title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
ราคาดีเซลเพิ่มต่อเนื่อง ดัน ดัชนีค่าบริการขนส่งไตรมาส 3 พุ่ง 2.7% | เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2561 นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้ ส่งผลให้ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน ไตรมาสที่ 3 ปี 61 ว่า มีค่าเท่ากับ 107.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 60 เพิ่มขึ้น 2.7% เพราะน้ำมันดีเซลเป็นต้นทุนหลักของค่าขนส่ง ซึ่งการเพิ่มขึ้นของราคาดีเซลเป็นไปตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ,สำหรับดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนที่เพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มขึ้นของค่าบริการขนส่งใน 3 หมวดหลัก คือ หมวดผลผลิตเกษตรกรรมเพิ่มขึ้น 4.3% อาทิ ข้าวเปลือก ข้าวโพด มันสำปะหลังสด ถั่วเหลือง, หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 2.3% อาทิ น้ำตาลทรายดิบ น้ำตาลทรายขาว เครื่องดื่มบำรุงกำลัง และหมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง เพิ่มขึ้น 1.1% อาทิ ยิปซัม เกลือ หิน เป็นต้น โดยผู้ประกอบการขนส่ง เห็นว่า ภาครัฐควรดูแล และควบคุมราคาน้ำมันดีเซลภายในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม พร้อมดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ให้เกิดการลงทุน การผลิตมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจด้านการขนส่งกระเตื้องตามไปด้วย,สนค. คาดว่า ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนในช่วงปลายปี 61 ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง จากปัจจัยราคาน้ำมันตลาดโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอยู่ในช่วงขยายตัว ประกอบกับ สภาพเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ทั้งในประเทศและโลก ส่งผลให้มีความต้องการขนส่งมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการขนส่งยังคงต้องการให้ภาครัฐดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมมีกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ภาคเอกชนเกิดความเชื่อมั่นกับสถานการณ์เศรษฐกิจ พร้อมที่จะลงทุนเพิ่มขึ้น และส่งผลให้เกิดการผลิต ซึ่งจะทำให้ธุรกิจการขนส่งขยายตัวดีตามไปด้วย . | พาณิชย์ เผยราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดันดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน ไตรมาส 3 พุ่ง 2.7% จากไตรมาส 2 ขณะที่ภาคเอกชน วอนรัฐควบคุมราคาให้เหมาะสม | ข่าว,เศรษฐกิจ | น้ำมันดีเซล,ดีเซลขึ้นราคา,ต้นทุนค่าขนส่ง,ขนส่งสินค้า,กระทรวงพาณิชย์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1390398 |
Life and Kuisine ร้านอาหารของคนวิถี Biker | ของทางร้าน กลายเป็น Bar And Restaurant ที่มีเสน่ห์เสียจนละสายตาไม่ได้ บวกกับดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ของทางร้านที่เราสะดุดตา ไม่ว่าจะเป็นผนังเปลือยโชว์แมททีเรียล หรือโครงเหล็กที่จัดวางมาอย่างดี แต่ให้ความรู้สึกเหมือนไม่ตั้งใจ กลายเป็นว่ากลายเป็นร้านที่แฝงไปด้วยความเท่และอบอุ่นอบอวลหลอมรวมกันอย่างบอกไม่ถูก,ด้วยดีไซน์ของร้านที่ดึงดูดสายตาทุกครั้งที่ผ่าน ร้องเรียกให้ทั้งคนที่รักใน Cafe และรักใน Biker ได้เปิดประตูเข้าไปรู้จักกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ถูกถ่ายทอดโดยกลุ่มคนที่รักการขับมอเตอร์ไซค์สไตล์ Custom หรือมอเตอร์ไซค์แต่ง ที่ตกแต่งบรรยากาศภายในร้านให้กลายเป็นเหมือนอีกจุด Check Point ของเหล่านักเดินทาง เมื่อกลิ่นของความดิบของแมททีเรียล ผสมปนเปกับกลิ่นความหอมของเมล็ดกาแฟ กลับกลายเป็นว่าโลกทั้งใบสามารถหยุดลงได้เมื่อคุณเปิดประตูสีฟ้าบานนั้นเข้าไป,เพราะมิตรภาพสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา Life and Kuisine Restaurant จึงกลายเป็นสถานที่พบปะและพูดคุยของเหล่าบรรดาคนที่หลงรักในสิ่งที่เหมือนๆ กัน แต่อาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละดีเทล ไม่ว่าจะเป็นรสชาติของอาหาร กลิ่นและรสสัมผัสของเมล็ดกาแฟก่อนจะกลั่นกรองออกมาเป็นกาแฟดีๆ สักแก้ว หรือแม้กระทั่งสไตล์ของการ Custom รถจักรยานยนต์ของแต่ละคน ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถพูดคุยและบอกเล่าเรื่องราวของความชอบให้ฟังกันได้อย่างไม่เคอะเขิน,สุดท้ายแล้ว Life and Kuisine Restaurant ไม่ใช่ Bar And Restaurant เฉพาะทางที่สร้างมาเพื่อรองรับเพียงแค่กลุ่มคนรักใน Biker เพียงอย่างเดียว แต่กลับกลายเป็นว่าสถานที่แห่งนี้นอกจากจะมีมิตรภาพดีๆ รอแนะนำให้รู้จักแล้ว ยังมีอาหารรสชาติคุณภาพที่คัดสรรมาอย่างดี รอให้นักเดินทางคนต่อไปเช่นคุณเข้าไปสัมผัสบรรยากาศข้างหลังประตูสีฟ้าบานนั้นอีกด้วย,Location : 589 ถนนพระสุเมรุ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 ,Open : อังคาร - ศุกร์ 10.30 - 20.00 น., เสาร์ 10.30 - 19.00 น., อาทิตย์ 10.30 - 17.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์),ที่มา - Looker ,www.cheeze-looker.com, ,www.facebook.com/cheezemagazine, ,www.facebook.com/lookermag, | หากคุณเป็นอีกคนที่หลงใหลในอาหารและวิถี Biker เชื่อว่าคุณคงจะหลงรักร้านนี้ได้อย่างเต็มเปา ด้วยคอนเซ็ปต์เท่ๆ ที่ทำขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์คนรักรถมอเตอร์ไซค์ที่เข้ากันดีได้กับสไตล์ Industrial-Loft | ไลฟ์สไตล์,อาหาร | Life and Kuisine,ร้านอาหาร,Looker,Life and Kuisine Restaurant,Biker | https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/854004 |
ณัฏฐพลแง้ม 2-3 วัน เห็นหน้ารัฐบาลใหม่ เชื่อ ปัญหาภายในพปชร.สงบแล้ว | วันที่ 3 ก.ค. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ / นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ส.ส.กทม. ร่วมกัน เปิดหลักสูตรอบรมคนรุ่นใหม่ ภายใต้ชื่อ Palungpracharat Internship Program หรือ PiP 1 โดยนายณัฏฐพล กล่าวว่า หลักสูตรนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่เป็นการส่งเสริมประสบการณ์ให้กับคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยโครงการรุ่นที่ 1 ถือว่ามีโอกาสดีกว่าคนอื่น เพราะจะได้เห็นรุ่นพี่ที่เข้าไปทำงานในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เกษตร การท่องเที่ยว พลังงาน และการศึกษา ซึ่งตอนนี้พรรคพลังประชารัฐ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แม้ว่าตอนนี้จะยังจัดตั้งรัฐบาลไม่เสร็จ แต่อีก 2-3 วัน น่าจะตั้งได้ หวังว่าทุกคนจะได้เห็นว่าประเทศไทยจะขับเคลื่อนเดินไปข้างหน้าอย่างไร,ด้านพุทธิพงษ์ กล่าวว่า แม้ว่าโครงการนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองโดยตรง แต่ก็จะเป็นเวทีที่ทำให้ทุกคนได้ต่อยอดการทำงานของตัวเองไปในอนาคต ซึ่งจะเห็นได้ว่าพรรคพลังประชารัฐเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้าได้มามีบทบาททางการเมือง มีหลายคนได้เป็น ส.ส. โครงการนี้ไม่มีใครเซ็นสัญญาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้บังคับให้พรรคนี้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่เรามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ส่วนในอนาคตจะเลือกพรรคการเมืองไหน เราเชื่อในคุณสมบัติ และคุณภาพของทุกคน ว่าจะสามารถนำพาประเทศเดินหน้าไปได้ในอนาคต,ต่อมานายณัฏฐพล ให้สัมภาษณ์ให้ภายหลังว่า เหตุการณ์เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้เห็นความสงบเกิดขึ้นแล้ว ทั้งในพรรคพลังประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจ เพื่อเดินหน้าบริหารประเทศต่อไป โดยส่วนตัว คิดว่าอีก 2-3 วันการตั้งรัฐบาลจะเรียบร้อย,เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หากภายหลังโปรดเกล้าฯ แล้วตำแหน่งไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันจะเกิดความวุ่นวายอีก นายณัฏฐพล บอกว่า จากเมื่อวานที่หลายฝ่ายออกมาแสดงจุดยืน ทำให้เห็นว่า ทุกคนเห็นประโยชน์ประเทศเป็นหลัก ซึ่งคงรับในการตัดสินใจของนายกฯ และมั่นใจว่า นายกรัฐมนตรีจะนำพาบริหารประเทศในแนวทางที่เหมาะสมได้,นายณัฏฐพล ยังเชื่อมั่นว่า เหตุการณ์ขณะนี้ ไม่ได้เป็นความสงบชั่วคราว เพราะในการประชุม ส.ส. เมื่อวานนี้ได้เปิดให้แสดงความเห็น และปรับการทำงานในบางส่วน โดยทางกรรมการบริหารพรรค ก็มานั่งวิเคราะห์ว่าอะไรสามารถปรับปรุงได้ ซึ่งมีหลายอย่างที่สามารถทำให้สถานการณ์น่าจะดีขึ้น ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคที่มีรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่า นายณัฏฐพลจะเข้ามาดำรงตำแหน่งแทน ก็ยืนยันว่า ไม่เคยมีการพูดคุยเรื่องนี้ และเป็นการคาดเดาของสื่อมวลชน ส่วนตัวในฐานะกรรมการบริหารพรรคก็มีหน้าที่รับฟังและแก้ปัญหาเรื่องภายในพรรคอยู่แล้ว,นายณัฏฐพล ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีสังกัดพรรคพลังประชารัฐต้องลาออกจาก ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อหรือไม่ว่า เป็นเรื่องที่พรรคได้มีการหารือกันมาระยะหนึ่ง และอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด เพราะการทำงานในสภาก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ต้องดูว่าใครสามารถบริหารเวลาในการทำหน้าที่ได้ทั้ง 2 ส่วน ซึ่งยอมรับว่า ใครที่จะต้องลาออกจากการเป็น ส.ส. หรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาเป็นรายบุคคลไป | เสี่ยตั้น แง้ม 2-3 วันได้เห็นหน้ารัฐบาลใหม่ เผย พรรคเช็กรายบุคคล รัฐมนตรีคนไหนต้องลาออกจาก ส.ส. เชื่อ ปัญหาภายในสงบแล้ว ทุกคนพร้อมฟังคำบัญชา บิ๊กตู่ | เลือกตั้ง | เลือกตั้ง62,รัฐบาลใหม่,ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ,บิ๊กตู่,พลังประชารัฐ,พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์,พปชร.,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1606151 |
สถิติแฉ ผีแดง ยิง 30 ครั้งกว่าจะเข้าลูกแรก อิบรา จ๋อย อดแซงเมสซี | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 31 ธ.ค. ว่า อ็อพต้า เจ้าพ่อสถิติชื่อก้องประมวลสถิติหลังเกมพรีเมียร์ลีกโดยแฉว่า ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้โอกาสฟุ่มเฟือยมากถึง 31 ครั้งกว่าจะได้ประตูตีเสมอ โบโร่ และมาได้ประตูแซงเอาชนะ 2-1 เก็บสามแต้มแบบหืดจับ,ปิศาจแดง ยิงแล้วยิงเล่าแต่ก็ถูกปฏิเสธจาก บิคตอร์ บัลเดส อดีตนายด่านของพวกเขาที่องค์ลงเซฟประตูเป็นว่าเล่นเกิน 10 ครั้ง แต่สุดท้ายด้วยความพยายามทำให้ปิศาจแดงโกงความตายยิงสองลูกในช่วงสองนาทีพลิกเอาชนะแบบเหลือเชื่อเก็บชัยเป็นเกมที่ 5 ติดต่อกัน,ส่วนในรายของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่เขาต้องการอีกสองลูกเพื่อแซง ลีโอเนล เมสซี ขึ้นเป็นดาวซัลโวยุโรปของปีนี้ แต่เขากลับต้องหัวเสียเมื่อ ลี เมสัน ผู้ตัดสินปฏิเสธประตูที่เขาทำได้ในช่วงครึ่งแรก ซึ่งจากภาพรีเพลย์ไม่ใช่การฟาวล์ของเขาอย่างที่ผู้ตัดสินมองแต่อย่างใด ซึ่งนั่นทำให้ ซลาตัน จบปี 2016 ด้วยผลงาน 50 ประตูรวมทุกรายการ แพ้ เมสซี แค่ประตูเดียว,>>> ,คลิก ชมคลิป จังหวะ ซลาตัน โดนปฏิเสธประตู, <<<,รวมสถิติที่น่าสนใจทุกคู่ทุกสนาม,- เชลซี สร้างสถิติของพวกเขาต่อเนื่องเก็บชัยเป็นเกมที่ 13 ติดต่อกันกลายเป็นสถิติพรีเมียร์ลีกเทียบเท่ากับ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ที่เคยทำได้ในปี 2001/02 ซึ่งฤดูกาลนั้นปืนใหญ่จบด้วยการเป็นแชมป์,- เชลซี ทำสถิติ 100 เปอร์เซนต์ตลอด 5 เดือนแรกในลีกแบ่งเป็น ชนะ 100% เดือนสิงหาคม, ชนะ 0% เดือนกันยายน, ชนะ 100% เดือนตุลาคม, ชนะ 100% เดือนพฤศจิกายน และ ชนะ 100 % เดือนธันวาคม,- เชส ฟาเบรกัส คือนักเตะคนที่ 4 ของพรีเมียร์ลีกที่แอสซิสต์ครบ 100 และปัจจุบันรั้งอันดับ 4 แอสซิสต์สูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกตามหลังอันดับ 3 เวย์น รูนีย์ กองหน้าแมนฯยูไนเต็ด 1 ลูก,- อดัม ลัลลานา (ลิเวอร์พูล) กลายเป็นนักเตะที่แอสซิสต์สูงสุดของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ 7 ครั้งใน 17 เกม และเป็นกองกลางที่มีส่วนร่วมกับประตูมากสุดในฤดูกาลนี้ 14 ลูก (ยิง 7 ลูก, แอสซิสต์ 7 ลูก),- เซร์คิโอ อเกวโร (แมนฯซิตี้) กลับมาลงสนามแต่ไม่สามารถจับบอลในเขตโทษลิเวอร์พูลได้เลยตลอดทั้งเกม,- เซร์คิโอ อเกวโร (แมนฯซิตี้) ยังรักษาสถิติยิงประตูในถิ่นแอนด์ฟิลด์ไม่ได้เป็นเกมที่ 8 ติดต่อกัน (แมนฯซิตี้ 6 นัด, แอตเลติโก มาดริด 2 นัด),- ลิเวอร์พูล ยังมีฟอร์มการเล่นที่สนามแอนด์ฟิลด์ยอดเยี่ยม ไร้พ่ายเป็นเกมที่ 17 ติดต่อกัน,- เชลซี ได้แต้มเยอะสุดในปี 2016 ที่ 79 แต้ม ตามมาด้วย ลิเวอร์พูล 73 แต้มและ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 72 แต้ม,- อันเดร เกรย์ (เบิร์นลีย์) ซัดแฮตทริกแรกในพรีเมียร์ลีก,- เจอร์เมน เดโฟ (ซันเดอร์แลนด์) ยิงประตูไปแล้ว 130 เกมที่แตกต่างกันในลีกเป็นรองแค่ อลัน เชียร์เรอร์, แอนดี โคล, แฟรงค์ แลมพาร์ด และ เวย์น รูนีย์,- บรูโน มาร์ตินส์ อินดี (สโต๊ก) ยิงประตูเร็วสุดในครึ่งหลังของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ด้วยเวลา 54 วินาที,- สวอนซี ซิตี้ เสียประตูในบ้านไปแล้ว 22 ลูกซีซั่นนี้ มากกว่าทั้งฤดูกาลที่แล้วที่เขาเสียประตูในบ้านแค่ 20 ลูก,- อิสลาม สลิมานี (เลสเตอร์) ยิงประตูในลีกปีนี้ทั้งสิ้น 15 จาก 33 ประตูโดยเป็นประตูจากการใช้ศรีษะโขกประตูถึง 45 เปอร์เซนต์,- คี ซุง เฮือน (สวอนซี) รับใบเหลืองเร็วที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ด้วยเวลา 30 วินาที | มีการเปิดเผยสถิติหลังเกม ผีแดง ชนะ โบโร่ 2-1 แฉว่าลูกทีมของ โชเซ มูรินโญ ต้องใช้โอกาสถึง 31 ครั้งกว่าจะได้ประตูแรก ส่วนลูกยิงของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่โดนปฏิเสธทำให้เขาชวดคว้าดาวซัลโวยุโรป | null | พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ซลาตัน อิบราฮิโมวิช,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/825642 |
ยิงหมดโม่ ฆ่า 3 ศพ พ่อแม่ลูก มือปืนมอบตัว อ้างแค้นถูกโกงที่ดิน | เมื่อวันที่ 22 เม.ย.59 พ.ต.ท.ประสาท โตบุญมา รองผกก.(สอบสวน) สภ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย บริเวณที่ทำการ อบต.แม่สิน ตั้งอยู่หมู่ 6 ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สมศักดิ์ หฤรักษ์ ผกก.ทราบแล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.กิตติพล หลวงใหญ่ รองผกก.ป. พ.ต.ท.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รองผกก.สส. พ.ต.ท.สมพงษ์ โสภา สว.ป. ชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.ศรีสัชนาลัย และหน่วยกู้ภัยเทพนิมิตร,ที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถข้างที่ทำการ อบต. พบชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์กันเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกไป แล้วเข้าตรวจสอบ พบรถกระบะนิสสัน สีเขียว หมายเลขทะเบียน บจ 874 อุตรดิตถ์ จอดอยู่ในสภาพถูกยิงที่กระจกด้านคนขับเป็นรูขนาดใหญ่ 2 รู บริเวณล้อหลังด้านขวา พบศพนายคนอง ทิมทอง อายุ 61 ปี ชาวบ้านหมู่ 13 ต.แม่สิน อาชีพทำสวนส้มเขียวหวาน และเป็นเจ้าของตลาดนัดบ้านสุเม่น นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ในสภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืน .38 เข้าที่หน้าอก 1 นัด ท้ายทอย 1 นัด กรามขวา 1 นัด คิ้วขวา 1 นัด กระสุนฝัง เสียชีวิตในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้น ลายดำ กางเกงขาสั้นสีดำ,ห่างออกไป 20 เมตรด้านหน้ารถ พบศพนางสมนึก ทิมทอง อายุ 55 ปี ภรรยานายคนอง สวมเสื้อเชิ้ตลายดอกสีเขียว กางเกงขายาวลายดอกสีน้ำเงิน ถูกยิงด้วยกระสุนชนิดเดียวกันเข้าที่หน้าผาก 1 นัด มือขวา 1 นัด นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือด ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ตกอยู่ 7 ปลอก จึงเก็บใว้เป็นหลักฐาน,นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ชื่อนายธีรพงษ์ ทิมทอง อายุ 32 ปี เป็นลูกชายของผู้เสียชีวิตทั้งสอง ถูกยิงที่หน้าผาก 1 นัด อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.แม่สินรีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา,ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบว่าชื่อ นายนัธทวัฒน์ ชูชิต อายุ 42 ปี ชาวบ้าน หมู่ 12 ตำบลเดียวกัน หลังก่อเหตุแล้วถือปืนขึ้นไปรอมอบตัวบนที่ทำการ อบต. ต่อมา พ.ต.อ.ศิรินทร์ จันทรวาณิช รอง.ผบก.ภ.สุโขทัย เดินทางมายังที่เกิดเหตุสอบปากคำผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุยิงพ่อแม่ลูกเสียชีวิต 3 ศพจริง เหตุเพราะมีความแค้นนายคนอง ซึ่งมีกรณีพิพาทเรื่องที่ดิน 20 กว่าไร่ที่เคยเป็นของพ่อแม่ตนมาก่อน แต่ต่อมาที่ดินถูกโอนไปเป็นชื่อของนายคนอง พ่อแม่ตนพยายามทวงคืนแต่นายคนอง ไม่คืนให้ แถมยังฟ้องศาลไล่พ่อแม่ตนให้ออกจากที่ดินแปลงดังกล่าว จึงไปร้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรม จนมีการนัดเจรจาไกล่เกลี่ยกันในวันนี้ แต่ผู้ตายไม่ยอมเจรจา เดินออกจากโต๊ะเจรจา ที่มีว่าที่ร.ต.พยุงศักย์ สุวรรณโณ นายอำเภอนั่งเป็นประธาน ตนจึงเดินตามลงมาพูดคุยขอร้องไม่ให้ไล่พ่อแม่ตนออกจากที่ดิน แต่ผู้ตายไม่สนใจกลับด่าทอ ข่มขู่ตน และขับไล่ให้รีบออกจากที่ดินภายในสิ้นเดือนนี้,นายนัธทวัฒน์ ผู้ต้องหา ให้การด้วยว่า ด้วยความแค้น จึงเดินไปหยิบปืนที่ซ่อนใว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ แล้วเดินตามไปยิงนายคนอง ขณะกำลังสตาร์ตเครื่องรถกระบะ แต่ทั้งสามคนพยายามวิ่งเข้ามาต่อสู้ จึงยิงใส่จนหมดโม่ แล้วบรรจุกระสุนใหม่ยิงซ้ำ จนนายคนองกับเมียเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกชายเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาลดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | จากกรณีพิพาทเรื่องที่ดิน คู่กรณีนัดไกล่เกลี่ยต่อหน้านายอำเภอ กลายเป็นเหตุฆาตกรรมยิงพ่อ แม่ลูกครอบครัวเจ้าของตลาดที่สุโขทัย ตายหมด 3ศพ มือปืนรอมอบตัว อ้างถูกโกงที่ดิน ทั้งยังฟ้องขับไล่พ่อแม่เลยแค้นยิงหมดโม่บรรจุกระสุนยิงซ้ำอีก | ข่าว,ทั่วไทย | ฆ่า3ศพ,ยิง3ศพ,พ่อแม่ลูก,คนอง ทิมทอง,นัธทวัฒน์ ชูชิต,เจ้าของตลาด,โกงที่ดิน,ศรีสัชนาลัย,สุโขทัย,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/609639 |
เปเย เชื่อ ยาย่า ส่งสัญญาณคืนฟอร์มเก่ง | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 23 พ.ย. มานูเอล เปเยกรินี เทรนเนอร์ทีม เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรประจำพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความเชื่อมั่นว่า ยาย่า ตูเร ห้องเครื่องคนสำคัญกำลังจะกลับมาสู่ฟอร์มเก่งอีกครั้ง หลังยิงประตูช่วยทีมในเกมเฉือนชนะ หงส์ขาว สวอนซี ซิตี้ 2-1,ในเกมที่ เรือใบสีฟ้า เปิดบ้านพบกับ สวอนซี ซิตี้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา วิลเฟร็ด โบนี ยิงให้ทีมเยือนขึ้นนำไปก่อน แต่ สเตฟาน โยเวติช ก็มาทำประตูตีเสมอได้ก่อนที่สุดท้ายจะเป็น ยาย่า ที่ซัดประตูชัยให้กับทีมคว้า 3 แต้มสุดล้ำค่า,หลังเกมกุนซือชาวชิลีกล่าวชมห้องเครื่องชาวไอวอรี โคสต์ ว่า เขามีพัฒนาการที่ดีขึ้นในทุกๆ เกม เขาเป็นคนสำคัญของเรา ครั้งล่าสุดเขาทำได้หลายประตูและมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะคาดหวังให้เขายิงในจำนวนที่เท่ากับในฤดูกาลที่ผ่านมา,เขาเป็นกองกลางไม่ใช่กองหน้า เราไม่ควรตัดสินยาย่าว่าเล่นดีหรือไม่จากจำนวนประตูที่เขาทำ เขายิงประตูได้สวยมากๆ แต่สิ่งที่น่าประทับใจมากกว่าคือวิธีที่เขาเล่นตั้งแต่ต้นจนจบ หรือแม้จะเป็นในเกมระดับทีมชาติเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาเหนื่อยแต่ก็ยังมีบุคลิกและคาแรกเตอร์ที่จะพยายามเล่นไปจนกระทั่งจบเกม | มานูเอล เปเยกรินี เทรนเนอร์ทีม เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เชื่อ ยาย่า ตูเร กำลังส่งสัญญาณคืนฟอร์มเก่ง หลังเป็นฮีโร่ทำประตูช่วยทีมในเกมเฉือนชนะ หงส์ขาว สวอนซี ซิตี้ 2-1… | null | พรีเมียร์ลีก,อังกฤษ,มานูเอล เปเยกรินี,เรือใบสีฟ้า,แมนเชสเตอร์ ซิตี้,ยาย่า ตูเร,ข่าวกีฬา | https://www.thairath.co.th/content/465096 |
หนุ่ม 28 น้อยใจเมียวัย 46 นอนบ้านลูกสาว ผูกคอขื่อบ้านดับอนาถ | เมื่อเวลา 00.10 น.วันที่ 29 พ.ค.62 ร.ต.อ.กุลธวัช รวมจิตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีคนผูกคอเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 17 หมู่ 3 ต.สำนักบก อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวร รพ.ชลบุรี และกู้ภัยมูลนิธิไตรคุณธรรม,ที่เกิดเหตุพบร่าง นายสถิตย์ ยิ่งใหญ่ อายุ 28 ปี ใช้เชือกในล่อนผูกคอตัวโยงกับขื่อหลังคาบ้าน เสียชีวิต สภาพลิ้นจุกปาก ร่างห้อยโตงเตง,สอบถาม น.ส.ประคอง ศรีสุข อายุ 46 ปี ภรรยา เผยทั้งน้ำตาว่า ตอนช่วงค่ำตนโดนแมงป่องต่อยนิ้วโป้งขวาปวดมาก ตนเลยบอกว่าจะไปนอนบ้านลูกสาว เผื่อว่าถ้าแพ้ขึ้นมาลูกจะได้พาไปหาหมอ เค้าก็นั่งกินเหล้าอยู่ สองทุ่มกว่าเขาก็โทรมาบอกว่า เขาเมาแล้วเหมือนจะบอกให้ตนกลับมานอนที่บ้าน แต่ตนปวดแผลมากเลยบอกว่านอนที่นี่ แล้วเขาก็โทรมาบอกอีกว่า มีอะไรจะสั่งเสียมั้ย กูจะผูกคอตาย นึกว่าเค้าพูดเล่น เค้าโทรมาอีก 2 สาย แต่ตนไม่ได้รับ แล้วเค้าก็โทรไปหาลูกสาว ก็บอกว่าแม่นอนแล้ว เขาบอกลูกสาวตนว่าให้ไปสุรินทร์หน่อย ไปงานศพเขาด้วย พอสักพักลูกสาวเอะใจโทรกลับมากว่า 10 สาย ไม่มีใครรับสาย ก็เลยพากันมาดูก็พบว่าเป็นศพแล้ว ไม่น่าเลยปกติตนจะอยู่กับเขาตลอด,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายคงน้อยใจเมียที่ไปนอนบ้านลูกสาว โทรให้กลับมานอนบ้านก็ไม่กลับมา เลยใช้เชือกผูกคอเสียชีวิตดังกล่าว | หนุ่มวัย 28 ปี ซดเหล้าเมาได้ที โทรหาเมียวัย 46 ให้กลับมานอนบ้าน แต่เมียไม่มา บอกนอนบ้านลูก ใช้เชือกผูกคอกับขื่อบ้านดับอนาถ ตร.คาดเหตุคิดสั้น น้อยใจเมีย | ข่าว,ทั่วไทย | ผูกคอตาย,แขวนคอตาย,น้อยใจเมีย,ฆ่าตัวตาย,คิดสั้น,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1578908 |
พี่เจ้าสาวเผยสาเหตุ เจ้าบ่าวทิ้งวิวาห์ แจงจ้างน้าฝ่ายชายแต่งแทน | จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้เผยแพร่ภาพสดงานแต่งงานของตัวเอง ซึ่งเจ้าสาวได้ขึ้นเวทีไปกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานเพียงลำพัง ทั้งน้ำตา เนื่องจากเจ้าบ่าวไม่มาร่วมงาน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่าน ,ที่นี่,),ต่อมาได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ระบุเป็นพี่ของเจ้าสาว ได้โพสต์ข้อความระบุสาเหตุที่ฝ่ายชายไม่มาร่วมงานแต่งในวันนี้ ว่า เจ้าบ่าวหายไปเมื่อวาน โดยทางญาติเจ้าบ่าวแจ้งว่า ไม่มีใครสามารถติดต่อได้ เนื่องจากเครียด ไม่มีค่าสินสอด แม้ทางครอบครัวจะยินดีจ่ายส่วนที่ขาดให้ก็ตาม ซึ่งเวลา 23.00 น.วานนี้ ทางพ่อของเจ้าบ่าวได้โทรหาตน และว่า ลูกกำลังจะเข้าบ้าน และตี 5 วันนี้จะไปที่บ้านเจ้าสาวพร้อมแม่ แต่รอจน 6 โมงเช้าก็ยังไม่มา โดยพ่อแม่อีกฝ่ายบอกยังหาลูกไม่เจอ,นอกจากนี้ยังได้ชี้แจงถึงเรื่องการจ้างน้าชายของเจ้าบ่าวมาสวมรอยเป็นเจ้าบ่าวแทนว่า เพื่อให้งานเกิดขึ้น จึงเสนอให้น้าของเจ้าบ่าวที่หน้าตาคล้ายเจ้าบ่าวมากๆ มาแทนน้องก่อน เพื่อให้งานเกิดขึ้น ซึ่งครอบครัวฝ่ายชายบอกว่าจะพยายามคุยให้ และคำตอบที่ได้คือ ต้องจ้าง 1 ล้านบาท ทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นตามที่ปรากฏในคลิป. | พี่เจ้าสาวเผยสาเหตุ เจ้าบ่าวทิ้งงานแต่ง ปล่อยเจ้าสาวขึ้นกล่าวขอบคุณแขกบนเวทีทั้งน้ำตา แจงจ้างน้าฝ่ายชายสวมรอยแทน เพื่อให้งานเกิดขึ้น แต่ถูกเรียกเงิน 1 ล้าน | ข่าว,สังคม | เจ้าบ่าวหนี,เจ้าบ่าวหนีงานแต่ง,เจ้าสาวขอบคุณแขก,จ้าง1ล้าน,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1339634 |
ส่อได้เปรียบ แนะนายกรัฐมนตรี เลิกจัดรายการ คสช. | วันนี้ (15 ก.พ.2562) เวลา 20.15 น.ในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เราจะยังเห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช.ดำเนินรายการ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ความได้เปรียบในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ บางส่วนเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรจัดรายการดังกล่าวแล้วขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ มองว่า เนื้อหารายการเป็นเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ได้พูดเรื่องการเมืองและการหาเสียง จึงสามารถจัดรายการต่อไปได้อ.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก ให้ความเห็นต่อกรณีดังกล่าวโดยอธิบายว่า รายการที่นายกรัฐมนตรีทำขึ้นเพื่อสื่อสารกับประชาชน ตั้งแต่สมัยนายทักษิณ ชินวัตร จนถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ล้วนเป็นรายการโชว์ผลงานของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นรายการหาเสียง หาคะแนนนิยมกับประชาชน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเมื่อมีกฤษฎีกาการเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นต้องหยุดจัดรายการ ซึ่งก็เป็นแบบนั้นเรื่อยมาสำหรับกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ที่ยังยืนยันจะจัดรายการต่อ อ.นันทนา เห็นว่าเป็นเรื่องไม่สมควร เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐทั้งนี้ หากพิจารณาถึงความนิยมของรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน พบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ได้รับผลประโยชน์ในเชิงบวกจากรายการนี้ หรือมีผลน้อยมาก เพราะในช่วงวันและเวลาของรายการ ประชาชนยังเลือกปิดทีวีไม่รับการสื่อสารนอกจากรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่ควรจะต้องยกเลิกในขณะนี้ด้วยคือ รายการเดินหน้าประเทศไทย เพราะเป็นรายการโชว์ผลงานของรัฐบาลเหมือนกัน | นักวิชาการ สะท้อน 2 รายการ คสช. เป็นช่องทางโชว์ผลงานรัฐบาล ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดำเนินรายการเอง ห่วงเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น | การเมือง | รายการคืนความสุขให้คนในชาติ,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี,นันทนา นันทวโรภาส,ม.เกริก,โชว์ผลงานรัฐบาล,รายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน,เลือกตั้ง62,เลือกตั้ง 2562,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/277765 |
นายอำเภอเมืองแพร่เตรียมสอบกรณีการบังคับชาวบ้านบริจาคเงินสร้างวิหาร | ตำรวจภูธรโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ สนธิกำลังทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตั้งจุดตรวจบริเวณด่านหนองเสม็ด ตำบลลำนางรอง อำเภอโนนดินแดง ซึ่งมีชายแดนติดกับประเทศกัมพูชา เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสลักลอบขนย้ายข้าว จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาปลอมปน หรือสวมสิทธิ์ ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกฤดูกาลปี 2555/2556 ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 55 และสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 56 แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานการ ตรวจพบผู้กระทำผิด เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง หรือ นรข.อุบลราชธานี ที่นำกำลังออกลาดตระเวนตามลำน้ำโขง ด้านอำเภอนาตาล และอำเภอโพธิ์ไทร ซึ่งเป็นจุดที่พบการลักลอบนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามายังฝั่งไทยมากที่สุด จากรายงานด้านการข่าว เจ้าหน้าที่เริ่มพบความเคลื่อนไหวจากกลุ่มนายทุน ที่ไปติดต่อซื้อข้าวในประเทศเพื่อนบ้าน ราคากิโลกรัมละ 8-10 บาท เพื่อเตรียมนำมาสวมสิทธิเข้าร่วมโครงการ ทำให้เจ้าหน้าที่ นรข.ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนมากขึ้นส่วนการรับจำนำข้าวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะนี้หลายจังหวัดยังไม่สามารถเปิดรับจำนำข้าวได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติของ ผู้ประกอบการโรงสี และมีบางจังหวัด เช่น ที่จังหวัดมุกดาหาร ยังไม่มีผู้ประกอบการโรงสี เข้าร่วมโครงการ ทำให้จังหวัดต้องเร่งประสานไปยังโรงสี ทั้งในจังหวัด และต่างจังหวัด เพื่อรองรับผลผลิตของเกษตรกร ที่ใกล้จะเก็บเกี่ยวช่วงปลายเดือนนี้ | หลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังไม่สามารถเปิดรับจำนำได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ประกอบการโรงสี ขณะที่หน่วยงานด้านความมั่นคง เริ่มวางมาตรการเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิ์ | ภูมิภาค | จำนำข้าว,ชาวนา,นาข้าว,สวมสิทธิ์,โรงสี | https://news.thaipbs.or.th/content/117189 |
สาวโวย ชาย 4 คน อ้างเป็น ตร.บุกเข้าบ้าน ฉกทรัพย์สินหนีหาย (ชมคลิป) | เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักในสังคมออนไลน์ กรณีคลิปเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเจ้าของบ้านได้ออกมาโพสต์ อ้างว่า ชายฉกรรจ์ 4 คน อ้างตัวเป็นตำรวจ บุกเข้ามาในบ้าน ส่งเสียงดังบอกให้คนที่อยู่ในบ้านออกมา ก่อนจะมีการฉุดกระชากลากถูกัน,คลิปนี้ ถูกโพสต์เมื่อวันที่ 2 ต.ค. โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า ฉัตรมณี พลเภา ระบุข้อความว่า รถทะเบียน 1กท 2404 กรุงเทพ รถโตโยต้าวีออสสีขาว มากัน 4 คน ขึ้นบ้าน 3 คนอีกคนติดเครื่องรถรออยู่ข้างล่างวนรถกลับเตรียมออก อ้างตัวเองว่าเป็นตำรวจ ตำรวจแบบไหนคะ มาถึงขึ้นบ้านไม่มีหมายจับ แต่ลากให้ไปขึ้นรถให้ได้ มีกระชากสร้อยคอจนขาด แล้วจะไม่ให้คืน ตอนนี้ได้ไอโฟน 6 พลัส กระเป๋าตังค์ไป,หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปล่าสุดมีผู้แชร์คลิปนี้ไปกว่า 10,000 ครั้งแล้ว และก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ส่วนใหญ่แนะนำให้เจ้าของบ้านไปแจ้งความไว้ เพราะคาดว่าเป็นตำรวจปลอม,ด้านทีมข่าวสายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยังเจ้าของคลิป เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 2 ต.ค. เวลาประมาณ 17.00 น. ที่หมู่ 3 ตำบลบางนาง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ตนเองเพิ่งกลับมาจากตลาด ก็พบว่า มีรถเก๋งวีออสสีขาวมาจอดอยู่หน้าบ้าน และมีชาย 4 คน แต่งตัวสวมเสื้อกั๊กตำรวจ อ้างว่าเป็นตำรวจ มาถามหา พี่ชายของตนเอง บอกว่ามีเรื่องจะคุย และลากตัวพี่ชายไป แต่สุดท้ายตัวเองได้ตะโกนให้คนมาช่วย ชายทั้ง 4 คนก็ปล่อยตัวพี่ชายไป แต่กลับหยิบกระเป๋าเงิน โทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 พลัส และกุญแจรถ 2 คัน หนีหายไป ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุได้เดินทางไปแจ้งความ สภ.พานทอง เรียบร้อยแล้ว,ขณะที่ด้าน ร.ต.อ.ประกาศ ยะติ ร้อยเวรเจ้าของคดี สภ.พานทอง จังหวัดชลบุรี ได้เปิดเผยสั้นๆ ว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ทางผู้เสียหายได้เดินทางมาแจ้งความไว้ และได้ส่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เบื้องต้นในวันนี้ (3 ต.ค.) จะมีการนัดสอบสวนข้อเท็จจริงกับผู้เสียหายอีกครั้ง | คลิปเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายในบ้านหลังหนึ่ง หลังเจ้าของบ้านออกมาโพสต์ร้องเรียนว่าถูกชายฉกรรจ์ 4 คน อ้างตัวเป็นตำรวจ บุกเข้ามาในบ้าน | null | ตำรวจ,ตร.,ตำรวจปลอม,บุกบ้าน,สภ.พานทอง,ชลบุรี,ชายฉกรรจ์,สายตรวจโซเชียล,โซเชียล,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,คลิป,คลิปวิดีโอ,Thairath | https://www.thairath.co.th/content/741921 |
โควิดบุกทำเนียบขาว ทหารผู้ช่วยส่วนตัวโดนัลด์ ทรัมป์ ติดเชื้อ | สำนักข่าว เดอะ การ์เดียน รายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 พ.ค. 2563 นายโฮแกน กิดลีย์ รองเลขาธิการฝ่ายสื่อของทำเนียบขาวสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ระบุว่า พวกเขาเพิ่งได้รับแจ้งจากทีมแพทย์ของทำเนียบฯ ว่ามีสมาชิกกองทัพสหรัฐฯ ที่ทำงานในทำเนียบขาว ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19อย่างไรก็ตาม นายกิดลีย์ยืนยันว่า ประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีได้รับการตรวจร่างกายหาเชื้อโควิด และผลออกมาเป็นลบขณะที่สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น ระบุว่า ทหารนายนี้เป็นสมาชิกกองทัพเรือสหรัฐฯ และเป็นหนึ่งในทหารผู้ช่วยส่วนตัวของนายทรัมป์ เริ่มแสดงอาการป่วยมาตั้งแต่ช่วงเช้าวันพุธ ก่อนจะถูกตรวจพบว่าติดเชื้อในวันเดียวกันนี่นับเป็นครั้งที่ 2 ที่เจ้าหน้าที่ซึ่งทำงานในทำเนียบขาวถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้ โดยเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานของรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อเมื่อเดือนมีนาคม และมีรายงานก่อนหน้านี้ว่า ผู้ที่ไปเยือน มาร์-อา-ลาโก คลับส่วนตัวของนายทรัมป์ในรัฐฟลอริดา ก็ติดเชื้อไปหลายรายเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ เริ่มเปิดเศรษฐกิจของตัวเองอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงเตือนจากผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ เรื่องความเสียหายที่ไวรัสจะกลับมาระบาดหนักกว่าเดิม ซึ่งนายทรัมป์ชื่นชมผู้ว่าการรัฐต่างๆ ที่ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ แม้ยอมรับว่า จะมีประชาชนที่เจ็บปวดกับเรื่องนี้ก็ตามจะมีบางคนได้รับผลกระทบอย่างหนักหรือไม่? มีสิ นายทรัมป์กล่าว แต่เราต้องปิดประเทศ และเราต้องเปิดในเร็วๆ นี้ด้วย | ทหารกองทัพสหรัฐฯ ผู้ทำงานในทำเนียบขาว และเป็นหนึ่งในทหารผู้ช่วยส่วนตัวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 | ข่าว,ต่างประเทศ | โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรนา,โควิด สหรัฐ,ผู้ช่วยส่วนตัวทรัมป์ติดเชื้อ,ทำเนียบขาว | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1838929 |
ถวิล เปลี่ยนศรี ยื่นเรื่อง ก.พ.ค.ร้องนายกฯโยกตำแหน่งไม่เป็นธรรม | นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือ สมช.เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม หรือ ก.พ.ค.โดยร้องว่านายกรัฐมนตรีใช้อำนาจในการโยกย้ายตำแหน่งจากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.ให้มาทำหน้าที่ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีไม่เป็นไปตามระบบคุณธรรม โดยนายถวิลเชื่อว่า ก.พ.ค.จะเป็นที่พึ่งให้ได้ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนตนเองในขณะนี้ได้เข้ารายงานตัวต่อ พล.ต.อ.โกวิทย์ วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งได้รับมอบหมายงานกำกับดูแลแผนบริหารแผ่นดินด้านความมั่นคง แต่ก็เสียใจว่าแทนที่ตนเองจะได้ทำงานกลับมัวมายุ่งอยู่กับเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรมมาสองสัปดาห์แล้วนอกจากนี้นายถวิลเห็นด้วยกรณีที่ข้าราชการใน สมช.ต้องการให้คนที่จะมานั่งตำแหน่งเลขา สมช.ต้องเป็นคนใน สมช. เพราะการรับราชการตามสายงานเจ้าหน้าที่ต้องมีขวัญกำลังใจอยากเติบโตตามสายงานส่วนจะให้กรณีของตนเองเป็นถวิลโมเดลตัวอย่างให้ข้าราชการคนอื่นได้ร้องเรียนหรือไม่นั้นนายถวิลกล่าวว่าแต่ละกรณีมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งต้องดูตามข้อเท็จจริง | นายถวิล เปลี่ยนศรี เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน ต่อ ก.พ.ค.ร้องนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นไปตามระบบคุณธรรม ขณะที่เห็นด้วยกับข้าราชการสภาความมั่นคงแห่งชาติที่อยากให้ตำแหน่งเลขาธิการ ต้องมาจากบุคคลภายในที่เติบโตมาตามสายงานเพื่อขวัญกำลังใจ | การเมือง | ก.พ.ค.,ถวิล เปลี่ยนศรี,นายกรัฐมนตรี,ร้องขอความเป็นธรรม,สมช. | https://news.thaipbs.or.th/content/33422 |
กทม.เสริมกระสอบทรายคลองหกวา สูง 3.5 ม.ภายใน 48 ชม. | ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงถึงปริมาณน้ำในคลองต่างๆ ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ขณะที่คลองทวีวัฒนาปริมาณน้ำสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่เป็นปัญหา ซึ่งปริมาณน้ำวันนี้ (18 ต.ค.) ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา วัดได้ที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ที่ 3777 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) 2 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยระดับน้ำสูงสุดวันนี้เมื่อช่วงเช้าที่ปากคลองตลาด อยู่ที่ 2.07 เมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งเสริมกระสอบทรายเพื่อเป็นแนวกันน้ำที่บริเวณคลองหกวาให้สูงเพิ่ม 3.50 เมตร จากเดิม 2.50 เมตร ความกว้าง 2 แถว ให้แล้วเสร็จภายใน 48 ชั่วโมง และหากมีเวลาจะเสริมเพิ่มเป็น 3 แถว เพื่อความแข็งแรง ขอให้ประชาชนช่วยกันดูแล แนวคันกั้นน้ำชั่วคราวตามคลองต่างๆด้วย สำหรับความคืบหน้าการยกระดับถนนความสูง 30 เซนติเมตร บนถนนเลียบคลองสอง ระยะทาง 1.25 กิโลเมตร และถนนสายไหมซอย85 ระยะทาง 1.50 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันนี้ และจะประเมินอีกครั้งถึงความเป็นไปได้ ว่าจะยกระดับถนนเพิ่มอีกหรือไม่ทั้งนี้รัฐบาลได้สนับสนุนกระสอบทรายให้แล้ว 100000 ใบ จากที่กรุงเทพมหานครร้องขอไป 1000000 ใบ โดยเมื่อรวมกับที่ได้รับกับส่วนกลางที่มีอยู่ ทำให้มีกระสอบทรายอยู่ 500000 ใบ เพื่อนำไปทำเป็นคันกั้นน้ำตามคลองสายหลักฝั่งกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยังขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยปิดประตูระบายน้ำคลอง 1 และทำการสูบน้ำบริเวณคลองเชียงรากน้อย ทำให้ปริมาณน้ำที่จะเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานครไม่มากอย่างที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่สถานการณ์น้ำในคลองเปรมประชากรและคลองประปา ยังสามารถควบคุมได้ และยืนยันว่าสถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ แต่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด | กทม.เร่งเสริมกระสอบทรายที่คลองหกวาให้สูง 3.50 เมตร 50 ภายใน 48 ชั่วโมง พร้อมขอบคุณรัฐบาลที่ส่งกระสอบทรายมาให้เบื้องต้นแล้ว 100000 ใบ | สังคม | กทม.,กระสอบทราย,คลองประปา,คลองสอง,คลองหกวา,คลองเปรมประชากร | https://news.thaipbs.or.th/content/40487 |
หมูปิ้งเฮียนพ EP.2 เปิดสูตร (ไม่) ลับ นำพาพ้นความจน | หลังจากครั้งที่ผ่านมา ,ไทยรัฐออนไลน์, นำเสนอเส้นทางธุรกิจหมูปิ้งของ ,เฮียนพ หมูนุ่ม ,ไปแล้ว (,หมูปิ้งเฮียนพ EP.1 หมดตัว ติดบูโร ไร้บ้าน สู่หมูปิ้งร้อยล้าน วันละแสนไม้,) แต่เรื่องราวน่าสนใจยังไม่หมด เนื่องจากว่า ธุรกิจเฮียนพนั้น ทำหมูปิ้งหรือจะเรียกว่า เสียบหมูปิ้งขายสดๆ ทั้งปลีก-ส่ง แต่ไม่ปิ้งหมูขายแบบพร้อมกิน งงเด้งงเด้ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เรื่องราวธุรกิจของหนุ่มใหญ่รายนี้ ยังมีอีกมากมายให้ติดตาม,ดังนั้น วันนี้มาติดตามอ่านกันต่อเกี่ยวกับประเด็นทางธุรกิจและสูตรการทำหมูปิ้ง ซึ่งทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ,นายชวพจน์ ชูหิรัญ ,หรือ เฮียนพ ของลูกค้าที่เรียกกันติดปากจะเป็นผู้ถ่ายทอด เชิญอ่านโดยพลัน,หมูปิ้งมาตรฐานสูง อย.-GMP การันตี,เมื่อสร้างโรงงานเสร็จยังไม่มีอะไรมากขนาดนี้ กลายเป็นว่า มาตรฐานยังไม่ได้ เนื่องจากการันตีด้วย อย. จึงไปขอยื่น อย.ที่สาธารณสุขจังหวัด โดยบอกว่า อยากจะทำหมูปิ้ง แต่เนื่องจากว่ายังไม่เคยมีการขอ ที่ผ่านมามีแต่ขอ อย.ลูกชิ้น ไส้กรอก หมูปิ้งยังไม่มี เพราะหมูปิ้งจะต้องมีการตรวจสอบตั้งแต่ไม้เสียบ เป็นเชื้อราอะไรไม่ได้ ไปจนถึงเนื้อหมูก็ต้องมีที่มาที่ไป จนบางครั้งมีคนบอกว่า ขายแพงไปก็เนื่องจากต้นทุนสูง เราเอาของมีที่มาที่ไป ไม่ใช่หมูเชือดเอง หมูต้องซื้อจากโรงงานที่มี อย. มี GMP ต้องตรวจสอบย้อนหลังกลับไปได้ ไม้ก็ต้องได้มาตรฐาน,มิติใหม่หมูปิ้งขึ้นห้าง-จัดลูกค้า 4 กลุ่ม,เมื่อครั้งขอ อย. เจ้าหน้าที่มาตรวจ 2 รอบ รอบแรกไม่ผ่าน มาผ่านรอบ 2 ปรากฏว่า เร่ิมมีลูกค้า เนื่องจากจดทะเบียนบริษัทก็มีลูกค้าห้างสรรพสินค้าเยอะเลย โดยกลุ่มลูกค้ามี 4 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มหาเช้ากินค่ำ หมายความว่า พ่อค้าแม่ค้าซื้อไปขายตอนเช้า เลิกขายนอน พรุ่งนี้ก็ขายใหม่ เป็นลูกค้าชาวบ้านทั่วไป 2. กลุ่มลูกค้าที่เราให้คำแนะนำ โดยบอกว่า เอาหมูปิ้งไปสต็อกแล้วบวกราคาเพิ่ม ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่าย ตรงนี้ตนเองมองว่า การทำธุรกิจถ้าเราไปผูกมัดมากอะไรมาก จะทำให้ยุ่งยากเกินไป เลยบอกว่า จะไม่ขายแฟรนไชส์ เป็นเจ้าเดียวที่ไม่ขายแฟรนไชส์ ไม่ผูกมัดทั้งสิ้น คนที่มาซื้อหมูปิ้งไปก็เอาไปสร้างแบรนด์เองได้,3. ลูกค้ากลุ่มที่ไปสร้างแบรนด์เอง โดยเอาสินค้าเราไปสร้างแบรนด์เอง เช่น หมูปิ้งนาย ก นาย ข อะไรก็แล้วแต่ โดยเราเป็นผู้ผลิตส่ง หรือ เรียกว่า OEM และ 4. ลูกค้ากลุ่มห้าง ซึ่งห้างจะต้องมีการแช่แข็ง ทำให้เราต้องขอ GMP เพิ่มขึ้นมา ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุด โดยกลุ่มห้างนี้ขายแบรนด์เราก็มี เช่น เทสโก้ โลตัส นำไปสร้างแบรนด์เองก็มี รวมถึงปั๊มน้ำมันก็มีหลายปั๊มซื้อไปสร้างแบรนด์เองเพิ่มมูลค่า,ไม่รอตลาดอิ่มตัวขยับเพิ่มสินค้าใหม่ๆ,ขณะเดียวกันเรายังมีการเพิ่มไลน์โปรดักส์ ซึ่งตรงนี้ได้มาจากลูกค้าในการเพิ่มโปรดักส์ขึ้นมาจากหมูปิ้งนมสด ไก่ ไส้กรอกและไส้อั่ว เมื่อหมูปิ้งได้ตลาดมา มีลูกค้า เฮียนพเร่ิมดัง ตลาดเริ่มอิ่ม ลูกค้าก็แนะนำว่า เร่ิมทำไก่สิ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ได้มาจากลูกค้า,มาดู เฮียนพหมูปิ้ง ขายอะไรกันบ้าง,มี 4 ตัว ตัวแรกคือ 1. หมูปิ้งนมสด 2. ไก่ย่างโบราณ 3. ไส้กรอกโบราณ ซึ่งที่เรียกโบราณ เพราะไม่มีวุ้นเส้น และ 4. ไส้อั่วสมุนไพรล่าสุด,ไม่ต้องอึ้ง ขายหมูปิ้งถึงวันละ 1 แสนไม้,เราทำวันละ 100,000 ไม้ แต่ขายอาจจะถึงหรือไม่ถึง 100,000 ไม้ก็มี คือ เป็นการหมุนเวียน ซึ่งบางวันอาจขาย 80,000-90,000 ไม้ บางวันอาจขายมากกว่า 100,000 ไม้ แต่หลักๆ 1 วัน ทำ 100,000 ไม้ ใช้หมูน้ำหนักรวมประมาณ 4-5 ตัน หรือ 4,000-5,000 กิโลกรัมต่อวัน ใช้คนงานทั้งหมดประมาณ 170 คน โดยแรงงานถูกกฎหมายทั้งหมด ใช้กฎหมายและสวัสดิการไทย โดยขณะนี้กำลังทำเอ็มโอยูกับทางกัมพูชา ในการส่งแรงงานเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายและให้หลักประกันว่า มาแล้วมีงานทำแน่นอน ,ตามที่กล่าวมาว่า ตลาด หรือ ลูกค้ามี 4 กลุ่ม โดยพ่อค้าแม่ค้าทั่วไปมาซื้อที่โรงงาน ส่วนตัวแทนจำหน่ายก็นำไปสต็อกไว้ตามแต่ละจังหวัดและอำเภอ โดยเรามีรถห้องเย็นวิ่งไปส่ง กลุ่มที่ 3 สร้างแบรนด์เองก็แล้วแต่ อย่างเช่นในลาวและกัมพูชา เราส่งนานแล้วนำไปสร้างแบรนด์เอง โดยกัมพูชาเป็นกลุ่มดารานำไปสร้างแบรนด์เองแล้วขายและกลุ่มห้าง สรุปขายทั้งปลีก-ส่งและรับจ้างผลิตด้วย แต่ไม่มีร้านที่ปิ้งหมูขายเอง ขายหมูปิ้งสดอย่างเดียว,ยืนยันไม่ขายแฟรนไชส์-มีสอนฝึกขาย,ไม่มีขายแฟรนไชส์ แต่มีฝึกอาชีพทุกๆ เดือน ซึ่งเดือนละ 2 ครั้ง ในอาทิตย์ที่ 2 และ 4 ของเดือน จะมีการฝึกอาชีพฟรี มีคนมาเรียนเยอะ เนื่องจากว่าเราอยากให้คนที่มาซื้อสินค้าของเราได้ปิ้งย่างหมูเป็น เพราะบางทีบางคนมีเงินน้อยอยู่แล้วนำมาลงทุนแล้วเมื่อไปขายปิ้งย่างเสียไม่เหมือนปิ้งกินเอง แต่ขายต้องสวยและออกมาดีด้วย จึงมีการสอนขึ้น รวมทั้งการนึ่งข้าวเหนียวก็สอนคนที่สนใจตั้งใจมาก ซึ่งทำมา 2 ปีแล้ว,หยุดนิ่งไม่ได้กุญแจรักษาความสำเร็จไว้,วันนี้คิดว่าประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้หรือยังนั้น ยัง คือแบบนี้ ถ้าถามว่าโอเคกับวันนี้ ไหม โอเค แต่ว่าหยุดพัฒนาไม่ได้ เพราะเรามีภาระ 2 เรื่องคือ คนงานที่เลี้ยงดูต้องรับผิดชอบ และสองคือ พ่อค้าแม่ค้าที่มารับหมูจากเราไปประกอบอาชีพ ทำให้เราหยุดไม่ไ้ด้ ไม่ใช่ละโมบโลภมาก ต้องพยายามประคองกันไป แต่ในด้านของโรงงานนั้น การพัฒนาก็เป็นไปตามธุรกิจคือ เพิ่มสินค้าบ้าง แต่ไม่ใช่ทะเยอทะยาน,อดีตสุดลำบาก ลืมตาอ้าปากได้ก็ทำบุญ,ส่วนตัวศรัทธาหลวงปู่ทวดและทำบุญตลอด ทำบุญโดยการบริจาคโลงเย็น 14 โลงแล้ว เดือนละ 1 โลง ถามว่าทำไมต้องบริจาคโลงเย็น เพราะสมัยพ่อตายตอนอายุ 11 ขึ้นอืดหมด มีความทรงจำฝังใจ ประกอบกับได้คุยกับวัดต่างๆ ยังขาดแคลน นอกจากนั้น ยังแจกจักรยานให้เด็กนักเรียนทุกปี อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ภาคภูมิใจกับยอดขายทุกวันนี้ เพราะเป็นอาชีพที่เอาชีวิตหมูมาต่อชีวิตเรา แต่ว่าเป็นกรรมจากสัมมาชีพ เป็นอาหาร แต่จิตใต้สำนึกเรารู้ผิดชอบชั่วดี ,วางแผนโกอินเตอร์-ขอฮาลาล รง.ไก่,กำลังทำ HACCP ทำไปแล้ว 40% พัฒนาเพื่อส่งออก ตรงนี้คือเป้าหมายของโรงงาน ส่วนธุรกิจนั้นแตกไลน์สินค้าเป็น 4 อย่างคือ หมูปิ้ง ไก่ ไส้กรอกและไส้อั่ว นอกจากนั้น กำลังจะทำโรงงานไก่เพื่อขอฮาลาลที่กำแพงเพชร,คุณภาพ ราคา จัดส่งเคล็ดไม่ลับธุรกิจ,จริงๆ แล้วธุรกิจของไทยต้องทำทุกอย่างให้ได้มาตรฐานถูกต้อง ทำให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน ที่สำคัญ เป็นนโยบายของที่นี่ คือ ผูกพันต่อความพอใจสูงสุดของลูกค้า โดยการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม และส่งมอบตรงเวลา ถ้าทำตามนี้ มีสัจจะ สินค้ากับคุณภาพต้องดี ราคาเหมาะสม ต้องมองว่าคนกินคิดได้ เชื่อว่าถ้าทำได้ตามที่กล่าวมา ธุรกิจทุกอย่างไปได้,สำหรับราคาขายหมูปิ้งนั้น หากปิ้งแล้วราคาจะแล้วแต่สถานที่ ส่วนใหญ่ราคาจะไม่เกินไม้ละ 10 บาท สมมติรับไปไม้ละ 4.90 บาท บางทีถ้าเมืองท่องเที่ยวจะขายไม้ละ 10 บาท บางที่รับไม้ละ 6 บาท ไปขาย 10 บาท เป็นต้น โดยเมืองท่องเที่ยวค่าที่แพงต้องอัพราคา ส่วนปั๊มน้ำมันรับไปไม้ละ 4.90 บาท ขาย 10 บาท เพราะค่าที่แพง,ราคาหมูก่อนปิ้งที่เราส่งมี 4 ราคา ได้แก่ หมูนักเรียนส่งไม้ละ 3.50 บาท ไปปิ้งขาย 5 บาท หมูเล็กไม้ละ 4.90 บาท ขาย 8 หรือ 10 บาท แล้วแต่สถานที่ ต่อมาหมูกลางไม้ละ 5.70 บาท เป็นไม้พายเสียบ และหมูใหญ่ส่ง 6.20 บาท ทั้งหมดสูตรเดียวกัน ,อ่านตรงนี้ สูตรหมูปิ้งเฮียนพร้อยล้าน,สูตรหมูปิ้งเป็นความลับหรือไม่? ไม่เป็นความลับ จริงๆ แล้วเป็นสูตรหมูปิ้งทั่วไป เพียงแต่ว่ามาปรับใช้ในปริมาณที่เหมาะสม มีซอส ซีอิ๊ว น้ำตาล ผงปรุงรส นมสด ใส่ๆ ลงไป ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนเอาวัตถุดิบอันไหนมา คือ เราใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ เร่ิมตั้งแต่เนื้อหมู ซื้อหมูจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน ใช้ส่วนสันนอกส่วนที่ดีที่สุดของหมู อย่างน้ำตาลปี๊บมีหลายเกรด เราใช้น้ำตาลจากโรงงานที่มีการตรวจสอบแล้วว่า ต้องหวานสม่ำเสมอ ส่วนนมสดที่เรียกว่าครีมเทียม เราใช้ยี่ห้อแพงที่สุด ใช้ของมีคุณภาพ ซอสและซีอิ๊วก็ใช้ของมีคุณภาพ,ยืนยันมาตรฐานทุกคำ ไม่ว่ากินที่ไหน,บางคนบอกว่ากินหมูปิ้งเหมือนกัน ทำไมของเจ้านั้นเจ้านี้ไม่เป็นแบบนี้ ก็เพราะสินค้าเหมือนกัน แต่คุณภาพของสินค้าไม่เหมือนกัน ง่ายๆ เทียบคุณภาพรถกับราคาและยี่ห้อคุณภาพไม่เหมือนกัน ซึ่งที่เราอยู่ได้ทุกวันนี้ บางคนถามว่า ถามจริงๆ ทำไมต้องกินหมูของคุณ เมื่อเราอธิบายให้ฟังว่าสินค้าเราหนึ่งเร่ิมจากที่มาที่ไปของหมู หากไปกินทั่วไปไม่รู้เลยว่าหมูมาจากไหน แต่ถ้ากินของตน กินที่เชียงใหม่ ก็รู้ว่าผลิตวันไหน ตามย้อนหลังกลับมาได้ หากกินแล้วเป็นอะไรขึ้นมา เรียกว่าตรวจสอบกลับได้ เพราะมีกระบวนการจัดการที่เป็นรูปแบบบริษัท นอกจากนั้น เรื่องคุณภาพ กินที่เชียงใหม่กับกินที่สุไหงโก-ลก นั้นรสชาติเดียวกัน เพราะควบคุมเรื่องวัตถุดิบและคุณภาพ,ทำธุรกิจหากอยากให้สินค้าติดปากลูกค้า คนมีความรู้สึกว่ามั่นใจ ต้องเน้นเรื่องคุณภาพ ต้องกำหนดให้ได้ และอธิบายได้ด้วยว่า เอามาจากไหนยังไง ขณะเดียวกันถ้ามี อย.และ GMP โกหกไม่ได้ เพราะว่าถูกตรวจสอบ แต่สุดท้ายคนกินรู้ดีที่สุดเรื่องคุณภาพและมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม มาตรฐานต่างๆ เช่น อย. และไอเอสโอ เป็นต้น ซึ่งเป็นเพียงพื้นฐาน ใครทำได้มาตรฐานขอก็ได้ แต่ต้องพัฒนาสินค้า และที่สำคัญอย่าหลอกลวงผู้บริโภค ซึ่งจะไม่เกิดการซื้อต่อ และความมั่นคงไม่มี,มีวันนี้เพราะหมดตัว ดิ้นหนีความลำบาก,ตัวเองไม่ได้มีความรู้ในเรื่องการทำธุรกิจ อยากจะบอกว่า ที่มาได้ทุกวันนี้ อาจจะเป็นเพราะว่า เราเองมีที่ยึดเหนี่ยว มีบารมีของหลวงปู่ทวดขององค์จตุคาม ไม่ให้เดินออกนอกลู่นอกทางไปทำสิ่งผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม บอกได้เลยว่า มาถึงทุกวันนี้ได้ ไม่ได้วางแผนอะไร แต่เกิดจากการสิ้นเนื้อประดาตัว เลยอยากจะดิ้นหนีความลำบาก บ้านและที่ดินถูกยึด จนมามีทุกวันนี้ ซึ่งสิ่งที่ดิ้นมาเกิดเข้าหลักทางธุรกิจต่างๆ เช่น หลัก 4 พี อัตโนมัติ ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีการวางแผน วิธีการขายก็ขายง่ายๆ ทำโปรโมชั่นก็ง่ายๆ บอกลองเอาไปขาย เป็นต้น,มีถามมามากว่า ทำไมไม่ทำแฟรนไชส์เพื่อรักษาลิขสิทธิ์ของตัวเอง แต่ตนคิดว่า หากคุยเยอะ เงื่อนไขเยอะคนไม่ซื้อ การทำธุรกิจถ้ามีเงื่อนไขเยอะไม่ได้ เงื่อนไขอย่าเยอะมาก เงื่อนไขมีได้ แต่อย่าเยอะมาก เพราะลูกค้าจะเครียดและไม่เอา,ธุรกิจไม่ง่าย เจ้าสัวร่วมวงทำหมูปิ้งแข่ง,ถามถึงการแข่งขันในธุรกิจนั้น ทุกวันนี้ต้องบอกเลยว่า เดิมเป็นการแข่งขันระดับล่าง แต่ตอนนี้ยักษ์ใหญ่ลงมาทำหมูปิ้งหมดแล้ว พูดตามตรง เราซื้อหมูเบทาโกรทำทั้งหมูปิ้งและไส้กรอก แต่ทุกๆ วันนี้ เบทาโกรทำทั้งหมูปิ้ง นอกจากนั้น เครือซีพีก็ทำหมูปิ้ง สรุปทุกวันนี้ยักษ์ใหญ่ลงมาทำตลาดแข่งขัน เพราะเริ่มรู้เม็ดเงินแล้ว เจ้าใหญ่รู้เม็ดเงินตัวเลขหมูปิ้งจากปั๊มต่างๆ ก็สูง สรุปได้ว่า ตลาดทุกวันนี้ไม่ราบรื่นเหมือนเมื่อก่อน เพราะว่ายักษ์ใหญ่เริ่มมาทำตลาดแล้ว แต่การแข่งขันยังแบ่งโซนอยู่ คือ ยังไม่ได้รังแก ยักษ์ใหญ่ยังส่งเฉพาะตัวแทนของเขา,ไม่ธรรมดา มูลค่าตลาดระดับพันล้าน,ทั้งนี้ มูลค่าตลาดหมูปิ้งอยู่ที่เท่าไร ตรงนี้คาดว่า น่าจะเป็นหลักพันล้านบาท คนที่ยังไม่ได้ทำถูกต้องเข้าระบบจดทะเบียนก็มีเยอะมาก ซึ่งเมื่อมูลค่าตลาดมาก รายใหญ่จึงลงมาทำธุรกิจนี้ โดยรายใหญ่ก็ยังไม่ถึงขนาดรังแกเรา แต่ว่าเดิมเปรียบเหมือนชกกันแบบมวยวัด ทำแบบชาวบ้านทั่วไป แต่ทุกวันนี้ไม่ได้แล้ว ต้องมีเชิง ไม่เช่นนั้นธุรกิจอยู่ไม่ได้หากรายใหญ่จะเก็บก็อยู่ไม่ได้แน่ สมมติแค่ว่า เราส่งหมูไม้ละ 6 บาท รายใหญ่ส่งขนาดเท่ากัน น้ำหนักเท่ากัน แต่ส่งไม้ละ 5 บาท ต้นทุนหมูก็ของรายใหญ่เลี้ยงเองด้วย ถ้าจะทำจริงเรียบร้อย รายเล็กจะไปเหลืออะไร เมื่อรายเล็กตายไปแล้วค่อยมาขึ้นราคาก็ได้,นพหมูนุ่มไม่ทิ้งลูกค้าเลย ตลาดล่างไม่ทิ้ง ตลาดบนก็ไม่ทิ้ง ขณะเดียวกันหลายคนถามว่า ไปขายทำไมตามห้าง ก็บอกตรงๆ ทุกครั้งแล้วจะให้ไปขายใคร เนื่องจากลงทุนไป 20,000,000-30,000,000 บาท อย่างไรก็ตาม ผลิตให้ตาย เก่งการผลิต แต่ถ้าไม่มีตลาดจบ ลูกค้าอยู่ตรงไหนต้องไป จะไปรอแค่รายนั้นรายนี้ไม่ได้ ความแน่นอนไม่มี ลูกค้ารายย่อยทั่วไปความแน่นอนไม่ค่อยมี ขณะที่ห้างเป็นระบบเงินออกตรงตามกำหนด โดยสัดส่วนขายปลีกกับขายห้างอยู่ที่ 60 ต่อ 40 โดยขายห้าง 60% เจ้าหลักๆ เป็นโมเดิร์นเทรด,ให้ดูเป็นตัวอย่าง อดทนแล้วจะเห็นผล,เรื่องราวของตนไม่ใช่อะไรที่เป๊ะไปหมด ให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่อยากจะบอกว่า ในเรื่องของปัญหา เมื่อเจอปัญหาอยากให้เลือกที่จะไม่ทำผิดกฎหมายและผิดศีลธรรม ต้องมีความอดทน บางทีการอดทนถึงที่สุดจะทำให้สิ่งที่ทำมาเห็นผลได้ แต่ในเชิงธุรกิจต้องทำอย่างที่กล่าวมาคือ ต้องรักษาคุณภาพ ราคาเหมาะสม ส่งมอบตรงเวลา ที่สำคัญต้องมีสัจจะซึ่งสำคัญมาก บอกของเสร็จก็ต้องเสร็จ ทำได้ต้องทำได้ ใช้ของดีต้องของดี ไม่เสร็จก็คือไม่เสร็จต้องรีบบอกเลย เพราะคู่ค้าไม่มีอะไรมาบังคับกัน เราบอกว่าเซ็นสัญญา แต่สัญญาไม่สำคัญที่สุด เป็นเพียงสากลที่ทำกัน แต่สัจจะสำคัญที่สุดทั้งกับตัวเองและคู่ค้า ตนเองให้ความสำคัญกับตรงนี้มาก.
,ความเดิมตอนที่แล้ว ,หมูปิ้งเฮียนพ EP.1 หมดตัว ติดบูโร ไร้บ้าน สู่หมูปิ้งร้อยล้าน วันละแสนไม้ ,เรื่องเล่าความสำเร็จ | ไทยรัฐออนไลน์ยังคงพาไปเยือนโรงงานเฮียนพหมูนุ่ม เจ้าของธุรกิจหมูปิ้งได้มาตรฐานในประเทศไทย ซึ่งน่าสนใจไม่น้อย โดยวันนี้ จะพาไปเปิดสูตรทำหมูและเคล็ดไม่ลับในการทำธุรกิจ | ข่าว,เศรษฐกิจ | เรื่องเล่าความสำเร็จ,successtory,หมูปิ้ง,หมูปิ้งเฮียนพ,โรงงานหมูปิ้ง | https://www.thairath.co.th/news/business/897041 |
โน้ต-อุดม เอ็นดู คิมซุน อยากขอเป็น ลูก ลั่นไม่เคยหวงชีวิตโสดแค่แพ้ความอีนุงตุงนัง | หลายๆคนอาจจะคุ้นเคยกับลีลาทอล์กสดๆบนเวทีเดี่ยวไมโครโฟน แต่ล่าสุดทำเซอร์ไพรส์แฟนๆ โน้ส-อุดม แต้พานิช เจ้าพ่อคอมเมดี้ หันมาเล่นละครครั้งแรกให้แฟนๆได้อมยิ้มแก้มป่อง กับละครชุด Love Rhythms ตอน Daddy จำเป็น ช่อง GMM 25 เก่งรอบด้านขนาดนี้ คนดังนั่งคุย คว้าเจ้าพ่อทอล์กโชว์สุดฮามาเผยเล่าการทำงาน แถมยอมรับไม่เคยอยู่กับเด็กคนไหนได้นานเท่าคิมซุน ถึงกับหลงเสน่ห์จนอยากเช่ามาเป็นลูกเสียเอง อะไรจะ อิน ปานนั้น,ผมยังไม่ได้เจอใครเลย เพราะตรงนี้ก็เร่งถ่ายอยู่ ก็พอรู้จากน้องๆบ้าง ว่าสนุกดี เอาส่วนของผมเองละกัน ผมว่าออกมาดีกว่าที่คิดไว้นะ เพราะเราก็ไม่ได้คาดหวังไว้สูงมาก แต่ก็ออกมาเกินความคาดหวังนะ ก่อนจะออนแอร์เครียดมั้ยเพราะเป็นการแสดงครั้งแรก ก็ลุ้นอยู่นะ แต่ว่าตอนนั้นผมติดงานอะไรยุ่งๆอยู่สักอย่างนะ ตัวเองยังไม่ได้ดูตอนที่ออกอากาศจริงๆ ก็มาดูย้อนหลังเอาเหมือนกัน ได้มีส่วนร่วมในการทำละครเรื่องนี้บ้างป่าว ก็ช่วยกันๆ เวลามาทำงานเราก็รู้สึกว่าเป็นโปรเจกต์ของเรา คิดว่าเป็นเราแล้ว ถ้ามีอะไรที่เราช่วยเขาได้ ยินดีมาก ไม่รีรอเลย เพราะงานกำกับมันก็มีพันๆ สิ่งที่ผู้กำกับเขาแบกไว้ เราเข้าใจเลย อะไรที่เรามองเห็น หรืออะไรที่ไม่ดูยุ่งจนเกินไปนัก เราก็ช่วยบอกเขาบ้าง อย่างฉากที่มีคนมาขอลายเซ็น หมง แล้วก็มีคนนึงใส่เหล็กดัดฟันอยู่ ซึ่งเรามองว่าสมัยก่อนเหล็กดัดฟันมันไม่สวยงามแบบนี้ ซึ่งตรงนี้ในฐานะที่เราลงเรือลำเดียวกัน เราก็แอบไปกระซิบบอกเขา แต่ต้องไม่ผิดกาลเทศะนะ เวลาเราเห็น เราก็แชร์ให้เขาฟัง หรือเวลาที่เราอาจจะมีไอเดียที่งอกออกมาว่าบางซีนที่มันพัฒนาต่อไปได้เป็นอันโน้น อันนี้ ก็คุยกัน ซึ่งตัวโมโม่ ผกก.เอง เป็นผู้กำกับที่เปิดกว้างนะ พร้อมจะทดลองอะไรใหม่ๆ พี่ก็ทำเต็มที่,ผมชอบนักแสดงคนนี้มากนะ เขาน่ารักมาก แต่ผมก็ไม่ได้ไปสังเกตว่าเขาเล่นยังไงนะ ผมก็เล่นในเวอร์ชั่นของเรา ก็คุยกับผู้กำกับตั้งแต่แรกแล้วว่า เราไม่ได้อยากไปทำให้เหมือนของเขา เราแค่เอาโครงเรื่องมา แล้วก็มาเล่าในแบบของคนไทยเล่า แล้วตอนที่เล่นก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องทำอะไรให้แตกต่าง เหมือนเพลงก็เป็นเพลงคัฟเวอร์ที่ร้องด้วยวิธีการร้องแบบเรา เอาเนื้อ เอาทำนองมา แล้วก็ร้องในแบบของเรา โดยไม่ต้องกังวลว่าต้นฉบับเขาเป็นยังไง พี่ว่าเราก็เล่าแบบไทยๆ ปรับบทก็เป็นแบบไทยๆครับ กลัวการเปรียบเทียบมั้ยคะ เออ เอาจริงๆ เราก็คงไม่ได้คิดจะมาสู้กันเนอะ เท่าที่ทำออกมาได้ขนาดนี้ ผมชื่นชมทีมงานมาก วันนึงถ่ายกันแบบเปลี่ยนเสื้อผ้า 11 ชุดอ่ะ เปลี่ยนกันแทบจำไม่ได้ว่าชุดไหนไปต่อชุดไหน ทุกคนทำงานกันไม่เห็นเดือน ไม่เห็นตะวัน แล้วงานออกมาขนาดนี้ ผมชื่นชมมากนะ ทีมงานทุกภาคส่วนเลย เลยไม่ต้องไปกังวลเรื่องการเปรียบเทียบ แต่ถ้าตัวผม ถ้าจะให้คะแนน ผมจะให้คะแนนตัวเด็ก ตัวกระรอก ที่เจ้าคิมซุนเล่นมากกว่า ผมว่าเราไม่แพ้เขาเลย,คุ้มสิ เวลาผมทำงานอะไรสักอย่าง ผมจะรู้สึกเหมือนเราเข้าโรงเรียนนะ เราก็จะเรียนรู้งานต่างๆ เรียนรู้เทคโนโลยีในการถ่ายทำปัจจุบัน เรียนรู้การทำงานกับคนหมู่มาก เรียนรู้กับการทำงานกับงบประมาณน้อยๆ เรียนรู้กับการแก้ปัญหา เรียนรู้การรับมือกับเด็ก การสร้างสรรค์ซีนต่างๆ แล้วเราจะทำยังไงให้มันมีชีวิตชีวา ผมจะมีความสุขมากเลย เวลาเห็นตัวหนังสือที่มันแข็งทื่ออยู่ในบท แล้วคนที่มาเล่นในฉากเดียวกัน ได้ครีเอต ได้ทำให้มันมีชีวิตขึ้นมา มันทำให้ประโยคทื่อๆพวกนั้นขึ้นมา มันมีชีวิต มีจังหวะ มีขึ้นมา มีการโต้ตอบกันขึ้นมา ผมว่าตรงนี้มันเป็นเมจิกนะ เป็นเสน่ห์ทำให้อยากมากองทุกวัน จะได้มาสร้างซีนนี้ๆให้มันสนุก,น้องสไมล์เค้ามีบางอย่างที่ตรงกับบทของเรื่องนี้มาก คือเค้ามีปูมหลังที่สอดคล้องกับตัวละคร ผมว่าน่าสนใจ คือคนที่มีปมกับพ่อตัวเอง คนที่อยากมีตัวตนในสังคม อยากเป็นที่ยอมรับ คือทีมงานก็ได้ดูน้องสไมล์ที่ทำคลิปในยูทูบที่พยายามเข้าไปประกวด มันไปพ้องกับบทรวมทั้งปมของเค้าด้วย ผมว่าแคสถูกตัวนะ เคมีในการทำงานมันเลยได้ ต้องใช้คำว่าเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ในการแสดง มีสัญชาตญาณทางการแสดงสูงมาก โดยที่เขาไม่รู้พ่อแม่ก็ไม่รู้ด้วย เคยถามพ่อแม่เขาว่าเขาไปเรียนการแสดงที่ไหนหรือเปล่า เขาบอกไม่เคย เคยแสดงงานโรงเรียนมั้ยก็ไม่เคยแล้วเข้าวงการได้ยังไง เค้าก็มีโมเดลลิ่งไปเจอ แล้วก็ให้มาแคส อ้าว แล้วใครสอนการแสดงให้ ปรากฏว่าไม่มี คือโมเดลลิ่งให้ทำอะไรเขาก็ทำ ให้หัวเราะเขาก็หัวเราะ ให้ร้องไห้ ก็ร้องไห้ ก็พอจะได้งานมาบ้างแค่นั้นเองไม่ได้มีทักษะการแสดงเพิ่มเติมอะไร ทุกวันนี้ที่เขาเล่นอยู่ก็คือเขาเล่นจากสัญชาตญาณ มันเหมือนคนบางคนเกิดมาก็ทำอาหารเก่งมั้ง เขาเป็นแบบนั้น ผมก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา แล้วเราก็โชคดีที่ได้มาเจอเขาในช่วงอายุวัยนี้ ตอนนี้เขาแสดงด้วยความรู้สึก ไม่ได้แสดงด้วยความคิด ดังนั้นเข้าฉากกับคิมซุน เทกไป 10 เทก เขาเล่นไม่เหมือนกันสักเทกเลย เขาเล่นด้วยความรู้สึกตรงนั้นว่าเขาได้รับมายังไง แล้วเขาก็ตอบโต้ไปแบบนั้นน่าทึ่งมาก,คือรู้สึกอยากไปขอมาเป็นลูกนะ เคยมีโมเมนต์นี้กับเด็กคนอื่นมั้ย ผมไม่เคยอยู่กับเด็กนาน นี่อาจจะเป็นช่วงที่ผมอยู่กับเด็กนานที่สุดแล้วเนี่ย จะ 3 เดือนแล้ว ตั้งแต่เช้ายันเย็น อาจจะเป็นช่วงเวลาที่อยู่กันนาน ก็เลยรู้สึกผูกพัน เอ็นดูๆเวลาเขาไม่มากองก็คิดถึงนะ ถ้ามีลูกขอแบบนี้ได้มั้ย คืออยู่ด้วยแล้วมันสนุกดี แต่ถ้าเป็นลูกต้องอยู่ทั้งวันทั้งคืนนะ นั่นน่ะสิ ตรงนี้แหละที่เป็นปัญหา ถ้าเขามีให้เช่าผมก็จะเช่านะ เหมือนห่วงยางอ่ะ (หัวเราะ) อยากจะมีเป็นของตัวเองบ้างมั้ยคะ ยังนะ นี่ไงที่บอก คิมซุนถ้าให้เช่าก็จะไปเช่า แล้วแต่เราว่าจะเอากี่ชั่วโมง แต่ถ้าต้องอยู่ด้วยกันไปจนโตนี่ยังไม่แน่ใจ,ไม่มีเลย เป็นเพราะยังหวงความโสดหรือเปล่า ไม่ใช่หวงความโสด แต่เป็นคนที่รับมือกับอะไรที่อีนุงตุงนังไม่เก่ง ผมเนี่ยเป็นภูมิแพ้ความอีนุงตุงนัง ไม่ใช่ภูมิแพ้กรุงเทพฯนะ อีนุงตุงนังคืออะไรที่แบบเยอะๆ หรือผู้หญิงที่เยอะๆ คือรับมือไม่ไหว หรือถ้ามีลูกแล้วแบบเคยเห็นป่ะเด็กที่งอแงทั้งวัน คืออะไรที่มันอีนุงตุงนัง ผมไม่ถนัด ก็รู้ธรรมชาติตัวเอง แต่พออะไรที่มันต้องอีนุงตุงนัง ก็กำลังเรียนรู้อยู่ที่จะทำสิ่งนั้น เช่นงานหมู่ที่ทำ แล้วก็ละครนี่อีก มันอาจจะไปถึงขั้นที่แบบว่า เราก็เอาอยู่นี่หว่าได้เหมือนกัน หรือไม่ก็อาจจะเป็นแบบว่าเราก็กลับไปน้อยๆของเราดีแล้วก็ได้ (หัวเราะ) ว่ากันไปก็รอดูนะ.,ทีมข่าวบันเทิง | หลายๆคนอาจจะคุ้นเคยกับลีลาทอล์กสดๆบนเวทีเดี่ยวไมโครโฟน แต่ล่าสุดทำเซอร์ไพรส์แฟนๆ โน้ต-อุดม แต้พานิช เจ้าพ่อคอมเมดี้ หันมาเล่นละครครั้งแรกให้แฟนๆได้อมยิ้มแก้มป่อง กับละครชุด Love Rhythms ตอน Daddy จำเป็น | null | คนดังนั่งคุย,โน้ส อุดม,อุดม แต้พานิช,Daddy จำเป็น,คิมซุน | https://www.thairath.co.th/content/829478 |
ประวัติ กำพล วัชรพล สามัญชน บุคคลสำคัญของโลก | ในการเฉลิมฉลอง องค์การยูเนสโก ประกาศเกียรติคุณยกย่อง นายกําพล วัชรพล อดีตผู้อํานวยการหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และผู้ก่อตั้งโครงการโรงเรียนไทยรัฐวิทยาเพื่อชุมชนในชนบท จํานวน 111 แห่งเป็น บุคคลสําคัญของโลก ผู้มีผลงานดีเด่นด้านการศึกษาและสื่อสารมวลชน ระหว่างปี 2561-2562 เเละเปิด พิพิธภัณฑ์นายกำพล วัชรพล ในวันที่ 19 ส.ค. 62 โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ รักษาการประธานองคมนตรี ผู้แทนพระองค์เป็นประธานในงาน,เพื่อให้ชีวิตและผลงานของ นายกําพล วัชรพล เป็นแบบอย่างของผู้ที่มีความมุ่งมั่น พากเพียรให้บรรลุเป้าหมาย พร้อมอุทิศตนสร้างประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ อีกทั้งเพื่อแสดงถึงพัฒนาการของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ควบคู่กับการสะท้อนเหตุการณ์ทางสังคม เศรษฐกิจการเมือง ตลอดกว่า 5 ทศวรรษ แห่งการก่อตั้งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ไทยรัฐออนไลน์จึงรวบรวมไว้ เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดี ,เด็กท้ายเรือ-ลูกประดู่,เกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ.2462 ที่อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เรียนจบชั้น ป.4 ล่องเรือช่วยพ่อแม่ค้าข้าวเรือเร่ ตามลำน้ำเจ้าพระยา ท่าจีน และแม่กลอง,15 ปี ,เป็นเด็กเก็บค่าโดยสารเรือเมล์ ลำน้ำกระทุ่มแบน-ประตูน้ำ ภาษีเจริญ ธนบุรี,21 ปี, สมัครเป็นพลทหารเรือ โดยไม่จับใบดำใบแดง,ข่าวภาพ,จุดเริ่มเส้นทางคนทำหนังสือพิมพ์,29 ปี , ,พ.ศ.2491 นิยม หรือ สยม จงใจหาญ พี่ชายคนโต แนะนำให้รู้จัก เลิศ อัศเวศน์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์หลักไทย เป็นจุดเริ่มต้นของ กำพล บนเส้นทางคนทำหนังสือพิมพ์ในวัย 29 ปี ด้วยหน้าที่แรกเป็นพนักงานฝ่ายหาโฆษณา,เริ่มต้นความคิดนำสารคดีการเมืองเรื่อง นรกใต้ดินไทย ที่ เลิศ เขียนเป็นตอนๆ ลงใน หลักไทย มาพิมพ์เป็นพ็อกเกตบุ๊ก 1,500 เล่ม ขายหมดในเวลาอันรวดเร็ว โดยมีคณะผู้จัดพิมพ์ 3 คนคือ เลิศ กำพล และ วสันต์ ชูสกุล ที่ กำพล เจอสมัยเป็นเด็กเก็บค่าตั๋วเรือ,เงินกองกลาง 6,000 บาท จาก นรกใต้ดินไทย ได้เป็นทุนเริ่มต้นของหนังสือพิมพ์เล่มต่อมาในชีวิตของ กำพล และสหาย,31 ปี,พ.ศ.2493 ข่าวภาพรายสัปดาห์ ฉบับปฐมฤกษ์สัปดาห์ที่ 1 ประจำวันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ.2493 ขายดี เพราะเจาะคนอ่านกลุ่มวัยรุ่น คนหนุ่มสาว และชาวบ้านทั่วไป เน้นข่าวชาวบ้าน ข่าวอาชญากรรม และข่าวมโนสาเร่ ท่ามกลางนิตยสารแนวการเมือง 7-8 ฉบับในเวลานั้น โดยมี กำพล เป็นผู้อำนวยการ เลิศ เป็นบรรณาธิการ และ วสันต์ เป็นผู้จัดการเรื่องการเงิน,32 ปี,พ.ศ.2494 เปิดตัว ข่าวภาพรายสามวัน,33 ปี,พ.ศ.2495 เปิดตัว ข่าวภาพรายวัน,34 ปี,พ.ศ.2496 เปิดตัวนิตยสาร ข่าวภาพรายเดือน,การเติบโตของ ข่าวภาพ ไม่เพียงมี กำพล และสหายร่วมกันสร้าง แต่ยังมี ประณีตศิลป์ ทุมมานนท์ ที่เคียงข้าง กำพล ตลอดเวลานับตั้งแต่ได้เจอกันโดยบังเอิญ ในงานแต่งของญาตินักข่าว ข่าวภาพ ช่วงเริ่มต้นก่อตั้งฉบับรายสัปดาห์,มุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว,ส่งต่อจากเสียงอ่างทองถึงไทยรัฐ,36 ปี,สถานการณ์การเมืองยุคแย่งชิงอำนาจ พ.ศ.2498-2500 ทำให้ประชาชนและสื่อถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพ,39 ปี,วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2501 ข่าวภาพ ถูกสั่งปิด พร้อมกับหนังสือพิมพ์อื่นรวม 7 ฉบับ,มันต้องมีอะไรมาแทนข่าวภาพ ต้องมีแน่ๆ พวกเราจะได้กลับมาอยู่ร่วมกันเหมือนเดิม,นั่นคือคำกล่าวที่ กำพล บอกกับเพื่อนฝูง และลูกน้องอย่างเด็ดเดี่ยว และมุ่งมั่นในเวลานั้น,1 เดือนต่อมาโรงพิมพ์ ข่าวภาพ ไฟไหม้ สภาพแทบหมดตัว หลายชีวิตใน ข่าวภาพ ไปคนละทิศละทาง,40 ปี,แต่ในที่สุดวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2502 ความมุ่งมั่นของ กำพล ก็สำเร็จ และแจ้งเกิด เสียงอ่างทอง หัวหนังสือพิมพ์ในจังหวัดอ่างทอง ที่ลูกน้องฝ่ายข่าวการเมืองที่ ข่าวภาพ แนะนำให้รู้จักเจ้าของ และร่วมกันสร้างจนเติบโต,ขณะเดียวกัน กำพล ได้ซื้อหัวหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ จาก พล.อ.อ.เฉลิม เกียรติวัฒนางกูร ไว้สำรองเผื่อฉุกเฉิน,แล้วเหตุฉุกเฉินก็เกิดขึ้น เมื่อเจ้าของเดิมของ เสียงอ่างทอง ดึงกลับไปทำเอง,แต่วิกฤติคือความท้าทาย และบทพิสูจน์ความมุ่งมั่นของ กำพล อีกครั้ง กระทั่ง วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ.2505 หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ก็เกิดขึ้น,ไทยรัฐ,เส้นทางที่ท้าทายและเติบโต,ไทยรัฐ เดินบนเส้นทางข่าวที่โดดเด่นหลากหลายโดนใจผู้อ่าน และการสร้างระบบจัดจำหน่ายที่ทำให้ข่าวถึงมือผู้อ่านรวดเร็ว เพราะ กำพล สามารถผูกใจเอเย่นต์ ที่ยึดหลักพึ่งพาอาศัยกันดุจญาติมิตร ไม่ใช่การพูดคุยด้วยภาษาผลประโยชน์,49 ปี,ช่วง 7 ปีแรก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ เติบโตไม่หยุด จนกลางเดือนสิงหาคม พ.ศ.2511 ยอดพิมพ์ใกล้ถึง 200,000 ฉบับต่อวัน,51 ปี,กระทั่งวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2513 หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ จึงขยับขยายออกจาก โรงพิมพ์ที่ซอยวรพงษ์ ย่านบางลำพู มาอยู่บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เลขที่ 1 ถนนวิภาวดีรังสิต,52 ปี,ระหว่างทางการเติบโต มีสิ่งที่ท้าทายเสมอ สำหรับ กำพล เกือบเข้าคุก เพราะเหตุการณ์ทางการเมืองช่วง พ.ศ.2514,เวลานั้นไม่เพียงผ่านไปด้วยดี แต่สิ่งที่ทิ้งไว้เบื้องหลังคือ การต่อสู้กับอำนาจทางการเมืองกับนักหนังสือพิมพ์ที่ กำพล พิสูจน์ให้เห็นว่า ยิ่งเตะยิ่งดัง นอกเหนือจากปัญหาคนในกองบรรณาธิการถูกซื้อตัว,นับได้ว่าความเป็นนักเผชิญวิกฤติของ กำพล เกิดขึ้นเป็นระยะ และทุกครั้งไม่เพียงผ่านไปด้วยดี แต่คือการเพิ่มความแข็งแกร่งให้หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ทำสถิติยอดพิมพ์จำหน่ายวันละ 1 ล้านฉบับ เป็นหนังสือพิมพ์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประเทศ และยังได้ปฏิวัติการเรียงพิมพ์ด้วยมือมาเป็นการเรียงพิมพ์ด้วยแสง จนถึงด้วยระบบคอมพิวเตอร์,บุคคลสำคัญของโลก,ยูเนสโก,50 ปี,พ.ศ.2512 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ไม่เพียงเป็นสื่อที่ให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนเท่านั้น ยังมีสิ่งหนึ่งที่ กำพล คิดถึงอยู่เสมอคือ การให้โอกาสเด็กนักเรียนในชนบทมีการศึกษาที่ดี มีอาหารกลางวันอิ่มท้อง เป็นวิถีการสร้างคน และให้คนมาสร้างประเทศ โรงเรียนไทยรัฐวิทยาแห่งแรก ที่จังหวัดลพบุรี จึงได้เกิดขึ้น,จากนั้นโรงเรียนไทยรัฐวิทยาแห่งอื่นๆ ก็เกิดขึ้นตามมาโดยมีมูลนิธิไทยรัฐที่ กำพล ตั้งขึ้นเมื่อครั้งอายุ 60 ปี ติดตามดูแล จนเกือบ 30 ปี กำพล สร้างโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 101 แห่ง ด้วยงบประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ดูแลนักเรียนแล้วกว่า 30,000 คน,ต่อไปในภายหน้า ถ้าพบคนดีๆ ที่ไหนและถ้าถามและได้รับคำตอบว่าเมื่อเล็กๆ เคยเรียนโรงเรียนไทยรัฐวิทยาแล้ว ผมจะมีความสุขมาก นั่นคือความปรารถนาที่ กำพล ไม่เพียงต้องการให้ไทยรัฐวิทยาเรียนตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งบ่มเพาะคนดีออกสู่สังคมด้วย,77 ปี,กำพล ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2539 แต่เรื่องราวของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และการให้การศึกษาแก่เด็กในชนบท ถูกบอกเล่า ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น ที่ไม่เพียงเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น,ในวาระ 100 ปี ชาตกาล,กำพล วัชรพล ในฐานะสามัญชนคนหนังสือพิมพ์ การประชุมสมัยสามัญครั้งที่ 39 ขององค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) พ.ศ.2560 ได้ประกาศยกย่องให้ กำพล วัชรพล เป็นบุคคลสำคัญของโลก ด้านสื่อสารมวลชน และการศึกษา,รายงานพิเศษ ,100 ปี ชาตกาล กำพล วัชรพล, | เกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ.2462 ที่อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เรียนจบชั้น ป.4 ล่องเรือช่วยพ่อแม่ค้าข้าวเรือเร่ ตามลำน้ำเจ้าพระยา ท่าจีน และแม่กลอง | ข่าว,ทั่วไทย | 100 ปี ชาตกาล กำพล วัชรพล,กำพล วัชรพล,ประวัติ,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐวิทยา,การศึกษา,ข่าวภาพ,100 ปีกำพล | https://www.thairath.co.th/news/local/1634261 |
23 เม.ย. เซ็นตั้ง กก. สอบคลิปปริศนา | ประธานศาลฎีกา สมชาย ฟันธงคลิปตัดต่อชัวร์ ย้ำล้มกระดานเพราะขาดคุณสมบัติอื้อ แต่ป้องไม่ใช่ความผิดกรรมการสรรหา กล้านรงค์ ยืนยัน สนช.ไม่เคยรับใบสั่ง เผยเบื้องหลังล้มกระดาน กสทช.ทิ่มกันภายใน ฐากร ขอเอี่ยวเป็นด้วย อึ้งชงทางออกยกร่างประกาศสรรหาใหม่ 6 เดือน-1 ปี มาร์ค คาใจสรรหามายังไงให้คว่ำเละเทะ เย้ยทำซ้ำซากส่อพิรุธมีลายแทง ดักคอรอคนบริษัทยักษ์ใหญ่มาเป็น พท.ชี้กระทบงาน กสทช.แน่ นักการเมืองยังตามถล่ม ปฏิบัติการดูด พท.เย้ยเช็ดเก้าอี้รัฐมนตรีรอดูด ปชป.ให้จับตา ครม.สัญจรบุรีรัมย์อาจมีอีก,กรณีคลิปเสียงหลุดว่อนสภา โดยอ้างว่าเป็นการพูดคุยของ สนช.ระบุคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีให้ล้มกระดานการคัดเลือก กสทช. จากรายชื่อผู้ถูกเสนอให้ สนช.พิจารณาทั้งสิ้น 14 คน แล้วเริ่มต้นกระบวนการสรรหาใหม่ จนงานเข้าไปตามๆ กันนั้น,เมื่อวันที่ 21 เม.ย. นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนาที่อ้างว่ามาจากที่ประชุมคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้สมควรได้รับเลือกเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) เป็นเสียง สนช.บางคนระบุได้รับการประสานจากนายกรัฐมนตรีไม่เเฮปปี้กับบุคคลที่สรรหามาว่า จะเซ็นตั้งคณะกรรมาธิการสอบข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 เม.ย.นี้ เบื้องต้นใช้เวลาประมาณ 30 วัน เพื่อสอบใน 2 ประเด็น คือ 1.การเผยแพร่คลิปในสื่อสังคมออนไลน์ ที่มีข้อความพาดพิงนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการสรรหา กสทช. ว่ามีจริงหรือไม่ เป็นคลิปเสียงจริง หรือคลิปที่มีการตัดต่อเพื่อใส่ร้ายหรือไม่ และคลิปมาจากไหน รวมถึง สนช.หรือสื่อมวลชนคนใดที่เป็นต้นขั้วการเผยแพร่ ซึ่งต้องเรียกมาสอบหาข้อเท็จจริง สอบถามสถานที่และวันเวลา นำมาประกอบการหาข้อเท็จจริง แต่จะได้รับความร่วมมือหรือไม่ ยังไม่ทราบ,นายพรเพชรกล่าวว่า 2.กรณีมีการเผยแพร่รายงานในสื่อ เกี่ยวกับข้อประชุมลับในการประชุมของคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน มีการรายงานอ้างพาดพิงประธานศาลฎีกา ซึ่งมีข้อท้วงติงมาที่ตนว่าสื่อเอาข้อมูลมาจากไหน ทั้งที่เป็นการประชุมลับ ก็ต้องเรียกผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจง หาข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามสอบข้อเท็จจริงครั้งนี้ไม่ได้มุ่งเอาผิดบุคคลใดเป็นหลัก แต่เพื่อค้นหาความจริงเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย กรณีนี้ สนช. หรือสื่อเอง เสี่ยงทั้งทำผิดจริยธรรม และผิดกฎหมาย อาทิ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งพอตรวจสอบได้ข้อเท็จจริงแล้ว อาจจะไม่มีผู้กระทำความผิดก็ได้ แต่หากพบผู้กระทำผิด จะต้องตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง เพื่อดำเนินการต่างหาก ส่วนความผิดจะมีมากน้อยเเค่ไหน ยังไม่ได้มองถึงจุดนั้น แต่คงมีกระบวนการอยู่แล้ว อยากฝากให้ช่วยกันระมัดระวัง เวลารายงานข่าวต้องตรวจสอบว่าเป็นข้อมูลที่ได้มาอย่างถูกต้อง หรือผิดกฎหมาย,นายสมชาย แสวงการ เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) กล่าวถึงกรณีที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีคลิปหลุดที่มีการอ้างคำพูดนายกรัฐมนตรีไม่เห็นด้วยกับ 14 รายชื่อผู้สมัครเป็น กสทช. ว่า คาดว่าในวันที่ 23 หรือ 24 เม.ย.นี้ นายพรเพชรน่าจะเซ็นคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคลิปดังกล่าว เพราะทำให้เกิดความเสียหายต่อ สนช. ยืนยันว่า คลิปที่หลุดมาไม่ใช่การประชุมวิป สนช. 100% เพราะอยู่ในที่ประชุมวิป สนช.ตลอด ไม่มีการคุยเรื่องนี้ และไม่น่าจะใช่การประชุมคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ที่มี พล.อ.อู้ด เบื้องบน เป็นประธานด้วย เพราะตนก็ร่วมเป็น กมธ.ชุดดังกล่าว ไม่เคยได้ยินว่ามีการพูดคุยตามเนื้อหาในคลิป ทั้งนี้ เท่าที่ฟังคลิปมั่นใจว่าน่าจะเป็นคลิปตัดต่อ เพราะเสียงกระโดด เหมือนนำเสียง การประชุมวงต่างๆ มาตัดต่อรวมกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบว่าเสียงที่พูดในคลิปเป็นเสียงของสมาชิก สนช.จริงหรือไม่ เดายาก และเดาไปก็เสียหาย,นายสมชายกล่าวว่า ส่วนเนื้อหาในคลิปที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรีไม่แฮปปี้กับรายชื่อ 14 ผู้สมัครที่ได้รับการเสนอชื่อจากคณะกรรมการสรรหาฯนั้น เชื่อว่าไม่เป็นความจริง เพราะนายกฯสั่ง สนช.ไม่ได้อยู่แล้ว และนายกฯไม่เคยสั่ง สนช. ถึงอย่างไร สนช. ไม่สามารถโหวตเลือกผู้ได้รับการเสนอชื่อเหล่านี้ได้อยู่แล้ว เพราะพบว่ามีคุณสมบัติไม่ถูกต้อง วิป สนช. ทราบเรื่องมาตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. แล้วว่าผู้ได้รับการเสนอชื่อ 8 ราย มีปัญหาเรื่องนี้ เพราะเคยถือหุ้น หรือเป็นผู้บริหาร พนักงานในบริษัทที่เกี่ยวกับกิจการวิทยุโทรทัศน์ โทรคมนาคม ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา และหารือหาทางออกกันมาตลอด จนได้ข้อสรุปในการประชุม สนช. เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่าจะไม่โหวตเลือกผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 14 ราย เรื่อง กสทช. เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลายแสนล้านบาท มีทั้งคนลุ้นอยากให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อชุดนี้ได้เป็นและไม่ได้เป็น ที่ผ่านมามักมีการแอบอ้างมาตลอดว่าผู้สมัครคนโน้นคนนี้เป็นคนของนายกฯ หรือ คสช. จึงมั่นใจว่าเป็นการแอบอ้างแน่นอน คงไม่ใช่ฝีมือของ สนช. ปล่อยคลิปแทงกันข้างหลังแน่นอน,นายสมชายกล่าวด้วยว่า ส่วนที่มีการเสนอรายชื่อผู้มีปัญหาด้านคุณสมบัติเข้ามาให้ สนช.เลือกถึง 8 รายนั้น ไม่อยากให้มองว่าเป็นความผิดของคณะกรรมการสรรหาฯ เพราะคณะกรรมการสรรหาฯได้ตัดผู้มีคุณสมบัติไม่ถูกต้องออกไปหลายราย แต่ที่ยังมีปัญหาอยู่ เนื่องจากไปจดทะเบียนก่อตั้งชื่อบริษัท ไปใช้ชื่ออื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจวิทยุโทรทัศน์ โทรคมนาคม แต่ในหนังสือบริคณห์สนธิ มีการระบุถึงวัตถุประสงค์การก่อตั้งบริษัทโยงกับธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่งคณะกรรมการสรรหาฯมีเวลาตรวจสอบแค่ 30 วัน อาจไม่ครบถ้วนเพียงพอในการตรวจสอบ จึงอาจต้องแก้ไขให้คณะกรรมการสรรหาฯมีเวลาตรวจสอบให้มากกว่า 30 วันต่อไป,ที่ จ.ปัตตานี นายกล้านรงค์ จันทิก ประธานคณะกรรมาธิการการเมือง สนช. กล่าวถึงคลิปเสียงปริศนากรณีล้มกระดานสรรหา กสทช. ว่า ยืนยันว่าไม่ใช่คลิปเสียงที่พูดในที่ประชุมวิป เพราะตนเป็นวิปอยู่ด้วย และยืนยันว่าคนที่พูดไม่ใช่กรรมมาธิการของวิป เพราะเราจำเสียงกันได้ แต่ใครเป็นคนพูดไม่ยืนยัน เพราะฟังเสียงไม่ออกว่าเป็นใคร และพูดที่ไหนไม่ทราบ แต่ยังยืนยันว่า 1.ในที่ประชุม สนช. ซึ่งเป็นการประชุมลับพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่มีการพูดจากันอย่างในคลิป 2.ในวิป สนช.ไม่มีการพูดจากันอย่างในคลิป หลายคนยืนยันได้ ตนคิดว่า สนช. 247 คน มีความเป็นตัวของตัวเอง พิจารณาด้วยเหตุและผล คะแนนที่ออกมาไม่ได้เป็นคะแนนเอกฉันท์ มีคนไม่เห็นด้วย 25 คน งดออกเสียง 20 คน ฉะนั้นแสดงว่า 45 คน ก็ไม่เห็นด้วยกับเสียงที่เข้ามา ถ้าเป็นการสั่งการมาคะแนนก็คงไม่ออกมาอย่างนี้ ขอย้ำว่าทุกคนมีความเป็นอิสระของตัวเอง ไม่มีการสั่งการ,นายกล้านรงค์กล่าวด้วยว่า สำหรับการเดินทางลงพื้นที่ จ.ปัตตานี พร้อมคณะ สนช.วันนี้ เพื่อประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงาน ความมั่นคง ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น รวมทั้ง ป.ป.ช.และ กกต. เพื่อนำข้อคิดเห็นต่างๆ จากการนำเสนอของทุกภาคส่วนทั้งนโยบาย โครงการ และการดำเนินกิจการที่เกี่ยวข้องทางการเมืองกลับไปพิจารณาแก้ไขร่วมกับรัฐบาล คณะทำงานที่ลงมาครั้งนี้มีภารกิจที่สำคัญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง การเมือง องค์กรที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส. กฎหมายเกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. แม้กระทั่งกฎหมาย ป.ป.ช.ก็มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจหน้าที่มาก และยังมีกฎหมายอีกฉบับที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภา คือกฎหมายขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตัวกับประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ต้องรับฟังความคิดเห็นจากหลายๆ ฝ่าย สนช.ทำงานร่วมกับรัฐบาล เราลงพื้นที่เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชน อะไรที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล เราก็จะกลับไปชี้แจงต่อรัฐบาล,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องหลังกรณี สนช.โหวตล้มกระดานการสรรหา กสทช.ชุดใหม่ทั้ง 7 ด้าน เนื่องจากตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครที่ผ่านกระบวนการสรรหาแล้วพบว่ามีถึง 8 คน ที่มีเข้า ลักษณะต้องห้าม และมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จนอาจทำให้เกิดปัญหาทางข้อกฎหมายตามมา วิป สนช. จึงเสนอให้ที่ประชุม สนช.โหวตเลือกแต่เฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนไปก่อน แล้วค่อยคัดเลือกส่วนที่เหลือ โดยไม่ต้องตัดรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร กสทช.ออก แต่ให้ สนช.ทำการโหวตกันเอง กระนั้นมี สนช. บางส่วนเห็นว่าหากดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าวอาจมีปัญหาไม่สามารถควบคุมเสียงโหวตได้ ทั้งยังอาจถูกผู้ได้รับการเสนอชื่อกลับมาฟ้องร้องได้ เพราะถือว่าได้ผ่านเกณฑ์คัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาแล้ว ดังนั้นเพื่อตัดปัญหาที่จะเกิดขึ้นจึงมีการเสนอให้ล้มกระดานไปทั้งหมด,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนกระแสข่าวนายกฯไม่ปลื้มกับรายชื่อบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็น กสทช.นั้น แหล่งข่าวระดับสูงใน กสทช.ระบุว่า เป็นเรื่องจริง โดยหลังจากกรรมการ กสทช.ชุดปัจจุบันที่มีความสนิทสนมกับนายกฯรายงานปัญหาเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัครที่ผ่านการสรรหาต่อนายกฯแล้ว นายกฯจึงเรียกนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช.เข้าชี้แจงเรื่องดังกล่าว ซึ่งก็ได้มีการเสนอให้ สนช.โหวตกรรมการ กสทช.บางส่วนไปก่อน ซึ่งน่าจะได้ประมาณ 3-4 คนแล้วจึงค่อยมาดำเนินการเลือกในส่วนที่เหลือเพิ่มเติม แต่ พ.อ.นที ศุกลวัฒน์ กรรมการ กสทช.ชุดปัจจุบันที่เข้าร่วมประชุมด้วย เห็นว่าอาจทำให้เกิดปัญหาตามมา จึงเสนอให้ล้มกระดานไปทั้งหมด ก่อนที่วิป สนช.จะเห็นพ้องกับข้อเสนอดังกล่าว จนเป็นที่มาของการเทว่าที่ กสทช.ครั้งนี้,ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ส่วนหนึ่งของการล้มกระดานครั้งนี้ ยังมาจากการขบเหลี่ยมภายใน กสทช.เอง หลังจากที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ซึ่งแต่เดิมถูกวางตัวจะไปเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่ถูก สนช.โหวตล้มกระดานยกชุดไปก่อนหน้านี้ ทำให้ต้องอยู่โยงทำหน้าที่เลขาธิการ กสทช. ต่อไป ซึ่งเมื่อมีการสรรหา กสทช.ชุดใหม่ที่ปรากฏชื่อของนายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช.เป็นตัวเต็งที่จะได้รับการคัดเลือกเข้ามาด้วย ทำให้เกิดความรู้สึกว่าถูกข้ามหัว ดังนั้นจึงมีความพยายามจะวิ่งล้มกระดาน โดยในการเจรจากับนายกฯ และวิป สนช.นั้น ได้มีการเสนอทางออกให้นายฐากรเข้ามาสมัครเป็นกรรมการ กสทช.ด้วย แต่ สนช.ได้ล้มกระดานลงไปเสียก่อน,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับการสรรหา กสทช.ชุดใหม่นั้น ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าเตรียมการไว้ 3 แนวทางคือ 1.ปัดฝุ่นนำเอารายชื่อผู้สมัครจำนวน 74 คน จาก 86 คน ที่สมัครเข้ารับการสรรหาก่อนหน้านั้นมาทำการคัดสรรโดยตรง 2.เปิดการสรรหาใหม่ ซึ่งแนวทางนี้มี สนช.บางส่วนเกรงจะมีปัญหาซ้ำรอยเดิมอีก หากคณะกรรมการสรรหาไม่สามารถกลั่นกรองผู้มีคุณสมบัติได้ครบถ้วนเพียงพอ จึงมีการเสนอให้ใช้ทางเลือกสุดท้ายคือ 3.ให้ สนช.กลับไปดำเนินการยกร่างประกาศสรรหากันใหม่ เพื่อให้เกิดความรัดกุม ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินการอีกไม่น้อยกว่า 6 เดือนถึง 1 ปี,นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี สนช.มีมติไม่เลือกผู้เข้ารับการสรรหาเป็น กสทช. ทั้ง 14 คน ว่า การลงมติที่เกิดขึ้นคล้ายกับการคว่ำรายชื่อ กกต.ก่อนหน้านี้ จึงต้องรอดูว่า สนช.จะชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระบวนการนี้อย่างไร และคณะกรรมการสรรหาฯจะชี้แจงเช่นไร เพราะมีคำถามว่ากระบวนการสรรหาไม่ได้กลั่นกรองเรื่องนี้เลยหรือ และถ้าบางคนขาดคุณสมบัติ บางคนไม่ขาด เหตุใดจึงไม่เห็นชอบไปทั้งหมด กระบวนการในการสรรหาคงจะมีความวิตกมากขึ้นว่าจะทำอย่างไรให้เป็นไปอย่างเรียบร้อยราบรื่น แปลกใจที่คณะกรรมการสรรหาฯ และ สนช. ไม่มีการพูดคุยอย่างจริงจังถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการสรรหาทั้ง กกต. และ กสทช. และหากมีการยืนยันเรื่องขาดคุณสมบัติต้องดูว่าใครจะรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น,นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าการลงคะแนนของ สนช. มักจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่ามีความอิสระในการโหวตลงคะแนนมากน้อยเพียงใด เพราะที่ผ่านมาในอดีตไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น และถ้ากระบวนการล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ต้องเป็นความรับผิดชอบขององค์กรเหล่านี้เหมือนกัน ว่าทำไมไม่สามารถสรรหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งเหล่านี้ได้ หรือถ้าต่อไปวันข้างหน้า บุคคลที่มาสมัครอาจจะมีสายสัมพันธ์กับผู้มีอำนาจชัดเจนขึ้น ก็จะกลายเป็นคำตอบว่า การสรรหาเที่ยวนี้ที่ไม่ได้ เพราะยังไม่เป็นไปตามความต้องการของผู้มีอำนาจ,ด้านนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคลิปเสียงล้มกระดานสรรหา กสทช.ว่า สนช.ต้องทำความจริงให้กระจ่างโดยเร็ว อย่าปล่อยให้เงียบหายไปกับสายลมเหมือนหลายกรณีที่ผ่านมา เพราะทำให้เสื่อมเสีย ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีข่าวในทำนองนี้ ไม่ว่าจะเป็นกรณี สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) คว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ จน สปช.และคณะกรรมาธิการยกร่างฯต้องตายตกไปพร้อมกันเป็นแฝดอิน-จัน แล้วมายกร่างกันใหม่จนได้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่ผิดเพี้ยนจากเจตนารมณ์เดิม และยังเป็นปัญหาต่อเนื่องกับกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. ที่กำลังส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความในขณะนี้ และยังมีการคว่ำการสรรหา กกต. ที่นำมาซึ่งข้อครหาว่า อาจทำเพื่อยื้อการเลือกตั้ง,หลายครั้งการออกกฎหมายของ สนช. ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. สร้างปัญหามากกว่าแก้ปัญหาการไม่มีฝ่ายค้านตรวจสอบท้วงติง การทำตามใบสั่งผู้มีอำนาจ ขาดการยึดโยงกับประชาชนล้วนสร้างปัญหาให้กับประชาชนส่วนใหญ่ อาทิ ปัญหาประมงที่ออกทั้งกฎหมายและระเบียบมา 250 ฉบับ จนผู้ประกอบการอ่านกันไม่หวาดไม่ไหว ทำกันไม่ถูก พ.ร.บ.การเดินเรือน่านน้ำไทย ที่ทำเอาเดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้าต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ยื่นลงไปในน้ำออกทั้งประเทศ จนต้องใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาที่ตนเองสร้างขึ้นมาเอง การที่ สนช.รับใบสั่งจาก คสช. ที่จริงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเป็นสาขาแม่น้ำที่มาจากการตั้งของ คสช. จนกลายเป็นสภาพยักหน้า แล้วแต่พี่ว่ามา สนช.จัดให้ตลอด แต่เมื่อวันนี้ประธาน สนช.พยายามบอกว่าสภานี้ไม่มีใครสั่งได้ สังคมจะรอดูว่าจริงอย่างที่พูดหรือไม่ หรือแค่การซื้อเวลา ล้มกระดานเพื่อให้คนของบริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมส่งคนเข้ามาแทรกแซงนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง นายจุฤทธิ์กล่าว,น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องคลิปเสียงข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรไม่ขอก้าวล่วง แต่ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกระบวนการสรรหาก่อนได้รายชื่อมาให้ สนช.พิจารณา เพราะตามข่าวระบุว่ามีผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อคุณสมบัติไม่ครบ ถึง 8 คน จาก 14 คน ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะแค่ขาดคุณสมบัติเพียง 1 คน ก็เป็นข้อบกพร่องของกรรมการสรรหาแล้ว เพราะคนที่มาสมัครเขาต้องตรวจสอบคุณสมบัติตัวเองมาชั้นหนึ่ง ระหว่างการสรรหาก็ต้องตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถสอบถามผู้เข้ารับการสรรหาได้อีก จึงเป็นไปได้ยากที่บุคคลซึ่งขาดคุณสมบัติจะเข้ามาถึงรอบการพิจารณาของ สนช. และยิ่งมีมากถึง 8 คน จึงถือเป็นเรื่องผิดวิสัยอย่างยิ่ง และข้อสังเกตนี้เชื่อมโยงไปถึงเรื่องที่อ้างว่ามีใบสั่ง เมื่อมีการตั้งกรรมการสอบก็ขอให้ข้อเท็จจริงออกมาโดยเร็ว เมื่อถามว่า การได้กรรมการ กสทช.ช้าจะกระทบการทำงานหรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ตอบว่า ระหว่างการสรรหากรรมการ กสทช.ชุดเดิมสามารถทำงานได้ แต่ก่อนหน้านี้มีกรรมการหลายคนลาออกไป ดังนั้นการได้กรรมการชุดใหม่ช้าย่อมส่งผลกระทบกับการทำงานแน่นอน ไม่มากก็น้อย,นายชัยเกษม นิติสิริ อดีต รมว.ยุติธรรม แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีคลิปหลุดล้มกระดาน กสทช.ว่า ถ้าคลิปนั้นเป็นของจริง คงไม่มีใครเอาเรื่องเท็จมาพูดในการประชุมอย่างนี้ แต่เรื่องนี้ไม่แปลกในยุคที่คนปกครองมาจากการปฏิวัติ เราเองก็ไม่รู้มีใบสั่งหรือไม่มีใบสั่ง ขณะเดียวกันในทางการเมืองก็ต้องบอกไม่มีใบสั่ง ให้คิดกันเอง เพราะยังแก้ตัวง่ายกว่า เรื่องแบบนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ บางเรื่องวางแผนไว้ดีก็เป็นไปตามแผน แต่ถ้าวางแผนไม่รอบคอบถึงเวลาเจอปัญหาก็ต้องปรับ เป็นธรรมดาถ้าต่อท่ออำนาจปกครองต่อไป ก็ต้องวางแผนให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เอื้อต่อการให้ได้กลับเข้ามามากที่สุด หลุดไปคนเดียวยังแย่เลย และนอกเหนือจากตรวจสอบที่มาที่ไปของคลิปแล้ว ต้องทำความชัดเจนด้วยว่าเนื้อหาในคลิปจริงหรือไม่ แต่คงปล่อยเลยตามเลยไปทำอะไรเขาไม่ได้,นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีรัฐบาล คสช.โชว์พลังดูดกลุ่มการเมืองเข้าร่วมงานนั้น รัฐบาล คสช.มีอำนาจเบ็ดเสร็จ มีเครื่องมือ เครือข่าย องคาพยพ งบประมาณ ที่สามารถบริหารจัดการทุกอย่างตามความประสงค์ของตัวเอง จะใช้มาตรา 44 ปลดใครก็ได้ ปลดแล้วอยากตั้งใหม่ให้รับตำแหน่งที่ใหญ่กว่าก็ได้ โชว์พลังดูดยิ่งกว่าพญาแร้งที่เอามาสูบปลาในบ่อคนอื่น จะเททิ้งใครก็ง่ายยิ่งกว่ากดรีโมต และไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านใดๆ ครม.สัญจรไปที่ไหน ก็ดูดที่นั่น กลัวดูดไม่ทัน ก็เปิดทำเนียบดูดเลยหรือไม่ กล้าเปิดหน้าตักวางมัดจำดูดให้มารับตำแหน่งทั้งๆที่ยังไม่มีการเลือกตั้ง ต่อไปอาจได้เห็นการปลดรัฐมนตรีสายทหาร เพื่อเอาโควตามามัดจำให้กับพวกที่ถูกดูด ชาวบ้านไม่ได้ตื่นเต้นกับเหล้าเก่าในขวดใหม่ แต่กลัวเหล้าเสียหมดอายุในขวดเน่า ดูดเข้าไปยังไงก็มีแต่เสียกับเสีย ประชาชนอยากเห็นแนวทางในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง รัฐบาล คสช.อย่ามัวแต่แก้ไขปัญหาของตัวเอง แล้วละเลยปัญหาของประเทศชาติและประชาชน,นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เดิมที พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯ และหัวหน้า คสช. พูดว่านักการเมืองไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่สุดท้ายประกาศตัวเป็นนักการเมือง มีคนคอยตั้งพรรคการเมืองหนุนหลัง แล้วยังดึงนักการเมืองอย่างนายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพลังชล มาเป็นที่ปรึกษา ปากบอกว่าการยึดอำนาจเข้ามาเพื่อปฏิรูปการเมือง การดูดพรรคการเมืองต่างๆ มาร่วมงานเพื่อสร้างฐานอำนาจให้ตัวเองเป็นการเมืองยุคเก่าที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องการปฏิรูปไม่ใช่หรือ เหตุใดปฏิรูปการเมืองถอยหลังเช่นนี้ แล้วเรื่องอื่นที่ท่านต้องการจะปฏิรูปจะเป็นไปในทิศทางไหน วันนี้ประชาชนขาดความมั่นใจในแนวทางปฏิรูปของ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะที่เพิ่งประกาศออกมามีเพียงแต่แผนยังจับต้องไม่ได้ ทางที่ดี พล.อ.ประยุทธ์ควรรีบคืนอำนาจให้ประชาชนให้เลือกตัวแทนของตัวเองมาขับเคลื่อนประเทศตามแนวทางที่ประชาชนต้องการจะดีที่สุด,นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการดึงตัวนักการเมืองกลุ่มพลังชลร่วมงานกับรัฐบาลว่า ไม่กังวลว่าคนในพรรคจะถูกดึงตัวไปแบบนั้น โดยเฉพาะอดีต ส.ส.ในพื้นที่ภาคตะวันออก อาทิ นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรค ใครที่ต้องการอยากจะออกไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่น ก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ หากว่ามีตำแหน่งรองรับที่ชัดเจน แต่ความชัดเจนต้องไปถามนายสาธิตเอง แต่ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์โซนภาคตะวันออกจะออกไปร่วมงานกับรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์เองต้องการจะอยู่กับคนที่มีอุดมการณ์ที่มั่นคง และทำงานต่อไปด้วยกันในระยะยาว,เมื่อถามว่า รัฐบาลมีความพยายามที่จะดึงกลุ่มการเมืองต่างๆตามภูมิภาคเพื่อป้องกันการได้เสียงข้างมากจากพรรคการเมืองใหญ่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นความพยายามสร้างฐานการเมืองรองรับ แต่ได้ย้ำหลายครั้งว่าอะไรที่เป็นสิทธิตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ก็เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ต้องคำนึงถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญด้วย ที่สำคัญต้องไม่ลืมเจตนารมณ์ของการปฏิรูปการเมือง ถ้าการเมืองเป็นเรื่องต่างตอบแทนก็ยากที่การเมืองไทยจะดีขึ้นในอนาคต,นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. จะจัดประชุม ครม.สัญจรที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ในวันที่ 7-8 พ.ค.ว่า การที่นายกฯลงพื้นที่ถ้าไม่มีเจตนาแอบแฝงใดๆถือเป็นเรื่องที่ดี จะทำให้รับรู้ถึงปัญหาความเดือดร้อนที่แท้จริงของชาวบ้าน แต่ไม่ใช่ลงพื้นที่แล้วไปกันชาวบ้านที่มีปัญหาร้องเรียนออก เอาเฉพาะคนที่ถูกจัดตั้งมาเชลียร์มาสร้างภาพความนิยม แบบนั้นจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย แถมเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ ขอให้สังคมจับตาดูพฤติกรรมของรัฐบาลให้ดีว่าจะมีนักการเมืองจากกลุ่มท้องถิ่นนิยมเข้าไปร่วมรัฐบาล เพื่อเป็นฐานทางการเมืองเพิ่มอีกหรือไม่ เวลาจะเป็นตัวพิสูจน์ หากเกิดขึ้นอีกกลุ่มก็แสดงว่ารัฐบาล คสช.เดินหน้าตกเขียวเพื่อดูดแบบเต็มสูบ ซึ่งไม่ใช่การปฏิรูปการเมืองอย่างที่รัฐบาล คสช.ตีปี๊บ,การตั้งพรรคการเมืองโดยเปิดเผยเป็นสิ่งที่น่าสนับสนุน แต่ต้องไม่ใช้อำนาจรัฐ หรืออำนาจเงินเพื่อไปตกเขียวและดูดนักการเมืองอื่น ซึ่งไม่ต่างจากระบบทักษิณที่เคยใช้ในอดีต เพราะวิธีการตกเขียวเพื่อดูดนักการเมืองนี้เป็นวิธีตัดต่อพันธุกรรมทางการเมือง ที่รัฐบาลจากการปฏิวัติรัฐประหารทุกยุคสมัยใช้ทำกันมาโดยตลอด ดังนั้น การตั้งพรรคการเมืองเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ให้เป็นนายกฯต่อ แม้สามารถทำได้ แต่ขอให้คนที่อยู่เบื้องหลังเปิดตัวพรรคการเมืองและตัวบุคคลให้ชัดเจน อย่าเป็นอีแอบ และอย่าใช้สถานที่ราชการ หรือข้าราชการเพื่อจัดตั้งเครือข่ายการเมืองเพื่อเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น หรือออกกฎระเบียบ ข้อปฏิบัติเหมือนเช่นคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 ที่เอาเปรียบพรรคการเมืองเก่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าเราสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคให้เป็นนายกฯแน่นอน นายวิรัตน์กล่าว,นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญให้จัดทำความเห็นที่มีต่อร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งมีกำหนดส่งศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 25 เม.ย.ว่า เบื้องต้นได้ทำความเห็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว เตรียมรอนำเข้าที่ประชุม กกต.เพื่อพิจารณา โดยความเห็นที่จัดทำนั้นก็เป็นการยืนยันตามความเห็นเดิมที่เคยเสนอต่อที่ประชุมกรรมาธิการวิสามัญร่วม 3 ฝ่าย ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีความกดดันอะไร เป็นการทำตามหน้าที่และตามกฎหมายที่กำหนดไว้,นายคำนูณ สิทธิสมาน กรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฯ ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน ได้ประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยการประชุมจะพิจารณาแบบครอบคลุม ไม่ใช่เฉพาะการแก้ไข พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 บางประเด็นตามที่คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจเสนอมาเท่านั้น แต่อาจพิจารณายกร่างขึ้นใหม่ทั้งฉบับ รวมทั้งแก้ไขกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วย อาทิ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา การจัดทำกฎหมายครั้งนี้จะต้องทำเพื่อตอบโจทย์ 2 ประการ ได้แก่ 1.ความทุกข์ของประชาชน ทั้งที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจและความคาดหวังที่ต้องการจากตำรวจ 2.ความทุกข์ของตำรวจ ทั้งที่ไม่อาจใช้เพียงความรู้ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่เติบโตไปตามสายงานได้อย่างปกติและความไม่พร้อมหรือขาดแคลนในด้านต่างๆ โจทย์ทั้ง 2 ข้อนี้จะพิจารณาผ่าน 6 กรอบของนายกรัฐมนตรี เมื่อได้ข้อสรุปทั้งหมดจะจัดทำเป็นร่างกฎหมายและตรวจร่างกฎหมายได้พร้อมสรรพในคณะกรรมการชุดเดียว เพราะมีสัดส่วนจากคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษอยู่ด้วย,พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เข้าใจข้อห่วงใยของนักธุรกิจและเอกชน เกี่ยวกับการผูกขาดทางการค้า หลังจากที่อาลีบาบา กรุ๊ป ลงนามความร่วมมือกับรัฐบาลไทยในโครงการ Smart Digital Hub พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) แต่อยากให้มองอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะสิ่งดีๆที่ไทยจะได้รับ ยืนยันว่ารัฐบาลยึดหลักผลประโยชน์ร่วมกัน โดยต้องไม่กระทบต่อนักลงทุนไทย ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ให้โอกาสนักลงทุนรายอื่นเข้ามาแข่งขันสร้างความสมดุลในระบบเศรษฐกิจด้วย นายกฯย้ำว่าอาลีบาบาได้ประกาศชัดเจนต้องการสร้างความสามารถให้ธุรกิจและคนรุ่นใหม่ของประเทศที่ไปลงทุนประสบความสำเร็จ โดยไม่ต้องการทำสงครามทางการค้า ที่ผ่านมาไทยเราไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ใดๆ นับตั้งแต่การก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้ EEC จึงเป็นจุดขายของไทยในการดึงดูดการลงทุนยกระดับเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้น นายกฯแนะให้นักธุรกิจไทยปรับตัวรองรับการแข่งขัน รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนตามแนวทางไทยแลนด์ 4.0 เปิดโอกาสให้เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับนักลงทุนต่างชาติ,พล.ท.สรรเสริญยังกล่าวถึงกรณีที่สหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ (ไอทีเอฟ) ส่งจดหมายร้องเรียนไปยังองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ระบุว่ามีการละเมิดเสรีภาพแรงงานอย่างร้ายแรงในประเทศไทย จากการตั้งคณะทำงานขึ้นมาแทรกแซงลูกจ้างในกิจการประมงทะเลว่า กระทรวงแรงงานรายงานว่าคณะกรรมการดังกล่าวคือคณะทำงานส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์ในกิจการประมงทะเล แต่งตั้งโดยคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย มีผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน เอ็นจีโอ และผู้แทนองค์การแรงงานระหว่างประเทศร่วม อำนาจหน้าที่จัดทำมาตรการส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์ในกิจการประมงทะเลให้มีความเข้มแข็ง สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ ป้องกันและแก้ไขปัญหาที่ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ต่อลูกจ้างหรือแรงงานทั้งสิ้น ส่งเสริมให้ลูกจ้างในกิจการประมงทะเลรวมตัวกันเพื่อคุ้มครองสิทธิของตน สร้างช่องทางการสื่อสารนายจ้างและลูกจ้าง ไม่ได้ประสงค์แทรกแซงการดำเนินงานของกลุ่มสหภาพแรงงานประมงต่างด้าวและไทย (TMFUG),วันเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานสรุปสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยประจำปี 2560 ระบุว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. ที่บริหารโดยกองทัพยังคงควบคุมหน่วยงานความมั่นคงและข้าราชการ มาตลอดหลังการรัฐประหารปี 2557 ซึ่งภายใต้คำสั่ง คสช.หลายฉบับ ได้จำกัดสิทธิเสรีภาพของพลเรือน ในกรณีนี้รวมถึงเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพการชุมนุม และเสรีภาพสื่อมวลชน กระนั้นสิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดด้านสิทธิมนุษยชนคือ การใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ความมั่นคงต่อผู้ต้องสงสัย นักโทษ โดยเฉพาะในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย ถึงแม้จะมีความพยายามในการตรวจสอบการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆก็ตาม ขณะที่สภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำ มีการร้องเรียนจากองค์กรอิสระเอ็นจีโอว่าไม่เหมาะสม และมีปัญหานักโทษล้นคุก,รายงานยังระบุว่า รัฐบาลไทยยังคงปฏิเสธคำร้องของหน่วยงานสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ ที่ต้องการเข้าตรวจสอบกรณีการเสียชีวิตของนักเคลื่อนไหว หรือกรณีการหายตัวของนักเคลื่อนไหว ตามที่เป็นข่าวกระแสหลักและข่าวลือในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ปัญหาด้านการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน จากกรณีไม่จัดการเลือกตั้ง ขณะที่การคอร์รัปชันยังคงเกิดขึ้นเป็นวงกว้างโดยเฉพาะในวงการตำรวจ เจ้าหน้าที่หลายนายถูกตั้งข้อหาคอร์รัปชัน ขนยาเสพติด ลักลอบขนของเถื่อน เช่นเดียวกับเรื่องกฎหมายการชี้แจงที่มาของทรัพย์สิน ที่ครอบคลุมเฉพาะสมาชิก คสช.ในคณะรัฐมนตรี แต่ไม่ใช่สมาชิก คสช.ทั้งหมด ส่วนปัญหาการค้าประเวณีเด็กยังคงเกิดขึ้นในไทย โดยไทยถือเป็นหนึ่งในจุดหมายแหล่งท่องเที่ยวทางเพศ แต่ทางการได้มีความพยายามแก้ไขปัญหาต่อเนื่อง พร้อมออกมาตรการปราบปรามตลอดปีที่ผ่านมา | พรเพชร เซ็นตั้งกรรมการสอบคลิปปริศนาล้มโต๊ะสรรหา กสทช. 23 เม.ย. ขีดเส้น 30 วันรู้ผล เค้นคอ สนช.-สื่อไหน ปล่อยข่าว-ต้นขั้วแพร่คลิป เต้นผางประชุมลับเลือกผู้ตรวจการฯ แต่กลับมีรายงานพาดพิง | ข่าว,การเมือง | คลิปเสียงนายกฯ,คลิปปริศนา,คลิปหลุด,กสทช.,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/news/politic/1261662 |
เดือด เนย์มาร์ ฉุนบาร์ซาเบี้ยวเงินโบนัส ร้องยูฟ่าตะเพิดพ้น UCL | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 7 ต.ค. ว่า เนย์มาร์ ซุปตาร์ชาวบราซิลของปารีส แซงต์แชร์กแมง เรียกร้องต่อทาง สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่าตัดสิทธิ์ บาร์เซโลนา ออกจากยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก หลังทางบาร์ซาไม่ยอมจ่ายเงินค่าโบนัสที่ตกลงกันไว้,เนย์มาร์ ย้ายออกจากถิ่นคัมป์นูมาเล่นให้กับเปแอสเชด้วยค่าตัวสถิติโลก 222 ล้านยูโรเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา และเขาก็เรียกร้องค่าโบนัสความภักดีจากทางบาร์ซาหลังเขาอยู่กับทีมจนถึงวันที่ 31 ก.ค. ตามที่ตกลงกันไว้,แต่สุดท้ายเมื่อเขาย้ายทีมในอีกไม่กี่วัน ทางบาร์เซโลนา ก็ไม่ยอมจ่ายค่าโบนัสดังกล่าวให้กับ เนย์มาร์ ทำเอาสตาร์แซมบ้ารายนี้ออกอาการฉุนควันออกหูเมื่อเขาอาจต้องเสียเงินโบนัสถึง 26 ล้านยูโรไปแบบไม่ได้อะไรเลย,ล่าสุดตามรายงานจาก อาส สื่อดังแดนกระทิงระบุว่า เนย์มาร์ ทนไม่ไหวแล้วเตรียมฟ้องร้องต่อทางยูฟ่าให้พิจารณาถึงเรื่องนี้ และต้องการให้ยูฟ่าขับไล่บาร์เซโลนาในการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก,กระนั้นแล้วเมื่อ ยูฟ่า ได้รับเรื่องก็ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องจากทาง เนย์มาร์ ทันที | เนย์มาร์ สตาร์แซมบ้าของ ปารีส แซงต์แชร์กแมง แตกหักกับบาร์เซโลนาอย่างแน่นอน หลังเจ้าตัวเตรียมร้องต่อทางยูฟ่าให้ตะเพิดอดีตทีมเก่าของเขาพ้น UCL ในข้อหาไม่ยอมจ่ายค่าโบนัสจากความภักดี | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | ปารีส แซงต์แชร์กแมง,เนย์มาร์,บาร์เซโลนา,ยูฟ่า | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/1092650 |
คนไทยในซิดนีย์ จัดระดมทุน ช่วยเหลือน้ำท่วมใต้ | เมื่อค่ำวันที่ 27 มค. ที่สถาบันออสเตรเลียนอินเตอร์เนชั่นแนล คอลเลจ อาคาร Oaks Hyde Park Plaza Hotel College Street Darlinghurst sydney NSW ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมไทยออสเตรเลียนแห่งออสเตรเลีย โดยนายทองพันธ์ (มาร์โก) มะลิวงษ์ นายกฯสมาคม ได้จัดงานสืบสานวัฒนธรรมไทยในประเทศออสเตรเลีย เพื่อระดมทุนรวบรวมเงินช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ของประเทศไทย ที่ประสบอุทกภัย โดยได้เชิญนายดนัย จันทร์เจ้าฉาย นักคิด นักเขียนและนักบรรยาย มาบรรยายเรื่อง ทำดีเพื่อพ่อ รักเธอประเทศไทย เล่าเรื่องราวพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีนายณัฐพล ขันธหิรัญ กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ นางรุจิรัศมิ์ ฉัตรเฉลิมกิจ ผอ.ททท. สำนักงานซิดนีย์ รวมทั้งข้าราชการทีมประเทศไทย สมาคมต่างๆ ในนครซิดนีย์ นักธุรกิจชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 300 คนเข้าร่วมฟัง,นายทองพันธ์ เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์การจัดงานว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยกับนายดนัย ถึงการระดมทุน เพื่อนำเงินไปมอบให้วัดไทยที่บริสเบน ทำการบำรุงบูรณะวัด แต่พอเกิดอุทกภัยที่ภาคใต้ของไทย และพี่น้องชาวใต้ได้รับความเดือดร้อนมาก ก็เปลี่ยนวัตถุประสงค์มาช่วยน้ำท่วมก่อน เพราะเห็นเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน การบรรยายครั้งนี้ ได้มีการพูดเรื่องพระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยในซิดนีย์อยากฟัง เพราะทุกคนรักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสูงสุด แม้จะอยู่ต่างแดน ,นายทองพันธ์ กล่าวอีกว่า ในงานยังมีการจัดกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรมไทย จัดโชว์แม่ไม้มวยไทย จาก Real Hero มีการประกวดการแต่งกายชุดไทย การแสดงมินิคอนเสิร์ต จาก หรั่ง ร็อคเคสตร้า และ เมทัล ลูกสาว ซึ่งตนรู้สึกดีใจที่เห็นคนไทยเวลาเกิดปัญหาก็มาช่วยเหลือกันอย่างพร้อมเพรียง,ขณะที่ นายดนัย เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากนายทองพันธ์ ตอนแรกตั้งใจจะมาช่วยที่วัดไทยที่นครบริสเบน แต่เห็นน้ำท่วมภาคใต้ จึงหันมาช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยที่ประสบภัยก่อน แต่การช่วยเหลือวัดไทยขอพักไว้ไม่ได้เลิก แต่จะแจ้งในภายหลังว่าจะช่วยเมื่อไหร่ ,ส่วนตัวรู้สึกดีใจที่คนไทยในต่างแดนรักบ้านเกิดมาก เทน้ำใจช่วยกันในยามคนไทยตกทุกข์ได้ยาก ก่อนมาได้คุยกับ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยวัฒนาว่า มีคนไทยในซิดนีย์ จัดงานช่วยเหลือชาวใต้ที่น้ำท่วม ท่านก็ชื่นชมและอัดคลิปกล่าวขอบคุณคนไทยในซิดนีย์ด้วย,นายดนัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ในวันนี้ตนได้พูดถึงเรื่องพระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณของ ในหลวง ร.9 ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างมากมายมหาศาล และยังพูดถึงสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ที่ทรงห่วงใยคนไทยอย่างมาก สำหรับเงินรายได้จากการจัดงาน กว่า 1 ล้านบาท ตนจะนำกลับไปมอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อนำไปช่วยชาวใต้ต่อไป. | ชาวไทยในซิดนีย์ จัดงานสืบสานวัฒนธรรมไทยในประเทศออสเตรเลีย ระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากน้ำท่วมภาคใต้ พร้อมร่วมฟังบรรยาย เรื่อง ทำดีเพื่อพ่อ รักเธอประเทศไทย โดย ดนัย จันทร์เจ้าฉาย | null | คนไทยในซิดนีย์,ระดมทุน,ดนัย จันทร์เจ้าฉาย,ทำดีเพื่อพ่อ รักเธอประเทศไทย,ช่วยน้ำท่วมใต้ | https://www.thairath.co.th/content/845378 |
อาการอาพาธหลวงพ่อคูณดีขึ้น | คณะแพทย์ที่ทำการรักษาอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยลูกศิษย์ พาหลวงพ่อคูณนั่งรถเข็นเยี่ยมชมรอบๆบริเวณโรงพยาบาลศิริราชประมาณ 10 นาที หลังคณะแพทย์ได้ประเมินอาการแล้ว เห็นว่าการฟื้นตัวขึ้นเร็ว มีสัญญาณชีพปกติ แผลที่หน้าท้องและการให้อาหารผ่านสายยางให้อาหารสู่กระเพาะอาหารเรียบร้อยดี เคลื่อนไหวแขนและขาระหว่างการทำกายภาพบำบัดได้คล่องแคล่วขึ้น มีอารมณ์แจ่มใส สามารถนั่งข้างเตียงสนทนาและอำนวยพรแก่คณะแพทย์ที่ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มากราบเยี่ยมทั้งนี้ทางคณะแพทย์วางแผนการขยายเวลาการพักฟื้นในโรงพยาบาลศิริราชอีกระยะหนึ่ง เพื่อรอประเมินการทำงานของต่อมหมวกไตและความสามารถในการกลืนน้ำและของเหลวทางปากให้เป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่จะส่งตัวกลับไปฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยจะแถลงรายละเอียดอีกครั้งวันพรุ่งนี้ (12 ก.ย.) | คณะแพทย์ศิริราชพยาบาลระบุอาการอาพาธหลวงพ่อคูณดีขึ้นมาก โดยให้อาหารเหลวทางสายยางได้แล้วและสามารถเคลื่อนไหวแขนและขาได้ดี ซึ่งแพทย์จะขยายเวลาการฟักฟื้นไปอีกระยะหนึ่ง | สังคม | วัดบ้านไร่,ศิริราช,หลวงพ่อคูณ,อาพาธ | https://news.thaipbs.or.th/content/33211 |
ทำวุ่นทั้งอำเภอ 3 แสบโดดเรียน หนีออกจากบ้าน หาย 2 วัน ตามเจอในร้านเกม | จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ ฟ้าหลังฝน สวยงามเสมอ ได้โพสต์รูปเด็กชาย 2 คน พร้อมระบุข้อความว่า ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ ผู้ใดพบเห็นเด็กชาย 2 คนนี้ ชื่อเล่นตูมตาม กับ โตโน่ หายไปจากบ้านสองวันสองคืน ช่วยแจ้งเบาะแสผู้ปกครองด้วยนะคะ ทางผู้ปกครองได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ยังไม่พบพิกัดบ้านถนนโค้ง พุขาม หรือโทร.08-6679-6431 ขอขอบคุณล่วงหน้านะคะผู้สื่อข่าว จึงได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 82 หมู่ 3 ต.พุขาม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ พบกับคุณยายใบ โสภา อายุ 77 ปี ซึ่งเป็นยายของเด็กที่หายตัวไปทั้ง 2 คน คือน้องตูมตาม อายุ 8 ปี และน้องโตโน่ อายุ 6 ปี โดยคุณยายใบ เล่าว่า เมื่อวันจันทร์ ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 เด็กทั้ง 2 คน ไปโรงเรียนตามปกติ แต่พอสายๆ ได้กลับมาบ้าน และหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ จนกระทั่งมีคุณครูประจำชั้นมาตามที่บ้าน บอกกับคุณยายว่า มีคนเห็นว่าเด็กทั้ง 2 คน และยังมี ด.ช.ก็อฟ อายุ 12 ปี รวม 3 คน ได้เข้าไปที่โรงเรียนและงัดห้องเรียน เพื่อเข้าไปเล่นของเล่นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตนจึงคิดว่านี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กทั้ง 2 คน รวมเพื่อน อีก 1 คนไม่อยากไปโรงเรียน และได้ชวนกันหนีออกไปจากบ้าน เพราะกลัวโดนทำโทษ ซึ่งวันดังกล่าว เวลาประมาณ 13.00 น. (3 ก.พ.63) มีเพื่อนบ้านเห็นหลานชายทั้ง 2 คน ปีนออกไปทางรั้วสังกะสีข้างบ้านเรื่องดังกล่าว ทำให้คุณยาย กินไม่ได้นอนไม่หลับมา 2 คืน เพราะเป็นห่วงหลานชาย ทั้ง 2 คนมาก เกรงว่าหลานจะเป็นอันตราย ซึ่งคุณยายกังวลว่าหลานชายจะไปเล่นน้ำแล้วพลัดตกน้ำ หรืออาจจะเดินไปตามถนนแล้วมีคนจับขึ้นรถไป จึงอยากวิงวอนใครที่พบเบาะแสเด็กชายทั้งคู่ ให้ติดต่อกลับทางเบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไว้ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 5 ก.พ. ได้รับแจ้งจากทางคุณยายใบ ว่า มีคนเจอหลานชายทั้ง 2 คน และเพื่อนอีก 1 คน รวม 3 คน ที่ร้านเกมแห่งหนึ่ง ในตัวตลาดพุเตย และได้นำตัวมาส่งให้กับคุณยายที่บ้านเป็นที่เรียบร้อยและปลอดภัยทุกคน. | โอละพ่อ 3 เกลอที่เพชรบูรณ์ โดดเรียนหายไป 2 วัน 2 คืน ญาติโพสต์เฟซบุ๊กตามหากันวุ่นทั้งอำเภอ ยายอายุ 77 ปี กินไม่ได้นอนไม่หลับ กลัวหลานถูกคนร้ายจับตัวไป สุดท้ายตามเจอในร้านเกม | ข่าว,ทั่วไทย | เด็กเล่นเกม,โดดเรียนเล่นเกม,หนีไปเล่นเกม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1765215 |
ผบ.ทบ. ห่วงทหารติดโควิดจากสหรัฐฯ พบฝึกในที่เสี่ยงทำเพื่อนใกล้ชิดป่วยด้วย | บิ๊กแดง ห่วงใยทหารไทยติดโควิด-19 จำนวน 6 นาย หลังฝึกผสมที่สหรัฐฯ ผอ.ศบค.ทบ. ยืนยัน ไม่มีใครออกนอกค่าย คาดติดเชื้อจากฝึกในสถานที่เสี่ยง เตรียมสวอปใหม่ทั้งหมดพรุ่งนี้เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2563 พล.อ.ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กองทัพบก (ศบค.ทบ.) กล่าวภายหลัง ศบค. แถลงวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 10 ราย โดยในจำนวนนี้ 6 ราย เป็นทหารไทยที่กลับจากการฝึกผสมที่รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา โดยยืนยันว่า ไม่พบปอดอักเสบ อาการไม่หนัก ไม่ได้ออกนอกค่ายจากการสอบสวนโรคคาดว่าน่าจะเกิดจากการฝึกในพื้นที่บางแห่งที่ไม่ปลอดเชื้อ โดยมี 4 นาย แยกไปฝึกในสถานที่เสี่ยง ทำให้เพื่อนอีก 2 นาย ที่ใกล้ชิดติดไปด้วย แต่ก็ไม่วางใจ และจะมีการสอบสวนโรคอย่างละเอียดกับกำลังพลทั้งหมดหลังจากนี้ สำหรับทหารที่เหลือซึ่งเข้าตรวจหาเชื้อในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จะส่งไปกักตัวพื้นที่กักกันโรค (State Quarantine) ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา จังหวัดชลบุรี โดยในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค. 2563) จะมีการตรวจสวอป (Swab) ทหารทั้งหมดที่กลับจากสหรัฐฯ อีกครั้ง และเมื่อครบการกักตัว 14 วันแล้ว จะมีการสวอปอีกครั้งในวันที่ 3 ส.ค. 2563ทั้งนี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ทราบเรื่องแล้ว และแสดงความห่วงใยพร้อมทั้งให้สอบสวนที่มาของการติดเชื้อว่าเกิดจากจุดใด และที่สำคัญคือให้รักษากำลังพลที่ติดเชื้อให้หายขาดพล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวต่อไปว่า มีความมั่นใจในการรักษาของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เนื่องจากรักษาผู้ติดเชื้อหายมาหลายรายแล้ว แต่จากนี้ก็เป็นบทเรียนของการส่งทหารไปฝึก ที่แม้จะมีการป้องกันจากต้นทางอย่างดีแล้ว และระหว่างการฝึกก็ปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรคแล้วแต่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทำให้ต้องเพิ่มมาตรการ 3 อย่าง คือ การสอบสวนโรค การรักษา และการควบคุมโรคในพื้นที่กักกันโรคให้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถยกเลิกการส่งทหารไปฝึกในต่างประเทศได้ เพราะเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างกองทัพบกไทยกับกองทัพบกสหรัฐฯSMART Soldiers Strong ARMY | บิ๊กแดง ห่วงใยทหารไทยติดโควิด-19 จำนวน 6 นาย หลังฝึกผสมที่สหรัฐฯ ผอ.ศบค.ทบ. ยืนยัน ไม่มีใครออกนอกค่าย คาดติดเชื้อจากฝึกในสถานที่เสี่ยง เตรียมสวอปใหม่ทั้งหมดพรุ่งนี้ | ข่าว,การเมือง | โควิด-19,บิ๊กแดง,อภิรัชต์ คงสมพงษ์,ทหารติดโควิด-19,โคโรนาไวรัส,ติดโควิด-19,ฮาวาย | https://www.thairath.co.th/news/politic/1896616 |
ตร.ระบุยังมีอีก ผู้เกี่ยวข้องปาร์ตี้ บ้านบางบัวทอง | จากกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือลัลลาเบล กระทั่ง น.ส.เดียร์ พริตตี้ ผู้ที่รับงานเอนเตอร์เทนต่อจาก น.ส.ธิติมา เข้าร้องทุกข์แจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่าถูกลวนลามกระทำอนาจารหลังจากเมาหลับไปในห้องจัดงานเลี้ยง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจเก็บดีเอ็นเอไว้เป็นหลักฐาน โดยศาลอนุมัติหมายจับแก๊งงานเลี้ยงบ้านบางบัวทอง 6 คน ข้อหาซ่องโจรและร่วมกันกระทำอนาจารวันนี้ (27 ก.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวน สภ.บางบัวทอง ควบคุมตัวนายชัยพล พรรณนา หรือคิว อายุ 29 ปี นายนที สถิตพงษ์สถาพร หรือตี๋ อายุ 33 ปี นายโกเศศ ฤทธิ์นิธิฤกษ์ หรือปิงปอง อายุ 35 ปี และ น.ส.พิกุลทอง บุญภา หรือเฟิร์ส อายุ 24 ปี ไปชี้พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 เปิดเผยภายหลังนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ชี้จุดเกิดเหตุว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ว่า มีการจัดงานเลี้ยงและมีผู้เสียหายอยู่ในที่เกิดเหตุจริง โดยให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดในสำนวนคดี โดยจะนำตัวผู้ต้องหาขออำนาจศาลฝากขังในวันนี้รอง ผบช.ภ.1 กล่าวเพิ่มเติมว่า ตำรวจเชื่อมั่นในพยานหลักฐาน ทั้งพยานวัตถุ พยานบุคคล และผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้ประสานเร่งรัดผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอแล้ว หากขยายผลพบผู้เกี่ยวข้องจะขอศาลอนุมัติหมายจับเพิ่มเติม ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างรวดเร็วและให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย รวมทั้งตอบทุกข้อสงสัยของสังคมส่วนนายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือน้ำอุ่น จะถูกแจ้งข้อหาในพื้นที่บางบัวทองเพิ่มเติมหรือไม่ ขอให้ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบการกระทำผิด หรือมีพยานหลักฐานเพียงพอก็จะดำเนินการผู้เกี่ยวข้องทุกคน ทั้งนี้ หากมีผู้เสียหายเพิ่มเติมขอให้แจ้งมาที่ตำรวจ เพื่อจัดทีมไปพบโดยจะเก็บเป็นความลับ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องด้าน พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี กล่าวว่า การตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบสารเสพติดในร่างกายผู้ต้องหาทั้ง 6 คน | ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาชี้จุดเกิดเหตุคดีร่วมกันกระทำอนาจารหนึ่งในพริตตี้ที่มาร่วมงานเลี้ยงหลังจาก ลัลลาเบล ขณะที่รอง ผบช.ภ.1 ระบุมีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มแน่นอน | อาชญากรรม | ลัลลาเบล,พริตตี้,น้ำอุ่น,บ้านบางบัวทอง,เดียร์ | https://news.thaipbs.or.th/content/284603 |
สหภาพกองสลากฯ ประท้วงปลดผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ | สหภาพสำนักงานสลาก ส่วนหนึ่งเดินทางไปยังกระทรวงการคลังในช่วงเช้าวันนี้ (25 เม.ย.) เพื่อจะทวงถามความคืบหน้ากรณีกระทรวงการคลังเลิกจ้าง นายสมชาติ วงศ์วัฒนศานต์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยก่อนหน้านี้นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วงกระทรวงคมนาคม รับปากจะพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง พร้อมระบุ จะเร่งทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายให้ได้ในวันนี้ ทั้งในส่วนสหภาพฯ คณะกรรมการสำนักงานสลาก และนายสมชาติ โดยแนะว่าคณะกรรมการอาจจะต้องมีทิศทางการดูแลนายสมชาติ หลังจากถูกเลิกจ้าง และส่วนตัวเห็นว่าอาจจะหาตำแหน่งอื่นรองรับแทน แต่จะต้องดูในข้อกฎหมายประกอบ ขณะที่สหภาพฯ ระบุหากไม่ได้คำตอบอาจจะงดออกรางวัลล็อตเตอรี่ในงวดวันที่ 2 พ.ค.นี้ ทั้งนี้ คำสั่งเลิกจ้างนายสมชาติ วงศ์วัฒนศานต์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ลงนามเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งจะมีผลภายใน 30 วัน หรือจะต้องยุติหน้าที่ในวัน 9 พ.ค.นี้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงคำสั่งคาดว่าจะทำได้ยาก ทั้งนี้ปัญหาการเลิกจ้าง หน่วยงานต้นสังกัดให้เหตุว่าผลเกิดความไม่ลงรอยในการทำงานระหว่างนายสมชาติ และคณะกรรมการสำนักงานสลาก ในเรื่องของการออกสลาก | รมช.คลัง ระบุ จะพยายามหาข้อสรุปการเลิกจ้างผู้อำนวยการสำนักงานสลากให้ได้ในวันนี้ (25 เม.ย.) โดยจะพูดคุยทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายเพื่อหาทางออกร่วมกัน ขณะที่สหภาพแรงงานฯ ระบุจะไม่ทำการออกล็อตเตอรี่ในงวดที่จะถึงนี้ หากว่ายังไม่ข้อสรุป | เศรษฐกิจ | ประท้วง,ปลด,ผู้อำนวยการสำนักงานสลาก,สหภาพกองสลากฯ | https://news.thaipbs.or.th/content/80909 |
ศปมผ.พัฒนาระบบติดตามเรือประมง สนองการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายแบบยั่งยืน | เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.59 ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) นำสื่อมวลชนชมระบบติดตามเรือประมงพาณิชย์ของไทย ที่มีการบูรณาการฐานข้อมูลของเรือประมงพาณิชย์ของไทย แสดงผลในระบบ เพื่อแสดงภาพรวมทั้งหมดของเรือดังกล่าวผ่านจอแสดงผลในห้องศูนย์ยุทธการ ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศยก.ศรชล.) ซึ่งจะเป็นภาพเดียวกันกับ ศูนย์ควบคุมและเฝ้าระวังการทำการประมง (Fisheries Monitoring Center : FMC) จากกรมประมง ทำให้สามารถทราบรายละเอียดทั้งหมด ติดตาม และสั่งการอำนวยการ จาก ศยก.ศรชล. ที่มีที่ตั้งอยู่ ณ บก.ทร. พระราชวังเดิม ได้อย่างทันท่วงที และจะทำให้ลดขั้นตอนของผู้ปฏิบัติงาน ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน,ศปมผ. จัดตั้งหมวดเรือเฉพาะกิจ ศปมผ. เพื่อเป็นกำลังในการคุ้มครองเรือประมงไทย แรงงานภาคประมง การตรวจเรือประมงที่เป็นกลุ่มเสี่ยง และดำเนินการในการป้องกันไม่ให้เรือประมงต่างชาติลักลอบเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทย,การปฏิบัติการจากสถานการณ์ในการติดตามอำนวยการ สั่งการในการตรวจเรือประมง และคุ้มครองส่วนต่างๆ ในภาคประมง เริ่มจากการประสานงานระหว่างศูนย์ควบคุมและเฝ้าระวังการทำการประมง จากกรมประมงกับ ศยก.ศรชล. กำหนดค่าเรือประมงที่เป็นกลุ่มเสี่ยงอันเนื่องมาจากการไม่ปฏิบัติตามระเบียบ/กฎหมายที่ ศปมผ. กำหนด และดำเนินการประสานกับ ศรชล.เขตต่างๆ จากนั้น ศรชล.เขต จะสั่งการไปยังเรือในหมวดเรือเฉพาะกิจ ศปมผ.ในการออกเรือเพื่อปฏิบัติตามภารกิจที่ได้รับมอบต่อไป,ทั้งนี้ ระบบติดตามเรือที่มีการบูรณาการฐานข้อมูลของเรือประมงพาณิชย์ของไทย จะส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในการอำนวยการสั่งการ และติดตามเรือ ทำให้การตรวจเรือประมง และคุ้มครองส่วนต่างๆ ในภาคประมง ซึ่งเป็นการพัฒนาให้การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายเป็นไปตามแนวทางอย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การจัดการประมงรูปแบบใหม่ที่เน้นความยั่งยืนต่อไป. | ศปมผ.พัฒนาระบบติดตามเรือประมงพาณิชย์ของไทย เพื่อตอบสนองต่อการอำนวยการและสั่งการจากส่วนกลาง เพื่อนำไปสู่การจัดการประมงรูปแบบใหม่ที่เน้นความยั่งยืน พร้อมตั้งหมวดเรือเฉพาะกิจ ศปมผ.เพื่อดูแลคุ้มครองเรือประมงไทย | null | ศปมผ.,กองทัพเรือ,แก้ประมงผิดกฎหมาย,เรือประมงพาณิชย์,ระบบติดตามเรือประมง | https://www.thairath.co.th/content/806711 |
นายกนักประดิษฐ์ แนะอย่าให้เด็กของชาติพิการ โดยแบกกระเป๋าไป ร.ร.หนัก | ไปโรงเรียน,เมื่อวันที่ 30 ก.ค.62 นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่มีนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น กระดูกสันหลังคด เนื่องจากสะพายกระเป๋าหนักจนเกินไปว่า จากกรณีดังกล่าว ตนก็ได้ทราบคำเตือนของแพทย์มาก่อนหน้านี้ว่า การสะพายกระเป๋านักเรียนหนักๆ ส่งผลกระทบต่อหมอนรองกระดูกสันหลังของเด็ก และอนาคตเป็นโรคเรื้อรัง ใครจะรับผิดชอบพวกเขา ดังนั้นหากต้องสะพายกระเป๋าหนักๆ ไปโรงเรียนทุกวัน อาจมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และทรมานปัจจุบันได้มีประชาชน ร้องเรียนที่สมาคมฯ เป็นจำนวนมาก บางราย บอกว่า ลูกเจ็บหลัง เมื่อไปหาหมอ หมอแจ้งว่า สายไปแล้ว กระดูกหลังคดแล้ว ผมจึงถามผู้มีอำนาจว่า ถ้าเป็นลูกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา หรือกระทรวงสาธารณสุข จะรู้สึกอย่างไรบ้าง คงจะเจ็บปวดและเครียดใช่หรือไม่? ดังนั้น จึงถือว่าเป็นประเด็นที่สำคัญที่คนในสังคมควรให้ความสนใจมาก ห้ามปล่อยผ่านเด็ดขาด ปัจจุบันกระทรวงศึกษาประเทศมาเลเซีย ได้ยกเลิกครูใช้เด็กแบกกระเป๋าหนังสือและให้ใช้ Digital Textbook แทนที่จะแบกหนังสือไปโรงเรียนหนักๆ 20 กิโลกรัมไปกลับโรงเรียน,นายภณวัชร์นันท์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว ตนจึงอยากเสนอให้ มีการบรรจุเนื้อหาหนังสือลงเป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออินเทอร์เน็ต หรือสร้างแอปอัปโหลดมือถือโทรศัพท์มือถือส่งสัญญาณผ่านไปยังทีวี และสอนนักเรียน และให้ผู้ปกครองตรวจสอบการสอนวิชาได้ด้วยเพื่อช่วยติวการบ้านให้บุตรหลาน และแบ่งเบาภาระของเด็กนักเรียนที่จะต้องแบกหนังสือใส่กระเป๋าไปโรงเรียนทุกๆ วัน อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นจะต้องมีหนังสือเรียนไว้สำหรับอ้างอิงแล้วก็สามารถที่จะสั่งพิมพ์ไว้เป็นคราวๆ สำหรับห้องสมุด เพื่อเก็บรักษาไว้ก็ได้,กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข ต้องเข้ามาดูแล ต้องพูดคุยกัน เพื่อสร้างสมดุลระหว่างหนังสือที่เด็กจะต้องได้เรียนและสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเพื่อพร้อมที่จะพัฒนาประเทศในอนาคต นายภณวัชร์นันท์กล่าว | นายกสมาคมนักประดิษฐ์แนะผู้มีอำนาจ อย่าปล่อยให้เด็กอนาคตของชาติพิการ ชี้กระทรวงสาธารณสุข ควรเข้ามาดูสุขภาพนักเรียน อย่าปล่อยให้เด็กแบกกระเป๋าหนัก เด็กบางคน กระเป๋า หนักถึง 20 กิโลกรัม | ข่าว,ทั่วไทย | แบกกระเป๋า,กระเป๋านักเรียน,ปวดหลัง,นายกนักประดิษฐ์,กระดูกสันหลังคด,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1625951 |
ส.ต้านแชร์ลูกโซ่พาเหยื่อร้องดีเอสไอ ตุ๋นลงทุนคอร์สสัมมนา สูญ 2 พันล้าน | เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ 9 พ.ค. 60 ที่สำนักคดีอาญา 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ศูนย์ราชการอาคารบี นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย นำกลุ่มผู้เสียหายกว่า 100 คน ที่ถูกหลอกลวงให้ร่วมลงทุนในการซื้อขายคอร์สสัมมนาที่มีการเสนอผลตอบแทนสูงวันละร้อยละ 30 ต่อเดือน เดินทางมาร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ขอให้รับเรื่องดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนกว่า 40,000 คนทั่วประเทศ และมีมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท ก่อนที่ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กับ พ.ต.ต.สิริวิชญ์ ชาญเตชะสิทธิ์กุล ผอ.ส่วนคดีอาญาพิเศษ 3 จะเป็นผู้รับเรื่อง,ด้าน นายสิทธิกร เสงี่ยมโปร่ง อายุ 44 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เผยว่า เมื่อประมาณต้นปี 59 มีพรรคพวกตนชักชวนให้ร่วมลงทุนสมัครคอร์สอบรมสัมมนาการลงทุนด้านการเงินของ บริษัท เดอะซิสเตม ปลั๊กแอนด์เพลย์ จำกัด และ บริษัท อินโนวิชั่น โฮลดิ้ง จำกัด ที่มี นายภูดิส กิตติธราดิลก เป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัททั้ง 2 แห่ง โดยบริษัทดังกล่าวมีการลงทุนในรูปแบบ 5 แพ็กเกจ ซึ่งแต่ละแพ็กเกจจะได้ผลดอกเบี้ยเดือนละ 30 เปอร์เซ็นต์ คือ 1. แพ็กเกจ VIP สมัคร 108,000 บาท ได้ปันผลเดือนละ 29,820 บาท 2. แพ็กเกจ Premium สมัคร 36,000 บาท ได้ปันผลเดือนละ 9,660 บาท บาท 3. แพ็กเกจ Standard สมัคร 18,000 บาท ได้ปันผลเดือนละ 4,620 บาท 4. แพ็กเกจ Mini สมัคร 9,000 บาท ได้ปันผลเดือนละ 2,200 บาท และ 5. แพ็กเกจ Micro สมัคร 4,500 บาท ได้ปันผลเดือนละ 1,040 บาท ระยะเวลา 1 ปี ที่จะปันผลให้ จึงลงทุนซื้อไป 2 แพ็กเกจ ตอนแรกเลยซื้อแพ็กเกจ Micro ลองดูก่อน ปรากฏว่าได้ผลตอบแทนจริง ต่อมาเลยลงทุนซื้อแพ็กเกจ VIP จนประมาณเดือน ก.ย. 59 ทางบริษัทดังกล่าวอ้างว่า ผลประกอบการขาดทุนจึงไม่สามารถส่งเงินปันผลให้ได้ ตนเองและผู้เสียหายรายอื่นๆ พยายามติดต่อไปที่ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท ได้รับคำตอบว่า ภายในวันที่ 30 เม.ย. 60 จะคืนเงินปันผลให้ แต่สุดท้ายกระทั่งวันนี้ยังไม่มีใครได้รับเงินปันผล และไม่สามารถติดต่อ นายภูดิศ ได้อีกเลย นายสิทธิกร กล่าว,ด้าน นายสามารถ เผยว่า ในกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวนี้ เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา มีประชาชนบางส่วนได้ไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว แต่ตำรวจไม่ได้มีการเรียกผู้เสียหายไปสอบปากคำเลย เห็นว่าคดีไม่มีความคืบหน้า จึงได้มีการชักชวนกันมาขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ รับพิจารณาเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก และมูลค่าความเสียหายสูง เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน,ทั้งนี้ ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า เบื้องต้นจะรับเรื่องร้องทุกข์จากผู้เสียหายทั้งหมดก่อน หลังจากนั้นจะนำเสนอผู้บังคับบัญชา และนำเข้าคณะกรรมการพิจารณา ว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ตามขั้นตอน. | ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ฯ พาเหยื่อทั่วประเทศ 100 คน ร้องอธิบดีดีเอสไอรับคดีตุ๋นลงทุนคอร์สสัมมนา เป็นคดีพิเศษ หลังถูกหลอกให้ร่วมลงทุน เสนอผลตอบแทนสูงร้อยละ 30 ต่อเดือน มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท | ข่าว,อาชญากรรม | ลงทุนคอร์สสัมมนา,หลอกลงทุน,แชร์ลูกโซ่,ดีเอสไอ,คดีพิเศษ | https://www.thairath.co.th/news/crime/936017 |
สลด รถกระบะ พะเยา ชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ อัดก๊อบปี้ ดับคาที่ 1 | เมื่อเวลา 22.50 น. วันที่ 22 ก.พ ได้รับแจ้ง สภ.ดอกคำใต้ เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อ บนถนนดอกคำใต้-จุน หน้าลานมันจันทร์กระจ่างบ้านค่าบน ม. 1 ต.ป่าซาง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา มีผู้เสียชีวิต 1 ราย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์ จากโรงพยาบาลดอกคำใต้ และมูลนิธิลือชา พะเยา,ที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุก 18 ล้อพ่วง ทะเบียนป้ายเหลือง 70-1530 กำแพงเพชร จอดอยู่ไหล่ทาง และมีรถยนต์กระบะ ยี่ห้อซูชูกิ สีขาว ทะเบียน บบ 5204 พะเยา ซึ่งคนขับรถกระบะบรรทุกขนมถูกอัดก๊อบปี้ คาซากรถ และสภาพรถกระบะด้านหน้ารถพังยับเยิน อัดกับท้ายรถบรรทุก 18 ล้อ ซึ่งทราบชื่อภายหลัง คือ นายแดง วงค์ไชย อายุ 43 ปี อยู่ 187 หมู่ 1 ตำบลป่าซาง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา เป็นคนขับรถกระบะบรรทุกขนม โดยสภาพรถกระบะด้านหน้ารถพังยับเยิน ชึ่งชนอัดกับท้ายรถบรรทุกคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อนำร่างออกจากรถยนต์คันดังกล่าว,โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวน คนขับรถบรรทุก 10 ล้อ คันดังกล่าว เล่าว่า ตนเองขับมาซึ่งบรรทุกมันสำปะหลัง มาจากต่างจังหวัด เพื่อจะนำมาเก็บที่ลานมันบ้านค่าป่าซาง จ.พะเยา ขับรถมา จนมาถึงที่เกิดเหตุเพื่อจะเลี้ยวรถเข้าลานมันได้ยินเสียงดังตูมใหญ่กระแทกเข้ากับท้ายรถที่ตนขับมาอย่างแรง และรถไถลเข้าไปจอดชิดไหล่ทาง จากนั้นได้เปิดประตูลงมาดูก็พบว่ามีรถยนต์ชนอัดก๊อบปี้ติดอยู่กับท้ายรถ 10 ล้อที่ตนขับมา จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว,ส่วนสาเหตุเบื้องต้นสันนิษฐานว่า คนขับรถกระบะอาจจะเหนื่อยล้าจากการขับรถทางไกลแล้วเกิดอาการง่วงหลับในทำให้รถพุ่งชนกับท้ายรถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวเข้าอย่างจัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังอยู่ในระหว่างสอบสวนละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง | พะเยา สลด รถกระบะเล็กซูซูกิ พุ่งชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ อัดก๊อบปี้ ดับ 1 คาที่ ตร.สันนิษฐานว่าคนขับอาจเหนื่อยทำให้เกิดหลับใน | ข่าว,ทั่วไทย | รถกระบะ,ชนท้าย 18 ล้อ,อัดก็อปปี้,ดับคาที่ 1,พะเยา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1211613 |
น็อตฝันอยากมีลูก 4 คน ปีหน้าชมพู่พร้อมเปิดอู่ | ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต, เพราะ อีกไม่กี่วันก็จะถึงฤกษ์หมั้น 6 พ.ค.แล้ว แม้จะเตรียมงานล่วงหน้าพักใหญ่ แต่ถึงโค้งสุดท้ายก็ไม่วายเป็นวิวาห์หัวหมุน เพราะหลายอย่างไม่เป็นตามแพลน มีอย่างเดียวที่ตั้งเป้าไว้ และ ชมพู่ ต้องทำให้ได้คือ ถ่ายละครเรื่องใหม่จบเมื่อไหร่ จะปั๊มลูกให้ ,คุณน็อต-วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์, ทันที ต้องรีบทำเวลาหน่อย เพราะ คุณน็อต อยากมีลูกตั้ง 4 คน,เตรียมงานแต่งไปถึงไหนแล้ว แว่วว่าต้องเปลี่ยนสถานที่จัดงานหมั้น?,พอเราปรึกษากันมันไม่ได้อย่างที่คิด ติดหลายอย่าง เมื่อไม่กี่วันก่อนเลยตัดสินใจเปลี่ยนสถานที่จัดงานหมั้น จากตึกส่วนตัว ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มาเป็นโรงแรมเพนนินซูล่า แล้วก็ต้องรีบรื้อการ์ดเชิญใหม่หมด เลยฉุกละหุกนิดนึง แต่ก็ต้องทำให้ทัน ,ช่วงนี้ใครชวนไปไหน ชมพู่ปฏิเสธหมด?,ใช่ เพื่อนสนิทจะรู้ว่าเรายุ่งใกล้บ้าแล้ว มันเครียด มีดีเทลเยอะ กว่าที่คิดมาก ขนาดตั้งตัวมาดีแล้ว ,เรียกว่าเครียดจนลืม ตื่นเต้นไปเลย?, ตอนนี้ยังไม่ใช่เรื่องของใจ แต่เป็นเรื่องสมอง มันไม่วางซะที ,คุณน็อตล่ะ วุ่นเหมือนเรามั้ย? ,วุ่นมาก เพราะส่วนใหญ่เป็นคุณน็อตทำ ,มีทะเลาะกันบ้างมั้ย?,ไม่มีเวลาแม้แต่ให้กำลังใจกัน และเป็นช่วงที่ต้องระวังคำพูดต่อกัน เป็นช่วงพิสูจน์ตัวเอง เพราะมันเครียด มีปัญหาให้แก้เยอะ แต่ถ้าเห็นเบอร์คุณน็อตโทร.มาต้องตั้งสติ ปรับน้ำเสียง พยายามพูดดีๆ ไม่เพิ่มความ เครียด,คุณน็อตบอกว่าแต่งปุ๊บก็อยากมีลูกเลย และขอ ทีเดียว 4 คน ชมพู่ว่าไง?,โห เค้าก็รู้แหละว่าเราติดงาน เพราะแต่งเสร็จต้องถ่ายละครให้พี่หน่องอีกเรื่อง คุยกันว่าขอใช้ชีวิตในฐานะสามีภรรยาสักปี ขอปรับตัวนิดนึง หลังจากนั้นค่อยพูดเรื่องลูกกัน ซึ่งน่าจะเหมาะมีลูกช่วงนั้น ละครออนแอร์นาน แต่ก็ต้องดูตอนนั้นอีกที ,แสดงว่าไม่ทิ้งช่วงนานหลังแต่ง?,ไม่นานหรอก ปีหน้าค่อยว่ากัน ,หลังแต่งจดทะเบียนสมรสมั้ย?,ไม่จดค่ะ เป็นเหตุผลที่เราตกลงกันแล้วมีลูกก็ใช้นามสกุลพ่อ ,ชุดเจ้าสาวลงตัวรึยัง?,ก็เกือบๆ ลงตัว ยังเดินทางมาไม่ถึงชุดนึง จะใช้กี่ชุดเดี๋ยวต้องรอดูนะ แต่ไม่ใช่ชุดที่เห็นหรอก เรื่องอะไรจะปล่อยให้ดูก่อน อยากเก็บไว้สำหรับวันนั้น แม้แต่คุณน็อตก็ไม่ให้ดู เดี๋ยวมันไม่พิเศษ. | วิ่งวุ่นจนหัวฟู ไปหมด สำหรับว่าที่เจ้าสาวซุปตาร์ ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต เพราะ อีกไม่กี่วันก็จะถึงฤกษ์หมั้น 6 พ.ค.แล้ว แม้จะเตรียมงานล่วงหน้าพักใหญ่ แต่ถึงโค้งสุดท้ายก็ไม่วายเป็นวิวาห์หัวหมุน เพราะหลายอย่างไม่เป็นตามแพลน | null | ข่าวบันเทิง,ชมพู่-อารยา,ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต,ว่าที่เจ้าสาว,ฤกษ์หมั้น,น็อต-วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์,น็อต-วิศรุต,อยากมีลูก 4 คน | https://www.thairath.co.th/content/496185 |
ซี่โครงแกะกับชิกพีพูเร่ และมิ้นท์ซอส | Taste of Australia 2017, ที่ทาง เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จัดขึ้นเมื่อเดือนก่อน ซึ่งรวมอาหารและวัตถุดิบระดับพรีเมียมของประเทศออสเตรเลีย และที่ได้ใจบรรดาบีฟ เลิฟเวอร์สุดๆ ก็ต้องยกให้กับสุดยอด 5 เนื้อที่ดีที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุด ที่ถูกนำเข้ามาในงานครั้งนี้ด้วย สำหรับเนื้อจากออสเตรเลีย เป็นที่รู้กันว่าเป็นเนื้อที่อัดแน่นด้วยคุณภาพ เพราะความใส่ใจตั้งแต่การเลี้ยง สภาพแวดล้อมและอาหารการกินของวัว และแกะ พิถีพิถันในทุกๆ ขั้นตอน ทำให้เนื้อที่ได้มีคุณภาพ มีความนุ่มละมุนลิ้น ยกตัวอย่างเช่น เนื้อวัวเลี้ยงด้วยหญ้าจากแคว้นแทสเมเนีย เป็นเนื้อวัวที่ดีต่อใจมาก เพราะแคว้นแทสเมเนียเป็นสถานที่ที่เลื่องชื่อด้านอากาศบริสุทธิ์ที่สุดในโลกปราศจากมลพิษ ดินอุดมสมบูรณ์ ทำให้วัวอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี และเนื้อวัวมีคุณภาพสูง หรือเนื้อแกะจากแคว้นวิกตอเรีย ซึ่งเป็นแคว้นที่ใส่ใจตั้งแต่การคัดแต่แกะคุณภาพดี และเลี้ยงไว้สำหรับบริโภคเท่านั้น,มร.อลิสเตอร์ เทย์เลอร์ บอสใหญ่สุดสมาร์ท แห่งเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ได้เล่าว่า ถ้าจะกล่าวถึงความอร่อยของเนื้อแกะ หลายต่อหลายคนยกให้ซี่โครงแกะของแคว้นวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการการันตีว่าเป็นแกะที่รสชาติอร่อยที่สุด โดยมีจุดเด่นที่ความกว้างของหน้าเนื้อแกะจะกว้างมาก บ่งบอกว่าแกะมีความอุดมสมบูรณ์ ทำให้แกะของแคว้นวิกตอเรียมีชิ้นใหญ่ เนื้อนุ่มละมุน ไม่มีกลิ่นแรง ซึ่งจะต่างจากแกะของที่อื่น โดยเฉพาะในช่วงนี้เนื้อแกะจะมีรสชาติดีเป็นพิเศษ เพราะแกะได้กินหญ้าในช่วง spring Lamb ประกอบกับหญ้าที่ออสเตรเลียเป็นหญ้าออร์แกนิก และมีการควบคุมมาตรฐานการให้อาหารต่างๆอีกด้วย,วันนี้ คุณอลิสเตอร์ จึงขอสวมบทเชฟปรุงเมนูซี่โครงแกะจากแคว้นวิกตอเรีย ที่เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ นำเข้ามาแบบแช่เย็นร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ผ่านการแช่แข็งแล้วมาละลาย ทำให้สามารถรักษาคุณภาพไว้ได้ เวลานำมาปรุงอาหารเนื้อแกะจึงมีความนุ่มละมุน และเวลาจะทำคุณอลิสเตอร์แนะนำให้ทุบเนื้อซี่โครงให้บางลง เพื่อให้เนื้อสุกเร็วขึ้น ความหนาของเนื้อประมาณ 3 มม. หมักด้วยน้ำมันมะกอก กรีกโยเกิร์ต เกลือ และพริกไทย ทิ้งไว้ 1 ชม. เคล็ดลับสำคัญคือ การวางเนื้อลงกระทะ ให้วางเนื้อออกไปจากตัว จะทำให้น้ำมันไม่กระเด็น และใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที เนื้อจะอยู่ในระดับความสุกปานกลาง จากนั้น นำเนคทารีนลงไปในกระทะ เพื่อดับกลิ่นคาว เสิร์ฟคู่กับชิกพีพูเร่ และมิ้นท์ซอส (Australian Lamb rack Roasted, chick pea puree-black sea salt and mint sauce),เครื่องปรุง :, ,วิธีทำ ,1) ทุบซี่โครงให้บางลงเพื่อให้สุกง่ายขึ้น ความหนาของเนื้อประมาณ 3 มม. หมักด้วยน้ำมันมะกอก กรีกโยเกิร์ต เกลือ และพริกไทย ทิ้งไว้ 1 ชม.,2) ตั้งกระทะให้พอร้อน (อย่าให้ร้อนเกิน) ใส่น้ำมันมะกอกลงไป,3) ค่อยๆวางเนื้อลงกระทะ ทอดให้เนื้อสุกแบบปานกลาง ใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที เมื่อเนื้อใกล้สุก วางเนคทารีนลงไป เพื่อช่วยดับกลิ่นคาว,4) ตกแต่งจานด้วยมิ้นท์ซอส และนำซี่โครงมาจัดวางให้สวยงาม ปิดท้ายด้วยการโรยโรสแมรี่ และนำเนคทารีนมาตกแต่งรอบๆ พร้อมเสิร์ฟ,คุณอลิสเตอร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า อาหารออสเตรเลีย ยังมีอีกหลายเมนูที่ใช้เวลาในการปรุงอาหารไม่นาน แต่ รสชาติอร่อยเหลือเชื่อ สิ่งสำคัญคือ การเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ รวมถึงการเลือกดิปซอส หรือเครื่องปรุงต่างๆ มาประกอบอาหาร สำหรับใครที่คิดเมนูไม่ออก หรือไม่แน่ใจวิธีการใช้ส่วนผสมต่างๆ ที่เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ มีบริการให้คำแนะนำกับลูกค้า โดย Master Butchers ประจำเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ,www.facebook.com/TopsThailand | ในช่วงงานเทศกาล Taste of Australia 2017 ที่ทาง เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จัดขึ้นเมื่อเดือนก่อน ซึ่งรวมอาหารและวัตถุดิบระดับพรีเมียมของประเทศออสเตรเลีย และที่ได้ใจบรรดาบีฟ เลิฟเวอร์สุดๆ | ไลฟ์สไตล์,อาหาร | ตั้งสำรับคาวหวาน,ซี่โครงแกะ,อลิสเตอร์ เทย์เลอร์,วิธีทำเนื้อซี่โครงแกะ,อาหาร | https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/878286 |
ช้างป่าไทรโยค อายุ 30 ปี ล้มกลางป่า เหตุติดเชื้อรุนแรง-ป่วยหัวใจโต | เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 2 พ.ย.58 นายประวัฒน์ พวงทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค หมู่ 7 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับเหตุมีช้างป่าไทรโยคล้มว่า เหตุที่ช้างป่าล้มในพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 31 ต.ค.2558 เจ้าหน้าที่สายตรวจป้องกันและปราบปรามอุทยานแห่งชาติไทรโยค (ส่วนกลาง) ได้ออกเดินลาดตระเวนเชิงคุณภาพในพื้นที่ป่าบ้านแม่น้ำน้อย หมู่ 5 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ ต่อมาเวลาประมาณ 21.00 น. ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่พบช้างป่าเพศเมีย อายุประมาณ 30 ปี มีสภาพผอม ขาหน้าข้างขวาได้รับบาดเจ็บและบวม เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจดูสภาพเบื้องต้นพบว่าช้างมีอาการป่วยมาก โดยต้องใช้ความระมัดระวังมากเพราะช้างอยู่ในสภาพบาดเจ็บ,นายประวัฒน์ กล่าวต่อว่า หลังจากทราบเรื่อง ทางอุทยานฯ ไทรโยคจึงรายงานให้ นายยรรยง เลขาวิจิตร ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) ทราบ ต่อจากนั้น รีบประสานไปยัง อ.ดร.น.สพ.มาโนชญ์ ยินดี ผอ.โรงพยาบาลปศุสัตว์ และสัตว์ป่า ปศุปาลัน คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี เพื่อขอการสนับสนุนสัตวแพทย์ เพื่อร่วมเดินทางมาช่วยเหลือรักษาช้างดังกล่าว ต่อจากนั้น น.สพ.มาโนชญ์ พร้อม น.สพ.วรพงศ์ โกษารักษ์ และคณะสัตวแพทย์ ได้เดินทางมาเฝ้ารักษาช้างดังกล่าว แต่เนื่องจากช้างมีอาการบาดเจ็บสาหัส คณะสัตวแพทย์ได้ระดมการรักษาอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือช้างตัวดังกล่าวได้ จนล้มลงในเวลาประมาณ 10.30 น. ของวันที่ 1 ต.ค.58 ที่ผ่านมา,นายประวัฒน์ เปิดเผยต่อว่า หลังจากช้างตัวดังกล่าวล้ม ทางอุทยานฯไทรโยค จึงต้องปฏิบัติตามระเบียบ โดยแจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมตรวจสอบสาเหตุการที่ช้างป่าล้มในครั้งนี้ ส่วนทางด้านคณะสัตวแพทย์ ก็ได้ผ่าซากเพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิต จึงทำให้ทราบว่าช้างตัวดังกล่าวมีอาการบาดเจ็บ โดยติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง นอกจากนั้นยังมีอาการป่วยเป็นโรคหัวใจโต ประกอบกับในขณะที่ป่วย สุขภาพของช้างค่อนข้างอ่อนแอเนื่องจากอายุมากแล้ว จึงเป็นสาเหตุทำให้ช้างล้มดังกล่าว. | ช้างป่าไทรโยคเพศเมีย อายุ 30 ปี ล้มกลางป่าแม่น้ำน้อย เหตุติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรง - ป่วยหัวใจโต สัตวแพทย์ช่วยสุดความสามารถ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ | ข่าว,ทั่วไทย | ช้างป่า,ไทรโยค,กาญจนบุรี,ช้างแก่,เพศเมีย,อายุ 30 ปี,ติดเชื้อในกระแสเลือด,หัวใจโต,อ่อนแอ,บาดแผล,สัตวแพทย์,ช่วยเหลือ,รักษา,ข่าว,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ช้างล้ม,ช้างตาย,ช้างป่าตาย | https://www.thairath.co.th/news/local/536485 |
นพดล ดวงพร ถึงแก่กรรม อายุ 77 ปี | วันนี้ (4 ก.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเฟซบุ๊ก นพดล ดวงพร เผยแพร่แถลงการณ์โดบระบุว่า นพดล ดวงพร นายณรงค์ พงษ์ภาพ หรือ ผู้ก่อตั้งวงดนตรีลูกทุ่ง พูดอีสาน เพชรพิณทอง ถึงแก่กรรมแล้ว อายุ 77 ปี หลังเข้ารักษาอาการเนื้องอกในสมอง ที่ รพ.ศิริราชฯ โดยมีเนื้อหาดังนี้คุณอรนุช โกศัลวัฒน์ บุตรสาวคุณนพดล ดวงพรเปิดเผยว่า คุณพ่อนพดล ดวงพร (นายณรงค์ พงษ์ภาพ) เข้ารับการผ่าตัด เนื้องอกในสมอง เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ณ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ โดยมีคณะแพทย์ดูแลอาการอย่างใกล้ชิดแต่ด้วยพยาธิสภาพของโรคทำให้อาการทรุดลงตามลำดับ และคุณพ่อนพดล ดวงพรจากพวกเราไปอย่างสงบเมื่อ วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 20:19 น. ณ โรงพยาบาล ศิริราช ปียมหาราชการุณย์ กรุงเทพฯ สิริอายุรวม 77 ปี 6 เดือน 19 วัน การจากไปของคุณพ่อผู้เป็นที่เคารพรักยิ่งนับเป็น การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงศ์ตระกูลนายณรงค์ พงษ์ภาพ หรือ นพดล ดวงพร ผู้ก่อตั้งวงดนตรีลูกทุ่ง พูดอีสาน เพชรพิณทอง เกิดเมื่อวันที่ 15ธันวาคม พ.ศ. 2484ที่ อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานีเป็นบุตรของคุณพ่อเสาร์ และคุณแม่บุญมาก พงษ์ภาพสมรสกับนางคำพันธ์ พงษ์ภาพ มีบุตรธิดา 4 คน คือ นายพิษนุ พงษ์ภาพ นายนภดล พงษ์ภาพ นางอรนุช โกศัลวัฒน์ และนายมงคล พงษ์ภาพ | นพดล ดวงพรผู้ก่อตั้งวงดนตรีลูกทุ่ง พูดอีสาน เพชรพิณทอง ถึงแก่กรรม อายุ 77 ปี หลังเข้ารักษาอาการเนื้องอกในสมอง ที่ รพ.ศิริราชฯ | ศิลปะ-บันเทิง | นพดล,ดวงพร,ลูกทุ่ง,พูดอีสาน,เพชรพิณทอง,เนื้องอก | https://news.thaipbs.or.th/content/281431 |
หนุ่มเดนคุก ขโมยรถไปขับ พบหวิดดับ ขังตัวข้างใน วุ่นช่วย-ทุบกระจก | สาวใหญ่ใจดี ให้หนุ่มพ้นคุกอาศัยในบ้าน เผลอแป๊บเดียวขโมยรถไปขับ ช่วยกันตามจับ พบดับเครื่องขังตัวเองอยู่ภายใน หวิดดับเพราะขาดอากาศหายใจ สุดท้ายต้องทุบกระจกช่วยเหลือ ตำรวจเตรียมนำตัวส่งบำบัดเมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 6 ส.ค.63 ร.ต.อ.รุ่งโรจน์ พรนรินทร์ทิพย์ รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าสายตรวจตู้ยามนาพร้าว รับแจ้งจากประชาชนว่า มีคนขโมยรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส สีแดง ขับออกมาจากบ้าน บริเวณถนนสายปากน้ำโพ-มัสยิดบ่อทอง หมู่ 6 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงรีบนำกำลังเจ้าหน้าที่รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ นางอ้อย พิมพ์ทอง อายุ 51 ปี เจ้าของรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส สีแดง หมายเลขทะเบียน ฌฌ-4838 กทม. ได้พาเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือชายสติไม่ดี ทราบชื่อ นายวิลลี่ อายุประมาณ 40 ปี นั่งเงียบอยู่ภายในรถ ซึ่งจอดดับเครื่องยนต์อยู่ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันเกลี้ยกล่อมนานกว่า 30 นาที จนกระทั่ง นายบิลลี่ มีท่าทีอ่อนแรงและจะหมดสติ เนื่องจากขาดอากาศหายใจ ทางเจ้าของรถจึงตัดสินใจทุบกระจกรถ ก่อนที่จะช่วยกันนำ นายบิลลี่ ออกจากตัวรถด้วยความทุลักทุเล เนื่องจาก นายบิลลี่ ขัดขืนไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่จับตัว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมไปสงบสติอารมณ์ ที่ตู้ยามนาพร้าวด้าน นางอ้อย เจ้าของรถ เปิดเผยว่า นายบิลลี่ เป็นคน จ.พิษณุโลก เพิ่งออกจากเรือนจำได้ 2 เดือน ในข้อหายาเสพติดและเมื่อออกจากเรือนจำมา ตนก็รู้สึกสงสาร จึงได้ให้มาพักอาศัยอยู่ด้วยที่บ้าน ซึ่ง นายบิลลี่ ก็ช่วยงานที่บ้านอยู่ทุกวัน แต่ก็ยังมีอาการหลอนพูดจาคนเดียว โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้วางกุญแจรถเก๋งไว้ที่หน้าบ้านตามปกติ พอ นายบิลลี่ สบโอกาสจึงแอบหยิบกุญแจรถเก๋งไป และแอบขับรถออกไปจากบ้าน จนเพื่อนบ้านมาพบเจอจึงไปบอก ก่อนพากันมาตามหา เมื่อเจอจึงช่วยกันล้อมรถไว้ไม่ให้ขับต่อไปเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมนำตัว นายบิลลี่ ส่งไปบำบัดเพื่อรักษาอาการต่อไป. | สาวใหญ่ใจดี ให้หนุ่มพ้นคุกอาศัยในบ้าน เผลอแป๊บเดียวขโมยรถไปขับ ช่วยกันตามจับ พบดับเครื่องขังตัวเองอยู่ภายใน หวิดดับเพราะขาดอากาศหายใจ สุดท้ายต้องทุบกระจกช่วยเหลือ ตำรวจเตรียมนำตัวส่งบำบัด | ข่าว,ทั่วไทย | ขโมยรถ,หนุ่มขโมยรถ,หนุ่มพ้นคุก,ขโมยรถยนต์,ชลบุรี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1905037 |
ปิดการจราจรทางน้ำ ซ้อมขบวนเรือพระราชพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน 20-21 ต.ค. | วันนี้(20 ต.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมเจ้าท่าเตรียมปิดการจราจรทางน้ำชั่วคราวเพื่อทำการซ้อมพระราชพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานประจำปี 2559 ในวันนี้ ถึงวันที่ 21 ตุลาคม ตั้งแต่เวลา 13.00-15.00 น. โดยจะมีการปิดการจราจรทางน้ำชั่วคราวใน 3 จุดหลัก ประกอบด้วย ช่วงระหว่างสะพานพระปิ่นเกล้า-สะพานพระปกเก้า ช่วงประตูระบายน้ำคลองมอญ-ปากคลองมอญ และคลองบางกอกใหญ่ตั้งแต่ประตูระบายน้ำจนถึงปากคลองบางกอกใหญ่ เพื่อทำการซ้อมรูปขบวนเรือในพระราชพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานประจำปี 2559ขณะที่ท่าเรือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นอีกจุดหนึ่งที่ กองบังคับการตำรวจน้ำ จัดเรือไว้อำนวยความสะดวกประชาชน ที่จะเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยนำเรือมาบริการรับส่งฟรี และดูแลรักษาความปลอดภัย จำนวน 4 ลำ วันละ 6 รอบ ตั้งแต่เวลา 09.30-17.00 น.ทุกวัน จากท่าเรือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ - ท่าเรือศิริราชใหม่ ไปส่งที่ท่าเรือราชนาวิกสภาไปและกลับ โดยเริ่มเที่ยวแรก 9.30-16.00 น. | กรมเจ้าท่าเตรียมปิดการจราจรทางน้ำชั่วคราว 20-21 ต.ค. เวลา 13.00-15.00 น. เพื่อทำการซ้อมรูปขบวนเรือในพระราชพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ขณะที่กองบังคับการตำรวจน้ำจัดเรือรับ-ส่ง ฟรี 4 ลำ วันละ 6 รอบ อำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา | สังคม | จราจรทางน้ำ,กรมเจ้าท่า,เรือฟรี,ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน,ถวายสักการะพระบรมศพ,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/256872 |
เงือกอุ้ม ยันอำลาสระหลังแข่งซีเกมส์ปลายปีนี้ | เงือกอุ้ม ณัฐฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง นักว่ายน้ำเจ้าของ 7 เหรียญทองซีเกมส์ วัย 25 ปีที่ลงรับใช้ชาติมานานกว่า 10 ปี เปิดเผยว่า ในการเเข่งขันซีเกมส์ที่อินโดนีเซียปลายปีนี้อาจเป็นการลงรับใช้ทีมชาติไทยเป็นครั้งสุดท้าย เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่ไหล่ซ้ายรบกวนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการดำเนินชีวิต เเละการทำงานในอนาคตปัจจุบัน เงือกอุ้ม กำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งจะสำเร็จการศึกษาภายในปีนี้ ในเเง่ของการฝึกซ้อมอุ้มต้องหยุดซ้อมไป 1 สัปดาห์ เนื่องจากเข้ารักษาอาการปอดติดเชื้อที่โรงพยาบาล ก่อนจะกลับมาฝึกซ้อมได้ตามปกติในสัปดาห์นี้ เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการเเข่งขันชิงเเชมป์โลกที่จะเปิดฉากขึ้นในเดือนหน้าที่นครเซียงไฮ้และต่อด้วยกีฬามหาวิทยาลัยโลกในเดือนสิงหาคมที่จีนเช่นกัน ตามด้วยรายการฮ่องกง โอเพ่น รายการคัดเลือกไปโอลิมปิกลอนดอนเกมส์ เเล้วเดินทางไปเก็บตัวต่อเนื่องที่เมืองคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ก่อนจะเดินทางไปเเข่งขันซีเกมส์ต่อทันทีในเดือนพฤศจิกายน | เงือกอุ้ม ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง เจ้าของ 7 เหรียญทองซีเกมส์ออกมายืนยันว่าการเเข่งขันซีเกมส์ปลายปีนี้อาจเป็นการลงรับใช้ชาติครั้งสุดท้ายของตนเอง | กีฬา | ซีเกมส์,ณัชฐานันตร์,ว่ายน้ำ,เงือกอุ้ม | https://news.thaipbs.or.th/content/17615 |
วาทกรรมตอบโต้ (counter-narrative) กระแสต่อต้านพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ ลัทธิชังประชาชน (anti-people doctrine) | Roosevelt เจอมรสุมวิกฤติเศรษฐกิจ Great Depression ในช่วงทศวรรษที่ 1930 ไม่เพียง Roosevelt จะทำให้สหรัฐฯ ออกจากวิกฤติไปได้ แต่เขายังขยายอำนาจและบทบาทรัฐบาลกลาง และสร้างระบบรัฐสวัสดิการให้คนอเมริกันเป็นครั้งแรก ผลงานครั้งนี้ทำให้ Roosevelt กลายเป็นหนึ่งในฮีโร่ของคนอเมริกันและเป็นประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่งยาวที่สุดถึง 12 ปีเมื่อพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประสบกับสภาวะวิกฤติไวรัส COVID 19 พลเอก ประยุทธ์ มีโอกาสมากมายที่ทำตัวเองให้กลายเป็นฮีโร่ แต่ที่ผ่านมาเรากลับไม่เห็นบทบบาทเช่นนั้น แม้แต่แก้ไขปัญหาการกักตุนหน้ากากและส่งออกหน้ากากอนามัยก็ยังล้มเหลว จนทำให้ประชาชนออกมาก่นด่า แสดงความไม่พอใจเป็นกระแสทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ มีการออกมาชุมนุมเรียกร้องของนักศึกษาประชาชนจำนวนมากให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งหรือยุบสภา จากนายกฯ ที่เป็นขวัญใจคนกรุงชนชั้นกลางเมื่อ 5 ปีที่แล้วตอนนี้พลเอก ประยุทธ์กลายเป็นซีโร่ในสายตาคนส่วนใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อรัฐบาลยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้ กองเชียร์พลเอก ประยุทธ์ที่เคยพยายามปกป้องด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานาต่างก็เริ่มส่ายหน้า เราก็เริ่มเห็นการสร้าง วาทกรรมตอบโต้ (counter-narrative) หรือ วาทกรรมทางเลือก (alternative narrative) จากแกนนำกองเชียร์ลุงที่เบี่ยงเบนเป้าโจมตีไปที่อื่นแทน ในทางการเมืองการสร้างวาทกรรมตอบโต้นี้เป็นยุทธศาสตร์ที่ใช้ในการเบี่ยงเบนประเด็นในทางการเมือง โดยเฉพาะในช่วงที่นักการเมืองเพลี่ยงพล้ำ เจอมรสุมทางการเมือง และไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ นักการเมืองหรือนักเคลื่อนไหวทางการเมืองจะหาวาทกรรม คำอธิบาย หรือประเด็นอื่นมากลบประเด็นที่กำลังอื้อฉาวนี้ หรือบางครั้งอาจจะมีการหาแพะมาโยนความผิดให้เพื่อรับบาปแทนผู้ที่กำลังถูกโจมตีอยู่ก็ได้วาทกรรมตอบโต้ที่ใช้ในการช่วยพลเอก ประยุทธ์ นี้น่าจะสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ซึ่งมีเป้าหมายเดียวกันนั่นคือ ต้องการจะเบี่ยงเบน (deflect) ความรับผิดชอบ จากที่ควรจะเป็นนายกฯ ที่ต้องรับผิดชอบปัญหาจากการบริหารที่ล้มเหลวกลับกลายเป็นการไปโทษคนอื่นแทนตัวอย่างแรก คือ เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการกลุ่มสถาบันทิศทางไทย ที่เรียกร้องให้พลเอก ประยุทธ์เอาคนโง่และคนชั่วออกไป เสรีเขียนใน Facebook ว่า บอกตรง ๆ ว่าตอนนี้หมดแรงสนับสนุนรัฐบาล ดูแล้วเห็นว่ารัฐมนตรีบางคนมีวาระซ่อนเร้นมุ่งเน้นประโยชน์ส่วนตน ไม่ว่าทรัพย์หรือคะแนนเสียง และบางคนก็โง่ ทำงานไม่เป็น ทำหน้าที่ไม่ตรงความสามารถ ก็จะเอาตำแหน่ง วัฒนธรรมการเมืองแบบนี้ ประเทศไทยคงไปไม่ถึงไหนแน่นอน จะเห็นว่าเสรี ไม่ได้ตั้งคำถามกับระบบโครงสร้างหรือตัวนายกฯ แต่ชี้ว่าปัญหาอยู่ที่ตัวรัฐมนตรีที่ร่วมรัฐบาล โดยเสรีไม่อธิบายว่าถึงที่สุดแล้วนายกฯ เองที่เป็นคนแต่งตั้งรัฐมนตรี นอกจากนี้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่านมาก็ทำให้เกิดกระแสแรงกดดันให้พลเอก ประยุทธ์ปรับคณะรัฐมนตรี แต่สุดท้ายพลเอก ประยุทธ์เองก็เลือกที่จะไม่ทำอะไรในเรื่องนี้อีกวาทกรรมตอบโต้หนึ่งที่มุ่งเป้าไปที่นักการเมืองที่ผู้เขียนคิดว่าน่าสนใจมาจากหฤทัย ม่วงบุญศรี (อุ๊ หฤทัย) นักร้องที่หันมาเคลื่อนไหวทางการเมือง และเป็นแฟนพันธุ์แท้ของพลเอก ประยุทธ์มาโดยตลอด หฤทัยได้เขียนใน Facebook ว่า กูจะเหนื่อยได้อย่างไร กูไม่ใช่นายกรัฐมนตรี ต้องโทษคนไทยที่เลือกเอง เลือกตั้งแต่ละครั้งมึงเอาเหี้ยมาทั้งนั้น อีห่า และต่อมาได้เขียนใน Facebook เพิ่มเติมว่า ประเทศไทยไม่ควรมีการเลือกตั้ง ครั้งหน้าพวกมึงไม่ต้องดัดจริต อยากเลือกตั้งกันเลยนะ กูขอ และ นายกฯที่มาจากการแต่งตั้ง คณะรัฐมนตรีที่มาจากการแต่งตั้งมักจะดีกว่าพวกที่มาจากการเลือกตั้ง ลองสังเกตดูดิ แม้หฤทัยจะไม่ได้ปกป้องพลเอก ประยุทธ์โดยตรงใน 3 ข้อความนี้ แต่เนื่องจาก หฤทัย สนับสนุนนายกฯ ที่มาจากการแต่งตั้ง ดังนั้น จึงน่าจะอนุมานได้ว่า หฤทัย ก็น่าจะยังสนับสนุนพลเอก ประยุทธ์ เพราะพลเอก ประยุทธ์เคยเป็นนายกที่มาจากการแต่งตั้ง (รัฐประหาร) มาก่อน และทั้ง 3 ข้อความนี้พยามจะบอกว่ามีปัญหาอยู่จริง และรัฐบาลก็มีปัญหาจริง แต่ต้นตอปัญหาที่แท้จริงกลับไม่ใช่ตัวคณะรัฐมนตรี แต่เป็นตัวประชาชนต่างหากที่ไม่มีปัญญาเลือกคนดีมีความสามารถมาเป็นผู้นำเอง ดังนั้น ระบบการเมืองแบบประชาธิปไตยที่ให้ผู้นำมาจากการเลือกตั้งจึงไม่เหมาะสมกับสังคมไทยที่ประชาชนด้อยคุณภาพ หฤทัยจึงเสนอว่านายกฯ ควรมาจากการแต่งตั้งเท่านั้นตัวอย่างที่ชัดเจน คือ ศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ ที่เขียนใน Facebook ว่า ประชาชนโง่เราจะตายกันหมด ซึ่งเป็นการเล่นคำกับวลีที่ก่อนนี้ถูกเอามาโจมตีพลเอก ประยุทธ์ว่า ผู้นำโง่เราจะตายกันหมด ที่ถูกใช้เป็น hashtag ในสื่อสังคมใหม่อย่างแพร่หลายในช่วงหลัง แม้ศาสตราจะอ้างว่าเขาไม่ได้เขียนโพสต์นี้เองแต่ไปคัดลอกของคนอื่นมาอีกที แต่มันก็น่าจะสะท้อนความคิดของเขาพอสมควรเพราะ ใครอ่านดูก็น่าจะรู้ว่าโพสต์นี้มีเนื้อหาที่ ล่อเป้า อย่างชัดเจน ถ้าเขาไม่คิดหรือไม่เชื่อตามนี้คงไม่กล้าคัดลอกมาโพสต์ใน Facebook ของตัวเองเช่นนี้ เนื้อหาในโพสต์นี้ระบุว่าปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ COVID 19 ในเมืองไทยจริง ๆ แล้วเกิด ความโง่ของประชาชนล้วน ๆ เพราะ ประชาชนมีข้อมูลที่ไม่มากพอแต่กลับทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูม คิดเอาเองว่ารัฐบาลมีความบกพร่องโดยไม่มองที่ตัวเอง เอาแต่โทษรัฐบาลฝ่ายเดียว สรุปแล้ว ประชาชนคนไทยนั้นโง่ ไม่มีคุณภาพ มิหนำซ้ำยังมาโทษแต่ผู้นำแม้ว่าสุดท้าย สส. ผู้นี้จะออกมาขอโทษแล้วว่าเสียใจกับการโพสต์กระทู้นี้ แต่คำขอโทษอาจจะไม่สะท้อนว่าเขาเห็นแย้งกับเนื้อหาโพสต์นี้ แต่เหตุผลที่แท้จริงน่าจะเป็นเพราะมี ทัวร์ลง หรือคนจำนวนมากเข้ามาต่อว่าที่ตัว ศาสตรา พรรคพลังประชารัฐ และรัฐบาล ในโพสต์นี้มากถึง 76000 กว่าข้อความ (comments) และแชร์ไปประจานว่าอีกกว่า 64000 ครั้ง ซึ่งถือว่ามากทีเดียวมุมมองของหฤทัยและศาสตราแม้จะมีความแตกต่างในบางมิติ แต่ก็สะท้อนภาพลบที่มีต่อประชาชน ศาสตราไม่ได้แสดงจุดยืนต่อต้านรัฐบาลหรือกลุ่มรัฐมนตรีอาจเป็นเพราะ ตัวเองก็เป็น สส. ฝ่ายรัฐบาลด้วย นอกจากนั้น ศาสตราก็ไม่ได้โจมตีระบอบประชาธิปไตยหรือการเลือกตั้ง เพราะตัวเองก็มาจากการเลือกตั้ง แต่มันก็ย้อนแย้ง (irony) ตรงที่ตัวเองเป็น สส. ที่มาจากประชาชนแต่กลับชี้หน้าว่าประชาชนว่าโง่ อย่างไรก็ตาม วาทกรรมตอบโต้ทั้ง 2 กลุ่มมีมุมมองที่ตรงกันว่าประชาชนคนไทยนั้นโง่ ไม่มีคุณภาพ ไม่มีข้อมูล และไม่มีเหตุผลเพียงพอไม่น่าแปลกใจเลยที่ทัศนคติของทั้งหฤทัยและศาสตรานั้นสอดคล้องกับมุมมองของแกนนำและนักวิชาการ กปปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) ที่เคยแสดงในพื้นที่สาธารณะก่อนที่จะเกิดการรัฐประหารปี 2557 ตัวอย่างเช่น เสรี วงศ์มณฑา นักวิชาการฝ่าย กปปส. เคยปราศรัยว่าคนสามแสนคนที่มีคุณภาพดีกว่าคน 15 ล้านคนที่ไม่มีคุณภาพ (คนที่เลือกพรรคเพื่อไทย) หรือพูดอีกอย่างคือ ความคิดของคนส่วนน้อยที่มีคุณภาพย่อมมีน้ำหนักมากกว่าความคิดของคนส่วนใหญ่ที่ไร้คุณภาพ จรัสพงษ์ สุรัสวดี หรือ ซูโม่ตู้ ที่มีบทบาทในการต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็เคยเสนอว่าคนที่มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีไม่ควรมีสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง สมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ อดีตอธิการบดี NIDA และที่ปรึกษากลุ่ม กปปส. ก็เคยกล่าวว่าหลักการ 1 คน 1 เสียงไม่เหมาะที่จะใช้กับสังคมไทย นอกจากนี้ จิตภัสร์ กฤดากร (ภิรมย์ภักดี) แกนนำและโฆษกกลุ่ม กปปส. ก็เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวต่างประเทศว่า คนไทยขาดความเข้าใจประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยเฉพาะในชนบท ตัวอย่างที่ยกมานี้เป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น แต่เราจะเห็นว่าการแสดงทัศนคติที่เป็นลบกับประชาชนคนส่วนใหญ่ในประเทศของแกนนำและกลุ่มผู้สนับสนุน กปปส. ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติแต่อย่างใดถ้าจะยืมคำของนักการเมืองอนุรักษ์นิยมอย่าง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ ที่เรียกคนที่เห็นแย้งกับตัวเองว่า พวกชังชาติ หรือเรียกแนวคิดของคนกลุ่มนี้ว่า ลัทธิชังชาติ (anti-patriotism) เราอาจจะเรียกคนกลุ่มที่เชียร์รัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ว่าเป็นกลุ่ม ชังประชาชน หรือ แนวคิดคนกลุ่มนี้ก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็น ลัทธิชังประชาชน (anti-people doctrine) ซึ่งหมายถึงแนวคิดที่เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้เป็นคนที่โง่ ไม่มีคุณภาพ ไม่มีความรู้ หรือไม่มีเหตุผลมากพอที่จะตัดสินใจทางการเมืองได้อย่างถูกต้อง ดังนั้น คนกลุ่มนี้จึงไม่สนับสนุนการปกครองแบบประชาธิปไตยที่เปิดโอกาสให้คนส่วนใหญ่ในประเทศเป็นผู้เลือกผู้นำ เราอาจจะเรียกแนวคิดนี้อีกอย่างว่าเป็น ลัทธิชังคนส่วนใหญ่ (anti-majority doctrine) แน่นอนว่าคนกลุ่มนี้ไม่ได้ชังประชาชนทุกคน แต่คนที่เห็นด้วยกับพวกเขาซึ่งเป็นคนส่วนน้อยก็จะเป็นข้อยกเว้นนอกจากนี้ อีกสาเหตุที่คนกลุ่มนี้ต้องชังประชาชนคนส่วนใหญ่ เพราะที่ผ่านมาหลายปีได้พิสูจน์ให้เห็นว่าผลประโยชน์ของประชาชนคนส่วนใหญ่มักจะสวนทางกับผลประโยชน์ของคนกลุ่มนี้ ในช่วง 15 ปีนี้เราจึงเห็นความพยายามที่ลดทอนอำนาจของเสียงคนส่วนใหญ่หลายต่อหลายครั้ง ด้วยเหตุผลนี้ เราจึงได้เข้าใจว่าทำไมพรรคประชาธิปัตย์ที่คนกลุ่มนี้สนับสนุนไม่เคยชนะการเลือกตั้งมาเกือบ 30 ปี (ครั้งสุดท้ายที่ชนะคือ การเลือกตั้งปี 2535) ทำไมจึงต้องมีการรัฐประหารถึง 2 ครั้งในรอบ 10 ปี ทำไมมีการยุบพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งหรือได้รับความนิยม อย่างพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และพรรคอนาคตใหม่ ทำไมจึงมีความพยายามขัดขวางการเลือกตั้งโดยวิธีต่าง ๆ และทำไมจึงมีรัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2560 ที่ร่างโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงเขียนให้พรรคพลังประชารัฐอยู่ในสถานะที่ได้เปรียบ เขียนให้วุฒิสภามาจากการแต่งตั้ง และเพิ่มอำนาจให้กับองค์กรอิสระและสถาบันตุลาการ ทั้งหมดนี้เพียงเพื่อจะทำให้ประชาชนคนส่วนใหญ่ในประเทศมีสิทธิและอำนาจทางการเมืองให้น้อยที่สุด | สภาวะวิกฤติอาจทำให้ผู้นำกลายเป็น ฮีโร่ หรือ ซีโร่ ขึ้นอยู่ว่าผู้นำจะทำวิกฤติให้เป็นโอกาส หรือทำโอกาสให้เป็นวิกฤติ เมื่อประธานาธิบดี Franklin D. | การเมือง,สังคม | ณรุจน์ วศินปิยมงคล,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,หฤทัย ม่วงบุญศรี,COVID 19,วาทกรรม,เสรี วงษ์มณฑา,ชังชาติ,วรงค์ เดชกิจวิกรม,ศาสตรา ศรีปาน | https://prachatai.com/journal/2020/03/86826 |
วิเคราะห์สถานการณ์ท้าทาย และย่างก้าวต่อไป ของภาคประชาสังคม | กองทุนไทย จัดเวทีสัมมนาวิเคราะห์สถานการณ์ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของภาคประชาสังคม 4 วิทยากรชี้ ต้องรวมต้วกัน ไม่เข้ากับขั้วทางการเมือง พร้อมต้องหันกลับมาวิจารณ์ระบบอุปถัมภ์ในองค์กรตัวเองเมื่อวันที่ 8 – 10 ม.ค. 2558 มูลนิธิกองทุนไทย ได้จัดโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งภาคประชาสังคม เพื่อสร้างสรรค์ระบบสังคมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะ ที่สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี โดยมีจุดประสงค์เพื่อเปิดเวทีให้เครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคมทั้งเชิงประเด็น และเชิงพื้นที่ ได้ร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์ที่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน และหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยภายในโครงการนี้ได้มีการจัดเวทีสัมมนาในหัวข้อ วิเคราะห์สถานการณ์ภายใต้บริบทการเมืองในปัจจุบัน และการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งมีวิทยากรประกอบด้วย สมชาย หอมลออ กรรมการปฏิรูปกฏหมาย ผศ.ดร. นฤมล ทับจุมพล อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จอน อึ๊งภากรณ์ นักพัฒนาเอกชนอาวุโส และจะเด็ด เชาว์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลประชาไท ถอดความ และเรียบเรียงมานำเสนอผมคิดว่าทุกคนในที่นี้ก็คงอยากจะรู้ว่า ในอีกสิบปีข้างหน้า อนาคตบ้านเมือง สถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ผมเองคิดไปก็ไม่ค่อยมีความสุขมากนัก เพราะเห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่รู้พวกเรารู้สึอย่างนั้นด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตามผมมีอยู่ 3 ประเด็นที่อยากเสนอเป็นกรอบสำหรับพูดคุยกันต่อประเด็นแรกคือ ลักษณะของสถานการณ์เป็นอย่างไร ประเด็นที่สองคือ จะมีเหตุปัจจัยอะไรบ้างที่จะมาเป็นตัวกำหนดสถานการณ์ ทั้งเหตุปัจจัยทั้งภายนอกและภายใน และประเด็นสุดท้ายคือ ภาคประชาสังคมจะรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้อย่างไรสถานการณ์บ้านเมืองของเราเป็นอย่างไร ก็คงตอบได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่กำลังต้องการความสงบ ความสามัคคี ความมั่นคง ซึ่งสถานการณ์อย่างนี้จะเกิดขึ้นเสมอหลังจากมีการยึดอำนาจ รัฐประหาร หรือแม้แต่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็มักจะพูดถึงคำนี้ แต่ว่าสถานการณ์ช่วงนี้เราอยู่ในประเทศที่ไม่มีรัฐธรรมนูญ ทั้งยังมีการประกาศใช้กฏอัยการศึกทั่วประเทศ สิทธิเสรีภาพทางการเมืองทุกระงับ การออกมาเรียกร้องในประเด็นต่างๆ ถูกควบคุมด้วยอำนาจกฏอัยการศึก การมีส่วนร่วมทางการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับชาติหยุดชะงักสรุปได้ว่าสถานการณ์ปัจจุบัน ประเทศเราตกอยู่ภายใต้การยึดกุมของกลุ่มอำนาจเก่า หรือกลุ่มอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอำนาจมาอย่างยาวนาน เพราะเรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น กลุ่มนี้ได้กลับมาควบคุมอำนาจทางการเมืองอีกครั้ง ในขณะที่กลุ่มอำนาจเก่าที่มาจากนอกประเทศก็คงยังเป็นกลุ่มเดิมซึ่งยังมีอิทธิพลอยู่ในประเทศไทยในตอนนี้คือ สหรัฐอเมริกา ยุโรป และประเทศญี่ปุ่น เห็นได้ชัดว่าไทยตกอยู่ภายใต้อิทธิพลทางเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ พวกนี้เป็นกลุ่มเก่าที่ยังครองอำนาจอยู่ในปัจจุบันถ้าจะมองว่าสถานการณ์ของประเทศไทยในอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็ต้องมองไปที่เหตุปัจจัยขั้นพื้นฐาน สังคมไทยมีเหตุปัจจัยพื้นที่ค่อนข้างอมโรค กึ่งสุขกึ่งดืบคือ เป็นสังคมสมัยใหม่ มีเทคโนโลยีมาก สภาพสังคมในชนบทเปลี่ยนแปลงไปมาก เป็นสังคมที่การค้าและธุรกิจสมัยใหม่ มีแรงงานข้ามชาติจำนาวนมาก แต่วิธีคิดของคนไทย และสายใยสายสัมพันธ์ของคนในสังคมยังเป็นแบบเดิม เรายังอยู่ภายใต้โครงครอบทางวัฒนธรรมของระบบอุปถัมภ์ ซึ่งมีรากฐานมาจากความคิดของระบบศักดินา ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนของสังคมไทย ขณะเดียวกันประเทศเราเป็นประเทศที่มีช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนที่กว้างมาก ซึ่งเรื่องนี้คนไทยหลายคนยังไม่เข้าว่าสังคมเราเป็นโรคอะไรอยู่ในทางการเมืองเราเป็นประเทศที่มีระบอบประชาธิปไตยแบบครึ่งๆ กลางๆ โดยรวมแล้วเป็นสังคมที่กำลังเจ็บป่วย แต่เราก็ยังมีภูมิต้านทานอยู่บ้าง แม้เราจะทะเลาะกันมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ได้มีการออกมาฆ่ากันอย่างมหาศาลกลางบ้านเมือง ภูมิต้านทานที่ว่าคือ สันติวัฒนธรรม ซึ่งทำให้เราไม่ออกมากระทำความรุนแรงต่อกันอย่างมหาศาล แต่ปัญหาสำคัญคือ ภายใต้ภาวะอมโรคแบบนี้ สันติวัฒนธรรมของประเทศเราจะอยู่ได้อีกมากน้อยเพียงใดขณะที่ด้านปัจจัยภายนอกนั้น เราตกอยู่ภายใต้การครอบงำของสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน จะเห็นได้ว่าประเทศที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยจะมีแต่กลุ่มประเทศเหล่านี้ แต่ขณะนี้ประเทศจีนกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้ว่าเป็นมหาอำนาจอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งกำลังแข่งขันกับสหรัฐอเมริกา และพยายามขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจออกไป โดยการแผ่อิทธิพลเข้ามาในประเทศอาเซียน ซึ่งประเทศไทยถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุด และประเทศไทยมีนโยบายที่เป็นมิตรกับประเทศจีน ต่างกับหลายประเทศในภูมิภาคที่เป็นไม้เบื่อ ไม้เมากับจีนมานานหลายปี ฉะนั้นการแผ่ขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจของประเทศจีนจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยแน่นอน อาจจะเกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างสองค่าย ระหว่างสหรัฐอเมริกา กับ จีน ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะดุเดือดเหมือนตอนสงครามเย็นหรือไม่ จะเป็นเพียงการช่วงชิงกันทางเศรษฐกิจเท่านั้น หรือเป็นการช่วงชิงกันทางการเมืองด้วย ประเด็นนี้เราไม่อาจละเลย เพราะสิ่งที่พวกเรากำลังขับเคลื่อนกันอยู่ทั้งเรื่อง ทรัพยากรธรรมชาติ ที่ดินที่ทำกิน ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ความขัดแย้งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ สิ่งเหล่านี้ย่อมได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างสองขั้วอำนาจที่อาจจะเกิดขึ้นนี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งย้อนกลับมาที่ปัจจัยภายใน ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก เป็นช่วงที่ทุกสถาบันในสังคมไทยที่ดำรงอยู่ และมีบทบาทในสังคมกำลังถูกสั่นคลอน ประชาชนกำลังขาดความเชื่อมั่น และถึงขั้นออกมาวิพากษ์ วิจารณ์อย่างมาก สถาบันศาสนา สถาบันยุติธรรม สถาบันทหาร สถาบันราชการ สถาบันพรรคการเมือง หรือแม้แต่สถาบันสูงสุด พูดกันด้วยความจริงไม่มีสถาบันไหนเลยที่ไม่ถูกวิพากษ์ วิจารณ์ ซึ่งการวิพากษ์ วิจารณ์นั้นบางคนอย่างจะเห็นว่าเป็นการพูดโดยหวังผลทางการเมือง แต่จริงๆ แล้วยังปัจจัยอื่นคือ ประชาชนเองเริ่มขาดความเชื่อมั่น ศรัทธา เริ่มตั้งข้อสงสัย สังคมที่เกิดภาวะแบบนี้เป็นสังคมที่ไม่มั่นคง เป็นสังคมที่กำลังเปลี่ยนผ่าน แต่ปัญหาคือจะเปลี่ยนผ่านกันอย่างไร จะมีความรุนแรงหรือไม่ สันติวัฒนธรรมจะเอาอยู่หรือไม่ เป็นเรื่องที่เราต้องจับตาดูประเด็นต่อมาคือ ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มอำนาจเก่า กับกลุ่มอำนาจใหม่ที่ขอแบ่งปันอำนาจบ้าง ซึ่งไม่ใช่เพียงความขัดแย้งระหว่าง เพื่อไทยกับกลุ่มอำนาจเก่าเท่านั้น แต่พรรคประขาธิปัตย์ แม้มีแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยมก็ตาม ก็จัดว่าอยู่ในกลุ่มอำนาจใหม่ ฉะนั้นเห็นได้จากการที่พรรคประชาธิปัตย์สงวนท่าทีไม่เข้าไปร่วมกับการปฏิรูปครั้งนี้ กับคสช.โดยตรงขณะที่ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มประชาชนกับกลุ่มชนชั้นนำ แม้ว่าตอนนี้ประชาชนจะแตกแยกออกไปอยู่คนละฝั่ง แต่ว่าโดยภาครวมแล้วประชาชนไม่ว่าจะกลุ่ม โดยโครงสร้างของอำนาจก็แล้วแต่เป็นที่มีผลประโยชน์ที่แตกต่าง และขัดแย้งกับชนชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชนชั้นนำเก่า หรือกลุ่มชนชั้นใหม่ทั้งสิ้น ขณะเดียวกันการเมืองแบ่งขั้วในลักษณะนี้ก็ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของภาคประชาชนสังคมอย่างมาก ยิ่งทำให้เราอ่อนแอคือ หาทางตัวเองไม่เจอ รู้เพียงแค่ต้องการที่ดินทำกิน อยากให้ราคาผลผลิตทางการเกษตรราคาสูง ไม่อยากให้เจ้าหน้าที่มาเอาเปรียบ แต่กลับมองไม่เห็นการเคลื่อนไหวในระยะยาว เรากำลังมีความสับสน อ่อนแอที่สุดอย่างไม่เคยมีมาก่อน10 ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ตอบยาก แต่คิดว่า กลุ่มอำนาจเก่าจะกระชับอำนาจมากยิ่งขึ้น โดยการปฏิรูปที่กำลังทำกันอยู่นี้เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มอำนาจเก่า ลดพื้นที่จำกัดบทบาทของกลุ่มอำนาจใหม่คือ จะจำกัดบทบาทของนักการเมือง พรรคการเมือง แต่กลับเพิ่มบทบาทของกองทัพ และศาล ประเด็นคือจะจำกัดได้จริงหรือ ปัจจุบันกลุ่มอำนาจเก่าได้รับการสนับสนุนจากชนชั้นกลางในเมือง การแย่งชิงทรัพยากรระหว่างประชาชนจะวุ่นวายมากขึ้น แต่การกระชับอำนาจจะไม่ยั้งยืน เพราะประชาชนเริ่มตื่นรู้และมีเทคโนโลยีที่จะสื่อสารกันมากขึ้น และจะทำให้กลุ่มอำนาจใหม่กลับมามีอิทธิพลกับประชาชนมากยิ่งขึ้น และชนชั้นกลางบางกลุ่มที่เคยสนับสนุนกลุ่มอำนาจเก่าก็จะหันกลับมาสนับสนุนกลุ่มอำนาจใหม่ และถ้าเป็นอย่างนั้นต้องดูว่าประเทศมหาอำนาจจะถือหางใคร เชื่อว่าภูมิต้านทานอาจจะต้านไม่อยู่ อาจจะเกิดภาวะความขัดแย้งที่รุนแรงอย่างยาวนานและต่อเนื่องสิ่งที่เสนออาจจะดูเป็นภาพลบมาก แต่คิดว่าสิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ อยากให้พวกเรารู้และเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ไม่มั่นคงอย่างนี้ไว้ด้วยผมพยายามคิดอยู่ว่ามีจุดไหนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณสมชายบ้าง แต่โดยภาพรวมแล้วเห็นด้วยหลายจุด แต่ก็นับได้ไม่มาก สิ่งที่ไม่เห็นด้วยคือ ระดับความเข้มข้นบางประการ เช่น เรื่องพื้นฐานวัฒนธรรมคนไทยเป็นคนรักสงบ ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่เพราะคนไทยใช้ความรุนแรงมาตลอด การเมืองไทยมีความรุนแรงมาตลอด มีการกำจัดศัตรูทางการเมืองด้วยความรุนแรง รวมทั้งอิทธิพลของมหาอำนาจในปัจจุบันไม่ได้มีอำนาจมากขนาดนั้น ผมคิดว่าน้อยลงไปจากสมัยก่อนเยอะ แต่คิดว่าจีนมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆทีนี้มาที่สถานการณ์ในปัจจุบัน ผมเห็นว่าประชาธิปไตยในประเทศไทยล้มลุกคลุกคลานตลอด นั้นเป็นเหตุที่เรามีรัฐธรรมนูญหลายฉบับ มีการทำรัฐประหารหลายครั้ง ประวัติศาสตร์ของไทยมีความพยายามที่จะเป็นประชาธิปไตย แต่ก็ต้องดิ่งลงไป เพราะมีการทำรัฐประหารตลอดทุกยุค ถ้าดูในต่างประเทศซึ่งอยู่ภูมิภาคเดียวกับเรา ไม่มีประเทศใดที่เป็นประชาธิปไตยมาโดยกำเนิด ต่างก็มีการพัฒนาประชาธิปไตยมาตลอดเหมือนกันกับประเทศไทย แต่อินโดนีเซีย กลับมีการพัฒนาที่รุดหน้าประเทศไทยไปมาก คำถามที่น่าสนใจคืออะไรเป็นตัวถ่วงไม่ให้ประชาธิปไตยพัฒนาไปถึงจุดสูงสุดเสียที ผมคิดว่าเป็นเพราะกลุ่มอำนาจเก่า ที่พยายามจะฉุดดึงประชาธิปไตยเอาไว้ ก็ดังที่เรารู้กันดีว่า ทหารเข้ามามีบทบาทตรงนี้ แต่ว่าไม่ใช่เพียงแต่กองทัพเพียงสถาบันเดียวหลังจาก การรัฐหารครั้งที่แล้ว 49 ผมไม่คิดว่าจะมีรัฐประหารครั้งนี้อีก ไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้อีก เพราะถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้วที่ผมยังทำงานอยู่ ตอนนั้นชาวบ้านยังไม่ได้พัฒนามาถึงทุกวันนี้ ไม่ได้มีส่วนร่วมทางการเมืองมากนัก แต่ถึงตอนนี้สังคมไทยไม่เหมือนเมื่อ 30 ปีก่อนแล้ว สมัยแรกๆมีคนออกมาพูดว่าปัญหาของชาวบ้านคือ โง่ เจ็บ จน แต่ตอนนี้ประชาชนเริ่มที่จะรู้จักที่จะสู้กับอำนาจที่เข้ามากระทำกับตนอย่างไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ช่องทางที่เป็นทางการ เช่น ผ่านทางรัฐสภาเพื่อเรียกร้องประเด็นที่ตนต้องการ หรือออกมาเคลื่อนไหว ชาวบ้านสามารถที่จะเข้าถึงข้อมูลข่าววสาร เข้าถึงอินเตอร์เน็ต ฉะนั้นหากภาครัฐต้องการยึดที่ดิน หรือนายทุนจะเข้ามาทำเหมืองที่จะทำลายชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา เขารู้จักสู้กับรัฐ และทุนแล้วแต่ภายใต้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ก่อนหน้านี้ ก็ยังเกิดการทำรัฐประหารจนได้ ผมคิดว่าเกิดจากความขัดแย้งระหว่างสองกลุ่มอำนาจ เมื่อวิเคราะห์ลงไป กลุ่มอำนาจทั้งสองไม่ได้แตกต่างกันในแง่อุดมการณ์มากนัก ถ้าจะแตกต่างกันก็เพียงแค่องค์ประกอบของกลุ่มอำนาจ ฉะนั้นนี่ไม่ได้เป็นความขัดแย้งทางอุดมการณ์ แต่เป็นการขัดแย้งทางอำนาจ และผลประโยชน์ แต่ปัญหาคือ เขาดึงประชานเขาในเกมส์ช่วงชิงอำนาจด้วย และสร้างอุดมการณ์ขึ้นมาเพื่อดึงฐานมวลชน ซึ่งจริงๆ แล้วอุดมการณ์ของชนชั้นนำทั้งสองกลุ่มไม่ได้แตกต่างกันเลย ขณะที่ภาพสังคมที่ประชาขนที่อยู่คนละฝั่งกันสองต้องการจะเห็นก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย แต่เรากลับแยกกันออกเป็นสองฝ่าย เหตุที่เป็นอย่างนั้นเพราะ มีกลไกที่สร้างความแตกแยกระหว่างประชาชน เช่นมีสื่อมวลชน ที่พยายามสร้างมายาคติ ที่ทำให้เห็นโลกเป็นสี ขาว-ดำ คือมีฝ่ายที่ดี และฝ่ายที่เลว แต่ว่าในความเป็นจริงมันไม่ได้มีใครดีทั้งหมดเลวทั้งหมด แต่สื่อพยายามโฆษณาชวนเชื่อเพื่อผลประโยนช์ทางการเมืองของชนชั้นนำนี่เป็นความขัดแย้งของกลุ่มอำนาจที่อยู่ข้างบน คำถามคือเรา ซึ่งเป็นชาวบ้าน เป็นประชาชนทั่วไปจะจัดวางตัวเองอย่างไร ผมคิดว่าเราควรหลีกเลี่ยงที่จะถูกดึงเข้าไปต่อสู้กันเอง หรือถูกดึงเข้าอยู่ในความขัดแย้ง และควรหลีกเลี่ยงที่จะมองชาวบ้านที่อยู่อีกฝ่ายเป็นศัตรู ทั้งสองกลุ่มอำนาจเก่งที่จะดึงเราเขาไปอยู่คนละฝ่าย แต่ผลประโยชน์ที่ภาคประชาชนจะได้จริงๆ เราต้องร่วมกันเพื่อต่อสู้กับความเหลื่อมล้ำ สู้กับความอยุติธรรมในสังคมมากกว่าขณะที่สถานการณ์ปัจจุบัน เราอยู่ในสถานการณ์ของกฏอัยการศึก สิทธิเสรีภาพที่เราเคยมีถูกลิดลอนไปหมด เราอยู่กับการห้ามชุมนุม ห้ามวิพากษ์ วิจารณ์ กระทั่งห้ามจัดงานสัมนาต่างๆ ไปจนถึงห้ามการเลือกท้องถิ่น สิ่งเหล่านี้หมายความว่าอย่างไร ทั้งหมดที่ทำนี้ ทำอยู่ภายใต้กฏอัยการศึก ไม่ว่าทหารเขาจะทำอะไร เราไม่สามารถฟ้องร้องความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นได้ และมากไปกว่านั้นเรามีสนช. ซึ่งมีทหารอยู่ครึ่งหนึ่ง ที่เหลือก็เป็นข้าราชการ และนักธุรกิจอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งกำลังจะออกกฏหมายที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตเรา โดยที่เราไม่มีส่วนที่จะเข้าไปแสดงความคิดเห็น เช่น กฏหมายการชุมนุมในที่สาธารณะ ต่อจากนี้เราต้องไปขออนุญาติก่อน หรือกฏหมายอีกหลายฉบับที่กำลังมีการผลักดันกันอยู่ ซึ่งอาจจะกระทบกับชีวิตของเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่งสิ่งที่เราเผชิญตอนนี้เป็นสถานการณ์ที่ภาคประชาชนมีข้อจำกัดเยอะมากในการต่อสู้ แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเราไม่สามารถทำอะไรได้เลย เราก็ต้องต่อสู้เท่าที่เราจะทำได้ และต้องประเมินสถานการณ์ดูว่า ประเด็นที่เราต้องสู้อยู่ จะมีการพลิกแพลงวิธีการต่อสู้อย่างไร การที่จะต้องสู้ได้ง่ายขึ้นต้องมีการยกเลิกกฏอัยการศึก รัฐธรรมนูญก็ต้องให้มีโดยเร็ว แต่ก็ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในสภาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งตอนนี้ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ระยะยาวเราจะต่อสู้อย่างไร ผมคิดว่าถ้าเราดูจากประวัติศาสตร์ของประเทศที่มีประชาธิปไตยที่ยั่งยืนนั้นน เกิดจากการมีองค์กรภาคประชาชนเข้มแข็ง แต่ว่าของประเทศเรายังอ่อนแอเกินไป ในต่างประเทศเมื่อนายทุนรวมตัวกัน แรงงานเขาก็รวมกัน และมีพรรคการเมืองเกิดขึ้น แต่ในประเทศเรายังไม่มีพรรคการเมืองของประชาชน มีเพียงพรรคการเมืองของกลุ่มอำนาจ หรือกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ ในอนาคตถ้าเป็นไปได้เราอาจจะมีการรวมตัวกันเป็นพรรคการเมืองเพื่อเข้าไปต่อรองอำนาจ และพลักดันประเด็นของพวกเรา แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่พูดไม่ได้จะเป็นการพูดให้ท้อถอย แต่ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่เราควรรู้ และเข้าใจ เพื่อที่จะวางแนวทางของตัวเองต่อไป ซึ่งสิ่งที่เป็นข้อได้เปรียบของเราคือ กำลังคนของประชาชนกลุ่มต่างที่ต้องการเห็นชีวิตที่ดีขึ้น เรามีประชาชนที่ยังเป็นผู้ด้อยโอกาสทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ในแง่นี้เรายังมีพลังของประชาชนที่จะต่อสู้ ขณะเดียวกันสิ่งที่เป็นอุปสรรคของเราคือ สถาบันที่อยู่ในความมืดคือ ไม่สามารถที่จะวิพากษ์ วิจารณ์ หรือไม่สามารถตรวจสอบได้เลย เช่นการคอร์รัปชั่นในสถาบันกองทัพ ความมืดในสถาบันยุติธรรม สถาบันตำรวจ เร็วนี้เราก็เพิ่งเห็นการกวาดล้างนายตำรวจครั้งใหญ่ สิ่งเหล่านี้เป็นจุดบอดของสังคมไทยที่เราม่สามารถตรวจสอบได้ เราต้องร่วมกันสร้างสังคมที่ตรวจสอบได้ทุกส่วน เมื่อตรวจสอบได้ก็ต้องวิพากษ์ วิจารณ์ได้ ประชาชนต้องมีโอกาสที่จะทราบเรื่องราวข้อมูลต่างๆ ของรัฐ ราชการ หรือสถาบันต่างๆของสังคมปกติเวลาเรามองประชาธิปไตย หรือกระบวนการทำให้เป็นประชาธิปไตย มันมีอยู่ 3 แบบ แบบแรกคือ เรามองว่าอย่างไรก็ตามกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยเป็นเส้นตรงไม่ว่าจะช้าจะเร็ว สังคมก็จะเป็นประชาธิปไตยแน่นอน ซึ่งหมายความว่า ประเทศไทยจะต้องเป็นประชาธิปไตยเข้าสักวัน ขณะที่แบบที่สอง เชื่อว่ากระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยไม่ใช่เส้นตรงแต่เป็นเส้นซิกแซก บางประเทศกว่าจะเป็นประชาธิปไตยก็ใช่เวลาเป็นร้อยปี ซึ่งก็เป็นเรื่องที่บอกยากว่าสังคมจะมีการพัฒนาประชาธิปไตยแบบเส้นตรง หรือแบบซิกแซก ตัวอย่างเช่นประเทศไทยเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้วเราเชื่อว่าการพัฒนาประชาธิปไตยของไทยจะเส้นตรง แต่สุดท้ายก็มีรัฐประหารเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามแม้การพัฒนาประชาธิปไตยแบบนี้จะซิกแซก ขึ้นๆ ลงๆ แต่สุดท้ายปลายทางก็ต้องไปถึงประชาธิปไตยอยู่ดี ขณะที่แบบที่สาม อาจจะดูเป็นการมองโลกในแง่ร้ายคือ อย่างไรก็ไม่มีวันไปถึงประชาธิปไตย ได้เป็นเพียงแค่ระบบผสม เช่นอย่างในประเทศ พม่า ที่แม้จะมีการเลือกตั้งแต่ก็มีการแบ่งที่นั่งไว้สำหรับทหารในรัฐสภาอยู่ 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจว่า ประเทศไทยจะมีการพัฒนาประชาธิปไตยแบบใดสำหรับการมองอนาคตของประเทศไทยตอนนี้ เราอาจจะต้องทำใจไว้บางส่วนหรือไม่ว่าจะต้องอยู่ในระบอบประชาธิปไตยแบบผสม เป็นประชาธิปไตยครึ่งหนึ่ง เป็นเผด็จการครึ่งหนึ่ง หรือจะหวังว่าพลังทางสังคมจะมีลักษณะเฉพาะที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ขณะที่มีหลายคนเห็นว่าประเทศไทยอาจจะเหมาะกับระบบผสมแบบนี้ โดยได้เสนอว่า เราควรจะเน้นไปที่เรื่องของศีลธรรมมากกว่าที่จะมองเรื่องระบบการเมืองที่ดี ซึ่งเป็นการมองว่าหากไม่มีศีลธรรมก็ไม่สมควรที่จะเป็นผู้ปกครอง อันนี้ไม่ได้เป็นโจทย์เฉพาะประเทศไทย แต่เป็นโจทย์ทั่วโลก ขณะเดียวกันก็มีการถกเถียงกันว่า ในสังคมที่เป็นสีเทาซึ่งมีทั้งคนดี และคนไม่ดี การจะผู้นำทางศีลธรรมมาเป็นผู้ปกครองนั้นอาจจะไม่สามารถบริหารงานได้ เพราะไม่รู้จักโลกที่เป็นจริง และเรื่องสำคัญอีกประการคือ เราไม่มีเครื่องมือที่จะสามารถชี้วัดระดับความดีของคนได้ ทั้งหมดนี้เป็นโจทย์ที่เราต้องคิดและวางแผนว่าจะทำอะไรต่อไปในอนาคต ในขณะที่ประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งอาจจะเป็นเส้นตรง ซิกแซก หรืออาจจะหยุดอยู่ที่ระบบผสมก็ได้ขณะที่เราวางแผนเราต้องดูอะไรบ้าง สิ่งแรกคือปัจจัยเชิงโครงสร้าง หรือพลังทางสังคม เช่น การพัฒนาของทุนนิยม กระแสโลกาภิวัตน์ โครงสร้างของระบบโลก ระดับการศึกษา สัดส่วนของชนชั้นกลาง ภาคประชาสังคม วัฒนธรรมทางการเมือง นักคิดแนวสังคมนิยมก็จะมีแนวคิดที่อธิบายว่า จะมีพลวัตทางการเมืองทางชนชั้นคือ คนเราจะมีการเปลี่ยนแปลงจากลักษณะปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ฉะนั้นพอไปถึงระยะหนึ่งคนเราย่อมทนไม่ได้ที่จะปล่อยให้สังคมปกครองด้วยระบอบเผด็จการคือ มีแค่เสรีภาพืทางเศรษฐกิจ แต่ปราศจากเสรีภาพทางการเมือง ดังนั้นปัจจัยในเชิงโครงสร้างจะกำหนดให้ประเทศไทยไม่ช้าก็เร็ว อย่างไรก็จะกลับไปสู่ประชาธิปไตยในขณะที่ตอนนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มตัว ในแง่นี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจว่า ประเทศไทยอยู่ในตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่ดีที่สุด แต่กลับไม่พัฒนาประชาธิปไตยให้ก้าวหน้าได้สักที การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอาจะส่งผลบังคับให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เราจะประกาศกฏอัยการศึกต่อไปได้อย่างไร เพราะมันส่งผลต่อการท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งประเด็นนี้เกินไปกว่าอำนาจของ คสช. ที่จะควบคุมได้ เพราะเป็นปัจจัยที่ต้องจำยอมไม่เช่นนั้น เราก็อาจจะสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากหรือกรอบมุมมองแบบที่สองคือไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัจจัยเชิงโครงสร้าง แต่เกี่ยวข้องกับตัวเรา ในฐานะผู้กระทำคือ ในแต่ละช่วงเวลาเราจะตัดสินใจอย่างไร ในฐานะที่เป็นผู้กำหนดชาตะกรรมของตนเอง ซึ่งตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังมีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เราจะมีการตอบสนองต่อเรื่องนี้อย่างไร จะวางแผนอย่างไร หรือจะทำงานในประเด็นที่เราต่อสู้ต่อไปอย่างไรกรอบมุมมองอีกกรอบคือ การวิเคราะห์ในเชิงสถาบัน เช่นมองว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเป็นอย่างไร ถ้าทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอจะส่งอย่างไรต่อประชาธิปไตย ระบบการเลือกตั้งแบบใหม่จะส่งผลอย่างไร โดยมองย้อนกลับไปที่รัฐธรรมนูญปี 2540 และรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่เปิดโอกาสให้เกิดพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง หรือมีฝ่ายบริหารที่เข้มแข็ง จนถึงที่สุดทำให้เกิดปัญหา และทำให้เกิดดึงอำนาจคืนของกลุ่มอำนาจเก่า ฉะนั้นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็ต้องทำให้พรรคการเมืองอ่อนอำนาจลง เรื่องเหล่าเกี่ยวข้องกับพวกเราในแง่ที่ว่า ถ้าต่อจากนี้ไม่มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แล้วทุกอย่างกลับไปอยู่ที่มหาดไทย โครงสร้างเชิงสถาบันแบบนี้เราต้องการหรือไม่ และถ้าไม่ต้องการเราจะสามารถทำอะไรได้บ้างขณะที่การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ย่อมส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยอย่างมากมาย เรื่องของเราจะไม่ใช่เพียงเรื่องของประเทศไทยเท่านั้น แต่หมายรวมถึงเราในฐานะอาเซียนทั้งหมด สิ่งหนึ่งที่เราจะได้เห็นคือการมีแรงงานที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น และขณะเดียวคนไทยก็จะออกไปทำงานที่ประเทศอื่นๆ มากขึ้นด้วยเช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจคือในภาคธุรกิจ เขาสนใจสิทธิเสรีภาพ สวัสดิการทางสังคมหรือไม่ คำตอบที่ได้คือ อาจจะไม่ สมมุติว่าเราออกไปทำงานในต่างประเทศ สวัสดิการทางสังคมที่เราเคยได้รับอย่างเช่น สิทธิรักษาพยาบาลกองทุนหลักประกันสุขภาพทั่วหน้า ก็ยังไม่สามารถใช้ได้ในประเทศเพื่อนบ้านในตอนนี้ ซึ่งต้องดูว่าจะมีการตกลงร่วมกันอย่างไรต่อไประหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งนี่เป็นประเด็นที่ท้าทายภาคประชาสังคมอยู่พอสมควร และไม่เพียงแต่กรณีนี้อย่างเดียวเท่านั้น ยังมีอีกหลายกรณีที่ท้าทายพวกเรา เช่น การกำหนดค่าแรงขั้นต่ำจะมีการตกลงร่วมกันอย่างไร และจะมีการออกกฏหมายในเรื่องของการรวมตัวด้านสิทธิแรงงาน หรือไม่อย่างไรปัจจัยทางด้านการเมืองก็มีส่วนสำคัญ ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศกำลังมีการพัฒนาให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น แต่ประเทศเรายังมีความชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อใด ถัดมาคือปัจจัยทางเศรษฐกิจคือ การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ล่าสุดนายกรัฐมนตรีก็ได้ออกมาประกาศว่าจะมีการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ 5 แห่ง โดยโจทย์ของภาครัฐบาลไทยคือ หวังว่าแรงงานต่างชาติจะได้ทำงานในเขตพิเศษนั้น และหวังว่าจะดึงเศรษฐกิจในพื้นที่ตรงนั้นให้ดีขึ้นมา แล้วโจทย์ของภาคประชาสังคมคืออะไร นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ท้าทายพวกเรา พูดให้ง่ายคือปัญหา หรือประด็นที่เราต้องสู้อยู่อาจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่จะมีความหลากหลาย และซับซ้อนมากขึ้นโจทย์ที่เรากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้คือ รัฐบาลทั้งของประเทศเราและประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้คิดอะไรมาก เขามองพียงแค่จะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาได้ สิ่งที่เราจะเจอก็คือโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ โดยรวมเรียกได้ว่าเราจะเจอทั้งการเปลี่ยนแปลงทั้งทางเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมก่อนอื่นคงต้องสร้างความเข้าใจร่วมกันก่อนว่า นโยบายสำคัญหลายอย่างเกิดขึ้นในช่วงที่เรามีรัฐบาลประชาธิปไตย เป็นผลจากช่วงที่ประชาคมสังคมมีความเข้มแข้งมาก เช่น การได้มาซึ่งกฎหมายประกันสังคม หรือการลาคลอด 90 วัน ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลชวน หลีกภัย แม้นายกชวนเองอาจจะไม่เห็นด้วย แต่ก็ทำให้เห็นว่าภายใต้รัฐบาลประชาธิปไตย เราสามารถพลักดันประเด็นของเราได้มากว่าผมลองมองย้อนกลับไปสมัยที่ทำงาน NGOs ใหม่ๆ รู้สึกว่าเมื่อก่อนภาคประชาสังคมยังอยู่กับ NGOs ซะเป็นส่วนมาก แต่พอมาในสมัยนี้ประมาณ 10 ปีที่ผ่านพบว่า ภาคประชาสังคมไปอยู่กับชาวบ้านเป็นจำนวนมาก และมีการเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ทีนี้ประเด็นคำถามสัมคัญคือ เราอยู่ในสังคมอุปถัมภ์ เราวิพากษ์ วิจารณ์ระบบอุปภัมถ์ ซึ่งเมื่อมาย้อนมองตัวเอง แม้แต่วงการ NGOs เองก็มีระบบอุปถัมภ์ และส่วนหนึ่งของพวกเราที่เป็นประชาชนรากหญ้า ยังอยู่กับปัญญาชนกลุ่มนี้ ถึงที่สุดก็ล้มเหลว เพราะปัญญาชนเหล่านี้เข้าไปรับใช้อำนาจ เอามวลชนเข้าไปเป็นฐานอำนาจทางการเมือง และไม่สามารถที่จะตอบโจทย์ภาคประชาสังคมได้ ผมก็เลยเข้าใจว่าทำไมทักษิณเข้ามา ชาวบ้านจึงไปเลือกทักษิณ ก็เป็นเพราะขบวนของพวกคุณไม่เข้มแข็ง เป็นองค์กรที่นำเดี่ยว ผู้นำหวังชื่อเสียงเกียรติยศ พูดอย่างตรงไปตรงมาเราอย่าไปมองแต่เพียงปัจจัยภายนอกองค์กร เราต้องวิจารณ์พวกเรากันเองว่า เราอยู่กับระบบอุปถัมภ์พึงพาคนอยู่ไม่กี่คน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ขบวนการของภาคประชนพ่ายแพ้ไปด้วยฉะนั้นเราต้องวิเคราะห์ให้ชัดว่าขบวนการของเราเติบโตแบบไหน ถ้าเป็นการเติบโตแบบนำเดียว ขบวนเหล่านั้นเริ่มจะมีปัญหา วันหนึ่งก็จะไปไม่รอด ไม่สามารถที่จะไปต่อรองกับใครได้เพราะมันขึ้นอยู่กับคนไม่กี่กลุ่ม ผมดูจากตัวอย่างที่ชัดเจนที่อยู่กับภาคประชาสังคม ซึ่งอยู่กับขบวนการสหภาพแรงงาน ตอนนี้ขบวนการสหภาพแรงงานกลายเป็นระบบราชการ เพราะเป็นระบบโครงสร้างที่ขึ้นอยู่กับประธาน เลขาธิการ ซึ่งหลายคนก็ถูกดึงไปเข้าร่วมกับกลุ่มการเมือง สหภาพแรงงานไม่เคยรับใช้แรงงานจริงๆ นี่คือความอ่อนแอองค์กรที่เกิดขึ้นจริง ช่วงหลัง 10 ปีที่ผ่านมาสหภาพแรงงานไม่สามารถผลักดันกฏหมายสำคัญๆ ที่ส่งผลต่อคนส่วนใหญ่ได้เลย ฉะนั้นเราก็ต้องวิเคราะห์ตัวเองว่า ในเครือข่ายของเรา เรากำลังเติบแบบนี้หรือไม่ ถ้าเป็นแบบนี้เราต้องเปลี่ยน ถ้าเราไม่มีประชาธิปไตยในองค์กรเราก็จะต้องเจอกับปัญหาแบบนี้การที่จะแก้โจทย์นี้ได้ หลายท่านก็บอกว่ามันเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อน และปัญหาในสังคมไทยมีความหลากหลายมาก ฉะนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายคนในอค์กรว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งเหล่านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องปรับเปลี่ยนมุมมอง เราต้องวิเคราะห์ตัวเองด้วย ไม่ใช่โทษแต่รัฐว่า มาทำลายเรา แต่ดูตัวเองด้วยว่ากำลังทำลายตัวเองอยู่หรือไม่ตอนนี้เชื่อว่าขบวนการชาวบ้านเองในหลายที่มีความเติบโตก้าวหน้าไปค่อนข้างเยอะ แต่ปัญหาที่ผ่านก็คือปัญญาชนส่วนหนึ่งของขบวนหลุดไปจากภาคประชาสังคมเยอะมาก ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ผมอยากให้ภาคประชาสังคมคิดใหม่ พึ่งตัวเองกันให้มากขึ้น ภาคNGOs อย่างผมเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่จะเข้าไปหนุนเสริมให้คุณเข้มแข็ง ไม่ได้เป็นผู้ตัดสินอีกแล้ว ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา NGOs อาจจะมีส่วนสำคัญที่เข้าไปทำให้ภาคประชาสังคมเข้มแข็ง แต่ว่าถึงตอนนี้ประชาสังคมเริ่มมีความเข้มแข็งพอที่จะเติบโตด้วยตัวเอง ฉะนั้นNGOs จึงเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาเป็นพันธมิตรกับเราไม่ใช่เข้ามาเป็นผู้จัดการทุกอย่างให้เราขณะที่การทำงานขององค์กรต้องมีโครงสร้างองค์กรแนวระนาบคือ ทุกคนในองค์กรต้องมีความเสมอภาคกัน ถ้าองค์กรเราเป็นองค์กรยังไม่มีความเป็นประชาธิปไตย ยังมีการนำเดียวอยู่ ก็ต้องมาคิดกันว่าจะทำอย่างไร ต่อมาคือเราต้องเข้าใจว่าตอนนี้สังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปรดเร็วมาก ฉะนั้นการจะสร้างคนที่เข้ามาต่อเติมความคิดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ตอนนี้มีบางองค์กรที่เริ่มมีผู้นำแถวสอง หรือผู้นำรุ่นใหม่ที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นเรื่องที่เราต้องคิดด้วย เพราะว่าสิ่งที่เราฝันไว้ว่าอยากจะให้มันเกิดขึ้นในชุมชนอาจจะไม่ยั่งยืน อีกเรื่องหนึ่งคือ ที่ผ่านมาถ้าเราวิเคราะห์ทางการเมือง ซึ่งเราถูกลากไปร่วม ชนชั้นนำทุกฝ่ายไม่ได้แตกต่างกันเลยด้วยซ้ำ ทุกฝ่ายต่างก็ไม่ได่คิดทำเพื่อประชาชนอย่างจริงจัง และเป็นเรื่องที่น่าเศร้าขณะที่ชนชั้นนำทั้งสองฝ่ายกำลังประนีประนอมกัน แต่พวกเรากลับมาทะเลาะกันอยู่ ฉะนั้นผมคิดว่าเราควรจะทำงานด้วยตัวเราเอง ไม่ควรจะไปอิงอยู่กับฝ่ายไหน ตอนนี้หลายคนก็เริ่มรู้สึกว่า ไปออกไปเป่านกหวีดฟรีหรือไม่ เพราะถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้อะไรอย่างที่คิด ขณะที่อีกฝั่งหนึ่งก็ใช้มวลชนออกมาเคลื่อนไหว ถึงที่สุดแล้วการเคลื่อนไหวของทั้งสองกลุ่มมันเป็นการเคลื่อนไหวแบบ Top-Down ทั้งคู่ มีเพียงคนไม่กี่คน ที่มากำหนดว่าจะขับเคลื่อนประเด็นอะไรบ้างและเรื่องสุดท้ายคือ เรื่องนายทุน ผมคิดว่านายทุนต่างๆ ที่กำลังเติบโตไม่ว่าจะเป็นทุนข้ามชาติ หรือทุนไทยเราไว้ใจพวกเขาไม่ได้ จะเห็นว่ากลุ่มทุนเหล่านี้ไม่ว่าใครเข้ามามีอำนาจทางการเมืองเขาก็จะเดินประกบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย หรือไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเขา แล้วทุนพวกนี้ก็เข้าไปส่งอิทธิพลกับการออกนโยบายต่างๆของรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ชัดเจนว่าถ้าเราจะยังสู้กันต่อไป เราก็ต้องเชื่อมั่นในพลังของตัวเราเอง จะไปหวังพึ่งหลายๆ คนเป็นเรื่องยาก เราต้องชัดเจนในเรื่องเหล่านี้ เพราะการเมืองจริงๆแล้วไม่ได้มีเพียงสองขั้วเท่านั้น แต่ยังมีนายทุนที่สามารถอยู่ได้กับทุกฝ่ายด้านเครือข่ายต่างๆ ที่ได้เข้าร่วมในวงเสวนาได้ให้ความเห็นว่า ประเด็นต่างๆ ที่วิทยากรทั้ง 4 ท่านได้ชวนให้คิดนั้น ถือเป็นประเด็นที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น หรืออาจจะเกิดขึ้น ต่างก็เป็นเรื่องที่ต้องเตรียมพร้อมรนับมือกับทุกสถานการณ์ เพราะย่อมส่งผลต่อประเด็นที่แต่ละกลุ่มกำลังขับเคลื่อน และมากไปกว่านั้นย่อมส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคมตามมาด้วยหลายเครือข่ายเห็นร่วมกันว่า ต่อจากนี้จะต้องมีการพูดคุยและวางแผนทั้งในระยะสั้น และระยะยาวต่อไป เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ และเป้าหมายที่แต่ละกลุ่มขับเคลื่อนอยู่ นอกจากนี้ยังเห็นช่องทางที่จะเสริมพลังให้องค์กรของตัวเองโดยการหนุนเสริมซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นองค์ที่ทำงานด้านประเด็น หรือองค์กรที่ทำงานในเชิงพื้นที่ ต่างกันสามารถที่จะช่วยเสริมแรงซึ่งกันและกันได้ ซึ่งจะเป็นการรวมพลังขับเคลื่อนประเด็นต่างๆรวมกัน เพราะที่สุดแล้วทุกประเด็นที่แต่ละองค์กรทำนั้น ต่างก็เชื่อมโยงกันทั้งสิ้นกลุ่มเครือช่ายที่เข้าร่วมโครงการ1.เครือข่ายมูลนิธิครอบครัว2.เครือข่าย องค์กรพัฒนาเอกชนภาคอีสาน3.เครือข่ายรณรงค์ลดเหล้า ลดความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล4.เครือข่ายความมั่นคงทางอาหาร/นักวิจัยท้องถิ่นปัตตานี5.เครือข่ายสิ่งแวดล้อม ป่าชุมชนรอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก6.เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง7.เครือข่าย แรงงานนอกระบบ8.เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมือง | กองทุนไทย จัดเวทีสัมมนาวิเคราะห์สถานการณ์ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของภาคประชาสังคม 4 วิทยากรชี้ ต้องรวมต้วกัน ไม่เข้ากับขั้วทางการเมือง พร้อมต้องหันกลับมาวิจารณ์ระบบอุปถัมภ์ในองค์กรตัวเอง | การเมือง,คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน,วัฒนธรรม,แรงงาน,เศรษฐกิจ,ความมั่นคง,สิ่งแวดล้อม,สังคม | NGOs,กฏอัยการศึก,จอน อึ๊งภากรณ์,จะเด็ด เชาว์วิไล,นฤมล ทับจุมพล,ภาคประชาสังคม,มูลนิธิกองทุนไทย,สมชาย หอมลออ,เขตเศรษฐกิจพิเศษ | https://prachatai.com/journal/2015/02/57712 |
เสี่ยวิชัยชี้เป้า จิ้งจอกสยาม แต่งตั้ง ปูเอล กุนซือคนใหม่ | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 25 ต.ค. ว่า จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ อดีตแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัยประกาศแต่งตั้ง โคล้ด ปูเอล อดีตกุนซือของ นักบุญ เซาแธมป์ตัน เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างเป็นทางการ,หลัง จิ้งจอกสยาม ปลด เคร็ด เช็คสเปียร์ ออกจากตำแหน่งกุนซือไปก่อนหน้านี้และให้ ไมเคิล แอปเปิลตัน เป็นกุนซือขัดตาทัพพาทีมชนะสองเกมรวด ล่าสุดก็ได้แต่งตั้ง โคล้ด ปูเอล คุมทีมถึงปี 2020 และเตรียมนำลูกทีมทำศึกพรีเมียร์ลีกกับเอฟเวอร์ตันสุดสัปดาห์นี้ทันที,ปูเอล เคยคุมทีม เซาแธมป์ตัน ในศึกพรีเมียร์ลีกมาแล้วในฤดูกาล 2016/17 และพาทีมจบอันดับที่ 8 ของตาราง โดยผลงานที่ดีที่สุดคือการพาทีมนักบุญเข้าไปชิงชนะเลิศลีกคัพและพ่ายให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-3,โดยปูเอล กล่าวว่านี่คือเกียรติที่ล้ำค่าที่ได้เป็นกุนซือคนใหม่ของเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นสโมสรที่มีค่านิยมและความทะเยอทะยานคล้ายกับผม,นับเป็นโอกาสที่จะพาทีมประสบความสำเร็จบนความตื่นเต้นและผมก็ตั้งตารอที่จะทำงานร่วมกับเจ้าของทีม, นักเตะ, สตาฟฟ์ และแฟนบอลเพื่อมอบความสำเร็จที่ยั่งยืนต่อไป,จากทวีตเตอร์ เลสเตอร์ ซิตี้ | จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรดังสายเลือดไทย แต่งตั้ง โคล้ด ปูเอล เป็นกุนซือคนใหม่อย่างเป็นทางการ | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | จิ้งจอกสยาม,เลสเตอร์ ซิตี้,โคล้ด ปูเอล,พรีเมียร์ลีก | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1108222 |
ฟื้นคดี เปมิกา จิตวิทยาหมู่ สู้ 10 ปี หนีศาลฎีกา อุ้มลูก 2 บินยุโรป | สิ้นสุดคดี เปมิกา - นพ.ประกิตเผ่า ต่อสู้ยาวนานร่วม 10 ปี ศาลฎีกามีคำสั่งออกหมายจับ เปมิกา เนื่องจากพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยมีพฤติการณ์หลบหนี และให้ปรับนายประกัน เป็นหลักทรัพย์ โฉนดที่ดิน มูลค่า 1 ล้านบาท โดยนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาอีกครั้ง ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ,ย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน เป็นข่าวฮือฮา สร้างกระแสให้เหล่าบรรดาผู้สื่อข่าวได้ติดตามความเคลื่อนไหวเมื่อกลางปี 2550 กรณีที่กลุ่มเด็กนักศึกษา 4 ราย เป็นหญิง 2 คน และเป็นชาย อีก 2 คน ได้รวมตัวกันใช้จิตวิทยาหมู่ หลอกลวง นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ (หมอเผ่า) เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาแอพพลายฟิสิกส์ ประกอบด้วย น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต หรือเป หรือ อุ๋ย อายุ 24 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นายณัฐพล พรมประไพ หรือตั้ม อายุ 28 ปี, น.ส.ฤทัย รุ่งสิริเมธากุล หรือแนน อายุ 23 ปี, นายวฑัญญู ตันจีรพงศ์ หรือปุ้ย อายุ 26 ปี กระทั่งญาติและภรรยาของ นพ.ประกิตเผ่า เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ,จุดเริ่มต้นเกิดมาจาก เมื่อต้นปี 2550 น.ส.เปมิกา และเพื่อนในกลุ่มตามรายชื่อเบื้องต้น ได้เดินทางมายัง สน.บางซื่อ อ้างว่าได้รับโทรศัพท์จาก หมอเผ่า ให้เข้าไปช่วยเหลือที่โรงพยาบาลศรีธัญญา โดยให้การว่า นพ.ประกิตเผ่า ถูกครอบครัว ทมทิตชงค์ นำมากักขัง และสาเหตุที่หมอเผ่าถูกนำมากักเพราะเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าภรรยาตัวเอง (นางอลิสา ทมทิตชงค์ ทั้งที่จริงยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งมีบุตรด้วยกัน 2 คน) กระทั่งเรื่องราวบานปลายใหญ่โต เมื่อทางครอบครัวของ นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ ออกมาตอบโต้กลับ ,กระทั่ง กลางเดือนมีนาคม 2550 นายทองหลาง แพงศรีละคร ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก รศ.เพลินจิต ทมทิตชงค์ และนางอลิสา ทมทิตชงค์ มารดาและภรรยาของ นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนของกองปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต หรือมีชื่อเดิมว่า น.ส.ศิวพร เหลืองเรณูกูล หรืออุ๋ย ในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์สินของบุคคลอื่นโดยอาศัยความอ่อนแอทางจิตของเจ้าของทรัพย์สิน,ทางครอบครัวของ นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ รวมทั้งตัว นพ.ประกิตเผ่า เอง ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ โดยระบุว่า เมื่อช่วงระหว่างเดือนตุลาคม 2549-วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2550 น.ส.เปมิกา กับพวกอีก 5 คน ได้สมคบกันใช้อุบายหลอกลวง นพ.ประกิตเผ่า ให้หลงเชื่อว่า เปมิกา และเพื่อนอีก 3 คน สามารถนั่งสมาธิ จนเข้าฌานชั้นสูง สามารถระลึกชาติได้ ทำให้ นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ มีอาการจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ อีกทั้งยังหลอกลวงทรัพย์สินของ นพ.ประกิตเผ่า ไปหลายรายการ รวมมูลค่านับสิบล้านบาท และได้มีการกล่าวอ้างว่า เมื่อชาติที่แล้ว นพ.ประกิตเผ่า เคยเป็นสามีภรรยากับ น.ส.เปมิกา ย้อนหลังไป 99 ภพชาติ โดยสิ่งใดที่ไม่เคยทำให้กับ น.ส.เปมิกา ในชาติก่อนหรือเคยรับปากไว้แล้วไม่ได้ทำก็ขอให้มาทำในชาตินี้,คำให้การยังระบุอีกด้วยว่า น.ส.เปมิกา ใช้อุบายล่อลวงให้ นพ.ประกิตเผ่า ซื้อรถเก๋งคัมรี่ สีดำ ให้กับ น.ส.เปมิกา ด้วยการอ้างว่าชาติที่แล้ว นพ.ประกิตเผ่า เป็นขุนศึกใช้ม้านิลพยัคฆ์เป็นพาหนะในการรบ ส่วน น.ส.เปมิกา ใช้ม้านิลมังกร หลังจากนั้น นพ.ประกิตเผ่า จึงซื้อรถเก๋งให้กับ น.ส.เปมิกา และยังมีทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการที่ น.ส.เปมิกา ได้ใช้กลอุบายลักษณะเดียวกันหลอกลวงให้ นพ.ประกิตเผ่า ซื้อหรือหามาให้ ซึ่งพฤติการณ์ต่างๆ เหล่านี้เป็นการฉ้อโกงทรัพย์สิน จึงต้องเข้าแจ้งความที่กองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดีดังกล่าว,กระทั่งต่อมาในปีเดียวกัน น.ส.เปมิกา พร้อมกับเพื่อนสนิททั้ง 3 ราย ได้เดินทางมายังกองปราบปรามเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฐานร่วมกันฉ้อโกง ตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ในวันนั้น น.ส.เปมิกา เผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องคดี ตนเองขอให้การปฏิเสธ และขอไปให้การในชั้นศาล ส่วนเรื่อง นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ (หมอเผ่า) นั้น ก็รู้สึกเสียใจที่หมอเผ่าให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าพวกตนเองใช้จิตวิทยาหมู่เพื่อหลอกลวงให้หมอซื้อทรัพย์สิน ซื้อบ้าน ซื้อรถและทรัพย์สินอื่นๆ นับล้านบาทให้ ,ขณะเดียวกัน น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต ได้ให้ทนายยื่นเรื่องฟ้องกลับข้อหาหมิ่นประมาทต่อ นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ (หมอเผ่า) โดยให้ข้อมูลยืนยันว่า ความจริงแล้วไม่ได้อยากยื่นเรื่องฟ้อง นพ.ประกิตเผ่า แต่ต้องการจะรักษาสิทธิ์ ปกป้องตัวเอง ตั้งแต่ นพ.ประกิตเผ่า ออกจากโรงพยาบาลมา ยังไม่มีการพูดคุยกัน ไม่เจอหน้ากันเลย รู้สึกเสียใจมากที่ นพ.ประกิตเผ่า ออกมาให้ข่าวว่าโดนตนเองหลอกลวง ทั้งที่ความจริงแล้ว ความรู้สึก ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน ,การตอบคำถามให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน ณ วันนั้น ของ น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต จะให้ข้อมูลในทำนองที่ว่า ตนเองกับ นพ.ประกิตเผ่า มีความรักใคร่กันแบบคู่รักหญิง-ชาย โดยไม่มีเรื่องจิตวิทยาหรือการหลอกลวงเกิดขึ้นระหว่างคบหา ซึ่งเพื่อนสนิทในกลุ่มทั้ง 3 คน ที่โดนตั้งข้อหาด้วย ก็มีความสนิทสนมกัน ไม่มีใครใช้พฤติกรรมหลอกลวง ฉ้อโกงตามที่โดนกล่าวอ้าง,ด้าน นางอลิสา ทมทิตชงค์ ภรรยาของ นพ.ประกิตเผ่า ได้มอบหมายให้ทนายความยื่นฟ้อง น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ฐานละเมิดเรียกค่าเสียหายประมาณ 200 ล้านบาท จากการประพฤติตน โดยเปิดเผยในทำนองชู้สาวกับสามีของบุคคลอื่น เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความเสียหายแก่ครอบครัวเป็นอย่างมาก ,นางอลิสา ยังกล่าวถึง การตรวจสอบเส้นทางการโอนเงินจากสามีตนเองไปสู่ น.ส.เปมิกา ซึ่งพบว่า มีการโอนเงินออกจากบัญชี นพ.ประกิตเผ่า จริง จำนวนเงินนั้นก็ตามที่ นพ.ประกิตพันธุ์ พี่ชาย ให้ข่าวไปก่อนหน้านี้ คือ 20-30 ล้านบาท สำหรับเรื่องการซื้อรถยนต์ ก็เป็นเรื่องจริง มีการโอนทะเบียน โอนรถกันประมาณเดือนมกราคม 2550 ซึ่งตัวเธอเองเชื่อว่าเป็นการหลอกลวง และใช้จิตวิทยาหมู่ เนื่องจากตอนเกิดเรื่อง ศาลได้แจ้งแล้วว่าอาการป่วยของ นพ.ประกิตเผ่า ย้อนหลังไป 4 เดือน,ต่อมา น.ส. เปมิกา ได้ให้ข่าวด้วยว่า ก่อนที่จะเป็นข่าวใหญ่โต นพ.ประกิตเผ่า ได้ขาดการติดต่อกับเธอและกลุ่มเพื่อนไปนาน กระทั่งมาสืบทราบอีกทีว่า นพ.ประกิตเผ่า ถูกครอบครัวจับตัวไว้ในโรงพยาบาลศรีธัญญา ก่อนที่จะแอบเอาโทรศัพท์ โทรออกมาขอความช่วยเหลือจากตนเอง ซึ่งก็พยายามหาทางช่วยอย่างเต็มที่ กระทั่งเป็นเรื่องเป็นราวโดนครอบครัว นพ.ประกิตเผ่า ฟ้องร้อง ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องข้อเท็จจริง พร้อมที่จะไปพิสูจน์กันในศาล เช่น ข้อความการให้สัมภาษณ์ตามสื่อต่างๆ ทั้งหนังสือพิมพ์ และวิทยุโทรทัศน์ โดยเฉพาะเจตนาต้องการช่วยเหลือ นพ.ประกิตเผ่า ออกจาก รพ.ศรีธัญญา เพราะเห็นว่าถูกควบคุมไว้โดยไม่ชอบ ,รศ.นพ.ประกิตพันธุ์ ทมทิตชงค์ พี่ชาย นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เปิดใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องชายเป็นฝีมือของกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นผู้มีความสามารถสูงในการนั่งสมาธิ โดยการชักนำจาก น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต เพื่อนสาว โดยกลุ่มคนดังกล่าวใช้จิตวิทยาในการเกลี้ยกล่อมให้ นพ.ประกิตเผ่า เข้าใจผิดว่าภรรยาต้องการฆ่าเพื่อฮุบสมบัติ ประกอบกับมีการมอมสารเสพติดอีฟีดรีน ซึ่งสารดังกล่าวถ้าใช้ในระยะเวลานานจะก่อให้เกิดอาการหวาดระแวง อีกทั้งเมื่อกลางเดือนมกราคม (ในขณะนั้น) พบว่า นพ.ประกิตเผ่า ได้โอนย้ายเงินในบัญชีประมาณ 40 ล้านบาท และบอกว่าได้ทำพินัยกรรมแล้ว, , กรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่ามีการนำตำรวจไปเฝ้าหน้าอาคารที่ นพ.ประกิตเผ่ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีธัญญานั้นเป็นตำรวจที่สนิทกับผมเอง ซึ่งขอให้ไปดูแลรักษาความปลอดภัยให้น้องชาย เนื่องจากเกรงว่าจะมีผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาทำร้าย ขณะที่น้องชายรักษาตัวอยู่ ไม่ได้ไปกีดกั้นหรือสั่งห้ามการเข้าเยี่ยม รศ.นพ.ประกิตพันธุ์ ระบุ,นอกจากนี้ยังมีเรื่องให้กล่าวขานกันถึงการทำศัลยกรรมใบหน้าของ น.ส.เปมิกา ซึ่งเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ตัวเธอเองได้ออกมาตอบข้อสงสัย พร้อมยอมรับว่าได้ทำศัลยกรรมจริง โดยได้เสริมจมูก ทำตา 2 ชั้น และดัดฟัน แต่ไม่ได้ไปผ่ากรามแบบที่ข่าวเสนอออกไป ,ถือเป็นการต่อสู้คดีในชั้นศาลที่ยาวนานถึง 10 ปี ถึงวันนี้คดีเดินทางมาสู่ศาลชั้นฎีกา วันที่ 11 พ.ค. ศาลอาญา รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีดังกล่าว โดยเมื่อถึงเวลานัด น.ส.เปมิกา จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ไม่เดินทางมาศาล มีเพียงนายประกันเดินทางมาศาล โดยแถลงว่า ติดต่อ น.ส.เปมิกา ไม่ได้ เนื่องจากมีครอบครัวอยู่ต่างประเทศ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 กับ 2 จงใจหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา จึงให้ออกหมายจับจำเลย พร้อมสั่งปรับนายประกันตีราคา 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ได้มีการนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาอีกครั้ง ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ,นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานข่าวความเคลื่อนไหวจากคนใกล้ตัวของ น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต หลังเกิดเรื่องราวใหญ่โต ก็ได้ใช้ชีวิตตามปกติอยู่ในประเทศไทย และเดินทางมาตามนัดศาลทุกครั้ง บุคลิกของตัวเธอเป็นคนพูดจาดี อ่อนน้อม น่าค้นหา ขี้อ้อน รวมถึงเพื่อนๆ ทั้ง 3 คนของเธอที่ต้องคดีด้วย มีลักษณะพูดคุยภายนอกเป็นคนเก่ง มีการศึกษาดี ความรู้รอบด้าน ที่สำคัญครอบครัวของทุกคนค่อนข้างมีฐานะดี พ่อ-แม่ ของ น.ส.เปมิกา แยกทางกันตั้งแต่เธอยังเด็ก แต่ยังคงติดต่อพูดคุยกัน โดยพ่อรับราชการทหาร เป็นที่นับหน้าถือตาของคนทั่วไป ส่วนคุณแม่ของเธอ เป็นผู้หญิงใจดี โอบอ้อมอารี รักและเป็นห่วง น.ส.เปมิกา ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวเป็นอย่างมาก ,เป กลุ้มใจมากตอนที่เป็นข่าวดังใหม่ๆ ตัดพ้อให้ฟังทุกวันว่า ค่อนข้างอยู่ยากในสังคม เพราะหลายๆ คนรับรู้ข่าวในด้านที่เสียหายของเขา กลัวว่าในภายภาคหน้าจะมีอนาคตหรือเปล่า จะมีงานทำมั้ย จะมีคู่ครองที่พร้อมเข้าใจ หรือจะมีใครพร้อมเปิดใจรับรู้ความรู้สึกมั้ย ส่วนเรื่องรถคัมรี่สีดำ ทะเบียนสวยคันที่เป็นข่าว เค้าเคยพูดค่ะว่า หมอประกิตเผ่า ซื้อให้เค้าจริง และที่เลือกยี่ห้อนี้เพราะดูแลง่าย เวลาเสีย เข้าศูนย์ซ่อมก็ไม่แพงมาก ,คนใกล้ตัวของเธอ ยังเล่าอีกว่า หลังเกิดเหตุ เปมิกา ค่อยๆ มีความรู้สึกที่ดีขึ้น ฟังได้จากน้ำเสียงและสีหน้า เปมิกา ยังโทรมาพูดคุยเรื่องราวต่างๆ ตามปกติ ที่จำได้อีก 1 เรื่อง คือ เพื่อนๆ ที่มหาลัยรุ่นเดียวกับเธอ เรียนจบรับปริญญากันไปหมดแล้ว ขณะที่ตัวเปมิกาเอง ยังคงติดเอฟอีก 2 ตัว ,เป เล่าให้ฟังนานมากแล้วเรื่องที่เค้าเรียนไม่จบ ถึงวันนี้น่าจะเรียนจบแล้วเพราะผ่านมาหลายปี กระทั่งขาดการติดต่อกันไปอีกครั้ง รอบนี้หลายปีเลย กระทั่งทราบจากเพื่อนสนิทของเปอีกคนหนึ่งว่า เปแต่งงาน มีลูกแล้ว 2 คน และลูกติดสามี อีก 1 คน ไม่แน่ใจว่าสามีเป็นคนชาติเยอรมันหรืออังกฤษ ต่อมาประมาณปลายปี 2558 เปทำเรื่องขอหย่าร้างกับสามี ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ไม่มีใครสามารถติดต่อเธอได้อีกเลย คนใกล้ชิด กล่าวทิ้งท้าย | เปมิกา วีรชัชรักษิต ปิดตำนานแก๊งจิตวิทยาหมู่ ศัลยกรรมทำสวย หลอกลวง-ฉ้อโกง นพ.ประกิตเผ่า หลบหนีไม่เข้าฟังคำตัดสินศาลฎีกา คนใกล้ชิดเผย แต่งงานกับต่างชาติ มีลูกด้วยกัน 2 คน และได้หย่าร้างปลายปี 2558 กระทั่งขาดการติดต่อถาวร | null | เปมิกา วีรชัชรักษิต,หมอเผ่า เปมิกา,คดีเปมิกา,หมอเผ่า,ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์,หมอประกิตเผ่า เปมิกา,จิตวิทยาหมู่,เปมิกาแต่งงาน,ฎีกา เปมิกา,เปมิกาหนีศาล,เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาแอพพลายฟิสิกส์,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/618760 |
แถลง ชายเสื้อน้ำเงิน ไม่เกี่ยวคาร์บอมบ์เซ็นทรัลสมุย | เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 เม.ย. 58 ที่ห้องประชุมเฉวง ชั้น 3 สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล รอง ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี ได้เรียกประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดีคาร์บอมบ์ห้างเซ็นทรัลเกาะสมุย เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 คน รถยนต์และรถจักรยานยนต์เสียหายกว่า 10 คัน เพื่อสอบถามติดตามความคืบหน้าของคดี โดยใช้เวลาประชุมอยู่นานประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่ทีมตำรวจชุดคลี่คลายคดีจะแยกย้ายกันออกไปทำงานตามหน้าที่ของแต่ละชุด,พล.ต.ต.สมชาย แถลงว่า การคลี่คลายคดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ตำรวจทุกชุดกำลังทำงานอย่างเต็มที่ คาดว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายคดีนี้ได้ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน ส่วนประเด็นการตรวจพบชายเสื้อสีน้ำเงินจากกล้องวงจรปิดของห้างเซ็นทรัลเกาะสมุยแล้วมีการแชร์กันอย่างกว้างขวางในโซเซียลเน็ตเวิร์กนั้น เบื้องต้นทางตำรวจได้สันนิษฐานว่าเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคนขับรถคาร์บอมบ์นั้น ล่าสุดได้มีการพบตัวชายเสื้อสีน้ำเงินแล้ว โดยเมื่อกลางดึกคืนวานนี้ชายสวมเสื้อสีน้ำเงินได้เดินทางมาพบกับตำรวจยืนยันว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์คาร์บอมบ์แต่อย่างใด,ทั้งนี้ ชายคนดังกล่าวแจ้งว่าชื่อ นายวีระ พันธุ์เจริญ เป็นคน ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย โดยกำเนิด นายวีระได้มาแสดงตัวยืนยันเรื่องวันเวลาว่าวันเกิดเหตุ อยู่ที่ไหนบ้าง และยืนยันภาพที่ปรากฏในวงจรปิดที่มีการแชร์ในโซเซียลก็เป็นตัวเองจริง เนื่องจากวันเกิดเหตุได้ไปเที่ยวห้างเซ็นทรัลเกาะสมุยด้วยการปั่นรถจักรยานสองล้อถีบ เนื่องจากตนขับรถยนต์ไม่เป็น ขอยืนยันไม่เกี่ยวกับเหตุคาร์บอมบ์แต่อย่างใด และทุกวันนี้ตนก็ยังเฝ้าดูแลพ่อที่นอนป่วยที่บ้านพัก อย่างไรก็ตามทางตำรวจได้ตรวจเก็บดีเอ็นเอของนายวีระไว้แล้วเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอที่เก็บจากที่เกิดเหตุว่าตรงกันหรือไม่ต่อไป ก่อนที่จะปล่อยตัวนายวีระกลับไป,รอง ผบช.ภ.8 กล่าวอีกว่า สำหรับตัว รปภ.ห้างเซ็นทรัล 3 คนต้องสงสัยที่ทางทหารล็อกตัวไว้สอบเครียดในเซฟเฮาส์บนเกาะสมุย ล่าสุดทราบว่าทางทหารได้พาตัว รปภ.ต้องสงสัยทั้ง 3 คนไปสอบเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งที่ค่ายวิภาวดีรังสิต เขต อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งวันนี้ทางตำรวจได้ขอนุญาตทางทหารขอเข้าไปสอบปากคำ 3 รปภ.ต้องสงสัยแล้วเพื่อขยายผลของเหตุคาร์บอมบ์ครั้งนี้ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง และขบวนการมีใครอยู่เบื้องหลัง คาดว่าหากทางตำรวจสอบปากคำ 3 รปภ.ที่ค่ายทหารเสร็จ อาจจะนำไปสู่การออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเหตุคาร์บอมบ์ต่อไป,นอกจากนี้ ทางตำรวจยังจะได้มีการเก็บดีเอ็นเอของ 3 รปภ.อย่างละเอียด เพื่อนำไปตรวจสอบว่าตรงกับดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุหรือไม่ด้วย และขอยืนยันว่าจากการตรวจค้นบ้านพักของ 3 รปภ. ที่ถูกทหารนำตัวไปไม่มีการพบสารผลิตระเบิดตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด พบแต่เพียงแผนผังของห้างเซ็นทรัลเพราะ 1ใน 3 รปภ.มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องกล้อง CCTV ของห้างด้วย จึงทำให้ต้องมีแผนผังของห้างไว้ด้วย ซึ่งตำรวจกำลังแกะรอยจากประเด็นนี้ด้วย,รวมทั้งได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด CCTV จากด่านตรวจต่างๆ มาตั้งแต่เขต จ.สงขลา จ.นครศรีธรรมราช มาจนถึงท่าเรือเฟอรี่ดอนสัก พบว่าเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 9 เม.ย. 58 ได้พบรถกระบะยี่ห้อมาสด้าคันที่ถูกปล้นมาจาก อบต.ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา ขับผ่านกล้องวงจรปิดของด่านตรวจ อ.สิงหานคร อย่างชัดเจน โดยมองไม่เห็นภาพคนขับในรถแต่อย่างใด และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากด่านตรวจอื่นๆ แต่ยังไม่พบ นอกจากภาพที่พบจากกล้องวงจรปิดที่ท่าเรือราชาเฟอรี่ฝั่งดอนสัก เมื่อวันที่ 10 เม.ย. เวลา 07.00 น. เท่านั้น,หลังจากนั้นรถคันดังกล่าวได้ขับขึ้นบนฝั่งเกาะสมุยเมื่อเวลา 08.30 น. แล้วคนขับได้ขับรถเรื่อยไปไม่หยุดที่ไหน จนขับมาจอดหยุดรอบริเวณพรุเฉวง ฝั่งตรงข้ามกับห้างเซ็นทรัลเกาะสมุย อยู่นานประมาณ 33 นาที ก่อนที่คนขับจะขับรถเข้าไปจอดลานจอดรถชั้นใต้ดินของห้างเซ็นทรัลเกาะสมุย เดินขึ้นมาบนห้างหายไป คาดว่ามีการตั้งระเบิดเวลาด้วยโทรศัพท์มือถือก่อนระเบิดคาร์บอมบ์ทำงานเมื่อเวลา 22.30 น. ของวันที่ 10 เม.ย. ซึ่งทางตำรวจชุดคลี่คลายคดีทุกชุดกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่ ขณะนี้คาดว่าจะสามารถคลี่คลายคดีได้เร็วๆ นี้แน่นอน พล.ต.ต.สมชาย กล่าว | รอง ผบช.ภ.8 แถลงชายเสื้อน้ำเงินที่พบในกล้องวงจรปิดห้างเซ็นทรัลสมุย ไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยขับคาร์บอมบ์ หลังเข้าพบ ตร.ยืนยันวันเกิดเหตุ ปั่นจักรยานมาเที่ยวห้างเพราะขับรถยนต์ไม่เป็น มุ่งสอบ3รปภ.ที่ทหารคุมตัวไป เชื่อกุมความลับสำคัญ | ข่าว,ทั่วไทย | คาร์บอมบ์,คาร์บอมบ์เกาะสมุย,รถกระบะซุกระเบิด,เซ็นทรัลเกาาะสมุย,เกาะสมุย,ชายเสื้อน้ำเงิน,สุราษฎร์ธานี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ไม่เกี่ยวคาร์บอม | https://www.thairath.co.th/news/local/492981 |
สาวสองดีกรีนางงาม ร้องทนายหลังผ่าตัดแปลงเพศแล้วเน่า มีปัญหาจนแฟนขอเลิก | สาวประเภทสอง ผู้เข้าประกวดเวทีนางงาม ร้องเรียนทนายรณณรงค์ หลังผ่าตัดแปลงเพศ หมดเงินไปกว่า 2 แสนแล้วแผลเน่า อวัยวะเพศไม่ลึกจนแฟนขอเลิกวันที่ 22 ก.ค.63 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น้องออเก้า อายุ 23 ปี สาวประเภทสอง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เข้าประกวดจากเวทีประกวดความงามแห่งหนึ่ง ได้เดินทางเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือจาก ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังไปทำศัลยกรรมแปลงเพศ และตกแต่งใบหน้าจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านสาธุประดิษฐ์แต่ไม่เป็นไปตามข้อตกลงกัน เนื่องจากความลึกของช่องอวัยวะไม่ลึกพอ จากที่ต้องการ 7 นิ้ว แต่หลังผ่าตัดพบว่าลึกเพียง 3 นิ้ว แถมแผลที่ผ่ามาเริ่มเน่ามีกลิ่นเหม็น อักเสบมีน้ำเหลืองไหล เวลาปัสสาวะก็ไม่ตรง หมดเงินไป 234780 บาท จนต้องกลับไปขอแก้ไขแต่ รพ.กับหมอไม่รับผิดชอบ บอกถ้าจะแก้ไขทำให้ใหม่ต้องเสียเงินเพิ่มอีก จนรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงต้องมาร้องเรียนทนายคนดังให้ช่วยเหลือทั้งนี้ น้องออเก้า อ้างว่า เมื่อวันที่ 29 เม.ย.62 ตนได้ไปทำศัลยกรรมใบหน้ากับแปลงเพศที่ รพ.ศัลยกรรมตกแต่งย่านสาธุประดิษฐ์ กรุงเทพมหานคร เสียค่าใช้จ่ายไป 234870 บาท หลังผ่าตัดแปลงเพศพบว่าอวัยวะที่ทำมาเกิดเป็นแผลเน่า มีกลิ่นเหม็น มีหนองไหลออกมา จึงรีบติดต่อ รพ.และหมอ ผู้ทำศัลยกรรมโดยทางหมอได้รักษาล้างแผลในส่วนของเนื้อที่ตายอยู่หลายอาทิตย์จนบาดแผลดีขึ้น แต่เวลาปัสสาวะพบว่าน้ำปัสสาวะจะพุ่งเฉียงทางด้านซ้ายจนต้องเตรียมทิชชูไว้เช็ดตลอดเวลา เพราะปัสสาวะจะเลอะที่ขา แต่ที่น่าเสียใจและอยากฆ่าตัวตายคืออวัยวะที่ผ่าตัดแปลงเพศมามีความลึกเพียง 3 นิ้ว จากที่ตกลงกันไว้ 7 นิ้ว ทำให้เวลามีเพศสัมพันธ์กับแฟนมีอุปสรรคแฟนไม่สามารถสอดอวัยวะเพศเข้าไปได้ จนแฟนทนไม่ไหวต้องขอเลิกเมื่อสอบถามไปที่หมอก็บอกว่าติดผนังพังผืดถ้าจะแก้ไขหรือทำใหม่ต้องเสียเงินเพิ่มอีก 190000 บาท โดยทาง รพ.จะมีส่วนลดให้ ตนเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงต้องเดินทางมาร้องเรียนกับทนายคนดังเพื่อขอคำปรึกษาว่าดำเนินการอย่างไรได้บ้างด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้ทางน้องออเก้าสาวประเภทสอง เข้ามาร้องทุกข์กรณีดังกล่าวตนจะประสานสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หมอ โรงพยาบาลและผู้เสียหาย มาไกล่เกลี่ยกันแต่ถ้าไม่มีความคืบหน้าจะไปที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สบส.แต่ต้องรอดูการเจรจาก่อน แต่เชื่อว่าทางด้านคุณหมอคงอยากจะซ่อมให้เพราะกลัวจะเสียลูกค้าอยากฝากเตือนคนที่ต้องการจะผ่าตัดเพราะตนเคยผ่านเคสแบบนี้มากว่าร้อยเคสแล้ว เคยพูดคุยกับหมอไม่มีการผ่าตัดศัลยกรรมอะไรที่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ อยากให้เซลส์บอกเรื่องนี้กับทางผู้ที่จะมาทำศัลยกรรมด้วย. | สาวประเภทสอง ผู้เข้าประกวดเวทีนางงาม ร้องเรียนทนายรณณรงค์ หลังผ่าตัดแปลงเพศ หมดเงินไปกว่า 2 แสนแล้วแผลเน่า อวัยวะเพศไม่ลึกจนแฟนขอเลิก | ข่าว,สังคม | ศัลยกรรมแปลงเพศ,สาวประเภทสอง,ผ่าตัดแปลงเพศ,อวัยวะเพศเน่า,ร้องเรียน,ทนายคู่ใจ,เตือนภัย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1895239 |
สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 30 เม.ย. - 6 พ.ค. 2557 | กระทรวงแรงงานร่วมกับสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย โดยสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานอุตสาหกรรมเอกชน ทำบุญถวายภัตตาหารเช้า พระสงฆ์ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ที่ลานพระราชวังดุสิตวันแรงงานปีนี้ กระทรวงแรงงานร่วมกับสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย โดยสภาองค์การลูกจ้าง สภาแรงงานอุตสาหกรรมเอกชน นำโดย นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการและตัวแทนสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย ร่วมทำบุญถวายภัตตาหารเช้า พระสงฆ์ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ที่ลานพระราชวังดุสิต หลังเสร็จสิ้นพิธีก่อนการเคลื่อนขบวนเทิดพระเกียรติ 87 พรรษา โดยใช้ถนนศรีอยุธยา ผ่านหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล ไปเลี้ยวขวาที่แยก พล.1 เข้าถนนราชสีมา ผ่านแยกวังแดง แยกประชาเกษม เข้าสู่ถนนประชาธิปไตย ผ่านแยกวิสุทธิกษัตริย์ แยกสะพานวันชาติ เข้าถนนดินสอ อ้อมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ต่อด้วยถนนราชดำเนิน เพื่อเข้าสู่ปะรำพิธีท้องสนามหลวง เพื่อวางพานพุ่มหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยนายทวี ดียิ่ง ประธานคณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2557 กล่าวปราศรัยเสนอข้อเรียกร้องวันแรงงานจำนวน 12 ข้อ เช่น ให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 87 และ 98 อย่างเร่งด่วน ให้รัฐบาลเร่งนำร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมของผู้ใช้แรงงาน เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็ว และให้รัฐบาลตรากฎหมายตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงลูกจ้างที่สถานประกอบการปิดกิจการ เพื่อสร้างความมั่นคงในการทำงาน เป็นต้น ก่อนยื่นให้ปลัดกระทรวงแรงงาน นอกจากนี้มีกลุ่มแรงงานหลายกลุ่ม รวมตัวหน้ารัฐสภา ประกาศข้อเสนอวันกรรมกรสากลไปยังรัฐบาลด้านนายจีรศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับข้อเรียกร้องของแรงงาน กระทรวงรับจะไปเสนอรัฐบาลใหม่ ส่วนบางเรื่องที่ต้องแก้ข้อกฎหมายก็จะดำเนินการทันที ขณะที่การคืนสภาพให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ให้ผู้ประกันตนที่หลุดจากระบบไปแล้วนั้นเห็นด้วย แต่ต้องออกเป็น พ.ร.บ. ซึ่งเป็นอำนาจสภาผู้แทนราษฎร(ไทยรัฐ 1-5-2557)นางฝังใจ ฉิมกูล รองประธานสหภาพแรงงานจ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า หลังมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท ทำให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางต้องปรับลดการจ้างแรงงาน เนื่องจากรายได้ไม่เพียงพอกับการจ้างงาน ทำให้เกิดปัญหากระทบทั้งนายจ้างและแรงงาน จึงขอให้รัฐบาลได้ทบทวนนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท พร้อมจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ถูกเลิกจ้างในช่วงเกิดภาวะวิกฤติเศรษฐกิจดังกล่าว เพราะผู้ประกอบการบางรายประสบปัญหาไม่มีเงินจ่ายชดเชยให้กับแรงงานที่ถูกเลิกจ้าง จึงเกิดการฟ้องร้องระหว่างแรงงานกับนายจ้าง ทำให้แรงงานต้องได้รับความเดือดร้อนประสบปัญหาขาดรายได้ขณะที่นางสุรัส อนุนิวัฒน์ หนึ่งในสมาชิกสหภาพแรงงาน กล่าวว่า วันแรงงานปีนี้อยากให้รัฐบาลเงินสมทบประกันสังคมที่รับผิดชอบจ่ายร่วมกัน 3 ฝ่าย ทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาล โดยการปรับลดการจ่ายเบี้ยประกันให้กับแรงงานให้ถูกลง เพราะที่ผ่านมาแรงงานต้องจ่ายเงินสมทบจำนวนที่สูงเกินควร ทำให้แรงงานบางรายที่มีเงินเดือนน้อยแต่รับภาระทางครอบครัวสูง ทำให้เกิดผลกระทบตามมาด้านนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ พร้อมริ้วขบวนพาเหรดของกลุ่มนายจ้าง ผู้ประกอบการ และผู้ใช้แรงงานเดินเข้าสู่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง เพื่อร่วมกิจกรรมแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาแนะผู้ใช้แรงงานพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานและความรู้ความสามารถให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ปี 2558 ซึ่งทุกประเทศสมาชิกจะเปิดโอกาสให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานกันอย่างเสรีมากขึ้น ทำให้แรงงานมีโอกาสในการทำงานเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเน้นย้ำผู้ประกอบการดูแลความเป็นอยู่สิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่าง ๆ ให้ลูกจ้างตามความเหมาะสม โดยเฉพาะการปรับค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมายกำหนดส่วน จ.สตูล นายประยูร รัตน์เสนีย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด และนางเรณู สังข์ทองจีน สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด เปิดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาสมานฉันท์แก่ผู้ใช้แรงงานร่วม 300 คน ที่สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดี ในระบบไตรภาคี รวมทั้งเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้กับลูกจ้างผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ(สำนักข่าวไทย 1-5-2557)นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันแรงงานแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข ได้มีในมาตรการดูแลสุขภาพผู้ใช้แรงงานซึ่งเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ ที่สร้างเศรษฐกิจให้ประเทศ ให้มีสุขภาพดี สามารถทำงานได้เต็มศักยภาพ เพื่อเป็นที่พึ่งพิงของคนในครอบครัว ทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จาก 48 คนต่อวัยแรงงาน 100 คนในปี 2553 เป็น 60 คนต่อวัยแรงงาน 100 คนในอีก 15 ปีข้างหน้า และแนวโน้มประชากรสูงอายุของไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากประชากรวัยแรงงานเจ็บป่วยหรือมีปัญหาสุขภาพไม่สามารถทำงานได้ จะเกิดผลกระทบต่อครอบครัว ขาดเสาหลักหารายได้ลี้ยงดู ตกอยู่ในสถานะรอรับการสงเคราะห์จากสังคม เป็นปัญหาระยะยาวของประเทศข้อมูลล่าสุดของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2557 ไทยมีประชากรที่มีงานทำประมาณ 38 ล้านคน โดยอยู่ในภาคเกษตรกรรม 13 ล้านคน ที่เหลือเกือบ 25 ล้านคน อยู่ในภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ และอื่นๆ เช่นการผลิตต่างๆ การก่อสร้าง การขาย การขนส่ง เป็นต้น โดยมีสถานประกอบการทั่วประเทศกว่า 2 ล้านแห่ง ผลสำรวจภาวะสุขภาพของแรงงานในภาคเกษตรกรรมในปี 2554-2556 พบปัญหาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในเลือดประมาณร้อยละ 30 ส่วนผู้ที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลล่าสุดในปี 2554 พบกว่าร้อยละ 10 ของแรงงานทั้งหมด หรือเกือบ 4 ล้านคน ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง มากที่สุดคือโรคหัวใจและหลอดเลือด รองลงมาคือเบาหวาน และโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง นอกจากนี้ ยังพบว่าในปี 2555 มีผู้ได้รับอันตรายจากการทำงานถึงขั้นเสียชีวิต 717 ราย และพิการหรือสูญเสียอวัยวะบางส่วน 1827 ราย จึงต้องเร่งให้การดูแล เน้นหนักที่การป้องกันควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคในสถานประกอบการ โดยมอบหมายให้กรมควบคุมโรค ดำเนินการแก้ไขและป้องกันนายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรค ได้จัดทำโครงการ วัยทำงานปลอดโรคปลอดภัย กายใจเป็นสุข โดยในภาคเกษตร ได้ขยายคลินิกดูแลสุขภาพเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งจะเร่งให้ครอบคลุมทั่วประเทศโดยเร็ว ส่วนในภาคอุตสาหกรรม ได้พัฒนามาตรฐานสถานประกอบการและวิสาหกิจชุมชนซึ่งเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ของวัยแรงงาน ที่ต้องอยู่วันละ 8-9 ชั่วโมง ให้เป็นสถานที่ปลอดโรคปลอดภัย โดยในปี 2556 ดำเนินการแล้ว 228 แห่ง ส่วนในปี 2557 จะดำเนินการเพิ่มอีก 800 แห่งทั่วประเทศ และจะขยายเพิ่มอีกปีละ 10 แห่งต่อจังหวัด ประเด็นที่เน้นหนักประกอบด้วย ความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม สถานที่ทำงาน และการใช้อุปกรณ์ป้องกันขณะทำงาน รวมถึงการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันการเจ็บป่วย ลดความเครียด(เนชั่นทันข่าว 1-5-2557)(1 พ.ค.) นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้เดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิด วันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2557 ที่สนามกีฬาเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เทศบาลนครแม่สอด โดยมีนายปรีชา ใจเพชร นายอำเภอแม่สอด พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนตัวแทนภาคเอกชนให้การต้อนรับ ท่ามกลางแรงงานไทย-พม่า และกะเหรี่ยง จากโรงงาน บริษัท ห้างร้านต่างๆ ที่มาร่วมงานจำนวนมาก กิจกรรมวันแรงงานครั้งนี้มีการแสดงจากแรงงานทุกชนกลุ่ม ทุกเชื้อชาติภาษา การจัดนิทรรศการแรงงาน รวมทั้งการจัดตลาดนัดแรงงาน เพื่อให้คนที่สนใจที่จะทำงานมาสมัครงานได้ ตลอดจนการแข่งขันกีฬาทั้งฟุตบอล เซปักตะกร้อ วอลเลย์บอล ฯลฯ ตลอดทั้งวัน ทั้งนี้ ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด ถือเป็นหัวเมืองเศรษฐกิจสำคัญบนระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก หรือ East-West Economic Corridor (EWEC) และเป็นเมืองเศรษฐกิจ-การค้า-การลงทุน ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เป็นแหล่งที่มีแรงงานต่างด้าวอยู่จำนวนมาก(ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 1-5-2557)เมื่อวันที่ 2 พ.ค. นายยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัย การพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เปิดเผยว่า ปัจจุบันอัตราการว่างงานของประเทศไทย ณ สิ้นปี 2556 อยู่ประมาณ 0.8% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 0.6% โดยอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2556 หรือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของไทยขยายตัวเพียง 2.9% ทำให้มีผู้ว่างงานประมาณ 3 แสนคน แต่หากเศรษฐกิจของไทยในปี 2557 ขยายตัวได้ต่ำกว่าในปี 2556 ตัวเลขการว่างงานก็จะเพิ่มสูงขึ้นทั้งนี้ ประเมินว่าจีดีพีในปี 2557 จะขยายตัวได้เพียง 2.5 - 2.7% มีความเป็นไปได้สูงที่อัตราการว่างงาน ของประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นจากระดับ 0.8% ในปี 2556 มาเป็นระดับ 1 - 1.2% ในปี 2557 หรือมีผู้ว่างงาน เพิ่มขึ้นจากประมาณ 3 แสนคน เป็น 4.5 แสนคน ซึ่งการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ไม่เพิ่มขึ้น มีผลโดยตรงต่อการจ้างงานในตำแหน่งใหม่ที่จะลดลง ดังนั้น หากเศรษฐกิจในปี 2557 ไม่ขยายตัวได้มากกว่าปี 2556 ตำแหน่งงานใหม่ที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเคยคาดการณ์ว่า จะมีเพิ่มขึ้นประมาณ 4 แสนตำแหน่งต่อปี จะเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ควรจะเป็นดังนั้น สิ่งที่น่ากังวลก็คืออาจจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับการจ้างงานใหม่โดยมีแนวโน้มว่าหากเศรษฐกิจขยายตัวได้น้อยอาจจะมีนักเรียน นักศึกษาที่จบการศึกษาใหม่ประมาณ 1.5 แสนคนที่ว่างงาน ในจำนวนนี้เป็นนักศึกษาจบใหม่ระดับปริญญาตรีประมาณ 5 หมื่นคน และเป็นนักศึกษาวิชาชีพ หรือกลุ่มนักเรียนอาชีวะ ปวช. ปวส.ประมาณ 1 แสนคนสำหรับสถานการณ์ความต้องการแรงงานในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของไทยนั้น ปรับตัวดีขึ้น โดยภาคเอกชนจำนวนมากระบุว่านักเรียน นักศึกษาที่จบการศึกษาใหม่สามารถเข้ามาทดแทนแรงงานที่ขาดแคลนและแรงงานที่ออกนอกระบบงาน โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กหรือภาคอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานในการผลิตสูง ซึ่งภาคอุตสาหกรรมบางสาขามีความต้องการแรงงาน ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ยังขาดแคลนแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น บุคลากรเรื่องช่างยนต์นอกจากนี้ มองว่า ใน 1-2 ปีนี้นักศึกษาจบใหม่ที่มีอัตราการทำงาน และเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นจำนวนมากเป็นคณะนิเทศศาสตร์ โดยเฉพาะสาขาวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดธุรกิจทีวีดิจิตอลหลายช่อง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีความต้องการบุคลากรที่มีประสบการณ์ในธุรกิจนี้ ซึ่งสามารถถ่ายทอดความรู้ หรือจัดอบรมให้กับนักศึกษาใหม่ได้ เพื่อให้สามารถทำงานได้จริงเร็วที่สุด(ไทยรัฐออนไลน์ 2-5-2557)ม.ล.ปุณฑริก สมิติ รองปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตนในฐานะผู้แทนกระทรวงแรงงาน รวมทั้งผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ (พม.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (กต.) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจะเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 3-9 พฤษภาคม 2557 เพื่อชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการป้องกันและความคืบหน้าการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ในภาคประมงต่อหน่วยงานที่ดูแลด้านการค้ามนุษย์ของอเมริกา เช่น กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานดูแลและป้องกันการค้ามนุษย์ของกระทรวงการต่างประเทศ รัฐสภา และสมาคมผู้ประกอบการภัตตาคารของอเมริกาซึ่งซื้ออาหารทะเลจากประเทศไทย หลังจากก่อนหน้านี้ไทยได้ส่งรายงานมาตรการป้องกันและความคืบหน้าแก้ปัญหาค้า มนุษย์ทั้งภาคประมงและการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับไปยังอเมริกาเพื่อพิจารณาให้ปลดประเทศไทยออกจากการเป็นประเทศ ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษด้านการค้ามนุษย์ซึ่งไทยถูกจัดอันดับอยู่ที่ 2.5 มาเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันและขณะนี้หลายฝ่ายกังวลว่าไทยจะถูกลดอันดับลงไปอยู่ที่ 3 ซึ่งจะทำให้ไทยถูกกีดกันในการส่งออกสินค้าและกระทบต่อเศรษฐกิจของไทยอย่าง มาก รองปลัด รง. กล่าวอีกว่า ก่อนที่จะเดินทางไปกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานต่างๆ ได้ประชุมร่วมกันเพื่อเตรียมความพร้อมในการชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมต่ออเมริกา โดยมี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รักษาการรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมดังกล่าว ซึ่งนายพงศ์เทพได้กำชับให้ชี้แจงข้อมูลการป้องกันและแก้ปัญหาค้ามนุษย์ตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน หากอเมริกามีข้อสงสัยสอบถาม หรือขอข้อมูลเพิ่มเติมค่อยชี้แจงภายหลัง ซึ่งในส่วนของกระทรวงแรงงานจะชี้แจงถึงมาตรการป้องกันและความคืบหน้าการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ภาคประมง เช่น กระทรวงแรงงานได้ลงนามความร่วมมือกับสมาคมและผู้ประกอบการด้านอาหารทะเลขอความร่วมมือไม่จ้างเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีทำงาน ไม่ให้นำเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าไปในล้งกุ้ง ล้งปลา การจ้างงานแรงงานต่างด้าวให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากใช้แรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายก็ให้นำมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง การไปชี้แจงต่ออเมริกาในครั้งนี้กระทรวงแรงงาน กระทรวงต่างๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพยายามชี้แจงให้อเมริกาเข้าใจว่าไทย มีความนโยบาย แผนงาน และเดินหน้าแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ในภาคประมงอย่างจริงจัง เชื่อว่าไทยมีโอกาสที่จะไม่ถูกลดอันดับประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษด้าน การค้ามนุษย์ลงไปอยู่ที่อันดับ 3 เพราะช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา กระทรวงและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องของไทยมีความร่วมมือกัน อย่างเข้มแข็งและพยายามแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ม.ล.ปุณฑริก กล่าว(ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 5-5-2557)รศ.ดร.จอมพงศ์ มงคลวนิช นายกสมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการร่วมเวทีเสวนากับผู้แทนสภาอุตสาหกรรม พบว่าแนวโน้มตลาดแรงงานมีความต้องการผู้ที่จบระดับปริญญาตรีประมาณ 10% ในขณะที่ต้องการผู้ที่จบสายอาชีวศึกษาถึง 50% ส่วนที่เหลือเป็นแรงงานที่ต่ำกว่ามัธยมศึกษา ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบันเด็กไทยยังมีค่านิยมเรียนปริญญาตรี ดังนั้นจากแนวโน้มความต้องการของตลาดแรงงานจะเห็นว่าโอกาสที่คนจบปริญญาตรีแล้วไม่มีงานทำจะสูงมาก ผู้ที่จบปริญญาตรีอาจต้องทำคือการมีธุรกิจส่วนตัว แต่จากข้อมูลทราบว่าคนที่ประกอบธุรกิจแล้วล้มเหลวมีมากถึง 70% จากกการสำรวจการมีงานทำระหว่างเด็กอาชีวะกับเด็กจบปริญญาตรี พบว่าเด็กปริญญาตรีมีอัตราการว่างงานสูงกกว่า จึงต้องผันตัวเองไปทำธุรกิจส่วนตัว แต่พบความล้มเหลวประมาณ 70% ดังนั้นคนที่จบปริญญาตรีถึงปริญญาเอกต้องกลับมาเรียนสายวิชาชีพโดยการเทียบโอนวิชาสามัญมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็พบแนวโน้มนี้บ้างแล้ว และยังพบด้วยว่าผู้ที่จบระดับปริญญาตรียอมใช้วุฒิการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ในการสมัครงานอีกด้วย รศ.ดร.จอมพงศ์กล่าว ดังนั้น ในอนาคตคงต้องรับเทียบโอนคนที่จบปริญญาเพื่อให้มีคุณวุฒิทางวิชาชีพ โดยระบบทวิภาคี ซึ่งจะเป็นระบบการเรียนที่เหมาะสมที่สุด เพราะคนที่จบปริญญาจะมีคุณวุฒิทางวิชาการ แต่ภาคอุตสาหกรรมต้องการคนมีทักษะทางวิชาชีพ หากเรียนในระบบทวิภาคีก็จะได้เรียนภาคปฏิบัติในสถานประกอบการที่กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก ซึ่งขณะนี้ทางสมาคมได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พัฒนาฐานสมรรถนะเพื่อแทรกเข้าไปในหลักสูตรการเรียนการสอน เมื่อผู้เรียนจบในสายวิชาชีพก็จะสามารถเทียบระดับกับคุณวุฒิวิชาชีพที่มีอยู่ได้ อย่างไรก็ตาม การปรับทิศทางการจัดการศึกษาสายอาชีพ ทางสมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยจะเชิญผู้ที่จบระดับปริญญากลับมาเรียนในระบบทวิภาคีจะสามารถช่วยเพิ่มจำนวนแรงงานเพื่อรองรับความต้องการของตลาดแรงงานได้มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาคนเรียนสายอาชีพจะไม่ค่อยตกงาน เพราะแม้ว่าจะไม่ได้ทำงานบริษัทก็สามารถประกอบอาชีพส่วนตัวได้ ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจเทียบโอนสายอาชีพสามารถติดต่อได้ที่ สมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย หรือที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จะได้ประสานสถานศึกษาที่รับเทียบ(ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 6-5-2557) | ตัวแทนแรงงานเสนอ 12 ข้อเรียกร้องวันแรงงานสากลกระทรวงแรงงานร่วมกับสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย โดยสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานอุตสาหกรรมเอกชน ทำบุญถวายภัตตาหารเช้า พระสงฆ์ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ | คุณภาพชีวิต,แรงงาน,เศรษฐกิจ,สังคม | สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ | https://prachatai.com/journal/2014/05/53037 |
โรงพยาบาลสุรินทร์วุ่น เจอวิกฤติแล้ง นํ้าสำรองหมด กระทบถึงประชาชน | จากปกติต้องใช้ถึง 1 ล้านลิตร ที่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา อ่างเก็บน้ำเหือดแห้งมีน้ำผลิตประปาได้เดือนเดียว ส่วนลำน้ำปาว จ.กาฬสินธุ์ ลดฮวบเหลือ 1.2 เมตร หวั่นน้ำไม่พอ กรมชลประทานเดินหน้าโครงการเจาะอุโมงค์ภูเขานำน้ำแม่ยวม อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ไปเพิ่มน้ำเขื่อนภูมิพล จ.ตาก แก้ปัญหาขาดน้ำ ส่วนการค้นหาสองแม่ลูกถูกดินถล่มทับบ้านที่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ล่าสุดเจอศพทั้งคู่ฝังใต้โคลนลึกกว่า 1 เมตร,ภัยแล้งยังลุกลามหลายพื้นที่ โดยเมื่อวันที่ 8 ส.ค. นางปิยะฉัตร อินสว่าง รอง ผวจ.นครราชสีมา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชาวบ้านที่บ้านกุดนางทอหูก หมู่ 5 และบ้านกุดพญา หมู่ 21 ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด ที่ประสบปัญหาภัยแล้งมานาน ทำให้ชาวบ้าน 331 ครอบครัวขาดน้ำอุปโภคบริโภค โดยนางปิยะฉัตรไปดูโรงสูบน้ำประปาหมู่บ้าน และอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนบนบ้านสระพัง ต.บ้านเก่า อ.ด่านขุนทด แหล่งน้ำดิบผลิตน้ำประปาส่วนภูมิภาคด่านขุนทด รวมถึงตรวจดูสถานการณ์น้ำในบึงถนนหักใหญ่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด เนื้อที่กว่า 1,484 ไร่ เพื่อเจรจากับผู้นำชุมชนขอใช้น้ำไว้สำรองในการผลิตประปา นางปิยะฉัตรเผยว่า ขณะนี้อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนบนเหลือน้ำเพียง 2 แสน ลบ.ม. สามารถผลิตน้ำประปาได้อีก 1 เดือนเท่านั้น จึงต้องจัดหาแหล่งน้ำอื่นที่มีระยะทาง 4-5 กม.,ส่วนสถานการณ์ลำน้ำปาวในพื้นที่ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ลดระดับลงเรื่อยๆ หลังไม่มีฝนตกลงมาทำให้น้ำจากลำน้ำสาขาไม่น้ำไหลลงลำน้ำป่าว ล่าสุดระดับน้ำเหลือเพียง 1.2 เมตรเท่านั้น ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ อ.กมลาไสย และใกล้เคียงหวั่นวิตกว่าน้ำบริเวณสถานีสูบน้ำดิบจะมีไม่พอต่อการผลิตน้ำประปาในระยะยาว เนื่องจากช่วงไม่มีฝนตกลงมา อีกทั้งเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำน้อย เกรงว่าอาจไม่สามารถปล่อยน้ำเข้ามาสู่ลำน้ำปาวได้มากพอต่อการผลิตน้ำในประปา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จังหวัดได้ประเมินสถานการณ์น้ำและติดตามน้ำอย่างใกล้ชิดเพื่อหาแนวทางป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำดิบในการผลิตน้ำประปา อีกทั้งฝากเตือนให้ประชาชนช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่าเพื่อสามารถผ่านพ้นวิกฤติภัยแล้งปีนี้ รวมถึงมีน้ำต้นทุนใช้ไปถึงปีหน้า,ที่ รพ.สุรินทร์ นพ.ประวีณ ตัณฑประภา ผอ. รพ.สุรินทร์ ประกาศเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินจากผลกระทบต่อการบริการจัดการสุขภาพประชาชนจากสถานการณ์ภัยแล้ง หลังฝนทิ้งช่วงทำให้การผลิตน้ำประปาใน อ.เมืองสุรินทร์ไม่เพียงพอ แต่ละวันโรงพยาบาลใช้น้ำประมาณ 800,000-1,000,000 ลิตร อย่างไรก็ตาม ปกติโรงพยาบาลมีระบบน้ำสำรอง 1,430,000 ลิตร และตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.น้ำสำรองถูกใช้ไปหมดแล้ว จึงขอความช่วยเหลือจากทุกหน่วยงานเอาน้ำมาสนับสนุนได้เพียงวันละ 80,000 ลิตร หรือคิดเป็นร้อยละ 10 ของการใช้น้ำปกติ จึงกำหนดมาตรการประหยัดน้ำ 4 ข้อ เช่น ปรับรูปแบบการใช้น้ำลดลง โดยใช้แอลกอฮอล์ หรือเจลล้างมือแทนน้ำ,นายวิชัย จาตุรงค์กร ผู้อำนวยการโครงการบำรุงรักษาห้วยหลวง ต.โคกสะอาด อ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้น้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยหลวงเหลือแค่ 27.5 ล้าน ลบ.ม. แล้งหนักสุดในรอบ 10 ปี หลังจากเข้าสู่ฤดูฝนมาร่วม 2 เดือนเศษ แต่ไม่มีน้ำฝนไหลเข้าเลย ช่วงปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมามีความหวังจะมีน้ำฝนจากพายุ วิภา ช่วยเติมน้ำในอ่างแต่ก็มีน้ำฝนสะสมเพียง 3 แสน ลบ.ม.เท่านั้น หรือใช้ผลิตน้ำประปาให้ชาวเมืองอุดรธานีได้ไม่เกิน 3 วันเท่านั้น ถือว่าพิษสงของพายุไม่ได้ช่วยเลยก็ว่าได้ แต่ฤดูฝนยังเหลืออีกประมาณ 3 เดือน และยังมีความหวังจากร่องความกดอากาศต่ำที่จะพาดผ่าน ทำให้เกิดฝนตกลงในพื้นที่เหนืออ่างมากขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างให้มีกินมีใช้ไปจนถึงฤดูแล้งของปีหน้า,ส่วนที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน นายพิศิษฐ์ กิจบุญอนันต์ ปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอนร่วมกับนายณัฐวุฒิ นากสุก ผู้อำนวยการส่วนวิศวกรรม สำนักงานชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือถึงโครงการเพิ่มน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล (โครงการผันน้ำยวม-สาละวิน ลงสู่เขื่อนภูมิพล) กรมชลประทาน โดยการเจาะอุโมงค์ผ่านภูเขาเพื่อนำน้ำจากแม่ยวม อ.สบเมย ส่งผ่านไปลงห้วยน้ำงูด ต.นาคอเรือ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ไหลลงเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ระยะทาง 61.52 กม.วงเงินก่อสร้าง 7-8 หมื่นล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง มีตัวแทนเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำสาละวิน สมาคมพื้นฟูและพัฒนาลุ่มน้ำสาละวินและราษฎรในพื้นที่โครงการ 3 จังหวัด คือ แม่ฮ่องสอน ตาก และเชียงใหม่ ร่วมแสดงความคิดเห็น,นายณัฐวุฒิ นากสุก ผู้อำนวยการส่วนวิศวกรรม สำนักงานชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาภัยแล้งด้วยการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนภูมิพลแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำพื้นที่ตอนล่าง เขื่อนภูมิพลยังมีศักยภาพรองรับปริมาณน้ำที่จะผันจากแหล่งน้ำต่างๆ ได้มาก โดยเฉพาะลุ่มน้ำยวมที่มีปริมาณน้ำมากและใช้น้ำค่อนข้างน้อย น้ำส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 70 ไหลออกจากประเทศ โดยไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพ จึงควรผันน้ำส่วนที่เกินจากแม่น้ำยวมมาเก็บไว้ที่เขื่อนภูมิพล,ด้านนายไพโรจน์ พนาไพรสกุล ตัวแทนเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำสาละวินฯยื่นหนังสือคัดค้านผ่านไปยัง รมว.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอให้พิจารณายกเลิกโครงการในทันที เพื่อป้องกันความเสียหายกับทรัพยากรธรรมชาติ และรักษามรดกด้านธรรมชาติไว้ให้ลูกหลาน และความหวั่นวิตกกังวลของราษฎรในพื้นที่สถานีสูบน้ำบ้านสบเงาที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมลภาวะต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง แรงสั่นสะเทือนขุดเจาะอุโมงค์ หากสร้างเขื่อนจุดพื้นที่ริมน้ำเงาจะได้รับผลกระทบต่อผู้อาศัยมากกว่านี้,ส่วนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมหมู่บ้านชั้นในอุทยานแห่งชาติแม่เงา โดยเฉพาะเส้นทางบ้านแม่หลุย-บ้านนาดอย ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ถูกน้ำป่าไหลท่วมสูง 1 เมตร และดินภูเขาสไลด์ทับถนนหลายจุดรถวิ่งผ่านไม่ได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังนำเครื่องจักรกลเข้าไปเคลียร์เส้นทางไม่ได้ ส่วนการเดินทางภายในหมู่บ้านยังไปมาหาสู่ได้ ส่วนผู้ป่วยญาติต้องแบกหามออกมาหาหมอ และต้องใช้เรือท้องแบนในการสัญจรออกไปนอกหมู่บ้าน,ขณะที่การค้นหาผู้สูญหาย 2 คน จากเหตุการณ์ดินโคลนถล่มทับบ้าน 3 หลังที่บ้านเคาะทีโค๊ะ หมู่ 6 ต.แม่วะหลวง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา ทราบชื่อ น.ส.เจมึ นันทวัสน์มงคล อายุ 31 ปี และนางโทะเด นันทวัสน์มงคล อายุ 57 ปี สองแม่ลูกอยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 6 ต.แม่วะหลวง ล่าสุดช่วงเช้าวันเดียวกัน ทหารพรานที่ 35 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิต่างๆช่วยกันค้นหา กระทั่งพบศพ น.ส.เจมึถูกฝังอยู่ใต้โคลนกว่า 1 เมตร จากนั้นช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่เจอศพนางโทะเด ผู้เป็นแม่ถูกฝังจมโคลนห่างกับศพลูกสาวประมาณ 200 เมตร,ด้านนายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยช่วงวันที่ 8-11 ส.ค. จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว | ภัยแล้งลามถึงโรงพยาบาลที่ จ.สุรินทร์ ผอ.รพ.เปิดศูนย์ฉุกเฉินกู้วิกฤติ หลังน้ำประปาไม่เพียงพอ น้ำสำรองถูกใช้เกลี้ยงถัง ต้องขอน้ำจากที่อื่นมาเยียวยาได้แค่วันละ 8 หมื่นลิตร | ข่าว,ทั่วไทย | ภัยแล้ง,โรงพยาบาล,ขาดแคลนน้ำ,สุรินทร์,ฝนทิ้งช่วง,น้ำประปาไม่เพียงพอ,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/news/local/1633798 |
จาตุรนต์ ฉายแสง: ปัญหาแรงงานต่างด้าว ต้องรื้อทั้งระบบ | ผมเคยแสดงความเห็นเกี่ยวกับปัญหาแรงงานต่างด้าวมาบ้างแล้ว และก็ยังติดตามเรื่องนี้อยู่บ้าง 2-3 วันมานี้เห็นเรื่องแรงงานต่างด้าวเป็นข่าวขึ้นมาอีก ก็อยากจะแสดงความเห็นอีกสักหน่อย แต่ก่อนอื่นจะขอเริ่มด้วยการเล่าประสบการณ์ที่ได้ยินได้ฟังหรือได้พบเห็นเกี่ยวกับปัญหาแรงงานต่างด้าวสักหน่อยร้านอาหารร้านหนึ่งในแปดริ้ว เป็นร้านขายดี เพราะคนชอบรสชาติและราคาไม่แพง สะดวกและค่อนข้างเร็วดี เมื่อประมาณ 1 เดือนก่อนหน้านี้ เจ้าของร้านมีธุระต้องหยุดพัก พอดีกับลูกจ้างซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวขอลากลับบ้าน ผมลองสอบถามว่าจะเปิดร้านอีกเมื่อไหร่ ทีแรกก็ตอบว่า 1 เดือน เมื่อเร็วๆ นี้ถามใหม่ เขาบอกว่าคงต้องอีกอย่างน้อย 2 เดือนและไม่แน่ด้วยว่าจะเปิดร้านได้ เพราะลูกจ้างชุดเดิมนั้นคงไม่กลับมาแล้ว จะหาลูกจ้างใหม่ก็หาไม่ได้ผมคุยกับนักธุรกิจในกรุงเทพคนหนึ่ง เขาเล่าให้ฟังว่า เขาย้ายโรงงานของเขาไปอยู่แถวชายแดนในจังหวัดกาญจนบุรีมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะสะดวกในเรื่องแรงงานต่างด้าว ส่วนกิจการในกรุงเทพนั้นเหลือเพียงกิจการเล็กๆ มีแรงงานต่างด้าวอยู่ 3-4 คน ซึ่งหายากมาก จะต่ออายุแต่ละครั้งก็ยุ่งยากและสิ้นเปลืองมากคุยกับเพื่อนคนหนึ่ง ที่จ้างแรงงานต่างด้าวมาทำงานบ้าน เขาจัดการขออนุญาตให้แม่บ้านด้วยตนเอง เขาบอกว่าต้องใช้เวลานานและยุ่งยากมาก ใช้ค่าใช้จ่ายไปประมาณ 20000 บาทโดยไม่เกี่ยวกับค่าจ้าง เวลานี้จะต้องทำเรื่องต่ออายุ เขาตัดเสินใจเลือกให้เอเย่นต์เป็นคนทำให้ มีค่าบริการที่จ่ายให้เอเย่นต์ 8500 บาท ไม่นับค่าใช้จ่ายอื่นเพื่อนอีกคนมีกิจการก่อสร้าง เล่าให้ฟังว่า เวลาจ้างแรงงานต่างด้าว ต้องทำผ่านเอเย่นต์ จ้างมาเป็นชุด เวลาครบอายุก็ไปเป็นชุด เอเย่นต์ก็บอกว่าต้องหาชุดใหม่ ก็เลยต้องเริ่มใหม่หมดเสียค่าใช้จ่ายแพงกว่าต่ออายุ แต่ไม่รู้จะทำยังไงก็ต้องสุดแล้วแต่เอเย่นต์ จะหาเองก็ยุ่งยากถึงขั้นเป็นไปไม่ได้เลย พลาดขึ้นมาก็จะถูกลงโทษร้ายแรง ธุรกิจคงล้มไปเลยสองวันก่อน เห็นข่าวกรมการจัดหางานกำลังเร่งให้นายจ้างมาทำทะเบียนประวัติ-ขอใบอนุญาตทำงานแรงงานต่างด้าว กัมพูชา-เมียนมา-ลาว ให้แล้วเสร็จ ภายใน 31 มี.ค.นี้ โดยมั่นใจว่าจะไม่ขยายเวลาแล้ว มีการชี้แจงด้วยว่าหากไม่มาดำเนินการ แรงงานต่างด้าวจะมีความผิดตาม พ.ร.ก.บริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ทำงาน โดยไม่มีใบอนุญาต โทษปรับ 5000-50000 บาท ส่วนนายจ้างที่รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน มีโทษปรับตั้งแต่ 10000-100000 บาทต่อคนต่างด้าวที่จ้าง 1 คนหากพบว่า ทำผิดซ้ำอีก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50000-200000 บาทต่อคนต่างด้าวที่จ้าง 1 คน และห้ามจ้างแรงงานต่างด้าวเป็นเวลา 3 ปียังมีการชี้แจงด้วยว่า หลังจากเปิดดำเนินการทั่วประเทศมาตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.2561 ในกลุ่มประมงทะเล แปรรูปสัตว์น้ำ กลุ่มผ่านการคัดกรองความสัมพันธ์นายจ้าง-ลูกจ้าง และกลุ่มบัตรสีชมพู มียอดมาดำเนินการกว่า 5 แสนคน แต่ตอนนี้ยังเหลือ 1.1 ล้านคนอ่านข่าวต่อได้ที่: ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้น ก็คือ จะเกิดอะไรขึ้นกับการอาศัยแรงงานต่างด้าวทั้งระบบ ซึ่งมีการดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้วอย่างลุกลี้ลุกลนและสับสนอลหม่านมาตลอด เริ่มจากการออก พ.ร.ก. ซึ่งเป็นการออกกฎหมายอย่างเร่งด่วน ประกาศแล้วก็มีผลบังคับใช้ได้เลย ซึ่งน่าจะมีการเตรียมการล่วงหน้ามาอย่างดีแล้ว แต่ก็เปล่า พอประกาศ พ.ร.ก.ออกมาก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เซ็งแซ่ไปหมด จนต้องมีการใช้คำสั่งคสช.ออกมาแก้ พ.ร.ก.ในทางผ่อนผันกฎระเบียบมาครั้งหนึ่งแล้ว ต่อมาก็มีการแก้ไขอีก แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังพบปัญหาของระบบที่ใช้ดูแลแรงงานต่างด้าวอย่างมากมาตลอดผมเคยเสนอความเห็นไว้แล้วว่า ระบบที่ใช้ในการดูแลแรงงานต่างด้าว ตามที่ได้มีการออก พ.ร.ก. มานั้นเป็นระบบที่มุ่งหากินเอากับแรงงานต่างด้าวและสร้างปัญหาแก่นายจ้างมากกว่าที่จะเอื้ออำนวยให้เกิดการอาศัยแรงงานต่างด้าวอย่างเป็นธรรมกับเขา และจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจหรือเศรษฐกิจของประเทศ หรือแม้แต่การช่วยแก้ปัญหาของครัวเรือนต่างๆ ระบบนี้ให้อำนาจกรมการจัดหางานอย่างล้นเหลือและเน้นบทบาทของบริษัทจัดหางานที่ทั้งสองส่วนนี้จะถ้อยทีถ้อยอาศัยกันในการหาประโยชน์จากการจ้างแรงงานต่างด้าว ประโยชน์ที่ได้นี้ โดยหลักๆ จะตกกับ 3 ฝ่าย คือ รัฐ บริษัทจัดหางานและเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจใช้ดุลพินิจเมื่อระบบถูกวางไว้อย่างนี้แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะพบปัญหาความยุ่งยาก ล่าช้า และค่าใช้จ่ายที่สูง สิ้นเปลือง กับสภาพที่แรงงานต่างด้าวทยอยกลับประเทศของตนระลอกแล้วระลอกเล่า ทั้งๆ ที่ประเทศไทยก็ยังขาดแคลนและมีความจำเป็นต่องอาศัยแรงงานต่างด้าวอีกมาก | ผมเคยแสดงความเห็นเกี่ยวกับปัญหาแรงงานต่างด้าวมาบ้างแล้ว และก็ยังติดตามเรื่องนี้อยู่บ้าง 2-3 วันมานี้เห็นเรื่องแรงงานต่างด้าวเป็นข่าวขึ้นมาอีก ก็อยากจะแสดงความเห็นอีกสักหน่อย | การเมือง,แรงงาน | จาตุรนต์ ฉายแสง,พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าว,แรงงานต่างด้าว | https://prachatai.com/journal/2018/03/76131 |
เบคแค่ม รับเป็นทูตประชาสัมพันธ์ซุปเปอร์ลีก | ซุปเปอร์ลีกของจีน หรือ เอสซีแอลลีก ยอมจ้าง ซุปเปอร์สตาร์อย่าง เดวิด เบคแค่ม ให้เป็นทูตกีฬาในการส่งเสริมภาพลักษณ์ เพื่อทำให้ซุปเปอร์ลีกกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง หลังจากที่เกิดวิกฤติมัวหมองเพราะการล้มบอลมาเกือบ 20 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้สโมสรเซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว มีความพยายามจะดึงเบคแค่มไปร่วมทีมมาก่อนแต่ได้รับการปฎิเสธตลอด 4 วันของการทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ซุปเปอร์ลีก เบคแค่มได้รับความสนใจจากแฟนบอลชาวจีนเป็นอย่างดี ซึ่งเขาปรากฎตัวไปทุกที่ทั้งที่สนามฟุตบอลของสโมสรต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย รวมทั้งสำนักงานใหม่ของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้คนทั่วโลกได้เห็นความสำคัญและความยิ่งใหญ่ของฟุตบอลลีกในจีนหลายครั้งที่เบคแค่ม กล่าวกับเยาวชนและแฟนบอลของจีนว่า จีนเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งมีเด็ก ๆ มากมายที่ต้องการเล่นฟุตบอลและต้องการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เขาพร้อมจะให้คำแนะนำและให้การสนับสนุนเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการเล่นฟุตบอลเบคแค่มไม่ได้รับหน้าที่นี้เพื่อลบล้างข้อครหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในวงการฟุตบอลจีน แต่เขาไปเพื่อให้ความรู้แก่เยาวชนและช่วยให้เด็ก ๆ ได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่อย่างน้อยที่สุดชื่อเสียงของเบคแค่มมีส่วนกู้หน้าให้กับซุปเปอร์ลีกของจีนและกำลังเดินหน้าประชาสัมพันธ์ให้คนทั่วโลกเห็นว่าฟุตบอลลีกของจีนกำลังมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นและได้รับความนิยมสูงสุดลีกหนึ่งในโลกขณะนี้ ก่อนหน้านี้จีนพยายามดึงซุปเปอร์สตาร์มาเล่นในลีกหลายคนซึ่งมีทั้ง นิโคล่าส์ อเนลก้า ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา รวมถึงยอดกุนซืออย่าง มาเชลโล่ ลิปปิ้ | เดวิด เบคแค่ม เป็นนักเตะที่ปรากฎตัวในลีกไหนมักจะสร้างความนิยมได้อย่างสูง เช่นเดียวกับที่ไปเล่นในเมเจอร์ลีกสหรัฐและมีส่วนให้ฟุตบอลลีกสหรัฐฯได้รับความสนใจมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ซุปเปอร์ลีกของจีนที่ยอมจ้างเบคแค่มเพื่อการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านฟุตบอลของจีน หลังจากมัวหมองมาหลายปีเพราะปัญหาการล้มบอลในประเทศ | กีฬา | ซุปเปอร์ลีก,ทูต,เบคแค่ม | https://news.thaipbs.or.th/content/157630 |
ประกบแจหวั่นกลุ่มอนุรักษ์ รุดยื่นนายกฯ มาอุดร จี้ยุติประทานบัตรเหมืองโปแตช | เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น. ที่อาคารหอประชุมหลังใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี นางมณี บุญรอด แกนนำกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า ตอนเช้าก่อนที่กลุ่มชาวบ้นอกจากนี้เมื่อคืนก่อน ในหมู่บ้านได้มีการโปรยใบปลิรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อกลุ่มอนุรักษ์ฯ เดินทางมาถึงอาคารหอประชุม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ก็ได้มีพล.ต.อำนวย จุลโนนยาง ผบ.มทบ.24 ให้การต้อนรับและพาไปยื่นหนังสืโดยนางมณีกล่าวว่า วันนี้ตนรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ทัเจ้าหน้าที่เขาคงกลัวว่ากลุ่นางมณี กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นหนังสือที่ยื่นในวัอยากให้นายกฯ ยุติกระบวนการประทานบัตร ในขั้นตอนที่เหลืออยู่ คือ การทำประชาพิจารณ์ ตามมาตรา 88/7 แห่งพ.ร.บ.แร่ ปีพ.ศ.2545 เพราะจะทำให้เกิดปัญหาความขันอกจากนี้ได้มีแหล่งข่าวเปิด้านนายสุวิทย์ กุหลาบวงษ์ เลขาธิอย่ามองว่ามีเหมืองแร่ | เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น. ที่อาคารหอประชุมหลังใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี นางมณี บุญรอด แกนนำกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี พร้อมด้วยสมาชิกจำนวนกว่า 10 คน | การเมือง,สิทธิมนุษยชน,สิ่งแวดล้อม | กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,มณี บุญรอด,สุวิทย์ กุหลาบวงษ์,อุดรธานี,เหมืองโปแตช | https://prachatai.com/journal/2016/03/64730 |
สวยโสดแซ่บ วุ้นเส้น วิริฒิพา ถ่ายแบบชุดชั้นในลูกไม้สีดำสุดเซ็กซี่ | เรียกว่าเป็นสาวโสดแซ่บเซ็กซี่ขวัญใจหนุ่มๆ มาตลอด สำหรับ วุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์ เพราะถึงแม้กาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เจ้าตัวก็ยังคงสวยแซ่บ ดูแลรูปร่างดี หุ่นเป๊ะมาตลอด จึงไม่น่าแปลกใจที่เจ้าตัวยังมีผลงานพรีเซ็นเตอร์ต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องล่าสุด วุ้นเส้น วิริฒิพา เผยความแซ่บ เมื่อเจ้าตัวโพสต์ภาพตัวเองและนางแบบ 2 คน ในชุดชั้นในลายลูกไม้สีดำสุดเซ็กซี่ ซึ่งเป็นการถ่ายแบบให้แบรนด์ชุดชั้นในชื่อดัง บวกกับการโพสท่าที่เพิ่มเสน่ห์ความร้อนแรง ทำเอาแฟนๆ ที่ได้เห็นภาพต่างบอกว่าไฟลุกเต็มไอจีเลยทีเดียวนอกจากนี้ยังมีคนในวงการบันเทิงเข้ามาแซววุ้นเส้นหลายคน อาทิ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก กาละแมร์ พัชรศรี แต้ว ณฐพร ดาว พิมพ์ทอง ฟลุค เกริกพล อั๋น ภูวนาท ฯลฯ รวมไปถึงเพื่อนซี้อย่างนักแสดงสาวแซ่บ เมย์ พิชญ์นาฏ ที่แซวว่า โป๊ แถมใส่อีโมจิตาเป็นรูปหัวใจ ก็แหมแซ่บเกินต้านใจแบบนี้ ใครๆ ก็ชอบนี่จ๊ะ อิอิ. | วุ้นเส้น วิริฒิพา เผยความแซ่บ เมื่อเจ้าตัวโพสต์ภาพตัวเองและนางแบบ 2 คน ในชุดชั้นในลายลูกไม้สีดำสุดเซ็กซี่ ทำเอาแฟนๆ ที่ได้เห็นภาพต่างบอกว่าไฟลุกเต็มไอจีเลยทีเดียว | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | วุ้นเส้น วิริฒิพา,วุ้นเส้น วิริฒิพา เซ็กซี่,วุ้นเส้น วิริฒิพา ชุดชั้นใน,วุ้นเส้น วิริฒิพา แฟชั่นเซ็กซี่,ดาราเซ็กซี่,ข่าวบันเทิง,อินสตาแกรมดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1781711 |
ได้บทสรุปแล้ว เผยสาเหตุ น้ำตกเฒ่าโต้ เปลี่ยนเป็นสีแดง ยันไม่อันตราย (คลิป) | น้ำตกเฒ่าโต้ที่ จ.หนองบัวลำภู ได้บทสรุปแล้ว วันเกิดเหตุประปาล้างถังด่างทับทิมแล้วปล่อยน้ำไหลลงน้ำตก ส่งผลให้น้ำเป็นสีแดง ยันไม่เป็นอันตรายหลังจากโลกออนไลน์แชร์ภาพ น้ำตกเฒ่าโต้กลายเป็นสีแดง จนเป็นที่ฮือฮา ขณะที่ชาวบ้านเองก็ต้องการคำตอบที่แน่ชัด โดยเบื้องต้นคาดว่าต้นเหตุน่าจะมาจากการปล่อยน้ำกว่า 1000 ลบ.ม. ในโรงกรองน้ำประปาลงมา ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้นล่าสุด วันที่ 3 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพงษ์อิศรา พลเตชา ผจก.การประปาส่วนภูมิภาคสาขาหนองบัวลำภู ได้พาไปดูสาเหตุของน้ำสีแดง พร้อมยอมรับสาเหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากวันที่ 31 ธ.ค. 62 เจ้าหน้าที่การประปาพบระบบเติมน้ำด่างทับทิมที่ใช้แก้ไขปัญหาน้ำมีแมงกานีส ซึ่งใช้งานมานานหลายปีเกิดขัดข้อง โดยด่างทับทิมนำมาละลายน้ำ และส่งผ่านเข้าไปผสมกับน้ำประปาที่กรองฝุ่นตะกอน เพื่อจัดการกับแมงกานีสสาเหตุที่ทำให้น้ำประปามีสีเหลืองขุ่นเมื่อระบบส่งสารละลายด่างทับทิมขัดข้อง ประกอบกับในช่วงปีใหม่ พนักงานโรงกรองน้ำจึงจัดการแก้ไขปัญหาด้วยการปล่อยสารละลายด่างทับทิมปริมาณ 1 ลบ.ม. พร้อมขูดขัดทำความสะอาดถังสารละลายที่มีคราบด่างทับทิมสะสมมานานนับสิบปีด้วย โดยน้ำสารละลายที่ปล่อยออกจะไหลไปตามทางระบายน้ำ และไหลลงไปทางสปิลเวย์อ่างเก็บน้ำห้วยเหล่ายาง ที่ไหลไปลงน้ำตกเฒ่าโต้ ซึ่งวันนั้นก็มีการปล่อยน้ำที่เรียกว่าโบน้ำ 3 รอบ รอบละ 16 ลบ.ม. น้ำที่โบออกจึงไปพร้อมกับสารละลายด่างทับทิมที่ปล่อยลงไปด้วย น้ำที่ไหลไปถึงน้ำตกจึงมีสีแดง ทำให้ผู้โพสต์ภาพที่เล่นน้ำในห้วงที่น้ำไหลไปถึงจึงเห็นน้ำสีแดงที่ไหลลงไปพอดีจากนั้นทีมนักวิทย์จากการประปาส่วนภูมิภาค เขต 7 ได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบสภาพน้ำในน้ำตกเฒ่าโต้ โดย นางจริญญา ศรีอุดม หน.งานควบคุมคุณภาพน้ำ 2 กองระบบผลิตและควบคุมคุณภาพน้ำ ได้นำเครื่องตรวจวัดความเป็นกรดเป็นด่าง วัดค่าได้ 7.2 อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำมีคุณภาพ วัดค่าออกซิเจนละลายน้ำ ได้ 6.7 มก./ล. ได้ค่ามาตรฐาน ทั้งสองค่าแสดงว่าน้ำในน้ำตกเฒ่าโต้ไม่เป็นอันตรายต่อคน สัตว์ และธรรมชาติจากนั้นก็ได้นำด่างทับทิมละลายน้ำมารินใส่น้ำตก น้ำด่างทับทิมที่เป็นสีม่วงก็กลายเป็นสีแดงเหมือนที่ปรากฏตามภาพในเฟซบุ๊กโดยนางจริญญาบอกว่า เท่าที่ได้เข้าตรวจสอบพบว่า ถังใส่สารละลายด่างทับทิมในโรงจ่ายสารเคมีบริเวณโรงกรองน้ำห้วยเหล่ายางมีปริมาตร 1 ลบ.ม. จะมีการเติมด่างทับทิม 1 กก. ไปละลายและส่งเข้าโรงกรองวันละ 3 รอบ เพื่อใช้กำจัดแมงกานีสในน้ำและที่โรงกรองแห่งนี้จำเป็นต้องใช้ทั้งที่ราคาแพงกว่าการจัดการด้วยวิธีอื่นอย่างไรก็ตาม ด่างทับทิมนำมาใช้ที่นี่นานนับปีแล้ว ทำให้ถังสารละลายด่างทับทิมมีการสะสมตะกอนและไปอุดตันทำให้เกิดปัญหาระบบส่งจ่าย จำเป็นต้องล้างทำความสะอาดทั้งขัดถูคราบสะสมออกไปด้วย ปัญหามันเกิดขึ้นเมื่อล้างแล้วก็ปล่อยลงรางระบายน้ำ เพราะคิดว่ามันไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่เกิดเป็นน้ำสีแดงและมีคนมาเห็นเข้าดังกล่าว ซึ่งการตรวจสอบในครั้งนี้จะได้รายงานให้ทางจังหวัดทราบ ส่วนการจัดการน้ำสารละลายด่างทับทิมต่อไปคงต้องสูบทิ้งลงดินกันต่อไป. | น้ำตกเฒ่าโต้ ที่ จ.หนองบัวลำภู ได้บทสรุปแล้ว วันเกิดเหตุประปาล้างถังด่างทับทิมแล้วปล่อยน้ำไหลลงน้ำตก ส่งผลให้น้ำเป็นสีแดง ยันไม่เป็นอันตราย | ข่าว,สังคม | น้ำตกเฒ่าโต้,น้ำตกสีเลือด,น้ำตกสีแดง,น้ำตก,หนองบัวลำภู,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1739538 |
มูลนิธิศูนย์ศึกษาที่อยู่อาศัยแห่งเอเซีย เสนอวิธีแก้ปัญหาชุมชนแออัดในเมือง | นางสมสุข บุญญะบัญชา เลขาธิการมูลนิธิศูนย์ศึกษาที่อยู่อาศัยแห่งเอเชีย กล่าวระหว่างการเสวนา หัวข้อ การแก้ปัญหาชุมชนแออัดสังคมเมืองในภูมิภาคเอเชีย ว่า ปัจจุบันในภูมิภาคเอเชีย มีประชากรอาศัยอยู่ในชุมชนแออัดประมาณ 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งรูปแบบปัญหาของแต่ละประเทศก็แตกต่างกันไป พร้อมเสนอแนวทางการแก้ปัญหาความแออัดของชุมชนเมืองที่ดีที่สุด ควรเปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา และจัดการระบบโดยชุมชน รวมทั้ง สร้างระบบการเงินที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ขณะที่รัฐบาล ควรสนับสนุนงบประมาณที่เหมาะสมกับปริมาณชุมชนแออัดที่มีอยู่ในปัจจุบัน และสานนโยบายการแก้ปัญหาที่ต่อเนื่อง แม้จะมีการสับเปลี่ยนรัฐบาลก็ตามทั้งนี้จากการสำรวจพบว่า ประเทศไทยเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา มีชุมชนแออัดมากถึง 8 ล้านครัวเรือน โดยพื้นที่กรุงเทพมหานครมีชุมชนแออัดประมาณ 1 พันแห่ง พื้นที่ที่พบความหนาแน่นของชุมชนแออัด เช่น เขตคลองเตย ยานนาวา บางเขน ดุสิต พระโขนง วังทองหลาง หนองแขม และภาษีเจริญ ทั้งนี้ สิ่งที่น่ากังวลจากนี้ไป คือการเกิดชุมชนแออัด จะมีแนวโน้มขยายตัวไปสู่พื้นที่ชั้นนอกมากขึ้น เนื่องจากราคาที่ดินยังมีราคาถูก หากเปรียบเทียบกับในเขตเมืองที่การพัฒนาเมืองขยายตัวอย่างรวดเร็ว | มูลนิธิศูนย์ศึกษาที่อยู่อาศัยแห่งเอเซีย เสนอรัฐบาลจัดสรรงบประมาณสำหรับการแก้ปัญหาชุมชนแออัดในเมืองเพิ่มขึ้น และเปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาภายในชุมชน เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมและยั่งยืน | ภูมิภาค | ชุมชนแออัด,มูลนิธิศูนย์ศึกษาที่อยู่อาศัยแห่งเอเซีย,วิธีแก้ปัญหา | https://news.thaipbs.or.th/content/111428 |
ใครก็ได้ หงส์แดง กางเป้าจับปลาสองมือ ล่า 2 ตัวทีเด็ด ขจัดหอกสาก | สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน วันที่ 22 มี.ค. ว่า หงส์แดง ลิเวอร์พูล ยักษ์หลับแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทนไม่ไหวกับปัญหาดาวยิงของทีม ล่าสุด มีแผนล่าตัวสองดาวยิงอย่าง อิวาน เปริซิช จากอินเตอร์ มิลาน และ ทิโม เวอร์เนอร์ จากไลป์ซิก มาร่วมทีมหลังตลาดเปิดตัวอีกรอบ,ตามรายงานจาก Calciomercato สื่ออิตาลี รายงานว่า ตัวรุกทีเด็ดของอินเตอร์ มิลาน มีสัญญากับทีมถึงเพียงปี 2020 เท่านั้นและเขาก็เคยเล่นให้กับ เยอร์เกน คลอปป์ กุนซือของหงส์แดงมาก่อนหน้านี้โดยยิงได้ถึง 12 ลูกจาก 64 นัดที่ลงสนาม พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกาอีกต่างหาก,ทำให้ คลอปป์ โปรดปรานแข้งรายนี้เป็นอย่างมาก และต้องการได้ตัวแนวรุกชาวโครเอเชียมาร่วมทีม พร้อมกับเตรียมทุ่มเงินถึง 30 ล้านปอนด์ให้กับอินเตอร์ฯ ยอมปล่อยตัวแข้งรายนี้มาร่วมงานกับเขาในถิ่นแอนด์ฟิลด์อีกครั้ง,ส่วนในรายของ ทิโม เวอร์เนอร์ แนวรุกวัย 21 ปีที่กำลังเปิดตัวลงเล่นให้กับทีมชาติเยอรมนีเป็นนัดแรกในค่ำคืนนี้หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นให้กับ ไลป์ซิก น้องใหม่ผงาดติดลมบนรั้งรองจ่าฝูงบุนเดสลีกาในปัจจุบัน โดยล่าสุดเขายิงไป 14 ประตูแล้ว ซึ่งตามรายงานจาก Daily Mirror ระบุว่าด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขาไปเข้าตาของ คลอปป์ อย่างจัง และนายใหญ่ชาวเยอรมันก็ต้องการได้ตัวนักเตะร่วมชาติรายนี้มากู้วิกฤติแดนหน้าให้กับทีม | หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทนไม่ไหวกับวิกฤติแดนหน้า กางเป้าล่าสองแนวรุกทีเด็ดมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | พรีเมียร์ลีก,ลิเวอร์พูล,หงส์แดง,อิวาน เปริซิช,ทิโม วาร์เนอร์ | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/893165 |
รวบแล้ว มือฆ่าโหด ลูกชาย ผอ.โรงเรียน ที่แท้ฆาตกรคือเพื่อนสนิท | เมื่อเวลา 12.00 น. ของวันที่ 7 ม.ค. พ.ต.อ.สุบิน บุญเล็ก ผกก.สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.ท.เกษม วงศ์ทอง พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ นำกำลังตำรวจ สภ.อรัญประเทศ พร้อมนำตัวนายเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี เพื่อนนักเรียนร่วมชั้น ม.6 ผู้ต้องหาฆ่า นายภูมิรพี วรนาม อายุ 18 ปี ลูกชาย ผอ.โรงเรียนบ้านหนองบัว มาแถลงข่าว ที่ สภ.อรัญประเทศ ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนนักเรียนผู้ตายและญาติจำนวนมากมาเฝ้าดู,พ.ต.อ.สุบิน บุญเล็ก ผกก.สภ.อรัญประเทศ กล่าวว่า หลังจากที่เกิดคดีสะเทือนขวัญ ทาง พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้เร่งรัดทำคดีอย่างรวดเร็วและเที่ยงธรรม ซึ่งทางชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ได้เชิญตัวเพื่อนนักเรียนที่เป็นกลุ่มเพื่อนไปร่วมทำรายงานด้วยกันมาสอบสวนทีละคน และจากการสอบสวนเพื่อนนักเรียน 10 คน ทั้ง 9 คน ปฏิเสธไม่รู้เรื่อง ,มีเพียง นายเอ ที่ให้การวกวนคล้ายพยายามแต่งเรื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความสงสัย จึงรวบรวมพยานหลักฐานจากที่เกิดเหตุขออนุมัติหมายค้น จากศาลจังหวัดสระแก้ว บุกเข้าตรวจค้นบ้านพักของ นายเอ ใน ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 เป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียนของ นายวัลลภ วรนาม ผอ.โรงเรียนบ้านหนองบัว พ่อของ นายภูมิรพี ซุกซ่อนอยู่ในห้องนอน จึงควบคุมตัวพร้อมอาวุธปืนมาสอบสวนอีกครั้งที่ สภ.อรัญประเทศ พ.ต.อ.สุบิน กล่าว ,จนกระทั่งเช้าวันนี้ นายเอ ยอมเปิดปากรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่ลงมือสังหารเพื่อนเอง และทำคนเดียว เนื่องจากผู้ตายติดค้างเงิน 500 บาท และผู้ตายมีพฤติกรรมคล้ายจะเบี้ยว จึงหลอกให้มาที่เปลี่ยวแล้วทวงเงิน แต่ผู้ตายอ้างว่าไม่มี จากนั้นผู้ตายนำอาวุธปืนออกมายิงขู่ขึ้นฟ้า จึงได้อาศัยจังหวะผู้ตายหันมา ชกเข้าที่ใบหน้าจนล้มลงและแย่งปืนผู้ตายมายิงใส่ที่หน้าท้อง 3 นัด ,หลังจากยิง 3 นัด กลัวว่าเค้าจะไม่ตาย จึงใช้ด้ามปืนกระหน่ำตีไปที่ใบหน้าและศีรษะอีกกว่า 10 ครั้ง ก่อนขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และในวันรุ่งขึ้นก็ไปโรงเรียนตามปกติเพื่อไม่ให้ใครสงสัย นายเอกล่าว ,จากนั้น พ.ต.อ.สุบิน บุญเล็ก ผกก.สภ.อรัญประเทศ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย คุมตัวนายเอไปทำแผนยังที่เกิดเหตุ บนถนนลูกรังและไร่อ้อย บ้านใหม่หนองไทร ซอย 2 ม. 1 ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ ท่ามกลางเพื่อนนักเรียนและชาวบ้าน มามุงดูจำนวนมากพร้อมสาปแช่ง ท่ามกลางเจ้าหน้าที่คุ้มกันอย่างเต็มที่ เพราะกลัวเพื่อนๆ และญาติพี่น้องของคนตายจะรุมประชาทัณฑ์ จนกระทั่งการทำแผนจุดเกิดเหตุเป็นไปอย่างเรียบร้อยใช้เวลากว่า 30 นาทีจึงแล้วเสร็จ,นายวัลลภ วรนาม ผอ.โรงเรียนบ้านหนองบัว พ่อของผู้ตาย เปิดเผยว่า ก็รู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้โดยเร็ว ซึ่งผู้ต้องหาเป็นเพื่อนสนิทกับลูกชาย มากินมานอนที่บ้านก็หลายครั้ง แต่ดูร่องรอยแล้วตนก็ยังไม่อยากเชื่อว่า ผู้ต้องหาลงมือคนเดียว ไม่คิดว่าเด็กนักเรียนอายุ 18 ปี จะทำการฆ่าได้อย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้ด้วย,เนื่องจากคำรับสารภาพของผู้ต้องหาขัดแย้งกับข้อเท็จจริง ซึ่งในที่เกิดเหตุมีก้นบุหรี่ ตกอยู่จำนวนมาก และไม่ใช่เป็นก้นบุหรี่ชนิดเดียวกัน ผู้ต้องหารับสารภาพขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง ผู้ที่มาพบศพเป็นคนแรกและคุมคนงานขึ้นอ้อยอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุบอกว่า ได้ยินเสียงปืน 2 นัด สภาพศพของผู้ตายเอง ถูกฟันด้วยมีดอย่างชัดเจน ที่ใบหูถูกฟันจนหูขาด และที่กลางหลังก็ถูกมีดฟัดเป็นแผลเหวอะหวะ แต่ผู้ต้องหาอ้างว่าใช้ปืนตีและทุบซึ่งร่องรอยฟันกับรอยทุบไม่เหมือนกัน ส่วนปืนของกลางที่ตำรวจยึดมาได้เป็นปืนขนาดจุด 38 ซึ่งเป็นปืนที่ผู้ตายแอบขโมยไป นายวัลลภ กล่าว | ผกก.สภ.อรัญประเทศ นำผู้ต้องหาฆ่าโหดนักเรียนชั้น ม.6 ลูกชาย ผอ.โรงเรียน ที่แท้คือเพื่อนสนิท ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ อ้าง! ทวงเงิน 500 แต่ไม่ให้ ถูกผู้ตายยิงปืนขู่ จึงแย่งปืนยิงสวนใส่ 3 นัด ขณะที่พ่อไม่เชื่อ คนร้ายก่อเหตุคนเดียว | null | หาฆ่าโหดนักเรียนชั้นม.6,โรงเรียนบ้านหนองบัว,ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ,ยิงปืนขู่,อรัญประเทศ,ยิ่งยศ เทพจำนงค์,สระแก้ว,มือยิง,ยิงลูกชายผอ.,ฆ่าลูกชายผอ.,สุบิน บุญเล็ก,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/559495 |
หนุ่มเยอรมัน ชักปืนบีบีกันขู่อดีตแฟนสาวไทย | เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 พ.ย.57 ร.ต.อ.วิษณุ ไชยสุวรรณ รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีชาวต่างชาติใช้ปืนข่มขู่หญิงสาวชาวไทย เหตุเกิดริมถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้าชลบุรี ตรงข้ามปากซอยพรประภานิมิตร พัทยากลาง หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังตำรวจสายตรวจเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนายสเตฟาน กัท (Mr.Stefan Guth) อายุ 38 ปี สัญชาติเยอรมัน นั่งอยู่ในรถเบนซ์ รุ่น Kleemann ทะเบียน 3 กภ 672 กทม. ตรวจค้นพบของกลางปืนบีบีกัน 1 กระบอก,โดยมี น.ส.น้ำทิพย์ ด่านกุญชร อายุ 26 ปี ชาว จ.จันทบุรี ชี้ให้จับกุม พร้อมกับให้การว่า ตนกับนายสเตฟาน เคยคบหาเป็นแฟนกันมาเกือบ 2 ปี แต่ปัจจุบันได้เลิกกันแล้ว ก่อนเกิดเหตุนายสเตฟาน ได้มาตามง้อขอคืนดีและพาขึ้นรถเก๋งคันดังกล่าว ขับพาออกจากบ้านพัก แต่ตนมีธุระต้องไปหาหมอที่กรุงเทพฯ จึงบอกให้อดีตแฟนหนุ่มจอดรถข้างทาง แต่เจ้าตัวไม่ยอมและบอกว่าจะไปส่งเอง เลยเกิดการโต้เถียงกันขึ้นอย่างรุนแรง ตนจึงรีบลงจากรถแล้วใช้เท้าเตะประตูไป 1 ครั้ง ก่อนโบกแท็กซี่ที่วิ่งผ่านมาพอดี ทำให้นายสเตฟาน ไม่พอใจชักปืนออกมาข่มขู่ ตอนแรกตนรู้สึกกลัวมาก เพราะนึกว่าเป็นปืนจริง กระทั่งพลมีเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ช่วยโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาระงับเหตุดังกล่าว,ด้านนายสเตฟาน หนุ่มเมืองเบียร์ เลือดร้อนรายนี้ ให้การอ้างว่า ตัวเองมีอาชีพเป็นทนายความและเปิดบริษัทกว่า 40 แห่งทั่วโลกดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ และการที่ตนมีปืนบีบีกัน ไว้ในความครอบครองนั้น ไม่ผิดกฎหมายไทยแต่อย่างใด,นอกจากนี้นายสเตฟาน ยังข่มขู่ผู้สื่อข่าวที่กำลังบันทึกภาพว่า หากนำเรื่องนี้ไปเสนอข่าวก็จะให้ทนายความดำเนินการแจ้งความเอาผิด และท้าให้ไปเจอกันที่ศาล แต่ทีมสื่อมวลชนยังคงทำตามหน้าที่ ต่อมาตำรวจได้คุมตัว นายสเตฟาน ไปส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เบื้องต้น น.ส.น้ำทิพย์ ไม่ประสงค์จะเอาผิดในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวฯ ส่วนนายสเตฟาน ก็ขอยอมความเกี่ยวกับเรื่องที่ น.ส.น้ำทิพย์ เตะประตูรถ แต่ทางตำรวจก็ได้ดำเนินคดีกับนายสเตฟาน ในข้อหาข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษ ก่อนดำเนินการเปรียบเทียบปรับจำนวน 500 บาท ก่อนปล่อยตัวไป. | รวบนักธุรกิจร้อยล้านชาวเยอรมันชักปืนบีบีกันข่มขู่อดีตแฟนสาวชาวไทย ตำรวจดำเนินคดีข้อหาข่มขู่ | null | นักธุรกิจ,ชาวเยอรมัน,ชักปืน,บีบีกัน,ข่มขู่,อดีตแฟนสาวชาวไทย,หัวหมอ,นำเสนอข่าว,แจ้งความเอาผิด,สภ.เมืองพัทยา,จ.ชลบุรี | https://www.thairath.co.th/content/464970 |
กรมอุตุฯ เผยสภาพอากาศทางภาคเหนือลดลงอีก 2-3 องศา ทำให้ปชช.หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบ | สภาพอากาศภายในเมืองเชียงใหม่หนาวเย็น อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15 องศาเซลเซียส ทำให้มีหมอกหนาจัด ทัศนวิสัยการมองเห็นต่ำ ขณะที่ตามสถานพยาบาลหลายแห่ง ประชาชนเดินทางไปรอรับการรักษา ด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ ด้านผู้ต้องขัง ภายในเรือนจำจังหวัดน่าน กำลังได้รับผลกระทบขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว ทางจังหวัดกำลังเร่งให้ความช่วยเหลือแล้ว ขณะที่เมื่อคืน (8 ม.ค.) ที่ผ่านมา มีรายงานว่าที่จังหวัดแพร่มีผู้เสียชีวิต 1 คน แพทย์สันนิษฐานว่า เกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลวเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นกรมอุตุนิยมวิทยารายงาน ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยทั่วไปกับมีหมอกในตอนเช้า ยกเว้นภาคเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็น ซึ่งในช่วงวันที่ 10-12 มกราคมนี้ ความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส | กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุ สภาพอากาศประเทศไทยจะเย็นลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนอากาศที่หนาวเย็นในหลายจังหวัดภาคเหนือขณะนี้ กำลังส่งผลกระทบกับชาวบ้าน | ภูมิภาค | กรมอุตุนิยมวิทยา,น่าน,หนาวจัด,เชียงใหม่,เหนือ | https://news.thaipbs.or.th/content/138464 |
อัตลักษณ์ชมพู่เพชร ทำยังไงราคาไม่ตก?? | สาเหตุมาจากอะไรน่าจะเป็นบทเรียนให้คนในภาครัฐได้ขบคิด ตีโจทย์ให้แตก,แม้ชมพู่เพชรจะขึ้นชื่อเรื่องราคาแพง กก.ละ 200 บาทขึ้นไป ไม่ใช่ไม่เคยเจอปัญหาราคาตกต่ำมาก่อน เราเจอมาแล้ว 2 หน ครั้งแรกราวปี 34-35 หลังจากราคาชมพู่ดี มีคนกรุงเทพฯมาซื้อที่ดินริมแม่น้ำเพชรปลูกชมพู่นับพันต้น,เมื่อผลผลิตออกมามากราคาก็ตก เจ้าของสวนอยู่ได้แค่ 6-7 ปี ทนแบกค่าใช้จ่ายดูแลรักษาไม่ไหว ม้วนเสื่อกลับไป,ธนไชย อ่ำจั่น ประธานวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรสวนชมพู่เพชรสายรุ้ง และแปรรูปผลไม้ ต.บ้านดุ่ม เจ้าของชมพู่เพชรอายุกว่า 100 ปี 1 ใน 2 ต้นสุดท้าย เท้าความถึงปัญหาของชาวสวนชมพู่เมืองเพชรในยุคแรกหลังเศรษฐีจากกรุงเทพฯมาทำสวนเพิ่มปริมาณผลผลิต จนทำให้ราคาตกวูบอย่างแรง ชาวสวนส่วนหนึ่งโค่นต้นชมพู่ทิ้ง หันไปทำอย่างอื่น ทำให้เหลือคนปลูกจริงๆไม่มากเมื่อผลผลิตน้อยราคาก็กลับมาดีอีกครั้ง,แต่ไม่นานวัฏจักรเดิมกลับมาอีกครั้ง พอราคาชมพู่กระเตื้องขึ้น คนที่มีสวนหันมาขยายพันธุ์กันเอง ปลูกเพิ่ม จนผลผลิตเพิ่มขึ้นมาก ชาวบ้านต้องหันไปพึ่งพาพ่อค้าคนกลางมาช่วยรับซื้อนำสินค้าไปขายสุดท้ายถูกกดราคา,ปี 2552 เราจึงรวมตัวกันตั้งวิสาหกิจชุมชน กำหนดยุทธศาสตร์ ปลูกเอง กำหนดราคาเองขายเอง จากนั้นแต่ละคนเริ่มที่กำหนดราคาหน้าสวนตั้งแต่ 150 บาทขึ้นไป ใครมีที่ทางขายก็นำไปขายเอง บ้างก็เปิดร้านเล็กๆริมถนน ขายคนรู้จัก และขายในงานที่หน่วยงานภาครัฐเอกชนจัดขึ้น,แต่มีเงื่อนไขเพื่อให้ได้รสชาติใกล้เคียงกัน ให้ใส่ได้แต่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์เท่านั้น เพราะดินแถบนี้เป็นดินร่วนปนทรายมีตะกอนธรรมชาติให้ความหวานชมพู่อยู่แล้ว หากไปเพิ่มปุ๋ยเคมีลงไป จะทำให้รสชาติหวานไม่ธรรมชาติ กินแล้วไม่ชุ่มคอ ปากแห้ง หิวน้ำบ่อย,พิศนุพร ภุมร หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม ผู้จุดประกายให้ชมพู่เพชรสายรุ้งเข้ามาอยู่ในกระแสอีกครั้ง อธิบายเสริม ในอดีตชาวสวนชมพู่เพชรค่อนข้างหวงพันธุ์ แบ่งให้เฉพาะสนิทกันจริง แต่พอราคาดีขึ้น ต่างคนต่างเริ่มขยายพันธุ์และปลูกมากขึ้น จนของล้น,ตลาด พ่อค้า คนกลางเข้ามาอีกครั้ง ครั้นจะขายเองก็เกรงใจพ่อค้า เพราะไปยืมเงินเขามาใช้จ่ายในสวนก่อน เนื่องจากชมพู่เพชรที่ปลูกรวมกันกว่า 100 ไร่ มีต้นทุนสูง ต้องเสียค่าทำนั่งร้านเพื่อเก็บชมพู่ไม่ต่ำกว่าต้นละ 8,000 บาท และยังต้องเสริมนั่งร้านให้แข็งแรงทุกปี,แต่หลังตั้งกลุ่มขึ้นมา เกษตรกรส่วนใหญ่เริ่มขายเอง เพราะได้ราคาดีเต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่า อย่างผมขายชมพู่ตกเกรดได้แค่เข่งละไม่กี่สิบบาท เก็บมาใส่ถุงขายเอง ได้ถุงละ 20 บาท ปรากฏว่าขายหมดไม่มีเหลือ จึงเปิดร้านเล็กๆขายหน้าบ้าน ส่วนลูกที่มีคุณภาพดีเอาไปขายเองที่กรุงเทพฯ ได้ราคาดี กก.ละ 180-250 บาท.,กรวัฒน์ วีนิล | ชมพู่เมืองเพชร หรือ เพชรสายรุ้ง นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติหวานกรอบ รูปทรงสวยงามยังถือเป็นชมพู่พันธุ์อมตะ ที่มีการปลูกมา 152 ปี แต่กลับไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องราคาตกต่ำ ไม่เหมือนสินค้าเกษตรอย่างอื่น | ข่าว,ทั่วไทย | ชมพู่เมืองเพชร,เพชรสายรุ้ง,ชมพู่,ชมพู่เพชรสายรุ้ง,เกษตรกร,เกษตร | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1196825 |
เพชรมรกต ไม่หวั่นคิกบ็อกซิ่งตัวพ่อ พร้อมสู้ยิบตา เปโตรเซียน | กำลังจะได้พิสูจน์ฝีมือครั้งยิ่งใหญ่กับนักชกคิกบ็อกซิ่งตัวพ่อของวงการ จอร์จิโอ เปโตรเซียน,วันที่ 14 พ.ค.62 สำหรับ เพชรมรกต ผ่านสังเวียนมวยไทยมาเกือบ 200 ไฟต์ แต่เคยประเดิมการชกกติกาคิกบ็อกซิ่งไปเพียงครั้งเดียวในชีวิต กับศึกวัน แชมเปียนชิพ ONE: REIGN OF VALOR เมื่อวันศุกร์ที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า และสามารถคว้าชัยชนะเหนือแชมป์สองสมัย จากสหพันธ์คิกบ็อกซิ่งญี่ปุ่นและแชมป์ WBC มวยไทยอย่าง เคนตะ ยามาดะ ไปได้อย่างสวยงาม,กติกาคิกบ็อกซิ่งต่างจากมวยไทยนิดหน่อยครับ คือห้ามใช้ศอกและปล้ำตีเข่าไม่ได้ ผมจึงหันมาเสริมพลังหมัดและแข้งให้รวดเร็ว และแข็งแกร่งยิ่งขึ้น แม้ศอกจะเป็นอาวุธเด็ดของผม แต่เมื่อใช้ไม่ได้ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะได้ฝึกอาวุธอื่นเพิ่มขึ้นจนชำนาญแล้ว,โดยชัยชนะครั้งนั้น เป็นใบเบิกทางให้ เพชรมรกต ได้พิสูจน์ความสามารถของตัวเองอีกครั้ง กับไฟต์สำคัญในการแข่งขัน วัน เฟเธอร์เวต คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังปรีซ์ ซึ่งจะเขย่าวงการคิกบ็อกซิ่งไปทั่วโลก ด้วยการนำ 8 ยอดฝีมือมาเผชิญหน้ากันบนสังเวียนระดับโลก เพื่อพิสูจน์ว่าใครจะเป็นเบอร์หนึ่งของรุ่นเฟเธอร์เวต (65.9-70.3 กก.),สำหรับในการแข่งขันรอบแรก ซึ่งเป็นรอบคัดเหลือ 4 คน เพชรมรกต ถูกประกบคู่ให้เผชิญหน้ากับ จอร์จิโอ เปโตรเซียน วัย 33 ปี ชาวอิตาเลียนเชื้อสายอาร์เมเนีย เจ้าของดีกรีแชมป์โลก K-1 สองสมัย ได้รับการขนานนามว่าเป็นนักชกคิกบ็อกซิ่งที่เก่งกาจที่สุดของโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ด้วยเทคนิคที่เหนือชั้นและแม่นยำราวคุณหมอ จนได้รับฉายาว่า เดอะ ด็อกเตอร์ เจ้าของสถิติชก 98 ครั้งและแพ้เพียง 2 ครั้งเท่านั้นในชีวิต,ก่อนหน้านี้ เปโตรเซียน เคยร่วมสังเวียนเดียวกับ เซราะกราว เพชรยินดีอะคาเดมี เพื่อนร่วมค่ายของเพชรมรกตมาแล้ว ในศึก ONE: HEART OF LION ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ครั้งนั้น เซราะกราว แพ้ไปอย่างบอบช้ำ ถึงขั้นออกมาให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขันอย่างติดตลกว่า นึกว่า เปโตรเซียน มีสิบมือซะอีก,ผมไม่กังวลกับประสบการณ์ที่ผ่านมาของเปโตรเซียน คิดว่าเมื่อขึ้นเวทีผมก็มีโอกาสชนะได้ ผมฝึกมาอย่างหนักที่สุดและจะชกให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่ถ้าผมแพ้ ก็ได้ชื่อว่าแพ้นักชกที่เก่งที่สุดของโลก,การแข่งขันรอบแรกจะเกิดขึ้นภายใต้ศึก ONE: ENTER THE DRAGON ในวันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคมนี้ ที่สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ประเทศสิงคโปร์ แฟนหมัดมวยชาวไทยสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ONE Super App หรือรับชมย้อนหลังทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32. | ขุนศอกเมืองดอกบัว เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี หนึ่งในนักชกแถวหน้าของวงการมวยไทย ที่สู้ชีวิตตั้งแต่เด็กจนกระทั่งก้าวเป็นแชมป์โลกมวยไทยในวันนี้ | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | ขุนศอกเมืองดอกบัว,เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี,วัน แชมเปียนชิพ,จอร์จิโอ เปโตรเซียน,คิกบ็อกซิ่ง | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1567145 |
โซเชียลสนั่น 2500 ล้านข้อความ | มากถึง 2,500 ล้านข้อความ เฉลี่ย 82 ข้อความต่อวินาที ซึ่งหากมีการคัดแยกข้อมูลแล้วนำมาวิเคราะห์ จะเกิด ประโยชน์ต่อธุรกิจมหาศาล จึงมั่นใจว่าธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูลจะมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันธุรกิจบริการข้อมูลมีราว 3-4 ราย และโธธถือเป็นรายใหญ่ที่สุดในขณะนี้ เพราะทำธุรกิจมาแล้ว 9 ปี,ปัจจุบันโธธ มีลูกค้าที่มาใช้ข้อมูลราว 70-80 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภค ธนาคาร บริษัทโทรคมนาคม รถยนต์ เป็นต้น เพราะกลุ่มสินค้าเหล่านี้ นอกจากต้องการรับรู้ยี่ห้อสินค้าของตัวเองจากรูปภาพต่างๆที่มีการโพสต์แล้ว ยังต้องการทราบความคิดเห็นต่างๆ เพื่อนำไปปรับปรุงการบริการด้วย โดยในปีนี้จะมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นธุรกิจบันเทิง ธุรกิจท่องเที่ยวที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาล หากใช้ให้เกิดประโยชน์ก็สามารถต่อยอดธุรกิจได้,ด้านนายพเนิน อัศววิภาส ผู้ก่อตั้งบริษัท วันบิต แมทเทอร์ ที่ปรึกษาด้านการใช้ข้อมูลบนโซเชียล กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้โซเชียลมีเดียเพิ่มมากขึ้น โดยเฟซบุ๊กมีผู้ใช้ 47 ล้านราย เพิ่มขึ้น 15% จากปีที่ผ่านมา อินสตาแกรม 11 ล้านราย เพิ่มขึ้น 41% ทวิตเตอร์ 9 ล้านราย เพิ่มขึ้น 90% จากเดิม 3.1 ล้านราย เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นหันไปใช้ทวิตเตอร์มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะผู้ใหญ่หันมาใช้เฟซบุ๊กมากขึ้น ขณะที่ทวิตเตอร์ถูกใช้เป็นช่องทาง การโปรโมตรายการสดของดาราต่างประเทศ นอกจากนี้คนไทยยังหันมานิยมใช้แมสเซนเจอร์ (Messenger) กันมากขึ้นถึง 26 ล้านราย ถือเป็นอันดับ 5 ของโลก ยังไม่รวมการใช้บริการไลน์ ซึ่งมีการใช้เกิน 30 ล้านรายแล้ว. | นายกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โธธ โซเชียล จำกัด ผู้ให้บริการข้อมูลเชิงลึกและวิเคราะห์ข้อมูลบนโลกออนไลน์ เปิดเผยในงาน Thailand Zocial Awards 2017 ว่า ในปี 2559 ประเทศไทยมีการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายโซเชียล | ข่าว,เศรษฐกิจ | โซเชียลมีเดีย,ส่งข้อความ,เฟซบุ๊ก,ทวิตเตอร์,ใช้ข้อมูลบนโซเชียล | https://www.thairath.co.th/news/business/950568 |
ดุสิตโพลชี้ คนบ่นเศรษฐกิจแย่-การเมืองวุ่น คาดรัฐแก้ไม่ได้ | วันที่ 3 มิ.ย. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ในหัวข้อ เสียงบ่น ของคนไทย ซึ่งยังต้องเผชิญอยู่กับปัญหาทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ขณะเดียวกันประชาชนเองก็ต้องต่อสู้ดิ้นรนกับการดำรงชีวิต การเลี้ยงดูครอบครัวให้อยู่ต่อไปได้ สรุปผลได้ ดังนี้,5 อันดับ เรื่องที่ประชาชนบ่น ณ วันนี้ พร้อมบอกสาเหตุ และแนวทางแก้ไข อันดับ 1 ร้อยละ 63.46 เรื่องเศรษฐกิจแย่ ค่าครองชีพสูง เงินไม่พอใช้ สาเหตุที่บ่นเพราะเศรษฐกิจซบเซา ภาระเยอะ ค่าใช้จ่ายสูง ข้าวของมีราคาแพง รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ต้องกู้ยืม ฯลฯ แนวทางแก้ไข คือ เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ กระตุ้นการค้าการลงทุน ควบคุมราคาสินค้า ขึ้นเงินเดือน เพิ่มค่าแรง ฯลฯ,อันดับ 2 ร้อยละ 40.59 เรื่อง การเมืองไทยวันนี้ ยังวุ่นวายไม่หยุด สาเหตุที่บ่น เพราะกระทบเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศ เบื่อ มัวแต่ทะเลาะกัน ยังไม่มีเลือกตั้ง ไม่เป็นประชาธิปไตย ฯลฯ แนวทางแก้ไข คือ รับฟังความคิดเห็น ทุกฝ่ายร่วมมือกัน เห็นแก่บ้านเมือง มีการเลือกตั้ง ให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน ฯลฯ,อันดับ 3 ร้อยละ 32.39 เรื่อง ปัญหาสังคม และอาชญากรรมยังน่ากลัว สาเหตุที่บ่น เพราะเป็นภัยใกล้ตัว เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ มีหลายรูปแบบ รุนแรงมากขึ้น สังคมย่ำแย่ ยาเสพติดแพร่ระบาด ฯลฯ แนวทางแก้ไข คือ เจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขัน กฎหมายเด็ดขาด เพิ่มสายตรวจทุกจุด ปลูกฝังจิตสำนึก ช่วยกันดูแล ฯลฯ,อันดับ 4 ร้อยละ 31.75 เรื่อง การทุจริตคอรัปชั่นงบประมาณภาครัฐ ท้องถิ่นยังมีอยู่มาก สาเหตุที่บ่น เพราะมีข่าวให้เห็นบ่อยครั้ง เป็นการเอาเปรียบประชาชน ไม่เป็นธรรม แก้ไม่หมด ประเทศไม่พัฒนา ฯลฯ แนวทางแก้ไข คือ ตรวจสอบและลงโทษอย่างจริงจัง ไล่ออก ยึดทรัพย์ จำคุกตลอดชีวิต ไม่ช่วยเหลือปกป้องพวกพ้อง ฯลฯ,อันดับ 5 ร้อยละ 23.44 เรื่อง พฤติกรรมของคนในสังคม แล้งน้ำใจ สาเหตุที่บ่น เพราะคนเห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบ ใช้อารมณ์ ขาดสติ ใช้สื่อโซเชียลในทางที่ผิด เป็นห่วงลูกหลาน ฯลฯ แนวทางแก้ไข คือ รณรงค์ กระตุ้นให้ทุกคนมีวินัย เคารพซึ่งกันและกัน พัฒนาการศึกษา มีคุณธรรม พ่อแม่มีเวลาให้ ฯลฯ,ต่อข้อถาม ประชาชนคิดว่ารัฐบาลน่าจะแก้ไขได้สำเร็จหรือไม่? ประชาชนส่วนใหญ่คาดว่ารัฐบาลไม่น่าจะแก้ไขเสียงบ่นได้สำเร็จ. | ดุสิตโพลชี้ คน 63.46% บ่นเศรษฐกิจแย่ รองลงมาการเมืองวุ่น-ทุจริตเพียบ คาดรัฐแก้ไม่ได้ | ข่าว,การเมือง | ดุสิตโพล,ความคิดเห็น,เศรษฐกิจแย่,การเมือง,ทุจริต,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1298069 |
สุวัจน์ ยอมรับเจรจากับพม่าไม่คืบหน้า | นับตั้งแต่พม่าประกาศตัดกีฬาสำคัญออกจากการแข่งขันซีเกมส์รวมทั้งเทนนิส นายสุวัจน์ ลิปพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยมีความพยายามในการติดต่อประสานงานกับคณะกรรมการโอลิมปิกของพม่าทุกทางทั้งผ่านโอลิมปิกไทย และสหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชียหรือเอทีเอฟ แต่กลับไม่คืบหน้า โดยล่าสุดพม่ายืนยันผ่านโอลิมปิกไทยแล้วว่าจะไม่มีการเพิ่มกีฬาชนิดใดอีกแล้ว โดยสหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชียพยายามประสานกับคณะกรรมการโอลิมปิกของพม่า แต่เจ้าภาพพม่าไม่เปิดโอกาสให้ไทย และตัวแทนของเอทีเอฟเข้าไปเจรจาเสนอความช่วยเหลือนายสุวัจน์ยอมรับหากท้ายที่สุดพม่าไม่สามารถเปลี่ยนการตัดสินใจ แต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นความขัดแย้งเพราะทุกประเทศเข้าใจปัญหาของพม่าเป็นอย่างดี ส่วนกรณีของนักกีฬามั่นใจว่าจะไม่เกิดความสับสน เพราะสามารถแข่งขันในรายการอื่นๆ ได้ แม้จะไม่มีโอกาสชิงเหรียญในซีเกมส์ครั้งนี้ก็ตามส่วนความเคลื่อนไหวของสมาคมล่าสุดบริษัทไทยไทยเบฟเวอเรจ มอบเงินสนับสนุนกว่า 4 ล้านบาทในการจัดการแข่งขันรายการสำคัญทั่วประเทศ 33 รายการ รวมถึงเทนนิสเพื่อความชนะเลิศแห่งประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นการผลักดันเทนนิสสู่ระดับรากหญ้า | นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยยอมรับว่าโอกาสที่พม่าเจ้าภาพซีเกมส์ในปีนี้จะยอมจัดเทนนิสเป็นเรื่องยาก เพราะการเจรจาระหว่างสหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชียกับคณะกรรมการโอลิมปิกของพม่าไม่มีความคืบหน้า | กีฬา | ซีเกมส์,พม่า,สุวัจน์,เจรจา,เทนนิส | https://news.thaipbs.or.th/content/156473 |
เอเชียกับอาเซียน | กรุงเทพฯ เสร็จสิ้นไปแล้ว เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา,ในครั้งนี้มีชาติสมาชิกโอซีเอ 45 ชาติ มีคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือไอโอซี มีผู้แทนสหพันธ์กีฬานานาชาติชนิดต่างๆ จากทั่วโลกกว่า 800 คน เดินทางมาเข้าร่วม,แน่นอนว่าการประชุมครั้งนี้ทำให้ไทยเรา ได้เครดิตเพิ่มขึ้นอีกครั้ง,ในด้านของตัวบุคคล หลังจากชีค อาหมัด อัล ฟาฮัด อัล ซาบาห์ ได้รับเลือกให้เป็นประธานโอซีเออีกสมัย ซึ่งเป็นสมัยที่ 8 แล้ว จากที่เริ่มทำหน้าที่มาตั้งแต่ปี 1991,คีย์แมนกีฬาของไทยก็ได้รับเลือกเข้าไปช่วยงานมากมายหลายตำแหน่ง,ในด้านอนาคตที่ไทยจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดเกมใหญ่ก็มีแนวโน้มที่ดี,ทั้งเกมของเอเชีย เอเชียนอินดอร์-มาเชียลอาร์ตเกมส์ ปี 2021, เอเชียนยูธเกมส์ ปี 2025 และเอเชียนเกมส์ ปี 2030 รวมถึงเกมระดับโลก ยูธโอลิมปิกเกมส์ ปี 2026,เราคงได้เพื่อน ได้พวกมากขึ้นมาจากการประชุมครั้งนี้ ความเชื่อมั่นจากทั้งโอซีเอ และชาติสมาชิก หรืออาจจะส่งไปถึงองค์กรกีฬาโลก อย่างไอโอซีด้วยก็เป็นไปได้,ถ้าเทียบความเชื่อใจเป็นเงิน คงสะพัดหลายพันหลายหมื่นล้านบาทไปทั่วเลยทีเดียว,ทั้งหมดเป็นภาพเชิงบวกของไทยในเวทีเอเชีย,ย้อนกลับมามองกีฬาในระดับอาเซียนอย่างมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-11 ธ.ค.นี้ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งยังมีประเด็นเรื่องของชนิดกีฬา,โดยเฉพาะกับกีฬาหลักความหวังอย่าง โปโลน้ำหญิง ซึ่งสาวไทยมีโอกาสคว้าเหรียญทองมาก แต่ปรากฏว่าพอเวลาล่วงเลย ทำไปทำมา ด้วยหลงลืม หรือไม่ทันเอะใจไม่ทราบ,เจ้าภาพกลับไม่บรรจุกีฬาทางน้ำประเภทนี้ เข้าไป,ทำเอาผู้บริหารใหญ่สมาคมว่ายน้ำฯควันออกหู จนทีมงานฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องวิ่งเต้นกันฝุ่นตลบ ผลักดันกีฬานี้ให้มีแข่งขันให้ได้ ไม่อย่างนั้น โดนต่อว่ากระจายแน่นอน,ล่าสุดทราบมาว่า มีความพยายามดิ้นรน กันอย่างหนักอยู่,ตอนนี้ได้ชาติที่จะร่วมแข่งโปโลน้ำหญิงเป็นจำนวนที่น่าพอใจแล้ว เหลือก็แค่จะเพิ่มนักกีฬา,คิกบ็อกซิ่งของเราเข้าไปแลกเปลี่ยนกับฟิลิปปินส์ ซึ่งไม่แน่ใจจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน,ในระดับเอเชีย ความน่าเชื่อถือเราดีในระดับหนึ่งแล้ว ส่วนในระดับอาเซียน เพื่อนๆจะมองเราเป็นเช่นไร จะให้ความเคารพเหมือนเดิม จะยอมเรา หรือเปล่า,โปโลน้ำได้กลับมาบรรจุในซีเกมส์ 2019 หรือไม่,ชี้วัดข้อสงสัยดังกล่าวได้เลย,ฟ้าคำราม | การประชุมใหญ่สามัญ สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย หรือโอซีเอ ครั้งที่ 38 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล | null | โอซีเอ,ไอโอซี,ชีค อาหมัด อัล ฟาฮัด อัล ซาบาห์,เอเชีย,อาเซียน,เรียงหน้าชน,ฟ้าคำราม | https://www.thairath.co.th/sport/others/1511795 |
ถกเดือด เวทีฟังความเห็นกฎหมายลูก สมชัย ซัด มีชัย เกิดก่อนใช่จะเก่งกว่า | คนเกิดก่อน ร่างกฎหมายมาหลายฉบับ ไม่ได้แปลว่าเก่งกว่า16 พ.ย. 2559 ที่รัฐสภา คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ได้จัดงานสัมนา การรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมด้วนว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. โดย มีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้กล่าวถึงการร่างกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า กรธ. ไม่ได้แก้ไขหรือแตะต้องคุณสมบัติ หรือลักษณะต้องห้ามใดๆ อย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจผิดว่า กรธ. กลั่นแกล้ง ทั้งที่เรื่องคุณสมบัติคณะกรรมการ กรธ. ได้คัดลอกมาจากเนื้อหาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ แต่กลับมีคนเข้าใจผิดคิดว่า กรธ. เขียนต่างไปจากกฎหมายแม่ เพื่อต้องการกลั่นแกล้งกันมีชัยกล่าวต่อไปว่า คุณสมบัติไม่ว่าของ กกต. หรือองค์กรอิสระอื่น กรธ. เข้าใจว่า กรรมการเหล่านี้มีที่มาตามรัฐธรรมนูญฉบับเดิม ขณะที่ กรธ. ได้กำหนดคุณสมบัติใหม่ขึ้นมา อาจทำให้หลายคนหงุดหงิดอยากให้ กรธ. ชี้ขาด แต่ กรธ. ทำไม่ได้ เพราะผู้ที่จะทำหน้าที่ชี้ขาดเรื่องนี้คือ คณะกรรมการสรรหา ขณะที่หลายคนอยากให้ผ่อนปรนเรื่องคุณสมบัติกรรมการองค์กรอิสระ ซึ่งกรธ. ได้ผ่อนปรนเอาไว้ในบางส่วนคือ สนช. ที่จำเป็นต้องทำหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะเลือกตั้งเสร็จ มีทั้งเรื่องที่ยกเว้นและไม่ยกเว้นให้ ถ้าไม่มีเหตุผลพอ เช่น ยกเว้นให้ สนช. ที่เป็นเจ้าของกิจการได้ แต่ในกรณีที่ถือหุ้นในกิจการที่เกี่ยวข้องกับสัมปทานรัฐ เราก็ไม่ผ้อนให้ เพื่อเป็นมาตราฐานเดียวกับ ส.ส. แต่ทั้งนี้ผู้ชี้ขาดคือ ศาลรัฐธรรมนูญ สนช. ต้องยื่นถามเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ส่วนกรรมการสรรหาที่ลงคะแนนกัน 30 รอบ ไม่ควรเกิดขึ้นอีก เลือกกัน 2-3 รอบควรพอได้แล้ว และหากถูกสภาปฏิเสธ ก็ไม่ควรถูกเสนอเข้ามาอีก เหมือนอย่างการเลือกตรวจการแผ่นดินของ สนช.กรธ. ไม่เคยคิดฟุ้งเฟ้อเพ้อเจ้อตามอารมณ์ เราเขียนกฎหมายลูกให้สอดคล้องไปตามหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงการรปฏิรูป ขจัดการทุจริตอย่างจริงจังด้วยการลงโทษอย่างรุนแรง จนทำให้บางท่านที่ตามไม่ทันรับไม่ได้ คิดว่าเป็นการกลั่นแกล้งเฉพาะตัว แต่ยืนยันว่า ข้อกำหนดที่ใช้กับ กกต. ก็จะนำไปใช้กับองค์กรอิสระอื่น รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญด้วย แต่ก็ต้องขึ้นกับรายละเอียดที่แตกต่างกัน มันจึงอาจเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ เพราะกฎหมาย กกต. เกี่ยวกับการเลือกตั้งจึงต้องออกมาก่อน กรธ. ทำงานกันอย่างหนัก ไม่มีเวลาว่างคิดฟุ้งซ่าน มีชัย กล่าวมีชัย กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่อง กกต.จังหวัด ได้ฟังความเห็นมาแล้วพบว่า มีไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ที่ กกต.จังหวัดไว้ใจได้ และปัญหามักเกิดมาจาก กกต.จังหวัด ที่ให้เหตุผลว่าต้องดูแลเลือกตั้งท้องถิ่น ก็พบว่า ทำหน้าที่มอบหมายให้ส่วนท้องถิ่นไปจัดการเลือกตั้ง จับการทุจริตไม่ได้สมกับเรื่องเล่าลือ กำนันเงินหมื่น อบต.เงินแสน ประสิทธิภาพการทำหน้าที่กกต.จังหวัดไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด กรธ.จึงเสนอผู้ตรวจการเลือกตั้ง เพื่อลองเปลี่ยนใหม่ ยืนยันว่า ไม่ได้ฟุ้งซ่าน แต่เกิดจากความคิดตรึกตรองกันอย่างดี แล้วเจ้าหน้าที่ กกต. ที่มารับฟัง กรธ. ก็บอกสามารถทำได้ ขณะที่บทบาทของ กกต. ได้เพิ่มอาวุธ ช่องทางหาข้อมูลหลักฐาน และอาจไปไกลถึงให้รางวัลนำจับ แต่ก็ยอมรับว่าอันตรายหากมีการกลั่นแกล้งกัน แต่กำหนดไว้ว่า หากกลั่นแกล้งจะเจอโทษที่รุนแรง สำหรับโครงสร้าง กกต. 7 คน ที่เพิ่มมา 2 คน จากสายศาล เป็นไปเพื่อเน้นป้องกันการทุจริต ต้องใช้คนที่เชี่ยวชาญทางกฎหมาย โดยถอดแบบมาจากองค์คณะผู้พิพากษาภาพรวมของรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกทั้งหมด ที่เกี่ยวกับองค์กรอิสระทั้ง 5 และศาลรัฐธรรมนูญ จะเป็นเครื่องค้ำยันระบอบการเมืองการปกครองของเราให้ไปข้างหน้าอย่างมีสมเหตุสมผล เพื่อพัฒนาประเทศของเราได้อย่างเต็มที่ อาจดูเข้มงวดรุนแรงบ้าง แต่ทั้งหมดเราเขียนจากสิ่งที่เกิดขึ้น ผมยังแอบฝันถึงวันนึงที่สหรัฐอเมริกาจะต้องมาเลียบแบบอะไรที่แปลกใหม่จากเรา เนื่องจากเรามีประสบการณ์มามาก แล้วก็พยายามแก้ปัญหาทุกรูปแบบมาใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูก ประธาน กรธ. กล่าวด้านสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารจัดการเลือกตั้ง กล่าวว่า อยากให้การสัมมนาครั้งนี้ไม่ใช่พิธีกรรม กรธ .ควรเอาข้อเสนอแนะที่ได้ ไปปรับใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง พร้อมระบุว่า การออกแบบร่างกฎหมายลูกว่าด้วย กกต.ต้องอยู่บนหลัก 3 ประการ คือ 1.ทำให้ประชาชนเกิดความสะดวกในการเลือกตั้ง เข้าใช้สิทธิ์ได้สะดวกมากที่สุด กลไกของ กกต. ที่ออกแบบจะต้องทำให้ประชาชนเข้าถึงการเลือกตั้งให้ได้มากสุด ขยายเวลา เปิดโอกาสให้คนที่อยู่ในและนอกประเทศได้ใช้สิทธิ์อย่างเต็มที่ 2.การใช้สิทธิ์ของประชาชนต้องเป็นไปด้วยความรู้ความเข้าใจ รู้จักพรรคและนักการเมืองอย่างแท้จริง ว่ามีคุณภาพมีนโยบายอย่างไร และ 3.ทำให้ กกต. มีกลไกในการจัดการทุจริตการเลือกตั้ง การซื้อเสียงน้อยลง อยู่บนกฎเกณฑ์กติกาเหมือกันไม่แบ่งพรรคใหญ่ พรรคเล็กแต่ร่างที่ กกต. เสนอมาเป็นคนละเรื่องกับที่ กรธ. เขียน ผมอาจทำให้ต้องวงแตกกันนิดนึง เช่น เราเสนอมาให้มี กกต.จังหวัดเหมือนเดิม แต่ กรธ. เขียนกลับไม่มี แล้วมีผู้ตรวจการเลือกตั้งขึ้นมาแทน ซึ่งผมว่ามันเป็นกลไกที่ใช้ไม่ได้ กรธ. ควรเขียนกฎหมายแล้วเปิดให้เราได้วิจารณ์กัน แล้วผมจะวิจารณ์เอง เพราะผมทำเพื่อบ้านเมือง ไม่ได้ทำเพื่อรักษาหน้าใคร กกต. เสนออะไรไม่เหมาะสมก็วิจารณ์ได้ อยากให้สังคมไทยใช้ความจริงมาคุยต่อหน้ากัน ไม่ใช่เกิดมานานกว่า ร่างกฎหมายมาหลายฉบับกว่า แล้วหมายความว่าต้องเก่งกว่า สมชัย กล่าวสมชัยระบุด้วยว่า สำหรับกรณีที่ไม่เห็นด้วยกับ กรธ. ที่จะใช้เกณฑ์คุณสมบัติกรรมการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญใหม่ ในการเปลี่ยนแปลงกรรมการองค์กรอิสระชุดปัจจุบัน ไม่ใช่เพราะตัวเองจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากมั่นใจว่าตัวมีคุณสมบัติตรงตามรัฐธรรมนูญใหม่กำหนด เพราะเคยทำงานภาคประชาสังคมมาไม่น้อยกว่า 20 ปีตนทำงานองค์กรกลางมาตั้งแต่ ปี 2535 ดังนั้นในส่วนตัวปัญหานี้จึงไม่ได้กระทบกับตัวเอง แต่ที่พูดเพราะเห็นว่าเกณฑ์ดังกล่าวไม่เป็นธรรม และจะมีกรรมการองค์กรอิสระอื่นได้รับผลกระทบจำนวนมาก โดยปกติเมื่อมีการร่างกฎหมายใหม่ ก็จะมีการเขียนในบทเฉพาะกาลว่า ให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งอยู่เดิมนั้นอยู่ต่อไปจนครบวาระแต่ในครั้งนี้กลับจะมีการเขียนว่าให้เป็นไปตามร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ถือว่าไม่เป็นธรรมพอสมควรถ้า กรธ. จะยึดหลักเกณฑ์จริงจะก่อให้เกิดความวุ่นวายกับองค์กรต่างๆ มากมาย การที่บอกว่า กกต. ต้องเป็นองค์กรแรกที่ต้องดำเนินการ ถ้าจะทำต้องทำพร้อมๆ กัน ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ กสม. ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ล้วนแต่ทำให้คนอยู่เดิมได้รับผลกระทบทั้งสิ้น ซึ่งในเวลานี้เรากำลังจะเปิดศักราชทางการเมืองใหม่ การทำงานหลายอย่างต้องการทำงานต่อเนื่อง ต้องการคนเก่าที่รู้ปัญหา ผมไม่เชื่อว่าการเอาคนมาใหม่ทั้งหมดจะตอบโจทย์ได้มากกว่า สมชัย กล่าวเมื่อถามว่า ตามกฎหมายใหม่ กกต. จะมีอำนาจมาก กรธ. จึงมองว่าจำเป็นต้องได้คนที่มีความรู้ความสามารถพอสมควร จึงกำหนดคุณสมบัติไว้สูง สมชัย กล่าวว่า เป็นความคิดที่ดี แต่การเชื่อว่ากำหนดคุณสมบัติไว้สูงแล้วจะได้คนดีนั้น ตนเห็นว่าผลงานสำคัญกว่าคุณสมบัติ คนไม่จบดอกเตอร์อาจทำงานได้ดีกว่าคนจบดอกเตอร์ หลายคนที่ไม่จบปริญญาก็ทำงาน และประสบความสำเร็จมากกว่าคนจบปริญญา คุณสมบัติจึงเป็นเพียงมายาภาพที่สังคมควรเลิกติดยึดได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะอยู่แค่ 4 เดือน หรือ 4 ปี จากนี้ก็จะทำงานอย่างเต็มที่ไม่มีลดราวาศอก ถ้าเขาให้อยู่ทำก็ทำ ไม่ให้อยู่ทำก็ไม่ทำ ไม่เป็นปัญหาที่มาจาก: | เวทีสัมนากฎหมายลูก ระอุปมกฏหมาย กกต. มีชัย ระบุทำงานอย่างหนักไม่มีเวลาคิดฟุ้งซ่าน ยันร่างกฎหมายลูก ยึดตามร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ด้าน กกต. สมชัย หวังเวทีวันนี้ไม่ใช่แค่พิธีกรรม ซัดแรง | การเมือง | กกต.,กกต.จังหวัด,คณะกรรมการการเลือกตั้ง,คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ,ผู้ตรวจการเลือกตั้ง,พรรคการเมือง,มีชัย ฤชุพันธุ์,ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ,สมชัย ศรีสุทธิยากร | https://prachatai.com/journal/2016/11/68856 |
ไทยเปิดบ้านถล่มโอมาน 3-0 เก็บ 3 แต้มแรกได้สำเร็จ | ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบสาม นัดที่สองของกลุ่มดี ทีมชาติไทยลงเตะนัดที่ 2 เปิดบ้านเจอกับโอมาน โดยในกลุ่มนี้ ทีมชาติไทยอยู่อันดับสุดท้ายยังไม่มีคะแนน หลังจากบุกไปแพ้ออสเตรเลียมา 1-2 ขณะที่โอมาน เสมอกับ ซาอุดิอาระเบีย 0-0 นัดนี้ทีมไทยต้องการ 3 แต้มเพื่อลุ้นเข้ารอบเริ่มเกมทีมชาติไทยโหมบุกตั้งแต่นาทีแรก และ หวิดจะได้ประตูขึ้นนำหลายครั้ง จนนาทีที่ 35 ไทยได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ สมปอง สอเหลบ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงสวนตัวนายทหารของโอมานไทยขึ้นนำ1-0 ทีมชาติไทยเหมือนบอลได้ใจ นาทีที่ 41 ดัสกร ทองเหลา มิดฟิลด์กัปตันทีม จ่ายบอลจากครึ่งสนามให้ ธีรศิลป์ แดงดา ใช้ความเร็วเลี้ยงบอลหนีกองหลังทีมโอทาน ก่อนแปเล่นทางเข้าประตูไปง่าย ๆ ไทยขึ้นนำ 2-0 จนหมดครึ่งแรกเริ่มเกมในครึ่งหลังโอมานพยายามโหมบุกตั้งแต่นาทีแรก แต่นาที 50 ไทยเกือบได้ประตูที่ 3 โดย รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค พาบอลขึ้นฝั่งซ้าย ก่อนล็อกบอลลอดขากองหลังโอมานและจ่ายมาหน้าประตูเป็น ธีรศิลป์ แปเน้น ๆ ด้วยขวาบอลพุ่งชนเสาประตู ไทยชวดขึ้นนำ 3-0 อย่างน่าเสียดาย หลังจากนั้นทั้ง 2 ทีมผลัดกันรุก-รับ โดยทีมไทยมีโอกาสได้ประตูที่ 3 หลายครั้ง10 นาทีสุดท้ายทีมไทยพยายามครองบอล ขณะที่ฝั่งโอมานพยายามวางบอลยาวเพื่อเอาประตูคืนให้ได้ แต่ทดเจ็บนาทีแรกเป็น สุรีย์ สุขะ เปิดบอลมาหน้าประตู ชาตรี ฉิมทะเล ที่ได้ลงเล่นในครึ่งหลังแทน ธีรศิลป์ พุ่งโหม่งบอลพุ่งไปชนหน้าแข้งกองหลังโอมานเข้าประตูไปไทยขึ้น 3-0 หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้ จบเกมไทยชนะโอมาน 3-0 เก็บ 3 แต้มแรกได้สำเร็จ | ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบสาม นัดที่สองของกลุ่มดี ช้างศึก-ทีมชาติไทย เปิดบ้านถล่มโอมาน 3-0 ทำให้ทีมชาติไทยเก็บ 3 แต้มแรกได้สำเร็จ | กีฬา | ชาตรี ฉิมทะเล,ทีมชาติโอมาน,ทีมชาติไทย,ธีรศิลป์ แดงดา,ฟุตบอลโลก 2014,สมปอง สอเหลบ,ไทยชนะ 3-0 | https://news.thaipbs.or.th/content/32364 |
ผู้การฯ นครพนม จ่อขอหมายจับ ครูจอมทรัพย์-ครูอ๋อง ฐานเบิกความเท็จ | เมื่อวันที่ 24 พ.ย.60 พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (ผบก.ภ.จว.นครพนม) เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนดำเนินการขบวนการสร้างพยานหลักฐานเท็จ คดีประวัติศาสตร์ ,ครูจอมทรัพย์, ว่า ล่าสุด ทางตำรวจได้มีการสอบสวน พยานหลักฐาน ขยายผลเชื่อมไปยังบุคคลสำคัญ จนกระทั่งมีพยานหลักฐานชัดเจน ว่า นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี อดีตข้าราชการครู ชาว จ.สกลนคร มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นในกระบวนการรับจ้างทำผิดแทน ตั้งแต่ต้น เนื่องจากส่วนต่างคำให้การของ นายสับ วาปี อายุ 61 ปี 1 ในผู้ต้องหา ที่เป็นพยาน ออกมาสารภาพยืนยัน เชื่อมโยงถึง นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง ที่เคยนำเงินสด 1.7 แสนบาท มาให้ นายสับ วาปี เพื่อไปจ่ายเงินชดเชย ในทางแพ่ง แก่ญาติผู้ตาย ที่ศาลจังหวัดนครพนม เพื่ออ้างว่า นายสับ วาปี เป็นคนขับรถตัวจริง,ทั้งนี้ ทางตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม มอบหมายให้ พ.ต.อ.ปราโมทย์ อุทากิจ ผกก.สอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม กล่าวหา นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี อดีตข้าราชการครู ชาว จ.สกลนคร พร้อมด้วย นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง เพื่อนสนิท ในข้อหา เบิกความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 วรรคสอง ผู้ใดนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดี ถ้าเป็นพยานหลักฐานในข้อสำคัญในคดีนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ได้กระทำในการพิจารณาคดีอาญาผู้กระทำต้องระวางโทษไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เวลา 16.30 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา ตามคดีอาญาเลขที่ 828/60,ดังนั้นในขั้นตอนอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเข้าฐานความผิดดังกล่าว ซึ่งมีโทษเกิน 3 ปีขึ้นไป ไม่ต้องมีการออกหมายเรียก โดยได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเสนอศาลจังหวัดนครพนม ขออนุมัติออกหมายจับตามกฎหมาย ต่อไปทั้ง 2 ราย ซึ่งถือเป็นผู้บงการสำคัญในขบวนการรับจ้างทำผิดแทน ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิดต่างๆ จะต้องรอแนวทางการสอบสวนเพิ่มเติม หลังผู้ต้องหาเข้ามอบตัว หรือมีการมอบตัวรับทราบข้อกล่าวหา หากเข้าข่ายความผิดไหน ในแนวทาง 7 ข้อหา ที่ตำรวจตั้งไว้ จะได้แจ้งเพิ่มเติม และแต่ละคนฐานความผิดจะแตกต่างกันไป แต่ในขั้นตอนเบื้องต้นได้ดำเนินคดีเอาผิด ฐานเบิกความเท็จ และแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ในขั้นต้น ซึ่งต้องมีการพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย. | ผบก.ภ.จว.นครพนม เดินหน้าแจ้งความเอาผิด ครูจอมทรัพย์ และ ครูอ๋อง เพื่อนสนิท ฐานเบิกความเท็จต่อศาลแล้ว พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลออกหมายจับ ชี้เข้าฐานความผิด มีโทษเกิน 3 ปีขึ้นไปไม่ต้องออกหมายเรียก | ข่าว,อาชญากรรม | ครูจอมทรัพย์,ครูอ๋อง,หมายจับ,เบิกความเท็จ,ครูแพะ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1134935 |
TDRI: ผลกระทบสังคมสูงอายุในภาคอุตสาหกรรมการผลิต | ความไม่สอดคล้องของกำลังแรงงานและคุณภาพการศึกษากับความต้องการของตลาดแรงงาน เป็นปัญหาใหญ่ที่ปรากฏชัดจนนำมาสู่การปฎิรูปการศึกษาอีกครั้งในปัจจุบัน นอกจากนั้นแล้วโครงสร้างประชากร อายุ การศึกษา เพศ และภูมิลำเนาและการเปลี่ยนแปลงลักษณะต่างๆ ดังกล่าวก็มีผลอย่างสำคัญต่อกำหนดนโยบายหรือการวางแผนการใช้กำลังคนที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ ทีดีอาร์ไอได้วิเคราะห์ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางประชากรกับประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานภาคอุตสาหกรรมพบว่าลักษณะทางประชากรของแรงงานมีผลต่อประสิทธิภาพการผลิตอย่างมากดร.สราวุธ ไพฑูรย์พงษ์ นักวิชาการอาวุโสและคณะ จากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ได้ทำการศึกษาดังกล่าวให้กับโครงการ การจัดทำฐานข้อมูลอุปสงค์อุปทานกำลังคนเพื่อรองรับการวางแผนพัฒนาภาคอุตสาหกรรม หรือโครงการ LEED-X+ ซึ่งสำนักเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักเศรษฐกิจการแรงงาน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษา สำนักงานสถิติแห่งชาติ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดทำ นำมาใช้วิเคราะห์สถานการณ์และพฤติกรรมของตลาดแรงงานภาคอุตสาหกรรมจากการวิเคราะห์ย้อนหลัง 20 ปี (2543-2553) พบว่า แรงงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิต ของประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางประชากร (อายุ เพศ การศึกษา ฯลฯ) โดยในปี 2553 มีจำนวนแรงงานทั้งประเทศ 38.1 ล้านคน เป็นแรงงานภาคอุตสาหกรรมราว 7.8 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นแรงงานในสาขาอุตสาหกรรมการผลิตจริงๆ ราว 5.4 ล้านคน ส่วนที่เหลือกระจายอยู่ในสาขาต่างๆ ได้แก่ การไฟฟ้า ก๊าซและการประปา การก่อสร้าง การทำเหมืองแร่และเหมืองหิน การจ้างแรงงานภาคอุตสาหกรรมในอดีตใช้แรงงานที่มีอายุฐานนิยม (อายุแรงงานส่วนใหญ่) ต่ำกว่าแรงงานในภาคเกษตรหรือภาคบริการ ในแง่ของเพศอุตสาหกรรมบางชนิดจะใช้แรงงานชายหญิงในสัดส่วนไม่เท่ากัน ในขณะที่อุตสาหกรรมแต่ละชนิดใช้กำลังคนในการศึกษาระดับต่างๆ กัน เช่นอุตสาหกรรมสิ่งทอหรือเครื่องนุ่งห่มจะใช้แรงงานระดับล่าง (มีการศึกษาน้อย) ในสัดส่วนที่มากกว่าอุตสาหกรรมอื่นดร.สราวุธ กล่าวว่า โครงสร้างอายุแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเดิมเป็นแรงงานวัยหนุ่มสาว แต่ในระยะหลัง อายุแรงงานในภาคอุตสาหกรรมก็เริ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นลักษณะของประเทศที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างประเทศไทยที่สัดส่วนประชากรวัยเด็กลดลง ในขณะที่สัดส่วนประชากรวัยสูงอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลให้โครงสร้างอายุแรงงานในภาคอุตสาหกรรมจะเป็นแรงงานสูงอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ(จากข้อมูลในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา(2534-2553) มีสัดส่วนของแรงงานผู้เยาว์ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากประมาณร้อยละ 55 ในปี 2534 เป็นร้อยละ 20.7 ในปี 2553 ในขณะที่แรงงานผู้สูงอายุ เพิ่มจากประมาณร้อยละ 12 เป็นประมาณร้อยละ 20 หรือเกือบเท่าตัว สาเหตุมาจากอัตราเกิดลดลงและการขยายการศึกษาทำให้ประชากรวัยรุ่นเข้าสู่ตลาดลดลงโดยทั่วไป (มิใช่แต่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตเท่านั้น) ทำให้สัดส่วนของแรงงานผู้ใหญ่และผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ข้อมูลผลสำรวจภาวะการมีงานทำของประชากร พบว่าระหว่างปี 2547 และ ปี 2553 อายุเฉลี่ยของแรงงานภาคอุตสาหกรรมได้เพิ่มขึ้นจากประมาณ 27 ปี เป็น ประมาณ 32 ปี)จากการทดสอบทางสถิติพบว่าสัดส่วนของแรงงานสูงอายุที่เพิ่มขึ้นจะมีผลทางลบต่อประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานโดยเฉลี่ย ดังนั้นการเพิ่มอัตราการใช้แรงงานที่สูงอายุขึ้นจำเป็นต้องมีการพัฒนาแรงงานดังกล่าวมากขึ้นด้วยด้านการศึกษา โครงสร้างการศึกษาของแรงงานภาคอุตสาหกรรมการผลิตดีกว่าโครงสร้างการศึกษาของแรงงานทั้งประเทศ โดยโครงสร้างของแรงงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิตจำแนกตามการศึกษามีสัดส่วนแรงงานที่มีการศึกษาปานกลางและระดับสูงเพิ่มขึ้น สัดส่วนแรงงานการศึกษาน้อยหรือระดับล่าง (มัธยมต้นหรือต่ำกว่า) ลดลงจากประมาณร้อยละ 86 ในปี 2534 เหลือร้อยละ 68 ในปี 2553 แรงงานระดับกลาง (มัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า) เพิ่มจากประมาณร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 17.4 และแรงงานระดับสูง (ตั้งแต่อนุปริญญาขึ้นไป) เพิ่มจากร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 14 ขณะเดียวกันกำลังแรงงานระดับล่างซึ่งจะมีผู้สำเร็จการศึกษาที่จะเข้ามาเติมปีละไม่ถึงแสนคนก็ยังไม่เพียงพอเพราะมีอัตราการเรียนต่อสูง และในแต่ละปีตลาดแรงงานจะสูญเสียกำลังแรงงานไปด้วยสาเหตุต่างๆ ทั้งการเสียชีวิตและเกษียณอายุไม่ต่ำกว่า 4 แสนคน ทำให้ภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่จะขาดแคลนแรงงานระดับล่าง ในขณะที่มีการผลิตแรงงานระดับปริญญาตรีออกมามากมายแต่มีปัญหาด้านคุณภาพไม่ได้รับคัดเลือกจากนายจ้าง จึงทำให้มีปัญหาว่างงานและขาดแคลนแรงงานไปพร้อมกัน อย่างไรก็ตามผลการทดสอบทางสถิติระหว่างความสัมพันธ์ของระดับการศึกษาของแรงงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิตกับประสิทธิภาพการผลิตยังไม่ชัดเจนปัจจัยเรื่องเพศ ประเทศไทยมีประชากรหญิงมากกว่าชาย โดยมีจำนวนประชากรหญิง 34.3 ล้านคนต่อประชากรชาย 33.1 ล้านคน แต่ถ้าดูที่แรงงาน กลับมีแรงงานหญิงน้อยกว่าแรงงานชายเนื่องจากอัตราการเข้าร่วมแรงงาน (จำนวนแรงงาน/ประชากรในวัยแรงงาน) ของหญิงน้อยกว่าชาย คือประมาณ ร้อยละ 63.5 เทียบกับ 80.3 (เนื่องจากสตรีจำนวนไม่น้อยทำหน้าที่แม่บ้านโดยไม่ได้ออกหางานทำ) ทำให้สัดส่วนแรงงานหญิงต่อแรงงานชายประมาณ ร้อยละ 45.5 ต่อ 54.5 อย่างไรก็ตาม ในปี 2553 ในขณะที่โดยทั่วไปสัดส่วนแรงงานหญิงน้อยกว่าชาย แต่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตกลับมีการจ้างงานแรงงานหญิงในสัดส่วนสูงกว่าชายเล็กน้อย (ร้อยละ 52 ต่อ ร้อยละ 48) ซึ่งในระยะยาวตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมาสัดส่วนเพศของแรงงานภาคอุตสาหกรรมการผลิตค่อนข้างคงที่ โดยสัดส่วนแรงงานหญิงเพิ่มขึ้นตั้งแต่ ปี 2545 เป็นต้นมา และลดลงเล็กน้อยช่วงปี 2552-2553 ทั้งนี้มีอุตสาหกรรมที่นิยมใช้แรงงานหญิง เช่น สิ่งทอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จากการทดสอบทางสถิติสัดส่วนของแรงงานหญิงในอุตสาหกรรมการผลิตมีผลดีต่อประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานสำหรับภูมิลำเนาของแรงงาน แรงงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิตเกินครึ่ง (ร้อยละ 62.8) อยู่ในชนบท (นอกเขตเทศบาล) แสดงว่าอุตสาหกรรมการผลิตมิได้กระจุกอยู่ในตัวเมือง และอุตสาหกรรมบางอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมการผลิตอาหารจะอยู่ในนอกเขตเทศบาล โดยแนวโน้มในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาสัดส่วนแรงงานภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่อยู่ในชนบทเพิ่มจากประมาณร้อยละ 44.0 ในปี 2534 เป็น ร้อยละ 62.8 ในปี 2553 จากการทดสอบทางสถิติพบว่าสัดส่วนของแรงงานอุตสาหกรรมการผลิตที่อยู่นอกเขตเทศบาลจะมีผลดีต่อประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานนักวิชาการทีดีอาร์ไอ กล่าวด้วยว่า ผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าโครงสร้างทางประชากรของแรงงานมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานในอุตสาหกรรมการผลิตดังนั้นการเลือกใช้แรงงานในอายุ เพศ ระดับการศึกษาหรือภูมิลำเนาต่างๆ จึงควรเป็นไปอย่างมีแบบแผน มิฉะนั้นจะมีผลเสียต่อประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานในอุตสาหกรรมการผลิต ดังนั้นการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้จึงเป็นความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม. | ความไม่สอดคล้องของกำลังแรงงานและคุณภาพการศึกษากับความต้องการของตลาดแรงงาน เป็นปัญหาใหญ่ที่ปรากฏชัดจนนำมาสู่การปฎิรูปการศึกษาอีกครั้งในปัจจุบัน นอกจากนั้นแล้วโครงสร้างประชากร อายุ การศึกษา เพศ | แรงงาน,เศรษฐกิจ | TDRI,สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย,สราวุธ ไพฑูรย์พงษ์ | https://prachatai.com/journal/2012/05/40585 |
เศร้า เกษตรกรถูกหลอกให้ปลูกข่า อ้างรับซื้อหมด สุดท้ายหนีหาย | เมื่อวันที่ 4 ก.ย.59 นางมะลิ จันทร์ลอย อายุ 49 ปี ชาว อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร พร้อมพี่น้องรวม 3 คน พาไปดูไร่ข่าจำนวน 14 ไร่ ซึ่งกำลังสูงท่วมหัวรอการขุดหัวขาย โดยทั้ง 3 คน ช่วยกันให้ข้อมูลว่า แต่เดิมพื้นที่ดังกล่าวก็ทำนา แต่ช่วงเกิดภัยแล้งรัฐบาลให้ปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแทนการทำนา ในตอนแรกก็ยังไม่รู้ว่าจะปลูกพืชชนิดไหนดี ต่อมาได้รู้จักกับนางมะ ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง มาปลูกข่าแถวหมู่บ้านได้ผลดีและขายได้ราคาดี แค่ 3 ไร่ ได้เงินกว่า 200,000 บาท จึงคิดทำบ้าง จึงไปติดต่อนางมะ และได้แนะนำให้รู้จักกับนายนนท์ ไม่ทราบนามสกุล บอกว่าบ้านอยู่ จ.นครสวรรค์ อ้างว่าผู้รับซื้อรายใหญ่และมีแผงขายส่งอยู่ที่ตลาดไท,ทั้งนี้ นายนนท์ บอกว่าให้ปลูกข่า เพราะมีเท่าไรตนจะรับซื้อทั้งหมด เนื่องจากมีโรงงานรับไปทำเครื่องสำอางและส่งขายต่างประเทศด้วย โดยจะมาซื้อเหมาตามราคาท้องตลาด แต่ไร่ละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท ไปจนถึงไร่ละ 100,000 บาท และห้ามขายให้คนอื่น ส่วนพันธุ์ข่า นายนนท์ จะหามาให้และจะนำคนงานมาปลูกให้ เพียงแค่เจ้าของที่เตรียมแปลงไว้เท่านั้น,นางมะลิ กล่าวว่า หลังจากที่พี่น้องปรึกษากันแล้วเห็นว่านายนนท์จะมารับซื้อทั้งหมด จึงตัดสินใจร่วมกันทำ โดยใช้พื้นที่ทั้งหมด 14 ไร่ ในการปลูกข่า นายนนท์ นำคนงานพร้อมพันธุ์ข่ามาปลูกให้ ซึ่งตอนแรกตกลงกันว่าเป็นข่าพันธุ์ตาแดง ใช้ระยะเวลาในการปลูกแค่ 8 เดือนก็สามารถขุดขายได้แล้ว โดยลงทุนไปทั้งหมดกว่า 300,000 บาท หลังจากที่ปลูกไปแล้ว ตนก็พยายามดูแลใส่ปุ๋ย ฉีดฮอร์โมนเพื่อบำรุงให้โตเร็ว,อย่างไรก็ตาม ผ่านไป 8 เดือนตามที่ตกลงกัน จึงเรียกนายนนท์มาดู ปรากฏว่าข่าที่ขุดขึ้นมาหัวเล็กมาก และไม่ใช่ข่าพันธุ์ตาแดงตามที่ตกลง ซึ่งเป็นข่าที่ชาวบ้านเรียกว่าข่าลิง มีลักษณะหัวเล็กและขาวซีด ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด นายนนท์บอกว่ายังไม่ได้ขนาด ต้องรอไปก่อน จากนั้นผ่านไป 10 เดือน โทรไปถามก็บ่ายเบี่ยง บอกว่าต้องขุดข่าใหญ่ก่อน ใกล้จะมาถึงแล้วรออีกไม่นาน ผ่านไปเป็นปี โทรไปก็ได้รับคำตอบเหมือนเดิม จนล่วงเลยมาถึงวันนี้ 1 ปี กับ 4 เดือน ซึ่งถ้าเป็นข่าทั่วไปก็ขุดไป 2 รอบแล้ว,ทั้งนี้เมื่อโทรไปก็ได้รับคำตอบแบบเดิมซ้ำซากและไม่มีกำหนดมาซื้อ เมื่อถามว่าจะขายให้คนอื่นได้หรือไม่ นายนนท์รีบตอบทันทีว่าขายไปเลย จึงมั่นใจว่านายนนท์คงไม่มารับซื้อข่าตามที่ตกลงกันไว้ คล้ายๆ กับว่าพวกตนถูกหลอกให้ซื้อพันธุ์ข่าที่ไม่ใช่พันธุ์ที่ตกลงกัน และนำคนมาปลูกกินค่าแรง พอถึงเวลากลับไม่มาซื้อ สร้างความเดือดร้อนให้พวกตนเป็นอย่างมาก เพราะต้องกู้ยืมเงินมาลงทุนปลูกข่า แต่กลับขายไม่ได้ จึงต้องการขายโละทั้งสวน ซึ่งถ้าพ่อค้าแม่ค้าคนใดต้องการ พวกตนพร้อมขายในราคาถูก ขอเพียงได้ทุนคืนบ้างก็พอใจแล้ว เพราะพวกตนจะใช้พื้นที่ในการทำนาแล้ว. | เกษตรกรที่กำแพงเพชรเศร้า ถูกมิจฉาชีพหลอกให้ปลูกข่า อ้างมีเท่าไรซื้อหมด แต่ต้องซื้อพันธุ์และใช้คนที่จัดหาให้เป็นคนปลูก ลงทุนไป 3 แสน 14 ไร่ บอก 8 เดือนขุดได้ จนเลยมา 14 เดือน ก็ไม่มารับซื้อ ส่วนพันธุ์ข่าก็ไม่ใช่แบบที่ตกลงไว้ | ข่าว,ทั่วไทย | เกษตรถูกหลอก,ปลูกข่า,มิจฉาชีพหลอกปลูกข่า,หลอกให้ปลูกข่า,อ้างรับซื้อ,ตลาดไท,กำแพงเพชร | https://www.thairath.co.th/news/local/712350 |
นิทรรศการตีท้ายครัว ของตะวัน วัตุยา | เป็นศิลปินเซอร์เรียลลิสแนวหน้าของไทย แต่ประทีป คชบัวในวันนี้วางพู่กันมาเป็นแบบให้นิทรรศการตีท้ายครัว ของ ตะวัน วัตุยา ที่ตั้งใจเขียนภาพผู้มีบทบาทสำคัญในวงการศิลปะบ้านเรา รวมเป็นผลงานแสดงเดี่ยวครั้งล่าสุด สีเขียวเพิ่งถูกผสมขึ้นหลัง ประทีป ศิลปินผู้โดดเด่นด้านผลงานแนวเหนือจริง ก้าวเข้ามาในห้อง แล้วทำให้ตะวันนึกจินตนาการถึงพระอินทร์กายสีเขียวและทรงพลัง จึงเริ่มเขียนภาพสดผ่านเทคนิคสีน้ำแบบเปียกบนเปียก ถ่ายทอดภาพบุคคลตรงหน้าลงแผ่นกระดาษไผ่ผสมปอในเวลาไม่ถึงสิบนาที ใส่ความรู้สึกของตัวเองลงไปมากกว่าจะเขียนให้สมจริงเพชร โอสถานุเคราะห์ นักสะสมศิลปะร่วมสมัย วสันต์ สิทธิเขตต์ นักวาดและนักเคลื่อนไหวทางสังคม เช่นเดียวกับ มานิต ศรีวานิชภูมิ ช่างภาพและผู้กำกับภาพยนตร์ และนำทอง แซ่ตั้ง เจ้าของแกลเลอรี่ ส่วนหนึ่งของผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการศิลปะหลากสาขา รวมตัวอยู่บนกระดาษแผ่นใหญ่ก่อนนำมาต่อกันเป็นขนาดราว 3 คูณ 20 เมตร หลังทยอยเดินทางมาเป็นแบบวันละ 4-5 คน การเปลี่ยนหอศิลป์เป็นที่สร้างงานแบบนี้ ยังได้แรงบันดาลใจจากการไปเป็นศิลปินพำนักในต่างแดน ทำให้ตะวันพบว่าเมื่อเปลี่ยนสถานที่ทำงาน ผลงานที่ได้ก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกันแต่ละบุคคลดังถูกปลอกเปลือกออก เป็นภาพนู้ดไร้เครื่องแต่งกาย เป็นหนึ่งในการเล่นสนุกกับผลงานย่อวงการศิลปะชิ้นนี้ ส่วนความหมายเว้นว่างไว้ให้ผู้ชมได้ตีความ นิทรรศการตีท้ายครัว เริ่มลงมือสร้างสรรค์มาตั้งแต่วันที่16 กันยายน และจะเปิดให้ชมในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ ที่หอศิลป์วิทยนิทรรศน์ สำนักงานวิทยทรัพยากร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | จุดเด่นของการเขียนภาพสดคือได้ถ่ายทอดความรู้สึกจริงในเวลาจำกัด เป็นวิธีที่ตะวัน วัตุยา เลือกใช้กับผลงานแสดงเดี่ยวครั้งล่าสุด เค้าเปลี่ยนหอศิลป์เป็นที่ทำงานสร้างสรรค์ภาพบุคคลผู้มีอิทธิพลในวงการศิลปะไว้ในนิทรรศการตีท้ายครัว | ศิลปะ-บันเทิง | ตะวัน วัตุยา,นิทรรศการตีท้ายครัว,หอศิลป์,เขียนภาพสด | https://news.thaipbs.or.th/content/198051 |
เตือนอย่าซื้อทัวร์ถูกเกินเหตุ กระบี่-เกาะหลีเป๊ะเจอหลอกลวงมากสุด | นายเจริญ วังอนานนท์ อุปนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) เปิดเผยว่า สมาคมมีการตรวจพบว่า ที่ผ่านมาหลายกรณีเกี่ยวกับการร้องเรียนเรื่องการหลอกลวงขายแพ็กเกจท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นการขายแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ และ เกาะหลีเป๊ะของจังหวัดสตูล จึงต้องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและสมาคมท่องเที่ยวในพื้นที่เร่งแก้ปัญหา ก่อนที่จะกระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัด เพราะล่าสุดในการเตรียมจัดงานเที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก ครั้งที่ 16 ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 25 ก.พ.ถึง 1 มี.ค.นี้ที่ศูนย์การ ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางสมาคมได้ยกเลิกการจองบูธ ประมาณ 10 บริษัท ซึ่งมีความน่าสงสัย,ในการทำธุรกิจโดยบริษัทส่วนใหญ่มาจากกระบี่ และสตูล และสมาคมในฐานะผู้จัดงานหลักได้ มีการสั่งการให้พนักงาน เข้มงวดกับการเข้ามาซื้อบูธของบริษัทที่มาจากกระบี่และสตูลเป็นพิเศษ ซึ่งนอกจากจะต้องมีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ยังจะต้องได้รับจดหมายรับรองจากสมาคมท่องเที่ยวในจังหวัดนั้นๆอีกด้วย เพื่อเป็นการคัดกรองเบื้องต้นก่อนเกิดปัญหากับผู้บริโภค,ผมอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและสมาคมท่องเที่ยวท้องถิ่นนั้นๆเข้ามาช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย เพราะกระบี่และสตูลมีการหลอกขายแพ็กเกจตามงานส่งเสริมการขายสินค้าท่องเที่ยวมากที่สุด ถ้ายังปล่อยปละละเลยอย่างนี้ เชื่อแน่ว่าจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของทั้งสองจังหวัด จึงอยากเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีการออกกฎระเบียบและทำจดหมายเวียนไป ยังโรงแรมในจังหวัด ที่มีการขายห้องพ่วงกับบริษัททัวร์ที่มาออกงาน ให้ร่วมรับผิดชอบในกรณีที่บริษัททัวร์นั้นๆ เชิดเงินลูกค้า เพราะเชื่อว่าการทำสัญญาขายหรือจองระหว่างโรงแรมกับบริษัททัวร์นั้น ต้องมีเอกสารและรู้ที่มาที่ไปของกันและกัน ดังนั้น การอ้างว่าไม่รับรู้เลยจึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง,นายเจริญยังกล่าวว่า ปัจจุบันจำนวนการหลอกขายแพ็กเกจนั้นมีมากขึ้น แม้ว่าจะเป็นข่าวมาแล้ว หลายครั้ง แต่การใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายของพวกมิจฉาชีพ ทำให้หลายๆ คดีจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถส่งฟ้องได้ เพราะต้องรอรวบรวมคำร้องจากผู้เสียหาย และผู้เสียหายหลายคนก็ไม่อยากเสียเวลาจึงปล่อยเลยตามเลย เหมือนอย่างเช่นกรณีคดีของบริษัทกระบี่ภูพระนางรีสอร์ทที่หลอกขายแพ็กเกจทัวร์และที่พัก ในตอนนี้ก็ยังไม่มีการส่งฟ้องศาลเพราะติดขั้นตอนการรวบรวมคำร้องของผู้เสียหายอยู่ ด้วยเหตุนี้ ผู้กระทำผิดและบริษัทที่หลอกลวงก็ยังคงลอยนวลอยู่และยังคงเป็นหน้าเดิมๆ แต่มีการเปลี่ยนชื่อบริษัทและจดทะเบียนใหม่ โดยทุนจดทะเบียนเพียง แค่ 10,000 บาท แต่การหลอกลวงขายแพ็กเกจ ในงานส่งเสริมการขายสินค้าท่องเที่ยว อาจจะได้เงินมากถึง 800,000- 1,000,000 บาทต่อครั้ง ทำให้ ธุรกิจการหลอกขายแพ็กเกจทัวร์นั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว และยังมีการออกบูธตามห้างสรรพสินค้าชานเมืองอีกด้วย,นายเจริญกล่าวต่อว่า การนำเสนอขายแพ็กเกจของกลุ่มมิจฉาชีพนี้ จะมีการเสนอขายแพ็กเกจที่ราคาถูกกว่าราคาขายทั่วไปประมาณ 30-50% และมีการแถมให้ในกรณีซื้อหลายแพ็กเกจเพื่อเป็นการจูงใจลูกค้า โดยในเบื้องต้น บริษัทเหล่านี้จะยอมขาดทุนก่อน โดยมีการออกทัวร์จริง พาไปเที่ยวและบริการดีจริง เพื่อให้เกิดกระแสการรีวิวในสังคมออนไลน์และเว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดัง แต่หลังจากนั้นเมื่อเป็นที่รู้จักมียอดขายสูง บริษัทก็จะหายไปเหมือนดังที่เป็นข่าว ดังนั้น ทางสมาคมอยากเตือนผู้บริโภคให้มีความระมัดระวังในการจอง อย่ามองเพียงแต่เรื่องราคาถูก แต่ดูด้วยว่า ราคาที่นำเสนอนั้นสมเหตุสมผลหรือไม่. | สมาคมไทยบริการท่องเที่ยวเตือนผู้บริโภคอย่าซื้อแพ็กเกจทัวร์ราคาถูกเกินเหตุ จะถูกหลอกลวง ชี้มิจฉาชีพทำงานเป็นระบบ โดยช่วงแรกจะมีการออกทัวร์จริงเพื่อสร้างกระแสในโลกโซเชียลแล้วค่อยโกงในภายหลัง | null | แพ็กเกจทัวร์,แพ็กเกจทัวร์ราคาถูก,หลอกลวง,เจริญ วังอนานนท์,ทีทีเอเอ,แพ็กเกจท่องเที่ยว,กระบี่,เกาะหลีเป๊ะ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวเศรษฐกิจ | https://www.thairath.co.th/content/481449 |
ฟ้องแล้ว พ.ต.อ.อำนวย-กำนันหนองบ้านโป่ง ทีมฆ่าฝังดินสาวทอม ศัตรูหัวใจ | จากคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายอุ้มฆ่า น.ส.สุภัคสรณ์ พลไธสง สาวทอมวัย 28 ปี นำศพไปฝังดิน เจ้าหน้าที่ตามขุดจนพบร่างในรีสอร์ตร้างแห่งหนึ่งใน ต.หนองหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ อดีต ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ในฐานะผู้จ้างวาน นายสนอง สมสิทธิ์ หรือกำนันหนอง กำนัน ต.ลาดบัวขาว อ.บ้านโป่ง คนรับงาน และทีมฆ่าอีก 3 คน สาเหตุเนื่องจากพ.ต.อ.อำนวย โกรธแค้นที่ผู้ตายไปติดพันสาวสวยคนสนิท เหตุเกิดต้นเดือน ม.ค. 60 ที่ผ่านมา,วันที่ 28 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานอัยการคดีอาญาธนบุรี 5 ได้ยื่นฟ้อง นายนิวัฒน์ หรือ โจ๊ก สวยทอง อายุ 32 ปี ภูมิลำเนากาญจนบุรี, นายภูมิทัศน์ หรือ อุ๋ม พิบูรณ์สวัสดิ์ อายุ 24 ปี ภูมิลำเนาราชบุรี, น.ส.กรรณิกา หรือ ดาว กรุมรัมย์ อายุ 39 ปี ภูมิลำเนากรุงเทพฯ, พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ อายุ 58 ปี อดีต ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ภูมิลำเนากาญจนบุรี และนายสนอง หรือ กำนันหนอง สมสิทธิ์ อายุ 54 ปี กำนัน ต.ลาดบัวขาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ภูมิลำเนาราชบุรี เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานใช้ จ้างวานผู้อื่น ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้จำยอมโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายหรือใช้กำลังประทุษร้าย, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อปกปิดความผิดตนเอง และซ่อนเร้นทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้จำยอมโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายหรือใช้กำลังประทุษร้าย, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพ, ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดตนเอง และซ่อนเร้นทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย ต่อศาลจังหวัดตลิ่งชัน พร้อมคัดค้านการประกันตัว,ทั้งนี้ โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 13 ธ.ค. 59-ต้นเดือน ม.ค. 60 นายนิวัฒน์ หรือ โจ๊ก, นายภูมิทัศน์ หรือ อุ๋ม และน.ส.กรรณิกา หรือดาว จำเลยที่ 1-3 กับพวกที่หลบหนีอีก 3 คน ร่วมกันใช้กำลังเอาตัว น.ส.สุภัคสรณ์ พลไธสง อายุ 28 ปี สาวทอม ขึ้นรถกระบะมากักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ที่ จ.กาญจนบุรี และบังคับให้ น.ส.สุภัคสรณ์ เลิกมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวและทางการเงินกับ น.ส.กรรณิกา หรือ ดาว จำเลยที่ 3 ซึ่งหลังก่อเหตุจำเลยที่ 1-3 กับพวกได้ทำให้ น.ส.สุภัคสรณ์ ขาดอากาศหายใจ จนถึงแก่ความตาย แล้วนำศพในสภาพเปลือยกายไปใส่หลุมที่ขุดเตรียมไว้ในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ใน จ.กาญจนบุรี แล้วกลบดินชั้นหนึ่งก่อนวางตะแกรงเหล็กทับและเทปูนซีเมนต์ฝังกลบอีกชั้นหนึ่งเพื่อปิดบังการตาย,กระทั่งวันที่ 11 ม.ค. 60 เจ้าหน้าที่จึงตรวจพบศพ โดยมี พ.ต.อ.อำนวย อดีต ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และนายสนอง หรือ กำนันหนอง กำนัน ต.ลาดบัวขาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จำเลยที่ 4-5 เป็นผู้ใช้ จ้างวานให้กระทำผิด เหตุเกิดที่ ต.เกาะสำโรง, ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี และแขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม.,ศาลจังหวัดตลิ่งชัน รับคำฟ้องแล้วนัดสอบคำให้การจำเลยทั้ง 5 ในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ เวลา 13.30 น. ซึ่งปัจจุบัน พ.ต.อ.อำนวย, นายสนอง หรือ กำนันหนอง และทีมคนร้ายร่วมอุ้มฆ่า 3 คนนั้นถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัวตั้งแต่ชั้นฝากขัง เมื่อเดือน ม.ค. 60 ที่ผ่านมา. | อัยการฟ้องแล้ว พ.ต.อ.อำนวย อดีต ผกก.บ้านโป่ง-กำนันสนอง พร้อมทีมอุ้มฆ่าสาวทอมฝังดินในรีสอร์ตร้างกาญจนบุรี ศาลจังหวัดตลิ่งชันนัดสอบคำให้การ 12 มิ.ย.นี้ ผู้ต้องหายังอยู่ในเรือนจำ หลังไม่ได้ประกันตัวในชั้นฝากขัง | ข่าว,ทั่วไทย | ฆ่าฝังดินสาวทอม,ผกก.บ้านโป่ง,อำนวย พงษ์สวัสดิ์,ฆ่าสาวทอม,กำนันหนอง | https://www.thairath.co.th/news/local/central/955177 |
ซิดนีย์ปิด ไทยทาวน์ ฉลองตรุษจีน | เมื่อเวลา 17.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของเมืองซิดนีย์) วันที่ 14 ก.พ. 58 ผู้สื่อข่าวประจำประเทศออสเตรเลีย รายงานว่า ที่มหานครซิดนีย์ มีการจัดงานวันตรุษจีน หรือ Lunar Festival 2015 ขึ้น ถือว่าเป็นงานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ อีกงานหนึ่งของซิดนีย์ โดยในปีนี้เทศบาลซิดนีย์อนุญาตให้ชุมชนไทย และชุมชนเกาหลี ร่วมจัดงานฉลองตรุษจีน ไปพร้อมๆ กับชุมชนจีนขึ้นเป็นปีแรก และทั้ง 3 ชุมชน ร่วมปิดถนนพร้อมกัน เพื่อจัดงานในชุมชนของตัวเอง ถนนสายแรก ย่านชุมชนจีน ปิดถนน Sussex ระหว่าง ถนน Goulburn และถนน Hay ถนนสายที่สอง ย่านชุมชนไทย ถนน Campbell ระหว่าง ถนน George และถนน Pitt และถนนสายสุดท้าย ชุมชนเกาหลี ถนน Pitt Street ระหว่างถนน Central และถนน Liverpool,ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในส่วนของชุมชนไทย จัดให้มีแสดงการรำไทย การแกะสลักผลไม้ มีการขายขนม-อาหารไทย รวมทั้งบริการนวดแผนไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ส่วนบรรยากาศภายในงาน มีประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทยอยเดินทางมาเที่ยวงานของชุมชนไทยอย่างต่อเนื่อง แม้บางช่วงจะมีสายฝนโปรยปรายลงมาก็ตาม,ด้านนายธีรเทพ พรหมวงศานนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ กล่าวว่า สถานกงสุลใหญ่ ได้พูดคุยกับเทศบาลซิดนีย์จนได้รับความไว้วางใจ ให้เข้าร่วมจัดงานที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ และเป็นครั้งแรกของชุมชนไทยอีกด้วย ที่ได้รับความไว้วางใจ ทั้งนี้ เพราะชุมชนไทยเป็นชุมชนใหญ่ มีความเหนียวแน่น และพวกเราได้พิสูจน์ฝีมือให้เขาเห็นมาแล้วหลายครั้ง,นอกจากนี้ ยังถือเป็นการเฉลิมฉลองไทยทาวน์อีกด้วย หลังติดประกาศป้ายไทยทาวน์ ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปีที่ผ่านมา กระทั้งในวันนี้มีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย คาดว่า ชุมชนไทยจะได้รับเกียรติเข้าร่วมงานทุกๆ ปี และในวันที่ 22 ก.พ.นี้ ชุมชนไทยยังได้รับเกียรติให้เข้าร่วมขบวนพาเหรด ที่ยิ่งใหญ่อีกด้วย โดยชุมชนไทยจะอยู่ท้ายขบวน อยากให้ทุกคนติดตามชมฝีมือคนไทยที่ซิดนีย์,ทั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ยังถือโอกาสเข้าไปให้บริการกงสุลสัญจร แก่พี่น้องชาวไทยในซิดนีย์ ที่บริเวณชั้น 2 ร้านอาหาร Siam House ย่านชุมชนไทยด้วย โดยมีคนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก | น่ายินดี ชุมชนไทยในมหานครซิดนีย์ ร่วมปิดถนนไทยทาวน์ จัดงานวันตรุษจีน หรือ Lunar Festival 2015 งานประจำปีที่ยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรก โดยเทศบาลซิดนีย์อนุญาตให้จัดร่วมกับชุมชนจีน-ชุมชนเกาหลี พร้อมๆ กัน
| null | ชุมชนไทย,มหานครซิดนีย์,ปิดถนน,ไทยทาวน์,งานตรุษจีนซิดนีย์,Lunar Festival 2015,ซิดนีย์,จีน,เกาหลี,Campbell,George,Pitt,ข่าวต่างประเทศ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/481261 |
อดีตตำรวจผูกคอดับคาบ้านพัก คาดเครียดปัญหาชีวิต | เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ก.พ. 59 ร.ต.ท.สัมฤทธิ์ รัตนรัตน์ พงส.สภ.ไม้เรียง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งคนผูกคอตาย ที่บ้านเลขที่ 144/1 หมู่ 4 ต.นากะชะ อ.ฉวาง จึงออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมมูลนิธิสยามรวมใจ (ปู่อินทร์) จุดไม้เรียงร่วมกู้ภัยมังกรนากะชะ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวพบ ด.ต.ทวีศักดิ์ แสงมณี อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 548 หมู่ที่ 2 ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ผูกคอกับคานไม้ภายในบ้านเสียชีวิต,ด้านนายสุนทร แสงมณี อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 144 หมู่ที่ 4 ต.นากะชะ น้องชายผู้ตาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้พี่ชายเคยเป็นตำรวจ ก่อนถูกออกจากราชการ และติดคุกอยู่นานหลายปี ในคดียิงภรรยาเสียชีวิต หลังจากพ้นโทษก็มาอาศัยอยู่กับตน ต่อมาได้ปลูกบ้านให้ผู้ตายอยู่ 1 หลัง ซึ่งอยู่ไม่ห่างกันมากนักกับบ้านของตน ในตอนเช้าจะเห็นผู้ตายออกมาเดินอยู่หน้าบ้านเป็นประจำ วันเกิดเหตุไม่เห็นผู้ตายออกมาเดินจนประมาณ 09.30 น. ก็ยังไม่เห็นผู้ตายออกมาจึงไปเรียก ไม่ได้ยินเสียงตอบ จึงเปิดประตูดู พบแขวนคอกับคานไม้ในบ้านเสียชีวิตจึงเรียกเพื่อนบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ,นายสุนทร ยังเล่าต่อว่า เห็นผู้ตายมีอาการเครียดมานานแล้ว หลังจากที่ออกมาจากคุกแต่ผู้ตายก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังว่ามีความเครียดเรื่องอะไร และก็ไม่เคยคิดว่าพี่ชายจะมาจบชีวิตตัวเองแบบนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วพบไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ญาติไม่ติดใจ จึงมอบศพให้ญาติไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป. | อดีตนายดาบตำรวจ เครียดมานานอยู่บ้านคนเดียว หลังถูกเชิญออกจากราชการ และติดคุกอยู่นานหลายปี ในคดียิงภรรยาเสียชีวิต น้องชายเห็นผิดปกติไม่ออกมาจากบ้าน ไปเรียกไม่ตอบ เปิดประตูพบแขวนคอตายแล้ว | null | ตำรวจผูกคอตาย,อดีตดาบตำรวจผูกคอตาย,เครียดปัญหาชีวิต,ฆ่าตัวตาย,คนผูกคอตาย,ถูกออกจากราชการ,คดียิงภรรยาเสียชีวิต,เครียดอยู่บ้านคนเดียว,พ้นโทษ,นครศรีธรรมราช,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/572150 |
อุตุฯ เตือน ฉ.2 ภาคใต้ 7-10 พ.ย. ระวังฝนถล่มหนักถึงหนักมาก | ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฝนตกหนักถึงหนักมากในบริเวณภาคใต้ ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2561,หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่านภาคใต้ลงสู่ทะเลอันดามัน ในช่วงวันที่ 7-10 พฤศจิกายน 2561 โดยส่งผลกระทบต่อภาคใต้ ดังนี้,วันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2561 มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล,วันที่ 9-10 พฤศจิกายน 2561 มีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล,ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ในช่วงเวลาดังกล่าว,สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย จะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย,จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และติดตามข้อมูลบนเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง,ประกาศ ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 05.00 น.,นายภูเวียง ประคำมินทร์ รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา รักษาราชการแทน อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา | กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ ฉบับที่ 2 เตือน ภาคใต้ 7-10 พ.ย.นี้ มีฝนตกหนักถึงหนักมาก จากหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนกลาง | ข่าว,ทั่วไทย | กรมอุตุนิยมวิทยา,ประกาศฉบับ 2,ภาคใต้,ฝนตกหนักถึงหนักมาก,หย่อมความกดอากาศต่ำ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1414268 |
หล่อเชียว ตำหนักเคนซิงตันเผยแพร่พระรูป HBDเจ้าชายจอร์จ ชันษา 3 ปี | เมื่อ 22 ก.ค.59 สื่อต่างประเทศรายงาน พระตำหนักเคนซิงตัน ในกรุงลอนดอน เผยแพร่พระรูปใหม่ของเจ้าชายจอร์จ พระโอรสองค์โตในเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงแคทเธอรีน ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ผ่านทางอินสตาแกรม เมื่อเวลา 09.30 น. เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติของเจ้าชายจอร์จ ซึ่งทรงมีพระชันษาครบ 3 ปี ในวันที่ 22 ก.ค.นี้ ขณะที่พระตำหนักเคนซิงตัน ยังทวีตข้อความใต้ภาพด้วยว่า ไม่อยากเชื่อ 3 ปีแล้ว,พระรูปใหม่ของเจ้าชายจอร์จ บันทึกโดยช่างภาพมือโปร แมตต์ พอร์เทียส ซึ่งได้ถวายคำแนะนำให้แก่เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงแคทเธอรีนว่าควรเลือกสถานที่ฉายพระรูปเป็นในสวนของแอนเมอร์ ฮอลล์ ซึ่งเป็นบ้านสไตล์คันทรีในหมู่บ้านแอนเมอร์ เมืองนอร์ฟอล์ก ของอังกฤษ และได้บันทึกพระรูปเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยจากพระรูปแสดงให้เห็นว่าเจ้าชายองค์น้อยเจริญวัยขึ้น และมีพระพักตร์หล่อเหลาเมื่อทรงมีพระชันษา 3 ปี,พระรูปหนึ่งเป็นภาพเจ้าชายจอร์จทรงประทับบนผ้าที่ใช้สำหรับปูเวลาไปพักผ่อนปิกนิก โดยพระองค์ทรงยื่นไอศกรีมที่ถือในพระหัตถ์ให้เจ้าลูโป สุนัขทรงเลี้ยง ส่วนพระรูปที่ 2 เจ้าชายจอร์จทรงนั่งบนชิงช้า พระรูปที่ 3 เจ้าชายน้อยประทับยืนบนชิงช้าที่เขียนตัวอักษร ว่า วิลเลียม & แคทเธอรีน และพระรูปที่ 4 เจ้าชายจอร์จเสด็จพระดำเนินอยู่ในสวน ด้วยพระพักตร์ที่ดูมีความสุข โดยพระรูปทั้ง 4 เจ้าชายจอร์จทรงสวมกางเกงขาสั้นทุกรูป และทรงสวมเสื้อ หรือไม่ก็กางเกงสีน้ำเงิน ซึ่งเจ้าหญิงแคทเธอรีน พระมารดา ทรงเห็นว่าสีน้ำเงินเป็นสีโปรดของพระโอรส,ด้านโฆษกพระตำหนักเคนซิงตัน กล่าวด้วยว่า ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงหวังว่าประชาชนจะมีความสุขที่ได้เห็นพระรูปใหม่เหล่านี้ของเจ้าชายจอร์จ พร้อมทั้งทรงขอบพระทัยทุกๆ คนที่ส่งข้อความแสดงความรักเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติของเจ้าชายจอร์จและทรงมีพระชันษาครบ 3 ปี.,,เจ้าชายจอร์จ สุดน่ารัก ทรงต้อนรับปธน.โอบามา ขณะใกล้ถึงเวลาเข้าบรรทม | พระตำหนักเคนซิงตัน ในอังกฤษ เผยแพร่พระรูปใหม่ของเจ้าชายจอร์จ พระโอรสในเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคท เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ ทรงมีพระชันษาครบ 3 ปีเต็ม | null | เจ้าชายจอร์จ,เจ้าชายวิลเลียม,เจ้าหญิงแคทเธอรีน,วันเกิด,วันประสูติ,วันคล้ายวันประสูติ,เจ้าชายจอร์จ 3ปี,อังกฤษ,ลอนดอน,พระตำหนักเคนซิงตัน,พระรูปใหม่,พระรูป,ภาพถ่าย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/670121 |
เลิกรัฐธรรมนูญ เลิกกฎหมายลูกด้วยหรือไม่ | 2542 แต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยโต้แย้งว่าก็ในเมื่อรัฐธรรมนูญถูกยกเลิกไปแล้ว ความผิดตามรัฐธรรมนูญที่ถูกยกเลิกไปแล้วก็ต้องหมดไปด้วยสิและบางท่านให้ความเห็นเลยไปอีกว่า พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายลูกก็ต้องถูกยกเลิกไปด้วยเช่นกันจึงมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัย คือ1) พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายลูกยังมีสถานะเป็นกฎหมายอยู่หรือไม่2) ความผิดตามรัฐธรรมนูญเดิมที่ถูกยกเลิกไปแล้วจะสามารถนำมาถอดถอนตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญหรือไม่ในประเด็นนี้มีความเห็นแบ่งได้เป็นสามฝ่าย ฝ่ายแรกยึดถือตามทฤษฎีของ Hans Kelsen นักกฎหมายชาวออสเตรียที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของโลกเห็นว่า รัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่สถาปนากฎหมายขึ้นทั้งระบบ เพราะรัฐธรรมนูญก่อตั้งองค์กรที่ให้อำนาจในการออกกฎเกณฑ์ระดับต่างๆทุกประเภทที่มีผลผูกพันให้บุคคลในสังคมนั้นต้องปฏิบัติตาม ฉะนั้น หากมีการยกเลิกรัฐธรรมนูญเมื่อใด นั่นคือระบบกฎหมายทั้งหมดถูกยกเลิกไปด้วยแต่ฝ่ายที่สองเห็นว่าในประเด็นของกฎหมายทั่วๆไปที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับตัวรัฐธรรมนูญโดยตรง เช่น กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายอาญา กฎหมายภาษีอากร กฎหมายที่ดิน ฯลฯ รวมถึงกฎหมายอื่นๆที่ออกตามความในรัฐธรรมนูญก็เป็นที่ชัดเจนในทางปฏิบัติมาโดยตลอดว่า กฎหมายเหล่านั้นไม่ได้สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด เพราะหากให้กฎหมายเหล่านี้สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญด้วยก็เท่ากับปล่อยให้รัฐไม่มีกฎหมายใดๆใช้บังคับเลย บ้านเมืองก็จะเกิดความวุ่นวายถึงขั้นเป็นอนาธิปไตยได้ ฉะนั้น จึงมีเฉพาะกฎหมายที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐธรรมนูญโดยตรงที่จะต้องสิ้นสุดลงพร้อมกับรัฐธรรมนูญฉบับที่ถูกยกเลิกไปนั้นส่วนฝ่ายที่สามตามความเห็นของ Joseph Raz เห็นว่ารัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายแม่บทที่กำหนดเงื่อนไขความสมบูรณ์ของกฎหมายที่จะตราขึ้นใช้บังคับ ฉะนั้น เมื่อกฎหมายใดๆที่ถูกตราขึ้นแล้วตรงตามที่เงื่อนในรัฐธรรมนูญในขณะนั้นบัญญัติไว้ กฎหมายนั้นย่อมเป็นกฎหมายที่สมบูรณ์ในตัวของมันเองโดยไม่ต้องผูกพันความสมบูรณ์ของมันกับรัฐธรรมนูญอีกต่อไป แนวคิดนี้สามารถอธิบายให้เข้าใจโดยการเปรียบเทียบเหมือนกับความสัมพันธ์ของสายรกที่เชื่อมระหว่างผู้เป็นมารดากับทารกระหว่างที่อยู่ในครรภ์ เมื่อทารกคลอดออกมาแล้ว ความมีชีวิตหรือลมหายใจของทารกนั้นย่อมเป็นอิสระจากมารดา แม้ผู้เป็นมารดาจะเสียชีวิตไปแล้วทารกก็ยังคงมีชีวิตอยู่ได้ไทยเราเท่าที่ปฏิบัติมาภายหลังการรัฐประหารนั้นเป็นไปในแนวทางที่สามแต่ค่อนข้างพิเศษไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องอื่นเขา คือมีทั้งประกาศยกเลิก เช่น ให้คณะรัฐมนตรีรักษาการสิ้นสุดการปฎิบัติหน้าที่ ฯลฯ และหากต้องการเน้นว่ากฎหมายใดยังคงอยู่ก็จะประกาศเป็นกรณีๆไป เช่น ให้ศาลทั้งหลายยังคงอยู่ ให้ พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยนั่นนี่ยังคงอยู่หรือให้วุฒิสภาคงอยู่แต่อีกไม่กี่วันถัดมาเกิดเปลี่ยนใจยกเลิกเสียดื้อๆงั้นแหล่ะ ฯลฯ ส่วนที่ไม่ได้ประกาศก็ให้ไปตีความเอาเองตามใจชอบ เช่น พรบ.จัดตั้งศาลปกครองฯที่ปัจจุบันทะเลาะกันจนศาลแทบแตก สำหรับกรณีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 นั้นก็ชัดเจนว่ามีประกาศ คสช.ฉบับที่ 5/2557 ว่าองค์กรอิสระ และองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จึงไม่จำต้องตีความอีกประเด็นนี้สามารถนำแนวความ Joseph Raz ที่ได้อธิบายถึงหลักนิติธรรมไว้ข้อหนึ่งว่ากฎหมายต้องมีผลไปข้างหน้ามากกว่ามีผลย้อนหลัง จริงอยู่ในขณะที่อดีตนักการเมืองกระทำความผิดรัฐธรรมนูญปี 50 ยังมีการบัญญัติว่าเป็นความผิด(ตามความวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ) แต่เมื่อขณะที่จะลงโทษซึ่งก็คือถอดถอนนั้นรัฐธรรมนูญปี 50 ถูกยกเลิกไปแล้วและรัฐธรรมนูญ(ชั่วคราว)ปี 57 ก็ไม่ได้บัญญัติไว้ว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิด จึงเป็นการลงโทษโดยในขณะที่ลงโทษไม่มีกฎหมาย(รัฐธรรมนูญ)รองรับว่าเป็นความผิด ซึ่งขัดต่อหลักกฎหมายทั่วไปที่ว่า นั่นเองกล่าวให้เข้าใจง่ายๆก็คือ พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญทั้งหลายยังคงอยู่ตราบใดที่ยังไม่มีการประกาศยกเลิกซึ่งรวมถึงพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. 2556 ที่ออกตามรัฐธรรมนูญปี 50 ด้วย ซึ่งจะเขียนถึงเป็นการเฉพาะอีกครั้งหนึ่ง และต่อคำถามที่ว่าแล้ว สนช.มีอำนาจถอดถอนหรือไม่ก็ต้องตอบว่า สนช.มีอำนาจถอดถอนได้แน่นอน แต่ต้องไม่ใช่ความผิดตามรัฐธรรมนูญฯปี 50 คงถอดถอนได้เพียงนักการเมืองซึงในที่นี้หมายถึง สนช. ครม.และข้าราชการระดับสูงตาม พรบ.ปปช.ประกอบมาตรา 6 แห่งรัฐธรรมนูญฯ(ชั่วคราว) ปี57 เท่านั้นจากการที่กล่าวมาข้างต้นเป็นมุมมองทางนิติศาสตร์ล้วนๆ ยังไม่รวมถึงมุมมองทางรัฐศาสตร์ที่ว่าด้วยความชอบธรรมในการเข้าสู่ตำแหน่งของ สนช.ที่มาจากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหารที่ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง แต่จะไปใช้อำนาจถอดถอนผู้ที่เข้าสู่ตำแหน่งจากการเลือกตั้งของประชาชนด้วยข้อหาที่นักวิชาการทั่วโลกพากันส่ายหน้า เช่น การแก้รัฐธรรมนูญให้ สว.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดเป็นความผิดข้อหาล้มล้างรัฐธรรมนูญ เป็นต้นเผยแพร่ครั้งแรกในกรุงเทพธุรกิจฉบับประจำวันพุธที่ 15 ตุลาคม 2557 | อนุสนธิการเสนอถอดถอนอดีตนักการเมืองต่อ สนช.ของ ปปช.โดยอ้างว่าเป็นการใช้อำนาจตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. | การเมือง | ชำนาญ จันทร์เรือง,Joseph Raz,กฎหมาย,นิติศาสตร์,ประมวลอาญามาตรา 157,พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญ,รัฐธรรมนูญ | https://prachatai.com/journal/2014/10/55997 |
ทหารปูพรมทั่วกรุงเทพฯ ลงช่วยเหลือ ปชช.ถูกฝนถล่มเมืองกรุง | เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก ทบ. เผยว่า จากกรณีฝนถล่มกรุงเทพมหานคร ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายจุด หลายพื้นที่จนทำให้การจราจรติดขัดนั้น ทบ.ได้จัดกำลังพลเข้าช่วยเหลือ บริการประชาชน และอำนวยการจราจร สนับสนุนเจ้าหน้าที่ ตร. ในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจำนวน 36 จุด,เนื่องจากมีฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมขังผิวการจราจร รอการระบาย ทำให้การจราจรไม่สะดวกและติดขัด แต่ปัจจุบันน้ำลดระดับสู่ภาวะปกติแล้ว จำนวน 25 จุด คงเหลือเพียง 11 จุด จึงต้องให้กำลังพลจาก ศบภ.พล.1 รอ. และ พล.ม.2 รอ.จำนวน 330 นาย คอยดูแลให้การช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในพื้นที่ดังกล่าวต่อไปอีกระยะหนึ่ง, ,สำหรับเหตุการณ์ต้นไม้ล้มขวางถนน บริเวณซอยเสนานิคม 1 แยก 13 ซึ่งส่งผลให้การจราจรติดขัด บก.ควบคุม พล.1 รอ. (โดย ชป.มวลชน ร.11 พัน.1 รอ. เขตจตุจักร) ก็ได้เข้าไปช่วยเหลือ และอำนวยการจราจรในบริเวณดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บ จำนวน 1 ราย ได้ประสานให้ทาง จนท.กู้ภัย มาทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมกับนำส่งโรงพยาบาลให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นได้เร่งประสานไปยังสำนักงานเขตจตุจักร ฝ่ายพัฒนาและสิ่งแวดล้อม ให้เข้ามาดำเนินการเร่งเคลียร์ตัดไม้ที่ล้มขวางถนนออกไป. | ทหารของประชาชน!! ทบ.จัดกำลังพลลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภาวะถูกน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยจัดจาก ศบภ.พล.1 รอ. พล.ม.2 รอ.อำนวยความสะดวกด้านการจราจร | null | ฝนตกกรุง,น้ำท่วมกรุงเทพ,ฝนถล่ม,จราจรอัมพาต,วินธัย สุวารี,โฆษก ทบ.,ทหารช่วยน้ำท่วม,ศบภ.พล.1รอ.,บก.ควบคุมพล.1รอ.,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/643482 |
โปรตุเกส COVID-19 ระบาดรอบใหม่ หวนล็อกดาวน์ 1 ก.ค.นี้ | วันนี้ (26 มิ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวโน้มอัตราผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในยุโรปอาจกลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง โดยในกรุงลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกส มีพื้นที่ 19 เขต ยกเว้นย่านใจกลางเมือง กลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ ห้ามประชาชนออกจากบ้าน ยกเว้นออกไปซื้ออาหาร ยาและไปทำงาน หลังพบการระบาดระลอกใหม่ในย่านชานเมือง โดยจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ทั้งนี้ เว็บไซต์ รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในโปรตุเกส มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 40415 คน และมีผู้เสียชีวิต 1549 คน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกมีมากกว่า 9.6 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4.8 แสนคนแห่เที่ยวทะเลไม่สนมาตรการป้องกันสภาพอากาศร้อนจากอุณหภูมิที่พุ่งสูงในอังกฤษ ทำให้ประชาชนหลายพันคนหลั่งไหลมารับลมทะเลคลายร้อนที่ชายหาดยอดนิยมในเมืองบอร์นมัท ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศทางภาคใต้โดยประชาชนมารวมตัวกันแน่นชายหาดโดยไม่สนใจมาตรการป้องกัน COVID-19 รวมทั้งการเว้นระยะห่างจากกัน ขณะที่หลายคนยังแสดงพฤติกรรมที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ทิ้งขยะเกลื่อนชายหาดและความรุนแรงจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งการจอดรถในที่ห้ามจอด จนทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก | โปรตุเกส เตรียมกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ในเมืองหลวง หลังพบการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ในย่านชานเมือง | ต่างประเทศ | โปรตุเกส,ล็อกดาวน์,กรุงลิสบอน,อังกฤษ,COVID-19,โควิด-19 | https://news.thaipbs.or.th/content/294013 |
ไอพีซีซีจี้โลกหยุดใช้น้ำมัน-ก๊าซ ก่อนศตวรรษที่ 22 | คณะกรรมการรัฐบาลระหว่างประเทศว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศหรือไอพีซีซีของสหประชาชาติ เผยแพร่รายงานด้านสิ่งแวดล้อมครั้งสำคัญ เมื่อวันที่ 3 พ.ย. โดยเตือนว่าหากมนุษยชาติไม่อยากเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศครั้งหายนะแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลทั่วโลกจะต้องดำเนินมาตรการในเรื่องการใช้พลังงานทดแทนที่ผลิตก๊าซคาร์บอนต่ำ ภายในปี 2593 หรือ 36 ปีหลังจากนี้ และถ้าเป็นไปได้ ก็ควรที่จะหยุดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล อาทิ น้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติอย่างสิ้นเชิง ภายในปี 2643 หรือปีเริ่มต้นศตวรรษที่ 22 อีก 86 ปีหลังจากนี้,รายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจากผู้เชี่ยวชาญจาก 195 ชาติสมาชิกไอพีซีซี ได้จัดประชุมถกเถียงกันเป็นเวลานานกว่าสัปดาห์ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งนอกจากคำเตือนขั้นต้นแล้ว ในรายงานยังได้ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่น่าวิตกกังวล ไม่ว่าการที่โลกเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ โดยมาหนักสุดในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา อุณหภูมิเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.85 องศาเซลเซียส ซึ่งสำหรับซีกโลกเหนือนั้นถือว่าอุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 1,400 ปี หรือการที่ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 19 เซนติเมตร จากการละลายของน้ำแข็งขั้วโลก ไปจนถึงระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มนุษย์เป็นผู้ก่อในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา มีปริมาณมากถึง 1 ล้านล้านตัน,นอกจากนี้ รายงานยังชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น และเมื่อถึงเวลานั้นก็อาจแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว โดยหากมนุษย์ยังปล่อยให้ปริมาณก๊าซคาร์บอนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็จะส่งผลกระทบต่อทะเล มีค่าความเป็นกรดมากขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็วและกะทันหัน ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศวิทยา สัตว์หลายชนิดที่มนุษย์ต้องพึ่งพาอาจสูญพันธุ์ไปเรื่อยๆ ตามมาด้วยปัญหาเรื่องที่อยู่ ปัญหาด้านอาหารขาดแคลน นำไปสู่ความขัดแย้งในเรื่องการแย่งชิงทรัพยากร,อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานด้วยว่า ก่อนที่การทำรายงานจะสรุปผล ได้มีผู้เชี่ยวชาญจากชาติสมาชิกบางประเทศ ไม่เห็นด้วยกับการเลิกพึ่งพาใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ทั้งยังมีกลุ่มที่เห็นว่าการพัฒนาเศรษฐกิจจะต้องมาก่อนการควบคุมปริมาณคาร์บอน ขณะที่นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า วิทยาศาสตร์ได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาแล้ว ถึงเวลาที่บรรดาผู้นำจะต้องทำอะไรสักอย่าง เพราะเวลาไม่รอเราอีกต่อไป. | คณะกรรมการรัฐบาลระหว่างประเทศว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เตือนว่ารัฐบาลทั่วโลกควรหยุดพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลภายในปี 2593 หากไม่อยากเผชิญหายนะจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ | null | การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ,ไอพีซีซี,สหประชาชาติ,สิ่งแวดล้อม,หายนะ,พลังงานทดแทน,ก๊าซคาร์บอน,เชื้อเพลิงฟอสซิล,น้ำมัน,ถ่านหิน,ก๊าซธรรมชาติ,บัน คี มูน,กรุงโคเปนเฮเกน,เดนมาร์ก,ก๊าซเรือนกระจก,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/461097 |
เครือข่ายสิทธิแรงงานประมง-สหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศเรียกร้องให้เกิดการบังคับใช้อนุสัญญา C188 | ได้ลงนามในข้อเรียกร้องให้มีการดำเนินการและบังคับใช้กฏหมายเพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างเทศ (ILO) ฉบับที่ 188 (C188) อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประเทศไทยได้ให้สัตยาบันรับอนุสัญญาฉบับนี้เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2562แกนนำแรงงานประมงจากเครือข่ายสิทธิแรงงานประมง (ITF-FRN) ได้ยื่นข้อเรียกร้องนี้ต่อปลัดกระทรวงแรงงาน ในการประชุมคณะกรรมการการกำกับติดตามโครงการสิทธิจากเรือสู่ฝั่งของ ILO เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2562ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันรับอนุสัญญา ILO C188 ว่าด้วยการทำงานภาคประมง เมื่อตนปีที่ผ่านมา เพื่อแสดงให้นานาชาติได้เห็นถึงความตั้งใจในการแก้ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบและค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรมประมง และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการแก้ปัญหาการทำประมงที่ผิดกฏหมาย (IUU)จอห์นนี่ ฮานเซน ประธานสาขาประมง สหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ ได้ร้องถามถึงความมุ่งมั่นในการจำกัดการแสวงหาผลประโยชน์จากผู้ใช้แรงงานในอุตสาหกรรมประมงเครือข่ายสิทธิแรงงานประมง (FRN) ยังมีการพบปัญหาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น แรงงานบังคับ แรงงานขัดหนี้ ค่าธรรมเนียมเอกสารที่สูง แรงงานประมงที่ได้รับค่าจ้างที่น้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำ เรือที่ยังไม่มีน้ำสะอาดและเสบียงอาหารเพียงพอ และสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัย ฮานเซน ระบุฮานเซนอีกกล่าวว่า รัฐบาลไทยได้ผ่านกฏหมายเพื่อใช้บังคับการกระทำผิดในกรณที่กล่าวถึงข้างต้น แต่กระนั้นการนำไปปฏบัติจริงยังคงไม่มีประสิทธภาพ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าประเทศไทยยังต้องมีแนวทางปฏิบัติอีกหลายอย่างเพื่อการดำเนินการและบังคับใช้นโยบายอนุสัญญา ฉบับที่ 188 อย่างมีประสิทธิภาพ แรงงานประมงยังคงถูกแสวงหาผลประโยชน์และละเมิดแรงงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้แม้จะมีความพยายามของรัฐบาลไทยในการออกข้อบังคับให้มีการจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ นายจ้างจำนวนมากยังคงโอนและถอนเงินค่าจ้างด้วยตัวเองและยังคงจ่ายเงินให้แรงงานประมงเป็นเงินสด จากนั้นพวกเขาใช้ใบแจ้งยอดการโอนเงินเป็นหลักฐานการจ่ายเงินเพื่อหลีกเลี่ยงการทำผิดข้อบังคับอย่างได้ผลฮานเซนกล่าวอีกว่า แม้ว่าแรงงานข้ามชาติยังไม่มีสิทธิตามกฎหมายในการจัดตั้งสหภาพแรงงานในประเทศไทย แรงงานประมงได้ลุกขึ้นร่วมกันเพื่อปกป้องสิทธิของพวกเขา และขจัดสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัยโดยการจัดตั้งเครือข่ายสิทธิแรงงานประมง (FRN) และสหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ (ITF) ภูมิใจที่ได้ส่วนหนึ่งในการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมสำหรับแรงงานประมงทุกคน ฮานเซน ระบุ | 24 พ.ย. 2562 สหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ (ITF-FRN) แจ้งข่าวว่าแรงงานประมงข้ามชาติมากกว่า 1200 คน | สังคม,แรงงาน,สิทธิมนุษยชน,คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ | สหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ,ITF-FRN,เครือข่ายสิทธิแรงงานประมง,FRN,ITF | https://prachatai.com/journal/2019/11/85280 |
รับฟังโมโนเรลสายสีทอง | โครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองสายสีทอง (สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี-เขตคลองสาน-ประชาธิปก) โดยนายทวีศักดิ์กล่าวว่า การรับฟังความคิดเห็นนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ กทม.จะนำข้อเสนอของประชาชนไปประกอบการพิจารณา และจะสรุปผลภายในเดือน มี.ค.2559 ทั้งนี้ โครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองสายสีทอง เป็นระบบขนส่งมวลชนขนาดรอง (Feeder) เพื่อเชื่อมต่อและเพิ่มการเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนหลัก เป็นรถไฟฟ้าที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สามารถขนส่งผู้โดยสารได้ 4,000-12,000 คน ต่อชั่วโมงต่อทิศทางมาใช้ ใช้เวลาในการก่อสร้างน้อย โครงสร้างเสามีขนาดเล็กลักษณะเสาเข็มเดี่ยว ไม่มีการเวนคืนที่ดินของประชาชน และเลนถนนยังคงเท่าเดิม,แนวเส้นทางโครงการเริ่มต้นจากสถานีรถ ไฟฟ้า BTS กรุงธนบุรี ผ่านแยกคลองสานไปยัง ถนนประชาธิปก ระยะทาง 2.7 กิโลเมตร ประกอบด้วย 4 สถานี แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 ระยะคือ ระยะที่ 1 ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร มี 3 สถานี เริ่มต้นจากสถานีกรุงธนบุรี (G1) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายกรุงธนบุรี มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก บนเกาะกลางถนนกรุงธนบุรี แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเจริญนคร จากนั้นมุ่งหน้าเข้าสู่สถานีเจริญนคร (G2) ตั้งอยู่บริเวณสะพานข้ามคลองวัดทองเพลง แล้วมุ่งหน้าต่อไปยังแยกคลองสาน เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสมเด็จ เจ้าพระยา โดยแนวเส้นทางอยู่เหนือแนวทางเดินเท้าด้านซ้ายฝั่งคลองสมเด็จเจ้าพระยา เข้าสู่สถานีคลองสาน (G3) เยื้องกับโรงพยาบาลตากสิน โดยมีทางเดิน (Sky walk) เข้าสู่โรงพยาบาลตากสินได้โดยตรง ส่วนระยะที่ 2 ระยะทาง 0.9กิโลเมตร มี 1 สถานี เริ่มต้นจากสถานีคลองสาน (G3) มุ่งหน้าตามแนวทางเดินเท้าถนนสมเด็จเจ้าพระยา จนไปถึงสถานีประชาธิปก (G4) ปากซอยสมเด็จเจ้าพระยา6 กับซอยสมเด็จเจ้าพระยา 8 ซึ่งในอนาคตจะเชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมได้มีประชาชนแสดงความคิดเห็นโดยมีความกังวลในเรื่องมลภาวะทางเสียงและฝุ่นละอองที่เกิดจากการก่อสร้าง รวมทั้งราคาค่าโดยสาร. | เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน เขตคลองสาน นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม. เป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นของ ประชาชน ครั้งที่ 2 เพื่อศึกษาความเหมาะสม | null | โมโนเรลสายสีทอง,รถไฟฟ้า,รถไฟฟ้าบีทีเอส,ส่วนต่อขยายกรุงธนบุรี,ระบบขนส่งมวลชนขนาดรองสายสีทอง,สายสีทอง,ศึกษาความเหมาะสม,รับฟังความคิดเห็น,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/579441 |
สมัชชาสุขภาพ : เครื่องมือสร้างประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม | เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะมีเพียงคนบางกลุ่มเท่านั้นที่สามารถเข้าไปต่อรองในพื้นที่ดังกล่าวได้ โอกาสที่จะเกิดระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงขึ้นในสังคมจึงเกิดขึ้นได้ยากตามไปด้วยเช่นเดียวกับวิกฤติบ้านเมืองที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ต้องยอมรับว่ามีสาเหตุมาจากระบอบการปกครองที่เราใช้ นั่นก็คือ ระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทน ที่ใช้วิธีการเลือกตั้งผู้แทนของประชาชนไปทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองแต่ผู้แทนที่ได้รับการเลือกตั้งนั้นกลับไม่ยึดหลักธรรมาภิบาล แต่ไปทำตามบุคคลที่มีอิทธิพลเหนือกว่า โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ของสาธารณะเป็นที่ตั้งกระแสเรียกร้องทางการเมืองข้อหนึ่ง คือ ต้องมีการพัฒนาระบอบการปกครองของไทยเราให้เป็นประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม เพื่อเป็นทางออกของประเทศไทยแล้วประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม คืออะไรล่ะมีนักวิชาการหลายท่านได้ให้ความหมายโดยสรุปได้ว่า หมายถึง การมีส่วนร่วมในทางการเมืองการปกครอง ตลอดจนการกำหนดวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับการเมืองการปกครองแบบประชาธิปไตย ทั้งนี้ไม่ว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องสิทธิเสรีภาพ หน้าที่ ตามระบอบการเมืองการปกครองที่ไม่ไปก้าวก่ายหรือก่อความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นหรือสังคมส่วนรวมมีนักวิชาการท่านหนึ่ง ชื่อ แคทท์ (Helena Catt) เสนอไว้อย่างน่าสนใจว่า องค์ประกอบและเงื่อนไขที่สำคัญที่สุดของความเป็นประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม มี ๔ ประการ คือประการแรก ทุกคนสามารถยกประเด็นปัญหาใดปัญหาหนึ่งขึ้นมา เพื่อกำหนดเป็นวาระของการประชุม สามารถเสนอทางเลือก และมีส่วนร่วมในการเลือกหรือการตัดสินใจสุดท้ายได้ประการที่สอง เป็นการประชุมที่ทุกคนสามารถพูดคุยกันได้อย่างทั่วถึง (Face-to-face meeting)ประการที่สาม มีการปรึกษาหารือ หรืออภิปรายประเด็นปัญหาที่หยิบยกมาพิจารณากันอย่างกว้างขวาง ทุกคนต้องการมีส่วนร่วมในการอภิปราย และสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ประการที่สี่ มะแนวโน้มที่พยายามจะให้เกิดความเห็นพ้อง (Consensus) ร่วมกันในประเด็นปัญหาที่พิจารณากล่าวได้ว่า ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม จึงเป็นระบบที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงทัศนะและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเรื่องต่างๆที่จะมีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของตนเองอีกทั้งยังช่วยในการตัดสินใจของรัฐบาลให้มีความรอบคอบ และสอดรับกับปัญหาและความต้องการของประชาชนมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังเป็นการควบคุมการบริหารงานของรัฐบาลให้มีความโปร่งใส (Transparency) ตอบสนองต่อปัญหาและความต้องการของประชาชน (Responsiveness) และมีความรับผิดชอบหรือสามารถตอบคำถามของประชาชนได้ (Accountability) เป็นอย่างดีซึ่งเท่ากับเป็นการส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นนั้นเองผมเขียนมาถึงตรงนี้ ทำให้คิดไปถึงเครื่องมือหนึ่งตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐ ที่เรียกว่า สมัชชาสุขภาพ ซึ่งกฎหมายได้ให้ความหมายไว้ว่าเป็น กระบวนการที่ให้ประชาชนและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องได้ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเรียนรู้อย่างสมานฉันท์ เพื่อนำไปสู่การเสนอแนะนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ หรือความมีสุขภาพที่ดีของประชาชน โดยจัดให้มีการประชุมอย่างเป็นระบบและอย่างมีส่วนร่วมซึ่งหากนำความหมายของคำว่า สมัชชาสุขภาพ ไปเชื่อมโยงกับแนวคิดของคำว่า ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม จะเห็นได้ว่าเป็นเรื่องที่ตั้งอยู่บนหลักการเดียวกันเพราะสมัชชาสุขภาพนั้นเป็นกระบวนการที่เปิดกว้างสำหรับบุคคลและคณะบุคคล ในการเสนอประเด็นปัญหาที่จะนำมาพัฒนาเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายเป็นกระบวนการที่ให้ความสำคัญกับทุกคนในการแสดงความคิดเห็นอย่างทัดเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นเสียงเล็กเสียงน้อย และครอบคลุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วนเป็นกระบวนการที่เน้นการพูดคุยที่ตั้งอยู่บนฐานความรู้และข้อมูลรองรับที่เชื่อถือได้เป็นกระบวนการที่ไม่ได้ใช้เสียงส่วนมากในการตัดสินใจ แต่จะใช้ความเห็นร่วมกันจากบุคคลทุกฝ่ายในลักษณะที่เรียกว่า ฉันทามติ หรือ Consensus นั่นเองเป็นกระบวนการที่ไม่ได้มอบมติที่เห็นพ้องต้องกันนั้น ให้เป็นภาระของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ถือเป็นเจ้าของร่วมกัน ทุกฝ่ายมีหน้าที่นำมตินั้นไปปฏิบัติ ปฏิบัติแล้วก็นำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน แบ่งปันกันผมจึงกล้ากล่าวอย่างเต็มปากว่า ในขณะนี้ประเทศไทยเราได้สร้างเครื่องมือไว้พร้อมแล้วสำหรับการพัฒนาประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมฉะนั้น หากถามว่าเราจะพัฒนาประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมอย่างไรคำตอบก็ง่ายนิดเดียว เพียงเร่งส่งเสริมให้ทุกพื้นที่ ทุกองค์กรมีการนำเครื่องมือ สมัชชาสุขภาพ ไปใช้อย่างกว้างขวางให้เต็มพื้นที่ เปิดพื้นที่ให้ทุกเสียงของทุกคนกำหนดอนาคตของตนเองเพราะหัวใจสำคัญของระบอบประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม คือ การสร้างอำนาจให้ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย มีอำนาจในการต่อรองอย่างเท่าเทียมกัน ประชาธิปไตยจึงจะดำรงอยู่ได้ด้วยฐานอำนาจที่หลากหลายเช่นนี้ | แม้ว่าเจตนารมณ์สำคัญของระบอบประชาธิปไตย คือ การเปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มสามารถต่อรองร่วมกันได้ แต่กลับพบว่า คนบางกลุ่มกลับเข้าไม่ถึงกลไกบางอย่าง เพื่อจะทำให้ตัวเองสามารถจะต่อรองกับกลุ่มอื่นๆในสังคมได้ | การเมือง | ฉันทามติ,ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม,สมัชชาสุขภาพ,อำนาจต่อรอง | https://prachatai.com/journal/2013/12/50369 |
คณะแพทยศาสตร์ มช.พัฒนาปลูกถ่ายตับรักษาผู้ป่วย | วันนี้ (27 ธ.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยศัลยศาสตร์ระบบทางตับ ทางเดินน้ำดี และตับอ่อน ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประสบความสำเร็จในการปลูกถ่ายตับ รักษาผู้ป่วยโรคตับแข็งระยะสุดท้าย โรคตับวายเฉียบพลันรุนแรง และมะเร็งตับที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ ช่วยผู้ป่วยมีอัตราการอยู่รอดหลังนพ.สัณหวิชญ์ จันทร์รังสี อาจารย์ประจำหน่วยศัลยศาสตร์ระบบทางตับ ทางเดินน้ำดี และตับอ่อน ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การปลูกถ่ายตับถือว่าเป็นทางเลือกสุดท้ายของการรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะตับวาย ผู้ป่วยหลายรายรอดชีวิต และสามารถกลับมาใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวโดยตับใหม่ได้มาจาก 2 วิธี ได้แก่ จากรับบริจาคตับจากผู้ป่วยสมองตาย และวิธีที่ 2 รับบริจาคอวัยวะจากผู้บริจาคที่ยังมีชีวิต ซึ่งเป็นบุคคลภายในครอบครัว หรือญาติพี่น้อง หรือคู่สมรส จะช่วยลดอัตราการตายจากการรออวัยวะของผู้รับบริจาค และลดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดลงได้มาก ทั้งนี้ ตับเป็นอวัยวะที่งอกได้ หากตับถูกตัดจะค่อยๆ งอกขึ้นได้ปัจจุบันได้ทำการปลูกถ่ายตับจากผู้บริจาคที่ยังมีชีวิตให้แก่ผู้ป่วยผู้ใหญ่แล้ว 15 คน ซึ่งเป็นจำนวนการผ่าตัดปลูกถ่ายตับที่มากที่สุดในประเทศไทย หนึ่งในนั้นเป็นการบริจาคตับของบุตรชายให้มารดาที่ป่วยเป็นโรคตับแข็ง สาเหตุเกิดจากโรคไวรัสบี ทำให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และแข็งแรงเหมือนเดิมคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคอวัยวะแก่เพื่อนมนุษย์ เพื่อต่อชีวิตต่อลมหายใจของผู้ป่วยที่รอความหวัง ถือว่าเป็นทานบารมีที่ยิ่งใหญ่ และเป็นที่สุดแห่งการให้ครั้งสุดท้ายของชีวิต ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 053 936413 และ 0918513391 | คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พัฒนาการปลูกถ่ายตับ รักษาผู้ป่วยโรคตับแข็งระยะสุดท้าย โรคตับวายเฉียบพลันรุนแรง และมะเร็งตับที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ ช่วยผู้ป่วยมีอัตราการอยู่รอดหลังผ่าตัดเพิ่มมากขึ้น | สังคม | คณะแพทยศาสตร์,มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,ปลูกถ่ายตับ,โรคตับแข็ง,โรคตับวายเฉียบพลันรุนแรง,มะเร็งตับ,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/268867 |
วัฒนา ขอเลือกโอชิ อนาคตใหม่ ยันนิรโทษฯตัวเองแล้วก็ลงโทษเผด็จการได้ | ภาพจากเฟซบุ๊ก Watana Muangsook,วัฒนา โพสต์เฟซบุ๊กประกาศยกมือเชียร์สนับสนุน พรรคอนาคตใหม่ ขอร่วมสถาปนา รธน.ฉบับใหม่ ยันลงโทษเผด็จการได้แม้มี ม.44 นิรโทษกรรมให้ตัวเองแล้ว,เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2561 นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ผมขอฉีกด้วยคน ขอแสดงความยินดีกับพรรคอนาคตใหม่ และกรรมการบริหารพรรค ตนขอเป็นแนวร่วมในอุดมการณ์ที่จะต่อสู้กับเผด็จการเพื่อคืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชน ทั้งนี้เห็นด้วยกับนโยบายที่จะสถาปนารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนอกจากจะไม่มีความเป็นประชาธิปไตยแล้ว ยังใช้กลโกงทุกวิถีทางเพื่อให้ผ่านประชามติ ประชาชนจำนวนมากรวมทั้งตนเคยถูก คสช. ใช้กำลังอุ้มตัวไปควบคุมในค่ายทหารและปัจจุบันยังถูกดำเนินคดีในศาลทหารเพราะการประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ในขณะที่หัวหน้า คสช. ออกมาประกาศจะจับทุกคนที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ แต่กลับส่งทหารออกไปเผยแพร่ข้อดีของร่างรัฐธรรมนูญได้ จึงเป็นร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ถูกโฆษณาว่าปราบโกง แต่ผ่านประชามติแบบโคตรโกง,นายวัฒนา ระบุว่า กระบวนการเพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนนั้น จะต้องเป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยโดยผ่านประชาชน ยิ่งไปกว่านั้นจะต้องเอาตัวเผด็จการทั้งหลายมาลงโทษ หลายคนถามว่า เผด็จการมีมาตรา 44 นิรโทษตัวเองไว้ยังสามารถเอาตัวมาลงโทษได้หรือ ขอยืนยันอีกครั้งว่า การนิรโทษกรรมคุ้มครองเฉพาะการกระทำที่สุจริตและเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะเท่านั้น การลุแก่อำนาจ การละเมิดหลักนิติธรรมและสิทธิมนุษยชน หรือการใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องไม่อาจถือได้ว่าสุจริตหรือทำไปเพื่อประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจ จึงเป็นการกระทำที่กฎหมายไม่คุ้มครอง เมื่ออำนาจกลับมาเป็นของประชาชนเมื่อไรคนพวกนี้ติดคุกได้แน่นอน. | วัฒนา โพสต์เฟซบุ๊กประกาศยกมือเชียร์สนับสนุน พรรคอนาคตใหม่ ขอร่วมสถาปนา รธน.ฉบับใหม่ ยันลงโทษเผด็จการได้แม้มี ม.44 นิรโทษกรรมให้ตัวเองแล้ว | ข่าว,การเมือง | วัฒนา เมืองสุข,แก้รัฐธรรมนูญ,พรรคอนาคตใหม่,นิรโทษกรรม,ร่างรัฐธรรมนูญ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1294401 |
โฆษก รบ. จี้ ทุกพรรค หยุดกดดัน กรธ. ให้คิดถึง ปท. อย่าห่วงแค่อำนาจ | วันที่ 9 ต.ค. พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รู้สึกอึดอัดกับการแสดงออก ของนักการเมือง นักวิชาการ และสื่อเลือกข้าง บางกลุ่ม ที่ตั้งแง่ และพยายามจับผิดการทำงานของคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ทั้งนี้ อยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายแสดงความคิดความเห็น ผ่านช่องทางที่ กรธ. จัดไว้ดีกว่า การแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางสื่อมวลชน เพราะอาจทำให้สังคมสับสนว่า เรื่องใดเป็นข้อเท็จจริง เรื่องใดเป็นเพียงการตีความไปเอง หรือ เรื่องใดเป็นความคิดเห็นเฉพาะตัว ไม่ได้มาจากข้อมูลรายละเอียดของรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง,ท่าน นายกฯ มองว่าพฤติกรรม รวมทั้ง วาทกรรมเหล่านั้นไม่เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมืองเลย และหากพิจารณาข้อสังเกตที่นักการเมือง นักวิชาการ และสื่อเลือกข้าง ดังกล่าวข้างต้น พูดถึง ก็จะเห็นว่า วนเวียนอยู่ เพียงแค่เรื่องอำนาจ ใครจะได้อำนาจ ใครจะสืบทอดอำนาจ ไม่ค่อยจะมีข้อความใด ที่พูดถึงสิ่งที่จะทำให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนสักเท่าไรเลย,ขอเรียนย้ำว่า ท่านนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ตลอดจนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีเจตนาร่วมกันเพียงประการเดียว คือ การทำให้ประเทศชาติปลอดภัย เพื่ออนาคตของลูกหลานไทย ในภายภาคหน้า โปรดอย่านำทัศนคติแบบนักการเมือง มาตัดสิน หรือ เหมารวมผู้อื่น ทุกท่านใน คสช. ล้วนผ่านตำแหน่งระดับสูง ผ่านการมีอำนาจ และใช้อำนาจมาทุกท่าน ไม่มีความจำเป็นต้องมาแสวงหาอำนาจใดๆ อีกทั้งสิ้น พล.ต.สรรเสริญ กล่าว,โฆษก รบ. กล่าวต่อว่า ท่านนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี มีเจตนารมณ์ร่วมกัน ในการแก้ไขปัญหาของชาติที่ถูกหมักหมมมาเป็นเวลานาน บ้างก็ถูกละเลยไม่สนใจ บ้างก็ถูกอ้างว่า ทำไม่ได้แก้ไม่ได้ และเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย บ้านเมืองตั้งตัวได้ มีความสงบเรียบร้อย มีการเลือกตั้ง ท่านนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ก็พร้อมอย่างยิ่งที่จะเดินออกจากทำเนียบ มอบภาระของชาติให้นักการเมืองต่อไป,ท่านนายกฯ ฝากเพียงว่า เมื่อถึงเวลาการเลือกตั้ง ขอให้พี่น้องประชาชน คิดคำนึงเลือกผู้แทนของท่านอย่าง รอบคอบ มีเหตุมีผล อย่าปล่อยให้ใครแสวงประโยชน์จากสิทธิ์เสียงของท่าน ขอให้มองประโยชน์ระยะยาวของชาติเป็นที่ตั้ง อย่าพึงพอใจแค่ผลประโยชน์ระยะสั้น เพราะไม่สามารถสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศชาติได้ พี่น้องประชาชนทุกคนต้องร่วมมือกันอย่างมีสติ | โฆษกรัฐบาล จี้ทุกพรรค หยุดกดดัน กรธ. แนะ ใช้ช่องทางปกติแสดงความเห็นดีกว่าจ้อผ่านสื่อฯ ย้ำให้คิดถึงบ้านเมือง อย่าห่วงแค่เรื่องอำนาจ ยัน พร้อมเดินจากไปเมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง พร้อมมอบภาระของชาติให้นักการเมืองต่อไป | เลือกตั้ง | กรธ.,หยุดกดดัน,โฆษกรัฐบาล,คิดถึงประโยชน์ประเทศ,สรรเสริญ แก้วกำเนิด,โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี,เลือกตั้ง,อย่าห่วงอำนาจ,นักการเมือง,เดินจากไป,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/531139 |
หญิงวัย 72 เสียชีวิตหลังฉีดยาชาเตรียมร้อยไหม | เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิชัย ศรีโสภาเจริญ ผกก.สน.วังทองหลาง พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ย่านทาวน์อินทาวน์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ หลังได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตระหว่างเข้ารักษาที่คลินิกดังกล่าวพ.ต.อ.สิทธิชัย ศรีโสภาเจริญรัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผู้เสียชีวิตได้ทำการรักษาด้วยการร้อยไหมบริเวณใบหน้า จากนั้นแพทย์ผู้ทำการรักษาได้ฉีดยาชา เพื่อทำการรักษาและเสียชีวิตในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถชี้ชัดถึงสาเหตุการเสียชีวิตได้ต้องนำศพไปผ่าชันสูตร ส่วนผู้ที่ฉีดยาให้นั้นตรวจสอบแล้วเป็นแพทย์แต่ยังต้องสอบสวนรายละเอียดอีกครั้งก่อนแจ้งข้อกล่าวหาหลังเกิดเหตุชาวบ้านให้ข้อมูลว่า คลินิกเสริมความงามแห่งนี้ต่อเติมอาคารไม่ถูกต้อง โดยชั้นบนสุดของอาคารพักอาศัยที่มีความสูง 6 ชั้น อยู่ระหว่างการต่อเติม ซึ่งทางสำนักงานเขตวังทองหลาง ได้สั่งให้ยุติการต่อเติม แต่ทางคลินิกยังดำเนินการต่อเนื่อง กระทั่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา | หญิงวัย 72 ปี เสียชีวิต หลังเข้าใช้บริการร้อยไหมบริเวณใบหน้าที่คลินิกเสริมความงาม ย่านทาวน์อินทาวน์ ตำรวจเผยผลตรวจสอบเบื้องต้นพบเสียชีวิตหลังแพทย์ฉีดยาชา | สังคม | ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,รอยไหม,เสียชีวิต,ทาวน์อินทาวน์ | https://news.thaipbs.or.th/content/275070 |
สุวพันธุ์ ไฟเขียว ผอ.สำนักพุทธฯ ลุยขยายผล คนเอี่ยวโกงเงินวัด | เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดอดีตผู้อำนวยการ พศ.กับพวก ร่วมกันทุจริตงบประมาณโครงการเงินอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์วัด และการพัฒนาวัดของ พศ. ที่อนุมัติให้แก่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา ว่าการทุจริตการใช้จ่ายงบประมาณด้านการอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์วัดที่เป็นคดีนั้น พศ.ทำงานร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และป.ป.ช.อย่างต่อเนื่อง บางส่วนที่ บก.ปปป.ดำเนินคดีได้ เขาทำไป ส่วนที่ถูกส่งให้ป.ป.ช.ดำเนินการ ป.ป.ช.ได้มีการไต่สวนเพิ่มเติมตามกฎหมายของ ป.ป.ช. ขณะที่มีอีกส่วนถูกส่งมาให้ พศ.พิจารณาดำเนินการทางวินัย ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่องตัวเองโดยบูรณาการการทำงานร่วมกัน,เมื่อถามว่า พศ.จะสอบสวนขยายผลไปถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องหรือไม่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังมีเรื่องสืบสวนสอบสวนอยู่ หากมีเพิ่มเติม ตนสั่งการให้ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ.ประสานงานกับหน่วยปฏิบัติเหล่านั้นได้โดยตรง. | สุวพันธุ์ ไฟเขียว ผอ.พศ.ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลุยขยายผลหาคนเอี่ยวเงินวัด หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลวัดพนัญเชิง | ข่าว,การเมือง | สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ,เงินทอนวัด,พระพุทธศาสนา,ผอ.พศ.,พศ.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1164138 |
อับดุลเลาะ อีซอมูซอ การค้นหาความจริงกับกระบวนการสันติภาพในจังหวัดชายแดนใต้ | ที่ในที่สุดศาลมีคำพิพากษาว่าเขาเหล่านั้นถูกทรมานระหว่างการควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และนำไปสู่การชดเชยเยียวยาทางการเงิน แต่ก็มีอีกหลายๆกรณีที่ปรากฎในรายงานของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือรายงานขององค์กรด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่เช่นกรณี มะสุกรี สาและ ( ) ที่พบว่าเป็นลมหมดสติจนล้มหัวฟาดพื้นทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งมะสุกรีอ้างว่าเขาถูกบังคับไม่ให้นอนเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่มีการตรวจสอบหรือนำคดีขึ้นสู่ศาลเนื่องจากความกังวลเรื่องความปลอดภัยของผู้ถูกทรมาน เพราะผู้เสียหายจากการถูกทรมานโดยส่วนใหญ่คือผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ที่ยังไม่ได้มีการพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม อาจกล่าวได้ว่าในกลุ่มพวกเขาเหล่านั้นมีทั้งผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบและที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องหรือไม่ ทั้งหมดนั้นก็ควรจะต้องได้รับการคุ้มครองในเบื้องต้นตามรัฐธรรมนูญและหลักสิทธิมนุษยชนนอกจากนี้ยังมีกรณีการเสียชีวิตในสถานที่ควบคุมตัวที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรอีก 2 กรณีคือกรณีสุไลมาน แนแซ () และกรณีอับดุลลายิ ดอเลาะ () ล่าสุดมีกรณีของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ที่เจ้าหน้าที่พบว่าเขาไม่หายใจหลังจากถูกควบคุมตัวในวันที่ 20 กรกฎาคม 2562 เพียงไม่กี่ชั่วโมง ต่อมาจึงได้มีคำชี้แจงของแพทย์ที่ทำการรักษาเบื้องต้นจากโรงพยาบาลปัตตานีและโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ระบุว่าคำถามก็คือ เกิดอะไรขึ้นกับอับดุลเลาะที่ทำให้เขาหยุดหายใจหลังจากที่มีข่าวอับดุลเลาะออกสู่สาธารณะ แม่ทัพภาค 4 ได้มอบให้คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ประกอบด้วย ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดชายแดนภาคใต้และผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขาอาชีพ เป็นผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 คณะกรรมการมีแถลงการณ์เผยแพร่สู่สาธารณะว่ายังไม่สามารถตรวจสอบสาเหตุอย่างละเอียดชัดเจนได้ เนื่องจากแพทย์ผู้รักษาอาการผู้ป่วยระบุว่าอาการปัจจุบันของอับดุลเลาะนั้น แพทย์พบว่าเลือดในสมองไม่ไหลเวียน จึงไม่สามารถฉีดสีเข้าเส้นเลือดในสมองเพื่อเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ได้ ทำให้ไม่สามารถทราบถึงปัญหาที่เกิดที่สมองได้ชัดเจน ในกรณีเช่นนี้การตรวจสอบให้ชัดเจนจะสามารถทำได้เฉพาะในกรณีตรวจร่างกายผู้ตาย ซึ่งอาจทำได้ด้วยการผ่าพิสูจน์หรือใช้เครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ ขณะที่อีกด้่านมีข้อเท็จจริงทางการแพทย์ว่า การขาดอากาศหายใจหรือไม่มีออกซิเจนไปเลี้ยงสมองอาจเกิดขึ้นได้ในหลายกรณี เช่นผู้ป่วยอาจถูกผู้อื่นกระทำ หรือตัวผู้ป่วยหมดสติและเกิดภาวะะปิดกั้นทางเดินหายใจ ไม่ได้รับการช่วยเหลือภายในระยะเวลาอันควร ()เมื่อพิจารณาจากแถลงการณ์ของคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนจังหวัดชายแดนใต้จะเห็นได้ว่าคณะกรรมการมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบทางการแพทย์เป็นประเด็นตัดสินในการค้นหาความจริงที่เกิดขึ้นกับอับดุลเลาะ แต่ความเจ็บป่วยของอับดุลเลาะนั้นเกิดขึ้นในระหว่างการถูกควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่เพื่อสอบปากคำ ทั้งเกิดขึ้นในสถานที่ที่ไม่มีบุคคลอื่นที่มีสถานะอิสระที่จะให้ข้อมูลได้ ในขณะที่เจ้าตัวผู้เจ็บป่วยเองก็ไม่สามารถให้ปากคำได้ หากพูดกันอย่างตรงไปตรงมา ก็ต้องยอมรับความจริงว่า กรณีนี้ได้ทำให้เกิดข้อสงสัยในหมู่สาธารณะขึ้นแล้วถึงความเป็นไปได้ของการที่จะถูกทำร้าย และอันที่จริงแล้ว ต้องยอมรับว่าถึงที่สุดแล้ว เรื่องนี้ก็คือเหตุผลเบื้องต้นที่ทำให้คณะกรรมการต้องมาทำหน้าที่สอบสวนนั่นเองคำว่า การทรมาน ในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติ หรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี หมายถึง การกระทำใดก็ตามโดยเจตนาที่ทำเกิดความเจ็บปวดหรือความทุกข์ทรมานอย่างสาหัส ไม่ว่าทางร่างกายหรือจิตใจต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพื่อประสงค์ให้ได้มาซึ่งข้อมูลหรือคำสารภาพจากบุคคลนั้นหรือจากบุคคลที่สาม การลงโทษบุคคลนั้นสำหรับสิ่งที่สงสัยว่าบุคคลนั้นหรือบุคคลที่สามได้กระทำ หรือเพื่อข่มขู่ให้กลัว หรือเป็นการบังคับขู่เข็ญบุคคลดังกล่าวหรือบุคคลที่สาม หรือไม่ว่าเหตุผลใดใดแต่บนพื้นฐานของการเลือกปฏิบัติ เมื่อความเจ็บปวดหรือความทุกข์ทรมานนั้น กระทำโดย หรือด้วยการยุยงหรือโดยความยินยอม หรือรู้เห็นเป็นใจของเจ้าหน้าที่รัฐหรือบุคคลอื่นซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งตัวแทนทางการจากนิยามดังกล่าวจะเห็นว่า การทรมานอาจจะเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐโดยตรง หรือด้วยความยินยอมหรือสนับสนุนของเจ้าหน้าที่ก็ได้ แต่กฎหมายระหว่างประเทศต่างๆล้วนห้ามการทรมานโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้สถานการณ์สงครามหรือไม่ก็ตามส่วนการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีอันต้องสงสัยว่าจะเป็นการซ้อมทรมานหรือไม่นั้น มีความยากลำบากมากขึ้นในปัจจุบัน การสอบสวนประเด็นการซ้อมทรมานที่ทำโดยคณะบุคคลต่างๆล้วนมีข้อจำกัดสูง ไม่ว่าจะในเรื่องที่มาของกรรมการ ความสามารถ จุดยืน ฯลฯ ในขณะที่ผลการสอบมักมีส่วนอย่างสำคัญในอันที่จะเรียกความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมโดยรวมรวม จึงได้มีผู้เสนอหลายครั้งว่า การสอบสวนเรื่องราวในทำนองนี้ ควรจะนำวิธีการที่องค์กรนานาชาติเสนอแนะเอาไว้ให้เป็นมาตรฐานการสืบสวนสอบสวนมาใช้ เพื่อจะสร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับหรือไม่ วิธีการดังกล่าวบรรจุอยู่ในคู่มือที่เรียกกันสั้นๆว่า พิธีสารอิสตันบูลพิธีสารอิสตันบูล คือคู่มือสืบสวนสอบสวนและบันทึกข้อมูลหลักฐานอย่างมีประสิทธิภาพ กรณีการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี ( Istanbul Protocol: Manual on the Effective Investigation and Documentation of Torture and Other Cruel Inhuman or Degrading Treatment or Punishment) เป็นสิ่งซึ่งคณะผู้เชี่ยวชาญที่มีทั้งนักนิติวิทยาศาสตร์ แพทย์ นักจิตวิทยา ผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนและนักกฎหมายในประเทศต่างๆทั่วโลกร่วมกันจัดทำและนำเสนอต่อสำนักงานข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2542 เพื่อวางมาตรฐานในการบันทึกรวบรวมพยานหลักฐานกรณีการทรมาน เป็นแนวทางให้ความช่วยเหลือเหยื่อผู้เสียหายจากการถูกทรมานเพื่อการคุ้มครองและเยียวยา และสามารถนำเสนอพยานหลักฐานอันเกิดจากการได้รับบาดเจ็บไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือจิตใจอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพคู่มือการสอบสวนการกระทำทรมานหรือที่เรียกว่าพิธีสารอิสตันบูลได้กล่าวถึงวิธีการทรมานหลากหลายรูปแบบที่ส่งผลให้เกิดความเจ็บปวดทั้งทางกายและจิตใจ เช่นการบาดเจ็บจากการถูกกระแทก ไม่ว่าต่อย เตะ ตบ ฟาด ตีด้วยวัตถุต่างๆ การทรมานด้วยการแขวนหรือถ่างอวัยวะ การจำกัดการเคลื่อนไหวนานๆ การทำให้ขาดอากาศหายใจไม่ว่าด้วยวิธีการเปียกหรือแห้ง การบีบหรือกดทับอวัยวะ การทิ่มแทง การใช้สารเคมีกับร่างกาย การทรมานที่อวัยวะสืบพันธุ์ การคุกคามทางเพศ การตัดอวัยวะ การทรมานต่อระบบประสาท การใช้สภาพเงื่อนไขของสถานที่ควบคุมตัวทำให้เกิดความทรมาน เช่นห้องที่แคบ อึดอัด สกปรก อุณหภูมิที่ไม่ปกติ การจำกัดความเป็นอยู่เช่นขังเดี่ยว การทรมานด้านจิตใจ ขาดการติดต่อการทำให้ได้รับความอับอาย บังคับให้ทำในสิ่งที่ขัดต่อความเชื่อทางศาสนาหรือความเชื่อของสังคม ถูกทำร้ายต่อหน้าผู้อื่นหรือบังคับให้ดูผู้อื่นถูกทำร้าย ฯลฯ รายละเอียดสามารถหาอ่านได้จากลิงค์นี้ ()สิ่งสำคัญที่น่าสนใจด้วย ก็คือในปัจจุบันผู้กระทำได้พยายามพัฒนาวิธีการเพื่อจะปกปิดหรือไม่ทิ้งร่องรอยที่จะกลายเป็นพยานหลักฐาน เช่น มีการใช้วัตถุทรงกว้างและทื่อในการทุบตี หรืออย่างในกรณีของการทุบตีเท้า (falanga) ก็อาจนำพรมหรือรองเท้าคลุมเท้าของผู้ถูกกระทำ เพื่อกระจายความรุนแรงไปยังส่วนอื่น การถ่างแขนขา การถูกบีบ กดทับและการทำให้ขาดอากาศหายใจ ล้วนเป็นวิธีการทรมานที่เจตนาจะทำให้ผู้ถูกกระทำได้รับความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานอย่างสาหัสแต่หลงเหลือพยานหลักฐานน้อยที่สุด ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ผ้าเช็ดตัวเปียกจึงถูกใช้ในการจี้ด้วยไฟฟ้าดังนั้นการสอบสวนเรื่องเช่นนี้ ควรจะดำเนินการตามหลักการสืบสวนสอบสวนในกรณีการทรมาน ซึ่งคณะผู้สอบสวนต้องมีองค์ประกอบที่ถึงพร้อมด้วยทักษะความสามารถ ความเป็นกลาง ความเป็นอิสระ ที่สำคัญยังจะต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญสนับสนุนในสาขาต่างๆ เช่น พยาธิวิทยา นิติเวชศาสตร์ จิตเวชศาสตร์ จิตวิทยา นรีเวชวิทยา และกุมารเวชศาสตร์ คณะกรรมการจำเป็นจะต้องมีผู้สืบสวนสอบสวนของตนเองในการติดตามเบาะแสและหาพยานหลักฐานหากศึกษากรณีการหยุดหายใจโดยปราศจากร่องรอยการถูกทำร้ายที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ข้อค้นพบจากเอกสารทำให้ทราบว่าการทำให้ขาดอากาศหายใจมีทั้งแบบแห้งและแบบเปียก กรณีที่มีการทำให้ขาดอากาศหายใจแบบแห้ง ก็คือการใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะและรัดที่คอ การกดที่ลูกกระเดือก ส่วนการทำให้ขาดอากาศหายใจแบบเปียก ก็คือการกดศีรษะลงไปในน้ำ หรือใช้ผ้าปิดหน้าและราดน้ำลงบนใบหน้า หรือการกรอกน้ำลงไปที่จมูกและปากวิธีการทำให้ขาดอากาศหายใจแบบเปียกมีการนำไปใช้กันทั่วโลก เช่นในไอร์แลนด์เหนือ มีกรณีที่บุคคลชื่อโฮลเดนถูกราดน้ำที่ใบหน้าจนน้ำเข้าทางปากและจมูกทำให้ในที่สุดเขายอมสารภาพในกรณีอาชญากรรมที่เขาไม่ได้กระทำ หลังจากนั้นกระบวนการยุติธรรมตรวจสอบพบว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์และได้รับการปล่อยตัวแต่หลังจากที่ถูกจองจำนานถึง 17 ปี ยังมีกรณีการสอบสวนผู้ก่อการร้ายในสถานที่ควบคุมตัวในประเทศแถบตะวันออกกลางของสหรัฐอเมริกาที่พบว่า Khalid Sheikh Mohammed Abu Zubaydah และ Abd al-Rahim al-Nashiri ถูกทรมานด้วยวิธี Waterboarding หรือการกดน้ำ ระหว่างการสอบสวนโดยซีไอเอ แม้แต่ในรัฐอัสสัม ประเทศอินเดียก็มีการทรมานโดยวิธี Waterboarding เช่นกรณีของ Hasen Ali ซึ่งภรรยาเล่าว่าตำรวจใช้ผ้าคลุมหน้าและเทน้ำเย็นบนใบหน้าจนเขาอาเจียนและเป็นลมไปครู่หนึ่ง วิธีการนี้จะส่งผลระยะยาวเช่นทำให้เกิดการสูญเสียความทรงจำทางประสาทจิตเวชแพทย์อธิบายว่าสมองของมนุษย์นั้นอยู่ได้ด้วยออกซิเจน เมื่อขาดออกซิเจนสมองย่อมตาย แล้วกระบวนการที่สมองตายเพราะขาดออกซิเจนอันเนื่องมาจากการใช้น้ำราดรดปากและจมูกเกิดขึ้นได้อย่างไรดังที่กล่าวมาแล้วว่า คำว่ากดให้จมน้ำ ไม่จำเป็นต้องกดเพื่อให้อยู่ใต้น้ำเสมอไป เวบไซต์หลายแห่งที่อธิบายเรื่องการซ้อมทรมานกล่าวถึงวิธีการใช้น้ำกรอกปากและจมูก อาจมีการนำผ้าหรือแม้แต่พลาสติกอย่างบางวางบนปากและจมูกเพื่อไม่ให้น้ำไหลออกและป้องกันอากาศเข้า สภาพเช่นนี้มีค่าเสมอการกดให้จมน้ำเช่นกันการกดให้จมน้ำนั้น เวบไซท์หลายแห่งอ้างว่า ผู้ใช้วิธีการนี้อาจไม่ต้องการให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย แต่เจตนาจะทรมานเพื่ิอบีบคั้นเอาข้อมูล การทำให้เกิดภาวะ เกือบจมน้ำ เป็นภาวะที่ทรมานอย่างหนักมากเพราะผู้ถูกทรมานจะรู้สึกว่ากำลังจะตาย การใช้วิธีการนี้มีความเสี่ยงสูงอย่างยิ่งในอันที่จะเกิดความผิดพลาดทำให้ผู้ถูกกระทำถึงตายได้ง่ายๆ เพราะช่วงเวลาของการสำลักน้ำและขาดอากาศหายใจไปจนกระทั่งถึงช่วงที่สมองตายเพราะขาดออกซิเจนนั้นสั้นมาก ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ตาย แต่ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสมองจะดำรงอยู่อย่างยาวนาน หรือไม่สมองบางส่วนจะถูกทำลายลงอย่างถาวรมีคำอธิบายทางการแพทย์ถึงปฏิกิริยาของร่างกายที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติในยามที่ถูกจับกดน้ำหรือกรอกน้ำไว้ดังนี้ เมื่อน้ำเข้าสู่ปากและจมูก ร่างกายคนเรามีกลไกป้องกันตนเองด้วยการที่ปิดกั้นทางเดินหายใจหรือกลั้นหายใจโดยอัตโนมัติ แต่การกลั้นหายใจไม่อาจทำได้นาน ก็จะต้องรีบหายใจเข้าไปใหม่ ซึ่งในกรณีนี้หากมีการกดทับ เช่นมีผ้าเปียกน้ำทับจมูกและปากไว้ ก็จะหายใจเอาน้ำเข้าไปแทนเนื่องจากไม่มีอากาศให้ น้ำที่ทะลักเข้าไปจะทำให้กล้ามเนื้อกล่องเสียงกระตุก ตามมาด้วยการที่ร่างกายปิดใช้อวัยวะส่วนที่เรียกว่าท่อลมหรือ trachea อันที่เป็นตัวที่ทำให้เกิดเสียง ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าสู่ปอด แต่ถึงกระนั้นก็อาจจะมีน้ำเข้าไปที่ปอดได้บ้างแม้ว่าจะเล็กน้อย อย่างไรก็ตามการที่ท่อลมปิดก็ทำให้อากาศไม่เข้าสู่ปอดเช่นกัน เมื่ออากาศไม่เข้าสู่ปอด ออกซิเจนในเลือดจะเริ่มลดระดับลง สำหรับการที่ท่อลมปิดลงเพราะการหดเกร็งของกล้ามเนื้อหลอดลมนั้น ปฏิกิริยานี้เรียกว่า laryngospasms ซึ่งแม้เกิดเพียงเล็กน้อยเช่นเพียงครึ่งนาทีแต่ผลคือจะทำให้สมองมีโอกาสขาดออกซิเจนในสถานการณ์เช่นนั้นร่างกายจะพยายามหายใจเข้าเพราะความต้องการอากาศ คราวนี้น้ำจะเข้าสู่ปอดและเข้าไปก่อนที่อาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อจะเริ่มทำงานอีกครั้งและท่อลมปิดลงอีก ยิ่งรีบหายใจเนื่องจากตกใจ น้ำก็จะยิ่งเข้าสู่ร่างกายมากขึ้นการที่น้ำเข้าสู่ร่างกายมากๆ จะทำให้เลือดเจือจางลง เลือดที่เจือจางลงเพราะมีน้ำเข้าไปปนจะไม่สามารถลำเลียงออกซิเจนไปสู่สมองได้ อาการออกซิเจนไม่ไปเลี้ยงสมองก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น ส่วนอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อหลอดลมที่เป็นกลไกป้องกันตัวเองนั้นก็จะค่อยๆลดลงจนกระทั่งอ่อนกำลังไปเอง นี่เป็นกระบวนการที่เป็นผลกระทบจากการใช้น้ำราดรดปากและจมูก ซึ่งการแพทย์อธิบายเอาไว้สำหรับกรณีอื่นๆที่มีการใช้กันมาแล้ว แสดงความเชื่อมโยงระหว่างภาวะสมองบวมกับการขาดออกซิเจนส่วนกรณีของอับดุลเลาะ คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนยังคงเดินหน้าหาคำตอบกันต่อไป แต่คำถามสำคัญยังคงอยู่ ว่าไทยควรนำพิธีสารอิสตันบูลมาใช้ประกอบและกำกับการทำงานหรือไม่ เพื่อให้การทำงานได้รับความเชื่อถือมากขึ้น | การทรมานในจังหวัดชายแดนใต้ของประเทศไทยมีหลายกรณีที่เป็นที่จดจำ ไม่ว่าจะเป็นกรณีของอิหม่ามยะผา กาเซ็ง อัสฮารี สามะแอ และ อิสมาแอ เต๊ะ | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | อัญชนา หีมมีหน๊ะ,ซ้อมทรมาน,สามจังหวัดชายแดนภาคใต้,อับดุลเลาะ อีซอมูซอ,พิธีสารอิสตันบูล | https://prachatai.com/journal/2019/08/83993 |
แฉปืนยิงพระ ฆ่ามาร่วมร้อย ผลเทียบกระสุน | ลอบวางบึมอีก หมายถล่มทหาร ยังดีที่พลาดเป้า,โจรใต้เหิมไม่เลิกวางระเบิดถล่ม 2 อำเภอพื้นที่เจาะไอร้องกับตากใบ หวังสังหารเจ้าหน้าที่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย ขณะที่แม่ทัพภาค 4 แฉโจรฆ่าพระใช้กระสุนยิงถล่มถึง 128 นัดทั้งที่พระเป็นผู้บริสุทธิ์มีเพียง 2 มือและผลตรวจปลอกกระสุนทราบด้วยอาวุธที่ใช้สังหารพระนั้นยิงคนมาแล้วเกือบ 100 ศพ เตือนอย่าหลงเชื่อพวกเสี้ยมให้แตกแยก ชาวพุทธกับมุสลิมต้องอยู่ร่วมกัน,สถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ยังระอุ ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 ม.ค. พ.ต.อ.ลุกมาน บาเกาะ ผกก.สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ร.ต.อ.พลวัฒน์ เทพษร รอง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ บก.ภ.จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส พร้อมทั้ง กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ไปตรวจสอบเหตุวางระเบิดบริเวณท่อลอดผิวถนนจารุเสถียร สายเจาะ–ไอร้อง-เมืองนราธิวาส ช่วงบริเวณบ้านโคก หมู่ 5 ต.จวบ เหตุเกิดเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ไม่มีผู้ใดได้รับ บาดเจ็บ พบท่อลอดผิวถนนมีหลุมลึก 1 เมตร กว้าง 1.5 เมตร และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่อง ที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังน้ำยาเคมีดับเพลิง หนัก 25 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและพงหญ้ารกทึบริมทาง เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน พร้อมขอสนับสนุนรถแบ็กโฮของเอกชนมาฝังกลบผิวถนนเพื่อเปิดให้ประชาชนได้สัญจรไปมาตามปกติ,สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังทหารพราน ร้อย ทพ.4808 จำนวน 1 ชุด ปฏิบัติการนั่งโดยสาร รถยนต์ออกจากฐานห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 600 เมตร เพื่อเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบ ถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวน แฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทางได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปวางไว้ใต้ท่อลอดผิวถนน จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่โชคดีระเบิดที่คนร้ายนำไปวางไว้อยู่ริมถนนคนละเลนกับเจ้าหน้าที่ขับรถยนต์ผ่าน ทำให้เจ้าหน้าที่รอดตาย ไปได้อย่างหวุดหวิด,จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวเดินทางไปตรวจสอบเหตุระเบิดอีกแห่งบริเวณมาตรวัดน้ำข้างบ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 2 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พบเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในขวดนํ้าดื่มพลาสติก,ไม่ทราบยี่ห้อ หนักประมาณ 1 กก. จุดชนวนด้วยการ ตั้งเวลาจากวงจรอิเล็กทรอนิกส์ หรือไอ.ซี.ไทม์เมอร์ ที่ตกกระจายเกลื่อนพื้นที่ สอบสวนทราบว่า ในขณะที่กำลังทหารร้อย ร.15133 ฉก.นราธิวาส 30 จำนวน 4 นาย ขี่รถ จยย. 2 คันกลับจากการปฏิบัติหน้าที่ในเขตเทศบาลเมืองตากใบผ่านจุดเกิดเหตุไปประมาณ 10 เมตร เกิดระเบิดขึ้น แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นเชื่อว่าทั้งสองเหตุการณ์เป็นการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดีเพื่อสร้างสถานการณ์,ด้าน พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานเปิดกิจกรรมเจ๊ะฆู (ครู) รวมใจต้านยาเสพติดที่โรงแรมปาร์ควิวรีสอร์ต อ.เมืองปัตตานี ว่า การปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่กับ คนร้ายที่เกิดขึ้นมันคือเกมของการต่อสู้ ผู้มีอาวุธ อยู่ไม่ได้ในพื้นที่ ทุกคนต้องมีความยุติธรรมและใช้เสรีทางความคิด เจ้าหน้าที่รัฐทำตามกฎหมาย อย่างกรณีคนร้ายยิงพระที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ใช้กระสุนทั้งหมด 138 นัด ทั้งที่พระมีเพียงสองมือ ไม่มีอะไรเลย มีแต่ความบริสุทธิ์ ผลตรวจปลอกกระสุนออกมาแล้วทำให้รู้กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุกำลังตามไล่ล่า,ทุกท่านรู้บ้างหรือไม่ว่าอาวุธปืนที่ใช้ยิงพระ เคยก่อเหตุยิงคนมาแล้วเกือบ 100 คน เหยื่อมีทั้งผู้บริสุทธิ์ เจ้าหน้าที่รัฐ อส. พระสงฆ์และเหตุลอบวางระเบิด ที่ผ่านมา มีคลิปบ้าบอออกมาเยอะมากบ้างว่ากลุ่มขบวนการไม่ได้ทำ แต่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐทำ ผมเหรอจะสั่งฆ่าพระ ทุกคนฟังไว้ เราอย่าให้ มีใครมาปั่น ทั้งพุทธ ทั้งมุสลิมต้องอยู่ร่วมกัน ไม่ต้อง สนใจใครใหญ่กว่าใคร ผมตบมือคนเดียวไม่ได้ พวกค้ายาเสพติด คนผิดกฎหมายต้องเอาตัวมาให้ได้ ช่วยให้กำลังใจกันด้วย บางคนมีสวนยางแต่ขับรถเบนซ์มีเงินผ่านบัญชี 50 ล้าน ถามว่าเอาเงินมาจากไหน ในเมื่อยางตอนนี้ราคาตก 3 กิโลร้อย คุณจะซื้อรถเบนซ์ขับได้อย่างไร แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว | โจรใต้เหิมไม่เลิกวางระเบิดถล่ม 2 อำเภอพื้นที่เจาะไอร้องกับตากใบ หวังสังหารเจ้าหน้าที่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย ขณะที่แม่ทัพภาค 4 แฉโจรฆ่าพระใช้กระสุนยิงถล่มถึง 128 นัด | ข่าว,ทั่วไทย | โจรใต้,วางระเบิด,ฆ่าพระ,นราธิวาส,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1481178 |
ระทึก บึมสนั่นใกล้เวทีหาเสียงปธน.ไนจีเรีย เจ็บนับสิบ | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย 1 หรือ 2 ครั้ง บริเวณหน้าสนามกีฬาแห่งหนึ่งในรัฐกอมเบ เมื่อวันจันทร์ หลังจากประธานาธิบดี กู้ดลัค โจนาธาน แห่งไนจีเรียสิ้นสุดการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งที่สนามกีฬาดังกล่าว และเดินทางกลับแล้ว แต่เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง,ตำรวจไนจีเรียเปิดเผยว่า มือระเบิดหญิงคนหนึ่งจุดระเบิดสังหารตัวเธอเองและผู้หญิงอีกคนหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและแหล่งข่าวในหน่วยแพทย์เชื่อว่า ผู้หญิงทั้ง 2 คน เป็นมีระเบิดฆ่าตัวตาย ขณะที่ตัวเลขผู้บาดเจ็บยังคงคลุมเครือโดยโฆษกกองบัญชาการตำรวจรัฐกอมเบ ระบุว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 6 คน ขณะที่แหล่งข่าวในหน่วยกู้ภัยและหน่วยแพทย์ระบุว่า มีผู้บาดเจ็บ 18 ราย กำลังรับการรักษาในโรงพยาบาล,โฆษกตำรวจคนเดิมกล่าวเสริมด้วยว่า จุดที่เกิดระเบิดอยู่ห่างจากสนามกีฬาที่มีการปราศรัยประมาณ 200 ม. เนื่องจากมีมาตรการรักษาความปลอดภัย และประธานาธิบดีโจนาธานก็เดินทางกลับเร็วกว่ากำหนดราว 1 ชั่วโมง และออกจากเมืองไปแล้วในขณะที่เกิดระเบิด,ทั้งนี้ แม้ยังไม่มีใครหรือกลุ่มใดออกมาอ้างตัวเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดในครั้งนี้ แต่เจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธ โบโก ฮาราม ที่ก่อเหตุโจมตีในรัฐกอมเบและหลายรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรียมาแล้วหลายครั้ง | เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายหน้าสนามกีฬาที่ประธานาธิบดีไนจีเรียขึ้นเวทีหาเสียง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย แต่ตัวประธานาธิบดีปลอดภัย | null | ระเบิดฆ่าตัวตาย,สนามกีฬา,ประธานาธิบดี,กู้ดลัค โจนาธาน,ไนจีเรีย,หาเสียง,รัฐกอมเบ,กลุ่มติดอาวุธ,โบโก ฮาราม,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/478733 |
มาดามแป้ง พร้อมรับ ทิฟฟานี ร่วมทัพชบาแก้ว หากเจ๋งพอ | วันที่ 11 ก.พ.62 ความเคลื่อนไหวทัพ ชบาแก้ว ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ชุดเตรียมสู้ศึกฟุตบอลโลก 2019 ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งนักเตะยังคงฝึกซ้อมต่อเนื่องที่ศูนย์พัฒนาศักยภาพกีฬาฟุตบอล ภายใน ม.กรุงเทพธนบุรี,โดยล่าสุด ผู้รักษาประตูลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก จากประเทศสหรัฐอเมริกา ทิฟฟานี ดารุณี สอนเผ่า ได้ร่วมฝึกซ้อมเบาๆ กับทัพชบาแก้วเป็นมื้อแรก เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับเพื่อนร่วมทีม เนื่องจากยังมีเจ็ตแล็กจากการเดินทาง,ซึ่ง ทิฟฟานี เผยว่า ค่อนข้างตื่นเต้น เพราะทุกคนในทีมชาติไทยมีประสบการณ์สูงทั้งในระดับเอเชีย และเคยไปเล่นฟุตบอลโลกมาแล้วด้วย ก็หวังว่าจะใช้ช่วงเวลานี้ ในการแสดงความสามารถให้โค้ชเห็นได้มากที่สุด ก็หวังว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมในอนาคตกับการแข่งขันฟุตบอลโลก และรายการอื่นๆ,ขณะที่ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม กล่าวว่า น้อง (ทิฟฟานี) มาอยู่ได้เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องการเรียนและลีกที่เล่นให้มหาวิทยาลัย โค้ชหนึ่งและโค้ชชัยยงคงใช้ช่วงเวลาสั้นๆ นี้วิเคราะห์และพิจารณาความสามารถของน้องอย่างดีที่สุด ทั้งรูปร่าง ทักษะดีเป็นทุนเดิม หวังว่าน้องจะแสดงศักยภาพออกมาให้เราเห็นได้มากที่สุด เพื่อเป็นหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับทีมชาติไทยเราในอนาคต,สำหรับ ดารุณี สอนเผ่า เป็นผู้รักษาประตูของมหาวิทยาลัยเคนเนซอว์ สเตท ยูนิเวอร์ซิตี้ ในสหรัฐอเมริกา โดยในฤดูกาล 2018 ที่ผ่านมา เธอได้รับอันดับ 2 ของผู้รักษาประตูในลีกดิวิชั่น 1 ระดับมหาวิทยาลัย โดยจะอยู่ฝึกซ้อมเพื่อทดสอบฝีเท้าร่วมกับทีมชาติไทยเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์. | ทิฟฟานี จอมหนึบสาวลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก ร่วมซ้อมกับทีมชาติไทยครั้งแรกแล้ว ด้าน มาดามแป้ง พร้อมอ้าแขนรับเข้าร่วมทีม หากผ่านเกณฑ์การทดสอบ | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | ดารุณี สอนเผ่า,ชบาแก้ว,ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย,มาดามแป้ง,นวลพรรณ ล่ำซำ | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1493775 |
อาคม สั่งเพิ่มรถเมล์อำนวยความสะดวกประชาชนถวายสักการะพระบรมศพ | วันนี้ (15 ต.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางไปตรวจดูจุดเชื่อมต่อรถโดยสารที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งเป็นจุดที่มีประชาชนมาใช้บริการจำนวนมาก เพราะว่ามีทั้งรถโดยสารสาธารณะและรถให้บริการฟรีของภาคเอกชน โดย ขสมก.เตรียมเพิ่มจำนวนรถเมล์ เพื่อให้บริการเพิ่มเติมทั้งที่หัวลำโพง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสายใต้ใหม่นายอาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมวางแผนการให้บริการรถโดยสารโดยรอบพระบรมมหาราชวังร่วมกับศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่ออำนายความสะดวกประชาชนที่เดินทางมาร่วมถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ โดยขอให้จัดเส้นทางพิเศษให้กับรถเมล์ที่ให้บริการสนามหลวง เเละในวันจันทร์ที่ 17 ตุลาคมนี้ ขสมก.เตรียมให้บริการรถเมล์ร้อน 25 สาย ที่วิ่งให้บริการสนามหลวงฟรี สำหรับประชาชนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว ได้ให้สายใต้ใหม่ เเละกรมการขนส่งทางบกจัดสถานที่จอดรถและขอให้ใช้รถโดยสารสาธารณะ เพื่อเดินทางต่อไปยังพระบรมมมหาราชวังลดปัญหาการจราจรติดขัด ซึ่งในส่วนพื้นที่ของกรมการส่งทางบก สามารถจอดได้ทุกวัน และรองรับรถได้ 50-100 คันขณะที่การให้บริการเรือโดยสารได้ให้กรมเจ้าท่าส่งเรือตรวจการณ์ที่มีอยู่ทุกลำ ดูแลรักษาความปลอดภัย พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ประจำทุกท่าเรือกำชับผู้ให้บริการเรือโดยสารห้ามบรรทุกเกินโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ส่วนกรณีมีประชาชนร้องเรียนเรื่องการติดค่าโดยสารเกินราคา ได้กำชับให้กรมการขนส่งทางบกดำเนินการจัดสายตรวจไปดูการถบริการรถโดยสารทั้งแท็กซี่ จักรยานยนต์รับจ้าง ตุ๊กตุ๊ก ที่โรงพยาบาลศิริราช และสนามหลวง หากพบว่ากระทำความผิดจะลงโทษ ขั้นสูงสุดทันที นอกจากนี้ ยังให้กรมการขนส่งทางบกเรียกสหกรณ์แท็กซี่ทุกแห่งเพื่อย้ำเรื่องการคิดค่าโดยสารและบทลงโทษอีกครั้ง | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสั่งเพิ่มรถโดยสารสาธารณะ เพื่ออำนายความสะดวกประชาชนที่เดินทางมาร่วมถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ | สังคม | ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,รมว.คมนาคม,รถโดยสารสาธารณะ,ขสมก.,กรมการขนส่งทางบก,เรือโดยสาร,ถวายสักการะพระบรมศพ,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ,ในหลวง,สวรรคต | https://news.thaipbs.or.th/content/256696 |
จับแล้ว สาวโหด หน.แก๊งฆ่ารัดคอช่างเสริมสวย ไม่พอใจแฟนหนุ่มไปติดพัน | เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 12 เม.ย. พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช แถลงข่าวกับสื่อมวลชนกรณีคดีพบศพชาย-หญิง 2 ศพนิรนามลอยมาเกยชายหาดทะเล ในพื้นที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเช้าวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยสภาพศพเปลือยกายทั้งสองศพไม่พบหลักฐานใดๆ ในตัวผู้ตายทั้งสองศพเสียชีวิตมาแล้ว ประมาณ 1 อาทิตย์ เบื้องต้น ชันสูตรพลิกศพไม่พบบาดแผลทั้งสองแต่คาดว่า เสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจ และต่อมา ทางตำรวจชุดสืบสวน สภ.ขนอม ได้ทำการสืบสวนจนทราบชื่อผู้เสียชีวิตทั้งสองศพ โดยศพผู้หญิงชื่อ น.ส.กนกพร หรือ ตาล นวลปาน อายุ 25 ปี อาชีพช่างร้านเสริมสวย ในพื้นที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช และศพผู้ชายชื่อ นายเกียรติศักดิ์ หรือเบียร์ เจริญวงศ์ อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกัน จึงแจ้งติดต่อให้ญาติมารับศพไปจัดการตามประเพณีและทำการสืบสวนสอบสวนขยายผล,ต่อมาทางตำรวจชุดสืบสวน สภ.ขนอม ได้ร่วมกับตำรวจสืบสวนภาค 8 ภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ศุภสัณห์ สุขแก้ว หน.ชุดปราบปรามมือปืนรับจ้าง ภาค 8 และตำรวจสืบสวน ภ.จว.ชุมพร นำโดย พ.ต.ท.อภิชาติ เรนชนะ ได้ทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อร่วมกันคลี่คลายคดีนี้ โดยสืบทราบว่า คดีนี้ มีกลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุ มีด้วยกัน 4 คน มี น.ส.นงลักษณ์ หรือแอม อักษรเงิน อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ถนนศรีมาประสิทธิ์ ต.ชะอวด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เป็น หน.ผู้บงการฆ่า 2 ศพ ดังกล่าว ทางตำรวจ สภ.ขนอม จึงได้เสนอขออนุมัติศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับ น.ส.นงลักษณ์ หรือแอม และต่อมา ทางตำรวจได้นำหมายจับเลขที่ 100/2559 ลงวันที่ 31 มี.ค.ไปจับกุม น.ส.นงลักษณ์ หรือแอม ได้ที่บ้านเลขที่ 156/1 หมู่ 8 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา และขยายผลจับกุม นายจักกฤษณ์ จิตบุรุษ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาร่วมแก๊งเป็นรายที่ 2 ส่วนแก๊งคนร้ายที่เหลืออีก 2 คน ยังหลบหนีอยู่ซึ่งทางตำรวจกำลังล่าตัวคนร้ายที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป,พล.ต.ต.วันไชย แถลงว่า จากการสอบสวนปากคำ น.ส.นงลักษณ์ มาสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า สาเหตุเนื่องจาก น.ส.นงลักษณ์ หรือแอม ไม่พอใจที่แฟนหนุ่มของตนเองไปติดพันกับ น.ส.กนกพร ผู้ตาย ทำให้ น.ส.นงลักษณ์ โกรธแค้นไม่พอใจวางแผนพาพวกไปลวง น.ส.กนกพร และ นายเกียรติศักดิ์ ญาติลูกพี่ลูกน้อง ออกจากบ้านพักใน อ.ปากพนัง มาฆ่าทิ้งด้วยการรัดคอก่อนเปลือยกายศพทั้งสอง แล้วนำศพขึ้นเรือไปโยนทิ้งกลางทะเล ในพื้นที่ ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 19 มี.ค. จนศพลอยไปเกยชายหาดที่ อ.ขนอม เมื่อเช้าวันที่ 26 มี.ค. จนกระทั่งตำรวจได้ร่วมกันคลี่คลายคดีติดตามจับกุม น.ส.นงลักษณ์ 1 ใน 5 ผู้ต้องหามาได้ ส่วน 4 คนร้าย ที่เหลือจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป | จับแล้ว 2 แก๊งฆ่ารัดคอโยนทะเลขนอม 2 ศพสาวร้านเสริมสวยพร้อมญาติ ตำรวจยังล่าอีก 2 เหตุไม่พอใจแฟนหนุ่มไปติดพันสาวร้านเสริมสวย เลยลวงไปฆ่ารัดคอทิ้งสุดโหด พร้อมหนุ่มลูกพี่ลูกน้องก่อนโยนศพทิ้งทะเล | null | ฆ่ารัดคอ,โยนศพทิ้งทะเล,ขนอม,นครศรีธรรมราช,จับแล้ว,ศพนิรนาม,แฟนหนุ่มไปติดพัน,สาวช่างเสริมสวย,ปากพนัง,สภ.ขนอม,บงการฆ่า 2ศพ,กนกพร นวลปาน,เกียรติศักดิ์ เจริญวงศ์ | https://www.thairath.co.th/content/604852 |
ตรุษจีนคนแห่รับ เตี๊ยบ พาสปอร์ตสู่สวรรค์ วัดพระพุทธบาท | เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พุทธศาสนิกชนนับพันคน หลั่งไหลมาร่วมทำบุญ ที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเฉพาะชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งมีความเชื่อมาแต่โบราณกาลว่า ถ้าใครได้มานมัสการรอยพระพุทธบาท ณ วัดพระพุทธบาทฯ แห่งนี้ครบ 7 ครั้ง อานิสงส์ผลบุญจะส่งให้ได้ไปจุติในสรวงสวรรค์ แม้ในชาติภพนี้ก็จะมีชีวิตที่ดี สมหวังทุกประการ,สำหรับรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ ค้นพบในสมัยพระเจ้าทรงธรรม พระมหากษัตริย์ องค์ที่ 22 แห่งกรุงศรีอยุธยา หรือเมื่อปี พ.ศ.2167 หรือกว่า 400 ปีมาแล้ว และเมื่อมานมัสการรอยพระพุทธบาทเสร็จแล้ว เดินลงบันไดมาทางทิศตะวันออก ก็จะพบกับวิหารคลังล่าง หรือวิหารจีน ซึ่งวิหารแห่งนี้มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉาพะชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน มีความเชื่อกันว่า เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่สถิตของ ซำปอกง หรือองค์ไฉ่เซงเอี้ย ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาวจีนทุกคน และยังเป็นสถานที่ออก เตี๊ยบ หรือพาสปอร์ตสวรรค์ ตามความเชื่อของชาวจีนอันมีมากว่า 380 ปี อีกด้วย,ทั้งนี้ ชาวจีนเชื่อกันว่า เตี๊ยบ ที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารแห่งนี้ออกให้ จะเป็นหนังสือแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ถ้าตายแล้วมี เตี๊ยบ นี้ไปด้วย ชีวิตหลังความตายจะดำเนินไปด้วยความถูกต้อง ไร้มารร้ายมารบกวน และยังเชื่อว่าจะได้บุญสูง ได้ทดแทนคุณบิดามารดา หากได้ทำบุญซื้อ เตี๊ยบ ไปให้ท่านเพื่อใช้เป็นใบเบิกทางไปสู่แดนสวรรค์,ดังนั้น ทั้งชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน ต่างก็ถือเป็นประเพณี ที่ต้องเดินทางมานมัสการรอยพระพุทธบาท พร้อมกับทำบุญขอรับ เตี๊ยบ ให้ตนเอง บุพการีหรือญาติสนิทมิตรสหาย และนำเตี๊ยบมารับตราประทับต่ออายุทุกปีด้วย. | ตรุษจีนคนไหว้เจ้าแล้วพากันไปกราบรอยพระพุทธบาท และรับ เตี๊ยบ พาสปอร์ตใบเบิกทางสู่สวรรค์ ที่วัดพระพุทธบาท สระบุรี ชี้เป็นความเชื่อของชาวจีนมากว่า 380 ปี ตายไปแล้วจะไม่มีมารร้ายมารบกวน ทั้งยังได้บุญสูง | ข่าว,ทั่วไทย | ตรุษจีน,รับเตี๊ยบ,พาสปอร์ตสู่สวรรค์,พระพุทธบาท,สระบุรี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/news/local/482278 |
เตือนป่วยมะเร็งอย่าใช้น้ำมันกัญชาเอง | แพทย์แฉสเต็มเซลล์ 90% เป็นของปลอม ชี้ระวังอันตราย-อวัยวะเสื่อม,รศ.นพ.วิโรจน์ ศรีอุฬารพงศ์ อดีตนายกสมาคมมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทยและหัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคมะเร็งครบวงจรรพ.จุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันหลายประเทศนำกัญชาไปใช้ทางการแพทย์ ไทยก็อยู่ระหว่างแก้กฎหมายซึ่งหากนำมาใช้รักษาโรคระบบประสาทอาจได้ผล,แต่สำหรับโรคมะเร็งมีการนำมาใช้ลดอาการข้างเคียงจากเคมีบำบัด ลดอาเจียนได้ แต่ประสิทธิภาพก็ไม่ได้แตกต่างจากยาที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ มองว่าเรื่องการแก้กฎหมายเอากัญชามาใช้ทางการแพทย์ควรเป็นลักษณะการคลายล็อก ใช้และควบคุมโดยองค์การเภสัชกรรม (อภ.) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เหมือนมอร์ฟีน สำหรับการนำกัญชารักษาตัวโรคมะเร็ง ก้อนมะเร็งนั้น ยืนยันว่ามีการทดลองในห้องแล็บ แต่ไม่มีหลักฐานการเอามาใช้ในคนจริงๆ ในทางกลับกันพอเลิกใช้ยังทำให้มีอาการอยากยา ซึ่งตนมีคนไข้หลายคนที่ญาติต้องหามมาพบแพทย์ด้วยอาการซึม ไม่รู้สึกตัว เพราะใช้น้ำมันกัญชาใต้ดินหยดโดยไม่มีความรู้ว่าต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่ บางคนบอกว่าใช้เพื่อลดความเจ็บปวด แต่จะไม่รู้สึกเจ็บเพียงแค่ตอนหลับเท่านั้น ก้อนมะเร็งไม่ยุบไม่หาย พอได้รับการรักษามาตรฐานก็กลับมาใช้ชีวิตได้ไม่ต้องหลับๆตื่นๆเพราะฤทธิ์กัญชา,ผศ.นพ.นิพัญจน์ อิศรเสนา ณ อยุธยา หัวหน้าศูนย์สเต็มเซลล์และเซลล์บำบัด คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงสเต็มเซลล์กับการรักษาโรคมะเร็ง ว่า แพทยสภา รับรองการใช้สเต็มเซลล์เฉพาะการรักษาในระบบเลือดเท่านั้น และคลินิกต่างๆ ในไทยที่โฆษณาว่ามีฉีดสเต็มเซลล์เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หากใช้ในแง่อื่นถือว่าหลอกลวงทั้งสิ้น และที่อ้างว่าเป็นสเต็มเซลล์นั้น 90% เป็นของปลอมไม่รู้ว่าเอาอะไรมาฉีดให้ และจากการนำครีมที่อ้างมีสเต็มเซลล์เพื่อความงาม มาส่องดู ไม่พบเซลล์สักตัว แต่พบโปรตีนบางตัวที่อันตรายบางรายอาจถึงตาย รวมถึงมีสารกดภูมิคุ้มกัน ที่ฉีดแล้วอาจทำให้กระปรี้กระเปร่าแต่เป็นสารก่อมะเร็งหรือมียาสเตียรอยด์ ฉีดแล้วมีผลเสียต่ออวัยวะในร่างกายทำให้เสื่อม ดังนั้น การฉีดสเต็มเซลล์แบบที่ยังไม่มีข้อมูลทางวิชาการรับรองไม่ได้ประโยชน์อะไร. | รศ.นพ.วิโรจน์ ศรีอุฬารพงศ์ อดีตนายกสมาคมมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทยและหัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคมะเร็งครบวงจรรพ.จุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า | ข่าว,ทั่วไทย | น้ำมันกัญชา,ผู้ป่วยมะเร็ง,สเต็มเซลล์,อาการข้างเคียง,เคมีบำบัด,สุขภาพ | https://www.thairath.co.th/news/local/1451710 |
นายกฯเริ่มแถลงนโยบายเร่งเดินหน้าค่าแรง 300-เงินเดือน ป.ตรี 1.5 หมื่นบาท | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.20 น.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้เริ่มแถลงนโยบายต่อสภาฯ โดยช่วงแรกได้กล่าวถึงการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ รวมถึงวาระเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการทันที อาทิ1.สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ รวมถึงการฟื้นฟูประชาธิปไตยและสร้างความสมัคคีของในชาติ2.เยียวยาและฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ 3. สนับสนุนการทำงานของ คอป. หรือ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ โดยให้ดำเนินการอย่างอิสระ เพื่อค้นหาข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา4.เร่งแก้ปัญหายาเสพติดโดยยกเป็น วาระแห่งชาติบังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัด และ ฟื้นฟูผู้เสพเป็นผู้ป่วย5.เพิ่มมาตรฐานด้านแรงงานคือ เพิ่มค่าแรงงานขั้นต่ำอย่างน้อย 300 บาทต่อวัน และ เงินเดือนปริญญาตรีเริ่มที่ 15000 บาท 6.ช่วยเหลือเกษตรกรของประเทศด้วยการพักหนี้เกษตรขณะที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ยืนยันว่า จะไม่มีปัญหาในการควบคุมประชุมสภาทั้ง 2 วัน โดยการประชุมจะเป็นการแถลงนโยบายไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเชื่อว่า จะไม่มีความวุ่นวายหากทุกคนทำตามข้อบังคับ โดยคำถามจะต้องอยู่ภายใต้กรอบข้อบังคับรัฐสภาข้อที่108 ทั้งนี้จะพยายามบริหารเวลาการแถลงนโยบายให้แล้วเสร็จภายใน 2 วันส่วนการรักษาความปลอดภัย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวยืนยันว่า จากการข่าวยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และ มั่นใจว่ากำลังตำรวจ 3 กองร้อย หรือ 450 นายจะกระจายกำลังทั้งบริเวณรอบนอกอาคาร และ ด้านในอาคาร สามารถรับมือได้อย่างแน่นอน ส่วนพื้นที่ของกลุ่ม นปช.และเสื้อหลากสีเจ้าหน้าที่ได้จัดโซน และ แบ่งแยกอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันการเผชิญหน้ากัน | นายกรัฐมนตรีเริ่มแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว ยืนยันเดินหน้านโยบายหาเสียงที่ผ่านมาทั้งค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท และ เงินเดือน ป.ตรี 15000 บาท | การเมือง | ครม.ยิ่งลักษณ์ 1,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,แถลงนโยบายต่อรัฐสภา | https://news.thaipbs.or.th/content/29716 |
วิชาชี้คอร์รัปชันฝังรากมาตั้งแต่หลัง 2475 เหตุให้สิทธินักการเมืองเข้ารับสัมปทานกิจการต่างๆ | ศึกษาสถานภาพความรู้เรื่องความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมของไทยในปริทรรศน์ประวัติศาสตร์ ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดโดยฝ่ายวิชาการ สกว. เรื่องขอบเขตและผลกระทบของการฉ้อราษฎร์บังหลวงต่อการพัฒนาการทางเศรษฐกิจของไทย ว่าหลายทศวรรษที่ผ่านมาประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกตระหนักถึงผลร้ายที่เกิดขึ้นจากการทุจริตมากขึ้น เพราะมีผลต่อเสถียรภาพทางการเมือง การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ประเมินเป็นมูลค่าความเสียหายทั้งตัวเงินและที่ประเมินค่าไม่ได้ทางสังคมและสิ่งแวดล้อมศ.(พิเศษ) วิชา กล่าวต่อว่าการแก้ปัญหาความยากจนของประชาชนต้องมีปัจจัยหลายอย่างเอื้ออำนวยและเกื้อหนุนทั้งความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การเสริมสร้างขีดความสามารถของสถาบัน และการลงทุนในบริการต่าง ๆ ของรัฐ การทุจริตในระดับสูงจะเป็นตัวบ่อนทำลายปัจจัยเหล่านี้ ทำให้ทรัพยากรที่จะนำไปใช้ในโครงการด้านสังคมที่มีผลต่อประชาชนโดยตรงลดน้อยลง ซึ่งการแก้ปัญหาจึงต้องมีระบบการเงิน การบริหารและการควบคุมดูแลที่เข้มแข็ง แต่การทุจริตทำลายระบบและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ การช่วยเหลือคนจนจำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณไปให้แผนงานโครงการที่มีผลต่อการเจริญเติบโต เช่น การศึกษาขั้นพื้นฐาน การสาธารณสุขมูลฐาน แต่การรับสินบนขนาดใหญ่ เช่น การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์และโครงการก่อสร้างใหญ่ๆ ทำให้โครงการที่ควรจะได้รับประโยชน์ถูกจัดลำดับความสำคัญอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นการทุจริตคอร์รัปชันจึงเป็นรูปแบบที่เลวร้ายอย่างหนึ่งของการเลือกปฏิบัติ เพราะจุดมุ่งหมายของการให้สินบน คือ การได้รับอภิสิทธิ์หรือการปฏิบัติที่เอื้ออำนวยจากนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐ หากมีการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันคงจะไม่มีการให้สินบนหรือทุจริตเพื่อให้ได้รับการบริการที่ดีกว่าหรือเร็วกว่าผู้รับบริการทั่วไปปัญหาคอร์รัปชันฝังรากมานานตั้งแต่หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 มีการให้สิทธินักการเมืองเข้าไปรับสัมปทานกิจการต่างๆ และสืบทอดไปจนถึงรุ่นลูกหลาน ทำให้ความยากจนฝังรากอยู่ในประเทศไทยมายาวนาน คนระดับล่างที่ควรจะได้รับความช่วยเหลือจึงลดลง คนที่ได้รับผลประโยชน์ก็เป็นคนกลุ่มเดียวกัน มีส่วนได้ส่วนเสีย กลายเป็นที่มาของ กับดักทางเศรษฐกิจ แต่ถ้าไม่เข้าร่วมกลุ่มก็จะไม่มีโอกาสได้รับงาน อย่างไรก็ตามเรายังพอเห็นภาพการทุจริตในโครงการขนาดใหญ่ แต่การทุจริตประจำหน่วยงานต่าง ๆ เป็น เห็บเหา ที่เกาะกินจนถึงรากลึก ปัจจุบันหน่วยงานที่มีอำนาจในมือค่อนข้างเด็ดขาดได้เข้าไปจัดสรรโครงการใหญ่ ๆ เช่น สร้างถนน เตาเผาศพ เตาเผาขยะ แม้ผู้บริหารระดับสูงจะหลุดพ้นจากตำแหน่งไปแล้วก็ยังมีพวกพ้องบริหารงานอยู่ ทำให้เป็นช่องโหว่ของการเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ศ.(พิเศษ) วิชา ระบุว่า คนที่มีส่วนได้ส่วนเสียในผลประโยชน์ร่วมกันมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เกิดเป็นเงาแห่งการทุจริตทาบทับหน่วยงานต่าง ๆ คนเหล่านี้มักไม่คำนึงถึงประโยชน์สุขของมหาชน มีจิตสำนึกสาธารณะ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม เราจึงต้องช่วยกันสังคายนาปัญหาทุจริตคอร์รัปชันโดยเฉพาะด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบมหาศาล เพื่อให้สังคมดีขึ้น เช่น การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายเพื่อต่อต้านการทุจริต การให้สิทธิแก่ประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของรัฐ ซึ่งควรระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ แม้จะมี พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ศ. 2540 แต่ก็ยังไม่เพียงพอเพราะประชาชนยังเข้าไม่ถึงข้อมูลในการบริหารราชการแผ่นดินอย่างแท้จริง โดยเฉพาะนโยบายแห่งรัฐ และนโยบายสาธารณะที่ใช้งบประมาณแผ่นดิน | 5 ก.พ.2559 รายงานข่าวจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) แจ้งว่าศ.(พิเศษ) วิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวระหว่างการประชุมโครงการ | การเมือง | การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร,ความยากจน,คอร์รัปชัน,ป.ป.ช.,วิชา มหาคุณ | https://prachatai.com/journal/2016/02/63902 |
ชีวิตดีมีความสุข ฝนตกปลาแม่น้ำโขงเพียบ ชาวประมงจับขาย รายได้งาม | เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่จังหวัดบึงกาฬ ได้เพิ่มสูงขึ้นหลังจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยระดับน้ำที่จุดวัดน้ำบ้านแสนเจริญ หมู่ที่ 10 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ วัดได้ที่ 5.70 เมตร ส่งผลให้บรรยากาศในแม่น้ำโขงเช้านี้ ท้องฟ้าเปิด อากาศแจ่มใส มองเห็นเทือกเขาภูเขาควาย ของ สปป.ลาว อย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อชาวประมงในหมู่บ้านลุ่มแม่น้ำโขง เช่น บ้านท่าไคร้ บ้านท่าโพธิ์ บ้านพันลำ และหมู่บ้านอื่นๆ ตลอดแนวแม่น้ำโขงจังหวัดบึงกาฬกว่า 120 กิโลเมตร ที่ต่างพากันออกเรือหาปลากันอย่างคึกคัก ปลาที่จับได้ก็จะนำไปประกอบอาหารในครัวเรือน เป็นการลดค่าใช้จ่าย ส่วนที่เหลือก็จะนำไปขายตามตลาดชุมชนหรือตลาดนัดต่างๆ,อย่างไรก็ดี นอกจากชาวประมงในฝั่งไทยแล้ว ยังมีชาวประมงฝั่ง สปป.ลาว พากันออกมาจับปลาในน้ำโขง ขึ้นมาจำหน่ายให้แก่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดเช่นกัน ทำให้ตลาดปลาแม่น้ำโขงคึกคักมากในช่วงนี้ มีทั้งปลาตัวเล็กและตัวใหญ่ ราคาไม่แพง เช่น จำพวกปลาเกล็ดขายในราคากิโลกรัมละ 130-150 บาท แต่ถ้าเป็นปลาจำพวกหนัง ปลาเนื้ออ่อน เช่น ปลาแค้ ปลาคัง ปลาโจก กิโลกรัมละ 250 – 350 บาท ซึ่งชาวประมงที่อาศัยจับปลาในแม่น้ำโขงขายจะมีรายได้เฉลี่ยคนละ 1,000-2,000 บาทต่อวัน. | ฝนกระหน่ำต่อเนื่องเพิ่มปริมาณน้ำโขงที่จังหวัดบึงกาฬ เอื้อชาวประมงจับปลาส่งตลาดคึกคัก สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว ขณะที่บรรยากาศเช้านี้ ท้องฟ้าเปิด อากาศแจ่มใส มองเห็นภูเขาควาย ของ สปป.ลาว | ข่าว,ทั่วไทย | แม่น้ำโขง,จับปลา,ชาวประมง,สถานการณ์น้ำ,บึงกาฬ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1300559 |
เตือนระวังป่วยไข้หวัดใหญ่ แนะยึดหลัก ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด | เมื่อวานนี้ (11 ก.พ.2563) นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากรายงานของกรมอุตุวิทยาพบว่าในช่วงนี้สภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยจะมีอากาศเย็นอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้ประชาชนเจ็บป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ได้ จึงขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพและป้องกันตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กในโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่ที่คนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อจากการไอ จามรดกัน หรือจากการสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อโรค เช่น แก้วน้ำ ลูกบิดประตู เป็นต้นคล้าย ไข้หวัด หายเอง 5-7 วันสำหรับอาการของโรคจะคล้ายไข้หวัด แต่จะมีอาการปวดกล้ามเนื้อและปวดศีรษะ อ่อนเพลีย แต่สามารถหายเองได้ใน 5-7 วัน ดังนั้น หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมงหรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรรีบพบแพทย์ทันที อย่างไรก็ตามในประเทศไทยมีรายงานพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี โรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นตามฤดูกาลไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ แต่จะพบมากในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 3 ก.พ.2563 พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ จำนวน 36976 คน เสียชีวิต 1 คน พบมากสุดในกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียนอายุ 0-4 ปี รองลงมาอายุ 10-14 ปี และอายุ 7-9 ปี ส่วนจังหวัดที่อัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือเชียงใหม่ พะเยา หนองคาย กรุงเทพมหานครและเชียงราย ตามลำดับแนะเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนแออัดนพ.อัษฎางค์ กล่าวต่อไปว่า ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพและป้องกันตนเองจากโรคไข้หวัดใหญ่ ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ ซึ่งมีผู้คนแออัด ควรมีการเฝ้าระวังการป่วย และคัดแยกผู้ป่วยออกจากคนที่ปกติ เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการรับเชื้อได้ง่าย ทั้งนี้ ประเทศไทยได้มีการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง และมีระบบการรักษาที่ได้มาตรฐานเพื่อป้องกันโรคและภัยสุขภาพแก่ประชาชน4 วิธีป้องกันไข้หวัดทุกสายพันธุ์สำหรับวิธีการป้องกัน ขอให้ประชาชนยึดหลัก ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์ ได้แก่ ปิด คือปิดปากและปิดจมูก เมื่อไอ จาม ต้องใช้หน้ากากอนามัย ผ้า หรือกระดาษทิชชูปิดปากและจมูกทุกครั้ง ล้าง คือ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันไดเลี่ยง คือหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หยุด คือ เมื่อป่วย ควรหยุดเรียน หยุดงาน แม้จะมีอาการไม่มาก ก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากมีอาการข้างต้นให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่สถานพยาบาล สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422 | กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนระวังป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงควรดูแลเป็นพิเศษ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการป่วยและเสียชีวิตได้ พร้อมแนะให้ยึดหลัก ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์ | สังคม | ไข้หวัดใหญ่,ไข้หวัด,ป่วย,กรมควบคุมโรค | https://news.thaipbs.or.th/content/288865 |
ตร.กระบี่ ปิดจ๊อบรวบ 2 มือปืนยิงโหดหนุ่มห้วยน้ำขาวดับข้างมัสยิด | ตำรวจกระบี่ ตามรวบได้อีก 1 มือฆ่าโหดหนุ่มห้วยน้ำขาว โดน 2 มือปืนใช้ลูกซองยิงถล่มดับข้างมัสยิด หลังจับได้ผู้ต้องหาได้เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา แล้วให้การซัดทอดมือยิง โดยระหว่างจับกุมผู้ต้องหาพยายามต่อสู้ แต่ปืนเกิดลั่นใส่มือตัวเอง ตร.จึงเข้าจับกุมได้คารีสอร์ทจากคดีมือปืนสุดโหด โทรศัพท์ลวงนายวรวิทย์ หรือตอยิบ ละเอียด อายุ 23 ปี ออกมาจากบ้านพักในพื้นที่ หมู่ 5 ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ออกมาพบที่หน้ามัสยิดห้วยน้ำขาวตก หมู่ 10 ต.ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ก่อนจะใช้ปืนลูกซองไล่ประกบยิงจนเสียชีวิตสุดโหดข้างถนนสายห้วยน้ำขาว-น้ำพุร้อนเค็ม ห่างจากมัสยิดเพียง 50 เมตร เมื่อช่วง ตี 2 วันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจตามแกะรอยจนทราบว่าปมสังหารอาจจะมาจากปัญหาขัดแย้งเรื่องยาเสพติดล่าสุดเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 เม.ย.63 พ.ต.อ.สมชาย ซื่อต่อตระกูล รอง ผบก.ภ.จ.กระบี่ พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม ผกก.สส.ภ.จ.กระบี่ พ.ต.ท.นพดล กล่อมพงศ์ สว.สส.ภ.จ.กระบี่ พร้อมชุดสืบสวน ภ.จ.กระบี่ คุมตัวนาย นายอัษฎาวุธ ตี้ฮ้อ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/1 หมู่ 5 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.กระบี่ ที่ 162/2563 ลง วันที่ 4 เม.ย.63 ความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ มาสอบสวนที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ภ.จ.กระบี่พ.ต.อ.สมชาย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวน สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้ได้ก่อนนี้ 1 คน คือ นายกิตติพงศ์ หรือแอน เสนแก้ว อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 173 หมู่ 10 ต.ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม ซึ่งถูกออกหมายจับจากศาล จ.กระบี่ ที่ 164/2563 ลงวันที่ 4 เม.ย.63 ในคดีความผิดเดียวกัน โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนนำตัวมาสอบสวน จนผู้ต้องหายอมรับสารภาพ และให้การซัดทอดไปถึงตัวนายอัษฎาวุธ ว่าเป็นผู้ลงมือยิง ตำรวจจึงขออนุมัติศาลออกหมายจับ และเข้าจับกุมตัวได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ที่ห้องพักในรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง พร้อมยึดอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ไว้ 1 กระบอก แต่ผู้ต้องหารายที่ 2 คือนายอัษฎาวุธ ยังให้การปฏิเสธ ส่วนปมเหตุการสังหาร เนื่องจากมีปัญหาขัดแย้งกันเรื่องเงินค่ายาเสพติดทั้งนี้ การจับกุมนายอัษฎาวุธ เกิดขึ้นเมื่อ เวลา 16.00 น. วันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวน พร้อมด้วย นปพ.กระบี่ นำกำลังเข้าปิดล้อมที่ห้องพักภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน ต.กะลาเส อ.สิเกา ผู้ต้องหาทราบว่ามีตำรวจปิดล้อมอยู่ พยายามใช้ปืนพกจะยิงต่อสู้ แต่ระหว่างสับนกขึ้นลำกล้อง ปืนเกิดลั่นใส่มือตัวเอง เลือดสาดเต็มบนที่นอนภายในห้องพัก ตำรวจจึงเข้าจับกุมตัวไว้ได้ในที่สุด พร้อมอาวุธปืนพกสั้น ปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. และหัวกระสุน 1 หัว โดยเบื้องต้นคาดว่านายกิตติพงศ์ น่าจะเป็นคนทำหน้าที่โทรศัพท์ไปหาผู้ตาย นัดให้ออกมาพบกันบริเวณจุดเกิดเหตุ จากนั้นนายอัษฎาวุธ ซึ่งดักซุ่มรออยู่ ออกมาทำหน้าที่ยิงผู้ตาย ส่วนจะมีผู้ต้องหาร่วมทีมอีกหรือไม่ ตำรวจกำลังสอบสวนขยายผล. | ตำรวจกระบี่ ตามรวบได้อีก 1 มือฆ่าโหดหนุ่มห้วยน้ำขาว โดน 2 มือปืนใช้ลูกซองยิงถล่มดับข้างมัสยิด หลังจับได้ผู้ต้องหาได้เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมาแล้วให้การซัดทอดมือยิง โดยระหว่างจับกุมผู้ต้อง | ข่าว,อาชญากรรม | จับ2มือปืน,ตำรวจกระบี่,ยิงหนุ่มห้วยน้ำขาว,ยิงข้างมัสยิด,กระบี่,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1813986 |
นปช.จ่อเปิดศูนย์จับโกงประชามติ 5 มิ.ย.นี้ | เมื่อวันที่ 19 พ.ค.59 ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวถึงการเข้าร่วมประชุมชี้แจงเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญและกระบวนการประชามติว่า กลุ่ม นปช.จะเปิดศูนย์จับโกงประชามติ ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ซึ่งเราได้แจ้งประชาชนทั่วประเทศร่วมกันจับโกงหรือการกระทำที่ผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ไม่ว่าจะเป็นคลิปวิดีโอ เอกสาร การบันทึกเสียง จะมีทนายความทุกจังหวัดและส่วนกลางทำหน้าที่ร่วมมือกับทุกฝ่ายในการจับทุจริต อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าห่วงใยคือปกติเขตที่มีการแข่งขันสูงประชาชนก็จะไปใช้สิทธิมาก แต่กรณีนี้เป็นการแข่งขันฝ่ายเดียว อีกทั้งน่าห่วงว่าคนจะไปใช้สิทธิ์น้อย พวกตนจึงเชิญชวนไปใช้สิทธิ์ ,ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า เวทีนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ เป็นสัญญาณที่ดีในการเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายแสดงความคิดเห็น ด้วยเสรีภาพ ตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรับหรือไม่รับ แต่หากรัฐบาลต้องการจะใช้เวทีนี้อธิบายกับสังคมไทยและต่างประเทศว่าการเปิดกว้างในการทำประชามติแล้วตนคิดว่ายังไม่ใช่ ทุกคนที่มาไม่มีใครได้พูดอะไร ฝ่ายที่พูดมากสุดคือรัฐบาล ตนเห็นว่าความหมายการทำประชามติคือการฟังความเห็นของประชาชน ดังนั้นพื้นที่เวทีต่างๆ นอกสโมสรกองทัพบก จำเป็นต้องเปิดให้ประชาชนและฝ่ายการเมืองแสดงความคิดเห็นด้วย และจะเป็นอย่างนั้นได้ก็ต่อเมื่อมีการทบทวนปรับแก้เนื้อหาสาระ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฯ ไม่ให้ปิดปากผู้ที่เห็นต่างกับร่างรัฐธรรมนูญ ตนเชื่อว่ารัฐบาลทำได้ถ้าตั้งใจ และตนไม่เห็นด้วยกับอำนาจมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 แต่หากจำเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งการได้เลย เพื่อให้สนามประชามติเป็นสนามที่กว้างมีขอบข่ายทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่ในรั้วสโมสรทหารบกเท่านั้น,มาวันนี้ผมยังไม่รู้สึกถึงเสรีภาพ เพราะผมยังมีความรู้สึกว่า เสรีภาพของผมยังอยู่ในพื้นที่แคบๆ แต่เมื่อใดที่ให้ผมหรือคนที่รับและไม่รับได้พูดนอกรั้วนี้ ด้วยอิสระและเหตุผลตรงไปตรงมา นี่คือบทพิสูจน์ความจริงใจของรัฐบาล และเป็นข้อเสนอข้อหนึ่งในที่ประชุม นายณัฐวุฒิ กล่าว | นปช.เตรียมเปิดศูนย์จับโกงประชามติ 5 มิ.ย. ซัดเวทีแสดงความเห็นไม่เปิดกว้าง ชงแก้ พ.ร.บ.ประชามติให้เปิดเวทีอภิปรายที่อื่น | null | ร่างรัฐธรรมนูญ,ชี้แจงประชามติพรรคการเมือง,จตุพร พรหมพันธุ์,นปช.,เสื้อแดง,ประชามติ,ปิดกั้นแสดงความเห็น,ก.ม.ประชามติ,เปิดกว้างแสดงความเห็น,จับโกงประชามติ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/622897 |
ถ้วยนี้ขอ ไวจ์นัลดุม ลั่นหงส์เอาจริงซิวแชมป์สโมสรโลก | จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม กองกลางของลิเวอร์พูล ยืนยันหงส์แดงใส่เกินร้อยแน่ เพื่อจะให้ทีมบรรลุเป้าหมายในการคว้าแชมป์ศึกลูกหนังสโมสรโลก 2019 ช่วงเดือนหน้า ,สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 19 พ.ย. ว่า จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม กองกลางชาวฮอลแลนด์เชื้อสายซูรินามของสโมสร ลิเวอร์พูล ออกมาเผยว่ากำลังตั้งตารอที่จะลงเตะในถ้วยนี้ และหวังจะเอาแชมป์มาครองให้จงได้ เพื่อจะได้มีสัญลักษณ์ติดเสื้อเพิ่มความโก้ ,ผมกำลังรอคอยที่จะได้ไปเล่นในรายการ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ แล้วจะยิ่งยอดเยี่ยมเข้าไปอีก เมื่อเราคว้าแชมป์มาได้ก็จะทำให้มีสัญลักษณ์เพิ่มมาติดที่เสื้อของเรา แน่นอนว่าตำแหน่งแชมป์เป็นสิ่งที่เราปรารถนา เพราะจะช่วยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น ดังนั้นการคว้าชัยชนะคือเรื่องที่สำคัญที่สุด ไวจ์นัลดุม กล่าว,สำหรับศึกฟุตบอลรายการ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2019 ที่เริ่มเตะกันครั้งแรกเมื่อปี 2000 โดยสโมสรเรอัล มาดริด ถือเป็นทีมที่คว้าแชมป์มากสุดของรายการนี้ที่ 4 ครั้ง ซึ่งทีมที่จะมาร่วมแข่งขันในรายการนี้ได้ต้องเป็นทีมชนะเลิศของแต่ละสมาพันธ์ลูกหนังทั้ง 6 ทวีป บวกประเทศเจ้าภาพอีก 1 ทีม ยกตัวอย่าง ยูฟ่า แชมปเปียนส์ลีก (ยูฟ่า-ยุโรป) เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก (เอเอฟซี-เอเชีย) โกปาลีเบร์ตาโดเรส (คอนเมบอล-อเมริกาใต้) ซึ่งการแข่งขันจะเริ่มเปิดฉากหวดแข้งกันในวันที่ 11 ธ.ค. 62,อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูลยังไม่เคยเป็นแชมป์รายการนี้ เพราะไปพลาดท่าพ่าย เซา เปาโล 0-1 ในปี 2005 ซึ่งทีมหงส์แดงจะเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศแบบอัตโนมัติในวันที่ 18 ธ.ค. โดยรอพบทีมที่ชนะของรอบสอง ซึ่งมีทีมไปยืนรอแล้วหนึ่งทีมคือ มอนเตอเรย์ (คอนคาเคฟ แชมเปี้ยนส์ ลีก) ส่วนอีกสองทีมคือ เอียงแกน สปอร์ (โอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก) และ อัล ซาดด์ (เจ้าภาพ) ที่ต้องห้ำหั่นกันก่อนในรอบแรก ทีมไหนชนะจะเข้าพบกับมอนเตอเรย์ และไปเจอลิเวอร์พูล ต่อไป. | จอร์จินิโอ ไวนัลดุม กองกลางของลิเวอร์พูล ยืนยันหงส์แดงใส่เกินร้อยแน่ เพื่อจะให้ทีมบรรลุเป้าหมายในการคว้าแชมป์ศึกลูกหนังสโมสรโลก 2019 ช่วงเดือนหน้า | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | ข่าวบอล,ข่าวฟุตบอล,จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม,ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ,ลิเวอร์พูล,หงส์แดง | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1707556 |
จิ้งจอกสยาม สุดคึกบุกรังทอฟฟี่ ผีแดง ส่งอิบราลงซัดแมวดำ | โดยนัดนี้โจเซ มูรินโญ กุนซือปิศาจแดง อาจจะได้ปอล ป็อกบา กองกลางค่าตัวแพงที่สุดในโลก กลับมาเป็นตัวจริง ปั้นเกมรุกร่วมกับเฮนริก มคิตาร์ยาน คอยสนับสนุนหน้าเป้า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ซัลโวประตู ขณะที่เจ้าถิ่นซันเดอร์แลนด์ จะฝากความหวังในการทำประตูไว้กับเจอร์เมน เดโฟ ดาวยิงตัวเก๋า เริ่มเตะ 19.30 น. ถ่ายทอดสดทางทรูบีอิน สปอร์ต 1 ทางด้าน จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง คว้าชัยชนะในลีกมา 5 เกมรวด จะยกทัพบุกเยือน ทอฟฟี่ เอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสัน พาร์ก เกมนี้เลสเตอร์จะส่งเจมี วาร์ดี ลงล่าตาข่าย เริ่มแข่ง 4 ทุ่มตรง ยิงสดทางทรูบีอิน สปอร์ต 1,ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2016-17 โปรแกรมซุปเปอร์ซันเดย์ คืนนี้ (อาทิตย์ 9 เม.ย.) มีเตะเพียง 2 คู่ โดยคู่แรกนั้น ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 6 จะยกพลบุกไปเยือน แมวดำ ซันเดอร์แลนด์ ทีมบ๊วย ที่สนามสเตเดียม ออฟ ไลท์ เริ่มแข่งเวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดให้ชมทางทรูบีอิน สปอร์ต 1,ผีแดง แมนฯยู เพิ่งพลาดท่าเสมอในบ้านเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน หลังเปิดรังโอลด์แทรฟเฟิร์ดทำได้แค่ไล่เจ๊า ทอฟฟี่ เอฟเวอร์ตัน หืดจับ 1-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก นัดมิดวีก เมื่อวันอังคารที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ทีมปิศาจแดงเสมอเป็นนัดที่ 12 ในการทำศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ พร้อมกับโดน ปืนใหญ่ อาร์เซนอล เบียดตกจากอันดับ 5 ลงมา อยู่อันดับ 6 เหมือนเดิมอีกครั้ง,สำหรับเกมนี้ คาดว่าโจเซ มูรินโญ กุนซือแมนฯยู อาจจะได้ปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส เจ้าของสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลก กลับมาลงสนามเป็นตัวจริง หลังจากได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมเจ๊ากับเอฟเวอร์ตัน 1-1 โดยป็อกบาจะได้ลงทำเกมแดนกลางร่วมกับอันเดร เอร์เรรา, มารูยาน เฟลไลนี และเฮนริก มคิตาร์ยาน คอยปั้นเกม โดยมี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นกองหน้าตัวเป้า คอยล่าตาข่าย,ขณะที่ แมวดำ ซันเดอร์แลนด์ ทีมอันดับบ๊วยของตาราง ภายใต้การคุมทัพของกุนซือเดวิด มอยส์ ต้องการทุกคะแนนเพื่อรอดพ้นการตกชั้นให้ได้ แต่ดูแววแล้วโอกาสรอดเหลือน้อยเต็มที โดยเกมนี้ คาดว่ากุนซือเดวิด มอยส์ จะส่งผู้เล่นชุดดีที่สุดลงสนาม มีเซบาสเตียน ลาร์สสัน ทำเกมแดนกลาง พร้อมทั้งมีเจอร์เมน เดโฟ กองหน้าตัวเก๋า เป็นตัวความหวังในการทำประตู แต่นัดนี้ซันเดอร์แลนด์ จะไม่มีอัดนัน ยานาไซ ปีกตัวเก่งที่ยืมตัวมาจากแมนฯยู เนื่องจากไม่สามารถลงเล่นกับสโมสรต้น สังกัดที่แท้จริงได้ตามกฎพรีเมียร์ลีก,สำหรับคู่ที่ 2 นั้น ทอฟฟี่ เอฟเวอร์ตัน จะเปิดรังกูดิสัน พาร์ก รับการมาเยือนของแชมป์เก่า จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ เริ่มแข่งเวลา 22.00 น. ถ่ายทอดสดทางทรูบีอิน สปอร์ต 1 เกมนี้ จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ กำลังอยู่ในฟอร์มร้อนแรง คว้าชัยชนะในลีกมา 5 เกมรวด นับตั้งแต่ได้เคร็ก เชคสเปียร์ มาคุมทีมแทนเคลาดิโอ รานิเอรี กุนซือผู้พาทีมสร้างเทพนิยายคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งโดนปลดออกไป โดยนัดนี้เลสเตอร์จะส่งเจมี วาร์ดี, ริยาด มาห์เรซ และชินจิ โอกาซากิ เป็นสามประสานแดนหน้า ส่วนเจ้าบ้านเอฟเวอร์ตัน ของโรนัลด์ คูมัน จะส่งอิดริสซา กวยเย กับรอสส์ บาร์คลีย์ ทำเกมแดนกลาง คอยสนับสนุนโรเมลู ลูกากู หัวหอกทีมชาติเบลเยียม ล่าตาข่าย | ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เสมอในบ้านมา 2 เกมติดต่อกัน หวังจะเรียกฟอร์มเก่งกลับคืน ในการบุกไปเยือน แมวดำ ซันเดอร์แลนด์ ทีมบ๊วย ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โปรแกรมซุปเปอร์ซันเดย์ คืนนี้ (อาทิตย์ 9 เม.ย.) | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ซันเดอร์แลนด์,เลสเตอร์ ซิตี้,เอฟเวอร์ตัน,พรีเมียร์ลีก | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/909002 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.