title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
กมธ.ปรองดองปชป.ลาออก หลัง สนธิ เตรียมอนุมัติผลสรุปแผนปรองดองในวันที่ 4 เม.ยนี้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน และกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ ในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ รวม 9 คน แถลงแสดงเจตจำนงค์ลาออกจากตำแหน่งแล้ว หลังจากนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาบรรจุวาระการประชุมรัฐสภาพิจารณาลงมติให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการฯ ในสมัยประชุมนิติบัญญัติได้ขณะที่พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ยังคงย้ำให้สถาบันพระปกเกล้าถอนผลการวิจัยการสร้างความปรองดองออกจากชั้นกรรมาธิการฯและย้ำว่าพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ ควรระงับแนวทางการปรองดองไว้ก่อน เนื่องจากมีกระแสของการคัดค้านเกิดขึ้น เช่นเดียวกับพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ที่ควรเลือกเวลาเดินทางกลับไทยในภาวะที่เหมาะสมสำหรับการประชุมรัฐสภาวันพรุ่งนี้ ประธานรัฐสภาเรียกประชุมเพื่อพิจารณาหนังสือสัญญาระหว่างประเทศที่ค้างอยู่ แต่พลเอกสนธิ เสนอให้พิจารณาบรรจุวาระการพิจารณาลงมติอนุมัติให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาญัตติว่าด้วยการสร้างความปรองดองในวันที่ 4 เมษายนได้ เนื่องจากข้อบังคับการประชุมรัฐสภาและรัฐธรรมนูญมาตรา 136 วงเล็บ 5 อ้างอิงให้การพิจารณาญัตติในสมัยประชุมนิติบัญญัติต้องได้รับมติจากรัฐสภากึ่งหนึ่ง หรือไม่น้อยกว่า 251 เสียง ตามมาตรา 127
กรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ รวม 9 คนเตรียมลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ หลังพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ได้ประสานนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ บรรจุวาระการประชุมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้(27 มี.ค.) เพื่ออนุมัติให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาผลสรุปการสร้างความปรองดองในวันที่ 4 เมษายนนี้ โดยอ้างอิงเหตุผล 4 ประการ ที่ไม่ต้องการตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มบุคคลหรือฝ่ายใด
การเมือง
กมธ.,จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์,ปชป.,ปรองดอง,ลาออก,วิปฝ่ายค้าน,สนธิ
https://news.thaipbs.or.th/content/75201
ธนาธร ยันมั่นใจความบริสุทธ์-ลั่น อนาคตใหม่ คือผู้คนและการเดินทางไกล-ไม่หวั่นเดินหน้าต่อ
ผู้สนับสนุนแห่รับ ธนาธร ฟังคำพิพากษาเนืองแน่น เจ้าตัวยันมั่นใจความบริสุทธ์-ลั่น อนาคตใหม่ คือผู้คนและการเดินทางไกล-ไม่หวั่นเดินหน้าต่อ20 พ.ย. 2562 ทีมสื่อพรรคอนาคตใหม่ รายงานว่า ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ อาคาร A ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาในคดีที่ กกต.เป็นผู้ร้องในกรณีหุ้นวี-ลัค มีเดีย ซึ่งธนาธรพร้อมทีมทนายความได้เดินทางมาถึงในเวลาประมาณ 13.30น. ก่อนเดินขึ้นห้องพิจารณาเพื่อฟังคำพิพากษาโดยบรรยากาศที่ลานห้องโถงกลางอาคาร A ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ได้มีผู้สนับสนุนและประชาชนจำนวนมากมาร่วมให้กำลังใจ ธนาธรตั้งแต่เวลาประมาณ 12.00 น. พร้อมสื่อมวลชนจากทุกสำนักที่เดินทางมาทำข่าวนายธนาธรในวันนี้ โดยเมื่อนายธนาธรเดินทางมาถึง ประชาชนและผู้สนับสนุนต่างพร้อมใจกันตะโกน ธนาธรสู้ๆ ให้กำลังใจพร้อมมอบดอกไม้เป็นกำลังใจให้นายธนาธร ก่อนที่นายธนาธรจะกล่าวขอบคุณสั้นๆต่อผู้สนับสนุนธนาธรระบุว่าตนรู้สึกตื้นตันและขอบคุณในทุกกำลังใจที่ทุกคนให้ตนในวันนี้ และอย่างที่ตนบอก ไม่ว่าจะเกิดแะไรขึ้น พรรคอนาคตใหม่จะเดินไปข้างหน้าต่อ เพราะพรรคอนาคตใหม่คือผู้คนและการเดินทางยาวไกล การเดินทางของเราจะยังไม่จบแค่ในวันนี้ ขอให้พวกเราร่วมกันเดินหน้าต่อไปก่อนหน้านั้น เวลาประมาณ 12.40 น ที่ห้องพรรคอนาคตใหม่ รัฐสภา (เกียกกาย) ธนาธร พบปะและพูดคุยกับ ส.ส. ของพรรค ก่อนเดินทางไปฟังคำวินิจฉัยที่ศาลรัฐธรรมนูญข่าวสดออนไลน์ รายงาน คำที่ ธนาธร กล่าวกับ ส.ส.ด้วยว่า ตนจะเดินทางไปรับฟังคำพิพากษาที่ศาลรัฐธรรมนูญ อย่างที่ตนกล่าวไปแล้วหลายครั้งว่ามั่นใจในความบริสุทธิ์ มั่นใจในพยานหลักฐานของพวกเรา หวังว่าวันนี้ช่วงบ่ายตนจะได้กลับเข้ามาในสภาฯ พบกับทุกคน เผลอๆ อาจจะกลับมาลงมติตามวาระของสภาฯ ได้ในช่วงบ่าย ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่ไม่ใช่ธนาธร พรรคอนาคตใหม่คือพวกเรา คือการเดินทางของทุกคนดังนั้นเรามุ่งมั่นทำงานต่อไปในการที่ปกป้องพรรคให้ดีที่สุด คือการทำงานของพวกเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นทีมพรรค และ ส.ส. หากพวกเรามุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน เห็นถึงความตั้งใจของพวกเราทำผลงานให้ปรากฏ ทำนโนบายของเราให้เป็นรูปธรรมได้ นั่นคือการปกป้องพรรคให้ดีที่สุดดังนั้น คนละไม้คนละมือพวกเราสามารถร่วมกันสร้างพรรคเพื่อให้การเดินทางสดใส สวยงาม ทำให้การเดินทางของพวกเราเต็มไปด้วยความสนุกสนาม เปี่ยมไปด้วยความหมาย เต็มไปด้วยพลัง ตนคิดว่าพวกเราทำได้ด้วยการช่วยกันคนละไม้คนละมือ และให้กำลังใจกัน สิ่งที่สำคัญคือการทำงานเป็นทีม คนเดียวไม่มีใครพาอนาคตใหม่มาถึงที่นี่ได้ มันเกิดจากน้ำพักน้ำแรงของพวกเราคนละไม้คนละมือ
ผู้สนับสนุนแห่รับ ธนาธร ฟังคำพิพากษาเนืองแน่น เจ้าตัวยันมั่นใจความบริสุทธ์-ลั่น อนาคตใหม่ คือผู้คนและการเดินทางไกล-ไม่หวั่นเดินหน้าต่อ20 พ.ย. 2562 ทีมสื่อพรรคอนาคตใหม่ รายงานว่า
การเมือง
ศาลรัฐธรรมนูญ,ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,พรรคอนาคตใหม่
https://prachatai.com/journal/2019/11/85227
รู้ลึก ปัญหาริ้วรอย ป้องกันได้ก่อนจะสายเกินไป
พออายุเข้าเลข 3 ริ้วรอยสารพัดก็มาเยือนทันที ไม่ว่าจะเป็นรอยเหี่ยวย่น ความหย่อนยาน จุดด่างดำ หรือปัญหาผิวแห้ง ถือเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติของผู้หญิงอย่างเราๆ ,ใครบางคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วริ้วรอยบนใบหน้านั้นไม่ควรจะเกิดขึ้นก่อนวัยอันควร และหากใครที่ต้องพบกับปัญหาริ้วรอยก่อนวัยแล้ว เราเชื่อว่าจะกลายเป็นปัญหาระคายหัวใจ ทำให้ต้องสืบเสาะสรรหาสารพัดวิธีเพื่อกำจัดปัญหานี้ออกไป วันนี้ ,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ, จะขอมาแบ่งปันเคล็ดลับหยุดสัญญาณความร่วงโรยแห่งวัย ปกป้องผิวพรรณไม่ให้แก่กันจ้า,ริ้วรอยเกิดจากอะไร?,ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกับปัญหาริ้วรอยกันเสียก่อน ส่วนมากปัญหาเรื่องริ้วรอย ความหย่อนคล้อยมักจะเกิดจากการสังเคราะห์คอลลาเจนของร่างกายที่จะลดลงเฉลี่ยปีละ 1% เป็นผลให้ความชุ่มชื้นต่างๆ ลดลง ,นอกจากนี้ ปัญหาริ้วรอยยังเกิดจากอนุมูลอิสระที่สะสมมากขึ้น เนื่องจากวิถีการดำเนินชีวิตที่ต้องเผชิญกับสภาวะแวดล้อมที่มีมลพิษ ความรีบเร่ง ความเครียด และอนุมูลอิสระที่เพิ่มขึ้นนี้จะเข้าไปทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อและเซลล์ต่างๆ ของร่างกายรวมถึงเซลล์ผิวด้วย,ริ้วรอยมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ,1. ริ้วรอยจากความไม่ใส่ใจ เป็นริ้วรอยที่เกิดจากผิวแห้งจะมีลักษณะเป็นริ้วเล็กๆ มักมีอาการของผิวแห้งร่วมด้วย สามารถแก้ไขได้ด้วยการทาครีมบำรุงผิว,2. Overacting ริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์มากไป ส่วนใหญ่เป็นร่องรอยจากพฤติกรรมที่เกิดจากการแสดงอารมณ์มากไป หรือทำซ้ำบ่อยๆ (การขยับตัวของกล้ามเนื้อซ้ำๆ) เช่น หัวเราะ ขมวดคิ้ว เป็นต้น ทำให้เกิด รอยตีนกา ริ้วรอยใต้ตา รอยย่นบริเวณหน้าผากและหว่างคิ้ว สามารถแก้ไขด้วยการฉีดโบท็อกซ์,3. ริ้วรอยแห่งกาลเวลาหรือริ้วรอยแห่งวัย เกิดจากชั้นคอลลาเจนและชั้นไขมันเสื่อมสภาพหรือมีปริมาณลดลง จึงทำให้ผิวหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น และดูไม่มีน้ำมีนวล การแก้ไขทำได้หลายวิธี เช่น การเติมสารทดแทน หรือการทำเลเซอร์ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่,วิธีป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย,1. ใช้ครีมบำรุงผิวให้ผิวมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ เนื่องจากผิวที่แห้งขาดความชุ่มชื้นจะเกิดริ้วรอยได้ง่าย,2. ใช้ครีมกันแดดเสมอ เนื่องจากแสงแดดทำลายผิวให้เสื่อมลงได้อย่างรวดเร็ว,3. การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA, vitamin A acid, การทำ AHA treatment มีหลักฐานว่าสามารถกระตุ้นการสร้างสาร collagen และ elastin ในผิวหนัง เป็นการลดและชะลอการเกิดริ้วรอยได้ การใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์,4. ทานอาหารที่ครบถ้วน มีประโยชน์ต่อร่างกาย หากทานอาหารได้ไม่ครบถ้วนอาจเสริมด้วยการทานวิตามินหรือสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Anti-free radicals) เช่น vitamin E, vitamin C, beta-carotene เป็นต้น,5. นอกจากนี้แล้วควรจะพยายามผ่อนคลาย ลดความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงมลภาวะต่างๆ เท่าที่ทำได้,เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดปัญหาสิวและยังช่วยคงความชุ่มชื่นและความอ่อนเยาว์ให้ผิวหน้าของคุณ แถมยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ได้อย่างง่ายดายแล้วจ้า,ขอเชิญร่วมสนุกกับกิจกรรมความงาม แชร์ผ่านเฟซบุ๊กพร้อมแคปชั่นโดนๆ สวยปิ๊งต้อง เติมคำที่สะท้อนความเป็นคุณมากที่สุด และติดแฮชแท็ก #แชร์ให้ปังลุ้นสวยปิ๊ง #ไทยรัฐxราชเทวี จากนั้นให้ตั้งค่าโพสท์เป็นสาธารณะ (Public) เพียงแค่นี้ ก็ลุ้นสวยปิ๊งกันได้ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 เพราะความสวยเป็นเรื่องของผู้หญิงอย่างคุณ.
ทำความรู้จักกับปัญหาริ้วรอยก่อนวัย พร้อมวิธีป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาริ้วรอย เพื่อผิวดูอ่อนกว่าวัย
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
ริ้วรอย,ริ้วรอยก่อนวัย,แชร์ไทยรัฐให้ปังลุ้นสวยปิ๊งจากราชเทวีคลีนิก
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/beauty/1398522
หมดความอดทน หนุ่มใหญ่แทง ผญบ. ดับ แค้นเกาะแกะเมีย
ชิงรักหักสวาท ผู้ใหญ่บ้านห้วยเป้า หมู่ 1 ต.ทุ่งข้าวพวง จ.เชียงใหม่ ถูกมีดแทงพรุนทั่วร่างกาย ทั้งลำคอด้านซ้าย, หน้าท้อง, ชายโครงด้านซ้าย, ต้นแขนขวา, น่องซ้าย, น่องขวา และหน้าอก ก่อนถูกหามส่งโรงพยาบาลจนถึงแก่ความตาย จนท.รวบมือมีดได้พร้อมสารภาพ ผู้ใหญ่บ้านตัวดีตีท้ายครัว หมดความอดทนเตือนหลายครั้งไม่ฟัง,วันที่ 7 พ.ค. 58 พ.ต.ท.บุญธรรม กำไล พนักงานสอบสวน สภ.นาหวาย จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุมีคนถูกแทงได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาลเชียงดาว เหตุเกิดที่ บริเวณหลัก กม.ที่ 2 ถนนสาย บ.แม่จา-เวียงแหง ต.นาหวาย อ.เชียงดาว ใกล้ฐานปฏิบัติการ กองร้อย ตชด. 335 จึงพร้อมด้วยชุดปฏิบัติการร้อย ตชด.335 นำโดย ร.ต.อ.ปรีชา ปาตีคำ รอง ผบ.ร้อยฯ รุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ สีน้ำเงิน ทะเบียน ผข 9440 เชียงใหม่ ตกร่องระบายน้ำข้างทาง และมีรอยเลือดกองอยู่ฝั่งด้านคนขับ และบริเวณที่เกิดเหตุมีร่องรอยการต่อสู้ ขณะที่พลเมืองดีนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่ง รพ.เชียงดาว และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา,สอบสวนทราบว่า ผู้ตายชื่อ นายวรศักดิ์ อนันต๊ะ อายุ 51 ปี ตำแหน่ง ผู้ใหญ่บ้านห้วยเป้า หมู่ 1 ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว มีบาดแผลถูกแทงด้วย มีดปลายแหลมที่ลำคอด้านซ้าย 1 แผล หน้าท้อง 1 แผล ชายโครงด้านซ้าย 1 แผล ต้นแขนขวา 1 แผล น่องซ้าย น่องขวา อย่างละ 1 แผล หน้าอกแขนขารวม 6 แผล ส่วนมือมีดทราบชื่อว่า นายวิชิต เรือแก้ว อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201/1 หมู่ 1 ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว หลังก่อเหตุใช้รถกะบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ เลขทะเบียน ผม 7006 เชียงใหม่ ขับหลบหนีไป กระทั่งร้อย ตชด.335 ได้สนับสนุนกำลังร่วมกับ ตำรวจสืบสวน สภ.นาหวาย ติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านของผู้ต้องหา ก่อนยอมรับสารภาพ พร้อมนำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ ,พ.ต.อ.บุญลือ เอี่ยมใย ผกก.สภ.นาหวาย กล่าวว่า จากการสอบสวนนายวิชิต ผู้ต้องหาทราบว่า นายวรศักดิ์ ได้พัวพันยุ่งเกี่ยวกับภรรยาของนายวิชิต เป็นต้นเหตุให้ชีวิตครอบครัวมีปัญหา ขณะที่นายวิชิต เคยเจรจาห้ามปรามนายวรศักดิ์หลายครั้ง แต่ไม่สามารถยุติได้ กระทั่งนายวิชิตหมดความอดทน ช่วงก่อนเกิดเหตุภรรยานายวิชิตได้ขับรถยนต์ออกจากบ้าน โดยที่นายวิชิต ขับรถตามภรรยาอยู่ห่างๆ จนมาถึงที่เกิดเหตุ ได้พบรถของนายวรศักดิ์ จอดรอข้างทาง จากนั้น นายวรศักดิ์เดินมาขึ้นที่รถภรรยาของนายวิชิต ก่อนที่ทั้งสองจะขับรถออกไป นายวิชิตรีบลงจากรถและวิ่งเข้าไปขวางทางรถไว้,จากนั้นนายวรศักดิ์ ลงจากรถเกิดมีปากเสียงรุนแรงกระทั่งชกต่อยกันขึ้น ด้านนายวิชิตควักมีดพกขึ้นมาแทงนายวรศักดิ์มีบาดแผลทั่วร่างกาย จนทรุดลงกองที่พื้น หลังพยายามทรงตัวขึ้นได้รีบวิ่งซมซานไปที่รถพร้อมเร่งเครื่องรถขับออกไป คาดว่าด้วยความเจ็บปวดจากบาดแผล ทำให้ขับรถไม่ไหว จึงตัดสินใจจอดลงข้างทาง และมีพลเมืองดีผ่านมาพบ ช่วยนำส่งโรงพยาบาล กระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา.
ชิงรักหักสวาท ผู้ใหญ่บ้านห้วยเป้า หมู่ 1 ต.ทุ่งข้าวพวง จ.เชียงใหม่ ถูกมีดแทงพรุนทั่วร่างกายทั้งลำคอ, หน้าท้อง, ชายโครง, ต้นแขน, น่องขา และหน้าอก เจ็บสาหัสถูกหามส่ง รพ.ดับอนาถ จนท.รวบมือมีดได้เผยผู้ใหญ่บ้านตัวดีตีท้ายครัว
ข่าว,ทั่วไทย
ชู้รัก,ผู้ใหญ่บ้าน,ตัวดี,ตีท้ายครัว,หมดความอดทน,เตือน,ชิงรักหักสวาท,ผู้ใหญ่บ้านห้วยเป้าดับอนาถ,ทุ่งข้าวพวง,เชียงใหม่,บ.แม่จา-เวียงแหง,นาหวาย,เชียงดาว,ดับอนาถ,ผู้ใหญ่เป็นชู้โดนแทง,เมียมีชู้,ฆ่าชู้เมียดับ,ข่าวภูมิภาค,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/497423
ได้เวลาช้าง ชาเขียว ชนกัน
นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดชาพร้อมดื่มที่มีมูลค่า 15,000 ล้านบาท เป็นชาเขียวประมาณ 55% นั้น จะยังทรงตัวต่อเนื่องจาก 3-4 ปีที่ผ่านมา เป็นผลจากผู้บริโภคจะซื้อเครื่องดื่มชาเขียวเฉพาะช่วงทำโปรโมชั่นชิงโชคและพาเที่ยวเท่านั้น ประกอบกับมีเพียงผู้ประกอบการ 2 รายใหญ่ ที่พยายามผลักดันตลาดผ่านแคมเปญต่างๆ ขณะที่รายอื่นๆเน้นแข่งขันด้านราคาเป็นหลัก ทำให้ตลาดค่อนข้างชะลอตัว ดังนั้น เพื่อกระตุ้นตลาด โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน ที่เป็นฤดูกาลขาย บริษัทจึงทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาท อัดแคมเปญ รหัสโออิชิ แจกหนัก ซูโม่ทองคำ กองทัพยามาฮ่า เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึง 31 พ.ค.60 คาดว่าจะสร้างยอดขายเติบโต 15% สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ทำได้เติบโต 10-12%,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ก.พ.) บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จะเปิดแคมเปญช่วงซัมเมอร์ ภายใต้ชื่อ อิชิตัน ทัวร์เจแปนสุดหรู เคียงคู่ 40 ซุปตาร์ ซึ่งระบุว่ามีรางวัลระดับพรีเมียม ที่มีเงินก็หาซื้อไม่ได้กับ 5 สิ่งฟินเหนือธรรมดา ที่สุดของที่สุด ภายใต้งบกว่า 100 ล้านบาทเช่นกัน.
นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดชาพร้อมดื่มที่มีมูลค่า 15,000 ล้านบาท เป็นชาเขียวประมาณ 55% นั้น จะยังทรงตัวต่อเนื่อง
null
โออิชิ กรุ๊ป,เครื่องดื่มชาเขียว,ส่งชิงโชค,โปรโมชั่นสินค้า,เจษฎากร โคชส์
https://www.thairath.co.th/content/863610
แวะทานอร่อยเพลิน ข้าวต้มแห้ง สูตรตัวกลม
แวะทานการไม่ย่อท้อหรือยอมแพ้กับปัญหาที่เจอ และเลือกที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้หาทางออก คงเป็นสิ่งที่ใครที่ประสบปัญหาอยู่ล้วนแต่อยากจะหลุดพ้นออกจากปัญหาให้ได้,ซึ่งระหว่างทางการแก้ปัญหานั้นเราอาจจะรู้สึกเหนื่อยท้อ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ขอแค่มีความเชื่อ มุ่งมั่น ทุ่มเท ลองทำในสิ่งที่เราคิดว่าเป็น ทางออก ให้เต็มที่ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรสักอย่าง,Business On My Way สัปดาห์นี้ขึ้นเรื่องมาแนวดราม่าแบบนี้ อาจทำให้ท่านผู้อ่านรู้สึกเศร้า แต่อันที่จริงวันนี้ธุรกิจที่อยากนำเสนอนั้นถือว่าเอาใจ สายกิน ที่ชื่นชอบตระเวนหาของอร่อยลิ้มลองกับร้าน ตัวกลม ข้าวต้มแห้ง ร้านเด็ดแหล่งย่านลาดพร้าว-วังหิน,คุณแม็กกี้ (ขวัญฤดี แสงสีทอง) สาวสวยเจ้าของร้านวัย 25 ปี ที่วันนี้เธอได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทุกปัญหาย่อมมีทางออก โดยคุณแม็กกี้ เล่าว่า ก่อนที่จะมาทำตัวกลม ข้าวต้มแห้ง ตนเองเคยทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตเสื้อผ้ามาก่อน โดยเปิดเป็นโรงงานเล็กๆรับผลิตแบบครบวงจร ทั้งออกแบบดีไซน์ ตัดเย็บ งานสกรีน ซึ่งทำทั้งเป็นแบรนด์ของตนเอง รวมถึงรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับแบรนด์อื่นๆด้วย โดยทำมาเกือบ 10 ปี,กระทั่งเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาธุรกิจเริ่มประสบกับสภาวะขาดทุน ยอดออเดอร์สินค้าลดลงจากปัญหาเศรษฐกิจ และที่กระทบหนักคือการถูกสินค้าจากประเทศจีนเข้ามาตีตลาดเสื้อผ้า ซึ่งเราต้องแบกรับต้นทุนที่สูงกว่า ส่งผลให้ขาดความสามารถในการแข่งขัน,จากปัญหาดังกล่าวทำให้ต้องมานั่งปรึกษากับเพื่อนที่ร่วมหุ้นทำมาด้วยกันว่าจะทำอย่างไรกันต่อจากนี้ ซึ่งก็ระดมสมองคิดกันอยู่นาน จนมาลงเอ่ยที่จะทำเกี่ยวกับอาหาร ซึ่งตอนนั้นก็คิดว่าอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่มนุษย์ต้องทานเพื่อการดำเนินชีวิต และคำถามต่อมาคือแล้วจะทำอะไรขาย,ย่านที่จะเปิดร้านนั้นถือว่ามีการแข่งขันกันสูงมากในเรื่องของอาหาร ซึ่งก็มีร้านเปิดใหม่กันเยอะ แต่ก็ไม่ใช่ทุกร้านที่จะอยู่รอด ซึ่งก็ทำให้เราต้องมาคิดวางแผนให้รอบคอบ รับความเสี่ยงที่จะเกิดให้ได้,คุณแม็กกี้เล่าว่า ตอนนั้นคิดหนักมากๆ เพราะส่วนตัวก็ไม่มีความรู้ด้านการทำอาหารแต่อย่างใด กระทั่งมีเพื่อนแนะนำว่าให้ทำข้าวต้มแห้งขายดู ซึ่งยอมรับ ว่าตอนนั้น ยังไม่รู้จัก เลยว่าข้าวต้มแห้งคืออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร โดยตอนนั้นก็เกิดความสนใจ และเริ่มศึกษาหาข้อมูลความเป็นมาของข้าวต้มแห้งจริงจัง,ในความโชคร้ายที่เราไม่มีความรู้ด้านการทำอาหารเลย ก็ยังมีความโชคดีอยู่คือ เป็นคนที่ชอบทาน ร้านไหนว่าอร่อย รสชาติเด็ด ก็จะหาโอกาสไปเยือน ซึ่งตอนจะทำข้าวต้มแห้งก็ตระเวนไปชิมร้านต่างๆ เพื่อหาแรงบันดาลใจมาพัฒนาสูตรของตนเอง,จากนั้นก็ไม่รอช้าโดยเริ่มลงมือทำโดยชิมกันเองก่อน จากนั้นก็ให้เพื่อนๆรวมถึงคนในหมู่บ้านให้ชวนกันมาชิมพร้อมติชมว่ารสชาติเป็นอย่างไร ซึ่งก็นำคำติชมเหล่านั้นมาพัฒนาแก้ไขอย่างต่อเนื่อง โดยเมนูที่ทำนั้นเป็นข้าวต้มแห้งหมู ซึ่งก็ใช้เวลา 6 เดือน ในการพัฒนาสูตรและทำให้รสชาติคงที่,คุณแม็กกี้เล่าว่า และก็มาถึงวันสุดจะตื่นเต้นก็คิดวันที่เปิดตัวขายวันแรก โดยตอนนั้นปรับปรุงร้านที่เช่าไว้เพื่อตัดเย็บและสกรีนเสื้อผ้ามาเป็นร้านข้าวต้มแห้ง ลงทุนซื้อโต๊ะ เก้าอี้ ตกแต่งร้านใหม่ แต่ที่ยากคือทางเจ้าของตึกไม่ให้ทำอาหารภายในอาคาร ทำให้ต้องคิดหาทางออก และก็สำเร็จโดยย้ายไปทำบนรถฟู้ดทรัค จองทำหน้าร้านแทน,ตอนที่ทำร้านแม็กกี้เริ่มจากต้นทุนที่ติดลบ เงินลงทุนก็เป็นการยืมมาจากเพื่อนๆที่สนิทกัน รวมถึงรถที่เอามาทำเป็นฟู้ดทรัคก็ยืมเพื่อนมา ซึ่งตอนนี้เขาก็ยกให้แล้ว ซึ่งในจุดนี้ก็มีส่วนช่วยเป็นแรงผลักดันให้เราสู้ เพราะเพื่อนให้ความเชื่อใจเราว่าเราทำได้จึงให้ยืมเงิน ซึ่งตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าต้องทำให้เต็มที่,ปัจจุบันเมนูที่ร้านมีให้เลือกชิมหลากหลายทั้งข้าวต้มแห้งหมู ข้าวต้มทะเล ข้าวต้มแห้งเนื้อปู โดยลูกค้าท่านใดอยากจัดเต็มเรื่องหมูๆ ก็สั่งข้าวต้มแห้งตัวกลม โดยจะครบเครื่องทั้งหมูสับก้อนกลม หมูกรอบ และซี่โครงหมูอบมาในชามเดียว นอกจากนี้ยังมีเมนูทานเล่นให้ชิมเพลินๆ อาทิ เล้งแห้งยำ ยำหมูกรอบไข่ออนเซ็น ใบผักบุ้งกรอบ ราคาเริ่มต้น 50–99 บาท ที่สำคัญทางร้านไม่ใส่ผงชูรส 100% อย่าง รสชาติน้ำซุป ทางร้านก็จะใช้วัตถุดิบ ธรรมชาติจากกระดูกหมู และผักต่างๆ,และเมื่อถามถึงความต่างและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตัวกลมข้าวต้ม แห้ง คุณแม็กกี้เล่าว่า เรามีความพิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบที่เน้นการทำสดใหม่ทุกวัน โดยข้าวก็ใช้ข้าวหอมมะลิ โดยการหุ้งนั้นจะใช้น้ำซุปมาหุ้งข้าวเพื่อให้ข้าวมีรสชาติซึมไปในเมล็ดข้าว อีกทั้งเรายังมีซอสสูตรตัวกลม ที่ไว้ใส่เพิ่มความกลมกล่อมให้ข้าวต้มแห้งด้วย ซึ่งก็มีแผนจะผลิตซอสออกจำหน่าย นอกจากนี้ทางร้านยังเน้นเป็นพิเศษอีกด้านคือการบริการลูกค้า เพราะอยากให้ลูกค้าได้แต่ความรู้สึกประทับใจกลับบ้านไป,งานนี้ใครจะแวะไปชิมก็ไปได้ที่ริมถนนลาดพร้าว-วังหิน ตรงข้ามซอยลาดพร้าววังหิน 39 ร้านเปิด 19.30-00.00 น. ปิดทุกวันอังคาร หรือไปดูเมนูชวนให้หิวก่อนที่เพจเฟซบุ๊ก : ตัวกลม ข้าวต้มแห้ง ก่อนก็ได้
วันนี้ธุรกิจที่อยากนำเสนอนั้นถือว่าเอาใจ สายกิน ที่ชื่นชอบตระเวนหาของอร่อยลิ้มลองกับร้าน ตัวกลม ข้าวต้มแห้ง ร้านเด็ดแหล่งย่านลาดพร้าว-วังหิน
null
ข้าวต้มแห้ง,ตัวกลม ข้าวต้มแห้ง,ร้านอาหาร,Business On My Way,ข้าวต้ม
https://www.thairath.co.th/news/business/entrepreneur/1371033
สมานฉันท์แรงงานไทยประณามรัฐใช้ พ.ร.บ.ชุมนุม แก้ปัญหาพิพาทแรงงานซันโคโกเซ
13 ม.ค. 2559 วานนี้ (12 ม.ค.) คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยออกแถลงการณ์ ประณามการใช้ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะในการจัดการปัญหาสหภาพแรงงานซันโคโกเซ พร้อมเรียกร้องยุติการคุกคามผู้นำแรงงาน และคืนบัตรประชาชนและใบขับขี่ของสมาชิกสหภาพแรงงานที่ยึดไปโดยทันทีรายละเอียดมีดังนี้นับตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2558 เป็นต้นมา บริษัทซันโคโกเซ เทคโนโลยีประเทศไทย จำกัด สัญชาติญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ผลิตอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถยนต์ ได้แก่ กันชน สปอยล์เลอร์ และชิ้นส่วนตกแต่งภายในรถยนต์ ส่งงานให้ลูกค้าที่ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของประเทศไทย เช่น โตโยต้า ฮอนด้า มิตซูบิชิ เจเนรัลมอเตอร์ นิสสัน ฮีโน่ ซูซูกิ อีซูซุ ฟอร์ด มาสด้า มิโนะรุ ทากาตะ เดนโซ่ เอ็นเอชเค ฯลฯ ได้มีคำสั่งปิดงานสมาชิกสหภาพแรงงานซันโคโกเซ ประเทศไทย ตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 จำนวน 663 คน และสั่งห้ามเข้าทำงานในโรงงานและงดจ่ายค่าจ้าง อีกทั้งไม่ได้รับสิทธิแรงงานตามกฎหมายประกันสังคม คุ้มครองแรงงาน และกองทุนเงินทดแทน สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ลูกจ้างได้รับความเดือดร้อนอย่างมากนี้ ทำให้ลูกจ้างที่ถูกปิดงานจึงได้ชุมนุมบริเวณด้านหน้าบริษัทฯ เพื่อให้มีการเจรจาเปลี่ยนแปลงคำสั่งดังกล่าว แต่ไม่เป็นผลอย่างใด อีกทั้งบริษัทฯยังได้ประสานงานกับทางนิคมฯเพื่อขอใช้อำนาจศาลสั่งให้ลูกจ้างย้ายสถานที่ชุมนุมออกจากบริเวณดังกล่าวเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2558 เป็นต้นมา และได้มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากลูกจ้างอีกคนละ 500000 บาท รวม 1000000 บาทก่อนหน้านั้นทางสหภาพแรงงานได้พยายามอย่างยิ่งยวดในการเจรจากับนายจ้างกว่า 16 ครั้ง เพื่อให้ได้ข้อยุติในข้อพิพาทแรงงานมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2558 จนล่าสุด คือ 11 มกราคม 2559 แต่ก็ยังไม่ยุติแต่อย่างใดบริษัทฯยังได้มีมาตรการกดดันลูกจ้างที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานในรูปแบบต่างๆ เช่น การนำแรงงานเหมาค่าแรงและแรงงานข้ามชาติเข้ามาทำงาน การสั่งให้ลูกจ้างล้างห้องน้ำ การเปิดโครงการสมัครใจลาออกด้วยข้ออ้างเรื่องการขาดทุนแต่ก็มีการให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลา (OT) ควบคู่กันไป การทำงานท่ามกลางความไม่ปลอดภัยในสภาพแวดล้อมในโรงงาน เป็นต้นสถานการณ์ดังกล่าวสร้างความวิตกกังวลใจว่าอาจนำไปสู่การเลิกจ้างสมาชิกสหภาพแรงงาน มากกว่าการเจรจาข้อพิพาทแรงงานตามที่กฎหมายแรงงานสัมพันธ์ได้กำหนดไว้ จึงทำให้สมาชิกฯเดินทางมาที่กระทรวงแรงงาน เพื่อขอความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติในมาตรา 35 ใน พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ 2518 ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 6 มกราคม 2559 จวบจนเวลา 16.00 น. ทางกระทรวงแรงงานจึงได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการจัดการกับสมาชิกสหภาพแรงงาน ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 จนทำให้มีตำรวจกว่า 200 นาย พร้อมรถตำรวจ และรถที่มีห้องขัง เข้ามาประจำการในกระทรวงแรงงาน พร้อมที่จะจัดการสลายการชุมนุมสมาชิกสหภาพแรงงานกว่า 500 คน ที่รวมตัวอยู่บริเวณใต้ถุนกระทรวงแรงงาน ที่มีทั้งกลุ่มแรงงานหญิง แรงงานตั้งครรภ์ และแรงงานที่ป่วยขณะเดียวกันก็ได้มีการควบคุมตัวนายชาลี ลอยสูง รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) และนายอมรเดช ศรีเมือง ประธานสหภาพแรงงานฯ กว่า 4 ชั่วโมง โดยในช่วงแรกได้มีการยึดโทรศัพท์ ยึดบัตรประจำตัวประชาชน ห้ามติดต่อสื่อสารกับสมาชิกที่อยู่บริเวณด้านล่าง และตำรวจที่อยู่ในห้องควบคุมตัวในชั้น 6 ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน ได้ใช้คำพูดตะคอกข่มขู่กดดัน อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้เข้ามาควบคุมการชุมนุมที่กระทรวงแรงงาน ได้ยึดบัตรประชาชนและใบขับขี่ของสมาชิกสหภาพแรงงานและผู้นำแรงงานที่มาชุมนุม โดยที่ยังไม่มีการคืนบัตรดังกล่าวให้แต่อย่างใดจนบัดนี้ ประกอบด้วย นายเสมา สืบตระกูล นายพรพิชิต ปุริสาร และสมาชิกสหภาพแรงงานอีก 2 คนในวันรุ่งขึ้นจนปัจจุบัน นางสาววิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) ได้ถูกติดตามจากตำรวจและทหารไม่ทราบสังกัดแต่งกายนอกเครื่องแบบ ตั้งแต่โรงงานจนบ้านพัก รวมทั้งสำนักงานสหภาพแรงงาน รวมถึงนายยงยุทธ เม่นตะเภา รองประธาน คสรท. ที่ถูกติดตามมาตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2559เหล่านี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยที่กระทรวงแรงงานไม่เข้ามาปกป้องหรือมีมาตรการใดๆตามที่กล่าวอ้าง ในคำแถลงข่าวโดยรองปลัดกระทรวงแรงงานเมื่อ 7 มกราคม 2559คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยและองค์กรสมาชิก ขอประณามกระทรวงแรงงานต่อการใช้ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558 ในการจัดการปัญหาสหภาพแรงงานซันโคโกเซ ประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2559 อย่างถึงที่สุด ทั้งที่การรวมตัวและเจรจาต่อรองถือเป็นสิทธิมนุษยชนและสิทธิขั้นพื้นฐานตามปฏิญญาสิทธิมนุษยชน และ พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ 2518 ได้บัญญัติไว้ ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตยของผู้ใช้แรงงาน ในการปกป้องสิทธิของคนงานไม่ให้ถูกนายจ้างรังแกเอารัดเอาเปรียบตามอำเภอใจ และเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เพื่อเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องในสังคมไทย และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกกับองค์กรแรงงานอื่นๆในอนาคต คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย จึงมีข้อเรียกร้องดังนี้1. ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานมีมาตรการทางกฎหมายที่ชัดเจน ในการมีคำสั่งให้นายจ้างซึ่งปิดงานรับลูกจ้างกลับเข้าทำงานโดยไม่มีเงื่อนไข และจ่ายค่าจ้างตามอัตราที่เคยจ่ายให้แก่ลูกจ้าง เพื่อให้ลูกจ้างสามารถเข้าถึงสิทธิแรงงานตามที่กฎหมายแรงงานกำหนดไว้โดยเร็ว รวมทั้งไม่มีการเอาผิดทางอาญาและทางแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายกับลูกจ้างทุกคนในทุกกรณี2. ขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเข้ามาพิจารณาและให้ความเห็นที่ชัดเจนว่า การชุมนุมที่เป็นผลมาจากการพิพาทแรงงานตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ 2518 เข้าข่ายความหมายการชุมนุมสาธารณะ ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558 หรือไม่ อย่างไร เนื่องจากกลไกสูงสุดในการแก้ไขความขัดแย้งด้านแรงงานตามที่กฎหมายระบุไว้ คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน การที่กฎหมายชุมนุมสาธารณะได้กำหนดเรื่อง ห้ามกีดขวางทางเข้าออกหน่วยงานรัฐหรือรบกวนการปฏิบัติ หรือการใช้บริการสถานที่ทำการหน่วยงานรัฐ จึงขัดแย้งกับการชุมนุมขององค์กรแรงงาน เพราะเป็นไปเพื่อการเรียกร้องต่อหน่วยงานรัฐโดยตรงให้เข้ามาแก้ไขปัญหา และโดยสภาพการชุมนุมย่อมก่อให้เกิดความไม่สะดวกในการใช้สถานที่ดังกล่าวอยู่บ้าง การบัญญัติลักษณะดังกล่าวจึงเปรียบเสมือนการห้ามการชุมนุมไม่ให้องค์กรแรงงานสามารถใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ 2518 ได้อีกต่อไป และเป็นการลิดรอนสิทธิขั้นพื้นฐานอันควรได้รับการรับรองจากรัฐธรรมนูญ3. ท่ามกลางสถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานที่ทวีคูณ คสรท.ได้ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือทั้งทางขับเคลื่อนเชิงนโยบายและด้านกฎหมายแก่แรงงานทุกกลุ่ม เพื่อปกป้องสิทธิแรงงานตามหลักสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรม ให้สามารถเข้าถึงสิทธิตามที่กฎหมายคุ้มครองแรงงานและกระบวนการยุติธรรมกำหนดไว้ การติดตามผู้นำแรงงานใน คสรท. ทั้ง 2 คน (นางสาววิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) ได้ถูกติดตามจากตำรวจและทหารไม่ทราบสังกัด รวมถึงนายยงยุทธ เม่นตะเภา รองประธาน คสรท. ที่ถูกติดตามมาตั้งแต่ 4 ม.ค.59 ) จึงถือได้ว่าเป็นการคุกคามการทำหน้าที่ขององค์กรด้านแรงงาน คสรท.ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกลุ่มดังกล่าว เพื่อดำเนินการทางวินัยโดยทันที4. เนื่องจากบัตรประชาชนถือเป็น เอกสาร ตามความหมายในประมวลกฎหมายอาญา ทาง คสรท.ขอเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคืนบัตรประชาชนและใบขับขี่ให้สมาชิกสหภาพแรงงานที่ถูกยึดไปโดยทันที เนื่องจากไม่มีกฎหมายฉบับใดให้อำนาจเจ้าหน้าที่จะสามารถยึดบัตรประชาชนได้ อีกทั้งการยึดบัตรประชาชนไปถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 188 และพ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน มาตรา 15 ทวิ ฐานเอาไปเสียซึ่งบัตรประชาชนของผู้อื่นเพื่อประโยชน์สำหรับตัวเองโดยมิชอบ ทั้งนี้การที่ไม่มีบัตรประชาชนติดตัวอาจถูกเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมในข้อหาไม่สามารถแสดงบัตรประชาชนเมื่อเจ้าพนักงานขอตรวจค้น ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน มาตรา 17 ได้ รวมถึงการไม่สามารถทำนิติกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องได้ ดังนั้นเมื่อไม่มีกฎหมายให้อำนาจกระทำได้ การยึดบัตรประชาชนไปจึงเป็นความผิดตามกฎหมายที่กล่าวมาแล้วข้างต้น และเจ้าหน้าที่ที่สั่งการจึงมีความผิดทางวินัยตามที่กล่าวมาด้วยความเคารพต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
6 ม.ค. 2559 สหภาพแรงงานซันโคโกเซชุมนุมใต้ถุนกระทรวงแรงงาน (แฟ้มภาพ) 13 ม.ค. 2559 วานนี้ (12 ม.ค.) คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยออกแถลงการณ์ ประณามการใช้
คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,แรงงาน
ข้อพิพาทแรงงาน,คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย,ชุมนุม,ซันโคโกเซ,พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ,สหภาพแรงงาน,แถลงการณ์
https://prachatai.com/journal/2016/01/63451
อ้าวเฮ้ย มาแล้วนี่หว่า โฉมใหม่เฟซบุ๊ก มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง มาดูกัน
มีอะไรบ้าง ต้องตามไปดู,ล่าสุดนี้ เฟซบุ๊กกำลังทดลองใช้ฟีเจอร์ ,Going Live, ในกล้องบนเฟซบุ๊ก เพื่อให้ง่ายต่อผู้ใช้ที่ไลฟ์สด หลังจากเฟซบุ๊กได้ปล่อยเวอร์ชั่นทดลองมาระยะหนึ่ง ตอนนี้ก็เปิดให้ผู้ใช้งานได้ทดสอบความสามารถต่างๆ ของฟีเจอร์นี้ ในการบันทึกวิดีโอและเสียงสด แถมยังสามารถทำ GIF ต่างๆ ได้อีกด้วย,Facebook Video ในเวอร์ชั่นทดลองนี้ จะมีฟังก์ชัน ไลฟ์สด แบบปกติ และแบบ GIF ที่ปรากฏอยู่ตรงด้านบนของหน้าจอ,ในการ Live คุณสามารถกดที่ไอคอน Video Camera เพื่อสตรีมวิดีโอสดหรือกดที่ปุ่มไอคอน Microphone เพื่อสตรีมเสียงสดได้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้คุณสามารถเลือก Go live ในแบบใดก็ได้อย่างที่ต้องการ ไม่ว่าจะลงแค่ใน Facebook Stories โพสต์แบบปกติบนเฟซบุ๊ก หรือทำทั้ง 2 อย่างยังได้เลย,นอกจากนี้ เฟซบุ๊กกำลังทดลองในการเพิ่ม Stories ลงบนหน้าจอหลักบนเว็บไซต์ที่จะอยู่บนแถบด้านขวาของ News Feed ,เฟซบุ๊กกำลังพยายามปรับปรุงฟีเจอร์นี้ให้ดีกว่าแอปฯ คู่แข่งอย่าง Snapchat โดย ,Facebook Stories, จะแสดงฟีดวิดีโอและรูปภาพต่างๆ ของเพื่อนภายใน 24 ชั่วโมงคล้ายกับอินสตาแกรม,ก่อนหน้านี้เฟซบุ๊กเคยทดลองใช้ฟีเจอร์นี้มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 แต่ว่าฟีเจอร์นี้กลับไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าที่ควร ล่าสุดเฟซบุ๊กจึงได้พยายามกระตุ้นให้ผู้ใช้เพิ่ม Story ของพวกเขาลงไปมากกว่าปล่อยให้เป็นไอคอนสีเทาที่ผู้เล่นไม่ได้ใช้ฟีเจอร์นี้ แต่ Facebook Stories ก็ยังไม่ได้เงียบซะทีเดียว,อย่างไรก็ตาม เฟซบุ๊กยังไม่ได้ยืนยันเปอร์เซ็นต์ที่แน่ชัดของผู้ใช้ที่กำลังดู Stories บนหน้าจอของพวกเขาในการทดลองนี้ ดังนั้นตอนนี้มันยังไม่แน่ชัดว่าการเพิ่ม Facebook Stories ลงบนหน้าจอหลักบนเว็บไซต์จะเพิ่มปริมาณของผู้เล่นฟีเจอร์นี้หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป
ใครฮิตอะไรก็ต้องมีให้หมด ล่าสุดนี้เฟซบุ๊กเพิ่งปล่อยตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มลูกเล่นให้สาวกโซเชียลได้สนุกกันมากกว่าเดิม
ข่าว,ไอที
Facebook Stories,เฟซบุ๊กสตอรี่,เฟซบุ๊ก ไลฟ์,เฟซบุ๊ก ใหม่,เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม
https://www.thairath.co.th/news/tech/1052667
FORD เปิดผ้าคลุม GT 2016 ซุปเปอร์คาร์ล้ำอนาคต
รถซุปเปอร์คาร์ Ford GT สร้างมาตรฐานใหม่ด้านความล้ำสมัยไปไกลเกินจินตนาการ สมรรถนะแบบตัวแข่งน้ำหนักเบา ติดตั้งระบบแอโรไดนามิกส์สุดทันสมัย พร้อมเครื่องยนต์ EcoBoost New Ford GT Carbon ติดตั้งเครื่องยนต์ EcoBoost V6 รุ่นปรับแต่งพิเศษ พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จคู่ (Twin Turbo) แบบใหม่ ให้กำลัง 600 แรงม้า ซุปเปอร์คาร์สมรรถนะสูงคันนี้เป็นยานยนต์ที่ผสานเทคโนโลยีทางวิศวกรรมที่ใช้ในสนามแข่ง เพื่อมอบความเร้าใจภายใต้รูปโฉมที่งดงามของรถแข่งแห่งอนาคต พร้อมเริ่มต้นผลิตในปี พ.ศ. 2559,ดีทรอยต์ 16 มกราคม 2558 – Ford เปิดตัวรถ Super car GT รถสมรรถนะสูงที่ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่จาก Ford มากมาย เพียบพร้อมด้วยเครื่องยนต์ EcoBoost อันทรงพลัง การออกแบบตามหลักแอโรไดนามิกส์ และโครงสร้างตัวถังแบบคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีน้ำหนักเบา นอกเหนือไปจาก Ford Focus RS / Ford F150 / Ford Raptor Shelby GT 350 / Shelby GT 350 R แล้ว รถ Ford New GT จะเป็น 1 ในรถ 12 รุ่นที่ Ford เตรียมพร้อมเปิดตัวภายในปี พ.ศ. 2563 โดย Ford จะเริ่มผลิตรถ Ford GT ปลายปีหน้าและวางจำหน่ายในหลายๆ ประเทศทั่วโลก เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 50 ปีของรถแข่ง Ford GT ที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1, 2 และ 3 ในการแข่งขัน 24 Hours of Le Mans ในปี พ.ศ.2509,Ford ใช้ความพยายามอย่างมาก โดยมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ๆ ของการดีไซน์ ให้เกิดขึ้นในทุกภาคส่วนของธุรกิจ นวัตกรรมแรกของ Ford ไม่ได้เกิดขึ้นในห้องทดลอง แต่เกิดขึ้นบนสนามแข่ง มร.มาร์ค ฟิลด์ส ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ford กล่าว โดยอ้างอิงจากชัยชนะของ มร. เฮนรี ฟอร์ด ในการแข่งรถเมื่อปี พ.ศ. 2444 ซึ่งได้จุดประกายให้ผู้สนับสนุนด้านการเงินตัดสินใจลงทุนกับบริษัท Ford เชื่อมโยงแบรนด์ของตนเองผนวกเข้ากับกีฬาแข่งรถมานานกว่า 50 ปี กลุ่มผู้บริหารของ Ford มีความหลงใหลในการสร้างสรรค์รถยนต์ประสิทธิภาพสูง เพื่อผลิตยานยนต์ที่มีสมรรถนะเป็นเลิศ และทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็น,New Ford GT มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลัง เครื่องยนต์ V6 วางกลางลำตัวอยู่หลังคนขับตามแนวทางการวางเครื่องยนต์ของซุปเปอร์คาร์ที่ส่งผลไปถึงการบังคับควบคุม โดยเฉพาะการควบคุมรถในสนามแข่ง ตัวถังแบบคูเป้ 2 ประตูที่ถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ Ford GT 2016 ติดตั้งเครื่องยนต์ EcoBoost V6 อันทรงประสิทธิภาพ พร้อมระบบเทอร์โบชาร์จคู่แบบใหม่ ให้กำลังมากกว่า 600 แรงม้า วิศวกรของค่ายนี้ยังได้นำวัสดุน้ำหนักเบามาใช้ในการประกอบตัวรถ เช่น คาร์บอนไฟเบอร์ และอะลูมินัม ส่งผลให้รถมีอัตราเร่งดีเยี่ยมและมีอัตราการประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ Ford มีความมุ่งมั่นและพร้อมที่จะมอบเทคโนโลยีที่ดีเยี่ยมใน Ford GT ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบชิ้นส่วนที่ช่วยเพิ่มความลู่ลมอย่างเช่นสปอยเลอร์หลัง มีการปรับความสะดวกสบายให้ผู้ขับในด้านการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆโดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้ติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอก ระบบ ซิงค์ 3 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเชื่อมต่อการสื่อสารภายในรถที่ทันสมัยที่สุดของ Ford จึงถูกยักย้ายถ่ายเทจากห้องทดลองมาใช้ใน Ford GT 2016,Ford GT เป็นยานยนต์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของผู้ที่หลงใหลรถซุปเปอร์คาร์ มร. ราช แนร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการด้านเทคนิคและรองประธานกลุ่มผู้บริหารฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลกของ Ford กล่าว GT รวบรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีหลากหลายที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ของรถ Ford ในอนาคต Ford GT สะท้อนถึงการที่ Ford ยังคงเดินหน้าพัฒนาวัสดุน้ำหนักเบาเพื่อทำให้รถมีสมรรถนะสูง มีอัตราเร่งต่อเนื่องด้วยน้ำหนักที่เบากว่า ควบคู่กับการพัฒนาเครื่องยนต์ที่ดีให้แก่ผู้ขับขี่ทั่วโลก,นวัตกรรมคาร์บอนไฟเบอร์,มีนวัตกรรมเพียงไม่กี่อย่างที่สามารถเพิ่มสรรถนะและช่วยให้รถประหยัดน้ำมันได้ดี มันคืออีกหนทางหนึ่งของการเพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นจากวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญ ผสมผสานกันทั้งรูปลักษณ์ที่ถูกต้องตามหลักอากาศพลศาสตร์ การลดน้ำหนักโดยรวม รถ GT รุ่นใหม่มีการนำวัสดุที่ล้ำสมัยและมีน้ำหนักเบามาปรับใช้เพื่อปรับปรุงอัตราเร่ง การควบคุมทิศทาง การเบรก ระบบความปลอดภัย และการประหยัดน้ำมัน GT 2016 ประกอบไปด้วยวัสดุมวลเบาอันล้ำสมัยซึ่งจะถูกนำไปใช้กับรถ Ford รุ่นใหม่ๆ ในอนาคต การใช้วัสดุที่มีส่วนผสมของคาร์บอนไฟเบอร์ทำให้ GT ใหม่ มีสัดส่วนของกำลังเครื่องยนต์และน้ำหนักตัวรถที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถสปอร์ตรุ่นอื่นๆ บนท้องถนน,Ford GT 2016 ประกอบด้วย ซัฟเฟรมแบบอะลูมินัมทั้งด้านหน้าและด้านหลังห่อหุ้มด้วยโครงสร้างที่ทำจากคาร์บอน ไฟเบอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในวัสดุที่คงทนที่สุดในโลก ทำให้โครงสร้างรถยนต์มีความแข็งแกร่ง แต่มีน้ำหนักเบา ซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะและประหยัดน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยม,เครื่องยนต์ EcoBoost แบบ V6,ตั้งแต่ต้นปีนี้ เทคโนโลยีเครื่องยนต์ EcoBoost จะได้รับการติดตั้งในรถ Ford รุ่นใหม่ทุกรุ่น ทั้งรถยนต์นั่ง รถอเนกประสงค์ และรถกระบะที่วางจำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนือ เครื่องยนต์ EcoBoost ยังเป็นขุมพลังชั้นดีให้กับรถสปอร์ตของฟอร์ดอีกหลายรุ่น รวมถึง ford mustang / ford fiesta / ford fiesta ST / ford focus ST / ford F150 raptor ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้,ด้วยพื้นฐานการพัฒนาจากเครื่องยนต์ที่ติดตั้งในรถต้นแบบเดย์โทนาที่ใช้ในสนามแข่งรถนานาชาติของสถาบัน IMSA (International Motor Sports Association) เครื่องยนต์ Ecoboost V6 ขนาด 3.5 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบชาร์จคู่แบบใหม่ New GT จึงมอบกำลังที่ยอดเยี่ยมและแรงบิดที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เครื่องยนต์ที่ติดตั้งใน Ford GT 2016 มีกลไกที่ออกแบบมาเพื่อการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่ได้มาจากการนำเอาเทคโนโลยีเครื่องยนต์สำหรับรถแข่งมาวางลงในห้องเครื่องของ New GT เนื่องจากกำลังที่เหนือชั้นและความประหยัดน้ำมันคือหัวใจสำคัญของเครื่องยนต์ที่วางลงในซุปเปอร์คาร์ยุคใหม่,รถยนต์ Ford ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ Ecoboost V6 พร้อมระบบเทอร์โบชาร์จคู่ เคยคว้าชัยชนะถึง 3 ครั้งในการแข่งฤดูกาลแรกของ IMSA TUDOR United Sports Car Championship 2014 รวมถึงชัยชนะจากการแข่งขัน 12 Hours of Sebring และยังได้รับรางวัลอื่นๆ อีก 7 รางวัล รวมระยะทางในการแข่งขันกว่า 15,000 ไมล์ Ford GT 2016 ได้รับการติดตั้งระบบหัวฉีดคู่อิสระแบบใหม่ เพื่อปรับปรุงการตอบสนองของเครื่องยนต์รวมถึงรางวาล์วระบบ roller-finger-follower แบบแรงเสียดทานต่ำ เครื่องยนต์ Ecoboost V6 พร้อมระบบเทอร์โบชาร์จคู่ จะถูกพ่วงติดกับระบบส่งกำลังซึ่งเป็นเกียร์คลัตช์คู่แบบ 7 สปีดที่ให้การเปลี่ยนอัตราทดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว,ระบบแอโรไดนามิกส์ที่ตอบสนองมากขึ้น,การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่เป็นหัวใจของการออกแบบรถ Ford GT ซึ่งช่วยลดแรงเสียดทานพร้อมกับเพิ่มแรงกดและเสถียรภาพในการขับขี่ จากรูปทรงของรถที่เป็นรูปหยดน้ำจนถึงตัวถังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงของเครื่องบินและกระจกหน้าที่ทำมุมโค้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น ทุกส่วนโค้งและองศาได้รับการออกแบบให้ลดแรงเสียดทานและใช้ประโยชน์จากแรงกดให้ได้มากที่สุด นอกจากทุกพื้นผิวสัมผัสของฟอร์ด จีที จะได้รับการออกแบบเพื่อจัดการการไหลเวียนของอากาศอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว องค์ประกอบอื่นๆ ที่ช่วยยกระดับการเบรก การควบคุม และเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ ยังล้วนได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เช่นกัน ความเร็วของรถขณะวิ่งและลักษณะการขับขี่ยังมีผลต่อสปอยเลอร์หลัง ที่ปรับเปลี่ยนความสูง และ/หรือเปลี่ยนองศาได้ตามสภาพการขับขี่,Ford GT สืบทอดตำนานความคลาสสิกของรถแข่งและรถสปอร์ตของฟอร์ด พร้อมรูปโฉมที่ทันสมัย สวยงาม โครงสร้างช่วงล่างถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการทำความเร็ว ทอร์ชั่นบาร์และระบบกันสะเทือน แท่นเครื่องและแท่นเกียร์แบบใหม่ ล้อขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง Michelin Pilot Super Sport Cup 2 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อ GT โดยเฉพาะล้อแม็กลายแบบหลายก้าน พร้อมดิสก์เบรกแบบ 6 พอตหน้า 4 พอตหลังและจานเบรกที่ทำจากคาร์บอนเซรามิกทั้ง 4 ล้อ,หลังคาได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่ข้างหน้าแคบลงและติดตั้งเทคโนโลยีอันทันสมัยเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการควบคุมรถ ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ห้องโดยสารแบบ 2 ที่นั่งสำหรับผู้ขับและผู้โดยสารเสริมความทันสมัยด้วยประตูปีกนก โดยห้องโดยสารใช้วัสดุที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ การจัดวางที่นั่งช่วยลดการใช้วัสดุภายในห้องโดยสารและน้ำหนัก รวมถึงมอบความต่อเนื่องและการเชื่อมต่อทางกายภาพกับโครงสร้างรถอย่างแนบเนียน การติดตั้งที่นั่งแบบล็อกตำแหน่งสอดคล้องกับการใช้คันเร่งและเบรกที่ปรับได้ รวมถึงแกนพวงมาลัยที่สามารถตอบสนองต่ออิริยาบถอันหลากหลายของผู้ขับได้อย่างลงตัว,พวงมาลัยรูปแบบ เอฟ-วัน ติดตั้งเทคโนโลยีทันสมัยที่จำเป็นในการควบคุมรถ ทำให้สามารถควบคุมระบบเกียร์บนพวงมาลัยได้ง่าย แผงระบบควบคุมแบบดิจิตัลมอบข้อมูลที่สำคัญสำหรับผู้ขับขี่ แผงหน้าปัดได้รับการติดตั้งให้ปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพแวดล้อมและลักษณะการขับขี่หลากหลายรูปแบบ ผู้บริหารของ Ford หวังว่า New GT จะทำให้คนที่รักรถยนต์รู้สึกตื่นเต้น และในขณะเดียวกัน ลูกค้า Ford ทั่วโลกก็จะได้ประโยชน์จากการพัฒนาสมรรถนะในการขับขี่และนวัตกรรมล้ำสมัยจากรถรุ่นใหม่นี้เช่นกัน.,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,[email protected],Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom
Ford GT Carbon ซุปเปอร์คาร์สายพันธุ์อนาคต ล้ำสุดๆ ด้านนวัตกรรมระบบแอโรไดนามิกส์ เครื่องยนต์ EcoBoost และวัสดุมวลเบา
null
ARCOM ROUMSUWAN,FORD เปิดผ้าคลุม GT 2016 ซุปเปอร์คาร์ล้ำอนาคต,กรุงเทพมหานคร,อาคม รวมสุวรรณ
https://www.thairath.co.th/content/475399
อาคม แจง FAA ลดระดับประเทศไทย เร่งแก้ 33 ข้อ หวั่น เอียซ่า ซ้ำรอย
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดแถลงด่วน ภายหลังสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (เอฟเอเอ) ลดอันดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินพลเรือนของไทย จากประเภทที่ 1 เป็นประเภทที่ 2 เนื่องจากไม่เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) ,ส่วนสาเหตุ ที่เอฟเอเอลดอันดับดังกล่าว เนื่องจาก 33 ข้อ ที่ต้องดำเนินการตามมาตรฐาน ไทยยังมีจุดอ่อนเรื่องอัตรากำลังคนที่ไม่เพียงพอ ขาดการฝึกอบรมให้มีความถนัดทำงานเฉพาะด้านมากกว่าปัจจุบัน การสาธิต และการตรวจสอบใบอนุญาตนักบิน ซึ่งปัจจุบันมีนักบินกว่า 2,300 คน ที่ต้องต่อใบอนุญาตอยู่เรื่อยๆ ทุก 5 ปี แต่กลับมีสัดส่วนเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอกับการดำเนินการต่อใบอนุญาตให้ เช่นเดียวกับสัดส่วนจำนวนคนกับเครื่องบินที่ไม่สอดคล้องกัน ปัจจุบันไทยใช้อัตรา 1 คน ต่อเครื่องบิน 10 ลำ ซึ่งเอฟเอเอมองว่าจำนวนคนน้อยเกินไป ทั้งนี้ไทยอาจต้องกำหนดอัตราส่วนใหม่,นอกจากนี้ ในวันที่ 10 ธ.ค. ทางสำนักงานความปลอดภัยการบินพลเรือนแห่งสหภาพยุโรป (เอียซ่า) จะประกาศผลการตรวจสอบ หากมีการลดระดับเช่นเดียวกับเอฟเอเอ อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบมจ.การบินไทย ซึ่งเปิดเส้นทางบินไปยุโรป ขณะเดียวกัน ช่วงเดือน ส.ค.ปีหน้า ทางไอเคโอ จะสรุปในส่วน 28 สายการบินแรก จากจำนวนทั้งหมด 41 สายการบินของไทย จะเป็นไปตามมาตรฐานของไอเคโอหรือไม่ แต่เชื่อว่าน่าจะผ่านเกณฑ์ของไอเคโอ เพราะขณะนี้ได้ดำเนินการมาถึงลำดับขั้นตอนที่ 3 จาก 5 ขั้นตอน หรืออยู่ระหว่างการตรวจสอบด้านคู่มือ เอกสารของแต่ละสายการบินว่าครบถ้วนถูกต้องหรือไม่,ขณะที่ นายจรัมพร ยอมรับ หากเอียซ่าประกาศลดระดับ อาจจะส่งผลกระทบถึงการบินไทย ซึ่งไม่สามารถเพิ่มเที่ยวบินในเส้นทางเดิม หรือเพิ่มจุดบินในเส้นทางใหม่ รวมถึงเปลี่ยนรุ่นเครื่องบินได้ จากปัจจุบันมีบริการในเส้นทางยุโรปรวม 11 จุดหมายปลายทาง คิดเป็นรายได้ 1 ใน 3 ของรายได้การบินไทยทั้งหมด ส่วนกรณีเอฟเอเอ ปรับลดมาตรฐานความปลอดภัยของไทยลงนั้น สายการบินไทยยังไม่ได้รับผลกระทบ เพราะไม่มีเส้นทางบินในสหรัฐฯ.
รมว.คมนาคม เปิดแถลงด่วน เหตุ FAA ลดมาตรฐานการบินในไทย เผย ไทยมีจุดอ่อน 33 ข้อ กำลังคนไม่เพียงพอ-ขาดทักษะ สัดส่วนคนกับเครื่องบินไม่สอดคล้องกัน หวั่น หากเอียซ่าลดระดับ อาจส่งผลต่อธุรกิจของทีจีบินไปยุโรป
null
เอฟเอเอ,เอฟเอเอลดมาตรฐานการบินไทย,ไอเคโอ,อาคม เติมพิทยาไพสิฐ,คมนาคม,ชาติชาย ทิพย์สุนาวี,จรัมพร โชติกสเถียร,เอียซ่า,เอียซ่าลดระดับ,กระทบการบินไทย,ลดมาตรฐาน,เส้นทางบินไปยุโรป,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/543608
อิคาร์ดี ซัดเบิ้ล งูใหญ่บุกงับชาวเกาะคาบ้าน 3-1
การแข่งขันศึกฟุตบอลกัลโช เซเรีย อา ของอิตาลี ในคืนวันเสาร์ที่ 25 พ.ย.60 ซึ่งคู่ที่น่าสนใจ ทีม ชาวเกาะ กายารี อันดับ 13 เปิดรังซาร์เดนญา อารีนา รับการมาเยือนของ งูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน ที่ต้องการชัยชนะในเกมนี้ เพื่อขยับแต้มขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง,เปิดฉากครึ่งแรก เป็นฝั่งผู้มาเยือนที่ได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาที 29 อิวาน เปริซิช ผ่านบอลให้กับ เมาโร อิคาร์ดี เบิกร่องให้กับอินเตอร์ มิลาน และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้,ครึ่งหลังในนาที 55 อันโตนิโอ คันเดรวา แอสซิสต์ให้กับ มาร์เซโล โบรโซวิช บวกประตูเพิ่ม อินเตอร์ มิลาน ขยับหนีห่างออกไปเป็น 2-0,จากนั้นถึงแม้ในนาที 71 เลโอนาร์โด ปาโวเลตติ จะทวงประตูคืนให้กับกายารี ไล่มาเป็น 2-1 แต่ช่วงท้ายเกมนาที 83 เมาโร อิคาร์ดี ก็บวกประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ และเป็นประตูกับอินเตอร์ มิลาน นำโด่ง 3-1,ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ ทำให้จบเกม อินเตอร์ มิลาน บุกมายัดเยียดความปราชัยให้กับ กายารี ได้ถึงถิ่น 3-1 ขยับแซง นาโปลี ขึ้นไปเป็นจ่าฝูง แต่แข่งมากกว่า 1 นัด.,ผลการแข่งขันในคู่อื่น,โบโลญญา ชนะ ซามพ์โดเรีย 3-0,คิเอโว ชนะ สปอล 2-1,ซัสซูโอโล แพ้ เวโรนา 0-2
เมาโร อิคาร์ดี เหมาคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ อินเตอร์ มิลาน บุกอัด กายารี ได้ถึงถิ่น 3-1 พร้อมกับขยับแซงนาโปลี ขึ้นไปเป็นจ่าฝูงชั่วคราว
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
ผลบอล,กัลโช เซเรีย อา,อินเตอร์ มิลาน,กายารี
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1136323
ผีสยองตลก จันเตรีย หนังกัมพูชาบุก ไทย
กำลังโกยเงินกระหน่ำ หนังเกาหลีคุณภาพทะลุจอเรื่อง Train to Busan ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง ถึงที ได้เวลา หนังเขมรจะมาบุกแหลกในไทยบ้าง กับเรื่อง จันเตรีย Jantrea หนังแนวดราม่าเข้ม ผสมตลกรั่วและผีสยอง จะกวาดเงินมากน้อยแค่ไหน จะเป็นที่ชื่นชอบของแฟนหนังชาวไทยได้หรือไม่ต้องจับตาดูกัน หนังจันเตรีย รออีกหน่อยจะเข้าฉายในไทยแล้ว เริ่มพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน นี้แล้ว ,(คลิกชมตัวอย่าง),จันเตรีย เพิ่งจัดงานเปิดตัวไปอย่างอบอุ่น ที่โรงภาพยนตร์เอสพลานาดซีนีเพล็กซ์ รัชดาภิเษก โดยมีพระเอก แยม สุกล, นางเอก โตต้า มัค เซนโสนิต้า ,จอน จันและคนา และ นีท ปอล วิโบ ผู้กำกับ พร้อมทีมดาวตลก บินตรงจากพนมเปญ กัมพูชา มาร่วมเปิดตัวหนังด้วย จันเตรีย Jantrea หนังหลากรส รวมหมดทั้งสยองหนัก ขายขำรั่ว ดราม่าแรง จะโดนใจ ลงตัวกลมกล่อมหรือไม่ ต้องไปดูเอาเอง นำเข้ามาฉายในไทยโดย คุณอ้วน ภวายุตม์ สุทธยาคม ผู้บริหารจาก บริษัท สตูดิโอ อารมณ์ดี จำกัด ,Studio Aromdi, ที่มั่นใจสุดๆ ว่าแฟนหนังชาวไทย น่าจะชอบหนังแนวนี้ได้ ,นีท ปอล วิโบ ผู้กำกับมาดเข้ม ให้สัมภาษณ์พิเศษกับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จันเตรีย เป็นหนังน่ากลัวผสมตลก ใครที่ชอบหนัง พี่มากพระโขนง น่าจะชอบเรื่องจันเตรีย ผีในจันเตรียไม่ใช่ผีที่ร้ายกาจนะครับ เป็นผีดีโดนคำสาป ที่มองหารักแท้เพื่อที่จะไปเกิดใหม่ได้ (ยิ้ม) ในหนังคนจะได้สถานที่สวยๆ ในกัมพูชาด้วย เช่น น้ำตกธมรง Thmor Roong ฯลฯ Train to Busan ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง หนังเกาหลีที่แฟนหนังชาวไทยชื่นชอบมากๆ ได้ดูหรือยัง? วานก่อนผมเพิ่งไปดูนะครับ ชอบครับ(ยิ้ม) คาดหวังว่า จันเตรีย จะทำรายได้ในไทยได้มากหรือไม่? ผมก็หวังว่าหนังจะโกยรายได้ มากกว่า 10 ล้านบาทในไทย ผมล้อเล่นนะครับ (ยิ้มกว้าง) ผมก็คาดหวังไว้ว่า จันเตรียน่าจะทำเงินได้มากกว่าหนังเรื่องสไปค์กง หนังของผมที่กำกับเอง และเคยเข้ามาฉายในไทยด้วย,หนังเรื่องใหม่จะเริ่มทำเมื่อไหร่? ผมเตรียมการเอาไว้แล้ว สิ้นเดือนพฤศจิกายน น่าจะเริ่มถ่ายทำแล้ว จะเป็นแนวแอ็กชั่นคอเมดี้ คล้ายๆ เรื่องสไปค์กง สร้างจากเหตุการณ์จริง อย่างสไปค์กงจะเป็นเรื่องราวในอดีต แต่หนังเรื่องใหม่ของผมจะเป็นเรื่องราวในปัจจุบันล้วนๆ เกี่ยวกับยาเสพติด สร้างจากเรื่องจริงๆ ที่เคยเกิดขึ้นจริงในกัมพูชาเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว เป็นเรื่องของลูกคนรวยมากๆ แต่ติดยาแล้วกระโดดตึกตาย จะมีการค้นหาคำตอบต่างๆ มีทั้งแอ็กชั่น ตลก ดราม่าด้วย ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องรอติดตามในหนังนะครับ (ยิ้ม).
กำลังโกยเงินกระหน่ำ หนังเกาหลีคุณภาพทะลุจอเรื่อง Train to Busan ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง ถึงที! ได้เวลา! หนังเขมรจะมาบุกแหลกในไทยบ้าง กับเรื่อง จันเตรีย Jantrea หนังแนวดราม่าเข้ม ผสม
null
จันเตรีย Jantrea,หนังเขมร,หนังกัมพูชา ตลกฮา,จันเตรีย โตต้า,นีท ผู้กำกับเขมร,โตต้า มัค เซนโสนิต้า,แยม สุกล พระเอกเขมร
https://www.thairath.co.th/content/713965
นายกฯ เปิดประชุม เอสแคป อุบไต๋ พิจารณา ทักษิณ ผิด ม.112
อุบไต๋ พิจารณา ทักษิณ ผิด ม.112,วันที่ 28 พ.ค. เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวเปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ สำหรับเอเชียและแปซิฟิก (เอสแคป) สมัยที่ 71 ว่า ในนามของรัฐบาลและประชาชนชาวไทย ตนมีความยินดี ที่ได้มีโอกาสต้อนรับทุกท่านสู่ประเทศไทย ซึ่งเป็นบ้านของเอสแคป เราภูมิใจที่ได้มีส่วนสนับสนุนการทำงานของเอสแคป และหน่วยงานสหประชาชาติ และจะคงการสนับสนุนต่อไปอย่างเต็มที่ คนไทยรู้จักสหประชาชาติและเอสแคปมานาน เรารู้จักสหประชาชาติ ในฐานะองค์กรที่มุ่งสร้างสันติภาพของโลกและการพัฒนา เรารู้จักเอสแคปในฐานะคณะกรรมาธิการระดับภูมิภาคที่ช่วยสนับสนุนการพัฒนาประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เอสแคปช่วยนำพางานของสหประชาชาติ มาใกล้ชิดประชาชนในภูมิภาคนี้ ให้มากยิ่งขึ้น การทำงานขององค์กรใดๆ จะมีประสิทธิภาพได้ก็ต้องเข้าถึง ต้องใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ตนจึงสนับสนุนแนวทางการทำงานนี้ของเอสแคป,นายกฯ กล่าวต่อว่า หัวข้อหลักของการประชุมเอสแคปสมัยนี้ เกี่ยวข้องกับการสร้างสมดุลของมิติทั้งสามของการพัฒนา กล่าว คือ สมดุลทั้งด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตนเห็นว่า ไม่มีอะไรเหมาะสมไปกว่านี้ เราทุกคนต้องตระหนักว่า การพัฒนาที่ได้ผลยั่งยืนที่สุด คือ การพัฒนาที่ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่ว่าเราพัฒนาวันนี้ แต่ไม่เหลือทรัพยากรไว้ให้ลูกหลานของเราในวันข้างหน้า ในปี 2558 เป็นปีที่สำคัญต่อทิศทางของโลก เนื่องจากเป็นปีที่มีการประชุมระดับโลกในด้านการพัฒนา และสิ่งแวดล้อมที่สำคัญหลายการประชุม ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคม ตนได้เข้าร่วมการประชุมสหประชาชาชาติระดับโลก ว่า ด้วยการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ครั้งที่สาม ที่เมืองเซนได ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งที่ประชุม ได้รับรองกรอบการดำเนินงานเซนได เพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ค.ศ. 2015-2030 และในเดือนกันยายน ตนจะเข้าร่วมการประชุมผู้นำ ที่นครนิวยอร์ก เพื่อร่วมรับรองวาระ การพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. 2015 ที่ต่อเนื่องจากเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ ที่จะสิ้นสุดลงในปลายปีนี้ นอกจากนั้น ในช่วงเดือนธันวาคม ก็จะมีการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 21 ที่กรุงปารีส เพื่อพัฒนาความตกลงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย,การประชุมมากมายเหล่านี้จะไม่มีค่าเลย หากเราไม่มองให้เห็นความเชื่อมโยงของประเด็นเหล่านี้ มองไม่เห็นชัดเจนถึงภาพใหญ่ และมองไม่ออกว่าเอกสารผลลัพธ์การประชุมที่มากมาย เราจะนำไปใช้ให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมต่อสังคม ต่อชุมชนของเราอย่างไร ทุกวันนี้ความเหลื่อมล้ำเกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งในมิติระหว่างประเทศและภายในประเทศ สถิติตัวเลขจากรายงานของเอสแคปเอง ทำให้ผมรู้สึกสะท้อนใจมาก ประชาชนมากกว่า 1.4 พันล้านคน ยังคงมีชีวิตอยู่ด้วยรายได้ที่ต่ำกว่า สองดอลลาร์สหรัฐ ต่อวัน คน 1.7 พันล้านคน ยังคงไม่สามารถเข้าถึงสุขอนามัยที่ดี เด็ก 75 ล้านคนทั่วโลก ยังคงน้ำหนักต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และทุกปี เด็กเกือบ 3 ล้านคน ตายก่อนที่จะมีอายุครบ 5 ขวบ คนที่จนยิ่งจนลง คนที่รวยยิ่งรวยขึ้น แน่นอนที่สุด ความท้าทายเหล่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลของแต่ละประเทศ ต้องดูแลประชาชนของตน แต่การเสริมสร้างความร่วมมือ และหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาผ่านความร่วมมือในกรอบ เหนือ-ใต้ ใต้-ใต้ และไตรภาคี จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำนี้ และจะช่วยลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างประเทศ ในฐานะรัฐบาลเราต้องร่วมกันจัดการกับความท้าทายนี้ เราต้องขจัดความยากจนและความเหลื่อมล้ำ ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีของโลก นายกรัฐมนตรี กล่าว,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลของตนได้ตั้งวิสัยทัศน์ประเทศไทย ค.ศ. 2015-2020 ให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มี ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ความมั่นคง คือ การมีเสถียรภาพทางการเมือง ประชาชนต้องมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งหลักนิติรัฐที่เข้มแข็งและความยุติธรรมถือเป็นฐานรากของการพัฒนาในทุกๆ ด้านความมั่นคง จะเป็นรากฐานสำคัญของความมั่งคั่ง จะช่วยสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน อย่างไรก็ตาม การค้าและการลงทุน ต้องมีมาตรการที่รัดกุม มีการป้องกันความเสี่ยง มีความต้านทานต่อสิ่งกระทบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจโลก หรือ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่สำคัญที่สุด การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจต้องเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม จึงจะก่อให้เกิดความยั่งยืน และไม่กระทบต่อต้นทุน การพัฒนาของคนรุ่นหลัง,นายกฯ กล่าวต่อว่า การพัฒนาที่ยั่งยืนต้องยึดความต้องการของประชาชนเป็นหลัก ต้องเริ่มจากการเข้าใจปัญหาที่แท้จริงจากพื้นที่ จากชุมชน ในการนี้ ประเทศไทยได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางสำหรับการดำเนินนโยบายด้านการพัฒนาของประเทศ ซึ่งหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เน้นเรื่องความเข้มแข็งจากภายในตัวบุคคล ชุมชน และสังคม สอนให้ทำอะไรด้วยความรู้ ความเข้าใจ ความพอประมาณ หากจะใช้ภาษาในโลกธุรกิจ ก็ต้องบอกว่า หลักเศรษฐกิจพอเพียง สอนเรื่องการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ สอนเรื่องการกำหนดนโยบายหรือมาตรการต่างๆ โดยมาจากพื้นฐานข้อมูลและความรู้ และสอนเรื่องการสร้างหลักประกัน ภูมิคุ้มกัน และความต้านทาน,นายกฯ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยจะมุ่งเน้นความสมดุลของสามเสาหลักของการพัฒนา เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในด้านเศรษฐกิจ เศรษฐกิจที่เข้มแข็ง คือเศรษฐกิจที่มีการเจริญเติบโตแบบองค์รวม มุ่งลดความยากจน ความเหลื่อมล้ำ และช่องว่างด้านการพัฒนา เน้นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรอย่างเท่าเทียม ประเทศไทยจึงได้เน้นการส่งเสริมการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และการส่งเสริมภาคการเกษตรให้เข้มแข็ง และเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เราได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ผ่านนวัตกรรม,นายกฯ กล่าวต่อว่า ในด้านสังคม สังคมต้องมีความเท่าเทียม เป็นธรรม มีธรรมาภิบาล มุ่งยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งในด้านสุขภาพ การศึกษา และสวัสดิการ ไทยได้ดำเนินงานเพื่อสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และรัฐบาลมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนทุกช่วงวัย ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงช่วงบั้นปลายชีวิต เพื่อส่งเสริมให้เด็กเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีงานทำที่ดี และมีชีวิต หลังวัยทำงานอย่างมีศักดิ์ศรี ในด้านสิ่งแวดล้อม ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยธรรมชาติ คือ ความท้าทายร่วมกันของมนุษยชาติ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจะต้องไม่ทำให้โลกเสื่อมทรามลง เราควรส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนและการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ทุกประเทศต้องเตรียมความพร้อมที่จะรู้รับปรับตัวต่อภัยทางธรรมชาติ ให้ความสำคัญกับการลดความเสี่ยงจาก ภัยพิบัติที่ได้ทวีความรุนแรงขึ้น การบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ การเร่งฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำที่เสื่อมโทรม โดยเฉพาะการวางผังและพัฒนาเมืองที่มีความต้านทานเพื่อลดความสูญเสียของชีวิตและทรัพย์สิน เป็นประเด็นที่เราได้เพิ่มความสำคัญและมุ่งหวังพัฒนาให้ดีขึ้น ท้ายที่สุดนี้ตนขอย้ำว่า การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืนนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากตัวขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุด คือ คน คุณภาพของคนมีความสำคัญที่สุด,นายกฯ กล่าวว่า การพัฒนาคน คือ การพัฒนาทั้งสุขภาพกาย ใจ และปัญญา การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากปราศจากทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ การเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพเป็นความท้าทายร่วมของนานาประเทศ การพัฒนาสังคมต้องเริ่มตั้งแต่ครอบครัวและโรงเรียน และต้องส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ในยุคปัจจุบันการเรียนรู้ยังทำผ่านโซเชียลมีเดีย ทุกนาที เราจึงควรใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียให้เกิดการเรียนรู้และคุณค่ามากกว่าการใช้ไปเพื่อสร้างความแตกแยกหรือเกลียดชังกัน,ประเทศใดประเทศหนึ่ง ไม่ว่าจะมั่งคั่งขนาดไหน ก็ไม่สามารถอยู่ท่ามกลางความเหลื่อมล้ำ และความไม่มั่นคงของภูมิภาคได้ การรวมกลุ่มและความเชื่อมโยงของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคจะส่งผลต่อความเข้มแข็งของภูมิภาคและของโลก ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค และระหว่างภูมิภาคในทุกมิติ ทั้งความเชื่อมโยงทางโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคมขนส่ง การค้า เทคโนโลยีสารสนเทศ ตลอดจน ความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนและสถาบัน เพื่อกระจายการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการพัฒนาที่เข้มแข็ง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภูมิภาค นายกรัฐมนตรี กล่าว,นายกฯ กล่าว ในตอนท้ายด้วยว่า ที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้ มิได้หมายถึงว่าเป็นหน้าที่ของรัฐเท่านั้น ที่ต้องดำเนินการ เราทุกคนต้องร่วมกันทำงาน รัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม สื่อ นักวิชาการ การพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นหน้าที่ของทุกคน เราต้องร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ร่วมกันรับผลประโยชน์ เราทุกคนต้องไม่นิ่งดูดาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนนายกรัฐมนตรีจะขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโดนพิจารณามาตรา 112 หรือไม่ โดยนายกฯกล่าวว่า ยัง ยัง พิจารณาอยู่.
นายกฯ เปิดประชุม เอสแคป โชว์วิสัยทัศน์ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน พัฒนาไทย ย้ำ ขจัดเหลื่อมล้ำ ยึด ศก.พอเพียง แนะ สังคมโซเชียลฯ ใช้อย่างสร้างสรรค์ อย่าสร้างความแตกแยก-เกลียดชัง เผย เตรียมบินนิวยอร์ก ประชุมผู้นำ ก.ย.นี้
null
นายกฯ,ประชุม,เอสแคป,โชว์วิสัยทัศน์,มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน,ขจัดเหลื่อมล้ำ,ศก.พอเพียง,แตกแยก,อุบไต๋,พิจารณา,ทักษิณ,ผิด ม.112,ยังพิจารณาอยู่,ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี,หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ,คสช.
https://www.thairath.co.th/content/501680
ฮอตที่ 1-2-3 ซุปตาร์หมื่นล้าน คนแห่ตามไอจีเยอะสุดของโลก
ตัวเองชื่นชอบ ซุปตาร์หมื่นล้าน ดังแรงระดับโลก แฟนคลับมีอยู่ทุกมุมโลก จึงไม่น่าแปลกใจ ที่คนแห่ฟอลโลว์กันเยอะมากๆ ก่อนหน้านี้ นักร้องดัง เซเลน่า โกเมซ เคยครองแชมป์อันดับ 1 ที่คนฟอลโลว์ไอจีมากที่สุดในโลก แต่ปีนี้เสียแชมป์ไป อันดับ 1-2-3 ตอนนี้ใครชนะ ต้องรีบไปดูด่วนtherock ที่ 3 ผู้ติดตาม 179 ล้านคนดเวย์น จอห์นสัน กล้ามล่ำมากๆ คุ้นหน้ากันดีอยู่แล้วจากหนังบู๊หลายเรื่อง พักหลังๆ งานบันเทิงอาจจะน้อยหน่อย เพราะหันมาลุยธุรกิจหลายอย่างอยู่arianagrande ที่ 2 ผู้ติดตาม 181 ล้านคน เพลงฮิตติดหูมีอยู่เยอะ อาเรียนา แกรนเด นักร้องสาวสุดฮอตเสียงแจ่มจรัส จริตน่ารักน่าชัง หวานได้เซ็กซี่ไม่มีปัญหา ยิ้มทีทำเอาละลายได้นะเออ แฟนคลับนางเยอะเว่อร์ คอยเป็นกำลังใจให้ตลอดไม่ว่าจะทำอะไรที่ไหนcristiano ที่ 1 ผู้ติดตาม 213 ล้านคน นักบอลหมื่นล้าน ครบเครื่องต้มยำแซ่บทั้งรูปร่างหน้าตา ความสามารถรอบตัว คริสเตียโน โรนัลโด ขนาดมีเมียมีลูกแล้ว กระแสความฮอตฮิตยังไม่ตก ตอนนี้ยอดคนตามไอจีเยอะที่สุดของโลกแล้ว
ส่องๆ คลิกวนไปให้ชื่นอุรา โลกของไอจี เป็นอีกโลกหนึ่งที่แฟนคลับตามติด ตามส่องพฤติกรรมซุปตาร์ที่
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ดเวย์น จอห์นสัน เดอะร็อกig,อาเรียนา แกรนเด ไอจี,คริสเตียโน โรนัลโด ไอจี,ข่าวบันเทิง,อินสตาแกรมดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1823581
อภิสิทธิ์ นำทีมอดีต ส.ส. ปชป. ไหว้พระธาตุพนมเพื่อเป็นสิริมงคล
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 19 ม.ค. 2559 ที่ จ.นครพนม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมคณะผู้บริหารพรรค อาทิ นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรค คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู นายเกียรติ สิทธีอมร นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง นางรัชดาภรณ์ แก้วสนิท นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย และนายศุภชัย ศรีหล้า อดีต ส.ส. เดินทางมาที่ จ. นครพนม เพื่อกราบสักการะพระธาตุพนม ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จ.นครพนม,ทั้งนี้ ระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ เดินทางมาถึงสนามบิน จ.นครพนม ปรากฏว่า คุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ ภรรยา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ซึ่งกำลังจะเดินทางกลับ กทม. ได้ร่วมต้อนรับและพร้อมกล่าวอวยพร นายอภิสิทธิ์ เนื่องในโอกาสปีใหม่ว่า ขอให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เป็นที่รักของทุกคน และดีที่มาไหว้พระที่ จ.นครพนม,ด้าน นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การเดินทางไปกราบนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นการไหว้พระปกติ ที่ตั้งใจไว้ว่าจะไปกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าในประเทศไทย ที่มี 21 แห่ง โดยจะไปรวม 4 ภาคเพื่อเป็นสิริมงคล,เมื่อถามว่า เป็นเพราะมีโพลออกมาว่า พรรคประชาธิปัตย์คะแนนนิยมน้อยกว่าพรรคเพื่อไทย เกี่ยวข้องกันหรือไม่ นายจุติ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะคิดไว้แต่ปลายปีที่แล้ว รอคิวงานนายอภิสิทธิ์ว่าง มาเอาบุญจริงๆ ส่วนกรณีคะแนนนิยมพรรคตกนั้น ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะพรรคไม่ได้ทำกิจกรรมการเมืองอะไร ก็ต้องตกเป็นธรรมดา และเหลือเวลาอีก 2 ปี กว่าจะมีเลือกตั้งตามโรดแม็ป โดย พล.อ.ประยุทธ์ ต้องอยู่แก้ปัญหาบ้านเมืองตามโรดแม็ปต่อ ตนไม่ได้พูดประชด เพราะหลายอย่างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแก้ไขไม่ได้ ต้องเป็นรัฐบาลพิเศษเท่านั้น.
มาร์ค นำทีมอดีต ส.ส. ปชป. ขึ้นอีสาน เพื่อกราบสักการะพระธาตุพนม เจอ คุณหญิงพันธุ์เครือ ที่สนามบิน เลยอวยพรปีใหม่เป็นที่รักของทุกคน ด้าน จุติ ปัดไม่เกี่ยวผลโพล ปชป. คะแนนนิยมตก ชี้ ปกติเพราะไม่ได้ทำกิจกรรมการเมืองอะไร
null
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,พรรคประชาธิปัตย์,กราบสักการะพระธาตุพนม,พระธาตุพนม,พระบรมสารีริกธาตุ,วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร,นครพนม,จุติ ไกรฤกษ์,คะแนนนิยม,กิจกรรมการเมือง,รัฐบาลพิเศษ,ข่าวการเมือง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/564982
บก.ลายจุด ตอกแรง ทาทา ยัง คิดว่าความคิดจะสูงกว่านี้ ถามไม่พอใจอะไร ช่อ
จากกรณี ทาทา ยัง นักร้องสาวชื่อดัง กำลังถูกพูดถึงอย่างมากในโซเชียล จนแฮชแท็ก #ทาทายัง ทะยานขึ้นอันดับ 1 ของเทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทย หลังจากมีผู้ใช้อินสตาแกรมรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความว่า #ดักตบอีช่อช่องArrival โดยที่ไอจี ทาทา ยัง ที่ใช้ชื่อว่า tataamitayoung เข้าไปกดถูกใจ แล้วแสดงความคิดเห็นว่า รบกวนด้วยค่ะ (อ่านข่าว ,งานเข้า ทาทายัง ชาวเน็ตวิจารณ์ หลังกดถูกใจข้อความดักตบ ช่อ,),ต่อมา ,สมบัติ บุญงามอนงค์, หรือ บก.ลายจุด ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า การที่ทาทา ยังโพสต์สนับสนุนการดักตบคุณช่อ ด้วยข้อความว่า ฝากด้วยนะคะ คือ การออกใบอนุญาตให้มีการใช้ความรุนแรงต่อบุคคลเห็นต่างทางการเมือง ตนไม่สามารถเข้าใจได้ว่า ทาทา ยัง มีความไม่พอใจเรื่องอะไรต่อคุณช่อ ถึงกับแสดงท่าทีเยี่ยงนี้ออกมาในที่สาธารณะได้ถึงขนาดนี้,อย่างไรก็ตาม อยากมีโอกาสรับฟังประเด็นโต้เถียงหรือเห็นต่างของช่อ กับ ทาทา ยัง มากกว่าที่จะเห็นถ้อยคำฝากตบ ตนเคยคิดว่าคุณมีความคิดที่สูงกว่าระดับที่คุณแสดงออกในครั้งนี้.,(อ่านโพสต์ต้นฉบับ ,ที่นี่,)
บก.ลายจุด ตอกแรง ทาทา ยัง สนับสนุนการใช้ความรุนแรง กับคนเห็นต่างทางการเมือง ถามไม่พอใจอะไร ช่อ บอกคิดว่าความคิดจะสูงกว่านี้
ข่าว,สังคม
ทาทา ยัง,อีช่อ,ดักตบ,สมบัติ บุญงามอนงค์,บก.ลายจุด,ความรุนแรง,เห็นต่างทางการเมือง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1609850
หยุดยาวอ่าวพังงาคึกคัก จนท.อุทยานเข้มดูแลความปลอดภัยใส่ใจความสะอาด
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 7 เม.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทยอยเข้าเที่ยวเขาพิงกัน-เขาตาปู ในเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ในช่วงวันหยุดยาว ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ได้อำนวยความสะดวกและตรวจตราอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะความสะอาดและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ได้เตรียมถังขยะไว้รองรับขยะจากนักท่องเที่ยว พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่พยาบาล ไว้คอยดูแลปฐมยาบาลเบื้องต้นให้แก่นักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บทั้งอุบัติเหตุและโรคประจำตัว สร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวนี้ได้เป็นจำนวนมาก,สำหรับอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่งที่สามารถทำรายได้เข้าประเทศไทยจำนวนมากในแต่ละปี จากสถิติพบว่า ในเดือน ต.ค.60 สามารถเก็บรายได้จำนวน 41,451,240 บาท เดือน พ.ย.60 เก็บรายได้ 42,712,440 บาท เดือน ธ.ค.60 เก็บรายได้ 44,249,630 บาท เดือน ม.ค.61 เก็บได้ 49,262,525 บาท เดือน ก.พ.61 เก็บได้ 48,984,260 บาท และเดือน มี.ค.61 เก็บได้ 48,953,770 บาท โดยเฉาะในช่วงเดือน เม.ย.61 นี้ คาดว่าทางอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาสามารถเก็บรายได้เพิ่มขึ้น,ทางนายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เปิดเผยว่า ค่าธรรมเนียมและรายได้ของอุทยานแห่งชาติทุกแห่งต้องส่งไปยังกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จากนั้นทางกรมอุทยานฯจะจัดสรรให้แก่อุทยานฯแต่ละแห่งเพื่อพัฒนาพื้นที่ ท้องถิ่น ตามนโยบายของรัฐบาล ก่อให้เกิดการอนุรักษ์และพัฒนาทั้งธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยว ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้คงอยู่ยั่งยืนตลอดไป
นักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติ ทยอยลงอ่าวพังงาช่วงวันหยุดยาว ด้านจนท.อุทยานฯเข้มงวดความปลอดภัย จัดเจ้าหน้าที่พยาบาล ไว้คอยดูแลเบื้องต้น พร้อมเน้นย้ำความสะอาดทั่วบริเวณ
ข่าว,ทั่วไทย
อ่าวพังงา,หยุดยาว,นักท่องเที่ยว,อันดามัน,เข้มปลอดภัย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1250351
โรคพิษสุนัขบ้า มันกลับมาแล้ว
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์โรคติดเชื้อโรคอุบัติใหม่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า จากในช่วง 20 ถึง 30 ปีที่แล้วที่เรามีคนเสียชีวิตไม่ต่ำกว่าปีละ 300 ถึง 400 คนจนกระทั่งในช่วงเวลาที่ผ่านมาพบต่ำกว่า 10 รายแต่อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาสองปีหลังพบว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 ราย โดยในปีที่แล้วถ้านับรวมสูงถึง 17 รายด้วยกัน และปีนี้พบอย่างน้อยหนึ่งราย,เนื่องจากสถิติในประเทศไทยมักจะตัดผู้เสียชีวิตที่เกิดจากหมาตามตะเข็บชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งแท้ที่จริงแล้วต้องนับรวม เนื่องจากธรรมชาติหมาก็วิ่งไปมาข้ามพรมแดนได้และนอกจากนั้นการที่คนพาหมาข้ามหรือย้ายถิ่นฐานไปด้วย ทำให้โรคมีการระบาดในวงกว้าง,การที่ต้องเฝ้าสังเกตการณ์ติดเชื้อซึ่งมาจากหมาชายขอบเหล่านี้ ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสืบค้นจากรหัสพันธุกรรมของไวรัสว่าแพร่มาจากทางไหน และเตรียมความพร้อมในการปรับเปลี่ยนการตรวจทางอณูชีววิทยา ซึ่งต้องวางการตรวจจับตามรหัสพันธุกรรมจำเพาะของไวรัส ไม่เช่นนั้นจะตรวจไม่เจอ?,ดังที่เมื่อประมาณสองปีที่แล้วผู้ป่วยเสียชีวิตและการตรวจทางรหัสพันธุกรรมสืบสาวไปว่าเชื้อในเขตรอยต่อกับพม่ามีถิ่นฐานจากที่แพร่ในประเทศจีน,ประเด็นน่าสนใจมีว่าในระยะสามปีมานี้มีการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจในสัตว์ทั้งหมาซึ่งนำเชื้อไปติดในวัว ควาย ประมาณคร่าวๆว่า มีไม่ต่ำกว่า 50 จังหวัด ที่หมามีการติดเชื้อ,ทำให้เชื้อที่ตรวจพบในหัวหมาที่ต้องสงสัยเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็นในบางพื้นที่สูงถึง 30% จนถึงเกือบ 50%,ที่สำคัญตัวเลขของคนที่ถูกหมากัด ดูจะเพิ่มมากขึ้นทุกที และแน่นอนต้องได้รับการฉีดวัคซีนและถ้าแผลมีเลือดจะได้รับการฉีดสารสกัดน้ำเหลือง ที่ทำจากม้าหรือคนก็ตาม ซึ่งราคาแพงและมีปริมาณไม่เพียงพอนัก,สำหรับในพื้นที่ซึ่งมีการตรวจพบสัตว์เป็นโรคพิษสุนัขบ้า แสดงว่าในพื้นที่นั้นมีตัวที่เป็นโรคและแพร่เชื้อได้เรียบร้อยแล้ว ตัวแรกที่เป็นก็ตายไปแต่ก็แพร่เชื้อให้ตัวอื่นๆ ในขณะที่เขายังไม่มีอาการบ้าชัดเจน แต่กัดสู้กันเล่นกัน และยังแพร่เชื้อได้มากขึ้นในขณะที่เขามีอาการบ้าแล้ว,ตัวอื่นๆและเพื่อนๆที่ถูกกัดและได้รับเชื้อไม่ได้หมายความว่าทุกตัวจะเป็นบ้า เนื่องจากเชื้อไม่ได้ออกมาทางน้ำลายตลอดเวลา และเมื่อได้รับเชื้อก็ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นทุกราย,สำหรับในคนแม้ถูกสุนัขบ้ากัด ก็ไม่จำเป็นต้องตายทุกรายโดยอยู่ในช่วง 30-80%,ศ.นพ.ธีระวัฒน์ บอกอีกว่า สำหรับสัตว์ที่ได้รับเชื้อและติดไปแล้วเชื้อจะสงบอยู่ในตำแหน่งที่แผลโดยจะมีการขยายจำนวนทีละเล็กทีละน้อยขึ้นอยู่กับกลไกของเซลล์กล้ามเนื้อว่าจะกดไวรัสได้ดีแค่ไหน,หลังจากนั้นก็จะเริ่มลุกลามเข้าไปในปลายเส้นประสาทและเคลื่อนเข้าไปในไขสันหลังและก้านสมองและสมองใหญ่ จากนั้นจึงแพร่ออกจากระบบประสาทออกไปทั่วร่างกายอีกครั้ง ไปที่อวัยวะภายใน กล้ามเนื้อและออกมาทางน้ำลาย,น่าสนใจด้วยว่าระยะเวลาที่ติดเชื้อแล้วจนกระทั่งแสดงอาการอยู่ในช่วงระยะส่วนมากคือสองเดือน แต่ก็อาจยาวนานถึงหนึ่งปี,เราได้พิสูจน์แล้วพบว่า แม้เชื้อเข้าไปในสมองแล้ว คนไข้ก็จะไม่แสดงอาการใดๆทั้งสิ้นได้ โดยอาจนานได้ถึงหกสัปดาห์ถึงสองเดือน ซึ่งการแพร่เชื้อทางน้ำลายให้คนอาจจะเกิดขึ้นได้หลายวันก่อนที่จะแสดงอาการเช่นเดียวกับสุนัข,ในปัจจุบันยังไม่มีการรักษาใดๆที่พิสูจน์แล้วว่าช่วยชีวิตคนป่วยที่มีอาการแล้วและแม้แต่การรักษาที่รายงานในสหรัฐฯก็พิสูจน์แล้วว่าผู้ป่วยรอดชีวิตเอง เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสเกิดขึ้นเร็วมากและเป็นโชคดีที่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสได้ทั้งหมด,ปัญหาสำคัญในบ้านเรา ณ วันนี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้ที่มีการระบาดอย่างรุนแรงในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ ย้ำว่า จำเป็นต้องเอาใจใส่และควบคุมให้ได้ทันท่วงที,ในกรณีที่ในพื้นที่ดังกล่าวพบสัตว์ที่เป็นบ้า ถ้าไม่มีการฉีดวัคซีนป้องกันสุนัขและแมวซึ่งเป็นตัวที่แพร่เชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพก็จะมีการแพร่กระจายออกไปเรื่อยๆ,สำหรับตัวที่ติดเชื้อไปแล้วและเชื้อเข้าเส้นประสาทแล้ว การฉีดวัคซีนจะไม่ได้ผลแต่อย่างไรก็ตาม ตัวที่ฉีดวัคซีนได้ผลก็จะ,ไม่เกิดโรค ส่วนตัวที่กันไม่ได้ก็จะตายไป,ดังนั้น ในพื้นที่ที่มีการระบาดต้องเฝ้าสอดส่องอย่างน้อย 6 เดือน,การตรวจน้ำลาย ในสัตว์ที่ต้องสงสัยและยังไม่ได้เสียชีวิตโดยการหาไวรัสด้วยวิธีอณูชีววิทยาไม่ควรกระทำ ทั้งนี้ เนื่องจากไวรัสไม่ได้ออกมาตลอดเวลาแล้วจะเกิดความเข้าใจผิดว่าไม่เป็นบ้าและเจ้าของจะตายตกไปตามกัน,การที่เกิดมีการระบาดแพร่กระจายทั่วประเทศไทยไม่อาจโยนความผิดไปให้ใครได้เลยนอกจากตัวเอง ทั้งนี้ เพราะไม่ได้คุมกำเนิดหมาแมวปล่อยให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นและไม่ได้ทำการฉีดวัคซีนป้องกันโรค เมื่อเกิดการระบาด แน่นอนต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวด,คนในพื้นที่ต้องร่วมมือร่วมใจกับเจ้าหน้าที่และขณะเดียวกัน ถ้าเป็นไปได้ว่ามีการสัมผัสโรคจากสัตว์ในบริเวณพื้นที่ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการฉีดยาป้องกันตามระดับการสัมผัสอย่างถูกต้อง, ,ที่ผ่านมายังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ โรคพิษสุนัขบ้า อยู่บางประเด็น อาทิ หากคิดว่าลูกสุนัขและแมว ไม่มีเชื้อพิษสุนัขบ้า แต่จริงๆแล้วสุนัขและแมว อายุเท่าใดก็ตาม สามารถแพร่โรคได้ แม้จะมีอายุเพียง 1 เดือนเท่านั้น ความเข้าใจผิดข้อต่อมา หากคุณคิดว่าสุนัขและแมวเป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้เฉพาะในหน้าร้อนเท่านั้น?,ข้อนี้ความเป็นจริงสุนัขและแมวเป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้ทุกฤดูกาล,ฉะนั้น การฉีดวัคซีน ในสัตว์ไม่จำเป็นต้องรอฤดูกาลและคนเมื่อถูกกัดไม่ว่าฤดูไหนก็ตามต้องได้รับการฉีดยาป้องกัน ซึ่งจะเชื่อมโยงถึงข้อเข้าใจผิดต่อมา คิดว่าหากถูกสุนัขหรือแมวกัดโดยอาการของสัตว์ปกติดี ก็ไม่น่าจะเป็นบ้าให้รู้อีกว่าสุนัขและแมวสามารถแพร่เชื้อโรคได้ถึง 10 วัน ก่อนจะแสดงอาการ หากถูกสุนัขหรือแมวกัด ถ้าสัตว์ดูยังปกติอย่านิ่งนอนใจ ต้องได้รับการฉีดยาป้องกัน และจับแยกและกักขังสุนัขและแมวนั้นๆ,หากแสดงอาการผิดปกติ ต้องตัดหัวนำไปส่งตรวจทันที ถ้าผ่าน 10 วันไปแล้วไม่มีอาการผิดปกติแสดงว่าไม่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า,รู้เช่นนี้แล้วสถานการณ์การระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าเกิดขึ้นในหลายพื้นที่หลายจังหวัด ในวันนี้ หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจร่วมกันก็คืออย่าผลักภาระ อย่าโทษเจ้าหน้าที่รัฐทางสาธารณสุขและปศุสัตว์ เพราะถือเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องช่วยกัน.
โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่ตัวนำโรคและแพร่เชื้อที่สำคัญคือ หมาเป็นส่วนใหญ่ มีส่วนน้อยคือแมว
ข่าว,ทั่วไทย
พิษสุนัขบ้า,เชื้อไวรัส,หมาบ้า,โรคระบาด,สกู๊ปหน้า1,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/local/1221647
ชาวกำแพงเพชร มากทม. ถวายบังคมพระบรมศพ-คนแน่นสนามหลวง รอรับบัตรคิว
วันที่ 29 ต.ค. เป็นวันแรก ที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น. โดยกระทรวงมหาดไทย จัดคิวให้ประชาชนจากต่างจังหวัด เข้าได้วันละ 5 จังหวัด จังหวัดละ 750 คน ซึ่งจังหวัดกำแพงเพชร ได้คิวชุดแรกที่จะเข้าถวายบังคมพระบรมศพ,สำหรับการเดินทางเข้ามา กทม.ของประชาชน ชาว จ.กำแพงเพชร ได้นัดหมายเมื่อคืนวันที่ 28 ต.ค. ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร โดยนายรัชพงศ์ ศิริมี ป้องกันจังหวัดกำแพงเพชร ได้มารอรถบัสที่รับประชาชนจาก อ.คลองลาน อ.ทรายทองวัฒนา และ อ.ลานกระบือ ที่จะเข้าถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมทั้งสิ้น 750 คน ใช้รถบัส 2 ชั้น จำนวน 15 คัน ซึ่งประชาชนที่เดินทางไปได้แต่งกายชุดสีดำ,นายธวัชชัย บุญญาพิชิตชัย อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/1 หมู่ 13 ต.คลองลานพัฒนา อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นชาวไทยภูเขาเผ่าอิ๊วเมี่ยน เดินทางมาพร้อมกับชาวไทยภูเขาเผ่าลาหู่ และเผ่าปะกากะญอ เปิดเผยว่า รักพ่อมากที่สุด เพราะพ่อสอนให้พี่น้องชาวไทยภูเขาใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้ชาวไทยภูเขามีความสุขสบายดีขึ้น โดยเปรียบพ่อเป็น ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งให้คนไทยทุกมีความสุข,เช่นเดียวกับนางเอมอร ทิมดี อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 11 ต.ทุ่งทอง อ.ทรายทองวัฒนา จ.กำแพงเพชร เปิดเผยว่า พอทราบข่าวพระองค์เสด็จสวรรคต น้ำตาได้ไหลทันที รู้สึกเสียใจมากเพราะรักพระองค์มาก แต่ก็ดีใจที่ได้เข้าไปถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพราะถ้าให้ไปเองคงไม่มีโอกาสไป,รวมถึงนางกัลยกร ศรีนวล อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138/2 หมู่ 4 ต.ทุ่งทอง อ.ทรายทองวัฒนา จ.กำแพงเพชร เปิดเผยว่า ครั้งแรกที่ทราบข่าวถึงกับทรุดลงกราบกับพื้นแล้วร้องไห้อย่างหนัก ปากก็พร่ำแต่เรียกชื่อของพระองค์ ผ่านมาแล้ว เกือบ 20 วัน ทุกวันที่เห็นข่าวในพระราชสำนักก็ยังร้องไห้อยู่ ถ้าบอกได้อยากจะบอกว่าให้ทรงเป็นพระราชาของไทยทุกชาติ และจะขอเป็นข้ารองพระบาทตลอดไป,จากนั้นเวลา 23.00 น.รถของป้องกันจังหวัด ได้ขับนำรถบัส ออกจากปั้มน้ำมัน มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ โดยรถบัสทั้ง 15 คันมีผู้ประสานงานและผู้ดูแลความเรียบร้อยของแต่ละอำเภอ ซึ่งประกอบด้วยปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ทหาร กำนัน หรือผู้ใหญ่ หรือสมาชิก อบต. และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือพยาบาล ซึ่งต้องติดตามไปด้วย อำเภอละ 2 คนเป็นอย่างน้อย,เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 29 ต.ค. มีรายงานบรรยากาศโดยรอบพระบรมมหาราชวัง พบว่ามีประชาชนจำนวนมากมาเข้าคิวยาว จนแน่นบริเวณท้องสนามหลวง ซึ่งหลายคนเดินทางมาล่วงหน้าจากต่างจังหวัดมาปักหลักนอนพักบริเวณท้องสนามหลวง เพื่อเข้าแถวรับบัตรคิวหน้าวัดมหาธาตุฯ ที่ประชาชนต้องมารับด้วยตนเองในเวลา 08.00 น.เท่านั้น โดยมีการกำหนดโควตาเข้าถวายบังคมพระบรมศพไว้ที่ 10,000 คนต่อวัน เพื่อเตรียมเข้าถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง,ทั้งนี้เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมาก ทางกองอำนวยการร่วม ได้ให้ไปรอที่บริเวณเต็นท์ ฝั่งหน้าประตูวิเศษไชยศรี ทำให้เกิดความวุ่นวาย ทุกคนต่างวิ่งหอบข้าวของมาจับจองเก้าอี้บริเวณเต็นท์ดังกล่าว ก่อนที่จะนั่งนอนบนเก้าอี้หลับพักผ่อน เพื่อรอช่วงเช้าในเวลา 08.00 น. ที่จะเปิดให้เข้าไปภายใน,ด้านนางณัฐพัชร ชนะสิทธิ์ อายุ 55 ปี ชาว จ.พัทลุง กล่าวว่า เดินทางมาจาก จ.พัทลุง ถึงที่สนามหลวงตั้งแต่เช้าเมื่อวาน (28 ต.ค.) ก่อนที่จะรอจนหลัง เวลา 16.00 น. ที่หมดเวลาเข้าไปภายในพระบรมมหาราชวัง จึงรีบมาจับจองเก้าอี้แถวแรก ที่ใต้เต็นท์ฝั่งประตูวิเศษไชยศรี มีความหวังว่าจะได้เป็นแถวแรกที่ได้เข้าไปถวายบังคมพระบรมศพ ซึ่งเดินทางมาคนเดียว นำชุดมาเปลี่ยน และจะนั่งพักบนเก้าอี้จนถึงเช้า รู้สึกดีใจที่จะได้เข้าไป โดยตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. ตนร้องไห้เกือบทุกวัน คิดถึงพระองค์ท่าน.
ชาวกำแพงเพชร รวมถึงชาวไทยภูเขา ออกเดินทางเข้า กทม.เมื่อคืนนี้ 750 คน ได้คิวแรก ถวายบังคมพระบรมศพ ขณะที่เช้าตรู่วันนี้ ประชาชนมาเข้าคิวยาว เพื่อรับบัตรคิวหน้าวัดมหาธาตุฯ จนแน่นสนามหลวง
null
ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ,เข้าคิวถวายบังคมพระบรมศพ,รับบัตรคิวตั้งแต่เช้าตรู่,ชาวกำแพงเพชรได้คิวแรก,ถวายบังคมพระบรมศพ,ถวายบังคมพระบรมศพวันแรก,คนแน่นสนามหลวง รอรับบัตรคิว
https://www.thairath.co.th/content/767612
เลขาธิการ กกต. แจงยื่นยุบไทยรักษาชาติ เร็วกว่าพลังประชารัฐ เพราะมีหลักฐานชัดเจน
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ เลขาธิการ กกต. ชี้แจงการส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักษาชาติ เพราะปรากฎหลักฐานชัดเจน ขณะที่พรรคพลังประชารัฐมีแต่คำร้องจึงต้องหาหลักฐานก่อนคาดใช้เวลา 1-2 สัปดาห์21 ก.พ. 2562 รายงานว่า ที่อาคารอิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีหากพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบจะต้องมีการแก้ไขบัตรเลือกตั้งหรือไม่ ว่า ถ้าผู้สมัครไม่ว่าพรรคใด ไม่ถูกประกาศรับรองเป็นผู้สมัครหรือถูกตัดสิทธิ์ในภายหลัง กกต.จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าผู้สมัครในเขตนั้น ๆ เป็นผู้ไม่มีสิทธิ์รับสมัครรับเลือกตั้ง ใครกาบัตรก็จะกลายเป็นบัตรเสีย และอยากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบด้วย ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ยังไม่มีการนำเครื่องลงคะแนนแบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ ยังใช้บัตรเลือกตั้งอยู่เช่นเดิมเมื่อถามว่าไทยรักษาชาติส่งคำชี้แจงให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว กกต.จะต้องมีคำชี้แจงอะไรเพิ่มหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับเรื่อง แต่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาวันที่ 27 ก.พ.เมื่อถามถึงกรณีคำร้องให้ยุบพรรคพลังประชารัฐเข้าสู่การพิจารณาของ กกต. แล้วหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังตรวจสอบ อยากจะชี้แจงว่าการพิจารณาของ กกต. คืออำนาจของ กกต. เมื่อปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า สามารถส่งให้ศาลพิจารณาได้เลย ซึ่งกรณีที่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเพราะปรากฏหลักฐานให้ กกต. เห็นและเชื่อได้ว่ากระทำความผิดตามมาตรา 92 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ส่วนกรณียื่นคำร้องมาให้นายทะเบียนพรรคการเมืองหรือให้กกต.นั้นยังไม่ปรากฏหลักฐาน ปรากฏแต่คำร้อง จึงต้องไปตรวจสอบหลักฐานเพื่อรวบรวมให้ กกต.พิจารณา ต้องเข้าใจว่าหลักฐานและคำร้องแตกต่างกันผมอยากอธิบายเรื่องกระบวนการให้เข้าใจเพราะมีการเปรียบเทียบว่าร้องแล้วทำไม่ไม่ยุบเลย ทีอันนี้ทำไมยุบเลย คาดว่าคำร้องของพลังประชารัฐจะเสนอให้ กกต.ภายใน 1-2 สัปดาห์ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวเมื่อถามถึงกรณีของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกร้องกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ดำเนินคดีอาญาอยู่ ถ้าศาลตัดสินค่อยมาว่ากันอีกที เพราะเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของผู้สมัคร ต่อข้อถามว่าหากนายธนาธรถูกฝากขังจะมีผลต่อการเลือกตั้งหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ถูกฝากขัง จำคุกโดยหมายของศาล ไปดูตัวบทอีกครั้งเมื่อถามถึงกรณีที่ กกต. พบว่ามีการแก้ไขข้อมูลผู้สมัครของบางพรรคการเมือง จะนำไปสู่การให้ใบส้มหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่มองถึงขนาดนั้น ในชั้นนี้เราทำข้อมูลจากฐานข้อมูลของ กกต.เกี่ยวกับนายทะเบียนพรรคการเมืองเพื่อให้จังหวัดไปแถลงต่อศาลจังหวัดที่ทำหน้าที่แทนศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ว่าเหตุที่เราตัดสิทธิ์ไม่ประกาศชื่อของผู้สมัคร เพราะมีการไปแก้ไขข้อมูลในฐานข้อมูล ซึ่งข้อมูลในฐานข้อมูลจะมีการเชื่อมโยงระหว่างนายทะเบียนสมาชิกของพรรคกับฐานข้อมูลของ กกต. เช่น ถ้าจะกรอกข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองจะมีพาสเวิร์ดที่ให้ไว้กับนายทะเบียนสมาชิกพรรคการเมือง เมื่อกรอกแล้วมีการไปแก้ไขในบางส่วนหลังจากปิดให้แก้ไขแล้ว หลังจากนี้จะมีความผิดทางอาญาหรือไม่จะเป็นขั้นตอนถัดไปที่ต้องพิจารณาอีกครั้ง
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ เลขาธิการ กกต. ชี้แจงการส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักษาชาติ เพราะปรากฎหลักฐานชัดเจน ขณะที่พรรคพลังประชารัฐมีแต่คำร้องจึงต้องหาหลักฐานก่อนคาดใช้เวลา 1-2 สัปดาห์21 ก.พ.
การเมือง
จรุงวิทย์ ภุมมา,กกต.,พรรคไทยรักษาชาติ,พรรคพลังประชารัฐ,เลือกตั้ง 62,เลือกตั้ง
https://prachatai.com/journal/2019/02/81145
รองหน.ปชป.หนุนไอเดียวิษณุ หากร่างรธน.ไม่ผ่าน ไม่ต้องประชามติอีก ประยุทธ์นั่งหัวโต๊ะร่างเลย
เพื่อให้มีการตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่มาร่างรัฐธรรมนูญ ให้เสร็จในเวลาเท่าใดเพื่อให้ทันตามโรดแมปที่รัฐบาลกำหนดไว้ รวมถึงหลังจากร่างเสร็จแล้วจะทำอย่างไรต่อไป เชื่อว่าคำตอบก็อาจจะไม่ใช่การกลับไปทำประชามติอีกแล้ว เพราะอาจจะทำให้เสียเวลาไปอีก นั้น () รายงานว่า 13 ก.ค. ที่ผ่านมา สาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับแนวคิด วิษณุ ที่ไม่จำเป็นต้องทำประชามติอีก แต่สิ่งที่อยากเห็นมากที่สุด คือ หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน อยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.นั่งหัวโต๊ะ เป็นคนกลาง ประสานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้ง พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองเล็ก ภาคประชาชน นักวิชาการ และเอกชน เข้ามาร่วมด้วยช่วยกันร่างรัฐธรรมนูญ มีเป้าหมายเดียวกันคือหาทางออกให้ประเทศ โดยเอารัฐธรรมนูญฉบับปี 50 เป็นตัวตั้ง ฟังความเห็นทุกฝ่ายว่า มีจุดด้อย จุดดี อย่างไรแล้วปรับแก้ให้เกิดการยอมรับ เงื่อนไขสำคัญต้องไม่เขียนล็อคให้แก้ไขยาก เชื่อว่า ถ้าเอา 4 หลักเกณฑ์ที่รองนายกฯระบุ รวมกับโมเดลตน สังคมจะได้เริ่มต้นนับหนึ่งเสียทีไปสู่การเลือกตั้งเดินหน้าประเทศเสียที ไม่อย่างนั้นจะมีแต่การเอาแพ้เอาชนะกัน ประเทศไม่เดินไปไหน.
14 ก.ค.2559 หลังจากที่วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ วันที่ 7 ส.ค. นี้ ว่า จะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557
การเมือง
ประชาธิปัตย์,ประชามติ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ร่างรัฐธรรมนูญ,สาธิต ปิตุเตชะ
https://prachatai.com/journal/2016/07/66886
นิโรธ ลุยสำรวจระบบส่งน้ำช่วยภัยแล้ง-มอบของช่วยเหลือ ปชช.สู้โควิด
เมื่อวันที่ 13 พ.ค.63 นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จ.นครสวรรค์ ร่วมกับชลประทานจังหวัดนครสวรรค์ และผู้นำ 4 ตําบล ออกสำรวจระบบส่งนํ้าจากแม่นํ้าปิง ที่ก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการกั้นแม่น้ำปิงไว้ เพื่อยกระดับน้ำในแม่นํ้าปิงให้สูงขึ้น ที่ ต.บางแก้ว อ.บรรตพต และดึงน้ำเข้า ต.บ้านไร่ฝั่งตะวันออก ต.เนินขี้เหล็ก ต.หนองนมวัว ต.หนองยาว ทั้งนี้มีความจำเป็นต้องเร่งดำเนินโครงการ เนื่องจากประชาชนจะได้มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี พร้อมขอให้มั่นใจ ส.ส.ในพื้นที่ที่จะทำงานให้กับประชาชน อีกทั้งติดตามความคืบหน้าโครงการระบบส่งน้ำคลองโพธิ์ ซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้ากว่า 70% จะทำให้เกษตรกรได้มีน้ำใช้ในการเกษตรต่อไปอีกหลายพื้นที่นอกจากนี้ยังได้ลงพื้นที่ อ.แม่วงก์ อ.แม่เปิน อ.ชุมตาบง และ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ มอบหน้ากากอนามัยให้กับชมรม กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ สารวัตร และบุคลากรทางการแพทย์ สำหรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้ปลอดภัยจากโควิด-19 ได้มากขึ้น เพราะบุคลากรเหล่านี้ถือว่ามีความสำคัญในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดทั้งนี้ยังได้พบปะกับประชาชนใน ต.วังเมือง อ.ลาดยาว เพื่อนำไข่ไก่มามอบให้เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงโควิด-19 ซึ่งเป็นการให้ความช่วยเหลือควบคู่ไปกับการช่วยเหลือของรัฐบาล ตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ของพรรค ย้ำให้ ส.ส.ลงพื้นที่ช่วยประชาชนในช่วงนี้ให้มากที่สุด
นิโรธ สุนทรเลขา ลงพื้นที่สำรวจระบบส่งน้ำให้ประชาชนมีน้ำใช้ พร้อมมอบสิ่งของจำเป็นให้ช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงวิกฤติ โควิด-19
ข่าว,ทั่วไทย
นิโรธ สุนทรเลขา,ส.ส.พลังประชารัฐ,พปชร.,ส.ส.เขต 6 นครสวรรค์,ภัยแล้ง,ช่วยภัยแล้ง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1843673
ของขวัญปีใหม่บัตรทอง เพิ่มสิทธิยาใหม่ 5 กลุ่มโรค
ผ่าตัดวันเดียวกลับ และ เพิ่มยาใหม่ 5 กลุ่มโรค 7 รายการ,นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า ในปีใหม่ 2561 กระทรวงสาธารณสุขขอมอบของขวัญให้ประชาชน 4 เรื่องหลัก คือ หนึ่งเพื่อให้เข้าถึงบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว ลดการรอคอย ลดความแออัดในโรงพยาบาล,ด้วยบริการ ผ่าตัดวันเดียวกลับบ้าน ในโรงพยาบาล (One Day Surgery) หรือ ODS,โดยตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าปี 2561 มีผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัด ODS ร้อยละ 15 และเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 30 ในปี 2564 ซึ่งจะ เป็นทางเลือกหนึ่งที่ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการบริการได้มากขึ้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตและทำงานได้เร็วขึ้น,สองส่งเสริมให้มีการใช้ยาอย่างปลอดภัย สมเหตุผลผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลทางแอพพลิเคชั่น RDU รู้เรื่องยา ซึ่งได้ร่วมกับเครือข่ายโรงพยาบาลสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลฯ และภาคีสุขภาพ พัฒนาแอพเพื่อเข้าถึงข้อมูลยาแผนปัจจุบัน ให้มีการใช้ยาอย่างเหมาะสม ผู้รับการรักษาจะสามารถเข้าถึงข้อมูลยาที่ตนเองใช้,สามจัดทำแอพพลิเคชั่นสมุนไพรเฟิร์ส (Samunprai first) ครบเครื่องเรื่องสมุนไพรในแอพเดียว ค้นหาพืชสมุนไพร ผลิตภัณฑ์สมุนไพรสำเร็จรูปรักษาอาการป่วยเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง ส่งเสริมให้ประชาชนนึกถึง เชื่อมั่น และใช้ก่อนใช้ยาอื่น,สี่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อนุมัติเพิ่มสิทธิประโยชน์ยาใหม่ให้ ผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง ใน 5 กลุ่มโรค 7 รายการยา ซึ่งเป็นยาในกลุ่มบัญชี จ2 หรือยาราคาแพงแต่มีความจำเป็นต้องใช้,นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เสริมว่า ปัจจุบันผู้เข้ารับบริการทางการแพทย์มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น จึงได้พัฒนาระบบบริการทางการแพทย์แนวใหม่เพื่อประชาชน เป็นการผ่าตัดวันเดียวกลับ (One Day Surgery : ODS) ไม่ต้องรับเป็นผู้ป่วยในและอยู่โรงพยาบาลไม่เกิน 24 ชั่วโมง,สำคัญก็คือผู้ป่วยผ่าตัดแล้วไม่ต้องนอนพักค้างคืน,หลักการคือ ผู้ป่วยเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดมาจากที่บ้านและมารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล หลังพักฟื้นจากการผ่าตัดไม่กี่ชั่วโมง ผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตัวเองและกลับบ้านได้ภายในวันเดียว ทำให้ลดเวลานอนในโรงพยาบาล ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยและญาติระหว่างมาโรงพยาบาล,รวมทั้งช่วยลดระยะเวลารอคอยผ่าตัด ทำให้รักษาผู้ป่วยได้มากขึ้น ลดความแออัดในโรงพยาบาล มีเตียงรองรับผู้ป่วยผ่าตัดฉุกเฉินหรือโรคที่ยุ่งยากซับซ้อน ส่งผลให้สามารถเข้าถึงบริการที่มีมาตรฐานและปลอดภัย,สำหรับ โรค หรือ ภาวะ ที่สามารถรับบริการผ่าตัดแบบวันเดียวกลับจะเริ่มจาก 12 กลุ่มโรค ดังนี้ โรคไส้เลื่อนที่ขาหนีบ, ถุงน้ำที่อัณฑะ, ริดสีดวงทวาร, ภาวะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด,เส้นเลือดดำโป่งพองในหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร, ภาวะหลอดอาหารตีบ, ภาวะอุดตันของหลอดอาหารจากมะเร็งหลอดอาหาร, ติ่งเนื้องอกในลำไส้ใหญ่, นิ่วในท่อน้ำดี, นิ่วในท่อของตับอ่อน, ภาวะท่อน้ำดีตีบตัน, ภาวะท่อตับอ่อนตีบ,ลงลึกในรายละเอียดกันอีกสักนิด นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการ สปสช. บอกว่า ในส่วนของการสนับสนุนนโยบายผ่าตัดวันเดียวกลับ สปสช.ได้ปรับเงื่อนไขการเบิกจ่ายเพื่อสนับสนุนให้ โรงพยาบาลผ่าตัดวันเดียวกลับ โดยจะเริ่มในวันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป สำหรับ 12 กลุ่มโรค,ตามที่กรมการแพทย์ได้เป็นประธานการหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นการเบิกจ่ายชดเชยให้แก่หน่วยบริการที่ให้บริการแก่ผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่มีการให้บริการเป็นกรณีผ่าตัดวันเดียวกลับตามรายการกลุ่มโรค และหัตถการตามที่กำหนด,เป็นบริการผ่าตัดเพื่อการรักษาที่มีระยะเวลานอนโรงพยาบาลตั้งแต่ 2 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง เฉพาะผู้ป่วยที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน และหน่วยบริการที่ให้บริการต้องผ่านเกณฑ์การประเมินศักยภาพตามที่กำหนด ทั้งนี้ คำนวณอัตราจ่ายตามค่าน้ำหนักสัมพัทธ์ (RW) โดยจ่ายจากกองทุนผู้ป่วยใน,เลขาธิการ สปสช. ย้ำว่า นอกจากนี้แล้ว บอร์ด สปสช.เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.60 ยังมีมติอนุมัติเพิ่มสิทธิประโยชน์ยาจำเป็นแต่มีราคาแพง 5 กลุ่มโรค 7 รายการ ดังนี้,ยารักษาการติดเชื้อราในกระแสเลือด อาทิ ยา Voriconazole (โวริโคนาโซล) รักษาการติดเชื้อราแอสเปอจิรัสระยะลุกลามจากเชื้อราชนิด Fusarium spp. (ฟูซาเรียม) และ Scedosporium spp. (ซเก็ดโดสปอเรียม), ยา Micafungin (ไมคาฟังกิน) รักษาการติดเชื้อราชนิด Invasive candidiasis ที่ดื้อต่อยา Fluconazole (ฟลูโคนาโซล) หรือไม่สามารถใช้ amphotericin B (แอมโฟเธอริซิน บี) ได้,ยาเพิ่มการขับเหล็กในผู้ป่วยธาลัสซีเมียเด็ก ที่มีปัญหาการใช้ยาฉีดไม่ได้ผล คือ ยา Deferasirox (ดีเฟอราซีร็อกซ์), ยา Raltegravir (ราลทิกราเวียร์) ยาต้านไวรัสเอชไอวีสำหรับรักษาผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีที่ดื้อต่อสูตรพื้นฐาน, ยา Rituximab (ริทูซิแมบ) ยารักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง ชนิด DLBCL ที่เจาะจงเฉพาะเซลล์มะเร็งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา,ยารักษาไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรัง ทุกสายพันธุ์ที่ผลการรักษาดีกว่าเดิม และลดเวลาการกินยาลงจาก 6 เดือนเหลือ 3 เดือน, ยา Sofosbuvir (โซฟอสบูเวียร์) ยากินในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ทำให้รักษาหายเกิน 90% , ยาเม็ดผสม Sofosbuvir+Ledipasvir (โซฟอสบูเวียร์+เลดิพาสเวียร์) เป็นยาสูตรผสม [SOF/LDV] สำหรับรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซีแทนยาชนิดเดิมได้ผลเกิน 90%,นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการ สปสช. ย้ำว่า ยาทั้ง 7 รายการใน 5 กลุ่มโรคข้างต้นนี้ เป็นยาที่คัดเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญโดยคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ ตามขั้นตอนต่างๆ ผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้านภาระงบประมาณ และมีการต่อรองราคายาในราคาที่ถูกลง เช่น ยา Sofosbuvir (โซฟอสบูเวียร์) จากราคาเม็ดละ 500 บาท เหลือเม็ดละ 130 บาท เป็นต้น เริ่มสิทธิประโยชน์ 1 มกราคม 2561 นี้,ประเทศไทยมีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามากว่า 16 ปีแล้ว และได้รับการยกย่องจากองค์การสหประชาชาติให้เป็นต้นแบบประเทศไม่รวยแต่สามารถทำให้ทุกคนมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่มีคุณภาพได้,ตอกย้ำในหลักการ วันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าโลก ที่จัดขึ้นทุกวันที่ 12 ธันวาคมของทุกปี เพื่อรณรงค์ให้ทั่วโลกเห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมสุขภาพดีถ้วนหน้า (Health for All),ด้วยจุดหมายปลายทางท้ายที่สุดแล้วก็เพื่อสนับสนุนให้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นการ ลงทุน อย่างฉลาดของรัฐที่ทำเพื่อ ประชาชนทุกคน ที่ทุกประเทศสามารถบรรลุได้.
ส่งท้ายปีเก่าพุทธศักราช 2560 ต้อนรับ ปีใหม่ 2561 กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมส่งต่อความสุขมอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนผู้มีสิทธิ
ข่าว,ทั่วไทย
ปิยะสกล สกลสัตยาทร,กระทรวงสาธารณสุข,บัตรทอง,สปสช.,สกู๊ปหน้า1,สุขภาพ
https://www.thairath.co.th/news/local/1167465
มีชัย แจงเซ็ตซีโร่ กสม. เพื่อให้ที่มาสอดคล้องกับหลักการปารีส
20 มิ.ย. 2560 รายงานว่ามีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการเซ็ตซีโร่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ว่า การกำหนดให้สรรหา กสม. ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ที่มาของ กสม.ไทยสอดคล้องกับหลักการปารีส ซึ่งจะทำให้ กสม.มีความหลากหลาย และเชื่อมั่นว่าจะไม่มีปัญหาความขัดแย้งเหมือนในอดีต เพราะ กรธ.ได้บัญญัติแก้ปัญหาในอดีตที่การทำงานของ กสม. มีลักษณะแบบต่างคนต่างทำ เปลี่ยนมาให้ใช้รูปแบบการทำงานแบบคณะกรรมการและหาข้อยุติด้วยการใช้มติร่วมกัน พร้อมกับให้ตั้งผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องที่ต้องการข้อมูลเป็นการเฉพาะได้ ทั้งนี้ ก่อนการยกร่าง ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทางกรธ.ได้มีการชี้แจงต่อคณะกรรมการประสานงานระหว่างประเทศว่าด้วยสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(ICC) แล้ว ซึ่ง ICC ก็มีท่าทีพอใจกับการทำให้ที่มาของ กสม.ไทยมีความหลากหลาย จึงเชื่อมั่นว่า เมื่อร่างกฎหมายลูกฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะทำให้ไทยได้รับการคืนระดับคุณภาพด้านสิทธิมนุษยชนของไทยกลับมาดีขึ้นขณะที่เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมาวัส ติงสมิตร ประธาน กสม.โพสต์ผ่านในลักษณะสาธารณะว่าไม่เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วย กสม. ที่ให้ประธาน กสม. และ กสม.ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนวันที่ พ.ร.ป.กสม.ใช้บังคับ พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่ พ.ร.ป.กสม.ใช้บังคับ แต่ให้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่า กสม.ที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่สำหรับเหตุผลของ มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่บอกว่า ต้องรีเซ็ต กสม.เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนสากล ที่ประเทศไทยถูกทักท้วงว่ามีปัญหาว่าด้วยกระบวนการได้มาซึ่งไม่สอดคล้องกับหลักการว่าด้วยสถานะและหน้าที่ของสถาบันแห่งชาติเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (หลักการปารีส) ซึ่งตรงกับเหตุผลในร่าง พ.ร.ป.กสม.ของ กรธ.ที่ระบุว่า กสม.ชุดปัจจุบันยังไม่สอดคล้องกับหลักการสากลเกี่ยวกับกระบวนการได้มา ซึ่ง กสม.จะต้องมาจากความหลากหลายของภาคส่วนที่เกี่ยวข้องนั้น ประธาน กสม.กล่าวว่า เป็นเหตุผลที่ไม่ถูกต้อง เพราะหลักการปารีสไม่ได้กำหนดกระบวนการสรรหาว่าต้องมีกระบวนการเช่นนั้นกฎเกณฑ์ตามร่าง พ.ร.ป.กสม.ของ กรธ.ดังกล่าว ไม่มีปรากฏในหลักการปารีส ประธาน กสม.กล่าวประธาน กสม.ย้ำอีกว่า หลักการปารีสกำหนดแต่เพียงว่า การกำหนดองค์ประกอบของสถาบันแห่งชาติควรประกอบด้วยสมาชิกของสถาบัน ไม่ว่าจะด้วยวิธีการเลือกตั้งหรือด้วยวิธีอื่นใด จะต้องเป็นกระบวนการที่มีหลักประกันที่ทำให้มั่นใจได้ว่าสถาบันจะเป็นตัวแทนที่หลากหลายของพลังทางสังคม หรือภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจที่จะทำให้สถาบันได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีกับตัวแทนของกลุ่มต่างๆ หรือโดยผ่านการเข้าร่วมของตัวแทนกลุ่มต่างๆ เช่น องค์กรที่ทำงานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ รวมทั้งองค์กรวิชาชีพต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมทนายความ แพทย์ สื่อมวลชนนอกจากนั้นก็เป็นกระแสแนวคิดทางปรัชญา ศาสนา รวมทั้งมหาวิทยาลัยและผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณสมบัติเหมาะสม รัฐสภา และหน่วยงานต่างๆของรัฐ ซึ่งควรมีส่วนร่วมในการพิจารณาที่มีหน้าที่เพียงการให้คำแนะนำเท่านั้น ประธาน กสม.กล่าวว่า กรธ.คิดร่าง พ.ร.ป.กสม. ดังกล่าวมาได้อย่างไร เพราะเป็นการกำหนดที่เกินเลยจากหลักการปารีสค่อนข้างมาก ไม่ยืดหยุ่น และสรรหามาได้ยากรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ กรธ. สร้างมาได้กำหนดคุณสมบัติของคณะกรรมการสรรหาไว้ระดับเทพแล้ว ยังกำหนดคุณสมบัติของบุคคลที่จะได้รับการสรรหามาเป็น กสม. ให้เกินเลยไปจากมาตรฐานสากล ซึ่งจะกลายเป็นปัญหายุ่งยากในการสรรหาทั่วไปและสรรหาซ่อมในอนาคตต่อไปได้ ประธานกสม.กล่าวส่วนประเด็นที่อ้างว่าการทำงานของ กสม.มีปัญหา หรือที่มาของ กสม.ชุดปัจจุบันขาดความหลากหลายจึงต้องรีเซ็ต กสม.ทั้งชุดนั้น ประธาน กสม. เห็นว่า ไม่ถูกต้องทั้งในข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง เพราะ กสม. ชุดปัจจุบัน ซึ่งเป็นชุดที่ 3 นี้ มีผลงานออกมาทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศมากขึ้นและต่อเนื่องอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งองค์ประกอบของกสม.ชุดปัจจุบันก็มีความหลากหลาย มีทั้งอดีตข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับงานสิทธิมนุษยชน ผู้พิพากษา นักจิตอาสา และภาคประชาสังคมประธาน กสม. กล่าวอีกว่า กสม.ชุ ดปัจจุบันสามารถทำงานให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างชัดแจ้งทั้งด้านการคุ้มครองสิทธิฯและด้านส่งเสริมสิทธิฯเมื่อเร็วๆนี้นายกรัฐมนตรียังได้มาปาฐกถาพิเศษในหัวข้อหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติกับการสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจและสังคม ที่ กสม. ร่วมกับ 8 องค์กรพันธมิตรจัดการสัมมนาวิชาการเรื่อง การเผยแพร่และขับเคลื่อนหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติในประเทศไทย ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก จนเป็นที่ชื่นชมทั้งภายในและระหว่างประเทศอันเป็นผลดีต่อประเทศโดยรวม ประธาน กสม. ย้ำนอกจากนี้ประธาน กสม. กล่าวอีกว่า การรีเซ็ตองค์กรอิสระใดๆ จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อมีเหตุจำเป็นโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ รวมทั้งต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมต่อผู้ที่อาสาเข้ามาทำงานที่ต้องละทิ้งงานเดิมมาทำงานให้องค์กรอิสระงานของ กสม. น่าจะมีผลกระทบกระเทือนแน่นอน เพราะโครงการต่างๆกำลังเดินไปด้วยดี จะหยุดชะงักทันที ประธาน กสม. ตอบคำถามที่ว่าหาก กสม.ถูกรีเซ็ตจะกระทบต่อการทำงานหรือไม่ประธาน กสม. ชี้ให้เห็นทางออกของเรื่องนี้ที่จะทำได้มากที่สุดคือ เขียนในบทเฉพาะกาลของ พรป.องค์กรอิสระให้ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระพ้นจากตำแหน่งเฉพาะรายที่เป็นบุคคลผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายใหม่ ไม่ใช่ให้พ้นไปทั้งชุด เพราะไม่เป็นธรรมต่อผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระนั้นประธาน กสม. กล่าวย้ำในที่สุดว่า รัฐธรรมนูญ 2560 มีปัญหาทั้งในด้านหลักการเขียนและการนำไปใช้ในทางปฏิบัติ จึงขอให้ผู้มีอำนาจในการเขียน พ.ร.ป.กสม.เปิดใจให้กว้าง พิจารณาให้รอบคอบ และให้ความเป็นธรรมแก่ผู้อื่น ควรคิดแก้ไขปัญหาอื่นๆที่รอการแก้ไขอยู่ก่อนจะมาคิดรีเซ็ตองค์กรอิสระให้เกิดปัญหาเพิ่มไปอีก
ประธาน กรธ. แจง เซ็ตซีโร่ กสม. เพื่อให้ที่มาของ กสม.ไทยสอดคล้องกับหลักการปารีส แก้ปัญหาการทำงานแบบต่างคนต่างทำ ด้านประธาน กสม. ค้านระบุหลักการปารีสไม่ได้กำหนดกระบวนการสรรหาว่าต้องมีกระบวนการเช่นนั้น
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
กสม.,คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ,มีชัย ฤชุพันธุ์,วัส ติงสมิตร,หลักการปารีส,เซ็ตซีโร่
https://prachatai.com/journal/2017/06/72033
เมียนมา/ กัมพูชาโดนเล่นแล้วครับ
โดยการลงโทษทางเศรษฐกิจด้วยการตัดสิทธิพิเศษทางภาษีด้านต่างๆ,เครื่องมือที่หลายประเทศใช้เพื่อสร้างอุปสรรคทางการค้าที่เป็นภาษีจัดการกับประเทศอื่นที่ประเทศตนเองไม่พึงใจมีหลายอย่างครับ ที่ใช้กันมากที่สุดคือ Customs Tariff หรือภาษีศุลกากร ที่บางประเทศก็จัดเก็บตามสภาพ บางแห่งก็จัดเก็บตามราคา หลายประเทศใช้วิธีจัดเก็บแบบผสม บางแห่งใช้เครื่องมือ Surcharge หรือค่าธรรมเนียมพิเศษเล่นงานประเทศที่ดื้อในสายตาตัวเอง บางประเทศก็ใช้ Business Tax หรือภาษีการค้า และบางประเทศก็ใช้ Surtax หรือภาษีเสริม สิ่งต่างๆเหล่านี้ครับที่เรียกว่า Tariff Barrier หรืออุปสรรคทางการค้าที่เป็นภาษี,ตั้งแต่ร่างรัฐธรรมนูญเสร็จเมื่อ พ.ศ.2553 และมีเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2554 หลายประเทศก็เลิกคว่ำบาตรเมียนมาและหันมาให้สิทธิพิเศษทางการค้า โดยเฉพาะอีบีเอ หรือ Everything But Arms ทำให้เมียนมาส่งข้าวไปขายใน 28 ประเทศของสหภาพยุโรปได้อย่างราคาที่ต่ำกว่าส่งจากประเทศอื่น,ทว่าเรื่องของโรฮีนจาทำให้หลายประเทศบอกว่าเมียนมาละเมิดสิทธิมนุษยชน เมียนมาพยายามแก้ตัว ทว่าแก้ได้ไม่หลุด เพราะหน่วยงานของสหประชาชาติลงพื้นที่จริงทั้งในฝั่งเมียนมาและบังกลาเทศ ได้ข้อมูลชัดเจน พร้อมที่จะลากผู้นำทหารเมียนมาไปขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ,หลายประเทศพยายามสื่อถึงนางซูจีซึ่งมีบทบาทที่สุดในรัฐบาลเลือกตั้งตามหลักประชาธิปไตยของเมียนมา ว่าถึงแม้ท่านจะมีประชาธิปไตยสากลแล้ว ก็ยังไม่เพียงพอ ท่านต้องมีหลักพหุวัฒนธรรมที่ยอมรับความแตกต่างหลากหลายทางเชื้อชาติและศาสนาด้วย แต่รัฐบาลเมียนมาเฉยเมยต่อเรื่องนี้,ขณะนี้คณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของสหภาพยุโรปประกาศแล้วว่า จะเริ่มเก็บภาษีข้าวอินดิกาซึ่งเป็นข้าวเจ้าเม็ดยาว ของเมียนมาตันละ 175 ยูโร เป็นเงินไทยก็ 6,400 บาท เป็นระยะเวลา 3 ปี ทำให้ในห้วงช่วง 3 ปีนี้ ข้าวเมียนมาขายในยุโรปยากครับ เพราะราคาจะแพงกว่าเดิม,แค่โดนเรื่องข้าวเข้าไป พวกสมาชิกสหภาพข้าวเมียนมาก็ร้องโอดโอย ตอนนี้เริ่มตะโกนบอกสังคมโลกขอให้สหภาพยุโรปช่วยเมียนมาด้วย เมียนมามีปัญหาเยอะแยะที่ต้องแก้ไข ถ้ามาโดนเก็บภาษีข้าวสูงขนาดนี้ ชาวนาเมียนมาแย่แน่,ผมยังจำได้ว่า พ.ศ.2559 มีโครงการสมาร์ทเมียนมา ทำให้เสื้อผ้าสำเร็จรูปเมียนมาส่งออกเป็นสินค้าทำเงินเพิ่มขึ้นและเติบโตมากกว่าร้อยละ 300 เป็นเวลาติดต่อกันหลายปี สหภาพยุโรปส่งเงินช่วยเหลือมาให้เมียนมาเกือบ 5 ล้านยูโรเพื่อใช้อบรมให้ความรู้แก่ผู้บริหารและคนงานเมียนมา ออเดอร์สินค้าเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มจากเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ ฝรั่งเศส ฯลฯ มีมากจนโรงงานต้องเร่งรับคนงานเพิ่มขึ้น โรงงานเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ร่วมโครงการสมาร์ทเมียนมาเพิ่มการจ้างงานแรงงานหญิงได้มาก ถึง 3 แสนคน,การไม่ยอมรับพหุวัฒนธรรมของรัฐบาลเมียนมาทำให้เศรษฐกิจของประเทศพังยับย่อย เริ่มจากภาษีข้าวแล้ว ก็จะลามไปสินค้าประเภทอื่น คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศแล้วนะครับว่า จะยกเลิกสิทธิพิเศษทางการค้าทุกอย่างยกเว้นอาวุธ (อีบีเอ) ต่อเมียนมาในอนาคตอันใกล้ กัมพูชาก็เหมือนกัน ตอนที่สมเด็จฮุน เซน จับนายกึม ซกคา หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเข้าคุก ก็มีเสียงฮึ่มฮั่มจากทางสหภาพยุโรป พอถึง 29 กรกฎาคม 2561 การเลือกตั้งทั่วไป พรรคของฮุน เซน ได้ ส.ส. 125 คนทั้งสภา ทำให้สหภาพยุโรปตัดสินใจหันมาเก็บภาษีข้าวจากกัมพูชา,ตอนนี้กระทรวงพาณิชย์กัมพูชาออกแถลงการณ์ประณามมาตรการของสหภาพยุโรปแล้วครับว่าการเก็บภาษีข้าวของสหภาพยุโรปเป็นอาวุธที่ใช้เข่นฆ่าเกษตรกรกัมพูชา,ไทยซึ่งมีพรมแดนประชิดติดกับเมียนมาและกัมพูชาจะต้องเตรียมรับมือกับแรงงานเมียนมาหลายแสนคนที่ตกงานเพราะสหภาพยุโรปเริ่มเก็บภาษีสินค้าจากทั้งสองประเทศ,มีประชาธิปไตยอย่างเดียวไม่พอ,ต้องมีพหุวัฒนธรรมด้วย.,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย,[email protected]
เปิดฟ้าส่องโลกทำนายทายทักเกิน 1 ปี เรื่องที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาและพระราชอาณาจักรกัมพูชาจะโดนเล่นงานจากสหภาพยุโรป
null
เมียนมา,กัมพูชา,ภาษีเสริม,เปิดฟ้าส่องโลก,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1474064
กอ.รมน.ประชุมทบทวนแผน รปภ.รถไฟพื้นที่ชายแดนใต้
วันนี้ (5 ก.ย.2559) พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานในการประชุมปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยรถไฟ โดยมีหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และนายสถานีรถไฟในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าร่วม เพื่อกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยรถไฟ หลังเกิดเหตุในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 3 ก.ย.2559 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 3 คนการประชุมครั้งนี้เป็นการทบทวนแผนการรักษาความปลอดภัยทั้งที่สถานีรถไฟ เส้นทางการเดินรถ แม้ก่อนหน้านี้จะมีมาตรการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้วสำหรับมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยนั้นเน้นการรักษาความปลอดภัย 4 ด้าน ประกอบด้วย การรักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟ กับซุ้มเครื่องกั้นทางตัดรถไฟ การรักษาความปลอดภัยเส้นทางรถไฟ การรักษาความปลอดภัยขบวนรถไฟ และการรักษาความปลอดภัยพนักงานในการซ่อมเส้นทาง โดยให้มีการประสานกันอย่างใกล้ชิดระหว่าง ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และทหาร เพื่อให้ความปลอดภัยและความมั่นใจกับพนักงานรถไฟ
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนายสถานีรถไฟทั่วพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อทบทวนแผนรักษาความปลอดภัย
การเมือง
ThaiPBSnews,ระเบิดรถไฟ,ชายแดนใต้,รักษาความปลอดภัย,พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์,กอ.รมน.
https://news.thaipbs.or.th/content/255496
หุ้นไทยครึ่งเช้าสดใสปิดบวก 2.34 จุด ดัชนีแตะ 1550.47 จุด
การเคลื่อนไหวของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยช่วงเช้าวันที่ 11 ส.ค.59 หุ้นไทยปิดบวก 2.34 จุด คิดเป็น +0.15% ดัชนีอยู่ที่ 1,550.47 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,485.95 ล้านบาท,สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) 3. บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) 4. บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และ 5. บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน),สำหรับทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในช่วงที่เหลือของวัน นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด มองว่า ตลาดหุ้นโลกเมื่อคืน (10 ส.ค.) ที่ผ่านมา ปิดลบเล็กน้อย จากแรงกดดันราคาน้ำมันปรับลง 2 วันติด หลัง EIA เผยว่า คลังน้ำมันดิบสหรัฐฯ สูงขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล เป็น 523.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดไว้ว่า คลังน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะปรับตัวลง ส่วนการเคลื่อนไหวของหุ้นไทยนั้นคาดว่า จะลดลงและหุ้นไทยจะเข้าสู่ช่วงพักตัว มีโอกาสแกว่งลงในกรอบแคบๆ จากแรงกดดันราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และเงินทุนต่างชาติที่น่าจะชะลอตัวก่อนหยุดยาวสัปดาห์นี้ มีผลต่อราคาหุ้นขนาดใหญ่ไม่น่าไปไหน แต่หุ้นขนาดกลาง-เล็ก น่าจะเป็นเป้าเก็งกำไรระยะสั้นได้ง่ายกว่า จากประเด็นงบดีมีปันผลระหว่างกาล โดยมองแนวรับที่ 1,542-1,535 จุด แนวต้าน 1,555-1,600 จุด
ครึ่งวันเช้าหุ้นไทยปิดบวก 2.34 จุด คิดเป็น +0.15% ดัชนีอยู่ที่ 1,550.47 จุด บล.ทิสโก้คาดฟันด์โฟลว์เริ่มชะลอก่อนหยุดยาวสัปดาห์นี้
null
หุ้นไทย,หุ้นไทยปิดตลาด,SET,หุ้นไทยภาคเช้า,หุ้น,ข่าว,เศรษฐกิจ,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/687653
บราซิลวุ่น ก่อหวอดประท้วงรัฐบาล ก่อนพิธีเปิดโอลิมปิก 2016
รวมถึงการคอร์รัปชันอีกด้วย,สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 6 ส.ค. ว่า ชาวบราซิลหลายพันคน ได้ก่อเหตุชุมนุมประท้วงรัฐบาล ก่อนพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิก 2016 เพียงไม่กี่ชั่วโมง บริเวณใกล้กับสนามมาราคานา สถานที่ใช้ในพิธีเปิด เพื่อแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลนำงบประมาณมาผลาญเล่นไปโดยเปล่าประโยชน์ รวมถึงการคอร์รัปชันในช่วงก่อนหน้านี้อีกด้วย  ,รายงานของสำนักข่าวเอ็นบีซี ระบุว่า มีประชาชนราว 3 พันคน ได้ชูป้ายประท้วงรัฐบาล ซึ่งแสดงความไม่พอใจ หลังจากนำเอางบประมาณแผ่นดิน มาใช้จ่ายในมหกรรมกีฬาระดับโลกอย่าง ฟุตบอลโลก 2014 และโอลิมปิก 2016 ชนิดเกินความจำเป็น ทั้งที่ภายในประเทศเองยังขาดแคลนงบในการอุดหนุนด้านต่าง ๆ อีกมาก   ,ด้าน แอนนา บาร์รอส ครูสอนภาษาอังกฤษในนครริโอ เด จาเนโร กล่าวว่า ชาวบราซิลทุกคนรักกีฬา แต่ในเมืองแห่งนี้ก็ยังคงต้องการสิ่งอื่น ๆ อีกด้วยเช่นกัน เช่นการพัฒนาโรงเรียน โรงพยาบาล รวมไปจนถึงการขยายโอกาสเกี่ยวกับการเรียนฟรี ซึ่งรัฐจำเป็นที่จะต้องเฉลี่ยงบประมาณให้เข้าถึงในทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียม    ,นอกจากนี้ เดอะ มิร์เรอร์ สื่อในอังกฤษ ยังได้รายงานสถานการณ์อีกว่า มีการใช้แก๊สน้ำตาโดยตำรวจเพื่อระงับเหตุการณ์ชุมนุมของผู้ประท้วงอีกกลุ่ม ที่บริเวณถนนใกล้กับสนามมาราคานา ซึ่งในจำนวนนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย เนื่องจากผู้ประท้วงกลุ่มดังกล่าวได้มีการจุดไฟเผาหุ่นของบรรดาแกนนำรัฐบาล นำโดย นายมิเชล เทเมอร์ เนื่องจากไม่พอใจในการนำเอางบประมาณแผ่นดินมาใช้ในการจัดโอลิมปิกอย่างมหาศาล แต่ผลตอบรับทั้งจากต่างชาติและประชาชนในประเทศ กลับไม่ยิ่งใหญ่และคึกคักอย่างที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ รวมถึงการคอร์รัปชันงบประมาณในระหว่างการเตรียมงาน สมัยที่ นางดิลมา รุสเซฟ เป็นประธานาธิบดีอีกด้วย
ยังคงเกิดเหตุวุ่นวายไม่เลิก เมื่อในช่วงก่อนพิธีเปิดโอลิมปิก 2016 ไม่กี่ชั่วโมง ชาวบราซิลหลายพันคนก่อเหตุประท้วงบริเวณใกล้เคียงกับสนาม เพื่อแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลนำเอางบประมาณมาใช้ในการจัดงานครั้งนี้
null
ประท้วง,โอลิมปิก 2016,ริโอ เกมส์,ริโอ เดอ จาเนโร,สนามมาราคานา,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/683298
ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 3 เดือน ธาริต เพ็งดิษฐ์ ปรับ 5 พัน รอลงอาญา 2 ปี
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาในคดีที่ป.ป.ช. ผู้ร้อง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ผู้คัดค้านเรื่องการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน,จากกรณีที่ นายธาริต ผู้คัดค้าน ในขณะที่ ดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดี DSI ไม่แสดงรายการทรัพย์สินที่อยู่ในความครอบครองของตนเอง และคู่สมรส ประกอบด้วย เงินฝากในธนาคาร 4 บัญชี มีเงินรวมกว่า 5 ล้านบาท เงินลงทุนในหุ้นบริษัท 2 แห่ง มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท สิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน 2 แปลง รวม 2 ไร่ 50 ตารางวา ใน อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มูลค่ากว่า 20 ล้าน และเงินฝากในบัญชีธนาคารของคู่สมรสอีก 2 บัญชี กว่า 6 ล้านบาท,ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่ผู้คัดค้านไม่แสดงรายการทรัพย์สินดังกล่าว ในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีทุก 3 ปี ที่อยู่ในตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นการปกปิดไม่แสดงรายการแห่งทรัพย์สินของตนเอง และคู่สมรส เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ ป.ป.ช.ในฐานะผู้ร้อง ตรวจสอบพบ จึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ผู้คัดค้าน มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สิน หรือหนี้สินนั้น,องค์คณะผู้พิพากษามีมติเป็นเอกฉันท์ว่า การกระทำดังกล่าวของผู้คัดค้าน เป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ที่ควรแจ้งต่อผู้ร้องทุกข์ 3 ปี ที่อยู่ในตำแหน่ง อธิบดี DSI พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 2 ปี และห้ามผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2560 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ศาลฎีกาฯ นักการเมือง สั่งจำคุก 3 เดือน ธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดี DSI จงใจปกปิดทรัพย์สิน ปรับ 5 พันบาท รอลงอาญา 2 ปี และห้ามผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเวลา 5 ปี
ข่าว,ทั่วไทย
จำคุกธาริต,ธาริต เพ็งดิษฐ์,จำคุก 3 เดือน ปรับ 5 พัน,ปกปิดบัญชีทรัพย์สิน,อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1181423
ด.ต.ขับรถตร.ทางหลวง ชนยายวัย 79 ข้ามถนนตัดหน้า ตายคาถนนที่สุโขทัย
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 2 ธ.ค.2561 พ.ต.ต.รัตนพัฒน์ ลำพูน สว.(สอบสวน) สภ.บ้านสวน อ.เมือง จ.สุโขทัย รับแจ้ง มีอุบัติเหตุรถตำรวจทางหลวงเฉี่ยวชนคนเดินข้ามถนนเสียชีวิต บริเวณหน้าแขวงทางหลวงสุโขทัย ถ.สิงหวัฒน์ ต.บ้านหลุม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์ และจนท.กู้ชีพโรงพยาบาลสุโขทัย และ หน่วยกู้ภัยเมตตาสุโขทัย,ในที่เกิดเหตุพบร่างของนางสำรวม อินทระ อายุ 79 ปี ชาวบ้าน ม.4 ต.บ้านหลุม อ.เมือง นอนหายใจรวยรินอยู่กลางถนนฝั่งขาเข้าตัวเมืองสุโขทัย มีเลือดไหลทะลักออกจากปากและจมูก ลำคอหัก จนท.กู้ชีพพยายามช่วยปั๊มหัวใจนานกว่า15นาที แต่ไม่สามารถยื้อเอาไว้ได้ เสียชีวิตในที่สุด,ส่วนรถคู่กรณี เป็นรถตำรวจทางหลวงยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด ทะเบียน ชล-4553 กทม. หมายเลขข้างรถ 5306 จอดอยู่ข้างทาง มีรอยยุบบริเวณแก้มหน้ารถด้านซ้าย กระจกหน้ามีรอยร้าว พบ ด.ต.ชุติเดช กุลทวีโรจน์ ตำแหน่งผบ.หมู่ ส.ทล.3 กก.5 พิษณุโลก ผู้ขับรถคันดังกล่าว ยืนรออยู่ในที่เกิดเหตุ,เบื้องต้น ด.ต.ชุติเดช ให้การว่า ขณะที่ตนกำลังขับรถทางหลวงจาก จ.พิษณุโลก มุ่งหน้าจ.สุโขทัย ถึงที่เกิดเหตุ สังเกตุเห็นผู้ตายเดินข้ามถนนตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด พยายามบีบแตรและหักหลบแล้วแต่ไม่พ้น จึงเฉี่ยวชนจนมีผู้เสียชีวิต หลังบันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้ว จะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป.
ดาบตำรวจทางหลวงขับรถตำรวจชนยายวัย 79 ปีดับคาถนน ถ.สิงหวัฒน์ ต.บ้านหลุม อ.เมืองสุโขทัย ให้การว่า คนตายข้ามถนนตัดหน้ากระชั้นชิดพยายามหักหลบแต่ไม่พ้น จึงเฉี่ยวชนจนมีผู้เสียชีวิต
ข่าว,ทั่วไทย
รถชนคนตาย,ยายวัย 79 ปี,สุโขทัย,ดาบตำรวจ,ตำรวจทางหลวง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1435310
ป.รวบหนุ่มพัทลุงหนีคดีแทง รอง นายก อบต.ดับ เหตุแย่งจีบสาวคาราโอเกะ
เมื่อวันที่ 21 ก.ค.62 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.6 บก.ป.พ.ต.ต.ภัทรพันธ์ พูลทวี สว.กก. 6 บก.ป.ร่วมกับ สภ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง และ ตำรวจร้อย ตชด.145 นำกำลังจับกุม นายทวีศักดิ์ หนูจุ้ย หรือ ต่อ อายุ 32 ปี ชาว จ.พัทลุง ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุงที่ 286/2558 ลงวันที่ 23 กันยายน 2558 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จับได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ใน หมู่ที่ 2 ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์,โดย พ.ต.อ.วิระชาญ กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 22 ก.ย.2558 นายทวีศักดิ์ และพวกรวม 4 ราย ได้ก่อเหตุใช้มีดปลายแหลมแทง นายปฐมพงษ์ นุ้ยเล็ก อายุ 43 ปี รองนายก อบต.ตะแพน อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง ที่บริเวณหน้าอกและลำตัว รวม 9 แผล เสียชีวิตหน้าร้านคาราโอเกะ เลขที่ 4 หมู่ 5 ต.เขาปู่ อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง,จากสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ไปนั่งดื่มเหล้าที่ร้านดังกล่าว จนกระทั่งร้านปิดแล้วออกมานั่งดื่มต่อที่หน้าร้าน โดยมีกลุ่มของ นายทวีศักดิ์ นั่งดื่มอยู่บริเวณโต๊ะข้างๆ จากนั้นได้เกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้น เนื่องจากแย่งจีบสาวภายในร้านคาราโอเกะ จนถูก นายทวีศักดิ์ และพวกรุมแทงจนเสียชีวิต แล้วหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายทวีศักดิ์ ได้มาทำงานรับจ้างในสวนกล้วย ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงนำกำลังเข้าจับกุมดังกล่าว,จากการสอบสวน นายทวีศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่าใช้มีดแทงนายปฐมพงศ์ จนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป กระทั่งมาถูกจับกุมตัว ตรวจสอบประวัติพบมีหมายจับคดีเสพยาบ้าของศาลจังหวัดพัทลุงปี 2559 อีกหนึ่งหมาย นำตัวส่ง สภ.ศรีบรรพต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ตำรวจกองปราบฯ บุกรวบหนุ่มพัทลุง หนีคดีแทง รองนายก อบต.ตะแพน อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง ดับหน้าร้านคาราโอเกะ ได้ตัวที่ประจวบฯ ค้นประวัติพบหมายจับคดียาเสพติดติดตัวอีก 1 หิ้วตัวดำเนินคดี
ข่าว,อาชญากรรม
แทงกันตาย,แทงรองนายก อบต.,กองปราบ,แทงกัน,แทงหน้าร้านคาโอเกะ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1619530
โป๊ป กล่าวต่อคริสตศาสนิกชนครั้งสุดท้าย ก่อนลงจากตำแหน่ง
สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงใช้โอกาสในการเปิดให้คริสตศาสนิกชนเข้าเฝ้าประจำสัปดาห์ อธิบายถึงการสละตำแหน่งพระสันตะปาปาของพระองค์อีกครั้ง โดยมีคริสตศาสนิกชนหลายหมื่นคนมารอเข้าเฝ้าพระองค์ที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ในนครรัฐวาติกันในพระดำรัสตอนหนึ่ง พระองค์ทรงกล่าวถึงช่วงเวลาแห่งความสุขระหว่างการทำหน้าที่ประมุขแห่งคริสตจักรและช่วงเวลาและความยากลำบาก โดยพระองค์ ระบุว่า การเป็นพระสันตะปาปา คือ ภาระอันยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าทรงประทานไว้บนบ่าของพระองค์ และทำให้ความเป็นส่วนตัวหายไปจากชีวิตของพระองค์การตัดสินพระทัยสละตำแหน่งเป็นการตันสินพระทัยที่ยากลำบาก โดยพระองค์ถือเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกในรอบ 600 ปีที่ทรงสละตำแหน่ง และในวันนี้ (28 ก.พ.) พระองค์จะพบกับพระคาร์ดินัลเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังปราสาทกอนดัลโฟ ทางใต้ของกรุงโรม เพื่อทรงพำนักที่นั่นด้านเจ้าหน้าที่ของวาติกัน เปิดเผยว่า พระคาร์ดินัลจะเริ่มประชุมกันในวันจันทร์ที่ 4 มี.ค.เพื่อตัดสินว่าจะกำหนดให้มีการประชุมเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่เมื่อใด
สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงกล่าวต่อคริสตศาสนิกชนที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ในนครรัฐวาติกันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนก้าวลงจากตำแหน่งในวันนี้ (28 ก.พ.)
ต่างประเทศ
null
https://news.thaipbs.or.th/content/150228
ไต้หวันอ่วม ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นเนพาร์ตัก แผลงฤทธิ์ ฝนตกหนัก ตาย 2เจ็บอื้อ
ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นเนพาร์ตัก ถล่มไต้หวัน ก่อให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก อาคารบ้านเรือนพังเสียหายจำนวนมาก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ บาดเจ็บ 66 ราย ก่อนพายุจะบ่ายหน้าไปทางตะวันตกเฉียงเหนือมุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออกของจีน ซ้ำเติมพื้นที่ที่กำลังประสบภาวะอุทกภัยเลวร้ายหนักขึ้น,เมื่อ 8 ก.ค.59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอิทธิพลความรุนแรงของ ซุปเปอร์ไต้ฝุ่น เนพาร์ตัก (Nepartak) ไต้ฝุ่นลูกแรกของปีนี้ ที่เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งทางภาคตะวันออกของไต้หวัน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 ก.ค. ด้วยความเร็วลมสูงถึง 234 กม./ชม. ว่า ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักมาก กระแสลมกระโชกแรงจนพัดรถยนต์หลายคันพลิกหงายท้อง อาคารบ้านเรือนและต้นไม้หักโค่นจำนวนมาก เบื้องต้นเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 66 ราย ส่วนใหญ่เนื่องจากกระจกอาคารบ้านเรือนแตกจากแรงลมและพัดตกใส่ศีรษะหรือแขนขาจนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่มีบ้านเรือนประชาชน 270,000 หลัง ไม่มีไฟฟ้าใช้,สำนักอุตุนิยมวิทยาของไต้หวันรายงานว่า ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นเนพาร์ตักก่อให้เกิดฝนตกหนักทั่วไต้หวัน และบริเวณพื้นที่ที่เป็นภูเขา คาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนัก วัดปริมาณน้ำฝนได้สูงถึง 500 มม.ในช่วง 24 ชม. ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดดินถล่มลงมาจากตามเนินเขา และก่อนหน้าพายุจะเคลื่อนตัวมาถึงนั้น ทางการได้อพยพประชาชนราว 15,000 คนหลบภัยพายุมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย,ข่าวแจ้งว่า พายุไต้ฝุ่นเนพาร์ตัก ได้เคลื่อนตัวจากไต้หวันไปแนวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มุ่งหน้าสู่มณฑลฟูเจี้ยน ทางภาคตะวันออกของจีน ซึ่งคาดว่าจะเกิดฝนตกหนักในเช้าวันเสาร์ที่ 9 ก.ค. นี้ ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีน เตือนว่าไต้ฝุ่นเนพาร์ตัก จะก่อให้เกิดฝนตกหนักลงมาซ้ำเติมพื้นที่ทางภาคตะวันออกของจีน ที่กำลังประสบอุทกภัยอยู่แล้ว จนทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากยิ่งขึ้น,สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า จากการเกิดน้ำท่วมอย่างหนักทางภาคตะวันออกของจีน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 160 คน และมีการอพยพประชาชนกว่า 1.84 ล้านคน ออกจากบ้านไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย.,,ไต้หวันระทึก ซุปเปอร์ไต้ฝุ่น เนพาร์ตักมาแล้ว อพยพด่วน นทท.ขึ้นฝั่ง
ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นเนพาร์ตัก ถล่มไต้หวัน ก่อให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก อาคารบ้านเรือนพังเสียหายจำนวนมาก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพบาดเจ็บ 66 ราย ก่อนพายุจะบ่ายหน้าไปทางตะวันตกเฉียงเหนือมุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออกของจีน
null
ไต้ฝุ่น,ซุปเปอร์ไต้ฝุ่น,เนพาร์ตัก,ไต้ฝุ่นเนพาร์ตัก ถล่มไต้หวัน,ไต้หวัน,จีน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ
https://www.thairath.co.th/content/658552
สเตอร์ลิง ชี้เกมอุ่นเกือกทีมใหญ่ คือบททดสอบสำคัญสิงโต
ฝรั่งเศส,เยอรมันและ ฮอลแลนด จะเป็นบททดสอบสำคัญให้กับทีมชาติของเขาก่อนไปแข่งยูโร 2016 ซัมเมอร์หน้า,สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 12 พ.ย. ว่า ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกความเร็วสูงของ สิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ ชี้ว่าเกมกระชับมิตรที่จะพบกับทัพกระทิง สเปน ในวันศุกร์นี้ รวมไปถึงเกมพบกับทีมชาติฝรั่งเศส ในอีก 4 วันไล่หลังนั้นจะเป็นบททดสอบสำคัญของทีมก่อนไปแข่งศึกยูโร 2016 ที่จะมีขึ้นในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า,ทัพสิงโตคำรามกำลังอยู่ในช่วงผลงานยอดเยี่ยมหลังเก็บชัย 10 เกมรวดในศึกยูโร รอบคัดเลือก และเป็นทีมเดียวในรอบคัดเลือกที่สามารถเก็บชัยชนะทุกนัดมาครอง อย่างไรก็ตาม สเตอร์ลิง ยังมองว่าในรอบคัดเลือกทัพสิงโตคำรามยังไม่เจอทีมแข็งเท่าไหร่นักโดยยกให้เกมอุ่นเครื่อง 2 นัดในเดือนนี้ที่จะพบกับ สเปน และ ฝรั่งเศส รวมไปถึงเดือนมีนาคมปีหน้าที่จะลับแข้งกับ เยอรมัน และ เนเธอร์แลนด์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประเทศใหญ่ของทวีปยุโรปจะเป็นบททดสอบที่ท้าทายสำหรับทีมชาติของเขาอย่างแท้จริง,เรารู้ มันเป็นเรื่องดีที่เก็บชัยชนะมาได้อย่างต่อเนื่องในรอบคัดเลือกและเรายังไม่แพ้ใครเลยแต่ตอนนี้ความท้าทายของจริงกำลังเริ่มขึ้นแล้ว,เราจะเล่นกับบรรดาทีมที่ดีที่สุดของยุโรปและนี่คือที่ที่เราจะได้เห็นว่าเราจะเป็นอย่างไรในทัวร์นาเมนต์ช่วงซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ เราหวังว่าจะสามารถทำมันได้นะ,เราแค่ต้องการโฟกัสในสิ่งที่ผู้จัดการทีมบอกเรา เราต้องเริ่มทำงานหนักและโฟกัสไปเกมอุ่นเครื่องต่อจากนี้ที่จะพบกับ สเปนและฝรั่งเศส เช่นเดียวกับการพบกับ เยอรมัน และ ฮอลแลนด์
ต่อจากนี้คือของจริง! ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกความเร็วสูงของ สิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ ชี้ว่าเกมอุ่นเครื่องที่จะพบกับบรรดาทีมใหญ่ไม่ว่าจะเป็น สเปน,ฝรั่งเศส,เยอรมันและ ฮอลแลนด จะเป็นบททดสอบสำคัญให้กับทีมชาติของเขาก่อนไปแข่งยูโร 2016 ซัมเมอร์หน้า
null
นัดกระชับมิตร,ทีมชาติอังกฤษ,ราฮีม สเตอร์ลิง,ทีมชาติฝรั่งเศส,ทีมชาติสเปน,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/538829
นัจมุดดิน ปฏิเสธเป็นคนกลางนำ เลขาธิการ ศอ.บต. เจรจากลุ่มก่อความไม่สงบ จนนำไปสู่เหตุรุนแรงในภาคใต้
ด้วยความเป็นเด็กทำให้ญาติของ ด.ญ.ศุภาพิชญ์ คคนางค์พงศ์ หรือ น้องไอซ์ วัย 6 ขวบ ที่รอดชีวิตจากเหตุระเบิดเพียงคนเดียวตัดสินใจที่ยังจะไม่บอกความจริงว่า แม่นม หรือ นางสมใจ ชูโลก นายสมัย ลีลา น้าชาย และ น.ส.จุไร ลีลา น้าสาว เสียชีวิตแล้วจากเหตุระเบิดสองจุดกลางเมืองยะลา หลังครอบครัวของน้องไอซ์ย้ายจากภูมิลำเนาในจังหวัดนครศรีธรรมราช มาขายเสื้อผ้าที่จังหวัดยะละ แต่แรงระเบิดที่เกิดขึ้นทำให้สมาชิกทั้งครอบครัวต้องจากไปซึ่งจากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะเกิดเหตุน้องไอซ์ถูกไฟไหม้เกือบทั้งตัว แต่พยายามแข็งใจคลานไปช่วยยกประตูเหล็กที่ทับแม่นม แต่เพราะประตูมีน้ำหนักมากเกินไปจึงยกไม่ไหว แล้วตัดสินใจฉีกเสื้อผ้าที่ขาดของตัวเองปิดจมูกแล้วคลานหนีออกมา ซึ่งหมอได้ผ่าตัดสองครั้งและยังต้องรักษาตัวที่ห้องปลอดเชื้อ เช่นเดียวกับผู้เป็นแม่ของน้องไอซ์ที่เคยถูกระเบิดมาแล้ว เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมปีที่แล้วส่วนความสูญเสียกับครอบครัวของนายโร เทียน ฮก และ นางยุพิณ พุทธิมา ที่เสียชีวิตจากเหตุลอบวางระเบิดในห้างสรรพสินค้าลีการ์เดนท์ ได้มีพิธีศพที่วัดเกาะเสือ อำเภอหาดใหญ่ ท่ามกลางความเศร้าโศกของครอบครัว ขณะที่ ด.ช.สุวิชา เมืองมา ลูกชายที่ได้รับบาดเจ็บยังคงรักษาตัวที่โรงพยาบาลขณะที่บรรยากาศการรอรับรถคืนที่ห้างสรรพสินค้าลีการ์เดนท์วันนี้ ( 3 เม.ย.) สามารถทำได้เฉพาะเจ้าของรถจักรยานยนต์ซึ่งเสียหายไม่มากนัก เพราะอยู่ในลานจอดรถชั้นบี และ ชั้น บี 1 แต่สำหรับรถยนต์ที่จอดอยู่ในชั้นบี 2 3 และ 4 ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุยังไม่สามารถรับรถได้เพราะยังมีสิ่งกีดขวางอีกจำนวนมาก ซึ่งเจ้าของรถหลายคนบอกว่า เริ่มทำใจแล้ว เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดที่จะแสดงความรับผิดชอบที่จะชดเชยความเสียหายครั้งนี้ด้านนายนัจมุดดิน อูมา อดีต ส.ส.จังหวัดนราธิวาส ปฎิเสธว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเสนอเป็นคนกลางนำ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอบต.ไปเจรจากับผู้ก่อเหตุในประเทศมาเลเซีย ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า เป็นชนวนเหตุของความรุนแรงทั้งในจังหวัดยะลา และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาส่วนเหตุความรุนแรงยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่จังหวัดปัตตานีเกิดเหตุคนร้ายยิง ร.ต.อ.โชติ อ้วนศรีไสย์ ตำรวจภูธรเมืองปัตตานีเสียชีวิต ขณะอยู่นอกเวลาราชการที่ตำบลรูสะมิแล แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ให้น้ำหนักไปที่เรื่องความขัดแย้งส่วนตัว
จากผลการตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่า รถยนต์ที่ระเบิดในห้างสรรพสินค้าลีการ์เดนท์ ถูกประกอบในจังหวัดยะลา ก่อนจะนำมาก่อเหตุในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ขณะที่อดีต ส.ส. จังหวัดนราธิวาส ปฎิเสธไม่ได้เป็นคนกลางนำคนของรัฐไปเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจนเป็นชนวนเหตุทำให้เกิดความรุนแรงครั้งนี้
ภูมิภาค
คาร์บอมบ์,นราธิวาส,บึ้ม,ระเบิด,ลีการ์เดนท์,สงขลา,หาดใหญ่,เจรจา
https://news.thaipbs.or.th/content/77146
เปรี้ยว เครียดหนักนอนคุกคืนแรก จัดนักโทษชั้นดีดูแล หวั่นคิดสั้น(คลิป)
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 60 ที่เรือนจำกลางขอนแก่น นายวีรชัย เพชรรัตน์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ กรณีรับตัวผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ และศาลมีคำสั่งคุมขังในเรือนจำกลางตั้งแต่เมื่อเย็นวานที่ผ่านมา ประกอบด้วย น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว, น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น และ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ ว่า หลังจากที่ทางเรือนจำรับตัวแล้วก็ตรวจค้นหาสิ่งของตามร่างกายที่อาจจะมีการซุกซ่อนเข้ามาภายในเรือนจำ จากนั้นตรวจสุขภาพและซักประวัติเพื่อทำทะเบียนประวัติผู้ต้องขัง ตามระเบียบปกติของทางเรือนจำ ซึ่งการตรวจสุขภาพ เปรี้ยว และเอิร์น ไม่พบว่ามีสารเสพติด แต่พบในตัวแจ้ ซึ่งเจ้าตัวรับว่าเสพจริง ประมาณ 30 เม็ด ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ฝั่งประเทศเมียนมา,สำหรับการทำประวัติแต่ละคนนั้น ต้องบันทึกชัดเจน เพื่อรายงานให้ทางกรมราชทัณฑ์ทราบ สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยและควบคุมตัวผู้ต้องขังทั้ง 3 คน แยกห้องขังเฉพาะ โดยติดกล้องวงจรปิดไว้ เพราะกลัวจะคิดสั้น และจัดพี่เลี้ยงซึ่งเป็นนักโทษชั้นดีช่วยดูแลเพื่อป้องกันเหตุร้าย,เปรี้ยว มีอาการเครียดกว่าเพื่อน ส่วนอีก 2 คน ยังปกติ ซึ่งทางเรือนจำมีแพทย์มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเรื่องสุขภาพเบื้องต้นอยู่แล้ว ส่วนเรื่องอาหารทั้ง 3 คนก็รับประทานร่วมกับผู้ต้องขังหญิงรายอื่นๆ และร่วมกิจกรรมในแต่ละวัน ซึ่งจะมีพี่เลี้ยงคอยประกบอย่างใกล้ชิด เนื่องจากแดนหญิงเป็นแดนเล็กๆ แต่มีนักโทษแออัดเกือบ 500 คน ทางเรือนจำก็ไม่ทราบว่านักโทษแต่ละคนมีความคิดอย่างไรกับผู้ต้องขังใหม่ทั้ง 3 คนนี้ จึงต้องป้องกันดูแลให้รอบคอบไว้ก่อน,ส่วนที่สงสัยว่า ผู้ต้องขังที่เกี่ยวข้องในคดีเมื่อเข้าไปอยู่ในแดนหญิงแล้วจะมีโอกาสพบกันหรือไม่ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น กล่าวว่า ถ้าหมายถึง น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือ เบนซ์ ที่ถูกคุมขังก่อนหน้านี้ และเมื่อ 3 คนเข้าไปก็จะเจอกัน เพราะแดนหญิงเป็นแดนเล็กๆ มีโรงนอนเพียงโรงเดียว แต่เวลานอนจะต้องแยกกัน ซึ่งทางเรือนจำก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกได้บ้าง เช่น มีพัดลมให้ และญาติๆ สามารถเดินทางมาเยี่ยมได้ตามปกติ,ส่วนญาติพี่น้องของผู้ต้องขังทั้ง 3 ราย ยังไม่มีใครมาเยี่ยม แต่ทราบว่าในช่วงบ่าย วันที่ 6 มิ.ย.นี้ พี่สาวของ น.ส.เปรี้ยว จะมาเยี่ยม,ข่าวที่เกี่ยวข้อง ,คลิกที่นี่
ผบ.เรือนจำกลางขอนแก่น เผย เปรี้ยว นอนคุกคืนแรกเครียดกว่าเพื่อน ตรวจพบ แจ้ มีสารเสพติด เจ้าตัวรับเสพตอนอยู่พม่า พร้อมจัดนักโทษชั้นดีเป็นพี่เลี้ยงดูแล หวั่นคิดสั้น
ข่าว,อาชญากรรม
ฆ่าหั่นศพ,เปรี้ยว,แอ๋ม,เปรี้ยว ฆ่าหั่นศพ,ขอนแก่น
https://www.thairath.co.th/news/crime/963952
วีรชน เผย เบื้องต้น บิ๊กตู่ บินเยือนสหรัฐฯ ปลาย ก.ค.
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการกำหนดวันเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตามคำเชิญของนายโดนัลด์ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ฯ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างที่กระทรวงการต่างประเทศประสานงาน เราต้องรอการยืนยันวันเวลาจากทางสหรัฐฯ เบื้องต้นจากที่ได้มีการพูดคุยในระดับเจ้าหน้าที่ คาดว่า จะเป็นช่วงปลายเดือน ก.ค.นี้ ก็ต้องรอการยืนยันจากทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ เมื่อมีการกำหนดเวลาคร่าวๆ แล้ว ก็ต้องมีการเตรียมการล่วงหน้า ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูในเรื่องของข้อมูลที่ไทยและสหรัฐฯ จะได้มีการหารือ สำหรับประเด็นคร่าวๆ ที่จะหารือระหว่างกันนั้นยังไม่มีรายละเอียด เพียงแต่มีข้อสั่งการให้เตรียมไว้ ทั้งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานความมั่นคง เรื่องการค้ามนุษย์ เรื่องของทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น,ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ เคยประกาศประเทศที่เกินดุลการค้า ซึ่งไทยติด 1 ใน 10 ด้วย จะมีการหยิบยกมาหารือ ด้วยหรือไม่ พล.ท.วีรชน กล่าวว่า เท่าที่ทราบถึงวันนี้ประด็นดังกล่าวไม่ใช่ประเด็นหลักที่จะต้องมีการไปพูดกัน แต่ทั้งหมดก็ยังไม่มีรายละเอียดว่า ประเด็นที่จะมีการไปหารือกันนั้น จะมีอะไรบ้าง กว้างๆ วันนี้ก็คงเป็นเรื่องการค้าการลงทุน ความร่วมมือและความสัมพันธ์ด้านต่างๆ ทั้งปัจจุบันและอนาคต เรื่องของความมั่นคง การศึกษา เป็นต้น
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย เบื้องต้น บิ๊กตู่ บินเยือนสหรัฐฯ ปลาย ก.ค. วางหารือครอบคลุมทุกประเด็นทั้งเรื่องความสัมพันธ์ ความร่วมมือด้านต่างๆ การค้าการลงทุน การศึกษา
ข่าว,การเมือง
บิ๊กตู่,เยือนสหรัฐฯ,วีรชน สุคนธปฏิภาค,รองโฆษกรัฐบาล,ประยุทธ์ จันทร์โอชา
https://www.thairath.co.th/news/politic/964393
คืบหน้าไฟไหม้เรือเฟอร์รี่อิตาลี อพยพผู้โดยสารครบแล้ว ดับ 8 ราย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทีมกู้ภัยของประเทศอิตาลีและกรีซ สามารถอพยพผู้โดยสารมากกว่า 400 คนบนเรือเฟอร์รี่ นอร์แมน แอตแลนติก ซึ่งเกิดไฟไหม้ลกลางทะเลใกล้เกาะคอร์ฟู เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ครบทุกคนแล้ว ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 8 รายในเหตุการณ์นี้ โดยชายคนหนึ่งเสียชีวิตหลังกระโดดหรือตกลงมาจากเรือ อีก 4 คนถูกพบในทะเล ส่วนที่เหลือยังไม่เปิดเผยรายละเอียด,เรือเฟอร์รี่ลำนี้บรรทุกผู้โดยสารมากกว่า 422 คน, ลูกเรือ 56 คน และยานพาหนะอีก 222 คัน ก่อนที่เพลิงจะเริ่มลุกไหม้เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ เพียงไม่นานหลังจากเรือลำนี้เดินทางออกจากเมืองอิกูเมนิตซา ประเทศกรีซ มุ่งหน้าไปยังเมืองอังโคนา ประเทศอิตาลี โดยเชื่อว่าต้นตอของไฟมาจากพื้นที่โรงรถแต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด,ปฏิบัติการกู้ภัยในวันอาทิตย์เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากมีควันไฟหนาทึบปกคลุมเรือ รวมทั้งอากาศที่หนาวเย็นและลมแรง ทำให้ต้องอพยพผู้โดยสารออกมาทางอากาศเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเฮลิคอปเตอร์หลายลำพร้อมลูกเรือติดตั้งกล้องมองกลางคืน (ไนท์วิชั่น) อพยพผู้โดยสารในมากกว่า 100 คนตลอดคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา,ต่อมาในวันจันทร์ ทีมกู้ภัยก็สามารถช่วยผู้โดยสารออกจากเรือได้ทุกคน โดยเหลือเพียงกับเรือและเจ้าหน้าที่อีก 4 คนเท่านั้นที่ยังอยู่บนเรือเฟอร์รี่ลำนี้ ขณะที่นายนิกอส ลากาดิอานอส โฆษกหน่วยยามฝั่งของกรีซเผยว่า พบศพผู้เสียชีวิต 4 รายในทะเล และมีเด็กอย่างน้อย 3 คน และผู้หญิงอีก 1 คน ถูกนำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล จากภาวะร่างกายมีอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ,ด้านอัยการของประเทศอิตาลี ประกาศในวันจันทร์ว่า พวกเขาได้เริ่มการสืบสวนหาสาเหตุของเพลิงไหม้ เพื่อดูว่าเกิดจากความประมาทหรือไม่
ทีมกู้ภัยสามารถอพยพผู้โดยสารหลายร้อยคน ออกจากเรือเฟอร์รี่สัญชาติอิตาลี ที่เกิดเพลิงไหม้เมื่อวันอาทิตย์ ได้หมดทุกคนแล้ว ขณะที่ทางการเตรียมสืบสวนหาสาเหตุของไฟไหม้
null
เพลิงไหม้,ไฟไหม้,ไฟไหม้เรือ,เรือเฟอร์รี่,เรือข้ามฟาก,อิตาลี,นอร์แมน แอตแลนติก,กรีซ,อพยพ,ผู้โดยสาร,ลูกเรือ,เมืองอิกูเมนิตซา,เมืองอังโคนา,โรงรถ,ข่าวต่างประเทศ
https://www.thairath.co.th/content/471931
ระทึก แผ่นดินไหวขนาด 5.9 เขย่าอิหร่าน ลึกแค่ 8 กม. ดับ 5 เจ็บกว่า 100
เมื่อ 8 พ.ย.62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 5.9 เขย่าภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอิหร่าน ใกล้เมืองฮัสทรูด เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. ของวันศุกร์ที่ 8 พ.ย.62 ตามเวลาท้องถิ่น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 ราย และบาดเจ็บราว 120 คน,ตามรายงานของศูนย์แผ่นดินไหวของอิหร่านระบุว่า ศูนย์กลางเกิดแผ่นดินไหวตรั้งนี้เกิดตื้น เพราะอยู่ลึกจากผิวดินเพียงประมาณ 8 กิโลเมตรเท่านั้น และอยู่ห่างจากเมืองฮัสทรูด ในจังหวัดอาเซอร์ไบจันตะวันออก ประมาณ 60 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนจึงสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อชีวิตและทรัพย์สิน นอกจากนั้นยังเกิดอาฟเตอร์ช็อก หรือแผ่นดินไหวต่อเนื่องตามมาแล้ว 5 ครั้ง,ผู้ว่าการจังหวัดอาเซอร์ไบจัน ตะวันออก เผยกับสื่อท้องถิ่นว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้บ้านเรือนประชาชนพังเสียหายอย่างน้อย 30 หลัง ขณะที่ทีมกู้ภัยพยายามช่วยเหลือประชาชนใน 41 หมู่บ้าน ในจำนวนนี้มี 2 หมู่บ้านที่ได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง,ด้านสำนักสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) เตือนว่า เหตุแผ่นดินไหวที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นหายนภัยแผ่นดินไหวที่สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ทั้งนี้ อิหร่านตั้งอยู่บริเวณแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่นที่มาชนกัน จึงทำให้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง โดยเคยเกิดแผ่นดินครั้งใหญ่ในอิหร่านหลายครั้งในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะเหตุแผ่นดินไหวในปี 2546 คร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อย 31,000 ราย.,ที่มา :, theguardian
อิหร่านอ่วม เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 5.9 แต่ศูนย์กลางอยู่ตื้น ลึกแค่ 8 กม. เขย่าทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ส่งผลบ้านพังเสียหายหลายสิบหลัง เสียชีวิตแล้ว 5 เจ็บกว่า 100
ข่าว,ต่างประเทศ
แผ่นดินไหวอิหร่าน,แผ่นดินไหว,แผ่นดินไหวเขย่าอิหร่าน,อิหร่าน
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1699756
ผู้เสียหายคดีถูกน้ำกรด เข้าให้ปากคำตำรวจเพิ่มเติม
ผู้เสียหายที่ถูกของเหลวมีฤทธิ์เป็นกรด ที่ปรากฏเป็นข่าวในเว็บไซต์ เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ซึ่งผู้เสียหายได้เผยให้เห็นบาดแผล จากการถูกฉีดพ่นของเหลว จนทำให้เกิดรอยไหม้ที่แขน และลำคอ โดยเธอเล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.30 น.ขณะที่เดินลงจากสะพานลอย บริเวณแยกสะพานควาย ถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาสะพานควาย แพทย์วินิจฉัยว่า เกิดจากการสัมผัสของเหลวที่มีฤทธิ์เป็นกรด แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็น น้ำกรด หรือ โซดาไฟ โดยเธอได้เข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ขณะนี้ มีผู้เสียหาย เข้าแจ้งความกับกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ซึ่งรับผิดชอบสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร และพหลโยธิน รวม 3 คน คือผู้เสียหายคนนี้ และอีก 2 คน เหตุเกิด วันที่ 4 มิ.ย.เวลาประมาณ 19.00 น. และกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ท้องที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี 1 คน เหตุเกิดวันที่ 31 พ.ค. เวลาประมาณ 22.30 น.พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ยอม รับว่า การติดตามจับกุมคนร้ายทำได้ยาก เพราะขาดสาเหตุเชื่อมโยงระหว่างผู้เสียหายกับคนร้าย และเหตุที่เกิดขึ้นมักเกิดในย่านที่มีคนพลุกพล่าน ทำให้ไม่มีเบาะแสจากพยานที่เห็นเหตุการณ์อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนจะเพิ่มความเข้มงวด ในการสืบสวนปราบปราม เพื่อหาผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว ทั้งการเรียกผู้เสียหายที่แจ้งความแล้ว เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม สอบพยาน และขอความเห็นแพทย์ในการวินิจฉัยว่าเป็นสารชนิดใด ทั้งนี้ หากมีผู้เสียหายเพิ่ม ขอให้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการติดตามคนร้าย และขอให้ประชาชน อย่าตื่นตะหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ควรเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องไปในที่ที่มีคนพลุกพล่าน และในชั่วโมงเร่งด่วน อย่างย่านการค้า ป้ายรถประจำทาง สำหรับผู้กระทำผิด ข้อหาทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวมากกว่า 7 วัน ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี
ผู้เสียหายที่ถูกของเหลวมีฤทธิ์เป็นกรด ที่ปรากฏเป็นข่าวในเว็บไซต์ เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ขณะที่ตำรวจ ยอมรับว่าหนักใจในการติดตามคนร้าย เพราะไม่มีเบาะแส และเหตุจูงใจในการก่อเหตุ
อาชญากรรม
น้ำกรด,บางซื่อ,เว็บไซต์,เหตุจูงใจ,แผลไหม้
https://news.thaipbs.or.th/content/90371
งูเห่า เต่า ตะกวด ตะพาบ นับพัน ขายเปิบพิสดาร ทัวร์จีนฝั่งเขมร ถูกจับชายแดน
โชเฟอร์อ้างรับจ้างนายทุนครั้งละ 7 พันบาท ทำมาแล้วถึง 4 ครั้ง โชคดีคราวนี้เจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตสัตว์ทั้งหมดได้ทัน ก่อนถูกส่งข้ามแดนให้เอเย่นต์ชาวเขมรนำไปปรุงเมนูเปิบพิสดารเสิร์ฟนักท่องเที่ยวชาวจีน,ตำรวจจับกุมขบวนการค้าสัตว์ป่าคุ้มครองข้ามชาติ ช่วยชีวิตสัตว์นานาชนิดได้จำนวนมากครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อช่วงสายวันที่ 20 พ.ย. พ.ต.ท.สัก จินดาวงศ์ สว.สส. สภ.เมืองสระแก้ว ร.ต.อ.สุริยา มาวิน รอง สว.สส. ร.ต.ท.สำราญ พรหมเกษร รอง สวป. และตำรวจชุดสืบสวน-ปราบปราม สภ.เมืองสระแก้ว ร่วมแถลงจับกุมนายพิษณุพงศ์ หรือนุ๊ก สุนทรรส อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 15 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมของกลางสัตว์ป่าคุ้มครอง รวม 1,105 ตัว ประกอบด้วย ตะกวด 65 ตัว งูสิง 133 ตัว เต่านา 249 ตัว เต่าบัว 51 ตัว ตะพาบ 7 ตัว งูเห่า 600 ตัว พร้อมยึดรถกระบะอีซูซุ สีขาว ทะเบียน บท 1219 ชัยนาท กระบะท้ายต่อเติมเป็นตู้เหล็กปิดทึบ 1 คัน,พฤติการณ์ของผู้ต้องหากลุ่มนี้ จะใช้รถกระบะต่อเติมเป็นตู้เหล็กปิดทึบ ลักลอบนำสัตว์ป่าคุ้มครอง จากป่าอนุรักษ์ในเขต จ.ฉะเชิงเทรา ผ่านเข้ามายัง จ.สระแก้ว เพื่อส่งไปขายให้กับนายทุนค้าสัตว์ป่าในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากนั้นจะส่งต่อให้กับเอเย่นต์ชาวกัมพูชา หลังรับรายงานจากสายลับ ได้ส่งวางกำลังตามเส้นทางสาย 359 พื้นที่หมู่ 2 ต.ท่าเกษม อ.เมืองสระแก้ว กระทั่งเวลา 18.00 น.วันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้พบรถกระบะตรงตามที่ได้รับแจ้ง มุ่งหน้าไป อ.อรัญประเทศ ตำรวจติดตามไปทันและขอตรวจค้น พบนายพิษณุพงศ์ หรือนุ๊ก สุนทรรส เป็นผู้ขับขี่ ผลการตรวจค้นปรากฏว่า พบสัตว์ป่าคุ้มครองจำนวนมากอยู่ในถุงตาข่ายสีฟ้าและกล่องพลาสติกวางไว้ในตู้ทึบท้ายรถ,จากการสอบสวนนายพิษณุพงศ์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพอ้างว่า มีนายชัย ไม่ทราบชื่อและนามสกุล ว่าจ้างให้ขับรถบรรทุกสัตว์ป่า มาจากพื้นที่ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ไปส่งมอบให้ชายชาวกัมพูชาในพื้นที่คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ค่าจ้างครั้งละ 7,000 บาท เคยทำในลักษณะนี้มาแล้ว 4 ครั้ง ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 19 พ.ย. เวลา 15.00 น. คาดว่าสัตว์ทั้งหมดจะถูกส่งไปปรุงเมนูเปิบพิสดารขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่นิยมกินกัน,สำหรับสัตว์ป่าของกลางทั้งหมดที่ยึดได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เมืองสระแก้ว พร้อมประสานไปยังนายปรีชา ภู่ระหงษ์ ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 1 จ.ปราจีนบุรี นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ มีมูลนิธิสว่างสระแก้ว เข้าช่วยเหลือในการตรวจนับจำนวนสัตว์ป่าของกลางทั้งหมดก่อนส่งต่อไปอนุบาลให้แข็งแรงเพื่อรอส่งคืนสู่ธรรมชาติต่อไป เบื้องต้นนายพิษณุพงศ์ มีความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 แจ้งข้อกล่าวหา มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต คุมตัวไว้ดำเนินคดี และสอบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ
ตำรวจสระแก้วหูตาไว ตะครุบขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ จับหนุ่มขับกระบะดัดแปลงต่อเป็นตู้ทึบลักลอบขนย้ายสัตว์ป่าคุ้มครองจำนวนมาก เปิดออกดูถึงกับตะลึง เจอทั้งตะกวด เต่านา งูสิง งูเห่า นับพันตัว
ข่าว,ทั่วไทย
ข่าวหน้า1,ทัวร์จีน,เปิบพิสดาร,สัตว์ป่าคุ้มครอง,จับขบวนการค้าสัตว์ป่า,กัมพูชา,สระแก้ว
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1708811
กกต.ส่งมอบบัตรลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ให้ 50เขต มั่นใจไร้ปัญหาปลอมแปลง
เจ้าหน้าที่เทศกิจจากสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ทยอยเข้ารับบัตรเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่โรงพิมพ์อาสารักษาดินแดน คลอง 9 อำเภอ ลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เพื่อนำไปประจำตามสำนักงานเขตต่างๆ สำหรับเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง ในวันที่ 3 มีนาคมนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ อำนวยความสะดวกรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทางสำหรับการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง มอบหมายให้โรงพิมพ์อาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง รับผิดชอบในการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. โดยกำหนดมาตรการป้องกันการปลอมแปลงบัตรเลือกตั้ง รวมทั้งป้องกันไม่ให้มีการพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินจำนวนที่กำหนดโดยรูปแบบลักษณะการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งผู้ว่า ฯ กทม.กำหนดตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นปี 2554 ซึ่งจะต้องมีจำนวนหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร และช่องทำเครื่องหมายในบัตรเลือกตั้งเท่ากับจำนวนผู้สมัครรับเลือกตั้ง รวมทั้งให้มีการพิมพ์หน้าปกด้านหน้าและด้านในของบัตรเลือกตั้ง โดยระบุข้อความว่า บัตรเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นบัตรตีหมายเลขที่ต้นขั้วบัตรเลือกตั้ง (Runnig Number) จำนวน 182000 เล่ม รวม 4550000 ฉบับ โดยแบ่งเป็นการจัดพิมพ์บัตรตัวอย่างบัตรเลือกตั้ง จำนวน 1600 เล่ม รวม 40000 ฉบับ และการจัดทำบัตรทาบบัตรเลือกตั้งสำหรับผู้พิการทางสายตา จำนวน 6550 แผ่น
คณะกรรมการการเลือกตั้ง ส่งมอบบัตรลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จำนวน 4.5 ล้านฉบับ แจกจ่ายไปยังสำนักงานเขต 50 เขตเพื่อเตรียมความพร้อมเลือกตั้ง โดยมั่นใจว่าบัตรลงคะแนนไร้ปัญหาการปลอมแปลง
สังคม
bkkelection56,กกต.,เลือกตั้ง,เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.56
https://news.thaipbs.or.th/content/148986
นักกิจกรรมวิจารณ์สหรัฐฯ กรณีเลื่อนระดับการค้ามนุษย์มาเลเซีย หวังการทำสัญญาการค้า TPP ราบรื่น
เพื่อให้เอื้อต่อการเซนต์สัญญาการค้าเอเชีย-แปซิฟิก ว่าเป็นการพยายามผลักดันข้อตกลงทางการค้าโดยไม่แยแสเรื่องสิทธิมนุษยชน10 ส.ค. 2558 เว็บไซต์วิเคราะห์นโยบายการต่างประเทศ Foreign Policy In Focus (FPIF) เผยแพร่บทความเกี่ยวกับสถานการณ์การจัดอันดับการค้ามนุษย์ปีล่าสุดที่สหรัฐฯ จัดให้มาเลเซียพ้นจากระดับ บัญชีกลุ่มที่ 3 (Tier 3) กลายเป็นระดับ บัญชีกลุ่มที่ 2 ที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watchlist) ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญด้านประเด็นการค้ามนุษย์ในกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ประเมินว่าสถานการณ์การค้ามนุษย์ของมาเลเซียอยู่ในระดับแย่ แต่ผู้ที่มาจากการแต่งตั้งทางการเมืองในสหรัฐฯ ก็เปลี่ยนแปลงคำตัดสินให้กับมาเลเซียเจฟฟ์ โคนันต์ นักกิจกรรมอาวุโสจากองค์กรเฟรนด์ออฟดิเอิร์ธซึ่งเป็นองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมระบุในบทความว่าสาเหตุหนึ่งที่สหรัฐฯ ยกระดับสถานะด้านประเด็นการค้ามนุษย์ของมาเลเซียเนื่องจากต้องการให้มาเลเซียเข้าร่วมเป็นประเทศสมาชิกของ ความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (Trans Pacific Partnership หรือ TPP) ได้ง่ายขึ้นโคนันต์ระบุว่าถึงแม้ว่ารัฐสภาสหรัฐฯ จะทำในสิ่งที่ถูกต้องคือมีมาตรการจำกัดการค้าขายกับประเทศที่ทำได้แย่ในแง่การต่อต้านการค้ามนุษย์ซึ่งรวมถึงมาเลเซีย แต่เมื่อไม่นานมานี้ทางรัฐสภาสหรัฐฯ ให้อำนาจกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา มากขึ้นเพื่อให้มีการเจรจา TPP เสร็จสิ้นโดยเร็ว ทำให้ทั้งที่มาเลเซียเคยถูกระบุให้มีสถานการณ์การค้ามนุษย์ในระดับย่ำแย่มาก่อนหน้านี้แต่เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มาเลเซียก็ได้รับการเลื่อนขั้นมาเป็น บัญชีกลุ่มที่ 2 ที่ถูกจับตามองซึ่ง บัญชีที่ 2 ที่ต้องจับตามอง หมายถึงประเทศที่ยังไม่เข้าเกณฑ์มาตรฐานของกฎหมายคุ้มครองเหยื่อการค้ามนุษย์ (Trafficking Victims Protection Act หรือ TVPA) แต่กำลังมีความพยายามทำให้ประเทศตนเองเข้าเกณฑ์มาตรฐาน แต่ยังคงมีเงื่อนไขบางประการดังนี้คือยังมีจำนวนเหยื่อการค้ามนุษย์อยู่มากหรือมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก ยังขาดความสามารถในการค้นหาหลักฐานในการต่อต้านการค้ามนุษย์จากปีก่อนหน้านี้ แต่ก็มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้เกิดพัฒนาการในการต่อต้านการค้ามนุษย์ในปีถัดไป ซึ่งต่างจาก บัญชีกลุ่มที่ 2 ธรรมดาตรงที่ไม่มีเงื่อนไขดังกล่าว และต่างจาก บัญชีกลุ่มที่ 3 ตรงที่กลุ่มที่ 3 ไม่มีความพยายามทำให้ประเทศตนเองเข้าขั้นมาตรฐานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2558 มี 23 ประเทศที่ถูกจัดอันดับให้อยู่ใน บัญชีกลุ่มที่ 3 หนึ่งในจำนวนนี้มีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย ขณะที่มาเลเซียและปาปัวนิวกินีได้รับการเลื่อนอันดับขึ้นไปอยู่ใน บัญชีกลุ่มที่ 2 ซึ่งต้องจับตามอง จากที่เคยอยู่ใน บัญชีกลุ่มที่ 3อย่างไรก็ตามในกรณีของมาเลเซีย โคนันท์พยายามโต้แย้งในบทความของตนว่าในช่วงเวลาเดียวกับที่สหรัฐน เพิ่มสถานะด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ให้กับมาเลเซีย สื่อวอลล์สตรีทเจอนัลก็นำเสนอเรื่องการค้ามนุษย์ในไร่น้ำมันปาล์มที่มีเจ้าของเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบให้กับบริษัทสินค้าเกษตรชื่อคาร์กิลซึ่งเป็นบริษัทเอกชนจากสหรัฐฯ โดยวอลล์สตรีทเจอนัลระบุว่ามีการนำตัวคนงานชาวบังกลาเทศ 200 คนที่จ่ายเงินราว 2000 ดอลลาร์ เพื่อให้ส่งตัวพวกเขาเข้าไปยังมาเลเซีย เรือลำดังกล่าวมีคนติดอาวุธคอยควบคุมอยู่แต่สภาพความร้อนและความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ทำให้มีหลายคนเสียชีวิตระหว่างเดินทางและถูกหั่นศพโยนลงทะเล คนที่รอดชีวิตจะถูกบังคับใช้แรงงานในไร่น้ำมันปาล์มนอกจากนี้บทความใน FPIF ยังระบุถึงการค้ามนุษย์ของบริษัทน้ำมันปาล์มในมาเลเซียกรณีอื่นๆ รวมถึงเรื่องที่สำรวจพบฝังหลุมศพเหยื่อการค้ามนุษย์จำนวนมากในมาเลเซียเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งโคนันท์แสดงความกังวลว่านอกจาก TPP จะเป็นสัญญาการค้าที่ให้อำนาจบรรษัทใหญ่ๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการเรียกร้องสิทธิแรงงานแล้ว การที่รัฐบาลโอบามามีท่าทีลดความสำคัญเรื่องการค้ามนุษย์เพื่อให้การดำเนินสัญญา TPP เป็นไปอย่างราบรื่นยังเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นการไม่ใสใจต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งทำให้ข้ออ้างที่ว่าสัญญา TPP มีการคุ้มครองประชาชนและสิ่งแวดล้อมฟังดูไม่น่าเชื่อถือ FPIF 06-08-2015
นักกิจกรรมจากองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมจากต่างชาติเขียนบทความวิจารณ์กรณีที่สหรัฐฯ เพิ่มระดับสถานะการต่อต้านการค้ามนุษย์ของมาเลเซียเป็น บัญชีกลุ่มที่ 2 ที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watchlist)
ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน,แรงงาน
TIP Report,TPP,การค้ามนุษย์,ความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก,มาเลเซีย,สหรัฐอเมริกา,สิทธิแรงงาน,แรงงานข้ามชาติ
https://prachatai.com/journal/2015/08/60769
สวนสัตว์เชียงใหม่จัดเป่าเค้กฉลองวันเกิด 16 ปี แพนด้าหลินฮุ่ย (คลิป)
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2560 ที่โครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ ได้จัดกิจกรรม ครบรอบอายุ 16 ปี ของ หลินฮุ่ย โดยมีแฟนคลับพร้อมนักท่องเที่ยวและทีมงานพี่เลี้ยงแพนด้าสวนสัตว์เชียงใหม่ ร่วมกันร้องเพลง Happy birthday ให้กับหลินฮุ่ย พร้อมทั้งมอบเค้กวันเกิดให้แก่หมีแพนด้าหลินฮุ่ย จัดแต่งโดยทีมพี่เลี้ยงที่อยู่ดูแลและผูกพันกับแพนด้าหลินฮุ่ยและแพนด้าช่วงช่วง ได้จัดทำเค้กน้ำแข็งสีสันสดใส ตกแต่งด้วยอาหารโปรดของหลินฮุ่ย อาทิ หน่อไม้, ใบไผ่, แอปเปิล, แครอต และองุ่น เป็นต้น พร้อมกับกล่องของขวัญพิเศษ เพื่อมอบให้แก่ หลิยฮุ่ย และ ช่วงช่วง ด้วย,ที่สำคัญทางทีมพี่เลี้ยงได้เปิดโอกาสให้ ช่วงช่วง คู่ขวัญของ หลินฮุ่ย ได้ออกมาพบหน้ากันเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน หลังจากหลินฮุ่ยต้องเก็บตัวช่วงผสมเทียม และอุ้มท้องมานานต้องแยกกันอยู่คนละส่วนการแสดง ซึ่งทำให้แพนด้าทั้งสองได้เห็นกัน และจ้องดูกันอย่างน่ารักน่าชังยิ่งสร้างความประทับใจแก่ผู้ที่มาร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง,นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า ในวันนี้ได้ปล่อยช่วงช่วง ออกสู่ส่วนจัดแสดง เพื่อให้พบปะกับ หลินฮุ่ย เป็นครั้งแรก หลังจากที่ไม่ได้เจอกันเป็นเวลา 7 เดือนในช่วงที่หลินฮุ่ยผสมพันธุ์และตั้งท้องนั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการผสมพันธุ์ครั้งใหม่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2561 ซึ่งปัจจุบัน ช่วงช่วง อายุ 17 ปี หลินฮุ่ย อายุ 16 ปี ทั้งคู่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดีทุกประการ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาชมความน่ารักได้ทุกวัน ณ ส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า สวนสัตว์เชียงใหม่.
สวนสัตว์เชียงใหม่ จัดงานครบรอบ 16 ปีแพนด้าหลินฮุ่ย พร้อมปล่อยช่วงช่วงให้มาพบหลังจากห่างเหินกันนาน 7 เดือน หลังต้องเก็บตัวช่วงผสมเทียมและอุ้มท้อง พอมาเจอกันก็จ้องดูกันแบบน่ารักน่าชัง
ข่าว,ทั่วไทย
แพนด้า,หลินฮุ่ย,สวนสัตว์เชียงใหม่,วันเกิด,เชียงใหม่,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1083882
พาณิชย์ เผย ไทยพลาดเป้าส่งออกข้าวที่ 10 ล้านตัน เหตุ ศก.โลกตก
เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 59 นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยถึงการส่งออกข้าวของไทยในปี 58 ว่า มีปริมาณ 9.796 ล้านตัน ลดลง 10.7% เมื่อเทียบกับปี 57 ที่ส่งออกได้ 10.9 ล้านตัน มูลค่า 4,613 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 15.2% ส่วนในเดือน ธ.ค. 58 ส่งออกได้ 1.2 ล้านตัน ลดลง 17.5% เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. 57 คิดเป็นมูลค่า 536 ล้านเหรียญฯ ลดลง 22.5% ,ด้าน นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า สมาคมฯ ตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวปี 58 ไว้ที่ 9-9.5 ล้านตัน ซึ่งปริมาณที่ส่งออกได้จริงสูงกว่าเป้าหมาย แต่ยังต่ำกว่าเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ที่ตั้งไว้ 10 ล้านตัน เพราะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ หลายประเทศลดการนำเข้าลง ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันยังลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศที่เป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมัน ลดการนำเข้าข้าว และสินค้าเกษตรจากไทย เช่น อิรัก อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย และ ไนจีเรีย เป็นต้น ,นอกจากนี้ จีนยังประสบปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้การนำเข้าของเอกชนจีนซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ ชะลอตัวลง และยิ่งส่งผลให้การส่งออกข้าวของไทยอยู่ในภาวะลำบากมากขึ้น อีกทั้ง ประเทศผู้นำเข้าอื่นๆ นำเข้าแค่เพียงพอเพื่อการบริโภค ไม่ได้ซื้อเพื่อเก็บสต๊อกเหมือนที่ผ่านมา เพราะไทยยังมีสต๊อกข้าวสารในโกดังของรัฐกว่า 13 ล้านตัน ผู้ซื้อจึงไม่จำเป็นต้องเร่งเก็บสต๊อกแม้จะมีปัญหาภัยแล้ง เพราะมั่นใจว่าไทยจะมีข้าวเพียงพอสำหรับการบริโภค ,อย่างไรก็ตาม แม้ปีนี้ไทยจะประสบปัญหาภัยแล้ง แต่ไม่ได้ทำให้ราคาข้าวในประเทศสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพราะกำลังซื้อทั่วโลกและจีนยังต่ำอยู่ตามภาวะเศรษฐกิจ โดยต้องจับตาในช่วงเดือน มี.ค.นี้ ที่ข้าวนาปีของเวียดนามจะออกมา ขณะที่ข้าวนาปีของไทยออกสู่ตลาดหมดแล้วตั้งแต่ต้นปี และไม่มีข้าวนาปรัง เพราะไม่มีน้ำเพียงพอในการเพาะปลูก ถึงตอนนั้นจะมีความชัดเจนว่า ราคาข้าวของไทยและทั่วโลกจะเป็นอย่างไร,สิ่งที่จะทำให้เราแข่งขันกับคู่แข่งได้คือ การสร้างความเชื่อมั่นให้ข้าวไทยในตลาดโลก ลดต้นทุนการผลิตให้ชาวนา พัฒนาระบบโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพ การทำโซนนิ่งพื้นที่ปลูกข้าวเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาข้าวไทยอย่างยั่งยืน นายสมเกียรติ กล่าว.
พาณิชย์ เผยปี 58 ไทยส่งออกข้าวได้ 9.7 ล้านตัน พลาดเป้าหมายที่ 10 ล้านตัน เหตุ เศรษฐกิจโลกตก กำลังซื้อหด ด้านเอกชนยันสูงกว่าเป้า
null
ส่งออกข้าวไทย,ส่งออกข้าว,ส่งออกข้าวปี 58,เป้าหมายส่งออกข้าวไทย,พาณิชย์,สมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์,เจริญ เหล่าธรรมทัศน์,นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าว,เอกชน,สต๊อกข้าวสาร,ปัญหาภัยแล้ง,ตลาดโลก,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/568503
สมคิด สร้างความเชื่อมั่น ดึง เอกชนญี่ปุ่นลงทุนไทยเพิ่ม
วันที่ 27 พ.ย.58 นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานกรรมการกิตติมศักดิ์ บริษัท สหพัฒนาพิบูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการกล่าวปาฐกถาเรื่อง Thailands New Economic Policies ในงานสัมมนา Thailand : Moving Forward to Sustainable Growth จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่โรงแรมนิวโอตานิ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ว่า การโรดโชว์ประเทศไทยที่ประเทศญี่ปุ่นของนายสมคิด เป็นสิ่งที่ดีมาก มีนักลงทุนญี่ปุ่นสนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี เพราะนายสมคิดได้ชี้แจงให้นักลงทุนญี่ปุ่นทราบถึงนโยบายของประเทศ โดยเฉพาะด้านการส่งเสริมการลงทุน ที่เน้นอุตสาหกรรมใหม่ๆ ขณะเดียวกัน นายสมคิดยังได้นำรัฐมนตรีเศรษฐกิจอีกหลายท่านมาสร้างความเชื่อมั่น และตอบข้อซักถามต่างๆ ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นเห็นถึงนโยบายที่ไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำเหมือนที่ผ่านมา,นายบุณยสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการพูดคุยกับนักลงทุนญี่ปุ่นหลายคน ให้ความเห็นว่า ก่อนหน้ายังลังเลที่จะลงทุนในไทย หรือในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเวียดนาม เพราะนโยบายต่างๆ ของไทยยังไม่ชัดเจน แต่ละกระทรวงต่างคนต่างทำงาน แต่ขณะนี้ เมื่อรัฐบาลมีนโยบายดึงดูดการลงทุนที่ชัดเจนมากขึ้น และยังส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ๆ ก็สามารถสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนให้ญี่ปุ่นได้มากขึ้น อีกทั้งยังมั่นใจในเศรษฐกิจของไทยมากขึ้นด้วยเช่นกัน ส่วนเรื่องการเมือง นักลงทุนญี่ปุ่นไม่ได้สอบถามมากนัก เพราะลงทุนกับไทยมานาน 40-50 ปี จึงเข้าใจประเทศไทยมาก,ขณะที่ นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า จากการได้พูดคุยกับนักลงทุนญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ พบว่า มีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทย นโยบายต่างๆ ของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายส่งเสริมลงทุน แต่การโรดโชว์ครั้งนี้ นามสมคิด และรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ได้ชี้แจงถึงนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลที่ชัดเจน สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนได้มากขึ้น และเชื่อว่า เอสเอ็มอีของญี่ปุ่นจะเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น ตามการลงทุนของบริษัทขนาดใหญ่ที่ลงทุนอยู่ก่อนแล้ว,แต่สิ่งหนึ่งที่ญี่ปุ่นกังวลคือ การที่ไทยยังไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกความร่วมมือยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (ทีพีพี) เพราะญี่ปุ่นมีการลงทุนจำนวนมากในไทย และเกรงว่าไทยอาจเสียโอกาสจากการได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้ อย่างไรก็ตาม นายสมคิด ได้ย้ำให้ญี่ปุ่นทราบว่า ไทยพร้อมเข้าร่วมแน่นอน หากเปิดรับสมาชิกใหม่ แต่ระหว่างนี้ต้องศึกษาข้อดีข้อเสียให้รอบด้านก่อน นายสุพันธ์ กล่าว,ด้าน นายเคนสึเกะ ชิมูระ ประธานบริษัท ท็อป อินเตอร์เทรด คอร์ป กล่าวภายหลังการรับฟังนโยบายรัฐจากนายสมคิดว่า ตนมีความมั่นใจ ที่จะลงทุนในไทยมากขึ้น เพราะทำให้ภาพต่างๆ ได้ชัดเจนมากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังทำให้เห็นภาพอีกว่า เศรษฐกิจของไทยกำลังจะดีขึ้น และปีนี้น่าจะเติบโตได้ราว 3% ทั้งนี้ ตนได้ลงทุนในไทยในธุรกิจอาหารแช่แข็ง ทูน่ากระป๋อง เพื่อส่งออกมาญี่ปุ่นมานานกว่า 25 ปีแล้ว ขณะนี้ มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อีก เช่น ผลไม้แช่แข็ง ถั่วเหลืองแช่แข็ง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ยืนยันจะลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่องแน่นอน.
สมคิด โรดโชว์สำเร็จเกินคาด! มีนโยบายชัดเจน สร้างความมั่นใจ ดึง นักลงทุนเข้ามาในไทยเพิ่ม ด้าน เอกชนญี่ปุ่น เผย เห็นภาพ ศก.ไทย กำลังดีขึ้น ยืนยันลงทุนในไทยต่อเนื่อง
null
สมคิดเยือนญี่ปุ่น,สมคิดโรดโชว์,บีโอไอ,บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา,สุพันธ์ มงคลสุธี,ส.อ.ท.,ทีพีพี,สมาชิก ทีพีพี,เคนสึเกะ ชิมูระ,เอกชนญี่ปุ่น,ไทย-ญี่ปุ่น,ส่งออกไทย,นักลงทุน,สร้างความเชื่อมั่น,นโยบายดึงดูดการลงทุน,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์,สหพัฒนาพิบูล
https://www.thairath.co.th/content/542414
ทำได้ลง รุดช่วยลูกสุนัข ถูกตีเจ็บ-หนีลงท่อ เจอเอาดินกลบปิดทางออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (6 ก.พ.) เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง รับแจ้งเหตุ จากกลุ่ม help dog and cat Trang ซึ่งเป็นกลุ่มคนรักสัตว์ จ.ตรัง ว่า มีคนฝังสุนัขทั้งเป็นไว้ในท่อ และมีซากสุนัขโดนวางยาเสียชีวิต บริเวณห้องแถว หลังอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ถนนท่ากลางซอย 6 ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง จึงรุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุ พบสุนัข 2 ตัว ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจาก นางสาวกนกภักดิ์ สูจิวัฒนารัตน์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 351/2 ถนนกันตัง ต.ทับเที่ยง ซึ่งอยู่ในกลุ่มของคนรักสัตว์ จ.ตรัง นำตัวออกมาจากท่อระบายน้ำ ที่ถูกกลบด้วยดิน ปิดทางเข้าออกทั้ง 2 ข้าง ซึ่งหลังจากที่นำสุนัขออกมาได้แล้ว จึงจับใส่กรง เพื่อนำไปให้สัตวแพทย์ทำการรักษา เบื้องต้นพบว่า สุนัข 1 ใน 2 ตัว มีอาการบาดเจ็บบริเวณขา เนื่องจากโดนทุบตี ,นอกจากนี้ หลังทำการช่วยเหลือสุนัขทั้ง 2 ตัวแล้ว ยังพบว่า บริเวณดังกล่าวมีกลิ่นเหม็นคล้ายซากศพ เมื่อไปตรวจสอบดู ก็พบซากสุนัขลอยอืดอยู่ในหนองน้ำ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน,สอบถาม นางสาวกนกภักดิ์ ทราบว่า ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว มีสุนัขจรจัดประมาณ 12 ตัว โดยจะเดินเพ่นพ่านอยู่บริเวณห้องแถว ทั้งนี้ ทราบจากชาวบ้านใกล้เคียงว่า จะมีคุณลุงคนหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว มักจะมาต่อว่าผู้ที่นำอาหารมาให้สุนัข ทั้งยังเคยได้ยินเสียงทุบตีสุนัขอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนั้น ยังเคยวางยาสุนัขตายไปกว่า 10 ตัวแล้วด้วย ซึ่งชาวบ้านยังเล่าให้ฟังอีกว่า วันนี้ลุงคนดังกล่าว ก็ได้ทำการทุบตีสุนัขที่เหลืออยู่อีก 2 ตัว จนต้องหนีเข้าไปหลบอยู่ในท่อระบายน้ำ แล้วลุงจึงไปนำดินมากลบปิดท่อทั้งสองฝั่งหวังให้ตายทั้งเป็น แต่มีพลเมืองดีมาพบเข้า จึงแจ้งไปยังกลุ่มรักสัตว์และประสานงานกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง ให้มาช่วยเหลือ,สอบถาม นายสัตวแพทย์ธรรมชาติ อัษเรศ ทราบว่า สุนัขทั้ง 2 ตัว มีอายุประมาณ 5 เดือน และยังเป็นลูกสุนัขอยู่ สำหรับสุนัขตัวสีขาว ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากการโดนตีอย่างแรงที่บริเวณขาหลังด้านซ้าย จนทำให้ขาพิการไปตลอดชีวิต แต่ส่วนสุนัขตัวสีดำ ไม่มีอาการบาดเจ็บจากบริเวณภายนอก แต่ยังมีอาการป่วยเล็กน้อย ทางสัตวแพทย์จึงได้เข้าทำการรักษาเบื้องต้น โดยการฉีดยาฆ่าเชื้อ และยาแก้ปวด พร้อมกับวัคซีนให้เป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นจะนำส่งตัวสุนัขทั้ง 2 ตัวเข้าบำบัดที่สถานพักพิงสุนัขจรจัดของเทศบาลนครตรังต่อไป.
กลุ่มคนรักสัตว์ จ.ตรัง พร้อม จนท.กู้ภัย เข้าช่วย 2 ลูกสุนัขถูกตีจนเจ็บ ก่อนหนีไปหลบอยู่ในท่อ ยังไม่พ้น คนใจร้ายนำดินปิดทางเข้าออก หวังฝังทั้งเป็น นำส่งสัตวแพทย์รักษา พบมีสุนัขถูกวางยาเบื่อมาแล้วนับสิบตัว
ข่าว,ทั่วไทย
ทารุณสัตว์,ทำร้ายสุนัข,ตีสุนัข,วางยาเบื่อ,ช่วยเหลือสุนัข,ทับเที่ยง,ตรัง,ท่อระบายน้ำ,help dog and cat Trang,กลุ่มคนรักสัตว์,ข่าว,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/479706
มท.ไฟเขียว อปท.ใช้จ่ายเงินสะสม แก้ความเดือดร้อน-กระตุ้นเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2562 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยกำหนดมาตรการหลายมาตรการ เช่น การใช้จ่ายภาครัฐโดยเฉพาะงบลงทุนเศรษฐกิจฐานรากด้านการเกษตร การท่องเที่ยว การลงทุน และได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ส่งเสริมสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ใช้จ่ายเงินสะสม เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยเห็นว่า เพื่อให้ อปท.สามารถนำเงินสะสมมาใช้ในการพัฒนาท้องถิ่น และใช้ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้ตามอำนาจหน้าที่ได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ จึงได้อนุมัติยกเว้นการใช้จ่ายเงินสะสมของ อปท. และเพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล,สำหรับแนวทางการใช้จ่ายเงินสะสมนั้น กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ต้องตรวจสอบยอดเงินสะสมที่นำไปใช้ได้ ณ ปัจจุบัน โดยหักเงินสะสมส่งสมทบกองทุนส่งเสริมกิจการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละประเภท แล้วนำไปหักรายการเงินสะสมที่ได้รับอนุมัติแล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินการหรือยังไม่ได้เบิกจ่าย เพื่อพิสูจน์ยอดเงินสะสมคงเหลือ ณ ปัจจุบันที่สามารถนำไปใช้ได้ และก่อนจะนำเงินสะสมไปใช้ ก็ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกันเงินสำรองเป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน และค่าใช้จ่ายกรณีที่มีสาธารณภัยเกิดขึ้นตามความจำเป็น โดยให้คำนึงถึงสถานะทางการเงินการคลัง โดยโครงการหรือกิจการที่จะดำเนินการต้องอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ อปท.โดยการบริการชุมชนและสังคม กิจการที่เป็นการเพิ่มพูนรายได้ของ อปท.หรือกิจการที่จัดทำขึ้นเพื่อบำบัดความเดือดร้อนของประชาชน และเป็นไปตามแผนพัฒนาของ อปท.เพื่อให้ อปท.นำเงินสะสมไปใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยให้ความสำคัญกับโครงการต่างๆ ใน 5 ด้าน ประกอบด้วย 1. ด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โครงการก่อสร้าง ปรับปรุง ซ่อมแซมสร้างทางคมนาคม การจราจร ระบบส่งน้ำเพื่อการเกษตร ระบบประปา โครงการขุดลอกคูคลอง กำจัดวัชพืชและก่อสร้างฝาย ฯลฯ 2. ด้านการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เช่น โครงการส่งเสริมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน, โครงการจัดตั้ง/ส่งเสริมกลุ่มอาชีพในชุมชน กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ด้อยโอกาส /ยากจน /พิการ 3. ด้านเศรษฐกิจและสังคม เช่น โครงการฝึกอาชีพให้กับเด็กและเยาวชนที่ไม่ได้ศึกษาต่อ หรือประชาชนที่ว่างงาน เพื่อให้มีทักษะในการประกอบอาชีพ 4. ด้านส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบวิถีชุมชน, โครงการมัคคุเทศก์ท่องเที่ยววิถีชุมชน และ 5. ด้านการศึกษา เช่น โครงการปรับปรุงอาคารสถานศึกษา, โครงการก่อสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา และโครงการจัดให้มีสถานที่อ่านหนังสือประจำหมู่บ้าน,อธิบดี สถ. กล่าวต่อว่า การใช้จ่ายเงินสะสมเพื่อดำเนินโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน การกีฬา หรือการจัดหาวัสดุอุปกรณ์เพื่อการศึกษานั้น ก็ขอความร่วมมือ อปท.ได้ช่วยให้ความสำคัญกับการใช้ยางพาราเป็นส่วนประกอบตามนโยบายรัฐบาล และการทำโครงการที่ต้องใช้แรงงาน ให้เน้นการใช้แรงงานในท้องถิ่น เว้นแต่ไม่มีแรงงานในท้องถิ่น ก็อาจพิจารณาใช้แรงงานนอกเขตพื้นที่ได้ตามความเหมาะสมและขอให้ อปท. ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาท้องถิ่น ในด้านต่างๆ เพื่อเน้นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ตามแนวนโยบายของรัฐบาล โดยนำเงินสะสม ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศต่อไปด้วย
มท. อนุมัติ อปท.ใช้จ่ายเงินสะสม มุ่งแก้ไขความเดือดร้อนประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจ สนับสนุนตามนโยบาย รบ.
ข่าว,ทั่วไทย
สุทธิพงษ์ จุลเจริญ,กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น,กระตุ้นเศรษฐกิจ,เงินสะสม,กระทรวงมหาดไทย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1650398
5 แกนนำพันธมิตรฯ พ้นคุก ไผ่ ดาวดิน ด้วย
อภัยโทษลอตแรก-สนธิลดวัน,เรือนจำปล่อยตัว 5 อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ไผ่ ดาวดิน นัก เคลื่อนไหวทางการเมืองและผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษทั่วประเทศเป็นวันแรก เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ผู้ต้องราชทัณฑ์ทุกคนและญาติล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์เผย ผู้ได้รับอภัยโทษปล่อยตัวมีประมาณ 5 หมื่นคน และลดโทษอีกจำนวนมาก ด้าน สุริยะใส บอก อยู่ในคุกได้พูดคุยกับคนเสื้อแดงแกนนำทุกคนยุติบทบาทไปแล้ว ส่วน สนธิ ได้รับพระราชทานลดวันต้องโทษ เนื่องจากกระทำความผิดในคดีอื่น,กรมราชทัณฑ์ปล่อยตัวผู้ต้องขังได้รับ,พระราชทานอภัยโทษ,เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เปิดเผยขึ้น ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 10 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้สนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กว่า 100 คน รวมทั้งแกนนำ พธม.รุ่น 2 ต่างทยอยเดินทางมาบริเวณหน้าเรือนจำตั้งแต่เช้าเพื่อรอรับอดีตแกนนำ พธม. ได้แก่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อายุ 83 ปี นายพิภพ ธงไชย อายุ 72 ปี นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อายุ 68 ปี นายสมศักดิ์ โกศัยสุข อายุ 72 ปี และนายสุริยะใส กตะศิลา อายุ 45 ปี ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวออกจากเรือนจำ กระทั่งเวลา 08.30 น. ที่ห้องรับรองชั้น 2 เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานพิธีบรรพชาสามเณรหมู่ให้แก่ผู้ต้องขังได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว 20 คน ที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเข้าบรรพชาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยมีนายกฤช กระแสร์-ทิพย์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเจ้าหน้าที่เรือนจำร่วมพิธี,พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวว่า พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศที่มีความประพฤติดี ให้ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษและปล่อยตัว เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับตัวเป็นพลเมืองดีอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป ตามพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2562 ถือว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ อีกทั้งเป็นโอกาสอันสำคัญที่เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ นำผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ รวมถึงครอบครัวญาติพี่น้องของผู้ต้องราชทัณฑ์ ร่วมถวายความจงรักภักดีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้,การบรรพชาสามเณรหมู่ให้แก่ผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษรวม 20 คน ล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุขมีญาติพี่น้องมารอรับ สำหรับการปล่อยตัวของทุกเรือนจำจะมีการตั้งโต๊ะหมู่บูชา พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ผู้ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ญาติมิตรร่วมถวายสักการะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ตลอดจนจะตั้งใจทำความดีสนองคุณพระองค์ท่านและแผ่นดิน พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าว,อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวด้วยว่า การพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้ คาดว่ามีผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวประมาณ 3-5 หมื่นคน รวมทั้งได้รับการ ลดโทษอีกจำนวนมาก กรมราชทัณฑ์ได้เตรียมความพร้อมก่อนปล่อย ได้แก่ การให้การศึกษา พัฒนาจิตใจและส่งเสริมศีลธรรมจรรยาด้วยหลักสูตรสัคคสาสมาธิ ของหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร และการฝึกอบรมวิชาชีพในหลักสูตรระยะสั้น เพื่อเตรียมตัวกลับสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพ หลังจากพ้นโทษยังเตรียมแผนรองรับการช่วยเหลือผู้พ้นโทษบูรณาการเครือข่ายภาครัฐและสังคม ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดตามดูแลช่วยเหลือไม่ให้กลับไปกระทำผิดซ้ำอีก กระบวนการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัวจะทำให้ผู้พ้นโทษกลับสู่สังคมอย่างปกติสุข หวังว่าสังคมจะให้โอกาสผู้พ้นโทษเข้าทำงานให้กำลังใจ เปิดใจยอมรับผู้ก้าวพลาดได้กลับตัวเป็นคนดีของสังคม เพื่อไม่ให้เขาหวนไปทำผิดซ้ำอีก,มีรายงานว่า นักโทษในเรือนจำกลุ่มลาดยาวที่ได้รับอภัยโทษรอบแรกในวันที่ 10 พ.ค. มีจำนวน 670 คน ประกอบด้วย เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 238 คน ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 72 คน ทัณฑสถานหญิงกลาง 218 คน เรือนจำกลางคลองเปรม 40 คน และทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง 102 คน,ต่อมาเวลา 09.30 น. อดีตแกนนำ กปปส. ทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสุริยะใส กตะศิลา เดินออกมาจากประตูเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พร้อมกับผู้ต้องขังอื่นๆ จากนั้นก้มกราบพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10,ด้านนายสมเกียรติกล่าวว่า ในฐานะพสกนิกรของพระองค์ท่าน ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง เป็นเรื่องน่ายินดี ตนได้ศึกษาพระราชกฤษฎีกา ครั้งนี้ ทราบว่ามีความพิเศษ คือ 1.ก่อนจะปล่อยนักโทษออกจากเรือนจำ กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงกลาโหม มีการจัดอบรมหลักสูตร 5 วัน เตรียมการก่อนปล่อยตัว 2.มาตรา 17 ของพระราช กฤษฎีกามี 7 หน่วย ได้แก่ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงกลาโหม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความ มั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาดูแลช่วยเหลือไม่ให้นักโทษไปกระทำผิดซ้ำอีก เป็นพระราชปณิธานของพระองค์ที่ต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข ให้คนเป็นคนดี,ขณะที่นายสมศักดิ์กล่าวว่า ถือว่าได้ทำหน้าที่ในฐานะปวงชนชาวไทยในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ เมื่อศาลมีคำตัดสินพวกตนก็เคารพ ไม่ได้หลบหนี เมื่อออกจากเรือนจำแล้วจะทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติต่อไป โดยจะตรวจสอบเรื่อง การทุจริตและความเหลื่อมล้ำในสังคม ส่วนนายสนธิ ลิ้มทองกุล พวกตนไม่ได้พบที่เรือนจำ เจอกันที่ใต้ถุน ของศาล ทราบว่าสบายดี แต่ก็มีปัญหาเรื่องสุขภาพ,ด้านนายสุริยะใสกล่าวว่า จากนี้ไปถือเป็นบทเรียนชีวิต ติดคุกไป 87 วัน ได้คิดทบทวน ยืนยันว่าไม่เปลี่ยนแนวทาง พร้อมพิสูจน์ความสุจริตในกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าคำตัดสินศาลจะเป็นอย่างไร การหนีคดี การวิจารณ์ศาลไม่ทำให้ชาติบ้านเมืองดีขึ้น ก็จะสู้คดีต่อไป ขอขอบคุณทางเรือนจำ ตนไม่อยากให้มองนักโทษว่าเป็นขยะ เป็นคนเลวต้องปรับทัศนคติตรงนี้ ขอเรียกร้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเพื่อช่วยให้เกิดความสงบสุข ในเรือนจำตนได้พบคนเสื้อแดงนั่งคุยกันทั้งเรื่องการเมือง ชีวิต เห็นอกเห็นใจกัน สรุปบทเรียนของใครของมันแกนนำก็วิจารณ์ความผิดพลาดของตัวเอง ได้วิจารณ์ตัวเอง แต่ละคนก็คงจะเขียนหนังสือบอกเล่าเรื่องราวในเรือนจำตามความถนัดของใครของมัน ส่วนการเคลื่อนไหวของพวกตนนั้น ขอเรียนว่า แกนนำได้ยุติ บทบาทไปแล้ว ที่ผ่านมาติดคุกก็ไม่ได้อ่านข่าว ตอนนี้ ยังไม่มีการเคลื่อนไหวและต้องมาพูดคุยกันอีกที,ส่วนนายพิภพกล่าวว่า อยากให้มีการทบทวนกระบวนการยุติธรรม ไม่ให้ส่งคนเข้าคุกอย่างเดียว ต้องมีระบบใหม่ อยากให้คณะนิติศาสตร์ทั่วประเทศไม่ให้สอนกฎหมายแบบท่องจำ ต้องวิจัยหาวิธีการให้คนเข้าคุกน้อยที่สุด รวมถึงมหาวิทยาลัยทั่วประเทศควรมีวิชาคุกศึกษาเพื่อให้รู้ว่าคุกนั้นจริงๆเป็นอย่างไร,ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เวลา 10.50 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำ พธม. ได้รับการอภัยโทษปล่อยตัวพร้อมกับผู้ต้องขังรายอื่น พล.ต.จำลองกล่าวว่า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องขัง,มีรายงานว่า อดีตแกนนำ พธม.ทั้ง 5 คนได้รับการปล่อยตัว ยกเว้นนายสนธิ ลิ้มทองกุล เนื่องจากกระทำความผิดในคดีอื่นที่เป็นคดีแนบท้าย พระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ จึงได้รับการพระราชทานลดวันต้องโทษตามสัดส่วน,ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น จ.ขอนแก่น เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานในพิธีปล่อยตัว ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ รวม 100 คน โดยมีนายจตุรภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้ต้องขังต้องโทษตามความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ได้รับการอภัยโทษรวมอยู่ ด้วย ไผ่ ดาวดิน โผเข้ากอดพ่อและแม่ กล่าวว่า รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานอภัยโทษ ส่วนการ ร่วมกิจกรรมเรียกร้องประชาธิปไตย กิจกรรมทางการเมือง หรือทางด้านมนุษยชน คงต้องทำต่อไป แต่ช่วงนี้ยังไม่ได้วางแผน ขอใช้อิสรภาพอยู่กับครอบครัวก่อน,มีรายงานด้วยว่า องค์กรแอมเนสตี อินเตอร์–เนชั่นแนล ในประเทศไทย ออกแถลงการณ์ร่วมแสดงความยินดี กรณีนายจตุรภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน นักกิจกรรม นักศึกษา และนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ถูกปล่อยตัว หลังได้รับพระราชทานอภัยโทษโดยเร็วกว่ากำหนดการเดิม ถึง 2 เดือน หลังจากที่ถูกคุมขังเป็นเวลากว่า 2 ปีครึ่ง
เรือนจำปล่อยตัว 5 อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ไผ่ ดาวดิน นัก เคลื่อนไหวทางการเมืองและผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ
ข่าว,ทั่วไทย
อภัยโทษ,เรือนจำ,กลุ่มพันธมิตร,เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร,แกนนำพันธมิตร,เรือนจำกรุงเทพ,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1565200
ชายชราป่วยหนัก ร้องภาค 5 ช่วย โดนลูกน้องอดีตผู้พันคนดังข่มขู่ฮุบที่ดิน
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 6 ส.ค.61 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีนายแก้ว มูลตา อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 หมู่ 8 ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ นางสาวธนพร ศิริบานเย็น ทนายความ พร้อมด้วยครอบครัวนายแก้ว ได้เดินทางมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม กรณีถูกกลุ่มคนอ้างเป็นกลุ่มมือปืนชื่อดัง ข่มขู่ให้ออกจากพื้นที่ โดยมี พ.ต.ต.ทวี ชัยคำหล้า สว.ฝอ.1 บก.อก.ภ.5 มารับเรื่องราวร้องทุกข์,นายแก้ว มูลตา ป่วยเป็นมะเร็งจนเดินไม่ได้ เป็นเจ้าของที่ดิน เปิดเผยว่า แรกเริ่มเมื่อปี 2559 ตนมีที่ดิน ที่มีใบครอบครองสิทธิ์การใช้ที่ดินจากกรมป่าไม้เนื้อที่กว่า 30 ไร่ ที่บ้านโหล่งขอด หมู่ 8 อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่งที่ดินของตนมีที่ดินที่ติดลำน้ำยาวกว่า 15 ไร่ ต่อมาได้มีนายเฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรืออดีตผู้พันตึ๋ง พร้อมลูกน้องกว่า 10 คนได้มาเชิญตนจากที่บ้านไปข้างนอก แล้วให้เซ็นเอกสารแบ่งปันที่ดินใช้ประโยชน์ จำนวน 15 ไร่ที่ติดลำน้ำให้ ซึ่งตนก็เซ็นให้เพราะกลัว จากนั้นตนก็ปลูกข้าวโพด ปลูกถั่ว พร้อมกับลูกชาย และภรรยา ทำมาหากินกันต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น,จนเมื่อไม่นานมานี้ ก็มีกลุ่มคนอ้างว่า เป็นมือปืนติดลำดับของประเทศไทยหลายคนมาข่มขู่ เชิงให้ตนเองกับครอบครัวออกจากที่ดินที่ใช้ทำกินผืนนี้มานานกว่า 40 ปี ให้ย้ายออกไปพร้อมปักป้ายห้ามบุกรุก ตนเองก็งงมาก และไปร้องเรียนที่ตำรวจ แต่ตำรวจพื้นที่ก็รู้จักกับกลุ่มคนเหล่านี้ เลยไม่ได้รับความเป็นธรรม จนต้องร้องขอทนาย และยื่นเรื่องต่อกระทรวงยุติธรรมเพราะเกรงจะถูกฮุบที่ดิน ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของศาล แต่วันนี้ก็มาร้องเรียนเพราะยังมีกลุ่มคนแวะเวียนมาข่มขู่อยู่เรื่อยไป ตนเองและครอบครัวก็เกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต จึงเข้าร้องเรียน,พ.ต.ต.ทวี ชัยคำหล้า สว.ฝอ.1 บก.อก.ภ.5 กล่าวว่า เบื้องต้นได้แนะนำให้ครอบครัวนี้ไปแจ้งความที่ สภ.โหล่งขอด ในข้อหา ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และหากจะไปแจ้งทางกองปราบปราม เพื่อดำเนินการสืบสวนหาผู้กระทำผิด ก็สามารถทำได้ ส่วนทางภาค 5 ก็จะติดตามเรื่องราว และกำชับให้พื้นที่เข้าไปตรวจสอบหากพบกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมข่มขู่ก็จะดำเนินการทางกฎหมายทันที.
ชายชราป่วยหนักที่เชียงใหม่ ร้องขอความเป็นธรรม อ้าง อดีตผู้พันคนดังส่งกลุ่มมือปืนดังมาข่มขู่ฮุบที่ดินทำกิน จนทำให้หวาดผวา ต้องเข้าร้องทุกข์กับตำรวจภูธรภาค 5 ช่วยเหลือ
ข่าว,ทั่วไทย
ผู้พันตึ๋ง,ข่มขู่ชาวบ้าน,เชียงใหม่,ฮุบที่ดิน,ตำรวจภูธรภาค5,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1349309
เศร้า 2 นักปีนเขาอินเดีย สังเวยชีวิต ขณะพิชิตยอดเขากันเจนชุงคา
เมื่อ 16 พ.ค.62 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน เกิดเหตุสลดกับนักปีนเขาชาวอินเดีย 2 คนต้องมาจบชีวิต ที่บริเวณใกล้ยอดเขากันเจนชุงคา ด้วยอาการโรคจากขึ้นที่สูง (altitude sickness) ระหว่างการมาพิชิตยอดเขาสูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกแห่งนี้ ในเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งอยู่บริเวณพรมแดนอินเดียกับเนปาล,รอยเตอร์แจ้งว่า นักปีนเขาชาวอินเดียทั้ง 2 รายที่เสียชีวิตนี้ ชื่อว่า นายบิพลาบ ไบดยา อายุ 48 ปี และนายคุนตัล คันราร อายุ 46 ปี เสียชีวิตอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 8,000 เมตรของบนเขากันเจนชุงคา,อ่านข่าว>,สลด น้ำแข็งบนยอดเอเวอเรสต์ละลาย พบร่างนักปีนเขา แล้วเกือบ 300 ศพ,ด้านบริษัท Peak Promotion ซึ่งเป็นบริษัทประกอบการด้านการปีนเขา ระบุว่า นายไบดยา ได้เสียชีวิต ขณะที่เขาลงมาจากยอดเขา หลังจากสามารถพิชิตยอดเขากันเจนชุงคาสำเร็จเมื่อวันพุธที่ 15 พ.ค. ส่วนนายคันราร เสียชีวิตระหว่างกำลังพยายามปีนไปให้ถึงยอดเขา ทว่านักปีนเขาทั้งสองซึ่งมาจากเมืองโกลกัตตา ทางภาคตะวันออกของอินเดีย ต้องเสียชีวิตจากอาการโรคจากขึ้นที่สูงอย่างน่าสะเทือนใจทั้งคู่,ทั้งนี้ ยอดเขากันเจนชุงคา ในเทือกเขาหิมาลัย มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล กว่า 8,586 เมตร เป็นยอดเขาสูงอันดับ 3 ของโลก รองจากอันดับ 1 ,ยอดเขาเอเวอเรสต์,และยอดเขาเคทู โดยยอดเขากันเจนชุงคา อยู่ในเทือกเขาหิมาลัย บริเวณพรมแดนประเทศอินเดียกับเนปาล
2 นักปีนเขาชาวอินเดีย เสียชีวิตสลด ขณะมาพิชิตยอดเขากันเจนชุงคา ที่เนปาล ด้วยอาการโรคจากขึ้นที่สูงเหมือนกัน เพียงแต่คนหนึ่งพิชิตยอดเขาสำเร็จแล้ว ส่วนอีกคนใกล้จะถึงยอดเขา
ข่าว,ต่างประเทศ
นักปีนเขาอินเดียเสียชีวิต,นักปีนเขาอินเดียตาย,ยอดเขากันเจนชุงคา,เทือกเขาหิมาลัย,โรคจากขึ้นที่สูง
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1568950
พระกระยาหารที่เรียบง่ายของพระราชา เรื่องเล่าจากอดีตหัวหน้าห้องเครื่อง
การจัดอาหารขึ้นโต๊ะเสวย ในฐานอดีตหัวหน้าห้องเครื่องอาหารฝรั่ง ประจำพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นหน้าที่กว่า 40 ปี ของนายชุมพล มัจฉา อายุ 65 ปี อดีตหัวหน้าฝ่ายห้องเครื่อง กองมหาดเล็ก พระตำหนักจิตรลดานายชุมพลสืบสารการเป็นหัวหน้าห้องเครื่องสมัย สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์แม้ขณะนี้เกษียณอายุราชการแล้วแต่นายชุมพล เล่าเรื่องราวในอดีตที่รับใช้เบื้องพระยุคลบาทว่า พระกระยาหาร ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นไปด้วยความเรียบง่าย ประชาชนทานอย่างไร เครื่องเสวยของพระองค์ก็ไม่ต่างกัน พระองค์ไม่ทรงโปรดอาหารใดพิเศษ และจะเสวยตามที่เจ้าหน้าที่ประกอบเครื่องเสวยถวาย แต่ที่เสวยได้มากเป็นพิเศษ จะเป็นจำพวกผักน้ำพริก อาหารอ่อนแบบฝรั่ง เช่นซุปข้น และเมนูปลาต่างๆ ที่จะเสวยได้ง่ายหลังจากเกษียณ อดีตหัวหน้าฝ่ายห้องเครื่อง กลับมาใช้ชีวิตตามแนวพระราชดำริ ที่พระองค์ สอนไว้ กับมารดา ที่บ้าน ต.ท่าระหัด อ. เมือง จ. สุพรรณบุรี ริมแม่น้ำท่าจีนโดยยึดหลัก ใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ต้องใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย เพราะผักผลไม้สามารถปลูกได้เอง และเก็บเกี่ยวมาทานได้ในแต่ละมื้อ
อดีตฝ่ายหัวหน้าห้องเครื่อง กองมหาดเล็ก พระตำหนักจิตรลดา เล่าเรื่องราวพระกระยาหาร ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เป็นไปตามหลักความเรียบง่าย
สังคม
พระกระยาหาร,ในหลวง,สวรรคต,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ข่าวไทยพีบีเอส,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ,แสงจากพ่อ
https://news.thaipbs.or.th/content/256897
เงินเดือนเท่าไรถึงจะพอใช้ในเมืองกรุง? หนทางเอาตัวรอดที่มนุษย์เงินเดือนควรอ่าน
เคยรู้สึกไหม เมื่อสิ้นเดือนมาถึงเมื่อไร หัวใจมันมักจะเหี่ยวเฉาตามเงินในกระเป๋าสตางค์ที่ร่อยหรอ ยิ่งได้ยินข่าวว่าเงินเดือนจะออกช้ากว่าปกติ ยิ่งรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก เคยไหมที่ก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ดีๆ พอจะเดินไปกดเงินที่เอทีเอ็ม กลับพบตัวเลขในบัญชีที่ไม่ถึงหลักร้อย ทั้งๆ ที่ตอนนั้นกำลังหิวจนไส้กิ่ว ยังมีอีกหลากหลายสถานการณ์ที่มนุษย์เงินเดือนต้องพบเจอเมื่อเกิดอาการ ชักหน้าไม่ถึงหลัง ก่อนเงินเดือนจะออกอีกครั้ง นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมคำถามเกี่ยวกับเงินเดือนในกระทู้พันทิปจึงมีมากมายจนตามอ่านแทบไม่ไหว แถมเมื่อมีคำถามเกิดขึ้นเมื่อไร ความคิดเห็นมากมายจะหลั่งไหลเข้ามาทุกครั้งไป ในฐานะมนุษย์เงินเดือนเช่นเดียวกับคนในเมืองกรุงอีกนับล้าน THE STANDARD จะมาไขคำตอบว่า ทำไมมนุษย์เงินเดือนหลายคนจึงมีเงินไม่พอใช้ แล้วจะทำอย่างไรให้เดือนหน้าดีกว่าเดือนที่ผ่านมา นี่อาจเป็นทางรอดเดียวที่เหลืออยู่ก่อนเงินเดือนเดือนถัดไปจะมาถึงคนกรุงหมดเงินไปกับค่าอะไรบ้างในแต่ละเดือน ก่อนจะตอบคำถามว่ามนุษย์เงินเดือนในกรุงเทพฯ ต้องมีเงินเดือนเท่าไรจึงจะมีชีวิตรอดในแต่ละเดือน เรามาดูกันก่อนว่าในแต่ละเดือน ชาวกรุงเทพฯ ใช้จ่ายเงินไปกับค่าอะไรบ้าง จากผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในหัวข้อภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน ปี 2559 พบว่า ครัวเรือนทั่วประเทศมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 21144 บาท โดยค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ 36.1% เป็นค่าอาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบ รองลงมาคือค่าที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ภายในบ้าน 19.7% ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเดินทางและยานพาหนะ 17.4% ค่าของใช้ส่วนตัว เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า 5.2% ค่าใช้จ่ายด้านการสื่อสาร 3.4% การศึกษา 1.7% ค่ายาและค่ารักษาพยาบาล 1.4% ความบันเทิงและการจัดงานพิธี 1.2% และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกิจกรรมทางศาสนา 1% เมื่อเจาะจงตัวเลขค่าใช้จ่ายเฉพาะของคนที่อาศัยในกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ พบว่าคนในเมืองหลวงมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 32091 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่คนมีค่าใช้จ่ายมากที่สุด เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ ด้าน YouGov บริษัทสำรวจและวิจัยทางอินเทอร์เน็ต ได้จัดทำการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในปี 2558 ในนามของ Visa ผู้ให้บริการด้านเครือข่ายและการชำระเงินเผยข้อมูลว่า คนไทยมีค่าใช้จ่ายปริศนา หรือค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถระบุได้ว่าใช้ไปกับสิ่งใดสูงถึง 72% ของรายจ่ายทั้งหมด ซึ่งจากการสำรวจยังพบว่า คนไทยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อสัปดาห์อยู่ที่ 1588 บาท นั่นหมายความว่าค่าใช้จ่ายปริศนาที่ระบุไม่ได้ว่าจ่ายไปกับอะไรจะอยู่ที่ประมาณ 1143 บาท ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าค่าใช้ดังกล่าวน่าจะมาจากค่าอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค ค่าขนมขบเคี้ยว หรือการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย เช่นเดียวกับ K-Expert ที่เคยทำการสำรวจค่าใช้จ่ายตามจริงของคนทำงานก่อนวัยเกษียณอายุระหว่าง 40-59 ปี ที่อาศัยในกรุงเทพฯ พบตัวเลขที่น่าสนใจว่า กลุ่มคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวจะใช้จ่ายเงินไปกับค่ากินอยู่และค่าเสื้อผ้าประมาณ 6783.5 บาท หรือคิดเป็น 27.6% ของรายจ่ายทั้งหมด ค่าใช้จ่ายเพื่อการอยู่อาศัย 9159 บาท คิดเป็น 37.% ค่าใช้จ่ายเพื่อการพักผ่อนและความบันเทิง 3600 บาท คิดเป็น 14.7% ค่าใช้จ่ายเพื่อสุขภาพ 3294.833 บาท คิดเป็น 13.4% และค่าใช้จ่ายเพื่อการเดินทางอีก 1732 บาท คิดเป็น 7% รวมแต่ละเดือนจะใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 24569.33 บาท ส่วนคนที่มีรถยนต์ส่วนตัวจะมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่มขึ้นเป็น 11800.167 บาท คิดเป็นสัดส่วน 34.1% ของรายจ่ายทั้งหมด และเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงที่สุดทันที40-30-10-10-5-5 สูตรลับบริหารเงินของผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากผลสำรวจของ K-Expert เมื่อ 3 ปีที่แล้วที่เจาะกลุ่มคนวัยก่อนเกษียณ อายุระหว่าง 40-59 ปี ที่หากคาดคะเนดู พวกเขาน่าจะผ่านการทำงานมาหลายปี และมีรายได้มากพอที่จะอยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ได้อย่างสบายๆ แม้จะไม่สามารถใช้สะท้อนค่าใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ได้ทั้งหมด แต่ผลลัพธ์นี้กลับเป็นประโยชน์อย่างมากต่อมนุษย์เงินเดือนวัยอื่นๆ วีระพล บดีรัฐ รองผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ได้นำผลลัพธ์ดังกล่าวมาถอดรหัสจนกลายเป็นสูตรลับบริหารการเงินสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานใหม่ โดยจัดสรรค่าใช้จ่ายต่างๆ ออกเป็น 5 กลุ่ม และกำหนดสัดส่วนโควตาที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนสามารถนำไปปรับใช้กับตัวเองได้ง่ายๆ ดังนี้ ค่าอาหาร และค่าเสื้อผ้า 30% ค่าใช้จ่ายเพื่อการอยู่อาศัย 40% ค่าใช้จ่ายเพื่อการพักผ่อนและความบันเทิง 5% ค่าใช้จ่ายเพื่อสุขภาพ 5% ค่าเดินทาง 10% เก็บออม 10% นั่นหมายความว่า หากเด็กจบใหม่ที่ได้เงินเดือนเดือนแรกอยู่ที่ 15000 บาท พวกเขาจะสามารถใช้จ่ายเป็นค่าอาหารและค่าเสื้อผ้าได้ไม่เกิน 4500 บาทต่อเดือน จ่ายค่าเช่าห้อง รวมน้ำ ไฟ ค่าโทรศัพท์ และของใช้ภายในบ้านได้ไม่เกิน 6000 บาทต่อเดือน สามารถกินข้าวนอกบ้าน ดูหนัง แฮงเอาต์กับเพื่อนฝูงได้ไม่เกิน 750 บาทต่อเดือน หากเจ็บป่วย ต้องการซื้อยา หรือหาหมอก็ต้องไม่เกิน 750 บาทต่อเดือน หมดเงินกับค่ารถในการเดินทางไปทำงานได้ไม่เกิน 1500 บาทต่อเดือน และที่เหลือควรเก็บออมไว้ใช้ยามฉุกเฉิน วีระพลให้ความเห็นว่า เอาเข้าจริงคงตอบไม่ได้ชัดๆ ว่าเงินเดือนเท่าไรถึงจะพอใช้ในกรุงเทพฯ แต่ถ้ามองเป็นเปอร์เซ็นต์แบบนี้ก็น่าจะเริ่มตอบตัวเองได้ว่าควรจะใช้เงินที่มีอยู่จำกัดอย่างไร หากคิดว่าแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ตามที่ให้ไว้แล้วไม่พอใช้แน่ๆ เมื่อเทียบกับรายได้ที่จะได้รับ การอยู่อาศัยในกรุงเทพฯ อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับคนเพิ่งเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ แต่ควรสั่งสมประสบการณ์จากเมืองรอบนอก ก่อนจะขยับเข้ามาในเมืองเมื่อมีประสบการณ์ และมีคนพร้อมจะจ่ายเงินเดือนให้เรามากขึ้น เรากำลังคุยกันแบบนักวางแผนการเงินที่ไม่ได้ปล่อยให้ความอยากมันดูดเงินเราไปเรื่อยๆ เพราะในชีวิตจริง คนเมืองหรือคนทำงานที่มีรายได้ประจำจะมีความสะดวกในการใช้เงินมากกว่าคนที่เป็นฟรีแลนซ์หรือเจ้าของกิจการ หลายคนมีบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล แปลว่าถ้าอยากเที่ยวต่างประเทศในงบ 50000 บาท ก็สามารถเที่ยวได้ในวันนี้เลย ทั้งๆ ที่ยังมีเงินเดือนแค่ 15000-20000 บาท แล้วค่อยมาผ่อนใช้คืนทีหลัง ฉะนั้นลองจินตนาการดูว่า ถ้ากันเงินไว้ใช้ตามสัดส่วนที่บอกแล้วยังต้องจ่ายค่าบัตรเครดิตอีกเดือนละ 4-5 พัน มันจะเกิดอะไรขึ้น เพราะฉะนั้นกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย ยังบริหารจัดการเงินได้ไม่ดี สินเชื่อเพื่อการบริโภคและบัตรเครดิตควรจะมีเอาไว้ใช้สำหรับรายการที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น เช่น เจ็บป่วยแล้วเงินสำรองไม่พอจริงๆ ถึงจะใช้ได้ ซึ่งสัดส่วนทั้งหมดของค่าใช้จ่ายนี้ยังไม่นับรวมการซื้อของฟุ่มเฟือย การเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่การไปท่องเที่ยวต่างประเทศหรือต่างจังหวัด ที่วีระพลแนะนำว่าสามารถใช้จ่ายกับสิ่งเหล่านี้ได้จากสัดส่วนเงินออม 10% ที่สำรองไว้ หรือสามารถออมเพิ่มได้โดยลดรายจ่ายด้านอื่นๆ ให้น้อยลงในเดือนนั้นๆ การอยู่ในกรุงเทพฯ โดยไม่วางแผนว่าเราควรใช้เงินเท่าไร อยู่ยังไงก็ไม่พอ แล้วสุดท้ายปัญหาที่ตามมาคือ พอแก่ตัวลงแล้วเราจะหยุดทำงานไม่ได้ เพราะไม่มีเงินสำหรับใช้ในวัยเกษียณ ต้องทำงานต่อแม้จะเลยวัย 60 ไปแล้ว เพราะฉะนั้นคนที่ออมเงินไม่พอ บริหารเงินไม่ดีในวันนี้ เมื่อแก่ตัวลงก็จะออกจากกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตสบายๆ ที่ต่างจังหวัดไม่ได้ เพราะต้องหางานทำต่อ ซึ่งมันเป็นวังวนที่น่ากลัว นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญจาก K-Expert ยังแนะนำว่า ไม่จำเป็นต้องเชื่อตามสูตรนี้ทั้งหมด เพราะหนทางการบริหารจัดการเงินที่ดีที่สุดคือการจดบันทึกค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วยตัวเอง จากนั้นค่อยนำมาถอดเป็นเปอร์เซ็นต์การใช้จ่ายที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด สิ่งสำคัญสำหรับคนที่อยากจะควบคุมการใช้จ่ายเงินของตัวเองคือการจด เมื่อจดแล้วจะตอบตัวเองได้ว่าเราควรวางแผนการใช้จ่ายของเราเองอย่างไร แต่ถ้าเริ่มต้นจากการมีรายได้เท่านี้ ต่อไปเงินเดือนขึ้น แล้วเราขยับคุณภาพชีวิตขึ้นมาโดยไม่ได้วางแผน แทนที่จะกินไม่ต่างจากเดิม กลับใช้ชีวิตหรูมากกว่าเดิม จากนั่งรถเมล์ พอเงินเดือนขึ้นนิดหน่อยก็ซื้อรถยนต์ แบบนี้อาจจะทำให้เราบริหารเงินผิดพลาด เพราะไม่เคยรู้ว่าตัวเองใช้จริงๆ เท่าไรค่าเดินทาง ภาระสูงลิ่วของมนุษย์เงินเดือนกรุงเทพฯ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานและกลับบ้านในแต่ละวันถือเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นที่มนุษย์เงินเดือนยากจะหลีกเลี่ยงได้ ยกเว้นมีที่พักใกล้ๆ กับที่ทำงานจนสามารถเดินหรือขี่จักรยานไปทำงานได้ ซึ่งถ้าให้เลือกตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปบ้าง ค่าเดินทางอาจเป็นตัวเลือกท้ายๆ ที่มนุษย์เงินเดือนจะนึกถึง ซึ่งจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า คนไทยใช้จ่ายเงินไปกับค่าเดินทางคิดเป็น 17.4% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่นั่นเป็นตัวเลขของคนทั่วประเทศ ซึ่งหากเจาะเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล เราอาจต้องจ่ายค่าเดินทางมากกว่าที่คิดไว้ อดิศักดิ์ กันทะเมืองลี้ นักผังเมืองและนักภูมิศาสตร์เมือง ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง หรือ UDDC ระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้วคนกรุงเทพฯ ใช้จ่ายไปกับค่าเดินทางประมาณ 20% ของรายได้ นั่นหมายความว่าถ้าเรามีเงิน 100 บาท จะต้องเสียค่าเดินทางประมาณ 20 บาทในแต่ละเดือน ซึ่งอาจจะจ่ายน้อยกว่านี้ได้ แต่ก็ต้องแลกมากับการใช้ระยะเวลาในการเดินทางที่ยาวนานขึ้น กลายเป็นค่าเสียโอกาสที่อาจจะมากกว่าตัวเลข 20% ที่ว่าด้วยซ้ำ ขณะที่ถ้าเทียบกับเมืองอื่นๆ ที่มีระบบขนส่งสาธารณะที่ดี มีการจัดสรรฟังก์ชันของเมืองอย่างลงตัว คนที่อยู่อาศัยในเมืองเหล่านั้นจะใช้จ่ายเงินกับการเดินทางเพียง 10% ของรายได้เท่านั้น ซึ่งเงินที่เหลือสามารถนำไปลงทุนหรือทำอย่างอื่นเพื่อให้ตัวเองมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ เมืองที่ดีควรจะรับผิดชอบค่าเดินทางให้กับประชากรที่อยู่ในเมือง ความจริงมันเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางของคนในพื้นที่เมือง แต่เราเคยชิน คิดว่าเป็นความจำเป็นที่เราต้องจ่าย ทั้งที่ในความเป็นจริงเราไม่จำเป็นต้องจ่ายเยอะขนาดนี้ถ้าเราอยู่ในเมืองที่ดี นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคนในชนบทที่เงินเดือนน้อยกว่าคนในเมืองถึงสามารถอยู่ได้แบบสบายๆ มีเงินเหลือเก็บมากกว่า แต่พอมาอยู่ในเมืองกลับมีภาวะเสี่ยงที่จะเป็นหนี้มากกว่า ดังนั้นในอนาคต เมืองขนาดใหญ่จะไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับเด็กจบใหม่ที่จะมาเป็นมนุษย์เงินเดือนอีกต่อไป โจทย์ของเด็กรุ่นใหม่อาจจะต้องหาทางเลือกในการอยู่อาศัยในเมืองอื่นๆ กันมากขึ้น เมืองที่สามารถเดินทางในระยะทางสั้นๆ ไม่แพง และไม่เสียเวลาขนาดนี้ อดิศักดิ์ให้ความเห็นว่า จริงๆ แล้วระบบขนส่งมวลชนหลักๆ ในกรุงเทพฯ ถือว่ามีแนวโน้มดีขึ้นจากการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายต่างๆ ให้ครอบคลุมมากขึ้น แต่สิ่งที่ยังขาดคือระบบ feeder ที่จะขนย้ายคนจากหน้าประตูบ้านไปสู่ระบบขนส่งมวลชนหลักๆ ซึ่งตัวเลือกที่ดีที่สุดตอนนี้กลับกลายเป็นวินมอเตอร์ไซค์ที่ต้องแลกมาด้วยราคาที่อาจจะสูงกว่าค่ารถไฟฟ้า ทั้งๆ ที่เดินทางในระยะทางที่สั้นกว่า ทางออกที่ดีที่สุดตอนนี้คือเราต้องปรับที่ตัวเอง โดยบริหารจัดการเวลาให้ลงตัวเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด เช่น อาจจะต้องตื่นเช้าขึ้น หรือเดินทางในเวลาที่ไม่ตรงกับคนอื่น เพราะระบบโครงสร้างของเราไม่เอื้อเท่าไร และดูจะมีจุดอ่อนเยอะเกินไป คนมักจะคิดว่าเวลาที่คุณทำงานในเมืองหรือในย่านเศรษฐกิจ แสดงว่าชีวิตคุณจะดี เพราะน่าจะได้เงินเดือนสูง แต่กลับไม่ได้โฟกัสกันในเรื่องรายจ่าย โดยเฉพาะค่าเดินทางที่ต้องเสียไปมากกว่าคนอื่น คุณภาพชีวิตก็แย่กว่า ต่อไปถ้าจะเลือกงาน คงเลือกที่เงินเดือนอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องเลือกสถานที่ทำงานให้สอดคล้องกับระดับรายได้ที่ได้รับจริงๆ ในแต่ละเดือนด้วย อดิศักดิ์ทิ้งท้ายจิตแข็ง ตั้งเป้าหมาย ลดรายจ่าย หารายได้เพิ่ม ทางรอดของมนุษย์เงินเดือนกรุงเทพฯ ในฐานะที่เคยให้คำปรึกษาด้านการเงินกับคนจำนวนมาก จักรพงษ์ เมษพันธุ์ หรือ The Money Coach แชร์ประสบการณ์ที่เคยพบเจอมาว่า รายได้ขั้นต่ำ 15000 บาทต่อเดือน ยังคงเป็นตัวเลขที่คนมากมายใช้ชีวิตอยู่ได้จริงในกรุงเทพฯ แต่มีข้อแม้ว่าคนที่จะอยู่รอดได้ด้วยเงิน 15000 บาทต้องไม่มีภาระก้อนใหญ่ๆ อย่างเช่น ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนบ้าน หรือไม่ต้องส่งเงินให้คนในครอบครัวที่ต่างจังหวัด ซึ่งหากมีภาระต่างๆ เหล่านี้เข้ามารบกวน การใช้จ่ายเงินของคนที่เริ่มต้นทำงานใหม่ก็จะเริ่มผิดเพี้ยนและหาทางแก้ลำบากในอนาคต เท่าที่ดู หนี้ตัวใหญ่ที่มักจะทำให้คนมีปัญหาเรื่องการเงินคือหนี้ 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือค่าผ่อนรถ และค่าผ่อนบ้าน บางทีเงินเดือน 20000 นิดๆ พอมีรถยนต์หรือซื้อบ้าน ก็ต้องผ่อนเกือบ 10000 บาทต่อเดือน ทำให้การใช้ชีวิตผิดเพี้ยนไปหมด แล้วมนุษย์เงินเดือนก็ไม่ได้เงินเต็มๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนกับที่เราคิดไว้ เช่น บอกว่าเงินเดือน 25000 บาท แต่ในความเป็นจริงจะต้องถูกหักค่าประกันสังคม ภาษี หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปอีก สุดท้ายเหลือประมาณ 23000 บาท ก็จะทำให้การกินอยู่ผิดเพี้ยนไปจากที่ตั้งไว้ พอมีรถก็ต้องเปลี่ยนที่พักให้มีที่จอดรถ จากเคยอยู่อพาร์ตเมนต์เดือนละ 3000 พอมีรถก็ต้องอยู่ในที่ที่แพงขึ้น ทำให้เกิดปัญหาทางการเงินตามมา ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้มนุษย์เงินเดือนสามารถใช้ชีวิตอยู่รอดได้ในเมืองกรุงคือต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่ง มีวินัยทางการเงิน และมีเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิต ผมเคยยกตัวอย่าง รปภ. คนหนึ่งที่อาศัยอยู่ที่ระยอง ซึ่งค่าครองชีพก็สูงไม่แพ้กรุงเทพฯ แต่เขาสามารถมีเงินเก็บเป็นล้าน แถมยังเอาไปลงทุนสร้างรายได้ให้ตัวเองเพิ่มขึ้นอีก สิ่งที่ผมสังเกตเห็นคือ คนที่ทำได้แบบนี้คือกลุ่มคนที่มีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน ซึ่งวินัยจะเกิดขึ้นมาได้ก็ต่อเมื่อเขารู้ว่าเขามาทำงานที่นี่ กินอยู่ใช้จ่ายเพื่ออะไร อย่าง รปภ. คนนี้ เป้าหมายของเขาคือต้องการจะอยู่ที่ระยองประมาณ 10-15 ปี เก็บหอมรอมริบเพื่อที่จะกลับบ้าน คนที่มีเป้าหมายทางการเงินชัดเจนจึงเป็นคนที่ไม่ได้ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ แต่รู้ว่าทำงานไปเพื่ออะไร และถ้าอยากได้สิ่งที่อยู่ปลายทาง เขาควรต้องทำอะไรบ้างเพื่อไปให้ถึง คนกลุ่มนี้จะมีวินัยทางการเงินที่สูงมาก แต่แค่เป้าหมายทางการเงินอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะภายใต้สภาพแวดล้อมและโฆษณาต่างๆ ที่ยั่วยุให้เราอยากจะใช้จ่ายอยู่ตลอดเวลา การจะควบคุมจิตใจไม่ให้ใช้จ่ายเพื่อตอบสนองความอยากอาจเป็นเรื่องยากเกินกว่าที่มนุษย์เงินเดือนจะต่อสู้อยู่เพียงลำพัง ดังนั้นต้องอาศัยเครื่องมือที่จะมาช่วยให้เป้าหมายในฝันเป็นไปได้จริงง่ายยิ่งขึ้น มนุษย์ชอบคิดว่าตัวเองมีเหตุมีผล ควบคุมตัวเองได้ แต่ความจริงแล้วเรามักจะมีปัญหาเรื่องการควบคุมตัวเอง ดังนั้นผมจึงมักจะแนะนำว่าอย่าเชื่อมือตัวเองมากนัก โดยเฉพาะเรื่องเงิน ถ้าเป็นไปได้ให้ตัดออมไปตั้งแต่แรกเลย วิธีการคือรับเงินเดือนจากที่ไหน ให้เปิดบัญชีแยกไว้ หรือจะซื้อกองทุนรวมของธนาคารไหนก็ได้ แล้วให้เขาตัดเงินไปสะสมไว้ในวันที่เงินเดือนออก ภายใต้หลักคิดคือ เงินที่เราไม่เห็นคือเงินที่เราไม่ได้ใช้ เป็นแนวคิดเดียวกันกับที่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพทำกับเรา แม้แต่มันนี่โค้ชเองก็ยังต้องหักเงินก่อนใช้จ่ายเหมือนกัน เพราะฉะนั้นวินัยมันต้องบวกด้วยเครื่องมือที่ช่วยให้เราจัดการตัวเองได้อย่างรู้เท่าทัน ใครที่บอกว่าฉันควบคุมตัวเองได้ ลองมาเช็กตัวเองดูซิว่าผ่านมากี่ปีแล้ว ได้ออมจริงๆ บ้างไหม ถ้าไม่ได้ออมเลยก็ให้รู้เท่าทันตัวเองว่าเราเป็นคนแบบนี้ แล้วพยายามใช้เครื่องมือต่างๆ มาช่วยฝึกวินัยทางการเงินที่จะทำให้เราดูแลตัวเองได้ดีขึ้น นอกจากนี้มันนี่โค้ชยังแนะนำว่า การลดรายจ่ายเป็นเรื่องง่ายกว่าการหารายได้เพิ่ม เพราะการลดรายจ่ายเริ่มต้นได้ด้วยตัวเราเอง แต่การหารายได้เพิ่มเป็นการทำงานสร้างคุณค่าเพื่อจะดึงดูดเงินจากกระเป๋าสตางค์ของคนอื่น คนที่คิดว่าวันนี้เงินไม่พอใช้ แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวหาเงินเพิ่มให้มากขึ้นแล้วก็จะรวยเอง คนแบบนี้ได้มาเท่าไรก็จะใช้ไม่เคยพอ เปรียบเหมือนคนที่ตักน้ำด้วยถังที่รั่ว ต่อให้เปลี่ยนไปใช้ถังใหญ่ขึ้น จุน้ำได้มากขึ้น คุณตักน้ำใส่ไปเท่าไรมันก็รั่วออกหมด รอยรั่วของถังก็คือนิสัยทางการเงิน ถ้าเราไม่เปลี่ยนที่นิสัยก็ไม่มีทางใช้เงินพอ ดังนั้นการจะมั่งคั่งร่ำรวยได้ต้องเกิดจากนิสัยพื้นฐาน คือการบริหารเงินเท่าที่มีให้ได้ก่อน ถ้าคิดว่ามันกระเบียดกระเสียรจริงๆ ค่อยหารายได้เพิ่ม ไม่ใช่พอบอกว่าไม่พอใช้ แต่เมื่อมาดูในรายละเอียดกลับพบว่าที่ไม่พอเพราะใช้จ่ายเงินเกินตัว ต้องเริ่มปรับที่ตรงนี้ก่อน ทำถังน้ำของเราไม่ให้รั่วก่อน เมื่อถังไม่รั่ว ตักยังไงก็มีวันเต็ม สุดท้าย คำถามที่มนุษย์เงินเดือนควรสงสัยอาจไม่ใช่แค่ ต้องมีเงินเดือนเท่าไรถึงจะพอใช้? แต่ต้องเปลี่ยนเป็น จะใช้ชีวิตอย่างไรกับเงินที่มีอยู่อย่างจำกัด? เพราะคำตอบที่ได้อาจเป็นทางรอดที่ดีที่สุดที่จะรับมือกับภาวะคับขันตอนสิ้นเดือนครั้งถัดไปPhoto: AFPภาพประกอบ:อ้างอิง:
จากผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า คนในเมืองหลวงมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 32091 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่คนมีค่าใช้จ่ายมากที่สุด เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศนักวางแผนการเงินจาก K-Expert แนะนำสัดส่วนการใช้จ่ายของมนุษย์เงินเดือนในกรุงเทพฯ ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ โดยแบ่งเป็นค่าอาหารและค่าเสื้อผ้า 30% ค่าใช้จ่ายเพื่อการอยู่อาศัย 40% ค่าใช้จ่ายเพื่อการพักผ่อนและความบันเทิง 5% ค่าใช้จ่ายเพื่อสุขภาพ 5% ค่าเดินทาง 10% และเก็บออม 10% โดยอ้างอิงจากผลสำรวจการใช้จ่ายจริงของคนวัยก่อนเกษียณนักผังเมืองและนักภูมิศาสตร์เมือง จากศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง หรือ UDDC ระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้วคนกรุงเทพฯ ใช้จ่ายไปกับค่าเดินทางประมาณ 20% ของรายได้ นั่นหมายความว่าถ้าเรามีเงิน 100 บาท จะต้องเสียค่าเดินทางประมาณ 20 บาทในแต่ละเดือน ต่างจากเมืองที่พัฒนาแล้วที่คนใช้จ่ายเงินกับการเดินทางเพียง 10% ของรายได้เท่านั้นThe Money Coach แนะนำว่า การลดรายจ่ายเป็นเรื่องง่ายกว่าการหารายได้เพิ่ม เพราะการลดรายจ่ายเริ่มต้นได้ด้วยตัวเราเอง แต่การหารายได้เพิ่มเป็นการทำงานสร้างคุณค่าเพื่อจะดึงดูดเงินจากกระเป๋าสตางค์ของคนอื่น
null
null
https://thestandard.co/bangkok-income/
ปภ.ประสาน 52 จังหวัด รับมือน้ำท่วมฉับพลันจากพายุ ทกซูรี ถึง 18 ก.ย.
วันนี้ (15 ก.ย.2560) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงการประเมินร่วมกับกรมอุตุนิยอุตุนิยมวิทยา พบว่า อิทธิพลพายุทกซูรีที่ขึ้นฝั่ประเทศเวียดนาม จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนเข้าปกคลุมประเทศลาวและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย จากนั้นจะอ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชันในระยะต่อไป ส่งผลให้ไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางแห่งตั้งแต่วันนี้ (15 ก.ย.) จนถึง 18 ก.ย.นี้ โดยได้ประสาน 52 จังหวัดทั่วทุกภาค พร้อมจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ เพิ่มความถี่ตรวจวัดปริมาณฝน สังเกตการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์งให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือ แจ้งเตือนประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่ที่เคยประสบปัญหาอุทกภัยให้ระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัยในช่วงฝนตกหนักสะสมในพื้นทีกรณีมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ปริมาณน้ำฝนสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตรต่อวัน ให้พิจารณาอพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัย หรือจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด
ปภ.ประสาน 52 จังหวัดเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม เนื่องจากอิทธิพลพายุทกซูรี จนถึงวันที่ 18 ก.ย.นี้ หากพื้นที่ใดมีปริมาณน้ำฝนสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตรต่อวัน ให้พิจารณาอพยพประชาชนได้ทันที
ภัยพิบัติ
พายุทกซูรี,พายุโซนร้อน,ฝนตกหนัก,สภาพอากาศ,น้ำท่วม,กรมอุตุนิยมวิทยา,พยากรณ์อากาศ,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/266125
ข่าวดีจากอุตุฯ วิกฤติฝุ่นผ่านไปแล้ว รอดู 13-15 ก.พ. อากาศเย็นลง
ในการดูแลรักษาสุขภาพ แม้ 1-2 วันที่ผ่านมา หลายพื้นที่คุณภาพอากาศดีขึ้น ทำให้หลายคนคลายกังวลลง,จนมาล่าสุดผู้ว่าฯ กทม. ได้ออกมาเตือนให้รับมือ ภายหลังกรมควบคุมมลพิษแจ้งว่า วันที่ 6-8 ก.พ. และ 13-15 ก.พ. สถานการณ์ฝุ่นละอองอาจมีแนวโน้มรุนแรง เนื่องจากอากาศจะปิด ซึ่งจะมีความเป็นไปได้หรือไม่? ในมุมมองของกรมอุตุนิยมวิทยา โดยนายภูเวียง ประคำมินทร์ ในฐานะอธิบดี ได้เปิดเผยกับ ,ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์, พร้อมอธิบายอย่างง่ายๆ ให้คนทั่วไปได้เข้าใจ,ถามว่า วันที่ 6-8 ก.พ. ฝุ่นละอองมีแนวโน้มรุนแรงหรือไม่นั้น ได้คำตอบชัดเจน ไม่มากเท่าไร เพราะมองจากสภาพอากาศขณะนี้ สถานการณ์ฝุ่นจะไม่รุนแรงเหมือนช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคำเตือนของผู้ว่าฯ กทม.ที่ออกมา เพื่อไม่ให้ทุกคนประมาท อาจมองว่าวันที่ 7 ก.พ. มีลมอ่อน ซึ่งน่าจะมีฝุ่น, เหมือนให้ระวังสักนิดนึง,โดยฝุ่นละอองจะรุนแรงต้องใช้เวลาสะสม และหากวันรุ่งขึ้นลมแรงก็จะทำให้ฝุ่นละอองลดลง,ส่วนวันที่ 13-15 ก.พ. ช่วงนั้นอากาศจะเย็นลง ซึ่งเริ่มเย็นตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. ทำให้ฝุ่นมีแนวโน้มลดลง และหากช่วงกลางเดือนก.พ.มีลมใต้เข้ามา ถือเป็นเรื่องดี ยิ่งทำให้กระแสลมไหลเวียนได้ดี จึงมองว่าสถานการณ์ฝุ่นละอองในกทม.และปริมณฑลจะไม่รุนแรงอีกระลอกแน่นอน รวมถึงในพื้นที่จังหวัดอย่างจ.ขอนแก่น จ.แพร่ และจ.นครสวรรค์ สถานการณ์ฝุ่นจะไม่รุนแรงเช่นกัน จึงมองว่าสิ่งที่ออกมาเตือนเรื่องฝุ่น เพื่อให้ระวังเท่านั้น,อย่างไรก็ตามในช่วงระยะนี้ อาจมีฝนบ้างเล็กน้อยแถวภาคตะวันออก ซึ่งจะช่วยบรรเทาให้ฝุ่นลดลง และกรณีกทม.พบว่าขณะนี้มีเมฆมาก ซึ่งอาจมีฝนบางแห่ง จะช่วยคลี่คลายได้บ้างเล็กน้อย,สำหรับการเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศไทยนั้น น่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาประมาณกลางเดือนก.พ. แต่อาจคลาดเคลื่อนบ้างจากหลายปัจจัย ต้องติดต่อไป.
ชาวเมืองกรุงและปริมณฑลทั้งหลาย อาจผวากับค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานในช่วงที่ผ่านมา ต้องหาหน้ากากอนามัยมาใส่ป้องกันปอดพังอย่างจ้าละหวั่น ถือเป็นความไม่ประมาท
ข่าว,ทั่วไทย
ฝุ่น,ฝุ่นพิษ,เตือนฝุ่นมาอีกรอบ,อุตุนิยมวิทยา,ข่าวร้อน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1489401
หนุ่มไปรษณีย์ดับ จยย.เสยท้ายพ่วง จอดเสียกลางสะพาน แยกบางแวก
เวลาประมาณเที่ยงคืน วันที่ 1 กันยายน ร.ต.อ.ทวี บุญทัน รอง สว.จร. สน.บางเสาธง รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ มีผู้เสียชีวิตกลางสะพานข้ามแยกบางแวก ถนนราชพฤกษ์มุ่งหน้าตลิ่งชัน แขวงบางเสาธง เขตภาษีเจริญ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง,ที่เกิดเหตุพบรถพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียนหัวพ่วง 87-9529 นครปฐม ทะเบียนส่วนท้ายพ่วง 87-4637 นครปฐม จอดเสียอยู่กลางสะพานตรงช่องทางเดินรถด้านซ้ายสุด จากการตรวจสอบบริเวณกระบะบรรทุกด้านท้าย พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นจีที 125 สีแดง ทะเบียน 6 กจ 4973 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนเข้ากับกันชนหลังอย่างจัง จนรถจักรยานยนต์พังยับเยิน ส่วนผู้ขับขี่เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ โดยร่างยังคร่อมอยู่กับรถจักรยานยนต์ ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุเชษฐ์ ชูแสง อายุ 30 ปี อาชีพพนักงานไปรษณีย์สาขาบางกอกน้อย สภาพนอนตะแคงขวาจมกองเลือด สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ที่ศีรษะสวมหมวกนิรภัยสีดำ,จากการสอบสวน นายสมาน สาระมูล อายุ 36 ปี โชเฟอร์รถพ่วง 18 ปี ซึ่งรอมอบตัวกับตำรวจ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถบรรทุกหินเต็มคันมาจากบริษัทย่าน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี มุ่งหน้าไปส่งให้ลูกค้าที่ไซต์งานก่อสร้างย่านถนนพระราม 4 และกำลังจะเดินทางกลับ กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุ จู่ๆ ระบบเชื้อเพลิง NGV ก็ขัดข้องทำให้เครื่องยนต์ดับไปเฉยๆ ตนจึงจอดรถเปิดไฟฉุกเฉินและไฟหรี่เอาไว้เพื่อให้สัญญาณรถคันหลัง และลงจากรถเพื่อลงมือซ่อมแซม ผ่านไปประมาณ 10 นาที รถจักรยานยนต์ของผู้ตายก็ขี่ขึ้นสะพานมาชนท้าย ทำให้เสียชีวิตดังกล่าว,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหากับฝ่ายใด แต่ได้ประสานบริษัทประกันภัยของรถพ่วง ให้เดินทางมาร่วมตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ ก่อนควบคุมตัว นายสมาน นำไปสอบสวนที่ สน.บางเสาธง ส่วนศพของ นายสุเชษฐ์ ผู้ตาย จะมอบให้มูลนิธินำส่งนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อผ่าชันสูตรและติดตามญาติมารับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป.
หนุ่มไปรษณีย์ควบ จยย. เสยท้ายพ่วง 18 ล้อ จอดเสียกลางสะพานข้ามแยกบางแวก ถนนราชพฤกษ์มุ่งหน้าตลิ่งชัน ร่างคร่อมรถ เสียชีวิตคาที่
ข่าว,ทั่วไทย
จยย.เสยท้ายพ่วง,สะพานข้ามแยกบางแวก,หนุ่มไปรษณีย์,จยย.ชนท้าย18ล้อ,ร่างคร่อม จยย.,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1056404
แม่บ้าน มท.ลุยใต้เก็บข้อมูลเพื่อนำไปปรับใช้การทำงาน
เมื่อวันที่ 1 พ.ค.58 ที่โรงแรม BP สมิหลา บีช จ.สงขลา นางอัจฉรา สงวนพงศ์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานเปิดโครงการ แม่บ้านมหาดไทยสัญจร : ดอกแก้วร้อยดวงใจสู่แดนใต้ โดยมี น.ส.วันดี กุญชรยาคง จุบเจริญ ประธานแม่บ้านมหาดไทยประจำจังหวัดชัยนาท รวมถึงอุปนายกสมาคมฯ ประธานแม่บ้านมหาดไทยประจำจังหวัดต่างๆ และสมาชิกแม่บ้านมหาดไทย เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียงกัน,นางอัจฉรา กล่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ในครั้งนี้ เพื่อนำคณะสมาชิกแม่บ้านมหาดไทย จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทัศนคติ ความคิดเห็นต่างๆ พร้อมพัฒนาศักยภาพ สมาชิกแม่บ้านมหาดไทยให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีความสุข ทุกสถานการณ์ นอกนั้นได้ร่วมสัมผัสวิถีการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการดำเนินงานของแม่บ้านมหาดไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด เข้าถึงตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริงเพื่อให้พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในแต่ละภูมิภาคมีความเจริญก้าวหน้า ,สำหรับกิจกรรมที่สมาคมฯได้ร่วมกันทำประกอบด้วย การบรรยายเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับ สมาธิบำบัด SKT โดย รศ.สมพร กันทรดุษฎี เตรียมชัยศรี อาจารย์ประจำภาควิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล   การบรรยายเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การพัฒนาบุคลิกภาพและมารยาทไทย มารยาทสากลในการเข้าสังคม โดย อ.ประณม ถาวรเวช จากสถาบันจอห์น โรเบิร์ต พาวเวอร์ หลังจากนั้นคณะสมาชิกแม่บ้านมหาดไทยเดินทางไปมอบอุปกรณ์ของใช้ให้กับเด็กพิเศษ และเลี้ยงอาหารกลางวัน ณ ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 3 จังหวัดสงขลา ต.จะโหนง อ.จะนะ จ.สงขลา พร้อมเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์โอทอปในพื้นที่.
แม่บ้านมหาดไทยยกคณะบุกพื้นที่ภาคใต้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และทำกิจกรรมร่วมกัน พร้อมทั้งเก็บข้อมูลความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่เพื่อนำไปปรับใช้การทำงาน
ข่าว,ทั่วไทย
แม่บ้านมหาดไทยสัญจร,อัจฉรา สงวนพงศ์,นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย,สมาชิกแม่บ้าน,หมาดไทย,แม่บ้าน มท.ลงพื้นที่ภาคใต้,ข่าว,ข่าวสังคมทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/496397
แปลกแหวกแต่สุดเจ๋ง เปิดใจพี่เอ้ อธิการบดี สจล. ร็อกสตาร์แห่งวงการศึกษาไทย
Study Inside, ครั้งนี้ ,พี่แคมปัส, จะพาไปพูดคุยกันแบบจุใจ กับอธิการบดีรูปหล่อร็อกสตาร์ ฟังเหมือนเอ๊ะ? นี่หน้าบันเทิงหรือการศึกษากันนะ งั้นเรามาเริ่มต้นกับคำถามที่ว่า ใครบ้างไม่รู้จักพี่เอ้ เอ๊ะพี่เอ้ไหน พี่เอ้ ชุติมา นัยนา หรือพี่เอ้ไหนอ่ะ? ,เฉลย พี่เอ้ของชาว สจล. หรือศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง นั่นเอง พูดคุยสัมภาษณ์กันจนน้ำไหลไฟดับ พี่แคมปัสจะพาไปฟังวิสัยทัศน์ของพี่เอ้ ว่า ปีนี้ 2560 พี่เอ้ตั้งใจทำอะไรให้แปลก แหวกแนว สมกับเป็นนักคิดร็อกสตาร์บ้าง หลายเรื่อง,พี่แคมปัส ,บอกตรงนี้ พี่เอ้ยังไม่เคยเอ่ยกับที่ไหน หลายเรื่องสุดติ่งกระดิ่งแมว กับวิธีคิดและวิสัยทัศน์พี่เอ้มากๆ,ฟังแล้วเพลิน อ่านแล้วเจริญ ไปอ่านพร้อมกันค่ะ,ทางรอดประเทศไทย,เราต้องยอมรับว่า ทั่วโลกมีการแข่งขันกันตลอดเวลา ประเทศไทยเองจะขายของในปริมาณมากๆ อย่างเดียว คงสู้กับประเทศอื่นๆ พี่เอ้มองว่า เราต้องคิดและประดิษฐ์ เพื่อให้สู้และทัดเทียมกับประเทศอื่น ทางรอดเดียวจึงอยู่ที่ การศึกษา,คนเก่งอยู่ที่ไหน?,การศึกษาไทยเองถึงยุคที่ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง ถ้าเปรียบเทียบเรากับประเทศอื่น ประเทศไทยมีคนเก่งมีสามารถอยู่มาก โดยเฉพาะในรั้วการศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาไทยเอง หรือคณาจารย์ ก็จบมาจากสถาบันระดับโลก ดังนั้นมหาวิทยาลัยไทยควรต้องเข้มแข็ง ต้องพร้อมพัฒนาเพื่อผลักดันคนเก่งให้พัฒนาประเทศต่อไป,มหาลัยต้องหนุ่ม,มหาวิทยาลัยไทยเองจะต้องเข้มแข็งจริงๆ มหาวิทยาลัยต้องมีความหนุ่ม เพราะต้องสู้อีกเยอะ ในฐานะอธิการบดี สจล. และในฐานะที่ได้รับโอกาสดำรงตำแหน่งประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย มีความตั้งใจให้ วงการการศึกษาไทย กลับมีกระชุ่มกระชวย โดยการคิดและสร้างนวัตกรรมทางการศึกษาใหม่ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ของอนาคตจริงๆ,แพทย์นวัตกรรม?,เราพูดกันแต่ว่า เราเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่ไม่มีใครคิดทำรถเข็นเพื่อคนสูงอายุอย่างจริงจัง เราซื้อล้อรถเข็นจากต่างประเทศ เมื่อผู้สูงอายุป่วย เราซื้อเข็มฉีดยาจากเบลเยียม อุปกรณ์ทางการแพทย์ส่วนใหญ่เป็นของต่างประเทศหมด ราคาอุปกรณ์แต่ละชนิดสูงมาก ต้นทุนการรักษาพยาบาลก็เลยสูงตาม เพราะอะไร? เพราะประเทศไทยยังไม่ได้ผลิตแพทย์นวัตกรรม,แพทย์+วิศวะ = คนเดียวกัน,สจล.จะเป็นที่แรก ที่จะเอาแพทย์และวิศวะมีอยู่ในคนๆ เดียวกัน ผลิตแพทย์ไม่ใช่แค่รักษา แต่ต้องเข้าใจความรู้ทางฟิสิกส์ วิศวะ อิเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์ เครื่องมือวัด เพื่อจะเอาความรู้ทางการแพทย์ผสมผสานกับความรู้ทางวิศวกรรม เพื่อนำไปสู่การออกแบบ การผลิตเครื่องมือแพทย์ ถ้าเราผลิตและส่องออกได้ ประเทศเราก็ยิ่งร่ำรวย นี่คือจุดขายของประเทศไทย,ยังไม่ถึงกึ๋น,สจล.จะเริ่มทำแพทย์นวัตกรรมเป็นโปรเจกต์แรก โดยวางแผนไว้ว่า ปี 2561 จะเปิดหลักสูตรแพทยศาสตร์แต่พ่วงด้วยวิศวกรรมมหาบัณฑิตไปด้วย ก่อนหน้าเรามีวิศวกรรมชีวการแพทย์ คือผลิตเครื่องมือแพทย์ แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้เต็มที่ เพราะเขาไม่ใช่แพทย์ เค้าไม่ถึงกึ๋นจริงๆ,ทางเลือกที่ไม่ทวนกระแส,เด็กมัธยมบางคนเลือกเรียนแพทย์ ทั้งๆ ที่เก่งฟิสิกส์ด้วย เมื่อเรียนแพทย์ก็เลยไม่ได้เรียนฟิสิกส์ และยิ่งตลกไปใหญ่ ที่บางคนอยากเรียนวิศวะ แต่พ่อแม่ให้เรียนแพทย์ พี่เลยมองว่า ถ้าเราเปิดหลักสูตรดังกล่าว เรียนทั้งแพทย์และวิศวะ เด็กที่มีความเก่งทั้ง 2 ด้าน จะได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบและพ่อแม่ต้องการ จบออกไปช่วยแก้ปัญหาประเทศในด้านนี้,โปรเจกต์ที่ 2 ฮือฮาสุดๆ,โรงเรียนสาธิตนานาชาติด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีแห่งแรกประเทศไทย ที่กำลังจะเปิดปีหน้า และตอนนี้เรากำลังรับเด็กอยู่ เหตุผลคือ พี่เอ้เห็นเด็กมาเรียนกับเราตอนอายุ 18 ปี พี่เอ้ว่ามันสายไป เคยสังเกตมั้ย? เด็กๆ เราเรียนฟิสิกส์ไปเพื่ออะไร เรียนวิทยาศาสตร์ไปทำอะไร,เราจะไปต้านแรงโน้มถ่วงของโลก,โรงเรียนแห่งนี้จะบอกเลยว่า เราเรียนฟิสิกส์ เราจะไปดวงดาว จะไปต้านแรงโน้มถ่วงของโลก เรียนคณิตศาสตร์ เพื่อไปแก้ปัญหาอะไร เราจะเอาศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์ ด้านฟิสิกส์ ลงไปช่วยสร้างแรงบันดาลใจกับเด็ก ทีนี้เด็กไทยก็จะรู้แล้ว ว่าเขาจะเรียนไปเพื่ออะไร นี่แหละจะทำให้เขาเห็นภาพ ตอนเด็กๆ พี่ก็ไม่เคยเห็นภาพเหล่านี้ ไม่รู้ด้วยซ้ำเรียนอะไร เรียนเพื่ออะไร เรียนเพราะแม่ตี ก็เลยเรียน,โปรเจกต์ที่ 3, ,เราจะทำเรื่องวิทยาลัยวิศวกรรมดนตรี เดี๋ยวนี้ไม่มีใครซื้อซีดีเลย ยิ่งบอกซื้อเทป เด็กยิ่งหัวเราะ ยุคนี้ไม่ Streaming ก็ download เอาทั้งนั้น ระบบดนตรี จะเป็นดิจิตอลหมด คนจะสามารถบริโภคดนตรีผ่านระบบดิจิตอล เรื่องนี้เป็นงานของวิศวะ,จับมาอยู่ในคนเดียวกัน,เด็กสมัยนี้เรียนหนังสือก็เก่ง เรียนดนตรีก็เก่ง ให้ไปเรียนวิศวะ ก็เสียของ ไม่ได้เรียนดนตรี ให้ไปเรียนแพทย์ ก็มีแรงบันดาลใจด้านดนตรี ไม่จากต่างแพทย์นวัตกรรมเลย เราถึงต้องจับมาอยู่ในคนๆ เดียวกัน ดูอย่างเกาหลี เขาขายของได้โดยไม่มีอะไรเลย วิศวดนตรี เปิดไปแล้ว 3 รุ่น,พี่จะบ้าตาย,สมัยก่อนเค้าชอบพูดกันว่า มาเรียนที่นี่ ถ้าเล่นดนตรีด้วย จะถูกรีไทร์ นอกจากหน้าตาเด็กจะหล่อเหลา สวย พูดภาษาอังกฤษได้ เล่นดนตรีได้ แถมเรียนได้ 4.00 พี่จะบ้าตาย เด็กสมัยนี้เก่งจริงๆ ในคนๆ เดียว แต่เราจะไปแยกความสามารถและทักษะเขาทำไม บูรณาการความเก่งเขาไปเลย นี่คือวิสัยทัศน์,นักบินอวกาศดาวอังคาร,เราจะทำวิทยาลัยทางด้านอวกาศและระบบโลก เด็กปี 4 ของ สจล.ส่งบอลลูนขึ้นไปทำดาวเทียม นี่คือเด็กเรา และเรายังทำโครงการร่วมกับนาซา ส่งเด็กไทยอายุ 14-18 ปี ไปฝึกเป็นนักบินอวกาศดาวอังคาร นี่เป็นปีแรก และเราจะให้ทุนการศึกษาจนถึงปริญญาเอกเลย,ข้อพิพาททางเทคโนโลยี,เราจะเปิดนิติศาสตร์ ที่จบไปไม่ใช่เป็นอัยการหรือผู้พิพากษา ในอนาคตข้อพิพาททางเทคโนโลยีต้องมากขึ้น ทนายต้องมีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีด้วย บริษัท SME ที่ยกระดับเข้าตลาดหลักทรัพย์ ก็ต้องมีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีด้วยเช่นกัน ทนายกลุ่มต้องมาจากสายวิทย์,เรามันร็อกสตาร์,มหาวิทยาลัยเปลี่ยน ภาพลักษณ์ทางการศึกษาต้องไม่เชย คนเรียนหนังสือเก่งเป็นเหมือนกับร็อกสตาร์ คนต้องชื่นชม หลักสูตร และระบบการเรียนต่างๆ ที่ สจล.ทำ รวมไปถึงการเชิดชูคนเก่ง ต้องให้เค้าเป็นร็อกสตาร์ เป็นคนเปลี่ยนแปลงโลกเหมือนไอสไตล์ นักคิดนี่ต้องมีเสน่ห์ ต้องเท่ คนก็จะอยากเป็นนักคิดกันมากขึ้น,พระเอกนางเอก,10 ปีที่ผ่านมา คนสละสิทธิ์จากวิศวะไปเรียนนิเทศศาสตร์กันทั้งสิ้น เพราะอาชีพด้านสื่อมวลชนมันมีเสน่ห์ แต่ทำไมสายวิทย์ ไม่เป็นพระเอกนางเอก พี่เอ้ตั้งใจจะทำให้นักคิด นักวิทยาศาสตร์ เป็นพระเอกนางเอกบ้าง,ฟังจบแล้วก็เคลิ้ม นี่สินะพระเอกวงการศึกษาไทย,รูปภาพบางส่วน จากเฟซบุ๊ก ,Suchatvee Suwansawat - Dr.Ae
กลับมาเจอกันอีกครั้ง กับ Study Inside ครั้งนี้ พี่แคมปัส จะพาไปพูดคุยกันแบบจุใจ กับอธิการบดีรูปหล่อร็อกสตาร์ ฟังเหมือนเอ๊ะ? นี่หน้าบันเทิงหรือการศึกษากันนะ งั้นเรา
ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์
Study Inside,แคมปัส,พี่เอ้,สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์,สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/850741
อัศวินสั่งติดไฟฟ้าในสวนจตุจักรเพิ่ม หลังมีร้องเรียนแสงสว่างไม่เพียงพอ
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหาร กทม.ว่า ที่ประชุมได้รายงานความคืบหน้าโครงการเชื่อม 3 สวนสาธารณะ คือ สวนจตุจักร สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เป็นอุทยานสวนจตุจักร ว่า โครงการจะแล้วเสร็จทั้งหมดช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตนได้ตรวจพื้นที่ทั้ง 3 สวน พบว่า บางจุดแสงสว่างยังไม่เพียงพอ และมีประชาชนร้องเรียนว่ามาปั่นจักรยานภายในสวนและประสบอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงที่เป็นทางโค้งที่แสงสว่างไม่เพียงพอ จึงได้สั่งการให้สำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างเพิ่มทั้งบริเวณทางเดิน ทางวิ่ง และทางจักรยาน รวม 94 ต้น ปัจจุบัน อยู่ระหว่างดำเนินการ,ขณะที่การเสนอขอปิดการจราจรบริเวณถนนกำแพงเพชร 3 ขณะนี้ กทม.อยู่ระหว่างจัดทำประชาพิจารณ์ คาดว่าจะสรุปผลได้ช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ ส่วนพื้นที่ตลาดนัดเจเจกรีน ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ระหว่าง 3 สวนสาธารณะ ได้สิ้นสุดสัญญาเช่ากับทางมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์แล้ว ทั้งนี้ ภายหลังการคืนพื้นที่บริเวณตลาดเจเจกรีน มูลนิธิสวนสมเด็จฯขอให้ กทม.พัฒนาบริเวณดังกล่าว ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 26 ไร่ เป็นอุทยานสวนจตุจักรเฟส 2 ด้วย ขณะเดียวกัน กทม.อยู่ระหว่างฟ้องร้องเรียกค่าเช่าพื้นที่จากผู้บริหารตลาดเจเจกรีน ซึ่งค้างค่าเช่า กทม.มานานกว่า 2 ปี ค่าเช่าเดือนละประมาณ 700,000 บาท และฟ้องตลาดไม่เสียภาษีบำรุงท้องที่รวมเป็นเงินกว่า 50 ล้านบาท.
ที่ประชุมได้รายงานความคืบหน้าโครงการเชื่อม 3 สวนสาธารณะ คือ สวนจตุจักร สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
ข่าว,ทั่วไทย
สวนจตุจักร,สวนรถไฟ,อุทยานสวนจตุจักร,สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์,สวนสาธารณะ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1358787
ฉ่วย มาน ดวงแข็ง-เมียนมาพักถก ก.ม.เอื้อถอด ส.ส.
อดีตนายทหารยศพลเอกและเพิ่งถูกปลดจากประธานพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา หรือยูเอสดีพี พรรครัฐบาลเมียนมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหรือเหลืออีกไม่ถึง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในเมียนมาที่เริ่มการปฏิรูปการเมือง นับแต่รัฐบาลเผด็จการทหารส่งมอบอำนาจให้รัฐบาลกึ่งพลเรือนตั้งแต่ปี 2554,สำหรับกฎหมายฉบับนี้ ถ้าผ่านอนุมัติจากรัฐสภา จะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนแค่ร้อยละ 1 ของแต่ละเขตเลือกตั้ง รวบรวมรายชื่อยื่นถอดถอน ส.ส.ในเขตของตนได้และ ส.ส.ผู้ถูกร้องก็อาจพ้นเก้าอี้ได้เลย กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นว่าข้อร้องเรียนมีมูลหรือสมเหตุสมผล ก่อนหน้านี้นางอองซาน ซูจี ผู้นำเรียกร้องประชาธิปไตยและหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านในเมียนมา เรียกกฎหมายฉบับนี้ว่าไร้สาระน่าขบขันและเห็นว่าจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่สามารถยื่นถอดถอน ส.ส.ได้ ควรจะอยู่ที่ราวร้อยละ 20, ,ขณะที่นายฉ่วย มาน ผู้ยังคงเป็นสมาชิกพรรครัฐบาลและประธานสภาผู้แทนฯก็อาจถูกยื่นถอดถอนจากผลพวงของกฎหมายฉบับดังกล่าว หลังเมื่อเดือน มิ.ย. ได้แสดงการสนับสนุนกฎหมายหลายฉบับเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญและมุ่งจำกัดบทบาทของกองทัพในทางการเมืองอย่างชัดเจน อย่างไรก็ดี ส.ส.ในสภาผู้แทนฯเมียนมาได้ลงมติให้พักการอภิปรายและการลงมติร่างกฎหมายฉบับนี้ออกไปในการประชุมสภาสมัยหน้า ซึ่งจะมีขึ้นหลังการเลือกตั้งใน 8 พ.ย. และบ่งบอกว่านายฉ่วย มาน ยังคงมีบารมีและได้รับการสนับสนุนในสภาผู้แทนฯ,ทั้งนี้ อนาคตทางการเมืองของนายฉ่วย มาน เริ่มฉายแววมืดมิดลงหลังเกิดคิดเห็นขัดแย้งกับประธานาธิบดีเต็ง เส่ง และลุกลามถึงจุดวิกฤติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีรถบรรทุกทหารมาเต็มคันรถหลายคัน ถูกส่งไปล้อมพรรคยูเอสดีพี ต่อมากลุ่มพันธมิตรของผู้นำเต็ง เส่ง ได้ประชุมด่วนและมี มติให้ขับนายฉ่วย มาน จากประธานพรรคยูเอสดีพีและขับสมาชิกกลุ่มก๊วนของนายฉ่วย มาน จากคณะกรรมการบริหารพรรคด้วย, ,วันเดียวกัน พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมาโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวเน้นย้ำให้กองทัพมีบทบาททางการเมือง แต่กองทัพจะยอมรับผลเลือกตั้งและเคารพกฎหมาย.
เมื่อ 20 ส.ค.สมาชิกสภาผู้แทนฯของเมียนมา เปิดลงมติร่างกฎหมายฉบับหนึ่งซึ่งอาจนำไปสู่การถอดถอนประธานสภาผู้แทนฯ ซึ่งก็คือ ตูระ ฉ่วย มาน
เลือกตั้ง
ทีมข่าวต่างประเทศ,ตูระ ฉ่วย มาน,ฉ่วย มาน,เลือกตั้ง,เมียนมา,ยูเอสดีพี,พรรครัฐบาลเมียนมา,ถอดถอน ส.ส.,ดลงมติร่างกฎหมาย,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/content/519712
เบลเยียมคืบหน้า เตรียมเริ่มทดลองวัคซีน ต้านโควิด ทางคลินิก มิ.ย.นี้
ข่าวดี บริษัท CureVac ในเบลเยียม เตรียมทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด ทางคลินิกในมิ.ย. ที่จะถึง หรืออย่างช้าอาจเป็นก.ค.63 หวังช่วยชาวโลก หลังติดเชื้อแล้วกว่า 1.5 ล้านราย ตายกว่า 8.8 หมื่นศพ9 เมษายน 2563 บุญธง ก่อมงคลกูล ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำประเทศเบลเยียม รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน นายฌอง สเตเฟน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอคนใหม่ของบริษัท CureVac แถลงข่าวกับสื่อในเบลเยียมว่า CureVac ห้องปฏิบัติการเยอรมันจะเริ่มการทดลองทางคลินิกวัคซีนต่อต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด 19 ในประเทศเยอรมนีและเบลเยียมในเดือนมิถุนายน ที่จะถึงนี้นายสเตเฟน เป็นชาวเบลเยียมที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ของ CureVac ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำการทดลองเทคโนโลยีชีวภาพที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเยอรมนี สำหรับการพัฒนาวัคซีนต่อต้าน Covid-19 โดยนายสเตเฟนได้มารับตำแหน่งซีอีโอแทนซีอีโอชาวอเมริกันคนก่อน ที่ถูกไล่ออกเพราะประพฤติมิชอบอย่างร้ายแรงในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับเชิญเป็นการส่วนตัวจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้ไปพบที่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยที่ไม่ได้ขออนุญาตคณะกรรมการบริหารของบริษัทรัฐบาลของนางอังเกลา แมร์เคิลแห่งเยอรมนี ได้กล่าวหารัฐบาลสหรัฐฯ ว่า พยายามจัดทำโครงการวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด เพื่อสำรองไว้ใช้ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นทั้งนี้ตามระเบียบบริษัท CureVac ซีอีโอชาวอเมริกัน ต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการบริหารก่อนออกเดินทางไปพบประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ทำเนียบขาวในครั้งนี้ แต่เขากลับไม่ได้ดำเนินการตามระเบียบ ทำให้การตัดสินใจไล่ออกนี้ได้เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะได้พบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ด้วยซ้ำ นายสเตเฟนซีอีโอคนใหม่ของบริษัท CureVac ชี้แจงรายละเอียดและกล่าวว่า เราไม่พอใจเป็นอย่างมากกับการกระทำของเขาสำหรับวัคซีนที่บริษัท CureVac กำลังพัฒนาอยู่นี้ใช้เทคนิค RNA messenger (RNAm) ซึ่งคัดลอกชั่วคราว DNA ที่ตรงกับยีนหนึ่งยีนหรือหลายยีนขึ้นไป โดยการฉีด RNAm เข้าสู่ร่างกายของผู้ป่วยที่ระบบภูมิคุ้มกันจะถูกกระตุ้นให้ผลิตโปรตีนบำบัดด้วยตัวเองตามที่ต้องการขึ้นมาการศึกษาทดลองทางคลินิกครั้งแรก จะดำเนินการทดลองกับผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีและไม่มีเชื้อไวรัสอยู่ในตัวภายในเดือนมิถุนายนนี้ หรืออย่างช้าไม่เกินเดือนกรกฎาคม อดีตซีอีโอของ GSK Biologicals กล่าว หลังจากนั้น จะทำการทดลองฉีดวัคซีนเข้าไปในผู้ที่ได้รับการติดเชื้อแล้ว และในกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อตรวจสอบชนิดของแอนติบอดีที่จะถูกกระตุ้นให้สร้างขึ้นมาโดยวัคซีน นอกจากนั้น ยังเป็นการทำความเข้าใจเพิ่มเติมสำหรับผู้ติดเชื้อตามธรรมชาติ ว่าจะมีปฏิกิริยาตอบสนองของภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้นภายหลังจากที่ได้รับวัคซีนอย่างไร การศึกษาทดลองจะดำเนินการกับผู้ทดสอบจำนวน 2000 ถึง 3000 คนรวมถึงคนเบลเยียมด้วยนายฌอง สเตเฟน คาดหวังที่จะนำการศึกษาอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ ยิ่งกว่านี้ จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าวัคซีนทดลองแล้วไม่ได้ผล? บริษัท CureVac ยังมีวัคซีนอีก 2 หรือ 3 ชนิดจะใช้สำรองกับความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้น ซีอีโอคนใหม่กล่าวเน้นcrภาพ REUTERS : ห้องทดลอง CureVac ที่เมืองทูบิงเกน เยอรมนี
ข่าวดี บริษัท CureVac ในเบลเยียม เตรียมทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด ทางคลินิกในมิ.ย. ที่จะถึง หรืออย่างช้าอาจเป็น ก.ค.63 หวังช่วยชาวโลก หลังติดเชื้อแล้วกว่า 1.5 ล้านราย ตายกว่า 8.8 หมื่น
ข่าว,ต่างประเทศ
โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรนา,COVID-19,วัคซีนต้านโควิด,เบลเยียม
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1816564
เปเยกรินี โอเค พอใจ เรือใบ แบ่งแต้ม ผีแดง กลับบ้าน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 26 ต.ค. ว่า มานูเอล เปเยกรินี กุนซือของ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับพอใจกับการบุกไปแบ่งแต้มอริร่วมเมืองอย่าง ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 ในเกมดาร์บีแมตซ์เมืองแมนเชสเตอร์เมื่อคืนนี้,โจ ฮาร์ท นายด่านของเรือใบสีฟ้าช่วยเซฟจังหวะสำคัญๆในช่วง 10 นาทีสุดท้ายช่วยทีมบุกมาแบ่งแต้มอริร่วมเมืองกลับออกไปพร้อมทวงบัลลังก์จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกคืนจาก ปืนใหญ่ อาร์เซนอล กลับมาได้อีกครั้ง,ครึ่งเวลาแรกเราเล่นได้ดีกว่ายูไนเต็ดนะ แต่ในครึ่งหลังเราเริ่มได้แย่และสูญเสียในการครอบครองบอล ในกรณีนี้คือเรื่องสำคัญที่จะมุ่งเน้นไปที่การตั้งรับเต็มตัวและไม่ให้พวกเขาสร้างโอกาสมากมาย และมันเป็นเรื่องดีที่เราจัดการมันได้,เราทำงานได้ดี ยูไนเต็ดคุมเกมแต่พวกเขาไม่มีโอกาสมากมายเท่าไหร่นัก พวกเขาพลาดโอกาส พวกเขายิงไปชนคานและมีโอกาสใกล้เคียงกับประตูแต่โดน โจ เซฟแต่จังหวะอื่นก็แค่ครองบอลไปมา,มันไม่ใช่วันที่เลวร้าย มันเป็นเรื่องยากเสมอที่เล่นที่นี่ในสนามของยูไนเต็ด มันเป็นเรื่องยากสำหรับทุกทุกทีม หากเราเสมอที่บ้านของตัวเองผมอาจจะไม่แฮปปี้ แต่ในช่วงเวลานี้มันเป็น 1 แต้มที่โอเค เรามีสมาธิดีและเกมรับก็ทำได้ดี บางครั้งสื่อจำนวนมากต่างวิพากษ์วิจารณ์แต่เราก็สามารถทำได้ ผมพอใจกับ 1 แต้มนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบวิธีตั้งรับแบบนี้เลยก็ตาม
มานูเอล เปเยกรินี นายใหญ่ของ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับพอใจกับผลการแข่งขันที่บุกไปเสมอกับ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงสนามโอลด์แทรฟเฟิร์ด 0-0 …
null
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ซิตี้,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,มานูเอล เปเยกรินี,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/534800
ตร.น้ำช่วย 11 ลูกเรือ ชนหินท้องทะลุ จมดิ่งก้นทะเล
เมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 17 ก.พ. พ.ต.ท.สันติพงษ์ พันธ์สวัสดิ์ สว.ตำรวจน้ำขนอม จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก นายพักศรันย์ โกศลนิรัติวงษ์ อายุ 50 ปี เจ้าของเรือ ว่าเรือประมงชื่อเรือ ม.ธัญญามาศ 8 ได้เกิดรั่วและกำลังใกล้จะจมอยู่ที่กลางทะเลอ่าวไทย บริเวณละติจูด 9 องศา 19 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 99 องศา 56 ลิปดาตะวันออก ใกล้เกาะราบ ห่างจากฝั่งขนอมประมาณ 7 ไมล์ทะเล,พ.ต.ท.สันติพงษ์ จึงนำกำลังตำรวจพร้อมด้วย พ.ต.ท.เศรษฐพงษ์ ทองทราย หัวหน้าผู้ควบคุมเรือตรวจการณ์ 628 และเรือ รน.34 ของตำรวจน้ำขนอม ได้ร่วมกันออกไปให้การช่วยเหลือเรือประมงลำดังกล่าว แต่เนื่องจากมืดค่ำและคลื่นแรง เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้รอจนกระทั่งรุ่งเช้า จึงนำเรือตรวจการณ์ของตำรวจน้ำออกไปให้การช่วยเหลือทันที สามารถช่วยเหลือลูกเรือประมงทั้งชาวไทยและชาวพม่า ทั้งหมดรวมจำนวน 11 คน ขึ้นมาบนเรือตรวจการณ์ได้อย่างปลอดภัย ไม่มีผู้สูญหายหรือบาดเจ็บแต่อย่างใด,ส่วนเรือประมงลำดังกล่าว น้ำได้ทะลักเข้าท้องเรือจนจมลงเรื่อยๆ ก่อนจมดิ่งลงสู่ก้นทะเลในที่สุด ซึ่งทางเจ้าของเรือประมงได้ทำเครื่องหมายแสดงตำแหน่งไว้ และจะได้ดำเนินการกู้ซากเรือต่อไป มูลค่าความเสียหายเรือประมงทั้งลำประมาณ 3 ล้านบาทเศษ,ทั้งนี้ พ.ต.ท.สันติพงษ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำ นายพักศรันย์ โกศลนิรัติวงษ์ เจ้าของเรือประมง ม.ธัญญามาศ 8 ให้การว่า เรือประมงลำดังกล่าว เป็นเรือออกหาปลากลางทะเลอ่าวไทย ในเขตพื้นที่ จ.เพชรบุรี มีนายสำรวย เจริญสวัสดิ์ อายุ 58 ปี เป็นไต้ก๋ง ได้นำเรือจาก จ.เพชรบุรี มาหาปลาบริเวณอ่าวไทยใกล้เกาะสมุย และ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช หลายวันแล้ว แต่เนื่องจากไต้ก๋งเรือไม่ค่อยชำนาญเส้นทาง จึงขับเรือหลงไปชนกับโขดหินบริเวณใกล้เกาะราบ ทำให้เรือรั่ว และจมลงดังกล่าว โชคดีที่ช่วยเหลือลูกเรือรอดมาได้ทั้ง 11 คน.
ตำรวจน้ำขนอม นำเรือตรวจการณ์ออกไปช่วยเหลือลูกเรือ 11คน ที่เรือประสบอุบัติเหตุชนโขดหินใกล้เกาะกลางทะเล เหตุจากไต้ก๋งไม่ชำนาญเส้นทาง ช่วยรอดได้หมดไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนเรือจมดิ่งสู่ก้นทะเล ค่าเสียหายเรือทั้งลำกว่า 3 ล้านบาท
ข่าว,ทั่วไทย
ช่วยลูกเรือ,ตำรวจน้ำช่วยลูกเรือ,เรือชนหิน,ม.ธัญญามาศ 8,ตำรวจน้ำขนอม,เกาะราบ,ขนอม,นครศรีธรรมราช,ข่าว,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/481825
รมแก๊สพิษ จากท่อไอเสีย ฆ่าตัวคาเก๋ง
ตกดึกเดินมาดูอีกรอบพบกลายเป็นศพคาเบาะคนขับ ญาติเข้าให้ข้อมูลตำรวจ ผู้ตายขับรถออกจากบ้านมาจัดงานอีเวนต์ให้ลูกค้า จู่ๆกลับตัดสินใจลาโลกหนีปัญหาชีวิต คาดเครียดจัดหลังมีปากเสียงทะเลาะกับแฟนสาว,หนุ่มน้อยใจแฟนสาวต่อท่อพลาสติกจาก ท่อไอเสียรมควันฆ่าตัวตายคาเก๋งรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 00.45 น. วันที่ 31 พ.ค. ร.ต.ท.พงศ์วริศ คงบรรทัด รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิตในรถยนต์ ที่ลานจอดรถชั้น 7 โซนบี อาคารคอนโดฯ พี 3 เมืองทองธานี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.นภธร วาชัยยุง รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.พลเทพ นันทสำเริง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ ปานอ้น รอง ผกก. (สอบสวน) แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง,ในที่เกิดเหตุพบรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค 3 ประตู สีดำ ทะเบียน 6 ฐ 6009 กรุงเทพมหานคร จอด ติดเครื่องทิ้งไว้ ประตูและกระจกปิดล็อก ในเบาะคนขับพบผู้เสียชีวิตชื่อนายสิทธิศักดิ์ พูก๊ก อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 386 แขวงอ่อนนุช เขตสวนหลวง กทม. สวมเสื้อยืดคอปกสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขายาวสีดำ คาดเสียชีวิตมาราว 6-8 ชั่วโมง ตรวจสอบไม่พบบาดแผลและร่องรอยการถูกทำร้าย ภายในรถมีกลิ่นควันจากท่อไอเสียคละคลุ้ง ตรวจสอบพบมีท่อพลาสติกสีขาว เสียบต่อจากปลายท่อไอเสียเข้าไปในกระโปรงท้ายรถ,จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิศักดิ์ขับรถมาจอดในลานจอดรถตั้งแต่ช่วง 10.00 น.ของวันที่ 30 พ.ค. กระทั่ง รปภ.มาพบว่ามีคนเสียชีวิตอยู่ในรถ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต ตำรวจเชื่อว่านายสิทธิศักดิ์น่าจะมีการเตรียมการนำท่อพลาสติกมาเสียบต่อจากท่อไอเสียเข้าไปในรถ เพื่อรมควันพิษคาร์บอนมอนอกไซด์จากท่อไอเสียฆ่าตัวตาย หวังหนีปัญหาเรื่องส่วนตัวที่แก้ไม่ตก อย่างไรก็ตาม จะได้สอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง,ต่อมาญาติเข้าให้ปากคำกับ ร.ต.ท.พงศ์วริศ คงบรรทัด พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีว่า ผู้ตายทำงานบริษัทออร์กาไนซ์แห่งหนึ่ง วันเกิดเหตุนายสิทธิศักดิ์ขับรถเก๋งคันดังกล่าวออกจากบ้าน มาทำงานจัดอีเวนต์ให้ลูกค้าในพื้นที่แสดงสินค้าของเมืองทองธานี ก่อนหน้านี้นายสิทธิศักดิ์ เพิ่งมีปากเสียงทะเลาะกับแฟนสาวอย่างรุนแรง คาดอาจเป็นชนวนเหตุให้เกิดอาการเครียดอย่างหนักกระทั่งตัดสินใจก่อเหตุปลิดชีพตัวเอง ญาติไม่ติดใจสงสัยในสาเหตุการตาย และขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
หนุ่มบริษัทออร์กาไนซ์ยึดลาน จอดรถคอนโดฯเมืองทองฯเป็นสุสาน ใช้ท่อพลาสติกเสียบต่อกับ ท่อไอเสียรมควันพิษ คาร์บอนมอนอกไซด์ ฆ่าตัวตายคาเก๋ง รปภ.เห็นขับรถมาจอดตั้งแต่ช่วงสาย
ข่าว,ทั่วไทย
รมควัน,ฆ่าตัวตาย,คิดสั้น,รมควันในรถ,รมควันฆ่าตัวตาย,ฆ่าตัวตายคาเก๋ง,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1581580
วิ่งรอบโลก-ปั่นทั่วไทย 03/03/62
สุขภาพดี ไม่มีขาย อยากได้ ต้องออกกำลัง,ล่วงเข้าสู่ เดือนมีนา หน้าร้อน อย่างเต็มตัวกันแล้ว นักวิ่ง นักปั่น ทั้งหลายพึงระวังสุขภาพให้จงหนัก โดยเฉพาะ โรคลมแดด หรือ ฮีตสโตรก ที่อาจมาเยือนทุกท่านได้ทุกที่ ทุกเวลา,เดือนนี้เป็นเดือนแห่งการ วิ่งขึ้นตึก ของเมืองไทยโดยแท้ ซึ่งจาก ใบหยก รัน-อัพ อินเตอร์เนชั่นแนล 2019 ที่มีความสูง 84 ชั้น ในสัปดาห์นี้,วีกหน้าก็จะถึงคิวของ The Vertical Marathon 2019 วิ่งพิชิตยอดตึก บันยันทรี สาทร ซึ่งสูงย่อมลงมาที่ 61 ชั้น โดยจะจัดกันเป็นหนที่ 20 เข้าให้แล้ว ใน วันอาทิตย์ที่ 10 มี.ค. ผู้พิสมัยท้าทายแรงโน้มถ่วงโลก ติดต่อได้ที่ Facebook : ,Banyan Tree Bangkoka,ต้นฉบับงาน วิ่ง บิกินี ออริจินัล ในบ้านเรา ไม่มีที่ไหนจะมีมนต์ขลังเท่า CHA AM BIKINI BEACH RUN 2019 อีกแล้ว ซึ่งครั้งนี้ จ๊อกแอนด์จอย เจ้าของลิขสิทธิ์ขนานแท้และดั้งเดิม กำหนดจัดขึ้นในวัน อาทิตย์ที่ 17 มี.ค. ที่โรงแรมลองบีช ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี,สำหรับเสื้อวิ่งในปีนี้ได้นำ โทนสีพาสเทล ที่กำลังเป็นเทรนด์ยอดฮิตในกลุ่มวัยรุ่นมาใช้เป็นธีม เพื่อสื่อถึงความสนุก สดใส สดชื่น ของบรรยากาศริมหาดทรายและน้ำทะเลของเมืองชะอำ ซึ่งผู้ที่สนใจรีบสมัครได้แล้ววันนี้ที่ ,www.jogandjoy.com, ลิมิตไว้เพียง 2 พันคน เต็มแล้ว เต็มเลย ไม่มีการรับเพิ่มนะจ๊ะ,มิตรแท้จะเห็นกันได้ยามเจ็บป่วย บิ๊กปู วีระวัฒน์ วัฒนกุล โฆษกร้อยเสียงผู้เป็น ขวัญใจนักวิ่ง ทั่วราช-อาณาจักร นอนแอดมิตรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสิรินธร อ่อนนุช 90 เพื่อนพ้องพี่น้องในแวดวงปอดเหล็กทั้งชมรมน้อยใหญ่แห่ไปเยี่ยมให้กำลังใจกันล้นหลามยิ่งกว่ารัฐมนตรี,เช่นเดียวกับป๋า อดิเรก รักษ์มณี นักวิ่งรุ่นลายครามของ กฟผ. ที่พักฟื้นจากการ ผ่าตัดไต อยู่ที่บ้านต่างจังหวัด ซึ่งเวลานี้อาการดีวันดีคืน เพราะมีพยาบาลส่วนตัวชั้นดี ชื่อ แสงหล้า หึกขุนทด คอยดูแลไม่ห่าง,ส่งท้ายด้วยข่าวเศร้ากับการสูญเสีย พี่เกื้อ ศุภโชค (เกื้อพงษ์) กอบธรรม ผู้อยู่เบื้องหลังการสนับสนุนงานวิ่งใหญ่ในบ้านเราหลายต่อหลายรายการในอดีต ซึ่ง จ๊อกกิ้งบอย ขอร่วมแสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งกับ ครอบครัวกอบธรรม มา ณ ที่นี้ด้วยครับ,จ๊อกกิ้งบอย,[email protected]
วีกหน้าก็จะถึงคิวของ The Vertical Marathon 2019 วิ่งพิชิตยอดตึก บันยันทรี สาทร ซึ่งสูงย่อมลงมาที่ 61 ชั้น โดยจะจัดกันเป็นหนที่ 20 เข้าให้แล้ว ใน วันอาทิตย์ที่ 10 มี.ค.
null
งานวิ่ง,วิ่งขึ้นตึก,ใบหยก รัน-อัพ อินเตอร์เนชั่นแนล 2019,The Vertical Marathon 2019,นักวิ่ง,วิ่งรอบโลก-ปั่นทั่วไทย,จ๊อกกิ้งบอย
https://www.thairath.co.th/sport/others/1509163
นักศึกษาญี่ปุ่นชูข้อความและสัญลักษณ์เพื่อแสดงความห่วงใยคนไทย
ปีศาจ-1984-แลไปข้างหน้า พร้อมชูสามนิ้ว15 ธ.ค. 2557 - ผู้สื่อข่าวได้รับภาพซึ่งส่งมาจาก กลุ่มนักศึกษาชาวญี่ปุ่น ผู้ศึกษาเรื่องไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นภาพการแสดงข้อความและสัญลักษณ์ โดยระบุว่าเพื่อแสดงความห่วงใยต่อคนไทยภาพแรก เป็นนักศึกษาสามคน แต่ละราย ใส่หน้ากากเขียนข้อความำว่า ตื่นแล้ว ตื่นแล้ว Freedom of Speech และ ลาก่อย มนุษยภาพ โดยทั้งสาม นั่งถือป้ายข้อความอ่านจากซ้ายไปขวาว่า ความหลงของมนุษย์ ถือว่าอำนาจ ทำอะไรถูกหมดอีกชุดภาพหนึ่ง นักศึกษากลุ่มเดียวกัน มือขวาชูสามนิ้ว มีซ้ายชูหนังสือคนละเล่ม จากซ้ายไปขวา เป็นหนังสือ ปีศาจ ผลงานเสนีย์ เสาวพงศ์ 1984 ผลงานจอร์จ ออร์เวลล์ และ แลไปข้างหน้า ผลงานของ ศรีบูรพา ซึ่งเป็นนามปากกาของกุหลาบ สายประดิษฐ์
นักศึกษาชาวญี่ปุ่นซึ่งศึกษาเรื่องไทยและอาเซียน เผยแพร่ภาพแสดงข้อความเพื่อแสดงความห่วงใยคนไทย โดยถือป้ายกระดาษอ่านได้ว่า ความหลงของมนุษย์ ถือว่าอำนาจ ทำอะไรถูกหมด และถือหนังสือ
การเมือง,สังคม
ชูสามนิ้ว,ญี่ปุ่น,นักศึกษา,ปีศาจ,วรรณกรรม,ศรีบูรพา,เสนีย์ เสาวพงศ์,แลไปข้าวหน้า,แสดงออกเชิงสัญลักษณ์,โตเกียว
https://prachatai.com/journal/2014/12/57018
การละเมิดลิขสิทธิ์เพลงในยุคดิจิตอล
จังหวะที่ชวนติดหูและเอ็มวีสุดเซ็กซี่ ทำให้ Blurred Lines ซิงเกิลของนักร้องหนุ่ม โรบิน ธิก ถูกยกให้เป็นบทเพลงแห่งฤดูร้อนปี 2013 ทำยอดขายซิงเกิลในสหรัฐไปถึง 4 ล้านชุด และมีผู้เข้าชมผ่านเว็บไซท์ยูทูบเกือบ 140 ล้านครั้ง แต่สำหรับแฟนเพลงที่คุ้นเคยกับดนตรียุค 70 แล้ว เพลงนี้แทบไม่ต่างจาก Got to Give It Up เพลงดังของ มาร์วิน เกย์ ศิลปินโซลระดับตำนาน จนนำไปสู่การต่อสู้ในชั้นศาลระหว่างโรบิน ธิกและครอบครัวของนักร้องผู้ล่วงลับเพื่อพิสูจน์การเป็นต้นตำรับในผลงานเพลงข้อกล่าวหาว่าขโมยความคิดในวงการเพลงยังเกิด Roar ซิงเกิลล่าสุดของ เคที เพอร์รี เมื่อแฟนเพลงตั้งข้อสังเกตว่ามีความเหมือนกับ Brave เพลงดังเมื่อต้นปีของ ซาร่า บาเรลเลส นักร้องสาวอีกคน ขณะที่มิวสิควิดีโอยังถูก ดิลลอน ฟรานซิส ศิลปินเพลงแดนซ์อ้างว่าขโมยความคิดการใช้อิโมติคอนแทนเนื้อเพลงมาในเอ็มวีของเขาอีกด้วยสังคมออนไลน์ในปัจจุบันทำให้การลอกเลียนความคิดในวงการเพลงถูกเปิดโปงอย่างรวดเร็วกว่าในอดีต โดยเฉพาะการผลิตวีดีโอ mash up ซึ่งเป็นการนำเพลงที่มีความคล้ายคลึงกันมาตัดต่อรวมกันโดยฝีมือแฟนเพลง ทำให้เห็นความคล้ายคลึงได้ชัดเจนขึ้น ทั้งกรณีของ Coldplay ที่เพลง Viva La Vida ถูกชาวเน็ตมองว่ามีทำนองคล้ายกับ If I Could Fly ของมือกีตาร์ โจ แซทริอานี ส่วนสื่อในออสเตรเลียชี้ว่าเพลง Sitting on Top of the World ของ เดลต้า กูดเรม ไม่ต่างจาก Rebellion เพลงของวงอินดี้ Arcade Fire ขณะที่ วิล.ไอ.แอม ถูกแฟนเพลงตั้งคำถามหลายครั้ง ทั้งผลงานเดี่ยวและกับวง Black Eyed Peas ที่มักถูกพบว่ามีความเหมือนกับเพลงของศิลปินอื่นในอดีตวงการเพลงเกาหลีใต้ถูกกล่าวหาว่ามีการลอกเลี่ยนความคิดจากศิลปินตะวันตก แต่ปัจจุบันเพลงดังของวงการเคป็อปถูกนำไปลอกเลียนโดยนักร้องต่างประเทศ และถูกพบโดยบรรดาแฟนคลับบนโลกออนไลน์ ทั้งกรณีของ La Materialista ศิลปินสาวชาวโดมินิกันนำเพลง I Am the Best ของ 2NE1 ไปร้องใหม่จนถูกแฟนเพลงประท้วงและแบนจากยูทูบในที่สุด หรือกรณีของแฟนคลับวง Super Junior เปิดโปงว่าเพลง Bonamana ถูกวงจากโมร็อคโคนำไปร้องโดยไม่ได้รับอนุญาต เหมือนกับกรณีของ แอนเดรีย บูคาแรม นักร้องสาวจากเอกวาดอร์นำเพลง Oh Yeah ของ MBLAQ ไปร้องใหม่โดยไม่เปลี่ยนแม้แต่ชื่อเพลง จนถูกแฟนคลับของวงบอยแบนด์ขู่ฆ่าแล้วแม้ว่าทางองค์การการค้าโลกจะกำหนดมาตรการควบคุมการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างประเทศ แต่การใช้กฎหมายดังกล่าวในประเทศที่กำลังพัฒนายังคงไม่เข้มงวด ทำให้หลายครั้งที่ศิลปินที่ถูกจับได้ถูกลงโทษเพียงเล็กน้อย แต่การตกเป็นข่าวกลับช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับศิลปินรายนั้นเพียงชั่วข้ามคืน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ในวงการเพลงยังคงมีอยู่อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
การละเมิดลิขสิทธิ์เพลงอยู่คู่กับวงการดนตรีมานานหลายยุคสมัย แต่เมื่อการสื่อสารเป็นไปอย่างรวดเร็วทำให้ผลงานลอกเลียนถูกจับผิดได้ง่ายขึ้น ตรงข้ามกับการปราบปรามด้วยกฎหมายที่ยังไม่ได้ผล เนื่องจากบทลงโทษที่หละหลวมในหลายประเทศ
ศิลปะ-บันเทิง
ดนตรี,ดิจิตอล,ยุค,ละเมิด,ลิขสิทธิ์,สื่อสาร,เพลง
https://news.thaipbs.or.th/content/190605
สภาล่างสหรัฐฯ ผ่านมติส่งคำฟ้องถอดถอน ทรัมป์ ให้วุฒิสภาแล้ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสภาล่างของสหรัฐฯ โหวตผ่านมติ ส่งคำฟ้องร้องของถอดถอน ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง หรือการ อิมพีชเมนต์ ไปยังวุฒิสภาแล้ว เพื่อให้สภาสูงเปิดการไต่สวนว่า นายทรัมป์มีความผิดที่จะต้องถูกถอดถอนหรือไม่มติดังกล่าวได้รับความเห็นชอบไปด้วยคะแนนเสียง 228 เสียงต่อ 193 เสียง โดยนาง แนนซี เพโรซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะลงนามในสำเนาคำฟ้องดังกล่าว พร้อมกับประกาศทีมนักกฎหมายทีมใหม่ที่จะเป็นโจทก์ในการฟ้องร้องนายทรัมป์ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรลงมติอิมพีชเมนต์นายทรัมป์เมื่อเดือนก่อน โดยเขาถูกกล่าวหาว่า ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ และขัดขวางการทำงานของสภาคองเกรส จากกรณีที่เขาพยายามกดดันผู้นำยูเครนให้สืบสวนหาความผิดของลูกชายของนายโจ ไบเดน คู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเขา ซึ่งนายทรัมป์ปฏิเสธเรื่องนี้ทำให้นายทรัมป์เป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ที่จะถูกสภาสูงไต่สวนถอดถอน อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดหมายอย่างกว้างขวางว่า เขาจะรอดพ้นจากการถูกถอดถอน เนื่องจากพรรครีพับลิกันของเขาครองเสียงข้างมากในสภาสูง
สภาล่างของสหรัฐฯ ผ่านมติส่งคำฟ้องร้องถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไปให้สภาสูงแล้ว เพื่อให้เริ่มการไต่สวนความผิดของนายทรัมป์ได้
ข่าว,ต่างประเทศ
คำฟ้อง,อิมพีชเมนต์,ถอดถอนทรัมป์,โดนัลด์ ทรัมป์,ไต่สวนทรัมป์
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1748561
กห.เร่ง ไทยนิยม ผ่านสัญญา 4 เคารพ 2 รับผิดชอบ หวังสร้างปรองดอง
เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 61 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการไทยนิยมยั่งยืน ในส่วนของกระทรวงกลาโหม ที่ดูแลเรื่องสัญญาประชาคมผูกใจไทยเป็นหนึ่งว่า การสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในชาติเป็นเรื่องสำคัญที่เราดำเนินการ เมื่อ คสช.เข้ามาก็ได้หยุดความรุนแรง และเมื่ออารมณ์ความขัดแย้งในสังคมเริ่มสงบ ก็เชิญประชาชนทุกภาคส่วนในสังคมในฐานะผู้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งมาแสดงความคิดเห็น หาทางออกจากความขัดแย้งร่วมกัน จนร่างสัญญาประชาคมที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมออกมา มีสาระสำคัญเน้นย้ำ 4 เคารพ 2 รับผิดชอบ คือ เราต้องเคารพความแตกต่างในแนวทางประชาธิปไตย เคารพความเสมอภาคที่ทุกคนมีหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียง เคารพในกฎกติกากฎหมายต่างๆ ซึ่งคนที่ทำผิดกฎหมายต้องยอมรับผลของการกระทำผิดด้วย และเคารพในสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ไม่ก้าวล่วงสิทธิเสรีภาพซึ่งกันและกัน รับผิดชอบต่อตนเองโดยพัฒนาตนเองไม่ให้ถูกชี้นำไปในทางใดทางหนึ่ง และต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม, ,พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ขณะนี้เราได้เผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งการสื่อสารไปยังประชาชนตามสื่อต่างๆ ให้หน่วยงานในพื้นที่ไปทำความเข้าใจกับประชาชน รวมถึงนำข้อมูลเหล่านี้ไปชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนทั่วประเทศในเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่กระทรวงมหาดไทยดำเนินการ 8 หมื่นกว่าหมู่บ้านทั่วประเทศ หากทุกคนเข้าใจข้อมูลเหล่านี้และดำเนินการตามลดความขัดแย้งและสร้างความปรองดองของคนในชาติและที่เห็นว่าสังคมตอนนี้อยู่ในความเรียบร้อยก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่คนยอมรับความเห็นต่างและไม่ยอมเป็นเหยื่อของการชักนำไปทางใดทางหนึ่ง มั่นใจหากคนเข้าใจอย่างถ่องแท้ ความขัดแย้งจะไม่เกิดขึ้นอีก,ทั้งนี้ ในวันที่ 28 ส.ค.นี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาญาจักร จะมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับการสร้างความปรองดอง ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ก็อยากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไปร่วมประชุมเพื่อจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศ ไปสู่ทิศทาง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามแนวทางที่รัฐบาลพยายามดำเนินการตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน.
กลาโหมเร่งเครื่องโครงการไทยนิยมยั่งยืน ผ่านสัญญาประชาคม 4 เคารพ 2 รับผิดชอบ พร้อมประสาน มท.เผยแพร่ แนวคิด 8 หมื่นหมู่บ้าน หวังสร้างปรองดองขจัดความขัดแย้งในชาติให้สำเร็จ
ข่าว,การเมือง
ไทยนิยม ยั่งยืน,4เคารพ2รับผิดชอบ,สัญญาประชาคม,ปรองดอง,กลาโหม,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1357670
ตร.นำผู้ต้องหาชน ร.ต.อ.เสียชีวิต ฝากขังศาลอาญาพรุ่งนี้
นายอภิสิทธิ์ ดาวเรือง พี่ชาย และ น.ส.จันทิมา บุญแดง แฟนสาวของ ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ ดาวเรือง รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลสุทธิสารเข้ารับศพ ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ด้วยอาการโศกเศร้าโดยตลอดระยะเวลากว่า 1 ชั่วโมงที่ทำเรื่องรับศพ น.ส.จันทิมา ร้องไห้อยู่ตลอดเวลาเพราะยังทำใจไม่ได้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้นกระทันหันนายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ มีความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กที่จะเป็นตำรวจ เมื่อมีโอกาสได้รับราชการได้ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่มาโดยตลอดศพของ ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ ถูกนำไปประกอบพิธีรดน้ำศพที่วัดตรีทศเทพ โดยมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพ 1 คืน และ วันพรุ่งนี้ ( 13 ม.ค.) จะเคลื่อนย้ายศพไปบำเพ็ญกุศลต่อที่วัดนางเหล้า ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา อีก 3 คืนส่วนนายอลงกรณ์ เริ่มประชาธิปไตย และ น.ส.ปรียานุช พุฒิกรณ์ ผู้ต้องหา ตำรวจได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางความสนใจของประชาชน ซึ่งนายอลงกรณ์ได้รับสารภาพว่า วันเกิดเหตุขับรถหลบหนีเพราะตกใจ และไม่ได้ตั้งใจชนทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งปูนบำเหน็จ ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ 5 ขั้นเงินเดือน และ 4 ชั้นยศ เป็น พล.ต.ต. และ ยังมีเงินสวัสดิการช่วยเหลืออีกประมาณ 200000 บาท
ตำรวจเตรียมนำตัวผู้ต้องหาขับรถชนตำรวจไปฝากขังที่ศาลอาญาวันพรุ่งนี้ ( 13 ม.ค.) หลังเสร็จสิ้นทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขณะที่ญาติเข้ารับศพรองสารวัตรสืบสวนไปรดน้ำศพที่วัดตรีทศเทพ ก่อนนำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่จังหวัดสงขลา
อาชญากรรม
ค้ายา,ชนตำรวจ,ยาบ้า,ยาเสพติด,วัดตรีทศเทพ
https://news.thaipbs.or.th/content/59160
ศาลกัมพูชาตัดสินจำคุก 9 เดือน 5 คนไทย แต่ให้รอลงอาญา
และแยกชาวบ้านไม่ออกว่าเป็นคนไทยหรือกัมพูชาเพราะหน้าคล้ายกัน ขณะที่ วีระ เตรียมขึ้นศาลคดีจารกรรมจากกรณีที่มีคณะคนไทย 7 คน ได้แก่ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ นายวีระ สมความคิด นายกิชพลธรณ์ ชุสนะเสวี ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ นายตายแน่ มุ่งมาจน นางนฤมล จิตรวะรัตนา น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ และนายพนิช วิกฤติเศรษฐ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น ได้ข้ามแดนบริเวณหลักเขตแดนที่ 46 บ้าน ภูมิโจกเจย (บ้านโชคชัย) ต.โอเบยเจือน อ.โจรว จ.บันเตียเมียเจย ตรงข้ามฝั่งไทยบริเวณ บ้านหนองจันทร์ ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และถูกทหารรักษาชายแดนที่ 503 ของกัมพูชา ควบคุมตัวเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 53 และถูกตั้งข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และบุกรุกพื้นที่ทหารโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นล่าสุด ช่วงบ่ายวันนี้ (21 ม.ค.) ศาลกัมพูชาได้ไต่สวนคนไทยทั้ง 5 คน โดยทั้ง 5 คน ได้ให้การเหมือนกันว่า ไม่มีเจตนาเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากพบป้ายที่เขียนเป็นภาษากัมพูชา และไม่อาจทราบได้ว่าเป็นพื้นที่หวงห้าม ขณะที่ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ให้การว่า ไม่ทราบว่าพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ของกัมพูชาเช่นกัน เนื่องจากไม่มีป้ายเป็นภาษากัมพูชา และแยกไม่ออกว่าชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวเป็นคนไทยหรือกัมพูชา เนื่องจากมีหน้าตาคล้ายๆ กันต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นกัมพูชาได้อ่านคำพิพากษาคนไทย 5 คน ประกอบด้วย นายพนิช วิกิตเศรษฐ ส.ส.กรุงเทพ พรรคประชาธิปัตย์ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ นายตายแน่ มุ่งมาจน จากสันติอโศก นายกิชพลธรณ์ ชุสนะเสวี ผู้ช่วยนายพนิช และนางนฤมล จิตรวะรัตนาศาลกัมพูชา ตัดสินว่า จากพยานหลักฐานทั้งหมดเห็นชัดว่า บุคคลทั้ง 5 นั้น มีเจตนาเข้าเขตแดนกัมพูชาจริง ศาลตัดสินให้ปรับเงินคนละ 1 ล้านเรียล หรือ 1 หมื่นบาท และลงโทษจำคุก 9 เดือน แต่โทษจำคุกนั้น ทั้ง 5 คนอยู่ในเรือนจำมาตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 53 จึงเหลือระยะเวลารับโทษ 8 เดือน ศาลให้รอลงอาญา โดยอนุญาตให้ทั้ง 5 คน กลับประเทศไทยได้ทันที แต่ช่วง 8 เดือนที่รอลงอาญา ห้ามทั้ง 5 คนกระทำผิดซ้ำ คือห้ามเข้าเขตแดนกัมพูชาโดยผิดกฎหมายอีกหลังศาลกัมพูชาอ่านคำพิพากษา นายพนิช กล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ถึงคำตัดสินดังกล่าวว่า แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดี ระหว่างชาติสมาชิกอาเซียนด้วยกันส่วนนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ กำลังรอศาลกัมพูชาพิจารณาคดี เนื่องจากทางการกัมพูชาได้ตั้งข้อหาจารกรรมข้อมูลกับคนไทยทั้ง 2 เพิ่มเติมจากข้อหาหลบหนีเข้าเมือง
ศาลกัมพูชาตัดสินคดี 5 คนไทยหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายแล้ว โดยจำคุก 9 เดือนปรับ 1 ล้านเรียล แต่ให้รอลงอาญาและให้กลับไทยได้ ด้าน พนิช ให้การต่อศาล ระบุไม่ทราบว่าเป็นพื้นที่กัมพูชา
การเมือง
กรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา,กัมพูชา,ตายแน่ มุ่งมาจน,พนิช วิกิตเศรษฐ์,วีระ สมความคิด,ไทย-กัมพูชา
https://prachatai.com/journal/2011/01/32732
ใครเป็นใครชิงนายกฯ
ก็ไม่ต่างกันชิงเสนอ 3 ชื่อเช่นกัน หน่อย-ชัชชาติ-โภคิน,ข่าว เขย่าขวด สุดสัปดาห์นี้เมื่อ กกต.ประกาศวันเลือกตั้งชัดเจน 24 มี.ค. 62 และกำหนดให้วันที่ 4-8 ก.พ. 62 เป็นวันรับสมัคร,จากนี้ไปจึงเป็นเรื่องของพรรคการเมือง นักการเมืองที่จะต้องเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตัวเพื่อไม่ให้ผิดกติกา,เพราะทุกคนจะต้องมีหน้าที่รับผิดชอบกันเอง,เมื่อรัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้งที่เปลี่ยนไปจากเดิมด้วยรูปแบบจัดสรรปันส่วนผสม ทุกคะแนนล้วนมีความหมาย,จากนี้ไปเป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบผิดพลาดไปก็หมายถึงอาจจะไม่ได้ลงเลือกตั้ง,หรือแรงไปกว่านั้นอาจจะถึงขั้น ยุบพรรค ได้,อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยก็คือพรรคการเมืองแต่ละพรรคจะส่งใครในบัญชีรายชื่อเพื่อชิงเก้าอี้นายกฯ จำนวนพรรคละ 3 คน,เว้นแต่พรรคการเมืองที่ได้ ส.ส.ไม่ถึง 25 คน แม้จะเสนอชื่อได้ แต่ถ้าผลการเลือกตั้งออกมาไม่ได้ 25 คน ก็ต้องถูกตัดชื่อออกไป,ที่เห็นเวลานี้มีหลายพรรคที่เตรียมบุคคลเอาไว้แล้ว แต่ก็มีอีกหลายที่ประกาศไม่เสนอชื่อเพราะคาดการณ์แล้วว่าส่งไปก็ไม่มีประโยชน์,หรืออีกหลายพรรคก็จะไม่ส่งชื่อ เนื่องจากมีการจับมือกันในทางลับหรือเปิดเผยว่าต้องการเลือกคนที่เป็นนายกฯเอาไว้แล้วจึงไม่ส่งตัวแทนเข้าแข่งขัน,ประชาธิปัตย์นั้นแน่นอนแล้วว่าจะส่ง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคเพียงคนเดียว เพื่อหวังว่าจะเป็น ตัวแปร และแสดงจุดยืนของพรรค,ในสถานการณ์ที่เป็นจริงคู่ต่อกรสำคัญน่าจะอยู่ที่พรรคเพื่อไทยและพลังประชารัฐว่าจะส่งใครเท่านั้น,ไทยรักษาชาติ (ทษช.) ก็คงไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าใดนักส่งเพื่อแสดงจุดยืนของพรรคเท่านั้น เนื่องจากเป็นเครือข่ายกับเพื่อไทย (พรรคแม่) อยู่แล้ว,ล่าสุด ความชัดเจนเริ่มปรากฏแล้วว่าทั้ง 2 พรรค จะส่งผู้ใดลงสมัคร,เริ่มจาก พลังประชารัฐ น่าจะลงตัวแล้วเพียงแต่รอวันเวลาเท่านั้น ,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ คนที่อยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด,อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค,เป็นความลงตัวที่ทำให้เห็นว่ามีความพร้อมทั้งนโยบาย และคนที่จะนำพรรคเพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจ,มีคำถามว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเข้าร่วมหรือไม่ ความจริงแล้วไม่น่าจะตั้งคำถามแบบนี้เพราะหากเปลี่ยนใจ,พลังประชารัฐ มีหวังอ่วมอรทัยแน่,เพื่อไทย ล่าสุดบอกว่าจะมีการเสนอ 3 ชื่อเข้าชิงเก้าอี้นายกฯ,คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง,ชัชชาติ สิทธิพันธุ์,โภคิน พลกุล,ตรงนี้จึงน่าจะมีคำถามได้ว่าทำไมจึงไม่ส่งชื่อ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ คำตอบที่ชัดเจนก็คือชื่อนี้ขายไม่ได้,เป็นแค่หัวหน้าพรรคขัดตาทัพเท่านั้น เพราะการเสนอชื่อทั้ง 3 เพื่อแสดงให้เห็นว่าเพื่อไทยมีความพร้อมทั้งนโยบายและตัวบุคคล,ประเด็นอยู่ที่ว่าฝ่ายไหนจะได้เสียงสนับสนุนมากกว่ากันเท่านั้น,ลิขิต จงสกุล
เดินหน้าสู่สนามเลือกตั้ง พลังประชารัฐ ประกาศกลายๆ ว่าจะส่ง 3 ชื่อชิงเก้าอี้นายกฯ 1 ในนั้นชื่อ ประยุทธ์ เพื่อไทย
เลือกตั้ง
เลือกตั้ง62,พรรคพลังประชารัฐ,พรรคเพื่อไทย,สับรางวันอาทิตย์,ลิขิต จงสกุล,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1480075
ผู้ดีเผยภาพใหม่มือระเบิดแมนเชสเตอร์ เตือนปชช.ระวังกระเป๋าสีฟ้าที่หายไป
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองแมนเชสเตอร์ได้เผยแพร่รูปภาพใหม่ของนายซัลมาน อาเบดี ผู้ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่สนามกีฬา แมนเชสเตอร์ อารีนา เมื่อวันที่ 22 พ.ค. หลังจบคอนเสิร์ตของ อาเรียนา แกรนเด นักร้องสาวชาวอเมริกัน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 120 คน,เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนหาเครือข่ายที่ร่วมมือวางแผนการโจมตีกับนายอาเบดี ซึ่งจนถึงตอนนี้พวกเขาจับผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำแล้ว 14 คน ขณะที่ภาพใหม่ของนายอาเบดี เป็นภาพกล้องวงจรปิดในวันที่เขาลงมือก่อเหตุ แสดงให้เห็นตัวเขาในชุดสีดำ ลากกระเป๋าเดินทางสีฟ้าใบใหญ่,ตำรวจหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายภาคตะวันตกเฉียงเหนือระบุว่า นายอาเบดีไปถนน วิล์มสโลว์ พร้อมกับกระเป๋าใบนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ย้ำว่านี่เป็นกระเป๋าคนละใบกับที่เขาใช้ในการโจมตี และแม้ตอนนี้พวกเขาจะยังไม่มีเหตุผลให้เชื่อว่า กระเป๋าใบนี้มีอันตราย แต่ก็ขอให้ประชาชนระวังตัวเมื่อพบเห็น และให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที,นอกจากนั้น ตำรวจยังได้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่แสดงให้เห็นว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุ นายอาเบดีไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ที่พักของเขาด้วย,ทั้งนี้ ตามรายงานของสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ (เอ็นเอชเอส อิงแลนด์) จนถึงตอนนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 52 คน โดยในจำนวนนี้มี 19 คนที่อาการอยู่ในขั้นวิกฤติ.
ตำรวจแมนเชสเตอร์เผยภาพใหม่ของนายซัลมาน อาเบดี มือระเบิดฆ่าตัวตายผู้โจมตีแมนเชสเตอร์ อารีนา โดยเป็นภาพเขาถือกระเป๋าเดินทางสีฟ้า ซึ่งตำรวจระบุว่าเป็นคนละใบกับที่เขาใช้ก่อเหตุระเบิด
ข่าว,ต่างประเทศ
แมนเชสเตอร์ อารีนา,ระเบิดแมนเชสเตอร์,ซัลมาน อาเบดี,ระเบิดฆ่าตัวตาย,กล้องวงจรปิด
https://www.thairath.co.th/news/foreign/956815
ลุงสวนผักคนดีเก็บเงินหมื่นคืน ไม่รู้ใครเจ้าของ ตกหน้าร้านอาหารภูเก็ต
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายลุงหวาน ศุภเลิศ อายุ 61 ปี ชาวศรีสะเกษ พร้อมตำรวจชุมชน ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ได้เข้าพบ ดร.ประเจียด อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และ นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต เพื่อขอให้จังหวัดช่วยประกาศตามหาเจ้าของทรัพย์สินที่เก็บได้ที่หน้าร้านครัวโป่ง ต.รัษฎา เป็นเงินสดเกือบ 10,000 บาท เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา,นายลุงหวาน กล่าวว่า มีอาชีพปลูกผักขาย และเมื่อวันที่ 22 พ.ย. เก็บเงินสดซึ่งถูกมัดด้วยยาง 1 มัดได้ โดยตกอยู่ที่พื้นถนน หลังเก็บได้ฝากไว้กับเจ้าของร้านอาหารเพื่อรอเจ้าของเงินมารับ ผ่านไป 1 วัน ยังไม่มีใครมาแสดงตัว จึงนำไปมอบให้กับตำรวจชุมชน ต.รัษฎา รักษาไว้ ก็ยังไม่มีใครมาติดต่อขอรับอีก จึงนำมามอบให้จังหวัดช่วยประกาศตามหาเจ้าของ เพื่อให้มาติดต่อขอรับเงินคืนต่อไป,ด้าน ดร.ประเจียด กล่าวชื่นชม นายลุงหวาน ว่า เป็นคนดี ไม่คิดอยากได้ในทรัพย์สินของผู้อื่น และมีใจที่จะตามหาเจ้าของ เบื้องต้น จังหวัดจะทำประกาศเชิดชูคนดีเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมต่อไป อย่างไรก็ตาม เงินจำนวนดังกล่าว ทางจังหวัดได้ส่งคืนกลับไปยังตำรวจชุมชน ต.รัษฎา เพื่อให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนประชาชนท่านใดที่รู้ว่าได้ทำเงินสูญหายให้ไปแสดงตนเป็นเจ้าของเพื่อขอรับเงินคืนได้.
ลุงสวนผักชาวศรีสะเกษ วัย 61 ปี เก็บเงินได้เกือบหมื่นบ้านหน้าร้านอาหาร จ.ภูเก็ต ยังไม่เจอตัวเจ้าของ มอบตำรวจชุมชน ต.รัษฎา เก็บรักษา ก่อนประกาศหาตัว ด้าน รองผู้ว่าฯ ชื่นชม เป็นคนดี มีน้ำใจ เตรียมมอบประกาศเชิดชู
null
คนดีต้องแชร์,เก็บเงินคืน,ประเจียด อักษรธรรมกุล,ลุงหวาน ศุภเลิศ,เก็บเงินคืนเจ้าของ,คนดี,พลเมืองดี,ภูเก็ต,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/content/541995
มาคืนพื้นที่ให้ iPhone กันดีกว่า
คุณผู้อ่านเคยประสบปัญหาพื้นที่ความจำ iPhone เต็มกันไหมคะ? ตอนซื้อก็กะว่าคงจะใช้พื้นที่ความจำไม่เยอะเท่าไร แต่พอใช้ๆ ไป เอ๊ะ ทำไม iPhone เครื่องโปรดถึงพื้นที่เต็มขึ้นมาซะอย่างงั้น ทีนี้ก็ชวนให้หงุดหงิดเพราะโหลดแอปก็ไม่ไหว จะถ่ายรูปก็ไม่ได้ แถมชอบมาเต็มตอนจังหวะสำคัญที่น่าเก็บความประทับใจสุดๆ อีกต่างหาก ไม่ต้องห่วงค่ะวันนี้เฟื่องจะมาแอบบอกเคล็ดลับดีๆ ในการกู้พื้นที่ iPhone คืนมาแบบเร่งด่วน,เมื่อพูดถึงการลบอะไรสักอย่างจาก iPhone ของเราแบบเร่งด่วนที่สุดโดยไม่ต้องนำไปต่อคอมพิวเตอร์หลายคนก็คงจะนึกถึงแอปที่ไม่ได้ใช้ และรูปจำนวนมากที่อยู่ในเครื่องนั่นเอง แอปนั้นคงตัดสินใจไม่ยากอะไร เพราะชัดอยู่แล้วว่าแอปไหนใช้ แอปไหนไม่ได้ใช้ แล้วรูปล่ะจะตัดสินใจยังไงดี? มาดูกันดีกว่าค่ะว่ารูปอะไรบ้างที่ไม่ใช้แล้วมีไว้ก็รกเครื่อง และกินพื้นที่เสียเปล่าๆ ควรจะเลือกลบทิ้งเป็นอันดับแรก,พอบอกว่าให้จัดการกับรูปที่ไม่ใช้แล้วคุณผู้อ่านหลายคนก็คงจะอยากโวยเฟื่องขึ้นมาทันทีว่า เอ๊ะ จะมาบอกเรื่องที่รู้อยู่แล้วทำไม หน้าสิ่วหน้าขวานขนาดนี้ใครจะมีเวลาไปนั่งเลือกลบรูปจากรูปในเครื่องนับพัน จริงๆ แล้วเฟื่องมีเทคนิคการเลือกลบรูปเร็วๆ มาบอกกันค่ะ โดยเมื่อเราเข้าไปในแอป Photos ของ iPhone นั้นให้เราเลือกเข้าไปที่โหมด Album จากนั้นเลือกลบรูปจากอัลบัมดังต่อไปนี้,1. Selfies ,แหม่ แค่เข้าไปในอัลบัมนี้ก็เจอภาพ Selfie ตัวเองแบบละ 20-30 ช็อตเพื่อหาช็อตที่ดีที่สุดแล้วใช่ไหมคะ ลองลบภาพที่ไม่โอเคทิ้งแล้วเหลือไว้แค่ช็อตที่ชอบแค่ช็อตเดียวก็ได้พื้นที่กลับมาเพียบแล้วค่ะ,2. Bursts,เคยกดปุ่มถ่ายรูปค้างไว้เพื่อถ่ายรัวๆ หลายๆ ช็อต (ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ) กันใช่ไหมคะ ฟีเจอร์ที่สุดแสนจะมีประโยชน์โดยเฉพาะเวลาต้องการรูปกระโดดกลางอากาศนี้ออกจะเปลืองพื้นที่ไม่ใช่เล่น ลองเข้าไปในอัลบัมนี้ เลือกแต่ละรูปจากนั้นเลือกเก็บไว้เฉพาะรูปที่ชอบที่สุด (keep 1 favorite) แล้วลบรูปช็อตอื่นๆ ทิ้งรับรองว่าจะได้พื้นที่กลับมาเยอะเชียวค่ะ,3. Screenshots ,แคปรูป แคปแชตไว้เม้ามอยอวดเพื่อนเยอะแยะมากมาย บางทีแคปไว้แล้วก็ลืมบ้างอะไรบ้าง ลองเข้าไปในอัลบัมนี้ดูรับรองว่าจะเจอรูปที่อยากลบทิ้งเยอะแยะเต็มไปหมดเลยค่ะ,4. Recently Delete, ,ลบรูปไปก็เยอะแล้วแต่ถ้าปล่อยให้มาคาอยู่ในอัลบัมนี้ก็คงเปลืองที่โดยใช่เหตุ ดังนั้นลบรูปไปตั้งเยอะแยะแล้วอย่าลืมมาลบรูปในอัลบัมนี้อีกทีเพื่อคืนพื้นที่ให้ iPhone ของเรากันนะคะ,เชื่อว่าถ้าทำตามครบทุกขั้นตอนก็คงจะได้พื้นที่ภายในเครื่องกลับมาพอใช้กับสถานการณ์ตรงหน้าไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ทางที่ดีเมื่อมีเวลาก็อย่าลืม back up รูปต่างๆ ใส่ไว้ใน Cloud หรือคอมพิวเตอร์ เพื่อลดภาระของเครื่องลงบ้างนะคะ เราจะได้มีพื้นที่เหลือๆ ไว้ใช้งานได้แบบไม่ต้องกังวล และปวดหัวกับการไล่ลบรูปในเวลาที่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ความจำของเครื่องแบบกะทันหันค่ะ สัปดาห์นี้ลาไปก่อน ส่วนสัปดาห์หน้าเฟื่องจะมาในหัวข้ออะไรรอติดตามชมได้เลยค่ะ,ABOUT ME,Instagram: ,http://www.instagram.com/faunglada,Facebook: ,http://www.facebook.com/faunglada,Youtube: ,http://www.youtube.com/faunglada,Twitter: ,http://twitter.com/faunglada,Blog: ,http://www.faunglada.com
คุณผู้อ่านเคยประสบปัญหาพื้นที่ความจำ iPhone เต็มกันไหมคะ? ตอนซื้อก็กะว่าคงจะใช้พื้นที่ความจำไม่เยอะเท่าไร แต่พอใช้ๆ ไป เอ๊ะ! ทำไม iPhone เครื่องโปรดถึงพื้นที่เต็มขึ้นมาซะอย่างงั้น
คนดังนั่งเขียน,ข่าว
คนดังนั่งเขียน,เฟื่องลดา,iPhone,หน่วยความจำเต็ม,หน่วยความจำ iPhone เต็ม
https://www.thairath.co.th/news/931020
ฝรั่งเศสเร่งล่าตัว ผู้ต้องสงสัยอันตราย-ชี้คนร้ายวางแผนในเบลเยียม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจฝรั่งเศสเปิดเผยชื่อ และภาพของชายผู้ต้องสงสัย ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการตัว ฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้ายหลายจุดในกรุงปารีส เมื่อวันศุกร์ (13 พ.ย.) แล้ว คือ นายอับเดสลาม ซาลาห์ อายุ 26 ปี เกิดในประเทศเบลเยียม ตำรวจยังขอข้อมูลจากประชาชนที่พบเห็น นายซาลาห์ แต่เตือนด้วยว่าชายคนนี้เป็นบุคคลอันตรายอย่าพยายามเข้าหาเขา,ทั้งนี้ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสเชื่อว่า คนร้ายที่ก่อเหตุโจมตีร้านอาหารหลายแห่ง, จุดระเบิดฆ่าตัวตายใกล้สนามกีฬา สตาด เดอ ฟรองซ์ และจับตัวประกัน ก่อนระเบิดฆ่าตัวตายในโรงละครบาตากล็อง เมื่อวันศุกร์มีเพียง 7 คน ซึ่งถูกพบว่าเสียชีวิตทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการพบรถยนต์ยี่ห้อ Seat ที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ ถูกจอดทิ้งไว้ในเขตมงเตรอยิล ทางตะวันออกของกรุงปารีส ตำรวจจึงเชื่อว่ามีผู้ก่อเหตุหลบหนีไปได้อย่างน้อย 1 คน ซึ่งก็คือ นายซาลาห์,ขณะเดียวกัน นายแบร์นาร์ด กาเซอเนิฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศส เปิดเผยว่า การโจมตีในกรุงปารีสเตรียมการโดยกลุ่มบุคคลในเบลเยียม และได้รับความร่วมมือจากผู้สมรู้ร่วมคิดในฝรั่งเศส ขณะที่ ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดจากเหตุการณ์นี้เพิ่มขึ้นเป็น 132 รายแล้ว หลังจากมีผู้บาดเจ็บเสียชีวิตเพิ่มอีก 3 รายในวันอาทิตย์,อีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่าเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นที่จัตุรัสรีพับลิค ที่ประชาชนจำนวนมากกำลังทำพิธีไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต เนื่องจากฝูงชนเข้าใจผิดคิดว่าเสียงประทัดเป็นเสียงปืน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บหรือไม่
ตำรวจฝรั่งเศสเร่งตามล่าตัวผู้ต้องสงสัย เชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อการร้ายในกรุงปารีส ซึ่งหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุได้ โดยเปิดเผยทั้งรูปภาพและชื่อของชายผู้นี้
null
ก่อการร้ายฝรั่งเศส,ฝรั่งเศส,ปารีส,ก่อการร้าย,ระเบิด,ยิง,ตัวประกัน,สนามกีฬา,ร้านอาหาร,กลุ่มก่อการร้าย,ภาวะฉุกเฉิน,ผู้ต้องสงสัย,ผู้ต้องสงสัยอันตราย,ระเบิดฆ่าตัวตาย,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/539652
เอาแล้วไง โครส เตรียมลา ราชัน ย้ายลงหลุมผี ซัมเมอร์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 7 มี.ค. ว่า โทนี โครส ห้องเครื่องสตาร์ดังของ ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด เตรียมพิจารณาย้ายมาเล่นให้กับ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์ หากต้นสังกัดของเขาไร้แชมป์ในฤดูกาลนี้,กองกลางดีกรีแชมป์โลกกับเยอรมนี ตกเป็นข่าวกับผีแดง อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ซัมเมอร์ที่ผ่านมา กระทั่งล่าสุดดูเหมือนข่าวลือดังกล่าวใกล้จะเป็นความจริงเมื่อ Diario Gol สื่อดังประเทศสเปนอ้างว่่า โทนี โครส เตรียมย้ายทีมมาเล่นให้กับผีแดง หากจบฤดูกาลโดยที่ เรอัล มาดริด ไม่ได้แชมป์แม้แต่รายการเดียว,ปัจจุบัน เรอัล มาดริด ร่วงตกรอบโกปา เดลเรย์ ไปแล้ว ในขณะที่ในลีกก็เพิ่งถูก บาร์เซโลนา แซงทั้งที่นำห่างถึง 7 แต้ม ส่วนในแชมเปียนส์ลีกมีโอกาสผ่านเข้ารอบควอเตอร์ไฟนอลแต่ยังเหลือยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปเตรียมเผชิญหน้าไม่ว่าจะเป็น เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิก, ปารีส แซงต์แชร์กแมง หรือแม้แต่ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้,สำหรับ โชเซ มูรินโญ กุนซือของ ผีแดง ต้องการได้ตัวกองกลางห้องเครื่องที่เข้ามารับงานสานต่อ ไมเคิล คาร์ริก และ โทนี โครส ก็คือหนึ่งในเป้าหมายของกุนซือหน้าเครียดรายนี้ และคาดกันว่าหากเจ้าตัวย้ายมาจริง จะทำให้เขาจะเล่นในตำแหน่งกองกลางร่วมกับ อันเดร เอร์เรรา และ พอล ป็อกบา กองกลางค่าตัวแพงสุดในโลก
Diario Gol สื่อดังคนชนวัว ตีข่าวว่า โทนี โครส กองกลางตัวเก่งของ ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด เตรียมพิจารณาย้ายมาเล่นให้กับ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในซัมเมอร์นี้
null
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,โทนี โครส,เรอัล มาดริด,ข่าวกีฬา
https://www.thairath.co.th/content/877516
14 มี.ค. ศรีวราห์ แจ้งข้อหา เปรมชัย ครอบครองงาช้างแอฟริกา - ปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต
วันนี้ ( 8 มี.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมคดีล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และสั่งให้พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ดำเนินคดีกับนายเปรมชัย กรรณสูต เพิ่มอีก 1 ข้อหา คือ ครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีพบงาช้างแอฟริกาในบ้านพักหลังจากแจ้งข้อหานี้กับ นางคณิตดา กรรณสูต ภรรยานายเปรมชัยไปแล้ว เนื่องจากหลักฐานพบว่าเป็นผู้ครอบครอง แต่นายเปรมชัยเป็นเจ้าของบ้านและถือว่ามีการใช้ประโยชน์ร่วมกันวันที่ 14 มีนาคมนี้ ตำรวจจะออกหมายเรียกเพื่อรับทราบข้อกล่าวหานี้ และแจ้งข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตกับนายเปรมชัยด้วยพล.ต.อ.ศรีวราห์ ยืนยันว่าจะสามารถแจ้งข้อหานายเปรมชัยกับพวก ในข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าได้อย่างแน่นอน และเชื่อว่าอัยการก็จะเห็นด้วยกับพนักงานสอบสวน เพราะมีพยานหลักฐานครบถ้วนส่วนผลการตรวจวิถีกระสุนการยิงเสือดำของชุดพญาเสือ กรมอุทยาน พล.ต.อ.ศรีวราห์ ระบุว่า พนักงานสอบสวนและตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจไปทั้งหมดแล้ว และเป็นพยานหลักฐานในสำนวนคดีไม่จำเป็นต้องทำซ้ำอีกอ่านข่าวเพิ่มเติม
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งดำเนินคดี นายเปรมชัย กรรณสูต เพิ่มอีก 1 ข้อหา ออกหมายเรียก 14 มีนาคม 2561 พร้อมยืนยันจะแจ้งข้อหานายเปรมชัยกับพวก ข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าได้แน่นอน
อาชญากรรม
คดีล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร,ล่าสัตว์ป่า,เปรมชัย กรรณสูต,คณิตดา กรรณสูต,ครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,งาช้างแอฟริกา,14 มีนาคม,ออกหมายเรียก,พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/270827
เสริมโหด บาร์ซา มาเงียบ ตะครุบ ตูราน 41 ล้านยูโร
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 7 ก.ค. ว่า บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่ลีกกระทิงประกาศคว้าตัว อาร์ดา ตูราน ปีกเชิงสูงจาก ตราหมี แอตเลติโก มาดริด คู่แข่งร่วมลีกเป็นที่เรียบร้อยด้วยค่าตัว 41 ล้านยูโร หรือประมาณ 1,312 ล้านบาท,หลังจบฤดูกาลที่ผ่านมาแข้งวัย 28 ปีตกเป็นข่าวย้ายทีมอย่างต่อเนื่องโดยมียักษ์ใหญ่ 2 ทีมอย่าง บาร์เซโลนา และ เชลซี เป็น 2 ทีมตัวเต็งที่จะคว้าแข้งรายนี้ไปเสริมทัพ จนกระทั่งล่าสุดบาร์เซโลนาก็ออกมาคอนเฟิร์มผ่านทางทวีตเตอร์สโมสรว่าได้คว้าตัวปีกชาวตุรกีนี้ร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งค่าตัวของแข้งรายนี้จะอยู่ที่ 34 ล้านยูโรบวกกับส่วนต่างๆอีก 7 ล้านยูโรรวมเป็น 41 ล้านยูโร แต่ถึงกระนั้นระยะเวลาของสัญญายังไม่ถูกเปิดเผย,ทั้งนี้ บาร์ซา ยังมีออพชันส่งตัวตูรานคืนสู่ตราหมีก่อนวันที่ 20 ก.ค. ซึ่งเป็นวันที่ได้ประธานสโมสรคนใหม่ โดยจะมีการเลือกตั้งประธานคนใหม่อย่างเป็นทางการในวันที่ 18 ก.ค. ที่จะถึง ซึ่ง โฆเซป มาเรีย บาร์โตเมว ที่ออกมาวางนโยบายซื้อตัวตูรานสู่ทีมเป็นตัวเต็งแข่งขันกับ ผู้ท้าชิงรายอื่น อทิ โจน ลาปอร์ตา,โตนี เฟรซา หรือ อากุสติน เบเนดิโต,อย่างไรก็ตามหาก ตูราน ยังได้อยู่ในคัมป์นูต่อไป เจ้าตัวจะไม่สามารถลงสนามให้กับบาร์เซโลนาอย่างเป็นทางการจนกระทั่งถึงวันที่ 1 มกราคมปีหน้าเนื่องจากบาร์เซโลนายังติดโทษแบนห้ามซื้อขายตัวภายในปีนี้ โดยคาดว่าจะถูกนำตัวส่งให้สโมสรอื่นยืมตัวไปใช้งานจนกว่าจะพ้นโทษแบนต้นปีหน้า
บาร์เซโลนา เสริมโหด ประกาศคว้าตัว อาร์ดา ตูราน ปีกทักษะสูงจาก ตราหมี แอตเลติโก มาดริด ร่วมทีมด้วยค่าตัว 41 ล้านยูโรเป็นที่เรียบร้อย
null
ลาลีกา,บาร์เซโลนา,อาร์ดา ตูราน,แอตเลติโก มาดริด,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/509882
3 นักวิทย์พบ คลื่นแรงโน้มถ่วง พิสูจน์ทฤษฎีไอน์สไตน์ ซิวโนเบลฟิสิกส์
โดยสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งสวีเดน ประกาศเมื่อ 3 ต.ค.ว่า นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน 3 คน คือนายไรเนอร์ ไวส์ แห่งสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเสตต์ (เอ็มไอที) นายคิพ ธอร์นและนายแบร์รี บาริช แห่งสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย ซึ่งร่วมกันค้นพบคลื่นแรงโน้มถ่วงเมื่อปี 2558 เป็นผู้คว้ารางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ประจำปี 2560 นายไวส์จะได้รับใบประกาศนียบัตรพร้อมเงินรางวัลครึ่งหนึ่งของ 9 ล้านโครเนอร์ หรือราว 1.1 ล้านดอลลาร์ (36.3 ล้านดอลลาร์) ส่วนนายคิพและบาริช รับเงินรางวัลส่วนที่เหลือ,คลื่นแรงโน้มถ่วงถูกทำนายไว้เมื่อ 1 ศตวรรษก่อน โดยยอดนักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องโลกผู้ล่วงลับ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ และเป็นส่วนหนึ่งของทฤษฎีสัมพันธภาพของไอน์สไตน์ โดยคลื่นแรงโน้มถ่วงใช้อธิบายการยืดขยายและการบีบรัดของเวลาอวกาศ (กาลอวกาศ) ที่เกิดขึ้นเมื่อวัตถุขนาดใหญ่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง นักวิทยาศาสตร์ทั้ง 3 คน ค้นพบคลื่นดังกล่าวจากการใช้เลเซอร์ตรวจจับผลกระทบที่เกิดจากการพุ่งชนกันของหลุมดำ 2 หลุมที่ห่างจากโลกออกไปราว 1,300 ล้านปีแสง ซึ่งคลื่นนี้เป็นที่ถกเถียงกันมานานว่ามีอยู่จริงหรือไม่ กระทั่งมีการค้นพบจึงสร้างความฮือฮาไปทั่ว.
รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ประจำปี 2560 ตกเป็นของนักวิทยาศาสตร์ 3 คน ผู้ค้นพบคลื่นแรงโน้มถ่วง หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าคลื่นไอน์สไตน์
ข่าว,ต่างประเทศ
คลื่นแรงโน้มถ่วง,โนเบล,สาขาฟิสิกส์,ไอน์สไตน์,หลุมดำ
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1088929
กัปตันกิ๊ฟ นำทัพสาวไทยตบเกาหลีใต้ ศึกลูกยางนัดพิเศษ 3 มิ.ย. นี้
นุศรา ต้อมคำ, วรรณา บัวแก้ว และ กัปตันกิ๊ฟ วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ ลงประชันเพลงตบเต็มกำลังศึก 3 มิ.ย.นี้ ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก,ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ได้ประกาศรายชื่อผู้เล่น 21 คน ที่จะลงทำการแข่งขันในวอลเลย์บอลนัดพิเศษ เกาหลี-ไทย โปร วอลเลย์บอล ออล สตาร์ ซูเปอร์แมตช์ 2017 ที่สนามอินดอร์สเตเดียม หัวหมาก วันที่ 3 มิถุนายน 2560 ดังนี้ นุศรา ต้อมคำ, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, อัจฉราพร คงยศ, พรพรรณ เกิดปราชญ์, วรรณา บัวแก้ว, มลิกา กันทอง, ปิยะนุช แป้นน้อย, ทัดดาว นึกแจ้ง, หัตถยา บำรุงสุข, อรอุมา สิทธิรักษ์, ชิตพร กำลังมาก, ยุพา สนิทกลาง, จรัสพร บรรดาศักดิ์, ฐาปไพพรรณ ไชยศรี, พิมพิชยา ก๊กรัมย์, วิภาวี ศรีทอง, ธนัชชา สุขสด, ฑิชาญา บุญเลิศ, ชัชชุอร โมกศรี, โสรยา พรมหล้า,ส่วนทีมงานสตาฟฟ์โค้ช นำโดย นายดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอน, น.ท.ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค ผู้ฝึกสอน, นายสมชาย ดอนไพรยอด ผู้จัดการทีม และนางสาวทิพยรัตน์ แก้วใส นักกายภาพ ทั้งนี้ สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยจะมีการประกาศรายชื่อผู้เล่น 14 คนสุดท้ายที่จะเข้าร่วมทำการแข่งขันในวันที่ 1 มิถุนายน 2560 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นผู้เล่นชุดเดียวกันกับ 14 คนที่จะเข้าร่วมทำการแข่งขันวอลเลย์บอลมงเทรอซ์ มาสเตอร์ส 2017 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ระดม 21 สาวนักตบไทยรับมือเกาหลีใต้ ในศึก เกาหลี-ไทย โปรวอลเลย์บอล ออลสตาร์ ซูเปอร์แมตช์ ที่เป็นการรวมสุดยอดระดับพระกาฬของนักตบไทย หน่อง ปลื้มจิตร์ ถินขาว, นุศรา ต้อมคำ, วรรณา บัวแก้ว และ กัปตันกิ๊ฟ วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
เกาหลี-ไทย โปร วอลเลย์บอล ออล สตาร์ ซูเปอร์แมตช์ 2017,วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย,วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติเกาหลีใต้,วอลเลย์บอลหญิง,วอลเลย์บอลนัดพิเศษ
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/952952
พายุถล่มหนองตะไก้ หลังคาปลิวหาย ทั้งหมู่บ้านไร้ไฟฟ้าใช้ตลอดทั้งคืน (คลิป)
เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มตัวเมืองตำบลหนองตะไก้ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา หลายหมู่บ้าน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้อาคารบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลายสิบหลัง โดยในขณะเกิดเหตุเป็นเวลาที่พ่อค้าแม่ค้ากำลังจะตั้งตลาดสด แต่จู่ๆ ก็เกิดลมพายุหมุนพัดหลังคาบ้านเรือนกระจัดกระจาย แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งพายุฤดูร้อนในครั้งนี้ถือเป็นรอบที่ 3 แล้วในปีนี้ของพื้นที่ตำบลหนองตะไก้,นางอวน สีหวงศ์ อายุ 52 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ในขณะเกิดเหตุเวลาประมาณ 16.00 น. ตนเองกำลังอยู่ภายในบ้านเพื่อจะเตรียมตัวอาบน้ำจะไปขายของ เกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างหนักนานหลายนาที จากนั้นลมพายุได้พัดเอาหลังคาปลิวออกจากตัวบ้านทั้งแถบ ทั้งที่เพิ่งใช้เงินกว่า 5 หมื่นบาทสร้างใหม่ไปเมื่อไม่กี่วัน ตัวเองไม่กล้าขยับไปไหน โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้,ด้าน นายฉะอ้อน รักษ์กลาง ผู้ใหญ่บ้านหนองตะไก้ หมู่ที่ 8 กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในพื้นที่ตำบลหนองตะไก้ เป็นครั้งที่ 3 แล้วในรอบปีนี้ แต่ถือว่ารุนแรงที่สุดเท่าที่เคยประสบมา เบื้องต้นสำรวจพบมีความเสียหายประมาณ 4 หมู่บ้าน รวมบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายไม่น้อยกว่า 80 หลังคาเรือน นอกจากนี้ลมพายุยังพัดเสาไฟฟ้าล้มและหักโค่นอีก 4 เสา ทำให้หลายหมู่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ตลอดทั้งคืน ซึ่งขณะนี้ทุกหน่วยงานกำลังเร่งให้การช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถแล้ว.
พายุฤดูร้อนพัดถล่ม ต.หนองตะไก้ ที่โคราช บ้านเรือนเสียหายกว่า 80 หลังคาเรือน พ่อค้าแม่ค้ากำลังตั้งแผงในตลาดเจอพายุหมุน พัดหลังคาบ้านเรือนกระจัดกระจาย ไฟฟ้าดับทั้งคืน โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บ
ข่าว,ทั่วไทย
พายุฤดูร้อน,พายุถล่ม,ต.หนองตะไก้,นครราชสีมา,บ้านเรือนเสียหาย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1554993
เมืองสัตหีบ นำครู-นร. เข้าอบรมโครงการวัยใสห่างไกลยาเสพติด
เมื่อวันที่ 29 ม.ค.59 นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ ได้มอบหมายให้ นายพนธกร เชื้อเงิน รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสัตหีบ เป็นประธานเปิดโครงการเยาวชนวัยใสห่างไกลยาเสพติด ณ ห้องประชุมโรงเรียนบ้านสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี คณะผู้บริหาร สมาชิกสภา ครูวิทยากรและนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านสัตหีบจำนวน 90 คน เข้ารับการอบรม,นายพนธกร กล่าวว่า สถานการณ์ยาเสพติดประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ปัจจัยที่ส่งผลทำให้ปัญหายาเสพติดมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นคือ ค่านิยมและพฤติการณ์ทางลบของเยาวชน แหล่งมั่วสุม และสถานบันเทิงหรือสถานบริการต่าง ๆ ที่เป็นจุดอ่อนและเป็นปัจจัยยั่วยุให้เยาวชนมีพฤติกรรมและก้าวไปสู่ปัญหายาเสพติด ซึ่งเด็กและเยาวชน เป็นเป้าหมายของขบวนการยาเสพติด เนื่องจากเป็นวัยที่เอื้อต่อการเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งปัจจัยจากตนเอง คือ เป็นวัยที่ต้องการเรียนรู้ อยากลอง ต้องการเรียกร้องความสนใจ ต้องการค้นหา กล้าเสี่ยง กล้าทำสิ่งท้าทาย ,ดังนั้น เป้าหมายสำคัญในการป้องกันปัญหายาเสพติด เน้นการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติด กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองสัตหีบ จึงได้จัดทำโครงการเยาวชนวัยใสห่างไกลยาเสพติดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เยาวชนรู้ถึงผลเสียของยาเสพติด ให้เยาวชนตระหนักถึงภัยของยาเสพติดที่มีต่อตนเอง ครอบครัว สังคมและประเทศชาติและให้เยาวชนมีทักษะและวิธีการในการปฏิบัติตนให้ห่างไกลยาเสพติด.
เมืองสัตหีบ เปิดโครงการเยาวชนวัยใสห่างไกลยาเสพติด โดยนำ ครู นักเรียน เข้าค่ายรับการอบรมเพื่อสร้างความภูมิกันและป้องกันยาเสพติด
null
โครงการเยาวชนวัยใส,ห่างไกลยาเสพติด,ครู-นร.รร.บ้านสัตหีบ,รร.บ้านสัตหีบ,สร้างภูมิคุ้มกัน,ป้องกันยาเสพติด,ณรงค์ บุญบรรเจิดศรี,นายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ,พนธกร เชื้อเงิน,รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสัตหีบ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/content/570193
ผ่าคะแนนแข้งผีเรียงตัว นรกแตกพลิกดับพาเลซ สอบตก 5 MOM สาวกกรี๊ดลั่น
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 5 มี.ค.ว่า แมนเชสเตอร์ อีฟนิง นิวส์ สื่อดังท้องถิ่นเมืองแมนเชสเตอร์ ประกาศคะแนนนักเตะของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมที่บุกไปเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 3-2 ซึ่งสอบตกถึง 5 คน,โดยนักเตะของผีแดงที่ได้คะแนนไม่ถึง 5 แต้มประกอบด้วย อันโตนิโอ วาเลนเซีย, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ, แอชลีย์ ยัง, สก็อต แม็คทอมิเนย์ และ พอล ป็อกบา,ส่วนนักเตะที่ได้คะแนนเยอะสุดมีด้วยกัน 3 คนคือ เนมันยา มาติช, อเล็กซิส ซานเชซ และ โรเมลู ลูกากู แต่ทางทวีตเตอร์ทางการของผีแดงยกแมนออฟเดอะแมตช์ให้ มาติช เนื่องจากเป็นคนยิงประตูชัยได้ทำเอาสาวกผีแดงกรี๊ดสนั่นลั่นตึก,สรุปคะแนนนักเตะผีแดงเรียงตัว,ดาบิด เดเคอา 6, อันโตนิโอ วาเลนเซีย 4, คริส สมอลลิง 5, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ 3, แอชลีย์ ยัง 4, สก็อต แม็คทอมิเนย์ 3, เนมันยา มาติช 7, พอล ป็อกบา 4, อเล็กซิส ซานเชซ 7, เจสซี ลินการ์ด 5, โรเมลู ลูกากู 7,ตัวสำรอง มาร์คัส แรชฟอร์ด 6, ลุค ชอว์ 5, ฮวน มาตา 6
สื่อดังท้องถิ่นเมืองแมนเชสเตอร์ ผ่าคะแนนนักเตะของ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบเรียงตัวในเกมที่บุกไปเอาชนะ คริสตัล พาเลซ แบบเหลือเชื่อ 3-2
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,เนมันยา มาติช,คริสตัล พาเลซ
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1220517
ส่อเค้าวุ่น! ชาวกาตาลุญญานับแสนเดินขบวนต่อต้านการประกาศอิสรภาพจากสเปน
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (8 ต.ค.) ประชาชนในแคว้นกาตาลุญญาหลายแสนคนเข้าร่วมขบวนการเคลื่อนไหว Societat Civil Catalana เพื่อคัดค้านความต้องการประกาศอิสรภาพแยกตัวออกจากสเปน ท่ามกลางเสียงเตือนจากนายกรัฐมนตรี เตรียมยับยั้งแผนแยกประเทศของรัฐบาลท้องถิ่น การรวมตัวครั้งนี้มีขึ้น 1 สัปดาห์ให้หลังการลงคะแนนประชามติประกาศอิสรภาพที่นับเป็นวิกฤตการเมืองครั้งรุนแรงที่สุดของสเปนในรอบ 40 ปี โดยฝ่ายผู้จัดระบุว่า มีคนเข้าร่วมมากกว่า 1 ล้านคน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบาร์เซโลนาคาดการณ์ไว้เพียง 350000 คน ระหว่างการรวมตัวประท้วง ผู้สนับสนุนที่โบกสะบัดธงกาตาลุญญาและสเปนต่างพากันตะโกน กาตาลุญญาคือสเปน ทุกคนคิดว่าการที่เราโบกธงชาติสเปนหมายความว่าเราเป็นพวกฝ่ายขวาหรือพวกฟาสซิสต์ อัลเฟรโด เมเธียส ผู้ร่วมการชุมนุม วัย 47 ปี ให้สัมภาษณ์ แต่ไม่ใช่ พวกเราเป็นเพียงคนรักชาติ ขณะเดียวกัน ประมุขฝ่ายบริหารอย่าง มาริอาโน ราฆอย ผู้ประกาศกร้าวว่า การแยกเอกราชของกาตาลุญญาจะไม่เกิดขึ้น ระบุว่า ผู้คนมีสิทธิ์ที่จะพูดว่าเราเป็นคนสเปน ผมภูมิใจกับความเป็นคนสเปนและภูมิใจต่อรัฐธรรมนูญของเรา พวกเขามีรัฐบาลที่จะปกป้องเอกภาพและอธิปไตยของประเทศ นายกรัฐมนตรีสเปนกล่าว พร้อมยืนกรานไม่เจรจาจนกว่า การ์เลส ปิกเดมองต์ ผู้นำกาตาลุญญาจะยอมถอย ผลการลงคะแนนประชามติปรากฏว่า จากผู้มาลงคะแนนทั้งหมดมีเสียงสนับสนุนนับ 90% ให้แยกตัวออกจากสเปน ขณะที่มีเพียง 7.8% ที่คัดค้านแนวทางนี้ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวอาจไม่สามารถสะท้อนความคิดเห็นที่แท้จริงของประชาชนในกาตาลุญญาได้ เนื่องจากผู้สนับสนุนให้อยู่ในสเปนอาจมองว่าประชามตินี้ผิดกฎหมาย ภายในเหตุการลงคะแนนประชามติเมื่อสัปดาห์ก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยรักษาความสงบได้ปะทะกับผู้มาใช้สิทธิ์ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเกือบ 1000 รายPhoto: AFPอ้างอิง:
ประชาชนในแคว้นกาตาลุญญาหลายแสนคนเข้าร่วมขบวนการเคลื่อนไหว Societat Civil Catalana เพื่อคัดค้านความต้องการประกาศอิสรภาพแยกตัวออกจากสเปนฝ่ายผู้จัดระบุว่า มีคนเข้าร่วมมากกว่า 1 ล้านคน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบาร์เซโลนาคาดการณ์ไว้เพียง 350000 คนประมุขฝ่ายบริหารอย่าง มาริอาโน ราฆอย ผู้ประกาศกร้าวว่า การแยกเอกราชของกาตาลุญญาจะไม่เกิดขึ้น ระบุว่า ผู้คนมีสิทธิ์ที่จะพูดว่า เราเป็นคนสเปน ผมภูมิใจกับความเป็นคนสเปนและภูมิใจต่อรัฐธรรมนูญของเรา
null
null
https://thestandard.co/catalonia-hundreds-of-thousands-join-anti-independence-rally-in-barcelona/
ชัยวัฒน์ เหนียวหนึบ ยังไม่โดนย้าย
ปลัดทส.โยกผอ.ทสจ.ทั่วปท.,ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯย้ายซี 9 ลอตใหญ่ โดยโยกย้าย สลับตำแหน่ง ผอ.ทสจ.เกือบทุกจังหวัด ขณะที่ ธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯถูกมองเป็นผู้มากบารมีตัวจริง หลังดันเพื่อนร่วมรุ่นวน-ศาสตร์ 47 ขึ้น ผอ.สำนักอุทยานฯ กับ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า คุมเกี่ยวกับสัตว์ป่าทั่วประเทศ ส่วน ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้ต้องหาคดี บิลลี่ ยังเหนียว ไม่โดนย้าย ด้าน จตุพร บุรุษพัฒน์ซื้อเวลาอ้างต้องรออีก 2 อาทิตย์หลังตั้งรองปลัดฯพิจารณาสำนวนจากดีเอสไอก่อน,ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ถึงการแต่งตั้งโยกย้ายใหญ่ในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 9 (อำนวยการต้น) ของ ทส.จำนวน 55 ตำแหน่งเกือบทุกกรม มีตำแหน่งสำคัญๆ อาทิ นายสินธพ โมรีรัตน์ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) ปทุมธานี เป็น ผอ.ทสจ.กาญจนบุรี นายสวง สุดประเสริฐ ผอ.ทสจ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็น ผอ.ทสจ.ฉะเชิงเทรา นายอิสระ พรหมเดชบุญ ผอ.ทสจ.นครราชสีมา เป็น ผอ.ทสจ.ชัยภูมิ นายพิศาล พุ่มสร้าง ผอ.ทสจ.ฉะเชิงเทรา เป็น ผอ.ทสจ.ชุมพร นายสรัชชา สุริยกุล ณ อยุธยา ผอ.ทสจ.เชียงใหม่ เป็น ผอ.ทสจ.เชียงราย นายนรินทร์ ประทวนชัย ผอ.ทสจ.นราธิวาส เป็น ผอ.ทสจ.เชียงใหม่ นายสมคิด ตั้งประเสริฐ ผอ.ทสจ.ชัยภูมิ เป็น ผอ.ทสจ.นครราชสีมา นายอาคม ยุทธนา ผอ.ทสจ.ตรัง เป็น ผอ.ทสจ.นครศรีธรรมราช น.ส.ทิพย์อาภา ยลธรรม์ธรรม ผอ.ทสจ.ระยอง เป็น ผอ.ทสจ.นนทบุรี น.ส.วนิดา แย้มสรวล ผอ.ทสจ.เพชรบุรี เป็น ผอ.ทสจ.ปทุมธานี นายสันธาน มั่นคง ผอ.ทสจ.กำแพงเพชร เป็น ผอ.ทสจ.ปราจีนบุรี,นายเกษม สุขวารี ผอ.ทสจ.สมุทรปราการ เป็น ผอ.ทสจ.พระนครศรีอยุธยา นายบุญเกิด ร่องแก้ว ผอ.ทสจ. อุทัยธานี เป็น ผอ.ทสจ.พะเยา นายประพันธ์ กาใจทราย ผอ.ทสจ.พะเยา เป็น ผอ.ทสจ.แม่ฮ่องสอน นายสามารถ ขุนศรีหวาน ผอ.ทสจ.ปัตตานี เป็น ผอ.ทสจ.ยะลา นายสวัสดิ์ อั้นเต้ง ผอ.ทสจ.พังงา เป็น ผอ.ทสจ.ลพบุรี นายพีระ ช่วยบำรุง ผอ.ทสจ.สุโขทัย เป็น ผอ.ทสจ.ลำพูน นายธีรพล ศรีโมรา ผอ.ทสจ.ชัยนาท เป็น ผอ.ทสจ.สระแก้ว นายเมืองแมน เกิดนานา ผอ.ทสจ.ลำพูน เป็น ผอ.ทสจ.สุโขทัย นางศิริวรรณ สุดาจันทร์ ผอ.ทสจ.หนองบัวลำภู เป็น ผอ.ทสจ.หนองคาย นายสา แสงสว่าง ผอ.ทสจ.บุรีรัมย์ เป็น ผอ.ทสจ.อุบลราชธานี นายสมศักดิ์ เจียมสงวนวงศ์ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) เป็น ผอ.ทสจ.กำแพงเพชร นายนิทรรศ เวชวินิจ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (ตาก) เป็น ผอ.ทสจ.นครนายก นายสุชาติ คงสำเร็จ ผู้ตรวจราชการกรมอุทยานฯ เป็น ผอ.ทสจ.สมุทรปราการ นายพสิษฐ์ เอี่ยวพานิช ผู้เชี่ยวชาญฯ กรมอุทยานฯ เป็น ผอ.ทสจ.ชัยนาท,นายธรรมนูญ อัครพินท์ ผอ.กองอนุญาตป่าไม้ เป็น ผู้ตรวจราชการ กรมป่าไม้ นายยรรยง กางการ ผอ.สำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้ เป็น ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 (สงขลา) นายสุพจน์ ภู่รัตนโอภา ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 (สงขลา) เป็น ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (ตาก) นายสุพจน์ เพริดพริ้ง ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) กรมอุทยานฯ เป็น ผู้ตรวจราชการกรมอุทยานฯ นายจรูญรัตน์ หิรัญชุฬหะ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 8 (ขอนแก่น) เป็น ผอ.สำนักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ กรมอุทยานฯ นายบำรุง แสงพันธุ์ ผอ.สำนักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ กรมอุทยานฯ เป็น ผอ.สำนักอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำ กรมอุทยานฯ นายสมปอง ทองสีเข้ม ผอ.สำนักอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำ กรมอุทยานฯ เป็น ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) เป็น ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) เป็น ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายยงยุทธ นาควิโรจน์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 (สงขลา) เป็น ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 5 (นครศรีธรรมราช) นายยุทธชัย ปัทมสนธิ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เป็น ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก),นายสุเมธ ศิริลักษณ์ ผอ.ทสจ.กาญจนบุรี เป็นผู้ตรวจราชการกรมอุทยานฯ นายอนุชา กระจายศรี ผอ.ทสจ.สระแก้ว เป็น ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ชลบุรี) กรมอุทยานฯ นายบรรณรักษ์ เสริมทอง ผอ.ทสจ.กระบี่ เป็น ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (ตาก) กรมอุทยานฯ นายสิทธิชัย เสรีส่งแสง ผอ.ทสจ.แม่ฮ่องสอน เป็น ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) นายวันชัย จริยาเศรษฐโชค ผอ.ทสจ.นครพนม เป็น ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี) นายฐิติพันธ์ จูจันทร์โชติ ผอ.ทสจ. ลพบุรี เป็น ผอ.สำนักบริหารกลาง กรมป่าไม้ นายนพดล ฮมแสน ผอ.ทสจ.นนทบุรี เป็น ผอ.กองการอนุญาต กรมป่าไม้ นายพฤกษ์ โสโน ผอ.ทสจ.พระนครศรีอยุธยา เป็น ผอ.สำนักปลูกป่า กรมป่าไม้ นายจิระพงษ์ คูหากาญจน์ ผอ.ทสจ.นครนายก เป็น ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) เป็นต้น,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ระดับ 9 ครั้งนี้ ยังไม่มีการโยกย้ายนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) อดีตหัวหน้าอุทยานฯแก่งกระจาน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาหลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติหมายจับนายชัยวัฒน์และพวกในคดีฆาตกรรมและซ่อนเร้นอำพรางศพ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย นอกจากนี้ โผการแต่งตั้งครั้งนี้ คนที่มีอำนาจที่สุดยังคงเป็นนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ ที่จะสามารถผลักดันเพื่อนร่วมรุ่นคณะวนศาสตร์ รุ่น 47 เข้าสู่ตำแหน่งสำคัญๆได้ทั้งหมด อาทิ นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) มาเป็น ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ คุมอุทยานฯ ทั่วประเทศ นายสมปอง ทองสีเข้ม ผอ.สำนักอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำ มาเป็น ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า คุมเกี่ยวกับสัตว์ป่าทั่วประเทศ เป็นต้น,เมื่อสอบถามนายจตุพรถึงเรื่องนี้ ได้รับคำตอบว่า สาเหตุที่ยังไม่มีการโยกย้ายนายชัยวัฒน์ เนื่องจากต้องทำตามขั้นตอน โดยขณะนี้ตนได้แต่งตั้งนางอัษฎาพร ไกรพานนท์ รองปลัด ทส.เป็นประธานพิจารณาสำนวนคดีของนายชัยวัฒน์ ที่ได้ทำหนังสือขอไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษและกรมอุทยานฯแล้ว โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์จึงจะเสร็จสิ้น จากนั้นจะมีการพิจารณาว่าจะมีการออกคำสั่งพิเศษเกี่ยวกับนายชัยวัฒน์หรือไม่
ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯย้ายซี 9 ลอตใหญ่ โดยโยกย้าย สลับตำแหน่ง ผอ.ทสจ.เกือบทุกจังหวัด ขณะที่ ธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯถูกมองเป็นผู้มากบารมีตัวจริง
ข่าว,ทั่วไทย
ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร,แต่งตั้งโยกย้าย,กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,ข้าราชการระดับ 9,จตุพร บุรุษพัฒน์,ข่าวหน้า1
https://www.thairath.co.th/news/local/1705943
กสศ.จับมือ เปิดแคมเปญ ชวนกันมาช้อป น้องๆ สุขใจ รายได้ไม่หักใช้จ่าย
วันที่ 5 พ.ค. กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดแถลงข่าวเปิดแคมเปญ ชวนกันมาช้อป น้องๆ สุขใจ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ ภายใต้โครงการพัฒนานวัตกรรมเครือข่ายสถานศึกษาเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (Equity Partnerships School Network) ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง กสศ. โรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และแพลตฟอร์มเจดีเซ็นทรัล ที่ต้องการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาผ่านกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ การใช้เทคโนโลยี e-commerce และการพัฒนาทักษะการเป็นผู้ประกอบการในศตวรรษที่ 21 (Entrepreneurial Skill) ระหว่างเครือข่ายโรงเรียนในโครงการตลาดวาดฝัน โดย กสศ.สนับสนุนให้โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จำนวน 10 แห่ง เข้าร่วมโครงการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบที่มีในชุมชน ร่วมกับนักเรียนโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เพื่อนำออกจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ของเจดีเซ็นทรัล โดยรายได้จากการจำหน่ายจะไม่หักค่าใช้จ่าย ทั้งหมด จะมอบให้กับนักเรียนทุนเสมอภาคในโรงเรียนสังกัด สพฐ. ที่เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อนำไปต่อยอดโครงการส่งเสริมทักษะอาชีพ และกิจกรรมลดความเหลื่อมล้ำอย่างมีขั้นตอน ให้เกิดความยั่งยืนต่อไปดร.ไกรยส ภัทราวาส รองผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า แนวคิดความร่วมมือดังกล่าว กสศ. ดำเนินโครงการฯ มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 ก่อนที่จะเกิด COVID-19 จึงได้ปรับกิจกรรมให้น้องๆ ได้ทำงานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยการนำเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านระบบสไกป์มาใช้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแผนของโครงการ ซึ่งเป็นการพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้เพิ่มเติมให้น้องนักเรียนอีกทางหนึ่งด้วย อีกทั้งวัตถุประสงค์ของโครงการพัฒนานวัตกรรมฯ ต้องการให้ความร่วมมือครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้น หรือเป็นโมเดลต้นแบบของการสร้างโอกาสทางการศึกษา ที่ทุกหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชนสามารถประสานความร่วมมือร่วมกันได้ แม้จะมีหน่วยงานของภาครัฐที่รับผิดชอบสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาให้เกิดขึ้น แต่ทุกภาคส่วนในสังคม ล้วนช่วยสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้แคมเปญ ชวนกันมาช้อป น้องๆ สุขใจ ถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญในภาวะวิกฤติ ที่สร้างโอกาสให้กับเด็กและเยาวชน ได้แสดงศักยภาพไปสู่อาชีพบนแพลตฟอร์มใหม่ โดยเจดีเซ็นทรัลผู้มีความเชี่ยวชาญและมีช่องทางด้านการตลาดและการจัดจำหน่ายออนไลน์ มาสร้างโอกาสให้นักเรียนจากต่างจังหวัดได้ร่วมพัฒนาสินค้าจากวัสดุที่มีอยู่ในชุมชน โดยนักเรียนจากโรงเรียนที่มีความพร้อมมาร่วมสร้างสรรค์ทั้งการออกแบบสินค้า การวางกลยุทธ์การตลาด และการสร้างแบรนด์ เพื่อให้เหมาะสมสำหรับออกจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์เจดีเซ็นทรัล ซึ่งในการจัดจำหน่ายสินค้า จะคัดเลือกโรงเรียนที่ชนะเลิศจากโครงการครั้งนี้ โดยกำหนดเกณฑ์การให้คะแนน 100 คะแนน พิจารณาจาก 1. ยอดขายและระยะเวลาที่ใช้ในการขาย 20 คะแนน 2. ผลกำไร 20 คะแนน 3. ความคิดสร้างสรรค์ 20 คะแนน 4. กระบวนการทำงาน 20 คะแนน 5. ความร่วมมือในการทำงานเป็นทีม 20 คะแนน โรงเรียนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ จะได้รับโล่รางวัลและประกาศนียบัตร ประเด็นสำคัญผลแห่งความสำเร็จที่เกิดขึ้น คือสังคมแห่งความเสมอภาคที่เด็กทุกคนต่างได้รับโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ โดยไม่มีเด็กคนไหนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังเพียงลำพัง รองผู้จัดการ กสศ. กล่าวนางสาวรวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด JD CENTRAL กล่าวว่า JD CENTRAL รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนานวัตกรรมฯ ในครั้งนี้ เพราะเป็นโครงการที่มีความตั้งใจ แนวคิด และวิธีการทำงาน ที่มุ่งมั่นในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอย่างมีขั้นตอน และเป็นรูปธรรม โดยสินค้าที่ได้รับมาจากทั้ง 10 โรงเรียนถือเป็นสินค้าที่ล้วนแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการนำสิ่งของในชุมชนมาแปรรูป พัฒนา และต่อยอดความคิด ซึ่งถือเป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้า (Value Added) ได้ดีมาก JD CENTRAL เล็งเห็นถึงศักยภาพของเยาวชนไทย และประสิทธิภาพการจัดการในโครงการพัฒนานวัตกรรมเครือข่ายสถานศึกษาเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (Equity Partnerships School Network) ครั้งนี้ และพร้อมจะเป็นเวทีเปิดกว้างให้เยาวชนไทยได้มาร่วมกันเรียนรู้ แสดงความคิดสร้างสรรค์ เรียนรู้การทำงานร่วมกัน รวมถึงพัฒนาทักษะต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ ซึ่ง JD CENTRAL คาดหวังว่า กิจกรรมครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และเป็นกำลังใจในการสร้างรายได้ให้กับเยาวชนไทยทั้งนี้ สินค้าจากไอเดียสร้างสรรค์ทั้งหมดนี้ จะถูกจำหน่ายแบบพิเศษสุด (Exclusive) บนแพลตฟอร์ม JD CENTRAL โดยสามารถเข้าไปเลือกซื้อสินค้าได้ที่www.jd.co.thหรือดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน JD CENTRAL ได้จากทั้ง Play Store และ Apple Store จึงขอเชิญชวนเข้ามาร่วมรับชมช้อปใจ จำหน่าย 10 ผลิตภัณฑ์ 5 พ.ค.- 5 มิ.ย. 63 บนแพลตฟอร์ม สุดยอดสินค้าไอเดียสร้างสรรค์ นำร่องสร้างอาชีพ สู่สินค้า ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิตของน้องๆ ทั้ง 10 โรงเรียนได้ ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.-5 มิ.ย. 63 โดยสินค้าที่จัดจำหน่ายมีเพียงอย่างละ 100 ชิ้นเท่านั้น.
กสศ.จับมือ พันธมิตร เปิดแคมเปญ ชวนกันมาช้อป น้องๆ สุขใจ อนาคตทลายกำแพงลดความเหลื่อมล้ำ อย่างมีขั้นตอน รายได้ไม่หักค่าใช้จ่าย มอบให้กับ นร.ทุนเสมอภาคใน ร.ร.สังกัด สพฐ.
ข่าว,ทั่วไทย
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา,กสศ.,สพฐ.,ชวนกันมา ช้อป น้องๆ สุขใจ,โควิด-19,ลดเหลื่อมล้ำทา
https://www.thairath.co.th/news/local/1837683
เมลเบิร์นอาการหนัก คุมโควิดระยะ 4 สั่งเคอร์ฟิว-ห้ามคนห่างบ้านเกิน 5 กม.
สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ส.ค. 2563 ทางการรัฐวิกตอเรีย ของประเทศออสเตรเลีย ประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติ และบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวที่เมืองเมลเบิร์น เพื่อห้ามประชาชนออกจากบ้านในเวลากลางคืนเป็นเวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์แล้ว เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆคำสั่งดังกล่าวนับเป็นมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาอย่างเข้มงวดที่สุด ที่ออสเตรเลียเคยใช้มาจนถึงตอนนี้ โดยนาย เดเนียล แอนดรูว์ รัฐมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า เมืองเมลเบิร์นจะเข้าสู่การควบคุมโรค ระยะที่ 4 จนถึงวันที่ 13 ก.ย. เนื่องจากมีการแพร่กระจายของเชื้อในชุมชนระดับสูงอย่างไม่อาจยอมรับได้มาตรการเคอร์ฟิวที่เมืองเมลเบิร์นซึ่งจะเริ่มตั้งแต่คืนวันอาทิตย์นี้ (2 ส.ค.) จะทำให้ชาวเมืองไม่สามารถออกจากบ้านได้ตั้งแต่เวลา 20:00 น. จนถึง 05:00 น. ของวันถัดไป นอกจากนี้ พวกเขายังไม่สามารถเดินทางได้ไกลเกินรัศมี 5 กิโลเมตรจากบ้านของพวกเขา รวมทั้งจำกัดการออกกำลังกลางแจ้งได้วันละเพียง 1 ชั่วโมง และในแต่ละวันจะอนุญาตให้สมาชิกในครัวเรือนออกจากบ้านไปซื้อของใช้ที่จำเป็นได้เพียง 1 คนเท่านั้นขณะเดียวกัน นักเรียนกับนักศึกษาในเมืองเมลเบิร์ลจะตั้งกลับไปศึกษาผ่านทางออนไลน์อีกครั้ง เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนวันพุธที่ 5 ส.ค. หลังเพิ่งได้รับอนุญาตให้กลับไปเรียนในห้องเรียนได้เพียงสัปดาห์เดียว ขณะที่โรงเรียนอนุบาลกับบ้านพักคนชราจะถูกปิดตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้ ส่วนซุปเปอร์มาร์เก็ตจะยังคงเปิดให้บริการ ร้านอาหารจะสามารถให้บริการเฉพาะแบบซื้อกลับบ้านกับบริการส่งอาหารถึงบ้านนายแอนดรูว์ยังสั่งระดับการจัดงานแต่งงานในเมืองเมลเบิร์นทั้งหมด ทั้งที่ในช่วงการระบาดระลอกแรก พิธีแต่งงานยังสามารถจัดได้ แต่จำกัดคนร่วมงานไม่เกิน 5 คน การตัดสินใจเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะ มาตรการที่เข้มงวดน้อยกว่านี้ไม่เพียงพอทำให้พวกเราปลอดภัยได้ และจะทำให้สถานการณ์ยืดยาวไปเดือนแล้วเดือนเล่า นายแอนดรูว์กล่าวรัฐมนตรีรัฐวิกตอเรียเผยด้วยว่า ในวันจันทร์นี้ จะมีการประกาศเพิ่มข้อจำกัดในสถานที่ทำงาน และธุรกิจที่ไม่มีความจำเป็นอาจต้องปิดชั่วคราวส่วนในพื้นที่อื่นๆ ของรัฐวิกตอเรีย จะอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมระยะที่ 3 นับตั้งแต่เที่ยงคืนวันอาทิตย์ โดยประชาชนจะได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านเพื่อไปทำงาน เรียน ไปโรงพยาบาล และซื้อของใช้จำเป็นเท่านั้นทั้งนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเกือบถึง 18000 รายแล้วในวันอาทิตย์ ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 208 ศพ โดยในวันเดียวกับนี้พบผู้ติดเชื้อในรัฐวิกตอเรียแห่งเดียวถึง 671 ราย เสียชีวิตอีก 7 ศพ ส่วนทางกับพื้นที่อื่นๆ ในประเทศซึ่งไม่พบหรือมีผู้ติดเชื้อจำนวนน้อย และสามารถผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงห้ามคนจากรัฐวิกตอเรียและนครซิดนีย์ เดินทางเข้ามาตามเพื่อป้องกันการระบาดซ้ำ
ทางการรัฐวิกตอเรียประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติ หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงขึ้นต่อเนื่อง และสั่งเคอร์ฟิวในเมืองเบลเบิร์น จำกัดการออกจากบ้านของประชาชนนานถึง 6 สัปดาห์
ข่าว,ต่างประเทศ
โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,โควิดเมลเบิร์น,โควิดออสเตรเลีย,เคอร์ฟิว,เมืองเมลเบิร์น,ไฮไลต์ไวรัสโคโรน่า
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1902220
ผู้โดยสารระทึกเล็กๆ สนามบินแอตแลนตา พลุกพล่านสุดในโลก ไฟดับ
เมื่อ 18 ธ.ค.60 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สนามบินนานาชาติ ฮาร์ตฟิลด์ -แจ็กสัน ในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ซึ่งถือเป็นสนามบินที่มีผู้โดยสารคับคั่งพลุกพล่านมากสุดในโลก รองรับผู้โดยสารกว่า 250,000 คนต่อวัน เที่ยวบินเกือบ 2,500 เที่ยว ประสบเหตุไฟฟ้าดับ เมื่อช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม (ตามเวลาท้องถิ่น) ส่งผลให้ต้องปิดพื้นที่สนามบินบางส่วน และเที่ยวบินจำนวนมากต้องดีเลย์ ล่าช้ากว่ากำหนด ผู้โดยสารต้องรออยู่ในอาคารผู้โดยสารที่มืดมิด ขณะที่เที่ยวบินที่จะมาลงจอดยังสนามบินฮาร์ตฟิลด์-แจ็กสัน ต้องถูกเปลี่ยนไปลงสนามบินอื่น,ด้าน บริษัทไฟฟ้าในรัฐจอร์เจีย ซึ่งดูแลการจ่ายกระแสไฟมายังสนามบินฮาร์ตฟิลด์-แจ็กสัน ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้ไฟฟ้าดับ และคาดว่าจะสามารถซ่อมแซมให้ไฟฟ้าติดได้ดังเดิม ภายในเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ที่ 17 ธ.ค. หรือราว 12.00 น. ของวันจันทร์ที่ 18 ธ.ค. ตามเวลาในไทย ขณะที่บีบีซี แจ้งว่า สำนักงานตำรวจในเมืองแอตแลนตายืนยันว่าได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยเหลือในการจัดการดูแลที่สนามบินฮาร์ตฟิลด์-แจ็กสัน ขณะไฟฟ้าดับ,ทั้งนี้ สนามบินฮาร์ตฟิลด์-แจ็กสัน ในเมืองแอตแลนตา ถือเป็นสนามบินสำคัญในการรองรับผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้ามาในสหรัฐฯ และถือเป็นสนามบินที่ผู้คนมักจะมาลงกันที่นี่เพื่อเดินทางไปยังที่อื่นๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา จึงทำให้แต่ละวันสนามบินแห่งนี้ต้องรองรับผู้โดยสารถึงวันละประมาณ 2.5 แสนคน.
สนามบินเมืองแอตแลนตา ปั่นป่วนเจอปัญหาไฟดับ ส่งผลผู้โดยสารจำนวนมากเจอเที่ยวบินดีเลย์ ขณะที่บริษัทไฟฟ้ายังไม่รู้สาเหตุทำไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่สนามบินแห่งนี้ ซึ่งถือเป็นสนามบินพลุกพล่านมากสุดในโลก
ข่าว,ต่างประเทศ
สนามบินแอตแลนตาไฟฟ้าดับ,สนามบินฮาร์ตฟิลด์-แจ๊กสัน,แอตแลนตา,จอร์เจีย,สหรัฐฯ,ข่าวเหตุ
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1156022
กมธ.การที่ดินฯสำรวจบ่อน้ำมันเขตทวีวัฒนา หวั่นกระทบชาวบ้าน
บริษัท มิตรา เอ็นเนอร์ยี เตรียมขุดเจาะสำรวจบ่อน้ำมัน บริเวณ ถ.พุทธมณฑล สายสอง ในวันที่ 9 มี.ค.นี้ โดยใช้เวลา 1 เดือนขณะที่ในวันนี้ประธานคณะกมธ.ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบที่อาจเกิดต่อชุมชนใกล้เคียงการลงพื้นที่สำรวจบ่อน้ำมัน ขนาด 7 ไร่ บริเวณถ.พุทธมณฑล สายสอง ของนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะกรรมธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในวันนี้เพื่อจะรับทราบข้อมูล และสำรวจผลกระทบที่จะมีต่อชุมชน และให้เกิดความเข้าใจตรงกันทั้งนี้ระบุว่า หากพบน้ำมันดิบ ปริมาณผลิต 100 บาร์เรลต่อวัน ตามที่มีการคาดการณ์ ก็ถือว่าเป็นปริมาณที่ไม่มากนัก และหากเป็นบ่อน้ำมันที่มีคุณภาพ รัฐบาลคงต้องพิจารณาว่าจะเลือกให้พื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจหรือจะยังคงไว้ให้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งในวันพฤหัสที่ 8 มี.ค.นี้ คณะกมธ.การที่ดินฯ จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มด้านนายจอห์น บุช เนาะช์ ผู้จัดการโครงการ ของบริษัทมิตรา เอ็นเนอร์ยี ลิมิเต็ด (ประเทศอังกฤษ) ระบุว่า จะเริ่มเจาะสำรวจในวันศุกร์ที่ 9 มี.ค.นี้ โดยใช้เวลา 30 วัน โดยบริเวณขุดเจาะ มีขนาดหลุมกว้าง 20 นิ้ว และตั้งจุดวัดคุณภาพเสียงไว้ 3 จุดโดยจากการวัดระดับเสียงขณะนี้ บริเวณด้านหลังโครงการ อยู่ที่ 65 เดซิเบล และด้านหน้าอยู่ที่ 71 เดซิเบล ขณะที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน ระบุว่า ระดับเสียงมาตรฐานไม่ควรเกิน 70 เดซิเบล นอกจากนี้บริษัทมิตรา ยังมีมาตรการป้องกันฝุ่นละออง ตามที่กฎหมายกำหนด ด้วยการพ่นสเปรย์น้ำ วันละ 2 ครั้ง และ กั้นรั้วสูง 6 เมตร ซึ่งนายชวลิต พิชาลัย รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ยืนยันว่าตลอดระยะเวลาการเจาะสำรวจ จะมีเจ้าหน้าที่ของกรมฯ คอยกำกับดูแลตลอด 24 ชม. ทั้งนี้โครงการขุดเจาะสำรวจบ่อน้ำมัน ได้รับการรับรองผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ ตั้งแต่ 12 ก.ย. 2554.
บริษัท มิตรา เอ็นเนอร์ยี เตรียมขุดเจาะสำรวจบ่อน้ำมัน บริเวณ ถ.พุทธมณฑล สายสอง ในวันที่ 9 มี.ค.นี้ โดยใช้เวลา 1 เดือนขณะที่ในวันนี้ประธานคณะกมธ.ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบที่อาจเกิดต่อชุมชนใกล้เคียง
สิ่งแวดล้อม
กมธ.การที่ดิน,ตรวจสอบ,บ่อน้ำมัน,ผลกระทบ
https://news.thaipbs.or.th/content/70684
ลิขสิทธิ์พรีเมียร์ ลีก
ตัวเลขการประมูลลิขสิทธิ์พรีเมียร์ ลีกที่มีมูลค่าถึง 5000 ล้านปอนด์ หรือกว่า 200000 ล้านบาท เป็นสัญญาณที่บอกว่า ลีกฟุตบอลอังกฤษ เป็นที่ต้องการของตลาดมากเพียงใด ในช่วงเริ่มต้น พรีเมียร์ ลีก เริ่มขายลิขสิทธิ์ให้กับ บริษัท บีสกายบี ของนาย รูเพิร์ท เมอร์ด็อก มหาเศรษฐีเจ้าพ่อวงการสื่อของอังกฤษ เพื่อแพร่ภาพทาง เคเบิ้ลทีวี ภายใต้เครือข่ายของ สกายสปอร์ต จากนั้น บริษัทต่างๆ ในยุโรปเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น จนลามมาถึงประเทศในเอเชีย ที่มีการถ่ายทอดสดทางเคเบิ้ลทีวี ไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย และในช่วง 5 ปีหลัง พรีเมียร์ ลีก ได้รับความนิยมแบบสุดขีดในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีนด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้น ทำให้พรีเมียร์ ลีก ถือแต้มต่อ ในการเลือกบริษัทที่พร้อมจะเสนอเป็นจำนวนเงินที่สูง แต่ พรีเมียร์ ลีก มีข้อแม้หลักๆ นอกเหนือจากเรื่องเงิน ก็คือ แผนการตลาดของบริษัทร่วมประมูล ว่ามีแผนในการขยายเครือข่าย หรือ รักษาส่วนแบ่งการตลาดในประเทศนั้นๆ ดีเพียงใดยกตัวอย่างเช่น CTH มีแผนในการขายสมาชิกให้เป็น 3 ล้านครัวเรือน ภายในระยะเวลา 3 ปี เป็นต้นสาเหตุที่ทำให้พรีเมียร์ ลีก ได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ เนื่องมาจากการมองการไกล เมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว สมัยที่ยังเป็น ดิวิชั่น 1 ด้วยการเป็นลีกแรกๆ ที่มีการแพร่ภาพการแข่งขัน ทั้งสดและบันทึกการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น ไฮไลท์ประจำสัปดาห์ หรือ การวิเคาระห์การแข่งขัน ทำให้ พรีเมียร์ ลีก ฝังรากความนิยมในประเทศที่มีการแพร่ภาพนับแต่นั้นเป็นต้นมา นอกจากนี้รูปแบบการเล่นที่เน้นการบุกเป็นหลัก ทำให้พรีเมียร์ มีกลิ่นไอของความบันเทิงในตัว ไม่เหมือนกับลีกอื่นๆ ที่มีการถ่ายทอดสด เช่นเดียวกันกับการเป็นต้นแบบในการเปลี่ยนระบบการให้คะแนน จาก ชนะได้ 2 คะแนน เป็น 3 คะแนน ทำให้แต่ละทีมเล่นเพื่อให้ได้ชัยชนะเป็นหลักจากปี 1992 เป็นต้นมา ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ แยกตัวออกมาจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ด้วยแนวคิดที่ว่า การดูแลกันเองน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า โดยเฉพาะเรื่องเงินๆ ทองๆ และก็เป็นเช่นกัน เมื่อตอนนี้ พรีเมียร์ ลีก เป็นลีกที่มีมูลค่าแพงที่สุดในโลก และมีสัดส่วนของแฟนบอลมากที่สุดในโลกเช่นกัน
พรีเมียร์ ลีก มีเป้าหมายหลักที่จะครองความเป็นเบอร์ 1 ของลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมสูงสุด ดังนั้นการประมูลลิขสิทธิแต่ละครั้งผู้ร่วมประมูลรายใด มีแผนการตลอดที่ดี ก็สามารรถชนะใจ พรีเมียร์ ลีก ได้ไม่ยาก
กีฬา
ประมูล,พรีเมียร์ ลีก,ฟุตบอล,ลิขสิทธิ์
https://news.thaipbs.or.th/content/140847
น่าสนใจ โค้ชโบ้ พูดถึง บายรัม ก่อนเกมบุกเยือน ค้างคาวไฟ
วันที่ 16 มิ.ย.61 จักรพันธ์ ปั่นปี หัวหน้าผู้ฝึกสอน ชลบุรี เอฟซี เผยเตรียมส่ง เนบีญา บายรัม มิดฟิลด์เชื้อสาย โคโซโว ลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรก ในศึก โตโยต้า ไทยลีก 2018 ที่จะพบกับ สุโขทัย เอฟซี ในวันเสาร์นี้,เนบีญา บายรัม เพิ่งย้ายมาร่วมทีม ฉลามชล ด้วยสัญญายืมตัว จาก การท่าเรือ เอฟซี เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้เดินทางมาร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ทันที โดย กุนซือ ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี กล่าวว่า เราคงต้องเช็กความฟิต ของผู้เล่น ก่อนเกมการแข่งขัน เพราะเรามีเวลาพักแค่ 2 วัน ก่อนที่จะลงเล่น กับ สุโขทัยฯ ในวันพรุ่งนี้,แต่โดยรวมไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และคิดว่าทุกคนจะพร้อมลงสนาม ทั้งหมด ทั้ง เราและสุโขทัยฯ ตอนนี้กำลังต้องการแต้ม ดังนั้นเราจะต้องไม่ประมาท เพราะจากเกมแรกที่พบกันมา รวมถึงทุกๆ ครั้งที่เราพบกับ สุโขทัยฯ ที่ ทุ่งทะเลหลวง เป็นงานที่ยากทุกๆ ครั้ง,ส่วนผู้เล่นใหม่ อย่าง บายรัม เขาน่าจะเป็นตัวหลักให้กับเรา ในเกมนี้ เพราะจากที่ได้พูดคุย และดูการฝึกซ้อม สภาพความฟิต ของเขาอยู่ในเกณฑ์ที่พร้อม และน่าพอใจ แต่ไม่ว่าใครจะลงลงสนาม เป้าหมายของเราก็คือต้องเก็บแต้มกลับออกไปให้ได้ โค้ชโบ้ กล่าวทิ้งท้าย,สำหรับโปรแกรม โตโยต้า ไทยลีก 2018 ระหว่าง สุโขทัย เอฟซี พบ ชลบุรี เอฟซี จะทำการแข่งขันในวันเสาร์ที่ 16 มิ.ย.นี้ เวลา 19.00 น. ณ สนาม ทุ่งทะเลหลวง จ.สุโขทัย
จักรพันธ์ ปั่นปี กุนซือคนเก่งของ ชลบุรี เอฟซี ทีมดังไทยลีก 1 ออกมาพูดถึง เนบีญา บายรัม แข้งป้ายแดงที่เพิ่งยืมตัวมาจาก การท่าเรือ เอฟซี ก่อนเกมบุกเยือน สุโขทัย เอฟซี
กีฬา,ฟุตบอลไทย
โค้ชโบ้,จักรพันธ์ ปั่นปี,เนบีญา บายรัม,ชลบุรี เอฟซี,ฟุตบอลไทย
https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/1309556
แด่สื่อ: จากปาฐกถา 11 ก.พ. ของธงชัย วินิจจะกูล
ที่ผ่านมา หลายช่วงตอนที่ธงชัย วินิจจะกูล กล่าวถึงสื่อในฐานะปัจจัยสำคัญสำหรับการเรียนรู้ของสังคมไทยเฉกเช่นเดียวกับระบบการศึกษา ในภาวะเปลี่ยนผ่าน ปลายรัชสมัย ที่สังคมการเมืองไทยถูกครอบงำด้วยอิทธิพลของ Hyper-royalism ซึ่งเป็นหลักพิงของประชาธิปไตยอำมาตย์ สื่อ คือผู้มีบทบาทอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงในทางดีหรือเลว และจะปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ไปไม่ได้ เมื่อมองย้อนจากโลกอนาคตในอีก 50 ปีข้างหน้า แต่ก็ดูเหมือนว่าสื่อมวลชนจำนวนไม่น้อยในประเทศนี้กลับมีลักษณะ Hyper-royalism เสียเอง ประชาไท คัดถ้อยความที่ธงชัย กล่าวย้ำถึงสื่อมวลชนในประเทศนี้ โดยเขาวิพากษ์พร้อมเรียกร้องหลายครั้งให้สื่อทำหน้าที่ตามจรรยาบรรณ เริ่มตั้งแต่หมายเหตุก่อนเริ่มการปาฐกถาซึ่งเขากล่าวกับสื่อโดยตรงว่า ผู้จัดงานได้แจกเอกสารฉบับเต็มให้กับสื่อแล้ว ดังนั้น หากการแก้ไขบิดเบือนผิดเพี้ยนไปจากที่เขาพูด ก็ถือเป็นความรับผิดชอบของบรรณาธิการของสื่อนั้นๆ ธงชัยกล่าวถึงสภาวะที่ลัทธิกษัตริย์นิยมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตปกติทางสังคมและชีวิตประจำวันของปัจเจกชนอย่างมากยิ่งกว่ายุคใดๆในประวัติศาสตร์ คือ เข้มข้นกว่ายุคราชาธิปไตยหรือยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และเข้มข้นขึ้นเป็นลำดับตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ดัชนีประการหนึ่งที่บ่งชี้สภาวะดังกล่าวคือ ปริมาณพื้นที่และเวลาของชีวิตประจำวันและประจำปีที่ลัทธิกษัตริย์นิยมเข้าครอบครอง โดยช่องทางที่สำคัญก็คือ สื่อ หลักฐานชัดๆ คือปริมาณของกิจกรรมของทุกหน่วยงานทั้งเอกชนและราชการ รายการโทรทัศน์ วิทยุ สื่อมวลชนทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์ พิธีเฉลิมฉลองครบรอบวาระสำคัญทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์ทั้งชนิดประจำปีและชนิดพิเศษเฉพาะปี ถูกผลิตขึ้นมากมายถี่ยิบในเกือบ 40 ปีที่ผ่านมา ส่วนมากเป็นประเพณีประดิษฐ์ (invented traditions) คือ อ้างว่าเป็นของเก่าแต่ที่จริงผลิตขึ้นใหม่ เขาอธิบายลักษณะของ Hyper-royalism เป็นลัทธิความเชื่อชนิดหนึ่งซึ่งไม่ได้อยู่บนความมีเหตุผล แต่กลับขึ้นอยู่กับศรัทธา ความเชื่อ และความกลัว ทั้งกลัวจะละเมิดโดยไม่ตั้งใจและกลัวว่าคิดต่างจากคนอื่นแล้วจะถูกรังเกียจ ถูกสังคมปฏิเสธ และสื่อที่อยู่ภายใต้สังคมที่ถูกครอบด้วยลักษณะ Hyper-royalism ก็ตกต่ำลงจากจุดเริ่มต้นของความกลัวมาสู่การประจบสอพลอโดยคิดว่าเป็นสิ่งทีต้องทำในที่สุด Hyper-royalism ทำให้การสื่อสารอย่างโปร่งใสในทางสาธารณะมีขีดจำกัดจนบางเรื่องเชื่อถือไม่ได้ เริ่มจากความกลัว หมายถึงสื่อมวลชนทั้งหลาย ต่อมากลายเป็นการคุมตัวเอง ต่อมากลายเป็นการร่วมมือเผยแพร่ข่าวด้านเดียว ต่อมากลายเป็นการร่วมประจบสอพลอ แต่ในขณะเดียวกัน ข่าวสารข้อมูลความเห็นกลับหลบลงใต้ดิน เรากล้าพูดความจริงได้ไหม สื่อมวลชนทั้งหลาย คนทั้งสังคมรู้อยู่ว่าข่าวลือเต็มไปหมด และบ่อยครั้งมีความจริงมากว่าข่าวสารสาธารณะเสียอีก เรากล้ายอมรับความจริงกันได้ไหมว่าวัฒนธรรมการนินทาเจ้าแผ่ไปทั้งสังคมแล้ว นักวิชาการบางท่านเรียกร้องให้ประเทศไทย สังคมไทย รู้จักวัฒนธรรมการวิจารณ์ ผมอยากเรียนท่านอาจารย์ที่นับถือท่านั้นว่านี่ไงการนินทาเจ้า คือวัฒนธรรมการวิจารณ์แบบไทยๆ อย่างหนึ่ง บ่อยครั้งไม่สร้างสรรค์ แต่ไม่มีทางเลือกอื่น เพราะในที่สาธารณะอนุญาตให้มีแต่การประจบสอพลอและแข่งกันจงรักภักดี เรากล้ายอมรับความจริงได้ไหมว่า วัฒนธรรมที่ชนชั้นสูงและพวกกษัตริย์นิยมเองจำนวนไม่น้อย อาเศียรวาทสดุดีในที่แจ้ง แต่นินทาว่าร้ายในที่ส่วนตัว เป็นเรื่องปกติของผู้นิยมเจ้าและของประชาชนทั่วไปจำนวนไม่น้อย สื่อมวลชนส่วนข้างมากคุณภาพตกต่ำไร้ความรับผิดชอบ และน่ารังเกียจ เริ่มจากความกลัว ต่อมากลายเป็นความเคยชิน ละทิ้งจรรยาบรรณทางวิชาชีพจนเป็นเรื่องปกติ แรกๆ ก็บอกว่าทำเพื่อความอยู่รอด นานๆ เข้าก็ปกป้องตัวเองว่าทำถูกต้องแล้ว ลงท้ายพวกเขาถูกกลืนเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ตอแหล ให้ความชอบธรรมแก่สิ่งที่ตนร่วมกระทำ บางแห่งถึงขนาด ร่วมล่าแม่มด ร่วมโฆษณาชวนเชื่อ ทำร้ายประชาชน ลักษณะไฮเปอร์รอยัลลิสต์ที่แสดงออกจนล้นเกินนำมาสู่ความวิปลาสในสังคมอย่างเห็นได้ชัดเจนจากหลายปรากฏการณ์ เป็นความวิปลาสที่สังคมไทยไม่รู้สึก ไม่เห็นถึงความผิดปกติ แม้ว่านานาอารยะประเทศจะอิดหนาระอาใจกับลักษณะพิเศษอันวิปลาสของสังคมไทยมากแล้วก็ตามทีโดยเขายกตัวอย่างหนึ่งของความวิปลาสจากลักษณะไฮเปอร์รอยัลลิสต์ของสื่อมวลชนรายหนึ่ง คำกล่าวประเภทว่า พ่อแม่ไม่สั่งสอน นี้ ในแง่หนึ่ง สะท้อนจิตใจและรสนิยมต่ำของผู้พูดเอง แต่ถ้าเป็นสื่อมวลชนในอารยะสังคมจะถูกประณาม ถูกเรียกร้องให้ขอโทษ ถ้าไม่ขอโทษหรือต่อให้ขอโทษก็มักจะถูกถอดรายการเพราะถือเป็นความไม่รับผิดชอบต่อสังคม คุณเห็นข่าวบ่อยๆ ฝรั่งเขาพูดเบากว่านี้เยอะแยะก็ถูกถอดรายการเลย การที่เขาไม่ถูกลงโทษ แม้กระทั่งจากเจ้านายเขาเอง สะท้อนความตกต่ำของมาตรฐานสื่อมวลชนไทย เรารู้กันอยู่ว่าเดอะเนชั่น พยายาม กระเสือกระสนอยากจะเป็นสากล การที่เดอะเนชั่นไม่ลงโทษคนของตัวที่พูดแบบนี้ ไม่มีทางติดอันดับสากลอีกไกล ผู้ใหญ่ในเนชั่นรู้ข้อนี้ดี เขารู้จักสังคมต่างประเทศดี แต่กลับไม่ทำ และอีกตัวอย่างหนึ่ง เมื่อนิติราษฎร์ถูกขู่ ถูกคุกคาม ก็ถูกเรียกร้องให้สอบสวนลงโทษและถูกจำกัดพื้นที่ ในอารยะสังคม เขาเรียกร้องอาการทำนองนี้ว่าเป็นการลงโทษเหยื่อที่ถูกข่มขืน โปรดตระหนักว่าความวิปริตข้อนี้อยู่ในสังคมไทยมานานแล้ว เพราะความวิปริตข้อนี้มีมูลเหตุอันเดียวกับการที่คนจำนวนมากยืนดูการแขวนคอ และเผาทั้งเป็น และตอกอกได้โดยไม่เข้าช่วยเหลือ ยับยั้ง สามารถแสดงความพึงพอใจได้ในขณะที่มีคนใช้เก้าอี้ฟาดร่างที่ไร้ชีวิต ธงชัยย้ำอีกครั้งในตอนท้ายของปาฐกถาว่าสองวิชาชีพที่พึงรับผิดต่อความอ่อนแอทางปัญญาของสังคมไทยก็คือ ระบบการศึกษาและสื่อมวลชน ความอ่อนแอทางปัญญา สะท้อนออกมาในสองวงการที่คุณภาพต่ำอย่างน่าวิตก คือ ระบบการศึกษาและสื่อมวลชน 2 วิชาชีพนี้เพราะมีบทบาทสำคัญต่อการสร้างปัญญาที่จะช่วยให้สังคมรู้จักคิด ฝ่าการเปลี่ยนแปลงอย่างมีสติและความรู้ หรือสร้างปัญหา กล่อมประสาทตอแหลหลอกลวงตัวเองจะสายเกินการณ์ ความตกต่ำของวิชาชีพทางปัญญาเป็นเหตุหนึ่งของความวิปลาสยามสังคมเผชิญความเปลี่ยนแปลงแล้วเอาแต่ขัดฝืนฉุดรั้ง ในทางกลับกัน ครั้นความวิปริตวิปลาสเหล่านี้เกิดจนเป็นปกติ ผู้คนไม่รู้สึกอะไร ไม่ถูกทัดทาน ไม่ต้องขอโทษ ไม่ถูกปลด ไม่ถูกสอบสวน มาตรฐานทางการเมืองก็ไม่ต้องรับผิด ความไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีพรรค์นี้เองที่มีส่วนทำให้มาตรฐานและจรรยาบรรณของวงวิชาการและสื่อมวลชนตกต่ำอย่างน่าวิตก และสิ่งที่เขาทิ้งท้ายขอร้องสื่อมวลชนก็คือ ขอความกรุณาสื่อมวลชน ขอแค่ทำตามจรรยาบรรณแค่นั้นนะฮะ ไม่ขอมากกว่านี้ เราต้องการวุฒิภาวะทางปัญญาและการเมืองชนิดที่จะคุยกันอย่างอารยะชน มิใช่แข่งขันกันแสดงความจงรักภักดีอย่างขาดสติ กรุณาคิดถึงอนาคต นิติราษฎร์เขาทำเพราะเขาคิดถึงอนาคตไปไกล ไม่ใช่คิดถึงการเมืองระยะสั้น สังคมไทยที่พึงปรารถนาควรจะใจกว้าง อยู่กันได้ รวมทั้งระหว่างคนรักเจ้าไม่เท่ากัน แบบต่างๆ กัน คนที่ไม่ยินดียินร้าย และคนที่ไม่รักเจ้าเลยก็ควรจะอยู่ได้ ตราบเท่าที่เขาไม่ใช้ความรุนแรงบังคับข่มเหงคนอื่น ไม่ใช้ความรุนแรงในการเปลี่ยนแปลงระบอบการเมืองควรจะยอมรับกันได้ ผมไม่ทราบจริงๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตอันใกล้ แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าในอีก 50 ปีข้างหน้า ประวัติศาสตร์จะย้อนมองกลับมาปัจจุบัน จะเห็นมูลเหตุของวิกฤต 3 ประการที่กล่าวมา จะเห็นว่าวิกฤตของระบอบประชาธิปไตย เกิดจากประชาธิปไตยของอำมาตย์ ที่สร้างความสำเร็จ แล้วความสำเร็จนั้นย้อนกลับมาท้าทายระบอบนั้นเอง แต่ระบอบนั้นกลับไม่สามารถปรับตัวมาได้ เหตุที่ปรับตัวไม่ได้ก็เพราะ Hyper-royalism ผมมั่นใจว่าอีก 50 ปีข้างหน้าประวัติศาสตร์จะบันทึกความพยายามของคนจำนวนหนึ่ง รวมทั้งของนิติราษฎร์ และ ครก.112 ที่จะหาทางออกให้กับสังคมไทยด้วยความปรารถนาดี แต่ผมไม่ทราบว่าลงท้าย การขัดฝืนปัจจุบันจะจบลงอย่างไร สังคมไทยจะปรับตัวได้หรือไม่ ณ วันนี้เราบอกได้แต่เพียงว่า อันตรายที่แท้จริงเกิดจากการฉุดรั้งขัดฝืนความเปลี่ยนแปลงจะถูกถอดชนวนได้ทันกาล หรือจะดึงดันไปถึงจุดสุดท้ายของอภิชนาธิปไตย ผมไม่ทราบ สังคมไทยจะปลดล็อก เปิดประตู แล้วเดินเข้าประตูการปรับตัวหรือไม่ นิติราษฎร์ และ ครก.112 ช่วยเสนอทางปลดล็อกให้ทางหนึ่งแล้ว เราทุกคนในสังคมไทย ผมรู้ผมกำลังพูดถึงคนอีกเยอะที่ไม่ใช่แค่ที่นี่ เราทุกคนมีส่วนในการตัดสินใจเพื่ออนาคตของสังคมไทย และลูกหลานของเรา ว่าอยาก ว่าต้องการ และจะพยายามเดินเข้าสู่ประตูของการปรับตัวนั้นหรือไม่ ตัดสินใจกันเถอะครับ
ในการปาฐกถาเรื่อง ระบอบสังคมการเมืองที่ฝืนการเปลี่ยนแปลงคืออันตรายที่แท้จริง เมื่อวันที่ 11 ก.พ.
การเมือง
Hyper Royalism,การเซ็นเซอร์,ธงชัย วินิจจะกูล,พ่อแม่ไม่สั่งสอน,มัลติมีเดีย,สื่อมวลชน
https://prachatai.com/journal/2012/02/39220
ดับระทึก ไฟไหม้รถทัวร์จอดปั๊มบางละมุง ติดเอ็นจีวี 8 ถัง บึมสนั่น
 ,เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 24 มี.ค. 59 ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถทัวร์ เหตุเกิดภายในปั๊มแก๊สเอ็นจีวี บริษัท สยามเบสท์ เอ็นจีวี จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 88/8 ริมถนนสาย 36 กระทิงลาย-ระยอง ฝั่งขาเข้าพัทยา หมู่ 3 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งประสาน พ.ต.อ.ชนะพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง และรถดับเพลิงเทศบาลหนองปลาไหล รุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถด้านหลังปั๊มแก๊สดังกล่าว พบรถทัวร์ 6 ล้อ ผลิตจากประเทศจีน ยี่ห้อ ซันลอง (SUNLONG) ทะเบียน 32-8597 กรุงเทพมหานคร ของบริษัท โกลเด้นไทยแทรเวล จำกัด ซึ่งติดตั้งระบบแก๊สเอ็นจีวี ทั้งหมดรวม 8 ถัง เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงพร้อมเสียงระเบิดดังขึ้นมาเป็นระยะ เจ้าหน้าที่จึงกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกห่างจากพื้นที่ พร้อมสั่งปิดบริการปั๊มแก๊สดังกล่าวทันที เพราะเกรงว่าหากไฟลุกลามอาจจะเกิดอันตราย,จากนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ชีพฯ ของกู้ภัยสว่างบริบูรณ์พัทยา ได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดแสงเพลิงที่กำลังไหม้ แต่ก็เป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากถังแก๊สระเบิดจนเหล็กหุ้มตัวถังฉีกกระจายออกทั้ง 2 ข้าง อันตรายต่อการเข้าใกล้ ทำได้เพียงฉีดน้ำป้องกัน ใช้เวลากว่า 30 นาที เพลิงจึงสงบ เหลือเพียงกลุ่มควันที่พวยพุ่งออกมาจำนวนมาก ส่วนรถทัวร์ถูกเพลิงไหม้วอดเป็นเศษเหล็ก,สอบถาม นายสาธิต กาชัย อายุ 27 ปี โชเฟอร์ เล่านาทีระทึกว่า ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาได้ขับรถทัวร์คันดังกล่าวมาเติมแก๊สเอ็นจีวีจนเต็มทั้งหมด 8 ถัง เพราะตอนเช้าจะต้องไปรับลูกทัวร์ชาวจีน ที่โรงแรมชลจันทร์ หลังจากนั้นได้นำรถมาจอดบริเวณลานจอดหลังปั๊มแก๊ส แล้วนอนหลับอยู่หลังรถทัวร์ จนกระทั่งเวลาเกิดเหตุได้กลิ่นเหม็นไหม้ เมื่อตื่นขึ้นมาพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่หน้ารถ ด้วยความตกใจ จึงรีบกระโดดหนีลงมาจากรถหนีตาย ทั้งนี้ ได้พยายามใช้ถังดับเพลิงฉีดสกัดแล้ว แต่เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว,ด้าน พ.ต.อ.ชนะพัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานชลบุรี เพื่อมาตรวจสอบสาเหตุการไหม้ของรถทัวร์คันนี้แล้ว.
รถทัวร์ติดแก๊สเอ็นจีวี ผลิตในจีน คนขับจอดนอนหลังปั๊มหลังเติมก๊าซเต็ม 8 ถัง ได้กลิ่นเหม็นไหม้กลางดึก ตื่นมาดูเจอไฟลุกท่วม พยายามดับเองแต่ไม่สำเร็จ แจ้งดับเพลิงมาถึงสั่งปิดปั๊มเพราะกลัวระเบิด กว่าจะดับได้รถทั้งคันก็เหลือแต่ซาก
null
ไฟไหม้รถทัวร์,รถทัวร์ติดแก๊ส,ติดเอ็นจีวี,รถทัวร์จีน,ติดแก๊สเอ็นจีวี,บางละมุง,ชลบุรี,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค
https://www.thairath.co.th/content/595519
เอเย่นต์ยอมรับ เบล อาจตีจากราชันซัมเมอร์นี้
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 8 พ.ค. ว่า เกเรธ เบล ปีกความเร็วสูงของทีม เรอัล มาดริด อาจต้องเปลี่ยนสังกัดอีกครั้ง หลังเอเย่นต์ส่วนตัวออกมาบอกใบ้ มีความเป็นไปได้สูงที่ดาวเตะทีมชาติเวลส์ จะบอกลาซานติอาโก เบร์นาเบว เพื่อย้ายกลับมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกครั้ง,ปีกตัวจี๊ด วัย 25 ปี ต้องตกอยู่ภายใต้ความกดดันเป็นอย่างมาก หลังเจ้าตัวไม่ได้เป็นนักเตะคนโปรดของคาร์โล อันเชลอตติ นายใหญ่ของทีมราชันชุดขาว และแฟนบอลอีกต่อไป พร้อมทั้งมีกระแสข่าวโหมกระหน่ำว่าพร้อมเปิดโต๊ะเจรจากับทีมดังในอังกฤษอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อย้ายกลับมาค้าแข่งในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า,ล่าสุด สำนักข่าวสกาย สปอร์ต รายงานว่า โจนาธาน บาร์เนตต์ เอเย่นต์ส่วนตัวของดาวเตะทีมมังกรแดง ได้ออกมาสำทับว่า ให้จับตามองอนาคตในช่วงปิดฤดูกาลนี้ไว้ให้ดีว่า เจ้าตัวจะอยู่ค้าแข้งในสเปนต่อหรือไม่,เรอัล มาดริด ยังคงเป็นสโมสรอันดับหนึ่งของโลกอยู่เสมอ แต่เท่าที่ทราบ มันยังไกลเกินไปที่จะคาดเดาอนาคตของเราในซานติอาโก เบร์นาเบว ในฤดูกาลหน้า บาร์เนตต์ กล่าว
เอเย่นต์ส่วนตัว เกเรธ เบล ไม่การันตี นักเตะในความดูแลจะยังอยู่วาดลวดลายในแดนกระทิงดุต่อหรือไม่ในฤดูกาลหน้า หลังเจ้าตัวพร้อมตีจากทีมยักษ์ใหญ่แห่งลา ลีกา เพื่อกลับมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง
null
ราชันชุดขาว,เรอัล มาดริด,ลาลีกา,สเปน,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ปิศาจแดง,พรีเมียร์ลีก,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์,เกเรธ เบล,โจนาธาน บาร์เนตต์
https://www.thairath.co.th/content/497625
พายุซาวลา-ดอมเรย์ ถล่มจีน เร่งอพยพปชช.กว่า 3 แสนคนสู่ที่ปลอดภัย
คลื่นลมแรงที่เกิดจากอิทธิพลพายุซาวลาที่แม้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน แต่ยังทรงพลังและทำให้เมืองฟูติง มณฑลฟูเจี้ยน ชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ที่เป็นจุดที่พายุพัดขึ้นฝั่งเมื่อเวลา 06.05 น.ตามเวลาจีนซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เผชิญกับฝนตกหนัก พายุเคลื่อนตัวไปอย่างช้า ๆ และทำให้พื้นที่ตอนในของมณฑลฟูเจี้ยน มีฝนตกหนัก รวมทั้งมณฑลเจียงซีที่อยู่ติดกัน สร้างความลำบากในการสัญจรแก่ประชาชนก่อนหน้านี้ทางการสั่งอพยพประชาชนถึง 300000 คน ไปอยู่ในที่ปลอดภัย เพื่อลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งเฝ้าระวังน้ำท่วม ดินถล่มและดินเลื่อนไถลพายุซาวลาส่งผลถึงนครเซี่ยงไฮ้ และต้องยกเลิกเที่ยวบินไปหลายสิบเที่ยวนอกจากพายุซาวลาที่กระหน่ำพื้นที่ฝั่งตะวันเฉียงใต้แล้วจีนยังเผชิญกับพายุดอมเรย์ ที่พัดขึ้นฝั่งเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.เมื่อคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น บริเวณมณฑลเจียงซู ฝั่งตะวันออกของประเทศ ทำให้ฝนตกหนัก ระดับน้ำเพิ่มสูงถึงระดับ 2 เมตร / ประชาชนกว่า 15000 คน ได้รับผลกระทบ ขยะลอยเกลื่อนเต็มถนน เสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาดอิทธิพลของพายุดอมเรย์ยังส่งไปถึงมณฑลซานตงทำให้ฝนตกหนักตลอดช่วงเช้าวันนี้ ปริมาณน้ำฝนสูงสุดวัดได้ 174 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า พายุดอมเรย์พัดมุ่งสู่เมืองชิงเต่า เช่นเดียวกับพายุซาวลา ที่จะพัดเข้ามาที่เมืองแห่งนี้เช่นกันสำนักงานอุตุนิยมวิทยามณฑลซานตงต้องออกประกาศเตือนภัยพายุในระดับสีแดง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของจีน ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ต้องยกเลิกเที่ยวบินไปเกือบ 30 เที่ยว แต่กลับมาให้บริการตามปกติได้ในช่วงเช้าวันนี้ ( 3ส.ค.) พายุดอมเรย์ทำให้ทางการในมณฑลซานตงต้องอพยพประชาชน 168000 คนก่อนหน้านี้พายุซาวลาพัดกระหน่ำเกาะไต้หวันทำให้พื้นที่เพาะปลูกและอาคารบ้านเรือนในเมืองไทเปใหม่ เสียหายจากน้ำท่วม และเกิดฝนตกหนักทั่วประเทศมีรายงานว่าตั้งแต่พายุเริ่มส่งอิทธิพลถึงไต้หวันเมื่อวันอังคาร ทำให้ฝนตกหนัก ปริมาณน้ำฝนสูงสุดในเมืองอี้หลานวัดได้สูงถึง 1800 มิลลิเมตร เบื้องต้นมีการประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดกับผลผลิตทางการเกษตรไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาทวันนี้ (3 ส.ค.)ประชาชนเริ่มออกไปสำรวจสภาพความเสียหายที่เกิดจากฝนตกน้ำท่วม และแรงลม ส่วนการคมนาคมกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทางการไต้หวันรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องกับพายุอย่างน้อย 6 คน ขณะที่ประชาชนกว่า 1500 คน ทั่วประเทศ ต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยที่มีการจัดเตรียมไว้ โดยพายุซาวลา เป็นไต้ฝุ่นลูกแรกที่พัดเข้าสู่เกาะไต้หวันในปีนี้ (2555)
พายุซาวลาที่พัดกระหน่ำไต้หวันหลังพัดขึ้นฝั่งถึง 2 จุดเมื่อวานนี้ (2 ส.ค.) ทำให้เกิดความน้ำท่วมและดินโคลนถล่มหลายจุด ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิต 6 คน ส่วนที่จีนต้องเผชิญกับพายุ 2 ลูกคือพายุซาวลา และพายุดอมเรย์ ที่พัดกระหน่ำชายฝั่งตะวันออกของประเทศ จนต้องอพยพประชาชน 300000 คนสู่ที่ปลอดภัย
ต่างประเทศ
จีน,ซาวลา,ดอมเรย์,พายุ,ฟูติง,ฟูเจี้ยน
https://news.thaipbs.or.th/content/102507
เข้าฟรีอุทยานประวัติศาสตร์ 11 แห่ง 28 ธ.ค.-1 ม.ค.63
วันนี้ (16 ธ.ค.2562) นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2563 กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดกิจกรรมเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน โดยกรมศิลปากร เปิดให้เข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติและอุทยานประวัติศาสตร์ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมเข้าชม ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ระหว่างวันที่ 28 ธ.ค.นี้ ถึววันที่ 1 ม.ค.2563ทั้งนี้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศจะนำพระพุทธรูปมงคลโบราณที่มีประวัติความเป็นมาและสร้างขึ้นตามคติอันเป็นมงคล มาประดิษฐานให้พุทธศาสนิกชนสักการะบูชา เพื่อเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความเป็นสิริมงคลตามแบบแผนประเพณีที่ดีงาม พร้อมชมโบราณวัตถุศิลปวัตถุชิ้นเยี่ยมที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสำหรับอุทยานประวัติศาสตร์ที่อยู่ในการดูแลของกรมศิลปากรมี 11 แห่ง ได้แก่ อุทยานประวัติ ศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย จ.นครราชสีมา อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ จ.กาญจนบุรี อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จ.อุดรธานี อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี จ.เพชรบุรี และอุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม จ.สระแก้ว
กรมศิลปากร ให้ของขวัญปีใหม่ เปิดให้บริการและงดเก็บค่าเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และอุทยานประวัติศาสตร์ เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2563 โดยเปิดให้เที่ยวชม 11 อุทยานประวัติศาสตร์ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.นี้-1 ม.ค.63
สังคม
กรมศิลปากร,พระนครศรีอยุธยา,นายประทีป เพ็งตะโก,อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
https://news.thaipbs.or.th/content/287093
รุมดูใจ ลิงน้อยถูกกระบะซิ่งทับหัวแตกตาย เพื่อนร่วมสายพันธุ์เฝ้าไม่ห่าง
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. ที่บริเวณสามแยกเขาสามมุข ถนนอ่างศิลา-บางแสน ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี มีลูกลิงเพศผู้อายุประมาณ 5 เดือน ถูกรถชนและล้อรถทับซ้ำศีรษะ โดยมีลิงตัวอื่นเห็นมาเฝ้าและมีอาการเกรี้ยวกราด แยกเขี้ยวใส่ไม่ให้ใครเข้าใกล้ กระทั่งมีนักท่องเที่ยวรู้สึกสงสาร ซื้อกล้วยโยนให้กิน ทำให้ลิงลดความเกรี้ยวกราดและโมโหลง ก่อนจะลากร่างไร้วิญญาณลิงตัวดังกล่าวเข้าไว้ข้างทาง โดยมีฝูงลิงมาเฝ้าดูด้วยสีหน้าสลด,นางราตรี ทองเติม อายุ 56 ปี แม่ค้าขายอาหารลิงบริเวณดังกล่าว เผยว่า ช่วงนี้อากาศหนาว บนเขาสามมุขจึงแห้งแล้ง ทำให้ฝูงลิงลงมาจากเขารวมตัวกันเต็มถนน เพื่อรอรับอาหารจากนักท่องเที่ยวซื้อให้กินเป็นจำนวนมาก จนทางผู้เกี่ยวข้องต้องติดป้ายเตือนผู้ขับรถให้ชะลอความเร็ว ซึ่งเดือนที่ผ่านมามีรถชนลิงตายไปกว่า 10 ตัวแล้ว และลูกลิงเคราะห์ร้ายตัวนี้ก็ถูกรถกระบะสีขาวแต่งซิ่งไม่ทราบทะเบียนและยี่ห้อ ชนและเหยียบทับศีรษะแตกตาย ก่อนจะเร่งเครื่องหายออกไปทางถนนอ่างศิลา.
กระบะแต่งซิ่งชนลูกลิงวัย 5 เดือน ขยี้หัวตายอนาถบริเวณแยกเขาสามมุข เพื่อนร่วมฝูงรุมเฝ้าร่างไม่ห่าง แม่ค้าเผย เพราะอากาศบนเขาแห้ง ฝูงลิงจึงลงมาอยู่บนถนนจำนวนมาก แม้จะมีป้ายเตือนผู้ขับขี่ แต่เดือนที่ผ่านมาก็ถูกรถชนตายไปนับสิบตัว
null
รถชนลิง,เขาสามมุข,ลิงเขาสามมุข,ลิงถูกรถชน,ลิงถูกรถทับ,ลิงตาย,ฝูงลิง,บางแสน,ชลบุรี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/content/544602
ผลสอบ เมย เสียชีวิต ถึงมือ ผบ.ทสส.แล้ว
วันนี้ (14 ธ.ค.2560) พลอากาศเอกชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหารกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง การเสียชีวิตของ นตท.ภัคพงศ์ ตัญกาญจน์ เปิดเผยว่า ได้ส่งผลการสอบสวนให้กับพลเอกธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ไปแล้วเมื่อเย็นวานนี้ (13 ธ.ค.)ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะชี้แจงต่อสังคมหรือไม่ หรือจะเชิญผู้ปกครองของนักเรียนเตรียมทหารภัคพงศ์ มารับทราบผลการสอบสวนก่อน ขณะนี้พลเอกธารไชยยันต์ ปฏิบัติราชการอยู่ประเทศสิงคโปร์ และจะเดินทางกลับมาในวันพรุ่งนี้ (15 ธ.ค.) จึงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดผลการสอบสวนได้ในขณะนี้ เพราะต้องรอให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเปิดเผยได้หรือไม่ และหากผู้บัญชาการทหารสูงสุดยังมีข้อสงสัยในรายละเอียดการสอบสวนก็ต้องกลับไปหาข้อมูลเพิ่มเติมให้ครบถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดเป็นประเด็นใหม่ขึ้นมาอีกพลอากาศเอกชวรัตน์ ย้ำว่า จะมีการแถลงข่าวหรือไม่นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับกระแสสังคม แต่ยึดตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อให้สังคมได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง หากกรณีที่ทางผู้ปกครองติดใจผลการสอบสวน หรือมีประเด็นที่ไม่ตรงกับการชันสูตรของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ก็ขึ้นอยู่กับทางผู้ปกครองของ นตท.ภัคพงศ์ จะดำเนินการอย่างไรต่อไป และหากมีการฟ้องร้องดำเนินคดีก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการของพนักงานสอบสวน เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตและผู้รับผิดชอบในกรณีที่เกิดขึ้น
ประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของ นตท.ภัคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือเมย ระบุ ส่งผลสอบให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแล้ว ส่วนจะแถลงผลสอบหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้บัญชาการทหารสูงสุด ไม่เกี่ยวกับกระแสสังคม
อาชญากรรม
ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS,น้องเมย,เมย,เตรียมทหารตาย,ผลสอบเมย
https://news.thaipbs.or.th/content/268523
ศาลพิเศษกัมพูชาตัดสินจำคุกตลอดชีวิต 2 อดีตผู้นำเขมรแดง
7 ส.ค.2557 ศาลพิเศษคดีอาชญากรสงคราม กรุงพนมเปญ กัมพูชา ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต นวน เจีย วัย 88 ปี และ เขียว สัมพัน วัย 83 ปี อดีตผู้นำเขมรแดง ในความผิดฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวกัมพูชาอย่างน้อย 1.7 ล้านรายในช่วงปี 2518-2522 ในยุคเขมรแดงเรืองอำนาจสำหรับ นวน เจีย เป็นอดีตผู้นำอันดับสองรองจาก พล พต ผู้นำเขมรแดง ส่วน เขียว สัมพัน เป็นอดีตประมุขแห่งรัฐของกัมพูชาขณะอยู่ภายใต้การปกครองของเขมรแดง โดยเป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจระดับสูงของเขมรแดง รองจากพล พต เช่นกันนิล นอน ผู้พิพากษา ระบุว่า พวกเขามีความผิดฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ประหัตประหารทางการเมือง และการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมอื่นๆ ประกอบด้วยการบังคับให้ย้ายถิ่น การบังคับให้หายสาบสูญ และโจมตีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ด้านทนายความของทั้งสองระบุว่า พวกเขาจะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษานี้ รูเปิร์ต แอบบ็อต (Rupert Abbott) รองผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า คำพิพากษาที่รอคอยกันมานานนับเป็นขั้นตอนสำคัญ ในการผดุงความยุติธรรมให้กับเหยื่อในยุคเขมรแดง และเน้นให้เห็นความสำคัญของการแก้ปัญหาการลอยนวลพ้นผิดแต่กรณีที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธไม่ยอมมาให้การ รวมทั้งข้อกล่าวหาว่ามีการแทรกแซงทางการเมืองในคดีอื่นๆ ของศาลพิเศษกัมพูชา เป็นปัญหาสำคัญ และทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นธรรมของขั้นตอนปฏิบัติ และการเคารพสิทธิของผู้เสียหายที่จะได้รับฟังความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับอาชญากรรมตามข้อกล่าวหาการไต่สวนคดีอย่างเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพถือเป็นเรื่องสำคัญมาก หากศาลพิเศษกัมพูชาต้องการทิ้งมรดกที่ส่งผลระยะยาวในแง่การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบยุติธรรมที่กำลังง่อนแง่นของกัมพูชา อีกทั้งเพื่อสนับสนุนความพยายามในการยุติวัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิดที่ยังฝังรากลึกอยู่ศาลพิเศษกัมพูชาต้องไต่สวนคดีทั้งหมดให้เสร็จสิ้นในเวลาอันเหมาะสมและด้วยความเป็นธรรม ปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อได้รับความสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาลกัมพูชาและประชาคมระหว่างประเทศแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยินดีกับคำวินิจฉัยของศาล ซึ่งกำหนดให้มีการเยียวยา 11 โครงการสำหรับผู้เสียหาย และเรียกร้องให้มีการปฏิบัติตามอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ดี รัฐบาลกัมพูชายังมีภารกิจอีกมากที่ต้องทำเพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเหยื่อทั้งหมดTop Khmer Rouge leaders guilty of crimes against humanityแถลงการณ์แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล
ตวลสเลง คุกสมัยเขมรแดงเรืองอำนาจ ปัจจุบัน กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ (แฟ้มภาพ) 7 ส.ค.2557 ศาลพิเศษคดีอาชญากรสงคราม กรุงพนมเปญ กัมพูชา ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต นวน เจีย วัย 88 ปี และ เขียว สัมพัน วัย 83 ปี
ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน
กัมพูชา,ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์,จำคุกตลอดชีวิต,นวน เจีย,เขมรแดง,เขียว สัมพัน,แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
https://prachatai.com/journal/2014/08/54962