกว่า ก็สามารถดำเนินการแบนทันที ส่วนสารตัวไหนที่ยังหาสารทดแทนที่ดีกว่าไม่ได้ ก็ต้องลองใช้วิธีการจำกัดการใช้อย่างเข้มงวดดังนั้น ก่อนที่เราจะเริ่มแบนสารเหล่านี้ เราควรจะพิจารณาจากข้อมูลที่อุดมไปด้วยความจริง และไม่แบนไปโดยที่อาศัยข้อมูลเท็จหรือบิดเบือนความจริง แม้จะมีบางองค์การบอกว่า สารเหล่านี้เป็นสารก่อมะเร็ง แต่ก็ยังคงมีองค์การบนโลกนี้อีกไม่น้อย รวมไปถึงองค์การอนามัยโลก (WHO) สารเหล่านี้เป็นสารที่ใช้ได้อย่างปลอดภัย ฉะนั้น เราควรยืนอยู่บนพื้นฐานที่ระดับสากลเขาใช้กันเป็นแนวทางเดียวกันทั้งโลก อย่าใช้เพียงแค่อารมณ์และความรู้สึกในการแบน เพราะสุดท้ายคนที่เดือดร้อนคือ คนที่แทบจะไม่ได้ออกเสียงต่อประเด็นนี้อย่างเกษตรกร รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ กล่าวทิ้งท้ายอย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าแบน 3 สารพิษ ยังคงเป็นสิ่งที่ประชาชนและนักวิชาการหลายฝ่ายต้องจับตามองกันต่อไปว่า ภายในสิ้นปี 2562 สารเหล่านี้จะถูกยกเลิกแบบที่ 51 ประเทศทั่วโลก ทำกันได้หรือไม่ หรือมาตรการดังกล่าวยังคงเป็นที่ถกเถียงกันต่อไป ก่อนเดินเข้าสู่ปีที่ 3 และปีต่อๆ ไปแบบไม่มีที่สิ้นสุดภาพ: Jessada Denduangboripant/Facebookพิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล | นับตั้งแต่ปี 2560 หลายองค์กรในไทยมองเห็นข้อเสียของ สารพาราควอต พ่วงด้วย คลอร์ไพริฟอส และ ไกลโฟเซต จนเกิดการเดินหน้าเรียกร้องให้หน่วยงานในไทยแบนและยกเลิกใช้อย่างจริงจังท่ามกลางการมองไปในทิศทางเดียวกันว่า สารทั้ง 3 ชนิด ควรถูกแบนนั้น ยังมีนักวิชาการและผู้คนอีกไม่น้อยที่มองสวนกระแสว่า สารทั้ง 3 ชนิด ไม่ควรถูกแบนรศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ บอกกับ THE STANDARD ว่าสารทั้ง 3 ชนิด มีคุณสมบัติต่างกัน จึงควรทำความเข้าใจให้มากขึ้น ก่อนที่จะเลือกแบนอย่างจริงจัง เพราะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้มากที่สุดคือ เกษตรกร | null | null | https://thestandard.co/3-agricultural-chemicals/ |
คนก็หาย กฎหมายก็ไม่มี :ครอบครัวยื่นคำร้องขอศาลให้บิลลี่เป็นบุคคลสาบสูญ | ครอบครัวพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ยื่นคำร้องขอศาลให้บิลลี่เป็นบุคคลสาบสูญร่วมกับทนายความจากสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนและมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ระบุในปัจจุบันไทยยังไม่กฎหมายที่เกี่ยวกับกรณีการถูกบังคับสูญหายโดยตรง เป็นช่องว่างที่ทำให้เกิดการกระทำกับบุคคลในลักษณะนี้โดยไม่มีใครต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น28 ส.ค.2562 ที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมาเวลา 10:00 พิณนภาพฤกษาภรรณ หรือมึนอ ผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กหญิงประติภา รักจงเจริญ ร่วมกับ วราภรณ์ อุทัยรังสี หรือ แป๋ม ทนายความจากสมาคมนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน (สนส.) ได้เดินทางไปยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ พอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ สามีของพิณนภาเป็นบุคคลสาบสูญ สืบเนื่องจากการที่บิลลี่ แกนนำนักปกป้องสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยง ที่ได้รับมอบหมายจากปู่โคอี้ ผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจานให้ต่อสู้เรียกร้องสิทธิของชนเผ่าพื้นเมืองของชาวกะเหรี่ยงแห่งบ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน หายสาบสูญไปตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. 2557 หลังจากถูกจับกุมและควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยเจ้าหน้าที่ได้ยอมรับว่าได้ควบคุมตัวนายบิลลี่ ไว้จริง แต่อ้างว่าได้ปล่อยตัวไปแล้ว ซึ่งจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีผู้ใดทราบชะตากรรมของ บิลลี่ เป็นระยะเวลา กว่า 5 ปีแล้ว โดยมีพยานหลักฐานน่าเชื่อได้ว่า บิลลี่ถูกบังคับให้หายสาบสูญโดยเจ้าหน้าที่รัฐสำหรับคำร้องที่ทนายความของมึนอได้ยื่นไปนี้ศาลกำหนดนัดไต่สวนในวันที่ 28 ต.ค.นี้เวลา 09.00 น. ณ ศาลจังหวัดเพชรบุรีพิณนภา หรือมึนอ ภรรยาของบิลลี่ระบุว่าการยื่นคำร้องให้ศาลสั่งให้บิลลี่เป็นบุคคลสาบสูญก็เพื่อสิทธิประโยชน์ทางด้านสิทธิตามกรมธรรม์ประกันชีวิตที่บิลลี่เคยทำไว้และนิติกรรมอื่นๆ การต่อสู้ที่ผ่านมากินระยะเวลามากว่า 5 ปี ที่มึนอจะต้องต่อสู้ในเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับบิลลี่ สิทธิในที่ดินทำกินของชาวกะเหรี่ยงโป่งลึกบางกลอย หมู่บ้านที่เธออยู่อาศัยในปัจจุบัน ทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยล้า เนื่องจากต้องพบความยากลำบากหลายอย่างโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเดินทางออกนอกพื้นที่โป่งลึกบางกลอยเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับคดีความทางกฎหมาย หรือการใช้ชีวิตประจำวันซึ่งต้องดูแลลูกๆ อีกห้าคนรวมทั้งแม่ที่อายุมาก การเดินทางออกมานอกพื้นที่หนึ่งครั้งก็จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากหลายฝ่ายให้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ อีกทั้งยังต้องคอยเป็นห่วงเด็กๆ ที่อยู่ที่บ้าน ว่าจะไปโรงเรียนอย่างไร หากฝนตกใครจะไปรับไปส่งเดินทางไปเรียน การทำงานต่อสู้เพื่อบิลลี่นั้นทำให้มึนอต้องออกนอกภูมิลำเนาอยู่บ่อยครั้ง จนแม่ของเธอบอกว่าเธอเดินทางบ่อยกว่าบิลลี่ในช่วงที่ทำงานก่อนหายตัวไปอีกด้วยซ้ำ อีกสิ่งหนึ่งที่มึนอจะต้องแบกรับนอกเหนือจากประเด็นเรื่องค่าใช้จ่าย แรงกายแรงใจ หรือเวลาที่เสียไป นั่นคือความรู้สึกไม่ปลอดภัยที่เธอต้องเป็นกังวลอยู่เสมอในส่วนของสมาชิกในครอบครัวบิลลี่เอง มึนอกล่าวว่าเด็กๆ ต้องการให้พ่อกลับคืนมา ญาติพี่น้องผู้ใหญ่ของบิลลี่ก็ต้องการให้คดีกระจ่าง ทุกคนอยากทราบความจริง อยากรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไร รวมไปถึงต้องการให้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินของพี่น้องชาวชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในบริเวณแก่งกระจานได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุดวราภรณ์ อุทัยรังสี หรือ แป๋ม ทนายความจากสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) ซึ่งเดิมทีเป็นทนายความให้กับปู่โคอี้และชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจาน แห่งหมู่บ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน ในกรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานรื้อทำลาย เผาบ้านและทรัพย์สิน โดยมีการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเมื่อปี 2555 ในคดีดังกล่าวบิลลี่ คอยเป็นผู้ประสานงานเตรียมข้อมูลของชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหายให้กับทนายความ เนื่องจากบิลลี่เองสามารถสื่อสารภาษาไทยได้ หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2557 เมื่อบิลลี่หายตัวไปภายหลังการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทนายวราภรณ์จึงทำงานเป็นทนายความให้กับมึนอ ในการยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรีเพื่อขอให้มีการไต่สวนกรณีการควบคุมตัวบิลลี่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90 ในช่วงขณะที่ยื่นคำร้องฯ เป็นช่องทางทางกฎหมายเพียงช่องทางเดียวที่ญาติของบิลลี่จะสามารถขอให้มีการตรวจสอบการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่โดยทันที เพื่อตรวจสอบว่าบิลลี่ถูกปล่อยตัวไปจริงหรือไม่ หรือยังคงอยู่ในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานว่าได้มีการปล่อยตัวบิลลี่ไปแล้วตามที่เจ้าหน้าที่กล่าวอ้าง เช่น บันทึกการจับ บันทึกการปล่อย ซึ่งหลักฐานดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการป้องกันและตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ว่ามีความโปร่งใสหรือไม่ เพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้ถูกจับหรือถูกควบคุมตัวทุกคนอยู่ในความปลอดภัยขณะถูกควบคุมตัว แต่ศาลฎีกาก็ไม่ได้วินิจฉัยไปถึงพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องดังกล่าว ในส่วนของการดำเนินคดีอาญาก็ยังคงดำเนินต่อไปภายใต้การสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) โดยนางสาววราภรณ์รวมถึงครอบครัวของบิลลี่หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากรณีจะมีความคืบหน้าโดยเร็วและครอบครัวของบิลลี่จะได้รับความเป็นธรรมในปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายที่เกี่ยวกับกรณีการถูกบังคับสูญหายโดยตรง ไม่มีข้อหาความผิดฐานบังคับให้บุคคลสูญหายโดยเจ้าหน้าที่ และไม่มีกระบวนการในการสืบสวนและการพิจารณาคดีที่ต่างไปจากคดีอาญาปกติ ทั้งๆ ที่ผู้กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ มีอิทธิพล และอาจใช้อำนาจกลั่นแกล้ง ใช้กำลังบังคับให้บุคคลสูญหายได้ จึงเป็นช่องว่างที่ทำให้เกิดการกระทำกับบุคคลในลักษณะนี้โดยไม่มีใครต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น การตรวจสอบการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ในการควบคุมตัวบุคคลใดให้อยู่ในความปลอดภัยจึงมีความสำคัญมาก นอกจากนั้นรัฐยังควรต้องเพิ่มมาตรการอื่นที่รองรับความสูญเสียของญาติผู้ถูกบังคับให้สูญหายอย่างเช่นกรณีบิลลี่ กรณีทนายสมชาย นีละไพจิตร หรือคนอื่นๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ โดยต้องผลักดันให้เกิดกฎหมายที่เกี่ยวกับฐานความผิดกรณีนี้ที่รวมไปถึงการเยียวยาความเสียหายและมาตรการบังคับให้เจ้าหน้าที่ต้องดูแลความปลอดภัยของผู้ถูกควบคุมตัวอย่างดีที่สุดด้วยก่อนคดีจะถึงที่สุดเนื่องในโอกาสที่วันที่ 30 สิงหาคมของทุกปีเป็นวันผู้ถูกบังคับสูญหายสากล มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ร่วมกับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล (ICJ) และสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยความสนับสนุนจากสหภาพยุโรป จึงจัดงานเสวนา คนก็หาย กฎหมายก็ไม่มี เพื่อรำลึกถึงนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนที่หายไป และเน้นย้ำถึงความจำเป็นของการมีกฎหมายต่อต้านการบังคับให้บุคคลสูญหาย รวมทั้งกำหนดให้การบังคับให้บุคคลสูญหายเป็นความผิดอาญาในประเทศไทยพิณนภา หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากการบังคับสูญหายที่จะมาเข้าร่วมในงานเสวนาเห็นว่า อยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับบิลลี่เป็นคนสุดท้าย ไม่อยากให้เกิดกับบุคคลอื่นอีกต่อไป และทนายความของผู้ยื่นคำร้องศาลให้บิลลี่เป็นบุคคลสาบสูญ หรือนางสาววราภรณ์ยังได้ฝากข้อกังวลด้วยว่า คนทั่วไปยังไม่ตระหนักถึงปัญหาการถูกบังคับให้บุคคลสูญหาย อาจจะเพราะยังมองว่าเป็นเรื่องไกลตัวมาก ไม่เคยเกิดขึ้นกับตนเองหรือคนใกล้ตัว เป็นไปได้ที่คนจำนวนมากยังไม่รู้จักคำว่า การบังคับให้บุคคลสูญหายทั้งที่มันมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่มันไม่ควรเกิดขึ้นกับใครเลย ดังนั้นการมีกลไกทางกฎหมายและมาตรการความปลอดภัยต่าง ๆ ที่สามารถคุ้มครองชีวิตของคนทุกคนที่มีการบังคับใช้อย่างจริงจังจึงเป็นสิ่งที่ควรเร่งรัดให้เกิดขึ้นโดยไวโดยงานเสวนา คนก็หาย กฎหมายก็ไม่มี ดังกล่าว จัดขึ้นในวันที่ 30 ส.ค.นี้ เวลา 13:00-16:30 ณ ห้อง LT2 ชั้น 3 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) โดยในงานมีนิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ถูกบังคับสูญหายบางส่วนในบริเวณหน้างาน พร้อมทั้งการเสวนาโดย พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาของ พอลละจี รักษ์จงเจริญ อังคณา นีละไพจิตร ตัวแทนผู้เสียหาย ผู้แทนจาก Asian Federation Against Involuntary Disappearances ศ.ณรงค์ ใจหาญ คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ประธานคณะอนุกรรมการป้องกันการกระทำทรมานและการบังคับให้หายสาบสูญ สัณหวรรณ ศรีสด ที่ปรึกษากฎหมาย คณะกรรมการนิติศาสตร์สากล อังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้แทนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และอื่นๆ | ครอบครัว พอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ ยื่นคำร้องขอศาลให้บิลลี่เป็นบุคคลสาบสูญ ร่วมกับทนายความจากสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนและมูลนิธิผสานวัฒนธรรม | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | พอละจี รักจงเจริญ,บิลลี่,พิณนภา พฤกษาภรรณ,วราภรณ์ อุทัยรังสี,การบังคับสูญหาย,การอุ้มหาย,มูลนิธิผสานวัฒนธรรม | https://prachatai.com/journal/2019/08/84080 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.