title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
|---|---|---|---|---|---|
สุดคลาสสิก ย้อนเวลากลับไปชมภาพ ปั๊มน้ำมัน สมัยคุณปู่ คุณย่า | ไทยรัฐออนไลน์ ขอพาผู้อ่าน นั่งไทม์แมชชีน ไปชมภาพหายากสุดคลาสสิกของปั๊มน้ำมันไทยสมัยโบราณ เรียกได้ว่า คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ของเรายังวัยรุ่นอยู่ และจะพาไปชมภาพวิวัฒนาการปั๊มน้ำมันของไทย จากเดิมเพียงแค่เติมน้ำมัน แล้วขับรถออกไปเลย,ปัจจุบัน ปั๊มน้ำมัน เป็นมากกว่าการให้บริการน้ำมัน เพียงอย่างเดียว เรียกได้ว่า ปั๊มน้ำมันคือเพื่อนเดินทางอย่างแท้จริง นอกจากจะให้บริการ ห้องน้ำสะอาด หรือแม้กระทั่งห้องอาบน้ำ ร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ร้านอาหารทั้งไทย และเทศ ที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง กาแฟสดยี่ห้อเดียวกัน แต่รสชาติไม่เหมือนกันเลยสักร้าน หรือ แม้กระทั่ง ร้านขายเสื้อผ้า และของโอทอป ก็มีบริการที่ปั๊มน้ำมัน ,เตรียมตัวให้พร้อม เริ่มย้อนเวลากันได้ ณ บัดนี้ สถานีแรก ปั๊มน้ำมัน ตราสามทหาร,ปั๊มน้ำมันสามทหารในจังหวัดลำพูน เปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2503 ปัจจุบันได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ปั๊มน้ำมันสามทหาร เพื่อให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้ามาศึกษา และเยี่ยมชมได้ ,ในปี พ.ศ.2521 มีการเปลี่ยนแปลงจากสถานีบริการน้ำมัน ตราสามทหาร มาเป็น ปตท. โดยวัตถุประสงค์หลักก็เพื่อดำเนินกิจการด้านพลังงานด้วยการพึ่งพาตนเอง เพราะในช่วงนั้นประเทศไทยประสบวิกฤติขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อการอุปโภค-บริโภค ภาพนี้คือ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ที่ปรับเปลี่ยนจากตราสามทหาร ตั้งอยู่บริเวณพระบรมมหาราชวังแต่ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว ,สำหรับ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ในยุคแรก มีความโดดเด่นอยู่ที่คานสีแดงสดใสตัดกับหลังคาสีน้ำเงิน นอกจากนี้ในช่วงปี พ.ศ.2531 ยังเป็นช่วงปีที่ ปตท. ได้เปิดตัวน้ำมันเบนซินปริมาณสารตะกั่วต่ำที่สุดและค่าออกเทนสูงที่สุดอีกด้วย,ปี พ.ศ.2535 ปตท. เริ่มมีการปรับปรุงโฉมใหม่ ให้บริการในรูปแบบที่เรียกว่า Landor มีหลังคาโค้งมนเป็นเอกลักษณ์ พร้อมเสาลายทางสีน้ำเงินสลับขาว,ปั๊มน้ำมัน หรือ ปั๊มหลอด ในปี พ.ศ. 2544 ที่เทศบาลบ้านกรูด อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์,ปั๊มน้ำมันร้าง ที่หยุดให้บริการในภาคใต้ เนื่องจากเหตุการณ์ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ในปี พ.ศ. 2548,ปั๊มน้ำมันบางจาก ปี พ.ศ. 2547,ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ในปี พ.ศ. 2547 ,ปั๊มน้ำมันหลอดเช่นนี้ ก็ยังพอมีให้เห็นในต่างจังหวัด,ปี พ.ศ.2547 ปตท. ได้เปิดตัวสถานีบริการรูปแบบ PTT Park เป็นแห่งแรกที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท.,ล่าสุดปี พ.ศ.2560 ปตท.ได้ยกระดับสถานีบริการน้ำมัน ภายใต้แนวคิด Care & Safety For All ให้ทุกพื้นที่ของสถานีบริการน้ำมัน ปตท.สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น,(ภาพจากเฟซบุ๊ก ,PTT News, แฟ้มภาพไทยรัฐ) | ชมภาพหายากสุดคลาสสิก ปั๊มน้ำมันในไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 สมัยยังเป็น สถานีบริการน้ำมัน ตราสามทหาร รุ่นคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ยังวัยรุ่น | ข่าว,เศรษฐกิจ | ปั๊มน้ำมันโบราณ,ปั๊มน้ำมัน,น้ำมัน,ปตท.,เอสโซ่,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/972658 |
เทพงานศิลป์ สล่าสิบหมู่ วัดศรีสุพรรณ ปลุก เสก ปัตตาเลี่ยนทองคำ ขึ้นหิ้งบูชา | โปรดเกล้าฯให้มหาอำมาตย์ชื่อเจ้าหมื่นหลวงจ่าคำ สร้างวัดชื่อว่า วัดศรีสุพรรณอาราม ต่อมาวันเวลาเปลี่ยนไปก็เรียกสั้นๆกันว่าวัดศรีสุพรรณ,ปูชนียสถานที่สร้างในเขตพุทธสถานประกอบด้วยพระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอุโบสถ หอธรรม พระวิหาร จุดที่น่าสนใจอยู่ที่ อุโบสถเงิน สร้างด้วยกำลังศรัทธาชาวบ้าน เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนา นอกจากนี้ยังมีศูนย์ศิลปะไทยโบราณ สล่าสิบหมู่ล้านนา อยู่ที่วัดแห่งนี้ด้วย,ศูนย์แห่งนี้ถูกใช้เป็นที่ฝึกอบรมศิลปหัตถกรรม เครื่องเงิน เครื่องประดับ เพื่ออนุรักษ์ สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นในย่านชุมชนวัวลาย ประเด็นสำคัญการฝึกอบรมที่ว่านี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น,O O O O,15 ค่ำ เดือน 12 วันลอยกระทง ที่ผ่านมาฤกษ์งามยามดี ท่านพระครูพิทักษ์สิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีสุพรรณ ทำพิธีลงคาถามหานิยม ปัตตาเลี่ยนทองคำ อาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งเดียวในโลก เพื่อเพิ่มศรัทธา ความเป็นมงคล เจริญรุ่งเรือง อันควรค่าต่อการเก็บรักษาสืบไป,ปัตตาเลี่ยนทองคำ ระดับตำนานนี้ขึ้นลวดลายประดับสวยงามจากฝีมือช่างสล่าสิบหมู่ มีทั้งลายทอง เงิน และทองแดง เพื่อเป็นรางวัลอันล้ำค่าสำหรับผู้ชนะเวทีปัตตาเลี่ยนทองคำ ในงาน เชียงใหม่บาร์เบอร์เฟสติวัล 2017 ซีซั่น 2 ช่วงปลายเดือนนี้,ถ้าจำไม่ผิดน่าจะจัดขึ้นในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ณ ลานห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ รวมพลังคนรุ่นใหม่ บาร์เบอร์วินเทจ-แกะลายสู่ความเป็นเจ้าปัตตาเลี่ยนทองคำครั้งแรกของเมืองไทย,ควรค่ายิ่งที่จะเก็บไว้ขึ้นหิ้งบูชา เพื่อความเจริญก้าวหน้า เรียกทรัพย์ เรียกลูกค้า เรียกศรัทธาเรียกความมั่นใจในอาชีพช่างผม ผู้ใดมีไว้ครอบครองถือเป็นสิ่งดีนำสิริมงคลมาสู่ตัวเองและครอบครัว,O O O O,ความเป็นมาของ ปัตตาเลี่ยน สืบค้นได้ความว่าน่าจะมาจากการพ้องเสียงคำว่า Battalion ที่แปลว่ากองทัพทหาร ซึ่งหน่วยทหารนี้ใช้ Hair Clipper เพื่อตัดผมมาตลอด เห็นจนชินตา จึงเรียกชื่อว่าปัตตาเลี่ยนกันมาตลอดจนถึงปัจจุบันนี้ไม่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ เครื่องมือตัดผมปัตตาเลี่ยนเข้ามาในประเทศไทยเมื่อไหร่กันแน่ สันนิษฐานกันว่าน่าจะเข้ามาช่วงสมัยรัชกาลที่ 6 ยุคที่มีการเกณฑ์ทหารตามแบบยุโรป,วัฒนธรรม สิ่งต่างๆจากดินแดนตะวันตกถูกรับเข้ามามากมาย แน่นอนว่าปัตตาเลี่ยนถูกใช้ในหน่วยทหารก่อนแล้วค่อยๆกลายมาเป็นเครื่องมือของช่างตัดผมทั่วไป,ปัตตาเลี่ยนทองคำ มีความเชื่อศรัทธาเดียวกับ เครื่องรางที่สร้างจากผาลไถนา ขึ้นชื่อลือชา หลวงพ่อชื่น อินทปัญโญ แห่งอำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้สร้างเครื่องรางของขลังผาลไถอันโด่งดัง,ท่านจะใช้ผาลส่วนที่เป็นเหล็กอายุกว่า 100 ปีมาตัดเป็นชิ้นๆ ขนาดรูปร่างต่างๆกันไป แล้วจารมือเป็นยันต์กำกับไว้ อาทิ ยันต์นะ ยันต์อุด ท่านให้คติว่าวัตถุจากธรรมชาติ เครื่องใช้ไม้สอยต่างๆที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน หลายชนิดมีอาถรรพณ์อยู่ในตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องปลุกเสกก็นำไปใช้ได้เลย,ผาลไถนา ใช้พลิกดิน เป็นของใช้ชนิดเดียวในโลกที่สามารถพลิกแผ่นดินได้ เมื่อไถลงไปในดินแล้วก็สามารถผ่านตลอดโดยไม่มีอะไรติดขัดจึงมีความเชื่อในเรื่องผาลพลิกสิ่งร้ายๆให้กลายเป็นดี,ไม่ว่าจะทำอะไรก็ผ่านฉลุย ไร้ปัญหาหมดอุปสรรคขวากหนาม,O O O O,ปัจจุบันทรงผมสมัยนิยมวินเทจ คุ้นหูมากขึ้น การใช้ปัตตาเลี่ยนในการแกะลายผมนิยมทำกันมากขึ้น ถึงขั้นมีการแข่งขันบนเวทีใหญ่ เมื่อบวกกับความเชื่อศรัทธาในคุณค่าเครื่องมือทำมาหากิน กลุ่มช่างตัดผมชายสไตล์วินเทจจังหวัดเชียงใหม่ นำทีมโดย ชานนท์ สุขสำราญ และสมาชิกช่างผมบาร์เบอร์วินเทจ จึงจัดให้มีงานการแข่งขันพัฒนาฝีมือ การตัดผมด้วยปัตตาเลี่ยน และการแกะลายผม โดยมีรางวัลให้กับผู้ชนะเลิศทุกประเภทเป็นปัตตาเลี่ยนมงคล สืบสานพลังศรัทธาโดยการนำเครื่องมือที่ใช้ทำมาหากิน ในการทำงานบนหัวคนมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ผ่านทำพิธีปลุกเสกเพื่อความเป็นสิริมงคล ไว้ขึ้นหิ้งบูชา,ปัตตาเลี่ยน เครื่องมือทำมาหากินที่มีคุณค่ายิ่งของช่างตัดผมบาร์เบอร์ ที่สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจนเลี้ยงดูครอบครัวได้ มาเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องรางของขลัง เป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ มีพลังหรืออำนาจที่อาจบันดาลให้เป็นไป หรืออาจบันดาลสิ่งที่ต้องประสงค์สำเร็จได้,ศรัทธา นำมาซึ่งปาฏิหาริย์เชื่อไม่เชื่ออย่างไรโปรดอย่าได้ลบหลู่.,รัก-ยม | เปิดบันทึกประวัติ วัดศรีสุพรรณ วัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นราวพุทธศักราช 2043 โดยพระเจ้าพิลกปนัดดาธิราช หรือ พระเมืองแก้ว กษัตริย์เชียงใหม่ราชธานี และพระนางสิริยสวดี พระราชมารดามหาเทวีเจ้า | ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์ | เหนือฟ้าใต้บาดาล,รัก-ยม,ปัตตาเลี่ยนทองคำ,วัดศรีสุพรรณ,เครื่องราง,อื่นๆ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1123194 |
ผู้ซับน้ำตาสารคดีชีวิต คือจิ๊กซอว์สันติภาพ-บทวิจารณ์งานสื่อ-สาร | พร้อมกับวิจารณ์การทำงานของสื่อและสารเป็นคำพูดส่วนหนึ่ง(ที่ฉะฉาน) ของ อดีตผู้ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายอันเนื่องมาจากปัญหาความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ที่พูดผ่านสารคดี ชื่อ ผู้ซับน้ำตา ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เมื่อวันศุกร์ ที่ 12 กรกฎาคม 2556 เวลา 20.20 – 21.15 น. ที่ผ่านมาเป็นสารคดี 1 ใน 6 ตอนของสารคดีชุด ชีวิต ณ ที่เกิดเหตุ ที่ถูกนำมาฉายซ้ำโดยเครือข่ายผู้หญิงภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2556 ที่คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) วิทยาเขตปัตตานี เพื่อให้ผู้ร่วมชมวิจารณ์สารคดี ผู้ซับน้ำตา เป็นการฉายภาพชีวิตของ คำนึง ชำนาญกิจ อดีตผู้ได้รับผลอันเนื่องมาจากสามีและลูกชายที่ถูกดำเนินคดีความมั่นคง เธอต้องหมดเนื้อหมดตัวและถึงกับต้องขายบ้านเพื่อเอาเงินมาต่อสู้คดีให้สามีกับลูกชายซ้ำยังถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นครอบครัวโจร กระทั่งสุดท้ายก็ถูกศาลพิพากษาให้พ้นผิดปัจจุบันคำนึง ชำนาญกิจ เป็นผู้ขับเคลื่อนเรื่องการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบรายอื่นๆ ที่เป็นเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกันจากอดีตเหยื่อสู่การเป็นผู้ซับน้ำตา คือหัวใจของสารคดีตอนนี้ โดยฉายให้เห็นภาพความแข็งแกร่งของผู้หญิงคนหนึ่งที่สามารถข้ามผ่านความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตกระทั่งสามีกับลูกชายของเธอถูกตัดสินให้พ้นผิด และเธอเองก็สามารถช่วยเหลือคนอื่นต่อไปได้ด้วยในตอนนี้ ทั้งพี่น้องคนพุทธและคนมุสลิมคำนึง ชำนาญกิจ หรือที่คนรู้จักกันเรียกว่า ก๊ะคำนึง ผู้ที่ถูกถ่ายทอดผ่านสารคดีตอนนี้ เล่าว่า ที่จริงในสารคดีเรื่องนี้อยากจะสะท้อนให้เห็นความเป็นพี่น้องระหว่างคนไทยพุทธและมุสลิมในจังหวัดเดียวกัน แต่ช่วงเวลาถ่ายทำค่อนข้างมีอุปสรรคมาก จึงทำให้ไม่สามารถถ่ายความเป็นพี่น้องดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์เช่น ในหมู่บ้านต้นแบบที่อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ในแง่ความไม่แตกแยกทางศาสนา ที่ทั้งของคนไทยพุทธและมุสลิมอยู่กันอย่างปกติสุขเธอบอกว่า สารคดีเรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวของตนเองบางส่วนเท่านั้น บางฉากบางตอนถูกตัดออก เนื่องจากเราต้องการนำเสนอสิ่งที่ดี ที่เป็นการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี เพื่อลดความขัดแย้ง ไม่ต้องการสะท้อนความรุนแรงผลกระทบที่เกิดขึ้น เราพยายามเยียวยาตนเองพร้อมกับการเยียวยาคนอื่นด้วย ไม่ว่าจะพี่น้องพุทธหรือมุสลิม หรือผู้กระทบด้านจากเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เราช่วยเหลือทั้งหมด เพียงแต่ย้ำว่าขอให้อดทนและเข้มแข็งก๊ะคำนึง เล่าต่อไปว่า ผู้ที่ชมสารคดีบางส่วนได้สะท้อนมุมมองทางเฟสบุ๊คส่วนใหญ่เป็นคนไทยพุทธที่ให้กำลังใจ เนื่องจากเราเปลี่ยนศาสนาจากพุทธมานับถือศาสนาอิสลาม ทุกคนบอกให้เราสู้ต่อไปและให้อดทนจนถึงที่สุดการสะท้อนจุดนี้ใช่เพียงแค่เราได้เปลี่ยนแปลงสิ่งที่ดี หากแต่เรายังสามารถช่วยเหลือผู้อื่นที่เจอสถานการณ์ย่ำแย่กว่าเรา เราพยายามผลักดันให้บุคคลเหล่านั้นได้รับการเยียวยาที่ดีที่สุด แม้เราไม่สามารถเอาชีวิตที่สูญเสียเหล่านั้นกลับมาได้ แต่ให้พวกเขามีความรู้สึกว่า ไม่มีใครทอดทิ้งเขาก๊ะคำนึง บอกว่า หลังจากนี้ ตนเองและเครือข่ายผู้หญิงฯ จะช่วยเหลือดูแลผู้ได้รับผลกระทบต่อไปเรื่อยๆ หากยังมีกำลังอยู่ โดยไม่เลือกว่าใครอยู่ฝ่ายไหน และจะต่อสู้กับความจริงอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ตนเองและผู้อื่นต่อไปรศ.ดร.วลักษณ์กมล จ่างกมล คณบดีคณะวิทยาการสื่อสาร ม.อ.ปัตตานี ซึ่งเป้นหนึ่งในผู้วิจารณ์สารคดีเรื่องนี้ กล่าวว่า ภาพรวมของเนื้อหาสารคดีเป็นเพียงภาพตัวต่อในจิ๊กซอว์ ซึ่งเป็นภาพเล็กๆที่รอการต่อเติม ไม่สามารถนำเสนอทุกแง่มุมในคราวเดียวกันได้การนำเสนอเรื่องราวในแง่ๆ หนึ่งจะมีทุกเรื่องอยู่ในนั้น ทั้งแง่มุมเชิงบวก และลบ แต่ผลกระทบต่อคนกลุ่มนี้หรือผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนี้มีใครบ้าง นั่นคือ อุดมคติของการทำงานด้านการสื่อสาร แต่ในความเป็นจริงเราไม่สามารถทำแบบนั้นได้อย่างสมบูรณ์ ฉะนั้น การนำเสนอของแต่ละภาคส่วนของภาพใหญ่ทั้งหมด จึงเป็นอีกกลไกหนึ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในฐานะสื่อ เราคาดหวังว่าสังคมผู้รับสารสามารถสะสมประสบการณ์จากเนื้อหาเหล่านี้ แล้วนำไปใช้ประโยชน์ได้ในตัวเองรศ.ดร.วลักษณ์กมล กล่าวว่า จุดเด่นของการนำเสนอสารคดีนี้ เป็นการนำเสนอของคนที่ธรรมชาติถูกสร้างมาให้เสียเปรียบในสังคม เช่น คนแก่ ผู้หญิง เด็ก ฯลฯในแง่ของการสื่อสารเชิงสันติภาพการที่สื่อมีบทบาทในการนำเสนอคนที่เสียเปรียบเหล่านี้ เป็นบทบาทอย่างหนึ่งที่สื่อสันติภาพต้องดึงความเสียเปรียบเหล่านี้มานำเสนอให้เท่าเทียมกับผู้ได้เปรียบในสังคม ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นปกครอง หรือผู้นำที่เป็นผู้ชาย ถือเป็นการเปิดพื้นที่ในสื่อมากขึ้น รศ.ดร.วลักษณ์กมล กล่าวรศ.ดร.วลักษณ์กมล กล่าวว่า การพยายามเดินภาพให้มีการเดินเรื่อง เห็นจากการนำเสนอเรื่องราวของก๊ะคำนึงนั้น ไม่ใช่เพียงการนำเสนอเรื่องราวของเขาเพียงอย่างเดียว แต่นั่นเป็นภาพสะท้อนของผู้เสียเปรียบในสังคมที่เป็นตัวตนสะท้อนตัวแทนของคนอื่นอีกหลายคนที่สามารถก้าวข้ามความยากลำบากไปได้ จากการเป็นเหยื่อไปสู่การเป็นผู้เยียวยาคนอื่นได้อย่างไรรศ.ดร.วลักษณ์กมล กล่าวว่า คุณประโยชน์ต่อการนำเสนอเรื่องราวของก๊ะคำนึง คือการสร้างแรงบันดาลใจและให้กำลังใจเขาได้ว่า ชีวิตยังมีทางออกอื่นที่ยังดำเนินต่อไปได้เนื้อหาในภาพรวมของสารคดี เรื่องนี้เป็นการเพิ่มพื้นที่สำหรับคนที่มีเสียงเบาในสังคมให้มีเสียงมากขึ้น ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญในการเป็นสื่อเพื่อสันติภาพ หรือเป็นการสื่อสารที่ช่วยคลี่คลายความขัดแย้ง และเป็นเรื่องราวผลกระทบที่แฝงเร้น ซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เป็นผลกระทบในเชิงสังคม วัฒนธรรม วิถีชีวิตที่กระทบถึงจิตใจ ซึ่งสื่อกระแสหลักยังไม่หยิบยกมานำเสนอ เนื่องจากเรื่องราวเหล่านี้ต้องใช้เวลาและพื้นที่ในการอธิบายค่อนข้างมากและต้องลงทุนสูงในการผลิตเพื่อนำเสนอผลกระทบเหล่านี้ให้เข้าใจกันและดึงดูดผู้ชมได้ รศ.ดร.วลักษณ์กมล กล่าวรศ.ดร.วลักษณ์กมล กล่าวว่า สภาพระบบสังคมเปลี่ยนไปในยุคนี้ ทำให้การบริการผู้รับสื่อโดยใช้เวลานานเป็นไปได้ยาก จึงเป็นผลพวงอย่างหนึ่งที่สื่อกระแสหลักไม่นำเสนอส่วนการใช้ภาษาและถ่วงทำนองในหลักการนำเสนอสารคดีเรื่องนี้ ในมุมมองสันติภาพ มีการใช้ภาษาโดยไม่เน้นการเร้าอารมณ์ แต่ใช้ภาพในการเดินเรื่องราวต่างๆได้ รศ.ดร.วลักษณ์กมล กล่าวสารคดีเรื่องนี้ ใช้กลวิธีในการผูกเรื่องให้เห็นถึงความยากลำบาก ไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาที่สะท้อนให้เห็นถึงความอคติ และชักจูงให้เชื่อในสิ่งที่ทำ สังคมจึงควรตระหนักในปัญหาตรงนี้ ฉะนั้นควรเป็นการนำเสนอที่ไม่เกิดจากความน่าสงสาร แต่เป็นการหาทางออกและแก้ไขร่วมกัน รศ.ดร.วลักษณ์กมล กล่าวรศ.ดร.วลักษณ์กมล กล่าวว่า คนที่ทำงานด้านการสื่อสารเพื่อสันติภาพต้องตระหนักถึงเป้าหมายที่จะทำให้เกิดสันติภาพในสังคม ฉะนั้นกระบวนการออกแบบ สาร-สื่อ ในการนำเสนอโดยการเรียบเรียงก่อนหลังต้องมีความชัดเจน โดยสามารถเชื่อมโยงความเข้าใจข้อมูลที่นำเสนอแล้วไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ควรปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอใหม่ให้สามารถตอบโจทย์สุดท้ายที่นักสื่อสารต้องการการนำเสนอสารคดีเพียงไม่กี่ตอน อาจยังไม่ทำให้คนได้ตระหนักถึงปัญหาได้เท่าที่ควร เป็นเพียงการเปิดพื้นที่ของคนใน 3 จังหวัด แต่แสดงให้เห็นถึงความหวังในการเกิดผลในเชิงปฏิบัติต่อไปในอนาคต รศ.ดร.วลักษณ์กมล กล่าวทิ้งท้ายขณะที่ผู้วิจารณ์คนอื่นๆ อย่างเช่น นางโซรยา จามจุรี จากเครือข่ายผู้หญิงภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ วิจารณ์ว่า สารคดีเรื่องนี้จึงเป็นเสียงสะท้อนของสตรีคนหนึ่งที่ต้องการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของคนในครอบครัว แต่ยังไม่สะท้อนให้เห็นความบริสุทธิ์ของสามีกับลูกชายก๊ะคำนึงขณะถูกจองจำ ทั้งที่ก๊ะคำนึงได้ร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงาน และต่อสู้เพียงลำพัง เพราะตอนนั้นเธอยังไม่เข้ามาอยู่ในเครือข่ายฯ สารคดีจึงน่าจะถ่ายทอดส่วนนี้ด้วยนางโซรยา กล่าวว่า ดังนั้น สารคดีเรื่องนี้จึงยังไม่ใช่ชีวิตของก๊ะคำนึง เพราะบางเรื่องไม่สามารถนำเสนอได้ เพราะเป็นชีวิตที่สุดโต่ง ไม่ผ่านการปรุงแต่ง คือผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายพิเศษ ซึ่งยังมีผู้ได้รับผลกระทบเช่นนี้อีกจำนวนมากในพื้นที่ที่ยังไม่ได้ถูกนำเสนอผ่านสื่อให้คนทั้งประเทศได้รับรู้และเข้าใจเราจะเห็นบทบาทผู้หญิงที่เป็นแม่เป็นปากเป็นเสียงให้ลูกชาย ภรรยาเป็นปากเป็นเสียงให้สามีในการเรียกร้องความยุติธรรม เนื่องจากผู้ชายเมื่อลุกขึ้นมาทำตรงนี้อาจตกเป็นเป้าหมายที่จะถูกร้ายได้ ผู้หญิงจึงเป็นเสียงที่เรียกความเห็นใจได้มากกว่าผู้ชาย คือพลังเสียงของผู้ได้รับผลกระทบที่เป็นผู้หญิง นางโซรยา กล่าวนายกิตติ สุระคำแหง ผู้อำนวยการ วิจารณ์ว่า คดีของก๊ะคำนึงเหมือนกับคดีเชอรี่แอน ดันแคน เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ที่คนที่ตกเป็นเหยื่อได้นำประสบการณ์จากคดีมาช่วยเหลือคนอื่น จนทำให้เกิดการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมครั้งใหญ่ นำไปสู่การปรับกระบวนการทัศน์ใหม่ในกระบวนการยุติธรรมถึง 10 กระบวนทัศน์การปรับกระบวนทัศน์ที่สำคัญ คือ การปรับเปลี่ยนทัศนคติของบุคลากรของรัฐและทัศนคติเชิงอำนาจในกระบวนการยุติธรรม เชื่อว่าก๊ะคำนึงเป็นหนึ่งในการปรับกระบวนทัศน์ในกระบวนการยุติธรรมนายกิตติ กล่าวว่า สิ่งที่ก๊ะคำนึงต้องการสะท้อนในสารคดีชุดนี้ คือ การทบทวนและปรับปรุงกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะการเริ่มกฎหมายกระบวนการยุติธรรม ซึ่งการให้อำนาจมากมายในทางกฎหมายทำให้เกิดกระบวนทัศน์เชิงอำนาจกฎหมายทุกฉบับเกิดขึ้นมาเพื่อต้องการรักษาความสงบเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ต้องรักษากฎหมายในเชิงบริการ การจับคนร้ายหนึ่งคน คือ ความปลอดภัยของคนอีกนับหมื่นนับพันคน แต่ทุกวันนี้คนที่มีอาวุธถือว่าตนเองมีอำนาจ ไม่ได้มองว่าเป็นการบริการ เพราะฉะนั้น ต้องสร้างสมดุลในหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ นายกิตติ กล่าวนายกิตติ กล่าวว่า สิ่งที่ก๊ะคำนึงสะท้อนเป็นผลดีทั้งสิ้นในเชิงของการทบทวน และการสร้างภาพของความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม | เครือข่ายผู้หญิงชายแดนใต้ ฉายภาพซ้ำสารคดี ชีวิต ณ ที่เกิดเหตุ ตอน ผู้ซับน้ำตา คณบดีวิทยาการสื่อสารม.อ.ปัตตานี ระบุแม้ไม่ได้ฉายภาพรวมทั้งหมด แต่มันคือจิ๊กซอว์ของสันติภาพ | การเมือง,ความมั่นคง | กระบวนการยุติธรรม,คำนึง ชำนาญกิจ,ชายแดนใต้,ชีวิต ณ ที่เกิดเหตุ,ผู้ซับน้ำตา,สันติภาพ,สารคดี,สื่อ | https://prachatai.com/journal/2013/09/48821 |
แม่ฮ่องสอนฝนตกหนัก อ.ขุนยวม เจอพายุลูกเห็บกระหน่ำ | เมื่อช่วงเวลา 16.00 น. วันที่ 5 เม.ย 61 ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง และมีฝนพร้อมลูกเห็บตกลงมาอย่างหนักกระจายทั่วพื้นที่บ้านหางปอน บ้านหนองแห้ง บ้านท่าหินส้ม และบ้านเมืองปอน ต.เมืองปอน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน รถยนต์ที่วิ่งสัญจรตามเส้นทางหลวงสาย 108 ช่วงเขตตำบลเมืองปอน ต้องจอดเพื่อความปลอดภัย ไม่กล้าเสี่ยงต่อความแรงพายุลูกเห็บที่ตกกระแทกใส่รถ นานกว่าครึ่งชั่วโมงหลังพายุลูกเห็บสงบชาวบ้านและเด็กได้ออกมาเก็บกวาดลูกเห็บจำนวนมากกันแทบทุกหลังคาเรือน นอกจากนี้ทั้ง 4 หมู่บ้านยังมีบ้านเรือนราษฎรถูกลมพัดเสียหายจำนวนกว่าสิบหลังคาเรือน เสาไฟฟ้าหักโค่นล้มจำนวนหลายต้น ทำให้ชาวบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่ยังไม่พบมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากลมพายุแต่อย่างใด,ชาวบ้านหางปอนคนหนึ่ง กล่าวว่า พายุลูกเห็บตกลงมาในครั้งนี้ถือว่าหนักมาก ท้องฟ้ามืดครึ้มไปหมด อาจเป็นเพราะอากาศร้อนอบอ้าวอย่างหนัก ขณะที่บ้านท่าหินส้มและบ้านหางปอน ก่อนหน้านี้ 2 วัน ก็เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้านจนพืชไร่เสียหาย และมาครั้งนี้ก็มาเจอฝนลูกเห็บถล่มซ้ำอีก อย่างไรก็ตามพายุฝนยังตกกระหน่ำครอบคลุมหลายอำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อช่วยเหลือต่อไป,กรมอุตุนิยมวิทยา ได้เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 5 - 7 เมษายน 2561 ให้ประชาชนระมัดระวังพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกในบางพื้นที่ ภายหลังความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนใต้และประเทศเวียดนามตอนบน ก่อนแผ่มาถึงไทย ซึ่งคาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในคืนนี้ ล่าสุด ปภ. รายงานฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตก | เกิดพายุฤดูร้อนมีฝนตกหนักส่งผลให้มีลูกเห็บตกกระจายทั่วพื้นที่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้บ้านเรือนหลายหลังเสียหาย เสาไฟฟ้าหักโค่นไฟฟ้าดับหลายจุด ด้าน จว.เร่งส่ง จนท.ตรวจความเสียหาย | ข่าว,ทั่วไทย | พายุฤดูร้อน,ลูกเห็บตก,แม่ฮ่องสอน,อ.ขุนยวม,ฝนตกหนัก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1249246 |
วิบากกรรมออนไลน์ | ได้ขนาดนี้,เพียงแค่เสียงเย้าแหย่จากบรรดากระจอกข่าวที่สนิทสนมกับ พล.อ.ประวิตร ลากยาวไปในสังคมออนไลน์ จากนั้นทั้งฝ่ายค้านฝ่ายแค้น รุมถล่ม พล.อ.ประวิตร กันถึงขนาดไปร้องเรียนกับ ป.ป.ช. ซึ่งถ้าวันนั้น พล.อ.ประวิตร รู้ว่าจะมีเหตุการณ์เหมือนวันนี้ ก็คงจะไม่ใส่แหวนที่แม่ให้ยืมใส่ในวันนั้นพอดี ซึ่งแหวนวงดังกล่าวเป็นมรดกตกทอดจากพ่อเอามาใส่เป็นสิริมงคลในวันสำคัญ และในจำนวนพี่น้องสามคนยังไม่รู้ว่าจะตกเป็นสมบัติของใครด้วยซ้ำหรือแม้แต่ นาฬิกา ที่เพื่อนรักซึ่งเป็นนักธุรกิจดังให้หยิบยืมมาชั่วครั้งชั่วคราว จะกลายเป็นทุกขลาภและเป็นเหยื่อของสังคมออนไลน์จนต้องรีบเอาไปคืนแทบไม่ทัน,จะด้วยเป็นเหตุบังเอิญ หรือเป็นจังหวะของสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันก็ตาม แต่วันนี้ พล.อ.ประวิตร ซึ่งถือว่าเป็นพี่ใหญ่ของรัฐบาลชุดนี้ ก็ตกเป็นจำเลยสังคมไปแล้ว สิ่งที่ พล.อ.ประวิตร จะทำได้ในวันนี้คือการพิสูจน์ตัวเองกับ ป.ป.ช. และพิสูจน์ตัวเองกับสังคมให้ได้,ไม่แปลกที่ พล.อ.ประวิตร มักจะเป็นเหยื่อของสังคมและสังคมออนไลน์มาโดยตลอด เพราะถ้าโจมตี พล.อ.ประวิตร ได้ก็เท่ากับโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และดิสเครดิต รัฐบาล คสช. ได้ พล.อ.ประวิตร เป็นพี่ใหญ่ของน้องๆ พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ใหญ่ในรัฐบาล ถ้า พล.อ.ประวิตร มีอันเป็นไปจาก ครม.หรือ คสช. รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ย่อมสั่นสะเทือน และแรงสั่นสะเทือนที่ว่าก็จะเกิดอาฟเตอร์ช็อก เป็นวิกฤติของรัฐบาลชุดนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้,วิบากกรรมออนไลน์ที่เกิดกับ พล.อ.ประวิตร อาจจะทำให้เกิดกระแส หรือเป็นสีสันของสังคมออนไลน์ เป็นเหยื่อทางการเมือง เป็นช่องทางการทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล,แต่โดยรวมแล้วชาวบ้านได้อะไร,ทั้งหมดนี้เพราะสังคมไม่ได้สร้างมาตรฐานการตรวจสอบและให้ความเชื่อถือกับองค์กรตรวจสอบในมาตรฐานเดียวกัน แต่จะเลือกตัดสินเอาตามความรู้สึกและกระแสของสังคมชี้นำ,หน้าที่การตรวจสอบการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของ ป.ป.ช. ที่มีขั้นตอนและวิธีการ จึงต้องอธิบายให้สังคมได้ทราบถึงข้อเท็จจริงที่ชัดเจน,จะถูกจะผิดก็ต้องอธิบายให้เป็นมาตรฐาน,เมืองไทยเป็นสังคมของการวิพากษ์วิจารณ์ แม้ยังไม่มีข้อเท็จจริงหรือระบุความผิดชัดเจน อาศัยแค่ความรู้สึกก็ตัดสินลงโทษไปเรียบร้อยแล้ว คำพิพากษาของสังคมจึงไม่ต่างจากศาลเตี้ย สังคมไทยก็เลยกลายเป็นเหยื่อของสื่อและกระบวนการไม่ปรารถนาดี ประเทศไทยที่ไม่สงบสุขสับสนวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะเป็นสังคมที่ชอบฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่มีระเบียบวินัย ยกมือขึ้นบังแดดแค่ไม่กี่วินาทีกลายเป็นวิกฤติรัฐบาลทันที,มีแค่ที่นี่ที่เดียว ไทยแลนด์โอนลี่.,หมัดเหล็ก,[email protected] | เรื่องราวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ที่เป็นเรื่องเป็นราวอยู่ในเวลานี้ ถ้าวิเคราะห์จากเหตุการณ์ ในวันถ่ายรูปหมู่ ครม.ชุดประยุทธ์ 5 แล้วเชื่อว่า ตัว พล.อ.ประวิตร เอง ก็ไม่คาดไม่ฝันว่า เรื่องจะใหญ่โต | null | บิ๊กป้อม,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,แหวนเพชร,คาบลูกคาบดอก,หมัดเหล็ก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1147537 |
โจรอึดย่องร้านชำสุราษฎร์ เปิดเก๊ะไม่ได้ ยกเลยทั้งโต๊ะ ได้ไป 2 หมื่น(ชมคลิป) | เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 7 พ.ย. 59 ร.ต.อ.ชาตรี วรรณบุรี รอง สว.สส.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งจาก นางนิภา เชี่ยวสถุล อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/23 ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ว่า ถูกคนร้ายงัดหน้าต่างด้านข้างของบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ เข้าไปรื้อค้นทรัพย์สิน เบื้องต้น มีทรัพย์สินสูญหาย ประกอบด้วย เงินสดประมาณ 10,000 บาท บัตรเติมเงินโทรศัพท์ชนิดต่างๆ รวม 10,000 บาท และโต๊ะไม้สัก 1 ตัว ซึ่งเงินสดและบัตรเติมเงินอยู่ในลิ้นชักของโต๊ะที่คนร้ายขโมยไป,จากการสอบถาม นางนิภา เจ้าของร้าน กล่าวว่า คืนวันเกิดเหตุปิดร้านเวลา 20.00 น. จากนั้นไปนอนกับแม่และพ่อที่บ้านอีกหลัง ส่วนสามีออกไปงานศพจึงไม่มีคนอยู่ที่บ้าน กระทั่งสามีกลับมาบ้านเมื่อเวลา 01.30 น. พบว่าโต๊ะเก็บเงินที่อยู่ภายในบ้านหายไป เปิดดูกล้องวงจรปิดทราบว่า เมื่อเวลา 23.45 น. วันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา คนร้ายรูปร่างสูงปกปิดใบหน้า พยายามงัดหน้าต่างบริเวณข้างบ้าน โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถเข้ามาในบ้านได้ จากนั้นเดินไปที่โต๊ะเก็บเงินแต่เปิดลิ้นชักไม่ได้ ตัดสินใจยกโต๊ะเก็บเงินออกไปทางประตูหลังบ้านเมื่อเลา 00.40 น. โดยแบกโต๊ะไปทางถนนหลังบ้าน กระทั่งเช้ามีคนเจอโต๊ะดังกล่าวลอยอยู่คูน้ำห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร,อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เดินทางมาดูกล้องวงจรปิด และเก็บหลักฐานจากที่เกิดเหตุ คาดว่าน่าจะเป็นคนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง และรู้จักผู้เสียหายเป็นอย่างดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย และจะสืบสวนจับผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | ชายรูปร่างสูงงัดหน้าต่างร้านชำสุราษฎร์ธานี หวังฉกเงินในเก๊ะแต่เปิดไม่ออก ตัดสินใจยกไปทั้งโต๊ะ ขโมยบัตร-บัตรเติมเงิน รวม 2 หมื่นบ้าน ก่อนโยนโต๊ะลงคูน้ำห่างไป 200 ม. | null | ขโมยเงิน,งัดร้านชำ,งัดร้านขายของชำ,สุราษฎร์ธานี | https://www.thairath.co.th/content/776137 |
ออสซี่ผวา ตร. สกัดแผนร้ายเครือข่ายไอซิส บุกจู่โจม จับ 2 ผู้ต้องสงสัยทันเวลา | ชาวออสเตรเลียผวาอีก ยังโชคดี ตำรวจในนครซิดนีย์ สามารถสกัดแผนก่อการร้ายของเครือข่ายกลุ่มไอซิสในออสเตรเลียได้ทันเวลา บุกจู่โจมจับ 2 ชายต้องสงสัยเตรียมลงมือก่อเหตุรุนแรง พร้อมยึดของกลาง มีทั้งมีดและธงประจำกลุ่มไอซิส ,สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เมื่อวันที่ 11 ก.พ.58 แคเธอรีน เบิร์น รองผู้กำกับการตำรวจรัฐนิว เซาท์ เวลส์ ของออสเตรเลีย แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า ตำรวจปราบปรามก่อการร้ายของออสเตรเลีย สามารถสกัดแผนก่อการร้ายของเครือข่ายกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอซิส ที่วางแผนจะก่อเหตุโจมตีในออสเตรเลีย หลังตำรวจออสเตรเลียได้บุกจู่โจม จับกุมชาย 2 คน อายุ 24 และ 26 ปี ที่บ้านหลังหนึ่ง ย่านชานเมืองแฟร์ฟิลด์ เมื่อวันอังคารที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา,การบุกจับ 2 ผู้ต้องสงสัยครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจออสเตรเลียยังยึดของกลางได้หลายรายการ รวมทั้ง มีดยาว, ธงกลุ่มไอซิส และวิดีโอซึ่งบันทึกภาพและเสียงของชายคนหนึ่งที่พูดอธิบายเกี่ยวกับการก่อเหตุรุนแรงด้วย,ส่วนชาย 2 คนที่ถูกจับกุมนั้น จะถูกตำรวจนำตัวขึ้นศาลในข้อหามีแผนก่อการร้าย ขณะที่ ตามเอกสารคำฟ้องระบุ ทั้งคู่ ชื่อ นายโอมาร์ อัล-คูโตบี และนายโมฮัมเหม็ด ไคอัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและตำรวจปราบปรามการก่อการร้ายออสเตรเลียไม่เคยรู้จักเขาในฐานะผู้ต้องสงสับก่อการร้ายมาก่อน ทว่าเพิ่งได้ข้อมูลข่าวกรองว่า ทั้งคู่มีแผนก่อการร้ายจึงได้บุกจู่โจมจับทันทีเมื่อวันอังคารที่ 10 ก.พ.,อย่างไรก็ตาม แคเธอรีน เบิร์น รองผู้กำกับการสำนักงานตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนก่อการร้าย ขณะที่ชายทั้งสองคนซึ่งถูกตำรวจบุกจับกุม ได้โดนตั้งข้อหาแล้วและจะถูกนำตัวขึ้นศาลในข้อหามีแผนก่อการร้ายวันพุธที่ 11 ก.พ.ทันที,ทั้งนี้ ทางการออสเตรเลียได้ยกระดับเตือนภัยก่อการร้ายในประเทศ หลังจากเกิดเหตุนายมาน ฮารอน โมนิส ชาวออสเตรเลียเชื้อสายอิหร่านก่อเหตุสะเทือนขวัญ บุกจับตัวประกัน 17 คน ที่ลินด์ ช็อกโกแลต คาเฟ่ ย่านมาร์ติน เพลส ในนครซิดนีย์ นานถึง 16 ชม.ก่อนที่ตำรวจหน่วยคอมมานโดจะบุกจู่โจม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ รวมทั้งมือปืนผู้ก่อเหตุ เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว | ชาวออสเตรเลียผวาอีกยังโชคดี ตำรวจในนครซิดนีย์ สามารถสกัดแผนก่อการร้ายของเครือข่ายกลุ่มไอซิสในออสเตรเลียได้ทันเวลา บุกจู่โจมจับ 2 ชายต้องสงสัยวางแผนก่อเหตุรุนแรง พร้อมยึดของกลาง มีทั้งมีดและธงประจำกลุ่มไอซิส | null | กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม,กลุ่มไอซิส,กลุ่มไอเอส,ตำรวจออสเตรเลีย,สกัดแผนก่อการร้าย,นครซิดนีย์,จับกุม,ผู้ต้องสงสัย,เครือข่าย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/480512 |
ยึดอีกกัญชากว่า 1 ตัน บิ๊กอู๊ด ผบช.ตชด.คนใหม่ ย้ำ ยังผิดกฎหมาย | เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 พ.ย.61 ที่ห้องประชุมสิริปุณโณเมตตา กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ อ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.ตชด. พล.ต.ต.ณัฐ สิงห์อุดม ผบก.ตชด.ภาค.2 พ.ต.อ.ปรัชญ์ สุนทรพิมล ผกก.ตชด.24 พร้อมด้วย นายตำรวจ ตชด.ระดับสูงในพื้นที่ ร่วมแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมตามแนวตะเข็บชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในห้วงเดือนตุลาคมถึงปัจจุบัน,ซึ่งมีผลงานปราบปรามอาชญากรรมในด้านปราบปรามยาเสพติด จับกุม 56 ครั้ง ผู้ต้องหา 61 คน ของกลางกัญชาอัดแท่ง จำนวน 1,276 กิโลกรัม ยาบ้า 181,991 เม็ด ไอซ์ 802.14 กรัม ด้านปราบปรามการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จับกุม 4 ครั้ง ผู้ต้องหา 3 คน ของกลาง ไม้หวงห้ามจำนวน 237 ท่อน ปริมาตร 1.55 ลบ.ม. เลื่อยโซ่ยนต์ 4 เครื่อง, ปราบปรามแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จับกุม 38 ครั้ง ชาว สปป.ลาว 76 คน ชาวกัมพูชา 29 คน,ด้านการปราบปรามการลักลอบค้าสินค้าหนีภาษีศุลกากร จับกุม 2 ครั้ง ผู้ต้องหา 2 คน ของกลางวัว 4 ตัว รถยนต์ 1 คัน, ปราบปรามอาวุธปืนเถื่อน อาวุธสงคราม และวัตถุระเบิด จับกุม 2 ครั้ง ผู้ต้องหา 2 คน ของกลางอาวุธปืนลูกซองสั้นเบอร์ 12 ไทยประดิษฐ์ พร้อมเครื่องกระสุน 9 นัด และปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จับกุม 1 ครั้ง ผู้ต้องหาทิ้งรถหลบหนีทิ้งของกลางรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ส่วนด้านการป้องกันปราบปรามการแพร่ระบาดยาเสพติด โดยเฉพาะกัญชาที่มีแนวโน้มความต้องการของตลาดสูงขึ้น หลังจากมีข่าวทำกัญชาให้ถูกต้องตามกฎหมาย,ซึ่งผลการปราบปรามตรวจยึดกัญชาอัดแท่งล่าสุด จำนวน 974 กิโลกรัม เมื่อช่วงเช้ามืด วันที่ 11 พฤศจิกายน หลังจากเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธีระศักดิ์ โพธิ์ศรีมา ผบ.ร้อย ตชด.246 เชียงคาน สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนกัญชาลอตใหญ่จากเมืองไชยบุรี สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงขึ้นฝั่งเขตพื้นที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จึงประสานงานไปยัง กกล.สุรศักดิ์มนตรี, หน.ชปข.ร้อย ตชด.246, หน.ชปข.ร้อย ตชด.237, หน.ชปข.กก.ตชด.23 และสำนักงานปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส.,โดยวางกำลังออกเป็น 4 ชุด ซึ่งสายข่าวรายงานว่า พบรถยนต์กระบะ ติดหลังคาแครี่บอย จอดอยู่บริเวณบ้านจอมศรี ต.นาเดื่อ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เพื่อรอสับเปลี่ยนรถในการลำเลียงกัญชาทั้ง 4 ชุด จึงได้ออกติดตามรถยนต์คันดังกล่าว แต่กลุ่มพ่อค้ายาเสพติดไหวตัวทัน ทิ้งของกลางกัญชาอัดแท่งไว้ริมถนนสวนยางพารา บ้านดอนดู่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จึงตรวจยึดกัญชา จำนวน 24 กระสอบ รวม 974 แท่ง แบ่งเป็นเกรดเอที่ห่อหุ้มด้วยกระดาษฟอยล์สีทอง และเกรดบีห่อหุ้มด้วยพลาสติกใส นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน,พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.ตชด. เปิดเผยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายให้กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ให้เป็นกองกำลังสนับสนุนตำรวจในท้องที่ในด้านปราบปรามอาชญากรรมต่างๆ โดยเฉพาะการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และการลักลอบขนหรือลำเลียงยาเสพติดตามแนวตะเข็บชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เยาวชนของประเทศเสพติดกันจำนวนมาก จากการสืบสวนเชื่อว่ากัญชาลอตใหญ่นี้ กลุ่มพ่อค้ายาเสพติดจะขนลงไปทางภาคกลางและภาคใต้ แต่ในการสืบสวนเชิงลึกคาดว่าจะกระจายไปสู่แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ตามแนวชายทะเลประเทศไทย ซึ่งกัญชาเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอย่างมาก,จึงจำเป็นต้องเข้มงวดดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจัง เพราะว่ากัญชายังเป็นพืชที่ผิดกฎหมาย ใครครอบครองจะมีความผิด ยกเว้นจะได้รับอนุญาตเหมือนกับมอร์ฟีนที่อนุญาตให้ใช้ทางการแพทย์ได้ แต่กัญชายังไม่ได้รับอนุญาตเหมือนกับมอร์ฟีน เหมือนกับบางประเทศที่ใช้กัญชาบำบัดรักษาโรคมะเร็งและโรคต่างๆ ได้ ซึ่งตลาดต่างประเทศมีความต้องการสูงในปัจจุบัน จึงมีการลักลอบขนจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านประเทศไทยจำนวนมาก รวมทั้งการลักลอบปลูกตามแนวเขตเทือกเขาภูพาน เช่น จ.สกลนคร จ.นครพนม จ.กาฬสินธุ์ และ จ.มุกดาหาร เพราะเป็นพื้นที่ปลูกกัญชาที่มีคุณภาพ ตลาดโลกจึงมีความต้องการกัญชาที่ปลูกในพื้นที่ดังกล่าวเป็นอย่างมาก. | พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง นำแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ภาคอีสาน รวบ 61 ผู้ต้องหา ยึดของกลางกัญชากว่า 1 ตัน ยาบ้า 181,991 เม็ด ไอซ์ 802.14 กรัม | ข่าว,อาชญากรรม | กัญชา,ยึดกัญชา,บิ๊กอู๊ด,ตชด.,จับกัญชา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1424583 |
ยาเสพติด-น้ำมันเถื่อน-ค้ามนุษย์ ภัยแทรกซ้อน ท่อน้ำเลี้ยงหนุนก่อเหตุรุนแรงชายแดนใต้ | วันนี้ (31 ก.ค.2559) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า จัดเสวนา การป้องกันและปราบปรามปัญหาภัยแทรกซ้อนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยมีผู้ร่วมเสวนาคือ กร.อมน. ภาคประชาสังคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการแก้ไขภันแทรกซ้อนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 กอ.รมน. กล่าวถึงเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ในช่วงกว่า 12 ปีที่ผ่านมา รวมมากกว่า 15000 ครั้ง เป็นเหตุความมั่นคง 9300 ครั้ง โดยเหตุการณ์ทั้งหมดทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 7000 คน โดยพบว่า 1 ใน 3 มาจากปัญหาภัยแทรกซ้อน คือ ยาเสพติด การลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน ค้ามนุษย์ ขบวนการตัดไม้ทำลายป่ารัฐบาลพยามยามแก้ปัญหาใน 7 ประเด็นสำคัญคือ 1.การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินรวมถึงการหยุดภัยแทรกซ้อนให้ได้ 2. อำนาจความเป็นธรรม 3.เสริมสร้างความเข้าใจ 4. การศึกษาศิลปะและวัฒนธรรม 5.พัฒนาโครสร้างพื้นฐานและคุณภาพชีวิต 6. พัฒนาประสิทธิภาพภาครัฐ 7.การพูดคุยเจรจา โดยมุ่งที่จะหยุดเงื่อนไขทั้งปวง เพื่อสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืนพ.อ.จตุพร กลัมพสุต หัวหน้าชุดปฎิบัติการปราบปรามภัยแทรก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ระบุว่า ภัยแทรกซ้อนในพื้นที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการแก้ไขความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งเป็นสิ่งเกื้อกูลให้ผู้ก่อการได้ได้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งก็คือ การได้รับการสนับสนุนด้วยเงิน ค่าคุ้มครอง เงินอำพรางการบริจาค และเงินที่เรียกเก็บจากการได้รับผลประโยชน์หรือผลตอบแทนใดๆ โดยใช้ประโยชน์จากข่าวสารทำให้เข้าใจว่ารัฐอ่อนแอ ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และเจ้าหน้าที่ของรัฐมีการทุจริตและได้ประโยชน์จากธุรกิจผิดกฎหมาย หรือรัฐส่งเสริมเพื่อบ่อนทำลาย เยาวชนและประชาชนในพื้นที่พ.อ.จตุพร ระบุว่า ภัยแทรกซ้อนที่เป็นปัญหาสำคัญ คือ ยาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาระดับชาติที่ต้องแก้ไขให้สำเร็จ ซึ่งหากสามารถแก้ปัญหาได้ก็จะมีผลสะท้อนว่าปัญหาความรุนแรงลดลง ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น ศรัทธามากขึ้น นอกจากนี้ปัญหาการลับลอบตัดไม้ ก็ถือเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดผลกระทบหลายเรื่องทั้ง คน และสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น เรื่องภัยแล้ง ไฟป่า และที่ดินทำกิน โดยสังเกตได้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบปัญหาไฟป่าเพิ่มมากขึ้นและผลพวงจากการตัดไม้ทำลายป่า คือปัญหาที่ดินทำกิน ซึ่งต้องดำเนินการอย่างรอบคอบเนื่องจากเกี่ยวข้องกับปัญหาปากท้องของประชาชนรวมถึง ปัญหาเกี่ยวการพนัน ขณะที่มีผู้เข้าไปอยู่ในวงจรเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะหวยจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งเมื่อมีผู้ติดการพนันและไม่มีการจ่ายหนี้ ก็จะมีการบังคับให้ก่ออาชญากรรมเป็นการตอบแทนด้านนายสมมาตร มะมุนิ นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จ.ยะลา กล่าวว่า เหตุรุนแรงในปัจจุบันลดลงอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องมาจากการปรับแผนทำงานของแม่ทัพภาคที่ 4 ที่ให้ทหารในพื้นที่แก้ปัญหาเพราะเข้าใจในขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ ส่วนปัญหาภัยแทรกซ้อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติด การค้ามนุษย์ การค้าสินค้าหนีภาษี ซึ่งทั้งหมดนี้มีผู้อยู่เบื้องหลังซึ่งต้องค้นหาให้ได้และต้องตัดวงจรนี้มูฮำหมัดอายุบ ปาทาน ประธานสมาคมชายแดนใต้ กล่าวว่า ไม่ควรมองปัญหาในพื้นที่ชายแดนใต้เพียงในช่วง 12 ปี ที่ผ่านมา เพราะกระบวนการพูดคุยสันติภาพยังต้องดำเนินต่อไปแต่ส่วนที่สำคัญกว่าคือ จะทำอย่างไรกับคนที่เห็นต่างจากรัฐว่า สามารถพูดคุยกันได้โดยที่ไม่ต้องใช้ความรุนแรงมูฮำหมัดอายุบ ยังกล่าวถึงภาคประชาสังคม (CSO) ว่า จุดหลักคือ ภาครัฐต้องไม่ถือปืนและไม่ใช้ความรุนแรง ซึ่งแน่นอนว่าภาคประชาสังคม กลุ่มหนึ่งเอียงข้างรัฐ กลุ่มหนึ่งเอียงข้างคนเห็นต่าง กลุ่มหนึ่งอยู่ตรงกลาง แต่ทั้ง 3 กลุ่มจะต้องเห็นด้วยเรื่องการไม่ใช้ความรุนแรง ภาคประชาสังคมจะต้องไม่ใช้ความรุนแรง มูฮำหมัดอายุบ กล่าว | กอ.รมน. เผย ภัยแทรกซ้อน ทั้งยาเสพติด น้ำมันเถื่อน ค้ามนุษย์ และสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ ที่เข้ามาเป็นท่อน้ำเลี้ยงสนับสนุนการก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลทำให้ความรุนแรงในพื้นที่ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง | ภูมิภาค | กอ.รมน.,ภัยแทรกซ้อน,ยาเสพติด,น้ำมันเถื่อน,ค้ามนุษย์,จังหวัดชายแดนภาคใต้,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/254484 |
หมดเยื่อใย ชมคลิปแฟนราชันตะโกนด่า เบล หยาบคาย | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 14 พ.ค. ว่า เส้นทางการค้าแข้งของ เกเรธ เบล ปีกราคาแพง กับทีมเรอัล มาดริด สโมสรแกร่งประจำลาลีกา สเปน น่าจะมาถึงจุดสิ้นสุดในไม่ช้า เมื่อล่าสุดมีแฟนบอลของ ราชันชุดขาว ไปดักรอแข้งดังรายนี้หน้าสนาม ก่อนจะตะโกนด่าด้วยถ้อยคำสุดหยาบคาย,เรอัล มาดริด พลาดโอกาสเข้าไปป้องกันแชมป์ หลังทำได้แค่เสมอกับ ม้าลาย ยูเวนตุส สโมสรจากลีกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี 1-1 ในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ณ สนามเบร์นาเบว สเตเดียม เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำให้พ่ายตกรอบไปด้วยสกอร์รวม 2-3 ซึ่งในเกมปีกชาวเวลส์ก็เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ต่ำกว่ามาตรฐาน และพลาดโอกาสที่จะทำประตูสำคัญให้ทีมหลายจังหวะ,หลังการแข่งขัน มีแฟนราชันชุดขาวจำนวนหนึ่งที่ผิดหวังกับผลงานของทีม ไปดักรอแข้งรายนี้บริเวณหน้าสนาม ซึ่งเมื่อแข้งวัย 25 ปี ขับรถออกมา ก็ตะโกนด่าเป็นภาษาสเปนว่า Cabron และ hijo de Puta โดยคำว่า Cabron หมายความว่า คนชั่ว หรือ คนเลว ขณะที่คำว่า hijo de Puta หมายความว่า ลูกโสเภณี ซึ่งเป็นคำด่าแรงที่สุด,ขณะที่อดีตแข้งของสเปอร์สได้พูดถึงฟอร์มตัวเองหลังเกมว่า มันมีขึ้นและก็ลง แต่โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าผมเล่นดีอยู่นะ ผมอาจจะไม่ได้ทำประตูได้ตามที่ต้องการ ในจังหวะสำคัญหลายจังหวะ แต่โดยทั่วไปแล้วผมก็เล่นได้ดี,ผมจบสกอร์ได้ไม่ดีและนั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องทำงานกับมันในปีหน้า สิ่งเหล่านี้ฆ่าผมไม่ได้หรอก มันทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้น และผมก็ได้เรียนรู้ในฤดูกาลนี้,ทั้งนี้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เบลเคยตกเป็นเป้าโจมตีโดนกองเชียร์ทุบรถมาแล้ว หลังจากที่ทีมบุกไปพ่ายคู่ปรับตลอดกาล เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา 1-2 ซึ่งทางสโมสรได้ออกมาปกป้อง และมีการลงโทษกองเชียร์รายนี้เป็นที่เรียบร้อย,ชมคลิป | เส้นทางการค้าแข้งของ เกเรธ เบล ปีกราคาแพงกับ เรอัล มาดริด น่าจะถึงจุดสิ้นสุดในไม่ช้า โดยล่าสุดมีแฟนบอล ราชันชุดขาว ไปดักรอนักเตะ หลังตกรอบศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ก่อนจะตะโกนด่าด้วยถ้อยคำสุดหยาบคาย… | null | ลาลีกา,สเปน,ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก,ราชันชุดขาว,เรอัล มาดริด,ม้าลาย,ยูเวนตุส,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,เกเรธ เบล | https://www.thairath.co.th/content/498833 |
ขานรับ คสช. เริ่มปฏิบัติการฟ้าสาง ลุยตรวจ 2 อำเภอสิงห์บุรี | เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 ต.ค. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รักษาการผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองปราบปราม เปิดปฏิบัติการฟ้าสางทั่วไทย เพื่อปราบปรามผู้มีอิทธิพลและอาวุธสงคราม ตามนโยบายของ คสช. เริ่มต้นที่ อ.อินทร์บุรี และพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี โดย พ.ต.ท.ปิยรัช ศุภรัตน์ รองผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม นำกำลังพร้อมหมายค้น เข้าตรวจสอบ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ เลขที่ 88 หมู่ 8 ของนายเจริญ ศรีกล่อม อายุ 63 ปี อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลประศุก อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพล,จากการตรวจค้น พบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. และขนาดจุด 38 รวม 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน มีทะเบียนครอบครองถูกต้อง และไม่พบสิ่งผิดกฎหมายภายในบ้าน ซึ่งนายเจริญให้ความร่วมมือนำตำรวจตรวจค้นภายในบ้านทุกห้อง พร้อมเปิดเผยว่า เคยดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลประศุก ในช่วงปี 2552-2556 ปัจจุบันทำอาชีพค้าขาย และเปิดรีสอร์ต และอ้างว่าปืน 2 กระบอก ตั้งแต่ซื้อมายังไม่เคยได้ใช้ ขณะเดียวกันไม่ทราบสาเหตุที่ตำรวจเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ แต่ได้ให้ความร่วมมือเต็มที่ เพราะไม่เคยทำผิดกฎหมาย ส่วนอีกหนึ่งจุดเป็นบ้านชั้นเดียว ไม่มีเลขที่ ของนายพิชัย ยิ้มประดิษฐ์ อายุ 54 ปี ซึ่งจากการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย,สำหรับการเข้าปฏิบัติการตรวจค้นตามยุทธการฟ้าสางทั่วไทย พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บังคับการปราบปราม ได้สั่งการเน้นจับกุมปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ต่างๆ ที่มีผู้ร้องเรียนหรือในทางการข่าวอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล. | กองปราบ เริ่มปฏิบัติการฟ้าสางทั่วไทย ปราบผู้มีอิทธิพล-อาวุธสงคราม ประเดิม 2 อำเภอในสิงห์บุรี เข้าตรวจบ้านอดีตนายก อบต. ได้รับความร่วมมือด้วยดี ไม่พบสิ่งผิด ก.ม. | ข่าว,ทั่วไทย | ปฏิบัติการฟ้าสาง,กองปราบ,นโยบายคสช.,ปราบผู้มีอิทธิพล,อาวุธสงคราม,สิงห์บุรี,ตรวจบ้านอดีตนายก อบต.,พรหมบุรี,ต่อศักดิ์ สุขวิมล,ค้นบ้านผู้มีอิทธิพล,ข่าวภูมิภาค,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/535317 |
ดีเอสไอจ่ออายัดตัว เสี่ยวิชัย เจ้าพ่อเงินกู้ พรุ่งนี้ ที่สุวรรณภูมิ | จากกรณีดีเอสไอสนธิกำลังทหารบุกค้นจับกุมกลุ่มขบวนการปล่อยหนี้นอกระบบรายใหญ่ที่สุดของประเทศ และมีประชาชนที่เป็นลูกหนี้ประมาณ 170,000 ราย รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดกว่า 150 ล้านบาท และพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดกว่า 1,000 ราย พร้อมทั้งออกหมายจับนายวิชัย ปั้นงาม หัวหน้าขบวนการแก๊งเงินกู้หมวกกันน็อกดำ ข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรฯ และผิด พ.ร.บ.เงินกู้ฯ แต่รอนายวิชัยเดินทางกลับจากไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น และจะมาถึงประเทศไทยเช้าตรู่วันที่ 28 ธ.ค.นี้,ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.59 พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เผยว่า ขณะนี้คนประสานงานฝั่งนายวิชัย ยังไม่ได้แจ้งเปลี่ยนแปลงอะไรมา คาดว่ายังคงยึดตามที่ได้แจ้งมาว่าผู้ต้องหาจะเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 05.30 น. วันที่ 28 ธ.ค.นี้ ตามที่นัดหมายกันไว้ ซึ่งขั้นตอนหลังจากผู้ต้องหาลงเครื่องบินมา ทางตำรวจ ตรวจคนเข้าเมือง ประจำสนามบินสุวรรณภูมิ จะทำการจับกุมทันที ก่อนส่งมอบนายวิชัย ให้กับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับดีเอสไอ และดำเนินตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเวลาประมาณ 09.00 น. พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. จะทำการส่งมอบตัวนายวิชัย ให้กับ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่เดินทางมาพร้อมกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ บริเวณลานจอดรถ ชั้นที่ 4 ประตู 10 สนามบินสุวรรณภูมิ.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,ก.ยุติธรรมยัน เสี่ยชัย เจ้าพ่อเงินกู้ ถึงไทย 28 ธ.ค. มั่นใจไม่หนี,ทลายแก๊งเงินกู้รายใหญ่ เงินหมุนเวียน 4 พันล้าน จนท.รัฐพันคนเอี่ยวด้วย,บุกรวบเสี่ยชัย เจ้าพ่อเงินกู้ปทุมฯ ดันไหวตัวทัน หนีไปก่อนหน้าเพียง1ชม. | รองปลัด ยธ.เผย เสี่ยวิชัย เจ้าพ่อเงินกู้รายใหญ่ เดินทางจากญี่ปุ่นถึงไทยเช้าตรู่ วันที่ 28 ธ.ค.นี้ ตามที่นัดหมาย ย้ำเครื่องบินแลนดิ้งปุ๊บ ตม.สุวรรณภูมิ รวบตัวทันที ก่อนส่งมอบเจ้าหน้าที่ดีเอสไอดำเนินคดี | null | วิชัย ปั้นงาม,เจ้าพ่อเงินกู้,แก๊งเงินกู้นอกระบบ,ดีเอสไอ,ติดต่อมอบตัว | https://www.thairath.co.th/content/822893 |
แม่บ้านที่ถูกเยาวชนชายทำร้ายร่างกายเข้าแจ้งความแล้ว | นางสมจิตร พลายเนาว์ พนักงานทำความสะอาด ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนนครบาลปทุมวัน หลังได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้าจากกรณีที่เยาวชนชายอายุ 17 ปี ใช้เก้าอี้พลาสติกตี เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม โดยผู้เสียหายยืนยันว่า หลังเลิกงานและได้เดินทางกลับบ้าน จนมาถึงบริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร แล้วรู้สึกว่ามีสิ่งของมาติดที่รองเท้าผ้าใบที่สวมใส่มา จึงก้มลงตรวจสอบ และพบว่าเป็นนาฬิกา จากนั้นจึงได้หยิบมาถือแล้วเดินต่อ เมื่อมาถึงป้ายรถประจำทาง ได้พบเยาวชนชาย 2 คน วิ่งเข้ามาถามว่า เก็บนาฬิกาได้ใช่ไหม? แต่ตนเองหูไม่ค่อยได้ยิน และฟังไม่รู้เรื่องจึงไม่ได้ตอบ ซึ่งเด็กชายสวมเสื้อยืดสีดำ ได้ตบที่แก้มด้านซ้าย ทำให้ต้องรีบเดินหนี แต่ทั้ง 2 คนยังเดินตามมา พร้อมถามว่า เก็บนาฬิกาได้ใช่ไหม? จึงได้ตอบกลับไปว่า เป็นนาฬิกาของหนุ่มหรือ? จากนั้นจึงหยิบนาฬิกา ออกจากกระเป๋าคืนให้ พร้อมบอกว่า ถ้างั้นป้าขอค่ารถเมล์ไว้เดินทางกลับบ้านได้ไหม เพราะป้าเก็บนาฬิกาหนุ่มได้ จากนั้นเด็กนักเรียนได้คว้าเก้าอี้มาฟาดหน้าตนจนหงายหลังและล้มลง พร้อมกับหลบหนีไปเบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมขอเอกสารความเห็นจากแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อเตรียมดำเนินคดีกับเยาวชนชายคนดังกล่าวในข้อหา ทำร้ายร่างกาย และหากพบว่าผู้เสียหายต้องพักนานกว่า 20 วัน ก็จะแจ้งข้อหาทำร้ายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ผู้ปกครองเยาวชนเตรียมเข้าแจ้งความกลับนางสมจิตร ในข้อหายักยอกทรัพย์ด้วย | ผู้เสียหายที่ถูกเยาวชนทำร้ายร่างกายเข้าแจ้งความกับตำรวจหลังเดินทางกลับไปพักฟื้นที่บ้านในจังหวัดขอนแก่น ขณะที่พนักงานสอบสวนรอผลการตรวจของแพทย์โรงพยาบาล เพื่อใช้ในการดำเนินคดีกับเยาวชนคนดังกล่าว | สังคม | ขอนแก่น,ทำความสะอาด,ทำร้ายร่างกาย,นาฬิกา,ปทุมวัน,พักฟื้น,ฟาดเก้าอี้,สอบสวน,หอศิลป์,อามานี่,แจ้งความ,แม่บ้าน,โรงพยาบาล | https://news.thaipbs.or.th/content/100833 |
ตายอีกแล้ว ยังไม่ถึง 2 เดือนพบโลมาตายตัวที่ 11 | เช้าวันนี้ 23 กุมภาพันธ์ 2558 นายกฤตภาส ศรีแสงขจร ประธานเครือข่ายช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากตำบลไม้รูด ได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน 182 (ฉก.นย. 182) ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ว่า พบซากโลมาเสียชีวิตลอยมาเกยตื้นชายหาดในพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน 182 หลังรับแจ้งเร่งประสานไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทย ฝั่งตะวันออกรับทราบ พร้อมทั้งนำกำลังเจ้าหน้าที่เครือข่ายช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายาก ตำบลไม้รูด เข้าตรวจสอบและเก็บซากเพื่อนำไปทำการพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิต,จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบโลมาที่เสียชีวิตลอยมาเกยตื้นชายหาดเป็น โลมาหัวบาตร สายพันธุ์อิรวดี เพศผู้ ตรวจวัดความยาวได้ 200 ซม. น้ำหนักประมาณ 90-100 กิโลกรัม สภาพเริ่มเน่าเปื่อย ท้องแตกมีไส้ทะลักออกมา คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายซากโลมาไปยังพื้นที่ ม.5 ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ เพื่อทำการผ่าพิสูจน์เบื้องต้นและเก็บข้อมูล ก่อนที่จะทำการฝังกลบ,ผลจากการผ่าพิสูจน์เบื้องต้นพบว่า อาหารในกระเพาะของโลมาจำพวกปลายังมีอยู่เต็มกระเพาะ จนท.คาดเบื้องต้นว่า โลมาตัวดังกล่าวนั้นได้เสียชีวิตโดยฉับพลัน เนื่องจากก่อนเสียชีวิต เจ้าโลมายังสามารถทานอาหารได้ปกติ และไม่ได้เสียชีวิตจากอาการป่วย เพราะหากโลมาป่วยจะไม่กินอาหารและในกระเพาะก็จะไม่มีอาหารจำพวกปลาตกค้างอยู่ ทางจนท.ได้ทำการเก็บตัวอย่างฟันและผิวหนังของโลมา ไปทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งการเสียชีวิตของโลมาลักษณะนี้ ในบริเวณพื้นที่จังหวัดตราดนับเป็นตัวที่ 11 ของปี2558 นับว่าเป็นการตายอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียงไม่ถึง 2 เดือน และส่วนใหญ่เป็นการเสียชีวิตโดยฉับพลัน,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า สาเหตุการเสียชีวิตฉับพลันของโลมา น่าจะมาจากเครื่องมือประมงของเรือประมง เพราะเท่าที่สังเกต ส่วนใหญ่โลมาจะเสียชีวิตมาก ในช่วงที่คลื่นลมสงบไม่มีมรสุม เพราะเรือประมงส่วนใหญ่จะออกหาปลาได้ แต่ถ้าเป็นน่ามรสุม จะไม่มีโลมาเสียชีวิตเลยเช่นกัน. | พบซากโลมาหัวบาตร เพศผู้ สายพันธุ์อิรวดี ความยาว200 ซม. น้ำหนักประมาณ 90-100 กก. สภาพเริ่มเน่าเปื่อย ท้องแตกมีไส้ทะลัก ส่วน จนท.เผย ตั้งแต่เริ่มปี 58 ยังไม่ถึง 2 เดือน มีโลมาตายสภาพเดียวกัน 11 ตัวแล้ว | ข่าว,ทั่วไทย | โลมาตาย,ซากโลมาเกยหาด,ซากโลมา,ตายอีกตัวที่ 11,โลมาหัวบาตร,หาดเล็ก,คลองใหญ่,โลมาอิรวดี,ตราด,สัตว์ทะเลหายาก,ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทย,สายพันธุ์อิรวดี,ข่าวทั่วไทย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/483092 |
ผับดังปิดเงียบ หลังลูกชายผบ.มทบ.38 โดนรุมยำ อุ้ม-แฟนหนุ่มนัดแถลงข่าว | (ภาพจาก ตร.ภาค 5),บิ๊กตำรวจ รองผชบ.ภ.5 ร่วมกับ ผบ.มทบ.33 ตรวจร้าน มาลิน สกาย หลังลูกชายผบ.มทบ.38 จังหวัดน่านโดนการ์ดของร้านทำร้ายร่างกาย เจ็บสาหัส แต่ไปถึง ผับดังปิดให้บริการชั่วคราว เผยเคยขัดคำสั่งคสช.ปล่อยให้เยาวชนเข้าไปใช้บริการ จำหน่ายสุราให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 20ปี ด้านอุ้ม-ลักขณา และแฟนหนุ่มเตรียมแถลงข่าวเย็น 27พ.ย.,จากกรณีชายฉกรรจ์ได้รุมทำร้ายนายอิศราชนุวัฒน์ วรรคาวิสันต์ อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง และเป็นลูกชายของ พล.ต.วิทยา วรรคาวิสันต์ ผบ.มทบ.38 จังหวัดน่าน ต่อหน้ากลุ่มดาราช่อง 3 ชายหญิงหลายคน ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (,ลูกชาย ผบ.มทบ.38 ถูกรุมยำอ่วมคาผับเชียงใหม่ ต่อหน้านักแสดงช่องดัง,),ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 26 พ.ย. 59 พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานน์ รรท.รอง ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.เกษมสุข ตาคำ ผบ.มทบ.33 ได้นำกำลังไปตรวจร้านที่ มาลินสกาย ที่เกิดเหตุ แต่ปรากฎว่าผับดังปิดให้บริการ,จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ช้างเผือก เมืองเชียงใหม่ ทราบว่า พนักงานสอบสวนจะนำพยานไปให้ผู้เสียหายดูตัวและสอบสวนปากคำผู้เสียหายที่โรงพยาบาลลานนา ในวันพรุ่งนี้ (27 พ.ย.),ด้านนายศรัณญู มีทองคำ นายอำเภอเเมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า ผับดังกล่าวเคยถูก เจ้าหน้าที่ของกรมการปกครองเคยจับกุมเป็นข่าวดังมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 6 ส.ค.58 ที่ผ่านมา หลังพบว่าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ลงวันที่ 22 ก.ค. 2558 โดยมีการปล่อยให้เยาวชนเข้าไปใช้บริการ และจำหน่ายสุราให้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ส.ค.59 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในขณะนั้นได้มีคำสั่งให้ ตำรวจ 5 เสือโรงพักช้างเผือก มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) และล่าสุดขณะนี้ทางเจ้าของร้านยังได้ดำเนินการฟ้องร้องกรมการปกครองอยู่ จนมาเกิดเรื่อฉาวอีก,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางปาริสรา สรัสสมิต ที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์ The Core Hotel แจ้งว่า กรณีที่มีข่าวของอุ้ม ลักขณา วัฒนวงศ์ศิริ และบอล กฤษนะ อมิตรสูญ พร้อมด้วยเพื่อนนักแสดงอยู่ในเหตุการณ์การ์ดของร้าน Malin Sky ทำร้าย ลูกชาย ของผบ. มทบ 38 ซึ่งทางอุ้ม ลักขณา และบอล กฤษนะ ได้รับผลกระทบโดยตรง จึงขอเรียนเชิญสื่อมวลชนทุกแขนงที่สนใจ ได้เข้าร่วม เพื่อจะรับทราบการแถลงข่าวในครั้งนี้ วันอาทิตย์ ที่ 27 พฤศจิกายน 2559 เวลา 17.00 น. ณ ชั้นดาดฟ้า The core chiangmai hotel. | บิ๊กตำรวจ รองผชบ.ภ.5 ร่วมกับ ผบ.มทบ.33 ตรวจร้าน มาลิน สกาย หลังลูกชายผบ.มทบ.38 จังหวัดน่านโดนการ์ดของร้านทำร้ายร่างกาย เจ็บสาหัส แต่ไปถึง ผับดังปิดให้บริการชั่วคราว ด้านอุ้ม-ลักขณา และแฟนหนุ่มเตรียมแถลงข่าวเย็น27พ.ย. | ข่าว,ทั่วไทย | ทำร้ายลูกทหาร,ลูกชาย ผบ.มทบ.38,ดาราดัง,มาลินสกาย,เชียงใหม่ | https://www.thairath.co.th/news/local/794677 |
จีน พบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาคนแรก - ญี่ปุ่น ยกระดับเฝ้าระวังตามสนามบิน | สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนรายงานข่าวยืนยันการพบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาคนแรกในประเทศจีนแล้ว หลังผู้ติดเชื้อเดินทางกลับจากอเมริกาใต้ผ่านเกาะฮ่องกง สื่อจีนรายงานโดยอ้างข้อมูลจากคณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติและการวางแผนครอบครัวว่าชายวัย 34 ปี จากเขตกานเซียน มณฑลเจียงสี ทางภาคตะวันออกของจีน เข้ารับการรักษาตัวมาตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา จากการติดเชื้อไวรัสซิกาจากประเทศเวเนซูเอลา และเดินทางผ่านฮ่องกงก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังเซินเจิน เพื่อไปทำงานในเมืองตงกวน มณฑลกวางตุ้งด้านสำนักงานสาธารณสุขฮ่องกงสั่งเพิ่มการตรวจสอบที่สนามบินและเพิ่มการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาดไวรัสซิกา รวมถึงวิธีรับมือกรณีที่พบผู้ติดเชื้อและสั่งยกระดับมาตรการเฝ้าระวังให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้นขณะที่กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นสั่งยกระดับมาตรการเฝ้าระวังตามสนามบินและด่านตรวจคนเข้าเมืองจุดต่างๆ มากขึ้น ด้วยการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิ โดยเฉพาะผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศในแถบละตินอเมริกา พร้อมทั้งเตือนประชาชนโดยเฉพาะหญิงมีครรภ์ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสซิกาส่วนที่ประเทศออสเตรเลียมีรายงานว่าพบหญิงมีครรภ์ในเซาท์ อีสต์ ควีนสแลนด์ ติดเชื้อไวรัสซิกาแล้วเช่นกัน หลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศ ทำให้ล่าสุดมีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาในออสเตรเลียแล้วทั้งหมด 3 คน นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา | จีนพบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาคนแรกของประเทศ หลังเดินทางเข้าจีนแผ่นดินใหญ่ผ่านเกาะฮ่องกง ซึ่งทำให้ทางการฮ่องกงต้องยกระดับมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดเข้มงวดมากขึ้น ขณะที่ญี่ปุ่นสั่งยกระดับมาตรการเฝ้าระวังไวรัสซิกาตามสนามบินและด่านตรวจคนเข้าเมืองจุดต่างๆ | ต่างประเทศ | จีน,ผู้ติดเชื้อ,ไวรัสซิกา,ซิกา,ญี่ปุ่น,ออสเตรเลีย | https://news.thaipbs.or.th/content/250085 |
ก็แค่ผลไม้เมินข้อหาสตรอเบอร์รี่ เอสเธอร์ เคลียร์เบี้ยวงาน (ชมคลิป) | เอสเธอร์ แจงหลังมีรายการแฉนางเอกสตรอเบอร์รี่เบี้ยวอีเวนต์ และไม่คืนเงินค่ามัดจำ บอกตนเป็นฝ่ายที่ถูกแคนเซิลเพราะทางเจ้าของอยากให้โฟกัสที่สินค้า และได้ยินคุณแม่คุยโทรศัพท์และคืนเงินแล้ว บอกไม่เกี่ยวกับที่ตนไปตอบคำถามที่งานอื่นก่อน ลั่นต่างคนต่างรู้อยู่แก่ใจดี ปัดอัพค่าตัวขึ้นเป็นหลักแสน เมินคนมองเป็นนางเอกสตรอเบอร์รี่ ขำๆ มองเป็นผลไม้ชนิดนึง, งานเข้าไม่ได้ว่างเว้น สำหรับนางเอกสาว เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา ที่ล่าสุดโดนรายการออกมาแฉว่ามีนางเอกสตรอเบอร์รี่เบี้ยวงานแถมไม่คืนเงินมัดจำให้กับออแกไนซ์ งานนี้ได้เจอสาวเอสเธอร์ ก็ไม่พลาดที่จะต้องอัพเดตสอบถามเรื่องราวดังกล่าวว่าใช่เธอหรือไม่ ซึ่งสาวเอสเธอร์จะตอบคำถามเรื่องนางเอกสตรอเบอร์รี่เบี้ยวงานว่าอย่างไร ไปฟังจากปากของเจ้าตัวกันเลย,มีข่าวออกมาว่ามีนางเอกสตรอเบอร์รี่ ทำอีเวนต์ป่วน จนทีมงานป่วน? ว้าย ไม่น่าจะใช่นะคะ เพราะว่าเร็วๆ นี้ก็ไม่ได้มีออกอีเวนต์ไหนเลย ที่พึ่งมีปัญหาไปก็ไม่ได้ออกอีเวนต์ทางเราที่ถูกแคนเซิลก็ไม่น่าจะเกี่ยวแน่นอน เห็นว่าเป็นการเปลี่ยนตัวจากเอสเธอร์เป็นคาริสา? ไม่แน่ใจ เพราะว่าหนูไม่รู้ เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง? อ๋อ ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง น่าเป็นอันที่เค้าติดต่อมาก่อนค่ะ และได้มีการแคนเซิลไป เหตุผลที่เค้าแคนเซิลคืออะไร? ทางออแกไนซ์อยากให้โฟกัสที่ผลิตภัณฑ์มากกว่าก็เลยได้แคนเซิลไป ทางรายการที่มาแฉบอกว่าเรารับเงินไปแล้ว แล้วไม่ยอมคืนเงิน? เป็นปกติค่ะเวลาเราทำงานก็ต้องมีการมัดจำถ้าเราคอนเฟิร์มแล้ว เป็นปกติของการทำงานเลยซึ่งมัดจำปุ๊บถ้าแคนเซิลเค้าก็รับปากไว้แล้วว่าถ้ามีการแคนเซิลคุณก็ต้องจ่ายมาทั้งหมดใช่มั้ยค่ะ แต่ว่าสุดท้ายก็มีการแคนเซิลขึ้นมา เค้าก็มาบอกว่าถ้างั้นขอคืนได้มั้ยค่ามัดจำ ซึ่งถ้าตามที่ทำงานสัจจะลั่นไว้แล้ว มันก้ต้องตามสัญญา แต่เค้าก็คุยกับคุณแม่หนูไม่รู้รายละเอียดอะไรมาก ก็เลยหยวนๆ กันไป ก็คืนเงินเค้าไปค่ะ เค้าเป็นฝ่ายแคนเซิลค่ะ,เหตุผลของการแคนเซิลงาน? อย่างที่บอกไปค่ะว่าเค้าอยากโฟกัสที่ตัวผลิตภัณฑ์เค้า อยากให้สัมภาษณ์เรื่องผลิตภัณฑ์เค้ามากกว่า ทางลูกค้าขอแคนเซิล คือมันไม่เกี่ยวกับข่าว แต่มันอยู่ที่ลูกค้าว่ามองว่าตอนนั้นสถานการณ์เป็นอย่างไร เสียความรู้สึกมั้ย? ไม่เสียนะคะ หนูมองว่ามันเป็นปกติ มีการตกลง มีการแคนเซิล การทำงานมันก็ต้องมีการตกลงกันทั้ง 2 ฝ่ายที่มีความเห็นตรงกัน คืนเงินเรียบร้อย? คืนค่ะ เคลียร์กันแล้วก็คืน คืนมัดจำที่เค้าให้มา? อันนี้ไม่แน่ใจแต่ว่าคุณแม่คุยโทรศัพท์คือได้ยินแค่เบื้องต้นได้มีการคืนไป เค้าบอกว่าคุณแม่ไปตกลงกับทางออแกไนซ์นี้ว่าจะให้เอสเธอร์ตอบคำถามเรื่องนึง แต่เอสเธอร์ดันไปตอบประเด็นข่าวนั้นในอีเวนต์อื่น มันเลยทำให้เค้ามาแคนเซิล? จริงๆ แล้ว งานนั้นมันมาก่อน เราก็ต้องให้เกียรติงานนั้นก่อนอยู่ดี จะไม่พูด เก็บมาพูดงานนี้ พี่ๆ นักข่าวก็มาแล้ว ก็ต้องให้เกียรติงานที่ทำก่อน ถ้าคุณต้องการอย่างนั้น คุณก็ต้องบอกตั้งแต่แรกว่าคุณต้องการอะไร เราจะได้โอเครู้ จะได้ไม่ต้องรับตั้งแต่แรกแล้ว คุณแม่บอกกับทางออแกไนซ์ว่าคุณแม่ไม่ได้ไปคุมก็เลยไม่รู้ว่าเอสเธอร์ตอบอะไรไป? ไม่ๆ คุณแม่อยู่ด้วย แต่หนูว่าต่างคนต่างแสดงความต้องการที่ไม่ชัดเจน ไม่บอกความต้องการที่ชัดเจนของตัวเอง,เค้าได้บอกมั้ยว่าอยากให้เอสเธอร์ตอบเรื่องข่าวที่งานของเค้า? ไม่ เค้าไม่ได้บอกอย่างนี้ค่ะ เหมือนแค่บอกว่าเซฟๆ ไว้นะ เราก็ไม่รู้ว่าเซฟๆ ไว้นี่คืออะไร เพราะทุกครั้งที่ทำงานมันก็ต้องมีการสัมภาษณ์หลังงาน พูดถึงโปรดักต์แล้วก็ถามเรื่องข่าว มันก็เป็นเรื่องปกติที่เราทำงานมา มันก็เป็นเรื่องของการให้สิทธิ์ว่าเราไปออกงานไหนก่อน เราก็ให้สิทธิ์เค้าก่อน เสียใจมั้ยที่เค้าว่าเราเบี้ยวงาน? ถ้าจะมาบอกว่าเบี้ยวงาน มันคือต่างคนต่างรู้อยู่แก่ใจว่าอะไรมันคืออะไร ไม่ต้องไปแก้ไขอะไรแล้ว เจอแต่ข่าวอีเวนต์ตลอดเลย? เออ นั่นสิ เริ่มงงๆ แล้ว แต่ก็เข้าใจเรื่องการทำงานมันก็มีปัญหากันปกติ กลัวคนจะไม่จ้างงานมั้ย? ไม่ จ้างได้ (ยิ้ม) อัพค่าตัวเป็นแสนแล้ว? ว้าย ไม่ๆ เรตปกติ เรตการทำงานหนูเป็นเรตที่คงที่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว คนมองว่าเรากลายเป็นนางเอกสตรอเบอร์รี่? แล้วแต่คนจะคิดแล้วกัน ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ชินแล้ว คือมันเป็นอาชีพที่สิ้นเปลืองตัวคนเค้าจะเอาเราไปว่าไปทำอะไรทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้รู้จักเราดีเราก็ต้องทำใจก็เข้าใจ ณ จุดๆ นี้ค่ะ เครียดมั้ย คำว่าสตรอเบอร์รี่ก็เป็นคำที่แรงนะ? ไม่เครียด พยายามไม่คิด ถือว่าเป็นผลไม้ที่ประโยชน์ ถ้าวันหลังจะแจกของเป็นของจริงดีกว่า ข่าวบั่นทอนจิตใจมั้ย? ช่วงแรกๆ บั่นทอนค่ะ แต่หลังๆ ชินแล้ว มันเหมือนเป็นยาชั้นดี เหมือนให้เรามีเกราะที่แข็งแรงขึ้น มองเห็นโลกได้กว้างขึ้นค่ะ พี่เคนให้กำลังใจมั้ย? เหมือนเดิมค่ะก็ให้กำลังใจเหมือนเดิมค่ะ เค้าไม่ถามเรื่องข่าวค่ะ | เอสเธอร์ แจงหลังมีรายการแฉนางเอกสตรอเบอร์รี่เบี้ยวอีเวนต์ และไม่คืนเงินค่ามัดจำ บอกตนเป็นฝ่ายที่ถูกแคนเซิลเพราะทางเจ้าของอยากให้โฟกัสที่สินค้า และได้ยินคุณแม่คุยโทรศัพท์และคืนเงินแล้ว ลั่นต่างคนต่างรู้อยู่แก่ใจดี | ข่าว | เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา,เอสเธอร์ นางเอกสตรอเบอร์รี่,นางเอกสตรอเบอร์รี่,นางเอกเบี้ยวงานอีเว้นท์,เอสเธอร์เบี้ยวงานอีเว้นท์ | https://www.thairath.co.th/news/873006 |
บิ๊กตู่ ถกเวทีผู้นำอาเซียน ชงพัฒนาศูนย์ไซเบอร์ ป้องกันภัยคุกคาม | เมื่อวันที่ 13 พ.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ที่อยู่ระหว่างร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 31 ที่กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ว่า เมื่อเวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรี ร่วมการประชุมเต็มคณะ (Plenary) ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติฟิลิปปินส์ โดย พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปผลการประชุมว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณ ประธานาธิบดีโรดรีโก โรอา ดูแตร์เต ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น รวมทั้งปฏิบัติหน้าที่ประธานอาเซียนอย่างสมบูรณ์แบบในปีที่อาเซียนครบรอบ 50 ปี อาเซียนจะยังต้องร่วมกันขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนให้เข้มแข็ง มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป ในอีก 50 ปีข้างหน้า โดยยึดหลักการและแนวทางสำคัญ ได้แก่ การเสริมสร้างประชาคมอาเซียนที่มีความเข้มแข็ง เน้นนวัตกรรม โดยสิ่งที่อาเซียนควรเร่งดำเนินการ คือ 1.การแก้ไขปัญหาทุพโภชนาการกับสภาวะแคระแกร็น 2.การเตรียมความพร้อมสำหรับสังคมสูงวัย 3.การบริหารจัดการด้านการบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติในภูมิภาค และ 4.การต่อต้านปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ,พล.ท.วีรชน กล่าวต่อว่า นายกฯ ยินดีที่อาเซียนกำลังจะรับรองปฏิญญาผู้นำอาเซียน ว่าด้วยการขจัดทุพโภชนาการ พร้อมเสนอว่าในปีหน้าอาเซียนพิจารณาจัดทำโรดแม็ป ที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมแสดงความขอบคุณประเทศสมาชิกอาเซียนที่เห็นชอบในหลักการข้อริเริ่ม ของไทยที่จะจัดตั้งศูนย์อาเซียน เพื่อผู้สูงวัยอย่างมีศักยภาพและนวัตกรรม ภายในปี 2562,นอกจากนี้ในส่วนของการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ อาเซียนควรพัฒนาศูนย์ไซเบอร์อาเซียน เพื่อให้ประชาคมอาเซียนสามารถเข้าสู่ยุคดิจิทัล โดยมีระบบคุ้มกันจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นอาเซียนจึงควรผนวกแนวคิดศูนย์ไซเบอร์อาเซียนให้อยู่ในแผนงานการทำงานด้านไซเบอร์ของอาเซียน อีกทั้งควรพัฒนากรอบความร่วมมือด้านการบริหารจัดการชายแดน ที่จะนำไปสู่การมีระบบในกรอบอาเซียน ภายในปี 2562,พล.ท.วีรชน กล่าวต่อว่า ไทยย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ตามชายแดนผ่านรูปแบบความร่วมมือประเทศไทย+1 ที่สามารถขยายและเชื่อมโยงกับประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศในภูมิภาคได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) อีกทั้งอาเซียนควรจะร่วมกันส่งเสริมความเชื่อมั่นในระบบภูมิภาคนิยม และเสริมสร้างบทบาทของอาเซียนในระบบพหุภาคีนิยม เพื่อรับมือกับภัยคุกคามภายนอกภูมิภาคที่อาจส่งผลกระทบต่ออาเซียน อาทิ สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ปัญหาการก่อการร้ายและลัทธิสุดโต่ง และประเด็นความท้าทายต่างๆ ของโลก เช่น อาชญากรรมข้ามชาติ และความเหลื่อมล้ำต่างๆ ทางเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น แต่อาเซียนจะไม่สามารถมีบทบาทดังกล่าวได้ หากความเป็นเอกภาพยังเป็นเรื่องที่อาเซียนควรให้ความสำคัญสูงสุด โดยเฉพาะในยุคที่อาเซียนจะถูกกดดันจากโลกภายนอกมากยิ่งขึ้น ,นายกฯ ยินดีที่อาเซียนได้มีส่วนร่วมบรรเทาสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมโดยผ่านศูนย์อาเซียน ซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียนไม่ควรที่จะยึดติดกับอดีต หากแต่ควรมองไปสู่อนาคตของอาเซียนร่วมกันในอีก 20-50 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะช่วงหลังวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ.2025 ดังนั้นอาเซียนควรเริ่มศึกษาแนวคิดของกรอบความร่วมมือใหม่ๆ ที่จะเพิ่มศักยภาพและอำนาจต่อรองของอาเซียนในยุคที่มีความเปลี่ยนแปลงสูง นอกจากนี้เห็นว่าอาเซียนควรเริ่มพัฒนาแนวความคิดความร่วมมือในพื้นที่อินโด-แปซิฟิก ที่จะเกื้อกูลกับกรอบความร่วมมือสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดีย (IORA) ที่เน้นประเด็นด้านเศรษฐกิจ เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพ และความสมดุลทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาคนี้ในระยะยาว พล.ท.วีรชน กล่าว. | นายกฯ ร่วมถกสุดยอดผู้นำอาเซียน แนะขับเคลื่อนประชาคม เข้มแข็ง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เน้นนวัตกรรม พัฒนาศูนย์ไซเบอร์อาเซียนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องภัยคุกคามทุกรูปแบบ
| ข่าว,การเมือง | นายกฯ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ประชุมอาเซียน,นายกฯประชุมอาเซียน,ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1124887 |
กรมอุตุฯเตือนทะเลฝั่งอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร | แผนที่ลมระดับ 600 เมตร เมื่อวานนี้ ของกรมอุตุนิยมวิทยาจะเห็นว่ามรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย แม้ว่าจะเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังทำให้ตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันยังสูงประมาณ 2 เมตรการคาดการณ์ความสูงของคลื่นวันที่ 26 - 29 พฤษภาคมนี้ แสดงให้เห็นว่าบริเวณฝั่งทะเลอันดามัน ห่างจากฝั่งยังมีคลื่นสูงหรือที่เห็นเป็นสีส้ม ส่วนสีเหลืองคลื่นสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร 25 เซนติเมตรศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระบุว่า ด้านตะวันตกเป็นด้านรับลม ทำให้ตอนนี้มีโอกาสมีคลื่นสูง แต่ส่วนใหญ่คลื่นจะสูงประมาณ 1 - 2 เมตร แต่ปัจจัยที่ทำให้เกิดคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร เกิดจากลมกระโชกแรงจากกลุ่มฝน เหมือนที่เกิดขึ้นที่จังหวัดกระบี่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ก็จะทำให้บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากขึ้นศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตก ยังระบุด้วยว่า จังหวัดระนอง และ พังงา จะยังมีฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วง 2 - 3 วันนี้ เมื่อมาดูปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง จนถึงเมื่อวานนี้ จังหวัดพังงามีฝนสะสมมากกว่า 150 มิลลิเมตร | กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งทะเลอันดามันยังคงต้องระวังเรื่องของคลื่นลมแรงในระยะ 1 - 2 วันนี้ โดยเฉพาะบริเวณทะเลที่เกิดฝนฟ้าคะนองอาจจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร | สังคม | กรมอุตุฯ,คลื่น,ทะเล,ภาคใต้,อันดามัน,เตือน | https://news.thaipbs.or.th/content/172196 |
เลือกตั้ง 2562 : อนาคตใหม่ ขอบคุณทุกเสียง ทุกศรัทธา | วันนี้ (24 มี.ค.2562) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตไทย พร้อมด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวภายหลังปิดหีบเลือกตั้งว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่จุดจบ การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่เส้นชัยของการเดินทาง แต่การได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่ยั่งยืน การได้มาซึ่งความเป็นธรรมในสังคม ยังต้องใช้เวลาในการเดินหน้าต่อไปอีก นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุดอยากเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องคนไทยทุกคน ให้ทำงานร่วมกับพรรคอนาคตใหม่ต่อไปหลังจากการเลือกตั้งครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้ เริ่มตั้งแต่อาทิตย์หน้า ยังมีงานที่จะต้องทำอีกเยอะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่สำคัญของการนำมาซึ่งประชาธิปไตยที่ยั่งยืนในอนาคตเท่านั้น ร่วมงานกันต่อไปจนกว่าจะถึงวันนั้นทั้งนี้ นายธนาธร ระบุถึงกรณีการโอนหุ้นให้บริษัทสือให้กับมารดา โดยยืนยันว่า โอนก่อนการลงสมัคร 1 เดือน และมั่นใจว่าต่อสู้ประเด็นนี้ได้ ขอผู้สนับสนุนอย่าได้กังวลเมื่อถามถึงคะแนนในการเลือกตั้งครั้งนี้ เบื้องต้นยังไม่ขอประเมิน ขอให้รอหลังเวลา 21.00 น. เพื่อให้คะแนนนิ่งและชัดเจนกว่านี้ส่วนกรณีข้อเสนอ ปิดสวิต์ ส.ว.ยังไม่ขอประเมินว่าจะทำได้หรือไม่ แต่ย้ำในหลักการว่าหากทุกพรรคสนับสนุนให้พรรคที่ได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งได้ตั้งรัฐบาล รวมถึงพรรคฝ่ายค้านที่ต้องการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.ก็จะต้องร่วมกันยกมือสนับสนุนพรรคอันดับ 1 ให้ได้รัฐบาลเสียงข้างมากเกินกว่า 376 เสียง จะเป็นการยุติ ส.ว.ไปในทันที แต่หากพรรคที่ยืนยันในการร่วมมือกับการสืบทอดอำนาจ คสช.ก็เท่ากับเป็นการเปิดสวิทให้ ส.ว.ได้มีบทบาทเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ความวุ่นวายเกิดขึ้นในสังคมไทยไม่จบสิ้นด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ประชาชนที่ลงคะแนนให้พรรคอนาคตใหม่ แม้คะแนนยังไม่เป็นทางการ และได้เห็นความกระตือรือร้นของผู้คนที่ออกไปใช้สิทธิ์ โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยทำให้เชื่อได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นครั้งประวัติศาสตร์รวมถึงให้กำลังใจคณะกรรมการการเลือกตั้ง แม้วันนี้อาจมีผิดพลาดบ้างแต่เชื่อว่าหากบ้านเมืองจะเป็นเสรีเป็นธรรมหรือไม่ จำเป็นต้องพึ่งคณะกรรมการเหล่านี้ต่อคำแถลงล่าสุดของเลขาธิการการเลือกตั้ง ที่ระบุว่าหากบัตรนอกราชอาณาจักรส่งมาช้ากว่ากำหนด จะถือว่าเป็นบัตรเสีย เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ระบุว่า อยากให้ กกต.กลับไปดูกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 114 นั้นระบุว่า บัตรนอกราชอาณาจักรจะเสียก็ต่อเมื่อ ก่อให้เกิดการไม่สุจริตและเป็นธรรม จึงอยากให้ประชาชนที่ร่วมกันลงเสียงในต่างประเทศสบายใจขณะที่กระแสโพลที่ออกมาหลังเวลา 17.00 น. นายปิยะบุตร ระบุว่ายังไม่สามารถนำมาตัดสินได้เนื่องจากเป็นการประเมินที่ไม่แน่นอนและแม่นยำ | พรรคอนาคตใหม่ ขอบคุณทุกเสียงที่สนับสนุนและศรัทธาในการเลือกตั้งครั้งนี้ รอคะแนนชัดเจนหลังเวลา 21.00 น. | การเมือง | อนาคตใหม่,ปิดหีบเลือกตั้ง,แถลง,ขอบคุณ,เสียงประชาชน,เลือกตั้ง 62,เลือกตั้ง2562,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/278695 |
เอิร์ธ ลูกชายซูโม่กิ๊ก เคยขอเลิก เปาวลี ทนไม่ไหวที่ต้องหลบซ่อน (คลิป) | หลังจากที่คบหาดูใจกันมานาน ในที่สุดความรักของนักร้องลูกทุ่งสาว เปาวลี และ เอิร์ธ กานต์ ลูกชายซูโม่กิ๊ก ก็สุกงอม เตรียมจูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์ในปลายปีนี้ โดยล่าสุดทั้งคู่ควงกันมาเปิดใจเล่าถึงเรื่องราวความรักในรายการ คุยแซ่บ Show ทางช่องวัน ซึ่งทั้งคู่ก็ได้เปิดใจเล่าแบบหมดเปลือกว่า,ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เจอกันได้ยังไง?, เอิร์ธ : คือตอนนั้นผมเรียนอยู่ต่างประเทศ แล้วเปาเขาก็มาโปรโมตหนัง ผมกลับมาพอดี ก็เลยมีโอกาสได้เจอกัน เพราะปกติผมก็ไปตามรายการอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่รู้จักนะครับ เพราะเขาก็ยังใหม่ในวงการด้วย , เปา : ใช่ค่ะ ตอนนั้นยังไม่มีใครรู้จัก เปา เปาวลี เลย แล้วรายการนี้ก็เป็นรายการแรกๆ ที่ไปโปรโมตเลย ,เห็นบอกว่าคนที่เป็นพ่อสื่อคือ ป๋ากิ๊ก ซึ่งเป็นคุณพ่อจริงหรือเปล่า?,เอิร์ธ : จริงๆ ก็ไม่เชิงนะครับ เราแค่รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้นิสัยดีอะไรแบบนี้ แล้วคุณพ่อเขาก็ไปบอกเปา แล้วจะบอกว่าตอนที่เราถ่ายรูป หน้าตาก็ยังไม่ได้มองกันเลย หลังจากนั้นก็มีบางอย่างที่ทำให้เราชอบเขา,เปา : คือตอนนั้นเราถ่ายรายการเสร็จเรียบร้อย แล้วก็กำลังจะกลับบ้าน ก็ไปรออยู่หน้าสตูฯ เพื่อจะขอป๋าถ่ายรูปด้วย พอถ่ายกับป๋าเสร็จ ป๋าก็บอกให้รอแป๊บนึง เดี๋ยวจะเรียกลูกชายมาถ่ายรูปด้วย,แล้วมาเริ่มคุยกันได้ยังไง?,เอิร์ธ : หลังจากวันนั้นผมก็ไปขอเบอร์จากทีมงานครับ แล้วก็โทรไป ครั้งแรกเจอคุณแม่รับ เราก็บอกว่าเป็นทีมงานขอคุยกับเปาวลีหน่อย ก็เลยได้คุยกันครับ,เปา : พอคุณแม่ส่งโทรศัพท์มา เขาก็แนะนำตัว ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่ได้คุยอะไรมาก เพราะคุณแม่นั่งอยู่ใกล้ๆ และคุณแม่ก็ค่อนข้างห่วงเรามากพอสมควร เราก็พูดดังมากไม่ค่อยได้,เห็นว่าตอนแรกก็ไม่ค่อยมั่นใจ?,เปา : คือเราจะเป็นคนขี้ระแวงอยู่แล้วค่ะ แล้วก็ยังไม่มีใครเข้ามาในช่วงนั้นเลย อีกอย่างคือเราเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน เราก็เลยคิดว่ามันจะดีเหรอถ้าเกิดว่าเราให้ใจเขาไปเลย เราก็ต้องดูก่อนว่าเขานิสัยใจคอเป็นยังไง,แล้วพอเขาตัดสินใจที่จะคุยกับเราแล้ว เราก็อยากจะเห็นความพยายาม หรือไลฟ์สไตล์ของเขาว่ามันเป็นยังไง เราก็เลยให้ Facebook คุยผ่านแชตไปก่อนอะไรแบบนี้ค่ะ แล้วคุณแม่ก็บอกว่าให้คุยเป็นเพื่อนไปก่อน แล้วค่อยพัฒนาเป็นอย่างอื่นค่ะ เพราะว่าตอนนั้นเราก็ยังอยู่ในช่วงของวัยรุ่น ซึ่งค่อนข้างยังเด็กอยู่,ดูใจกันนานถึง 3 ปี มั่นใจได้ยังไงว่าอยากจะรอผู้หญิงคนนี้?,เอิร์ธ : มีความรู้สึกว่าเขาก็อดทนไปกับเรา ก่อนหน้านี้เราก็มีแฟนมาหลายคนเหมือนกัน แต่ผู้หญิงคนนี้ระหว่างที่เราไม่อยู่ ระหว่างที่เราเรียนอยู่เมืองนอก เขาไม่เคยไปคุยกับผู้ชายคนไหนเลย เลยมีความรู้สึกว่าเหมือนเขาก็รอเราอยู่เหมือนกัน แล้วเขาก็เป็นคนที่รักครอบครัวของเขามาก แล้วเขาก็ยังรักครอบครัวเราด้วย เราก็คิดว่าถ้าเกิดวันนึงได้อยู่ด้วยกันเราคงเป็นครอบครัวที่รักกันมากแน่ๆ เลย,เปา : คือจะบอกว่าตอนที่เขาเรียนอยู่อเมริกา ตอนที่ของเขาเช้า บ้านเราก็จะดึกพอดี เราก็จะมีเวลาคุยกันแค่วันละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แล้วจะอยู่ช่วงเวลาประมาณห้าโมงเย็น ก่อนที่เราจะไปงาน เขาก็จะเริ่มตื่นไปเรียนแล้ว ซึ่งช่วงนั้นแหละค่ะเราก็มีโอกาสได้คุยกัน ,แล้วคุณพ่อมารู้ว่าเราคบกัน ได้ยังไง?,เอิร์ธ : คือว่าจะเป็นคนที่บอกครอบครัวตลอดอยู่แล้วครับ ว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่หรือคุยกับใครอะไรแบบนี้ ซึ่งคุณพ่อเขาก็ทราบว่าเราคุยกับเขาอยู่ ซึ่งตอนนั้นเขาก็โอเคไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ แต่เขาก็มีบอกบ้างว่าอย่าเต็มร้อยนะ เพราะเราอยู่เมืองนอก ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างอะไรแบบนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คุณพ่อจะห่วงลูกชายครับ,เห็นบอกว่าตอนเป็นแฟนกันก็ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ตลอดเลย?,เปา : คือจะเป็นความระแวงของเราเองค่ะ เพราะประมาณ 8-9 ปีที่ผ่านมา Social หรือการเปิดเผยของดารามันยังไม่เท่าตอนนี้ ในตอนนั้นเราก็ยังคิดแบบสมัยก่อนค่ะ ว่าถ้าเกิดเราเปิดตัวไปแล้วมันจะกระทบกับงานของเราหรือเปล่า ซึ่งตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้ดังหรือมีคนรู้จักอะไรมากมาย แต่เราก็ต้องเลือกที่จะเซฟตัวเองไว้ด้วย อีกอย่างนึงคืออาชีพนี้มันก็เป็นความฝันของหนู และยังเป็นความฝันของทั้งครอบครัวด้วย,เคยรู้สึกแบบอึดอัดจนถึงขั้นไม่ไหวบ้างไหม?,เอิร์ธ : ก็มีนะครับ,เปา : ใช่ค่ะ ตอนนั้นก็คบกันประมาณ 2-3 ปีแล้ว ก็ไปดูหนังกัน และตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้เปิดตัว เราก็เอาพี่ชาย และก็พี่ที่สนิทอีกคนนึงไปด้วย แล้วเราก็โทรเรียกเขาให้มาดูหนังกัน แล้วเราก็ไปกับกลุ่มพี่ๆ แล้วให้เขาเดินตาม คือจะไม่กล้ายืนใกล้กัน,เอิร์ธ : ตอนนั้นเราก็รู้สึกน้อยใจครับ ว่าทำไมชีวิตเราเศร้าจังเลย เป็นแฟนกันแท้ๆ แต่ทำไมคือบอกใครก็ไม่ได้ ต้องเดินตามดูเขาสนุกสนาน แล้วเราก็เดินคนเดียว เป็นเหมือนแฟนคลับที่ไม่มีคนสนใจ เป็นแบบนั้นเลยครับ ก็เลยบอกเขาว่าเราพอกันแค่นี้เถอะ รู้สึกไม่ไหวแล้วจริงๆ,หลังจากนั้นเป็นยังไงต่อ?,เปา : ก็รู้สึกเศร้าค่ะ หลังจากที่ดูหนังจบทุกอย่างมันก็นิ่ง แล้วเราก็ต้องไปงานต่ออีก แต่พอมาเจอแบบนี้คือทุกอย่างมันนิ่งไปหมดเลย ซึ่งตอนนั้นเราทั้งคู่เองก็รู้สึกอึดอัด เลยคิดจะหยุดความสัมพันธ์ไว้แค่นั้น,แล้วอะไรที่ทำให้กลับมาคุยกันอีก?,เอิร์ธ : หลังจากนั้นอีกประมาณอาทิตย์นึงครับ เราก็รู้สึกไม่ไหว นอนไม่หลับ กินอะไรก็ไม่ค่อยลง ก็โทรไปบอกเขา เรากลับมาคุยกันเหมือนเดิมเถอะ,เปา : คือเขาต้องบินกลับไปอเมริกา เราก็ไม่ได้คุยกันอาทิตย์นึงเลยค่ะ พอเขาโทรกลับมาเราก็ดีใจค่ะ ก็ได้แต่บอกเขาไปว่าให้อดทน ไม่นานเราจะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้,แล้วมาถึงจุดไหนที่เราคิดว่า จะต้องเปิดตัวแล้ว?,เปา : คือวันนั้นเราไปร้องเพลง แล้วมันครบเวลา 4 ปีพอดีที่เราบอกเขาไว้ ว่าครบ 4 ปีแล้วจะเปิดตัวอะไรแบบนี้ แล้วงานนั้นพี่ๆ นักข่าวก็มาเยอะมาก แล้วเขาก็ตั้งไมค์ถามเราเลยค่ะ เราก็งงมากแบบไม่ได้ตั้งตัวเลย เราก็แบบว่าไหนๆ ก็เป็นฤกษ์งามยามดีแล้ว พี่ๆ ถามแบบนี้ เราก็ตัดสินใจบอกความจริงไปเลยค่ะ,เราก็คิดมาตลอดค่ะว่ามันจะต้องถึงวันนี้ แล้วมาตอนนี้เราก็พร้อมที่จะตอบ และมันก็ถึงเวลาที่เราบอกกับเขาไว้แล้วด้วย อีกอย่างตอนนั้นหนูคิดว่ามันก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายและเราก็ไม่ได้ทำตัวไม่ดีด้วย แล้วเวลานี้เราก็พร้อมที่จะตอบทุกคำถามแล้วด้วยค่ะ,พอเขาตัดสินใจเปิดตัว เรารู้สึกยังไงบ้าง?,เอิร์ธ : เราก็ได้ฟังที่เขาสัมภาษณ์ ก็รู้สึกโล่งเลยครับ ก็บอกเขาว่าหลังจากนี้ก็รอดูแล้วกันว่ามันจะเป็นยังไงอะไรแบบนี้,หลังจากเปิดตัวก็มีกระแสสังคมมามากมาย รับมือกันยังไง?,เอิร์ธ : โดยส่วนตัวผมรู้สึกเฉยๆ นะครับ ก็มีเข้าไปอ่านบ้าง แล้วก็มีความรู้สึกว่าเขาไม่ได้รู้จักเรากับเปาตัวจริงๆ เขาเป็นแค่คนนอกที่มองเราจากภายนอกแค่นั้นเอง เขาไม่มีทางรู้หรอกว่าเราฝ่าฟันอะไรกันมาบ้าง,เปา : อันนี้หนูก็เข้าใจนะคะ เรื่องกระแสเกาะคนรวย เพราะว่าครอบครัวเขาก็ค่อนข้างมีฐานะดีกว่าเรา แต่เราก็ภูมิใจที่ทุกวันนี้เราก็หาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ แล้วก็มีความสุขกับสิ่งที่เรามีอยู่ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่เศรษฐีหรือมีอะไรมากมาย แต่ทุกวันนี้เราเลี้ยงพ่อแม่ได้เราคิดว่าเราโอเคแล้ว และเราก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องไปขออะไรจากเขาด้วย,เซอร์ไพรส์ขอแต่งงานยังไง?,เอิร์ธ : ตอนนั้นผมพาครอบครัวและเขาไปเที่ยวกัน ไปกันประมาณ 10 กว่าคนครับ ก็ซื้อแหวนเตรียมไว้เลย ใส่กระเป๋าข้างหลังไว้ครับ แล้วเราก็พาเขาเดินไปเรื่อยๆ สักพักเราก็ตัดสินใจล้วง แต่ก็หาไม่เจอ แล้วเขาก็เริ่มรู้ตัว ตอนหลังก็หาเจอ เราก็ดึงมือเขามาสวมเลยครับ ตอนนั้นคือตื่นเต้นมากครับ ทำอะไรไม่ถูกเลยไม่ได้มีการคุกเข่าใดๆ ทั้งสิ้น,เปา : ตอนนั้นเราก็ตกใจค่ะ ว่าเขาทำอะไร อยู่ดีๆ ก็กระชากมือมา แต่เราก็ตอบตกลงค่ะ,เห็นว่าถึงขั้นเปลี่ยนศาสนาเลยด้วย?,เปา : คือตอนนี้ยังไม่ได้เปลี่ยนค่ะ แค่ไปเรียนคำสอนเฉยๆ ส่วนตัวหนูคิดว่าคนอื่นฟังอาจจะดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่สำหรับหนูถึงแม้เราจะเปลี่ยนศาสนา แต่เราก็ยังมีครอบครัวที่เป็นศาสนาพุทธอยู่ เรามีแนวทางปฏิบัติกันมา เราได้เรียนพระพุทธศาสนาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งหนูก็คิดว่ามันคล้ายกันและมันเหมือนกันทุกศาสนา ที่สอนให้เราเป็นคนดี แล้วเดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้เคร่งหรือแตกแยกอะไร เราก็ยังสามารถไปวัดทำบุญกับครอบครัวเราได้อยู่เหมือนเดิมค่ะ,มีข่าวว่าเรือนหอราคา 20 ล้าน จริงหรือเปล่า?,เอิร์ธ : ไม่หรอกครับ เราแค่ซื้อเพิ่มหลังข้างๆ คุณพ่อแค่นั้นเอง จริงๆ มันก็ไม่ได้มีอะไรครับ | เอิร์ธ กานต์ และ เปาวลี ควงกันเปิดใจเล่าถึงเรื่องความรักของทั้งคู่เคยเลิกกันมาแล้วเพราะฝ่ายชายรู้สึกไม่ไหวที่ต้องคบกันแบบหลบซ่อน พร้อมตอบข่าวลือเรื่องเรือนหอ 20 ล้าน | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | เปา เปาวลี,เปา เปาวลี แต่งงาน,เปา กานต์ แฟน,นักร้องแต่งงาน,ดาราแต่งงาน,นักร้อง | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1501693 |
ผู้ค้าจตุจักร เตรียมยื่นหนังสือนายกฯ ขอลดค่าเช่าเหลือ 1000 บาท | นายสงวน ดำรงไทย ประธานสหกรณ์ตลาดนัดจตุจักร แกนนำกลุ่มผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร เปิดเผยว่า วันนี้ (5 มี.ค.) กลุ่มผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอความเป็นธรรมให้ลดค่าแผงค้าตลาดนัดจตุจักรลงให้เหลือ 1000 บาท ซึ่งเป็นราคาตามผลวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้เคยศึกษาราคาค่าเช่าไว้ก่อนหน้านี้ โดยหลังจากที่ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เสร็จแล้วก็จะเดินทางต่อไปยังศาลปกครอง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งระงับมติของการรถไฟฯ ที่ให้จัดเก็บค่าเช่าแผงในอัตราใหม่ขณะที่การรถไฟฯ ยืนยันว่าอัตราค่าเช่า 3562 บาท เป็นอัตราเหมาะสมและเป็นธรรม เพราะต่ำกว่าราคาตลาดที่ปล่อยให้เช่าช่วงกันแผงละ 10000-20000 บาท มากกว่าร้อยละ 70 ของแผงค้าทั้งหมดกว่า 8000 แผง โดยจากนี้ การรถไฟฯ จะทำความเข้าใจกับผู้ค้า ด้วยการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ชี้แจงและอำนวยความสะดวกเรื่องการทำสัญญาเช่าถึงที่แผงค้า ส่วนผู้ค้าบางกลุ่มที่ยังไม่เห็นด้วยคงต้องพยายามทำความเข้าใจต่อไป | ผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร เตรียมยื่นหนังสือต่อนายกฯ เพื่อลดราคาค้าแผงเหลือ 1000 บาท จากนั้นจะเดินทางไปที่ศาลปกครองเพื่อให้ระงับมติ รฟท.เก็บค้าเช่าเดือนละ 3562 บาท | สังคม | จตุจักร,นายกฯ,ผู้ค้า,รฟท.,ลดค่าเช่า,ศาลปกครอง | https://news.thaipbs.or.th/content/70293 |
กดดันตั้งสหภาพต่างด้าว บังคับไทย ก่อนตัดจีเอสพี | ให้แก้กฎหมายแรงงาน พาณิชย์เร่งเจรจา ขอสหรัฐคืนสิทธิ นายกฯชี้เป็นห่วง จะกระทบสัมพันธ์,บิ๊กตู่ เตือนอย่าเพิ่งตื่นตระหนกสินค้าไทยถูกสหรัฐฯตัดจีเอสพี ขณะที่ ก.แรงงาน-พาณิชย์ ร่วมแฉเล่ห์สหรัฐฯ ปิดทางไทยชี้แจงปมสิทธิแรงงาน ยันไทยได้สิทธิจีเอสพีแล้ว แต่ถูกค้าน พร้อมกดดันไทยแก้ ก.ม. แรงงาน 7 ข้อ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการตั้งสหภาพแรงงานต่างด้าวที่สหรัฐฯเองก็ยังทำไม่ได้ โดยพาณิชย์เตรียมเจรจาขอคืนสิทธิจีเอสพีช่วง อาเซียน ซัมมิต ย้ำจีเอสพีเป็นการให้ฝ่ายเดียว ขณะเดียวกัน เกษตรกร 6 จังหวัด ร้องศาลปกครองขอเพิกถอนมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่แบน 3 สารเคมีเกษตร พาราควอต-ไกลโฟเซต-คลอร์ไพริฟอส ระบุใช้ข้อมูลเป็นเท็จ,ยังคงเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายต่างจับตาท่าทีของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการแก้ปัญหากรณีสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ประกาศตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรทางการค้า (จีเอสพี) สินค้าไทยหลายรายการ โดยอ้างเหตุไทยไม่ได้ดำเนินมาตรการส่งเสริมแรงงานตามสิทธิแรงงานสากล และมีการไปนำไปเชื่อมโยงว่าอาจเป็นการตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายของไทยเพิ่งมีมติแบน 3 สารเคมีทางการเกษตร,บิ๊กตู่ เตือนอย่าตกใจตัดจีเอสพี,เมื่อเวลา 11.25 น. วันที่ 28 ต.ค. ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์กรณีสหรัฐอเมริกามีคำสั่งระงับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) สินค้าประเทศไทยว่า เป็นเรื่องของสหรัฐฯไม่อยากให้ไปคาดเดาว่าเป็นการตัดเพราะอะไร รัฐบาลทราบอยู่แล้วว่าจะมีปัญหาตรงนี้ และแก้ปัญหามาตลอด กระทรวงพาณิชย์มีการเจรจาต่อรองเยอะแยะ แต่เราเจรจาอย่างเดียวไม่ได้ ต้องแก้ไขปัญหาภายในด้วย โดยเฉพาะปัญหาแรงงาน เราพยายามเดินหน้าเรื่องนี้ให้ดีที่สุดและอยากบอกว่า ไม่ใช่เรื่องที่ต้องตื่นตระหนก หรือกล่าวให้ร้ายกันไปมา ไม่เกิดประโยชน์ เท่าที่กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงมา คิดว่าครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว รัฐบาลทำมาโดยตลอด โดยเฉพาะกฎหมายแรงงานคือปัญหาหลัก เป็นกฎหมายในประเทศของเรา ถ้าเราทำตามเขามากๆ จะมีปัญหาอะไรหรือไม่กับเราเอง ดังนั้นต้องลดทั้งปัญหาภายในและภายนอกไปด้วยกัน,ห่วงเดาเลยเถิดกระทบสัมพันธ์,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า เท่าที่ได้ฟังตัวเลขต่างๆ เป็นจำนวนไม่มากนัก 500 กว่ารายการ เราใช้ไปประมาณ 300 กว่ารายการ อีก 100 กว่ารายการ เราไม่ได้ใช้ของเขา สิ่งสำคัญวันนี้ ภาคเอกชนต้องตื่นตัวในการพัฒนา กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย ต้องแก้ปัญหาร่วมกัน ช่วงที่ผ่านมาเราเจรจามากในหลายเรื่องที่เป็นปัญหาในอดีต แต่ปัญหาอยู่ที่ประเทศเขาจะยินยอมแค่ไหน เรื่องนี้มีเวลาอีก 6 เดือน ต้องหาวิธีการพูดคุยกันต่อไป ถ้าไม่ได้คือไม่ได้ เพราะเป็นกฎหมายของเขา อย่าไปคาดเดาว่าเกี่ยวกับเรื่องนั้นเรื่องนี้ มันคนละเรื่อง อย่าพูดให้ทุกอย่างเลวร้ายไปกว่าเดิม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต้องมีอยู่ นโยบายของเขาและนโยบายเราคนละอันกัน แต่จะทำอย่างไรให้ร่วมมือกันได้ พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังได้กล่าวเชิงขอร้องด้วยว่า ขอให้หยุดเถอะ ไม่เกิดประโยชน์ มันจะเสียหายมากกว่าเดิม และระบุว่าในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนเร็วๆนี้ หากพบกับผู้แทนสหรัฐฯก็จะหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยกัน,บิ๊กป้อม มึนถูกตัดสิทธิได้ไง,ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่สหรัฐฯระงับสิทธิจีเอสพีกับสินค้าไทย เพราะรัฐบาลไทยล้มเหลวในการให้สิทธิแรงงานภายในประเทศตามหลักสากล ไม่เกี่ยวกับการแบน 3 สารเคมีทางการเกษตร ซึ่ง รมว.พาณิชย์และ รมว.แรงงานชี้แจงไปเรียบร้อยแล้ว แต่การตัดสิทธิครั้งนี้ยังไม่มีผลบังคับใช้ ต้องรออีก 6 เดือน คือช่วงเดือน เม.ย.2563 และเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ที่จะไปเจรจาทำความเข้าใจ พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตรยังตอบกรณีฝ่ายค้านโจมตีว่า รัฐบาลคุยโวว่าแก้ปัญหาแรงงานสำเร็จ แต่เหตุใดกลับถูกระงับสิทธิจีเอสพีจากสหรัฐฯด้วยว่าเห็นชัดๆ ว่าไทยได้เลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นเทียร์ 2 ซึ่งสำเร็จทั้งภาคประมงและเเรงงาน,ขอชี้แจงแล้วแต่สหรัฐฯไม่ตอบรับ,ด้านกระทรวงแรงงาน วันเดียวกัน นายสมบูรณ์ ตรัยศิลานันท์ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวถึงการถูกสหรัฐฯ ตัดจีเอสพีในครั้งนี้ว่า ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานได้ประสานงานกับสหรัฐฯมาตลอด มีการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกัน หากสหรัฐฯมีประเด็นอะไรแจ้งมา ไทยจะทำรายงานในประเด็นเหล่านั้นส่งถึงสหรัฐฯ ผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นมาตรการปกติที่ทำกันอยู่แล้ว และก่อนที่สหรัฐฯจะประกาศตัดจีเอสพี ไทยเคยมีหนังสือขอวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เพื่อชี้แจง แต่ไม่มีการตอบกลับว่าจะให้พูดคุยเมื่อไหร่ จนมีการประกาศตัดจีเอสพีไทยออกมาก่อน ยืนยันว่ากรณีนี้มีการคุยกับเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯแล้วว่า มีประเด็นไหนที่ยังเป็นข้อกังวลใจอยู่หรือไม่ พอถึงรอบที่ต้องรายงานก็จะรายงานว่าไทยได้ทำอะไรเพิ่มเติมไปบ้าง มีแผนการทำงานอยู่แล้ว กรณีที่สหรัฐฯเรียกร้องให้ไทยรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) ฉบับที่ 87 และฉบับ 98 ซึ่งไทยมีแผนรับรองฉบับ 98 ก่อน คณะกรรมการกฤษฎีกา กำลังตรวจและส่งกลับมาให้กระทรวงแรงงานยืนยันว่าจะแก้ไขในประเด็นไหนเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งกระทรวงแรงงานจะทำหนังสือยืนยันกลับไป,ยันไทยทำตามอนุสัญญาฯเพียบ,นายสมบูรณ์กล่าวอีกว่า พื้นฐานอนุสัญญาไอแอลโอ มีอยู่ประมาณ 8 ตัว ไทยรับไปแล้ว 6 ตัว มี 2 ตัวที่ยังไม่ได้รับ แต่ก็มีแผนที่จะรับ หากมีประเด็นอะไรที่สหรัฐฯ มองว่าทำไม่สอดคล้องกับอนุสัญญาฉบับใดก็จะชี้แจงไป เรื่องอนุสัญญาไอแอลโอไทยให้การรับรองไปแล้ว 19 ฉบับ พิธีสารอีก 1 ฉบับ ในแง่การปฏิบัติให้สอดคล้องกับอนุสัญญาถือว่าไทยปฏิบัติได้เยอะมาก เช่น ซี 188 อนุสัญญาเกี่ยวกับประมงทะเล ไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่รับรองอนุสัญญาฉบับนี้ เรื่องที่กล่าวหาว่าไทยปฏิบัติไม่สอดคล้องกับอนุสัญญา หรือไม่สอดคล้องกับสากล จึงเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงเกินไป เพราะได้ปฏิบัติเยอะแล้ว,ที่ ม.ร.ว. จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน พูดว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะให้สิทธิแรงงานต่างด้าวเหนือคนไทย ท่านอาจจะพูดทำนองเหมือนกับว่าคนต่างด้าวก็ควรที่จะมีสิทธิเท่าเทียมกับแรงงานไทยเหมือนกัน ซึ่งข้อเท็จจริงเราก็ให้สิทธิคนต่างด้าวเท่าเทียมกับคนไทยอยู่แล้ว และอนุสัญญาฉบับที่ 98 ที่ไทยกำลังเตรียมที่จะรับรองนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ต่างด้าวมีสิทธิเหนือคนไทย นายสมบูรณ์กล่าว,เปิดข้อมูลไทยถูกค้านการได้สิทธิ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลของสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน ได้สรุปถึงกรณีที่สหรัฐฯ ตัดจีเอสพีไทย ว่า สมาพันธ์สหภาพแรงงานสหรัฐฯ (AFL-CIO) ได้มีคำร้องคัดค้านการให้สิทธิจีเอสพีไทยต่อสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ มาตั้งแต่ปี 2556 โดยอ้างว่ามีการละเมิดสิทธิแรงงานในหลายประเด็น แต่ร่างกฎหมายเพื่อต่ออายุโครงการให้สิทธิจีเอสพี ไม่ผ่านการรับรองของรัฐสภาสหรัฐฯ ทำให้โครงการต้องระงับลง จึงไม่มีการพิจารณาคำร้อง กระทั่งวันที่ 25 มิ.ย.2558 รัฐสภาสหรัฐฯได้ผ่านร่างกฎหมาย ดังกล่าวและให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 ส.ค.2556-31 ธ.ค.2560 โดยไทยได้รับสิทธิด้วย แต่ตามหลักเกณฑ์ของโครงการให้สิทธิจีเอสพี รัฐบาลสหรัฐฯจะเปิดให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียยื่นคัดค้านการให้สิทธิได้เช่นเดิม,แฉสมาพันธ์แรงงานมะกันขอ 7 ข้อ,ต่อมาวันที่ 16 ต.ค.2558 สมาพันธ์สหภาพแรงงานสหรัฐฯ ได้ยื่นขอถอดถอนไทยออกจากบัญชีรายชื่อประเทศที่ได้รับสิทธิจีเอสพี โดยอ้างเหตุผลเดิมว่ามีการละเมิดสิทธิแรงงานหลายประเด็น อาทิ เสรีภาพในการสมาคมและเจรจาต่อรอง การนัดหยุดงานและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การปฏิบัติต่อคนต่างด้าวและการใช้แรงงานบังคับ วันที่ 19 พ.ค.2560 ผู้แทนการค้าสหรัฐฯเข้าหารือกับกระทรวงแรงงาน เรื่องการรักษาสิทธิจีเอสพี มีนายสิงหเดช ชูอำนาจ รองปลัดกระทรวงแรงงานในขณะนั้นเป็นตัวแทนฝ่ายไทย โดยสหรัฐฯต้องการให้ไทยดำเนินการ 7 ประการ อาทิ แก้ไขนิยามการกระทำที่ไม่เป็นธรรม ให้แรงงานข้ามชาติรวมตัวตั้งสหภาพ คุ้มครองแรงงานในระหว่างตั้งสหภาพ หลังจากนั้น กระทรวงแรงงาน มีการเจรจาเพื่อรักษาสิทธิจีเอสพีกับสหรัฐฯ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยไทยเสนอแนวทางการทำงาน มีการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายตาม ประเด็นเป้าหมาย 7 ประการของสหรัฐฯ,กดดันไทยให้สิทธิต่างด้าวตั้งสหภาพฯ,ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในเดือน ก.ย.2560 สำนักงานพาณิชย์ ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.เข้าชี้แจงด้วยวาจากับสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และไทยยังได้สิทธิจีเอสพีต่อไป จนหมดอายุวันที่ 31 ธ.ค.2560 และวันที่ 12 เม.ย.2561 สหรัฐฯประกาศให้ไทยได้สิทธิ โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 ม.ค.2561-31 ธ.ค.2563 ยังมีการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ติดตามความคืบหน้าการคุ้มครองแรงงาน จนวันที่ 2 ส.ค.2561 ผู้อำนวยการสำนักงานเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกและคณะเข้าพบกระทรวงแรงงาน ยืนยันว่าการให้สิทธิแรงงานต่างด้าวตั้งสหภาพ การบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมอย่างมีประสิทธิภาพและการคุ้มครองสิทธิในการแสดงออกหรือการพูด ของลูกจ้าง เป็นประเด็นสำคัญต่อการรักษาสิทธิจีเอสพีของไทย วันที่ 29 พ.ย.2561 นายวิวัฒน์ ตังหงส์ รองปลัดกระทรวงแรงงานในขณะนั้น พร้อมด้วยนายนภดล คันธมาศ อัครราชทูตการพาณิชย์ ณ กรุงวอชิงตัน เข้าชี้แจงจ้อเท็จจริงต่อคณะอนุกรรมาธิการจีเอสพีของสหรัฐฯ วันที่ 5 ก.พ.2562 ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และคณะได้เข้าหารือกับกระทรวงแรงงาน เพื่อติดตามผลด้านการคุ้มครองสิทธิแรงงานว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สมควรได้รับสิทธิจีเอสพีต่อไปหรือหรือไม่ และได้มีการประกาศตัดสิทธิไทยในที่สุด,พณ.จะเร่งเจรจาขอคืนสิทธิ,ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายกีรติ รัชโน ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ว่ากระทรวงพาณิชย์จะเร่งเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อขอคืนสิทธิโดยเร็วที่สุด โดยจะไม่ใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้าแน่นอน คาดว่าจะหารือกับสหรัฐฯในระหว่างการประชุมอาเซียนซัมมิต ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือน พ.ย.นี้ เพราะสหรัฐฯ จะเดินทางมาเข้าร่วมประชุมอาเซียนกับคู่เจรจา รวมทั้งจะเจรจาภายใต้กรอบความตกลงการค้าและการลงทุนไทย-สหรัฐฯ (ทิฟา) ด้วย,เราจะไม่ตอบโต้ทางการค้า ต้องคุยกันด้วยเหตุด้วยผล ในช่วงหลังประชุมอาเซียนซัมมิต อาจพอมีเวทีคุยกันได้เบื้องต้น สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. แจ้งมาแล้วว่าจะให้เราจัดคณะไปคุยกับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ยูเอสทีอาร์) ก็ได้ หรือจะให้เขามาคุยที่ไทยก็ได้ กระทรวงพาณิชย์จะเจรจาทำความเข้าใจให้ดีที่สุด เรื่องนี้มีหลายมิติที่ต้องดู ไม่ใช่เรื่องการค้าอย่างเดียว เพราะมีประเด็นแรงงานด้วย นายกีรติกล่าวและย้ำว่า การให้สิทธิจีเอสพีเป็นการให้เพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ ที่ให้กับประเทศกำลังพัฒนา ที่เข้าตามเงื่อนไขที่ สหรัฐฯกำหนด และมีหลักในการทบทวนการให้สิทธิอยู่แล้ว เช่น ระดับการพัฒนาประเทศ การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา การคุ้มครองสิทธิแรงงาน การกำหนดนโยบายลงทุนที่ชัดเจน การสนับสนุนสหรัฐฯในการต่อต้านการก่อการร้าย เป็นต้น หากประเทศที่ได้รับสิทธิ รวมถึงไทยไม่เข้าตามเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่ง หรือมีความสามารถในการส่งออกสินค้าจนเกินมูลค่าเพดานที่กำหนด สหรัฐฯอาจจะไม่ให้สิทธิก็ได้,ย้ำส่งออกได้ แต่ต้องเจอภาษีนำเข้า,นายกีรติกล่าวอีกว่า การตัดสิทธิสินค้าไทยครั้งนี้รวม 573 รายการ ไม่ได้หมายความว่าไทยจะส่งออกสินค้าดังกล่าวไปสหรัฐฯไม่ได้อีก หรือไทยจะสูญเสียมูลค่าการได้รับสิทธิไปทั้งหมด 40,000 ล้านบาท ยืนยันว่าไทยยังส่งออกไปได้เหมือนเดิม เพียงแต่สินค้าจากไทยต้องเสียภาษีนำเข้าอัตราปกติ (MFN Rate) เฉลี่ยร้อยละ 4.5 คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 1,800 ล้านบาท จากเดิมที่ไม่เสียภาษีเลย โดยสินค้าสำคัญที่จะถูกระงับสิทธิ เช่น มอเตอร์ไซค์ แว่นสายตา เครื่องจักรกล อุปกรณ์ไฟฟ้า พลาสติกและของทำด้วยพลาสติก อาหารปรุงแต่ง เคมีภัณฑ์ อุปกรณ์ทำด้วยเหล็ก หรือเหล็กกล้า ทองแดง ผลิตภัณฑ์เซรามิก เครื่องประดับ เป็นต้น โดยกลุ่มสินค้าที่ถูกเก็บอัตราภาษีสูงสุดคือ เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร และเครื่องครัวเซรามิก เก็บร้อยละ 26 ส่วนสินค้าที่ถูกเรียกเก็บอัตราภาษีต่ำสุดคือ เคมีภัณฑ์ ที่ร้อยละ 0.1 ทั้งนี้ สหรัฐฯได้ส่งสัญญาณมาระยะหนึ่งแล้วว่าจะประกาศการตัดสิทธิไทยในช่วงปลายเดือน ต.ค. หรือต้นเดือน พ.ย.นี้,สหรัฐฯยังทำไม่ได้ กลับบังคับไทยทำ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตัดจีเอสพีครั้งนี้เป็นเรื่องของสิทธิแรงงานเพียงอย่างเดียว ซึ่งที่ผ่านมา ในช่วงที่ไทยแก้กฎหมายแรงงานสัมพันธ์ ยูเอสทีอาร์ ได้พยายามกดดันให้ไทยแก้ไขกฎหมายตามประเด็นที่สหรัฐฯเรียกร้อง 7 ข้อ แต่ไทยดำเนินการตามได้ 5 ข้อ ส่วน 2 ข้อ เช่น ขอให้แรงงานต่างด้าวในไทย ตั้งสหภาพแรงงานนั้น ไทยไม่สามารถดำเนินการให้ได้ เพราะหากมีการประท้วง จะส่งผลกระทบต่อนายจ้างและเศรษฐกิจของไทย โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้ชี้แจงให้ยูเอสทีอาร์ทราบอย่างต่อเนื่องว่า ไทยดำเนินการไม่ได้ เพราะสหรัฐฯเองก็ยังดำเนินการไม่ได้เช่นกัน แล้วเหตุใดจึงกดดันไทยเพื่อแลกกับการให้จีเอสพี,วาง 7 มาตรการให้ผู้ส่งออกรับมือ,ด้านนายสมเด็จ สุสมบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การที่ไทยถูกสหรัฐฯตัดจีเอสพีในครั้งนี้จะไม่กระทบต่อเป้าส่งออกสินค้าไทยที่ส่งไปสหรัฐฯในปี 62 ที่วางไว้ขยายตัวร้อยละ 4 แน่นอน เพราะสินค้าส่วนใหญ่มีคำสั่งซื้อไว้ล่วงหน้า และทยอยส่งมอบไปแล้ว อย่างไรก็ตาม กรมเตรียมมาตรการรองรับ และเพิ่มกิจกรรมหาตลาดทดแทน พร้อมทั้งหารือกับ ภาคเอกชนเพื่อกำหนดตลาดและกิจกรรมด้วยแล้ว โดยในเบื้องต้นมี 7 มาตรการรองรับ อาทิ เร่งขยายการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯช่วงปลายปีนี้จนถึงก่อนมาตรการมีผลบังคับใช้ ควบคู่ไปกับเร่งขยายส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯให้แก่สินค้าที่ได้รับการคืนสิทธิ 7 รายการ เร่งกระจายความเสี่ยงโดยหาตลาดส่งออก ให้หลากหลาย และแสวงหาตลาดใหม่ให้กับสินค้าที่โดนผลกระทบ ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมเกษตร และอาหารแปรรูป โดยใช้โอกาสจากภาวะเงินบาทแข็งค่าไปลงทุนในสหรัฐฯ หรือในประเทศที่สหรัฐฯมีข้อตกลงการค้าเสรี อาทิ แคนาดา ชิลี และเม็กซิโก เพื่อใช้สิทธิในการส่งสินค้าเข้าสหรัฐฯ เป็นต้น,หวังรัฐบาลไม่บ้าจี้แลกมั่วซั่ว,วันเดียวกัน น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวถึงกรณีสหรัฐฯตัดจีเอสพีสินค้าไทยว่า เป็นเรื่องปกติที่สหรัฐฯใช้เรื่องสิทธิพิเศษภาษีศุลกากรสินค้าเป็นเครื่องมือในการทำการค้ากับประเทศไทยมาตลอด และเห็นชัดว่าไม่ได้เกี่ยวกับการที่ไทยมีมติยกเลิกการใช้สารเคมีอันตรายในภาคเกษตรเลย แต่เรื่องตัดจีเอสพีเป็นรายงานที่สำนักงานการค้าสหรัฐฯทำรายงานประจำปี ดูเรื่องขาดดุล และดูว่าจะใช้มาตรการอะไรกับประเทศคู่ค้า แต่เรื่องนี้มาประจวบเหมาะกับช่วงที่เราแบนสารเคมีพอดี ดังนั้น ไม่อยากให้ตื่นตูมกันมาก และหวังว่าไทยจะไม่เอาเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปแลกเหมือนที่เคยทำมาในอดีต เช่น เรื่องที่สหรัฐฯพยายามให้ ไทยนำเข้าหมูที่มีการใช้สารเร่งเนื้อแดง ซึ่งคนเลี้ยงหมูคงไม่ยอม และเราไม่ยอมแน่ถ้าสหรัฐฯจะเรียกร้องให้เรามาแก้เรื่องการคุ้มครองทางยา การคุ้มครองข้อมูลต่างๆ เราต้องรู้เท่าทันรัฐบาลสหรัฐฯ เรื่องนี้เราจับตาใกล้ชิด โดยจะรอดูท่าทีของรัฐบาลก่อน คิดว่ารัฐบาลคงไม่บ้าจี้,กลุ่มค้านมติแบนสารร้องศาลปกครอง,ส่วนความคืบหน้าการแบน 3 สารเคมีทางการเกษตร คือ พาราควอต ไกลโฟเซตและคลอร์ไพริฟอส วันเดียวกัน เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ น.ส.อัญชุลี ลักษณ์อำนวยพร ประธานเครือข่ายอาสารักแม่กลอง เป็นตัวแทนกลุ่มเกษตรกรที่ประกอบอาชีพปลูกผลไม้และพืชไร่ใน 6 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม ระยอง สุพรรณบุรี และนครราชสีมา จำนวน 1,091 คน เดินทางมายื่นฟ้องคณะกรรมการวัตถุอันตราย คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต่อศาลปกครองกลางโดยขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้เพิกถอนมติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย และมติของคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งให้กรมวิชาการเกษตร หน่วยงานในสังกัด กำหนดแผนหรือมาตรการรองรับแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรไม่ได้รับผลกระทบจากมติให้ยกเลิกการใช้สารเคมีดังกล่าว รวมถึงให้มีการกำหนดการบริหารจัดการสารเคมี 3 ชนิด เพื่อไม่ก่อผลกระทบต่อเกษตรกรอย่างเป็นธรรม หรือตามที่ศาลเห็นสมควร,เตรียมยื่นหนังสือขอพบนายกฯ,น.ส.อัญชุลีกล่าวว่า การที่คณะกรรมการ ทั้งสองชุดมีมติยกเลิกการใช้สารพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส โดยให้มีผลวันที่ 1 ธ.ค. 2562 เป็นลงมติโดยไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่มีความน่าเชื่อถือมาแสดงชัดเจน และเป็นการใช้อำนาจโดยไม่มีมาตรการออกรองรับหรือแก้ปัญหาให้เกษตรกรไม่ให้ได้รับผลกระทบอย่างไร สะท้อนให้เห็นว่าเป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ จึงต้องมาขอความเป็นธรรมขอให้ศาลพิจารณาเพื่อมีคำสั่งระงับมติของคณะกรรมการทั้งสองชุดเป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา และจะทำหนังสือเพื่อขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อสะท้อนผลกระทบที่เกิดขึ้นจากมติยกเลิกใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด และขอให้มีการทบทวนมติดังกล่าว,ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า ศาลปกครองได้รับคำฟ้องของเครือข่ายฯไว้เป็นคดีหมายเลขดำ ส.26/2562 พร้อมกับรับคำร้องขอให้ศาลไต่สวนเพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวไว้ด้วย โดยศาลกำหนดนัดไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ในเวลา 10.00 น. วันที่ 30 ต.ค.นี้ | บิ๊กตู่ เตือนอย่าเพิ่งตื่นตระหนกสินค้าไทยถูกสหรัฐฯตัดจีเอสพี ขณะที่ ก.แรงงาน-พาณิชย์ ร่วมแฉเล่ห์สหรัฐฯ ปิดทางไทยชี้แจงปมสิทธิแรงงาน ยันไทยได้สิทธิจีเอสพีแล้ว | ข่าว,การเมือง | ประยุทธ์ จันทร์โอชา,กฎหมายแรงงาน,สารเคมีเกษตร,ข่าวหน้า1,สมบูรณ์ ตรัยศิลานันท์,ต่างด้าว,กระทรวงแรงงาน | https://www.thairath.co.th/news/politic/1692203 |
เมสซี่ ต้านไม่ไหว พ่ายคะแนน ฟ้าใหม่ มวยคู่เอกลุมพินี | วันที่ 3 ธ.ค. 59 ศึกมวยไทยลุมพินี TKO เวทีลุมพินี รามอินทรา มวยคู่เอกเป็นการพบกันระหว่าง ฟ้าใหม่ ป.เรืองรัมย์ กับ เมสซี่ แป๋งกองปราบ,ฟ้าใหม่ ป.เรืองรัมย์ ฝ่ายแดง โคจรมาเจอกับ เมสซี่ แป๋งกองปราบ ฝ่ายน้ำเงิน มวยเข่ารุ่นน้อง โดยเกมการชก ฟ้าใหม่สาดแข้งยาวๆ ลูกถนัด จนเมสซี่กระเด็นกระดอน แม้ว่าเมสซี่จะพยายามปล้ำใน เด้งตี แต่ก็ทำอะไรไม่จัดเจน และเมื่อชกครบ 5 ยก ฟ้าใหม่เอาชนะคะแนนเมสซี่ ไปแบบเหนือชั้น,ส่วนผลคู่อื่นมีดังนี้,รุ่งเพชร ส.พจน์กิจชัย ชนะน็อกยก 3 นนท์ชัย ว.วรรณทวี,บัญชาชาติ ศิษย์หนุ่มน้อย ชนะคะแนน ปาฏิหาริย์ เคซ่ายิม,ยุทธชัย สมศักดิ์ก่อสร้าง ชนะน็อกยก 4 ยอดขุนทัพ ส.เดชะพันธ์,แก่นสวน ศศิประภายิม ชนะคะแนน ศิวกร เกียรติเจริญชัย,เพชร ทีเด็ด 99 ชนะคะแนน ณัฐเดช จ.ทวีชัย,ใจเพชร ส.จ.เล็กเมืองนนท์ ชนะน็อกยก 3 สิงห์พยัคฆ์ สิงห์มาวิน,อิทธิพล จ.ทวีชัย ชนะคะแนน ยอดสยาม พ.เมืองเพชร,พีระพัฒน์ ศิษย์ดอกจิก ชนะคะแนน คีรีรัตน์ ศิษย์ผู้พันตู่,ศิลาเงิน มนุษย์หิน ชนะน็อกยก 3 ว.วรรณทวี ส.จ.เล็กเมืองนนท์ | ฟ้าใหม่ ป.เรืองรัมย์ ใช้ลูกเก๋าสยบรุ่นน้อง เมสซี่ แป๋งกองปราบ ได้อยู่หมัด ก่อนจะเอาชนะคะแนนไปหายห่วง ในการชกเป็นคู่เอก ศึกมวยไทยลุมพินี TKO เวทีลุมพินี รามอินทรา | null | มวยลุมพินี,มวยไทย,ฟ้าใหม่ ป.เรืองรัมย์,เมสซี่ แป๋งกองปราบ,ศึกมวยไทยลุมพินี TKO | https://www.thairath.co.th/content/801257 |
จ่อคลอดมาตรการกระตุ้นสัปดาห์หน้า บิ๊กตู่ จี้ ทีมเศรษฐกิจ เสิร์ฟเงินรากหญ้า-ดูดลงทุน | และการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันประเทศ สำนักงบฯแจง สมคิด–อภิศักดิ์ หารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว รับรอง ใหม่ถอดด้าม จ่อเสนอ ครม.สัปดาห์หน้า,พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.ชุดเดิมได้วางรากฐานเรื่องต่างๆไว้ได้อย่างเรียบร้อยพอสมควร มีบางเรื่องที่จะต้องดำเนินการต่อไป และคาดหวังว่า ครม.ชุดใหม่จะตั้งใจและร่วมกันขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้าต่อไปให้ได้,เวลาในช่วงฮันนีมูนคงไม่มีแล้ว จะต้องเป็นช่วงเวลาที่ลงในรายละเอียดของงาน ขณะเดียวกัน ต้องให้ความสำคัญกับช่วงเวลาที่รัฐบาลชุดนี้จะทำงานต่อไป ทั้งช่วงปลายปีนี้ ปีหน้าและอาจจะข้ามไปปี 2560 เล็กน้อย ว่าจะทำงานอะไรเสร็จได้บ้าง โครงการต่างๆของรัฐบาลมีความก้าวหน้าอย่างไรจะต้องรายงานให้สังคมรับทราบเป็นระยะ,ทั้งนี้ นายกฯยังได้กล่าวถึงแนวทางการทำงานด้านเศรษฐกิจว่า นอกเหนือจากการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับมหภาคแล้ว ต้องให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจรากหญ้า ซึ่งนายกรัฐมนตรีใช้คำว่าการขับเคลื่อนให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้มีรายได้ มีการจับจ่ายใช้สอยให้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนดีขึ้น อย่าละเลยเรื่องเศรษฐกิจในส่วนของประชาชนผู้มีรายได้น้อย ขณะเดียวกัน การเร่งรัดการลงทุน การใช้จ่ายงบประมาณต้องมีความโปร่งใส โดยการลงทุนในปี 2558-2559 ให้ไป พิจารณาเรื่องสิทธิประโยชน์ของนักลงทุนให้มากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีการแข่งขันการให้สิทธิประโยชน์ โดยแต่ละประเทศในภูมิภาคพยายามให้สิทธิประโยชน์กับนักลงทุนให้มากที่สุดเพื่อจูงใจ ทั้งนี้ ประเทศไทยถือว่ามีความเหมาะสมหลายอย่างดีกว่าประเทศอื่น แต่ได้รับการท้วงติงจากนักลงทุนต่างประเทศว่า ถ้าเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้มากขึ้นอีกเล็กน้อยอาจจะไม่ต้องเท่ากับประเทศอื่นก็จะสามารถจูงใจนักลงทุนได้มากขึ้น,โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ไปพิจารณาในรายละเอียดว่าจะทำอย่างไรให้สิทธิประโยชน์ที่จะให้กับนักลงทุนจะจูงใจให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยได้อย่างแท้จริง ขณะเดียวกันนายกฯ ยังให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับเรื่องการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยเฉพาะช่วงใกล้เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) โดยดัชนีชี้ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต้องทำงานให้มีผลสำรวจที่ดีขึ้น,ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญทั้งการลงทุนในประเทศไทย และคนไทยที่ไปลงทุนต่างประเทศ รวมถึงเรื่องการดูแลให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้นให้กับผู้มีรายได้น้อย โดยเศรษฐกิจระดับล่างจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่น โดยสถานการณ์วันนี้มีความซับซ้อนกันอยู่ เพราะฉะนั้นปัญหาภายในของเรากันเองอยากให้ลดลงไปบ้าง เราพร้อมที่จะถูกแทรกแซงในทุกๆเรื่อง โลกก็วุ่นวายพอสมควร วันนี้เศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของทุกประเทศ เพราะเศรษฐกิจลงไปพร้อมกันหมด ตลาดหุ้นไม่ใช่ของเราเพียงแค่ประเทศเดียว ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้มีผลกระทบมากคือ เรื่องราคาน้ำมัน แต่น้ำมันก็พร้อมจะขึ้นเมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้ด้วยการแข่งขันที่มากขึ้น ทั้งเรื่องพลังงานทดแทนก็มากจึงไม่ค่อยจะง้อน้ำมันกัน น้ำมันจึงราคาลดลง และเรื่องการเมืองระหว่างประเทศด้วย,ข้อสำคัญอีกประการ การจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ทุกคนต้องกล้าที่จะใช้จ่ายเงิน คิดว่าคนในระดับกลาง หรือคนที่มีเงินไม่ได้มีปัญหาอะไรมากเพียงแต่ไม่มั่นใจ จึงอยากให้ทุกคนมาช่วยกันใช้จ่ายเงิน ใครมีมากก็ใช้มาก ใครมีน้อยก็ใช้น้อย ส่วนเรื่องชาวไร่ ชาวนาภาคการเกษตร รัฐบาลจะขับเคลื่อนเรื่องการปรับโครงสร้างภาคเกษตรและลดค่าใช้จ่ายให้มีความชัดเจนมากขึ้น,ด้านนายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ในการประชุม ครม.สัปดาห์หน้า กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับที่ประชุม ครม.พิจารณา โดยกระทรวงการคลังจะเป็นผู้รวบรวมมาตรการต่างๆเสนอ หลังจากที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯได้หารือกับนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว รวมทั้งมีการหารือกับสำนักงบประมาณถึงแหล่งเงินที่จะใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว โดยในเบื้องต้นแหล่งเงินจะใช้จากงบกลาง รายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นปีงบประมาณ 2558 ที่มีวงเงินคงเหลือมากกว่า 50,000 ล้านบาท ส่วนจะมีการ กู้เงินเพิ่มเติมหรือไม่ ยังไม่สามารถบอกได้ในขณะนี้ แต่หากมีความจำเป็นก็สามารถทำได้ แต่คงต้องพิจารณาในเงื่อนไขอีกครั้ง,มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้ จะเป็นมาตรการใหม่ ไม่ใช่มาตรการที่นำนโยบายที่มีอยู่แล้วมารวมกลุ่ม แล้วนำเสนอใหม่ โดยจะเป็นมาตรการที่นำเงินลงไปสู่ประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะในกลุ่มของรากหญ้า ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการหมุนของเงินในระบบมากขึ้น นายสมศักดิ์กล่าว. | นายกฯมอบนโยบาย ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ ไม่มีเวลาฮันนีมูน ชี้ต้องขับเคลื่อนประเทศเศรษฐกิจมหภาคและรากหญ้า เน้นประชาชนที่มีรายได้น้อยมีเงินใช้สอย สั่ง สมคิด ดูสิทธิประโยชน์การลงทุนที่ดึงดูดต่างชาติมาลงทุนได้จริง | null | ประยุทธ์ จันทร์โอชา,มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ,เศรษฐกิจรากหญ้า,นักลงทุน,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,ข่าวเศรษฐกิจ | https://www.thairath.co.th/content/520804 |
เอวราเผย เฟอร์กี้เคยหวิดซิว โด้กลับผี | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ปาทริช เอวรา กองหลังจอมเก๋าของ เจ้าม้าลาย ยูเวนตุส เผยเจ้านายเก่าของตน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังประจำพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เคยเกือบได้ตัวศิษย์รัก คริสเตียโน โรนัลโด ปีกซุเปอร์สตาร์ของ ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด กลับมาร่วมงานในปีสุดท้ายก่อนวางมือ,กัปตันทีมชาติโปรตุเกสวัย 30 ปี ตกเป็นข่าวกับอดีตต้นสังกัด แมนฯยูไนเต็ด มาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ย้ายออกไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด เมื่อปี 2009 ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ ซึ่งในสมัยที่ค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทรฟเฟิร์ด ซีอาร์7 ได้ทำผลงานยิงไปถึง 181 ประตูจากเกม 292 นัด,ล่าสุดทาง เอวรา อดีตแข้งของ ปิศาจแดง ก็ได้ออกมาเผยว่า เมื่อปี 2013 ตัวของกุนซือชาวสกอตเคยเล่าให้ตนเองฟังว่าทางสโมสรได้มีการเปิดโต๊ะเจรจาคว้าตัว โรนัลโด กลับมาร่วมงานซึ่งมีความคืบหน้าไปถึง 99 เปอร์เซ็นต์ แต่ในที่สุดแล้วการย้ายทีมดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้นและหลังจากนั้นไม่นาน เฟอร์กูสัน ก็ได้ประกาศวางมือจากงานคุมทีม,แข้งวัย 34 ปีกล่าวว่า ผมจำได้ว่าเราเคยพูดเรื่องนี้กันในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนและเขาบอกกับผมว่า ปาทริช ผมจะอยู่ที่นี้ไปอีก 5 ปี ,เขาบอกกับผมว่า คริสเตียโน โรนัลโด จะกลับมา99% ผมก็แบบ ว้าว เราพร้อมที่จะกลับมาแล้วและจะได้คว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีกกันอีกครั้ง ซึ่งหลังจากนั้นก็อย่างที่ทุกคนรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดมาก. | ปาทริช เอวรา กองหลังจอมเก๋าของ เจ้าม้าลาย ยูเวนตุส เผย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยเกือบได้ตัว คริสเตียโน โรนัลโด ปีกซุเปอร์สตาร์กลับมาร่วมงานเมื่อปี 2013…
| null | พรีเมียร์ลีก,อังกฤษ,ลาลีกา,สเปน,ปาทริซ เอวรา,เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน,ปิศาจแดง,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,คริสเตียโน โรนัลโด,ราชันชุดขาว,เรอัล มาดริด,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/536366 |
ไม่เวิร์กอย่างแรง 4 วิธีไดเอตสุดแย่ เสี่ยงสุขภาพพังติดลบ | คิดจะไดเอตเพื่อหุ่นสวยเป๊ะก็ดีอยู่หรอกนะ หากแต่เลือกใช้ผิดวิธีมันอาจให้ผลเสียมากกว่าผลดีได้ กองไลฟ์สไตล์ไทยรัฐออนไลน์ ได้มีโอกาสลองพิสูจน์แทบจะทุกวิธีเจ๋งๆ ที่หลายคนการันตีว่าเห็นผลไว จนได้ข้อสรุปว่า 4 วิธีไดเอตต่อไปนี้ล่ะ ไม่เวิร์กสุดๆ และไม่แนะนำให้สาวๆ ทำอย่างแรง ไม่เพียงจะทำให้เกิดเอฟเฟกต์หุ่นเสียตามมา ทว่ายังทำร้ายสุขภาพแบบไม่โอเค บอกได้คำเดียวมีแต่พังกับพัง ,1. ไดเอตด้วยการเลือกทานอาหาร (ไม่ครบประเภท),ไม่ว่าจะเป็นไข่ต้ม สลัดผัก ซุปต่างๆ โฮลวีต หรือจำพวกผลไม้ จริงอยู่ที่มันช่วยสาวๆ ลดความอ้วนได้ แต่จะต้องทานอีกสักกี่ถ้วยกี่จานล่ะถึงจะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แป๊บๆ พอหิวอีกก็ทำให้อยากทานโน่นทานนี่จุกจิกตามมา (แล้วเมื่อไรจะผอม?) ดีไม่ดีเมื่อสาวๆ ทานอะไรแบบนี้เป็นประจำทุกวัน ก็อาจทำให้เป็นโรคขาดสารอาหารได้เหมือนกัน ลองคิดดูสิ สาวๆ เน้นย้ำทานแต่อาหารลดความอ้วนอยู่แบบนั้น ทำให้ไม่ได้รับสารอาหารประเภทอื่นเข้าสู่ร่างกายเลย (คนเราต้องการสารอาหารหลากหลายประเภทที่จำเป็นกับร่างกายนะ) แล้วแบบนี้ร่างกายจะได้คุณค่าของสารอาหารครบถ้วนได้อย่างไร อาหารที่สาวๆ ทานมันอาจจะช่วยลดน้ำหนักได้ในระยะเวลาสั้นๆ ทว่า แลกกับการเป็นโรคขาดสารอาหาร สาวๆ ว่าคุ้มกันไหมล่ะ?,2. ไดเอตด้วยการดีท็อกซ์,เพิ่งทานไปหยกๆ คุณก็คิดจะเอาอาหารออกแล้วหรอ แบบนี้ไม่ดีมั้ง? ดีท็อกซ์ คือการล้างเอาสารพิษสะสมออกจากร่างกาย หากแต่คุณหวังใช้วิธีนี้เพื่อรีดน้ำหนัก และกระชับหน้าท้องของคุณให้แบนราบทุกครั้งที่รู้สึกว่าอ้วน/ท้องป่อง มันคงจะเป็นอะไรที่ดูโง่ที่สุด เพราะไม่มีผลทางวิทยาศาสตร์ไหนที่วิเคราะห์ยืนยันออกมาว่าดีจริง และเห็นผลในระยะยาว ยิ่งเมื่อคุณทานแล้วถ่ายออกมาเลย นั่นไม่เพียงจะทำให้คุณกลับมาหิวอีกครั้ง (จนต้องยัดอาหารเข้าไปอีก) ทว่า ร่างกายคุณยังไม่ได้ดูดซึมสารอาหารเอาไปใช้อย่างเต็มที่ด้วย ทางที่ดีเราแนะนำว่า ปล่อยให้มันเป็นไปตามกระบวนการทำงานของร่างกายจะดีกว่านะ ถ้าคุณอยากให้หุ่นสวยเป๊ะจริงๆ ก็แค่ควบคุมอาหารให้น้อยลง และเน้นเบิร์นด้วยการออกกำลังกายแทน,3. ไดเอตด้วยยามหัศจรรย์,
สาวๆ สมัยนี้ชอบใช้สารพัดตัวช่วยเห็นผลไว แต่หารู้ไม่ว่า จริงๆ แล้วมันไม่มียาตัวไหนหรอกที่สามารถช่วยลดความอ้วน หรือลดหน้าท้องได้ในระยะยาว โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงกลับมา บางคนอาจมีอาการโยโย่เอฟเฟกต์ หุ่นดูอวบขึ้นบ้าง ใจสั่น พ่วงด้วยอาการหน้ามืด วิงเวียนตามมาบ้าง แต่ก็นั่นแหละสาวๆ มักชอบทางลัดที่เห็นผลเร็วเสมอ ยิ่งบางคนทานยาลดความอ้วนเสริมไปกับการลดน้ำหนักด้วย (ทั้งทานน้อย ทั้งเลือกทาน) ก็อาจทำให้ไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ เราก็ได้แต่เตือนว่า ระวังสุขภาพจะเสียเอาง่ายๆ และได้สารอาหารไม่ครบหมู่เอานะ ทางที่ดีหันมาทานอาหารที่มีประโยชน์ และมีกากใยช่วยเรื่องขับถ่ายมากๆ จะดีกว่า,4. ไดเอตด้วยการอดอาหาร,ทำนองเดียวกันกับข้อหนึ่งแต่อาจจะเลวร้ายกว่า เพราะสาวๆ หลายคนคิดว่า การอดอาหารเป็นหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดน้ำหนักได้ไว และกำจัดหน้าท้องไปได้อย่างรวดเร็ว แต่จริงๆ นอกจากมันจะไม่เกิดประโยชน์แล้ว มันยังทำให้คุณกลายเป็นโรคขาดสารอาหาร ตลอดจนระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกายทำงานผิดปกติ ซึ่งเมื่อไหร่ที่คุณเลิกอดอาหาร และหันมาทานเป็นปกติ มันก็จะส่งผลให้ระบบเผาผลาญแปรปรวนจนเกิดโยโย่เอฟเฟกต์ กลับมาอวบอ้วนอีกครั้ง ฉะนั้นแทนที่คุณจะอดอาหาร เปลี่ยนเป็น ,การคุมอาหาร, ทานแต่น้อย และทานแต่อาหารที่มีประโยชน์แทน น่าจะเวิร์กกว่ากันเยอะนะ
, | คิดจะไดเอตเพื่อหุ่นสวยเป๊ะก็ดีอยู่หรอกนะ หากแต่เลือกใช้ผิดวิธีมันอาจให้ผลเสียมากกว่าผลดีได้ ทั้งนี้ กองไลฟ์สไตล์ไทยรัฐออนไลน์ ได้มีโอกาสลองพิสูจน์แทบจะทุกวิธีเจ๋งๆ ที่หลายคนการันตีว่าเห็นผลไว ขอยืนยันนอนยันเลยว่า 4 วิธีไดเอต | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | ไดเอต,วิธีไดเอต,สูตรไดเอต,ยดลดความอ้วน,ดีท็อกซ์,โทษการอดอาหาร,เอฟเฟกต์ยาลดน้ำหนัก,อาหาร 5 หมู่,ลดน้ำหนักเห็นผลไว,อาหารลดอ้วน,อาหารลดน้ำหนัก,ออกกำลังกายเบิร์นไขมัน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/590725 |
วอซเนียคกี้ พลิกล็อคร่วงเทนนิสโซนี่ อีริคส์สัน โอเพ่น | การแข่งขันเทนนิสโซนี่ อีริคส์สัน โอเพ่น ประเภทหญิงเดี่ยว รอบ 4 ที่กรานดอน พาร์ค ในไมอามี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา แคโรไลน์ วอซเนียคกี้ มือ 1 ของโลก ที่เพิ่งได้แชมป์ที่อินเดี้ยนเวลส์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พลาดท่าตกรอบแล้ว โดย อันเดรีย เพ็ทโควิช นักเทนนิสจากเยอรมัน เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 2-1 เซต 7-5 3-6 และ 6-3 เพ็ทโควิช จะพบกับ เยเลน่า ยานโควิช ในรอบ 8 คนสุดท้ายส่วน มาเรีย ชาราโปว่า ผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายได้อย่างไม่ยากเย็น หลังจากชนะ ซาแมนท่า สโตเซอร์ มือ 4 ของโลก ไปแบบสบาย 2-0 เซต 6-4 และ 6-1 รอบต่อไป ชาราโปว่า จะพบกับ อเล็กซานดร้า ดุลเกรู นักเทนนิสจากโรมาเนียส่วนประเภทชายเดี่ยวในรอบที่ 3 โรเจอร์ เฟเดอร์เรอร์ แชมป์รายการนี้ 2 สมัย ชนะ ฮวน โมนาโก นักเทนนิสจากอาร์เจนติน่า ไป 2-0 เซต 7-6 ไทเบรก 7-4 และ 6-4 เฟดเอ็กซ์ จะพบกับ โอลิวิเย่ร์ โรชุส จากเบลเยี่ยมในรอบต่อไป | แคโรไลน์ วอซเนียคกี้ มือ 1 ของโลก พลิกล็อคตกรอบเทนนิสโซนี่ อีริคส์สัน โอเพ่น ส่วน โรเจอร์ เฟเดอร์เรอร์ ผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ | กีฬา | วอซเนียคกี้,เทนนิส | https://news.thaipbs.or.th/content/11276 |
ช้างป่ากระทืบ จนท.ร่างแหลก ขณะเฝ้าหมู่บ้าน | ช้างป่าไล่กระทืบเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าดับอนาถ เตรียมจะกางเปลสนามนอนพักหลังร่วมกับ ชรบ.ออกเฝ้าระวังช้างป่ามากินพืชผักในหมู่บ้าน จังหวะนั้นมีช้างป่า 1 ตัวยืนกินน้ำแต่มองไม่เห็น ผู้ตายเลยถูกช้างพุ่งเข้าชาร์จ เหยื่อรีบวิ่งหนีแต่ชะตาขาด วิ่งล้มเลยถูกช้างเหยียบอกยุบซี่โครงหักดับสลด,ช้างป่าไล่กระทืบเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าดับสยองรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 27 พ.ย. พ.ต.ท.บันเทิง เกาไศยนันทน์ สว.(สอบสวน) สภ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา รับแจ้งมีช้างป่าทำร้ายเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเสียชีวิตที่ริมถนนท้ายหมู่บ้านดอกคูณ หมู่ 15 ต.ท่ากระดาน รีบรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมนางอาภรณ์ ใหม่มงคล นอภ.สนามชัยเขต พ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก. แพทย์ รพ.สนามชัยเขตและหน่วยกู้ภัยพนม พบศพนายมานพ กาละสุข อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช นอนเสียชีวิตในชุดเจ้าพนักงานป่าไม้,สภาพศพบริเวณหน้าอกยุบ ซี่โครงหักทั้งแถบที่ปากมีเลือดไหล ใกล้กันมีปืนลูกซองยาว 5 นัด ตกอยู่ริมถนน บริเวณป่ามันมีรอยถูกช้างกัดกินและรอยเท้าช้างเดินหายไปในป่า ส่วนในพงหญ้าริมถนนฝั่งตรงข้ามพบรถ จยย.ฮอนด้า ทะเบียน 1 กฌ 7149 ฉะเชิงเทรา จอดอยู่โดยมีผ้าเปลสนามคลุมทับไว้กับพบเปลสนามและไฟฉายคาดศีรษะตกอยู่ 1 อัน,ขณะที่นายเสถียร วงไธสง อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ดังกล่าว เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงประมาณ 20.00 น. นายมานพพร้อมตนนำกำลังชุด ชรบ.และชุดติดตามช้างป่ารวม 10 คนร่วมกันออกปฏิบัติหน้าที่ เฝ้าระวังติดตามไล่ต้อนช้างป่าไปตามถนนท้ายหมู่บ้านจนถึงจุดสกัดหนองหญ้าปล้องตามภารกิจเพื่อป้องกันไม่ให้ช้างเข้าพื้นที่การเกษตรหรือเข้าไปในชุมชน กระทั่งเวลา 23.00 น.ไม่พบฝูงช้างป่าแต่อย่างใด จึงยุติภารกิจเพื่อแยกย้ายไปพักผ่อนและคอยรับแจ้งข่าวอยู่ที่หมู่บ้าน ส่วนผู้ตายบอกให้ทุกคนพากันกลับไปก่อนโดยไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดเหตุร้าย กระทั่งรุ่งเช้ามีชาวบ้านแจ้งว่านายมานพถูกช้างกระทืบเสียชีวิต,นายเสถียรกล่าวอีกว่า ปกติหลังจบภารกิจเกือบทุกครั้ง นายมานพ ผู้ตายมักจะกลับทีหลัง หรือบางครั้งจะใช้เปลสนามผูกกับต้นไม้นอนเฝ้าระวังช้างป่าแถวท้ายหมู่บ้านคนเดียวเป็นประจำ คาดว่าก่อนที่เสียชีวิต นายมานพขี่รถ จยย.มาจอดในแปลงนา ข้างถนนแล้วใช้เปลสนามที่เตรียมมา 2 หลังปิดคลุมรถ จยย. 1 หลังและจะผูกนอนอีก 1 หลัง จังหวะนั้นช้างป่าคาดว่ามี 1 ตัวมายืนกินน้ำในแอ่งน้ำอยู่ห่างกันราว 10 เมตรแต่ผู้ตายไม่เห็นเลยถูกช้างพุ่งเข้าใส่พร้อมส่งเสียงร้อง ขณะที่ผู้ตายพยายามวิ่งหนีข้ามถนนโดยมีช้างป่าไล่ตามติดๆ กระทั่งถึงริมถนนอีกฝั่ง นายมานพเสียหลักล้มลงเลยถูกช้างป่าตามกระทืบกลางอกจนเสียชีวิต ก่อนเดินเข้าไปในป่าชุมชนหายไป | ช้างป่าไล่กระทืบเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าดับอนาถ เตรียมจะกางเปลสนามนอนพักหลังร่วมกับ ชรบ.ออกเฝ้า ระวังช้างป่ามากินพืชผักในหมู่บ้าน จังหวะนั้นมีช้างป่า 1 ตัวยืนกินน้ำแต่มองไม่เห็น | ข่าว,ทั่วไทย | ช้างป่า,ช้างป่ากระทืบดับ,ฉะเชิงเทรา,เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า,ข่าวหน้า 1,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1431533 |
ลองมองดูสิเออ: ทวีตทักษิณถึงข้อเสนอมงแต็สกีเยอและความย้อนแย้ง | ซึ่งยังคงเป็นหลักการสำคัญของการปกครองในรัฐสมัยใหม่ พร้อมพิจารณาข้อวิจารณ์การใช้ความรุนแรงนอกกระบวนการยุติธรรมสมัยรัฐบาลทักษิณกรณีที่ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งหลบหนีไปต่างประเทศและไม่มาฟังคำพิพากษาคดีซื้อขายที่ดินรัชดาในปี 2550 และต่อมาในปี 2558 ถูกกระทรวงการต่างประเทศสั่งเพิกถอนพาสปอร์ตหลังให้สัมภาษณ์กับสื่อเกาหลีใต้โชซอนอิลโบ รวมทั้งถูกถอดยศพันตำรวจโท ล่าสุดได้ทวีตข้อความทางทวิตเตอร์บัญชี @ThaksinLive ว่า มงแต็สกีเยอ เคยกล่าว ไม่มีความเลวร้ายใด ที่จะยิ่งไปกว่าความเลวร้ายที่ได้กระทำโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายหรือในนามของกระบวนการยุติธรรมสำหรับมงแต็สกีเยอที่ทักษิณอ้างถึง คือ ชาร์ล-หลุยส์ เดอ เซอกงดา บารอนแห่งแบรด และมงแต็สกีเยอ (Charles-Louis de Secondat baron de La Brède et de Montesquieu) หรือรู้จักกันในชื่อเกิดเมื่อ ค.ศ. 1689 และเสียชีวิตเมื่อ ค.ศ. 1755 (พ.ศ. 2298) เขาเป็นนักปรัชญาการเมืองชาวฝรั่งเศส เจ้าของทฤษฎีแบ่งแยกอำนาจ ซึ่งยังคงมีอิทธิพลต่อรูปแบบการปกครองของรัฐสมัยใหม่และอยู่ในหลักการรัฐธรรมนูญของหลายประเทศส่วนข้อความที่ทักษิณอ้างถึงในทวิตเตอร์ มาจากหนังสือของมงแต็สกีเยอที่ชื่อ Considérations sur les causes de la grandeur des Romains/Considerations on the Causes of the Grandeur and Decadence of the Romans หรือ ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับความยิ่งใหญ่และความเสื่อมถอยของชาวโรมัน ตีพิมพ์เมื่อ ค.ศ.1734 (พ.ศ. 2277) เขียนถึงจุดเริ่มต้นของสาธารณรัฐโรมันเมื่อ 735 ปีก่อนคริสตกาล จนถึงยุคสิ้นสุดของคอนสแตนติโนเปิล เมื่อ ค.ศ. 1453 หลังการรุกรานของจักรวรรดิออตโตมาน โดยเขียนวิเคราะห์สาเหตุความยิ่งใหญ่และเสื่อมถอยของจักรวรรดิโรมันในหนังสือ De lEsprit des Lois/The Spirit of the Laws หรือเจตนารมณ์แห่งกฎหมาย ตีพิมพ์เมื่อ ค.ศ. 1748 (พ.ศ. 2291) มงแต็สกีเยอ ได้เสนอหลักของการแบ่งแยกอำนาจ (Separation of Power) ซึ่งยังคงเป็นหลักการสำหรับการปกครองในปัจจุบันโดยเขาอธิบายว่า อำนาจนิติบัญญัติ คือ อำนาจเกี่ยวกับการวางระเบียบบังคับทั่วไปในรัฐ เช่น ออกกฎหมายพิจารณาเงินงบประมาณและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใช้อำนาจอำนาจบริหาร เป็นอำนาจปฏิบัติการซึ่งขึ้นอยู่กับกฎหมายมหาชน เช่น การนำกฎหมายมาบังคับใช้หรือออกกฎหมายบางส่วนที่มีความสำคัญน้อยกว่านิติบัญญัติ โดยมีรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี เป็นผู้ใช้อำนาจและอำนาจตุลาการ เป็นอำนาจปฏิบัติการต่าง ๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับกฎหมายแพ่ง คือ อำนาจในการวินิจฉัยอรรถคดี เช่น ในการตีความตัวบทกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมทั้งตัดสินพิจารณาคดีต่าง ๆ โดยมีหน่วยงานศาลและกระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานที่ใช้อำนาจนี้ เป็นต้นเขามองว่า รัฐบาลที่ดีที่สุดจะต้องเป็นรัฐบาลที่อำนาจแต่ละอำนาจถูกใช้โดยองค์กรที่แตกต่างกัน เมื่อบุคคลคนเดียวหรือองค์กรเดียวมีการรวมอำนาจนิติบัญญัติและอำนาจบริหารไว้ด้วยกัน เสรีภาพจะเกิดขึ้นไม่ได้ และถ้าอำนาจตัดสินคดีไม่ได้แยกออกจากอำนาจนิติบัญญัติหรือบริหารจะไม่มีเสรีภาพอีกเช่นกัน ในการแยกอำนาจก็เพื่อจะคุ้มครองและให้หลักประกันสิทธิเสรีภาพแก่ประชาชน เพื่อมิให้องค์กรใดองค์กรหนึ่งใช้อำนาจเพียงองค์กรเดียวสำหรับหลักการแบ่งแยกอำนาจนั้นมีอิทธิพลต่อรูปแบบการปกครองของรัฐสมัยใหม่ โดยในกรณีของสหรัฐอเมริกา เจมส์ แมดิสัน ประธานาธิบดีคนที่ 4 ของสหรัฐอเมริกา และบิดาแห่งรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกา ได้รับอิทธิพลจากแนวคิดของนักปรัชญาการเมืองฝรั่งเศสอย่างยิ่ง โดยเขายึดหลักการที่ว่า รัฐบาลควรถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อที่จะได้ไม่มีมนุษย์ผู้ใดระแวงกันเอง และนำมาสู่รัฐธรรมนูญที่มีการแบ่งแยกอำนาจอธิปไตยอนึ่งในสมัยของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ก็ถูกวิจารณ์เรื่องของการละเมิดกระบวนการยุติธรรม โดยในปี 2546 เขาถูกวิจารณ์ในเรื่องนโยบายสงครามปราบปรามยาเสพติดโดยไม่คำนึงหลักสิทธิมนุษยชน โดยในเวลานั้นเกิดคดีฆาตกรรมถึง 2561 คดี มีผู้เสียชีวิต 2819 ศพเมื่อหลังเกิดความรุนแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ต้นปี 2547 รัฐบาลทักษิณและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงก็ถูกวิจารณ์ถึงมาตรการใช้ความรุนแรง เช่น การปราบปรามกลุ่มผู้ก่อเหตุเมื่อ 27 เมษายน 2547 จนมีผู้เสียชีวิต 108 ราย และเฉพาะมัสยิดกรือเซะมีผู้เสียชีวิต 32 ราย ซึ่งภายหลังคณะกรรมการอิสระไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีมัสยิดกรือเซะ ที่ตั้งขึ้นมาในสมัยรัฐบาลทักษิณก็มีข้อเสนอว่า การยุติเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะด้วยสันติวิธีจึงมีความเหมาะสมกว่าที่จะใช้วิธีรุนแรงและอาวุธหนัก นอกจากนี้ในช่วงเดือนรอมฎอน ก็มีการสลายการชุมนุมหน้าสถานีตำรวจ สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อ 25 ตุลาคม 2547 จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 84 คน ฯลฯ | อ่านแนวคิดนักปรัชญาฝรั่งเศสที่อดีตนายกรัฐมนตรีต้องอ้างอิงในประเด็น ความเลวร้ายที่กระทำในนามกระบวนการยุติธรรม เจ้าของทฤษฎีแบ่งแยกอำนาจนิติบัญญัติ-บริหาร-ตุลาการ | การเมือง | กระบวนการยุติธรรม,ฆ่าตัดตอน,ทักษิณ ชินวัตร,มงแต็สกีเยอ,ระบอบทักษิณ,รัฐ,หลักการแบ่งแยกอำนาจ,อำนาจอธิปไตย | https://prachatai.com/journal/2017/08/73033 |
สิ่งที่ โซลชาร์ ต้องเร่งแก้หากหวังติดท็อปโฟร์ | เกมที่แล้ว โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ เข้ามาคุมทีมนัดแรกด้วยการบุกไปถล่ม นกพิราบสีน้ำเงิน คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ อดีตสโมสรเก่าที่เขาคุยทีม 5-1 และในนัดที่ 2 นี้ถือเป็นครั้งแรกที่เขาคุมทีมเล่นในบ้านต่อหน้าแฟนๆ มากกว่า 76,000 คน และก็ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อนำทีมขย่ม เดอะ เทร์เรียส์ ฮัดเดอร์สฟิลด์ 3-1,ผ่านด่านไปแล้ว 2 นัด ยิงได้ 8 เสีย 2 ประตู และนอกเหนือจากชัยชนะ 2 นัดรวดของ โซลชาร์ ที่พกรูปแบบการเล่นเกมรุกที่เร้าใจราวกับว่าได้เห็น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือระดับตำนานคุมทีมอีกครั้ง,ซึ่งถ้าดูผิวเผินแล้วเหมือนจะดีไปซะหมด แต่ทว่าเมื่อเจาะลึกลงไปที่รายละเอียดความผิดขอบของทีมจะเห็นถึง 3 ปัญหาหลักๆ ที่ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ หรือแฟนบอลชาวไทยขนานนามให้พี่แกว่า น้าโอเล่ หรือ น้าลูกอม ต้องเร่งแก้ไขหากหวังพาทีมติดท็อปโฟร์ในฤดูกาลนี้,อย่างแรกก็คือเกมรับที่ต้องยอมรับว่าแก้ไม่ตกมาจากยุคกุนซือคนก่อน และแม้ในการทำทีมของเขาแนวรับจะมีทรงและดูไม่ลนลานพลาดแบบเข้าตากรรมการ แต่ทว่ายังมีหลุดตำแหน่งเป็นระยะ หรือ เปิดโอกาสให้คู่แข่งมีโอกาสส่งไกลมากเกินไป จนเป็นที่มาของการเสียประตูแทบทุกนัด,ต่อมาอย่างที่สองความละเอียดในการจ่ายบอล แม้จะเป็นที่เข้าใจกันดีว่าการเล่นเกมบุกเต็มสูบแบบนี้มีโอกาสเสียบอลมากขึ้นอยู่แล้วจากการผ่านบอลได้-เสียในพื้นที่สุดท้าย แต่เราจะเห็นว่ายังมีการจ่ายบอลพลาดง่ายๆ อยู่ หรือ ไม่เข้าใจกันในบางจังหวะ แต่ทว่าของแบบนี้มันปรับกันได้ เกมผ่านไปราวๆ 10 นัด นักเตะจะเกิดความคุ้นเคย แม่นยำ มากขึ้นกับปรัชญาของกุนซือคนใหม่,ปิดท้ายอย่างที่สามคือเรื่องความหลากหลายของผู้เล่นแนวรุก เราจะเห็นได้ว่าการขาด อองโตนี มาร์เชียล ดาวยิงหน้าเดียวเลือดน้ำหอม มีผลกระทบพอสมควรเพราะไม่มีพาบอลฝ่าวงล้อมและเลี้ยงกินตัวได้ดีเท่าเขา ใกล้เคียงก็อาจจะ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งการขาดหายของเขาในเกมนี้ทำให้ทีมเจอกับสถานการณ์ที่อึดอัดอยู่เหมือนกัน จากการที่พยายามทำชิ่ง 1-2 หรือเปิดด้านข้างก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร แต่ต้องชมไหวพริบของ มาติช ที่ช่วยให้ทีมขึ้นนำ รวมถึงความยอดเยี่ยมของ ป็อกบา ที่เหมาสองประตู | เช็ก 3 สิ่งสำคัญที่ทาง โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือขัดตาทัพเพียงชั่วคราวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องเร่งแก้หากหวังพาทีมจบติดท็อปโฟร์ในซีซั่นนี้ | null | โอเล กุนนาร์ โซลชาร์,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,พรีเมียร์ลีก | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1455871 |
ฉันใด? ใต้บาดาล | ในไตรภูมิกถา กล่าวถึงพิภพนาค ว่า อยู่ใต้พื้นดินชมพูทวีป ลึกลงไป 8,000 วา ความลึกระดับนี้ ผู้รู้ท่านว่า ยังอยู่สูงกว่าขุมนรกทั้งหลายที่อยู่ใต้ลงไปอีก,(พจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ.2552),เรารู้จักเมืองบาดาลกันอยู่บ้าง จากบทละคร เรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีเมืองกาลนาค ซึ่งพญากาลนาคครอบครอง และอีกเมืองชื่อ สหมลิวัน มีท้าวสหมลิวันครอบครอง,ท้าวสหมลิวัน เดิมทีอยู่บนแผ่นดิน ครองทวีปรังกา แต่ไปมีเหตุไม่เข้าพระเนตรพระนารายณ์ ลี้ภัยไปอยู่เมืองบาดาล กษัตริย์ที่ครอบครองสืบต่อกันมา มีท้าวมหายมยักษ์ ท้าวไมยราพ และไวยวิก,ช่วงเวลาที่ท้าวไมยราพครองบาดาล รับอาสาไปตัดศึกพระราม แอบเข้าไปเอายาวิเศษสะกดพระรามและบริวารให้หลับ แล้วอุ้มพระรามไปเมืองบาดาล จะเอาไปต้มที่ดงตาล,หนุมานฟื้นตามไปฆ่าท้าวไมยราพ ช่วยพระรามได้ แล้วก็ตั้งไวยวิกเป็นเจ้าบาดาลแทน,ย้อนไปเมื่อแรกที่ท้าวสหมลิวันมาตั้งเมืองที่บาดาล พญากาลนาค ซึ่งเคยเป็นเจ้าบาดาลหนึ่งเดียว ก็ขุ่นใจ เห็นว่าปล่อยไว้นานจะกำเริบ ก็ยกทัพไปกำราบ,ท้าวสหมลิวันนั้นเป็นญาติกับท้าวลัสเตียน เจ้ากรุงลงกา ส่งข่าวให้ไปช่วย ท้าวลัสเตียนฤทธิ์เดชมาก แผลงศรเป็นครุฑไปจับพญากาลนาคไว้ พญากาลนาคขอชีวิต นำธิดาไปถวาย,ท้าวลัสเตียนแก่แล้วแต่ไม่ชอบหญ้าอ่อน ยกให้เป็นมเหสีลูกชาย ซึ่งเป็นเจ้ากรุงลงกาต่อมา คือทศกัณฐ์,เป็นอันว่า เรารู้จักเมืองบาดาล เมืองที่เราเชื่อกันว่าเป็นพิภพนาค แต่มีเจ้าเป็นยักษ์ นับญาติได้กับทศกัณฐ์,แต่ความจริงของเมืองบาดาลจากหลายคัมภีร์ เป็นดินแดนที่อยู่ของบรรดานาค แทตย์ ทานพ ยักษ์,คัมภีร์ปัทมะปุราระมีรายละเอียดมากกว่า แบ่งตามระดับความลึกไว้ 7 ชั้น เรียกชื่อต่างกันในบางชั้น และบอกชื่อผู้ครองแต่ละชั้นไว้ดังต่อไปนี้,ชั้นที่ 1 อตละ ผู้ครองชื่อ มหามายะ ชั้น 2 ชื่อวิตละ ผู้ครองชื่อ หาตเกศวร,ชั้น 3 สุตละ ผู้ครองชื่อพลิ (ชื่อนี้ผมเคยได้ยินมาก่อน),ชั้น 4 ตลาตละ ผู้ปกครองชื่อ มายะ ชั้น 5 ไม่มีผู้ปกครอง เป็นที่อยู่ของพวกงู,ชั้น 6 รสาตละ ดินแดนของแทตย์ และทานพ ชั้น 7 ปาตาละ เป็นดินแดนของนาค มีพญาวาสุกรีเป็นราชา,คุยถึงบาดาลชั้น 3 สุตละ ผู้ครองชื่อพลิก็ตนเดียวกับท้าวพลี ในโองการอ่านมนตร์ โอม แม่พระธรณี กรุงพาลี เรืองฤทธิ์ นั่นแหละ,ท้าวพลีรับพรพระอิศวรมีฤทธิ์แกล้วกล้า แล้วกำเริบอาละวาดสวรรค์ชั้นฟ้าป่วนพระนารายณ์อวตารมาปราบสาปให้ไปอยู่เมืองบาดาล,แต่ลดหย่อน เมื่อพ้นโทษคำสาปให้กลับมาใหญ่ในสามโลก บาดาล โลก และสวรรค์ได้อีก,เพราะเหตุนี้ ท้าวพลีจึงยังเป็นความหวังของเหล่าบริวาร ยังอ่านโองการ ยังกราบไหว้กันอยู่,ใครที่อ่านเกมการเมืองว่า โอกาสที่ท้าวพลีถูกอัปเปหิไปอยู่บาดาลจะกลับมายิ่งใหญ่ในโลกอีกไม่ได้แล้ว หนทางปิดตายแล้ว ผมอยากให้เผื่อใจไว้,ท้าวพลี ตนนี้ ประมาทไม่ได้ ฆ่ายังไงก็ไม่ตาย ถ้าชาวบ้านส่วนใหญ่เขายังเอา.,กิเลน ประลองเชิง | ใครที่อ่านเกมการเมืองว่า โอกาสที่ท้าวพลีถูกอัปเปหิไปอยู่บาดาลจะกลับมายิ่งใหญ่ในโลกอีกไม่ได้แล้ว หนทางปิดตายแล้ว ผมอยากให้เผื่อใจไว้ | null | พิภพนาค,ชักธงรบ,กิเลน ประลองเชิง,รามเกียรติ์,ท้าวสหมลิวัน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1496908 |
รู้จัก อนุญาโตตุลาการ - เครื่องมือสหรัฐบายพาสกฎหมายไทย ? (1) | แม้ข้อวิตกกังวลของภาคประชาสังคมในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา (ไอพีอาร์) จะยังไม่ถูกพูดถึงในครั้งนั้น แต่ก็เริ่มมีความชัดเจนบ้างแล้วในเรื่องการคุ้มครองการลงทุน ซึ่งกลไกสำคัญที่จะคุ้มครองนักลงทุนต่างชาติก็คือ ระบบอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ เพื่อทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างเอกชนต่างชาติกับรัฐไทย นอกจากนี้ยังอาจส่งผลกระทบกับประชาชนผู้เสียภาษีด้วย ในนามของสารพัด ค่าโง่ หากไม่ระมัดระวัง หรือไม่สนใจเรียนรู้จากบทเรียนราคาแพงของประเทศต่างๆ ที่เคยเซ็นข้อตกลงนี้กับสหรัฐ ด้วยความห่วงใยดังกล่าว นักวิชาการและกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรี หรือ เอฟทีเอวอทช์ จึงได้ตั้งวงสนทนาว่าด้วยเรื่องการคุ้มครองนักลงทุน และระบบอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ โดยเชิญ ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ จากมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ดร.สิตานนท์ เจษฎาพิพัฒน์ นักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายวรินทร์ เทียมจรัส นักกฎหมายและที่ปรึกษากรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา มาร่วมแลกเปลี่ยนด้วย เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ - เรื่องของการคุ้มครองการลงทุน (Investment Protection) คงอยู่ในเอฟทีเอไทย-สหรัฐเป็นหลัก เพราะเขามีแม่แบบอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นนาฟต้า สิงคโปร์ ชิลี หน้าตาเหมือนกันหมด ก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจว่าถ้าจะเซ็นเอฟทีเอกับสหรัฐ ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เอาตรงนี้ ต้องทำความเข้าใจว่าข้อตกลงด้านการลงทุนมีอยู่ 2 ส่วน คือ เรื่องของการเปิดเสรี (liberalization / market access) เป็นข้อตกลงที่บอกว่า ทุนประเภทไหนของสหรัฐจะไหลเข้ามาในประเทศไทยได้ โดยที่รัฐบาลไทยไม่สามารถปฏิเสธ ซึ่งก็มีประเด็นอีกเยอะเลยว่าเป็นการลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว ซึ่งเราต้องจำกัดความว่าเราต้องการการลงทุนประเภทไหนจากสหรัฐ เมื่อเงินทุนเหล่านี้เข้ามาในประเทศไทยแล้ว เราต้องให้ความคุ้มครอง (Protection) ด้วย ก็คือส่วนที่สอง ดังนั้น ถ้าเราเปิดมากให้เงินทุนทุกประเภท ระยะสั้นระยะยาว เก็งกำไรเข้ามาหมดเราก็ยิ่งต้องให้ความคุ้มครองกับเขามากขึ้น แต่แนวโน้มในส่วนแรกก็คือ สหรัฐต้องการให้เงินทุนทุกประเภทเข้ามาได้ เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ - Arbitration (การตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการ) บริษัทเอกชนของสหรัฐสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากรัฐบาลได้ ซึ่งวัตถุประสงค์หลักคือจะบายพาส หรือข้ามกระ บวนการทางกฎหมายของเราไปทั้งหมด เพราะถ้าเขาเซ็นกับประเทศกำลังพัฒนา เขาไม่มีความเชื่อมั่นในกระบวนการทางกฎหมายของประเทศเหล่านั้น ฉะนั้น ถ้าจะให้เรื่องกลับมาให้ศาลไทยรับรองอีกตามพ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ ไม่ทราบสหรัฐจะยอมหรือเปล่า คาดว่าเขาคงไม่ยอม คงต้องไปแก้กฎหมายไทยเอง เพราะผิดวัตถุประสงค์ของเขา วรินทร์ เทียมจรัส - เป็นกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่แต่ละฝ่ายเลือกอนุญาโตฯ ของตนเอง ในวงพ่อค้าที่เป็นคู่สัญญาตัวต่อตัวมันจะจบหมด แต่วันใดก็ตามที่เป็นเอฟทีเอ มันจะมีกรอบของรัฐบาลครอบอีกที ที่สำคัญถ้าเรามีบุคลากรอยู่ก็พอจะสู้กับเขาได้ แต่ถ้าต้องอาศัยจมูกคนอื่นก็ลำบาก ผมเชื่อว่าคงไม่ได้ใช้ศูนย์กลางที่ประเทศไทย แต่คงไปใช้ที่สิงคโปร์หรือฮ่องกง ในส่วนของกระบวนการ หลังจากได้ผลการชี้ขาดของอนุญาโตฯ ที่ตั้งร่วมกันแล้ว ตามพ.ร.บ.อนุญาโตฯ ระบุว่า ผลชี้ขาดไม่สามารถนำกลับมาใช้ในประเทศไทยได้ทันที ต้องเอาผลทั้งหมดมาให้ศาลไทยมีคำพิพากษารับรองอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเดิมทีใช้ศาลจังหวัด แต่ถ้าเป็นข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศแล้ว ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศน่าจะเข้ามามีบทบาท วรินทร์ เทียมจรัส - ศาลจะทำหน้าที่ให้ความเห็นชอบกับกระบวนการอนุญาโตฯ เท่านั้น และมีอำนาจพิจารณาเฉพาะข้อกฎหมาย แต่ข้อเท็จจริงมันยุติเลย ตรงนี้มันมีปัญหาแล้ว เพราะข้อมูลต่างๆ มันแทบทำอะไรไม่ได้เลยเมื่อนำกลับเข้ามาสู่ศาลไทย คดีที่แย้งกับอนุญาโตฯ ยังไม่เห็น และส่วนมากมันจะจบกันไปตรงนั้น เว้นแต่จะมาคัดค้านกันว่าการกระทำของอนุญาโตฯ ไม่สุจริต มีผลประโยชน์ ถึงจะมาสู่การระงับการพิจารณาของศาลว่าอย่าเพิ่งรับรอง วรินทร์ เทียมจรัส - ใช้กฎหมายฉบับเดียวกัน กระบวนการก็คงไม่ต่างอะไร เพราะกรอบกฎหมายวางไว้อย่างนั้น - ในแคนาดาพยายามจะรื้อเรื่องนี้เพราะเห็นว่าไม่เหมาะสม ระบบอนุญาโตตุลาการ มันเป็นการออกแบบเพื่อยุติข้อพิพาทระหว่างเอกชนกับเอกชน แต่ถ้าเป็นรัฐมันมีประชาชนเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องของข้อมูล แต่การออกแบบกระบวนการถ้าเป็นเอกชนกับเอกชนข้อมูลจะปิดเป็นความลับหมด วรินทร์ เทียมจรัส - ที่ผ่านมาเราใช้อนุญาโตตุลาการในการเข้าไปเจรจาในค่าเสียหาย ค่าชดเชย หรือค่าทดแทนในกิจการที่รัฐวิสาหกิจทำ คือ กฟผ. กฟภ.ประปา ทั้งหมดเลย ก็มีการนำพ.ร.บ.นี้มาใช้ แต่วิธีคิดมันไม่หลุด ความจริงอนุญาโตตุลาการควรต้องมีการผลิตบุคลากรหรือสร้างสรรค์บุคลากรที่มาทำงานตรงนี้โดยเฉพาะ ปรากฏเราไม่ เวลาตั้งอนุญาโตตุลาการขึ้นมาเพื่อพิจารณาข้อพิพาทเกี่ยวกับเรื่องการชดเชย ทางกฟผ.จะมีสูตรสำเร็จ เขาจะตั้งนายอำเภอหรือผู้ว่าฯ ในจังหวัดนั้นขึ้นเป็นประธาน และกฟผ.เป็นเลขาในอนุญาโตฯ ถามว่า ชาวบ้านตั้งตัวแทนอนุญาโตฯ กี่คน ถ้าเราตั้ง 3 คนเขาก็จะตั้งประกบอีก 3 คน วรินทร์ เทียมจรัส - มีความพยายามตั้งสำนักงานอนุญาโตตุลาการขึ้นมาและทำให้สำเร็จ คือ อยู่ที่กระทรวงยุติธรรม วิธีการให้ได้มาก็คือ รับจากอดีตผู้พิพากษา ทนายความที่มีประสบการณ์และอาจารย์มหาวิทยาลัยด้านยุติธรรม แต่เวลาทำงานจริงๆ กระบวนการกลับไปใช้ตัวอดีตผู้พิพากษาเป็นหลัก นักกฎหมายไทยส่วนใหญ่มีความรู้อยู่ในกรอบของกฎหมาย 4 ฉบับ คือ ประมวลแพ่ง อาญา วิแพ่ง วิอาญา แล้วเราก็ได้รับกรอบความคิดของกฎหมายเอกชนมาตลอด พอตอนที่จะโดดข้ามมาทำงานให้กับภาครัฐ คือการทรงอำนาจรัฐไว้ โดยทำกฎหมายมหาชน องค์ความรู้อันนี้ก็ขาดไป ท้ายที่สุดกระบวนการชี้ขาดนี้จะนำไปสู่กระบวนการให้ต่างชาติได้ประโยชน์ จริงๆ แล้วในการเจรจาใน ดับบลิวทีโอ(WTO) ก็ดี เอฟทีเอ(FTA) ก็ดี ข้อเจรจาที่สำคัญอันหนึ่งคือ อาชีพบริการในส่วนของนักกฎหมาย ไม่เห็นมีการยกขึ้นมาพูดเลย อาจจะเป็นไปได้ว่า นักกฎหมายที่อินเตอร์ทั้งหมดออกไปรับจ็อบเมืองนอกกันหมด | ระฆังยกที่ 4 ของการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างไทย - สหรัฐ กำลังจะดังอีกครั้งในเดือนกรกฎาคมนี้ หลังจากผ่านยก 3 ที่ชลบุรีไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/06/4393 |
ห้องร้องทุกข์ 22/06/60 | ชาวบ้าน ,ชุมชนบางกระดี่, แยก 18 หมู่ 9 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน ร้องทุกข์ ,สะพานทางเดินท้ายชุมชนชำรุด, เกิดการทรุดตัว ล่าสุด เอียงจนสูงต่างระดับ มอเตอร์ไซค์สัญจรเข้า-ออกลำบาก วอน,เขตบางขุนเทีย,น จัดงบซ่อมให้หน่อย,โครงการก่อสร้าง,ใน ,ซอยสุขุมวิท 21, แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา รื้อถอน ขุดเจาะพื้น ,ทำงานเสียงดัง, ,ไม่เว้นวันหยุดเสาร์–อาทิตย์, ก่อให้เกิดความรำคาญ ต่อผู้พักอาศัยบริเวณใกล้เคียงอย่างมาก ฝาก,เขตวัฒนา, ตรวจสอบที จริงหรือเท็จประการใด?,ไม่สะดวก,ร้านค้าแผงลอย แถวๆหน้า คอนโดเดอะทรัสต์ฯ ,ถนนนนทรี, แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา ,ตั้งแผงขายของขวางทางเท้า, ไม่รู้ได้รับอนุญาตถูกต้องหรือเปล่า ส่วนชาวบ้านก็สัญจรผ่านลำบาก ต้องคอยหลบหลีกไม่ให้ชนแผงลอย วอน,เขตยานนาวา, เคลียร์ด่วน,คนใช้รถใช้ถนนวิทยุ,ร้องมา พบรถ จยย.รับจ้าง ,ตั้งวินในป้ายรถเมล์, ฝั่งตรงข้ามโรงแรมเซ็นเตอร์ พอยต์ แขวงและเขตปทุมวัน แถมมักง่าย จอดรอรับส่งผู้โดยสาร เกะกะขวางทาง ทำการจราจรติดขัด ฝาก,เขตปทุมวัน, ตรวจสอบที มีใบอนุญาตจริงรึเปล่า พร้อมลงพื้นที่จัดระเบียบ,ชำรุด,ช่วงสัญญาณไฟจราจร ทางลง ทางด่วนพระราม 4 เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าสะพานไทย-เบลเยียม ,ฝาปิดท่อระบายน้ำ, แบบตะแกรงเหล็กชำรุด ,เหล็กขาด หลายเส้นกลายเป็นรูโบ๋, คนเดินผ่านไปมาไม่ระวังอาจเกิดอันตรายได้ ฝาก ,หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบ, ช่วยซ่อมแซม,[email protected], | เดือดร้อน!,ชุมชนบางกระดี่,สะพานทางเดินท้ายชุมชนชำรุด,เขตบางขุนเทีย | null | ห้องร้องทุกข์,สะพานทางเดินทรุด,ร้านค้าแผงลอย,สัญญาณไฟจราจร,ถนนวิทยุ | https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/979572 |
หงส์แดงน้ำตาตก ตราหมี เชือดโทษ 5-4 ซิวแชมป์ออดีคัพ | การแข่งขันฟุตบอลออดีคัพ 2017 ประจำวันที่ 3 ส.ค. เป็นการพบกันในคู่ระหว่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล ยักษ์หลับแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พบกับ ตราหมี แอตเลติโก มาดริด ทีมแกร่งแห่งลาลีกาสเปน,หงส์แดง เปลี่ยนผู้เล่นจากชุดที่เอาชนะบาเยิร์น มิวนิก แทบจะยกชุดแต่ยังมี ซาดิโอ มาเน เป็นแกนหลักร่วมกับ อดัม ลัลลานา, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม โดยมี โดมินิก โซลันเก เป็นหน้าเป้า ขณะที่ตราหมีส่งสำรองลงเช่นกันนำโดย ลูเซียโน วิอัตโต กับ อังเคล คอร์รีอา,เปิดฉากเกมขึ้นมาหงส์แดงได้ลุ้นประตูสองครั้งสองครานาทีที่ 11 วูดเบิร์น เปิดให้กับ โซลันเก โขกบอลหลุดกรอบ จากนั้นอีก 4 นาทีต่อมา วูดเบิร์น ได้ยิงบ้างแต่บอลก็ผ่านหน้าประตูไป,เกมเป็นไปอย่างจืดชืดกระทั่งนาทีที่ 33 กลายเป็นตราหมีมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกโต้กลับ เวอร์ซาลจ์โก ตบเข้ากลาง คอร์ริอา ยิงติดเซฟแต่บอลไปชนคานกระเด้งมาเข้าทาง บาเร โขกซ้ำจ่อๆเข้าไปและครึ่งแรกก็จบลงที่สกอร์นี้,เข้าสู่ครึ่งหลังหงส์แดงต้องส่งพวกตัวจริงลงมาและมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 นาทีที่ 83 โอริกี โดนกระแทกในเขตโทษ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะชี้เป็นจุดโทษ และเฟอร์มิโน ก็รับหน้าทีสังหารเข้าไปไม่เหลือซาก,เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำประตูเพิ่มไม่ได้ จบ 90 นาที ลิเวอร์พูล เสมอกับ แอตเลติโก มาดริด 1-1 ต้องไปตัดสินกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ,ผลปรากฎว่า จอร์แดน เฮนเดอร์สัน คนที่สองของหงส์แดงดันยิงไปติดเซฟ ส่วนคนที่เหลือยิงเข้าหมดทุกคน โดยเฉพาะ เฟลิเป ลุยซ์ ที่รับหน้าที่ยิงคนสุดท้ายให้กับตราหมีเป็นประตูชัยทำให้ แอตเลติโก มาดริด เฉือนเอาชนะจุดโทษ ลิเวอร์พูล 5-4 พร้อมกับคว้าแชมป์รายการนี้ไปครอง,ขณะที่ผลการแข่งขันชิงอันดับสาม นาโปลี ชนะ บาเยิร์น มิวนิก 2-0 | หงส์แดง ลิเวอร์พูล ชวดโอกาสคว้าแชมป์อุ่นเครื่องออดีคัพ หลังพ่ายจุดโทษให้กับ ตราหมี แอตเลติโก มาดริด 4-5 หลังเสมอกันในเวลา 1-1 | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | ออดี คัพ 2017,แอตเลติโก มาดริด,ตราหมี,ลิเวอร์พูล,หงส์แดง | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/1025411 |
ยาบ้า 4 เม็ด100 หนุ่มเสพจนคลั่ง แม่แจ้งจับไปบำบัด หนีผูกคอดับ | ลูกชายทาสยานรกคลั่งไล่ฟันคนบนถนน แม่แจ้งตำรวจช่วยจับตัวไปบำบัด กลับหนีเข้าห้องแขวนคอดับ ชาวบ้านบอกยาบ้าถูกสุดๆ แล้วยุคนี้ เมื่อก่อนเม็ดสามร้อย ตอนนี้สามเม็ดสี่เม็ดร้อยเวลา 13.00 น.วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ร.ต.อ.วรวุฒิ โปธาตุ พนักงานสอบสวน สภ.สูงเม่น จ.แพร่ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุชายคลุ้มคลั่งถือมีดไล่ฟันชาวบ้านบนถนนในหมู่บ้านเวียงทอง หมู่ 10 ต.เวียงทอง อ.สูงเม่น จึงมอบหมายให้สายตรวจประจำตำบลเวียงทองเข้าระงับเหตุพบที่ร้านขายอาหารตามสั่ง ของนางนิภา ปัญญายง อายุ 57 ปี เลขที่ 2 หมู่ 10 ต.เวียงทอง ชายคนก่อเหตุเมื่อเห็นตำรวจ ได้วิ่งเข้าบ้าน ซึ่งเป็นบ้านสองชั้น เข้าไปห้องนอนที่อยู่ชั้นล่าง จากนั้นล็อกกลอนขังตัวเองไว้ในห้อง โดยตำรวจที่อยู่ด้านนอก พยายามเรียกและเกลี้ยกล่อม ให้เปิดประตู แต่เงียบเวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที ตำรวจ ได้พยายามเรียกอีก ไม่มีเสียงตอบรับเช่นเดิม จึงได้งัดประตูเข้าไป พบว่าชายผู้ก่อเหตุใช้สายไฟฟ้ามัดคอตัวเองห้อยกับพัดลมเพดานกลางห้องนอน จึงรีบแก้มัดนำลงมา จากนั้นได้เรียกรถพยาบาลเพื่อนำส่งโรงพยาบาล แต่ชายคนดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว ทราบชื่อนายฉัตรชัย ปัญญายง อายุ 38 ปี เป็นลูกชายของนางนิภาเจ้าของบ้าน สภาพไม่สวมเสื้อ มีรอยสักที่แขน ใช้สายไฟฟ้าเก่า สีดำมัดติดกับพัดลมเพดาน ด้านล่างมีโต๊ะเล็กๆ วางอยู่ และมีเครื่องเสียงขนาดสูง 1 ฟุตวางบนโต๊ะใช้เป็นที่ยืนเพื่อแขวนคอตัวเองส่วนนางนิภา ผู้เป็นแม่ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายคลุ้มคลั่งเพราะเสพยาบ้า ที่ติดอย่างหนักและมักจะอาละวาดแบบนี้ วันนี้ตนจึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งให้ตำรวจมารับตัวลูกชายพาไปบำบัดด้วย แต่เมื่อตำรวจมา ลูกคงกลัวและหนีเข้าห้องนอน แต่ไม่คิดว่าเขาจะะฆ่าตัวตายหลังจากสอบสวนแล้ว ทางญาติไม่ได้ติดใจเอาความ ตำรวจจึงได้มอบศพให้นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี อย่างไรก็ดี ชาวบ้านที่ไปมุงดู ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เพราะยาบ้าราคาถูก หาซื้อได้ง่ายมากตอนนี้ คนจึงติดยากันมากยาบ้าสมัยก่อนเม็ดสองสามร้อยแต่มาวันนี้สามเม็ดร้อยสี่เม็ดร้อย วัยรุ่นติดกันเยอะ อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ปราบปรามอย่างจริงจังเสียที | ลูกชายทาสยานรกคลั่งไล่ฟันคนบนถนน แม่แจ้งตำรวจช่วยจับตัวไปบำบัด กลับหนีเข้าห้องแขวนคอดับ ชาวบ้านบอกยาบ้าถูกสุดๆ แล้วยุคนี้ เมื่อก่อนเม็ดสามร้อย ตอนนี้สามเม็ดสี่เม็ดร้อย | ข่าว,ทั่วไทย | คลั่งผูกคอตาย,คลั่งยา,คลั่งยาบ้า,คลั่งยาบ้าผูกคอตาย,ยาบ้าราคาถูก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1771623 |
รู้แล้ว มือบึ้มหน้าสหกรณ์รวมพลัง จ.ปัตตานี | วันนี้ (19 พ.ย.2559) พล.ต.เกื้อกูล อินนาจักร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย ครม.ส่วนหน้า ลงพื้นที่หมู่ 3 บ้านปิยา ต.ปิยามุมัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เพื่อเยี่ยมเยียนให้กำลังใจประชาชน หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่บริเวณหน้าสหกรณ์รวมพลัง ทำให้อาคารต่างๆ ทั้งอาคารหอประชุม อาคารศูนย์บริหารราชการตำบล อาคารสหกรณ์ โรงงานวิสาหกิจชุมชน รวมทั้งอาคารบ้นเรือราษฎร และโรงเรียน ได้รับความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คนรองแม่ทัพภาคที่ 4 กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายรายนี้ให้ได้ พร้อมทั้งให้สำรวจและเยียวยาความเสียหาย รวมทั้งผู้บาดเจ็บ ส่วนคืบหน้าคดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถนำภาพที่บันทึกได้ทำการขยายผลเพื่อติดตามคนร้าย ขณะนี้พอทราบแล้วและอยู่ระหว่างการสอบสวนให้ชัดเจน ก่อนที่จะขออนุมัติหมายจับสำหรับสาเหตุเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการร์เพื่อให้เกิดการแตกแยก ซึ่งขณะนี้ได้ฝ่ายความมั่นคงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลมัสยิดและสถานที่ราชการ เพราะเกรงว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดกัน | ตำรวจและฝ่ายความมั่นคง แกะรอยจากภาพวงจรปิดจนรู้ตัวคนวางระเบิดสหกรณ์รวมพลังที่ จ.ปัตตานี ขณะที่คณะรัฐมนตรีส่วนหน้าและรองแม่ทัพภาคที่ 4 ไปเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนพื้นที่เกิดเหตุ | อาชญากรรม | ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ระเบิด,จ.ปัตตานี,คาร์บอมบ์,ครม.ส่วนหน้า | https://news.thaipbs.or.th/content/257890 |
ผู้บริหารแบงก์กสิกรไทยชี้จับตาประชานิยมส่งผลเงินเฟ้อพุ่ง | นายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย เชื่อว่าประเทศไทยยังต้องเผชิญกับสภาพการเมืองลักษณะนี้ไปอีก 5-6 ปี และการเมืองจะเป็นปัจจัยกดดันอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ดังนั้นภาคธุรกิจต้องปรับตัวรับกับความท้าทาย ทั้งการขาดแคลนแรงงาน ต้นทุนด้านพลังงาน รวมถึงความผันผวนของเศรษฐกิจโลกสำหรับนโยบายของพรรคการเมือง เช่น การเพิ่มค่าจ้างแรงงาน การอัดฉีดโครงการต่าง ๆ ให้กับประชาชนรายได้น้อย รวมทั้งการสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานถือเป็นเรื่องที่ดี หากมีการจัดการที่ถูกต้อง แต่ต้องจับตาโครงการประชานิยม เพราะมีส่วนกระตุ้นให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่กดดันเศรษฐกิจไทยมากที่สุด โดยเฉพาะหลังมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลสิ้นสุดลงทั้งนี้คาดว่าเงินเฟ้อปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ 4 ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับขึ้นอีก 2 ครั้งทำให้ดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 3.50 จากปัจจุบันที่ร้อยละ 3 | ผู้บริหารธนาคารกสิกรไทยประเมินว่า ไทยยังคงต้องเผชิญกับปัจจัยทางการเมืองลักษณะนี้ไปอีกหลายปี ดังนั้นภาคธุรกิจต้องปรับตัวรับกับความท้าทายที่ต้องเผชิญ ทั้งปัญหาแรงงงาน ค่าจ้าง และ ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก | เศรษฐกิจ | Election54,ธนาคารกสิกรไทย,นโยบายประชานิยม,วศิน วณิชย์วรนันต์,เงินเฟ้อสูง | https://news.thaipbs.or.th/content/17825 |
ศาลสั่งจำคุก 6 ปี ลิเกมิตร มิตรชัย ชดใช้ 27 ล้าน ไม่รออาญา ฉ้อแฟนสาว | จำเลยให้การเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือคุก 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้ชดใช้เงินคืนผู้เสียหาย 27 ล้านบาท ญาติยื่นหลักทรัพย์ประกันตัววงเงิน 2.5 ล้านบาท ขณะที่ทนายความเตรียมย่ืนอุทธรณ์สู้คดี,ศาลสั่งจำคุกพระเอกลิเก มิตร มิตรชัย น้องชาย ไชยา มิตรชัย ฉ้อโกงเงินอดีตแฟนสาวพร้อมชดใช้เงินอีก 27 ล้านบาท โดยเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 8 ส.ค. ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายคีรีรัก สมณะบารมี หรือ มิตร มิตรชัย อายุ 21 ปี พระเอกลิเก น้องชายของ ไชยา มิตรชัย พระเอกลิเก นักร้องและนักแสดงชื่อดัง พร้อมด้วยนายวิรัตน์ จอนสมจิตร์ ทนายความส่วนตัว เดินทางมาฟังคำพิพากษาคดีฉ้อโกงทรัพย์เป็นเงิน 35 ล้านบาท กรณี น.ส.รัญชิตา หรือปุ้ย สิทธาเตชานนท์ อายุ 43 ปี เจ้าของกิจการหล่อลื่นเครื่องจักรกล อดีตแฟนสาวของนายคีรีรัก ผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดี,ขณะที่ น.ส.รัญชิตา อดีตแฟนสาวมาฟังคำพิพากษาพร้อมด้วยนางจิดิภา รอดโพธิ์ทอง ภรรยา พ.ต.อ.ปจภณ รอดโพธิ์ทอง และนายรชฏ เหลืองโกวิท ทนายความส่วนตัว ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษา นายรชฏ เปิดเผยว่า ศาลพิจารณาหลักฐานแล้วว่าเงินทั้งหมดไม่ใช่ได้มาด้วยความเสน่หา แต่เป็นการลงทุนร่วมกัน จึงตัดสินความผิดรวม 3 คดีคือ 1.การทำคณะลิเก 2.ทำลิเกออนไลน์ 3.ทำมิวสิกวีดิโอ โดยศาลตัดสินให้จำคุกจำเลยคดีละ 3 ปี รวมเป็น 9 ปี แต่เห็นว่าในวันนัดสืบพยานมิตร มิตรชัย จำเลยให้การที่เป็นประโยชน์เห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 3 คดีละ 1 ปี เหลือจำคุก 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้ชดใช้เงินคืนแก่คู่กรณีจำนวน 27 ล้านบาท,ด้านนายวิรัตน์ จอนสมจิตร์ ทนายความมิตร มิตรชัย กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว มิตร มิตรชัย โดยครอบครัวมิตรชัยเตรียมที่ดินราคาประเมินกว่า 3 ล้านบาท หลังศาลพิจารณาหลักทรัพย์ได้อนุญาตประกันตัวในวงเงิน 2.5 ล้านบาท หลังจากนี้จะทำเรื่องยื่นอุทธรณ์ตามขั้นต่อไป,ขณะที่ น.ส.รัญชิตา หรือปุ้ย อดีตแฟนสาวมิตร มิตรชัย กล่าวว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ศาลมีคำพิพากษาให้มิตร มิตรชัย ชดใช้เงิน 27 ล้านบาท พร้อมกับตัดสินลงโทษจำคุก 6 ปี ไม่ต้องรอลงอาญา และต้องขอขอบคุณทุกๆคนที่ให้การช่วยเหลือ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทที่คอยเป็นกำลังใจและอยู่เคียงข้างด้วยกันมาตลอดจนสามารถผ่านเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปได้,ตลอด 1 ปีเต็มเราเป็นทุกข์กับหนี้ที่เราไม่ได้ก่อขึ้น เป็นการช่วยเหลือคนรัก ไม่ได้ให้เพราะเสน่หา และอยากจะบอกว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวไชยา มิตรชัย เลย พี่เอเป็นคนดีมาก จะผิดก็เพียงตัวมิตร มิตรชัย เท่านั้น อยากขอโทษครอบครัวรอดโพธิ์ทองที่เข้ามาเกี่ยวข้องทำให้ต้องเสียชื่อเสียงมาโดยตลอด วันนี้คิดว่าสังคมคงจะรับรู้แล้วว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เราไม่ได้ทำขึ้นจริงๆ น.ส.รัญชิตากล่าว,สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก น.ส.รัญชิตา หรือปุ้ย นักธุรกิจสาวใหญ่ ออกมาแฉอ้างว่าถูกมิตร มิตรชัย พระเอกลิเกชื่อดังแฟนหนุ่มที่คบหากันหลอกลวงให้ผู้เสียหายร่วมออกเงินลงทุนในหลายๆส่วน เช่นจัดทำคณะลิเก รายการมิตรชัยโชว์ และทำมิวสิกวีดิโอ รวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 35 ล้านบาท และยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการให้เพราะเสน่หา ก่อนเข้าแจ้ง ความดำเนินคดีตำรวจ สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จนกลายเป็นข่าวโด่งดัง | มิตร มิตรชัย พระเอก ลิเกจุกเจอคุก 6 ปี คดีฉ้อโกงเงิน 35 ล้านบาท หลังถูกอดีตแฟนสาวแจ้ง ความจับหลอกร่วมทุนทำคณะลิเก มิวสิกวีดิโอ และลิเกออนไลน์ ศาลพิเคราะห์หลักฐานเห็นว่า ไม่ใช่เงิน ที่ได้มาเพราะเสน่หา ตัดสินให้จำคุก 9 ปี | null | มิตร มิตรชัย,ฉ้อโกงนักธุรกิจสาว,ไชยา มิตรชัย,แอน มิตรชัย,ศาลชั้นต้นพิพากษา,ปทุมธานี,คีรีรัก สมณะบารมี,รัญชิตา สิทธาเดชานนท์,ข่าว,ข่าวหน้า1,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐฉบับพิมพ์,ไทยรัฐ,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,thairath | https://www.thairath.co.th/content/685392 |
เด็กสาว15 ร้อง พ่อเป็นแพะ ตัวอยู่ภูพาน โผล่ไปลักทรัพย์ที่แปดริ้ว | วันที่ 19 สิงหาคม นายสาลิด บีลี นายก อบต.กกปลาซิว อ.ภูพาน จ.สกลนคร ได้พา ด.ญ.กันยา ซีด้วง อายุ 15 ปี บ้านเลขที่ 136 หมู่ 4 บ้านกกโด่ ต.กกปลาซิว พร้อมญาติพี่น้อง กว่า 10 คน เข้าพบผู้สื่อข่าวและร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้กับ นายพุดทา ซีด้วง อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นพ่อ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพาน จับกุมตัวตามหมายจับของศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 521/2558 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2558 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำความผิด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2558 ที่ ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา นำตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.ภูแสนดาษ และถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นเวลากว่า 10 วันแล้ว ,ด.ญ.กันยา กล่าวว่า ตั้งแต่จำความได้ ตนเรียนชั้นอนุบาล 2 ก็อยู่กับพ่อมาตลอด โดยที่พ่อไม่เคยเดินทางไปไหนเลย แล้วจะไปก่อเหตุลักทรัพย์ใน จ.ฉะเชิงเทราได้อย่างไร โดยเฉพาะในพื้นที่ดังกล่าวก็ไม่เคยรู้จัก จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับพ่อด้วย,ด้านนายสาลิด บีลี นายก อบต.กกปลาซิว ตนขอยืนยันว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้บริสุทธิ์ เคยไปทำงานที่กรุงเทพฯ และได้กลับมาอยู่ที่บ้านกกโด่ ตั้งแต่ปี 2554 และไม่เคยจากบ้านไปไหน โดยเฉพาะ จ.ฉะเชิงเทรายิ่งไม่เคยไป จึงไม่ทราบว่าหมายจับมาได้อย่างไร ทั้งที่หมายเรียกก็ไม่เคยมีมา ส่วนวันเกิดเหตุนั้นขอยืนยันว่า นายพุดทาอยู่ในพื้นที่ พร้อมที่จะไปให้การเป็นพยานร่วมกับผู้ที่เชื่อถือได้อีกหลายคน จึงขอเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับนายพุดทา ซึ่งตนพร้อมทั้งชาวบ้านเห็นว่านายพุดทา ผู้ต้องหารายนี้ ไม่น่าจะไปก่อเหตุดังกล่าว เนื่องจากอยู่ในพื้นที่และอยู่ในสายตาของตนตลอด รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยฯ ,นิสัยใจคอของผู้ต้องหาก็เป็นคนธรรมะธัมโม เป็นมัคนายกวัด เป็นผู้นำคนในหมู่บ้านสวดมนต์ ทำวัตรอยู่ตลอด จึงไม่น่าจะมีส่วนร่วมในการก่อเหตุลักทรัพย์ดังกล่าว ขอฝากไปถึงผู้เกี่ยวข้องได้ดูแลและให้ความเป็นธรรมด้วย อย่าให้คนบริสุทธิ์ต้องมาติดคุก นายสาลิด กล่าว | เด็กสาววัย 15 ปี ชาวภูพาน สกลนคร เข้าร้องขอความเป็นธรรม พ่อถูกศาลจ.ฉะเชิงเทรา ออกหมายจับข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ทั้งที่ไม่รู้เรื่อง ไม่เคยไป นายกอบต.ช่วยยัน เป็นคนธรรมะธัมโม
| ข่าว,ทั่วไทย | วอนช่วยพ่อ,พ่อเป็นแพะ,จับแพะ,พ่อถูกจับ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1640945 |
อลังการงานพุทธศิลป์ เชียงราย นำร่องเมืองแห่งศิลปะ | วันนี้ (24 ส.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดงานพุทธศิลป์ กวีและดนตรีล้านนา ภายในงานมีการนำผลงานทางศิลปะของบรรดาศิลปินสมาคมขัวศิลปะเข้าร่วมจัดแสดง ทั้งผลงานทางจิตรกรรมอย่างภาพวาดของศิลปินจำนวน 30 กว่าคนนำโดยพระเมธีวชิโรดม (พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี) พระนักเทศน์ชื่อดังชาว จ.เชียงราย ผลงานทางประติมากรรมประเภทงานปั้น งานหล่อ ฯลฯ ซึ่งล้วนมีความงดงามและสื่อความหมายถึงพระพุทธศาสนานอกจากนี้ยังมีการจัด กาดหมั้วครัวศิลป์ โดยมีการจัดแสดงและจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอย่างครบครัน ทั้งนี้งานมีกำหนดจัดขึ้น 3 วัน ระหว่างวันที่ 23-25 ส.ค.2562ผู้ว่าฯ เชียงราย ระบุว่า จากการชมผลงานทางศิลปะของบรรดาศิลปินใน จ.เชียงราย พบว่าได้มีการพัฒนา ประยุกต์และปรับให้เข้ากับยุคสมัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะให้สามารถเข้าได้กับคนรุ่นใหม่ ขณะที่ จ.เชียงราย มีศิลปินในสมาคมขัวศิลปะอยู่กว่า 300 คน จึงถือเป็นเรื่องดีที่ได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อนำผลงานของศิลปินออกมาจัดแสดง ซึ่ง จ.เชียงราย ได้รับการยกฐานะให้เป็นเมืองแห่งศิลปะ พร้อมกับ จ.นครราชสีมา และ จ.กระบี่ผู้ว่าฯ เชียงราย ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาว จ.เชียงราย กำลังจะก่อสร้างหอศิลป์ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเท่าที่ทราบไม่ใช่เพียงแค่สถานที่จัดแสดงผลงานทางศิลปะเท่านั้น แต่ยังมีลักษณะเป็นหมู่บ้านศิลปะ อาร์ตวิลเลจ ซึ่งกิจกรรมต่างๆ จะมีควบคู่ไปกับการจัดแสดงมหกรรมแสงวัดร่องุข่น หรือพรีโชว์ วัดร่องขุ่น ไลท์ เฟส ระหว่างวันที่ 22 พ.ย.-22 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะได้สนับสนุนความเป็นเมืองแห่งศิลปะและรองรับเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ หรือ อาร์ต เบียนนาเล่ ที่จะจัดขึ้นใน จ.เชียงราย ช่วงปลายปี 2565 ต่อไปด้านนางจิตรา สิทธนานุวัฒน์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ระบุว่า การจัดงานพุทธศิลป กวีและดนตรีล้านนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความเป็นเชียงรายเมืองแห่งศิลปะ ให้เป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเพื่อนำต้นทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่า อีกทั้งยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านศิลปะนอกจากนี้ยังปลุกจิตสำนึกให้คนเชียงรายรักและหวงแหนวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งการจัดงานยังได้รับความเมตตาจากพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี นำบทกวีของท่านมาขับกล่อม โดยนายยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว ศิลปินแห่งชาติ สาขานักร้องและนักประพันธ์เพลงไทยสากล รวมทั้งทางแม่ครูบัวเรียว รัตนมณีภรณ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดงพื้นบ้าน ที่ได้จัดคณะช่างฟ้อนมาร่วมฟ้อนเล็บด้วย | สำนักงานวัฒนธรรม จ.เชียงราย ร่วมกับสมาคมขัวศิลปะจัดงาน พุทธศิลป์ กวีและดนตรีล้านนา ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาเชียงราย ระหว่างวันที่ 23-25 ส.ค.นี้ เพื่อยกระดับความเป็นเมืองแห่งศิลปะและให้เป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยว | ภูมิภาค | งานพุทธศิลป,สมาคมขัวศิลปะ,ศิลปินชาวเชียงราย,ดนตรีล้านนา | https://news.thaipbs.or.th/content/283304 |
ธุรกิจความงามแชมป์ 6 สมัย | ม.หอการค้าชี้อี-บุ๊กทำ นิตยสาร ครองดาวร่วง,ม.หอการค้าไทย เผย 10 อันดับธุรกิจเด่น-ร่วงปี 60 ธุรกิจบริการทางการแพทย์ และความงาม ครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 6 ส่วนเคาน์เตอร์เซอร์วิส ฟินเทค ออนไลน์แบงก์กิ้ง ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ออแกไนซ์ ซ่อมอิเล็กทรอนิกส์มาแรง ตามกระแสเมกะเทรนด์ของโลก และนโยบายรัฐ ส่วนธุรกิจดาวร่วง ฟอกย้อม รองเท้า นิตยสาร หนังสือ หลังคนอ่านอี-บุ๊กมากขึ้น,นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้า ไทย เปิดเผยถึง 10 อันดับธุรกิจเด่น-ร่วงปี 60 ว่า จากการพิจารณาเกณฑ์การให้คะแนนด้านยอดขาย ต้นทุน ส่วนต่างของยอดขายต่อต้นทุน (กำไรสุทธิ) ความสามารถในการรับผลจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และความสอดคล้องกับกระแสนิยมพบว่าธุรกิจเด่นปี 60 อันดับ 1 ยังคงเป็นธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงามที่ติดอันดับนี้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 แล้ว และคาดว่าจะยังคงอยู่ในอันดับนี้ต่อไปอีก 3-5 ปี,ส่วนอันดับ 2 คือ ธุรกิจเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว อันดับ 3 คือ ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ อันดับ 4 ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว และธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์) อันดับ 5 ธุรกิจ วัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง อันดับ 6 ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ อันดับ 7 ธุรกิจบริการทางการเงิน (เคาน์เตอร์เซอร์วิส ฟินเทค และออนไลน์แบงก์–กิ้ง) อันดับ 8 ธุรกิจห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์น–เทรด), ธุรกิจประกันภัย และธุรกิจออแกไนซ์ อันดับ 9 ธุรกิจซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ) ธุรกิจการศึกษา (สถาบันภาษี โรงเรียนติว สถาบันด้านไอที) และอันดับ 10 ธุรกิจให้คำปรึกษาทางกฎหมายและบัญชี,ปัจจัยสนับสนุนธุรกิจเด่นปี 60 เป็นไปตามเมกะเทรนด์ของโลกที่มี 4 ตัวหลัก คือ ดิจิทัลที่ทำให้กลุ่มอี-คอมเมิร์ซ และบริการทางการเงินแบบฟินเทคมาแรง การเป็นสังคมเมืองทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป มีการซื้อสินค้าในห้างค้าปลีกสมัยใหม่มากขึ้น การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุทำให้ธุรกิจบริการด้านสุขภาพ การออมเงิน และการประกันเติบโต สุดท้ายคือกระแสกรีน ที่ทำให้การรักษาสุขภาพเด่นชัดขึ้น,นอกจากนี้ ยังได้รับผลดีจากนโยบายของรัฐ ทั้งนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล และไทยแลนด์ 4.0 ที่ช่วยส่งเสริมและเติมเต็มในหลายๆธุรกิจ เช่น อี-คอมเมิร์ซ การท่องเที่ยว บริการการเงิน ขณะที่นโยบายส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งในระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (อีอีซี) เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และการอัดฉีดงบกลางลงสู่ 18 กลุ่มจังหวัด จะมีผลต่อการลงทุน การค้าชายแดน ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจออแกไนซ์ และธุรกิจให้คำปรึกษาทางกฎหมายและบัญชีในการทำการค้ากับต่างประเทศ,นายธนวรรธน์กล่าวว่า การสำรวจปีนี้ธุรกิจ เด่นที่เคยติดอันดับ 1 ใน 10 ของปี 59 กลับไม่ติด 1 ใน 10 ของธุรกิจเด่นในปี 60 เลย คือ ธุรกิจจัดการตลาด ทั้งตลาดนัด ตลาดสด ตลาดนัดกลางคืน, ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ, ธุรกิจยาและเวชภัณฑ์และสมุนไพรธรรมชาติ, ธุรกิจออกกำลังกาย เช่น ฟิตเนส สนามกีฬา และธุรกิจพลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียน ส่วนธุรกิจเด่นปี 60 ที่ไม่ติด 1 ใน 10 ของธุรกิจเด่นในปี 59 คือธุรกิจบริการทางการเงิน, ธุรกิจห้างค้าปลีกสมัยใหม่, ธุรกิจออแกไนซ์, ธุรกิจซ่อมและจำหน่ายอะไหล่อิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจให้คำปรึกษาทางกฎหมายและบัญชี,สำหรับ 10 อันดับธุรกิจดาวร่วงปี 60 อันดับหนึ่งคือ ธุรกิจฟอกย้อม รองลงมาคือ หัตถกรรม ธุรกิจนิตยสาร ธุรกิจร้านเช่าหนังสือ ธุรกิจร้านเช่าวีดิโอและซีดี สิ่งทอผ้าผืน ธุรกิจจัดทำโปสเตอร์ (โปสเตอร์ภาพยนตร์) ธุรกิจโรงไม้ ธุรกิจตัดและซ่อมรองเท้า ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ และธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องจักรทางการเกษตร,ธุรกิจดาวร่วงส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ไม่มีการพัฒนา โดยเฉพาะกลุ่มฟอกย้อม หัตถกรรม รองเท้าและสิ่งทอที่ตัดเย็บทั่วไป ซึ่งจะถูกสินค้าจากจีนที่มีต้นทุนต่ำกว่าเข้ามาตีตลาด ส่วนธุรกิจนิตยสารและหนังสือ 2 ปีนับจากนี้จะเป็นช่วงที่เหนื่อยมาก โดยเฉพาะนิตยสารที่มีความเฉพาะอาจต้องปรับตัวหนัก เพราะพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่หันไปอ่านผ่านอี-บุ๊ก และอี-แมกกาซีนมากขึ้น ซึ่งต้องเป็นกลุ่มที่เข้าถึงตลาดทั่วไป (แมส) หรือมีฐานใหญ่ในต่างจังหวัดที่ยังเข้าถึงเทคโนโลยีไม่มากนัก จึงจะอยู่ได้,นายธนวรรธน์กล่าวต่อว่า ปี 60 จะเป็นปีแห่งการปรับตัว เริ่มจากการปรับโครงสร้าง ซึ่งทุกประเทศหันกลับมาใช้และสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศมากขึ้น ทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป จีน รวมทั้งไทย เป็นการปรับสมดุล เพราะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกซึมทำให้เกิดภาวะโอเวอร์ซัพพลายสูง แต่ปีหน้าโลกจะเริ่มปรับสมดุล ภาวะโอเวอร์ซัพพลายในตลาดจะลดลง ไม่ว่าจะเป็นปริมาณ น้ำมันที่เริ่มปรับลดปริมาณลง ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยปี 60 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ในกรอบ 3.5-4% โดยจะค่อยๆฟื้นตัวในช่วงปลายไตรมาส 2 หลังรัฐอัดฉีดงบกลางลงไปขับเคลื่อน รวมทั้งเร่งรัดการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆมูลค่ากว่า 400,000 ล้านบาท ทั้งรถไฟรางคู่ มอเตอร์เวย์ เป็นต้น. | ม.หอการค้าไทย เผย 10 อันดับธุรกิจเด่น-ร่วงปี 60 ธุรกิจบริการทางการแพทย์ และความงาม ครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 6 ส่วนเคาน์เตอร์เซอร์วิส ฟินเทค ออนไลน์แบงก์กิ้ง ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ออแกไนซ์ | null | ม.หอการค้าไทย,อี-บุ๊ก,ธุรกิจความงาม,10 อันดับธุรกิจเด่นปี 60,ธนวรรธน์ พลวิชัย | https://www.thairath.co.th/content/819362 |
บอคเซียไทยคว้า 1 เหรียญทองปิดท้ายพาราลิมปิกเกมส์ | วันนี้ (17 ก.ย.2559) การแข่งขันบอคเซียประเภท BC2 ซึ่งถือเป็นรายการสุดท้ายของทีมบอคเซียไทย เป็นการเจอกันเองของ วัชรพล วงษา ในชุดสีน้ำเงิน และ วรวุฒิ แสงอำภา ที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่คว้าเหรียญทองจากการลงแข่งขันในประเภททีม BC1-2 โดยประเภทเดี่ยวใช้ระบบการแข่งขัน 4 เกมส์ในเกมส์สุดท้ายวัชรพล มาฮึดทำคะแนน จนแซงเอาชนะไปได้ 5-4 คว้าเหรียญเหรียญที่สองให้กับตัวเอง ส่วน วรวุฒิ คว้าเหรียญเงินสรุปเหรียญทองล่าสุดไทยมี 6 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 6 เหรียญทองแดงอยู่อันดับที่ 20 ส่วนจีนอยู่อันดับที่ 1 มีอยู่ 94 เหรียญทอง ตามด้วย สหราชอาณาจักร 57 เหรียญทอง วันนี้ไทยยังมีลุ้นอีก 1 เหรียญทองจากวีลแชร์เรซซิ่ง 4คูณ 400 เมตร ที่มี พงศกร แปยอ กับ ประวัติ วะโฮรัมย์ นำทีม แข่งขันเวลา 3.30 น.ตามเวลาประเทศไทย | การแข่งขันบอคเซียพาราลิมปิกเกมส์ในวันสุดท้าย ทีมบอคเซียไทยได้เพิ่มอีก 1 เหรียญทอง จาก วัชรพล วงษา ส่งผลให้ทีมบอคเซียไทย คว้า 2 เหรียญทองเท่ากับพาราลิมปิกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว | กีฬา | บอคเซีย,พาราลิมปิกเกมส์,วัชรพล วงษา,บราซิล,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/255858 |
ทบ.ส่ง MI-17 บินดับไฟป่าดอยหลวง เชียงใหม่ หลังลุกไหม้นานนับสัปดาห์ | เตรียมการรับ นายกฯ ที่จะเดินทางมาตรวจราชการ และติดตามปัญหาหมอกควันไฟป่า ฝุ่นละอองในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ,เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 1 เม.ย.62 พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ค่ายกาวิละ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้ พัน.บ ฉก.ฮท.17/406 ปฏิบัติการทิ้งน้ำ ดอยหลวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จำนวน 6 เที่ยวบิน โดยบินตักน้ำจากแหล่งน้ำที่อยู่บินดอยหลวง เพื่อไปทิ้งน้ำดับไฟป่า ที่ลุกไหม้อยู่บนดอยหลวงมาแล้วรวมอาทิตย์หนึ่ง หลังจากที่อากาศเปิดในช่วงเย็น ช่วงเช้าอากาศปิด นักบินไม่สามารถเห็นดอยหลวงได้เนื่องจากถูกหมอกควันบดบัง หลังจากที่ทิ้งน้ำเสร็จคาดว่าจะสามารถดับไฟที่กำลังไหม้ป่าดับลงเกือบทั้งหมด พร้อมกับกลับมาที่ตั้งเพื่อรอการประเมินตามแผนต่อไป,ส่วนที่อาคาร SME ภายในศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจ ทหาร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมในการเตรียมความพร้อมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ วันพรุ่งนี้ (2 เม.ย.) เพื่อตรวจราชการในพื้นที่ รวมถึงติดตามสถานการณ์หมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ และจังหวัดตาก และตรวจติดตามความพร้อมในการจัดทำน้ำอภิเษกในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่วัดบุพพาราม อำเภอเมืองเชียงใหม่ ,ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ทุกฝ่ายมีความพร้อมในการดูแลอำนวยความสะดวก โดยคณะส่วนล่วงหน้าได้ลงมาตรวจความเรียบร้อยช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากการประชุมติดตามสถานการณ์หมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นในภาคเหนือแล้ว นายกรัฐมนตรีจะได้มอบสิ่งของสนับสนุนการปฏิบัติงาน อาทิ เครื่องมือดับไฟป่า หน้ากากอนามัย อาหาร น้ำดื่ม รวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นให้กับกำลังและผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการดับไฟป่า เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน. | ทบ.ส่งเฮลิคอปเตอร์ MI 17 บินทิ้งน้ำดับไฟไหม้ป่าดอยหลวงเชียงดาว กว่า 6 เที่ยวบินจนดับลงแล้ว หลังลุกไหม้มานานนับสัปดาห์ พร้อมรอประเมินผลหลังที่ไฟมอดลง ขณะที่พ่อเมืองเชียงใหม่ ทหาร ตำรวจ ประชุม | ข่าว,ทั่วไทย | ไฟป่า,หมอกควัน,ฝุ่นละออง,นายกฯ,เชียงใหม่,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1534838 |
เทพชัยเชื่อ คสช.อยากมีอำนาจต่อ ชี้กฎหมายสื่อควรออกในบรรยากาศประชาธิปไตย | กสทช.เป็นเครื่องมือที่รัฐใช้แทรกแซงสื่อ ขณะพิรงรองระบุ ร่างกฎหมายทำลายการปฏิรูปสื่อ22 ก.พ. 2560 เทพชัย หย่อง นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กล่าวในการเสวนาเรื่องการกำกับดูแลสื่อในประเทศไทย กรณีร่าง พ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน จัดโดยสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย (FCCT)ว่า กรณีที่ กมธ. ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อมวลชน สปท.ปรับลดสัดส่วนของปลัดกระทรวงในโครงสร้างของสภาวิชาชีพลงจาก 4 เป็น 2 คน () ไม่สำคัญเท่ากับเรื่องที่กำหนดให้สภาวิชาชีพนี้สามารถออกและถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสื่อได้ โดยจะถือเป็นครั้งแรกในไทยที่มีการออกใบอนุญาตทำสื่อ เป็นการให้อำนาจซึ่งขัดกับหลักการเสรีภาพสื่อเขาย้ำว่า คนที่จะมานั่งในสภาวิชาชีพนี้จะเป็นใครไม่สำคัญเท่ากับอำนาจนี้ ต่อให้เป็นนักข่าวทั้ง 15 คนก็ยอมไม่ได้เช่นกัน ไม่ควรมีใครมีอำนาจในการควบคุมสื่อนอกจากนี้ เทพชัย กล่าวเสริมว่า ร่างกฎหมายนี้ให้งบประมาณสภาวิชาชีพสื่อถึง 100 ล้านบาทต่อปี ชวนคิดว่าเมื่อมีทั้งอำนาจและเม็ดเงินจำนวนมากเช่นนี้ สภาวิชาชีพนี้จะทำอะไรกับอุตสาหกรรมสื่อเขามองว่า รัฐบาลทหารยังอยากมีอำนาจหลังการเลือกตั้ง ไม่เช่นนั้น คงไม่ออกกฎหมายแบบนี้กฎหมายนี้กว่าจะมีผลใช้ก็หลังเลือกตั้งแล้ว ไม่มีเหตุผลที่รัฐบาลจะออกกฎหมายให้นักการเมืองใช้ ประกอบการแนวคิดยุทธศาสตร์ชาติยี่สิบปี ทำให้เชื่อว่า คสช. คงอยากจะอยู่ในอำนาจในรูปแบบอื่นๆ ต่อไป เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่อยากมีอำนาจต่อไปคงอยากมีเครื่องมือควบคุมกำกับความเห็นของประชาชนผ่านการกำกับสื่อ เทพชัยกล่าวและย้ำว่า กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและสิทธิของสื่อไม่ควรร่างในบรรยากาศที่มีอำนาจปกครองแบบนี้ ในบรรยากาศที่มีผู้นำประเทศที่มีทัศนคติต่อสื่อในเชิงลบแบบนี้ ควรร่างในบรรยากาศประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมของประชาชนมากกว่าสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มองว่า นี่เป็นยุค Empire Strikes Back เพราะนอกจากร่าง พ.ร.บ.นี้ พ.ร.บ.กสทช.ก็กำลังถูกแก้ในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ขณะที่ กสทช.เองก็ไม่ใช่องค์กรกำกับสื่อที่ก้าวหน้าอีกต่อไป และหลายครั้งก็เป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการแทรกแซงสื่อ เช่น พักใช้หรือถอนใบอนุญาต กรณีวอยซ์ทีวี พีซทีวี เรียกสื่อเช่น เนชั่น มาสอบ ตักเตือน ทำให้เกิดบรรยากาศของความกลัว และจำกัดเสรีภาพสื่อ และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นสุภิญญา ชี้ว่า ตอนนี้วาทกรรมที่รัฐบาลใช้อ้างเพื่อออกพ.ร.บ.การคุ้มครองสื่อฯ คือ ทุกวันนี้คนได้ข้อมูลข่าวสารจากโซเชียลมีเดีย สื่อเองก็แข่งขันกัน โดยนำเรื่องในโซเชียลมีเดียมาเสนอซ้ำ บางครั้งไปไกลถึงขนาดบิดเบือน ทำร้ายความรู้สึกสังคม ละเมิดจริยธรรม ทำให้หลายคนรู้สึกว่าสื่อทำเกินไปแล้วและต้องควบคุมสื่อ ซึ่งเธอมองว่า ไม่ว่าจะเห็นว่าสื่อกำกับตัวเองไม่ดีพออย่างไรก็ไม่ควรเอาอำนาจไปให้รัฐอยู่ดีพิรงรอง รามสูตร ผู้ช่วยศาสตราจารย์คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.นี้เป็นส่วนหนึ่งของการทำลายการปฏิรูปสื่อ ซึ่งเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์พฤษภา 2535 ที่สื่อวิทยุทีวีถูกควบคุมโดยรัฐ ทำให้มีการเรียกร้องสื่อเสรี ส่งผลให้มีการบรรจุเรื่องคลื่นความถี่เป็นสมบัติสาธารณะไว้ในรัฐธรรมนูญ ส่งเสริมการกำกับดูแลกันเองของสื่อ และมีการระบุในกฎหมายให้คลื่นความถี่อย่างน้อย 20% เป็นของภาคประชาชน ทำให้มีสื่อชุมชนเกิดขึ้นจำนวนมาก แต่เนื่องจากขณะนั้นยังไม่มีองค์กรกำกับดูแล ทำให้เกิดภาวะสุญญากาศขึ้น เป็น อนาธิปไตยของคลื่นความถี่ ในช่วงที่มีเสื้อเหลืองเสื้อแดง สื่อถูกฉวยใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง และสปท. ซึ่งแต่งตั้งโดยรัฐบาลทหารก็หยิบเรื่องนี้มาอ้างในการออกกฎหมายดังกล่าว ทั้งที่มีความเข้าใจเรื่องสื่ออย่างจำกัดสปท.ไม่เคยให้โอกาสกับการกำกับดูแลกันเองเช่นเดียวกับที่รัฐบาลทหารไม่ให้โอกาสประชาธิปไตย พิรงรองกล่าวพิรงรอง ชี้ว่า การออกกฎหมายเพื่อทำให้การควบคุมสื่อเป็นเรื่องถูกกฎหมายนี้ เป็นการมองข้ามความก้าวหน้าในเรื่องการปฏิรูปสื่อ เช่น การเกิดขึ้นของสภาการหนังสือพิมพ์ ซึ่งถึงแม้ยังทำผลงานได้ไม่เป็นที่น่าประทับใจนัก แต่ก็ถือว่าเป็นองค์กรที่มีโครงสร้างชัดเจน ทั้งนี้ เคยมีงานวิจัยชี้ว่าองค์กรวิชาชีพสื่อในประเทศไทย 200 แห่ง มีเพียง 5 แห่งที่มีกลไกรับเรื่องร้องเรียนสภาการ นสพ. ก็มีแต่จากการสอบถาม มีเรื่องร้องเรียนตลอดปีเพียง 5 เรื่อง แสดงให้เห็นว่า องค์กรยังไม่เป็นที่รับรู้ของสาธารณะ | เทพชัยยันต่อให้มีสื่อ 15 คนนั่งสภาวิชาชีพก็ไม่เอา เพราะยังมีอำนาจออกใบประกอบวิชาชีพสื่อ เชื่อรัฐบาลทหารอยากมีอำนาจต่อหลังเลือกตั้ง สุภิญญาชี้แนวโน้มคุมสื่อหนักขึ้น | การเมือง,สิทธิมนุษยชน,ไอซีที | พ.ร.บ.คุมสื่อ,พิรงรอง รามสูตร,สปท.,สื่อมวลชน,สุภิญญา กลางณรงค์,เทพชัย หย่อง | https://prachatai.com/journal/2017/02/70230 |
คนหนุนเลือกตั้งปี 62 ย้ำนายกฯ ต้องออกมาประกาศวันเวลาให้ชัด | เมื่อวันที่ 1 ก.ค. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,136 คน จากที่รัฐบาลได้มีการหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และพรรคการเมือง เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยมีการวางกรอบเวลาการเลือกตั้งในช่วง 24 ก.พ.-5 พ.ค. 62 ส่งผลให้การกำหนดวันเลือกตั้งในปี 2562 เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งพบว่า อันดับ 1 เห็นด้วย เป็นข่าวดี อยากให้มีการเลือกตั้ง 54.17% ส่วนอันดับ 2 เป็นเพียงการคาดคะเน ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ยังไม่แน่ใจ 27.08% อันดับ 3 คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะรัฐบาลเป็นผู้ให้ข่าว 24.03% อันดับ 4 รอให้นายกฯ ออกมาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ 22.50% และอันดับ 5 น่าจะเป็นผลดีต่อประเทศ ต่างชาติจับตามองสถานการณ์ในไทย 13.89%,ส่วนความเชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2562 มากน้อยเพียงใด พบว่า อันดับ 1 ไม่ค่อยเชื่อมั่นว่าจะมีเลือกตั้ง 36.88% เพราะบ้านเมืองยังมีปัญหา ยังมีความวุ่นวาย มีข้อมูลหลายกระแส ยังไม่แน่ใจ ยังไม่รู้ข้อมูลข้อเท็จจริง ฯลฯ อันดับ 2 ค่อนข้างเชื่อมั่นว่าจะมีเลือกตั้ง 25.09% เพราะหลายฝ่ายกดดัน กระแสสังคมอยากให้มีการเลือกตั้ง มีกระแสข่าวกำหนดวันเลือกตั้งออกมาอย่างต่อเนื่อง ฯลฯ,อันดับ 3 ไม่เชื่อมั่นเลย 20.86% เพราะที่ผ่านมามีการกำหนดวันและมีการเลื่อน รัฐบาลมีอำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจ สถานการณ์บ้านเมืองไม่แน่นอน ต้องรอประกาศที่ชัดเจนจาก กกต. ฯลฯ,และอันดับ 4 เชื่อมั่นว่าจะมีเลือกตั้งแน่นอน 17.17% เพราะ เป็นไปตามระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนดไว้ มีการแก้ไขกฎหมายและเตรียมพร้อมเพื่อจัดการเลือกตั้ง หลายพรรคเริ่มมีการเคลื่อนไหวเตรียมผู้สมัคร ฯลฯ,ทั้งนี้สิ่งที่จะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2562 อย่างแน่นอน พบว่า อันดับ 1 นายกฯ ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการ ระบุวัน เวลา ที่แน่นอน 57.54% อันดับ 2 รัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อย ปลดล็อกพรรคการเมือง 36.14% อันดับ 3 กกต. ออกมาประกาศข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 25.28% อันดับ 4 ดำเนินการตามโรดแม็ป ไม่เลื่อน 19.94% และอันดับ 5 คสช. เป็นรัฐบาลรักษาการ เตรียมพร้อมรอการเลือกตั้ง 17.50%,สำหรับผลดีที่จะมีการเลือกตั้งในปี 2562 พบว่า อันดับ 1 เป็นประชาธิปไตย ประชาชนได้ใช้สิทธิ มีส่วนร่วมทางการเมือง 43.15% อันดับ 2 ต่างชาติเชื่อมั่น มีการค้าการลงทุน เศรษฐกิจดีขึ้น 37.23% อันดับ 3 บ้านเมืองพัฒนา ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ 30.78% อันดับ 4 มีนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง มีฝ่ายค้านคอยตรวจสอบ 22.04% และอันดับ 5 สถานการณ์ทางการเมืองดีขึ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง 11.96%,ส่วนผลเสีย ถ้าไม่มีการเลือกตั้งในปี 2562 พบว่า อันดับ 1 เศรษฐกิจแย่ลงกว่าเดิม ต่างชาติไม่เชื่อมั่น ไม่มาลงทุน 51.52% อันดับ 2 เกิดการชุมนุม เคลื่อนไหว บ้านเมืองไม่สงบ 29.41% อันดับ 3 ประชาชนไม่เชื่อถือ ไม่เชื่อมั่น ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล 19.07% อันดับ 4 การเมืองไม่เข้มแข็ง ไม่เป็นประชาธิปไตย ขาดการตรวจสอบ คานอำนาจ 16.58% และอันดับ 5 พรรคการเมือง นักการเมืองถูกลดบทบาท ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ 16.04%,ขณะที่การเลือกตั้งในปี 2562 ทำอย่างไร จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และไม่วุ่นวาย พบว่า อันดับ 1 ทุกคนทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือ เคารพสิทธิซึ่งกันและกัน 42.66% อันดับ 2 จัดระเบียบการเลือกตั้ง กฎระเบียบเคร่งครัด อยู่ในกติกา เคารพกฎหมาย 38.32% อันดับ 3 รัฐบาลมีการหารือพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มีข้อตกลงร่วมกัน 34.10% อันดับ 4 มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ มีขั้นตอนที่ชัดเจน 22.83% และอันดับ 5 สื่อนำเสนอข่าวเป็นจริง ไม่บิดเบือน ไม่สร้างกระแส 9.78%,อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการเลือกตั้งแล้ว ประชาชนคิดว่าการเมืองไทยจะเป็นอย่างไร พบว่า อันดับ 1 ดีขึ้น 52.34% เพราะการเมืองมีเสถียรภาพ เป็นประชาธิปไตย ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เศรษฐกิจดีขึ้น ต่างชาติเชื่อมั่น การบริหารประเทศคล่องตัว มีการตรวจสอบ คานอำนาจ บ้านเมืองพัฒนา ฯลฯ อันดับ 2 เหมือนเดิม 42.06% เพราะการเมืองไทยเป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์ ส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองหน้าเก่า ยังคงทะเลาะเบาะแว้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่ายเหมือนเดิม ฯลฯ อันดับ 3 แย่ลง 5.60% เพราะบ้านเมืองยังคงมีปัญหา แก้ไขได้ยาก อาจเกิดสถานการณ์ความวุ่นวาย มีผู้ที่เสียประโยชน์ ฯลฯ. | สวนดุสิตโพล เผยคนเห็นด้วยมีเลือกตั้ง ชี้นายกฯ ควรออกมาประกาศวันเวลาอย่างเป็นทางการ มองได้ผลดี เป็นประชาธิปไตย หวั่นไม่มีเลือกตั้ง จะทำให้เศรษฐกิจแย่กว่าเดิม ต่างชาติไม่มาลงทุน | เลือกตั้ง | กำหนดเลือกตั้ง,คนเห็นด้วยเลือกตั้ง,ผลดีเลือกตั้ง,ผลสำรวจเลือกตั้ง,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1324086 |
เสี่ยเต็นท์รถยิงนายทุนดับ หนีไปวัดจ่อขมับตัวเองหนีผิด ไม่ตายแต่สาหัส | เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 มีนาคม ร.ต.ท.หญิง ธัญญา อุดทอง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองสระแก้ว ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างสระแก้วว่า มีเหตุยิงตัวตายที่วัดลักกระสัง ต.สระขวัญ อ.เมือง จ.สระแก้ว จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ,บริเวณหน้าศาลา พบ นายวรโชติ ขวัญบุญ อายุ 53 ปี ชาว จ.สระแก้ว เจ้าของเต็นท์รถมือสอง ใช้อาวุธปืนลูกโม่ยิงตัวเองที่ขมับขวา ออกหน้าผากซ้าย อาการสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุ ยังพบรถเก๋งมิตซูบิชิ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กค 3260 สระแก้ว จอดอยู่,สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนที่ นายวรโชติ จะมาก่อเหตุยิงตัวเองสาหัส ได้ไปก่อเหตุยิง นายพงษ์ศักดิ์ อัตถนันท์ อายุ 58 ปี เจ้าของไฟแนนซ์ วีพีลิสซิ่ง จำกัด เสียชีวิต,โดย พ.ต.อ.ไพบูลย์ วังทะพันธุ์ อดีต รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ซึ่งเป็นญาติของ นายพงษ์ศักดิ์ ผู้ตาย เปิดเผยว่า วันนี้ตนเองได้นัดผู้ตายกับพวก จะไปดูที่ดินกัน โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายวรโชติได้เข้ามาคุยเรื่องธุรกิจ ซึ่งตนทราบว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาทางการเงิน จึงมาขอความช่วยเหลือผู้ตาย ได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว ระหว่างนั้นพยานบอกว่า ทั้งสองคนมีปากเสียงกัน ก่อนที่นายวรโชติ จะขอตัวกลับ แต่พอลุกขึ้นก็เอามือล้วงกระเป๋าสะพาย ยกปืนยิงเข้าที่ศีรษะด้านซ้ายของนายพงษ์ศักดิ์ กระสุนฝังใน ล้มลงจมกองเลือด ญาตินำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนนายวรโชติ หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป และมาทราบทีหลังว่า ได้ไปยิงตัวเองสาหัส ที่วัดลักกระสัง,เบื้องต้น อาการของนายวรโชติ ซึ่งยิงตัวเอง ยังโคม่า โดยภรรยาไม่ให้ข้อมูลใดๆ โดยบอกว่า หลังสามีก่อเหตุยิงแล้วโทรมาบอกเท่านั้น. | เสี่ยเต็นท์รถมือสอง เคลียร์ปัญหาการเงินนายทุนไม่สำเร็จ ชักปืนยิงดับ ก่อนขับรถไปวัด ใช้ปืนยิงตัวเอง หนีผิด กระสุนเข้าขมับขวา สาหัส | ข่าว,ทั่วไทย | เจ้าของเต็นท์รถ,ยิงกัน,เสี่ยเต็นท์รถยิงนายทุน,สระแก้ว,ฆ่าตัวตายหนีผิด | https://www.thairath.co.th/news/local/878477 |
เปิดใจ พี่คล้าวชัยนาท เจ้าของควายยิ้ม เผยเคล็ดลับความสุขจากวิถีพอเพียง | จากกรณีที่โลกโซเชียลแชร์ภาพ ,หนุ่มชัยนาทกับควายยิ้ม, ความสุขเรียบง่ายด้วยวิถีพอเพียง ซึ่งมียอดคนเข้ามากดถูกใจจำนวนมาก รวมถึงแสดงความคิดเห็นว่า น่ารัก ทะเล้น และตั้งฉายาให้เป็น พี่คล้าวแห่งจังหวัดชัยนาท นั้น ,ล่าสุด วันที่ 13 พ.ย.61 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ อายุ 34 ปี หนุ่มชัยนาทที่ถ่ายภาพกับควายยิ้ม ใน ต.สุขเดือนห้า อ.เนินขาม จ.ชัยนาท โดยพบว่าบริเวณที่อยู่อาศัยนั้นเป็นพื้นที่โล่ง มีการแบ่งพื้นที่ก่อสร้างเป็นคอกควาย เล้าไก่ สระน้ำ ปลูกข้าว ปลูกมันสำปะหลัง และโรงเรือนปลูกผัก,นายสุรัตน์ หรือ ,พี่คล้าวแห่งจังหวัดชัยนาท, เปิดเผยว่า ตนเรียนจบระดับชั้น ม.6 เคยเป็นอาสาผสมเทียมของปศุสัตว์ และประกอบอาชีพขายเสื้อผ้าแฟชั่นตามตลาดนัดกับภรรยา ต่อมาพ่อยกที่ดินให้จึงเริ่มทำเกษตรเชิงเดี่ยว คือ ทำไร่อ้อย สลับกับปลูกมันสำปะหลัง แต่เกิดภาวะขาดทุน จึงเปลี่ยนมาทำตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9,โดยปรับพื้นที่ของตัวเอง 8 ไร่ กับพื้นที่เช่า รวมกันประมาณ 30 ไร่ ทำเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกมันสำปะหลัง ปลูกกล้วย ทำนาข้าว เลี้ยงไก่ไข่ ไก่ชน ขุดบ่อไว้เลี้ยงปลา และใช้น้ำ สาเหตุที่นำควายเข้ามาเลี้ยงเนื่องจากต้องการลดการลดการใช้สารเคมีฆ่าหญ้า ลดการใช้เครื่องมือเครื่องจักตัดหญ้า เพราะควายกินหญ้าจะช่วยกำจัดวัชพืชได้ และยังได้ประโยชน์จากปุ๋ยคอกขี้ควาย เพื่อให้เป็นพื้นที่เกษตรอินทรีย์ จึงได้ไปขอควายจากโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริมา 2 ตัว ลักษณะเป็นควายแคระ ตั้งชื่อว่า ,ข้าวหอม, กับ ,เพิ่มพูน,,,นอกจากเลี้ยงเขาแล้ว ก็เล่นกับเขาทุกวัน เลี้ยงมาได้ปีกว่า ตอนนี้อายุได้ 2 ปีกว่า เข้าสู่วัยผสมพันธุ์ เลยต้องมีควายตัวผู้มาผสมพันธุ์ รวมกับควายตัวอื่นที่มีคนนำมาฝากเลี้ยงด้วย เป็นตัวเมีย 2 ตัวชื่อ ขวัญข้าว และ ถุงเงิน ส่วนตัวใหญ่เป็นตัวผู้ชื่อ ทองคำ เป็นควายที่เชื่อง สุภาพ เล่นกับเขาทุกวัน ทำให้เกิดความสนิทสนมกันสามารถขี่เขาได้ และความน่ารักตรงที่เจ้าทองคำชอบยิ้มแย้ม ชอบถ่ายรูป มีการเล่นกล้อง โดยเฉพาะช่วงเวลาบ่ายๆ กินอิ่ม และอาบน้ำสบายตัวแล้ว และข้าวหอมอีกตัวที่ชอบเล่น ขี้อ้อน ชอบเลียมือ เลียหน้า ชอบให้เกาคาง ทำให้รู้สึกรักและผูกพันกันมาก,,ข้าวหอม เป็นควายที่เชื่อง เด็กๆ สามารถขี่ได้ ส่วนตัวรู้สึกประทับใจเจ้าทองคำที่มาอยู่กับตนได้เพียง 3 วัน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเขาเชื่องเลย เหมือนเขารู้สึกได้ว่าเรามีจิตใจไม่โหดร้าย เขาเล่นด้วยเลย,,ผมมีความฝันอยากเลี้ยงควาย อยากขี่ควายอยู่แล้ว ยิ่งดีใจที่สานสัมพันธ์กับทองคำได้เร็วมาก ต่อไปในภายภาคหน้าก็ไม่คิดที่จะขาย จะอยู่ด้วยกันจนกว่าจะตายไปข้างหนึ่ง ส่วนในพื้นที่เพิ่งเริ่มดำเนินการตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงได้ 2 ปี ต่อไปมีแผนว่าจะลดพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง ปรับเปลี่ยนเป็นแปลงหญ้าอาหารสัตว์ ปลูกข้าวโพดหวานหมุนเวียน และนำต้นข้าวโพดมาบดให้ควายกิน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ปลูกข้าว โรงเรือนปลูกผักสลัด,,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,- | เปิดใจ พี่คล้าวแห่งชัยนาท เปิดตัว ทองคำ ควายยิ้ม นิสัยเชื่อง ชอบเล่นกล้อง พร้อมเผยเคล็ดลับความสุขเรียบง่าย จากการทำเกษตรแบบผสมผสานตามรอยพระราชดำริในหลวง ร.9 | ข่าว,สังคม | ควายยิ้ม,ชัยนาท,พี่คล้าว,เศรษฐกิจพอเพียง,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1420108 |
สถานการณ์หมอกควันน่านฟุ้งกระจาย ค่า PM พุ่ง 273 กระทบสุขภาพ ปชช. | เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพอากาศในพื้นที่ จังหวัดน่าน โดยเฉพาะ ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นในเขตติดต่อกับ สปป.ลาว ทำให้มีหมอกควันสะสมเป็นจำนวนมาก ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน พุ่งสูงถึง PM 273 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เกินค่ามาตรฐานที่ 120 ไมโครกรัม/ลุกบาศก์เมตร ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ติดต่อกันมา 6 วัน,ด้าน นายมานิต ธนะวงศ์ กลุ่มงานสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า สถานการณ์หมอกควันไฟป่าในพื้นที่จังหวัดน่าน ยังคงทวีความรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณชายแดนไทย-ลาว ด้านตำบลห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ทั่วท้องฟ้ามีหมอกควันสีเทาปกคลุมหนาแน่น หลังจากที่ ชาวบ้านทั้งได้มีการลักลอบเผาป่า ทั้งกลางวันและกลางคืน ทำให้ปัญหา หมอกควันสะสมเป็นจำนวนมาก ซึ่งสร้างความรุนแรงเรื่องหมอกควันช่วงหน้าแล้ง,ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ในเขตพื้นที่ อ.เมืองน่าน ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.ในเวียง พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่า 128 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ,นอกจากนี้ยังพบมีจุดเพิ่มในการเผาป่ามากขึ้นอีก 16 จุด ส่วนมากเพิ่มขึ้นในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติและป่าอนุรักษ์ตามด้วยพื้นที่ริม 2 ข้างทางหลวง ทำให้มลพิษทางอากาศเกินค่ามาตรฐานและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากยังพบมีการลักลอบเผาป่าในหลายพื้นที่ในจังหวัดน่าน,ส่วนในด้านของการบินยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องจากวิสัยทัศน์มองเห็นเกินกว่า 2 กิโลเมตร เครื่องบินโดยสารสามารถขึ้นลงได้ตามปกติ. | สถานการณ์หมอกควัน จ.น่าน พบค่าฝุ่นละอองในอากาศสูงกว่า PM 273 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนติดต่อกัน 6 วัน ทั้งนี้รุนแรงเป็นอย่างมากให้ช่วงหน้าแล้ง ล่าสุดพบเพิ่ม 16 จุดริมถนนทางหลวง ยันยังไม่กระทบทัศนวิสัยการบิน | ข่าว,ทั่วไทย | ไฟป่า,หมอกควัน,ไฟป่า น่าน,ชายแดนไทย-ลาว,ค่าฝุ่นละออง,คุณภาพอากาศ,สนามบินน่าน,หมอกควันหน้าแล้ง,มานิต ธนะวงศ์,สิ่งแวดล้อมฯ จ.น่าน,ข่าว,ข่าวสังคม,ข่าวทั่วไทย,ภูมิภาค,น่าน,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐ,ปัญหาไฟป่า,มลพิษ,ภาวะมลพิษ | https://www.thairath.co.th/news/local/607409 |
ด.ช.วัย 2 ขวบ ปู่รับกลับจาก ร.ร. เผลอไม่ถึง 10 นาที ตกสระจมน้ำตาย | เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 8 มิถุนายน 2559 ร.ต.ท.(หญิง) นฤมล บัวรำพึง ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองปราจีนบุรี ได้รับแจ้งว่ามีคนจมน้ำเสียชีวิต ที่บ้านห้วยเกษียร ตำบลเนินหอม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี จึงได้รุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวรจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร,ที่เกิดเหตุ พบศพ เด็กชายเอ (นามสมมติ) อายุ 2 ขวบ 6 เดือน ญาติได้นำร่างมาวางไว้ที่โต๊ะหน้าบ้าน สภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ริมฝีปากซีดจนเขียว ส่วนร่างกายยังอุ่นๆ กดที่หน้าอกมีฟองออกจากปาก ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าเสียชีวิตได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ที่เกิดเหตุเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ กว้าง 15 เมตร ยาว 30 เมตร น้ำลึกท่วมศีรษะ ทางญาติๆ พ่อและแม่ต่างร่ำไห้แทบขาดใจ เข้าโอบกอดคร่ำครวญ สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง,จากการสอบสวน ทราบว่า ปู่ของเด็กวัย 47 ปี เป็นคนเลี้ยงหลาน ได้ไปรับหลานมาจากโรงเรียน ซึ่งเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1 เด็กเล็ก ช่วง 3 โมงเย็น หลังจากกลับเข้าบ้านก็ได้เข้าครัวช่วยย่า เพื่อทำอาหาร ระหว่างสาละวนกับการทำอาหารอยู่ในครัว เพียงประมาณไม่ถึง 10 นาที หันไปมองหาหลานไม่เจอ จึงได้ตะโกนและออกเดินตามหา ทางด้านหลังบ้านซึ่งเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ มาพบรอยหญ้าล้มเป็นช่องจึงกระโดดน้ำลงไป พบร่างของหลานจึงรีบนำขึ้นมา พยายามช่วยชีวิต ผายปอดและปั๊มหัวใจ แต่ไม่สามารถช่วยได้เนื่องจากเด็กชายได้เสียชีวิตไปแล้ว. | เด็กชายวัย 2 ขวบ อนุบาล 1 จ.ปราจีนบุรี คุณปู่รับกลับจากโรงเรียน เผลอสาละวนทำอาหารอยู่ในครัวไม่ถึง 10 นาที หันหลังไปมองไม่เจอหลาน ตะโกนเรียกไม่ตอบ ก่อนพบรอยหญ้าข้างสระน้ำล้มเป็นช่องผิดสังเกต รีบกระโดดลงน้ำช่วยชีวิตแต่ไม่ทัน . | null | เด็กจมน้ำ,เด็ก2ขวบจมน้ำ,เด็กชายจมน้ำ,จมน้ำตาย,จมน้ำเสียชีวิต,วรรณภพ ปากแคว,เจ้าพระยาอภัยภูเบศร,จมน้ำ,ตกน้ำ,เนินหอม,ปราจีนบุรี,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/634879 |
นักวิชาการชี้ ฮาวายทริป-ครอบครัวน้องชาย ไม่ส่งผลรัฐบาล-คสช. | วันนี้(8 ต.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไม่เพียงแค่คำถามถึงความถูกต้องชอบธรรมกรณีคนในครอบครัว พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ทั้งประเด็นฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา และการรับงานของกองทัพภาคที่ 3 เท่านั้น แต่ยังมีข้อวิพากษ์วิจารณ์กรณีค่าใช้จ่ายที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เดินทางไปประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน-สหรัฐฯ เกือบ 21 ล้านบาท จนกลายเป็นข้อสังเกตว่าบริบทแวดล้อม พล.อ.ประยุทธ์ กำลังเป็นปมปัญหาถึงความเชื่อมั่นและการขับเคลื่อนของรัฐบาลและคสช.รศ.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง เชื่อว่าประชาชนเข้าใจและแยกแยะได้ระหว่างการบริหารงานในภาพรวม และความสัมพันธ์ส่วนตัวกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเปิดทางให้สังคมใช้กระบวนการตรวจสอบ จึงไม่ส่งผลต่อการขับเคลื่อนภารกิจใดๆ โดยเฉพาะการเดินตามโรดแมปที่วางไว้รศ.สมชาย กล่าวว่า สถานการณ์ที่สังคมโซเชียลเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และถูกใช้เป็นช่องทางวิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้ อาจมีบางประเด็นไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ดังนั้นรัฐบาล ควรชี้แจงและสร้างความเข้าใจกับสังคมโดยเร็ว รวมทั้งต้องป้องปรามไม่ให้เกิดเงื่อนไขที่จะทำให้ตกเป็นเป้าโจมตีทั้งนี้ประเด็นการตรวจสอบฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนาที่พาดพิงภรรยา พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และกรณีการรับงานก่อสร้างของกองทัพภาคที่ 3 ของบุตรชาย พล.อ.ปรีชา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการติดตามตรวจสอบของศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.)แล้ว ส่วนกรณีฮาวายทริปนั้นเบื้องต้นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สรุปไม่มีประเด็นข้อสงสัยการใช้จ่ายงบประมาณ แต่เพื่อคลี่คลายความสงสัยของสังคม ได้เตรียมส่งให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินพิจารณาอย่างรอบด้าน 10 ต.ค.นี้ | นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง เชื่อกรณีฮาวายทริปของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และกรณีครอบครัวของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ไม่ส่งผลรัฐบาล-คสช. | การเมือง | พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา,คสช.,ฮาวายทริป,รศ.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์,วิเคราะห์การเมือง,พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/256462 |
อร่อยและน่ารัก กล้วยแขกน้องกาวสาวนิติศาสตร์ หนุ่มๆ รอคิวซื้อ | วันที่ 29 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ริมถนนสายกำแพงเพชร-ท่าขุนราม หมู่ 1 ต.ท่าขุนราม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร มีร้านขายกล้วยแขกเป็นเพิงเล็กๆ แต่มีคนรอซื้อแน่นหน้าร้านตลอดเวลา ส่วนคนขายชื่อ น.ส.ศิโรรัตน์ หรือน้องกาว ปรุงเปลี่ยน อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 13 ต.นครชุม อ.เมืองกำแพงเพชร และคนทอดกล้วย ชื่อนางมาลี ปรุงเปลี่ยน อายุ 51 ปี เป็นแม่ของน้องกาว,ทั้งนี้ ร้านของน้องกาวมีทั้งกล้วยทอด เผือกทอด ฝักทองทอด เต้าหู้ทอด เป็นที่ขึ้นชื่อว่าร้านนี้อร่อยทุกอย่างจนทอดไม่ทันขาย ลูกค้าบางรายต้องสั่งไว้ก่อนแล้วค่อยกลับมารับ บางรายยอมยืนรอนั่งรอแม้จะเสียเวลาเกือบชั่วโมงก็ตาม โดยเฉพาะหนุ่มๆ มาเข้าคิวซื้อ พร้อมยืนดูน้องกาวไปด้วย เพราะความเป็นคนพูดเก่ง พูดเพราะ เอาใจลูกค้า จากการสังเกตดู แต่ละคนซื้อขั้นต่ำ 60 บาทไปจนถึง 100 บาท,สำหรับ น้องกาว เป็นเด็กสาวหน้าตาดีและคล่องแคล่วสมเป็นแม่ค้า ขณะนี้ศึกษาอยู่ชั้นปี 4 คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร กำลังฝึกงานที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.เมืองกำแพงเพชร และจะเรียนจบนิติศาสตร์ในปีนี้แล้ว,น้องกาว เปิดเผยว่า พ่อทิ้งไปตั้งแต่ตนอายุประมาณ 4 ขวบ แม่เป็นคนหาเลี้ยงคนเดียว ทำขนมต่างๆ ให้ตนเป็นขี่รถจักรยานวิ่งส่ง ช่วงที่อยู่ประถม ต้องช่วยแม่ทั้งทำและส่งขนม การบ้านก็เยอะเครียดจนเบลอ จำอะไรไม่ได้ไปหลายวัน แม่ต้องส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ต่อมาเมื่อ 8 ปีที่แล้วช่วงที่ตนเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แม่เริ่มมาทอดกล้วยแขก ส่วนตนไปโรงเรียนมาช่วยได้ช่วงเสาร์-อาทิตย์ จนกระทั่งจบชั้นมัธยม เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรจนเกือบจะจบแล้วตอนนี้ ซึ่งทุกวันที่ว่าง ไม่ได้ไปเรียน ตนจะมาช่วยแม่ทอดกล้วยขาย,อนาคตยากเป็นอัยการ หรือ ทนายความ แต่ก็จะไม่ลืม และไม่เลิกขายกล้วยทอดถ้าแม่ยังไม่เลิก เนื่องจากเป็นอาชีพที่ทำให้ตัวเราได้เรียนหนังสือจนจบ แต่ละวันต้องใช้กล้วยมากถึง 50 หวี ตกประมาณ 1,000 ลูก เผือก มันกับฟักทองอีกเกือบ 20 กิโลฯ โดยเริ่มทอดกล้วยตั้งแต่ 08.30 น. จนบ่าย 2 โมงเศษก็หมด มีรายได้ มีกำไรไม่เดือดร้อน แต่ถ้ามีงานทำก็อยากให้แม่เลิกเพราะเหนื่อยกับการส่งเสียลูกมานาน จะเป็นคนหาเลี้ยงแม่เอง ทุกวันนี้ลูกค้าจะเรียกว่า กล้วยแขกสาวนิติศาสตร์ ซึ่งรู้สึกภูมิใจ และไม่เคยอายใคร น้องกาว แม่ค้ากล้วยแขกกล่าว. | น้องกาว สาววัย 22 นศ.นิติศาสตร์ฯ หน้าตาสะสวยออกมาช่วยแม่ขายกล้วยแขกด้วยท่าทางคล่องแคล่ว หนุ่มๆ รุมซื้อ ยืนรอไปดูแม่ค้าไป บอกสงสารแม่ เพราะพ่อทิ้งไปตั้งแต่ 4 ขวบ ไม่เคยอายทำกิน หากไม่มีกล้วยแขกก็ไม่มีสาวนิติศาสตร์ในวันนี้ | ข่าว,ทั่วไทย | กล้วยแขก,นักศึกษาขายกล้วยแขก,นักศึกษานิติศาสตร์,น้องกาว,ศิโรรัตน์ ปรุงเปลี่ยน,รอซื้อกล้วยแขก,กำแพงเพชร,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์,กล้วยแขกนิติศาสตร์,เด็กนิติขายกล้วยแขก,กล้วยทอด | https://www.thairath.co.th/news/local/650599 |
ค่าโดยสารลดอานิสงส์จัดระเบียบ | . โดยให้ย้ายรถตู้ที่จอดบริเวณรอบ อนุสาวรีย์ที่มีทั้งหมด 4,205 คัน มาจอดและออกรถที่สถานีขนส่งที่ บขส. จัดไว้ให้จำนวน 3 แห่งคือ สถานีจตุจักร สถานีสายใต้ใหม่ และสถานีเอกมัย ว่า ขบ.จะเดินหน้าจัดระเบียบต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.นี้ รถตู้หมวด 2 ทุกคันจะต้องไปจอดและออกรถที่สถานีทั้ง 3 แห่งที่ บขส.จัดให้เท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อให้การประกอบธุรกิจรถโดยสารถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากกฎหมาย ขบ.ระบุให้รถสาธารณะทุกชนิดจะต้องออกรถจากสถานีขนส่งของ บขส.เท่านั้น ซึ่งอนุสาวรีย์ชัยฯไม่ใช่สถานีขนส่ง,ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายและ กำชับว่า การจัดระเบียบจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ เนื่องจากลงทุนทำธุรกิจไปแล้ว รวมทั้งต้องไม่ทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการเดือดร้อน ซึ่งตนได้สั่งการให้ ขบ.ดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยให้จัดรถเวียน หรือชัตเติ้ลบัส เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังระบบอื่นได้ เช่น จัดรถเชื่อมต่อจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) ไปยังรถไฟฟ้าบีทีเอส,นายออมสินกล่าวต่อว่า การจัดระเบียบรถตู้ครั้งนี้จะทำให้อัตราค่าโดยสารถูกลง เนื่องจากเมื่อรถตู้ไปจอดยังสถานีต่างๆที่จัดให้ จะทำให้ระยะทางจากต้นทางไปถึงปลายทางสั้นลง เพราะไม่ต้องวิ่งออกจากใจกลางเมืองบริเวณอนุสาวรีย์แล้ว โดยได้สั่งการให้ ขบ.ไปพิจารณาปรับลดอัตราค่าโดยสารรถตู้โดยสารแต่ละเส้นทางให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 25 ต.ค. รวมทั้งไป หารือร่วมกับผู้ประกอบการรถตู้ เพื่อแก้ไขปัญหาการวิ่งให้บริการทับซ้อน เส้นทางกันด้วย,นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดี ขบ. กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าจะมีการ ปรับลดอัตราค่าโดยสารรถตู้หมวด 2 จำนวนทั้งหมด 57 เส้นทาง ที่วิ่งออก ไปยังจังหวัดต่างๆ เช่น กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม อุทัยธานี ชัยนาท หัวหิน ระยอง ชลบุรี สิงห์บุรี อยุธยา เป็นต้น เพราะภายหลังจากการจัดระเบียบจะทำให้ระยะทางการวิ่งให้บริการสั้นลง ส่วนแต่ละเส้นทางจะปรับลดในอัตราเท่าไหร่จะต้องนำระยะทางใหม่ไปคำนวณเป็นอัตราค่าโดยสารใหม่ก่อน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน ส.ค.นี้ จากนั้นในเดือน ก.ย. จะเสนอให้,คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางพิจารณา เพื่อประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไปเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป. | นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะหมวด 2 ซึ่งวิ่งให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯและต่างจังหวัดในรัศมีไม่เกิน 300 กม | null | รถตู้,จัดระเบียบรถตู้,รถตู้โดยสารสาธารณะ,รถตู้โดยสาร,ย้ายจุดจอด,จุดจอดรถตู้,สถานีขนส่ง,บขส.,สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ,หมอชิต,จตุจักร,เศรษฐกิจ,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐฉบับพิมพ์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐ,ข่าว | https://www.thairath.co.th/content/688233 |
ปปง.โต้ สังศิต มั่วข้อมูลสินบนโรลส์-รอยซ์ ทำกระทบความเชื่อมั่นองค์กร | เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 60 ที่สำนักงาน ปปง. ออกแถลงการณ์ถึงสื่อมวลชน โดยมีข้อความระบุว่า พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการ ปปง. กล่าวตอบโต้กรณี นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบรามการฟอกเงิน ให้สัมภาษณ์ผ่านทางสถานีโทรทัศน์สปริงส์นิวส์ โดยระบุถึงคดีสินบนโรลส์-รอยซ์ กับการดำเนินงานของ ปปง.ว่า อาจส่งผลกระทบต่อการประเมินของแฟทเอฟ (FATF) ในเดือน พ.ค.นี้. และอาจส่งผลกระทบเป็นสึนามิทางเศรษฐกิจนั้นว่า ข้อมูลที่นายสังศิตระบุมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อองค์กร โดยเฉพาะประเด็นสถิติการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 1,200 ราย แต่ศาลให้เป็นไปตามคำขอแค่ 12 ราย ซึ่งไม่เป็นความจริงตามที่ นายสังศิต ระบุแต่อย่างใด เนื่องจากสถิติการยื่นคำร้องต่อศาล สำนักงาน ปปง. มีการยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 1,225 คดี ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 1,128 คดี คิดเป็นร้อยละ 92.08 ของคดีทั้งหมด และมีการนำเรื่องขึ้นสู่ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาจำนวน 21 คดี ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินตามคำร้องของสำนักงาน ปปง. จำนวน 18 คดี,ส่วนกรณีที่ นายสังศิต ระบุว่าการปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินนั้น สำนักงาน ปปง. ขอเรียนว่าองค์การสหประชาชาติไม่มีการลงนามในอนุสัญญาดังกล่าวแต่อย่างใด น่าจะเป็นการกล่าวโดยรวมอนุสัญญา 3 ฉบับ คือ อนุสัญญาสหประชาชาติที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด อนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ และอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ซึ่งอนุสัญญาทั้ง 3 ฉบับได้กำหนดให้นำมาตรการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมาใช้ เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมดังกล่าว มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในหัวข้อการสนทนากรณีสินบนโรลส์-รอยส์เป็นประเด็นเกี่ยวข้องกับอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ซึ่งกำหนดให้ประเทศสมาชิกใช้มาตรการในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อยับยั้ง และป้องกันการทุจริต รวมถึงการยึด อายัด และริบทรัพย์สินที่ได้จากการทุจริต ซึ่งทางสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว และสำนักงาน ปปง. ได้มีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ทั้งนี้สำนักงาน ปปง. ขอยืนยันว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สำนักงาน ปปง. ดำเนินการและประสานงานกับทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องกับคดีต่างๆ อย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด ภายใต้กรอบกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินอย่างเคร่งครัด ดังนั้น การดำเนินการทางคดีโดยเฉพาะคดีที่มีความสำคัญและอยู่ในความสนใจของประชาชนจึงอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดการดำเนินงานได้เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อรูปคดี,พล.ต.อ.ชัยยะ กล่าวอีกว่า สำหรับข้อแนะนำของคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน (Financial Action Task Force หรือ FATF แม้มิใช่ข้อบังคับให้ทุกประเทศต้องปฏิบัติตาม แต่ข้อแนะนำของ FATF คือ มาตรฐานสากล หรือ แนวทางการปฏิบัติที่ดีที่นานาประเทศนำมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของมาตรการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย โดยครอบคลุมถึงมาตรการทั้งเชิงป้องกันและปราบปราม โดยอาศัยความร่วมมือของหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดผลสำเร็จ แม้ว่าข้อแนะนำ FATF จะไม่มีสถานะเป็นอนุสัญญา และไม่มีสภาพบังคับในทางกฎหมายระหว่างประเทศ แต่เป็นข้อแนะนำที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลกว่า 180 ประเทศ ซึ่งมีการนำมาตรฐานสากลนี้มาปฏิบัติ อีกทั้ง มีสภาพบังคับทางอ้อมโดยผ่านกระบวนการประเมินผลการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลของสมาชิก FATF หรือกลุ่มเครือข่ายต่อต้านการฟอกเงินของ FATF ซึ่งรวมถึงกลุ่มความร่วมมือเพื่อต่อต้านการฟอกเงินเอเชียแปซิฟิก (Asia Pacific Group on Money Laundering - APG) ที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกอยู่ อย่างไรก็ตาม หากประเมินแล้วพบว่า ประเทศสมาชิกมีข้อบกพร่องจำนวนมากในการปฏิบัติตามมาตรการด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เช่น กฎหมายที่มีอยู่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล การกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิผล และไม่มีการประสานความร่วมมือกับต่างประเทศอย่างเพียงพอ อาจส่งผลให้ประเทศนั้นถูกกำหนดรายชื่อเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงด้านการฟอกเงิน | เลขาธิการ ปปง. แถลงการณ์โต้ สังศิต พิริยะรังสรรค์ ไม่รู้จริง คดีสินบนโรลส์-รอยซ์ ชี้ ข้อมูลคลาดเคลื่อนทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นองค์กร พร้อมยืนยัน ปปง.ทำคดีใกล้ชิดตลอด | null | โรลส์-รอยซ์,คดีสินบนโรลส์-รอยซ์,สังศิต พิริยะรังสรรค์,เลขาธิการปปง.,ปปง. | https://www.thairath.co.th/content/854429 |
ตำรวจจี้รับเหมารถไฟฟ้าสายสีชมพู เร่งคืนผิวจราจร-แก้รถติดแจ้งวัฒนะ | พ.ต.ท.สถิตย์ วงศ์กัณหา รอง ผกก.จร.สน.ทุ่งสองห้อง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนแจ้งวัฒนะ จากผลกระทบโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ว่า หลังจากมีการประชุมหารือไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู อยู่ระหว่างเร่งปรับพื้นที่ภายในไซต์ก่อสร้างบริเวณเกาะกลาง สำหรับให้รถบรรทุกคอนกรีตเข้าไปจอดด้านใน เพื่อไม่ให้กีดขวางการสัญจรของประชาชน เมื่อก่อสร้างเสาตอม่อทางวิ่งรถฟ้าและสถานีเสร็จแล้วจะขยับแบริเออร์เข้าเพื่อคืนผิวจราจรให้รถวิ่งได้จำนวน 2 ช่องทางที่กว้างขึ้น จะช่วยแก้ไขปัญหาคอขวดบริเวณเชิงทางลงสะพานข้ามแยกศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะฝั่งขาเข้า อย่างไรก็ตาม ได้เสนอแนะผู้รับเหมาให้รถบรรทุกคอนกรีตสลับมาส่งฝั่งออก เพื่อลดผลกระทบการจราจรเชิงทางลงสะพานข้ามแยกศูนย์ราชการอีกทางหนึ่งพ.ต.ท.สถิตย์กล่าวว่า การก่อสร้างสถานีศูนย์ราชการฯ อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าสถานีอื่นๆ เนื่องจากมีขนาดใหญ่และมีทางขึ้นลงสถานีหลายจุดเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะมาใช้บริเวณจากหลายทิศทางที่มาติดต่อศูนย์ราชการฯ รวมถึงประชาชนที่อาศัยในพื้นที่หลักสี่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจราจรจนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ ระหว่างนี้ขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางหรือหากจำเป็นต้องใช้เส้นทางดังกล่าว ขอให้เผื่อเวลาในการเดินทางและปฏิบัติตามป้าย เครื่องหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรได้ระดับหนึ่ง. | ความคืบหน้าการติดตามแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนแจ้งวัฒนะ จากผลกระทบโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี | ข่าว,ทั่วไทย | ถนนแจ้งวัฒนะ,สายสีชมพู,สร้างรถไฟฟ้า,โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู,แก้ปัญหารถติดแจ้งวัฒนะ,ศูนย์ราชการ,ข่าววันนี้ | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1792109 |
กรวีร์ ลาออกจากเลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ หวั่นขัดระเบียบ ป.ป.ช. | วันนี้ (8 เม.ย.2563) นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ประกาศลาออกจาก ตำแหน่งเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ด้วยเหตุผลกลัวจะขัดระเบียบใหม่ของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า จากการประชุมสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย แบบวิดิโอคอนเฟอเรนซ์ เมื่อวานที่ผ่านมา นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล เลขาธิการสมาคม ได้แจ้งต่อสภากรรมการว่าจะขอลาออกจากการเป็นเลขาธิการสมาคมฯ โดยให้เหตุผลใน 2 ประเด็นหลักข้อแรกคือ จากการที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ออกระเบียบข้อบังคับขึ้นมาใหม่ เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะไม่สามารถลงนามเพื่อของบจากรัฐบาลได้ ซึ่งสมาคมกีฬาฟุตบอลเมื่อของบสนับสนุนจากภาครัฐ เลขาธิการสมาคมจะต้องเซ็นลงนามทุกครั้ง และปัจจุบัน นายกรวีร์ ดำรงค์ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.อ่างทอง ด้วย จึงขอลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการสมาคมฟุตบอลเพื่อไม่ให้ขัดกับข้อบังคับของ ป.ป.ช.ข้อสอง ปัจจุบัน นายกรวีร์ อยู่ในตำแหน่งรักษาการเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอล หลังจากสภากรรมการยุคพล.ต.อ.สมยศ 1 หมดวาระไปเมื่อวันที่ 12 ก.พ.และเมื่อมีการเลือกตั้งสภากรรมการชุดใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตำแหน่งเลขาธิการสมาคมซึ่งเป็นตำแหน่งอัตราจ้าง จำเป็นจะต้องลาออกก่อน เพื่อให้สภากรรมการแต่งตั้งเลขาธิการคนใหม่อย่างไรก็ตามพล.ต.อ.สมยศ ยืนยันว่า นายกรวีร์ จะยังคงทำหน้าที่ รองประธานบริษัทไทยลีกต่อไป เนื่องจากไม่ใช่หน่วยงานรัฐ รวมถึงยังคงเป็นกำลังหลักของสมาคมกีฬาฟุตบอลอยู่เบื้องต้น พล.ต.อ.สมยศ ได้แต่งตั้ง นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ มาทำหน้าที่รักษาการเลขาธิการเป็นการชั่วคราว ก่อนจะสรรหาผู้ที่เหมาะสมก่อนแต่งตั้งอย่างเป็นทางการต่อไป | กรวีร์ ลาออกจากเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอล หวั่นขัดระเบียบใหม่ ป.ป.ช. ที่ไม่ให้ผู้เป็นนักการเมือง ของบจากรัฐบาล ขณะที่เจ้าตัวเป็น ส.ส.อ่างทอง ด้วย | กีฬา | กรวีร์ลาออก,สมาคมกีฬาฟุตบอล | https://news.thaipbs.or.th/content/290857 |
TCIJ: ชาวอุบลฯ พบผู้ว่าฯ ค้านเปิดช่องเอกชนขนเครื่องจักรสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล | การขนเครื่องจักรเข้าพื้นที่ต้องยื่นเรื่อง สืบเนื่องจากกรณีที่ชาวบ้านใน ต.ท่าช้าง และต.บุ่งมะแลง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี ได้รวมตัวกันคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัทบัวสมหมายไบโอแมส จำกัดซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 17 บ้านคำสร้างไชย ต.ท่าช้าง มาตั้งแต่ปี 2551 เนื่องจากมีการทำประชาคมที่ไม่โปร่งใส และกังวลว่าจะเกิดผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้าน วานนี้ (21 ก.ค.2554) เวลา 10.00 น.ชาวบ้านหมู่ที่ 3 บ้านใหม่สารภี หมู่ที่ 12 บ้านคำนกเปล้า หมู่ที่ 17 บ้านคำสร้างไชย ต.ท่าช้าง หมู่ที่ 9 บ้านโนนเจริญ และหมู่ที่ 11 บ้านหนองเลิงนา ต.บุ่งมะแลง รวมกว่า 20 คน เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อคัดค้านการขออนุญาตขนย้ายเครื่องอุปกรณ์การก่อสร้างและเครื่องจักรเข้าพื้นที่ของบริษัทบัวสมหมายฯ โดยชาวบ้านได้ถือป้ายข้อความว่า หยุดโรงไฟฟ้า คืนน้ำให้ชุมชน คืนชีวิตให้คน เพื่อบอกเล่าถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น นางทองคับ มาดาสิทธิ์ แกนนำชาวบ้านให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับการบอกเล่าจากองค์การบริหารส่วนตำบลท่าช้างว่า บริษัทบัวสมหมาย ได้ยื่นขออนุญาตนำเครื่องอุปกรณ์การก่อสร้างและเครื่องจักรเข้าพื้นที่โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าของบริษัทฯ แต่ทาง อบต.ท่าช้างได้แจ้งแก่ตัวแทนบริษัทฯ ว่าอำนาจการให้อนุญาตอยู่ที่จังหวัด และขอให้บริษัทฯ ยื่นขอต่อจังหวัดอุบลราชธานี ดังนั้นชาวบ้านจึงได้เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดเพื่อคัดค้านไม่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ อนุญาตให้บริษัทขนเครื่องจักรเข้าไปในพื้นที่ เนื่องจากตอนนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบและหาแนวทางแก้ไขโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยังไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด นางทองคับกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันทางบริษัทได้พยายามเดินหน้าโครงการต่อ ด้วยการปรับพื้นที่และทำการขุดสระน้ำขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 15 ไร่ มีความลึกกว่า 20 เมตร ทำให้ชาวบ้านต้องประสบปัญหาน้ำไม่พอใช้ในการทำข้าวนาปรัง จนผลผลิตที่ได้ลดลงจากปีที่แล้วเป็นจำนวนมาก เกิดการแย่งชิงน้ำในการทำนา เนื่องจากน้ำใต้ดินที่ชาวบ้านใช้ไหลไปรวมที่บ่อน้ำของบริษัท ทำให้หนองธรรมชาติ และบ่อน้ำของชาวบ้านที่ขุดไว้เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ทำการเกษตรและอุปโภคบริโภคมีปริมาณน้ำลดน้อยลงมาก ทั้งที่ดูจากสถิตปริมาณน้ำฝนแล้วพบว่า ปีนี้มีฝนตกมากกว่าปีที่แล้ว แต่น้ำในหนองและบ่อของชาวบ้านกลับมีน้ำน้อยมากเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่บ่อน้ำของบริษัทมีน้ำอยู่เต็มบ่อ อีกทั้งช่วงที่ฝนตกหนักยังทำให้ดินที่บริษัทถมที่ไหลลงไปที่นาของชาวบ้าน และไหลลงหนองน้ำธรรมชาติที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ ซึ่งทางชาวบ้านก็ได้เสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ว่าชาวบ้านเดือดร้อนอย่างไรบ้าง หลังจากชาวบ้านรอหน้าศาลากลางประมาณ 30 นาที นายประวัติ รัฐิรมย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดได้ลงมาสอบถามชาวบ้าน และเมื่อทราบวัตถุประสงค์ของชาวบ้านแล้วจึงได้ประสานให้นายสมชาย เสงี่ยมศักดิ์ อุตสาหกรรมจังหวัดอุบลราชธานี มาร่วมพูดคุยกับชาวบ้าน นายสมชายได้กล่าวกับชาวบ้านว่า ตอนนี้บริษัทบัวสมหมายฯ ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าได้ เนื่องจากคณะกรรมการแก้ไขปัญหาซึ่งแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ระงับและยุติการก่อสร้างเอาไว้ก่อน ส่วนการขนย้ายเครื่องจักรเข้าในพื้นที่นั้น ทาง อบต.ต้องส่งหนังสือมาที่จังหวัดเพื่อนำเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งจะขอความคิดเห็นของอุตสาหกรรมจังหวัดประกอบการตัดสินใจ ชาวบ้านได้ร้องขอทราบข้อมูลต่อมาว่าทาง อบต.ท่าช้าง ได้ส่งเรื่องดังกล่าวเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วหรือยัง ซึ่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ยืนยันว่าตอนนี้ทางจังหวัดยังไม่ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด และจะพิจารณาเรื่องที่ชาวบ้านร้องเรียนประกอบการตัดสินใจอย่างแน่นอน ด้านนางศิริภัสร สิทธิสา แกนนำชาวบ้านกล่าวว่า เมื่อรู้ว่าบริษัทบัวสมหมายฯ ยังไม่สามารถขนเครื่องจักรเข้าในพื้นที่ได้ก็รู้สึกสบายใจขึ้น อย่างไรก็ตามชาวบ้านก็ยังคงต้องติดตามการแก้ไขปัญหาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป และหากเป็นไปได้ตนก็อยากให้หน่วยงานมีอำนาจในการอนุมัติเดินทางลงไปตรวจสอบความจริงที่ว่าชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เพื่อที่จะได้ยกเลิกการอนุญาตก่อสร้างโรงไฟฟ้าของบริษัทบัวสมหมายฯ | แฉ บ.บัวสมหมายหวังเดินหน้าโครงการต่อ ขุดบ่อน้ำขนาดยักษ์ 15 ไร่ ทำชาวบ้านขาดแคลนน้ำใต้ดิน ข้าวนาปรังเสียหาย ร้องผู้ว่าฯ ส่งคนลงสอบความเดือดร้อน ด้าน อก.จังหวัดชี้ ครม.มีมติระงับก่อสร้าง | คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,สิ่งแวดล้อม,สังคม | ชาวบ้านคำสร้างไชย,บริษัทบัวสมหมายไบโอแมส จำกัด,โรงไฟฟ้าชีวมวล | https://prachatai.com/journal/2011/07/36134 |
ชื่อของไวรัส โคโรนา มาจากดวงอาทิตย์ ? | วันนี้ (11 มี.ค.2563) เฟซบุ๊ก ได้เผยแพร่บทความ ระบุว่า ทุกวันนี้ไม่มีใครไม่รู้จักกับ แต่ทราบไหมว่าแท้จริงแล้วที่มาของชื่อนั้น มาจาก เมื่อมองไวรัสผ่านกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน พบว่ามีลักษณะคล้ายกับบรรยากาศชั้นโคโรนา ซึ่งเป็นชั้นบรรยากาศนอกสุดของดวงอาทิตย์ ลักษณะปุ่มยื่นออกมาของไวรัส (viral spike (S) peplomers) เป็นโปรตีนที่กระจุกตัวอยู่บนผิวไวรัส ทำหน้าที่เป็นตัวกำหนดการตอบสนองของโฮสต์ (host tropism) ซึ่งคำว่าcorona ในภาษาละติน แปลว่า มงกุฎ หรือ รัศมีโคโรนา บรรยากาศชั้นนอกสุดของดวงอาทิตย์ชั้นโคโรนา (Corona) เป็นบรรยากาศชั้นนอกสุดของดวงอาทิตย์ ประกอบด้วยอนุภาคพลังงานสูงที่แผ่ออกมาจากดวงอาทิตย์ มีความสว่างเพียง หนึ่งในล้านส่วน ของชั้นโฟโตสเฟียร์ (Photosphere) ซึ่งเป็นชั้นที่ดวงอาทิตย์เปล่งแสงสว่างออกมา อย่างไรก็ตาม ชั่วขณะหนึ่งระหว่างเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง ชั้นโฟโตสเฟียร์ของดวงอาทิตย์จะถูกบดบัง ทำให้เราสามารถสังเกตเห็นชั้นโคโรนาสว่างไสวออกมาโดยรอบเงาสุริยุปราคาได้ด้วยตาเปล่า ดุจดั่งมีมงกุฎอยู่รอบๆ อันเป็นที่มาของชื่อโคโรนาโคโรนา มีความหนาแน่นเพียง หนึ่งในล้านล้านส่วน เมื่อเทียบกับแก๊สที่อยู่ภายในดวงอาทิตย์ แต่กลับมีความร้อนสูงถึง 1-3 ล้านเคลวิน ซึ่งร้อนกว่าชั้นโฟโตสเฟียร์ที่มีอุณหภูมิเพียง 5800 เคลวิน โดยเหตุที่โคโรนามีอุณหภูมิสูงขนาดนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในวงการดาราศาสตร์ แต่คาดว่ามีความเกี่ยวข้องกับสนามแม่เหล็กบนพื้นผิวบนดวงอาทิตย์ ส่งผลให้โคโรนากำลังสูญเสียมวลสารออกไปอย่างต่อเนื่อง กลายมาเป็นลมสุริยะจากภาพ : | สดร. เผยแพร่บทความ ระบุว่า ชื่อ โคโรนา มาจากชื่อของชั้นโคโรนาของดวงอาทิตย์ ซึ่งเมื่อมองไวรัสผ่านกล้องจุลทรรศ์อิเล็กตรอนแล้ว จะพบลักษณะปุ่มยื่นออกมาคล้ายชั้นบรรยากาศนอกสุดของดวงอาทิตย์ โดย corona ในภาษาละติน แปลว่า มงกุฎ หรือ รัศมี | วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี | COVID-19,COVID19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,โคโรนา,ดวงอาทิตย์,สดร. | https://news.thaipbs.or.th/content/289709 |
ครอบครัว น้องแมงปอ ร้องกองปราบเร่งทำคดีชนแล้วหนี | วันนี้ (15 มิ.ย.63) ครอบครัวของ ด.ญ.สิริรัตน์ สะโนนอก หรือ น้องแมงปอ อายุ 7 ขวบ พร้อมนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความนำหลักฐานมายื่นให้กับตำรวจกองบังคับการปราบปราม ภายหลัง ด.ญ.สิริรัตน์เสียชีวิตจากอุบัติเหตุถูกรถกระบะชนท้าย ขณะซ้อนจักรยานนางจอม ทัพทิม ซึ่งเป็นยายได้ขี่จักรยานกลับบ้านพักในพื้นที่บริเวณถนนบ้านโว้งบ่อ ต.นาเชิงคีรี อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย โดยภาพวงจรปิดบันทึก ช่วงเวลาเกิดเหตุได้ประมาณ 18.50 นาที ของวันที่ 22 ก.พ.2563ยายของเด็กหญิงที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นมานานกว่า 3 เดือนแล้ว จนถึงขณะนี้คดีไม่มีความคืบหน้า พนักงานสอบสวน สภ.คีรีมาศ เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ระบุว่า จะไม่สามารถสืบสวนติดตามรถกระทบที่ชนได้เพราะรถกระบะคันก่อเหตุไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนและขณะเกิดเหตุ คนขับรถกระบะก็ไม่ได้ลงจากรถเพื่อดูเหตุการณ์ หรือพาไปส่งโรงพยาบาลจึงเดินทางมายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม ให้ช่วยเร่งรัดคดีและให้ความเป็นธรรม เนื่องจากตอนนี้ขาขวาที่ถูกรถกระบะคันก่อเหตุชนทำให้เดินไม่คล่องแคล่วเหมือนก่อน ประกอบกับเวลาผ่านมา 3 เดือนกว่า กลัวว่าหลักฐานอาจถูกปรับเปลี่ยน ทำให้ยากต่อการสืบสวน | ครอบครัวเด็กหญิงวัย 7 ขวบถูกรถกระบะชนเสียชีวิต ใน จ.สุโขทัย นำหลักฐานร้องกองปราบปรามขอให้เร่งรัดคดี หลังจากคู่กรณีชนแล้วหนีและคดีไม่มีความคืบหน้าโดยเกรงว่าผู้ก่อเหตุจะไม่ถูกดำเนินคดี | อาชญากรรม | สุโขทัย,รถชน,ชยแล้วหนี,คีรีมาศ | https://news.thaipbs.or.th/content/293618 |
แก้วมังกรผลสีเหลือง หวานอร่อยราคาดี | ทุกๆสายพันธุ์เนื้อในจะมีรสชาติหวานหอมแบบเฉพาะตัว แตกต่างจากเนื้อสุกของแก้วมังกรสายพันธุ์อื่น โดยเฉพาะ แก้วมังกรผลสีเหลือง ของประเทศอิสราเอล ที่เนื้อในเป็นสีขาว จะมีรสชาติหวานหอมเหมือนกินหวานเย็น รับประทานอร่อยมาก คุณบุญลือ สุขเกษม เจ้าของสวน บุญบันดาล มีปลูกไว้ในไร่จำนวนหนึ่ง ให้ผลผลิตดียิ่ง ตลาดผลไม้ทั่วไปมีความต้องการสูงและราคาขายดีมาก,แก้วมังกรผลสีเหลือง เป็นไม้ในสกุล ไฮโลซีรีอัส เป็นพืชในตระกูลกระบองเพชรชนิดหนึ่งที่มีลำต้นเลื้อยได้ไกลประมาณ 3-5 เมตร ลำต้นมีลักษณะเป็นแฉก 3 แฉก มีหนาม มีราก 2 แบบ คือ รากลงดินและมีรากอากาศสำหรับเป็นมือเกาะสิ่งที่พาดพัน ดอกเป็นรูปกรวยขนาดใหญ่ ออกตามซอกหนามของลำต้น ดอกเป็นสีขาวและดอกจะบานเฉพาะตอนกลางคืนเพียงคืนเดียวแล้วจะร่วง จากนั้นจะติดผลเป็นรูปกลมรีหรือรียาวแล้วแต่สายพันธุ์ ผลโตเต็มที่มีน้ำหนักเกือบ 1 กิโลกรัมต่อผล หรือ 1 กิโลกรัมต่อผล เปลือกผลเป็นสีเหลืองสด ครีบเป็นสีเขียวดูสวยงามมากตามภาพประกอบคอลัมน์ เนื้อในสุกเป็นสีขาว มีเมล็ดขนาดเล็กเป็นสีดำจำนวนมากกระจายทั่ว รสชาติหวานหอมรับประทานอร่อยยิ่งนัก มีดอกและติดผลช่วงเดือนมิถุนายนต่อเนื่องไปจนถึงผลแก่หรือสุกเดือนตุลาคมของทุกปี ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำต้น ปลูกได้ในดินทั่วไป เหมาะจะปลูกเพื่อเก็บผลกินในครัวเรือนหรือเก็บผลขายได้ราคาดีและคุ้มค่ามาก,ใคร ต้องการกิ่งตอนแท้ ติดต่อ คุณศศิธร สุขเกษม 5/2 หมู่ 2 ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โทร.08-4772-6443, 08-6618-1453 หรือไปซื้อที่งานมหัศจรรย์พันธุ์ไม้ ห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว กทม. วันที่ 7-10 ก.ย.60 และที่งานวันสต็อปช็อปปิ้งเอ็กซ์โป อิมแพค เมืองทองธานี ฮอลล์ 1-4 วันที่ 14-22 ต.ค.60 ราคาสอบถามกันเองครับ.,นายเกษตร | แก้วมังกรชนิดนี้ มีถิ่นกำเนิดจาก ประเทศอิสราเอล ถูกนำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์ในประเทศไทยบ้านเรานานหลายปีแล้ว ซึ่งแก้วมังกรของประเทศอิสราเอลจะมีหลายสายพันธุ์ คือมีทั้งเนื้อในเป็นสีแดงเข้ม สีชมพู และสีขาว | ข่าว,ทั่วไทย | เกษตรกรบนแผ่นกระดาษ,นายเกษตร,แก้วมังกรผลสีเหลือง,บุญลือ สุขเกษม,ผลไม้,เกษตร | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1055484 |
ปารีณา ขอ ม็อบเยาวชนใจเย็น รธน.กำลังแก้อยู่-จี้ ผบ.ตร. แจงคดี บอส | วันที่ 29 ก.ค. น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊ก ปารีณา ไกรคุปต์ ขอ น้องเยาวชน ใจเย็น รธน.กำลังแก้อยู่ในสภา อย่าอ่านโซเชียล หรือฟังครูบางคนมากเกินไป แล้วพี่เอ๋จะเต้น tiktok ให้ดูอีกนะจ๊ะ พร้อมออกมา จี้ ผบ.ตร. แจงคดี บอสเมื่อพี่วันสามารถตอบคำถามสังคมได้ จักรทิพย์ก็ควรจะออกมาตอบคำถามสังคมด้วย เพื่อจะได้เกษียณอย่างสง่างามส่วนเรื่องการพาดพิงครอบครัวพี่วันต้องทำใจเพราะพี่วันเป็นคนของประชาชน และมีชื่อเสียง จะทำอะไรจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เสมอ ก็จะพยายามไม่แวะไปบ่อยค่ะอะไรก็ตามแต่ ต้องขอร้องฝ่ายค้านและผู้ไม่ประสงค์ดีว่าเวลามีข้อสงสัยในประเทศก็อย่ามาโยงพลเอกประยุทธ์ งานท่านเยอะมาก ให้ท่านทำงาน วันนี้แก้โควิดได้แล้ว ต้องแก้เศรษฐกิจต่อ ส่วนรัฐธรรมนูญ กำ ลัง แก้อยู่ ใน สภา นะจ๊ะน้องๆเยาวชนจ๋า อย่าไปอ่านโซเชียลหรือฟังครูบางคนในโรงเรียนมากจนเกินไปนะจ๊ะ แล้วพี่เอ๋จะเต้น tiktok ให้ดูอีกนะจ๊ะ | ปารีณา โพสต์เฟซ จี้ ผบ.ตร.ออกมา แจง คดีบอส อยู่วิทยา ขอน้องเยาวชนใจเย็น รธน.กำลังแก้อยู่ในสภา ขออย่าฟังบางคนมากเกินไป แล้วพี่เอ๋จะเต้น tiktok ให้ดูอีก | ข่าว,การเมือง | ปารีณา ไกรคุปต์,พลังประชารัฐ,จักรทิพย์ ชัยจินดา,แก้รัฐธรรมนูญ,ม็อบเยาวชน,บอส อยู่วิทยา,ส.ส.ราชบุรี พปชร.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1899067 |
ศาลให้ประกัน เชาวรินธร์ ยักยอก11ล. บริษัทเขมร หลังสั่งจำคุก | ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ก.ย. ศาลอ่านคำพิพากษาคดีฉ้อโกงทรัพย์หมายเลขดำ อ.638/2558 ที่ พนักงานอัยการคดีอาญา 10 และบริษัท บีพีซี เทรดดิ้ง จำกัด ประเทศกัมพูชา เป็นโจทก์และโจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักดิ์ศิริ อายุ 70 ปี อดีต รมช.ศึกษาฯ เป็นจำเลย ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์,ทั้งนี้ กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 6-9 พ.ค.57 จำเลยกับพวกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลใบสำคัญเก็บสินค้าเสียใหม่เป็นว่า ให้บริษัท บีพีซี เทรดดิ้ง จำกัด ประเทศกัมพูชาโอนเงินค่าซื้อปูนซีเมนต์ ของบริษัท ทีพีไอ โพลีน พลับบลิก จก.ประเทศไทย จำนวน 352,781 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทย 11,428.308 บาท ผ่านเข้าบัญชีเงินฝาก ธนาคารกรุงไทย สาขารัฐสภา ของพวกจำเลยโดยทุจริต,จำเลยปฏิเสธสู้คดี ศาลพิเคราะห์ แล้วเห็นว่า ลักษณะการกระทำของจำเลยตามฟ้อง โจทก์ไม่มีพยาน ยืนยันว่าจำเลยแก้ไขข้อมูลทางบัญชี จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย และการกระทำของจำเลยยังไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกง แต่พฤติการณ์ที่จำเลยเบิกเงินกว่า 11 ล้านบาทจากบัญชีที่บริษัทกัมพูชา โจทก์ร่วมโอน ผิด โดยไม่ยอมคืนเงิน แต่โอนเงินแยกบัญชีให้ตัวเองและเจ้าหนี้ แสดงให้เห็นเจตนาไม่สุจริต ซึ่งการกระทำนั้นเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ศาลจึงพิพากษาให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน และให้คืนเงินทั้งหมดแก่โจทก์ร่วม,ต่อมา พ.ต.อรรคริน ลัทธศักดิ์ศิริ บุตรชายจำเลย ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เดิมเป็นตำแหน่งของพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สำนักคดีความมั่นคง มูลค่า 667,800 บาทเศษ พร้อมเงินสดอีก 400,000 บาท รวมมูลค่า 1 ล้านบาทเศษ ขอปล่อยตัวชั่วคราว ร.ต.ท.เชาวรินธร์ จำเลย โดยศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัว โดยตีราคาประกัน 1,067,800 บาท,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ได้รับการประกันตัว ก็ได้พากันเดินทางกลับทันที. | ส.ส.สากกะเบือ ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักดิ์ศิริอดีตรมช.ศึกษาฯ ศาลพิพากษาคดีที่ถูกฟ้องเป็นจำเลยร่วมกันโกงบริษัทกัมพูชา เปลี่ยนข้อมูลหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชี จำคุก1 ปี 6 เดือน ให้คืนเงินทั้งหมดแก่โจทก์ ล่าสุดศาลให้ประกัน | null | จำคุกเชาวรินธร์,เชาวรินธร์ ลัทธศักดิ์ศิริ,ส.ส.สากกะเบือ,จำคุก1ปี6เดือน,ยักยอกบริษัทเขมร,ยักยอก11ล้าน | https://www.thairath.co.th/content/735701 |
รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตร.แถลงจับสาวยิงปืนขึ้นฟ้า คึกคะนองรับปีใหม่ อ้างเห็นคนอื่นทำ | จากกรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปและวิจารณ์ถึงพฤติกรรมของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่ได้ยิงปืนขึ้นฟ้าในคืนวันฉลองเข้าสู่ปีใหม่ โดยในคลิปจะเห็นเธอยื่นปืนพกออกไปนอกหน้าต่าง และได้ยินเสียงของผู้ชายนับถอยหลังให้ ก่อนที่จะยิงปืนรัว 4 นัด พร้อมกับหันมายิ้มอย่างภูมิใจ,หญิงสาวได้โพสต์คลิปขณะยิงปืนผ่านเฟซบุ๊ก และเขียนข้อความว่า หนวกหูสักนิดไหม แฮปปี้นิวเยียร์ ต่อมามีการแชร์ภาพผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเข้าไปพิมพ์ถามหญิงสาวในคลิปว่า ใช่คนที่ยิงหรือเปล่าครับ จะถามว่าที่ยิงไป มันไปตกที่ไหน ปรากฏว่าหญิงสาวตอบว่า ตกทุ่งนาค่ะ มีอะไรเหรอ ทำอะไรรู้ค่ะ ถูกกฏหมายค่ะ จนกระทั่งเพจดังต่างๆ นำคลิปไปแชร์ต่อจนกลายเป็นที่วิจารณ์ไปทั่ว ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยและเรียกร้องให้ตำรวจเอาผิดกับหญิงสาวรายนี้,ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (2 ม.ค.60) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว น.ส.สุดารัตน์ สุขแสงจันทร์ อายุ 23 ปี นักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ผู้ต้องหาการยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อฉลองปีใหม่ ที่ปรากฎในคลิปวิดีโอ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.สายไหม โดย พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นผู้รับตัวพร้อมกับสอบปากคำ ซึ่งทาง น.ส.สุดารัตน์ ได้กล่าวขอโทษ ที่ทำให้สังคมตื่นตระหนก พร้อมอ้างว่าทำไปด้วยความคึกคะนอง และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เนื่องจากคิดว่าเป็นประเพณีต้อนรับปีใหม่ ที่ผ่านมาพบเห็นผู้คนที่พักอยู่ละแวกใกล้เคียงทำอยู่บ่อยครั้ง,พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า การยิงปืนขึ้นฟ้า มีความผิดฐานยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ซึ่งมีโทษ จำคุก 10 วัน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท ส่วนปืนจากการสอบสวนทราบว่าเป็นของพี่ชาย จึงอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดข้อใดหรือไม่ จึงฝากเตือนประชาชนที่มีพฤติกรรมต่างๆ ให้คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น | ผบช.น สอบปากคำหญิงสาวที่ยิงปืนขึ้นฟ้าในช่วงปีใหม่ เจ้าตัวอ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ทราบว่าผิดกฎหมาย
| null | ยิงปืนขึ้นฟ้า,ปีใหม่2560,พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร,สายไหม,ยิงปืนฉลองปีใหม่ | https://www.thairath.co.th/content/826626 |
เรือนํ้ามันชนเรือข้ามฟาก พลิกจม ป่าสัก -มีคนเจ็บ4 | ผู้โดยสารในเรือ 4 คนกระเด็นตกลงไปลอยคอและจมน้ำ โชคดี เรือยนต์โดยสารอีกลำขับมาช่วยนำร่างขึ้นมาได้รอดชีวิตหวุดหวิด ทั้งหมดได้รับบาดเจ็บโดย 1 ใน 4 อาการสาหัสสำลักน้ำหมดสติถูกหามส่งโรงพยาบาล ส่วนคนขับเรือบรรทุกน้ำมันคู่กรณีขับเรือเผ่นหนี,อุบัติเหตุเรือบรรทุกน้ำมันชนเรือยนต์โดยสารพลิกคว่ำในแม่น้ำ ผู้โดยสารจมน้ำบาดเจ็บรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 2 ม.ค. ร.ต.อ.กัมพล อินทีวงศ์ พงส.สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุเรือบรรทุกน้ำมันชนเรือยนต์โดยสารพลิกคว่ำ ผู้โดยสารจมน้ำบาดเจ็บหลายราย ที่บริเวณแม่น้ำป่าสัก ตรงข้ามท่าเรือวัดพนัญเชิง อ.พระนครศรีอยุธยา จึงนำกำลังพร้อมด้วยแพทย์กู้ชีพโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมอยุธยาร่วมใจ รุดไปตรวจสอบและให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ,ที่เกิดเหตุพบคนเจ็บเป็นผู้โดยสารเรือยนต์ข้ามฟากจำนวน 4 คน ทั้งหมดถูกช่วยขึ้นมาบนท่าเรือวัดพนัญเชิง ในสภาพเนื้อตัวเปียกปอนและได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อนายอัครจิตต์ จักษุรักษ์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 หมู่ 11 ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา นายนิกร เหมศิริ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/31 ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา น.ส.พจนีย์ พิทักพงศ์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/2 หมู่ 11 ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา และนางศรีประไพ แซ่ลิ้ม อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 1 ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะนายนิกรบาดเจ็บสาหัสถึงกับสลบเหมือดไม่ได้สติ ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย โดนกระแทกกับตัวเรือและสำลักน้ำ เจ้าหน้าที่นำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ส่วนเรือยนต์โดยสารลำที่ถูกชนจมอยู่ใต้น้ำ,จากการสอบสวนนายเจษฎา ตรีนิตย์ อายุ 40 ปี คนขับเรือยนต์โดยสารลำเกิดเหตุ ให้การว่า ขับเรือยนต์โดยสารชื่อเรือจอมใจ เป็นเรือไม้ขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 10 เมตร ติดเครื่องยนต์ 4 สูบ รับผู้โดยสารจำนวน 4 คน จากท่าเรือป้อมเพชร เพื่อข้ามฟากแม่น้ำป่าสักไปส่งขึ้นฝั่งที่ท่าเรือหน้าวัดพนัญเชิง ขณะเรือแล่นออกจากท่าถึงกลางแม่น้ำ จู่ๆถูกเรือบรรทุกน้ำมันเขียนชื่อติดข้างเรือว่า ป่าสัก 3 แล่นมาจาก อ.พระนครศรีอยุธยา มุ่งหน้าไปทาง อ.บางปะอิน มาด้วยความเร็วพุ่งชนด้านท้ายเรือเสียงดังสนั่นจนเรือพลิกคว่ำจมน้ำทันที ผู้โดยสารในเรือทั้ง 4 คน กระเด็นตกลงไปลอยคอและจมน้ำ จึงร้องตะโกนเรียกให้คนขับเรือยนต์โดยสารอีกลำมาช่วยเหลือผู้โดยสารทั้งหมดขึ้นมาได้อย่างทุลักทุเลรอดชีวิตหวุดหวิด ส่วนเรือบรรทุกน้ำมันคู่กรณีหลังจากที่ชนได้ขับหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป | เกิดอุบัติเหตุระทึกขวัญ เรือยนต์โดยสารรับผู้โดยสารออกจากท่าเรือข้ามแม่น้ำป่าสักจะไปส่งขึ้นฝั่งที่ท่าเรือวัดพนัญเชิง เมืองกรุงเก่า ถึงกลางแม่น้ำถูกเรือบรรทุกน้ำมันพุ่งชนท้ายเรือจนอับปางจมน้ำ | null | ข่าวหน้า1,เรือน้ำมัน,ชน,เรือข้ามฟาก,ป่าสัก,ผู้โดยสาร,จมน้ำ,วัดพนัญเชิง,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/557400 |
หมอธีระวัฒน์ ยืนยันสารพิษในผักผลไม้ 60% ล้างไม่ออก | วันนี้ (2 ต.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกันแถลงผลตรวจหาสารพิษตกค้างในผักและผลไม้ 48 ชนิด เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า ผักผลไม้ 6 ชนิด มีสารตกค้างเกินค่ามาตรฐาน แต่ชี้แจงว่า หากบริโภคในปริมาณน้อยไม่เกิน 400 กรัมต่อวัน จะไม่เป็นอันตราย และการล้างอย่างถูกวิธีจะช่วยป้องกันและลดการตกค้างสารพิษได้ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ได้เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ต้องช่วยกันกระจายให้ทราบกันทั่วประเทศ ต้องลากให้อธิบาย และเปิดโปงให้หมด รู้เท่าทันสารพิษ รู้เท่าทันหน่วยงานรัฐสิ่งที่หน่วยงานของรัฐไม่ได้บอกประชาชนกรณีการสุ่มตรวจผักและผลไม้1. ไม่บอกว่าสารที่ตกค้างส่วนใหญ่ ประมาณ 60% ล้างไม่ออก2. ไม่บอกว่า ห้องปฏิบัติการที่ใช้ในการตรวจวิเคราะห์นั้น วิเคราะห์สารพิษกำจัดศัตรูพืชได้กี่ชนิด เพราะความครอบคลุมในการวิเคราะห์จะให้ผล % การตกค้างแตกต่างกัน สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีการขึ้นทะเบียนในประเทศไทยมีประมาณ 280 ชนิด แต่ส่วนใหญ่การสุ่มตรวจที่ผ่านมาของหน่วยงานราชการตรวจได้เพียง 10% ของจำนวนสารที่มีการใช้ในประเทศเท่านั้นส่วนห้องปฏิบัติการที่ไทยแพนใช้ตรวจสอบสารได้มากกว่า 400 ชนิด (แต่ครอบคลุมชนิดสารที่ขึ้นทะเบียนประมาณ 45%)สิ่งที่หน่วยงานราชการแถลงต่อประชาชนเรื่องความปลอดภัยของผักและผลไม้จึงเต็มไปด้วยมายาคติหลายชั้นทั้งนี้ยังไม่รวมถึง 3. การกำหนดค่า MRL ในประเทศไทย ซึ่งเป็นการร่วมกันกำหนดระหว่างหน่วยงานราชการ และ 2 สมาคมค้าสารพิษ และ 4. การอ้างว่าแม้ตกค้างเกินมาตรฐาน แต่เมื่อประเมินความเสี่ยงแล้วพบว่า ปลอดภัย เป็นสิ่งที่รับไม่ได้เมื่อใดก็ตามที่มีสารพิษตกค้างเกินมาตรฐาน ผักผลไม้และอาหารนั้น ก็เป็นอาหารพิษต้องเรียกร้องให้หน่วยงานราชการแถลงข้อมูลทั้งหมดในข้อ 1 ถึงข้อ 4 ต่อประชาชน การแถลงร่วมอำมหิต อัปยศของกระทรวงเกษตรฯ กับกระทรวงสาธารณสุขครั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขถูกลากเข้าไปอยู่ในเกมของกระทรวงเกษตรฯ เพื่อโน้มน้าวให้เห็นว่าผักและผลไม้ ไม่มีการตกค้างมาก และปลอดภัยนี่คือเหตุผลที่ มกอช. ต้องการดึงเรื่องการคุมอาหารปลอดภัยจาก อย.ไปอยู่ในมือกระทรวงเกษตรฯ การล้างผักที่บอกกันก็ไม่ได้ใช้ความรู้ ดังที่เราทราบว่าสารพิษที่ตกค้างส่วนใหญ่เป็นสารดูดซึม และอีกอย่างคือวิธีการล้างผักแต่ละวิธีล้างออกได้ไม่เท่ากันเรียกร้องเพิ่มมาตรฐานตรวจสารเคมีนอกจากนี้ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ ได้เปิดเผยข้อมูลการศึกษาตั้งแต่ปี2555 เรื่องสารเคมีและยาฆ่าแมลง พบว่าแม้ได้รับเข้าสู่ร่างกายปริมาณน้อยกว่าค่าที่กำหนด แต่ถ้าได้รับในระยะเวลานานจะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ จึงหารือเรื่องนี้ต่อที่ประชุมคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุขเป็นเรื่องเร่งด่วนวันนี้ ซึ่งที่ประชุมก็เห็นตรงกันขณะที่คณะกรรมการปฏิรูปสาธารณสุขยังระบุด้วยว่า การตรวจเฝ้าระวังครั้งนี้ ไม่รวมถึงการตรวจหาสารพาราควอตและไกลโฟเซต และยังไม่สามารถตรวจหาสารเคมีที่อนุญาตให้ใช้ในไทยทั้ง 280 ชนิดได้ จึงมีข้อแนะนำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานร่วมกับองค์กรอิสระ ภาคประชาชนที่มีการสุ่มตรวจสารเคมี และเพิ่มมาตรฐานการตรวจให้ครอบคลุมมากขึ้นทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการปฏิรูปสาธารณสุขยังยืนยันมติเสนอให้ยกเลิกสารเคมี 3 ชนิดที่มีความเสี่ยงสูง และสนับสนุนการทำเกษตรยั่งยืน ด้วยการออกประกาศแหล่งเพาะปลูกที่ไม่มีสารเคมีปนเปื้อนเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคและสร้างแรงจูงใจในการทำเกษตรอินทรีย์อ่านข่าวเพิ่มเติม | หมอธีระวัฒน์ ชี้ผักผลไม้ที่มีสารตกค้างส่วนใหญ่ ประมาณ 60% ล้างไม่ออก และห้องปฏิบัติการที่ใช้ตรวจวิเคราะห์สารพิษของหน่วยงานราชการตรวจได้เพียง 10% ของจำนวนสารที่มีการใช้ในประเทศเท่านั้น | สังคม | ผัก,ผลไม้,กระทรวงสาธารณสุข,ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา,กระทรวงเกษตรและสหกรณ์,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/274884 |
อนุทิน เชื่อรัฐบาลแจงฝ่ายค้านซักฟอกได้ เมินหมอดูทำนายเหตุร้ายการเมือง | วันที่ 3 ม.ค. 2563 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2563 ว่า มั่นใจว่าใครก็ตามที่ถูกอภิปรายน่าจะมีเหตุผลและมีข้อมูลในการชี้แจง แต่ขอให้คำนึงว่าอยู่ด้วยกันต้องมีสปิริต ให้ทำเพื่อชาติบ้านเมือง และประชาชนเป็นสำคัญจากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ที่พรรคเพื่อไทยกำหนดให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย คุมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดย นายอนุทิน ตอบว่า ถ้าผู้ถูกอภิปรายทำงานด้วยใจบริสุทธิ์ก็ไม่มีอะไรจะต้องกลัวทั้งนั้น แต่อยากให้ทุกฝ่ายรักษาบรรยากาศ ปีใหม่แล้วบ้านเมืองต้องเดินหน้าต่อไป การอภิปรายขอให้อยู่ในขอบเขตการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาลปัจจุบัน มากกว่าการพูดเรื่องอดีตหรืออนาคต น่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด หากพบว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลในการบริหารราชการของรัฐบาลชุดนี้ให้อภิปรายมาได้เลย และถ้ามีความผิดจริง รับรองว่าจะไม่ปกป้องกัน ยกเว้นว่าจะอภิปรายด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ ตรงนั้นจะยอมกันไม่ได้ ทั้งนี้ หากคนในพรรคมีเรื่องของการคอร์รัปชัน รับรองว่าหัวหน้าพรรคจัดการเอง ไม่ต้องรอให้ใครมาจัดการนอกจากนี้ นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่หมอดูทำนายปีนี้การเมืองไทยจะมีเหตุร้าย ว่า ขอให้ทายผิด แต่ส่วนตัวเชื่อในการทำงานหนัก เป็นวิธีเดียวที่จะฝ่าแรงกดดันไปได้ ส่วนที่มีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจ ขออธิบายว่า รัฐบาลชุดนี้เข้ามาตอนปลายปีงบประมาณ การเบิกจ่ายจึงมีความล่าช้าอยู่บ้าง แต่คิดว่าถ้าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว การเบิกจ่ายคล่องตัว เศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลขอยืนยันว่า เราหาทางช่วยเหลือเอกชนและประชาชนในทุกทางให้เดินต่อไปได้ และเราอยู่ในโลกดิสรัปชั่น ผู้ประกอบการต้องปรับตัวอยู่ตลอด ส่วนเรื่องเงินบาทแข็งค่า ทุกเรื่องมี 2 ด้าน อย่ามองเห็นแต่ด้านที่เป็นลบ ต้องเข้าใจสถานการณ์และรู้จักการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง. | เสี่ยหนู มั่นใจ คนถูกฝ่ายค้านอภิปรายจะชี้แจงได้ ขออยู่ในขอบเขตการบริหารของรัฐบาลปัจจุบัน มากกว่าเรื่องอดีต ลั่น ทำงานด้วยใจบริสุทธิ์ไม่มีอะไรต้องกลัว เมิน หมอดูทำนายการเมืองไทยจะมีเหตุร้าย | ข่าว,การเมือง | อภิปรายไม่ไว้วางใจ,ประชุมสภา,อนุทิน ชาญวีรกูล,เงินบาทแข็งค่า,พรรรคภูมิใจไทย,พรรคเพื่อไทย | https://www.thairath.co.th/news/politic/1739383 |
ล่ากระบะ ยกสูง ยิงลูกเสี่ยพันล. | สอบถามผู้บาดเจ็บแล้วยืนยันไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใคร พร้อมจัดทีม 4 ชุด ออกไล่ล่า ตามแกะรอยคนร้าย เตือนให้รีบมอบตัว,กรณีคนร้ายใช้รถกระบะเป็นพาหนะประกบยิง นายศิขรินทร์ ตั้งเทวาประสิทธิ์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 1 ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี ลูกชายนายสุทัศน์ ตั้งเทวาประสิทธิ์ เสี่ยพันล้าน ประธานกรรมการบริษัท ทัศนา ชลบุรี จำกัด เจ้าของโรงโม่หินทัศนา ตั้งอยู่ในซอยคีรีนคร หมู่ 7 ต.ห้วยกะปิ และสวนทัศนาการ์เด้น ตั้งอยู่ในซอยสวนทัศนา ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี กระสุนทะลุกระจกหลังเจาะผ่านเบาะพิงศีรษะเข้าต้นคอด้านหลังซ้ายไปตุงกระพุ้งแก้มซ้ายบาดเจ็บ ขณะขับรถเก๋งสปอร์ตยี่ห้อนิสสัน GTR สีดำ ทะเบียน ชล 35 กรุงเทพมหานคร จะไปส่งแฟนสาวที่ย่านชิดลม กทม. เหตุเกิดบนถนนมอเตอร์เวย์ ก่อนถึงทางแยกลงถนนเศรษฐกิจ (ชลบุรี-บ้านบึง) ขาเข้ากรุงเทพฯ หมู่ 5 ต.หนองข้างคอก อ.เมืองชลบุรี เมื่อเวลา 00.11 น. วันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา,เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 ก.ย. พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.ภ.จ.ชลบุรี ได้เรียกตำรวจที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พ.ต.อ.รณชัย จินดามุข รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.สมโชค ตาผล ผกก.สภ.เมืองชลบุรี พ.ต.ท.ปพนพัชร์ ใบยา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองชลบุรี เข้าร่วมประชุมที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองชลบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี โดย พล.ต.ต.สมประสงค์เปิดเผยภายหลังประชุมว่า คดีมีความคืบหน้าบ้างแล้ว ได้ภาพรถต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิดหลายคันที่มีลักษณะคล้ายกับที่พยานระบุ แต่อยู่ระหว่างให้ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์แกะภาพเพื่อดูได้ชัดเจนขึ้น ส่วนการไล่ล่าคนร้ายได้จัดตั้งชุดทำงานขึ้น 4 ชุด ติดตามตรวจสอบกล้องวงจรปิด ค้นหารถคันก่อเหตุ เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามจับกุมคนร้าย โดยอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ด้วย,พล.ต.ต.สมประสงค์เผยอีกว่า สาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากการขับรถมากกว่า คนร้ายอาจไม่พอใจผู้เสียหาย หรืออาจยิงเพราะความเมาคึกคะนอง จากการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุเป็นไปได้ว่า คนร้ายไม่ได้มีเจตนาจะฆ่า เพราะหลังก่อเหตุและรถผู้เสียหายจอด คนร้ายยังได้ขับเข้าประกบด้านขวาข้างคนขับมองดูคนในรถ พอแฟนสาวผู้บาดเจ็บยกมือไหว้ คนร้ายก็ขับรถออกไปโดยไม่ยิงซ้ำ ไม่ทราบว่าหนีไปลงทางแยกเข้าถนนเศรษฐกิจ (ชลบุรี-บ้านบึง) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมืองชลบุรี หรือเลี้ยวขวาไปทาง อ.บ้านบึง หรือไปขึ้นถนนมอเตอร์เวย์ขาเข้ากรุงเทพฯ ต้องรอตรวจเช็กกล้องวงจรปิดก่อนว่ารถต้องสงสัยคันไหนตรงกับรถคันที่ก่อเหตุ ใครเป็นผู้ครอบครอง มีปืน 9 มม. ใช้หรือไม่ ขอฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนน ควรมีน้ำใจให้กันและกัน ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดคดีลักษณะนี้,ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก รถผู้ก่อเหตุตรวจสอบแล้วเป็นรถกระบะ 4 ประตู แต่ภาพไม่ชัดเลยยังระบุไม่ได้ และจากการพูดคุยกับผู้บาดเจ็บยืนยันว่า ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใครมาก่อน คาดว่าสาเหตุมาจากเหตุเฉพาะหน้าเท่านั้น ส่วนการติดตามคนร้ายได้แบ่งหน้าที่กันทำ มีชุดสืบสวน,ภาค 2 ชุดสืบสวน ภ.จ.ชลบุรี และชุดสืบสวน สภ.เมืองชลบุรี รับผิดชอบ ยังไม่มั่นใจว่าคนร้ายเป็นคนพื้นที่ จ.ชลบุรี หลักฐานที่เก็บได้มีหัวกระสุน 1 หัว ปลอกกระสุน 2 ปลอก อยู่ระหว่างส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ และขอฝากถึงคนที่เป็นผู้ลงมืออยากให้มามอบตัวดีกว่า,มีรายงานว่า หลังตำรวจชุดสืบสวนกระจายกำลังออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี พบกล้องตัวหนึ่งบริเวณถนนมอเตอร์เวย์ ห่างจากจุดเกิดเหตุก่อนถึงทางแยกลงถนนเศรษฐกิจ (ชลบุรี-บ้านบึง) ไม่มากนัก ได้บันทึกภาพรถคันต้องสงสัย แต่ภาพไม่ชัดว่ายี่ห้ออะไร เพราะรถวิ่งเร็วมาก เป็นรถกระบะยกสูง สีขาว 4 ประตู ทะเบียนป้ายแดง ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างให้ช่างซูมแต่งภาพเพื่อให้ดูชัดเจนขึ้น รวมทั้งจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ด่านเก็บเงินพานทอง บนถนนมอเตอร์เวย์ขาเข้ากรุงเทพฯอีกครั้ง หลังจากครั้งแรกไปดูแล้วกล้องหลุด เพื่อจะได้ดูว่าหลังก่อเหตุแล้วรถคนร้ายวิ่งหนีไปแยกลงถนนเศรษฐกิจ (ชลบุรี-บ้านบึง) แล้วเลี้ยวขึ้นถนนมอเตอร์เวย์ผ่านด่านเก็บเงินพานทองหรือไม่ | ตำรวจพลิกเมืองชลควานหารถกระบะยกสูง สีขาว ป้ายแดง ต้องสงสัย คาดเป็นพาหนะของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุยิงลูกชายเสี่ยพันล้านบาดเจ็บบนถนนมอเตอร์เวย์ ผบช.ภ.2 เชื่อเป็นเหตุซึ่งหน้า | ข่าว,ทั่วไทย | ยิงลูกชายเสี่ย,ศิขรินทร์ ตั้งเทวาประสิทธิ์,มอเตอร์เวย์,กระบะยกสูง,ชลบุรี | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1063197 |
ไทยพีบีเอส จัด เทศกาลสื่อสาธารณะ Edutainment Festival 29 พ.ย.-1 ธ.ค. | โดยไทยพีบีเอส เชิญประชาชน และผู้สนใจ ร่วมงานเทศกาลสื่อสาธารณะ ครั้งที่ 1 ภายใต้แนวคิด Edutainment Festival สนุกแบบมีสาระ เรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ แบ่งปันประสบการณ์ เทศกาลเพื่อสังคม ในวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 1 ธันวาคม 2555 ณ อาคารสำนักงานใหญ่ไทยพีบีเอส ถนนวิภาวดีรังสิตทั้งนี้ เป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้ชมทั้งแฟนข่าว และแฟนรายการ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์กิจกรรมร่วมกัน และทำความรู้จักกับสื่อสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดยภายในงานจะแบ่งพื้นที่การจัดงานออกเป็น 3 โซน คือ Educational Zone Public Station Zone และ Entertainment Zone นอกจากนี้ ไทยพีบีเอสยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานหลายภาคส่วน มาร่วมให้บริการต่างๆ แก่ประชาชน อาทิ บริการนวดแผนไทยกับคนตาบอด อบรมอาชีพฟรี จำหน่ายสินค้า โครงการธงฟ้า ราคาประหยัด บริการจัดทำบัตรประชาชน บริการตรวจสุขภาพ รับเรื่องร้องเรียน ประกาศคนหาย แจ้งปัญหาทุกข์ร้อนต่างๆ ปรึกษาปัญหากฎหมาย และร่วมสนุกกับบูธกิจกรรมรายการต่างๆ ของไทยพีบีเอสมากมาย อาทิ ขนมไทยอะไรเอ่ย คิดวิทย์ บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ท้าให้อ่าน คนสู้โรค วิชาพึ่งตนเอง ลุยไม่รู้โรย กินอยู่คือ สมองมันส์ซันเดย์ สอนศิลป์ ต้นศิลปะ พันแสงรุ้ง Hot Short Films และ ดนตรี กวีศิลป์ เป็นต้น จากนั้นร่วมถ่ายรูปอย่างเพลิดเพลินกับนักแสดงจากละครไทยพีบีเอส และผู้ร่วมงานยังได้สนุกกับบูธกิจกรรมที่แบ่งเป็นโซนอีกมากมาย | เทศกาลสื่อสาธารณะ ครั้งแรกกับแนวคิด Edutainment Festival สนุกแบบมีสาระ เรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ แบ่งปันประสบการณ์ เทศกาลเพื่อสังคม | สังคม | มีสาระ,ศูนย์เพื่อน,สภาผู้ชม,เทศกาลสื่อสาธารณะ,เพื่อสังคม,ไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/129600 |
ชาวอินเดียเซ่นพิษ เหล้าเถื่อน แค่ 4 วัน ตายนับ 100 ศพ | สำนักข่าวต่างประเทศ,รายงานเมื่อ 11 ก.พ. ว่า มีผู้เสียชีวิตจากการบริโภคเหล้าเถื่อนที่มีส่วนผสมของเมทานอล ในรัฐอุตตรประเทศ กับรัฐอุตตราขัณฑ์ ทางเหนือของประเทศอินเดียมากกว่า 100 ราย นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้ทางการต้องออกปฏิบัติการกวาดล้างครั้งใหญ่ ยึดของกลางและจับผู้ต้องสงสัยได้มากมาย,ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์ เอ็นดีทีวี ของอินเดีย มีผู้เสียชีวิตในรัฐอุตตรประเทศ 67 ราย และอีก 37 รายในรัฐอุตตราขัณฑ์ ขณะที่มีผู้ป่วยอาการอยู่ในขั้นวิกฤติอีก 16 คน,ตลอดช่วง 4 วันนับตั้งแต่วันศุกร์ถึงวันจันทร์ที่ 11 ก.พ. มีรายงานผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้ทางการรัฐอุตตรประเทศออกปฏิบัติการกวาดล้างเหล้าเถื่อนครั้งใหญ่ จับผู้ต้องสงสัยได้กว่า 3,000 คน และยึดเหล้าเถื่อนได้ราว 80,000 ลิตร,ด้านนายโยกี อดิตยนาธ มุขมนตรีรัฐอุตตรประเทศประกาศเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลท้องถิ่นจะจ่ายเงินชดเชยให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตครอบครัวละเกือบ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 94,290 บาท) และอีก 700 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 22,000 บาท) แก่ผู้ที่ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล,อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์มีประชาชนจำนวนมากออกมาชุมนุมประท้วงปิดถนน เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือพวกเขามากกว่านี้ ลูกๆ ของเราควรได้รับการศึกษาฟรี ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวตามรายงานของสำนักข่าว เอเอ็นไอ ผู้หญิงที่เสียสามีควรได้รับการจ้างงาน คนร้ายควรถูกลงโทษตามกฎหมายอย่างเข้มงวด,ทั้งนี้ เมทานอลเป็นแอลกอฮอล์พิษ มักผสมในสินค้าพาณิชย์ต่างๆ เช่น สารต้านการเยือกแข็ง, น้ำยาล้างกระจกรถยนต์, น้ำมันเชื้อเพลิงและทินเนอร์ โดยปริมาณที่ทำให้ถึงตายสำหรับผู้ใหญ่กรณีที่บริโภคเข้าไปคือ 15-30 มล.เท่านั้น หากรอดชีวิตก็อาจเกิดความเสียหายต่ออวัยวะภายในอย่างถาวร. | ชาวอินเดียใน 2 รัฐทางเหนือของประเทศเสียชีวิตมากกว่า 100 ราย ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา จากการบริโภคเหล้าเถื่อนที่มีส่วนผสมของสารพิษ ทำให้ทางการต้องออกกวาดล้างครั้งใหญ่ | ข่าว,ต่างประเทศ | อินเดีย,เหล้าเถื่อน,อุตตรประเทศ,เสียชีวิต,เมทานอล | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1494018 |
คดีเสี่ยตุ้ม ยังจับคนร้ายไม่ได้ ตร.ไทยพร้อมช่วย หากได้รับประสาน | กรณี น.ส.วราภรณ์ นวเจริญกุล ภรรยาของ นายสมนึก จรูญจิรเสถียร หรือ เสี่ยตุ้ม เข้าแจ้งความคนหายกับพนักงานสอบสวน สภ.โป่งน้ำร้อน เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 59 ซึ่งหลังรับแจ้งได้ประสานกับเจ้าหน้าที่กัมพูชา เพื่อตามหาตัว ต่อมาพบว่า เสี่ยตุ้ม กลายเป็นศพถูกฆาตกรรมฝังดิน อยู่ฝั่งประเทศกัมพูชา และญาติได้ร้องขอจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาขอนำศพกลับมาผ่าพิสูจน์ในประเทศไทย กระทั่งสามารถยืนยันได้ว่าเป็นศพเสี่ยตุ้มจริง และญาติกำหนดฌาปนกิจ ในวันที่ 2 มี.ค. 59 ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น ,เมื่อวันที่ 1 มี.ค. พ.ต.อ.ภาสกร คงคารัตน์ ผกก.สภ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในด้านคดีนั้น ตำรวจไทยถือว่าสิ้นสุดแล้ว เนื่องจากได้มีการแจ้งความคนหายและติดตามจนพบ แต่กลายเป็นศพ ทางสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ยืนยันว่าเป็นศพของ นายสมนึก จรูญจิรเสถียร หรือ เสี่ยตุ้ม จริง จึงถือเป็นการสิ้นสุดในรูปแบบของการปฏิบัติงาน ส่วนด้านคดีฆาตกรรมนั้น ต้องเป็นของตำรวจประเทศกัมพูชา หากมั่นใจหรือมีหมายจับส่งมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทางตำรวจไทย ก็พร้อมจะให้ความร่วมมือในการติดตามจับกุมตามหมายทันที เนื่องจากที่ผ่านมาการทำงานของหน่วยทหารและตำรวจในพื้นที่ ด้าน จ.จันทบุรี นั้น มีการทำงานร่วมกันตลอด ซึ่งไม่น่ามีปัญหาใดๆ หากมีการร้องขอตามขั้นตอนของแนวทางปฏิบัติในการติดตามคนร้ายข้ามแดน,ข่าวที่เกี่ยวข้อง ,- ,ไม่ง่าย ผู้การ ตร.เขมรชี้ ฆ่าเสี่ยตุ้ม เชื่อ คนร้ายหลบฝั่งไทย,- ,แนะมาตรา 8 ขอโอนคดีอุ้มฆ่าเสี่ยกาสิโน ให้ ตํารวจไทย ทํา เมียจี้เขมรเร่งจับ,- ,เฮี้ยนอีก รถนำศพเสี่ยตุ้มไปวัด ดับระหว่างทาง คาดเขียนสกุลบนป้ายงานผิด,- ,เมียเสี่ยตุ้ม เจ้าของบ่อนกาสิโน รับศพนิติเวช บำเพ็ญกุศลวัดชลบุรี,- ,ยืนยันใช่ เป็นศพเสี่ยตุ้ม ฝัง-เขมร ตร.ยังไม่ได้จับใคร,- ,ตร.กัมพูชา คาด แก๊งอุ้มฆ่า เสี่ยตุ้ม มีคนไทยร่วม,- ,เฮี้ยน วิญญาณเสี่ยตุ้ม สิงร่างหมอนวด บอกถูกฆ่าฝังดิน | ผกก.โป่งน้ำร้อน ยัน คดีเสี่ยตุ้มในไทยสิ้นสุดแล้ว หลังญาติแจ้งความคนหาย และพบกลายเป็นศพ ส่วนคดีฆาตกรรมเป็นหน้าที่ของตำรวจกัมพูชา แต่พร้อมให้ความร่วมมือ ติดตามตัวผู้เกี่ยวข้อง หากมีการร้องขอ | null | เสี่ยตุ้ม,สมนึก จรูญจิรเสถียร,หุ้นส่วน,บ่อนการพนุน,กาสิโน,ฆ่าฝังดิน,กัมพูชา,เขมร,คนร้าย,ก่อเหตุ,คดี,ข่าว,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/584646 |
อุ๊ หฤทัย ย้ำชัดเดินเชียร์ลุงเป็นกิจกรรมการเมือง เป้าหมายหนุนประยุทธ์ ขับไล่คนชังชาติ | อุ๊ หฤทัยร่วมงามเดินเชียร์ลุงชี้ปัญหาประเทศไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญแต่เกิดจากนักการเมือง ลั่นคนเข้าร่วมนับหมื่น12 ม.ค. 2563 ที่สวนลุมพินี ประชาชนที่สนับสนุนรัฐบาล ทยอยเข้าร่วมกิจกรรม เดินเชียร์ลุงความคึกครื้น โดนก่อนจะเริ่มออกเดิน มีการแจกเสื้อและหมวก โดยผู้รับของที่ระลึกไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนหรือแสดงบัตรประชาชน คาดว่ามีประชาชนเข้าร่วมมากกว่า 5000 คน ทำให้เสื้อและหมวกที่ทาง เพจเชียร์ลุง ผู้จัดกิจกรรมเตรียมไว้ไม่เพียงพอสำหรับผู้ที่เข้าร่วมจำนวนมากทั้งนี้มีผู้สนับสนุนรัฐบาลคนสำคัญเข้าร่วมหลายคน รวมทั้งหฤทัย ม่วงบุญศรี หรือ อุ๊ หฤทัย นักร้องชื่อดัง พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ผู้ก่อตั้งองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน รวมทั้ง ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือ ปูเค็ม อดีตนายทหารและนักเคลื่อนไหวการเมืองหฤทัย ม่วงบุญศรี หรือ อุ๊ หฤทัย นักร้องชื่อดังได้เดินทางเข้าร่วมกิจกรรมพร้อมให้สัมภาษณ์กับว่า ยอมรับว่ากิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมทางการเมือง เนื่องจากมีกลุ่มการเมืองจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงก่อน ทางเพจเดินเชียงลุงจึงจัดกิจกรรมนี้ขึ้น และตนเองก็ยืนยันจะเข้าร่วมตั้งแต่ต้น เพื่อแสดงออกถึงการสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาหฤทัย กล่าวต่อว่าประเทศไทยมีความสงบ ประชาชนทำมาหากินได้จนร่ำรวยเป็นเศรษฐีได้หลายตระกูล แต่นักการเมือง และกลุ่มคนบางกลุ่มพยายามกล่าวให้ร้ายประเทศว่ามีความเหลื่อมล้ำ เศรษฐกิจไม่ดี และทำลายความสงบจึงถูกเรียกว่า พวกชังชาติ โดยเฉพาะการใส่ร้ายป้ายสีประเทศตัวเอง และรัฐบาล ว่ามีความเป็นเผด็จการ ทั้งที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นประชาธิปไตย เพราะมาจากการเลือกตั้งหฤทัย ระบุด้วยว่า ปัญหาของประเทศไม่ได้เกิดจากรัฐธรรมนูญ แต่เกิดจากนักการเมืองที่ใช้รัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์ตนเองและทำให้ประเทศชาติเสียหาย ดังนั้น หากใครที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ที่เป็นเหมือน ก้างขวางคอนักการเมืองโกง จะต้องเจอกับประชาชนที่ลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หฤทัย ให้สัมภาษณ์หลังเดินถึงเส้นชัยว่าวันนี้มีผู้มีลงทะเบียนเป็นจำนวนประมาณ 10000คน และยังมีคนที่มาร่วมแต่ไม่ได้ลงทะเบียนอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนับได้ 13000 คน พร้อมย้ำด้วยคนที่มาเดินเชียร์ลุง ไม่มีใครจ้างมาวันนี้ที่มาเพราะอยากมาให้กำลังใจนายกฯ แม้จะมองว่าพวกเรามีแต่คนสูงวัย แต่วัยรุ่นเราก็มี เราหย่อนบัตรเลือกตั้งใบเดียวกัน แต่ทำไมเสียงคุณเป็นประชาธิปไตย แล้วของเราเป็นเผด็จการนักการเมืองที่คิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายก้าวหน้าต้องทบทวนดูว่าทำไมประชาชนถึงรับร่างรัฐธรรมนูญปี 60 ถึง 16 ล้านคน รัฐธรรมนูญนั้นดีทุกฉบับ เพราะปกป้องพวกนักการเมืองชั่ว อย่ามาใส่ร้ายประเทศ อย่ามาหลอกเด็ก ใครก็รู้ว่าทหารไม่ควรมาเกี่ยวกับการเมือง แต่ทำไมคุณไม่เล่าให้เด็กฟังว่าเพราะอะไรทหารถึงต้องออกมา เพราะอะไรเพราะนักการเมืองชั่ว เราจะทำอย่างไรกับนักการเมืองชั่ว เราต้องไล่มันออกไป หฤทัยกล่าวสำหรับจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมนั้น เจ้าหน้าที่ประเมินตัวเลขน้อยกว่าที่หฤทัยให้สัมภาษณ์โดยรายงานของ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประเมินผู้ที่ผ่านจุดคัดกรองเข้าไปบริเวณสวนลุมพินีในช่วงเช้าก่อนเวลา 09.00 น. มีผู้ผ่านจุดคัดกรองประมาณ8000 คน และเข้าร่วมกิจกรรมเฉพาะหน้าเวทีประมาณ 3200 คน | อุ๊ หฤทัย ร่วมงามเดินเชียร์ลุง ชี้ปัญหาประเทศไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญแต่เกิดจากนักการเมือง ลั่นคนเข้าร่วมนับหมื่นที่มาของวิดีโอ: ขอขอบคุณ Facebook/พิพิธภัณฑ์สามัญชน12 ม.ค. | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | เดินเชียร์ลุง,มัลติมีเดีย,สวนลุมพินี,หฤทัย ม่วงบุญศรี,ลัทธิชังชาติ | https://prachatai.com/journal/2020/01/85878 |
น้องเมย์ ไล่ต้อนดาวรุ่งอิเหนา ลิ่วรอบ 2 แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น | น้องเมย์ เหนือชั้น ไล่ต้อนดาวรุ่งอิเหนาอย่างสบายมือ 2 เซตรวด ผ่านเข้าสู่รอบสอง แบดมินตันซุปเปอร์ซีรีส์ โอยูอี สิงคโปร์ โอเพ่น 2015 ด้าน ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข เดี่ยวมือหนึ่งของไทย ออกแรงเหนื่อย 3 เซตกว่าจะเอาชนะนักตบจากเยอรมนี ผ่านเข้าสู่รอบสองได้เช่นกัน,วันที่ 8 เม.ย. การแข่งขันแบดมินตันซุปเปอร์ซีรีส์ รายการโอยูอี สิงคโปร์ โอเพ่น 2015 ประเทศสิงคโปร์ ชิงเงินรางวัลร่วมกว่า 300,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 7,200,000 บาท) โดยเป็นการแข่งขันในรอบแรก ของทุกประเภท,ในประเภทหญิงเดี่ยว รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันขวัญใจชาวไทย มือวางอันดับ 7 ของโลก และเป็นมือวางอันดับ 6 ของรายการ พบกับ รูซี่ดินา อันตาร์ดายุ ดาวรุ่งมือ 99 ของโลกจากอินโดนีเซีย ผลปรากฏว่า น้องเมย์ อาศัยประสบการณ์ที่เหนือกว่า เอาชนะไปได้อย่างไม่ยากเย็น 2 เซตรวด 21-7, 21-5 ใช้เวลาไปเพียง 26 นาที ทะลุเข้าสู่รอบ 2 ไปพบกับ ลินดาเวนี ฟาเนตรี คู่ปรับเก่า จากอินโดนีเซีย,ส่วนหญิงเดี่ยวของไทยคู่อื่น บุศนันท์ อึ๊งบำรุงพันธ์ุ พ่ายให้กับ อากาเนะ ยามากูชิ จากญี่ปุ่น 2-0 เซต 21-15, 21-13 และ ณิชชาอร จินดาพล แพ้ แบ ยุน จู จากเกาหลีใต้ 0-2 เซต 17-21, 18-21 และ ไท ซู หยิง จากไต้หวัน ชนะ พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข 2-0 เซต 21-13, 21-13 ,ด้านชายเดี่ยว ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข มืออันดับ 19 ของโลก เอาชนะ มาร์ค ซวีเบอร์ จากเยอรมนี 2-1 เซต 21-19, 17-21, 21-12 ผ่านเข้าสู่รอบสองไปรอพบผู้ชนะระหว่าง เค ศรีคานท์ มือ 3 ของรายการ จากอินเดีย หรือ เหงียน เทียน มินห์ จากเวียดนาม,ประเภทคู่ผสม ตราวุธ โพธิ์เที่ยง คู่กับ จงกลพรรณ กิติธรากุล แพ้ อิรฟาน ฟาดิละห์ คู่กับ เวนี อังกราอินี จากอินโดนีเซีย ไปอย่างสูสี 1-2 เซต 17-21, 21-14, 21-23 ,ประเภทหญิงคู่ ดวงอนงค์ อรุณเกษร กับ กุลชลา วรวิชชัยกุล แพ้ คู่จากญี่ปุ่น มิซากิ มัตสึโตโมะ กับ อยากะ ทากาฮาชิ 0-2 เซต 14-21, 13-21 ส่วน จงกลพรรณ กิติธรากุล คู่กับ รวินดา ประจงใจ ชนะ ธันยา เนียร์ คู่กับ โมฮิตา ซาห์เดฟ จากอินเดีย 2-0 เซต 21-8, 21-8 ขณะที่ ชญานิศ ฉลาดแฉล้ม กับ ผไทมาส เหมือนวงศ์ แพ้ คู่มือ 8 จากเนเธอร์แลนด์ เอฟเย มุสเกนส์ กับ เซเลนา พีค 16-21, 15-21 ส่วนคู่ของ พุธิตา สุภจิรกุล กับ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ชนะ คู่ของญี่ปุ่น นาโอโกะ ฟูกูมัน กับ คูรูมิ โยนาโอะ 14-21, 21-17, 21-18,ประเภทชายคู่ อังกรา ปราตามา คู่กับ คาวานดา ซูวาร์ดี จากอินโดนีเซีย ชนะ ตราวุธ โพธิ์เที่ยง คู่กับ นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร 2-1 เซต 21-14, 16-21, 21-13 | น้องเมย์ เหนือชั้น! ไล่ต้อนดาวรุ่งอิเหนาอย่างสบายมือ 2 เซตรวด ผ่านเข้าสู่รอบสอง แบดมินตันซุปเปอร์ซีรีส์ โอยูอี สิงคโปร์ โอเพ่น 2015 ด้าน ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข เอาชนะนักตบจากเยอรมนี ผ่านเข้าสู่รอบสองได้เช่นกัน | null | น้องเมย์,รัชนก อินทนนท์,แบดมินตัน,แบดมินตันซุปเปอร์ซีรีส์,บุศนันท์ อึ๊งบำรุงพันธ์ุ,ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข,ผลการแข่งขัน,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์,โอยูอี สิงคโปร์ โอเพ่น | https://www.thairath.co.th/content/491855 |
รวมของขวัญ 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย ตั๋วเครื่องบิน ที่พักหรู แพ็กเกจทัวร์ เพียบ | ทั้งซื้อตั๋วเครื่องบิน ที่พักหรู 5 ดาว และแพ็กเกจทัวร์ ในราคาเพียงร้อยเดียว,แคมเปญ ,100 เดียวเที่ยวทั่วไทย, ถือเป็นของขวัญจากรัฐบาล โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ต้องการส่งมอบความสุขให้คนไทยในช่วงปลายปีนี้ โดย ททท. เตรียมของขวัญจำนวน 40,000 รายการ ไว้ให้คนไทยได้เที่ยวในราคา 100 บาท อาทิ บัตรโดยสารเครื่องบิน, โรงแรมที่พัก, ร้านอาหาร, รถทัวร์, รถเช่า, สปา แพ็กเกจท่องเที่ยว (One Day Trip) และสวนสนุกต่างๆ ทั่วไทย,(เข้าสู่เว็บไซต์ลงทะเบียน ,คลิกที่นี่,),ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์ซื้อของขวัญจากโครงการ ,100 เดียวเที่ยวทั่วไทย, ต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในวันที่ลงทะเบียนและใช้สิทธิ์นอกจังหวัดที่ปรากฏในบัตรประชาชน โดย 1 คนมีสิทธิ์ซื้อได้ 1 รายการ โดยต้องซื้อผ่านทางเว็บไซต์โครงการ ,www.100เดียวเที่ยวทั่วไทย.com, เท่านั้น,สำหรับแคมเปญ 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย แบ่งออกเป็น 5 หมวด รวม 40,000 รายการ ,1. การเดินทาง (ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ สำหรับ 1 ท่าน),2. หมวดที่พัก (2 วัน 1 คืนจำนวน 1 ห้อง เข้าพักได้ 2 ท่าน),โดยเงื่อนไขการเข้าพักเป็นไปตามที่โรงแรมกำหนด ซึ่งมีโรงแรม Luxury 5 ดาว + โรงแรม 4 ดาว + โรงแรม 3 ดาว กว่า 100 แห่งทั่วประเทศ อาทิ ,โรงแรม Luxury ระดับ 5 ดาว ,ภาคเหนือ,ภาคกลาง,ภาคตะวันออก,ภาคใต้,3. อาหารและเครื่องดื่ม,ภาคกลาง,ภาคตะวันออก,ภาคใต้,4. แพ็กเกจทัวร์,ภาคเหนือ,ภาคกลาง,ภาคตะวันออก,ภาคใต้,5. แหล่งท่องเที่ยว กิจกรรมนันทนาการ และอื่นๆ,ภาคเหนือ,ภาคกลาง,ภาคตะวันออก,ภาคใต้,อย่างไรก็ตาม ประชาชน 1 คน มีสิทธิ์ซื้อของขวัญได้คนละ 1 รายการเท่านั้น โดยสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ในทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดที่ปรากฏอยู่บนบัตรประชาชนของผู้ซื้อ และต้องเดินทางภายใน 31 ธันวาคม 2562 เท่านั้น.,,เปิดรายชื่อ 12 โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว เข้าร่วม 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย,4 ขั้นตอน ลงทะเบียน 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย กรอก ล็อกอิน เลือก จ่าย มีของแถม,เคาะแล้วลงทะเบียน 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย เพียง 4 วันเท่านั้น ดูให้ดี,เปิดวิธีสมัคร 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย ซื้อตั๋วบิน ที่พัก แค่ร้อยบาท โควตาจำกัด | คนชอบเที่ยวเตรียมตัวให้พร้อม อีกไม่กี่วันเตรียมเปิดให้ ลงทะเบียน 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย ทั้งซื้อตั๋วเครื่องบิน ที่พักหรู 5 ดาว และแพ็กเกจทัวร์ ในราคาเพียงร้อยเดียว | ข่าว,สังคม | ลงทะเบียน 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย,ข่าวเด่น,100 เดียวเที่ยวทั่วไทย,แจกของขวัญ,เที่ยวทั่วไทย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1699710 |
กลุ่มต้านเหมืองอีสานจี้เลิกอัยการศึก รัฐ-เอกชนเดินหน้า ชาวบ้านห้ามเคลื่อน | กฎอัยการศึกกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม: กรณีเหมืองแร่ประเทศไทย ที่มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) โดยมีกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชนอีสานและชาวบ้านมาร่วมบอกเล่าถึงผลกระทบจากกฎอัยการศึกจากกรณีความรุนแรงในพื้นที่เหมืองแร่ทองคำจังหวัดเลย และปัญหาการต่อสู้คัดค้าน พบว่าหลังจากการออกกฎอัยการศึก ตามคำสั่งของ คณะรักษาความสงบสุขแห่งชาติ (คสช.) นักสิทธิมนุษยชนที่เคลื่อนไหวและชาวบ้านในพื้นที่ จึงได้ออกแถลงข่าวเตียง ธรรมอินทร์ ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ต.ห้วยสามพาด อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่เคลื่อนไหวคัดค้านเหมืองแร่โปแตชจังหวัดอุดรธานีมาเป็นเวลากว่า 14 ปี โดยมีการยื่นหนังสือคัดค้านการสร้างเหมืองมาตลอด หลัง คสช.ทำรัฐประหาร ชาวบ้านก็มีการยื่นหนังสือไปถึง ผบ.มทบ.24 จังหวัดอุดรธานี และเมื่อวันที่ 18 มิ.ย 57 เจ้าหน้าที่ทหารได้มีการเชิญตัวแทนชาวบ้าน 2 คน ไปชี้แจงข้อมูลโครงการเหมืองแร่โปแตช แต่ชาวบ้านต่อรองขอไปชี้แจง 5 คน เพื่อความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับชาวบ้านว่าตอนนี้อยู่ในช่วงประกาศใช้กฎอัยการศึก ขอให้ชาวบ้านหยุดเคลื่อนไหวก่อน ซึ่งชาวบ้านก็รับฟังและคิดว่าทหารจะช่วยเหลือได้ แต่เมื่อวันที่ 19 มิ.ย 57 รายการพิเศษ คสช. เดินหน้าประเทศไทย เดินหน้าคืนความสุขให้ชาวอุดรธานี เชิญรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ทหาร ตำรวจ และนักธุรกิจในจังหวัดเข้าร่วมเสวนา แต่ในเนื้อหาของรายการกลับสนับสนุนให้ดำเนินโครงการเหมืองแร่โปแตช โดยอ้างว่าทรัพยากรแร่เป็นทรัพยากรของชาติ สามารถขุดนำมาใช้ได้ ชาวบ้านหลายคนจึงเริ่มมีความกระวนกระวายใจจากที่ได้รับฟังชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า การประกาศใช้กฎอัยกาศึก ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถรวมตัวเคลื่อนไหวได้ในช่วงนี้ และยังมีการระงับการออกอากาศวิทยุชุมชนที่ชาวบ้านใช้สื่อสารกันในเรื่องการคัดค้านโครงการเหมืองแร่โปแตชชาวบ้านไม่เห็นด้วยกับการประกาศกฎอัยการศึก เพราะนายทุนและรัฐสามารถดำเนินโครงการได้อย่างสะดวก แต่ชาวบ้านดำเนินการเคลื่อนไหวอะไรไม่ได้ เตียงกล่าว และระบุว่าในตอนนี้ชาวบ้านทำได้เพียงการส่งหนังสือไปถึงนพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นที่พึ่งสุดท้ายที่ทำได้สุวิทย์ กุหลาบวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคอีสาน เล่าถึงปัญหาโครงการเหมืองแร่โปแตชภายใต้กฎอัยการศึกว่า ควรให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในพื้นที่ หลังจากที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก มีแนวโน้มการทำรายงาน EIA จะผ่านในช่วงนี้ เพราะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องระหว่างนายทุนและรัฐ ซึ่งเป็นที่น่ากังวลเป็นอย่างมากเพราะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้สุวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า มีการเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐต่อผู้ที่สนับสนุนและผู้ที่คัดค้าน ทั้งที่ควรให้ความเป็นธรรมกันทั้งสองฝ่าย และอยากเสนอข้อเรียกร้องให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการออกความคิดเห็นตามหลักสิทธิชุมชนมาตรา 4 แห่งรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 เพราะถ้าสถานการณ์ยังเป็นเช่นในปัจจุบันอาจเป็นการสะสมปัญหาต่อไปเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ กลุ่มนิเวศวัฒนธรรมศึกษา กล่าวถึงกรณีเหมืองแร่ทองคำจังหวัดเลยว่า วันที่ 15 พ.ค. 57 ก่อนที่จะมีการประกาศใช้กฎอัยการศึก เกิดเหตุการณ์คุกคามชาวบ้าน โดยมีชายฉกรรจ์ 300 คน พร้อมอาวุธครบมือทำร้ายชาวบ้าน มีการจับมัดมือไขว้หลังและรุมทำร้าย ทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บไปหลายราย เช้าวันที่ 16 พ.ค. 57 จึงมีการปล่อยตัว ต่อมาชาวบ้านเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐหาคนกระทำผิดมาลงโทษและขอกำลังมาคุ้มครองชาวบ้าน เพราะมีการปล่อยข่าวว่าจะมีการขนแร่อีกครั้ง ในคืนวันที่ 19 พ.ค. 57 แต่ข้อเรียกร้องของชาวบ้านกลับไม่เป็นผลเลิศศักดิ์ กล่าวต่อว่า หลังมีการรัฐประหาร ได้มีการจัดกองกำลังจากจังหวัดทหารบกเลยจำนวน 1 กองร้อย เข้าไปในชุมชม และมีการจัดตั้งคณะกรรมการทหาร 4 ชุดขึ้นมา อาทิ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาเหมืองแร่ทองคำ คณะกรรมการน้ำ คณะกรรมการฟื้นฟูสุขภาพและสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าวล้วนแต่เป็นข้าราชการไม่มีชาวบ้านเกี่ยวข้องเริ่มมีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่ากรรรมการ 4 ชุดนี้ไม่ได้เข้ามาทำหน้าที่อะไร แต่พยามที่จะสร้างกระบวนการขึ้นมาให้ชาวบ้านกับบริษัทคุยกันให้ได้ ภายใต้ข้อเสนอขอขนแร่รอบใหม่ เลิศศักดิ์กล่าวตัวแทนกลุ่มนิเวศวัฒนธรรมศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อชาวบ้านเริ่มเห็นได้ชัดเจนแล้วว่าคณะกรรมการทั้ง 4 ชุด ไม่ได้ทำงานเพื่อตอบสนองข้อเรียกร้องของชาวบ้าน จึงมีการทำหนังสือไปถึงทหารในพื้นที่ว่า ไม่ยอมรับการทำงานของคณะกรรมการ 4 ชุด จึงเป็นสาเหตุให้ชาวบ้านถูกเรียกรายงานตัว และทหารในพื้นที่มีการออกประกาศอย่างชัดเจนว่า การไม่ยอมรับกรรมการทั้ง 4 ชุด ก็เท่ากับไม่ยอมรับอำนาจรัฐประหารกิจกรรมทั้งหมดที่ชาวบ้านเคยทำก่อนประกาศใช้กฎอัยการศึก เช่น การจัดประชุม การรณรงค์ ถูกห้ามหมดดำเนินการทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นในจังหวัดเลย หลังจากนั้นกรรมการทั้ง 4 ชุด เริ่มชักชวนชาวบ้านทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน(MOU) ระหว่างทหาร ข้าราชการ บริษัทเอกชน และชาวบ้าน แต่ชาวบ้านไม่ยอมรับกระบวนทั้งหมด เพราะไม่มีส่วนร่วมกำหนดเลิศศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันกระบวนการยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาและยังมีความพยายามที่จะดึงชาวบ้านกลับไปร่วมทำบันทึกข้อตกลง แต่ชาวบ้านไม่ให้ความร่วมมือถ้าชาวบ้านยังดื้ออยู่ไม่ยอมทำบันทึกข้อตกลงร่วม ก็อาจมีเหตุการณ์ที่ต้องไม่เสียเวลาในการทำบันทึกข้อตกลง เช่น อาจจะมีการขนแร่โดยจะมีทหารเป็นคนคุ้มกันในการขนแร่รอบนี้ นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในจังหวัดเลย เลิศศักดิ์ กล่าวถึงสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่นิติกร ค้ำชู กลุ่มเผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม (ดาวดิน) กล่าวว่า หลังมีเหตุการณ์รัฐประหาร นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวในพื้นที่ภาคอีสานอยู่ในภาวะที่ไม่มีสิทธิและไม่มีกฎหมายรับรอง ต้องอยู่ในความหวาดกลัว ซึ่งกลุ่มดาวดินก็โดนเรียกไปรายงานตัว มีการขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ห้ามลงพื้นที่เหมืองแร่ทองคำจังหวัดเลย 1 ปี แต่ก็ได้แจ้งกลับไปยังเจ้าหน้าที่ว่าคงไม่ได้จริงๆ จึงมีการเจรจาต่อรองเหลือ 1 เดือนตัวแทนกลุ่มดาวดิน กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่สถานการณ์ในพื้นที่เริ่มผ่อนคลายลงจึงคิดว่าสามารถลงพื้นได้ แต่ระหว่างการเดินทางมีทหารโทรมาบอกว่า ถ้าไม่ฟังคำเตือน ไปถึงจะจับเลย จึงมีการปรึกษากันในกลุ่มและทุกคนเห็นตรงกันว่าจะจับก็จับ อย่างไรก็ตาม เมื่อเดินทางไปถึงในพื้นที่ชาวบ้านได้เจรจากับทหารทำให้กลุ่มดาวดินสามารถเข้าพื้นที่ได้ แต่ก่อนที่จะเข้าไป ทหารมีการถ่ายรูปและยึดบัตรประชาชนไว้พอเข้าไปในพื้นที่ ก็เดินตามทุกฝีก้าว สุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยอะไรชาวบ้าน เพราะเขาเดินตามตลอด สุดท้ายก็โดนไล่กลับไป เขาบอกว่านักศึกษากลุ่มนี้ปลุกปั่นให้ชาวบ้านเกิดความแตกแยก นิติกรเล่าสุภาภรณ์ มาลัยลอย ผู้ประสานงานมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) กล่าวปิดงานด้วยการอ่านใบแถลงข่าว เวทีทิศทางปฏิรูปประเทศไทย ครั้งที่ 3 กฎอัยการศึก กับการจัดทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม: กรณีเหมืองแร่ประเทศไทย วัฒนธรรมการมีส่วนร่วมของประชาชนถูกคุกคามโดยกฎอัยการศึก ร่วมลงนามโดย คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ศูนย์ข้อมูลชุมชน มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) ศูนย์ข้อมูลสิทธิมนุษยชนและสันติภาพ อีสาน (ศสส.) กลุ่มนิเวศวัฒนธรรมศึกษา และกลุ่มเผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม (ดาวดิน)ใบแถลงข่าวระบุข้อเสนอ 2 ข้อ คือ 1.ยกเลิกกฎอัยการศึกเพื่อปิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนกลับคืนมาโดยรัฐบาล คสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับรองสิทธิชุมชนตามมาตรา 4 แห่งรัฐธรรมนูญ(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 2.ต้องชะลอการพิจารณากฎหมายแร่และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ สิทธิเสรีภาพของประชาชนในสภานิติบัญญัติเพื่อนำไปพิจารณาในรัฐสภาหลังจากมีการเลือกตั้ง | 23 ก.ย 2557 คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ร่วมกับศูนย์ข้อมูลสิทธิมนุษยชนและสันติภาพอีสาน และกลุ่มนิเวศวัฒนธรรมศึกษา จัดเวทีทิศทางปฏิรูปประเทศไทย ครั้งที่ 3 ในหัวข้อ | สิทธิมนุษยชน,ความมั่นคง | กป.อพช.อีสาน,กลุ่มต้านเหมือง,ภาคประชาสังคม,เหมืองแร่,เหมืองแร่เมืองเลย,เหมืองโปรแตช | https://prachatai.com/journal/2014/09/55695 |
พรรคการเมืองลงนามสัญญาประชาชน ไร้เงา พลังประชารัฐ | วันนี้ (21 ธ.ค.61) สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล จัดพิธีลงนามสัญญาที่พรรคการเมืองขอให้ไว้แก่ประชาชน เพื่อให้พรรคการเมืองปฏิบัติตามจรรยาบรรณ และกฎระเบียบในช่วงก่อนการเลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างเสรี บริสุทธิ์ ยุติธรรม และ ภายหลังการจัดการเลือกตั้งพรรคที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎรและดำเนินการตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ โดยมีตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาชาติ และอีกกว่า 20 พรรค เข้าร่วมขณะที่พรรคพลังประชารัฐไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วม แม้ผู้จัดยืนยันว่าก่อนหน้านี้มีการตอบรับคำเชิญแล้ว ทั้งนี้ สัญญาที่ให้พรรคการเมืองลงนามมีเนื้อหาดังนี้สัญญาที่พรรคการเมืองขอให้ไว้แก่ประชาชนในโอกาสการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562โดยทำการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมาจากการเห็นชอบของประชาชน ซึ่งแสดงออกผ่านเลือกตั้งที่เสรี สุจริต และเที่ยงธรรม 1 ในการนี้ รัฐ ซึ่งหมายรวมถึงรัฐบาลและคณะกรรมการการเลือกตั้งจะต้องไม่ปิดกันเสรีภาพ เปิดให้ การสังเกตการณ์การเลือกตั้งอย่างกว้างขวาง และต้องปฏิบัติต่อพรรคการเมืองทุกพรรคตามกฎหมายและ กฎระเบียบอย่างเท่าเทียมกัน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องหวงแหนสิทธิการเลือกตั้งของตนและใช้สิทธินี้หลังจากที่ได้ไตร่ตรองอย่างดีที่สุด และที่สำคัญ พรรคการเมืองต้องมีน้ำใจนักกีฬาและแข่งขันกันอย่างยุติธรรมในโอกาสการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมาถึงในวันที่ 24 ก.พ.62 เพื่อให้การหาเสียงเลือกตั้งเป็น กระบวนการที่มีจรรยาบรรณ และให้การจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งเป็นไปโดยเคารพเสียงและความต้องการของประชาชน พรรคการเมืองจึงได้จัดทำ สัญญาที่พรรคการเมืองขอให้ไว้แก่ประชาชน ฉบับนี้ขึ้น และขอให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติตามสัญญาที่ลงนามร่วมกันนี้อย่างเคร่งครัดและจริงใจก่อนการเลือกตั้ง พรรคการเมืองขอให้สัญญาว่าจะปฏิบัติตามจรรยาบรรณการหาเสียงเลือกตั้ง ดังนี้1) จะปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้ง และกฎระเบียบของคณะกรรมการ การเลือกตั้งที่กำหนดขึ้นตามหลักนิติธรรม และตามมาตรฐานสากล2) จะไม่กระทำการใด ๆ ที่เป็นการซื้อเสียง จะไม่ใช้และพร้อมที่จะต่อต้านการใช้กลไกหรือ ทรัพยากรของรัฐ เพื่อประโยชน์ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนน เสียงเลือกตั้ง3) จะรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งด้วยสันติวิธี และไม่ใช้ความรุนแรงใด ๆ4) จะไม่ใช้ถ้อยคำและภาษาที่ร้อนแรง จะไม่ให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะไม่ใช้ การข่มขู่ และไม่ใช้วาจาที่ปลุกเร้าให้เกิดความรุนแรง5) จะเคารพสิทธิของพรรคการเมืองทุกพรรคที่จะรณรงค์หาเสียงโดยปราศจากความหวาดกลัว และการถูกข่มขู่และขอยืนยันว่าจะไม่ไปก่อกวนการรณรงค์หาเสียงของพรรคการเมืองใด ๆหลังการเลือกตั้ง พรรคการเมืองขอให้สัญญาว่าจะเคารพเสียงของประชาชน และเร่งดำเนินการ เพื่อให้เกิดความสงบสุขและเป็นธรรม ดังนี้1) พรรคการเมืองที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลจะต้องมีเสียงสนับสนุนเกินกว่ากึ่งหนึ่งของ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร2) พรรคการเมืองที่จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลจะนำนโยบายที่แต่ละพรรคใช้ในการหาเสียงมาบูรณาการกันอย่างจริงจัง และให้ความสำคัญแก่การจัดทำนโยบายร่วมกันนี้ในลำดับก่อนการ จัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี3) จะสนับสนุนให้รัฐจัดให้มีกลไกที่ใช้หลักของความเป็นธรรมในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพื่อเสนอแนะ การปรองดอง และเยียวยาผู้เสียหายจากการกระทำของรัฐและการกระทำด้วยเหตุจูงใจทาง การเมือง4) จะสนับสนุนกระบวนการพูตคุยสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้กรอบของ รัฐธรรมนูญเพื่อให้บรรลุข้อตกลงของการอยู่ร่วม กันด้วยความเคารพซึ่งกันและกันและ อย่าง สันติ5) เพื่อความเป็นธรรมระหว่างการบริหารราชการส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น พรรคการเมืองจะ ดำเนินการให้องค์กรชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจการตัดสินใจในเรื่องของ ท้องถิ่นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และจะพิจารณาโอนงาน งบประมาณ และบุคลากร จากราชการ ส่วนกลางและส่วนภูมิภาคไปสู่ราชการส่วนท้องถิ่นมากขึ้นอย่างเพียงพอ พรรคการเมืองเชื่อว่าการปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้ในที่นี้ จะมีส่วนช่วยสร้างความเข้มแข็ง แก่สถาบันพรรคการเมือง และมีส่วนช่วยสร้างรากฐานที่แข็งแรงแก่ระบอบประชาธิปไตย | สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล จัดพิธีลงนามสัญญาที่พรรคการเมืองขอให้ไว้แก่ประชาชนทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้งเพื่อการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม และดำเนินการตามนโยบายที่หาเสียงไว้ โดยมีตัวแทนจากหลายพรรคการเมืองเข้าร่วมกว่า 20 พรรค แต่ไ | การเมือง | ลงนาม,สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา,มหาวิทยาลัยมหิดล,พรรคการเมือง,รัฐบาล,สภาผู้แทนราษฎร,พรรคประชาธิปัตย์,พรรคเพื่อไทย,พรรคภูมิใจไทย,พรรคชาติไทยพัฒนา,พรรคอนาคตใหม่,พรรคประชาชาติ,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,เลือกตั้ง 2562,เลือกตั้ง 62,เลือกตั้ง,กกต. | https://news.thaipbs.or.th/content/276454 |
คนร้ายป่วนใต้ ระเบิดหลายจุด เผายางรถ ยิงกราดใส่จนท.ทหาร-ตร. | (ภาพจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ,อาสาสมัครพิทักษ์เมือง อำเภอหาดใหญ่),คนร้ายก่อความไม่สงบหลายพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แก่ ปัตตานี สงขลา นราธิวาส พบมีทั้งเผายางรถยนต์ ลอบวางระเบิดหลายจุด ยิงกราดใส่เจ้าหน้าที่ทหาร-ตร. ขณะที่แม่ทัพภาค 4 สั่งตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์แล้ว,เมื่อเวลา 21.30 น. ของวันที่ 2 พ.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คนร้ายได้ก่อเหตุความไม่สงบ โดยมีการลอบวางระเบิดหลายจุด รวมถึงเผายางรถยนต์ในจังหวัดสงขลา นราธิวาส และปัตตานี,เมื่อเวลา 21.48 น.หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 23 รายงานว่า มีคนร้ายจำนวน 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง 1 คัน และ สีขาว 1 คัน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด ยิงใส่ป้อมปฏิบัติการ ปล.ที่ 2 ร.1514 ปัตตานี 23 เป็นเหตุให้กำลังพลเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 นายทราบชื่อ พลทหารนพพล แก้วเพชร,ทั้งนี้เมื่อเวลา 22.05น. พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งเปิดวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ พร้อมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจดูแลความปลอดภัยในพื้นที่อย่างเร่งด่วน,ความคืบหน้าล่าสุด รายงานข่าวจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ระบุเบื้องต้นว่า การก่อเหตุใน 3 จังหวัดมีดังนี้,สงขลา,เหตุระเบิดที่บริเวณตู้เอทีเอ็ม ธนาคารออมสิน ในต.เทพา อ.เทพา ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย ประกอบด้วย นายอิระฟาน สะรีบู น.ส.กุรามิง ลอมา และน.ส.รสริน มะณีกัน ,เหตุวางระเบิดหน้าศูนย์รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ ทำให้รปภ.เสียชีวิต 2 คน คือนายสัญญา สมานการดี และ นายดลมาเลก หลีเต๊ะ จากนั้นคนร้ายได้จุดไฟเผาอาคารสำนักงานและโชว์รูม ได้รับความเสียหายบางส่วน,เหตุยิงหม้อแปลงไฟ หน้าห้างเทสโก้โลตัส สาขาจะนะ อ.จะนะ,ปัตตานี,เหตุวางระเบิดร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ภายในสถานีบริการน้ำมัน ปตท สาขาดอนยาง ฝั่งขาไปหาดใหญ่,เหตุเผายางรถยนต์บนเส้นทาง 42 พื้นที่ บ้านกอตอ จ.ละหาร อ.สายบุรี,เหตุยิงปืน บ้านกะลาพอ ต.เตราะบอน อ.สายบุรี,เหตุวางระเบิดเสาไฟฟ้าเสียหาย 6 ต้นพื้นที่ บ้านบาโงมูลง ต.เตราะบอน อ.สายบุรี,เหตุยิงหม้อแปลงไฟฟ้าเสียหายที่บ้านสุไหงปาแน,เหตุระเบิดเสาไฟฟ้าหักโค้นขวางเส้นทาง 42 บ้านตันหยงดาลอ อ.ยะหริ่ง,นราธิวาส,เหตุวางระเบิดทางเข้าอบต.กาเยาะมาตี ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ,เหตุยิงนายซาฟูวัน มะลี ได้รับบาดเจ็บที่บ้านละหาน อ.รือเสาะ,หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป | คนร้ายก่อความไม่สงบหลายพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แก่ ปัตตานี สงขลา นราธิวาส พบมีทั้งเผายางรถยนต์ ลอบวางระเบิดหลายจุด ยิงกราดใส่เจ้าหน้าที่ทหาร-ตร. ขณะที่แม่ทัพภาค 4 สั่งตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์แล้ว | null | ป่วนใต้,ระเบิดใต้,เผายางป่วนเมือง,ยิงกราด,เหตุก่อความไม่สงบ,คนร้ายป่วนใต้,ปัตตานี,สงขลา,นราธิวาส,ปิยวัฒน์ นาควานิช,แม่ทัพภาคที่ 4,หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 | https://www.thairath.co.th/content/772067 |
แฮมิลตัน ฉีกแนว ร่วมแสดงภาคต่อหนังดังฮอลลีวูด | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 28 เม.ย. ว่า ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลกรถสูตรหนึ่งคนล่าสุด ชาวอังกฤษ จากทีมเมอร์เซเดส ตอบตกลงร่วมเป็นหนึ่งในนักแสดงรับเชิญหนังภาคต่อของฮอลลีวูด เรื่อง ซูแลนเดอร์ ภาค 2 โดยมี เบน สติลเลอร์ ร่วมแสดงนำและกำกับ,สำหรับภาพยนต์เรื่องซูแลนเดอร์ เขียนบทและกำกับโดยนักแสดงมากฝีมืออย่าง สติลเลอร์ ซึ่งเป็นหนังแนวตลก โดยภาคแรกเข้าฉายในปี 2002 และในภาคล่าสุด ได้เชิญยอดนักขับแห่งยุคชาวอังกฤษอย่าง แฮมิลตัน ซึ่งมาร่วมถ่ายทำในฉากงานแฟชั่นโชว์ที่กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี โดยเข้าฉากร่วมกับ โอลิเวียร์ มันน์ เพื่อนสนิทของอดีตคนรักเก่าอย่าง นิโคล เชอร์ซิงเจอร์ คิลปินชื่อดังชาวอเมริกัน ที่เพิ่งจะเลิกรากันไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา,นอกจาก แฮมิลตัน แล้ว ยังมีนักแสดงชื่อดังร่วมแสดงในหนังภาคต่อเรื่องดังกล่าวอีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เพเนโลเป ครูซ และ โอเวน วิลสัน,ทั้งนี้ ภาพยนต์เรื่องดังกล่าวมีกำหนดจะออกฉายในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2016 แต่ทั้งนี้ไม่มีรายงานว่า ยอดนักซิ่งรถสูตรหนึ่งชาวอังกฤษ ร่วมแสดงไปกี่ฉากและมีความยาวกี่นาที | ลูอิส แฮมิลตัน เปลี่ยนแนว ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมแสดงในหนังภาคต่อชื่อดังของฮอลลีวูด ซึ่งมี เบน สติลเลอร์ นักแสดงมากประสบการณ์ กำกับและแสดงนำ มีกำหนดเข้าฉายเดือนกุมภาพนัธ์ 2016 | null | ลูอิส แฮมิลตัน,เอฟวัน,รถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก,นักแสดงรับเชิญ,ฮอลลีวูด,เบน สติลเลอร์,ซูแลนเดอร์ ภาค 2,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/495773 |
ทั่วไทยยังมีฝนตกต่อเนื่อง อันดามัน-อ่าวไทย คลื่นสูง 2-3 เมตร | และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง,พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีปริมาณฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ,อนึ่ง ในช่วงวันที่ 12-16 มิถุนายน 2561 บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง,พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ ถึง 06.00 น.วันพรุ่งนี้,ภาคเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 15-30 กม./ชม.,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร นครราชสีมา อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ,ภาคกลาง มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี นครปฐม กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ,ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ,ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ,ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ,กรุงเทพมหานคร มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 10-30 กม./ชม. | เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2561 กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศลักษณะทั่วไป ระบุ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง | ข่าว,ทั่วไทย | กรมอุตุนิยมวิทยา,พยากรณ์อากาศ,อากาศวันนี้,อุณหภูมิวันนี้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/1305419 |
กกต. ย้ำเดินหน้าจัดการเลือกตั้ง ไม่กังวลสถานการณ์ทางการเมือง | กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและออกเสียงประชามติ ยังกล่าวว่า กกต.ชุดใหม่ซึ่งขณะนี้รอการโปรดเกล้าฯ ลงมาซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเร็ว ๆ นี้ คาดว่ากกต.ชุดใหม่ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ไม่มีปัญหาจากการกดดัน เนื่องจากทุกคนมีความตั้งใจที่จะเข้ามาทำหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยกกต.ชุดปัจจุบันก็รอการเปลี่ยนหน้าที่เท่านั้น และไม่มีปัญหาในการลาออกไปก่อนซึ่งจะออกตามกำหนดเท่านั้นทั้งนี้ นางสดศรี มองว่า การปฏิวัติเป็นเพียงเงื่อนไขเดียว ที่จะทำให้ไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ซึ่งหากทหารเห็นว่าการปฏิงัติจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ซึ่งก็อยู่นอกเหนือการทำหน้าที่ของกกต. และแม้ว่านายกฯและคณะรัฐมนตรีจะลาออกจากการรักษาการ กกต.ก็ยังคงต้องเดินหน้าจัดการเลือกตั้งต่อไปขณะที่ การลาออกและสมัครเป็นการสมาชิกพรรคการเมือง ต่าง ๆในขณะนี้ ทางพรรคการเมืองจะต้องแจ้งมายังกกต.โดยเร็วที่สุด ตามกฎหมายที่กำหนดไว้ที่ 30 วันก่อนการเลือกตั้งที่จะต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งกกต.มีความพร้อมอย่างมากทั้งการเลือกตั้งในทุกระดับ ซึ่งขณะนี้จะต้องดูสถานการณ์ทางการเมืองเท่านั้นว่าจะพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งหรือไม่เท่านั้นนอกจากนี้ การปฏิบัติงาน ของรัฐบาลที่แม้ว่าจะมีการยุบสภาแต่รัฐบาลยังคงมีหน้าที่ในการบริหารประเทศต่อไป โดย ม.181 ระบุว่า รัฐบาลจะไม่สามารถทำงบประมาณผูกพันกับงบประมาณของรัฐบาลชุดต่อไปได้ และ พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 57 ก็ผ่านการพิจารณาแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องของกระทรวงการคลังที่จะพิจารณาเนื่องจากมีการพิจารณาก่อนที่จะยุบสภา ขณะที่กรณีงบประมาณในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่า มีการดำเนินการก่อนที่จะมีการยุบสภาหรือไม่ ซึ่งหากมีการดำเนินการก่อนการยุบสภาก็จะสามารถทำได้ แต่หากเป็นกรณีของงบประมาณที่เกิดขึ้นภายหลังการยุบสภาฯ กกต.ก็จะมีหน้าที่ในการพิจารณา | กกต.ย้ำเดินหน้าจัดการเลือกตั้ง ระบุการปฏิรูปประเทศเป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง ย้ำไม่กังวลกระแสกดดันกกต.ให้ลาออก ชี้ มีเงื่อนไขเดียวที่จะทำให้ไม่เกิดการเลือกตั้งคือ การปฏิวัติเท่านั้น | การเมือง | กกต.,สดศรี สัตยธรรม,เลือกตั้ง | https://news.thaipbs.or.th/content/211417 |
ทบ. แถลง เจ้ากรมทหารบก ติดไวรัสโควิด-19 พบทหารสัมผัสใกล้ชิด 36 นาย | กองทัพบก แถลงข่าว ยืนยัน เจ้ากรมทหารบก ติดไวรัสโควิด-19 สั่งกักตัว 14 วัน พบมีนายทหารสัมผัสใกล้ชิด 36 นาย 1 ในนั้นเป็น 5 เสือ ทบ. แต่ไม่ใช่ บิ๊กแดงวันที่ 16 มี.ค. พลเอกณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบกแถลงข่าวเพื่อยืนยันความชัดเจนเรื่อง ผลการตรวจเชื้อไวรัส โควิด-19 ของ พล.ต.ราชิต อรุณรังษี เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก โดยผลตรวจยืนยันชัดว่า พล.ต.ราชิต อรุณรังษี เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ พบว่า มีทหาร 36 นาย สัมผัสใกล้ชิด สั่งกักตัว 14 วัน แล้ว ซึ่ง 1 ในนั้น คือ 1 ใน 5 เสือ ทบ.แต่ไม่ใช่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ผบ.ทบ. ขณะที่ปรึกษากองทัพบก ยืนยัน ไม่มีบุคลากรกองทัพบกไปฝรั่งเศส และเจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ไม่ไปต่างประเทศ ในรอบ 1 ปี ที่ผ่านมาแต่อย่างใดพล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า กองทัพบกเอง ยืนยันว่า เราเน้นมาตรการที่เป็นมาตรฐานเดียวกันกับกระทรวงสาธารณสุข โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เน้นย้ำให้กองทัพมีความพร้อมและเตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกำลังพล สถานรักษาพยาบาล รวมถึงขีดความสามารถทางเครื่องมือที่มีอยู่โดยขณะนี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.มีนโยบายเปิดศูนย์ประสานงานทางการแพทย์ขึ้นโดยมีกรมแพทย์ทหารบกเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ทำหน้าที่ประสานงาน กำหนดนโยบาย ให้ข่าวและการบริการทางการแพทย์ เตรียมสถานพื้นที่ บุคลากร และเวชภัณฑ์อย่างเป็นระบบ สร้างมาตรการรับรู้ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กำลังพลและประชาชนทั่วไป พร้อมทั้งบูรณาการประสานร่วมงานกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข และเหล่าทัพ เพื่อเชื่อมโยง นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข และรองรับการปฏิบัติงานของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ ต้องชื่นชมกระทรวงสาธารณสุข ที่วางมาตรฐานและระบบการทำงานไว้ล่วงหน้าทุกเรื่องในเชิงรุกเป็นอย่างดีพล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการสำคัญ เมื่อเกิดกรณีนี้ขึ้นในกองทัพบก จะต้องทำการวินิจฉัยและจัดเข้าสู่กระบวนการรักษาผู้ป่วยด้วยความระมัดระวัง ปัจจุบันใช้ห้องแยก อุปกรณ์ทางการแพทย์ และบุคลาการตามมาตรฐานตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ไว้ทุกประการ ขณะที่ขั้นดำเนินการสอบสวนโรคต้องค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดย้อนหลังไป 14 วัน นับตั้งแต่เริ่มมีอาการ จากนั้น ก็ใช้วิธีการติดต่อโดยตรงกับบุคคลดังกล่าว เพื่อนำมาแยกตัวและกักบริเวณไว้ 14 วัน ซึ่งมีผู้อยู่ในเกณฑ์เสี่ยงสูงที่เป็น 1 ใน 5 เสือกองทัพบก ผู้บังคับบัญชาระดับสูง และข้าราชการผู้ร่วมปฏิบัติงาน จำนวน 36 นาย โดยปัจจุบันได้สั่งการให้พักกักตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วันแล้ว รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องและครอบครัวผู้ที่มีความใกล้ชิด จำนวน 60 ราย เช่น พลขับ เจ้าหน้าที่ที่โดยสารร่วมกันไปในรถและคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในระบบการทำงาน และในสถานที่เสี่ยงจะต้องมีการเฝ้าระวังอย่างมีประสิทธิภาพทุกคน โดยไม่เว้นใคร หรือจะยศอะไร โดนหมดทุกคนที่เข้าร่วมประชุมด้วยกัน และมีระยะห่างไม่เกิน 4.5 เมตร ภายใน 15 นาที ยืนยันว่า สามารถควบคุมได้ทั้งหมดแล้ว หากพบอาการไข้ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไปทั้งนี้ ผบ.ทบ.ได้เน้นย้ำว่า จะต้องไปตรวจติดตามว่า อยู่บ้านหรือไม่ ถ้าไม่อยู่ถือว่า ขัดคำสั่ง หากเกิดอะไรขึ้นมาต้องรับผิดชอบ พร้อมกันนี้ กองทัพบกได้ปิดและทำความสะอาดสถานที่ ที่เป็นแหล่งแพร่เชื้อตามสมมติฐานข้อสงสัย คือ สนามมวยลุมพินี เรียบร้อยแล้ว รวมถึงที่ บก.ทบ.ด้วย นอกจากนี้ กองทัพบกยังได้จัดทำคอลเซ็นเตอร์เพื่อรับทราบเรื่องราวและแจ้งสถานการณ์ให้กับหน่วยของกองทัพบกโดยเฉพาะเพื่อประโยชน์ต่อกำลังพล ครอบครัว และประชาชนทั่วไป | กองทัพบก แถลงข่าว ยืนยัน เจ้ากรมทหารบก ติดไวรัสโควิด-19 สั่งกักตัว 14 วัน พบมีนายทหารสัมผัสใกล้ชิด 36 นาย 1 ในนั้นเป็น 5 เสือ ทบ. แต่ไม่ใช่ บิ๊กแดง | ข่าว,การเมือง | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,COVID-19,เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก,พล.ต.ราชิต อรุณรังษี,ทบ.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1795973 |
ลาล่า ช็อก พ่อถูกแก๊สระเบิด | เกิดเหตุชุลมุนกลางกองละคร ปอบผีเจ้า ทางช่อง 8 ระหว่างถ่ายทำที่ไร่จิม ทอมป์-สัน ฟาร์ม นครราชสีมา เมื่อสาว ลาล่า อาร์สยาม จู่ๆก็หายตัวไป ทุกคนตามหากันวุ่น สุดท้ายไปเจอแอบร้องไห้อยู่ในรถส่วนตัว โดย ลาล่า เล่าว่า ทราบข่าวจากทางบ้านว่าเกิดอุบัติเหตุแก๊สระเบิดใส่หน้าคุณพ่อ ที่กำลังขายลูกชิ้นอยู่ในตลาดกลางหมู่บ้านอาจสามารถไฟลวกบริเวณหน้า ผม และแขนทั้ง 2 ข้าง เกิดแผลไหม้พุพอง โชคดีที่มีคนพาส่งโรงพยาบาลบ้านแท่น จ.ชัยภูมิ และตอนนี้ก็ปลอดภัยแล้ว ต้องขอโทษทางทีมงานกองละคร ปอบผีเจ้า ทางช่อง 8 ที่ต้องรีบกลับก่อน และขอขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆทุกคนที่ส่งกำลังใจมาทุกช่องทางมากๆเลยค่ะ หลังจากนั้น ลาล่า ก็รีบเดินทางกลับชัยภูมิทันที.>> อ่านเรื่องย่อนิยายทุกเรื่อง คลิกที่นี่ << | เกิดเหตุชุลมุนกลางกองละคร ปอบผีเจ้า ทางช่อง 8 ระหว่างถ่ายทำที่ไร่จิม ทอมป์-สัน ฟาร์ม นครราชสีมา เมื่อสาว ลาล่า อาร์สยาม จู่ๆก็หายตัวไป ทุกคนตามหากันวุ่น สุดท้ายไปเจอแอบร้องไห้อยู่ในรถ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ปอบผีเจ้า,ลาล่า อาร์สยาม,พ่อถูกแก๊สระเบิด,อุบัติเหตุ,ขายลูกชิ้น,กลับชัยภูมิ,เหตุชุลมุนกลางกองถ่ายละคร,ละคร | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1762425 |
ซิวเดนคุกจอมโจรงัดรถ ขโมยปืนผู้กองไปขาย พรรคพวกไม่เอาด้วย | ก่อเหตุซ้ำอีก จนพลาดท่าถูกจับกุมยัดเข้าตะรางอีกรอบ,เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ธ.ค.62 พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิต ผกก.5 บก.สส.บช.น. และ พ.ต.ต.อาทิตย์ ชาตินักรบ สว.กก.5 บก.สส.บช.น. นำกำลังจับกุม นายแมว จีนอิ่ม อายุ 62 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ 419/2562 ลงวันที่ 1 ธ.ค.62 ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำลายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด โดยจับกุมได้ที่บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ถ.แสงชูโต อ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี ก่อนขยายผลไปตรวจยึดของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อ Glock Model 19 ทะเบียนตราโล่ เลขที่ RTP20421 ของทางราชการตำรวจ จำนวน 1 กระบอก ซึ่งซุกซ่อนอยู่ใต้ตู้เย็นในบ้านภรรยาผู้ต้องหา เลขที่ 53/6 หมู่ 6 ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี,พ.ต.อ.ภิญโญ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อหัวค่ำวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ชนะชัย ใจกล้า รอง สว.สส.กก.5 บก.สส.บช.น. ผู้เสียหาย และเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนายแมว ผู้ต้องหารายนี้ ได้ขับรถกระบะส่วนตัวไปจอดที่บริเวณสวนสาธารณะย่านถนนพุทธมณฑล สาย 2 ท้องที่ สน.ธรรมศาลา เพื่อวิ่งออกกำลังกายตามปกติ แต่เมื่อออกกำลังกายเป็นที่เรียบร้อยแล้วย้อนกลับมาที่รถ ปรากฏพบรถตนเองถูกคนร้ายงัดและทำการลักทรัพย์เป็นอาวุธปืนของทางราชการ จำนวน 1 กระบอก กับโทรศัพท์มือถือไป 1 เครื่อง จึงทำการแจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา และเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุเพื่อหาเบาะแสตัวคนร้าย กระทั่งพบภาพ นายแมว ผู้ต้องหา ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมุ่งหน้าไปทางชุมชนวัดคฤหบดี ถนนจรัญสนิทวงศ์ 42 แต่พอติดตามไปจับกุมตัวแล้วปรากฏว่าคลาดกัน นายแมวหลบหนีไปได้หวุดหวิด,ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สนธิกำลังกับฝ่ายสืบสวน สน.ธรรมศาลา ตามล่าตัว นายแมวอย่างกระชั้นชิด จนทราบว่า นายแมวหลบหนีไปกบดานอยู่กับภรรยาในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จึงรีบรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลเดินทางไปจับกุมตัวนายแมวไว้ได้พร้อมของกลางอาวุธปืนกระบอกดังกล่าว และเมื่อสืบค้นประวัติเจ้าตัว ยังพบว่า เจ้าตัวเคยถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ในท้องที่ สน.จักรวรรดิ และ สน.สำราญราษฎร์ มาก่อน แต่ไม่ยอมเข็ดหลาบ เบื้องต้นจึงนำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา ดำเนินการตามกฎหมาย พ.ต.อ.ภิญโญ กล่าว,จากการสอบสวน นายแมว ยอมรับสารภาพว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 เข้าออกเรือนจำเพราะต้องโทษคดีลักทรัพย์มาโดยตลอด ปัจจุบันก็ไม่ได้มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง วันเกิดเหตุยอมรับว่าลงมือกระทำเพียงลำพัง แต่ไม่รู้ว่ารถที่ตัวเองงัดเป็นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พอได้โทรศัพท์มือถือมาตนตัดสินใจโยนทิ้งไปในพงหญ้าถนนเลียบทางรถไฟหลังสนามกอล์ฟย่านตลิ่งชัน เนื่องจากทราบดีว่าจะต้องโดนแกะรอยจากโทรศัพท์แน่นอนอยู่แล้ว,ส่วนอาวุธปืนก็พยายามนำไปขายให้พรรคพวกที่ย่านริมคลองหลอดและสนามหลวง แต่ไม่มีใครกล้ารับซื้อเพราะเห็นเป็นอาวุธปืนตราโล่ จากนั้นหลังก่อเหตุได้วันสองวัน ก็รู้ข่าวตัวเองกำลังโดนตำรวจตามล่า จึงรีบหนีไปกบดานที่บ้านภรรยา และนำอาวุธปืนของกลางซ่อนไว้ใต้ตู้เย็น เตรียมการหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางธรรมชาติ แต่ยังไม่ทันได้เก็บเสื้อผ้าก็โดนตำรวจตามมาจับกุมได้เสียก่อน. | รวบแล้วเฒ่าเดนคุก งัดรถ ร.ต.อ.ขณะจอดแวะวิ่งออกกำลังกาย ฉกปืนหลวง ก่อนนำไปเร่ขายพรรคพวกย่านคลองหลอด แต่ไม่มีใครกล้ารับซื้อ แฉเคยถูกจับติดคุกมาแล้วหลายครั้ง ไม่เข็ด พ้นโทษออกมา | ข่าว,อาชญากรรม | เดนคุก,โจร,งัดรถ,ขโมยปืน,ขโมยปืนตำรวจ,ขโมยปืนผู้กอง,ล้วงคองูเห่า,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1716908 |
สมคิด โชว์ญี่ปุ่นประกาศร่วมซีพีทีพีพี | บี้รัฐวิสาหกิจเร่งเบิกจ่ายงบ ประคองเศรษฐกิจช่วงเลือกตั้ง,นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงกลางเดือน มี.ค.นี้ ได้นำคณะของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจและการลงทุนของไทยไปญี่ปุ่น เพื่อเชิญชวนนักลงทุนใน 2 เมืองเศรษฐกิจที่สำคัญคือ เมืองเซนได ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเกาะฮอนชู และฮอกไกโด ซึ่งเป็นการเดินทางชักจูงการลงทุนครั้งที่ 2 ของปีนี้ โดยกระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างดำเนินการยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงครอบคลุม และก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) สามารถดำเนินการได้ทัน จะไปประกาศการเข้าร่วมความตกลงซีพีทีพีพีของไทยในการเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้,หลังจากกรอบความตกลงเริ่มมีผลบังคับแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดรับสมาชิก ถ้าไทยทิ้งช่วงไว้ 4-5 เดือนแล้วค่อยเข้าเป็นสมาชิกจะไม่เป็นผลดี หากชัดแล้วว่าไทยต้องการเข้าร่วม การไปประกาศที่ญี่ปุ่นจะเป็นการผ่อนคลายความกังวลให้เอกชนญี่ปุ่น ที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตใหญ่ ก็จะไม่ย้ายหนีไปประเทศอื่น,สำหรับประเด็นเรื่องเศรษฐกิจที่ทุกฝ่ายต้องตระหนัก เมื่อเศรษฐกิจโลกไม่ดี ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้ง การประคองเศรษฐกิจต้องพึ่งการใช้จ่ายภาครัฐ และการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจากการไปประชุมติดตามการเบิกจ่ายงบที่กระทรวงการคลังเมื่อสัปดาห์ก่อน พบว่าการเบิกจ่ายตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นมา ยังไม่แรงพอ โดยเฉพาะในส่วนงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ จึงได้กำชับทุกหน่วยงานว่า อย่าไปรอการเลือกตั้ง ประเทศต้องลงทุน หากเครื่องจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจอ่อน จะไม่ดีกันทั้งประเทศ,ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณรายงานให้ ครม.ทราบว่าการเบิกจ่ายโดยเฉพาะส่วนของงบลงทุนไม่ถึงเป้า ขาดอยู่ประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของราชการยังไม่หลุดเป้ามาก แต่ที่มากคือรัฐวิสาหกิจ และมีรัฐวิสาหกิจบางแห่งขอปรับเป้าหมายลง และหากจำเป็นจริงก็ปรับลดเป้าหมายได้ อย่างไรก็ตาม ปีนี้จะปรับกระบวนการประเมินผลงานรัฐวิสาหกิจใหม่ โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กำหนดเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณเป็นส่วนหนึ่งของการชี้วัดผลการทำงานของหน่วยงานด้วย,ที่ผมติดตามคือระยะสั้นทำอย่างไรจะใช้จ่ายให้เต็มที่ เพื่อวางสถานะเพื่อระยะยาว เพื่อเดินหน้าปฏิรูป อยากให้เศรษฐกิจโตเกิน 4% มันเป็นไปไม่ได้เลยถ้าประเทศไม่เปลี่ยนแปลง. | นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงกลางเดือน มี.ค.นี้ ได้นำคณะของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจและการลงทุนของไทยไปญี่ปุ่น เพื่อเชิญชวนนักลงทุนใน 2 เมืองเศรษฐกิจ | เลือกตั้ง | สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,นักลงทุน,เศรษฐกิจโลก,เลือกตั้ง,การลงทุน | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1498610 |
รัฐคิกออฟตอบ 4 คำถามนายกฯ 12 มิ.ย.นี้ ยันไม่มีล้วงข้อมูล ปชช. | เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งรายละเอียดความคืบหน้าเกี่ยวกับแนวทางการรวบรวมคำตอบ ความเห็นของประชาชนทั่วประเทศจาก 4 คำถามของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.โดยจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป สำหรับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯสามารถแสดงความเห็นได้ที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ศูนย์บริการประชาชนฝั่ง ก.พ.ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล และศูนย์ดำรงธรรมที่กระทรวงมหาดไทย ขณะที่ต่างจังหวัด แสดงความเห็นได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และอำเภอทั่วประเทศ ซึ่งสิ่งที่จะต้องเตรียมไปคือบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อยืนยันตัวตนในการส่งคำตอบ ป้องกันการแอบอ้างที่จะนำไปสู่ผลที่บิดเบือน โดยทางเจ้าหน้าที่จะมีแบบฟอร์มให้แสดงความเห็น,ส่วนพวกที่ไปปล่อยข่าวว่า การมาส่งคำตอบความเห็นของประชาชนโดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนมาแสดงยืนยันต่อเจ้าหน้าที่นั้น จะทำให้รัฐบาลเข้าไปสืบข้อมูลทางลับของประชาชน ขอยืนยันว่าไม่จริง รัฐบาลไม่มีความประสงค์ที่จะทำแบบนั้น เพียงแต่ต้องการรับฟังความเห็นของประชาชนเท่านั้น โดยในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ จะประมวลผลรอบแรกส่งให้รัฐบาล ตามกรอบที่จะส่งให้ทุกๆ 10 วัน แต่จะยังไม่กำหนดกรอบเวลาว่าสิ้นสุดการรวบรวมวันไหน พล.ท.สรรเสริญ กล่าว | โฆษก รบ.เผย มท.เตรียมเปิดรับฟังคำตอบ 4 คำถามนายกฯ 12 มิ.ย.นี้ แนะพกบัตร ปชช.แสดงตัวกันแอบอ้าง ยันไม่มีล้วงข้อมูล เผย 22 มิ.ย.ประมวลผลรอบแรก | ข่าว,การเมือง | คำถาม 4 ข้อ,คำถาม 4 ข้อนายกฯ,รัฐบาล,คำถาม,โฆษก รบ. | https://www.thairath.co.th/news/politic/964513 |
กู้ภัยขอรับบริจาคยา ลุยน้ำจนก้นเป็นแผล ขอผ้าอนามัยให้สาวบ้านน้ำท่วม | วันที่ 1 ส.ค. 60 หลังจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ แจ้งว่า จำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำออกจากเขื่อนลำปาว จากเดิมวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร ลงลำน้ำชี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ จ.ร้อยเอ็ด นายเฉลิมพล มั่งคั่ง รองผู้ว่าจังหวัดร้อยเอ็ด จึงลงนามแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งกำลังอยู่ในพื้นที่อุทกภัย,รวมทั้ง แจ้งนายอำเภอจังหาร เชียงขวัญ โพธิ์ชัย ธวัชบุรี ทุ่งเขาหลวง เสลภูมิ อาจสามารถ และ อ.พนมไพร รวม 8 อำเภอ ซึ่งเป็นอำเภออยู่ติดกับลำน้ำชี ให้ประชาชนได้ทราบและเตรียมตัวเผชิญเหตุอุทกภัย จากการประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด,นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เผยว่า จากการไปอำนวยการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยที่ อ.เสลภูมิ มีผู้ประสบภัยหญิงจำนวนมาก ต้องการรับบริจาคด่วนขณะนี้ คือ ผ้าอนามัย และผ้าอ้อมสำเร็จรูป,นอกจากนี้ นายภาคภูมิ วุฒิจำนงค์ ผู้ประสานงานทางสื่อสังคม เผยว่า มีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยภาคเอกชนหลายคน ที่กำลังให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เล่าว่า นาทีนี้แสบก้น เนื่องจากลุยน้ำช่วยเหลือชาวบ้านติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยบางคนเป็นแผลที่ก้น จึงต้องการยาที่ใช้รักษาโรคทางน้ำเป็นอย่างยิ่ง เช่น ขี้ผึ้ง ยาฆ่าเชื้อในร่มผ้า ยากันโรคฉี่หนู เกรงติดเชื้อมากับน้ำ. | ต้องการมาก! เจ้าหน้าที่ขอรับบริจาคยารักษาโรคทางน้ำ หลังลุยช่วยผู้ประสบภัย น้ำท่วมร้อยเอ็ด จนหลายคนมีแผลที่ก้น ขณะที่ชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้หญิง ยังต้องการผ้าอนามัย หรือผ้าอ้อมสำเร็จรูป จำนวนมาก | ข่าว,ทั่วไทย | น้ำท่วม,ขอรับบริจาค,เจ้าหน้าที่กู้ภัย,บริจาคผ้าอนามัย,ร้อยเอ็ด,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1022851 |
พบครอบครัว พล.อ.เปรม เคยอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช | วันนี้ (31 พ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธรรมาสน์พระปฏิโมกข์สำหรับพระสงฆ์สวดพระปาฏิโมกข์ ทุกวันขึ้น 15 ค่ำ ด้านหลังจารึกชื่อ หลวงวินิจทัณฑกรรม ว่ากันว่าท่านเป็นผู้ต่อไม้ด้วยตัวเอง และมาถวายวัดใช้งานในอุโบสถตั้งแต่ปี พ.ศ.2476 หรือกว่า 80 ปีมาแล้ว พระสงฆ์วัดหน้าพระบรมธาตุ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ยังคงใช้มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นร่องรอยเพียงอย่างเดียวที่เหลืออยู่ของความสัมพันธ์ระหว่างบิดา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในฐานะโยมพุทธบริษัทของวัด และยังเป็นศิษย์ของพระศรีธรรมราชมุนี หรือพระกาแก้ว อดีตพระเถราจารย์ เจ้าอาวาสวัดหน้าพระบรมธาตุ เมื่อเกือบ 100 ปีก่อนแม้สภาพวัดจะเปลี่ยนแปลงไปมากตามกาลเวลา ผู้คนในยุคร่วมสมัยกับหลวงวินิจทัณฑกรรม และ พล.อ.เปรม ล้วนเสียชีวิตไปหมดแล้ว คงเหลือเพียงตำนานเล่าขานบิดามารดาของ พล.อ.เปรม เป็นคนนครศรีธรรมราช แต่ได้เดินทางไปลงหลักปักฐานที่ จ.สงขลาหลายสิบปีก่อน พล.อ.เปรม ได้ส่งคนมาช่วยกันย้ายอัฐิของหลวงวินิจทัณฑกรรมและบรรพบุรุษที่เก็บไว้ในบัวหน้าอุโบสถ ไปไว้ที่ จ.สงขลา ปัจจุบันเหลือเพียงร่องรอยบิดาของ พล.อ.เปรม ผ่านธรรมาสน์พระปาฏิโมกข์ งานไม้ฝีมือของหลวงวินิจทัณฑกรรมและตำนานที่เล่าขานอยู่ใน จ.นครศรีธรรมราช | ยังคงพบร่องรอยตำนานครอบครัวของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่เหลือเพียง ธรรมาสน์พระปาฏิโมกข์ ของหลวงวินิจทัณฑกรรม บิดาของ พล.อ.เปรม ที่ จ.นครศรีธรรมราช | ภูมิภาค | พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์,หลวงวินิจทัณฑกรรม,ธรรมาสน์,ธรรมาสน์พระปาฏิโมกข์,ติณสูลานนท์,นครศรีธรรมราช,สงขลา,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/280505 |
สระแก้ว พบป่วยโควิด-19 รวม 2 ราย โดยเป็นกลุ่มรับเชื้อมาจากปอยเปต | เมื่อวันที่ 23 มี.ค.63 ณ ห้องประชุมสิรินธร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว นายวิทยา มากปาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย นพ.สุภโชค เวชภัณฑ์เภสัช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว นพ.ราเชษฎ เชิงพนม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอรัญประเทศ ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดสระแก้วนายวิทยา มากปาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสระแก้ว ขอแจ้งสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ว่าขณะนี้ (23 มี.ค.63) จังหวัดสระแก้ว มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) สะสมทั้งหมด 70 ราย ในจำนวนนี้ผลไม่พบเชื้อ 58 ราย ซึ่งแพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน และได้ติดตามกักตัวไว้สังเกตอาการ 14 วันรองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวต่อว่า วันนี้มีรายงานพบผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 จำนวน 2 ราย เป็นเพศชาย อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดสมุทรปราการ และเพศหญิง อายุ 27 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดสระแก้ว ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ได้รับรายงานแจ้งผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 ชลบุรี ว่ามีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 2 ราย มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยที่กระทรวงสาธารณสุขแถลงไปก่อนหน้านั้น ปัจจุบันยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล อาการไม่รุนแรงด้าน นพ.สุภโชค เวชภัณฑ์เภสัช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า สำหรับผู้ป่วย รายที่ 1 มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ถ่ายเหลว และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอรัญประเทศ ผลตรวจพบเชื้อโควิด-19 จากการสอบสวนโรคมีความสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยวที่ไปใช้บริการที่สถานบันเทิงในปอยเปต ผู้ป่วย รายที่ 2 ไม่มีอาการ แต่มีประวัติเสี่ยงสูงคือสัมผัสกับผู้ป่วยที่ยืนยันโรค จึงได้เข้ารับการตรวจยืนยันที่โรงพยาบาลอรัญประเทศ ผลตรวจพบเชื้อโควิด-19นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ได้ดำเนินการเฝ้าระวังและติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยทั้งคู่ จำนวน 6 ราย ผลตรวจไม่พบเชื้อ และติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง (High Risk) อีก 6 ราย ซึ่งไม่มีอาการป่วยและได้เข้ารับการกักตัว 14 วัน นอกจากนี้ยังมีผู้สัมผัสที่เกี่ยวกับผู้สัมผัสกลุ่มนี้อีก 6 ราย อยู่ระหว่างเก็บสิ่งส่งตรวจและรอยืนยันผล โดยได้มีการสื่อสารความเสี่ยงและทำความเข้าใจกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับผู้ป่วย เพื่อลดความตื่นตระหนกในเรื่องช่องทางการติดโรค ลักษณะการแพร่กระจายของโรค และการป้องกันตนเองสำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้สร้างสุขอนามัย ยึดหลัก ลด เลี่ยง ดูแล คือ ลดความเสี่ยง ด้วยการล้างมือด้วยน้ำ และสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ให้บ่อยขึ้น หากรู้สึกไม่สบาย ไอ จาม ให้สวมหน้ากากอนามัย เลี่ยง การเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาดและพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น เลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้า ดูแล สุขภาพตนเองและสังคม ด้วยการกินร้อน ช้อนกลางส่วนบุคคล ทำตนเองให้แข็งแรง และกักตัว 14 วัน เมื่อเดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาดส่วน นพ.ราเชษฎ เชิงพนม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอรัญประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ โรงพยาบาลอรัญประเทศได้ดูแลผู้ป่วยยืนยัน 2 ราย รอยืนยันอีก 6 ราย โดยแบ่งเป็นห้องแยกโรคเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด จำนวน 10 ห้อง มีมาตรการดูแลต่างๆ เช่น งดเยี่ยมผู้ป่วย ได้จัดทีมแพทย์อายุรกรรมคอยดูแล รวมทั้งมีที่ปรึกษาเป็นแพทย์จากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการหนัก เบื้องต้นผู้ป่วยทั้ง 2 ราย อายุ 27-29 ปี มีอาการป่วยธรรมดา ไข้ ไอ มีน้ำมูก ไม่มีอาการปอดอักเสบ บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลได้ให้การดูแลรักษาเป็นอย่างดีทั้งนี้ ประชาชนสามารถประเมินความเสี่ยงก่อนมาโรงพยาบาลต่อการติดเชื้อโรค COVID-19 ด้วยแบบประเมินออนไลน์โรงพยาบาลราชวิถี และติดตามสถานการณ์ ข้อมูลข่าวสารได้ทางช่องทางต่างๆ ได้ที่ช่องทางต่างๆ ของ ไทยรู้ สู้โควิด ได้แก่ ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก ไลน์ออฟฟิเชียล (Line official) ติ๊กต๊อก (TikTok) และแชตบอต 1422 ทางไอดี : @COVID-19 (แอดโควิด-19) สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับช่องทางของจังหวัดสระแก้ว ได้แก่ ฮอตไลน์ (HOT LINE) 1669 โควิดสระแก้ว และทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว หรือโทร 0 37 425 141-4 ต่อ 308 309 ในเวลาราชการ. | รองผู้ว่าฯ สระแก้ว แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 2 ราย โดยรายแรกเป็นชายได้รับเชื้อจากการไปสถานบันเทิงที่ปอยเปต รายที่สองเป็นหญิงมีประวัติสัมผัสเสี่ยงสูง โดยยังมีกลุ่มเสี่ยงรอผลตรวจอีก 6 ราย | ข่าว,ทั่วไทย | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสอู่ฮั่น,สระแก้ว,ผู้ป่วยโควิด,โรงพยาบาลอรัญประเทศ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1802134 |
สูญเงินล้านในพริบตา พายุซัดต้นทุเรียนหมอนทอง โค่นเกลื่อนสวนเมืองจันท์ | เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 เม.ย. 60 ผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบพื้นที่ บ้านเขาลูกช้าง ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี หลังได้รับแจ้งจาก นายพิชิต ชนะสิทธิ์ อายุ 48 ปี ว่าเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มสวนผลไม้ ทำให้ต้นทุเรียนหักโค่น ผลผลิตทุเรียนหมอนทองแก่ใกล้เก็บเกี่ยว ถูกแรงลมซัดปลิว ร่วงหล่น ได้รับความเสียหายกว่า 7 ตัน ค่าความเสียหายกว่าล้านบาท,โดยต้นทุเรียนได้รับความเสียหาย ถูกแรงลมพัดหักโค่นลงทั้งต้น ตรวจสอบพบเป็นต้นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง อายุกว่า 40 ปี สูงประมาณ 30 เมตร จำนวน 3 ต้น ถูกแรงลมพัดหักโค่นล้มแบบถอนรากถอนโคน ซึ่งแต่ละต้นมีผลผลิตทุเรียนแก่ใกล้เก็บเกี่ยวได้ประมาณวันที่ 10 เม.ย.นี้ ต้นละประมาณ 150 ลูก โดยเฉลี่ยราคาขาย ณ ปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 130 บาท คิดเป็นค่าความเสียหาย เฉพาะผลผลิตทุเรียนที่อยู่ในต้นที่ล้มหักโค่นทั้ง 3 ต้น ประมาณ 234,000 บาท,นอกจากนี้ ยังมีผลผลิตทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ภายในสวนเนื้อที่กว่า 80 ไร่ และมีผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวได้ในเดือนเมษายน ถูกกระแสลมแรงซัดลูกปลิวร่วงหล่น ได้รับความเสียหายประมาณ 7 ตัน โดยคิดเป็นมูลค่าความเสียหายโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาทเศษ,นายพิชิต เปิดเผยว่า พายุฤดูร้อนเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 18.00 น. เย็นวันที่ 6 เม.ย. 61 ที่ผ่านมา โดยขณะเกิดเหตุมีพายุฝนฟ้าคะนองจากนั้น ได้มีกระแสลมพัดเข้ามาอย่างรุนแรง ซึ่งกระแสลม มาจากช่องระหว่างบนเขาลูกช้าง โดยทิ้งระยะเวลาประมาณ 5-10 นาที กระแสลมแรงจึงสงบลง แต่ยังมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ด้วยความวิตกกังวล จึงได้พาคนงานกระจายกันออกตรวจสอบความเสียหายในสวน และมาพบว่ามีต้นทุเรียนถูกแรงลมล้มหักโค่น ตลอดจนผลทุเรียน ร่วงหล่นเสียหายเป็นจำนวนมาก จึงได้ช่วยกันขนย้ายกลับมาไว้ที่บ้าน โดยเร่งทำการขนย้ายแข่งกับสายฝนตลอดเกือบทั้งคืน และในช่วงเช้า ได้พาคนงานออกไปตรวจสอบ และเก็บผลิตที่ยังหลงเหลือ,นายพิชิต บอกอีกว่า ผลผลิตทุเรียนหมอนทอง ที่ถูกลมพัดล่วงหล่นจำนวนกว่า 7 ตันนี้ มีอายุประมาณ 70-80 วัน นับว่าเป็นทุเรียนแก่ใกล้จะเก็บขายได้ แต่ตนเองไม่ได้นำออกไปขาย แม้ว่าจะมีพ่อค้าหัวใสมาติดต่อขอซื้อถึงที่บ้าน ในราคาสูงเท่ากับทุเรียนปกติก็ตาม,ทั้งนี้ ด้วยจรรยาบรรณของชาวสวน จึงไม่ต้องการให้ทุเรียนเหล่านี้ออกไปสู่ตลาด ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบต่อกลไกของราคา ซึ่งอาจจะทำให้ราคาผลผลิตมีราคาตกต่ำลง เพราะความเห็นแก่ตัวนำทุเรียนด้อยคุณภาพไปขายให้กับผู้บริโภค โดยทุเรียนหมอนทองทั้งหมด จะนำมาชุบน้ำยาป้องกันเชื้อรา ซึ่งเกิดกับทุเรียนที่มีหนามช้ำ จากนั้นจะนำมาป้ายน้ำยาเร่งสุก เมื่อทุเรียนสุกได้ที่จะทำการแกะเอาเนื้อสด มาเตรียมแปรรูปเป็นทุเรียนกวน ไว้แจกจ่ายให้กับญาติและคนรู้จัก. | เจ้าของยืนมองตาปริบ หลังพายุฤดูร้อนซัดกระหน่ำ ทำต้นทุเรียนหมอนทองในสวนจันทบุรี หักโค่นแบบถอนรากถอนโคน สูญเงินล้านในพริบตา | ข่าว,ทั่วไทย | พายุ,จันทบุรี,ทุเรียนหมอนทอง,ความเสียหาย,ทุเรียนกวน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1250541 |
เผยมาร์คออก พรก.ฉุกเฉินเพราะเกรงผู้ชุมนุมจะรวมตัวมากขึ้นหลังปิดดีสเตชั่น | ประเมินว่าหากปิดสถานีจะทำให้คนมาร่วมชุมนุมมากขึ้น มีแนวโน้มจะเกิดวินาศกรรมจึงต้องรับมือด้วย พรก.ฉุกเฉิน อ้างแหล่งข่าว รายงานข่าว ซึ่งแจ้งว่า ในการประชุม ครม. ก่อนออก พรก.ฉุกเฉินนั้น ที่ประชุมใช้เวลาหารือสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนาน 20 นาที โดยเริ่มจากการรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในระหว่างวันที่ 31 มีนาคม-7 เมษายน จากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีซึ่งกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาก่อการร้ายรวม 9 ครั้ง แต่ปัญหาคือมีความพยายามจากแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงในการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อปลุกระดมประชาชนให้ออกมาร่วมชุมนุม อย่างในวันที่ 6 เมษายนมีผู้มาร่วมชุมนุมในช่วงกลางวัน 3-4 พันคน แต่พอปลุกระดมผ่านสื่อฝ่ายเขานาน 2 ชั่วโมง ตัวเลขเพิ่มเป็น 3 หมื่นคนในช่วงเย็น จึงขอให้ไอซีทีแจ้งไปยังดาวเทียมไทยคม เพื่อขอให้ยุติการออกอากาศและกระจายเสียงของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีเพิลแชนแนล เนื่องจากกระทำการผิดสัญญาด้วยการเปิดให้มีการยุยงปลุกปั่นด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อภิปรายเสริมว่าคาดว่าหลังเกิดปรากฏการณ์จอดำ จะทำให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงมากขึ้น และมีแนวโน้มเกิดวินาศกรรมมากขึ้น รัฐบาลจึงต้องเตรียมแผนรับมือกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้นขอแจ้งครม. ให้รับทราบโดยทั่วกันว่าหากมีความจำเป็น จะประกาศพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งโดยกฎหมายเป็นอำนาจของตนในฐานะนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว ก่อนแจ้งให้ ครม. รับทราบภายใน 3 วันผู้สื่อข่าวมติชนออนไลน์ยังรายงานว่า สาเหตุที่นายอภิสิทธิ์มอบหมายให้นายสุเทพ เป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เนื่องจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ต้องการให้อำนาจผู้รับผิดชอบการดำเนินการตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งนี้เป็นฝ่ายการเมือง เพราะทหารเป็นเพียงผู้ปฏิบัติตามคำสั่งรัฐบาล ดังนั้น หากเกิดความผิดพลาดหรือเกิดการสูญเสีย ฝ่ายการเมืองต้องเป็นผู้รับผิดชอบตามกฎหมาย ทำให้นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งนายสุเทพ เป็น ผอ.ศอฉ. รับผิดชอบทั้งหมด ส่วนการปฏิบัติจะเป็นการประสานการทำงานระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับ พล.อ.อนุพงษ์ เพื่อสั่งกำลังทหารในการปฏิบัติหน้าที่ | มติชนออนไลน์ระบุสาเหตุ ครม.ออก พรก.ฉุกเฉินเหตุจาก สุเทพ ประเมิน 6 เม.ย. คนเสื้อแดงสมทบแยกราชประสงค์กว่า 3 หมื่นหลัง ดีสเตชั่น ระดมพล จึงขอไอซีทีแจ้งไทยคมยุติการออกอากาศ ส่วน มาร์ค | การเมือง,ความมั่นคง | การชุมนุมเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2553,คนเสื้อแดง,นปช.,พรก.ฉุกเฉิน,พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548,สุเทพ เทือกสุบรรณ,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ | https://prachatai.com/journal/2010/04/28820 |
สรรพากร เผย ผู้หลีกเลี่ยง-ฉ้อโกงภาษี 10 ล.ขึ้นไป ผิดร้ายแรงฐานฟอกเงิน | จากกรณีที่รัฐบาลได้มีมาตรการลงโทษผู้หลีกเลี่ยงการเสียภาษีและฉ้อโกงภาษีตามข้อเสนอของ Financial Action Task Force หรือ แฟต เอฟ (FATF) โดยมีการแก้ไขพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2560 กำหนดให้ผู้หลีกเลี่ยงหรือฉ้อโกงภาษีหรือขอคืนภาษีโดยความเท็จ เป็นการกระทำความผิดร้ายแรง และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.60 นั้น,นายสมชาย แสงรัตนมณีเดช รองอธิบดีกรมสรรพากร รักษาการในตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นสมาชิกในกลุ่มความร่วมมือเพื่อต่อต้านการฟอกเงินเอเชียแปซิฟิก จึงต้องปฏิบัติตามข้อแนะนำของ แฟต เอฟ ในการกำหนดให้อาชญากรรมเกี่ยวกับภาษีอากรที่มีลักษณะร้ายแรงเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน,ทั้งนี้ ผู้กระทำความผิดตามมาตรา 37 มาตรา 37 ทวิ และมาตรา 90/4 แห่งประมวลรัษฎากร หลีกเลี่ยงภาษีอากร ฉ้อโกงภาษีอากร เป็นจำนวนตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป หรือขอคืนภาษีอากรโดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นทำนองเดียวกัน ตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป กระทำในลักษณะกระบวนการ หรือ เป็นเครือข่าย,โดยสร้างธุรกรรมอันเป็นเท็จหรือปกปิดรายได้เพื่อหลีกเลี่ยงหรือฉ้อโกงภาษี และพฤติกรรมปกปิดหรือซ่อนเร้นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อมิให้ติดตามทรัพย์สิน ให้ถือว่าความผิดดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งกรมสรรพากรจะส่งข้อมูลให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินดำเนินการตามกฎหมายต่อไป. | กรมสรรพากร ย้ำอีกรอบ ผู้หลีกเลี่ยง-ฉ้อโกงภาษี 10 ล้านขึ้นไป ถือเป็นการกระทำผิดร้ายแรงฐานฟอกเงิน เผยไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกความร่วมมือเพื่อต่อต้านการฟอกเงินเอเชียแปซิฟิก ต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด | ข่าว,เศรษฐกิจ | สรรพากร,เลี่ยงภาษี,FATF,สมชาย แสงรัตนมณีเดช,ฟอกเงิน | https://www.thairath.co.th/news/business/904985 |
ประวิตร ประชุมคณะกก.พัฒนา ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา (ชมคลิป) | วันที่ 27 ก.พ. ที่ศาลาว่าการกทม.(เสาชิงช้า) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 1/2558 เพื่อหารือถึงการดำเนินงาน รูปแบบโครงการ รวมถึงปัญหาอุปสรรค ผลกระทบ และแนวทางแก้ไขเบื้องต้นในการดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมการประชุม อาทิ สำนักพระราชวัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร,ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการอำนวยการฯ ในวันนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 4 ชุด ซึ่งประกอบด้วย 1.คณะอนุกรรมการฯ ด้านการบริหารโครงการ ซึ่งจะมีอำนาจหน้าที่ในการศึกษาความเหมาะสม กำกับ ติดตาม และให้ข้อเสนอการปฏิบัติงานแก่อนุกรรมการต่างๆ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลและวัตถุประสงค์โครงการรวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานให้คณะกรรมการอำนวยการและคณะรัฐมนตรีทราบ 2.คณะอนุกรรมการฯ ด้านการออกแบบและภูมิสถาปัตย์ มีอำนาจหน้าที่ในการจัดทำองค์ประกอบของการก่อสร้าง กำกับการออกแบบ กำหนดเวลา แผนปฏิบัติการ และงบประมาณในการก่อสร้างให้เหมาะสม คุ้มค่า ,3.คณะอนุกรรมการฯ ด้านกฎหมาย มีอำนาจหน้าที่ในการศึกษาระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และ 4.คณะอนุกรรมการด้านประชาสัมพันธ์ มีอำนาจหน้าที่ในการสร้างความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินโครงการต่อสาธารณะ เพื่อดำเนินการด้านต่างๆ และคณะอนุกรรมการแต่ละชุดสามารถแต่งตั้งคณะทำงานในส่วนที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะได้นำเสนอให้รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบลงนามต่อไป,สำหรับการดำเนินการตลอดเส้นทาง 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาระยะทางรวม 14 กิโลเมตร จะผ่านวัด 8 แห่ง ท่าเรือ 36 แห่ง โรงแรม/ร้านอาหาร 6 แห่ง สถานที่สำคัญขนาดใหญ่ 19 แห่ง โดยมีประชาชนรุกล้ำพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 2 ฝั่ง จำนวน 268 หลังคาเรือน ซึ่งการรุกล้ำพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายจำเป็นจะต้องมีการรื้อ ย้าย บ้านเรือนและประชาชนออกจากพื้นที่เพื่อจัดระเบียบตามดำริของนายกรัฐมนตรีในการคืนพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์มากขึ้น อย่างไรก็ตามจะมีการหารือแนวทางดำเนินการตลอดจนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป ทั้งนี้ การดำเนินการโครงการดังกล่าวเริ่มตั้งแต่วันนี้ และจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด,สำหรับโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เกิดขึ้นตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการพัฒนาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของประเทศให้เกิดทัศนียภาพสวยงาม ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า เพื่อการพักผ่อน การออกกำลังกาย การจัดกิจกรรมเพื่อสุขภาพและนันทนาการ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างสัญลักษณ์แห่งใหม่ (Landmark) ให้แก่กรุงเทพมหานครและประเทศไทย จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.58 จำนวน 34 คน ,โดยมี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาและกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นรองประธานกรรมการ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นกรรมการและเลขานุการ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ในส่วนของคณะกรรมการ ได้แก่ เลขาธิการสำนักพระราชวัง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการวุฒิสภา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ,ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ มีหน้าที่ กำหนดแนวทางในการดำเนินโครงการ รวมถึงจัดทำแนวทางการศึกษาความเหมาะสม จัดทำรายละเอียดการออกแบบและการก่อสร้าง ดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแต่งตั้งอนุกรรมการและคณะทำงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการโครงการบรรลุวัตถุประสงค์ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนโครงการ และมอบหมายให้กรุงเทพมหานครศึกษาแนวคิด การออกแบบและงานด้านภูมิสถาปัตยกรรม ตลอดจนแนวทางการพัฒนาพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย,ภายหลังจากรับมอบนโยบาย กทม.ได้ดำเนินการศึกษารายละเอียด พร้อมทั้งจัดทำแนวคิดและออกแบบพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเบื้องต้น ช่วงตั้งแต่สะพานพระราม 7 ถึงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ทั้งสองฝั่ง รวมระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ให้เป็นพื้นที่ที่ประชาชนได้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า มีความปลอดภัย และรองรับการสัญจรด้วยจักรยาน (Bike lane) เพื่อให้ประชาชนสามารถชมทัศนียภาพริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และการท่องเที่ยว ,พร้อมกันนี้ กทม.ได้แต่งตั้งและจัดประชุมคณะกรรมการกำกับโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีผู้แทนจากองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับปรุงภูมิทัศน์และผังเมืองเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ อาทิ วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กรมธนารักษ์ กองทัพเรือ กรมทางหลวงชนบท กรมเจ้าท่า กรมชลประทาน กรมโยธาธิการและผังเมือง ผู้ประกอบการโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ และหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อเสนอแนะความคิดเห็น ข้อสังเกต รวมถึงผลกระทบของโครงการที่อาจเกิดขึ้น ก่อนเสนอต่อคณะกรรมการอำนวยการฯ เพื่อให้โครงการเป็นรูปธรรม มีความเหมาะสม และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนทุกคน | ประวิตร ประชุมคณะกรรมการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาปรับริมสองฝั่งเป็น Landmark ให้ปชช.ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าและทั่วถึง เตรียมเยียวยา ปชช.ริมฝั่งแม่น้ำได้รับผลกระทบ | null | ประวิตร,ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม,แม่น้ำเจ้าพระยา,Landmark,ประชุม,คณะกรรมการพัฒนา,ใช้ประโยชน์,คุ้มค่า,เยียวยา,รับผลกระทบ,14ก.ม.,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/483944 |
แพทย์ฉุกเฉินสรุป 15 วันลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉินแล้ว 929 ราย | ที่ศูนย์บูรณาการประสานการปฏิบัติการด้านการแพทย์ฉุกเฉินตอบโต้ภัยพิบัติแห่งชาติ (ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินดอนเมือง 84) นพ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวว่า วันที่ 24 ต.ค. ถือเป็นวันที่ 3 เที่ยวบินที่ 5 ที่มีการลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉินโดยเครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศ โดยในวันนี้จะมีการลำเลียงผู้ป่วย 2 รอบ คือในช่วงเช้ามีเป็นการลำเลียงผู้ป่วยจากรพ.นพรัตน์ราชธานี 8 ราย จากรพ.ธรรมศาสตร์ 4 ราย ส่งไปรักษาต่อที่ รพ.ระยอง และผู้ป่วยจากรพ.ภูมิพล ส่งไปรักษาต่อที่รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ จ.ชลบุรี 4 ราย รวม 16 ราย นอกจากนี้ในช่วงเวลา 18.00 น. จะมีการลำเลียงผู้ป่วยหนักอีก 7 รายด้วยขณะนี้ในหลายโรงพยาบาลประสบภาวะน้ำท่วม หรือมีน้ำท่วมขังทำให้เป็นอุปสรรคต่อการจราจร ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจึงจำเป็นต้องลำเลียงผู้ป่วยหนักออกก่อน เนื่องจากผู้ป่วยหนักส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้ออกซิเจน ซึ่งหากรอจนกว่าการจราจรเข้าถึงไม่ได้จะส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดอันตรายได้นพ.ชาตรีกล่าวนพ.ชาตรี กล่าวต่อว่า สำหรับปฏิบัติการด้านการแพทย์ฉุกเฉินตั้งแต่เปิดศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 9 - 23 ต.ค. ที่ผ่านมา มีการลำเลียงส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินแล้วทั้งสิ้น 929 ราย โดยแบ่งเป็นการลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศโดยเฮลิคอปเตอร์ 49 เที่ยวบิน จำนวน 53 ราย จากเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบินตำรวจ ทหารบก และรพ.กรุงเทพ และลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศโดยเครื่องบินฝนหลวง (CASA) ของกระทรวงเกษตรฯ 12 เที่ยวบิน จำนวน 61 ราย ลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉินทางเครื่องบิน C-130 4 เที่ยวบิน จำนวน 109 ราย นอกจากนี้มีการลำเลียงผู้ป่วยหนักทางรถพยาบาล 276 เที่ยว จำนวน 357 ราย และสนับสนุนการลำเลียงผู้ป่วยโดยเรือ 221 เที่ยว จำนวน 349 รายอย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยฉุกเฉิน หรืออุบัติเหตุ สามารถโทรขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน 1669 โดยขณะนี้ สพฉ. จะเพิ่มคู่สายเป็น 300 คู่สาย ตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้เพียงพอต่อการรับแจ้งเหตุ และการขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ ในสถานการณ์อุทกภัยด้วย | เดินหน้าภารกิจลำเลียงผู้ป่วยหนักด้วย C-130 ต่อเป็นวันที่สาม เตรียมเพิ่มคู่สายสายด่วน 1669 เป็น 300 คู่สายแล้วตามข้อสั่งการรมว.สธ. แล้ว เพื่อครอบคลุมการบริการทางการแพทย์ในเหตุน้ำท่วม | สังคม | ซี-130,บริการทางการแพทย์,สายด่วน,เฮลิคอปเตอร์,แพทย์ฉุกเฉิน | https://news.thaipbs.or.th/content/41513 |
ธรรมดามี ด่า-ชม นายกฯ บอกต้องขอเป็น ตู่ดิจิทัล บ้าง | กกต.ปัดชี้ถูกผิดกิจกรรมการเมือง,บิ๊กตู่ ฉะหยิบบัตรคนจนไปเล่นการเมือง ลั่นไม่เคยคิดแบ่งแยกชนชั้น ซัดที่ผ่านมาปล่อยปละละเลยจนเป็นเรื่องเป็นราว พอกันทีการเมืองสาดโคลนแบบเดิมๆ สร้างแต่ขัดแย้ง มองเรื่องธรรมดาเปิดเพจเฟซบุ๊กมีทั้งด่าทั้งชม ขอเป็น ตู่ดิจิทัล ก้าวทันโลก พร้อมฟังเสียงสะท้อน ขออย่าหยาบคาย ยันไม่ได้หาเสียง มีแต่คนด่าด้วยซ้ำ แต่รับประกันไม่ทำให้อารมณ์บูด ไม่ฟ้องใคร ถ้าไม่ล่วงล้ำสิทธิ อนุโลมให้ ปชป.เดินสายหยั่งเสียงหัวหน้าพรรค กกต.ไฟเขียว บิ๊กตู่ โลดแล่นโซเชียล ยันไม่ใช่การหาเสียง โบ้ยไม่ใช่หน้าที่ กกต.ชี้ขาดกิจกรรมการเมือง ต้องไปถาม คสช. พท.แนะนายกฯ ต้องใจกว้างรับเสียงวิจารณ์ อย่าหงุดหงิดตอกกลับยัดคดี ชี้คือบททดสอบบนถนนการเมือง สวดยับ ปชป. ฉวยโอกาสหาเสียงล่วงหน้า แขวะ อนุทิน ไม่เหมาะนั่งนายกฯ ปชป.สุดเอือมปมจี้สปิริต รมต.สวมหมวก 2 ใบ มาร์ค ลุยเพชรบูรณ์หาเสียงชิงหัวหน้า โวเป็นพรรคต้นแบบประชาธิปไตย เต้นผาง พปชร.ต่อท่อดูดไม่หยุดยั้ง,หลังประกาศตัวสนใจการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ก็เดินหน้าเชิงการเมืองเป็นสเต็ป ล่าสุดเปิดเพจเฟซบุ๊กชิมลาง รับฟังเสียงสะท้อนปัญหาประชาชน จนยอดไลค์ ยอดแชร์ ถล่มทลาย กระหน่ำคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์กันแบบรัวๆ ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ออกมาเปรยว่าเป็นเรื่องธรรมดา สำหรับเสียงติชมก่นด่า,บิ๊กตู่ ฉะตีบัตรคนจนแยกชนชั้น,เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 16 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ และนายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผวจ.แม่ฮ่องสอน พร้อมคณะ เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อนำเสนอผลงานการดำเนินโครงการ Show Case กาฬสินธุ์-แม่ฮ่องสอนโมเดล โดยนายกฯได้ชมการแสดงของเยาวชนชุด จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน และลองชิมเมนูอาหารที่ทำจากบุก ชมผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าไหมอย่างเคสโทรศัพท์ กระเป๋า เป็นต้น,นายกฯกล่าวว่า ขอเปรียบตรงนี้หน่อย พอเราใช้แก้จนก็มีคนมาแปลงเจตนาผิดไปมองว่าเป็นการแบ่งแยกชนชั้น ก็เห็นอยู่แล้วนะ ถ้าเขาเข้าใจเราก็จบ แต่ถ้าไม่เข้าใจก็เป็นประเด็นทางการเมือง เราใช้คำว่าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อดูแลประชาชนที่ขึ้นทะเบียน เราไม่ต้องการแบ่งแยกชนชั้น ลองไปเปลี่ยนชื่อดูว่าจะเรียกอย่างไรได้เต็มปาก เป็นบัตรความสุขหรืออะไรทำนองนี้ได้ไหม พอบอกบัตรคนจนกลายเป็นการแบ่งแยกชนชั้น ที่ผ่านมาก็ไม่ได้แก้ปัญหาเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้ พอเราแก้มาก็ถูกโจมตีโน่นนี่ เพราะฉะนั้นก็ต้องระวังแล้วกัน,วอนเลิกเล่นการเมืองแบบเดิมๆ,นายกฯกล่าวว่า วันนี้ไม่มีใครอยากถูกเรียกว่าคนจน ตนก็ไม่ได้มองเขาแบบนั้น เพียงแต่ต้องเพิ่มการกระจายรายได้ให้กับเขา โครงการต่างๆก็ไม่ได้แก้จนแต่เป็นการเพิ่มความสุข ไม่ว่าคนรวยคนจนก็สามารถเข้าถึงโอกาสได้ รัฐบาลจำเป็นต้องมีโครงการลงไป เช่น ไทยนิยม ยั่งยืน ไม่ใช่มองอย่างเดียวเป็นการเดินทางการเมือง ทั้งนี้ไม่มีปัญหาใดที่แก้ไม่ได้หากทุกคนร่วมมือกัน ดีกว่ามาสร้างความขัดแย้ง โจมตีกันไปมา วันนี้หลายประเทศจับตาประเทศเราอยู่ เขาไม่ได้มองประชาธิปไตยเพียงอย่างเดียว แต่เขามองในเรื่องการพัฒนาด้วย ตนไปประชุมหลายประเทศก็ได้รับคำชมเชยมาหลายประเด็นที่เรามีความคืบหน้าและอยากให้เราเดินหน้าต่อไป หลายอย่างกำลังดำเนินการอยู่ แต่ต้องปลดล็อกจากข้างล่างด้วย ดังนั้นขออย่าทำการเมืองแบบเดิมๆเลยดีกว่า ขอให้ทำแบบใหม่กับตนเถอะ ดีกว่าโจมตีกันไปมาไม่มีประโยชน์ อย่างการรับฟังความคิดเห็นประชาชนก็ไม่ใช่เป็นการเมือง อย่างงานเหล่านี้ที่มาแสดงก็ไม่ใช่เป็นการโปรโมต ไม่ใช่การเมือง แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำ,เพจเรตติ้งดี-ธรรมดามีด่ามีชม,พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการเปิดเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวที่มีคนให้ความสนใจเข้ามากดไลค์ กดแชร์ พร้อมเขียนคอมเมนต์กันถล่มทลาย เพียงสั้นๆว่า ก็มีทั้งด่าทั้งชม ก็เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อถามว่าเรตติ้งดีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ก็ดีดิ ดูเอาเอง,ลั่นขอเป็น ตู่ดิจิทัล ก้าวทันโลก,ต่อมาเวลา 13.10 น. ภายหลังการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการเปิดเพจเฟซบุ๊กและสื่อโซเชียลมีเดียว่า เป็นมือใหม่เรื่องเฟซบุ๊กไม่ได้มีวัตถุประสงค์หลักหรือรองอะไร วันนี้ก็ต้องเป็นตู่ดิจิทัลบ้าง เรากำลังเดินหน้านโยบายไทยแลนด์ 4.0 ตนเป็นเบบี้บูมเมอร์จึงต้องใช้ให้เป็น แสดงให้เห็นว่าพยายามปรับตัวไม่ใช่มาทำเพราะรัฐบาลอยู่มา 4 ปี ในเมื่อการใช้โซเชียลมีเดียมีมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องปรับตัวเอง ที่ผ่านมาตนให้ทุกคนสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้หมด เปิดไปดูมีทั้งชม มีทั้งว่าอะไรต่างๆ ต้องการเปิดเวทีตรงนี้ให้ทุกคนได้ติชม อะไรที่เป็นประโยชน์จะรับมาพิจารณาดำเนินการให้เหมาะสม วันนี้ตนได้สั่งหน่วยราชการต่างๆขอให้ทำอะไรให้เกิดผล เพราะบางทีชี้แจงไปแล้วคนไม่ค่อยได้สนใจ จึงต้องสนใจเรียนรู้ว่าสังคมดิจิทัลเป็นอย่างไร,ทำใจกว้างไว้แล้วขอแค่อย่าหยาบ,นายกฯกล่าวว่า โซเชียลมีเดียถือว่าเป็นช่องทาง การสื่อสารอีกช่องทางหนึ่งกับประชาชน ต้องทำให้ใจกว้างมากขึ้น ยอมรับในข้อติเตียน ขออย่างเดียวขอให้สุภาพหน่อยแล้วกัน บางทีใช้คำไม่ค่อยสุภาพไม่เหมาะสม เยาวชนติดตามเรียนรู้อยู่ลูกหลานเราทั้งนั้น อย่างไรคนไม่ชอบก็คือไม่ชอบไม่ว่าจะพูดอะไรหรือทำอะไรดีๆ ก็ไม่ชอบอยู่ดี จึงต้องไปดูว่าสิ่งที่ติใช่ข้อเท็จจริงหรือไม่ ถ้าใช่เราก็แก้ไข ส่วนอะไรที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงก็ชี้แจงได้และก็ไม่ได้ใช้งบประมาณมากมาย หลายคนก็เปิดทั้งเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ไอจีก็เปิดกันเยอะแยะ ไม่เห็นจะเสียสตางค์อะไรมากมาย เชิญเข้าไปกดไลค์กันด้วย เข้าไปให้ข้อเสนอแนะ ขอให้ติชมในสิ่งเป็นประโยชน์ ไม่หยาบคาย อะไรที่ไม่เข้าใจถ้าตอบได้ก็จะตอบ โดยให้คณะทำงานคือ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ติดตามเรื่องเหล่านี้แล้วสรุปมาให้ตนทราบทุก 3-5 วัน ว่าอะไรที่ตนควรตอบเอง ซึ่งส่วนใหญ่จะเขียนตอบลงไปด้วยตัวเองแล้วให้เขานำข้อความนี้ไปใส่,ไม่ได้หาเสียงมีแต่คนด่าด้วยซ้ำ,เมื่อถามว่า การเปิดเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว เป็นการหาเสียงเอาเปรียบพรรคการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า แล้วพรรคอื่นไม่เปิดหรืออย่างไร ให้ความเป็นธรรมกับผมบ้าง ไม่ใช่การหาเสียง จะหาเสียงอย่างไรให้คนรัก แต่นี่หาเสียงให้คนด่าด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นกรุณาเบาๆลงกันหน่อย ผมต้องการให้สังคมได้เรียนรู้ว่าจะอยู่กันอย่างไร ในสังคมวันนี้คือสังคมโซเชียลมีเดีย คงต้องมองด้วยความเป็นธรรม,ลั่นมีธรรมาภิบาลที่เปลี่ยนไม่ได้,ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากเปิดตัวสนใจการเมืองและทำโซเชียลมีเดียเชิงรุกแล้ว จะมีการปรับตัวอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ผมปรับตัวเอง ว่าจะต้องมีความโปร่งใส สุจริต มีเจตนาอันบริสุทธิ์ มีเจตนารมณ์ทางการเมืองที่มีธรรมาภิบาลซึ่งเปลี่ยนไม่ได้ แต่ถ้าผมได้อยู่และหากทุกคนจะเข้ามาร่วมกับผมก็จะต้องทำตามผม จะให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้นแบบเดิมอีกไม่ได้ อย่าลืมว่านายกฯมีอำนาจมากพอสมควร เราจะต้องตั้งหลักให้มั่น ว่าการเป็นนายกฯหรือรัฐบาลต้องทำเพื่อประชาชน ที่เป็นศูนย์กลางเสมอ เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง,ยันเฟซบุ๊กไม่จุดชนวนอารมณ์บูด,เมื่อถามว่า การเปิดโซเชียลมีเดียของตัวเองจะทำให้นายกฯอารมณ์เสียมากขึ้นหรือไม่ เนื่องจากมีเสียงติติงจำนวนมาก พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่ แล้ววันนี้ผมพูดแบบนั้นหรือไม่ ผมพูดดีไหมล่ะ อารมณ์ดีหรือไม่ เสียงนุ่มนวลไพเราะไหม แต่บางครั้งต้องเห็นใจผมบ้างเพราะการทำงานบางครั้งก็ว้าวุ่นมีเรื่องเยอะหลายเรื่องทำไปแล้วก็ไม่จบ เพราะไม่เข้าใจ หลายเรื่องทำไปก็มีปัญหาบางเรื่องปัญหาเดิมๆ ก็ทับซ้อน ถ้าทุกคนไม่ปรับตัว มันก็ไม่ได้ ขอร้องทุกคนอย่าทำอะไรให้เกิดความเสียหายขึ้นมาอีก ปัจจุบันที่มีการปรับปรุงกฎหมายก็เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้เกิดความเป็นสากลและทันสมัย,ไม่ฟ้องร้องใครจะขอทนถึงที่สุด,เมื่อถามว่า การวิพากษ์วิจารณ์ที่รุนแรงจะถือว่าเป็นความผิดหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ถ้าจะเอาผิดก็ทำได้ทั้งหมด เพราะมีคอมเมนต์หยาบคายหลายคอมเมนต์ เรื่องนี้อยู่ที่จิตสำนึก ลูกหลานมาอ่านแล้วเขาจะว่าอย่างไร คุณต้องการให้ลูกหลานของคุณเป็นอย่างนี้เหรอ ใช้คำผรุสวาท คำหยาบคายคำด่าพ่อล้อแม่ มันไม่สมควร ทำไมไม่ทำให้ digital ของเราพัฒนาไปสู่ช่องทางการสื่อสารที่บริสุทธิ์ เพื่อที่เด็กและเยาวชนจะได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นได้ ทุกคนช่วยเรื่องนี้ได้ บอกแล้วว่าถ้าชอบผมมากๆ อีกพวกก็จะออกมาด่าผมมากขึ้น หรือบางพวกชอบผม ก็ไปด่าคนอื่น แต่ก็รับได้ เพราะผมไม่ได้เป็นอย่างที่เขาว่า ก็จบ เรื่องนี้ต้องทำใจ ผมไม่โกรธใครทั้งนั้น ถ้าโกรธผมก็คงไม่บอกใคร เมื่อถามย้ำว่า ถ้ามีการด่าทอจะฟ้องร้องหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ตนเคยฟ้องร้องใครหรือไม่ แต่ก็แล้วแต่ ถ้าเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคลก็ไม่ได้ เหมือนกับทุกคน ถ้าใครมาดูหมิ่นจะได้หรือไหมล่ะ ถ้าไปพูดหรือเขียนในสิ่งที่ไม่ใช่ บิดเบือนอย่างชัดเจน มีมากเข้าจะยอมได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่จะทนให้ถึงที่สุดก็แล้วกัน เพราะเป็นนายกฯ,เมิน โอ๊ค คอมเมนต์ไม่ใช่ศัตรูใคร,เมื่อถามว่าเห็นที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แสดงความเห็นใน Instagram ชื่นชมนายกฯว่าน่ารักเวลาไม่โกรธแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า คอมเมนต์กันไปเถอะ และขอขอบคุณ ใครให้กำลังใจผม ผมให้กำลังใจเขา ผมไม่ใช่ศัตรูของใคร ใครมีปัญหาอะไรทางกฎหมายก็ไปต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเขาให้โอกาสอยู่แล้ว ผมไปสั่งใครไม่ได้ ที่ผ่านมาผมทำตามข้อมูลและหลักฐานเดิมๆ ปล่อยให้ทุกคนทำตามอิสระ ทำไมผมจะต้องก้าวล่วงเขา,อนุโลม ปชป.เดินสายหยั่งเสียง,เมื่อถามว่า มองอย่างไรต่อการลงพื้นที่พบประชาชนของผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นการใช้กิจกรรมภายในมาหาเสียงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า หลายพรรคการเมืองก็มีกันหมดกิจกรรมปราศรัย วันนี้ คสช.อนุโลมไปหลายอย่างด้วยกัน ตราบใดที่ยังไม่ทำให้เกิดความรุนแรงหรือมีผลกระทบกับการบริหารราชการแผ่นดิน อะไรที่พออนุโลมได้เราจะอนุโลมให้ จะเห็นได้ว่าหลายพรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่เดินทั่วไปหมด ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่ารัฐบาลไปปิดกั้นอะไรกันอีก รัฐบาลไม่ได้ไปปิดกั้นใครจนกระทั่งขยับหรือกระดิกอะไรไม่ได้เลย แต่เราจะต้องพิจารณาให้เหมาะสม สิ่งสำคัญที่สุดเราจะปฏิรูปต่อไปได้อย่างไร การเดินหน้ายุทธศาสตร์ชาติจะทำได้อย่างไร โดยไม่ถูกกล่าวหาว่าสืบทอดอำนาจ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ตนระมัดระวังอย่างที่สุด,ขึงขังบอกการเมืองไม่ใช่ของเล่น,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เคยพูดแล้วว่าการเมืองไม่ใช่ของเล่น ตนไม่ใช้คำว่าเล่นการเมือง เพราะการเมืองคือเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ต้องมีธรรมาภิบาล การที่จะเข้ามาสู่แวดวงการเมืองในอนาคตซึ่งอาจรวมตนด้วย ขอใช้คำว่าอาจจะ ทุกคนต้องมองว่าเราจะทำให้ประเทศเดินหน้าอย่างไร หลายคนเห็นด้วยกับสิ่งที่รัฐบาลนี้ทำ หลายคนสนใจเข้ามามีส่วนร่วม ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ถ้าเห็นว่านโยบายต่างๆ หรือการทำงานของแต่ละพรรคการเมือง เหมาะสม ก็ไปเถอะครับ เชิญเถอะครับ ห้ามใครไม่ได้อยู่แล้ว ได้ทุกพรรค ขอให้ทุกคนเข้าใจว่าทุกคนที่ทำงานวันนี้เพื่อชาติบ้านเมือง แต่ประชาชนต้องแยกแยะว่าสิ่งที่เขาจะทำทำกันอย่างไร เราต้องสร้างความมั่นใจให้กับทั่วโลก แม้จะมีการเลือกตั้งบ้านเมืองก็จะต้องสงบสุข ไม่มีการตีกันหรือใช้อาวุธ ขอร้องอย่าให้เกิดขึ้นอีกเลย ถ้าเราไม่ยอมเปลี่ยนแปลงประเทศของเรา แล้วใครจะมาเปลี่ยน,ไก่อู โต้รัฐแยกคนจน-คนรวย,พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุม ครม.นายกฯ ปรารภว่า ช่วงนี้ใกล้โรดแม็ปเลือกตั้งจะพบข้อมูลโซเชียลมีเดียจากผู้คร่ำหวอดทางการเมือง โดยเฉพาะกรณีที่นักการเมืองพูดถึงเรื่องบัตรทอง หรือบัตร 30 บาทรักษาทุกโรค ระบุว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์พยายามแบ่งแยกคนจนคนรวยออกจากกัน คนจนจะได้รับการรักษาแบบอนาถา ส่วนคนรวยมีการรักษาที่ดี อาจเป็นความเข้าใจผิดและไม่ได้ทราบข้อมูลอย่างถ่องแท้ รัฐบาลยืนยันว่าสิ่งที่ทำในบัตรทองเป็นการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย รัฐบาลนี้ไม่เคยใช้คำพูดคนจน คนรวย เพราะรู้ว่าเป็นคำพูดแสลงใจ และยืนยันโครงการบัตรทองไม่ได้เป็นการแยกคนจนออกจากคนรวย เรารักษาพยาบาลในมาตรฐานเดียวกัน นายกฯ อยากให้ทุกกระทรวง ทบวง กรมช่วยชี้แจงประชาชนว่ารัฐบาลไม่เคยจะแบ่งแยกคนจนคนรวย ทุกคนเป็นคนไทย,นายกฯ สั่ง รมต.เปิดดู-ชี้แจง,พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า นายกฯเปรยขึ้นมาในที่ประชุม ครม.ถึงการเปิดเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากว่า ต้องอดทน รับฟัง ถ้าคิดทำงานเพื่อประเทศชาติ นายกฯขอให้รัฐมนตรีไปเปิดดูบ้างว่าสิ่งที่ประชาชนเขียนมาเกี่ยวข้องกับหน่วยงานไหน เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข อะไรที่ไม่เข้าใจให้ทุกหน่วยเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน,บิ๊กป้อม ชี้เฟซนายกฯถึงทั้ง ครม.,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายกฯ เปิดเพจเฟซบุ๊กว่า เรื่องนี้ต้องไปถามนายกฯ แต่ส่วนตัวคงไม่เปิดเฟซบุ๊ก เพราะนายกฯ เปิดเฟซบุ๊กคนเดียวก็เหมือน ครม.มารับเรื่องร้องเรียนทั้งหมด เมื่อถามว่า ช่องทางโซเชียลมีเดียจะช่วยเรื่องการทำงานของรัฐหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า สื่อว่าดีหรือไม่ แล้วแต่คนทำว่าจะคิดอย่างไร อยากให้รัฐบาลเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ ขนาดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยังไปวิจารณ์ว่าเป็นบัตรคนจน เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์เชิงลบ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ใครไปวิจารณ์เชิงลบวิจารณ์เรื่องอะไร ถ้าเขียนด่านั่นไม่ใช่เรื่องลบ เพราะเรื่องการทำงานจะเป็นเรื่องลบได้อย่างไร คนด่าก็เพราะคนละพวกกัน คนไม่ใช่จะให้ทำอย่างไร มีการด่ากันเป็นเรื่องธรรมดา แต่นายกฯไม่หงุดหงิดหรอก ท่านอ่านทุกความเห็นจะได้รู้ว่าตัวเองเป็นอย่างไร และ ครม.เป็นอย่างไรด้วย,ปรามอนาคตใหม่ระวังผิด ก.ม.,เมื่อถามถึงกรณีพรรคอนาคตใหม่ เดินสายไปพบผู้นำต่างประเทศ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ให้พวกเขารับผิดชอบตัวเอง แต่จะด่าประเทศกับด่ารัฐบาลหรือทำผิดกฎหมายไม่ได้ ตนไม่กลัวว่าเขาพูดอะไร แต่ถ้าพูดไม่เป็นความจริงจะต้องโดนดำเนิน คดีตามกฎหมาย และไม่จำเป็นต้องส่งคนไปติดตามอะไร เมื่อถามถึงกรณีที่ช่วงนี้หลายพรรคการเมืองลงพื้นที่พบประชาชน พล.อ.ประวิตรตอบว่า พวกเขาอยากลงพื้นที่ อยากรับฟังปัญหาประชาชน ไม่มีอะไร อย่าไปโฆษณาเชิญชวนหาเสียงทำไม่ได้ ส่วนข้อวิจารณ์ว่าการทำเช่นนี้จะคาบเกี่ยวกับการหาเสียง ก็ให้ไปดูที่เจตนาว่าเป็นอย่างนั้นหรือไม่ คนทำเขารู้ว่าทำอะไร ตนไม่จำเป็นต้องบอก,กกต.ไฟเขียว บิ๊กตู่ ลุยโซเชียล,นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวถึงการใช้สื่อโซเชียลของนายกรัฐมนตรีในขณะนี้ว่า ไม่ใช่ประเด็นเรื่องการหาเสียง ได้รับทราบเรื่องจากสื่อมวลชนเท่านั้นยังไม่สามารถตอบชัดเจนได้ อย่างไรก็ตาม นิยามของคำว่ากิจกรรมทางการเมืองที่มีระบุไว้ในคำสั่ง คสช.นั้น คสช.จะเป็นผู้ชี้ว่าสิ่งไหนทำได้ ทำไม่ได้ ไม่ใช่กกต. แต่ กกต.จะต้องดูว่าการกระทำใดๆจะส่งผลเสียหรือส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม กกต.ได้เก็บข้อมูลทุกอย่างไว้แล้ว เช่น การลงพื้นที่ของพรรคพลังประชารัฐ หากไม่ได้ใช้ทรัพยากรรัฐ และเวลาราชการก็ถือว่าทำได้ ถ้ามีข้อมูลหลักฐานว่าละเมิดกฎหมาย กกต.ต้องดำเนินการแน่นอน,ยันอำนาจ คสช.-กกต.ไม่ทับซ้อน,ประธาน กกต.ยังกล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่ามีปัญหาเรื่องอำนาจทับซ้อนในการควบคุมตามกฎหมายที่คาบเกี่ยวกับการเลือกตั้งระหว่าง คสช.กับ กกต.ว่า ไม่คิดว่าเป็นอำนาจทับซ้อนกันระหว่าง คสช.กับ กกต. แต่ต้องเข้าใจว่าคำสั่ง คสช. ถือเป็นกฎหมาย ซึ่ง กกต.ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ในปัจจุบันแม้ว่า คสช.มีคำสั่งคลายล็อกแล้วแต่ประเด็นใดที่ กกต.เห็นว่าไม่มีความชัดเจนก็จะสอบถามไป รวมถึงมีความเห็นของ กกต.เองด้วย จึงขอยืนยันว่า กกต.ไม่อยู่ในฐานะที่จะเอื้อประโยชน์ให้ใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพรรคใดหากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความผิดได้ ดังนั้นเวลานี้จึงไม่เห็นข้อเท็จจริงใดที่จะนำไปสู่ความกังวลว่าจะเกิดการเลือกตั้งที่ไม่น่าเชื่อถือ,เปิดลงทะเบียนเตรียมเลือก ส.ว.,นายอิทธิพรยังกล่าวถึงการเตรียมการเลือกสมาชิกวุฒิสภาว่า ได้เริ่มเปิดลงทะเบียนองค์กรที่จะเสนอชื่อผู้สมัคร ส.ว. ตั้งแต่วันที่ 15-24 ต.ค. และประกาศผลการลงทะเบียนในวันที่ 5 พ.ย. ขณะนี้มีองค์กรที่มาลงทะเบียนทั่วประเทศแล้วทั้งหมด 5 องค์กร อาจเป็นเพราะเป็นช่วงหยุดยาวจึงยังน้อยอยู่ มั่นใจว่าจะดำเนินการทุกอย่างได้ตามกรอบเวลาในวันเลือก ส.ว.มีการเตรียมแผนการรักษาความปลอดภัยและแผนเผชิญเหตุ ซึ่ง สตช.จะเป็นผู้ดูแล หากบุคลากรไม่พอก็สามารถประสานไปยังฝ่ายปกครอง หรือทหารในพื้นที่มาช่วยดูแลได้,บิ๊กป๊อก เตือนลงพื้นที่ต้องระวัง,พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยให้สัมภาษณ์กรณีการลงพื้นที่พบปะประชาชนของกลุ่มการเมืองต่างๆ ว่าเป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะลงไปทำ ความเข้าใจ ขณะนี้ทราบว่าผู้ตรวจการเลือกตั้งได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการลงพื้นที่ของกลุ่มการเมืองและนักการเมืองแล้ว ทุกอย่าง กกต.บันทึกไว้หมด ในอนาคตหากมีการฟ้องร้องดำเนินคดีจะมีผลตามที่บันทึกไว้ อยากให้พรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมืองระมัดระวังเรื่องนี้ ไปพูดคุยกับประชาชนได้แต่ต้องคำนึงถึงกฎหมาย ขณะนี้ไม่ได้มีเพียงเรื่องผิดถูก แต่มีเรื่องของการได้เปรียบและเสียเปรียบกันด้วย เมื่อถามว่า ประชาชนสงสัยว่าสามารถเข้าร่วมกิจกรรมที่พรรค การเมืองลงไปทำในพื้นที่ได้หรือไม่ จะมีความผิดหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ตอบว่า สำหรับประชาชนคงไม่มีความผิด ประชาชนที่บริสุทธิ์ไม่ต้องกังวล เจ้าหน้าที่ต้องพิจารณาให้ดีเช่นกัน เพราะการเข้าไปดำเนินการต่างๆ อาจมีเรื่องของการให้คุณหรือให้โทษ,พท.แนะนายกฯทนเสียงวิจารณ์,นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ อดีต ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เปิดเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า การเปิดเพจเฟซบุ๊กของ พล.อ.ประยุทธ์เป็นเรื่องน่ายินดี เพราะเป็นการก้าวไปกับโลกยุคเทคโนโลยี ได้รู้ความเป็นอยู่ และความคิดเห็นของประชาชน แต่เท่าที่ดูประชาชนส่วนใหญ่เข้ามาระบายความรู้สึกอึดอัดใจเกี่ยวกับการบริหารที่ผ่านมาของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงอยากให้นายกฯรับฟังด้วยเหตุด้วยผล อย่าปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นของประชาชน หรือใช้มาตรการกฎหมายกับผู้ที่ใช้ถ้อยคำรุนแรง ขอให้เปิดกว้างรับฟังความเห็นเหล่านั้นแล้วนำมาปรับปรุงการทำงานให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน การเปิดกว้างรับความคิดเห็นผ่านโลกออนไลน์ถือเป็นบททดสอบการเดินหน้าสู่หนทางการเมือง เมื่อท่านก้าวเข้ามาสู่เวทีการเมืองแล้วเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเจอเสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้วยถ้อยคำต่างๆ นานา ขอให้นายกฯรับฟังแบบเปิดใจกว้างๆ อย่ามีอารมณ์หงุดหงิดกับผู้ที่มีความเห็นต่าง เพราะถือเป็นบทพิสูจน์ก่อนก้าวเข้าสู่เวทีการเมืองเต็มรูปแบบของท่าน,จวก ปชป.ตุกติกหาเสียงล่วงหน้า,นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเดินสายลงพื้นที่หาเสียงเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าการเดินสายหาเสียงของผู้สมัคร เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เดินสายไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศในขณะนี้ มีการชักชวนบุคคลมารับฟังวิสัยทัศน์ของคนที่จะมาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ว่าใครจะชนะเป็นหัวหน้าพรรค สิ่งที่เขาพูดก็คือสิ่งที่พรรคประชา-ธิปัตย์คิดสำหรับการเลือกตั้ง แบบนี้ถือเป็นการหาเสียงเลือกตั้งไปในตัวของพรรคประชาธิปัตย์ โดยใช้แท็กติกการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคมาเป็นข้ออ้าง การ เลือกหัวหน้าพรรคไม่จำเป็นต้องเดินสายกันขนาดนี้ก็ได้ และเรื่องนี้เป็นไปตามข้อกฎหมายหรือไม่นั้นตนไม่อยากวิจารณ์ เพราะทุกพรรคการเมืองต่างรู้ดีว่าอะไรทำได้ไม่ได้ แต่การทำเช่นนี้เป็นการเอา เปรียบพรรคการเมืองอื่นที่ยังไม่มีการเคลื่อนไหว จึงอยากให้สังคมพิจารณาดูว่าการกระทำเช่นนี้ของพรรคการเมืองเก่าแก่สมควรหรือไม่,เดือดซัด อนุทิน ไม่เหมาะนายกฯ,นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เปิดโปงว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไปสแกนนิ้วแล้วโดดเรียนจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ออกไปทำกิจกรรมอื่น แต่กลับถูกหาว่าอิจฉาริษยา เปรียบเป็นหมาเห่าภูเขาทองนั้น รู้สึกเห็นใจและอยากให้กำลังใจนายยุทธพงศ์ที่ชี้ให้เห็นสองมาตรฐาน และในฐานะที่ตนเรียน วปอ.รุ่นพี่นายอนุทิน เห็นว่าสถาบันนี้มีเกียรติภูมิและมีศักดิ์ศรี ต้องมีสปิริตต่อตัวเองและสถาบันไม่ใช่มาพิมพ์มือตอนเช้าหนีไปทำธุระส่วนตัวแล้วกลับมาตอนเย็นเพื่อพิมพ์มืออีกเพื่อจะได้เวลาเรียนเต็มวัน การทำแบบนั้นเท่ากับไม่มีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและองค์กร หากคุณไม่มีความรับผิดชอบฉ้อฉลแม้แต่เวลาเรียนคุณจะรับผิดชอบอะไรได้ คุณไม่ใช่สุภาพบุรุษแล้วกล้ามาเสนอตัวเป็นนายกฯ อย่ายกตนข่มท่านเลย ถึงคุณจะร่ำรวยมากแต่คุณค่าคนไม่ได้อยู่ที่เงินอย่างเดียว สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรมและความเมตตาต่อผู้อื่น สิ่งที่คุณเป็นได้ก็แค่บุรุษที่ไม่สุภาพ,ปชป.สุดเอือมจี้สปิริต รมต.,นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีบรรดารัฐมนตรีในรัฐบาล คสช. ที่เป็นว่าที่คณะกรรมการบริหารพรรคพลัง–ประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ร่วมสรุปงานเครือข่ายชุมชนเกษตรอินทรีย์ที่ตลาดคลองลัดมะยมว่า เป็นเรื่องธรรมดา เรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นอีก เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ประกาศว่าสนใจงานการเมือง และมีรัฐมนตรีร่วมคณะรัฐบาลนี้ เปิดตัวมาจัดตั้งพรรคการเมือง เขาก็ต้องออกหาเสียง ส่วนจะใช้รูปแบบใดก็สุดแล้วแต่ อย่าไปเรียกร้องบรรทัดฐานใดๆ จากคนเหล่านี้เลย มันเหนื่อยเปล่า เขาจะทำอะไรก็ให้เขาทำไป สำคัญอยู่ที่ประชาชนจะติดตามและตัดสินใจเอง ซึ่งจะสร้างมาตรฐานทางการเมืองขึ้นใหม่ด้วย ถ้าประชาชนเห็นว่าทำได้ ต่อไปใครมาทำพฤติกรรมอย่างนี้ก็อย่าไปว่าเขา,ข้องใจมาปฏิรูปหรือย้อนยุค,สิ่งที่ผมสรุปได้คือ ที่รัฐบาลชุดนี้บอกว่าเข้ามายึดอำนาจเพื่อต้องการเข้ามาทำการปฏิรูปประเทศนั้น มันไม่จริง แต่คือการเสพติดอำนาจ รวมทั้งกรณีการรับเงินเดือนและค่าตอบแทนหลายทาง นั่นก็ไม่ใช่การปฏิรูป หรือการตั้งทหารไปเป็นกรรมการในบอร์ดของรัฐวิสาหกิจต่างๆ แทบทุกชุด นี่ก็ไม่ใช่การปฏิรูปในโลกสมัยใหม่ หากแต่เป็นการย้อนยุค หรือแม้กระทั่งการให้ทหารมาเป็นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ก็ถือเป็นการรวบอำนาจด้านการสื่อสารไว้ในมือ และยังเป็นการตัดความเจริญก้าวหน้าของข้าราชการประจำตามสายงานด้วย นายนิพิฏฐ์กล่าว,มาร์ค โวเป็นพรรคต้นแบบ ปชต.,เวลา 09.30 น. ที่ลานอเนกประสงค์ บ้านศิลา ตำบลศิลา อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ นายอภิสิทธ์ิ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเวทีปราศรัยชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคให้กับแฟนพันธุ์แท้ประชาธิปัตย์ที่มารอรับฟังกว่า 1 พันคน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะใช้การโหลดแอพทางโทรศัพท์ แต่ถ้าไม่มีก็จะจัดตั้งหน่วยเลือกตั้งให้ ได้มุ่งเน้นเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อเป็นตัวอย่างการเมืองแบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยให้สมาชิก 2.5 ล้านคนได้มีโอกาสเลือกหัวหน้าพรรค เราห้ามการเมืองแบบเดิมๆ ที่มีการไปหากันต่อรองกันไม่กี่คนไม่ได้ แต่เราจะเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ อยากให้เป็นการเมืองที่ประชาชนเป็นเจ้าของพรรคการเมืองที่แท้จริง ให้การเมืองและพรรคการเมืองไทยดีขึ้นจะช่วยเหลือประชาชนถึงแม้จะมีตำแหน่งหรือไม่ก็ตาม แม้วันนี้จะตกงานไม่ได้เป็น ส.ส.แต่ก็ทิ้งประชาชนไม่ได้ เพราะประชาชนให้โอกาสมาเป็น ส.ส.,จุรินทร์ โต้เปล่าหาเสียงล่วงหน้า,นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยให้ กกต.ติดตามการเคลื่อนไหวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และคณะ ลงพื้นที่หาเสียงอาจเป็นการได้เปรียบทางการเมืองว่า กกต.มีหน้าที่ติดตามความเคลื่อนไหวของทุกพรรคการเมืองอยู่แล้ว ขั้นตอนและกระบวนการของพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้เป็นเรื่องของกิจกรรมที่ทำทุกอย่างตามกฎหมาย รวมทั้งข้อบังคับของพรรค ที่มีเจตนารมณ์ต้องการส่งเสริมประชาธิปไตย ในการมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรคอย่างกว้างขวาง ตนจึงคิดไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เรื่องนี้ไม่ใช่การหาเสียงเลือกตั้งทั่วไป เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แต่เป็นเรื่องกระบวนการภายในพรรค ไม่ใช่เรื่องการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างพรรคการเมือง,พปชร.จีบดูดคน ปชป.ไม่หยุด,ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า พรรคพลังประชารัฐยังคงพยายามดึงตัวอดีต ส.ส.และ ส.ก.ให้ย้ายสังกัดอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ดึงตัวอดีต ส.ส.ไปได้แล้ว 10 คน อดีต ส.ก.อีก 3 คน รวมแล้วพรรคประชาธิปัตย์สูญเสียบุคลากรของพรรคให้กับพรรคพลังประชารัฐไปแล้ว 13 คน ล่าสุดยังมีความพยายามจากนายณัฐพล ทีปสุวรรณ อดีต ผอ.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ปัจจุบันไปเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ โทรศัพท์ติดต่อทั้งอดีต ส.ส.กทม.และ ส.ก. เพื่อชักชวนให้ย้ายพรรค เช่น นายสากล ม่วงศิริ และ พ.ต.อ.นพ.สามารถ ม่วงศิริ อดีต ส.ส.กทม. ซึ่งมีฐานเสียงในเขตบางบอน รวมถึงนายประเสริฐ ทองนุ่น อดีต ส.ก.บางกะปิ ลามไปถึงการดึงตัวเจ้าหน้าที่พรรค โดยมีการเสนอค่าตอบแทนที่สูงกว่าเพื่อให้ไปทำงานจัดระบบฐานข้อมูลให้พรรคพลังประชารัฐ,ปูดเงินฟาด วิลาศ แต่ไม่สำเร็จ,นอกจากนี้ยังมีแกนนำกลุ่มสามมิตรและเพื่อนอดีต ส.ส.ต่างพรรคสายอีสานติดต่อไปยังนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ให้ย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ โดยยื่นข้อเสนอให้ทั้งตำแหน่งรัฐมนตรีและเงินไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาทให้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ,นายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ตลกร้ายการเมืองไทยยุคนี้คือ คนที่บอกจะทำการเมืองใหม่ กำลังใช้สารพัดวิชามารแบบการเมืองเก่าเพื่อปูทางสู่อำนาจ ความจริงวันนี้ พรรคใหม่ได้นักการเมืองคนเก่า แต่พรรค (เก่าแก่) อย่างประชาธิปัตย์กำลังสร้างนักการเมืองใหม่,รัชดา ข้องใจมาตรฐานสูงตรงไหน,น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า กรณีพรรคพลังประชารัฐดูดคนประชาธิปัตย์จนเพลิน มาทับเขตเลือกตั้งตนเอง เมื่อเขามีพลังดูดเรามีพลังสร้าง ทั้งนี้การสร้างพรรค การเมืองโดยไม่ได้เริ่มต้นด้วยอุดมการณ์ในการสร้างคน แต่กลับใช้แรงจูงใจหรือเงื่อนไขบางอย่างให้คนย้ายพรรคนั้นไม่สง่างามเลย ที่ว่าพรรคพลังประชารัฐมีมาตรฐานสูงเด่น พฤติกรรมอย่างนี้มันสูงตรงไหน คนจะไปก็ต้องปล่อยเขา แน่นอนว่าเมื่อเจอข้อเสนอบางอย่าง ถ้าใจคนนั้นไม่มุ่งมั่นและมั่นคงพอก็จะยืนหยัดปฏิเสธข้อเสนอไม่ไหว แม้ตัวเองจะรู้ว่าย้ายพรรคไปก็สอบตกอย่างแน่นอนหรือยิ่งเพิ่มโอกาสสอบตก แสดงว่ามันมีสิ่งอื่นที่เย้ายวนกว่าการได้เป็นนักการเมือง อย่างไรก็เคารพการตัดสินใจในการเลือกแนวทางการเมืองของทุกคน,เพชรรัตน์ นั่งอธิบดีกรมจัดหางาน,ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการหลายตำแหน่ง อาทิ ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสำราญ สาราบรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายกฤษณพงศ์ ศรีพงษ์พันธุ์กุล รองอธิบดีกรมการข้าว เป็นอธิบดีกรมการข้าว น.ส.ศิริพร บุญชู รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรเป็นอธิบดีกรมหม่อนไหม ในส่วนของกระทรวงแรงงาน อาทิ นางเพชรรัตน์ สินอวย รองปลัดกระทรวง เป็นอธิบดีกรมการจัดหางาน นายวิวัฒน์ จิระพันธุ์วานิช พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นรองปลัดกระทรวงแรงงาน,นายกฯ บินเบลเยียม 18-19 ต.ค.,พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 12 โดยนายกฯมีกำหนดเดินทางไปร่วมการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 12 ระหว่างวันที่ 18-19 ต.ค. ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ภายใต้หัวข้อหลัก หุ้นส่วนระดับโลกเพื่อความท้าทายระดับโลก โดยนายโดนัลด์ ทุสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป เป็นประธาน จะมีการรับรองเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมฯ เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของประเทศสมาชิกการประชุมเอเชีย-ยุโรปในการส่งเสริมความร่วมมือ และดำเนินการภายใต้ 3 เสาหลัก,นายกฯสั่งเช็กรองเท้าสีธงชาติ,อีกเรื่องหนึ่ง ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.กล่าวถึงกรณีบริษัทแฟชั่นชั้นนำระดับโลกโพสต์รูปภาพรองเท้าสนิกเกอร์ที่มีแถบสายคาดรองเท้าคล้ายสีธงชาติไทยว่า เรามี พ.ร.บ.ธงชาติบังคับใช้อยู่ วันนี้ได้ให้กระทรวงการต่างประเทศกับหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องไปพิจารณาว่าจะทำอย่างไร ที่ต่างประเทศการนำธงชาติไปทำโน่นทำนี่ได้ไม่มีปัญหา แต่ของเรามันถือเพราะเป็นตัวแทนชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก็ต้องไปดูว่าจะทำได้แค่ไหนอย่างไร เหมือนกับหลายคนบอกให้ตนไปขึ้นทะเบียนปลากัดที่เป็นสีธงชาติให้เป็นสัตว์ประจำชาติ มันใช่ที่ไหน เพราะสัตว์ประจำชาติคือช้าง แต่สัตว์น้ำทำได้โดยจดเป็นลิขสิทธิ์เท่านั้น เพื่อไม่ให้ใครเอาไปขยายพันธุ์ กระทรวงพาณิชย์กำลังดำเนินการอยู่,ลั่นกวาดล้างยาเสพติดให้สิ้นซาก,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นห่วงเรื่องยาเสพติด ซึ่งตนประกาศเจตนารมณ์ไปแล้วว่าจะปราบปรามให้ได้โดยเร็ว แม้อาจจะปราบไม่ได้ 100% ที่ผ่านมาฝ่ายความมั่นคงทั้งตำรวจ ทหาร ก็พยายามอย่างหนักที่จะลดซัพพลาย จะเห็นได้ว่ามีการจับกุมมากขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่ามีการเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน ก็ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของยาเสพติด สั่งการไปแล้วทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จะต้องทำให้ครบทั้งระบบ ทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) หรือกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งได้สั่งการให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ประชุมในสัปดาห์หน้า เพื่อบูรณาการกวาดล้างยาเสพติด โดยเฉพาะการแพร่ระบาดในโรงเรียน สถานศึกษาต่างๆ และในโรงงาน ต่อไปจะทยอยตรวจโรงงานทุกแห่ง ทราบว่ามีหลายโรงงานที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด,บิ๊กแดง มุ่งบูรณาการจิตอาสา,พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. กล่าวว่า ในการประชุมสำนักเลขาธิการ คสช. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. ได้ย้ำในเจตนารมณ์น้อมนำและสานต่อแนวทางจิตอาสาพระราชทาน เพื่อสร้างประโยชน์ต่อประชาชน ชุมชน และประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยกำชับให้กกล.รส.เป็นแกนกลางในการวางแผนงานและจัดกิจกรรม ร่วมกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการระดมศักยภาพของส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชนให้เข้ามาช่วยกันขับเคลื่อนงานจิตอาสาเกิดความร่วมแรงร่วมใจในการพัฒนาพื้นที่ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนให้มีทิศทางที่ชัดเจนและยั่งยืน นอกจากนี้ เลขาธิการ คสช.ได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และกองทัพภาคที่ 3 ที่จับยาเสพติดได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้การปราบปรามยาเสพติดเกิดผลสัมฤทธิ์ ยาเสพติดและอาวุธสงครามเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้จะต้องแก้ไขในทุกมิติ โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงให้ความสำคัญกับการติดตามผลทางคดีที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดและอาวุธสงคราม เพื่อให้การปราบปรามขบวนการผิดกฎหมายมีความสมบูรณ์ และสามารถขจัดปัญหาดังกล่าวให้หมดไป,สั่งฟ้องพ่อ ศิธา ฟอกเงินกรุงไทย,สำหรับกรณีพนักงานอัยการคดีพิเศษยื่นฟ้องนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นจำเลยฐานสมคบและร่วมกันฟอกเงิน ที่รับเช็ค 10 ล้านบาท ธนาคารกรุงไทย ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางไปเเล้วนั้น นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ต.ค. คณะทำงานของพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ได้มีความเห็นและคำสั่งฟ้อง นายมานพ ทิวารี บิดาของ น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และอดีตกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินด้วยเช่นกัน แต่ในวันที่ 10 ต.ค.ที่เป็นวันนัดฟังคำสั่งนายมานพ ทิวารี ผู้ต้องหาไม่มาพบพนักงานอัยการตามนัด พนักงานอัยการจึงไม่สามารถฟ้องผู้ต้องหาในวันดังกล่าวได้ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 สำนักงานคดีพิเศษ จึงแจ้งให้นายมานพ ทิวารี นางกาญจนาภา และนายวันชัย หงษ์เหิน มาพบพนักงานอัยการเพื่อฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯในวันที่ 31 ต.ค.นี้ | มองเรื่องธรรมดาเปิดเพจเฟซบุ๊กมีทั้งด่าทั้งชม ขอเป็น ตู่ดิจิทัล ก้าวทันโลก พร้อมฟังเสียงสะท้อน ขออย่าหยาบคาย ยันไม่ได้หาเสียง มีแต่คนด่าด้วยซ้ำ แต่รับประกันไม่ทำให้อารมณ์บูด ไม่ฟ้องใคร | เลือกตั้ง | หาเสียง,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,บัตรคนจน,ข่าวหน้า1,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1398109 |
ยิ่งลักษณ์เผยยินดีพบ พล.อ.เปรม หากได้รับโอกาส | น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ควบคุมกลุ่ม นปช.ที่ออกมาปั่นป่วนการหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ โดยยืนยันว่าไม่เคยสั่งการ นปช. และสั่งการพี่น้องประชาชนไม่ได้ โดยได้ขอให้ประชาชนเก็บความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบไว้ในใจ แล้วไปแสดงออกในวันที่ 3 กรกฎาคม นี้ ส่วน ตนเองจะเข้าพบ พล อ.เปรม ติณสุลลานนท์ ประธานองคมนตรี หรือไม่นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่าถ้า พล.อ.เปรม ให้โอกาส ก็ยินดีเข้าไปกราบ ขณะเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เข้ากราบสักการะพระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมกับพื้นที่ ตลาดสดเทศบาล 1 โดยมีประชาชนและแม่ค้า ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีหาเสียง ก่อนจะลงพื้นที่หาเสียงใน อ.บางระกำส่วนความ เคลื่อนไหวของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในวันนี้ งดหาเสียงในช่วงเช้า โดยเตรียมปฏิบัติภารกิจในฐานะ นายกรัฐมนตรี ในการเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล จากนั้น จะปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ วาระประเทศไทย ธรรมาภิบาลที่ยั่งยืน ที่โรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์ โดยในช่วงเย็นนั้น นายอภิสิทธิ์ จะขึ้นเครื่องลงใต้ หาเสียง จ.สงขลา เพื่อทำหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ช่วยลูกพรรคหาเสียง ซึ่งจะเป็นการปราศรัยใหญ่ ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง | ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่เกี่ยงการเข้าพบ พล.อ.เปรม หากได้รับโอกาส ยืนยันไม่สามารถสั่งการ นปช.ได้ แต่ขอให้เก็บความรู้สึกไว้เพื่อแสดงออกในวันที่ 3 ก.ค.นี้ ส่วนอภิสิทธิ์เตรียมลงใต้ปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้าย | การเมือง | Election54,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,หาเสียงพิษณุโลก,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ | https://news.thaipbs.or.th/content/17504 |
เคล็ด (ลับ) เลือกทรง แว่นกันแดด ให้เหมาะกับใบหน้า | แดดแรงขนาดนี้ แสงมันแยงตานะคะยูมีแว่นกันแดดที่เหมาะกับรูปหน้าของสาวๆ กันหรือยังเอ่ย? แว่นกันแดดเก๋ๆ บนโลกใบนี้ก็มีมากมายหลากหลายทรง ที่จะทำให้ลุคของคุณดูเก๋ไก๋มากยิ่งขึ้น วันนี้ไทยรัฐออนไลน์ มีไอเดียการเลือกแว่นกันแดดให้เข้ากับรูปหน้าแบบเก๋ๆ รับรองได้ว่าไม่มีเอาต์อย่างแน่นอนจ้า,1.หน้ายาวกับแว่นทรงกลม,สาวๆ ที่มีใบหน้าเรียวยาว ทรงแว่นที่เหมาะกับสาวๆ คือแว่นทรงกลมที่จะช่วยลดทอนความยาวของใบหน้าและพรางตาให้ใบหน้าดูสั้นลงได้อย่างเก๋ไก๋มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือการเลือกขนาดแว่น หากหน้าดูยาวมากอาจจะใช้แว่นที่ขนาดทรงใหญ่หน่อย แต่ถ้าใบหน้าไม่ได้ยาวมากก็ใช้แว่นทรงกลมขนาดพอดีใบหน้าของสาวๆ นะจ๊ะ,2.ใบหน้าทรงกลมกับแว่นทรงเหลี่ยม,สาวๆ หน้ากลมทั้งหลาย ทรงแว่นที่เหมาะกับสาวๆ จะเป็นทรงที่มีลักษณะเป็นเหลี่ยมอาจจะมีขอบมนได้แล้วแต่ความชอบ แต่ให้ดูเป็นทรงที่มีความเหลี่ยมและต้องมีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก ถ้าหน้าสาวๆ มีความกลมและแลดูสั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องห้ามใส่แว่นที่มีขนาดใหญ่ เพราะมันจะทำให้หน้ายิ่งดูสั้นเข้าไปอีกนะจ๊ะ,3.หน้าเหลี่ยมโครงหน้าชัด กับทรงแว่นตากลม,สาวๆ ที่มีโครงหน้าชัดเจนสไตล์สายฝอ ทรงแว่นที่เหมาะสมคือแว่นที่ดูทรงกลมเพื่อที่จะสร้างความแตกต่างให้ใบหน้า และทำให้สันกรามดูชัดเจน แต่ไม่เน้นให้ดูโดดเด่นจนเกินไป ที่สำคัญสาวๆ ที่มีโครงหน้าชัด แล้วใส่แว่นทรงกลม ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็สวยนะยู,4.คางเรียวแหลม กับแว่นนักบิน,ถ้าว่ากันตามจริงแล้ว แว่นนักบินถ้ารูปหน้าไม่ได้ ใส่แล้วก็รอดยากนะจ๊ะ แต่ถ้าทรงหน้าสาวๆ เป็นคนที่มีคางเรียวแหลม บอกเลยว่าแว่นนักบินเหมาะกับคุณมากๆ เพราะจะช่วยสร้างให้รูปหน้าของสาวๆ ดูเรียวเล็กแบบสมส่วน ที่สำคัญคือแว่นทรงนี้ทำให้ดูเท่ มาดนิ่ง และดูคูลสุดๆ ไปเลยจ้า. | แดดแรง อากาศร้อน กับเคล็ดลับเลือกแว่นกันแดด แว่นตาสําหรับคนหน้ากลมแว่นกันแดดให้เข้ากับหน้าผู้หญิง ผู้ชาย เรามีคำตอบ | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | แว่นกันแดดแฟชั่น,เลือกแว่นกันแดดให้เข้ากับหน้า,แว่นกันแดด,แว่นตาสําหรับคนหน้ากลม มีแก้ม,ผู้หญิง | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/fashion/1259777 |
เทสโก้ โลตัส ระดมทุน จัดเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กยากไร้ 77 จังหวัดทั่วไทย | วันที่ 12 ม.ค.61 นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า เทสโก้ โลตัส ถือโอกาสเริ่มต้นโครงการ อาหารดี พี่ให้น้อง ตั้งแต่วันเด็กแห่งชาติปีนี้เป็นต้นไป เพื่อส่งมอบอาหารกลางวันที่ปรุงจากอาหารสดคุณภาพสูง สำหรับเด็กที่ยากไร้ทั่วประเทศ,ขณะที่ ปัจจุบัน ยังมีเด็กๆ ทั่วประเทศ เผชิญภาวะขาดสารอาหารเป็นจำนวนมาก ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและสมอง มีพัฒนาการที่ไม่สมบูรณ์ โดยจะเปิดรับบริจาคเงินจากผู้ใจบุญตั้งแต่วันที่ 13-31 ม.ค.นี้เป็นต้นไป ผ่าน 4 ช่องทางที่สะดวก,สำหรับการช่วยให้เด็กไทยเข้าถึงอาหารที่ดีมีประโยชน์ เพื่อช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งเงินบริจาคที่ได้รับทั้งหมด จะนำไปซื้ออาหารสดคุณภาพดีมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ปรุงเป็นมื้ออาหารกลางวันแก่เด็กไทยใน 77 โรงเรียน จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเทสโก้ โลตัส เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อ ระหว่างลูกค้ากับโรงเรียน และมูลนิธิที่ช่วยเหลือเด็กผู้ยากไร้ในแต่ละจังหวัด ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเดือนแห่งการแบ่งปันความรัก, ,สำหรับช่องทางในการรับบริจาค ประกอบด้วย,1. เคาน์เตอร์แคชเชียร์ เทสโก้ โลตัส และเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส ทุกสาขาทั่วประเทศ,2. บริจาคผ่านเว็บไซต์ donation.tescolotus.com ,3. QR Code จาก Mobile Banking Application ร่วมกับธนาคารกรุงเทพ หรือบริจาคผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีมูลนิธิเทสโก้เพื่อไทย ธนาคารกรุงเทพ หมายเลข 057-0-41000-1 ประเภทออมทรัพย์,4. บริจาคแต้มคลับการ์ดผ่าน คลับการ์ด โมบาย แอปพลิเคชัน ได้เพิ่มเติม โดยแต้มคลับการ์ด 500 แต้มเท่ากับเงินบริจาค 5 บาท. | เทสโก้ โลตัส เปิดสะพานบุญรับวันเด็กแห่งชาติ เปิดรับบริจาคเงินช่วยเด็กไทย ประสบปัญหาภาวะขาดสารอาหาร ตั้งแต่วันเด็กถึงสิ้นเดือนมกราคม ตั้งเป้าส่งต่อมื้อกลางวันเด็กยากไร้ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ตลอดเดือน กุมภาพันธ์ นี้ | ข่าว,เศรษฐกิจ | เทสโก้ โลตัส,อาหารกลางวัน,เด็กยากไร้,จัดเลี้ยงอาหารกลางวัน,รับบริจาค,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1175932 |
ฟอร์มเฉียบ เบเบ้-มิกซ์ อัด ออสซี่ 1 2-0 ลิ่ว 8 ทีม บีชทัวร์สมิหลาฯ | การแข่งขันวอลเลย์บอล SMM เอวีซี บีช ทัวร์ เอสโคล่า สมิหลา โอเพ่น ครั้งที่ 19 ประจำวันที่ 16 เมษายน 2561 ณ สนาม หาดสมิหลา จ.สงขลา ประเภททีมชาย รอบ 16 ทีม,เบเบ้ ณัฐนนท์ อินเขียว / เศรษฐวรรษ เพชรสวัสดิ์ (ไทย 1) ชนะ ซัคคารี ชูเบิร์ต / ทิม ดิกสัน (ออสเตรเลีย 1) 2-1 เซต 21-13, 18-21, 15-9,โมอัมหมัด แอชฟรียา / อาเด รัชมาวาน (อินโดนีเซีย 1) ชนะ สุรินทร์ จงกลาง / อดิศร เขวาลำธาร (ไทย 2) 2-0 เซต 21-15, 21-18,ฮา ไลเจียง / อู เจียซิน (จีน 1) ชนะ กิตติ ดวงจินดา / ณรงค์เดช กางกรณ์ (ไทย 3) 2-0 เซต 21-18 , 21-12,สำหรับ ณัฐนนท์ / เศรษฐวรรษ ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ไปพบกับ ดานังยา ปริบาดิ / จิลัง รามาดาน (อินโดนีเซีย 2) ที่ชนะ โทมัส ฮอดด์ / มาร์คัส เฟอร์กูสัน (ออสเตรเลีย 2) 2-0 เซต 21-15, 21-16 โดย SMMTV ถ่ายทอดสด วันนี้ (16 เม.ย.61) เวลา 15.00 น. | ณัฐนนท์ อินเขียว และ เศรษฐวรรษ เพชรสวัสดิ์ (ทีมไทย 1) เอาชนะ ซัคคารี ชูเบิร์ต และ ทิม ดิกสัน (ออสเตรเลีย1) ลิ่วรอบก่อนรอง บีชทัวร์สมิหลาฯ | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | วอลเลย์บอลชายหาด,วอลเลย์บอล เอวีซี บีช ทัวร์ เอสโคล่า สมิหลา โอเพ่น,ณัฐนนท์ อินเขียว,เศรษฐวรรษ เพชรสวัสดิ์ | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1257211 |
จัดระเบียบเข้าชมพระเมรุมาศใหม่ แบ่งเป็นกลุ่ม ทุกคนต้องเข้าคิว | เมื่อเวลา 12.40 น. วันที่ 3 พ.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีที่,พระเมรุมาศ,และพื้นที่โดยรอบในมณฑลพิธีท้องสนามหลวงได้รับความเสียหาย ภายหลังจากเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้ารับชมว่า ขณะนี้การเข้าชมในแต่ละรอบได้มีการจัดจำนวนประชาชนให้เหมาะสมมากขึ้น ซึ่งตามข่าวทราบว่าการเปิดให้เข้าชมในช่วงรอบทดลองเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา พระเมรุมาศและพื้นที่โดยรอบเกิดความเสียหายจากประชาชนที่เข้าชม เพราะบางส่วนอาจยังไม่ได้รับทราบการชี้แจงในบางเรื่องและบางขั้นตอน จึงเป็นสาเหตุให้ต้องมีการจัดระเบียบการเข้าชมใหม่ โดยได้มีการชี้แจงตามสื่อว่าการเข้ามาชมควรจะดำเนินการอย่างไรบ้าง,ซึ่งเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา มีประชาชนเข้ารับชมประมาณ 29,000 กว่าคน โดยมีการจัดระบบเข้าชมเป็นกลุ่มตามรอบเวลาที่กำหนด ปัจจุบันตนคิดว่าทุกอย่างเข้าที่แล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ชี้แจงกับประชาชนตลอดเวลาว่าสิ่งใดทำได้บ้างและสิ่งใดทำไม่ได้บ้าง ซึ่งประชาชนก็เข้าใจในภาพรวมและทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย,เราต้องขอความร่วมมือประชาชน ซึ่งในช่วงแรกประชาชนต่างคนต่างมาก็มีความรู้สึกว่าอยากได้อะไรเป็นของที่ระลึกตามความเชื่อ ทำให้บางจุดชำรุดเสียหาย แต่ปัจจุบันทุกอย่างก็เข้าที่ ในภาพรวมตอนแรกที่เปิดให้เข้าชมพระเมรุมาศได้ถึงชั้น 2 เพราะไม่คิดว่าจะเกิดปัญหาลักษณะนี้ขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าพื้นฐานของประชาชนก็มีความแตกต่างด้านความคิด ความเชื่อ และทัศนคติ แต่เมื่อจัดระเบียบแล้วก็คิดว่าไม่เป็นอะไร ทุกอย่างก็เดินไปตามนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนคอยประชาสัมพันธ์แนะนำชี้แจงทำความเข้าใจตลอด ตั้งแต่ช่วงการรอคอยจนถึงขั้นตอนการเข้ารับชม,ส่วนการรักษาความปลอดภัยจะมีจุดคัดกรองโดยรอบ 5 จุด ซึ่งจะตรวจสอบเหมือนเดิม อีกทั้งมีกล้องวงจรปิด และเจ้าหน้าที่คอยเดินตรวจตรา ซึ่งเน้นดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบ แต่เราเชื่อว่าทุกคนมาด้วยจิตที่ดีต้องการมาดูพระเมรุมาศ คงไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ส่วนที่มีข้อกังวลว่าอาจจะมีการนำบุคคลพิเศษ (วีไอพี) หรือคนมีเส้นเข้ามารับชมได้ก่อนประชาชนนั้น ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามระบบ และทุกคนต้องเข้าคิวเพื่อรอเข้าชมเหมือนกันหมด พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว. | บิ๊กเจี๊ยบ แจงจัดระบบเข้าชมพระเมรุมาศ แบ่งเป็นกลุ่ม พร้อมกำหนดเวลา หลังพระเมรุมาศเสียหาย ยันต้องเข้าคิวเหมือนกันหมดทุกคน | ข่าว,การเมือง | รัชกาลที่9,ในหลวง ร.9,ส่งใจสู่ฟ้าอาลัยพ่อ,พระเมรุมาศ,การเข้าชม พระเมรุมาศ,ข่าวรัชกาลที่9 | https://www.thairath.co.th/news/politic/1115999 |
วิษณุ ไม่แก้ ม.44 ตามข้อเสนอ เทียนฉาย | วันที่ 21 พ.ค. 58 เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เสนอให้มีการแก้มาตรา 44 เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ไม่ใช้บ่อยเกินไปจนทำลายรากฐานประชาธิปไตยได้ ว่า เท่าที่ดูเขาแค่ไม่อยากให้หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในทางพร่ำเพรื่อเท่านั้น คงไปตัดไม่ได้ เพราะมีเอาไว้เพื่อแก้ปัญหาอะไรบางอย่าง ไม่ได้มีการใช้พร่ำเพรื่ออยู่แล้ว โดยในวันประชุมร่วม ระหว่าง ครม.และ คสช.ที่ผ่านมา ตนได้แจ้งให้ ครม.ทราบว่า มาตรา 44 มีทั้งพระเดชและพระคุณ แล้วแต่เราจะใช้ จะใช้ได้ทั้งทางนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ ในอดีตจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ใช้ไปในทางของตุลาการ คือ วางเพลิงเผาที่ตลาดพลู หรือ จับคอมมิวนิสต์ได้และยิงเป้าเลย อย่างนี้ถือว่า ตั้งตนเป็นศาล แต่คำสั่งตามมาตรา 44 ที่ใช้มาจนถึงขณะนี้ 17 ฉบับ ไม่มีการใช้ในทางตุลาการแม้แต่ฉบับเดียว ใช้ในทางนิติบัญญัติ และบริหารเท่านั้น ซึ่งใช้ในทางบวก,นายวิษณุ กล่าวถึงปฏิกิริยาของสังคมต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีแนวโน้มจะทำประชามติหรือไม่ ว่า เท่าที่รับฟังเหมือนมีคนไม่ค่อยแน่ใจว่า จะมีประชามติ หรือไม่ ตนไม่อยากไปยืนยันฟันธง แต่การที่อุตส่าห์ลงทุนลงแรง จนแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557 เปิดทางไปแล้ว วิญญูชน ควรจะเข้าใจได้ว่า จะเดินไปในทิศทางนั้น แต่เราจะมาบอกว่า ต้องทำแน่อย่างนั้นไม่ได้ ต้องเผื่ออะไรไว้หน่อย แต่ขอให้รู้ไว้เถอะว่า ที่ลงทุนมาขนาดนี้เพื่อนำไปสู่ประชามติ อย่าระแวงอะไรเลย ถือเป็นการปลดล็อกความรู้สึกของประชาชน และเป็นการแสดงเจตนาที่จะไปสู่จุดนั้นจริงๆ เพราะไม่มีเหตุอะไรหรอกที่จะมาขัดขวางเรื่องนี้ เว้นเสียแต่ว่า สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เกิดไปล้มร่างรัฐธรรมนูญก่อน จะไปไม่ได้เท่านั้นเอง ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่า จะเป็นการซื้อเวลานั้น ตรงนี้ได้พูดมาตลอดว่า เสียเงิน เสียเวลา แน่นอน แต่เมื่อต้องการและคิดว่าคุ้มก็ต้องเอา ถ้าจะฆ่าควาย อย่ามัวเสียดายพริก เสียเวลาต้องยอม จะให้เร็วเข้า ว่า 3 วัน 7 วัน ประชามติเลยนั้นไม่ได้ ต้องช่วยกันเร่งรัดให้ทุกฝ่ายทำให้เร็วขึ้น สำหรับตนอยากให้ทำอยู่แล้ว,ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีหากทำประชามติแล้วร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน การหยิบเอาฉบับใดฉบับหนึ่งขึ้นมาใช้ไม่ง่ายกว่าการไปร่างใหม่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถือเป็นทางออกหนึ่ง แต่จะมีคนไม่พอใจอยู่ดี เพราะฉะนั้น ต้องมีทางไหนสักอันหนึ่ง,นายวิษณุ ยังกล่าวถึงการประชุมมาตรการในการดูแลและส่งเสริมอาชีพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พ้นโทษ ว่า ขณะนี้มีนักโทษออกมา 38,000 คน บวกกับของเก่าอีก 18,000 รวมเป็น 56,000 คน โดยจะต้องมีมาตรการตั้งแต่ยังอยู่ในห้องขัง ต้องมีอาชีพ ทำให้เขามีทัศนคติที่ดี และเมื่อออกมาแล้ว จะทำอะไร ซึ่งนายกฯ เคยพูดว่า ทำอย่างไรที่จะไม่ให้คนเหล่านี้ออกมาแล้วมาทำความผิดซ้ำอีก นักโทษที่ปล่อยออกมา 70% เป็นนักโทษคดียาเสพติด ทำอย่างไรไม่ให้ไปก่ออาชญากรรมใหม่ ทำอย่างไรให้คนเหล่านี้เป็นที่ยอมรับของสังคม,เราคงไม่ไปแจกปลาให้เขา แต่ต้องมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้เขาตกเบ็ดเป็น ต้องดูกันตั้งแต่อยู่ในคุก สำหรับนักโทษหญิง คงไม่เท่าไร เพราะมีแนวโน้มจะทำอะไรได้เป็นเรื่องเป็นราวมากกว่านักโทษชาย แต่จะต้องมีมาตรการติดตามหลังปล่อยตัว โดย 6 เดือนแรก จะมีอาสาสมัครที่เป็นนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ ไปตามหมู่บ้าน อำเภอ คอยติดตามเป็นพี่เลี้ยง ให้คำแนะนำทุกเรื่อง ถือเป็นเรื่องจำเป็น แต่ส่วนใหญ่คนที่ออกมาจะไปบวช แต่เป็นห่วงว่า เมื่อสึกออกมาอาจจะก่อเรื่องอีก ดังนั้น ต้องพูดคุยกันตั้งแต่อยู่ในคุก นายวิษณุ กล่าว | วิษณุ ไม่แก้มาตรา 44 ตามข้อเสนอ เทียนฉาย เหตุ ใช้ในทางสร้างสรรค์อยู่แล้ว ชี้ แก้รธน.ชั่วคราว เพื่อทำประชามติ ถ้าทำแล้วคุ้ม เหมือนฆ่าควายอย่าเสียดายพริก เล็ง จัดนักจิตวิทยาตามประกบผู้พ้นโทษ หวั่นทำผิดซ้ำ | null | 'อภิปรายร่าง รธน.',ร่าง รธน.,ร่างรัฐธรรมนูญ,สภาปฏิรูปแห่งชาติ,สปช.,กมธ.ยกร่าง,รัฐธรรมนูญ,อภิปราย,สาระสำคัญ,วิษณุ,ไม่แก้,ม.44,เทียนฉาย กีระนันท์,ประธานสปช.,สร้างสรรค์,แก้รธน.ขั่วคราว,ประชามติ,ฆ่าควายอย่าเสียดายพริก,นักจิตวิยา,ผู้ต้องหา,พ้นโทษ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/500276 |
ปิดซ่อมแหล่งผลิตก๊าซสินภูฮ่อม จ.อุดรธานี กระทบปั๊มเอ็นจีวี 17 แห่ง ใน 5 จังหวัดภาคอีสาน | วันนี้ (17 ก.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติแหล่งสินภูฮ่อม จ.อุดรธานี ได้เริ่มดำเนินการปิดซ่อมบำรุงเพื่อรักษาประสิทธิภาพการจ่ายก๊าซฯ แล้วตามแผนงานที่ได้กำหนดไว้ในช่วงวันที่ 17-26 ก.ย. 2559 รวม 10 วัน โดยในช่วงวันที่ 25-26 ก.ย.2559 ผู้ผลิตจำเป็นต้องหยุดการผลิตทั้งหมด ส่งผลกระทบต่อสถานีบริการเอ็นจีวีรวม 17 แห่งในจังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อุดรธานี เลย และ มุกดาหาร ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณการใช้ก๊าซเอ็นจีวีของจังหวัดดังกล่าวในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนอยู่ที่ 300 ตันต่อวันปตท.ได้วางแผนจัดสรรก๊าซฯ จากพื้นที่ส่วนกลางจัดส่งไปยังสถานีบริการที่ได้รับผลกระทบเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ใช้รถเอ็นจีวี แต่เนื่องด้วยระยะทางการขนส่งก๊าซฯที่ไกลขึ้น ทำให้จัดส่งก๊าซเอ็นจีวีไปยังสถานีบริการได้ 135 ตันต่อวัน หรือคิดเป็นร้อยละ 45 ของปริมาณการใช้ก๊าซทั้งหมดในปัจจุบันปตท. ขอความร่วมมือผู้ใช้รถเอ็นจีวีและผู้เดินทางในเส้นทางดังกล่าว โปรดวางแผนการใช้เชื้อเพลิงล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการใช้รถตลอดช่วงการหยุดจ่ายก๊าซฯ และกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ที่มีเชื้อเพลิง 2 ระบบ (น้ำมันหรือก๊าซเอ็นจีวี) กรุณาหลีกเลี่ยงการใช้ก๊าซเอ็นจีวีในช่วงเวลาดังกล่าว สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการรถขนส่งโปรดเร่งจัดส่งสินค้าที่จำเป็นล่วงหน้าก่อนช่วงแหล่งก๊าซหยุดซ่อมฯ หรือใช้รถบรรทุกและรถหัวลากที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงแทนการใช้ก๊าซเอ็นจีวี ทั้งนี้คาดว่าการให้บริการก๊าซเอ็นจีวีจะกลับสู่สภาวะปกติในวันที่ 27 ก.ย.2559 เป็นต้นไป | ปตท.แจ้งปิดซ่อมแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติแหล่งสินภูฮ่อม จ.อุดรธานี รวม 10 วัน กระทบสถานีบริการเอ็นจีวีรวม 17 แห่งในจังหวัดขอนแก่น จ.มหาสารคาม จ.ร้อยเอ็ด จ.อุดรธานี และ จ.เลย ขอให้ประชาชนวางแผนการใช้เชื้อเพลิง คาดเปิดให้บริการตามปกติในวันที่ 27 ก.ย. | เศรษฐกิจ | ขอนแก่น,มหาสารคาม,ร้อยเอ็ด,อุดรธานี,เลย,มุกดาหาร ก๊าซธรรมชาติ,สินภูฮ่อม,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/255851 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.