title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
สหรัฐฯ-อังกฤษยังต้องเผชิญสภาพอากาศที่เลวร้าย | โดยลูกที่สร้างความเสียหายหนักที่สุด คือทอร์นาโดที่พัดถล่มเมืองจ็อบลิน รัฐมิสซูรี เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ทำให้เมืองแทบจะหายไปทั้งเมือง อาคารบ้านเรือนเสียหายถึง 2000 หลัง ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตมากถึง 123 คน บาดเจ็บอีก 750 คน นับเป็นทอร์นาโดลูกเดียวที่ทำให้มีคนเสียชีวิตมากที่สุดในรอบ 64 ปีนอกจากทอร์นาโดแล้วพื้นที่รัฐโอกลาโฮม่า และ รัฐเท็กซัส ยังเผชิญกับพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงและลูกเห็บตกสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือน และทรัยพ์สินของประชาชน นอกจากนี้ยังทำให้สำนักงานอุตุนิยมวิทยาต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นสภาพอากาศที่เอื้อต่อการเกิดทอร์นาโดขณะที่อังกฤษการสัญจรทางอากาศกำลังเจอกับปัญหาหมอกควันภูเขาไฟที่ลอยมาจากไอซ์แลนด์ ซึ่งส่งผลให้ผู้โดยสารหลายพันคนตกค้างอยู่ตามสนามบินต่าง ๆ เนื่องจากเที่ยวบินถูกเลื่อน โดยคณะกรรมการควบคุมการบินแห่งภาคพื้นทวีปยุโรปหรือยูโรคอนโทรล ระบุว่า มีประมาณ 500 เที่ยวบินสำหรับเมื่อวานนี้ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากอาจมีเศษเถ้าถ่านที่เป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์ลอยปะปนอยู่ในกลุ่มควันสำหรับวิธีจัดการกับปัญหาหมอกควันจากภูเขาไฟครั้งนี้คณะกรรมการควบคุมการบินแห่งสหภาพยุโรปใช้เหตุการณ์แบบเดียวกันของเมื่อปีที่แล้วมาเป็นบทเรียน โดยแทนที่ยูโรคอนโทรลจะประกาศปิดน่านฟ้าของประเทศสมาชิกก็เปลี่ยนมาเป็นวิธีรายงานข้อมูลไปให้สายการบินต่าง ๆ ทำการตัดสินใจกันเอาเอง ซึ่งปรากฏว่า หลายสายการบินไม่กล้าเสี่ยง โดยบริติชแอร์เวย์ยกเลิกเที่ยวบินระหว่างกรุงลอนดอนกับสก็อตแลนด์ทั้งหมดเมื่อช่วงเช้าวานนี้ เช่นเดียวกันกับสายการบินเคแอลเอ็ม และ อีซี่เจ็ตของเนเธอร์แลนด์ ส่วนสายการบินแอน่าของสเปนตัดสินใจยกเลิก 2 เที่ยวบินมายังกรุงลอนดอน และ ล่าสุดเยอรมนีประกาศปิดสนามบินทางภาคเหนือ เนื่องจากควันภูเขาไฟลอยเข้าปกคลุม | ทอร์นาโดหลายลูกพัดลงสู่พื้นในรัฐโอกลาโฮม่าสร้างความเสียหายแก่สิ่งปลูกสร้างตลอดเส้นทางที่พายุพัดผ่าน พายุทอร์นาโดที่พัดถล่มพื้นที่แถวมิดเวสต์ของสหรัฐรอบนี้เกิดขึ้นห่างจากทอร์นาโดรอบที่แล้วเพียงไม่กี่สัปดาห์ | ต่างประเทศ | พายุลูกเห็บ,ภัยธรรมชาติ,ภูเขาไฟในไอซ์แลนด์,ยกเลิกเที่ยวบิน,สหรัฐฯ-อังกฤษ | https://news.thaipbs.or.th/content/12397 |
เรื่องของคนเรื่องที่ต้องแยกแยะ | ครับระหว่างเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญจากที่ได้ส่งทีมงานเข้ามาช่วยเหลือพร้อมอุปกรณ์พิเศษ,นั่นทำให้เห็นช่องทางที่จะไปถึงตัว 13 คน จากทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีพร้อมผู้ช่วยโค้ช ซึ่งติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนที่แม่สาย เชียงราย เพื่อช่วยเหลือได้,ทำให้มีความหวังมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อน้ำลดและหาช่องทางที่จะเข้าไปในถ้ำหลังจากหาวิธีการต่างๆจนแทบจะมืดมนต์ไปแล้วเพราะธรรมชาติไม่เอื้ออำนวย,ที่สำคัญก็คือการจัดระเบียบใหม่เพื่อปฏิบัติการค้นหา (,ปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิต ถ้ำหลวงเชียงราย,),การมอบหมายให้ผู้ว่าฯเชียงรายเป็นผู้แถลงข่าวเพียงคนเดียว จนได้ข้อมูลและข้อเท็จจริงไปในทิศทางเดียวกันทำให้ไม่เกิดความสับสนอย่างที่ผ่านมา,ตรงนี้แหละคือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน,เพราะงานใหญ่ในลักษณะนี้ หากไม่จัดระเบียบให้ดีก็จะวุ่นวายสับสน มีความจำเป็นที่จะต้องมีผู้บัญชาการการสถานการณ์ที่จะสั่งการและตัดสินใจต่างๆได้อย่างเต็มที่,เพราะทุกลมหายใจที่รอคอยเพื่อความหวังให้เป็นจริง,ด้วยเงื่อนไขเวลา เงื่อนไขจากธรรมชาติที่จะต้องเร่งมือในการช่วยเหลือ,การร่วมแรงร่วมใจทั้งภาครัฐ เอกชนและจากมิตรประเทศนั้นมีความจำเป็นต่อการช่วยเหลือ ทั้งเด็กที่อยู่ในถ้ำ พ่อ-แม่ ญาติมิตรและเจ้าหน้าที่ในสนามล้วนต้องการขวัญและกำลังใจอย่างเต็มที่,แต่เรื่องของคน เรื่องมุมมองต่างๆ จากสังคมส่วนใหญ่ว่าไปแล้วแสดงออกด้วยความจริงใจและเห็นใจ,กลับมีบางคนบางหมู่ บางเหล่าแสดงความคิดเห็นที่ย้อนแย้งกับส่วนใหญ่เอาเรื่องนี้ไปใช้ประโยชน์เหน็บแนม เสียดสีฝ่ายรัฐอย่างไม่เหมาะไม่ควร,ก็ไม่รู้จิตใจทำด้วยอะไรแยกไม่ออก ปัญญาเบาหรือยังไง,พูดถึงเรื่องนี้ก็ย้อนไปถึงเรื่องของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ซึ่งเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่สนามด้วยก็เกิดปัญหาขึ้นมาอีก,เมื่อมีการพูดจากับเจ้าหน้าที่ทำนองว่าการจะใช้โดรน ใช้อุปกรณ์ต่างๆในการเจาะผนังถ้ำเพื่อหาช่องทางเข้าช่วยเหลือนั้นจะต้องดูกฎหมายก่อนที่จะทำได้หรือไม่ ใช้โดรนต้องมีกฎหมายควบคุม ถ้าหนีภาษีก็ผิดกฎหมาย,เท่านั้นแหละเป็นเรื่องขึ้นมาทันที,เพราะถูกวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานาว่าไม่เหมาะสม เพราะนี่เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเร่งให้ช่วยเหลือไม่ใช่คิดแต่เป็นเรื่องผิดถูกทางกฎหมาย,พูดง่ายๆว่าไม่เข้าท่า,พูดถึง พล.ต.อ.ศรีวราห์แล้วก็พอจะมองเห็นภาพและความเป็นไปขึ้นมาพลันเอากันง่ายๆ หลังทำคดี เสือดำ ที่มีเจ้าพ่อรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่เป็นจำเลย,ใครสังเกตให้ดีจะเห็นหน้าตาของนายตำรวจท่านนี้หมองคล้ำให้ปรากฏ เพราะถูกข้อครหาว่ามีนอกมีในกับจำเลยใหญ่รายนี้,ทั้งที่ก่อนหน้าถือว่าเป็นมือปราบคนสำคัญชื่อกระฉ่อนนาม,หลังคดีเสือดำจึงมาถึง 13 หมูป่าอะคาเดมี ทำให้นายพลท่านนี้ตกอยู่ในอาการไม่สู้ดีนัก คนเราพอดวงตกมันเลยออกมาเป็นอย่างนี้,ตำแหน่งแห่งหนซึ่งเป็นความปรารถนาดูท่าว่าน่าจะเลิกคิดได้แล้ว เพราะแทบจะไม่มีหนทางที่จะเดินไปสู่จุดนั้นได้,เรื่องของบุญญาวาสนาส่งนั้นเป็นเรื่องของแต่ละคนดิ้นยังไงก็ยาก?,สายล่อฟ้า | สิ่งที่เห็นและเป็นไป ครับระหว่างเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญจากที่ได้ส่งทีมงานเข้ามาช่วยเหลือพร้อมอุปกรณ์พิเศษ | null | ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล,ถ้ำหลวง,หมูป่าอะคาเดมี,กล้าได้กล้าเสีย,สายล่อฟ้า | https://www.thairath.co.th/news/local/1324905 |
รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ มอง รัฐบาลใหม่ ลุงตู่ อยู่ได้ยาวหากมีกองทัพหนุน | วันที่ 7 มิ.ย. 2562 ดร.รยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวแสดงความคิดเห็นถึงกรณีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า หลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลชุดนี้จะบริหารประเทศได้ไม่นาน เพราะเป็นรัฐบาลที่มาจากหลายพรรคการเมืองและมีเสียงปริ่มน้ำนั้น ส่วนตัวมองว่า ตราบใดที่รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความขัดแย้ง และยังได้รับการสนับสนุนจากกองทัพ ก็ย่อมจะเป็นหลักประกันความปลอดภัยของรัฐบาลได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นเช่นนั้นมาตลอด และในอนาคตหากมีการแต่งตั้งโยกย้าย ผู้บัญชาการเหล่าทัพ หรือหน่วยงานที่คุมกำลังสำคัญ ก็เชื่อว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก็ย่อมต้องส่งคนที่ไว้วางใจไปกำกับดูแล,ขณะเดียวกันในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การปกครองประเทศภายใต้รัฐบาล คสช. องค์กรอิสระต่างๆ รวมไปถึงหน่วยงานของรัฐอื่นๆ คสช. ย่อมได้สร้างเครือข่ายและวางกลไกต่างๆ ไว้อยู่แล้ว ยังไม่รวมถึงปัจจัยอำนาจรัฐหรืออำนาจอื่นๆ ที่มองไม่เห็น ดังนั้น เรื่องจำนวน ส.ส. ในสภาผู้แทนราษฎร จึงมองว่าไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่จะชี้วัดถึงความอยู่รอดของรัฐบาลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะท้ายสุด ส.ว. 250 คน ก็ยังสามารถเลือก พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ในตลอด 5 ปีนี้ หากมีอุบัติเหตุทางการเมืองใดเกิดขึ้น,ดร.รยุศด์ ยังกล่าวอีกว่า แม้วันนี้พรรคฝ่ายที่อ้างตนเป็นประชาธิปไตยจะแพ้เกมในสภา แต่ในเชิงสัญลักษณ์ถือว่าชนะใจประชาชน ประวัติศาสตร์การเมืองครั้งนี้คงต้องจารึกไว้หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นกฎกติกาที่ผิดเพี้ยนเอื้อประโยชน์บางพรรค ส.ว.เพื่อนพ้องน้องพี่ที่เลือกนายกรัฐมนตรีได้ พรรคชนะเลือกตั้งอันดับหนึ่งไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล และอื่นๆ อีกมากมาย จึงทำให้เกิดคำถามจากสังคมว่าการเข้าสู่อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ มีความชอบธรรมและสง่างามหรือไม่ และคิดว่าจากนี้ต่อไปรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ คงจะต้องใช้ทุกวิถีทางและทุกองคาพยพเพื่อทำให้สามารถบริหารประเทศได้,ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า,รัฐบาลอาจจะอยู่ได้ยาวจนครบวาระด้วยซ้ำไป จะมีเพียงเหตุผลเดียวที่อาจจะทำให้รัฐบาลนี้อยู่ไม่ได้ คือการลุกขึ้นของประชาชนและคนรุ่นใหม่ที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี พ.ศ. 2516 และ 2535 และภายใต้บริบทสังคมที่การสื่อสารโซเชียลมีเดียมีบทบาทอย่างสูง โอกาสของการเกิด บางกอกสปริง หรือฤดูใบไม้ผลิในกรุงเทพฯ นั้น คิดว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องยากและมีความเป็นไปได้ เหมือนเคยเกิดขึ้นในกลุ่มประเทศอาหรับมาแล้ว ซึ่งเมื่อวันนั้นมาถึงก็เชื่อว่าประเทศไทยคงจะมีประชาธิปไตยเต็มใบอย่างแท้จริง,.,ดร.รยุศด์ บุญทัน | รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ เชื่อ รัฐบาลใหม่อยู่ยาวแม้เสียงปริ่มน้ำหาก กองทัพหนุน ระบุ 5 ปี คสช. สร้างเครือข่ายอำนาจทุกองค์กร ลั่น บางกอกสปริงเท่านั้นประชาธิปไตยเต็มใบจึงจะกลับมา | ข่าว,การเมือง | ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี,ตั้งรัฐบาล,รยุศด์ บุญทัน,พรรคเพื่อชาติ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1586520 |
ภาพข่าวยอดเยี่ยมประจำวันที่ 6- 12 มกราคม 2562 | พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แจกลายเซ็นน้องๆ ที่เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อเที่ยวชมงานวันเด็กประจำปี 2562 ที่ห้องประชุมตึกภักดีบดินทร์ภาพ: วรรษมน ไตรยศักดาเด็กนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยแต่งกายด้วยชุดไปรเวทมาเรียนเป็นวันแรก หลังจากทางโรงเรียนประกาศทดลองให้นักเรียนสวมชุดไปรเวทมาเรียนได้ทุกวันอังคารตามนโยบายของโรงเรียน โดยจะทำการทดลองเป็นเวลาหนึ่งภาคเรียน อีกทั้งมีเป้าหมายอยากให้เป็นโรงเรียนแห่งความสุขของนักเรียน เพราะเชื่อว่าแค่หนึ่งวันของนักเรียนจะเป็นการสร้างความสุขให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ และต้องการสะท้อนว่าความแตกต่างของแต่ละคนสามารถอยู่ด้วยกันได้ภาพ: ฐานิส สุดโตวันเด็กแห่งชาติ… ในความหมายที่ต่างออกไป ศิลปินตัวน้อยแสดงดนตรีเปิดหมวกด้วยแคน เครื่องดนตรีท้องถิ่น เพื่อหารายได้เสริมบริเวณตลาดนัดจตุจักร ถึงแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งเป็นวันที่เด็กหลายคนมีโอกาสเดินทางไปยังสถานที่สำคัญ ภาพ: ชาติกล้า สำเนียงแจ่มนักกระโดดร่มกำลังร่อนลงพื้นโดยมีดวงจันทร์เต็มดวงเป็นฉากหลัง ใกล้กับยอดเขาหม่าอันซานในฮ่องกง กีฬากระโดดร่มเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นชาวฮ่องกง เพราะช่วยปลดปล่อยความเครียดของชีวิตคนเมืองที่ถูกห้อมล้อมด้วยตึกสูงภาพ: Anthony Wallace / AFPเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังปฏิบัติหน้าที่ในเหตุระเบิดร้านเบเกอรีที่กรุงปารีสในเขต 9 ช่วงเช้าวันที่ 12 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่นฝรั่งเศส ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย โดยเป็นนักดับเพลิงที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ 2 ราย และหญิงนักท่องเที่ยวชาวสเปน 1 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 47 คน สาหัสราว 10 คนภาพ: AFPราฮาฟ โมฮาเหม็ด อัล-เคนูน หญิงชาวซาอุดีอาระเบีย วัย 18 ปี เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติโทรอนโต เพียร์สัน ประเทศแคนาดาโดยสวัสดิภาพแล้ว เมื่อวันเสาร์ที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยมี คริสเตีย ฟรีแลนด์ นายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของแคนาดา ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง (คนขวาสุด)ภาพ: Lars Hagberg / AFPกลุ่มคนอยากเลือกตั้งร่วมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่สกายวอล์ก แยกราชประสงค์ เรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และรัฐบาลประกาศความชัดเจนในวันเลือกตั้ง และขอให้วันเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ พร้อมอ่านแถลงการณ์ในการจัดกิจกรรม เรียกร้องให้รัฐบาล คสช. ชี้แจงว่ากระบวนการอยู่ในขั้นตอนใด รวมถึงหยุดแทรกแซงการจัดการเลือกตั้งที่เป็นหน้าที่ของ กกต. โดยให้ กกต. ได้มีอิสระในการจัดการเลือกตั้งไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญ และเรียกร้องให้รัฐบาล คสช. และ กกต. บริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพเต็มศักยภาพของแต่ละหน่วยงาน ภาพ: ฐานิส สุดโต พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร ออกมาทวีตข้อความถึงตนเอง ระบุถึงกระบวนการยุติธรรมแบบป้อมๆ ว่าหมดความน่าเชื่อถือไปแล้ว และพาดพิงถึงการตรวจสอบนาฬิกาหรูว่าเป็นเรื่องของ ป.ป.ช. ส่วนที่บอกว่ากระบวนการยุติธรรมแบบป้อมๆ นั้นให้ไปถาม ไอ้ทักษิณมันเอง ภาพ: วรรษมน ไตรยศักดาหนูน้อยวัยกำลังซนทำท่าและเสียงเลียนแบบไดโนเสาร์ที่นำมาจัดแสดงบริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในงานวันเด็กประจำปี 2562ภาพ: ชาติกล้า สำเนียงแจ่มนิโคลัส ดุตโต นักบิดชาวอิตาเลียน นั่งพักหลังจากเช็กความพร้อมของมอเตอร์ไซค์ตัวเองในการแข่งขัน Dakar Rally ปี 2019 ที่เมืองลิมา ประเทศเปรูภาพ: Franck Fife / AFPกลุ่มผู้ประท้วงเสื้อกั๊กเหลืองในเมืองบูร์ช ประเทศฝรั่งเศส นำเสื้อกั๊กเหลืองไปสวมใส่ให้กับไก่ โดยเป็นการนัดรวมตัวประท้วงอีกครั้งในทุกวันเสาร์ ซึ่งกินเวลาไปแล้วกว่า 2 เดือน ภาพ: Guillaume Souvant / AFPผู้ลี้ภัยรายหนึ่งคลุมผ้าห่มสีแดงของสภากาชาด หลังจากมาถึงชายฝั่งของเมืองท่าอย่างมาลากา ทางตอนใต้ของประเทศสเปน โดยเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ลี้ภัยอีก 185 คนที่ทางการสเปนได้ทำการช่วยเหลือภาพ: Jorge Guerrero / AFPคริสต์ศาสนิกชนในฟิลิปปินส์หลายแสนคนต่างออกมาร่วมเดินเท้าเปล่าในขบวนแห่รูปปั้นพระเยซูดำ (Black Nazarene) พิธีกรรมประจำปีที่จะจัดขึ้นทุกวันที่ 9 มกราคมของทุกปี ที่กรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศ นับเป็นหนึ่งในพิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่สะท้อนถึงศรัทธาอันแรงกล้าของพี่น้องชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในสังคมฟิลิปปินส์ที่มีมานานหลายร้อยปีภาพ: Noel Celis / AFPเมกุมิ ทาเคอิจิ ช่างทำผมชาวญี่ปุ่น ตัดขนอูฐเป็นลวดลายสวยงาม ก่อนหน้าเทศกาลอูฐในเมืองบิคาเนอร์ รัฐราชสถาน ประเทศอินเดียภาพ: Dinesh Gupta / AFPไทยประเดิมชัยเกมแรกในศึกเอเชียนคัพ 2019 ด้วยการเอาชนะบาห์เรนไป 1-0 จากลูกยิงของ เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ ลุ้นผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย ในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มกับเจ้าภาพสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในวันที่ 14 มกราคมนี้ภาพ: FA Thailand | จากงานวันเด็กแห่งชาติที่ทำเนียบรัฐบาลถึงสีสันวันไร้ชุดนักเรียนที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย จากเหตุระเบิดร้านเบเกอรีที่กรุงปารีสถึงการลี้ภัยได้สำเร็จของราฮาฟ โมฮาเหม็ด อัล-เคนูน หญิงชาวซาอุดีอาระเบีย วัย 18 ปี ที่สนามบินในแคนาดา พบกับภาพข่าวยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ในสายตาของช่างภาพ THE STANDARD ได้ที่นี่ | null | null | https://thestandard.co/best-pictures-of-the-week-6-12-january-2562/ |
สมปอง ชี้ไทยต้องเดินหน้า ยื่นถอน พระวิหาร ออกจากมรดกโลก | ศ.สมปอง สุจริตกุล คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เรียกร้องให้รัฐบาลทำหนังสือไปยังคณะกรรมการมรดกโลกให้ถอนการขึ้นทะเบียนมรดกโลกปราสาทพระวิหาร และชี้แจงไปยังประชาคมโลกผ่านยูเนสโก ถึงสาเหตุการลาออกที่เป็นผลจากการทำงานของกรรมการมรดกโลกที่ไม่ได้เป็นไปตามแนวทางของยูเนสโก ด้วยเป้าหมายให้เกิดความร่วมมือกันในภูมิภาคศ.สมปอง ซึ่งเคยทำหน้าที่ทนายประสานงานทนายความไทยในคดีปราสาทพระวิหาร เชื่อว่า การลาออกจากภาคีอนุสัญญามรดกโลกของไทยจะทำให้เกิดการเผชิญหน้ามากขึ้นกับฝ่ายกัมพูชาบนเขาพระวิหาร หลังที่ประชุมใหญ่มรดกโลกมีมติให้กัมพูชาเดินหน้าแผนบูรณะตัวปราสาทพระวิหารที่เสนอโดยยูเนสโก และ เห็นว่า ผู้นำกองทัพไทยต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นในการทำหน้าที่บนเขาพระวิหารไม่ให้มีการรุกล้ำอธิปไตยของไทยระหว่างที่มีการบูรณะตัวปราสาท และ เห็นว่า การลาออกจากภาคีอนุสัญญามรดกโลกของไทยเป็นการกระทำที่ถูกต้อง | คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เสนอให้รัฐบาลทำหนังสือไปยังคณะกรรมการมรดกโลกเพื่อขอให้มีการถอนการขึ้นทะเบียนมรดกโลกปราสาทพระวิหาร พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาคมโลกถึงการทำงานที่ผิดพลาดของคณะกรรมการมรดกโลกทำให้เกิดความขัดแย้งในหมู่ประเทศสมาชิกไม่เป็นไปตามธรรมนูญของยูเนสโก | การเมือง | คณะกรรมการมรดกโลก,ยื่นถอด,ยูเนสโก,สมปอง สุจริตกุล,ไทย-กัมพูชา | https://news.thaipbs.or.th/content/19566 |
ปาร์ตี้ปีใหม่ จัดใหญ่ระดับโลก เปิดข้อสงสัย ไฉนเคาต์ดาวน์ในวัดอรุณฯ ? | ถ้าพูดถึงงานเคาต์ดาวน์ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หลายคนคงจะนึกถึงภาพการเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่แห่งมวลมนุษยชาติเพราะไม่ว่าจะเป็นแห่งหนตำบลไหนบนโลกใบนี้ เทศกาลงานส่งท้ายปี จะต้องมีการประดับประดาด้วยแสงสีเสียงรื่นเริงบันเทิงใจ และที่ขาดไม่ได้คือการเคาต์ดาวน์นับถอยหลัง 321ก่อนจะยิงพลุหลายร้อยหลายพันลูกขึ้นเฉิดฉายแสงสว่างกลางท้องฟ้ายามราตรี ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็นผ่านตาทางโทรทัศน์มาบ้างไม่มากก็น้อยแต่ไฉนงานใหญ่ขนาดนี้ เรากลับไม่เคยเห็นภาพงานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีของประเทศไทยปรากฏสู่สายตาชาวโลกเลย ทั้งๆ ที่ประเทศไทยคือเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจึงอาสาเป็นเจ้าภาพคิดการใหญ่ หวังจัดงานเคาต์ดาวน์ให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ โดยใช้วัดอรุณฯ เป็นฉากหลังในการเผยแพร่ภาพเคาต์ดาวน์นี้ไปสู่สายตามหาชนแต่งานรื่นเริงบันเทิงใจอย่างที่ชาวโลกเขาทำกัน ครั้นจะเอามาจัดที่วัดนั้นจะเหมาะสมหรือไม่? อีกทั้งพระปรางค์ที่กำลังบูรณะอยู่ยังไม่ทันเสร็จจะต้องทำอย่างไร? และที่สำคัญการจัดงานเคาต์ดาวน์จะมีผลดีอย่างไรต่อประเทศ? วันนี้ ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, จะพาไปไขคำตอบ,ทีมข่าวฯ ได้เก็บข้อมูลสถานที่เคาต์ดาวน์ชื่อดังของโลกที่ถูกนำมาประมวลผ่านทางโทรทัศน์ให้เห็นกันทุกปี โดยสถานที่ที่ถือเป็นไฮไลต์ที่สุด คืองานส่งท้ายปีของประเทศสหรัฐอเมริกา และสถานที่จัดงานที่มีชื่อเสียงและถูกนำมาเผยแพร่อวดสู่สายตาชาวโลกกันทุกปี คือย่านไทม์สแควร์ ส่วนประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของโลกคือประเทศฝรั่งเศส ได้ใช้ฉากหลังของการจัดงานเคาต์ดาวน์เป็นหอไอเฟล ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองน้ำหอมที่ทั่วโลกรู้จักกันดี สำหรับในทวีปเอเชีย การจัดงานเคาต์ดาวน์ในฮ่องกงก็ถือว่าจัดได้ยิ่งใหญ่ไม่น้อยหน้าใคร สำหรับในประเทศไทย งานเคาต์ดาวน์ที่ใหญ่ที่สุดคงจะไม่พ้นบริเวณห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ,เคาต์ดาวน์แบบไทย จัดใหญ่ระดับโลก,ทีมข่าวฯ ได้สอบถามไปยัง ,พระอาจารย์ศากยปุตติยวงศ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวรมหาวิหาร, เกี่ยวกับการจัดงานเคาต์ดาวน์ในครั้งนี้ ซึ่งได้รับคำตอบว่า เมื่อพูดถึงเคาต์ดาวน์ คนก็จะนึกถึงภาพของการเฉลิมฉลอง ร้องรำทำเพลง ซึ่งเป็นภาพที่ติดอยู่ในใจของคนไทยมานานมากแล้ว ซึ่งในต่างประเทศ งานแบบนี้จะเป็นรูปแบบของงานรื่นเริง ส่วนประเทศไทยก็รับเอาวัฒนธรรมลักษณะนั้นเข้ามาด้วย พอบอกว่าจะมีการจัดงานเคาต์ดาวน์ที่วัดอรุณฯ ภาพแรกที่คนคิดก็คือมันเป็นงานรื่นเริง ไม่สมควรมาจัดในวัดวาอาราม ศาสนสถานไม่ควรมาเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมของต่างชาติสาเหตุคนที่คิดแบบนี้เพราะว่าไปยึดติดกับภาพที่เคยเห็น แต่จริงๆ แล้วการเคาต์ดาวน์แบบไทยก็มีเหมือนกัน ,การจัดงานครั้งนี้เราจะใช้วัฒนธรรมไทยเป็นจุดขาย ซึ่งทั่วโลกอยากเห็นว่าประเทศไทยมีอะไรเป็นจุดเด่น เป็นการปลูกสำนึกคนไทยให้รู้ว่าการเคาต์ดาวน์ของคนไทยเป็นอย่างไร ถ้าเป็นงานรื่นเริง มีดนตรี แสงสีเสียง แล้วมานับถอยหลัง 54321 แบบนี้ทางวัดไม่อนุญาตให้จัดแน่นอน, พระอาจารย์ศากยปุตติยวงศ์ กล่าว,ด้าน ,นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กล่าวว่า ขณะนี้คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่จะจัดงานเคาต์ดาวน์ที่วัดอรุณฯ เบื้องต้น ททท. เสนอค่าใช้จ่ายไปแล้ว 120 ล้านบาท และสำนักงบประมาณกำลังพิจารณาว่าจะให้ใช้งบกลางหรืองบของ ททท. และที่สำคัญ งานครั้งนี้ไม่ใช่งานรื่นเริงอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ยังคงความเป็นไทยเอาไว้ ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองแบบวัฒนธรรมไทย และรายละเอียดของความเป็นไทยจะหารือร่วมกันกับกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งได้จัดสวดมนต์ที่วัดอรุณฯ ทุกปี ทำให้รูปแบบของงานในปีนี้จะนำการสวดมนต์ข้ามปีเป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งของงานด้วย นอกจากนี้จะมีการแสดงและแสงสีต่างๆโดยใช้ฉากหลังเป็นพระปรางค์วัดอรุณฯ โดยอาจจะต้องทำอัฒจันทร์ในฝั่งตรงข้ามของวัด (ฝั่งพระนคร) เพื่อให้คนมานั่งชม และมีการจัดให้มีถนนคนเดินตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. จนถึงวันงานด้วย,พระปรางค์วัดอรุณฯ ใครเห็นก็รู้ว่านี่คือประเทศไทย ,ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณฯ กล่าวต่อว่า เห็นด้วยที่ ททท. จะใช้วัดอรุณฯ เป็นจุดศูนย์กลางในการนำเสนอภาพลักษณ์ของความเป็นไทย เพราะจะให้สื่อภาพด้วยภูเขา น้ำตก หรือสะพานข้ามแม่น้ำ มันก็สื่อถึงความเป็นไทยได้ไม่หมด แต่ถ้าสื่อด้วยสถานที่ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างพระปรางค์วัดอรุณฯ ใครมองก็รู้ว่าที่นี่คือประเทศไทย และงานนี้ไม่ใช่ว่าจัดที่วัดอรุณฯ เพียงแห่งเดียว แต่สถานที่โดยรอบอย่างเช่น กองทัพเรือ สะพานพระรามแปด ไปจนถึงสะพานพุทธฯ ก็เป็นสถานที่จัดงานด้วย แต่จะใช้วัดอรุณฯ เป็นเซ็นเตอร์หลัก โดยให้ตลอดสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณที่กล่าวมาทั้งหมด ,เป็นบริเวณที่เรียกว่า สายน้ำแห่งการสวดมนต์,นายยุทธศักดิ์ เผยว่า ไม่ว่าประเทศไหนๆ ก็ใช้สถานที่ที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศเป็นสถานที่จัดงานเคาต์ดาวน์ ส่วนประเทศไทยแม้จะมีการจัดงานเคาต์ดาวน์อยู่หลายที่ แต่ภาพปรากฏออกไป มันก็ยังไม่ใช่สัญลักษณ์ของความเป็นไทย ทำให้ ททท. เลือกที่จะใช้วัดอรุณฯ เป็นสถานที่จัดงาน และเชื่อมั่นว่าภาพจะออกมาสวยงามมาก เมื่อคนที่ได้เห็นก็จะรู้ได้ทันทีว่าที่นี่คือประเทศไทย ,งานนี้ถือเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยสำหรับการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งเราคาดหวังให้การท่องเที่ยวเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศในปี 2559 ด้วย,รื้อนั่งร้าน เตรียมงานถ่ายทอดสด,ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณฯ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาวัดอรุณฯ ได้จัดงานใหญ่ทุกปี อย่างการสวดมนต์ข้ามปีนั้นก็มีมาตลอด แม้พื้นที่ของวัดอรุณฯ จะไม่กว้างขวาง แต่กลับมีคนร่วมงานนับหมื่นๆ คน ทำให้ทั่วทั้งบริเวณวัด ไม่ว่าจะเป็นลานด้านหน้าพระปรางค์ ลานรอบๆ พระปรางค์ ตลอดจนทางเดินของวัด จะแน่นขนัดไปด้วยผู้คนจนแทบไม่มีที่ว่าง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ายังมีคนให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมนี้อยู่มาก แต่ก็ไม่เคยมีภาพเหล่านี้ปรากฏไปสู่สายตาชาวโลกเลย ส่วนเรื่องพระปรางค์ที่กำลังบูรณะอยู่นั้น นั่งร้านที่ประกอบขึ้นคงต้องมีการนำออกไปก่อน ซึ่งทางวัดและกรมศิลปากรได้หารือกันแล้วว่า จะให้รื้อนั่งร้านรอบองค์พระปรางค์ออกไปก่อน เนื่องจากต้องการให้ภาพที่ออกมานั้นดูดีที่สุด เรื่องการซ่อมแซมอาจจะล่าช้าไปสักหนึ่งเดือนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ประโยชน์ที่เราจะได้กลับมาไม่ได้มีเฉพาะด้านการท่องเที่ยว แต่ยังทำให้คนไทยสำนึกรักในความเป็นไทยด้วย,ผู้ว่าฯ ททท. กล่าวว่า ได้ประสานงานกับสื่อมวลชนชั้นนำของโลก ทั้ง CNN BBC และ CCTV ของจีน รวมทั้งสถานีของญี่ปุ่นด้วย ซึ่งจะมีการมาเก็บภาพของงานและมีตัดภาพเพื่อถ่ายทอดสดด้วย ฉะนั้นจึงต้องรบกวนขั้นตอนของการบูรณะ ซึ่งอาจจะต้องรื้อนั่งร้านออกบางส่วนหรือถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ต้องรื้อออกทั้งหมด โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการหารือกับทางกรมศิลปากร ซึ่ง ททท. อยากให้ภาพที่ออกมาดูดีที่สุด เพื่อให้งานครั้งนี้ปรากฏอยู่ในปฏิทินการท่องเที่ยวของโลก,กรมศิลป์แจง พระปรางค์วัดอรุณฯโบราณสถานในวัดปัจจุบัน ,ขณะที่ กรมศิลปากร ในฐานะผู้ดูแลโบราณสถานของชาติและยังเป็นผู้ดูแลงานบูรณะพระปรางค์วัดอรุณฯ โดย, นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร, กล่าวว่า กรมศิลปากรมีหน้าที่ดูแลในส่วนของโบราณสถานเป็นหลัก แต่วัดอรุณฯ นั้นเป็นวัดปัจจุบัน ไม่เหมือนกับโบราณสถานอย่างอุทยานฯ กรุงศรีอยุธยา ที่จะมีเจ้าหน้าที่ของกรมศิลป์ดูแลอยู่ ฉะนั้นกรมศิลป์มีหน้าที่ให้คำแนะนำ บอกถึงข้อมูลและข้อจำกัดต่างๆให้ ททท. รับทราบ แต่ท้ายที่สุดแล้ว การบริหารจัดการต่างๆ จะอยู่กับทาง ททท. และทางวัดอรุณฯ เป็นฝ่ายตัดสินใจ, สำหรับองค์พระปรางค์นั้น ในยามปกติวัดจะเป็นผู้ดูแล แต่เนื่องจากเป็นโบราณสถานของชาติ การบูรณะต่างๆ จะเป็นหน้าที่ของกรมศิลปากร, ทางกรมศิลปากรได้แจ้งไปยัง ททท.ว่า องค์พระปรางค์ กำลังอยู่ในช่วงบูรณะ มีการขึ้นนั่งร้านไว้ทั้งหมด พื้นผิวขององค์พระปรางค์ที่เป็นลวดลายที่ทำจากกระเบื้องเซรามิก ก็ถูกนำออกมาบูรณะ และพื้นที่ของวัดอรุณนั้นค่อนข้างมีจำกัด ซึ่งกรมศิลป์ได้เสนอข้อกังวลเหล่านี้เพื่อ ททท. นำไปเป็นหลักประกอบการบริหารจัดการ,ไม่หวั่นเรื่องโครงสร้าง แต่กระทบเรื่องเวลา,นายอนันต์ กล่าวต่อว่า โครงสร้างขององค์พระปรางค์นั้น กรมศิลป์ได้ส่งวิศวกรเข้าไปตรวจโครงสร้างแล้ว และพบว่ายังมีความแข็งแรงทนทาน ซึ่งภาพโดยรวมถือว่าอยู่ในสภาพดี มีเพียงพื้นผิวภายนอกเท่านั้นที่เสียหายบ้างไปตามกาลเวลา ทำให้ดูแล้วอาจจะไม่มีความสวยงามเท่าที่ควร ,ถ้ามีการอนุมัติให้จัดงานขึ้น และจำเป็นต้องรื้อนั่งร้านรอบองค์พระปรางค์ออก ก็สามารถทำได้ไม่มีผลกระทบอะไรต่อโครงสร้าง แต่ผลกระทบหลักๆ ที่เกิดขึ้น จะเป็นเรื่องของงานบูรณะที่ล่าช้าออกไปอีกอย่างน้อยๆ ประมาณ 2 เดือน เนื่องจากการรื้อถอนนั่งร้าน จะใช้เวลาประมาณ 3 อาทิตย์ ซึ่งต้องทำก่อนการจัดงานเคาต์ดาวน์ และจะใช้เวลาประกอบนั่งร้านใหม่อีกประมาณ 2-3 อาทิตย์ และแน่นอนว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น, แต่ยังตอบไม่ได้ว่าเป็นจำนวนเท่าไร เพราะต้องรอให้มีการอนุมัติการจัดงานก่อน จึงจะให้ผู้รับเหมาประเมินราคาได้,ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดงาน ทางเรายังตอบไม่ได้ว่าจะใช้อุปกรณ์อะไรบ้างในการจัดงานครั้งนี้ แต่เท่าที่คุยกันเบื้องต้น จะมีเพียงไลท์อัพอย่างเดียวที่ติดตั้งบริเวณตัวพระปรางค์ ซึ่งในการติดตั้งก็ต้องไปดูกันที่หน้างานอีกที หรือหากมีอุปกรณ์อื่นๆ พิ่มเติม ก็ต้องนำมาพูดคุยกัน อีกประการหนึ่งคือ กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดงานสวดมนต์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เป็นประจำทุกปี โดยจัดที่หลายๆ วัดในกรุงเทพฯ และให้วัดอรุณฯ เป็นศูนย์กลางการจัดงาน ซึ่งมีคนให้ความสนใจเยอะอยู่แล้ว แต่ในปีนี้จะมีการจัดงานเคาต์ดาวน์ร่วมกับการสวดมนต์ข้ามปี ทางกรมศิลป์จึงกังวลว่าจะเอากิจกรรมทั้งสองอย่างนี้มาจัดร่วมกันได้อย่างไรบ้าง ซึ่งทาง ททท. ต้องไปคิดหาวิธีตรงนี้มา,อธิบดีกรมศิลป์ กล่าวทิ้งท้ายว่า คงบอกไม่ได้ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับเรื่องการจัดงานเคาต์ดาวน์ที่วัดอรุณฯ แต่เราได้เสนอแนะข้อกังวลเหล่านี้เพื่อให้ ททท. นำไปพิจารณา เพื่อให้การจัดงานนั้น ไม่ส่งผลกระทบหรือเกิดความเสียหายกับพระปรางค์ ซึ่งถ้าเป็นช่วงที่พระปรางค์ได้รับการบูรณะเสร็จแล้ว ข้อกังวลเหล่านี้ก็จะไม่มี ,ตอนนี้ขอแค่ให้มีการอนุมัติเห็นชอบจากภาครัฐก่อน แล้วจึงจะประเมินรายละเอียดอื่นๆ ได้, อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว | เทศกาลงานส่งท้ายปี จะต้องมีการประดับประดาด้วยแสงสีเสียงรื่นเริงบันเทิงใจ และที่ขาดไม่ได้คือการเคาต์ดาวน์นับถอยหลัง 321 ก่อนจะยิงพลุหลายร้อยหลายพันลูกขึ้นเฉิดฉายแสงสว่างกลางท้องฟ้ายามราตรี | null | เคาต์ดาวน์วัดอรุณฯ,เคาต์ดาวน์ในวัด,วัดอรุณฯ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,พระปรางค์วัดอรุณ,วัดอรุณราชวรมหาวิหาร,ปีใหม่ในวัด,งานปีใหม่วัด,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย,ปาร์ตีปีใหม่,ปีใหม่,วันปีใหม่,ททท.,เคาต์ดาวน์,นายยุทธศักดิ์ สุภสร,ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าว | https://www.thairath.co.th/content/543029 |
5 อ่างใหญ่ บางสะพานน้ำเต็ม คลองคดเคี้ยวปัญหาระบายลงทะเล | วันนี้ (9 พ.ย.) เวลา 14.30 น. นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่า ยังมีพื้นที่เฝ้าระวัง ได้แก่ ชุมชนตลาด ในเขตเทศบาลบางสะพาน เนื่องจากน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กในพื้นที่มีปริมาณน้ำเต็มความจุกักเก็บ 100% และล้นสปิลเวย์ แต่ยังไม่ข้ามสันอ่างได้แก่ อ่างเก็บน้ำโป่งสามสิบ อ่างเก็บน้ำพุระกำ อ่างเก็บน้ำคลองลอย อ่างเก็บน้ำมรสวบ อ่างเก็บน้ำบ้านวังน้ำเขียว อ.บางสะพานและน้ำจากพื้นที่สูงทางทิศตะวันตก จะไหลลงคลองบางสะพาน รวมทั้งพื้นที่สะพานวังยาว ถนนเพชรเกษม เนื่องจากมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุดอยู่ที่ 6.30 เมตร จากระดับตลิ่ง 7.50 เมตร โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปรับปรุงการระบายน้ำคลองบางสะพานลงสู่ทะเลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หากฝนไม่ตกเพิ่มขึ้นระบายน้ำ อ.บางสะพาน ลงทะเลสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาตินายเอกพล ฉิ้มพงษ์ หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการน้ำ สำนักงานชลประทานที่ 14 กล่าวถงแผนการระบายน้ำท่วม อ.บางสะพาน ว่า เนื่องจากยังฝนตก ประกอบกับอ่างเก็บน้ำ 2 แห่งมีน้ำล้นสปิลเวย์ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองลอยตอนล่าง และอ่างเก็บน้ำบ้านไทรทอง ทำให้มวลน้ำไหลมารวมกันตรงจุดถนนเพชรเกษมซึ่่งเป็นจุดที่มีถนนขวางทางน้ำทำให้การระบายน้ำทำได้ช้าแต่หากพ้นจากถนนนี้ไปจะมีฝายวังยางชะลอน้ำที่จะระบายไปยังคลองบางสะพาน ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เช่น โรงพยาบาลบางสะพาน โรงเรียนบางสะพาน แต่ได้มีการติดตั้งระบบป้องกันน้ำท่วมชุมชนในระดับหนึ่งแล้ว เพื่อลดผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชนสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างล่าช้า เพราะสภาพลักษณะทางกายภาพของคลองบางสะพานมีความคดเคี้ยว แม้จะมีระยะห่างจากทะเลเพียง 6 กม. ทำให้การระบายน้ำทำได้ช้า ขณะเดียวกัน การติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ไม่สามารถที่จะติดตั้งได้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากจะทำให้ตลิ่งทรุด นอกจากนี้ยังมีปัจจัยของน้ำทะเลหนุนสูงยืนยันมีแผนรับมือน้ำท่วมแล้วเสร็จปี 62นายเอกพล กล่าวว่าในปี 2560 กรมชลประทานได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอุกทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.บางสะพาน ทั้งการปรับปรุงขุดลอกคลองบางสะพาน ระยะทาง 4.5 กิโลเมตร ช่วยให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างอย่างมีประสิทธิภาพขณะที่ในปีนี้ กรมชลประทานได้ดำเนินการขุดลอกคลอง ต่อในระยะที่ 2 จาก กม.5+500 ถึง กม. 14.880 ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร พร้อมสร้างอาคารป้องกันการกัดเซาะตลิ่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในช่วงน้ำหลากและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง คาดก่อสร้างแล้วเสร็จ เมื่อเดือน มี.ค.2562นอกจากนี้ ยังได้มีการก่อสร้างประตูระบายน้ำในลุ่มน้ำคลองบางสะพาน 3 จุด คือ ประตูระบายน้ำทุ่งพร้าว ประตูระบายน้ำกลางคลองบางสะพาน และประตูระบายน้ำปลายครองบางสะพาน เพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุนเข้าพื้นที่การเกษตรนายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ดีขึ้นเหลือเพียงบางจุด ระดับน้ำอยู่ที่ 10-20 ซม.สาเหตุที่ยังมีน้ำเอ่อล้น เพราะระบายน้ำได้ช้าจากปัจจัยน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งคาดว่าวันนี้สถานการณ์จะดีขึ้นโดยกรมชลประทานและจังหวัดได้ดูแลตามขั้นตอน | จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุด ยังมีฝนตกในพื้นที่ ขณะที่ระดับน้ำท่วม 30-40 ซม. | ภัยพิบัติ | น้ำท่วมบางสะพาน,ประจวบคีรีขันธ์,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,เส้นทางระบายน้ำ,กรมชลประทาน | https://news.thaipbs.or.th/content/275589 |
ครึ่งปีแรก พบผู้ป่วยไข้เลือดออกกว่า 2.2 หมื่นคน เสียชีวิต 31 คน | วันนี้ (20 ก.ค.2560) นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ข้อมูลของสำนักระบาดวิทยาพบมีผู้ป่วยไข้เลือดออก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 17 กรกฎาคม 2560 จำนวน 22356 คน เสียชีวิต 31 คน กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ 15-24 ปี และร้อยละ 48 หรือเกือบครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิต เป็นนักเรียน นักศึกษา ช่วงอายุ 4 - 24 ปี เสียชีวิตถึง 15 คน จึงแนะนำพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครู สังเกตอาการป่วยของเด็กอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีไข้สูงให้รีบนำมาพบแพทย์สำหรับประชาชนขอให้ป้องกันดังนี้ ป้องกันยุงกัด ทายากันยุง นอนในมุ้ง กำจัดลูกน้ำและแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในภาชนะที่มีน้ำใสและนิ่ง เช่น ถาดรองขาตู้ ยางรถยนต์เก่า กระถางต้นไม้ สังเกตอาการของโรค หากมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย เบื่ออาหาร ผิวหนังเป็นจุดเลือด ให้ไปพบแพทย์ และเฝ้าระวังเป็นพิเศษช่วงไข้ลด อาจเกิดอาการช็อกจากไข้เลือดออก ต้องรีบกลับไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นอาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ | กรมควบคุมโรค พบนักเรียนและนักศึกษาป่วยเป็นไข้เลือดออกมากที่สุด แนะสังเกตอาการและรีบพบแพทย์ พร้อมกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย | สังคม | ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ไข้เลือดออก,กรมควบคุมโรค,เสียชีวิต,นักเรียน,นักศึกษา | https://news.thaipbs.or.th/content/264524 |
แมทธิว โพสต์ขอโทษ หนูเล็ก ก่อนบ่าย ทำให้เจอเรื่องแบบนี้เพราะโควิด-19 | กลายเป็นดราม่าไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อนักแสดง-พิธีกรตลกสาว หนูเล็ก ก่อนบ่ายฯ โพสต์คลิปตัวเองร้องไห้ลงไอจี หลังทราบว่าพิธีกรหนุ่ม แมทธิว ดีน ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเจ้าตัวเพิ่งถ่ายรายการเดียวกันไป ทำให้ หนูเล็ก ร้องไห้เพราะกลัวและเป็นห่วงลูกชายด้วย และในภายหลังเจ้าตัวลบคลิปดังกล่าว พร้อมทั้งขอโทษ แมทธิว และ ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ภรรยา แล้วล่าสุด หนูเล็ก ก่อนบ่ายฯ โพสต์ภาพช่อดอกไม้และการ์ด พร้อมทั้งแท็กไปที่ไอจีของ แอน ทองประสม โดมีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก และ แมทธิว ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ขอโทษ หนูเล็ก ใต้ภาพดังกล่าวด้วย โดยบอกว่า ขอโทษด้วยน้องที่ทำให้ต้องเจออะไรแบบนี้ ไม่อยากให้คนว่า เพราะไม่จำเป็น พี่ไม่ว่าเลยนะที่ลงวิดีโอไป ทุกคนตกใจหมด ยิ่งลูกเล็กผมเข้าใจแน่นอน ใจเย็นนะ นี่คือบททดสอบอันยิ่งใหญ่ของโลก ของสังคม และตัวเรา ผมเชื่อว่าเราต้องผ่านมันไปได้ และเราทุกคนจะเข้มแข็งขึ้นแน่ๆๆหลังจากนั้น หนูเล็ก ก่อนบ่ายฯ ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ตอบว่า พี่ไม่ต้องขอโทษ หนูไม่ได้โทษพี่ หนูกลัว สติแตกของหนูเอง คนด่าไม่โกรธเค้าค่ะพี่ สมควรแล้วเพราะหนูเองยังรังเกียจตัวเองเลย ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องมาเครียดเพราะคนแบบหนู แต่หนูก็สำนึกแล้ว และเสียใจกับการขาดสติจนหลุด ขอให้พี่หายเร็วๆ นะคะพี่ เป็นห่วงมากค่ะโดยหลังจากนั้นก็มีแฟนๆ เข้ามาให้กำลังใจ แมทธิว พร้อมทั้งอวยพรให้หายป่วยไวๆ รวมทั้งให้กำลังใจ หนูเล็ก ก่อนบ่ายฯ ด้วยเช่นกัน. | แมทธิว ดีน โพสต์ขอโทษหนูเล็ก ก่อนบ่าย ที่ทำให้ต้องเจอเรื่องแบบนี้ หลังตนป่วยติดเชื้อโควิด-19 ด้านหนูเล็ก ก่อนบ่าย บอกไม่ต้องขอโทษ บอกตนกลัวและสติแตกเอง ไม่โกรธคนด่าเพราะยังรังเกียจตัวเองเลย | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | แมทธิว ดีน,หนูเล็ก ก่อนบ่าย,แมทธิว ดีน โควิด-19,โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ดาราติดโควิด-19,อินสตาแกรมดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1795971 |
ปูออกตัวเคลียร์แทนโน้ตไม่กิ๊กเจนี่ เชื่อใจล้านเปอร์เซ็นต์ สนิทแค่เพื่อน | ตามข่าวบอกว่าเจนี่ยอมลดค่าตัวเพื่อตัดราคาเรา? เรื่องพวกนี้ปูเองก็ไม่ทราบ แต่ปูเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นไปได้นะ เพราะว่าไม่ได้มีใครติดต่อพรีเซ็นเตอร์วีฟิตเนสมาเลย คือมีติดต่ออีเวนต์ ตัวปูเองถ้าเกี่ยวกับงานสุขภาพ ปูก็มีติดอยู่แล้วบ้าง ก็ต้องรอดูว่าปีหน้าเราสะดวกที่จะรับอันไหนแต่ตัวนี้ยังไม่มีติดต่อนะคะ ข่าวแรงกว่านั้นว่าเจนี่จะแย่งคนรักเรา? เค้าเป็นเพื่อนกันมาหลายปี ปูก็อยากจะเคลียร์ให้ ปูรู้สึกไม่ดีที่คนเราเป็นเพื่อนกัน จะต้องเลิกคุยกันเพราะคนจับตามองเหรอ มันไม่ใช่เรื่องแปลกปูเองก็มีเพื่อนเป็นผู้ชาย เค้าเป็นเพื่อนกันมาหลายปี ถ้าเค้าจะคบกันก็คงคบกันมาตั้งนานแล้ว ก็ขอเคลียร์ให้ทั้ง 2 คนละกันนะ และเค้าก็ไม่แย่งหรอกค่ะ ปูก็เคยไปเที่ยวกับเค้าที่เคยลงรูปไงคะ ก็รู้จักกันดีค่ะ,คุยกับโน้ตมั้ยว่ามีข่าวทำนองนี้ออกมา? ไม่ต้องถามค่ะ ปูเชื่อใจในตัวพี่โน้ตล้านเปอร์เซ็นต์ พี่เจนี่เองปูก็เชื่อใจ จริงๆแล้วทุกครั้งที่เค้ายุ่งเกี่ยวกับใครก็เป็นข่าวตลอดเลย เห็นใจเค้านะ ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์เค้า ก็คงรู้สึกไม่ดี เรามาโฟกัสเรื่องงานของเค้าดีกว่าเพราะเค้าเองก็เป็นนักแสดงที่มีฝีมือ เค้าก็เป็นคนดี เป็นกำลังใจให้เค้าละกัน ยังสนิทใจเหมือนเดิม? ปูเชื่อมั่นในตัวโน้ตและรู้สึกดีกับเจนี่ ก็ขอให้เรื่องนี้จบละกันเนอะ,เห็นไอจีโน้ตไปเที่ยวมัลดีฟส์? ใช่ค่ะ เค้าไปรอบ 2 ปูต้องมางานวันนี้ก็เลยไม่ได้ไป และปูต้องปิดกล้องเรื่องพรายพยากรณ์ ก็เลยไม่ได้ไป ทริปนี้สาวๆเยอะด้วย? เพื่อนเค้าหมดเลยค่ะ จริงๆไปกันเป็นคู่ พี่แป้ง-อรจิราไปกับสามี ทุกคนในเรือเป็นคู่หมด ปูจองหมดแล้ว แต่สยามบันเทิงจัดงานวันนี้ รางวัลนี้สำคัญกว่า เค้าก็แท็กรูปมาใบนึงว่าคิดถึงนะ ให้พี่ๆนักข่าวรู้ว่าไม่ต้องห่วงนะ. | หลังมีข่าวเม้าท์ว่านางเอกดังวิก 3 เจนี่ เทียน-โพธิ์สุวรรณ แย่งพรีเซ็นเตอร์วีฟิตเนสกับนางเอกวิก 7 สี ปู-ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก อีกทั้งยังจ้องฉกหวานใจ โน้ต-วิเศษ อีกด้วย | null | ปู ไปรยา,ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก,หวานใจ,โน้ต วิเศษ,เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ,แย่งพรีเซ็นเตอร์ | https://www.thairath.co.th/content/470234 |
ประยุทธ์ แบะท่ารับเสียงเชียร์ให้อยู่ปฏิรูป 2 ปี ก่อนเลือกตั้ง | เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. เวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึง ข้อเสนอจากสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ส่วนหนึ่งที่ให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง 2 ปี โดยมีการทำประชามติ ว่า ตนเห็นข่าวจากหนังสือพิมพ์ เรื่องนี้ใครมีสิทธิ์เสนอก็เสนอไป เพราะการแก้รัฐธรรมนูญตนฟังความคิดเห็นจากทุกคน เมื่อเสนอมาในรัฐธรรมนูญก็เป็นหน้าที่ตนและ ครม. ก็แก้ให้เขา ฉะนั้นมันต้องมีคนเริ่ม แต่ไม่ใช่ตน การแก้รัฐธรรมนูญถ้าเป็นรัฐบาลปกตินั้นทำได้ แต่รัฐบาลอย่างตนหากจะต้องทำการปฏิรูปหรือไม่ทำ ถือว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องตรงนั้น ตนจะไม่ใช้อำนาจ,ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้นายกฯ เคยกังวลว่าเรื่องการสานต่อการปฏิรูปของรัฐบาลใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนพูดคำว่าส่งต่อ ไม่ได้หมายความว่ากลัวตรงนั้น แต่ต้องการให้คิดว่าตรงนั้นจะแก้อย่างไร แต่จะแก้อย่างไรเป็นเรื่องของเขา เมื่อถามว่า ล่าสุดมีข้อเสนอให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งเห็นด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผมเฉยๆ ถ้าให้ผมอยู่ผมก็ทำ อยู่ด้วยความชอบธรรมนะ ไม่ได้อยู่ด้วยอำนาจ ถ้าทุกคนอยากให้ผมอยู่ ผมก็อยู่ ผมก็ทำให้ แต่ต้องช่วยปกป้องผมจากภายนอกประเทศ รวมถึงภายในประเทศด้วย ที่กล่าวหาว่าผมอยากสืบทอดอำนาจ ซึ่งผมไม่ต้องการอำนาจ เพราะผมไม่ได้ผลประโยชน์ ผมต้องการทำประเทศชาติให้ดีขึ้น แต่จะทำอย่างไร ผมไม่รู้ มันเป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ,เมื่อถามว่า การที่จะให้นายกฯ อยู่ต่อนั้น ประชาชนต้องทำอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การแสดงออกของประชาชนนั้นไม่ใช่ปกป้อง ประชาชนมีหน้าที่คือการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เลือกรัฐบาลเข้ามา และความร่วมมือในการทำประชามติ เมื่อถามย้ำว่า ถ้าจะให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อต้องทำอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ไม่รู้ ต้องไปถามฝ่ายกฎหมาย เมื่อถามว่าถ้าการปฏิรูปยังไม่สำเร็จตามที่วางไว้นั้นมีโอกาสที่จะยืดโรดแม็ปออกไปให้สำเร็จหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พูดไปแล้ว และก็เพิ่งได้ยินข้อเสนอนี้ และมีคนเขียนว่ากลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ต้องการให้อยู่ต่อ 2 ปี เพื่อปฏิรูป,ผมถามว่า อู๊ย ดีใจหรืออยากอยู่ ถ้าอยากอยู่ไปเข้าช่องทางมา แต่ข้อเสนอแนะนี้จะเป็นแนวทางที่ดีหรือไม่ผมไม่รู้ ผมจะไปพิจารณาเองได้อย่างไร ดีหรือไม่ดี เพราะผมใช้อำนาจอยู่ในตอนนี้ แล้วจะให้บอกว่าอยู่ต่อแล้วจะดี ตรงนี้ผมพูดได้ไหม วันนี้ใครต้องการให้ผมปฏิรูป ประชาชนก็ต้องไปหาทางมา พล.อ.ประยุทธ์กล่าว,เมื่อถามว่า มันจะดีหรือไม่ที่อยู่ต่ออีก 2 ปี ในการปฏิรูปให้เสร็จ เพื่อไม่ให้สิ่งที่ทำมาเสียของ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนั้นตนไม่ได้บอกว่าสิ่งที่ทำมาจะดีทั้งหมด สิ่งที่ตนทำถ้าคนยอมรับ และให้ความร่วมมือมันก็น่าจะดี แต่ถ้าไม่ร่วมมือยังขัดแย้งคัดค้านอยู่อย่างนี้ทำอะไรก็ติดไปหมด สร้างอะไรก็ไม่ได้ มันก็อยู่ที่เดิม แต่อย่างน้อยก็ไม่แย่ไปกว่าเดิม แต่ถ้าต้องการพัฒนาสู่จุดมุ่งหมายที่ต้องการ โดยความร่วมมือ ไม่ขัดแย้งอะไรกันต่อไป มันถึงจะสำเร็จ การปฏิรูปหลายรัฐบาลต้องการทำมาอยู่แล้ว เพียงแต่เขาต้องการปฏิรูปภายใต้รัฐบาลของเขา ขอถามว่าทำได้หรือไม่ ซึ่งการปฏิรูปคือการทำใหม่ เช่น กระบวนการผลิตด้านการเกษตรทั้งภาค องค์รวมทั้งหมด ใครจะอยากทำ รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งจะทำหรือไม่ การจัดระเบียบสังคม ถนนหนทาง ความเป็นระเบียบเรียบร้อย คูคลองจะต้องขุดลอก เอาคนที่รุกล้ำพื้นที่ออก จะทำหรือไม่ แต่วันนี้รัฐบาลนี้ทำ และยอมรับในเสียงที่พอใจบ้าง ไม่พอใจบ้าง ตนก็ยอม ซึ่งวันหน้าเขาจะเข้าใจตนเอง แต่ถ้าวันหน้าเป็นรัฐบาลเลือกตั้งเขาจะทำไหม จะยอมหรือไม่ และมันจะกลับมาแบบเดิม ตนห่วงตรงนี้ แต่ตนไม่สามารถจะเอาสิ่งเหล่านี้มาบอกให้ตนอยู่ต่อคงพูดไม่ได้ เพียงแต่เตือนว่าต้องบังคับรัฐบาลใหม่ให้ได้ อย่างน้อยให้เขาทำอย่างที่ตนทำ,เมื่อถามว่า รัฐบาลนี้ปฏิรูปไปเลยกับการบังคับให้รัฐบาลใหม่มาปฏิรูปอะไรจะดีกว่ากัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ท่านต้องการประชาธิปไตยกันไม่ใช่หรือ ท่านบอกผมไม่ใช่ประชาธิปไตยไง ผมไม่ได้เลือกตั้งเข้ามาไง ท่านก็ว่าผมอยู่ทุกวัน ต่างชาติก็ถามว่าผมจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ ฉะนั้นมันขึ้นอยู่กับคนไทย จะกำหนดอนาคตประเทศไทยอย่างไร เป็นเรื่องของประชาชน 67 ล้านคน ไปว่ากันมา ไม่ใช่ผม เมื่อถามว่า ถ้าต้องอยู่ต่ออีก 2 ปี พร้อมที่จะโดนด่าจากฝ่ายที่เห็นต่างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผมไม่กลัวคำว่า คำด่า ยิ่งด่า ผมยิ่งมีแรง. | ประยุทธ์ บอก ก็ไม่รู้สินะ หลังมีเสียงเชียร์ให้อยู่ปฏิรูป 2 ปี ก่อนเลือกตั้ง ส่งซิกไปคิดกันมา ขอช่วยป้องต่างชาติและคนไทยที่เห็นต่างรุมจวก จ้องสืบทอดอำนาจ แบะท่าพร้อมรับคำด่า ยิ่งด่า ยิ่งมีแรง | null | ประชามติ,แก้รัฐธรรมนูญ,ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกฯและหน.คสช.,สืบทอดอำนาจ,โรดแม็ป,สปช.,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/503050 |
หนุ่มชลประทานกำแพงเพชร ซิ่งกระบะยางระเบิดชนต้นไม้ดับ กระเด็นฟาดพื้นดับ | เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 23 ม.ค. 59 ร.ต.อ.ธวัชชัย อ่ำปลั่ง พงส.สภ.คลองพิไกร อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งว่ามีรถกระบะยางระเบิดพลิกคว่ำ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณข้างถนนสายสุโขทัย-กำแพงเพชร ม.1 บ้านนาป่าแดง ต.คุยบ้านโอง อ.พรานกระต่าย จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ธนู พูลสุข ผกก.สภ.คลองพิไกร ทราบ พร้อมประสานกู้ภัยข่าวภาพพรานกระต่าย และตำรวจจุดตรวจบ้านนาป่าแดง ไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีส้ม ทะเบียน 1 ฒฌ 3742 กทม. ซึ่งเป็นรถของชลประทานกำแพงเพชร สภาพพังยับเยิน ตัวรถอัดก๊อบปี้ติดอยู่กับต้นไม้ข้างถนน เครื่องยนต์หลุดกระเด็นตกข้างถนน ส่วนคนขับคือ นายชลิต ถาวร อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 ม.5 บ้านคุยแขวน ต.คุยบ้านโอง อ.พรานกระต่าย กระเด็นออกมาห่างจากรถประมาณ 10 เมตร มีอาการหายใจติดขัด จึงให้กู้ภัยนำตัวส่ง รพ.พรานกระต่าย แพทย์ตรวจดูอาการแล้วรีบส่งตัวต่อไปยัง รพ.กำแพงเพชร และเสียชีวิตในเวลาต่อมา,เบื้องต้นสอบถามญาติให้การว่า นายชลิต เป็นเจ้าหน้าที่ชลประทานกำแพงเพชร ขับรถออกมาจากชลประทาน ต.หนองปลิง เพื่อไปทำธุระที่ จ.พิษณุโลก ขณะขับรถไปถึงที่เกิดเหตุยางล้อหลังซ้ายระเบิด จึงทำให้รถเสียหลักชนต้นไม้ข้างถนน โดยต้นแรกล้มโค่นรากพ้นดิน แต่เนื่องจากขับมาด้วยความเร็วสูง รถจึงพลิกคว่ำไปฟาดต้นไม้ข้างถนนอีกต้นจนเครื่องยนต์กระเด็นหลุด ส่วน นายชลิต ร่างหลุดออกจากรถดังกล่าว. | กระบะยางระเบิดเสียหลักชนต้นไม้ริมถนนสุโขทัย-กำแพงเพชร เครื่องยนต์กระเด็น ร่างหนุ่มชลประทานวัย 39 ปี กระเด็นหลุดนอกรถฟาดพื้นสาหัส จนท.นำส่ง รพ. สุดท้ายเสียชีวิต | ข่าว,ทั่วไทย | รถชน,อุบัติเหตุ,กระบะชนต้นไม้,ยางระเบิด,ธนู พูลสุข,พรานกระต่าย,กำแพงเพชร,รถยางระเบิด,รถคว่ำตาย,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/566982 |
พี่เมียโหดเมายา ฟัน-แทงน้องเขยพรุน 17แผลดับสยอง ก่อนเชิดรถหนี | เมื่อเวลา 03.15 น. วันที่ 16 พ.ค.61 ร.ต.อ.ไชยยันต์ แสงจำปา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ชนแดน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ชนแดน ว่า มีเหตุ คนร้ายใช้อาวุธมีดฟันแทงผู้อื่นถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 9 บ้านคลองตะแบก ต.ศาลาลาย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.เดชาโชติ เฉลิมกุลเดชา ผกก.สภ.ชนแดน พ.ต.ท.นิทัศน์ อุตรศักดิ์ รอง ผกก.(สอบสวน) และแพทย์เวร โรงพยาบาลชนแดน ร่วมกตัญญูชนแดน ร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบศพคนตายทราบชื่อ นายฉลอง ศิริมงคล อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 546/3 หมู่ 4 ซอยโรงไฟฟ้า ต.ชนแดน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ สวมกางเกงขาสั้น เสื้อยืดแขนสั้นสภาพเลือดท่วมตัว นอนหงายอยู่ที่ป่าพงหญ้าข้างบ้าน พบมีดปักคาอกอยู่บริเวณราวนมข้างซ้าย จากการตรวจสอบบาดแผลตามร่างกาย พบบาดแผลที่เกิดจากการถูกฟันและแทงประมาณ 17 แผลล้วนเป็นแผลฉกรรจ์หลายแห่ง
,สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายผู้ที่แทงและฟันทราบชื่อ นายจำเนียร หรือ หมึก ยุพาคะนิต อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 9 บ้านคลองตะแบก ต.ศาลาลาย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ เป็นพี่ชาย น.ส.จารุณี ยุพาคะนิต ภรรยาผู้ตาย โดยก่อนเกิดเหตุ นายจำเนียร ซึ่งอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งได้ให้เพื่อนชื่อนายจั้ม ไม่ทราบ ชื่อ–นามสกุลจริง ขี่รถจักรยานยนต์พาตัวเองไปส่งยังบ้านที่เกิดเหตุ และเรียกนางสวาท ยุพาคะนิต อายุ 71 ปี (มารดา กับ น.ส.จารุณี น้องสาว เพื่อจะขอยืมรถจักรยานยนต์ออกไปข้างนอก แต่รถยางแบน แต่ผู้ต้องหาก็ไม่เลิกเซ้าซี้ จนนางสวาท ผู้เป็นแม่รำคาญและหวาดกลัว เพราะขณะนั้นผู้ต้องหาอยู่ในอาการคล้ายคนติดยา และถือมีดอยู่ในบ้านตลอดเวลา ผู้เป็นแม่จึงได้เรียกให้นายฉลอง ผู้ตายที่นอนอยู่ชั้นบนกับ น.ส.จารุณี ภรรยา ให้ขับรถยนต์ไปส่งนายจำเนียร แต่นายจำเนียรไม่แจ้งให้ไปส่งที่ไหน และขณะที่ผู้ตายกำลังเปิดประตูรถ นายจำเนียรได้เข้ามาข้างหลังแล้วใช้มีดที่ถืออยู่ในมือฟันและแทงผู้ตายข้างหลัง ผู้ตายวิ่งหลบหนีไปบริเวณป่าพงหญ้าข้างบ้าน และล้มลง นายจำเนียรตามมาทัน ได้ขึ้นคร่อมร่างผู้ตายกระหน่ำแทงจนเสียชีวิต โดยนายจำเนียรใช้ไฟส่องล่าสัตว์ติดบนหน้าผากของตนเองหลบหนี โดยได้ขับรถยนต์ของผู้ตายไป,ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่าผู้ต้องหามีอาการเสพยาเกินขนาดจึงควบคุมตัวเองไม่อยู่ ใช้อาวุธมีดแทงคนตายดังกล่าว ด้านพ.ต.อ.เดชาโชติ เฉลิมกุล เดชา ผกก.สภ.ชนแดน จึงสั่งให้ พ.ต.ท. บุญถึง รอง ผกก.สส. พร้อมพวกออกตามจับอย่างเร่งด่วนแล้วเกรงว่าชาวบ้านจะได้รับอันตราย. | พี่เมียคลุ้มคลั่งยาบ้า กระหน่ำฟัน-แทง น้องเขยยับดับสยองคาที่ 17 แผล ร่างพรุนเละ ก่อนเชิดรถหนีลอยนวล ด้านตำรวจสั่งระดมเร่งจับตัว เพราะเกรงชาวบ้านจะได้รับอันตราย
| ข่าว,อาชญากรรม | แทงน้องเขย,แทงตาย17แผล,คลั่งยา,พี่เมีย,ชนแดน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1282932 |
เผย 10 คำทำร้ายหัวใจ วอนขอให้ใช้คำพูดเชิงบวก ลดความรุนแรงในครอบครัว | เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2560 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวแถลงข่าวการจัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี พ.ศ. 2560 ภายใต้แนวคิด สร้างครอบครัวไร้รุนแรง ด้วยสื่อสารที่สร้างสรรค์ ว่า ความรุนแรงในครอบครัวมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น พม.โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ได้จัดกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเดือนพ.ย.ถือเป็นเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ทั้งนี้ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความรุนแรงนอกจากการดื่มสุรายาเสพติดแล้ว อีกปัจจัยสำคัญคือการใช้วาจาที่ไม่เหมาะสม,สค.ได้สำรวจความคิดเห็น 10 คำร้ายที่ไม่อยากได้ยินจากคนในครอบครัว ประกอบด้วย 1.ไปตายซะ 2.คำด่า (เลว/ชั่ว) 3.แกไม่น่าเกิดเป็นลูกฉันเลย 4.ตัวปัญหา 5.ดูลูกบ้านอื่นบ้างสิ 6. น่ารำคาญ 7. ตัวซวย 8.น่าเบื่อ 9.ไม่ต้องมายุ่ง 10.เชื้อพ่อเชื้อแม่มันแรง ส่วนคำดีที่อยากได้ยิน ประกอบด้วย 1.เหนื่อยไหม 2. รักนะ 3.มีอะไรให้ช่วยไหม 4. คำชมเชย (เก่ง/ดี/เยี่ยม) 5. ไม่เป็นไรน่ะ 6. สู้ๆ นะ 7.ทำได้อยู่แล้ว 8. คิดถึงนะ 9.ขอบคุณนะ และ 10. ขอโทษนะ,ทั้งนี้อยากให้เริ่มต้นจากครอบครัวด้วยการสื่อสารเชิงบวกต่อกัน ให้เกียรติกันทั้งทางกายและวาจา จะช่วยลดความรุนแรงในครอบครัว พร้อมทั้งเชิญชวนทุกภาคส่วนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ตลอดเดือนพ.ย.นี้ โดยในส่วนของพม.ได้จัดกิจกรรมภายใต้แนวคิด หยุด คำร้าย ทำลายครอบครัว ทั้งส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด และส่วนกลางจัดที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เขตจตุจักร กทม.วันที่ 25 พ.ย. ,ด้าน ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ ผู้อำนวยการศูนย์จัดการความรู้ความรุนแรงในครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า ศูนย์ฯ ได้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) สำรวจ ความชุกความรุนแรงต่อผู้หญิงและบุคคลในครอบครัวระดับประเทศ จาก 2,280 ครัวเรือน ใน 5 ภาค ระหว่างเดือนต.ค.2559-ม.ค.2560 พบว่า ร้อยละ 34.6 มีความรุนแรงต่อผู้หญิงและบุคคลในครอบครัว โดยอันดับ 1 เป็นความรุนแรงทางด้านจิตใจ ถึงร้อยละ 32.3 ทางร่างกาย ร้อยละ 9.9 และทางเพศร้อยละ 4.5 ภาคใต้พบความรุนแรงมากที่สุด ร้อยละ 48.1,ส่วนกรุงเทพมหานครพบน้อยที่สุด ร้อยละ 26 สาเหตุความรุนแรงในครอบครัวส่วนใหญ่เกิดจากการทำร้ายทางจิตใจด้วยวาจา เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงที่พบตัวอย่างแม่ว่าลูกไปตายซะ ทำให้เด็กคนนั้นไปฆ่าตัวตายจริงๆ หรือกรณีภรรยาถูกสามีด่าว่าอีอ้วนจนเป็นเหตุให้เกิดการตบตีทำร้ายร่างกาย จึงฝากให้คนในครอบครัวใช้คำพูดที่สร้างสรรค์เพื่อสร้างความปรองดองในครอบครัวและช่วยลดปัญหาความรุนแรงในครอบครัว. | กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เผย 10 คำที่ไม่อยากได้ยินในบ้าน ทำให้เกิดความรุนแรงในครอบครัว แนะให้ ใช้คำพูดสื่อสารเชิงบวกต่อกัน ให้เกียรติกันทั้งทางกายและวาจา จะช่วยลดความรุนแรง | ข่าว,สังคม | ความรุนแรงในครอบครัว,กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว,ยุติความรุนแรง,ทำร้ายจิตใจ,สร้างความปรองดอง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1128472 |
สาวตะโกนสุดเสียงว่าท้องอยู่ ไอ้หื่นไม่ฟังหวังข่มขืน เคราะห์ดีคนช่วยทัน | จากกรณีนายครรชิต แสนเวียง ผู้ก่อเหตุพยายามข่มขืนหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งพลเมืองดีได้เข้าช่วยเหลือ ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (,พลเมืองดีรุมประชาทัณฑ์ หนุ่มหื่น ฉุดสาวเข้าข้างทางหวังข่มขืน,),ล่าสุด แฟนหนุ่มของนางสาวอ้อย (นามสมมติ) อายุ 26 ปี เปิดเผยว่า ตนเป็นสามีของนางสาวอ้อย และตอนนี้กำลังจะมีลูกด้วยกัน ซึ่งตอนนี้อายุครรภ์ 2 เดือนแล้ว ระหว่างที่พาแฟนกลับจากให้ปากคำกับตำรวจ เธอปวดท้องมาก ตนจึงพาไปส่งที่โรงพยาบาล ตนเป็นห่วงลูกในท้องและห่วงแฟนมาก,ต่อไปผมจะไปรับแฟนกลับบ้าน เพราะผู้หญิงเดินทางคนเดียวไม่ปลอดภัย และถ้าไม่ได้ไปรับก็จะต้องติดต่อแฟนทุกระยะ เพื่อจะได้รู้ว่าแฟนปลอดภัย เพราะที่ผ่านมาแฟนทำงานหรือทำธุระที่ไหนก็จะบอกตลอด ,นางสาวอ้อย เปิดเผยว่า เมื่อวานตนไปสถานบันเทิงกับนายจ้าง เมื่อร้านปิดก็เดินทางกลับไปหาแฟนตามปกติ ขณะขับรถอยู่ริมถนนผู้ต้องหาซึ่งนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มากับเพื่อน ได้กระโดดลงจากรถเพื่อน มาขึ้นซ้อนท้ายรถตัวเอง จนรถเสียหลักล้มข้างทาง ,หนูพยายามยกรถขึ้น แต่เขาก็พยายามจะข่มขืน หนูจึงได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ พร้อมกับบอกเขาว่า พี่อย่าทำอะไรหนู ตอนนี้หนูท้องอยู่ 2 เดือนแล้ว แต่เขาก็ไม่ยอมหยุด โชคดีที่พลเมืองดีมาพบและช่วยเหลือจนปลอดภัยและจับเขาไว้ได้ ส่วนเพื่อนเขาก็ขี่รถจักรยานยนต์หนีไป หนูกลับถึงบ้านก็ปวดท้องรุนแรง แฟนจึงพามาหาหมอ หมออัลตราซาวนด์ครรภ์แล้วพบว่าลูกยังปลอดภัย ส่วนอาการอื่นๆ หมอให้นอนรอดูอาการต่อในรพ.ก่อน, | สาวตะโกนสุดเสียงว่าท้องอยู่ ไอ้หื่นไม่ฟัง หวังข่มขืน เคราะห์ดีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือทัน | ข่าว,สังคม | สาวท้อง,พยายามข่มขืน,จะข่มขืนสาวท้อง,ขอนแก่น,รุมประชาทัณฑ์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1552361 |
คลังเผยเก็บรายได้ 2 เดือนได้กว่า 3 แสนล้าน ภาษีเบียร์สูงกว่าประมาณการ 2 พันล้านบาท | วันนี้ (17 ธ.ค.) นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ตุลาคม – พฤศจิกายน 2558) จัดเก็บได้ 345243 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 6077 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.8 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.0) โดยการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ และการจัดเก็บภาษีเบียร์สูงกว่าประมาณการ 2965 2467 และ 2094 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.5 9.2 และ 15.5 ตามลำดับ ทั้งนี้ ในเดือนพฤศจิกายน 2558 กรมสรรพสามิตและกรมศุลกากรจัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณการร้อยละ 4.0 และ 3.2 ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลจากการจัดเก็บภาษีเบียร์และอากรขาเข้าได้สูงกว่าเป้าหมายเป็นสำคัญนายกฤษฎากล่าวว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 สูงกว่าเป้าหมาย เนื่องจากการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่นและการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจเป็นสำคัญ ประกอบกับการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตและกรมศุลกากรใกล้เคียงกับเป้าหมาย นอกจากนั้น ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคภายในประเทศ ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สะท้อนถึงปัจจัยบวกที่จะส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ต่อไปผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิ เดือนพฤศจิกายน 2558 และในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ตุลาคม – พฤศจิกายน 2558)ในเดือนพฤศจิกายน 2558 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 179356 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 6708 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.9 ส่งผลให้ในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ตุลาคม – พฤศจิกายน 2558) รายได้รัฐบาลสุทธิมีจำนวน 345243 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 6077 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.8 และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.01.เดือนพฤศจิกายน 2558รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 179356 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 6708 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.9 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 11.0) โดยการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 8034 ล้านบาท หรือร้อยละ 689.0 การจัดเก็บภาษีเบียร์สูงกว่าประมาณการ 1546 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.2 เนื่องจากการเร่งชำระภาษีจากที่มีการชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์สูงกว่าประมาณการ 653 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.3 จากการเร่งซื้อรถยนต์ก่อนที่จะมีการปรับโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป และอากรขาเข้าจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 246 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.52.ในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ตุลาคม – พฤศจิกายน 2558)รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 345243 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 6077 ล้านบาทหรือร้อยละ 1.8 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.0) โดยการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ สูงกว่าประมาณการ 2965 และ 2467 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.5 และ 9.2 ตามลำดับ ขณะที่กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ใกล้เคียงกับเป้าหมาย และ กรมสรรพากรและกรมศุลกากรจัดเก็บภาษีได้ต่ำกว่าประมาณการ 8595 และ 480 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.6 และ 2.4 ตามลำดับผลการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้2.1 กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 231007 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 8595 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.6 โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ - ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 6212 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.5 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.3) เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีจากประมาณการกำไรสุทธิ (ภ.ง.ด. 51) และภาษีหัก ณ ที่จ่ายภาคเอกชน (ภ.ง.ด. 53) จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา- ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 3396 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.8 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 1.7) ซึ่งเป็นผลจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการนำเข้าต่ำกว่าเป้าหมาย 1841 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.8 (ต่ำกว่าปีที่แล้วร้อยละ 9.8) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง และมูลค่านำเข้าที่ยังคงหดตัวเป็นสำคัญ สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคในประเทศจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 1554 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.2 แต่ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 4.5 สะท้อนถึงการบริโภคในประเทศที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง2.2 กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 80544 ล้านบาท ใกล้เคียงกับประมาณการ (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 21.1) เป็นผลจากภาษีเบียร์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 2094 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.5 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 13.3)อย่างไรก็ดี ภาษียาสูบจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 1129 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.2 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 22.9) เนื่องจากผู้บริโภคได้เปลี่ยนมาบริโภคยาสูบราคาถูกเพิ่มมากขึ้น และภาษีสุราจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 857 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.8 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.6)2.3 กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 19920 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 480 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.4 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 0.6) โดยเป็นผลจากการจัดเก็บอากรขาเข้าต่ำกว่าเป้าหมายจำนวน 526 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.6 ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐและเงินบาทในเดือนตุลาคม 2559 หดตัวร้อยละ 18.2 และ 9.0 ตามลำดับ2.4 รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้รวม 29194 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2467 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.2 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 30.8) สาเหตุสำคัญมาจากการนำส่งเงินปันผลจากกองทุนรวมวายุภักษ์จำนวน 3657 ล้านบาท โดยรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย2.5 หน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 31260 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2965 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.5 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 11.1) เนื่องจากการนำส่งเงินจากการยกเลิกโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการส่งคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดินส่วนหนึ่ง และการนำส่งเงินสภาพคล่องส่วนเกินจากกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเป็นรายได้แผ่นดินสำหรับกรมธนารักษ์จัดเก็บรายได้รวม 451 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 119 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.9 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 12.4) โดยรายได้จากที่ราชพัสดุจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ2.6 การคืนภาษีของกรมสรรพากร จำนวน 40200 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 9437ล้านบาท หรือร้อยละ 17.3 ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 35000 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 9400 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.2 และการคืนภาษีอื่นๆ (ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์) จำนวน 5200 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 37 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.72.7 อากรถอนคืนกรมศุลกากร จำนวน 1782 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 207 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.12.8 การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 2515 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 343 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.02.9 เงินกันชดเชยภาษีสำหรับสินค้าส่งออก จำนวน 2185 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 160 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.8 | คลังเปิดตัวเลขรายได้ 2 เดือนปีงบประมาณ 2559 ภาพรวมสูงกว่าประมาณการ 6 พันล้าน ภาษีเบียร์สูงกว่าประมาณการถึง 2 พันล้านบาท ขณะที่รายได้ของสรรพากรต่ำกว่าที่คาดไว้ เหมือนกับศุลกากรและธนารักษ์ | เศรษฐกิจ | กรมศุลกากร,กรมสรรพสามิต,กรมสรรพากร,กระทรวงการคลัง,ภาษี,รายได้ | https://news.thaipbs.or.th/content/6852 |
อติเทพ ไชยสิทธิ์:ว่าด้วยข้อเสนอการนิยามความหมายเกี่ยวกับ การปฏิวัติ และ กระบวนการเปลี่ยนแปลงทางสังคม-การเมือง หลังการปฏิวัติ | ในการอภิปรายหัวข้อเกี่ยวกับ สังคมหลังการปฏิวัติ ผมคิดว่าจำเป็นที่จะต้องอุทิศพื้นที่ส่วนหนึ่งให้กับการนิยามความหมายของ การปฏิวัติ เองเสียก่อน เป็นอันดับแรก เมื่อเรา รู้จัก การปฏิวัติ เราย่อมทราบว่าขณะนี้ พวกเรากำลังอยู่ ณ จุดใด ในลำดับเวลาของเหตุการณ์ ระหว่างช่วง ก่อน ท่ามกลาง บั้นปลาย หรือ หลัง การปฏิวัติ นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาไปถึงที่สุดแล้ว พวกเราก็อาจจะมีคำถามอีกคำถามเกิดขึ้น ว่าแท้จริงแล้วคำว่า หลังการปฏิวัติ มีอยู่จริงหรือไม่? และมันดำรงอยู่อย่างไรด้วยเหตุนี้ ผมจึงขอแบ่งประเด็นในการอภิปรายของตนเองออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.)การนิยามความหมายของการปฏิวัติ และหลังการปฏิวัติสิ่งที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ เกี่ยวข้องกับข้อเสนอที่จะต้องจำแนก การปฏิวัติ ออกจากความรับรู้ ความเข้าใจของคนทั่วไป เพราะมีคนตั้งคำถามกลับมาว่า เหตุใดในเมื่อเราไม่สามารถรับรู้อนาคตของการปฏิวัติได้ แต่คนในสังคมกลับคิดอยู่เสมอว่าสังคมมีแนวโน้มที่จะเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยใช้การวัดเชิงสัมพัทธ์กับสังคมอื่นๆ ในโลกที่มีสิทธิ เสรีภาพทางการเมืองมากกว่าประเทศไทย ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่เราใช้นำมาวัดกันอย่างสัมพัทธ์นั้น ไม่ใช่ Revolutions แต่เป็น revolutions นั่นคือ การมีสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคทางการเมืองของสังคมทุนนิยม ก็คือการเปิดโอกาสให้คนที่มีความหลากหลายเข้ามาแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อน ของโลกสมัยใหม่ แต่เราไม่สามารถเข้าใจ Revolutions ได้อย่างแน่นอน ไม่มีใครทราบว่าหลังจากนี้สังคมจะเป็นเช่นไร แบบแผนอย่างไรจะถูกนำมาขับเคลื่อนสังคม และจะมีกระบวนการเปลี่ยนผ่านอย่างไร แน่นอนอย่าลืมว่ากระบวนการทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นจากหน่วยย่อย และความสัมพันธ์ของหน่วยย่อยในสังคมเอง เวลาที่ผมพูดว่า นำมา ถูกใช้ หรือ เป้าหมาย ไม่ได้มีความหมายในเชิงเทเลออลอจี (teleology) มันถูกใช้ในฐานะภาษาทั่วไป ซึ่ง ต้องย้ำว่ากระบวนการทั้งหลายเกิดขึ้นจากภายในโดยชนชั้น ระหว่างชนชั้น และโดยความสัมพันธ์ทางการผลิตเองส่วนเริ่มต้นของการปฏิวัติฝรั่งเศส ควรจะเริ่มขึ้น เมื่อมีการรวบอำนาจเข้าสู่ส่วนกลางอย่างเข้มข้นในรัชสมัยของพระเจ้าลุยส์ที่ 14 แต่ด้วยความเป็นรัฐสมบูรณาญาสิทธิ์นี่เอง ที่ทำให้มันไม่ได้เปิดโอกาสให้กับคนจำนวนมาก ได้เข้ามาในระบบข้าราชการอย่างแท้จริง การเป็นรัฐสมัยใหม่ในช่วงแรก นอกจากจะมีเขตแดนที่ชัดเจน สิ่งซึ่งขาดไม่ได้ คือการเป็นรัฐระบบข้าราชการขนาดใหญ่ ในส่วนนี้ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่ต็อกเกอร์วิลย์ (Tocqueville) เสนอไว้ว่า สาเหตุของการปฏิวัติ (และแนวโน้มของสังคมในยุคศตวรรษที่ 18) เริ่มมาจากการที่รัฐสมบูรณาญาสิทธิ์ต้องการเพิ่มอำนาจรัฐ การกระทำของเจ้าผู้ปกครองดังกล่าว ได้ทำลายความชอบธรรมทางการเมืองของเหล่าชนชั้นสูง และทำให้ข้อเรียกร้องของเหล่าอำมาตยาธิปไตยไม่เป็นที่รับได้ในกลุ่มก้อนทางสังคมอื่นๆ การปฏิวัติจึงเกิดขึ้นเพื่อแข่งขันกับรัฐสมบูรณาญาสิทธิ์เดิม ด้วยการสถาปนาอำนาจรัฐแบบใหม่ ที่มีความเข้มแข็งกว่า ดังนั้นผลผลิตสำคัญของการปฏิวัติจึงควรจะเป็นรัฐที่รวมศูนย์มากกว่า และมีความเป็นข้าราชการมากกว่ารัฐสมบูรณาญาสิทธิ์นั่นเองในวันที่ 10 พฤศจิกายน 1793 ผู้บริหารกรุงปารีสกลุ่มเรดิคัล ได้จัดให้มี เทศกาลแห่งเหตุผล เพื่อประกาศชัยชนะแห่งเหตุผลเหนือความงมงายของศาสนา เทศกาลดังกล่าวถูกจัดขึ้นในวิหารนอเตรอะดาม ซึ่งถูกโอนให้กลายเป็นวิหารแห่งเหตุผล - รูปปั้นพระแม่มารีถูกสับเปลี่ยนด้วยเทพีแห่งเสรีภาพ ในคืนวันงาน หญิงสาวในชุดสีขาวสวมมงกุฎช่อมะกอก นั่งรายล้อมภูเขาเทียมที่มีหญิงสาวแต่งกายเป็นเทพีแห่งเสรีภาพนั่งอยู่ คบเพลิงถูกจุดขึ้น และเสียงร้องเพลงสรรเสริญการปฏิวัติก็ดังกระหึ่มทั่วบริเวณในขณะเดียวกันนี้ พระทั่วประเทศฝรั่งเศส ถูกรัฐบาลกลางของสภาแห่งชาติ สั่งให้ต้องเลือกสาบานตนเข้าเป็นพระสงฆ์สายเหตุผล หรือไม่ก็จะต้องถูกปลด ทรมาน หรืออื่นๆ โบสถ์ทุกแห่งถูกโอนเข้าเป็นสมบัติของรัฐ และแห่งที่สำคัญๆ จะถูกโอนเข้าเป็นวิหารแห่งเหตุผล คำขวัญ เสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ จะถูกติดไว้ที่หน้าทางเข้าวิหารทั้งหมดนี่เป็นตัวอย่างของประเทศฝรั่งเศส ในขณะที่ของไทย เนื่องจากเวลาในการค้นคว้าจำกัดเช่นกัน ท่านสามารถศึกษาได้จากงานของ อ. ชาตรี ประกิตนนทการ เกี่ยวกับสถาปัตยกรรม และสัญลักษณ์ที่ถูกซ่อนเร้น ตัวอย่างเล็กๆ ที่ผมว่าหลายท่านคงรู้จัก ก็คือในขณะที่ฝรั่งเศสมีมาเรียน ของไทยก็มีนางสาวสยาม หลายคนคงคุ้นเคยกับภาพหญิงสาวร่างกายบึกบึนสวมชุดไทย เปลีอยท่อนบน เทอดพานรัฐธรรมนูญไว้เหนือหัว สำหรับเรื่องพิธีกรรม ก็คือการตั้งปะรำพิธีของพานรัฐธรรรมนูญไว้สำหรับให้คนเคารพกราบไหว้:บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกในงานอภิปรายงานเสวนาประกายไฟ หัวข้อ สังคมหลังการปฏิวัติ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2553 | ในการอภิปรายหัวข้อเกี่ยวกับ สังคมหลังการปฏิวัติ ผมคิดว่าจำเป็นที่จะต้องอุทิศพื้นที่ส่วนหนึ่งให้กับการนิยามความหมายของ การปฏิวัติ เองเสียก่อน เป็นอันดับแรก เมื่อเรา รู้จัก การปฏิวัติ | การเมือง,ต่างประเทศ,การศึกษา,สังคม | Bill of Rights,Revolution,การปฏิวัติ 2475,การปฏิวัติฝรั่งเศส,การปฏิวัติในปี พ.ศ. 2490,กิโยติน,คำประกาศว่าด้วยสิทธิ,ทรอตสกี้,นครินทร์ เมฆไตรรัตน์,พระเจ้าหลุยส์ที่ 14,พระเจ้าหลุยส์ที่ 16,มาร์กซิสม์,วรรณไวทยากร วรวรรณ,สถาบันกษัตริย์,หลังการปฏิวัติ,อติเทพ ไชยสิทธิ์,โซเวียต | https://prachatai.com/journal/2010/11/31928 |
โลกจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลง เปิดม่านสันติภาพ ทรัมป์ - คิม | วันนี้ (12 มิ.ย.61) การประชุมครั้งประวัติศาสตร์ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาจะพบกับคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือที่โรงแรมคาเพลล่า บนเกาะเซนโตซ่า ประเทศสิงคโปร์ ในเวลา 09.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยการพบกันของผู้นำทั้ง 2 คน ยังคงมีท่าทีที่ค่อนข้างเกร็ง เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีการให้สัมภาษณ์ที่มีการปะทะคาคมกันค่อนข้างบ่อยก่อนการพูดคุย โดนัลด์ ทรัมป์ และนาย คิม จอง อึน ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเล็กน้อย โดย ทรัมป์กล่าวว่า รู้สึกดีอย่างมากในการพูดคุยครั้งนี้ และคาดว่าน่าจะประสบผลสำเร็จภายหลังการพูดคุยแบบตัวต่อตัว โดยมีเพียงล่ามเข้าร่วมในการพบกันของทั้งคู่แล้ว โดยใช้เวลาในการะพูดคุยประมาณครึ่งชั่วโมง สีหน้าของผู้นำทั้ง 2 ค่อนข้างยิ้มแย้ม จากนั้นเป็นการหารือแบบเต็มคณะ โดนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้ง 2 ฝ่าย โดยให้สื่อมวลชนเข้าเก็บภาพโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวกับสื่อมวลชนสั้นๆว่า ที่ผ่านมามีอุปสรรคแต่ถ้าทั้ง 2 ประเทศทำงานร่วมกันก็จะประสบความสำเร็จได้ จากนั้นได้ให้สื่อมวลชนออกจากห้องต่อมาในเวลา 13.40 น.เป็นภาพประวัติศาสตร์เหนือความคาดหมาย เมื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ และคิม จองอึน ได้ร่วมลงนามในเอกสารสำคัญร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกซึ่งแม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของเนื้อหา โดยผู้นำทั้ง 2 คนแถลงข่าวร่วมกัน ภายหลังจากการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์สิ้นสุดลงขณะที่ นายคิม จองอึน ระบุว่า โลกจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ภายหลังการประชุมครั้งนี้เกาหลีเหนือ และสหรัฐได้ตัดสินใจที่จะทิ้งอดีตไว้เบื้องหลัง และความขอบคุณต่อนายทรัมป์ สำหรับการจัดประชุมครั้งนี้ทั้งนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ จะเดินทางกลับสหรัฐฯคืนนี้ ส่วนนายคิม จองอึน จะเดินทางกลับเกาหลีเหนือในช่วงบ่ายวันนี้ และถือเป็นการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ที่ปิดฉากความขัดแย้งในอดีต และเริ่มต้นเปิดม่านแห่งสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีที่ทั่วโลกรอคอยอ่านข่าวเพิ่มเติม | ปิดฉากการหารือครั้งประวัติศาสตร์ การประชุมสุดยอดทรัมป์-คิม เดินหน้าสู่การสร้างสันติภาพ ร่วมลงนามหนังสือสำคัญครั้งแรก ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศผลลัพธ์ที่ออกมาดีเกินกว่าที่ทุกคนคาดการณ์ไว้ ขณะที่ คิม ระบุ โลกจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ | ต่างประเทศ | ทรัมป์,คิมจองอึน,สิงคโปร์,เกาหลีเหนือ,สหรัฐอเมริกา,SingaporeSummit,TrumpKimSummit,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/272730 |
สมยศว่าไง? เชเฟอร์ โชว์ของแจงละเอียดทำไมชอบดูฟอร์มที่สนามมากกว่าทีวี | วันที่ 5 เม.ย. วินฟรีด เชเฟอร์ หนึ่งในตัวเลือกกุนซือทีมชาติไทยคนใหม่ โชว์ของเด็ดให้แฟนบอลชาวไทยชมกันก่อนเลย แจงสาเหตุที่ทำไมเขาชอบดูฟอร์มนักเตะในสนามมากกว่าหน้าจอโทรทัศน์ ผ่านทางเฟสบุ๊คส่วนตัว,เชเฟอร์ ได้โพสต์ถึงประเด็นนี้ลงเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า มีคำถามมา สองสามครั้งแล้วและผมก็สนับสนุนในเรื่องความโปร่งใสอย่างเต็มที่ ดังนั้นเราจะมาดูสาเหตุกันเลย,แน่นอนในฐานะการเป็นโค้ชคุณดูเกมในทีวีตลอดเวลา ไม่ใช่เพียงแค่นั้นคุณต้องวิเคราะห์จากวิดีโอด้วยและคุณทำเรื่องนั้นในโปรแกรมที่แตกต่างกันและใช้สถิติเกมที่ซับซ้อนเอามาทำให้คุณศึกษาและอื่นๆอีกมากมาย,แต่คุณก็ต้องไปดูเกมการแข่งขันที่สนามให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพราะในทีวีก็เพียงได้เห็นแค่จอภาพเท่านั้น ไม่ได้เห็นในสิ่งที่เกิดขึ้นในสนามแต่มันก็เป็นเรื่องสำคัญอีกเช่นกันที่จะดูนักเตะวอร์มอัพและสำคัญที่สุดคือนักเตะหลายคนที่ไม่ได้อยู่ในจอทีวี,ยกตัวอย่างเช่นถ้าทีมเอ เปิดเกมรุกและเข้าใกล้ประตูทีมบีได้ ผมยังต้องการดูนักเตะเกมรับของทีมเอด้วย ผมจำเป็นต้องดูการยืนตำแหน่งของพวกเขา ดูว่าพวกเขาเคลื่อนที่และความร่วมมือและการสื่อสารกับนักเตะอื่นๆ รวมถึงการมีส่วนร่วมและแม้แต่ภาษากายของพวกเขาเป็นอย่างไร ผมอยากดูพฤติกรรมและการยืนตำแหน่งของผู้รักษาประตูจากทีมเอในขณะที่ทีมเอบุกด้วย,ดังนั้นการดูที่สนามเป็นเรื่องสำคัญมาก เชเฟอร์ทิ้งท้าย | ถูกใจท่านประมุขลูกหนังไทยหรือเปล่าหลัง วินฟรีด เชเฟอร์ ออกมาโชว์ของเผยสาเหตุแบบละเอียดยิบถึงเหตุผลที่เขาชอบดูฟอร์มนักเตะในสนามมากว่าทีวีผ่านเฟสบุ๊คของตัวเอง | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | ทีมชาติไทย,วินฟรีด เชเฟอร์,ช้างศึก,พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง,ข่าวกีฬา | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/906336 |
ชาวบ้านซอยหัวหมากร้อง มีหน่วยงานรื้อฟุตปาทแล้วไม่ทำให้เรียบเหมือนเดิม | ซอยประชาร่วมใจ 57 แขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา ชาวบ้านร้องเรียน ช่วงหัวค่ำจะมี รถขนเศษขยะเข้ามาเผา ทั้งกลิ่นและควันสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านและผู้สัญจรไปมาในซอยเป็นอย่างยิ่ง ขอให้ เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบหน่อย,ชาวบ้านใน ซอยหัวหมาก 10–12 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ ร้องเรียน หลังมีหน่วยงานเข้ามารื้อฟุตปาทขุดหลุมตั้งเสาทำป้าย เสร็จแล้วไม่ยอมทำพื้นที่ฟุตปาทให้เรียบเหมือนเดิม จนมีหญ้าขึ้นรกรุงรัง คนก็ไม่กล้าเดินผ่าน เกรงว่าจะเป็นที่อยู่ของสัตว์เลื้อยคลาน ฝาก เจ้าหน้าที่รับผิดชอบ ปรับปรุงแก้ไข,ค้าขายบนฟุตปาทผู้ใช้ทางเท้าร้องเรียน บริเวณ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสุทธิสาร แขวงสามเสนนอก เขตสุทธิสาร ร้านอาหาร ตั้งโต๊ะขายกันอย่างเสรี จนมีสภาพแออัด กีดขวางคนเดินเท้าต้องไปยืนรอรถกันบนถนน ฝาก หน่วยงานรับผิดชอบ ตรวจสอบ,บริเวณ หน้ากรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ รถแท็กซี่ จอดแช่ยาวเหยียด แถมจุดนั้นเป็นป้ายรถประจำทาง รถเมล์เข้าป้ายจอดรับ-ส่งผู้โดยสารไม่ได้ กีดขวางการจราจร ทำรถติดขัด พื้นที่ใครดูแล ผ่านมาเตือนบ้าง,ไม่เคารพกฎจราจรชาวบ้านร้องเรียน บริเวณ สี่แยกสนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม มีผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ขี่ย้อนศรและฝ่าไฟแดง ส่วนรถยนต์ชอบขับปาดหน้าขึ้นมาจอดล้ำเส้น มีให้เห็นเป็นประจำทุกวัน ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ชาวบ้านที่ติดไฟแดงต้องคอยระวัง เพราะเสียวอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้น ฝาก ท่าน ผกก.สภ.เมืองนครปฐม เข้มงวดกวดขันด้วย,[email protected] | ชาวบ้านใน ซอยหัวหมาก 10–12 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ ร้องเรียน หลังมีหน่วยงานเข้ามารื้อฟุตปาทขุดหลุมตั้งเสาทำป้าย เสร็จแล้วไม่ยอมทำพื้นที่ฟุตปาทให้เรียบเหมือนเดิม | ข่าว,ทั่วไทย | ห้องร้องทุกข์,ฟุตปาท,ทางเท้า,ซอยหัวหมาก,บางกะปิ | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1286751 |
บัสเที่ยวพิเศษขนแรงงานภูเก็ตอีก 49 ชีวิต ถึงนครพนม กักตัวต่ออีก 14 วัน | เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 5 พ.ค. 2563 ที่บริเวณศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม ยังคงมีพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ของแรงงานที่ไปทำงาน จ.ภูเก็ต ต่างเดินทางมาเฝ้ารอรับ รถบัสเที่ยวพิเศษที่เดินทางไปรับแรงงานภูเก็ตที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด ทำให้ตกงาน และมีปัญหาตกค้างในการเดินทางกลับจากพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อกลับมาภูมิลำเนา จ.นครพนม หลังทางจังหวัดนครพนม ได้วางแนวทางช่วยเหลือจัดรถไปรับส่งกลับ ซึ่งในวันนี้เป็นรถบัสเที่ยวที่ 2 หลังจากเมื่อวันจันทร์ เดินทางมาเที่ยวแรกรวม 23 ราย ส่วนรอบที่ 2 นี้มีแรงงานที่เดินทางมาทั้งหมด 49 รายหลังจากแรงงานภูเก็ตลงจากรถ จะมีการคัดกรอง ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโดยละเอียด พร้อมทำประวัติ วัดอุณหภูมิร่างกาย ก่อนที่จะจัดรถมารับส่งไปตามอำเภอต่างๆ ถึงบ้านพัก พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล และ อสม. เข้าไปดูแลเข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วัน ตามขั้นตอน และมีการเฝ้าระวังสังเกตอาการวันต่อวัน เบื้องต้นแรงงานส่วนใหญ่จะผ่านขั้นตอนกักตัวมาจากพื้นที่ จ.ภูเก็ต เป็นจำนวน 14 วันแล้ว แต่ต้องนำเข้าสู่การกักตัวรอบ 2 เพื่อความมั่นใจ ซึ่งยังไม่พบมีกลุ่มเสี่ยงมีอาการเจ็บป่วย โดยทางจังหวัดนครพนม ยังคงประสานจัดรถบัสเที่ยวพิเศษไปรับอีก 2 เที่ยว และจะเดินทางกลับมาถึงในวันที่ 6 พ.ค. จำนวน 44 ราย และวันที่ 7 พ.ค. จำนวน 22 ราย รวมทั้งหมด 138 ราย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานที่ตกงาน ไม่มีรายได้ ทางจังหวัดนครพนมจึงออกมาตรการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน อีกทั้งยังเป็นมาตรการดูแลควบคุมป้องกันการแพร่ระบาด | รถบัสเที่ยวที่ 2 ขนแรงงานตกค้างในจังหวัดภูเก็ตกลับถึงภูมิลำเนาในจังหวัดนครพนมเพิ่มอีก 49 คน โดยทั้งหมดต้องผ่านการคัดกรองอย่างเข้มงวด และกักตัวอีก 14 วัน เพื่อป้องกันโรคระบาด | ข่าว,ทั่วไทย | โควิด-19,แรงงานภูเก็ต,นครพนม,กักตัว,รถบัสเที่ยวพิเศษ,ไฮไลต์ไวรัสโคโรน่า,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1837666 |
อัจฉริยะ ร้องปลัดยุติธรรม ตั้งกก.สอบ ดุษฎี รื้อคดีครูจอมทรัพย์
| เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 พ.ย.60 ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม ศูนย์ราชการอาคารเอ ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบ นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ข้าราชการกระทรวงยุติธรรมทำงานในคดี,ครูจอมทรัพย์, แสนเมืองโคตร ผู้ต้องหาฐานขับรถชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยศาลฎีกามีคำพิพากษายกคำร้องรื้อฟื้นคดี,
นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ตนได้หลักฐานเป็นเอกสารของหน่วยงานต่างที่ได้ตรวจพิสูจน์รถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน บค 56 สกลนคร คันก่อเหตุ ทั้ง 3 หน่วยงาน คือ กรมการขนส่งทางบก ได้ให้ข้อมูลว่าครูจอมทรัพย์แจ้งมาว่าทำป้ายทะเบียนรถยนต์หายจึงทำป้ายทะเบียนขึ้นมาใหม่และนำมาสวม ก่อนส่งให้ พ.ต.อ.ดุษฎี นำไปให้ สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าธนบุรี ตรวจสอบซึ่งความจริงแล้วเป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถเป็นคนละป้ายกับเมื่อ 12 ปีที่แล้ว หากดูจากภาพจะเห็นว่ารูนอตบริเวณตัวเลขทะเบียนนั้นไม่ตรงกัน ขณะที่ทาง บริษัทโตโยต้า ได้ให้คำตอบตนเกี่ยวกับรอยชนด้านหน้าซ้ายหายไปว่ามีความเป็นไปได้รถอาจมีการเฉี่ยวชนแล้วเจ้าของรถอาจไปเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนรถ ดังนั้นรถกระบะคันดังกล่าวได้มีการสวมทะเบียนและเปลี่ยนชิ้นส่วนของรถใหม่
,เจ้าหน้าที่อ้างว่าการตรวจสอบดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานใหม่ทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งจริงแล้วไม่ใช่ เป็นการหลอกลวงประชาชน โดยครูจอมทรัพย์นั้นเป็นผู้กระทำความผิดจริงไม่ได้เป็นแพะตามที่มีการขอรื้อฟื้นคดี และ พ.ต.อ.ดุษฎี ก็ทราบตั้งแต่แรกว่ามีการรับจ้างติดคุกจริง ซึ่งการสอบปากคำ นายสับ วาปี ครั้งแรกก็ทราบว่าได้รับการว่าจ้างเป็น จำนวนเงิน 400,000 บาท และรับเงินไปแล้ว 200,000 บาท อีกทั้ง ครูอ๋อง หรือ นายสุริยา นวลเจริญ ยังเป็นหัวหน้าขบวนการรับจ้างหาคนมาติดคุกด้วย นายอัจฉริยะ กล่าว
,นายอัจฉริยะ เผยอีกว่า ตนขอเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบ พ.ต.อ.ดุษฎี ดังนี้ 1.ตรวจสอบการใช้งบประมาณในการใช้ตรวจพิสูจน์หลักฐานเพื่อรื้อฟื้นคดีให้ครูจอมทรัพย์ 2.มีการทำหลักฐานเท็จให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเซ็นชื่อ 3.ตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกี่คน และที่สำคัญทนายความที่ใช้ในคดีนั้นไม่ใช่ของกระทรวงยุติธรรมแต่พบว่ามีสัญญาจ้าง ดังนั้น จึงขอให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.อ.ดุษฎี เพื่อเรียกเงินที่นำไปใช้ในคดีช่วยเหลือครูจอมทรัพย์ กลับคืนเนื่องจากการทำหน้าที่ดังกล่าวสร้างความเสียหายแก่รัฐ,
ด้าน นายวิศิษฏ์ กล่าวว่า ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่สามารถให้ความเห็นในเรื่องข้อเท็จจริงได้แต่เมื่อคณะกรรมการมีข้อพิสูจน์ขึ้นมาก็จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หลังจากนี้ในกระบวนการก่อนที่จะมีความเห็นรื้อฟื้นคดีได้มีการวางระบบเพิ่มเติม คือ ต้องมีคณะกรรมการมาเพิ่มไม่ใช่การทำงานของคนใดคนหนึ่ง
,ขณะนี้ได้มีการปรับระบบการรับเรื่องให้ ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับและกระจายเรื่องให้หน่วยงานในกระทรวงยุติธรรม หากเป็นเรื่องการรื้อฟื้นด้านกฎหมายก็จะมีกรมคุ้มครองสิทธิ์ หากเป็นการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ก็จะไปที่ กองการเจ้าหน้าที่ หรือ กจ. ในส่วนของการดำเนินการบุคคลอื่น ก็อาจจะมีดีเอสไอเข้ามาสอบสวนเพราะเกี่ยวข้องในระหว่างการดำเนินงานหลายส่วน ซึ่งการรื้อฟื้นทำได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น นายวิศิษฏ์ กล่าว. | ปธ.ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือปลัดยธ. ขอตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ พ.ต.อ.ดุษฎี รองปลัดฯ เหตุรื้อคดีครูจอมทรัพย์ ตั้งประเด็นการใช้งบฯ และถูกต้องตามระเบียบราชการหรือไม่ | ข่าว,อาชญากรรม | ครูจอมทรัพย์,รื้อคดี,อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์,จอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร,กระทรวงยุติธรรม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1132480 |
นิด้าโพล เผยคนไทยส่วนใหญ่ ค้านนโยบายบริจาคเงินให้กับโรงเรียน | ศูนย์สำรวจความคิดเห็นของประชาชน นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อนโยบาย เงินบริจาค โดยสำรวจประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศจำนวน 1258 หน่วยตัวอย่าง เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ จากคำถามที่ถามว่า เห็นด้วยหรือไม่กับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่จะให้เปิดห้องเรียนสำหรับนักเรียนที่ผู้ปกครองได้ให้เงินบริจาคกับโรงเรียน ส่วนใหญ่ร้อยละ 58.82 ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการปิดกั้นนักเรียนที่เรียนเก่ง มีความสามารถแต่ขาดทุนทรัพย์และอยากให้วัดกันที่ความรู้มากกว่า และร้อยละ 38.24 เห็นด้วย เพราะคิดว่าในปัจจุบันก็มีแบบนี้อยู่แล้ว ทำให้เป็นเรื่องที่ถูกต้องจะได้เป็นที่ยอมรับในสังคม และยังมองว่าจะได้นำเงินไปเป็นกองทุนสำหรับนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์และพัฒนาโรงเรียนให้ดีขึ้น และเมื่อถามต่อว่า มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับนโยบายการรับเงินบริจาคในระดับโรงเรียน ร้อยละ 48.81 เห็นว่าเป็นการปิดกั้นความสามารถของเด็กที่ขาดทุนทรัพย์ รองลงมา ร้อยละ 26.15 เห็นว่าเป็นการตอกย้ำความเหลื่อมล้ำทางสังคมมากยิ่งขึ้น และร้อยละ 21.94 เห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาในปัจจุบันด้านคำถามที่ถามว่า นโยบายนี้ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับความเสมอภาคทางการศึกษาหรือไม่ ร้อยละ 56.04 เห็นว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญเพราะเป็นการปิดกั้น ความสามารถทางการศึกษา สร้างความเหลื่อมล้ำมากกว่าเดิม รองลงมา ร้อยละ 24.01 เห็นว่าไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะสังคมปัจจุบันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว และร้อยละ 19.95 ตอบว่าไม่ทราบ/ไม่แน่ใจประเด็นสุดท้้ายถามว่า นโยบายดังกล่าวจะเป็นการสร้างค่านิยมให้กับเยาวชนในการใช้เงินแลกกับความต้องการและความก้าวหน้าในหน้าที่การงานต่อไปในอนาคตหรือไม่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 71.03 เห็นว่า ใช่เพราะเป็นการปลูกฝังค่านิยมที่ผิดทั้งคุณธรรมและจริยธรรมที่ไม่ถูกต้องแก่เยาวชน รองลงมา ร้อยละ 18.52 เห็นว่า ไม่ใช่ เพราะขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคลว่าจะยอมรับการใช้เงินเพื่อแลกความต้องการในรูปแบบไหนมากกว่ากัน และร้อยละ 10.17 ตอบว่าไม่ทราบไม่แน่ใจ | นิด้าโพล ระบุคนไทยส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยกับนโยบายบริจาคเงินให้โรงเรียน ชี้เป็นการสร้างค่านิยมให้เยาวชนในการใช้เงินแลกกับความต้องการและความก้าวหน้าในหน้าที่การงานในอนาคต | สังคม | ความคิดเห็น,นิด้าโพล,นโยบายบริจาคเงินให้กับโรงเรียน,ปิดโรงเรียน | https://news.thaipbs.or.th/content/68776 |
สุดเศร้า เจ้าอาวาสวัด ย่านปทุมฯ มรณภาพ ขณะเทศน์ให้พรญาติโยม | วันที่ 23 ก.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุชุลมุน บนศาลาปฏิบัติธรรม ภายในวัดโสภาราม ตั้งอยู่เลขที่ 1 ถนนโสภา ตำบลบางปรอก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เมื่อจู่ๆ พระครูโสภณพิทักษ์ (วิโรจน์ ถามวโร) เจ้าอาวาส ได้เกิดเป็นลมฟุบบนที่นั่ง ขณะที่กำลังให้ศีลให้พรกับญาติโยม ที่มาทำบุญกันเต็มศาลา เนื่องในวันพระ โดยมีรถหน่วยกู้ชีพ รพ.ปทุมธานี รีบมารับตัวนำส่งโรงพยาบาลปทุมธานี อย่างเร่งรีบ แต่ปรากฏว่าไม่นานก็ทราบจากเจ้าหน้าที่ฯ ว่าพระครูโสภณพิทักษ์ เจ้าอาวาสได้มรณภาพลงแล้ว สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับญาติโยม และศิษยานุศิษย์ที่ทราบข่าวจำนวนมาก เบื้องต้นแพทย์ยังไม่ระบุสาเหตุ แค่คาดว่าน่าจะเกิดจากหัวใจล้มเหลว หรือหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน,จากการสอบถาม นางสาวพรพิมล ลูกศิษย์ที่มาทำบุญฟังเทศน์ และเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด กล่าวเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุวันนี้เป็นวันพระ มีชาวบ้านมาร่วมทำบุญกันจำนวนมากจนเต็มศาลา โดยมีพระทั้งหมด 3 รูป รวมทั้งพระครูโสภณพิทักษ์ เจ้าอาวาส และก่อนที่จะให้ศีลให้พรนั้น พระครูโสภณพิทักษ์ก็ได้พูดและฝากเตือนชาวบ้านทั้งหมด เกี่ยวกับเรื่องการใช้น้ำ และการเก็บน้ำอย่างประหยัด ในช่วงที่ขณะนี้เกิดวิกฤติน้ำแห้ง พร้อมกับยังให้ทุกครอบครัวหาภาชนะไว้รองเก็บน้ำฝนที่ตกลงมาขณะนี้อีกด้วย โดยท่านยังกล่าวอีกว่า เราต้องช่วยเหลือตัวเองเสียก่อน หลังจากนั้น ก็ได้มีการให้ศีลให้พรอยู่นั้น เสียงท่านก็เริ่มแหบและสั่น จึงหยิบน้ำมาฉันได้แค่ 2 อึก ไมค์ก็หล่นลง และท่านก็ล้มหงายท้องหมดสติทันที ทำให้ทุกคนต่างมาช่วยกันพยายามทุกวิถีทาง ก่อนเรียกรถพยาบาลมารับ แต่สุดท้ายท่านก็สิ้นลม มรณภาพอย่างสงบ,สำหรับประวัติพระครูโสภณพิทักษ์ หรือหลวงพ่อลำดวน เดิมชื่อวิโรจน์ ถามวโร เจ้าอาวาสวัดโสภาราม และยังเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองปทุมธานี (ฝ่ายมหานิกาย) ดูแลปกครองวัดในเขตพื้นที่อำเภอเมืองปทุมธานี ทั้งหมด 7 ตำบล 39 วัด โดยบวชมาตั้งแต่สมัยเป็นเณร ปัจจุบันอายุ 78 ปี รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสมาตั้งแต่ปี 2500 จนปัจจุบัน และลูกศิษย์นั้นมีทั้งนายชูชีพ หาญสวัสดิ์ นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ อดีตรัฐมนตรี และนักการเมืองท้องถิ่นจำนวนมาก ที่เลื่อมใสศรัทธา สำหรับพิธีงานศพนั้น ทางศิษยานุศิษย์ และญาติๆ พร้อมคณะกรรมการวัด จะต้องรอปรึกษากันก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร | สุดเศร้า พระครูโสภณพิทักษ์ เจ้าอาวาสวัดโสภาราม ย่านปทุมธานี หมดสติสิ้นลม มรณภาพอย่างสงบ ขณะเทศน์ให้ทุกคนช่วยชาติประหยัดน้ำ เบื้องต้น แพทย์ยังไม่ระบุสาเหตุแน่ชัด คาด หัวใจล้มเหลว | ข่าว,ทั่วไทย | พระครูโสภณพิทักษ์,วัดโสภาราม,เจ้าอาวาส,เจ้าอาวาสมรณภาพ,โรงพยาบาลปทุมธานี,หัวใจล้มเหลว,หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน,ทำบุญฟังเทศน์,วันพระ,พระครูโสภณพิทักษ์ มรณภาพ,ให้ศีล,ประหยัดน้ำ,ประวัติพระครูโสภณพิทักษ์,ปทุมธานี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/513648 |
สลด เก๋งตกท่อ สาวเมืองคอนดับ1 คันแรกชนป้ายไฟดับ คันที่ตามมาเลยพุ่งลงไป | เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 11 ต.ค. ร.ต.อ.อภินันท์ พลศร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถเก๋งเสียหลักพุ่งตกจุดก่อสร้างท่อน้ำข้ามถนน มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ บริเวณถนนเบญจมฯ-นาพรุ หมู่ 5 ต.ไชยมนตรี อ.เมืองนครศรีธรรมราช จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิใต้เต็กตึ๊งนครศรีธรรมราช,ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋ง นิสส้น มาร์ช สีส้ม ป้ายทะเบียน กธ 3796 นครศรีธรรมราช เสียหลักพุ่งไปค้างอยู่บนแท่นปูน และลวดเหล็ก จุดก่อสร้างท่อข้ามถนน ความลึกประมาณ 4 เมตร สภาพรถด้านหน้าพังยับ พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ติดอยู่บนเบาะที่นั่งด้านหน้า ข้างเบาะคนขับ ทราบชื่อคือนางจรรยพร มาศสุวรรณ์ พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229 หมู่ 4 ต.ท่างิ้ว อ.เมืองนครศรีธรรมราช สภาพแขนขวาหัก คอหัก ขณะที่อาสาฯ ได้นำนางสาวกานต์สิรี เฮงพูลสวัสดิ์ อายุ 47 ปี พนักงานเอกชน อยู่บ้านเลขที่ 115/1 หมู่ 4 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมืองนครศรีธรรมราช คนขับซึ่งได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ไปก่อนหน้านี้ ,นอกจากนี้ ยังพบรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ป้ายทะเบียน กพ 5895 สุราษฎร์ธานี จอดอยู่ในสภาพด้านหน้าพัง สวบสวนชายคนขับ ซึ่งไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ ให้การว่า ตนขับรถมุ่งหน้าไปจังหวัดสงขลา เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้เสียหลักพุ่งชนป้ายไฟ ที่เตือนว่ามีการก่อสร้าง ทำให้ไฟดับหมด ก่อนจะมาจอดหากจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร จากนั้นได้ยินเสียงดังเหมือนมีรถชน เมื่อมาดูก็พบว่าเกิดอุบัติเหตุ มีรถอีกคันตกลงไปในจุดก่อสร้าง มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ,ด้านนางสาวศุภกัญญา บัวหลวง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/8 หมู่ 5 ต.ไชยมนตรี อ.เมืองนครศรีธรรมราช ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ช่วงค่ำที่ผ่านมาเกิดเหตุรถยนต์เก๋งพุ่งชนป้ายเตือน ทำให้จุดก่อสร้างไฟดับลง จากนั้นมีรถยนต์อีกคัน เสียงหลักชนแท่งปูน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จนกระทั่งรถเก๋งนิสสันมาร์ช สีส้มคันเกิดเหตุขับมา และอาจไม่เห็นว่ามีการก่อสร้างเนื่องจาก มืด ไม่มีป้ายไฟบอก จึงเสียหลักพุ่งลงไปในจุดก่อสร้างดังกล่าว,อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ รวมทั้งสอบสวนนางสาวกานต์สิรี ผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้ง. | เกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดก่อสร้างท่อน้ำข้ามถนนในเมืองนครศรีธรรมราช มีป้ายไฟแต่รถเก๋งคันแรกไปชนจนไฟดับ ทำให้คันที่วิ่งตามมามองไม่เห็น ขับพุ่งตกลงไปหลุมที่ขุดไว้ หญิงวัย 45 ปี เสียชีวิตคาที่ ส่วนคนขับบาดเจ็บ | ข่าว,ทั่วไทย | ตกท่อ,รถตกท่อ,รถตกท่อตาย1,รถเก๋งตกท่อ,นครศรีธรรมราช,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1095719 |
เสนอกำหนดเงื่อนไขคุ้มครองผู้บริโภค ก่อนประมูลทีวีดิจิตอลธุรกิจ | และมีมาตรการบางอย่างสนับสนุนคนดูทั่วถึงทุกกลุ่มแนบท้ายประกาศประมูล เพื่อสร้างเงื่อนไขที่ง่ายขึ้นต่อการกำกับดูแลในอนาคต(13 พ.ค.56) สุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ในวันอังคารนี้ (14 พ.ค.) ตนในฐานะประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ได้นำข้อสรุปที่ได้จากมติที่ประชุมกับคณะอนุกรรมการคุ้มครองฯ ถึงข้อเสนอต่อการกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจ จัดให้มีกลไกการรับเรื่องร้องเรียนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค และจัดให้มีมาตรการพื้นฐานบางประการเพื่อให้ผู้รับใบอนุญาตจัดให้มีบริการที่เหมาะสม เพื่อประโยชน์ของคนพิการและคนดีด้อยโอกาสให้เข้าถึงหรือรับรู้ หรือใช้ประโยชน์จากรายการของกิจการโทรทัศน์ ซึ่งวาระสำคัญครั้งนี้มีการพิจารณา (ร่าง)ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ ที่มีประเด็นสำคัญ อาทิ ราคาตั้งต้นของการประมูล จำนวนช่อง(ใบอนุญาต) วิธีการประมูล คำนิยามช่อง การป้องกันนอมินี เป็นต้นสุภิญญา ระบุว่า คณะอนุกรรมการคุ้มครองฯ ได้วิเคราะห์ร่วมกันและเห็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่ กสท.ควรวางนโยบายการคุ้มครองผู้บริโภคตั้งแต่ต้น ก่อนจัดให้มีการประมูลทีวีดิจิตอลประเภทธุรกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นในระยะอันใกล้ เพื่อเป็นแนวทางสำคัญต่อการกำกับดูแลผู้ได้รับใบอนุญาตฟรีทีวีต่อไปในอนาคต โดยเสนอหลักการ 2 ข้อ เพื่อให้ กสท.นำไปพิจารณาแนบท้ายประกาศ คือ 1. มีกลไกการรับเรื่องร้องเรียนของผู้ชนะประมูลของผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบการให้มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามแนวทางของแผนแม่บทฯ และ กสท.มีมาตรการสนับสนุนต่อไป และ 2 ส่งเสริมให้ผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์จัดให้มีบริการที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์ของคนพิการ คนสูงอายุ หรือคนด้อยโอกาส ในการเข้าถึง รับรู้ และใช้ประโยชน์ได้อย่างเสมอภาคเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป ในรายการที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารสาธารณะ และบริการที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์ของคนพิการและคนด้อยโอกาส มีบริการกระจายเสียงที่ออกอากาศรายการอ่านหนังสือเต็มเวลา (สำหรับคนพิการด้านการมองเห็น / เป็นบริการทางกิจการกระจายเสียง) บริการคำบรรยายเป็นเสียง (สำหรับคนพิการด้านการมองเห็น) บริการโทรทัศน์ที่จัดให้มีล่ามภาษามือ (สำหรับคนพิการด้านการได้ยินและสื่อความหมาย) และบริการคำบรรยายเป็นอักษรวิ่ง (สำหรับคนพิการด้านการได้ยินและสื่อความหมาย) ซึ่งการประชุม กสท.ครั้งนี้ ไม่มีความคืบหน้าเรื่องการจัดทำเกณฑ์บิวตี้คอนเทสต์ ทีวีสาธารณะ ซึ่ง กสท.เสียงข้างน้อย (ธวัชชัย – สุภิญญา) อาจนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาในที่ประชุมบอร์ดใหญ่ กสทช.วันที่ 22 พ.ค.นี้ | กสท.เตรียมอนุมัติ(ร่าง)ประกาศประมูลทีวีดิจิตอล ประเภทธุรกิจ ด้านอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านบรอดแคส เสนอ จัดทำกลไกรับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภค | ไอซีที | กสทช.,การประมูลทีวีดิจิตอล,ทีวีดิจิตอล,สุภิญญา กลางณรงค์ | https://prachatai.com/journal/2013/05/46703 |
บิ๊กตู่ นำถก ครม. ลุ้นคลอดมาตรการช็อปช่วยชาติ-ช่วยน้ำท่วมใต้ | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.59 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยก่อนการประชุมนายกรัฐมนตรีได้ลงมายืนดูความเรียบร้อย หลังเจ้าหน้าที่ได้อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 มาประดิษฐานบริเวณด้านหน้าตึกสันติไมตรี และอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ประดิษฐานที่ด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ,โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงการปรับ ครม.ชุดที่ 4 ภายหลัง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม และพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นองคมนตรี โดยนายกรัฐมนตรี มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้ตอบคำถามต่อสื่อมวลชน ก่อนจะเดินขึ้นตึกบัญชาการ เพื่อประชุม ครม.ทันที,สำหรับวาระการประชุมที่น่าสนใจในวันนี้นั้น กระทรวงการคลังเสนอ ครม.ให้พิจารณามาตรการลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา หรือมาตรการช็อปช่วยชาติ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ส่งเสริมการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้า ของขวัญ สินค้าจำเป็นทั่วไป เริ่มระหว่างวันที่ 15-31 ธ.ค.59 ด้วยการนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่เกิน 15,000 บาทต่อราย สำหรับการยื่นแบบภาษีประจำปี 59 โดยยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเดือน ม.ค.-มี.ค.60 แม้คาดว่าจะสูญเสียรายได้ประมาณ 5,000 ล้านบาท แต่รัฐบาลจะได้รับภาษีมูลค่าเพิ่มทางอ้อมกลับคืนมา 6,000-7,000 ล้านบาท จึงมีส่วนช่วยขับเคลื่อนจีดีพีของประเทศอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ต้องติดตามการช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ที่ยังกระทบในหลายจังหวัด ขณะเดียวกันในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ นายกรัฐมนตรี จะเล่นกีฬาแบดมินตันร่วมกับเจ้าหน้าที่ภายในทำเนียบรัฐบาล ตามนโยบายออกกำลังกายทุกวันพุธด้วย | จับตา ครม.ถกช็อปช่วยชาติ กระตุ้นจีดีพี ส่งเสริม ปชช.ใช้จ่ายช่วงปีใหม่ พร้อมเกาะติดมาตรการช่วยน้ำท่วมภาคใต้ ขณะที่นายกฯเตรียมโชว์หวดลูกขนไก่ ตามนโยบายออกกำลังกายทุกวันพุธบ่ายนี้ | null | ปรับ ครม.,ประชุม ครม.,วาระ ครม.,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกฯ | https://www.thairath.co.th/content/804186 |
แห่เทียนพรรษายิ่งใหญ่สุดฝั่งธนฯ | ภาพจาก : facebook วัดพิชยญาติการาม วรวิหาร,),พระครูวิศิษฎร์สรการ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม หรือวัดพิชัยญาติ กล่าวว่า เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ทางวัดจะจัดพิธีถวายผ้าอาบน้ำฝนแด่พระภิกษุสามเณร และพิธีแห่เทียนพรรษาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเขตธนบุรี พร้อมทั้งเปิดให้สักการะ 9 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประกอบด้วย 1.พระพุทธเจ้า 4 พระองค์ 2.พระศรีอริยเมตไตร 3.หลวงพ่อสมปรารถนา 4.หลวงพ่อเงิน 5.หลวงพ่อทอง 6.พระบรมสารีริกธาตุ 7.พระอสีติมหาสาวก 8.รอยพระพุทธบาท 4 รอย 9.หินแกะสลักพงศาวดารจีน เรื่อง สามก๊ก สำหรับในวันที่ 8 ก.ค. ซึ่งตรงกับวันอาสาฬหบูชา จะจัดปฏิบัติธรรมและเวียนเทียน ส่วนวันที่ 9 ก.ค. เป็นวันเข้าพรรษา ตั้งแต่เวลา 06.00 น. จะมีพิธีแห่เทียนเข้าพรรษา และผ้าอาบน้ำฝน ซึ่งในปีนี้จะมีเทียนแกะสลักเป็นสัตว์ป่าหิมพานต์ร่วมในขบวนแห่ด้วย พุทธศาสนิกชนที่สนใจเป็นเจ้าภาพถวายผ้าอาบน้ำฝน ร่วมทำบุญได้ที่ ธ.ไทยพาณิชย์ บัญชีออมทรัพย์ สาขาเฉลิมนคร บัญชี วัดพิชยญาติการาม เลขที่บัญชี 037-254479-8 หรือสนใจเข้าร่วมพิธี โทร.0-2438-1738, 08-8565-1519, 09-2289-9858, 06-3238-5251, 08-5909-9590. | พระครูวิศิษฎร์สรการ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม หรือวัดพิชัยญาติ กล่าวว่า เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ทางวัดจะจัดพิธีถวายผ้าอาบน้ำฝนแด่พระภิกษุสามเณร และพิธีแห่เทียนพรรษาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเขตธนบุรี | ข่าว,สังคม | พระครูวิศิษฎร์สรการ,แห่เทียนพรรษา,เขตธนบุรี,เทียนพรรษ,ผ้าอาบน้ำฝน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/989641 |
เสื่อม | เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการแนวทางการดำเนิน งานส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมข้าราชการและประชาชนทั่วไป ได้แก่ การเข้าวัดปฏิบัติธรรมทุกวันพระหรือวันอาทิตย์ การสวดมนต์หน้าโต๊ะหมู่บูชาและพระบรมสาทิสลักษณ์ก่อนการประชุม การถวายสัตย์ปฏิญาณว่าจะปฏิบัติตามพระราชดำรัส การสวดมนต์ก่อนเข้าชั้นเรียนทุกวันและหลังเลิกเรียนในวันศุกร์ ฯลฯ ซึ่งเสนอโดยกระทรวงวัฒนธรรมเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะ ทรงมีพระชนมายุครบ 7 รอบในปลายปีนี้ข้อเสนอดังกล่าววางอยู่บนสมมติฐานที่ว่าคุณธรรมและจริยธรรมของคนไทยใน ปัจจุบันตกต่ำเพราะความที่มีชีวิตห่างไกลจากพุทธศาสนาและไม่ปฏิบัติตามพระ ราชดำรัส (ซึ่งวางอยู่บนพุทธศาสนาเช่นกัน) จึงต้องแก้ไขด้วยการให้คนไทยได้ เข้าวัดเข้าวา และมีพันธะกรณีกับพระราชดำรัสเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหากปฏิบัติได้ก็จะเป็นผลดีไม่เฉพาะกับตัวผู้ปฏิบัติ หากแต่หมายถึงสังคมไทยโดยรวม จึงเป็นการ ทำความดีถวายในหลวง อีกทางหนึ่งอย่างไรก็ดี ข้อสมมติฐานนี้บิดเบือนชีวิตทางศาสนาของคนไทยในปัจจุบัน รวมทั้งยังอำพรางความสัมพันธ์ระหว่างพุทธศาสนากับการเมืองไทยอย่างสำคัญ เพราะหากหมายความศาสนาในความหมายกว้าง เช่น ระบบความเชื่อและระเบียบศีลธรรม จะพบว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังคงมีชีวิตใกล้ชิดกับศาสนา หลายคนตื่นเช้าขึ้นมาก็บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะเดินทางไปไหนหรือติดต่อธุระอะไรก็ต้องดูฤกษ์ยาม จะเปิดร้านหรือทำบุญขึ้นบ้านใหม่ก็ต้องนิมนต์พระมาสวดและเจิมให้ และนอกจากหลักธรรมคำสอนของพุทธศาสนาเช่นบุญกรรม คนไทยจำนวนมากยังเคารพศรัทธาในระบบความเชื่อและระเบียบศีลธรรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นผี เทพ หรือบุรพกษัตริย์ไทยเช่น เสด็จพ่อ ร.๕ ชีวิตประจำวันของคนไทยจึงรายล้อมไปด้วยศาสนาเต็มไปหมด นอกจากนี้ นัยของศาสนาเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นเพียง ความเชื่อส่วนบุคคล หรือเป็นการถอยร่นของศาสนาเข้าสู่ปริมณฑลส่วนตัวของปัจเจกบุคคลท่ามกลางการ ขยายตัวของความทันสมัยอย่างที่พวกนักคิดสายเรื่องทางโลกชวนให้เชื่อ ตรงกันข้าม ศาสนากลับยังเป็นพลังสำคัญในพื้นที่สาธารณะหรือว่ามีส่วนในการจัดความ สัมพันธ์ระหว่างผู้คนในสังคมไทยร่วมสมัยอย่างสำคัญ เปรียบว่าธรรมกายสามารถสร้างเครือข่ายญาติธรรมที่ต้องการบรรลุธรรมด้วยวิธี การเฉพาะในยุคเครือข่ายไร้สายได้ฉันใด สันติอโศกก็สามารถสร้างกองทัพธรรมที่ต้องการทวงเขาพระวิหารหรือเขตแดนคืนใน ยุคโลกไร้พรมแดนได้ฉันนั้น ในทางกลับกัน การที่คนไทยในปัจจุบันมีความสนใจในชีวิตทางศาสนาก็ไม่ได้เป็นเรื่องของการ ฟื้นตัวของศาสนาอย่างที่เกิดขึ้นในศาสนาคริสต์และอิสลามหลังจากเผชิญกับ กระแสการตื่นรู้ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ และการเกิดขึ้นของรัฐชาติ เพราะในสังคมไทย ศาสนาพุทธไม่เคยเพลี่ยงพล้ำให้กับการท้าทายทางปรัชญาและหลักธรรมคำสอนโดย วิทยาศาสตร์ แต่สามารถจัดความสัมพันธ์ให้อยู่ในสถานะที่เหนือกว่าได้ วิทยาศาสตร์อาจดูล้ำเลิศ แต่ก็เป็นเพียงโลกียธรรม เทียบไม่ได้กับโลกุตรธรรมอย่างพุทธศาสนา ขณะเดียวกันพุทธศาสนาก็ไม่เคยสถาปนาศาสนจักรขึ้นแข่งขันหรือท้าทายอำนาจ อาณาจักรเหมือนกับที่เกิดขึ้นในกรณีของศาสนาคริสต์ แต่กลับโยงใยกันอย่างแนบแน่น การวางผังการปกครองดินแดนในสมัยสุโขทัยและอยุธยาวางอยู่บนคติความเป็น กษัตริย์ในพุทธศาสนา และตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นต้นมากษัตริย์ไทยอยู่ใต้คติธรรมราชาแทนที่จะเป็นเทวราชาตามคติฮินดู นอกจากนี้ การสร้างรัฐชาติไทยอาศัยพุทธศาสนาในหลายลักษณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการหมายความโดยพฤตินัยให้ศาสนาพุทธเป็นหนึ่งในสามของ อุดมการณ์รัฐควบคู่กับชาติและพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ยังไม่นับรวมการรื้อฟื้นสถานภาพและบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่ต้นทศวรรษ 2500 เป็นต้นมาที่อาศัยพิธีกรรมความเชื่อในพุทธศาสนาอย่างเข้มข้น พุทธศาสนาจึงไม่เคยจางหายจากพื้นที่สาธารณะในสังคมไทย และคนไทยก็ไม่ได้มีชีวิตห่างจากศาสนาอย่างที่มักถูกทำให้เชื่อ กันฉะนั้น หากศีลธรรมของคนไทยตกต่ำจริงก็ไม่น่าจะเป็นเพราะคนไทยอยู่ห่างศาสนา (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่าไม่เคยมีผู้กระทำ ผิดหรือ ผู้ร้าย ในสังคมไทยคนไหนต่อต้านศาสนาหรือว่าบอกว่าตัวเองไม่มีศาสนา) และเพราะเหตุดังนั้นการบังคับให้คนไทย เข้าวัดเข้าวา หรือปฏิบัติวัตรทางศาสนามากขึ้นก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหา ศีลธรรมของคนไทยตกต่ำ ถ้าอย่างนั้นข้อเสนอของกระทรวงวัฒนธรรมมีเป้าหมายหรือนัยสำคัญ อะไรข้อแรก ผมคิดว่าข้อเสนอของกระทรวงวัฒนธรรมต้องการกอบกู้พุทธศาสนาเชิงสถาบันที่อยู่ ในสภาวะง่อนแง่น เพราะในด้านหนึ่งสถาบันพุทธศาสนาประสบปัญหาภายในไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมของพระ นอกรีตจำพวกมั่วสีการวมทั้งเสพและค้ายาเสพติด การเมืองและการแย่งชิงผลประโยชน์ภายในวัด หรือว่าการที่วัดมีลักษณะเป็นสถานประกอบการเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่อีกด้านพุทธศาสนาเผชิญกับ คู่แข่ง ที่แข็งแกร่งและมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มของเทพองค์ ต่างๆ ซึ่งไม่ได้สังกัดพุทธศาสนา ซึ่งหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ พุทธศาสนาจะสูญเสียความสามารถในการเป็นสถาบันหรือกลไกจัดระเบียบความเชื่อ และศีลธรรมในสังคมให้กับรัฐไทย มาตรการกระชับศีลธรรมคนไทยผ่านวัดและพิธีกรรมจึงถูกเข็นออกมาโดยมีความต้อง การเสริมความแข็งแกร่งให้พุทธศาสนาเชิงสถาบันเป็นเหตุผลอยู่เบื้อง หลังข้อสอง วิกฤติการเมืองไทยร่วมสมัยยิ่งทำให้ต้องเร่งเสริมความแข็งแกร่งของสถาบัน พุทธศาสนาเพิ่มมากขึ้น เพราะอย่างที่เขียนไว้ข้างต้น สถาบันพุทธศาสนาไม่ได้เป็นปฏิปักษ์กับอาณาจักรสยามและรัฐไทย แต่ให้ความเกื้อหนุนอย่างสลับซับซ้อน โดยเฉพาะในช่วงที่สถาบันการเมืองจารีต (ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของรัฐไทย) เผชิญความเปลี่ยนแปลงและการท้าทาย ฉะนั้น การที่ส่วนสำคัญของวิกฤติการเมืองไทยในปัจจุบันอยู่ที่ความเปลี่ยนแปลงรวม ทั้งความไม่มั่นคงแน่นอนของสถาบันการเมืองจารีตประการหนึ่ง กับการก้าวขึ้นมาของพลังทางการเมืองที่มีจินตนาการทางการเมืองต่างออกไปอีก ประการ ก็ส่งผลให้ความเสื่อมของสถาบันพุทธศาสนาไม่อาจถูกทิ้งให้เป็นเรื่องในความ รับผิดชอบของกรมศาสนาแต่เพียงหน่วยงานเดียวอีกต่อไปได้ หากแต่ต้องทำให้กลายเป็น วาระแห่งชาติ เพื่อจะช่วยให้สถาบันพุทธศาสนาสามารถทำหน้าที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับ สถาบันการเมืองจารีตได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกทาง ดังที่กระทรวงวัฒนธรรมระบุไว้อย่างชัดเจนว่าจะกระชับศีลธรรมของข้าราชการและ ประชาชนคนไทยในครั้งนี้เพื่อสิ่งใดอย่างไรก็ดี ผมไม่คิดว่ามาตรการเหล่านี้จะบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้ เพราะในด้านหนึ่งพุทธศาสนาเสื่อมก็เพราะถูกนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ ทางการเมืองมากเกินไป การที่มาตรการดังกล่าวเจริญรอยตามแนวทางนี้ก็จะยิ่งส่งผลให้พุทธศาสนาเสื่อม ลงไปอีก ขณะที่อีกด้านความผุกร่อนของสถาบันการเมืองจารีตแฝงนัยเชิงจริยธรรมด้วย การอาศัยกลวิธีทางการเมืองที่มีความเสื่อมเชิงจริยธรรมในตัวจะยิ่งทำให้ความ ผุกร่อนที่ว่านี้รุนแรงขึ้นอีก | เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการแนวทางการดำเนิน งานส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมข้าราชการและประชาชนทั่วไป ได้แก่ การเข้าวัดปฏิบัติธรรมทุกวันพระหรือวันอาทิตย์ | การเมือง,วัฒนธรรม,การศึกษา,สังคม | null | https://prachatai.com/journal/2011/03/33641 |
รูนีย์ ลั่น แข้งผีแดงยังหนุนหลัง ฟาน กัล | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 24 ธ.ค. ว่า เวย์น รูนีย์ หัวหอกกัปตันทีมร่างอวบของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยัน แข้งในทีมทุกคนกำลังต่อสู้และหนุนหลังเพื่อ หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่ของทีมอยู่เสมอ,เก้าอี้ของกุนซือปิศาจแดงของฟาน กัล กำลังสั่นคลอนเมื่อไม่สามารถพาทีมปิศาจแดงคว้าชัยชนะได้เลยใน 6 เกมหลังสุด รวมทุกรายการ และพ่ายมา 3 เกมติดต่อกันเข้าให้แล้ว จนมีข่าวลือว่า นายใหญ่ชาวดัตช์จะถูกปลดจากตำแหน่ง หากไม่สามารถพาทีมปิศาจแดงเอาชนะทีมสโต๊ก ซิตี้ ในเกมบ็อกซิงเดย์ วันเสาร์นี้ได้,อย่างไรก็ตาม หลังมีข่าวลือว่าแข้งปิศาจแดงกำลังเล่นไล่ฟาน กัล อยู่นั้น รูนีย์ กัปตันทีม ออกมายืนยันว่าแข้งในทีมทุกคนไม่ได้เล่นไล่โค้ชตามที่มีกระแสข่าวลือออกมาแต่อย่างใด และย้ำชัดว่า ยังคอยหนุนหลังและพยายามต่อสู้เพื่อนายใหญ่คนนี้เสมอ,สองสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลการแข่งขันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเรา มันน่าผิดหวัง เราต้องแข็งแกร่งด้วยกันและพยายามทำให้ผลการแข่งขันดีกว่าเดิมตามที่เราต้องการ เราสามารถทำได้ดีกว่านี้ เราทำงานหนักและต่อสู้เพื่อผู้จัดการทีมและพยายามทำเต็มที่เพื่อให้ทีมของเรากลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง รูนีย์ กล่าวผ่านสกาย สปอร์ต | เวย์น รูนีย์ กัปตันสามแสนปอนด์ ของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยัน แข้งในทีมทุกคนยังหนุนหลัง หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่จอมปรัชญาเหมือนเดิม | null | พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,เวย์น รูนีย์,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/553829 |
ไฮบริดดาวลูกไก่ จ่อเข้าไทยเร็วๆ นี้ SUBARU FORESTER E-BOXER | ในงาน Singapore Motorshow 2019 Subaru เปิดตัว Forester รุ่นพิเศษ e-Boxer ความพิเศษของ SUV ตัวใหม่นี้ คือการเป็นรถ SUV ขนาดกลางที่ใช้น้ำมันเบนซิน และมีกลไกเครื่องยนต์แบบคู่ (dual engine) มีการทำงานคล้ายระบบไฮบริดที่เป็นลิขสิทธิ์ของ Subaru ประกอบด้วยชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่จะใช้งานเมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วต่ำ ช่วยทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง และเครื่องยนต์เบนซินแบบสูบนอนที่จะเข้ามาเสริมเมื่อความเร็วเพิ่มสูงขึ้น,ระบบ Forester e-Boxer ออกแบบให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถูกพัฒนาขึ้นใหม่โดยมีการปรับให้แบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าไม่กินพื้นที่ตัวรถ แชสซี Subaru Global Platform สามารถรองรับระบบไฮบริดเสริมพลังงานใน Forester e-Boxer โดยแพลตฟอร์มนี้ได้รับการออกแบบมาตั้งแต่ต้น เพื่อรองรับเครื่องยนต์ทั้งแบบดั้งเดิม แบบไฮบริดและแบบปลั๊กอินไฮบริด รวมถึงยังออกแบบให้ระบบจ่ายไฟมีความเสถียร การใช้แพลตฟอร์ม Subaru Global Platform ทำให้ความสูงของพื้นห้องเก็บสัมภาระระหว่างรุ่นไฮบริดและรุ่นเบนซินแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย โดย Forester e-Boxer มีพื้นที่รองรับสัมภาระได้มากกว่า 500 ลิตร เพียงพอสำหรับการเดินทางของครอบครัว,เทคโนโลยี e-Boxer, เครื่องยนต์ e-Boxer ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Forester e-Boxer และเป็นที่มาของชื่อรุ่น คือหนึ่งในคุณสมบัติที่เป็นเครื่องหมายการค้าของยานพาหนะจาก Subaru สำหรับตัวรถของ Forester e-Boxer นั้น ขับเคลื่อนโดยกลไกการทำงานของเครื่องยนต์แบบคู่ อันประกอบด้วยสองส่วนประกอบที่แตกต่างกัน คือ ชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่จะทำงานเมื่อรถขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำเพื่อการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องยนต์จะเข้ามาเสริมการทำงานเมื่อรถขับเคลื่อนด้วยความเร็วที่สูงขึ้นคล้ายกับระบบไฮบริดในรถยนต์ Hybrid ทั่วๆ ไป ระบบ e-Boxer ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงถึง 5.4 ลิตร/100กิโลเมตร,เครื่องยนต์ SUV ไฮบริด ยังมอบผลลัพธ์ที่น่าประทับใจโดยการให้แรงบิดสูงถึง 188 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ ต่อนาที เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร สูบนอน รหัส FB20 ของ Forester e-Boxer มีกำลัง 145 แรงม้า แรงบิด 188 นิวตันเมตร พ่วงระบบ Light Hybrid มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 13.6 แรงม้า แรงบิดจากมอเตอร์ 65 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ CVT และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบสมมาตร Symmetrical all-wheel drive พร้อมกลไก X-MODE ช่วยในการควบคุมเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบตเตอรี่แบบ lithium-ion ติดตั้งอยู่ด้านท้ายมีขนาดเล็กไม่กินพื้นที่บรรทุกสัมภาระท้าย สำหรับพื้นที่เก็บของเมื่อยังไม่พับเบาะหลังจะอยู่ที่ 509 ลิตร ,เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนของระบบเครื่องยนต์ไฟฟ้า-เบนซินแบบคู่ รถยนต์ Forester e-Boxer จึงได้พัฒนาหน้าจอแสดงการไหลของพลังงานแบบไฮบริด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหน้าจอมัลติฟังก์ชั่น Infotainment ระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ผู้ขับขี่สามารถประมวลผลข้อมูลยานพาหนะที่สำคัญได้อย่างง่ายดายด้วยความละเอียดที่สูงขึ้น และรายละเอียดที่ครอบคลุมเกี่ยวกับสถานะภายในเครื่องยนต์,โครงสร้าง, เช่นเดียวกับ The All-New Forester รถยนต์ Forester e-Boxer แบบไฮบริด ถูกสร้างขึ้นบน Subaru Global Platform ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเสาหลักหรือ Subaru Core Technologies อันเป็นการออกแบบโดยคำนึงถึงความยืดหยุ่นเป็นหลัก Subaru Global Platform สามารถรองรับระบบเครื่องยนต์ที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องยนต์แบบดั้งเดิม ระบบไฮบริด และปลั๊กอินไฮบริด และระบบจ่ายพลังงานไฟฟ้า แม้จะมีระบบไฟฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ Forester e-Boxer ก็ยังแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างแพลตฟอร์มรถและระบบเครื่องยนต์ เป็นผลให้ SUV ไฮบริดไม่สูญเสียพื้นที่ในตัวรถ – พื้นที่ห้องเก็บสัมภาระนั้นใกล้เคียงกับรุ่นเบนซิน และยังให้พื้นที่บรรทุกภายในกว่า 500 ลิตร ที่เพียงพอแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร,ความปลอดภัย, Forester e-Boxer ยังคงให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและผู้ขับขี่ โดยมีการผสมผสานคุณสมบัติด้านความปลอดภัยแบบใหม่ เช่น เทคโนโลยี EyeSight Driver Assist ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Subaru โดย EyeSight เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่ให้ความช่วยเหลือผู้ขับขี่ ระบบเบรกอัตโนมัติก่อนการชน (Automatic Pre-Collision Braking), การจัดการคันเร่งก่อนการชน (Pre-Collision Throttle Management), ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control), การแจ้งเตือนเมื่อการจราจรเคลื่อนที่ (Lead Vehicle Start Alert), ระบบเตือนเมื่อออกจากเลน (Lane Departure Warning), หรือระบบเตือนเมื่อรถส่าย (Lane Sway Warning) ให้ผู้ขับขี่มีความปลอดภัยและอุ่นใจมากขึ้นเมื่ออยู่บนท้องถนน,SUV ไฮบริดยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นพิเศษ X-MODE ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับเพิ่มระดับความปลอดภัย เมื่อขับขี่ไปบนพื้นผิวที่ไม่เรียบและภูมิประเทศที่ท้าทาย เพียงกดปุ่ม ระบบ X-MODE ระบบจะเข้าเกียร์เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่รับมือกับภูมิประเทศที่ยากที่สุด เพื่อยกระดับความมั่นใจในการขับขี่ ในขณะที่มอบความสะดวกสบายมากขึ้นในการจัดการกับสภาพถนนที่แตกต่างกัน นอกเหนือจากนี้ Forester e-Boxer ยังมีระยะสูงจากพื้นถนนที่น่าทึ่ง ด้วยระยะห่างจากพื้นดินขั้นต่ำ 220 มิลลิเมตร,Subaru VIZIV Tourer Concept,Subaru XV,Subaru Outback,Subaru Forester ,รถยนต์รุ่นพิเศษที่ Subaru นำมาจัดแสดง, สำหรับผู้ที่ชื่นชอบนวัตกรรมยานยนต์จะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีใหม่ที่รวมอยู่ใน Subaru VIZIV Tourer Concept ซึ่งเคยจัดแสดงครั้งแรกไปแล้วที่งาน Geneva International Motor Show ปี 2018 ด้วยดีไซน์ที่มีความคล้ายคลึงกับ WRX STI ทำให้ Subaru VIZIV Tourer Concept นั้น มีลักษณะภายนอกที่ดุดันและโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม แต่ยังยึดมั่นในแนวทางการออกแบบแบบ Dynamic x Solid ของแบรนด์ นอกจากนี้ ซูบารุยังจัดแสดงรถยนต์รุ่นยอดนิยมของซูบารุที่ได้รับการตกแต่งใหม่ และมีอุปกรณ์เสริมพิเศษ ได้แก่ Subaru VIZIV Tourer Concept, Subaru Outback 2.5i-S, Subaru Forester 2.0i-S, Subaru Forester 2.0i-L,Subaru Corporation ร่วมทุนกับ TC Manufacturing and Assembly (Thailand) ซึ่งเป็นบริษัทลูกในเครือของ Tan Chong International Limited (TCIL) เพื่อการประกอบรถยนต์ Subaru ในไทย และกระจายสู่ตลาดต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ รถยนต์ Subaru ที่ผลิตขึ้นในมาเลเซียและไทย จะถูกจัดจำหน่ายโดยมอเตอร์ อิมเมจ ผ่านเครือข่ายของ Subaru ในทวีปเอเชีย,แบรนด์ Subaru ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2498 และตั้งแต่นั้นมาได้เติบโตขึ้นจนเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกในปี 2515 ซูบารุกลายเป็นบริษัทแรกของโลก ที่ทำตลาดรถยนต์นั่งแบบขับเคลื่อนทุกล้อ(AWD) และเป็นผู้บุกเบิกตลาดในประเทศญี่ปุ่นสำหรับรถยนต์นั่ง station wagon ประสิทธิภาพสูงโดยรวม เอาเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ ประกอบเข้ากับระบบ AWD บริษัทซูบารุมีการปรับปรุงระบบ AWD ของตนอย่างประนีต เพื่อสร้างระบบ AWD ที่มีสมรรถนะ และความปลอดภัย สร้างความเพลิดเพลินในการใช้งานจนกลายเป็นที่รู้จักทั่วโลก ตั้งแต่ BRZ, Forester, Impreza, Legacy, Levorg, Outback, WRX, WRX STI และ XV โดยทุกรุ่นได้รับการยอมรับและรู้จักกันว่า เป็น drivers cars เนื่องจากมีการใช้เทคโนโลยีที่เป็นหัวใจสำคัญ อย่างเช่นการขับเคลื่อนทุกล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive) และเครื่องยนต์สูบนอน Subaru Boxer ในรถทุกรุ่น.,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,[email protected],Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/ | โผล่แล้ว Subaru Forester e-Boxer เครื่องสูบนอน 2.0 ลิตร บวกมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ เน้นประหยัดพลังงานและปล่อยมลพิษต่ำ | ข่าว,ยานยนต์ | ยานยนต์,รถยนต์,ซูบารุ,Subaru Forester e-Boxer,อาคม รวมสุวรรณ | https://www.thairath.co.th/news/auto/news/1476511 |
ช่อง 3 ฝ่าวิกฤติ ปลดพนักงานหลังขาดทุน หุ้นร่วง พี่น้องแยกวง | ขึ้น,หลังจากมีทีวีดิจิตอลเกิดขึ้น จนปัจจุบันมีฟรีทีวีกว่า 20 ช่องให้ผู้ชมเลือกดู ตั้งแต่ปี 2557 รายได้ของช่อง 3 ก็ลดลงเรื่อยๆ จากกำไรก็กลายเป็นขาดทุน โดยเฉพาะปี 2560-2561 ที่ไตรมาส 4 ปี 2560 ขาดทุน 335 ล้านบาท ไตรมาส 1 ปี 2561 ขาดทุน 126 ล้านบาท และไตรมาส 2 ปี 2561 ขาดทุน 22.6 ล้านบาท แม้ไตรมาส 3 ปี 2561 จะมีกำไร 78.3 ล้านบาท แต่ 9 เดือนแรกของปี 2561 ก็ยังขาดทุน 70.2 ล้านบาท,ขณะเดียวกันราคาหุ้นของช่อง 3 (BEC) ก็ลดลงมาประมาณ 10 เท่า จากที่เคยอยู่ในระดับราคา 51 บาท ในสิ้นปี 2557 มา ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2561 ราคาเหลือเพียง 5.35 บาทเท่านั้น ,แน่นอนว่าเมื่อรายได้ลด ขาดทุน ก็ต้องลดต้นทุน ช่อง 3 มีโปรแกรมให้พนักงานสมัครใจลาออกตั้งแต่ต้นปี 2561 มาแล้วครั้งหนึ่ง จนล่าสุดเดือนนี้ช่อง 3 ประกาศเน้นให้พนักงานที่อายุเกิน 60 ปี สมัครโปรแกรมลาออก จากเดิมที่พนักงานกลุ่มนี้ อยู่ทำงานได้ไปเรื่อยๆ,นอกจากนี้ ในระดับเจ้าของและผู้บริหารระดับสูง ที่นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2561 ก็ไม่มีชื่อของคนในบ้านทั้ง นายประวิทย์ มาลีนนท์ และลูกๆ ของนายประวิทย์ ถือหุ้นในช่อง 3 อีกเลย ผู้ถือหุ้นใหญ่ของช่อง 3 ปัจจุบัน จึงมีน้องๆ และหลานๆ ถือหุ้นใหญ่ หลังจากนายประวิทย์ถอนหุ้น และไม่ได้บริหารมาระยะหนึ่ง น้องชายคนเล็กคือ นายประชุม มาลีนนท์ ก็นั่งบริหารแทน ขณะที่ นายประวิทย์ เข้าไปร่วมทำธุรกิจกับบริษัทที่รับผลิตรายการ และหนังให้ช่อง 3 อย่างเช่น ร่วมกับบริษัทเซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผลิตหนังเรื่องนาคี 2,เมื่อนายประชุมเข้ามาบริหารเต็มตัวตั้งแต่ต้นปี 2560 ก็มีดึงคนนอกเข้ามาเป็นผู้บริหารระดับสูงในสายงานสำคัญ ในระดับหัวหน้าคณะผู้บริหาร และหลายคนเมื่อครบวาระ 1 ปี ก็ไม่ได้ต่อสัญญาจ้าง หรือขอลาออกเอง เช่น ฝ่ายวิจัย ฝ่ายความคิดสร้างสรรค์ ฝ่าบริหารทรัพยากรบุคคล สายงานเทคโนโลยี และสื่อใหม่ ,,ช่อง 3 แจงข่าวปลดพนักงานเข้าใจคลาดเคลื่อน ชี้ เป็นโครงการเกษียณอายุ, ,ช่อง 3 เตรียมแถลงการณ์ข่าวช็อก เลิกจ้างพนักงาน อีกระลอก | คงไม่มีใครคิดว่าช่อง 3 จากเคยมีรายได้นับหมื่นล้าน กลับขาดทุน และมีข่าวเลิกจ้างพนักงาน รวมไปถึงเรื่องราวของพี่น้องก่อนหน้านี้ ที่พี่ ประวิทย์ มาลีนนท์ เลือกทิ้งหุ้นช่อง 3 หมดแล้ว แต่ก็เกิด | ข่าว,เศรษฐกิจ | ช่อง 3,ปลดพนักงาน,ช่อง 3 ขาดทุน,ประวิทย์ มาลีนนท์,วิกฤติ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1436093 |
บุญหนา เผยเจ้าแม่เงินกู้เฮี้ยน เข้าฝัน-ให้หวย 37 แต่ไม่ได้ซื้อ | วันที่ 18 พ.ค.2559 ร.ต.อ.รณภพ ทิพย์สุวรรณ รองสารวัตร สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ได้นำตัวนายบุญหนา ทองงาม อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันกับ ด.ต.ปราโมทย์ บุพศรี อดีตตำรวจ สภ.บ้านผือ หักคอฆ่าเผานั่งยางชิงทรัพย์ นางบังอร ทองอ่อน อายุ 52 ปี เจ้าแม่เงินกู้ เมื่อเดือนมิถุนายน 2557 ออกจากห้องควบคุม นำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดอุดรธานี เป็นผัดแรก เป็นระยะเวลา 12 วัน โดยนายบุญหนามีหน้าตาอิดโรย แต่ยังยิ้มและพูดหยอกล้อกับตำรวจ ขณะที่ญาติขออนุญาตเข้าเยี่ยม และขอรับรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน บห 9592 อุดรธานี ของนายบุญหนาคืน,นายบุญหนา ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 10 ปี ตนรู้จักกับ ด.ต.ปราโมทย์ เพราะ ด.ต.ปราโมทย์ ไปมีภรรยาใหม่ชื่อนางน้อย ซึ่งเป็นญาติของตน อยู่ที่หมู่บ้านคูดง ต.โนนทอง อ.บ้านผือ โดย ด.ต.ปราโมทย์ ได้สร้างบ้านให้นางน้อย แต่อยู่ด้วยกันไม่นานประมาณ 3 ปี นางน้อยทนความเจ้าชู้ของ ด.ต.ปราโมทย์ ไม่ไหว จึงหนีออกจากบ้านไปทำงานอยู่ที่เมืองพัทยา ซึ่งเป็นช่วงจังหวะเดียวกับภรรยาของตนเสียชีวิต ด.ต.ปราโมทย์และตนจึงได้ชวนกันไปจีบสาวตามหมู่บ้าน ทำให้สนิทสนมกัน และหลวมตัวเข้าไปร่วมอุ้มเผานั่งยางนางบังอร,ผู้ต้องหาเล่าต่อไปว่า หลังจากได้ร่วมกันกับ ด.ต.ปราโมทย์ อุ้มฆ่านั่งยางนางบังอร ก็ได้ไปทำบุญอุทิศส่วนบุญกุศลให้ทุกวันที่วัดในหมู่บ้าน ทั้งยังเคยฝันเห็นนางบังอรอีกหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังถูกทหาร ตำรวจ ควบคุมตัวไปสอบสวน ซึ่งตนได้รับสารภาพ และถูกนำตัวไปชี้จุดฆาตกรรมที่สุสานเผานั่งยาง พร้อมได้ทำพิธีขอขมานางบังอรด้วย เมื่อถูกนำตัวไปควบคุมตัวในห้องขัง พอตอนกลางคืนนางบังอรได้มาเข้าฝันตน ในลักษณะนางบังอรชี้หน้าด่าตนและในฝัน นางบังอรบอกว่า ขอขมาแล้ว ก็ให้ทำบุญให้ด้วย เอาเครื่องสังฆทาน 3 ถัง นิมนต์พระมาสวด 7 รูป พอตนตื่นเช้ามา ตนขอโทรศัพท์เพื่อที่จะโทรไปบอกญาติซื้อหวย 37 แต่ตำรวจไม่อนุญาต จึงไม่ได้บอกใคร พอตอนบ่าย หวยก็ออก 737,วันเดียวกัน พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จ.อุดรธานี ได้เรียก พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.วิทธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.สม วาโย ผกก.สอบสวน ภ.จ.อุดรธานี ทีมตำรวจสืบสวน ภ.4 ตำรวจสืบสวน ภ.จ.อุดรธานี และพนักงานสอบสวนคดีอุ้มนายวีระศักดิ์ ธรรมมามนต์ อายุ 28 ปี เสี่ยร้านโทรศัพท์มือถือ โบกี้เทเลคอม อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี เมื่อวัน 14 ธันวาคม 2551 ซึ่งเป็น 1 ใน 5 คดีที่รื้อฟื้นคดีใหม่ เข้าประชุมเพื่อดูสำนวนในคดี หลังขออนุมัติหมายจับคนร้ายตามภาพสเกตช์ ใช้เวลาประชุม 2 ชั่วโมง ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนร่วมรับฟัง,หลังประชุม พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า วันนี้ได้เรียกประชุมวางแนวทางการสืบสวนสอบสวนใหม่ เพราะเนื้อสำนวนในคดีบอกบางสิ่งบางอย่างค่อนข้างจะชัดเจนพอสมควรว่า มูลเหตุที่หายตัวไปด้วยเรื่องอะไร ทางญาติได้ให้ปากคำไว้ พนักงานสอบสวนและตำรวจสืบสวนได้ติดตามคดีในปี 2551 ไว้พอสมควร แต่ยังขาดอยู่บ้างต้องไปเติมเต็ม ไม่ถือว่าเป็นความบกพร่อง,พล.ต.ต.พีระพงศ์ กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนคดีดังกล่าวใหม่ มี พ.ต.อ.สม วาโย ผกก.สอบสวน ภ.จ.อุดรธานี เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ได้เรียกพยานที่อยู่ในสำนวนมาสอบสวนใหม่ 2-3 คน และจะต้องสอบให้ครบ เพื่อหาสาเหตุการอุ้ม และมูลเหตุจูงใจที่ทำให้นายวีระศักดิ์หายไป ซึ่งมูลเหตุการณ์อุ้มที่บอกว่าเป็นเรื่องชู้สาว เราจะต้องไปพิสูจน์ให้ได้ว่ามาจากมูลเหตุที่ชัดเจน ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุที่พยานเห็นว่ามี 4-5 คน ตำรวจยังไม่ได้เจาะจงหรือสงสัยว่าเป็นกลุ่มใด,ส่วนเรื่องญาติของนางบังอร ทองอ่อน เจ้าแม่เงินกู้ที่ยังติดใจว่าคนร้ายน่าจะมีมากกว่า 2 คน คือต้องมีนางนกต่อล่อให้นางบังอรออกไปฆ่า ถือว่ามันเป็นความรู้สึก ว่ามีคนร่วมมือ มีคนบงการ มีนางนกต่อ มันไม่ใช่ ตำรวจเดินมาจนสุดแล้ว ระดมทีมกันออกไปทำงานขนาดนี้ ผู้ต้องหาก็รับสารภาพอยู่แล้วว่า เขาทำกัน 2 คน มันไม่จำเป็นต้องมีผู้บงการเลย ไม่จำเป็นต้องมีนกต่อ เพราะว่าแค่ไปเฝ้าดูพฤติกรรมผู้ตาย คนร้ายรู้ว่าทุกวันนางบังอรจะต้องมารดน้ำต้นไม้ มาดายหญ้าเป็นประจำทุกวัน คนร้ายมาทำงานได้เลย ไม่ต้องมีนายบุญหนาก็ลงมือได้ด้วยซ้ำไป ในคดีนี้ทางการสืบสวนจบแล้ว ไม่มีพยานหลักฐานเป็นอย่างอื่น คิดกันเอง รู้สึกกันเอง ไม่มีประโยชน์ คดีจบแล้ว ผบก.ภ.จ.อุดรธานี กล่าวในที่สุด. | นำตัวบุญหนา ทองงามผู้ต้องหาร่วมอุ้มฆ่าเจ้าแม่เงินกู้เผานั่งยางศพ ฝากขังผัดแรก บอกหลังก่อเหตุไปทำบุญให้คนตายที่วัดทุกวัน หลังสารภาพและขอขมา ผู้ตายมาเข้าฝัน บอกหวย 37 แต่ไม่ได้ซื้อ ตร.เตรียมรื้อคดีอุ้มเสี่ยร้านมือถือหาย 8 ปี | null | เผานั่งยาง,ฆ่าเจ้าแม่เงินกู้,อุ้มฆ่า,สุสานนั่งยาง,บังอร ทองอ่อน,ฝากขัง,สภ.บ้านผือ,อุดรธานี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/content/622397 |
ตร.สมุทรปราการจับ 4 ผู้ต้องหาขโมยจักรยานยนต์แลกยาบ้า | พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ตำรวจสืบสวนภูธรบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จับนายนิกรไหมวงศ์ นายวินัย นิลไธสง นายประทีป สุดสะอาด และนายคำหล้า ทองเลิศ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ 6 คัน และหลักฐานอีกจำนวนหนึ่ง หลังได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของรถจักรยานยนต์หลายรายในหลายพื้นที่ ซึ่งถูกโจรกรรมรถขณะจอด และถูกจี้บังคับชิงรถในเวลากลางคืน จึงสั่งตำรวจให้เร่งรัดจับกุมคนร้าย โดยนายนิกร 1 ในผู้ต้องหา สารภาพว่า โจรกรรมรถมาจากย่าน ถนนบางนา-ตราด ขณะเจ้าของจอดรถลงไปซื้อของ โดยอยู่ระหว่างนำรถคันนี้ไปแลกยาบ้ากับนายวินัย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยร่วมกัน ทั้งโจรกรรมรถที่จอดไว้ และ ใช้อาวุธมีดจี้บังคับชิงรถ ในท้องที่ สถานีตำรวจภูธรบางพลี บางบ่อ บางเสาธง รวมทั้งเขตติดต่อกรุงเทพมหานคร โดยนำรถไปแลกยาบ้าได้ 15-20 เม็ด ต่อคันแล้วแต่สภาพ ตำรวจจึงขยายผลตามไปจับนายวินัยพร้อมเพื่อนร่วมแก๊งได้ เบื้องต้นตำรวจดำเนินคดีทั้งหมดในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่น หรือ รับของโจร และ ร่วมกันชิงทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้อาวุธมีด ซึ่งหากผู้เสียหายรายใดเคยถูกกระทำในลักษณะนี้ สามารถดูตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางได้ที่ สถานีตำรวจภูธรบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ | ตำรวจจังหวัดสมุทรปราการ จับ4 ผู้ต้องหาโจรกรรมรถจักรยานยนต์ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ 6 คัน โดยผู้ต้องหาสารภาพว่า ออกตระเวนโจรกรรมรถจักรยานยนต์ เพื่อนำไปแลกยาบ้ามาเสพ | อาชญากรรม | ขโมย,จักรยานยนต์,ผู้ต้องหา,ยาบ้า,สมุทรปราการ | https://news.thaipbs.or.th/content/84574 |
แนวโน้มทัวร์ไทยไปพม่ามากขึ้นคาดปี 55 เพิ่มถึงร้อยละ 30 | ความศรัทธามั่นในศาสนาของชาวพม่า ทำให้พระเจดีย์ชเวดากองยังเด่นเป็นสง่าเหนือใจกลางเมืองย่างกุ้งมานานกว่า 1000 ปี จากแรกสร้างสูงเพียง 27 ฟุต มาวันนี้ความสูงเพิ่มขึ้นกว่าเดิมหลาย 10 เท่า พระเจดีย์ทองยังคงเป็นที่พึ่งทางใจทั้งในยามทุกข์ร้อน หรือ ผ่อนคลาย รวมถึงยังความปรารถนาทั้งมวลตามความเชื่อ ไม่เพียงชาวมอญ-พม่าจะให้ความสำคัญกับการทำบุญวันพระใหญ่ เช่น อาสาฬหบูชา แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วไป โดยเฉพาะชาวไทยก็เดินทางมาสักการะพระเจดีย์ชเวดากองอย่างเนืองแน่นเต็ม พื้นที่โล่งรอบพระเจดีย์ รวมถึงวัดย่านใกล้อีกหลาย 10 แห่ง ทัวร์ไทยนิยมไปพม่าเป็นเวลานานแล้ว แม้ในช่วงที่เหตุการณ์ทางการเมืองยังไม่สงบ ศรัทธาในศาสนาเชื่อมร้อยผู้คนมาที่เป้าหมายเดียวกันเพื่อแสวงหาที่พึ่งทางใจ ทัวร์ไทยในพม่ามีแนวโน้มขยายตัวอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งมาจากการเดินทางที่สะดวกขึ้น มีการขยายเส้นทางบิน และเพิ่มเที่ยวบินระหว่างไทยไปยังพม่า คาดว่าในปี 2555 นี้จะมีคนไทยเดินทางไปพม่าไม่ต่ำกว่า 90000 คน หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โบราณสถานที่เต็มไปด้วยสีสันชีวิตของผู้คน และต้นทุนทางวัฒนธรรมที่หลากหลายเป็นที่มาของรายได้จากการท่องเที่ยวในพม่าแทบทุกทัวร์ไทยไม่พลาดโปรแกรมการแสดงทางวัฒนธรรมที่จัดโชว์นาฏศิลป์พร้อม บริการอาหาร ซึ่งมีอยู่เพียงแห่งเดียวในย่างกุ้ง จุดขายอยู่ที่อาหารพื้นเมือง และการแสดงของชาติพันธุ์กลุ่มต่างๆในพม่า หลังรัฐบาลผ่อนคลายกฎเกณฑ์หลายอย่าง ส่งผลให้บรรยากาศทางการเมืองในพม่าดีขึ้น และหวังให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเศรษฐกิจ วันนี้คนพม่าส่วนใหญ่ยังคงยากจน มีไม่น้อยต้องพึ่งพิงอยู่กับวัด แต่ศรัทธาที่มั่นคงในศาสนาช่วยให้ก้าวผ่านทุกข์ และเป็นสุขเพียงได้สักการะพระเจดีย์ที่อยู่เบื้องหน้า | ไม่ว่าบรรยากาศทางการเมืองในสหภาพเมียนมาร์จะเป็นอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือทัวร์คนไทยที่ไปเยือน ยิ่งเป็นดินแดนที่มั่งคั่งไปด้วยศาสนสถาน ทำให้ช่วงวันหยุดยาวตรงกับวันพระใหญ่ เช่น อาสาฬหบูชาที่ผ่านมา มีชาวไทยไม่น้อยไปเยือนสหภาพเมียนมาร์ ศรัทธาในพุทธศาสนานำผู้คนไปยังสถาน ที่แห่งเดียวกันมีเป้าหมายเพื่อแสวงหาที่พึ่งทางใจ | ศิลปะ-บันเทิง | ทัวร์,พม่า,พุทธศาสนา,ศาสนสถาน,เมียนมาร์,ไทย | https://news.thaipbs.or.th/content/103504 |
ธรรมนัส ลั่นสภาฯ ไม่เคยรับสารภาพค้ายา โดนลหุโทษ แค่ปกปิดข้อมูล | ถ้าเป็นผู้จำหน่ายและผลิตเฮโรอีนคงตายแล้วเกิดเพื่อมาติดคุกอีก โวยจะนำ ก.ม.ออสเตรเลียมาใช้กับในรัฐไทยไม่ได้เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 27 ก.พ.63 ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวชี้แจงว่า เรื่องที่ยกมาอภิปรายดังกล่าวเป็นอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดน ทั้งนี้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 3 รับรองไว้ว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ซึ่งอธิปไตยดังกล่าวหมายถึง อำนาจทางบริหาร ตุลาการ และนิติบัญญัติ โดยการบริหารราชการแผ่นดินมีผลเฉพาะแผ่นดินหรือรัฐนั้นๆ โดยเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้มติครม.ของไทย บังคับใช้กับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงหากนำมติครม. ประเทศออสเตรเลีย มาบังคับใช้กับประเทศไทยไม่ได้ เนื่องจากขัดต่ออธิปไตยเหนือดินแดน ขณะที่อำนาจทางนิติบัญญัติ ที่ตรากฎหมายบังคับใช้เพื่อรัฐนั้น จะมีผลเฉพาะรัฐนั้น ไม่สามารถนำกฎหมายของประเทศออสเตรเลีย บังคับหรือลงโทษคนไทยในรัฐไทยไม่ได้ ขณะที่อำนาจตุลาการจะมีผลพิพากษาเฉพาะตามอำนาจของรัฐเท่านั้น หากคู่กรณีหรือคู่สัญญาแต่ละประเทศหากยอมรับมาปฏิบัติในกฎหมายไทย ต้องบัญญัติไว้ในกฎหมาย เช่นกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง ห้ามคนต่างด้าวที่ต้องคำพิพากษา หรือโทษตามกฎหมายของประเทศไทย ยกเว้นความผิดที่ได้รับการยกเว้นโดยกฎกระทรวงห้ามเข้าราชอาณาจักรก่อนฟังผู้อภิปราย ผมตื่นเต้นว่ามีอะไรเด็ด แต่พอฟังแล้วไม่ตื่นเต้น เพราะสิ่งที่พยายามอภิปรายคือคำพิพากษาของศาลแขวง ผมมีมาตั้งนานแล้ว โดยผมได้ทำหนังสือไปยังปลัดกระทรวงการต่างประเทศ คัดสำเนาคำพิพากษาศาลออสเตรเลีย คือ ศาลแขวงรัฐนิวเซาท์เวลส์ 31 มีนาคม 2537 และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์รัฐ 10 มีนาคม 2538 เอกสารที่ท่านแสดง ผมมีนั้นมากกว่าท่าน เพราะมีสาระสำคัญที่เชื่อว่าท่านไม่มี คือ การทดลองเจรจาก่อนเข้าสู่กระบวนการของลูกขุน อย่างไรก็ตามที่ระบุมีคำแปลว่าผมรับสารภาพว่าเจตนานำเข้ายาเสพติดนั้นไม่จริง เพราะคำแปลที่มีผู้รับรองซึ่งน่าเชื่อถือได้ไม่มีตรงไหนที่ระบุว่าผมรับสารภาพนำเข้า ส่งออก จำหน่ายและผลิตเฮโรอีน ที่มีโทษจำคุกตลอดชีวิตเท่านั้น ผมยืนยันว่าไม่ได้รับสารภาพว่าเป็นผู้นำเข้า ส่งออก จำหน่ายและผลิตเฮโรอีน เพราะหากผมถูกลงโทษตามผู้อภิปรายชี้แจง ผมคงต้องตายแล้วต้องมาเกิดเพื่อมาติดคุกอีก อย่างไรก็ตามในคำพิพากษาระบุว่าความผิดของผมคือฐานรู้ว่ามีผู้กระทำความผิดแต่ปกปิดแต่ไม่แจ้งเจ้าหน้าที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ให้ทราบ ทั้งนี้ในคำพิพากษาที่อภิปรายนั้นอ่านไม่ครบถ้วน ร.อ.ธรรมนัสกล่าวร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เพราะความเขลาตนจึงโดนลงโทษ 4 ปี ซึ่งในช่วงนั้นตนถูกส่งตัวไปที่เมืองโอบารอนส์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นสถานที่นักโทษคดีชายฉกรรจ์ซึ่งมีความผิดลหุโทษ โดยเข้าไปทำงานในฟาร์ม ไม่ได้ถูกขับอยู่ในเรือนจำ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย.40 หากไปตรวจสอบข้อมูลราชการ จะพบว่าตนไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดเลย แต่ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นจุดบอดเป็นตราบาปของตน อย่างไรก็ตาม ผู้อภิปรายกำลังพูดว่าเราเสียเอกราชเป็นเมืองขึ้นให้กับออสเตรเลีย เพราะเราไปยอมรับอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนออสเตรเลีย และการแอบอ้างคำสั่งศาลของประเทศอื่นมามีผลบังคับใช้กับรัฐบาลไทยไม่ได้ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงด้วยว่า ต่อกรณีที่มีสื่อมวลชนที่ถูกจ้างให้ทำข่าว ถูกตนฟ้องดำเนินคดีอาญา เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 รวมถึงดำเนินคดีกับคนที่กล่าวหา โดยล่าสุดมีผู้อ้อนวอนขอให้ผมถอนฟ้อง อย่างไรก็ตามในการอภิปรายดังกล่าวตนให้วอร์รูมที่ จ.พะเยา ดูแลต่อการฟ้องร้องดำเนินคดี. | ธรรมนัส งัดหลักฐานสู้กลางสภา เปิดหน้าชนย้ำเอกสารคำแปลรับสารภาพไม่จริง ยันไม่ได้นำเข้าเฮโรอีน ลั่นไม่เคยรับสารภาพ มีความผิดเพียงลหุโทษ ในข้อกล่าวหาฐานรู้ว่ามีผู้กระทำความผิดแต่ปกปิด | ข่าว,การเมือง | อภิปรายไม่ไว้วางใจ,อภิปรายไม่ไว้วางใจ 2563,ประชุมสภา,ธรรมนัส พรหมเผ่า,ติดคุกออสเตรเลีย,เฮโรอีน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1781536 |
สมาพันธ์หน่วยพัฒนาครูฯ แนะ ศธ.เดินหน้าโครงการ คูปองครู ต่อ | ดร.สุรัตน์ ยุทธเสรี ประธานสมาพันธ์หน่วยพัฒนาครูแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ภาคีเครือข่าย พันธมิตร หน่วยพัฒนาครู จัดงานแถลงข่าว เสวนา และบันทึกข้อตกลง MOU ร่วมใจเดินหน้า คูปองครู สู่นวัตกรรมการศึกษาไทย เมื่อวันที่ 31 ส.ค.62 ณ โรงแรมวังสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กรุงเทพฯ,ดร.สุรัตน์ กล่าวว่า สมาพันธ์หน่วยพัฒนาครูแห่งประเทศไทยได้ก่อตั้งขึ้นโดยการรวมตัวกันของสถาบันการศึกษา นิติบุคคล เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.62 ณ โรงแรมเอเชีย โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือการรวมพลังหน่วยพัฒนาครู จัดอบรมครูตามโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจรหรือ คูปองครู ได้อย่างมีคุณภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพครูสู่การยกระดับคุณภาพของผู้เรียน ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 100 หน่วยพัฒนา จากรากฐานทั้งหมด 883 หน่วย และจะทวีจำนวนเพิ่มขึ้นตามลำดับ,โครงการคูปองครูเกิดขึ้นเมื่อปี 2560 ริเริ่มโดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ. ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 ความว่า ส่งเสริมให้ครูรักเด็กและให้เด็กรักครู โดยครูต้องเริ่มต้นด้วยการเขียนแผนพัฒนาตนเอง (ID plan) จากการวิเคราะห์ปัญหาของผู้เรียน แล้ว Shopping เลือกหลักสูตรเข้าอบรมกับหน่วยพัฒนาครูและนำกลยุทธ์ที่ได้รับมาแก้ไขปัญหาผู้เรียนด้วยกิจกรรม PLC กับเพื่อนครู จนผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ที่สูงขึ้นครูจึงสะสมผลงาน รับการประเมินเพื่อเลื่อนวิทยฐานะ ว21/2560 โดยเฉพาะวิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ จะสิ้นสุดที่โรงเรียนซึ่งเป็นการกระจายอำนาจและลดภาระงานราชการแต่เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียนอย่างแท้จริง ดังนั้นสมาพันธ์หน่วยพัฒนาครูจึงเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาครูสู่ผู้เรียนที่มีขุมกำลังอันมหาศาล มีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญอย่างหลากหลายทั้งในวงการศึกษา และนอกวงการศึกษา มีหลักสูตรการพัฒนาครูเปี่ยมด้วยคุณภาพ ซึ่งสมาพันธ์ฯ พร้อมที่จะรวมพลังปฏิบัติภารกิจเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาแบบก้าวกระโดดให้กับประเทศไทยตลอดไป ดร.สุรัตน์ กล่าว,ผศ.ดร.ฉัตรแก้ว ใจงาม ที่ปรึกษาสมาพันธ์ฯ กล่าวถึงคุณค่าของโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจรว่า คูปองครูนับเป็นนวัตกรรมการพัฒนาครูที่แปลกใหม่น่าตื่นเต้นสามารถพัฒนาครูไปพร้อม ๆ กันได้กว่า 3 แสนคน เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาและพัฒนาผู้เรียนปีละกว่า 3 ล้านคน โดยเปิดประตูรั้วกระทรวงศึกษาธิการ ให้หน่วยพัฒนามืออาชีพจากทุกภาคส่วนมาร่วมกันพัฒนาครูไปสู่เด็ก ทำให้ประหยัดงบประมาณลงจากเดิมถึง 10 เท่า โดยมีขั้นตอนที่โปร่งใสเป็นธรรม กล่าวคือ สถาบันคุรุพัฒนากลั่นกรองและรับรองหลักสูตรที่หลากหลาย สำนักพัฒนาครูของ สพฐ. กำหนดราคา และครูเลือกหลักสูตรที่สอดคล้องกับแผน ID Plan แล้วนำไปใช้พัฒนาผู้เรียน,ที่ปรึกษาสมาพันธ์ฯ กล่าวต่อว่า จากผลการประเมินโครงการคูปองครูโดยสำนักพัฒนาครูฯ ของ สพฐ. พบว่าในปี 2560 ครูมีความพึงพอใจเฉลี่ยร้อยละ 84.41 และปี 2561 ค่าเฉลี่ยร้อยละ 99.08 ซึ่ง นายกรัฐมนตรีนำไปประโคมข่าวว่าเป็นนโยบายดีเด่นของรัฐมนตรีรัฐบาลในที่ประชุมนานาชาติแต่ในปี 2562 เมื่อมีการผลัดเปลี่ยนรัฐบาลนโยบายคูปองครูที่สถาบันคุรุพัฒนาได้ประกาศรับรองหลักสูตรเกือบ 3,000 หลักสูตรแล้ว กลับมีแนวโน้มชะงักงันลงกลางคันในขณะที่หน่วยพัฒนาครูได้ลงทุนและเตรียมการมาเป็นอย่างดีเนื่องจากมีกระแสข่าวว่าในปีงบประมาณ 2563 คูปองครูอาจจะถูกแปรเปลี่ยนไปจากเจตนารมณ์เดิม ที่เปิดประตูกระทรวงศึกษาธิการให้ผู้เชี่ยวชาญทุกภาคส่วนในสังคมมามีส่วนร่วมในการพัฒนาครูและยกระดับคุณภาพการศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของท่าน รมว.ศธ. คนปัจจุบัน มาเป็นการให้หน่วยราชการจัดกันเองเหมือนในอดีต เป็นการปิดกั้นโอกาสของครู และเด็กไทยที่จะได้รับสิ่งใหม่ๆ จากโลกที่เปิดกว้างไปอย่างน่าเสียดายยิ่ง,อาจารย์ปัญญา ทรงเสรีย์ เลขาธิการสมาพันธ์ฯ ในฐานะตัวแทนจากสมาคมพัฒนาวิชาชีพครูแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ตนชื่นชมศรัทธาต่อท่านรมว.ศึกษาธิการที่มาจากภาคประชาชน และนโยบายที่ทันสมัย ทันโลกของท่านแต่สำหรับ เรื่อง คูปองครูนั้น ท่านเพิ่งเข้ามาใหม่ยังไม่ทราบถึง หัวใจ ของโครงการที่แท้จริง ดังนั้นตัวแทนสมาพันธ์ฯ จึงจะเข้าไปพบท่านในวันที่ 6 ก.ย.นี้ เพื่อช่วยท่านสร้างแบรนด์ใหม่ ที่จะโดนใจเด็กไทยและผู้ปกครองนับสิบล้านคน คือ คูปองครู สู่ผู้เรียน เราจะไม่ขอร้องให้ท่านทำเพื่อหน่วยพัฒนาครู หรือทำเพื่อครูเพราะ หัวใจของคูปองครู คือ กระบวนการสร้างครู สู่การสร้างเด็ก หรือ ผู้เรียน ซึ่งเป็นปลายทางแห่งสายธารของการศึกษาไทย แบรนด์นี้ จะยิ่งใหญ่รองรับการมาจากภาคประชาชนของท่าน และพ่อแม่ผู้ปกครองจะไม่ผิดหวัง ดังที่ท่านให้สัญญาไว้,ข้อสรุปที่จะเสนอกระทรวงศึกษาธิการ คือ 1.รักษาระบบที่ดีไว้ ประกาศเดินหน้าคูปองครู ควบรวบปี 2562-2563 อนุมัติงบรายหัวละ 10,000 บาท จัดอบรมครู 1 ตุลาคม 2562–31 สิงหาคม 2563 2.ใช้กระบวนการให้ครบวงจร จาก ครูสู่เด็ก4 ขั้นตอน คือ 1.วางแผน ID Plan 2.เลือกหลักสูตรเข้าอบรมกับหน่วยพัฒนาครู 3.ร่วมกิจกรรม PLC รวมพลังครูพัฒนาผู้เรียน และ 4.ทำให้ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนสูงขึ้น และครูสะสมผลงานรับการประเมินเพื่อเลื่อนวิทยฐานะ,3.ให้หน่วยพัฒนาครูที่ผ่านการรับรองหลักสูตรจากสถาบันคุรุพัฒนา จากทุกภาคส่วนได้เปิดรุ่นและจัดอบรมครูตามโปรแกรมที่วางไว้ สอดคล้องกับนโยบายของ รมว.ศธ. ข้อ 4 เรื่อง การระดมพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย และจากการริเริ่มให้มี สมัชชาแห่งการศึกษา ของสภาการศึกษา และ 4.ประเมินผลโครงการอย่างเป็นระบบ เพื่อการปรับปรุงพัฒนา โดยการจัดตั้งกองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา 52 ของ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 เพื่อความยั่งยืนต่อไป. | สมาพันธ์หน่วยพัฒนาครูแห่งประเทศไทย เตรียมเข้าพบ รมว.ศึกษาฯ แนะเดินหน้าโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร หรือ คูปองครู ต่อ | ข่าว,สังคม | ครู,สมาพันธ์ครู,คูปองครู,พัฒนาครู,กระทรวงศึกษา,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/society/1650905 |
เลขาธิการมูลนิธิฟื้นฟูชีวิตฯเรียกร้องศึกษาผลกระทบทางผันน้ำก่อนก่อสร้าง | นายยอกซู ซงลี ผู้จัดการสหภาพเกาหลีเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ทางผันน้ำ หรือฟลัดเวย์ ในเมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้สามารถลดยอดน้ำท่วมในบริเวณใกล้เคียงลงได้ในฤดูน้ำหลากหลังจากที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปีนี้ แต่เมื่อก่อสร้างทางผันน้ำออกสู่ทะเลเสร็จเรียบร้อย คุณภาพน้ำกลับแย่ลงกว่าเดิมมากในฤดูแล้ง จากน้ำที่ระบายออกสู่ทะเลได้ช้าลงกว่าเดิมเพราะติดประตูน้ำที่ปากอ่าว ขณะที่เรือขนส่งที่คาดว่าจะสัญจรในทางผันน้ำแห่งนี้ก็ยังคงมีไม่มากนัก รวมทั้งการท่องเที่ยวในแม่น้ำสายนี้ก็เช่นกัน ดังนั้น หากประเทศไทยวางแผนจะสร้างทางผันน้ำเช่นเดียวกับเกาหลีใต้ ก็ควรศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้รอบคอบก่อนยอกซู กล่าวอีกว่า ถ้าประเทศไทยอยากจะสร้างฟลัดเวย์ ก็ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม และตัดสินใจว่าควรสร้างฟลัดเวย์หรือไม่ เพราะฟลัดเวย์ไม่ใช่หนทางเดียวที่จะป้องกันน้ำท่วมได้นายวิฑูรย์ เพิ่มพงศาเจริญ เลขาธิการมูลนิธิฟื้นฟูชีวิตและธรรมชาติ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ควรทำสัญญากับภาคเอกชนก่อนที่การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และกระบวนการสอบถามความเห็นสาธารณะของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะได้ข้อยุติ เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้ | ในขณะที่รัฐบาลไทยกำลังมีแผนการป้องกันน้ำท่วมระยะยาว และอาจจะดำเนินการก่อสร้างทางผันน้ำ หรือฟลัดเวย์ในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเร็วๆ นี้ แต่เลขาธิการมูลนิธิฟื้นฟูและธรรมชาติ และผู้จัดการสหภาพเกาหลีเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเตือนว่ารัฐบาลไทยควรศึกษาผลกระทบของสิ่งก่อสร้างต่างๆ ให้รอบคอบก่อนที่จะทำสัญญากับบริษัทเอกชน เพราะการก่อสร้างฟลัดเวย์มีทั้งข้อดี และข้อเสีย | สิ่งแวดล้อม | ก่อสร้าง,ทางผันน้ำ,ผลกระทบ,ฟลัดเวย์,มูลนิธิฟื้นฟูชีวิตฯ,ศึกษา,เรียกร้อง,เลขาธิการ | https://news.thaipbs.or.th/content/132459 |
สาวปากน้ำโพ สังเวย 7 วันอันตราย รถชนต้นไม้ดับที่อุตรดิตถ์ | เวลา 15.40 น. วันที่ 28 ธ.ค. ร.ต.อ.เทวา อรัญโสต รอง สว.(สอบสวน) สภ.ตรอน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าที่ถนนสายพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ ทางหลวงหมายเลขที่ 11 กม.296-297 บ้านหลวงป่ายาง ต.น้ำอ่าง อ.ตรอน จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมกู้ภัยหมอนไม้ และแพทย์เวร รพ.ตรอน ,พบรถเก๋งโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 6ศ 5335 กรุงเทพมหานคร ชนอัดติดกับต้นไม้ข้างทาง สภาพด้านหน้ารถเก๋งพังยับเยิน กระจกแตกละเอียด ภายในรถมีคนติด 3 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำเครื่องตัดถ่างช่วยผู้ที่ติดอยู่ในรถออกมา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที นำผู้บาดเจ็บ 2 ราย นำตัวส่ง โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ทราบชื่อ นายวิเชียร ภัควัตธาดาพงศ์ อายุ 50 ปี ที่อยู่ 207 ซ.บรมราชชนนี 70/1 ถ.บรมราชชนนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. คนขับบาดเจ็บที่ขาทั้งสองข้าง และ ด.ช.สุนาท ประเสริฐสุข อายุ 9 ปี หลาน ศีรษะด้านขวาแตกเย็บ 5 เข็ม และแขนซ้ายหัก,ภายในรถด้านข้างคนขับ พบศพมีผู้เสีชีวิต 1 ราย ชื่อ น.ส.พิมพ์มณี เกตุมณีชัยรัตน์ อายุ 46 ปี ที่อยู่ ซ.65 ถ.สวรรค์วิถี ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ สภาพศพหน้าผากถูกแรงกระแทกจากคอนโซลรถ บาดแผลมีเลือดไหลตลอดเวลา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ,สอบถาม นายอภิโชติ พลแหลม อายุ 56 ปี หน.อพปร.ต.น้ำอ่าง อ.ตรอน เล่าว่า ขณะที่กู้ภัยกำลังช่วยเหลือนั้น ตนได้สอบถามจากนายวิเชียร คนขับ บอกว่า ก่อนจะมาเกิดเหตุ ได้ขับรถมาจากกรุงเทพฯ มาแวะที่บ้านภรรยาที่ จ.นครสวรรค์เยี่ยมญาติ จากนั้นมาไหว้พระที่วัดพระพุทธชินราช จ.พิษณุโลก ก่อนจะเดินทางเพื่อจะพาครอบครัวและหลานไปเที่ยว จ.เชียงราย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีวันหยุดหลายวันติดต่อกัน พอมาถึงที่เกิดเหตุ ปรากฏว่า รถเก๋งเกิดหมุนกลางถนนหลายตลบ ไม่สามารถบังคับรถได้ เสียหลักไปชนต้นไม้ข้างทางแล้วกระเด็นไปชนต้นไม้อีกต้น รถอัดติดกับต้นไม้ จนทำให้ภรรยาที่นั่งมาด้านข้างคนขับเสียชีวิต ซึ่งถือเป็นผู้เสียชีวิต ในช่วง 7 วันอันตรายของ จ.อุตรดิตถ์ | ครอบครัวผัวเมียขับรถพาหลานจะไปเที่ยวปีใหม่ที่เชียงราย ประสบอุบัติเหตุรถเก๋งหมุนคว้างกลางถนน ช่วง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ ไปชนคาอยู่กับโคนต้นไม้ใหญ่ ภรรยานั่งข้างคนขับถูกอัดก๊อบปี้ เสียชีวิตคาที่ | ข่าว,ทั่วไทย | รถชนต้นไม้,ชนต้นไม้ตาย1,7วันอันตราย,อุตรดิถต์,อุบัติเหตุปีใหม่,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1457115 |
ป่าไม้-ทหาร เข้าเจรจาคณะสงฆ์ รื้อสิ่งปลูกสร้าง รุกป่าสงวนเขากระยาง | รูปจาก จนท.ป่าไม้เขากระยาง,กรมอุทยานฯ จนท.ป่าไม้ พร้อม กอ.รมน.พิษณุโลก บุกตรวจที่พักสงฆ์ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขากระยาง พบอยู่ในขอบเขตพื้นที่เตรียมการ รอประกาศให้เป็นเขตอุทยานฯ เจรจาพระสงฆ์ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง พร้อมออกนอกพื้นที่ภายใน 5 มี.ค.นี้ ตามคำสั่ง คสช. ,เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 6 ก.พ. นายธีรพล กาญจนโกมล หัวหน้าสายตรวจ สายที่ 1 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก โดยหน่วยฯ พล.14 (น้ำคลาด) และกำลังทหาร กอ.รมน.จ.พิษณุโลก ร่วมกันตรวจสอบที่พักสงฆ์ชั่วคราว ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขากระยาง หมู่ 21 ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการบุกรุกผืนป่า,บริเวณดังกล่าว พบพักสงฆ์ดังกล่าวบริเวณโดยรอบเป็นพื้นที่สูง สภาพรกทึบไปด้วยป่าไผ่ ติดกับแปลงปลูกป่ามีเนื้อที่ทั้งหมด 2 ไร่เศษ และอยู่ในขอบเขตพื้นที่เตรียมการ รอประกาศให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติแก่งเจ็ดแคว เจ้าหน้าที่เกรงว่าจะมีการขยายพื้นที่บุกรุกเพิ่มเติม จึงได้เจรจากับ พระสกล สุจิตโต อายุ 55 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช และพระณัฐพล ปญญาพโล อายุ 32 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ จ.ศรีสะเกษ ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง คือ บ้าน (เพิงพัก) จำนวน 4 หลัง และออกจากพื้นที่ภายใน 5 มี.ค.2559 โดยยึดถือการปฏิบัติตามคำสั่ง คสช.64 และ 66 แทนการทำบันทึกจับกุมดำเนินคดี. | จนท.บุกตรวจที่พักสงฆ์ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขากระยาง พบอยู่ในขอบเขตพื้นที่เตรียมการ รอประกาศให้เป็นเขตอุทยานฯ เจรจาพระสงฆ์ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง พร้อมออกนอกพื้นที่ภายใน 5 มี.ค.นี้ ตามคำสั่ง คสช. | ข่าว,ทั่วไทย | รุกป่า,ที่พักสงฆ์,ป่างสงวนเขากระยาง,อุทยานแห่งชาติแก่งเจ็ดแคว,พระสกล สุจิตโต,พระณัฐพล ปญญาพโล,คำสั่ง คสช.64,ธีรพล กาญจนโกมล,หัวหน้าสายตรวจ สายที่ 1,กรมอุทยานสัตว์ป่า,กอ.รมน.พิษณุโลก,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/573769 |
ผู้ชุมนุมราชดำเนินสนับสนุนการป้องกันแก๊สน้ำตา | ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า ผู้ชุมนุม กปปส.วางกระสอบป่านอยู่ที่บริเวณที่สี่แยกคอกวัว ซึ่งกระสอบแบบนี้ยังมีวางไว้อีกหลายจุด ทีมการ์ดของผู้ชุมนุมอธิบายว่าเมื่อใช้น้ำราดลงบนกระสอบให้ชุ่ม กระสอบเปียกนั้นจะใช้คลุมแก๊สน้ำตาชนิดขวด หรือว่ากระป๋อง ทำให้ควันของแก๊สนั้นไม่ฟุ้งกระจาย นี่เป็นวิธีหนึ่งที่กลุ่มผู้ชุมนุมนำมาใช้ เพื่อรับมือมาตรการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ หลังจากเมื่อวานนี้มีการเคลื่อนขบวนไปตามสถานที่ราชการ โดยเฉพาะทำเนียบรัฐบาล แต่ว่าถูกสกัดด้วยแก๊สน้ำตา และของเหลวสีม่วงผู้สัมผัสนั้นจะมีอาการแสบร้อนก่อนที่ทีมการ์ดนั้นจะเร่งนำขึ้นรถกระบะ โดบบอกว่าจะนำไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งขณะนี้ นายชุมพล จุลใส แกนนำนั้นพามวลชนบางส่วนไปปิดล้อม โดยให้เหตุผลว่าต้องการจะทวงถามถึงการใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานนี้ นอกจากกระสอบป่านแบบนี้แล้ว แกนนำยังมีการเตรียมน้ำดื่ม น้ำเกลือ และอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเอาไว้จำนวนมากบริเวณทางเข้าออกพื้นที่ชุมนุมเวทีราชดำเนินแทบจะทุกจุด เพื่อรองรับผู้บาดเจ็บที่เดินทางกลับมาได้ทันทีส่วนที่เวทีชุมนุมมีการปราศรัยของอาสาสมัครได้ไปเตรียมป้องกันแก๊สน้ำตา รวมถึงเดินทางไปสมทบมวลชนกลุ่มแรกที่เดินทางไปกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยแกนนำประกาศว่าเจ้าหน้าที่นั้นมีการใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม ทำให้มวลชนนั้นไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่มีการพูดถึงในช่วงเช้าที่วันนี้ คือเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 30 พฤศจิกายนต่อเนื่องถึงวันที่ 1 ธันวาคมที่มีการปะทะกันระหว่างนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง กับกลุ่ม นปช. บริเวณถนนรามคำแหง ซึ่งผู้ดำเนินรายการบนเวทีก็ตั้งข้อสังเกตถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ทั้งการเข้าระงับเหตุ ความล่าช้าในการเข้าช่วยเหลือนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงกว่า 1000 คนที่ติดค้างอยู่ในอาคารเรียนจนถึงช่วงเช้าเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำคนสำคัญบนเวทีมีการประกาศขอให้มวลชนนั้นเตรียมความพร้อมที่จะเคลื่อนขบวนไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นมาตรการที่นายสาทิตย์ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าหากมีการสลายการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล หรือว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาล ก็จะมีการเคลื่อนขบวนมวลชนไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในช่วงบ่ายผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า ผู้ชุมนุม กปปส.วางกระสอบป่านอยู่ที่บริเวณที่สี่แยกคอกวัว ซึ่งกระสอบแบบนี้ยังมีวางไว้อีกหลายจุด ทีมการ์ดของผู้ชุมนุมอธิบายว่าเมื่อใช้น้ำราดลงบนกระสอบให้ชุ่ม กระสอบเปียกนั้นจะใช้คลุมแก๊สน้ำตาชนิดขวด หรือว่ากระป๋อง ทำให้ควันของแก๊สนั้นไม่ฟุ้งกระจาย นี่เป็นวิธีหนึ่งที่กลุ่มผู้ชุมนุมนำมาใช้ เพื่อรับมือมาตรการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ หลังจากเมื่อวานนี้มีการเคลื่อนขบวนไปตามสถานที่ราชการ โดยเฉพาะทำเนียบรัฐบาล แต่ว่าถูกสกัดด้วยแก๊สน้ำตา และของเหลวสีม่วงผู้สัมผัสนั้นจะมีอาการแสบร้อนก่อนที่ทีมการ์ดนั้นจะเร่งนำขึ้นรถกระบะ โดบบอกว่าจะนำไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งขณะนี้ นายชุมพล จุลใส แกนนำนั้นพามวลชนบางส่วนไปปิดล้อม โดยให้เหตุผลว่าต้องการจะทวงถามถึงการใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานนี้ นอกจากกระสอบป่านแบบนี้แล้ว แกนนำยังมีการเตรียมน้ำดื่ม น้ำเกลือ และอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเอาไว้จำนวนมากบริเวณทางเข้าออกพื้นที่ชุมนุมเวทีราชดำเนินแทบจะทุกจุด เพื่อรองรับผู้บาดเจ็บที่เดินทางกลับมาได้ทันทีส่วนที่เวทีชุมนุมมีการปราศรัยของอาสาสมัครได้ไปเตรียมป้องกันแก๊สน้ำตา รวมถึงเดินทางไปสมทบมวลชนกลุ่มแรกที่เดินทางไปกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยแกนนำประกาศว่าเจ้าหน้าที่นั้นมีการใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม ทำให้มวลชนนั้นไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่มีการพูดถึงในช่วงเช้าที่วันนี้ คือเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 30 พฤศจิกายนต่อเนื่องถึงวันที่ 1 ธันวาคมที่มีการปะทะกันระหว่างนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง กับกลุ่ม นปช. บริเวณถนนรามคำแหง ซึ่งผู้ดำเนินรายการบนเวทีก็ตั้งข้อสังเกตถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ทั้งการเข้าระงับเหตุ ความล่าช้าในการเข้าช่วยเหลือนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงกว่า 1000 คนที่ติดค้างอยู่ในอาคารเรียนจนถึงช่วงเช้าเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำคนสำคัญบนเวทีมีการประกาศขอให้มวลชนนั้นเตรียมความพร้อมที่จะเคลื่อนขบวนไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นมาตรการที่นายสาทิตย์ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าหากมีการสลายการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล หรือว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาล ก็จะมีการเคลื่อนขบวนมวลชนไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในช่วงบ่าย | ส่วนเวทีที่ราชดำเนิน ซึ่งถูกใช้เป็นฐานสนับสนุนการเคลื่อนขบวนมวลชน 2 เส้นทาง ในวันนี้ คือทำเนียบรัฐบาล และกองบัญชาการตำรวจนครบาล | การเมือง | กองบัญชาการตำรวจนครบาล,ชุมนุม,ตำรวจ,ทำเนียบรัฐบาล,นักศึกษา,ผู้ชุมนุม,ราชดำเนิน,รามคำแหง,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,แก๊สน้ำตา | https://news.thaipbs.or.th/content/209931 |
รมว.สาธารณสุข ติดตามแก้ปัญหา รพ.สุรินทร์ ขาดน้ำ | วันนี้ (11 ส.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำของโรงพยาบาลสุรินทร์ หลังจาก จ.สุรินทร์ ประสบภัยแล้งและขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค กระทั่งโรงพยาบาลขอรับการสนับสนุนน้ำจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้กระทบต่อการบริการและดูแลผู้ป่วยนพ.ประวีณ ตัณฑประภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ เปิดเผยว่า จ.สุรินทร์ ประสบปัญหาภัยแล้ง จนทำให้อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง มีน้ำไม่เพียงพอสำหรับผลิตประปา ซึ่งโรงพยาบาลติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด แต่วันที่ 6 และ 7 ส.ค. ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างเฉียบพลัน เพราะน้ำที่ได้รับมาเป็นน้ำไม่สามารถเข้ากระบวนการทางการแพทย์ได้ เพราะน้ำขุ่นและมีตะกอนมาก จำเป็นต้องประกาศมาตรการฉุกเฉิน จึงระดมรถน้ำจากหน่วยงานต่างๆ มาเติมจนสถานการณ์คลี่คลายทั้งนี้ โรงพยาบาลสุรินทร์ใช้น้ำประมาณวันละ 1000000 ลิตร แต่ติดตั้งถังน้ำสำรองรวมทุกตึกประมาณ 1400000 ลิตร เพราะฉะนั้นถ้าน้ำประปาหยุดไหลก็จะสามารถใช้ได้ประมาณ 1 วันครึ่ง ซึ่งที่ผ่านมา ได้เริ่มมาตรการประหยัดน้ำจนเหลือใช้น้ำวันละประมาณ 500000 ลิตร ซึ่งปัจจุบันน้ำ 300000 ลิตร จะมาจากการขนของหน่วยงานต่างๆ และอีกจำนวน 200000 ลิตร มาจากการขุดบ่อบาดาล 2 บ่อ ภายในโรงพยาบาล โดยล่าสุดสามารถให้บริการทางการแพทย์ได้ตามปกติ และในอนาคต จะขุดบ่อบาดาลเพิ่มอีก 8 บ่อ เพื่อป้องกันปัญหาขาดแคลนน้ำในอนาคต | รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ติดตามการแก้ไขปัญหาโรงพยาบาลสุรินทร์ ขาดแคลนน้ำ เบื้องต้น ผอ.โรงพยาบาล ระบุ ยังเปิดให้บริการตามปกติ โดยลดการใช้น้ำเหลือวันละ 500000 ลิตร ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขนน้ำมาเติมและขุดบ่อบาดาล | ภูมิภาค | ภัยแล้ง,รพ.สุรินทร์,ขาดน้ำ,อนุทิน | https://news.thaipbs.or.th/content/282733 |
บอกลุงตู่ แม่น้ำโขงไม่ได้มีคุณค่าแค่การเดินเรือ | ตอบเรื่องแม่น้ำโขง ที่ ลุงตู่ ตอบนักข่าวเรื่องระเบิดแก่งแม่น้ำโขงเมื่อวาน ในฐานะที่ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2545 ขออธิบายทีละคำถาม ดังนี้ค่ะ1 นายกฯ บอกว่า การระเบิดร่องน้ำในแม่น้ำโขง ทำคนเดียวไม่ได้อยู่แล้ว การดำเนินการอะไรก็ต้องมีการสมยอมกันทั้ง 4 ประเทศ ไม่ใช่อยู่ที่ประเทศใดประเทศหนึ่งอีกทั้งแม่น้ำโขงก็ไม่ใช่ของประเทศไทย เป็นแม่น้ำระหว่างประเทศไม่ใช่หรือ แล้วถ้ามีการดำเนินการจะเสียประโยชน์ตรงไหนตอบว่า-- แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำนานาชาติ ใช้ร่วมกัน 6 ประเทศ จากเทือกเขาหิมาลัย-จีน ผ่านพม่า ลาว ไทย กัมพูชา เวียดนาม เฉพาะประเทศไทยที่แม่น้ำโขงไหลผ่านพรมแดน ก็มีถึง 8 จังหวัด คือเชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลลงนามโดย 4 ประเทศ นำโดยจีน มีพม่า ลาว ไทย นำมาสู่การผลักดันโครงการปรับปรุงร่องน้ำเพื่อการเดินเรือพาณิชย์ ระเบิดแก่งแม่น้ำโขง ที่ทำให้แม่น้ำโขงตอนบนอันมีเกาะแก่งสลับซับซ้อน กลายเป็นเพียง คลองเดินเรือ ให้เรือขนาดอย่างน้อย 500 ตัน เดินทางได้จากซือเหมา/ยูนนาน ลงมาถึงหลวงพระบางตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมาจีน ระเบิดแก่ง ได้แค่ในจีน ลาว พม่า แต่มาติดที่พรมแดนไทย-ลาว จ.เชียงราย ที่แก่งคอนผีหลง เพราะชาวบ้านต้าน และกลาโหมคัดค้านเนื่องจากกระทบพรมแดน ---ชวนอ่านงานวิจัยเรื่องพรมแดน ()จีน หงุดหงิดที่ไทยไม่ยอม และพยายามเดินหน้าตลอด สุดท้ายก็สำเร็จ มาผ่านมติ ครม.ไทยเมื่อ ธันวา 2559 นี่เอง (ดูรายละเอียด )แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ เป็น shared river แปลว่าใช้ร่วมกัน ไม่ใช่ของไทย ของใคร แต่ ใช้ร่วมกัน และนับตั้งแต่ยุคบรรพกาล ชุมชนสองฝั่งน้ำก็ใช้-รักษา มาโดยตลอด ที่สำคัญ 4 ประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง (ลาว ไทย กัมพูชา เวียดนาม) ก็มี ที่กำกับให้ประเทศสมาชิกใช้แม่น้ำโขงร่วมกันอย่างยั่งยืน2 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าถ้าตอบว่าเป็นเรื่องของทรัพยากรก็หมดมาตั้งแต่ข้างบนแล้ว ปัญหาวันนี้น้ำข้างบนที่จะไหลลงมาข้างล่างก็ยังไม่พอเลยตอบว่า--- ข้างบน หรือแม่น้ำโขงตอนบนในยูนนาน จีน มีเขื่อนสร้างตั้งแต่ปี 2539 จนเวลานี้ก็สร้างไปแล้ว 6 อภิมหาเขื่อน และกำลังก่อสร้างอีก 3 เขื่อน ทุกวันนี้จีนระบายน้ำ-กักน้ำ โดยเขื่อนจิงหง Jinghong Dam ที่เชียงรุ้ง ห่างไทยไป 340 กม กระทบบ้านเราเต็มๆ เพราะน้ำโขงที่ อ.เชียงแสน ในหน้าแล้งแทบจะร้อยทั้งร้อยไหลมาจากจีนสิ่งที่รัฐบาลไทยควรทำ คือ เรียกร้องให้จีน-เจ้าของเขื่อนแก้ไขปัญหานี้ทันที ให้จัดการเขื่อนโดยคำนึงถึงท้ายน้ำ downstream และฤดูกาล3 สุดท้าย นายกบอกว่า ถ้าจะพูดถึงทรัพยากร เรื่องของเขื่อนปากมูล อยากถามว่าแล้วประมงพื้นบ้านหาเงินได้วันละเท่าไร น้ำมันตื้นขนาดนี้จะหาเงินได้เท่าไร แล้วก็มีการระบายน้ำทิ้งวันละไม่รู้กี่แสนลูกบาศก์เมตร ไปคิดกันเอาเองตอบว่า--- ลุ่มน้ำโขงเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประชาชนหลายล้ายคนใน 4 ประเทศน้ำโขงตอนล่างจับปลาและสัตว์น้ำได้ปีละ 1.9-4 ล้านตัน () ปลาแม่น้ำโขงเป็นแหล่งโปรตีน แหล่งรายได้ แหล่งอารยธรรมของภูมิภาคนี้ (รวมทั้งอารยธรรมสมัยนครวัด ซึ่งตั้งอยู่ที่ทะเลสาบเขมร)ราคาปลาน้ำโขงรู้กันว่าเดี๋ยวนี้แพงมากๆ ที่เชียงของ จ.เชียงราย ปลาเนื้ออ่อน-ปลานาง กก. ละ 450 บาท ร้านอาหารแย่งกันซื้อนะคะ มีเงินก็ไม่ใช่ว่าจะได้กิน (ที่ลาวใต้-สีพันดอน จับปลาน้ำโขงได้ฤดูกาลละ 1-10 ตัน/ครอบครัว ก็หลายล้านบาทค่ะรายได้จากปลา)น้ำโขงที่ไหลจากต้นน้ำถึงทะเลจีนใต้ มีคุณค่า ตะกอนที่แม่น้ำพัดพามา คืออู่ข้าวอู่น้ำของภูมิภาค ลองหาข้อมูลอ่านดู google ก็จะพบงานวิจัยทั้งภาษาไทย อังกฤษ และอื่นๆ น่าจะหลายพันชิ้นค่ะเอกสารสรุปเรื่องระเบิดแก่งแม่น้ำโขง ทำไว้สิบกว่าปี วันนี้ยังเป็นเรื่องจริงค่ะ ข้อมูลอื่นๆ มีรวบรวมไว้ที่ ค่ะเผยแพร่ครั้งแรกใน เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2560 | ตอบเรื่องแม่น้ำโขง ที่ ลุงตู่ ตอบนักข่าวเรื่องระเบิดแก่งแม่น้ำโขงเมื่อวาน (นายกฯ เมินเสียงค้านกลุ่มอนุรักษ์ ปรับปรุงร่องน้ำโขง) ในฐานะที่ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2545 ขออธิบายทีละคำถาม ดังนี้ค่ะ | สิ่งแวดล้อม | การระเบิดร่องน้ำในแม่น้ำโขง,เพียรพร ดีเทศน์,แม่น้ำโขง | https://prachatai.com/journal/2017/01/69593 |
กบส. เล็งให้เอกชนเข้าประกวดราคาสร้างทางรถไฟความเร็วสูง 3 เส้นทาง | เม.ย. เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ (กบส.) ครั้งที่ 2/2554 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยหนึ่งในหัวข้อซึ่งที่ประชุมมีการพิจารณา คือโครงการรถไฟความเร็วสูง โดยรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ - ระยอง โดยที่ประชุมมีความเห็น ดังนี้ หนึ่ง การพัฒนารถไฟความเร็วสูงนอกจากเส้นทางที่ได้มีการหารือร่วมกับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเบื้องต้นใน สอง เส้นทางแล้ว เห็นควรให้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนจากทุกประเทศสามารถเข้ามาประกวดราคาในการร่วมดำเนินโครงการในเส้นทางที่เหลือทั้งหมดได้แก่ กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ กรุงเทพฯ - ระยอง และกรุงเทพฯ – อุบลราชธานี สอง สำหรับขอบเขตการดำเนินงานนั้น การพัฒนารถไฟความเร็วสูงที่มากกว่า 250 กม. ต่อ ชม. ในต่างประเทศจะใช้สำหรับขนส่งผู้โดยสารเพียงอย่างเดียว ซึ่งในประเทศไทยการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงที่จะดำเนินการในอนาคตอาจต้องพิจารณาให้สามารถใช้กับการขนส่งสินค้าด้วย เพื่อให้การลงทุนเกิดความคุ้มค่ามากขึ้น โดยอาจต้องมีการออกแบบความเร็วในการให้บริการที่เหมาะสม รวมทั้งแนวเส้นทางที่จะดำเนินการด้วย สาม ในกรณีที่จะให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการควรจะต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องที่ดินที่จะต้องใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างให้แล้วเสร็จโดยเฉพาะในเส้นทางที่เขตทางรถไฟไม่เพียงพอ และต้องทำการเวนคืนที่ดินเพิ่มเติม เพื่อป้องกันความล่าช้าในการส่งมอบพื้นที่ให้แก่เอกชนที่เข้าร่วมลงทุน ขณะเดียวกันที่ประชุมได้รับทราบรายงานผลการดำเนินการจัดทำการทดสอบความสนใจภาคเอกชน (Market Sounding) ภายใต้โครงการรถไฟความเร็วสูงในเส้นทางกรุงเทพฯ - ระยอง และกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ของคณะกรรมการเพื่อพิจารณาแนวทางการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในรูปแบบ Public Private Partnerships โดยเห็นควรให้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนจากทุกประเทศสามารถเข้ามาประกวดราคาในการร่วมดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงในเส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ กรุงเทพฯ - ระยอง และกรุงเทพฯ - อุบลราชธานี พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม รับไปศึกษาความเป็นไปได้โครงการ (Feasibility Study) ในการพัฒนาเส้นทางเพื่อการขนส่งสินค้าด้วยรวมทั้งควรศึกษาถึงความเหมาะสมของกำหนดเส้นทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายเส้นทางกรุงเทพฯ - ระยองไปจนถึงจังหวัดตราด เพื่อรองรับการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าชายแดน รวมทั้งศึกษาความเหมาะสมของโครงสร้างการบริหารจัดการระบบรถไฟความเร็วสูงของประเทศ และการกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบที่เหมาะสมก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ที่มา: เว็บไซต์นายกรัฐมนตรีไทย | คณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและการบริการของประเทศ เล็งเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาประกวดราคาก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง 3 สาย กรุงเทพ-เชียงใหม่ กรุงเทพ-ระยอง และ กรุงเทพ-อุบล เมื่อวันที่ 11 | คุณภาพชีวิต,เศรษฐกิจ | กรุงเทพ,คณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและการบริการของประเทศ,คมนาคม,รถไฟความเร็วสูง,ระบบขนส่งมวลชน,ระยอง,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,อุบลราชธานี,เชียงใหม่ | https://prachatai.com/journal/2011/04/34053 |
เต๋อ ปล่อยหมัดฮุก ประกาศผมชอบ ใหม่ ดาวิกา รับศึกษาและคุยกันจริง (คลิป) | หลังจากมีข่าวรั่วว่า เต๋อ ฉันทวิชช์ กำลังปลูกต้นรักกับนางเอกสาวคนสวย ใหม่ ดาวิกา ล่าสุด เต๋อ เปิดใจแล้วที่งาน The Celebration Of Mega Food Walk ที่ เมกา ฟู้ดวอล์ค พลาซ่า ชั้น 1 เมกาบางนา,ความสัมพันธ์ของเรากับน้องใหม่เป็นอย่างที่มีข่าวออกมาจริงไหม?,ก็ถ้าเป็นประเด็นซุ่มคบ 3-4 เดือน อันนี้ไม่ใช่เรื่องจริง เราไม่ได้ซุ่มคบเลย และผมเองก็ตกใจเหมือนกันตอนที่มีข่าวออกมาว่ากำลังซุ่มคบ,แต่เราสองคนคุยกันจริงใช่ไหม?,ก็คุยกันเรื่อยๆ ครับ,ใช้คำว่าเป็นขั้นของการศึกษาดูใจได้หรือเปล่า?,ผมชอบอ่ะครับ (หัวเราะ) ประมาณนั้น แต่จริงๆ ก็ไม่เชิงจีบนะ ผมคิดว่ามันเป็นการพูดคุยศึกษาตัวตนเพื่อให้รู้จักกันไปเรื่อยๆ มากกว่า,ความสัมพันธ์ครั้งนี้เริ่มต้นจากตอนที่ได้แสดงละครด้วยกันใช่ไหม?,หลังจากที่ละคร ชายไม่จริงหญิงแท้ ปิดกล้องเพราะเราได้คุยไลน์กันประมาณช่วงต้นๆ เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา,เราชอบน้องเขาที่ตรงไหนบ้าง?,ถ้าถามถึงเรื่องความประทับใจ ผมก็ประทับใจน้องเขาตรงที่เขามีความปรารถนาดีให้กับคนรอบข้างเยอะมาก นิสัยดีน่ารักและก็เป็นห่วงทุกคนมากกว่าตัวเองก่อนเสมอ,น้องเขาเปิดใจให้เราจีบใช่ไหม?,ต้องถามเขาครับ อันนี้ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน (ยิ้ม),เราเริ่มเดินหน้าจีบเขายังไง?,มันก็ไม่เชิงจีบนะครับ หรือว่าจีบ (หัวเราะ) คือก็เป็นการคุยกันนั่นแหละครับ และเราก็ได้ทราบถึงทัศนคติของเขา ส่วนทางเขาเองก็ได้รับรู้ถึงตัวตนของเราด้วย,สถานะของเรากับเขาตอนนี้คืออะไร ?,ไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่เคยคุยกันเลยว่าจะเป็นสถานะอะไร จริงๆ เราไม่ค่อยได้เจอกันด้วยนะ คืออาจจะมีเจอกันบ้าง แต่ก็จะมีพี่เกล้าผู้จัดการเขาอยู่ด้วยตลอด,จริงๆ ใหม่เขามีทีท่ายังไงบ้าง ตอนที่รู้ว่าเรามีใจให้?,ก็ต้องถามเขาดูครับ (ยิ้ม),วันนี้น้องเขารู้ไหมว่าเราจะต้องมาเปิดใจกับสื่อ?,ทราบครับ คือเรื่องสัมภาษณ์เขาแล้วแต่เราเลยเพราะเขาเองก็มั่นใจอยู่แล้วว่าเราน่าจะพูดได้ดี,พอโดนจับตามองแบบนี้เราจะกล้าแซวน้องตามโซเชียลต่างๆ อยู่ไหม?,จริงๆ ผมก็พยายามจะทำให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมนะ สนุกดีเพราะเวลาอยู่กับเขาเราจะรู้สึกสนุก มีความสุขเวลาที่ได้แกล้งหรือเล่นกัน,มีคนแซวเยอะไหมตอนที่มีข่าวออกมา?,เยอะมาก (เขิน) อย่างจีดีเอชก็ทำโปสเตอร์แฟนเดย์ให้ คือเขาคงสนุกมั้ง เขาอาจจะรู้สึกว่าแซวแล้วสนุก แซวแล้วน่ารักดี เขาก็เลยแซวกัน,แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวว่าเราคบกันเพราะอยากจะช่วยโปรโมทธุรกิจกับงานให้ทั้งสองฝ่าย?,มีอย่างนั้นด้วยเหรอ ไม่ใช่อยู่แล้วเรื่องนี้ และผมก็เชื่อว่าน้องใหม่เองเขาก็ไม่คิดเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว แถมเราสองคนทุกวันนี้ก็ไม่ได้เคยคิดด้วยว่าวันนั้นวันนี้จะมีข่าวอะไรให้เราได้โปรโมต คือเราอยากจะพูดแต่สิ่งที่เป็นความจริงมากกว่า,ตอนนี้ก็คือเดินหน้าจีบเขาเต็มที่เลย?,ทำความรู้จักศึกษากันครับ,เมื่อก่อนเวลาน้องให้สัมภาษณ์เขามักจะบอกว่าถ้าใครคิดจะจีบต้องผ่านด่านพี่เกล้าก่อน แสดงว่าตอนนี้เราผ่านแล้ว?,ก็สนิทกับพี่เกล้านะครับ (ยิ้ม),แสดงว่าเขาโอเคที่เราจะคุยกับน้อง?,เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ,เราโสดมานาน พอเปิดใจอีกครั้งแบบนี้เราคาดหวังไหม?,ไม่ได้คาดหวังเลยครับ แต่เราเองก็รู้สึกนะว่าอายุมากแล้วเหมือนกัน ดังนั้นถ้าหากมีอะไรที่ทำแล้วรู้สึกว่ามีความสุขก็อยากจะทำครับ และมันจะดีมากถ้าหากความสุขนั้นของเราทำให้คนรอบข้างมีความสุขด้วย,แต่หลายคนก็มีคำถามว่า ใหม่เขามีตัวจริงอยู่แล้ว แล้วคนนั้นจะใช่เราจริงเหรอ?,เท่าที่ผมรู้จักน้องใหม่มา น้องเขาไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ผมค่อนข้างมั่นใจ,แสดงว่าเราทราบอยู่แล้วว่าน้องไม่มีคนคุย?,ถ้าในอดีตผมไม่แน่ใจ แต่ปัจจุบันผมค่อนข้างมั่นใจครับ,รู้ไหมว่าตอนนี้มีเพจทวงคืน ใหม่ ดาวิกา จากเราแล้ว?,ผมไม่ได้เอาไปไหน (ยิ้ม) แต่ก็ตลกดีมีคนส่งมาให้ดูแล้ว ไม่ซีเรียสเข้าใจว่าแฟนๆ ก็รักของเขา,แบบนี้จะต้องพิสูจน์ตัวเองไหมให้แฟนๆ เข้าใจ?,ถ้าเหมือนเราชอบใครเราก็ต้องดูแลเขาให้ดีอยู่แล้ว อันนี้มันเป็นเรื่องปกติเลย,การรู้จักน้องใหม่ทำให้เราชุ่มชื่นหัวใจใช่ไหม?,จริงๆ ผมคิดว่าผมรู้สึกดีใจมากเลยที่ได้มีโอกาสรู้จักกับเขา แค่ได้รู้จักเขาผมถือว่าผมประสบความสำเร็จแล้ว ถึงแม้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าอย่างน้อยผมก็ได้เจอคนดีๆ คนหนึ่งที่อยู่ในชีวิตเรา,แสดงว่าเราดีใจมากที่ได้รู้จักกับน้อง?,จริงๆ ผมไม่ได้รู้จักน้องจริงจังมาก่อนจะได้เล่นละครด้วยกัน และตอนนี้ผมก็ได้รู้แล้วว่าตัวตนเขาเป็นยังไง เขามีนิสัยยังไง ได้เห็นคนรอบข้างเขา ครอบครัวเขา พี่เกล้า รู้สึกดีใจมากเลยครับ เพราะเขาได้อยู่แวดล้อมด้วยคนที่รักเขา และเขาก็รักทุกคนจริงๆ,ตอนตัดสินใจจะคุยกับเขาต่อหลังจากละครปิดกล้อง เราตัดสินใจนานไหม ?,คือมันเริ่มต้นจาก (หัวเราะ) มันเป็นคิวสุดท้ายแล้ว มันเป็นการถ่ายวันสุดท้าย และตอนนั้นมันก็มีการถ่ายรูปด้วยกันเยอะ จากนั้นผมก็เลยขอไลน์เขาเพื่อเป็นการส่งรูป,แสดงว่าเป็นแผนของเรา?,ไม่ใช่แผน กะจะแค่อยากจะแชร์รูปกันเฉยๆ เผื่อว่าจะได้ใช้ตอนที่ละครออนแอร์ และจากจุดนั้นเราก็เลยคุยกันมาเรื่อยๆ,ถ่ายละครด้วยกันทั้งเรื่องแต่ได้มาคุยกันวันสุดท้าย?,ใช่ครับ (ยิ้ม). | เต๋อ ฉันทวิชช์ ประกาศชัดเจน ผมชอบ ใหม่ดาวิกา รับแล้วศึกษาและคุยกันจริง | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ใหม่ ดาวิกา,เต๋อ ฉันทวิชช์,เต๋อ ใหม่,เต๋อ ใหม่ คบกัน,ใหม่ แฟนเต๋อ,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1187830 |
จอมขวัญ ซัก แผน ละเอียดยิบ สุกิจ ยันแค่ที่ปรึกษา ไม่ได้เป็นทนายให้ (คลิป) | เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 61 นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ แผน พยานในคดีหวย 30 ล้าน เปิดเผยในรายการถามตรงๆ กับจอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ว่า ที่เดินทางไปร้องตามหน่วยงานต่างๆ เพียงอยากปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง หลังจากที่รับรู้ว่าอาจจะต้องโดนหมายเรียก โดยมีทีมทนายความซึ่งเป็นทีมเดียวกับ นางปณัญชยา สุขพูล หรือ เจ๊เกียว แนะนำให้ไปร้อง โดยก่อนหน้านี้ไม่ได้รู้จักกับ เจ๊เกียว มาก่อน ไม่รู้จะปรึกษาใครก็ได้เจ๊เกียว ให้คำปรึกษา เพราะเหมือนคนตกที่นั่งเดียวกัน,คนมองว่าออกมาทำให้วุ่นวาย แต่ส่วนตัวแปลกใจว่าฐานะที่ออกมาเป็นพยานแต่ทำไมโดนหมายเรียก จึงต้องออกมาปกป้องสิทธิ์ ซึ่งจริงๆ ผมเป็นพยานชั้นพนักงานสอบสวนที่ภาค 7 ตอนนั้นมี พ.ต.อ. เรียกไปสอบปากคำ เพราะอาจจะได้ยินการพูดต่อๆ กันว่าผมเห็นคนถือลอตเตอรี่ จนมีคนแนะนำให้กลับคำให้การจากเห็น เป็นคลับคล้ายคลับคลา แล้วบอกว่าจะไม่ถูกดำเนินคดีจึงต้องทำ,นายแผน กล่าวอีกว่า ตนเองเดินทางไปบ้าน ร.ต.ท.จรูญ วิมูล แค่ครั้งเดียว โดยเป็นคนขับรถให้เจ้าหน้าที่ธนาคาร ขณะพูดคุยกันตนนั่งห่าง ได้ยินแต่จับใจความไม่ได้ แต่เสียงพูดเป็นเสียงเดียวกับที่ได้ยินวันแรกที่เขายืนพูดเรื่องลอตเตอรี่ อีกทั้งเคยเห็น ร.ต.ท.จรูญ มาทำธุรกรรมคาดว่าเป็นเรื่องอายัดเงิน ก่อนที่จะเดินทางมาที่บ้านของ ร.ต.ท.จรูญ,ทางด้าน ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย กล่าวว่า นายแผน พยายามแสวงหาความเป็นธรรมให้ตัวเอง ส่วนตนเข้ามาทีหลัง แต่ตอนที่ เจ๊เกียว ซึ่งเป็นญาติกันถูกหมายเรียกมาที่กองปราบปราม ก็มาด้วยเพราะกลัวเขาจะถูกจับเป็นผู้ต้องหา ส่วนคดีของ นายแผน ถ้าตำรวจจับเขาจะไม่มีหลักทรัพย์ประกันแน่นอน พร้อมกันนี้ยืนยันว่า ตัวเองไม่ได้เป็นทนายความให้ใครในคดีหวย 30 ล้าน แต่เป็นที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายให้กับ นายแผน เท่านั้น,เราเป็นผู้รู้กฎหมาย ต้องแสวงหาความเป็นธรรมให้ประชาชน แผน ไม่ใช่สาระสำคัญ เป็นแค่พยานบอกเล่า ยิ่งเล่ามากก็โกหกมาก เหตุที่แผน ต้องฟ้องเพราะจะออกหมายจับเขาและบอกว่าเขาจำนนต่อหลักฐาน พยานปากนี้ฟังไม่ได้เลย ถ้าเขาถูกจับใครจะประกัน | แผน เจอซักรัวๆ ตอบคำถามเรื่องหวย 30 ล้าน เผย ใช้ทีมทนายเดียวกับ เจ๊เกียว ย้ำ มีคนแนะนำกลับคำให้การจริง ด้าน สุกิจ ยันเป็นแค่ที่ปรึกษากฎหมาย ปัดเป็นทนายความให้ใครในคดี | ข่าว,สังคม | หวย 30 ล้าน,นายแผน,สุกิจ พูนศรีเกษม,เจ๊เกียว,ถามตรงๆ กับจอมขวัญ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1234971 |
เกษตรกรบุรีรัมย์ขึ้นเงินโครงการรับจำนำข้าวกว่า 700 ล้านบาท | เกษตรกรในจังหวัดบุรีรัมย์ นำใบประทวนทำสัญญาเพื่อขอรับเงินจากโครงการรับจำนำข้าว ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาประโคนชัย แต่ละวันมีผู้มาขึ้นเงินเฉลี่ยกว่า 900 คน ธนาคารจึงต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่ให้บริการป้องกันความล่าช้าผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่า ขณะนี้มีเกษตรกรทำสัญญาขอขึ้นเงินจากธนาคารทั้ง 18 สาขา แล้ว 7811 คน เป็นเงินกว่า 705 ล้านบาท เกษตรกรที่มาขึ้นเงินจะต้องรอประมาณ 3 วันจึงจะโอนเงินเข้าบัญชี ในปีนี้ (55) คาดว่าธนาคารจะจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าวลดลงจากปีที่แล้ว (56) กว่า 1000 ล้านบาท เนื่องจากจังหวัดบุรีรัมย์ประสบปัญหาภัยแล้งทำให้ผลผลิตข้าวลดลงกว่า 200000 ตันส่วนพานิชย์จังหวัดยโสธร ส่งเจ้าหน้าลงพื้นที่ตรวจจุดรับนำข้าวในอำเภอค้อวัง มหาชนะชัย และป่าติ้ว หลังได้รับร้องเรียนจากเกษตรกรว่ามีการกดราคารับซื้อข้าว และถูกเอาเปรียบจากโรงสีที่เข้าร่วมโครงการ การตรวจสอบไม่พบการกดราคาตามที่ร้องเรียน เนื่องจากข้าวของเกษตรกรบางรายไม่ผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานจริง | ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ คาดปีนี้ (55) จะจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าวลดลงกว่า 1000 ล้านบาท เพราะผลผลิตข้าวลดลงจากภาวะภัยแล้ง ตั้งแต่เปิดโครงการรับจำนำสามารถจ่ายเงินให้กับเกษตรกรแล้วกว่า 700 ล้านบาท | ภูมิภาค | จำนำข้าว,บุรีรัมย์,แล้ง,ใบประทวน | https://news.thaipbs.or.th/content/132818 |
ตำรวจอุดรธานีเตรียมสเก็ตช์ภาพคนร้ายปล้นร้านทองพรเจริญ | ภาพชายในรถกระบะสีดำ ติดป้ายทะเบียนปลอมที่กล้องวงจรปิดของปั้มดาวณัฐชัย ถนนระหว่างอำเภอบ้านผือ - น้ำโสม จังหวัดอุดรธานี บันทึกไว้ได้ เวลาประมาณ 9.00 น. เป็นช่วงที่รถคันดังกล่าวเข้ามาเติมน้ำมัน ก่อนจะก่อเหตุปล้นทองรูปพรรณน้ำหนักกว่า 140 บาท จากร้านทองพรเจริญที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมาจากภาพดังกล่าวเห็นใบหน้าของคนที่นั่งข้างคนขับอย่างชัดเจน เนื่องจากไม่ได้สวมหมวกปิดบังใบหน้า ขณะนี้ตำรวจเร่งสอบปากคำพนักงานเติมน้ำมันของปั้มดังกล่าว ซึ่งสามารถยืนยันใบหน้าผู้ต้องหาได้ชัดเจน และเตรียมการสเก็ตช์ภาพความคืบหน้าการติดตามผู้ก่อเหตุ พ.ต.อ.สุรินทร์ ชัยชมภู รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างหาเบาะแสคนร้ายเพิ่มเติม โดยจะขอภาพวงจรปิดที่ติดอยู่ตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลตำบลบ้านผือย้อนหลัง 5 วันมาตรวจสอบ ล่าสุด เจ้าของร้านทองได้ตั้งรางวัล 50000 บาท สำหรับคนที่ให้เบาะแสคนร้ายจนนำไปสู่การจับกุมการสืบสวนมีการระบุถึงเสื้อที่ผู้ก่อเหตุใส่ ซึ่งเป็นของร้านแห่งหนึ่งในอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ซึ่งตำรวจได้ติดต่อขอตัวอย่างเสื้อมาดูเป็นหลักฐานประกอบคดีแล้ว | ความคืบหน้าการติดตามตัวผู้ก่อเหตุปล้นร้านทองพรเจริญในอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี เมื่อ 3 วันก่อน ล่าสุด เจ้าของร้านทองตั้งรางวัลนำจับจำนวน 50000 บาท สำหรับผู้ให้เบาะแส ขณะที่ตำรวจเตรียมสเก็ตช์ภาพผู้ก่อเหตุ หลังกล้องวงจรปิดในปั้มน้ำมันที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุบันทึกภาพได้ ระหว่างเข้าไปเติมน้ำมัน | ภูมิภาค | คนร้าย,ตำรวจ,ทอง,ปล้น,พรเจริญ,ภาพ,ร้านทอง,ร้านทองพรเจริญ,สเก็ตช์,อุดรธานี | https://news.thaipbs.or.th/content/108570 |
นายกฯ แนะเกษตรกรเปลี่ยนพฤติกรรมเพาะปลูก ลดรายจ่าย-เพิ่มมูลค่าผลผลิต | เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 60 พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้เวลาช่วงวันหยุดทบทวนภารกิจและปัญหาสำคัญของบ้านเมือง โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง และชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร โดยย้ำการจัดสรรพื้นที่เพาะปลูกอย่างเหมาะสม การทำไร่นาสวนผสมควบคู่กับการเลี้ยงสัตว์ เช่น ไก่ ปลา สุกร ฯลฯ เพื่อให้มีรายได้เสริมและลดรายจ่ายของครอบครัว ตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นแนวทางที่ควรนำไปประยุกต์ใช้ สำหรับการทำให้สินค้าเกษตรมีราคาดี ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง,ซึ่งที่สำคัญคือการเพิ่มมูลค่าผลผลิตและลดต้นทุนการผลิต เกษตรกรควรพิจารณาปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกโดยใช้พันธุ์ที่มีคุณภาพ ใช้วิธีอินทรีย์และนวัตกรรมเข้ามาช่วย ขณะเดียวกัน ต้องลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งการจ้างคน การใช้ปุ๋ยเคมีที่ไม่จำเป็น และประหยัดการใช้น้ำ นอกจากนี้ ควรรวมกลุ่มให้เกิดความเข้มแข็งและสร้างอำนาจต่อรองเพื่อไม่ให้ถูกกดราคา โดยรัฐบาลกำลังจัดหาและพัฒนาตลาด ทั้งตลาดทั่วไปและตลาดเฉพาะกลุ่ม เพื่อให้ผู้ค้าสามารถขายสินค้าได้โดยตรง,พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่า ถ้าเกษตรกรไม่ร่วมมือ หรือปรับเปลี่ยนวิธีการทำการเกษตร ก็คงไม่มีรัฐบาลใดช่วยแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนได้ นอกจากใช้วิธีพยุงราคาซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่มีวันจบสิ้น เปรียบเหมือนการให้ยาเลี้ยงไข้แต่ไม่มีวันหาย ที่ผ่านมา การปลูกพืชตามกระแสจนปริมาณล้นตลาดเป็นปัญหาใหญ่ ทำให้ราคาผลผลิตตกต่ำ ดังนั้น เมื่อทุกคนมองเห็นจุดอ่อน มีการยื่นข้อเรียกร้อง และภาครัฐบาลรู้ความต้องการของตลาด ทั้งเกษตรกรและรัฐบาลจึงต้องพร้อมใจกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง,รัฐบาลยินดีสนับสนุน ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปให้คำแนะนำ เพื่อทำงานร่วมกัน รวมทั้งอยากให้พี่น้องเกษตรกรไปติดต่อพูดคุยปรึกษาหารือกับบุคลากรด้านการเกษตรทุกระดับที่อยู่ในพื้นที่ หรือศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ที่มีอยู่กว่า 880 แห่งทั่วประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล พัฒนาความรู้ และปรับเปลี่ยนวิธีการเพาะปลูกให้ทันสมัย และสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ยกระดับรายได้ และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ตนเองและครอบครัว พล.ท.สรรเสริญ กล่าว | นายกฯ คิดวิธีแก้ปัญหาปากท้อง ความเป็นอยู่เกษตรกร แนะจัดสรรพื้นที่เพาะปลูกเหมาะสม ทำไร่นาสวนผสมคู่การเลี้ยงสัตว์ เดินตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ รัชกาลที่ 9 | ข่าว,การเมือง | นายกฯ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,เกษตรกร,ปัญหาปากท้อง,ชาวไร่ชาวนา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1105960 |
แฟนเก่าแทงแฟนใหม่นับสิบแผล คาหอพักย่านบางเสาธง ปมแค้นถูกสาวสลัดรักมีใหม่ | เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 มกราคม 2563 พ.ต.ต.บุญฤทธิ์ เชิญเชื้อ สว.(สอบสวน) สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุชายถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่ง ภายในซอยไทยประกัน 2/1 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ภูวนารถ แก่นจันทร์ สวป. และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางเข้าตรวจสอบที่บริเวณหน้าหอพักดังกล่าว ได้พบร่างของ นายธีรวัฒน์ สิงห์สร้อย อายุ 26 ปี นอนจมกองเลือดอยู่ที่บริเวณพื้นด้านหน้าหอพักดังกล่าว ตามลำตัวมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดรวมกว่า 10 แผล อาการสาหัส เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนรีบนำส่งโรงพยาบาลบางพลี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชั้นที่ 4 ห้อง 449 โดยผู้ก่อเหตุคือ นายชัชชัย กลัดแก้ว อายุ 30 ปี หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุพบรอยเลือดจำนวนมากกองอยู่บนทางเท้าตั้งแต่ชั้นล่างไปจนถึงหน้าห้องที่เกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณชั้น 4จากการสอบถาม น.ส.นวลนภา โยบุตดา อายุ 26 ปี แฟนผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้โทรเรียกผู้ตายซึ่งเป็นแฟนใหม่ตนให้ช่วยมารับตน และขนของเพื่อที่จะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เนื่องจากตนลาออกจากงานแล้ว จะกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นแฟนเก่าตนที่ตนได้ขอแยกทาง ในขณะที่แฟนใหม่กำลังช่วยตนเก็บข้าวของอยู่ในห้อง แฟนเก่าตนเลิกงานได้กลับมาที่ห้อง ก่อนเปิดประตูเข้าไปพบแฟนใหม่อยู่ในห้องกับตน ผู้ก่อเหตุจึงไม่พูดพล่ามทำเพลง ได้ชักเอามีดปลายแหลมที่พกมาออกมาจ้วงแทงผู้ตาย อย่างไม่นับจนเลือดท่วมตัว ตนพยายามเข้าห้ามปรามแต่ผู้ก่อเหตุไม่หยุด ได้ตามมาแทงรวมกว่า 10 ครั้ง ก่อนที่แฟนใหม่จะวิ่งหนีตายลงมาที่ชั้นล่าง ก่อนที่จมล้มฟุบอยู่กับพื้นหน้าหอพักดังกล่าว ส่วนผู้ก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไปในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัว นายชัชชัย ผู้ก่อเหตุได้ที่บริเวณหน้าปากซอยไทยประกัน เป็นซอยที่เกิดเหตุ ในขณะที่กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า MSX สีเหลืองเขียว ทะเบียน 8 กท 9385 กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยของกลางมีดพับยาว 6 นิ้ว เจ้าที่จึงได้คุมตัวไปทำการสอบสวนที่โรงพัก สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการจากการสอบสวนนายชัชชัยผู้ก่อเหตุได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนพอรู้เรื่องระแคะระคายมาว่า แฟนสาวที่ตนอยู่กินกันมากว่า 2 ปี ได้ไปติดพันชายอื่น และเมื่อไม่นานมานี้แฟนสาวของตนได้มาขอแยกทางกับตน โดยบอกตนว่ามีแฟนใหม่แล้ว ตนจึงได้เก็บความแค้นไว้ในใจ จนกระทั่งในวันนี้ตนได้ทราบมาว่าแฟนสาวของตนจะเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด และได้มีการนัดแนะให้แฟนใหม่มารับ หลังเลิกงานตนจึงรีบเดินทางกลับมาที่ห้องพัก พอเปิดประตูเข้าไปพบเห็นชายคนดังกล่าวเป็นแฟนใหม่ของแฟนสาวตนอยู่ด้วยกันในห้อง จึงบันดาลโทสะชักมีดพับที่พกติดตัวมากระหน่ำแทงชายคนดังกล่าวกว่า 10 ครั้ง ก่อนที่จะวิ่งหลบหนีออกมา ก่อนที่จะมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าวเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นและพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | แฟนเก่าแทงแฟนใหม่ ใช้มีดพับกระหน่ำแทงไร้ปรานีกว่า 10 แผล จนวิ่งมาขาดใจตายจมกองเลือดหน้าหอพักย่านบางเสาธง ขณะที่ ตร.จับคนร้ายได้ เผยปมแค้นถูกแฟนสาวที่อยู่กินกันมาบอกเลิก หลังมีแฟนคนใหม่ | ข่าว,อาชญากรรม | แฟนเก่าแทงแฟนใหม่,กระหน่ำแทง,แทงกันตาย,หึงโหด,แค้นถูกเลิก,สภ.บางเสาธง,สมุทรปราการ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1739556 |
ก.แรงงาน แจง นายจ้างใช้แรงงานผิดก.ม. ขู่ ไล่ออก ขรก.เอี่ยวส่วยต่างด้าว | วันที่ 7 ก.ค. ที่กระทรวงแรงงาน นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวง แถลงแนวปฏิบัติให้แรงงานต่างด้าวทำงานตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ค. พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน ลงนามออกประกาศกระทรวงแรงงาน กำหนดหลักเกณฑ์ ผ่อนผันให้นายจ้างและคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ไปดำเนินการให้ถูกต้อง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.-31 ธ.ค.60 ให้นายจ้างไปแจ้งขอใช้แรงงานต่างด้าว ที่ศูนย์รับแจ้งการใช้แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ที่จะเปิด 10 จุด ทั่วกทม. และทุกจังหวัดระหว่างวันที่ 24 ก.ค.-7 ส.ค.โดยจะต้องเป็นแรงงานที่ทำงานอยู่แล้วแต่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน นายจ้างหรือตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจต้องนำเอกสาร ใบจดทะเบียนนิติบุคคล สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของนายจ้างหรือ ตัวแทน รูปถ่ายลูกจ้าง ขนาด 1.5-2 นิ้ว 2 รูป หากลูกจ้างมีเอกสารประจำตัวให้นำมายื่นยืนยัน จะมีใบนัดให้มารับใบรับรองการจ้างคนต่างด้าว หลังผ่านการคัดกรอง,นายอนันต์ชัย กล่าวว่า ขั้นตอนการคัดกรองจะมีขึ้น หลังเปิดรับแจ้งครบ 15 วัน แล้วศูนย์ฯจะปิดทันที จากนั้นจะมีการตรวจตามเอกสารหลักฐานความเป็นนายจ้างกับลูกจ้างว่า เป็นจริงตามที่แจ้งหรือไม่ หากรายไหนไม่ชัดเจนน่าสงสัยจะมีการเรียกมาสอบเพื่อป้องกันการสวมรอย ในขั้นตอนนี้ นายจ้างและลูกจ้างจะต้องมาด้วยตัวเอง หลังผ่านการคัดกรอง ได้รับใบรับรองแล้วจะต้องไปเข้าสู่การพิสูจน์สัญชาติ เพื่อขออนุญาตทำงานอย่างถูกต้อง โดย เมียนมา เปิดศูนย์พิสูจน์สัญชาติใน 5 จังหวัด คือ สมุทรสาคร สมุทรปราการ ตาก ระนอง เชียงราย,ส่วน กัมพูชา และลาว ยังต้องเดินทางกลับไปทำเอกสารยังประเทศต้นทาง รมว.แรงงาน ได้เจรจากับตัวแทนกัมพูชา และจะเดินทางไปลาว เพื่อขอให้เข้ามาตั้งศูนย์พิสูจน์สัญชาติในไทย สำหรับงานที่ให้ทำยังคงเป็นงานกรรมกร และคนรับใช้ในบ้าน จะต้องพิสูจน์ได้ว่า เป็นลูกจ้างจริงไม่มีการสวมรอย ซึ่งการเปิดศูนย์รับแจ้งฯ เพียง 15 วัน เพราะป้องกันขบวนการขนคนข้ามชายแดนมาสวมรอยด้วย,นายอนันต์ชัย กล่าวอีกว่า คนต่างด้าวที่มีใบอนุญาตทำงาน มีบัตรสีชมพู แต่ทำงานไม่ตรงกับนายจ้าง หรือทำงานผิดสถานที่ ไม่ต้องมาแจ้งที่ศูนย์รับแจ้งฯ รวมทั้งกลุ่มที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติ มีพาสปอร์ต มีหนังสือรับรองบุคคล (ซีไอ) ได้วีซ่าแล้ว แต่ไม่ได้ขอใบอนุญาตทำงานภายใน 15 วัน ให้ไปติดต่อสำนักงานจัดหางานจังหวัด เขตพื้นที่เพื่อเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนสถานที่ทำงาน หรือขออนุญาตทำงานให้ถูกต้อง ยกเว้นกลุ่มที่มีพาสปอร์ต มีวีซ่า แต่เป็นวีซ่านักท่องเที่ยว นายจ้างต้องนำเอกสารมาแจ้งขอใช้ทำงาน ที่ศูนย์รับแจ้งฯ ใน 15 วัน เพื่อขอเปลี่ยนเป็นวีซ่าทำงานและขอใบอนุญาตให้ถูกต้อง ส่วนการนำเข้าแรงงานตามระบบเอ็มโอยู นายจ้างยังขอโควตาได้ตามปกติ โดยในขั้นตอนดำเนินการ รมว.แรงงาน ได้ห้ามไม่ให้ข้าราชการยุ่งเกี่ยวเรียกรับผลประโยชน์จากนายจ้างหรือแรงงานต่างด้าว หากพบจะเอาผิดทางวินัยถึงไล่ออก และให้เอาผิดทางอาญาด้วย. | ก.แรงงาน แจงแนวปฏิบัตินายจ้างใช้แรงงานผิดกฎหมาย ให้ยื่นขอใช้ต่างด้าว 24 ก.ค.-7 ส.ค. เผย เปิดแค่ 15 วัน หวั่น ขนคนข้ามชายแดน สวมรอยทำงาน ขู่ไล่ออก ขรก.เอี่ยวส่วย | ข่าว,ทั่วไทย | แรงงานต่างด้าว,ก.แรงงาน,นายจ้างใช้แรงงานผิดก.ม.,ไล่ออก,ขรก.เอี่ยวส่วยต่างด้าว,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/997879 |
ขสมก.ระบุรถเมล์เอ็นจีวีลดภาระขาดทุน | นายวีระพงษ์ วงแหวน เลขาธิการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. กล่าวว่า สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขสมก.จะติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี วันพรุ่งนี้ (9 เม.ย.) ว่าจะมีวาระการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 3183 คัน หรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีเลื่อนการหารือมาแล้วหลายครั้ง และหากยังไม่ได้ข้อสรุป ทางสหภาพจะประชุมร่วมกัน วันที่ 11 เมษายน เพื่อหาแนวทางการเคลื่อนไหวต่อไปนายวีระพงษ์ กล่าวว่า หากรัฐบาลให้ ขสมก.ดำเนินการซื้อรถเมล์เอ็นจีวีใหม่ มาให้บริการกับประชาชน ก็จะทำให้ประชาชนได้รับการบริการที่ดี และมีความปลอดภัยมากขึ้น เพราะขณะนี้รถเมล์ ขสมก.ที่ให้บริการอยู่มีสภาพที่เก่า ใช้งานมาไม่ต่ำกว่า 17-21 ปี หากได้รับการปรับปรุงเชื่อว่าจะทำให้มีผู้โดยสารใช้บริการมากขึ้น และทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นลดภาระการขาดทุนด้านนายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า ได้ชี้แจงรายละเอียดการดำเนินโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 3183 คัน วงเงิน 13162 ล้านบาท ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาแล้ว โดยยืนยันว่าการใช้ก๊าซเอ็นจีวีถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดในปัจจุบัน | สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขสมก.เตรียมหารือเพื่อเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา หากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ ( 9 เม.ย.) ไม่ได้ข้อสรุปเรื่องการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 3000 คัน หลังจากก่อนหน้านี้เลื่อนการพิจารณามาแล้วหลายครั้ง | เศรษฐกิจ | ขสมก.,ขาดทุน,ครม.,รถเมล์,เอ็นจีวี | https://news.thaipbs.or.th/content/160688 |
ข้อแตกต่างระหว่าง กินเจ กับ กินมังสวิรัติ แบ่งแยกกันอย่างไร? | อย่างที่เราทุกคนรู้กันดีว่า, อาหารเจ, และ ,อาหารมังสวิรัติ, ขึ้นชื่ออย่างกว้างขวางว่าเป็นอาหารที่สร้างสุขภาพได้ดีกว่าอาหารที่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบ จึงไม่แปลกใจที่คุณผู้หญิงหลายคนจะเลือกรับประทานเจหรือมังสวิรัติเพื่อสุขภาพ,แต่หลายคนก็สงสัยว่า กินเจ และ กินมังสวิรัติ คือการไม่กินเนื้อสัตว์เหมือนกัน แล้วมีข้อแตกต่างกันตรงไหน? วันนี้, ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ, จะมาไขคำตอบนี้ให้ฟังกันค่ะ ,อาหารมังสวิรัติ,คืออาหารที่ไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ การรับประทานอาหารมังสวิรัติได้กลายเป็นประเภทอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยผู้ที่รับประทานมังสวิรัติสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้ ,1., Vegan,: ไม่บริโภคอาหารที่มาจากผลิตผลของสัตว์เลย และรวมถึง น้ำผึ้ง กินแต่พวกธัญพืช, ถั่ว, เมล็ดพืชต่างๆ, ผลไม้, ผัก และพืชตระกูลถั่ว,2. ,Lacto vegetarian,: ไม่กินพวกเนื้อสัตว์, สัตว์ปีก, ไข่, ปลา, รับประทานแต่พวกธัญพืช, ถั่ว, เมล็ดต่างๆ, ผลไม้, ผัก และพืชตระกูลถั่ว, นม, ชีส, โยเกิร์ต และเนย,3. ,Lacto ovo vegetarian,: ไม่กินพวกเนื้อสัตว์, สัตว์ปีก, ปลา, แต่รับประทานไข่, ธัญพืช, ถั่ว, เมล็ดพืชต่างๆ, ผลไม้, ผัก และพืชตระกูลถั่ว, นม, ชีส, โยเกิร์ต และเนย,4., Vegetarian,: ไม่บริโภคสัตว์เนื้อแดง (เนื้อ, หมู, แกะ) แต่ที่เหลือรับประทานหมด สัตว์ปีก, ปลา, ไข่, ธัญพืช, ถั่ว, เมล็ดพืชต่างๆ, ผลไม้, ผัก และพืชตระกูลถั่ว, นม, ชีส, โยเกิร์ต และเนย,อาหารเจ,คืออาหารที่ปรุงขึ้นโดยไม่มีเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ เช่น นม ไข่ น้ำผึ้ง น้ำปลา เจลาติน คอลลาเจน และไม่ปรุงด้วยผักที่มีกลิ่นฉุน ได้แก่ กระเทียม ต้นหอม หัวหอม หอมแดง หลักเกียว กุยช่าย และผักชี เนื่องจากมีความคิดสืบทอดต่อกันมาว่า มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนตนเอง และดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ดังนั้นจึงไม่มีการรับประทานอาหารตามที่กล่าวมาด้านต้น,สรุปความแตกต่างระหว่างอาหารมังสวิรัติและอาหารเจ,ถึงแม้ว่าทั้ง 2 อย่างจะมีการงดเว้นบริโภคเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์เหมือนกัน แต่อาหารเจจะมีการเลือกบริโภคที่เข้มงวดกว่าการรับประทานมังสวิรัติ เนื่องจากต้องงดผักที่มีกลิ่นฉุน รวมถึงรักษาศีลให้จิตใจบริสุทธิ์ ส่วนอาหารมังสวิรัติคือการงดบริโภคเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ (ตามแต่ประเภทของมังสวิรัติ),เมื่อรู้แบบนี้แล้ว แนะนำว่า คุณผู้หญิงที่ตั้งใจกินเจแล้วก็ควรทำให้ถูกต้อง จะได้บุญได้กุศลกันอย่างเต็มๆ แต่ถ้าใครเพิ่งเริ่มต้นก็ลองรับประทานมังสวิรัติไปก่อน อาจจะไม่ต้องเคร่งครัดมากเพื่อไม่ให้เกิดความเครียด ลองเริ่มต้นรับประทานสัปดาห์ละ 1 วัน แล้วค่อยๆ เพิ่มก็ได้ ก็พยายามกันต่อไปเพราะสุขภาพนั้นสำคัญนะคะสาวๆ.,อ่านต่อ: ,3 สาวคนดังสาย สุขภาพ กิน มังสวิรัติ หุ่นสวย ร่างไม่พัง | ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ รู้ดีว่าสาวๆ หลายคนกำลังสนใจ กินมังสวิรัติ หรือ กินเจ แต่ยังไม่รู้ว่าสองสิ่งนี้ต่างกันอย่างไร เรามีคำตอบมาให้ค่ะ | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | สุขภาพ,มังสวิรัติ,กินเจ,ลดน้ำหนัก,กินผัก | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/health/1518083 |
เสริมทัพ 3 บิ๊กไทยลีก กิเลน เปิดตัว 6 แข้งดัง ลีโฮ นำทัพ | โดยเจ้าตัวจะสวมเสื้อเบอร์ 18 สู้ศึกฤดูกาล 2017 ขณะที่ กิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์เก่าไทยลีก สุดคึกคัก เปิดตัวนักเตะใหม่ทีเดียว 6 รายรวด นำโดย ลี โฮ อดีตกองกลางตัวรับทีมชาติเกาหลีใต้ และ จ่าเย็น มงคล ทศไกร ส่วนเจ้าบุญทุ่มรายใหม่ กว่างโซ้งมหาภัย เชียงราย ยูไนเต็ด สร้างความฮือฮาอีกครั้ง ด้วยการคว้าตัว 2 ดาวเตะต่างชาติทั้ง เฟลิเป อเซเวโด กองกลางตัวรุกจากสโมสรปอนเต เปรตา ทีมในลีกสูงสุดของบราซิล และราฟาเอล โคเอลโญ กองหน้าดาวยิงเชื้อสายบราซิลจากเอฟซี กัว ทีมในอินเดีย ซุปเปอร์ลีก,วันที่ 7 ม.ค.60 สืบเนื่องจากเมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา ณ ที่ทำการตึกทรู ทาวเวอร์ ชั้น 21 สโมสร แข้งเทพ แบงค็อก ยูไนเต็ด โดย ขจร เจียรวนนท์ ประธานสโมสร ได้ทำการเปิดตัวปกเกล้า อนันต์ กองกลางดีกรีทีมชาติไทยคนใหม่ที่ย้ายมาจาก ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี ร่วมทัพ ด้วยสัญญา 4 ปี ค่าตัวราว 20 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งฤดูกาล 2017,โดยก่อนหน้านี้ทีม แข้งเทพ ได้เสริมนักเตะมาแล้ว 2 ราย อย่างโยฮัน ตาวาเรส กองหลังร่างยักษ์สัญชาติฝรั่งเศส-โปรตุเกส มาผนึกกำลังกับเจย์ซี จอห์น, ดราแกน บอสโควิช, มาริโอ ยูรอฟสกี และออสการ์ คาห์ล ดาวรุ่งวัย 19 ปี ลูกครึ่งไทย-สวีเดน,สำหรับบิ๊กดีลในครั้งนี้ บิ๊กขจร ขจร เจียรวนนท์ ประธานสโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด ได้กล่าวว่า ผมประทับใจในฝีเท้ารวมถึงฝีไม้ลายมือในนามทีมชาติของปกเกล้ามากว่า 3 ปี ตั้งแต่ผมเข้ามารับหน้าที่ทำทีม เราได้ติดต่อเขาไปตั้งแต่ที่เขาอยู่กับเพื่อนตำรวจ แต่ตอนนั้นไม่ได้ตัวเขามา ซึ่งโค้ชมาโน โพลกิง รวมทั้งประธานเทคนิคของเราก็ชอบ ทำให้เราได้ยื่นข้อเสนอไปอีกครั้ง ดีใจที่ได้เขาร่วมงาน แน่นอนเจ้าตัวจะเป็นกำลังหลักของเรา ทั้งการทำศึกไทยลีกและเอเอฟซี แชมเปียนลีก ซึ่งในส่วนของการเสริมทัพของเรานั้นได้ปิดแล้ว,ส่วนปกเกล้า อนันต์ กองกลางรายใหม่ แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาอยู่ที่นี่ ปีที่ผ่านมาแบงค็อกฯทำผลงานได้ดีและโดดเด่น คิดว่าน่าจะปรับตัวกับสไตล์การเล่นของทีมได้ไม่ยาก และแน่นอนการย้ายมาที่นี่ ได้เล่นถ้วยเอเชียเป็นโอกาสที่ดี เป็นความท้าทายที่สูงขึ้น เหมือนยกระดับตัวเองว่ามีพัฒนาการไปถึงไหนแล้วและยังต้องปรับตรงไหน ส่วนเหตุผลที่ย้ายมาที่นี่เพราะแบงค็อกฯเป็นหนึ่งในทีมที่ยอดเยี่ยมและถือเป็นวิถีฟุตบอลครับ, ,สำหรับปกเกล้า อนันต์ จะเดินทางไปร่วมเก็บตัวกับทัพใหญ่ แข้งเทพ แบงค็อก ยูไนเต็ดทันทีที่อัลไพน์กอล์ฟแอนด์รีสอร์ท จ.เชียงใหม่ และจะมีเกมอุ่นเครื่องระหว่างเก็บตัวที่นครพิงค์ วันเสาร์ที่ 7 ม.ค. พบลำปาง เอฟซี และวันพฤหัสบดีที่ 12 ม.ค. กับเจชู ยูไนเต็ด ก่อนเกมเอเอฟซี แชมเปียนลีก พบยะโฮ ดารุล ซาลิม จากมาเลเซีย ในวันที่ 31 ม.ค.ที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต,และเมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน ณ ห้องแถลงข่าว เอสซีจี สเตเดียม ทางสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้มีงานแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 6 นักเตะใหม่ที่จะใช้ล่าความสำเร็จฤดูกาลหน้า ท่ามกลางความสนใจของบรรดาสื่อมวลชนที่เกาะติดทำข่าวคับคั่ง,สำหรับแข้ง 6 รายดังกล่าว ประกอบไปด้วย ลี โฮ มิดฟิลด์ประสบการณ์สูงอดีตทีมชาติเกาหลีใต้ จากชุนบุค ฮุนได, จ่าเย็น มงคล ทศไกร มิดฟิลด์ทีมชาติไทยที่ถูกยืมตัวจาก เชียงราย ยูไนเต็ด, ประสิทธิ์ ผดุงโชค, พิทักษ์พงษ์ กุลสุวรรณ และ พุทธิพงษ์ พรมลี จากบีอีซี เทโรศาสน และรัชพล นาวันโน จากชัยนาท ฮอร์นบิล,ขณะเดียวกัน ทางด้านเจ้าบุญทุ่มเมืองไทยรายใหม่ อย่าง กว่างโซ้งมหาภัย เชียงราย ยูไนเต็ด ก็สร้างความฮือฮาให้กับวงการฟุตบอลไทยอีกครั้ง ด้วยการคว้าตัว 2 ดาวเตะต่างชาติอย่างเป็นทางการทั้ง เฟลิเป อเซเวโด กองกลางตัวรุกจากสโมสรปอนเต เปรตา ทีมในลีกสูงสุดของบราซิล และราฟาเอล โคเอลโญ กองหน้าดาวยิงเชื้อสายบราซิลจาก เอฟซี กัว ทีมในอินเดีย ซุปเปอร์ลีก,ทั้งนี้การมาของเฟลิเป อเซเวโด และราฟาเอล โคเอลโญ นับเป็นนักเตะใหม่รายที่ 13 ของทีม เชียงรายต่อจากฉัตรชัย บุตรพรม (ซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ), ธนบูรณ์ เกษารัตน์ (เอสซีจี เมืองทองฯ), ศิวกรณ์ เตียตระกูล, พิธีวัต สุขจิตธรรมกุล, สุริยา สิงห์มุ้ย, (บีอีซี เทโรศาสน), ปฐมพร เจริญรัตนาภิรมย์, ชินภัทร ลีเอาะ (พัทยา ยูไนเต็ด), ภัทร ปิยภัทร์กิติ (ซุปเปอร์ พาวเวอร์), สราวุธ กองลาภ (บางกอกกล๊าส), เอเวอร์ตัน กอนคาลเวส ซาตูร์นิโน (ลูเวอร์เดนเซ/บราซิล) และทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร (อาร์มี่ ยูไนเต็ด),ขอบคุณภาพจาก : www.facebook.com/SCGMuangthongUnited | 3 บิ๊กทีมไทยลีก เดินหน้า เสริมทัพเต็มกำลัง โดยล่าสุด แข้งเทพ แบงค็อก ยูไนเต็ด คว้าตัวปกเกล้า อนันต์ กอง กลางดีกรีทีมชาติไทย จาก ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี มาร่วมทัพด้วยสัญญา 4 ปี ค่าตัวราว 20 ล้านบาท | null | เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด,แบงค็อก ยูไนเต็ด,เชียงราย ยูไนเต็ด,ไทยลีก,ฟุตบอลไทย | https://www.thairath.co.th/content/830158 |
คอหวย อึ้ง เบนซ์บิ๊กตู่ให้โชค ตรงเผงถูกเลข 3 ตัวท้าย รางวัลที่ 1 | วันที่ 2 มิ.ย. เวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังประชุม ครม. ผู้สื่อข่าวถามนายกฯ ถึงสาเหตุที่วันนี้ นายกฯ เปลี่ยนจากการใช้รถเบนซ์ส่วนตัว ทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร มาใช้รถตู้โฟล์ค สีดำ กันกระสุน ทะเบียน ฮภ 2924 กรุงเทพมหานคร ของสลน.และเป็นรถที่ น.ส.ย่ิงลักษณ์ เคยใช้ โดยตอบแบบทีเล่นทีจริง ว่า อ๋อ เอาไว้ให้พวกเราดูเลขไง ทำเอาผู้สื่อข่าวพากันหัวเราะ ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า รถมันก็ซ่อมสิวะ รถมันใช้มาทุกวัน ไม่รู้ให้ไปถามพลขับ แต่ผมนั่งรถอะไรก็เหมือนกัน สมัยก่อนก็นั่งรถบุโรทั่งกว่านี้เยอะแยะ วันนี้มันเสียไง ต้องถามหมดทุกเรื่องเลยหรือไง พรุ่งนี้จะเปลี่ยนเป็นจักรยานแล้ว จะใช้เบอร์อะไรดีวะ,เมื่อถามต่อว่า นายกฯ เป็นคนตลกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นบางอารมณ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากให้สัมภาษณ์ ปรากฏว่า ผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 2 มิ.ย. 2558 รางวัลที่ 1 คือ หมายเลข 388881 ซึ่งเลขท้าย 3 ตัวของรางวัลที่ 1 ไปตรงกับเลขทะเบียนรถเบนซ์ของนายกฯ ที่ส่งซ่อม ทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร สร้างความฮือฮาให้กับผู้สื่อข่าว และคนรอบข้างเป็นอย่างมาก โดยคนใกล้ชิดนายกฯ บอกว่า ไม่มีใครซื้อเลขรถนายกฯ เลย รู้สึกเสียดาย ไม่น่าเชื่อว่านายกฯ จะแม่น | คอหวยสุดฮือฮา! รถเบนซ์ประจำตัวที่ถูกส่งไปซ่อมเพราะเสีย ของ บิ๊กตู่ ให้โชค ทะเบียน 1881 ตรงกับเลขท้ายผลรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาลงวดนี้ 388881 | null | หวย,ทะเบียนรถนายกฯ,1881,สลากกินแบ่งรัฐบาล,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี,รถนายกให้โชค,ทะเบียนรถประยุทธ์,บิ๊กตู่,รถเบนซ์นายก,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/502598 |
สาวว่าที่บัณฑิตจุฬาฯ เกียรตินิยมอันดับที่ 2 ผูกคอฆ่าตัวตาย วานนี้ | ญาติผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ตายไปทำศัลยกรรมใบหน้า ด้วยการเสริมจมูกและคาง ที่คลินิคชื่อดังแห่งหนึ่ง โดยกลับมาพูดปรับทุกข์กับทางครอบครัว ในเชิงน้อยใจ เพื่อน ๆ ว่าไปศัลยกรรมจมูกและคางมาแล้วแต่ไม่สวยเหมือนคนอื่น ๆ และทำให้มีอาการ ซึมเศร้าอย่างเห็นได้ชัด โดยก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตรับประทานอาหารกับครอบครัว ก่อนกลับขึ้นไปบนห้องนอนชั้น 2 จนเวลา 12.00 น. มารดาไปเรียกเพื่อให้มารับประทานอาหารเที่ยง แต่ไม่มีเสียตอบรับ จึงพังประตูเข้าไปพบว่าผู้ตายผูกคอฆ่าตัวตาย เบื้องต้น พนักงานสอบสวนสันนิฐานว่า ผู้ตายน่าจะน้อยใจเพื่อน ๆ ในเรื่องการทำศัลยกรรม จึงฆ่าตัวตาย แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นการเสียชีวิตในประเด็นอื่นๆ ซึ่งได้ส่งศพไปชันสูตรหาหลักฐานเพิ่มเติม ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ อีกครั้งด้านผู้เสียชีวิต เพิ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 2 จากคณะอักษรศาสตร์ เอกสารนิเทศน์ศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกำลังจะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในวันที่ 19 ก.ค.นี้ | ว่าที่บัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกียรตินิยมอันดับที่ 2 ฆ่าตัวตายในห้องพัก วานนี้ (3 ก.ค.) ขณะที่การสอบสวน ตำรวจยังไม่ชี้ชัดไปในประเด็นใด เพราะต้องสอบปากคำคนในครอบครัว และผู้ใกล้ชิด ก่อนสรุปสาเหตุ | อาชญากรรม | null | https://news.thaipbs.or.th/content/95525 |
น้ำลดแล้ว ถนนเส้นสัตหีบ-พัทยา จราจรคลี่คลาย | วันที่ 17 กันยายน จากกรณีพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้เกิดฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนักนานติดกันหลายชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 17.00 น. จนถึงเวลา 21 .00 น. (16 ก.ย.) ทำให้บนถนนสุขุมวิท กม.ที่ 176 เส้นทางสัตหีบ-พัทยา บริเวณแยกสัตหีบ เกิดน้ำท่วมขังเป็นวงกว้าง มีระดับน้ำสูงหลายเซนติเมตร และพื้นที่ราบต่ำต่างได้รับผลกระทบ เนื่องจากน้ำระบายลงทะเลไม่ทัน ทำให้การจราจรเป็นอัมพาต รถติดยาวเป็นกิโลเมตร,นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่เกิดมานาน ฝนตกครั้งใดก็มีปัญหาทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ฝนกระหน่ำลงอย่างหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง ทำให้น้ำท่วมขังบนถนนสุขุมวิท และเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ราบต่ำได้รับความเสียหาย เนื่องจากทะเลหนุนขึ้นสูงในขณะนี้,ขณะนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองสัตหีบ นำเครื่องสูบน้ำเข้าเร่งระบายน้ำเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน อำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง ทำให้การจราจรสามารถเคลื่อนตัวได้อย่างช้าๆ ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งปัญหาดังกล่าวแม้เกิดมาอย่างยาวนาน แต่ทางเทศบาลเมืองสัตหีบกำลังเร่งหาวิธีแก้ไขให้ดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง คาดในไม่ช้าจะสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณดังกล่าวได้อย่างแน่นอน,ซึ่งสถานการณ์ล่าสุด เมื่อเวลา 01.30 น. น้ำเริ่มลดระดับลงเรื่อยๆ เนื่องจากฝนได้หยุดตก น้ำได้ระบายลงสู่ทะเลจน น้ำเริ่มแห้ง การจราจรสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ชาวบ้านเริ่มทำความสะอาดบ้านเรือนซึ่งเต็มไปด้วยคราบโคลน และขยะ พร้อมตรวจสอบสิ่งของที่ได้รับความเสียหาย ขณะที่บางซอย ตามถนนสุขุมวิท ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ ทางเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองสัตหีบ ได้นำเครื่องสูบน้ำเข้าเร่งระบายน้ำ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน คาดว่าก่อนรุ่งเช้าจะเข้าสู่สภาวะปกติ ,ด้านนาย พรชัย ตระกูลศรีมงคล อายุ 51 ปี เจ้าของร้านร่วมสหสัตหีบ ที่เปิดอู่ซ่อมรถยนต์ ได้กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุน้ำได้ไหลเข้ามาเป็นจำนวนมากแบบตั้งตัวไม่ทัน เพราะร้านได้ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ช่วงบริเวณแยกสัตหีบ ที่เป็นบริเวณแอ่งกระทะ ที่น้ำตามถนนจะไหลมารวมกันเป็นจำนวนมาก ถือว่าครั้งนี้มวลน้ำมากที่สุดในรอบ 15 ปี แต่ยังโชคดีที่สามารถนำรถยนต์ของลูกค้าขึ้นหนีน้ำได้ทัน แต่อุกปกรณ์ช่างและอะไหล่รถยนต์ ที่เก็บไว้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก. | เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ บนถนนสุขุมวิท บริเวณ กม.ที่ 176 เส้นทางสัตหีบ-พัทยา ลงสู่ทะเล พร้อมระบายรถที่ติดขัดยาวหลายกิโลเมตร จนเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ขณะที่ชาวบ้านเร่งทำความสะอาดบ้านเรือน ที่ถูกโคลน และน้ำไหลทะลักเข้าบ้าน | ข่าว,ทั่วไทย | น้ำท่วม,ฝนตก,ถนนสุขุมวิท,สัตหีบ,ชลบุรี,ระดับน้ำ,ระบายน้ำ,จราจร,รถติด,น้ำทะเลหนุน,มูลนิธิ,ทำความสะอาด,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/525806 |
มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ ร่วมตกแต่งดาวเรือง 6 พันต้น น้อมแสดงความอาลัย | วันที่ 16 ต.ค.60 ว่าที่ร.ต.ท.ดร. มนัส โนนุช กรรมการและผู้อำนวยการ สำนักนโยบายและแผน มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ และรองประธาน สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับสมาคมศิลปินตลกฯ โดยถั่วแระ เชิญยิ้ม พ.อ.กฤตพันธ์ รักใคร่ ที่ปรึกษาศูนย์เกษตรหนึ่งใจฯ คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย นายสุรเดช เตียวตระกูล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 34 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย โดย พล.ต.อภิสิทธิ์ นุชบุษบา ผู้อำนวยการ สำนักงานทหารพัฒนาภาค 3 พ.อ.เอื้อชาติ หนุนภักดี ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 34 บริษัท อีทส์ เวสท์ ซีด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์พืช ตราศรแดง โดยคุณอิสระ วงศ์อินทร์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด ธนาคารออมสิน สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ พร้อมคณะทำงาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ อาสาสมัคร กำลังพล และศิลปินดารานักร้อง ร่วมกันนำต้นดาวเรืองที่เริ่มออกดอก ประดับตกแต่งรอบๆ บริเวณพื้นที่มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ ภายในสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) จตุจักร เพื่อเป็นการน้อมแสดงความอาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในระหว่างพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วันที่ 26 ต.ค.นี้ ตามโครงการ เกษตรหนึ่งใจ น้อมเกล้าแสดงความอาลัย ร่วมใจปลูกดาวเรือง , ,ว่าที่ร.ต.ท. ดร. มนัส โนนุช กล่าวว่า โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และน้อมแสดงความอาลัย ระหว่างพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยทรงเป็นที่รักยิ่งของประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้พระราชทานโครงการตามพระราชดำริมากมาย ที่ทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ทีดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แนวพระราชดำริ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งทุกคนสามารถน้อมนำมาใช้ในการดำรงชีวิตได้อย่างพอเพียงและมีความสุข , ,ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่าที่ร.ต.ท. ดร. มนัส ได้เป็นประธานในพิธีย้ายกล้าดาวเรือง ณ มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ภายในสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) กระทั่งปัจจุบันได้ออกดอกรวมกว่า 6,000 ต้น จะใช้สำหรับจัดตกแต่งและประดับ ณ สถานที่ 3 แห่ง ได้แก่ มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์, วัดคุณพุ่ม บ้านหนองในดง ต.บางลาย อ.บึงนาราง จ.พิจิตร และ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 34 (นพค. 34) จ.พิษณุโลก ซึ่งได้รับการสนับสนุนกล้าดาวเรืองจากบริษัท อีทส์ เวสท์ ซีด จำกัด โดยมีกำลังพลจากนพค. 34 เป็นผู้ดูแลจนเติบโต และกรมพัฒนาที่ดิน บำรุงดูแลให้ต้นดาวเรืองมีความแข็งแรง คงทน และสวยงามสมพระเกียรติได้ตลอดช่วงงานพระราชพิธี พร้อมสนับสนุนการจัดประดับตกแต่งให้สวยงาม รวมทั้งเกษตรกรและประชาชนในเขตทุกๆ พื้นที่มีโอกาสร่วมแรงร่วมใจกันประดับต้นดาวเรือง เพื่อน้อมแสดงความอาลัยครั้งนี้ด้วย,ต้นดาวเรืองที่ออกดอก หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีฯ แล้ว มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ มิได้นำไปทิ้ง แต่จะนำทุกส่วนไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด คือ นอกจากการใช้บูชาพระแล้ว ยังใช้ทำเป็นสมุนไพรไล่แมลง ดอกดาวเรืองแห้งใช้เป็นอาหารเสริมเลี้ยงไก่ ทำให้ไข่มีสีสวยงามและมีคุณค่าทางอาหารจากสารเบตาแคโรทีนที่พบในดอกดาวเรืองตามธรรมชาติ ต้นและรากของดาวเรืองมีสารที่ช่วยป้องกันและกำจัดไส้เดือนฝอยในดินได้ โดยใช้วิธีการไถกลบทั้งต้นและรากลงในแปลงปลูก ดอกใช้ประกอบอาหาร เช่น นำดอกตูมมาลวกจิ้มน้ำพริก ใช้แกล้มกับยำต่างๆ หรือ ข้าวยำ ดอกใช้สกัดทำเป็นสีย้อมผ้า ดอกแห้งสามารถนำมาใช้อบร่ำหอม สำหรับเป็นของที่ระลึก ดอกดาวเรืองสามารถนำไปตากแห้งเพื่อใช้ชงเป็นชา มีสรรพคุณช่วยให้ร่างกายสดชื่น ขับลมได้ดีและทำให้การทำงานของลำไส้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามหากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ รศ.ดร. จุรีย์รัตน์ ลีสมิทธิ์ ผู้อำนวยการ ศูนย์เกษตรหนึ่งใจ หนึ่งใจช่วยเหลือเกษตรกร มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ สำนักงาน คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม 73140 อีเมล [email protected] ไลน์ไอดี ajmaew. | มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ ร่วมกับทหารพัฒนา ม.เกษตรฯ ศิลปิน ร่วมตกแต่งดาวเรือง 6,000 ต้นน้อมแสดงความอาลัย ในระหว่างพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ตามโครงการ เกษตรหนึ่งใจ น้อมเกล้าแสดงความอาลัย ร่วมใจปลูกดาวเรือง
| ข่าว,ทั่วไทย | มูลนิธิมิราเคิล,มิราเคิลออฟไลฟ์,ต้นดาวเรือง,สวนวชิรเบญจทัศ,เกษตรหนึ่งใจ น้อมเกล้าถวาย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1100855 |
มนัญญา บุกกรมวิชาการเกษตร ทวงเอกสารสต๊อกสารพิษ หลังรอนานเกือบเดือน | เมื่อวันที่ 16 ก.ย.62 ,น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังเดินทางมาสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตรว่า มาทวงเอกสารเกี่ยวกับสต๊อก,สารเคมีพิษ,ภาคการเกษตร ที่มีอยู่ในประเทศไทย เพื่อรวบรวมเอกสารทั้งหมด และในวันนี้ได้เอกสารค่อนข้างที่จะสมบูรณ์แล้ว เพราะได้ติดตามเอกสารมาหลายวันแล้ว,เราก็อยากทำให้เรียบร้อย โดยบอกไปว่า เป็น รมช.เกษตรฯ คุมกรมวิชาการ แต่ถ้าคิดว่าคุณไม่ฟัง คุณก็ไปเอาคนมาถอดฉันออกไป ถ้าคุณมาปลดฉันออกไปเมื่อไหร่ ฉันจะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับตรงนี้ แต่ตอนนี้ฉันยังอยู่ตรงนี้ คุณก็ต้องเชื่อฟังฉัน รมช.เกษตร กล่าว,ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า การสั่งการระบบราชการของประเทศไทย ไม่ค่อยจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ จะต้องเดินทางมาด้วยตัวเอง ในส่วนราชการระดับสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร ซึ่งเป็นหน่วยราชการในสังกัดกรมวิชาการเกษตร เพื่อต้องการมาตามหาเอกสารที่ได้เคยขอรายละเอียดจากส่วนราชการนี้ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือในการทำงาน,ขณะที่ นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร กล่าวว่า น.ส.มนัญญา มาตามงานที่ท่านได้สั่งการไปว่า มีการดำเนินการไปถึงไหน และเป็นอย่างไรแล้วบ้าง ท่านลงมาตามงานเท่านั้นเอง,ทางกรมวิชาการเอง ก็ให้ความร่วมมือดี เพราะท่านลงมาถึงผู้ปฏิบัติ ลงมาถึง ผอ.ที่ควบคุมกำกับดูแล ซึ่งข้อมูลที่ท่าน รมช.มนัญญา ต้องการ ทางนี้ก็จัดให้ไปได้ เพราะท่านมากรม ท่านมาด้วยความหวังดี ท่านมาเพื่อต้องการข้อมูลจากแหล่งข้อมูลจริงว่ามีความถูกผิดอย่างไร เพื่อเอาไปใช้ในภารกิจหน้าที่ของท่าน ไม่ได้มาทำอะไรกับใครหรอก ท่านมาเพื่อจะถามว่าข้อมูลเป็นอย่างไร ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ถ้าเราไม่ลงมากับคนทำ บางทีข้อมูลที่เราได้อาจจะไม่ครบถ้วน แต่วันนี้ข้อมูลที่ได้มาครบถ้วน เพราะเราได้ข้อมูลจากแหล่งของข้อมูล สามารถจะชี้แจงทุกคนได้ว่า นี่คือข้อมูลที่เป็นจริง นายฉกรรจ์ กล่าว,นายฉกรรจ์ กล่าวต่อว่า น.ส.มนัญญา ท่านเป็นคนขยันและสั่งการด้วยความเจตนาที่หวังดี แต่ท่านต้องมาเอาข้อมูลเอง เพราะท่านเป็นตัวตั้งตัวตีในการยกเลิกสารพิษ 3 ตัว ท่านก็ต้องมีข้อมูล support ที่ถูกต้อง การที่มากรมวิชาการในครั้งนี้ ไม่ใช่มาทำอะไรกรม ตนก็เพิ่งรู้ ท่านก็เพิ่งบอกตนว่า ให้มาร่วมงานแต่เป็นเรื่องที่ดี ที่ น.ส.มนัญญา ลงมาถึงผู้ปฏิบัติ ทำให้เข้าใจกันเรื่องข้อมูล ถ้าเราเอาข้อมูลจากมือ 2 มือ 3 ไปใช้ บางทีข้อมูลมีการแปลไปแล้ว ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ทางน้องๆ ที่อยู่ที่นี่ก็ให้ข้อมูลดี | มนัญญา บุกกรมวิชาการ ทวงถามเอกสารสต๊อกสารพิษด้วยตัวเอง หลังรอข้อมูลนานเกือบเดือน ด้านที่ปรึกษาฯ เผยมาด้วยความหวังดี เพื่อมาเอาข้อมูล ปัดเล่นงานใคร | ข่าว,ทั่วไทย | มณัญญา ไทยเศรษฐ์,รมช.เกษตรฯ,สารเคมีพิษ,สารพิษ,กรมวิชาการเกษตร,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1661948 |
วัชระ มองนายกฯ ขออยู่ต่อ คาดโยงเซตซีโร่-พท.ยุส่งให้ตั้งพรรคการเมือง | เมื่อวันที่ 27 ส.ค. นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ระบุว่าจะอยู่ต่อด้วยกลไกประชาธิปไตยว่า ไม่แปลกใจ และเกี่ยวพันกันแน่นอนกับกรณีการเซตซีโร่พรรคการเมือง เพื่อเปิดทางให้มีการตั้งพรรคการเมืองที่ตั้งใหม่ ที่สนับสนุนทหารเข้ามาแข่งขันกับพรรคการเมืองเดิม แต่ยืนยันว่าตนยังสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้เป็นนายกฯ หากพรรคประชาธิปัตย์ได้รับการเลือกตั้ง มีเสียงมากเป็นอันดับหนึ่งในการตั้งรัฐบาล ส่วนใครหรือพรรคการเมืองใดจะเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ก็สุดแล้วแต่ เป็นเรื่องของแต่ละคนและแต่ละพรรค,นายวัชระ กล่าวต่อว่า สำหรับที่มีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ระบุจะปรับ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ออกจากระทรวงคมนาคมนั้น ตนไม่เห็นด้วย เพราะเป็นอดีตข้าราชการและเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต หากถูกปรับออกก็แปลกมาก ที่ผ่านมา นายกฯ สั่งให้นายอาคมไปตรวจราชการในพื้นที่ภาคใต้ ท่านก็ไปกับผู้ติดตามไม่กี่คน ไม่เอิกเกริกและก็กลับมารายงาน ซึ่งถือว่ามีผลงาน แต่รัฐมนตรีคนอื่นที่ไร้ผลงานจนโลกลืม เหตุใดจึงไม่ถูกปรับออก ถ้าเป็นเช่นนี้พวกที่ทุจริตก็อาจจะได้ใจ,ด้าน นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ หัวหน้า คสช. ระบุว่า ต่อให้งานหนักกว่านี้ไม่ได้เงินเดือนผมก็จะอยู่ แต่อยู่ด้วยกลไกประชาธิปไตย ให้สง่างาม แต่จะมาอย่างไรก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ถ้าอยากสง่างามก็ให้ตั้งพรรคการเมือง รวบรวมสามาชิกพรรคขึ้นมาเลย เพราะคิดว่าคงมีคนพร้อมใจสมัครเป็นจำนวนมาก แล้วประกาศรายชื่อผู้ที่จะเป็นนายกฯ ออกนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง แล้วให้ ส.ส.เสนอชื่อเป็นนายกฯ ในการเลือกครั้งแรก ไม่ต้องรอการเลือกนายกฯ รอบสอง จะเป็นความสง่างามตามรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง,ขณะที่ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ตามกระบวนการที่มีอยู่ ถ้าให้ ส.ว. 250 คน ที่มาจาก คสช. ดันหลังให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ จะสง่างามได้อย่างไร จุดนี้จะเป็นจุดที่โดนโจมตีอย่างหนัก ดังนั้น ถ้าต้องการความสง่างาม พล.อ.ประยุทธ์ ต้องตั้งพรรคการเมืองลงสู่สนามเลือกตั้ง ประกาศนโยบายให้ประชาชนทั้งประเทศเป็นผู้ตัดสิน ว่าสนับสนุนให้เป็นนายกฯ หรือไม่ ไม่ใช่ให้ ส.ว.ลากตั้ง ลากมาตั้งเป็นนายกฯ. | วัชระ มองนายกฯ ขออยู่ต่อตามกลไกประชาธิปไตย คาดน่าจะโยงเซตซีโร่ทางการเมือง พร้อมดักทางค้านปรับ อาคม พ้น ครม. ด้านพรรคเพื่อไทยประสานเสียง ยุ ประยุทธ์ ตั้งพรรคการเมืองเพื่อความสง่างาม | null | ปรับครม.,เซตซีโร่พรรคการเมือง,วัชระ เพชรทอง,อำนวย คลังผา,เหวง โตจิราการ,ตั้งพรรคการเมืองใหม่,ยุประยุทธ์ตั้งพรรคการเมือง,เพิ่มจำนวนสนช.,สนช220เป็น250คน | https://www.thairath.co.th/content/703869 |
กสทช. จ่อไฟเขียว เอไอเอส-ทรู ยึดตึกกลางกรุง ประเดิมทดสอบ 5 จี | เมื่อวันที่ 19 พ.ย. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการิคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ระบุว่า ในการประชุมบอร์ด วันที่ 22 พ.ย.นี้ สำนักงาน กสทช.จะเสนอให้อนุญาต บมจ.แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส และ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น สามารถทดลอง 5G บนคลื่นความถี่ 2.6 GHz โดยเอไอเอส จะทดลองที่เอ็มโพเรียม และทรู ทดลองที่เอ็มควอเทียร์ ซึ่งจะทดลองตั้งแต่ 22 พ.ย.-15 ธ.ค. ขณะที่ดีแทคอยู่ระหว่างขออนุญาต โดยทั้ง 3 ค่ายเตรียมความพร้อม เพื่อเข้าสู่เทคโนโลยี 5G ในปี 63 ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง,นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ทรู รับผิดชอบงานด้านปฏิบัติการ กล่าวว่า เทคโนโลยี 5G จะเกิดขึ้นได้ขึ้นอยู่กับนโยบายภาครัฐโดยเฉพาะการประมูลคลื่นความถี่ 5G ต้องใช้คลื่นความถี่มากถึง 100 MHz หากต้องใช้เงินลงทุนมากเทียบเคียงราคา 900 MHz ครั้งก่อนที่ประมูล 10 MHz ในราคาถึง 7.6 หมื่นล้านบาท อาจจะทำให้ 5G ไม่เกิด ทั้งนี้ยกตัวอย่างในจีนที่รัฐบาลจีนให้คลื่นความถี่กับ China Mobile 160MHz เพื่อใช้กับ 5G ซึ่งมีผู้ใช้บริการกว่า 900 ล้านคน,พร้อมย้ำนโยบายภาครัฐต้องชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนของคลื่นความถี่ 5G ต้องการใช้คลื่น 100 MHz ถ้าต้นทุนสูง คงจะเกิดยาก ซึ่งในปี 63 จะเกิดได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล. | กสทช. จ่อไฟเขียวเอไอเอส-ทรู ทดสอบ 5 จี ตามด้วยดีแทค เตรียมพร้อมปี 63 ด้านทรู ย้ำต้นทุนต้องไม่สูง จี้รัฐออกนโยบายรัฐให้ชัดเจน | ข่าว,เศรษฐกิจ | 5จี,ทอสอบ 5G,เอไอเอส,ทรู,กสทช.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1424446 |
คาเฟ่ อเมซอน บุกสาขาแรกในจีน | ก้าวสำคัญแบรนด์ไทยสู่แบรนด์โลก,นายชัยรัตน์ พรทิพย์วรเวทย์ กงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิงและนางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ ร่วมพิธีเปิดร้าน คาเฟ่ อเมซอน สาขาจู๋ซี ซึ่งเป็นสาขาแรกของจีน ในสถานีบริการน้ำมัน ซิโนเปค เมืองหนานหนิง มณฑลกว่างซี โดยนางสาวจิราพร กล่าวว่า การเปิดร้าน คาเฟ่ อเมซอน สาขาจู๋ซี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรไทยและจีน ได้แก่ กลุ่มมิตรผล โดยกลุ่มบริษัทกว่างซีหนานหนิงอีสต์เอเชียชูการ์ ซึ่งเป็นวิสาหกิจร่วมทุนระหว่างไทย-จีน,ทั้งนี้ คาเฟ่ อเมซอน ที่เปิดเป็นสาขาแรกในประเทศจีนนี้ ยังคงใช้แนวคิดหลัก เทส ออฟ เนเจอร์ (Taste of Nature) เช่นเดียวกันกับร้านในประเทศไทยที่ลูกค้าจะได้สัมผัสกับบรรยากาศร้านที่ร่มรื่นเป็นธรรมชาติ และยังได้สร้างสรรค์เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของไทยเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภคชาวจีนด้วย เช่น โคโคนัท คาราเมล ลาเต้ ไทยดีเสิร์ท พาราไดซ์ ทุเรียน โกลเด้น คัพ และไทย ที วิด อะ ทวิสต์ (Thai Tea with a Twist),การขยายสาขาไปยังจีนถือเป็นก้าวสำคัญสู่การเป็นโกลบอลแบรนด์ (Global Brand) เนื่องจากจีนมีตลาดขนาดใหญ่ ธุรกิจกาแฟมีศักยภาพเติบโตอีกมาก ผู้บริโภคชาวจีนมีกำลังซื้อสูง โดยจะเริ่มเปิดสาขาในจีนตอนใต้ และจะขยายต่อไปในสถานีบริการน้ำมันซิโนเปคทั่วประเทศ โดยปัจจุบัน คาเฟ่ อเมซอน เปิดให้บริการ 10 ประเทศทั่วโลก. | นายชัยรัตน์ พรทิพย์วรเวทย์ กงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิงและนางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) | ข่าว,เศรษฐกิจ | ชัยรัตน์ พรทิพย์วรเวทย์,จิราพร ขาวสวัสดิ์,คาเฟ่ อเมซอน,โกลบอลแบรนด์,วิสาหกิจ,สาขาแรก,กำลังซื้อสูง | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1669803 |
20 ปี ไม่ได้เอกสารสิทธิ์ที่ดิน สปก. ชาววังชิ้นร้องผู้ตรวจการฯ เร่งแก้ปัญหา | วันนี้ (12 มี.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้าน อ.วังชิ้น จ.แพร่ เข้าร้องเรียนกับผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีปัญหาการออกหนังสืออนุญาตให้ทำประโยชน์ในเขตปฏิรูที่ดิน (สปก.4-01) ล่าช้ามานานกว่า 20 ปี อ้างสาเหตุว่ากรมป่าไม้ประกาศเขตป่าสงวนฯ ทับที่ทำกินของชาวบ้าน และแนวเขตแผนที่ของ สปก.ชาวบ้าน อ.วังชิ้น จ.แพร่ กล่าวว่า สืบทอดที่ดินจากบรรพบุรุษ ซึ่งทำกินบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สรอย มานานหลายสิบปี แต่เดิมมีเอกสารสิทธิทำกินในที่ดินป่าไม้ (สทก.) แต่จนถึงวันนี้กลับยังไม่มีเอกสารสิทธิ หรือหนังสืออนุญาตให้ครอบครองทำประโยชน์ สถานะของชาวบ้านตอนนี้จึงไม่ต่างไปจากผู้บุกรุก เนื่องจากมีการประกาศเขตป่าสงวนฯ ซึ่งอาจทับซ้อนกับที่ทำกินของชาวบ้าน อีกทั้งแผนที่ของ สปก. และกรมป่าไม้ก็เกิดปัญหา จึงยังไม่สามารถออกเอกสารสิทธิหรือหนังสือรับรองใด ๆ ในขณะนี้ชาวบ้าน อ.วังชิ้น จ.แพร่ กล่าวอีกว่า เมื่อปี 2536 มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกตรกรรม (สปก.) มาเรียกเก็บเอกสารจากชาวบ้าน และทำการรังวัดสอบสวนสิทธิ อ้างว่าที่ทำกินของชาวบ้านเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน และจะออก สปก.4-01 มาทดแทนขณะที่เมื่อปี 2537 เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้เข้ามาส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกต้นสัก ตามโครงการส่งเสริมไม้เศรษฐกิจในที่ทำกินของตัวเอง ซึ่งชาวบ้านบางส่วนเข้าร่วม ขณะที่บางส่วนไม่ได้เข้าร่วมแต่ก็ปลูกต้นสักเช่นกัน | ชาวบ้าน อ.วังชิ้น จ.แพร่ เข้าร้องเรียนกับผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีออกหนังสืออนุญาตให้ทำประโยชน์ในเขตปฏิรูที่ดิน สปก. ล่าช้ากว่า 20 ปี อ้างเหตุกรมป่าไม้ประกาศเขตป่าสงวนฯ ทับที่ทำกินของชาวบ้าน | ภูมิภาค | กรมป่าไม้,ที่ดินทำกิน,สปก.4-01,ป่าสงวนฯ,แพร่,ออกเอกสารสิทธิ์,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/270912 |
เร่งบุคคล-นิติบุคคล เข้าระบบภาษี กรมสรรพากรพุ่งเป้า 3 ล้านคน-2 แสนบริษัท | กรมสรรพากรเร่งให้บุคคลธรรมดา 3 ล้านคน และนิติบุคคลอีก 200,000 ราย เข้าสู่ระบบภาษีอย่างถูกต้อง ก่อนโดนตรวจสอบเข้มหลังกรมเชื่อมข้อมูลภายในและภายนอกเสร็จ ด้านกระบวน การเก็บภาษีผู้ค้าออนไลน์ต่างชาติยังไม่เสร็จ รอกฤษฎีกาพิจารณาตรวจร่างกฎหมาย เผยตลอดปีงบประมาณ 2562 เก็บภาษีได้เกินเป้า 9,140 ล้านบาท,นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ โฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรพยายามขยาย ฐานภาษี เพื่อนำคนเข้าสู่ระบบภาษีที่ถูกต้องให้มากขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาจำนวนคนที่อยู่ในฐาน ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอยู่ที่ 10 ล้านคน ส่วนในปี 2562 จำนวนคนที่อยู่ในฐานภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดา เพิ่มขึ้นอีก 1.7 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นราว 10%,อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีบุคคลธรรมดาที่อยู่นอกฐานภาษีอีกราว 3 ล้านคน ซึ่งกรม สรรพากรวางแผนจะนำผู้ที่อยู่นอกฐานภาษีทั้ง 3 ล้านคนเข้าสู่ระบบทั้งหมด โดยวาง เป้าหมายให้เข้าสู่ฐานภาษีปีละ 1 ล้านคน,ส่วนฐานภาษีเงินได้นิติบุคคล ในปัจจุบันมีนิติบุคคลที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ราว 600,000 ราย แต่ อยู่ในฐานภาษี 400,000 กว่าราย ยังขาดอยู่อีก 200,000 ราย ที่ต้องนำเข้าระบบเช่นเดียวกัน คนที่อยู่นอกระบบฐานภาษี ควรเร่งเข้าสู่ระบบในช่วงนี้ให้เร็วที่สุด เนื่องจากกรมสรรพากรจะไม่ทำการตรวจสอบย้อนหลัง คนที่อยู่นอกระบบแล้วเข้ามาอยู่ในระบบตอนนี้ แต่ในเร็วๆนี้ ฐานข้อมูลของกรมสรรพากรจะสามารถเชื่อมโยงกับข้อมูลภายในและภายนอกได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นการตรวจสอบจะเข้มข้นขึ้น,สำหรับการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT จากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในต่างประเทศ (e-Business) ซึ่งจะบังคับให้ผู้ประกอบการในระบบออนไลน์ที่อยู่ในต่างประเทศที่มาทำการค้าในประเทศไทยจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยนั้น ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ) พ.ศ. เพื่อรองรับ การจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็ก-ทรอนิกส์ (e-Business) ดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา,ส่วนผลการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในปีงบประมาณ 2562 ที่สิ้นสุดไปเมื่อ 30 ก.ย.2562 ที่ผ่านมานั้น กรมสามารถจัดเก็บได้ 2.009 ล้านล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายในเอกสารงบประมาณ 9,140 ล้านบาท หรือเกินกว่าเป้าหมาย 0.5% ส่วนหนึ่งมาจากการนำระบบการวิเคราะห์ข้อมูล (data analytics) มาช่วยในการตรวจสอบการเสียภาษี ทำให้กรมสามารถจัดเก็บภาษีที่เคยรั่วไหลจากส่วนต่างๆ ได้มากขึ้น,มาตรการบัญชีเล่มเดียว หรือมาตรการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการจัดทำบัญชีให้สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการ ที่กรมสรรพากรดำเนินการไปในช่วงปีงบประมาณ 2562 โดยเปิดให้ธุรกิจที่มีรายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาท ยื่นปรับปรุงบัญชีใหม่โดยไม่เสียค่าปรับและเงินเพิ่ม แต่ต้องยื่นเสียภาษีในระบบการให้บริการยื่นเอกสารต่างๆ ผ่านทาง อิเล็กทรอนิกส์ (e-filing) เป็นเวลา 12 เดือนนั้น ทำให้กรมสรรพากรได้รับเม็ดเงินภาษีเพิ่มเติมจากการยื่นปรับปรุงบัญชีราว 3,000 ล้านบาท,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า นโยบายการ เก็บภาษีในปีงบประมาณ 2563 กรมสรรพากรจะนำระบบการวิเคราะห์ข้อมูล (data analytics) มาใช้ในการจัดเก็บภาษี เริ่มตั้งแต่การปรับกระบวนการลงทะเบียนยื่นภาษี เสียภาษี และคืนภาษี ให้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้ง 100% หลังจากนั้นจะนำระบบ data analytics เข้ามาวิเคราะห์และตรวจสอบการเสียภาษีด้วย โดยกลุ่มที่กรมสรรพากรอยากให้เข้าสู่ระบบมากขึ้น คือ กลุ่มผู้ค้าออนไลน์ ที่ปัจจุบันอยู่ในระบบภาษีค่อนข้างน้อย,ทั้งนี้ ระบบ data analytics จะเก็บข้อมูลของผู้เสียภาษีทุกคน เช่น การยื่นแบบแสดงรายการภาษีประเภทต่างๆ ไปจนถึงค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ข้อมูลประกัน เป็นต้น จากนั้นระบบจะวิเคราะห์และจัดกลุ่มผู้เสียภาษีเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มดีที่อยู่ในฐานภาษี 2.กลุ่มดี ที่ยังไม่อยู่ในฐานภาษี 3.กลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในฐานภาษี และ 4.กลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่อยู่ในฐานภาษี ทั้งนี้กลุ่มดีที่เสียภาษีอย่างถูกต้อง กรมสรรพากรจะอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ เช่น คืนภาษีให้เร็วขึ้น ส่วนกลุ่มเสี่ยงที่จะหลีกเลี่ยงภาษี ก็จะถูกติดตามจากกรมสรรพากรอย่างใกล้ชิด เป็นต้น. | กรมสรรพากรเร่งให้บุคคลธรรมดา 3 ล้านคน และนิติบุคคลอีก 200,000 ราย เข้าสู่ระบบภาษีอย่างถูกต้อง ก่อนโดนตรวจสอบเข้มหลังกรมเชื่อมข้อมูลภายในและภายนอกเสร็จ ด้านกระบวน การเก็บภาษีผู้ค้าออนไลน์ | ข่าว,เศรษฐกิจ | กรมสรรพากร,ระบบภาษี,จัดเก็บภาษี,ภาษีผู้ค้าออนไลน์,ภาษีเงินได้,ภาษีเงินได้นิติบุคคล,กรมพัฒนาธุรกิจการค้า | https://www.thairath.co.th/news/business/1719788 |
นักวิจัยด้านโมเลกุล พบส่วนผสมในลิปสติก ทำลายสุขภาพ | เว็บไซต์แท็บลอยด์ เดลี่เมล์ ของอังกฤษ รายงาน ผลวิจัยของนักวิจัยด้านโมเลกุลของอังกฤษระบุว่า ลิปสติกสีสันสดใส มีส่วนผสมของสารเคมีนานาชนิด อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ รวมทั้งอาจมีส่วนโยงใยกับปัญหากล้ามเนื้อ รบกวนการทำงานของฮอร์โมน และโลหะหนักที่ทำให้เกิดพิษต่อร่างกาย รวมถึงความเสี่ยงที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ หรือแม้แต่โรคข้อต่ออักเสบด้วย โดยสารเคมีอันตรายที่อาจเป็นส่วนผสมในลิปสติก ได้แก่ พาราเบน หรือ สารกันบูดในเครื่องสำอาง เมธอะคริเลท ที่ใช้ในการทำพลาสติก สารตะกั่ว และแคดเมียม ซึ่งเป็นโลหะธาตุชนิดหนึ่ง ที่มีพิษต่อร่างกาย และพบสารไตรโคลซาน ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของกล้ามเนื้อและหัวใจ และก่อให้เกิดความวิตกว่าจะเป็นสาเหตุให้เชื้อแบคทีเรียดื้อยาปฏิชีวนะ และกลายเป็นซูเปอร์บั๊ค หรือ แบคทีเรียที่ดื้อยาปฏิชีวนะทุกชนิด พร้อมระบุ สารไตรโคซานสามารถลดอัตราการเต้นของหัวใจหนู ภายในเวลา 20 นาที และมีหลักฐานที่ชัดเจนว่า อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ และยังลดความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออีกด้วยขณะที่การค้นพบก่อนหน้านี้ พบว่า สารไตรโคซาน อาจทำให้ระดับฮอร์โมนเพศชาย หรือ แอนโดรเจ้น ในผู้หญิงเพิ่มขึ้น กลายเป็นสาเหตุของอาการต่าง ๆ เช่น สิวขึ้น น้ำหนักเพิ่ม ขนดก รอบเดือนไม่ปกติ ซึ่งสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบสารไตรโคซาน เช่นกัน เนื่องจากวิตกว่า จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของสาธารณชน | เว็บไซต์เดลี่เมล์ ของอังกฤษรายงานผลการวิจัยของนักวิจัยด้านโมเลกุล พบว่า ลิปสติกที่มีส่วนผสมของสารเคมีนานาชนิด อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพ | สังคม | นักวิจัยด้านโมเลกุล,ลิปสติค,สารเคมี,ส่วนผสม | https://news.thaipbs.or.th/content/106103 |
คนเครียดการเมือง แห่โทรคุยสายด่วนสุขภาพจิตเพิ่ม | วันนี้ (5 เม.ย.2562) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า รายงานสถิติการให้บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตทางโทรศัพท์ สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ในรอบเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 2562 พบว่ามีการให้บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต รวม 13229 ครั้ง โดยปัญหาด้านสุขภาพจิตที่พบมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 ปัญหาทางจิตเวช ร้อยละ 39.02 อันดับ 2 ความเครียด/วิตกกังวล ร้อยละ 27 อันดับ 3 ปัญหาความรัก ร้อยละ 8.74 อันดับ 4 ปัญหาซึมเศร้า ร้อยละ 6.89 และอันดับ 5 ปัญหาครอบครัว ร้อยละ 5.59 และจำนวนประชาชนที่โทรศัพท์เข้ามาปรึกษาในภาพรวมทั้งหมด เปรียบเทียบจากเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.2อย่างไรก็ตาม หากวิเคราะห์ข้อมูลในรายเดือนจะพบว่าผู้ที่โทรศัพท์ปรึกษาเฉพาะเรื่องความเครียดและวิตกกังวลจากการเมืองในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 มีจำนวน 22 คน และเดือนมีนาคม 2562 มีจำนวน 37 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 68 เนื่องจากเป็นช่วงของการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม ส่วนใหญ่เกิดความเครียดจากการมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันทางการเมืองระหว่างคนใกล้ชิด คนในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน ทำให้รู้สึกเครียด จึงโทรศัพท์มาปรึกษาพูดคุยเพื่อระบายความเครียด โดยขณะนี้ กรมสุขภาพจิตกำลังติดตามเรื่องความเครียดจากการเมืองอย่างใกล้ชิดอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ในสังคมประชาธิปไตย ประชาชนทุกคนมีสิทธิที่จะมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ต้องไม่แตกแยก สามารถอยู่ร่วมกันได้ เน้นรับฟังความคิดเห็นของบุคคลอื่นด้วยความเคารพ และให้เกียรติกัน เพื่อไม่ให้เกิดความเครียดสะสมและวิตกกังวลจนเกินไป ควรมีการติดตามข้อมูลข่าวสารบ้านเมืองอย่างพอดี เปิดกว้างรับข้อมูลข่าวสารที่หลากหลาย ไม่รับข้อมูลข่าวสารเพียงด้านเดียว ทำกิจวัตรประจำวันให้เป็นปกติ พักผ่อนให้เพียงพอ และมีการผ่อนคลายความเครียดทั้งนี้ หากยังมีความเครียดและวิตกกังวลอยู่ สามารถโทรมาขอรับบริการปรึกษาได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือขอรับบริการด้านสุขภาพจิตจากโรงพยาบาลจิตเวชในสังกัดกรมสุขภาพจิตได้ทุกแห่งทั่วประเทศ | กรมสุขภาพจิต เผยสถิติประชาชนโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 เรื่องความเครียดจากการเมืองเพิ่มขึ้นร้อยละ 68 แนะรับฟังความคิดที่แตกต่างได้ แต่ไม่แตกแยก | สังคม | เครียดการเมือง,การเมือง,กรมสุขภาพจิต,สุขภาพจิต,โทรปรึกษา,สายด่วนสุขภาพจิต,สายด่วน 1323,เลือกตั้ง62,เลือกตั้ง2562,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/279048 |
14 ตุลากับขบวนการแรงงานไทย | เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เป็นที่รับรู้กันในฐานะเหตุการณ์ทางการเมืองที่มีการเคลื่อนไหวของมวลชนเรือนแสนคนที่สามารถโค้นล้มการปกครองแบบเผด็จการทหาร และนำพาประเทศเข้าสู่ยุคเริ่มต้นของระบอบประชาธิปไตยภายหลังอยู่ใต้ระบอบเผด็จการมานานกว่า 1 ทศวรรษขบวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่นำมาสู่เหตุการณ์ 14 ตุลา มีนักศึกษาเป็นแกนนำที่สำคัญ แต่ในขณะเดียวกันมวลชนที่เข้าร่วมการชุมนุมขับไล่รัฐบาลเผด็จการประกอบด้วยผู้คนหลากหลายกลุ่มรวมทั้งคนงาน ซึ่งในขณะนั้นจัดตั้งเป็นสมาคมลูกจ้างโดยที่ในช่วงปี พศ. 2515-2516 มีการเคลื่อนไหวของคนงานจำนวนมากที่นัดหยุดงานประท้วงนายจ้างเพื่อเรียกร้องค่าจ้าง และสวัสดิการที่ดีขึ้นภายหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม สังคมไทยมีสิทธิ และเสรีภาพทางการเมืองและการแสดงความคิดเห็นอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน ในส่วนของคนงานมีการเคลื่อนไหวขององค์กรแรงงานเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมทั้งในระดับโรงงาน และการเข้าร่วมกับนักศึกษา และชาวนาเพื่อต่อสู้ให้เกิดสังคมที่เป็นธรรมในขอบเขตทั่วประเทศประวัติศาสตร์แรงงานหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เป็นประวัติศาสตร์ที่น่าภาคภูมิใจ มีเหตุการณ์ที่กลายเป็นตำนานการต่อสู้ของคนงานให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา เช่นการนัดหยุดงานครั้งใหญ่ของกรรมกรโรงงานทอผ้าย่านอ้อมน้อย อ้อมใหญ่ การหยุดงานทั้งประเทศของคนงานในภาครัฐวิสาหกิจ และเอกชนเพื่อคัดค้านการขึ้นราคาข้าวสาร การยึดโรงงานมาทำการผลิตเองของคนงานหญิงโรงงานฮาราพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ. 2518 ซึ่งให้สิทธิคนงานในการจัดตั้งสหภาพแรงงานซึ่งเป็นผลผลิตที่สำคัญภายหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม การจัดตั้งสภาแรงงานที่เข้มแข็งเป็นครั้งแรก คือ สภาแรงงานแห่งประเทศไทยที่มีไพศาล ธวัชชัยนันท์เป็นประธาน เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2519แม้ว่าในเวลา 3 ปีต่อมาจะเกิดเหตุการณ์รัฐประหารนองเลือดในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งทำให้ขบวนการแรงงาน ขบวนนักศึกษา และขบวนชาวนาถูกปราบปรามอย่างหนักจนบางส่วนต้องหันไปร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยจับอาวุธต่อสู้กับรัฐบาล และยุติการเคลื่อนไหวที่เปิดเผยอยู่ประมาณ 1 ปีเศษ แต่จิตสำนึกทางสังคม และการเมืองที่คนงานได้พัฒนาขึ้นหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ไม่อาจถูกทำลายด้วยอำนาจเผด็จการหลังรัฐประหาร 6 ตุลาคม 2516 ขบวนการแรงงานฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ผู้นำแรงงานที่ไม่ได้เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยได้ร่วมกันฟื้นฟูสหภาพแรงงาน และขบวนการเคลื่อนไหวของคนงาน สืบทอดอุดมการณ์สู่ผู้นำคนงานในรุ่นต่อๆมาจนภึงปัจจุบันหากไม่มีเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พัฒนาการของขบวนการแรงงานตลอดจนขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมอื่นๆอาจเกิดขึ้นอย่างเชื่องช้า สังคมไทยจะตกอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการยาวนาน เหมือนที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน เช่นฟิลิปปินส์ และอินโดนีเชียในยุคของประธานาธิบดีมาร์คอส และซูฮาโตนอกจากนี้หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ยังก่อให้เกิดวัฒนธรรมเพื่อชีวิต เพื่อประชาชนในรูปแบบต่างๆเช่นดนตรี เพลง ละคร วรรณกรรมที่สะท้อนปัญหาความทุกข์ยากของประชาชน และปลุกเร้าให้คนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องในท่ามกลางการเคลื่อนไหวของคนงานในยุคนั้น เช่นศักดิ์ศรีของแรงงาน รำวงวันเมย์เดย์ มาร์ซกรรมกร ฯลฯ ยังคงขับขานกันอยู่ในปัจจุบันปัจจุบัน รศ.ดร. นภาพร อติวานิชยพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักบัณฑิตอาสาสมัคร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ | เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เป็นที่รับรู้กันในฐานะเหตุการณ์ทางการเมืองที่มีการเคลื่อนไหวของมวลชนเรือนแสนคนที่สามารถโค้นล้มการปกครองแบบเผด็จการทหาร | การเมือง,แรงงาน | 14 ตุลาคม 2516,6 ตุลาคม 2519,นภาพร อติวานิชยพงศ์,แรงงานสัมพันธ์,ไพศาล ธวัชชัยนันท์ | https://prachatai.com/journal/2014/10/55959 |
31 ส.ค. นัดไต่สวน ทีวีดิจิตอล 5 ช่อง ฟ้อง กสทช. เรียก 9 พันกว่าล. | เมื่อวันที่ 29 ส.ค. นายสุขสวัสดิ์ เวทไว ผู้รับมอบอำนาจจากผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ในนาม บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด กล่าวว่า ในวันที่ 31 ส.ค. นี้ ศาลปกครองได้นัดไต่สวนคดีที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล 5 ช่อง ประกอบด้วย จีเอ็มเอ็ม วัน, จีเอ็มเอ็ม แชนแนล, พีพีทีวี, ไทยรัฐทีวี และไบรท์ทีวี ยื่นฟ้องสำนักงานคณะกรรมการ กสทช. รวมถึงกรรมการ กสทช. และนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ต่อศาลปกครองกลาง กรณีละเว้น และละเลยปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า เช่น การควบคุมและกำกับดูแลมาตรฐาน, แจกคูปองทีวีดิจิตอล, ขยายโครงข่าย รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ และเข้าใจการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิตอล,พร้อมเรียกค่าเสียหาย 9,550 ล้านบาท และคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยศาลได้ระบุให้ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจเดินทางไปด้วยตนเอง เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยอย่างประนีประนอม,ด้านนายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด ผู้บริหารช่องพีพีทีวี กล่าวว่า เรื่องนี้มีผลกระทบกับภาพรวมอุตสาหกรรมโทรทัศน์ทั้งระบบ ทั้งผู้ชม และผู้ประกอบการ จึงต้องหามาตรการเยียวยา เพื่อลดผลกระทบ,ขณะที่นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการ กสทช. ด้านเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า เตรียมจะชี้แจงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงานทุกขั้นตอน ซึ่งแยกออกจากกันอย่างชัดเจน เช่น สำนักงาน และเลขาธิการ จะรับผิดชอบการแจกคูปองทีวีดิจิตอล การประชาสัมพันธ์ ส่วนคณะกรรมการ กสทช. ดูเรื่องการขยายโครงข่ายให้ครอบคลุม. | 31 ส.ค. ศาลปกครองนัดไต่สวน คดีผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล 5 ช่อง ยื่นฟ้อง กสทช. ละเลยหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า พีอาร์ให้คนรับรู้ช่วงเปลี่ยนผ่านจากระบบอนาล็อกสู่ดิจิตอล ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ | null | ทีวีดิจิตอล,ฟ้องกสทช.,ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลฟ้องกสทช.,5ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล,ไทยรัฐทีวี,เปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิตอล,ระบบอนาล็อก,แจกคูปอง,ฐากร ตัณฑสิทธิ์,ศาลปกครองนัดไต่สวนคดีฟ้องกสทช.,31สิงหา,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ | https://www.thairath.co.th/content/521628 |
เผยภาพพรีเวดดิ้ง ใบเตย-ดีเจแมน สวยหล่อโดดเด่นแซ่บจัดเต็มมาก | หลังจากดีเจดัง แมน พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา ทำเซอร์ไพรส์ขอนักร้องลูกทุ่งนุ่งสั้น ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน หรือ ใบเตย อาร์สยาม แต่งงาน และเตรียมทุ่มงบจัดงานแต่งงานเป็นจำนวนเงินกว่า 10 ล้านบาท จนกลายเป็นกระแสฮือฮา ซึ่งก่อนหน้านี้หากใครติดตามไอจีของทั้งคู่ก็จะเห็นภาพพรีเวดดิ้งกันมาบ้างแล้ว ล่าสุดห้องเสื้อชื่อดัง วนัช กูตูร์ ปล่อยภาพพรีเวดดิ้งฉบับเต็ม ซึ่งเป็นการถ่ายพรีเวดดิ้งที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อสาวใบเตยโดยเฉพาะ,งานนี้เรียกได้ว่าไม่ทิ้งลายสาวเซ็กซี่เลยทีเดียว เพราะแต่ละชุดที่สาวใบเตยเลือกใช้นั้นบ่งบอกถึงความมีคลาสและความเป็นตัวตนของเธอได้อย่างดี แต่ภายใต้ความเซ็กซี่นั้นกลับแฝงไปด้วยออร่าของความเป็นเจ้าสาวที่แผ่กระจายออกมาที่ดูโดดเด่น งดงาม และน่าหลงใหลในตัวเธอสุดๆ แถมภาพแต่ละภาพที่คู่บ่าวสาวได้ถ่ายทอดออกมานั้นสุดแสนจะโรแมนติกและน่าอิจฉาสุดๆ บางรูปเห็นแล้วต้องบอกว่าแซ่บจัดเต็มมากๆ,นี่ขนาดเป็นเพียงชุดงานพรีเวดดิ้งยังสวยเซ็กซี่ขนาดนี้ ชุดแต่งงานในวันงานจริงของสาวใบเตยจะสวยงดงามอลังการขนาดไหน งานนี้ต้องรอติดตามชมกันจ้า. | ชมภาพพรีเวดดิ้งฉบับเต็ม ใบเตย อาร์สยาม และดีเจแมน พัฒนพล ที่ดูแล้วสุดแสนจะโรแมนติกและน่าอิจฉาสุดๆ บางรูปเห็นแล้วต้องบอกว่าแซ่บจัดเต็มมากๆ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ใบเตย อาร์สยาม,ดีเจแมน พัฒนพล,ใบเตย ดีเจแมน ภาพพรีเวดดิ้ง,ใบเตย ดีเจแมน แต่งงาน,ดาราแต่งงาน,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1660683 |
นักเรียน AFS -คนไทย จากสหรัฐฯ 162 คน ถึงไทย ส่งกักตัวที่สัตหีบ | วันนี้ (19 เม.ย.2563)พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไปรับเที่ยวบินนักเรียนไทย ทุน AFS จำนวน 162 คน โดยสารกลับจากสหรัฐอเมริกากลับถึงไทย โดยเที่ยวบิน OAE 6200 มาถึง สนามบินอู่ตะเภา กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เมื่อเวลา 10.40 น. ของวันนี้ก่อนถูกนำตัวโดยรถบัสกองทัพเรือไปยังมายังโรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยทั้งหมดจะต้องผ่านการคัดกรองโรคด้วยการวัดไข้ การฆ่าเชื่อด้วยแอลกอฮอล์ พร้อมทำความสะอาดกระเป๋าสัมภาระ รองเท้า อุปกรณ์สื่อสาร ก่อนขึ้นห้องพัก ซึ่งได้มีการคัดแยกชาย หญิง ในการเข้าพักเพื่อเฝ้าดูอาการทั้งนี้ คนไทยที่กลับมาทั้งหมดจะถูกกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการตามแผนรับมือไวรัส COVID-19 สำหรับผู้ที่ถูกกักตัวจะอยู่ได้ในพื้นที่เฉพาะที่จัดให้โดยมีเจ้าหน้าที่เฝ้าอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ได้ออกมาบริเวณด้านนอกหรือริมทะเล | นักเรียน AFS -คนไทย จากสหรัฐฯ 162 คน เดินทางถึงสนามบินอู่ตะเภาแล้ว ขณะที่ เจ้าหน้าที่คัดกรองเข้มงวด ก่อนส่งกักตัว 14 วัน เฝ้าระวัง COVID-19 | สังคม | COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,นักเรียน AFS,กักตัว,สัตหีบ | https://news.thaipbs.or.th/content/291374 |
แม่ลูกด่าตร. วอนเห็นใจฟังอีกด้านก่อนตัดสิน บอกคนโมโหบางครั้งก็หลุดหยาบคาย | จากกรณีสองแม่ลูกด่ากราดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกจับข้อหาไม่มีใบขับขี่ ไม่สวมหมวกกันน็อก และไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จนกลายเป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งทางตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆได้เรียกทั้งคู่เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วนั้น,ล่าสุดวานนี้ (18 ก.ย.60) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง AMARIN TV ได้เปิดเผยคำสัมภาษณ์ของสองแม่ลูกที่ปรากฏในคลิป โดย น้องปืน (นามสมมติ) อายุ 19 ปี เปิดใจว่า ก่อนเกิดเหตุตนไปส่งน้องชายที่โรงเรียน โดยระหว่างที่จะนำข้าวกล่องไปส่งที่ร้านของแม่ก็ถูกตำรวจโบกให้จอดก็ยอมทำตามทุกอย่าง สักพักตำรวจได้ขอดูใบขับขี่ตนก็บอกว่ายังไม่ได้ทำ ส่วนเรื่องที่ไม่สวมหมวกกันน็อกก็เพราะรีบจริงๆ จากนั้นตำรวจก็ขอค้นร่างกายหายาเสพติดก็ยอมให้ค้น แต่ตนได้ยินตำรวจพูดว่า เอามันเลย มันเคยหมิ่นประมาทกู,น้องปืน ยืนยันว่า เคยมีเรื่องกับตำรวจนายนี้มาก่อนแล้วเมื่อช่วงเดือนก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากกลับรถในที่ห้ามกลับและไม่มีใบขับขี่ ยืนยันว่าไม่ได้หนีตำรวจ ในตอนนั้นตำรวจได้เรียกมาตักเตือนและไม่ได้แจ้งข้อหาอะไร,ส่วนในวันเกิดเหตุก็โดนตำรวจเรียกอีกและถูกล็อกล้อ เนื่องจากไม่มีใบขับขี่ ไม่สวมหมวกกันน็อกและเคยทำผิดมาก่อน ทำให้ไม่พอใจเพราะคิดว่าถูกกลั่นแกล้ง ประกอบกับขณะนั้นต้องรีบนำข้าวกล่องไปส่ง เมื่อตำรวจไม่ยอมปล่อยก็กลัวว่าจะไปส่งข้าวกล่องช้า ประกอบกับถูกตำรวจขอตรวจปัสสาวะจึงโทรศัพท์เรียกแม่ให้มาช่วย ส่วนเรื่องที่โวยวายในคลิปยืนยันว่าไม่ได้บ้า แต่ไม่พอใจที่แม่ถูกตำรวจผลักอก ไม่มีใครอยากไปยุ่งกับตำรวจหรอกหากตำรวจพูดจาดีๆ ด้วย,เมื่อถามว่าจะยอมขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจคู่กรณีหรือไม่ น้องปืน กล่าวว่า ยอมขอโทษแต่ไม่แน่ใจว่าหากเจอตำรวจอีกครั้งในใจจะมีอคติต่อตำรวจหรือไม่,ด้าน แม่ของน้องปืน กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากรู้ว่าลูกชายผิดอะไร ลูกแค่ขอตำรวจว่าขอไปส่งของก่อนแต่ตำรวจกลับถ่ายคลิป ถ้าไม่มีคลิปก็คงไม่มีเรื่อง ที่ตนเองออกมาด่าเพราะคิดว่าตำรวจแล้งน้ำใจ ไม่ได้ต้องการอะไรแค่อยากเอาของไปขาย เมื่อคนโมโหก็อาจหลุดคำพูดหยาบคายบ้าง ซึ่งทุกคนมีเหมือนกันหมด แต่พอคลิปออกไปกลับเป็นว่าตนกับลูกเป็นคนไม่ดี อยากฝากถึงสังคมว่า ก่อนจะว่าใครขอให้ดูให้ดีก่อนว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ตนสั่งสอนลูกทุกวันแต่ขึ้นอยู่กับว่าลูกนำคำที่เราสอนไปทำตามมากน้อยแค่ไหน ยอมรับว่าลูกชายผิดที่เป็นคนใจร้อน ขี้หงุดหงิด แต่ลูกก็ช่วยตนในการส่งของทุกครั้ง,ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาด่ากันด้วย สาเหตุที่ลูกโมโหเพราะตำรวจไม่ให้ไปส่งของ ลูกก็กลัวว่าจะไปส่งของให้ลูกค้าช้า แต่ตำรวจก็ยังกักรถและบอกให้เอาของขึ้นวินมอเตอร์ไซค์คันอื่นไปส่ง แม่ก็ขึ้นเลย อยากรู้ว่าผิดอะไรกันนักกันหนา,ขณะที่ พ.ต.อ.อัครวุฒ ธานีรัตน์ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตำรวจได้เดินเข้าไปตักเตือนเด็กในคลิปดีๆ แต่เด็กกลับโวยวาย ประกอบกับก่อนหน้านี้มีประชาชนร้องเรียนว่าเด็กหนุ่มสูบบุหรี่และพ่นควันใส่หน้า ทางตำรวจจึงสกัดจับ ทางด้านตำรวจเห็นว่าผิดปกติจึงขอตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด ซึ่งปรากฏว่าเด็กไม่พอใจแต่ก็ยอมให้ตรวจค้น และโทรเรียกตามแม่ให้มาที่เกิดเหตุก่อนเรื่องราวจะเป็นไปตามที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ,ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ กล่าวต่อว่า ในตอนแรกตำรวจจำเด็กหนุ่มไม่ได้ แต่เด็กจำตำรวจได้เนื่องจากก่อนหน้านี้เด็กเคยถูกตักเตือนเรื่องไม่มีใบขับขี่มาก่อน ส่วนที่ต้องถ่ายคลิปเพราะจะได้ยืนยันการทำงานของตำรวจว่าทำอย่างถูกต้องตามขั้นตอน โดยแม่ถูกดำเนินคดีข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน เพราะมีการด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ส่วนลูกชาย โดนข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และทำร้ายเจ้าพนักงาน ซึ่งการถ่มน้ำลายใส่ถือเป็นการทำร้าย ส่วนการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.จราจรฯ คือ ไม่มีใบขับขี่ และไม่สวมหมวกนิรภัย. | ฟังอีกด้าน 2 แม่ลูกเปิดใจคลิปด่า ถุยน้ำลายใส่ตำรวจ เผยโมโหที่ถูกกักรถไม่ให้ไปส่งของลูกค้า ด้านแม่ยอมรับผิดลูกใจร้อน แต่เป็นคนดีช่วยงานแม่ วอนสังคมอย่าเพิ่งตัดสินคน | ข่าว,สังคม | ด่าตำรวจ,คลิปด่าตำรวจ,หนุ่มด่าตำรวจ,สองแม่ลูกด่าตำรวจ,ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1074257 |
มนต์สิทธิ์ คำสร้อย ขึ้นสน.บางซื่อ แจ้งนิติบุคคลคอนโดฯไม่โปร่งใส | -บัญชีรายรับรายจ่าย ,เวลา 10.00 น. วันที่ 11 ธ.ค. ที่ สน.บางซื่อ นาย,มนต์สิทธิ์ คำสร้อย, นักร้องลูกทุ่งและนักแสดงชื่อดัง พร้อมด้วยนาย,สงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์, ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นำหลักฐานเป็นเอกสารหนังสือข้อบังคับนิติบุคคลของคอนโดมิเนียม อินทามระเพลส เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.ณัฏฐนันท์ พันทองอ่อน รอง สว.(สอบสวน) สน.บางซื่อ กรณีไปซื้อห้องพักที่คอนโดฯดังกล่าวตั้งแต่ปี 2548 และมีกลุ่มบุคคลอ้างว่าเป็นกรรมการของนิติบุคคลคอนโดมิเนียมดังกล่าว ไปเรียกเก็บเงินค่าส่วนกลางเป็นรายเดือน เดือนละกว่า 1,000 บาท มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีพฤติกรรมไม่โปร่งใส,นายมนต์สิทธิ์ เปิดเผยว่า การเดินทางเข้าแจ้งความครั้งนี้ เนื่องจากตนได้ซื้อห้องพักของคอนโดดังกล่าวตั้งแต่เมื่อปี 2548 โดยมีการจ่ายค่าส่วนกลางกับทางคอนโดฯมาตลอดตั้งแต่แรก ซึ่งระยะหลังสังเกตว่าคณะกรรมการนิติบุคคลของคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยนั้น หลีกเลี่ยง ไม่มีการประชุมนิติบุคคล และประชุมสามัญประจำปีกับผู้พักอาศัยเลย อีกทั้งยังขอขึ้นราคาค่าส่วนกลางกับผู้อาศัยที่มีอยู่ 153 ห้อง ในราคาจากเดิมตารางเมตรละ 18 บาท ขึ้นไปเป็นตารางเมตรละ 22 บาท ซึ่งทำให้ตนและผู้อาศัยรายอื่นๆ เกิดความเคลือบแคลงใจกับการทำงานของนิติบุคคลคอนโดฯดังกล่าว,ต่อมา ได้ตรวจสอบไปยังสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาห้วยขวาง พบว่ากลุ่มนิติบุคคลดังกล่าวมีการจดแจ้งเป็นนิติบุคคลที่สำนักงานที่ดินมาตั้งแต่ปี 2537 โดยมีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการมาโดยตลอด ซึ่งในช่วงแรก ที่ซื้อห้องพักนั้น ไม่มีปัญหาอะไร พอมาช่วงปี 2554 ก็เริ่มมีปัญหาขึ้นโดยนิติบุคคลไม่เคยชี้แจงรายงานการประชุมสามัญและแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายของคอนโดมิเนียมกับทางสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาห้วยขวาง แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการเดินทางแจ้งความในวันนี้จะทำให้เป็นประโยชน์กับผู้พักอาศัยรายอื่นๆ ด้วย หลังจากนี้จะนัดกับผู้พักอาศัยรายอื่นเพื่อประชุมกรณีดังกล่าวในวันที่ 15 ธ.ค. นี้ต่อไป,ด้านนายสงกรานต์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ นำหลักฐานเป็นเอกสารหนังสือข้อบังคับนิติบุคคลของคอนโดมิเนียม และทางนายมนต์สิทธิ์ได้ให้ปากคำเพิ่มเติมในกรณีดังกล่าว เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบและเชิญตัวนิติบุคคลมาสอบปากคำเพิ่มเติม ทั้งนี้ การเดินทางมาในวันนี้เพื่อแจ้งความไว้เป็นหลักฐานก่อนโดยยังไม่แจ้งข้อหากับผู้ใด | มนต์สิทธิ์ คำสร้อย นักร้องลูกทุ่ง มาพร้อม ทนายสงกรานต์ แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ขอให้ตำรวจบางซื่อตรวจสอบการดำเนินการนิติบุคคลคอนโดฯ ย่านอินทามระ หลังตรวจพบ ไม่ชี้แจงรายงานการประชุมสามัญ | ข่าว,ทั่วไทย | มนต์สิทธิ์ คำสร้อย,มนต์สิทธิ์ แจ้งความ,มนต์สิทธิ์ นิติบุคคล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1723680 |
เบ็ญจมาภรณ์-จิรภัทร ครองเจ้าสระ ชุมพร-ระนองเกมส์ | ส่วน บัว จิณห์นิภา เสวตรบุตร นักตบลูกเด้งสาวทีมชาติ น้องสาวของ หญิง สุธาสินี เสวตรบุตร แชมป์หญิงเดี่ยวซีเกมส์ 2015 สร้างชื่อให้เจ้าภาพร่วมระนอง คว้าเหรียญทองที่ 3 ให้ตนเองและจังหวัด,วันที่ 24 มี.ค. 60 การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 33 ชุมพร-ระนองเกมส์ ที่จังหวัดชุมพร และระนอง เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ เทเบิลเทนนิส วันสุดท้าย ชิง 5 เหรียญทอง หญิงเดี่ยว เยาวชน บัว จิณห์นิภา เสวตรบุตร นักตบลูกเด้งทีมชาติ แชมป์เก่าจากเจ้าภาพร่วมระนอง ไม่พลาดคว้าเหรียญทองไปครอง และเป็นเหรียญที่ 3 ของตัวเอง นอกจากนี้ ทีมนักตบลูกเด้งระนอง ยังคว้าอีก 1 เหรียญทองจากชายเดี่ยว ยุวชน เจตธนบดี จันทร์เพ็ญ ส่วนชายเดี่ยว ภัทรธร ภัสระ จากราชบุรี, หญิงเดี่ยว วรรณวิสาข์ เอื้อวิริยะโยธิน จากนครราชสีมา 2 และคู่ผสม แคทรียา พวงศรี กับ ศมะ บุญญวดี จากกรุงเทพฯว่ายน้ำ ชิง 6 เหรียญทอง ผลัดผสม 4×100 ม.หญิง กรุงเทพฯ ที่มี เงือกมิ้ง เบ็ญจมาภรณ์ สังขะวัตร์ คว้าเหรียญทองไปครอง ทำให้เบ็ญจมาภรณ์ กวาดไปทั้งหมด 6 เหรียญทอง ครองตำแหน่งราชินีสระ,ขณะที่จิรภัทร ริมประนาม จากกรุงเทพฯ เก็บเพิ่มอีก 2 เหรียญทอง จากกบ 50 ม.ชาย และผลัดผสม 4×100 ม.ชาย รวมกวาดไปทั้งหมด 4 เหรียญ ทอง 2 เหรียญเงิน คว้าเจ้าสระฝ่ายชาย พร้อมรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมชาย ส่วนนักกีฬายอดเยี่ยมหญิง เป็นของเสาวนีย์ บุญอำไพ จากสมุทรปราการ, ฟรีสไตล์ 800 ม.หญิง สุดที่รัก วัชรบุศราคำ (นนทบุรี), ผีเสื้อ 100 ม.ชาย อภิวิชญ์ ครัดทัพ (เชียงใหม่), ผีเสื้อ 100 ม.หญิง พริมา เพชรกูล (กรุงเทพฯ),ส่วนผลเหรียญทองกีฬาที่น่าสนใจ ยิมนาสติกลีลา ชิง 4 เหรียญทอง บุคคลแยกอุปกรณ์ ห่วงหญิง พิยดา พีรมธุกร (สุราษฎร์), บอลหญิง อาธิติยา สิมุฒิ (อุบล), คทาหญิง พิยดา พีรมธุกร (สุราษฎร์), ริบบิ้นหญิง อาริสา ตัณฑเทอดธรรม (กรุงเทพฯ) รวม ปอปอ พิยดาทำไปได้ทั้งหมด 3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง คว้าตำแหน่งราชินียิมนาสติกลีลา และยังได้รางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม, เรือพาย ชิง 12 เหรียญทอง ระยะ 200 ม. ปรากฏว่า สมุทรปราการ, เชียงใหม่ และนครศรีธรรมราช เก็บเพิ่มทีมละ 3 เหรียญทอง โดยสมุทรปราการได้จากเรือยาวมังกร 10 ฝีพาย, เรือยาว 5 ฝีพาย, เรือยาว 5 ฝีพายหญิง ส่วนเชียงใหม่ได้จากคยัก1 คนชาย นครินทร์ ขันแคล้ว, คยัก 1 คน ชาย รุ่น 15 ปี ปฐมฤกษ์ ยืนชัย, คยัก 1 คน หญิง รุ่น 15 ปี จณิสตา เอิ้นทะไชย และนครศรีธรรมราชได้จากแคนู 1 คน ชาย อัษฎาวุธ สุขใส, แคนู 2 คน ชาย, เรือยาวมังกร 10 ฝีพาย ชาย ขณะที่กรุงเทพฯได้ 2 เหรียญทอง จากคยัก 2 คน หญิง สุภาพร อันอาษา-ชลนิชา สุนารักษ์ และคยัค 1 คน หญิง ชลนิชาสุนารักษ์,ขณะที่คยัก 2 คน เป็นของกระบี่ สรุปผลงาน สมุทรปราการคว้าไปมากสุด 13 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดงมวยไทยสมัครเล่น ชิง 7 เหรียญทอง รุ่นเปเปอร์เวทหญิง จันทกานต์ มโนบาล (นครราชสีมา), รุ่นพินเวทหญิง รสริน มีชัย (ระนอง), รุ่นไลต์ฟลายเวทหญิง สุธาทิพย์ ทองตรีพันธุ์ (ตรัง), รุ่นฟลายเวทหญิง อภัสรา โกศล (สุรินทร์), รุ่นแบนตัมเวทหญิง วราพร ใจเที่ยง (นครราชสีมา), รุ่นเฟเธอร์เวทหญิง สภัสสร ทองดี (ศรีสะเกษ), รุ่นไลต์เวทหญิง อภิษฎา ทันท่าหว้า (นครปฐม) กาบัดดี้ ชิง 2 เหรียญทอง ทีมหญิง รุ่น 60 กก. เพชรบูรณ์, ทีมชาย รุ่น 65 กก. นครราชสีมา, จักรยาน ชิง 2 เหรียญทอง บีเอ็มเอ็กซ์ชาย โกเมธ สุขประเสริฐ (สุพรรณบุรี), บีเอ็มเอ็กซ์หญิง ธนาภรณ์ โตทอง (สุพรรณบุรี), สนุ้กเกอร์ ทีม 6 แดง จันทบุรี,สรุปเหรียญรางวัลที่แต่ละจังหวัดได้รับ เรียงตามลำดับเหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง 5 อันดับแรก ดังนี้ อันดับ 1 กรุงเทพฯ 84-80-91, อันดับ 2 ชลบุรี 36-32-32, อันดับ 3 นครศรีธรรมราช 33-31-35, อันดับ 4 นครราชสีมา 31-23-14, อันดับ 5 สุพรรณบุรี 27-27-26 | เงือกมิ้ง เบ็ญจมาภรณ์ สังขะวัตร์ จากกรุงเทพฯ ครองตำแหน่งราชินีสระ ขณะที่ จิรภัทร ริมประนาม จากกรุงเทพฯ ก็คว้าเจ้าสระฝ่ายชายส่งท้ายว่ายน้ำ ชุมพร-ระนองเกมส์ | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | เบ็ญจมาภรณ์ สังขะวัตร์,จิรภัทร ริมประนาม,การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ,ชุมพร-ระนองเกมส์,ว่ายน้ำ | https://www.thairath.co.th/sport/others/894547 |
ประภัตร ลุยอีสาน แจกเมล็ดพันธุ์ข้าวให้ชาวนา หลังถูกน้ำท่วมเสียหาย (คลิป) | วันที่ 6 พ.ย. ,นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์, กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวคุณภาพดี ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ปี 2563 ณ บ้านโพธิ์ตาก อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ด้านข้าว ระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2560-2564 สนับสนุนให้เกษตรกรมีการรวมตัวกันเพื่อการผลิตและจำหน่าย มีตลาดรองรับที่แน่นอน สามารถลดต้นทุน มีเป้าหมาย 18,800 กลุ่ม พื้นที่ 19,375 ล้านไร่ ใช้งบประมาณ 16,117.62 ล้านบาท โดยมีการส่งเสริมด้านการพัฒนาการผลิตข้าว เพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิต สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวและเครื่องจักรกลการเกษตร มีการถ่ายทอดความรู้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการตรวจรับรองตรวจคุณภาพ GAP แบบกลุ่ม พร้อมทั้งส่งเสริมการบริหารจัดการ โดยการจัดจ้างผู้จัดการแปลงมืออาชีพเพื่อบริหารจัดการกลุ่ม พัฒนาด้านการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายผลผลิตข้าว พร้อมทั้งมีการจัดทำแผนการผลิตข้าวให้สอดคล้องกับความต้องการการซื้อข้าว มีการจัดเวทีเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการเพื่อสร้างข้อตกลงด้านการตลาดข้าว ตลอดทั้งสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ อาทิ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมุ่งหวังที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับชาวนาไทยให้สามารถต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคในการทำนา โดยการยกระดับคุณภาพผลผลิตให้มีมาตรฐานเป็นที่ต้องการของตลาดโลกและการสร้างการเชื่อมโยงกับตลาดข้าวคุณภาพ จึงเป็นนโยบายที่สำคัญที่ภาครัฐได้เร่งผลักดัน เพื่อมุ่งหวังแก้ไขปัญหาด้านการผลิตและการตลาดข้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ,จากปัญหาภัยธรรมชาติในช่วงเดือน ส.ค. 2562 ที่ผ่านมา ชาวนาหลายพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน สร้างความเสียหายกับนาข้าวหลายล้านไร่ รัฐบาลจึงมีมติเห็นชอบอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณจำนวน 17,394.42 ล้านบาท เพื่อจัดเตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าวสำหรับช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวนา ซึ่งในวันนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้นำเมล็ดพันธุ์ดีจำนวน 13 ตัน เป็นพันธุ์ กข.49 ซึ่งเป็นชั้นพันธุ์หลัก นำไปเพาะปลูกฤดูนาปรัง ช่วยเหลือชาวนา โดยมอบให้ชาวนาผู้ประสบภัย และเลือกที่จะปลูกข้าวจำนาปรัง จำนวน 190 ราย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และสร้างขวัญกำลังใจให้พี่น้องชาวนานำไปใช้ในการจัดทำแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวในฤดูนาปรัง เพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวใช้ในฤดูถัดไป อย่างไรก็ตาม สำหรับพี่น้องเกษตรกรชาวนาที่ได้รับความเสียหายจากภัยดังกล่าว สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการตามแผนปฏิบัติการฟื้นฟูเยียวยาของภาครัฐ ซึ่งจะได้รับความช่วยเหลือต่อไป นายประภัตร กล่าว. | ประภัตร รมช.เกษตรฯ ลุยอีสาน แจกเมล็ดพันธุ์ข้าวดีให้ชาวนา เพื่อใช้ปลูกฤดูนาปรัง และผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีให้ชุมชน หลังประสบภัยน้ำท่วมนา ทำข้าวเสียหาย | ข่าว,การเมือง | ประภัตร โพธสุธน,แจกพันธุ์ข้าว,น้ำท่วมนา,แจกเมล็ดพันธุ์ข้าว,รมช.เกษตรและสหกรณ์,น้ำท่วมนาเสียหาย,วันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าว,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1698365 |
บุญเดือน 4 วิถีผู้ไท ร้อยศรัทธาในพระศาสนา-ความเชื่อต่อผีบรรพบุรุษ | ผ้าผะเหวดผืนเก่ากว่า 100 ปี สื่อเรื่องราวพระชาติสุดท้ายการบำเพ็ญทานบารมีของพระเวสสันดร ถูกแห่ไปรอบศาลาธรรมวัดหอไตร ด้วยศรัทธาของชาวผู้ไทบ้านเหล่าใหญ่ เป็นสัญลักษณ์ในงานบุญผะเหวด ที่ปฏิบัติสืบต่อกันไม่เคยขาด ขบวนศรัทธา ยังมาจากการบอกบุญพี่น้องในหมู่บ้านและต่างถิ่น ช่วยกันจัดหาปัจจัย เครื่องใช้จำเป็น เช่น หมอนลายขิด ผ้าห่ม เสื้อผ้า รวมเป็นกองบุญใหญ่ของเครือญาติ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ล่วงลับ แทนความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ ทำมาทุกปีเพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษ ลูกหลานอยู่ที่ไหนก็ต้องมา พระครูนิทานสุตกิจ เจ้าภาพขบวนกองบุญใหญ่บอกบุญไปยังญาติพี่น้องให้มาร่วม ทุกคนจะมาทำบุญร่วมกันจนเป็นกองบุญ สมจิตร แสงกล้า เจ้าภาพขบวนกองบุญใหญ่งานบุญเดือน 4 ของชาวบ้านผู้ไท ที่บ้านเหล่าใหญ่ปีนี้ ถือเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้าน คนอีสานเรียกว่า โฮมบุญค่ะ อย่างการตกแต่งด้วยธงทิวบอกที่มาของผ้าลายขิดเอกลักษณ์ผู้ไท ทำอุทิศให้กับผู้ล่วงลับ รวมถึงการทำเครื่องร้อยเครื่องพัน เป็นใยแมงมุมหรือบันไดสวรรค์ เพื่อระลึกถึงพระเวสสันดรในงานบุญผะเหวดเชื่อกันว่า หากฟังเทศน์มหาชาติจบ ครบ 13 กัณฑ์ในวันเดียว จะได้รับอานิสงค์มาก ท่ามกลางบรรยากาศป่าวงกตจำลองสถานปฏิบัติธรรมของพระเวสสันดรบนศาลาวัด ตกแต่งธรรมมาสน์ด้วยเครื่องบูชาในงานบุญผะเหวด เช่น ธงช่อ ธงชัย กระยองใส่ดอกไม้ พวงระย้าดอกไม้ป่า ตลอดจนใยแมงมุมและบันไดสวรรค์ สื่อถึงธรรมขั้นสูงและบารมีของพระเวสสันดร ล้วนเกิดจากความร่วมมือของชาวบ้านที่ตั้งใจสืบทอดงานบุญพ่อแม่ปู่ย่าพาทำก็ต้องทำ เป็นเครื่องร้อยเครื่องพัน ถ้าไม่ทำจะเกิดเพศภัย แต้ม สาระพล ชาวผู้ไท บ้านเหล่าใหญ่ จ.กาฬสินธุ์เป็นงานบุญที่เกิดจากความเชื่อของชาวผู้ไท ที่นับถือผีและพุทธ ณรงค์ชัย ไชยขันธุ์ กรรมการสภาวัฒนธรรมตำบลเหล่าใหญ่ จ.กาฬสินธุ์กว่า 200 ปีที่ชาวผู้ไท มาอาศัยภาคอีสาน สันนิษฐานถิ่นเดิมอาศัยอยู่ทางจีนตอนใต้ จนถึงวันนี้ยังสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับศาสนาได้อย่างเข้มแข็ง และจัดกิจกรรมสานเครือข่ายชาติพันธุ์ผู้ไททั้งในลาว เวียตนาม รวมถึงอีกหลายแห่ง และมีการแต่งกายเป็นเอกลักษณ์ เช่นเดียวกับชาวบ้านเหล่าใหญ่ที่ยังวิถีผู้ไท และอาศัยงานบุญผะเหวดร้อยใจคนในชุมชน | งานบุญเดือน 4 เป็นอีกนัดหมายใหญ่ที่ชาวผู้ไท อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกันจัดงานสำคัญ ร้อยศรัทธาในพระศาสนาและความเชื่อที่มีต่อผีบรรพบุรุษ เป็นงานบุญผะเหวดและงานกองบุญใหญ่ ที่มีความหมายกับจิตใจชาวบ้าน | ศิลปะ-บันเทิง | ความเชื่อ,บรรพบุรุษ,บุญเดือน 4,ผี,ผู้ไท,พระศาสนา,ศรัทธา | https://news.thaipbs.or.th/content/158387 |
โพลชี้ชัดโละ พณ.-คลัง-เกษตรวิษณุเซ็ง มโนโผครม.การเมืองกระเพื่อม | วิษณุ บ่นเซ็งสื่อมโนโผ ครม.ทำการเมือง กระเพื่อม สรณ เขินมีชื่อโผล่เสียบเก้าอี้ รมว.สธ. ยังสนุกกับเก้าอี้ สนช. หมอเจตน์ โดดหนุนคุณสมบัติครบเครื่อง เข้าได้กับหมอ 2 ขั้ว ปึ้ง ตีธงรัฐบาลนับถอยหลัง อุบไต๋ผู้นำคนใหม่กอบกู้ชาติ อ๋อย ฉะ ครม.ไร้ทิศทาง-ขาดจิตสำนึกทำเพื่อประชาชน ยุโละทีม รมต.ทหาร โพลมาแรงอยากเขี่ย ฉัตรชัย สุดๆ คลัง-พณ.-เกษตรฯงานไม่เข้าตา ทักษิณ เก็บตัวเงียบที่ดูไบ งดจัดวันเกิด 66 ปี ปู โพสต์เบิร์ธเดย์พี่ชาย ลูก 3 คน ร่วมอวยพรครบเซต เสื้อแดงกระจายกำลังจัดงานเลี่ยงกฎเหล็ก คสช. สุเทพ ลาสิกขาแน่ จ่อแถลงสวมบทใหม่ ปธ.มูลนิธิมหาประชาชนฯ,หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะมี การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำให้โผรายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกปรับออก และคนที่จะถูกแต่งตั้งเข้ามาแทนถูกโยนออกมาถามทาง,เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 26 ก.ค. ที่ซุ้มประตู เฉลิมพระเกียรติเยาวราช นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า รัฐมนตรีทุกคนเห็นตรงกันว่าเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีเพียงผู้เดียว ไม่เห็น ประโยชน์ที่ต้องถามเรื่องนี้กับบุคคลต่างๆ เพราะคำตอบที่ได้มาล้วนเป็นการคาดเดา ไม่ตรงความจริง วันนี้กระแสข่าวมา 2 ระลอก จะปรับจริงหรือไม่ ไม่มีใครทราบ มีการวิเคราะห์ใครจะไป หรือใครจะเข้ามา มีชื่อแต่ละบุคคลเข้ามาแทนแต่ละกระทรวง ซึ่งเป็นเรื่องที่เกินเลยไป และทำให้เกิดความกระเพื่อมในทางการเมือง ไม่มีประโยชน์และไม่ตรงกับความเป็นจริง ชื่อที่โผล่ออกมาขณะนี้ รวมแล้วตั้งรัฐบาลใหม่ได้ 1 ชุด เกินกว่าโควตาที่จะมีได้ ขอให้รอนายกฯตัดสินใจ หรือเป็นคนพูดดีกว่า คนอื่นพูดไปมีแต่เดาทั้งนั้น การปรับ ครม. ยังไม่มีความชัดเจน คนที่มีอำนาจ มีความชัดเจนคือนายกฯ,นายวิษณุยังกล่าวถึงข้อเสนอของคณะกรรมการปรองดองของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่เสนอว่าถ้ามีการปรับ ครม. ขอให้นำภาคเอกชนและ คนจาก 2 พรรคการเมืองใหญ่เข้ามาร่วมด้วย ว่า คณะกรรมการปรองดองเสนอมาหลายเรื่อง ทั้งการขออภัยโทษ นิรโทษกรรม การจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งตนมองว่าข้อเสนอเหล่านี้ไม่ผิดอะไร แต่เชื่อว่านายกฯคงได้ยินและทราบแล้ว ส่วนจะตัดสินใจอย่างไร ขึ้นอยู่กับนายกฯ ตนเป็น 1 ในรัฐมนตรี 36 คน ที่ทราบว่าอะไรควรพูด หรืออะไรไม่ควรวิจารณ์อะไร,นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกระแสข่าวมีชื่อเป็น รมว.สาธารณสุข แทน นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข ในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เพิ่งเห็นข่าวจากสื่อมวลชน ไม่ทราบเรื่องมาก่อน ที่ผ่านมาไม่เคยคิดจะเป็นรัฐมนตรี และยังไม่มีคนในรัฐบาลมาทาบทามให้ดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข ขณะนี้ยังสนใจทำงานเป็น สนช.อยู่ อย่างไรก็ตามหากมีการทาบทามให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ยังตอบไม่ได้ว่าจะเป็นหรือไม่,นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการสาธารณสุข สนช. กล่าวว่า นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ เป็นกรรมาธิการสาธารณสุขมา 1 ปี เป็นคน ขยัน ฉลาด เก่ง และเรียนรู้เร็ว ตนรู้ข่าวมาจากสื่อแต่ไม่รู้ว่าเป็นข่าวจริงหรือไม่ ถ้าเป็นจริงก็เหมาะสม เพราะ นพ.สรณเข้าได้กับทั้ง 2 ขั้วในกระทรวงสาธารณสุข ทั้งกลุ่มแพทย์ชนบทและกลุ่มในกระทรวง อย่างไรก็ตาม การปรับ ครม.เป็นดุลพินิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ถ้าเห็นว่าเหมาะสมหรือถึงเวลาก็ปรับ,ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากกระแสข่าวการปรับ ครม. ถือว่ารัฐบาลและ คสช.ต้องเริ่มนับถอยหลังแล้ว เพราะรัฐมนตรีที่ถูกปรับออกย่อมไม่พอใจ ยิ่งมีกระแสข่าว สปช.จะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญด้วย ล้วนไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล ยิ่งสถานการณ์ประเทศ โดย เฉพาะด้านเศรษฐกิจที่มีปัญหา พล.อ.ประยุทธ์จะมัวแต่ทำเป็นล้อเล่นทอล์กโชว์ไปวันๆไม่ได้แล้ว ถ้ารัฐบาลและ คสช.ไปไม่ไหวจริงต้องกล้ารับสภาพความเป็นจริง คืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งผู้นำประเทศก่อนจะสายเกินแก้ ต้องยอมรับว่าถึงผู้นำจะเก่งแต่ไม่เฮงก็ไม่สามารถนำพาประเทศไปได้ ถึงเวลาที่สุภาพบุรุษและอัศวินม้าขาวต้องรู้จักเสียสละ อย่าดันทุรัง ให้คนอื่นเข้ามาแก้ไขปัญหา ขอเตือนด้วย ความหวังดี ไม่อยากให้เกิดต้มยำกุ้งภาค 2,นายสุรพงษ์กล่าวอีกว่า ส่วนอดีต ส.ส.พรรค ประชาธิปัตย์บางคน เสนอให้เอาอดีตรัฐมนตรีสมัยต้มยำกุ้งภาค 1 เช่น นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการอังค์ถัด นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีต รมว.ต่างประเทศ เข้ามาแก้ปัญหาในนาม ครม.ปรองดอง ขอบอกว่าสถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ต้มยำกุ้งภาค 2 แล้ว คนที่จะแก้ได้ต้องเป็นผู้นำที่เป็นพระเอกตัวจริงเท่านั้น ส่วนจะเป็นใครรอให้คำทำนายของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำเป็นจริงก่อน หากเอ่ยชื่อบุคคลที่เป็นผู้นำประเทศคนต่อไป รับรองต่างชาติเชื่อมั่นประเทศไทย เศรษฐกิจฟื้นคืนชีพแน่นอน ส่วนจะเป็นใครขอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม อีกไม่นานเกินรอ รับรองเป็นคนเก่งแน่นอน,นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุถึงการปรับ ครม.ว่า ข้อเสนอให้มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ จะเป็นการโยนหินถามทาง หรือเกิดจากความคิดที่อยากให้เกิดขึ้นจริงไม่ทราบ แต่ผลโพลปรากฏว่ามีเสียงสนับสนุนอยู่มาก สะท้อนว่าคนจำนวนมากเห็นว่ารัฐบาลทำงานไม่ได้อย่างที่คาดหวังเสียแล้ว จึงอยากให้ปรับ ครม.ใหม่ และอาจ เกิดจากความรู้สึกว่ารัฐบาลนี้ประกอบด้วยบุคคลในวงที่จำกัด รัฐบาลแห่งชาติย่อมประกอบด้วยคนหลายฝ่าย คงแก้ปัญหาได้ดีกว่า แต่ถ้าอำนาจเบ็ดเสร็จยังอยู่ที่ คสช. การไปเชิญคนหลายฝ่ายมาร่วมรัฐบาล ย่อมไม่อาจเป็นไปได้ รัฐบาลแห่งชาติจึงไม่อาจเกิดขึ้นได้แน่ แต่คนจำนวนไม่น้อยยังฝากความหวังไว้กับการปรับ ครม. เพราะเห็นว่ารัฐบาลแก้ปัญหาประเทศไม่ได้ หรือพูดได้ว่าล้มเหลวไม่เป็นท่าแล้ว,นายจาตุรนต์ระบุอีกว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ไม่ทำให้รัฐบาลแก้ปัญหาประเทศได้ ส่วนใหญ่ของ ครม.ประกอบด้วย บุคคลไม่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์บริหารประเทศ ไม่มีจิตสำนึกที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะ ครม.ชุดนี้อยู่ภายใต้การนำอันเบ็ดเสร็จของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งขาดความรู้ ความสามารถและประสบการณ์บริหารงานนโยบาย และมีบุคลิกไม่ฟังใคร การ ทำงานจึงไร้ทิศทาง แต่ปัญหาตัวบุคคลยังไม่สำคัญเท่ากับปัญหาระบบ การที่ ครม.ชุดนี้มาเป็น ครม.ได้ เพราะระบบการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย การจะไปหาผู้มีความรู้ความสามารถ เป็นที่ยอมรับ ของสังคมมาร่วมงาน ย่อมทำได้ยาก เพราะเป็นระบบ ที่ขาดความชอบธรรม ไม่ว่าจะปรับ ครม.อย่างไรก็ไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆได้,นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ให้โอกาสแสดงฝีมือเกือบครบปีแล้ว ส่วนตัวเห็นว่าควรปรับทหารที่เป็น ครม.ออกทั้งหมด ยกเว้นกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย ส่วนนายกฯขอให้พิจารณาตัวเอง แม้ ครม.ที่เป็นทหารจะมีความปรารถนาดีตั้งใจแก้ปัญหา แต่ความรู้ความสามารถที่มี เป็นคนละด้านกับงานที่รับ ผิดชอบ การให้ทหารไปเจรจาเรื่องการค้า ทำให้ภาพ ลักษณ์ออกมาไม่ดี ส่วนกระแสข่าวจะให้ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ มาเป็น รมว.สาธารณสุขแทนนั้น เห็นว่าเหมาะสม เพราะเป็นคนดี มีความรู้ ความสามารถ และตั้งใจ ที่สำคัญไม่ได้มาจากขั้วใด น่าจะ ทำงานร่วมกับข้าราชการและแพทย์ชนบทได้ดี,นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส. กล่าวว่า การปรับ ครม.ต้องประเมินก่อนว่าในภารกิจที่มอบให้แต่ละกระทรวงบรรลุเป้าหมายหรือไม่ คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์รู้ดีว่าผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนั้นต้องทำงานภายใต้ความเชื่อถือของประชาชน และต้องไม่ทำให้ความขัดแย้งเกิดขึ้น เพราะภารกิจของคสช. คือ เข้ามาเพื่อให้เกิดการปฏิรูปและขจัดเงื่อนไขความขัดแย้งทางการเมือง เมื่อถามว่า มีการเสนอให้นำฝ่ายต่างๆเข้ามาร่วม เพื่อเป็น ครม.ปรองดอง,นายสาทิตย์ตอบว่า ไม่แน่ใจว่าการนำเอานักการเมืองซีกต่างๆเข้ามา จะขจัดเงื่อนไขความขัดแย้งได้หรือไม่ ในส่วนของ กปปส.เราอยู่ในฐานะของผู้เฝ้าดู ยืนยันว่าไม่เข้าร่วมแน่นอน อยากให้ คสช.ปฏิรูปไปดีกว่า พรรคเล็กโหมโรงรอวันลงสนาม,นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ กล่าวว่า ติดตามการทำงานของ รมว.ศึกษาธิการและ รมช.ศึกษาธิการมาตลอด พบว่าไร้กึ๋นทำให้การศึกษา ถอยหลัง ถึงจะใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 44 จัดการมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่ได้ทำให้ดีขึ้น ดังนั้น นอกจากจะปรับ ครม.ด้านเศรษฐกิจทั้งหมดแล้ว ขอเสนอให้ปรับในส่วนกระทรวงศึกษาธิการด้วย เพื่อเปิดทางให้ ครูที่มีความรู้ ความสามารถเข้ามาเป็นแทน ส่วนการยกร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ อยากให้ สปช.โหวตรับ เพื่อเปิดช่องให้มีการเลือกตั้งเร็ว ที่สุด ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่รอการเลือกตั้งอย่างเดียว พรรคประชาธิปไตยใหม่จึงเร่งลงพื้นที่ในภาคอีสาน เพื่อหาผู้สมัคร ส.ส.ให้ครบ 450-470 คน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด,อีกด้าน นิด้าโพลเปิดผลสำรวจเรื่อง ได้เวลาปรับคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์หรือยัง โดยพบว่ารัฐมนตรีที่ควรถูกปรับออกมากที่สุด เรียงตามลำดับ ได้แก่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงาน นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมช.ต่างประเทศ นายกฤษณพงศ์ กีรติกร รมช.ศึกษาธิการ,นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหมนายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำ สำนักนายกฯ นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รมช.สาธารณสุข ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายพรชัย รุจิประภา รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม และนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี,เมื่อถามถึงความคิดเห็นที่มีต่อกระแสข่าวจะมีอดีตนักการเมืองเข้ามาดำรงตำแหน่งในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ พบว่า ร้อยละ 47.74 เห็นด้วย เพราะถือว่ามีประสบการณ์ น่าจะมีความรู้ ความสามารถและความเข้าใจปัญหาได้ดีกว่า ร้อยละ 36.68 ไม่เห็นด้วย เพราะกังวลว่าจะมีความล่าช้า เกิดปัญหาเดิมๆ โดยเฉพาะการทุจริตคอร์รัปชัน มีผลประโยชน์แอบแฝง ประเทศไทยจะกลับเข้าสู่วังวนเดิม,ขณะที่สวนดุสิตโพล เปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง ประชาชนคิดอย่างไรกับการ ปรับ ครม.ประยุทธ์ 2 พบว่าร้อยละ 68.11 เห็นด้วย มีร้อยละ 7.38 ไม่เห็นด้วย โดยจัดลำดับ 3 กระทรวงแรกที่ควรมีการปรับรัฐมนตรี ได้แก่ กระทรวงการคลัง เพราะสภาพเศรษฐกิจย่ำแย่ ไม่สามารถแก้ปัญหาให้ดีขึ้นได้ กระทรวงพาณิชย์ เพราะสินค้ายังคงมี ราคาแพง ประชาชนแบกภาระค่าใช้จ่ายสูง รัฐไม่สามารถควบคุมราคาได้ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรได้ โดยเฉพาะภัยแล้ง สำหรับสิ่งที่ประชาชนคาดหวังหลังการปรับ ครม. ส่วนใหญ่หวังว่าจะได้คนดีมีฝีมือเข้ามาทำงาน ทำให้เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น โดยสิ่งที่ประชาชนอยากฝากถึง ครม.ทั้งชุดเก่าและชุดใหม่ ขอให้เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต,สำหรับความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 66 ปี วันที่ 26 ก.ค.นั้น พ.ต.ท.ทักษิณยังคงงดจัดงานเลี้ยงวันเกิดเป็นปีที่สองติดต่อกัน เพราะอยากให้อดีต ส.ส. และแกนนำอยู่เฉยๆ ไม่อยากให้เคลื่อนไหวให้ คสช.เกิดความหวาดระแวง ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณพักอยู่ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ทำให้หลายคนไม่สะดวกที่จะเดินทางไปพบ เนื่องจากแกนนำส่วนหนึ่งถูกคำสั่ง คสช. ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ โดยต้องขออนุญาต คสช.ก่อน ขณะที่ก่อนหน้านี้มีอดีต ส.ส.หลายคนเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่ออวยพรวันเกิดล่วงหน้าแล้ว ดังนั้น อดีต ส.ส.หลายคนจึงใช้วิธีโพสต์ข้อความผ่านไลน์ส่งไปอวยพรวันเกิดแทน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณได้ส่งข้อความขอบคุณตอบกลับอดีต ส.ส.ทุกคน,วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายก-รัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวอวยพรเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ 66 ปี ในวันที่ 26 ก.ค. ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมรูปภาพที่กอดกับ พ.ต.ท.ทักษิณจำนวน 9 รูป โดยระบุว่า วันเกิดครบรอบปีที่ 66 ของพี่ในวันนี้ ขอให้พี่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีกำลังใจดีเป็นที่รักของทุกคนตลอดไป อยากมีโอกาสกอดพี่ตอนวันเกิดทุกปีนะคะ รักพี่มากค่ะ,ด้านบุตรทั้ง 3 คนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้แก่ นายพานทองแท้ ชินวัตร นางพินทองทา คุณากรวงศ์ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ต่างโพสต์อวยพรวันเกิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณผ่านอินสตาแกรมของตัวเอง โดยนางพินทองทาโพสต์อินสตาแกรมรูปที่ พ.ต.ท.ทักษิณกอดและอุ้มหลานสาวทั้ง 2 คน พร้อมข้อความว่า ปีนี้ขอบินไปกอดช้า 10 วันนะคะ แต่รับรองคุ้มรอนะคะ เพราะวันเกิดปีนี้มีคนกอดเพิ่มอีก 2 รักเจ้าของวันเกิดที่สุดเลยค่า ขณะที่อินสตาแกรมนายพานทองแท้ โพสต์ภาพการสนทนาแบบวีดิโอคอล ระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กับหลานสาวทั้งสองคน,ส่วน น.ส.แพทองธาร บุตรสาวคนเล็ก โพสต์อินสตาแกรมอวยพรว่า มีหลายคนเคยพูดว่า ลูกเข้มแข็งที่ผ่านเรื่องราวต่างๆมาได้ ในใจลูกคิดเสมอว่าเบื้องหลังความเข้มแข็ง คือ ครอบครัวที่เข้มแข็ง พ่อซึ่งเจออะไรมากกว่าลูกหลายเท่า วันนี้ยังมองโลกในแง่ดีเสมอ ให้อภัยคนที่ทำร้ายได้ทุกเมื่อ ลูกหวังว่าวันนึงจะเป็นได้ครึ่งนึงของพ่อเท่านั้นค่ะ ดีใจที่ได้มาอยู่กับพ่อทุกๆปี จะรอวันที่พ่อกลับไปเป่าเค้กวันเกิดพร้อมหน้ากันค่ะ รักพ่อเสมอ ทั้งวันที่คนห้อมล้อมและวันที่ไม่มีใครรอบตัว เกิดอีกกี่ทีก็ขอเป็นลูกพ่อคนนี้คนเดียว รักพ่อสุดหัวใจ,ขณะที่บริเวณวิหารวัดศรีบุญเรือง จ.เชียงใหม่ กลุ่มรักเชียงใหม่พร้อมใจกันเดินทางมาทำบุญในวันคล้ายวันเกิดครบ 66 ปี ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยแต่ละคนจัดเตรียมอาหารมาถวายพระสงฆ์ โดยมีพระครูสุเทพสิทธิคุณ หรือหลวงพ่อพันเทวาเพ่งตะวัน เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง เกจิชื่อดังมารับบิณฑบาต พร้อมสวดเจริญภาวนา และนำผู้มาร่วมงานทั้งหมดนั่งสมาธิเป็นเวลา 30 นาที จากนั้นทั้งหมดร่วมกันร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมกล่าวอวยพรขอให้กลับมาบ้าน ทุกคนยังเฝ้ารออยู่ และที่สร้างความฮือฮาเมื่ออ่างน้ำมนต์ที่พระครูสุเทพสิทธิคุณ ทำพิธีหยดเทียนลงไป น้ำตาเทียนลอยวนในอ่างมีตัวเลขเด่นชัดเป็นที่ฮือฮา ทุกคนต่างพากันถ่ายภาพและมั่นใจว่าจะเป็นตัวเลขให้โชคลาภ,ส่วนที่ จ.แพร่ ตำรวจและทหารเข้าตรวจสอบถนนสาย 1023 ถนนสายลอง-แพร่ หลัก กม.ที่ 5-6 ต.ป่าแมต อ.เมืองแพร่ หลังพบมีป้ายไวนิล ขนาด 1 เมตร ×80 เซนติเมตร แขวนกับต้นไม้สักข้างทาง มีข้อความว่า 26 ก.ค.นี้ ขอให้นายกฯทักษิณ ชินวัตร อายุยืนนานหมื่นๆปี จึงทำการปลดลงและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ.ในจังหวัดแพร่ ออกประกาศทางวิทยุให้สายตรวจทุกพื้นที่ตรวจสอบว่ามีการติดตั้งป้ายอีกหรือไม่ หากมีให้รีบรายงานผู้บังคับบัญชาโดยด่วน,นอกจากนี้ ตลอดทั้งวันมวลชนเสื้อแดงหลายกลุ่มที่ยังศรัทธาใน พ.ต.ท.ทักษิณ อาศัยช่องทางโซเชียลมีเดีย นัดหมายรวมตัวกันเงียบๆเพื่อจัดกิจกรรมอวยพรวันเกิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยพยายามหลีกเลี่ยงการถูกเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจเข้าไปสั่งห้าม อาทิ ที่บริเวณใต้ถุนแฟลตดินแดง ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านถนนพระราม 2 แต่ที่คึกคักที่สุดคือบริเวณชั้น 5 ศูนย์การค้าอิมพีเรียลลาดพร้าว ที่มีการจัดกิจกรรมฉลองวันเกิดให้อดีตนายกฯถึง 2 งาน คือในห้องสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์เพื่อประชาชน และหน้าศูนย์หนังสือจักรภพ เพ็ญแข โดยมวลชนร่วมกันกล่าวอวยพร และร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ เป่าเทียน และตัดเค้กวันเกิดอย่างชื่นมื่น แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มีกำลังทหารที่ควบคุมพื้นที่ดังกล่าว เข้าไปห้ามปรามการจัดงานเหมือนเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา,ทางด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. พระเชน อาภาธโร พระน้องชายพระสุเทพ ปภากโร เปิดเผยถึงกำหนดการลาสิกขาของพระสุเทพ ปภากโร และพระที่เป็นอดีตแกนนำ กปปส. ว่า กำหนดไว้ช่วงเช้าวันที่ 28 ก.ค. หลังจากนั้นจะร่วมกันถวายเพลพระ ที่วัดท่าไทร อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี โดยพระสุเทพจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการดำเนินการกิจกรรมของมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปแห่งประเทศไทย ท่านจะเป็นประธานมูลนิธิ ซึ่งกิจกรรมแรกที่จะจัดคือ การจัดตั้งวิทยาลัยอาชีวะ เพื่อเปิดสอนในระดับ ปวช. ในพื้นที่ อ.เกาะสมุย นอกจากนั้น ยังมีโครงการจัดสร้างหมู่บ้านผู้สูงอายุอีกหลายพื้นที่ โดยทั้ง 2 โครงการจะดำเนินการภายใต้มูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ มีพระภาวนาโพธิคุณ เป็นที่ปรึกษา,พระชินวรณ์ จันทสาโร กล่าวว่า โครงการจัดตั้งวิทยาลัยอาชีวะของมูลนิธินั้น เป็นแนวคิดของพระภาวนาโพธิคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดธารน้ำไหล (สวนโมกขพลาราม) ประธานมูลนิธิทีปภาวัน ที่จะเปิดสอนเยาวชนในระดับ ปวช. ในลักษณะโรงเรียนวิถีพุทธ มุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงหลักธรรมแนวคิดทางศาสนาพุทธ และนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันควบคู่กับการประกอบอาชีพ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุญาตจัดตั้งสถานศึกษาต่อกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้ชื่อวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ ส่วนสถานที่ตั้งนั้น คาดว่าจะใช้พื้นที่,ของสำนักปฏิบัติธรรมเวียงธรรม ต.หน้าเมือง อ.เกาะสมุย และมีกำหนดจะรับนักศึกษาในปีการศึกษา 2559,วันเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่า แนวทางการทำงานของ สปช.ช่วงเวลาที่เหลือนี้ งานปฏิรูปประเทศของคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ คงเสร็จสิ้นไม่เกินวันที่ 10 ส.ค. จากนั้นเตรียมศึกษาเนื้อหาของรัฐธรรมนูญที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจะส่งให้ สปช.ในวันที่ 22 ส.ค. ขณะนี้อยู่ในขั้นเตรียมศึกษาประสานแนวร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของแต่ละกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มปฏิรูปการเมือง และกลุ่มปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม จะเป็นหัวหอกศึกษาประเด็นในร่างรัฐธรรมนูญอย่างละเอียด เพื่อประมวล และประเมินร่างรัฐธรรมนูญ ชี้ให้เห็นถึงจุดเด่นจุดด้อย จุดใดรับได้หรือรับไม่ได้ จากนั้นจะแถลงให้ประชาชนทราบ เพื่อให้วิพากษ์ วิจารณ์อย่างกว้างขวาง และนำมาประกอบการพิจารณาโหวตลงมติ ขณะนี้มีการประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นรายกลุ่มและรายบุคคล เช่น กลุ่ม สปช.จังหวัด สายอดีตข้าราชการ สายนักวิชาการ เอ็นจีโอ ให้เคลื่อนไหวในแนวทางเดียวกัน ว่าจะให้รัฐธรรมนูญผ่านหรือไม่ผ่าน,นายวันชัยกล่าวว่า เท่าที่หารือเบื้องต้น เกือบทุกกลุ่มเห็นพ้องว่าหมวดการเมืองเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าการเมือง นักการเมืองดี ทุกสิ่งตามร่างรัฐธรรมนูญจะดีไปหมด แต่ถ้านักการเมืองไม่ได้เรื่อง ทุกสิ่งจะบิดเบี้ยว จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบแบบขึงพืด โดยเฉพาะประเด็นที่มานายกฯ การเลือกตั้ง ส.ส.แบบสัดส่วนผสม และที่มา ส.ว. ที่ส่วนใหญ่เห็นว่าเนื้อหาที่แก้ไขไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากร่างเดิม และอีกประเด็นที่ต้องพิจารณา คือ การปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจโหวตรับหรือไม่รับรัฐธรรมนูญ,อีกเรื่อง นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกพรรคการเมืองบางพรรคออกมาตำหนิรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในอดีตว่า อยากให้ย้อนกลับไปดูตอนที่สมาชิกพรรคบางพรรค พร้อมแกนนำออกมาประท้วงเป่านกหวีด ว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบันใช่หรือไม่ อยากให้เลิกตรรกะวิบัติ เพราะได้สร้างปัญหาให้ประเทศอย่างมหาศาลตั้งแต่ที่เคยบอกว่า เชื่อมั่นในระบบรัฐสภา แต่กลับสนับสนุนการรัฐประหาร ขอให้บางพรรคปฏิรูปตัวเอง เลิกตรรกะวิบัติ เพื่อประคองตัวไปวันๆ เพราะไม่มีวันชนะใจประชาชนในการเลือกตั้ง,ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอคัดค้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ที่เสนอร่างกฎกระทรวงต่อนายกฯ โดยมีสาระสำคัญให้ตัดอำนาจสอบสวนของผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอออก โดยให้อำนาจสอบสวนขึ้นกับตำรวจฝ่ายเดียว หากนายกฯลงนามในกฎกระทรวงนี้ จะทำให้ประชาชนทั้งประเทศเสียสิทธิ เสียประโยชน์ ถือว่า สตช.กำลังลักไก่หมกเม็ด ยัดไส้เพื่อยึดอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ ดังนั้น วันที่ 27 ก.ค.นี้ตนจะไปยื่นคัดค้านต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล และสนับสนุนให้ปฏิรูป สตช. แยกอำนาจการสอบสวนทั้งหมดออกให้เป็นอิสระจาก สตช.,นายวัชระกล่าวอีกว่า ส่วนการคัดเลือกกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)ชุดใหม่ที่ผ่านมา เกิดคำถามว่าทำไมมาตรฐานการสรรหา กสม.ถึงตกต่ำลง ถูกวิจารณ์มากว่าองค์กรอิสระนี้เป็นโบนัสของข้าราชการเกษียณหรือไม่ ทั้งที่ควรมาจากกลุ่มบุคคลที่ทำงานส่งเสริมต่อสู้เรื่องสิทธิมนุษยชนให้เป็นที่ประจักษ์ แต่กลับปรากฏว่าเป็นคนที่ไม่มีผลงานด้านสิทธิมนุษยชนเป็นที่ประจักษ์เลย ใน 7 คนมีเพียงคนเดียวเท่านั้น จึงขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ อย่าลืมปณิธานวันที่ยึดอำนาจ อย่าให้ลาภยศสรรเสริญมารบกวนความตั้งใจในการปฏิรูปประเทศ | พท.ยุปรับทีมรมต.ทหาร ปูโพสต์เบิร์ธเดย์ทักษิณ วิษณุ บ่นเซ็งสื่อมโนโผ ครม.ทำการเมือง กระเพื่อม สรณ เขินมีชื่อโผล่เสียบเก้าอี้ รมว.สธ. ยังสนุกกับเก้าอี้ สนช. หมอเจตน์ โดดหนุนคุณสมบัติครบเครื่อง เข้าได้กับหมอ 2 ขั้ว | null | ข่าวหน้า1,ปรับครม.,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,วิษณุ เครืองาม,สปช.,รัฐบาล,นิด้าโพล,ผลสำรวจ,ฉัตรชัย สาริกัลยะ,อภิรดี ตันตราภรณ์,ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา,สวนดุสิตโพล,ความคิดเห็นประชาชน,ทักษิณ ชินวัตร,อวยพรวันเกิด,วันชัย สอนศิริ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/514359 |
แซมบ้า หรือฟ้าขาว | หลุดเข้ามาเพียง 4 ทีมสุดท้ายเท่านั้น ซึ่งได้แก่ เจ้าภาพ บราซิล, อาร์เจนตินา, เปรู และชิลี แชมป์เก่า 2 สมัยติด,โดยคู่เอกในรอบตัดเชือกจะเป็นคู่ไหนไปไม่ได้ นอกจากศึกยักษ์ชนยักษ์ ระหว่าง แซมบ้า บราซิล ปะทะ ฟ้าขาว อาร์เจนตินา ซึ่งจะเตะกันในช่วงเช้าเวลา 07.30 น.ของวันพุธที่ 3 ก.ค.นี้ ตามเวลาไทย และแฟนบอลรับชมการถ่ายทอดสดของคู่นี้ได้ทางพีพีทีวี เอชดี ช่อง 36,เจ้าภาพ บราซิล กว่าจะผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศก็เล่นเอาหืดขึ้นคอ หลังจากทำอะไรปารากวัยที่เล่นแค่ 10 คนในเกม 90 นาทีไม่ได้ ก่อนเสมอกันโนสกอร์ 0-0 ทำให้ต้องตัดสินหาผู้ชนะด้วยการยิงจุดโทษ,ซึ่งผลดวลเป้าปรากฏว่า อลิสสัน เบคเกอร์ นายทวารมือกาวจาก หงส์แดง ลิเวอร์พูล โชว์ซุปเปอร์เซฟได้หนึ่งจุดโทษ จนช่วยให้บราซิล เอาชนะปารากวัย ในการดวลจุดโทษ 4-3 ผ่านเข้ารอบตัดเชือกได้เป็นทีมแรก,ในขณะที่ ฟ้าขาว อาร์เจนตินา ที่นำทัพโดยลิโอเนล เมสซี ยอดกองหน้าจากบาร์เซโลนา ยิ่งเล่นก็ยิ่งแกร่ง เมื่อไล่ทุบเอาชนะ แข้งนางงาม เวเนซุเอลา ได้แบบไม่ยากเย็น 2-0 ในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยนัดนี้ เลาตาโร มาร์ติเนซ และ โจวานี โล เซลโซ ช่วยกันซัดคนละเม็ดให้ทีมฟ้าขาว,ทำให้อาร์เจนตินา ทะลุเข้ามาประชันเพลงแข้งกับคู่ปรับตลอดกาลอย่างบราซิล ในรอบรองชนะเลิศ เพื่อกรุยทางสู่การเถลิงบัลลังก์แชมป์เจ้าลูกหนังแห่งทวีปอเมริกาใต้,บราซิลห่างเหินจากการเป็นแชมป์โคปา อเมริกา มานานถึง 12 ปี โดยขุนพลทีมแซมบ้าคว้าแชมป์รายการนี้หนสุดท้ายเมื่อปี 2007,ดังนั้นปีนี้ บราซิลจึงตั้งเป้าที่จะคว้าแชมป์ถ้วยนี้บนแผ่นดินตัวเองให้ได้,ขณะที่ ฟ้าขาว อาร์เจนตินา ของลิโอเนล เมสซี ต้องอกหักชวดแชมป์โคปา อเมริกาถึง 2 สมัยติดต่อกัน ทั้งที่ทะลุเข้าชิงชนะเลิศ ในปี 2015 และ 2016 แต่ก็พ่ายให้กับชิลีทั้งสองครั้ง,ซึ่งทำให้เมสซีเสียอกเสียใจอย่างมาก จนถึงกับเลิกเล่นทีมชาติไปพักใหญ่เลยทีเดียว,แต่ศึกโคปาฯหนนี้ เมสซีวาดหวังจะพาทัพ ฟ้าขาว ผงาดซิวแชมป์เจ้าลูกหนังแห่งละตินอเมริกาให้ได้ เพื่อเป็นการทิ้งทวนก่อนที่เขาจะอำลาทีมชาติไป,แน่นอนว่าการเจอกันระหว่างบราซิลกับอาร์เจนตินา ถือเป็นมวยถูกคู่ (แม้จะไม่ได้เจอกันในรอบชิงก็ตาม),อย่างไรก็ดี บราซิลชุดนี้ ไม่มีเนย์มาร์ กองหน้าซุปเปอร์สตาร์ ที่บาดเจ็บก่อนทัวร์นาเมนต์นี้จะเริ่มขึ้น แต่ยังมีฟิลิปเป คูตินโญ กองกลางตัวรุกจากบาร์เซโลนา, โรแบร์โต ฟีร์มิโน กองหน้าจากลิเวอร์พูล และกาเบรียล เชซุส หัวหอกจากแมนฯซิตี้ เป็นสามประสานแดนหน้า,ส่วน ฟ้าขาว อาร์เจนตินา นอกจาก ลิโอเนล เมสซีแล้ว ก็ยังมีเลาตาโร มาร์ติเนซ และเซร์คิโอ อเกวโร เป็นตัวอันตรายในแนวรุก,หากเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้ว ต้องยกให้บราซิลเป็นต่อและเหนือกว่าอาร์เจนตินา อยู่ประมาณครึ่งช่วงตัว,ต้องมาลุ้นกันว่าบราซิล หรืออาร์เจนตินา ทีมใดจะได้ไปต่อ สำหรับการคว้าแชมป์โคปา อเมริกา 2019.,หมวดแซม | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งทวีปอเมริกาใต้ หรือโคปา อเมริกา 2019 ที่ประเทศบราซิล เดินทางถึงรอบรองชนะเลิศที่เหลือทีมระดับหัวกะทิ | null | โคปา อเมริกา,โคปา อเมริกา 2019,บราซิล,ลิโอเนล เมสซี,ฟิลิปเป คูตินโญ,ตะลุยฟุตบอลโลก,หมวดแซม | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1604706 |
เปิดใจนักศึกษาไทย หลังจีน ปิดเมืองอู่ฮั่น | วันนี้ (26 ม.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังประเทศจีนได้ประกาศปิดเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยปิดระบบการขนส่งสาธารณะ และการเดินทางระหว่างเมือง ซึ่งล่าสุดสำนักข่าวซินหัว รายงานว่าคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) ประกาศจำนวนผู้ป่วยโรคไวรัสโคโรนา 1975 คน เป็นผู้ป่วยวิกฤต 324 คน และเสียชีวิต 56 คน (ข้อมูล 25 ม.ค.)นอกจากนี้ ในภูมิภาคระดับมณฑล 30 แห่งของจีน ได้แก่ มองโกเลียใน หนิงเซี่ย เฮยหลงเจียง จี๋หลิน เหลียวหนิง ซานซี ส่านซี เหอหนาน กานซู่ ชิงไห่ ซินเจียง และไห่หนาน ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับสูงสุดตามภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศนักศึกษาไทย 67 ชีวิตในเมืองอู่ฮั่นหลังปิดเมืองไทยพีบีเอส ได้ตรวจสอบความเป็นอยู่ของนักศึกษาไทยในเมืองอู่ฮั่น หลังประกาศปิดเมือง ซึ่งน.ส.ณัฐพร พันสุภะ นักศึกษาระดับปริญญาโท แพทย์แผนจีน เมืองอู่ฮั่น กล่าวว่า ใช้ชีวิตยากลำบาก ในเรื่องของการเดินทาง กับเรื่องอาหารการกิน เนื่องจากมีการปิดระบบขนส่งมวลชน ทำให้ไม่สามารถออกไปไหนได้ ขณะที่อาหารมีราคาแพงขึ้นอาจจะกระทบกับค่าใช้จ่ายของนักศึกษาไทยที่อยู่ในเมืองอู่ฮั่น 67 คน ซึ่งได้มีการตั้งกลุ่มเพื่อหารือกันและติดต่อสื่อสารกันน.ส.ณัฐพร กล่าวอีกว่า สำหรับการป้องกันโรคไวรัสโคโรนา ทางการจีนมีการควบคุมคนที่จะออกนอกประเทศ และฆ่าเชื้อในห้างสรรพสินค้า พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือดี ส่วนนักศึกษามีการรับมือพูดคุยผ่านระบบห้องข่าวกลุ่ม ก็ยอมรับว่ามีเพื่อนหลายคนอยากกลับไทย แต่คงต้องรอให้สถานการณ์คลีคลายก่อนอ่านคนไทยบรรยายสภาพเมืองอู่ฮั่นขณะที่ โพสต์เฟซบุ๊กว่า มะกี้เราลงไปตุนของกินมา ความรู้สึกเหมือนในหนังเลย รถบนถนนไม่มี ตลาดปิด ทุกอย่างปิด มีซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ เปิดอยู่ร้านเดียว มีเจ้าหน้าที่มาคุมใครไม่ใส่แมสไม่ให้เข้า พอเข้าไปมีคนมาตุนของอยู่ 5-6 คน ทุกคนดูรีบๆอะไรหยิบได้หยิบ เดินห่างๆกันแบบระแวงๆ มองหน้ากันตลอด ขนลุกของกินเหลือแต่มาม่า ขนมปัง ไส้กรอก ของกินเหลือไม่เยอะมาก ของสดในซูเปอร์ไม่เหลือเลย เราเลยได้แค่ ขนมปัง มาม่า แล้วก็นมโคตรน่ากลัวอะ ถ้ารอดไปได้จะเล่าให้ลูกหลานฟัง#อู่ฮั่นฉันต้องรอดล่าสุด ได้โพสต์ว่าขอขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงและขออภัย ที่มีแหล่งข่าวจากหลายสำนักขอสัมภาษณ์แต่ไม่ให้สัมภาษณ์ เพราะมีหลายประเด็นที่ไม่ได้รู้ลึก ซึ่งการให้สัมภาษณ์มันจะเป็นดาบสองคมและจะทำให้หลายคนวิตกกังวลไปไกล โดยระบุว่าคนไทยที่อยู่ที่อู่ฮั่น มีประมาณ 50-60 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาส่วนใหญ่พักอาศัยอยู่ในเขตมหาวิทยาลัยจึงมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง เนื่องจากคนไม่พลุกพล่านเพราะเป็นช่วงมหาวิทยาลัยปิดเทอมภาพ:เฟซบุ๊ก ณัฐวุฒิ เอี่ยมเนตรสถานการณ์ปัจจุบันเมืองอู่ฮั่นเงียบจริงๆ ไม่เปิดตลาดหรือห้างร้าน อาจเพราะอยู่ในช่วงตรุษจีนด้วยส่วนหนึ่ง และการเดินทางเป็นไปได้ยากเนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ใช้ระบบการขนส่งสาธารณะ แต่ปัจจุบันหยุดให้บริการไปแล้วประชาชนที่จำเป็นต้องออกไปข้างนอก หรือจำเป็นต้องไปโรงพยาบาล สามารถโทรศัพท์ไปที่สำนักงานเขตที่ตนเองอาศัย จะมีรถที่ทางรัฐจัดมารับส่งนอกจากนี้ ปัจจุบันยังไม่เกิดสภาวะขาดแคลน จึงบอกไม่ได้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปประชาชนในอู่ฮั่น ต่างเก็บตัวอยู่ในบ้าน และให้ความร่วมมือกับรัฐบาลดีมากอยากกลับไทย-อาหารไม่เพียงพอ-กลัวโรคนอกจากนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก is at WuhanUniversity โพสต์ข้อความว่า เราเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น ขอแจ้งสถานการณ์จริงของแท้ที่นักศึกษาส่วนใหญ่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่มีอาหารเพียงพอเพราะไม่ไต้ซื้ออาหารกักตุนไว้เนื่องจากไต้รับแจ้งเรื่องการปิดเมืองกระทันหันมาก และไม่สามารถออกไปหาซื้อที่ไหนได้ เพราะเดินทางไปไหนไม่ได้ร้านซุปเปอร์ใกล้มหาลัยก็ขาายหมดเกลี้ยง ไม่มีอะไรเหลือถ้ายังอยู่ต่อ ไม่รู้ว่จะอดอาหารตาย หรือติดเชื้อตายอยากกลับบ้านมากรอด้วยความหวังสถานทูตไทย แนะปฏิบัติตามทางการจีนเคร่งครัดขณะที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง รายงานเรื่องการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายหลังเมื่อวันที่ 23 ม.ค. เวลา 10.00 น. รัฐบาลจีนได้ประกาศระงับระบบคมนาคมสาธารณะที่จะออกจากนครอู่ฮั่น ได้แก่ เครื่องบิน รถไฟ รถโดยสาร และเรือ รวมถึงปิดทางหลวงระหว่างเมือง และขอความร่วมมือไม่ให้ประชาชนเดินทางออกจากนครอู่ฮั่นหากไม่มีความจำเป็นสถานเอกอัรราชฑูตฯ จึงขอแจ้ง ดังนี้ ขอให้ชาวไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเฉพาะที่อาศัยอยู่ในนครอู่ฮั่น และพื้นที่ใกล้เคียงติดตามและปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานทาการของจีนอย่างเคร่งครัดนอกจากนี้ ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่ออย่างใกล้ชิด โดยสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการด้านสาธารณสุขแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีนที่ http://www.nhc.gov.cn/wjw/index.shtmlรวมทั้ง ขอให้ชาวไทยที่พำนักอาศัยอยู่ในนครอู่ฮั่นหรือมณฑลหูเป่ยในขณะนี้ โปรดลงทะเบียนแจ้งชื่อและข้อมูลการติดต่อผ่านเว็บไซต์ http://thaiconsulpek.mikecrm.com/UP1YCSG เพื่อที่สถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถติดต่อหรือแจ้งข้อมูลข่าวสารในกรณีเกิดสถานการณ์เร่งด่วนฉุกเฉินและในกรณีเหตุฉุกเฉิน สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 157-2731-253อ่าน | ไทยพีบีเอส เปิดใจ น.ส.ณัฐพร พันสุภะ นักศึกษาระดับปริญญาโท แพทย์แผนจีน เมืองอู่ฮั่น หลังทางการจีนปิดเมืองป้องกันไวรัสโคโรนา ระบุใช้ชีวิตลำบากทั้งการเดินทาง การกิน พบราคาสินค้าแพงขึ้น ต้องอาศัยภายในมหาวิทยาลัยมีกลุ่มนักศึกษาไทย 67 คนที่เมืองอู่ฮั่น | สังคม | ไวรัสโคโรนา,เมืองอู่ฮั่น,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ | https://news.thaipbs.or.th/content/288322 |
พระองค์เจ้าอทิตยาทร ร่วมพิธีทำขวัญข้าว ทรงลงแขกเกี่ยวข้าวกับชาวนาบ้านระไซร์ | เพื่อความเป็นสิริมงคลและขวัญกำลังใจ แก่เกษตรกรไทยและยังเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงาม ที่สัมพันธ์กับวิถีชีวิตของชาวนาไทย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงร่วมพิธีทำขวัญข้าว บวงสรวงพระแม่โพสพและประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว ของศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร บ้านระไซร์ ต.ตั้งใจ อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ และโครงการซแรย์อทิตยา อ่างเก็บน้ำอำปึล อ.เมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเร็วๆนี้,โอกาสนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระ องค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงประกอบพิธีบวงสรวงพระแม่โพสพ เป็นการบูชาและขอขมาพระแม่โพสพ ซึ่งเป็นประเพณีสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวนาไทยที่มีมาแต่โบราณ โดยมีความเชื่อว่า จะทำให้ได้ผลผลิตอุดมสมบูรณ์ ซึ่งชาวนาในพื้นที่ได้นำข้าวเปลือกจากที่นาของตนเองมาร่วมในพิธี เพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการแสดง รำบูชาขวัญข้าว การแสดง รำบูชาพระแม่โพสพ และ รำวงสุรินทร์สามกลุ่มชาติพันธุ์ โดยนักศึกษาจาก ม.ราชภัฏสุรินทร์ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญ และวิถีชีวิตของชาวสุรินทร์ที่มีต่อข้าว ผ่านวัฒนธรรมการแสดงต่างๆ นอกจากนี้ที่ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร ได้มีการจำลองวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวนา ตั้งแต่การลงแขกเกี่ยวข้าว มัดข้าว ตีข้าว ตำข้าว และฝัดข้าวเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นวิถีชีวิตของชาวนาในอดีตอีกด้วย,จากนั้น พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ได้ทรงลงแขกเกี่ยวข้าว ร่วมกับสมาชิกศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร เหล่าข้าราชการ และประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ ที่ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร และที่โครงการซแรย์อทิตยา ซึ่งสร้างความปลาบปลื้มและเป็นขวัญกำลังใจแก่ชาวนาไทยเป็นล้นพ้น. | เพื่อความเป็นสิริมงคลและขวัญกำลังใจ แก่เกษตรกรไทยและยังเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงาม ที่สัมพันธ์กับวิถีชีวิตของชาวนาไทย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า อทิตยาทรกิติคุณ ทรงร่วมพิธีทำขวัญข้าว บวงสรวงพระแม่โพสพ | ข่าว,พระราชสำนัก | พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ,พิธีทำขวัญข้าว,บวงสรวงพระแม่โพสพ,บ้านระไซร์,สุรินทร์ | https://www.thairath.co.th/news/royal/1134277 |
ตรวจสอบก่อสร้างพิพิธภัณฑ์สระกำแพงใหญ่ จ.ศรีสะเกษ | สภาพอาคารพิพิธภัณฑ์สระกำแพงใหญ่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ถูกทิ้งร้างมานานกว่า 4 ปี หลังก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2556 แต่ไม่สามารถนำวัตถุโบราณที่ขุดได้จากปราสาทสระกำแพงใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างจากอาคารพิพิธภัณฑ์เพียง 50 เมตรมาจัดแสดงได้ตามวัตถุประสงค์ เพราะกรมศิลปากรไม่อนุญาต และวางเขื่อนไงต้องนำเงินหลายสิบล้านมาค้ำประกันหากต้องนำไปจัดแสดงความไม่ชัดเจนเรื่องเจ้าของโครงการ และการส่งมอบพื้นที่ ทำให้วัดสระกำแพงใหญ่ไม่มีอำนาจเข้าไปบริหารจัดการและวางแนวทางดูแลรักษาวัตถุโบราณที่เหมาะสม จะเห็นได้จากวัตถุโบราณจำนวนมากยังถูกเก็บบนพื้นดิน มีเพียงโรงเรือนขนาดเล็กที่กั้นแดดและฝนป้องกันความเสียหายโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์สระกำแพงใหญ่เพื่อนำวัตถุโบราณกว่า 200 ชิ้นที่ค้นพบภายในปราสาทสระกำแพงใหญ่มาจัดแสดงเพื่อแสดงออกถึงอัตลักษณ์และประวัติศาสตร์ของคนในท้องถิ่น แต่จนถึงขณะยังไม่สามารถนำโบราณวัตถุมาจัดแสดงได้แม้แต่ชิ้นเดียวทำให้สำนักตรวจสอบพิเศษภาค 5 จังหวัดอุบลราชธานี เข้ามาตรวจสอบการใช้งบประมาณว่าคุ้มค่าหรือไม่โครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์สระกำแพงใหญ่ และ โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยววัดสระกำแพงใหญ่ งบประมาณกว่า 30 ล้านบาท ได้รับจัดสรรจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผ่านงบสนับสนุนกลุ่มจังหวัด ซึ่งเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2555 แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่สามารถส่งมอบงานให้พื้นที่ดูแลได้ รวมทั้งกรมศิลปากรก็ไม่มีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้น จึงถูกตั้งข้อสังเกตถึงความคุ้มค่าการใช้งบประมาณในโครงการนี้ และ ปัญหาระหว่างหน่วยงานของภาครัฐ | ไทยพีบีเอสลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์สระกำแพงใหญ่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งชาวบ้านอ้างว่า ก่อสร้างแล้วเสร็จกว่า 4 ปี แต่เปิดใช้งานไม่ได้ เพราะไม่มีวัตถุโบราณมาแสดงเนื่องจากกรมศิลปากรไม่อนุญาตและปัจจุบันยังไม่ปรากฏชื่อเจ้าของโครงการ | การเมือง | ไทยพีบีเอส,โครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์สระกำแพงใหญ่,ศรีสะเกษ,โบราณวัตถุ,กรมศิลปากร,ยุทธนา อินตะสอน,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/264624 |
จับแล้ว หนุ่มใหญ่ฆ่าแฟนคราวลูก บีบคอสาวขายบัตรเครดิต | เมื่อวันที่ 1 ก.พ.58 พล.ต.ต.ตรีสมสง่า ชรินทร์ ผบก.ภ.ลำพูน ร่วมกับกำลังชุดสืบสวน สภ.บ้านโฮ่ง ชุดสืบสวนกองปราบปราม ชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.4 . บก.สส.ภ.5. ชุดสืบสวน สน.อุดมสุข จับกุมตัว นายประเสริฐ หรือเสริฐ โพธิ์ขำ อายุ 49 ปี ขณะหนีมาหลบอยู่ในสวนมะม่วง บ้านศรีตี้ หมู่ 1 บ้านทรายแก้ว อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน แจ้งข้อฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ส่งตัวให้พงส.สน.พระโขนง เจ้าของคดีดำเนินการต่อไป,ทั้งนี้ จากเหตุฆาตกรรมเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้พบศพ น.ส.พรชนก กล้าหาญ อายุ 26 ปี พนักงานขายบัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทย ถูกฆ่าหมกอยู่ภายในห้องชั้นที่ 3 ของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ภายในซอยวัดทุ่งเศรษฐีแยก 20 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ สภาพสวมชุดนอนสีชมพู โดยมีหมอนกดทับที่บริเวณใบหน้า จากการตรวจสอบตามร่างกายมีบาดแผลฟกช้ำที่ลำคอ บริเวณท้ายทอยด้านหลังฝั่งซ้ายพบบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งจำนวน 2 แห่ง เบื้องต้นคาดว่า น.ส.พรชนก เสียชีวิตจากการถูกบีบคอและกดด้วยหมอน จนขาดอากาศหายใจ โดยเสียชีวิตมาแล้วราว 10-12 ชั่วโมง,จากการตรวจสอบภายในห้อง ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้นแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่พบกระดาษโน้ตเขียนระบายความในใจประมาณตัดพ้อต่อว่า ที่ฝ่ายหญิงนอกใจแอบไปมีกิ๊ก วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นลายมือของฆาตกร ซึ่งน่าจะเป็นแฟนหนุ่มใหญ่ของผู้ตาย ที่ทราบเพียงชื่อเล่นว่านายหมู มีอาชีพเป็นพนักงานขับรถลีมูซีนที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยช่วงหลังทั้งคู่มักมีปัญหาทะเลาะกันบ่อยครี่ง จากเรื่องที่ฝ่ายชายหึงหวง จนบางครั้งรุนแรงถึงขั้นลงไม้ลงมือกันก็มี,อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้เวลาสืบสวนไม่นาน ก็ทราบชื่อแฟนของผู้ตาย คือ นายประเสริฐ โพธิ์ขำ อายุ 49 ปี จึงเร่งสอบสวนเพื่อนผู้ตาย และรวมถึงพยานแวดล้อม ก่อนประสานฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อหาเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย พร้อมกับดำเนินการขออนุมัติหมายจับจากศาล จากนั้นจึงนำกำลังร่วมกับชุดสืบสวนในพื้นที่ จ.ลำพูน เข้าจับกุมผู้ต้องหาได้โดยละม่อมดังกล่าว,จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ แต่ไม่ยอมบอกเล่ารายละเอียดอย่างอื่น เนื่องจากมีอาการเครียด จึงส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เจ้าของคดีรับตัวไปดำเนินการต่อไป. | จับตัวได้แล้วฆาตกรบีบคอฆ่าสาวพนักงานขายบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย หมกห้องพักย่านประเวศ เป็นหนุ่มใหญ่แฟนของผู้ตาย หนีไปกบดานในบ้านกลางสวนมะม่วงที่ลำพูน ตร.บุกรวบได้โดยละม่อม รับสารภาพ แต่ไม่ยอมบอกรายละเอียดการก่อเหตุ | ข่าว,ทั่วไทย | บีบคอฆ่า,ฆ่าสาวขายบัตรเครดิต,พรชนก กล้าหาญ,ประเสริฐ โพธิ์ขำ,ฆ่าหมกห้อง,บ้านโฮ่ง,ลำพูน,พระโขนง,กทม,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,อาชญากรรม,ฆ่ากันตาย,บีบคอคนตาย,ฆ่าคนตาย,ฆาตกรรม | https://www.thairath.co.th/news/local/478427 |
แม่เมาะโวยรัฐปิดแผนอพยพหมู่บ้าน | ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-30 ธ.ค.2547 แกนนำแม่เมาะโวยแผนอพยพย้ายหมู่บ้านออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยโรงไฟฟ้าแม่เมาะ รัฐแอบตั้งคณะกรรมการเอง โดยไม่ให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมีส่วนร่วม และการแก้ไขยังล่าช้า ทั้งๆ เป็นเรื่องเร่งด่วนในชีวิตและทรัพย์สิน หลังจากที่ นายเกษม แช่มช้อย ปลัดจังหวัดลำปาง ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเตรียมพร้อม ในการอพยพขนย้ายราษฏร จำนวน 4 หมู่บ้าน คือ บ้านหัวฝาย บ้านห้วยคิง บ้านห้วยเป็ด และบ้านหัวฝาย ในเขตพื้นที่ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง จำนวน 669 ครอบครัว ที่ได้รับผลกระทบจากพิษโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ และมีมติ ครม.วันที่ 19 พ.ย.2547 ได้เห็นชอบในหลักการ ให้ความช่วยเหลือจัดหาที่อยู่แห่งใหม่ เพื่อก่อสร้างที่อยู่อาศัยและช่วยขนย้ายให้ แต่จะไม่จ่ายค่าชดเชยใดๆ ทั้งสิ้น ขณะนี้ จังหวัดลำปาง ได้แต่งตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานเพื่อลงพื้นที่ดำเนินการในส่วนต่างๆ พร้อมตั้งศูนย์อำนวยการในเรื่องนี้ เพื่อประสานการทำงานของทุกฝ่ายไว้แล้ว โดยมีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบในการทำงาน เช่น ฝ่ายสำรวจตรวจสอบรายชื่อผู้อพยพ ฝ่ายสำรวจพื้นที่แห่งใหม่ ในจำนวน1428 ไร่ ในขณะที่ นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ แกนนำชาวบ้านแม่เมาะ กล่าวว่า ตนไม่รู้มาก่อนเลย ว่าทางรัฐได้แต่งตั้งคณะกรรมการเรื่องการอพยพโยกย้ายชาวบ้าน เพราะที่ผ่านมา ตนพยายามเข้าไปพบนายอำเภอแม่เมาะ เพื่อสอบถามความคืบหน้าในเรื่องนี้ และขอให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบได้เข้าไปมีส่วนร่วม แต่ถูกทัดทาน พร้อมกับบอกว่า ทางจังหวัดเขาได้มีคณะกรรมการดำเนินงานเอง ถือว่า เป็นการมัดมือชก และเชื่อว่าจะต้องเกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอน เนื่องจากชาวบ้านไม่มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา แล้วยังมาบอกว่า เมื่อประชุมเสร็จแล้ว จะมาแจ้งให้ชาวบ้านทราบทีหลัง อีกอย่างตนไม่คอยเชื่อในระบบการแต่งตั้งคณะกรรมการของรัฐ เพราะก่อนนั้นก็เคยมีหลายชุด แต่สุดท้ายก็ล้มเลิกไป และกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ทุกครั้ง นางมะลิวรรณ กล่าว แกนนำชาวบ้านแม่เมาะ ยังกล่าวอีกว่า การที่ชาวบ้านเรียกร้องให้มีการอพยพชาวบ้านออกมานั้น ก็เพราะเห็นว่า เป็นปัญหาในเรื่องชีวิตและทรัพย์สิน ความเป็นความตาย เป็นปัญหาเร่งด่วนที่รัฐจะต้องรีบแก้ไข ทั้งที่มีมติ ครม.เมื่อ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา ให้รีบดำเนินการ แต่กลับมีการทำงานล่าช้า มีการตั้งคณะกรรมการ สำรวจ วางแผน จนชาวบ้านต้องรออยู่อย่างนี้ | ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-30 ธ.ค.2547 แกนนำแม่เมาะโวยแผนอพยพย้ายหมู่บ้านออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยโรงไฟฟ้าแม่เมาะ รัฐแอบตั้งคณะกรรมการเอง โดยไม่ให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมีส่วนร่วม และการแก้ไขยังล่าช้า ทั้งๆ | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2004/12/2058 |
จุดยืนตรงกัน อุตตม เทียบเชิญ ชาติไทยพัฒนา ร่วมรัฐบาล | วันนี้ (30 พ.ค.2562) นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยแกนนำพรรค เดินทางไปส่งเทียบเชิญ พรรคชาติไทยพัฒนา และเจรจากับ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการจากนั้นแกนนำทั้ง 2 พรรคแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดย น.ส.กัญจนา ได้กล่าวขอบคุณพรรคพลังประชารัฐที่เชิญพรรคชาติไทยพัฒนาเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล พร้อมระบุว่าในวันพรุ่งนี้ (31 พ.ค.) จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อหารือการเทียบเชิญดังกล่าว ซึ่งจากการพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐ เบื้องต้นทั้ง 2 พรรคมีจุดยืนร่วมกันในการแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีแต่อย่างใดภาพ : พรรคพลังประชารัฐเมื่อนักข่าวถามถึงเงื่อนไขในการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี น.ส.กัญจนา ตอบว่า เป็นเรื่องของโอกาสที่จะผลักดันนโยบายของพรรค แม้ว่าจะเป็นพรรคเล็ก แต่ก็มีจุดยืนและนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศ ซึ่งต้องดูว่าจะมีโอกาสมากน้อยแค่ไหน ถือเป็นประเด็นหลักในการตัดสินใจขณะที่นายอุตตม กล่าวว่า จากการหารือกับพรรคชาติไทยพัฒนา เบื้องต้นมีความคิดเห็นในการทำงานสอดคล้องกัน ส่วนเรื่องการรวบรวมเสียงข้างมากนั้นอยู่ระหว่างการดำเนินการ ทั้งนี้นายอุตตมยืนยันว่าไม่เคยแสดงจุดยืนว่าจะต้องมีการโหวตเลือกนายกฯ ก่อน จึงจะมีการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี เพราะพรรคต้องทำตามขั้นตอนและยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก | พรรคพลังประชารัฐส่งเทียบเชิญพรรคชาติไทยพัฒนาร่วมรัฐบาล โดยหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐระบุว่าทั้ง 2 พรรคมีจุดยืนในการทำงานสอดคล้องกัน | การเมือง | พลังประชารัฐ,ชาติไทยพัฒนา,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ตั้งรัฐบาล,เลือกตั้ง62 | https://news.thaipbs.or.th/content/280485 |
สื่อสารเรื่องราวกับผลงานศิลปะ ในนิทรรศการ 3D-Art Exhibition | ภาพลิงน้อยแสนซนที่โหนตัว และเหมือนจะยื่นมือออกมาจากภาพเพื่อทักทายผู้คน จนต้องเดินเข้าดูชมใกล้ๆ แต่ที่จริงคืองานศิลปะ trick art ที่ ศิลปินใช้เทคนิคการวาดสร้างภาพลวงตาที่ทำให้ภาพ 2 มิติธรรมดา ดูสมจริงจนผู้ชมรู้สึกเหมือนจะยื่นมือไปสัมผัสได้ ผลงานของ ฮาโตริ มาซาชิ ศิลปินชาวญี่ปุ่น ที่สนุกกับศาสตร์ของการสร้างภาพลวงตาและได้เนรมิตรให้พื้นที่ห้องโถงที่ว่างเปล่ากลายเป็นโลกแห่งความจินตนาการแสนสนุก ในนิทรรศการ 3D-Art Exhibition มัลลิกา หลีกภัย ผู้ชมงาน มันเป็นอะไรที่ไม่เคยพบเจอศิลปะที่เราเข้าไปร่วมเล่นได้ ปกติเป็นคนที่ชอบไปงานศิลปะอยู่แล้ว จะมีภาพแอ็บแทร็กให้ได้ตีความ แต่นี่คือแบบพอเห็นก็รู้เลยว่าจะต้องทำยังไง มันต่างตรงที่ว่าอันนี้อัพรูปลงโซเชียลเน็ตเวิร์คได้ เพราะอย่างศิลปะแบบอื่นๆเราก็แค่ไปเสพ แต่นี่เราแชร์เรื่องราวได้ อันเนี่ยเค้าเรียกว่าเสน่ห์ของทรีดีจริงๆการสร้างมิติให้เกิดขึ้นในภาพวาดนับเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับศิลปินแนวนี้ เพราะไม่เพียงต้องให้ความสำคัญกับรายละเอียดของน้ำหนักแสงและเงาบนตัววัตถุในภาพแล้ว อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ดูมีมิติสมจริง คือการกำหนดมุมมองและจุดยืนชมภาพ ซึ่งจะช่วยให้ศิลปินสามารถคำนวนสัดส่วนของภาพเมื่อเสร็จสมบูรณ์ได้ถูกต้อง ทำให้เมื่อชมจากจุดนี้แล้วเห็นภาพหลอกตาเป็นสามมิติสมจริง โคโดตะ โทกิมาซะ ผู้จัดงาน โคโดตะบอกว่าในประเทศญี่ปุ่น ภาพวาดแนว 3D Trick Art กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ เพราะนอกจากจะได้เสพงานศิลปะแล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่ทำได้ง่ายและสนุกอีกด้วย ต่างกับในประเทศไทยที่งานศิลปะแนวนี้ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก ซึ่งก็หวังว่าความสนุกสนานในการชมงาน 3 มิติ จะเป็นก้าวแรกให้กับหลายคนได้หันมาเปิดใจในการเสพงานศิลปะในแบบต่างๆเพิ่มมากขึ้นนอกจากภาพวาด ขนาดใหญ่ที่ทำให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของ trick art แล้ว ยังมีผลงานภาพปริศนาอีกหลายชิ้น ที่แสดงให้เห็นเทคนิคการสร้างภาพลวงตาแบบง่ายๆ นิทรรศการ 3D-Art Exhibition จัดแสดงไปจนถึงช่วงเดือนม.ค.2556 ที่ศูนย์การค้า เดอะพาลาเดี่ยมเวิลด์ ช้อปปิ้ง | การได้มีปฏิสัมพันธ์ต่อเรื่องราวในผลงานศิลปะ คือเสน่ห์ที่ทำให้ผลงานแบบ 3D Trick Art หรือภาพวาด 3 มิติ ที่แตกต่างไปจากงานศิลปะแนวอื่นๆ และเป็นจุดเริ่มต้นให้ ฮาโตริ มาซาชิ ศิลปินชาวญี่ปุ่น ได้เนรมิตโลกแห่งจินตนาการขึ้นมา ผ่านภาพวาดกว่า 50 ชิ้น เพื่อหวังให้ผู้ชมได้เพลิดเพลินไปกับการมีส่วนร่วมในเรื่องราวต่างๆของงานศิลปะที่อยู่ตรงหน้า กับนิทรรศการ 3D-Art Exhibition | ศิลปะ-บันเทิง | 3D-Art Exhibition,นิทรรศการ,ผลงาน,ศิลปะ,สามมิติ,สื่อสาร | https://news.thaipbs.or.th/content/183709 |
“ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่เกินไป สำหรับฝันของคนไทย” กับการปั้นฝันนักบิดไทยสู่สนามแข่งระดับโลก MotoGP ในปี 2025 [Advertorial] | หากพูดถึงการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ต หลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับการแข่งขันรถยนต์ฟอร์มูลาวันที่แข่งขันความเร็วเพียงเท่านั้น แต่ความจริงแล้วกีฬามอเตอร์สปอร์ตยังรวมไปถึงการแข่งขันกีฬาทุกชนิดที่อยู่ภายใต้ยานพาหนะที่มีเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถบรรทุก เครื่องบิน เรือ และยังรวมไปถึงการแข่งขันที่ไม่ได้ใช้ความเร็วเป็นตัววัด เช่น จิมคาน่า (Gymkhana) ดริฟต์ (Drift) และฟรีสไตล์มอเตอร์ครอส (Freestyle Motocross) ที่สำคัญประเทศไทยยังเป็นแลนด์มาร์กใหญ่ของกีฬามอเตอร์สปอร์ตในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ก็ยังเป็นสนามแรกและสนามเดียวในเมืองไทยที่ได้มาตรฐานระดับสูงสุด โดยผ่านการรับรองจากสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ หรือ FIA เกรด 1 ซึ่งสามารถจัดการแข่งขันรถสูตรหนึ่งหรือฟอร์มูลาวัน และมี Race Control ที่ทันสมัยที่สุดในโลกอีกด้วยและกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่มีกระแสความนิยมจากผู้ชมที่ชื่นชอบความเร็วมากขึ้นในทุกๆ ปี นั่นก็คือการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า โมโตจีพี (MotoGP) นั้น มีนักบิดดาวรุ่งของไทยหลายคนกำลังอยู่ในช่วงเตรียมตัวอย่างเข้มข้น เพื่อก้าวไปถึงเส้นชัยแห่งสนามอันทรงเกียรติแห่งนี้ โดยหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักในการปั้นฝันให้นักบิดไทยพร้อมก้าวไปสู่สนามแข่งโลกแห่งนี้คือ เอ.พี. ฮอนด้า นั่นเองเอ.พี. ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม (Race to the Dream) สปิริตไทย ท้าทายสู่ฝันอย่างที่พวกเราทราบกันดีว่า การแข่งขันประลองความเร็วของรถจักรยานยนต์ทางเรียบที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกอย่างรายการแข่งขันโมโตจีพี หรือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการคือ โมโตจีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิป (MotoGP World Championship) การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ภายใต้การบริหารของ Dorna Sports ซึ่งรับรองการแข่งขันโดยสมาพันธ์จักรยานยนต์นานาชาติ หรือ FIM โดยจัดขึ้นครั้งแรกในปี 1949 จนถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลาร่วม 7 ทศวรรษ และในการแข่งขันแต่ละครั้งก็มีผู้เข้าชมการแข่งขันอันสุดระทึกนี้กว่าหลายหมื่นไปจนถึงร่วมแสนคน และล่าสุดความยิ่งใหญ่ระดับโลกนี้กำลังจะเกิดขึ้นที่บ้านเรา กับการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2018 พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ (MotoGP 2018 PTT Thailand Grand Prix) ในปี 2018-2020 รวมระยะเวลาถึง 3 ปีเอ.พี. ฮอนด้า ผู้ผลิตจักรยานยนต์ระดับท็อปของเมืองไทยได้มองเห็นความพร้อมของประเทศไทยที่กำลังจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันโมโตจีพี รวมไปถึงการทุ่มเทและมองเห็นถึงศักยภาพของนักบิดเยาวชนไทยที่มีโอกาสก้าวไปถึงการแข่งขันระดับโลก จึงได้ยึดแนวคิด เอ.พี. ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม (Race to the Dream) สปิริตไทย ท้าทายสู่ฝัน โดยโปรเจกต์นี้เป็นจุดเริ่มต้นในการปั้นนักแข่งไทยให้ขึ้นไปอยู่ในสนามการแข่งขันระดับโลกอย่างโมโตจีพี ในปี 2025 ที่กำลังจะถึงนี้ และเป็นการตอกย้ำสโลแกนที่ว่า ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่เกินไป สำหรับฝันของคนไทย และพร้อมผลักดันนักแข่งฝีมือเยี่ยมจากไทยไปสู่การแข่งขันระดับโลกอย่างรายการโมโตจีพีนั่นเองทาง เอ.พี. ฮอนด้า เองก็เรียกว่าเตรียมตัวมาอย่างดีเยี่ยม เพราะได้มีการเตรียมแผนการและวางโรดแมปในการปั้นนักแข่งรุ่นใหม่อย่างไว้อย่างเต็มรูปแบบในระดับสากล เริ่มต้นที่โปรเจกต์ เอ.พี. ฮอนด้า อะคาเดมี ไทยแลนด์ (A.P. Honda Academy Thailand) ที่จัดขึ้นสำหรับนักแข่งอายุ 9-14 ปี ที่มีความสนใจในกีฬามอเตอร์สปอร์ต ให้มีโอกาสได้เข้ามาเรียนรู้และพัฒนาการขับขี่ รวมไปถึงทดสอบความแข็งแกร่งของร่างกาย เมื่อทั้งร่างกายและจิตใจเตรียมพร้อมแล้ว ก็จะก้าวเข้าไปสู่การแข่งขันในรายการ ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ (Honda Thailand Talent Cup) ที่จัดขึ้นสำหรับเยาวชนอายุระหว่าง 15-20 ปี ซึ่งนักบิดคนไหนที่มีฝีมือและพัฒนาการที่โดดเด่น ก็จะได้รับการคัดเลือกไปแข่งขันต่อในรายการระดับภูมิภาคเอเชีย อย่างรายการ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ (Asia Talent Cup) ก่อนจะถูกคัดเลือกให้ผ่านเข้าไปสู่การแข่งขันในระดับสูงขึ้นในรายการ ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิป (CEV Moto3 Junior World Championship) ซึ่งมีปลายทางที่การแข่งขันระดับโลกเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ในรุ่นโมโตทรี (Moto3) โมโตทู (Moto2) และจุดสูงสุดคือ โมโตจีพี เพื่อประกาศศักดาสปิริตไทยสู่ความฝันที่ยิ่งใหญ่ สร้างความภาคภูมิใจให้คนไทยทั้งชาติเตรียมความพร้อมให้นักบิดไทย ก่อนก้าวลงสนามระดับประเทศ ระดับเอเชีย ไปถึงระดับโลกหลากหลายโปรเจกต์ที่ เอ.พี. ฮอนด้า มุ่งหวังเพื่อผลิตนักบิดเยาวชนของไทยให้ก้าวไปสู่การแข่งขันระดับโลก โดยเริ่มต้นฝึกฝนและค้นหานักบิดกันตั้งแต่ระดับประเทศ ระดับเอเชีย ไปจนถึงระดับโลก เริ่มต้นที่โปรเจกต์ เอ.พี. ฮอนด้า อะคาเดมี ไทยแลนด์ ที่เป็นการปูพื้นฐานให้นักแข่งดาวรุ่งอายุระหว่าง 9-14 ปี จำนวน 15 คน เข้าร่วมโปรแกรมพัฒนาเป็นนักแข่งรถจักรยานยนต์มืออาชีพ สังกัด เอ.พี. ฮอนด้า เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยที่ใช้รถสูตร ฮอนด้า เอ็นเอสเอฟ 100 (Honda NSF100) นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นทั้งคัน ซึ่งผลิตและพัฒนาขึ้นมาเพื่อขับขี่ในสนามแข่งขันโดยเฉพาะ โดยมีการควบคุมและฝึกสอนอย่างเข้มข้นโดย มาโกโตะ ทามาดะ อดีตนักแข่งชาวญี่ปุ่นผู้มีประสบการณ์บนเวทีระดับโลกในศึกโมโตจีพี พร้อมด้วย ฟิล์ม-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดชาวไทยคนแรกที่เคยโลดแล่นในรายการเดียวกันรุ่นโมโตทู เอ.พี. ฮอนด้า อะคาเดมี ไทยแลนด์ โดยจะทำการแข่งขันกันทั้งสิ้น 10 สนาม ซึ่งนักบิดที่ผ่านเข้ารอบจะได้ก้าวเข้าไปแข่งขันกันต่อในระดับไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ ต่อไปWHAT STOPS YOU? มุ่งไป อย่าให้อะไรมาหยุด… กว่าจะไปถึงเส้นชัยระดับโลก MotoGP เหล่านักบิดต้องฝ่าฟันอะไรกันมาบ้างกว่าจะไปถึงสนามแห่งเส้นชัยระดับโลกอย่าง โมโตจีพี อันเป็นความฝันสูงสุดของเหล่านักแข่งรถนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งหลังจากที่นักบิดเยาวชนได้ผ่านการคัดเลือกจากโครงการ เอ.พี. ฮอนด้า อะคาเดมี ไทยแลนด์แล้ว ขั้นต่อไปคือการเตรียมพร้อมทั้งกายและใจ เพื่อลงแข่งขันในสนามระดับประเทศกับโครงการ ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ (Honda Thailand Talent Cup) การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบรายการฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ โดยมุ่งเน้นไปที่นักบิดฟอร์มดี ฝีมือเยี่ยม ที่มีอายุระหว่าง 15-18 ปี ที่มาประชันความเร็วกันเพื่อก้าวไปสู่ศึกชิงแชมป์เอเชีย หรือเอเชีย ทาเลนต์ คัพ ในฐานะตัวแทนประเทศไทยในปีต่อไป โดยปัจจุบันมีนักแข่งเยาวชนไทยลงทำการแข่งขันจำนวน 13 คน และนักแข่งนานาชาติที่ขอเข้าร่วมการแข่งขันอีก 7 คน โดยตัดสินแชมป์ประจำปีจากการแข่งขันแบบเก็บคะแนนรวมทั้งสิ้นถึง 7 สนามจากการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นระดับประเทศ นักบิดที่ผ่านเข้ารอบจะแข่งขันกันต่อด้วยโปรเจกต์ระดับเอเชียกับโปรเจกต์ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ซึ่งเป็นการแข่งขันกันของนักบิดเยาวชนทั่วเอเชีย และเป็นการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียรายการเดียวที่ถือกำเนิดขึ้นโดย Dorna (ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขันโมโตจีพีนั่นเอง) โดยให้นักบิดจากทั่วเอเชียที่มีอายุไม่เกิน 19 ปีเข้ามาร่วมแข่งขันได้ แต่มีข้อกำหนดไว้ว่า ทุกคนต้องผ่านการคัดกรองคุณสมบัติก่อนที่จะได้เข้าร่วมการแข่งขันจริง นับว่าเป็นสนามการแข่งขันที่สานฝันเส้นทางสู่โมโตจีพีของเหล่านักบิดจากทั่วเอเชียเลยทีเดียวและการแข่งขันรายการนี้นับเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ เอ.พี. ฮอนด้า ให้ความสำคัญ และส่งนักบิดเยาวชนเข้าร่วมแข่งขันในรายการนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้ง นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ที่ปัจจุบันโลดแล่นอยู่ในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกรุ่นโมโตทรี และ สมเกียรติ จันทรา แชมป์เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ฤดูกาล 2016โดยในปี 2018 มีนักแข่งจาก เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ที่ผ่านการคัดเลือกจาก Dorna เพื่อเข้าแข่งขันรายการนี้ถึง 3 คน ได้แก่ ก๊อง-ธัชกร บัวศรี เจ้าของแชมป์ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ 2017 แชมป์-กอบชัย แซ่หลิว รองแชมป์ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ 2017 และ ไอซ์-นิติพงษ์ แสงสว่าง นักบิดดาวรุ่งมากด้วยฝีมือในรุ่นอายุเพียง 15 ปีเมื่อผ่านสนามทดสอบความแข็งแกร่งและความเร็วในระดับเอเชียมาแล้ว รายการต่อไปคือ เอฟไอเอ็ม ซีอีวี เรปโซล อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนชิป (FIM CEV Repsol International Championship) เป็นรายการแข่งขันเพื่อชิงแชมป์ระดับทวีปยุโรป ที่เรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นของนักแข่งในการแข่งขันระดับ Premier Class หลากหลายคน ซึ่งมีนักแข่งระดับโลกมากมายที่ผ่านการแข่งขันในรายการนี้ รวมไปถึงแชมป์โลกคนปัจจุบันอย่าง Jorge Lorenzo นักบิดชาวสเปนชื่อดังเพื่อให้สมกับดีเอ็นเอของ เอ.พี. ฮอนด้า ที่ว่า WHAT STOPS YOU? มุ่งไป อย่าให้อะไรมาหยุด และความท้าทายสูงสุดที่ต้องการคือการส่งนักบิดชาวไทยก้าวไประดับการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกโมโตจีพี เป็นการแข่งขันชิงแชมป์ที่สำคัญที่สุดของจักรยานยนต์ทางเรียบระดับโลกที่นักบิดจากทั่วโลกใฝ่ฝันที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันในรายการนี้ซึ่งในปัจจุบันมีการแข่ง 3 รุ่นคือ โมโตจีพี โมโตทู และโมโตทรี โดยการแข่งโมโตจีพี จะเป็นรถมอเตอร์ไซค์แบบสูตรหนึ่ง หรือออกมาเพื่อแข่งขันโดยเฉพาะ และไม่มีการวางจําหน่ายในตลาด โดยในแต่ละรุ่นมีรายละเอียดดังนี้ซึ่งการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ที่กำลังจะจัดขึ้นในปี 2018-2020 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่พิสูจน์ถึงศักยภาพของประเทศไทยที่พร้อมเป็น ประเทศแห่งกีฬามอเตอร์สปอร์ตชั้นนำของโลก และยังเป็นการดึงเม็ดเงินในด้านการท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลจากทั่วโลกอีกด้วยติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจกต์ เรซ ทู เดอะ ดรีม (Race to the Dream) สปิริตไทย ท้าทายสู่ฝันได้ที่ www.aphonda.co.th/aphondaracingthailand/?module=news-detail-2438 www.aphonda.co.th/aphondaracingthailand/ | เอ.พี. ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม (Race to the Dream) สปิริตไทย ท้าทายสู่ฝันแนวคิดสำคัญในการปั้นนักแข่งไทยไปสู่สนามระดับโลก MotoGP ในปี 2025 ที่กำลังจะถึงนี้โปรเจกต์ เอ.พี. ฮอนด้า อะคาเดมี ไทยแลนด์ (A.P. Honda Academy Thailand) มีเป้าหมายเตรียมความพร้อมให้นักบิดไทย ก่อนก้าวลงสนามระดับประเทศ ระดับเอเชีย ไปถึงระดับโลกเส้นทางสู่ดาวที่เหล่านักบิดต้องฝ่าฟันกว่าจะไปถึงสนามแห่งชัยชนะระดับโลก MotoGP | null | null | https://thestandard.co/motogp-2025/ |
ก.ต.สั่งสอบข้อเท็จจริง อธิบดีฯฉาว ผมเพื่อนโชค อาจผิดวินัย | เมื่อวันที่ 13 พ.ค. นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ว่า ที่ประชุม ก.ต. มีมติให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีปรากฏคลิปภาพ นายไกรรัตน์ วีรพัฒนาสุวรรณ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 โดนเรียกตรวจใบขับขี่ จนมีการกระทบกระทั่งกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณด่านตรวจในพื้นที่ สภ.อ.ทุ่งใหญ่ ซึ่งทางศาลยุติธรรมจะตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวให้รอบด้านเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่ นายสราวุธ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมได้เซ็นหนังสือลงวันที่ 10 พ.ค.ให้ นายไกรรัตน์ ชี้เเจงรายงานข้อเท็จจริงตามเรื่องที่ปรากฏ มายังสำนักงานศาลยุติธรรม โดย นายไกรรัตน์ เองได้ทำหนังสือชี้เเจงรายงานข้อเท็จจริงกลับมาในวันเดียวกัน (10 พ.ค.) ซึ่งในการประชุม ก.ต.วันนี้(13 พ.ค.) ได้มีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม ก.ต.จนมีมติตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง,สำหรับการสอบข้อเท็จจริงนั้นคณะกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นจะมีการสอบว่าพฤติการณ์หรือข้อมูลที่ปรากฏ รวมถึงคำชี้เเจงของนายไกรรัตน์ เข้าข่ายมีมูลที่จะกระทำผิดวินัยหรือไม่ โดยไม่ว่าผลจะปรากฏอย่างไร จะต้องส่งผลการสอบข้อเท็จจริงไปยังคณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (อ.ก.ต.) พิจารณากลั่นกรองทำความเห็นส่ง ก.ต.พิจารณาต่อไป,ขณะเดียวกัน ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของ ส.ต.ต.เอกพล จุ่ยส่องแก้ว ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า เอกพล จุ้ยส่องแก้ว(โกแทค โซเซ) หลังเกิดเหตุการณ์คลิปฉาว ขอดูใบขับขี่อธิบดีศาลฯแล้ว ปรากฏว่าได้มีทั้งเพื่อนในเฟซบุ๊กและคนในโลกโซเชียลที่ไม่รู้จักกันจำนวนมาก ได้เขียนข้อความจำนวนมากถึง ส.ต.ต.เอกพล ชื่นชมให้กำลังใจและให้สู้ๆ กับความไม่ถูกต้อง ซึ่ง ส.ต.ต.เอกพล ได้เขียนตอบกลับด้วยข้อความว่า ขอบคุณทุกคนครับ โดยไม่ได้เขียนแสดงความคิดเห็นอื่นๆ และล่าสุด ส.ต.ต.เอกพล ได้ลงภาพในเฟซบุ๊ก เป็นภาพช่อดอกไม้ขนาดใหญ่ที่ทาง ผอ.โรงเรียนเก่าของ ส.ต.ต.เอกพล คนหนึ่งส่งมาให้กำลังใจถึง สภ.ทุ่งใหญ่,ส.ต.ต.เอกพล ได้เขียนข้อความกล่าวขอบคุณ ผอ. ว่า ขอบคุณผู้อำนวยการ เกศสุดา ไกรนรา ผอ.โรงเรียนบุญคงอุปการ มากครับ ได้รับแล้วครับ,ส่วนความคืบหน้า กรณี พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีคลิปฉาว โดยมี พ.ต.อ.สุขเกษม นครวิลัย รอง ผบก.ภ.พังงา เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวน ปรากฏว่าวันนี้ พ.ต.อ.สุขเกษม และคณะกรรมการได้ลงพื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ อย่างเงียบๆ และลับๆ แล้ว โดยไม่ได้แจ้งให้ใครทราบล่วงหน้า. | ที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) มีมติ ให้สอบสวนข้อเท็จจริง กรณีอธิบดีศาลทุจริตฯ ภาค 8 ปรากฏในคลิปฉาว ผมเพื่อนโชค หลังสั่งให้เจ้าตัว ทำหนังสือชี้แจง | ข่าว,ทั่วไทย | ผมเพื่อนโชค,คลิปผมเพื่อนโชค,คลิปฉาว,สั่งสอบอธิบดีศาล,ไกรรัตน์ วีรพัฒนาสุวรรณ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1566711 |
ขโมยควายหวังขายปลดหนี้เงินกู้ พ่อวัย 90 ร่ำไห้ยันลูกผิดต้องรับโทษ | ขณะที่ลูกชายขอโทษเจ้าของควาย ที่ทำไปเพราะติดหนี้เงินกู้ ต้องผ่อนวันละ 1,200 ซึ่งผ่อนเท่าไรก็ไม่หมด เพราะดอกโหด,เมื่อวันที่ 29 พ.ย.62 ร.ต.อ.จิรโรจน์ มงคลธนสุพัฒน์ รองสว.(สอบสวน) สภ.นางรอง รับแจ้งมีเหตุขโมยแม่ควาย ที่บ้านโคกน้อยพัฒนา ต.หนองโสน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านผู้ใหญ่บ้าน คือ นายสมาน ทาเงิน อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 บ้านโคกน้อยพัฒนา ต.หนองโสน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เล่าว่า เมื่อวาน (28 พ.ย. 2562) ตนออกไปทำงาน พอเย็นกลับมาบ้านจะไปพาควายที่ผูกไว้หน้าวัดบ้านโคกสูง ต.หนองโสน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เข้าคอกแต่หาแม่ควาย ชื่อนางกอม ไม่เจอ คิดว่าเชือกที่ผูกล่ามไว้ถูกควายตัวอื่นชนขาด ทำให้นางกอมเดินหลง จึงประสานผู้ใหญ่บ้านหมู่ใกล้เคียง และลูกบ้านให้ช่วยกันหา,ต่อมาเวลา 20.00 น. ได้รับแจ้งว่า มีคนพบชายวัยกลางคนจูงควายลักษณะเดียวกับของผู้ใหญ่สมาน ห่างจากบ้านผู้ใหญ่ 20 กม.มุ่งหน้าทาง อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ จึงไปตรวจสอบพบว่าเป็นนางกอม จึงควบคุมตัวชายคนดังกล่าว สอบถามรับว่าได้ลักควายตัวดังกล่าวจริง จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหาลักทรัพย์ผู้อื่น,ทราบชื่อผู้ต้องหาคือ นายสมศักดิ์ เกิดเกตุ หรือ เปี๊ยก อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 10 ต.หนองโสน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เผยว่า ยอมรับว่าขโมยควายของผู้ใหญ่บ้านจริง เพราะจะนำไปขายเอาเงินมาจ่ายหนี้รายวัน ที่ตนและภรรยากู้มารายละ 6,000 บาท จำนวน 4 ราย ต้องผ่อนจ่ายรายวัน วันละ 300 บาท มีเจ้าหนี้ 4 ราย รวมต้องจ่าย วันละ 1,200 บาท ตนมีอาชีพเผาถ่านขาย ได้เงินมาก็จ่ายหนี้รายวัน ตอนที่ได้เงินกู้มาก็นำเงินไปผ่อนมอเตอร์ไซค์ แต่ละวันถ้าตนจ่ายเงินเจ้าหนี้ 1 ราย 300 บาท จ่ายไป 10 วัน แลัวไม่ได้จ่ายต่อเนื่อง เจ้าหนี้จะตัดออก 6 วัน บอกว่าเป็นค่าเอกสาร อีก 4 วัน ที่ส่งไปแล้วเป็นเงิน 1,200 บาท เจ้าหนี้คืนให้ แล้วตั้งหนี้ขึ้นมาใหม่ เป็น 6,000 บาท ให้ผ่อนวันละ 300 บาท 24 วัน แต่ถ้าส่งได้แค่ 6 วัน แล้วหยุดอีก ก็ตั้งหนี้ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง,ผ่อนวันละ 300 บาท 24 วัน ทำให้ตนผ่อนเงินให้เจ้าหนี้ไม่หมดสักที เจ้าหนี้มาจาก จ.บุรีรัมย์ 1 ราย จ.สุรินทร์ 1 ราย จ.นครราชสีมา 2 ราย โดยนำนามบัตรมาให้ตามบ้าน โทรไปหาก็นำเงินมาให้หักดอกเบี้ย 300 บาทตั้งแต่วันแรกที่ให้เงิน พอหาจ่ายไม่ทันก็ต้องกู้รายอื่น เอามาหมุนจ่าย จึงพัวพันกันอย่างนี้ นายสมศักดิ์กล่าว,นายสมาน ผู้ใหญ่บ้าน เผยว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายอำเภอให้ความรู้ลูกบ้าน และให้ระมัดระวังการกู้หนี้นอกระบบ ว่าดอกเบี้ยสูง ลูกหนี้จะเสียเปรียบ หากมีปัญหาอะไร ให้มาคุยปรึกษา หาแนวทางช่วยเหลือร่วมกัน เมื่อกู้นอกระบบ หาเงินส่งไม่ได้ ก็เกิดการขโมยของกันเพื่อหาเงินไปจ่าย ทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น นายสมศักดิ์ ที่มีพ่อแก่แล้ว แม่ป่วยนอนติดเตียง เมียหนี แล้วต่อไปใครจะดูแลพ่อแม่ คนทำผิดก็ต้องได้รับผิด จะได้ไม่เป็นตัวอย่างให้กับคนอื่นๆ,ด้าน นายสมจิตร เกิดเกตุ อายุ 90 ปี พ่อของนายเปี๊ยก อยู่บ้านเดียวกัน ร้องไห้และพูดทั้งน้ำตาว่า ตนเสียใจที่ลูกไปขโมยของของคนอื่น ตนไม่เคยขโมยของใคร ไม่คิดว่าลูกจะทำแบบนี้ โดยเฉพาะผู้ใหญ่บ้านที่เป็นคนคอยช่วยเหลือครอบครัวทุกอย่าง บ้านเคยไฟไหม้ ผู้ใหญ่ก็หางบประมาณมาช่วยเหลือ ทุกๆ วันจะเห็นรถเก๋ง รถกระบะ มาจอดหน้าบ้าน เพื่อเก็บเงินรายวัน ตนบอกลูกว่ามีเท่าไรก็ใช้เท่านั้น อย่าไปกู้ใคร ตอนนี้ลูกโดนจับตนก็จะช่วยเหลือตัวเอง ตนอยู่ได้ด้วยเงินผู้สูงอายุเดือนละ 800 บาท ส่วนมอเตอร์ไซค์ก็ให้ทางร้านยึดไป. | หนี้นอกระบบทำหนุ่มใหญ่คิดสั้น ตัดใจขโมยควายผู้ใหญ่บ้าน เพื่อหวังปลดหนี้ แต่ไม่รอดโดนจับ พ่อวัย 90 ถึงกับร่ำไห้ ยันไม่เคยสอนให้ลูกเป็นคนลักขโมย ย้ำ ผญบ.เป็นคนที่คอยช่วยเหลือมาทุกอย่าง | ข่าว,ทั่วไทย | หนี้นอกระบบ,เงินกู้,ดอกโหด,ขโมยควาย,ควายผู้ใหญ่บ้าน,ปลดหนี้,บุรีรัมย์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1714563 |
กท.วัฒนธรรมเบรกหัวทิ่ม บอกแล้วว่าอย่าฉาย Insects in the Backyard | สืบเนื่องจากกิจกรรมที่มูลนิธิหนังไทย โครงการสถาบันหนังไทยของหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์แห่งประเทศไทย เครือข่ายคนดูหนังแห่งประเทศไทย บริษัทป็อบ พิกเจอร์ และนิตยสารไบโอสโคป จะจัดเสวนาเชิงวิชาการเรื่อง พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวิดีทัศน์กับรัฐธรรมนูญไทย ในวันศุกร์ที่ 10 ธ.ค. นี้ เวลา 12.30 - 17.00 น. ณ โรงภาพยนตร์ศรีศาลายา หอภาพยนตร์ โดยในงานนี้จะฉายภาพยนตร์เรื่อง Insect in the bakyard ด้วยนั้นล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ก่อนการจัดงานหนึ่งวัน กรมส่งเสริมภาพยนตร์ส่งหนังสือแจ้งมาทางผู้จัดงานว่า ห้ามฉายภาพยนตร์เรื่องนี้เพราะเรื่อง Insects in the Backyard เป็นภาพยนตร์ที่คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวิดีทัศน์ตัดสินแล้วว่า มีเนื้อหาขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน โดยมีคำสั่งห้ามฉายไปเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 53 ตามมาตรา 29 ของพ.ร.บ.ภาพยนตร์และวิดีทัศน์นางวิไล วิทยานารถไพศาล รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ตอบจดหมายที่ทางคณะผู้จัดงานเชิญให้ส่งตัวแทนเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า การนำภาพยนตร์ที่มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฉาย ไปฉายในงานเสวนาวิชาการดังกล่าว เป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย จะมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ภาพยนตร์ที่จะฉายในราชอาณาจักรทุกเรื่อง จะต้องผ่านคณะกรรมการฯ เสียก่อนนายสัณห์ชัย โชติรสเศรณี จากมูลนิธิหนังไทยกล่าวว่า หลังได้รับจดหมายจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม คณะผู้จัดงานจึงตัดสินใจว่า จะนำภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ มาฉายแทน ซึ่งเป็นภาพยนตร์หาดูยากที่ล้วนมีนัยยะสำคัญต่อประวัติศาสตร์การเมืองไทย หนึ่งในนั้นเป็นสารคดีงานแห่รัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม 2476 และภาพยนตร์อื่นๆ ที่คณะทำงานยังขอปิดเป็นความลับนอกจากนี้ คณะผู้จัดงานยังไ้ด้เชิญชวนให้ผู้ที่จะเข้าร่วมงานแต่งชุดดำเพื่อไว้อาลัยให้กับภาพยนตร์เรื่อง Insects in the Backyardด้วยทั้งนี้ ในท้ายจดหมายดังกล่าว กรมส่งเสริมภาพยนตร์ตอบผู้จัดงานว่า ไม่สามารถส่งผู้แทนเข้าร่วมเป็นวิทยากรในงานครั้งนี้ได้ อีกทั้งยังแสดงความเห็นในจดหมายฉบับดังกล่าวด้วยว่า หากผู้จัดงานประสงค์จะเสวนาวิชาการเกี่ยวกับเนื้อหาในภาพยนตร์นี้ อาจให้วิธีการสรุปเรื่องย่อภาพยนตร์เป็นสื่อประกอบการเสวนาแทนสำหรับรายละเอียดกิจกรรมในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ ปรับขึ้นใหม่โดยเปลี่ยนเป็น12.30 น. ฉายภาพยนตร์ประมาณ 3 เรื่องซึ่งมีนัยยสำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองไทย เช่น สารคดี แห่รัฐธรรมนูญ 247614.30 น. ฌาปนกิจศพภาพยนตร์เรื่อง Insects in the Backyard15.00 น. เสวนาวิชาการ พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวิดีทัศน์กับรัฐธรรมนูญไทย โดยคุณเจษฎา อนุจารี อุปนายกฝ่ายนโยบายและแผนงาน สภาทนายความ อ.สาวตรี สุขศรี กลุ่มนิติราษฎร์ และคุณสุภิญญา กลางณรงค์ นักเคลื่อนไหวด้านเสรีภาพสื่อ ดำเนินรายการโดย ก้อง ฤทธิ์ดีที่มา: | กรมส่งเสริมวัฒนธรรมสั่งเบรก ย้ำห้ามฉาย Insects in the Backyard ในงานเสวนาวิชาการกฎหมายภาพยนตร์กับรัฐธรรมนูญ ด้านผู้จัดงานปรับแผน เตรียมจัดฉายหนังสะท้อนประวัติศาสตร์การเมืองไทยแทน | วัฒนธรรม,สังคม | กระทรวงวัฒนธรรม,วิไล วิทยานารถไพศาล,สัณห์ชัย โชติรสเศรณี,เรื่อง Insects in the Backyard | https://prachatai.com/journal/2010/12/32229 |
สนช.ไฟเขียวรายงานปฏิรูปภาษี เสนอเก็บ vat เพิ่มอีก 1% ระบุ รบ.มีรายจ่ายเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง | จากที่ดินที่แพงขึ้นหลังมีโครงการรัฐ พร้อมหาช่องเก็บภาษี e-Commerce18 พ.ค. 2560 การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มี สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธาน พิจารณารายงานเรื่องแนวทางการปฏิรูปโครงสร้างภาษีและระบบบริหารจัดเก็บเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ของแผ่นดิน ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)การเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สนช.เป็นผู้เสนอ โดย ศิริพล ยอดเมืองเจริญ ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ รายงานสาระสำคัญของรายงาน ว่า เนื่องจากประเทศไทยยังไม่ได้มีการปฏิรูประบบภาษีอากรมาเป็นระยะเวลานาน ตั้งแต่ปี 2535 ที่เปลี่ยนจากการใช้ภาษีการค้ามาเป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยที่ผ่านมาการปรับปรุง โครงสร้างภาษีอากรส่วนใหญ่จะดำเนินการเป็นส่วนๆ เช่น การปรับขั้นและอัตราภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดา การลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล การเพิ่มเพดานและอัตราภาษีสรรพสามิต และการปรับโครงสร้างอากรขาเข้าเป็นกลุ่มสินค้า เป็นต้น ซึ่งไม่ได้พิจารณาการปฏิรูปโครงสร้าง ภาษีอากรในภาพรวมทั้งระบบ อีกทั้งปัจจุบันรัฐบาลมีภาระด้านรายจ่ายเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากการดำเนินการตามนโยบายในโครงการต่างๆ เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ของประเทศให้สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ศิริพล กล่าวว่า ที่ผ่านมาการจัดเก็บรายได้ ของรัฐบาลไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยปี 2556 มีรายได้ส่งคลัง 2.16 ล้านล้านบาท รายจ่าย 2.40 ล้านล้านบาท ปี 57 มีรายได้ 2.07 ล้านล้านบาท รายจ่าย 2.45 ล้านล้านบาท ปี 58 มีรายได้ 2.20 ล้านล้านบาท รายจ่าย 2.60 ล้านล้านบาท ปี 59 มีรายได้2.41 ล้านล้านบาท รายจ่าย 2.80 ล้านล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากการจัดเก็บภาษีของแต่ละประเทศภายหลังจาก มีความตกลงภายใต้กรอบขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) และการนี้ ให้เขตการค้าเสรี (Free trade area) ต้องลดอัตราภาษีศุลกากรลง ส่งผลให้รายได้ในการพึ่งพาภาษี ศุลกากรประเภทนี้ลดลงอย่างเป็นอย่างมาก ในต่างประเทศจึงได้มีการปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น ประเทศต่างๆ ในยุโรปเดิมภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นอัตราร้อยละ 10 ปัจจุบันส่วนใหญ่ปรับสูงขึ้น เป็นอัตราร้อยละ 20 นอกจากนั้นยังปรับรูปแบบภาษีอื่นเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้นมาทดแทนรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ ฯ กล่าวว่า คณะอนุกรรมาธิการ ฯ ได้ศึกษาแนวทาง การปฏิรูประบบโครงสร้างภาษีและระบบบริหารจัดเก็บภาษีต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางการการปฏิรูประบบภาษีอากร มีข้อเสนอแนะบางประเด็นที่น่าสนใจดังนี้ 1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรมสรรพากรควรพิจารณาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการกำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลรายเดียวกันที่ประกอบธุรกิจในสาขาต่างๆ หลายแห่ง จะต้องทำการแยกบัญชีรายได้และรายจ่ายของสาขาแต่ละแห่งแยกออกจากกัน เพื่อเสียภาษีในเขตพื้นที่ที่สาขานั้นๆตั้งอยู่โดยตรง โดยไม่ให้มีการรวมบัญชีเดียวกันเพื่อเสียภาษีอีกต่อไป2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม ควรมีการจัดเก็บในรูปแบบที่มีหลายอัตรา โดยพิจารณากำหนดจัดเก็บภาษีในอัตราที่แตกต่างกันในแต่ละประเภทสินค้า กล่าวคือ พิจารณาว่าสินค้าประเภทใดมีความจำเป็นในการนำเข้า ส่งออกและบริโภคภายในประเทศ นอกจากนี้ ควรมีการปรับเพิ่มอัตราการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากเดิมอีกร้อยละ 1 โดยกำหนดให้นำรายได้จากการจัดเก็บภาษีในส่วนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวไปใช้เฉพาะในด้านการศึกษาและการสาธารณสุขเท่านั้น คาดว่าจะทำให้สามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นจำนวนประมาณ 60000-70000 ล้านบาท3. ภาษีลาภลอย ปัจจุบันรัฐบาลมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ การก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง ทำให้มูลค่าที่ดินเพิ่มสูงขึ้นหรือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ที่ทำให้ที่ดินมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น แต่รัฐบาลยังไม่สามารถจัดเก็บรายได้ดังกล่าวได้ ดังนั้น สำนักงานเศรษฐกิจการคลังควรมีการพิจารณาศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีกรณีดังกล่าวโดยเปรียบเทียบกับการจัดเก็บภาษีในต่างประเทศและควรเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว4. กรณีการเก็บภาษี e-Commerce ที่มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น แต่เป็นช่องว่างที่ผู้ประกอบการ e-Commerce ที่มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ต่างประเทศไม่ได้ถูกการเรียกเก็บภาษี สืบเนื่องไม่มีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและปัญหาจากการหาตัวตน ประกอบกับข้อตกลงอนุสัญญา ภาษีซ้อนเกิดจุดรั่วไหลอยู่ 2 ประการคือ การให้บริการการโฆษณาโดยสื่อออนไลน์และการเรียกเก็บค่าบริการจองโรงแรม ที่ผู้ใช้บริการที่พักในประเทศไทย เมื่อจ่ายเงินแล้วเงินจะถูกส่งตรงไปยังบริษัทที่มีสำนักงานอยู่ต่างประเทศทั้งหมด ประกอบกับข้อกฎหมายตามประมวลรัษฎากรยังครอบคลุมไม่ทั่วถึงการจัดเก็บภาษีดังกล่าวนั้น ขณะที่การสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบ e-Commerce เมื่อผู้ซื้อที่อยู่ในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็น นิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดา ในฐานะผู้บริโภคเมื่อมีการชำระค่าบริการผ่านบัตรเครดิตทำให้เงินไหล ไปต่างประเทศไม่สามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้ และไม่สามารถนำรายได้ที่คนไทยจ่ายนั้นเป็นรายได้ของบริษัทที่เมื่อมีกำไรแล้วต้องชำระภาษีจึงจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการเห็นว่า กรมสรรพากรควรพิจารณาศึกษา และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดเก็บภาษีจากกรณีดังกล่าว และมีการกำหนดให้บริษัทข้ามชาติดังกล่าวอาจจะต้องเข้ามาจัดตั้งสถานประกอบการถาวรในประเทศไทยด้วย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายในรูปแบบอื่น ๆ 5.อากรศุลกากรและภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากปัจจุบันมีการดำเนินธุรกิจค้า ขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์โดยอาศัยช่องว่างของการยกเว้นอากรศุลกากรกรณีที่มีราคาไม่เกิน 1500 บาท ทำให้รัฐสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมาก และในทางปฏิบัติจะเห็นว่าสูญเสียภาษีศุลกากร และภาษีมูลค่าเพิ่มจากสินค้าที่นำเข้าทางไปรษณีย์ที่มีราคาไม่เกิน 1500 บาท จึงเห็นว่า กรมสรรพากร กรมศุลกากร และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ควรมีการพิจารณากฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่ออุดช่องว่าง การจัดเก็บภาษีในกรณีสินค้านำเข้าที่ได้การยกเว้นอากร ตามประกาศกรมศุลกากรที่ 41/ 2558 เรื่อง กำหนดราคาของที่นำเข้า ซึ่งได้รับยกเว้นอากรตามประเภท12 ภาค 4 แห่งพระราชกำหนด พิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 25306. การนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อการส่งออกทั้งที่เป็นการนำเข้ามาตามข้อตกลง WTO มีการปฏิบัติตามพ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ.2522 พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มการตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ.2522 พ.ร.บ.มาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น พ.ศ.2550 และพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 หรือไม่ ทางคณะอนุกรรมาธิการเห็นว่า ปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย กรณีการจัดเก็บอากรปกป้องสินค้านำเข้า (Safeguard Measure) และอากรตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti - dumping) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการค้าต่างประเทศ และกรมศุลกากร ขาดการบูรณาการ การทำงานร่วมกัน อีกทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอาจไม่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องกฎหมาย กฎ และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเพียงพอ ฉะนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าวควรมีการประสาน เพื่อบูรณาการการท างานร่วมกันให้ชัดเจนมากขึ้น และจัดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานให้มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องกฎหมาย กฎ และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องทั้งนี้ ที่ประชุมสนช.เห็นชอบกับรายงานฉบับดังกล่าวโดยไม่มีการลงมติจากนั้นจะส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป | สนช.เห็นชอบรายงานปฏิรูปภาษี ของ กมธ ชงข้อเสนอเสนอเก็บ vat เพิ่มอีก 1% ให้รัฐบาล เหตุมีรายจ่ายเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แนะ สนง.เศรษฐกิจการคลัง ศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีลาภลอย | การเมือง,เศรษฐกิจ | ภาษี e-Commerce,ภาษีมูลค่าเพิ่ม,ภาษีเงินได้นิติบุคคล,ศิริพล ยอดเมืองเจริญ,สภานิติบัญญัติแห่งชาติ,สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย | https://prachatai.com/journal/2017/05/71541 |
หลายพื้นที่ไม่พร้อม รับจำนำข้าว | ชาวนาจ.นครสวรรค์ทยอยนำข้าวเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปี 2556/2557 กับโรงสีที่ผ่านการอนุมัติ หลังได้เปิดโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ โรงสีหลายแห่งไม่สามารถดำเนินการรับจำนำได้ เนื่องจากติดขัดปัญหาการส่งมอบข้าวเข้าคลังสินค้า เจ้าหน้าที่การค้าภายในจังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่า มีโรงสีผ่านการรับรอง 22 แห่ง แต่สามารถเปิดจุดรับจำนำได้เพียง 8 แห่ง และคาดว่าจะเปิดครบทุกจุดกลางเดือนนี้ที่จ.อุบลราชธานีมีโรงสีที่พร้อมร่วมโครงการ 33 แห่ง แต่โรงสี 3 แห่งได้ถอนตัว จากสาเหตุที่ไม่พร้อม และอีก 4 แห่ง ติดปัญหาค้างเบี้ยปรับนำส่งข้าวล่าช้า ส่วนสัปดาห์หน้า คณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำข้าวของจังหวัด จะตรวจสอบคุณสมบัติของคลังเก็บข้าวกลาง ให้เป็นไปตามข้อกำหนด เช่น ติดตั้งกล้องวงจรปิด ตั้งอยู่ในสถานที่ปลอดภัยจากน้ำท่วม การติดตั้งเครื่องมือป้องกันไฟ รวมทั้งเปิดจุดรับจำนำข้าวนอกโรงสี อีก 10 จุด เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวนาที่จ.อุดรธานีคาดว่า จะเปิดจุดรับจำนำในวันที่ 15 เดือนนี้ โดยมีโรงสีร่วมโครงการ 12 แห่งใน 7 อำเภอ ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างตรวจรับรอง พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ชาวนาทราบการปรับหลักเกณฑ์ใบรับรองเกษตรกร จากเดิมที่ไม่ระบุวันหมดอายุ เป็นระบุเหลือเพียง 30 วัน นับจากวันออกใบรับรอง เพื่อให้ชาวนาเร่งนำข้าวเข้าร่วมโครงการตามกำหนด | โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปี 2556/2557 ซึ่งเปิดดำเนินการไปตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่หลายพื้นที่ไม่สามารถเปิดรับจำนำได้ เนื่องจากติดปัญหาความไม่พร้อมหลายอย่าง ล่าสุด บางพื้นที่ในจ.นครสวรรค์ได้เปิดรับจำนำแล้ว | ภูมิภาค | กระทรวงพาณิชย์,จำนำข้าว,นครสวรรค์,โรงสี | https://news.thaipbs.or.th/content/199686 |
ไทยพาณิชย์ ปรับความเข้าใจ ม.ราชภัฏ-ราชมงคล ย้ำ รับนศ.ทุกสถาบันทำงาน | , เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมประชุมในที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ กรณีการลงประกาศรับสมัครงานบนเว็บไซต์จัดหางานในตำแหน่งที่ปรึกษาทางการเงินฝึกหัด (Financial Advisor Trainee) และมีการระบุชื่อมหาวิทยาลัยจำนวน 14 แห่ง โดยธนาคารฯ ขออภัยในกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งเกิดจากความบกพร่องในกระบวนการทำงานภายในของธนาคารฯ และได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวแล้ว ,ภายหลังการเข้าร่วมประชุมและหารือในครั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล มีความเข้าใจเป็นอย่างดี และยังคงดำเนินธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารฯ ตามปกติ นอกจากนี้ยังได้หารือถึงแนวทางความร่วมมือในอนาคตระหว่างทั้งสองสถาบันฯ เพื่อพัฒนาบุคลากรให้ได้คุณภาพและตอบโจทย์ตลาดแรงงานอย่างแท้จริง, ,ซึ่งนายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ขออภัยในกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งเกิดจากความบกพร่องในกระบวนการทำงานภายในของธนาคารฯ และขอขอบคุณทางคณะอธิการบดีของมหาวิทยาลัยราชภัฏ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ที่ให้โอกาสและรับฟังคำชี้แจงในวันนี้ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเด็นสำคัญ คือ,1.) การประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งที่ปรึกษาทางการเงินฝึกหัด (Financial Advisor Trainee) ที่มีการระบุชื่อมหาวิทยาลัยจำนวน 14 แห่ง ไม่ใช่นโยบายของธนาคารฯ แต่เป็นการกระทำที่บกพร่อง ซึ่งเกิดจากกระบวนการทำงานภายในของธนาคารฯ เอง และเมื่อรับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นได้มีคำสั่งให้ยกเลิกและนำประกาศฯ นั้นออกจากทุกสื่อทันที และได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว พร้อมกำชับผู้ที่เกี่ยวข้องให้ดูแลและป้องกันมิให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก,2.) ชี้แจงปฏิเสธเกี่ยวกับเอกสารของบริษัทแห่งหนึ่งที่ระบุเกณฑ์การแบ่งกลุ่มมหาวิทยาลัยออกเป็น 3 กลุ่มซึ่งเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ในขณะนี้ ว่าเอกสารดังกล่าว ไม่ใช่เอกสารของธนาคารไทยพาณิชย์แต่อย่างใด,3.) ธนาคารฯ ยืนยันถึงนโยบายในการรับนิสิตนักศึกษาจากทุกสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ได้เข้าทำงานกับธนาคารฯ โดยไม่มีการปิดกั้นหรือแบ่งแยกสถาบันใดๆ รวมถึงผู้ที่สำเร็จการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏ ด้วยเช่นกัน โดยธนาคารฯ ให้ความสำคัญกับคุณภาพและคว ามสามารถเป็นหลัก ผู้ที่เข้าทำงานทุกคนล้วนมีโอกาสความก้าวหน้าในสายอาชีพตามความสามารถและผลงานของแต่ละบุคคล ซึ่งธนาคารฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายนี้มาโดยตลอด, ,ทั้งนี้ นายญนน์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันไทยพาณิชย์มีพนักงานทั้งสิ้นจำนวนกว่า 22,000 คน เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากหลากหลายสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ จากข้อมูลสถิติตั้งแต่ปี 2557 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2558 ธนาคารฯ ได้รับพนักงานใหม่ทั้งสิ้นจำนวน 4,348 คน โดยเป็นผู้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏจำนวน 860 คน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลจำนวน 429 คน หรือ 30% ของพนักงานทั้งหมด และในทุกๆ ปี ธนาคารฯ ได้รับผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเข้าทำงานเฉลี่ยปีละ 500 คน และผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลเฉลี่ยปีละ 300 คน, ,ทางด้าน ผศ.ดร.นิวัต กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทปอ.มรภ.) และ รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และนายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ร่วมกันชี้แจงว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ขอขอบคุณกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ที่ให้เกียรติและให้ความสำคัญต่อกรณีที่เกิดขึ้น ทั้งสองกลุ่มสถาบันรับคำขอโทษจากผู้บริหารธนาคารไทยพาณิชย์, ,โดยได้ ชี้แจงว่าการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัยทุกแห่ง แม้จะมีปรัชญาที่แตกต่างกันตามประวัติศาสตร์และบริบทของแต่ละแห่ง แต่มหาวิทยาลัยทุกแห่งต่างมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบัณฑิตให้เป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพ เป็นกำลังของครอบครัว สังคม และประเทศชาติ พร้อมเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ และขอยืนยันว่าการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัยทั้งสองได้รับการรับรองคุณภาพตาม มาตรฐานการศึกษาที่กำกับโดยองค์กรกลาง คือ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) รวมทั้ง มีความเห็นว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นกรณีตัวอย่างสำคัญ ที่แสดงว่าหน่วยงานต่างๆ ควรจะร่วมมือกันอย่างเป็นกัลยาณมิตร และให้โอกาสแก่บัณฑิตที่แม้มีโอกาสทางเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษาที่ต่างกัน ได้เพิ่มพูนศักยภาพของบัณฑิตบนพื้นฐานของความเสมอภาค เป็นการระดมพลังทุกภาคส่วนของสังคมให้ร่วมมือกันพัฒนาประเทศชาติของเราต่อไป | ไทยพาณิชย์ ประชุมปรับความเข้าใจ ม.ราชภัฏ-ม.ราชมงคล พร้อม หารือแนวทางความร่วมมือกรณีรับสมัครงาน ย้ำ นโยบายรับนักศึกษาจากทุกสถาบันเข้าร่วมงาน | null | ธ.ไทยพาณิชย์,มหาวิทยาลัยราชภัฏ,มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล,การรับสมัครงาน,ประชุม,ปรับความเข้าใจ,ญนน์ โภคทรัพย์,นักศึกษา,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/509220 |
ปปง.เตือนหลอกขายหน้ากากอนามัยระวังโดนโทษหนัก อาจเข้าข่ายฟอกเงิน | เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 12 มี.ค.63 พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทน เลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดปัญหาการกักตุนหน้ากากอนามัย การขายในราคาสูงเกินกว่ากำหนด การแอบอ้างขายในราคาต่ำ แต่ไม่มีสินค้าส่งให้จริง และการนำหน้ากากมือสองกลับมาจำหน่ายใหม่นั้น สำนักงาน ปปง.มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยในทรัพย์สินของประชาชนที่อาจตกเป็นเหยื่อของการกระทำผิด จึงขอแจ้งเตือนว่าการกระทำดังกล่าวที่เข้าข่ายเป็นความผิด ฐานฉ้อโกงประชาชน จะถูกดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงิน ผู้ที่กระทำความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน สำนักงาน ปปง.จะตรวจสอบธุรกรรมและทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดและบุคคลที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์และยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด และจะดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงินอย่างเด็ดขาด ซึ่งความผิดฐานฟอกเงินนั้นมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20000 ถึง 200000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กล่าวโดยสรุปแล้ว ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน นอกจากจะถูกยึดหรืออายัดทรัพย์สินแล้ว ตัวผู้กระทำความผิดเอง ผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ หรือเป็นนอมินี ที่รับโอนทรัพย์สินจากผู้กระทำความผิดทุกคนยังอาจต้องถูกลงโทษในความผิดฐานฟอกเงินด้วย หากประชาชนมีข้อสงสัยใดที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน หรือสงสัยว่าอาจจะโดนหลอกลวงให้โอนเงิน หรือพบเห็นผู้ที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสมายังสำนักงาน ปปง. ได้ที่สายด่วน ปปง.1710 พล.ต.ต.ปรีชา กล่าว. | เลขาธิการ ปปง. ย้ำ หลอกขายหน้ากากอนามัยผิดกฎหมาย อาจเข้าข่ายฟอกเงิน ชี้โทษหนักจำคุกสูงสุด 10 ปี ปรับ 200000 บาท | ข่าว,อาชญากรรม | หลอกขายหน้ากากอนามัย,กักตุนหน้ากากอนามัย,ตุนหน้ากาก,ปปง.,ฟอกเงิน,ฉ้อโกงประชาชน,หน้ากากอนามัย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1793489 |
มาร์ค ย้ำเลือก หน.ปชป.เน้นเปิดกว้าง จวกยับ รบ.เอาเปรียบพรรคการเมือง | เมื่อวันที่ 21 ก.ย.61 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.จ.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ และนายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ข้อสงสัยกรณีการลงคะแนนแบบ Electoral Vote ในการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค เป็นเพียงข้อเสนอในที่ประชุม กก.บห.พรรค ซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติว่าจะใช้รูปแบบไหน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ข้อบังคับพรรคได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ ในวันที่ 26 ก.ย.นี้ จากนั้นจะต้องมีการออกระเบียบการหยั่งเสียงฯตามมา โดยกระบวนการเลือกหัวหน้าพรรคจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้ เพราะในเดือน ธ.ค.คาดว่าจะมีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งอาจจะออกมาเร็วก็ได้ พรรคจึงต้องมีความพร้อมในการจัดเตรียมส่งผู้สมัครด้วย,ส่วนผู้มีสิทธิ์หยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคนั้น ตนเห็นว่าควรเปิดให้สมาชิก 2.5 ล้านคน ที่ต้องพ้นสภาพเพราะคำสั่งหัวหน้า คสช.น่าจะให้มีส่วนร่วมกับการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค เชื่อว่าเปิดกว้างจะเป็นธรรมที่สุด เพราะฐานยิ่งกว้างก็จะได้การมีส่วนร่วม และการแข่งขันที่เป็นธรรมชาติ ตนยืนยันไม่มีอะไรขัดแย้งกับใคร เพราะสิ่งที่ทำต้องการให้กระบวนการนี้เป็นคุณกับพรรคประชาธิปัตย์ กับประชาธิปไตย กับประเทศมากที่สุด ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำให้มีประชาธิปไตยเกิดขึ้นในพรรคเช่นนี้,ส่วนที่มีข่าวว่า นายสุรบถ หลีกภัย บุตรชายของ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคในวันที่ 27 ก.ย.นี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทราบจากข่าว ที่ผ่านมาเคยทาบทามให้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค หากมาจริงก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเจ้าตัวจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ด้วยหรือไม่ แต่ถือว่าเป็นคนที่มีศักยภาพ ทั้งนี้การเปิดรับสมัครสมาชิกใหม่ต้องให้ชัดเจนจาก กกต. เช่น การรับสมัครสมาชิกผ่านแอปพลิเคชันจะเป็นไปตามระเบียบ กกต.ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะยังอยู่บนสมมติฐานว่าทุกอย่างอยู่บนกระดาษ แต่ก็ไม่มีหลักประกันอะไร คงเปิดรับสมาชิกได้หลัง 28 ก.ย.,นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงเนื้อหาในคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 13/2561 ที่ระบุว่า กกต.และ คสช.มีอำนาจกำหนดกติกาเกี่ยวกับการเผยแพร่ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และมีคำสั่งยับยั้งได้ว่า ไม่อยากให้การเขียนกฎหมายหรือคำสั่งทำให้ยากต่อการปฏิบัติหรือฝืนธรรมชาติ เพราะกรณีโซเชียลมีเดีย หากมีการใส่ร้ายหรือปลุกปั่นยุยง ก็มีกฎหมายอื่นควบคุมอยู่แล้ว,ส่วนกรณีที่นายกฯ มีหนังสือเวียนถึงหน่วยงานราชการ ให้เร่งประชาสัมพันธ์ผลงานควบคู่กับการให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง จะถือเป็นการหาเสียงหรือไม่ ขณะที่ห้ามพรรคการเมืองหาเสียงนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ใช่พรรคการเมืองจึงใช้สถานะความเป็นรัฐบาล แต่อยากให้คิดว่าที่เราเรียกร้องการปฏิรูปการเมืองมานาน เพื่อต้องการให้เกิดกระบวนการที่เสรีและเป็นธรรม ใครที่ทำตรงกันข้ามก็จะเป็นตัวถ่วงทำให้การเมืองไม่พัฒนากลับสู่วังวนเดิม ที่ใช้อำนาจรัฐ อำนาจเงิน และอิทธิพลมาครอบงำการเมือง | อภิสิทธิ์ ยันไม่ขัดแย้งใครในพรรค ย้ำการหยั่งเสียงโหวตหัวหน้าพรรค เน้นเปิดกว้างเป็นธรรม รับเคยทาบทาม ปลื้ม เปิดรับสมาชิก ต.ค.ติง รบ.เอาเปรียบใช้อำนาจรัฐ-เงิน-อิทธิพลครอบการเมือง | ข่าว,การเมือง | อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,ประชาธิปัตย์,ปชป.,เลือกหัวหน้าพรรค,หัวหน้าพรรค ปชป.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1381216 |
หุ่นเป๊ะเว่อร์ เจนนิเฟอร์ โลเปซ เปิดเคล็ดลับดูแลตัวเองในวัยใกล้ 50 ปี | ถึงแม้ว่าอายุจะเข้าใกล้เลข 5 เข้าไปทุกที แต่คุณแม่ลูก 2 อย่าง ,เจนนิเฟอร์ โลเปซ, ก็ยังคงครองตำแหน่งเซ็กซี่สตาร์อันดับต้นๆ ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ด้วยรูปร่างที่ฟิตแอนด์เฟิร์มจนสาวๆ อย่างเรายังอาย แต่นั้นเพราะวินัยในการรักษาหุ่นของคุณแม่คนดังล้วนๆ,เจนนิเฟอร์ โลเปซ, ผู้เป็นเจ้าของสะโพกดินระเบิดที่ผู้หญิงทุกคนต่างอิจฉา ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยผ่านมานาน เธอก็ไม่ได้ดูแก่ลงเลย แถมมี ,หุ่น, ที่เซี๊ยะกว่าเดิม ชนิดที่ว่ากล้ามเป็นกล้ามซิกซ์แพ็กเป็นซิกซ์แพ็กกันเลยทีเดียว ซึ่งสาวๆ ที่ติดตามไอจีของเจโลก็มักจะเห็นว่าเธอมักจะโพสต์ภาพอวดหุ่นเป๊ะอยู่เสมอ,วันนี้ ,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ, จะพาคุณไปส่องหุ่นเป๊ะของ เจนนิเฟอร์ โลเปซ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเองของเธอในวัยใกล้อายุ 50 ปีตามไปดูกันเลย, ,ด้วยต้นทุนที่ยานแม่ของเราออกกำลังกายมาตั้งแต่สมัยสาวๆ หุ่นจึงดูฟิตแอนด์เฟิร์มมาแต่ไหนแต่ไร ดังนั้น เราไปส่องวิธีการออกกำลังกาย และอาหารการกินของแม่กันค่ะ ว่าแต่ละวันรับประทานอะไรบ้างถึงได้เป๊ะขนาดนี้,การออกกำลังกาย, - อย่างที่เห็นกันในอินสตาแกรมว่า เมื่อไรที่มีเวลาว่างนอกเหนือจากการเล่นคอนเสิร์ตเป็นต้องเข้ายิมเพื่อออกกำลังกายอยู่เสมอ โดยเน้นไปที่การเวตเทรนนิ่ง หรือโยคะ เพื่อบริหารกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ให้กระชับได้สัดส่วน,ส่วนบั้นท้ายที่สาวๆ ต่างก็อิจฉานั้นได้มาจากการสควอตและเดดลิฟต์เป็นประจำ,การรับประทานอาหาร, - เจนนิเฟอร์ โลเปซ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่าเธอเป็นคนที่จริงจังกับเรื่องการเลือกรับประทานอาหารมาก โดยจะเน้นอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตให้น้อยที่สุด เน้นรับประทานโปรตีนจากปลา ผักใบเขียว รวมถึงผลไม้ต่างๆ ,เธอไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เลย รวมถึงเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน พร้อมพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8-10 ชั่วโมง,เห็นแบบนี้แล้วเข้าใจหรือยังว่า หุ่นดี ไม่ได้มาจากการอธิษฐานหรือร่ายเวทมนตร์ แต่มาจากการพยายามโดยใช้หยาดเหงื่อ แรงกาย เพื่อสร้างขึ้นมา แต่ถ้าพวกเธอทำได้ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ ก็เชื่อว่าคุณผู้หญิงทุกคนทำได้ค่ะ.,อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการลดน้ำหนักต่อ:,- ,เทคนิคเตรียม หน้าท้อง ให้แบนราบพร้อมใส่ ชุดว่ายน้ำ อวดหน้าร้อน,- ,เปิดสูตรแพนเค้ก คีโตเจนิค ไดเอต อาหาร ลดน้ำหนัก สำหรับผู้หญิง,- ,เทคนิคเลือก เครื่องดื่ม สำหรับผู้หญิง ลดน้ำหนัก ดื่มได้ไม่อ้วน,ที่มาภาพ: ,@jlo | ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จะมาแนะนำเคล็ดลับ ลดน้ำหนัก และการ ออกกำลังกาย ตามแบบฉบับ เจนนิเฟอร์ โลเปซ คุณแม่ลูกสองวัยใกล้ 50 ที่หุ่นยังเป๊ะจนสาวๆ ต้องอาย | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | ลดน้ำหนัก,หุ่นดี,Jennifer lopez,ดูแลตัวเอง,เจนนิเฟอร์ โลเปซ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/hisoceleb/1508511 |
แพทย์ชี้อาการ ขาอยู่ไม่สุข ทำคุณภาพการนอนแย่ลง แนะรีบพบแพทย์ | กรมการแพทย์ เผยอาการ ขาอยู่ไม่สุข รู้สึกมีอะไรมาไต่ที่ขา ขากระตุก มักเกิดขึ้นเฉพาะเวลากลางคืน ทำคุณภาพการนอนแย่ลง แนะใครมีอาการดังกล่าวควรรีบมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจประเมินอาการนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุขหรือโรค (RLS) RESTLESS LEG SYNDROME เป็นกลุ่มอาการที่คนไข้รู้สึกว่า มีการรับรู้ผิดปกติบริเวณขา เช่น เหมือนมีอะไรมาไต่ที่ขาร่วมกับบางครั้งมีการกระตุกของขา อาการมักเกิดขึ้นช่วงเอนตัวนอนโดยเฉพาะเวลากลางคืน ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าต้องขยับขา ลุกขึ้นเดิน เพื่อลดอาการสำหรับอาการดังกล่าว ทำให้ผู้ป่วยต้องตื่นกลางดึกอยู่บ่อยๆ ความรุนแรงของโรคจะไม่แตกต่างระหว่างคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ และส่วนใหญ่จะพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชายถึงสองเท่า นอกจากนี้ยังพบในผู้ที่เป็นโรคไต และผู้ที่มีภาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็กทางด้าน นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุของโรคเกิดจากสารเคมีที่สมองสร้างที่เรียกว่าโดพามีนมีปริมาณน้อยลง โดยอาจเป็นจากภาวะความเจ็บป่วยบางอย่าง เช่น โรคพาร์กินสัน หรือการได้รับยาที่ทำให้โดพามีนในร่างกายลดลง หรือระบบรักษาสมดุลของธาตุเหล็กในร่างกายผิดปกติ ผู้ป่วยควรมาพบแพทย์เพื่อประเมินอาการและสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ โดยจะได้รับการประเมินภาวะซีด ภาวะการขาดธาตุเหล็ก การทำงานของไต และระบบประสาท เพื่อหาสาเหตุก่อนเริ่มให้การรักษาขณะที่ ยาที่ใช้รักษาเพื่อเพิ่มสารโดพามีนในกระแสเลือด ลดอาการผิดปกติที่ขาและขากระตุก ดังนั้นผู้ป่วยควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของตัวเองถึงแม้ว่าอาการขากระตุกหรือขาอยู่ไม่สุขดังกล่าว จะเป็นอาการที่ไม่อันตราย แต่จะทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตในการนอนลดลงทำให้นอนไม่หลับ จึงควรควบคุมอาการเพื่อให้คุณภาพชีวิตการนอนดีขึ้น หากผู้ป่วยมีอาการดังกล่าวควรรีบมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจประเมินและพาคนใกล้ชิด มาพบแพทย์ด้วยเพื่อจะได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการรักษา. | กรมการแพทย์ เผยอาการ ขาอยู่ไม่สุข รู้สึกมีอะไรมาไต่ที่ขา ขากระตุก มักเกิดขึ้นเฉพาะเวลากลางคืน ทำคุณภาพการนอนแย่ลง แนะใครมีอาการดังกล่าวควรรีบมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจประเมินอาการ | ข่าว,ทั่วไทย | ขาอยู่ไม่สุข,กรมการแพทย์,ขากระตุก,แขนกระตุก,สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ | https://www.thairath.co.th/news/local/1859489 |
วิลมอตส์ แนะ ยานูไซ ใช้สไตล์ตรงข้ามกับผี เวลาเล่นทีมชาติ | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 13 พ.ย. ว่า มาร์ค วิลมอตส์ ผู้จัดการทีมชาติเบลเยียม ระบุว่าเขาได้อบรม อัดนัน ยานูไซ ปีกดาวรุ่งของทีม ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าเวลาลงเล่นให้ต้นสังกัดแบบไหน อย่านำวิธีแบบนั้นมาใช้เมื่อลงเล่นกับทีมชาติ,สำหรับ ยานูไซ วัย 19 กำลังมีปัญหากับฟอร์มการเล่นของตนเองอย่างหนักในฤดูกาลนี้ ซึ่ง มาร์ค วิลมอตส์ กุนซือทีมชาติเบลเยียม ก็แสดงความเป็นห่วง ยานูไซ เช่นกัน โดยเขายอมรับว่ายังไม่ประทับใจฟอร์มการเล่นของ ยานูไซ ในเกมที่ช่วยต้นสังกัดแข่งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ คริสตัล พาเลซ โดย วิลมอตส์ ได้แนะนำ ยานูไซ ก่อนลงช่วยทีมชาติเบลเยียม แข่งกับ ไอซ์แลนด์ ว่าให้เขาเล่นตรงข้ามกับที่เล่นกับทีมปิศาจแดง,ผมเห็นสองเกมตอนที่เขาเล่นกับ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่ยืนอยู่หลังเขา บอกตรงๆ เลยว่าผมไม่ประทับใจฟอร์มการเล่นของ ยานูไซ สักเท่าไร หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือของ แมนฯ ยูไนเต็ด บอกให้เขายืนอยู่ใกล้ริมเส้นของสนาม แต่สำหรับผมตรงกันข้ามเลยนะ ผมต้องการให้เขาพาบอลจากด้านขวาด้วยเท้าซ้าย แล้วก็จ่ายบอล หรือไม่ก็ตัดสินใจยิงประตูไปเลย. | มาร์ค วิลมอตส์ กุนซือทีมชาติเบลเยียม ระบุ ได้แนะนำ อัดนัน ยานูไซ ปีกดาวรุ่ง ว่าอย่านำสไตล์การเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาใช้เวลาลงเล่นให้ทีมชาติ
| null | มาร์ค วิลมอตส์,อัดนัน ยานาไซ,ทีมชาติเบลเยียม,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ข่าวกีฬา,อัดนัน ยานูไซ | https://www.thairath.co.th/content/463151 |
นักโทษทางการเมืองพม่าเสียชีวิตอีก 1 ราย | จาน ทางภาคกลางของประเทศ ซึ่งนับเป็นนักโทษทางการเมืองรายที่ 144 แล้วที่เสียชีวิตในเรือนจำ ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า นายจ่อโซป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจและโรคกระเพาะอาหาร ภรรยาของนายจ่อโซเปิดเผยว่า หลายครั้งที่เธอไปเยี่ยมสามี เธอได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่เรือนจำซื้อยาให้สามี แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธโดยบอกเพียงว่า ทางเรือนจำจะดูแลรักษานายจ่อโซเอง แต่ท้ายสุด นายจ่อโซก็ต้องเสียชีวิตในเรือนจำนายจ่อโซนอกจากจะเป็นสมาชิกของพรรคเอ็นแอลดีแล้ว เขายังเป็นสมาชิกของกลุ่มเพื่อสิทธิมนุษยชนและกลุ่มคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนด้วย ขาถูกจับกุมเมื่อ ปี 2550 ในข้อหาติดต่อกับกลุ่มใต้ดินผิดกฎหมายในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ประท้วงใหญ่ขณะที่มีรายงานว่า เรือนจำมยิง จาน เป็นเรือนจำที่มีสภาพเลวร้ายแห่งหนึ่ง กลุ่มสิทธิมนุษยชนเปิดเผยว่า นักโทษการเมืองที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำแห่งนี้เสียชีวิตมาหลายรายแล้ว มี บางรายเสียชีวิตเนื่องจากถูกทรมานร่างกาย เช่น นายซอยินติน ชาวกะเหรี่ยง ที่เสียชีวิตในปี 2539 และนายซออีเทอที่เสียชีวิตในปี 2541งนี้มีรายงานออกมาว่า นักโทษทางการเมืองจำนวน 142 จากเรือนจำ 44 แห่งและค่ายใช้แรงงานหนักอีก 50 แห่งกำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพ ส่วนใหญ่ป่วยเป็นโรคมาเลเรีย โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และท้องร่วงนายโบจียังเปิดเผยอีกว่า นักโทษการเมืองนอกจากไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานในการรักษาพยาบาลแล้ว ยังต้องทนทุกข์จากการขาดสารอาหารรุนแรง หลายคนต้องเสียชีวิตก่อนที่จะได้รับอิสรภาพ (Mizzima /Irrawaddy 20 พ.ค.53) | นายโบจี เลขาธิการร่วมสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองพม่า (AAPP)เปิดเผยว่า นายจ่อโซ นักโทษการเมืองวัย 40 ปี สมาชิกพรรคเอ็นแอลดี เสียชีวิตอีกหนึ่งรายแล้วเมื่อเวลา 10.00 น.ในวันนี้ ในโรงพยาบาลในเรือนจำมยิง | ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน | พม่า,สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองพม่า | https://prachatai.com/journal/2010/05/29632 |
ลิสซิ่ง เผยช่วยเหลือ ลุงค้ำประกันให้ญาติซื้อรถ แต่โดนเรียกค่าเสียเวลาแสนห้า | จากกรณี นายสิฐ สิทธิสอน อายุ 51 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ ไปค้ำประกันให้ญาติซื้อรถ 6 ล้อ ต่อมาบริษัทลิสซิ่งได้ทำการยึดรถไปขายทอดตลาด แต่ก็ไม่พอใช้หนี้ จากนั้นได้ทำหนังสือประนอมหนี้ แต่กลับกลายเป็นว่า ที่ดินของนายสิฐที่จำนองไว้กับธนาคารกลับถูกยึดไปขายทอดตลาด ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (ลุงค้ำประกันให้ญาติซื้อรถ แม้ขายก็ไม่พอใช้หนี้ รันทดซ้ำบ้านก็โดนยึดแล้ว)ล่าสุด นายสิฐ ได้เดินทางเข้ามายื่นเรื่องขอให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเปิดใจว่า ตนรู้สึกไม่ได้รับความยุติธรรมเนื่องจากถูกบริษัทลิสซิ่งคู่กรณีนำที่ดินไปขาย ทั้งๆ ที่มีการทำหนังสื่อปรับปรุงโครงสร้างหนี้ไปแล้วโดยที่ดินของตนตอนนี้ก็มีคนซื้อไปแล้ว และยังไม่รู้ว่าจะถูกไล่ออกจากที่เมื่อไหร่ สิ่งที่มาเรียกร้องในวันนี้ก็เพียงเพราะอยากจะได้ที่ดินของตนคืนอย่างไรก็ตาม ภายหลังการเดินทางเข้าร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมในวันนี้แล้วนั้น ทางด้านเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการรับเรื่องของ นายสิฐไว้แล้ว จากการตรวจสอบทราบว่าเรื่องดังกล่าวได้มีการฟ้องร้อง และยังมีการขึ้นในชั้นศาลมาแล้ว อีกทั้งที่ดินดังกล่าวได้มีการขายทอดตลาดไปแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเรื่องราวดังกล่าว เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายบริษัท ลิสซิ่ง ขอชี้แจงเคยช่วยเหลือแล้วตัวแทนบริษัท ลิสซิ่ง ที่ถูกอ้างถึง เปิดเผยว่า มีการทำสัญญาเช่าซื้อรถบรรทุกกันตั้งแต่ ปี 2556 โดยนายสิฐ ได้มาค้ำประกันในการผ่อนรถบรรทุกให้แก่นายมนูญ เชิดชู ในเวลาต่อมา นายมนูญ ได้ขาดการชำระผ่อนส่งเป็นเวลา 14 เดือนทางบริษัทจึงจำเป็นต้องฟ้องศาลแพ่งจังหวัดเชียงใหม่ และในวันไต่สวนจำเลยทั้งสองขาดนัดไม่มาศาลฟังคำพิพากษาในปี 2559 โดยศาลได้พิพากษาให้จำเลยทั้งสองรับผิดชอบมูลหนี้ที่เกิดขึ้นพร้อมค่าใช้จ่ายเกิดจากการฟ้องร้องแต่ทั้งสองก็ยังเพิกเฉยไม่มาชำระเลย และในปี 2560 ทางบริษัทจึงเรียกขอคืนรถคันดังกล่าว ซึ่งได้ล่วงเลยมานานมูลค่ารถในวันที่ส่งคืนนั้นไม่เพียงพอ บริษัทจึงได้ส่งหนังสือแจ้งมูลค่าที่ขายออกไปได้ และเงินส่วนต่างที่ต้องรับผิดชอบแก่ผู้สัญญาจากนั้น ทั้ง 2 คนได้มาเจรจาขอผ่อนชำระในส่วนต่างโดยทางบริษัทยินยอมให้ทั้งคู่ผ่อนชำระในเดือนละ 3000 บาท แต่ปรากฏว่าตั้งแต่ปี 2560- 2562 ก็ไม่ชำระเลยกระทั่งกรมบังคับคดีมีหมายขายทรัพย์ของผู้ค้ำคือนายสิฐจากนั้นก็ได้เดินทางมา ที่บริษัทอีกครั้งเพื่อขอให้บริษัทช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าในวันที่ขายทอดตลาดได้มีนายทุนรายใหม่เข้ามาซื้อทรัพย์ไปทำให้บริษัทไม่สามารถช่วยเหลือได้ทัน หลังจากนั้นนายทุนรายใหม่ที่ซื้อทรัพย์ได้เข้ามาเจรจากับทางบริษัทโดยได้ข้อสรุปนายทุนรายใหม่บอกมากับทางบริษัทว่า ขอค่าเสียเวลา 50000 บาท เป็นค่าซื้อทรัพย์จากกรมบังคับคดีอีก 30000 บาท รวมเป็น 80000 บาทในครั้งแรกทางบริษัท ยินดีที่จะช่วยเหลือนายสิฐ ด้วยความเห็นใจในการที่ไม่มีที่อยู่อาศัยแต่ผ่านมาสักพักปรากฏว่า ผู้ค้ำ คือ นายสิฐ ได้เรียกร้องค่าเสียเวลาจากบริษัทจำนวน 150000 บาท ทำให้บริษัทไม่สามารถตกลงตามข้อเรียกร้องของนายสิฐได้ทั้งนี้ จึงแนะนำให้นายสิฐ ไปคุยนายทุนรายใหม่ และนายสิทธิ์ไปเจรจาตกลงกันเองให้เสร็จแล้วก่อนออกมาเจรจาตกลงกับบริษัทในภายหลังแต่ปรากฏว่านายสิฐ ได้ไปออกข่าวตามสื่อมวลชนแล้วให้ข้อมูลบิดเบือนความเป็นจริงทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียงและตกเป็นจำเลยของสังคม ซึ่งทางเจ้าของบริษัทก็ได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว | ลิสซิ่ง ขอชี้แจงบอกได้ช่วยเหลือ ลุงค้ำประกันให้ญาติซื้อรถ คุยนายทุนรายใหม่เรื่องบ้านที่ถูกขายทอดตลาดให้ แต่กลับโดนเจ้าตัวเรียกค่าเสียเวลาแสนห้า | ข่าว,สังคม | ค้ำประกันซื้อรถ,ยึดที่คนค้ำประกัน,ขัดแย้งที่ดิน,ขับไล่เจ้าของที่ดิน,บริษัท ลิสซิ่ง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1861199 |
ชมรมคนรักในหลวงหลายจังหวัด โต้ทูตสหรัฐหลังแสดงความกังวลต่อโทษ ม.112 ที่หนัก | ภายใต้ปกครองของคณะรัฐประหารณ เวทีเสวนาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในกรุงเทพฯ โดยนายกลิน ที. เดวีส์ย้ำว่ารัฐบาลสหรัฐฯ มีความเคารพอย่างยิ่งและรู้สึกชื่นชมพระมหากษัตริย์ไทย แต่ก็กล่าวถึงสิทธิการแสดงความคิดเห็นว่า เราเชื่อว่าไม่ควรมีใครควรถูกจำคุกต่อการแสดงมุมมองอย่างสันติ และเราสนับสนุนอย่างหนักแน่นต่อความสามารถของบุคคลหรือองค์กรอิสระใดๆ ในการค้นคว้าวิจัยและรายงานประเด็นสำคัญๆ โดยปราศจากความกลัวว่าจะถูกแก้แค้น ()ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา ชมรมคนรักในหลวง ได้เผยแพร่ภาพกิจกรรมผ่านเว็บไซต์ ระบุว่ามีสมาชิกชมรมหลายจังหวัดเข้ายื่นแถลงการณ์ตอบโต้เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ จากกรณีแสดงความเห็นดังกล่าว ที่วิจารณ์กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทย ผ่านยังผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดเพื่อส่งถึงกระทรวงการต่างประเทศโดยจังหวัดที่มีการรายงานกิจกรรมดังกล่าวเช่น ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การเพิ่มโทษในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นี้ ถูกแก้ไขหลังเหตุการณ์ล้อมปราบนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในวันที่ 6 ต.ค. 2519 จากนั้นมีการรัฐประหารและต่อมาได้ออกคำสั่งให้แก้ไขประมวลกฎหมายดังกล่าวเป็นเพื่อเพิ่มโทษและมีการกำหนดโทษขั้นต่ำดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ว่า มาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปีโดยที่ก่อนหน้านั้นมีโทษที่ต่ำกว่าที่เป็นอยู่ ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีพระราชกำหนดลักษณะหมิ่นประมาทด้วยการพูดหรือเขียนถ้อยคำเท็จออกโฆษณาการ รศ. 118 มาตรา 4 ซึ่งระบุโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับเป็นเงินไม่เกิน 1500 บาท หรือทั้งจำและปรับ ต่อมาได้มีการจัดทำประมวลกฎหมายอาญาขึ้น ชื่อ กฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ.127 มาตรา 98 ระบุโทษไม่เกิน 7 ปี (ไม่มีอัตราโทษขั้นต่ำ) และปรับไม่เกิน 5000 บาทด้วย หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในปี 2500 ได้จัดทำประมวลกฎหมายขึ้นใหม่ ชื่อ ประมวลกฎหมายอาญา ในมาตรา 112 กำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี (ไม่มีโทษปรับ) และล่าสุดที่มีการแก้ภายหลังเหตุการณ์ 6 ต.ค. 2519 จนกระทั่งมีการกำหนดโทษขั้นต่ำและเพิ่มโทษดังที่เป็นอยู่ล่าสุดมีผู้ถูกดำเนินคดีจากการโพสต์ในเฟซบุ๊กและถูกตัดสินว่ามีเนื้อหาที่ผิดตามกฎหมายมาตรานี้ ถูกตัดสินจำคุก 60 ปี (6 กรรม สารภาพลดโทษเหลือ 30 ปี ) และ คุก 56 ปี (7 กรรม สารภาพลดโทษเหลือ 28 ปี ) | 1 ธ.ค. 2558 จากกรณีเมื่อวันที่26 พ.ย. ที่ผ่านมา นายกลิน ที. เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยได้แสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ที่การดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพพุ่งสูงขึ้น | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | ชมรมคนรักในหลวง,ม.112,สถานทูตเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย | https://prachatai.com/journal/2015/12/62712 |
กพท. ชี้ชัดเด็กพูดมีระเบิดบนเครื่อง ต้องได้รับโทษตาม ก.ม.เหมือนผู้ใหญ่ | เมื่อวันที่ 21 มี.ค. นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยถึงกรณีสายการบินไทยสมายล์ เที่ยวบินที่ WE 136 กรุงเทพฯ-เชียงราย มีความจำเป็นต้องล่าช้า เนื่องจากมีผู้โดยสารซึ่งเป็นเด็กชายอายุ 14 ปี พูดว่ามีระเบิดในแจ็กเกตว่า ปกติแล้วเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ทางสายการบินต้องแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่ง พ.ร.บ.ความผิดบางประการของการเดินอากาศ พ.ศ.2558 มาตรา 22 ระบุโทษไว้ชัดเจน ดังนั้นผู้กระทำผิดไม่ว่าจะอายุเท่าใด เป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ ก็ต้องได้รับโทษเช่นเดียวกัน แต่โทษจะมากน้อยเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับศาลจะเป็นผู้พิจารณา,ส่วนการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละสายการบินว่าจะมีการฟ้องร้องหรือไม่ เพราะเมื่อมีการออกเดินทางล่าช้ากว่ากำหนด (ดีเลย์) ทำให้สายการบินต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าที่จอดเครื่องบิน เป็นต้น สำหรับ พ.ร.บ.ความผิดบางประการของการเดินอากาศ พ.ศ.2558 มาตรา 22 ระบุไว้ว่า ผู้ใดแจ้งข้อความ หรือส่งข่าวสาร ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุ หรือน่าจะเป็นเหตุผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000 - 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ. | การบินพลเรือนฯ ชี้ชัดเด็กพูดว่ามีระเบิด ต้องได้รับโทษตามกฎหมายเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ แต่จะโดนมากน้อยขึ้นอยู่กับศาลพิจารณา ขณะที่การฟ้องเรียกค่าเสียหาย เป็นเรื่องแต่ละสายการบินว่าจะดำเนินการหรือไม่ | ข่าว | ไทยสมายล์,ระเบิด,เด็ก 14 พูดระเบิด,การบินพลเรือน,เที่ยวบินกรุงเทพฯ-เชียงราย | https://www.thairath.co.th/news/892027 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.