title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
ลือทหารไฟเขียวปรองดองให้ พท.ตั้งรัฐบาล แต่อย่าเอาผิดคนฆ่า 91 ศพ
ขอประยุทธ์อยู่ต่ออีก 3 ปี 30 มิ.ย. 54 - ไทยอีนิวส์นำเสนอรายงาน \ปูดข้อตกลงลับ 3 ฝ่าย พลังพิเศษยอมเพื่อไทยตั้งรัฐบาล แลกนิรโทษกรรมมาร์ค+ฆาตกร 91 ศพ-หยุดหมิ่น\ อ้างอิงบทความจากเว็บไซต์ Asiatimes มีเนื้อหาระบุว่าเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน อ้างแหล่งข่าวว่ามีการเปิดเจรจากันระหว่างนายวัฒนา เมืองสุขคนของทักษิณ กับท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีกลาโหมที่บรูไนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และได้หารือกันอีกหลายครั้ง รวมทั้งที่นครดูไบ ซึ่งทักษิณลี้ภัยอยู่ โดยกองทัพตกลงที่จะเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้ง แลกกับคำมั่นสัญญาของทักษิณที่จะไม่แก้แค้นทางการเมือง หรือ ดำเนินคดีกับบรรดาผู้นำทหารที่อยู่เบื้องหลังการยึดอำนาจเมื่อปี 2549 และเหตุการณ์ปราบปรามผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปีที่แล้ว และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการของกองทัพ เช่น การแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปอีก 3 ปี รวมทั้งฝ่ายทักษิณจะต้องห้ามปรามพวกที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์ด้วย โดยเฉพาะบรรดาคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวอยู่นอกประเทศไทย นอกจากนี้ทั้ง 3 ฝ่ายได้หารือกันถึงเรื่องการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระชุดใหม่ ซึ่งจะให้ข้อเสนอแนะในเรื่องการปรองดอง รวมถึงการนิรโทษกรรมแก่ทักษิณ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในช่วงเหตุการณ์ปราบปรามผู้ชุมนุมเมื่อปีที่แล้ว และกองทัพ โดยข้อเสนอแนะดังกล่าวจะถูกเสนอให้มีการลงประชามติ ทั้งนี้ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลทักษิณ ได้ตอบรับที่จะเป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้แล้ว วัฒนา ยันไม่เคยพบ ประวิตร ที่บรูไน ด้านสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นรายงานว่านายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยเดินทางไปประเทศบรูไน และไม่เคยพบกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตามที่ข่าวปรากฏว่ามีการพบกัน เพื่อทำปฏิญญาบรูไน หรือ ทำข้อตกลงอะไรทั้งสิ้น ส่วนประเทศดูไบนั้น ยอมรับว่า เคยเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จริง ซึ่งก็ไปพบในฐานะที่เป็นผู้มีบุญคุณกับตนและเคยร่วมทำงานกันมา นอกจากนี้ นายวัฒนา ยังกล่าวถึง กรณีที่มีข่าวว่าตนเดินสายเจราจาพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อประสานในการหาพรรคร่วมมาจัดตั้งรัฐบาล โดยยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวก็ไม่เป็นความจริงอีกเช่นกัน โดยนายวัฒนา ยืนยันว่า ตนไม่มีชื่อชั้นเพียงพอที่จะก้าวขึ้นไปพูดคุยเจรจาต่อรองเรื่องแบบนี้ได้ และมั่นใจว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเจรจาใดๆ เกิดขึ้น ไม่ว่ากับพรรคไหนๆ ก็ตาม เนื่องจากโดยธรรมเนียมแล้ว ผลการเลือกตั้ง มีส่วนอย่างมากในการกำหนดทิศทางการเจรจา ดังนั้น หากยังไม่มีผลการเลือกตั้งออกมา มั่นใจว่า จะไม่มีการเจราจาใดๆ เกิดขึ้นแน่นอน ขณะที่มีผู้ประเมินว่า หากพรรคเพื่อไทย ได้เป็นรัฐบาล จะมีการปฏิวัติกลับมาอีกครั้งนั้น มองว่า เป็นเรื่องที่สร้างขึ้นจากคู่แข่งทางการเมืองมากกว่า เนื่องจากหากพรรคได้รับเลือก ก็เป็นเพราะประชาชน แล้วพรรคที่มาจากประชาชน จะมีทหารมาปฏิวัติได้อย่างไร ขณะที่การประเมินเก้าอี้ ส.ส. ที่พรรคเพื่อไทย อาจได้นั้น นายวัฒนา เชื่อว่า น่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 250 หรือ อาจจะถึง 300 คน ซึ่งแม้ได้ 300 คน จริง พรรคร่วมก็ยังมีความสำคัญ เพราะแจกันคงมีแต่ดอกไม้ไม่ได้ ต้องมีใบเฟิร์นประกอบด้วยแน่นอน \สุรเกียรติ์\ ปฏิเสธข่าวตอบรับนั่งปธ.ปรองดองชุดใหม่ มติชนออนไลน์รายงานว่านายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าขณะนี้อยู่ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นการเดินทางมาตามคำเชิญของผู้ใหญ่ในรัฐบาลจีน ได้ทราบว่ามีการเผยแพร่ข่าวดังกล่าว รู้สึกแปลกใจมาก ขอปฏิเสธว่า ข่าวการตกลงตั้งคณะกรรมการปรองดอง ที่ตนเองตอบรับเป็นประธานแล้วนั้นไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง ตนเองไม่เคยไปพบกับบุคคลใดๆ ตามข่าว ส่วนข่าวการพบปะระหว่างบุคคลต่างๆ เพื่อหารือถึงเรื่องการตั้งรัฐบาลใหม่นั้นทราบว่า นายวัฒนา ได้ปฏิเสธข่าวไปแล้ว อดีตรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้แสดงความเห็นในการเสวนาและในการให้สัมภาษณ์ต่างๆอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลใหม่น่าจะมอบหมายให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ หรือคอป. ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน ได้ทำหน้าที่ต่อไป และได้กล่าวย้ำไว้ด้วยว่า ไม่มีความจำเป็นจะต้องตั้งกรรมการชุดใหม่ให้เสียเวลา และเสียโอกาส เพื่อที่งานปรองดองจะได้ดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ที่มาข่าว: ไทยอีนิวส์
ลือว่อนเน็ต วัฒนา เมืองสุข ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เจรจาลับที่บรูไน ทหารอนุญาตพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลได้ไม่รัฐประหาร แต่ต้องอย่าเอาผิดคนฆ่า 91 ศพ อย่าแก้แค้นที่แล้วมา
การเมือง
การเลือกตั้งทั่วไป 2554,จรุงจิตต์ ทีขะระ,ทักษิณ ชินวัตร,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,พรรคเพื่อไทย,วัฒนา เมืองสุขคน,สุรเกียรติ์ เสถียรไทย
https://prachatai.com/journal/2011/06/35765
ผู้ว่าฯ กกท. เตรียมเดินทางตรวจสอบความพร้อมจัดงาน SAT Sports Expo 2019
วันที่ 9 พ.ค. 62 ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จะเดินทางมาตรวจความพร้อมการจัดงาน SAT Sports Expo 2019 งานกีฬาของคนรักกีฬา ณ ลานด้านหน้า สนามช้าง อารีนา จ.บุรีรัมย์ เพื่อต้อนรับมหกรรมการเเข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 35 บุรีรัมย์เกมส์ 2019 ซึ่งจะเปิดฉากชิงชัยระหว่างวันที่ 10-20 พ.ค.นี้ ที่ จ.บุรีรัมย์,โดยการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 35 บุรีรัมย์เกมส์ ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันขึ้นในระหว่างวันที่ 10-20 พฤษภาคม 2562 โดยจะมีการแข่งขันจำนวน 45 ชนิดกีฬา ประกอบด้วยกรีฑา, กอล์ฟ, กาบัดดี้, กีฬาทางอากาศ, ลีลาศ, คริกเก็ต, คาราเต้โด, จักรยาน, เจ็ตสกี, ชักเย่อ, ซอฟต์เทนนิส, ซอฟท์บอล, ตะกร้อ, เทควันโด, เทนนิส, เทเบิลเทนนิส, เนตบอล, บริดจ์, บาสเกตบอล, แบดมินตัน, ปันจักสีลัต, เปตอง, เพาะกาย, ฟันดาบสากล, ฟิกเกอร์สเก็ตและสปีดสเก็ตติ้ง, ฟุตบอล, มวยไทยสมัครเล่น, มวยปล้ำ, มวยสากลสมัครเล่น, ยกน้ำหนัก, ยิงปืน, ยิมนาสติก, ยูโด, ยูยิตสู, รักบี้ฟุตบอล, เรือพาย, วอลเลย์บอล, ว่ายน้ำ, วูซู, วู้ดบอล, สนุกเกอร์, หมากล้อม, เอ็กซ์ตรีม, ฮอกกี้ และแฮนด์บอล,สำหรับพิธีเปิดการแข่งขัน จะเริ่มขึ้นในวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 เวลา 18.00 น.ที่สนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ (เขากระโดงสเตเดียม) ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งจะมีกิจกรรมการแสดงจำนวน 5 ชุด ประกอบด้วย ชุดแรกบายศรีสู่ขวัญทอฝันเยาวชน, ชุดที่ 2 เกริกเกียรติเปี่ยมล้นการกีฬา, ชุดที่ 3 พนมรุ้งรุ่งฟ้าเรืองนิรันดร์, ชุดที่ 4 อัศจรรย์เปล่งประกายไฟพระฤกษ์ และชุดที่ 5 เบิกสายแสงแห่งเมืองสองปราสาท และปิดท้ายด้วยการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากวง BNK48.
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เตรียมเดินทางมาตรวจสอบความพร้อมการจัดงาน SAT Sports Expo 2019
กีฬา,กีฬาอื่นๆ
ดร.ก้องศักด ยอดมณี,การกีฬาแห่งประเทศไทย,บุรีรัมย์เกมส์,กีฬาเยาวชนแห่งชาติ
https://www.thairath.co.th/sport/others/1564126
โยโควิช ทะลุรอบ 16 คนเทนนิสยูเอสโอเพ่น หลังชนะมือรองบ่อน 3 เซตรวด
การแข่งขันมีขึ้นที่ฟลัชชิ่ง เมโดว์ส ประเทศสหรัฐอเมริกา ชายเดี่ยว รอบสาม โนวัค โยโควิช นักเทนนิสมือสองของโลกจากเซอร์เบีย พบกับ จูเลี่ยน เบนเนตู นักเทนนิสฝรั่งเศส มือวางอันดับ 30 ของรายการ ปรากฎว่า นัดนี้โยโควิชยังเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเอาชนะไปได้ขาดลอย 3-0 เซต 6-36-26-2 โยโควิชผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายไปพบกับสตานิสลาฟ วารินก้า ที่เอาชนะอเล็กซานเดอร์ โดลโกโพลอฟ 6-46-46-2ขณะที่ดาวิด แฟร์แรร์ มือวางอันดับ 4 ของรายการจากสเปนก็ผ่านเข้ารอบได้เช่นกันเมื่อเอาชนะเลย์ตัน เฮวิตต์ 7-6 ไทเบรก 11-94-66-36-0 ส่วนแอนดี้ ร็อดดิก นักเทนนิสเจ้าถิ่นเอาชนะฟาลิโอ ฟอกนินี่ นักเทนนิสอิตาลี 7-57-6 ไทเบรก 7-14-66-4 ร็อดดิกผ่านเข้าไปพบกับศึกหนักมาร์ติน เดล ปอโตร ที่เอาชนะลีโอนาร์โด เมเยอร์ 6-37-57-6 ไทเบรก 11-9
โนวัค โยโควิช ผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายเทนนิสยูเอส โอเพ่น หลังเอาชนะจูเลี่ยน เบนเนตู นักเทนนิสฝรั่งเศส 3 เซตรวด
กีฬา
ยูเอส โอเพ่น,เทนนิส,เบนเนตู,โยโควิช
https://news.thaipbs.or.th/content/108809
พยานคดีหวย 30 ล้านบาทถอนฟ้อง ผบช.ก.-ผบก.ป.
วันนี้ (29 มี.ค.2561) นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ นายแผน พยานของนายปรีชา ใคร่ครวญ ในคดีล็อตเตอรี่ 30 ล้านบาท พร้อมทนายความ เดินทางไปที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อถอนฟ้องกรณียื่นฟ้อง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม ในคดีเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามความผิดมาตรา 157นายฐนุกร อ้างว่า หลังไปรับทราบข้อกล่าวหาและได้รู้ข้อเท็จจริง จึงตัดสินใจถอนฟ้องเพราะข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นไปตามที่สื่อมวลชนนำเสนอ นอกจากนี้ยังอ้างไม่รู้กฎหมายส่วนความคืบหน้าคดีสลากฯ 30 ล้านบาท วันนี้ พนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องประชุมร่วมกันอีกครั้ง ตรวจสอบสำนวนการสอบสวนทั้งหมด แบ่งเป็นคดีที่นายปรีชา ใคร่ครวญ แจ้งความเอาผิด ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ยักยอกทรัพย์ คดีหมวดจรูญแจ้งความครูปรีชา ข้อหาแจ้งความเท็จ และคดีความตามผิดมาตรา 157 ของ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งทั้ง 3 สำนวน ไม่จำเป็นต้องสอบสวนพยานเพิ่มอีกแล้วพนักงานสอบสวนเปิดเผยว่า สำนวนคดีครูปรีชา และหมวดจรูญ คาดว่าจะส่งสำนวนต่อพนักงานอัยการได้ภายในสัปดาห์หน้า ส่วนสำนวนคดีของพลตำรวจตรี สุทธิ ที่อยู่ในการสอบสวนของตำรวจ ปปป.นั้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว และพนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนฟ้องต่อ ป.ป.ช.ได้ในวันพรุ่งนี้ (30 มี.ค.2561) เวลา 09.00 น.
นายแผนพยานฝ่ายครูปรีชา และผู้ต้องหาในคดีหวย 30 ล้านบาท ที่เคยยื่นแจ้งความผู้บังคับการตำรวจกองปราบปรามและผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ขอถอนแจ้งความแล้ว อ้างว่าไม่รู้ข้อกฎหมาย
อาชญากรรม
หวย30ล้าน,ครูปรีชา,หมวดจรูญ,ปปป.กองปราบ,ยักยอกทรัพย์,แผน,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/271322
เหลือเชื่อ หญิงชราน้ำตาจะไหล เจอแหวนเพชรแต่งงาน ทำหาย 13 ปีในหัวแครอต
(ภาพจากยูทูบ : The Last News),หญิงชราแคนาดา เจอแหวนเพชรแต่งงาน ทำหายไปตั้งแต่ 13 ปีก่อน กลางหัวแครอต หลังปิดบังเรื่องทำแหวนเพชรหายเป็นความลับ ไม่ยอมให้สามีรู้ แต่แล้วต้องดีใจสุดๆ เมื่อลูกสะใภ้ไปเก็บแครอต และเจอแหวนวงนี้แบบเหลือเชื่อ,เมื่อ 17 ส.ค. 60 สำนักข่าวบีบีซี รายงาน นางแมรี แกรมส์ หญิงชราชาวแคนาดา วัย 84 ปี ในเมืองอัลเบอร์ตา สุดดีใจ ไม่คาดคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่จะได้เจอแหวนเพชร แต่งงานสุดรัก ที่หญิงชราได้ทำหายระหว่างไปหว่านเมล็ดพันธุ์พืชในไร่ เมื่อ 13 ปีก่อน หรือตั้งแต่ปี 2547 แต่แล้วจู่ๆ ลูกสะใภ้ของหญิงชราได้ไปเจอแหวนเพชรแต่งงานวงนี้อยู่ตรงในหัวแครอต อย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างไปเก็บแครอตในไร่ เมื่อวันจันทร์ที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา,นางแกรมส์ ยังเล่าว่า นางได้ทำแหวนเพชรแต่งงานนี้หายไปตั้งแต่ 13 ปีก่อน โดยไม่ยอมปริปากเล่าเรื่องนี้ให้สามีฟัง ยกเว้นลูกชายของนางเพียงคนเดียว และได้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับมานานกว่าทศวรรษ แต่แล้ว ไม่น่าเชื่อ ที่ปรากฏว่าได้มีแครอตต้นหนึ่งเติบโตขึ้นตรงช่องว่างของแหวนพอดี หลังจากแหวนเพชรได้ถูกดินกลบฝังมานานกว่า 10 ปี อย่างไรก็ดี มีเรื่องน่าเสียดายตรงที่ สามีของนางได้จากโลกนี้ไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว โดยนางแกรมส์บอกว่า นางน่าจะบอกเรื่องนี้ให้สามีได้รู้ เพราะเขาเป็นคนมีอารมณ์ขัน ซึ่งบางทีอาจมองเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องตลกๆ ก็ได้,ทั้งนี้ การพบแหวนเพชรของนางแกรมส์อยู่กลางหัวแครอตอย่างเหลือเชื่อเช่นนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเมื่อปี 2554 เคยมีหญิงชาวสวีเดน พบแหวนแต่งงานที่ทำหายไปตั้งแต่ 16 ปีก่อน ในหัวแครอตเช่นกัน
หญิงชราแคนาดา เจอแหวนเพชรแต่งงาน ทำหายไปตั้งแต่ 13 ปีก่อน ในหัวแครอต หลังปิดบังเรื่องทำแหวนเพชรหายเป็นความลับ ไม่ยอมให้สามีรู้ แต่แล้วต้องดีใจสุดๆ เมื่อลูกสะใภ้ไปเก็บแครอต และเจอแหวนวงนี้แบบเหลือเชื่อ
ข่าว,ต่างประเทศ
หญิงชราเจอแหวนเพชรในแครอต,แหวนเพชรในแครอต,หญิงชราทำแหวนเพชรแต่งงานหาย,แคนาดา,เจอแหวนเพชรในแครอต
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1041335
มะกันส่งบินล่องหน F-35 ไปยูเค หนุนยุโรปต้านการรุกรานจากรัสเซีย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทัพอากาศของสหรัฐอเมริกาส่ง เอฟ-35 เครื่องบินรบระบบสเตลธ์ (ล่องหน) รุ่นใหม่ล่าสุดไปยังสหราชอาณาจักรแล้ว เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่จะเพิ่มความมั่นใจให้แก่ชาติพันธมิตรยุโรป ที่กำลังเผชิญการรุกรานจากรัสเซีย,ข่าวระบุว่า เครื่องบินเอฟ-35 จากฐานทัพอากาศ ฮิล ในรัฐยูทาห์ เดินทางถึงฐานทัพอากาศ ลาเคนฮีธ ในเมืองชื่อเดียวกัน ทางตะวันออกของสหราชอาณาจักรในวันเสาร์ เพื่อร่วมการซ้อมรบกับเครื่องบินรบลำอื่นๆ ของสหรัฐฯ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต,เป็นเรื่องสำคัญที่เราได้ฝีกซ้อมร่วมกันเพื่อผสมผสานกลายเป็นทีมไร้รอยต่อ ที่มีขีดความสามารถในการปกป้องอธิปไตยของชาติพันธมิตรได้ พลเอก ท็อด ดี.วอลเตอร์ส ผู้บัญชาการกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในยุโรป ระบุในแถลงการณ์,ทั้งนี้ กองทัพอากาศสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า การส่งเครื่องบิน เอฟ-35 ไปสหราชอาณาจักรครั้งนี้ เป็นการสนับสนุนมาตรการ เริ่มต้นเสริมความเชื่อมั่นในยุโรป (European Reassurance Initiative) อันเป็นโครงการมูลคาหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เริ่มขึ้นในปี 2014 ช่วงยุคประธานาธิบดีบารัค โอบามา เพื่อแสดงการสนับสนุนต่อชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ หลังรัสเซียควบคุมดินแดนไครเมียจากยูเครนไปเป็นของตัวเอง,นอกจาก เอฟ-35 แล้ว สหรัฐฯ ยังส่งเครื่องบินรบอีกหลายรุ่นไปยังชาติพันธมิตรในยุโรปเพื่อสนับสนุนโครงการนี้ เช่น เอฟ-22, เอฟ-16, เอฟ-15 และ เอ-10
สหรัฐฯ ส่งเครื่องบิน เอฟ-35 ระบบสเตลธ์ไปยังสหราชอาณาจักร เพื่อร่วมซ้อมรบ ตามมาตรการแสดงความสนับสนุนชาติพันธมิตรยุโรป รับมือกับการรุกรานจากรัสเซีย
ข่าว,ต่างประเทศ
เอฟ 35,เครื่องบินรบล่องหน,นาโต,พันธมิตรยุโรป,รัสเซีย
https://www.thairath.co.th/news/foreign/916095
ตร.เตรียมนำผู้ต้องหาชี้จุดฝังศพ ด.ญ.วัย 4 ขวบ จ.เลย
ตำรวจภูธรเมืองเลยเจ้าหน้าที่มูลนิธิ และเจ้าหน้าที่ อปพร.จำนวนกว่า 100 นาย พร้อมสุนัขดมกลิ่น ออกกระจายกำลังค้นหาเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ที่หายตัวไปเมื่อวันที่ 5 ก.พ.56 บริเวณพื้นที่ว่างเปล่า เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ทางเข้าบ้านนาซำ ถนนมะลิวัลย์ ด้านหลังสำนักงานประปาจังหวัดเลย ตามที่นายหนุ่ย หรือ ติ๊งต่าง ผู้ต้องหาฆ่าเด็กหญิงวัย 6 ขวบที่ซอยแบริ่ง รับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือฆ่า โดยพาตัวมาจากงานกาชาดดอกฝ้ายบานมะขามหวานเมืองเลยประจำปี 2556หลังใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาเจอชิ้นส่วนมนุษย์ ที่บริเวณสวนกล้วยในชุมชนบ้านนาเขิน ห่างจากสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค จ.เลย ประมาณ 500 เมตร และห่างจากศาลากลางประมาณ 600 เมตร โดยพบฟันและเศษกระดูก ปะปนอยู่ซากพืชและมูลสัตว์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บชิ้นส่วน ส่งไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอว่า ตรงกับมารดาของเด็กหญิงที่หายไปหรือไม่ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ เตรียมนำตัวนายหนุ่ย มาชี้จุดที่แน่ชัด เพื่อขุดหาศพอีกครั้งเช้าวันนี้ (18 ธ.ค.56) ขณะที่ญาติยังคงพยายามติดตามค้นหาเด็กหญิงวัย 4 ขวบ โดยได้ติดประกาศตามหาตัว ตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ที่พบเห็น แจ้งเบาะแสในการติดตามตัวส่วนที่ การค้นหาศพเด็กชายวัย 7 ขวบ ที่ อ.วังสะพุง ซึ่งนายหนุ่ย สารภาพว่า ได้ฆ่าเมื่อวันที่ 19 ก.พ.56 ในงานบุญกฐินวัดศรีอุดมวงศ์ ต.ศรีสงคราม อ.วังสะพุง ก่อนนำศพไปทิ้งที่สวนยางพาราใกล้วัด เจ้าหน้าที่ยังไม่พบศพหรือหลักฐานใด ๆส่วนกรณี ฆ่าเด็กชาย ที่ จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เตรียมนำตัวนายหนุ่ย ไปชี้จุดทิ้งศพ เนื่องจาก นายหนุ่ย ยืนยันว่า หลังก่อเหตุ เด็กไม่หายใจแล้วขณะที่ ตำรวจเร่งตรวจสอบตารางการแสดง ของวงดนตรีลูกทุ่งชื่อดัง ย้อนหลังไปถึงวันที่ 18 พ.ย. ซึ่งเป็นวันที่นายหนุ่ย เข้ามาทำงานในวงดนตรีนี้เป็นวันแรก เพื่อเทียบกับคดีที่มีการก่อเหตุในลักษณะแบบเดียวกัน ในพื้นที่ที่วงดนตรีวงนี้เดินสายไปแสดงยังจังหวัดต่าง ๆ ว่า มีความเกี่ยวโยงกันหรือไม่ เบื้องต้น พบว่า มีตารางการแสดงประมาณ 28 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคอีสานสำหรับเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ชาวจังหวัดเลย หายตัวไปขณะไปเที่ยวงานประจำปีที่ศาลากลางจังหวัดเลยกับครอบครัว โดยผู้พบเห็นครั้งสุดท้ายระบุว่า พบเห็นชาย 3 คนเดินล้อมเด็กหญิง ทำให้ผู้ที่เห็นคิดว่า เป็นญาติ ซึ่งหลังเกิดเหตุ ญาติได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจ และ มูลนิธิกระจกเงา เพื่อออกตามหา แต่ก็ยังไม่พบตัวขณะที่ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ระบุว่า เด็กวัย 4 ขวบ เป็นอายุเฉลี่ยที่ถูกลักพาตัวมากที่สุด ทั้งเด็กหญิงและเด็กชาย เพราะเป็นวัยที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ ซึ่งคนร้ายจะมาสร้างความคุ้นเคยหลาย ๆ ครั้ง ก่อนจะลงมือ และส่วนใหญ่ เด็กจะถูกลักพาตัวจากบริเวณบ้าน หน้าโรงเรียน ในหมู่บ้าน ห้างสรรพสินค้า และสวนสาธารณะ มากที่สุด
หลังจากตำรวจนำตัวนายหนุ่ย ผู้ต้องหาฆ่าเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ซอยแบริ่งแล้ว เช้าวันนี้ (18 ธ.ค.56) ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุด เพื่อค้นหาศพเด็กหญิงชาวจังหวัดเลย วัย 4 ขวบ ที่ผู้ต้องหารับสารภาพว่า เคยก่อคดีข่มขืนและฆ่าเด็กหญิง ในงานดอกฝ้ายบานเมืองเลย ช่วงต้นปีที่ผ่านมา
อาชญากรรม
มูลนิธิกระจกเงา,หนุ่ย.วังสะพุง,เลย,แบริ่ง
https://news.thaipbs.or.th/content/212330
นทท.หยุดปีใหม่ แห่ทำบุญพระธาตุพนม-เที่ยวหาดแห่น้ำโขง สุดคึกคัก
เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการท่องเที่ยว ที่จ.นครพนม ในช่วงวันหยุดยาวต้อนรับปีใหม่ พบว่าประชาชนและนักท่องเที่ยว ยังคงเดินทางไปท่องเที่ยวทำบุญตามวัดสำคัญ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ที่ตั้งองค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง กลายเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมากราบไหว้องค์พระธาตุพนม เพื่อเป็นสิริมงคล รับปีพุทธศักราชใหม่กันคึกคัก ตั้งแต่ช่วงเช้า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาได้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวนับหมื่นคน นุ่งขาวห่มขาว มาร่วมพิธีสวดมนต์ข้ามปีตลอดทั้งคืน,นอกจากนี้ ในเส้นทางเดียวกันยังพบว่า หาดแห่กลางแม่น้ำโขง พื้นที่บ้านน้ำก่ำ ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ถือเป็นเส้นทางเดียวกัน ห่างจากวัดพระธาตุพนมประมาณ 5 กิโลเมตร กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ที่มีประชาชนนักท่องเที่ยว เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนโต้ลมหนาว รับประทานเมนูปลาน้ำโขง ท่ามกลางธรรมชาติสองฝั่งโขง โดยชาวบ้านได้พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ปรับหาดทรายกลางน้ำโขงแหว่ง ช่วงหน้าแล้ง จัดทำซุ้มอาหาร บริการอาหาร เครื่องดื่ม เมนูปลาน้ำโขงนานาชนิด รวมถึงบริการอุปกรณ์เล่นน้ำ เช่าห่วงยาง บานาน่าโบต เจ็ตสกี ให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำ รับประทานอาหารท่ามกลางธรรมชาติสองฝั่งไทยลาว ไม่แพ้บรรยากาศทะเล จนเป็นที่รู้จักของชาวบ้าน เรียกว่า ทะเลอีสาน ยิ่งในช่วงเทศกาลวันหยุด หรือสงกรานต์ ในแต่ละวันมีประชาชน นักท่องเที่ยว เข้ามาท่องเที่ยววันละหลายหมื่นคน ส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว มีเงินหมุนเวียนสะพัดวันละหลายล้านบาท ส่วนยอดขายแต่ละร้าน มีเงินหมุนเวียนวันละเกือบแสนบาท ในช่วงวันสงกรานต์ยิ่งอากาศร้อนจัดทำให้คึกคักมากกว่าทุกปี.
นทท. ใช้วันหยุดยาวปีใหม่ทำบุญวัดพระธาตุพนม และท่องเที่ยวหาดแห่น้ำโขงห่างจากวัดพระธาตุพนมประมาณ 5 กิโลเมตร สุดคึกคัก เงินหมุนเวียนสะพัดวันละหลายล้านบาท
null
วัดพระธาตุพนม,นครพนม,หาดแห่น้ำโขง,ท่องเที่ยวภาคอีสาน,ปีใหม่ 2560
https://www.thairath.co.th/content/825933
มิลค์ทิ้งสายเดี่ยว เป็นคนข่าวตัวจริง
เป็นดารามาเอาดีทางข่าว ถูกตั้งแง่เยอะมั้ย? ก็มีเยอะ ตอนอ่านข่าวแรกๆเค้าไม่ให้มิลค์อ่านข่าวการเมืองด้วยซ้ำ บอกว่าเราเป็นดารา อ่านยังไงก็เป็นดารา แต่เราอยากอ่านข่าวฮาร์ดนิวส์ อยากทำข่าวการเมือง,เคยท้อจนอยากเลิกมั้ย? ไม่เคยท้อ เมื่อก่อนทำข่าวด้วยอ่านข่าวด้วย เหนื่อยแต่สนุก เคยพูดผิดคนส่งเอสเอ็มเอสมาด่าขึ้นหน้าจอ พอเราพูดผิดคำไหนก็จำจนวันตาย ทุกอย่างเป็นประสบการณ์,งานไหนภูมิใจสุด ท้าทายความสามารถ? ดีใจที่ได้ทำงานในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือเรื่องของชาติบ้านเมือง เช่น การชุมนุมใหญ่, น้ำท่วมใหญ่, การเลือกตั้ง หรือล่าสุดเหตุระเบิดราชประสงค์ เราได้มีโอกาสนำเสนอ มันภูมิใจที่ได้ทำให้คนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ต้องมีสติมาก ไม่ตกใจไปกับเหตุการณ์ ต้องถามแทนคนดู,รายการข่าวแข่งขันสูง กดดันมั้ย? เดี๋ยวนี้เปิดดูข่าวแต่ละช่องเนื้อหาไม่ต่างกันมาก ต่างตรงที่เจาะลึกได้มากขนาดไหน ตัวมิลค์ก็ชัดเจนเคยทั้งเล่าข่าวและอ่านข่าว เวลาเล่าข่าวเข้าใจนะว่าคนชอบให้สนุก ตื่นเต้น แต่มิลค์จะบอกตัวเองเสมอว่า เราจะเล่าแบบ News Point เราไม่ใส่ความคิดเห็นของเราเข้าไปเด็ดขาด,ทุกวันนี้มาถึงจุดที่ฝันรึยัง? มิลค์โอเคมากทุกอย่างเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ได้ทำหลายอย่าง ลงพื้นที่ เขียนข่าว ทำสกู๊ป รายงานสด ทำงานที่ไทยรัฐทีวีได้ประสบการณ์เยอะ ซึ่งหาไม่ได้ที่อื่น ดีใจที่ผู้ใหญ่ไว้ใจ มิลค์ว่างานทำให้ชีวิตมิลค์ดีขึ้น เป็นคนมีสติมากขึ้น ดูแลตัวเอง เพราะงานของเราต้องได้รับความน่าเชื่อถือ ถ้ามัวไปเต้นระบำรำฟ้อนเที่ยวเล่นเกินกว่าเหตุ มันไม่น่าจะดีกับอาชีพ เมื่อก่อนมิลค์อาจใส่เสื้อสายเดี่ยวกระโปรงสั้น ทุกวันนี้โละทิ้งไปเลย เราก็ต้องให้เกียรติคนดู เจอเราข้างนอกก็ไม่อยากให้เค้าผิดหวัง,ความเป็นคนข่าวอยู่ในสายเลือดแล้ว? เราชอบและดีใจมากที่ได้ทำงานนี้,หลายคนยกให้เป็นคนสวยมีสมอง? ไม่ได้คิดแบบนั้น แต่คิดว่าตัวเองมีความตั้งใจเต็มร้อย ไม่มีวันไหนที่เราเก่งที่สุด เพราะข่าวมีอะไรใหม่ๆทุกวัน.
ยอมทิ้งความดังในบทบาทดารา ใช้เวลากว่า 10 ปี ผันตัวมุ่งมั่นในสายคนข่าว ถึงวันนี้ มิลค์ เขมสรณ์ หนูขาว แจ้งเกิดสมใจเป็นผู้ประกาศข่าวสาวแถวหน้าของไทยรัฐทีวี ล่าสุด ยังได้รับรางวัลการันตีคุณภาพด้วย
null
มิลค์ เขมสรณ์,เขมสรณ์ หนูขาว,ผู้ประกาศข่าว,ผู้ประกาศข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐทีวี,ข่าวบันเทิง,บันเทิงไทยรัฐ,ข่าวฉบับพิมพ์,ทีมข่าวบันเทิง,ข่าว
https://www.thairath.co.th/content/534403
เร่ิมแล้ว แข่งหุ่นยนต์รอบชิงแชมป์ภาคกลาง ไปชิงชัยที่ คอสตาริกา
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ส.ค.60 ผศ.เสนาะ กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี เป็นประธานในการเปิดการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ประจำปี 2560 รอบชิงชนะเลิศภูมิภาคกลาง (WRO 2017 : World Robot Olympiad 2017) ระหว่างวันที่ 8-9 ส.ค.60 ณ ห้องประชุมอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพให้กับนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ให้มีความรู้ ความเข้าใจ ในด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ และเพื่อคัดเลือกตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับนานาชาติ ประจำปี 2560 ในวันที่ 10-12 พ.ย.60 ณ ประเทศคอสตาริกา โดยมีหัวข้อคือ Sustainabots: Robot for Sustainability,ทั้งนี้ มีจำนวนผู้เข้าร่วมกว่า 140 ทีม จากทั่วภูมิภาคกลาง โดยแบ่งเป็นการแข่งขันประเภททั่วไป รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี จำนวน 47 ทีม รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี จำนวน 59 ทีม รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี จำนวน 30 ทีม รุ่นมหาวิทยาลัย จำนวน 11 ทีม รวมทั้งสิ้นกว่า 149 ทีม ซึ่งมีจำนวนผู้เข้าแข่งขันเพิ่มขึ้นถึง 30% จากปีที่ผ่านมา โดยผู้ชนะในแต่ละรุ่นจะได้รับรางวัลและสิทธิ์ในการเป็นทีมวาง เพื่อคัดเลือกตัวแทนประเทศอีกครั้งในลำดับต่อไป,สำหรับโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ (WRO 2017: World Robot Olympiad 2017) รอบชิงแชมป์ภูมิภาคกลาง ในครั้งนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างบริษัท แกมมาโก้ (ประเทศไทย) จำกัด และมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ซึ่งโครงการฯดังกล่าวนับว่าเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจ จุดประกายความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยให้ก้าวไกลต่อไปในอนาคตตามนโยบาย ประเทศไทย 4.0 ในการพัฒนาวิทยาการ ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัยพัฒนา
อธิการบดีฯ ม.ราชภัฏเพชรบุรี เป็นประธานเปิดการแข่งขันหุ่นยนต์รอบชิงชนะเลิศภาคกลาง ไปแข่งขันโอลิมปิก หุ่นยนต์ระดับโลก ที่คอสตาริกา วันที่ 10-12 พ.ย.60
ข่าว,ทั่วไทย
แข่งขันหุ่นยนต์,โอลิมปิก,คอสตาริกา,เยาวชน,หุ่นยนต์,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/local/1032652
เพื่อไทย ช็อก ปู เผ่น คดี-จํานําข้าว หมายจับไล่ล่า ลือบินไป ดูไบ
พร้อมริบเงินประกัน 30 ล้าน กองเชียร์แฟนคลับที่มาคอยข้ามวันรอเก้อ ช็อกไม่คาดคิดเจ้าตัวจะไม่มา เช่นเดียวกับแกนนำ พท.ที่ไม่รู้ตัวกันมาก่อน ขัดเคืองใจสู้ไม่สุดซอยให้รู้ดำรู้แดง โบ้ยกุนซือแนะนำไม่เข้าท่า โค้งสุดท้ายชิ่งหนีดื้อๆ บิ๊กตู่ คาดไม่ถึง นึกว่าจะเป็นคนกล้าหาญ บิ๊กป้อม ชี้หนีไป ตปท.ต้องมี จนท.ช่วย สะพัด ยิ่งลักษณ์ ไปสิงคโปร์แล้ว เตรียมไปอยู่กับพี่ชายที่ดูไบ โหร คสช.ชี้เป็นไปตามชะตาจบสิ้นแล้ว ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ปชป.ประเมิน ปู หวั่นติดคุกถ้ามาศาล คสช.ต้องชี้แจงถ้าปล่อยหนีออกนอกประเทศ คดีจีทูจีโดนคุกอ่วมระนาว บุญทรง คุก 42 ปี ภูมิ 36 ปี เสี่ยเปี๋ยง หนักสุด 48 ปี คอตกเข้าเรือนจำ พร้อมสั่งชดใช้เกือบ 1.7 หมื่นล้าน,ในที่สุดก็ถึงวันแห่งการพิพากษาคดีประวัติศาสตร์โครงการจำนำข้าวที่จับตารอคอยกันมาเนิ่นนาน ที่จะส่งผลหลายสิ่งหลายอย่างต่อทิศทางการเมืองไทย ตลอดจนภาคส่วนอื่นๆ นับเนื่องจากนี้ไป ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ตัดสินคดีที่เกี่ยวพันกัน 2 คดี โดยมีนักการเมืองที่ตกเป็นจำเลย คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายก รัฐมนตรี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และมีข้าราชการ ภาคเอกชน อีกจำนวนหนึ่ง,เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ ช่วงเวลา 00.30 น. อาคารเอ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะเดินทางตรวจความเรียบร้อย บริเวณโดยรอบศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 2 ชั่วโมง พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 24 กองร้อย อยู่บริเวณหน้าศาลฏีกาฯ และบริเวณโดยรอบ จะมีมาตรการเข้มข้น 100% เต็มในเวลา 04.00 น. มีการคัดกรองบุคคลและรถยนต์ที่จะเข้าออกภายในอาคาร จะต้องได้รับอนุญาตจากศาลเท่านั้น ห้ามประชาชนเดินทางมาปักหลักบริเวณหน้าศาลฎีกาฯ โดยรอบพื้นที่ควบคุมของศาลและรอยต่อเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจำเป็นจะต้องบังคับใช้กฎหมาย พร้อมกันนี้ได้เตรียมรถควบคุมผู้ต้องหา 20 คัน ติดตั้งกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ 90 ตัว กล้องเคลื่อนที่อยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 120 ตัว ในเวลาประมาณ 09.00 น. จะตัดสัญญาณโทรศัพท์โดยรอบพื้นที่ ขณะเดียวกัน เป็นห่วงเรื่องการจราจร จึงเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเพิ่มขึ้นอีก 80 นาย มีการตั้งจุดคัดกรองตรวจค้นอาวุธ และสิ่งผิดกฎหมายทั่วไป ทั้งนี้ หากการพิจารณาคดีเสร็จสิ้นลง แต่ยังมีการชุมนุมยืดเยื้อและเข้าหลักกฎหมายจะดำเนินการทันที,ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศโดยรอบศาลว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 24 ส.ค. เริ่มมีประชาชนบางส่วนเดินทางมาปักหลักรอให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ให้ไปนั่งรอบริเวณใต้สะพานลอยข้ามแยกศูนย์ราชการฯ บรรยากาศโดยรอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ต่อมาช่วงเช้าเวลา 07.00 น. วันที่ 25 ส.ค. ที่บริเวณหน้าศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ มีมวลชนทยอยเดินทางมาปักหลักรอให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมหลายพันคน ท่ามกลางบรรยากาศครึกครื้น มวลชนต่างมีรอยยิ้ม หอบหิ้วดอกกุหลาบสีแดง รออดีตนายกฯในดวงใจ โดยมีมวลชนจำนวนหนึ่งนำรถยนต์ที่ติด เครื่องเสียงเปิดเพลงดังสนั่นบริเวณใต้สะพานข้ามแยกศูนย์ราชการฯ อาคารเอ พร้อมเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่สั่งให้ปิดเครื่องเสียงเกรงว่ามวลชนจะเกิดความคึกคะนอง โดยใช้เวลาเจรจา 5 นาที ก่อนให้รถดังกล่าวออกนอกพื้นที่ ส่วนอากาศช่วงเช้านี้ค่อนข้างอบอ้าวสลับกับมีฝนโปรยปรายลงมาอยู่เป็นระยะ แต่มวลชนยังคงปักหลักรอเพื่อพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดพิพากษาคดีจำนำข้าวที่สำคัญ 2 คดีด้วยกัน ประกอบด้วย คดีปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นจำเลย และคดีระบายข้าวจีทูจี ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์และพวก 28 คน เป็นจำเลย ในส่วนของแกนนำพรรคเพื่อไทยและอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ต่างเดินทางมารอให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์จำนวนมากเช่นกัน อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายวัฒนา เมืองสุข นายชัยเกษม นิติสิริ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายสามารถ แก้วมีชัย นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวรชัย เหมะ ขณะเดียวกัน นางมณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล พี่สาว รวมทั้งนายพายัพ ชินวัตร พี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็เดินทางมาด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับกองทัพสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศมารอทำข่าวจำนวนมาก ท่ามกลางการตรวจค้นอย่างเข้มงวด,ต่อมาเวลา 08.45 น. ได้มีกลุ่มมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจจำนวนมากเต็มพื้นที่ล้นฟุตปาทลงไปยืนอยู่บนถนน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดการจราจร 1 ช่องทาง ระหว่างนั้นได้มีรถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ ติดฟิล์มทึบ ทะเบียน วจ 1111 กรุงเทพมหานคร ขับมาในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้กลุ่มมวลชนคิดว่าเป็นรถของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี จึงได้พากันไปรุมล้อมตะโกนให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก จนทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ก่อนที่รถดังกล่าวจะเลี้ยวยูเทิร์นออกนอกพื้นที่ไป ทำให้กลุ่มมวลชนรู้สึกผิดหวังไปตามๆกัน แต่ก็ยังคงยืนปักหลักเฝ้ารอให้กำลังใจอย่างเนืองแน่น,ด้านนายบุญทรงให้สัมภาษณ์ว่า ได้ส่งพยานหลักฐานและเตรียมตัวมาอย่างดี ยังไม่ทราบว่าผลการพิพากษาจะเป็นอย่างไร ถ้าตนถูกลงโทษก็จะยื่นประกันตัวและเตรียมตัวยื่นอุทธรณ์ ซึ่งทีมกฎหมายจะรอฟังคำพิพากษาก่อนว่ามีรายละเอียดอย่างไร ย้ำว่าไม่หนักใจ สู้คดีมาอย่างเต็มที่แล้ว,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทั่งเวลา 09.30 น. ปรากฏว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ยังไม่เดินทางมาที่ศาล ทำให้เกิดกระแสข่าวที่สับสน กลุ่มมวลชนต่างจับกลุ่มพูดคุยกันไปต่างๆ นานา ว่าเหตุใด น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงยังไม่เดินทางมาถึง ขณะที่กลุ่ม ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ค่อยๆสลายตัวไปบางส่วน อย่างไรก็ตามมวลชนส่วนใหญ่ยังปักหลักรออยู่,เวลา 09.45 น. นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวนพร้อมองค์คณะรวม 9 คน ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีโครงการรับจำนำข้าว หมายเลขดำที่ อม.22/2558 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท,จากนั้นมีการเรียกทนายมารับฟังรายงานกระบวนพิจารณาว่า คดีนี้ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี อ้างว่าเพิ่งทราบจากจำเลยว่าป่วยด้วยอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน โดยไม่มีใบรับรองแพทย์ ศาลไม่เชื่อว่าป่วยจริง และมีเจตนาหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา จึงให้ออกหมายจับปรับนายประกันเต็มสัญญา 30 ล้านบาท และนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งวันที่ 27 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.,ขณะเดียวกัน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกใบแถลงคำพิพากษา ลงวันที่ 25 ส.ค.2560 ว่า วันนี้เวลา 09.00 น. ศาล ฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม.22/2558 ระหว่างอัยการสูงสุด โจกท์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำเลย เรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ ความผิดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ทนายจำเลยยื่นคำร้องว่าได้รับแจ้งจากจำเลยว่าป่วยด้วยโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน มีอาการวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง ไม่สามารถ เดินทางมาศาลได้ ขอเลื่อนฟังคำพิพากษาในวันนี้ โจกท์แถลงค้านว่า ไม่เชื่อว่าจำเลยป่วยจริงเนื่องจากไม่มีใบ รับรองแพทย์ และอาการป่วยที่อ้างไม่ถึงขนาดที่มาศาลไม่ได้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ไม่เชื่อจำเลย เจ็บป่วยจนขนาดมาศาลไม่ได้ พฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยหลบหนี จึงให้ออกหมายจับจำเลยและปรับนายประกันเต็มสัญญา (30 ล้านบาท) ให้เลื่อนไปฟังคำพิพากษาในวันที่ 27 ก.ย. เวลา 09.00 น.,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการรับจำนำข้าวเป็นนโยบายของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งระหว่างดำเนินโครงการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ทำหนังสือท้วงติงว่า โครงการมีช่องโหว่อาจเกิดการทุจริต รัฐบาลขณะนั้นจึงได้ตั้งคณะทำงานมาตรวจสอบแต่ก็ยังดำเนินโครงการต่อไป จนกระทั่ง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ทำการรัฐประหาร อัยการได้ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้ตกเป็นจำเลยต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้อหาปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริต และปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว และศาลรับฟ้องคดีวันที่ 19 มี.ค.58 โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางมาร่วมการพิจารณาคดีและร่วมสืบพยานด้วยตนเองทุกครั้งรวม 26 นัด กินเวลา 2 ปีกว่า และยืนยันทุกที่ทุกโอกาสว่าจะต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ใช้ทุกช่องทางในการต่อสู้ อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงวันพิพากษา น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับให้ทนายความมายื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณา โดยอ้างเหตุผลป่วยด้วยโรคน้ำในหูไม่เท่ากันดังกล่าว จนศาลออกหมายจับในที่สุด,นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับการติดต่อจากทีมงาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อเวลา 08.00 น. ว่ามีอาการอ่อนเพลีย เป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน วิงเวียนศีรษะ ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ ตนจึงได้แจ้งต่อศาล อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนไม่ได้ติดต่อกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ติดต่อกับเพียงทีมงานเท่านั้น และขณะนี้ไม่ทราบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ที่ใด และไม่ทราบว่าพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลใด ส่วนขั้นตอนการออกหมายจับ รวมถึงแนวทางการปฏิบัติของศาล ทางศาลจะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งไม่มั่นใจว่าหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางมาศาลก่อนวันที่ 27 ก.ย. ศาลจะอนุมัติถอนหมายจับหรือไม่,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 10.00 น. หลังจากศาลออกหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายภูมิธรรม นายชัยเกษม นายชูศักดิ์ พล.ต.ท.วิโรจน์ได้จับกลุ่มพูดคุยเนื่องจากไม่ทราบว่าเป็นการออกหมายจับด้วยเหตุผลใด เพราะยังไม่ทราบรายละเอียด และนายภูมิธรรมกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยืนยันมาตลอดว่าจะเดินทางมาศาลแน่นอน แกนนำและอดีต ส.ส.จึงได้นัดหมายกันเพื่อมาให้กำลังใจตามปกติ แต่ช่วงวันก่อนหน้านี้ไม่ได้พูดคุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอนของการไม่ได้เดินทางมาที่ศาลในวันนี้ และหลังจากนั้นต่างทยอยเดินทางกลับ,เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บ้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถนนนวมินทร์ แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. หลังเป็นที่แน่ชัดว่าไม่เดินทางไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทำใหนักข่าวหลายสำนักทั้งไทยและเทศยกขบวนมารอที่หน้าบ้านเพื่อรายงานความเคลื่อนไหว ขณะที่ผู้สื่อข่าวบางส่วนปักหลักตั้งแต่กลางดึก ก็ไม่พบความเคลื่อนไหว บ้านปิดเงียบ,ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่โรงแรม เอสซี ปาร์ค ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางไปประชุมหารือและรับประทานอาหารเป็นประจำ ก็ไม่พบความเคลื่อนไหวใดๆ แม้กระทั่งมวลชน หรือเครือข่ายคนในพรรคเพื่อไทย ที่ปกติจะแวะเวียนมาอย่างต่อเนื่อง,เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรหมณกุล รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. มีคำสั่งให้ สตม.เสนอขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตามด่าน ตม.ทุกแห่ง หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งของศาล ที่มีคำสั่งศาลฎีกาห้าม น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกนอกประเทศตั้งแต่เดือน พ.ค.2558 ขณะนี้กำลังตรวจสอบข้อมูลว่ามีการหลบหนีออกนอกประเทศหรือไม่ ซึ่งหลังคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีหมายจับออกมา เป็นหน้าที่ของตำรวจต้องติดตามตัวมาดำเนินคดี,พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. กล่าวว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งห้าม น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกนอกประเทศ ตั้งแต่เดือน พ.ค.2558 ศาลให้ประกันตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ในคดีรับจำนำข้าว ที่ผ่านมายังไม่มีข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศ และเท่าที่ตรวจสอบข้อมูล ตม.สนามบินและด่าน ตม.ทั่วประเทศ ยังไม่มีรายงานการเดินทางออกนอกประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขณะนี้ได้เสนอขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ห้าม น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางออกนอกประเทศ เป็นคำสั่งแจกจ่ายไปในทุกด่าน ตม.ทั้งประเทศ,เมื่อเวลา 10.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เนื่องจากไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาในคดีรับจำนำข้าวว่า เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์อ้างว่าป่วย แต่ไม่ได้ยื่นใบรองรับแพทย์ ศาลฎีกาฯจึงจำเป็นต้องออกหมายจับ เป็นเรื่องปกติ เมื่อถามว่า หากยื่นใบรองรับแพทย์ภายหลัง ศาลฎีกาฯจะถอนหมายจับหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า แล้วแต่ศาล ทุกอย่างอยู่ที่ศาล มีเยอะไปที่ป่วยกะทันหัน ศาลต้องออกหมายไว้ก่อนเพราะไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ แต่ภายหลังถ้าตรวจสอบได้ว่าป่วยจริงหรือฟังขึ้น สามารถยกเลิกได้,เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการออกหมายจับแล้ว ถ้าเจอตัวที่ไหนสามารถจับกุมได้เลยใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ครับ จับคือจับ แล้วค่อยว่ากันใหม่ พอจับแล้วก็บอกศาลเพื่อให้ศาลบอกว่าจะทำอย่างไรต่อ ทุกอย่างเป็นขั้นตอนปกติ หมายถึงว่าคืนไปสู่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาตามปกติ เมื่อถามว่า มีข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์หนีออกนอกประเทศไปแล้ว นายวิษณุตอบว่า ไม่ทราบ พวกคุณช่วยไปพาดหัวกันให้ที ผมจะได้อ่าน ผมไม่ทราบ ไม่รู้เรื่อง เมื่อถามย้ำว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์หนีไปนอกประเทศแล้ว การดำเนินการต่างๆ จะเหมือนกับกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ใช่ครับ,ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะยังไม่ประกาศใช้ กระบวนการสามารถดำเนินคดีได้ตามกฎหมายที่มีอยู่ปัจจุบัน ส่วนสิทธิตามรัฐธรรมนูญจะเกิดขึ้นต่อเมื่อศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาแล้ว หากผลออกมาเป็นโทษ จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ตามรัฐธรรมนูญ 60 แต่ต้องมายื่นอุทธรณ์ด้วยตัวเอง ส่วนที่กังวลกันว่า หากยื่นอุทธรณ์แล้วจะใช้กระบวนการวิธีพิจารณาอะไร ปัจจุบันถ้ายังใช้วิธีพิจารณาอะไรให้ใช้อันนั้นต่อไป หรือถ้ายังไม่มีประธานศาลฎีกาสามารถออกข้อกำหนดวิธีพิจารณาคดีออกมาได้ แต่ต้องใช้องค์คณะพิจารณาคดีใหม่ เพราะเป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญบอกไว้ ถ้าครบ 30 วันหลังจากศาลอ่านคำพิพากษาแล้ว หากจำเลยไม่ยื่นอุทธรณ์คดีต้องสิ้นสุด ส่วนจะนับอายุความอย่างไรยังตอบชัดเจนไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับการตีความของศาลว่า การนับอายุความเป็นคุณหรือโทษ ถ้าเป็นโทษใช้ย้อนหลังไม่ได้ แต่หากศาลมองว่าสามารถใช้วิธีพิจารณาตามกฎหมายใหม่กับกรณีนี้ได้จะไม่นับอายุความ,เมื่อเวลา 11.30 น. ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาคดีโครงการรับจำนำข้าวว่า ได้รับรายงานแล้ว เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ขอเลื่อนรับฟังคำพิพากษา อ้างว่าป่วย แต่ศาลไม่อนุญาต และการที่ศาลออกหมายจับ ไม่เกี่ยวอะไรกับตน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เกี่ยวเพราะเป็นผู้บริหารประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ผมสั่งกระบวนการยุติธรรมได้หรือไม่ เขาทำตามกฎหมายหรือเปล่าล่ะ ผมทำได้แต่เพียงกำชับฝ่ายความมั่นคงให้ดู แล้วป่วยจริงหรือเปล่า อยู่ที่ไหน พร้อมกำชับเส้นทางเข้าออกทั้งช่องทางปกติและไม่ปกติ ซึ่งต้องดูตรงนั้น เมื่อเช้ายังนึกดีใจอยู่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคนกล้าหาญ มารับการพิจารณา แต่ต่อมาได้รับการแจ้งว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้มา เพราะป่วยมีปัญหาน้ำในหู ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้รับแจ้งว่ายังอยู่ในประเทศหรือไม่ นายกฯตอบว่า ยังไม่มีรายงานเข้ามา แต่ให้ดูอยู่แล้ว ยังไม่พบอะไร ยังหาตัวอยู่,นายกฯกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของกฎหมาย ถ้าไม่อยู่แล้วกฎหมายว่าอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์มีหมายอะไรหรือไม่ ทั้งหมายเรียก หมายจับ อีก 1 เดือนก็พิจารณาใหม่ ถ้าไม่มาก็เป็นเรื่องใหญ่โต ในเมื่อมั่นใจ ตนก็ให้เกียรติ เข้าไปอยู่ในระบบสิ ตอนแรกก็ว่าดีที่บอกจะมาฟังคำพิพากษา ตนก็สบายใจ ซึ่งศาลเขาก็ดูแลในส่วนของการพิจารณาให้เกิดความเป็นธรรม แต่ไม่มาเพราะว่าป่วย ป่วยแล้วแต่ยังหาตัวไม่เจออยู่เลย การจะมาหรือไม่มาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คนกังวลไม่ใช่ตน เขาต้องกังวลเพราะเขาเป็นคนโดนคดี เมื่อบอกว่าไม่ผิดก็ต้องมาสู้คดี และกฎหมายก็ช่วยอยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร กฎหมายใหม่สามารถอุทธรณ์ได้ แต่การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่อยู่หมายความว่าอย่างไร จะบอกไม่เป็นธรรมอีกเหรอ เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์สามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วันใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า สื่อฯก็รู้ พูดไปหลายครั้งแล้ว และศาลเองก็พูด ตนไม่เคยคิดมาก่อนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะหนี เพราะแสดงมาตลอดว่าจะมาต่อสู้คดี รวมถึงบรรดาพรรคเพื่อไทยก็บอกว่าจะสู้คดี ส่วนจะเป็นเจตนาต้องการหลบหนีหรือไม่ ขอให้ไปตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์เอง,ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีศาลออกหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า ได้ทราบข้อมูลแล้วว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มา เพราะอ้างว่าน้ำในหูไม่เท่ากัน แต่ยังไม่ได้มีการยืนยันว่าหลบหนี อาจจะไปอยู่ที่โรงพยาบาลไหนก็ได้ ต้องติดตามตัวต่อไปแต่เขาอาจจะป่วยจริงก็ได้ เพราะเรายังไม่รู้เรื่องข่าวหลบหนี ไม่รู้มาจากไหน ใครเป็นคนบอกมา เรายังไม่รู้แน่ชัดเลย เมื่อถามว่า เป็นความบกพร่องของหน่วยงานความมั่นคงที่เฝ้าติดตาม แต่ปล่อยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์หายตัวไปหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีหลายบ้านก็ติดตามลำบาก อีกทั้งยังมีรถหลายคัน ยังไม่ได้เป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจนว่าหลบหนีหรือไม่ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าหลบหนีไปตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น ก็ยังไม่ได้ชัดเจน เขาเป็นถึงอดีตนายกฯ ตนคิดว่าเจ้าหน้าที่อาจจะมีส่วนช่วยเหลือ แต่ก็ยังไม่แน่ใจ เมื่อถามว่า ได้สั่งการกองกำลังตามแนวชายแดนในการป้องกันการหลบหนีไปต่างประเทศหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า กองกำลังตามแนวชายแดนดูอยู่แล้ว คิดว่าคงไม่ได้ไป อาจจะไปอยู่บ้านใครก็ได้ เมื่อถามย้ำว่า ยังไม่หนีออกไปต่างประเทศใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่รู้,ด้านบรรยากาศมวลชนที่สนับสนุน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ช่วงบ่ายผู้สื่อข่าวรายงานจากบริเวณหน้าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า หลังจากบรรดากองเชียร์ที่มารอให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รู้ว่าเจ้าตัวไม่เดินทางมารับฟังคำพิพากษาในวันนี้ต่างรู้สึกแปลกใจ เนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ย้ำมาตลอดว่าตัวเองบริสุทธิ์ ไม่ได้กระทำความผิด แต่ถึงอย่างไรก็จะยังคงให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต่อไป กระทั่งเวลา 15.00 น. มวลชนที่ปักหลักรอต่างเริ่มทยอยกลับ,โดยนางสงบ แสวงศักดิ์ ที่เดินทางมาจากเขตหนองจอก กล่าวว่า เสียใจไม่คิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะไม่เดินทางมารับฟังคำพิพากษาในวันนี้ เพราะไม่มีเหตุผล สู้กันมาถึงขนาดนี้ก็คิดว่าวันนี้จะมารับฟังคำพิพากษา แต่ถึงอย่างไรก็อยากให้กำลังใจให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต่อไป,ส่วนบรรยากาศที่ตลาดสดสันกำแพง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตั้งแต่เช้าพ่อค้า แม่ค้าต่างขายของกันตามปกติ ไม่สนใจเปิดดูทีวีหรือความเคลื่อนไหวใดๆ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ไม่มาศาลและถูกออกหมายจับ ส่วนในตัวเมือง จ.เชียงใหม่ มีชาวบ้านให้ความสนใจติดตามข่าวอย่างใจจดใจจ่อ แต่เมื่อทราบว่าไม่มีถ่ายทอดสดการพิจารณาคดีต่างบ่นเสียดายกัน เช่นเดียวกับโรงแรมแกรนด์วโรรส ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สถานที่ตั้งขององค์กรสาธารณประโยชน์รักเชียงใหม่ 51 บรรยากาศเงียบเหงามีตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ 4 นาย เฝ้าดูแลตลอด 24 ชั่วโมง,ขณะที่ จ.ขอนแก่น ประชาชนส่วนใหญ่ติดตามความเคลื่อนไหวการนัดอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ทั้งตามหน่วยงานราชการ ตลาด ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือแม้กระทั่งภายในห้างสรรพสินค้า ประชาชนให้ความสนใจติดตามสถานการณ์และความเคลื่อนไหวผ่านหน้าจอโทรทัศน์อย่างต่อเนื่อง กระทั่งศาลฎีกาได้ออกเอกสารแถลงถึงการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เดินทางมารับฟังผลการพิจารณาคดี ยิ่งสร้างความสนใจให้กับผู้ที่มาติดตามข่าวความเคลื่อนไหวที่เพิ่มมากขึ้น หลายคนบอกว่าเสียดายที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มารับฟังผลการพิจารณาคดี เพราะหวังที่จะเห็นการต่อสู้ตามกระบวนการของศาลยุติธรรมจนถึงขั้นตอนสุดท้าย,อีกด้าน ที่ จ.อุดรธานี สมาชิกชมรมคนรักอุดรคนหนึ่งบอกว่า อยากให้อดีตนายกรัฐมนตรีมาฟังคำพิพากษาเพื่อจะได้รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร จะได้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย ไม่ต้องมาคอยลุ้นกันอีกว่าวันหน้าผลจะเป็นอย่างไร,ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า หลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เดินทางมาศาล แกนนำพรรคได้ไปรับประทานอาหารร่วมกันเพื่อพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว ขณะที่กลุ่มอดีต ส.ส.ของพรรคต่างกระจายตัวไปรวมกลุ่มหารือกัน เช่น กลุ่มอดีต ส.ส.อีสาน ทุกคนต่างทำอะไรไม่ถูก งงเป็นไก่ตาแตก เช่นเดียวกับกลุ่มอดีต ส.ส.กทม.ที่ไม่รู้มาก่อนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะไม่เดินทางมาศาล จึงจับกลุ่มหารือกันถึงประเด็นนี้ และคาดการณ์ว่าหนึ่งถึงสองวันนี้ทางพรรคคงมีท่าทีที่ชัดเจนออกมา,ด้านนายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เดินทางมารับฟังคำพิพากษาตนและกลุ่ม ส.ส.ภาคเหนือได้มีการหารือกันและไม่เข้าใจเหตุใดจึงตัดสินใจเช่นนี้ อยากรู้ว่าใครเป็นผู้แนะนำพร้อมกันนี้ ยอมรับว่าการกระทำเช่นนี้จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ และคะแนนนิยมของพรรคอย่างแน่นอน,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกระแสข่าวกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันไปหลายทิศทางถึงเหตุผลที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษา บ้างระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องการรอดูทิศทางการตัดสินคดีของนายบุญทรงและพวก ในคดีระบายข้าวจีทูจี บ้างระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่อยากเสี่ยงต้องเข้าคุก เนื่องจากกฎหมายลูกเกี่ยวกับการอุทธรณ์คดีของนักการเมือง รวมทั้งเงื่อนไขการประกันตัวยังไม่ออกมา ขณะเดียวกัน ยังไม่แน่ใจว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังอยู่ในประเทศหรือไม่ แต่กระแสแรงและเชื่อว่าเป็นไปได้มากที่สุดคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์ พร้อมนายศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปก์ บุตรชาย ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา เตรียมเดินทางต่อไปยังนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกเฝ้าประกบโดยเจ้าหน้าที่ความมั่นคงตลอดเวลา การที่สามารถออกนอกประเทศได้นั้น คาดว่ามีการเปิดทางให้จึงออกนอกประเทศได้,นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีออกนอกประเทศโดยไปอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์แล้วว่า ขณะนี้ข่าวสารค่อนข้างสับสนไปหมด ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวว่าเป็นอย่างไร แกนนำพรรคคนอื่นๆ ก็ยังไม่มีใครทราบเรื่องนี้ และยังไม่มีใครสามารถติดต่อท่านได้ อย่างไรก็ตาม ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาที่ศาลฎีกาฯ โดยยื่นใบลาอ้างว่าเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากันนั้น ทราบว่าท่านป่วยด้วยโรคดังกล่าวจริง และเป็นโรคประจำตัวของท่าน,ขณะที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์หนีไปต่างประเทศว่า จริงๆแล้วไม่มีอะไรเลยเป็นเพียงข่าวลือ เชื่อว่าไม่ได้ไปไหนเดี๋ยวคงออกมาชี้แจงเหตุผลต่างๆและยังเชื่อว่าจะเดินทางมารับฟังคำพิพากษาตามกำหนดเวลาวันที่ 27 ก.ย.,ที่วิหารหลวงปู่ หมู่บ้านสุขิโต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ อดีตโหร คมช. กล่าวว่า เคยทำนายไว้เมื่อสองปีที่แล้วว่า ผู้ที่ทำผิดต้องได้รับความผิดตามกฎหมายบ้านเมือง กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มาศาลคงไม่อยู่แล้ว คงเดินทางไปแล้ว และการไปในครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลอะไร การเคลื่อนไหวต่างๆ ไม่น่าจะมี ตรงนี้จะเห็นชัดเจนความยุติธรรมของศาล กฎหมายบ้านเมืองมีผู้ทำผิดต้องรับผิด ส่วนเหตุการณ์ต่างๆจะบานปลายหรือไม่ ยืนยันเลยว่าไม่มี สำหรับดวงเมืองของประเทศไทยคงไม่มีอะไร หลังจากที่ คสช.เข้ามาทำหน้าที่พยายามทำทุกอย่างให้บ้านเมือง เวลานี้ในเรื่องการตัดสินคดีความต่างๆ เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้วไม่มีการกลั่นแกล้งแน่นอน ตนดูแล้วทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ทุกอย่างมันผ่านพ้นไปหมดแล้ว เวลานี้เป็นหน้าที่ที่คนไทยทุกคนควรจะหันหน้ามาคุยกันและปรองดองกัน นายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์หมดหน้าที่ในบ้านเมืองแล้ว ไม่มีโอกาสที่จะได้กลับมาอีกแล้ว อย่างที่ตนทำนายไว้ว่าทั้งสองคนจะต้องไปใช้ชีวิตต่างแดน ตรงนี้ทุกอย่างได้ปรากฏขึ้น โอกาสที่จะกลับมาอีกไม่ใช่ช่วงระยะเวลา 5-10 ปีนี้แน่นอน,นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สันนิษฐานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์คงจะหลบหนีไปอยู่ที่ต่างประเทศแล้ว ถ้าหากยังอยู่ในประเทศเจ้าหน้าที่รัฐต้องจับกุมตัวโดยเร็ว แต่ถ้าหากอยู่ต่างประเทศแล้ว คสช.รวมไปถึงเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องออกมาตอบสังคมให้ได้ว่าหนีออกไปได้อย่างไร หนีไปทางไหน ใช้ยานพาหนะอะไรหลบหนี เพราะว่าเรื่องนี้จะกระทบต่อความเชื่อมั่นและประสิทธิภาพในตัว คสช.ด้วย คสช.ต้องเป็นจำเลยด้วยเพราะปล่อยให้เขาหลบหนีไปได้อย่างไร เพราะเข้าใจว่าวันสองวันที่ผ่านมาเขายังอยู่ในประเทศอยู่ ดังนั้น ไม่เกิน 24 ชั่วโมงนี้ควรจะจับกุมตัวให้ได้ หากจับกุมตัวไม่ได้ คสช.ก็คงจะมีปัญหา นายนิพิฏฐ์กล่าว เมื่อถามว่า กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มาฟังคำพิพากษา เพราะอาจจะคาดหวังกับการอ่านคำพิพากษาลับหลัง 30 วันหลังจากนี้แค่ครั้งเดียว นายนิพิฏฐ์ตอบว่า เป็นไปได้ เขาอาจจะกังวลว่ามาแล้วจะไม่ได้ประกันตัวเลยหนีไปตั้งหลักก่อน หรือไม่ก็เตรียมตัวที่จะหนีแล้วไปคาดหวังกับการอ่านคำพิพากษาลับหลังแทน,นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แสดงว่าทีมงาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ประเมินว่ามีความเสี่ยงที่จะติดคุกจึงตัดสินใจไม่มาศาล โดยอ้างว่าป่วยจากอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน แต่พฤติกรรมถือเป็นการเดินตามพี่ชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่สำคัญกรณีนี้จะถือเป็นบรรทัด ฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าการทุจริตเชิงนโยบายไม่ใช่เรื่องหมูๆ หรือทำกันง่ายๆ โดยไม่ต้องรับผิดชอบต่อสังคมอีกต่อไป และถือเป็นครั้งแรกที่องค์กรอิสระทั้ง ป.ป.ช. สตง. แม้แต่กระทรวงการคลังที่อยู่ใต้กำกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์เองยังออกคำเตือนต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในฐานะนายกฯ,นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ก่อนหน้านี้คนของพรรคเพื่อไทยออกมายืนยันตลอดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะมาฟังผลคำพิพากษา ตนคิดว่าเขาคงไม่มั่นใจผลการต่อสู้ในคดีที่ผ่านมา การต่อสู้ในคดีนี้ไม่ใช่คดีการเมืองหรือถูกกลั่นแกล้ง ที่ฝ่ายเพื่อไทยพยายามไปเปรียบเทียบกับอองซาน ซูจี การต่อสู้ครั้งนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับการทุจริต ถ้าผลออกมาผิด จะไม่ง่ายที่จะบิดเบือนประเด็นว่านี่คือการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพราะประชาชนเข้าใจการทุจริตของโครงการรับจำนำข้าวกันมากขึ้น สิ่งที่น่าเห็นใจคือประชาชนที่ถูกพามาที่ศาล คล้ายๆกับถูกพามาให้เสียเวลา จึงไม่แปลกใจที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์โพสต์เฟซบุ๊กให้รอฟังผลที่บ้าน คงรู้อยู่ในใจแล้วว่าจะมาหรือไม่และเขาคงอยากฟังคดีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ก่อนด้วยว่าจะเป็นอย่างไร จะได้ประเมินถูก การไม่มาศาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ถือว่าทุกอย่างจบแล้ว,เมื่อเวลา 15.45 น. ที่ศาลฎีกาฯ นักการเมือง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังศิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการตามหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า ตำรวจสามารถดำเนินการได้ทันทีตั้งแต่ศาลออกหมายมา ส่วนการค้นบ้านพักเพื่อติดตามตัวต้องพิจารณาตาม ป.วิอาญา ขอหมายศาล เจ้าหน้าที่ขอหมายค้นไปแล้วแต่ยังไม่ทราบผล เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังอยู่ในไทยหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ตอบว่า ตามที่ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) รายงาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังอยู่ในราชอาณาจักร ไม่มีหลักฐานเดินทางออกไปต่างประเทศ แต่ก็มีความเป็นไปได้หากจะหลบหนีออกช่องทางธรรมชาติ ตนได้สั่งการให้ สตม.เฝ้าระวังตามด่านตรวจ และตั้งแต่มีหมายจับได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ชายแดนเฝ้าระวัง แต่ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูล รวมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยออกสืบสวนติดตามจับกุม ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อำนวยความสะดวกให้หลบหนีนั้น ได้ตรวจสอบแล้วแต่ยังไม่พบข้อมูล นอกจากนี้ ศาลยังได้ออกหมายจับนางสาวธันยพร หรือบงกช จันทร์สกุลพร จำเลยที่ 21 ตามหมายจับเลขที่ 30/2560 ลงวันที่ 25 ส.ค. 2560 ในความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานในการเสนอราคา สนับสนุนเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐโดยมิชอบ,นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะทำให้การเผชิญหน้าทางการเมืองลดลง และบรรยากาศการเมืองของไทยน่าจะดีขึ้น ภาคเอกชนหวังว่าสถานการณ์การเมืองน่าจะเรียบร้อยโดยบรรยากาศทำธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบ และทุกอย่างยังเดินไปได้ตามปกติ ส่วนหอการค้าต่างประเทศในไทย มองว่าไม่น่าจะกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน นักธุรกิจต่างประเทศไม่ได้สนใจผลการตัดสินของศาลอยู่แล้ว สิ่งที่สนใจคือ การประกอบธุรกิจในไทยปลอดภัยดีหรือไม่ ธุรกิจสามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้นหรือไม่,ทางด้านคดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายธนฤกษ์ นิติเศรณี ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ และองค์คณะรวม 9 คน นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว พร้อมพวกรวม 28 คน ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ. 2542 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ใช้อำนาจโดยทุจริตสร้างความเสียหายแก่รัฐ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริตตามมาตรา 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 4 123 และ 123/1 มีอัตราโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต อัยการสูงสุดโจทก์ขอให้ศาลสั่งปรับจำเลยทั้งหมด 35,274,611,007 บาท คำนวณจากมูลค่าครึ่งหนึ่งตามสัญญาระบายข้าว 50,000 ตัน ที่พบว่ากระทำผิด,ศาลพิเคราะห์ว่าข้อเท็จจริงคดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อปี 2554-2555 นายบุญทรงและนายภูมิ มีนโยบายระบายข้าวให้เหมาะสมกับราคาตลาดโดยวิธีการจีทูจี จึงเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญาและยังร่วมกับกลุ่มข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กับกลุ่มพ่อค้าข้าวกลุ่มนิติบุคคล กำหนดหลักเกณฑ์ขายข้าวแบบเอ็กซ์-แวร์ เฮาส์ ซึ่งไม่เคยทำมาก่อน โดยทำสัญญาขายข้าวให้แก่รัฐวิสาหกิจจากสาธารณรัฐ ประชาชนจีนโดยไม่ผ่านมติคณะรัฐมนตรี ด้วยการตกลงขายข้าวให้บริษัทกว่างตงและบริษัทห่ายหนาน ในลักษณะการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีในช่วงที่พวกจำเลยกำหนดนโยบาย และกำหนดราคาที่ต่ำอย่างพอเหมาะพอดี รวม 4 สัญญา โดยมีการซื้อขายข้าวในราคาต่ำกว่าท้องตลาดอย่างมาก การทำสัญญาทำให้เกิดผลผูกพันต่อรัฐและคู่สัญญาที่จะต้องปฏิบัติ ไม่ต้องประมูลแข่งขันราคาบางครั้งอาจซื้อขายในราคาต่ำกว่าราคาตลาด เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ,ศาลฯเห็นว่า นายภูมิได้ให้ความเห็นชอบผลการเจรจาซื้อขายข้าว 2 ฉบับ ฉบับแรกตกลงซื้อขายข้าวทุกชนิดในสต๊อกของรัฐบาลไทย 2,195,000 ตัน ในราคาตันละ 10,000 บาท ต่ำกว่าราคาท้องตลาดคือ 16,000 บาทต่อตัน ทำให้รัฐเสียหายถึง 9,717 ล้านบาท สัญญาฉบับที่ 2 ตกลงขายข้าว 5% ข้าวเหนียว 100% ข้าวหอมมะลิ 2 ล้านตัน ทำให้ประเทศเสียหาย 1,294 ล้านบาทเศษ ต่อมานายบุญทรงได้รับการ แต่งตั้งเป็นประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวแทนนายภูมิ และได้ให้ความเห็นชอบสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐกับบริษัทกวางตุ้ง 1 ฉบับ กลับยังทำสัญญาซื้อขายข้าว 5 เปอร์เซ็นต์และข้าวเอวัน 1 ล้านตัน และขอแก้ไขสัญญาหลายครั้งเพิ่มปริมาณจาก 1.3 ล้านตัน เป็น 2.3 ล้านตัน ทำให้ประเทศเสียหาย 569,748,116 บาท นอกจากนี้ยังทำสัญญาเห็นชอบขายข้าวให้บริษัทห่ายหนาน 65,000 ตัน ทำให้รัฐเสียหาย 162,665,563 บาท รวมสัญญาทั้งสิ้น 4 ฉบับ โดยกำหนดราคาไม่เหมาะสม,นอกจากนี้ ยังเห็นว่า สัญญาทั้ง 4 ฉบับมีข้อพิรุธหลายประการคือ ชำระเงินด้วยแคชเชียร์เช็ค และรัฐวิสาหกิจผู้ซื้อสามารถนำเข้าไปขายต่อประเทศที่ 3 ได้ และพวกจำเลยยังร่วมกันแก้ไขสัญญาเพิ่มชนิดและปริมาณของข้าว โดยไม่เจรจาต่อรองเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ศาลเห็นว่านายบุญทรงแก้ไขสัญญาถี่มากผิดปกติ โดยไม่ผ่านคณะรัฐมนตรี รัฐสภา ทำให้บริษัทต่างประเทศได้รับประโยชน์ จำเลยยังปกปิดเรื่องราวการขายข้าวขัดกับนโยบายกระทรวงพาณิชย์ และเมื่อสื่อเปิดโปง ก็ตอบคำถามสื่อมวลชนไม่ชัดเจน แม้ในที่สุด บริษัททั้งสองไม่มารับข้าว ก็จะเอาข้าวไปขายที่อื่นเป็นการเวียนขาย การกระทำจึงเป็นความผิดตาม ป. อาญามาตรา 151 และยังเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.มาตรา 123/1 กับ พ.ร.บ.การเสนอราคามาตรา 4 วรรค 1 มาตรา 10 มาตรา 12 อีกด้วย ข้อต่อสู้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น และยังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 อีกด้วย แต่เมื่อปรับบทเป็นมาตรา 151 แล้วจึงไม่จำต้องลงมาตรา 157 อีก ส่วนจำเลยอื่นมีลักษณะเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด บางรายเป็นพนักงานเดินเอกสารแต่มีเงินหมุนเวียนกว่า 900 ล้านบาท และสั่งจ่ายเช็ควันละ 20 ฉบับตามที่จำเลยที่ 14 สั่งการ แสดงว่ามีความรู้ เห็นเป็นใจได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มจำเลย เช่น จำเลยที่ 14 กับ 18 ส่วนจำเลยที่ 21 เป็นบุตรของเสี่ยเปี๋ยง มีการออกตั๋วสัญญาใช้เงินโดยรู้ว่ามีการซื้อขายข้าวโดยไม่ชอบ จึงมีความผิดแต่เนื่องจากไม่ได้เป็นเจ้าพนักงาน จึงเป็นเพียงผู้สนับสนุน,ศาลพิพากษาว่าจำเลยที่ 1-21 ยกเว้นจำเลยที่ 3 และ 16 ซึ่งหลบหนีมีความผิดตามฟ้องให้จำคุก นายภูมิจำเลยที่ 1 ความผิด 2 กระทงเป็นเวลา 36 ปี นายบุญทรงจำเลยที่ 2 รวม 4 กระทงเป็นเวลา 42 ปี นายมนัส สร้อยพลอย จำเลยที่ 4 อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเป็นเวลา 40 ปี นายทิฆัมพร นาทวรทัศน์ จำเลยที่ 5 ติดคุก 32 ปี นายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยง อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศจำเลยที่ 6 ติดคุก 24 ปี นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 14 เป็นเวลา 48 ปี นายนิมล รักดี จำเลยที่ 15 เป็นเวลา 32 ปี ส่วนจำเลยอื่นจำคุกระหว่าง 4 ปีถึง 16 ปี และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ร้องคือกรมการค้าต่างประเทศ 16,912,128,278.66 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับตั้งแต่วันส่งมอบข้าวคือวันที่ 18 ต.ค. 2554 จำเลยอื่นที่หนีให้ออกหมายจับปรับนายประกัน ในอัตราสูงและนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 27 ก.ย. 2560 เวลา 09.00 น. ส่วนจำเลยที่พิพากษายกฟ้องได้แก่จำเลยที่ 19, 22 ถึง 28,หลังฟังคำพิพากษาตำรวจได้คุมตัวนายบุญทรง ซึ่งถึงกับนั่งนิ่งไม่ยิ้ม ไม่เศร้าใดๆทั้งสิ้น กับพวกส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพทันที ด้านนายนรินทร์ สมนึก ทนายความของนายบุญทรงเผยว่า ขณะนี้ศาลยกคำร้องการขอปล่อยตัวชั่วคราว หรือประกันตัวนายบุญทรง และจำเลยทั้งหมดรวม 25 คน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่กระชั้นชิด หลังจากนี้ทีมทนายเตรียมที่จะยื่นอุทธรณ์ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่สามารถยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาได้ภายใน 30 วันโดยไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานใหม่เห็นว่าเบื้องต้นยังไม่ได้มีบางประเด็นมาพิจารณา แต่ไม่ขอเปิดเผยว่ามีประเด็นใดบ้าง ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ได้รับฟังคำพิพากษาแล้วก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายบุญทรงเล็กน้อย โดยนายบุญทรงก็บอกแต่เพียงว่าให้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป ซึ่งขณะนี้นายบุญทรงยังไม่ทราบว่าศาลยกคำร้องการปล่อยตัวชั่วคราว และในวันนี้ยังคงไม่สามารถเดินทางไปหานายบุญทรงที่เรือนจำได้ เนื่องจากหมดเวลาเยี่ยม,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของการยื่นอุทธรณ์ คำพิพากษาของศาลฎีกา ในรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2560 มาตรา 195 วรรค 4 แต่ในทางปฏิบัติยังไม่มีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง จึงมีข้อสงสัยว่าจะยื่นอุทธรณ์ด้วยวิธีใดได้บ้าง โดยเรื่องนี้มีการพูดคุยกันในศาลฎีกา มีแนวคิดออกเป็น 2 ทางคือ 1.เมื่อฝ่ายจำเลยยื่นคำร้องขออุทธรณ์คำพิพากษาจะต้องนำคำร้องเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ของผู้พิพากษาศาลฎีกา 166 คน ว่าจะรับอุทธรณ์นี้ไว้หรือไม่ ทางที่ 2.อาจจะไม่รับอุทธรณ์ตามรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ว่าให้ตั้งผู้ไต่สวนอิสระ แต่ปรากฏว่าไม่มีกฎหมายหมายรองรับผู้ไต่สวนอิสระศาลฎีกาจึงไม่รับ ซึ่งการยื่นอุทธรณ์และประกันตัวเป็นสิทธิและเสรีภาพของจำเลยจะยื่น อาจจะยกขึ้นมาพิจารณาก็ได้,จากนั้นเวลา 16.00 น. รถเรือนจำกรมราชทัณฑ์ นำตัวนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ กับพวกมาถึงเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่เรือนจำนำตัวนายบุญทรง พิมพ์ลายนิ้วมือ ตรวจร่างกาย ตรวจสุขภาพ โรค ประจำตัว ตามขั้นตอนการรับตัวผู้ต้องขังใหม่ และจะนำไปขังไว้ในแดนแรกรับราว 2 อาทิตย์ โดยมีผู้คุมคอยดูแลตลอด 24 ชม.ก่อนที่จะพิจารณาย้ายไปไว้แดนอื่นที่เหมาะสม สำหรับนายบุญทรง มีอาการเครียดบ้างตั้งแต่อยู่ที่ศาล โดยเรือนจำมีทีมแพทย์ นักจิตวิทยา คอยให้คำปรึกษาเพื่อให้ผู้ต้องขังคลายกังวลได้,นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า หากผู้ต้องหาทั้งหมดมาถึงเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จะเข้าสู่ขั้นตอนการทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ ตรวจสุขภาพ พร้อมแนะนำการปฏิบัติตัวตามระเบียบเรือนจำ เมื่อผู้ต้องขังสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพในเรือนจำได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปจะคัดแยกไปอยู่ในแดนอื่น เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯจะรับผู้ต้องขังโทษไม่เกิน 10-15 ปี หลังปรับตัวได้แล้วจะแยกผู้ต้องขังที่โทษเกิน 15 ปี ไปอยู่เรือนจำอื่น โดยผู้ต้องขังชายไปอยู่ที่เรือนจำคลองเปรม ส่วนผู้ต้องขังหญิงจะส่งไปยังทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนญาติของผู้ต้องหาไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ทันในวันนี้ ประกอบกับพรุ่งนี้เป็นวันหยุดราชการ ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ โดยจะเยี่ยมผู้ต้องขังได้ในวันจันทร์ที่ 28 ส.ค.นี้,ขณะที่นายชุติชัย สาขากร รองอัยการสูงสุดหัวหน้าชุดคณะทำงานคดีโครงการรับจำนำข้าวและระบายข้าวรัฐต่อรัฐ กล่าวภายหลังศาลฎีกามีคำพิพากษาว่า ในเบื้องต้นที่จำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวมานั้น ทีมอัยการจะยังไม่มีการคัดค้านการประกันตัว จะปล่อยเป็นดุลพินิจของศาลว่าจะพิจารณาให้ประกันตัวหรือไม่ ส่วนเรื่องการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาในส่วนของจำเลยที่ศาลได้ยกฟ้องและในส่วนค่าเสียหายที่ศาลให้ลดจากคำขอเดิม คาดว่าทางอัยการน่าจะยื่นอุทธรณ์คดีต่อ แต่ต้องขอไปศึกษารายละเอียดคำพิพากษาฉบับเต็มเพื่อหาแนวทางในการอุทธรณ์ และประชุมปรึกษาหารือกับทีมอัยการอีกครั้ง,ด้านความเคลื่อนไหว สำนักข่าวต่างประเทศ ตลอดวันต่างพากันรายงานความเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศไทยอย่างคึกคัก โดยสำนักข่าวบีบีซี อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดพรรคเพื่อไทยและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายฯ ระบุ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้หลบหนีเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ก่อนหน้าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะอ่านคำตัดสินโครงการรับจำนำข้าว สำนักข่าวบีบีซีระบุอีกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ปฏิเสธความผิดทุกข้อกล่าวหา ซึ่งทำให้ประเทศชาติต้องสูญเสียเงินมหาศาลหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯจากโครงการรับจำนำข้าว โดยคดีนี้หากเธอถูกตัดสินมีความผิดจริงอาจต้องถูกจำคุกมากกว่า 10 ปี ทั้งต้องถูกตัดสิทธิลงเล่นการเมืองตลอดชีวิต พร้อมกันนี้ ยังวิเคราะห์เส้นทางการหลบหนีออกนอกประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยเชื่อว่าอาจเลือกใช้เส้นทางการบินด้วยเครื่องบินส่วนตัวออกจากสนามบินแห่งใดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ หรืออาจเลือกใช้การเดินทางด้วยรถยนต์ข้ามพรมแดนไปยังกัมพูชา หรือ สปป.ลาว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์น่าจะเดินทางไปพบพี่ชายคือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งลี้ภัยอยู่ที่นครรัฐดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่หลบหนีคดีความผิดจากคำคัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อปี 2551,ส่วนสำนักข่าวเอพีรายงานระบุรัฐบาลทหารอยู่ระหว่างเร่งติดตามหาตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างเข้มข้น หลังจากไม่มาปรากฏตัวในชั้นศาลเพื่อรับฟังคำพิพากษา ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานย้อนรอยห้วงเวลานานนับ 10 ปีที่เกิดความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศไทย ซึ่งทำให้พัฒนาการด้านต่างๆของประเทศต้องล่าช้าหยุดชะงักท่ามกลางความแตกแยก
คดีประวัติศาสตร์การเมือง พลิก ความคาดหมาย ยิ่งลักษณ์ ไม่ปรากฏตัวฟังคำพิพากษาคดีปล่อยปละ ละเลยให้เกิดความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว อ้างป่วยน้ำในหูไม่เท่ากัน ศาลฎีกานักการเมืองไม่เชื่อออกหมายจับทันทีชี้มีพฤติการณ์หลบหนี
ข่าว,การเมือง
คดีจำนำข้าว,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,จำนำข้าว,ออกหมายจับ ยิ่งลักษณ์,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1050235
บอกลาเข่าด้าน ข้อศอกดำเหมือนถ่าน เปิดเคล็ด 3 สิ่งจากครัวขจัดได้
ด้วยจากที่คนในยุคก่อนๆ ต้องนั่งพื้น คุกเข่า ทำความสะอาดบ้านหรือเล่นกีฬาแบบเอาเข่าลง งานนี้ก็อาจจะเป็นเหตุทำให้มีเข่าดำเข่าด้านได้ แต่ไม่ยากจ้ะ ของดีๆ มักมีอยู่ในห้องครัว หาได้จากของใกล้ตัวนี่แหละ เรียกว่าไม่ต้องไปหาไกล เอาจากสิ่งที่เรากินนี่แหละ หลังจากที่คุณสาวๆ ต้องมานั่งปวดหัวจะหยิบชุดเดรสสั้นเหนือเข่ามาใส่ก็ดูไม่มั่นใจเลย ก็เพราะหัวเข่าด้าน แม้กระทั่งข้อศอกดำ ด้านจากการใช้งานทำให้ขาดความมั่นใจ,วันนี้ไทยรัฐออนไลน์จะมาแนะเคล็ดลับ บอกลาหัวเข่าดำด้าน ศอกด้าน จากวัตถุดิบที่เรามีอยู่ในห้องครัววิธีทำก็ไม่อยากอย่างที่คิด ไปดูกันเลย,1. มันฝรั่ง, ซุปเปอร์มาร์เก็ตก็มี ฝานแผ่นบางๆ นำมาขัดบริเวณที่ดำหรือคั้นน้ำแล้วนำมาทาได้เช่นกัน ในมันฝรั่งมีสารฟอกขาว สามารถทำได้เป็นประจำ รับรองขาวขึ้นอย่างไว,2. มะนาว, ก็หามาได้จากในห้องครัว ฝานมะนาวบางๆ หรือครึ่งลูกก็ได้ ถูมะนาวลงบนหัวเข่าที่ดำด้านทิ้งไว้เลย 15 นาที แล้วล้างออกทำเป็นประจำจะยิ่งดีมาก สารในมะนาวจะไปช่วยกัดผิวเสื่อมสภาพให้เพิ่มประสิทธิภาพให้ขาวขึ้นได้,3. ว่านหางจระเข้, นี่หาง่ายมาก เพราะแทบทุกบ้านจะปลูกกันอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่จะนำมาทาก็ค่อยๆ เฉือนออกมาจากต้นและล้างให้สะอาด จากนั้นก็นำว่านหางสดมาทา ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด,เคล็ดลับความสวยดีๆ หาไม่ยาก หาได้จากห้องครัวที่บ้านรับรองคุณสาวๆ ได้บอกลาหัวเข่าดำด้าน ศอกด้านไปได้เลย.
เคล็ดลับเข่าด้านศอกดำ ไม่ต้องกลัวเรามีวิธีขัดเข่า ขัดศอกด้วยวัตถุดิบที่มีจากในห้องครัว เรามีเคล็ดลับมาฝาก
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
แก้ข้อศอกดำ,เคล็ดลับ วิธีแก้ ข้อศอกดำ,ศอกดำ,เคล็ดลับ,แก้เข่าด้าน
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/beauty/1266871
อลงกรณ์ นำทีมโปรโมตโครงการ เว็บไซต์เสียงปฏิรูป
เมื่อวันที่ 21 ก.ย.59 ที่บริเวณด่านเก็บเงินค่าผ่านทางพิเศษประชาชื่น นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธาน สปท.คนที่หนึ่ง พร้อมด้วยคณะกรรมการโครงการเสียงปฏิรูปประเทศ และดาราศิลปิน อาทิ นุ้ย เกศริน เอกธวัชกุล ร่วมด้วยคณะนางงามกว่า 10 คน และขบวนรถแข่งโกคาร์ท ที่นำมาจัดแสดงโชว์ในงานนี้ด้วย เพื่อทำการประชาสัมพันธ์เว็บไซต์เสียงปฏิรูปประเทศ โดยมีการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ และมีการแจกสติกเกอร์ของเว็บไซต์เสียงปฏิรูป รวมไปถึงเสื้อยืดเสียงปฏิรูปประเทศ และวัตถุมงคลจากวัดนายนาวาจำนวน 100 ชุด,โดย นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ขอบคุณคณะกรรมการโครงการ เสียงปฏิรูปประเทศ ที่ได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ ในการบริหารโครงการเสียงปฏิรูปให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผลอันเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ,ทั้งนี้คณะกรรมการโครงการเสียงปฏิรูปประเทศได้จัดทำเว็บไซต์เสียงปฏิรูปประเทศ (Reform Voice : Voice for Change) โดยเป็นเว็บไซต์ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ในการสื่อสารข้อมูล ข่าวสาร ผลงาน ความคืบหน้าการดำเนินงาน และภารกิจต่างๆ ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ทั้งภาคภาษาไทยและภาคภาษาอังกฤษ ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการโครงการเสียงปฏิรูปประเทศ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ โดยคณะกรรมการโครงการเสียงปฏิรูปประเทศ มุ่งหวังให้เว็บไซต์ดังกล่าว เป็นเว็บไซต์ที่เป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านการปฏิรูปประเทศ เพื่อให้สื่อมวลชนทุกสาขา สื่อมวลชนต่างประเทศที่อยู่ในประเทศไทย รวมทั้งประชาชนในประเทศ และต่างประเทศได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และเป็นศูนย์กลางข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศไว้อย่างครบถ้วน,ทั้งนี้บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างคึกคักและได้รับความสนใจจากประชาชนที่ใช้เส้นทางผ่านบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก
อลงกรณ์ พร้อม กก.โครงการเสียงปฏิรูป เดินหน้าประชาสัมพันธ์ แจกสติกเกอร์ เว็บไซต์เสียงปฏิรูป หวังเป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านการปฏิรูปประเทศ
null
เว็บไซต์เสียงปฏิรูป,ข้อมูลปฏิรูป,สปท.,อลงกรณ์ พลบุตร,การปฏิรูป,ปฏิรูปประเทศ,ข้อมูลข่าวสาร
https://www.thairath.co.th/content/729915
เพนเนตตา ไล่หวด วินซี คว้าแชมป์หญิงเดี่ยว ยูเอส โอเพ่น
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 13 ก.ย. การแข่งขันศึกเทนนิส แกรนด์ สแลม รายการสุดท้ายของปี ยูเอส โอเพ่น 2015 ที่มหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 42,253,400 ดอลลาร์ (ราว 1,352 ล้านบาท) โดยเดินทางมาถึงการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศประเภทหญิงเดี่ยว,ซึ่งในปีนี้เป็นการโคจรมาพบกันของสองสาวจากอิตาลีระหว่าง โรแบร์ตา วินซี นักเทนนิสจอมเก๋าวัย 32 ปี ที่ในรอบตัดเชือกพลิกล็อกโค่นมือวางอันดับ 1 ของโลกและของรายการอย่าง เซเรนา วิลเลียมส์ มาได้ 2-1 เซต เข้ามาพบกับ ฟลาเวีย เพนเนตตา เพื่อนร่วมชาติ มือวางอันดับ 26 ของรายการ ที่พลิกล็อกเอาชนะ ซิโมนา ฮาเล็ป มือวางอันดับที่ 2 ของโลก จากโรมาเนียในรอบรองชนะเลิศได้เช่นกัน,โดยในเกมนี้ทั้งสองคนสู้กันได้อย่างสูสี ในเซตแรกต้องสู้กันถึงไทรเบรกก่อนที่ ฟลาเวีย เพนเนตตา จะเอาชนะไปได้ 7-6(7-4) จากนั้นในเซตที่สอง โรแบร์ตา วินซี เริ่มอ่อนแรงลงไปอย่างชัดเจน ปล่อยให้ ฟลาเวีย เพนเนตตา ไล่หวดเอาชนะไปได้อีก 6-2,ทำให้ ฟลาเวีย เพนเนตตา เอาชนะไปได้อย่างเด็ดขาด 2-0 เซต 7-6(7-4), 6-2 ใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง 33 นาที คว้าแชมป์ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมรับเงินรางวัลจำนวน 3,300,000 ดอลลาร์ (ราว 115 ล้านบาท) และคะแนนสะสมอีก 2,000 คะแนน ขณะที่ โรแบร์ตา วินซี รับเงินรางวัลปลอบใจไป 1,600,000 ดอลลาร์ (ราว 56 ล้านบาท) และคะแนนสะสม 1,200 คะแนน.
ฟลาเวีย เพนเนตตา ไล่หวดเอาชนะ โรแบร์ตา วินซี เพื่อนร่วมชาติไปได้อย่างสนุก 2-0 เซต ในรอบชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์ในประเภทหญิงเดี่ยว ศึกเทนนิส ยูเอส โอเพ่น 2015 ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่
null
เทนนิส แกรนด์ สแลม,ยูเอส โอเพ่น 2015,หญิงเดี่ยว,รอบชิงชนะเลิศ,โรแบร์ตา วินซี,ฟลาเวีย เพนเนตตา,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/524830
ทีดีอาร์ไอระบุแรงงานต่างด้าวจัดระบบดีคุมได้ ชี้ 15 ปีเพิ่ม 7 เท่า จาก 2.9 แสนเป็นกว่า 2 ล้านคน
ดร.ยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยเปิดเผยประมาณการณ์ความจำเป็นในการใช้แรงงานต่างด้าว โดยสำหรับการใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือนั้น อีก 5 ปีข้างหน้าจะหมดยุค แรงงานต่างด้าวราคาถูก แนะนายจ้างเร่งปรับตัวใช้เทคโนโลยี เครื่องจักรเข้ามาเสริมแรงงานคน ส่วนกลุ่มแรงงานต่างด้าวระดับบน(ฝีมือดี) ซึ่งรัฐละเลยมานานและเป็นจุดอ่อนเสมอมา คือ ปล่อยให้นักลงทุนข้ามชาติใช้เงื่อนไขด้านการค้าและการลงทุน นำคนของตัวเองเข้ามาทำงาน โดยมักอ้างคุณสมบัติความเชี่ยวชาญเฉพาะ เช่น เฉพาะที่ผ่านช่องทางส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ มีจำนวนมากกว่า 2.3 หมื่นคน ทั้งที่มีแรงงานฝีมือไทยสายตรงที่สามารถทำได้เช่นสายวิทยาศาสตร์ ตกงานกว่า 3-4 หมื่นคน และหากต้องการแรงงานทั่วไปก็มีแรงงานไทยสายสังคมตกงานอีกกว่า 6-7 หมื่นคนซึ่งสามารถเพิ่มศักยภาพให้ทำงานได้ จึงไม่ค่อยยุติธรรมกับแรงงานไทยที่ยังว่างงานอยู่และมีศักยภาพเพียงพอดร.ยงยุทธ กล่าวว่า ความจำเป็นของการใช้แรงงานต่างด้าวนั้นมีมานานแล้ว ผู้ประกอบการบางส่วนจำเป็นต้องรับแรงานต่างด้าวเข้าทำงานในลักษณะงานที่แรงงานไทยไม่ทำหรือไม่มีทักษะเพียงพอ การจัดการของรัฐมุ่งเน้นไปที่กลุ่มแรงงานต่างด้าวระดับล่างซึ่งเป็นปัญหาและมีจำนวนมาก โดยในช่วง 15 ปี (พ.ศ.2540-2554) มีจำนวนเพิ่มขึ้น จาก 2.9 แสนคนในปี 2540 เป็น 1.3 ล้านคน (เฉพาะส่วนที่มีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง)ในปี 2554 และเมื่อรวมกับจำนวนแรงงานต่างด้าวที่จดทะเบียนสิ้นสุดไปเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาซึ่งคาดว่ามีไม่น้อยกว่า 7 แสนคน จะทำให้มีจำนวนแรงงานต่างด้าวในปัจจุบันกว่า 2 ล้านคน และในช่วง 15 ปีก็พบว่าจำนวนแรงงานต่างด้าวขึ้น ๆ ลง ๆ มาตลอด เป็นผลจากนโยบายผ่อนผันที่ไม่ได้ผลและความไม่จริงจังในการดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆรวมทั้งความไม่เข้มงวดเพียงพอของมาตรการ ตรวจ จับ ส่งกลับที่ ทำให้มีแรงงานย้อนกลับเข้ามาอยู่อย่างไม่ถูกต้อง ทำให้มีแรงงานต่างด้าวระดับล่างกว่า 40% ที่อยู่ในประเทศไทยในลักษณะกึ่งผิดกึ่งถูกอย่างไรก็ตามในระยะยาวปัญหาแรงงานต่างด้าวไม่น่าวิตกเมื่อสามารถจัดการอย่างเป็นระบบ ซึ่งปัจจุบัน มีการควบคุมที่ชัดเจนขึ้นโดยครั้งนี้เป็นปีสุดท้ายที่เปิดให้มีการขึ้นทะเบียน และจะไม่มีการขยายจำนวนหรือผ่อนผันเพิ่มขึ้นอีก ยกเว้นในบางสาขาที่ปรับตัวไม่ทันก็อาจจำเป็นต้องใช้ภายใต้เงื่อนไข การนำเข้าแรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือจะเปลี่ยนไปใช้วิธีนำเข้าผ่าน MOUซึ่งไทยทำไว้กับประเทศเพื่อนบ้าน 3 ชาติ คือ พม่า ลาว กัมพูชา แต่ก็ไม่น่าห่วงเพราะแต่ละปีมีจำนวนเพียง 1% หรือราว 2 หมื่นคนของจำนวนแรงงานต่างด้าวทั้งหมดและในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างดีในการพิสูจน์สัญชาติ โดยเฉพาะประเทศพม่าซึ่งแรงงานมีปัญหาเรื่องการพิสูจน์สัญชาติมากที่สุดนั้น ก็สามารถพิสูจน์สัญชาติได้แล้วกว่า 5 แสนคน จึงคาดว่าอีก 5 ปีข้างหน้าจำนวนแรงงานต่างด้าวโดยรวมไม่น่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปัจจุบันการดำเนินการต่าง ๆ จะนำไปสู่การปรับโครงสร้างหน้าใหม่ของอุตสาหกรรมและการจ้างงาน จะไม่มีแรงงานราคาถูกอีกต่อไป และการนำเข้าแรงงานมาเติมความขาดแคลนระหว่างปีโดยผ่านช่องทาง MOU นั้น จะเป็นแรงงานถูกกฎหมาย และได้สิทธิสวัสดิการต่าง ๆ เช่นเดียวกับแรงงานไทย ซึ่งจูงใจที่จะทำให้มีการนำเข้าแรงงานผ่านช่องทางนี้เพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่า จะมีการนำเข้าได้ไม่มาก เนื่องจากแรงงานมีภาระต้นทุน “ค่าหัว”ในการเดินทางที่ต้องจ่ายทั้งในประเทศตนเองและประเทศปลายทาง โดยปัจจุบันค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจาก 1.2 หมื่นบาทเป็น1.5-2 หมื่นบาท ซึ่งถือว่าสูงสำหรับแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนนายจ้างไม่เพียงมีต้นทุนค่าจ้างแรงงานเพิ่มแต่ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับโบรกเกอร์จัดหางานด้วย จึงเป็นต้นทุนที่สูง จึงต้องพิจารณาเรื่องการปรับตัวของอุตสาหกรรม การนำเทคโนโลยีและเครื่องจักร มาใช้ควบคู่กับการใช้จำนวนแรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือในจำนวนที่จำเป็นมาทำงานควบคู่กับแรงงานไทยซึ่งฝีมือดีกว่า ก็จะช่วยเพิ่มผลิตภาพและลดต้นทุนได้ดร.ยงยุทธ กล่าวว่า ประเด็นที่น่าวิตกคือ ปัญหาคอร์รัปชั่นและการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งไทยเป็นประเทศที่ถูกจับตามองในเรื่องนี้ จึงต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา และต้องสร้างความชัดเจนในเชิงนโยบาย ทิศทางการใช้แรงงานของภาคอุตสาหกรรม ที่จะทำให้เกิดการใช้แรงงานระดับล่างหรือระดับกลางน้อยลง เพราะปัจจุบันเรามีปัญหามีแรงงานระดับสูงว่างงานจำนวนมาก ซึ่งการจะทำให้เกิดความชัดเจนได้นั้นควรเร่งรัดการออกกฎกระทรวงภายใต้ พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 ให้ออกมาอย่างครบถ้วนจะทำให้สามารถกำกับดูแลการใช้แรงงานต่างด้าวได้ชัดเจนทั้งในเชิงนโยบายและการปฎิบัติ อาทิ เรื่องการคุ้มครองอาชีพสำหรับคนไทย และการอนุญาตทำงานในช่วงเวลาต่าง ๆ ฯลฯนอกจากนี้ ควรติดตามประเมินผลการดำเนินตามนโยบายอย่างต่อเนื่อง และสิ่งสำคัญคือ หน่วยงานภาครัฐควรมีการจัดทำระบบฐานข้อมูลแรงงานต่างด้าวซึ่งมีความจำเป็น เพราะการกำหนดโควต้าหรือจำนวนแรงงานต่างด้าวที่จะนำเข้ามานั้นมักมาจากการร้องขอของผู้ประกอบการแต่หน่วยงานกำกับดูแลและการตัดสินใจเชิงนโยบายไม่มีข้อมูลของตนเอง และไม่ได้ผ่านกลไกของสมาคมวิชาชีพต่าง ๆ ซึ่งในต่างประเทศ เช่น ประเทศเกาหลีหรือไต้หวัน จะให้ความสำคัญกับส่วนนี้ โดยภาครัฐกำหนดความต้องการของทั้งประเทศในแต่ละปี จากนั้นเป็นบทบาทของสมาคมวิชาชีพไปจัดสรรความต้องการแท้จริงของแต่ละสาขาอาชีพ สำหรับประเทศไทยไม่มีข้อมูลที่แท้จริงว่าจำเป็นต้องใช้แรงงานต่างด้าวในสาขาต่าง ๆ จำนวนมากน้อยแค่ไหน และควรจัดเก็บข้อมูลที่สามารถติดตามได้ว่าระหว่างมาทำงานนั้นแรงงานมีการย้ายที่อยู่หรือเปลี่ยนนายจ้างไปอยู่ที่ไหนอย่างไร ซึ่งตามเงื่อนไขของใบอนุญาตทำงานในปัจจบันเป็นการทำผิดเพราะเขาไม่สามารถเปลี่ยนนายจ้างหรือไปทำงานนอกพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตได้ในอนาคตเรื่องแรงงานต่างด้าวในแง่จำนวนไม่น่าห่วง เพราะวงรอบของการใช้แรงงานต่างด้าวอยู่ในภาวะสูงสุดแล้ว และกำลังจะหยุดนิ่งและลดลง หากมีการจัดระบบควบคุมให้เป็นไปตามกฎกติกา อย่างจริงจังจึงจะทำให้มีการใช้แรงงานอย่างเต็มศักยภาพทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าวในสัดส่วนที่ไม่สร้างผลกระทบต่อประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม อาชญากรรม ซึ่งต้องใช้งบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น
เสนอเร่งจัดระบบการใช้แรงงานต่างด้าวอย่างเหมาะสม ปฏิบัติตามกฎกติกาอย่างจริงจัง จะควบคุมได้ ไม่เพิ่มจำนวน
ภูมิภาค
ต่างด้าว,ทีดีอาร์ไอ,บีโอไอ,สินเชื่อน้ำท่วม ผู้ประกอบการ,แรงงาน
https://news.thaipbs.or.th/content/27449
รถบรรทุกทรายชนกันเอง โชเฟอร์ถูกอัดก๊อบปี้ดับคาพวงมาลัย 1 เจ็บ 2
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 8 ต.ค.59 พ.ต.ต.ชัยพร พูนจันทร์ทึก สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งคอก จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุรถบรรรทุกพ่วงชนประสานงากันมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณทางโค้งโรงสีวัดทับกระดาน ถนนทุ่งคอก-พระแท่น หมู่ 17 ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง ไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยเสมอกันสุพรรณบุรี,จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ รถบรรทุกพ่วงขนทรายเต็มคัน ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 83-9584 ตัวลูก 83-9585 สุพรรณบุรี ชนติดอยู่กับต้นไม้สภาพด้านหน้าพังยับ ส่วนคนขับถูกอัดก๊อบปี้ติดคาพวงมาลัยเสียชีวิตคาที่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างนายประยูร ทองเหี่ยง อายุ 47 ปี ออกมาได้ใกล้กันพบรถบรรทุกพ่วงยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 70-1221 ตัวลูก 70-1222 ลำพูน ตกอยู่ข้างทางทราบชื่อคนขับนายเสนอ ทิมเทศ อายุ 56 ปี ชาวจังหวัดกำแพงเพชรได้รับบาดเจ็บ,เบื้องต้นสอบสวน นายเสนอ ให้การว่า ตนขับรถไปบรรทุกทรายมาจากพระแท่นขากลับเข้ามาทางทุ่งคอก เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นช่วงทางโค้งรถเกิดเสียหลักพุ่งชนกับรถบรรทุกของผู้ตายที่วิ่งสวนมาทำให้ชนกันเข้าอย่างจังจนท้ายพ่วงของผู้ตายไปฟาดกับรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน ทะเบียน บษ 9812 นครปฐม ที่ขับตามหลังมาทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว.
รถพ่วงบรรทุกทรายประสานงากันเอง ระหว่างทางโค้งช่วงโรงสีวัดทับกระดาน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เป็นเหตุให้โชเฟอร์ดับคาพวงมาลัย 1 ราย บาดเจ็บอีก 2 ราย
null
รถบรรทุกขนทราย,รถพ่วง,ชัยพร พูนจันทร์ทึก,สภ.ทุ่งคอก,สองพี่น้อง,สุพรรณบุรี
https://www.thairath.co.th/content/747301
นักร้องร็อกฆ่าตัว วง ลิงคิน พาร์ก ผูกคอ บินมาแสดงไทย 3 ครั้ง บริจาคช่วย ภัยสึนามิ
ทิ้งปมปริศนาสาเหตุการทำอัตวินิบาตกรรมไว้เบื้องหลัง เพื่อนศิลปินสุดสะเทือนใจโพสต์ข้อความอาลัยกันเพียบ เผยก่อนดับชีวิตตัวเองเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทางวงเพิ่งมีการเปิดตัวมิวสิกวีดิโอซิงเกิลเพลงล่าสุด,โลกสูญเสียตำนานศิลปินคนดังอีกคน โดยแฟนเพลงทั่วโลกต่างพากันตกตะลึงและเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง เมื่อ เชสเตอร์ เบนนิงตัน นักร้องนำของ ลิงคิน พาร์ก วงดนตรีแนวอินดี้และอัลเตอร์เนทีฟ ร็อก สัญชาติอเมริกันชื่อก้องโลก ได้เสียชีวิตลงในวัย 41 ปี โดยสำนักงานชันสูตรศพเขตนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ แถลงว่า ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์หลังเวลา 09.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 20 ก.ค. เวลาท้องถิ่นว่า พบศพเบนนิงตันแขวนคอตายในบ้านพักส่วนตัวที่ ปาลอส เวอร์เดส เอสเทต ย่านที่พักหรูหราของเหล่าคนดังผู้มีชื่อเสียง,นายไบรอัน เอเลียส โฆษกสำนักงานชันสูตรศพเขตลอสแอนเจลิสเผยว่า เจ้าหน้าที่ทำคดีนี้เป็นคดีฆ่าตัวตาย ส่วนเว็บไซต์เกี่ยวกับชีวิตคนดัง ทีเอ็มซี เผยว่า เบนนิงตันผูกคอตายขณะอยู่บ้านคนเดียวไร้ซึ่งภรรยาและลูกๆ ในช่วงสิ้นชีวิต,หลังการเสียชีวิตของศิลปินคนดัง ไมค์ ชิโนดะ มือกีตาร์ นักแต่งเพลงหลัก นักร้องนำอีกคนของวงลิงคิน พาร์ก คู่กับเบนนิงตัน โพสต์ในทวิตเตอร์ด้วยข้อความสุดสะเทือนใจว่า ช็อกและใจสลาย แต่มันคือความจริง ขณะที่บรรดาศิลปินเพลงทั่วโลกต่างส่งสารแสดงความเศร้าเสียใจ ต่อการจากไปของเบนนิงตัน รวมทั้งนักร้องสาว อาวริล ลาวีน โพสต์ในอินสตาแกรมว่า เป็นข่าวร้ายที่สุดแทบรับไม่ไหวและชื่นชมความดีงามของเบนนิงตันขณะไปร่วมแสดงดนตรีในเทศกาล ร็อก แอม ริง ในเยอรมนี ส่วนศิลปินอื่นๆ ที่ร่วมแสดงความเศร้าเสียใจและไว้อาลัยมีไทสัน ริตเตอร์ นักร้องนำของวงพังก์ ร็อก ออลอเมริกัน รีเจคต์ส ไปจนถึงวง อิแมจิน ดรากอนส์ และ สตอร์มมี ศิลปินแนวไกรม์,เป็นที่น่าสังเกตว่าการผูกคอตายของเบนนิงตัน มีขึ้นในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 53 ปีของ คริส คอร์เนลล์ อดีตนักร้องนำของวงดนตรีแนวกรันจ์ ซาวด์การ์เดน เพื่อนสนิทของเบนนิงตันที่ผูกคอตายเช่นกันหลังการแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองดีทรอยต์เมื่อเดือน พ.ค.ปีนี้ ครั้งนั้นเบนนิงตันแถลงอย่างเศร้าเสียใจว่า คอร์เนลล์ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ชนิดที่เขาไม่เคยรู้ และไม่รู้ว่าโลกที่ปราศจากคอร์เนลล์จะเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม ก่อนเบนนิงตันเสียชีวิตแค่ 3 ชั่วโมง วงลิงคิน พาร์กได้เปิดตัวมิวสิกวีดิโอซิงเกิลเพลงล่าสุด ทอล์กกิ้ง ทู มายเซลฟ์ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการวิงวอนของนางทาลินดา แอนน์ เบนต์ลีย์ ภรรยาของเบนนิงตัน ที่ขอให้เขาควบคุมการใช้ยาเสพติด,ทั้งนี้ เบนนิงตันแต่งงานแล้ว 2 ครั้ง มีลูกกับนางทาลินดาถึง 6 คน คือเจมมี วัย 21 ปี อิสไซอา วัย 19 ปี ดราเวน วัย 15 ปี ไทเลอร์ ลี วัย 11 ขวบ และฝาแฝดชื่อลิลลีกับไลลา วัย 7 ขวบ เบนนิงตันเกิดและเติบโตที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐอริโซนา มีปัญหาเรื่องการใช้ยาเสพติดและดื่มสุราตั้งแต่ก่อนวัยรุ่น อีกทั้งมีปัญหาพ่อแม่หย่าร้างกัน เขายอมรับว่าติดยาและเหล้าแต่พยายามเลิก ขณะที่ต่อสู้กับโรคเครียดและซึมเศร้าด้วย เบนนิงตันเคยให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ดนตรี ทีม ร็อก ของอังกฤษในปี 2557 ว่าเคยถูกเพื่อนชายอายุมากกว่า ล่วงละเมิดทางเพศขณะอายุ 7 ขวบ จนถึง 13 ปี แต่ไม่กล้าขอความช่วยเหลือเพราะกลัวผู้คนคิดว่าเป็นเกย์หรือโกหก เรื่องนี้ทำให้อยากฆ่าคนและหนีไปให้พ้นๆ ต้องสงบสติอารมณ์ด้วยการวาดภาพ แต่งกลอนและแต่งเพลง แถมยังถูกเพื่อนๆ รังแกทุบตีปานตุ๊กตา ขณะเรียนไฮสกูลเพราะตัวผอมเล็กและดูไม่เหมือนใคร,เบนนิงตันเริ่มต้นอาชีพดนตรีโดยเป็นนักร้องของวง ฌอน ดาวเดล แอนด์ ฮีส เฟรนด์ส ที่เมืองฟีนิกซ์ บ้านเกิด ก่อนไปตั้งวงใหม่แนวโพสต์ กรันจ์ ชื่อ เกรย์เดซ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ กระทั่งถูกแมวมองทาบทามให้ไปเป็นนักร้องนำของวง ซีโร ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ลิงคิน พาร์ก และได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ก่อนออกอัลบั้มแรกชื่อ ไฮบริดจ์ ธีโอรี โด่งดังมาก ขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกาในปี 2544 กว่า 10 ล้านแผ่น ขายได้ทั่วโลกกว่า 30 ล้านแผ่น เพลงดังๆในอัลบั้มนี้รวมทั้ง อิน ดิ เอนด์ วัน สเต็ป โคลสเซอร์ และ ครอว์ลิง ที่เบนนิงตัน ได้ระบายถึงความสิ้นหวังในการต่อสู้กับการติดยาเสพติดในเพลง,ต่อมา วงลิงคิน พาร์ก มีเบนนิงตันผู้มีเสียงแหลมแหบห้าวเร้าอารมณ์เป็นนักร้องนำคู่กับไมค์ ชิโนดะ นักเปียโนคลาสสิกเชื้อสายญี่ปุ่น ผู้จบปริญญาตรีสาขากราฟฟิกดีไซน์ ได้ออกอัลบั้มอีก 6 อัลบั้ม ทุกอัลบั้มติดอันดับขายดีที่สุดในสหรัฐฯ รวมทั้งอัลบั้ม เมทีโอรา และ มินิทส์ ทู มิดไนท์ ทุกอัลบั้มมียอดขายรวมทั่วโลกแล้วกว่า 70 ล้านแผ่น อัลบั้มล่าสุดชื่อ วัน มอร์ ไลท์ เพิ่งวางตลาดเมื่อเดือน พ.ค.ปีนี้ ฉีกจากแนวเดิม มีการนำแนวเพลงป๊อปและอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาเพิ่มมากขึ้น เบนนิงตันยังเคยไปเป็นนักร้องนำเฉพาะกิจให้วง สโตน เทมเพิล ไพล็อตส์ ช่วงสั้นๆในปี 2556 แทนสก็อต วีแลนด์ นักร้องนำของวงนี้ ซึ่งเสียชีวิตเพราะใช้ยาเสพติดเกินขนาด,ลิงคิน พาร์ก ยังผสมผสานดนตรีหลากหลายแนวเข้าด้วยกัน ทั้งร็อก เมทัล ป๊อป ฮิพฮอพและแร็พ อีกทั้งเป็นหัวหอกของเพลงแนว นู เมทัล ซึ่งรวมโครงสร้างแนวดนตรีป๊อปและฮิพฮอพเข้าด้วยกัน ผลงานอันโด่งดังของวงลิงคิน พาร์ก ทำให้สามารถพิชิตรางวัล แกรมมี่ ถึง 2 รางวัล จากอัลบั้ม ไฮบริดจ์ ธีโอรี ในปี 2545 และจากเพลงชุด นัมบ์/อังกอร์ ในอัลบั้ม คอลลิชึ่น คอร์ส ซึ่งเป็นการร่วมงานกับ เจย์ซี ศิลปินเพลงแร็พชื่อดังในปี 2547,การเสียชีวิตของเบนนิงตันยังมีขึ้นหลังวงลิงคิน พาร์ก เพิ่งสิ้นสุดการตระเวนแสดงคอนเสิร์ตโปรโมตอัลบั้มล่าสุด วัน มอร์ ไลท์ ในอเมริกาใต้และยุโรปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และมีกำหนดตระเวนแสดงคอนเสิร์ตในสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นที่เมืองแมนส์ฟีลด์ รัฐแมสซาชูเสตต์ ในวันที่ 27 ก.ค. การเสียชีวิตของเบนนิงตันอาจทำให้ต้องมีการยกเลิกหรือเลื่อนคอนเสิร์ตที่เหลือ,สำหรับวง ลิงคิน พาร์ก นอกเหนือจากจะเป็นที่ชื่นชอบของแฟนเพลงทั่วโลกแล้ว ยังเป็นที่ชื่นชอบของแฟนเพลงชาวไทยอย่างมาก เคยมาเปิดแสดงคอนเสิร์ตในประเทศไทยถึง 3 ครั้ง คือ คอนเสิร์ตครั้งแรก Linkin Park Live in Bangkok เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 มิ.ย.2547,กลับมาระเบิดความมันครั้งที่ 2 ใน Linkin Park Live in Bangkok Minutes to Midnight Would Tour เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ย.2550 และครั้งที่ 3 ในคอนเสิร์ต Linkin Park Live in Bangkok : A Thousand Sun World Tour เมื่อวันที่วันที่ 23 ก.ย.2554 ทั้งหมดจัดแสดงที่ลานแอคทีฟ สแควร์ เมืองทองธานี,เชสเตอร์ เบนนิงตัน นักร้องนำ ยังสร้างความประทับใจให้กับคนไทย ด้วยการแสดงน้ำใจไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิทางภาคใต้ เมื่อปี 2547 บินตรงมายัง จ.ภูเก็ต ในนามของกองทุน Music For Relief ที่เหล่าสมาชิกวงลิงคิน พาร์ก พร้อมใจจัดตั้งขึ้นมีจุดประสงค์คือการบริจาคเงินช่วยเหลือเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากสึนามิ เชสเตอร์ยังเปิดเผยว่า ต้องการนำเงินบริจาคที่ได้มาช่วยสร้างบ้านเรือน สร้างโรงเรียน และธุรกิจที่หายไปขึ้นใหม่ เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้มีที่พักพิงอาศัย มีงานทำและฟื้นฟูให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอีกครั้ง และเจ้าตัวยังได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมโรงเรียนต่างๆ พร้อมกับทักทายเล่นกับเด็กๆอย่างน่าประทับใจอีกด้วย
แฟนเพลงทั่วโลกของ ลิงคิน พาร์ก สุดเศร้า เมื่อ เชสเตอร์ เบนนิงตัน นักร้องนำเจ้าของน้ำเสียงแหบห้าวเร้าอารมณ์ ตัดช่องน้อยแต่พอตัว แขวนคอตายลาโลก ในวัย 41 ปี ที่บ้านพักส่วนตัวในย่านหรูหราแหล่งที่พักคนดังแห่งนครลอสแอนเจลิส
บันเทิง,บันเทิงต่างประเทศ
นักร้องฆ่าตัวตาย,โรคซึมเศร้า,ลินคิน พาร์ค,เชสเตอร์ เบนนิงตัน ฆ่าตัวตาย,ข่าวหน้า1,นักร้อง
https://www.thairath.co.th/entertain/inter/1012475
เลิกความเชื่อ ‘คนจน’ ต้องสงเคราะห์ มุมมองชีวิตเปลี่ยนเมื่อรู้สึกว่าเรา ‘จน’
คุณเป็นคนจนหรือเปล่า? เป็นคำถามสั้นๆ ง่ายๆ แต่พอจะหาคำตอบกันจริงจังหลายคนคงตอบได้ไม่เต็มปากนัก ความจนเป็นปัญหาที่มีมานานในทุกสังคม และบริบทหรือความหมายของ ความจน เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย คำถามเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการทบทวนอย่างจริงจัง การใช้นิยามคำตอบเมื่อ 20 ปีที่แล้ว หรือมโนภาพในความคิดเรามาตอบอาจทำให้ คนจน ในหัวของเราหน้าตาผิดเพี้ยนไปจาก คนจน ในบริบทสังคมปัจจุบัน และถือเป็นโอกาสที่ดีที่คำถามข้างต้นได้รับการทบทวนอีกครั้งโดยสำนักงานสัญญาธรรมศักดิ์เพื่อประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่จัดโครงการสัมมนาวิชาการ คนจนในบริบทที่เปลี่ยนไปในสังคมปัจจุบัน เราไม่จำเป็นต้องจนถึงจะรู้จักความจนดีพอ เพราะการศึกษา เฝ้าสังเกต และพูดคุยอย่างใกล้ชิด ก็ช่วยให้เราเข้าใกล้หน้าตาของความจนได้ใกล้เคียงและชัดเจนมากขึ้นหน้าตาความจนของคนในสังคมไทยที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ผศ.ดร. สามชาย ศรีสันต์ อาจารย์ประจำวิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชี้ให้เห็นว่า ความจนไม่เคยเปลี่ยนเลยในสังคมไทย หลักคิดคนจนในสังคมไทยคือไม่เป็นที่ต้องการ ควรถูกทำให้หมดไป เช่นเดียวกับแนวคิดที่มองว่าคนจนเป็นผู้ควรได้รับความสงเคราะห์ ช่วยเหลือแบบการให้บุญสุนทาน การมีชีวิตที่ดีขึ้นของคนจนขึ้นอยู่กับผู้ปกครองจะเมตตาสงสารเพียงใด สามชาย บอกว่า ประเด็นที่อยากพูดคือ มุมมองหรือความเชื่อเกี่ยวกับความยากจนในสังคมไทย ซึ่งนำไปสู่การแก้ปัญหาแบบในปัจจุบัน ความหมายของความจนก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม เรามีความแตกต่างเหลื่อมล้ำไม่มากนัก ความยากจนสมัยก่อนมีแค่ในเวลาที่เกิดภัยพิบัติ ภาวะโรคระบาด ภาวะขาดแคลนอาหาร คนที่ได้รับชะตากรรมเหล่านี้คือคนยากจนในอดีตซึ่งหน้าที่ของผู้ปกครองคือการเยียวยาสงเคราะห์นิยามความจนของคนไทยในยุคแรก ในอดีตความยากจนคือเรื่องเวรกรรม ความเชื่อว่าทำบาปไว้เยอะจึงได้รับการลงโทษ คนที่มีบุญบารมีเหนือกว่าก็มีหน้าที่สงเคราะห์ แนวความคิดและการปฏิบัติเช่นนี้มีมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ในอดีตเวลาเราพูดถึงความทุกข์ยากในสังคมไทยจะเป็นเรื่องของเวรกรรม ไม่ใช่เรื่องของการไม่มีงานทำ หรือความจนในเชิงโครงสร้าง หรือความไม่ขยันหมั่นเพียรนิยามความจนของคนไทยหลังปฏิวัติอุตสาหกรรม ยุคอุตสาหกรรมวิธีคิดที่ว่าคนต้องปรับตัวเข้ากับธรรมชาติ คนทุกคนเมื่อมีศักยภาพแข็งแรงเท่านั้นจึงจะอยู่รอด วิธีคิดแบบนี้ทำให้เรามองคนจนว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่ปรับตัวไม่ได้ ในการปฏิวัติอุตสาหกรรมต้องการคนที่แข็งแรงทำงานเพื่อตอบสนองต่อเศรษฐกิจ คนจนจึงถูกมองว่าเป็นพวกที่ปรับตัวไม่ได้และถูกกำจัดไปให้หมดจากธรรมชาติ มุมมองการช่วยเหลือก็ไม่ต่างจากเดิม คือ ต้องช่วยเหลือเยียวยาต่อไป เห็นได้จากงานกระแสหลักที่โด่งดังมากในปี 1950 ที่มองว่า คนยากจน จมปลักอยู่กับวัฒนธรรมความยากจน ไม่เคยลืมตามาดูโลก ไม่สนใจการเมือง ไม่สนใจการมีส่วนร่วม มีสังคมอยู่กับคนจนด้วยกัน ทำให้วนเวียนอยู่ในภาวะความจน มุมมองแบบนี้ชนชั้นนำไทยยังใช้มองคนจนอยู่ ซึ่งเป็นมุมมองเมื่อ 67 ปีที่แล้ว และทุกวันนี้ไม่มีใครมองแบบนี้อีกแล้ว เพราะพบว่าคนยากจนปัจจุบันตื่นตัวกับการเมือง สนใจเรียกร้องต้องการไขว่คว้าหาโอกาสและความก้าวหน้าในชีวิตความจนเกิดจากความผิดพลาดในการทำงานของรัฐ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ธนาคารโลก (World Bank) พยายามให้มิติความเติบโตทางเศรษฐกิจและความยากจนไปในทิศทางเดียวกัน ก็คือการวัดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ พอถึงยุคแนวคิดเสรีนิยมใหม่ รัฐพยายามแปรรูปให้เอกชน เงินที่ช่วยเหลือคนจนถูกตัดให้ลดลง และเกิดแนวคิดให้ประชาชนพึ่งตัวเอง การพึ่งพารัฐคือการเพิ่มภาระให้รัฐ วิธีคิดแบบเสรีนิยมใหม่ ทำให้ประเทศต่างๆ ตัดงบช่วยคนจนเอง คือรัฐจะไม่ช่วย แต่คนจนต้องช่วยตัวเอง มุมมองแบบนี้ก็ติดมาถึงคนไทย ยกตัวอย่างเช่น ให้หลุดพ้นความยากจนด้วยความพอเพียง ลดการช่วยเหลือจากโครงการรัฐ แต่ในขณะเดียวกันรัฐไทยไม่เคยมองว่าความจนเกิดจากความล้มเหลวในการดำเนินงานของรัฐ ทางแก้ไขที่ควรจะเป็นคือนับรวมคนจนเข้ามาเป็นภาระรับผิดชอบของรัฐ สร้างความเท่าเทียม สร้างการปกป้องทางสังคม ไม่ให้คนที่ได้รับผลกระทบจากแนวทางการพัฒนาของรัฐตกไปสู่ความจน เพราะความจนมันถูกกระทำโดยรัฐ ต้องปกป้องไม่ให้โครงการรัฐเข้าไปกระทำให้ชีวิตเขายากกว่าเดิม แต่สิ่งที่รัฐทำตอนนี้ตรงข้ามหมดเลยความยากจนในมุมมองของเสรีภาพ ดร. ธร ปีติดล อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ช่วยเปิดมิติใหม่ของความจน โดยไม่ใช้รายได้มาเป็นเป็นปัจจัยชี้ขาดความยากจนเพียงอย่างเดียว โดยยกนิยามของนักเศรษฐศาสตร์ อมาร์ตยา เซน (Amartya Sen) ว่า การแก้ปัญหาความยากจนไม่ใช่แค่การเพิ่มรายได้ แต่คือการสร้างชีวิตที่ดี คำถามคือแล้วชีวิตที่ดีคืออะไร? คำตอบคือชีวิตที่ดี คือการมีเสรีภาพในการดำเนินชีวิตไปในทางที่ตนเองให้คุณค่า ความยากจนจากมุมมองของเสรีภาพ คือ การปราศจากโอกาส ซึ่งหมายรวมถึงการขาดแคลนรายได้ และการขาดแคลนการเข้าถึงบริการของรัฐ นอกจากนี้ความจนยังหมายถึง การปราศจากการมีส่วนร่วม คือไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมรอบข้าง และไม่สามารถร่วมตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญกับตนเองได้ ถ้าเรามองสังคมไทยกันจริงๆ สิ่งสำคัญของคนที่มีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดี ไม่ได้เชื่อมโยงอยู่กับความมีไม่พออีกต่อไป แต่ขึ้นอยู่กับชีวิตที่ดีที่ขาดหายไป และความเหลื่อมล้ำ ความใฝ่ฝันหลักของชาวนา ไม่ใช่การอยู่รอด แต่คือการอยากเป็นชนชั้นกลาง ทุกวันนี้ชาวนาไทยไม่ได้ทำนาแบบดั้งเดิมอีกต่อไป แต่มีลักษณะเป็นผู้ประกอบการ คือ จ้างทำนา ดังนั้น ชาวนาไทยต้องการได้รับการยอมรับในฐานะผู้ประกอบการเช่นเดียวกับ SME ของชนชั้นกลางความรู้สึกว่าตัวเองจน ส่งผลกระทบกว่าที่คิด ดร. ธร เปรียบเทียบนโยบายรัฐ 2 ด้าน คือ บัตรคนจน กับบัตร 30 บาทรักษาทุกโรค บัตรคนจนคือการช่วยเหลือแบบเฉพาะเจาะจง ขณะที่บัตร 30 บาท คือ สวัสดิการแบบถ้วนหน้า ความต่างของสองตัวนี้เป็นประเด็นที่ควรพูดถึงอย่างมาก การได้รับการช่วยเหลือคือคุณต้องจน กับ คุณเป็นใครก็ได้ก็จะได้รับความช่วยเหลือเช่นกัน มีความแตกต่างกันมาก ดร. ธร ชี้ตัวอย่างที่น่าสนใจว่า การอยู่ในสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำมันกระทบต่อการใช้ชีวิต และมุมมองต่อโลกอย่างไร ตัวอย่างในหนังสือ The Broken Ladder ของ Keith Payne ชี้ให้เห็นว่า คุณอาจจะไม่จน แต่ความรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนจน ก็นำไปสู่ผลกระทบในชีวิตได้เช่นกัน ผู้เขียนอธิบายตัวอย่างที่น่าสนใจไว้ในหนังสือว่า ในสมัยเขาเป็นเด็กมีฐานะยากจนซึ่งได้สิทธิ์อาหารฟรีจากโรงเรียน โดยทุกวันต้องไปต่อคิวรับอาหารฟรี แต่มีวันหนึ่งที่แคชเชียร์เปลี่ยนคน แล้วคิดเงินค่าอาหารจากเขา วันนั้นเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตที่ทำให้คนอื่นรวมถึงตัวเขาเองรู้ว่าเขาคือ คนจน นับแต่วันนั้นมามุมมองสิ่งรอบตัวของเขาเปลี่ยนไป สายตาที่มองเพื่อนในโรงเรียนที่มีฐานะดีกว่าก็เปลี่ยนไป ความรู้สึกว่าตนเองจะไม่ได้มีโอกาสในชีวิตที่ดีเหมือนเพื่อนของเขาก็เริ่มปรากฏขึ้น นี่คือตัวอย่างของความรู้สึกจนซึ่งส่งผลต่อมุมมองของโลกและการใช้ชีวิต จึงไม่น่าแปลกใจที่คนจนมักจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย การไม่ได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกันเพราะจน ทำให้คนจนยินดีที่จะเสี่ยงเพื่อให้ชีวิตของตนดีขึ้น เพราะไหนๆ ก็ไม่มีอนาคตที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว ดังนั้น การช่วยเหลือแบบเฉพาะเจาะจงกับแบบถ้วนหน้า จึงเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อความรู้สึกของความจนสังคมไทยเปลี่ยน หน้าตาความจนก็เปลี่ยนไป ศ.ดร. อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ จากภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ รศ.ดร. ประภาส ปิ่นตบแต่ง ชี้ให้เห็นว่า นอกจากเส้นความยากจนแล้วยังมีมิติความจนในเชิงโครงสร้าง คนจนในโครงสร้างการผลิตที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ การเข้าถึงปัจจัยการผลิต ค่าจ้างแรงงาน คนจน ปัจจุบันถูกตีความให้กว้างไปกว่า เกษตรกร แรงงาน หรือสมัชชาคนจนในอดีต เส้นความยากจนปัจจุบันอยู่ที่ 2667 บาทต่อคนต่อเดือน ซึ่งพอหรือไม่พออาจจะเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันได้ แต่ข้อสังเกตคือ ประเทศไทยเรามีคนเกือบจน คือ คนที่มีรายได้มากกว่าเส้นความยากจนไม่เกิน 20% ซึ่งตัวเลขปี 2558 ประมาณ 5.6 ล้านคน ซึ่งถ้าเอาคนเกือบจนรวมกับคนจน จำนวนจะมากกว่า 10% ของจำนวนประชากร ทุกวันนี้สังคมไทยเปลี่ยนไปจากสังคมชาวนามาสู่สังคมผู้ประกอบการ เพราะสังคมการทำนา ทุกวันนี้คือการจ้างงานทำนา การผลิตแบบผู้ประกอบการ ทำให้เกิดสังคมคนเกือบจน ทำให้สถิติคนเกือบจนเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันสังคมเมืองก็ซับซ้อนมากขึ้น ความรู้เรื่องสลัมของเราหยุดนิ่ง ทุกวันนี้สลัมขยายตัวไปสู่หมู่บ้านจัดสรรระดับล่าง สิ่งเหล่านี้สังคมไทยขาดความรู้ความเข้าใจ และเมื่อไม่เข้าใจก็จะจัดวางตำแหน่งคนจนอย่างผิดที่ผิดทาง คำถามสำคัญคือ ทำอย่างไรให้คนรู้ว่าสังคมไทยเปลี่ยนแล้ว ไม่มีสังคมชาวนาลงแขกเกี่ยวข้าวแบบอดีต แต่คือสังคมผู้ประกอบการที่ต้องการการยอมรับ การอุดหนุนส่งเสริมไม่ต่างจาก SME ของชนชั้นกลางในเมือง หน้าตาของความจน เปลี่ยนรูปแปลงร่างไปตามความเปลี่ยนแปลงของสังคม ความจน และคนจน จึงไม่ได้มีนิยามที่อยู่นิ่งตามมโนภาพแบบเดิม ตัวชี้วัดความจนก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่รายได้เพียงปัจจัยเดียว การทบทวนและทำความรู้จักหน้าตาของความจน อาจทำให้เราแก้ปัญหาความจนได้ถูกที่ถูกทางขึ้นภาพประกอบ:
ทบทวนความจนตามมโนภาพของเราใหม่ เพราะหน้าตาของความจนเปลี่ยนไปตามการพัฒนาของสังคมความจนไม่ได้วัดกันที่รายได้อย่างเดียว เพราะเสรีภาพและสิทธิพื้นฐานก็เป็นปัจจัยที่สำคัญเช่นกันสังคมไทยเปลี่ยนไป หน้าตาของความจนก็เปลี่ยนตาม แต่ปัญหาคือคนไทยยังไม่เข้าใจ และมองคนจนด้วยสายตาแบบเดิม
null
null
https://thestandard.co/poverty-defining/
กรมอุทยานฯ วางทุ่นป้องกันทิ้งสมอเรือทำลายปะการังเกาะพีพี
วันนี้ (25 เม.ย.2560) นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ร่วมเปิดการวางทุ่นสำหรับผูกเรือนำเที่ยวตามหาดต่างๆ ในพื้นที่รอบเกาะพีพี จ.กระบี่ เช่น อ่าวมาหยา เพื่อป้องกันการทิ้งสมอเรือและเพิ่มความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวระหว่างดำน้ำดูปะการัง ทั้งนี้ กรมอุทยานฯ จัดสรรงบประมาณ 128 ล้านบาท ให้กับอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เพื่อจัดสร้างที่พัก ห้องน้ำ จัดซื้อเรือ และวางทุ่นนายธัญญา กล่าวว่า ปี 2559-2560 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี มากกว่า 1700000 คน และในรอบ 3 ปี สามารถจัดเก็บรายได้กว่า 1000 ล้านบาท จึงจัดสรรงบประมาณคืนกลับมาพัฒนาพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมขาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนการปิดอ่าวมาหยาเพื่อฟื้นฟูนั้น จะดำเนินการอย่างรอบคอบไม่ให้กระทบต่อการท่องเที่ยว
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช วางทุ่นผูกเรือนำเที่ยวบริเวณอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ป้องกันการทิ้งสมอเรือทำลายปะการังและเพิ่มความปลอดภัยนักท่องเที่ยว
สิ่งแวดล้อม
ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS,สิ่งแวดล้อม,ทิ้งสมอเรือ,ปะการัง,เกาะพีพี
https://news.thaipbs.or.th/content/261915
สร้างกำแพงปิดที่ดินตาบอด สองพี่น้องแฝดต้องปีนรั้วลวดหนามไปโรงเรียน
ด.ช.อดิศร กิ้มเฉี้ยง เพชร และ ด.ญ.ศรสวรรค์ กิ้มเฉี้ยง พลอย อายุ 7 ขวบ พี่น้องฝาแฝด ต้องปืนกำแพงที่มีลวดหนาม ก่อนเดินลุยน้ำที่ท่วมขังไปโรงเรียนในพื้นที่หมู่ 2 ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง หลังครอบครัวเกิดปัญหากระทบกระทั่งกับเพื่อนบ้าน ทำให้เพื่อนบ้านซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินใกล้เคียงสร้างกำแพงล้อมที่ดินปิดเส้นทางเข้าออกน.ส.อัญชิษฐา ชูชีพ มารดาของเด็กทั้ง 2 คน เล่าว่า เมื่อประมาณเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าของที่ดินข้างเคียงอ้างว่าครอบครัวของเธอเข้าไปขโมยยางพารา จึงเกิดปากเสียงก่อนจะปิดเส้นทางเข้า-ออก สร้างความลำบากในการเดินทางอย่างมาก เช่น สัปดาห์ที่ผ่านมา พระอิด ชูชีพ ซึ่งเป็นปู่ได้มรณภาพ ญาติต้องหามศพข้ามกำแพงอย่างทุลักทุเลด้าน นางแพร้ว คีรีรัตน์ เจ้าของที่ดินใกล้เคียง กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องสร้างกำแพง เพราะบริเวณดังกล่าว เป็นโรงเก็บยางพาราแผ่น ที่ผ่านมามีผู้ที่เข้ามาขโมยยางพารา สายไฟ และมอเตอร์เครื่องจักร มูลค่ากว่า 800000 บาท จึงต้องสร้างกำแพงป้องกันขโมยขณะที่ นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ซึ่งลงพื้นที่ตรวจสอบ กล่าวว่า ปัญหานี้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนได้ดำเนินการฟ้องศาลแล้ว พร้อมสั่งการให้สำนักงานที่ดิน จ.ตรัง ตรวจสอบโฉนดแปลงดังกล่าวว่า มีการกันเป็นพื้นที่สาธารณะหรือไม่ หากพบว่ามีการกันแนวเขตเป็นเส้นทางสาธารณะ ก็จะให้เทศบาลเข้ามาดำเนินการเพื่อแก้ปัญหา โดยเฉพาะเด็กทั้ง 2 คนที่ต้องปีนกำแพงมาโรงเรียนทุกวัน พร้อมแนะนำให้เด็กไปอาศัยกับญาติที่อื่นก่อน
เด็กแฝดสองพี่น้อง ต้องปีนกำแพงที่มีลวดหนามไปโรงเรียน พบเป็นปัญหาขัดแย้งระหว่างเพื่อนบ้านติดกัน สร้างกำแพงล้อมที่ดินปิดทางเข้า-ออก ผู้ว่าฯ ตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมให้สำนักงานที่ดินตรวจสอบมีการกันพื้นที่สาธารณะหรือไม่ แนะเด็กไปอาศัยกับญาติก่อน
สังคม
ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ตรัง
https://news.thaipbs.or.th/content/263232
วอลเลย์เยาวชนหญิงไทยคว้าสิทธิ์แข่งชิงแชมป์โลกปีหน้า หลังชนะอินเดีย 3-0 เซต
นัดนี้เป็นเกมชี้ชะตาของทีมวอลเลย์บอลเยาวชนหญิงทีมชาติไทยว่าจะสามารถคว้าสิทธิผ่านเข้ารอบสุดท้ายวอลเลย์บอลเยาวชนโลก ที่ประเทศสาธารณรัฐเช็กในปีหน้าได้หรือไม่ โดยต้องเอาชนะอินเดียให้ได้ เพื่อผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเท่านั้น ทีมนักตบเยาวชนสาวไทยเริ่มต้นได้ดีตั้งแต่เซตแรกออกนำห่าง 8-1 คะแนน ก่อนจะเอาชนะไปขาดลอยในเซตนี้ 25-13 คะแนนแต่เซตที่ 2 เกมของไทยเกิดช็อตไปดื้อ ๆ จนถูกอินเดียนำห่าง 11-6 คะแนน โค้ชยะ-ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาคต้องส่งสินีนาฏ โพธิ์เจริญ และชุติกานต์ พลไชย ลงเล่น ก่อนจะทำคะแนนตีเสมอ 18-18 และ แซงเอาชนะไปได้ในเซตนี้ 25-21 คะแนน เซตที่ 3 ไทยอาศัยการตบหัวเสาเล่นงานอินเดียจนทำคะแนนนำห่าง 22-12 คะแนน และเอาชนะไปได้ในที่สุด 25-15 คะแนน ทำให้ไทยชนะอินเดีย 3-0 เซต ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ พร้อมกับคว้าสิทธิผ่านเข้ารอบสุดท้ายวอลเลย์บอลเยาวชนหญิงชิงแชมป์โลกที่สาธารณรัฐเช็กในปีหน้าได้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้สำหรับรอบรองชนะเลิศทีมนักตกเยาวชนสาวไทยจะพบกับไต้หวันในวันนี้ ( 8 ต.ค.) เวลา 15.00 น. แฟนวอลเลย์บอลชาวไทยที่สนใจสามารถเข้าชมการแข่งขันได้ที่สนามกีฬาโรงเรียนเทศบาล 5 จังหวัดนครปฐม โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
ทีมวอลเลย์บอลเยาวชนหญิงทีมชาติไทยคว้าสิทธิผ่านเข้ารอบสุดท้ายวอลเลย์บอลเยาวชนชิงแชมป์โลกในปีหน้าได้อย่างแน่นอนแล้ว หลังจากเอาชนะอินเดีย 3-0 เซต ในการแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้าย วอลเลย์บอลเยาวชนหญิงชิงแชมป์เอเชีย ที่สนามกีฬาโรงเรียนเทศบาล5 จังหวัดนครปฐม
กีฬา
ชิงแชมป์โลก,วอลเลย์,เยาวชนหญิง,แชมป์เอเชีย
https://news.thaipbs.or.th/content/116790
ระทึก ชายติดอาวุธยึดรถโดยสารจับตัวประกัน 16 คน ในยูเครน
วันนี้ (22 ก.ค.2563) ชายติดอาวุธบุกยึดรถโดยสารและจับผู้โดยสารบนรถ 16 คน เป็นตัวประกันในเมืองลุทสค์ (Lutsk) ของยูเครน โดยผู้ก่อเหตุยิงเข้าใส่ตำรวจที่ระดมกำลังเข้ามาปิดล้อมและขว้างระเบิดออกมาจากรถแต่ระเบิดไม่ทำงาน นอกจากนี้ ยังบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า วางระเบิดไว้ในที่สาธารณะ ซึ่งสามารถจุดชนวนได้จากเครื่องควบคุมระยะไกลมีรายงานว่าโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้เจรจากับผู้ก่อเหตุนำไปสู่การปล่อยตัวประกัน 3 คน ก่อนที่กำลังตำรวจจะช่วยตัวประกันที่เหลืออีก 13 คน ออกมาได้อย่างปลอดภัยทั้งหมดและควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ โดยวิกฤตตัวประกันยุติลง หลังตำรวจพยายามเจรจาเกลี้ยกล่อม ผู้ก่อเหตุเป็นเวลานานหลายชั่วโมงทั้งนี้ ตำรวจเปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุชื่อ มักซิม ครีวอช อายุ 44 ปี มีประวัติเคยต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 10 ปี ในหลายข้อหา รวมถึงฉ้อโกงและมีอาวุธผิดกฎหมายในครอบครอง แต่ยังไม่มีการเปิดเผยแรงจูงใจในการก่อเหตุ
เกิดเหตุชายติดอาวุธบุกยึดรถโดยสารและจับผู้โดยสารบนรถ 16 คน เป็นตัวประกัน หลังตำรวจใช้เวลาเจรจานานหลายชั่วโมง ก็สามารถช่วยเหลือตัวประกันออกมาได้อย่างปลอดภัยทั้งหมดและควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้พร้อมเร่งสอบสวนหาเหตุจูงใจ
ต่างประเทศ
ยูเครน,จับตัวประกัน,ยึดรถโดยสาร,ประธานาธิบดียูเครน
https://news.thaipbs.or.th/content/294799
บรรยากาศทำบุญออกพรรษาหลายพื้นที่ทั่วประเทศคึกคัก
วันนี้ (24 ต.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวนำอาหารคาวหวานมาร่วมทำบุญในงานประเพณีออกพรรษาที่วัดศรีโพธิ์ชัย ต.แสงภา อ.นาแห้ว จ.เลย ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี ซึ่งคนในชุมชนยังคงสืบทอดประเพณีการทำบุญที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น โดยเฉพาะในวันพระใหญ่ ชาวบ้านจะมารวมตัวที่วัด เพื่อทำบุญตลอดทั้งวันสำหรับประเพณีออกพรรษาของชาวบ้านใน อ.นาแห้ว ยังคงไว้ด้วยกลิ่นอายของประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนในท้องถิ่นที่สืบทอดกันมา โดยชาวบ้านที่นี่จะเคร่งครัดในพุทธศาสนา โดยวันพระวันโกนจะไม่ฆ่าสัตว์และไม่กินเนื้อสัตว์ ซึ่งเอกลักษณ์งานบุญออกพรรษาของวัดศรีโพธิ์ชัย ชาวบ้านจะนำพืชผลทางการเกษตรมาถวายวัด โดยการติดไว้บนต้นทานที่ชาวบ้านร่วมกันทำขึ้นก่อนจะนำไปแห่รอบวัด โดยมีความเชื่อว่าจะทำให้ให้พืชผลทางการเกษตรอุดมสมบูรณ์ทั้งนี้ วัฒนธรรมประเพณีที่เคร่งครัด รวมถึงความสวยงามของสภาพภูมิประเทศที่เป็นหุบเขา ทำให้ อ.นาแห้ว กำลังถูกพัฒนาด้านท่องเที่ยวให้เป็นเมืองคู่แฝดของราชอาณาจักรภูฏาน เนื่องจากมีคล้ายคลึงด้านวิถีชีวิตของผู้คนและสภาพพื้นที่ โดยมีการทำข้อตกลงร่วมกันของ 2 ประเทศ เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกัน โดยเน้นการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ซึ่งถือเป็นการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนส่วนการจัดการท่องเที่ยว อ.นาแห้ว ปัจจุบันยังเน้นการเรียนรู้วิถีวัฒนธรรมของคนในชุมชน รวมถึงการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เนื่องจากพื้นที่ทั้ง 5 ตำบลของ อ.นาแห้ว ทั้งหมดอยู่ในเขตป่า แต่ละชุมชนเริ่มพัฒนาจุดชมวิว ทะเลหมอก ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศขณะที่เมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา ประชาชนชาวเชียงราย และนักท่องเที่ยวร่วมพิธีทำบุญตักบาตรเป็งปุ๊ด หรือตักบาตรเที่ยงคืน เพื่อร่วมอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของชาวล้านนาที่มีอย่างยาวนาน โดย 2 ข้างทางตั้งแต่ที่หน้าวัดมิ่งเมืองไปจนถึงหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ อ.เมือง จ.เชียงราย ระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร มีพุทธศาสนิกชนนำข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม มาทำบุญตักบาตรอย่างคึกคัก ชาวบ้านเชื่อว่าหากใครได้ตักบาตรพระอุปคุตในวันเป็งปุ๊ด ชีวิตจะมีแต่ความรุ่งเรือง ปีหนึ่งจะมีเพียง 1 หรือ 2 ครั้งเท่านั้นส่วนในช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่วัดบุญเกิด อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ประชาชนจำนวนมากนำอาหารคาวหวานมาทำบุญกันอย่างคึกคัก เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับญาติผู้ล่วงลับในช่วงเทศกาลออกพรรษา หรือที่ชาวล้านนาเรียกว่าตานขันข้าว วันออกพรรษาเช่นเดียวกับที่ จ.นครสวรรค์ พุทธศาสนิกชนเดินทางไปทำบุญที่วัดนครสวรรค์กันตั้งแต่เช้า โดยส่วนใหญ่ต่างนำข้าวต้มมัดและลูกโยน ซึ่งเป็นขนมหวานที่นิยมนำมาทำบุญในช่วงออกพรรษา มาทำบุญในวันพระใหญ่ส่วนที่ จ.นครพนม นางรำจาก 8 ชนเผ่า ร่วมฟ้อนรำบูชาองค์พระธาตุพนม บริเวณหน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม เนื่องในวันออกพรรษา ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมประเพณีที่ถือปฏิบัติ ก่อนที่ช่วงเย็นวันนี้จะมีพิธีไหลเรือไฟ เพื่อสืบสานประเพณีอันดีงาม และส่งเสริมการท่องเที่ยวขณะที่บรรยากาศที่ด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี คึกคักไม่แพ้กัน ประชาชนทั้งชาวไทยและเมียนมา ร่วมกันทำบุญตักบาตรเทโว ให้พระสงฆ์ และแม่ชี ที่ทางการเมียนมาได้นิมนต์พระจากวัดต่างๆ ในพื้นที่กว่า 120 วัด มารับบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ซึ่งพิธีตักบาตรเทโวของเมืองพญาตองซู เมียนมาปีนี้ จัดขึ้นเป็นติดต่อกันมาเป็นปีที่ 27 แล้วเช่นเดียวกับบรรยากาศทำบุญตามวัดต่างๆ ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่พบว่าปีนี้ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว รวมทั้งผู้ที่มาอาศัยทำงานในตัวเมืองพัทยา ต่างพาญาติและพี่น้องไปทำบุญตักบาตรที่วัดกันตั้งแต่เช้า ส่งผลให้บรรยากาศออกพรรษาปีนี้ค่อนข้างคึกคัก
บรรยากาศวันออกพรรษาในปีนี้ หลายพื้นที่เป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนออกมาทำบุญกันตั้งแต่เช้า โดยเฉพาะ จ.เชียงราย ขณะที่ อ.นาแห้ว จ.เลย ที่กำลังถูกพัฒนาเป็นเมืองคู่แฝดกับราชอาณาจักรภูฏาน ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวมาร่วมทำบุญที่วัดศรีโพธิ์ชัย
ภูมิภาค
วันออกพรรษา,ออกพรรษา,ทำบุญ,ตักบาตร,เชียงราย,เลย,นาแห้ว,พะเยา,นครสวรรค์,นครพนม,กาญจนบุรี,ชลบุรี,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/275280
ประตูรถเมล์หนีบนิ้ว นศ.ขาด ขณะลงจากรถ จ.สมุทรปราการ
นายพีระศักดิ์ แก้วธนัชสิริ อายุ 44 ปี พร้อมนายอัฐวีร์ แก้วธนัชสิริ อายุ 18 ปี นำหลักฐานภาพถ่ายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังลูกชายได้รับบาดเจ็บนิ้วนางมือซ้ายขาด 1 ข้อ แพทย์ต้องเย็บบาดแผลถึง 6 เข็มโดยอ้างว่าถูกประตูรถหนีบเหตุเกิดขณะโดยสารรถประจำทางร่วมบริการนายอัฐวีร์ให้การว่า ตนเองเดินทางโดยใช้บริการรถโดยสารรถร่วมบริการสาย 82 เพื่อไปเรียนหนังสือย่านปากคลองตลาด กรุงเทพฯ เป็นประจำทุกวัน ก่อนเกิดเหตุขึ้นรถมากับเพื่อนนักเรียนหญิงจากปากคลองตลาดเพื่อเดินทางกลับบ้านที่ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เมื่อรถแล่นมาถึงสามแยกพระประแดงจึงชวนเพื่อนลุกจากที่นั่งเดินไปที่ประตูหลังของรถ ก่อนกดกริ่งให้รถหยุดที่ป้ายรับ-ส่ง บริเวณสามแยกพระประแดงโดยเพื่อนยืนรอที่บันไดทางลงส่วนตนเองยืนอยู่ข้างหลังเมื่อถึงป้ายหยุดรับ-ส่งเตรียมตัวจะลงโดยรถยังจอดไม่สนิท แต่กระเป๋ารถเก็บค่าโดยสารซึ่งเป็นผู้หญิงบอกให้รีบลงเพื่อนจึงได้ลงจากรถจากนั้นตนเองจึงลงตามไป จังหวะนั้นมือก็ไปจับบริเวณขอบประตูรถ พร้อมลงจากรถโดยรถไม่ได้จอดสนิททันทีที่รถเคลื่อนตัวออกไปก็มีอาการชาที่มือซ้ายเมื่อยกมือขึ้นมาดูก็รู้สึกตกใจเพราะมีเลือดไหลพุ่งออกมาจากนิ้วนางที่ขาดหายไป 1 ข้อ แม้จะพยายามดูหมายเลขประจำข้างรถ แต่ก็ไม่เห็นเพราะรถแล่นออกไปไกลแล้วเมื่อตั้งสติได้เพื่อนจึงพาไปโรงพยาบาลโดยแพทย์ต้องเย็บถึง 6 เข็ม จากนั้น จึงโทรศัพท์บอกผู้ปกครองก่อนเข้าแจ้งความเพื่อให้ตำรวจติดตามรถคันดังกล่าวพร้อมคนขับ มาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยหลังลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว ตำรวจจะไปตรวจสอบที่ ท่าปล่อยรถสายนี้เพื่อหาเบาะแสข้อมูลรถ รวมทั้งคนขับและพนักงานเก็บค่าโดยสารมาสอบสวนปากคำเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
นศ.ชาย เข้าแจ้งความตำรวจเพื่อให้ติดตามคนขับรถเมล์สาย 82 มาสอบสวนและรับผิดชอบ หลังถูกประตูรถเมล์หนีบนิ้วมือจนขาดขณะลงจากรถเมล์ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
อาชญากรรม
นิ้วขาด,รถเมล์,ผู้โดยสาร,พระประแดง,พระสมุทรเจดีย์
https://news.thaipbs.or.th/content/281646
ใครผิดกฎหมาย? หนุ่มสุดงง จยย.วิ่งย้อนศรเป็นขบวน
เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 58 ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า ผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก Supawat Sangkhaw ได้อัพโหลดคลิป บางทีก็คิดน่ะ ขับรถย้อนศรป่าว โดยเป็นเหตุการณ์ขณะเจ้าตัวกำลังขับขี่อยู่บนถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นเส้นทางเดินรถทางเดียว แต่พบว่ามีผู้ขับขี่จักรยานยนต์ขับรถย้อนศรจำนวนมาก ซึ่งสร้างความแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้กับ สน.บางยี่ขัน,จากคลิปดังกล่าว สายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ ได้ตรวจไปสอบยัง พ.ต.ท. ไพรัตน์ ทาคูณ สว.จร. สน.บางยี่ขัน และได้รับแจ้งว่า ตำรวจในพื้นที่ทราบถึงปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างดี และได้แก้ไขปัญหามาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ขับรถ รวมทั้งได้ส่งเจ้าหน้าที่กวดขันวินัยจราจรเป็นประจำในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยสาเหตุที่จุดดังกล่าวมีประชาชนย้อนศรเป็นจำนวนมาก คาดเกิดจากต้องการร่นระยะเวลาในการเดินทาง เพื่อลักไก่ไปขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า รวมถึงบางรายต้องการย้อนศรออกไปเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังสะพานพระราม 8 เบื้องต้นจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้กวดขันมากยิ่งขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวอันตรายต่อผู้ใช้เส้นทาง โดยโทษสูงสุดของการไม่ขับรถไปตามทิศทางที่กำหนดอยู่ที่ 500 บาท,ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : ,Supawat Sangkhaw
หนุ่มสุดงง! จยย.วิ่งย้อนศรเป็นขบวน ใกล้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า หวังลดเวลาเดินทาง ตำรวจยัน กวดขันมาโดยตลอดโทษสูงสุดอยู่ที่ 500 บาท …
null
แชร์ร้องฟ้องโลก,คลิปวิดีโอ,จักรยานยนต์,วิ่งย้อนศร,สมเด็จพระปิ่นเกล้า,บางยี่ขัน,สายตรวจโซเชียล,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,Thairath
https://www.thairath.co.th/content/536789
ฎีกายืนจำคุก10ปี พ.ต.อ.เด็กป๋าลอ
กรณีร่วมกับ ป๋าลอ ชลอ เกิดเทศ และพวกรวม 8 คนกระทำความผิด ศาลลงโทษเนื่องจากมีพยานจำเลย 4 ปาก ยืนยันผู้ต้องหาอมเงินโดยไม่ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน,ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา คดี พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ อดีตผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ พ.ต.อ.ประเสริฐ จันทราพิพัฒน์ อดีต ผกก.ตำรวจม้า กองบังคับการตำรวจสายตรวจ (ยศขณะนั้น) พ.ต.ต.ธานี สีดอกบวบ อดีต สว.กก.กาฬสินธุ์ ยังหลบหนีการดำเนินคดี ร.ต.อ.ฤทธิศาสตร์ แก้วเดช อดีตรอง สว.สส.สภ.อ.บ้านตาก จ.ตาก ด.ต.เท่ง ติ๊บปะละวงศ์ อดีต ผบ.หมู่ สภ.อ.เถิน จ.ลำปาง จ.ส.ต.สนิท กาวิชา อดีต ผบ.หมู่ สภ.อ.เถิน จ.ส.ต.เสวก หรือส่วย กันทะมา อดีตแผนก 5 กก.2 ป. และนายสุรจิต หรือแดงหงอก ชัยศิริ เสียชีวิตเมื่อปี 47 เป็นจำเลยที่ 1-8 ความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินจากผู้อื่นเพื่อประโยชน์ตนเองหรือผู้อื่น และร่วมกันเบียดบังยักยอกทรัพย์ของผู้อื่นเป็นของตนเองโดยทุจริต,โจทก์ฟ้องว่า จำเลยและพวกเป็นคณะพนักงานสอบสวนสืบสวนหาเครื่องเพชรมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ของเจ้าชายไฟซาล ประเทศซาอุดีอาระเบีย ถูกนายเกรียงไกร เตชะโม่ง คนงานทำความสะอาดที่ขโมยมาจากพระราชวัง ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย จากนั้นนำมาขายให้นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ เสี่ยเจ้าของร้านเพชร สันติมณี ผู้ต้องหาคดีรับของโจร ระหว่างสืบสวนสอบสวนจำเลยทั้งหมดเรียกรับเงินจากนายสันติหลายครั้ง จำนวน 3 ล้านบาท 6.6 แสนบาท และ 1.2 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี รวมทั้งร่วมกันยักยอกทรัพย์สินของกลางหลายรายการโดยมิชอบ จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธและต่อสู้คดีมาโดยตลอด,ทั้งนี้ วันที่ 29 มิ.ย.49 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษ พล.ต.ท.ชลอ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 จำคุก 2 กระทง กระทงละ 10 ปี รวม 20 ปี จำเลยที่ 4 ความผิดตามมาตรา 147 จำคุก 7 ปี คำให้การในชั้นสอบสวนเป็นโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 จำคุก 4 ปี 8 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2, 5, 6 และ 7 ให้ยกฟ้องเนื่องจากพยานไม่เพียงพอ รวมทั้งให้คืนทรัพย์สินของกลาง 9 รายการ และเงิน 2 แสนบาทแก่ผู้มีสิทธิ์ ต่อมาวันที่ 9 ก.พ.55 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก พล.ต.ท.ชลอ เป็นเวลา 20 ปี และพิพากษาแก้ไขลงโทษจำเลยที่ 2 จำคุก 10 ปี ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 จำเลยที่ 5, 6 และ 7 จำคุกคนละ 7 ปี ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 ประกอบมาตรา 83 แต่จำเลยที่ 5 และ 6 นำเงินของกลางจำนวน 2 แสนบาทมาคืน ลดโทษให้ 1 ใน 3 จำคุกคนละ 4 ปี 8 เดือน นอกเหนือจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น,ต่อมา พ.ต.อ.ประเสริฐ จำเลยที่ 2 ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำยื่นฎีกาเพียงคนเดียวขอให้ศาลยกฟ้อง จำเลยที่ 1 และ 4-7 ไม่ยื่นฎีกาคดีจึงยุติในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาเห็นว่ามีประเด็นต้องวินิจฉัยว่าจำเลยเบียดบังยักยอกทรัพย์จากนายสันติ มูลค่า 6.6 แสนบาทหรือไม่ คดีรับฟังได้ว่า นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ขโมยทรัพย์สินมาจากพระราชวังซาอุฯ มีเครื่องเพชร เครื่องประดับอัญมณี และอื่นๆ น้ำหนักรวมประมาณ 30 กก. รวมมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท จากนั้นกลับประเทศไทย ทางการซาอุฯ ประสานมายังทางการไทยให้ติดตามจับกุมนายเกรียงไกร โดยตั้ง พล.ต.ท.ชลอเป็นหัวหน้าชุดสืบสวน มีจำเลยที่ 2-4 อยู่ในชุดสืบสวนด้วย เมื่อนายเกรียงไกร ทราบจึงได้หลบหนีนำทรัพย์สินไปฝากไว้กับญาติ มีการขายให้กับผู้ต้องหารายอื่นๆ และส่วนหนึ่งนำไปมอบให้ พล.ต.ท.ชลอ ชุดสืบสวนก็ติดตามยึดทรัพย์สินคืนมาได้บางส่วน แต่ไม่นำส่งพนักงานสอบสวน กระทั่งนายเกรียงไกรถูกจับกุมได้ที่ จ.ตาก ศาลพิพากษาจำคุกจนคดีถึงที่สิ้นสุด,แม้พยานโจทก์จะไม่ยืนยันว่า จำเลยที่ 2 เอาเงิน 6.6 แสนบาท แต่ก็รับฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 เดินทางไปบ้านนายนิคม เตชะโม่ง ญาติของนายเกรียงไกร แต่บ่ายเบี่ยงว่ารออยู่ในรถ ศาลฎีกาได้ตรวจดูบันทึกคำให้การของพยานจำเลยในชั้นสอบสวนของศาลจังหวัดเชียงใหม่ และศาลจังหวัดตาก 4 ปาก การสอบสวนมีทั้งข้าราชการฝ่ายกระทรวงมหาดไทยและตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นำโดย พล.ต.ท.ธนู หอมหวน พร้อมคณะร่วมสอบสวนถึง 5 ครั้ง บันทึกถ้อยคำอย่างละเอียดถี่ถ้วนไม่ถูกชักนำหว่านล้อมเพื่อให้เป็นพยานเบิกความสอดคล้องตรงกัน ต่างยืนยันว่า จำเลยที่ 2 รับเงินจำนวนดังกล่าวจากนายนิคม ที่นำไปฝากไว้กับพันจ่าอากาศเอกคนหนึ่ง โดยไม่ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน แต่กลับเบียดบังทรัพย์สินไปเป็นของตนโดยทุจริต มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ จำคุก 10 ปี
ศาลฎีกาพิพากษายืนคดีเพชรซาอุฯ จำคุก พ.ต.อ.ประเสริฐ จันทราพิพัฒน์ อดีต ผกก.ตำรวจม้าเป็นเวลา 10 ปี ความผิดฐานร่วมกันเบียดบังยักยอก ทรัพย์ของผู้อื่นเป็นของตนเองโดยทุจริต หลังศาลอุทธรณ์ตัดสินลงโทษจำเลยยื่นขอฎีกาเพียงคนเดียว
ข่าว,ทั่วไทย
ศาลฎีกา,พิพากษา,เพชรซาอุ,ประเสริฐ จันทราพิพัฒน์,ชลอ เกิดเทศ
https://www.thairath.co.th/news/local/471511
ตั๊ก บริบูรณ์ เตือนอย่าเก็บเจลแอลกอฮอล์ไว้ในรถ ห่วงอาจเกิดไฟลุก (คลิป)
กลายเป็นของที่แทบทุกคนต้องพกติดตัวไว้ตลอด สำหรับแอลกอฮอล์และเจลแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสิ่งของสำหรับฆ่าเชื้อโรค โดยเฉพาะไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดในเวลานี้ แต่เป็นที่รู้กันว่าแอลกอฮอล์เป็นเชื้อเพลิงอย่างหนึ่ง และเป็นอันตรายหากติดไฟและทำให้ได้รับบาดเจ็บหรือข้าวของเสียหายล่าสุด นักแสดงตลกหนุ่มอารมณ์ดี ตั๊ก บริบูรณ์ จันทร์เรือง ได้ทำคลิปเตือนถึงเรื่องนี้ผ่านทางเพจ ตั๊ก บริบูรณ์ แฟมิลี่ (Boriboon Family) และเขียนแคปชั่นประกอบคลิปว่า อย่านำแอลกอฮอล์หรือเจลเก็บไว้ในรถนะครับ เมียผมบอกมาครับ ซึ่งในคลิปดังกล่าว ตั๊ก บริบูรณ์ บอกว่าจะมาสาธิตให้ทุกคนได้เห็นว่าแอลกอฮอล์อาจทำให้เป็นเชื้อเพลิงติดไฟได้ไว เพราะอากาศในเมืองไทยร้อน จึงไม่อยากให้เก็บไว้บนรถจากนั้น ตั๊ก บริบูรณ์ สาธิตด้วยการหยดเจลแอลกอฮอล์ที่ถ้วยพลาสติก และเอาไฟแช็กจ่อไฟตรงที่แอลกอฮอล์ ก่อนจะเอากระดาษทิชชูมาจ่อตรงแอลกอฮอล์และเกิดไฟลุกที่กระดาษ และนำกระดาษแช่ในน้ำให้ไฟดับพร้อมทั้งบอกให้ระวังกันด้วยปิดท้ายคลิปนี้ ตั๊ก บริบูรณ์ บอกว่า มีคนถามมาว่าทำไมผมถึงรู้ ต้องบอกเลยนะครับว่าผมไม่มีความรู้เลยครับ คนที่รู้จริงๆ คือเมียผมครับ และเขาบอกให้ผมมาถ่ายคลิปและโพสต์แชร์ให้ทุกคนได้เห็นนะครับ ก็ต้องขอบคุณเมียด้วยนะครับผม ก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณ เอลซี่ ภรรยา พร้อมทั้งเตือนทุกคนอีกครั้งว่าอย่าเอาแอลกอฮอล์เก็บไว้ในรถซึ่งหลังจากที่แฟนๆ ได้ชมคลิปดังกล่าว ต่างบอกว่าเป็นคลิปที่ดี และบอกว่าขอบคุณมากๆ ที่บอกกัน เพราะลืมไว้ในรถบ่อยเหมือนกัน บ้างก็แซวว่าเพิ่งจะเห็น ตั๊ก บริบูรณ์ มีสาระก็วันนี้ ฮาตอนที่กราบขอบคุณเมียนี่แหละ ฯลฯ
ตั๊ก บริบูรณ์ ทำคลิปเตือนแฟนๆ อย่านำแอลกอฮอล์หรือเจลแอลกอฮอล์เก็บไว้ในรถ เนื่องจากอากาศเมืองไทยร้อน อาจทำให้เกิดไฟลุกได้
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ตั๊ก บริบูรณ์,ตั๊ก บริบูรณ์ จันทร์เรือง,แอลกอฮอล์,เจลแอลกอฮอล์,เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ,ข่าวบันเทิง,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1811781
สนช.มีมติเอกฉันท์ไฟเขียววาระ 3 ร่าง ก.ม.ค้ามนุษย์ฯ
เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเป็นเอกฉันท์ 160 ต่อ 0 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง เห็นชอบผ่านวาระ 3 ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ ) พ.ศ. แล้ว โดยรอลงในราชกิจจานุเบกษา เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป,ทั้งนี้ เนื่องจากร่างกฎหมายเดิมมีบทบัญญัติบางประการไม่เหมาะสมต่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในปัจจุบัน ที่มีความรุนแรงซับซ้อน และเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ จึงเห็นควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน, ,นอกจากนี้ ยังมีมติเป็นเอกฉันท์ 163 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.คลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น พ.ศ. ซึ่ง ครม.เป็นผู้เสนอ พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณาในรายละเอียดต่อไป 15 คน เป็นเวลา 30 วัน,ขณะที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงหลักการและเหตุผล ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ว่า กิจการคลังสินค้า กิจการไซโล และกิจการห้องเย็น เป็นกิจการการเก็บรักษาสินค้าของผู้อื่น ที่ให้สิทธิแก่ผู้ฝากที่จะสลักหลังเพื่อโอนกรรมสิทธิในสินค้าโดยไม่ต้องส่งมอบสินค้า ไปเป็นของผู้อื่น หรือสลักหลังจำนำสินค้าที่ฝาก ดังนั้น หากมีการออกใบรับของคลังสินค้า และประทวนสินค้าไม่ถูกต้องตรงกับความจริงหรือออกใบรับของคลังสินค้า และประทวนสินค้า ในสินค้าเดียวกันซ้ำซ้อน อาจเกิดผลกระทบต่อประชาชนได้,ประกอบกับปัจจุบันมีคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น เพื่อเก็บรักษาสินค้าเฉพาะแก่บริษัทในเครือ รวมทั้งเพื่อเก็บรักษาสินค้า ของตัวเองเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากการจัดเก็บสินค้า รวมตลอดทั้งการให้เช่าเก็บสินค้า เป็นไปโดยไม่ถูกต้อง จะก่อให้เกิดความสูญเสียต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม สมควรมีมาตรการในการกำกับดูแล การจัดตั้ง การประกอบธรุกิจ และวิธีการดำเนินกิจการเพื่อให้หลักประกันและสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชน รวมทั้งให้การจัดเก็บสินค้าเป็นไปอย่างมีระบบ มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน.
ที่ประชุม สนช. มีมติเอกฉันท์ผ่านวาระ 3 ร่าง ก.ม.ป้องกันค้ามนุษย์ฯ รอลงราชกิจจานุเบกษา ประกาศใช้ และยังมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.คลังสินค้า ไซโลฯ พร้อมตั้ง กมธ.15 คน…
null
ค้ามนุษย์,ที่ประชุมสนช.,มติสนช.,ผ่านวาระ3,ปราบปรามการค้ามนุษย์,สนช.,ราชกิจจา,คลังสินค้า,ฉัตรชัย สาริกัลยะ,วาระการประชุมสนช.,ข่าวการเมือง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ราชกิจจานุเบกษา,ต้มตุ๋นหลอกลวง,ลูกเรือประมง,เกาะอัมบน
https://www.thairath.co.th/content/489352
บรรยากาศวันจ่ายก่อนสารทจีนที่ชลบุรีสุดหงอย เป็ดไก่เหงาไร้คนซื้อ
ก็ซื้อน้อยลง,เมื่อวันที่ 14 ส.ค.2562 บรรยากาศการซื้อของเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ของชาวไทยเชื้อสายจีนในวันจ่าย ก่อนไหว้สารทจีนในวันพรุ่งนี้ ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายของสดทุกชนิด เป็นไปด้วยความเงียบเหงามีแต่แม่ค้าพ่อค้าขายของไหว้แต่ไม่มีคนมาจับจ่ายซื้อของไหว้สารทจีน โดยยอดขายนั้นตกฮวบเกือบเท่าตัว ,จากการสำรวจร้านค้าขาย ไก่ตัวละ 200 บาท จากเดิม 160 บาท ราคาเป็ดตัวละ 300 บาท จากเดิม 250 บาท แต่การปรับตัวขึ้นตามราคากลางที่กำหนดไว้ ทั้งยังมีแบบต้มแล้วพร้อมนำไปไหว้ แล้วแต่ขนาด สำหรับยอดขายนั้น แม่ค้าต่างก็บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ตกฮวบ ประชาชนมาซื้อเยอะก็จริงแต่ก็ซื้อในปริมาณที่น้อยลง อย่างบางครอบครัวเคยไหว้ 5-6 ที่ ก็ลดลงมาไหว้ตามกำลังทรัพย์เหลือ 2-3 ที่ เท่านั้น ส่วนดอกไม้และขนมไหว้ ก็ขายดี เพราะเป็นสิ่งที่ต้องใช้คู่กับของเซ่นไหว้ แต่ยอดขายก็ตกลงไปเท่าตัวหากเทียบกับปีที่แล้ว,นางประมวล จันทคาม อายุ 54 ปี แม่ค้าขายไก่ต้มในตลาดเทศบาลเมืองศรีราชา กล่าวว่า สารทจีนปีนี้ค่อนข้างซบเซา ผู้คนมาจับจ่ายซื้อของไปไหว้กันน้อยไม่เหมือนช่วงตรุษจีนที่จะมีผู้คนออกมาจับจ่ายซื้อของไหว้กันมากกว่า ส่วนราคาเป็ดไก่ปีนี้ก็ค่อนข้างแพงอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ต่างจากปีก่อนๆ มาก ราคาไก่ต้มปีนี้อยู่ที่ตัวละ 200-250 บาท ราคาเป็ดต้มอยู่ที่ตัวละ 300-350 บาท,ด้านแม่ค้าขายผลไม้ ลูกค้าซื้อน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด จนต้องนำมาแพ็กขายถูกๆ ชุดละ 20-30 บาท ประกอบด้วย แอปเปิ้ลแดง แอปเปิ้ลเขียว และสาลี่ เพราะลูกค้าจะมาขอซื้อเป็นลูกๆ มากกว่าซื้อเป็นกิโลกรัมเหมือนเมื่อก่อนจึงต้องแพ็กขาย ตามเศรษฐกิจที่ซบเซา.
บรรยากาศที่ตลาดเทศบาลเมืองศรีราชา ในวันจ่ายก่อนวันสารทจีนปีนี้ช่างเงียบเหงาแม่ค้านั่งตบยุง ลูกค้าน้อย แต่ละรายยอดขายตกฮวบเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่เป็ด ไก่ ผักผลไม้
ข่าว,ทั่วไทย
เศรษฐกิจซบเซา,วันสารทจีน,วันจ่ายสารทจีน,ตลาดเทศบาลเมืองศรีราชา,อ.ศรีราชา,ชลบุรี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1637580
เกิดเหตุปล้นทองหนัก 1500 บาทใน จ.อุบลราชธานี
ตำรวจ จ.อุบลราชธานี ยึดของกลางเป็นทองคำรูปพรรณน้ำหนักรวม 1500 บาท มูลค่า 30 ล้านบาท ได้จากนายศราวุธ กาศกุล และ น.ส.อรชร คงมาลัย หลังทั้ง 2 คนก่อเหตุปล้นทอง ร้านทองเยาวราช สาขาบิ๊กซี จ.อุบลราชธานี และเงินสดกว่า 1.5 ล้านบาท หลบหนี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายศราวุธ รับสารภาพว่าร่วมกับเพื่อนอีก 3 คน วางแผนปล้นร้านทอง โดยบุกเข้าไปภายในร้านก่อนร้านเปิด จากนั้นใช้อาวุธปืนจี้บังคับเจ้าของร้าน เอาทรัพย์สิน ทองรูปพรรณ และเงินสด นอกจากนี้ ยังถอดซอฟต์แวร์ระบบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งในร้าน เพื่อทำลายหลักฐาน ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี แต่ถูกตำรวจสกัดจับได้ และยังมีผู้หลบหนีอีก 3 คนจากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายศราวุธ เคยถูกจับฐานมีวิทยุราชการไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นแอดมินเว็บเพจ มีด่านบอกด้วย ซึ่งเป็นเพจซึ่งบอกที่ตั้งด่านตำรวจจราจรใน จ.อุบลราชธานี
เกิดเหตุปล้นร้านทองใน จ.อุบลราชธานี ก่อนคนร้ายนำทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 1500 บาท มูลค่ากว่า 30 ล้านบาทหลบหนีไป
ภูมิภาค
ตำรวจ,ทอง,ปล้น,ร้านทอง,อุบลราชธานี
https://news.thaipbs.or.th/content/192337
ไขปริศนา สาเหตุมอเตอร์เวย์เจนัวถล่ม ช็อก สะพานนับพันส่อพังด้วย
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา ที่เมืองเจนัว ประเทศอิตาลี เกิดเหตุ เหตุสะพานโมรันดี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมอเตอร์เวย์ เอ10 พังถล่ม จนทำให้รถยนย์หลายสิบคนตกลงไปเบื้องล่าง คร่าชีวิตผู้คนไปถึง 39 ราย,เบื้องต้นยังไม่ใครรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ขึ้น แต่วิศวกรด้านโครงสร้างหลายคนต่างวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้สะพานโมรันดีพังถล่มเอาไว้หลายอย่าง ขณะเดียวกันเรื่องนี้ยังกลายเป็นสัญญาณเตือนว่า สะพานแห่งอื่นๆ ในอิตาลี ก็อาจพังถล่มลงมาด้วยเช่นกัน,*อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สะพานโมรันดีถล่ม?,-ปัจจัยที่ 1: การสึกหรอ?,โดยทั่วไปสะพานจะถูกออกแบบมาให้สามารถคงอยู่ได้ยาวนานอย่างน้อย 100 ปี และสะพานโมรันดีก็เพิ่งสร้างเสร็จในปีพ.ศ. 2510 หรือ 51 ปี ก่อน แต่นาย สเตอร์เจียส มิตูลิส วิทยากรอาวุโสของมหาวิทยาลัยเซอร์รีย์ ของอังกฤษ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบสะพาน เชื่อว่า ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมอาจทำให้สะพานสายนี้เสื่อมโทรมลงเร็วกว่าที่คาด,ปัจจจัยหนึ่งอาจเป็นการอยู่ติดกับทะเล สองอาจเป็นเพราะสะพานอยู่ใกล้เขตอุตสาหกรรม มลภาวะท้องถิ่นอาจทำให้การทรุดโทรมเกิดเร็วขึ้น นายมิตูลิสกล่าว หลักฐานคือ สะพานส่วนที่ยังตั้งตระหง่านอยู่ เห็นได้ชัดเจนว่าเกิดสนิมที่เหล็กเสริมโครงสร้างบนส่วนยอดของแขน (tendor) ซึ่งรับน้ำหนักสะพานเอาไว้ ทั้งที่เพิ่งติดตั้งเพิ่มเติมในช่วงทศวรรษที่ 90 เท่านั้น,ออโต้สเทรด เปอ อิตาเลีย บริษัทผู้ดูแลสะพานโมรันดีถูกโจมตีอย่างหนักจากรัฐบาลอิตาลี ฐานไม่ซ่อมบำรุงสะพาน โดยในปี 2555 เจ้าหน้าที่สมาพันธ์อุตสหกรรมเมืองเจนัวเคยเตือนแล้วว่า สะพานสายน้ำอาจพังถล่มภายใน 10 ปีข้างหน้า อย่างก็ตาม ออโต้สเทรด ยืนยันว่าพวกเขาตรวจสอบและซ่อมบำรุงสะพานโมรันดีตามปกติ และพอใจในผลการตรวจสอบของบริษัทและสถาบันซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลก,-ปัจจัยที่ 2 : อาการออกแบบมีปัญหา?,นอกจากเรื่องการสึกหรอ นายมิตูลิสยังเชื่อว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นตั้งแต่การออกแบบ เพราะเป็นเรื่องไม่ปกติที่สะพานแต่ละส่วนจะมีแขนรับน้ำหนักเพียง 4 เส้น โดยสะพานที่สร้างในปี 2561 ทุกแห่งมีแขนรับน้ำหนักมากกว่านี้นับ 10 เท่า ที่ไม่ปกติอีกจุดคือ สะพานโมรันดีใช้แขนคอนกรีตเสริมแรงเป็นตัวรับน้ำหนัก ทั้งที่มันมีแนวโน้มว่าจะอ่อนแอลงตามกาลเวลา จนสุดท้ายก็ต้องมีการใช้เหล็กเข้ามาเสริมแขนฯ เหล่านี้ในช่วงทศวรรษที่ 90,นายอันโตนิโอ เบรนซิช วิศวกรโครงสร้างจากมหาวิทยาลัยเจนัว เคยเขียนรายงานเอาไว้เมื่อปี 2559 ว่า นาย ริคคาร์โด โมรันดี ผู้ออกแบบสะพานโมรันดี คำนวณเรื่องการสึกหรอของคอนกรีตเสริมแรงผิดไป และว่าตอนนี้สะพานเต็มไปด้วยปัญหามากมาย ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเกินกว่าค่าก่อสร้างไปแล้ว การทุบสร้างใหม่อาจประหยัดกว่า,สะพานที่ออกแบบโดยริคคาร์โด โมรันดี อีกแห่งอย่างสะพาน เจเนอรัล ราฟาเอล อูร์ดานีตา บนทะเลสาบ มาราไกโบ ที่ประเทศเวเนซุเอลา ก็มีลักษณะเหมือนสะพานโมรันดีมาก และมีปัญหาเกิดขึ้นมากมายเช่นกัน แต่ เอียน เฟิร์ธ อดีตประธานสถาบันวิศวกรรมก่อสร้างแห่งสหราชอาณาจักร และผู้เชี่ยวชายด้านการสร้างสะพาน ชี้ว่าตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานว่าการออกแบบทำให้เกิดผลกระทบใดๆ และยังเร็วเกินไปที่จะชี้ว่าอะไรทำให้เกิดการถล่ม,-ปัจจัยที่ 3 : การจราจรหนาแน่น?,การเสื่อมโทรมของสะพานโมรันดี อาจมีปัจจัยร่วมอีกอย่างคือ การจราจรบนสะพานที่หนาแน่นมาก ทุกปีจะมีรถยนต์ประมาณ 25 ล้านคนวิ่งผ่านสะพานเส้นนี้ เพราะเป็นถนนหลักที่เชื่อมภาคเหนือของอิตาลีกับฝรั่งเศสเข้าด้วยกัน โดย ออโต้สเทรดฯ เคยออกรายงานในปี 2554 ยืนยันในเรื่องนี้ว่า การจราจรที่หนาแน่นเป็นประจำทุกวันโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน ทำให้โครงสร้างอาคารเสื่อมโทรมอย่างหนัก,-ปัจจัยอื่นๆ,สะพานโมรันดีพังถล่มลงมาในขณะที่เกิดพายุและคลื่นลมแรง ขณะที่ออโต้สเทรดฯ เผยว่าในช่วงที่สะพานถล่ม กำลังมีการเสริมรากฐานของสะพานสายนี้ นอกจากนี้ยังมีอีกเรื่องการกลายเป็นประเด็นขึ้นมาคือ การลดงบประมาณเกี่ยวโครงสร้างพื้นฐานลงอย่างมหาศาลของอิตาลี ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งอาจมีส่วนกับเหตุการณ์นี้ไม่มากก็น้อย,อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญทุกคนเห็นตรงกันว่า ต้องมีการสืบสวนโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นจึงจะสามารถระบุสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้สะพานโมรันดีพังถล่มได้,*ผู้เชี่ยวชาญเตือน สะพานอีกนับพันแห่งเสี่ยงถล่มด้วย,ปัญหาที่เกิดขึ้นยังทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนรวมทั้งนาย เซตติโม มาร์ติเนลโล ผู้อำนวยการบริษัท 4EMME Service ผู้ทำให้ที่ตรวจสอบสะพานกว่า 50,000 แห่งทั่วอิตาลี ออกมาเตือนว่า สะพานอีกนับพันแห่งทั่วประเทศมีความเสี่ยงที่จะพังถล่มลงมาเช่นกัน,สะพานคอนคอนกรีดทุกแห่งในอิตาลีที่สร้างในช่วงทศวรรษที่ 50-60 กำลังจะหมดอายุขัยแล้ว มีสะพานหลายร้อย หรือหลายพันแห่งที่เสี่ยงจะพังถล่มลงมา นายมาร์ติเนลโลกบอกกับสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น เขาเสริมด้วยว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดคือการขาดข้อมูลของสะพานในอิตาลีที่มีกว่า 1.5 ล้านแห่ง โดยการตรวจสอบและซ่อมบำรุงสะพานแบ่งเป็นหน้าหน้าที่ของรัฐบาลท้องถิ่น, หน่วยงานรัฐ และเอกชน แต่มีสะพานที่ได้รับการตรวจสอบดูแลเป็นประจำเพียง 60,000 แห่งเท่านั้น,ในขณะที่การถล่มเหมือนสะพานที่เจนัวไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก แต่ทุกๆ ปีในอิตาลีจะมีสะพานพังถล่ม 15-20 แห่งอยู่แล้ว นายมาร์ติเนลกล่าว
วิศวกรวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้สะพานโมรันดีในอิตาลีถล่ม จนมีคนตายถึง 39 ราย ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือน สะพานอีกหลายพันแห่งเสียงพังถล่มด้วย
ข่าว,ต่างประเทศ
สะพานโมรันดี,สะพานถล่ม,เจนัว,อิตาลี,มอเตอร์เวย์
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1356301
อัฟกันแบกโลงศพเหยื่อถูกไอซิสตัดคอ บุกทำเนียบปธน.เรียกร้องความเป็นธรรม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาวอัฟกานิสถานผู้โกรธแค้นหลายพันคน แบกโลงศพของชนกลุ่มน้อย ฮาซารัส 7 คน ซึ่งถูกกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามสังหารด้วยการตัดคอ เดินขบวนประท้วงในกรุงคาบูล เมืองหลวงของประเทศ ก่อนจะพยายามบุกเข้าทำเนียบประธานาธิบดีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (11 พ.ย.) เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม จนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคง มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย,ข่าวระบุว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 7 คนเป็นหนึ่งในชาวฮาซารัส 31 คน ที่ถูกกลุ่มติดอาวุธลักพาตัวไปตั้งแต่เมื่อเดือน มี.ค. ขณะกำลังเดินทางบนทางหลวงซึ่งเชื่อมระหว่างกรุงคาบูลและเมืองกันดาฮาร์ ขณะที่จนถึงปัจจุบัน มีชาวฮาซารัสถูกลักพาตัวไปแล้วอย่างน้อย 53 คน บางส่วนได้รับการปล่อยตัว, บางส่วนถูกฆ่า ที่เหลือยังคงถูกจับตัวเอาไว้,การประท้วงเมื่อวันพุธ ในช่วงแรกยังเป็นไปด้วยความสงบ โดยผู้ชุมนุมหลายพันคนออกมาประท้วงรัฐบาลที่ไม่พยายามมากพอในการปกป้องประชาชน และเรียกร้องขอพูดคุยกับประธานาธิบดี อัชราฟ กานี เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่สถานการณ์จะเริ่มรุนแรงขึ้นจนกองกำลังความมั่นคงต้องยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อกดดันให้ผู้ประท้วงล่าถอย,อย่างไรก็ตาม ผู้ประท้วงบางคนยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งพยายามบุกฝ่าประตูรั้วของทำเนียบประธานาธิบดี ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเปิดฉากสลายการชุมนุม ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 คน หลายคนเป็นชายถูกยิงด้วยกระสุนลูกหลง ขณะที่เด็กหญิงอีก 2 คนบาดเจ็บเล็กน้อยเพราะถูกเหยียบ
ชาวอัฟกานิสถานแบกโลงศพชนกลุ่มน้อยที่ถูกกลุ่มไอซิสลักพาตัวและฆ่าตัดคอ ประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมหน้าทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงคาบูล ก่อนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย
null
อัฟกานิสถาน,แบกโลงศพ,ชนกลุ่มน้อย,ฮาซารัส,กลุ่มติดอาวุธ,รัฐอิสลาม,ตัดคอ,ประท้วง,กรุงคาบูล,ทำเนียบประธานาธิบดี,ขอความเป็นธรรม,เจ้าหน้าที่ความมั่นคง,ลักพาตัว,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/538833
รวบตัว พิธีกรเอเอสทีวีนิวส์วัน ข้อหาผิด พ.ร.บ.คอมพ์-หมิ่นประมาท ปมแฉทุจริตเรือนจำอ่างทอง
ทั้งที่เป็นบุคคลสาธารณะและไปรับทราบข้อหาตามหมายเรียกครั้งที่ 1 แล้วเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา รายงานว่า เมื่อช่วงค่ำ วันดังกล่าว (9 พ.ค.60) ร.ต.ท.เชวง พดด้วง รอง สว.กก.1 บก.ป. นำกำลังจับกุมตัว ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที อายุ 51 ปี พิธีกรรายการ สภากาแฟ สภาประชาชน ทาง เอเอสทีวี นิวส์วัน ได้ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งภายใน ซ.มหาดไทย แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. ตามหมายจับศาลจังหวัดอ่างทอง ลงวันที่ 11 ม.ค. 2560 ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษร ที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าวิธีใดๆยุทธิยง กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ตนได้จัดรายการ สภากาแฟ ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ NEWS 1 แล้วได้เชิญกลุ่มชมรมนักธุรกิจส่งอาหารเข้าเรือนจำกลางจังหวัดอ่างทอง พร้อมให้ข้อมูลมีกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตการส่งอาหารเข้าเรือนจำ จากนั้นมีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องหลายราย หลังจากนั้น ตนได้ถูกฟ้องร้องจากผู้เกี่ยวข้องที่ถูกกล่าวหาดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ ได้มีหมายเรียกให้ตนมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 1 ครั้ง ตนได้มาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนไปแล้ว หลังจากนั้น ยังไม่ได้มีการออกหมายเรียกครั้งที่ 2 จนกระทั่งมีการออกหมายจับดังกล่าวในวันนี้ทั้งนี้ ยุทธิยง กล่าวอีกว่า ตนไม่หนักใจในการทำหน้าที่สื่อมวลชนอย่างสุจริตเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่ไม่เข้าใจว่ากระบวนการออกหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ เหตุใดถึงได้เร่งรัดการออกหมายจับดังกล่าว ทั้งที่ตนเองได้ถือว่าเป็นบุคคลสาธารณะเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง รับตัวไปดำเนินคดีต่อไป
ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที ถูก ตร.รวบตัวข้อหาผิด พ.ร.บ.คอมฯ - หมิ่นประมาทฯ หลังแฉทุจริตเรื่องส่งอาหารเข้าเรือนจำอ่างทอง เจ้าตัวยันไม่หนักใจ ทำหน้าที่สื่ออย่างสุจริต ข้องใจทำไมเร่งรัดออกหมายจับ
การเมือง,สิทธิมนุษยชน,ไอซีที
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์,ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที,หมิ่นประมาท
https://prachatai.com/journal/2017/05/71401
สมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทยเตรียมสร้างนักกอล์ฟรุ่นใหม่
นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย เป็นประธานในงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จของสมาคมจากการแข่งขันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และเป็นการเลี้ยงปีใหม่ให้กับบรรดานักกอล์ฟในสังกัดของสมาคมอีกด้วยนายกสมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทยเชื่อว่า การแข่งขันในปีนี้จะเข้มข้นมากกว่าเดิม เนื่องจากปัจจุบันนักกอล์ฟเยาวชนจากทั่วโลกมีการพัฒนาที่เร็วมาก จึงถือเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับนักกอล์ฟเยาวชนของไทย แต่โดยภาพรวม ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า ปีนี้อยากจะขอคว้าให้ได้ทุกแชมป์ที่ส่งเข้าแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นรายการเวิล์ด ทีม ที่ประเทศตุรกี หรือรายการสันติ คัพ หรือภูต้า คัพ ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งทั้ง 2 รายการ ทีมไทยเป็นแชมป์มา 3 สมัยติดต่อกันสำหรับการคัดเลือกนักกอล์ฟทีมชาติไทยในปีนี้ ทางสมาคมฯ ยังตั้งคุณสมบัติในเรื่องของความสามารถเหมือนเดิม แต่สิ่งที่จะเพิ่มเข้าไปก็คือ ประวัติศาสตร์กอล์ฟ ทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อให้นักกอล์ฟเยาวชนมีตัวอย่างของนักกอล์ฟในดวงใจ และเรียนรู้การเล่นจากนักกอล์ฟที่ยิ่งใหญ่ในอดีตสำหรับโปรแกรมการแข่งขันของสมาคมในฤดูกาลนี้จะเริ่มต้นกันที่แข่งขันระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจะเริ่มต้นแข่งขันในวันพรุ่งนี้ (14 ม.ค.) ที่จังหวัดร้อยเอ็ด ส่วนการแข่งขันระดับเยาวชน จะเป็นการแข่งขันรายการเอเชีย แฟซิฟิก ในเดือน มี.ค.
นายกสมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าหมายจะคว้าให้ได้ทุกแชมป์ที่ส่งแข่งขัน นอกจากนี้การสร้างนักกอล์ฟรุ่นใหม่ต้องเพิ่มความรู้ด้านประวัติศาสตร์กอล์ฟเข้าไปด้วย
กีฬา
กอล์ฟ,รังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์,สมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย,โค้ชหรั่ง
https://news.thaipbs.or.th/content/59515
ถวายหัวหมู 599 หัว หลวงพ่อสมหวัง สาวแก้บนหลังขายบ้านได้ตามเป้า
เมื่อวันที่ 2 ส.ค.61 ที่วัดกลางบางพระ ต.บางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม น.ส.ธีรนันท์ วัฒนชัยสิทธิ์ อายุ 39 ปี พนักงานโรงงานซันแพคเกจจิ้ง นครปฐม อยู่บ้านเลขที่ 99 ถนนเทศบาล ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม พร้อมครอบครัว นำหัวหมูต้มสุก 599 หัว นำมาแก้บนหลวงพ่อสมหวัง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ สูง 30 เมตร วัดกลางบางพระ เจ้าหน้าที่วัดต้องนำใส่ถาดเรียงรายตั้งแต่ลานด้านหน้าจนแน่นยังไม่พอล้นไปที่บันไดทางขึ้น สร้างความฮือฮาให้กับผู้ที่เดินทางมากราบไหว้หลวงพ่อสมหวัง,เมื่อพิธีเริ่มขึ้น พราหมณ์ทำหน้าที่บวงสรวงก่อนที่ พระครูศรีสุตากร เจ้าอาวาสวัดกลางบางพระ จะมาทำพิธีบวงสรวงหลวงพ่อสมหวัง พร้อมกับ ประพรมน้ำมนต์ให้กับครอบครัว น.ส.ธีรนันท์ เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังเสร็จสิ้นพิธีได้นำปัจจัยจำนวนหนึ่งถวายให้กับเจ้าอาวาสในการสมทบทุนซื้อที่ดินวัดเพิ่มเติมด้วย น.ส.ธีรนันท์ วัฒนชัยสิทธิ์ เผยว่า วันนี้ได้พาครอบครัวเดินทางมากราบไหว้แก้บนหัวหมู 599 หัว ถวายองค์หลวงพ่อสมหวัง ที่เคยมาบนและกราบไหว้ขอพรให้ขายบ้านห้องแถวที่อยู่ในตัวเมืองนครปฐมได้ ตามเป้าหมาย 5,990,000 บาท เมื่อปลายปี 60 จนกระทั่งเวลาผ่านไปร่วม 1 ปี ปรากฏว่า ไม่ผิดหวังจริงๆ และได้ราคาตามที่หวังไว้ จึงเอาหัวหมูมาแก้บนถวายดังที่ได้ลั่นวาจาบนไว้ ,ด้านพระครูศรีสุตากร เจ้าอาวาส หลังเสร็จสิ้นพิธี น.ส.ธีรนันท์ เจ้าของถวายหัวหมู ไม่ขอนำหัวหมูกลับโดยแจ้งความประสงค์หลังเสร็จสิ้นพิธีแล้วให้ทางวัดแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่อยู่ในตำบลบางพระ ให้ได้ทานกัน โดยพระครูศรีสุตากร ได้ประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านที่อยู่ในตำบลบางพระ ให้มารับหัวหมูได้ทุกบ้าน โดยจัดให้บ้านละ 1 หัว ตามความประสงค์ของเจ้าภาพที่บนไว้ มีประชาชนในพื้นที่และสาธุชนที่มากราบไหว้ต่างเข้าแถวรับยาวนับกิโลฯ.
สาวพนักงานโรงงานวัย 39 ปี บนหลวงพ่อสมหวัง วัดกลางบางพระ ขอให้ขายบ้านได้ราคางาม ตามเป้าหมาย 5,990,000 บาท สำเร็จสมหวังจัดหัวหมู 599 หัวถวาย ด้านชาวบ้านมารอรับแถวยาวเป็นกิโลฯ
ข่าว,ทั่วไทย
ถวายหัวหมู,วัดกลางบางพระ,หลวงพ่อสมหวัง,แก้บน,นครปฐม,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1346895
หนังติดคุก 5 ปี อิ๋ง แฉ เรื่องจริง ปิดกรุงเทพ โลกลืมยาก
โรงหนังซีเนม่า โอเอซิส Cinema Oasis วันนี้โอกาสแจ่มบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปพูดคุยกับผู้บริหารสาวใหญ่แห่งโรงหนังใหม่ ซีเนม่า โอเอซิส Cinema Oasis อิ๋ง สมานรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ ก่อนหน้านี้แฟนหนังตัวจริงน่าจะรู้จัก อิ๋ง สมานรัชฎ์ เป็นอย่างดีแล้ว เพราะเคยทำหนังเรื่อง เชคสเปียร์ต้องตาย Shakespeare Must Die หนังมีเรื่องราวการเมืองอยู่ค่อนข้างเยอะ เลยโดนผู้มีอำนาจสมัยนั้น เคืองอย่างแรง จึงสั่งแบน ห้ามฉายทั่วไทยเด็ดขาด ,คดีนานมากๆ หลายปีแล้วหลายคนน่าจะลืมๆ กันไปแล้ว ตอนนี้คดีของการแบนหนังเชคสเปียร์ต้องตาย ไปถึงไหนแล้ว? ยังอยู่ในศาลปกครองสูงสุด เถียงกลับไปกลับมาโดยเอกสาร (ทำหน้าเพลียๆ เหนื่อยๆ สุดฤทธิ์) ทางศาลจะนัดพิจารณาอีกเมื่อไหร่? ยังไม่มีวี่แวว คือศาลปกครองคือความหวังสุดท้ายแล้ว คนที่จะไปถึงศาลปกครองมันต้องผ่านอะไรมาเยอะ ต้องเซ็งอยู่แล้ว เขาบอกว่าภายใน 2 ปี แต่เราก็ติดคุกมาแล้ว 5 ปีกว่าแล้ว มันคือคุกของหนังเชคสเปียร์ต้องตาย เราจะพูดมาตลอดว่าหนังเราติดคุกมา 5 ปีแล้วนะ,จะนำหนัง เชคสเปียร์ต้องตาย Shakespeare Must Die มาฉายที่ซีเนมา โอเอซิส Cinema Oasis หรือว่าฉายไม่ได้เพราะศาลห้ามอยู่? คือฉายได้ค่ะ ถ้าเป็นส่วนบุคคล ไม่ได้ขายตั๋วอะไรอย่างงี้ คือฉายเฉพาะสมาชิก แต่เราไม่อยากจะทำอย่างนั้น เพราะมันไม่สง่าผ่าเผย และเราก็จะประกาศไม่ได้ว่าเราฉายหนังเรื่องนี้ ต้องบอกว่ารายการหนังพิเศษเฉพาะสมาชิก ซึ่งมันน่าเศร้า เพราะหนังมันมีศักยภาพกว่านั้นเยอะ ยังมีความหวังอยู่ ว่าสักวันหนังจะโดนเลิกแบน? ค่ะ มีความหวังอยู่ค่ะ ,หนังจะไปฉายที่ต่างประเทศอีกหรือไม่? ยังไม่มีค่ะ มันก็นานแล้วอ่ะ ปีที่แล้วหนังเพิ่งไปฉายที่เยอรมนี และที่ปารีส ฝรั่งเศส พี่อิ๋งเป็นคนรักหนังมากๆ ก็เลยทำโรงหนังเพื่อให้เป็นทางเลือกสำหรับคนรักหนัง? ใช่ค่ะๆ (ยิ้ม) อยากให้ชุมนุมนี้มีโรงหนังด้วย เพราะแถวนี้มีแต่คอนโดและศูนย์การค้า โอ๊ย รถติดไปไหนไม่ได้ คนแถวนี้ทนมากเลย เสียงดังไปหมด อย่างฝั่งตรงข้ามโรงหนังเรา ก็จะมีร้านหนังสือน่ารักมาก ซึ่งเป็นหนังสือมือสองแล้วก็หนังสือดีมาก พอเรามาทำโรงหนัง แทนที่จะสร้างคอนโด คนแถวนี้ก็แฮปปี้มาก คือคนหวังดีกับเราเยอะมาก เอาใจช่วยเราเยอะมาก อันนี้เป็นสิ่งที่มีค่าทั้งคนรอบด้านและคนที่ได้ยินว่าเราสร้างโรงหนังซีเนมา โอเอซิส ทุกคนเชียร์มากเลย โอ๊ย ดีใจ เพราะเขารู้ไงว่าสร้างโรงหนังมันไม่ได้สร้างง่ายๆ (ยิ้ม),ก่อนหน้าที่จะสร้างโรงหนังซีเนมาโอเอซิส เคยมีความคิดแว้บๆ ว่าจะสร้างคอนโด ได้เงิน ได้กำไรเยอะๆ? ,(รีบพูด) ไม่เคยคิด ทำคอนโดรวยๆ ทำศูนย์การค้าเก๋ๆ ได้เงินเยอะกว่า ใช่ ฉันขายที่ไปฉันก็รวย ฉันไม่ต้องมาเครียดใช่มั้ยคะ แต่พอมาทำโรงหนังกลายเป็นมีแต่หมดเงินๆ (หัวเราะ), เอ๊ะ ยังไงเงินหมดๆ ไปเรื่อยๆ? (หัวเราะ) ที่ซีเนม่าโอเอซิส เราทำแกลเลอรีไปด้วย บางโชว์ก็ขายได้และขายดีมาก แต่บางอันก็ขายไม่ได้ขายไม่ดีก็มี งานศิลปะที่ขายได้ก็มาช่วยพยุงโรงหนังเราได้ หรือหนังที่ฉายบางเรื่องก็ขายดีคนมาดูเยอะ แต่บางเรื่องก็คนไม่มาดู ใช่มั้ย เราก็เดาแล้วว่าจะเป็นแบบนั้น และอีกอย่างโรงหนังเราก็ให้เช่าด้วย เช่น เช่าให้จัดงานอีเวนต์,หนังที่ทำโดนแบนนานมากๆ ตอนนี้ยังมีไฟ ที่จะทำหนังเรื่องใหม่อีกหรือไม่? มีๆ ชื่อเรื่องบางกอกจอยไรด์ Bangkok Joyride มีสองภาค เมื่อเราเป็นยอดมนุษย์ ภาคสองเมื่อเราปิดกรุงเทพ เป็นหนังสารคดีเรื่องเกี่ยวกับปิดกรุงเทพ เป็นหนังสารคดีทำเสร็จแล้ว และไปฉายเปิดตัวหนังปีที่แล้วที่ ปารีส ฝรั่งเศส แล้วด้วย รับประกันว่าไม่น่าเบื่อ,อ๋อ เหตุการณ์ปิดกรุงเทพหลายปีที่ผ่านมา พี่อิ๋งก็ตามเก็บภาพเก็บข้อมูลมาตลอด? ใช่ๆ ตามเก็บตลอด มันสุดยอดเลย ตำนานสมเด็จพระนเรศวรเป็นตำนานใช่มั้ยคะ มีหลายภาคออกมา แต่หนังของเราไม่ใช่ตำนาน เป็นเรื่องจริงๆ ของชาวบ้านไง ไม่ใช่เรื่องแกนนำม็อบนะคะ แต่เป็นเรื่องชาวบ้านธรรมดาที่สุดยอด (ยิ้มอ่อนๆ) ส่วนหนังใหม่ๆ ก็มีอยู่กำลังเขียนบทกำลังฝันหวานอยู่ แต่ไม่ค่อยมีเวลา จะเอาสมาธิมาจากไหน เพราะเรามาทำโรงหนังซีเนม่าโอเอซิสแล้ว (ยิ้ม).,แฟนหนังตัวจริงอย่าพลาด เตือนแล้วนะ โปรแกรมหนังทางเลือก 3 เรื่องเด็ด ประจำเดือนพฤษภาคมนี้ที่โรงหนังใหม่เอี่ยมอ่อง ซีเนม่า โอเอซิส สุขุมวิท 43 กรุงเทพฯ ในยุคที่ใช้สื่อเป็นอาวุธสงคราม ท่ามกลางการบิดเบือน ร่วมเป็นสักขีพยาน กับประวัติศาสตร์ต้องห้าม กับหนังเรื่อง เมื่อเราเป็นยอดมนุษย์ BkJ1: How We Became Superheroes และภาคต่อเรื่อง ปิดกรุงเทพ BkJ2: Shutdown Bangkok ,และเรื่องที่สาม หนังไทยคุณภาพสูงมาก ขวัญใจคนดูและขวัญใจนักวิจารณ์ทั่วโลกเรื่อง พี่ชาย My Hero ผลงานของผู้กำกับเกาหลี จอช คิม.,พี่ชาย My Hero หนังเด่นคุณภาพอินเตอร์ นำกลับมาฉายอีกครั้งที่ซีเนม่า โอเอซีส สุขุมวิท 43
ใหม่ๆ น่าลองไปดู อีกหนึ่งลมหายใจอันสดชื่นของวงการหนังไทย ก็คือการมีโรงหนังใหม่ที่ดีมีคุณภาพ นั่นก็คือ
บันเทิง,หนัง
ซีเนมา โอเอซิส Cinema Oasis,อิ๋ง สมานรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์,พี่ชาย My Hero หรือ How To Win At Checkers (Every Time),บางกอกจอยไรด์ Bangkok Joyride,กอสซิป
https://www.thairath.co.th/entertain/movie/1270666
ทีมขวัญใจแม่ยก สิงโตคำรามเผย 23 แข้งลุยบอลโลก เด็กไก่มากสุด
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 16 พ.ค. ว่า เกเรธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ ประกาศ 23 รายชื่อขุนพลสิงโตคำราม ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย ออกมาแล้ว,หลังจากลุ้นกันมาหลายวันว่าใครจะติดไม่ติด ล่าสุด เซาธ์เกตทำการประกาศรายชื่อ 23 นักเตะทีมชาติอังกฤษ ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย เรียบร้อยแล้ว โดยแข้งไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมอันดับ 3 พรีเมียร์ลีก ติดมากที่สุด 5 คน,รายชื่อ 23 นักเตะทีมชาติอังกฤษ มีดังนี้ ,ผู้รักษาประตู :, จอร์แดน พิคฟอร์ด (เอฟเวอร์ตัน), แจ็ค บัตแลนด์ (สโต๊ก ซิตี้), นิค โป๊ป (เบิร์นลีย์),กองหลัง :, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล), แกรี เคฮิลล์ (เชลซี), คีแรน ทริปเปียร์, แดนนี โรส (ทอตแนม ฮอตสเปอร์), จอห์น สโตนส์, ไคล์ วอลเกอร์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้), แฮร์รี แม็คไกวร์ (เลสเตอร์ ซิตี้), ฟิล โจนส์, แอชลีย์ ยัง (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด),กองกลาง :, ฟาเบียน เดล์ฟ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้), เอริค ไดเออร์, เดเล อัลลี (ทอตแนม ฮอตสเปอร์), เจสซี ลินการ์ด (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ลิเวอร์พูล), รูเบน ลอฟตัส-ชีค (เชลซี),กองหน้า :, เจมี วาร์ดี (เลสเตอร์ ซิตี้), มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนเชสเตอร์ ซิตี้), แดนนี เวลเบค (อาร์เซนอล), แฮร์รี เคน (ทอตแนม ฮอตสเปอร์),สำรองรอแทน :, ทอม ฮีตัน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี (เบิร์นลีย์), ลูอิส คุก (บอร์นมัธ), เจค ลิเวอร์มอร์ (เวสต์บรอมวิช), อดัม ลัลลานา (ลิเวอร์พูล),สำหรับทีมชาติอังกฤษ อยู่ในกลุ่มจี ร่วมกับ ทีมชาติตูนิเซีย, ทีมชาติปานามา และ ทีมชาติเบลเยียม
ฝูงสิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ ประกาศ 23 รายชื่อ ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย ออกมาแล้ว นักเตะทอตแนม ฮอตสเปอร์ ติดมากที่สุด 5 คน
กีฬา,ฟุตบอลโลก
ทีมชาติอังกฤษ,สิงโตคำราม,เกเรธ เซาธ์เกต,ฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย,ฟุตบอลโลก
https://www.thairath.co.th/sport/worldcup/1283576
เชลซี เซ็น 5 ปี ซิว ก็องเต เสริมแกร่ง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 16 ก.ค. ว่า สิงโตน้ำเงิน เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จัดการคว้าตัว เอ็นโกโล ก็องเต กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ของทีม จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมทัพเรียบร้อยแล้ว เซ็นสัญญาร่วมงานกัน 5 ปี โดยไม่มีการเปิดเผยค่าตัวแต่อย่างใด,เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีกระแสข่าวออกมาว่าทั้งสองสโมสรสามารถตกลงค่าตัวกันได้แล้ว กระทั่งล่าสุด หลังจากผ่านการตรวจร่างกาย เชลซี ก็ประกาศยืนยันผ่านเว็บไซต์ทางการของสโมสรว่าพวกเขาได้ตัว ก็องเต มาร่วมทัพเรียบร้อยแล้ว ด้วยสัญญา 5 ปี ส่วนเรื่องค่าตัวนั้น สกาย สปอร์ตส์ สื่อดังของอังกฤษ รายงานข่าวว่าอยู่ที่ 32 ล้านปอนด์,ก็องเต กล่าวว่า ผมมีความสุขมากๆที่ได้เซ็นสัญญากับหนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มันคือฝันที่เป็นจริงสำหรับผม โอกาสที่จะได้ร่วมงานกับโค้ชที่ยอดเยี่ยมอย่าง อันโตนิโอ คอนเต และบางส่วนของนักเตะที่ดีที่สุดในโลก เป็นโอกาสที่ผมยากจะปฏิเสธได้ลง ฤดูกาลแรกของผมกับฟุตบอลอังกฤษเป็นอะไรที่พิเศษมาก และตอนนี้ผมหวังว่าจะประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นในช่วงเวลาที่ผมเป็นนักเตะของเชลซี ผมกำลังตั้งตารอที่จะพบปะเพื่อนร่วมทีมใหม่ของผม และช่วยให้สโมสรประสบความสำเร็จ,สำหรับ ก็องเต มีส่วนสำคัญในการช่วยให้ เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลที่ผ่านมา และล่าสุดเพิ่งช่วยให้ทีมชาติฝรั่งเศสคว้ารองแชมป์ยูโร 2016 อีกด้วย
สิงโตน้ำเงิน เชลซี จัดการคว้าตัว เอ็นโกโล ก็องเต มิดฟิลด์ทีมเลสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมทัพเรียบร้อยแล้ว เซ็นสัญญาร่วมงานกัน 5 ปี โดยไม่มีการเปิดเผยค่าตัวแต่อย่างใด แต่คาดกันว่าอยู่ที่ 32 ล้านปอนด์
null
เชลซี,เลสเตอร์ ซิตี้,เอ็นโกโล ก็องเต,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/665594
อยากให้เกิดขึ้น
สัปดาห์ที่ผ่านมาแฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตในบ้านเราคงจะชุ่มชื่นหัวใจกันไม่น้อย เมื่อนักขับนักซิ่งสายเลือดไทยทำผลงานกันได้แจ่มแจ๋ว อเล็กซ์ อัลบอน นักขับลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ซึ่งเพิ่งขึ้นชั้นไปขับให้ทีมใหญ่อย่าง เรด บูลส์ เรซซิ่ง เพียงแค่ 3 สนาม ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม,ด้วยการซิ่งเข้าป้ายอันดับที่ 6 ในศึกรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก F1 สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ คว้าเพิ่มได้อีกถึง 8 แต้ม,ทำให้ตารางคะแนนสะสมตอนนี้เขารั้งอยู่อันดับที่ 8 มีอยู่ทั้งหมด 42 แต้ม,โดยที่ผู้นำยังคงเป็นลูอิส แฮมิลตัน ของทีมเมอร์เซเดส ที่มีอยู่ 296 คะแนน,อย่างไรก็ตาม คงต้องแจ้งว่า นี่ถือเป็นผลงานอันน่าอัศจรรย์ของนักขับลูกครึ่งไทย-อังกฤษ,อีกรายการในวีกเดียวกัน ,เทพต๋ง พีรพงศ์ บุญเลิศ, ดาวบิดตัวเก่งของ, ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม, ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง,เมื่อเข้าป้ายเป็นอันดับที่ 1 ในเรซที่ 2 ของศึกรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์เอเชีย ,เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิป 2019, สนาม 6 ที่เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย,สร้างสถิติขึ้นโพเดียม 12 เรซติดต่อกัน,นอกจากนี้ ต๋ง ยังผงาดคว้าแชมป์ประจำฤดูกาลในรุ่นซุปเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ไปเป็นที่แน่นอนแล้วด้วย,แม้จะยังเหลือการแข่งขันสนามสุดท้ายอีกหนึ่งสนามก็ตาม,ไม่เสียทีที่ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ทุ่มเททุกอย่างเพื่อปลุกปั้น,และเชื่อว่าสนามสุดท้ายที่,ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต, ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 29 พ.ย.-1 ธ.ค. จะต้องเป็นอะไรที่พิเศษแน่นอน,ถึงตอนนี้ผมอยากให้เขาเข้าป้ายคว้าแชมป์ในอีก 2 เรซที่เหลือ เพราะ เจ้าต๋ง พร้อมทีมงานจะได้ฉลองชัยกันอย่างยิ่งใหญ่ในการแข่งขัน โฮมเรซ ต่อหน้าแฟนๆชาวไทย,อีกทั้งยังสร้างผลงานชนิดไร้เทียมทางขึ้นโพเดียมได้ 14 เรซติดต่อกันด้วย,แค่อยากให้เกิด ,เพอร์เฟกต์ มิสชั่น, ในบ้านเรา.,ยุบสภา
สัปดาห์ที่ผ่านมาแฟนๆกีฬามอเตอร์สปอร์ตในบ้านเราคงจะชุ่มชื่นหัวใจกันไม่น้อย เมื่อนักขับนักซิ่งสายเลือดไทยทำผลงานกันได้แจ่มแจ๋วอเล็กซ์ อัลบอน นักขับลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ซึ่งเพิ่งขึ้นชั้นไปขับให้
null
อเล็กซ์ อัลบอน,มอเตอร์สปอร์ต,เรดบูล เรซซิ่ง,F1,เรียงหน้าชน,ยุบสภา
https://www.thairath.co.th/sport/others/1668801
ตำรวจจับเด็กแว้นประลองรถบนถนนวิภาวดี
เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจนครบาลวิภาวดีสามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ได้ 78 คันพร้อมจับกุมกลุ่มนักซิ่งอายุตั้งแต่ 14 - 28 ปี รวม 106 คน หลังตำรวจทราบว่าได้มีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันที่บริเวณหน้าห้างฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต เพื่อประลองความเร็วมาตามถนนวิภาวดีฝั่งขาเข้า จนกระทั่งเมื่อมาถึงบริเวณสะพานกลับรถ เยื้องกับสนามบินดอนเมืองตำรวจจึงใช้รถตำรวจ และรถส่วนตัวรวม 16 คันปิดกั้นทางเข้า ออก ทำให้กลุ่มซิ่งรถจักรยานยนต์ต่างพากันขี่รถหนีขึ้นไปบนสะพานกลับรถ เพื่อหวังจะขึ้นทางยกระดับโทลล์เวย์อีกฝั่ง แต่สุดท้ายถูกตำรวจปิดล้อมเอาไว้ ทำให้กลุ่มซิ่งรถจักรยานยนต์ทั้งหมดถูกจับกลางสะพานด้านผู้ต้องหาทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่ได้มาร่วมแข่ง แต่ขับผ่านมาแล้วเข้ามาดูเท่านั้น ซึ่งในจำนวนนี้มีกลุ่มนักซิ่งรถจักรยานยนต์ที่เป็นผู้หญิง หรือสก๊อยซ์ถึง 21 คนในจำนวนนี้เป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปี 13 คนเบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 2000 - 10000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจจะตรวจสอบประวัติเยาวชนทุกคน หากพบว่าเป็นครั้งแรกจะเรียกผู้ปกครองมารับตัวกลับบ้าน ส่วนผู้ที่เคยมีประวัติการจับกุมจะส่งฟ้องศาลเยาวชน และครอบครัวกลางต่อไป
ตำรวจนครบาลวิภาวดีระดมกำลังปิดถนนวิภาวดีรังสิตบริเวณสะพานข้ามแยกเจ๊เล้ง เพื่อจับกลุ่มรถจักรยานยนต์ซิ่ง ที่ปิดถนนแข่งขันกัน สามารถยึดรถจักรยานยนต์ได้ 78 คันผู้ต้องหา 106 คน โดยเป็นเยาวชนถึง 64 คน
อาชญากรรม
จับ,ตำรวจ,ถนนวิภาวดี,ประลองรถ,เด็กแว้น
https://news.thaipbs.or.th/content/88978
เวนเกอร์ แนะผีแดงควรให้เวลา ฟาน กัล สุดเศร้า น้ามู โดนปลด
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 23 ธ.ค. ว่า อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม ปืนใหญ่ อาร์เซนอล สโมสรแกร่งแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระบุ ทีม ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรให้เวลากับ หลุยส์ ฟาน กัล มากกว่านี้ ระบุ กุนซือชาวดัตช์ไม่ได้รับความเคารพมากเท่าที่ควร พร้อมทั้งแสดงความรู้สึกเสียใจที่ โชเซ มูรินโญ โดนปลดออกจากตำแหน่งกุนซือทีมเชลซี,ผมไม่ต้องการไปอยู่ในโลกของการคาดเดาต่างๆ หรอกนะ โดยส่วนตัวแล้วผมมีความเคารพต่อ หลุยส์ ฟาน กัล อย่างมาก และผมคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่นมันขาดความเคารพนิดหน่อยนะ แน่นอน เขาสมควรได้รับเวลาในการทำทีมมากกว่านี้ ผู้ชายคนนี้ทำงานมานาน นานกว่า 30 ปี ในวงการฟุตบอล และมีคุณภาพของการทำงานที่น่าเหลือเชื่อ ผมคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่นขาดความเคารพไปสักหน่อยนะ ผู้จัดการทีมทุกคนมีแนวทางของตนเองในการทำงานกับความสามารถของตนเอง และคุณจะสามารถประสบความสำเร็จได้ถ้าคุณทำงานด้วยความเป็นตัวเอง เวนเกอร์ กล่าว,เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการตัดสินใจของเชลซี ในการปลดมูรินโญ เวนเกอร์ ตอบว่า ผมไม่ต้องการให้ใครเสียงานไปหรอกนะ ความรู้สึกส่วนตัวของผมในฐานะผู้จัดการทีมมันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเสมอเมื่อมีใครคนหนึ่งต้องสูญเสียงานของพวกเขาไป 
อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือทีมอาร์เซนอล ระบุ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรให้เวลากับ หลุยส์ ฟาน กัล มากกว่านี้ พร้อมทั้งแสดงความรู้สึกเสียใจที่ โชเซ มูรินโญ โดนปลดออกจากตำแหน่งกุนซือทีมเชลซี
null
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,อาร์เซนอล,เชลซี,โชเซ มูรินโญ,อาร์แซน เวนเกอร์,หลุยส์ ฟาน กัล,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/553284
อ.อ๊อด เตือนระวัง บัตรพลังงานรักษาโรค คาดมีปรอท สารกัมมันตรังสี
จากกรณีชาวบ้านได้ซื้อ บัตรสมาร์ทการ์ด คล้ายบัตร ATM ที่อ้างว่าเป็นบัตรพลังมีสรรพคุณในการรักษาโรคโดยเฉพาะอาการปวดเมื่อยต่างๆ ตามร่างกาย โดยใช้วิธีการนำบัตรไปแกว่งในแก้วน้ำแล้วนำมาดื่ม หรือนำแก้วน้ำวางทับบนบัตรแล้วดื่ม รวมทั้งมีการนำบัตรสัมผัสกับร่างกายในจุดที่ปวดเมื่อย ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้,ล่าสุด วันที่ 13 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ โพสต์คลิปเผยผลการทดสอบบัตรพลังงาน โดยระบุว่า เบื้องต้นได้ลองวัดดูกระแสไฟฟ้าทั้งกระแสตรงกระแสสลับ วัดความต้านทาน วัดการนำไฟฟ้า เห็นว่ากระแสแรงทะลุซอง ไม่ขึ้นอะไรสักอย่าง,ทั้งนี้ อ.อ๊อด ได้เผยภาพเอกสารผลตรวจสารกัมมันตรังสีของบัตรพลังงาน จากศูนย์บริการเทคโนโลยีนิวเคลียร์ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ เมื่อปี 2559 ที่ได้มาจากผู้ประกอบการที่เอาบัตรนี้ไปแจกพบว่ามีโลหะหนัก ตะกั่ว ปรอท สารกัมมันตภาพรังสี ยูเรเนียม ไททาเนียม อยู่ด้วย,หากเอกสารฉบับนี้เป็นจริง ในบัตรนั้นมีสารกัมมันตรังสี ขอเตือนประชาชนหยุดนำบัตรไปจุ่มน้ำแล้วดื่มโดยเด็ดขาด เพราะไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย และเมื่อนำกรรไกรมาตัดบัตรจะพบว่าภายในมีผงสีขาวๆ อัดแน่นอยู่ หลังจากนี้ต้องขอให้ภาครัฐเข้ามาตรวจสอบบัตรดังกล่าวอีกครั้งเพื่อให้ความกระจ่างแก่ประชาชน.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,- ,เตือนชาวบ้านอย่าเชื่อ การ์ดเวทมนตร์รักษาโรค แท้จริงก็แค่กระดาษธรรมดา,- ,พบ บัตรพลังงาน การ์ดเวทมนตร์ เคยระบาดเมื่อ 10 ปีก่อน ยันรักษาโรคไม่ได้,- ,แฉบริษัทบัตรพลังงานเคยถูกจับลวงโลก รุ่นแรกใช้แปะถังน้ำมัน
อ.อ๊อด เตือนคนอย่านำ บัตรพลังงาน อ้างรักษาสารพัดโรค จุ่มน้ำแล้วดื่ม หลังเอกสารผลตรวจเมื่อปี 2559 พบสารกัมมันตรังสี ชี้หากเป็นความจริงจะไม่ส่งผลดีต่อร่างกาย
ข่าว,สังคม
บัตรพลังงาน,กัมมันตภาพรังสี,ข่าวโซเชียล,อ.อ๊อด,การ์ดเวทมนตร์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1591276
ยุคประกาศสงครามยาเสพติด ย้อนคดี ฆ่าเงียบโจ๋กาฬสินธุ์ ตายหมู่
ทีมข่าวเจาะประเด็น, ขอพาย้อนไปจุดเริ่มเรื่องราวทั้งหมด,เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2547 หลัง ,นายเกียรติศักดิ์ ถิตย์บุญครอง, อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 เหยื่อถูกฆ่าแขวนคอ แล้วอำพรางศพในกระท่อมกลางทุ่งนาใกล้พนังแม่น้ำชี หมู่ 5 ต.แสนชาติ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด โดยสภาพศพที่รอบคอมีรอยคล้ำคล้ายถูกเชือกรัด บริเวณปากด้านขวามีแผลฉีกขนาดใหญ่ ส่วนหน้าท้องและหน้าขาทั้ง 2 ข้าง มีรอยช้ำคล้ายรอยถูกกระทืบอย่างรุนแรง,ขณะนั้น ญาติโร่ร้องขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ว่า นายเกียรติศักดิ์ ถูกตำรวจ สภ.อ.เมืองกาฬสินธุ์ จับกุมพร้อมเพื่อนอีก 2 คน คดีลักรถจักรยานยนต์ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2547 แต่ศาลมีคำสั่งให้ปล่อยตัว ระหว่างนั้น นายเกียรติศักดิ์ ได้โทรศัพท์มาหาญาติ พร้อมเผยว่า ,ยังถูกตำรวจกักตัวไว้อยู่และกำลังถูกนำตัวไปฆ่า,วันถัดมา ญาติ จึงไปตามหาที่โรงพัก พบเพียงกระเป๋าสะพายของ นายเกียรติศักดิ์ วางอยู่ที่โต๊ะตำรวจ ส่วนเจ้าตัวนั้นหายตัวไป จนกระทั่งพบเป็นศพถูกฆ่าตาย จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เชื่อว่าการตายของ นายเกียรติศักดิ์ เป็นฝีมือแก๊งตำรวจอุ้มไปฆ่าทิ้ง,ทางด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รอง ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ณ ขณะนั้น ได้สรุปการตายของ นายเกียรติศักดิ์ ว่าไม่ได้เกิดจากการฆ่าตัวตายโดยแขวนคอตัวเอง พบว่าก่อนเสียชีวิต ผู้ตายถูกทำร้ายร่างกายอย่างทารุณ จนเกิดบาดแผลตามร่างกาย โดยเฉพาะ อัณฑะ ถูกบีบจนเขียวช้ำอย่างรุนแรงจนมีรอยปริแตก เพื่อทรมานให้คายความลับบางอย่าง แล้วใช้เชือกไนลอนรัดคอจนลิ้นจุกปากขาดอากาศหายใจ,พ.ต.อ.อธิพล นพวงษ์ ณ อยุธยา รอง ผบก.ภ.จ.ร้อยเอ็ด ณ ขณะนั้น กล่าวย้ำว่า ไม่เกิน 2-3 วัน จะทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่สังหาร ,นายเกียรติศักดิ์, เป็นใครหรืออาชีพอะไร พร้อมได้ข้อมูลสำคัญจากชาวบ้านที่ออกหาปลาในคืนวันที่ 22 กรกฎาคม ว่าพบเห็นรถกระบะคันหนึ่งไม่ติดป้ายทะเบียน แล่นมาจาก อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เลี้ยวเข้าไปทางทุ่งนาที่พบศพ ซึ่งชาวบ้านเข้าใจว่ามาหาปลาจึงไม่มีใครสนใจอะไร,หลังจากนั้น วันที่ 6 กรกฎาคม 2548 ,นางพิกุล พรหมจันทร์, อาของนายเกียรติศักดิ์ ออกมาเรียกร้องว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกือบครบ 1 ปีแล้ว แต่ผลสรุปของ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ที่ส่งมาให้กลับสรุปว่า ,ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดของ สภ.อ.เมืองกาฬสินธุ์ เกี่ยวข้องกับการตายของ นายเกียรติศักดิ์, ญาติจึงร้องกระทรวงยุติธรรมหรือดีเอสไอ ให้เข้ารับผิดชอบคดีนี้,พ.อ.ปิยะวัฒน์ กิ่งเกตุ หัวหน้าชุดคลี่คลายคดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ ณ ขณะนั้น ได้เปิดเผยความคืบหน้าคดี ว่าสอบปากคำพยานไปแล้ว 108 ปาก คดีคืบหน้าไปมากจนใกล้รู้ตัวผู้ก่อเหตุ จนกระทั่งได้ออกหมายจับ 6 ตำรวจ คือ ด.ต.อังคาร คำมูลนา อายุ 54 ปี, ด.ต.สุดธินันท์ โนนทิง อายุ 49 ปี, ด.ต.พรรณศิลป์ อุปนันท์ อายุ 48 ปี, พ.ต.ท.สำเภา อินดี อายุ 57 ปี คดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน,นอกจากนี้ จากการลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าว ยังพบอีกว่าช่วงปี 2547-2548 มีเยาวชนอายุ 17-18 ปี ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีได้ถูกฆาตกรรมไป 21 ราย เมื่อตรวจสอบประวัติทะเบียนอาชญากรรมผู้ตาย พบว่าเยาวชนที่ถูกจับกุมคดียาเสพติด มักจะถูกยิงเสียชีวิต ส่วนเยาวชนที่ถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์ จะเสียชีวิตในลักษณะถูกแขวนคอ คล้ายนายเกียรติศักดิ์ ในช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศนโยบายปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด,ล่าสุด ศาลฎีกาเบิกตัว ด.ต.อังคาร, ด.ต.สุดธินันท์ และ ด.ต.พรรณศิลป์ จำเลยที่ 1-3 จากเรือนจำมาศาล พร้อมได้วินิจฉัยถึงพยานโจทก์ที่มีเพียงปากเดียว ไม่ใช่ประจักษ์พยาน โดยวิเคราะห์ถึงคำให้การโดยละเอียดหลายครั้งว่ามีพิรุธ ไม่น่าเชื่อถือ กับจำเลยทั้งหกให้การปฏิเสธโดยตลอด จึงน่าสงสัยว่าร่วมกระทำผิดจริงหรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ฎีกาโจทก์และโจทก์ร่วมฟังไม่ขึ้น,ทั้งนี้ จึงพิพากษาให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหก หลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จ บรรดาญาติต่างดีใจร่ำไห้ เข้าสวมกอดพวกจำเลย ขณะที่นางพิกุล พรหมจันทร์ ญาติผู้ตายถึงกับพูดอะไรไม่ออก.
จากคดีฆาตกรรมอำมหิตปริศนา ที่ถูกเปิดโปงช่วงสงครามยาเสพติด สมัยนายกฯ ทักษิณ สู่คดีฆ่าเงียบเยาวชน จ.กาฬสินธุ์ กว่า 21 ราย เมื่อปี 47 ทีมข่าวเจาะประเด็น พาย้อนไปจุดเริ่มเรื่องราวทั้งหมด
ข่าว,ทั่วไทย
คดีฆ่าแขวนคอ,ฆ่าแขวนคอ,ยกฟ้องตำรวจ,สงครามยาเสพติด,ข่าวร้อน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1394996
อดีตนักโทษชายในเวเนฯ วาดการ์ตูนสะท้อนความโหดร้ายในคุก
ภาพยนตร์การ์ตูนอนิเมชั่นที่สร้างสรรค์โดย ลุดดิก โอเชา อดีตนักโทษในเรียนจำเวเนซูเอล่า หลังพ้นโทษที่ถูกคุมขังอยู่นาน 5 ปี โอเชาทำงานกับสำนักงานการสื่อสารแห่งหนึ่งของรัฐ ในตำแหน่งนักวาดภาพ แต่ลาออกเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเพื่อสานฝันให้เป็นจริง เขาวาดภาพ และสร้างออกมาเป็นการ์ตูนอนิเมชั่น เรื่อง คุกหรือนรก ซึ่งประสบความสำเร็จมาก มีผู้ชมบนเว็บไซต์ยูทู้ปแล้วกว่า 1.5 ล้านครั้งผู้ชมบางส่วนวิจารณ์ว่างานของเขาแสดงถึงความรุนแรงมากเกินไป แต่เจ้าตัวบอกว่าหากเปิดใจ ก็จะเห็นแง่มุมอื่นที่สะท้อนอยู่ในภาพยนตร์ นั่นคือ ปัญหาที่รอคอยการแก้ไข เช่น คุกมีจำนวนนักโทษแออัด เขาจึงอยากให้กลุ่มเป้าหมายที่ดูการ์ตูนนี้เป็นผู้ใหญ่ โดยเฉพาะญาติของนักโทษนอกจากนี้ ในเรือนจำมักมีเรื่องปะทะกันรุนแรงบ่อยครั้ง ล่าสุด เมื่อ 2-3 วันก่อน ก็มีเหตุวิวาทภายในเรือนจำเวเนซูเอล่า ทำให้มีผู้เสียชีวิต 25 คน
อดีตนักโทษชายในเวเนซูเอล่าใช้ความสามารถในการขีดเขียน วาดเป็นการ์ตูนอนิเมชัน สะท้อนความโหดร้ายในเรือนจำ เพื่อมุ่งให้ญาติของนักโทษเห็นถึงโลกมืดในเรือนจำที่แสนทรมาน
ต่างประเทศ
การ์ตูน,คุก,นักโทษ,อนิเมชั่น,เรือนจำ,เวเนซูเอล่า
https://news.thaipbs.or.th/content/106658
ชี้ เป็นสิทธิ์ ส.ส.ใช้ดุลพินิจ ธรรมนัส ตอบอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชัดหรือไม่
เทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ปชป. ชี้ ข้อมูล ธรรมนัส ตอบอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชัดเจนหรือไม่ เป็นสิทธิ์ส.ส.ทั้งสภาใช้ดุลพินิจตัวเอง ส่วนตัวโหวตให้หรือไม่ ต้องรอมติพรรคเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2563 ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงบรรยากาศการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 3 ว่า บรรยากาศยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านนำเสนอข้อมูล ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจหลายคน เช่น นายวิสาร เตชะธีระวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ฯลฯ จนถึงคิวการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ซึ่งเป็นไฮไลต์ในเวลาหลังเที่ยงคืน โดยนายธีรัจชัย พันธุมาศ และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.ของอดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่นำข้อเท็จจริงคำพิพากษาของศาลออสเตรเลีย ตัดสินจำคุกในคดีเกี่ยวกับยาเสพติด และวุฒิการศึกษาปริญญาเอก จากโรงเรียน California university มาอภิปรายประเด็นคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีของนายธรรมนัส ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งนายธรรมนัส ได้ชี้แจงข้อกล่าวหาในบางประเด็น ตามที่ถูกกล่าวหา ส่วนจะเป็นการตอบคำถามได้ชัดเจน หรือเคลียร์ได้ทุกประเด็นหรือไม่ ก็เป็นสิทธิ์ของ ส.ส.ทั้งสภาฯ ที่จะต้องใช้ดุลพินิจของตัวเองว่า สามารถลงมติไว้วางใจได้หรือไม่ส่วนตัวได้รับฟังการอภิปรายทั้งสองฝ่ายตั้งแต่ต้นจนจบ ส่วนการตัดสินใจว่าจะลงมติไว้วางใจหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาเหตุผลประกอบจาก 3 ส่วน คือ1.ต้องฟังมติพรรค ซึ่งจะมีการประชุมส.ส.ของพรรค หลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้นแล้ว เพื่อรับฟังความคิดเห็นของเพื่อน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมด ว่า มีความคิดเห็นเรื่องนี้อย่างไร 2.ต้องฟังมติของสังคมว่า กระแสสังคมได้วิพากษ์วิจารณ์ข้อมูลและข้อเท็จจริง การอภิปรายไม่ไว้วางใจในเรื่องนี้อย่างไร และ 3.มติของตัวเอง ซึ่งจะต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ว่า จากข้อมูลที่ได้รับฟังทั้งหมด ตัวเองคิดอย่างไร เมื่อประมวลความเห็นจาก 3 ส่วนนี้ได้แล้ว ก็สามารถสรุปการตัดสินใจในการลงมติญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ทันที นายเทพไท ระบุ
เทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ปชป. ชี้ ข้อมูล ธรรมนัส ตอบอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชัดเจนหรือไม่ เป็นสิทธิ์ ส.ส.ทั้งสภาใช้ดุลพินิจตัวเอง ส่วนตัวโหวตให้หรือไม่ ต้องรอมติพรรค
ข่าว,การเมือง
อภิปรายไม่ไว้วางใจ,อภิปรายไม่ไว้วางใจ 2563,ประชุมสภา,ธรรมนัส พรหมเผ่า,เทพไท เสนพงศ์,มติปชป.,ประชาธิปัตย์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1781801
ตรวจยึด จยย. โจรปล้นแบงก์ธนชาต จอดทิ้งโรงเรียน ย่านถนนจันทน์
จากกรณีคนร้ายเป็นชายรูปร่างท้วม สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ไม่ปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธปืนลูกโม่ไม่ทราบขนาด เข้าไปชิงทรัพย์ภายในธนาคารธนชาต สาขาบางโคล่ เลขที่ 489 ถนนพระราม 3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. กวาดเงินสดไปจำนวน 257,000 บาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น,เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 8 ก.ย. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.รัชพล ชนะศรีขจร ผกก.สน.วัดพระยาไกร พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.วัดพระยาไกร ได้เดินทางมายัง ภายในโรงเรียนพระแม่มารี ถนนจันทน์ แขวง ทุ่งวัดดอน เขต สาทร กทม. บริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ125 อาร์อาร์ สีแดง-ขาว ทะเบียน อบท 564 กรุงเทพมหานคร จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาเก็บหลักฐาน,จากการตรวจสอบพบเสื้อกันหนาวแขนยาว มีโม่งสีดำคาดเทา 1 ตัว เหรียญ 1 บาท และ 2 บาท รวมกันประมาณ 50 บาท ผ้าเช็ดรถสีน้ำตาล 1 ผืน ถุงผ้าสีน้ำตาล 1 ผืน หมวกกันน็อคครึ่งใบ สีดำ 1 ใบ จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน,จากการสอบถาม นายกิตติวัฒน์ หรือเล็ก สร้อยสุวรรณ อายุ 43 ปี เปิดเผยว่า ตนรู้จักนายวัฒนา หรือ ตั๊ก ภูจริต อายุ 30 ปี อาชีพช่างซ่อมบำรุงทั่วไป ชาว อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ซึ่งปัจจุบันได้พักอาศัยอยู่แมนชั่นแห่งหนึ่ง ซ.เย็นจิตต์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กทม. เนื่องจากตนรู้จักกว่า 4 ปี ตนเป็นหัวหน้างานและเป็นคนค้ำประกันรถจักรยานยนต์ให้ จนผ่อนหมด จึงจำรถคันนี้ได้ดี ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่าก่อนว่านายตั๊ก จะเป็นคนก่อเหตุ เพราะตอนทำงานเป็นคนดี เป็นคนขยันทำงาน แต่ก็มีเกเรบ้างตามประสาวัยรุ่น แต่ก็ไม่ทราบว่าเดือดร้อนเรื่องเงินหรืออย่างใด พอมาเห็นหลักฐานเป็นเสื้อตัวเก่งที่พบใต้เบาะรถจักรยานยนต์ ภาพกล้องวงจรปิด ตนก็ไม่อยากจะพูดอะไร ไม่รู้จริงๆ,พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายวัฒนา หรือตั๊ก ภูจริต อายุ 30 ปี จากการสอบสวนทราบว่านายวัฒนา ได้นำรถจักรยานยนต์ ไปจอดทิ้งไว้ ซึ่งห่างจากธนาคารธนชาต สาขาบางโคล่ 4 กม. ทั้งนี้ ยังต้องหาความเชื่อมโยงว่า นายวัฒนา ทำไมต้องนำรถไปจอดไว้ที่โรงเรียนดังกล่าว เนื่องจากการจะนำรถจักรยานยนต์เข้าไปจอดนั้น ต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัย เมื่อตรวดูจากกล้องวงจรปิดนั้น นายวัฒนา เลี้ยวรถเข้าไปอย่างรวดเร็ว คล้ายสนิทสนมเข้าออกง่ายโดยไม่ต้องตรวจสอบ ทั้งนี้ จะเป็นกำลังใจให้ทีมสืบสวนทุกคนที่ทำงานกันอย่างรวดเร็ว และเร่งติดตาม นายวัฒนา มาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป.
ศานิตย์ ตรวจยึดรถ จยย. คนร้ายปล้นแบงก์ธนชาต สาขาบางโคล่ กวาดเงิน 2.5 แสนบาท หลังขี่ไปจอดใน ร.ร.พระแม่มารี ถนนจันทน์ เร่งตามตัวหนุ่มวัย 30 เจ้าของรถ และเป็นผู้ก่อเหตุสอบ
ข่าว,อาชญากรรม
ศานิตย์ มหถาวร,ปล้นธนาคาร,ธนาคารธนชาต สาขาบางโคล่,รถ จยย.,โรงเรียนพระแม่มารี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1064009
นิพนธ์ เร่งผู้ว่าฯ-ปภ.ทั่วประเทศ ใช้งบฯ 50 ล้าน ป้องโควิด-19
รมช.มหาดไทย นิพนธ์ เร่งผู้ว่าฯ และปภ.ทั่วประเทศ ใช้งบประมาณยับยั้ง 50 ล้าน ป้องไวรัสโควิด-19 แจง ระเบียบคลังฯ ต้องโปร่งใส-มีประสิทธิภาพ-ทันสถานการณ์วันที่ 1 เม.ย. 2563 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมทางไกลผ่านระบบ Video Conference ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยเน้นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทันต่อสถานการณ์ การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 และที่สำคัญคือต้องดำเนินทุกอย่างไปด้วยความโปร่งใสนายนิพนธ์ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ ต้องการที่จะชี้แจงทำความเข้าใจที่ถูกต้องในระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการฯ ที่กระทรวงการคลังได้อนุมัติขยายวงเงินการใช้งบประมาณได้จำนวน 50 ล้านไปแล้วนั้น สามารถดำเนินการได้ ซึ่งการใช้งบประมาณนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถนำไปจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ เวชภัณฑ์ ยา ให้กับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ หรือสิ่งจำเป็นสำหรับประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาดได้ อันนี้รายละเอียดก็ขึ้นอยู่กับแต่ละจังหวัดว่าจะหารือการดำเนินการกันอย่างไร แต่ในประการสำคัญคือต้องเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณ เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสฯ ยังคงรุนแรงในปัจจุบันนอกจากนี้ รมช.มหาดไทย ยังได้ชี้แจงเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนวงเงินเดิม 10 ล้านบาท ของงบเชิงป้องกันหรือยับยั้งนี้ ยังคงเหมือนเดิม โดยสามารถดำเนินการได้ตามภารกิจในเชิงป้องกันหรือยับยั้งในภัยต่างๆที่เกิดขึ้นได้ เพราะภัยที่เกิดขึ้นขณะนี้ในแต่ละพื้นที่ไม่ได้มีเพียงแต่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 เท่านั้น แต่มีทั้งภัยพิบัติจากสถานการณ์ไฟป่า ภัยแล้ง ผลกระทบจากพายุฤดูร้อน หรือภัยพิบัติต่างๆ ในหลายพื้นที่ก็มีความน่าเป็นห่วงเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ดังกล่าว จะต้องไปพิจารณาหารือเพื่อกำหนดแนวทางป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติทุกประเภทให้ได้ อันเป็นการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่พี่น้องประชาชนอีกด้วย
รมช.มหาดไทย นิพนธ์ เร่งผู้ว่าฯ และปภ.ทั่วประเทศ ใช้งบประมาณยับยั้ง 50 ล้าน ป้องไวรัสฯ แจง ระเบียบคลังฯ ต้องโปร่งใส-มีประสิทธิภาพ-ทันสถานการณ์
ข่าว,การเมือง
โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสอู่ฮั่น,นิพนธ์ บุญญามณี,รมช.มหาดไทย,งบประมาณ 50 ล้าน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1810241
คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิง สวนปาล์มที่กระบี่ ไร้เจ็บ
นายสุมนตรี สุขดำ แกนนำกลุ่มเกษตรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (19 ก.ค.) มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิง เข้ามาในสวนปาล์มของเอกชน ที่หมดอายุสัมปทาน ที่บ้านคลองหวายเล็ก ตำบลคลองขนาน อำเภอเหนือคลอง ซึ่งเป็นที่อาศัยของกลุ่มเกษตรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน หลังเข้ามายึดสวนปาล์ม เพื่อจัดสรรค์ที่ดินทำกิน โดยกระสุนถูกเพิงพักป้อมยาม เสาคอนกรีต และ ต้นปาล์มน้ำมัน แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ ต้องการข่มขู่เกษตรกรให้ออกจากพื้นที่สวนปาล์ม เพราะตลอดสัปดาห์นี้ มีชาวบ้านจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ นครศรีธรรมราช ที่ไม่มีที่ดินทำกิน เริ่มเข้ามาจับจองที่ในสวนปาล์ม ไม่ต่ำกว่า 1600 คน หลังมีกระแสอธิบดีกรมป่าไม้ ไม่ต่อสัญญาสัมปทานให้เอกชน เพื่อขอคืนพื้นที่ ทำป่าชุมชนแล้วให้ชาวบ้านเข้าทำประโยชน์แทน จึงสร้างความไม่พอใจขณะที่ตำรวจอำเภอเหนือคลอง กล่าวว่า ขณะนี้ยังระบุไม่ได้ว่าคนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามยิงเกษตรครั้งนี้ เป็นกลุ่มใด ต้องรอสอบสวน และ นำปลอกกระสุนปืนในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบอีกครั้ง
กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ที่เข้ายึดสวนปาล์มหมดอายุสัมปทาน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิง แต่ไม่ใครได้รับบาดเจ็บ
อาชญากรรม
กลุ่มเกษตรกร,จังหวัดกระบี่,ปาล์มน้ำมัน,สวนปาล์ม,หมดอายุสัมปทาน,อาวุธปืนสงคราม
https://news.thaipbs.or.th/content/99458
ต่ำ 13 ห้ามโหมวิ่งมาราธอน หมอแอร์ นักไตรไอรอนแมนเตือน ร้อน ขาดน้ำ เสี่ยงกล้ามเนื้อสลาย
เทรนด์การออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดี กำลังกลายเป็นเทรนด์สุดฮิตของคนยุคนี้ ดั่งจะเห็นได้จาก กิจกรรมสารพัดการวิ่ง ทั้งการเดิน-วิ่ง ระยะสั้น 2-3 กิโลเมตร มินิมาราธอน 10.5 กิโลเมตร ฮาลฟ์มาราธอน 21 กิโลเมตร เรื่อยไปจนถึง การวิ่งมาราธอน 42 กิโลเมตร ที่มีการจัดการแข่งขันอย่างมากมาย เกือบทุกสัปดาห์ในหลายๆ จังหวัด แต่ก็ยังได้รับการตอบรับ จากบรรดาชาว Healthy อย่างล้นหลาม ,แถมนับวัน ตัวเลขชาว Healthy ที่ต้องการ จะออกไป ก้าวคนละก้าว เพื่อสุขภาพที่ดี ก็ยิ่งจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ,แต่แน่นอน การที่บรรดามือใหม่ เพื่อสุขภาพ ที่เปรียบไปก็ไม่ต่างจาก เพิ่งเริ่มขับขี่ มอเตอร์ไซค์จ่ายตลาดธรรมดาๆ จะพัฒนาไปสู่การขับขี่ บิ๊กไบค์ นั้น ,มีข้อพึงระวัง และควรศึกษาเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้ สิ่งที่เรามุ่งหวังว่าจะนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดี กลับกลายมาเป็น การทำลายสุขภาพ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ในที่สุด, ,ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่อาจทำให้เกิดภาวะเสี่ยงต่ออันตรายได้ถึงขนาดนั้น ก็คือ การที่ร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินไป ,อะไรคือเหตุแห่งปัจจัยเสี่ยง? ต้องสูญเสียน้ำมาก-น้อยแค่ไหน ถึงจะเรียกว่าอยู่ในระดับอันตราย? ช่วงวัยไหน ที่เหมาะสำหรับการวิ่งในระยะทางกี่กิโลเมตร?, ทั้งหมดนี้ ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, มีคำตอบ สำหรับ แฟนๆ ไทยรัฐออนไลน์ สาย Healthy ทุกท่าน ,เอาล่ะ ก่อนคิดจะออกไปวิ่งแตะขอบฟ้า เชิญเหวี่ยงสายตา ลงมาอ่านข้อความอันมีประโยชน์ เพื่อประกอบการออกกำลังกายของทุกท่านกันสักนิด ,โดยบุคคลที่ ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, คัดสรรมาให้ความรู้ในวันนี้ ก็คือ ,นพ.อกนิษฐ์ ศรีสุขวัฒนา หรือ คุณหมอแอร์, แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ (หทัยวิทยา) ,อีกหนึ่งหมอแกร่งที่สุดในปฐพี ระดับน้องๆ หมอภาคย์ ด้วยเหตุที่คุณหมอท่านนี้ เป็นนักไตรกีฬาคนเหล็ก (ว่าย 3.8 ปั่น 180 วิ่งมาราธอน 42.2 กิโลเมตร) แถมเคยผ่านการแข่งขันในต่างประเทศ ที่ประเทศเยอรมนี เกาหลีใต้ และสวีเดน มาแล้ว ,โดยปกติการวิ่งมาราธอน จะต้องมีน้ำดื่มให้กับนักวิ่ง ทุกๆ ระยะ 2 กิโลเมตร หรือ สูงสุด ทุกระยะ 3 กิโลเมตร เพราะไม่เช่นนั้น นักกีฬา จะกระหายน้ำมากเกินไป จนเกิดภาวะขาดน้ำ ซึ่งอันตรายถึงชีวิตได้, อีกหนึ่งหมอแกร่งที่สุดในปฐพี ขนาดน้องๆ หมอภาคย์ เริ่มต้นการสนทนากับทีมข่าวฯ,1-6 ลิตร คือ ค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำในร่างกาย ที่สูญเสียไปในระหว่างการวิ่งมาราธอน ,ปริมาณ การสูญเสียน้ำในร่างกาย ระหว่างการวิ่งมาราธอน ของแต่ละคน ,ค่าเฉลี่ยต่อคนจะอยู่ที่ประมาณ 1-6 ลิตร ส่วนใครจะสูญเสียน้ำในร่างกาย มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย, เช่น 1.,คนที่ตัวใหญ่ ก็อาจมีโอกาสเสียเหงื่อ มากกว่า คนที่ตัวเล็ก, 2.ความหนักในการออกกำลัง ,คนที่การวิ่งเร็ว ก็จะเสียเหงื่อ มากกว่า วิ่งช้า, รวมไปจนกระทั่งถึง ปัจจัยเรื่องสภาพอากาศ ,หากวันที่วิ่ง อากาศร้อน มีความชื้นสูง นักกีฬา ก็จะเสียเหงื่อมากกว่า วันที่อุณหภูมิต่ำ, เป็นต้น  ,ฉะนั้น หากอยากทดสอบดูว่า ตัวเรา มีภาวะการสูญเสียน้ำในร่างกายระหว่างการออกกำลังกายเท่าไหร่ ง่ายๆ เลย ,เราควรใช้วิธี ชั่งน้ำหนักก่อนและหลังวิ่ง ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง, จากนั้น นำน้ำหนักทั้งสองส่วนมาเปรียบเทียบกัน ก็จะได้ค่าของ น้ำที่ร่างกายสูญเสียไปในระหว่างการออกกำลังกาย ในระยะเวลา 1 ชั่วโมง ,แนะก่อนออกกำลังกายกลางแจ้ง ,ควรดื่มน้ำก่อนออกกำลัง ประมาณ 500 ซีซี ระหว่างออกกำลัง ควรจิบน้ำ อย่างน้อย 250 ml ใน 30 นาที หรือ อาจถี่กว่านั้นถ้ากระหายน้ำ หรือเสียเหงื่อมากและหลังออกกำลังกาย 30 นาที ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ จนปัสสาวะสีไม่เข้ม,หากต้องอยู่ในอุณหภูมิ ที่ร้อนจัดๆ และสังเกตเห็นได้ว่า เหงื่อเริ่มออกมากกว่าปกติ ผู้ที่ออกกำลังกาย ก็ควรดื่มน้ำให้ถี่มากขึ้น ,ด้วยเหตุเพราะ โดยปกติ ร่างกายมนุษย์เรา ,เวลาดื่มน้ำจะสามารถดูดซึมน้ำจากกระเพาะ ได้ไม่เกิน 200 ซีซี ภายในระยะเวลา 15 นาที ฉะนั้น หากเราดื่มน้ำถี่ๆ น้ำก็จะมีคงค้างอยู่ในกระเพาะมากขึ้น และดูดซึมไม่ทัน,ฉะนั้น ค่าเฉลี่ยปกติ หากเรา ออกกำลังกายประมาณ 30 นาที สำหรับ อุณหภูมิในประเทศไทย อย่างน้อยๆ ,ต้องดื่มน้ำให้ได้ประมาณ 250 ซีซี หรือ เท่ากับ น้ำดื่ม 1 แก้ว, แต่หากอุณหภูมิมีความเปลี่ยนแปลง หรือ พูดง่ายๆ ว่า มีอากาศร้อนขึ้นกว่า ณ เวลานี้ ผู้ที่ออกกำลังกาย ก็ยิ่งควรดื่มน้ำให้มากกว่า ปริมาณ 250 ซีซี ขึ้นไปอีก, ให้เชื่อความรู้สึก กระหายน้ำของร่างกาย เมื่อร่างกายมีภาวะขาดน้ำ จะกระตุ้น ศูนย์ควบคุมความหิว (thrist center) ให้รู้สึกกระหายน้ำ นักกีฬาควรต้องรีบดื่มน้ำ ไม่ควรฝึกอดน้ำ หรือไม่กินเพื่อเร่งทำเวลาที่ดี ,สิ่งที่ควรต้องรู้ก็คือ ไตของแต่ละคน สามารถดูดเก็บกักน้ำแตกต่าง, บางคนเสียน้ำเยอะ แต่สามารถดูดเก็บน้ำกลับมาได้เยอะ ก็จะไม่มีอาการเลย ในขณะที่บางคน แม้อาจจะสูญเสียน้ำไปไม่เยอะ แต่ ไต สามารถดูดเก็บกักน้ำได้น้อย ,ก็จะมีอาการปัสสาวะมีสีเข้มมาก หรือ ข้นมาก นั่นก็แปลว่า ร่างกายกำลังขาดน้ำ ผู้ที่ออกกำลังกายก็ควรดื่มน้ำเพิ่มขึ้น,ชี้อายุไม่เกิน 13 ปี ไม่ควรวิ่งมาราธอน เกิน 60 ปี มีภาวะเสี่ยงต้องดูแลใกล้ชิด   ,สำหรับประเด็นนี้ ,แม้จะไม่มีข้อห้ามว่า ช่วงอายุใดที่ไม่ควรวิ่งมาราธอน แต่สำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะมีความเสี่ยงต่อการขาดน้ำ จากโรคฮีตสโตรก, (Heat Stroke) หรือ โรคลมแดด ได้ง่าย ฉะนั้น ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อดูแลเรื่องภาวะขาดน้ำ และจะต้องสังเกตอาการตัวเอง มากกว่าช่วงวัยอื่นๆ ,สำหรับ เด็กที่อายุไม่เกิน 13 ปี หรือยังไม่เริ่มเข้าวัยหนุ่มสาว นั้น ควรหลีกเลี่ยงการฝึกซ้อมเพื่อวิ่งมาราธอน เพราะการวิ่งในระยะทางไกลถึงขนาดนั้น เป็นการออกกำลังกายมากเกินพอดี, ,นั้น อาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ถึงขั้นทำให้เจริญเติบโตได้ช้าล,ง โดยในช่วงวัยนี้,ระยะทางการวิ่งที่เหมาะสม คือ มากที่สุด คือ ระยะการวิ่งไม่เกิน 1-2 กิโลเมตร เท่านั้,น จนเริ่มเข้าวัยหนุ่มสาว ความสูงเริ่มเพิ่มขึ้นเร็ว ค่อยเพิ่มระยะแข่งที่เหมาะสม โดยต้องปรึกษาผู้ฝึกสอนที่มีความเข้าใจในนักกีฬาวันเด็กเป็นอย่างดี,เด็กอายุไม่ถึง 13 ปี ควรออกกำลังกายไม่มากเกินไป ตัวเลขคร่าวๆ ควรออกกำลังกายต่อเนื่อง ,เช่น วิ่ง 30 นาที สามารถ ออกกำลังได้ทุกวัน โดยไม่มากเกินไปการออกกำลังของเด็ก, ,เน้นฝึก ทักษะ Skill การเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อ การทรงตัว ที่ถูกวิธี มากกว่า การฝึกความคงทนของการออกกำลังกาย (Endurance),เมื่อเริ่มเข้าวัยหนุ่มสาว อายุ ประมาณ 13-15 ปี ค่อยเริ่มเพิ่มระยะเวลา การออกกำลัง, ระยะทางการวิ่ง อย่างค่อยเป็นค่อยไป จนถึงการเติบโตเต็มที่ ประมาณ 18 ปี (หยุดโต) จึงสามารถซ้อมแบบผู้ใหญ่ได้,วิธีสังเกต อาการผิดปกติ หากพบแบบนี้ นักวิ่งต้องหยุดทันที  ,หากคุณเริ่มมีอาการปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง แข่งเสร็จ หยุดพักแล้วแต่ก็ยังไม่หายเหนื่อยสักที แถมยังปวดกล้ามเนื้อจนกล้ามเนื้อไม่มีแรง ปัสสาวะออกน้อย หรือ ปัสสาวะออกมาแล้ว มีสีดำคล้ำ แบบนี้ คุณควรพบแพทย์ทันที,เพราะอาการเหล่านี้ คือ อาการของโรคกล้ามเนื้อลายสลาย (Rhabdomyolysis) ซึ่งเกิดจากการ ออกกำลังมากมากเกินกำลังของร่างกาย ร่วมกับการขาดน้ำ ซึ่ง การวิ่งมาราธอน ก็อยู่ในข่ายนี้ด้วยเช่นกัน,ดื่มน้ำน้อย หรือ ดื่มน้ำไม่เพียงพอ ก็อาจภาวะนี้ได้ ซึ่งทำให้ถึงขั้น เกิดภาวะไตวาย จนกระทั่งเสียชีวิตได้เลย  ,ฉะนั้น หากพบว่าตัวเอง มีปัสสาวะเป็นสีเข้มจนเป็นสีน้ำตาล อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก แล้วยังไม่สามารถหาน้ำดื่มได้ นักวิ่ง ควรจะต้องหยุดทันที  ,การวิ่งออกกำลังกาย เกิน 2 ชั่วโมงขึ้นไป ก็มีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นอันตรายได้เช่นกัน หากเกิดไปวิ่งด้วยความเร็ว ที่มาก ร่วมกับการขาดน้ำ, นพ.อกนิษฐ์ ค่อยๆ ลำดับ ประเด็นให้ ทีมข่าวฯ ฟังด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ ,นอกจากนี้ ในการออกกำลังในที่กลางแจ้ง และอากาศร้อน ,หากเริ่มมีอาการปวดศีรษะ ร่างกายร้อนมาก แต่เหงื่อไม่ออก ซึ่งเป็นลักษณะของการปรับอุณหภูมิ ที่ไม่ปกติ ร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ หลังจากนั้น พอเป็นมากขึ้น ก็จะเริ่มเป็นตะคริวหลายๆ ที่พร้อมกัน มีอาการเบลอ และชักเกร็ง หมดสติ หรือ อาจเสียชีวิตได้ในที่สุด, นั้น เหล่านี้ คือ อาการของ โรคฮีตสโตรก Heat Stroke หรือ โรคลมแดด ซึ่งมักจะเกิดในระหว่าง การออกกำลังกายท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงมากๆ และดื่มน้ำไม่เพียงพอ    ,สิ่งที่ผมอยากจะเตือน นักวิ่งมาราธอน ก็คือ หากเห็นแล้วว่า ต้องวิ่งในอุณหภูมิที่ร้อนจัด และมีน้ำดื่มบริการไม่เพียงพอ ผมอยากแนะนำให้ หยุดวิ่งทันที,เพราะมันไม่คุ้มกันเลย ที่เราเสี่ยงจะต้องพบกับ ทั้ง 2 โรค ดังกล่าว ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้, มาถึงตรงนี้ คุณหมอแอร์ ของเรามีน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นมาในทันที  ,ดื่มน้ำ สลับ น้ำเกลือแร่ นักวิ่งมาราธอนต้องรู้ ป้องกันภาวะโซเดียมต่ำ ซึ่งอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เช่นกัน,ทั้งนี้ ปัจจุบัน, มีกระติกน้ำเล็กๆ ที่สามารถพกติดตัวในระหว่างการวิ่งได้, หากนักวิ่งรู้สึกไม่แน่ใจว่า คณะผู้จัดงาน จะเตรียมการเรื่องนี้ไว้เพียงพอหรือไม่ ,ส่วนตัวก็อยากแนะนำให้ บรรดานักวิ่งทั้งหลาย ติดกระติกน้ำนี้ไว้กับตัว เพื่อความปลอดภัย และป้องกันภาวะความเสี่ยง ดังที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ได้ ,อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญอีกข้อ ที่ควรต้องคำนึงคือ ,หากออกกำลังกายแล้ว ดื่มน้ำมากเกินไป อาจทำให้เกิด ภาวะเกลือแร่ต่ำ หรือ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน, เพราะการดื่มน้ำมากเกินไป ,จนถึงจุดๆหนึ่ง จะทำให้โซเดียมในร่างกายลดต่ำลงมากเกินไป จนอาจทำให้เกิดภาวะสมองบวม ตัวบวม จนกระทั่งเสียชีวิตได้ ,ฉะนั้น เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ในระหว่างการวิ่งมาราธอน ,ควรจะดื่มน้ำ และน้ำเกลือแร่ สลับกันไปมา เพื่อให้ร่างกายเกิดภาวะสมดุลกัน ในระหว่างการวิ่ง และดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม,และข้อแนะนำประเด็นสุดท้ายก็คือ สำหรับการวิ่งมาราธอน นั้น ,นักวิ่งควรจะลงแข่งขัน 6 เดือน ต่อ 1 ครั้ง ก็น่าจะพอเพียงแล้ว เพราะหากมากไปกว่า นั้น ร่างกายเรา จะฟื้นฟูตัวเองได้ไม่ทันจนเกิดอันตรายได้, คุณหมอสุดแกร่ง ปิดท้ายการสนทนากับทีมข่าวฯ ในที่สุด  ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน,สืบเสาะข่าว รับเรื่องราวร้องทุกข์ สามารถส่งเรื่องราว หรือประเด็นปัญหาของท่านมาได้ที่,
 ,[email protected] , หรือช่องทาง Facebook : ,ทีมข่าวเฉพาะกิจ
วิ่งมาราธอนอย่างไรให้ปลอดภัย แนะข้อพึงระวัง และควรศึกษาเพิ่มเพื่อไม่ให้สิ่งที่มุ่งหวังจะนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีกลายเป็น การทำลายสุขภาพ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
ข่าว
วิ่งมาราธอน,วิ่งก้าวคนละก้าว,วิ่งจนเป็นลม,คุณหมอแอร์ อกนิษฐ์ ศรีสุขวัฒนา,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/1398566
มือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีเมืองซูรุคของตุรกี เสียชีวิตกว่า 30 คน
มือระเบิดฆ่าตัวตายก่อเหตุจุดชนวนระเบิดตัวเองที่ศูนย์วัฒนธรรมในเมืองซูรุค เมืองพรมแดนทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีติดกับซีเรีย แรงระเบิดสร้างความเสียหายอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 คนและได้รับบาดเจ็บอีก 100 คน โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสมาชิกของสหพันธ์ยุวชน เดอะ เฟเดอเรชั่น ออฟ โซเชียลลิสต์ ยูธ แอสโซซิเอชั่น (The Federation of Socialist Youth Associations) ที่กำลังประชุมหารือเพื่อเตรียมเดินทางข้ามพรมแดนเข้าไปช่วยฟื้นฟูเมืองโคบานี ของซีเรียที่เคยตกอยู่ในความยึดครองของกลุ่มไอเอสมาเป็นเวลาหลายเดือน ก่อนที่กองกำลังนักรบชาวเคิร์ดจะยึดเมืองกลับคืนมาได้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป เอร์โดอาน ผู้นำตุรกี ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนไซปรัส ประณามเหตุระเบิดฆ่าตายที่เกิดขึ้นว่าเป็นการก่อการร้าย แม้ว่าจะยังไม่มีกลุ่มใดอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุ แต่นายอาห์เมท ดาวูโตกลู นายกรัฐมนตรีของตุรกีเชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มไอเอส และหากได้รับการยืนยันว่าเป็นการกระทำของกลุ่มไอเอสจริง ก็นับเป็นครั้งแรกที่กลุ่มไอเอสก่อเหตุโจมตีตุรกี ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาอำนาจทางการทหารในภูมิภาคและเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) หลังเหตุระเบิดมีความวุ่นวายเกิดขึ้นตามมาในนครอิสตันบูล เมื่อผู้ประท้วงออกมาชุุมนุมประณามเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในเมืองซูรุคและโทษว่าเป็นความผิดของรัฐบาล แต่การชุมนุมกลายเป็นความรุนแรง เมื่อผู้ประท้วงพากันขว้างปาขวดน้ำและก้อนหินเข้าใส่ตำรวจที่ระดมกำลังเข้ามารักษาความสงบ ทำให้ตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำเข้าสลายกลุ่มผู้ประท้วง
มือระเบิดฆ่าตัวตายก่อเหตุโจมตีศูนย์วัฒนธรรมในเมืองพรมแดนของตุรกีติดกับซีเรีย ทำให้มีผู้เสียกว่า 30 คนและได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก โดยผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัครที่เตรียมเดินทางข้ามพรมแดนเข้าไปช่วยฟื้นฟูเมืองของซีเรียที่เคยตกอยู่ในความยึดครองของกลุ่มไอเอส
ต่างประเทศ
IS,ISIS,ข่าวต่างประเทศ,ข่าววันใหม่,จัดตั้งรัฐอิสลาม,ซีเรีย,ซูรุค,ตุรกี,ระเบิดฆ่าตัวตาย,ระเบิดพลีชีพตุรกี,รัฐอิสลาม,อิสตันบูล,โคบานี,ไอเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/3728
ชาวยโสธร ไม่ละสายตาจากท้องฟ้า ห่วงหลังคาบ้านโดนบั้งไฟตกใส่เสียหาย
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.62 ที่วัดบ้านคุยตับเต่า ต.ขุมเงิน อ.เมืองยโสธร จ.ส.ท.ฌนวัฒน์ เศิกศิริวนิชกุล นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ขุมเงิน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ขุมเงิน อ.เมืองยโสธร ได้นำรถดับเพลิงไปประจำ เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันเหตุ เนื่องจากมีการจุดบั้งไฟ กว่า 1,000 บั้ง ภายในงานประเพณีบุญบั้งไฟ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด มาตกบริเวณหมู่บ้าน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นจุดตกของบั้งไฟ ซึ่งฐานจุดห่างจากหมู่บ้านแห่งนี้เพียง 3 กิโลเมตร โดยทุกปีจะมีบั้งไฟไปตกภายในหมู่บ้านเป็นประจำ,ตลอดทั้งวันมีบั้งไฟขนาดต่างๆ ที่จุดขึ้นสู่ท้องฟ้าลอยตกรอบหมู่บ้านกว่า 10 ลูก บั้งไฟที่ตกภายในหมู่บ้านส่วนใหญ่เป็นบั้งไฟหมื่นขนาดของบั้งไฟเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 นิ้ว ยาว 1 เมตร 30 เซนติเมตร โดยตกใส่หลังคาบ้านของชาวบ้านได้รับความเสียหายเล็กน้อย 2 หลัง นอกนั้นตกข้างบ้านและริมถนนภายในหมู่บ้าน รวมทั้งบางส่วนยังลอยไปตกในทุ่งนาใกล้กับหมู่บ้าน ขณะเดียวกันก็มีชาวบ้านบางส่วนได้พากันไปรวมกันภายในวัดเพื่อคอยดูบั้งไฟที่จุดขึ้นสู่ท้องฟ้าว่าจะมีทิศทางไปตกลงที่ใดจะได้หลบได้ทันเพื่อความปลอดภัย,นายประสพโชค พินิจ อายุ 52 ปี เจ้าของบ้านที่บั้งไฟตกใส่หลังคาบ้าน เผยว่า ปกติทุกปีที่จะมีบั้งไฟที่จุดในงานประเพณีบุญบั้งไฟของ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด มาตกที่หมู่บ้านของตนเป็นประจำทุกปีและส่วนใหญ่จะตกลงมาบริเวณรอบๆ บ้านเรือนของตน เนื่องจากเป็นจุดตกของบั้งไฟ เเละเกือบทุกปีเคยมีบั้งไฟที่จุดในงานบุญบั้งไฟ อ.พนมไพร ลอยมาตกใส่หลังคาบ้านของตนอยู่บ่อยครั้ง และในปีนี้ก็เช่นกันก็มีบั้งไฟไปตกใส่หลังคาบ้านของตนอีก แต่โชคดีที่เป็นบั้งไฟหมื่นขนาดไม่ใหญ่นัก จึงไม่ได้รับความเสียหายเล็กน้อย ส่วนบั้งไฟแสนที่มีขนาดใหญ่ก็จะข้ามไปตกที่ทุ่งนาด้านหลังบ้านจึงไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด,ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ชาวบ้านในหมู่บ้านทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต่างพากันออกไปรวมตัวกันที่ลานวัด เพื่อดูทิศทางของบั้งไฟตก เพื่อจะได้หลบหนี และเพื่อความปลอดภัย. 
ชาวยโสธร ไม่กล้าละสายตาจากท้องฟ้า หลังทาง อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด จุดบั้งไฟขึ้นนับพันลูก จนตกใส่หลังคาบ้านเสียหาย ล่าสุดเจอบั้งไฟหมื่น ไม่เจอบั้งไฟแสนที่พุ่งข้ามไปตกในทุ่งหลังบ้าน
ข่าว,ทั่วไทย
บั้งไฟ,บั้งไฟตกใส่บ้าน,ยโสธร,จุดบั้งไฟ,อ.พนมไพร,ร้อยเอ็ด,บั้งไฟหมื่น,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1594710
น้ำท่วมในเมืองกาฬสินธุ์เริ่มทรงตัว บ้านเรือนใน 10 ชุมชนยังมีน้ำท่วมขัง
เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2562 สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ทั้ง 10 ชุมชน มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมประมาณ 450 หลังคาเรือน ซึ่งช่วงเช้าพบว่าระดับน้ำเริ่มทรงตัวเนื่องจากมีฝนตกลงมาน้อย แต่ระดับน้ำยังคงท่วมขังบ้านเรือนของชาวบ้านอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าสำรวจและนำถุงยังชีพ อาหาร น้ำดื่ม เข้าให้ความช่วยเหลือเป็นการเบื้องต้น,โดยชาวบ้านบอกว่าน้ำท่วมในครั้งนี้ถือว่าหนักกว่าปี 2560 เพราะใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงน้ำก็ท่วมบ้านเรือนแล้ว โดยถือว่าหนักสุดในรอบ 10 ปี ชาวบ้านหลายคนที่ไม่สามารถอาศัยอยู่บ้านได้ก็ไปอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม,ด้านนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับภาพรวมทั้งจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากพายุ โพดุล ทำให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ 12 อำเภอ 59 ตำบล 171 หมู่บ้าน (อำเภอกมลาไสย, อำเภอห้วยผึ้ง, อำเภอห้วยเม็ก, อำเภอหนองกุงศรี, อำเภอกุฉินารายณ์, อำเภอสมเด็จ, อำเภอร่องคำ อำเภอสามชัย, อำเภอยางตลาด, อำเภอนามน, อำเภอเขาวง และอำเภอสหัสขันธ์) ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,323 ครัวเรือน 9,027 คน ที่อยู่อาศัยเสียหาย เสียหายหนัก 64 หลัง บางส่วน 450 หลัง รวม 524 หลัง นาข้าวน้ำท่วมขัง 16,543 ไร่ สะพาน 4 แห่ง ถนนได้รับความเสียหาย 77 สาย,ส่วนพื้นที่รับน้ำจากอ่างห้วยสีทน ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เป็นพื้นที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง,สถานการณ์ปัจจุบัน ปริมาณฝนในพื้นที่น้อยลง ปริมาณน้ำมีแนวโน้มลดลง ถนนในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ที่มีน้ำท่วมขัง ปริมาณน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง และอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าปริมาณฝนจะลดลง.
น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 10 ปีของ จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุด พื้นที่ 10 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ระดับน้ำเริ่มทรงตัว ทางการเข้าสำรวจและนำถุงยังชีพ อาหาร น้ำดื่ม เข้าให้ความช่วยเหลือเป็นการเบื้องต้น
ข่าว,ทั่วไทย
น้ำท่วมกาฬสินธุ์,พายุโพดุล,ฝนตก,ไกรสร กองฉลาด,น้ำท่วม
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1650423
การปรับหลักสูตรการผลิตครู: มุมมองเชิงปรัชญาและตรรกะแห่งวิชาชีพครู (2)
ประเด็นการนำเสนอในบทความฉบับนี้มีจุดประสงค์สำคัญเพื่อให้นักวิชาการด้านครุศึกษา อาจารย์ในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ครูประจำการ นักศึกษาครู และบุคคลที่ให้ความสนใจต่อทิศทางการเคลื่อนไหวในแวดดวงครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ได้หันกลับมาคิดไตร่ตรองเชิงวิพากษ์ถึงตำแหน่งแห่งที่ของตนเองผ่านมุมมองเชิงปรัชญาและตรรกะแห่งวิชาชีพครู และในฐานะที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับวิวาทะที่กล่าวถึงข้างต้นอำนาจรัฐที่สร้างปฏิบัติการท่ามกลางบริบททางเศรษฐกิจการเมืองได้ส่งอิทธิพลอย่างมากต่อวงการวิชาชีพต่างๆ การเข้ามาแทรกแซงวิชาชีพของรัฐผ่านการมีตัวแทนให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสภาวิชาชีพตามการเรียกร้องหรือยินยอมของวงการวิชาชีพเอง กล่าวโดยเฉพาะในวงการวิชาชีพครู รวมทั้งการผลิตพัฒนาครูที่ดำเนินการโดยคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ก็มีทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและปลัดกระทรวงศึกษาธิการซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนอำนาจรัฐเข้ามาแสดงปฏิบัติการผ่านบทบาทหน้าที่หรือมีตำแหน่งในคณะกรรมการคุรุสภา ซึ่งการที่รัฐเข้ามาในลักษณะนี้ทำให้สภาวิชาชีพมีอำนาจจริงในการกำกับดูแลและการปฏิบัติภารกิจทางวิชาชีพ แต่ในอีกแง่หนึ่งก็เป็นการเปิดโอกาสให้รัฐใช้อำนาจและอิทธิพลครอบงำวิชาชีพด้วยไม่มากก็น้อย เพราะสภาวิชาชีพมีอำนาจในการกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานของวิชาชีพทั้งในแง่วิชาการและจรรยาบรรณ ตลอดจนนโยบายว่าจะยินยอมให้ผู้เชี่ยวชาญนอกวงการได้เข้ามาปฏิบัติงานเป็นสมาชิกของวิชาชีพหรือไม่ (อัครพงษ์ สัจจวาทิต 2546)ในวงการวิชาชีพครูหรือศาสตร์ด้านครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ รัฐได้มีส่วนก่อให้เกิด การเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ด้วยนโยบายต่างๆ ทั้งในเชิงสังคมและเศรษฐกิจการเมืองส่งส่งผลต่อการบริหารจัดการจัดการศึกษาโดยรัฐ เช่น การปฏิรูปการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 การปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ถึงแม้จะมีนักการศึกษาและบัณฑิตด้านครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์อย่างเช่น ศาสตราจารย์ สุมน อมรวิวัฒน์ ศาสตราจารย์ ดร. วิจิตร ศรีสอ้าน ศาสตราจารย์ ดร. ไพฑูรย์ สินลารัตน์ ศาสตราจารย์ ดร. สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ดร. อุทัย ดุลยเกษม ดร. รุ่ง แก้วแดง และศาสตราจารย์ ดร. พฤทธิ์ ศิริบรรณพิทักษ์ ผู้เป็นหัวหอกและแกนนำสำคัญในการปฏิรูปการศึกษา แต่ก็นับว่าเป็นนักวิชาการจากครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์เพียงไม่กี่คน และถ้ารัฐบาลในยุคนั้นไม่เห็นชอบด้วยก็คงยากที่จะออกพระราชบัญญัติฯ ฉบับดังกล่าวขึ้นมาได้ และหลังจากการประกาศใช้พระราชบัญญัติฯ ฉบับนี้แล้ว พร้อมๆ กับที่รัฐบาลได้มีข้อตกลงกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) รวมถึงบริบทการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของประเทศที่มีต่อการศึกษา วงการวิชาชีพครูหรือศาสตร์ด้านครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ก็ถูกผลักดันให้จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเรื่อง การปฏิรูปการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การปฏิรูปวิชาชีพครูให้มีมาตรฐานวิชาชีพ การปฏิรูปการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง การสร้างหลักสูตรสถานศึกษาในบริบทของท้องถิ่นภายใต้กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็นหลักสูตรอิงมาตรฐานนอกจากนั้น พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ยังส่งผลกระทบต่อคุณภาพของวิชาชีพครู ทั้งด้านคุณสมบัติและการปฏิบัติหน้าที่ของครูในอนาคต เช่น มีข้อกำหนดมาตรฐานการศึกษาและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู แต่พระราชบัญญัติฯ ฉบับนี้ก็ส่งเสริมให้ครูมีโอกาสพัฒนาและได้รับการยกย่องตอบแทนโดยกำหนดให้มีกองทุนพัฒนาครู และกองทุนส่งเสริมวิชาชีพครู แต่พระราชบัญญัติฯ นี้กล่าวถึงครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์โดยอ้อม ในฐานะสถาบันอุดมศึกษาที่ต้องมีการประกันคุณภาพ ขณะที่นโยบายการปฏิรูประบบราชการส่งผลให้คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ซึ่งอยู่ในระบบราชการเกือบทั้งหมดต้องพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน (มนตรี จุฬาวัฒนทล 2543)กรณีตัวอย่างเกี่ยวกับหลักสูตร การเรียนการสอน และการกำหนดมาตรฐานการศึกษาเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงอำนาจและอิทธิพลของรัฐและสาธารณชนที่ผลักดันวงการศึกษาให้เคลื่อนไปในทิศทางที่ชนชั้นนำและชนชั้นปกครองของสังคมต้องการ บริบทที่กล่าวถึงนี้แม้จะเป็นเชิงเศรษฐกิจการเมืองและการบริหารจัดการภาครัฐ แต่ก็มีนัยที่แสดงว่า วิชาชีพครูหรือศาสตร์ด้านครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ถูกแทรกแซงการปฏิบัติงานตลอดเวลา ทั้งยังถูกละเมิดอำนาจและเสรีภาพในการปฏิบัติภารกิจทางวิชาชีพด้วยการถูกสั่งให้ออกแบบและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรท้องถิ่น จัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และพัฒนาตนเองให้มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ ทั้งๆ ที่สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นอำนาจหรือเสรีภาพของครูในฐานะนักการศึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญทางการศึกษาที่สามารถคิดไตร่ตรองเชิงวิพากษ์ได้ด้วยตนเองว่าควรจะสอนอะไรและจัดการเรียนการสอนอย่างไรผู้เขียนมองว่าการแทรกแซงวิชาชีพครูหรือศาสตร์ด้านครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ให้เป็นไปตามแนวทางการปฏิรูปที่รัฐกำหนดยังคงดำรงอยู่ต่อไปในสังคมไทย เนื่องจากศาสตร์ด้านครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์เป็นพื้นที่กันชนหรือตัวกลางระหว่างปฏิบัติการเชิงอำนาจผ่านนโยบายการศึกษาของรัฐกับความต้องการของสมาชิกในวงการวิชาชีพครู อย่างไรก็ตามนโยบายการศึกษาเป็นเพียงชุดรูปแบบของเทคโนโลยีการบริหารจัดการและแนวปฏิบัติที่สามารถเจรจาต่อรอง ช่วงชิงการนำ และปะทะประสานในภาคปฏิบัติการจริงภายใต้บริบทที่มีความแตกต่างหลากหลายได้ ดังนั้น แทนที่จะสรุปแบบเหมารวมว่า รัฐได้ใช้อำนาจการเมืองทำการแทรกแซงเชิงนโยบายวิชาชีพครูหรือการแทรกแซงศาสตร์ด้านครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์โดยตรง ผู้เขียนกลับมองว่าสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างจริงจังก็คือ รูปแบบ/แนวปฏิบัติของนโยบายการศึกษาที่เหมาะสมซึ่งจะเกิดขึ้นในบริบทการปฏิบัติจริง (Policy as Practice) (Sutton & Levinson 2001) เช่น นโยบายการผลิตและพัฒนาครูของคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ นโยบายการพัฒนาครูระดับเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนระดับต่างๆ เพราะปฏิบัติการจริงเหล่านี้ประกอบด้วยผู้เล่นผู้แสดง (actors) ที่เกี่ยวข้องและผ่านการเจรจาต่อรองหลายระดับ นโยบายการศึกษาจึงดำรงอยู่ในฐานะที่เป็นภาคปฏิบัติการจริงของอำนาจ (Education Policy as a Practice of Power) ซึ่งเป็นอำนาจของกลุ่มชนชั้นนำทางการศึกษาในระดับปฏิบัติการ กลุ่มคนเหล่านี้ต่างหากที่มีอำนาจอย่างชัดเจนในการแปลงนโยบายการศึกษาไปสู่การปฏิบัติ (Levinson Sutton & Winstead 2009) อาทิ การที่รัฐประกาศนโยบายการปฏิรูปการศึกษา 4.0 การศึกษาในศตวรรษที่ 21 การศึกษาประชารัฐ และการเรียนการสอนแบบ Active Learning วาทกรรมทางการศึกษาเหล่านี้เป็นสิ่งที่จากตัวอย่างที่กล่าวมานี้ ทำให้เกิดคำถามเชิงวิพากษ์ว่า รัฐได้ใช้อำนาจทางการเมืองทำการแทรกแซงเชิงนโยบายวิชาชีพครูหรือการแทรกแซงศาสตร์ด้านครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์โดยตรงใช่หรือไม่ หากรัฐจะทำการแทรกแซงเชิงนโยบายวิชาชีพครูผ่านหน่วยงานทางการศึกษาของรัฐที่เป็นทางการอย่างสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนระดับต่างๆ ทั่วประเทศ ก็เป็นสิ่งที่รัฐทำได้โดยตรงมิใช่หรือ หากจะกล่าวให้ชัดที่สุดก็คือ กรณีของประเทศไทย ในประเทศสหรัฐอเมริกา นักวิชาการด้านครุศึกษาในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการฝ่ายขวาซึ่งเป็นกลุ่มนักการศึกษากระแสหลัก และนักวิชาการฝ่ายซ้ายซึ่งเป็นกลุ่มนักการศึกษากระแสรองและนักการศึกษาเชิงวิพากษ์ ต่างก็ผลิตสร้างความรู้และงานวิจัยจากจุดยืนเชิงอุดมการณ์ ญาณวิทยา และวิธีวิทยา รวมถึงตำแหน่งแห่งที่ทางวิชาการและจุดยืนทางการเมืองของตน ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหนนักวิชาการเหล่านี้ต่างก็ต่อสู้กันด้วยองค์ความรู้ทางการศึกษาและวิพากษ์วิจารณ์นโยบายทางการศึกษาของรัฐโดยมักจะไม่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิตซ้ำเชิงนโยบายที่รัฐกำหนด เพราะในความเป็นจริงแล้ว ศาสตร์ด้านครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ต่างก็ประกอบด้วยองค์ความรู้ (Body of knowledge) ของตนเองที่สามารถปะทะประสานกับวาทกรรมการศึกษาที่รัฐกำหนดได้ หากนักวิชาการสามารถผลิตสร้างความรู้ และงานวิจัยจากจุดยืนเชิงอุดมการณ์ ญาณวิทยา และวิธีวิทยา รวมถึงตำแหน่งแห่งที่ทางวิชาการและจุดยืนทางการเมืองของตนได้อย่างเข้มแข็ง ตัวอย่างนักวิชาการด้านครุศึกษาคนสำคัญอย่าง Linda Darling-Hammond เป็นศาสตราจารย์ด้านการศึกษาที่ Stanford University เธอเป็นนักครุศึกษาที่เรียกร้องให้มีการปรับนโยบายการศึกษาครั้งใหญ่เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาโรงเรียนสำหรับศตวรรษที่ 21 โดยแนะนำให้ปรับเปลี่ยนมาตรฐานหลักสูตร วิธีการสอน และการประเมินให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน สร้างความเข้มแข็งทางวิชาชีพในหมู่ครูอาจารย์และผู้อำนวยการโรงเรียน และจัดสรรทรัพยากรให้แก่โรงเรียนต่างๆ อย่างเท่าเทียม เธอเสนอให้ประเทศสหรัฐอเมริกาใช้แนวทางที่สมดุลมากขึ้นในการปฏิรูปโรงเรียน และเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่งหากสหรัฐอเมริกาต้องการกอบกู้ความเป็นผู้นำด้านการศึกษาของโลก (วรพจน์ วงศ์กิจรุ่งเรือง และอธิป จิตตฤกษ์ 2554) Linda Darling-Hammond ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางโดยนักการศึกษากระแสรองและนักการศึกษาเชิงวิพากษ์ว่า เธอวางตำแหน่งแห่งที่ทางวิชาการในฐานะนักครุศึกษากระแสหลักที่สร้างความชอบธรรมให้กับนโยบายการปฏิรูปการศึกษาของสหรัฐอเมริกาที่ขับเคลื่อนด้วยอุดมการณ์เสรีนิยมใหม่ทางการศึกษาและนโยบายทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังยืนหยัดทำงานด้านครุศึกษาซึ่งตั้งอยู่บนฐานปรัชญา อุดมการณ์ ญาณวิทยา และวิธีวิทยา รวมถึงวางตำแหน่งแห่งที่ทางวิชาการและจุดยืนทางการเมืองที่เธอยึดถือ เธอเป็นผู้ก่อตั้งสถาบันความเป็นผู้นำด้านการศึกษาและเครือข่ายการออกแบบโรงเรียนใหม่ของสแตนฟอร์ด (Stanford Educational Leadership Institute and the School Redesign Network) เป็นผู้อุปถัมภ์โครงการครุศึกษาของสแตนฟอร์ด (Stanford Teacher Education Program) เป็นอดีตประธานสมาคมวิจัยด้านการศึกษาของสหรัฐอเมริกา (American Educational Research Association: AERA) และเป็นสมาชิกของสถาบันการศึกษาแห่งชาติ (National Academy of Education)อาจกล่าวได้ว่า การทำงานด้านการศึกษาด้วยจุดยืนทางวิชาการในลักษณะนี้ต่างหากที่ผู้เขียนมองว่า จะสามารถนำไปสู่วิธีการหรือการสร้างทางเลือกอื่นๆ ในการต่อรองและช่วงชิงการนำในการปฏิรูปการครุศึกษาที่เป็นไปได้ (Ball 1994) ณ จุดนี้เองที่องค์ประกอบ 3 ประการ ได้แก่ 1) งานวิจัยทางการศึกษาที่มีฐานคิดมาจากทฤษฎีความรู้และวิธีวิทยาเชิงวิพากษ์ 2) ตำแหน่งแห่งที่ของนักครุศึกษาและครูอาจารย์ที่ให้ความสำคัญกับการคิดไตร่ตรองเชิงวิพากษ์ผ่านทฤษฎีทางการศึกษาและศาสตร์การสอน (Praxis) และ 3) พลังของทฤษฎีการศึกษาเชิงวิพากษ์แบบที่ Paulo Freire กล่าวไว้ในหนังสือ การศึกษาของผู้ถูกกดขี่ (Pedagogy of the Oppressed) และสาระสำคัญของศาสตร์การสอนเชิงวิพากษ์ (Critical Pedagogy) ที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงการศึกษา สังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจการเมือง ดังกล่าวนี้จะเข้ามามีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันเพื่อทำการช่วงชิงการนำในเชิงอำนาจ ความรู้ และวัฒนธรรมผ่านพื้นที่นโยบายการศึกษาของรัฐอย่างแท้จริง (Apple & Buras 2006)อนึ่ง การที่วิชาชีพครูหรือศาสตร์ด้านครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ถูกแทรกแซงโดยรัฐในประเด็นเรื่องมาตรฐานทางวิชาการหรือความรู้ความสามารถ รวมทั้งในเชิงวิชาการหรือองค์ความรู้เฉพาะศาสตร์ แสดงถึงสถานภาพของวิชาชีพครูหรือศาสตร์ด้านครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ที่ไม่ดีนัก สิ่งที่เกิดขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นว่า วิชาชีพครูขาดความตระหนักรู้ถึงตำแหน่งแห่งที่ของตนเองในการเป็นผู้ปฏิบัติการ (agency) ทางการศึกษา สังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจการเมือง และยังสะท้อนให้เห็นว่าสถาบันที่กำกับดูแลหรือองค์กรวิชาชีพครูไร้ซึ่งพลังต่อรองใดๆ ทั้งในเชิงเศรษฐกิจการเมือง จึงไม่อาจทำหน้าที่เป็นกันชนหรือตัวกลางระหว่างปฏิบัติการเชิงอำนาจของรัฐกับความต้องการของสมาชิกในวงการวิชาชีพครูที่ประกอบด้วยนักวิชาการด้านครุศึกษา อาจารย์ในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ครูประจำการ นักศึกษาครู และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับวงการครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ได้ และเป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงความไม่เข้มแข็งของวิชาชีพครูและศาสตร์ด้านครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ได้อย่างชัดเจนที่สุดการศึกษาไม่มีทางเป็นกลางและไม่เคยเป็นกลาง ทั้งยังไม่สามารถตัดขาดจากการเมืองและความเป็นการเมืองได้เลย เพราะรัฐจะใช้การศึกษาซึ่งวิชาชีพครูและศาสตร์ด้านครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์เป็นกลไกสำคัญของรัฐในการผลิตซ้ำกระบวนทัศน์กระแสหลักที่รัฐต้องการ การศึกษาจึงเป็นเครื่องมือในการสร้างกำลังคนและกล่อมเกลาพลเมืองให้มีลักษณะสอดคล้องกับอุดมการณ์และอำนาจนำที่รัฐต้องการทั้งสิ้น เพราะรัฐเห็นว่าการศึกษามีอิทธิพลอย่างสูงต่อโลกชีวิตของปัจเจกบุคคลและความมั่นคงทางการเมืองการปกครองของรัฐ จึงไม่มีรัฐใดที่ไม่ก้าวก่ายหรือเข้าไปแทรกแซงการศึกษาเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องนโยบายการศึกษา หลักสูตร และการผลิตครูเข้าสู่วงการศึกษาจากการที่ผู้เขียนทำการวิเคราะห์ในเชิงปรัชญาและตรรกะแห่งวิชาชีพครู และวิพากษ์ถึงประเด็นที่ว่าเพราะเหตุใดวิชาชีพครูหรือศาสตร์ด้านครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์จึงถูกแทรกแซงในเชิงอำนาจและเสรีภาพในการปฏิบัติงานทางวิชาชีพอยู่ตลอดเวลา น่าจะทำให้นักวิชาการด้านครุศึกษา อาจารย์ในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ครูประจำการ นักศึกษาครู และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับวงการครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์มองเห็นถึงสาเหตุว่าทำไมถึงเกิดวิวาทะว่าด้วยนโยบายการปฏิรูปหลักสูตรครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ดังที่ปรากฏอยู่ ณ ขณะนี้ และนำไปสู่การไตร่ตรองเชิงวิพากษ์ถึงการปรับเปลี่ยนตำแหน่งแห่งที่ของตนเอง รวมถึงวิชาชีพครูและศาสตร์ด้านครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ให้เข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติการทางสังคมและเศรษฐกิจการเมืองได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเบลลันกา เจมส์ และ แบรนต์ รอน (บรรณาธิการ) วรพจน์ วงศ์กิจรุ่งเรือง และอธิป จิตตฤกษ์ (แปล). (2554). กรุงเทพฯ : โอเพ่นเวิลด์ส.มนตรี จุฬาวัฒนทล. (2543). อัครพงษ์ สัจจวาทิต. (2546). กรุงเทพฯ: ข้าวฟ่างApple M.W. & Buras K.L. (Eds.). (2006)New York: Routledge.Ball S.J. (1994). Buckingham England: Open University Press.Levinson B. Sutton M. & Winstead T. (2009).23(6) 767-795.Sutton M. & Levinson B. (Eds.). (2001). Westport CT: Ablex Press. ออมสิน จตุพรเป็นอาจารย์ประจำสาขาวิชาสังคมศาสตร์และพื้นฐานการศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
บทความนี้เป็นบทความฉบับที่สองและมีประเด็นสืบเนื่องจาก การปรับหลักสูตรการผลิตครู: มุมมองเชิงปรัชญาและตรรกะแห่งวิชาชีพครู (1) ประเด็นที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอคือ
การเมือง,สังคม,การศึกษา
นโยบายการผลิตครู,ความเป็นการเมือง,ครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์,หลักสูตรการผลิตครู,ออมสิน จตุพร
https://prachatai.com/journal/2018/11/79495
ซิมเดียวอยู่ เบอร์ไทย-แดนมังกร รูปแบบใหม่บริการโรมมิ่ง
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในฐานะผู้ให้บริการสื่อสารครบวงจรในไทย บริษัทได้สานต่อความร่วมมือกับพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์กับ ไชน่าโมบายล์ ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระดับโลก เปิดตัวนวัตกรรมในชื่อ บริการเบอร์ไทย-แดนมังกร ด้วยเทคโนโลยีแบบซิมเดียวหลายเบอร์ของไชน่าโมบายล์ ซึ่งถือเป็นการใช้งานบริการโทรข้ามแดนที่สะดวกและคุ้มค่าครั้งแรกในไทย นอกจากนี้บริษัทยังได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนแบรนด์ทรูรุ่นใหม่ True Smart 4G 5.5 Enterprise เพื่อเป็นสมาร์ทโฟนมัลติแบนด์ที่รองรับการใช้งานเครือข่ายได้ทุกช่วงความถี่ เหมาะกับนักธุรกิจไทยซึ่งจะสามารถ
ใช้เครื่องเดียวได้ทั่วโลก,โดยความร่วมมือระหว่างกลุ่มทรูและไชน่าโมบายล์ในครั้งนี้ เป็นการพัฒนาธุรกิจบริการเพื่อให้ประเทศไทยเป็นช่องทางในการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) และภูมิภาคใกล้เคียง ซึ่งมีการวางแผนขยายการให้บริการไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเพิ่มเติม พร้อมกันนี้ทั้ง 2 บริษัทยังได้กำหนดกรอบความร่วมมือทางธุรกิจใน 6 ด้านร่วมกัน ได้แก่ 1.ผลิตภัณฑ์ บริการเสริม คอนเทนต์ 2.ธุรกิจระหว่างประเทศ 3.โครงข่าย 4.การจัดซื้อดีไวซ์ 5.การจัดซื้อทั่วไป และ 6.ทรัพยากรบุคคล,นายเสิ่น เว่ย จง กรรมการและรองประธาน ไชน่าโมบายล์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่าการร่วมมือกับกลุ่มทรูในฐานะผู้นำธุรกิจคอนเวอร์เจนซ์ในไทยจะช่วยให้เราเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงเป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้และการเติบโต ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจ นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงการริเริ่มก้าวสำคัญในธุรกิจระหว่างประเทศ โอกาสพัฒนาธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับบริการเสริมด้านการสื่อสาร บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ และการพัฒนาเทคโนโลยีและเครือข่ายโทรคมนาคมร่วมกันอีกด้วย,นายสุพจน์ มหพันธ์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจบริการระหว่างประเทศ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า บริการเบอร์ไทย-แดนมังกรออกแบบเป็นพิเศษ โดยผสานบริการโทรในประเทศและโรมมิ่งระหว่างประเทศไว้ด้วยกัน เชื่อว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าทรูมูฟ เอช สามารถใช้งานเบอร์เดิม ซิมเดิมระหว่างที่เดินทางไปติดต่อธุรกิจหรือท่องเที่ยวที่ประเทศจีนและฮ่องกง ทั้งยังสามารถเพิ่มเบอร์ท้องถิ่นเพื่อใช้บริการในอัตราเดียวกับที่โทรในประเทศนั้น,ปัจจุบันกลุ่มทรูมีลูกค้าใช้บริการอินเตอร์เนชั่นแนล โรมมิ่ง ประมาณ 200,000 ราย คาดว่าหลังจากเปิดให้บริการดังกล่าวภายในปีแรก จะมีลูกค้าทรูมูฟ เอช ให้ความสนใจใช้บริการไม่ต่ำกว่า 45,000 ราย โดยเฉพาะนักธุรกิจทั้งรายใหญ่และรายเล็กที่ต้องเดินทางไปประเทศจีนและฮ่องกงเป็นประจำ ซึ่งขณะนี้ลูกค้าทรูมูฟ เอช สามารถใช้บริการดังกล่าวได้แล้วในขณะที่ลูกค้าไชน่าโมบายล์นั้นยังอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ สำหรับอัตราค่าบริการเบอร์ไทย-แดนมังกรนั้น คิดค่าบริการรายเดือน 99 บาท โทรออกไปเบอร์ไทย 9 บาท/นาที โทรออกไปเบอร์ท้องถิ่น 5 บาท/นาที ส่ง SMS 3 บาท/ครั้ง ซึ่งผู้ใช้สามารถรับ SMS ได้โดยไม่เสียค่าบริการ ซึ่งการที่ทรูสามารถทำราคาในระดับดังกล่าวในการใช้บริการโทรระหว่างประเทศได้ เนื่องจากเป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายโดยตรงกับไชน่าโมบายล์,นายกิตติณัฐ ทีคะวรรณ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ ธุรกิจโมบายล์ และผู้อำนวยการบริหารธุรกิจรีเทล บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า จากความพร้อมด้าน 4จี ของทรูมูฟ เอช ซึ่งมีแผนขยายพื้นที่ให้บริการครอบคลุม 80% ของจำนวนประชากรภายในเดือนเมษายน 2558 ส่งผลให้ความต้องการใช้งาน 4จี ในประเทศไทยมีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยที่สำคัญซึ่งจะสนับสนุนให้เกิดการใช้งาน 4จี อย่างเต็มประสิทธิภาพคือดีไวซ์ที่รองรับจะต้องมีประสิทธิภาพและมีราคาเข้าถึงง่าย,ทรูมูฟ เอช จึงร่วมกับไชน่าโมบายล์พัฒนาเทคโนโลยีมือถือเป็น True Smart 4G 5.5 Enterprise สมาร์ทโฟน 4จี เพื่อทำตลาดในเมืองไทย โดยเน้นการเป็นเครื่องที่มีคุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานบนเครือข่าย 4จี ทั้งยังมีจุดเด่นที่สามารถรองรับคลื่นความถี่ทั้งระบบ FDD และ TDD อย่างเต็มรูปแบบ ใช้งานได้ 5 โหมด/14 ช่วงความถี่ พร้อมรองรับการใช้งาน 4จี ทั้งในไทย จีน ฮ่องกง และอีกกว่า 100 ประเทศทั่วโลก,นายกิตติณัฐ กล่าวอีกว่า สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวพร้อมลงตลาดแล้วไม่ต่ำกว่า 30,000 เครื่อง เพื่ออัพเกรดลูกค้าเข้าสู่ประสบการณ์การใช้งานเทคโนโลยี 4จี ซึ่งในปีนี้ทรูก็จะทยอยเปิดตัวมือถือในลักษณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับการนำเสนอเทคโนโลยีดังกล่าวในไทยด้วย เพิ่มเติมจากที่ผ่านมา ซึ่งทรูได้นำเสนอฟีเจอร์โฟนรองรับ 3จี ในราคาต่ำที่สุดในตลาดเพียง 599 บาท และจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อ เพื่อกระตุ้นการใช้งาน 3จี ให้เพิ่มขึ้น,สำหรับ True Smart 4G 5.5 Enterprise ใช้ระบบประมวลผล Snapdragon Quad Core 400 สามารถเล่นเกม ดูหนังไฟล์ HD และช่วยให้การใช้งาน 4จี เร็วขึ้น ทั้งยังมาพร้อมกล้องหลังที่ใช้รูรับแสง F2.0 พร้อม BSI Censor บนความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ทำให้ภาพออกมาคมชัด สีสันสดใส เก็บรายละเอียดได้ดี ขณะที่กล้องหน้านั้นออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เทรนด์เซลฟี่ด้วยความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยแบตเตอรี่ที่สามารถเปิดเครื่องสแตนบายได้กว่า 620 ชั่วโมง กับความจุ 3,100 mAh ในราคาต่ำกว่า 9,000 บาท ซึ่งถือว่ามีความคุ้มค่าที่สุดในสมาร์ทโฟนระดับราคาเดียวกัน.
กลุ่มทรู จับมือ ไชน่าโมบายล์ พัฒนานวัตกรรมการใช้งานมือถือในต่างแดน เจาะกลุ่มนักธุรกิจและผู้ที่เดินทางไปยังปลายทาง 3 แห่ง ไทย จีน ฮ่องกง เป็นประจำ พร้อมเปิดตัวสมาร์ทโฟนรองรับ 4จี ได้กว่า 100 ประเทศ
null
สมาร์ทโฟน,มือถือ,ทรู,true,มือถือ4G,มือถือ ทรู,สมาร์ทโฟน ทรู,มือถือ 5.5นิ้ว,True Smart 4G 5.5" Enterprise,ทรู สมาร์ท 4g,ศุภชัย เจียรวนนท์,เสิ่น เว่ย จง,สุพจน์ มหพันธ์,กิตติณัฐ ทีคะวรรณ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์,ข่าวไอที
https://www.thairath.co.th/content/480529
เตือน เกษตรกร รีบลงทะเบียนเกษตรกร รับเงิน 5000 ก่อน 15 พ.ค.นี้
ภายหลัง ครม. มีมติเห็นชอบ อนุมัติมาตรการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 โดยให้ช่วยเหลือเหมือนกับลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน คือ จ่ายเดือนละ 5000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน โดยกลุ่มเป้าหมายคือเกษตรกร 10 ล้านคนนั้นทั้งนี้ ขอให้เกษตรกทุกท่านลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กรมส่งเสริมการเกษตรภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 เพื่อปรับปรุงฐานข้อมูลและให้อยู่ในข่ายที่ได้รับความช่วยเหลือในการรับสิทธิ์เยียวยาดังกล่าว โดยใช้เลขบัตรประชาชน 13 หลักในการตรวจสอบหลังจากผ่านขั้นตอนการคัดกรองแล้ว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะส่งมอบบัญชีทะเบียนเกษตรกรให้คณะกรรมการกำกับดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 พิจารณาดำเนินการตามมาตรการและเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยจะโอนเงินเยียวยาเข้าบัญชี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)สำหรับ กรณี รายใหม่ แปลงใหม่ หรือ รายเดิม แปลงใหม่ ให้เกษตรกรกรอกแบบฟอร์มการขึ้นทะเบียนเกษตรกร (ทบก.๐๑) โดยสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ (คลิกที่นี่) กรอกข้อมูลตามแบบฟอร์ม และรวบรวมแบบฟอร์มไว้ที่ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อจัดส่งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรบันทึกเข้าในระบบ เพื่อดำเนินการในขั้นตอนถัดไป โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 2563ส่วนกรณี รายเดิม แปลงเดิม เกษตรกรสามารถปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรผ่านแอปพลิเคชัน Farmbook ได้ด้วยตนเอง กรณีที่ไม่สามารถปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าวได้ สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ (คลิกที่นี่) กรอกข้อมูลตามแบบฟอร์ม (ทบก 01) พร้อมลงวันที่กรอกแบบฟอร์ม และรวบรวมแบบฟอร์มไว้ที่ผู้ใหญ่บ้านหรือกำนัน เพื่อจัดส่งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรบันทึกเข้าในระบบ เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป.
แนะ เกษตรกร รีบลงทะเบียนเกษตรกร ปรับปรุงข้อมูลให้เรียบร้อย ก่อน 15 พ.ค.63 เพื่อรับเงินเยียวยา 5000 บาท 3 เดือน เหมือนลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน
ข่าว,เศรษฐกิจ
ลงทะเบียนเกษตร,รับเงินเยียวยา,รับเงินเกษตรกร,เกษตรกร,รับเงิน 15000,Farmbook,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1832806
พ.ร.บ.เหมาเข่ง: เพื่อไทย การให้อภัย และประชาธิปไตย
บทความชิ้นนี้เสนอข้อคิดเห็นเพื่อทำความเข้าใจปรากฏการณ์ดังกล่าว โดยในส่วนแรกนั้น บทความชิ้นนี้จะอภิปรายถึงการสลายภาพลักษณ์ของความเป็นพรรคตัวแทนมวลชนเพื่อประชาธิปไตยของเพื่อไทยอันเกิดจากการผลักดัน พรบ. ฉบับเจ้าปัญหา โดยในส่วนต่อมาของบทความมุ่งที่จะเสนอหลักการและเหตุผลของการสร้างสังคมการเมืองหลังการฆ่าผ่านการสร้างกระบวนการยุติธรรม กล่าวคือ สองส่วนแรกของบทความชิ้นนี้ได้อภิปรายถึงปรากฏการณ์ที่เป็นอยู่ (what is?) และปรากฏการณ์ที่ควรจะเป็น (what ought?) ในส่วนสุดท้าย บทความชิ้นนี้จะสรุปแนวโน้มของประชาธิปไตยไทยหลังจากการพยายามผ่าน พรบ. นิรโทษกรรมในครั้งนี้หลังจากการรัฐประหารปี 2549 นั้นมวลชนผู้นิยมประชาธิปไตยได้ถูกผลักให้รวมตัวกันต่อต้านอำนาจเผด็จการ โดยมีพรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทยเป็นตัวแทนของภาพลักษณ์ของการต่อต้านอำนาจเผด็จการและรัฐประหารมาโดยตลอด อย่างไรก็ดีหลังจากที่พรรคเพื่อไทยได้ผ่าน พรบ. นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่งนั้น ภาพลักษณ์ในฐานะพรรคมวลชนผู้นิยมประชาธิปไตยได้เริ่มถูกสั่นคลอนและเริ่มขาดเอกภาพในเชิงอุดมการณ์อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแนวทางการนิรโทษกรรมดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติที่แท้จริงของพรรคเพื่อไทยซึ่งในขณะเดียวกันภาพลักษณ์ที่เริ่มจะเปลี่ยนแปลงไปในสายตามวลชนกลับส่งผลให้ฐานมวลชนของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เข้มแข็งขึ้นมากหากเปรียบเทียบส่วนได้ส่วนเสียของพรรคเพื่อไทยกับปชป.จะพบว่า ปชป. ได้เปรียบอย่างมากด้วยสาเหตุอย่างน้อยสองประการ ประการแรก ปชป. ประสบความสำเร็จอย่างมากในการเดินออกจากสภาโดยไม่ช่วยยกมือโหวตคัดค้านการผ่านร่าง พรบ. นิรโทษกรรมฉบับของวรชัย ที่ถูกแปรญัตติเกินเลยไปจากหลักการ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แม้ว่าจะสามารถพูดได้ว่าเป็นการต่อต้านเชิงสัญลักษณ์ต่อความไม่เป็นธรรมของการกระทำดังกล่าว แต่นี่ก็แสดงให้เห็นถึงการเดินเกมอย่างละเมียดละไมของพรรค ปชป. ในการรักษาฐานมวลชนของตัวเองเอาไว้ ในขณะเดียวกันก็ยังรักษา ซูเปอร์ดีล และได้รับผลประโยชน์จากการที่ผู้นำพรรคของตัวเอง อย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ พ้นคดีสังหารหมู่ประชาชนในเหตุการณ์นองเลือดในเดือนเมษายน 2553 ด้วยเนื่องจากไม่ได้โหวตสวนในสภา โดยสรุปคือเราสามารถพูดได้ว่า ปชป. ได้ประโยชน์จากการพ้นคดีอีกทั้งยังไม่เสียมวลชนประการที่สอง นอกจาก ปชป. จะไม่เสียมวลชนแล้ว ยังได้รับประโยชน์จากการเพิ่มฐานมวลชนให้ตัวเองด้วย พรรคประชาธิปัตย์ได้วางยุทธศาสตร์กระชับอำนาจโดยหันมานำม็อบเข้าชุมนุมต่อต้าน พรบ. นิรโทษกรรม ในวันที่ 31 ต.ค. ได้นัดชุมนุมที่สามเสน และมีการยกระดับชุมนุมในวันที่ 4 พ.ย. แกนนำพรรคได้นำม็อบเคลื่อนย้ายไปที่ถนนราชดำเนินโดยมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ในขณะที่แกนนำพรรคแสดงความจริงใจในการต่อสู้ทางกฎหมายโดยยืนยันว่าไม่เอา พรบ. นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่งเพื่อเพิ่มฐานมวลชน แต่ ปชป.เองก็เป็นผู้ได้รับประโยชน์จากแนวทางการนิรโทษกรรมของเพื่อไทยในครั้งนี้ในขณะเดียวกันเมื่อมองไปที่พรรคเพื่อไทยก็จะเห็นทั้งผู้ที่สนับสนุนและต่อต้านบนฐานของความเห็นที่หลากหลาย เมื่อลองสรุปความเห็นว่าด้วยเรื่องนิรโทษกรรมของโอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายของทักษิณ ชินวัตรในวันที่ 27 ตุลาคม ในเฟซบุค ผู้เขียนพบว่าความเห็นถูกแบ่งออกเป็น 5 ฝ่ายหลัก ๆ ในสัดส่วนจำนวนคนที่พอ ๆ กันคือ1. ผู้สนับสนุน พรบ. ดังกล่าวและอยากให้ทักษิณกลับบ้านเพื่อมาพัฒนาประเทศต่อ หรือจัดการกับฆาตกร2. ผู้สนับสนุน พรบ. ดังกล่าวเนื่องจากเชื่อว่า การผ่าน พรบ. นี้จะทำให้นักโทษการเมืองถูกปล่อยออกมาเร็วที่สุด3. ผู้ต่อต้าน พรบ. ดังกล่าว เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการกลับมาของทักษิณซึ่งทำให้เกิดการคอรัปชั่น4. ผู้ต่อต้าน พรบ. ดังกล่าว เนื่องจากไม่เห็นด้วยที่ พรบ. ดังกล่าวจะล้างโทษให้กับอภิสิทธิ์และสุเทพ ล้างผลพวงรัฐประหาร อีกทั้งยังไม่ได้รวมไปถึงนักโทษการเมืองที่ถูกจับภายใต้ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมาตรา 1125. ผู้ขอร้องให้เกิดการปรองดองกันโดยเร็ว หรือไม่สนใจว่าการเมืองจะเป็นอย่างไร แต่ขอให้พัฒนาเศรษฐกิจก็พอหากมองว่าความเห็นของกลุ่มที่ 3 (เกลียดทักษิณอยู่แล้ว) และกลุ่มที่ 5 (ไม่สนใจการเมืองตั้งแต่แรกอยู่แล้ว) ไม่ได้เป็นผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว จะพบว่าความเห็นของผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยแต่เดิมในปัจจุบันแตกออกเป็นสามฝ่าย และหลังจาก พรบ. เหมาเข่งผ่านสภาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หมายความว่าพรรคเพื่อไทยได้ตัดสินใจตัดมวลชนที่เคยสนับสนุนพรรคออกส่วนนึง (ฝ่ายที่ 4) เพื่อให้การผ่าน พรบ. เหมาเข่งดำเนินไปได้ ในขณะที่ภาพความไม่เคยเป็นเอกภาพของเสื้อแดงมีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ได้นำเสื้อแดงจำนวนหนึ่งออกมาชุมนุมที่ถนนราชประสงค์ในช่วงที่ผ่านมานำไปสู่การปลดรายการประชาชน 3.0 ของเขาจากผังรายการของ Asia Update ในวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมาหากพิจารณาตามหลักการแล้ว เมื่อพรรคเพื่อไทยมีมติออก พรบ. เหมาเข่งโดยตัดใจทิ้งมวลชนผู้สนับสนุนไปกลุ่มหนึ่งเพื่อให้ทักษิณกลับบ้าน ย่อมหมายความว่า สส. ของพรรคเพื่อไทยปราศจากอำนาจในการตัดสินใจในพรรคเนื่องจากทั้ง ๆ ที่ สส. พรรคเพื่อไทยจะเป็นผู้เสียประโยชน์โดยตรงเนื่องจากเสียฐานคะแนน ด้วยเหตุนี้ พรรคเพื่อไทยจึงขาดลักษณะของความเป็นพรรคมวลชนเนื่องจาก สส. ผู้ที่มีอำนาจยึดโยงอยู่กับประชาชนไม่มีสิทธิ์ในการเห็นแย้งกับพรรคและการตัดสินใจของพรรครวมศูนย์ไว้ที่ตัวผู้นำ กล่าวคือ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ขยายภาพให้สังคมการเมืองได้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยมิได้ยึดโยงและกำกับโดยมวลชนอย่างที่เคยมีภาพลักษณ์มาก่อนหน้า ไม่เพียงเท่านี้ ปรากฏการณ์ดังกล่าวยังสร้างพลังให้แก่ ปชป. ในฐานะพรรคที่คอยชี้ให้เห็นถึงพรรคเพื่อไทยในลักษณะที่เป็นพรรคที่มิได้ถูกกำกับโดยมวลชนด้วยเช่นกันจากที่ได้อภิปรายไปแล้วข้างต้น เมื่อลองพิจารณาถึงมวลชนนั้น กลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารและต่อต้านคอรัปชั่น เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมประชาชน ต้องการให้นิรโทษคนที่โดนข้อหา 112 แต่ต้องการให้ผู้นำทางการเมืองถูกดำเนินคดีต่อไปเพื่อสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองใหม่เป็นเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นในระบบการเมืองทั้งหมด (เรียกสั้น ๆ ผู้เรียกร้องประชาธิปไตยสมบูรณ์) โดยพวกเขาจะต้องเจอกับเงื่อนไขข้อจำกัดมากมายเพื่อทำให้เป้าหมายทางการเมืองของตัวเองสำเร็จผู้เรียกร้องประชาธิปไตยสมบูรณ์จึงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการแสดงจุดยืนของตัวเองบนถนน และการเมืองบนถนนเป็นที่ยืนที่ไม่มีทางชนะ (No win situation) การอยู่บนถนนจะไม่ได้ส่งผลอะไรต่อการตัดสินใจของพรรคการเมืองที่ไม่ได้เป็นพรรคมวลชน หากจะออกมาตั้งพรรคเองเพื่อต่อสู้แกนนำของผู้เรียกร้องประชาธิปไตยสมบูรณ์ก็ต้องเจอกับปัญหาว่า เมื่อได้รับเลือกตั้งเข้าไปแล้วก็ต้องมีผลได้ผลเสียกับกลุ่มอำนาจเดิมนำไปสู่การเจรจาที่ผลย่อมออกมาบิดเบือนไปจากความต้องการของประชาชนอีก ด้วยเหตุนี้ผู้เรียกร้องประชาธิปไตยสมบูรณ์จึงไม่สามารถทำอะไรได้ไปมากกว่าการต่อสู้บนถนนและคงหยุดอยู่เพียงการต่อสู้บนถนน ทั้งนี้อีกสาเหตุหนึ่งก็เพราะเสียงของพวกเขาเป็นเพียงเสียงเดียวของทั้งหมดด้วยหลังจากการที่รัฐบาลใช้ความรุนแรงผ่านอำนาจรัฐในการฆ่าประชาชนเมื่อปี 2553 นั้น หลายฝ่ายรวมถึงรัฐบาลชุดปัจจุบันได้มีความพยายามที่จะสร้างความปรองดองผ่านวิธีต่างๆ อย่างไรก็ตามความพยายามในการผ่าน พรบ. ฉบับเหมาเข่งนั้นเป็นหนึ่งในกระบวนการการทำลายการสร้างสังคมการเมืองหลังการฆ่า บทความในส่วนนี้มุ่งอภิปรายถึงข้อเสนอว่าด้วยการสร้างสังคมการเมืองผ่านการให้อภัยโดยที่เหยื่อไม่ลืมในฐานะที่ผู้เขียนได้มีโอกาสไปนั่งรับฟังข้อวิจารณ์และข้อเสนอแนะในเชิงกฎหมายของอาจารย์คณะนิติราษฎร์ที่มีต่อร่างพรบ.นิรโทษกรรมของสภาผู้แทนราษฎรที่กำลังเป็นประเด็นปัญหาอยู่ในปัจจุบันนั้น นอกจากได้ทราบถึงปัญหาในทางหลักการและข้อกฎหมายหลายประการของพรบ.ฉบับดังกล่าวดังที่ปรากฏในแถลงการณ์ แล้ว แต่อีกสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นข้อกังวลใจที่สุดของผู้เขียนต่อการประเมินสถานการณ์นี้ในฐานะคนที่ไม่มีความรู้ทางกฎหมายก็คือปัญหาในทางปฏิบัติหากกฎหมายฉบับนี้ผ่านทุกขั้นตอนและถูกนำไปดำเนินการบังคับใช้ในที่สุดประเด็นสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่คณะนิติราษฎร์ได้หยิบยกขึ้นมาในงานแถลงข่าวดังกล่าว คือการที่ร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้กำหนดให้มีการตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาทำหน้าที่โดยตรงในการคัดกรองและพิจารณาว่าบุคคลใดบ้างที่เข้าเกณฑ์ในการได้รับนิรโทษกรรมตามเนื้อหาของกฎหมายดังกล่าว ดังนั้นอำนาจหน้าที่ในส่วนนี้จึงตกไปอยู่ในมือของฝ่ายกระบวนการยุติธรรมทั้งหมดในการพิจารณาว่าบุคคลใดบ้างที่เข้าองค์ประกอบของการได้รับนิรโทษกรรมตามกฎหมาย ตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ และศาล ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างความยุ่งยากขึ้นมาในกรณีที่แต่ละองค์กรและขั้นตอนต่างๆของกระบวนการยุติธรรมตีความเกณฑ์ในการเข้าองค์ประกอบในการได้รับนิรโทษกรรมแตกต่างกันออกไปซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละฝ่ายแต่ละบุคคลทีนี้ในบรรดากลุ่มบุคคลซึ่งเป็นเป้าหมายของการได้รับนิรโทษกรรมนั้น หากแบ่งคร่าวๆออกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ 1.ทักษิณ 2. นักโทษการเมือง และ 3. เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องและผู้สั่งการในการสลายการชุมนุม กลุ่มที่ดูจะมีความยุ่งยากมากที่สุดแน่นอนก็คือกลุ่มนักโทษการเมือง เพราะคดีต่างๆของนักโทษการเมืองนั้นอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการในกระบวนการยุติธรรมที่แตกต่างกันออกไปในปัจจุบัน บางคนอาจจะยังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน บางคนอยู่ในชั้นพนักงานอัยการ หรือบางคนถูกส่งฟ้องไปยังศาลและอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดี บางคนก็ถูกศาลตัดสินไปเรียบร้อยแล้ว หากการใช้ดุลยพินิจในแต่ละส่วนของกระบวนการยุติธรรมแตกต่างกันว่าบุคคลใดบ้างที่เข้าองค์ประกอบของการเป็นนักโทษการเมืองตามกฎหมายดังกล่าว ใครจะเป็นผู้รับประกันว่าท้ายที่สุดแล้วนักโทษการเมืองจะได้รับการนิรโทษกรรมและได้ออกจากเรือนจำทั้งหมดทุกคนจากช่องโหว่นี้?จากข้อห่วงใยดังกล่าว ผู้เขียนได้ยกมือตั้งคำถามต่ออาจารย์คณะนิติราษฎร์ว่ามีความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุดหรือไม่ ที่ผลในทางปฏิบัติหากกฎหมายดังกล่าวถูกประกาศใช้แล้วจะทำให้ในที่สุดนักโทษการเมืองอาจจะไม่ได้ออกจากเรือนจำ ทักษิณอาจจะไม่ได้รับการนิรโทษกรรมและไม่ได้กลับประเทศไทย แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่และผู้สั่งการสลายการชุมนุมจะได้รับการนิรโทษกรรมเพียงกลุ่มเดียว ซึ่งอาจารย์วรเจตน์ก็ได้ตอบว่าหากประเมินจากมุมมองนี้แล้ว ก็ย่อมมีความเป็นไปได้ (มากหรือน้อยก็สุดแท้แต่) ที่จะเกิดผลลัพธ์เช่นนั้นขึ้นมาอาจจะมีคนจำนวนมากโต้แย้งผู้เขียนว่ามองโลกในแง่ร้ายเกินไป โดยอ้างเหตุผลถึงเรื่อง super deal ของพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มอื่นๆ หรือเหตุผลเรื่องแผนซ้อนแผนของคนในพรรคอะไรก็ตาม แต่ผู้เขียนเห็นว่าท้ายที่สุดแล้วในการที่เราจะประเมินสถานการณ์ทางการเมืองที่แหลมคมหนึ่งๆว่าจะสามารถเป็นไปในทิศทางใดได้บ้าง เราควรที่จะประเมินผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ทางการเมืองจาก worst case scenario ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้แม้เพียงน้อยนิด ไม่ใช่ประเมินจากผลลัพธ์ด้านดีที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการคิดเข้าข้างตัวเองเท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ต้องถามไปยังมวลชนผู้สนับสนุนพรบ.นิรโทษกรรมฉบับดังกล่าวและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องของพรรคเพื่อไทย ว่าจะสามารถรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นนี้ได้หรือไม่? ถ้าผลลัพธ์ออกมาในด้านกลับที่เลวร้ายกว่าที่ตั้งใจจะให้เป็นโดยอยู่นอกเหนือจากความคาดหมายและการควบคุม ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความสูญเสียจากการตัดสินใจและการประเมินที่ผิดพลาดในครั้งนี้?การที่ผู้เขียนยืนยันการคัดค้านร่างนิรโทษกรรมฉบับนี้ มิได้หมายความว่าผู้เขียนมองข้ามความสำคัญของเสรีภาพที่นักโทษการเมืองที่อยู่ในเรือนจำสมควรได้รับ หรือปฏิเสธความสำคัญของความยุติธรรมที่คุณทักษิณควรได้รับจากการทำรัฐประหารปี 49 แต่อย่างใด แต่เพราะผู้เขียนเห็นว่าท้ายที่สุดแล้วทั้งทักษิณและนักโทษการเมืองยังมีโอกาสที่จะได้รับเสรีภาพและทวงคืนความยุติธรรมได้ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การทำตามข้อเสนอเรื่องการลบล้างผลพวงของการรัฐประหารของคณะนิติราษฎร์ เป็นต้น เพราะทั้งคุณทักษิณและนักโทษการเมืองก็ล้วนยังมีชีวิตและมีโอกาสที่จะสามารถต่อสู้เพื่อทวงคืนของพวกนั้นได้ในอนาคต แต่สำหรับผู้ที่สูญเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมไปแล้วนั้น พวกเขาได้สูญเสียทั้งชีวิตอันมีค่าของเขาไปอย่างไม่มีวันหวนคืนได้อีก พวกเขาสูญเสียสิทธิและเสรีภาพที่พึงได้รับไปตลอดกาล และผู้ที่เสียชีวิตเหล่านั้นก็ไม่มีโอกาสที่จะลุกขึ้นมาแก้ไขหรือทวงคืนสิ่งที่มีค่าเหล่านั้นและความยุติธรรมได้ด้วยตนเองอีกแล้วการออก พรบ.นิรโทษกรรมฉบับนี้นั้นถึงแม้ในท้ายที่สุดจะช่วยให้คุณทักษิณได้พ้นคดีและกลับประเทศได้จริง หรือช่วยให้นักโทษการเมืองได้รับเสรีภาพได้จริง แต่การนิรโทษกรรมให้กับผู้สั่งการและเจ้าหน้าที่ทั้งหมดนั้นกลับเป็นสิ่งที่ไปทำลายโอกาสที่มีอยู่น้อยนิดในการสร้างความยุติธรรมให้กับผู้ที่เสียชีวิต ซึ่งความยุติธรรมนี้ถือเป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกเราทุกคนในฐานะคนข้างหลังที่ยังมีชีวิตอยู่จะสามารถทวงคืนมาให้แก่พวกเขาได้ หน้าที่ของผู้ที่รักประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และเรียกร้องความยุติธรรมมาโดยตลอดไม่ใช่การทำความจริงให้เป็นที่ประจักษ์ ไม่ใช่ทำให้คนผิดได้รับโทษตามกฎหมาย และไม่ใช่การทำความยุติธรรมให้ปรากฏเป็นจริงบนผืนแผ่นดินนี้ในท้ายที่สุดหรอกหรือ?ผู้เขียนตระหนักดีว่ามีกลุ่มญาติของผู้ที่สูญเสียจำนวนหนึ่งที่ออกมาประกาศสนับสนุนร่างพรบ.นิรโทษดังกล่าว พร้อมกับให้อภัยกับสิ่งทีเกิดขึ้นเพื่อยอมให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรเองก็เรียกร้องให้ทุกฝ่ายให้อภัยซึ่งกันและกันเพื่อหาทางออกจากความขัดแย้ง ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยจำนวนไม่น้อยก็เรียกร้องให้ฝ่ายเดียวกันที่คัดค้านและญาติผู้เสียชีวิตลืมเรื่องที่ผ่านมาและให้อภัยต่อกันไป ซึ่งผู้เขียนเสนอว่าการขอให้ผู้สูญเสียลืมเหตุการณ์ในอดีตเพื่อให้อภัยนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถกระทำได้ในการสร้างสังคมการเมืองหลังการฆ่าผู้เขียนขอยกย่องในน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของเหล่าญาติผู้สูญเสียที่ออกมาให้ประกาศอภัยเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ แต่ถึงที่สุดแล้วผู้เขียนก็เห็นว่าถึงแม้การให้อภัยจะเป็นสิ่งสำคัญมากที่สมควรจะต้องเกิดขึ้นในความขัดแย้งนี้ แต่ในกรณีนี้นั้นมีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าที่เราจะมองข้ามไปไม่ได้ คือการป้องกันและขจัดความเป็นไปได้ของการซ้ำรอยทางประวัติศาสตร์ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต กล่าวคือสังคมการเมืองหลังการฆ่าจำเป็นต้องสร้างกฎเกณฑ์และมาตรฐานในการป้องกันมิให้เกิดการฆ่าประชาชนผ่านอำนาจรัฐขึ้นอีก ดังนั้น สังคมการเมืองหลังการฆ่าจึงต้องนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่เช่นนั้นแล้วในภายภาคหน้าสังคมไทยเราก็ยังจะต้องมีญาติผู้สูญเสียออกมาประกาศให้อภัยเพื่อขอให้ประเทศเดินหน้าต่อไปอีกมากกว่าหนึ่งหนเป็นแน่ไม่เพียงเท่านี้ ผู้เขียนเล็งเห็นถึงความแตกต่างในสาระสำคัญอย่างมากระหว่างการนิรโทษกรรม (amnesty) กับการให้อภัย (forgiveness) เพราะคำว่านิรโทษกรรมซึ่งมีรากศัพท์มาจากคำว่า amnesia มีความหมายที่แปลว่าการหลงลืมหรือความจำเสื่อม หากกล่าวเช่นนี้ก็เท่ากับว่าการออกพรบ.นิรโทษกรรมนั้นหมายถึงการเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในสังคมไทยลืมเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่เกิดขึ้นในอดีตทั้งหมดไปเสีย แต่ในขณะที่คำว่าการให้อภัย (forgiveness) นั้นสัมพันธ์อย่างยิ่งกับการจดจำได้หรือการมีความทรงจำอยู่ไม่ใช่การหลงลืมอดีต เพราะคนที่หลงลืมเหตุการณ์ทุกอย่างไปหมดสิ้นแล้ว ไม่อาจจะเป็นคนที่ให้อภัยแก่ใครได้เลย ในแง่นี้การนิรโทษกรรมและการเรียกร้องให้ลืมอดีตไปเสียจึงไม่ใช่การตอบโจทย์ที่ถูกต้องและสอดคล้องกับหลักการของการให้อภัยแต่อย่างใดแต่ถึงแม้จะยังจำได้หรือมีความทรงจำอยู่ ก็ไม่ได้แปลว่าการให้อภัยจะเป็นไปได้โดยง่ายหากไม่มีการปรับความสัมพันธ์เชิงอำนาจเสียก่อน แล้วจะทำอย่างไร? อาจารย์ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ เคยเสนอในประเด็นนี้ไว้อย่างน่าสนใจในหนังสือ อภัยวิถี ว่าการให้อภัยนั้นจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างมีความหมายเลย หากผู้ที่ให้อภัยหรือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อยังอยู่ในสถานะด้อยอำนาจกว่าผู้กระทำความผิด ต่อเมื่อเกิดการปรับความสัมพันธ์เชิงอำนาจให้มีความเสมอกันแล้วเท่านั้น ผู้ให้อภัยหรือเหยื่อผู้ถูกกระทำจึงจะอยู่ในฐานะที่สามารถเป็นผู้กระทำการ (active actor) ในการ ให้อภัย หรือ ไม่ให้อภัย แก่ผู้ก่อความรุนแรงต่อตนเองได้อย่างแท้จริงและมีความหมาย ซึ่งการปรับความสัมพันธ์เชิงอำนาจวิธีการหนึ่งที่เป็นไปได้มากที่สุด ก็คือการทำความจริงและความยุติธรรมให้ปรากฏ (เช่น มีการค้นหาข้อเท็จจริงต่างๆอย่างชัดเจน ค้นหาผู้กระทำความผิดและผู้มีส่วนรับผิดชอบ และมีการลงโทษตามกฎหมายตามกระบวนการยุติธรรม) ซึ่งอาจารย์ชัยวัฒน์เรียกว่าเป็น ความยุติธรรมที่มีผลในทางการเปลี่ยนแปลง (transformative justice) ซึ่งถือเป็นความยุติธรรมชนิดจะเกิดขึ้นและสามารถดำเนินไปคู่กับการให้อภัยได้ในที่สุดเมื่อประยุกต์นำกรอบคิดของอาจารย์ชัยวัตน์เพื่อทำความเข้าใจสังคมการเมืองหลังการฆ่านั้น จะเห็นได้ว่าการผ่าน พรบ. เหมาเข่งนั้นมิได้เปลี่ยนความสัมพันธ์เชิงอำนาจของผู้สูญเสียจากการปราบปรามสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์มาเป็นผู้ให้อภัย ด้วยเหตุที่่ผู้ฆ่ามิได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทั้งยังทิ้งรอยแผลให้กับผู้สูญเสียในกรณีตากใบด้วยเช่นเดียวกันเมื่อ พรบ. ฉบับดังกล่าวได้ตีความเหมารวมครอบคลุมหลายประเด็น ซึ่งจะนำไปสู่ความขัดแย้งครั้งใหม่อีกระลอกความพยายามผ่าน พรบ. เหมาเข่งในครั้งนี้เป็นไปตามที่ ปชป. และค่ายพระอาทิตย์ได้คาดคะเนไว้ว่าด้วยกรณีความไม่น่าไว้วางใจของนักการเมือง ซึ่งส่งผลให้พลังของมวลชนทั้งสองกลุ่มเมีพลังพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดไม่เพียงเท่านี้ หลายต่อหลายคนได้ใช้ปรากฏการณ์ดังกล่าวสร้างความชอบธรรมให้กับฐานแนวคิดของตนพร้อมทั้งเสียดสีผู้คนที่เลือกพรรคเพื่อไทยต่างๆนาๆ ด้วยเหตุฉะนี้เอง หลายคนจึงเป็นกังวลต่อการนำเอาเหตุผลดังกล่าวมาเพื่อสร้างความชอบธรรมในการริดรอนสิทธิ์ผู้ที่นิยมประชาธิปไตยแบบรัฐสภาอย่างไรก็ดี โดยธรรมชาติของระบอบประชาธิปไตยนั้น ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจได้ผิดพลาดได้เหมือนกันทั้งหมดทั้งสิ้น ทุกคนในระบอบมีสิทธิ์ที่จะคะเนความผันผวนในสังคมการเมืองได้คลาดเคลื่อนด้วยกันแทบทั้งสิ้นดังที่นักคิดนักปรัชญาอย่างฮานนา อาเรนด์ได้เคยกล่าวไว้ว่าปริมณฑลทางการเมืองเป็นอาณาบริเวณของความไม่แน่นอน เช่นเดียวกันนั้นอาณาบริเวณของประชาธิปไตยไทยก็หลากเลื่อนไม่แน่นอนด้วยเช่นกัน การที่ฐานคิดของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งสามารถคะเนการแอบเสนอ พรบ.เหมาเข่งได้อย่างถูกต้องแม่นยำนั้นมิได้หมายความว่าเขาได้ผูกขาดความจริงทางสังคมไว้ได้กล่าวถึงที่สุดคือ ไม่มีใครในสังคมการเมืองสามารถผูกขาดความจริงไว้เพียงอย่างเดียวได้ ไม่ว่าจะเป็นขั้วการเมืองใดหรือแม้กระทั่งความเห็นอันหลากหลายมากมายของนักวิชาการก็ตาม ตัวอย่างที่สำคัญที่เห็นได้ชัดคือการที่ผู้ที่มักจะตั้งแง่ต่อที่มาของพรรคเพื่อไทยอย่าง สนธิ ลิ้มทองกุลเคยเป็นหนึ่งในผู้ให้ความเห็นสนับสนุนทักษิณมากที่สุดจวบจนกระทั่งเป็นคนที่ออกมาประท้วงทักษิณ หรือการที่สนธิและอดีตพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้สนับสนุนสนธิ บุญยรัตกลินทำรัฐประหารและก็ได้ออกโรงมาวิจารณ์อดีตผู้นำรัฐประหารในภายหลัง ตัวอย่างดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าใครก็ตามในระบอบดังกล่าวนี้มีโอกาสพลาดด้วยกันทั้งสิ้นดังนั้นการนำเหตุผลที่อยู่บนฐานของหลักใดหลักหนึ่งมาเพื่อใช้ในการผูกขาดความจริงทางการเมืองเพื่อปิดปากหรือลิดรอนสิทธิ์ของฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถกระทำได้อย่างชอบธรรมนอกเหนือจากนี้ คำถามหลักที่มีต่อทุกฝ่ายในสังคมไทยหากเหตุการณ์ความขัดแย้งกรณี พรบ.นิรโทษรรมนี้ผ่านพ้นไปแล้วก็คือ สำหรับฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาล เราก็คงจะต้องตั้งคำถามว่าพวกเขาพร้อมจะใช้วิธีการนอกรัฐธรรมนูญ นอกกติกาประชาธิปไตย และนอกกติกาของกฎหมายวิธีใดๆก็ตามเพื่อที่จะโค่นล้มและขัดขวางรัฐบาลให้ได้ในที่สุดหรือไม่? ถ้าใช่ก็ถือเป็นการให้ความสำคัญกับเป้าหมายโดยไม่เลือกวิธีการไปสู่เป้าหมายนั้น เช่น ให้ความสำคัญกับการต่อต้านคอรัปชั่น ให้ความสำคัญกับการต่อต้านรัฐบาล โดยไม่สนใจว่าวิธีการที่ใช้จะเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ ระบอบประชาธิปไตยของไทยภายใต้วิธีคิดเช่นนีก็คงจะไม่เดินหน้าไปไหนเป็นแน่ จนกว่าพวกเราทุกฝ่ายจะสามารถขัดแย้งกันไม่ว่าในเรื่องอะไรได้อย่างถึงที่สุดโดยที่ไม่เล่นนอกกติกาประชาธิปไตย นอกกติกาของรัฐธรรมนูญ และไม่ละเมิดกรอบกฎหมายของบ้านเมืองแล้วเท่านั้น เมื่อนั้นเราจึงจะสามารถขัดแย้งกันอย่างมีอารยะโดยที่ประชาธิปไตยของไทยก็ยังสามารถพัฒนาเดินหน้าต่อไปได้
พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง ที่พรรคเพื่อไทยได้เสนอผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎรนั้นส่งผลให้เกิดแรงต่อต้านจากสังคมอย่างกว้างขวางและจากหลายภาคส่วน
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
ชัยวัฒน์ สถาอานันท์,ต่อศักดิ์ สุขศรี,ธรรมชาติ กรีอักษร,นิรโทษกรรม,ประชาธิปไตย,พีระ เจริญวัฒนนุกูล,เพื่อไทย,เหมาเข่ง
https://prachatai.com/journal/2013/11/49629
ทุ่งสง พร้อมรับหน้าเสื่อ จัดศึกยกน้ำหนักนานาชาติอีแกท
 เสธ.ยอด พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย เผยใช้เป็นเวทีพิจารณาเฟ้นหาจอมพลังไปลุยเอเชี่ยนเกมส์ และยูธโอลิมปิกเกมส์ ขณะที่ เจ้าภาพ การันตีพร้อมทุกด้าน ปรับโฉมโรงยิมส์ติดแอร์เป็นครั้งแรก ส่วนทีมชนะเลิศคะแนนรวมรับชุดเหล็กเป็นรางวัล ด้าน กฟผ. มอบเงินหนุนยกเหล็กไทย ประจำปี 2561 จำนวน 20 ล้านบาท,วันที่ 11 เม.ย. 61 ที่ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) นายธาตรี ริ้วเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการกิจการสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พร้อมด้วย พลอากาศเอก จิรศักดิ์ ภูวนารถนุรักษ์ อุปนายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย, นายขจรเกียรติ รักษ์พานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช, นายทรงชัย วงษ์วัชระดำรง นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง, พลโทพิบูลย์ วิเชียรวรรณ อุปนายกและประธานฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ และนายสมโภชน์ ยิ้มพลอย ประธานฝ่ายจัดการแข่งขันฯ ร่วมกันแถลงข่าวการแข่งขัน อีแกท ยกน้ำหนักนานาชาติ ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2561 ประเภทประชาชน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 1 และประเภทยุวชน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 12 ระหว่างวันที่ 1-10 พ.ค. ที่โรงยิมเทศบาลเมืองทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช,พร้อมกันนี้ นายธาตรี เป็นผู้แทนผู้ว่าการ กฟผ. มอบเงินสนับสนุนสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ ประจำปี 2561 ให้กับ พล.อ.อ.จิรศักดิ์ ผู้แทนนายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ จำนวน 20 ล้านบาทด้วย,นายธาตรี กล่าวว่า กฟผ. ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การสนับสนุนสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ ตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพนักกีฬาไทยสู่สากล ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 จนถึงปัจจุบันรวมระยะเวลา 15 ปี โดย กฟผ. เชื่อมั่นว่างบประมาณที่ให้การสนับสนุนจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างนักกีฬาหน้าใหม่ และสร้างความสำเร็จในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ. 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ต่อไป,นายขจรเกียรติ กล่าวว่า ครั้งนี้ได้มีการปรับปรุงโรงยิมฯ ที่ใช้ในการแข่งขันด้วยการติดตั้งเครื่องปรับอากาศเป็นครั้งแรก รวมทั้งยังได้เตรียมความพร้อมในทุกด้านไว้หมดแล้ว ทั้งที่พัก, สนามแข่งขัน, ระบบรักษาความปลอดภัย เป็นต้น เชื่อว่าจะสร้างความประทับใจได้อย่างแน่นอน,สำหรับการแข่งขันครั้งนี้จะมีพิธีเปิดในวันที่ 6 พ.ค. โดยได้รับเกียรติจาก นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธาน และพิธีปิดในวันที่ 10 พ.ค. ได้รับเกียรติอย่างสูงจาก ฯพณฯ พลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธาน ซึ่งการแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทประชาชน อายุไม่ต่ำกว่า 16 ปี ชาย 8 รุ่น และหญิง 8 รุ่น มีสโมสรในประเทศไทย 25 สโมสร และต่างประเทศ 12 สโมสร จาก 6 ประเทศ ได้แก่ บรูไน, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, ลาว, ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ร่วมชิงชัย รวมทั้งสิ้น 235 คน ขณะที่ประเภทยุวชน อายุระหว่าง 13-17 ปี ชาย 8 รุ่นและหญิง 8 รุ่น มีสโมสรในประเทศไทย 32 สโมสร และต่างประเทศ 7 สโมสร จาก 3 ประเทศ ร่วมชิงชัย รวมทั้งสิ้น 308 คน โดยสโมสรที่ได้คะแนนรวมทีมชายและหญิงสูงสุด ประเภทประชาชน จะได้รับชุดอุปกรณ์ยกน้ำหนักมูลค่า 180,000 บาท ส่วนสโมสรที่ชนะเลิศคะแนนรวมประเภทยุวชนทีมชายและทีมหญิง จะได้รับชุดอุปกรณ์ยกน้ำหนัก มูลค่า 90,000 บาท,ด้าน เสธ.ยอด พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ เปิดเผยว่า การแข่งขันครั้งนี้จะให้นักกีฬาทีมชาติลงแข่งขันได้ไม่เกินสโมสรละ 4 คน ซึ่งผลงานของประเภทประชาชน จะนำมาประเมินเพื่อคัดเลือกไปร่วมศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ในเดือน ส.ค. ขณะที่ประเภทยุวชน จะนำมาพิจารณาเพื่อคัดเลือกไปแข่งขันยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ในเดือน ต.ค.ด้วย.
ทุ่งสง พร้อมระเบิดศึก อีแกท ยกน้ำหนักนานาชาติ ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2561 ประเภทประชาชน และประเภทยุวชน ระหว่างวันที่ 1-10 พ.ค. ที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
กีฬา,กีฬาอื่นๆ
ยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย,ทุ่งสง,นครศรีธรรมราช,พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย
https://www.thairath.co.th/sport/others/1254044
คำประกาศนักเขียนอิสระ คนต้องเท่ากัน
คำประกาศนักเขียนอิสระ ยืนยันสิทธิอันชอบธรรมในการชุมนุมโดยสันติของคนเสื้อแดง และคัดค้านการประกาศใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคง เรียกร้องร่วมลงชื่อ9 มีนาคม 2553 กลุ่มนักเขียนอิสระร่วมกันลงชื่อในคำประกาศที่ใช้ชื่อว่า คนต้องเท่ากัน เพื่อยืนยันสิทธิอันชอบธรรมในการชุมนุมโดยสันติของคนเสื้อแดง และคัดค้านการประกาศใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคง โดยคำประกาศได้เรียกร้องให้ปัญญาชนและสื่อมวลชนปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองโดยสันติของคนเสื้อแดง นอกจากนี้ยังคัดค้านการประกาศใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคง อย่างเด็ดขาด และคัดค้านการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรูปแบบอื่นใด รวมถึงการใช้กำลังทหารและอาวุธสงครามเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อยไม่ว่ากรณีใด ๆทั้งนี้ ในจดหมายนำส่งคำประกาศ ยังได้สื่อสารถึงนักอ่านและนักเขียนที่ได้อ่านคำประกาศนี้ ร่วมลงชื่อในส่วนแสดงความคิดเห็นท้ายคำประกาศ โดยคำประกาศและรายชื่อทั้งหมดจะมีการนำไปเผยแพร่ทางสื่อสิ่งพิมพ์อีกครั้งหากมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินเราขอยืนยันสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการแสดงข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลของคนเสื้อแดง สิทธิดังกล่าวเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย และเป็นไปตามหลักสากลที่คนทุกคนต้องมีความเท่าเทียมกันเรามีความเชื่อว่าคนไทยทุกคนต้อง เท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นองคมนตรี นักการเมือง ข้าราชการ ประชาชนทั่วไป ฯลฯ และขอกล่าวย้ำว่าคนเสื้อแดงเป็น คนไทยและ ต้อง มีสิทธิเสรีภาพทางการเมืองเท่าเทียมกับคนไทยทุกคนไม่มีเว้น คนเสื้อแดงมีสิทธิในการชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองเช่นเดียวกับคนไทยทุกคน คนเสื้อแดงมีสิทธิได้รับการเหลียวแลจากองค์กรสิทธิมนุษยชนเมื่อถูกละเมิดเช่นเดียวกับคนไทยทุกคน คนเสื้อแดงมีสิทธิที่จะฟ้องร้องความไม่เป็นธรรมกับสังคมผ่านสื่อมวลชนเช่นเดียวกับคนไทยทุกคนเราขอประกาศว่า รัฐบาล ต้อง ไม่ใช้กำลังกดความคิดเห็นที่แตกต่าง รัฐบาลต้องไม่ใช้กำลังกลั่นแกล้งทำร้ายหรือปราบปรามผู้ที่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองของตนโดยสันติวิธี แม้ว่ารัฐบาลจะไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นหรือข้อเรียกร้องนั้น รัฐบาลจะต้องปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยของผู้ที่แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างเช่นเดียวกับคนไทยคนอื่น ๆด้วยหลักการตามคำประกาศที่กล่าวมาข้างต้น เราจึงขอเรียกร้องให้1.ปัญญาชนและสื่อมวลชนโปรดปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองโดยสันติของคนเสื้อแดง และพร้อมใจกันยืนยันต่อรัฐบาลว่า คนเสื้อแดงมีสิทธิและความชอบธรรมที่จะชุมนุมกันเพื่อแสดงความเห็นและข้อเรียกร้องทางการเมืองของตนโดยสันติวิธี2.เราขอคัดค้านการประกาศใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคง อย่างเด็ดขาด และคัดค้านการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรูปแบบอื่นใด เราขอคัดค้านการใช้กำลังทหารและอาวุธสงครามเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อยไม่ว่ากรณีใด ๆ กองกำลังทหารจะต้องอยู่ในฐานะของผู้ช่วยเจ้าพนักงานเท่านั้น และต้องไม่ใช้อาวุธสงครามอย่างเด็ดขาดเราขอให้รัฐบาลหยุดการใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคง โดยเด็ดขาด การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง โดยที่ยังไม่มีเหตุอันควร ส่อให้เห็นว่า รัฐบาลต้องการสร้างบรรยากาศแห่งความหวาดกลัวขึ้น ต้องการสร้างภาพอันน่ากลัวของการชุมนุมของคนเสื้อแดง และต้องการสร้างความเป็นปิศาจให้กับคนเสื้อแดง หากแม้นรัฐบาลยังดื้อดึงที่จะคงประกาศ พ.ร.บ. ความมั่นคง เพื่อเป็นการปูทางไปสู่การใช้ พ.ร.ก. สถานการณ์ฉุกเฉินที่ให้อำนาจเผด็จการทหารอย่างมหาศาล เราจะถือว่ารัฐบาลและทหารมีเจตนาที่จะใช้กำลังกับผู้ที่ชุมนุมอย่างสันติ และหากแม้นว่ามีเลือดแม้แต่หยดเดียวของประชาชนหยดลงสู่ผืนแผ่นดินไทย เราขอประกาศและขอเรียกร้องให้คนไทยผู้รักความเป็นธรรมทุกคน จงออกมาเคียงข้างคนเสื้อแดงบนท้องถนน เพื่อขับไล่รัฐบาลที่สนับสนุนโดยเผด็จการทหาร ประกาศในนามของนักเขียนอิสระผู้เชื่อในความเท่าเทียมกันของมนุษย์ วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2553 เรืองรอง รุ่งรัศมี ประกาย ปรัชญา มาโนช พรหมสิงห์ ภัควดี วีระภาสพงษ์ ทินกร หุตางกูร เดือนวาด พิมวนา วรพจน์ พันธุ์พงศ์ วาด รวี คำ ผกา รชา พรมภวังค์ Homo erectus เพียงคำ ประดับความ ภู กระดาษ วิทยากร บุญเรือง ชูศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์ Kannika Ratchaprarop สมาพันธ์รากหญ้าOTOP วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา กานต์ ณ กานท์ วัฒน์วรรลยางกูร ชัชวาลย์ โคตรสงคราม มุกหอม วงษ์เทศ อรรคพล สาตุ้ม ปลายมนัส ลิ้มสุวรรณทองธัช เทพารักษ์อนันต์ เกษตรสินสมบัติ ธีรภัทร เจริญสุข
คำประกาศนักเขียนอิสระ ยืนยันสิทธิอันชอบธรรมในการชุมนุมโดยสันติของคนเสื้อแดง และคัดค้านการประกาศใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคง เรียกร้องร่วมลงชื่อ 9 มีนาคม 2553
การเมือง
การชุมนุม,คนเสื้อแดง,คำประกาศ,นักเขียนอิสระ
https://prachatai.com/journal/2010/03/28050
บิ๊กอ๊อด ชี้ศูนย์ฝึกฟุตบอล คือจุดตัดสินอนาคตนายกส.บอล
บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เปิดใจ จุดตัดสินใจจะยังอยากเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ต่อหรือไม่ อยู่ที่การสร้างศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลแห่งชาติ ที่ต้องระดมเงินเพิ่มเติมอีก 300-400 ล้านบาท ซึ่งจะระดมนักธุรกิจเข้ามาร่วมสนับสนุน ถ้าอยู่ต่อต้องทำให้สำเร็จเพื่อเป็นอนุสรณ์ในชีวิต และจะเป็นรากฐานของฟุตบอลไทยในอนาคต ยกความสำเร็จของทีมชาติเป็นผลผลิต ที่กำลังวางรากฐานในวันนี้ ไม่เห็นผลเร็วต้องใช้เวลาอาจจะ 4-5 ปี พร้อมเคียงข้าง นิชิโนะ แม้ผลงานช่วงแรกอาจจะไม่ดี ก็ขอให้รอผลสัมฤทธิ์ในท้ายที่สุด เวลาน้อยไม่ใช่ข้ออ้าง นิชิโนะ รู้ดี น้อมรับเสียงวิจารณ์ของแฟนบอล รับเรื่องผู้ตัดสินหนักใจ ยังทำไม่ได้ดั่งใจ เพียงให้โอกาสเพื่อสร้างประสบการณ์ หวังว่าวันข้างหน้าจะดีขึ้น,พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เปิดเผยว่า การทำงานของตนในช่วงที่ผ่านมานั้น ตนได้เน้นในเรื่องของการวางรากฐานให้กับฟุตบอลไทย หลายเรื่องทำไปแล้วแต่ยังไม่เห็นผลในช่วง 2-3 ปี ด้วยเป็นการหวังผลเลิศในวันข้างหน้า เปรียบเหมือนปลูกบ้านใหม่ย่อมต้องตอกเสาเข็มก่อนสร้างบ้าน ลมฝน พายุมา บ้านก็ไม่พังยังแข็งแรงยืนหยัดต่อไปได้ สิ่งที่ตนมุ่งมั่นและตั้งความหวังไว้อย่างมากก็คือ ศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลแห่งชาติ ซึ่งพยายามหาที่ดินมาหลายแห่งก่อนจะมาได้ที่มวกเหล็ก โดยร่วมมือกับการกีฬาแห่งประเทศไทย,บิ๊กอ๊อด กล่าวต่อว่า ศูนย์ฝึกแห่งนี้ได้งบประมาณจากฟีฟ่ามาส่วนหนึ่งก็จริง แต่เทียบแล้วก็เพียงน้อยนิด เงินที่เอามาใช้นั้นไม่พอแน่นอน ต้องหาอีกราวๆ 300-400 ล้านบาท ในส่วนตัวแล้วอยากจะทำให้สำเร็จเพื่อเป็นอนุสรณ์ในชีวิตหนึ่งที่ได้เข้ามาทำงานฟุตบอล ศูนย์ฝึกแห่งนี้จะมีทั้งอาคารสำนักงาน ที่พักขนาด 60-100 ห้อง รวมทั้งส่วนของสนาม อุปกรณ์การฝึกซ้อมที่ทันสมัย ตอนนี้ก็ได้มีการพูดคุยกับนักธุรกิจ บริษัทใหญ่ๆที่มีศักยภาพ ซึ่งก็มีหลายคนอยากจะเข้ามาสนับสนุน ในส่วนนี้ก็ต้องมีความโปร่งใส ไม่ใช่แค่บริจาค แต่จะให้เข้ามาร่วมทำงานด้วยกัน ใครอยากเข้ามาสร้างเอง ค่าใช้จ่ายถูกกว่าก็ดำเนินการได้ ไม่ต้องผ่านเงินให้สมาคมก็ได้รับไปดำเนินการได้เลย แต่ต้องอยู่ในกรอบของแบบที่สมาคมเป็นผู้กำหนด ตอนนี้กำลังหาบริษัทที่ปรึกษา สำรวจออกแบบกันอยู่,ต่อข้อถามถึงความต้องการอยากจะทำงานในตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯต่อไปหรือไม่ หลังจะครบวาระในปีหน้า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า เรื่องนี้ตนก็กำลังคิดอยู่ จุดตัดสินใจอยู่ที่การทำศูนย์ฝึกให้เรียบร้อย เพราะเท่าที่ได้พูดคุยกับนักธุรกิจที่อยากเข้ามาสนับสนุนโครงการนี้ ก็มีความเป็นห่วง หากตนไม่อยู่ มีคนใหม่เข้ามาก็เกิดความไม่แน่ใจว่าศูนย์ฝึกยังจะดำเนินการต่อหรือไม่ สิ่งนี้สำคัญ หากตนยังเป็นนายกสมาคมฯอยู่ก็จะทุ่มตรงนี้เป็นหลัก ส่วนงานด้านอื่นๆก็จะค่อยๆลดบทบาทลง มอบหมายให้คนอื่นทำ,กับผลสำเร็จในทีมชาติ บิ๊กอ๊อด กล่าวว่า ทีมชาติคือดอกผล เป็นผลผลิตของต้นไม้ที่เราปลูก ซึ่งตนเข้ามาสร้างสิ่งเหล่านี้ อย่างที่บอกต้องใช้เวลา อาจจะ 4-5 ปี ถึงจะเห็นผล เข้าใจดีถึงความคาดหวังของแฟนบอล และน้อมรับเสียงวิจารณ์ การเข้ามาของ อากิระ นิชิโนะ นั้น มีการพูดคุยมานาน และเขาก็เข้าใจดี เวลาที่มีอยู่ก่อนจะลงเตะฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก เป็นเรื่องที่เขารับรู้มาตลอด ไม่อยากบอกว่าน้อยหรือไม่ แต่รับรู้กันอยู่แล้ว เวลาไม่ใช่ข้ออ้าง นัดแรก สองนัดแรก ผลจะออกมาอย่างไร ก็พร้อมให้โอกาสและสนับสนุน ซึ่งเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องวางแผนใช้ยุทธวิธีอย่างไร ผลแต่ละนัดก็ส่วนหนึ่ง แต่รอดูผลสัมฤทธิ์ในท้ายที่สุด อันนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ,นายกลูกหนังไทยยังกล่าวด้วยว่า ตนพยายามปรับปรุงมาหลายอย่าง ต้องทำเพื่อวันข้างหน้า ไม่ได้คิดเองเออเอง แต่เอาตัวอย่างความสำเร็จของที่อื่นมาปรับใช้ อย่างการลดเหลือ 16 ทีมในไทยลีก ตอนแรกก็มีเสียงไม่เห็นด้วย ตอนนี้สนุกขึ้น แต่ละทีมมีผลกันทั้งสิ้น พลาดไม่ได้ ทั้งทีมหัวตารางท้ายตาราง ไม่มีซูเอี๋ย คนดูมากขึ้น ติดตามกันเยอะ แต่สิ่งที่ยังทำไม่ได้ดั่งใจคือ ผู้ตัดสิน สร้างกันไม่ได้โดยเร็ว ด้วยประสบการณ์สร้างไม่ได้ ต้องให้โอกาส พอให้โอกาส การตัดสินใจในสภาวะที่กดดัน ผู้ตัดสินจากลีก 2 ขึ้นมาลีก 1 ก็เจอบรรยากาศแตกต่าง ทำให้โอกาสผิดพลาดมีมากขึ้น ตรงนี้ก็ต้องอดทน ประสบการณ์เกิดจากการเรียนรู้ ก็น้อมรับถึงความไม่พอใจของแฟนฟุตบอลในบางเกม แต่ก็เชื่อว่าวันข้างหน้าจะดีขึ้น.
บิ๊กอ๊อด เปิดใจ จุดตัดสินใจจะยังอยากเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ต่อหรือไม่ อยู่ที่การสร้างศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลแห่งชาติ ที่ต้องระดมเงินเพิ่มเติมอีก 300-400 ล้านบาท
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง,สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย,บิ๊กอ๊อด,ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1627776
น้ำในคลองลด ถนนเลียบคลอง 7 ร้าวหลายจุด ชาวบ้านหวั่นทรุด
เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 59 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ถนนเลียบคลอง 7 ฝั่งตะวันออก ต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ว่า เกิดรอยร้าวที่พื้นถนนเป็นทางยาว ซึ่งจะเกิดที่บริเวณเลนถนนที่อยู่ติดริมคลอง 7 หลังจากพบว่า ระดับน้ำในคลองลดลง ประกอบกับถนนเส้นทางดังกล่าว มีรถยนต์ใช้สัญจรผ่านจำนวนมาก เนื่องจากเป็นเส้นทางลัดไป อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และตัดไป อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และพบจุดหน้าบ้านเลขที่ 7 หมู่ 10 ต.บึงชำอ้อ พบร่องรอยร้าวที่เลนถนนติดคลอง มีความยาวประมาณ 30 เมตร พื้นถนนเป็นร่องลึกประมาณ 50-80 ซม. ชาวบ้านเกรงว่าจะเกิดการทรุดตัว เนื่องจากพบว่า เกิดรอยร้าวที่พื้นถนนอีกหลายจุดในเส้นทางเลียบคลอง 7,นอกจากนี้ ยังพบว่าชาวบ้านมีการปลูกต้นปาล์มไว้ตลอดแนวริมคลอง เพื่อเป็นการช่วยพยุงดินริมคลอง ไม่ให้เกิดการสไลด์ตัวลง เนื่องจากรากของต้นปาล์มเป็นรากกระจาย จึงทำให้ยึดดินได้ดี อีกทั้งชาวบ้านได้รวมตัวตั้งเป็นกองทุนสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตนำไปขายเพิ่มรายได้ไว้ใช้ประโยชน์ในชุมชนได้อีกทาง,ด้าน นายเทียบ สืบทอง อายุ 52 ปี กำนัน ต.บึงชำอ้อ กล่าวว่า หลังจากช่วงนี้น้ำในคลอง 7 เริ่มลดระดับลง จึงทำให้ชาวบ้านหวั่นเกรงว่าจะเกิดถนนทรุดตัว ซึ่งได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าเกิดรอยร้าวหลายจุดในเส้นทางถนนเลียบคลอง ส่วนที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 7 เป็นร่องรอยร้าวที่เพิ่มจนเป็นร่องกว้างขึ้นจากเดิม หลังจากก่อนหน้านี้เป็นรอยร้าวเล็กน้อยจากน้ำแห้งเมื่อปีที่แล้ว แต่ครั้งนี้รอยร้าวขยายความยาว กว้างขึ้นกว่าเดิม และยังมีอีกหลายจุดที่เกิดรอยร้าว จนทำให้ชาวบ้านหวั่นเกรงว่าจะเกิดการทรุดตัวขณะขับรถ, โดยขณะนี้ได้จัดชาวบ้านในชุมชนเฝ้าระวังออกตระเวนตรวจสอบถนน หากเกิดเหตุถนนทรุดจะได้ประสานแจ้งได้ทันที ส่วนต้นปาล์มที่ทางชุมชนได้ช่วยกันปลูกไว้ริมคลอง คาดว่ายังสามารถช่วยประคองดินริมคลองไว้ไม่ให้ทรุดสไลด์ไปได้ เพราะรากของต้นปาล์มสามารถช่วยพยุงถนนริมคลองไว้ได้
ชาวบ้านเลียบคลอง 7 ฝั่งตะวันออก เผย เกิดรอยร้าวที่พื้นถนนหลายจุด โดยความยาวประมาณ 30 ม. ลึกกว่า 50-80 ม. เนื่องจากระดับน้ำในคลองลดลง ถนนมีการใช้งานหนัก หวั่นทรุดตัว ประสานทางชุมชนตระเวนตรวจสอบถนน
null
ภัยแล้ง,ภัยแล้งปี 59,สถานการณ์ภัยแล้ง,ถนนทรุด,ร่องถนน,ถนนเลียบคลอง 7,รอยร้าว,ถนนร้าว,ข่าว,ข่าวสังคม,ข่าวทั่วไทย,ภูมิภาค,ปทุมธานี,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/content/592412
สุดยอดเส้นทางจักรยาน ปั่นพิชิตดอยม่อนเงาะ ย้อนรอยเดินทัพ พระนเรศวร
ที่หน้าที่ว่าการ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ นายศราวุธ ไทยเจริญ นายอำเภอแม่แตงจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวแม่แตงเชียงใหม่ ได้จัดกิจกรรม ปั่นจักรยานประเพณี พิชิตดอยม่อนเงาะ ครั้งที่ 2 เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว อ.แม่แตง และนักปั่นยังได้สนุกสนานกับการออกกำลังกายอีกด้วย โดยมีนักปั่นจากทั่วประเทศมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก,นางวาสนา ทองสุข นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวแม่แตง กล่าวว่า ทางสมาคมฯ มีความภาคภูมิใจที่ได้นำเสนอความงดงามของธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยว และวิถีการท่องเที่ยวชุมชนของอำเภอแม่แตง ผ่านกิจกรรมการปั่นจักรยานให้กับนักปั่นที่มาจากทั่วประเทศได้ชม ตลอดเส้นทางการปั่น ระยะทาง 45 กิโลเมตร เพื่อไปพิชิตดอยม่อนเงาะ ที่มีความสูง 1,425 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยเส้นทางการปั่นจักรยานได้ ใช้เส้นทางทางหลวงหมายเลข 107 เข้าสู่บ้านแม่ตะมาน ซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงช้างที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเข้าสู่บ้านเมืองกื๊ด หมู่บ้านที่เก่าแก่กว่า 600 ปี และเป็นตำนานเดินทัพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ข้ามลำน้ำแม่แตงที่งดงามที่บ้านสบก๋าย ก่อนที่จะเข้าสู่โครงการหลวงม่อนเงาะ อันเป็นโครงการพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ช่วยเหลือความเป็นอยู่ของราษฎรบนพื้นที่ห่างไกล,นอกจากที่นักปั่นจะสนุกจากการออกกำลังกายแล้ว ยังได้สัมผัสเส้นทางท่องเที่ยวที่หลายคนอยากไปเยือนด้วย ซึ่งนักปั่นที่เข้าเส้นชัยทุกคนจะได้รับเหรียญที่ระลึก และนักปั่นชาย ที่สามารถปั่นพิชิตยอดดอยม่อนเงาะ อันดับที่ 1-10 ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ ตามลำดับ ส่วนนักปั่นหญิงที่สามารถปั่นพิชิตยอดดอยม่อนเงาะ อันดับที่ 1-5 ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ เช่นกัน
สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวแม่แตง เชียงใหม่ ร่วมจัดกิจกรรม ปั่นจักรยานประเพณี พิชิตดอยม่อนเงาะ ครั้งที่ 2 ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว และนักปั่นยังได้สนุกสนานกับการออกกำลังกาย ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม
ข่าว,ทั่วไทย
ดอยม่อนเงาะ,ปั่นพิชิตดอยม่อนเงาะ,เส้นทางปั่นเชียงใหม่,เส้นทางจักรยานเชียงใหม่,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1172173
นักตบสาวไทยชนะเยอรมนี 3-1 ศึกเวิลด์กรังด์ปรีซ์
วันนี้ (12 มิ.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแข่งขันวอลเลย์บอลเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2016 สนามเเรกที่ประเทศจีน เกมสุดท้าย ไทย พบ เยอรมนี โดยเกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ส่งนักกีฬา ได้แก่ ปลื้มจิตร์ ถินขาว กัปตันทีม วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ นุศรา ต้อมคำ เเละปิยะนุช เเป้นน้อย นำทีมเซตเเรก เยอรมนีเล่นได้ดีกว่าชัดเจน ขณะที่ไทยมีปัญหาในการออกบอลเเรก ส่งผลให้ไทยเเพ้เยอรมนี ด้วยคะแนน 16-25 ต่อมาในเซตที่ 2 ทีมไทยตั้งเกมได้และเล่นเกมรุกดีขึ้น จนสามารถตีเสมอเยอรมนี 1-1 เซต ด้วยคะแนน 28-26 เซตที่ 3 เยอรมนีเกิดข้อผิดพลาดหลายครั้ง ทำให้ไทยบุกเอาชนะไปในช่วงท้ายเกม ด้วยคะแนน 25-22 และเซตที่ 4 ทีมไทยมีความมั่นใจทั้งเกมรุกเเละเกมรับ จนเอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 25-16 จบเกมไทยชนะ 3-1 เซตสรุปผลงานสนามเเรก ไทยจบที่อันดับ 3 ของกลุ่มเอ เเข่ง 3 นัด ชนะ 1 เกม เเละเเพ้ 2 เกม มี 3 คะแนน ส่วนเยอรมนี จบที่อันดับ 4 เเพ้ทั้ง 4 เกม หลังจากนี้ ทีมไทยจะเดินทางไปยังเมืองบารี่ ประเทศอิตาลี เพื่อลงเเข่งสนามที่ 2 ในกลุ่มเอฟ ร่วมกับ อิตาลี รัสเซีย เเละเนเธอร์เเลนด์ ในวันที่ 17-19 มิ.ย.นี้ โดยเกมเเรกไทยพบอิตาลี ในวันที่ 17 มิ.ย. เวลา 01.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
ทีมวอลเลย์บอลสาวไทย พลิกเเซงชนะเยอรมนี 3-1 เซต ในศึกวอลเลย์บอลเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2016 เกมสุดท้ายของสนามเเรกที่ประเทศจีน
กีฬา
เวิลด์กรังด์ปรีซ์,วอลเลย์บอล,วอลเลย์บอลหญิง,วอลเลย์บอลไทย,ทีมไทย,WGP2016,ไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/253059
อลังการ จุดไฟตูมกา ออกพรรษายโสธร หนึ่งเดียวในโลก แห่งเดียวในไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 8 ต.ค.62 ที่หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองยโสธร นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดงานประเพณี จุดไฟตูมกา ออกพรรษายโสธร ประจำปี 2562 โดยมีนายสมเพชร สร้อยสระคู นางสาวสิริมา วัฒโน รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นายสุวัฒน์ เข็มเพชร ปลัดจังหวัดยโสธร และนายอภิรัตน์ ป้องกัน นายอำเภอเมืองยโสธร เข้าร่วม ภายในงานมีการโชว์ต้นไฟตูมกา แสดงรำตูมกา พร้อมด้วยการจัดแสดงแสงไฟตูมกานับหมื่นดวง ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 5,000 คนที่มาร่วมถ่ายภาพ,นายอภิรัตน์ กล่าวว่า สำหรับการจุดไฟตูมกา เป็นประเพณีของชาวบ้านทุ่งแต้ ตำบลทุ่งแต้ อำเภอเมืองยโสธร ที่มีมาแต่ช้านานพร้อมกับการก่อตั้งหมู่บ้าน โดยดั้งเดิมชาวบ้านจะนำผลตูมกามาคว้านเอาเมล็ดข้างในออก เจาะฉลุลวดลายให้สวยงาม นำเทียนไขจุดไว้ข้างในลูกตูมกาแล้วถือไปถวายเป็นพุทธบูชาในวัด ในคืนวันออกพรรษา ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน พุทธศาสนิกชนในอดีต,ต่อมาวิถีชีวิตนี้ได้เลือนหายไป เนื่องจากมีความเจริญและมีไฟฟ้าใช้ กระทั่งชาวบ้านทุ่งแต้ ได้เริ่มรื้อฟื้นการจุดไฟตูมกาในช่วงวันออกพรรษาให้กลับมาอีกครั้ง และได้เพิ่มเติมกิจกรรมอื่นเข้าไปด้วย เพื่อให้ชาวบ้าน เยาวชน และนักเรียน ได้ร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียงกันและ เพื่อเป็นการสืบสานการจุดไฟตูมกาในช่วงวันออกพรรษา ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นการถวายเป็นพุทธบูชา พระพุทธเจ้าในโอกาสเสด็จกลับจากสรวงสวรรค์ เนื่องจากเสด็จไปเทศนาโปรดพระพุทธมารดา ชาวพุทธทั้งหลายจึงแสดงความปิติยินดี ด้วยเครื่องสักการบูชา คือจุดไฟตูมกาแล้วแขวนไว้บูชาเพื่อให้ชีวิตประสบแต่ความสุข สงบและเจริญรุ่งเรือง,ดังนั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ส่งเสริมและสืบสานงานประเพณีจุดไฟตูมกาให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายและคงอยู่อย่างยั่งยืน และดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศให้มาเที่ยวชมความงดงามของไฟตูมกา เป็นการสร้างชื่อเสียงให้อำเภอและจังหวัดยโสธร ดังนั้น ในปี 2560 อำเภอเมืองยโสธรร่วมกับจังหวัดยโสธร และทุกภาคส่วนได้ส่งเสริมให้ประเพณีการจุดไฟตูมกาในช่วงออกพรรษาของบ้านทุ่งแต้ เป็นงานประเพณีประจำอำเภอเมืองยโสธรและจังหวัดยโสธร เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม,โดยในปี 2562 นี้ ใช้ชื่องานว่า งานสืบสานประเพณีจุดไฟตูมกา ออกพรรษายโสธร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 - 14 ตุลาคม 2562 ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองยโสธร และวันที่ 13 และ 14 ตุลาคม 2562 ที่ วัดบูรพา บ้านทุ่งแต้ ตำบลทุ่งแต้ อำเภอเมืองยโสธร โดยภายในงานมีการจัดแสดงต้นไฟตูมกา การแสดงศิลปวัฒนธรรมรำไฟตูมกา การจัดกิจกรรมสาธิตการทำไฟตูมกาและการแกะสลักไฟตูมกา การเปิดลานวัฒนธรรมกิจกรรมของชุมชนและพื้นที่จำหน่ายสินค้าชุมชน,การจุดเทียนตูมกาเสริมดวง การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านจากโรงเรียนในเขตจังหวัดยโสธร การประกวดการประดับตกแต่งต้นตูมกา การเดินแบบผ้าไทย เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี การแสดงรำวงย้อนยุค การประกวดธิดาไฟตูมกา และการออกร้านของผู้ประกอบการร้านอาหารในพื้นที่จังหวัดยโสธร.
ผู้ว่าฯยโสธร คนใหม่ เป็นประธานเปิดงาน จุดไฟตูมกา ออกพรรษายโสธร ประจำปี 2562 ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองยโสธร และวัดบูรพา บ้านทุ่งแต้ เผยเป็นประเพณีโบราณแห่งเดียวของไทย ชาวบ้านพร้อมใจจุดไฟผลตูมกา ถวายพุทธบูชาวันออกพรรษา
ข่าว,ทั่วไทย
ตูมกา,จุดไฟตูมกา,ออกพรรษา,ยโสธร,ผู้ว่าฯยโสธร,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1678406
กระทรวงต่างประเทศจีนประณามญี่ปุ่น ซื้อหมู่เกาะพิพาท
โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงในกรุงปักกิ่ง ประณามญี่ปุ่นที่ซื้อหมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนตะวันออกเพื่ออ้างกรรมสิทธิ์ พร้อมเรียกร้องให้ญี่ปุ่นกระทำในสิ่งที่ถูกต้องและยุติการล่วงละเมิดชาวจีนชุมนุมประท้วงต่อต้านญี่ปุ่นที่ซื้อหมู่เกาะพิพาท ซึ่งเรียกกันในภาษาจีนว่าหมู่เกาะเตี้ยวอวี๋ หรือ หมู่เกาะเซนกากุในภาษาญี่ปุ่น โดยการประท้วงมีขึ้นในวันเดียวกับวันรำลึกครบรอบ 81 ปี ที่กองทัพญี่ปุ่นรุกรานเข้ายึดครองดินแดนแมนจีเรียของจีน ในเหตุการณ์สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ซึ่งตรงกับเมื่อวานนี้ (18 ก.ย.) ทำให้กระแสต่อต้านญี่ปุ่นในจีนทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น โดยมีผู้ประท้วงหลายพันคนไปชุมนุมกันที่หน้าสถานทูตญี่ปุ่นในกรุงปักกิ่ง พร้อมตะโกนคำขวัญปลุกใจรักชาติและเรียกร้องให้คว่ำบาตรสินค้าญี่ปุ่น และผู้ประท้วงบางส่วนจุดไฟเผาธงชาติญี่ปุ่น พร้อมขว้างขวดน้ำและไข่เข้าไปสถานทูต ด้านสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานโดยอ้างหน่วยยามฝั่งของญี่ปุ่นว่า เรือลาดตระเวนอย่างน้อย 3 ลำจากจำนวน 11 ลำของจีนได้เข้าเขตที่ญี่ปุ่นระบุว่าเป็นน่านน้ำของตัวเองแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้เรือเหล่านี้ได้ลอยลำอยู่ใกล้เกาะพิพาทระหว่างจีนกับญี่ปุ่นในทะเลจีนตะวันออก ขณะที่สื่อของจีนรายงานว่าเรือประมงของจีนประมาณ 1000 ลำกำลังมุ่งหน้าไปที่เกาะพิพาท แต่รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่ายังไม่มีการยืนยันว่ามีเรือประมงจำนวนมากใกล้กับเกาะที่เป็นปัญหา
กระทรวงต่างประเทศของจีนประณามญี่ปุ่นที่ซื้อหมู่เกาะพิพาทเพื่ออ้างความเป็นเจ้าของ ท่ามกลางการประท้วงต่อต้านญี่ปุ่นของชาวจีนในหลายประเทศทั่วโลก
ต่างประเทศ
กระทรวงต่างประเทศจีน,ซื้อหมู่เกาะพิพาทเ,ญี่ปุ่น,ประณาม
https://news.thaipbs.or.th/content/112577
ตายายวัยกว่า 80 ร่วมฉลองวาเลนไทน์ครองรักมั่น 64 ปี ที่น้ำตกคลองลาน
เมื่อวันที่ 14 ก.พ.61 บรรยากาศเนื่องในวันแห่งความรัก หลายพื้นที่มีการจัดกิจกรรมต้อนรับเทศกาลอย่างคึกคักโดยที่บริเวณหน้าน้ำตกคลองลาน อุทยานแห่งชาติคลองลาน จ.กำแพงเพชร ที่ทางอำเภอคลองลาน ร่วมกับอุทยานแห่งชาติคลองลานและศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดกำแพงเพชร โดยมี นายไพโรจน์ แก้วแดง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชรพร้อมภริยา เป็นประธานเปิดกิจกรรม รักมั่นคงดั่งขุนเขาที่คลองลาน พร้อมนายบุญธรรม ทองพิจิตร นายอำเภอคลองลานพร้อมภริยา พ.ต.อ.ไพโรจน์ บุญยะภาส ผกก.สภ.คลองลาน นายสุระชัย โภคะมณี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติคลองลาน,นอกจากนี้ยังมีกำนัน ผู้ใหญ่ นายก อบต. ทั้ง 4 แห่ง ของอำเภอคลองลาน ร่วมเป็นสักขีพยานรักแท้ การจดทะเบียนสมรสใหม่ให้แก่คู่รัก 15 คู่ และจดทะเบียนยืนยันความรักที่มั่นคงที่รักกันมายาวนาน ซึ่งแต่งงานแล้วแต่ยังไม่จดทะเบียนสมรส อีก 47 คู่ ต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์ ท่ามกลางอ้อมกอดขุนเขาและสายน้ำตก แสงอาทิตย์ โดยทุกคู่รักที่จดทะเบียนสมรสจะแต่งกายด้วยชุดชาวไทยภูเขาแต่ละเผ่า เป็นชุดที่สวมใส่ในประเพณีแต่งงาน ประจำชนเผ่าต่างๆ 5 เผ่า เช่น ม้ง, อิวเมี่ยน, ลาหู่, ปกาเกอะญอ, ลีซอ ที่แต่ละชุดมีมูลค่าหลายหมื่นบาท ให้คู่สมรสทุกคู่เก็บภาพไว้เป็นวันชื่นคืนสุข รักมั่นคงดั่งขุนเขาที่คลองลาน คู่รักมีชีวิตมั่นคง หนักแน่น ดังขุนเขา มีความร่มเย็นเป็นสุข และมีความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรืองตลอดไป โดยนายบุญธรรม ทองพิจิตร นายอำเภอคลองลาน (นายทะเบียนอำเภอ) จดทะเบียนสมรสให้คู่รัก ,นายไพโรจน์ แก้วแดง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า เป็นเดือนที่อบอวลไปด้วยความสุข การแสดงถึงความรัก ความห่วงใย จึงจัดกิจกรรมในวันนี้เพื่อให้คู่สามีภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ได้จดทะเบียนสมรสกันให้ถูกต้องและได้สิทธิตามกฎหมาย รวมทั้งให้คู่สมรสได้แสดงออกถึงความรักที่มีต่อกัน และจดจำถึงความรักที่มีต่อพ่อแม่ พี่น้อง ญาติและเพื่อนๆ ด้วย จากนั้นจึงมอบทะเบียนสมรสใส่กรอบทอง พร้อมหมอนรูปหัวใจเป็นที่ระลึกและของขวัญพิเศษสมนาคุณ เป็นบ้านพักรับรอง 1 หลัง โดยทางอุทยานแห่งชาติคลองลาน ได้เนรมิตบ้านพัก เพื่อฮันนีมูน ฟรี 1 คืน พร้อมท่องเที่ยวชมธรรมชาติสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับต้นๆของประเทศไทยอีกด้วย,ขณะที่คู่รักสูงวัยคุณตาคุณยายวัยกว่า 80 ปี นายถวลิ จำนงสังข์ วัย 83 ปี และนางเฉลา จำนงสังข์ วัย 80 ปี ทั้งคู่ใช้ชีวิตคู่กันมายาวนานและปีนี้ก็ครบ 64 ปี แล้วที่อยู่ร่วมกัน ทั้งคู่เลยมาฉลองวันครบรอบความรัก โดยได้หลานสาว น.ส.เสาวลักษณ์ คุ้มคงศักดิ์ อายุ 31 ปี เป็นคนนำพามาถ่ายภาพในรูปแบบ เทพนิยายแห่งความรัก ตามที่คุณยายเฉลา จำนงสังข์ โมเมนต์เป็นเสมือนเจ้าหญิง คุณตาถวลิ จำนงสังข์ เสมือนเจ้าชาย ในเทพนิยาย ต้นแบบความรักในวันวาเลนไทน์,คุยยายเฉลา จำนงสังข์ วัย 80 ปี เล่าถึงตอนได้เจอ คุณตาถวลิ จำนงสังข์ วัย 83 ปี ครั้งแรกเมื่อปี 2497 เหมือนเป็นรักแรกพบ เห็นครั้งแรกที่ทุ่งนาในจังหวัดสิงห์บุรี ก็รู้สึกชอบเลย แต่สมัยก่อนไม่ได้มีงานแต่งงาน แค่ทางผู้ใหญ่รับรู้ก็อยู่กินกันมาเรื่อยๆ จนถึงบัดนี้ ,น.ส.เสาวลักษณ์ คุ้มคงศักดิ์ หลานสาว กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแห่งความรัก ถ้าทำอะไรแล้วให้คนที่เรารักและนับถือมีความสุข ก็อยากทำ เพราะความรักคือการให้ อย่างวันนี้ความรักที่คุณตาและคุณยายมอบให้เรา เปรียบเสมือนทั้งสองเหมือนเจ้าหญิงเจ้าชายในเทพนิยาย จึงเตรียมจัดหาชุดมาให้ใส่ตามความต้องการ โดยทั้งสองไม่รู้ตัวมาก่อนด้วย ถือเป็นการเซอร์ไพรส์แล้วได้เห็นรอยยิ้มและเป็นการสานฝันอีกด้วย.
บรรยากาศวันแห่งความรักที่ จ.กำแพงเพชร คึกคัก พบคู่รักตายายวัยกว่า 80 สวมชุดเจ้าหญิงฉลองวันวาเลนไทน์ พร้อมกับคู่สมรสใหม่ ที่มาฉลองจดทะเบียนสมรสหน้าน้ำตกคลองลาน
ข่าว,ทั่วไทย
วันวาเลนไทน์,ฉลองความรัก,น้ำตกคลองลาน,กำแพงเพชร,ครองรัก,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1204425
บ่าววี ทหารอาสารับหน้าที่บริการประชาชนวางดอกไม้จันทน์ในงานพระราชพิธี
ปฏิบัติหน้าที่ตลอดวัน จนกว่าประชาชนคนสุดท้ายจะวางดอกไม้จันทน์ที่พระเมรุมาศจำลอง ภายในสนามกีฬากองทัพอากาศ ธูปะเตมีย์ เสร็จสิ้น เพราะนี่คือภารกิจที่ บ่าววี พ.อ.อ.วีรยุทธิ์ นานช้า นายทหารสังกัดกรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ กองทัพอากาศ จะได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อในหลวง รัชกาลที่ 9 ด้วยการดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางมาวางดอกไม้จันทน์นับหมื่นคนแม้ร่างกายยังไม่แข็งแรงเต็มที่ หลังนักร้องปักษ์ใต้คนดัง วัย 43 ปี เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการลิ้นหัวใจรั่ว จนต้องพักรักษาตัวกว่า 2 ดือน สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดในวันนี้ จึงเป็นการทำหน้าที่ประจำหน่วยประชาสัมพันธ์ ให้ข้อมูลเรื่องสุขภาพและเส้นทาง ที่ผ่านมา ยังได้น้ำใจจากแฟนเพลงร่วมกันเป็นจิตอาสาที่ท้องสนามหลวงในการแจกอาหารให้กับผู้เดินทางมาสักการะพระบรมศพฯ ทั้งหมดคือที่สุดแห่งความภูมิใจและยิ่งประทับใจที่ได้เห็นน้ำใจคนไทยในทุกพื้นที่แม้งานพระราชพิธีสำคัญจะจบลง แต่สำหรับนักร้องดังขอน้อมนำแนวทางเรื่องความสามัคคีเป็นหลักยึดในการดำเนินชีวิตและปฏิบัติหน้าที่ ทำความดีตามรอยพระราชาต่อไป
แม้เป็นอีก 1 วันที่ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ หากการได้ทำหน้าที่ทหารอำนวยการ เพื่อให้บริการประชาชนวางดอกไม้จันทน์ เนื่องในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ที่พระเมรุมาศจำลอง สนามกีฬาธูปะเตมีย์ ทำให้ บ่าววี ภูมิใจและได้แรงบันดาลใจทำความดี
ศิลปะ-บันเทิง
บ่าววี,ทหารอากาศ,ทหารอาสา,ดอกไม้จันทน์,พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ,รัชกาลที่9,ในหลวง รัชกาลที่9,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,พ.อ.อ.วีรยุทธิ์ นานช้า
https://news.thaipbs.or.th/content/267264
บุก ปาร์ตี้ชุดนักเรียน พบนักท่องเที่ยวฉี่ม่วง กว่า 100 คน
วันนี้ (29 พ.ค.2562) ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลโคกคราม ร่วมกับตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี และ ปปส. กรุงเทพมหานคร รวมกว่า 50 คน สนธิกำลังเข้าค้นผับสเปซ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน ซึ่งลักลอบจัดปาร์ตี้ชุดนักเรียนมั่วสุมยาเสพติด พบนักท่องเที่ยวเกือบ 300 คน บางส่วนวิ่งหนีการจับกุมจนชนรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้านล้มระเนระนาดพ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลโคกคราม เปิดเผยว่า ร้านดังกล่าวเปิดมาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว แต่ไม่ได้เปิดทุกวัน จะเลือกเปิดเวลาจัดงานเฉพาะกิจ โดยคืนที่ผ่านมามีจัดปาร์ตี้ให้นักท่องเที่ยวแต่งกายชุดนักเรียนเพื่อความสนุกสนาน และสืบทราบว่าจะมีการมั่วสุมยาเสพติดด้วย จึงเข้าตรวจค้น พบยาอี ยาเคประเภทผงและประเภทเกล็ด บุหรี่ไฟฟ้าอีกจำนวนหนึ่ง ตกอยู่เกลื่อนพื้น เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจปัสสาวะนักท่องเที่ยวหาสารเสพติด พบว่าผลปัสสาวะเป็นสีม่วงประมาณ 120 คน แบ่งเป็นชายประมาณ 70 คน และหญิงประมาณ 50 คน โดยไม่พบเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี มาใช้บริการร้านดังกล่าวมี นายสุเมธ รามแก้ว อายุ 28 ปี รับว่าเป็นผู้จัดการร้าน ตำรวจจึงแจ้งข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต เปิดสถานบริการเกินเวลา จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิดคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 พร้อมเตรียมสั่งปิดร้าน 5 ปี ตามกฎหมาย ส่วนนักท่องเที่ยวที่เสพยาเสพติด ก็จะคุมตัวไปดำเนินคดีที่สถานีตำรวจนครบาลโคกครามต่อไป
เจ้าหน้าที่เข้าค้นผับแห่งหนึ่งบนถนนประดิษฐ์มนูธรรม พบลักลอบจัดปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติด ผลตรวจปัสสาวะนักท่องเที่ยวเป็นสีม่วงประมาณ 120 คน ตำรวจแจ้งข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต เปิดเกินเวลา จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต
อาชญากรรม
ปาร์ตี้ชุดนักเรียน,ยาเสพติด,ฉี่ม่วง,สน.โคกคาม,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/280436
เผยความน่ารัก ลูกช้างป่าพลัดตกท่อ ยังรอคอยแม่มารับกลับโขลง (คลิป)
จากกรณีลูกช้างป่าอายุประมาณ 8-12 เดือน น้ำหนักประมาณ 80 กิโลกรัม พลัดตกท่อซึ่งเป็นส้วมห้องน้ำเก่า ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางท่อ 80 เซนติเมตร ลึกเกือบ 2 เมตร ภายในสวนยางพาราของชาวบ้าน โดยเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จ.บึงกาฬ ร่วมกับชาวบ้านช่วยเหลือขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2562 ที่ผ่านมา (อ่านข่าวก่อนหน้า ,ซนจนได้เรื่อง ลูกช้างน้อย ตกท่อส้วม ลึกเกือบ 2 เมตร เร่งช่วยกลับเข้าฝูง,),ทางด้านส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เปิดเผยความคืบหน้าเมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า นายทวีป คำแพงเมือง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว รายงานเข้ามาว่า เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จากอำเภอบุ่งคล้าเข้ามาตรวจดูอาการและให้ยาปฏิชีวนะแก่ลูกช้างป่าที่ตกท่อและได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน สำหรับอาการโดยทั่วไปลูกช้างยังแข็งแรงดี โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้นมตามที่สัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แนะนำ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังเฝ้าสังเกตการณ์และดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อรอแม่ช้างมารับกลับเข้าโขลงต่อไป,พร้อมกันนี้ ยังไม่เผยคลิปความน่ารักของลูกช้างป่าที่มีเจ้าหน้าที่นายหนึ่งคอยให้เสื้อโบกพัดให้ตลอด พร้อมพูดคุยกับลูกช้างว่า ,แม่อยู่ไหนน้อ มารับรับหนูหน่อยเด้อ หนูหิวนมแล้วเด้อ, อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้จัดทำคอกให้ลูกช้างอยู่เพียงลำพัง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังอยู่ใกล้ๆ ตลอด 24 ชม. เพื่อรอแม่ช้างออกมารับตัวลูกน้อยไป ส่วนผู้ใช้เฟซบุ๊กที่พบเห็นเรื่องราวนี้ต่างช่วยกันส่งกำลังใจให้ลูกช้างไปพบกับแม่โดยไว.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง ,- ,หมอล็อต ไขคำตอบปมกลิ่นคนติดตัวลูกช้างป่า ปัจจัยสำคัญทำให้แม่ไม่มารับ
เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จ.บึงกาฬ ยังเฝ้าดูแลลูกช้างพลัดตกท่อใกล้ชิด พร้อมป้อนน้ำตามคำแนะนำสัตวแพทย์ รอคอยแม่มารับกลับโขลง
ข่าว,สังคม
ลูกช้าง,ลูกช้างป่า,ลูกช้างตกท่อ,บึงกาฬ,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1539126
ปอ.15คันวิ่งเตาปูน-บางซื่อ
แก้ปัญหา 1 สถานีสายสีม่วง-เริ่ม 6 ส.ค. ค่าโดยสารฟรี,ขสมก.จัดรถ ปอ. 15 คัน วิ่งรับส่งผู้โดยสารรถไฟฟ้า สถานีเตาปูน-บางซื่อฟรี เริ่ม 6 ส.ค. จนกว่าจะมีรถไฟฟ้า ส่วนค่าต๋งจ้างเดินรถยังไม่ลงตัว,นายสุรชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เรื่องการเตรียมความพร้อมเดินรถเมล์เชื่อมระหว่างสถานีเตาปูนกับสถานีบางซื่อ รองรับการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน ได้ข้อสรุปว่า เบื้องต้น ขสมก.จัดรถเมล์ปรับอากาศ จำนวน 15 คัน วิ่งให้บริการเฉพาะผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วง ระหว่างสถานีเตาปูน-บางซื่อ โดยไม่เก็บค่าโดยสาร ส่วนคนที่ไม่ได้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงก็สามารถขึ้นได้ แต่คาดว่าคงมีจำนวนไม่มาก เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่เปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง วันที่ 6 ส.ค. 2559 เป็นต้นไปจนกว่า รฟม.จะสามารถจัดหารถไฟฟ้าวิ่งเชื่อมต่อระหว่างสถานีทั้ง 2 แห่ง ได้เรียบร้อย คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 15 เดือน,นายสุรชัยกล่าวว่า เรื่องค่าใช้จ่ายการเดินรถเมล์ปรับอากาศนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเป็นจำนวนเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับปริมาณรถเมล์อาจจะเพิ่มขึ้นอีก หากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น แต่คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะ ขสมก.และ รฟม.เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และสังกัดกระทรวงคมนาคมด้วยกันทั้งคู่ สำหรับเส้นทางการเดินรถ เริ่มจากสถานีเตาปูน วิ่งไปตามถนนประชาราษฎร์สาย 2 ข้ามสะพานสูง ตรงเข้าสถานีบางซื่อใช้เวลา 7-8 นาที ส่วนขากลับ จะต้องวิ่งอ้อมเป็นวงกลมเพราะถนนบางช่วงบางเวลาเป็นวันเวย์ จะใช้เวลามากกว่าขาไป ทั้งนี้ การจัดรถเมล์ปรับอากาศเพื่อให้บริการรถไฟฟ้าครั้งนี้ จะไม่กระทบต่อแผนการให้บริการผู้โดยสารรถเมล์ ขสมก.ปกติแต่อย่างใด โดยใช้วิธีการบริหารจัดการรถที่พักมาวิ่งเสริมในเส้นทางดังกล่าว โดยจะมีพนักงานคอยควบคุมการปล่อยรถจากต้นทาง-ปลายทาง อย่างใกล้ชิด.
ขสมก.จัดรถ ปอ. 15 คัน วิ่งรับส่งผู้โดยสารรถไฟฟ้า สถานีเตาปูน-บางซื่อฟรี เริ่ม 6 ส.ค. จนกว่าจะมีรถไฟฟ้า ส่วนค่าต๋งจ้างเดินรถยังไม่ลงตัว
null
รถ ปอ.,รถไฟฟ้า,สายสีม่วง,สถานีเตาปูน,สถานีบางซื่อ,สุรชัย เอี่ยมวชิรสกุล,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/content/630891
เทรนด์ใหม่มาแรง ถ่ายรูป หน้าอังแดด สุดฮิต คนดัง ทำเพียบ
นาทีนี้คงหนีไม่พ้น,เทรนด์การถ่ายรูป, ,ผิวบ่มแดด, หรือว่ากันง่ายๆ การถ่ายรูปสไตล์, หน้ารับแสงอาทิตย์, หรือ ,หน้าอังแดด, เสมือนว่าประเทศไทยมีอากาศหนาวเหน็บ ฉันขอรับแสงแดดอุ่นๆ หน่อย จากนั้นก็หรี่ตาเล็กน้อย หาองศาภาพและแสงดีๆ จากนั้นก็แชะ ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้วจ้า เหล่าคนดังบ้านเราก็ไม่น้อยหน้านะจ๊ะ ขอโชว์ผิวหน้าสวยใสกันหน่อย เรียกได้ว่า งานอวดผิวต้องมาค่ะ แต่ถ้าคุณสาวๆ อยากถ่ายรูปสไตล์นี้บ้าง แนะนำให้รับแสงแดดช่วงเย็นนะ จะได้ฟิลลิ่งความนวลผ่อง ออร่าพุ่ง แถมไม่ร้อนอีก หากไปยืนถ่ายรูปรับแสงแดดช่วงบ่ายล่ะก็ไม่อยากจะคิดเลย ฮ่าๆ ไหม้ไม่พอ รูปสวยๆ ก็ไม่ได้นะจ๊ะ,วันนี้ ,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ, ขอพาคุณไปส่อง, เทรนด์ถ่ายรูป, สไตล์ ,ผิวบ่มแดด, หรือ ,หน้าอังแดด, สวยธรรมชาติของเหล่าคนดัง มาดูกันค่ะว่าดาเมจความสวยจะรุนแรงแค่ไหน เห็นแล้วต้องอยากถ่ายรูปตามแน่นอน,ญาญ่า-อุรัสยา,มิว-นิษฐา,เต้ย-จรินทร์พร,พลอย-เฌอมาลย์,เบลล่า-ราณี,เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ,เก้า-สุภัสสรา,แต้ว-ณฐพร,ใหม่-ดาวิกา,ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก,ณิชา-ณัฏฐณิชา,น้ำตาล-พิจักขณา,ไอซ์-ปรีชญา,พลอย หอวัง,สวยใช่มั้ยล่ะคะ? เห็นแล้วรีบหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรัวๆ เลยจ้า อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญของการถ่ายรูปสไตล์, ผิวบ่มแดด, แบบนี้ อย่างแรกที่คุณสาวๆ ต้องมีคือ, ผิวหน้าที่ดี, อย่างที่สองต่อมาคือ ,การแต่งหน้า, ซึ่งก็สามารถเป็นการช่วยได้ จะรับแสงด้วยหน้ามันๆ เยิ้มๆ เกรงว่าจะไม่สวยเอานะ,ดูไอเดียแต่งหน้าหวานๆ ยังไง ให้เข้ากับเทรนด์ถ่ายรูป ,ผิวบ่มแดด, หรือ ,หน้าอังแดด, ง่ายสุดๆ ค่ะสาวๆ  อ่านเลย : ,แต่งหน้าไปเดทหวานๆ ใสๆ ด้วยเครื่องสำอางในเซเว่น,รูปภาพจาก : ,everythinghasbeauty.bkk, , ,juniperjabu, , ,p_namtarn, , ,chartmakeup, ,, supassra_sp, , ,taewaew_natapohn, , ,mewnittha, , ,toeyjarinporn, , ,davikah
ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ ขออัพเดตเทรนด์ถ่ายรูป สวยใสธรรมชาติ สไตล์ ผิวบ่มแดด หรือ หน้าอังแดด ของเหล่า คนดัง ใครปังชนะเลิศที่สุดมาดูกันค่ะ
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
ถ่ายรูป,คนดัง,เทรนด์ถ่ายรูป,ผิวบ่มแดด
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/beauty/1525135
มักง่ายทิ้งขยะริมทางหลวง ลุงเข็ดจนวันตาย ถูกดำเนินคดีเอาผิด
เมื่อวันที่ 29 มี.ค. จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอผู้ชายและผู้หญิง จอดรถริมทางหลวง หมายเลข 11 อุตรดิตถ์-เด่นชัย ใกล้เขาพลึง เขตติดต่อ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ กับ อ.เด่นชัย จ.แพร่ แล้วขนกล่องขยะทิ้งลงข้างทาง จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในทางตำหนิ ล่าสุด พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการพนักงานสอบสวน ตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถ บบ 5862 แพร่ และค้นข้อมูลผู้ครอบครองรถ ก่อนเชิญตัว นายพรทิพย์ คุณรัตน์ อายุ 50 ปี ชาวต.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ซึ่งเป็นผู้ขับขี่และเจ้าของรถคันดังกล่าวมาสอบสวน เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยยอมรับสารภาพ รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอโทษประชาชน พร้อมทั้งจะลงไปเก็บขยะ สิ่งของทั้งหมดที่ทิ้งไปกลับคืนมาให้เรียบร้อย และจะจำเป็นบทเรียนไปจนวันตาย,สำหรับการทิ้งขยะบนทางจราจรหรือไหล่ทาง มีความผิดตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535 มาตรา 45 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งการทิ้งขยะบนทางจราจร มีโทษหนัก เพราะขยะหรือสิ่งของที่ถูกทิ้งลงไป อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ทำให้เกิดอุบัติเหตุจราจรได้ โดยแขวงทางหลวงอุตรดิตถ์ที่ 1 ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อนายพรทิพย์ ที่ สภ.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่แล้ว,อย่างไรก็ตาม เส้นทางดังกล่าวเป็นพื้นที่เปลี่ยว ไม่เคยเกิดปัญหาการลักลอบนำขยะมาทิ้ง เพราะไม่ใช่จุดทิ้งขยะ มองว่าเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคลมากกว่า จึงฝากเตือนประชาชน อย่าทิ้งขยะบนทางจราจรหรือไหล่ทาง เพราะมีความผิดตามกฎหมาย และมีโทษหนัก.
เข็ดจนวันตาย เพราะความมักง่าย ลุงในคลิปแอบเอาขยะมาทิ้งริมทางหลวง อุตรดิตถ์-เด่นชัย ใกล้เขาพลึง โดนแจ้งความดำเนินคดี ยอมรับสารภาพบอกเสียใจ ขอโทษประชาชน
ข่าว,ทั่วไทย
ทิ้งขยะ,เอาผิดลุงทิ้งขยะ,ทิ้งขยะทางหลวง,คลิปลุงทิ้งขยะ,ลุงทิ้งขยะเข็ดจนวันตาย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1242577
ไบค์เลน นครพนม ถล่มซ้ำ โยธาฯสั่งปิด - เร่งซ่อม
เส้นทางจักรยาน หรือ ไบค์เลน เลียบริมฝั่งแม่น้ำโขง เกิดพังถล่มเสียหายเพิ่มอีกเป็นระยะทางยาวกว่า 30 เมตร นอกจากนี้ยังพบว่า มีดินสไลด์ ตลอดแนวแม่น้ำโขงช่วงจุดก่อสร้างและคาดว่าจะส่งผลกระทบพังเสียหายต่อเนื่องหากฝนยังคงตกลงมาอีกอย่างต่อเนื่องนายชิดชัย อินทรพาณิชย์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 20 ล้านบาท ที่สำคัญจุดก่อสร้างได้ยื่นออกไปยังแม่น้ำโขง และไม่มีการคำนวณปัญหาดินสไลด์ส่งผลกระทบต่อโครงสร้าง ซึ่งทางกรมโยธาธิการสั่งปิดห้ามประชาชนผ่านเข้า - ออกเด็ดขาดมีรายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ไบค์เลนพังเสียหายก่อนใช้งานนั้น อาจเกิดจากการสำรวจออกแบบที่เร่งรีบมากเกินไปจนลืมคำนึงถึงว่าไบค์เลนดังกล่าวก่อสร้างอยู่ริมตลิ่งที่ลาดชันของแม่น้ำโขงที่มีการเคลื่อนตัวของดินตะกอนได้ตลอดเวลา เพราะการคำนวณออกแบบเสาเข็มจะมีส่วนสำคัญมาก โดยต้องเจาะสำรวจชั้นดิน พร้อมคำนวณความยาวของเข็มให้ลงลึกถึงชั้นดินดาน จึงจะสามารถรับน้ำหนักได้แต่จากการตอกเสาเข็มกลับพบว่า มีการตอกเสาเข็มขนาด ประมาณ 25 ซ.ม.คูณ 25 ซ.ม ความยาว เพียง 10 เมตร เท่ากันทุกต้นและสามารถตอกลงอย่างง่ายดาย ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า เสาเข็มที่ใช้ในโครงการนี้เล็กและสั้นเกินไป ไม่เป็นไปตามมาตรฐานในการออกแบบหรือไม่
ไบค์เลนเลียบแม่น้ำโขง จ.นครพนม ถล่มซ้ำอีก กรมโยธาธิการสั่งปิดชั่วคราวเร่งสำรวจแก้ไข ด้านโยธาธิการจังหวัดชี้แจงงานกรมโยธาฯ ไม่ได้คำนวณดินสไลด์ก่อนก่อสร้าง
ภูมิภาค
ไบค์เลน,ถล่ม,นครพนม,ทางจักรยาน
https://news.thaipbs.or.th/content/281432
ภูมิธรรม เข้าใจ ชัชชาติ ลงผู้ว่าฯ อิสระ ได้เวลา กทม.ต้องดีกว่าเดิม
วันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน โพสต์เฟซบุ๊ก หนึ่งเสียงจากใจให้ชัชชาติ มีเนื้อหาสรุปว่า ทราบข่าวนายชัชชาติ อาสารับใช้ชาวกทม.ด้วยการลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.โดยอิสระ เพราะต้องการประสานและร่วมมือกับทุกฝ่าย ใช้ศักยภาพและความสามารถที่ตัวเองมีอยู่ ดึงทรัพยากรจากทุกส่วน มาช่วยกันทำงานให้ชาว กทม. นายชัชชาติ เคยเป็นเพื่อนร่วมงาน บริหารกระทรวงคมนาคม จนมีชื่อเสียงได้รับการยอมรับว่า เป็นนักการเมืองน้ำดี เป็นคนที่พยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นเท่าที่จะทำได้ และพยายามรับฟังดึงความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อมุ่งให้งานในความรับผิดชอบสำเร็จ ซึ่งทำได้ดีจนเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้น การลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.โดยอิสระของ นายชัชชาติ ตนจึงได้ข้อสรุปแทนใจว่า เข้าใจ เห็นใจ และเสียดาย แต่ถ้าคิดว่า การทำงานการเมืองในทางอุดมคติ สาระสำคัญที่สุด คือ การก่อประโยชน์สูงสุดให้ชาติบ้านเมือง ตนคิดว่า การตัดสินใจของ นายชัชชาติ ถูกจังหวะ ถูกที่ ถูกเวลา ไม่มีสิ่งใดที่น่าเสียใจต่อการตัดสินใจครั้งนี้ เพราะภาวะที่กรุงเทพฯ มีปัญหาที่สั่งสม อยู่ในสภาพที่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย ภายใต้การบริหารที่ไม่มีการบริหาร ถึงเวลาแล้วที่กรุงเทพฯ ต้องเปลี่ยนแปลง ได้เวลา ของกรุงเทพฯ ที่ต้องดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมมอบ 1 เสียงให้จากใจ,นายภูมิธรรม ระบุอีกว่า ไม่ว่าตนจะรู้สึกเสียดาย นายชัชชาติ เพียงใด แต่ก็จะยังสนับสนุน นายชัชชาติ ให้ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ที่ตนอยากเห็นด้วยความกระตือรือร้นยิ่ง ได้เวลากรุงเทพฯ ต้องดีขึ้นกว่าเดิม 1 เสียงของตนมอบให้นายชัชชาติ จากใจ ตนสนับสนุน ผู้ว่าฯ กทม. ชื่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์
ภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน โพสต์เฟซบุ๊ก เข้าใจ แต่เสียดาย ชัชชาติ ลงผู้ว่าฯอิสระ อวยพรให้ได้เป็นผู้ว่าฯกทม.สมใจ บอก ได้เวลากรุงเทพฯ ต้องดีขึ้นกว่าเดิม
ข่าว,การเมือง
ภูมิธรรม เวชยชัย,ชัชชาติ สิทธิพันธุ์,ผู้ว่าฯกทม.,ผู้ว่าฯอิสระ,กทม.ต้องดีขึ้นกว่าเดิม,อวยพรชัชชาติ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1674715
รถตู้ยางระเบิดพลิกคว่ำที่ลำปาง พระ-ชี-ฆราวาส เจ็บ 5 สาหัส 5
ภาพจากเจ้าหน้าที่,รถตู้นำพระ สามเณร แม่ชี พร้อมฆราวาส รวม 11 ชีวิต เดินทางจากเชียงใหม่จะกลับอุตรดิตถ์ ยางหน้าเกิดระเบิดรถพลิกคว่ำบนถนนลำปาง-เด่นชัย บาดเจ็บ 5 สาหัส 5,เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 18 เม.ย. พ.ต.ต.กฤตเมธ ทาคำ สว.สอบสวน สภ.แม่ทะ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลแม่ทะ เดินทางให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บเหตุรถตู้พลิกคว่ำบนถนนลำปาง-เด่นชัย บริเวณบ้านปงป่าเป้า หมู่ที่ 1 ต.วังเงิน อ.แม่ทะ ในที่เกิดเหตุพบรถตู้สีเทา ทะเบียน ฮข 5302 กทม. พลิกตะแคงสภาพรถพังยับเยิน ในที่เกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บจำนวน 10 ราย เป็นพระ 1 รูป สามเณร 2 รูป แม่ชี 5 รูป และฆราวาส 3 ราย โดยจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 5 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแม่ทะอย่างเร่งด่วน,สอบถาม นายสมเกียรติ บุญชิต อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เล่าว่า ได้ขับรถออกเดินทางมาจาก อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ มุ่งหน้าเข้า จ.อุตรดิตถ์ โดยมีพระภิกษุ 1 รูป แม่ชี 5 รูป สามเณร 2 รูป และฆราวาส รวมตนเอง 3 คน รวม 11 ชีวิต ซึ่งเมื่อรถมาถึงจุดเกิดเหตุ ยางรถด้านขวาหน้าเกิดระเบิด ตนเองพยายามประคองรถ แต่เนื่องจากรถวิ่งมาด้วยความเร็วจึงหมุนกลางถนนและพลิกคว่ำ ตกลงข้างทางและหมุนไปตามร่องถนนข้างทาง ระยะทางกว่า 50 เมตร หลังเกิดเหตุตนเองพยายามปีนออกจากตัวรถเพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านและรถที่ผ่านไปมาในบริเวณดังกล่าว , ,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตรวจที่เกิดเหตุพร้อมบันทึกภาพ และเชิญตัวนายสมเกียรติ ไปสอบสวนต่อที่ สภ.แม่ทะ เพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุต่อไป.
รถตู้นำพระ สามเณร แม่ชี พร้อมฆราวาส รวม 11 ชีวิต เดินทางจากเชียงใหม่จะกลับอุตรดิตถ์ ยางหน้าเกิดระเบิดรถพลิกคว่ำบนถนนลำปาง-เด่นชัย บาดเจ็บ 5 สาหัส 5
ข่าว
รถตู้พระคว่ำ,รถตู้พระแม่ชีคว่ำ,อุบัติเหตุรถตู้,รถตู้คว่ำที่ลำปาง,ถนนลำปาง-เด่นชัย
https://www.thairath.co.th/news/916620
สัปดาห์หน้า จ่อชง ครม.ออกแพคเกจฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านพลังงาน
วันนี้ (8 พ.ค.2563)นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ลงตรวจเยี่ยมคลังน้ำมันที่ จ.สมุทรสาคร เพื่อรับฟังการดำเนินงานของผู้ประกอบการด้านคลังน้ำมัน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศซึ่งสถานการณ์ COVID-19 ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและกระทบหนัก จึงต้องการรับฟังปัญหาทุกภาคส่วนและเร่งแก้ทั้งระดับฐานรากจนไปถึงผู้ประกอบการทุกระดับนายสนธิรัตน์ ระบุว่า ในช่วงที่ยอดการใช้น้ำมันที่ปรับตัวลดลง กระทรวงพลังงานจะเร่งรัดการปรับลดเกรดน้ำมันบางชนิดลงให้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นนโยบายเดิมที่เคยดำเนินการก่อนช่วงเกิดโรคระบาด COVID-19 เพราะหากสามารถลดเกรดน้ำมันบางชนิดลงได้จะช่วยลดจำนวนแทงค์ที่เก็บสำรองน้ำมันลง ก็จะช่วยลดภาระของสถานีบริการน้ำมันแต่ในส่วนของน้ำมันชีวภาพ เช่น ไบโอแก๊ส แก๊สโซฮอล จะยังไม่เปลี่ยนแปลงนโยบาย เพราะเป็นตัวช่วยภาคเกษตร เช่น ปาล์มน้ำมัน และเป็นไปตามแผนน้ำมันบนดินและลดการน้ำเข้าเป็นแผนระยะยาวทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้ากระทรวงพลังงานจะหารือถึงแพคเกจแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านพลังงาน จะเน้นการดูแลเศรษฐกิจจากฐานราก ส่วนงบประมาณจะแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยในส่วนของงบประมาณเดิมของกระทรวงพลังงานที่มีอยู่แล้วจะปรับมาให้ตรงวัตถุประสงค์ และอีกส่วนจะต้องพิจารณาสามารถใช้งบประมาณจากเงินกู้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้หรือไม่ เพราะขณะนี้ทีมเศรษฐกิจกำลังจัดทำแพคเกจฟื้นฟูศรษฐกิจในภาพรวมอยู่ ซึ่งกระทรวงพลังงานจึงต้องจัดทำแผนงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปมีส่วนร่วม เช่น โรงไฟฟ้าชุมชนส่วนความคืบหน้าในโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ยังเป็นไปตามแผน โดยในสัปดาห์หน้าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กกพ.จะประกาศเปิดรับสมัครประเภท Qick Win รอบแรก 100 เมกกะวัตต์ และคาดว่าภายในเดือนมิถุนายนจะอนุมัติโครงการคนไทยอยู่บ้าน ยอดใช้น้ำมันลดลง 35-55 ล้านลิตรนายสินธุ์ ครองพาณิชย์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ ผู้ประกอบการธุรกิจคลังน้ำมันและน้ำมันหล่อลื่น ระบุว่า ปัจจุบันบริษัทต้องลดกำลังการผลิตน้ำมันลงร้อยละ 30 ซึ่งเป็นไปตามการบริโภคน้ำมันที่ลดลงร้อยละ 20-30 เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ประเทศ ทำให้คนหยุดอยู่บ้าน งดการเดินทาง โดยเฉพาะยอดใช้น้ำมันเบนซินที่ลดลงมากกว่าน้ำมันดีเซล ส่งผลให้ยอดการใช้น้ำมันลดลงเหลือเดือนละ 195 ล้านลิตรจากเดิม 230-250 ล้านลิตรขณะที่การนำเข้าวัตถุดิบเพื่อผลิตน้ำมันหล่อลื่นเกิดความล่าช้า เพราะประเทศที่นำเข้าน้ำมปิดประเทศเช่นเดียวกัน ส่วนการส่งออกน้ำมันหล่อลื่นยังไม่สามารถส่งออกได้ เช่น อินโดนีเซีย อินเดีย ที่ปิดประเทศส่งผลให้เรือขนส่งน้ำมันลอยลำอยู่ประมาณหลายแสนลิตร คิดเป็นมูลค่า 200 ล้านบาท
กระทรวงพลังงานเตรียมจัดทำแพคเกจฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านพลังงานก่อนเสนอ ครม. เพื่อขอใช้งบ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจคลังน้ำมัน รับหลังประกาศล็อกดาวน์ ส่งผลต่อยอดการใช้น้ำมันลดลงร้อยละ 30 พร้อมเสนอรัฐขอลดภาษีน้ำมันหล่อลื่น
เศรษฐกิจ
COVID-19,โควิด-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,COVID19,โควิด19,กระทรวงพลังงาน,น้ำมัน,น้ำมันหล่อลื่น,คลังน้ำมัน
https://news.thaipbs.or.th/content/292224
ชาวเกาะปันหยี หาหอยหวานประทังชีวิต หลังโควิด-19 ทำท่องเที่ยวฟุบไร้รายได้
เมื่อวันที่ 28 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน้าที่ทำการ อบต.เกาะปันหยี บ้านท่าด่าน ต.เกาะปันหยี อ.เมือง จ.พังงา มีประชาชนในพื้นที่นำอุปกรณ์ที่ทำขึ้นเองเข้าหาหอยหวาน บริเวณริมชายหาดบ้านท่าด่าน โดยชาวบ้านออกหาหอยหวานเพื่อนำประกอบอาหารลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เป็นผลกระทบเหตุการณ์แพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ทำให้ประชาชนต้องดิ้นรนหาอาหารเพื่อประทังชีวิตในครอบครัวเนื่องจากชาวบ้านภายในเกาะปันหยี ส่วนมากประกอบอาชีพธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว พายเรือนำเที่ยว จำหน่ายสินค้าของที่ระลึก ได้รับผลกระทบ จนต้องอาศัย การออกหาปู หาปลา สัตว์น้ำในทะเล และทำประมงพื้นบ้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและการขาดรายได้ ส่วนหนึ่งที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความช่วยเหลือจากท้องถิ่น ซึ่งทาง อบต.เกาะปันหยี ได้ประชุมสภา อบต.เกาะปันหยี เร่งด่วน หามาตรการช่วยเหลือความเป็นอยู่ของประชาชน พร้อมมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 เข้าสู่ชุมชน เนื่องจากชุมชนเกาะปันหยี อาศัยอยู่บนเกาะ มีความหนาแน่นของประชาชน ทำให้ทาง อบต. ต้องหามาตรการที่ต้องเข้าใจกันภายในชุมชน ทั้งการตรวจหาผู้เดินทางเข้า-ออก หมู่บ้าน และการเฝ้าระวังนายดำรง สินโต นายก อบต.เกาะปันหยี กล่าวว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุม ทางท้องถิ่นจึงต้องเข้าช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ความรับผิดชอบ สำหรับชาวบ้านในพื้นที่ขณะนี้หันมาจับอุปกรณ์ประมงพื้นบ้านมากขึ้น หลังจากอาชีพเกี่ยวเนื่องท่องเที่ยวต้องหยุดชะงัก ส่วนใหญ่ชาวบ้านหาสัตว์น้ำเพื่อประทังชีวิตในครัวเรือนเพื่อรอให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย เบื้องต้นทาง อบต.เกาะปันหยี อนุมัติ เงินช่วยเหลือ เร่งจ้างงานภายในพื้นที่เพิ่มขึ้น และเร่งหาแนวทางการช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เร็วที่สุด.
ชาวบ้านเกาะปันหยี ลงหาหอยหวานริมชายหาด ลดค่าใช้จ่ายครัวเรือนฝ่าวิกฤติโรคโควิค-19 เนื่องจากขาดรายได้หลักจากธุรกิจท่องเที่ยว ทาง อบต.เกาะปันหยี เร่งหาทางช่วยเหลือความเป็นอยู่คนบนเกาะ
ข่าว,ทั่วไทย
โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,เกาะปันหยี,พังงา,ประมงพื้นบ้าน,หอยหวาน,ประทังชีวิต,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1806549
พายุซัดเรือลากจูงล่มหน้าอ่าวปากน้ำ ไต้ก๋งกับลูกน้อง 2 คน หายหาไม่เจอ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 28 เม.ย. 59 ร.ต.ท.องอาจ ชั่งชั่ว รอง สว.สถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจน้ำสมุทรปราการ รับแจ้งจากศูนย์ควบคุมประมง จ.สมุทรปราการ ว่า มีเรือลากจูงถูกคลื่นลมพายุซัดจนเรือแตกจมอยู่กลางทะเลปากอ่าว จ.สมุทรปราการ บริเวณทุ่นเขียวที่ 5 ห่างจากฝั่งประมาณ 3 ไมล์ทะเล พื้นที่ต.บางปูใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงนำเรือตรวจการณ์ รน.58 เดินทางเข้าตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุห่างจากทุ่นเขียวทุ่นที่ 5 ประมาณ 100 เมตร พบเรือประมงดัดแปลงทำเป็นเรือลากจูง ทำด้วยไม้สภาพเก่าทรุดโทรม ไม่ติดชื่อเรือและใบอนุญาตการเดินเรือ ด้านท้ายเรือจมอยู่ในทะเลประมาณครึ่งลำ เนื่องจากจุดที่จมเป็นสันดอนน้ำไม่ลึกมาก ตรวจสอบบริเวณหัวเรือที่ปูด้วยไม้กระดานแผ่นขนาดใหญ่ถูกคลื่นตีจนแตกเห็นรอยแยก ส่วนตัวเก๋งเรือก็ถูกคลื่นซัดแตกเสียหายหลายจุด โดยมีเรือลากจูงอีกลำหนึ่งมาช่วยกู้เรือลำดังกล่าว ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่าจะกู้เรือได้หรือไม่ เนื่องจากถูกคลื่นซัดจนตัวเรือแตกเสียหายหลายจุด,จากการสอบถาม นายชุติเดช ทิพย์ชานนท์ อายุ 57 ปี เจ้าของเรือที่นำอุปกรณ์มาทำการกู้ซากเรือ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 24 เม.ย. ตนได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ ขอความช่วยเหลือจากนายเอส ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ซึ่งเป็นไต้ก๋งเรือลำเกิดเหตุว่า ขณะออกเดินทางจากท่าเรือสมุทรปราการ เพื่อที่จะไปลากจูงเรือบรรทุกสินค้าที่เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ในระหว่างที่นำเรือออกมาถึงกลางร่องน้ำ ได้มีพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำเข้าหา คลื่นใหญ่สูงประมาณ 2 เมตร กระหน่ำซัดใส่จนกราบเรือแตก ก่อนที่น้ำจะไหลทะลักเข้าเรือ นายเอส จึงได้พยายามบังคับเรือออกจากร่องน้ำเข้ามาจอดเกยตื้นยังจุดนอกร่องน้ำ ที่น้ำตื้นที่สุดห่างจากฝั่งประมาณ 3 ไมล์ทะเล,นายชุติเดช กล่าวด้วยว่า นายเอส ได้แจ้งให้มาช่วยกู้ซากเรือให้ แต่หลังจากที่ตนเดินทางมาถึงบริเวณจุดที่เกิดเหตุ กลับพบเพียงแต่เรือที่ด้านท้ายจมอยู่ในน้ำ ส่วนหัวเรือโผล่พ้นน้ำ จึงนำอุปกรณ์และคนงานมาทำการกู้ซากเรือ แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะกู้ได้หรือไม่ เพราะตัวเรือเสียหายมาก ส่วนนายเอส และลูกเรือ ไม่พบอยู่ในที่เกิดเหตุและติดต่อไม่ได้เลย,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ในระหว่างที่นายเอสขับเรือลำดังกล่าว ซึ่งอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมมาถึงที่เกิดแหตุ ได้ถูกคลื่นกระหน่ำซัดจนเรือแตกไม่สามารถขับต่อไป จนได้รีบนำเรือออกจากร่องน้ำเข้ามาเกยตื้นเอาไว้ในจุดที่น้ำตื้น ก่อนที่จะโทรศัพท์เรียกให้พรรคพวกมาช่วย แต่ระหว่างที่รออยู่บนเรือที่กำลังจม ลูกเรือจึงสละเรือกระโดดลงน้ำ หรืออาจมีเรือประมงที่ผ่านมาพบ และช่วยทั้งสองไปแล้ว.
เรือประมงดัดแปลงเป็นเรือลากจูง เจอพายุฤดูร้อนคลื่นลมแรง ซัดล่มในอ่าวไทย หน้าปากน้ำเมืองสมุทรปราการ ไต้ก๋งเรียกพรรคพวกมาช่วย แต่มาถึงเจอแต่เรือสภาพหัวโผล่ท้ายจม คนที่อยู่บนเรือ ยังไม่รู้ชะตากรรม
null
เรือล่ม,เรือจม,เรือลากจูง,พายุซัดเรือจม,ลูกเรือหาย,ปากน้ำสมุทรปราการ,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค
https://www.thairath.co.th/content/612750
ห้าม แจส ประมูลคลื่นใหม่ กสทช.หอบข้อมูลให้รัฐเหตุช่วยทีวี-มือถือ
ย้ำแนวทางช่วยของ กสทช.รัฐได้ประโยชน์,นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ได้หารือกับ พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร ประธาน กสทช. เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การประมูลคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 45 เมกะเฮิรตซ์ จากเดิมจะเสนอให้บอร์ดพิจารณาในวันที่ 11 เม.ย.นี้ แต่เนื่องจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะคัดเลือก กสทช. ชุดใหม่ในวันที่ 19 เม.ย.นี้ ฉะนั้นควรรอผลการคัดเลือก กสทช.ชุดใหม่ว่าเป็นอย่างไร หากได้กรรมการชุดใหม่แล้ว ก็ควรให้การเปิดประมูลเป็นหน้าที่ของกรรมการชุดใหม่,ส่วนเงื่อนไขหลักเกณฑ์การประมูลนั้น สำนักงาน กสทช.ขอยืนยันที่จะเปิดประมูล 3 ใบ ใบละ 15 เมกะเฮิรตซ์ และไม่ให้บริษัท แจส โมบาย จำกัด ผู้ทิ้งการประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ เข้าร่วมประมูล ถึงแม้จะชำระค่าเสียหายครบถ้วนแล้วก็ตาม แต่ก็ถือว่าไม่คุ้มค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น หากอนุญาตให้แจส โมบาย เข้าร่วมประมูลอีก ผู้ประกอบการรายอื่นๆไม่มีความมั่นใจและจะไม่มีใครเข้าร่วมประมูล เพราะเกรงว่าแจส โมบาย เข้ามาประมูลแล้วจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมคือ ไม่ยอมชำระเงินค่าประมูล,กสทช.ไม่ได้กลับไปกลับมา จากเดิมที่อนุญาตให้แจส โมบาย เข้าร่วมประมูล แต่ขณะนี้ไม่อนุญาตแล้ว เนื่องจาก กสทช.ได้พิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว และฟังความเห็นจากทุกฝ่ายที่มีส่วนได้ส่วนเสียแล้ว,นายฐากร กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล และผู้ประกอบการโทร-คมนาคมนั้น ขณะนี้ กสทช.ได้ทำข้อมูลเพื่อชี้แจงต่อรัฐบาล และชี้แจงต่อสังคมผ่านสื่อมวลชนให้รับทราบถึงเหตุผลและความจำเป็นการช่วยเหลือทีวีดิจิทัล และมือถือ โดยภายในสัปดาห์นี้ จะนำข้อมูลทั้งหมดเสนอต่อนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อพิจารณาต่อไป,ข้อมูลที่ กสทช.นำเสนอต่อรัฐบาลนั้น เป็นข้อมูลที่ได้เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย วิเคราะห์อย่างละเอียด และประโยชน์ที่รัฐจะได้รับแล้ว หากรัฐพิจารณาแล้วจะไม่เชื่อข้อมูลของ กสทช.ก็ได้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐ ข้อมูลใดที่มีประโยชน์ รัฐก็ต้องเชื่อข้อมูลนั้น แต่ กสทช.ขอยืนยันว่าข้อมูลที่เสนอให้ คสช.พิจารณานั้น รัฐได้ประโยชน์มาก เพราะจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง,นายฐากร กล่าวว่า การช่วยเหลือทีวีดิจิทัลยังยืนยันเช่นเดิม คือพักชำระค่าประมูลเป็นเวลา 3 ปี และจ่ายค่าเช่าโครงข่ายทีวีดิจิทัลให้เป็นเวลา 24 เดือน ส่วนการช่วยผู้ประกอบการมือถือด้วยการขยายระยะเวลาการชำระค่าประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ จาก 4 งวด เป็น 8 งวด เนื่องจากงวดที่ 4 ที่ต้องชำระในปี 2563 นั้น เป็นวงเงินที่สูงมาก โดยบริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมูนิเคชั่น จำกัด ต้องชำระราว 60,218 ล้านบาท บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ตเวอร์ค จำกัด ในเครือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ต้องชำระ 59,574 ล้านบาท,การขอขยายเวลาการชำระค่าประมูลนั้น เอกชนไม่ได้หยุดชำระแต่อย่างใด เพียงแต่ขอแบ่งเบาภาระยอดชำระในงวดที่ 4 เท่านั้น เพื่อจะได้มีเงินนำไปลงทุน และร่วมประมูลคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ กสทช.ก็ได้พิจารณาและวิเคราะห์แล้วว่า นอกจากรัฐจะได้รับประโยชน์จากอัตราค่าดอกเบี้ย 3,593 ล้านบาทแล้ว กสทช.ยังได้เสนอแนวทางให้ คสช.ประกอบการพิจารณาว่า หากเปิดประมูล 2 ใบอนุญาต รัฐก็จะได้เงินตั้งแต่ปี 2561-2567 รวม 251,154 ล้านบาท หากประมูล 3 ใบ รัฐก็จะได้เงิน 291,314 ล้านบาท ขณะเดียวกันจะเป็นการใช้คลื่นอย่างมีประสิทธิภาพด้วย,อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือเอกชนหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐบาลและ คสช.หากไม่ช่วยเหลือ เอกชนก็ต้องชำระเงินเต็มจำนวนตามสัญญา แต่หากช่วยเหลือก็มีเงินที่จะไปขยายการลงทุน ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ.
กสทช.กลับลำห้าม แจส โมบาย ประมูลคลื่น 1800 ขณะที่หลักเกณฑ์การประมูล รอดูผลคัดเลือก กสทช.ชุดใหม่ 19 เม.ย.นี้ เตรียมส่งข้อมูลช่วยเหลือทีวีดิจิทัล-มือถือให้ วิษณุ ภายในสัปดาห์นี้
ข่าว,เศรษฐกิจ
ฐากร ตัณฑสิทธิ์,กสทช.,ประมูล,แจส โมบาย,การชำระค่าประมูล
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1246121
หล่อทันใด โด้ สร้างประวัติศาสตร์ แข้งคนแรกยิงประตูยูโร 4 ครั้งติด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 22 มิ.ย. ว่า คริสเตียโน โรนัลโด ซุปเปอร์สตาร์พันล้านทีมชาติโปรตุเกส กลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ลูกหนังที่ยิงประตูในศึกยูโร รอบสุดท้าย 4 ครั้งติดต่อกัน,เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 3 สมัยจากสโมสรเรอัล มาดริด ถูกวิจารณ์อย่างหนักหน่วงในสองเกมแรกหลังเป้าสะอาด แถมยิงจุดโทษยังไม่เข้า เป็นเหตุสำคัญที่ทำให้ โปรตุเกส ยังไม่สามารถคว้าชัยชนะในศึกยูโร รอบสุดท้ายได้เลย,กระทั่งเกมนัดล่าสุดถึงแม้ โปรตุเกส จะยังไม่ชนะอีกครั้งหลังเสมอกับ ฮังการี 3-3 แต่ซุปเปอร์สตาร์วัย 31 ปีรายนี้เป็นคนยิง 2 ประตูสำคัญช่วยให้โปรตุเกสไล่ตีเสมอแบบหืดจับ พร้อมคว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการการันตีเป็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 ทีม,และจากประตูที่เขาทำได้ในเกมวันนี้ ทำให้ คริสเตียโน โรนัลโด กลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูในศึกยูโร รอบสุดท้าย 4 ครั้งติดประกอบด้วยปี 2004,2008,2012 และ 2016 รวม 8 ประตู พร้อมกับแซงหน้า อลัน เชียเรอร์ ตำนานดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ขึ้นเป็นดาวซัลโวในศึกยูโร รอบสุดท้ายตลอดกาลอันดับ 2 เป็นรอง มิเชล พลาตินี ตำนานลูกหนังชาวฝรั่งเศสที่ทำไว้ 9 ลูก รวมไปถึงการแอสซิสต์รวม 4 ลูกในศึกยูโรรอบสุดท้ายของเขา ทำให้เขาตามหลังอันดับ 1 ทีมชาติตลอดกาลอย่าง หลุยส์ ฟิโก เพียง 1 ลูกเท่านั้น,นอกจากนี้ โรนัลโด ยังขึ้นแท่นเป็นนักเตะที่ยิงประตูในทัวร์นาเมนต์ใหญ่รอบสุดท้ายมากที่สุด 7 รายการประกอบด้วย ศึกยูโร 4 ครั้งและ ฟุตบอลโลก 3 ครั้ง แซงหน้า 2 ตำนานดาวยิงชาวเยอรมันที่รวมกัน 6 ครั้งอย่าง เยอร์เกน คลินส์มันน์ (3 ยูโร + 3 ฟุตบอลโลก) และ มิโรสลาฟ โคลเซ (2 ยูโร + 4 ฟุตบอลโลก),อีกทั้งการลงสนามในเกมนี้ของ โรนัลโด ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ลงสนามในศึกยูโร รอบสุดท้ายมากที่สุดคนเดียว 17 นัด แซงหน้า เอ็ดวิน ฟานเดอร์ซาร์ ตำนานนายด่านดัตช์ และ ลิลิยอง ตูราม ตำนานหลังบ้านฝรั่งเศส ที่ 16 นัดเป็นที่เรียบร้อย,ประมวลประตูที่ โรนัลโด ทำได้ในศึกยูโรล่าสุด 8 ประตู,ปี 2004 : 2 ประตู : 1 ลูก เกมพ่าย กรีซ รอบแบ่งกลุ่ม 1-2 : 1 ลูก เกมชนะ เนเธอร์แลนด์ รอบรองชนะเลิศ 2-1,ปี 2008 : 1 ประตู : เกมชนะ เช็ก รอบแบ่งกลุ่ม 3-1,ปี 2012 : 3 ประตู : 2 ลูก เกมชนะ เนเธอร์แลนด์ รอบแบ่งกลุ่ม 2-1 : 1 ลูก เกมชนะ เช็ก รอบก่อนรองชนะเลิศ 1-0,ปี 2016 : ? ประตู : 2 ลูก เกมเสมอ ฮังการี รอบแบ่งกลุ่ม 3-3 ,ประมวลประตูที่ โรนัลโด ทำได้ในฟุตบอลโลกล่าสุด 3 ประตู,ปี 2006 : 1 ประตู : 1 ลูก เกมชนะ อิหร่าน รอบแบ่งกลุ่ม 2-0,ปี 2010 : 1 ประตู : 1 ลูก เกมชนะ เกาหลีเหนือ รอบแบ่งกลุ่ม 7-0,ปี 2014 : 1 ประตู : 1 ลูก เกมชนะ กานา รอบแบ่งกลุ่ม 2-1
หลังจากถูกวิจารณ์อย่างหนัก ล่าสุด คริสเตียโน โรนัลโด ซุปเปอร์สตาร์ทีมชาติโปรตุเกส ก็กลับมาผงาดอีกครั้งหลังสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตูในศึกยูโร รอบสุดท้าย 4 ครั้งติดต่อกัน
null
ยูโร 2016,โปรตุเกส,คริสเตียโน โรนัลโด,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/644912
คสช.ประชุมเตรียมวางฐานข้อมูลพระสงฆ์-ทำโมเดลวัดต้นแบบ
26 ส.ค. 2557 - รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุม 301 ตึกแดง 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาทางพระพุทธศาสนา ครั้งที่ 1/2557 โดยมีนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินงานของคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาทางพระพุทธศาสนา สรุปสาระสำคัญดังนี้ที่ประชุมพิจารณาการกำหนดภารกิจ การป้องกันและแก้ปัญหาทางพระพุทธศาสนา แนวทางมาตรการ รูปแบบ แผนปฏิบัติการ โครงการ การดำเนินการเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาของแต่ละหน่วย รวมการมอบหมายงานและการดำเนินการต่อไปของคณะทำงาน แล้วที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการบูรณาการแก้ไขปัญหาทางพระพุทธศาสนา ในเบื้องต้นดังนี้ 1. ให้มีการจัดทำโมเดล วัดต้นแบบการปฏิบัติ 2. การจัดทำฐานข้อมูลพระภิกษุ เริ่มจาก กทม. ร่วมกับสำนักงาน กทม. และควรจะเพิ่มในต่างจังหวัดที่มีความพร้อม โดยจะมีการบันทึกข้อมูลพฤติกรรมที่ถูกร้องเรียน รวมถึงให้มีกระบวนการตรวจสอบ และการติดตามผล โดยพระวินยาธิการ ตำรวจพระพร้อมกันนี้ ที่ประชุมเห็นชอบมอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักทบทวนกระบวนการเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา ให้มีการจัดทำคู่มือประกอบ จัดทำวัดต้นแบบ เกี่ยวกับการบริหารในวัด เสนาสนะ ให้มีการปลูกฝังทางการสอน การเผยแผ่พระพุทธศาสนา พร้อมกับให้มีการทบทวนกฎหมาย ระเบียบที่มี รวมทั้งให้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ในการทำวัดต้นแบบ ตัวอย่างวัดที่บริหารจัดการดี การปฏิบัติของพระภิกษุสามเณรที่มีอาจารเหมาะสม เพื่อนำมาเป็นมาตรการในการขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบต่อไป
ฝ่ายกิจการพิเศษ คสช. ประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาทางพระพุทธศาสนา เตรียมทำโมเดลวัดต้นแบบ ฐานข้อมูลพระสงฆ์ ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักทบทวนกระบวนการเข้ามาบวชและจัดทำคู่มือ
การเมือง,สังคม
พระพุทธศาสนา,พระสงฆ์,ศาสนา,อดุลย์ แสงสิงแก้ว
https://prachatai.com/journal/2014/08/55229
กรมป่าไม้เตรียมเรียกปารีณาชี้แนวเขตที่ดิน 1700 ไร่ ว่าทับเขตป่าสงวนหรือไม่
ไร่ ดังนั้นหากตรวจพบว่าที่ดินทับพื้นที่ป่าสงวนอยู่ด้วยต้องถูกดำเนินคดี โดยก่อนหน้านี้ช่วงต้นเดือนปารีณานำประชาชนร้องเรียน สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ถือครองที่ดินมิชอบ ก่อนถูก เรืองไกร ย้อนศร - ขณะที่ สมพร แก้เกมร่วมมือกับราชการพร้อมยกที่ดินทำป่าชุมชน12 พ.ย. 2562 กรณีที่ปารีณา ไกรคุปต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ราชบุรี เปิดเผยผ่านรายการ รายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เปิดความลับ ทางช่อง 9 อสมท. เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ยอมรับว่าเข้าไปทำประโยชน์ด้านเกษตรกรรมในที่ดินป่าไม้ โดยเสียภาษี ภบท.5 หรือภาษีดอกหญ้ามาเป็นเวลานับ 10 ปี และต่อมาเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติได้ร้องเรียน ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบการครอบครองของปารีณาเพราะปารีณายื่นแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ในปี 2562 ว่ามีที่ดิน ภบท.5 อยู่ในครอบครอง 58 รายการ รวมเป็นเนื้อที่ 1706 ไร่ อยู่ที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เป็นการครอบครองถูกต้องหรือไม่ เพราะที่ ภบท.5 ตามกฎหมายไม่สามารถครอบครองได้นั้นล่าสุด รายงานวันนี้ (12 พ.ย.) ว่าอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบที่ดิน ภบท.5 ของปารีณาว่าเบื้องต้นได้มอบหมายให้ป่าไม้จังหวัดราชบุรีประสาน ส.ป.ก.ราชบุรี ร่วมพิจารณาและเตรียมพร้อมตรวจสอบ ทั้งนี้เจ้าของที่ดินทั้ง 85 แปลง จำนวน 1706 ไร่ ทับซ้อนกันอยู่ ระหว่างที่ดินป่าสงวนแห่งชาติกับ ส.ป.ก. ต้องนำชี้ขอบเขตที่ดินเพื่อจะได้นำแนวเขตมาตรวจสอบกับแนวเขตที่ดินของรัฐเช่น ป่าสงวนฯ ปี 2527 หรือ ส.ป.ก.ปี 2554 เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนว่าที่ดินดังกล่าวมีสถานภาพเป็นอย่างไรและอยู่ในแนวเขตที่ดินของรัฐทั้งแปลงหรือเนื้อที่เท่าใดและจะเปิดโอกาสให้เจ้าของที่ดินหรือผู้ถือครองกรรมสิทธิ์นำเอกสารมาชี้แจงและนำชี้ด้วยทั้งนี้ผลการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นที่ดินพื้นที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 58 แปลง เนื้อที่ 1706 ไร่ มีลักษณะการใช้ประโยชน์บางส่วนเป็นที่ตั้งฟาร์มเลี้ยงไก่ชื่อ เขาสนฟาร์ม จากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศบริเวณที่ตั้งโรงเลี้ยงไก่เกือบทั้งหมด เดิมอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี พ.ศ.2527 ปัจจุบันกรมป่าไม้ส่งมอบ ส.ป.ก.ประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินเมื่อปี พ.ศ.2554 หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของ ส.ป.ก.ที่จะเข้ามาตรวจสอบต่อด้านสมชาย เปรมพาณิชย์นุกูล ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 ราชบุรี กล่าวว่าผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ส.ป.ก. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เพื่อตรวจสอบที่ดินดังกล่าว ซึ่งการพิสูจน์ที่ดิน ภบท. 5 ต้องให้ผู้ถือครองสิทธิ์มาชี้ขอบเขต ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าผู้ถือครอง ภบท. 5 เป็นชื่อปารีณาหรือชื่อคนอื่น ซึ่งเจ้าของต้องมาแสดงตัว ถ้าปารีณาเป็นเจ้าของจะต้องมาแสดงตัวเพื่อนำชี้แนวเขตทั้ง 85 แปลง เพื่อใช้พิกัดพิสูจน์ว่าพื้นที่ใดเป็น ส.ป.ก.หรือพื้นที่ใดเป็นป่าสงวนแห่งชาติ อย่างไรก็ตามเนื่องจากปารีณา ไปแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ว่าถือครองที่ดิน. ภบท. 5 ต่อ ป.ป.ช. จะใช่คนเดียวกับคนที่ไปเสียภาษีดอกหญ้าหรือไม่ ดังนั้นปารีณาจะต้องมาชี้แจ้งต่อจังหวัดและ ป.ป.ช. ซึ่งหากตรวจสอบพบว่าใน 85 แปลง มีพื้นที่ป่าสงวนรวมอยู่ด้วยก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายวันเดียวกันนี้ โสภณ พรโชคชัยประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส () ได้แถลงด้วยว่าเมื่อตรวจสอบด้วยแผนที่เบื้องต้นเกี่ยวกับแนวป่า ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ() ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับ เขาสนฟาร์ม ได้แก่ (1)เขาสนฟาร์ม อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี (สีเขียวตามแผนที่แนบ) (2) เขาสนฟาร์ม อยู่ในแนวป่าไม้ถาวร ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี (สีม่วงตามแผนที่แนบ) และเขาสนฟาร์ม อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (พื้นที่โปร่งแสง) ดังนั้นในกรณีที่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมนั้น จึงไม่อาจซื้อขายได้ หากไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ ก็ต้องคืน ส.ป.ก.ไปนั่นเองก่อนหน้านี้เมื่อ 31 ต.ค. ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี และประชาชนจาก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ยื่นหนังสือถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรณีขอที่ดิน 500 ไร่ คืนจาก สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดยร้องเรียนว่าเอกสารสิทธิที่ถือครองไม่ใช่ นส.3 ก หรือ นส.3 ปารีณาระบุว่าเป็นตัวแทนชาวบ้าน เนื่องจากที่ดังกล่าวไม่สามารถครอบครองเป็นเจ้าของได้ เพราะเข้าลักษณะป่าชุมชุน แต่กลับพบว่ามีผู้นำไปใช้เพื่อหาประโยชน์ ส่วนสมบูรณ์ ไทยทอง ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวเพิ่มเติมว่า แต่เดิมที่ดินนี้เป็นของสหกรณ์ แต่พบว่าที่ผ่านมาทั้งบริษัทและบุคคลทั่วไปมาซื้อขายกันมาหลายครั้งโดยต่อมาเมื่อวันที่ 5 พ.ย. หลังผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีมีคำสั่งจังหวัดราชบุรี ที่ 4351/2562 แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดินเพื่อจัดสรรเป็นพื้นที่ป่าชุมชน กรณีที่ดินในหมู่บ้านหนองน้ำใส หมู่ 14 ต.รางบัว อ.จอมบึง ซึ่งสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ชี้แจงว่าซื้อต่อมาจากโรงงานน้ำตาลแห่งหนึ่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 โดยซื้อที่ดินมีเนื้อที่กว่า 3000 ไร่ โดยมีหลักฐานเป็นโฉนดที่ดิน นส.3 ก นส.3 นส.2 และ ภบท.5 โดยเอกสารสิทธิที่ดิน นส.3 ก กับ นส.3 มีอยู่ประมาณ 2700-2800 ไร่ นอกนั้นเป็น นส.2 กับ ภบท.5 ซึ่งเป็นเอกสารการจับจอง ประมาณ 300-500 ไร่ซึ่งที่ประชุมของคณะทำงานมีมติให้ดำเนินการจัดตั้งป่าชุมชน ในส่วนของพื้นที่ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี และที่ดินที่มิได้อยู่ในพื้นที่พระราชกฤษฎีกาประกาศเขตปฏิรูปที่ดิน ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ และให้ทางสำนักงานป่าไม้ไปจัดทำระวางรังวัดสอบเขตให้เป็นป่าชุมชนตามระเบียบ 300 ไร่ และให้ทำการตรวจสอบพื้นที่คาบเกี่ยวกับ ส.ป.ก. อีกประมาณ 700 ไร่เศษ เพื่อดำเนินการให้เป็นที่ดินของทางราชการ โดยตัวแทนของสมพรระบุว่ายินดีมอบที่ดิน ในส่วนที่ได้รับการตรวจสอบยืนยันว่าเป็นพื้นที่ของหลวงให้กับทางราชการและหมู่บ้านได้นำไปจัดทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมต่อไป
อธิบดีกรมป่าไม้เตรียมเรียก ปารีณา ไกรคุปต์ ชี้ขอบเขตที่ดินทับซ้อนป่าสงวนหรือไม่ ด้าน ผอ.สำนักจัดการป่าไม้ที่ 10 ระบุเนื่องจากเจ้าตัวแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ว่าครอบครองที่ดิน ภบท.5 จำนวน 1700
การเมือง
ปารีณา ไกรคุปต์,ที่ดิน,ป่าไม้,ราชบุรี,สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ,กรมป่าไม้,เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ,ภาษีดอกหญ้า,โสภณ พรโชคชัย,ส.ป.ก. 4-01
https://prachatai.com/journal/2019/11/85126
ทีซีซี ทุ่มทุน 1.2 แสนล้าน เปิดโครงการ วัน แบงค็อก ใจกลางกรุง
เมื่อวันที่ 3 เม.ย. นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการ บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเปิดตัวโครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok) มูลค่ากว่า 1.2 แสนล้าน ว่า คาดหวังในการเนรมิตโครงการดังกล่าวเสริมสร้างความเชื่อมั่นที่ทั่วโลกมีต่อประเทศไทยในฐานะเมืองที่เป็นศูนย์กลางของอาเซียนและเป็นเมืองแห่งไลฟ์สไตล์ที่สำคัญของเอเชีย รวมทั้งคาดหวังที่จะนำความรุ่งเรืองที่ยิ่งใหญ่มาสู่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้เช่า เจ้าของ หรือพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้น 80.1% กับบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด (เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้) ถือหุ้น 19.9%,ทั้งนี้ วัน แบงค็อก พร้อมเปิดโครงการปี 2564 ประกอบไปด้วยอาคารสำนักงานที่ล้ำยุค โรงแรมหรูที่มุ่งเน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ร้านค้าและพื้นที่ทำกิจกรรม มีเอกลักษณ์แตกต่างแต่ผสมผสานกันอย่างลงตัว มีที่พักอาศัยระดับอัลตราลักชัวรี่ พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจมากมายหลายรูปแบบเพื่อการใช้ชีวิตของผู้คน พื้นที่ศิลปะและวัฒนธรรม รวมไปถึงพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งขนาดรวมกัน 50 ไร่ จะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2568 จะมีพื้นอาคารรวม ทั้งหมด 1.83 ล้านตารางเมตร โดยโครงการตั้งอยู่บนที่ดินเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในทำเลทองพื้นที่ 104 ไร่ บริเวณหัวมุมถนนวิทยุตัดกับถนนพระราม 4 ติดกับสวนลุมพินี เชื่อมต่อโดยตรงกับระบบขนส่งมวลชน,นอกจากนี้ โครงการมุ่งเน้นให้ความสำคัญใน 3 แนวคิดหลักคือ แนวคิดเรื่องคนเป็นศูนย์กลาง (People-centric) ความยั่งยืน ด้านสิ่งแวดล้อม (Green sustainability) และการใช้ชีวิตเมืองอย่างชาญฉลาด (Smart city living) และสะท้อนความหลากหลายที่เปี่ยมไปด้วยสีสันและมรดกทางวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ของกรุงเทพฯ.
ทีซีซี ทุ่มทุนกว่า 1.2 แสนล้าน เปิดโครงการ วัน แบงค็อก ใจกลางกรุงย่านสวนลุม พลิกโฉมเป็นเมืองแห่งความครบครัน ก้าวเป็นแลนด์มาร์กระดับโลก บนพื้นที่ 104 ไร่ มีเอกลักษณ์แตกต่าง ผสมผสานกันอย่างลงตัว
ข่าว,เศรษฐกิจ
วัน แบงค็อก,One Bangkok,เสี่ยเจริญ,ทีซีซี แอสเซ็ท,สวนลุมพินี
https://www.thairath.co.th/news/business/realestate/903791
ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานส่งชาวไทยมุสลิมไปประกอบพิธีฮัจญ์ปี 62
เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2562 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีส่งและอำนวยพรผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ประจำปี 2562 ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม 2562 โดยมี ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง ผู้แทนจุฬาราชมนตรี ผู้แทนอุปทูตซาอุดีอาระเบีย ผู้แทนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าร่วมพิธี โดยมีนายชาติชาย อุทัยพันธ์ุ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นผู้กล่าวรายงานในการจัดงาน บริเวณประตู 10 ชั้น 4 อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ,กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองได้จัดพิธีส่งและอำนวยพรผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ประจำปี 2562 (ฮ.ศ.1440) ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม 2562 โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จัดพิธีขึ้น เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้เดินทางไปแสวงบุญประกอบพิธีฮัจญ์ โดยคาดว่าจะมีชาวไทยมุสลิมเดินทางออกจากประเทศไทย เพื่อไปประกอบพิธีฮัจญ์,ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ผ่านทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประมาณ 1,935 คน โดยมีสายการบินไทย และสายการบินซาอุดีอาระเบียแอร์ไลน์ ให้บริการเที่ยวบินพิเศษไปยังประเทศซาอุดีอาระเบียจำนวน 7 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขากลับอีก 7 เที่ยวบิน,ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้เดินทางไปแสวงบุญได้รับความสะดวกรวดเร็วในการใช้บริการ ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้จัดเจ้าหน้าที่ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการตรวจค้นร่างกาย และสัมภาระข้อห้ามในการนำของเหลว เจล สเปรย์ขึ้นเครื่อง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ที่บริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 9,นอกจากนั้นยังได้มีการประสานงานการทำงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสายการบิน, บก.ตม.2 และศุลกากรตรวจของผู้โดยสาร และด่านควบคุมโรค โดยมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้แสวงบุญ รวมถึงได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ไว้รองรับผู้เดินทางไปแสวงบุญให้พร้อมใช้งาน อาทิ ห้องละหมาดจำนวน 3 ห้องบริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสารและภายในอาคารเทียบเครื่องบิน E ชั้น 3 และอาคารเทียบเครื่องบิน C ชั้น 2 พื้นที่พักคอยมีป้ายข้อความแนะนำเส้นทาง ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง
ปลัด มท.เป็นประธานในพิธีส่ง พี่น้องชาวไทยมุสลิมที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ข่าว,ทั่วไทย
ฉัตรชัย พรหมเลิศ,ชาวไทยมุสลิม,ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ,ซาอุดีอาระเบีย,ฮัจญ์,ประกอบพิธีฮัจญ์,พิธีฮัจญ์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1621075
ยืนยัน ศึกไทยลีก 2018 ตกชั้น 5 ทีม ฤดูกาล 2019 แข่ง 16 ทีม
วันที่ 11 ม.ค. 61 หลังจากก่อนหน้านี้ ยังไม่มีความแน่นอนในเรื่องของการตกชั้นของทีมในการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2018 ล่าสุด ในที่ประชุมสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เห็นชอบแล้วว่า ในฤดูกาลใหม่ 2018 ที่จะเปิดฉากขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 จะมีการตกชั้นรวม 5 ทีมด้วยกัน ทำให้ศึกโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2019 จะเหลือ 16 ทีมในสูงสุด,ด้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การลดทีมลงไปนั้น จะช่วยให้โปรแกรมการแข่งขันน้อยลง และจากการส่งแบบสอบถามในเรื่องของการลดทีมในไทยลีก 1 มีเพียง 5 สโมสรเท่านั้นที่ต้องการให้คง 18 ทีมไว้ดังเดิม ส่วนทีมในไทยลีก 2-4 ทางสมาคมฯจะหาทางเลือกให้ดีที่สุดภายใต้กฎระเบียบข้อบังคับของฟีฟ่า,ทั้งนี้ มีรายข่าวด้วยว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลฯจะนำเทคโนโลยี VAR (Video Assistant Refrees) หรือ วิดีโอช่วยตัดสิน มาใช้เพื่อศึกษาข้อดีข้อเสียในการแข่งขันศึกแชมเปียนคัพ ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ เชียงราย ยูไนเต็ด ในวันศุกร์ที่ 19 มกราคมนี้,สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2018 จะเริ่มแข่งนัดแรก วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ โดยในฤดูกาลนี้มี 18 ทีม ตกชั้น 5 ทีม และเลื่อนชั้นมาจากไทยลีก 2 รวม 3 ทีม จะทำให้ศึกโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2019 มีทั้งหมด 16 ทีม
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีมติให้การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2018 จะมีตกชั้น 5 ทีม ส่งผลให้ฤดูกาล 2019 จะมีทีมในลีก 16 ทีมเท่านั้น
กีฬา,ฟุตบอลไทย
โตโยต้า ไทยลีก,ตกชั้น 5 ทีม,สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย,สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง,ไทยลีก
https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/1174877
ต้อนรับนายใหม่ หงส์แดง บุกแบ่งแต้ม ไก่ 0-0
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2015-16 เมื่อวันที่ 17 ต.ค. เกมไฮไลต์ของวันนี้ สนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมอันดับที่ 9 ของตาราง เปิดบ้านรับการมาเยือนของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 10 ของตาราง,เกมนี้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน เทรนเนอร์ สเปอร์ส ได้ แดนนี โรส กลับมาประจำการเกมรับ มี แฮร์รี เคน เป็นหัวหอก นาเซอร์ ชาดลีย์, คริสเตียน เอริคเซน และ เอริค ลาเมลา สนับสนุนเกมรุก,ด้าน ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของกุนซือคนใหม่ เจอร์เกนน์ คล็อปป์ มีปัญหาเรื่องการจัดทีมโดยเฉพาะผู้เล่นตัวรุก ที่เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน โดยเกมนี้ส่ง ดิวอค โอริกี ลงยืนหน้าเป้า มี เจมส์ มิลเนอร์, ฟิลิปเป คูตินโญ และ อดัม ลัลลานา คุมแดนกลาง,เปิดเกมมาเป็น ลิเวอร์พูล ที่โชว์ความดุดัน ขึงเกมรุกเข้าใส่ตามสไตล์ของกุนซือคนใหม่ จนเกือบมีเฮตั้งแต่นาทีที่ 9 จากจังหวะที่ เจมส์ มิลเนอร์ เปิดเตะมุมฝั่งขวาเข้ากรอบเขตโทษ เอ็มเร ชาน โหม่งตั้งไปที่เสาสองเข้าทาง ดิวอค โอริกี ขวิดซ้ำไปชนคาน ก่อนจะโดนเคลียร์ทิ้งออกมา,น.11 สเปอร์ส ต้องใช้สิทธิ์เปลี่ยนตัวตั้งแต่หัววัน หลัง นาเซอร์ ชาดลีย์ มีอาการบาดเจ็บต้องให้ คลินตัน เอ็นจี ลงมาเล่นแทน ขณะที่รูปเกมยังเป็นผู้มาเยือนที่ทำได้ดีกว่า,จนกระทั่ง น.28 ฝั่งเจ้าถิ่นมีลุ้นบ้างหลัง แฮร์รี เคน ตัดบอลจาก อดัม ลัลลานา ก่อนจะลากจี้จ่ายเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ คลินตัน เอ็นจี สอดตามไปยิงติดปลายมือ ซิมง มิโญเลต์ เฉียดเสาสองออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย,น้ำหนักเกมเริ่มเทมาทาง สเปอร์ส จนมาได้โอกาสทองใน น.36 นาเซอร์ ชาดลีย์ จ่ายทะลุช่องให้ แฮร์รี เคน หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะซัดติด มิโญเลต์ ลูกวิ่งมาเข้าทาง เดเล อาลี หวดซ้ำ โดน มามาดู ซาโก ป้องกันเอาไว้ได้อีก,น.40 เจ้าบ้านมีลุ้นอีกที จากลูกยิงนอกเขตโทษของ เอ็นจี แต่ลูกไม่เป็นใจเหินข้ามคานไปนิดเดียว ขณะที่อีก 2 นาทีต่อมา ทีมเยือนได้ลองบ้างจากลูกสวนกลับ เป็น ฟิลิปเป คูตินโญ ที่ยิงจากนอกกรอบแต่เข้าซอง อูโก โยริส หลังจากนั้นก็ยังไม่มีประตูเกิดขึ้น จบครึ่งแรก ทอตแนม ฮอตสเปอร์ เสมอกับ ลิเวอร์พูล อยู่ ,0-0,กลับมาต่อในครึ่งหลังแนวรุก ไก่เดือยทอง ยังสร้างความปั่นป่วนให้กับทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง จนมีโอกาสได้ลองใน น.55 คริสเตียน เอริคเซน จ่ายให้ ไคลน์ วอล์คเกอร์ ยิงนอกกรอบเขตโทษแต่ตรงตัว มิโญเลต์,การครองบอลของทั้งสองทีมค่อนข้างสูสี แต่เป็น สเปอร์ส ที่ทำเกมรุกได้น้ำได้เนื้อมากกว่า เหลือแค่จังหวะสุดท้ายที่ยังไม่เด็ดขาด จนมาถึง น.78 หงส์แดง ได้ลุ้นบ้างจากเกมสวนกลับ โอริกี พาบอลจี้เข้าไปในเขตโทษทางซ้าย ดึงหลอกหนึ่งจังหวะ ก่อนจะซัดแต่ไม่พ้นมือ โยริส,น.84 สเปอร์ส เกือบเฮ คริสเตียน เอริคเซน พาบอลจี้เข้าเขตโทษทางซ้าย ก่อนจะไหลตัดไปกลางให้ แฮร์รี เคน วิ่งมาหวดเต็มข้อบอลเลียดพื้นเจอ มิโญเลต์ ปัดทิ้งข้างออกไป,ในช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม ทอตแนม ฮอตสเปอร์ เปิดบ้านเสมอกับ ลิเวอร์พูล ,0-0, แบ่งแต้มกันไป สเปอร์ส มี 14 คะแนนอยู่อันดับ 7 ส่วน ลิเวอร์พูล มี 13 คะแนนอยู่อันดับ 9.,รายชื่อ 11 ตัวจริง,ทอตแนม สเปอร์ส :, อูโก โยริส,ไคลน์ วอล์คเกอร์, แดนนี โรส, โทบี อัลเดอร์ไวเรอร์ด, แยน แฟร์ตองเกน, เอริค ลาเมลา, มุสซา เดมเบเล, เดเล อาลี, นาเซอร์ ชาดลีย์, คริสเตียน เอริคเซน, แฮร์รี เคน,ลิเวอร์พูล :, ซิมง มิโญเลต์, นาธาเนียล ไคลน์, มามาดู ซาโก, อัลเบอร์โต โมเรโน, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมส์ มิลเนอร์, ฟิลิปเป คูตินโญ, อดัม ลัลลานา, ลูคัส เลวา, เอมเร ชาน, ดิวอค โอริกี
เจอร์เกนน์ คล็อปป์ กุนซือคนใหม่ของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล เริ่มงานคุมทีมในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก ด้วยการนำทัพบุกไปเสมอ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ 0-0
null
พรีเมียร์ลีก,อังกฤษ,ฤดูกาล 2015-16,หงส์แดง,ลิเวอร์พูล,ไก่เดือยทอง,ทอตแนม ฮอตสเปอร์,ผลบอล,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/533035
พิษโควิด-19 ลามถึงพระเณรลำบาก กระทบวัดเล็กๆ ไร้คนทำบุญไม่มีกิจนิมนต์
เมื่อวันที่ 22 เม.ย.63 พระครูพิพิธวัฒโกวิท เจ้าอาวาสวัดทุ่งพร้าว ต.ม่วงคำ อ.พราน จ.เชียงราย ในฐานะตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอพาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ไม่เพียงประชาชนเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต พระภิกษุสามเณรวัดต่างๆ ก็พลอยได้รับความเดือดร้อนแทบทุกวัด โดยเฉพาะวัดเล็กๆ ตามหมู่บ้านชนบท เนื่องจากวัดเล็กๆ เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่มีพระภิกษุ สามเณร ที่กำลังเรียนทั้งทางโลกและทางธรรม เมื่อไม่มีกิจนิมนต์พิธีกรรมทางสงฆ์ ประชาชนยากจน ลดการทำบุญกุศล ก็มีผลกระทบต่อวัดเล็กๆเจ้าคณะอำเภอพาน กล่าวต่อว่า ด้วยพระราชดำริของสมเด็จพระสังฆราช เห็นควรจัดตั้งโรงทาน มอบสิ่งของ หรือมอบปัจจัยเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ เพราะถือว่าเป็นศาสนกิจอย่างหนึ่งของพระสงฆ์ที่พึงกระทำ ที่เรียกว่าการสาธารณสงเคราะห์ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามทุกข์ยากลำบากจึงบัญชาให้เจ้าคณะตำบลสำรวจ พิจารณาคัดเลือกวัดในเขตปกครองตำบลละ 1 วัด ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เข้ารับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากกองทุนบุญนิธิพิพิธพัฒนโกวิท วัดละ 2000 บาท จำนวน 21 วัด เป็นเงินทั้งสิ้น 42000 บาท และหน้ากากอนามัยแบบผ้าให้พระสงฆ์ ใช้ประกอบกิจกรรมศาสนาพิธีพระครูพิพิธวัฒโกวิท กล่าวด้วยว่า แม้จะเป็นเงินจำนวนไม่มาก แต่ก็ได้บรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นไปก่อน.
พิษโควิด-19 เบียดเบียนพระเณร วัดเล็กๆ ใน อ.พาน จ.เชียงราย จนเดือดร้อนหลังชาวบ้านลำบาก ยากจนไม่มาทำบุญ ไม่มีกิจนิมนต์ให้กับพระสงฆ์ ล่าสุด เจ้าคณะอำเภอพาน เร่งมอบปัจจัยเยียวยาเบื้องต้น
ข่าว,ทั่วไทย
โควิด-19,เจ้าคณะอำเภอพาน,อ.พาน,เชียงราย,คนไม่ทำบุญ,พระเดือดร้อน,พระครูพิพิธวัฒโกวิท,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1827231
เจ้าชายวิลเลม อเล็กซานเดอร์ ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ใหม่ของเนเธอร์แลนด์แล้ว
สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ทรงลงพระนามในเอกสารสละราชสมบัติ หลังทรงครองราชย์มานาน 33 ปี ส่งผลให้เจ้าชายวิลเลม อเล็กซานเดอร์ มกุฏราชกุมารซึ่งเป็นพระราชโอรสองค์โตได้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระประมุข องค์ใหม่ และเจ้าหญิงแมกซิม่า ทรงเป็นพระราชินี จากนั้นทั้ง 3 พระองค์พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จออก ณ สีหบัญชรของพระราชวังในกรุงอัมเตอร์ดัมส์โดยมีประชาชนประมาณ 25000 คน รอชื่นชมพระบารมี และในเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นหรือ 19.00 น. ตามเวลาในไทย เจ้าชาววิลเลมจะเสด็จไปในการพระราชพิธีราชาภิเษก ทรงขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ใหม่ของเนเธอร์แลนด์และเป็นกษัตริย์องค์แรกนับตั้งแต่ปี 2433 นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเป็นประมุขที่มีพระชนมายุน้อยที่สุดในราชวงศ์ยุโรปอีกด้วย ทั้งนี้ พระราชธิดาองค์โตของเจ้าชาววิลเลมและเจ้าหญิงแมกซิม่า คือ เจ้าหญิงแคทธาริน่า อเมเลีย จะทรงขึ้นเป็นมกุฏราชกุมารี ชาวเนเธอร์แลนด์ต่างตื่นเต้นกับพระราชพิธีในครั้งนี้ หลายคนไปจับจองพื้นที่หน้าพระราชวังในกรุงอัมเตอร์ดัมส์ตั้งแต่เช้ามืด เพื่อหาทำเลที่ดีที่สุดที่มองเห็นพระบรมวงศานุวงศ์ได้อย่างชัดเจน ทางการเนเธอร์แลนด์ได้จัดกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบนับหมื่นนายคอยดูแลความปลอดภัยทั่วเมืองหลวง นอกจากนี้ยังมีตำรวจในเครื่องแบบอีก 3000 นายและข้าราชการอีกจำนวนหนึ่งที่ดูแลเรื่องเส้นทางจราจร ขณะที่ บรรยากาศในกรุงอัมเตอร์ดัมส์มีการประดับประดาด้วยธงชาติและเครื่องตกแต่งที่เน้นสีส้ม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งราชวงศ์เนเธอร์แลนด์ ทั้งนี้ผลการสำรวจความเห็นของชาวเนเธอร์แลนด์ซึ่งจัดทำโดยสถานีโทรทัศน์แห่งชาติเอ็นโอเอส พบว่าความนิยมในตัวเจ้าชายวิลเลมเพิ่มสูงขึ้น สาเหตุที่ประชาชนส่วนใหญ่ชื่นชอบพระองค์ เนื่องจากทรงมีพระอิริยาบทที่ผ่อนคลายและทรงมีความเชื่อมั่นในการประทานสัมภาษณ์แก่สถานีโทรทัศน์แห่งชาติเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้เจ้าหญิงแมกซิม่า พระชายาในเจ้าชายวิลเลมซึ่งเป็นชาวอาร์เจนติน่า ยังมีส่วนช่วยให้ความนิยมในตัวเจ้าชายเพิ่มขึ้นอีกด้วย เนื่องจากทรงปรับพระองค์เข้ากับวัฒนธรรมของเนเธอร์แลนด์ได้เป็นอย่างดี
สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์แห่งราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ทรงสละราชสมบัติเรียบร้อยแล้ว โดยค่ำวันนี้ (30เม.ย.56) เจ้าชายวิลเลม อเล็กซานเดอร์ มกุฏราชกุมารจะเสด็จไปในการพระราชพิธีราชาภิเษก ทรงขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ใหม่ของเนเธอร์แลนด์ และทรงเป็นกษัตริย์พระองค์แรกในรอบกว่า 120 ปี
ต่างประเทศ
เจ้าชายวิลเลม อเล็กซานเดอร์,เนเธอร์แลนด์
https://news.thaipbs.or.th/content/166213
ชาวเชียงใหม่รวมตัวแฟลชม็อบพร้อมกรุงเทพฯ ชูป้าย หยุดทำร้ายธนาธร
ชาวเชียงใหม่ รวมตัวแฟลชม็อบที่ประตูท่าแพพร้อมกรุงเทพฯ ชูป้าย หยุดทำร้ายธนาธร ท่ามกลางการรักษาความสงบเรียบร้อยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจำนวนมาก14 ธ.ค. 2562 รายงานว่าเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 14 ธันวาคม ที่ลานเอนกประสงค์ประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีกลุ่มประชาชนชาวเชียงใหม่เดินทางมาร่วมกิจกรรมชุมนุมระยะสั้นหรือแฟลซม็อบ ที่ใช้ชื่อว่า เมื่อเสียงที่พวกเราเลือกเข้าสภาไม่มีค่า ได้เวลาประชาชนออกมาส่งเสียงด้วยตัวเอง เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นหลังจากที่วานนี้ (13 ธ.ค.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ออกมาประกาศผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุจะจัดกิจกรรมนัดชุมนุมระยะสั้น หรือฟลซม็อบ ซึ่งการชุมนุมครั้งนี้ เกิดจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีมติส่งเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ ในคดีกู้ยืมเงินจำนวน 191 ล้านบาท โดยมีการติดแฮชแท็ก #กลัวที่ไหนสำหรับที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น หลังจากที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โพสต์เฟสบุ๊คจัดกิจกรรม ทางสมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค นัดประชาชนออกแสดงพลังร่วมแคมเปญชุมนุมของนายธานธร ที่ข่วงประตูท่าแพ เชียงใหม่ ในวันที่ 14 ธ.ค. เวลา 17.00-18.00 น. ล่าสุดวันนี้ (14 ธ.ค.) ได้ออกมาโพสต์เชิญชวนเพิ่มเติม โดยระบุข้อความ ร่วมแสดงพลัง ประกาศจุดยืน ว่ามิยอมจำนนต่อความอยุติธรรม มาร่วมทวงคืนความเป็นธรรมร่วมทวงคืนประชาธิปไตยแล้วพบกัน วันนี้ (14 ธ.ค.) เวลา 17.00 น. ณ ข่วงประตูท่าแพ #ก็มาดิค้าบ #กลัวที่ไหนบรรยากาศที่ลานเอนกประสงค์ประตูท่าแพ มีประชาชนออกมารวมตัวในกิจกรรมเมื่อเสียงที่พวกเราเลือกเข้าสภาไม่มีค่า ได้เวลาประชาชนออกมาส่งเสียงด้วยตัวเอง โดยออกมาสนับสนุนแนวคิดของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบมารักษาความสงบเรียบร้อยโดยมีการประกาศเชิญชวนให้เขียนข้อความเป็นกำลังใจให้นายธนาธร และเขียนขอความสนับสนุนแนวคิดของนายธนาธร โดยกิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น. นอกจากมีกิจกรรมเขียนป้ายแล้วยังมีการชูป้ายไวนิลระบุข้อความเราจะเดินไปด้วยกัๅนและหยุดทำร้ายธนาธร พร้อมกับชู 3 นิ้วเป็นสัญลักษณ์แสดงการต่อต้านรัฐประหารพร้อมตะโกนไล่ กกต.ออกไป ก่อนจะสลายตัวกันในเวลา 18.00 น.โดยมีนายพีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงรายบ เขต 6 พรรคอนาคตใหม่ และนายจุลพันธ์ โนนศรีชัย ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 50 พรรคอนาคตใหม่ มาร่วมให้กำลังใจที่ประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ไม่ปรากฏตัว น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคอนาคตใหม่นายพีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย เขต 6 พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่าวันนี้มารวมตัวกันเพื่อแสดงจุดยืนบนความถูกต้อง ซึ่งวันนี้เป็นการรวมตัวครั้งแรก หลังจากนี้จะเป็นมติพรรคว่าจะมีการรวมตัวอีกหรือไม่ สำหรับกิจกรรมในวันนี้ จัดพร้อมกันทั่วประเทศสำหรับกิจกรรมครั้งนี้ที่ไม่ปรากฏตัว น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากมติพรรคให้ยุติร่วมกิจกรรมที่พรรคจัดขึ้นเป็นเวลา 3 เดือน แต่ยังคงทำหน้าที่ ส.ส. ในสภาเหมือนเดิม หลังจากนั้นพรรคจะพิจารณาร่วมกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ชาวเชียงใหม่ รวมตัวแฟลชม็อบที่ประตูท่าแพพร้อมกรุงเทพฯ ชูป้าย หยุดทำร้ายธนาธร ท่ามกลางการรักษาความสงบเรียบร้อยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจำนวนมากภาพโดย: Pornpit Puckmai14 ธ.ค. 2562
การเมือง
เชียงใหม่,พรรคอนาคตใหม่
https://prachatai.com/journal/2019/12/85544
วินาทีกระบะพุ่งเข้าร้านริมถนนตัวเมืองกระบี่ ชนเด็ก 4 ขวบ รอดปฏิหาริย์ (คลิป)

เมื่อวันที่ 1 ต.ค. เกิดเหตุรถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็คซ์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บฉ 9190 กระบี่ มีนายปณีธาน งามประดับ อายุ 27 ปี ชาวต.คลองหิน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เป็นผู้ขับ ซึ่งเกิดอาการวูบหลับพุ่งเข้าชนห้างตุ๊กเอ็กซ์ ริมถนนมหาราช ฝั่งเข้าเมืองกระบี่ โดยได้ชนเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ได้รับบาดเจ็บ และยังเฉี่ยวแม่ของเด็ก จนกระเด็นหงาย ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพได้บางส่วนขณะเกิดเหตุ จากนั้น พ.ต.ต.โสภณ คงทองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองกระบี่ ไดไปตรวจสอบ พบสภาพด้านหน้ารถพังยับ สินค้ากระจัดกระจายเกลื่อนถนน โดยคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส กู้ภัยเข้าช่วยเหลือนำส่ง รพ.กระบี่ นอกจากนี้ ยังชนกำแพงห้างทะลุไปชนรถยนต์ยี่ห้อ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ สีดำ ทะเบียน กษ 6445 ภูเก็ต ที่จอดอยู่ข้างกำแพงเสียหายไป 1 คัน ,ด้านนางอริญา ทองเกียรติ อายุ 29 ปี แม่ของเด็ก เล่าว่า ตนและคนงาน 7 คน กำลังเตรียมสินค้าจัดวางอยู่หน้าห้าง กระทั่งมีรถกระบะคันดังกล่าวเสียหลักพุ่งชนเสาหน้าห้างจนหัก และพุ่งตรงเข้ามาหาตนและลูกอย่างรวดเร็ว โดยพุ่งเข้าชนและทับร่างลูกวัย 4 ขวบ ที่นั่งเล่นรถมอเตอร์ไซค์เด็กเล่นจนขาดสองท่อน ส่วนตนพอตั้งสติได้ รีบลุกขึ้นตะโกนเรียกหาลูก ก่อนมุดไปใต้ท้องรถนำลูกออกมานำส่งรพ.กระบี่ แต่โชคดีลูกไม่เป็นอะไรมาก แค่คิ้วแตกแขนขาถลอก คาดบารมีหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ที่ห้อยคอลูกอยู่ คุ้มกันภัยไว้

,สอบสวนทราบว่า นายปณีธาน ซึ่งเป็นคนขับ มีอาชีพรับเหมาติดตั้งกล้องวงจรปิด กำลังมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองกระบี่ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ เกิดอาการวูบหลับ จนรถเสียการควบคุมก่อนพุ่งเข้าชนห้างดังกล่าวได้รับความเสียหาย คาดเกิดจากอาการเพลียเนื่องจากช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีงานต่อเนื่อง คงพักผ่อนน้อย และเกิดอาการวูบหลับขณะขับรถ จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว 

,เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เชิญคนขับรถกระบะมาสอบปากคำเพิ่มเติม ขณะเจ้าของห้างได้รวบรวมพยานหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิด และสรุปความเสียหายไว้เป็นหลักฐานเข้าแจ้งความ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
วงจรปิดจับภาพนาทีเป็นนาทีตาย กระบะเสียหลักพุ่งเข้าร้านค้า ริมถนนฝั่งเข้าตัวเมืองกระบี่ ไถลชนเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ติดใต้ท้องรถ แต่รอดตายปฏิหาริย์ คาดบารมีหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ ส่วนแม่เด็กโดนเฉี่ยวหงายหลัง
ข่าว,ทั่วไทย
กระบะพุ่งชนร้านริมถนน,กระบะพุ่งชนห้างตุ๊กเฮ็ก,กระบะพุ่งเข้าห้างชนเด็ก 4 ขวบ,วงจรปิดจับภาพกระบะชนห้าง,ห้างตุ๊กเอ็กซ์,ข่าวเหตุ
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1086669
เช็กวงจรปิดล่า คนร้ายบุกเดี่ยว จี้ร้านแลกเงิน ธ.ออมสิน ได้ไป6หมื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 16 ต.ค.62 พ.ต.ท.เอกลักษณ์ สิริยศโสภณ สว.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ ที่ร้านแลกเปลี่ยนเงินตรา ธนาคารออมสิน สาขาพร้อมพงษ์ เลขที่ 659 ข้างห้างเอ็มควอเทียร์ ตรงข้ามซอยสุขุมวิท 24 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชารับทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก. ,พ.ต.ท.กฤษฎาพร จงอักษร รอง ผกก.ป. ,พ.ต.ท.พงศ์ดนัย วิมุกติบุตร รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ,ที่เกิดเหตุเป็นอาคารชั้นเดียว เปิดกิจการเป็นร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราของธนาคารออมสิน ริมถนนสุขุมวิท ฝั่งขาออก และติดกับสะพานลอยคนข้าม เมื่อหันหน้าเข้าร้านดังกล่าว ด้านนอกฝั่งซ้าย มีตู้อัตโนมัติ รับฝากถอนเงินสด 2 ตู้ และตู้อัพเดตสมุดบัญชี 1 ตู้ และฝั่งขวา เป็นประตูกระจกใสทางเข้าออก มีจอแสดงแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เมื่อเดินเข้าประตูเพียงไม่กี่ก้าว จะเจอจุดแลกเปลี่ยนเงิน ซึ่งเป็นโต๊ะทำงาน พบพนักงานหญิง 1 คน ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่อยู่ในอาการตกใจ,สอบสวนเบื้องต้นพนักงานหญิง ให้การว่า ที่นี้เปิดเป็นจุดแลกเปลี่ยนเงินตรา หากจะฝากถอนเงินหรืออัพเดตสมุดบัญชี ต้องใช้บริการที่ตู้อัตโนมัติด้านนอก,ก่อนเกิดเหตุ มีพนักงานเพียงคนเดียว ไม่มี รปภ. โดยคนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติ 1 คน ลักษณะคล้ายแขกขาว อายุประมาณ 40 - 45 ปี สูง รูปร่างสันทัด ผิวขาว สูง 170 ซม. สวมหมวกแก๊ปสีน้ำตาล ใส่แว่นกันแดด หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า สวมเสื้อยืดสีฟ้าอ่อน กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน สะพายเป้สีดำ เดินเข้ามาเหมือนลูกค้าปกติ ใช้ภาษาอังกฤษ สอบถามอัตตราแลกเปลี่ยน ก่อนใช้อาวุธมีดปลายแหลม คล้ายมีดปอกผลไม้ จี้บังคับพยายามจะให้เปิดตู้เซฟ แต่พนักงานขัดขืน คนร้ายจึงเดินมาหยิบเงิน ซึ่งเป็นสกุลเงินไทย เงิน US และเงินเยนญี่ปุ่น รวมมูลค่ากว่า 6 หมื่นบาท จากนั้นวิ่งหลบหนีไปขึ้นวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างหน้าห้าง ไปลงแถวสีลมซอย 4 และหายไป,จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบคนร้ายเข้ามาในร้านประมาณ 14.52 น. สวมหมวก แว่นตา หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า สวมเสื้อยืดสีฟ้าอ่อน กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน สะพายเป้ ก่อนตรงมาโต๊ะที่มีพนักงานให้บริการ ทำทีสอบถามและก่อเหตุใช้เวลาก่อเหตุอยู่ในร้านเกือบ 2 นาที ก่อนหลบหนีไป ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบกล้องวงจรปิด และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.
ตำรวจ สน.ทองหล่อ เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไล่ล่าโจรชาวต่างชาติ ใช้มีดปลายแหลม จี้ร้านแลกเปลี่ยนเงินตรา ธนาคารออมสิน สาขาพร้อมพงษ์ ได้ไปกว่า 6 หมื่นบาท หลบหนีลอยนวล
ข่าว,อาชญากรรม
จี้ชิงเงิน,จี้ร้านแลกเงิน,จี้ชิงทรัพย์,คนร้ายบุกเดี่ยว,สน.ทองหล่อ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1683981
ออโรร่าลุยออนไลน์ รับรางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมอันดับ 1 บนโลกโซเชียล
ผู้บริหารปลื้ม เผยร้านทองแท้ออโรร่าได้รับรางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมอันดับ 1 บนโลกโซเชียลในหมวดหมู่ธุรกิจทองคำและอัญมณี ประกาศความเป็นผู้นำตลาดออนไลน์นายอนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด ผู้ทำธุรกิจร้านทองออโรร่า กล่าวว่า เข้ารับรางวัลแบรนด์ที่ทำผลงานบนโซเชียลมีเดียยอดเยี่ยมในหมวดหมู่ธุรกิจทองคำและอัญมณี จากบริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลมีเดีย ในงานไทยแลนด์โซเชียลอวอร์ด 2020 ครั้งที่ 8 ด้วยกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ของร้านทองแท้ออโรร่าตอบทุกโจทย์ลูกค้าบนโลกออนไลน์ยุคดิจิตอล ผ่านโซเชียลมีเดียของออโรร่า ไม่ว่าทางเฟซบุ๊ก Aurora Gold and Jewelry อินสตาแกรม ยูทูบและเว็บไซต์ www.aurora.co.th ที่พร้อมปรับเปลี่ยนเนื้อหาและนำเสนอให้ตรงใจกลุ่มลูกค้ามากที่สุด ทั้งคอนเทนต์และสินค้าส่งผลให้เป็นร้านค้าทองอันดับ 1 บนโลกออนไลน์ การันตีด้วยรางวัลแบรนด์ที่ทำยอดขายยอดเยี่ยมอันดับ 1 จาก Lazada และ Shopee ประจำปี 2019ทั้งนี้ ออโรร่าได้ใช้ Big Data ในโลกโซเชียลมาวิเคราะห์และตอบสนองเพื่อนำเสนอสินค้าอย่างตรงกลุ่ม สอดรับทุก Micro Moment ของลูกค้า เรียกได้ว่า เป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่นำข้อมูลลูกค้ามานำเสนอสินค้าแบบ Hyper-Personalized ทองคำและเครื่องประดับเพชรทองจากออโรร่า จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางของกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะซื้อเพื่อลงทุน ซื้อเพื่อเป็นของขวัญ หรือซื้อเพื่อใช้เอง โดยพร้อมตอบกลับลูกค้าในทุกปฏิสัมพันธ์ทันที มีอัตราการตอบสนอง 100%นายอนิพัทย์ กล่าวต่อว่า ภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับรางวัลที่ได้รับ ถือเป็นอีกหนึ่งรางวัลทำให้ออโรร่าก้าวเหนือกว่าคู่แข่งในทุกด้าน ทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์ เรียกได้ว่า เป็นผู้นำอันดับ 1 ตัวจริง นอกจากนั้น ปีที่ผ่านมา เพิ่งได้รับรางวัลการันตีรางวัลแบรนด์ระดับโลก Brand of The Year จาก World Branding Award ปี 2017-2019 จากประเทศอังกฤษถึง 3 ปีซ้อน พร้อมรางวัลระดับประเทศ เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่สุด Thailand Top Company Award 2019 สาขา Most Trusted Brand Award ลูกค้าทุกคนจึงมั่นใจได้ในมาตรฐาน คุณภาพและความเชื่อมั่นระดับโลก โดยออกใบรับประกันสินค้าให้ลูกค้า 3 ใบ การันตีคุณภาพทองคำแท้ การันตีราคารับซื้อคืนสูงสุด พร้อมให้บริการล้าง ต่อ ซ่อม ฟรีตลอดอายุการใช้งานภายใต้คอนเซปต์ออโรร่าแคร์ (Aurora Care) ซึ่งลูกค้าทุกท่านจะได้รับเมื่อซื้อสินค้าที่สาขาร้านทองแท้ออโรร่า กว่า 200 สาขาทั่วประเทศตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และทางออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์มสำหรับเมตริกที่ไวซ์ไซท์ใช้ในการตัดสินรางวัลด้านแบรนด์ปีนี้ มีทั้งหมด 3 แกนด้วยกัน คือ Brand Growth นอกจากจะดูที่จำนวนผู้ติดตามและปฏิสัมพันธ์จากผู้ติดตามในทุกช่องทาง ยังดู intention หรือคอมเมนต์คุณภาพ ซึ่งจะใช้ AI ในการประมวลผล ดูจากแกน Recommendations หรือการแนะนำคนอื่นเช่นการแท็กเพื่อนในโพสต์ Consumer Satisfactions หรือความพึงพอใจของผู้บริโภค ซึ่งจะดูจากความรู้สึก อัตราการตอบสนอง และระยะเวลาในการตอบสนอง รวมทั้งแกน Innovation คือ การเปิดเทคนิคใหม่ๆ ให้แบรนด์อื่นๆ ได้ทำตาม โดยในส่วนนี้จะใช้การคัดเลือกมาแล้วให้เมนทอร์เป็นผู้ตัดสิน ปีนี้มีเมนทอร์มากที่สุด ครบทั้งจากฝั่งมีเดีย เอเจนซี่ บันเทิง วิชาการ ซึ่งจะมาช่วยให้การวัดผลมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังอาศัยดาต้าที่กว้างและครอบคลุมที่สุด ไม่ใช่พิจารณาแค่ยอดไลค์ คอมเมนต์ หรือยอดแชร์อย่างเช่นในปีก่อนๆ ซึ่งจะสะท้อนความเป็นจริงมากขึ้น
ผู้บริหารปลื้ม เผยร้านทองแท้ออโรร่าได้รับรางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมอันดับ 1 บนโลกโซเชียลในหมวดหมู่ธุรกิจทองคำและอัญมณี ประกาศความเป็นผู้นำตลาดออนไลน์
ข่าว,เศรษฐกิจ
ออโรร่า,แบรนด์ยอดเยี่ยม,ไวซ์ไซท์,โซเชียลอวอร์ด,ออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1789214
เพรียวพันธ์ เตรียมส่งสอบวินัยตำรวจพัวพันบ่อนการพนัน
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมส่งผลสอบสวนข้อเท็จจริง เรื่องบ่อนการพนันในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร ที่ชุดของ พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ สรุปว่ามีตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล จำนวน 43 นาย เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้มีบ่อนการพนันในพื้นที่ ให้กองวินัยสอบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 วันโดยให้สรุปผลและส่งเรื่องกลับคืนมาให้พิจารณามีความเห็นอีกครั้ง และล่าสุดมีรายงานว่าตำรวจชุดเฉพาะกิจนำหมายศาลเข้าตรวจสอบ บ่อนการพนันเตาปูน ย่านบางซื่อเมื่อช่วงเช้านายวิลเลียม บราวฟิลด์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ด้านยาเสพติด และการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ เข้าพบ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ หารือการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยสหรัฐอเมริกายืนยันให้ความร่วมมือกับประเทศไทยอย่างเต็มที่ทุกด้าน แต่ปฏิเสธแสดงเห็นเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในประเทศไทย เพราะถือเป็นเรื่องของรัฐบาลไทย
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เตรียมส่งผลการสอบสวนกรณีบ่อนการพนันย่านรัชดาภิเษก ให้กองวินัย หลังพบตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลเกี่ยวข้อง 43 นาย
อาชญากรรม
บ่อน,ยาเสพติด,รัชดา,เตาปูน,เพรียวพันธ์
https://news.thaipbs.or.th/content/33805
ผมสั้นสิเริด ส่องแฟชั่นผม พลอย หอวัง สวยเปรี้ยวเข็ดฟัน
ไทยรัฐออนไลน์, มีโอกาสไปอัพเดตแฟชั่นกับบรรดาเซเลบและคนดังเมืองไทยในงาน Jimmy Choo เปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ ครูซ 2018 นอกจากแฟชั่นเสื้อผ้าแล้ว เรายังได้อัพเดตแฟชั่นทรงผมของเซเลบิตี้สาวผมสั้น , พลอย หอวัง, พร้อมไอเดียในการแต่งตัวให้เข้ากับผมสั้นมาบอกต่อพร้อมแล้ว ตามมาส่องทางนี้,เริ่มกันที่สาวหมวยสวยเก๋อย่าง ,พลอย หอวัง, ทุกคนต่างรู้กันดีว่าเธอมีสไตล์การแต่งตัวสุดชิค ถือว่าเป็นแฟชั่นนิสต้าของเมืองไทยที่เป็นไอดอลของสาวๆ หลายคน แถมยังมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเองอีกด้วย,สำหรับสไตล์การแต่งตัวของสาวพลอย เธอเล่าให้ฟังว่า แฟชั่นเป็นเรื่องของ Feeling การแต่งตัวในแต่ละวันก็จะแล้วแต่อารมณ์เลย คือจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ สีผมด้วย ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ บ้างวันก็เซอร์มาก บ้างวันก็เปรี้ยวขึ้นมาหน่อยอะไรแบบนี้ค่ะ แต่ถ้าเป็นซิกเนเจอร์สำหรับพลอยเลย พลอยจะชอบอะไรที่ติดฮิปฮอปนิดนึ่ง เปรี้ยวๆ เน้นโทนสีดำๆ อะไรแบบนี้พลอยจะชอบ,ส่วนไอเท็มที่เธอจะขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือ ตุ้มหูกับลิปสติกค่ะ สีที่พลอยชอบก็จะเป็นโทนสีน้ำตาล ช่วงนี้ชอบสีน้ำตาลค่ะ แถมสาวพลอยยังบอกอีกว่ามีลิปสติกเยอะจนนับไม่ถ้วนเลย,นอกจากนี้ เธอยังพูดคุยกับเราเกี่ยวกับเทรนด์แฟชั่นในปี 2018 ปีหน้าด้วย เธอมองว่า เทรนด์ปีหน้าเป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้เลย เพราะว่าแฟชั่นมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่พลอยคิดว่าแฟชั่นปี 2018 มันน่าจะสนุกขึ้น คนกล้าแต่งตัวมากขึ้น คนชอบที่จะลองสิ่งใหม่ๆ ฉะนั้นปีหน้าน่าจะสนุกค่ะ.,ที่มาภาพ : ,paloyh
ปลายปีแบบนี้เป็นช่วงที่สาวๆ กำลังมองหาทรงผมเก๋ๆ เท่ๆ ต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเทรนด์ทรงผมที่กำลังมาแรงช่วงนี้ ต้องบอกเลยว่า สาวผมสั้น มาแรงแซงโค้งมากทีเดียว
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
แฟชั่น,ผมสั้น,แฟชั่นผมสั้น,แฟชั่นพลอยหอวัง,พลอย หอวัง
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/hairstyle/1124832
รวบยกแก๊งชาวเวียดนามหลอกขาย อุปกรณ์ลดค่าไฟฟ้า
วันนี้ (23 ส.ค.2562) พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วยตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญา กรรมทางเทคโนโลยี ( ปอท.) ตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และการไฟฟ้านครหลวง ร่วมกันแถลงผลจับกุมแก๊งชาวเวียดนาม หลอกลวงขายเครื่องประหยัดไฟฟ้าโพสต์ขายผ่านทางเฟซบุ๊กทั้งนี้ หลังฝ่ายสืบสวนนำหมายศาลบุกเข้าตรวจค้นบ้านพัก 2 หลัง ในซอยเคหะร่มเกล้า 31 เขตลาดกระบัง พบผู้ต้องหา 4 คน กำลังบรรจุสินค้าส่งขายให้กับลูกค้า พร้อมกับตรวจยึดของกลางอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า บัญชีซื้อขายและอุปกรณ์จัดส่งพัสดุ ไว้เป็นหลักฐานนอกจากนี้ ยังขยายผลไปตรวจค้นสถานที่เก็บสินค้า ซึ่งเป็นบ้านพักใน ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ยึดอุปกรณ์ที่ประกอบเสร็จแล้ว 64 ชิ้น ส่วนที่รอการประกอบอีก 228 ชิ้น รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวกับการจัดส่งสินค้าอีกจำนวนหนึ่งโดยพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้ใช้วิธีการโฆษณา ผ่านทางเพจ Expert Electric และ เพจอุปกรณ์ช่วยประหยัดไฟฟ้า พาวเวอร์ แฟคเตอร์ เซเวอร์ ของแท้ 100% อ้างว่าสินค้าชิ้นนี้ เมื่อนำไปเสียบกับปลั๊กไฟในบ้าน จะสามารถลดค่าไฟได้ โดยในเพจ ยังนำภาพของการไฟฟ้านครหลวง เช่น ภาพการอบรมเจ้าหน้าที่ ภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า รวมถึงภาพสื่อมวลชน ไปแอบอ้างว่าเป็นสินค้าที่ได้รับการรับรอง สามารถใช้งานได้จริงเบื้องต้นตำรวจสอบสวนผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คน ทราบว่ามีนายทุนเป็นชาวเวียดนาม 2 คน ว่าจ้างให้ทำหน้าที่รับออเดอร์ จัดส่งสินค้าขายให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งเปิดขายมานานกว่า 2 ปี แล้ว ในราคาเครื่องละ 999 บาทขณะที่ตัวแทนการไฟฟ้านครหลวง ยืนยันว่า สินค้าดังกล่าวได้ส่งให้แผนกวิจัยตรวจสอบแล้ว พบว่าภายในเป็นเพียงหม้อแปลงกระแสไฟฟ้า และหลอดไฟแอลอีดี เมื่อนำไปใช้งานอุปกรณ์เพียงทำให้หลอดไฟแอลอีดีสว่างขึ้น ไม่ได้ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าตามที่มีการโฆษณาแต่อย่างใดที่ผ่านมาการไฟฟ้านครหลวง ก็เคยประชาสัมพันธ์เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อเป็นระยะๆ แต่ไม่เคยเข้าแจ้งความ กระทั่งในระยะหลังนี้ มีการนำภาพของการไฟฟ้านครหลวงไปแอบอ้าง เข้าข่ายเป็นความผิดกฎหมายชัดเจน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างไรก็ตาม ตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุใน 3 ข้อหา ฐานจำหน่ายสินค้าที่ควบคุมฉลาก นำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต ฉ้อโกงประชาชน และฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งหลังจากนี้จะขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องที่เหลือทั้งหมดต่อไป
ตำรวจบุกจับแก๊งชาวเวียดนาม หลอกลวงขายอุปกรณ์อ้างช่วยลดกระแสไฟฟ้าผ่านเฟซบุ๊กนาน 2 ปี คนหลงเชื่อสั่งซื้อไปกว่า 1 แสนเครื่อง ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ผลวิจัย ระบุแค่อุปกรณ์เพิ่มความสว่าง-ไม่ช่วยประหยัดไฟ
อาชญากรรม
ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,สถานีประชาชน
https://news.thaipbs.or.th/content/283261
ไม่เสียหาย
ทั้งที่ความจริงแล้วไม่มีทีมไหนอยากที่จะแพ้ แต่ถ้ามองในเรื่องความเป็นจริง ไม่ว่าชื่อชั้น รูปร่าง ศักยภาพ และประสบการณ์ของทีมสาวไทยเป็นรองแทบจะหาราคาต่อรองไม่ได้เลย,ฝากพวกแฟนบอลอย่าไปว่าทีมงานหรือเด็กเลย เพราะเชื่อว่าทุกคนต่างก็ทุ่มเทกันอย่างเต็มที่แล้ว เพียงแต่องค์ประกอบที่จะนำพามาสู่ความสำเร็จของ ทีมไทยยังไม่เต็มร้อย เอาแค่ตัวนักเตะก็เสียเปรียบแล้ว ตัวหลักพากันเจ็บหลายคนทำให้มีตัวเลือกน้อย,ที่สำคัญ ลีกหญิงในไทยยังไม่มีอย่างเป็นรูปเป็นร่างอย่างจริงจัง จุดนี้นับว่าส่งผลกระทบอย่างมากในการสรรหาตัวนักเตะที่ฝีเท้าดีและเพียบพร้อมเข้าสู่แคมป์ทีมชาติไทย,กอปรกับยุคนี้วงการลูกหนังไทยกำลังอยู่ในช่วงขาลง ส่วนหนึ่งเพราะการบริหารงานที่ไม่เอาอ่าว ถ้าเทียบกับยุคของ บังยี วรวีร์ มะกูดี เป็นนายก,ใครจะว่าอย่างไรไม่รู้ แต่เรื่องฟุตบอลไทยตอนนั้น ถือว่าบูมอย่างมาก ทั้งค่าตัวนักเตะ ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด,ส่วนหนึ่งเพราะเพาเวอร์ของ บังยี ต้องบอกว่าเฟื่องฟูเป็นถึงบอร์ดบริหารของฟีฟ่า ทำให้งานทุกอย่างเบาแรงไปเยอะ ไม่ว่าต่อรองหรือต้องการอะไรในเรื่องประโยชน์ของวงการลูกหนังไทย,ไม่ใช่ว่ายุคของ บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่กำลังนั่งบริหารเก้าอี้ตอนนี้ ไม่ทำงาน แต่ดูแล้วเหมือนไม่ค่อยเอาจริงเอาจังเท่าไหร่ มีเรื่องเดียวที่ดูกระตือรือร้นที่สุดคือการตามล้างผลาญงานของ วรวีร์ ไม่ว่าอะไรที่บังยีทำไว้ บิ๊กอ๊อดต้อง รื้อทิ้งเพราะกลัวไปซ้ำรอย ไม่ว่าเรื่องที่ดีหรือไม่ดี,จึงทำให้งานทุกอย่างไม่มีความคืบหน้าในบางเรื่องที่ดีสมัยบังยีทำไว้ หากสานงานต่อเนื่องก็จะเกิดผลดี อย่างไหนไม่ดีก็ทิ้งไม่ว่ากัน ไม่ใช่ทิ้ง มันทุกอย่างเพราะกลัวเสียฟอร์ม,แล้วแบบนี้เมื่อไหร่วงการฟุตบอลไทยจะเจริญ ไปเหยียบถึงดวงจันทร์ สมหวังได้ไปบอลโลกกับเขาเสียที,กลับมาพูดกันถึงเรื่องทีมชบาแก้วกันดีกว่า จะว่าไปแล้วต้องชื่นชมนะที่แข้งสาวไทยสามารถตีตั๋วไปฟุตบอลโลกได้สำเร็จ อย่างน้อยก็เป็นหน้าตาของสมาคมฟุตบอลได้เป็นอย่างดี,แม้วันนี้แข้งสาวไทยจะไม่สมหวัง ก็ไม่ใช่เรื่อง เสียหาย เพราะในสายของเราต้องยอมรับว่าหนักหนาสาหัสทีเดียว การแพ้แชมป์โลกไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่สิ่งที่สาวไทยจะได้รับคือประสบการณ์ที่จะหาจากที่ไหนไม่ได้,อย่าลืม กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว วันนี้ชบาแก้วสามารถตีตั๋วไปบอลโลกได้สำเร็จ,ก็ถือว่าสำเร็จไปอีกขั้น,ขอเพียงจากนี้หากมีบอลลีกหญิงเกิดขึ้นอย่างจริงจัง ก็เชื่อว่าโอกาสที่ชบาแก้วจะก้าวไปอีกขั้นมีสูงทีเดียว,มาส่งแรงกายแรงใจเชียร์แข้งสาวไทยในศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกให้ก้าวไปถึงเป้าหมายดีกว่า เพราะอย่างไรเราก็คนไทย.,ตองเจ
เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักสำหรับ ผลงานของ ชบาแก้ว แข้งสาวทีมชาติไทย ที่นัดแรกต้องพ่ายให้กับสหรัฐฯ อย่างถล่มทลาย 0-13 ในศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2019
null
ไม่เสียหาย,ชบาแก้ว,ทีมชาติไทย,ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก,ฟุตบอลหญิง,ตองเจ,เรียงหน้าชน
https://www.thairath.co.th/sport/worldcup/1592798
หนุ่มวิน จยย. แจงคลิปต่อยแกร็บหน้าหอพัก อ้างคู่กรณีรุมต่อยผิดคน
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปอ้างว่า คนขับแกร็บชกต่อยกับวินรถจักรยานยนต์รับจ้างบริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ซึ่งต่อมาได้มีการแชร์อย่างมากในโลกออนไลน์นั้น,ล่าสุด วันที่ 3 ธ.ค.62 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หน้าหอพักแห่งหนึ่งภายในซอย 4 หมู่ 5 ต.คลองตำหรุ อ.เมืองชลบุรี พบกับนายสมโภชน์ ฤทธิเดช อายุ 30 ปี วินรถจักรยานยนต์รับจ้างหน้าวัดบุญญราศี เบอร์ 21 ที่โดนต่อยล้มลง และนายสยามรัฐ สืบเหล่ารบ อายุ 26 ปี วินเบอร์ 1 ที่อยู่ในคลิปดังกล่าว โดยทั้ง 2 ได้ชี้ให้ดูร่องรอยแผลแตกที่ในปาก และชี้ให้ดูบริเวณที่เกิดเหตุ,โดยนายสยามรัฐ วินเบอร์ 1 เปิดเผยว่า อีกฝ่ายมากันแยอะ รถจักรยานยนต์ประมาณ 4-5 คัน มาคันละ 2 คน อยู่ดีๆ เขาก็เดินลงมาชี้ตัวมีไม้ถือมาด้วย ยืนคุมเชิงรอบเลยหลายจุดสะพายกระเป๋า ซึ่งดูแล้วไม่กล้าช่วย เพราะกลัวเขามีอาวุธ ขณะนั่งรอลูกค้าอยู่เขาก็มาชกต่อยเลย ซึ่งกลุ่มที่มาชกต่อยนั้นเขาเป็นแกร็บรถยนต์ที่มารอรับผู้โดยสารแถวหน้าหอพัก,สาเหตุก็น่าจะมาจากมีพี่คนหนึ่งเขาเคยพูดบอกไปว่า รถแกร็บถ้าจะมารับลูกค้าให้ไปรอรับด้านนอก อย่ามารับหน้าหอพัก เพราะมีวินรับจ้างอยู่ ฝากบอกถึงขนส่งด้วยให้จัดการรถแกร็บที่ผิดกฎหมายด้วย,ส่วน นายสมโภชน์ วินเบอร์ 21 ที่โดนต่อย เปิดเผยว่า เราก็มีวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะวิ่งอยู่ตรงนี้ทุกวัน มีแกร็บเข้ามารับลูกค้าเหมือนแย่งลูกค้า แต่ถ้าเป็นลูกค้าให้ไปรับด้านนอกได้ไหม ตรงนี้มีวินอยู่แล้ว แต่ตนไม่ได้เป็นคนพูด มีพี่คนหนึ่งพูด เขาน่าจะจำคนผิด ตนไม่รู้เรื่องเลย,เขามาถึงก็ต่อย เข้ามา 4 คน ตนก็สู้นะ และขอฝากบอกถึงผู้ที่คอมเมนต์ในโลกโซเชียลด้วยว่า วินจักรยานยนต์รับจ้างไม่ได้รุมนะครับ ดูดีๆ ผมโดนคนเดียวและโดนแบบผิดตัวด้วย ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ไว้แล้ว.,(ดูคลิป ,คลิกที่นี่,)
หนุ่มวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ขอความเป็นธรรม แจงคลิปต่อยนัวกับแกร็บรถยนต์หน้าหอพัก อ้างอีกฝ่ายจำคนผิดบุกต่อยผิดคน
ข่าว,สังคม
วินมอเตอร์ไซค์,วินจักรยานยนต์,รุมต่อย,ต่อยผิดคน,ชลบุรี,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1717203
ตม.สุราษฎร์ฯ จับชาวเมียนมาปลอมตราประทับฯ ให้แรงงานข้ามชาติ
วันนี้ (14 พ.ค.2563) พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ระบุว่าการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ได้ทำการสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ที่รับผิดชอบ จนทราบว่ามีแรงงานข้ามชาติได้สั่งทำดวงตราประทับขออยู่ต่อของเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองฯ ที่ร้านกรีนคอมพิวกราฟิก ซึ่งตั้งอยู่ในเขต อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานีภาพ : สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติกระทั่งเมื่อวันที่ 13 พ.ค.63 เวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ พบนายจอ คายตู (MR.KYAW KHAING THU) อายุ 35 ปี สัญชาติเมียนมา มาแสดงตัวเป็นผู้สั่งทำและมาติดต่อเพื่อขอรับรอยตราประทับฯ ที่ร้านกรีนคอมพิวกราฟิก จึงได้ทำการสอบสวน นายจอ คายตู (MR.KYAW KHAING THU) และให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้สั่งทำรอยตราประทับดังกล่าวจริงเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ จึงได้จับกุมตัวพร้อมด้วยของกลาง เป็นดวงตราประทับการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวของตม.จว.สมุทรสาคร รวมถึงดวงตราประทับการแจ้งเตือนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และหนังสือเดินทางประเทศเมียนมาทั้งนี้ จึงได้แจ้งข้อหาใช้หรืออ้างเอกสารราชการปลอม ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และปลอมดวงตราหรือรอยตราของทบวงการเมือง ขององค์การสาธารณะ หรือของเจ้าพนักงาน และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่ง พงส.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปภาพ : สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติพ.ต.อ.ศุภฤกษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การปลอมดวงตราประทับของ ตม. นั้น ถือว่าเป็นพฤติการณ์ที่เชื่อว่า เป็นภัยต่อสังคมหรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน และความมั่นคงของประเทศได้พร้อมกำชับให้ดำเนินการสืบสวน จับกุมอย่างต่อเนื่องเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไปหากประชาชนพบเห็น หรือต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดในพื้นที่ จว.สุราษฎร์ธานีให้แจ้งได้ที่ สายด่วน สตม. 1178 หรือที่ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ทุกจุด
เจ้าหน้าที่จับกุมชาวเมียนมา ปลอมดวงตราประทับของ ตม.ให้แรงงานข้ามชาติอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว พร้อมแจ้งข้อหาใช้หรืออ้างเอกสารราชการปลอม
อาชญากรรม
ตม.,ตม.สุราษฎร์ธานี,ตราประทับ ตม.
https://news.thaipbs.or.th/content/292446
สาวปล่อยโฮ ศพลูก 5 เดือน หายจากสุสาน หมอดูทักคนเอาไป หวั่นถูกทำคุณไสย
เมื่อวันที่ 19 ก.ค.63 น.ส.พัชรพร ลาพัง อายุ 32 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายพงษ์ คนมีเก่า อายุ 29 ปี สามี ชาว จ.นนทบุรีได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า ศพบุตรชายหายไปอย่างไร้ร่องรอย จากสุสานบางบัวทองมูลนิธิ ในพื้นที่หมู่ที่ 8 ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ บุญรับ รอง สว.สอบสวน สภ.บางบัวทอง แต่กลัวคดีไม่คืบหน้าต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.บางบัวทอง พบ ร.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ บุญรับ รอง สว.สอบสวน สภ.บางบัวทอง ทำการสอบปากคำ น.ส.พัชรพร ลาพัง และ นายพงษ์ คนมีเก่า พร้อมเพื่อนอีก 1 คน จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.นนทบุรี เดินทางไปตรวจสอบที่สุสานดังกล่าวเมื่อเดินทางถึง พบสุสานมีพื้นที่กว้างประมาณ 114 ไร่ มี นายสมนึก ดวงดี อายุ 51 ปี เป็นคนดูแล และให้การกับตำรวจว่า ตนเป็นคนพา 2 สามีภรรยา นำศพเด็กไปเก็บไว้ที่ช่องเก็บศพอนาถาด้านหลังที่พัก เป็นช่องเก็บศพกว้างประมาณ 120 ซม. ความยาว 200 ซม. หลังจากนำศพเด็กไปเก็บแล้วก็ปิดฝา จากนั้นไม่ได้เข้าไปอีกเลย ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา พ่อเด็กเข้ามาเอาของเล่นมาให้แล้วก็ออกไป ตนตัดหญ้าอยู่ไม่ได้เข้าไปดู พอวันที่ 17 ก.ค. พ่อกับแม่เด็กก็เข้ามาอีก และบอกว่าศพเด็กหายไปไหน ตนก็ไม่รู้ว่าหายไปไหนเช่นกันต่อมาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.นนทบุรี ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ พบกล่องกระดาษด้านใน มีเพียงผ้ารองอยู่ก้นกล่อง ประกอบด้วย ขวดนม เสื้อผ้าเด็ก และเศษใบไม้หล่นร่วงเป็นจำนวนมาก ศพเด็กไม่มี จากการตรวจสอบก็ไม่พบร่องรอยถูกสัตว์กัดกิน จึงถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานจากการสอบถาม นายพงษ์ พ่อของเด็ก เล่าว่า แฟนตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน โดยเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา แฟนพลัดตกบันไดระหว่างทำงาน ตอนนั้นตนกับแฟนก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะไม่มีอาการผิดปกติหรือเจ็บอะไรมากมาย จึงไม่ได้ไปหาหมอ จนกระทั่งวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา แฟนปวดท้องอย่างรุนเเรง จึงพาไปตรวจที่ รพ.บางบัวทอง ซึ่งแพทย์ได้แจ้งว่า เด็กอยู่นอกมดลูก ต้องทำการผ่าคลอดเพื่อนำเด็กออกมา หลังจากผ่าคลอดเสร็จ ปรากฏว่าบุตรชายได้เสียชีวิตทันที ตนจึงนำศพลูกมาฝากไว้ที่สุสานบางบัวทองมูลนิธิต่อมาในวันที่ 16 ก.ค. ตนได้เดินทางมาที่สุสานเพื่อนำของเล่นมาให้ลูก เสร็จแล้วก็กลับบ้าน และวันที่ 17 ก.ค. เวลาประมาณ 16.00 น. ตนกับแฟนตั้งใจจะนำศพลูกไปประกอบพิธีทางศาสนา ปรากฏว่าศพของลูกได้หายไปแล้ว ตอนนั้นตกใจมากจึงไปสอบถามคนที่ดูแลสุสาน ต่างก็บอกว่าไม่ทราบว่าศพหายไปได้ยังไง จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจที่ สภ.บางบัวทอง แต่กลัวเรื่องเงียบ จึงร้องเรียนผ่านสื่อให้ช่วยตรวจสอบอีกทางด้าน น.ส.พัชรพร เเม่ของเด็ก เล่าทั้งน้ำตาว่า หลังจากเกิดเรื่อง ตนนอนร้องไห้ทุกคืนเครียดมาก ลูกเราเสียชีวิตเราก็เจ็บปวดอยู่แล้ว ทำไมต้องมาซ้ำเติมครอบครัวตนด้วยการขโมยเอาศพลูกไป ก่อนหน้านี้ตนกับแฟนได้ไปหาหมอดูตามความเชื่อ ซึ่งหมอดูก็ทักว่ามีคนนำศพลูกไป ตนเกรงว่าเขาจะเอาไปทำไสยศาสตร์ ตนขอวิงวอนให้นำศพลูกมาคืนที่เดิมด้วย ไม่ต้องเอาเงินเอาทองมาให้ แล้วตนจะไม่เอาเรื่อง แต่ถ้าหากไม่นำศพลูกมาคืน ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดต่อมา น.ส.กมลทิพย์ ไตรพรม อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่ที่ดูแลสุสาน เล่าว่า ทางเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน แต่ก็เห็นใจคนเป็นพ่อเป็นแม่ ที่ศพลูกหายไปโดยไม่รู้ว่ามีใครเข้ามาหรือเปล่า เพราะสุสานมีทางเข้าหลายแห่ง และได้พาสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบช่องเก็บศพที่อยู่ติดกัน ปรากฏว่าภายในช่องเก็บศพแต่ละช่องไม่มีศพอยู่เลย จะมีก็เพียงเเต่เศษผ้า รองเท้า และของเล่นของเด็กเท่านั้น ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจมาก ที่ช่องเก็บศพไม่มีเเม้กระทั่งเศษกระดูก หรือร่องรอยของคราบเลือดเเต่อย่างใดเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดให้ น.ส.พัชรพร และ นายพงษ์ เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม ที่ สภ.บางบัวทอง พร้อมทั้งจะเรียกพบคนดูแลสุสาน และผู้ที่เกี่ยวข้อง มาสอบปากคำที่ สภ.บางบัวทอง เพื่อติดตามหาศพกลับมาให้ได้
2 ผัวเมียทุกข์ใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ หลังศพลูกน้อยวัยเพียง 5 เดือน หายจากสุสานที่บางบัวทอง อย่างไร้ร่องรอย โร่ร้องสื่อกลัวคดีไม่คืบ หวั่นถูกนำไปทำคุณไสย-มนตร์ดำ
ข่าว,ทั่วไทย
ศพหาย,ศพลูกหาย,ขโมยศพเด็ก,ศพเด็กหาย,สุสาน,คุณไสย,นนทบุรี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1892919
ฮือฮา ผีแดง เล็งทุ่ม 15 ลป. คว้า มูโตะ ช่วงปีใหม่
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 26 ธ.ค. ว่า ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวกำลังวางแผนยื่นข้อเสนอจำนวน 15 ล้านปอนด์ เพื่อซื้อตัว โยชิโนริ มูโตะ กองหน้าทีมชาติญี่ปุ่น ของ ไมนซ์ สโมสรแกร่งแห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน มาร่วมทัพในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะ รอบสอง เดือนมกราคมปีหน้า,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้เพียง 14 ประตู จากการลงเล่น 15 นัดในลีกฤดูกาลนี้  ทำให้ หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีมจอมปรัชญา เล็งเสริมทัพนักเตะตำแหน่งกองหน้าในช่วงปีใหม่นี้ โดย หลุยส์ ฟาน กัล  จับตาดูฟอร์มของ มูโตะ ที่ซัดไปแล้ว 7 ประตู จากการลงเล่น 14 นัดในซีซั่นนี้ มาหลายต่อหลายครั้งแล้ว,ขณะที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตบรมกุนซือของปิศาจแดง ก็ได้แนะนำเป็นการส่วนตัวกับ ฟาน กัล ในการคว้าตัวนักเตะรายนี้ ด้วย  เนื่องจาก เฟอร์กี้ เป็นแฟนตัวยงของ มูโตะ และมีความเชื่อมั่นในฝีเท้าของดาวยิงวัย 23 ปี อย่างมาก ทั้งในเรื่องของการทำประตูและการครองบอลซึ่งจะเพิ่มความอันตรายในแนวรุกให้กับปิศาจแดงได้อย่างแน่นอน  ,รายงานล่าสุดระบุว่า แม้ว่า มูโตะ จะเหลือสัญญากับ ไมนซ์ ถึงปี 2019 แต่  แมนเชสเตอร์  ยูไนเต็ด  เตรียมยื่นข้อเสนอจำนวน 15 ล้านปอนด์ เพื่อล่อใจให้ ไมนซ์ พิจารณาปล่อยตัว มูโตะ มายังถิ่นโอลด์ แทรฟเฟิร์ด ในเดือนมกราคมปีหน้า นี้
ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวกำลังวางแผนยื่นข้อเสนอจำนวน 15 ล้านปอนด์ เพื่อซื้อตัว โยชิโนริ มูโตะ ดาวยิงเลือดซามูไร ของ ทีมไมนซ์ มาร่วมทัพในเดือนมกราคมปีหน้า
null
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,โยชิโนริ มูโตะ,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/554509
ห้าสิบอัตราใหม่
เป็นการจัดการกับปัญหาในรัฐวิสาหกิจและองค์การมหาชน โดยออกมาเป็นคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 68/2559 เรื่อง มาตรการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานอื่นของรัฐ และการกำหนดกรอบอัตรากำลังชั่วคราว,คำสั่งดังกล่าวระบุว่าโดยที่เจ้าหน้าที่ของรัฐในรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานอื่นของรัฐซึ่งเป็นนิติบุคคล และไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมาย มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทําความผิดหรือในบางกรณีอาจยังไม่ปรากฏความผิด แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบความรับผิด หรือสมควรปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลและหน้าที่ความรับผิดชอบเพื่อประสิทธิภาพของงานและแก้ไขข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานของหน่วยงานนั้นๆ เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปราชการแผ่นดิน และหน่วยงานของรัฐดังกล่าว จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้,1.ให้มีกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษในสํานักนายกรัฐมนตรี จำนวนห้าสิบอัตรา เพื่อรองรับการบรรจุและแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งไม่เป็นข้าราชการ ทั้งนี้ ไม่ว่ามีตำแหน่งหน้าที่ใดในรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นของรัฐซึ่งเป็นนิติบุคคลและไม่เป็นส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ โดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือน ค่าจ้าง เงินอื่น และสิทธิประโยชน์เดิมที่ได้รับอยู่ โดยให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่อื่นในสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะหมดระยะเวลาตามสัญญาจ้าง หรือพ้นจากตำแหน่งโดยเหตุอื่น หรือนายกรัฐมนตรีจะมีคำสั่งเป็นประการอื่น,ในกรณีที่กฎหมายจัดตั้งหน่วยงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐดังกล่าวกำหนดหลักเกณฑ์หรือวิธีการในการอุทธรณ์หรือร้องทุกข์ให้ระงับการบังคับใช้บทบัญญัติในส่วนนั้นสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐ,2.เมื่อมีกรณีจะต้องดำเนินการตามข้อ 1 ให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐในรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นของรัฐซึ่งเป็นนิติบุคคลและไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจไปปฏิบัติหน้าที่ในสำนักนายกรัฐมนตรีได้ โดยเรียกชื่อตำแหน่งที่มาปฏิบัติหน้าที่ว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ฯลฯ,เมื่อมีกรณีตามวรรคหนึ่ง รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ อาจแต่งตั้งบุคคลอื่นไปดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่แทนที่ได้ตามระเบียบของหน่วยงานนั้นๆ,ในกรณีมีเหตุสมควร นายกรัฐมนตรีอาจมีคําสั่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐประจําสํานักนายกรัฐมนตรีกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานเดิม ส่วนการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง การได้รับค่าตอบแทน และสิทธิประโยชน์ให้เป็นไปตามสัญญาและกฎหมายของหน่วยงานเดิม,ให้ผู้มีตำแหน่งหน้าที่ในสํานักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ตามรายชื่อต่อไปนี้ไปเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐประจําสํานักนายกรัฐมนตรีตามคําสั่งนี้ ,1.นางสาวปณิตา ชินวัตร 2.นายชาวันย์ สวัสดิ์ชูโต 3.นางสาวอิสรา ภูมาศ,นี่เป็นชุดแรกในองค์การมหาชนที่โดน ม.44 และคงจะมีต่อไปในรัฐวิสาหกิจและองค์การมหาชนบางแห่งซึ่งตั้งขึ้นมาในลักษณะเฉพาะกิจ แต่แล้วก็ไปยืดเยื้อพัวพันกับผลประโยชน์มหาศาล.,ซี.12
มีการใช้ ม.44 ในการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานอื่นของรัฐที่มิใช่ข้าราชการโดยตรงอีกครั้งหนึ่ง
null
มุมข้าราชการ,ซี.12,ห้าสิบอัตราใหม่,ม.44,เจ้าหน้าที่ของรัฐ
https://www.thairath.co.th/content/788377