title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
พีพี ยืนกรานไม่ลดค่าธรรมเนียม หลังกลุ่มเรือขู่ประท้วงขอจ่ายครึ่งเดียว | เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 60 นายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เรียกเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องภายในอุทยานฯ ให้เพิ่มความเข้มงวดในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ ตามหมู่เกาะต่างๆ โดยต้องเก็บเต็มอัตราที่กำหนด หากเรือลำใดไม่จ่ายค่าธรรมเนียมครบ หรือจ่ายแค่ครึ่งเดียว ให้ปฏิเสธการจ่าย บันทึกภาพ ลงบันทึกจำนวนนักท่องเที่ยวไว้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และรอการสั่งการจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งปรากฏว่าที่ทะเลแหวก วันนี้มีเรือของเอกชน 1 ลำเท่านั้นที่จ่ายครึ่งเดียว เช่นเดียวกับที่เกาะปอดะ มีเรือหางยาว 1 ลำ จ่ายค่าธรรมเนียมครึ่งเดียว ส่วนเรือลำอื่นๆ ที่นำนักท่องเที่ยวมานั้นจ่ายตามปกติเต็มอัตรา,สืบเนื่องจากกลุ่มเรือนำเที่ยวทั้งเรือหางยาวและเรือสปีดโบ๊ตใน ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ออกมาเคลื่อนไหวยื่นหนังสือให้อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ลดค่าธรรมเนียมลงครึ่งหนึ่ง เนื่องจากกระทบกับการท่องเที่ยวและทำให้รายได้ลดลง ซึ่งทางจังหวัดได้รับเรื่องไว้ แต่ไม่สามารถลดให้ได้ เพราะเป็นประกาศกระทรวง โดยกลุ่มดังกล่าวแจ้งว่าจะประท้วงปิดที่ทำการอุทยานฯ และปิดอ่าวทางเข้าอุทยานฯ ในวันที่ 22 ก.พ.นี้,นายศรายุทธ กล่าวว่า อุทยานฯ ไม่สามารถลดค่าธรรมเนียมได้ เนื่องจากเป็นระเบียบที่ต้องดำเนินการ การที่กลุ่มชาวเรือจะไม่ทำตามและมีการขู่ว่าจะปิดอุทยานฯ นั้น ทางอุทยานฯ ไม่ได้มีปัญหาและพร้อมชี้แจง เบื้องต้น ขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และแจ้งไปยังจังหวัด รวมทั้งกรมอุทยานแห่งชาติฯ ถึงสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นแล้ว และทางอุทยานฯ ถือว่าได้ทำตามระเบียบที่กฎหมายกำหนดไว้ทุกประการ. | หัวหน้าอุทยานฯ เกาะพีพี ยืนยัน ไม่สามารถลดค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ-หมู่เกาะได้ เหตุเป็นกฎกระทรวง เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่รับมือ หลังกลุ่มเรือขู่รวมตัวประท้วงพรุ่งนี้ | ข่าว,ทั่วไทย | พีพี,หมู่เกาะพีพี,ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน,อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี,กระบี่ | https://www.thairath.co.th/news/local/863201 |
ศุกร์สบาย 11/05/61 | ช็อปปิ้ง-โปรโมชั่น,ร้านจิตรลดา จัดทำเสื้อยืดใหม่รับปีจอ เป็นภาพฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รูปสุนัขทรงเลี้ยง มี 4 สีให้เลือก หาซื้อได้ที่ร้านจิตรลดาทุกสาขาBETREND เดอะมอลล์ กรุ๊ป จัดงาน BETREND NEW TERM 2018 รวบรวมอุปกรณ์เครื่องเขียน แก็ดเจ็ต ของขวัญ ของตกแต่ง และอุปกรณ์สำนักงาน พร้อมโปรโมชันพิเศษลดสูงสุด 50% เมื่อซื้อสินค้าครบ 1,000 บาท รับฟรี กระเป๋าผ้า BETREND ถึง 30 มิ.ย.ที่เดอะมอลล์ ทุกสาขา, เอ็มโพเรียม, พารากอน และบลูพอร์ต ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ฟิวเจอร์พาร์ค จัดงาน ร้อยรัก รวมใจ ผู้นำสตรีไทย ครั้งที่ 10 พบผลิตภัณฑ์งานฝีมือ ผลิตภัณฑ์แปรรูป อาหารคาว-หวานสูตรต้นตำรับ จากกลุ่มแม่บ้านสตรีไทยทั่วประเทศ ณ ลานโปรโมชัน ชั้น G ถึงวันที่ 20 พ.ค. ,Brand Off Tokyo by Money Café ร้านรับซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้าแบรนด์เนมมือสอง การันตีราคาและคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่น ฉลองเปิดแฟล็กชิพสโตร์แห่งแรกในเมืองไทย เมื่อซื้อสินค้าครบ 10,000 บาท รับ Cash Voucher มูลค่า 1,000 บาท ใช้ลดในการซื้อครั้งต่อไป ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.-31 ส.ค. ดูได้ที่เฟซบุ๊ก : Brand Off Tokyo by Money Caféอีซี่ สปิริต (Easy Spirit) ผู้ผลิตรองเท้าชั้นนำจากอเมริกา แนะนำรองเท้าสัมผัสเบาสบายมาพร้อมกับนวัตกรรมพิเศษเพื่อการซัพพอร์ตเท้า อาทิ แผ่นโฟมชนิดพิเศษที่มีความหนาแน่นสูงเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นรองรับเสริมอุ้งเท้าที่ช่วยลดแรงกระแทก ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Easy Spirit หาเลือกซื้อได้ที่ร้าน CC Shop แฟชั่น อเวนิว ชั้น 1 สยามพารากอน,กิจกรรม-ชิมของอร่อย,มูลนิธิธรรมดี จัดกิจกรรม ตักบาตร เติมบุญครั้งที่ 25 โดยมีพระภาวนาเขมคุณ (หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี) เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา มารับบาตรและแสดงธรรม ในวันที่ 13 พ.ค. เวลา 07.30-10.00 น. ณ สถาบันสอนเต้นวิถีพุทธ The Mind ชั้น 2 เดอะซีน ทาวน์ อินทาวน์คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (ซีดีซี) จัดงาน WEDDING FAIR AT CDC รวมแพ็กเกจงานแต่งงาน พร้อมโปรโมชันโดนใจ พิเศษ 40 คู่แรกที่จองแพ็กเกจ รับทันที ตั๋วเครื่องบิน บางกอก แอร์เวย์ส ในวันที่ 19-20 พ.ค.เวลา 10.00-20.00 น. ณ ห้องคริสตัล แกรนด์ บอลรูม ชั้น 2 อาคารอี ซีดีซี เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทราฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ จัด STAR on STAGE ทุกสัปดาห์ ตลอดทั้งปี เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป ที่ Blossom Garden ชั้น 2 โซนโรบินสัน ในเวลา 15.30-16.30 น. โดยวันที่ 13 พ.ค.นี้ พบ นนท์ ธนนท์ แชมป์ The Voice Thailand คนแรก,พลาดไม่ได้คอนเสิร์ตการกุศลครั้งยิ่งใหญ่ของ ศรีไศล สุชาตวุฒิ และแขกรับเชิญพิเศษ อาทิ นภ พรชำนิ, บอย พีชเมคเกอร์ ฯลฯ วันที่ 30 มิ.ย. เวลา 13.00-15.30 น.ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี รายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายมอบให้ศูนย์โรคหัวใจ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า และ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จองบัตรได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ โทร.0-2262-3456,ของอร่อยในช่วงนี้ กูร์เมต์ มาร์เก็ต สาขาเอ็มควอเทียร์ ร่วมกับจังหวัดตราด จัดงาน ควอเทียร์ ทุเรียน เฟสติวัล บุฟเฟต์ทุเรียนที่ดีที่สุด ชิมทุเรียนชะนีและหมอนทองจากเกาะช้าง ทุเรียนสายพันธุ์หายากที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติความหอม มัน ในราคาบุฟเฟต์ 559 บาท สมาชิกผู้ถือบัตร M Card และนักท่องเที่ยว ลดเหลือเพียง 399 บาท วันที่ 15-20 พ.ค.ที่ควอเทียร์ อเวนิว, ดิ เอ็มควอเทียร์นิกุยะ (NIKUYA By OISHI) ยากินิกุตำรับโอซากาแท้ จัดหอยนางรมฮิโรชิมา เนื้อหวานตัวใหญ่ จัดมาเป็นเมนู พิเศษ 4 ตัวในราคา จานละ 379 บาท ถึงวันที่ 31 ก.ค.เท่านั้น ค้นหาสาขาที่ใกล้บ้านได้ที่ ,www.oishifood.com, | ร้านจิตรลดา จัดทำเสื้อยืดใหม่รับปีจอ เป็นภาพฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รูปสุนัขทรงเลี้ยง มี 4 สีให้เลือก หาซื้อได้ที่ร้านจิตรลดาทุกสาขา | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | ช้อปปิ้ง,ห้างสรรพสินค้า,คอนเสิร์ตการกุศล,ศุกร์สบาย,โปรโมชั่น | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/shopping/1277949 |
ส.บอลผนึกกำลัง สพฐ. เล็งจัดอบรมโค้ชแก่ครูในสังกัด | วันที่ 22 ม.ค.62 ที่อาคารสำนักงานศึกษาขั้นพื้นฐาน 5 กระทรวงศึกษาธิการ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อวางแผน จัดงานอบรมผู้ฝึกสอนให้กับครูในสังกัด,การประชุมครั้งนี้นำโดย ดร.อาชวิทธิ์ เจิงกลิ่นจันทน์ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค และ คุณวัลลา เรือนไชยวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนากิจกรรมนักเรียน พร้อมด้วย คุณนภา พานน้อย ผู้อำนวยการส่งเสริมพลามัยนักเรียน,หลังการประชุม ดร.อาชวิทธิ์ เจิงกลิ่นจันทร์ หัวหน้าฝ่ายเทคนิค กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่เราได้มาพูดคุยกับทาง สพฐ. เพื่อที่จะได้นำข้อมูลไปจัดคอร์ส FA Thailand Introductory Course ในช่วงปิดเทอม สำหรับคุณครูที่สนใจในด้านการฝึกสอนฟุตบอล สำหรับโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ทุกแห่งในประเทศไทย,เราอยากให้มันเป็นจุดเริ่มต้น เพราะคุณครูที่อยู่ในโรงเรียน ถือเป็นครูคนแรกสำหรับนักฟตุบอลทุกคน ถ้าครูคนแรกมีหลักในการฝึกสอนฟุตบอลที่ถูกต้อง ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เด็กกลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้ในอนาคต,เบื้องต้นเราทราบคร่าวๆ ถึงการแบ่งเขตพื้นที่การศึกษา โดยใช้ระบบตาม สพฐ. แบ่งเป็น 4 เขต คือภาคเหนือ, ภาคกลาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ที่เราวางคร่าวๆ ก็คือจัดอบรมภาคละสองแห่ง และในปีต่อๆ ไป ก็จะหมุนเวียนจังหวัดไปเรื่อยๆ,สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โทร. 02-408-1523 ในเวลาทำการ 09.00-17.00 น. | สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เตรียมจับมือกับ สพฐ. เพื่อจัดอบรมและให้ความรู้ด้านศาสตร์ลูกหนังกับบุคลากรในสังกัด เพื่อวางรากฐานการเป็นนักเตะอาชีพให้กับเยาวชนไทย
| กีฬา,ฟุตบอลไทย | สพฐ,สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย,สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน,อบรมโค้ชฟุตบอล | https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/1476940 |
เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป ห่วงการเมืองไทย หลังสนช.โหวตคว่ำ 7 กกต.ใหม่ | เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 ก.พ. ที่ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายปีร์กะ ตาปิโอละ เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ยุติธรรม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่,ต่อมา พล.อ.อ.ประจิน เปิดเผยว่า ทางเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป แสดงความยินดีที่ไทยมีการพัฒนาเรื่องสิทธิมนุษยชนดีขึ้น และขอบคุณคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยกเลิกการนำพลเรือนขึ้นศาลทหาร ซึ่งเรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องสากล ไทยเป็นหนึ่งประเทศที่ใช้หลักสากลทำแบบนี้มานานแล้ว ไม่ได้หมายความว่า ไม่เคยทำ แต่ที่สหภาพยุโรปมาจับตาเพราะหลังไทยมีการเข้ามาควบคุมการปกครองและจะมีการเลือกตั้ง จึงดูเหมือนว่ามีการนำเรื่องนี้มาพูดเยอะหน่อยในเวลานี้ พร้อมสอบถามถึงการเลือกตั้งว่า จะเป็นไปตามโรดแม็ปหรือไม่ ตนได้ยืนยันว่า เป็นไปตามเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรีที่จะจัดการเลือกตั้งตามโรดแม็ปที่กำหนดไว้,พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า นอกจากนี้ทางเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปได้สอบถามถึงกรณีเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติไม่ให้ความเห็นชอบบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเป็นอย่างไรต่อไป ทางเราบอกไปว่า ขอเวลาเพราะทางรัฐบาลยังไม่ทราบรายละเอียด เมื่อได้ข้อมูลแล้วจะเรียนให้ทราบ ขณะที่เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป บอกว่า อยากจะคุยกับเราอีก จึงนัดคุยกันอีกครั้งที่กระทรวงยุติธรรม เรื่อง กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมอง ทั้งนี้เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป ไม่ได้มีการประเมินสถานการณ์การเมืองของไทย | เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป ห่วงการเมืองไทย หลังสนช.โหวตคว่ำ 7 กกต.ถามเลือกตั้งยังตามโรดแม็ป หรือไม่ ขณะ บิ๊กจิน ยันตามโรดแม็ปและเจตนารมณ์นายกฯ | ข่าว,การเมือง | เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป,ห่วงการเมืองไทย,สนช.,โหวตคว่ำ 7 กกต.,โรดแม็ป,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1211845 |
ดาวร้ายช่อง 7 เส้นเลือดสมองหวิดแตก ถูกเบี้ยวงาน ต้องไปขายแหนมตลาดนัด | กลายเป็นประเด็นร้อนเลยทีเดียว เมื่อมีสำนักข่าวแห่งหนึ่งรายงานข่าวว่านักแสดงรุ่นใหญ่ ,กิตติ ดัสกร, น้องชาย ,ดามพ์ ดัสกร, ดาวร้ายชื่อดัง ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ตกคลอง ก่อนลูกสาวนำตัวส่ง รพ. โดยระบุว่า กิตติ มีอาการโคม่าและมีอาการอัมพฤกษ์ ขาไม่มีแรง ปากเริ่มเบี้ยว,ล่าสุด ,คิตตี้ ดัสกร, ลูกสาวของกิตติ ดัสกร ได้โพสต์ภาพของ กิตติ และชี้แจงอาการป่วยของคุณพ่อว่า เอาเรื่องจริงนะบางข้อมูลก็ลงผิดเพื้ยน ยังไม่เป็นอัมพฤกษ์โคม่านะคะ หรือว่าเดินไม่ได้นะคะ แค่เริ่ม ถ้าเป็นคงกินข้าวไม่ได้ค่ะ นี่ยังทานข้าวได้ แต่ต้องป้อนนิดนึง เพราะยังไม่ค่อยถนัด มีโอกาสหายค่ะ เพราะต้องทำกายภาพบำบัด ยังรู้สึกตัวอยู่นะคะ ขาไม่มีเรี่ยวเเรง เนื่องจากไม่ทานยาตามหมอสั่ง นานๆ จะทานที,แล้วปะป๊ามีละครสองเรื่องติดต่อกัน เทพสามฤดู กับ ขุนแผนแสนสะท้าน อดนอนค่ะ นอนน้อย ต้องท่องบททั้งคืน ที่รับละครสองเรื่อง เนื่องจากต้องการที่จะมีทุนไปทำการค้าขายเล็กๆ ค่ะ ประกอบธุรกิจเล็กๆ เพราะงานวงการบันเทิงปะป๋าเคยพูดว่ามันไม่แน่นอน คนใหม่ๆ เข้ามาเยอะ อีกอย่างปะป๋าก็มีอายุค่อนข้างมากเเล้ว จะเจ็ดสิบเเล้ว นานๆ อาจจะมีละครเล่นที จึงหักโหมทำงานหนัก ทำให้ตนเองนอนน้อย นอนวันละแค่สามชั่วโมงร่างกายทรุดค่ะ,แล้วทานข้าวไม่ตรงต่อเวลา มีโรคประจำตัวมีค่ะ เบาหวานเริ่มขึ้นตา ทำให้สายตาไม่ค่อยดีบางครั้ง และชอบขับรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ช็อปเปอร์ ก่อนหน้านี้เคยขับรถมอไซค์ชนฟุตปาทค่ะ เกิดอุบัติเหตุอยู่เป็นเดือน อาการสาหัส ลุกไม่ได้เลย ยาไม่ยอมทาน เลย ไม่ทำตามหมอสั่ง นานๆ ปะป๋าจะกินยาที เตือนเเล้วไม่เชื่อค่ะ ดื้อยา คิดว่าร่างกายตนเองแข็งแรงอยู่เสมอ พอนั่นทรุดค่ะ เพราะร่างกายขาดน้ำตาลไปหล่อเลี้ยงกระดูก ทำให้ขาไม่มีเรี่ยวเเรง ร่างกายขาดขาดแคลเซียม เลยมีอาการขาลุกไม่ขึ้นทั้งสองข้าง แขนขาขาดโปรตีน นมก็ไม่ค่อยทานค่ะ,และตอนนี้ปะป๋ารับปากกับหมอแล้วค่ะ ต่อไปจะทานยาตลอดชีวิต ทำตามแพทย์สั่ง ป๋าแกไม่ได้เป็นอัมพฤกษ์ขั้นรุนเเรงนะคะ ไม่ได้อาการโคม่านะคะ ยังมีสติค่ะ รู้สึกตัวพูดได้อยู่ค่ะ บางครั้งก็พูดชัด บางครั้งก็ไม่ค่อยชัด แต่พอให้น้ำเกลือเริ่มพูดชัดมากขึ้นค่ะ เพราะร่างกายได้นอนพักผ่อนเต็มที่เเล้วค่ะ แล้วปากก็ไม่มีอาการเบี้ยวเเล้วค่ะ ใช้เวลาสักพักร่างกายกลับมาเป็นปกติค่ะ ขอบคุณค่ะเพื่อนๆ ที่ห่วงใย,นอกจากนี้ คิตตี้ ได้เผยถึงสาเหตุที่ กิตติ มีอาการเส้นเลือดในสมองใกล้แตกด้วยว่า ที่เส้นเลือดในสมองใกล้แตกไม่ได้เป็นเพราะอุบัติเหตุ เพราะอุบัติเหตุไม่สามารถทำให้ใครเส้นเลือดในสมองแตกได้ แต่เป็นเพราะว่าความเครียดเรื่องส่วนตัว ก่อนหน้านี้ป๋าไม่มีมีละครเล่น หายไปสี่ปี ละครน้อยมากนานๆ จะมีที,โดยมี คุณหรั่ง ไพรัช สังวริบุตร, คุณสยม สังวริบุตร, คุณสยาม สังวริบุตร ให้โอกาสป๋ากลับมาเล่นละครอีกครั้ง จึงทำให้ป๋าท่องบทอยู่ทั้งคืน คุณหรั่งเรียกป๋าไปพบที่กองถ่าย แล้วให้เงินมา 7,000 บาทเอาไว้ใช้ ทำให้ป๋าซาบซึ้งใจและนำเงินไปทำปลาร้าผัดและทำแหนมใส่กระปุกขาย ก่อนหน้านี้ป๋าก็เคยขายแหนม ไปนั่งขายที่ตลาดนัดตั้งแต่สามโมงเย็นถึงสองทุ่ม ไปขายช่วงแรกแรกขายไม่ได้เลย แต่ป๋าก็สู้นั่งขายของไม่อายใครเพราะถือคติอย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา ถ้าอายก็อดตาย,บางงานที่ป๋ารับทำก็ถูกเบี้ยวเงิน บางงานโอนเงินมาครึ่งนึง พอถ่ายเสร็จไม่จ่ายตังค์ เจองานถูกเบี้ยวถูกโกงมาอยู่ตลอดจึงทำให้ป๋าเครียดหนักมาก เพราะบางทีถูกตัดน้ำตัดไฟ หาเงินไม่ทันที่จะมาจ่าย เพราะถูกโกงมาโดยตลอด ญาติพี่น้องใช่ว่าจะพึ่งกันได้ทุกคน บางคนก็พึ่งได้บางคนก็ไม่สามารถพึ่งได้ เพราะก็ต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างใช้ชีวิต,ป๋าเป็นคนไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ แต่สูบยาเส้นซองละ 10 บาท เพราะบุหรี่แพง เคยบอกป๋าว่าไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ป๋าบอกไม่สูบยาเส้นมันเครียดจะลงแดงตาย แต่ตอนนี้พ่อสัญญาเเล้วจะไม่สูบยาเส้นอีก เพราะจะทำให้สุขภาพทรุดโทรมลง,ขอให้ป๋าหนูหายไวๆ แล้วกลับมาสู้ชีวิตกันอีกครั้ง ถึงจะมีเหนื่อยบ้างท้อบ้าง ยอมรับและเดินหน้า เราเจอวิบากกรรมด้วยกันมามากแล้วกับชีวิตที่ผ่านมา หนูจะสู้กับป๋าต่อไป การที่หนูออกมาโพสต์ ต้องการให้รู้ว่า ชีวิตคนเราไม่ได้มีความสวยหรู เบื้องหลังชีวิตคนเราคือคนธรรมดา ต้องปากกัดตีนถีบ มีอะไรที่ยังต้องดิ้นรนอีกเยอะ นี่แหละคือบทเรียน บททดสอบ รสชาติของชีวิต. | คิตตี้ ดัสกร ลูกสาวของกิตติ ดัสกร น้องชายดามพ์ ดัสกร เผยอาการพ่อหลังเกิดอุบัติเหตุขับรถตกคลองว่าไม่ได้เป็นอัมพฤกษ์ และอาการเส้นเลือดในสมองใกล้แตกมาจากความเครียดและการพักผ่อนน้อย โอดชีวิตครอบครัวสุดรันทด พ่องานหด-ถูกโกงตลอด | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | กิตติ ดัสกร,กิตติ ดัสกร อุบัติเหตุ,กิตติ ดัสกร เส้นเลือดในสมองแตก,คิตตี้ ดัสกร,คิตตี้ ดัสกร ลูกสาวกิตติ ดัสกร,กอสซิป | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1089625 |
ส.อ.ท. เชื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานส่งเสริมเศรษฐกิจ | นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำเสนอรายละเอียดแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยจะใช้เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ผ่านพระราชบัญญัติเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ต่อสภาอุตสาหกรรรมแห่งประเทศไทย ก่อนที่ในวันที่ 19 มี.ค. จะมีการเสนอร่างพระราชบัญญัติเงินกู้ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ซึ่งแนบท้ายพระราชบัญญัติฉบับนี้ จะมีเอกสารแผนโครงสร้างพื้นฐาน ที่ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง การเชื่อมโยงภูมิภาค และการปรับปรุงระบบขนส่ง นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีด้วยเมื่อวันที่ 16 มี.ค. ผ่านมา สภาอุตสาหกรรมฯ ร่วมชมนิทรรศการแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยเห็นว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะขยายโอกาสของไทยในภูมิภาค โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งที่ผ่านประเทศไทยขาดช่วงในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมานานด้านพรรคฝ่ายค้าน แม้จะเห็นว่าการลงทุนโครงสร้างจะมีประโยชน์กับประเทศในระยะยาว แต่การที่รัฐบาลจะออกเป็นพระราชบัญญัติ เป็นความพยายามของรัฐบาลที่จะเลี่ยงการตรวจสอบการกู้เงินจำนวนมหาศาล และสุ่มเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งภายหลังคณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเงินกู้ พรรคฝ่ายค้านอาจเคลื่อนไหว ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าการออกพระราชบัญญัติเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท อาจจะขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ | สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รับฟังแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จากรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ภายใต้พระราชบัญญัติเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท โดยสภาอุตสาหกรรมฯ เห็นว่าจะแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จะช่วยส่งเสริมการค้าการลงทุนในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น | เศรษฐกิจ | กระทรวงคมนาคม,ส.อ.ท.,สภาอุตสาหกรรม,ส่งเสริมเศรษฐกิจ,โครงสร้างพื้นฐาน | https://news.thaipbs.or.th/content/155052 |
เตรียมความพร้อม 20 จุดคัดกรอง งานพระราชพิธีฯ | วันนี้ (12 ธ.ค.2562) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ตรวจความพร้อมของเจ้าหน้าที่ประจำจุดคัดกรองพระแม่ธรณีบีบมวยผม เพื่อตรวจคัดกรองประชาชนที่จะเข้าร่วมชมพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.2562)กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้จัดจุดคัดกรอง และจุดบริการประชาชนครอบคลุมพื้นที่จัดงาน แบ่งเป็น 6 โซน ประกอบด้วย จุดคัดกรอง 20 จุด จุดจอดรถรอบนอก 27 จุด และจุดลงรถ Shuttle Bus 9 จุด พื้นที่รองรับประชาชน 16 พื้นที่ และจุดรับเสด็จ 253 พื้นที่ จุดตั้งโรงครัวพระราชทาน 6 จุด จุดจอดรถสุขา 20 จุด และจุดบริการทางการแพทย์ 38 จุดพล.ต.ท.ภัคพงศ์ ยังระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงเตรียมความพร้อมด้านการรักษาความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว และทางการข่าวยังไม่มีสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงส่วนประชาชนที่จะมาร่วมชมพระราชพิธี สามารถเข้าพื้นที่ได้ตั้งแต่เวลา 09.00 น.โดยระหว่างที่เข้ามาในพื้นที่สามารถชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติที่จัดตั้งอยู่บริเวณสนามหลวงโดยผู้ที่จะเข้างานต้องเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อผ่านจุดคัดกรอง และห้ามนำอาวุธติดตัวเข้ามาในงานและจะเริ่มปิดการจราจรโดยรอบพื้นที่จัดงานในเวลา 12.00 น. สำหรับเส้นทางที่ปิดการจราจรและเส้นทางที่ควรหลีกเลี่ยงสามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่หมายเลข 1197 | ตำรวจเตรียมความพร้อมดูแลความปลอดภัยงานพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.2562) โดยจัดจุดคัดกรองก่อนเข้างาน 20 จุด | อาชญากรรม | พระราชพิธี,จุดคัดกรอง,นครบาล,จุดคัดกรองพระแม่ธรณีบีบมวยผม,พระยุหยาตรา | https://news.thaipbs.or.th/content/286957 |
เปิดระบบจองสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ออนไลน์ในพื้นที่กทม. - ปชช.แนะควรมีระบบผู้สูงอายุที่ไม่คล่องเรื่องไอที | ประชาชนประทับใจระบบจองสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ออนไลน์ของ สปสช.เขต กทม. ชี้เจ้าหน้าที่ให้บริการดี ใช้เวลาฉีดรวดเร็วแถมไม่มีค่าใช้จ่าย แต่แนะควรมีระบบจองสิทธิสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่คล่องเรื่องไอทีด้วย1 ก.ค.2563 ทีมสื่อ สปสช. รายงานว่าสิรินทร์ ตันติสุขเจริญ อายุ 56 ปี หนึ่งในผู้ลงทะเบียนจองสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ผ่านช่องทางออนไลน์และรับการฉีดวัคซีนไปเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา กล่าวถึงประสบการณ์การรับบริการว่ารู้สึกประทับใจมาก เพราะปีก่อนๆ ตนก็เคยฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ แต่ไปฉีดตามโรงพยาบาลเอกชนซึ่งต้องเสียเงินเอง 400-500 บาท แต่ปีนี้เห็นมีการเชิญชวนให้ไปลงทะเบียนจองสิทธิกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จึงลองลงทะเบียนดูผ่านช่องทางไลน์สิรินทร์ กล่าวว่า ในขั้นตอนการลงทะเบียนก็ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี เนื่องจากตนเป็นพนักงานบริษัท ปีก่อนๆ ก็ไม่เคยลงทะเบียนกับ สปสช. อีกทั้งอายุยังไม่ถึง 60 ปีแต่ว่ามีค่าน้ำตาลในเลือดสูงและทางยาเบาหวานเป็นประจำ จึงปรึกษาเจ้าหน้าที่ทางไลน์ว่าสามารถลงทะเบียนจองสิทธิได้หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่จึงสอบถามข้อมูลและช่วยลงทะเบียนให้ดิฉันเลือกลงทะเบียนฉีดที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์เพราะว่าอยู่ใกล้บ้าน ใช้เวลาประมาณ 15 วันก็ได้ฉีดแล้ว พอถึงวันนัดก็เดินเข้าไปที่โรงพยาบาล จะพบป้ายบอกไว้ว่าจุดให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เอาบัตรประชาชนไปยื่น เขาก็จะพิมพ์เอกสารบางอย่างให้ถือไปยื่นให้พยาบาลที่ห้องฉีดยา ยื่นเสร็จแล้วก็ได้ฉีดเลย ใช้เวลารวดเร็วมาก ตั้งแต่ไปถึงโรงพยาบาลจนเสร็จทุกอย่างประมาณ 20 นาทีเท่านั้น สิรินทร์ กล่าวสิรินทร์ กล่าวอีกว่า โดยภาพรวมแล้วรู้สึกพึงพอใจมากเพราะครั้งนี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย สามารถเลือกโรงพยาบาลใกล้บ้านได้และการให้บริการของเจ้าหน้าที่ทั้ง สปสช.และของโรงพยาบาลก็ดี แต่ยังมีข้อเสนอแนะว่าในส่วนของผู้สูงอายุบางคนที่ไม่คล่องในเรื่องไอทีก็จะลงทะเบียนไม่ได้ ต้องไหว้วานลูกหลานหรือคนอื่นมาลงทะเบียนให้ ดังนั้นวิธีการจองสิทธิแบบนี้ทำให้อาจไม่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้และน่าจะหาวิธีการอื่นๆ รองรับคนกลุ่มนี้ด้วยทั้งนี้ ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในการรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ 1) หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 2) เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปีทุกคน (หมายถึง กลุ่มเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนเต็ม จนถึงอายุ 2 ปี 11 เดือน 29 วัน) 3) ผู้มีโรคเรื้อรัง ดังนี้ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน 4) บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป 5) ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 6) โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) และ 7) โรคอ้วน (น้ำหนัก > 100 กิโลกรัม หรือ BMI > 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) ทั้งนี้ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ เมื่ออายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป สปสช.ได้จัดเตรียมวัคซีนไว้สำหรับทุกคน โดยสามารถขอรับการฉีดวัคซีนได้ตลอดทั้งปี ไม่จำกัดเฉพาะช่วงการรณรงค์เท่านั้นขั้นตอนการจองสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 7 กลุ่มเสี่ยง ฟรี เปิดให้ลงทะเบียนจองสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 7 กลุ่มเสี่ยง สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ใน กทม. จองสิทธิผ่าน LINE@ucbkk เลือกที่ สปสช.สร้างสุข ทำตามขั้นตอนเพื่อยืนยันตัวตน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หรือคลิกที่โดยเริ่มให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 63 เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 31 ส.ค.นี้ หรือจนกว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะหมด ซึ่งขณะนี้ยังคงเหลือประมาณ 70000 โด๊ส จากจำนวนที่ได้รับจัดสรรทั้งหมดในพื้นที่ กทม. 270000 โด๊สดร.ภก.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงาน โครงการป้องกันควบคุมโรคจากสารเคมีในเลือดกับผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ภายใต้ กองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลคลองนกกระทุง (กปท.คลองนกกระทุง) อ.บางเลน จ.นครปฐม เมื่อวันที่30มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยเน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และล้างผักลดสารปนเปื้อนดร.ภก.อนันต์ชัย กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขร่วมรณรงค์กับท้องถิ่นและ สปสช. ผลักดันให้ผลผลิตทางการเกษตรและอาหารแปรรูปมีความปลอดภัยให้ไทยพร้อม เป็นครัวของโลก โดยผ่านกลไกการสนับสนุนระดับจังหวัด บูรณาการกับท้องถิ่น โดยมี กองทุนตำบลของ สปสช. ที่มีอยู่ทุกพื้นที่ กว่า 7738 แห่ง ร่วมสนับสนุนงบประมาณจากผลการสุ่มตรวจเมื่อปี 2558 มีผู้ที่ปลอดภัยจากสารเคมีที่ตกค้างในเลือดเพียง 5 %แตกต่างชัดเจน กับปัจจุบัน คือ มีผู้ที่ปลอดภัยจากสารเคมีในเลือดมากกว่า 50 %ทพ.อรรถพร กล่าวว่า กองทุน อบต.คลองนกกระทุง เป็นกองทุนตำบลหนึ่งที่เข้าร่วมดำเนินการมาตั้งแต่ยุคแรกๆ ที่ สปสช. เริ่มกองทุนตำบลมาตั้งแต่ ปี 2549 ซึ่งเป็นความร่วมมือของกระทรวงสาธารณสุข กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จนถึงเข้าร่วมครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ มีจำนวน 7738 แห่ง ครอบคลุมประชากร จำนวนกว่า 57 ล้านคน บอร์ด สปสช.จัดสรรงบประมาณให้ 45 บาทต่อประชากร เพื่อดำเนินการด้านการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคและฟื้นฟูสมรรถภาพของประชาชนผ่านการบริหารงานจากทุกภาคส่วนร่วมกัน และมีการพัฒนาศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน หรือ หน่วยรับเรื่องร้องเรียนอิสระอื่น ตามมาตรา 50(5) เช่นที่ จังหวัดนครปฐมนี้ มีศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชนจังหวัดนครปฐมให้ความรู้ มีส่วนร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพ ตั้งแต่ปี 2549 และขอขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยรับเรื่องร้องเรียนอิสระอื่น ตามมาตรา 50(5) ในปี 2553 โดยได้ดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันมานพ ศรีสุข นายก อบต.คลองนกกระทุง กล่าวว่า พื้นที่รับผิดชอบของ อบต.คลองนกกระทุง ประชากรส่วนใหญ่ มีอาชีพเกษตร อาชีพอื่นเพียง 4% มีพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มอุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำท่าจีนและลำคลองหลายสาย เดิมในพื้นที่เอง เกือบทั้งหมดทำเกษตรแบบแปลงใหญ่ ใช้สารเคมี เร่งผลผลิต เพื่อหวังขาย แต่เกิดผลกระทบข้างเคียง มีสารพิษ สารเคมีตกค้างในพื้นที่ค่อนข้างมาก ต่อมาเริ่มมีกระแสเกษตรพอเพียง เครือข่ายเกษตรทฤษฎีใหม่ ให้ทุกตำบลต้องมีศูนย์การเรียนรู้เกษตรปลอดภัยที่เป็นรูปธรรม จึงได้เริ่มมีการพัฒนาสนับสนุนโครงการมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ โดยมีเครือข่ายเกษตรคลองนกกระทุง เป็นหนึ่งที่สำคัญในการดูแลเกษตร ดูแลผู้บริโภคปลอดภัย บูรณาการโครงการมาร่วมกัน โดยการเริ่มตรวจเลือดในสารเคมีครั้งแรก โดยปี 2558 สุ่มตรวจประชากรจำนวน 100 ราย พบผู้ที่มีความเสี่ยงและไม่ปลอดภัยถึง 95 ราย จึงได้ร่วมกันเร่งพัฒนารูปแบบการทำงาน ให้ความรู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบันนกน้อยศรีนวลมาก ประธานกลุ่มเกษตรปลอดภัยคลองนกกระทุง และกรรมการกองทุน สปสช. กล่าวว่า ได้ให้ความรู้เรื่อง การส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค การเข้าถึงการรักษา การคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้สิทธิบัตรทอง และเป็นเครือข่ายการทำงานของเครือข่ายผู้บริโภค เครือข่ายคนรักหลักประกันสุขภาพ เป็นกรรมการศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชนจังหวัดนครปฐม และการคุ้มครองสิทธิด้านสุขภาพต่างๆ ที่สำคัญ คือ ในปี 2558 ริเริ่มโครงการขอให้มีการตรวจสารเคมีในเลือดให้แก่กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ ในการสร้างความเข้าใจและลดความเสี่ยงจากพืชผักในพื้นที่ตำบลทพ.ญ.มนิธี ต่อเศวตพงศ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า จากการสำรวจข้อมูลเกษตรกรของจังหวัดนครปฐม ในปี พ.ศ. 2562 พบว่าจังหวัดนครปฐม มีพื้นที่ในการปลูกข้าวทั้งจังหวัด จำนวน 241708 ไร่ มีเกษตรกรที่ทำนา จำนวน 13687 ครัวเรือน อำเภอบางเลน เป็นแหล่งที่มีการทำนา มากที่สุด จำนวน 142836 ไร่ มีเกษตรกรที่มีอาชีพทำนา 7075 ครัวเรือน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งการปลูกพืช ผัก ผลไม้ ที่มีคุณภาพ ได้มีการพัฒนาวิถีเกษตรปลอดภัย ที่พร้อมเป็นครัวโลก แหล่งอาหารปลอดภัยของภาคกลาง ที่มีการดำเนินการเชิงนโยบายตามแนวทางเกษตรพอเพียง โดยบูรณาการงานระดับจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขนครปฐม ร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัดนครปฐม กลุ่มเกษตรอินทรีย์ และเอกชนในพื้นที่ จัดให้มีการตรวจหาปริมาณสารเคมีที่ตกค้าง เพื่อหวังกระตุ้นให้เกษตรกรลดการใช้สารเคมี ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการผลิตและบริโภคอย่างปลอดภัยผลการตรวจหาปริมาณสารเคมีทางการเกษตรตกค้างในเลือดเกษตรกรของจังหวัดนครปฐม ประจำปี 2562 จำนวน 1687 ราย พบมีผลปกติ 255 ราย(15.11 %) ปลอดภัย 479 ราย(28.39 %) เสี่ยง 592 ราย(35.09 %) และไม่ปลอดภัย 361 ราย(21.39 %) รวมทั้ง มีแนวทางให้เกษตรกรลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร โดย ร่วมกันรณรงค์ภายใต้นโยบายอาหารปลอดภัย เพื่อให้ผู้บริโภคมีความรู้ในการเลือกซื้อผลิตทางการเกษตรที่ปลอดภัย ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรทำการเกษตรที่ปลอดภัย ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งจังหวัด พร้อมกับชูให้แต่ละตำบลที่ดำเนินการเกษตรปลอดภัย เป็นหนึ่งในศูนย์การเรียนรู้ของกองทุนระดับตำบลด้วย | ประชาชนประทับใจระบบจองสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ออนไลน์ของ สปสช.เขต กทม. ชี้เจ้าหน้าที่ให้บริการดี ใช้เวลาฉีดรวดเร็วแถมไม่มีค่าใช้จ่าย แต่แนะควรมีระบบจองสิทธิสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่คล่องเรื่องไอทีด้วย1 | คุณภาพชีวิต | วัคซีนไข้หวัดใหญ่,สปสช.,สารเคมี | https://prachatai.com/journal/2020/07/88409 |
สมบัด สมพอนหายตัวครบ 2 ปี: ภรรยารวบรวมผลงานหวังสร้างแรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่ในลาว | ขณะที่ข้าหลวงสิทธิมนุษยชนกังวลกฎหมายควบคุมข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตจะปิดกั้นเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและกระทบกับงานพัฒนาในลาว11 ธ.ค. 2557 - ในการแถลงข่าวในโอกาสครบ 2 ปี การหายตัวไปของสมบัด สมพอน นักพัฒนาอาวุโสของลาว และเจ้าของรางวัลแมกไซไซปี 2548 และการเปิดตัวกลุ่ม ความริเริ่มของสมบัด ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) กรุงเทพมหานครทั้งนี้สมบัด สมพอน หายตัวไป ระหว่างการขับรถกลับบ้านพักในนครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในช่วงระหว่าง 17.00-18.00 น. ของวันเสาร์ที่ 15 ธ.ค. ปี 2555 โดยก่อนหายตัวไป ยังมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดว่าเขาถูกเรียกที่ด่านตรวจของตำรวจ และมีชาย 2 คนพาตัวเขาไป โดยองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ เรียกร้องให้ทางการลาวเร่งติดตามการหายตัวไปดังกล่าวในการแถลงข่าว อังคณา นีละไพจิตร ประธานมูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ให้กำลังใจอึ้ง ชุยหมิง ภรรยาของสมบัด สมพอน และญาติของผู้ถูกบังคับสูญหายว่า ขอให้ต่อสู้จนถึงที่สุด เพื่อความจริงและความยุติธรรมท่ามกลางความรุนแรงและการข่มขู่คุกคาม ดิฉันเชื่อว่า ไม่มีใครตัวเล็กเกินไปที่อยู่กับเกียรติยศและศักดิ์ศรี ดิฉันเชื่อว่า ในความเจ็บปวดจากหัวใจของเรา ไม่อาจทำลายได้ ไม่อาจแตะต้องได้ด้วยหนี้แห่งความเจ็บปวดนี้ เราจะยังคงต่อสู้เพื่อความยุติธรรม และท่ามกลางความสูญเสียและความเจ็บปวด เราจะต้องหยุดกำแพงแห่งความเงียบและความกลัว เพื่อยุติวัฒนธรรมการไม่ต้องรับผิด สิ่งนี้ไม่ใช่เพียงเพื่อพวกเราเท่านั้น แต่สำหรับชีวิตคนอื่นๆ นับร้อย ผู้ซึ่งได้รับผลกระทบจากความไม่ยุติธรรมแซม ซาฟารี จากคณะกรรมการนิติศาสตร์สากล หรือ ICJ กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำคดีอิสระได้ติดตามกรณีสูญหายดังกล่าว และพบว่ากรณีที่เกิดขึ้น สามารถคลี่คลายได้ หากมีกระบวนการสอบสวนที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามสิ่งที่รัฐบาลลาวยังไม่เพียงพอทั้งนี้แซมยังเรียกร้องให้รัฐบาลลาวสืบสวนคดีดังกล่าวตามหลักมาตรฐานเพื่อให้เป็นไปตามพันธะกรณีระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังขอให้รัฐบาลลาวเปิดเผยข้อมูลสำคัญที่มีให้กับครอบครัวของสมบัดด้วยมาทิลดา บ็อกเนอร์ ผู้แทนข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) กล่าวว่า ทีผ่านมาภาคประชาสังคมในลาว ประสบความยากลำบากในการดำเนินงานมาอย่างยาวนาน การหายตัวไปของสมบัด สมพอน ยิ่งทำให้สถานการณ์ทำงานลำบากยิ่งขึ้นนอกจากนี้รัฐบาลลาวได้ออกกฎหมายควบคุมข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต โดยมีเนื้อหาคลุมเครือ ซึ่งเอื้อให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลนำไปใช้ในทางละเมิดได้ เช่น เนื้อหาในกฎหมายที่ระบุห้ามเผยแพร่ข้อมูลที่ผิดเกี่ยวกับพรรคประชาชนปฏิวัติลาวและรัฐบาล การห้ามไม่ให้เผยแพร่ข้อมูลที่บ่อนทำลายความเป็นเอกภาพและความสมานฉันท์ของสังคมโดยกฎหมายดังกล่าว สร้างความกังวลอย่างยิ่งว่าจะมีผลต่อเสรีภาพการแสดงออก และเสรีภาพในการทำงานของผู้ปฏิบัติงานในองค์กรภาคประชาสังคมภายในประเทศด้านอึ้ง ชุยหมิง ภรรยาของสมบัด สมพอน กล่าวว่า วันนี้ครบรอบ 726 วัน อีก 4 วันก็จะครบ 2 ปีที่สมบัด ถูกลักพาตัวไปจากเธอและครอบครัว อย่างไรก็ตาม ความตกใจ ความเจ็บปวดรวดร้าวไม่ได้หายไปไหน กลับกันความวิตกกังวลกลับเพิ่มขึ้นทุกวันมีคนถามว่า คิดว่าสมบัดยังมีชีวิตอยู่ไหม คำตอบของดิฉันคือ ดิฉันหวังเพียงแค่ให้เขายังคงมีชีวิตอยู่เท่านั้น โดยปราศจากความหวังนั้น ฉันคงไม่มีกำลังพอที่จะลุกตื่นขึ้นมาในแต่ละวันทั้งนี้ อึ้ง ชุยหมิง กล่าวว่าสมาชิกครอบครัวและเธอได้เริ่มรวบรวมผลงานและข้อเขียน คำให้สัมภาษณ์ของสมบัด สมพอน ภายใต้ชื่อโครงการ การริเริ่มของสมบัด (Sombath Initiative) โดยหวังว่าจะช่วยดิฉัน บรรเทาความสูญเสียและความเจ็บปวด ในทางที่เกิดประสิทธิภาพชุยหมิง กล่าวด้วยว่า ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่ทำนี้จะทำให้ความเจ็บปวดหายไป แต่เพื่อเป็นการทำอย่างจริงจังและมีความหมาย อย่างที่อังคณา นีละไพจิตรเคยกล่าวไว้ โดยชุยหมิง กล่าวว่าจะยังคงแบกรับความเจ็บปวดนี้ เพื่อช่วยในการเดินหน้าแสวงหาความยุติธรรมโดยภรรยาของสมบัด หวังว่าคดีการหายตัวไปของเขาจะได้รับการคลี่คลาย ความคิดและการทำงานของสมบัด จะได้รับการสานต่อผ่านโครงการ การริเริ่มของสมบัด และสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานแก่คนรุ่นหนุ่มสาวใน สปป.ลาว และภูมิภาค | แถลงข่าวครบ 2 ปี เจ้าของรางวัลแมกไซไซชาวลาว สมบัด สมพอน หายตัว โดยภรรยายังมีความหวังว่าสมบัดจะได้กลับบ้าน พร้อมเปิดตัวโครงการรวบรวมผลงานของสมบัด หวังสร้างแรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่ | ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน | Sombath Initiative,การบังคับสาบสูญ,คนหาย,มัลติมีเดีย,ลาว,สมบัด สมพอน,อังคณา นีละไพจิตร,อึ้ง ชุยหมิง | https://prachatai.com/journal/2014/12/56998 |
สภาวิศวกรเผยวิศวกรจีนรุ่นแรกสร้างรถไฟความเร็วสูงผ่านเกณฑ์กฏหมายไทย | 9 ต.ค. 2560 รายงานข่าวจากสภาวิศวกร แจ้งว่าอมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร แถลงผลการดำเนินงานอบรมและทดสอบวิศวกรจีนที่จะเข้ามาปฏิบัติงานในโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา ว่า การอบรมและทดสอบวิศวกรจีนในโครงการดังกล่าวเป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 30/2560 โดยมีวิศวกรจีนที่จะเข้ารับการอบรมและทดสอบโดยสภาวิศวกรไทย จำนวน 400 คนโดยประมาณ ประกอบด้วยวิศวกรระดับ Professor professional Senior professional และระดับ Professional ครอบคลุมสาขาวิศวกรรมโยธา ไฟฟ้า เครื่องกล และ อื่นๆอมร กล่าวต่อว่าการจัดอบรมและทดสอบวิศวกรจีนแบ่งออกเป็น 4 รุ่นดังนี้ รุ่นที่ 1 วันที่ 22-25 ก.ย.ที่ผ่านมา รุ่นที่ 2 วันที่ 12-15 ต.ค. รุ่นที่ 3 วันที่ 27-30 ต.ค. และรุ่นที่ 4 วันที่ 10-13 พ.ย. โดยทั้ง 4 รุ่นจัดที่นครเทียนจิน ประเทศจีนสำหรับหลักสูตรฝึกอบรมและทดสอบวิศวกรจีน นั้น เลขาธิการสภาวิศวกรกล่าวว่า มิได้เป็นการอบรมเรื่องรถไฟความเร็วสูงแต่เป็นการอบรมความรู้ในเรื่องที่วิศวกรจีนจำเป็นต้องรู้ก่อนเข้ามาปฏิบัติงานในประเทศไทย ทั้งในเรื่องข้อกฎหมาย และ สภาพท้องที่ (local conditions) ของประเทศไทย เช่น สภาพทางธรณีวิทยา ชั้นดิน ลุ่มน้ำและน้ำท่วม ตลอดจนภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และ ลมพายุ ในประเทศไทย ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นต่อการออกแบบและก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงส่วนการอบรมและทดสอบวิศวกรจีนรุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 22-25 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น มีวิศวกรจีนเข้ารับการอบรมและทดสอบจำนวน 77 คน ในส่วนของการทดสอบนั้นประกอบด้วยข้อสอบ 2 ชุด โดยชุดที่ 1 เกี่ยวข้องกับกฎหมายและจรรยาบรรณ มี 50 ข้อ เกณฑ์ผ่านพิจารณาที่ 60% หรือ 30 ข้อ ส่วนข้อสอบชุดที่ 2 เกี่ยวข้องกับด้านเทคนิคและสภาพท้องที่ของประเทศไทย มี 100 ข้อเกณฑ์ผ่าน 60% หรือ 60 ข้อสำหรับผลการทดสอบวิศวกรจีน 77 คนในรุ่นที่ 1 นั้น เลขาธิการสภาวิศวกรพิมานมาศเปิดเผยว่า วิศวกรจีนทั้ง 77 คนผ่านการทดสอบข้อสอบชุดที่ 1 และ ชุดที่ 2 ทั้ง 77 คน โดยข้อสอบชุดที่ 1 คะแนนต่ำสุด 39 คะแนนสูงสุด 48 และคะแนนเฉลี่ย 44 คะแนนซึ่งผ่านเกณฑ์ 30 คะแนนทุกคน และสำหรับข้อสอบชุดที่ 2 คะแนนต่ำสุด 76 คะแนนสูงสุด 89 และคะแนนเฉลี่ย 82 คะแนน ซึ่งผ่านเกณฑ์ 60 คะแนนทุกคน จากนี้ไป สภาวิศวกรจะออกใบรับรองผ่านการอบรมและทดสอบความรู้ให้แก่วิศวกรจีนในรุ่นที่ 1 นี้ เพื่อให้สามารถเข้ามาทำงานในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไปจากเหตุการณ์คอสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ จ.ขัยนาท ได้พังถล่มลงมาทับคนงานที่กำลังก่อสร้างจนได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายรายเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น เลขาธิการสภาวิศวกรเปิดเผยว่า โครงสร้างสะพานดังกล่าวเป็นโครงสร้างสะพานคอนกรีตอัดแรงรูปกล่อง (prestressed concrete box viaduct) ก่อสร้างด้วยระบบคานยื่นสมดุล (balanced cantilever) ช่วงกลางแม่น้ำมีความยาว 120 ม. สำหรับบริเวณที่พังถล่มไปนั้นเป็นส่วนที่เรียกว่า คอสะพาน (approach slab) มีความยาวประมาณ 14 ม. ก่อสร้างระบบหล่อในที่มีนั่งร้านเหล็กรองรับ ซึ่งพบว่านั่งร้านเหล็กที่รองรับคอสะพานดังกล่าววิบัติ จึงทำให้คอสะพานถล่มลงมาบนพื้นดินต่อมา เมื่อวันที่ 3 ต.ค. สภาวิศวกรได้ส่งคณะผู้ชำนาญการพิเศษ เข้าตรวจสอบสาเหตุการวิบัติของนั่งร้านเหล็กที่รองรับน้ำหนักของคอสะพานดังกล่าว ร่วมกับวิศวกรจากกรมทางหลวงชนบท และจากบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง ซึ่งจากการสำรวจ สภาวิศวกรได้ตั้งข้อสันนิษฐานสาเหตุของการพังถล่ม ไว้ 2 ปัจจัยหลัก คือ 1. การก่อสร้างนั่งร้านเหล็กรองรับคอสะพานอาจไม่ได้มาตรฐานทางวิศวกรรมเนื่องจากตรวจพบข้อบกพร่องหลายจุด เช่น การเชื่อมต่อขานั่งร้าน และ การยึดโยงค้ำยันนั่งร้านไม่ได้มาตรฐาน และ 2. ขั้นตอนและวิธีการก่อสร้างสะพานเป็นไปตามแบบหรือไม่ เนื่องจากพบตำแหน่งรอยต่อขยายตัวไม่เป็นไปตามแบบ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการพังถล่มได้ อย่างไรก็ตามต้องมีการตรวจสอบว่าได้มีการขออนุญาตปรับเปลี่ยนแบบที่ใช้ก่อสร้างหรือไม่อย่างไรก็ตาม เลขาธิการสภาวิศวกรเปิดเผยว่า ในส่วนของสภาวิศวกร นั้นมีอำนาจหน้าที่ที่จะต้องเรียกตัววิศวกรที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาให้ข้อมูล เนื่องจากโครงสร้างสะพานดังกล่าวมีช่วงยาวถึง 120 ม. ซึ่งจัดเป็นวิศวกรรมควบคุมตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ.2542 ดังนั้นสภาวิศวกรจะมีการดำเนินการทางจรรยาบรรณกับวิศวกรที่เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุการวิบัติที่แท้จริง และหากพบว่า มีวิศวกรที่เกี่ยวข้องไม่ปฏิบัติตามหลักวิชาการ อาจจะมีโทษสูงสุดคือเพิกถอนใบอนุญาตสำหรับมาตรการที่สภาวิศวกรจะดำเนินการต่อไปนั้น เลขาธิการสภาวิศวกร เปิดเผยว่า การพังถล่มของนั่งร้านเกิดขึ้นหลายครั้งในอดีต สภาวิศวกรจะเชิญวิศวกรโยธามาเข้ารับการฝึกอบรมในวันที่ 21 ต.ค.นี้ ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค โดยใช้บทเรียนจากการพังถล่มของคอสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ. ชัยนาท ให้วิศวกรได้เรียนรู้ และระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในอนาคต อีกทั้งสภาวิศวกรกำลังจะเร่งจัดทำมาตรฐานและคู่มือสำหรับออกแบบและก่อสร้างนั่งร้านและโครงสร้างชั่วคราว เพื่อให้วิศวกรมีแนวทาง คาดว่าจะใช้เวลาจัดทำประมาณ 6 เดือน | ทดสอบวิศวกรจีนรุ่นแรกสร้างรถไฟความเร็วสูงผ่านเกณฑ์กฏหมายไทย เดินหน้าเสริมความรู้สภาพพื้นที่ภูมิประเทศของไทยต่อครบ 4 รุ่น พร้อมเปิด 2 ประเด็น บทเรียนเหตุคอสะพานแม่น้ำเจ้าพระยาที่ชัยนาทพังถล่ม | เศรษฐกิจ | จีน,รถไฟความเร็วสูง,วิศวกร,วิศวกรจีน,สภาวิศวกร,สะพานแม่น้ำเจ้าพระยา | https://prachatai.com/journal/2017/10/73601 |
ผบ.ทบ.บรรยายพิเศษ แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง | วันนี้ (11 ต.ค.2562)กองบัญชาการกองทัพบก มีการจัดกิจกรรมมวลชนสัมพันธ์ประจำปี 2562 และโอกาสนี้ผู้บัญชาการทหารบก โดย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก บรรยายพิเศษในหัวข้อ เพื่อให้มวลชนมีความเข้าใจในการปฏิบัติภารกิจของกองทัพบก และร่วมทำกิจกรรมกับกำลังพลของกองทัพบกในการช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด และในโอกาสที่เริ่มต้นปีงบประมาณ 2563ทั้งนี้ เนื่องด้วยปัจจุบันสถานการณ์บ้านเมือง ทั้งภายในและนอกประเทศ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ด้วยวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนไป กองทัพบกในฐานะหน่วยงานหนึ่งที่รับผิดชอบ ดูแลงานด้านความมั่นคงของชาติ จึงจำเป็นต้องปรับองค์กรให้สามารถปฏิบัติภารกิจให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวโดยยึดมั่นในการดำรงไว้ซึ่งความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตลอดจนการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในทุกโอกาส ดังนั้นเพื่อสร้างการตระหนักรับรู้และเข้าใจบทบาทของกองทัพที่เปลี่ยนแปลงไปในมิติของความมั่นคง ตลอดจนความสำนึกรักแผ่นดินและความสามัคคีแก่ประชาชนทั้งนี้ พล.อ.อภิรัชต์ จะเล่าประสบการณ์ และมุมมองการทำงาน ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน รวม 8 องค์ประกอบ ทั้งเหตุบ้านการเมืองที่เกิดปัญหาความขัดแย้ง จนนำไปสู่การใช้อาวุธสงครามโต้ตอบกันไปมา หรือแม้แต่การแสดงจุดยืดของกองทัพต่อสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน โดยเฉพาะการถอนบทเรียนการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่เป็นผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 14 จังหวัดยะลา ซึ่งอาจจะรวมไปถึงโครงข่ายขบวนการทำลายประเทศสำหรับการจัดกิจกรรมมวลชนสัมพันธ์ของกองทัพบกในครั้งนี้ มีผู้ตอบรับที่จะเข้าร่วมรับฟังการบรรยายพิเศษจากผู้บัญชาการทหารบก ประมาณ 500 คน จากภาคประชาชน นิสิตนักศึกษา นักศึกษาวิชาทหาร พี่น้องชาวไทยมุสลิม มวลชนที่อยู่ในเขตรอบที่ตั้งกองทัพบก รวมถึงผู้มีชื่อเสียงในสังคม และผู้บริหารสื่อโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ ทั้งไทยและต่างประเทศ และศิลปินดารา-นักแสดง อาทิ ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค สินจัย เปล่งพานิช โจ จิรายุส วรรธนะสิน | พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.บรรยายพิเศษ แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง เล่าประสบการณ์ และมุมมองการทำงาน ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน รวมถึงการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ครั้งที่เป็นผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 14 จ.ยะลา | การเมือง | พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์,ผบ.ทบ.,บรรยายพิเศษ,แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง | https://news.thaipbs.or.th/content/285087 |
ผู้นำอียิปต์ประกาศภาวะฉุกเฉิน 3 เดือน หลังเกิดเหตุระเบิดที่โบสถ์คริสต์ 2 แห่ง | วันนี้ (10 เม.ย.2560) กระทรวงมหาดไทยอียิปต์เผยภาพระทึกขณะเกิดเหตุระเบิดที่โบสถ์คริสต์นิยกายคอปติก 2 แห่งในวันปาล์ม ซันเดย์ ซึ่งเป็นวันสำคัญทางศาสนาของชาวคริสต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเหตุระเบิดครั้งแรกเกิดขึ้นที่โบสถ์เซนต์ จอร์จของนิกายคอปติกในเมืองตอนตอทางตอนเหนือของกรุงไคโร แรงระเบิดสร้างความเสียหายอย่างหนัก จากนั้นอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเกิดเหตุระเบิดครั้งที่สองที่โบสถ์นิกายคอปติกในเมืองอเล็กซานเดรีย หลังมือระเบิดจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายขณะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้นตัวที่ประตูทางเข้าโบสถ์ โดยเหตุระเบิดทั้ง 2 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 45 คนละได้รับบาดเจ็บอีก 119 คน หลังเกิดเหตุุกลุ่มไอเอสอ้างเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง โดยก่อนหน้านี้กลุ่มไอเอสมุ่งการโจมตีชาวคริสต์นิกายคอปติกในอียิปต์และประกาศเตือนว่าจะก่อเหตุโจมตีมากขึ้นอีกด้านประธานาธิบดีอับดุล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ผู้นำอียิปต์ประกาศภาวะฉุกเฉินในประเทศเป็นเวลา 3 เดือนหลังการประชุมฉุกเฉินสภากลาโหมแห่งชาติ เพื่อเพิ่มอำนาจตำรวจในการจับกุมโดยไม่ต้องออกหมายจับและการตรวจค้นบ้านเรือนของประชาชนเหตุระเบิดเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่คริสต์ศาสนิกชนร่วมกันทำพิธีในวันปาล์ม ซันเดย์หรือวันอาทิตย์ใบลานเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูเสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มเมื่อกว่าสองพันปีมาแล้ว และเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสต์จักรนิกายโรมันคาทอลิกจะเสด็จเยือนอียิปต์เพื่อสนับสนุนชาวคริสต์ที่เป็นคนกลุ่มน้อยในอียิปต์ | ผู้นำอิยิปต์ประกาศภาวะฉุกเฉิน 3 เดือน หลังเกิดเหตุระเบิดที่โบสถ์คริสต์ 2 แห่งในวันสำคัญทางศาสนา มีผู้เสียชีวิตกว่า 40 คน ได้รับบาดเจ็บอีกกว่าร้อยคน | ต่างประเทศ | อียิปต์,ภาวะฉุกเฉิน,ระเบิด,โบสถ์คริสต์,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/261520 |
โจ๋ 19 ขี่จยย.ถูกรถแท็กซี่เปลี่ยนเลน เบรกไม่ทัน ชนท้าย ดับอนาถ | ไม่ทัน จนเกิดเหตุสลด ,เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 13 มี.ค. พ.ต.ท.ชัยณรงค์ แดงนกขุ้ม สว.(สอบสวน) สน.สายไหม รับแจ้งเหตุ รถจยย.ชนท้ายรถยนต์ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณถนนเทพารักษ์ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์นิติเวชรพ.ภูมิพล และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง,ที่เกิดเหตุ เป็นถนน 4 เลน ฝั่งมุ่งหน้าจาก ถนนพหลโยธิน ก่อนตัดเข้าถนนสุขาภิบาล 5 ประมาณ 100 เมตร บริเวณเลนที่3 พบศพนายอภิชาติหรืออ๊อฟ พังทุย อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่33/220 ซอยสุขาภิบาล5 ซอย20 แยก 3 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. สภาพศพนอนหงาย ส่วมเสื้อโปโลแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนส์ ขายาวสีดำ บริเวณใบหน้ามีแผลฉีกขาดและกะโหลกยุบ นอนเสียชีวิตจมกองเลือด ใกล้กันพบ รถจยย. ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีแดง หมายเลขทะเบียน 6 กว 4354 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายสภาพรถพังเสียหายยับเยินล้มคว่ำอยู่ ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบรถยนต์รับจ้างสาธารณะ ยี่ห้อ นิสสัน รุ่นทีด้า สีเขียวเหลือง หมายเลขทะเบียน มฉ 5784 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่สภาพท้ายรถพังเสียหาย โดยมีนายนายสมศักดิ์ หล้ามณี อายุ 41 ปี คนขับแท๊กซี่ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาที่เกิดเหตุ บรรดากลุ่มเพื่อนผู้ตายได้เข้ารุมทำร้ายร่างกาย นายสมศักดิ์ จนได้รับบาดเจ็บดั้งจมูกหักเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องนำตัวส่งรพ.นพรัตน์,จากการสอบสวนนายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี เปิดเผยว่า ตนเป็นเพื่อนของผู้ตาย ก่อนเกิดเหตุตนและผู้ตายได้ขับขี่รถจยย. ไปหาแฟนของผู้ตาย ย่านดอนเมือง และกำลังจะกลับบ้านพักย่านสายไหม เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ขณะที่เพื่อนตนขับอยู่เลนขวา ส่วนแท็กซี่ขับอยู่เลนซ้าย จู่ๆ แท็กซี่ ก็เบียดเข้าเลนขวาโดยที่ไม่เปิดไฟเลี้ยว ทำให้เพื่อนตนเองเบรกไม่ทันและชนท้ายเสียหลักล้มเสียชีวิต จากนั้นแท็กซี่คันดังกล่าว ยังขับเลยไปอีก 100 เมตร จึงจอดรถลงมายืน โดยที่ไม่เข้ามาดูเพื่อนตนเลย,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณที่เกิดเหตุ และต้องสอบสวนคนขับรถแท็กซี่ซึ่งขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ ส่วนศพนำส่งนิติเวช รพ.ภูมิพล เพื่อชันสูตรศพหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าวมักจะมีกลุ่มวัยรุ่นมารวมตัวกันเพื่อแข่งรถจยย. และมักจะเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุยังเคยเกิดเหตุลักษณะเดียวกันกับนายชวลิต ศรีมั่นคงธรรมหรือดีเจเชาเชา จนเป็นข่าวดัง | โจ๋ 19 ขี่จยย.ชนท้ายรถแท็กซี่ ดับอนาถ ระหว่างกลับมาจากไปหาแฟนสาวที่บ้านย่านดอนเมือง เพื่อนคนตาย โกรธสุดขีดรุมทำร้ายแท็กซี่ดั้งจมูกหัก อ้าง รถแท็กซี่ขับเปลี่ยนเลนกระชั้นชิด ทำให้ผู้ตายเบรก | ข่าว,ทั่วไทย | โจ๋ วัย 19ปี,ขี่จยย.ชนท้ายแท็กซี่,ดับอนาถ,คนขับแท็กซี่ดั้งจมูกหัก,สายไหม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1226447 |
เหยื่อฮิโรชิมาร่ำ ‘นิวเคลียร์ไม่ควรถูกใช้อีก’ ฮาวายเตรียมแผนรับมือภัยโสมแดง | 72 ปีก่อน เด็กหญิงชาวญี่ปุ่นวัยสิบปี มิตสึโกะ ไฮด์กี (Mitsuko Heidke) กำลังนั่งอยู่บนรถไฟเพื่อจะไปเรียนหนังสือในฮิโรชิมา แต่การเดินทางของเธอต้องสิ้นสุดลงที่ข้างทางหลังสหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ลงในประเทศญี่ปุ่น ฉันเห็นแสงวาบ ฉันไม่เคยเห็นอะไรที่สว่างขนาดนั้นมาก่อนเลย หลังจากนั้น ฉันก็เห็นเมฆรูปเห็ดลอยขึ้น ไฮด์กีในวัยบั้นปลายชีวิตกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องวิ่งลงจากรถไฟจนพบภาพที่ไม่สามารถลืมได้ลง มันช่างสยดสยองเหลือเกิน ผู้คนต่างพากันวิ่งหนีตายทั้งที่ผิวพวกเขาไหม้เกรียมและหลุดลอกออกจากกระดูก เธอกล่าวถึงเหตุโศกนาฏกรรมเมื่อวัยเด็กครั้งที่นิวเคลียร์อเมริกันคร่าชีวิตประชาชนในญี่ปุ่นอย่างน้อย 70000 คน ฝันร้ายเมื่อวัยเยาว์ยังคงตามหลอกหลอนเธอ เมื่อได้ยินถึงภัยการทดลองขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ รวมถึงพิสัยที่คาดการณ์ว่าครอบคลุมรัฐฮาวายที่เธออาศัยอยู่ในปัจจุบัน จนทำให้มีประกาศเตรียมรับมือภัยนิวเคลียร์เป็นรัฐแรกของอเมริกา ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า พิสัยขีปนาวุธข้ามทวีปเกาหลีเหนืออาจครอบคลุมได้ไกลถึงรัฐอะแลสกาของสหรัฐอเมริกา โดยที่ขีปนาวุธรองลงมาอย่างมูซูดันก็สามารถโจมตีเกาะกวม สถานที่ซึ่งเกาหลีเหนือเพิ่งขู่ว่าจะยิงใส่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ข้อมูลจากฝ่ายกิจการสาธารณะรัฐฮาวายเปิดเผยว่า ขีปนาวุธข้ามทวีปจากเกาหลีเหนือจะใช้เวลา 20 นาทีถึงฮาวาย ขณะเดียวกัน เวิร์น มิยางิ (Vern Miyagi) ผู้บริหารหน่วยจัดการฉุกเฉินระบุว่า กองบัญชาการทหารภาคพื้นแปซิฟิกมีเวลาเพียง 5 นาทีที่จะตรวจจับการยิงและเป้าหมาย นั่นหมายความว่าประชาชนมีเวลาในการหาที่หลบภัยภายในเวลา 15 นาที ในปัจจุบัน ที่หลบภัยกัมมันตภาพรังสีสำหรับประชากรนับ 1.4 ล้านในฮาวายมีไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แจ้งให้ประชาชนรับรู้ถึงวิธีปฏิบัติหากเกาหลีเหนือลงมือขึ้นจริง พร้อมย้ำให้กักตุนอาหารและอุปกรณ์ฉุกเฉินสำหรับ 14 วันเอาไว้ด้วย สำหรับมิตสึโกะที่ใช้เวลานานหลายวันในพื้นที่การทิ้งระเบิดเพื่อตามหาแม่แต่ก็ต้องผิดหวัง เหตุการณ์เหล่านี้ยังเกิดขึ้นกับอีกหลายครอบครัวในโศกนาฏกรรมดังกล่าว สำหรับเธอแล้วมีเพียงข้อความเดียวที่อยากให้ผู้นำโลกและทุกคนได้ฟัง ระเบิดชนิดนี้ไม่ควรที่จะถูกใช้อีก ไม่ควรอีกเลยอ้างอิง: | 72 ปีก่อน มิตสึโกะ ไฮด์กี (Mitsuko Heidke) กำลังนั่งรถไฟไปเรียนที่ฮิโรชิมา ซึ่งเธอได้เห็นโศกนาฏกรรมการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ด้วยตัวเองนิวเคลียร์อเมริกันคร่าชีวิตประชาชนในญี่ปุ่นอย่างน้อย 70000 คนข้อมูลจากฝ่ายกิจการสาธารณะรัฐฮาวายเปิดเผยว่า ขีปนาวุธข้ามทวีปจากเกาหลีเหนือจะใช้เวลา 20 นาทีถึงฮาวาย | null | null | https://thestandard.co/hiroshima-victim-stop-hawaii-nuclear/ |
ริ้วขบวนพระมหาพิชัยราชรถ เคลื่อนผ่าน สะอื้นไห้น้ำตาหลั่งรินท่วมหัวใจ | เมื่อขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 1 เคลื่อนเข้ารวมกับริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 2 ที่ตั้งรออยู่ ณ วงเวียนกรมการรักษาดินแดน โดยอัญเชิญพระโกศทองใหญ่ขึ้นประดิษฐานในบุษบกพระมหาพิชัยราชรถ บริเวณหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติยศสูงสุด ซึ่งริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 2 นี้ เริ่มเคลื่อนเมื่อเวลา 09.36 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระดำเนินตามในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 2 มุ่งหน้ายังพระเมรุมาศ กลางท้องสนามหลวง ท่ามกลางพสกนิกรจำนวนมากที่มารอรับเสด็จ ร่วมชมและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร บันทึกภาพริ้วขบวนพระบรมอิสริยยศที่สง่างามสมพระเกียรติ หลายคนหลั่งน้ำตาออกมาอย่างห้ามไม่อยู่,ริ้วขบวนนี้ใช้กำลังพล 2,406 นาย สำหรับการเดินของริ้วขบวนที่ 2 นี้ จะเดินตามจังหวะเพลงพญาโศก เพลงสรรเสริญเสือป่า และสรรเสริญพระนารายญ์ มีราชรถองค์สำคัญคือ พระมหาพิชัยราชรถ เป็นราชรถที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ด้วยความสูง 11 เมตร 20 เซนติเมตร กว้าง ยาว 18 เมตร และหนักมากกว่า 13 ตัน จึงต้องใช้พลฉุดชักเพื่อเคลื่อนพระมหาพิชัยราชรถทั้งหมด 216 นาย แบ่งเป็นส่วนด้านหน้า 172 นาย ด้านหลัง 44 นาย และพลควบคุม 5 นาย,อย่างไรก็ตาม เมื่อพระมหาพิชัยราชรถเข้าสู่ท้องสนามหลวง เทียบเกยลาแล้ว จะเชิญพระโกศทองใหญ่ลงจากพระมหาพิชัยราชรถ เพื่อประดิษฐานพระโกศทองใหญ่บนราชรถปืนใหญ่ส่วนหลัง แล้วเชิญมาเชื่อมกับราชรถปืนใหญ่ส่วนหน้า ที่จอดรออยู่ภายในรั้วราชวัตร แล้วเคลื่อนเข้าสู่ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 3 ต่อไป | ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 2 เริ่มเมื่อเวลา 09.36 น. พสกนิกรจำนวนมากบันทึกภาพริ้วขบวนที่สง่างามสมพระเกียรติ เห็นพระมหาพิชัยราชรถ เคลื่อนผ่านถึงกับน้ำตาหลั่งริน ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พ่อหลวง | ข่าว,ทั่วไทย | รัชกาลที่9,ในหลวง ร.9,พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ,ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ,สนามหลวง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1104284 |
น้องเมย์ พร้อมแข่งเจแปน โอเพ่น | หลังจากที่มีอาการบาดเจ็บที่หลังจนต้องขอถอนตัวจากแบดมินตันรายการไชน่า มาสเตอร์ส ซุเปอร์ซีรีส์ไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด เมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ มือ 2 ของโลก เจ้าของแชมป์โลกคนล่าสุดได้ออกทางจากประเทศไทยไปประเทศญี่ปุ่น เพื่อลงแข่งขันรายการเจแปน โอเพ่น ซุเปอร์ซีรีส์ ระหว่างวันที่ 17 - 22 กันยายนนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยน้องเมย์ เปิดเผยว่า แม้จะยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ 100% แต่เนื่องจากติดสัญญากับสปอนเซอร์จึงต้องเดินทางไปแข่งขัน และจะทำให้ดีที่สุด แต่ถ้าเกิดอาการบาดเจ็บกำเริบก็อาจจะต้องพิจารณาอีกครั้งขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย เนื่องจากไม่ต้องการให้บาดเจ็บเรื้อรังน้องเมย์ บอกอีกว่า อาการบาดเจ็บที่เป็นอยู่ อาจจะส่งผลต่อการเล่นลีกอาชีพกับสโมสรชิงเต่าที่จีน ที่จะเริ่มเปิดฤดูกาลในปลายเดือนนี้ด้วย ทำให้ตอนนี้ทางต้นสังกัด และทีมผู้ฝึกสอนพยายามหาทางรักษา เพื่อให้น้องเมย์หายให้เร็วที่สุด หรือหากไม่เป็นไปตามแผนก็อาจจะต้องเจรจากับสโมสรชิงเต่า เพื่อหาทางออกร่วมกันส่วนสายการแข่งขันเจแปน โอเพ่น รอบแรก น้องเมย์ มือ จะพบกับ อาเพียลล่า ยูสวานดารี่ มือ 23 ของโลกจากอินโดนีเซีย ซึ่งสถิติในการพบกัน 3 ครั้ง น้องเมย์ชนะ 2 ครั้ง แพ้ 1 ครั้ง | น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันมือ 2 ของโลก ออกเดินทางไปญี่ปุ่น เพื่อแข่งขันรายการเจแปน โอเพ่น แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา แม้จะยืนยันว่ายังไม่หายขาดจากอาการบาดเจ็บที่หลังก็ตาม | กีฬา | ญี่ปุ่น,น้องเมย์,บาดเจ็บ,แจแปน โอเพ่น,แบด,แบดมินตัน | https://news.thaipbs.or.th/content/196091 |
คนเชียงแสน ตะลึงภาพถ่ายหญิงใส่ชุดไทยสีเขียว นั่งพับเพียบบนตะเคียนยักษ์ | คนเชียงแสน ตะลึงภาพถ่ายหญิงใส่ชุดไทยสีเขียว นั่งพับเพียบบนตะเคียนยักษ์อายุ 500 ปี ขณะที่เจ้าของบ้านสวนม่อนฮัก ฝันประหลาดก่อนเจอไม้ตะเคียนอัญเชิญพระร่วมทำพิธีเมื่อวันที่ 18 พ.ค.63 ชาวบ้านสบคำ หมู่ 5 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พบต้นตะเคียนซึ่งมีลำต้นขนาดใหญ่ อายุกว่า 500 ปี กลางสระน้ำ ซึ่งเจ้าของกำลังขุดลอกสระ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านสวนม่อนฮัก หมู่ 5 ต.เวียง โดยต้นตะเคียนมีลำต้นตรงยาวประมาณ 29 เมตร และวัดรอบลำต้นได้กว้างประมาณ 4 เมตรนางสาวภัทรเนตร สุวรรณดี เจ้าของบ้านสวนม่อนฮัก เปิดเผยว่า ตรงที่ขุดพบต้นตะเคียน เดิมเป็นสระน้ำ ปีนี้แล้งจัด น้ำในสระแห้ง ได้จ้างรถแบ็กโฮ มาขุดให้ลึกเพื่อเปิดตาน้ำตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค ที่ผ่านมา หลังจากขุดลงไปหาตาน้ำในสระดังกล่าว แล้วก็ได้กลับบ้านและพักผ่อนจากนั้นก็ฝันว่ามีผู้หญิงสาวสวย รูปร่างสูงโปร่งมาบอกให้ขุดดินลึกลงไปอีกสัก 10 เมตร แล้วตาน้ำอยู่ตรงกลางสระ รุ่งขึ้นตนจึงบอกเจ้าของรถแบ็กโฮ จากนั้นวันที่ 14 พ.ค ก็ใช้รถแบ็กโฮขุดลอกดินตามที่ฝัน ก็ปรากฏว่าขุดไปเจอต้นไม้ขนาดใหญ่กับตาน้ำจริงๆ โดยมีน้ำไหลขึ้นมาอย่างมาก สร้างความตื่นเต้นให้ตนมากพอข่าวออกไปทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาดูเป็นจำนวนมากเมื่อได้ตรวจดูพบว่าเป็นต้นตะเคียน จึงได้นำรถเครนอีก 2 คันเข้าช่วยยกต้นตะเคียนขึ้นแต่ไม่สามารถนำต้นตะเคียนขึ้นมาได้ เพราะรากของต้นตะเคียนยังฝังใต้ดิน ก็ยังไม่สามารถขยับเขยื้อนต้นตะคียนได้ จึงได้นิมนต์ พระครูสุวรรณวิสุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดพระเจ้าล้านทอง มาทำพิธีอัญเชิญโดยพระครูบอกว่าอีก 2 วัน เจ้าแม่ตะเคียนจะขึ้นได้ ในนิมิตเห็นหญิงสาวสวยงามมาก อยู่ในชุดสีเขียวพร้อมจะขึ้น จนเย็นวันที่ 16 พ.ค.จึงสามารถนำต้นตะเคียนขึ้นมาได้นางสาวภัทรเนตร ได้เล่าให้ฟังว่า ขณะที่กำลังชักลากต้นตะเคียนขึ้น ตนได้ถ่ายภาพเก็บไว้ หลังจากนำต้นตะเคียนขึ้นมาได้ เอาภาพมาดูปรากฏว่าในภาพคล้ายมีหญิงสาวแต่งชุดไทยสีเขียวนั่งพับเพียบอยู่บนโคนต้นตะเคียนรู้สึกตกใจมาก ถึงกับขนลุกจากนั้นจึงนำภาพไปให้ผู้อื่นดู ทุกคนก็บอกว่าอัศจรรย์มาก เพราะบริเวณที่พบต้นตะเคียนในบ้านสวนม่อนฮัก เป็นบริเวณที่ลุ่ม เป็นลุ่มแม่น้ำกก ที่แม่น้ำโขงเอ่อเข้ามาถึง ที่อยู่ใกล้บริเวณที่ตั้งเวียงปรึกษา หรือเชียงแสนน้อย อาณาจักรโยนกนาคพันธุ์ในอดีต ที่ล่มสลายในปี พ.ศ.1088 และต้นตะเคียนต้นนี้น่าจะอายุไม่ต่ำกว่า 1000 ปีเมื่อนำต้นตะเคียนขึ้นมาได้ ตนได้จัดเครื่องทรงสีเขียวพวงมาลัย ผ้าแพร พร้อมทั้งตั้งโต๊ะบูชา ตนและญาติๆ ได้นิมนต์พระพุทธิญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา มาหยาดน้ำแผ่เมตตาให้กับเจ้าแม่ตะเคียน เพื่อเป็นสิริมงคลให้ครอบครัวตน.อ่านตรวจหวย 1/6/63 | ตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 มิถุนายน 2563ชมถ่ายทอดสดการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 มิถุนายน 2563มาแล้ว 10 อันดับ เลขเด็ด ขายดี คอหวยเศร้า เลขมงคล เกลี้ยงแผงแล้วพ่อท่านชม ละสังขาร 2 ปี ไม่เน่าเปื่อย ลุ้นเลขเกี่ยวโยง หลังเลขรถบรรทุกสรีระเคยให้โชคชาวบ้านขอเลขเด็ด ตะเคียนขาว ขุดพบในลำห้วย เก่าแก่กว่า 200 ปี | คนเชียงแสน ตะลึงภาพถ่ายหญิงใส่ชุดไทยสีเขียว นั่งพับเพียบบนตะเคียนยักษ์อายุ 500 ปี ขณะที่เจ้าของบ้านสวนม่อนฮัก ฝันประหลาดก่อนเจอไม้ตะเคียนอัญเชิญพระร่วมทำพิธี | ข่าว,สังคม | หวยไทยรัฐ01-6-63,หวยไทยรัฐ1-6-63,เลขเด็ด,หวยไทยรัฐ,ตรวจหวย 1 มิถุนายน 2563,ตรวจหวย 1 มิ.ย. 63,หวย | https://www.thairath.co.th/news/society/1847229 |
อย่าแชร์ข่าวปลอม อ้างพบพนักงานห้างดังติดเชื้อ COVID-19 | วันนี้ (24 ก.พ.2563)ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมรายงานว่าจากกรณีที่มีข่าวปรากฏในสื่อออนไลน์ต่างๆ ในประเด็นว่า พบพนักงานห้างสรรพสินค้าชื่อดังติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จสำหรับพนักงาน เจ้าหน้าที่ และผู้ให้บริการทั้งในส่วนศูนย์การค้าและร้านค้าผู้เช่า ได้จัดให้มีการตรวจคัดกรอง และวัดอุณหภูมิร่างกายพนักงานร้านค้าทุกวัน พร้อมทั้งให้พนักงานทุกคนสวมถุงมือและหน้ากากอนามัยในจุดที่ให้บริการใกล้ชิดลูกค้าหากพบพนักงานที่มีอุณหภูมิร่างกายสูง หรือมีอาการเข้าข่ายเป็นโรคหวัด ให้ไปพบแพทย์ทันที และให้หยุดปฏิบัติงานทันที 14 วัน ขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ช่วยกันคัดกรองข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ โดยเฉพาะในโซเซียลมีเดีย และโปรดระมัดระวังการส่งต่อข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก และสร้างความเข้าใจผิดในสังคมดังนั้น ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์https://ddc.moph.go.th/index.php หรือ โทร.1422 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง | ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เตือนอย่าแชร์อ้างพบพนักงานห้างดังย่านพระราม 9 ติดเชื้อ COVID-19 และมีการกักตัว 40 คน เพื่อตรวจสอบ ระบุเป็นข้อมูลเท็จ | สังคม | COVID-19,ข่าวปลอม,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 | https://news.thaipbs.or.th/content/289221 |
จับตาอาชญากรรมข้ามชาติเมืองพัทยา จ.ชลบุรี | ปฏิบัติการโจมตีฐานตำรวจตระเวนชายแดน 3 แห่ง ในรัฐยะไข่ ทำให้ตำรวจเมียนมา เสียชีวิต 9 คน เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ปี 2559 ถูกระบุเป็นฝีมือกลุ่มองค์การความเป็นปึกแผ่นโรฮิงญา ซึ่งต่อมาทางการเมียนมาสามารถจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องได้หลายคน ในจำนวนนั้นมีบางคนที่ให้การซัดทอด มิสเตอร์เอ็ม ว่าเป็นผู้วางแผนและสนับสนุนเรื่องเงินทุนข้อมูลด้านการข่าวระบุว่า มิสเตอร์เอ็ม ทำธุรกิจร้านอาหารในกรุงเทพฯ และเดินทางไปยังเมืองพัทยา จ.ชลบุรี บ่อยครั้ง ซึ่งหน่วยข่าวของไทยพยายามตรวจสอบ แต่ยังไม่พบพฤติการณ์เป็นภัยต่อความมั่นคงของไทย จึงดำเนินคดีได้เพียงครอบครองบารากู่ ซึ่งมีโทษเพียงเล็กน้อยแต่การประสานจากประเทศเพื่อนบ้านทำให้หน่วยงานความมั่นคงของไทย เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบแหล่งที่อยู่ของชาวต่างชาติ ซึ่งเมืองพัทยาคือหนึ่งในเป้าหมายหลัก เพราะบ่อยครั้งที่มีการจับกุมชาวต่างชาติที่กระทำความผิดในต่างประเทศแล้วหลบหนีเข้ามาพักในเมืองพัทยาในสมาชิกกลุ่มชาวต่างชาติ มีหลายคนที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายมาเฟีย ข่มขู่ รีดทรัพย์ เก็บค่าคุ้มครองเพื่อนร่วมชาติ บางคนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่โด่งดังมากสุดคือกลุ่ม เฮลล์แองเจิ้ล และแบนดิโดส กลุ่มรถฮาเลย์ 2 กลุ่ม ที่เคยใช้บริเวณหาดจอมเทียน และพัทยาใต้ เป็นจุดรวมตัวตำรวจตรวจสอบประวัติกลุ่มเฮลล์แองเจิ้ลและพบ 8 คน เป็นชาวอังกฤษ 1 คน แคนาดา 1 คน ที่เหลือเป็นชาวออสเตรเลีย มีหมายจับในประเทศต้นทาง มีพฤติการณ์เสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ จึงยกเลิกวีซ่า และควบคุมตัวเพื่อผลักดันออกนอกประเทศได้แล้ว 5 คน อีก 3 คน หลบหนีออกจากพื้นที่พัทยาแล้วส่วนสมาชิกที่เหลือกระจัดกระจายออกนอกพื้นที่และหลายคนเลือกที่จะเก็บตัวเงียบในบ้านพักกับภรรยาชาวไทย นอกตัวเมืองพัทยา โดยเฉพาะในย่านตำบลหนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งตำรวจเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบหากพบใครอยู่เกินกำหนดจะผลักดันออกนอกประเทศทันที | กลุ่มผู้มีอิทธิพลชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย การข่าวเชื่อว่า มาเฟียบางคนมีส่วนวางแผนและให้เงินสนับสนุน กลุ่มก่อความรุนแรงในประเทศเมียนมา และเคยมีปฏิบัติการที่ประสบความสำเร็จเป็นข่าวดังทั่วโลกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว | อาชญากรรม | มาเฟีย,พัทยา,ยะไข่,บางละมุง,เฮลล์แองเจิ้ล,อังกฤษ,แคนาดา,ออสเตรเลีย,จอมเทียน,พัทยาใต้,แบนดิโดส | https://news.thaipbs.or.th/content/269744 |
ตั้งศูนย์เฉพาะกิจรับมือพายุ ช่วยเหลือปศุสัตว์-สัตว์เลี้ยง | วันนี้ (3 ม.ค.62) นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ตามที่มีประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุโซนร้อน ปาบึก (PABUK) จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช ในช่วงค่ำของวันที่ 4 ม.ค.62 โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค.62 ทำให้บริเวณดังกล่าวมีลมแรง ฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง นั้นกรมปศุสัตว์ ได้จัดทำและนำแผนเผชิญเหตุเร่งด่วนออกมาใช้สำหรับรับมือพายุโซนร้อน ปาบึก (PABUK) โดยในรายละเอียดแผนเผชิญเหตุ นั้น ประกอบไปด้วย1. ตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยด้านปศุสัตว์ตลอด 24 ชม. โดยมีรองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือภัยพิบัติ (ด้านปศุสัตว์) หรือ War Room ซึ่งมีผู้อำนวยการส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์เป็นเลขานุการ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาอาหารสัตว์เป็นผู้ช่วยเลขานุการ ผู้อำนวยการกอง/สำนักในส่วนกลางทุกส่วนเป็นคณะทำงาน และให้เริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปกระทั่งเหตุการณ์สงบ เกษตรกรได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีและทั่วถึง และให้รายงานสถานการณ์ ทุกวันๆ ละ 2 ครั้ง ทั้งนี้ ให้ตั้ง war room ด้านปศุสัตว์ทุกจังหวัด2. จัดเตรียมบุคลากร และเครื่องมือให้มีความพร้อม 24 ชั่วโมง ประกอบด้วย2.1 จุดอพยพสัตว์ในพื้นที่เสี่ยงภัย ประสานอาสาปศุสัตว์และทีมท้องที่เพื่อชี้เป้า พร้อมรับในทุกสถานการณ์ รวม 162 แห่ง2.2 หน่วยเคลื่อนที่เร็ว รวม 36 หน่วย พร้อมช่วยด้านการรักษาพยาบาลสัตว์ การอพยพเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยง การลำเลียงและขนย้ายเสบียงสัตว์ไปให้ความช่วยเหลือ2.3 เสบียงสัตว์ รวม 1200 ตัน ในคลังเสบียงของ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ทุกแห่งในพื้นที่ประสบเหตุชั้นใน และอีก 3200 ตัน ในพื้นที่รอบนอก คน-พาหนะพร้อมในปฏิบัติการ2.4 ถุงยังชีพปศุสัตว์ เบื้องต้น 2100 ชุด ซึ่งแต่ละชุดประกอบด้วย อาหารสัตว์สำเร็จรูป ยาและเวชภัณฑ์ สำหรับการช่วยเหลือและการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและให้จัดทำเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอและสามารถใช้ได้อย่างทันท่วงที2.5 เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ในพื้นที่ของปศุสัตว์เขต 7 เขต 8 และเขต 9 เตรียมความพร้อมไว้สูงสุด เพื่อเป็นกำลังเสริมในการประสานกับปศุสัตว์จังหวัดนายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวเพิ่มเติมต่อไปว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทุกหน่วยในพื้นที่เขต 7 เขต 8 และเขต 9 รวม 16 จังหวัด เร่งรัดการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ในการป้องกันดูแลปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงของตนเอง หากพบเหตุต้องให้การช่วยเหลือเกษตรกรอย่างรวดเร็วเพื่อลดความเสียหาย โดยมีศูนย์ปฏิบัติการในส่วนกลางที่พร้อมประสานสรรพกำลังและเสบียงอาหารสัตว์พร้อมเวชภัณฑ์สัตว์ ลงพื้นที่ประสบภัยเสริมได้ทันที ทั้งนี้ เป้าหมายเร่งด่วนของภารกิจครั้งนี้คือลดการสูญเสียด้านปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงให้น้อยที่สุด | กรมปศุสัตว์ตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจรับมือพายุโซนร้อนปาบึก ให้รองอธิบดีเป็นหัวหน้าศูนย์ฯ เตรียมความพร้อม 24 ชม.ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยง | ภูมิภาค | พายุปาบึก,พายุโซนร้อนปาบึก,ปาบึก,กรมปศุสัตว์,ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจรับมือพายุโซนร้อนปาบึก,สัตว์เลี้ยง,สรวิศ,ธานีโต,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/276739 |
สังคายนาพุทธพาณิชย์ | จบปฏิบัติการสะสางขบวนการเงินทอนวัดแล้ว รองนายกฯวิษณุ เครืองาม เปรยว่า จะถึงคิวชำระ พุทธพาณิชย์,คดีเงินทอนวัด มีพระฆราวาส ถูกจัดการจำนวนนับได้ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่เมื่อโจทย์คือ พุทธพาณิชย์ ผิดถูกไม่ชัด พระเครื่องของขลังเป็นขนบที่พระสืบทอดกันมานาน จำนวนวัดจำนวนพระมากกว่า,ที่จริงเป้าหมายเรื่องพุทธพาณิชย์ ขับเคลื่อนออกมาแล้ว จากคำสั่งจากพระระดับเจ้าคณะหนฯ ห้ามใช้โบสถ์ เป็นที่จำหน่ายพระเครื่อง คำสั่งนี้ก็แค่ย้ายตู้จำหน่ายพระออกจากโบสถ์,จะเอาไปตั้งจำหน่ายในบริเวณวัดที่ไหนก็ยังได้พระเครื่องของขลังยังจำหน่ายได้ คำสั่งไม่ได้ห้ามไปทั้งหมด,แต่ปฏิกิริยาออกมาเหมือนปาฏิหาริย์ พระเกจิฯทางพระเครื่องของขลังทั้งหลาย ก็ให้มีอันหายหน้า เจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตรฯ ผู้ลือลั่นด้วยผ้ายันตร์เลสเตอร์ ปิดกุฏิยุติบทบาท,เจ้าคุณธงชัยองค์นี้ คนละธงชัย พรหมสิทธิ วัดสระเกศฯ ที่ถูกจับสึกไปเข้าคุกนะครับ,บ้านผมอยู่หลังวัด เคยเป็นเด็กวัด บวชเณรสอบนักธรรมเอกได้ เพิ่งรู้ว่าสองพรหม พรหมสิทธิ พรหมเมธี วุฒินักธรรมเอกเท่านั้น,ผมก็ยังแอบครึ้มใจ ทำไมเก่งจัง,วุฒินักธรรมเอกในขนบพุทธไทย ได้เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ เจ้าคุณชั้นแรก ก็ถือว่าบุญหล่นทับ นี่หล่นซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเป็นชั้นพรหม รองสมเด็จพระราชาคณะ,ผมเดาเท่าที่พอมีประสบการณ์ เส้นทางของพรหมเมธี ราวปี 2524 ผมไปทำข่าวหลวงปู่แหวน มรณภาพที่ดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ ยังจำได้ว่าพรหมเมธีตอนนั้นยังเป็นเจ้าคุณชั้นต้นๆ ก็ไปเอางานเอาการขมีขมัน,กว่าสามสิบปีต่อมา ทีวีทำข่าวเงินทอนวัด ผมเห็นป้ายมูลนิธิแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม อยู่หน้ากุฏิหลังหนึ่งในวัดสัมพันธวงศ์ แม่ชีบุญเรือนอยู่วัดอาวุธฯฝั่งธน มีพระเครื่องดัง เมื่อมีป้ายอยู่ในวัดสัมพันธวงศ์,ก็เห็นภาพชัด พรหมเมธีองค์นี้ ท่านเล่นกับทุกกระแสศรัทธาพระเครื่องของขลัง,ทำนองเดียวกับธัมมชโยเชิดชูแม่ชีจันทร์สร้างสรรค์ธรรมกายจนใหญ่โต,กิจกรรมตามกระแสศรัทธา เป็นพุทธพาณิชย์เต็มที่แบบนี้ เป็นที่มาของเงินมากๆ จึงไม่แปลกที่ท่านจะสร้างบารมี ทำกิจกรรมสำคัญ เป็นหน้าเป็นตาให้วัดที่ท่านอยู่หรือที่วัดอื่นๆ,และไม่แปลกใจ ที่สมณศักดิ์ ขุนนางพระของท่านเลื่อนเอาๆ,วิถีเจริญก้าวหน้าของพระเป็นเช่นนี้ วัดส่วนใหญ่ในบ้านเมืองเรา ที่โตเอาๆ ก็ด้วยอานิสงส์จากพระเครื่องของขลังเหลือวัดที่สอนธรรมอย่างเดียว น้อยเต็มที,สังคมพระสั่งสมบ่มเพาะกันมาอย่างนี้ กระบวนการชำระพุทธพาณิชย์ จึงเป็นทั้งเรื่องยาก เรื่องใหญ่,จะตีเส้นแบ่งตรงไหน พระเครื่องของขลัง ใช้เป็นเครื่องจูงศรัทธาชาวบ้านให้เข้าวัดฟังธรรม ตามขนบดั้งเดิมที่ทำสืบเนื่องกันมา และตรงไหน เป็นพุทธพาณิชย์ โกยเงินเข้าวัดท่าเดียว,วัดรวย พระก็รวย ซื้อยศศักดิ์อัครฐาน เพิ่มฐานะเรียกกิจนิมนต์ให้ตัวเอง,ผมไม่เชื่อว่าการชำระพุทธพาณิชย์ ของรองนายกฯวิษณุจะเด็ดขาดถึงขั้น ห้ามวัดทำพระเครื่องของขลังก็ทั้งที่ให้สัญญาณแล้ว ผมก็ยังเห็นพระผู้ใหญ่ ไปเป็นประธานพิธีปลุกเสกพระเครื่องกันอยู่,ส่วนฆราวาสผู้มีอำนาจในบ้านเมือง อย่างสี่นายพลสำคัญ ที่ไปให้พุทธะอิสระ เสกนะหน้าทองถูกนำภาพออกมาย้ำ เป็นข่าวเกรียวกราวตอนนี้,นี่ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ชี้ว่า จนบัดนี้ พวกผู้ใหญ่ทั้งหลายยังไม่รู้ตัวเลย การไปเป็นป้ายโฆษณาให้พระให้วัดด้วยเหตุผลว่า เห็นแก่ผ้าเหลืองนั้น บางครั้งก็เป็นเรื่องขายหน้า สะท้อนสติปัญญาตัวเอง.,กิเลน ประลองเชิง | คดีเงินทอนวัด มีพระฆราวาส ถูกจัดการจำนวนนับได้ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่เมื่อโจทย์คือ พุทธพาณิชย์ ผิดถูกไม่ชัด พระเครื่องของขลังเป็นขนบที่พระสืบทอดกันมานาน จำนวนวัดจำนวนพระมากกว่า | null | เงินทอนวัด,พุทธพาณิชย์,ทุจริตเงินวัด,ชักธงรบ,กิเลน ประลองเชิง | https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1299719 |
ไพบูลย์ ชี้ต้องได้กมธ.ยกร่างฯ 11 อรหันต์ 4 พ.ย. | วันที่ 2 พ.ย. นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านการเมือง กล่าวถึงการประชุม สปช.ครั้งที่ 5 ในวันที่ 3-4 พ.ย.ที่จะมีวาระพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุม สปช. พ.ศ ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างข้อบังคับพิจารณาแล้วเสร็จว่า วันที่ 3 พ.ย.จะเป็นการพิจารณาวาระที่ 1 มีแนวโน้มว่าจะมีสมาชิก สปช.ยื่นขอแปรญัญติจำนวนมาก โดยเฉพาะหมวด 4 กรรมาธิการบัญญัติให้ตั้ง กมธ.วิสามัญประจำสภาขึ้น 17 คณะ อยากให้มีการตั้ง กมธ.มากกว่านี้,นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า คาดว่าการพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมฯจะไม่เสร็จสิ้นภายใน 2 วัน เพราะมีผู้อภิปรายเป็นจำนวนมาก อาจจะใช้วิธีพิจารณา 2 วิธี คือ 1. พิจารณาวาระที่ 1 เสร็จ รับหลักการและให้เสนอขอแปรญัตติ และพิจารณาวาระที่ 2-3 ในสัปดาห์หน้า,ส่วนวิธีที่ 2 คือรับหลักการวาระ 1 เสร็จสิ้นให้ถือว่าเป็นกรรมาธิการเต็มสภาฯ แล้วสภาฯ มาพิจารณาแก้ไขทีละมาตรา ทั้ง 2 แนวทาง ขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่าจะใช้วิธีไหน โดยประธาน สปช.อาจจะหารือที่ประชุมว่า จะจำกัดจำนวนผู้อภิปราย หรือจำกัดเวลา ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าควรใช้เวลาสมาชิกอภิปรายคนละ 5 นาที หรือถ้ามีผู้อภิปรายจำนวนมากควรใช้วิธีจับสลาก,นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า สำหรับรายชื่อ กมธ.ยกร่างฯ ในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) 5 คน กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 6 คนนั้น ขณะนี้รายชื่อยังได้ไม่ครบ แต่ต้องได้รายชื่อก่อนเวลา 12.00 น.ของวันที่ 4 พ.ย. ให้ครบรวมทั้ง 36 คนเพื่อเปิดประชุม กมธ.ยกร่างฯ นัดแรกในวันที่ 5 พ.ย.ต่อไปได้,เมื่อถามถึงการแต่งตั้งประธานฯ และรองประธาน กมธ.ยกร่างฯ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ในวันที่ 4 พ.ย.จะต้องมีการแต่งตั้งประธานฯ และรองประธาน กมธ.ยกร่างฯ โดยขึ้นอยู่กับที่ประชุมจะมีความเห็นว่าตำแหน่งรองประธานฯ จะมีกี่คน ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นรองประธานฯ คนที่ 1 คือนายมานิจ สุขสมจิตร สปช.ด้านสื่อสารมวลชน เนื่องจากรองประธาน กมธ.ยกร่างฯ คนที่ 1 ควรจะเป็นบุคคลที่มา สปช. รวมถึงนายมานิจมีความอาวุธโสสูงสุด และเป็นนักกฎหมายที่เคยทำงานเป็น กมธ.ยกร่างมาก่อนแล้ว. | ไพบูลย์ คาด สปช.ถกข้อบังคับไม่จบใน2วัน แนะ 2 ช่องให้สมาชิกอภิปรายคนละ 5 นาที ชี้ต้องได้ชื่อ 11 อรหันต์ก่อนเที่ยงวันที่ 4 พ.ย. หนุนมานิจนั่งรอง ปธ.1 | null | สปช.,ไพบูลย์,ไพบูลย์ นิติตะวัน,ข่าวการเมือง,กมธ.,แต่งตั้งประธานฯ,รองประธาน | https://www.thairath.co.th/content/460821 |
ศาลออสเตรียสั่งจำคุก 8 เดือน ด.ช.วัย 14 ฐานวางแผนก่อการร้าย | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 26 พ.ค. ศาลในประเทศออสเตรียตัดสินว่า เด็กชายวัย 14 ปี มีความผิดจริงในข้อหาเป็นสมาชิกองค์กรก่อการร้าย มีแผนจะวางระเบิดสถานีรถไฟใต้ดินในเมืองหลวง กรุงเวียนนา ภายใต้นามของกลุ่มติดอาวุธ รัฐอิสลาม (ไอซิส) และตัดสินลงโทษจำคุกเด็กคนนี้เป็นเวลา 8 เดือน เพิ่มโทษจำคุกอีก 16 เดือน แต่รอลงอาญาไว้ก่อน,ตามที่ระบุในใบแจ้งข้อกล่าวหา เด็กชายรายนี้เกิดที่ประเทศตุรกี และอาศัยอยู่ในประเทศออสเตรียตั้งแต่ปี 2007 โดยเขาต้องการก่อเหตุโจมตีดังกล่าว ก่อนจะเดินทางไปเข้าร่วมสงครามศักดิ์สิทธิ์ ในประเทศซีเรียร่วมกับกลุ่มไอซิส ขณะที่ตำรวจเปิดเผยตอนจับกุมเด็กคนนี้เมื่อเดือน ต.ค. 2014 ว่า เขาหาข้อมูลเรื่องการซื้อสารเคมีเพื่อทำระเบิด และจะนำไปใช้ก่อเหตุในที่สาธารณะ เช่น สถานีรถไฟเวียนนาตะวันตก (เวสต์บาห์นฮอฟ),ด้านนายรูดอล์ฟ เมเยอร์ ทนายความของเด็กชายคนนี้ พยายามขอความเห็นใจจากศาลว่า ลูกความของเขาซึ่งกำลังจะอายุครบ 15 ปีในเร็วๆ นี้ เติบโตมาโดยไม่มีพ่อ เขาถูกส่งไปเรียนที่โรงเรียนพิเศษสำหรับเด็กมีปัญหา เขาต้องการการยอมรับ และต้องการเป็นส่วนหนึ่งของอะไรบางอย่าง,ทั้งนี้ ครอบครัวของเด็กชายวัย 14 เป็นผู้แจ้งกับตำรวจถึงความเปลี่ยนแปลงไปของเขา โดยตำรวจพบรูปภาพความรุนแรงและโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มไอซิสมากมายบนคอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ และเครื่องเกมของเด็กคนนี้ ขณะที่อัยการฝ่ายโจทก์เรียกร้องให้ศาลลงโทษ เพราะจำเลยไม่ได้แสดงออกถึงการรู้สึกผิดเลย | เด็กชายวัยเพียง 14 ปี ถูกศาลประเทศออสเตรีย ตัดสินว่ามีความผิดจริง ในข้อหาวางแผนก่อการร้าย โดยเขามีแผนจะวางระเบิดสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงเวียนนา | null | ศาล,ออสเตรีย,ผิดจริง,จำคุกเด็กอายุ 14,องค์กรก่อการร้าย,วางระเบิด,สถานีรถไฟใต้ดิน,กรุงเวียนนา,กลุ่มติดอาวุธ,รัฐอิสลาม,ไอซิส,จำคุก,รอลงอาญา,ระเบิด,สถานีรถไฟเวียนนาตะวันตก,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/501342 |
ยังน่าห่วง ตัวเลขชี้ นางพยาบาลทั่วโลกเสียชีวิตจากโควิด เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว | ข้อมูลจากสภาการพยาบาลสากล ระบุว่า มีนางพยาบาลจากทั่วโลกเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 แล้ว มากกว่า 600 ศพ จากจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อทั้งหมดราว 450000 ราย ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว หากเทียบกับเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่มีผู้เสียชีวิตอยู่ที่ราว 100 ศพเท่านั้น โดยคาดการณ์ว่าจะมีพยาบาลเสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายจากโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นกับบุคลากรทางการแพทย์ได้ แต่ทางสภาการพยาบาลกำลังหาทางปกป้องบุคลากรที่มี รวมทั้งจะเร่งรวบรวมข้อมูลที่เชื่อถือได้เพื่อประโยชน์ของผู้ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวหน้าต่อไปทั้งนี้ โดยเฉลี่ยแล้วร้อยละ 7 ของ ผู้ป่วยด้วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 จะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งหมายความว่า นางพยาบาล และเจ้าหน้าที่การแพทย์ถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ไม่ต่างกับคนไข้ที่พวกเขาต้องดูแลอย่างไรก็ตาม อัตราการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ในแต่ละประเทศยังมีความแตกต่างกันมาก อย่างใน สิงคโปร์ ที่มีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ติดเชื้อคิดเป็นร้อยละ 1 เท่านั้น แต่หากไปดูประเทศไอร์แลนด์ จะพบว่ามีอัตราการติดเชื้อในกลุ่มเจ้าหน้าที่แพทย์สูงถึงกว่าร้อยละ 30 เลยทีเดียว ขณะที่ ประเทศสเปน และเยอรมนี ซึ่งมีการระบาดของโรคเป็นวงกว้าง กลับพบว่ามีจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ที่เสียชีวิตจากโควิด-19 ค่อนข้างน้อย | สภาการพยาบาลสากล เผย มีนางพยาบาลจาก 30 ประเทศทั่วโลก เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ในช่วงเดือนที่ผ่านมา | ข่าว,ต่างประเทศ | โควิด-19,สภาการพยาบาล,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรนา,พยาบาลติดโควิด,บุคลากรทางการแพทย์ติดโควิด | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1860623 |
แค้นไม่ถอนฟ้อง หญิงอินเดียเหยื่อข่มขืนโดนสาดน้ำกรดครั้งที่ 5 | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หญิงชาวอินเดียวัย 35 ปี ผู้รอดชีวิตจากการรุมโทรมข่มขืนและการโจมตีด้วยน้ำกรดถึง 4 ครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถูกทำร้ายด้วยน้ำกรดเป็นครั้งที่ 5 แล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ก.ค. ขณะพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในรัฐอุตตรประเทศ แม้ว่าจะมีตำรวจคอยให้ความคุ้มครองอยู่ตลอดเวลาก็ตาม,ตามการเปิดเผยของ วิเวค ไตรภาธี ผู้บังคับการตำรวจท้องถิ่น หญิงอินเดียซึ่งไม่มีการเปิดเผยชื่อเนื่องจากเหตุผลทางกฎหมายรายนี้ ถูกโจมตีขณะอยู่ที่โรงแรมในเมืองลัคนาว เมืองเอกของรัฐอุตตรประเทศ โดยคนร้ายเป็นผู้ชาย ปีนข้ามกำแพงเข้าสาดน้ำกรดใส่เธอที่กำลังตักน้ำ จนได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าและไหล่ ก่อนจะหลบหนีไป,ทั้งนี้ หญิงวัย 35 ปีรายนี้แจ้งความกับตำรวจเมื่อปี 2008 ว่า เธอถูกชาย 2 คนข่มขืนและถูกสาดน้ำกรดใส่ จากปัญหาความขัดแย้งในเรื่องที่ดิน ต่อมา เธอถูกชายกลุ่มเดิมสาดน้ำกรดใส่อีกครั้งในปี 2012 และ 2013 เนื่องจากเธอไม่ยอมถอนฟ้องดำเนินคดีกับอาชญากรคู่นี้ และเมื่อเดือนมี.ค. เธอก็เพิ่งถูกคนร้ายบังคับให้ดื่มน้ำกรดขณะโดยสารรถไฟกับลูกสาว,คนร้ายทั้ง 2 คนถูกดำเนินคดีจากความผิดที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับหญิงรายนี้ แต่พวกเขาได้รับการประกันตัวออกจากคุกเมื่อเดือนเม.ย.,การโจมตีที่เกิดขึ้นกับหญิงรายนี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ตำรวจตัดสินใจให้การคุ้มครองเธอตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธถูกห้ามไม่ให้เข้าไปในโรงแรมที่หญิงคนนี้พักอยู่ คนร้ายจึงฉวยโอกาสโจมตี ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังตามล่าตัวผู้ก่อเหตุเพื่อระบุตัวว่าเป็นใคร ส่วนหญิงผู้เคราะห์ร้ายกำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล,อนึ่ง ตามรายงานของสำนักงานสถิติของอินเดีย ในปี 2015 มีผู้ตกเป็นเหยื่อการโจมตีด้วยน้ำกรดในประเทศประมาณ 300 ราย แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า จำนวนดังกล่าวเป็นเพียงส่วนน้อยที่แจ้งความเท่านั้น แม้ว่าในปี 2013 อินเดียจะออกกฎหมายห้ามขายน้ำกรดแก่สาธารณชน และเพิ่มความเข้มงวดของการใช้กฎหมายก็ตาม | หญิงชาวอินเดียคนหนึ่งถูกโจมตีด้วยน้ำกรดเป็นครั้งที่ 5 เมื่อวันอาทิตย์ หลังจากเธอไม่ยอมถอนฟ้องเอาผิดชาย 2 คนที่เธอกล่าวหาว่าข่มขืนเธอเมื่อปี 2008 | ข่าว,ต่างประเทศ | น้ำกรด,อินเดีย,ข่มขืน,รัฐอุตตรประเทศ,ถอนฟ้อง | https://www.thairath.co.th/news/foreign/991915 |
ซูจี ขึ้นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ สู้คดี ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โรฮีนจา | สำนักข่าวต่างประเทศ,รายงานว่า นางอองซาน ซูจี ผู้นำโดยพฤตินัยของประเทศเมียนมา และเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ขึ้นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เมื่อวันอังคารที่ 10 ธ.ค. 2562 เพื่อต่อสู้คดีที่เมียนมาถูกกล่าวหาว่า ก่อเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุชาวมุสลิมโรฮีนจา,ข้อกล่าวหาดังกล่าวมีที่มาจาก ปฏิบัติการทางทหารของกองทัพเมียนมาในรัฐยะไข่เมื่อปี 2560 ซึ่งทำให้ชาวโรฮีนจาที่เมียนมาไม่ยอมรับเป็นพลเมืองของประเทศ ถูกสังหารไปหลายพันคน และอีกกว่า 740,000 คน ต้องอพยพไปบังกลาเทศ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเมียนมายืนยันมาตลอดว่าพวกเขาทำเพื่อจัดการกับภัยคุกคามจากพวกหัวรุนแรง,หลังจากนั้น ประเทศแกมเบียซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ก็ยื่นฟ้องร้องต่อ ICJ โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์กรความร่วมมืออิสลาม (OIC) ซึ่งมีสมาชิกถึง 57 ประเทศ กล่าวหาเมียนมาว่า ละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษความผิดอาญาฐานฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ ปีค.ศ. 1948,ระหว่างการขึ้นศาลในวันอังคาร นาย อาบูบาคาร์ ตัมบาดู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแกมเบียเรียกร้องให้ ICJ หามาตรการฉุกเฉินเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงกับชาวโรฮีนจาในอนาคต และขอให้ศาลบอกกับเมียนมา ให้หยุดการเข่นฆ่าอย่างไร้สำนึก, หยุดพฤติกรรมป่าเถื่อน และหยุดการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุประชาชนของตัวเอง,ทั้งนี้ ในวันอังคารนางซูจีขึ้นศาลเพื่อรับฟังข้อกล่าวหา แต่เธอจะได้รับโอกาสให้ปากคำต่อศาลในวันพุธนี้ โดยคาดกันว่าเธอจะโต้แย้งด้วยการบอกว่า เมียนมาใช้ปฏิบัติการอย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อต้านกลุ่มติดอาวุธโรฮีนจา และ ICJ ไม่มีอำนาจในการตัดสินเรื่องนี้ | อองซาน ซูจี ผู้นำเมียนมาเดินทางไปขึ้นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อรับฟังข้อกล่าวหาที่แกมเบียยื่นฟ้องร้องว่า เมียนมาฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุชาวโรฮีนจา | ข่าว,ต่างประเทศ | อองซาน ซูจี,ศาลโลก,ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ,ฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ,โรฮีนจา | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1723473 |
เปิดเส้นทางเดินเรือสินค้าไทเกอร์ ชี้โอกาสชนวาฬบรูด้าตายน้อยมาก | จากกรณีพบวาฬบรูด้าขนาดใหญ่ เพศเมีย ยาวประมาณ 13 เมตร น้ำหนัก 18 ตัน ตายมาแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ โดยติดอยู่กับเรือบรรทุกสินค้า ในท่าเทียบเรือ C0 ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (,ทช.แจ้งความ เอาผิดเรือชนวาฬบรูด้า ชี้เป็นสัตว์สงวนฯ มีโทษถึงจำคุก,),ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 26 พ.ย.59 นายยุทธนา โมกขาว ผู้ช่วยผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย เปิดเผยว่าเรือสินค้าไทเกอร์ ออกเดินทางจากท่าเรือเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 17 พ.ย. มาถึงท่าเรือแหลมฉบัง ในเช้าวันที่ 23 พ.ย. โดยไม่มีการทอดสมอเรือเลย รวมระยะทางทั้งสิ้นกว่า 2,112 ไมล์ทะเล,ทั้งนี้ เรือสินค้าไทเกอร์ ใช้เส้นทางผ่านประเทศไต้หวัน ผ่านด้านตะวันออกของประเทศเวียดนาม ก่อนผ่านแหลมญวน ประเทศเวียดนาม และเข้าสู่น่านน้ำไทย จนถึงท่าเรือแหลมฉบัง ใช้ความเร็วไม่เกิน 14 น็อต ใช้เวลาการเดินเรือทั้งสิ้นประมาณ 6 วัน ซึ่งจากระยะทางและเวลาการเดินเรือนี้ มีความเป็นไปได้น้อยมากที่เรือไทเกอร์นี้ที่จะชนวาฬบรูด้าจนเสียชีวิต หรือแทบไม่มีความเป็นไปได้เลย ถ้าผลชันสูตรออกมาว่า วาฬบรูด้าตัวนี้เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7 วัน,นายยุทธนา กล่าวอีกว่า จากระยะเวลาของการเดินเรือไทเกอร์ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าวาฬบรูด้าตัวนี้เสียชีวิตก่อนที่เรือไทเกอร์จะลากซากมาจนถึงท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเหตุเกิดบริเวณจุดไหนของเส้นทางการเดินเรือ แต่ก็อาจมีความเป็นไปได้ว่า มีเรือลำอื่นชน แต่ตามสัญชาตญาณของสัตว์ใต้น้ำจะไม่ว่ายเข้าใกล้เรือ เนื่องจากเสียงเครื่องยนต์ของเรือจะดังมากเมื่ออยู่ใต้น้ำ หรือ วาฬบรูด้า ตัวนี้อาจจะป่วยหรือเสียชีวิตโดยธรรมชาติแล้วไม่อาจเคลื่อนไหวได้ จนทำให้เรือลำอื่นชนจนเสียชีวิต แล้วเรือไทเกอร์ก็ไปลากซากวาฬบรูด้าเข้ามาที่ท่าเรือแหลมฉบังก็อาจเป็นไปได้,ทั้งนี้ จากความเห็นของผู้ช่วยผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ได้สอดคล้องกับ ความเห็นของแหล่งข่าวระดับสูง จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.)ที่กล่าวถึงกรณีวาฬบรูด้า ที่เสียชีวิตนั้น คาดว่าจะเป็นวาฬจากทะเลอื่นที่ไม่ใช่ในอ่าวไทย หรือในประเทศไทย ที่อยู่ในตระกูล 50 ตัวของไทย เนื่องจากการตรวจสอบพบเหาฉลามที่ติดมากับวาฬบรูด้า นั้น ไม่เคยพบเจอในอ่าวไทยหรือประเทศไทย ดังนั้นจึงมั่นใจในระดับหนึ่งว่าไม่ใช่วาฬในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามจะต้องนำดีเอ็นเอจากกระดูกที่หัก ไปตรวจวิเคราะห์ เพื่อทราบความชัดเจนอีกครั้ง คาด 1 สัปดาห์จะชัดเจน,นอกจากนั้น จากการผ่าซากพิสูจน์ในกระเพาะอาหาร ไม่พบเศษอาหารหรือขยะที่เป็นอันตรายที่อาจจะส่งผลกระทบทำให้ตายได้ จึงคาดว่าวาฬบรูด้าตัวดังกล่าว น่าจะป่วยตายตามธรรมชาติ ก่อนจะถูกเรือชนและลากเข้ามายังฝั่งท่าเรือแหลมฉบัง | การท่าเรือแหลมฉบัง ชี้เส้นทางการเดินเรือ ไทเกอร์ มีโอกาสน้อยมากที่จะเป็นสาเหตุชน วาฬบรูด้า ตาย พร้อมระบุไม่ได้อยู่ในตระกูล 50 ตัวของไทย หลังพบหลักฐานหลายอย่าง คาดอีก 1 สัปดาห์ชัดเจน | null | วาฬบลูด้า,ปลาวาฬบลูด้า,ท่าเรือแหลมฉบัง,เรือสินค้า,ชลบุรี | https://www.thairath.co.th/content/794687 |
ทัศนคติของรัฐส่วนกลางที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการจัดการตนเองของพลเมือง | อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ไม่สอดคล้องไปกับแนวทางการอนุรักษ์โบราณสถาน ของรัฐบาลกลาง ตามแนวทางของกรมศิลปากร เรื่องราวอันเป็นต้นเหตุให้ชาวบ้านสายทองต้องถูกว่ากล่าวและถูกนำมาวิจารณ์ผ่านสื่อถึง พฤติกรรมในการบูรณวัดนี้เกิดขึ้นภายหลังจากชาวบ้านร่วมแรงรวมใจกันประชุมระดมความเห็น และมีมติที่จะบูรณะพระอุโบสถวัดพายทอง ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุมหาอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมมีมติที่จะดำเนินการบูรณะพระอุโบสถแห่งนี้ ด้วยการทาสีสันให้สวยงาม แต่เนื่องจากเกรงว่าพระอุโบสถจะเก่าไว จึงเลือกที่จะใช้แม่สีในการแต่งแต้มบูรณะพระอุโบสถ ทั้งหมด หลังจากมีมติก็ดำเนินการระดมเงินทุนทรัพย์ในการบูรณะวัดด้วยตนเองได้เงินมาทั้งสิ้น กว่า 40000 บาท จากนั้นได้ร่วมแรงร่วมใจลงมือบูรณะปฏิสังขรณ์ด้วยการทาสีวัดใหม่ด้วยตนเอง พระภิกษุ กฤษณะ ธัมมสาโร อายุ 30 ปี พระลูกวัดผู้ดูแล และอาศัยอยู่ในพระอุโบสถ นี้ กล่าวว่า พระอุโบสถนี้มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา และเมื่อครั้งที่ประสบ อุทกภัยที่ผ่านมา น้ำท่วมกำแพงและพื้นรอบพระอุโบสถ ทำมีสภาพเก่าแก่ทรุดโทรมมาก ขึ้น คณะกรรมการวัดและชาวบ้าน ร่วมบูรณะทาสีพระอุโบสถใหม่ โดยเรี่ยไรเงินและทาสีที่เป็น ลวดลายต่างๆ มีพระภิกษุในวัดและชาวบ้านต่างช่วยทาสีทาสีเอง สำหรับตัวพระอุโบสถ คณะกรรมการของวัดได้หาลือไว้แล้วว่าจะทาสีใหม่ แต่ ต้องรอให้มีปัจจัยเสียก่อน ด้านพระราช สุธรรมา ภรณ์ เจ้าอาวาสวัดป่าโมกวรวิหาร เจ้าคณะอำเภอป่า โมก เผยว่า ชาวบ้านร่วมใจทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา [2] แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า มติที่ชาวบ้านมี ร่วมกันในการบูรณะวัดเก่าให้แลดูใหม่ขึ้นด้วยการทา สีสันที่สดใสบริเวณกำแพงแก้ว ซุ้มประตูด้านนอกและ ด้านใน ใบเสมาบริเวณรอบวัด โดยใช้สีเหลือง แดง เขียว ขาว และชมพูนั้น กลับเป็นความผิดในความเห็นหรือทัศนะของนักอนุรักษ์อย่างกรมศิลปากร ที่มีแนวทางการอนุรักษ์วัดหรือโบราณสถานอันเก่าแก่ให้ คงสภาพเดิมให้มากที่สุด (แม้ยอดจะหัก กำแพงจะล้มก็ต้องรักษาสภาพนั้นเอาไว้ – ผู้เขียน) ทัศนะดังกล่าวสามารถสะท้อนให้เห็นได้จากคำให้สัมภาษณ์ของ นายพิชัย บุญแจ้ง หัวหน้า กลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ที่กล่าวภายหลังไปตรวจสอบวัด พายทองที่ตกเป็นข่าวว่า จากการสืบค้นการสร้างโบสถ์เบื้องต้น ทราบว่า วัดพายทองมีอายุไม่ต่ำ กว่า 104 ปี และเป็นวัดที่สร้างตามศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย ซึ่งน่าเสียดายมากที่มีการนำสีมาทา ใบเสมาซึ่งมีอายุเก่าแก่ จนสีน้ำซึมเข้าไปในเนื้อหินแล้ว [3] จากข้างต้นสะท้อนให้เห็นถึงเหตุผลตามมุมมองของนักอนุรักษ์กรมศิลปากรซึ่งเป็น ความคิดกระแสหลักได้รับอิทธิพลจากแนวคิดของรัฐส่วนกลาง ที่มองประวัติศาสตร์ในแบบที่ ต่อเนื่องและเหมารวม [4] อันเป็นแนวคิดแบบชาตินิยม (nationalism) ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดเพราะแนวคิด ดังกล่าวมีส่วนในการหลอมหลวมความแตกต่างหลากหลายเข้าด้วยกันกระทั่งเกิดเป็นรัฐชาติ ( nation-state) ได้ในปัจจุบัน กระนั้นการเปิดพื้นที่ให้กับความแตกต่างหลากหลายได้ดำรงความเป็น เอกลักษณ์ของตนก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงไม่แพ้กัน ทั้งนี้เพราะแท้จริงแล้ว การรวมชาติขึ้นมานั้น เป็นสิ่งที่กระทำอยู่บนความหลากหลายทางวัฒนธรรมการเชิดชูวัฒนธรรมเพียงหนึ่งเดียวขึ้นมาเพื่อ รองรับกับพัฒนาการของความเป็นชาติที่ต่อเนื่องมั่นคงเป็นปึกแผ่น ทำให้ต้องกดทับวัฒนธรรมอัน หลากหลายของท้องถิ่นต่างๆลงไปโดยปริยาย ความต่อเนื่องยาวนานของประวัติศาสตร์เป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ชาวบ้านสายทองได้รับ การวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่ทำให้หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่แสดงให้เห็นความต่อเนื่อง ยาวนานของประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาอย่างวัดพายทองที่กรมศิลปากรประมาณอายุ ของโบราณสถานแห่งนี้ว่ามากถึง 104 ปี ต้องมีความผิดเพี้ยนไปจากประวัติศาสตร์แห่งชาติ เมื่อประวัติศาสตร์คือความเก่าแก่ คือความยาวนาน ความเก่าแก่ยาวนานนี้เองที่ทำให้ชาติมี ที่มาที่ไป และมีความเป็นอารยะเป็นพื้นฐานแห่งความชอบธรรม (legitimacy) และอำนาจในการ ปกครองในปัจจุบัน การทำลายความเก่าแก่ ก็คือการบั่นทอนความต่อเนื่องและลบเลือนหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์ที่ส่งผลสะเทือนต่ออำนาจและความชอบธรรมในการปกครอง การอนุรักษ์ โบราณสถานด้วยการพยายามรักษาสภาพความเก่าเอาไว้ให้ได้มากที่สุดเพื่อให้สามารถสืบย้อนกลับ ไปยังประวัติศาสตร์แห่งชาติได้จึงเป็นงานสำคัญที่กรมศิลปากรจะต้องดำเนินการ ด้วยเหตุนี้ การบูรณะวัดพายทองของชาวบ้านสายทองในครั้งนี้ ในทัศนะของกรมศิลปากร จึงเป็นการทำลายโบราณสถานลงอย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้มีสื่อหลายสำนักนำข่าวนี้ไปเผยแพร่และ กล่าวโจมตีในแง่ที่ว่าพฤติกรรมของชาวตำบลสายทองในครั้งนี้เป็นการกระทำที่ผิดไม่รู้จักกาลเทศะ ดังเช่น มีรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่งถึงกับลงทุนไปถ่ายภาพวัดและเน้นไปที่ก้นสิงห์ที่ถูกทาไว้ด้วยสีแดงซึ่งเจตนาจะสื่อไปยังผู้คนในสังคมว่าชาวบ้านนั้นช่างมีความคิดพิเรนทร์นอกลู่นอกทางไม่ เคารพสถานที่ ความพยายามในการถ่ายทอดการบูรณะวัดของชาวบ้านที่มีเจตนาดีในครั้งนี้กลับ กลายเป็นการทำลายวัฒนธรรมไทยลงอย่างไม่น่าให้อภัย ทั้งๆที่หากมองในแง่ของความเป็นจริงแล้วสิ่งที่เก่าแก่ ของที่เก่าจนแทบจะใช้การไม่ได้ หากเรายังจำเป็นต้องใช้การสิ่งนั้นอยู่และต้องการอยู่กับสิ่งนั้นไปนานๆก็คงไม่มีใครต้องการให้สิ่ง นั้นแลดูเก่า ไม่น่าใช้ และเสื่อมถอยไปตามกาลเวลาจริงหรือไหม (?) เมื่อพูดถึงสิ่งของเก่าๆก็มีแต่ คนอยากจะได้ของใหม่กันแทบทั้งนั้น แต่ในทางกลับกัน กรณีที่เป็นโบราณสถานกลับมีความคิดว่า ต้องอนุรักษ์ให้คงสภาพเดิมมากที่สุด ยิ่งเก่าเท่าไหร่ยิ่งดี อันนี้ผู้เขียนไม่ได้พาดพิงหลักวิชาการอนุรักษ์ว่าผิดพลาดแต่ประการใด เพียงแต่ต้องการ ชี้ให้เห็นว่าการอนุรักษ์ความเก่าไว้เช่นนั้นเป็นความคิดเชิงชาตินิยมที่ผู้มีอำนาจไม่อาจละทิ้งได้ เพราะอำนาจเกิดมาจากประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์คือสิ่งที่ผ่านมาแล้วหรือก็คือความเก่านั่นเอง สำหรับผู้ปกครองการไร้ซึ่งประวัติศาสตร์ก็คือการไร้ซึ่งอำนาจ ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นได้ว่าไม่ว่าชาติ ใดก็จะพยายามธำรงรักษาความเก่าแก่ของสิ่งต่างๆเอาไว้ให้มากที่สุดภายใต้แนวคิดประวัติศาสตร์ แห่งชาติ ผ่านการจัดเก็บสิ่งของเก่าแก่ไว้ในพิพิธภัณฑ์หรือขึ้นทะเบียนไว้เป็นโบราณสถานแห่งชาติ (ที่มีมากมายจนกระทั่งกรมศิลป์เองก็อาจดูแลไม่ทั่วถึง –ผู้เขียน) ซึ่งนี่อาจจะเป็นเหตุผลอีกประการ แห่งการอนุรักษ์นอกเหนือจากการศึกษาพัฒนาการและความเป็นมาของชาติ เมื่อประวัติศาสตร์คือความชอบธรรมและคือที่มาของปัจจุบัน ในเมื่อความเก่าแก่คืออำนาจ การทำลายโบราณสถานลงด้วยการทำลายความเก่าแก่ และบูรณะให้เกิดความใหม่ขึ้นของชาวบ้าน สายทองจึงเป็นการบ่อนเซาะอำนาจแห่งประวัติศาสตร์ลงไปโดยไม่ตั้งใจ การหมดไร้ซึ่ง โบราณสถานคือการทำลายความเป็นหนึ่งเดียวกันของชาติลงตามทัศนะของประวัติศาสตร์ชาตินิยม การกระทำของชาวบ้านในครั้งนี้จึงไม่แน่แปลกใจที่ต้องได้รับการวิจารณ์จากคนหลายภาค ส่วนที่ร่วมรับรู้ประวัติศาสตร์แห่งชาติมาด้วยกัน ไม่ใช่เพียงแค่กรมศิลปากรเท่านั้น การที่ผู้คนใน สังคมรับเอาโบราณสถานอันเก่าแก่เป็นหลักฐานเชิงรูปธรรมแห่งประวัติศาสตร์อันมั่นคง ทำให้ พวกเขามองไม่ต่างไปจากกรมศิลปากรว่าของเก่าแก่ ก็ต้องเก่าแก่อยู่ร่ำไป เพราะนั่นบ่งบอกที่มา ของพวกตน ทั้งๆที่พวกเขาเองก็ไม่ได้มีโอกาสมาใช้หรือสัมผัสผูกผันกับสถานที่อันเก่าแก่แห่งนี้ หากสถานที่อันเก่าแก่หรือโบราณสถานนั้นๆ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสถานที่ ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และได้รับการบูรณะขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อการเรียนรู้อย่างแท้จริง ดังเช่น โบราณสถานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือ ในจังหวัดสุโขทัย ลพบุรี และบุรีรัมย์ แล้ว ล่ะก็ การมีประวัติศาสตร์ร่วมกันภายใต้พื้นที่เช่นนั้น (พื้นที่ที่ได้รับการบูรณะขึ้นเฉพาะ) ก็เป็นสิ่ง ที่ยอมรับได้ เพราะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของชาวสายทอง แต่ในกรณีของวัดพาย ทองแล้ว ยังเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านใช้สอยทำบุญประกอบพิธีกรรมในวันสำคัญทางศาสนาต่างๆอยู่ บริบทแห่งพื้นที่จึงแตกต่างกันออกไปกับโบราณสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนไว้เพื่อเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ในแง่นี้ หากมองในมุมของผู้ใช้สถานที่อย่างชาวบ้านสายทองแล้ว ชาวบ้านย่อมมีสิทธิ เต็มที่ในการบริหารจัดการสาธารณะสมบัติหรือในที่นี้ก็คือ วัด ของพวกตน เพื่อให้พื้นที่นั้นยังคง สามารถใช้การได้ น่าอยู่น่าใช้ และอยู่กับพวกเขาไปได้นานๆ นี่เป็นประเด็นที่ควรฉุกคิดว่า ควรจะมีการจัดการเช่นไรกับโบราณสถานที่มีความเก่าแก่มี คุณค่าทางประวัติศาสตร์เช่นนี้ หากโบราณสถานนั้นยังคงเป็นพื้นที่ใช้สอยของชาวบ้านในชุมชน ไม่ได้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่กรมศิลปากรกันพื้นที่ออกไปโดยเฉพาะ คำถามคือในกรณี เช่นนี้อำนาจการจัดการควรอยู่ที่ใคร (?) ดังเช่นที่ พ.ท.วิเชียร ผาไท ไวยาวัจกรวัดพายทอง กล่าวไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า ทางชาวบ้านได้เรี่ยไรเงินกันมาได้ 4 หมื่นกว่าบาท แล้วนำเงินจำนวนหนึ่งไปทาสี เจตนาคือเพื่ออนุรักษ์ ไม่ให้พระอุโบสถทรุดโทรม โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นไม่ถูกต้อง ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านก็เข้าใจดีแล้ว และไม่ติดใจอะไรอีก แต่สำหรับเรื่องที่จะขึ้นทะเบียนวัดเป็นโบราณสถานนั้น ชาวบ้านไม่เห็นด้วย เพราะหากขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน กรมศิลปากรจะมีอำนาจเด็ดขาดในการเข้ามาทำงาน เข้ามา บูรณะซ่อมแซม ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถดำเนินการดูแลวัดเองได้ เพราะจะถูกดำเนินคดีฐาน ทำลายโบราณสถาน [5] คำถามจึงเกิดขึ้นว่า หากอำนาจในการจัดการ อยู่ที่รัฐส่วนกลางแล้ว ชาวบ้านพายทองจะยังมีสิทธิ เข้าไปใช้วัดพายทอง อันเป็นวัดเก่าแก่อยู่คู่กับชุมชน ของพวกเขามานานนับร้อยปีพอๆกับที่อยู่คู่ ประวัติศาสตร์ชาติไทย ในการประกอบกิจกรรมทาง ศาสนา งานบุญ งานบวช งานศพ เหมือนเดิมที่เคยทำ กันมาตั้งแต่รุ่นคุณทวดได้หรือไม่ หรือพวกเขาจะได้ เพียงแค่จ้องมองวัดพายทองในฐานะประวัติศาสตร์ที่ ไม่สามารถใช้การได้ กล่าวโดยสรุปได้ว่าความผิดของชาวบ้านสายทองในครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะ การบูรณะวัดพาย ทองของชาวบ้านด้วยความปรารถนาดีนั้น เป็นการทำลาย ความเก่าแก่ ของโบราณสถานอัน ส่งผลต่อการบั่นทอน ความเก่าแก่และยาวนาน ของหลักฐานทางประวัติศาสตร์แห่งชาติ ที่จะ ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางอำนาจที่เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ของรัฐนั่นเอง ซึ่งเรื่องนี้ นำไปสู่ประเด็นที่น่าสนใจ ในเรื่องสิทธิในการดูแลและจัดการตนเองของชาวบ้านที่พึงมีต่อวัดที่ พวกเขาใช้และผูกพันแต่ ในขณะเดียวกันเป็นโบราณสถานและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ แห่งชาติในสายตาคนอื่น ที่ควรต้องได้รับการพิจารณากันอีกครั้ง แต่นอกเหนือจากมุมมองด้านสิทธิและความหลากหลายแล้ว การดำเนินการของชาวบ้าน สายทองในการบูรณะวัดพายทองในครั้งนี้ ก็สะท้อนให้เห็นความเข้มแข็งของชาวบ้านสายทอง อย่างมาก เนื่องจากการบูรณะปรับปรุงวัดในครั้งนี้ของชาวบ้านสายทอง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นริเริ่มมาจาก ชาวบ้านสายทองอย่างแท้จริงในการมุ่งพัฒนาชุมชนของตนให้มีความน่าอยู่ เป็นการแก้ไขปัญหา เพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชนด้วยตนเอง โดยไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงาน ใด อันเป็นลักษณะของพลเมืองที่สังคมเริ่มพูดถึงกันมากขึ้นในลักษณะชุมชนเข้มแข็งที่ไม่ได้เอาแต่ งอมืองอเท้ารอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ไม่เพียงแต่คิดแต่ชาวบ้านสายทองลงมือปฏิบัติอย่างแท้จริงด้วย โดยภายหลังน้ำลด ชาวบ้านระดมความเห็นกันผ่านการประชุมประชาคมหมู่บ้าน และนำวาระเรื่องการบูรณะวัดพาย ทองเข้าพิจารณา โดยเปิดโอกาสให้แต่ละคนได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการบูรณะวัดอย่างเต็มที่ จนกระทั่งได้มติที่ประชุมในการบูรณะวัดด้วยการทาสีวัดพายทองใหม่ด้วยสีสันที่สดใส โดยเน้น แม่สี เพื่อไม่ให้วัดเก่าไว และมีความสดใส น่านั่งน่าใช้ เพราะชาวบ้านต้องใช้วัดพายทองในการ ดำเนินกิจกรรมต่างๆไปอีกนาน อย่างไรก็ตาม มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยในการทาสี วัดให้สดใสฉูดฉาดเช่นกัน โดยมองว่าเป็นสถานที่ ทางศาสนาไม่ควรทาสีสันที่ฉูดฉาด ดังที่มีผู้ให้ สัมภาษณ์ผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ว่า ตนไม่เห็น ด้วยที่จะให้ลงสีวัดด้วยสีสดๆเช่นนั้น แต่แพ้เสียง ส่วนใหญ่ เรื่องนี้ผู้เขียนจะไม่พิจารณาว่าใครผิดหรือถูกแต่จะ พิจารณาในแง่ของกระบวนการ (process) ในการดำเนินการ เพื่อบูรณะวัดพายทองครั้งนี้ของชาวบ้านว่า เป็นไปตาม กระบวนการประชาธิปไตยหรือไม่ ซึ่งจากเสียงสะท้อนของ ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการทาสีสันให้ฉูดฉาดข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่า เวทีประชาคมหมู่บ้านในวันนั้น เป็นเวทีทีเปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้พูดได้คุยได้ถกเถียงกันอย่างแท้จริง ไม่ได้เป็นเพียงการหารือกัน อย่างลับๆของคณะกรรมการหมู่บ้านแค่ไม่กี่คนเท่านั้น แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนในหมู่บ้าน ได้แสดงความเห็นแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน โดยมติที่ได้มาจากเสียงส่วนใหญ่ของคนในหมู่บ้าน ซึ่งกระบวนการนี้เป็นไปตามหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างหนึ่ง เป็นหลักของ เสียงส่วนใหญ่ (majority vote) ซึ่งเป็นแนวทางที่สังคมส่วนใหญ่กำลังใช้อยู่ แม้ว่าประชาธิปไตยจะ มีอยู่หลายรูปแบบแต่เสียงส่วนใหญ่หรือการโหวตก็ยังเป็นเทคนิคที่หลายคนนิยมใช้เนื่องจาก สะดวกและเห็นผลชัดเจน ในที่นี้เราจะไม่ถกเถียงกันในประเด็นที่ว่าเสียงส่วนใหญ่ดีหรือไม่ แต่ ผู้เขียนต้องการชี้ให้เห็นกระบวนการประชาธิปไตยที่ชาวบ้านสายทองดำ เนินการตลอด กระบวนการก่อนที่จะได้มติในการบูรณะวัดออกมา จากข้างต้น จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าชาวบ้านสายทองมีความก้าวหน้ามีความสามารถในการ จัดการแก้ไขปัญหาด้วยตนเองตามแนวทางการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันเป็นแนวทางตาม ระบอบประชาธิปไตยที่รัฐไทยพยายามส่งเสริมให้ชาวบ้านเรียนรู้กันมาโดยตลอด ปัญหาจากการดำเนินการในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อ การดำเนินการบูรณะวัดของชาวบ้ายสายทอง ในครั้งนี้ ตั้งอยู่บนความเชื่อความศรัทธาและภูมิปัญญาชาวบ้าน เป็นการบูรณะวัดให้สวยงามสดใส ตามแนวคิดของพวกเขาเพื่อรับใช้คนในชุมชน ไม่ได้ตั้งอยู่บนหลักวิชาการในการบูรณะวัดตาม แนวทางของกรมศิลปากร ที่ต้องการคงความเก่าแก่ของวัดเอาไว้ให้มากที่สุดเพื่อให้สอดรับกับ ประวัติศาสตร์แห่งชาติ การมุ่งวิจารณ์เรื่องนี้โดยปิดกั้นไม่ให้ ชาวบ้านได้แสดงความคิดเห็นถึงเหตุผลและ เจตนารมณ์ที่อยู่เบื้องหลัง จึงเป็นการปิดกั้นโอกาส ที่สังคมจะได้เรียนรู้มุมมองของชาวบ้านที่มีต่อการ บริหารจัดการชุมชนของตนเอง เป็นการปิดกั้น สิทธิในการได้รับข้อมูลข่าวสารของคนในสังคม ด้วยการประโคมข่าวสารทางเดียวในเรื่องของการ ทำลายโบรารณสถาน ไม่มีการวิเคราะห์ไปถึง ประเด็นต่างๆที่คลุมเครือ ทั้งในเรื่องของสิทธิใน การบริหารจัดการทรัพย์สินและทรัพยากรในชุมชน สิทธิในการคิด ในการตัดสินใจ สิทธิของรัฐใน การเข้าไปดำเนินการในพื้นที่ รวมไปถึงบทบาทหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดที่พึงมีต่อพื้นที่ของ ตนเอง ซึ่งอันที่จริงแล้ว ในฐานะที่เป็นรัฐชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดอาจเป็นกลไกที่สำคัญที่สุดเสีย ด้วยซ้ำ ที่จะทำให้ความแตกต่างหลากหลายทางวัฒนธรรมและความเชื่อสอดคล้องและเป็นไปใน ทิศทางที่รัฐให้การรับรอง ผู้ว่าราชการจังหวัดพึงสอดส่องความเคลื่อนไหวและพัฒนาพื้นที่จังหวัด ของตนเอง และถือเป็นด่านหน้าที่สุดที่ควรจะต้องถูกตั้งคำถามว่า ในพื้นที่ที่มีวัดเก่าแก่ถึง 104 ปีอยู่ เช่นนั้น เหตุใดผู้ว่าราชการจังหวัดจึงไม่ให้ความสนใจ ทำความเข้าใจกับชาวบ้านหรือยื่นเรื่องไปยัง กรมศิลปากรเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อให้กรมศิลปากรมาทำการบูรณะ หากไม่ต้องการให้ชาวบ้านบูรณะ วัดดังกล่าวบนพื้นฐานความรู้ที่พวกเขามีและเชื่อ หากผู้ว่าราชการจังหวัดตื่นตัวในเรื่องนี้ ชาวบ้าน สายทอง ก็อาจจะไม่ต้องถูกสังคมวิจารณ์กระทั่งหมดกำลังใจเช่นนี้ และที่สำคัญคือยังมีผู้เกี่ยวข้อง อีกหลายฝ่ายที่ควรถูกตั้งคำถามไม่ใช่เพียงชาวบ้านที่ลงขันกันเพื่อบูรณะวัดของตน วันนี้ชาวบ้านพายทองต้องตกเป็นจำเลยเพราะความไม่รู้เท่าทันต่อความคิดและทัศนคติของ รัฐส่วนกลาง ความคิดตามหลักวิชาการ ไม่รู้เท่าทันความสำคัญของประวัติศาสตร์แห่งชาติ พวกเขา ต้องตกเป็นจำเลยเพราะไปทำลายหลักฐานชิ้นหนึ่งทางประวัติศาสตร์ด้วยการทำให้ประวัติศาสตร์ ใหม่ขึ้น สดใส ขึ้น ต้องตกเป็นจำเลยเพราะความปรารถนาดี เพราะความเข้มแข็งของชุมชน ที่ไม่งอมืองอเท้ารอคำสั่งจากรัฐเพียงฝ่ายเดียว กระนั้นก็ไม่น่าแปลกใจเพราะสังคมเราถูกสอนกันมาว่าสมบัติของชาตินั้นเป็นสมบัติของ ส่วนรวม แต่ภายในความเป็นส่วนรวมนั้น ก็มีความเป็นเจ้าของของคนในพื้นที่ซ่อนอยู่ด้วย ในขณะที่เราอ้างว่าโบราณสถานต่างๆคือสมบัติของชาติ แต่เรากลับไม่เคยไปใช้ ไม่เคยไป เหลียวแลโบราณสถานเหล่านั้น เก็บไว้เป็นเพียงแค่ความทรงจำว่าเรามีที่มาที่ไป เก็บไว้ในความทรง จำในฐานะหลักฐานประวัติศาสตร์ของความเป็นชาติเท่านั้น ยิ่งหากเป็นโบราณสถานที่ไม่ได้มี ชื่อเสียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้วยแล้ว แทบจะไม่มีเพื่อนร่วมชาติคนใดไปลำลึกถึงความเป็นมาของ ชาติ ณ โบราณสถานแห่งนั้นเลย ดังเช่น โบราณสถานวัดพายทองแห่งนี้ ที่มีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะ ชาวบ้านเพราะคนในพื้นที่ยังคงเอาใจใส่ให้ความสนใจ ให้ความสำคัญ เข้ามาใช้สอย ดำเนิน กิจกรรมต่างๆ ในเมื่อไม่มีเพื่อนร่วมชาติคนใดสนใจเช่นนี้แล้ว ผู้อยู่ใกล้ก็ต้องดูแล จึงเป็นสิทธิของ ชาวบ้านแล้วไม่ใช่หรือที่จะบูรณะวัดแห่งนั้น คำสั่งของกรมศิลปากรที่ให้เปลี่ยนสีวัดเสียใหม่ให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมนั้น จึงไม่ได้เป็น เพียงแค่การล้างสีให้วัดกลับมาอยู่ในสภาพเดิมเท่านั้น แต่เป็นการทำลายความเชื่อมั่นในศักยภาพที่ จะจัดการตนเองของชาวบ้านให้มลายหายไปด้วย ซึ่งสวนทางกับอุดมการณ์ที่รัฐอ้างว่าต้องการเสริม ให้ชาวบ้านมีความเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ เพื่อลดภาระที่รัฐต้องรับผิดชอบลงไป หรือปัญหาอยู่ที่ เรายังไม่มีการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระจายอำนาจทางด้านความคิด ไม่ใช่เพียงการกระจายงบประมาณ หรือภาระงานเท่านั้น หากรัฐส่วนกลางยังคงมุ่งวิจารณ์เป็นหลักรับฟังเป็นรอง ศักยภาพทางความคิด ความสามารถในการพึ่งพาตนเองของชาวบ้านบนฐานของภูมิปัญญาและทรัพยากรในท้องถิ่นก็จะ ถูกบั่นทอนให้ลดน้อยลง จนอาจแทบไม่เหลือเลย เพียงเพราะช่องว่างทางทัศนคติที่ไม่ตรงกัน ระหว่างรัฐส่วนกลางกับภูมิปัญญาชาวบ้าน จึงนำไปสู่การตัดสินผิดถูก การวิจารณ์และลงโทษ ต้องยอมรับว่า เราขับเคลื่อนเรื่องความเข้มแข็งของชุมชนและสิทธิชุมชนนี้กันมานาน กว่า จะออกดอกออกผล เปลี่ยนจากการเคลื่อนไหวบนท้องถนน ให้เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านได้มากขึ้น แต่ ตอนนี้เรากำลังทำลายความเชื่อมั่นและศักยภาพเหล่านั้นของชุมชนลงเพียงเพราะเหตุผลที่ว่าสิ่งที่ ชาวบ้านคิดและทำนั้นไม่ตรงตามหลักวิชาการและไม่เป็นไปตามอุดมการณ์ของรัฐส่วนกลาง เท่านั้น การที่ชาวบ้านสายทองถูกวิจารณ์อย่างไม่มีทางแก้ตัว ต้องตกเป็นจำเลยของสังคม ต้องออกมารับผิดและขอโทษ อย่างไม่มีทางได้ชี้แจงเหตุผล ไม่มีทางได้แก้ตัวเช่นนี้ จึงอาจ เป็นเหตุการณ์เล็กๆที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาศักยภาพของ ชุมชนให้หมดลง เพียงเพราะต่อไปชาวบ้านอาจเกรงว่าสิ่งที่ ตนคิดและทำจะไม่สอดคล้องกับแนวคิดของทางการและอาจ ต้องได้รับการประณามจากสังคม หากเป็นเช่นนั้นจริงความ เข้มแข็งของภาคพลเมืองที่รัฐดูเหมือนจะอ้างว่าคาดหวังเอาไว้ จะเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะอุดมการณ์กับการกระทำนั้นสวนทางกัน อ่านเพิ่มเติม: กรมศิลป์สั่งเปลี่ยนสีโบสถ์วัดพายทองกลับดังเดิม. http://hilight.kapook.com/view/68064 ตะลึง โบสถ์แฟนตาซี อายุกว่า 100 ปี วัดเมืองอ่างทอง มีหลากสีฉูดฉาด http://www.matichon.co.th/news_detail. php?newsid=1330251473&grpid=&catid=19&subcatid=1906 วัดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ที่อ่างทอง ถูกทาสีวาดลชวดลายฉูดฉาด [26 ก.พ.2555] http://www.mcot. net /cfcustom/cache_page/335574.html อ้างดิง: นักวิชาการสำนักส่งเสริมการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้า. ตะลึง โบสถ์แฟนตาซี อายุกว่า 100 ปี วัดเมืองอ่างทอง มีหลากสีฉูดฉาด http://www.matichon.co.th/news_detail. php?newsid=1330251473&grpid=&catid=19&subcatid=1906 กรมศิลป์สั่งเปลี่ยนสีโบสถ์วัดพายทองกลับดังเดิม. http://hilight.kapook.com/view/68064 ปัจจุบันมีงานวิชาการหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่าประวัติศาสตร์ไม่ได้มีความต่อเนื่อง และ ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นควร ได้รับการฟื้นฟูและให้ความศึกษาอย่างจริงจัง เช่นงานของ ศ.สายชล สัตยานุรักษ์ งานของ รศ.ดร.ธิดา สาระยา เป็นต้น กรมศิลป์สั่งเปลี่ยนสีโบสถ์วัดพายทองกลับดังเดิม. http://hilight.kapook.com/view/68064 | ผู้เขียนได้อ่านและได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับการบูรณะซ่อมแซมวัดภายหลังน้ำท่วม ซึ่งฟังแล้ว เป็นเรื่องที่ดีและสมควรต้องเป็นเช่นนั้น แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อการบูรณะวัดในครั้งนี้ของชาวบ้าน ตำบลสายทอง | วัฒนธรรม | กระจายอำนาจ,วัดพายทอง | https://prachatai.com/journal/2012/02/39450 |
เปรียบเทียบนโยบายสำคัญโอบามา-รอมนีย์ | นอกเหนือจากนโยบายทางด้านการเมืองแล้ว นโยบายซึ่งถือว่าค่อนข้างสำคัญอย่างยิ่งไม่แพ้กันก็คือ นโยบายด้านเศรษฐกิจที่ทั้ง นายบารัค โอบามา และ นายมิตต์ รอมนีย์ ได้เสนอต่อสังคมเพื่อใช้ในการตัดสินใจเลือกผู้นำสหรัฐฯคนใหม่ หลังจากที่ผลสำรวจของโพลหลายสำนักชี้ว่า คะแนนนิยมของบุคคลทั้ง 2 ต่างมีความใกล้เคียงกันอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบนโยบายสำคัญของ 2 คู่ชิงประธานาธิบดี สามารถเปรียบเทียบได้ดังนี้ นโยบายด้านเศรษฐกิจของนายโอบามาจากพรรคเดโมแครต ประกาศนโยบายงดเว้นการเก็บภาษี ครัวเรือนชาวอเมริกันที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 250000 ดอลลาร์ ขึ้นไปซึ่งใช้มาตั้งแต่สมัยนายจอร์จดับเบิ้ลยู บุช เป็นประธานาธิบดี ขณะที่พรรครีพับลีกันจะยังคงนโยบายดังกล่าวให้เป็นนโยบายถาวร รวมถึงนายรอมนีย์ที่นโยบายอนุรักษ์นิยมและประกาศตอบโต้การค้ากับจีนทุกรูปแบบขณะที่นายโอบามา ชูมาตรการผ่อนปรน พร้อมสร้างประโยชน์ทางการค้าด้านนโยบายสาธารณสุข นายโอบามามีนโยบายดูแลสุขภาพชาวอเมริกันครอบคลุมกว่านโยบายของนายรอมนีย์ รวมไปถึงนโยบายด้านสังคมที่นายโอบามา ค่อนข้างเสรีและสนับสนุนสิทธิการแต่งงานของกลุ่มคนรักร่วมเพศ ขณะที่นายรอมนีย์ต่อต้านนโยบายดังกล่าว และที่ค่อนข้างเป็นที่จับตาของสังคมอย่างนโยบายการทำแท้งนั้นนายโอบามาสนับ สนุนนโยบายดังกล่าว ขณะที่นายรอมนีย์ต่อต้านนโยบายการทำแท้งส่วนนโยบายที่แตกต่างระหว่าง 2 พรรคนี้ คือ นายรอมนีย์ต้องการเพิ่มงบประมาณด้านการทหารส่วนโอบามาต้องการตัดงบค่าใช้จ่าย โดยในช่วงก่อนหน้านี้รัฐบาลโอบามาได้ตัดงบประมาณด้านการทหารไปแล้วครั้งหนึ่ง ทว่านายรอมนีย์กลับต้องการเพิ่มบทบาทของสหรัฐฯในการ จัดการกับปัญหาการเมืองโลกด้วยตนเอง โดยไม่ผ่านการจัดการขององค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศเช่นในกรณีปรากฎการณ์ อาหรับสปริง รวมไปถึงกรณีความขัดแย้งกับจีนส่วนโอบามาต้องการยึดหลักความร่วมมือระหว่างนานาชาติ และใช้กลไกขององค์กรต่างประเทศที่มีอยู่ในการจัดการกับปัญหาขณะที่ผลสำรวจหลายสำนักต่างชี้ว่า คะแนนนิยมของนายโอบามา และนายรอมนีย์ ยังคงมีความสูสีอย่างสูง และเมื่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เริ่มต้นขึ้นแล้วที่รัฐนิวแฮมเชียร์ ซึ่งเป็นนพื้นที่แรกเมื่อคืนนี้ ( 6 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ผู้สมัครทั้ง 2 คน ต่างเดินหน้าหาเสียงในสวิงสเตท เพื่อเรียกคะแนนให้ได้มากที่สุดในช่วงโค้งสุดท้าย แต่ยังคงต้องจับตาดูต่อไปว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะเลือกใครเป็นผู้นำซึ่งจะได้รู้ผลกันในไม่ช้า | การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 2012 นับเป็นครั้งที่ 57 โดยครั้งนี้กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 ซึ่งคู่ชิงสำคัญในการแข่งขันครั้งนี้ คือ นายบารัค โอบามา ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาและเป็นตัวแทนจากพรรคเดโมแครต กับนายมิตต์ รอมนีย์ นักธุรกิจมหาเศรษฐี และอดีตผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ เป็นตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน | ต่างประเทศ | U.S.Election 2012,ความแตกต่าง,นโยบาย,รอมนีย์,เปรียบเทียบ,โอบามา | https://news.thaipbs.or.th/content/123899 |
เหยื่อรถตู้ 9 ศพ ไม่ขอรับ 5 แสน แนะให้สมทบ แพรวา ใช้หนี้ | วันที่ 18 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตัวแทนราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา ได้แถลงข่าวชี้แจงกรณีอุบัติเหตุเมื่อปี 2553 ที่ นางสาวแพรวา ขับรถยนต์ชนรถตู้โดยสาร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ ซึ่งทางราชสกุลได้รวบรวมเงินจำนวน 5 แสนบาท เพื่อเยียวยาครอบครัวผู้เสียหาย ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น อ่านข่าว ,สุชัย แจงเหตุผล ทำไมรวมเงินกองทุนช่วยเหยื่อได้เพียง 5 แสนบาท,ต่อมา นายณัฐพล ทองคำ ทนายประจำราชสกุลเทพหัสดินฯ ได้ติดต่อไปหา คุณติณ หรือ นายวรัญญู เกตุชู 1 ในผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อให้รับเช็คจำนวน 5 แสนบาทเป็นเงินกองกลางสำหรับผู้เสียหายในการต่อสู้คดี โดยทางคุณติณ ไม่ขอรับไว้ แต่ขอให้ทนายนำเงินจำนวนนี้สมทบให้กับ นางสาวแพรวา เพื่อนำเงินมาชดใช้หนี้ตามคำพิพากษาดีกว่า,อย่างไรก็ตาม ทนายณัฐพล ได้ย้ำอีกครั้งว่า เงินจำนวนนี้เป็นการแสดงเจตนาของทางราชสกุลเพื่อแสดงน้ำใจและเป็นขวัญกำลังใจให้ผู้เสียหาย แต่ทางผู้เสียหายจะรับหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับทางผู้เสียหายจะตัดสินใจเอง.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,- ,แม่แพรวา พูดแล้ว 9 ปี ไม่ได้นิ่งนอนใจ โชว์โฉนด พร้อมขายชดใช้เหยื่อ,- ,เอาลูกมาคืนฉันได้ไหมล่ะ ญาติผู้เสียชีวิต คดีแพรวา ยังคงเดินหน้าหาความเป็นธรรม,- ,ทนายชี้การบังคับคดีมีขั้นตอน ศาลไม่สามารถยึดเงินมาคืนเหยื่อคดีแพรวาได้,- ,อยากจบ เหยื่อคดี แพรวา บอบช้ำ บอกเงินแค่นี้ แลกกับชีวิตคน ไม่มีใครเอาหรอก,- ,ไม่พบชื่อ แพรวา มาสมัครทหารมีแค่ชื่อ รวินภิรมย์ อรุณวงศ์ แต่สอบไม่ผ่าน,- ,ฝั่ง แพรวา ขยับแล้ว ญาติเตรียมแจงปม เยียวยาเหยื่อ #คดีแพรวา,- ,ราชสกุล เทพหัสดิน ณ อยุธยา มอบ 5 แสน ตั้งกองทุน ช่วยเหยื่อใช้ติดตามคดี,- ,ราชสกุลเทพหัสดินฯ จี้ แพรวา ขอโทษสังคมด้วยใจจริง ขอคนอย่าด่าเหมารวม | ครอบครัวเหยื่อรถตู้ 9 ศพ ไม่ขอรับเงิน 5 แสน จากราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา หลังตั้งใจแสดงน้ำใจเยียวยา แนะนำเงินสมทบให้ แพรวา ชดใช้ค่าเสียหายดีกว่า | ข่าว,สังคม | แพรวา,แพรวา9ศพ,แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา,แพรวาชนรถตู้,ราชสกุล เทพหัสดิน ณ อยุธยา,กองทุน,ไม่รับเงิน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1618031 |
แปลกแต่จริง ซื้อที่ดินไว้ปลูกบ้าน ไปดูอีกที กลายเป็นกองขยะมหึมา | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่บ่อขยะเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ ถนนรังสิต-นครนายก ตำบลบึงสนั่น อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีกองขยะขนาดมหึมาเท่ากับภูเขาลูกย่อมๆ พร้อมกับมีป้ายที่เทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ จ.ปทุมธานี นำมาปักไว้เขียนว่าบ่อขยะเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ และนำขยะมาทิ้งไว้ ปริมาณไม่ต่ำกว่าพันตัน, , ขณะเดียวกัน ได้มีนางสุกัญญา วงค์จันทา อายุ 77 ปี ชาวหลักสี่ กทม.เข้ามาดู พร้อมกล่าวว่า ซื้อที่ดินตรงนี้เมื่อปี 2532 จำนวน 200 ตารางวาเพื่อจะปลูกบ้านเป็นที่อยู่อาศัย เมื่อก่อนขยะไม่มี พอมาระยะหลังขยะได้ลามมาถึงพื้นที่ของชาวบ้าน โดยก่อนหน้านั้นมีการนำขยะมาทิ้งในบ่อขยะของเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ซึ่งอยู่ลึกเข้าไป ก่อนจะมีเพื่อนบ้านโทรไปบอกว่าช่วงนี้มีขยะมาทิ้ง ช่วยมาดูหน่อย พอมาดูก็จำที่ตัวเองแทบไม่ได้ เมื่อก่อนมีรั้วล้อมรอบ เอาเสามาปักไว้และล้อมด้วยลวดหนาม มีหลักเขตชัดเจน ตอนนี้มองไม่เห็นแล้ว เพราะขยะสูงมาก โดยเฉพาะบริเวณต้นไม้ใหญ่ วันนี้มาดูเห็นแทบจะเป็นลม จะเข้าไปดูใกล้แต่ถูกห้ามไว้ เพราะว่ามันเหม็นมาก,ขณะที่นางสุวันนา โกวิฑู อายุ 64 ปี ชาวกรุงเทพฯ กล่าวว่ามาซื้อที่ดินเมื่อปี 2532 เนื้อที่ 200 ตารางวาพร้อมกับน้า ที่ซื้อไว้ด้วยกันแล้วแบ่งคนละ 200 ตารางวา นานๆ จะมาดูที ไม่ได้มาบ่อย เดิมตั้งใจจะทำเป็นที่อยู่อาศัย ปรากฏว่า มีปัญหาเลยทำที่อยู่อาศัยไม่ได้ ขณะนี้ขยะล้นออกมาจนเต็ม เมื่อมาดูก็แปลกใจว่าทำไมขยะเยอะขนาดนี้ มองไม่เห็นเสาหลักเขต ก็สงสัยว่าทำไมเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์นำขยะมาทิ้งในที่ของชาวบ้านเช่นนี้ อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อมหรือเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ก็ดี ช่วยมาดูแลหน่อยเพราะมันไม่ใช่ที่ทิ้งขยะ,ชาวบ้านแถวนี้เขาก็เหม็น แต่เขาไม่รู้จะพูดอย่างไร เดือดร้อนกันมาก อีกอย่างน้ำเน่าจากกองขยะได้ไหลเข้าไปในที่ดินของเพื่อนบ้าน ไม่สามารถนำที่ดินมาทำการเกษตรได้เหมือนแต่ก่อน ตรงนี้ไม่ใช่ที่ทิ้งขยะของเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ ที่เจ็บใจมากก็คือนำป้ายมาปักในที่ดินของเรา ก็งงเหมือนกัน มันเป็นไปได้อย่างไร บ้านเมืองเราทุกวันนี้,ด้านแม่ชีนิยมพร คุ้มสุขสกุล อายุ 55 ปี ชาวปทุมธานี เผยว่ามีที่ดินทั้งหมด 26 ไร่ เป็นมรดกของคุณพ่อและคุณแม่ เมื่อก่อนเคยทำนาและเลี้ยงปลา ปัจจุบันไม่ได้ทำแล้ว อยากจะฝากให้ผู้ใหญ่เข้ามาช่วยดูแล รวมทั้งสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะประชาชนเดือดร้อน อยากให้มาช่วยกันแก้ไขให้ด้วยทางเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ เคยมีหนังสือแจ้งมาว่าจะรีบแก้ไขให้ แต่กองขยะนี่ก็มีมาตั้ง 10 กว่าปีที่แล้ว ที่ดินของแม่ชีอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกติดกับที่ดินของเพื่อนบ้านที่มีกองขยะกองโตเท่าภูเขา น้ำเสียน้ำเน่าก็ไหลเข้าที่ดินของแม่ชี สภาพดินทรุดโทรมหมด,ตั้งใจว่าจะใช้พื้นที่ตรงนี้ทำเป็นพื้นที่เกษตร แต่ตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรได้เลย แม่ชีนิยมพร กล่าวในที่สุด. | เจ้าของที่ดินในอ.ธัญบุรี ปทุมธานี นานๆ ไปดูที่ดิน เกือบเป็นลม หารั้ว หลักเขตที่ปักไว้ไม่เจอ เจอแต่กองขยะมหึมาเหม็นคละคลุ้งน้ำเสียน้ำเน่าไหลนองปนเปื้อน ที่ช้ำใจคือ มีป้าย บ่อขยะเทศบาล ติดไว้อีกด้วย | ข่าว,ทั่วไทย | ทิ้งขยะ,รุกที่ทิ้งขยะ,บ่อขยะรุกที่,เทศบาลเมืองสนั่นรักษ์,ปทุมธานี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1101115 |
ย้อนรอยสงครามญี่ปุ่น-รัสเซีย (1) | เรื่องที่ญี่ปุ่นชนะรัสเซียนี่เป็นสิ่งที่พวกฝรั่งทั้งหลายเก็บกดมาก และชัยชนะของญี่ปุ่นนี่เองครับที่ทำให้พวกเอเชียและแอฟริกาเคลื่อนไหวล้มลัทธิอาณานิคม,สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่นนี่รบกันนาน 1 ปีครึ่ง ส่วนใหญ่เป็นการรบกันทางทะเล ผู้อ่านท่านที่เคารพที่ชอบประวัติศาสตร์ยุโรปก็คงจะนึกถึงยุทธนาวีที่แหลมทราฟัลการ์ในสงครามนโปเลียน ที่เริ่มต้นเมื่อ ค.ศ.1804 และ 100 ปีเป๊ะพอดี คือ ค.ศ.1904 ก็เกิดสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ยุทธนาวีที่ช่องแคบสึชิมะมีความสำคัญเท่ากับยุทธนาวีที่แหลมทราฟัลการ์,ชนะรัสเซียปุ๊บ ญี่ปุ่นก็เป็นมหาอำนาจทางทะเลปั๊บ ตอนนั้น ไม่ว่าฝรั่งมังค่าชาติไหนก็กลัวญี่ปุ่น เมื่อรัสเซียแพ้ รัสเซียก็ต้องเดินตามก้นญี่ปุ่นไปลงนามสนธิสัญญาพอร์ตสมัท คนรัสเซียอยู่ในอาการตระหนกตกใจ และตำหนิรัฐบาลของพระเจ้าซาร์ ก่อนหน้านั้น คนรัสเซียจงรักภักดีต่อราชวงศ์โรมานอฟอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู แต่พอมาเจอเรื่องที่รบแพ้ชาติเอเชีย หลายคนก็ถอดใจกับราชวงศ์นี้ และเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศ แต่พระเจ้าซาร์ก็ทรงเมินเฉย จนทำให้เกิดการปฏิวัติเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ.1905 ที่กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งตอนนั้นยังเป็นเมืองหลวงของรัสเซีย,ท่านที่เคยไปเยือนเฮย์หลงเจียงก็จะเห็นโบสถ์ทรงหัวหอมของศาสนาคริสต์นิกายรัสเซียนออทอดอกซ์ โบสถ์เหล่านี้นี่แหละครับ เป็นสิ่งยืนยันถึงการขยายอำนาจของรัสเซียในจีน ซึ่งตอนนั้นจีนอ่อนแอมาก มหาอำนาจตะวันตกจึงเข้าไปแย่งชิงผลประโยชน์ในแผ่นดินจีน จีนกับญี่ปุ่นเองก็มีปัญหาเรื่องแย่งชิงเกาหลีกันกับญี่ปุ่นจนเกิดสงครามจีน—ญี่ปุ่น ซึ่งรัสเซียหนุนจีน,เยอรมนี ฝรั่งเศส และรัสเซียเข้าไปแทรกแซงการลงนามในสนธิสัญญาชิโมะโนะเซะกิระหว่างจีนกับญี่ปุ่น จีนก็เอาใจรัสเซียด้วยการให้สิทธิ 80 ปี ในการสร้างและใช้เส้นทางรถไฟในระยะทาง 1,520 กิโลเมตรจากจีนผ่านแมนจูเรียไปเมืองท่าวลาดิวอสตอก,นอกจากนั้น รัสเซียยังสร้างเส้นทางสายทรานไซบีเรียและสร้างเส้นทางจากฮาร์บินผ่านเมืองมุกเดน (ตอนนี้คือเฉิ่นหยาง) ไปยังเมืองพอร์ตอาเทอร์ที่เป็นฐานทัพเรือในมหาสมุทรแปซิฟิก คนจีน ส่วนหนึ่งไม่พอใจรัสเซียก็จึงเรียกตัวเองว่า กบฏนักมวย และไปเผาสถานีรถไฟที่เทียนจินและเหลียวหยาง รัสเซียจึงถือโอกาสที่กบฏนักมวยก่อความวุ่นวายเข้าครองแมนจูเรีย,รัสเซียยึดแมนจูเรียทำให้ญี่ปุ่นเสียวว่าต่อไปในอนาคต รัสเซียจะคุมจีนและยึดเกาหลี ญี่ปุ่นจึงคานอำนาจรัสเซียโดยไปทำสนธิสัญญาพันธมิตรอังกฤษ-ญี่ปุ่น เมื่อ ค.ศ.1902 เมื่อเห็นญี่ปุ่นมีเพื่อนใหม่ใหญ่โตมโหฬารและเป็นมหาอำนาจ รัสเซียก็หงอยถอนทหารจากแมนจูเรีย แต่ถอนไปได้สักพัก รัสเซียก็กลับใจบอกว่า อ้า ไม่ถอนแล้ว เพราะแมนจูเรียยังไม่สงบ แถมยังเสริมกำลังที่เมืองพอร์ตอาเทอร์และเพิ่มกำลังทางเรือในน่านน้ำแปซิฟิก ทูตญี่ปุ่น จึงประท้วงรัสเซียและตัดความสัมพันธ์ทางการค้า,ญี่ปุ่นพยายามประนีประนอม บอกว่า อ้า ถ้าอย่างนั้นก็แบ่งแผ่นแดนกันครอง รัสเซียไปเอาแมนจูเรียเหนือ ส่วนญี่ปุ่นขอแมนจูเรียใต้กับเกาหลี รัสเซียไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ ญี่ปุ่นก็เลยตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซีย บังเอิญตอนนั้น รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียอยู่ที่ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นก็จัดการไล่ให้รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียออกจากญี่ปุ่นทันที แล้วก็ประกาศสงครามกับรัสเซีย,ญี่ปุ่นส่งเรือประจัญบานยิงตอร์ปิโดใส่กองเรือรัสเซียที่พอร์ตอาเทอร์ พวกรัสเซียงงๆ แต่กว่าจะหายงง เรือรบก็จมทะเลไป 3 ลำ ผู้ที่ตกตะลึงพรึงเพริดมากที่สุดก็คือ พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 เพราะก่อนหน้านั้น พวกองคมนตรีประชุมกันแล้วก็ยืนยันกับพระเจ้าซาร์ว่า ญี่ปุ่นชาติเอเชียไม่กล้าทำสงครามกับมหาอำนาจยุโรปอย่างตัวเองเป็นแน่ จากนั้น รัสเซียก็ประกาศสงครามกับญี่ปุ่น,ใครจะนึกเล่าครับว่า ญี่ปุ่นจะกล้าประกาศสงครามกับประเทศที่มีกองทหารประจำการใหญ่ที่สุดในโลก มากถึง 1.35 ล้านคน พรุ่งนี้มารับใช้ต่อครับ.,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย,[email protected], | ประเด็นที่ถูกจุดขึ้นมาให้ร้อนเป็นระยะคือ เรื่องการแย่งกรรมสิทธิ์ในเกาะแก่งหลายแห่งระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น และสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่นซึ่งเป็นสงครามครั้งแรกที่ประเทศเอเชียชนะมหาอำนาจยุโรป | null | แย่งกรรมสิทธิ์,เกาะแก่ง,รัสเซีย,ญี่ปุ่น,มหาอำนาจทางทะเล,เปิดฟ้าส่องโลก,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1582921 |
สสส. ห่วงอัตราภาษีสุราใหม่ ทำคอทองแดง หันซดเหล้าขาว หนัก | เมื่อวันที่ 2 ก.ย. นายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึงกรณีกระทรวงการคลังเตรียมออกกฎกระทรวงว่าด้วยภาษีสรรพสามิต เพื่อกำหนดอัตราภาษีสุราและยาสูบ ที่จะมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.นี้ ว่า เรื่องนี้เริ่มจากการที่กระทรวงคลังได้แก้ไขกฎหมายใหม่ของกรมสรรพสามิต เปลี่ยนจากการคำนวณภาษีจากราคาต้นทุนไปเป็นอัตราขายปลีก ซึ่งอัตราขายปลีกจะทำให้จัดเก็บภาษีได้สูงกว่า และจะสะท้อนการขายจริง ซึ่งวัตถุประสงค์คงเพื่อจะปรับอะไรบางอย่างที่ไม่เสมอภาคกันของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละชนิด,ส่วนกรณีที่มีการกำหนดเพดานภาษีของสุรา หรือเหล้าที่ต่ำกว่าเบียร์ นั้น คงกล่าวไม่ได้ว่าเก็บอะไรสูงกว่ากัน เพราะเป็นการคำนวณจากเปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์หรือดีกรีที่ต่างกัน โดยที่ผ่านมาเบียร์มักจะถูกเก็บตามราคาขาย เหล้ามักจะเก็บตามอัตราแอลกอฮอล์ แต่ต้องยอมรับว่า เพดานภาษีใหม่จะส่งผลต่อราคาขายของเหล้าและเบียร์ที่อาจจะไม่แตกต่างกันมากนัก และจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค เช่น สุราพื้นบ้าน หรือเหล้าขาวเก็บต่ำกว่าเบียร์ ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกัน หรือเมื่อเทียบดีกรีแล้ว ผู้ดื่มแอลกอฮอล์ อาจจะหันไปบริโภคสุราหรือเหล้าขาวมากกว่าเบียร์ที่มีดีกรีน้อยกว่า,ระยะหลังจำนวนผู้ดื่มสุรายังมีฐานเท่าเดิมอยู่ แต่ก็มีบางส่วนที่เริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคจากเหล้าขาวมาเป็นเบียร์มากขึ้น แต่การกำหนดอัตราภาษีใหม่ ที่เบียร์จะถูกจัดเก็บภาษีมากกว่าเหล้าขาว ทำให้ราคาต่อดีกรีจะต่างกันมาก จนอาจมีส่วนจูงใจให้กลับมาบริโภคเหล้าขาวมากขึ้น นายสุปรีดา กล่าว,ส่วนกระแสข่าวว่ามีผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วิ่งเต้นเกี่ยวกับการกำหนดอัตราภาษีของภาครัฐ นั้น นายสุปรีดา กล่าวว่า เรื่องแบบนี้ผมไม่ทราบ ขออย่าให้ผมต้องออกความเห็นเลย | สสส. ห่วงอัตราภาษีสุราใหม่ บังคับใช้ 16 ก.ย.นี้ ทำคนไทยหันซด เหล้าขาว หนัก เหตุ เบียร์ โดนรีดมากกว่าจนราคาพุ่ง | ข่าว,ทั่วไทย | ภาษีเหล้า,เหล้าขาว,เก็บภาษีเบียร์,ภาษีสรรพสามิต,เหล้าบุหรี่,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/local/1057869 |
SUZUKI อัพเกรด CIAZ ขายราคาเดิมในมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 | Suzuki แนะนำรถอีโคคาร์ซีดานสี่ประตูรุ่นอัพเกรด Ciaz อีโคซีดานราคามิตรภาพ ห้องโดยสารกว้างขวาง อัพเกรดฟังก์ชั่นใหม่ในราคาเดิม เสริมทัพอีโคคาร์ของ Suzuki ให้แข็งแกร่ง ตอบรับความต้องการของลูกค้า Suzuki ยังโชว์ยานยนต์ขับเคลื่อนอิสระขนาดเล็ก ที่ Suzuki สนับสนุนทีม HAKUTO มุ่งสู่ภารกิจพิชิตดวงจันทร์ เน้นกลยุทธ์ Sport Marketing กับการเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน ภายใต้ชื่อ AFF Suzuki Cup 2018 จัดมาพร้อมโปรโมชั่นข้อเสนอพิเศษ บัตรเติมน้ำมัน 5,000 บาท สำหรับลูกค้าที่จองรถทุกรุ่น ทั้งนี้ Suzuki ตั้งเป้ายอดจองในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 1,200 คัน ,วัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท Suzuki Motor Thailand กล่าวว่า ในเรื่องของคอนเซ็ปต์บูธที่เราได้ย่อส่วนโชว์รูมซูซูกิมาจัดแสดงในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 ซึ่งประกอบด้วยยนตรกรรมคุณภาพหลากหลายรุ่นจาก Suzuki เช่นเคย ตั้งแต่ SUZUKI CIAZ ซึ่งมีการเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ในราคาเดิม ด้วยการเพิ่มช่องปรับอากาศพร้อมช่องจ่ายไฟสำรองบริเวณคอนโซลตรงกลางสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง เพื่อให้ความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง โดยจะมีในรุ่น SUZUKI CIAZ RS ราคา 675,000 บาท สีขาว เพิ่ม 5,000 บาท ส่งเสริมให้ SUZUKI CIAZ เป็นสปอร์ตอีโคซีดานที่เหนือกว่าอีโคซีดานในระดับเดียวกัน สำหรับ SUZUKI SWIFT แฮทช์แบ็กอีโคคาร์ ที่ยังคงได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัวจนมาถึงทุกวันนี้ ก็จะถูกนำมาจัดแสดงคู่กับ SUZUKI CELERIO อีโคคาร์ไซส์เล็กแต่คุณภาพเกินตัว และ SUZUKI ERTIGA รถยนต์อเนกประสงค์ 3 แถว 7 ที่นั่ง พร้อมระบบ One Touch Walk-in ปรับพับเบาะได้อย่างง่ายดายถึง 8 แบบ,เป็นที่ทราบกันดีว่า Suzuki Motor Thailand ให้การสนับสนุนและพร้อมจุดประกายไอเดียให้กับลูกค้าที่สนใจอยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง ผ่านการนำรถกระบะอเนกประสงค์เพื่อการพาณิชย์ SUZUKI CARRY มาดัดแปลงสร้างธุรกิจการค้าเคลื่อนที่อย่าง Carry Food Truck ซึ่งในครั้งนี้ก็มีการนำเสนอไอเดียใหม่ ด้วยการนำรถมาตกแต่งเป็น Carry Beauty Truck เป็นการขยายแนวคิดการค้าเคลื่อนที่ที่จะไม่ได้มีเพียงอาหารอีกต่อไป,Suzuki พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานและรถยนต์อีโคคาร์อย่างต่อเนื่อง โดยได้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์อีโคคาร์ ตั้งแต่ปี 2555 และจำหน่ายภายในประเทศแล้วกว่า 122,000 คัน (ยอดจำหน่ายถึงเดือนตุลาคม 2560) และมุ่งเน้นสร้างการบริการที่ดีผ่านทางโชว์รูมและศูนย์บริการของผู้จำหน่ายรถยนต์ Suzuki มากกว่า 107 แห่งทั่วประเทศ แสดงถึงศักยภาพและความพร้อม Suzuki จะยังคงพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ประหยัดพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต เพื่อตอบรับกับความเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานของโลก และเพื่อตอบรับกับความต้องการรถยนต์ประหยัดพลังงานของผู้บริโภคในปัจจุบันและอนาคต,ในปีนี้ Suzuki ได้มีการนำยานยนต์ขับเคลื่อนขนาดเล็กจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะได้นำไปปฏิบัติภารกิจที่ยิ่งใหญ่และท้าทายระดับโลก นั่นก็คือการลงจอดและสำรวจดวงจันทร์ให้สำเร็จลุล่วง โดยที่มาที่ไปของภารกิจดังกล่าว เริ่มมาจากในปี 2016 Suzuki ได้มีการจับมือกับทีมงาน HAKUTO ซึ่งเป็นทีมงานที่เข้าร่วมในการแข่งขันโปรแกรม Google Lunar XPRIZE การแข่งขันภารกิจพิชิตดวงจันทร์ระดับประเทศ ซึ่งได้รับความสนใจจากประเทศต่างๆ อย่างล้นหลาม การแข่งขันสุดยิ่งใหญ่นี้ ประกอบไปด้วย 3 ภารกิจหลัก ได้แก่ ยานยนต์ที่ออกแบบต้องสามารถลงจอดบนดวงจันทร์ได้สำเร็จ สามารถเดินทางบนพื้นผิวของดวงจันทร์ได้อย่างน้อย 500 เมตร และต้องมีการส่งข้อมูลภาพและวิดีโอที่มีความคมชัดสูงกลับมายังโลก,Suzuki ได้ดำเนินการสนับสนุนและให้คำปรึกษาในหลายๆ ด้านสำหรับภารกิจของ HAKUTO โดยการสนับสนุนที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ได้แก่ ความสำเร็จในการลดน้ำหนัก และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างยานยนต์ ซึ่งการสร้างและทดสอบการเคลื่อนที่ของยานยนต์ รวมไปถึงการปรับแต่งเครื่องยนต์นั้น อาจจะส่งผลต่อความแข็งแกร่งของยานยนต์ได้ รวมไปถึงมีค่าใช้จ่ายที่สูงและค่อนข้างใช้เวลานานมาก Suzuki ได้แชร์ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์เทคโนโลยีโครงสร้างสำหรับรถยนต์มาปรับใช้ในภารกิจ HAKUTO ซึ่งช่วยให้ทีมงาน HAKUTO สามารถจำลองแบบโครงสร้างของตัวยานยนต์ที่จะใช้ในการปฏิบัติภารกิจ HAKUTO ในคอมพิวเตอร์ได้สำเร็จ เกิดจากความเชี่ยวชาญในการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กให้กับผู้บริโภค ในจุดนี้ Suzuki เล็งเห็นถึงความเชื่อมโยงในส่วนของภารกิจ HAKUTO ที่พยายามสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ขนาดเล็กที่จะขึ้นไปวิ่งบนดวงจันทร์ จึงตัดสินใจร่วมเป็นสปอนเซอร์ให้กับภารกิจดังกล่าว เพื่อใช้ความเชี่ยวชาญในเรื่องการผลิตรถยนต์ในการพิชิตภารกิจที่น่าตื่นเต้นนี้,Suzuki พยายามเพิ่มกิจกรรมทางการตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและเพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น โดยยังคงเน้นกลยุทธ์ในการทำ Sport Marketing อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2561 นี้ การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียนจะจัดขึ้นอีกครั้ง และซูซูกิยังคงเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อ AFF Suzuki Cup 2018 ซึ่งชาวไทยจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งแรงเชียร์ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ในการแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่และน่าตื่นเต้นเร้าใจนี้อีกครั้งหนึ่ง,Suzuki ยังคงให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง คือ การให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย ในปีนี้สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าคนสำคัญอีกครั้ง ด้วยคะแนนความพึงพอใจที่เพิ่มสูงขึ้น จากผลสำรวจของ เจ.ดี.พาวเวอร์ ดัชนีด้านบริการงานขายในประเทศไทย ประจำปี 2560 คะแนนของ Suzuki อยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มรถยนต์แบรนด์ยอดนิยม และครองอันดับ 4 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2,การเดินหน้ายกระดับมาตรฐานงานขายและการให้บริการให้เป็นที่ประทับใจ เพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ด้วยการเพิ่มโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานทั่วประเทศ 107 แห่ง ซึ่งภายในปีนี้มีแผนที่จะขยายโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานทั่วประเทศให้ครบ 120 แห่ง เพื่อรองรับการให้บริการอย่างครอบคลุมทั่วถึง.,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,[email protected],Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/ | ซูซูกิแนะนำ CIAZ อัพเกรดฟังก์ชั่นใหม่ในราคาเดิม พร้อมโชว์ยานยนต์ขับเคลื่อนขนาดเล็ก มุ่งสู่ภารกิจพิชิตดวงจันทร์ เน้นกลยุทธ์ Sport Marketing เป็นผู้สนับสนุนหลัก AFF Suzuki Cup 2018 | ข่าว,ยานยนต์ | ยานยนต์,รถยนต์,Suzuki Ciaz,ซูซูกิ,อาคม รวมสุวรรณ | https://www.thairath.co.th/news/auto/news/1143068 |
โปรเม ยังนิ่ง รั้งมือ 2 โลกต่อ แม้ฟอร์มหลุดสองรายการล่าสุด | วันที่ 11 ก.ค.60 โปรเม เอรียา จุฑานุกาล อันดับโลกยังนิ่งอยู่ที่ 2 ต่อไป แม้ในการแข่งขัน 2 รายการล่าสุดจะเล่นไม่จบก็ตาม โดยมีแต้มห่างจาก ริว โซ ยอน คู่ปรับคนสำคัญชาวเกาหลีใต้อยู่เพียงนิดเดียวเท่านั้น,สำหรับโปรสาวชาวไทยฟอร์มหลุดไปอย่างน่าใจหายในระยะหลัง ไม่ผ่านการตัดตัวในศึกเมเจอร์รายการที่สองของปีอย่าง เคพีเอ็มจี พีจีเอ แชมเปียนชิพ และถอนตัวจากการแข่งขัน ธอร์นเบอร์รี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา,แต่อย่างไรก็ตาม ในการคิดคะแนนอันดับโลกล่าสุด เอรียา ยังไม่เปลี่ยนแปลง รั้งอันดับ 2 ของโลกต่อไปอีกหนึ่งสัปดาห์ โดยมีคะแนนสะสมเฉลี่ยอยู่ที่ 8.19 คะแนน ยังตามหลัง ริว โซ ยอน มือหนึ่งของโลกคนปัจจุบันจากเกาหลีใต้ ที่มีแต้มสะสมอยู่ 8.74 คะแนน ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ เล็กซี ธอมป์สัน จากสหรัฐฯ มีอยู่ 7.85 คะแนน,สำหรับในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ มีการแข่งขันเมเจอร์ที่ 3 ของปีอย่าง ยูเอส โอเพ่น ที่นิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งรายการใหญ่ และหาก เอรียา สามารถเข้าป้ายในฐานะแชมป์ได้ จะแซงขึ้นไปเป็นมือหนึ่งของโลกอีกครั้ง,ขณะที่โปรคนอื่นๆ ของไทยที่อยู่ในอันดับท็อป 100 ได้แก่ โมรียา จุฑานุกาล อยู่ที่ 32 ขณะที่ โปรแหวน พรอนงค์ เพชรล้ำ เลื่อนขึ้น 5 อันดับ อยู่ที่ 56 ของโลก. | โปรเม อันดับโลกยังนิ่งอยู่ที่ 2 แม้ผลงานช่วงหลังจะแผ่วลงไปอย่างน่าใจหาย ขณะที่ โปรแหวน ที่ทำผลงานได้เยี่ยมในสัปดาห์ล่าสุด ขยับขึ้นมารั้งที่ 56 ของโลกในปัจจุบัน | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | โปรเม,เอรียา จุฑานุกาล,อันดับโลกนักกอล์ฟหญิง,แอลพีจีเอ ทัวร์,พรอนงค์ เพชรล้ำ | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1001054 |
มวยไทยมีสิทธิได้รับรองเข้าแข่งโอลิมปิก | ความคืบหน้าของโครงการมวยไทยสู่โอลิมปิกที่ประเทศไทยจะนำเสนอต่อคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือไอโอซี โดยมีเป้าหมายหวังจะได้เป็นกีฬาที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากลให้การรับรอง สำหรับโครงการนี้ใช้งบประมาณกว่า 80 ล้านบาท ในการนำเสนอโครงการ และประชาสัมพันธ์ซึ่งจะจัดขึ้นภายใน และนอกประเภท 1 ปีเต็ม เป็นจำนวน 13 ครั้ง โดยจะเริ่มในวันที่ 3 เมษายนนี้ โดยจะมีการยื่นใบสมัครเพื่อแสดงเจตจำนงต่อคณะกรรมการโอลิมปิกสากล และผู้ที่ยื่นใบสมัครคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ เลขาธิการโครงการ มวยไทยสู่โอลิมปิก เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เตรียมการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ขาดเพียงเงินสนับสนุน ซึ่งเชื่อว่าหากได้รับการสนับสนุนโอกาสที่มวยไทยจะได้เป็นกีฬาสมาชิกใหม่ที่ไอโอซี ให้การรับรองก็มีความเป็นไปได้สูงสำหรับขั้นตอนหลังจากยื่นใบสมัครแล้ว ทางคณะกรรมการก็จะส่งเอกสารเกี่ยวกับโครงการทั้งหมดให้กับ สปอร์ต ไดเรก เตอร์ ของ ไอโอซี หรือ ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ได้นำไปพิจารณา อย่างไรก็ตาม ดร.ณัฐ อินทรปาน ไอโอซีเมมเบอร์ สมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกสากลน่าจะชี้แนวทาง และขั้นตอนเพื่อจะทำให้มวยไทย ได้รับการรับรองในอนาคตได้ | ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ มั่นใจมวยไทยสมัครเล่นจะได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือไอโอซี เพื่อเข้าเป็นชนิดกีฬาที่ไอโอซีให้การรับรอง และเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่การบรรจุเข้าโอลิมปิกเกมส์ในอนาคต | กีฬา | มวยไทย,โอลิมปิก,ไอโอซี | https://news.thaipbs.or.th/content/74479 |
สมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามสงขลา จี้ กปปส.ขอขมากรณีบุกมัสยิดตรัง-ปิด ร.ร.ที่พัทลุง | และสั่งปิดโรงเรียนสอนศาสนา 3 แห่งในพัทลุง เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมาข้อเรียกร้องในแถลงการณ์ ระบุให้ กปปส.ยุติการข่มขู่คุกคามการปฏิบัติศาสนกิจและการเรียนการสอนของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม เรียกร้องให้ชาวมุสลิมที่เข้าร่วมการชุมนุมทบทวนบทบาทในการสนับสนุน กปปส. เรียกร้องให้เลขาธิการและคณะกรรมการ กปปส.ขอโทษต่อจุฬาราชมนตรีผ่านสื่อและขอให้หยุดนำเสนอข้อมูล รูปภาพ ซีดี ที่เกี่ยวข้องกับมุสลิมมาหาผลประโยชน์ในการชุมนุมทางการเมืองสืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ได้เข้าปิดล้อมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ที่ตั้งอยู่ภายในมัสยิดบ้านสุโส๊ะ อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2557 จากการกระทำของผู้ชุมนุมดังกล่าว ทำให้การละหมาดและการตะลีม (สอนศาสนา) เป็นอันต้องยกเลิกกลางครัน นอกจากนี้แล้ว กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ของจังหวัดพัทลุงได้กระทำการสั่งปิดโรงเรียนสอนศาสนาเอกชนในจังหวัดพัทลุงอีกจำนวน 3 โรงด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดตรังและจังหวัดพัทลุง ถือเป็นการคุกคามต่อโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ลิดรอนสิทธิในการปฏิบัติศาสนกิจ และยังเป็นการไม่ให้เกียรติต่อศาสนสถาน ซึ่งผู้บริหาร ครู นักเรียน โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในจังหวัดสงขลาขอประณามการกระทำดังกล่าว และมีมติร่วมกัน1. ขอให้หยุดการคุกคาม ข่มขู่ ในการปฏิบัติศาสนกิจ และการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม2. ขอเรียกร้องให้พี่น้องมุสลิมทุกท่านที่เข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ทบทวนบทบาทของตนเองต่อการสนับสนุนกลุ่มคนที่ดูหมิ่นศาสนาอิสลาม3. ให้เลขาธิการ กปปส.และคณะกรรมการ กปปส.ทุกคนดำเนินการขอโทษท่านจุฬาราชมนตรีและพี่น้องมุสลิมผ่านสื่อ (ที่เป็นกลาง)4. ให้ยุติการนำเสนอข้อมูล รูปภาพ ซีดี ที่เกี่ยวข้องกับมุสลิมมาหาผลประโยชน์ในการชุมนุมทางการเมืองประกาศ ณ วันที่ 28 มกราคม 2557 | 28 ม.ค.2557 สมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดสงขลา ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้เลขาธิการและคณะกรรมการ กปปส.ขอโทษต่อจุฬาราชมนตรีผ่านสื่อ กรณีผู้ชุมนุม กปปส.บุกโรงเรียนสอนศาสนาที่ จ.ตรัง | การเมือง | กปปส.,มุสลิม,อิสลาม,แถลงการณ์,โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม | https://prachatai.com/journal/2014/01/51470 |
ทหาร คุมเข้มชายแดนไทย-พม่า หลังตร.เชียงรายถูกคนร้ายยิงตาย 1 เจ็บ 1 | ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง กองทัพภาคที่ 3 จัดกำลังและยานพาหนะติดอาวุธตรึงตลอดแนวชายแดนไทย-พม่า ด้านอำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะบริเวณจุดผ่อนปรนเชื่อมต่อกับบ้านผาขาว จังหวัดท่าขี้เหล็ก ของประเทศพม่า เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายและกลุ่มบุคคลที่อาจเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ หลังเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มคนร้ายประมาณ 10 คน จากฝั่งประเทศพม่ายิงปะทะกับตำรวจ ทำให้ร.ต.ต.ศิรวิทย์ พูลกำลัง รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจแม่ฟ้าหลวง เสียชีวิต และด.ต.โยธิน แก้วคำอ้าย ซึ่งเป็นพลขับ บาดเจ็บ ส่วนฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิต 2 คน โดย ตำรวจเชื่อว่า ฝ่ายตรงข้ามน่าจะเป็นชาวบ้านในฝั่งประเทศพม่า และอาจหลบหนีข้ามชายแดนไปแล้ว ขณะนี้ตำรวจและทหารกองกำลังผาเมือง ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายพม่าเพื่อให้ช่วยสอดส่องและจับกุมคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุในประเทศอีกทางหนึ่งด้าน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. กล่าวยอมรับว่า ขบวนการค้ายาเสพติดพยายามลำเลียงยาเสพติดผ่านประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ต้องสกัดกั้นในทุกรูปแบบ แม้มีการเปลี่ยนเส้นทางไปทางภาคอีสานบ้าง แต่ภาคเหนือก็ยังมียาเสพติดจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณชายแดนและเตรียมลำเลียงเข้าประเทศไทย จนมีการปะทะกันบ่อยครั้งในระยะนี้ส่วนศพของร.ต.ต.ศิรวิทย์ ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดห้วยใคร้ใหม่ ตำบลห้วยใคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวันฌาปณกิจ ตำรวจภูธรภาค 5 ได้เสนอเลื่อนขั้นเงินเดือนให้กับ ร.ต.ต.ศิรวิทย์ ขึ้นอีก 7 ขั้นเงินเดือน และเสนอให้เลื่อนยศเป็น พ.ต.อ. เป็นกรณีพิเศษ | ทหารกองกำลังผาเมือง เพิ่มความเข้มงวดตามแนวชายแดนไทย-พม่า ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย หลังตำรวจจังหวัดเชียงรายปะทะกับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 1 นาย | ภูมิภาค | null | https://news.thaipbs.or.th/content/61515 |
ที่สุดแห่งคุณภาพ ไทยรัฐทีวี อัดแน่นกีฬาดีตลอดปี 60 | ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เสิร์ฟเมนูเด็ดสำหรับคอกีฬาส่งตรงถึงบ้าน ด้วยโปรแกรมดีตลอดปี 2560 ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอลทีมชาติไทย, วอลเลย์บอลระดับชาติและสโมสร, ฟุตซอล, ศึกสังเวียนเดือด One Championship และศึกยอดมวยไทยรัฐ รวมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางเพจ ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ ,จากความทุ่มเทตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ยังคงเดินหน้าอย่างสุดตัว เพื่อให้แฟนกีฬาได้ชมและเชียร์อย่างสุดใจ ผ่านการถ่ายทอดสดระดับคุณภาพ ด้วยความคมชัดระดับสูง (HD) จากความตั้งใจของทีมงานมืออาชีพ,และในปี 2560 ไทยรัฐทีวี ยังคงมุ่งมั่นส่งมอบความสุขสู่แฟนกีฬาชาวไทย ด้วยโปรแกรมถ่ายทอดสดที่อัดแน่นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ 6 รายการ, ฟุตบอลทั้งในระดับทีมชาติและสโมสร, วอลเลย์บอลทีมชาติและสโมสรอีก 11 รายการ, ศึกสังเวียนเดือด One Championship ที่ให้คุณได้เชียร์นักสู้ระดับโลกตลอดทั้งปี รวมไปจนถึงกีฬาประจำชาติที่คัดสรรจากมือของโปรโมเตอร์มือทอง ทรงชัย รัตนสุบรรณ ในศึกยอดมวยไทยรัฐ,ฟุตบอลทีมชาติไทย 6 รายการสำคัญ,1. ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 45 , 2. FIFA DAY อุ่นเครื่องทีมชาติไทยชุดใหญ่ (8 มิถุนายน 2560), 3. FIFA DAY อุ่นเครื่องทีมชาติไทยชุด U-23, U19 และ U-16, 4. ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ชุด U-23 ( 15-23 กรกฎาคม 2560), 5. ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ชุด U-16 (16-24 กันยายน 2560), 6. ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ชุด U-19 (21-29 ตุลาคม 2560),วอลเลย์บอลทั้งทีมชาติและสโมสร ถ่ายทอดสดเต็มอิ่ม 11 ทัวร์นาเมนต์,1. เอสเอ็มเอ็ม วอลเลย์บอลชายหาดอายุไม่เกิน 21 ปี (ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 2 ประจำปี 2560), 2. เอสเอ็มเอ็ม วอลเลย์บอลหญิงอายุไม่เกิน 18 ปี (ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 11 ประจำปี 2560), 3. เอสเอ็มเอ็ม วอลเลย์บอลชายอายุไม่เกิน 19 ปี (ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 11 ประจำปี 2560), 4. เอสเอ็มเอ็ม เอวีซี บัชทัวร์-เอสโคล่า (สตูล ปากบารา โอเพ่น 2 ประจำปี 2560), 5. เอสเอ็มเอ็ม วอลเลย์บอลชาย-เอสโคล่า (ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ประจำปี 2560), 6. เอสเอ็มเอ็ม วอลเลย์บอลชายอายุไม่เกิน 23 ปี (ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 2 ประจำปี 2560), 7. เอสเอ็มเอ็ม วอลเลย์หญิงอายุไม่เกิน 23 ปี (ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 2 ประจำปี 2560), 8. เอสเอ็มเอ็ม วอลเลย์บอลสโมสรหญิง (ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ประจำปี 2560), 9. เอสเอ็มเอ็ม วอลเลย์บอลสโมสรชาย (ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ประจำปี 2560), 10. เอสเอ็มเอ็ม วอลเลย์บอลชาย (ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 19 ประจำปี 2560), 11. เอสเอ็มเอ็ม วอลเลย์บอลหญิง (ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 19 ประจำปี 2560),ฟุตซอลที่อัดแน่นไปด้วยความเร้าใจ 2 รายการที่พลาดไม่ได้, ,1. ฟุตซอลไทยแลนด์ลีก 2017 (เริ่ม 19 มีนาคม 2560), 2. ไทยแลนด์ไฟว์ 2017,และศึกสังเวียนเดือด One Championship 2017 ส่งตรงจาก 11 เมีองทั่วเอเชีย,10 กุมภาพันธ์ Live in มาเลเซีย,11 มีนาคม Live in ประเทศไทย,21 เมษายน Live in ฟิลิปปินส์,26 พฤษภาคม Live in สิงคโปร์,30 มิถุนายน Live in จีน,14 กรกฎาคม Live in พม่า,18 สิงหาคม Live in มาเลเซีย,16 กันยายน Live in อินโดนีเซีย,27 ตุลาคม Live in เวียดนาม,24 พฤศจิกายน Live in สิงคโปร์,9 ธันวาคม Live in ประเทศไทย, ทุ่มเทสุดตัวเพื่อให้คนไทยได้เชียร์สุดใจกับภายใต้สโลแกน ที่สุดคุณภาพถ่ายทอดสดกีฬาไทย สดทุกความเคลื่อนไหวกีฬาไทย เชียร์ทุกวินาทีสำคัญ เชียร์มันไปพร้อมกันผ่านทางหน้าจอไทยรัฐทีวี ช่อง 32,ติดตามความเคลื่อนไหวก่อนใครได้ทาง ,www.ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์.com ,Website : ,http://www.thairath.tv ,Facebook : ,https://www.facebook.com/thairathtv ,Twitter : ,https://twitter.com/Thairath_TV ,Instagram : ,https://www.instagram.com/thairathtv/,Youtube Channel : ,https://www.youtube.com/channel/UCrFDdD-EE05N7gjwZho2wqw | ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เสิร์ฟเมนูเด็ดสำหรับคอกีฬาส่งตรงถึงบ้าน ด้วยโปรแกรมดีตลอดปี 2560 ทั้งฟุตบอลทีมชาติไทย, วอลเลย์บอล, ฟุตซอล และมวย ONE Championship รวมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางเพจ ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | null | ไทยรัฐทีวี,ช่อง32,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์,ฟุตบอลทีมชาติไทย,วอลเลย์บอล | https://www.thairath.co.th/content/871730 |
ปู่ไปหาปลาในแม่น้ำตาปี หลาน 2 คนตามไปด้วย จมน้ำตายสลด | เมื่อเวลา 20.20 น. วันที่ 7 เม.ย.61 พ.ต.ท.ลิขิต รักไทรทอง รองผกก.(สอบสวน) สภ.ไม้เรียง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุเด็กจมน้ำเสียชีวิตในแม่น้ำตาปี หมู่ 2 ต.นากะชะ อ.ฉวาง ที่เกิดเหตุพบศพเด็กหญิงวัย 10 ขวบและเด็กหญิงบีวัย 7 ขวบ โดยทราบจากนางสารภี คงกระพันธ์ อายุ 32 ปี อยู่ 94/1 หมู่ 2 ต.นากะชะ แม่ของเด็กอายุ 7 ขวบ ว่าเวลาประมาณ 13.30 น. เด็กทั้งสองคนได้ติดตาม นายสมศักดิ์ คงกระพันธ์ ซึ่งเป็นตาและปู่ของเด็กทั้งสองคน ไปหาปลาที่แม่น้ำตาปี ซึ่งอยู่ห่างจากบ้าน 300 เมตร และนายสมศักดิ์ได้บอกให้เด็กทั้งสองกลับบ้าน ส่วนตนเองได้ข้ามแม่น้ำไปอีกฝั่งหนึ่งเพื่อหาปลา,ต่อมาเวลา 15.15 น. นายสมศักดิ์ได้กลับมาบ้าน ถามถึงเด็กทั้งสอง ทราบว่ายังไม่กลับมา ได้ติดตามหาจนทั่วก็ไม่พบ จึงสงสัยว่าเด็กทั้งสองอาจจะจมน้ำจึงได้แจ้งให้มูลนิธิฯ ช่วยลงค้นหา จนถึงเวลา 20.20 น. จึงพบศพ ด.ญ.คนพี่ อายุ 10 ขวบ ขึ้นมาเป็นศพแรก ก่อนลงค้นหาต่อจนพบศพที่สอง ห่างจากจุดที่เด็กลงน้ำตอนแรก 150 เมตร และบริเวณที่พบมีน้ำวนลึกกว่า 5 เมตร แพทย์ตรวจร่างกายระบุเสียชีวิตจากการจมน้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามญาติไม่ติดใจ จึงมอบศพให้นำไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป. | คนหาปลาในแม่น้ำตาปี ที่ฉวาง นครศรีธรรมราช มีหลานเป็นเด็กผู้หญิง 2 คน อายุ 7 กับ 10 ขวบ ตามไปด้วย บอกให้หลานกลับบ้าน ตัวเองข้ามไปอีกฝั่ง ปรากฏว่าหลานจมน้ำตายทั้งคู่
| ข่าว,ทั่วไทย | จมน้ำตาย,เด็กจมน้ำตาย,จมน้ำตาย2ศพ,หลานตามปู่,นครศรีธรรมราช,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1250776 |
สปสช.แนะ อปท.ใช้งบกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบล ควบคุม-ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าได้ | วันนี้ (7 มี.ค.2561) นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าที่ระบาดในหลายพื้นที่ประเทศไทยขณะนี้ โดยกรมปศุสัตว์ได้มีการประกาศเขตโรคพิษสุนัขบ้าแล้ว 13 จังหวัดและพื้นที่เฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้าอีก 42 จังหวัด ขณะที่มีรายงานสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าโดยกรมควบคุมโรค พบเชื้อบวกจากการตรวจยืนยันหัวสุนัขช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ในปีนี้ที่สูงเป็น 2 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2560 ทั้งนี้ แม้ว่าโรคพิษสุนัขบ้าปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคนี้ แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้สัตว์เลี้ยง อาทิ สุนัข แมว เป็นต้น เป็นประจำทุกปี และการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้ผู้สัมผัสโรคนพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้มีการจัดตั้ง กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ หรือกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลโดยดำเนินงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้งเทศบาล และ อบต.ที่เข้าร่วม เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการจัดบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ สถานบริการ หน่วยงานสาธารณสุข หรือหน่วยงานอื่น รวมถึงองค์กรประชาชนที่ดำเนินกิจกรรมด้านสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยกรณีสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าที่เกิดขึ้นนี้ อปท.สามารถนำงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลเพื่อสนับสนุนโรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) และสำนัก/กอง/ส่วนสาธารณสุขฯ ในเทศบาล หรือ อบต. จัดทำโครงการรณรงค์ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อให้เกิดการเข้าถึงบริการ ลดอุบัติการณ์ติดเชื้อและเสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้านี้ได้ซึ่งเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์ เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ. 2557 ในข้อ 7 (5) ที่ระบุให้นำเงินกองทุนจ่ายใช้จ่ายกรณีเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติในพื้นที่ได้ โดยมีคณะกรรมการกองทุนพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินกองทุนเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณสุขได้ตามความจำเป็นเหมาะสม และทันต่อสถานการณ์ ขณะที่การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในตัวสัตว์เป็นอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นโดยตรงกรณีการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าถือเป็นปัญหาสาธารณสุขที่คุกคามสุขภาพของประชาชนในหลายพื้นที่ขณะนี้ โดย อปท.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุดสามารถนำเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลเพื่อแก้ไขปัญหานี้ได้ตามระเบียบที่กำหนดไว้ ปัจจุบันมีเทศบาล และ อบต.เข้าร่วมดำเนินการกองทุนฯ แล้วจำนวน 7736 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 99.49 ของ อปท.ทั้งประเทศ เลขาธิการ สปสช.กล่าว นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีผู้ที่ถูกสุนัขกัดหรือสัมผัสน้ำลายสุนัขที่สงสัยเป็นโรคพิษสุนัขบ้า สามารถใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในการรักษาและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่โรงพยาบาลของรัฐที่ใกล้ที่สุดโดยเร็ว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาครั้งแรก กรณีเข้ารับการฉีดวัคซีนครั้งต่อไปในโรงพยาบาลที่ไม่ได้ลงทะเบียนใช้สิทธิบัตรทองไว้ อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่าย ดังนั้น จึงขอแนะนำให้ตรวจสอบสิทธิของตนเองได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือสายด่วน สปสช. โทร.1330 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง | สปสช.แนะ อบต./เทศบาลใช้ กองทุนหลักประกันสุขภาพตำบล ช่วยควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ชี้ตามประกาศหลักเกณฑ์ใช้เงินกองทุนฯ ระบุข้อ 7 (5) ระบุชัด ใช้หนุนแก้ปัญหากรณีเกิดโรคระบาด-ภัยพิบัติได้ ส่วนกรณีผู้ถูกสุนัขกัดใช้สิทธิบัตรทองฉีดวัคซีนที่ รพ.รัฐ ใกล้ที่สุดโดยเร็ว | สังคม | สปสช.,อบต.,เทศบาล,โรคพิษสุนัขบ้า,บัตรทอง,วัคซีน,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/270804 |
โรเบิร์ตสัน รับสุดฟิน หงส์แซงชนะนาทีสุดท้าย | ,สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 3 พ.ย. ว่า แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน วิงแบ็กพลังม้าของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ออกอาการดีใจอย่างมาก หลังมีส่วนช่วยให้ทีมรักบุกไปคว้าชัยในช่วงทดเจ็บเหนือ แอสตัน วิลลา 2-1 ของศึกฟุตบอลลีกสูงสุดแดนผู้ดี เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา,โดยในเกมดังกล่าวคงเป็นแมตช์ที่แฟนหงส์แดงต้องจำไปอีกนานแสนนาน จากที่โดน เทรเซเกต์ ยิงให้เจ้าถิ่นนำก่อน (นาทีที่ 21) ก่อนที่ช่วงท้ายเกม ซึ่งเป็นเวลาเก่งของ ลิเวอร์พูล จัดการซัดสองประตูรวด จาก โรเบิร์ตสัน (นาทีที่ 87) และ ซาดิโอ มาเน (นาทีที่ 90+4) ส่งผลให้ทัพเรด แมดชีน ครองจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่นต่อไป พร้อมเก็บสถิติยังไม่แพ้ทีมใดในลีกของฤดูกาลนี้ (ชนะ 10 เสมอ 1),พวกเราแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการคัมแบ็กของช่วง 18 เดือนหลัง และในซีซั่นนี้เรายังทำมันต่อไป เมื่อวานเรารู้ดีว่าเรามีโอกาสที่ดี และมันคงไม่มีอะไรยอดเยี่ยมไปกว่าการทำประตูชัยในนาทีสุดท้ายของเกม แอสตัน วิลลา เป็นทีมที่น้องใหม่ที่สู้กับเราได้ดี แน่นอนว่ามันทำให้เราต้องอยู่ในฟอร์มเก่งให้ได้ทุกเกม กัปตันทีมชาติสกอตแลนด์ กล่าว., | แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายของลิเวอร์พูล ยอมรับรู้สึกดีสุดๆ หลังมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าชัยในช่วงทดเจ็บเหนือ แอสตัน วิลลา ศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก เกมเมื่อคืนที่ผ่านมา | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน,ลิเวอร์พูล,หงส์แดง,พรีเมียร์ลีก,แอสตัน วิลลา | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1695885 |
รถตู้ขนชาวลาว ขับหลับในชนเกาะกลางเสาไฟหัก พลิกคว่ำเจ็บระนาวที่อุบลฯ | เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 28 มีค.62 พ.ต.ท.บุญมี อุไรสาย สว.(สอบสวน) สภ.ตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่า มีอุบัติเหตุรถยนต์ตู้โดยสาร ชนเสาไฟฟ้ากลางถนน ที่ถนนตระการพืชผล – เขมราฐ บริเวณบ้านแสนสบาย ต.คอนสาย อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน ฮต 5687 กรุงเทพมหานคร คันเกิดเหตุพลิกตะแคงขวางอยู่บนเกาะกลางถนนได้รับความเสียหายสภาพด้านหน้าพังยับเยิน ใกล้กันพบเสาไฟฟ้าส่องสว่างกลางถนนถูกชนกระเด็นหลุดเสียหาย ทั้งนี้ในที่เกิดเหตุมี น.ส.นิภาพร บำเพ็ญ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 1 ต.พะลาน อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี แสดงตนเป็นผู้ขับขี่และได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลตระการพืชผล ส่วน นายสายทอง ไก่ยา อายุ 50 ปี ชาวตำบลนาตาล อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี ที่นั่งมาด้วยก็ได้รับบาดเจ็บ และถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลนาตาล อ.นาตาล จ.อุบลฯ ,นอกจากนี้ ยังมีผู้โดยสารที่เป็นคนลาวและมีหนังสือเดินทางทุกคน จำนวน 9 คน ที่นั่งโดยสารมาในรถตู้ ต่างได้รับบาดเจ็บทั้งหมด ประกอบด้วย นายไป่ ชัยราด อายุ 23 ปี บ้านดุกฮี เมืองท่ารังทอง แขวงสวันเขต สปป.ลาว นายลา ไขมี อายุ 25 ปี บ้านดุกฮี เมืองท่ารังทอง แขวงสวันเขต สปป.ลาว นายคำไหล ทุมะสิด อายุ 26 ปี บ้านโพนทอง แขวงจำปาสัก สปป.ลาว นางไล แก้วพักดี อายุ 44 ปี บ้านดอนขาว แขวงสวันเขต สปป.ลาว นางสำลวย ลาบุบผา อายุ 35 ปี บ้านปากสนม แขวงสาละวัน สปปลาว นายเชียง พุทิจัน อายุ 33 ปี บ้านด่าน แขวงสาละวัน สปป.ลาว และ น.ส.เพ็ด ชัยยะวงศ์ น.ส.แพ แสนนาดี และ นายสอน หมื่นสะท้าน เจ้าหน้าที่กู้ชีพ ได้นำผู้บาดเจ็บชาวลาวทั้งหมดส่งโรงพยาบาลนาตาล อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี ,จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้น ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ รถตู้คันดังกล่าว ได้รับผู้โดยสารซึ่งเป็นคนลาวมาจากกรุงเทพมหานคร เพื่อส่งไปยังอำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อมาถึงบริเวณบ้านแสนสบาย ต.คอนสาย อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ที่เกิดเหตุ คาดผู้ขับรถหลับใน เป็นเหตุให้รถยนต์คันดังกล่าวเกิดเหตุเสียหลักชนเกาะกลางถนนและเสาไฟฟ้าพลิกคว่ำ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บให้ น.ส.นิภาพร บำเพ็ญ คนขับรถตู้ ได้รับทราบ ก่อนที่จะดำเนินคดีตามลำดับขั้นตอนต่อไป. | รถตู้คนชาวลาวชนเกาะกลางและเสาไฟหักก่อนพลิกคว่ำบนถนนตระการพืชผล – เขมราฐ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย ตร.คาดคนขับอาจหลับใน จึงทำให้รถเสียหลักเกิดอุบัติเหตุ | ข่าว,ทั่วไทย | รถตู้,หลับใน,ชนเกาะกลาง,รถตู้ชนเสาไฟ,อุบลราชธานี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1531718 |
มาดูกับมาดาม: Along With the Gods: The Last 49 Days เทพกว่าภาคแรกอีก | ภาคแรกว่าเทพแล้ว ภาคนี้เทพกว่าอีก กราบจินตนาการทีมสร้างและผู้เขียนบท มีความอลังการทั้งพล็อตเรื่อง ตัวละครและโปรดักชั่นคุ้มค่าตั๋วแน่ๆ,เรียกว่าเปิดตัวแรงตั้งแต่ฉายวันแรก (ที่เกาหลี) คือหนังทำเงินเปิดตัวชนะ , หนา คือสงสัยใช่ไหมหนังมีอะไรดี?,ใครเคยดูภาคแรกคงรู้โครงเรื่องเลาๆ ซึ่งก็คือการเดินทางฝ่าขุมนรกทั้งเจ็ดของสามยมทูตและหนึ่งดวงวิญญาณ (ที่เชื่อว่าเป็นคนดี) โดยในภาคสองก็ยังคอนเซปต์เดิม เพิ่มเติมคือปมอดีตของเหล่ายมทูตจะถูกขยี้ในภาคนี้ ซึ่งนักแสดงหลักที่รับบทยมทูตทั้งสามก็ยังใช้คนเดิม ได้แก่ ,ฮา จองอู (The Handmaiden) ในบท หัวหน้ายมทูตคังลิม จู จีฮุน (ซีรีส์ Princess Hours) ในบท ยมทูตเฮวอนเมก และ คิม ฮยางกี (Snowy Road) ในบท ยมทูตผู้ช่วยดัคชุน, ,ในส่วนของดวงวิญญาณที่สามยมทูตต้องพิทักษ์ ภาคนี้ถึงคิวของ ,คิม ซูฮง, น้องชายของดวงวิญญาณจากภาคที่แล้วซึ่งรับบทโดย ,โดยเขาต้องฝ่านรกทั้งเจ็ด ได้แก่ นรกแห่งความเกียจคร้าน, ฆาตกรรม, หลอกลวง, อยุติธรรม, ทรยศ, ความรุนแรงและอกตัญญู เช่นเดียวกับดวงวิญญาณของพี่ชายในภาคแรก แต่ความตายของเขามันซับซ้อนและพิสูจน์ยากนิดหน่อย ทำให้เกิดเรื่องในภาคสอง,เราจะไม่สปอยล์การผจญนรกทั้งเจ็ดของสามยมทูตและดวงวิญญาณ , แต่จะสปอยล์ตัวขโมยซีนอย่าง ,มา ดงซอก,หนึ่งเดียวที่ขโมยออร่าจากซุปตาร์กงยูใน, มาได้อย่างสวยงาม ซึ่งในเรื่องนี้เขามารับบท ,ซอง จูชิน, เทพประจำบ้านที่คอยปกป้องมนุษย์จากเทพนอกรีตบนโลก รวมทั้งดาวเด่นตัวแทนจากนรกอย่าง ,ราชันยอมรา ซึ่งรับบทโดย อี จุงแจ, ผู้นำนรกที่เป็นตัวแปรกุมชะตาและ ,ความลับ, ของเหล่ายมทูต,แค่โปรไฟล์นักแสดงนำและตัวขโมยซีนก็น่าจะเรียกความสนใจได้แล้ว พล็อตเรื่องและโปรดักชั่นภาคนี้คงไม่ต้องพูดถึง มีความอลังการงานสร้าง จินตนาการเหลือลับ และนับว่าถูกจริตชาวเอเชียโดยเฉพาะชาวไทยเพราะหนังโฟกัสเรื่องขุมนรก บาปบุญและสำนึกผิดชอบชั่วดี ซึ่งคอหนังบ้านเราน่าจะอินตามได้ไม่ยาก,ถ้าใครเคยเห็นหนังตัวอย่างน่าจะได้เห็นโปรดักชั่นยิ่งใหญ่และสเปเชียลเอฟเฟกต์ลึกล้ำแล้ว แต่ที่เหนือกว่าคือจินตนาการการผูกเรื่องและการขยี้ปมที่ผสมผสานเรื่องเหลือเชื่อให้เข้าใกล้ความจริง ส่วนตัวคิดว่าเป็นเสน่ห์ของหนังเกาหลีที่มักทำออกมาได้เสมือนจริงมากกว่าหนังสัญชาติอื่นๆ เรื่องนี้ก็เช่นกัน แม้จะโฟกัสเรื่องพิสูจน์ทราบไม่ได้แต่ก็แฝงกลิ่นอายความเป็นจริงได้อย่างแนบเนียนและบางเรื่องก็จิกกัดได้สาแก่ใจซะด้วย,นอกจากพล็อตเรื่องที่ถูกออกแบบอย่างดี สิ่งที่เราชอบอีกอย่างคือสารที่หนังต้องการสื่อ เราไม่รู้คนอื่นจะคิดอย่างเราไหมแต่เราคิดว่าหนังพูดถึง ,ได้ดี ทั้งเรื่อง, อะไรคือปัจจัยที่จะแยกพื้นที่เหล่านี้ออกจากกันได้?,หนังไม่ได้ชี้นำหรือฟันธง แต่เข้าใจคิดสถานการณ์ที่ทำให้เราเกิดสภาวะอึดอัดไปกับตัวละคร ซึ่งตรงนี้เราประทับใจมาก อีกอย่างคือหนังมีวิธีสื่อสารกับเราได้แบบเนียนๆ ไม่บังคับแต่ค่อยๆ ตะล่อมให้เราตกหลุม (นรก) ไปกับเขาด้วย ส่วนตัวคิดว่าตื่นเต้นดี กระตุ้นต่อมอยากรู้ให้กระเพื่อมขึ้นเรื่อยๆ,รวมๆ ถือว่าเป็นหนังฟอร์มยักษ์ที่ ,#ไม่น่าพลาด, มีความแฟนตาซีขั้นสุด ตื่นตาตื่นใจและดราม่าเอาโล่ให้สมสัญชาติเกาหลี แต่เราแนะนำว่าควรยลภาคแรกมาสักหน่อย เพื่อทำความรู้จักตัวละครและบรรยากาศของเรื่อง เพราะรายละเอียดค่อนข้างลึกและต้องตั้งใจดูมากเพื่อความเข้าใจเนื้อเรื่องทั้งหมดเพราะการเล่าเรื่องเส้นเดียวมันเชยไปละ เราจะต้องมิกซ์เส้นสองและเส้นสาม อดีตขั้นหนึ่งและอดีตขั้นสองเข้าไว้ด้วยกันเทพไม่เทพขอให้ไปลอง,จนกว่าจะพบกันใหม่,มาดามอองทัวร์,@MadamAutuer | รวดเร็วทันใจจริงๆ ยังไม่ทันซาจากภาคแรกเมื่อปลายปี 2017 ภาคสองก็มาให้ใจหายใจคว่ำกันอีกแล้วกับการฝ่าขุมนรกทั้ง 7 กับหนังฟอร์มยักษ์สัญชาติเกาหลีอย่าง Along With the Gods: The Last 49 Days | null | Along with the Gods The Last 49 Days,#AlongWithTheGods2,หนังใหม่ 2018,ฝ่า 7 นรกไปกับพระเจ้า,หนังเกาหลี | https://www.thairath.co.th/entertain/movie/1349089 |
นักวิชาการด้านยา ติง พณ. เลิกขวางการควบคุมราคายาในร่าง พรบ.ยา หยุดเอาใจทุนข้ามชาติ | 12 องค์กรวิชาการด้านยา สุขภาพ คุ้มครองผู้บริโภค และวิชาชีพเภสัชร่วมจัดการประชุมวิชาการว่าด้วย ปฏิรูประบบยา วิพากษ์ร่าง พรบ.ยาที่จนถึงขณะนี้ยังไม่ถูกนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี9 ก.พ. 2558 ผศ.ดร.ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการแผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา (กพย.) ระบุว่า ขณะนี้มีความพยายามขัดขวาง ร่าง พรบ.ยา ที่ สธ.แก้ไขจากฉบับของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ทั้งที่ร่างนี้ สธ.ได้หารือและแก้ปัญหาเรื่องนิยามยา และผู้ประกอบวิชาชีพที่สามารถสั่งจ่ายยาได้แล้ว แต่พบว่า ถูกกระทรวงพาณิชย์ขัดขวางโดยใช้ความเห็นของบรรษัทยาข้ามชาติเพื่อตัดการยื่นแสดงโครงสร้างราคายาในการยื่นขอขึ้นทะเบียนตำรับพณ.อ้างว่า กรมการค้าภายในควบคุมราคายาอยู่แล้วตามกฎหมาย แต่ที่จริงกรมการค้าภายในทำเพียงการควบคุมไม่ให้จำหน่ายเกินราคาที่ระบุโดยผู้ผลิตเท่านั้น ทำให้ตัวเลขงานวิจัยพบว่า คนไทยบริโภคยามากกว่า 140000 ล้านบาท รพ.รัฐซื้อยาต้นแบบในราคาแพงกว่าราคายาอ้างอิงสากลถึง 3.3 เท่า ขณะที่ซื้อยาสามัญในราคาแพงกว่า 1.46 เท่า ส่งผลต่อคุณภาพการรักษาและเศรษฐกิจของชาติเป็นอย่างมาก พณ.ไม่ทำหน้าที่แต่กลับขัดขวางกลไกที่จะควบคุมราคายานพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า การที่กระทรวงพาณิชย์คัดค้านเรื่องยื่นแสดงโครงสร้างราคายาเมื่อขึ้นทะเบียนยานั้น เป็นการสนับสนุนทุนข้ามชาติให้อยู่เหนืออำนาจรัฐข้ออ้างของ พณ.ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง จะกระทรบต่อนโยบายเมดิคัลฮับหรือเกรงกระทบการค้าการลงทุนนั้น จะต้องระบุให้ชัดเจนว่าใครจะได้รับประโยชน์ในกรณีนี้ ทำให้เห็นว่า พณ. ไม่ได้ออกกฎหมาย-บังคับใช้กฎหมายที่วางอยู่บนหลักนิติรัฐและนิติธรรม แต่ความเห็นของ พณ.เป็นการทำให้ทุนข้ามชาติอยู่เหนือรัฐ ไม่ได้ทำให้กฎหมายเป็นที่พึ่งของประชาชน การค้า-การลงทุนต้องไม่เน้นเรื่องการเอาแต่ได้อย่างเดียว ต้องมีเรื่องสิทธิในชีวิตและความปลอดภัยของผู้บริโภค รัฐบาลพึงตระหนักว่า การปฏิรูปประเทศไทย คือการปฏิรูประบบราชการให้มีจิตสำนึกรับใช้ประชาชน ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมทางด้าน รศ.ภก.ดร.วิทยา กุลสมบูรณ์ สปช. ในฐานะรองประธาน กมธ.สาธารณสุข และ รองประธาน กมธ. คุ้มครองผู้บริโภค ว่า ขอเรียกร้องให้ ครม. เร่งพิจารณา ร่าง พรบ. ยา เพราะเป็นส่วนที่สำคัญของการปฏิรูประบบสุขภาพ เนื่องจากยาถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบบริการสุขภาพ พรบ.ยา ที่ใช้อยู่ไม่ทันสมัยแล้วตั้งแต่ พ.ศ.2510 แม้จะมีการปรับแก้เป็นระยะแต่ก็ไม่ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบันที่เทคโนโลยีและระบบสุขภาพเปลี่ยนแปลงไปมากอยากให้มีกระบวนการพิจารณากฎหมายที่โปร่งใสชัดเจน เช่น ใช้แบบฟอร์มหลักขัดกันแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นบรรทัดฐาน ว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจยาทั้งทางตรงและทางอ้อมต้องไม่ มาเป็น กมธ.วิสามัญในการพิจารณากฎหมาย และสำหรับสาระใน ร่าง พรบ. ส่วนใหญ่ที่ตกลงกันได้แล้ว เช่น การแบ่งประเภทยา การผลิตยาในสถานบริการ การจำหน่ายยา อำนาจหน้าที่ของวิชาชีพต่างๅ ฯ ในส่วนของข้อเสนอนั้น ให้มีโครงสร้างราคายา การควบคุมราคายา และข้อมูลสถานะสิทธิบัตรในตอนยื่นขอขึ้นทะเบียนตำรับยา ในฐานะที่ติดตามเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ตนเห็นว่าสาระดังกล่าวถือเป็นความก้าวหน้าในกฎหมายฉบับนี้ ดังนั้น รัฐบาลควรเร่งให้มีการนำร่าง กฎหมายนี้เข้าสู่กระบวนนิติบัญญัติ เพื่อให้ สนช. ได้พิจารณาโดยเร็ว ต้องไม่ยอมให้ภาคธุรกิจต่างชาติเข้ามาแทรกแซงหรือกดดัน เพราะ เป็นเรื่องประโยชน์และอธิปไตยของไทยนอกจากนี้ รศ.ดร.ดาราพร ถิระวัฒน์ ศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มธ. ตั้งข้อสังเกตถึงประเด็นที่ขาดหายไปในร่าง พรบ.ยา ซึ่งควรเติมในช่วงการพิจารณาของ สนช. นั่นคือ การควบคุมการส่งเสริมการขายยาและการโฆษณายาแม้จะมีเกณฑ์จริยธรรมควบคุมการส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรมแล้วก็ตาม แต่หากไม่มีการเขียนหลักในกฎหมายจะทำให้สาระของเกณฑ์ซึ่งมีความก้าวหน้ากว่า จะไม่สามารถปฏิบัติได้อนึ่ง การประชุมวิชาการว่าด้วย ปฏิรูประบบยา มีองค์กรร่วมจัดประกอบด้วย กลุ่มศึกษาปัญหายา แผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา แผนงานพัฒนาวิชาการและกลไกคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ สถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ หน่วยปฏิบัติการวิจัยเภสัชศาสตร์สังคม คณะเภสัช จุฬาฯ มูลนิธิเภสัชศาสตร์เพื่อสังคม มูลนิธิสาธารณสุขกับการพัฒนา มูลนิธิเภสัชชนบท ชมรมเภสัชชนบท มูลนิธิพัฒนาการแพทย์แผนไทย ศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ การประชุมจัดขึ้นที่ เรือนจุฬานฤมิตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | 12 องค์กรวิชาการด้านยา สุขภาพ คุ้มครองผู้บริโภค และวิชาชีพเภสัชร่วมจัดการประชุมวิชาการว่าด้วย ปฏิรูประบบยา วิพากษ์ร่าง พรบ.ยาที่จนถึงขณะนี้ยังไม่ถูกนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี 9 ก.พ. | คุณภาพชีวิต | กระทรวงพาณิชย์,ปฏิรูประบบยา | https://prachatai.com/journal/2015/03/58282 |
หญิงลี เผยหมด แฟนเปลี่ยนไป ทนประคับประคองเพราะรักเขามาก (คลิป) | เรียกว่าเป็นผู้หญิงสตรองจริงๆ สำหรับลูกทุ่งสาวแซ่บค่ายแกรมมี่ หญิงลี ศรีจุมพล เพราะนอกจากต้องรักษาตัวจากอาการป่วยก่อนหน้านี้ จนทำให้ผมร่วง และยังมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงแล้ว,เรื่องความรักกับ แต๊งค์ หนุ่มนอกวงการ แม้จะโพสต์ภาพคู่เปิดตัวฝ่ายชายหลังคบหาดูใจมานาน 4 ปีแล้ว แต่ความรักก็ยังคงมีปัญหา แม้จะพยายามปรับตัวเข้าหากันมานานแล้วก็ตาม ได้เจอ หญิงลี มาร่วมงานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์โฆษณา ไทยชูรส ตราชฎา ณ ชั้นล็อบบี้ อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส เลยอัพเดตถึงเรื่องดังกล่าว,ถามถึงการทำงานช่วงนี้ ต้องเลือกรับงานมากขึ้น?,คือในส่วนการรับงาน หญิงลีไปงานทุกแบบนะคะ แต่หญิงจะเลือกเวลา สถานที่ แต่จังหวัดโน้นนี้ที่ไกลกัน หญิงอาจจะไม่ไหวกับการเดินทาง ไม่ใช่แค่หญิงลีเดินทางคนเดียว ถ้าหญิงเดินทางจะนั่งเครื่อง แต่ทีมงานหญิงก็อันตรายเหมือนกัน หญิงกังวลว่าถ้าเสียหายมันไม่คุ้มกับชีวิต ทรัพย์สิน และความตั้งใจที่เราจะไปงานอีกต่อๆ ไปค่ะ,สุขภาพเป็นไงบ้าง?,ตอนนี้ร่างกายหญิงลียังไม่เต็มร้อย แต่มันเกือบจะเต็มร้อยค่ะ ที่ยังไม่เต็มร้อยตอนนี้เป็นที่ขา คือ ขาหญิงลียังโลดโผนไม่ได้ค่ะ ยังลุกนั่งเองบนเวทีแล้วรู้สึกปวดขามาก ลุกนั่ง และจับมือกับแฟนเพลง ประมาณ 10-20 ครั้ง พอลงเวทีมาอีก 1 วัน ปวดหน้าขา,ก็อาจจะเกิดจากกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่ยังไม่เต็มร้อย เพราะคุณหมอบอกหญิงลีต้องรอเป็นปี หลังจากเดือน มี.ค.-เม.ย.ที่ผ่านมา แต่หญิงลีก็รอนะคะ และในส่วนการผ่าตัดใบหน้ามันมีไขมัน ซึ่งหญิงไม่สามารถรอได้,หญิงรู้ว่าการแพทย์ปัจจุบันปลอดภัย สามารถช่วยได้ แต่ขาเราเนี่ยมันต้องกินเนื้อ หญิงก็กินเนื้อทุกอย่างให้มันได้ผล และหญิงผ่าตัด 4 ครั้ง ซึ่งผ่านมาด้วยความเจ็บปวด และเสี่ยงค่ะ,เราอาจจะไม่ได้คาดหวังว่าจะดีเท่าเดิม แต่ก็ต้องคาดหวังว่าเราจะอยู่ได้ในวันต่อไปให้ดีขึ้นๆ แล้วเดือนต่อไป ปีต่อไป มันจะดีขึ้นเอง แล้วมันก็ได้ผล ทางผู้จัด และแฟนเพลงก็ยินดี แม้แต่ทางต่างประเทศก็จองคิวเพื่อให้เราไปร้องเพลง อาจจะด้วยความสงสาร และความรัก ความผูกพันด้วยค่ะ,ดีใจขนาดไหนที่กลับมาสวยเป๊ะเกือบเหมือนเดิม?,ดีใจที่หญิงหน้าตาคล้ายเดิมนะคะ แต่มันอาจจะไม่เต็มร้อย เพราะคุณหมอบอกว่ารอเวลาด้วยค่ะ แต่ได้เท่านี้ก็ดีแล้ว หญิงสามารถเดินเหินเป็นคนปกติได้ก็ดีใจ,และหญิงร้องเพลงได้ เสียงเหมือนเดิม หญิงแฮปปี้ เพราะตอนนั้นเสียงหญิงแกว่งไปหมด ควบคุมเสียงไม่ได้ เหมือนทั้งเนื้อทั้งตัวหญิงมันเสียหายหมด หัวใจเต้นเร็ว ความดันสูง พร้อมหัวใจวายได้ตลอดเวลาที่เราตกใจ,ที่ผ่าตัด 4 ครั้งคืออะไรบ้าง?,หญิงผ่าตัดที่ใบหน้า และลำคอนะคะ หญิงก็อยู่กับตัวเองแต่จะไม่ซึมเศร้า จนมันดีขึ้นทุกอย่าง และได้กำลังใจจากทุกคน เจ้านายก็ให้กำลังใจ โทรถามข่าว ให้ดอกไม้ แฟนเพลงก็ให้กำลังใจตลอด แม้แต่วันผ่าตัดหญิงก็โชว์ว่าผ่าตัดนะ มันเป็นพัฒนาการของการรักษา ถึงหลายคนจะมองว่าหญิงผ่าตัดศัลยกรรม มันก็ใช่ หญิงก็หาหมอที่ดีและเก่ง เพราะหญิงกลัวจะโดนเส้นประสาทต่างๆ ค่ะ,ตอนนี้หญิงคิดว่ายังเหลือคอตรงนี้ที่ยังเยอะแยะ (ชี้ที่คอ) ยังใหญ่อยู่ค่ะ แต่หญิงจะรอให้มันหายไปเองค่ะ เพราะว่าหญิงกลัว (หัวเราะ) กลัวการผ่าตัดซ้ำซ้อน หญิงคิดว่ามันโอเคแล้วก็ให้มันอยู่ไปเรื่อยๆ นะคะ,ก็ผ่าที่คอ 2 รอบค่ะ และก็ตรงหน้าที่มันไม่เรียบร้อย คุณหมอก็ทำให้มันเล็กๆ เหมือนการผ่าตัด เพื่อรักษาความสวยงามในส่วนภายนอก ส่วนคอด้านในที่แน่นมากจนหญิงนอนแล้วลุกขึ้นมากลางดึก สะดุ้งตื่นมาหายใจ 2-3 ครั้ง,หญิงเสียใจมากว่าทำไมชีวิตเราเป็นแบบนี้ ทำไมไม่มีอะไรตอบโจทย์ที่เราต้องการว่าเราสมบูรณ์แล้ว มีชื่อเสียงแล้ว เราควรจะมีเวลาเที่ยวแล้ว ช่วงที่เราร้องเพลงมากๆ หญิงไม่ได้ไปเที่ยวเลยนะคะ ตั้งใจทำหน้าที่ตัวเองให้มันดี เก็บเงินสร้างตัวเวลาที่ไม่มีงาน,แต่หญิงเชื่อว่าหญิงจะไม่หายไป เพราะหญิงอาจจะเหมือน พี่ฮาย อาภาพร แม่บานเย็น รากแก่น แต่ความฮอต สดใส อาจจะต้องยอมแพ้วัยรุ่น แต่เราก็จะใช้ความเก๋าในน้ำเสียงของเราที่ยังคอนเฟิร์มว่าเราแน่นอน เรายังเจ๋งค่ะ,หญิงลียังเจออุปสรรคอะไรอีกไหม?,ตอนนี้ผมหญิงมันร่วงหมดหัว มันร่วงแล้วมันเกิดมาใหม่ เพราะการรักษา เพราะทุกอย่างเลยค่ะ เหมือนญาติหญิงที่เป็นเบาหวานแล้วใช้ยาหนักๆ แล้วผมร่วงทั้งหัว หญิงก็ถามทุกคนที่ผมร่วง เขาก็บอกว่ามันเกิดจากตรงนี้ แล้วมันเกิดมาเยอะ หญิงก็เลยไม่ซีเรียสอะไรเลย ถึงแม้มันจะเหลือนิดเดียว แต่หญิงก็สามารถติดแฮร์ได้ค่ะ ผมจริงตรงนี้มันร่วงมาก (ชี้ที่ผมด้านหลัง) มันเหลือนิดเดียวค่ะ,หญิงไม่เครียด เพราะว่าหญิงยอมรับทุกอย่าง ยอมรับชะตากรรมของมนุษย์ว่าเกิดมาก็ดับไป แต่เกิดยังไงและอยู่ยังไงให้มีความสุข หญิงก็อยู่กับเพื่อน บางทีก็ไม่ต้องวางตัวมาก อยู่ยังไงก็ได้ให้สบายใจค่ะ แต่เวลาที่เข้าสังคม หญิงก็ต้องเข้าไปอยู่จุดนั้นให้ได้ อยู่กับเขาให้เป็นค่ะ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองมีความสุขต่อไปค่ะ และให้คนที่รักหญิงลีรู้สึกว่าหญิงลีไม่หยิ่งนะ ไม่ท้อ มันภูมิใจที่หญิงได้รับคำชมว่าไม่ท้อค่ะ,และก็ได้กำลังใจดีจากแฟนด้วย?,ก็เรื่อยๆ ค่ะ (ยิ้ม),เห็นโพสต์รูปคู่กับแฟน ตอนนี้กลับมาแฮปปี้แล้ว?,คือหญิงไม่กล้าคอนเฟิร์มว่าเราจะแฮปปี้แค่ไหนนะคะ แต่หญิงก็จะทำให้มันดีที่สุดของลูกผู้หญิงคนนึง แล้วก็แล้วแต่บุญวาสนานะคะ,ตอนนี้ยังคุยกันอยู่ไหม?,คุยค่ะ เขาก็ดูแลทางใจ ทางคำพูด ให้กำลังใจเหมือนทุกคนรอบข้างหญิงค่ะ,เขาไม่ได้หนีหายไปไหนในตอนที่เราป่วย?,ก็ไม่ได้หนีหายไปไหน เพียงแต่สิ่งที่เราอยากฟัง อยากได้ยิน คำพูดที่เป็นกำลังใจที่มันอบอุ่น บางทีเขาอาจจะเฉยบ้างตามประสาผู้ชายมั้งคะ หญิงก็ไม่แน่ใจ ถามว่าได้บอกไหม ก็คุยกันค่ะ,คนนี้คบมากี่ปีแล้ว?,คนนี้ 4 ปี ตั้งแต่เดือน ต.ค. ปี 56 ค่ะ,มันมีจุดที่เปลี่ยนไปหรืออะไรยังไง?,ก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาค่ะ (หัวเราะ) หญิงไม่รู้จะตอบยังไง มันเหมือนเป็นเรื่องภายในที่เราไม่สามารถที่จะพูดได้ เหมือนสาวไส้ให้กากิน มันไม่ต้องพูด,พอกลับมามีการตกลง หรือทำความเข้าใจยังไงบ้าง?,เหมือนเขาก็อยากจะปรับตัวเข้าหาหญิง แต่เขาก็ยังอยากที่จะเป็นตัวตนของเขา หญิงก็ยังเป็นตัวตนของหญิง เราพยายามปรับตัวเข้าหากัน แต่ว่าวิเคราะห์ดูมันก็เหมือนน้ำกับน้ำมันค่ะ เอามาผสมกัน เขย่าเข้ากัน อีกสักพักก็จะแยกกัน น้ำกับน้ำมันมันเข้ากันไม่ได้,เหมือนตอนนี้กำลังมีปัญหาอยู่?,หญิงมีปัญหามาปีกว่าแล้วค่ะ แต่ว่ามันก็ไม่ได้รุนแรง เหมือนพอคุยกันได้ แต่ว่าถามกันและกันว่าคุณจะเริ่มต้นคบกับคนอื่นไหม หรือเราจะเริ่มต้นคบคนอื่นไหม มันก็เป็นคำตอบที่ไม่มีใครเอ่ยว่าจะคบ มันก็เลยเป็นอะไรที่อยู่ไปเรื่อยๆ คบไปเรื่อยๆ เหรอ มันมีเป้าหมายอะไรในชีวิต,แล้วสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง?,ก็ทดเวลาบาดเจ็บค่ะ (หัวเราะ) ก็ยังอยู่กันไป ก็ดีค่ะ (เหมือนประคับประคอง?) น่าจะใช่ค่ะ เหมือนเป็นช่วงเวลาที่วัดใจกันว่าเราจะยังไงดีค่ะ,แล้วอย่างนี้เราจะมีความอดทนได้นานแค่ไหน เราอยู่เพราะความรัก หรือความอดทน?,ลูกผู้หญิงมันก็รักน่ะเนอะ ก็รักและอดทน อยากจะสร้างชีวิต อยากมีสิ่งที่สมบูรณ์ เงินทองก็มีแล้ว อยากจะมีความรักที่อบอุ่น อยากแต่งงานมีลูก แต่ว่าถ้ามันไม่ถึงขั้นนั้น มันก็ไม่ต้องถึง อย่าไปประกาศแต่งงานถ้าเราไม่พร้อม เพราะว่ามันจะเสียหายต่อทุกอย่าง,ถ้าเกิดแขกเหรื่อญาติผู้ใหญ่มาจากทุกสารทิศ แล้ววันนึงทะเลาะกัน เลิกกัน มันอายเขานะ มันเหมือนทุกอย่างมันไม่ใช่น่ะ,หญิงอาจจะอยากมีครอบครัวแล้ว แต่เขายังไม่พร้อม?,เขาพร้อมอยู่ แต่ว่าเขายังเป็นตัวของตัวเองค่ะ แต่เราก็อยากให้เขาปรับอยู่,เขาเจ้าชู้ไหม?,เขาเคยมีแฟน มีเจ้าชู้บ้าง แต่ถามว่าเรามีไหม เราก็เคยเจ้าชู้ตามประสาวัยรุ่นค่ะ ถามว่าพอคบกันเขายังเจ้าชู้ไหม อันนี้ก็ไม่แน่ใจ (หัวเราะ) อันนี้ไม่รู้ เราไม่เห็น,เราปรับเข้าหากันเป็นปีแล้วยังไม่ดีขึ้น ตัดสินใจเลิกดีกว่าไหม เพื่อที่จะหาคนอื่นอาจจะดีกว่านี้?,บางทีหญิงก็อยากจะเจอคนที่หญิงอยากจะชอบนะคะ แต่ทำไมหญิงไม่รู้สึกว่าชอบใคร หรือไม่รู้สึกอยากจะรัก หรือมีสัมพันธไมตรีกับใครค่ะ หญิงอาจจะหัวโบราณค่ะ,หนุ่มคนนี้เราโอเคที่สุดแล้ว?,ก็อยู่ในภาวะที่เรายังคบกันนะคะ เราก็ให้เกียรติเขาว่าเรารัก ออกสื่อว่าคุณมีตัวตนนะ ไม่ใช่ว่าคุณไม่มีตัวตน คุณอยู่ตรงนี้ สังคมก็รอดูแฟนดาราศิลปิน สังคมเดี๋ยวนี้เปิดรับกว้าง เพียงแต่ว่าเราจะออกตัวน่ารัก หรือน่าเกลียดขนาดไหนก็แล้วแต่,หญิงก็เชื่อว่าสังคมคงไม่ว่าอะไรเพราะหญิงอายุ 34 ปีแล้ว อีกนิดก็ 35 อีกกี่ปีที่เราจะมีลูกได้ มันสำคัญตรงนั้นมากกว่า หญิงไม่ได้แคร์ว่าจะต้องสวยอมตะตลอดไป หญิงแคร์ว่าหญิงจะมีความสุขยังไงค่ะ,ทุกวันนี้ถือว่ามีความสุข?,หญิงลีมีความสุขกับครอบครัว ทีมงาน แฟนเพลงแฟนคลับ มีความสุขกับสถานภาพที่หญิงเป็น นอนหลับกินอิ่ม ความสุขกับแฟนมันก็มีอยู่นะคะ ก็คงดีกว่าไม่มีค่ะ (หัวเราะ),ที่เราเปิดตัวคืออยากให้เขาเชื่อมั่นว่าเราเปิดตัวได้ ไม่ปิดบัง?,ก็อยากให้เขารู้สึกว่าเขามีตัวตน เป็นคนสำคัญ เป็นคนที่เรารักนั่นแหละค่ะ เขาเป็นคนนอกวงการ แต่เป็นคนที่อยู่ในวงการเพลง เป็นผู้จัดการผับ บริหารในส่วนสายงาน เป็นโบรกเกอร์จ้างงานด้วย ดูแลวงดนตรีค่ะ เป็นคนมีรายละเอียดเยอะในการบริหาร ก็มีความเป็นผู้นำพอสมควรค่ะ,คนนี้ดูเรารักมาก?,ทำไมถูกถามแต่เรื่องนี้เลย (ยิ้ม) ก็รักค่ะ รักมากน่ะแหละเนอะ ก็บอกเขาอยู่ว่ารักมากนะ แต่ก็ยังไม่ได้เจอเขาเลย แต่ถ้าเขาไม่รักหนูสักวัน หนูก็ต้องเปิดใจให้ตัวเองนะคะ เดี๋ยวหนูจะอายุมากไปค่ะ. | หญิงลีเผยอาการป่วยตอนนี้ยังไม่หายดี 100% ยังมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง และผมร่วงหลังจากการรักษา แต่ไม่ท้อเพราะได้กำลังใจดี ความรักกับแต๊งค์ หนุ่มนอกวงการ ตอนนี้ยังคบกัน แต่อยู่ในช่วงวัดใจ เผยมีปัญหากันมานานเป็นปีแล้ว | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | หญิงลี ศรีจุมพล,หญิงลี ป่วย,หญิงลี ความรัก,หญิงลี เปิดตัวแฟน,หญิงลี แต๊งค์,นักร้อง | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1152165 |
สมาคมนักข่าวฯ เตือนสื่อเสนอภาพ ด.ญ.ถูกฆาตกรรม เสี่ยงผิด ก.ม.คุ้มครองเด็ก-ขัดจริยธรรมสื่อ | เสี่ยงต่อการละเมิดกฎหมายคุ้มครองเด็กและเยาวชน รวมถึงกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิเด็ก และขัดต่อจริยธรรมสื่อมานพกล่าวว่า สื่อทุกประเภทควรระมัดระวังการนำเสนอภาพข่าวดังกล่าวที่อาจก่อให้เกิดความหดหู่โศกเศร้าต่อครอบครัวและสังคม ควรให้การเคารพต่อครอบครัวผู้สูญเสีย หากเสนอภาพข่าวโดยไม่ระมัดระวังมีความเสี่ยงละเมิดต่อกฎหมายคุ้มครองเด็กและเยาวชน 2546 มาตรา 27 ที่ระบุว่า ห้ามมิให้โฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือสื่อสารสนเทศเกี่ยวกับตัวเด็กโดยเจตนาที่จะทําให้เกิดความเสียหายแก่จิตใจ ชื่อเสียง เกียรติคุณ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดของเด็ก หรือเพื่อแสวงหาประโยชน์สําหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ และมาตรา 50 ห้ามมิให้เปิดชื่อตัว ชื่อสกุล ภาพหรือข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับตัวเด็กในลักษณะที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียง เกียรติคุณ หรือสิทธิประโยชน์ของเด็กหรือผู้ปกครอง โดยผู้ละเมิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับนอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้ลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กและพิธีสารเลือกรับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติไทยตั้งแต่ปี 2532 เพื่อคุ้มครองเด็กและเยาวชนให้พ้นจากความโหดร้ายทารุณและการถูกข่มเหงรังแกทุกชนิด โดยเด็กจะต้องไม่กลายเป็นสินค้าไม่ว่าในรูปแบบใดอุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ กล่าวด้วยว่า ยังมีข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ข้อที่ 15 ระบุว่า ในการเสนอข่าวหรือภาพใดๆ หนังสือพิมพ์ต้องคำนึงมิให้ล่วงละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคลที่ตกเป็นข่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อสิทธิมนุษยชนของเด็ก สตรีและผู้ด้อยโอกาส การเสนอข่าวต้องไม่เป็นการซ้ำเติมความทุกข์หรือโศกนาฏกรรมไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง และข้อ 17 ระบุว่า หนังสือพิมพ์จะต้องไม่เสนอภาพข่าวที่อุจาด ลามกอนาจาร หรือน่าหวาดเสียวโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของสาธารณชนสมาคมนักข่าวฯ จึงขอให้สื่อมวลชนทุกประเภททั้งวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อออนไลน์ทุกประเภทไม่ควรเผยแพร่ภาพกรณีที่เกิดความเสียหายต่อเด็กในกรณีอื่นๆ ด้วย ซึ่งสื่อทุกประเภทควรได้ตระหนักถึงข้อบังคับแห่งจริยธรรมวิชาชีพ กฎหมายคุ้มครองเด็ก และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กอย่างเคร่งครัด | 8 ก.ค.2557 มานพ ทิพย์โอสถ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เตือนการเผยแพร่ภาพเด็กหญิงที่ถูกละเมิดทางเพศและฆาตกรรมที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ | สิทธิมนุษยชน,สังคม | การละเมิดสิทธิมนุษยชน,จริยธรรมสื่อ,สื่อมวลชน,อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก | https://prachatai.com/journal/2014/07/54476 |
ไทยพีบีเอสมอบรถเข็นคนพิการ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร | วันนี้ (7 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กว่า 8 ปีแล้ว ที่นายณรงค์ บุ้นเฮียง อายุ 63 ปี ชาวตำบลอำแพง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ต้องเป็นคนพิการติดเตียงไม่สามารถขยับตัวได้ แขนขาไม่มีความรู้สึกใดๆ สาเหตุมาจากการพลาดตกจากโต๊ะภายในโรงงาน ที่นายณรงค์ ทำงานอยู่ในขณะนั้นช่วงแรกยังไม่มีอาการผิดปกติ จึงไม่ได้ไปรักษาตัว ผ่านไปกว่า 3 ปี เริ่มมีอาการปวด จึงเข้ารับการผ่าตัดแต่อาการยังไม่ดีขึ้น ต่อมาแขนและขาก็ไม่สามารถใช้งานได้อีกเลย จะเดินทางไปไหนก็ต้องใช้รถเข็นที่ได้รับบริจาคมาจากหน่วยงานแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร โดยมีลูกชายและภรรยาเป็นผู้ดูแล ขณะที่รถเข็นคันเก่ามีสภาพชำรุด ไม่สามารถใช้การได้ จึงตัดสินใจติดต่อมายังรายการร้องทุกข์ลงป้ายนี้ เพื่อขอรับบริจาครถเข็นคันใหม่ผู้สื่อข่าวจึงได้นำรถเข็นที่ได้รับบริจาคมาจาก ชมรมไท่เก็กชวนชื่นพาร์ควิวล์กรีนวิวล์ มอบให้กับนายณรงค์ จำนวน 1 คัน เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไปนายณรงค์กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้รถเข็นคันใหม่ เพราะครอบครัวยากจน กินอยู่ในแต่ละวันก็แทบจะไม่พอ รายได้แต่ละเดือนมีเพียงเงินสงเคราะห์คนพิการ 600 บาท และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 800 บาท และเงินเล็กๆ น้อยๆ ที่ลูกชายรับจ้างทำกรอบพระซึ่งได้บ้างไม่ได้บ้างหลังได้รับมอบรถเข็นคันใหม่นายณรงค์ได้ให้ภรรยาและลูกชายพาไปสูดอากาศนอกบ้านทันที เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่รถเข็นคันเก่าชำรุดพังเสียหาย ก็ไม่สามารถไปไหนมาไหนได้อีกเลย เมื่อมีผู้ใจบุญบริจาครถเข็นมาให้ จึงขอขอบคุณเป็นอย่างมาก เพราะเป็นความหวังที่รอมานานสำหรับผู้ที่พิการและยากไร้ หากต้องการรถเข็นสำหรับคนพิการ ให้แจ้งรายละเอียดข้อมูลมาที่อีเมล์รายการ [email protected] หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ร้องทุกข์ลงป้ายนี้ โทร. 02-790-2111 02-790-2630-3 วันจันทร์ –วันศุกร์ เวลา 9.00-18.00 น. หรือ Line ID @rongtookthaipbs | ทีมข่าวร้องทุกข์ลงป้ายนี้ลงพื้นที่ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เพื่อนำรถเข็นที่ทางรายการได้รับมาจากชมรมไท่เก็กชวนชื่นปาร์ควิลล์กรีนวิลล์ นำไปมอบให้คนพิการแขนขาอ่อนแรง จากอุบัติเหตุพลัดตกจากที่สูง เมื่อ 8 ปีที่แล้ว | สังคม | COVID-19,ข่าวไทยพีบีเอส,ร้องทุกข์ลงป้ายนี้ | https://news.thaipbs.or.th/content/292187 |
เปิดประสบการณ์เด็กไทยเข้าร่วมสเปซ แคมป์ สจล.-สหรัฐฯ แจกทุนปี 2 รับสมัครถึง 14 ต.ค. | นักบินอวกาศจึงน่าจะเป็นหนึ่งในอาชีพในฝันของเด็กหลายคนในสมัยเด็ก ล่าสุด ความฝันของเด็กหลายคนคงเข้าใกล้ความเป็นจริงไม่มากก็น้อย หลังจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐฯ และบริษัทเอกชนหลายองค์กรร่วมแจกทุนการศึกษาในโครงการทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทย ปีที่ 2ผู้ที่ชนะการแข่งขันชิงทุนจะได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปศึกษาวิชาการสำรวจอวกาศเบื้องต้นในหลักสูตรเร่งรัด เป็นระยะเวลา 10 วัน ณ ศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ ฯ (สเปซ แคมป์) เมืองฮันท์สวิลล์ มลรัฐอลาบามา ประเทศสหรัฐฯ รวมถึงยังจะได้รับทุนการศึกษาจนจบระดับชั้นปริญญาตรีในคณะใดก็ได้ของ สจล.อีกด้วยไทยพีบีเอสออนไลน์จะพาไปฟังมุมมองและประสบการณ์จากเด็กไทย 2 คนใน 3 คนที่เป็นตัวแทนในปีแรก และอีก 1 คน ซึ่งเข้าร่วมโครงการด้วยทุนส่วนตัวในการเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่น้อยคนนักที่จะได้พบเจอ ซึ่งอาจจะสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กไทยหลายคนมาร่วมไขว่คว้าโอกาสนี้ เพื่อให้ความฝันกลายเป็นความจริงขึ้นมาในที่สุดน.ส.ชญานิษฐ์ โอภาสเสรีผดุง น.ส.ชญานิษฐ์ โอภาสเสรีผดุง อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย เล่าให้ฟังว่า รู้จักโครงการนี้จากการที่โครงการมาประชาสัมพันธ์ที่โรงเรียน ซึ่งโดยปกติจะเป็นคนที่สนใจเกี่ยวกับอวกาศและดาราศาสตร์อยู่แล้ว ตอนเด็กจะชอบดูสารคดีวิทยาศาสตร์ และเข้าร่วมกิจกรรมกับสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) อยู่เสมอๆ รวมทั้งไปท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ จึงสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการสำหรับประสบการณ์ที่ได้รับคือได้เห็นของจริง จรวดที่ถูกส่งไปในอวกาศ รู้จักเพื่อนมาก ทำให้มีคอนเนคชั่นในอนาคต ได้พัฒนาทักษะหลากหลาย ทำงานร่วมกันเป็นทีม และกล้าแสดงออกมากขึ้น ซึ่งในกลุ่มย่อยจะมีเด็กไทย 4 คน ออสเตรเลีย 6 คน และสหรัฐฯ 3 คนในอนาคต จะศึกษาต่อในด้านฟิสิกส์ทฤษฎี ส่วนไอดอลคือคุณพ่อและสตีเฟน วิลเลียม ฮอว์คิง นักฟิสิกส์ทฤษฎีและนักจักรวาลวิทยา ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เนื่องจากเป็นคนที่อุทิศตัวเอง ซึ่งมีความฝันอยากเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยเหมือน ฮอว์คิง ด้วยส่วนการเตรียมตัวสอบชิงทุน โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้เตรียมตัว เพราะมีความชอบด้านนี้อยู่แล้ว เชื่อว่าทุกคนที่เข้าสมัครเข้าร่วมโครงการจะทำเต็มที่แน่นอน แนะนำว่าให้อ่านข้อสอบเก่าของปีที่แล้ว ซึ่งข้อสอบมีทั้งแบบวัดไอคิว ทฤษฎีและประวัติเกี่ยวกับการสำรวจอวกาศ และหากผ่านเข้ารอบ 21 คนสุดท้ายจะมีการวัดอีคิว ก่อนจะได้เป็นตัวแทน 3 คนสุดท้ายนายนาวิน งามภูพันธ์ (คนซ้ายสุด)นายนาวิน งามภูพันธ์ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย เล่าว่า รู้จักโครงการนี้จากเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยเป็นตัวแทน 1 ใน 4 คนจากโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ถือว่าโชคดีที่ได้เข้ารอบ 21 คนสุดท้าย และเป็น 1 ใน 3 คนสุดท้ายที่ได้ไปสเปซ แคมป์ตอนเด็ก ครอบครัวสนับสนุนและชอบเกี่ยวกับด้านอวกาศอยู่แล้ว ซื้อหนังสือวิทยาศาสตร์มาอ่าน และพาไปศึกษาที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เป็นบ้างครั้ง ส่วนตัวแล้วได้รับแรงบันดาลใจจากโครงการสเปซ แคมป์ มาก เนื่องจากได้ไปดูของจริงและของเสมือนจริงว่าทำยังไง ไม่ว่าจะเป็นการทำกระสวยอวกาศและจรวด นอกจากนี้ ยังได้รับประสบการณ์และภาษา การทำงานเป็นทีมจากการทำภารกิจ ตลอดจนการติดต่อสื่อสารปัจจุบัน ศึกษาอยู่ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา และในอนาคต อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ ส่วนไอดอล จริงๆ แล้วไม่มีใครเป็นต้นแบบ แต่หากจะมีคงเป็น อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เนื่องจากเป็นคนคิดค้นทฤษฎีสัมพันธภาพ คิดว่าเขาเป็นคนเปลี่ยนมุมมองของเราไปเลย แต่ไม่ได้คิดจะเอาเยี่ยงอย่างขนาดนั้นด.ช.ติณหพัชร์ ปฏิมาวิรุจน์ ด.ช.ติณหพัชร์ ปฏิมาวิรุจน์ อายุ 10 ปี เล่าว่า เข้าร่วมโครงการนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ตั้งแต่อายุ 8 ปี โดยคุณแม่ให้การสนับสนุนด้วยทุนส่วนตัว ซึ่งในปีแรก เข้าร่วมโครงการสเปซ แคมป์ และในปีเดียวกันนั้นถือว่าเป็นเด็กไทยเพียงคนเดียวที่เข้าร่วมโครงการ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานในอวกาศ จรวด วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ภาวะผู้นำ การทำงานเป็นทีม ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น และรู้จักเพื่อนชาวต่างชาติส่วนในปีที่ 2 ได้เข้าร่วมโครงการสเปซ อะคาเดมี่ และในปีหน้า ตั้งใจว่าจะเข้าร่วมโครงการอีกครั้ง แต่จะเป็นโครงการเอวิเอชั่น ชาเลนจ์ ซึ่งเป็นโครงการฝึกนักบินเอฟ 18 ด้วยสำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าสอบแข่งขันชิงทุนการศึกษาได้ที่ www.spacecampthailand.com ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 14 ต.ค.นี้ ค่าลงทะเบียนสมัครสอบ 500 บาท ส่วนตัวแทนโรงเรียน 4 คน ไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่วนการสอบจะจัดขึ้นในวันที่ 22 ต.ค.นี้ เวลา 09.00-12.00 น. ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. และ สเต็ม แคมป์ มีขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 พ.ย.นี้ | จะว่าไปแล้ว วิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ถือว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎของแรงโน้มถ่วง ไฟฟ้าสถิต ปรากฏการณ์จันทรุปราคา หรือสุริยุปราคา ดวงดาว และทางช้างเผือก รวมไปถึงการส่งยานอวกาศไปสำรวจดวงดาวต่างๆ ที่คาดว่าจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่อาศัยมาก่อน | วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี | สเปซ แคมป์,สจล.,สหรัฐฯ,ศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐฯ,นักบินอวกาศ,ทุนการศึกษา,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/266732 |
ฮีโร่หญิง ช่วยชีวิตคนขับรถตกน้ำ | วันนี้ (13 ต.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะพลิกคว่ำจมร่องน้ำริมทางถึงครึ่งคัน บริเวณริมทางหลวงหมายเลข 1021 ช่วงโค้งบ้านฝั่งแวน ต.เชียงบาน อ.เชียงคำ จ.พะเยาหลังคนขับคือนายสุทด วันอ่อน อายุ 57 ปี ชาวบ้านหนองแวง ต.หนองแวง อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี พยายามหักหลบสุนัขที่วิ่งตัดหน้า ประกอบร่างกายอ่อนเพลีย และไม่ชินเส้นทาง ทำให้รถเสียหลักตกลงไปในหนองน้ำแม้นายสุทดจะพยายามทุบกระจกรถออกมา แต่ก็ไม่สามารถออกจากตัวรถได้ เนื่องจากกระจกไม่แตกขณะที่รถจมน้ำลงเรื่อยๆนางพรรณี แสงศรีจันทร์ อายุ 57 ปี ชาวบ้านที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ก็นำเอาค้อนมาช่วยทุบกระจกรถจนนำตัวนายสุทดออกจากรถได้สำเร็จด้านนางพรรณี ชาวบ้านฝั่งแวน ต.เชียงบาน อ.เชียงคำ จ.พะเยา เล่าว่า ขณะนอนหลับอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงแตรรถดังยาวไม่หยุด จึงรีบมาดูที่เกิดเหตุ พบรถกระบะพลิกคว่ำ และเห็นมีคนติดอยู่ข้างใน จึงรีบวิ่งไปนำค้อนแล้วลุยน้ำเข้าไปทุบกระจกรถให้แตก เพื่อช่วยชีวิตคนขับทั้งนี้ หลังเกิดเหตุชาวบ้านเร่งประสานกับตำรวจและหน่วยกู้ภัยฯ มาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ขณะที่หลายคนต่างชมเชย นางพรรณี แสงศรีจันทร์ ที่มีสติ และช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุจนรอดชีวิต | หญิงชาว ต.เชียงบาน จ.พะเยา ได้รับยกย่องให้เป็นฮีโร่ หลังเข้าช่วยผู้ประสบอุบัติเหตุรถกระบะพลิกคว่ำจมร่องน้ำริมทางจนคนขับรอดชีวิตได้อย่างหวุดหวิด | สังคม | รถคว่ำ,พลเมืองดี,ช่วยชีวิต,พะเยา,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/275095 |
ป.ป.ช.แจงคดีเงินทอนวัดลอตแรกใกล้ได้ข้อสรุป | เมื่อวันที่ 27 ก.ย.60 พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนกรณีทุจริตเงินทอนวัดว่า ป.ป.ช.ได้รับสำนวนคดีทุจริตเงินทอนวัดลอต 2 จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) แล้ว ส่วนลอตแรกที่มีการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ นายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และน.ส.ประนอม คงพิกุล รองผอ.พศ. นั้น ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ มีความคืบหน้าไปมากแล้ว คิดว่าอีกไม่นานน่าจะมีบทสรุปออกมา,เมื่อถามว่า เรื่องนี้ถ้ามีพระผู้ใหญ่มาเกี่ยวข้องจะเป็นอุปสรรคต่อการไต่สวนหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ต้องดูตามพยานหลักฐาน และนำมาวิเคราะห์ เมื่อมาถึงชั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะเป็นเรื่องกรณีความรับผิดทางอาญา ที่ค่อนข้างต้องการความชัดเจนในการกล่าวหาหรือชี้มูลใคร อีกทั้งสำนวนที่ทาง ปปป. ตร.เป็นข้อมูลเบื้องต้น เพราะมีข้อจำกัดทางกฎหมาย มีเวลาสรุปเพียง 30 วัน ป.ป.ช.จึงต้องมาดูรายละเอียดอีกครั้ง แต่เท่าที่ดูพฤติการณ์ความผิดของผู้ถูกกล่าวหา จะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน ไม่แตกต่างกันมากนัก | วัชรพล แจงคดีเงินทอนวัดลอตแรกใกล้ได้ข้อสรุป ชี้ต้องเฟ้นหาหลักฐานมัดผิดพระผู้ใหญ่ให้แน่นหนากว่า ปปป. | ข่าว,การเมือง | วัชรพล ประสารราชกิจ,เงินทอนวัด,ทุจริตเงินทอนวัด,พศ.,ป.ป.ช.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1082730 |
สมบัติ ฟันธงอีก 17 เดือน เกิดวิกฤติใหญ่ หลัง คสช.หมดอำนาจ | เมื่อวันที่ 8 ส.ค.59 นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปการเมือง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติเป็นผลสะท้อนว่าประชาชนนิยมชื่นชอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ที่เข้ามาทำให้บ้านเมืองสงบขึ้น ดูจากโพลสำรวจต่างๆ ตอบว่าชื่นชมนายกฯ ไม่มีคนพูดถึงรัฐธรรมนูญปราบโกง และก่อนหน้านายกฯ ออกมาประกาศชัดเจนว่ารับร่างฯ และคำถามพ่วง ทำให้คนที่ชื่นชมตัวนายกฯ ออกไปสนับสนุนกัน เรียกว่าปรากฏการณ์ โพลิติเคิลเชนติเมนท์ ความชื่นชอบทางการเมือง กระแสความนิยมตัวบุคคล ,นายสมบัติ กล่าวอีกว่า สะท้อนว่าขณะนี้ในประเทศไทยมีประชาชนส่วนมากชื่นชอบนิยมหัวหน้า คสช. แต่ไม่ได้ยอมรับทั้งประเทศ มีพื้นที่ภาคอีสาน ภาคเหนือตอนบน คะแนนไม่รับมากกว่า ยืนยันถึงการเป็นฐานที่มั่นพรรคเพื่อไทย มีว่ามวลชนเหนียวแน่น ยังเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ แม้ในขณะที่มีกฎหมาย คสช.คุมการเคลื่อนไหวอยู่ มีข้อจำกัดต่างๆ สะท้อนว่าพร้อมเผชิญหน้าทางการเมืองหลัง คสช.ลงจากอำนาจ เท่ากับว่าเวลาสงบสุขของบ้านเมืองมีแค่ช่วง 17 เดือนนี้ถึงเลือกตั้งปลายปี 60 ต่อจากนั้นไม่มีกฎของ คสช.คุม กลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลหน้าจะออกมา เพราะในร่างรัฐธรรมนูญนี้ออกแบบให้เป็นรัฐบาลผสม จะเกิดความอ่อนแอเปลี่ยนรัฐบาลได้ง่าย และหาก ส.ว.แต่งตั้ง 250 คนไม่เอาด้วยในกฎหมายสำคัญ แม้ให้ ส.ว.เลือกนายกฯ คนนอกได้ ก็ช่วยอะไรรัฐบาลหน้าไม่ได้ จะเกิดวิกฤติรอบใหม่ และรัฐบาลหน้าจะไม่มีเวลาไปแก้ไขบ้านเมืองตามกฎหมายปฏิรูปเหมือนที่ผ่านมา ที่มีกฎหมายปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ออกมาตั้งแต่ปี 2518 จนวันนี้เราปฏิรูปที่ดินไม่เสร็จ กฎหมายปฏิรูปการศึกษา ประกาศใช้ปี 2512 มาถึงวันนี้ 17 ปี การศึกษาล้มเหลว ซึ่งไม่ได้หมายความกฎหมายปฏิรูป แก้ปัญหาประเทศไม่สำเร็จ เพราะความสำเร็จขึ้นอยู่กับรัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะเข้มแข็งหรือไม่,รัฐบาลหน้าจะเหมือนสมัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีพรรคใดมีเสียงข้างมาก พรรคแกนนำได้เสียงไม่ถึงครึ่ง นายกฯ ไม่มีเอกภาพในการบริหารประเทศ แม้มี ส.ว.เลือกนายกฯ คนนอกได้ ก็ก่อวิกฤติได้เร็วขึ้น ถ้าใช้การป้องกันโดยมีพรรคใหญ่ร่วมสนับสนุนด้วย ซึ่งมันยากมากจากสภาพความเป็นจริง ให้ ส.ว.เลือกนายกฯ เพียงเพื่อต้องการปิดโอกาสพรรคเพื่อไทยไม่ให้เป็นนายกฯ ในช่วง 5 ปี พรรคเพื่อไทย ต้องนำมวลชนออกมาคัดค้าน ส.ว.แต่งตั้ง เหมือนที่เคยทำมาแล้วช่วงปี 52-53 และในวันข้างหน้า ไม่มี คสช.มาคุมแล้ว ส.ว.จะปกป้องอะไรได้ ดูรูปแบบรัฐบาลหลังการเลือกตั้งไม่สงบสุข โอกาสเกิดวิกฤติสูงมาก ไม่ต้องให้โหรทำนาย พูดตามหลักวิชาการจะเห็นว่าบ้านเมืองเสี่ยงมากที่ใช้รัฐธรรมนูญนี้ แก้ไขได้ยาก นายสมบัติ กล่าว. | สมบัติ ชี้คะแนนประชามติ มาจากความนิยมในตัว บิ๊กตู่ ไม่มีใครพูดถึงเนื้อหา รธน. ฟันธงบ้านเมืองสงบสุขได้อีก 17 เดือน จ่อเกิดวิกฤติครั้งใหญ่ ไม่ต้องใช้โหรทำนาย เหตุ รธน.ออกแบบทำ รบ.ผสมอ่อนแอ | null | ร่างรัฐธรรมนูญ,ผลประชามติ,สมบัติ ธำรงธัญวงศ์,คะแนนนิยมนายกฯ,ร่างฯปราบโกง,วิกฤติการเมือง,รัฐบาลผสม,กลุ่มต่อต้าน รบ.,ที่มา ส.ว.,ส.ว.ลากตั้ง,อำนาจ ส.ว.,ส.ว.ร่วมโหวตนายกฯ,นายกฯคนนอก,สืบทอดอำนาจ,รัฐบาลอ่อนแอ,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/685046 |
เยอรมนีเก็บกู้ระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในนครแฟรงก์เฟิร์ต | วันนี้ (4 ก.ย.2560) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็บกู้วัตถุระเบิดของเยอรมนีปลดชนวนระเบิดของอังกฤษในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ขนาด 1.4 ตันได้สำเร็จ หลังจากใช้เวลานานตลอดทั้งวัน ทางการเยอรมนีสั่งอพยพประชาชนกว่า 65000 คนในนครแฟรงก์เฟิร์ตออกจากพื้นที่อันตราย ซึ่งครอบคลุมโรงพยาบาล 2 แห่ง บ้านพักคนชรา และธนาคารกลางเยอรมนีการอพยพประชาชนเพื่อเก็บกู้ระเบิดในครั้งนี้นับว่าเป็นการอพยพครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และต้องใช้เจ้าหน้าที่มากกว่า 1000 นายคอยให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบอุปสรรค เนื่องจากประชาชนบางส่วนไม่ยอมอพยพออกจากที่พักอาศัยของตัวเอง ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปเก็บกู้ระเบิดตามกำหนดเวลาเดิมทางการเยอรมนีมักจะพบระเบิดและอาวุธยุทโธปกรณ์มากกว่า 20000 ตันในแต่ละปี เนื่องจากเครื่องบินรบอังกฤษและสหรัฐอเมริกาโจมตีเยอรมนีด้วยระเบิด 1500000 ตันในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 600000 คน | คณะเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดในเยอรมนีประสบความสำเร็จในการเก็บกู้ระเบิดขนาดใหญ่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในนครแฟรงก์เฟิร์ต หลังจากพบระเบิดลูกนี้ เมื่อวันพุธที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา | ต่างประเทศ | เยอรมนี,เก็บกู้ระเบิด,ระเบิด,สงครามโลกครั้งที่ 2,นครแฟรงก์เฟิร์ต,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/265772 |
บุกทลายโต๊ะบอลภูเก็ต-ชลบุรี รวบนักพนันเกือบ 30 คน ยอดโพยหลายแสน | เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. 59 พ.ต.สถิตย์ นัยคูณ หัวหน้าชุดปฏิบัติการรักษาความสงบส่วนแยก จ.ภูเก็ต มณฑลทหารบกที่ 41 นายวิรัชเดช บุญเรืองขาว ปลัดอำเภอเมืองภูเก็ต พ.ต.ท.พงศ์พิชาญ ชยานนท์พิริย สวป.สภ.เมืองภูเก็ต นำกำลังเข้าตรวจสอบจับกุมนักพนันทายผลฟุตบอลในอาคารไม่มีเลขที่ มีป้ายหน้าร้านระบุชื่อ LUCKY try your best soccer here ตั้งอยู่บริเวณ ถ.ตะกั่วป่า ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต หลังจากได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบเล่นพนันทายผลฟุตบอล,จากการตรวจสอบหลังเจ้าหน้าที่ส่งสายเข้าไปปะปนกับนักพนันจนทราบแน่ชัดว่ามีการลักลอบเล่นพนัน โดยด้านหน้าเปิดขายอาหารและเครื่องดื่ม ภายในมีการจัดตั้งโต๊ะเก้าอี้ไว้บริการลูกค้า ด้านในกั้นเป็นห้องโถงขนาดใหญ่และมีการนำโต๊ะเก้าอี้มาจัดเรียงไว้บริการสำหรับนักพนันฟุตบอลนั่งเขียนใบทายผลฟุตบอล (สเต็ป) และมีการกั้นแบ่งพื้นที่เป็นห้องสำหรับเจ้าหน้าที่รับเงินและใบทายผลฟุตบอล เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวได้สร้างความตื่นตกใจให้กับนักพนันที่กำลังนั่งทายผลฟุตบอลเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนักพนันทั้งหมด 14 คน และผู้รับเป็นเจ้าของ 1 คน ทราบชื่อ นายสุทธิพงศ์ สวีวงศ์ อายุ 31 ปี พร้อมของกลางเงินสด 14,000 บาท เครื่องคอมพิวเตอร์ 2 ชุด ใบทายผลพนันฟุตบอลที่มีการกาทายผลแล้วและยังไม่ได้ใช้ รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องไปทำบันทึกที่ อ.เมืองภูเก็ต ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมแจ้งข้อหา นายสุทธิพงศ์ ลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนัน (ทายผลกีฬาฟุตบอลต่างประเทศ) พนันเอาทรัพย์สินโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนักพนัน 14 คน ตั้งข้อกล่าวหาลักลอบเล่นการพนัน (ทายผลกีฬาฟุตบอลต่างประเทศ) พนันเอาทรัพย์สินโดยไม่ได้รับอนุญาต,ทางด้าน จ.ชลบุรี น.ส.ปวัณรัตน์ เหมพิสุทธิ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน อ.พานทอง และเจ้าหน้าที่ทหารกว่า 10 นาย บุกเข้าตรวจค้น อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ภายในหมู่บ้านบุญนคร เลขที่ 77/25 หมู่ 1 ต.บ้านเก่า อ.พานทอง จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบรับแทงพนันฟุตบอลทั้งไทยและต่างประเทศ จึงวางแผนเข้าจับกุม ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองบุกเข้าไปพบนักพนัน 15 ราย กำลังเอาแผ่นโพยมาส่งให้กับ นายพาณิชย์ บุญศรี อายุ 27 ปี ที่อ้างว่าเป็นแค่คนดูแล เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นพบโพยที่มีลูกค้าได้แทงพนันไว้แล้วกว่า 100 แผ่น รวมยอดหลายแสนบาท โทรศัพท์มือถือ 11 เครื่อง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะสำหรับรับ-ส่งแทงพนันออนไลน์ 1 เครื่อง เงินสด 47,000 บาท,สอบสวน นายพาณิชย์ รับสารภาพว่ามีหน้าที่ดูแล รับแทงพนัน โดยมีลูกพี่เป็นคนกรุงเทพฯ มาเช่าตึกแล้วให้มาดูแล โดยเปิดรับแทงพนันบอลมาได้ 1 ปีกว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นพนักงานในนิคมอุตสาหกรรม. | ทหาร มทบ.41 สนธิฝ่ายปกครอง สภ.เมืองภูเก็ต แฝงตัวเข้าโต๊ะบอลที่มีร้านขายอาหารบังหน้า ก่อนแสดงตัวจับกุม 14 นักพนัน ส่วนชลบุรี ฝ่ายปกครอง นำกำลังค้นอาคารพาณิชย์ลอบรับแทงพนันบอล จับ 15 คน ยอดโพยหลายแสน | null | โต๊ะบอล,จับโต๊ะบอล,พนันบอล,ภูเก็ต,ชลบุรี | https://www.thairath.co.th/content/804822 |
ประธานไทยพรีเมียร์ลีก ประชุมโครงการลีกสำรองของไทยพรีเมียร์ ลีก | นายวิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก พร้อมนายวินฟรีด เชเฟอร์ โค้ชทีมชาติไทย นายมาโน่ บุ้คกิ้ง ผู้จัดการทีมฟุตบอลเยาวชน 22 ปี และ 18 สโมสร ร่วมประชุมที่สมาคมฟุตบอล โดยประเด็นหลักเป็นเรื่องของการจัดลีกสำรอง ซึ่งโค้ชวินฟรีด เชเฟอร์ ต้อง การให้จัดเพื่อประโยชน์ของนักเตะทีมชาติไทยเพราะนักเตะที่ได้ลงเกมจะมีความ แตกต่างจากนักเตะที่ได้แต่นั่งเป็นเพียงตัวสำรองไม่ได้ลงเล่นอย่างเห็นได้ ชัดโดยที่ประชุมเพียงกำหนดกรอบเบื้องต้น สำหรับลีกสำรองจะเริ่มต้นในวันที่ 7 กรกฎาคม นักฟุตบอลที่ลงเล่นไม่ต้องลงทะเบียนกับบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก เกมลีกสำรองจะลงแข่งขันหลังจากเกมชุดใหญ่จบลง แต่หากทีมที่พอจะมีงบประมาณจัดในวันต่อไปหลังจากเกมแข่งจบสามารถทำได้เช่นกัน การแข่งขันจะมีการจัดอันดับ และในอนาคตจะมีการหาเงินมาสนับสนุนในลีกสำรองต่อไป ส่วนเรื่องโปรแกรมแข่งขันจะมีการประชุมกันอีกครั้งเพราะต้องการอยากให้จบทุกลีกพร้อมกันในเดือนพฤศจิกายนเพื่อสะดวกต่อการเตรียมทีม และการแข่งขันโตโยต้าลีกคัพจะไม่มีการเลื่อนแม้บางสโมสรจะมีนักเตะที่ต้องไปเล่นให้กับทีมชาติ | การสำรองของสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีกจะเริ่มแข่งขันในวันที่ 7 ก.ค.นี้ มีการกำหนดเบื้องต้นโดยทีมสำรองจะลงเตะหลังจากทีมชุดใหญ่ลงเล่น | กีฬา | ทีมชุดใหญ่,ทีมสำรอง,สปอนเซอร์,ไทยพรีเมียร์ลี | https://news.thaipbs.or.th/content/87887 |
ศาลสั่งจำคุก8ปี เบนซ์ เรซซิ่ง คดีสมคบฟอกเงิน ยกฟ้องคดีค้ายา | เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 7 ก.ย. 61 ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาให้จำคุก 8 ปี เบนซ์ เรซซิ่ง หรือ นายอัครกิตต์ วรโรจน์เจริญเดช สามีของแพท ณปภา นักแสดงและพิธีกร ฐานร่วมกันฟอกเงินเกี่ยวกับยาเสพติดของเครือข่ายบอย นาคคำ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จากกรณีที่มีการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องบอย นาคคำ กว่า 30 ครั้ง และที่อ้างว่ามีการทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ลัมโบร์กินี ราคาหลายล้าน ก็ยังไม่ชัดว่าเป็นการซื้อโดยเบนซ์ ครอบครองและใช้เองทั้งหมดจริงหรือไม่,เพราะทางนำสืบยังฟังได้ว่า บอย นาคคำ ก็เคยนำรถไปใช้และวันที่ซื้อรถก็ไปที่เต็นท์รถ แต่ให้คนอื่นนำเงินให้เบนซ์ไปชำระ ขณะที่ศาลได้ยกฟ้องเบนซ์ ในข้อหาสนับสนุนทำผิดยาเสพติด และให้จำคุกคนละ 24 ปี กับปรับคนละ 400,000 บาท นายสรรเสริญ รสานนท์ หรือ เน็ต และ น.ส.อังสุพร อินา หรือ อุ้ม สามีภรรยา ในความผิดฐานสมคบฟอกเงิน และสนับสนุนนายณัฐพล หรือ บอย นาคคำ ในการรับเงินยาเสพติดมาพักไว้ก่อนเข้าบัญชี เช่น คราวละ 15 ล้านบาท หรือ 8 ล้านบาท อันเป็นการทำผิด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การฟังคำพิพากษาวันนี้ คงมีเพียงครอบครัวของเบนซ์ที่มาร่วมฟังด้วย เช่นเดียวกับญาติของจำเลยที่ 2-3 ส่วน น.ส.แพท ณปภา ภรรยาเบนซ์ และลูกชาย น้องเรซซิ่ง ไม่ได้เดินทางมาที่ศาลแต่อย่างใด. | ศาลอาญา ตัดสินจำคุก 8 ปี เบนซ์ เรซซิ่ง คดีร่วมฟอกเงินเครือข่ายบอย นาคคำ จากการเช่าซื้อรถลัมโบร์กินี แต่ยกฟ้องข้อหาสนับสนุนทำผิดยาเสพติด โดยนมีครอบครัวมาให้กำลังใจ | ข่าว,อาชญากรรม | เบนซ์ เรซซิ่ง,จำคุก 8 ปี เบนซ์เรซซิ่ง,คดีฟอกเงิน,ศาลอาญา,อัครกิตต์ วรโรจน์เจริญเดช,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1371090 |
ฝรั่งเศสเป็นอัมพาต ม็อบประท้วงทั่วประเทศ ต้านแผนปฏิรูปเงินบำนาญ | สำนักข่าวต่างประเทศ,รายงานว่า ชาวฝรั่งเศสแทบทุกสายอาชีพออกมาเดินขบวนประท้วงทั่วประเทศในวันพฤหัสบดีที่ 5 ธ.ค. 2562 เพื่อต่อต้านแผนปฏิรูปการจ่ายเงินบำนาญผู้เกษียณอายุของประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ส่งผลให้การจราจรเป็นอัมพาต โรงเรียนต้องหยุดการเรียนการสอน,ทั้งนี้ ปัจจุบันฝรั่งเศสมีวิธีคำนวณจ่ายเงินบำนาญถึง 42 แบบแตกต่างกันไปในภาคเอกชนและภาครัฐ โดยมีอายุเกษียณและสิทธิประโยชน์ต่างๆ กัน แต่ประธานาธิบดีมาครงต้องการให้การจ่ายเงินบำนาญอยู่ภายใต้ระบบเดียว โดยคำนวณสิทธิประโยชน์จากแต้มที่เก็บสะสมตามวันทำงานแต่ละวัน ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่ประชาชนจำนวนมาก เพราะมองว่า พวกเขาต้องทำงานนานขึ้น เกษียณอายุช้าลง มิเช่นนั้นก็อาจได้เงินบำนาญน้อยลง,ในการประท้วงเมื่อวันพฤหัสบดี มีประชาชนหลากหลายสายอาชีพทั้ง เจ้าหน้าที่โรงเรียน, ครูประถมและมัธยม, เจ้าหน้าที่หน่วยงานขนส่ง, ตำรวจ, พยาบาล, พนักงานโรงพยาบาล, นักกฎหมาย, พนักงานเก็บขยะ, พนักงานไปรษณีย์ และเจ้าหน้าที่ด้านการพลังงาน ออกมาร่วมประท้วงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ,สื่อท้องถิ่นระบุว่า จนถึงช่วงเที่ยงวัน มีผู้ชุมนุมออกมาเคลื่อนไหวทั่วประเทศกว่า 180,000 คนแล้ว ก่อนที่การประท้วงในกรุงปารีสจะเริ่มขึ้นในเวลาประมาณ 14:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ต้องปิดทำการตลอดวัน ด้านสหภาพแรงงาน CGT ระบุว่า คนงานได้ปิดกั้นโรงกลั่นน้ำมัน 7 ใน 8 แห่งทั่งประเทศ ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะน้ำมันขาดแคลนได้ หากการประท้วงยืดเยื้อออกไป,นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าเกิดการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจ โดยตำรวจปารีสจับผู้ชุมนุมอย่างน้อย 25 ราย ส่วนที่เมืองน็องต์ผู้ชุมนุมขว้างปาสิ่งของเข้าใส่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงแก๊สน้ำตาตอบโต้,การประท้วงยังส่งผลกระทบต่อการขนส่งอย่างหนัก จนการจราจรหลายจุดเป็นอัมพาต โดยบริการรถไฟความเร็วสูง TGV และรถไฟข้ามระหว่างเมืองกว่า 90% ถูกยกเลิก ในกรุงปารีสมีรถไฟใต้ดินเพียง 5 จาก 16 สายเท่านั้นที่เปิดให้บริการได้ ขณะที่ผู้ให้บริการรถไฟอย่าง ยูโรสตาร์ และ ตาลิส ยกเลิกการเดินรถจากปารีสไปลอนดอนและกรุงบรัสเซลส์ลง 50% โดยยูโรสตาร์จะลดตารางการเดินรถไฟลงจนถึง 10 ธ.ค.,ขณะเดียวกันมีเที่ยวบินถูกยกเลิกหลายร้อยเที่ยว โดยสายการบินแอร์ฟรานซ์ ยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศของพวกเขา 30% และเที่ยวบินระหว่างประเทศระยะใกล้อีก 10% เนื่องจากเจ้าหน้าที่หอควบคุมการบินออกไปร่วมประท้วงด้วย ส่วนสายการบินต้นทุนต่ำอย่าง อีซีเจ็ต ยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศระยะใกล้รวม 223 เที่ยวบิน รวมทั้งเตือนผู้โดยสารว่าอาจมีความล่าช้าเกิดขึ้นด้วย | ชาวฝรั่งเศสออกมาเดินขบวนประท้วงทั่วประเทศ เพื่อต่อต้านแผนการปฏิรูปการจ่ายเงินบำนาญของรัฐบาล ที่พวกเขามองว่า พวกเขาต้องทำงานนานขึ้นมิเช่นนั้นจะได้รับสิทธิประโยชน์น้อยลง | ข่าว,ต่างประเทศ | ฝรั่งเศส,ประท้วงทั่วประเทศ,ปฏิรูป,เงินบำนาญ,เอ็มมานูเอล มาครง | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1719851 |
เต๋า ทีวีพูล ลั่นไม่ขอโทษ เอกกี้ โวยเรื่องนี้มีคนเสี้ยมอยู่เบื้องหลัง | ,ทำเอาดีเจชื่อดัง อ. โกรธจัด จนต้องโพสต์ฉะ เต๋า ทีวีพูล ผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว จนเรื่องราวเริ่มบานปลาย เพราะ เต๋า ก็ยืนกรานว่าจะไม่ขอโทษ และหน้าที่ของสื่อมวลชน ก็มีสิทธิในการวิพากษ์วิจารณ์บุคคลสาธารณะ,ล่าสุดทางรายการ คุยเช้าโชว์ ทางช่อง ONE เลยไม่พลาดที่จะคว้าตัว เต๋า ทีวีพูล มาเคลียร์เรื่องนี้แบบชัดๆ พร้อมกับประเด็นใหม่ที่ว่า ทางรายการ ที่มีมายา ปลดเต๋า ทีวีพูล ออกจากรายการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว,จุดเริ่มต้น ของเรื่องนี้ มันคืออะไร? คือวันนั้นโปรดิวเซอร์รายการให้เราอ่านข่าวว่า ดีเจคนนี้ใส่ยกทรงเดินในห้าง เราก็บอกไม่มีข่าวอื่นแล้วหรอ พอเราดูภาพปุ๊บ เราแล้วก็วิจารณ์ว่ารูปมันไม่สวย แล้วใช้คำว่าแก่ด้วย ที่เราพูดได้เพราะเขาเป็นบุคคลสาธารณะ แล้วไปใส่ยกทรงเดินในที่สาธารณะแบบนั้น,ไม่ต้องเป็นเราที่วิจารณ์หรอกนะ เพราะคนที่อยู่แถวๆ นั้น ใครเห็นเขาก็ต้องวิจารณ์ คือเขาไม่ใช่ผู้หญิง จะใช้คำว่าสวยก็ไม่ได้ สวยเป็นคำที่ใช้กับคนที่มีมดลูก มีนม แต่ถ้าผมสั้น ไร้นม อารมณ์เกิดหญิง ก็ใช้คำว่าสวยไม่ได้ แล้วภาพของเขาในอดีตก็คือศิลปินบอยแบรนด์, ,ตัวเราเคยรู้จักกับ ดีเจชื่อดัง อ. หรือเปล่า? เราติดตามผลงานเขา เคยชอบวง UHT มาก่อน แล้วเคยคุยกันตอนที่เขาโฟนอินสัมภาษณ์ แต่ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แล้วตอนที่เกิดเรื่องคือเขาโพสต์แล้วก็แท็กมาหา,เราก็ครึ่งหลับครึ่งตื่น อ่านๆ ไป ก็ไม่ได้สนใจอะไร เราก็ลบทิ้ง ไม่ได้ใส่ใจอะไร สักพักก็เป็นเรื่องเลย คืองงว่าทำไมเขาถึงไม่โทรหาเรา โทรหาก็จบแล้วทำไมต้องเอาเราไปโพสต์ในโลกโซเชียล ให้คนด่าเยอะขนาดนั้น,ตอนนี้เขาแท็กมารู้สึกยังไง? เราไม่ได้ใส่ใจสิ่งที่เขาแท็กมา เราเห็นเราก็ลบ เราทำงานมาเป็น 10 ปี จะ 20 ปี มีแนวทางในการนำเสนอข่าวชัดเจน เราต้องการทำเสนออีกด้านของดารา คือการนำเสนอแบบตรงไปตรงมา ดีกว่าเราไปพูดถึงเขาแบบอักษรย่อ ให้เขามาแค้นเรา แต่เขาฟ้องเราไม่ได้ อันนั้นมันน่าเจ็บใจกว่า,คือเราวิจารณ์ได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย แต่สิ่งที่เขาทำ คือเขาด่าเรา เอารูปเราไปโพสต์ มันเกินขอบเขตของกฎหมาย แล้วตอนนี้เราก็ไม่ได้รู้สึกโกรธ แต่มีความรู้สึกว่าเขาไม่ควรเอาพ่อแม่เรามาว่า เรามีการเอารูปเราขึ้นอินสตาแกรม แล้วให้คนเข้ามาถล่ม ซึ่งแบบนี้มันก็ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ชัดเจน,ไม่คิดจะขอโทษแน่นอน เพราะคดีพลิกไปแล้ว? คำว่าขอโทษไม่มีแน่นอนเพราะว่าคดีมันพลิกไปแล้ว เขาเอารูปเราไปขึ้น โดยที่ไม่มีการเซนเซอร์หน้า แล้วคนก็เข้ามาด่าเราเยอะมาก แล้วยังมีการแท็กมาหาเราอีก เพื่อนเราที่เป็นนักกฎหมาย ก็แคปแล้วส่งมาให้ดูบอกว่าคำๆ นี้ที่เขาโพสต์ในไอจี เราสามารถฟ้องร้องเขาได้หมดเลย, , คือตอนนี้ทางตัวเรา จะหยุด หรือดำเนินการต่อ? คือถ้าวันนั้นเขาไม่โพสต์ แล้วขอเบอร์ทีมงาน แล้วโทรมาหาเรา เขาจะได้ยินคำๆ นี้ (คำว่าขอโทษ) แน่นอน แต่พอมันเลยจุดนั้น หลังจากที่เขาโพสต์ เราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้ทำผิดนะ ถามว่าจะเดินหน้าต่อไหม ถ้าเขาหยุด เราก็หยุด เราอยู่ในวงการเดียวกัน,ถ้าเขาหยุด เราก็หยุดแน่นอน แต่ตอนนี้เขาก็หยุดแล้วนะ แต่มันมีตัวเสี้ยมอยู่ข้างๆ จริงๆ เราเคยคุยกับเขา เขาก็เป็นคนน่ารัก สัมภาษณ์เราเรียกเราพี่ทุกคำ แต่มันมีบุคคลที่สามคอยปั่นคอยเสี้ยม แล้วเราก็รู้ตัวด้วยว่าใครเสี้ยมเขาอยู่ เราไม่ได้โกรธ ไม่ได้โกรธเกลียดเขา แต่เขาดันมาโพสต์ขนาดนี้ แล้วเอาพ่อแม่เรามาเกี่ยวข้อง เราว่ามันก็ไม่ถูก ไม่เขายกหูโทรศัพท์มาหาวันนั้น ทุกอย่างก็จะจบ,มีกระแสข่าวว่า เราโดนปลดจากรายการ ที่นี่มายา แล้ว? จริงๆ พอมีข่าวนี้ออกมา เราก็งงเหมือนกัน ทางพี่ต้อยเองบอกว่าให้เราไปคุยกัน ไปเคลียร์กันก่อน แล้วทางผู้ใหญ่บางคนที่อยู่ในช่อง ก็อยากให้เรากลับไปทำงานอย่างเหมือนเดิม คือเราทำรายการหลายช่อง คือเราต้องเรียนตามตรงว่า เราไม่ใช่พนักงานออฟฟิศ เราเป็นฟรีแลนซ์ เราเลยไม่ได้ซีเรียสอะไรเลยตรงนี้เลย. | กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล กรณีมวยถูกคู่ เต๋า ทีวีพูล และ ดีเจชื่อดัง อ. หลังจากที่เต๋า ทีวีพูล ได้วิพากษ์วิจารณ์ ดีเจชื่อดัง อ. หลังจากแต่งตัวเป็นผู้หญิงไปร่วมเดินแบบในงานอีเวนต์ ว่าขี้เหร่ ไม่สวย แก่ ผ่านรายการบันเทิง | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | เต๋า ทีวีพูล,เอกกี้ เต๋า ทีวีพูล,เอกกี้ เอกชัย ดราม่าไอจี,เอกกี้ ทะเลาะ เต๋า ทีวีพูล,เอกกี้ เอกชัย,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1018424 |
อภิสิทธิ์ กราบ พระพุทธรูปหลวงปู่ทา อ้อนอยากได้ ส.ส.โคราชเพิ่ม | วันที่ 1 มี.ค. 62 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค จ.ส.ต.เฉลิม เทียนขุนทด และนายสิทธิพงษ์ ระหาญนอก ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 13 และ 14 จ.นครราชสีมา และคณะ เดินทางไปที่วัดกุดม่วง หมู่ที่ 7 ต.ตะเคียน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พร้อมเข้าไปกราบไหว้หลวงปู่ทา พระพุทธรูปไม้กลายเป็นหิน พระคู่บ้านคู่เมืองที่วิหารหลวงปู่ทา ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ชาวบ้านต่างให้ความเคารพนับถือ,ซึ่งนายรวมดี เมนขุนทด อดีตข้าราชการครูบำนาญ กล่าวถึง หลวงปู่ทา ว่า เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดบ้านกุดม่วง ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี ชาวบ้านที่นี่ได้นำไม้ขนุนมาแกะสลักเป็นรูปเหมือนของท่าน เพื่อให้ชาวบ้านได้กราบไหว้ ไม้ขนุนที่แกะสลักเป็นรูปเหมือนของท่านนั้นได้กลายเป็นหิน ชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าท่านมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง เมื่อชาวบ้านมีปัญหาอะไรก็เดินทางมาขอพร มักจะได้สมความปรารถนาแทบทุกคน ซึ่งนายอภิสิทธิ์และคณะ ได้จุดธูปเทียน วางพวงดอกดาวเรือง เพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกับปิดทอง,จากนั้น นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยคณะ เดินทางเข้าไปพบและกราบนมัสการ พระครูโอภาสถาวรคุณ เจ้าอาวาสวัดกุดม่วง ที่ศาลาการเปรียญวัดกุดม่วง ซึ่งท่านก็ได้ให้พรแก่นายอภิสิทธิ์ว่า ขอให้นายอภิสิทธิ์จงประสบความสำเร็จ สมหวังในการลงสมัครชิงชัยในการรับเลือกตั้ง เพื่อเป็นตัวแทนให้แก่ประชาชนทุกประการ,ต่อมา นายอภิสิทธิ์ และคุณหญิงกัลยา ได้กล่าวกับชาวบ้านที่มารอต้อนรับว่า คณะของตนไม่มีโปรแกรมเปิดปราศรัยใหญ่ที่ด่านขุนทด แต่ก็ตั้งใจมาพบพี่น้องชาวตำบลตะเคียน ในระหว่างทางที่จะเดินทางไปยัง จ.ชัยภูมิ และ จ.ขอนแก่น พร้อมกับกล่าวถึงนโยบายของพรรค ว่าจะแก้ปัญหาความยากจน โดยจะเริ่มดูแลตั้งแต่เด็กต้องเรียนฟรี จนถึงปริญญาตรี และมีงานทำ,นอกจากนี้ ยังชูนโยบายเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ยิ่งกว่ารัฐบาลใดๆ ที่ผ่านมา อีกทั้งยังเชิญชวนประชาชนไปเลือกตั้งมากๆ และให้เลือกดีๆ เพราะกาบัตรครั้งเดียวได้ทั้งคนทั้งพรรค พร้อมกับแนะนำผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 2 คน ให้ประชาชนช่วยสนับสนุนด้วย,ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การเดินทางมาในวันนี้ เพื่อต้องการมากราบนมัสการ หลวงปู่ทา และพระครูโอภาสถาวรคุณ เจ้าอาวาสวัดกุดม่วง ซึ่งถือว่าเป็นประตูสู่อีสาน ก่อนที่จะเดินทางไปจังหวัดชัยภูมิ และปราศรัยหาเสียงช่วยลูกพรรคที่ จ.ขอนแก่น ต่อข้อถาม มั่นใจว่าจะได้ ส.ส.ในโคราชทั้ง 14 เขตหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ก็อยากได้ ส.ส.โคราชเพิ่มมากขึ้น. | อภิสิทธิ์ นำคณะ กราบขอพร พระพุทธรูปหลวงปู่ทา ก่อนช่วยลูกพรรคหาเสียงที่ขอนแก่น อ้อนอยากได้ ส.ส.โคราชเพิ่ม | ข่าว,การเมือง | เลือกตั้ง62,ประชาธิปัตย์,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,ขอนแก่น,ปราศรัย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1508561 |
จับ 2 พี่น้อง อ้าง เป็นผู้กองกับสายตรวจ ได้แล้ว อ่วมเจอ 3 ข้อหาหนัก | รองผบ.ตร. เผย จับ พี่น้อง อ้าง เป็นผู้กอง กับสายตรวจ ตร. ได้แล้ว หลัง ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ ยัน ชาย 2 คนในคลิป ที่ดักค้นกระเป๋าป้า ขู่ยัดยาบ้า ทำร้าย คนที่จะเข้าไปช่วย ไม่ใช่ตำรวจ อ่างเมา คึกคะนอง ตั้ง 3 ข้อหาหนัก ,วันที่ 28 ม.ค.ที่ห้องประชุม ศปก.ตร.ชั้น 20 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร. เป็นประธานการประชุม ศปก.ตร. พร้อมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยัง สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณี มีคลิปแฉกลุ่มชายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอยู่ในอาการมึนเมาสุรา ขณะขอตรวจค้นกระเป๋าประชาชนที่ผ่านไปมาบนถนน โดยมีการขู่ทำร้ายร่างกาย และพยายามยัดยาเสพติด ให้กับบุคคลที่จะเข้ามาช่วยเหลือ โดยเหตุเกิดที่บริเวณสามแยกทางเข้าวัดบ้านเสม็ด ม.12 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 26 มค 61ที่ผ่านมานั้น ,ล่าสุด ตร.สามารถจับกุมตัวชายที่อ้างเป็นตำรวจทั้ง 2 คน เอาไว้ได้แล้ว คือ นายสากิต หวังชอบ อายุ 40 ปี อ้างตัวเป็นผู้กอง และนายวิโรจน์ หวังชอบ อายุ 34 ปี อ้างตัวเป็นสายสืบ โดยทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน อยู่บ้านเลขที่ 68 ม.5 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์,โดยจากสอบปากคำทั้งคู่ รับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริง โดยได้ประกอบอาชีพขายไก่ชน ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำลงไปเพราะเมาจนเกิดความคึกคะนอง เพิ่งทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก เบื้องต้น ตร.ได้แจ้ง 3 ข้อหา ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.145 ฐานแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ , ม.309 ฐานข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจตัองกระทำการนั้น ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ ม.310 ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ,ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 27 ม.ค.61 จากกรณีที่เฟซบุ๊กชื่อ อ้ายนิละ บ่าว ขี้ค้าน ได้แชร์เฟซบุ๊กเสี่ยมอส ซุ้มบิ๊กสุรินทร์ เข้ามายังเพจของไทยรัฐแจ้งข่าว คลิปเป็นภาพเคลื่อนไหว ชายสวมหมวก ใส่เสื้อวอร์ม อ้างว่าเป็นผู้กอง กับชายอีกคนที่คนแรกอ้างว่าเป็นสายสืบ ผู้โพสต์อ้างว่าขอตรวจค้น มีข้อความใต้ภาพว่า เมื่อวานวันที่ 26/01/61 ผมเจอกลุ่มโบกรถสุ่มตรวจกระเป๋าข้างถนน หมู่บ้านเสม็ด ตำบลนอกเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ผมขี่รถตามหลังป้าคนหนึ่ง ซึ่งป้าคนนั้นโดนโบกให้จอดรถ แล้วโดนค้นกระเป๋า ผมเห็นคนกลุ่มนี้เมามาก และอ้างว่า ตัวเองเป็นตำรวจ อีกคนว่าเป็นสายตรวจ ผมก็เลยไปช่วยคนที่ถูกค้นกระเป๋า ผมเลยบอกป้าคนนั้นว่าเขาไม่ใช่ตำรวจและสายตรวจใดๆ ทั้งสิ้น ผมให้ป้าขับรถกลับก่อน เขาล็อกกระชากกระเป๋าผมแล้วบอกทีมเขาให้ยัดยาผม เขาล็อกคอผมแล้วจะทำร้าย มีพี่ชายคน 1 ออกมาช่วยผม ช่วยห้ามไว้แล้วเขาก็ขี่รถหนีไป ฝากพี่น้องช่วยแชร์ด้วยน่ะครับ,ผู้สื่อข่าวจึงตรวจสอบข้อเท็จจริงจาก พ.ต.อ.ยศวัจน์ งามสง่า ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ โดย พ.ต.อ.ยศวัจน์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า บุคคลที่ปรากฏเป็นคลิปในโซเชียลที่อ้างว่าเป็นผู้กองกับภาพชายอีกคนที่ชายดังกล่าวอ้างว่าเป็นสายสืบ จากการตรวจสอบภาพนิ่งและคลิปภาพเคลื่อนไหว บุคคลทั้งสองคนไม่ใช่ตำรวจของ สภ.เมืองสุรินทร์ หรือตำรวจสุรินทร์ และไม่ได้เป็นอาสาตำรวจหมู่บ้านแต่อย่างใด ซึ่งได้ให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่บ้านเสม็ด ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ ตามหาบุคคลในภาพมาสอบสวนหารายละเอียด และตามบุคคลที่โพสต์ในเฟซบุ๊กมาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อสอบสวนหารายละเอียดได้แล้ว หากพบว่าชายในภาพที่อ้างว่าเป็นผู้กองมีความผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | รองผบ.ตร. เผย จับ พี่น้อง อ้าง เป็นผู้กอง กับสายตรวจ ตร. ได้แล้ว หลัง ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ ยัน ชาย 2 คนในคลิป ที่ดักค้นกระเป๋าป้า ขู่ยัดยาบ้า ทำร้าย คนที่จะเข้าไปช่วย ไม่ใช่ตำรวจ อ่างเมา คึกคะนอง ตั้ง 3 ข้อหาหนัก | ข่าว,ทั่วไทย | ชายในคลิป,ผกก.เมืองสุรินทร์,ยันไม่ใช่ตำรวจ,ยัดยาบ้า,ค้นกระเป๋าป้า,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1188660 |
หัวรถจักรขบวนบรรทุกปูนพุ่งตกรางที่ตาคลี รฟท.นำเครนย้ายแล้วไม่กีดขวาง | หัวรถจักรของขบวนรถบรรทุกปูนผง บริษัททีพีไอลากขบวนตู้บรรทุกปูนจากสถานีหินลับ มุ่งหน้าจะไปสถานีบึงพระ เกิดตกรางขณะเข้าสถานีบ้านตาคลี เนื่องจากระบบสับรางมีปัญหา ล่าสุด รฟท.นำเครนยกมากู้รถให้แล้วเมื่อวันที่ 16 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.เอนก ศรีศักดา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ได้รับแจ้งเหตุจากนายเจริญ อุตระไชย นายสถานีรถไฟบ้านตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ว่า มีเหตุขบวนรถดีเซล เป็นรถบรรทุกปูนผง หัวรถจักรติดชื่อ TPIPL หมายเลขหัวรถจักร 70108 เป็นขบวนที่ 609 ลากขบวนตู้บรรทุกปูนจากสถานีหินลับ สระบุรี มุ่งหน้าจะไปสถานีบึงพระ จ.พิษณุโลก มีตู้บรรทุกปูนมารวม 16 ตู้ ขณะมาถึงสถานีรถไฟบ้านตาคลี ได้วิ่งเข้าสู่รางสองเพื่อรอสับหลีกรายงานข่าวแจ้งว่า หลักจากนั้นได้วิ่งออกจากสถานีรถไฟบ้านตาคลี เพื่อมุ่งหน้าสู่นครสวรรค์ วิ่งออกมาได้ 300 เมตร ระหว่างหลักเสาโทรเลขที่ 193/6 เป็นช่วงหัวประแจสับรางเข้ารางหนึ่งตอนเหนือ ปรากฏว่าตัวหัวรถจักรได้วิ่งตรงไม่ออกตรงรางสับ จึงเป็นเหตุให้หัวรถจักรพุ่งออกนอกเส้นทาง ตกรางกระเด็นออกจากขบวนตู้บรรทุก ตัวหัวรถจักรพุ่งลงไปในร่องน้ำ ซึ่งพื้นที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างรางรถไฟรางคู่ หัวรถจักรปักพุ่งลงจมพื้นดินประมาณ 1 เมตร เหตุครั้งนี้การรถไฟได้แก้ไขนำหัวรถจักรมาเปลี่ยนลากจูงตู้บรรทุกปูนวิ่งต่อไปได้ และมีเพียงหัวรถจักรพุ่งลงไปทางด้านตะวันออกเท่านั้นอุบัติเหตุครั้งนี้รถไฟยังสามารถวิ่งต่อไปได้ทุกขบวน ไม่มีผู้รับบาดเจ็บ ต่อมาการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้จัดขบวนรถไฟ รถพิเศษช่วยอันตรายจากสถานีบางซื่อ กทม. มาแก้ไขเหตุการณ์ โดยนำรถเครนขนาด 50 ตัน 2 คัน มาดำเนินการยกหัวรถจักรขึ้นจากหลุมที่ตกราง ขึ้นมาบนรางรถไฟได้เมื่อเวลา 16.30 น.วันเดียวกัน. | หัวรถจักรของขบวนรถบรรทุกปูนผงบริษัททีพีไอลากขบวนตู้บรรทุกปูนจากสถานีหินลับ มุ่งหน้าจะไปสถานีบึงพระ เกิดตกรางขณะเข้าสถานีบ้านตาคลี เนื่องจากระบบสับรางมีปัญหา ล่าสุด รฟท.นำเครนยกมากู้รถให้แล้ว | ข่าว,ทั่วไทย | รถไฟตกราง,หัวรถจักรตกราง,สถานีรถไฟบ้านตาคลี,ประแจสับราง,รถไฟบรรทุกปูนผง,อ.ตาคลี,นครสวรรค์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1891087 |
ยกร่างแก้ไข คำสั่งคสช.53/60 เตรียมเปิดช่องให้การเมืองขยับ | วิษณุ ฟุ้งกฤษฎีการ่างแก้ไขคำสั่งรอแล้ว ให้ คสช.เห็นชอบก่อน คลายล็อกวันที่สองคนพรรคเพื่อไทยคึกจัด แห่มารอยืนยันแต่ไก่โห่ ภูมิธรรม โยน แม้ว-ปู โชว์ตัวญี่ปุ่นเรื่องส่วนตัว วัฒนา ผวาของดสไกป์รดน้ำดำหัวหวั่นถูกยุบพรรค มาร์ค ปลื้มสมาชิกตบเท้าเพียบ องอาจ ไม่สนโมเดล รัฐบาลแห่งชาติ ยังไม่รู้ ลูกชัช เตาปูน อยู่หรือไป นิกร รับข่าวลือ ลูกยอด ชิ่งซบ ภท. วรรณรัตน์ ท้ารบ เสี่ยหนู รักษาฐานโคราช นายกฯปลุก ขรก.ปฏิรูป รับไทยนิยมชี้นำเพื่อชาติ ทุกอย่างชะตาฟ้าลิขิตไว้แล้ว บิ๊กป้อม เมิน มาร์ค เลิกสังฆกรรม คสช.,หลังวันที่ 1 เม.ย. ที่เริ่มคลายล็อกให้พรรค การเมืองเก่าดำเนินการทางธุรการ เรื่องยืนยันความเป็นสมาชิกพรรค พร้อมกับมีเสียงเรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 นั้น ล่าสุดนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุชัดว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ยกร่างปรับแก้คำสั่งดังกล่าวเตรียมรอไว้ก่อนแล้ว,เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจากพรรคเพื่อไทย ในการเปิดรับยืนยันความเป็นสมาชิกพรรควันแรก เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนจำนวนมากมารอตั้งแต่ยังไม่เปิดทำการ ทางพรรคได้จัดเจ้าหน้าที่คอยให้บริการ มีแกนนำ และอดีต ส.ส. หมุนเวียนกันมาพบปะให้คำชี้แจง อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองหัวหน้า นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร.ต.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีต ส.ส.ขอนแก่น พร้อมกันนี้ยังเปิดไลน์ @pheuthaiparty ให้สมาชิกรับรู้ข้อมูลติดต่อสื่อสารระหว่างพรรคกับประชาชน เข้าถึงง่ายและสะดวกมากขึ้น สำหรับวันนี้มีนายวรวัจน์เพียงคนเดียวที่ยื่นเอกสารยืนยันการเป็นสมาชิก ส่วนแกนนำคนอื่นระบุจะมายืนยันในวันที่ 4 เม.ย. ที่พรรคจะเปิดให้สมาชิกเข้ารดนํ้าดำหัวผู้ใหญ่และแกนนำพรรค,นายภูมิธรรมนำกล่าวต้อนรับว่า สมาชิกพรรคเป็นหัวใจสำคัญของประชาธิปไตย แม้กระบวนการที่เกิดขึ้นขณะนี้ยังกะปริดกะปรอย แต่เราผ่านร้อนหนาวมากว่า 10 ปี ยังยืนอยู่อย่างมั่นคงได้ในวันนี้เพราะความโอบอุ้มจากประชาชนที่รักและเชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำ แม้วันนี้ผู้นำหลายท่านต้องระเหเร่ร่อน พวกเราที่ยังอยู่จะทำให้อุดมการณ์ที่เรายึดมั่นปรากฏเป็นจริงให้ได้ ประชาธิปไตยต้องเกิดขึ้นในสังคมไทย ถ้าเขารีบคืนอำนาจให้เลือกตั้งจะเป็นหนทางทำให้ประเทศคลี่คลาย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะเปิดรับการยืนยันสมาชิกทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด วันที่ 4 เม.ย. แกนนำและอดีต ส.ส.จะแสดงตน พร้อมการจัดงานรดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ของพรรค คือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรค พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค แต่ไม่ได้ขออนุญาต คสช. เพราะเชื่อว่าการดำเนินกิจกรรมทางประเพณี ทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาต คสช. ส่วนใครไม่ได้มาในวันนั้นสามารถมาได้ถึงวันที่ 30 เม.ย. ถึงวันนั้นจะชัดเจนว่าใครยังอยู่กับเราบ้าง,วันนี้หากคิดถึงประเทศชาติเป็นหลัก คสช.ต้องถอยออกจากอำนาจ ทหารต้องกลับกรมกอง ปล่อยให้พรรคการเมือง ให้ประชาชนเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย ความจำเป็นของ คสช.หมดไป ให้ประชาชนกำหนดประเทศของเขาเอง พรรคเพื่อไทยคงไม่ขออนุญาตจัดประชุมพรรคกับ คสช. เพราะไม่จำเป็น ต้องขอทีละเรื่อง วันนี้ คสช.ไม่มีความจำเป็นที่จะยืนคำสั่งเดิมๆอีก ควรยกเลิกให้หมด ขอให้ยกเลิกประกาศคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ยิ่งยื้อยิ่งทำให้เข้าใจว่าท่านกำลังขอซื้อเวลา ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสิ่งที่ท่านกำลังคิด พรรคเพื่อไทยจะไม่เลือก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯคนนอกแน่นอน เพราะเรายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ไม่สนับสนุนเผด็จการ ส่วนจะจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น ยังเร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้ นายภูมิธรรมกล่าว,ด้านนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เห็นการตื่นตัวของประชาชนที่อยากเลือกตั้ง ส่วนตัวรู้สึกดีใจ เหมือนสมาชิกได้กลับมาบ้าน แต่ยังไม่เชื่อมั่นว่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะมีการเลือกตั้ง เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่อยู่กับร่องกับรอย เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา,นายภูมิธรรม เวชยชัย ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สองอดีตนายกฯ ว่า นายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกาศชัดเจนว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย แม้ทั้ง 2 คนจะเป็นบุคลากรสำคัญของประเทศ สิ่งที่ทั้งสองแสดงความเห็นถือเป็นทัศนคติส่วนตัว แต่สิ่งที่พรรคเพื่อไทยยืนอยู่ได้ทุกวันนี้ เพราะพลังศรัทธาและความเอาใจใส่ของประชาชน เรายึดมั่นแนวทางประชาธิปไตย ไม่เอานายกฯคนนอก ไม่เห็นด้วยกับการเข้าสู่อำนาจด้วยวิธีพิเศษ เราไม่ปฏิเสธหรือขัดขวางตัวบุคคล ไม่ว่านายกฯหรือใครที่สนใจจะเข้ามาสู่กระบวนการเลือกตั้ง ต้องให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ส่วนกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศกับสมาชิกว่า ถ้าใครสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ไม่ต้องมาอยู่พรรคประชาธิปัตย์นั้น เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้ยินชัดเจนแบบนี้ เราในฐานะนักการเมืองระบอบประชาธิปไตยสนับสนุนจุดยืนเรื่องนี้ พรรคการเมืองต้องร่วมกันถ้าอยากเห็นประเทศมีทางออก,นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 4 เม.ย.นี้ นอกจากจะเป็นวันที่อดีต ส.ส.มายืนยันความเป็นสมาชิกพรรคแล้ว ยังมีกิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ปกติกิจกรรมนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะใช้โปรแกรมสไกป์เข้ามาพูดคุยและให้สมาชิกได้รดน้ำดำหัว แต่ปีนี้จะไม่มีแน่นอน เพราะกิจกรรมนี้เป็นเรื่องของพรรค เราจัดการกันเอง ท่านไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ถามว่าตนหรือสมาชิกพรรคอยากรดน้ำท่านไหม แน่นอนอยู่แล้ว แต่สภาพปัจจุบันมันสุ่มเสี่ยงที่คนอาจนำไปร้องให้มีการยุบพรรคได้ ดังนั้นครั้งนี้เราจึงไม่ได้เชิญท่านมาร่วมด้วย,นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่สมาชิกแต่ละพรรคมายืนยันการเป็นสมาชิกพรรคด้วยความกระตือรือร้น ส่งสัญญาณว่าประชาชนดีใจมากที่ได้กลับมาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการมีส่วนร่วมทางการเมือง หลัง คสช.ยึดอำนาจมาหลายปี ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่สมาชิกพรรคจะมาร่วมกันสร้างให้พรรคเป็นสถาบันการเมือง ที่เป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชน ส่วนเรื่องที่พรรคการเมืองเรียกร้องให้แก้ไขคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 เกี่ยวกับระยะเวลาในการยืนยันสมาชิกพรรค ที่ระบุว่าอยู่ระหว่างการพิจารณานั้น คสช.ต้องแสดงความกล้าหาญในการแก้ไขข้อบกพร่องที่สร้างขึ้นมาเอง ควรยกเลิกและปลดล็อกการเมืองทันที,วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวทางสถานีโทรทัศน์ฟ้าวันใหม่ว่า ขอบคุณผู้ที่มายืนยันความเป็นสมาชิกพรรค แต่เรื่องสำคัญที่สุดคือการเป็นพรรคการเมืองของประชาชนจริงๆ และหลักประกันที่ดีที่สุดคือการมีสมาชิกจำนวนมาก เพื่อให้เสียงสมาชิกมีความหมาย ส่วนการยืนยันสมาชิกผ่านแอพพลิเคชั่นดีคอนเน็กนั้น ระบบแอนดรอยน์อนุมัติแล้ว แต่ไอโฟนยังรอการอนุมัติ ประกอบกับ ยังมีปัญหาการชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่น เพราะธนาคารต้องการมติกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) แต่ยังติดคำสั่งห้ามของ คสช. ส่วนการใช้รถโมบายนั้น ยังไม่แน่ใจว่าจะถูกตีความว่าเป็นกิจกรรมทางการเมืองหรือไม่ จึงไม่เข้าใจว่าที่เราพูดถึงไทยแลนด์ 4.0 พูดถึงเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ เหตุใดจึงทำให้การยืนยันตัวตนเป็นเรื่องยาก,นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีผู้ตรวจการแผ่นดิน เตรียมส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ว่า ต้องขอบคุณผู้ตรวจการแผ่นดินที่เห็นเหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะสิ่งที่ คสช.ทำเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ขอย้ำว่าผู้ตรวจการแผ่นดินควรเสนอให้ คสช. และ สนช. ซึ่งมีอำนาจแก้ไขคำสั่งดังกล่าวด้วย แต่จะส่งหรือไม่ทั้ง คสช.และ สนช. คงไม่ปฏิเสธว่าทราบเรื่องนี้แล้ว ดังนั้นเมื่อทราบแล้วจะไม่ทำอะไรเพื่อรักษาสิทธิประชาชน หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. บอกว่าจะเป็นตัวอย่างของธรรมาภิบาล ก็ไม่ควรเพิกเฉยในกรณีนี้,นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ข้อเสนอนายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย เรื่องรัฐบาลแห่งชาตินั้น เคยมีหลายฝ่ายนำเสนอมาก่อนแล้ว แต่ทางออกที่ดีที่สุดคือ การเดินหน้าต่อตามโรดแม็ปที่ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศไว้กับสังคม คือภายในเดือน ก.พ.2562 จะเกิดประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า เพราะหากยอมรับข้อเสนอจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เท่ากับเรายอมรับว่าจะไม่มีการเลือกตั้งตามโรดแม็ป ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองตามมา ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ถึงความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและในระดับนานาชาติ ย่อมกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศในภาพรวม,นายองอาจกล่าวต่อว่า ส่วนการยืนยันตัวตนของอดีต ส.ส.กทม. จนถึงขณะนี้ยังไม่มีอดีต ส.ส.กทม. คนใดแสดงเจตนาจะไม่มาแสดงตนเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และยังมีเวลาจนถึงวันที่ 30 เม.ย. เมื่อถามย้ำว่านายชื่นชอบ คงอุดม อดีต ส.ส.กทม. บุตรชายนายชัชวาลย์ คงอุดม ผู้ริเริ่มจัดตั้งพรรคพลังท้องถิ่นไท ยังคงอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ หรือลาออกไปร่วมงานกับพรรคใหม่ นายองอาจตอบว่า ยังไม่แน่ใจ แต่ขณะนี้ต้องถือว่ายังอยู่กับพรรคเพราะต้องรอสรุปผลหลังวันที่ 30 เม.ย. ถึงจะทราบว่าใครอยู่ใครไป,ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายนิกร จำนง ผอ.พรรคชาติไทยพัฒนา ได้มายืนยันความเป็นสมาชิกพรรคเป็นคนแรก ต่อนายพิสิษฐ์ พิทยฐากุลเจริญ นายทะเบียนสมาชิกพรรค โดยนายนิกรกล่าวถึงกระแสข่าวนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ลูกชาย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ จะย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทยว่า ได้ยินจากข่าว แต่ยังไม่ได้ยินจากปากนายศิริวัฒน์ วันนี้ยังเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาอยู่ ต้องรอดูภายในวันที่ 30 เม.ย. แต่หากไม่มายืนยันก็ไม่กระทบ อาจมาสมัครใหม่ก็ได้ และพรรคไม่เคยเร่งรัด แนวทางที่นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรควางไว้คือจะไม่ขยายพรรคด้วยความไม่สมัครใจอีก ใครพร้อมก็มาอยู่ เราไม่ได้ไปแข่งวิ่งไล่แย่งนายกฯกับใคร พรรคขนาดกลางแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว เป็นการเมืองเพียงพอ ไม่ทะเลาะกับใคร เป็นพรรคที่เย็นพอควร ใครรบกันจนพอแล้วมาอยู่ในดินแดนที่เป็นกลางได้ ส่วนข้อเสนอของนายเสนาะ เทียนทอง เรื่องรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ คงเกิดขึ้นไม่ได้ และเชื่อว่าการเลือกตั้งคงไม่เกินเดือน ก.พ.2562 หรือขยับไป 2-3 เดือนก็ไม่รู้สึก,ช่วงเช้าที่สำนักงานสาขาพรรคชาติพัฒนา อ.เมืองนครราชสีมา มีการเปิดให้สมาชิกพรรคชาติพัฒนาเข้ายืนยันตัวตนการเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนา โดย นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า สมาชิกพรรคชาติพัฒนาทุกคนที่ร่วมก่อตั้งกันมากว่า 20 ปี วันนี้ยังคงเหนียวแน่นยึดมั่นอยู่กับพรรคไม่เสื่อมคลาย มีอุดมการณ์เข้มแข็งร่วมกันทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองตามวิถีทางระบอบประชาธิปไตยต่อไป พรรคพร้อมส่งผู้สมัครลงทุกเขตเลือกตั้ง มีสมาชิกพรรคอยู่ประมาณ 18,000 คน ส่วนที่ จ.นครราชสีมามีสมาชิก 14,000 คน คือฐานใหญ่ของพรรค ส่วนกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศจะเป็นแม่ทัพนำ ส.ส.พัฒนาเมืองโคราชนั้น พรรคเรายังต้องยึดมั่นตามทิศทางของเราอย่างเข้มแข็งมั่นคงต่อไป เราเป็นพรรคของคนโคราช ก่อตั้งมานานกว่า 20 ปี ไม่หวั่นไหว แม้นายอนุทินจะมีเงินมาก เป็นเรื่องของเขา ที่สำคัญอยู่ที่พี่น้องประชาชนจะตัดสินใจ,วันเดียวกันเวลา 10.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานมอบเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติแก่ข้าราชการพลเรือนดีเด่น เนื่องในวันข้าราชการพลเรือน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวให้โอวาทว่า ข้าราชการ 2 ล้านกว่าคน ถือเป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนประเทศ ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น ต้องรู้ตัวว่าทำดีหรือไม่ เกิดผลสำเร็จหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้นำองค์กรต้องทำงานเกื้อกูลกัน ทั้งหมดอยู่ที่ข้าราชการต้องประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย เป็นคนดี คนเก่ง มีคุณธรรม จริยธรรม สร้างจริยธรรมในองค์กรขึ้นมาให้ได้ อยากให้ทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุยกับประชาชนให้มากกว่านี้ หน้าไม่งอ ต้องคิดว่าถ้าเราเป็นประชาชนว่าเราอยากได้อะไรจากข้าราชการ,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรากำลังเดินหน้ายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ข้าราชการต้องเข้าใจอะไรคือการปฏิรูป วันนี้เป็นการเตรียมการสู่การเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ วันนี้มีการเคลื่อนไหวมีมากมายพอสมควร แต่ขอให้เข้าใจว่ารัฐบาลและคสช.มุ่งมั่นทำให้ประเทศพัฒนา ทุกคนมีหน้าที่ขับเคลื่อนผลักดันยุทธศาสตร์ชาติให้เป็นรูปธรรม นำแนวพระราโชบายของในหลวงรัชกาลที่ 9 เข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา ปัจจุบันนำมาประเดิมใช้ในโครงการไทยนิยมยั่งยืน โครงการนี้ไม่ใช่การหาเสียงหรือประชานิยม ไม่ใช่มีเงินก็แจก ต้องสอนให้คิดเป็น ไม่ได้กล่าวหาใครว่าคิดไม่เป็น แต่เพราะขาดคนชี้นำ วันนี้รัฐบาลชี้นำจริง แต่ไม่ใช่เพื่อตัวเอง หรือเพื่อรัฐบาลและ คสช. แต่เพื่อประเทศ,ทั้งหมดเป็นสิ่งที่รัฐบาลและ คสช. คิด ไม่ใช่เตรียมการไปสู่อนาคตเป็นนักการเมือง เป็นนายกฯ ไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้จริงๆ ทุกอย่างมันเป็นชะตาฟ้าลิขิตมาทั้งหมด ประเทศไทยเราก็ไม่ลบหลู่ใช่ไหม เขาบอกโชคชะตาฟ้าลิขิตทุกคนกำหนดมาแล้ว ถ้าเราเป็นคนดีลิขิตจะเปลี่ยนไปได้ ถ้าเราดีจริงก็พยายามทำกัน ผมรู้หลายคนมีปัญหาพอสมควร ขอให้ข้าราชการมีความมั่นคงต่อไปในระบอบประชาธิปไตยที่มีธรรมาภิบาล จะพยายามทำให้ทุกคนปลอดภัยในการทำงานให้มากที่สุด แต่ทำอย่างไรทุกคนจะไม่พ่ายแพ้ต่อสิ่งที่ไม่ดีที่เคยเกิดขึ้นมาอีก วันนี้ยังจำเป็นต้องใช้กฎหมายทางปกครองอยู่บ้าง วันหน้าไม่ว่าใครก็ตามจะทำให้เกิดขึ้นอีกไม่ได้ เพราะผู้ที่จะมารับโทษทางวินัยคือข้าราชการทุกคนต้องฝืนและเข้มแข็งให้ได้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าว,นายกฯยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในเมื่อทุกคนอยากเลือกตั้ง อยากเดินหน้าตามโรดแม็ป ก็อย่าพูดจาให้เสียหายสร้างความวุ่นวายให้มากนัก ท้ายที่สุดความรับผิดชอบตกอยู่ที่รัฐบาลอยู่ดี รัฐบาลมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นเดินหน้าไปสู่การเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ แต่ต้องไปคิดกันต่อว่าหลังเลือกตั้งไปแล้ว ประเทศจะเป็นอย่างไร ฝากคำถามนี้ไปแล้วกันหวังว่าจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ตนไม่ใช่ศัตรูของท่าน เมื่อถามถึงความชัดเจนเรื่องการยื่นตีความ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า จะส่งกลับให้ สนข.ยื่น เมื่อถามย้ำว่า พรรคการเมืองเรียกร้องให้แก้ไขคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ยังพิจารณาอยู่,พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังเป็นประธานการประชุม สมช. ถึงกรณีการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีต นายกฯ ที่ประเทศญี่ปุ่นว่า ก็ช่างเขาสิ เมื่อถามย้ำว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อตามกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไปถามเขาซิ เขาก็ทำตามกฎหมายครบถ้วนแล้ว,ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 53/2560 คำวินิจฉัยออกมาอย่างไรจะผูกมัดผู้เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตาม แต่เวลานี้ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำวินิจฉัย จึงไม่มีอะไรที่ต้องทำ ส่วนข้อขัดข้องที่บางฝ่ายยกขึ้นมาพอทราบอยู่ มีการหารือเป็นระยะ ก่อนที่ กกต.จะเรียกพรรคการเมืองมาชี้แจงข้อซักถาม,เมื่อวันที่ 28 มี.ค. มีการประชุมร่วมกันระหว่าง กกต. รัฐบาล และ คสช. ทราบข้อสงสัยเหล่านี้ และพบส่วนที่น่าจะเป็นปัญหาอยู่จริงในการปฏิบัติตามคำสั่งหัวหน้า คสช. คิดไว้ว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งที่รวบรวมข้อสงสัยได้ชัดเจน อาจต้องแก้ไข เช่น การประชุมใหญ่ของพรรคการเมือง ที่ต้องมีหัวหน้าพรรคและตัวแทนสาขาเข้าร่วม บางพรรคยังไม่มีตัวแทนสาขา เป็นข้อขัดข้องที่ต้องแก้ไข คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ยกร่างเตรียมไว้ก่อนแล้ว แต่ไม่รู้จะปรับแก้เมื่อใด ถ้ามีต้องผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม คสช.ก่อน,เมื่อถามถึงกรณีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. นายวิษณุ ตอบว่า คงไม่รอให้ถึงวันที่ 12 เม.ย.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ต้องยื่น เพราะเวลาทุกนาทีมีประโยชน์ หากจะส่งศาลรัฐธรรมนูญควรทำโดยเร็ว จะได้รีบพิจารณาวินิจฉัย แม้นายกฯไม่ได้ส่งร่างกลับไปยัง สนช. แต่สมาชิก สนช.สามารถเข้าชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเองได้ในกรอบเวลา 25 วัน ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะกระทบโรดแม็ปนั้น ยืนยันไม่กระทบ เพราะมีวิธีบริหารจัดการ แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เอาเป็นว่าใครเตรียมลงสมัครรับเลือกตั้ง ไปเตรียมหาเสียงให้ทันการเลือกตั้งในเดือน ก.พ.62 แล้วกัน อย่างอื่นคนอื่นจะช่วยจัดการให้ ท่านไม่ต้องจัดการอะไร ถ้ามัวแต่นั่งกังวลสงสัยว่าจะเลื่อนเลือกตั้งหรือเปล่า เดี๋ยวจะไม่ทัน รัฐบาลจะพูดเรื่องโรดแม็ปต่อเมื่อ เห้ย ต้องเลื่อนแล้วเว้ย ถ้ายังไม่เลื่อนก็ยังเป็นไปตามโรดแม็ป,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศไม่สนับสนุนคสช.ว่า เรื่องของเขา พูดอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น ส่วนความเคลื่อนไหวหลังเปิดให้ยืนยันการเป็นสมาชิกพรรค ดูแล้วไม่มีอะไร ก็ว่าไป เมื่อถามถึงกรณี นายเสนาะ เทียนทอง เตือน พล.อ.ประยุทธ์หากมาเป็นนายกฯสมัยหน้า ให้ระวังถูกอภิปรายในรัฐสภา พล.อ.ประวิตรตอบว่า นายกฯทำดีทุกอย่างแล้ว จะไปอภิปรายอะไรท่าน อนาคตยังไม่เกิดก็อย่าไปพูด ท่านทำงานเหนื่อยยากไม่เห็นมองความดีของท่านบ้าง อยากให้ถามเรื่องดีๆบ้าง,นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ภาพการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ญี่ปุ่น ทราบว่าไปในฐานะเพื่อนของอดีตรัฐมนตรีญี่ปุ่น ทราบว่าเป็นวีซ่าที่ใช้ได้ครั้งต่อครั้ง กระทรวงการต่างประเทศได้สอบถามไปแล้ว ขณะนี้ปลัดกระทรวงฯอยู่ระหว่างเยือนประเทศญี่ปุ่นคงได้พูดคุยในเรื่องนี้ด้วย รัฐบาลญี่ปุ่นเข้าใจเรื่องนี้ดีมีความรู้สึกว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เขาเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด เมื่อถามว่านายกฯได้ปรารภเรื่องนี้หรือไม่ นายดอนตอบว่า มีอยู่ แต่ไม่ได้ปรารภโดยตรง แต่แสดงความห่วงใย หลายแห่งเขาเกรงอกเกรงใจรัฐบาลไทยมาก แต่ละโอกาสที่ให้ทั้งสองคนเข้าไป เขาให้ด้วยความหนักใจมาก เท่าที่ทราบเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็หนักใจและเล่าให้เราฟัง แต่ละรัฐบาลเขาหนักใจ,อีกเรื่อง พล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวถึงกรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊กระบุรูปเช็ค 2 ฉบับ และใบนำฝากของธนาคารว่าเป็นชื่อ พล.อ.เปรม จำนวนเงิน 250,000 บาท มีลายเซ็น พล.อ.เปรม เซ็นชื่อกำกับว่าให้นำเงินฝากเข้าบัญชีมูลนิธิฯ ส่วนเช็คอีกใบสั่งจ่ายเงินสดเข้าบัญชี พล.ร.ท.พระจุณณ์ ตามประทีป อดีตนายทหารคนสนิทของ พล.อ.เปรม โดยระบุว่าเป็นเงินก้อนเดียวกันกับที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินคดีตนเองในข้อหาฟอกเงินว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นนานแล้ว เจตนาของผู้บริจาคต้องการบริจาคเข้ามูลนิธิฯ แต่เช็คใส่ชื่อ พล.อ.เปรม ซึ่ง พล.อ.เปรมได้ส่งเช็คบริจาคดังกล่าวเข้ามูลนิธิฯ ไม่ได้นำมาใช้ส่วนตัว เรื่องนี้ดีเอสไอตรวจสอบแล้ว ยืนยันว่าเงินดังกล่าวได้ส่งต่อเข้าการกุศลจริง ไม่ได้นำมาใช้ส่วนตัว,ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองทัพบกว่า วันเดียวกันนี้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ลงนามในคำสั่งกองทัพบก ปรับย้ายนายทหารระดับผู้บังคับการกรม และรองนายพล จำนวน 113 ตำแหน่ง มีตำแหน่งสำคัญ อาทิ พ.อ.ณัฏฐพงศ์ อัศวินวงศ์ เป็น ผบ.ร.112 พ.อ.ปัญญา ตั้งความเพียร เป็น ผบ.ร.12 รอ.พ.อ.สุทธิชัย ศรลัมพ์ เป็น ผบ.ร.21 รอ. พ.อ.บุญสิน พาดกลาง เป็น ผบ.ร.3 พ.อ.สมบัติ จินดาศรี เป็น รอง ผบ.พล.ม.3 พ.อ.ชายธนัญชา วาจรัต เป็น ผบ.ม.6 พ.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ปาณิกบุตร เป็น ผบ.ร.17 พ.อ.สุรเทพ หนูแก้ว เป็น รอง ผบ.พล.ร.5 พ.อ.วรจิตร ศาสตร์ศิลป์ เป็น ผบ.ร.152 พ.อ.เสนีย์ ศรีหิรัญ เป็น รอง ผบ.พล.ร.5 พ.อ.ธิวา แดหวา เป็น รอง ผบ.พล.ร.15 และที่ฮือฮาคือย้าย พ.อ.สมเดช โยธา รอง ผบ.มทบ.46 อดีตนายทหารด้านการข่าวเกี่ยวกับขบวนการบีอาร์เอ็น เป็น รอง ผบ.บชร.4 พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา เป็น รอง ผบ.มทบ.46 พ.อ.ธนภัทร นาคชัยยะ เป็น เสธ.พล.รพศ.1 พ.อ.สุวัตร์ โตเสวก เป็น เสธ.พล.รพศ.1 พ.อ.เดชา ศรีมงคล เป็น ผบ.รพศ.2 พ.อ.กอบกิจ ชูประสิทธิ์ เป็น รอง ผบ. พล.ปตอ. พ.อ.นรินทร์ ชุ่มกมล เป็น เสธ.พล.ปตอ.,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุม ครม.วันที่ 3 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. จะเป็นประธานเปิดตัวโครงการ สายตรงไทยนิยม ซึ่งเป็นช่องทางรับเรื่องร้องทุกข์ รับฟังความคิดเห็น และชี้แจงประเด็นสำคัญ ผ่านเฟซบุ๊ก และแอพพลิเคชั่นทั้งในระบบไอโอเอส และระบบแอนดรอยด์ ตามช่องทางต่างๆ อาทิ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นแอพพลิเคชั่น police I lert U แจ้งเบาะแสเหตุด่วนเหตุร้าย 191 หรือสายตรงศูนย์ดำรงธรรม 1567 ของกระทรวงมหาดไทย และศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ สายด่วน 1299 ของ คสช. ภายในงานนายกฯจะร่วมเฟซบุ๊กไลฟ์สายตรงไทยนิยม ตอบปัญหาประชาชนด้วย | ปชป.-พท.ไล่บี้ คสช.คายอำนาจ อภิสิทธิ์-ภูมิธรรม จี้โละคำสั่งคสช.ที่ 53/60 เลิกลิดรอนสิทธิเสรีภาพฝ่ายการเมือง บิ๊กตู่ บอก พิจารณาอยู่ ขู่อยากเลือกตั้งอย่าทำวุ่นวาย | ข่าว,การเมือง | เลือกตั้ง,กฤษฎีการ่างแก้ไขคำสั่ง คสช.,กฎหมายเลือกตั้ง,พรรคการเมือง,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1245972 |
อาจารย์แพทย์ มข. ย้ำล้างไต บัตรทอง เน้นเข้าถึง แม้ถูกเปรียบเป็นเสื้อโหล ก็ดีกว่าไม่มีให้ใส่ | อาจารย์คณะแพทย์ ม.ขอนแก่นชี้ล้างไตทางช่องท้2 ส.ค.2560 รายงานข่าวแจ้งว่า รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเปิดเผยว่า ในระยะที่ผ่านมามีนักวิอย่างไรก็ตาม ในมุมมองส่วนตัวคิดว่าการมีเสื้รศ.นพ.สมศักดิ์ ยกตัวอย่าง เรื่องการล้างไตทางช่องท้อง ในอดีตสมัยที่ตนเป็นนักศึสามีผู้ป่วยถามผมว่าการรักษานี้รศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า หลังจากรักษาไปได้2ปี เงินเก็บสะสม5ล้อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปอีก1ปีผมจำภาพทุกภาพทุกเหตุการณ์นี้รศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ด้วยเหตุนี้คณะแพทย์ขอนแก่นจึเรื่องไต ผมคิดว่าตอนนี้อยู่ในช่วงแรก ซึ่งเราคงเน้นการเข้าถึงระบบบริรศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในฐานะที่เป็นแพทย์คนหนึ่งแม้ผมคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือ1. | อาจารย์คณะแพทย์ ม.ขอนแก่นชี้ล้างไตทางช่องท้องช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการ-ลดภาวะล้มละลายทางการเงิน แม้เปรียบเหมือนเสื้อโหลก็ดีกว่าไม่มีใส่เลย ย้ำระยะแรกต้องเน้นการเข้าบริการถึงก่อน | คุณภาพชีวิต | บัตรทอง,ล้างไต,สมศักดิ์ เทียมเก่า,หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ | https://prachatai.com/journal/2017/08/72639 |
ล่า2โจ๋ทมิฬ-ลวงจี้ แทงโชเฟอร์สาหัส เชิดแท็กซี่เผ่นหนี | ลวงแท็กซี่แทงโหดชิงรถข้ามจังหวัด วายร้าย 2 คนโบกจากตลิ่งชันให้ไปส่งที่นครปฐม สั่งขับเข้าไปในที่เปลี่ยวแต่แท็กซี่ไหวตัวจะเลี้ยวกลับเลยถูกรุมทำร้ายใช้มีดกะซวกปางตายก่อนถีบลงรถแล้วขับรถหนี เหยื่อเดินโซเซเลือดโซมกายขอความช่วยเหลือชาวบ้านนำส่ง รพ. ภายหลังพบรถถูกจอดทิ้งที่ห้างโลตัส สาขานครชัยศรี,คนร้ายสวมบทผู้โดยสารลวงแท็กซี่มาชิงทรัพย์รายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ธ.ค. ร.ต.ท.ปิยศักดิ์ ราชาวงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งจาก รพ.ศูนย์นครปฐม ว่า มีเหตุคนขับรถแท็กซี่ถูกแทงบาดเจ็บสาหัส และคนร้ายชิงเอารถไป ส่งมารักษาตัวที่ รพ. หลังรับแจ้งรีบรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ เดินทางไปสอบสวนในห้องฉุกเฉินของ รพ. พบแพทย์และพยาบาลระดมช่วยเหลือนายกิติศักดิ์ บัวงาม อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 949 หมู่ 1 ซอยเทศบาล 4 ต.ท่าข้าม อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดเข้าที่ใต้ราวนมซ้าย 1 แผล และมือซ้ายถูกคมมีดบาดเป็นแผลเหวอะหวะ จากการสอบถามชาวบ้านที่นำคนเจ็บส่ง รพ.ทราบว่า เห็นนายกิติศักดิ์ร่างกายเปรอะไปด้วยคราบเลือด เดินโซเซมาจากถนนเลียบทางรถไฟ กรมการสัตว์ทหารบก ต.บ่อพลับ อ.เมืองนครปฐม ล้มลุกคลุกคลาน จึงเข้าไปช่วยเหลือนำส่ง รพ.,ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำนายกิติศักดิ์ที่ยังพอให้การได้ว่า ขับแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีขาวแดง ทะเบียน ทว 8212 กรุงเทพมหานครของบริษัท สหกรณ์แท็กซี่เพชรเกษม จำกัด ก่อนเกิดเหตุขับรถวนเวียนอยู่ในเขตตลิ่งชัน กทม. ได้มีชาย 2 คน อายุประมาณ 20 ปี โบกเรียกให้ไปส่งที่ จ.นครปฐม โดย 1 ใน 2 คนร้ายใส่เสื้อลายขาวดำนั่งคู่ด้านหน้ากับตน รับอาสาเป็นคนบอกทาง ส่วนอีกคนใส่เสื้อคลุมหนังสีดำนั่งเบาะด้านหลังคนขับแท็กซี่เหยื่อโจรให้การอีกว่า เมื่อรถมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายที่นั่งคู่คนขับได้บอกให้เลี้ยวเข้าทางเปลี่ยวต้นไม้ทึบ แต่ตนเห็นท่าไม่ดีจะเลี้ยวรถกลับ คนร้ายที่นั่งตอนหลังได้ล็อกคอไว้ แล้วชายนั่งหน้าก็ชักมีดแทงทันที ตนเลยเหยียบเบรกรถเปิดประตูเพื่อจะวิ่งจากรถ คนร้ายที่นั่งหน้าเลยถีบให้ตกรถแล้วขับรถหลบหนีไป จากนั้นเดินโซซัดโซเซออกมาจากที่เกิดเหตุเพื่อขอความช่วยเหลือ จนชาวบ้านพาส่งโรงพยาบาล,ต่อมาเวลา 12.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.ภานุทัต เหลืองสัจจกุล สว.สส.สภ.เมืองนครปฐม ไปตรวจสอบที่บริษัท สหกรณ์แท็กซี่เพชรเกษม จำกัด กทม. ทราบว่ารถแท็กซี่ที่คนร้ายชิงเอาไปนั้นมีการติดตั้งระบบจีพีเอส จึงตรวจสอบจับสัญญาณหารถแท็กซี่ของนายกิติศักดิ์ พบว่ารถถูกนำมาจอดทิ้งที่ห้างเทสโก้ โลตัส สาขานครชัยศรี ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี ตรวจสอบภายในรถรอยคราบเลือดติดกระเซ็นตามเบาะและมีการรื้อค้นข้าวของในรถกระจุยกระจาย และยังพบมีดปลายแหลมวางเบาะหลัง 1 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำรถไปเก็บไว้ที่ สภ.เมืองนครปฐม เพื่อรอเจ้าหน้าที่วิทยาการและกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบหาหลักฐานมัดตัวคนร้าย พร้อมประสานกับห้างเทสโก้โลตัส ขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดดูการเข้าออกของรถเพื่อตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป | ลวงแท็กซี่แทงโหดชิงรถข้ามจังหวัด วายร้าย 2 คนโบกจากตลิ่งชันให้ไปส่งที่นครปฐม สั่งขับเข้าไปในที่เปลี่ยวแต่แท็กซี่ไหวตัวจะเลี้ยวกลับเลยถูกรุมทำร้ายใช้มีดกะซวกปางตายก่อนถีบลงรถแล้วขับรถหนี เหยื่อเดินโซเซเลือดโซมกาย | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า1,ล่อลวง,แท็กซี่,ชิงทรัพย์,นครปฐม,กิติศักดิ์ บัวงาม,แทง | https://www.thairath.co.th/news/local/470457 |
ตำรวจชลบุรีพบหญิงสูงอายุมีอาการหลงลืมตามหาญาติ | ตำรวจภูธรสัตหีบ จังหวัดชลบุรี นำตัวนางส้ม ศรีมงคล อายุประมาณ 80 ปี มาดูแล พร้อมสอบถามข้อมูลเพื่อช่วยติดตามหาญาติ หลังจากแม่ค้าคนหนึ่งหน้าสถานีตำรวจภูธรสัตหีบพบนางส้มนั่งอยู่เพียงลำพังตั้งแต่ช่วงเช้า และมีลักษณะอ่อนเพลีย เพราะไม่ได้ทานอาหาร และน้ำจึงเข้าช่วยเหลือพามาส่งตำรวจเจ้าหน้าที่สอบถามนางส้มซึ่งมีอาการหลงลืม เบื้องต้นอ้างว่าถูกหลอกมาจากจังหวัดระยอง โดยจำได้เพียงว่าอาศัยอยู่กับบุตรชายคนโต ก่อนเกิดเหตุบุตรชายออกไปขายแตงโมกับลูกสะใภ้ ตัวจึงอยู่บ้านเพียงลำพังจากนั้นมีหญิงสาวหน้าตาดี ผมยาว ลักษณะผอมสูง ขี่รถจักรยานยนต์มาที่หน้าบ้าน และบอกว่าจะพาไปเที่ยว และมาส่งกลับบ้านในตอนเย็น จึงหลงเชื่อนั่งซ้อนรถออกมาตามถนนสุขุมวิทประมาณ 40 กิโลเมตร ก่อนจะนำมาส่งทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจขณะที่ตำรวจระบุว่า ได้ตรวจสอบรายชื่อนางส้มเพื่อติดตามไปยังที่อยู่ แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบในทะเบียนราษฎร์ได้ จึงประสานสื่อมวลชน ให้ช่วยประชาสัมพันธ์ติดตามญาติส่วนสาเหตุยังไม่แน่ชัดว่าเกิดจากโรคหลงลืม หรือถูกล่อลวงมา ซึ่งหากผู้ใดรู้เบาะแสของญาติหญิงชราคนนี้ ติดต่อให้ข้อมูลได้ที่สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ | ตำรวจจังหวัดชลบุรีพบผู้สูงอายุหญิงคนหนึ่ง มีอาการหลงลืมอ้างว่าถูกหลอกมาจากจังหวัดระยอง และนำมาปล่อยทิ้งไว้หน้าสถานีตำรวจ ประกาศตามหาญาติติดต่อรับตัวกลับ | ภูมิภาค | ชลบุรี,ตามหาญาติ,ตำรวจ,ประกาศ,หญิงสูงอายุ | https://news.thaipbs.or.th/content/102651 |
แม่น้องเกด-พ่อน้องเฌอ ร่วมรำลึกวัดปทุม คัดค้านยกคำร้องอภิสิทธิ์ | เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของ น.ส.กมลเกด อัคฮาค หรือน้องเกด พยาบาลอาสาที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ บิดาของ นายสมาพันธ์ ศรีเทพ หรือน้องเฌอ ผู้เสียชีวิตที่ถูกยิงภายในซอยรางน้ำ รวมถึงกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตเหตุสลายการชุมนุมปี 2553 ตัวแทนกลุ่มพลเมืองโต้กลับ รวม 4 คน จัดกิจกรรม สู้เพื่อความยุติธรรม ที่ลานวัดปทุมวนาราม หลังไม่เห็นด้วยกับกรณี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (หรือ ป.ป.ช. มีมติให้ยกคำร้องขอถอดถอน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กรณีสั่งสลายการชุมนุม ปี 2553,โดย นางพะเยา เปิดเผยว่า ตนเชื่อว่าดวงวิญญาณทุกดวง ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 2553 จะต้องเป็นกำลังใจในการต่อสู้ครั้งนี้ เพื่อที่จะนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้,ด้าน บิดาของน้องเฌอ เปิดเผยว่า ตามมติของ ป.ป.ช. ที่ยกเลิกคำร้องขอถอดถอน นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพนั้น ทางญาติของผู้เสียชีวิต ได้ตั้งเจตนารมณ์ร่วมกันว่าจะต่อสู้เพื่อความยุติธรรม โดยในวันนี้จะเดินเท้าจากลานวัดปทุมวนาราม ผ่านห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ผ่านหน้าหอศิลป์ เลี้ยวขวาเข้าถนนเพชรบุรี ผ่านหลานหลวง เข้าสู่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว และจะมีการจุดเทียนรำลึก พร้อมแถลงเจตนารมณ์ ยืนยันเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ถึงที่สุด,พล.ต.ต.ทรงพล วัฒนะชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เปิดเผยว่า การรักษาความปลอดภัย ได้มีกำลังตำรวจกว่า 150 นาย วางกำลังอย่างเข้มงวด เบื้องต้นจะมีการเจรจาและอธิบายว่า พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ จะต้องควบคุมตัวหากมีการชุมนุมเกิน 5 คน ซึ่งหากยืนยันว่าจะมีการเคลื่อนไหว จะต้องมีมาตรการในการรับมือ,ทั้งนี้จะยึดหลักการเจรจา จะไม่มีการใช้ความรุนแรง หรือใช้กำลังจากเจ้าหน้าที่ แต่จะมีการบันทึกภาพเคลื่อนไหวไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตามการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ไม่ถือว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ เนื่องจากผู้ทำกิจกรรมมีเพียง 4 คนเท่านั้น ส่วนการจัดกิจกรรมที่จะมีการเดินจากลานวัดปทุมวนารามไปที่อนุสรณ์ 14 ตุลา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีการจัดกำลัง เพื่อดูแลความเรียบร้อย ระหว่างทางด้วย พล.ต.ต.ทรงพล กล่าว | แม่น้องเกด-พ่อน้องเฌอ ร่วมรำลึกวัดปทุมฯ ค้านยกคำร้องอภิสิทธิ์ สั่งสลายการชุมนุม จนท. ยึดหลักการเจรจา ไม่ใช้ความรุนแรง รองโฆษก ตร. เผย พ.ร.บ.การชุมนุม ต้องรวมตัว 5 คนขึ้นไป ม็อบมาแค่ 4 คน ถือว่าไม่ผิด พ.ร.บ. | null | ค้านยกคำร้องอภิสิทธิ์,สลายการชุมนุม,แม่น้องเกด,พ่อน้องเฌอ,ร่วมรำลึกวัดปทุมฯ,พะเยาว์ อัคฮาด,กมลเกด อัคฮาค,พันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ,สมาพันธ์ ศรีเทพ,สหลายการชุมนุมปี53,ปทุมวนาราม,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/559048 |
กัปตันบุรีรัมย์ RoV ชี้ คว้ารองแชมป์ AIC คือประสบการณ์ที่ล้ำค่า | การแข่งขันอีสปอร์ต RoV รายการชิงแชมป์โลก ศึก AIC 2019 ที่ทรูไอคอนฮอลล์ ไอคอนสยาม เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ Buriram United RoV ทีมแชมป์โปรลีกของไทย ที่ประกอบด้วย สรรเพชร มารัตน์ (FirstOne) กัปตันทีม, สรวิชญ มหาวนากูล (Isilindilz), วัชรนันท์ ถาวร (Summer), อนุรักษ์ แสงจันทร์ (NuNuu), สถิตธิราชย์ เชษนรงค์ (Overfly) และพฤทธิ์ พรรัตนพิทักษ์ (Difoxn) ต้องดวลกับ TEAM FLASH แชมป์ AWC 2019 จากเวียดนาม,โดยการแข่งขันแข่งกันในระบบ 4 ใน 7 เกม และการเลือกฮีโร่เป็นแบบโกลบอล แบน-พิก (ไม่สามารถเลือกตัวซ้ำกับที่ฝ่ายตัวเองเลือกไปแล้วได้) ผลปรากฏว่า ปราสาทสายฟ้า ที่ได้เข้าร่วมในระดับอินเตอร์เป็นครั้งแรก ไม่สามารถต้านทานประสบการณ์ และการเล่นที่แข็งแกร่งของทีมระดับโลกได้ เป็นฝ่ายพ่าย TEAM FLASH ไป 1-4,ทำให้ TEAM FLASH คว้าแชมป์ AIC 2019 ไปครอง ทำให้ยอดทีมจากเวียดนาม กลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์โลก 2 รายการติดต่อกัน พร้อมกับรับเงินรางวัล 200,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 6 ล้านบาท ส่วนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้รองแชมป์ รับ 110,000 เหรียญ หรือราว 3.3 ล้านบาท,นอกจากนี้ 2 นักกีฬาของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อาร์โอวี ยังคว้ารางวัล Best Line Up ได้แก่ NuNuu ในตำแหน่ง MID LANE และ Difoxn ในตำแหน่ง SIDE LANE รับรางวัลได้คนละ 1,600 เหรียญสหรัฐ หรือราว 48,000 บาท ส่วน NuNuu ยังคว้าแชมป์โลก ในประเภท 1vs1 มาครองได้อีกด้วย รับเงินรางวัล 5,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 150,000 บาท,โดย FirstOne สรรเพชร มารัตน์ กัปตันทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อาร์โอวี เปิดเผยว่า ถึงแม้เราจะพ่ายแพ้ในเกมนี้ แต่ก็ยังรู้สึกดีใจที่เรามาได้ไกลถึงการเป็นรองแชมป์ AIC ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทีมของเราลงแข่งขันในระดับอินเตอร์ แต่ลึกๆ แล้วก็ยังมีแอบรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยที่รอบชิงชนะเลิศเราเลือกใช้แผนที่ไม่ดีเท่าที่ควร เราทำการบ้านกันอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังทำการบ้านได้ไม่ดีพอกับการเจอทีมที่แข็งแกร่งอย่าง TEAM FLASH,หลังจากนี้พวกเราคงต้องกลับไปทำแผนการเล่นให้หลากหลายขึ้น และรัดกุมมากขึ้น ในซีซั่นหน้าของศึกโปรลีก พวกเราจะนำประสบการณ์มาแก้ไข มาดูจุดที่ทำกันผิดพลาด เพื่อก้าวไปคว้าแชมป์โปรลีกซีซั่นหน้ามาครองให้ได้อีกครั้ง เพื่อการันตีการไปเล่นในศึกชิงแชมป์โลกอย่าง AWC 2020,ด้าน NuNuu อนุรักษ์ แสงจันทร์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทุกคนทำเต็มที่แล้ว มันเป็นประสบการณ์ที่เราต้องเก็บไว้และเอาไปพัฒนาต่อในปีหน้า ต้องบอกว่าค่อนข้างผิดหวังกับผลการแข่งขันที่ออกมา เพราะเราตั้งความหวังไว้สูง แต่ทุกคนในทีมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะพวกเราทุกคนก็ทำเต็มที่แล้ว | สรรเพชร มารัตน์ หรือ FirstOne กัปตันทีมของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อาร์โอวี (RoV) ชี้ทีมได้ประสบการณ์หลายอย่าง จากการคว้ารองแชมป์ AIC 2019 | กีฬา,E-Sport | ROV,บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อาร์โอวี,อี-สปอร์ต,FirstOne,AIC 2019 | https://www.thairath.co.th/sport/esport/1714556 |
เศร้าครูสาวที่ศูนย์บ้านเด็ก อ.แม่แจ่ม ถูกฟ้าผ่าตาย ส่วนเพื่อนครูบาดเจ็บ | เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2563 พ.ต.อ.ธนเดช ประสานเสียง ผกก.สภ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรณีเกิดฟ้าผ่าที่ศูนย์เด็กบ้านถวน ต.บ้านทับ อ.แม่แจ่ม ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และทำการสอบสวนแล้วในเช้าวันที่ 14 พ.ค.นี้ เหตุการณ์ฟ้าผ่าครูมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บนั้นเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.30 น. วันที่ 13 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุมีการนำผู้ถูกฟ้าผ่า มีผู้บาดเจ็บ ถูกนำส่ง รพ.แม่แจ่ม แต่ไม่ได้แจ้งให้กับตำรวจ ตอนเช้าทาง อบต.บ้านทับ ได้แจ้งมายังตำรวจ จึงได้ให้พนักงานสอบสวนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วจากการรายงานของพนักงานสอบสวน สภ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ แจ้งมาว่า มีเหตุฟ้าผ่าครูเสียชีวิตและบาดเจ็บ ที่ศูนย์เด็กเล็กบ้านถวน ต.บ้านทับ อ.แม่แจ่ม ด้วยหน่วยกู้ชีพฯ อบต.บ้านทับ พบว่าในศูนย์เด็กฯ มีร่างผู้บาดเจ็บ 2 ราย ทราบชื่อ นางจุฑามาศ สมสัตย์ หรือ ครูนก อายุ 29 ปี และครูจ๋า หรือ ว่าที่ร้อยตรีแสงจันทร์ วารีทรงไพรกุล อายุ 29 ปี ครูอัตราจ้าง ศูนย์เด็กเล็กบ้านถวน จึงรีบนำตัวส่ง รพ.แม่แจ่ม และเสียชีวิตในเวลาต่อมา 1 ราย ชื่อนางจุฑามาศเบื้องต้นทราบว่า ขณะที่ครูนก จุฑามาศ พร้อมด้วย ครูจ๋า เพื่อนครูในศูนย์เด็กบ้านถวนกำลังทำแผนการเรียนการสอนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่นั้น ได้เกิดฝนตกปรอยๆ และฟ้าผ่าเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ครูนกถูกแรงอัดจากสายฟ้าผ่าเสียชีวิตคาที่ ส่วนครูจ๋าได้รับบาดเจ็บดังกล่าวนางสุนันทา สมสัตย์ อายุ 43 ปี แม่ของครูนก กล่าวว่า ครูนกเป็นลูกสาวคนโต ตอนที่ส่งเรียนที่สถาบันราชภัฏเชียงใหม่ ต้องรับจ้างหาเงินส่งลูกเรียน จนกระทั่งเรียนจบเป็นครูอัตราจ้างที่ศูนย์เด็กบ้านถวน และได้แต่งงานกับนายณรงค์ ศรีสุวรรณ มีอาชีพทำการเกษตร มีบุตรชาย 1 คน ชื่อ น้องปอโต้ อายุ 2 ขวบครูนก ถือเป็นเสาหลักของครอบครัว เพราะฐานะมีความยากจน เป็นครูที่ขยันมาก และจะทำอาหารกับครูจ๋าให้เด็กๆ ได้รับประทานกันโดยไม่ได้จ้างแม่ครัวทำ เพื่อนำเงินงบประมาณที่เหลือไปจัดซื้อสิ่งของที่จำเป็นในศูนย์เด็ก ครูนกจึงเป็นที่รักของเด็กๆ และผู้ปกครอง เมื่อสูญเสียครูนกไป ครอบครัวต้องเดือดร้อนมาก ขณะนี้ศพได้ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านมนนาใหม่ ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่มสำหรับกำหนดการคืนวันที่ 14 พ.ค.2563 ทางคณะครูเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรม คืนวันที่ 15 พ.ค.2563 อบต.บ้านทับ เป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรม และวันที่ 16 พ.ค.2563 เวลา 13.00 น. เคลื่อนศพสู่สุสานบ้านป่าเท้อล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ครูจ๋า ว่าที่ร้อยตรีแสงจันทร์ วารีทรงไพรกุล อายุ 29 ปี ครูอัตราจ้าง ศูนย์เด็กเล็กบ้านถวน ต.บ้านทับ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ กล่าวถึงเหตุการณ์ตอนฟ้าผ่าลงศูนย์เด็กเล็กบ้านถวน เป็นเหตุให้ ครูนก เสียชีวิตว่าเมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. วันที่ 13 พ.ค.2563 มีฝนตกปรอยๆ ขณะที่กำลังเตรียมแผนการเรียนการสอนในศูนย์เด็กเล็กอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยหันหน้าเข้าหากัน โดยมือถือของครูนกได้เสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์ ส่วนของครูจ๋าได้วางอยู่ใกล้ตัว ทันใดนั้นมีเสียงดังตูม ตอนแรกเข้าใจว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ระเบิดจนร่างทั้งสองคนกระเด็น(ภายหลังทราบจากชาวบ้านบอกว่ามีเหตุฟ้าผ่าที่หน้าศูนย์เด็กเล็ก)ครูจ๋า กล่าวต่อว่า ตอนนั้นมืดตึ้บ หูอื้อ เจ็บที่ขาด้านขวา และได้ยินเสียงครูนกว่า จ๋า ไม่ไหวแล้ว พูดได้แค่นี้ก็หมดสติไป แล้วเธอจึงรีบออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านใกล้ศูนย์เด็กเล็ก นำตัวเธอและครูนกส่งรพ.แม่แจ่ม และทราบว่าครูนกได้เสียชีวิตแล้ว ขณะนี้อาการของ ครูจ๋า ปลอดภัยแล้ว ทางโรงพยาบาลได้อนุญาตให้มาพักฟื้นที่บ้านทุยใต้ ต.ปางหินฝน อ.แม่แจ่มด้านพนักงานสอบสวน สภ.แม่แจ่ม ได้เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุในศูนย์เด็กเล็กบ้านถวน พบว่ามีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหันหน้าเข้าหากัน มีเอกสารวางที่พื้นกระจัดกระจาย ไม่พบร่องรอยสายไฟไหม้จากไฟฟ้าช็อต จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน และในช่วงเวลาเดียวกันทาง นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ นายอำเภอแม่แจ่ม ได้เดินทางมาที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ครูนก ที่บ้านมนนาใหม่ ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม ได้พบปะและให้กำลังใจครอบครัวของครูนกทั้งนี้ ผู้ใจบุญท่านใดต้องการช่วยเหลือครอบครัวของ ครูนก จุฑามาศ สมสัตย์ ได้ที่บัญชีเลขที่ 018942542815 ธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาแม่แจ่ม ชื่อบัญชี นางสุนันทา สมสัตย์ หรือ โทร.08-5622-3245. | ฟ้าผ่าตรงศูนย์เด็กบ้านถวน ต.บ้านทับ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ทำให้ ครูนก ครูสาวเสียชีวิต ขณะกำลังเตรียมแผนการสอนกับเพื่อนครู ส่วนเพื่อนครูบาดเจ็บ ด้านครอบครัวและลูก 2 ขวบเดือดร้อนเสียเสาหลัก | ข่าว,ทั่วไทย | ฟ้าผ่าครูตาย,ฟ้าผ่าตาย,จุฑามาศ สมสัตย์,อ.แม่แจ่ม,เชียงใหม่,ศูนย์เด็กบ้านถวน,สภ.แม่แจ่ม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1844483 |
ประกาศรอบแรกซีไรต์ 18 จาก 59 นวนิยายเข้ารอบ | ประกาศผลการคัดเลือกวรรณกรรมซีไซต์รอบแรก(Long list) 18 เล่ม จากนักเขียน 16 คน ผ่านเข้ารอบ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค. 2558) เฟซบุ๊ค หนึ่งในกรรมการคัดเลือกรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียนหรือซีไรต์ ได้เปิดเผยผลการคัดเลือกหนังสือรางวัลซีไรต์ ประจำปี 2558 ประเภทนวนิยายในรอบแรก (Long list) คณะกรรมการพิจารณาลงมติคัดเลือกให้นวนิยายทั้งหมด 18 เล่ม จากจำนวนที่ส่งประกวดทั้งหมด 59 เล่ม มีรายชื่อต่อไปนี้ 1. กาหลมหรทึก : ปราปต์2. จุงกิง เซ็กซ์เพรส : อนุสรณ์ ติปยานนท์3. จุติ : อุทิศ เหมะมูล4. ดังนั้นจึงสิ้นสลาย : นิธิ นิธิวีรกุล5. นิราศมหรรณพ : ปราปต์6. เนรเทศ : ภู กระดาษ7. ประเทศเหนือจริง : ปองวุฒิ รุจิระชาคร8. พลิ้วไปในพรายเวลา : ผาด พาสิกรณ์9. พันธุ์ไร้ราก : สุวิชานนท์ รัตนภิมล10. พิพิธภัณฑ์เสียง : จิรัฏฐ์ ประเสิรฐทรัพย์11. รักในรอยบาป : เงาจันทร์12. ลิงเปลือย : รัตนชัย มานะบุตร13. สวนโลก : เรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์14. สายรุ้งกลางซากผุกร่อน : มาโนช พรหมสิงห์15. ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต : วีรพร นิติประภา16. หมาหัวคน : วิภาส ศรีทอง17. หรือเป็นเราที่สูญหาย : จเด็จ กำจรเดช18. หลงลบลืมสูญ : วิภาส ศรีทองนวนิยายที่ผ่านเข้ารอบแรก (Long List) ของ รางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประจำปี พ.ศ. 2558 จำนวน 18 เรื่อง ถือเป็นนวนิยายที่มีคุณค่าในเชิงศิลปะวรรณกรรมที่น่าสนใจ ทั้งด้านรูปแบบการเขียน สาระเนื้อหา ภาษา การนำเสนอประเด็นด้านความคิด ตลอดจนกลวิธีในการสื่อสาร เล่าเรื่องผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ ในมิติของความเป็นสากล อันหมายถึงความเปี่ยมเต็มทางด้านมโนสำนึก รูปรอยของการใช้ข้อมูลในการเขียน ที่ตั้งอยู่กับการพินิจพิเคราะห์เป็นอย่างดี การนำเสนอสู่เป้าหมายที่ชี้ให้เห็นถึงทางออกของปัญหาต่างๆ นานา ทั้งในปัจจุบันและอนาคตนวนิยายในแต่ละเรื่องมีคุณสมบัติดังกล่าวนี้ในตัวเองตามประเภทของนวนิยาย และสไตล์ในการประพันธ์ ที่นักเขียนแต่ละคนได้เลือกรังสรรค์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมิติทางประวัติศาสตร์ที่ลึกเร้น สังคมครอบครัวที่ถูกบีบกดและไร้ทางออก ความเป็นพื้นถิ่นที่ถูกทิ้งร้าง ภาวะทางการเมืองที่เต็มไปด้วยเงื่อนปมแห่งวิกฤต สภาวะแวดล้อมแห่งธรรมชาติที่ถูกทำลาย ความทบซ้อนแห่งภาวะจิตที่ยากจะควบคุมภายใน วิถีใหม่แห่งองค์ความรู้และศรัทธา นัยแห่งความเป็นปัจเจกที่เล่นหัวอยู่กับวิธีคิดของตัวตน อาชญากรรมที่ย้อนแย้งอยู่กับคุณธรรม กระทั่งจินตนาการที่ผสมผสานและเชื่อมโยง อยู่กับความเป็นรากเหง้าทางวรรณศิลป์อันสมบูรณ์ความโดดเด่นในเชิงชั้นและฝีมือการเขียนที่รัดกุม มีทิศทางและกอปรด้วยดุลยภาพทางด้านอารมณ์ แห่งประพันธกรรมของนักเขียนแต่ละคน นับเป็นพัฒนาการที่ก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด ในวงวรรณกรรมไทย สามารถจับต้องได้ทั้งในเชิงวิชาการ และผัสสะอันบริสุทธิ์ ที่สำคัญที่สุดก็คือว่า เนื้อแท้แห่งนวนิยายโดยรวมทั้งหมดนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็น มนุษยทัศน์ ระหว่างกันได้เป็นอย่างดี เราต่างมองเห็น และได้ยินสิ่งที่ถูกประกาศออกมา จากตัวตนของนักเขียน ที่มีต่อสมบัติทางปัญญาของพวกเขาว่า ทุกคนต่างมีชีวิตอยู่ในวิถีที่แปลกแตกต่างกันตามยุคสมัย และนั่นย่อมหมายถึงว่า เราต้องเรียนรู้ รับรู้ และรู้สึกที่จะต้องเข้าใจโลกแห่งชีวิต ของกันและกันอย่างลึกซึ้ง สามารถก่อเกิดแสงสว่างทางปัญญาแก่ผู้อ่าน ผ่านความงามและความหมาย ของความเป็นนวนิยายอันมีค่ายิ่งนี้ทั้งนี้ นวนิยายทั้งหมด คณะกรรมการคัดเลือกจะได้พิจารณา เพื่อประกาศผลในรอบสุดท้าย (Short List) ต่อไปคณะกรรมการคัดเลือก 7 คน ได้แก่นายสกุล บุณยทัต (ประธานกรรมการ)นายนิกร เภรีกุลนางสาวธนิกาญจน์ จินาพันธ์นางพิชญาณี เชิงคีรี ไชยยะนายพินิจ นิลรัตน์นายสหะโรจน์ กิตติมหาเจริญนายโสภณ สาทรสัมฤทธิ์ผล | ประกาศผลการคัดเลือกวรรณกรรมซีไซต์รอบแรก(Long list) 18 เล่ม จากนักเขียน 16 คน ผ่านเข้ารอบ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค. 2558) เฟซบุ๊ค พินิจ นิลรัตน์ | วัฒนธรรม | นวนิยาย,รางวัลซีไรต์ | https://prachatai.com/journal/2015/07/60319 |
แม่ฮ่องสอนเสนอล้มแผนท่องเที่ยวน้ำตกแม่สุรินทร์ | ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-10 พ.ค.48ชาวบ้านแม่ฮ่องสอน เสนอให้ล้มโครงการที่อุทยานฯน้ำตกแม่สุรินทร์แอบเสนอแผนพัฒนาท่องเที่ยวให้จังหวัดอนุมัติงบ 3 ล้านบาท ชี้รัฐมุ่งแต่ธุรกิจรายได้ ขัดแย้งกับแนวทางชุมชนที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ตามที่ทางเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ ได้จัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวเสนอไปยัง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งทางจังหวัดได้อนุมัติงบประมาณ จำนวน 3 ล้านบาท ให้อุทยานฯ เร่งดำเนินการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในเขตพื้นที่หมู่บ้านห้วยฮี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนศกนี้ โดยทางอุทยานฯ มีแผนให้มีการปรับพื้นที่จุดกางเต็นท์ ก่อสร้างอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ห้องน้ำ ระบบประปาภูเขา จัดทำป้าย และจุดชมวิวในเขตพื้นที่ดังกล่าว ต่อมา ชาวบ้านในเขตพื้นที่ ต.ห้วยปูลิง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้ออกมาคัดค้าน ไม่เห็นด้วยกับโครงการของรัฐดังกล่าว เพราะจะกระทบต่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรม ที่ชาวบ้านได้ทำกันมานานแล้ว อีกทั้งการดำเนินงานของรัฐ ไม่ได้ให้ชุมชนเข้าไปมีส่วนร่วมแต่อย่างใด ต่อมาทางจังหวัดได้สั่งการให้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ดังกล่าว โดยมีนายอำเภอเมือง โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด กำนันผู้ใหญ่บ้าน และองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยปูลิง เพื่อร่วมกันหารือ หาข้อสรุปแผนงานตามที่ทางอุทยานฯ ได้ตั้งขึ้น ล่าสุด วันนี้(10 พ.ค.2548) ที่เขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้มีการประชุมคณะทำงานเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวกันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านก็ยังยืนกรานไม่เห็นด้วยกับแผนพัฒนาการท่องเที่ยวของรัฐ นายไชยา ประหยัดทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยปูลิง กล่าวว่า ชาวบ้านมีมติร่วมกันว่า ไม่เห็นด้วยกับโครงการของเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ ที่จะเข้ามาปลูกสิ่งก่อสร้างในเขตพื้นที่การท่องเที่ยวบ้านห้วยฮี้ เพราะรัฐอ้างว่า เป็นการปรับภูมิทัศน์และมองแต่เรื่องรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่ชาวบ้านไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องธุรกิจจากการท่องเที่ยวเป็นหลัก เป็นเพียงอาชีพเสริม และเน้นในการท่องเที่ยวในเชิงนิเวศ อีกทั้งชาวบ้านเห็นว่า หากโครงการท่องเที่ยวของรัฐ การบริหารจัดการต่างๆ ทั้งหมด อาจจะถูกรวบไว้โดยอุทยานฯทั้งหมดและโครงการดังกล่าวไม่ได้ผ่านมติประชาคม ชุมชนไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมใดๆ เลย ดังนั้นจึงขอเสนอให้ยกเลิกโครงการหรือไม่ก็ไปดำเนินการในพื้นที่อื่น นายก อบต.ห้วยปูลิง กล่าว นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรชุมชนจัดการทรัพยากรลุ่มน้ำ จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ชาวบ้านต่างหวั่นวิตกกันว่า หากมีโครงการของรัฐเข้ามา อาจเกิดปัญหาต่างๆตามมา ไม่ว่าในเรื่อง ผลกระทบต่อการจัดการท่องเที่ยวของชุมชนที่ดำเนินการกันเองมาตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งอาจส่งผลกระทบด้านวิถีชีวิต วัฒนธรรมของชุมชนไปด้วย อย่างไรก็ตาม นายนิพันธ์ บุญหลวง ปลัดอาวุโส อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้กล่าวสรุปในที่ประชุมว่า เมื่อชาวบ้านยังยืนยันไม่เห็นด้วยและขอให้ยุติโครงการ ก็จะต้องมีการรายงานเสนอไปยังจังหวัดให้รับทราบต่อไป ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้อุทยานฯ เร่งดำเนินการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในเขตพื้นที่หมู่บ้านห้วยฮี้ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ โดยทางอุทยานฯ มีแผนให้มีการปรับพื้นที่จุดกางเต็นท์ ก่อสร้างอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ห้องน้ำ ระบบประปาภูเขา จัดทำป้ายและจุดชมวิวในเขตพื้นที่ดังกล่าว | ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-10 พ.ค.48 ชาวบ้านแม่ฮ่องสอน เสนอให้ล้มโครงการที่อุทยานฯน้ำตกแม่สุรินทร์แอบเสนอแผนพัฒนาท่องเที่ยวให้จังหวัดอนุมัติงบ 3 ล้านบาท ชี้รัฐมุ่งแต่ธุรกิจรายได้ | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/05/3948 |
เฟด ร่วง นาดาล ลิ่ว ศึกออสซี โอเพ่น รอบ 3 | ศึกออสเตรเลียน โอเพ่น 2015 ที่เมืองเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย เป็นการแข่งในรอบ 3 ประเภทชายเดี่ยว โดยคู่ที่น่าสนใจ โรเจอร์ เฟเดเรอร์ มือ 2 ของโลก และมือ 2 ของรายการ จากสวิตเซอร์แลนด์ พบกับ อันเดรียส์ เซ็ปปิ มือไร้อันดับจากอิตาลี,ในเซตแรก เซ็ปปิเล่นได้ดีกว่า ก่อนเอาชนะไปก่อน 6-4 จากนั้นในเซตที่ 2 เกมค่อนข้างสูสีจนต้องดวลไทเบรก ก่อนที่เซ็ปปิจะเฉือนชนะ 7-6 ไทเบรก 7-5 นำไปแล้ว 2-0 เซต,มาถึงเซตที่ 3 อดีตแชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น 4 สมัย ฮึดกลับมาชนะ 6-4 แต่ในเซตที่ 4 เซ็ปปิที่เล่นได้ดุดันและพลาดน้อยกว่า เฉือนชนะไปได้อีก 7-6 ไทเบรก 7-5 ทำให้เอาชนะไป 3-1 เซต ผ่านเข้ารอบ 4 ไปแบบพลิกความคาดหมาย,ผลคู่อื่นในประเภทชายเดี่ยว รอบ 3 มีดังนี้,กริกอร์ ดิมิตรอฟ (บัลแกเรีย, มือ 10) ชนะ มาร์กอส แบ็กห์ดาติส (ไซปรัส) 3-2 เซต 4-6,6-3,3-6,6-3,6-3,โทมัส เบอร์ดิช (เช็ก, มือ 7) ชนะ วิคเตอร์ ทรอยอิคกี้ (เซอร์เบีย) 3-0 เซต 6-4,6-3,6-4
แอนดี เมอร์เรย์ (สหราชอาณาจักร, มือ 6) ชนะ เจา ซูซา (โปรตุเกส) 3-0 เซต 6-1,6-1,7-5,เบอร์นาร์ด โทมิช (ออสเตรเลีย) ชนะ แซม กรอธ (ออสเตรเลีย) 3-0 เซต 6-4,7-6,6-3,เควิน แอนเดอร์สัน (แอฟริกาใต้, มือ 14) ชนะ ริชาร์ด กาสเกต์ (ฝรั่งเศส, มือ 24) 3-0 เซต 6-4,7-6,7-6,นิค คีร์จิออส (ออสเตรเลีย) ชนะ มาเล็ค จาซีรี (ตูนีเซีย) 3-0 เซต 6-3,7-6,6-1,ราฟาเอล นาดาล (สเปน, มือ 3) ชนะ ดูดี้ เซลา (อิสราเอล) 3-0 เซต 6-1,6-0,7-5,ผลคู่อื่นในประเภทหญิงเดี่ยว รอบ 3 มีดังนี้,เผิง ช่วย (จีน, มือ 21) ชนะ ยาโรสลาวา ชเวโดวา (คาซัคสถาน) 2-0 เซต 7-6,6-3 ,เอคาเทรินา มาคาโรวา (รัสเซีย, มือ 10) ชนะ คาโรลินา ปลิสโควา (เช็ก, มือ 22) 2-0 เซต 6-4,6-4,ยูเลีย ยอร์เกส (เยอรมัน) ชนะ ลูซี ฮราเดคกา 2-0 เซต 7-6,7-5,ยานินา วิคไมเออร์ (เบลเยียม) ชนะ ซารา แอร์รานี (อิตาลี, มือ 14) 2-1 เซต 4-6,6-4,6-3,ยูเจนี บูชาร์ด (แคนาดา, มือ 7) ชนะ แคโรลีน การ์เซีย (ฝรั่งเศส) 2-0 เซต 7-5,6-0,มาเรีย ชาราโปวา (รัสเซีย, มือ 2) ชนะ ซารินา ดิยาส (คาซัคสถาน, มือ 31) 2-0 เซต 6-1,6-1,ซิโมนา ฮาเล็ป (โรมาเนีย, มือ 3) ชนะ เบธานี มัตเทค-แซนด์ส (สหรัฐอเมริกา) 2-0 เซต 6-4,7-5 | จอดแค่รอบ 3 สำหรับ โรเจอร์ เฟเดเรอร์ มือ 2 ของโลก โดยพ่าย อันเดรียส์ เซ็ปปิ 1-3 เซต อดตามล่าออสเตรเลียน โอเพ่น สมัยที่ 5 อย่างน่าเสียดาย | null | โรเจอร์ เฟเดเรอร์,อันเดรียส์ เซ็ปปิ,ออสเตรเลียน โอเพ่น,เทนนิส,ข่าวกีฬา | https://www.thairath.co.th/content/476697 |
อึ้ง ผู้ใช้เฟซบุ๊ก29 ล้านบัญชี โดนแฮก ยันขโมยไปได้แค่ข้อมูลส่วนตัว | เมื่อ 13 ต.ค.61 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงาน บริษัท,เฟซบุ๊ก, บริษัทผู้ให้บริการเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ใหญ่ที่สุดในโลก ออกมาประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ต.ค.61 ว่า มีบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวน 29 ล้านรายชื่อถูกแฮกเกอร์ เข้ามาล้วงขโมยข้อมูลส่วนตัว ด้วยการใช้โปรแกรมอัตโนมัติที่ถูกส่งต่อจากเพื่อนคนหนึ่งไปยังเพื่อนคนต่อๆ ไปในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา,บริษัทเฟซบุ๊กระบุว่า การขโมยข้อมูลครั้งนี้ถือเป็นการขโมยข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊กครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น แต่จำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ได้รับผลกระทบ จากการโดนแฮกข้อมูลส่วนตัวในครั้งนี้ นับว่าน้อยกว่าการรายงานในเบื้องต้นเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ที่ระบุว่าอาจมีผู้ใช้เฟซบุ๊กมากกว่า 50 ล้านรายชื่อโดนแฮกข้อมูลส่วนตัว,บริษัทเฟซบุ๊ก ระบุว่า ข้อมูลของผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ถูกแฮกเกอร์ขโมย 14 ล้านรายชื่อนั้น เป็นข้อมูลส่วนตัว อย่างเช่น วันเดือนปีเกิด ตำแหน่งหน้าที่การงาน ประวัติการศึกษา การนับถือศาสนา ประเภทของมือถือที่ใช้ เพจที่ติดตาม และการค้นหาล่าสุด รวมทั้งยังสามารถล้วงข้อมูลตำแหน่ง เช็ก-อินด้วย,ส่วนบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊ก อีก 15 ล้านรายชื่อ ช่องโหว่ของระบบเฟซบุ๊กที่แฮกเกอร์สามารถล้วงข้อมูลได้เฉพาะ ชื่อ และรายละเอียดการติดต่อ นอกเหนือจากนั้น แฮกเกอร์ยังสามารถเห็นโพสต์และลิสต์รายชื่อเพื่อน และกลุ่มเพื่อนของผู้ใช้เฟซบุ๊กประมาณ 400,000 รายชื่อ,รอยเตอร์ ยังแจ้งด้วยว่า ทางเฟซบุ๊กจะมีการส่งข้อความไปถึงผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ได้รับผลกระทบในไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อแจ้งว่ามีข้อมูลใดบ้างที่โดนแฮกล้วงข้อมูลไปได้ พร้อมกันนั้น เฟซบุ๊กยังกำลังดำเนินการสืบสวนว่าแฮกเกอร์สามารถล้วงข้อมูลอื่นนอกจากขโมยข้อมูลส่วนตัวหรือไม่ พร้อมกับยืนยันว่า แฮกเกอร์ไม่สามารถขโมยเมสเสจส่วนตัว หรือข้อมูลการเงิน รวมทั้งไม่ได้นำแอคเคาท์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้าไปเจาะแอคเคาท์บนเว็บไซต์อื่น,ข่าวแจ้งว่า ตอนนี้ บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนฯ และนักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นต่อการที่เฟซบุ๊กไม่ได้กำลังทำอย่างเพียงพอในการป้องกันข้อมูลของผู้ใช้เฟซบุ๊ก อย่างไรก็ตาม หลังจากเฟซบุ๊กออกมาชี้แจงรายละเอียดดังกล่าวที่จำนวนบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่โดนแฮกน้อยกว่าที่คาดาการณ์ตอนแรก ทำให้หุ้นของเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 0.25% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา,ทั้งนี้ เฟซบุ๊กได้พบช่องโหว่ในระบบที่อาจถูกแฮกเกอร์ขโมยข้อมูลการล็อกอินและสวมรอยเข้าบัญชี ทำให้มีบัญชีผู้ใช้เด้งหลุดออกจากเฟซบุ๊กในทุกอุปกรณ์ ทำให้ต้องมีการล็อกอินกันใหม่ โดยต่อมา มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและซีอีโอออกมาแถลงว่านี่คือมาตรการรักษาความปลอดภัยของเฟซบุ๊ก | เฟซบุ๊กออกแถลงการณ์ มีบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กโดนแฮกเกอร์ ล้วงข้อมูลไปได้ 29 ล้านรายชื่อ ถือเป็นการล้วงข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊กมากที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น ยันโดนขโมยแค่ข้อมูลส่วนตัว | ข่าว,ต่างประเทศ | เฟซบุ๊ก,แฮก เฟซบุ๊ก,แฮกเกอร์,ขโมยข้อมูลส่วนตัว,มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1396109 |
วัชระ ชม บิ๊กตู่ ถอนพาสปอร์ต ทักษิณ ขอ ผบ.ตร.เร่งถอดยศต่อ | วันที่ 27 พ.ค. 58 นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีกระทรวงการต่างประเทศ ได้เพิกถอนหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าต้องขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. แทนประชาชนที่บังคับใช้กฎหมายเป็นมาตรฐานเดียวกัน จึงขออภัยและถอนคำพูดที่เคยกล่าวหาว่า ไม่ทำ ดีแต่พูด ซึ่งตนจะไปยื่น ป.ป.ช. เพื่อเอาผิด นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ ต่อไป ทั้งนี้ รัฐบาลต้องเร่งชี้แจงความจริงให้ประชาชนในชนบทเข้าใจผ่านทุกสื่อฯ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มแม่บ้าน ว่า ไม่มีใครกลั่นแกล้ง พ.ต.ท.ทักษิณ มิเช่นนั้น จะถูกนำบิดเบือนให้ชาวบ้านเข้าใจรัฐบาลผิด และกลับไปสงสาร พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างหน้ามืดตามัวอีก,นายวัชระ กล่าวต่อว่า นอกจากการยกเลิกพาสปอร์ต พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จะต้องดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเร็ว เพราะถูกศาลพิพากษาจำคุก และหลบหนีหมายจับถึง 5 คดี ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา ตอบข้อหารือของ สตช.ถึง 2 ครั้งว่า สามารถกระทำได้ และผู้ตรวจการแผ่นดินก็ทำหนังสือถึง สตช.ย้ำอีกว่า สตช.สามารถดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทันที พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. รับปากตนที่รัฐสภา ว่า กำลังดำเนินการก็ไม่ควรประวิงเวลารออะไรอีก เพราะความล่าช้า คือ ความอยุติธรรม,นายวัชระ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณี การกล่าวหาองคมนตรีและสถาบันฯ นั้น ก็ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะในหนังสือ จับเข่าคุย ทักษิณ ชินวัตร โดยนายทอม เพรส เขียน นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ แปล ก็มีเนื้อหาหมิ่นสถาบันสำคัญของชาติและโจมตีกองทัพ ว่า ฆ่าประชาชน ตนไปร้องทุกข์ที่กองปราบปรามแล้ว ตำรวจก็ยังใส่เกียร์ว่างอยู่เช่นเคย คดีไม่คืบหน้าใดๆ ตนก็จะไปร้องเรียนกับ พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพกองทัพภาคที่ 1 เพราะเห็นว่า ท่านเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้เหนือสิ่งอื่นใด | นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ชม-ขอโทษ บื๊กตู่ ถอนพาสปอร์ตทักษิณ จี้ เร่งแจง ปชช. บี้ ผบ.ตร.เร่งถอดยศแม้ว ต่อ ปูด ตร.เกียร์ว่าง กรณีกล่าวหาองคมนตรี โร่ร้อง บิ๊กโชย แม่ทัพภาคที่ 1 ดำเนินการ | null | วัชระ,ชม-ขอโทษ,ถอนพาสปอร์ต,ทักษิณ,หนังสือเดินทาง,ทักษิณ ชินวัตร,ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ,หัวหน้าคสช.,สุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ,รัฐบาล,แจงประชาชน,ถอดยศ,สตช,สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.,องคมนตรี,สถาบัน,กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพกองทัพภาคที่ 1,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/501514 |
เด่น ดอกประดู่ หิ้วสัมภาระใส่ถุงปุ๋ย นั่งรถทัวร์ไปขอนแก่น หวังเล่นตลกแลกเงิน (คลิป) | ตลกชื่อดังรุ่นเก๋า เด่น ดอกประดู่ ได้รับการดูแลแล้ว หลังมีผู้ใข้เฟซบุ๊กโพสต์ในโลกออนไลน์ว่าญาติตามหา พร้อมแจ้งว่าได้นั่งรถทัวร์โดยสารจากหมอชิตมาถึงขอนแก่นกลางดึก เจ้าตัวเผยนั่งรถมาคนเดียวเพื่อมาหางานแสดงทำที่ขอนแก่น,จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ,เรย์กุลธิดา เหม่ยลี่, โพสต์ภาพอดีตตลกชื่อดัง เด่น ดอกประดู่ พร้อมข้อความระบุว่า บันทึกเวลาเดินทางของคุณ เด่น ดอกประดู่ เผื่อครอบครัวคุณเด่นกำลังตามหานะคะ คุณเด่นกำลังเดินทาง จากกรุงเทพ-ไปขอนแก่น รถออกจากหมอชิต รอบ เวลา 18.30 น. 22-3 บ.ชาญทัวร์ สอบถามพูดคุยรู้เรื่อง แต่การเดินทางไปไม่มีจุดหมายว่าจะไปทำอะไรค่ะ ข้อมูลเบื้องต้นมีปัญหาชีวิตและกำลังสับสน สัมภาระมีเพียงถุงปุ๋ยใส่ของ 2 ใบ ไม่มีเครื่องมือสื่อสารติดตัว ให้เบอร์จิตอาสาติดตัวไว้เพื่อประสานความช่วยเหลือขอให้การเดินทางของคุณเด่น ดอกประดู่ ราบรื่นนะคะ ซึ่งทางผู้โพสต์และพนักงานที่อยู่หมอชิต ต่างรวบรวมเงินจำนวนหนึ่ง มอบให้กับเด่น ดอกประดู่ด้วย เพื่อแสดงความมีน้ำใจ และช่วยเหลือในเบื้องต้น,ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าว ถูกแชร์ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาให้กำลังใจ อดีตตลกชื่อดัง เด่น ดอกประดู่ เป็นจำนวนมาก พร้อมแสดงความห่วงใย และอยากให้มีคนเข้ามาช่วยเหลือ ,จากการตรวจสอบพบว่า ขณะนี้ นายบรรพต วีระรัฐ หรือเด่น ดอกประดู่ อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.ขอนแก่น ท่าทางสดใส พูดคุยหยอกล้อกับชาวขอนแก่น และผู้สื่อข่าว พร้อมทั้งโชว์มายากลให้ผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ได้ดูสร้างความสนุกสนานด้วย,โดย เด่น ดอกประดู่ เผยว่า เดินทางมาจาก กทม. ด้วยรถทัวร์คนเดียว ตั้งใจว่าจะมาหางานทำด้วยความสามารถที่ตัวเองถนัด คือการแสดงตลก ตามร้านอาหารและสถานที่ต่างๆ โดยทีแรกไม่มีจุดหมายว่าจะไปที่ใด แต่มีหลายๆ คนบอกว่า จ.ขอนแก่น มีหลายร้าน และต้อนรับคนต่างถิ่นดี จึงตัดสินใจลงที่ขอนแก่น เพื่อจะได้ออกไปหางานทำด้วยการแสดงตลกหารายได้ให้กับตัวเอง,และจากการสอบถาม นายวัชระ ชุ่มเย็น พนักงานประจำรถทัวร์โดยสาร เล่าว่า หลังจากที่รับผู้โดยสารมาเต็มคันจากสถานีขนส่งหมอชิต เมื่อเวลา 18:30 น. วานนี้ พบว่าในโลกออนไลน์ได้โพสต์ตามตัว นายเด่น ดอกประดู่ จึงดูแลอย่างใกล้ชิด และเมื่อถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดขอนแก่น เวลา 02:00 น. วันนี้ จึงได้พาตัว นายเด่น ดอกประดู่ ไปพักยังห้องพักเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พร้อมกับติดต่อญาตินายเด่นให้ทราบ โดยติดต่อผ่าน นายเพชรทาย วงษ์คำเหล่า หรือ หม่ำ จ๊กมก เพื่อให้แจ้งไปยังญาติของนายเด่นทราบต่อไป.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,- ,สึกแล้ว เด่น ดอกประดู่ กลับไปใช้ชีวิตทางโลก ลูกเมียรอรับหน้าวัด,- ,ช็อก พระเด่น ดอกประดู่ เป็นอัลไซเมอร์ รีบบวชก่อนสาย รอลูกเมียมาหา,- ,เด่น ดอกประดู่ ละทางโลกบวชเป็นพระ เครียด ไม่มีงาน จนซึมเศร้า | ชาวเน็ตแห่ให้กำลังใจ เด่น ดอกประดู่ อดีตนักแสดงตลกรุ่นใหญ่ หลังหิ้วสัมภาระใส่ถุงปุ๋ย นั่งรถทัวร์จากหมอชิตไปขอนแก่น หวังเล่นตลก หารายได้เลี้ยงชีพตัวเอง | ข่าว,ทั่วไทย | เด่น ดอกประดู่,ขอนแก่น,ทำงาน,เล่นตลก,หิ้วสัมภาระ,หารายได้,เลี้ยงชีพ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1582338 |
รายงานบีบีซีเผยเรื่อง ขม แบบขื่นๆ ของคนงานไร่ชาในรัฐอัสสัม | โดยมีทั้งเรื่องคุณภาพชีวิตที่ย่ำแย่ เสี่ยงต่อการเจ็บป่วย ค่าแรงต่ำมาก ทุพโภชนาการ และมีการใช้แรงงานเด็กในบางกรณีบีบีซีระบุว่าคนงานในไร่ชาเหล่านี้มีสภาพการทำงานที่ย่ำแย่ มีค่าแรงต่ำ ทำให้สภาพชีวิตของพวกเขาและครอบครัวย่ำแย่ไปด้วย พวกเชาล้วนขาดสารอาหารและเสี่ยงต่อการป่วยไข้ ครอบครัวคนงานเหล่านี้อาศัยอยู่ในบ้านที่ผุพัง มีสุขอนามัยที่ไม่ดี หลายบ้านไม่มีห้องน้ำ คนงานบอกว่าพวกเขาไม่ทางเลือกอื่นนอกจากต้องขับถ่ายตามพุ่มไม้ของต้นชา นอกจากนี้สภาพการจ้างงานยังทำให้พวกเขาต้องเสี่ยงจากสารเคมี เช่นการให้ฉีดพ่นสารเคมีโดยไม่มีเครื่องป้องกัน ในไร่บางแห่งยังมีการใช้แรงงานเด็กด้วยในอินเดียมีกฎหมายบังคับให้เจ้าของกิจการไร่ชาต้องคอยดูแลที่พักอาศัยที่ เหมาะสม และดูแลห้องน้ำให้ถูกสุขอนามัยสำหรับคนงาน แต่ที่อยู่ของคนงานไร่ชาก็มีสภาพซอมซ่อไม่ได้รับการซ่อมแซม เช่นมีกำแพงผุ มีลักษณะอับชื้น และมีหลังคารั่ว ห้องน้ำจำนวนมากก็ถูกปิดไม่ให้เข้าหรือไม่ก็พัง ซึ่งคนงานเปิดเผยต่อบีบีซีว่าพวกเขาขอร้องกับฝ่ายบริหารให้มาช่วยดูแลซ่อมแซมบ้านให้พวกเขาหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่มีการซ่อมแซมให้หลังจากผ่านมาหลายปีแล้ว นอกจากนี้บ้านอีกหลายหลังยังไม่มีไฟฟ้าใช้ และมีบางคนต้องดื่มน้ำฝนที่รองจากท่อมัคเลาด์ รัสเซล ผู้จัดการไร่ชายอมรับว่ามีงานซ่อมบำรุงที่คั่งค้างอยู่จำนวนมาก โดยไร่ชาของรัสเซลมีเจ้าของเป็นบริษัทผลิตชาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัตถุดับให้กับบริษัทชาใหญ่ๆ อย่าง พีจีทีปส์ ลิปตัน เทตลีย์ และ ทไวนิงส์ผู้จัดการไร่ชายังกล่าวอีกว่าสภาพการทำงานสำหรับคนงานบางคนเป็นเรื่องที่เขารับไม่ได้ และจำนวนห้องน้ำก็มีไม่มากพอจะรองรับตามจำนวนบ้านของคนงานสันทีป โกช ผู้นำสมาคมชาอินเดียสาขาอัสสัม ซึ่งเป็นสมาคมที่เป็นตัวแทนผู้ผลิตชาในอินเดียกล่าวยอมรับเช่นกันว่าสภาพความเป็นอยู่ของคนงานอยู่ในระดับต่ำกว่ามาตรฐาน และสมาคมของพวกเขารับไม่ได้ที่จะให้คนงานต้องทนอยู่กับสิ่งปฏิกูลจากห้องส้วมที่พังและการต้องขับถ่ายในที่โล่งแจ้งในกรณีค่าแรงของคนงานบีบีซีระบุว่าคนงานไร่ชาได้รับเงินค่าจ้าง 115 รูปี (ราว 60 บาท) ต่อวันเท่านั้นซึ่งจัดอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับรัฐอัสสัม คือ 177 รูปี (ราว 90 บาท)จากสภาพความเป็นอยู่และค่าแรงเช่นนี้ทำให้คนงานไร่ชาในอัสสัมมีระดับภาวะขาดสารอาหารสูงมาก โดยวิทยาลัยแพทย์อัสสัมเคยศึกษา พบว่ามีผู้ป่วยจากไร่ชา 9 ใน 10 มีภาวะขาดสารอาหาร ทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อโรค เช่นโรคท้องร่วง โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ รอยโรคที่ผิวหนัง หรือโรคติดเชื้อรุนแรงอย่างวัณโรคหรือโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ มีเด็กบางคนต้องเข้าโรคพยาบาลซ้ำซากเพราะป่วยเป็นโรคเหล่านี้ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของวิทยาลัยยังกล่าวอีกว่าคนงานชาเหล่านี้มีโอกาสเสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บมากกว่าคนไข้รายอื่นๆ ในโรงพยาบาลบีบีซียังรายงานถึงกรณีการใช้แรงงานเด็ก โดยยกตัวอย่างกรณีเด็กหญิงอายุ 14 ปี รายหนึ่งต้องทำงานเต็มเวลาเป็นเวลา 2 เดือน ในไร่ของบริษัทอัสสัมคอมพานี ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบชาให้กับ ทไวนิงส์ ยอร์กเชียร์ที แฮร์รอดส์ และฟอร์ตนัมแอนด์เมสัน นอกจากนี้ยังมีกรณีใช้แรงงานเด็กอีกสองคนที่อายุอยู่ในช่วงต้นวัยรุ่นซึ่งขัดต่อหลักการว่าด้วยการใช้แรงงานเด็กของสหประชาชาติที่ว่าเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ไม่ควรถูกใช้ทำงานเต็มเวลาในกรณีเรื่องการพ่นสารเคมีโดยไม่มีเครื่องป้องกัน สำนักข่าวบีบีซีระบุว่าถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายเช่นกัน โดยที่คนงานในไร่ชาให้สัมภาษณ์ว่าพวกเขาได้รับเครื่องมือป้องกันเพียง 1 ครั้งต่อปี แต่ก็ใช้หมดภายในราว 2 เดือน โดยไม่มีการให้เพิ่ม การเผชิญกับสารเคมีทำให้พวกเขาเกิดอาการต่างๆ อย่างอาการหายใจลำบาก มือชา หน้าชา รู้สึกแสบผิวหนัง และความอยากอาหารลดลงอย่างมาก ไร่ของรัสเซลมีการสวมชุดเสื้อคลุมกันเปื้อนแต่ก็ไม่มีเครื่องป้องกันอื่นๆอย่างไรก็ตามบริษัทอัสสัมคอมพานีบอกว่าข้อกล่าวหาของบีบีซี ไม่มีมูลความจริง รัสเซล กล่าวว่าบริษัทของเขาให้ความสำคัญกับสภาพความเป็นอยู่และความปลอดภัยของคนงานมาเป็นอันดับหนึ่ง พวกเขาให้เครื่องป้องกันแก่คนงานฟรี มีการฝึกสวมใส่และมีการตรวจตราให้คนงานสวมชุดอยู่เป็นประจำบีบีซีระบุอีกว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนงานไร่ชาถูกกดขี่ได้ง่ายเนื่องจากไร่ชามีการควบคุมชีวิตของคนงานในหลายแง่อีกทั้งยังมีการควบคุมการเข้าถึงไร่ชาอย่างเข้มงวดไม่ให้ใครเข้าไปตรวจสอบสวัสดิภาพของคนงานได้โดยง่าย ถึงแม้ว่าตามกฎหมายระบุให้ควรมีการเข้าถึงไร่ชาได้ แต่นักข่าวบีบีซีถูกสกัดกั้นไม่ให้เข้าไปในเขตที่อยู่อาศัยของคนงานในไร่แห่งหนึ่งของรัสเซลและมีการกักบริเวณพวกเขาไว้ช่วงเวลาหนึ่งอย่างไรก็ตามบีบีซีรายงานว่าประเด็นสภาพชีวิตที่ย่ำแย่ของแรงงานไร่ชาในอัสสัมเป็นที่รับรู้มาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วจาการสำรวจโดยสถาบันสิทธิมนุษยชนของวิทยาลัยกฎหมายโคลัมเบียเมื่อเดือน ม.ค. 2557 ในไร่ที่มีเจ้าของส่วนหนึ่งคือบริษัทชายักษ์ใหญ่ของอินเดียอย่างบริษัททาทาและเจ้าของอีกส่วนหนึ่งคือเทตลีย์ ซึ่งทาทาให้สัมภาษณ์ต่อบีบีซีว่าพวกเขากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาสภาพความเป็นอยู่และสภาพการจ้างของแรงงานให้ดีขึ้นทาทากล่าวอีกว่าพวกเขามีพันธะในหลักการปฏิบัติต่อคนงานในสายพานการผลิตทั้งหมดอย่าง เป็นธรรมและมีจริยธรรม ในฐานะสมาชิกของกลุ่มธุรกิจผลิตชาอย่างมีจริยธรรม (Ethical Tea Partnership หรือ ETP)ETP เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นโดยบริษัทชาในอังกฤษเพื่อต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนงานผู้ผลิตชา ซาราห์ โรเบิร์ตส์ ผู้อำนวยการบริหารขององค์กรนี้กล่าวในฐานะตัวแทนของทไวนิงส์ว่าสมาชิกขององค์กร มีความตระหนักอย่างยิ่งถึงปัญหา ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคที่มีการปลูกชา และบอกอีกว่า ETP กำลังพยายามพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนงานผลิตชาทั้งในอินเดียและที่อื่นๆ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นหลังจากที่มีรายงานการสืบสวนสอบสวนของบีบีซีห้างสรรพสินค้าแฮร์รอดก็แสดงออกในเชิงประท้วงด้วยการหยุดขายผลิตภัณฑ์ชาบางชนิด และสหพันธ์เรนฟอเรสต์ (Rainforest Alliance) ซึ่งเป็นองค์กรให้การรับรองเชิงจริยธรรมยอมรับว่ารายงานของบีบีซีแสดงให้เห็นความผิดพลาดในกระบวนการตรวจสอบของพวกเขาทางด้านบริษัทชาแบรนด์ดังๆ ในอังกฤษเช่น พีจีทิปส์ เทตลีย์ และทไวนิงส์ ก็บอกว่าพวกเขาจะช่วยเหลือให้มีการพัฒนาความเป็นอยู่ของคนงานในไร่ชาที่พวกเขาซื้อวัตถุดิบมาบริษัทอย่างฟอร์ตนัมแอนด์เมสัน และยูนิลิเวอร์ที่เป็นเจ้าของแบรนด์พีจีทิปส์และลิปตันบอกว่าพวกเขาจะให้ความสำคัญในเรื่องการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของแรงงานที่เป็นผู้จัดหาวัตถุดิบให้พวกเขาเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในระบบปฏิบัติงาน นอกจากนี้ยังมีบริษัทเจ้าของแบรนด์ยอร์กเชียร์เปิดเผยว่าพวกเขามีความเป็นห่วงอย่างมากในเรื่องนี้และจะมีการสอบสวนเรื่องการปฏิบัติต่อคนงานอย่างเร่งด่วนในแง่ขององค์กรสหพันธ์เรนฟอเรสต์ซึ่งเป็นเอ็นจีโอผู้มอบ ตรารูปกบ บนบรรจุภัณฑ์ของสินค้าเพื่อเป็นการรับประกันว่าว่าแบรนด์นั้นๆ ให้การคุ้มครองแรงงานและชุมชนท้องถิ่นยอมรับว่าพวกเขามีปัญหาในระบบการประเมินเพราะมีการตรวจสอบแค่เป็นรายปีสเตเฟน เอกกา นักกิจกรรมอินเดียในองค์กรที่ชื่อ PAJHRA กำลังรณรงค์เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนงานไร่ชากล่าวว่า ตรารูปกบ ของสหพันธ์เป็นเรื่องของ การขาย มากกว่าเรื่องของการ ส่งเสริมคนงาน | บีบีซีเสนอรายงานเชิงสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับสภาพชีวิตที่ย่ำแย่ของคนงานไร่ชารัฐอัสสัมประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบให้กับบริษัทผลิตและจำหน่ายชาชั้นนำในอังกฤษหลายบริษัท | คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน,แรงงาน | การจ้างงานอย่างไม่เป็นธรรม,การใช้แรงงานเด็ก,คนงานไร่ชา,ค่าแรงขั้นต่ำ,ชา,ชาอังกฤษ,สภาพการจ้างงาน,อัสสัม,อินเดีย,ไร่ชาอินเดีย | https://prachatai.com/journal/2015/09/61325 |
อินดี้เกาหลี กับพื้นที่การขัดขืนในย่านฮงแดของกรุงโซล | แล้วกลับมาที่โซลเพื่อร่วมเวิร์คช็อปการเตรียมงานสัมมนาดนตรีสมัยนิยมในเอเชียที่จะจัดในปลายปีนี้ หลังจากเสร็จธุระเรื่องงาน เพื่อนในกลุ่มก็ชวนไปดูดนตรีในงานเปิดอัลบั้มรวมเพลงอินดี้ BBang Compilation 4 ณ Club BBang ย่านฮงแด แหล่งศูนย์รวมวัยรุ่นของกรุงโซล ที่จริงๆการไปดูดนตรีนี้เหมือนจะเป็นโปรแกรมแถมเพิ่มเข้ามาในการไปเกาหลีครั้งนี้ แต่กลับกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้เขียนเข้าใจในมิติของวัฒนธรรมวัยรุ่นและดนตรีสมัยนิยมในเอเชียมากขึ้นงาน BBang จัดแสดงในผับ/คอฟฟี่ช็อป/อาร์ตสเปซ 6 แห่งพร้อมกัน โดยมีศิลปินและวงต่างๆร่วมเล่น 39 วง เรียกว่าใครอยากดูวงไหนเชิญเลือกชมกันได้ตามสบาย งานนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย ซื้อแผ่นหรือไม่ซื้อก็ไม่ว่าอะไร (แผ่นซีดีรวมเพลงราคาราวๆ 250 บาท) ที่ผ่านมาเราจะรู้จักเพลงสมัยนิยมที่มาจากเกาหลีในนาม K-Pop คำว่า K-Indie ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ยังไม่แพร่หลายนักในหมู่ผู้ฟังเพลงเกาหลี ไม่ต้องนับรวมถึงเพลงอินดี้จากเกาหลีที่นักฟังเพลงบ้านเราแทบไม่รู้จักกันเลย จริงๆแล้วการเกิดขึ้นของเคอินดี้ในเกาหลีดูจะไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อนโยบายอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรม( cultural industries)เป็นนโยบายสร้างอัตลักษณ์ของชาติ (national identity)อันเกาหลีประสบความสำเร็จ ทั้งในแง่ของอุตสาหกรรมและการสร้างภาพลักษณ์ให้กับชาติ และที่สำคัญอุตสาหกรรมดนตรีและอุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีที่รวบเอาโอกาสของการสร้าง พื้นที่ทางเลือกของวัยรุ่นในเกาหลีให้เกิดยากขึ้นตามไปด้วย ง่ายๆเลยคุณจะเป็นอินดี้อยู่ทำไม? เมื่อคุณสามารถเขียนโครงการของงบประมาณเพื่อสร้างสรรค์ผลงานได้ ในขณะที่อุตสาหกรรมดนตรีของเกาหลีก็ใหญ่มากพรั่งพร้อมทั้งบุคลากรที่มีความสร้างสามารถและเครื่องไม้เครื่องมือที่ดี ดังนั้นที่ผ่านมาภาพของเคอินดี้จึงอยู่ใต้ภาพของเคป็อปมาตลอด แต่หากเราจะเข้าใจ อินดี้เกาหลีภาพที่ควรจะมอง น่าเริ่มจากส่วนที่อยู่นอกเหนืออุตสาหกรรมการบันทึกเสียง( record industry)เป็นหลัก เช่นพื้นที่ทางวัฒนธรรมของฮงแด อย่างไรก็ดี คงไม่อาจกล่าวได้ว่าฮงแดคือพื้นที่ดนตรีแต่เพียงอย่างเดียว แต่สำหรับในงานนี้ผู้เขียนตั้งข้อสังเกตจากเรื่องของดนตรีเท่านั้นพื้นที่อินดี้เกาหลีเกิดขึ้นในโซล โดยเฉพาะในย่านฮงแด ย่านนี้อยู่แถบตอนใต้ของโซลและติดกับมหาวิทยาลัยฮงงิก Hongik University)ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านการเรียนการสอนทางด้านศิลปะของเกาหลี ในสมัยเกาหลียังอยู่ภายใต้รัฐบาลเผด็จการทหารย่านฮงแดเคยเป็นย่านคลับ( ร้านดื่มเหล้า มีดนตรีและสาวพาร์ทเนอร์)มาก่อนในยุค 70s - 80s แต่ก็ทรุดโทรมไปเมื่อหมดยุคสมัยของคลับ หลังจากนั้นในช่วงกลาง 90s ร้านขายหนังสือเป็นกลุ่มแรกๆที่เข้ามา ตามด้วยกลุ่มนักศึกษาที่ตั้งวงดนตรีอัลเทอร์เนทีฟร็อคเล่นแสดงสดกันกลางแจ้ง แต่ย่านนี้กลับมาคึกคักในช่วงกลางคืนอีกครั้งเมื่อวัยรุ่นเหล่านั้นเริ่มเห็นว่าคลับเก่าที่ปิดร้างเหล่านั้นมีราคาค่าเช่าที่ไม่แพงเท่าไร พวกเขาจึงเขามาเช่าร้าน( ซึ่งส่วนใหญ่เป็นห้องที่จุผู้คนเข้าชมดนตรีได้และอยู่ในชั้นใต้ดินไม่ส่งเสียงรบกวนผู้อาศัยในยามค่ำคืน) ช่วงปลาย 90s ย่านฮงแดก็กลับมาคึกคักอีกครั้งในยามค่ำคืน มีผับที่เปิดเป็นร้านให้มีการแสดงดนตรีอีกครั้งอย่างเช่น Club FF Freebird No Brain Crying Nut DGBD( เลียนแบบ CBGB ผับดังในนิวยอร์ค)พ ร้าน Club BBang ที่ผู้เขียนได้ไปมาก็เริ่มเปิดกิจการเป็นไลฟ์เฮาส์( live house)ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1994 ลักษณะที่สำคัญของ ไลฟ์เฮาส์คือเน้นการแสดงดนตรี ผู้เข้าชมซื้อบัตรเข้าชม(หรือจ่ายค่าเข้าชมด้วยเงื่อนไขต่างๆกันไป) จำหน่ายเครื่องเดิม(แต่ไม่มีที่โต๊ะนั่ง) ว่ากันว่าในยุค 90s วงดนตรีหน้าใหม่(ที่ไม่ใช่วงในกระแสหลัก)หลากหลายสไตล์ล้วนผ่านเวทีการแสดงในผับที่เกิดใหม่ในย่านฮงแดมาแล้วทั้งนั้น เกิดคำเรียกที่ว่า ฮงแดซาวด์ขึ้นมาอย่างไรก็ตามแต่ผู้ที่อยู่เดิมจำนวนหนึ่งยังคงอยู่ได้ คลับ Club BBang ที่จัดงานที่ผู้เขียนไปชมงานในวันนั้น แม้ไม่ได้เป็นผับฮิตในย่านนั้น(ที่สุดถนนหลักในฮงแดง)แต่การจัดงานดนตรีอย่างต่อเนื่องและเปิดโอกาสให้กับวงหน้าใหม่ หลากหลาสไตล์ทำให้เป็นสถานที่ที่กลายเป็นสัญญลักษณ์ของ ฮงแดซาวน์ไปแล้ว วงดนตรีหลายๆที่เกิดขึ้นด้วยการสนับสนุนการของร้านในย่านนี้ อย่างเช่นศิลปินคู่ ศิลปินคู่ Kim Sawol และ Kim Heawon ที่ผู้เขียนได้ชม ณ ร้าน Strange Fruit ในวันนั้น Kim Sawol (จากงานอัลบั้มเดียว Susan)ก็เพิ่งคว้ารางวัลดนตรีโฟล์ค ยอดเยี่ยมของ Korean Music Award 2016 ที่ผ่านมาได้แต่ใช่ว่าร้านเหล่านั้นในย่านฮงแดงจะอยู่อย่างยั่งยืนในเชิงธุรกิจได้ทุกร้าน มีการเปลี่ยนมือผู้เช่าเปิดกิจการผับไปด้วยเหตุผลต่างๆ แต่นั้นยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่ทำให้ย่านดนตรีในฮงแดเปลี่ยนไป ในปัจจุบันสิ่งที่เกิดขึ้นในการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่เมือง โดยเฉพาะพื้นที่เมืองชั้นใน หรือย่านเก่าที่ทรุดโทรม)ตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก ก็คือ การพัฒนาย่านเหล่านี้ให้กลายเป็นพื้นที่ที่มูลค่าในเชิงสัญลักษณ์ โดยการให้ผู้เช่าเดิม ( ซึ่งไม่จำเป็นต้องผู้อยู่อาศัยมาตั้งแต่แรก ส่วนใหญ่คือผู้เช่า)ออกไป โดยการขึ้นราคาค่าเช่าหรือไม่ต่อสัญญาการเช่า แล้วอาคารพื้นที่เดิมนั้นจะถูกปรับปรุงเพื่อเปิดกิจการใหม่หรือกิจการในลักษณะที่คล้ายกิจการของเดิม ประเด็นสำคัญของย่านฮงแดตรงนี้ก็คือ พอย่านนี้กลายเป็นย่านดังขึ้นมา บริษัทที่ดำเนินธุรกิจพัฒนาที่ดินก็จะเข้ามาจัดการ ด้วยการเข้ามาบริหารการเช่า ราคาค่าเช่าและระยะเวลาการเช่า ทำให้ค่าเช่าแพงขึ้นจนผู้เช่าเดิมอยู่ไม่ได้ หลังจากนั้น ร้านกาแฟดัง ร้านแฟชั่นแบรนด์เนม์ แกลลอรี่ก็จะค่อยๆเข้ามา ร้านกาแฟในละครโทรทัศน์ชื่อดังอย่าง Coffee Prince ก็ตั้งอยู่ในย่านฮงแด และมีส่วนให้ฮงแดกลายเปลี่ยนเป็นย่านท่องเที่ยวไป เมื่อนักท่องเที่ยวทั้งหลายแห่กันไปชมสถานที่ถ่ายร้านกาแฟดังกล่าว เดินเที่ยวถ่ายรูปหรือซื้อสินค้าแบรนด์เนม( ที่หาซื้อที่ไหนก็ได้) ย่านเหล่านี้ค่อยกลายเป็นฮิปสเตอร์หรือผู้ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์(ในความหมายที่เป็นวาทกรรมสื่อ)(3)ปรากฏการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในย่านฮงแด ศัพท์ทางสังคมวิทยาเรียกปรากฏการณ์นี้ว่าเป็นการ gentrification ซึ่งจะต่างออกไปจากทำให้การเป็นเมืองในอดีตซึ่งนั่นเป็นการมุ่งไปที่การพัฒนาที่ดิน หรือเปลี่ยนแปลงพื้นที่ทั้งหมดด้วยการก่อสร้างอาคาร รวมถึง gentrification ไม่ได้มุ่งที่จะการก่อสร้างใหม่ หากแต่แค่ปรับปรุง พื้นที่และสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างมูลค่าสัญลักษณ์ใหม่(คิดถึงย่านนิมมานฯในเชียงใหม่ และซอยนานาแถววงเวียน 22 ในกรุงเทพฯ หรือย่านถนนพระอาทิตย์ที่เริ่มปรับสัญลักษณ์เชิงพื้นที่ตั้งแต่กลาง 90s )ที่สำคัญ gentrification เป็นลักษณะของดำเนินการโดยเอกชน(บริษัทพัฒนาที่ดิน)กับเอกชน(ผู้ค้าที่เป็นผู้เช่าเดิม) ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกระบวนการไล่ รื้อหรือเบียดขับผู้คนชายขอบ และไม่ได้เกี่ยวอะไรกับแนวคิดเรื่องการอนุรักษ์หรือฟื้นฟูย่านเก่าในนโยบายเกี่ยวกับศิลปะและวัฒนธรรมเมืองของหน่วยงานรัฐ เพราะพื้นที่เช่นฮงแด หรือซอยนานา เป็นย่านกินดื่มและเสพศิลปะวัฒนธรรมร่วมสมัย (ที่ง่ายต่อการเข้าถึงในการเสพงานทางศิลปะ หรือไม่ต้องเสียเงินจ่ายในราคาที่สูงในการชม)อย่างไรก็ตาม gentrification เป็นเรื่องที่ก่อให้เกิดคำถามสำคัญที่ว่า ใครควรจะในเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ในเมื่อค่าเช่าที่เป็นของกลไกตลาด รัฐจะเข้ามากำหนดราคาค่าเช่าก็ดูกระไรอยู่ (ในเมื่อเป็นที่เอกชน) รัฐจะสนับสนุนผู้เช่าเดิมในแง่ใด ในเมื่อผู้เช่าก็เป็นผู้ประกอบการ สร้างสถานที่แสดงหรือการจัดตั้งพื้นที่ให้นั่นก็ไม่เคยเป็นที่ต้องการของกลุ่มอินดี้จริงๆ สักที จากที่สังเกตของผู้เขียนผับต่างๆที่เดินดูดนตรีทั้ง 6 ร้านในคืนนั้น ล้วนแล้วแต่อยู่ในสภาพที่ดูทรุดโทรม กลิ่นอับๆ ตกแต่งร้านด้วยสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมต่อต้าน (สติกเกอร์ โปสเตอร์และปกแผ่นเสียงศิลปินยุค 70s ฯลฯ) ส่วนใหญ่เฟอร์นิเจอร์และของแตกแต่งร้านเป็นของยุค 70s-80s ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือสัญลักษณ์ที่ต้องการการหยุดการเปลี่ยนแปลงไว้ ณ จุดหนึ่งในอดีต พวกเขาพอกับการพัฒนาที่จริงนอกจากย่านฮงแดแล้ว ในย่านกังนัมซึ่งพัฒนาจากย่านเกษตรกรรมชานเมืองมาเป็นส่วนหนึ่งของกรุงโซลในยุค 80s ก็กำลังเกิดปรากฏการณ์เช่นเดียวกับฮงแด และอีกหลายที่ๆในกรุงโซลก็กำลังเกิดปรากฏการณ์คล้ายกันนี้ ทั้งกลุ่มอินดี้ในพื้นที่ นักวิชาการและนักกิจกรรมมีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้เพื่อให้คนและพื้นที่เหล่านี้สามารถอยู่ต่อไปได้ไม่หายไปกับการเข้ามาของธุรกิจ งานการแสดงด้านศิลปะและอัลบั้มเพลง Stop Psy ( Psy คือศิลปินที่มีผลงานเพลง Gangnam Style อันโด่งดัง ชื่ออัลบั้ม Stop Psy ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของการการต่อต้าน) เป็นงานที่ผลิตออกมาเพื่อการณรงค์ต่อต้าน gentrification ในกรุงโซล… | ช่วงต้นเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ผู้เขียนได้มีโอกาสไปร่วมสัมมนาดนตรีสมัยนิยมในเอเชียที่ศูนย์วัฒนธรรมเอเชีย เมืองกวางจูเกาหลี | ต่างประเทศ,วัฒนธรรม,สังคม | ดนตรี,วิริยะ สว่างโชติ,อินดี้,เกาหลี,เกาหลีใต้ | https://prachatai.com/journal/2016/03/64475 |
เจอเหยื่อโดดถีบ จับทันควันโจรกระชากทอง 8 บาท อ้างเมียกำลังท้อง | เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 2 ม.ค.59 พ.ต.อ.จิณวัตร ก้อนทองดี ผกก.สน.บุคคโล และ ร.ต.อ.สวาด แท่งกระโทก รอง สวป.สน.บุคคโล ร่วมกันจับกุม นายใหม่ คตพิมพ์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 5 ต.คำอาฮวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน โดยจับกุมตัวได้ทันควันขณะกำลังก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำผู้เสียหายบริเวณปากซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 20 แขวงสำเหร่ เขตธนบุรี กทม.,พ.ต.อ.จิณวัตร เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังออกตรวจสอบความเรียบร้อยโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยนั่งรถกระบะสายตรวจผ่านมาบริเวณที่เกิดเหตุ พบเห็นผู้เสียหาย ชื่อ นายมานิตย์ การะน้อย อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 หมู่ 5 ต.ดงยาง อ.นาดูน จ.มหาสารคาม กำลังปลุกปล้ำต่อสู้กับ นายใหม่ ผู้ต้องหาพอดี โดยมีรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหา ซึ่งไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียนพลิกคว่ำอยู่บนบาทวิถี จึงเข้าควบคุมตัวไว้ได้แบบทันควัน,จากการสอบสวน นายใหม่ ให้การรับสารภาพว่า ไม่ได้ทำงานอะไรปัจจุบันเช่าบ้านพักอยู่กับภรรยาตั้งท้อง 4 เดือน ในซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 4 ส่วน รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว หมายเลขทะเบียนคือ ษบว 371 กรุงเทพมหานคร เป็นรถของพี่สาวตนยืมมาดักรอเหยื่อเพื่อวิ่งราวทรัพย์ หาเงินไปใช้จ่ายและเตรียมไว้ให้ภรรยาคลอดลูก ก่อนขี่รถออกจากบ้านได้นำแผ่นป้ายทะเบียนเก็บไว้ใต้เบาะ เมื่อขี่ผ่านมาเห็นผู้เสียหายใส่ทองเส้นใหญ่ และถือของพะรุงพะรังจึงขับรถขึ้นบาทวิถีไปทางด้านหลังก่อนเอื้อมมือไปจะกระชากสร้อยแต่เหยื่อไหวตัวทัน ขัดขืนและต่อสู้ กระโดดถีบตนทำให้รถล้ม เป็นจังหวะที่ตำรวจผ่านมาพอดี จึงถูกจับตัวได้ในที่สุด,ด้าน นายมานิตย์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเป็นหัวหน้างานแผนกขนส่งบริษัทผลิตยาแห่งหนึ่งย่านท่าดินแดง ปัจจุบันพักอยู่กับครอบครัวย่านราษฎร์บูรณะ ขณะเกิดเหตุขับรถเก๋งมาซื้ออาหารทะเลกับภรรยา ใกล้กับปากซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 20 เพื่อนำไปทำกินที่บ้าน ในจังหวะที่กำลังหิ้วของทั้งสองมือพะรุงพะรัง เดินไปที่รถ ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์เร่งเครื่องมาจากทางด้านหลัง จากนั้นคนขับขี่ได้เอื้อมมือมาล้วงสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 8 บาท ซึ่งตนคล้องพระร่วงเลี่ยมทองเอาไว้ด้วย 1 องค์ พอตนรู้สึกตัวจึงรีบทิ้งของที่ถือไว้ทั้งหมด ก่อนกระโดดถีบรถของคนร้ายจนล้ม แล้วเข้าปลุกปล้ำจนตำรวจเข้ามาช่วยเหลือ จับตัวคนร้ายไว้ได้,ขณะที่ ร.ต.อ.สวาด กล่าวว่า เบื้องต้นตรวจสอบข้อมูลประวัติ พบว่า นายใหม่ เคยถูกจับกุมข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน ถูกศาลจังหวัดลพบุรีสั่งจำคุก นาน 7 ปี 6 เดือน พอพ้นโทษออกมาไม่นานก็โดนตำรวจ สน.พหลโยธิน จับข้อหาวิ่งราวทรัพย์ ถูกจำคุก 2 ปี เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือน มี.ค.58 ก็มาก่อเหตุแบบเดิมในท้องที่ สน.บุคคโลอีก โดยอ้างว่าเมียกำลังท้อง. | หนุ่มมีประวัติติดคุกคดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์หลายครั้ง ก่อเหตุกระชากทองหนัก 8 บาท ขี่จยย.ขึ้นฟุตปาทมาทางด้านหลัง คว้าสร้อยแต่เหยื่อไหวทัน หันมาโดดถีบ ก่อนเข้าปล้ำฟัด พอดีมีตร.ผ่านมาช่วยจับตัวไว้ได้ อ้างเมียกำลังท้อง | null | จับโจร,วิ่งราวทรัพย์,วิ่งราวทอง8บาท,กระชากสร้อย,โดดถีบโจร,อ้างเมียท้อง,สน.บุคคโล,อาชญากรรม,กทม,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/content/557219 |
พธม.ออกแถลงการณ์เลื่อนชุมนุม 5 มิ.ย.นี้ออกไป หลัง ปธ.สภาฯสั่งงดประชุม 5-7 มิ.ย.นี้ | พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4/2555 โดยมีใจความว่า บัดนี้ได้ปรากฏว่าประธานรัฐสภาได้สั่งงดการประชุมสภาร่วมในวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555 และ ให้งดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 6-7 มิถุนายน พ.ศ. 2555 โดยแจ้งให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่านให้ทราบแล้วแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีความเห็นว่า การงดการประชุมสภาร่วม และ การงดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรระหว่างวันที่ 6-7 มิถุนายน พ.ศ. 2555 นั้น มาจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการนัดหมายชุมนุมยิดเยื้อในวันที่ 5 มิ.ย.นี้นอกจากนี้แกนนำพันธมิตรฯ ยังกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวต่อไป คือ เห็นควรให้เลื่อนการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ออกไปก่อน และ เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังในที่ตั้ง และ สร้างกิจกรรมและพร้อมเคลื่อนมวลชนโดยทันทีที่มีแถลงการณ์ของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย | พันธมิตรฯออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4 / 2555 เลื่อนการนัดหมายชุมนุม 5 มิ.ย.นี้ออกไปก่อน แต่ให้ผู้ชุมนุมเตรียมพร้อมในที่ตั้ง หลังประธานสภาฯได้มีคำสั่งงดการประชุมสภาฯในวันที่ 5-7 มิ.ย.นี้ | การเมือง | นัดหมาย,พธม,พันธมิตรฯ,เตรียมพร้อมในที่ตั้ง,เลื่อนชุมนุม | https://news.thaipbs.or.th/content/88910 |
นิธิ เอียวศรีวงศ์: รัฐลอยนวล | แล้วก็ลอยนวลตลอดมาตั้งแต่ 2475 ถึงปัจจุบันต่างหาก (In Plain Sight: Impunity and Human Rights in Thailand)ท่านรู้ดีว่า พูดอย่างนี้ก็เท่ากับกำลังพูดว่าการลอยนวลเป็นส่วนหนึ่งของการประกอบสร้างรัฐไทย (state formation) หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ รัฐนั้นประกอบสร้างขึ้นจากกลุ่มคนและสถาบันอะไรบ้าง และสัมพันธ์เชื่อมโยงเชิงอำนาจต่อกันอย่างไร การลอยนวลเป็นสถาบันสำคัญที่เชื่อมโยงอำนาจหลักๆ ให้ดำรงอยู่ในนามของรัฐไทยได้นั่นเองผมจึงขอเรียกรัฐไทยว่า รัฐลอยนวล ซึ่งทำให้แตกต่างจาก รัฐพันลึก รัฐราชการ รัฐอำนาจนิยม รัฐทุนนิยม ฯลฯ ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ Haberkorn ด้วยว่า รัฐลอยนวล นั้น ไม่ได้เป็นลักษณะที่จำกัดอยู่ที่รัฐไทยเพียงรัฐเดียว แต่ยังเป็นลักษณะของรัฐอื่นอีกหลายรัฐทั่วโลก (โดยเฉพาะรัฐในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)ความรุนแรงที่ผิดกฎหมายทั้งหลายนั้น ล้วนทำขึ้นในนามของรัฐ อัศวินตำรวจที่ไปรัดคอนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามคณะรัฐประหารจนตาย แล้วโยนทิ้งแม่น้ำนั้น อาจไม่รู้จักนักการเมืองคนนั้นเป็นส่วนตัวด้วยซ้ำ แต่เพื่อรักษาอำนาจของคณะรัฐประหารซึ่งแม้ว่าไร้ความชอบธรรมตามกฎหมาย แต่ก็ยึดอำนาจรัฐมาได้แล้ว และคือรัฐนั้นเองจึงจำเป็นต้องทำตาม หน้าที่ดังนั้น เมื่อทำแล้วจึงลอยนวล ที่น่าสนใจก็คือไม่ได้ลอยนวลเฉพาะในระหว่าง 10 ปีที่คณะรัฐประหารยังมีอำนาจอยู่เท่านั้น แม้หลังจากนั้นเมื่อสฤษดิ์ ธนะรัชต์ แย่งอำนาจของเผ่า ศรียานนท์ และ จอมพล ป.พิบูลสงคราม มาได้แล้ว คดีละเมิดประชาชนของคณะรัฐประหารทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมทรมาน อุ้มหาย สังหารโหด หรือจับกุมคุมขังโดยไม่ส่งฟ้องศาล ฯลฯ ผู้กระทำก็ล้วน ลอยนวล ทั้งสิ้น อาจมีการรื้อฟื้นคดีขึ้นมาพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์กันสักวันสองวัน หรือสัปดาห์สองสัปดาห์ แล้วในที่สุดคณะกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อสืบสวนสอบสวน ก็จะส่งรายงานไปเข้าลิ้นชักของผู้ใหญ่บางกรณีคณะกรรมการสอบเสร็จแล้ว รัฐบาลกลับบอกว่าเปิดเผยไม่ได้ก็มี เช่นกรณีทหารตำรวจและอาสาสมัครรักษาดินแดนเผาหมู่บ้านนาทราย จังหวัดหนองคาย ราบเป็นหน้ากลอง ชาวบ้านสูญเสียทรัพย์สินทั้งหมด และที่สำคัญคือข้าวซึ่งเพิ่งเก็บเกี่ยวได้ไม่นาน มีคนเสียชีวิตอีกสามคนด้วยเหตุใดก็ไม่ทราบ ทั้งๆ ที่ช่วงซึ่งเรื่องเจ้าหน้าที่รัฐละเมิดกฎหมาย ถูกเปิดขึ้นมาโดยองค์กรนักศึกษาองค์กรหนึ่งในช่วงหลัง 14 ตุลา ในที่สุดรัฐบาล ประชาธิปไตย ทั้งหมดในช่วงสามปีนั้น ก็ตัดสินว่าเรื่องนี้ต้องปล่อยให้ ลอยนวล ไปดีกว่า ส่วนการเยียวยาช่วยเหลือเหยื่อก็ยอมรับและทำไปเท่าที่จะทำได้ลอยนวล ในรัฐไทยจึงไม่ใช่เครื่องมือสำหรับรักษาอำนาจเผด็จการ เพราะยังมีอีกหลายกรณีที่รัฐบาลจากการเลือกตั้ง ก็ช่วยรักษาการ ลอยนวล ไว้เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการประกอบสร้างรัฐไทยม.17 ซึ่งเป็นเครื่องมือให้สฤษดิ์-ถนอม-ประภาสละเมิดชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้อย่างลอยนวลตลอดเวลานั้น ถูกรักษาไว้ในรัฐธรรมนูญและธรรมนูญสืบมาอีกนาน หลายคนคงไม่ทันนึกว่ารัฐธรรมนูญ พ.ศ.2521 ซึ่งเป็นฐานอำนาจทางกฎหมายของนายกฯเกรียงศักดิ์ เปรม และชาติชาย ก็มี ม.200 ซึ่งให้อำนาจนายกฯ เหมือน ม.17 ของสฤษดิ์เช่นกัน และตลอดเวลานั้นเรามีการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญไม่ขาดอำนาจของ คสช.ในการจับคนชูสามนิ้ว กินแซนด์วิช อ่านหนังสือ และคนที่ คสช.ไม่ไว้วางใจไปเก็บไว้ 7 วันหรือนานกว่านั้น มาจาก พ.ร.บ.กฎอัยการศึกซึ่งออกครั้งแรกตั้งแต่ ร.6 และได้ผ่านรัฐบาล ประชาธิปไตย มาไม่รู้จะกี่รัฐบาลแล้ว โดยไม่ถูกแก้ไขเพื่อประกันสิทธิมนุษยชนของประชาชนเลย อีกทั้งการใช้อำนาจจากกฎหมายนี้เพื่อละเมิดสิทธิของประชาชนอย่างเกินหรือผิดกฎหมาย ก็ไม่เคยถูกนำมาไต่สวนลงโทษ ผู้ละเมิดทุกคนก็ยัง ลอยนวล มาโดยสวัสดิภาพ เพราะต่างก็ทำในนามของรัฐทั้งสิ้น(การจับกุมกับการคุกคามเป็นคนละเรื่อง กฎหมายอนุญาตให้จับกุม แต่ไม่อนุญาตให้ทรมานหรือคุกคามครอบครัว)ประเทศไทยไม่ได้ทรงอำนาจยิ่งใหญ่เหมือนเยอรมนีภายใต้ฮิตเลอร์ จีนคอมมิวนิสต์ หรือสหภาพโซเวียต เราจึงหลีกเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องแต่งหน้าให้พอไปวัดไปวาได้เบื้องหน้าสหประชาชาติ มหาอำนาจตะวันตก และกระแสสิทธิมนุษยชน ซึ่งกระจายไปทั่วโลกนับตั้งแต่สิ้นสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา รวมทั้งแรงกดดันที่ไม่แรงนักของคนภายในเองด้วย จะรักษาอำนาจขององค์ประกอบของรัฐท่ามกลางบรรยากาศแห่งสิทธิพลเมืองและสิทธิมนุษยชนของโลกอย่างไร โดยไม่กระทบต่อหน้าที่แต่งไว้แล้วนี้ ก็ ลอยนวล สิครับกฎหมายและแบบปฏิบัติที่เทียบได้กับ นานาอารยประเทศ ไทยก็มีไม่ต่างกัน แต่จะบังคับใช้กับใครและอย่างไร เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตรงการบังคับใช้นี่แหละ ที่ต้องทำอย่าง ลอยนวล เพื่อรักษาการประกอบสร้างรัฐเอาไว้ให้คงเดิม รัฐลอยนวลคือรัฐที่ต้องรักษาให้หน้าสวยไว้ แต่ตัวกลวง จึงต้องเอาชุดไทยสวมทับไว้(บางคนชอบพูดว่า ต้องเขียนรัฐธรรมนูญให้เป็นแบบไทยๆ คือจัดความสัมพันธ์เชิงอำนาจตามความเป็นจริงของสังคมไทย ผมฟังแล้วก็อดคิดไม่ได้ทุกทีว่า มึงไม่กล้าหรอก)หลักการลอยนวลของรัฐนั้น ต้องทำในนามของรัฐหรือประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ด้วยเหตุดังนั้นชาตินิยมจึงมีความสำคัญอย่างมากในรัฐไทย แต่ต้องเป็นชาตินิยมที่ทำให้เกิดการลอยนวลได้สะดวก ไม่ใช่ชาตินิยมที่ปล่อยให้ประชาชนเป็นใหญ่นี่เป็นข้อบังคับที่ดูไม่น่าจะยากอะไรของรัฐลอยนวล เพราะรัฐเป็นผู้ให้ความหมายแก่สิทธิพลเมืองและสิทธิมนุษยชนเอง อย่าลืมว่าไทยเป็นหนึ่งใน 48 ประเทศทั่วโลก ที่ลงนามในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนขององค์กรสหประชาชาติเป็นกลุ่มแรก จนเรามีวันฉลองสิทธิมนุษยชนทุกปีมาตั้งแต่ พ.ศ.2492 แต่จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีก็อธิบายว่า คอมมิวนิสต์คือผู้ทำลายสิทธิมนุษยชนแต่เอาเข้าจริงก็ไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะองค์ประกอบของการประกอบสร้างรัฐไทยไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ มีคนหน้าใหม่โผล่เข้ามาในความสัมพันธ์เชิงอำนาจอยู่เรื่อยๆ หลังนโยบายพัฒนาของสฤษดิ์ กลุ่มทุนขยายตัวจากลูกกะจ๊อกของนักการเมืองมาเป็นกลุ่มอิสระในตัวเอง กลุ่มทุนเล่นเกม ลอยนวล ได้เก่งไม่แพ้กลุ่มอื่น เขาสามารถละเมิดสิทธิสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของประชาชนได้อย่างลอยนวลเสมอมา เพราะการกดขี่เอารัดเอาเปรียบประชาชนของเขา ทำไปเพื่อความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของรัฐ การปล่อยน้ำเสียลงทางน้ำสาธารณะจึงทำในนามของรัฐ ไม่ต่างจากการจับคอมมิวนิสต์ไปเผาในถังแดงรัฐลอยนวลจึงถูกอำนาจในองค์ประกอบสร้างของรัฐเองบ่อนทำลายลงไปมากขึ้น และบ่อยขึ้นเรื่อยๆ เรื่องนี้ไม่จำกัดแต่เฉพาะในกลุ่มทุน แต่ซับซ้อนมากขึ้นจนแยกระหว่างคนที่ควรลอยนวลและไม่ควรลอยนวลได้ยาก ผมจะยกตัวอย่างกรณีสังหารหมู่ใน พ.ศ.2553 ในภายหน้าโดยไม่ต้องอธิบายให้มากความ ก็เห็นนะครับว่า รัฐลอยนวลแบ่งคนออกเป็นสองประเภท คือคนที่อยู่ในองค์ประกอบสร้างของรัฐ กับประชาชนทั่วไป ซึ่งสมัยก่อนไม่ได้จัดองค์กรเป็นกลุ่มก้อนนัก จึงยากที่จะเผยอขึ้นไปเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสร้างของรัฐ แต่ปัจจุบัน รู้จักการจัดองค์กรดีขึ้น แม้กระนั้นก็ยังไม่พอจะแทรกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบสร้างของรัฐได้อย่างมั่นคงนัก ในสภาวะเช่นนี้แหละ ที่รัฐดำรงอำนาจอยู่ได้ด้วยการ ลอยนวลและโดยไม่อธิบายให้มากความเหมือนกัน กลไกรัฐทุกส่วนย่อมถูกใช้กับคนสองกลุ่มนี้แตกต่างกัน ตราบเท่าที่คนกลุ่มข้างบนสามารถอ้างได้ว่ากระทำในนามของรัฐ การกระทำของเขาก็ลอยนวลได้เสมอ ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใดๆ ในขณะที่คนกลุ่มข้างล่างย่อมเป็นไปตรงกันข้าม และเป็นเหยื่อของการกระทำของคนข้างบน ผมขอย้ำว่ากลไกรัฐทุกส่วนจริงๆ ไม่มีส่วนไหนหรอกที่ถือว่า พึ่งได้ เพราะทุกส่วนล้วนมีบทบาทในการรักษาให้รัฐลอยนวลต่อไปได้ทั้งนั้นผมคิดว่า รัฐลอยนวลใช้เป็นตัวแบบในการอธิบายรัฐไทยได้ดีกว่ารัฐพันลึก เพราะรัฐพันลึกใช้ได้ดีกับรัฐที่องค์ประกอบสร้างของรัฐอยู่ตัวมานานพอสมควรแล้ว รัฐธรรมนูญ กฎหมาย แบบปฏิบัติประชาธิปไตย ล้วนลงตัวแล้ว หรือพูดอีกอย่างหนึ่งคือ หน้าสวย ของรัฐพันลึกมีผลลงมาถึงร่างกายซึ่งไม่กลวงด้วย จะรักษาอภิสิทธิ์ขององค์ประกอบสร้างของรัฐอย่างไรได้นอกจากดำดิ่งลงไปที่ก้นบึ้งเพื่อให้มองไม่เห็น สร้างรัฐที่คุมอำนาจสูงสุดไว้ข้างล่างเป็นรัฐพันลึกนั่นคือเหตุผลที่หลังการอภิปรายเรื่องรัฐพันลึกไทย ผู้ฟังบางคนจึงอุทานว่านั่นมันรัฐพันตื้นนี่หว่า กล่าวคือมองเห็นได้ถนัดตาทั้งนั้น ผิดกับรัฐลอยนวล ที่การลอยนวลนั้นมักทำกันอย่างโจ่งแจ้ง กลไกรัฐทุกส่วนต่างออกมาประสานสอดรับการลอยนวลนั้นอย่างไม่ปิดบังอำพรางใดๆ (จนบางครั้งทำให้ประชาชนหน้าชาไปเลย) อาจารย์ Haberkorn อธิบายว่าเพื่อเป็น บทเรียน (pedagogical) ซึ่งก็คงใช่บางส่วนการสังหารหมู่ประชาชนในเมษายน-พฤษภาคม 2553 กระทำกันกลางเมือง ซ้ำแทบจะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ ปรากฏการณ์อย่างนี้ไม่ได้เกิดในรัฐลอยนวลไทยเป็นครั้งแรก แต่เกิดมาหลายครั้งแล้ว หากทว่าทุกครั้งก็จะรีบออกกฎหมายนิรโทษกรรมมาทันที กฎหมายลอยนวลเช่นนี้ดำรงความศักดิ์สิทธิ์มาได้แม้ภายใต้รัฐบาล ประชาธิปไตย ดังที่ได้กล่าวข้างต้นแล้วว่า ประชาธิปไตยหรือเผด็จการไม่เกี่ยว แต่รัฐต้องรักษาหลักการลอยนวลไว้ต่างหากด้วยเหตุใดก็ตามที่ทำให้รัฐบาลซึ่งสั่งการสังหารหมู่ไม่ได้ออกกฎหมายนิรโทษกรรม เป็นผลให้รัฐบาลนั้นตกที่นั่งลำบาก เท่าๆ กับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หลังจากนั้นก็ตกที่นั่งลำบากเหมือนกัน เพราะทุกฝ่ายที่เข้าถึงอำนาจรัฐได้ย่อมรู้ดีว่า เรื่องนี้ต้องลอยนวล เพราะหากไม่ลอยนวลความสัมพันธ์เชิงอำนาจขององค์ประกอบสร้างของรัฐจะสั่นคลอนไปทุกส่วน และความเป็นรัฐลอยนวลก็จะไม่มั่นคงอีกต่อไปแค่นักการเมืองสองสามคนที่จะต้องติดคุกนั้นเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้านักการเมืองติดคุกเพราะเรื่องนี้ได้ ทหารอีกจำนวนมากที่ปฏิบัติการสังหารหมู่ในครั้งนั้นก็ต้องติดคุกด้วย คราวนี้เรื่องเริ่มจะไม่เล็กเสียแล้ว ไม่ใช่เพราะนักการเมืองหรือทหารติดคุกไม่ได้ แต่ทั้งนักการเมืองและทหารต่างอ้างว่าการสังหารหมู่ในวันนั้น เป็นการกระทำเพื่อปกป้องรัฐ (ทำในนามของรัฐ) ให้ไม่ต้องจำนนต่ออันธพาลทางการเมือง ตรงตามหลักการลอยนวลของรัฐทุกอย่างหากการกระทำของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ในกลไกของรัฐ ทั้งกระทำในนามของรัฐด้วย จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อกฎหมายและประชาชน รัฐลอยนวลก็พังลงทั้งหมดในขณะที่คดีดำเนินไปอย่างย้อนยอก สร้างความอึดอัดแก่กลไกของรัฐทุกส่วน ก็เกิดการรัฐประหารของกองทัพขึ้น ผู้เข้ามามีส่วนแบ่งอำนาจ (อย่างออกหน้า) ทั้งหมด หรือเกือบทั้งหมด ต่างมีส่วนต้องรับผิดชอบมากหรือน้อยกับการสังหารหมู่ทั้งสิ้น และในภาวะไม่ปกตินี้ คดีก็ถูกนำไปสู่ภาวะลอยนวลจนได้ แม้อย่างอุจาดไปบ้าง แต่ดังที่กล่าวแล้วว่า ลอยนวลกลางแดดหรือความอุจาดเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของรัฐลอยนวลกรณีสังหารหมู่ 2553 นั้นน่าสนใจเป็นพิเศษ แม้ในที่สุดลงเอยที่การลอยนวลเหมือนเคย แต่ย้อนกลับไปไล่ดูตั้งแต่ต้นก่อนที่จะถึงจุดลอยนวล จะเห็นความแตกต่างจากการละเมิดประชาชนที่ผ่านมาแล้วทั้งหมด มันไม่เรียบง่ายเหมือนแถลงการณ์ฉบับเดียวจากกระทรวงมหาดไทย หรือทำเนียบรัฐบาล แล้วก็ลอยนวลได้ | จะนิยามรัฐไทยว่าอะไรดี อำนาจที่ผูกขาดความรุนแรงอันถูกกฎหมายไว้แต่ผู้เดียว อย่างที่ Max Weber เสนอกระนั้นหรือ อาจารย์ Tyrell Haberkorn บอกว่าไม่ใช่หรอก รัฐไทยคืออำนาจที่ใช้ความรุนแรงอันผิดกฎหมาย | การเมือง,วัฒนธรรม | นิธิ เอียวศรีวงศ์,Tyrell Haberkorn,รัฐลอยนวล,รัฐพันลึก | https://prachatai.com/journal/2018/09/78565 |
พบนักกีฬาชาวเอริเทรียมักขอลี้ภัยระหว่างการแข่งขันนอกประเทศ | ผู้ชมชาวแอฟริกาจับตามองนักกีฬาชาวเอริเทรียจากทวีปแอฟริกาในการแข่งขันโอลิมปิก เพราะพวกเขามักถือโอกาสขอลี้ภัยขณะออกไปแข่งขันกีฬาในต่างแดน เหตุถูกกดขี่จากระบอบการปกครองในประเทศเว็บไซต์ รายงานเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ว่าในช่วงสิบปีที่ผ่านมา มีนักกีฬาจากประเทศเอริเทรีย จากทางตะวันออกของทวีปแอฟริกา หลายสิบคนที่หลบหนีและขอลี้ภัยในประเทศอื่น นักวิจารณ์กล่าวว่านักกีฬาเหล่านี้หลบหนีการปกครองของคณะรัฐบาลที่ไม่ยอมมอบอำนาจคืนแก่ประชาชนตามสัญญาไมเคิล เทสฟาอี เจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตเอริเทรียในกรุงลอนดอนกล่าวว่า เอริเทรียส่งนักกีฬาลงแข่งขันที่กรุงลอนดอนทั้งหมด 12 คน ลงแข่งในกีฬาหลายประเภท รวมทั้งวิ่งและปั่นจักรยาน เขายืนยันว่า นักกีฬาชาวเอริเทรียทั้งหมดจะเดินทางกลับบ้านหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันเจ้าหน้าที่สถานทูตเอริเทรียในลอนดอนกล่าวว่า เพราะพวกเขาเป็นคนเอริเทรียที่รักบ้านเกิด พวกเขาจะต้องกลับไปเอริเทรียอย่างที่ทุกคนคาดหวังทีมนักกีฬาโอลิมปิกเอริเทรียรวมทั้ง นายเซอเสนเน่ แทดเดส นักวิ่งฮาฟมาราธอนเหรียญเงิน ที่ประกาศว่าตนประสบความสำเร็จเพราะการสนับสนุนของประเทศบ้านเกิดแต่ความรักชาติแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนทุกคน ทีมฟุตบอลแห่งชาติเอริเทรีย กลายเป็นข่าวพาดหัวเมื่อหกปีที่แล้ว เมื่อสมาชิกทีมนักเตะสี่คนขอลี้ภัยระหว่างการแข่งขันในประเทศเคนยาเมื่อสามปีที่แล้ว สมาชิกทีมฟุตบอลของเอริเทรียหายไปทั้งทีมหลังการแข่งขันในเคนยา แล้วไปโผล่ที่ออสเตรเลีย และเมื่อปีที่แล้ว นักเตะของทีมเอริเทรีย 13 คน หายตัวไปในแทนซาเนีย มีหลายคนเดินทางมาถึงเมืองฮูสตั้น สหรัฐอเมริกาภายใต้โครงการตั้งถิ่นฐานใหม่แก่ผู้อพยพนายดารีโอ้ ลิโพเว็ค ผู้ประสานงานโครงการตั้งถิ่นฐานผู้อพยพกล่าว่า นักกีฬาเหล่านี้มีความกล้าหาญที่ยอมสละตำแหน่งในระดับทีมชาติเอริเทรีย มาเป็นผู้อพยพเขาบอกว่า นักฟุตบอลทีมชาติเอริเทรีย 7 คนที่อยู่ที่ศูนย์ขณะนี้มีความสุขดีและซาบซึ้งที่ได้รับความช่วยเหลือ แต่พวกเขาคิดถึงบ้านและครอบครัวที่ทิ้งไว้เบื้องหลังอย่างไรก็ดี ไม่แค่นักกีฬาชาวเอริเทรียเท่านั้นที่ต้องการลี้ภัย สมาชิกทีมฟุตบอลหญิงแห่งชาติคิวบาสองคนได้ขอลี้ภัยในแคนาดาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และ นักกีฬาบาสเก็ตบอลอีก 5 คนของคิวบาได้หายตัวไประหว่างการแข่งขันในประเทศเปอร์โตริโก้ และเมื่อหลายสิบปีก่อน นักกีฬาจากสหภาพโซเวียตก็ตกเป็นข่าวในเรื่องนี้นายเดเนี่ยล เบ็คเคลลี่ ผู้อำนวยการประจำแอฟริกาของ Human Rights Watch กล่าวว่า ปัญหาการเมืองและสิทธิมนุษยชนในเอริเทรียเป็นตัวผลักดันให้นักกีฬาขอลี้ภัย ประเทศในทะเลแดงนี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของคนๆ เดียวคือ ประธานาธิบดี อิเซเอียซ อัฟเวอร์กี้ มีการคุมขังผู้คัดค้านทางการเมืองจำนวนมากและริดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน นอกจากนี้ ยังเลื่อนการเลือกตั้งออกไปครั้งแล้วครั้งเล่าผู้อำนวยการ Human Rights Watch ในแอฟริกากล่าวว่าการขอลี้ภัยของนักกีฬาแสดงถึงความเลวร้ายของปัญหาในเอริเทรีย โดยรวมแล้ว จำนวนคนที่หลบหนีจากประเทศเล็กๆ นี้ได้เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่าสองแสนคน หรือ ประมาณร้อยละ 5 ของประชากรทั้งหมดของประเทศ ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจที่มา: นักกีฬาชาวเอริเทรียมักขอลี้ภัยระหว่างการแข่งขันนอกประเทศ วอยซ์ ออฟ อเมริกา 1 ส.ค. 55 | ผู้ชมชาวแอฟริกาจับตามองนักกีฬาชาวเอริเทรียจากทวีปแอฟริกาในการแข่งขันโอลิมปิก เพราะพวกเขามักถือโอกาสขอลี้ภัยขณะออกไปแข่งขันกีฬาในต่างแดน เหตุถูกกดขี่จากระบอบการปกครองในประเทศ เว็บไซต์ วอยซ์ ออฟ | ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน,กีฬา | กีฬา,ผู้ลี้ภัย,ลอนดอน 2012,สหรัฐอเมริกา,เอริเทรีย,แอฟริกา,โอลิมปิก | https://prachatai.com/journal/2012/08/41845 |
เกษตรกรบริจาคเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์หมูช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม | นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมว่า วิกฤตอุทกภัยที่เกิดขึ้นในขณะนี้รุนแรงและกินระยะเวลายาวนานสร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนจำนวนมาก กลุ่มเกษตรกรสมาชิกสมาคมฯต่างรู้สึกเห็นใจ และได้ร่วมกันบริจาคเงินตลอดจนสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปแล้วส่วนหนึ่ง สมาคมฯประกาศร่วมบริจาคเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์หมูพร้อมรับประทาน เช่น หมูหยอง หมูกรอบ กุนเชียงและหมูสดสำหรับใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารแก่โรงครัวหรือเต็นท์อาหารที่หน่วยงานต่างๆ สร้างขึ้น เพื่อปรุงอาหารแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย โดยขอให้โรงครัวที่ต้องการเนื้อหมู ประสานงานมายังสมาคมฯที่ โทร.02–674-1190 หรือ 081-626-1971แม้จะมีเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรต้องเดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วมกระทั่งต้องขายหมูหนีน้ำ และบางคนก็ถึงกับต้องล้มละลายแต่ผู้เลี้ยงสุกรทุกคนตระหนักดีถึงภาวะวิกฤตของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติจึงยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือและขอให้สถานการณ์นี้คลี่คลายโดยเร็ว นายสุรชัยกล่าว | สมาคมฯประกาศร่วมบริจาคเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์หมูพร้อมรับประทาน เช่น หมูหยอง หมูกรอบ กุนเชียงและหมูสดสำหรับใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารแก่โรงครัวหรือเต็นท์อาหารที่หน่วยงานต่างๆ สร้างขึ้น | ภูมิภาค | บริจาค,สมาคมผู้เลี้ยงสุกร,อุทกภัย,เนื้อหมู | https://news.thaipbs.or.th/content/39850 |
ผู้ว่าฯ นำ จนท.ทลายบ่อนในร้านกาแฟลำปาง จับนักพนันขัดคำสั่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน | เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 5 เม.ย.63 นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พล.ต.ต.อนุชา อ่วมเจริญ ผบก.ภ.จ.ลำปาง นายพินิจ แก้วจิตคงทอง ปลัดจังหวัดลำปาง นายวาทิต ปัญญาคม นายอำเภอเมืองลำปาง พร้อมด้วยกำลังตำรวจ สภ.เขลางค์นคร และฝ่ายปกครอง สนธิกำลังร่วมกันตรวจสอบร้านกาแฟแห่งหนึ่งอยู่ที่ท้ายหมู่บ้านโทกหัวช้างพัฒนา ใกล้ริมทุ่งนา เขต ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีการเปิดบ่อนการพนันเมื่อ จนท.เข้าไปถึงนักพนันทั้งชายและหญิงต่างแตกฮือวิ่งหนีกันไปคนละทิศละทาง บางรายก็วิ่งหนีสุดชีวิต ออกไปทางทุ่งนาและป่าละเมาะข้างบ้าน บางรายก็ยึดหลักที่อันตรายที่สุดคือที่ปลอดภัยที่สุด มุดแอบซ่อนตัวอยู่ที่ใต้โต๊ะไฮโล จนท.ต้องกระจายกำลังไล่ติดตามวิ่งไล่ตาม และสามารถควบคุมตัวนักพนันเอาไว้ได้รวม 23 คน เป็นหญิง 14 คน และชาย 9 คน อายุระหว่าง 30–60 ปี พร้อมด้วยของกลางอุปกรณ์การเล่นไฮโลและเงินสดจำนวนหนึ่งจากนั้นจึงนำตัวนักพนันทุกคนไปทำการการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด และพบว่ามี 1 รายที่ผลฉี่ออกมาเป็นสีม่วง นอกจากนี้ จนท.ยังได้ประสานให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองลำปาง นำเครื่องวัดอุณหภูมิในร่างกายแบบยิงลำแสงใส่หน้าผากเข้ามาตรวจอุณหภูทิทุกคน เบื้องต้นผลปรากฏว่าทุกคนไม่มีไข้ จึงควบคุมตัวไปยัง สภ.เขลางค์นคร อ.เมือง จ.ลำปาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า หลังจากที่ชาวบ้านร้องเรียนเข้ามาจึงสั่งการให้ จนท.ออกหาข่าวทันที และพบว่ามีการเปิดเล่นจริง ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบแล้วครั้งหนึ่ง แต่คาดว่านักพนันน่าจะไหวตัวทัน กระทั่งมีการตรวจสอบอีกครั้งจนแน่ชัดว่ามีการเปิดเล่นจริง จึงสั่งการให้ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าจับกุมทันทีโดยร้านกาแฟแห่งนี้มีการตั้งโต๊ะเล่นกัน 2 วง มีทั้งด้านนอก ซึ่งเปิดโล่ง และด้านในซึ่งเป็นห้องปรับอากาศผวจ.ลำปาง กล่าวด้วยว่า เมื่อ จนท.เข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่าภายในร้านไม่มีอุปกรณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำกาแฟ หรือมีเครื่องชงกาแฟตั้งอยู่เลย แต่จะเปิดให้เล่นการพนันอย่างเดียว นับเป็นการกระทำผิดในเรื่องมั่วสุม และเสี่ยงต่อโรคโควิด-19 ที่กำลังระบาด และขัดต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมถึงในช่วงประกาศเคอร์ฟิว ทั้งนี้จะให้ จนท.ใช้บทลงโทษสูงสุดเพราะอยู่ในช่วงพื้นที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนเจ้าของร้านดังกล่าวนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวมาสอบสวนต่อไป. | ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ นำกำลังฝ่ายปกครอง จ.ลำปาง ทลายบ่อนในร้านกาแฟที่ไม่มีบาริสต้า มีแต่โต๊ะวงเล่นไฮโล รวบนักพนันได้ 23 ราย หลังฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินช่วงโควิด-19 ระบาด ลั่นส่งดำเนินคดีสูงสุด | ข่าว,ทั่วไทย | ทลายบ่อน,จับนักพนัน,บ่อนไฮโล,ลำปาง,ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร,สภ.เขลางค์นคร,พ.ร.ก.ฉุกเฉิน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1813274 |
นิติเวชพบในฉี่ เสก โลโซ ยาบ้า-ไอซ์-ยาอี ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม (คลิป) | เจ้าตัวยังย้ำกินยานอนหลับ หลังได้ประกันรีบกลับกทม.,เสก โลโซ ร็อกเกอร์ฉาว ยังไม่พ้นวิบากกรรม ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมฐานเสพยาเสพติดประเภท 1 ผบช.น. เผยผลตรวจฉี่ม่วงจากแพทย์ สถาบันนิติเวชวิทยายันเจอทั้งยาบ้า ไอซ์ และยาอี พนักงานสอบสวนจ่อออกหมายเรียกมารับทราบข้อหาสัปดาห์หน้า แถมไม่เข้าเงื่อนไขตามกฎหมาย หมดสิทธิ์ขอรับการฟื้นฟูบำบัด ขณะที่เจ้าตัวออกมาปฏิเสธทันทีหลังได้รับอิสรภาพศาลให้ประกันตัวคดียิงปืนขึ้นฟ้าในงานคอนเสิร์ตที่วัด จ.นครศรีธรรมราช ยืนยันกินยานอนหลับ ไม่ได้เสพยา,ยังคงเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจ กรณี เสก โลโซ หรือนายเสกสรรค์ ศุขพิมาย อายุ 43 ปี นักร้องชื่อดังถูกตำรวจบุกจับคาบ้านเลขที่ 9/27 หมู่บ้านนันทวันวัชรพล ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ในความผิดยิงปืนขึ้นฟ้าในงานคอนเสิร์ตหน้าพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภายในวัดเขาขุนพนม หมู่ 3 ต.บ้านเกาะ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ขณะจับกุมเสกถือปืนไลฟ์เฟซบุ๊กขู่ยิงตำรวจ หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว แจ้งข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และ พ.ร.บ.อาวุธปืน รวมทั้งรอผลตรวจปัสสาวะยืนยันจากสถาบันนิติเวชวิทยา ล่าสุดหลังเสกได้รับการประกันตัว ตำรวจ สภ.พรหมคีรี อายัดตัวไปดำเนินคดี ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา มี น.ส.อภิสร์ญา พัฒนวรทรัพย์ หรืออีฟ แม็กซิม แฟนสาวที่อยู่ในเหตุวันจับกุมนั่งรถตู้ไปด้วย,ต่อมาเวลา 09.00 น. วันที่ 3 ม.ค. ที่ สภ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช สถานที่คุมตัว เสก โลโซ ร็อกเกอร์ชื่อดัง พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ ผกก.กก.สส.ภ.จ.นครศรีธรรมราช นำกำลังตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ หรือ นปพ. เบิกตัวนายเสกสรรค์ ผู้ต้องหาออกจากห้องขังขึ้นรถตู้นำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในความผิด 3 ข้อหา ประกอบด้วยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง ในหมู่บ้านหรือชุมชน,ก่อนออกเดินทางว่าที่ ร.ต.มงคลวิจิตร ธนะโสภณ ทนายความส่วนตัวของเสกแจ้งต่อ พ.ต.ท.ภิรมย์ เรืองรุ่ง สว. (สอบสวน) สภ.พรหมคีรี เจ้าของคดี ขอตรวจสำนวนการสอบปากคำเสกอย่างละเอียด ส่วนบริเวณหน้าโรงพักมีแฟนคลับกว่า 10 คน ถือป้ายส่งเสียงให้กำลังใจ เสก โลโซ ตำรวจได้นำเครื่องเสียงมาเปิดเพลงของเสกให้แฟนเพลงฟังเพื่อไม่ให้บรรยากาศตึงเครียด ขณะที่เสกมีสีหน้ายิ้มแย้มและตะโกนบอกแฟนเพลงว่าสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง ด้าน พ.ต.ต.กงกฤช ทองนุ่น สว.กก.สส.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้รับมอบหมายให้มาดูแลความปลอดภัยเสก เปิดเผยว่า ตลอดทั้งคืนเสกไม่มีอาการเครียด นอนหลับสบายและอารมณ์ดี,ว่าที่ ร.ต.มงคลวิจิตร ธนะโสภณ ทนายความเสก เปิดเผยว่า เตรียมขอยื่นประกันตัวเสก แต่ต้องดูว่าพนักงานสอบสวนจะฟ้องในข้อหาอะไร และต้องดูหลักทรัพย์ประกันตัวว่าศาลจะตีหลักทรัพย์มูลค่าเท่าไหร่ คาดว่าหลักทรัพย์ประมาณไม่เกิน 1 แสนบาท ตรงนี้อยู่ในดุลพินิจของศาลว่าจะอนุญาตให้ประกันตัวเสกหรือไม่ ขณะนี้เสกค่อนข้างมีอาการเครียดและเป็นกังวลมากในเรื่องการประกันตัวว่าศาลจะเมตตาขนาดไหน แต่เสกได้สำนึกผิดในสิ่งที่กระทำไปอยู่แล้ว,ขณะเดียวกัน นายสำเริง กรดกลางกั้น ไวยาวัจกรวัดเขาขุนพนม อ.พรหมคีรี นำหลักฐานหนังสือเป็นลายมือของ เสก โลโซ ที่เขียนถึงพระครูปิยะ คุณาธาร เจ้าอาวาสวัดเขาขุนพนม มามอบให้ว่าที่ ร.ต.มงคลวิจิตร ทนายความของเสกเพื่อใช้เป็นหลักฐานการสู้คดี มีข้อความว่า ฉันจะมาทำการแสดงคอนเสิร์ตที่วัดเขาขุนพนมในวันที่ 28 ธ.ค.2560 เพื่อถวายให้แด่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในวาระครบรอบ 250 ปี ของการปราบดาภิเษก จึงแจ้งให้ทราบทั่วกัน ลงชื่อนายเสกสรรค์ ศุขพิมาย ทั้งนี้ นายสำเริงกล่าวว่า พระครูปิยะคุณาธาร เจ้าอาวาสวัดเขาขุนพนม บอกมาว่าหากเสร็จสิ้นคดีนี้แล้ว เจ้าอาวาสอยากให้เสกมาบวชที่วัดเขาขุนพนมเพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากตัวเสก,ต่อมาเวลา 13.00 น. ศาลพิจารณาคำร้องอนุญาตให้ประกันตัว เสก โลโซ ด้วยหลักทรัพย์วงเงิน 1.5 แสนบาท และมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศก่อนได้รับอนุญาต หลังได้รับการประกันตัวเสกพร้อมอีฟ แม็กซิม แฟนสาวและทนายความส่วนตัวเดินทางมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จากนั้นเสกให้สัมภาษณ์ว่า ต้องขอขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนทุกท่าน ขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติและขอบคุณพี่น้องชาวไทยที่ให้กำลังใจกัน ต้องขอประทานโทษจริงๆ ขออภัยที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ต้องเป็นบทเรียนให้เรารู้ว่าจะทำอะไรก็คงจะต้องไตร่ตรองให้ดี เพราะเดี๋ยวนี้สื่อมันเร็วมาก แต่เราก็ได้บทเรียนที่ดี,อย่างน้อยทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำไปนั้นมันเป็นสิ่งที่เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีของน้องๆนะครับ เพราะฉะนั้นต้องขอโทษจริงๆ แต่มันก็มีทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น ถ้ามองในมุมดีๆก็คือได้โปรโมตวัดเขาขุนพนมที่ผมรักและนับถือมาก วัดแห่งนี้มีคุณค่าและมีสิ่งที่น่านับถือมีพระเจ้าตากสินมหาราชเป็นพระมหากษัตริย์ยิ่งใหญ่อยู่ที่นครศรีธรรมราชในอนาคตผมจะไปซื้อที่ดินปลูกบ้านที่พรหมคีรีก็ได้ ร็อกเกอร์ชื่อดังกล่าว,ผู้สื่อข่าวถามว่าจะทำบุญหรือไม่ นายเสกสรรค์ ตอบว่า ทำบุญแน่นอน แต่ยังบอกไม่ได้ตอนนี้ เมื่อถามว่าจะบวชหรือไม่ เสกย้อนถามว่า ใครบอก ผมยังไม่ได้ พูด ส่วนเรื่องยาเสพติดขอยืนยันไม่ได้เสพยาเสพติดอย่างแน่นอน ผมกินยานอนหลับ เดี๋ยวเรื่องนี้ค่อยว่ากันอีกที และวันนี้จะเดินทางกลับกรุงเทพฯเลย หลังเสร็จจากคดีนี้แล้วตนจะเล่นคอนเสิร์ตฟรีเพื่อขอบคุณตำรวจ สภ.พรหมคีรี และ สน.คันนายาว ต้องขอขอบคุณพี่น้องทุกคน ขอให้มีความสุขแฮปปี้นิวเยียร์และขอบคุณทุกคนที่ผมกล่าวมา ทั้งนี้ หลังให้สัมภาษณ์เสกพร้อมอีฟ แม็กซิมขึ้นรถตู้กลับ กทม.ทันที,ด้าน พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ ผกก.กก.สส.ภ.จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยหลังศาลให้ประกันตัวเสกว่า พนักงานสอบสวนยื่นขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเห็นว่าอาจไปมีผลต่อรูปคดี แต่การพิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวอยู่ที่ดุลพินิจของศาล ส่วนเรื่องการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในตัวเสกเป็นหน้าที่ของตำรวจนครบาลที่จะดำเนินการเพิ่มเติม,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน ตำรวจ สภ. เมืองนครศรีธรรมราช คุมตัวนายทวีวัฒน์ หรือไข่ พหุพฤกษ์ อายุ 56ปี อยู่บ้านเลขที่ 167/8 ถนนพัฒนาการทุ่งปรัง ต.ในเมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อนของเสกที่เป็นคนรับฝากอาวุธปืนกระบอกที่เสกใช้ยิงขึ้นฟ้าในคืนเกิดเหตุไปฝากขังศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ข้อหามีอาวุธปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและยื่นขอประกันไปวงเงิน 50,000 บาท,ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เวลา 15.00 น. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. เปิดเผยถึงการตรวจสารเสพติดในร่างกาย เสก โลโซว่า สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ รายงานผลตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วงพบว่า มีสารเมทแอมเฟตามีนอยู่ในกลุ่มยาเสพติดประเภทยาไอซ์หรือยาบ้า และสารเอ็มดีเอ็มเอ (Methylenedioxy methamphe-tamine) อยู่ในกลุ่มประเภทยาอี สารเสพติดที่พบเป็นยาเสพติดประเภทที่ 1 ขั้นตอนต่อไป สน.คันนายาวจะดำเนินคดีเพิ่มเติมข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย ส่วนกรณีผู้ต้องหาเคยมีประวัติเสพยาเสพติดและเข้ารับการบำบัดมาก่อนแล้วจะได้รับการฟื้นฟูหรือไม่นั้น ถึงแม้เคยถูกดำเนินคดีเสพยามาก่อน แต่คดีนี้ไม่เข้าเงื่อนไขฟื้นฟู เนื่องจากผู้ต้องหามีความผิดคดีอาญาความผิดฐานอื่นทั้งอาวุธปืนและต่อสู้ขัดขวางต้องถูกดำเนินคดี,ผู้สื่อข่าวถามว่า เสกยืนยันไม่ได้เสพยา พล.ต.ท.ชาญเทพกล่าวว่า ผลการตรวจพิสูจน์ แพทย์ยืนยันออกมาแล้วว่าตรวจพบสารเสพติดในตัวของเขา โดยไม่ได้ระบุระยะเวลาการเสพสารเสพติด คาดว่าอาจเป็นได้ที่จะมีการเสพยาเสพติดในช่วงระยะเวลา 3-4 วัน ก่อนที่ตำรวจเข้าจับกุม ในวันจับกุมภายในบ้านไม่พบยาเสพติดและอุปกรณ์การเสพ ขณะนี้ยังไม่ได้สอบปากคำกรณียาเสพติด อย่างไรก็ตามการกระทำดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติ ฝากพี่น้องประชาชนทำความเข้าใจการทำงานของตำรวจ การจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาตามที่เขาได้กระทำผิด ถึงแม้เสกเป็นนักร้องโด่งดังก็อย่าได้เลียนแบบ ทั้งนี้ จะเรียกเสกมารับทราบข้อกล่าวหาโดยเร็วที่สุด,ที่ สน.คันนายาว เย็นวันเดียวกัน พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยถึงการดำเนินคดียาเสพติดกับ เสก โลโซ ว่า พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น.แถลงผลการตรวจปัสสาวะว่ามีสาร 2 อย่างคือเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า ยาไอซ์) และ MDMA (ยาอี) ขั้นตอนต่อไป สน.คันนายาวจะออกหมายเรียกนายเสกสรรค์พบเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในข้อหาเสพยาเสพติดประเภทที่ 1 โดยผิดกฎหมาย หากรับสารภาพตามกฎหมายสามารถยื่นเรื่องขอรับการฟื้นฟูบำบัดได้ ผู้เสพถือว่าเป็นผู้ป่วย แต่กรณีของเสกให้การปฏิเสธอ้างว่ากินยานอนหลับ และไม่ได้นำยานอนหลับมามอบให้พนักงานสอบสวน ไม่ได้ส่งไปตรวจที่ รพ.ตำรวจ ผลตรวจทาง รพ.ยืนยันเป็นยาเสพติดร้อยเปอร์เซ็นต์ ถึงแม้จะมียานอนหลับมาเปรียบเทียบก็ไม่มีผล,เมื่อปีที่ผ่านมาเสกยังมีโทษทำร้ายร่างกายที่รอลงอาญาอยู่ ไม่สามารถขอบำบัดในคดียาเสพติดได้อีก ยืนยันว่าสารเสพติดที่ตรวจพบยึดตามหลักวิทยาศาสตร์พบว่ามีอยู่ 2 ชนิด คือประเภทเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า, ยาไอซ์) และ MDMA (ยาอี) หลังจากนี้ฝ่ายสืบสวนจะต้องตรวจสอบต่อว่านายเสกสรรค์ซื้อยาเสพติดมาได้อย่างไร ผ่านทางช่องทางไหน ในวันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.) จะประสานกับทนายความ คาดว่าจะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้เร็วที่สุดได้ภายในสัปดาห์หน้า พ.ต.อ.สิงห์ กล่าวและว่า ทั้งนี้คดีเสพยาเสพติดของนายเสกสรรค์ถือเป็นคดีเดียวกับการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและมีอาวุธปืน เพราะจุดเกิดเหตุอยู่ที่เดียวกัน จึงรวมอยู่ในสำนวนเดียวกัน หากผู้ต้องหาไม่มาพบ พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกครั้งที่สอง หากยังไม่มาอีกก็ต้องขอศาลออกหมายจับ แต่คิดว่าเสกจะมารับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากได้รับการประกันตัวในชั้นศาล,ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงคดีดังกล่าวว่า ประเด็นที่มีการพูดถึงผู้ที่ให้อาวุธปืน เสก โลโซ นำมาใช้ยิงใน จ.นครศรีธรรมราช ขณะนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบว่าปืนเป็นของใคร ตามแนวทางการสืบสวนเจ้าหน้าที่ทราบอยู่แล้ว พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกเจ้าของปืนกระบอกดังกล่าว ให้มารับทราบข้อกล่าวหา ส่วนเจ้าของปืนจะเป็นบุคคลที่มีสีหรือไม่ ในชั้นนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน คดียิงปืนในที่สาธารณะเป็นคดีปกติที่เคยเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนกรณีผลการตรวจปัสสาวะหาพบสารเสพติดไม่ว่าจะเป็นประเภทไหนก็ต้องนำมาประกอบสำนวนการสอบสวน หากตรวจพบสารเสพติดจริงก็ต้องดำเนินการตั้งข้อกล่าวหาตามปกติ | เสก โลโซ ร็อกเกอร์ฉาว ยังไม่พ้นวิบากกรรม ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมฐานเสพยาเสพติดประเภท 1 ผบช.น. เผยผลตรวจฉี่ม่วงจากแพทย์ สถาบันนิติเวชวิทยายันเจอทั้งยาบ้า ไอซ์ และยาอี | ข่าว,ทั่วไทย | เสก โลโซ,จับเสก โลโซ,เสก โลโซ ยิงปืน,เสก ยิงปืนขึ้นฟ้า,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1168707 |
ตำรวจสอบสวนผู้ต้องหาก่อเหตุปล้นเงินนักธุรกิจ 60 ล้านบาท | วันนี้ (6 ต.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวนนครบาลควบคุมตัวผู้ต้องหารวม 5 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุปล้นเงินกว่า 196 ล้านเยน หรือประมาณ 60 ล้านบาท จากนักธุรกิจค้าอัญมณี ขณะที่นำมาเก็บในคอนโดมิเนียม ย่านรัชดาภิเษก เมื่อกลางดึกวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา มาสอบสวน หลังจากถูกควบคุมตัวได้ขณะที่นำเงินไปเก็บไว้ในห้องพักย่านทุ่งครุพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจใช้เวลาสืบสวน 2 วัน จนสามารถแกะรอยผู้ต้องหาได้ทั้งหมด โดยหนึ่งในนั้น คือนายณรงค์ชัย สวัสดิผล ซึ่งเป็นพนักงานในบริษัทของผู้เสียหาย และเป็นผู้ไปนำเงินทั้งหมดมาจากประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่จะขอแยกตัวกับชุดขนเงินที่สนามบินสุวรรณภูมิ และมาก่อเหตุที่คอนโดมิเนียมที่เก็บเงินการสืบสวน ตำรวจยังตรวจกล้องวงจรปิดในคอนโดมิเนียมที่เก็บเงิน พบว่ามีนายศรายุทธ ฤทธิชัยนุวัฒน์ ซึ่งเป็นเพื่อนของหนึ่งในผู้ต้องหาที่เป็นพี่เขยของนายณรงค์ชัย มาเช่าห้องในคอนโดฯ เดียวกันที่ชั้น 23 เมื่อวันที่ 1 กันยายน ก่อนที่จะร่วมกันวางแผนก่อเหตุ ขณะที่พนักงานบริษัท 2 คน ขับรถนำกระเป๋าเงินลงจากรถ ที่ลานจอดรถชั้น 5 ของคอนโดฯ ก่อนที่จะขับรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สีส้ม หลบหนีไปพร้อมเงินกลางดึกเมื่อวานนี้ ตำรวจพบรถคันที่ผู้ต้องหาขับหลบหนี จอดทิ้งไว้ที่ใกล้กับแยกผังเมือง เขตห้วยขวาง ในรถไม่พบเงินที่ปล้นมา พบเพียงคีย์การ์ดที่ใช้เข้า-ออกคอนโดฯ และกุญแจรถยนต์ทิ้งไว้ข้างรถขณะเดียวกันตำรวจพบผู้ต้องหาที่หลบหนีไปพักอยู่ที่คอนโดฯ แห่งหนึ่ง ย่านทุ่งครุ พร้อมกับกระเป๋าเงิน ซึ่งเงินทั้งหมดยังอยู่ครบไม่มีการนำออกไปจากกระเป๋า ตำรวจจึงคุมตัวมาสอบสวน และผู้ต้องหาอ้างว่าที่ทำไป เพราะต้องการนำเงินไปใช้หนี้นอกจากนั้น ตำรวจยังได้เตรียมตรวจสอบการนำเข้าเงินของผู้เสียหายว่านำเข้ามาอย่างถูกต้อง และมีการทำธุรกิจอื่นใดเพิ่มอีกหรือไม่ โดยผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ศาลอาญาออกหมายจับฐานปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันรับของโจร ซึ่งจะนำผู้ต้องหาทั้งหมดมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในช่วงสายวันนี้ และเร่งสืบสวนหาผู้ต้องหาอีก 2 คน ที่หลบหนี | ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหา 5 คนที่ก่อเหตุปล้นเงิน 60 ล้านบาท จากนักธุรกิจค้าอัญมณีมาสอบสวน โดยหนึ่งในนั้นเป็นพนักงานของบริษัทที่เป็นผู้ไปนำเงินทั้งหมดมาจากญี่ปุ่นแล้วบินนำเข้าในไทยก่อนที่จะขอแยกตัวกับชุดขนเงินที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยผู้ต้องหายังหลบหนี 2 คน | อาชญากรรม | ปล้นเงิน,ปล้น,นักธุรกิจ,ปล้นเงินนักธุรกิจ,ปล้น 60 ล้าน,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/266709 |
จีน-สหรัฐฯ ขัดแย้ง อาจรุนแรงกว่าที่คิด | จึงขยันสร้างความขัดแย้งกับประเทศคู่แข่ง โดยเฉพาะ จีน มหาอำนาจค่ายคอมมิวนิสต์ ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงเป็นวงกว้างไปทั่วโลก,ทรัมป์เปิดสงครามการค้ากับจีน โดยยกแรกในปีที่แล้ว สั่งขึ้นภาษีสินค้าจีนมูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจีนก็ตอบโต้ ขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 110,000 ล้านดอลลาร์ และเมื่อ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา คำสั่งขึ้นภาษีจีนชุดใหม่อีก 200,000 ล้านดอลลาร์ จาก 10% เป็น 25% ของทรัมป์ก็เริ่มมีผลบังคับ ทรัมป์ยังสั่งให้เตรียมเก็บภาษีสินค้าจีนที่เหลืออีกทั้งหมดราว 300,000 ล้านดอลลาร์,ส่วนจีนก็ตอบโต้ทันควัน ประกาศขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯอีก มูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์ ในอัตรา 5-25% ทำให้สงครามการค้ายิ่งบานปลาย แม้ทั้งสองฝ่ายตกลงจะเจรจากันต่อไป และทรัมป์เผยว่าจะไปคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ระหว่างการประชุมยอดผู้นำจี 20 ที่ญี่ปุ่น ใน 28-29 มิ.ย. แต่อะไรๆก็ยังไม่แน่นอน,ทรัมป์อ้างเหตุผลที่เปิดสงครามการค้าว่า จีนค้าขายอย่างไม่เป็นธรรม รัฐบาลจีนให้เงินอุดหนุนบริษัทเอกชนของตน ตั้งกฎเกณฑ์บังคับให้บริษัทสหรัฐฯในจีนต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีให้บริษัทร่วมทุนของจีน และจีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ,ในอดีต นโยบายของผู้นำสหรัฐฯและพันธมิตรตะวันตกในยุคก่อนๆ ที่มีต่อจีนค่อนข้างสุขุมระมัดระวัง โดยมีเป้าหมายโน้มน้าวให้จีนเข้าร่วมในกฎระเบียบโลก แต่ทรัมป์เปลี่ยนนโยบายนี้เกือบสิ้นเชิง โดยเปิดหน้าฟาดฟันกับจีนอย่างเปิดเผย,ในความคิดของทรัมป์นั้น ความผิดพลาดอย่างมหันต์ของสหรัฐฯ ก็คือการยอมให้จีนเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) ในปี 2544 หรือ 18 ปีก่อนอย่างง่ายๆ ส่งผลให้จีนเติบกล้าขาแข็งอย่างรวดเร็ว,โดยก่อนเข้าเป็นสมาชิก WTO จีนต้อง เดินตามเกม ของมหาอำนาจตะวันตกมาตลอด ทำให้สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) ชะล่าใจ ยอมให้จีนได้สถานะ ประเทศกำลังพัฒนา ใน WTO ทำให้ได้สิทธิพิเศษทางการค้าต่างๆ เหมือนประเทศกำลังพัฒนาที่ยากจนอื่นๆ ซึ่งนั่นคือชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของจีน,หลังเข้าเป็นสมาชิก WTO จีนเริ่มได้เปรียบดุลการค้าประเทศต่างๆ รวมทั้งสหรัฐฯ มหาศาล และทุนสำรองระหว่างประเทศก็ทวีขึ้นแบบก้าวกระโดด ส่งผลให้จีนเติบโตมั่งคั่งรวดเร็วดังเช่นทุกวันนี้,แม้ทรัมป์คุยโวว่า สงครามการค้าจะไม่กระทบเศรษฐกิจสหรัฐฯมากนัก และจีนจะเป็นฝ่าย เจ็บหนัก กว่า แต่นักวิเคราะห์ชี้ว่าสหรัฐฯ ก็จะเจ็บไม่น้อย เพราะบริษัทของสหรัฐฯ เป็นผู้จ่ายภาษีนำเข้าสินค้าจีนที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด และจะผลักภาระไปให้ผู้บริโภค ชาวอเมริกันต้องซื้อสินค้าแพงขึ้น และหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าที่สุดคือภาคเกษตรกรรม ฐานเสียงสำคัญของพรรครีพับลิกันของทรัมป์ โดยเฉพาะผู้ปลูกถั่วเหลือง,ความขัดแย้งกับจีน นอกจากจะทำให้เศรษฐกิจทั้งสองฝ่ายเสียหาย ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ไปจนถึงระเบียบและความมั่นคงของโลกในระยะยาว เพราะแม้จะสงบศึกการค้าได้ แต่รอยร้าว ความบาดหมาง และไม่ไว้วางใจที่ลึกซึ้งได้เกิดขึ้นแล้ว ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชนของทั้ง 2 ชาติ อีกทั้งยังเกิด ความเห็นร่วม แบบ 2 ขั้วขึ้นในสภาคองเกรสสหรัฐฯ ทั้งในพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ที่เห็นพ้องกับทรัมป์ว่านโยบาย พัวพันเชิงสร้างสรรค์ กับจีนในอดีตนั้นล้มเหลว จึงต้องใช้ไม้แข็งกับจีน,นอกจากเรื่องการค้า สหรัฐฯยังมีความขัดแย้งกับจีนเรื่องอื่นๆ ที่รอวันระเบิด รวมทั้งกรณีพิพาทใน ทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนอ้างกรรมสิทธิ์เกือบทั้งหมด กรณีที่จีนผงาดขึ้นมาเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะด้านเครือข่ายการสื่อสารไร้สายยุคที่ 5 หรือ 5จี ซึ่งจีนแซงหน้าสหรัฐฯ และพยายามส่งออกไปทั่วโลก โดยมีบริษัทยักษ์ใหญ่เช่น หัวเว่ย เป็นหัวหอก แต่ถูกสหรัฐฯขัดขวางสุดกำลัง และบีบให้ชาติอื่นๆ อย่าใช้เทคโนโลยี 5จีของจีน โดยอ้างว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคง,ส่วนอภิมหาโปรเจกต์ หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) หรือ บีอาร์ไอ ของจีน ซึ่งมีเป้าหมายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโยงใยไปทั่วเอเชีย แอฟริกา และยุโรป ก็ถูกสหรัฐฯเพ่งเล็งอย่างหวาดระแวงว่าจีนกำลังขยายอิทธิพลไปทั่วโลก เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯซึ่งเป็น ผู้นำเบอร์ 1 ของโลก,ถ้าไม่ปลดชนวน และความขัดแย้งรุนแรงขึ้นถึงขีดสุด เป็นไปได้ว่าในระยะยาวโลกจะแยกเป็น 2 ขั้วอย่างชัดเจน และผู้นำรัฐบาลประเทศต่างๆ อาจจำเป็นต้องทบทวนนโยบายของตนที่มีต่อสหรัฐฯและจีนใหม่ และอาจถึง,ขั้นต้อง เลือกข้าง ว่าจะอยู่ขั้วใด ไม่ใช่เฉพาะด้านการเมือง การทูต การทหารเท่านั้น แต่จะรวมไปถึงด้านอื่นๆ อาทิ ด้านเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี สถาบันระหว่างประเทศ และมาตรฐานสากลต่างๆ เป็นต้น,ลองนึกภาพประเทศในยุโรป เอเชีย แอฟริกา ที่เคยเป็นพันธมิตรสหรัฐฯและตะวันตก แต่เมื่อเปลี่ยนขั้วไปซบจีน ต้องถูกบีบให้เปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีของจีนด้วย เช่น เครือข่ายการสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ ฯลฯ,แค่นึกภาพก็ปวดขมองแล้วขอภาวนาอย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย,บวร โทศรีแก้ว | เพราะนโยบาย อเมริกาต้องมาก่อน (America First) และ ทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง (Make America Great Again) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ | null | จีน-สหรัฐฯ,7วัรอบโลก,บวร โทศรีแก้ว,โดนัลด์ ทรัมป์,สี จิ้นผิง,ขึ้นภาษีสินค้า,สหรัฐอเมริกา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1570516 |
ภราดรภาพ ติง ปิยบุตร วิจารณ์ศาลเกินเหมาะสม หวั่น ทำประเทศวุ่นวาย | วันที่ 18 เม.ย. นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ เลขาธิการพรรคภราดรภาพ กล่าวถึงกรณี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เข้ารายงานต่อพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) หลังฝ่ายกฎหมาย คสช.แจ้งความดำเนินคดีฐานหมิ่นศาลและนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จากการอ่านแถลงการณ์หลังพรรคไทยรักษาชาติ ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคว่า การจะเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพและทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมืองได้นั้น จะต้องคิดและวิจารณ์อย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง การวิจารณ์คำวินิจฉัยของศาล ในคดีดังกล่าวของนายปิยบุตร ตนถือว่า ไม่มีความเหมาะสมอาจนำไปสู่ความวุ่นวายในบ้านเมืองได้เพราะทุกคนต้องเคารพต่อคำวินิจฉัยของศาลสถิตยุติธรรม,นายพันธ์ยศ กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองช่วงนี้ ควรรอการวินิจฉัยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นทางออกของบ้านเมือง เพราะประชาชนมีความกังวลกับภาพการเมืองที่ไม่ชัดเจนนัก แต่ตนขอให้ทุกฝ่ายคิดเเง่ดีว่า ทุกอย่างเดินไปตามครรลองและน่าจะมีทางออกที่ดี ตามระยะเวลา,แต่สิ่งที่นายปิยบุตรรวมทั้งแกนนำพรรคอนาคตใหม่ หลายคนออกมาเคลื่อนไหวช่วงที่ผ่านมา เเละช่วงนี้นั้น ผมมองว่าไม่เหมาะสมเท่าใดนัก และในฐานะคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาทำงานการเมืองด้วยกัน ขอให้พรรคอนาคตใหม่ ไตร่ตรองสิ่งที่จะสื่อสารกับสังคมด้วยเพื่อไม่สร้างชนวนขัดเเย้งใหม่ทางการเมืองขึ้นมาเพิ่ม นายพันธ์ยศ ระบุ,ส่วนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.วันที่ 21 เม.ย.นี้ นั้น นายพันธ์ยศ กล่าวว่า พรรคภราดรภาพ อยู่ระหว่างการเตรียมการในการหาคะแนนเสียงเพิ่มเติมจากการเลือกตั้งซ่อมในบางหน่วยและบางเขต ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศออกมา เนื่องจากว่า พรรคภราดรภาพ ยังมีคะแนนที่ก้ำกึ่งในการได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อตามสูตรที่ กกต.กำหนด เพื่อต้องการอยู่ในโซนปลอดภัย หวังว่าคะแนนเสียงของประชาชนทุกเสียงมีความหมาย และน่าจะได้ส.ส.จากสูตรการคำนวณที่ถูกต้องอย่างน้อยหนึ่งคน | ภราดรภาพ ติง ปิยบุตร วิจารณ์ศาลเกินความเหมาะสม หวั่น ทำประเทศวุ่นวาย วอน อนาคตใหม่ อย่าสร้างชนวนเพิ่ม ลุ้นเลือกตั้งซ่อม ทำพรรคได้เก้าอี้ส.ส.อย่างน้อย 1 คน | เลือกตั้ง | เลือกตั้ง62,ภราดรภาพ,ปิยบุตร แสงกนกกุล,วิจารณ์ศาล,อนาคตใหม่,ประเทศวุ่นวาย,เลือกตั้งซ่อม,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1547236 |
สลด ด.ช. 6 ขวบ ลูกคนงานตัดอ้อย เล่นกับเพื่อนริมสระ ตกน้ำจมดับ | เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 58 ร.ต.อ.นภัทร คล้ายแก้ว พงส.สภ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร เปิดเผยว่า เมื่อวานที่ผ่านมารับแจ้งมีเด็กจมน้ำสูญหาย ภายในสระน้ำกลางไร่อ้อย จึงประสานไปยังอาสาสมัครกู้ภัยพุทไธสวรรย์ จุดคลองลาน พร้อมด้วยชุดค้นหาใต้น้ำของอาสาสมัครกู้ภัยข่าวภาพกำแพงเพชร ร่วมตรวจสอบที่ไร่อ้อย พื้นที่บ้านพุ่มพ่วง หมู่ที่ 10 ต.สักงาม อ.คลองลาน จุดเกิดเหตุเป็นสระน้ำความกว้าง 5 เมตร ยาว 20 เมตร ลึก 5 เมตร เป็นสระที่ใช้ในการกักเก็บน้ำทำการเกษตรของไร่อ้อยดังกล่าว อาสาสมัครกู้ภัยช่วยกันค้นหา โดยการดำน้ำ และใช้เบ็ดตกปลา เพื่อช่วยกันค้นหาร่างของเด็กที่จมน้ำภายในสระน้ำ ใช้เวลานาน 2 ชั่วโมง เบ็ดที่ชาวบ้านหย่อนลงไปเกี่ยวขอบกางเกงของเด็กที่จมน้ำ จากนั้นจึงลงไปนำร่างของเด็กขึ้นมา ทราบชื่อ ด.ช.ชัยณรงค์ ขมคิ้ว อายุ 6 ขวบ ชาวบ้าน ต.สักงาม อ.คลองลาน,จากการสอบถาม นายสมศักดิ์ วิเศษอักษร อายุ 67 ปี ชาว ต.สักงาม ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นลูกของคนงานตัดอ้อย ในช่วงเวลาเกิดเหตุ พร้อมด้วยคนงานตัดอ้อยอยู่อีกฝั่งของสระน้ำ ห่างกัน 30 เมตร ตอนแรกเห็นเด็กอายุระหว่าง 5-7 ขวบ เล่นกันอยู่ 3 คน แต่เมื่อหันกลับมาอีกทีพบว่าเหลือแค่ 2 คน จึงเดินมาถามว่าอีกคนหายไปไหน เด็กจึงชี้ลงไปในสระน้ำ พบว่ามีรองเท้าของเด็กลอยขึ้นมา จึงช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครกู้ภัยให้ช่วยกันค้นหา,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบพร้อมบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และให้อาสาสมัครกู้ภัยนำศพของเด็กชายส่ง รพ.กำแพงเพชร เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตอีกครั้ง.,ที่มาภาพจาก พงส.สภ.คลองลาน | ลูกชายคนงานตัดอ้อยวัย 6 ขวบ เล่นกับเพื่อนริมสระน้ำในไร่ จ.กำแพงเพชร พลัดตกจมน้ำเสียชีวิต กู้ภัยพร้อมชาวบ้านช่วยกันหานานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนนำร่างขึ้นมาได้ | ข่าว,ทั่วไทย | จมน้ำ,จมน้ำตาย,ตกน้ำ,เด็กจมน้ำ,นภัทร คล้ายแก้ว,เด็กตกน้ำ,ไร่อ้อย,คลองลาน,กำแพงเพชร,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/555138 |
สอว.จับมือ มช.สร้างโรงงานต้นแบบนวัตกรรมอาหารครบวงจรแห่งแรก ในภาคเหนือ | เมื่อวันที่ 6 ก.พ. น.ส.ทิพวัลย์ เวชการัณย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการอุทยานวิทยาศาสตร์ (สอว.) เผยว่า สอว. ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการสร้างโรงงานต้นแบบนวัตกรรมอาหารครบวงจร (Innovative Food Fabrication Pilot Plant) แห่งแรกของภาคเหนือ ในการสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี(SMEs) และ สตาร์ทอัพ(Startup) ที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการทำธุรกิจได้ทดลองใช้บริการวิจัย พัฒนา และผลิตสินค้านวัตกรรมอาหารได้อย่างครบวงจรตามกำลังความสามารถของผู้ประกอบการแต่ละราย โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการสนับสนุนพื้นที่ก่อสร้างโรงงานฯ ในเขตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จำนวน 5.30 ไร่ บริเวณทิศตะวันตกของอาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่) ผ่านการดำเนินงานอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ โดยมีอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำหน้าที่เป็นแม่ข่ายดำเนินการ พร้อมมีกำหนดการเริ่มก่อสร้างในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2562 ที่จะถึงนี้,ผอ.สอว. กล่าวต่อว่า อุตสาหกรรมอาหารเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สำคัญของไทย ซึ่งมีศักยภาพสูงในการผลิตเพื่อบริโภคในประเทศและเพื่อการส่งออก ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ประเทศไทยในการเป็นครัวของโลก โดยในปี 2560 ประเทศไทยได้สร้างมูลค่าการส่งออกจากอุตสาหกรรมอาหารกว่า 1,000,000 ล้านบาท เกิดการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับปี 2559 ทั้งนี้ แบ่งเป็นสัดส่วนการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมอาหารในเขตภาคเหนือจำนวนกว่า 120,000 ล้านบาท โดยโรงงานจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และลำปางได้ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 23,000 ล้านบาท (คิดเป็น 1 ใน 5 ของมูลค่าทางเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมอาหารในพื้นที่ภาคเหนือทั้งหมด) สอว. กระทรวงวิทย์ฯ จึงมีแผนสร้างโรงงานต้นแบบนวัตกรรมอาหารครบวงจร (Innovative Food Fabrication Pilot Plant) เพื่อช่วยต่อยอดผลงานวิจัยโดยนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาปรับใช้ในการสร้างและพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารที่มีคุณภาพและมาตรฐานให้เกิดขึ้นจริงผ่านการให้บริการอย่างครบวงจรในปริมาณที่เหมาะสมกับความสามารถของภาคเอกชน นับเป็นการส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอี(SMEs) และสตาร์ทอัพ(Startup) ในระดับภูมิภาคให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพและเครื่องมืออุปกรณ์ที่ครบพร้อมทันสมัย พร้อมตอบโจทย์ครอบคลุมธุรกิจอาหารในเขตพื้นที่ภาคเหนือ,ด้าน ผศ.ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะหน่วยงานมหาวิทยาลัยแม่ข่ายดำเนินการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ กล่าวถึงการให้บริการของโรงงานต้นแบบฯ ว่า โรงงานดังกล่าวได้ออกแบบให้เป็นโรงงาน 2 ชั้น ด้วยพื้นที่ใช้สอย 4,570 ตารางเมตร โดยให้บริการสำหรับการวิจัย พัฒนา และสร้างผลิตภัณฑ์ใน 4 สายการผลิต ได้แก่ Acid Food Process กลุ่มกระบวนการผลิตอาหารแปรรูปประเภทกรด (Acid food) เช่น ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มจากผลไม้ ซอสและแยม, Low Acid Food Process กลุ่มกระบวนการผลิตอาหารแปรรูปประเภทกรดต่ำ (Low-acid food) ที่มีค่า pH มากกว่า 4.6 และมีค่า Water Activity มากกว่า 0.85 ตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ประเภทนม อาหารและเครื่องดื่มในภาชนะบรรจุปิดสนิท, Dehydration Process กลุ่มกระบวนการผลิตอาหารแปรรูปประเภทการทำแห้ง หรือการดึงน้ำออกด้วยการอบแห้ง (Dehydration) เช่น ผลิตภัณฑ์ชงละลาย ผักผลไม้อบแห้งด้วยเทคนิคต่างๆ และผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ และ Advanced and Nutraceutical Food Process กลุ่มกระบวนการผลิตอาหารแปรรูปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การผลิตสารสกัด สารให้กลิ่นรส และการแปรรูปอาหารโดยไม่ใช้ความร้อน เป็นต้น โดยคาดว่าในระยะเวลา 5 ปีหลังจากเปิดให้บริการ โรงงานต้นแบบแห่งนี้จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการเข้ารับบริการมูลค่ากว่า 2,100 ล้านบาท โดยสร้างโอกาสในการเข้าถึงเครื่องมือในกระบวนการแปรรูปอาหารที่ทันสมัยแก่ผู้ประกอบการได้จำนวนกว่า 700 ราย และเกิดการจ้างงานในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารมากถึง 1,600 อัตรา พร้อมยกระดับผู้ประกอบการอาหารในพื้นที่ภาคเหนือด้วยผลิตภัณฑ์อาหารที่มีมูลค่าสูงให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ | สอว. เผย จับมือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เดินหน้าโปรเจกต์ อุตสาหกรรมอาหารสร้างโรงงานต้นแบบนวัตกรรมอาหารครบวงจร (Innovative Food Fabrication Pilot Plant) แห่งแรกของภาคเหนือ | ข่าว,ทั่วไทย | สอว.,อุตสาหกรรมอาหารต้นแบบ,มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,Innovative Food Fabrication Pilot Plant,เอสเอ็มอี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1489455 |
ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ชาวบ้านกว่า 17 หลังคาเรือน ในชุมชนบ้านขี้นาค เดือดร้อนหนัก | ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ชาวบ้านกว่า 17 หลังคาเรือน ใน ชุมชนบ้านขี้นาค หมู่ 6 ต.ตูม อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ร้องเรียน ไม่มีไฟฟ้าใช้ เดือดร้อนหนัก ทุกวันนี้เครื่องใช้ครัวเรือนสิ่งจำเป็นในชีวิต ต้องใช้ไฟฟ้าทั้งสิ้น วอน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ช่วยเหลือชาวบ้านด้วย,บ้านหนองช่องแมว ต.ห้วยแห้ง หมู่ 12 อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ไม่มีไฟส่องสว่าง ถนนช่วงนี้มืดสนิท ไม่มีไฟส่องสว่าง อันตรายมาก ชาวบ้านบอกสัญจรลำบากในช่วงเวลากลางคืน หวั่นถูก โจรกรรม จี้ ปล้น ขอร้อง หน่วยงานดูแลรับผิดชอบ ช่วยทำให้หายมืดด้วย,กลัวผลกระทบชาวบ้าน หมู่ 11 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ร้องเรียน ขอคัดค้านการก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม ในเนื้อที่กว่า 10 ไร่ กลางเขตชุมชน เกรงว่าจะได้รับผลกระทบจาก ฝุ่นละอองสารเคมี มลพิษทางเสียงและสิ่งแวดล้อม วอน เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ ช่วยพิจารณาตรวจสอบหาทางแก้ไข,วิ่งขวาทำรถติดชาวบ้านผู้สัญจรใช้รถบริเวณเส้นทาง ถนนเทพารักษ์ ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ได้รับความเดือดร้อนจาก รถบัส รถบรรทุก วิ่งเลนขวาตลอด แถมยังวิ่งช้า ทำให้รถติด และ จอดเลนซ้ายซ้อนคัน เป็นจำนวนมาก ฝาก เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานดูแล ผ่านไปมาว่ากล่าวตักเตือนหน่อย,ไร้หน่วยงานเหลียวแล หลังชาว ซอยเอกชัย 57 เขตบางบอน แจ้งปัญหา รถตู้คันหนึ่ง ถูกเจ้าของจอดทิ้งไว้นานนับปี กีดขวางช่องการจราจรไป 1 เลน ทำคนเดือดร้อนสัญจรลำบาก แต่เรื่องกลับเงียบ วอน ผอ.เขตบางบอน หรือหน่วยงานรับผิดชอบจัดระเบียบขั้นเด็ดขาดที,[email protected], | ยังไม่มีไฟฟ้าใช้!! ชาวบ้านกว่า 17 หลังคาเรือน ใน ชุมชนบ้านขี้นาค หมู่ 6 ต.ตูม อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ร้องเรียน ไม่มีไฟฟ้าใช้ เดือดร้อนหนัก | ข่าว,ทั่วไทย | ไม่มีไฟฟ้าใช้,เดือดร้อน,ร้องเรียน,การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค,ห้องร้องทุกข์ | https://www.thairath.co.th/news/local/1454206 |
รถเมล์ หัวใจอินเลิฟ แต่ยังไม่พร้อมเปิดตัว ชมฝ่ายชายเป็นคนดี รักครั้งนี้ไม่รีบร้อน | หนุ่ม-กรรชัย, กับ ,มดดำ-คชาภา, แซวหนักในรายการ ข่าวใส่ไข่ ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ว่า ช่วงนี้พิธีกรหน้าหวาน ,รถเมล์-คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์, กำลังอินเลิฟ หัวใจเป็นสีชมพู เจอ รถเมล์ มาร่วมงานเปิดตัวแคมเปญ เมนส์ ฟิตเนส คูลกาย เสิร์ช 2017 บาย อเมริกัน อีเกิ้ล เอ้าท์ฟิตเตอร์ ที่โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ เลยถามว่า ,กำลังมีความรักจริงรึเปล่า?, จริงๆ ไม่มีอะไรเลยค่ะ ก็อยู่ในช่วงเวลาดูๆกันไป ก็คุยกันยังไม่นานมาก รอให้ชัดเจนมากกว่านี้ก่อนเดี๋ยวเราก็บอกเอง ,ไปเจอกันได้ยังไง?, บังเอิญเจอกันมากกว่า ไม่ได้มีเพื่อนแนะนำ เป็นคนนอกวงการค่ะ พอได้รู้จักกันก็เลยรู้ว่าเป็นเพื่อนของเพื่อนที่รู้จักกันอีกที เค้าอายุเยอะกว่าค่ะ ก็ห่างกันประมาณนึงเลยแต่ไม่ได้ห่างกันถึง 10 ปี เรื่องอายุที่ห่างกันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรมาก ,กลับมา กระชุ่มกระชวยอีกครั้งหลังจากห่างหายไปจากความรักสักพักนึง?, มันกลางๆค่ะ ไม่ได้สุขที่สุด และก็ไม่ได้ทุกข์ที่สุด มันอยู่ระหว่างความรู้สึกกลางๆ เราสบายตัวมากกว่าที่จะจริงจังกับความรักครั้งนี้มากมาย,ถูกใจคนนี้ตรงไหน?, ก็ชิลๆมากกว่า สบายๆ เป็นตัวของตัวเองได้ บางทีมันไม่ต้องอะไรเยอะมากก็ได้ ,เราเป็นคนจริงจังกับความรักต้องสแกนมากขึ้นมั้ย?, มันก็ประมาณนึงค่ะ เอาเป็นว่าเป็นคนดี คุยกันเข้าใจแค่นี้เองค่ะ ,กล้าทุ่มเททุ่มใจเต็มร้อยเหมือนครั้งที่ผ่านมามั้ย?, เอาให้มันอยู่ในเวลาที่ควรจะทุ่มเท เราก็จะทุ่มเท แต่ถ้าถามตอนนี้ให้เรื่อยๆไปก่อนดีกว่าไม่รีบร้อน เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ปัจจุบันนี้มีความสุขที่ได้รู้จักกันเป็นแบบนี้ไปก่อน ยังไม่เรียกแฟนดีกว่า เราไม่ได้มีการตกลงอะไรกัน ว่าเราจะเป็นอะไรในวันนี้ ฐานะคืออะไร ถ้าความรู้สึกยังดีต่อกันอยู่เรื่อยๆ อนาคตค่อยว่ากัน ,พร้อมเปิดตัวมั้ย?, ไม่ๆ ยังดีกว่า เรายังไม่ได้คุยกันนานมาก เพิ่งเจอกันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ,เค้าได้มีโอกาสเจอครอบครัวเราแล้วรึยัง?, ก็เจอพร้อมกับพ่อแม่เราค่ะ ไปทานข้าวแล้วก็เจอ เราไปกินข้าวกับที่บ้าน พ่อกับแม่เราก็ไม่ได้อะไรเรื่องนี้เยอะอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะดูโดยรวมมากกว่าและก็ปล่อยให้เราตัดสินใจเองอยู่แล้ว ถามว่าเค้าผ่าน ด่านพ่อกับแม่มั้ย คือแม่ไม่ค่อยพูด แบบนั้น เค้าจะค่อยๆ ดูเงียบๆ และไม่ยอมพูด ถ้าเค้าไม่แฮปปี้เค้าจะพูดเลย พ่อกับแม่ไม่ได้รู้จักเค้ามาก่อน เจอกันหลายครั้งเค้าก็โอเค,เค้าเอาใจใส่ดีมั้ย?, ก็กลางๆ ไม่มากเกินไม่น้อยเกิน ,ได้พา ไปเจอเพื่อนๆรึยัง?, เพื่อนๆยังไม่เคยเจอค่ะ ถ้าเราชัดเจนเมื่อไหร่ เราถึงจะให้รู้จัก ถามว่าคนอื่นได้เจอมั้ย ก็ไม่ได้ตั้งใจจะพาไปเจอใครอยู่แล้วแต่เราก็ไปไหนมาไหนปกติ อย่างพี่เหมี่ยว-ปวัณรัตน์ พี่มดดำ เค้าก็ไม่ได้รู้ แต่ก็พยายามมานั่งบิ๊วต์เราพูดออกสื่อ เค้าก็ถาม แต่รถเมล์ก็บอกว่าเดี๋ยวชัดเจนก็จะบอกเอง เค้าจะรู้ว่าถ้ารถเมล์ยังไม่เล่าแสดงว่ายังไม่ชัวร์ แต่ถ้าเมื่อไหร่เล่าแสดงว่าเราโอเคแล้ว ตอนนี้เราก็เรื่อยๆ ยังไม่รีบ ชัวร์เมื่อไหร่เราบอกแน่นอน. | ถูก 2 พิธีกรจอมเม้าท์ หนุ่ม-กรรชัย กับ มดดำ-คชาภา แซวหนักในรายการ ข่าวใส่ไข่ ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ว่า ช่วงนี้พิธีกรหน้าหวาน รถเมล์-คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ กำลังอินเลิฟ หัวใจเป็นสีชมพู | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | รถเมล์ คะนึงนิจ,อินเลิฟ,ข่าวใส่ไข่,กำลังมีความรัก,มดดำ คชาภา,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/996942 |
ซูจีถกรัฐบาลเมียนมาร์-จี้แก้ ก.ม.เลือกตั้ง | นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) เข้าร่วมการประชุมกับนายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีเมียนมาร์, นายพลมิน ออง หล่าย ผบ.ทบ., นายอาย หม่อง ผู้แทนกลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมาร์ รวมถึงประธานรัฐสภาและวุฒิสภา ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเนปิดอว์ของเมียนมาร์เมื่อ 10 เม.ย. เพื่อหารือแนวทางการเลือกตั้งที่เป็นธรรมและโปร่งใส ก่อนถึงกำหนดเลือกตั้งทั่วประเทศเมียนมาร์ในเดือน พ.ย.2558 โดยนางซูจีเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปี 2551 ซึ่งกีดกันนางซูจีจากการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะเนื้อหาใน รธน.ไม่อนุญาตให้ผู้มีบุตรหรือสมาชิกครอบครัวเป็นชาวต่างชาติดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมียนมาร์,อย่างไรก็ตาม นางซูจียังไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าพรรคฝ่ายค้านเอ็นแอลดีจะคว่ำบาตรการเลือกตั้งช่วงปลายปีนี้หรือไม่ แต่ระบุว่าหากรัฐบาลเมียนมาร์ไม่แก้ไข รธน.ก็อาจจำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพราะถือว่าการเลือกตั้งไม่มีความเป็นธรรมต่อพรรคฝ่ายค้าน นอกจากนี้ นางซูจียังได้เรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมาร์รับผิดชอบการนำตัวแรงงานเมียนมาร์ซึ่งถูกหลอกไปทำงานเยี่ยงทาสบนเรือประมงในอินโดนีเซียกลับประเทศ หลังองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) เผยว่ายังมีลูกเรือชาวเมียนมาร์ตกค้างอยู่ที่ค่ายพักพิงชั่วคราวบนเกาะตวลของอินโดนีเซียอีก 210 ราย จากแรงงานต่างชาติทั้งหมด 550 รายที่ตกค้างอยู่ในหมู่บ้านเบนจินาของอินโดฯ เมื่อเดือน มี.ค. | นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ข้าร่วมการประชุมกับนายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีเมียนมาร์ล ผู้แทนจากกองทัพและกลุ่มชาติพันธ์ ที่กรุงเนปิดอว์ เพื่อหารือแนวทางเลือกตั้ง และแก้รัฐธรรมนูญ | เลือกตั้ง | อองซาน ซูจี,พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย,เอ็นแอลดี,ฝ่ายค้าน,เต็ง เส่ง,ประธานาธิบดี,เมียนมาร์,กลุ่มชาติพันธุ์,กรุงเนปิดอว์,เลือกตั้ง,แก้รัฐธรรมนูญ,คว่ำบาตร,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/492425 |
ชนนับแสนร้อง สรรเสริญฯ ก้องสนามหลวง | ผู้คุมวงชี้ดุจหยดน้ำ กลายเป็นมหาสมุทร,คลื่นมหาชนนับแสนทะลักล้นท้องสนามหลวง รวมพลังแห่งความจงรักภักดีร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีดังกึกก้อง ก่อนที่จะร่วมจุดเทียนแสดงความอาลัยในช่วงค่ำเป็นการน้อมฯ รำลึก ในพระมหากรุณาธิคุณต่อองค์พ่อหลวงของแผ่นดิน ขณะที่ประชาชนทั่วประเทศหลั่งไหลเข้ามาร่วมสักการะพระบรมฉายาลักษณ์และลงนามแสดงความอาลัยอย่างไม่ขาดสาย ขณะเดียวกัน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ-ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน ราชกัญญาฯ ทรงห่วงปวงประชา เสด็จทรงทอดไก่-ประทานข้าวกล่องด้วยพระองค์เอง,คนไทยหลอมรวมใจเป็นหนึ่งเดียว ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว รัชกาลที่ 9 ด้วยการถวายสักการะพระบรม ฉายาลักษณ์และแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง รวมถึงมาร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ที่ท้องสนามหลวงอย่างพร้อมเพรียง,พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล วันที่ 9,ทั้งนี้ ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช วันที่ 22 ต.ค. ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 9 ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อเวลา 07.11 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ, คุณพลอยไพลิน เจนเซน พระธิดาคนโตในทูลกระหม่อม หญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และนายเดวิด วีลเลอร์ สามี กับ ด.ช.แม็กซิมัส วีลเลอร์ บุตรชายคนโต มาบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพในช่วงเช้า โดยมีพระพิธีธรรม 8 รูปจากวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารและวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ในการนี้ทรงถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรมด้วย จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินกลับ ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.ต.ม.จ.จุลเจิม ยุคล เป็นประธานถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรม จากวัดราชสิทธารามราชวรวิหาร และวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร,ต่อมาเวลา 15.00 น. ทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จพร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ มาบำเพ็ญพระกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพระพิธีธรรมจากวัดราชสิทธารามราชวรวิหาร และวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ วงประโคมของสำนักพระราชวัง และวงประโคมของกรมศิลปากร บรรเลงประโคมย่ำยาม และเวลา 19.00 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า จุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงบำเพ็ญ พระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระพิธี ธรรม 8 รูป จากวัดบวรนิเวศวิหาร และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร จากนั้นเวลา 21.00 น. พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จมาบำเพ็ญพระกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,ผู้นำนานาชาติวางพวงมาลา,นอกจากนี้ ตลอดทั้งวันมีผู้นำและบุคคลสำคัญจากต่างประเทศ เดินทางมาวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง จากนั้นลงนามแสดงความอาลัย ณ ศาลาพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง ต่อเนื่องตามลำดับ เวลา 10.00 น. นายดาโต๊ะ ซรี โมฮัมหมัด นาจิบ บินตุน อัลดุล ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และดาติน ปาดูกา ซรี รอสมาห์ แมนซอร์ ภริยา เวลา 13.16 น. สมเด็จพระอัครเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และเวลา 14.14 น. นายหลี่ หยวนเฉา รองประธานาธิบดี สาธารณรัฐประชาชนจีน,ประชาชนปักหลักรอข้ามวัน,ด้านการลงนามแสดงความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดติดต่อกันสามวัน ทำให้มีประชาชน แต่งชุดไว้ทุกข์จากทั่วสารทิศเดินทางมาจับจองพื้นที่สนามหลวงและเข้าคิวรอถวายสักการะต่อเบื้องพระบรม ฉายาลักษณ์ และลงนามในสมุดหลวงแสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพระบรมมหาราชวัง และรอเฝ้า รับเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์ ตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. อาทิ นางอัมพร เกตุสาคร อายุ 50 ปี เผยกับผู้สื่อข่าวด้วยความโศกเศร้าว่า มาจาก จ.สมุทรปราการ,ก่อนจะมาปักหลักนอนที่ท้องสนามหลวงตั้งแต่เวลา 20.00 น.ของวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมาพร้อมกับเพื่อนทั้งหมด 3 คน ได้เป็นคิวแรกของวันนี้ ที่จะได้ลงนามแสดงสักการะ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกมาตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.อยากจะเดินทางมาลงนามแสดงความอาลัยพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรม ฉายาลักษณ์ในหลวงภูมิพลให้ได้ทุกวัน แต่เนื่องจากต้องทำงาน เมื่อถึงวันหยุดจะเดินทางมาอย่างสม่ำเสมอ ปกติแล้วตนและครอบครัวได้น้อมนำพระราชดำรัสของพระองค์ท่านไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน โดยยึดหลักความพอเพียงในการดำเนินชีวิต,ทั่วทุกสารทิศมาบรรจบที่เดียว,ขณะที่นางชุติมา เพชรพรรณาราย อายุ 48 ปี กล่าวว่า นับถือศาสนาอิสลาม เดินทางมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่เวลา 05.00 น. พร้อมลูกอีก 3 คน เพื่อลงนามแสดงความอาลัยพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตนและลูกรู้สึกภูมิใจมากที่ได้เกิดบนพื้นแผ่นดินไทย ครั้งเมื่อตนยังเด็ก เคยเฝ้ารับเสด็จหลายครั้งเนื่องจากเวลาท่านเสด็จพระราชดำเนินจะต้องผ่านทางถนนวิสุทธิกษัตริย์ ซึ่งตนพักอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว ก่อนจะย้ายถิ่นฐานไปที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้บุตรทั้งสามคนของตนมาจาก จ.ปัตตานี ได้ปลูกฝังลูกตั้งแต่เล็กให้เห็นถึงพระราชกรณียกิจที่ท่านทรงทำไว้ ว่าท่านเหนื่อยเพียงใดเพื่อประชาชน เช่นเดียวกับนายคำกอง จันทุมา อายุ 70 ปี กล่าวว่า หลังทราบข่าวเดินทางมาจาก จ.อุบลราชธานี มาอาศัยกับลูกสาวตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา และเมื่อลูกว่างจึงให้ลูกพามาแสดงความอาลัยพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรม ฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช คำสอนของท่านมีประโยชน์มาก ท่านทรงเป็นบุคคลตัวอย่างที่คนไทยควรจะปฏิบัติตามคำสอนของท่าน ที่สามารถเป็นแบบแผนให้ชีวิตได้,คนหลั่งไหลมาสนามหลวง,จากนั้นเมื่อท้องฟ้าเริ่มสว่าง บรรยากาศบริเวณ สนามหลวงฝั่งหน้าพระบรมมหาราชวังก็หนาแน่นไปด้วยประชาชนจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ามาจับจองพื้นที่ลงนามถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้า พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยต่อแถวยาวกว่า 2 รอบสนามหลวง และภายในลานสนามหลวงถูกจับจองพื้นที่ด้วยเหล่าบรรดาจิตอาสา ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาค ประชาชน ที่นำอาหารและเครื่องดื่มมาแจกให้กับประชาชนที่เข้ามาร่วมงานถวายสักการะพระบรมศพครั้งนี้ แม้บางช่วงเวลาเกิดฝนตกกระหน่ำลงมา แต่ประชาชนที่มารอลงนามถวายสักการะยังคงปักหลักอยู่ที่ที่ตนเองจับจองพื้นที่โดยไม่ลุกหรือหลบฝน เจ้าหน้าที่รีบนำเต็นท์มากางให้ประชาชน แต่ไม่สามารถรองรับได้เพียงพอ ทำให้ประชาชนบางส่วนที่อยู่ด้านนอกเต็นท์นั้นต้องนำร่มมากางและเสื้อกันฝนมาใส่เอง กระทั่งเวลา 08.14 น. สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนขึ้นบนศาลาสหทัยสมาคม บรรยากาศยังคงอบอวลไปด้วยความเศร้าสลด ประชาชนหลายคนยังทำใจไม่ได้กับความสูญเสียขององค์กษัตริย์ในดวงใจ ถึงกับต้องหลั่งน้ำตาออกมา ทันทีที่เห็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช,คลื่นคนชุดดำขาวแน่นพื้นที่,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่คลื่นมหาชนเดินทางเข้ามายังท้องสนามหลวงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การจราจรโดยรอบที่มุ่งหน้าเข้าสนามหลวงแออัดไปด้วยยวดยานและผู้คนที่แต่งกายด้วยชุดดำไว้ทุกข์จนเจ้าหน้าที่จราจรต้องปิดถนนเป็นระยะ เพื่อให้คนเดินเข้าไปสนามหลวง อาทิ ที่แยกอรุณอมรินทร์ ถนนอรุณอมรินทร์ ถนนพระอาทิตย์ ส่วนสะพานพุทธ สะพานพระราม 8 สะพานกรุงธน และถนนราชดำเนินนอก การจราจรติดขัดอย่างหนัก ขณะที่ถนนโดยรอบพระบรมมหาราชวัง มีการปิดจราจรถนนราชดำเนินใน ตั้งแต่แยกผ่านพิภพลีลาถึงแยกป้อมเผด็จฯ ถนนสนามไชยตั้งแต่แยกป้อมเผด็จฯ ถึงวงเวียน รด. ถนนหน้าพระลาน ตั้งแต่แยกป้อมเผด็จฯ ถึงท่าช้าง ถนนหน้าพระธาตุ ตั้งแต่สามเหลี่ยมประตูวิเศษไชยศรี ถึงแยกท่าพระจันทร์ โดยรอบสนามหลวงประชาชนสวมชุดสีดำ-ขาว ทั้งชายหญิง เดินเท้ากันอย่างเบียดเสียดท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด,ปิดถนนรอบสนามหลวงให้คนเดิน,ต่อมา พ.ต.อ.ภูษิต วิเศษคามินทร์ รอง ผบก.จร. กล่าวว่า ต้องปิดการจราจรบริเวณรอบสนามหลวง และให้รถยนต์ส่งของไปลงของที่ถนนพระอาทิตย์และใช้รถเข็นขนของมายังสนามหลวงเท่านั้น เนื่องจากจะเปลี่ยนถนนเส้นหน้าพระธาตุให้เป็นถนนคนเดิน เพื่อให้ประชาชนที่เดินทางยังท้องสนามหลวงเดินอย่างสะดวกและปลอดภัย สำหรับถนนราชดำเนินใน ราชดำเนินกลาง และราชดำเนินนอก มีการจราจรติดขัด ทั้งนี้ ประชาชนที่มาจากทางด่วนยมราช ให้หลีกเลี่ยงใช้เส้นทางถนนพิษณุโลก และเส้นถนนบรมราชชนนีปิดการจราจรให้ใช้เส้นทางสะพานพระราม 8 แทน,คนแห่ใช้เรือด่วนเจ้าพระยา,ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ท่าเรือจังหวัดนนทบุรี ก็เนืองแน่นไปด้วยคนนับพันเข้าคิวต่อแถวยาวไปถึงด้านหน้า สภ.เมืองนนทบุรี และไปถึงแยกเข้าตลาดนนทบุรี เพื่อรอเข้าคิวโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยา เดินทางไปร่วมแสดงความอาลัยพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ที่ท้องสนามหลวง โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา ต้องเพิ่มจำนวนเรืออย่างเต็มที่ เพื่อรองรับประชาชนที่จะเดินทาง นอกจากนี้ ยังมีจิตอาสากลุ่มหนึ่งนำผลไม้มาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่รอลงเรือ ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด,ปรบมือรับ ลุงปาน บุรีรัมย์,ต่อมาเวลา 10.48 น. นายปาน หมื่นโยชน์ อายุ 84 ปี ชาวนา อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ผู้พิการร่างกาย ขาสองข้างไม่มีแรงมาร่วมปี แต่มีแรงใจในการโยกสามล้อพระราชทานจาก จ.บุรีรัมย์ เข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมแสดงอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เดินทางถึง ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และมีประชาชนบริเวณดังกล่าวปรบมือต้อนรับ และต่างร้องชมว่า ลุงสุดยอดมาก นับถือใจลุง จากนั้นลุงปานได้ถวายเงินที่ประชาชนให้มาในระหว่างทางจำนวน 70,700 บาทเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลด้วย ทั้งนี้ ลุงปานกล่าวว่า ถึงแม้จะโยกสามล้อจากบ้านเกิดจนมาถึงที่นี่รวมระยะทาง 400 กว่ากิโลเมตร เป็นเวลา 8 วัน แต่สิ่งเหล่านี้หาได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้ตัวเองท้อถอย หากยังมุ่งมั่นที่จะใช้สองมืออันแข็งแกร่งโยกสามล้อมาแสดงความอาลัยพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 จนได้ เพราะพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ได้พระราชทานความช่วยเหลือให้ตัวเองมีชีวิตที่ดีขึ้น ทำมาหาเลี้ยงชีพได้กินได้อยู่อย่างมีความสุขอย่างเช่นทุกวันนี้,3 วันเดินจากกรุงเก่าถึงกรุงเทพฯ,ด้านนายจรูญ คงคาดิษฐ์ ชาว อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา วัย 79 ปี ซึ่งกอดพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสะพายถุงยังชีพพระราชทานมาถวายสักการะพระ บรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตั้งจิตอธิษฐานถึงพระองค์หากลูกหายเจ็บหายไข้ มีแรงทำเงินหารายได้เช่นเดิม จะเดินเท้ามาถวายพระพร พระองค์ที่โรงพยาบาลศิริราช แต่พระองค์สวรรคตแล้ว จึงเปลี่ยนมาแสดงความอาลัยพระบรมศพในพระบรม มหาราชวังแทน ด้วยการเดินมาจาก อ.เสนา มาถึงกรุงเทพฯ เป็นเวลา 3 วัน โดยระหว่างเดินก็ตั้งจิตถึงพระองค์ แม้เมื่อยล้าบ้างก็ไม่เป็นอุปสรรคบั่นทอนความมุ่งมั่น เพราะเมื่อปี 2522 ตนสมัครเป็นสมาชิกลูกเสือชาวบ้านเป็นคนสุดท้ายในกลุ่มที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงผูก ผ้าพันคอลูกเสือชาวบ้านจากพระหัตถ์ จำได้ว่าตัวสั่นงันงกไปหมด หลังจากวันนั้นตนทำหน้าที่ช่วยเหลือคนในหมู่บ้าน หากใครเดือดร้อนก็ช่วยกันแก้ปัญหา,แต่งชุดโขนแสดงความอาลัย,ส่วน ด.ญ.กัณฐมณี สุพรมอินทร์ อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนวิเศษการ ที่แต่งชุดเล่นโขนเป็นตัวพระราม มาพร้อมคุณแม่ นางทัศนีย์ สุพรมอินทร์ อดีตประธาน อพปร.เดินทางจากพรานนก มาสักการะพระบรมฉายาลักษณ์และแสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กล่าวว่า คุณแม่เคยเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. เกือบทุกปี พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานทุน 2 หมื่นบาท เมื่อ 18 พ.ค.2555 ตัวเองอยากเล่นดนตรีไทยคุณแม่จึงแบ่งเงินบางส่วนไปซื้อขิมมาฝึกเล่น อีกทั้งมีความตั้งใจอยากรำพระรามถวายในหลวง รัชกาลที่ 9 ได้ทอดพระเนตร แต่ยังไม่ทันได้ทำตามความตั้งใจ วันนี้จึงใส่ชุดไทยมาถวายสักการะพระบรมศพ และตั้งใจตอบแทนพระองค์ ด้วยการทำความดี เป็นคนดีของสังคม ไม่ทิ้งขยะ รักษาสิ่งแวดล้อม และจะสืบสานวัฒนธรรมไทยต่อไป,ทีมงานนับพันร่วมรังสรรค์งาน,อย่างไรก็ดี ในวันที่ 22 ต.ค. ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่ถือเป็นการรวมพลังของคนไทยทั้งมวลที่ทำเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 คือ รวมพลังร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ แสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่จัดทำโดยหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ ตั้งแต่เช้าตรู่ ทีมงานผู้จัดกิจกรรมที่ประกอบไปด้วยผู้กำกับ ผู้ช่วยผู้กำกับ นักดนตรีวงออเคสตรา นักร้องประสานเสียง ทีมช่างภาพนิ่ง ช่างภาพยนตร์ และเจ้าหน้าที่ภาคสนามทุกภาคส่วน รวมกว่าหนึ่งพันชีวิต ร่วมกันระดมคนตระเตรียมความพร้อม ทดสอบและติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการบันทึกภาพ ถ่ายทำกิจกรรมประวัติศาสตร์ของเหล่ามวลมหาประชาชนปวงชนชาวไทย ที่จะได้หลอมรวมดวงใจขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีให้กึกก้อง เป็นการแสดงความอาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่อยู่กลางดวงใจของพสกนิกร,มานอนรอเพื่อร่วมร้องเพลง,สำหรับเวทีกลางของกิจกรรมประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่สนามหลวงทิศใต้ ห่างถนนกลางท้องสนามหลวงราว 50 เมตร เป็นสถานที่ตั้งวงออร์เคสตรา ประกอบไปด้วย วงสยาม ฟิลฮาร์โมนิค ออร์เคสตรา และวงสยามซิมโฟนิเอตต้า ที่เป็นวงดนตรีเยาวชน ทั้งนี้รวมนักดนตรีที่ร่วมวงในการบรรเลง มีจำนวนมากกว่า 200 ชีวิต พร้อมนักร้องเสียงประสานที่ถูกจัดวางให้ยืนในตำแหน่งด้านหลังนักดนตรีออร์เคสตราอีกกว่า 130 คน ทั้งหมดจะหันหน้ามาทางฝั่งทิศเหนือ ฝั่งสะพานพระปิ่นเกล้า หันหลังให้พระบรม มหาราชวัง โดยมีจอโปรเจกเตอร์ขนาดยักษ์ตั้งอยู่ ด้านหลัง และด้านหน้า เพื่อฉายภาพพระบรม ฉายาลักษณ์ และภาพวิดิทัศน์ในพระอิริยาบถต่างๆ ถัดไปด้านหลังของเวที เป็นเต็นท์อำนวยการ ที่ใช้ ในการควบคุมประสานงานความพร้อมในจุดต่างๆทั้งนี้ ระหว่างการตระเตรียมความพร้อม ก่อนการร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีจะเริ่ม มีประชาชนหลั่งไหลมาจับจองที่นั่ง ติดรั้วเหล็กเวที บางรายมานอนค้างคืนรอ เพื่อร่วมขับร้องบทเพลงเพื่อพ่อ อย่างใกล้ชิดติดขอบเวทีด้วย,ยอมเดินเท้าเข้ามาเป็น กม.,จากนั้นนักดนตรีทั้งหมดเริ่มมีการเช็กเสียง ตั้งสาย และความพร้อมของเครื่องดนตรี ขณะเดียวกันประชาชนเริ่มทยอยหลั่งไหลเข้าพื้นที่จากทุกทิศ ทุกทาง ทั้งฝั่งสะพานพระปิ่นเกล้า ฝั่งถนนราชดำเนิน กลาง ฝั่งถนนพระอาทิตย์ เพื่อเข้ามาร่วมในการแสดงความอาลัย บนศาลาสหทัยสมาคม พร้อมร่วมขับร้องบทเพลงสรรเสริญให้กึกก้องไปทั่วโลก สำหรับการหลั่งไหลเดินทางมาของประชาชน เปรียบดุจสายน้ำแห่งความจงรัก ได้ส่งผลให้พื้นที่สนามหลวงฝั่งทิศใต้ถูกจับจองโดยคลื่นพสกนิกรผู้จงรักจองเต็มพื้นที่ ขณะที่การจราจรโดยรอบที่จะมุ่งสู่พระบรม มหาราชวัง และท้องสนามหลวง ทุกเส้นติดขัดเป็น อัมพาต หลายคนเดินทางมาเป็นหมู่คณะ ถึงกับต้องนำรถมาจอดรอบนอก แล้วเดินเข้าพื้นที่ เป็นระยะ ทางหลายกิโลเมตร แต่ไม่ทำให้ความตั้งใจของพสกนิกรที่จะแสดงออกถึงความรักและอาลัยกับองค์เหนือหัวรัชกาลที่ 9 ต้องลดน้อยลง นอกจากนี้ ตลอดเส้นทางเข้าสู่ท้องสนามหลวง และพระบรม มหาราชวัง ยังมีกลุ่มประชาชนจิตอาสาพร้อมใจกันนำอาหารน้ำดื่มมาแจกจ่าย บรรเทาความร้อน ทำให้เป็นภาพที่แสดงออกถึงความกลมเกลียวกันของพสกนิกรชาวไทยอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์,อากาศร้อนแค่ไหนก็ไม่ท้อ,ต่อมาเวลาประมาณ 10.00 น. วงดนตรีออร์เคสตรา เริ่มการบรรเลงเพื่อซักซ้อมบทเพลงสรรเสริญพระบารมี ขณะเดียวกัน บริเวณสนามหลวงฝั่งทิศใต้ ที่อยู่หลังเวทีวงออร์เคสตรา มีประชาชนเข้าจับจองเต็มพื้นที่จนแทบไม่มีที่จะเดิน ล้นไปถึงสนามหลวงฝั่งทิศเหนือด้านสะพานพระปิ่นเกล้า ท่ามกลางแสงแดดที่แผดจ้า ประชาชนหลายคนนำภาพพระ บรมฉายาลักษณ์แนบไว้ที่ทรวงอก บ้างนั่งรับประทานอาหารเช้าพร้อมนำร่มที่เตรียมมากางเพื่อเป็นร่มเงา ระหว่างนั้น ตลอดเส้นทางบริเวณถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินใน ถนนหน้าพระลาน ถนนหน้าพระธาตุ ถนนสนามไชย ตลอดจนริมฟุตปาทรอบสนามหลวง แน่นไปด้วยคลื่นมหาประชาชนหลั่งไหลกันเข้ามาอย่างไม่หยุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสา สมัครที่กระจายกำลังอำนวยความสะดวกตลอด,โดยรอบพื้นที่ ต้องทำหน้าที่อย่างหนัก เนื่องจากคลื่นมนุษย์สวมชุดไว้ทุกข์ขาวดำ แน่นล้นพื้นที่ลงไปบนถนน จนรถของเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาในพระบรม มหาราชวัง รถพยาบาล และรถขนส่งสิ่งของต่างๆ แทบจะผ่านเข้ามาไม่ได้,ท่านมุ้ยปลื้มคนมามากมาย,กระทั่งเวลา 11.00 น. ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ประธานจัดงาน พร้อมด้วย ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล พระธิดา แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ โดย ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการจัดกิจกรรมครั้งนี้มาจากวันที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 สวรรคต ตนจึงมีแนวคิดรวมพลังคนไทยร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีในหลวง รัชกาลที่ 9 เพื่อบันทึกจัดทำเป็นวีดิทัศน์และภาพยนตร์จัดฉายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเปลี่ยนแผ่นดิน เบื้องต้นคิดจัดทำเพียงวงเล็กๆ ไม่คาดคิดว่าประชาชนจะเดินทางมามากมายขนาดนี้ ทุกคนมากันด้วยใจไม่มีการเกณฑ์หรือบังคับ ไม่มีพรรคการเมือง ไม่มีค่ายดารา บางคนยืนตากแดดโดยไม่บ่น เพราะทุกคนต้องการมาร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีโดยพร้อมเพรียง นอกจากประชาชน ยังมีทีมผู้ผลิตและผู้สร้างภาพยนตร์มาร่วมมือกัน นำอุปกรณ์การถ่ายทำมาช่วย มีการแบ่งหน้าที่โดยไม่คิดมูลค่า กิจกรรมนี้ตนไม่ได้ควักเงินแม้แต่บาทเดียว หลังจากวันนี้ตนจะตัดต่อภาพยนตร์ให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้าและจะนำเผยแพร่ทางโรงภาพยนตร์และทางสถานีโทรทัศน์,แบ่งการถ่ายทำเป็น 4 รอบ,ด้าน ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล ธิดาใน ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล หนึ่งในโปรดิวเซอร์ เปิดเผยว่า ในการทำงานครั้งนี้ใช้ทีมงาน 1,300 ชีวิต ไม่รวมทีมภาพนิ่ง คนเบื้องหลัง อาสาสมัคร นอกจากนี้ ยังมีนักดนตรีและนักร้องประสานเสียงที่มีมากกว่า 300 คน ใช้กล้องถ่ายทำไม่น้อยกว่า 60 ตัว เวทีขนาด 27x28 เมตร ระบบไฟทำเสร็จเมื่อคืน ทุกคนมีความสุขในการทำงานทุกชั่วโมง แม้ไม่ได้นอน เพื่อให้การเผยแพร่ภาพและเสียงวันนี้ดีที่สุด โดย อ.สมเถา สุจริตกุล เป็นผู้นำทางดนตรีพร้อมวงออเคสตรา ประชาชนได้ร่วมร้องเพลง แบ่งเป็น 4 รอบ คือ เวลา 13.00-14.00 น. เวลา 14.00-15.00 น. เวลา 16.00-17.00 น. อีกช่วงเป็นเวลาหลัง 22.00 น. ซึ่งไม่มีวงออเคสตรา ประชาชนร้องเพลงสรรเสริญพร้อมจุดเทียนสีขาวในยามค่ำคืน จะไม่มีการจัดไฟเพิ่มทำให้ภาพดูธรรมชาติที่สุด จริงที่สุด,ได้เห็นภาพประชาชนมารวมตัวรวมใจเพื่อร้องเพลงสรรเสริญให้ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทุกคนอยากทำถวายพระองค์ท่านในฐานะประชาชนของพระราชา อยากเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความอาลัย เพลงสรรเสริญพระบารมีในวันนี้ทุกคนร้องจากใจ งานนี้ไม่มีแบ่งโซน แบ่งแยก หรือจองที่ เน้นความเท่าเทียม คนที่มารอร้องเพลงตั้งแต่เมื่อคืนหรือมาแต่เช้ามืดจะได้อยู่ใกล้เวทีและในท้องสนามหลวง การทำงานครั้งนี้มีแต่ความสามัคคี ไม่มีการขัดแย้ง ไม่มีคำบ่นเลยแม้แต่นิด ทุกคนทุ่มเทพลังให้กับงานชิ้นนี้,หากต้องทำใหม่อีกครั้งก็คงไม่เหมือนเดิม ม.ร.ว.ศรีคำรุ้งกล่าว,คุณพลอยไพลิน ร่วมขับร้องด้วย,ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เวลาประมาณ 12.15 น.คุณพลอยไพลิน เจนเซ่น พระธิดา ทูลกระหม่อม หญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เดินทางมายังเวทีกลางสนามหลวงพร้อมด้วย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เพื่อเป็นหนึ่งในผู้ร่วมขับร้องบทเพลงสรรเสริญพระบารมี ไปกับคณะนักรองเพลงเสียงประสาน และวงดนตรีออเคสตรา ท่ามกลางความปลาบปลื้มปีติของทีมงาน โดยมี ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ประธานจัดกิจกรรมให้การต้อนรับ ขณะนั้นตลอดรอบพื้นที่สนามหลวง รอบพระบรมมหาราชวัง ทุกถนน ทุกซอย แทบทุกตารางนิ้ว พสกนิกรชาวไทยทุกเพศทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ เข้าจับจองเต็มโดยรอบ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมขับร้องบทเพลงถึงพ่อเหนือหัว ส่งผลให้สนามหลวงอันกว้างใหญ่ไปด้วยพื้นหญ้าสีเขียว เนื้อที่เกือบร้อยไร่ แปรเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีดำด้วยชุดไว้ทุกข์ที่ประชาชนสวมใส่มาร่วมกันแน่นเต็มพื้นที่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ที่รักษาการรอบบริเวณสนามหลวงและพระบรมมหาราชวัง ยังได้รายงานว่า มีจำนวนของผู้ที่มาร่วมในกิจกรรมครั้งประวัติศาสตร์นี้มากกว่าหนึ่งแสนคน,แต่งชุดย้อนยุคปั่นสองล้อมา,ขณะที่ประชาชนหลั่งไหลมาอย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้สื่อข่าวได้พบกับนายเอกพงษ์ ชูไธสง อายุ 53 ปี ชาว อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ สวมชุดท่านขุน ในสมัยรัชกาลที่ 5 ขี่จักรยานมาจาก อ.พระประแดง โดยเปิดเผยว่า เริ่มขี่ออกจากบ้านช่วงเช้ามืดจนมาถึงช่วงสาย ปกติปั่นจักรยานมาแสดงความอาลัยทุกวัน แต่วันนี้ทราบว่าจะมีการแสดงวงดนตรีออเคสตรา เป็นการแสดงสนองความต้องการของผู้ประพันธ์ในการถ่ายทอดความรู้สึกของดนตรีในแต่ละยุค จึงแต่งกายชุดท่านขุนมาร่วมแสดงความอาลัยด้วย ทั้งนี้ตั้งใจจะปั่นจักรยานมาให้ครบ 100 วันอีกด้วย ขณะที่นางอุปนิตย์ เจริญไทย อายุ 84 ปี ที่มาร่วมร้องเพลง เปิดเผยด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า รับรู้ถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นอย่างดี รู้ถึงความเสียสละตลอดการครองราชย์ของพระองค์ ยอมรับว่าไม่รู้เลยว่าจะมีพระมหากษัตริย์ประเทศใดที่จะเสียสละได้เท่านี้อีกแล้ว,บทเพลงดังก้องท้องสนามหลวง,กระทั่งเวลา 13.10 น.การขับร้องบทเพลงสรรเสริญพระบารมีเพื่อพ่อ ได้เริ่มต้นขึ้น โดยทันทีที่วงออเคสตราเริ่มบรรเลง คณะนักร้องเสียงประสานเริ่มขับขาน โดยมีนายสมเถา สุจริตกุล ทำหน้าที่เป็นวาทยกร เหล่ามวลมหาประชาชนชาวไทยรอบบริเวณ ได้เปล่งเสียงร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ตามกันเสียงดังกึกก้องไปทั่ว พร้อมกับการนำภาพพระบรมฉายาลักษณ์มาชูไว้เหนือหัว ขณะนั้นบรรยากาศโดยรอบสนามหลวง เป็นไปด้วยเสียงสะอื้นไห้ เคล้าเสียงเพลง ผู้คนที่มาร่วมหลายคนแสดงความโศกเศร้าอาดูร จนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ต้องร่ำไห้ออกมาน้ำตานองอาบหน้า แต่ก็ยังเงยหน้าจับจ้องมองไปบนฟ้า เหมือนเป็นการอำลาองค์พระภูมีที่สถิตอยู่กลางใจของปวงชนเป็นครั้งสุดท้าย,เสียงเพลงปนเสียงสะอื้น,เช่นเดียวกับที่บริเวณด้านหลังเวทีใหญ่ หน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มีประชาชนเดินทางเข้ามานั่งจับจองพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้า กระทั่งถึงเวลาบันทึกภาพ ทันทีที่ทีมงานประกาศให้ขับร้องเพลง ประชาชนต่างเปล่งเสียงร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีอย่างกึกก้อง หลายคนนำภาพพระบรมฉายาลักษณ์ชูขึ้นเหนือศีรษะ บางคนชูธนบัตร 100 บาท ร้องเพลงปนเสียงสะอื้น หลังร้องจบในรอบแรกประชาชนต่างร่ำไห้ ซับน้ำตา ก่อนจะเริ่มบันทึกภาพรอบต่อไป ทีมงานได้ประกาศเตือนผ่านเครื่องขยายเสียงห้ามบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่ทีมงานนำโดรนบินขึ้นเก็บภาพในมุมสูง หากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย กระทั่งการบันทึกภาพการร้องเพลงผ่านไปครบ 3 รอบ จึงมีการหยุดถ่ายทำ เนื่องจาก ท่านมุ้ย มีประสงค์ให้เปลี่ยนมุมกล้อง จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายรางดอลลี่ สำหรับเคลื่อนกล้อง หลังเวลาผ่านไป 20 นาที ทำให้มีประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยออกจากท้องสนามหลวง กระนั้นก็ยังมีประชาชนบางส่วน อาทิ นายพณช พูลผล อายุ 40 ปีบอกว่า จะขอร้อง เพลงสรรเสริญพระบารมีทั้ง 4 รอบ เพราะการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีใน 3 รอบช่วงบ่าย กลายเป็นเพลงที่ทำให้รู้สึกเศร้าและเสียใจอย่างยิ่ง ถึงกับร้องเพลงไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ บางท่อนต้องหยุดร้อง เพราะน้ำตาที่ไหลออกมา ไม่อาจสะกดเสียงสะอื้นไว้ได้ด้วยความรักและความคิดถึงที่มีต่อพระองค์ท่าน,คนบันเทิงรวมใจร้องเพลง,ขณะที่เหล่าบุคคลผู้มีชื่อเสียง ศิลปินดารา ทุกค่าย ทุกสังกัด ต่างเดินทางมาร่วมขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีเพื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยมี เอก-สรพงศ์ ชาตรี ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แอฟ-ทักษอร เตชะณรงค์ อั้ม-อธิชาติ ชุมนานนท์ ที่มากับภรรยา นัท-มีเรีย เบเนเด็ตตี้ นาตาลี เจียรวนนท์ เบลล่า-ราณี แคมเปน ไก่-วรายุฑ มิลินทจินดา ดุ๊ก-ภาณุเดช วัฒนสุชาติ นิว-วงศกร ปรมัตถากร เปรี้ยว-ทัศนียา การสมนุช เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ โม-อมีนา พินิจ แม็กกี้-อาภา ภาวิไล มด-ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ กุ้ง-สุทธิราช วงศ์เทวัญ แก้ม-วิชญาณี เปียกลิ่น โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม ฯลฯ หลายคนต่างร่ำไห้ออกมาด้วยความอาลัยที่ต่อพ่อของแผ่นดินทันทีที่เพลงสรรเสริญพระบารมีเริ่มบรรเลงขึ้น ด้าน เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ ชิปปี้-ศิรินทร์ ปรีดียานนท์ และอองตวน ปินโต ก็นำอาหาร น้ำ และพัดมาแจกให้กับประชาชนก่อนเริ่มการถ่ายทำด้วย,เหล่าดาราสุดตื้นตันพลังสามัคคี,ทั้งนี้ เหล่าดาราคนบันเทิงเข้าร่วมกิจกรรมร้องเพลงฯ ในครั้งนี้ต่างบอกเหมือนกันว่า รู้สึกตื้นตันที่ได้ทำเพื่อองค์พ่อหลวง และดีใจที่เห็นความสามัคคีของคนไทย อาทิ แอฟ-ทักษอร เตชะณรงค์ กล่าวว่า ขณะที่ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี รู้สึกว่าพระองค์ท่านกำลังมองพวกเราอยู่ เชื่อว่าบารมีของพระองค์ท่านยังคงคุ้มครองเราอยู่ และยังคงเฝ้ามองดูว่าประชาชนของท่านเป็นอย่างไร ขณะที่ เอก-สรพงศ์ ชาตรี ที่มารับหน้าที่เป็นผู้ช่วย ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล กล่าวว่า ตนเกิดมา 67 ปี ยังไม่เคยเห็นภาพนี้มาก่อน เป็นภาพที่เราดีใจแทนเขา เป็นความสุขเล็กๆในหัวใจเขาที่ได้มาอยู่ในวันนี้ ด้าน อั้ม-อธิชาติ ชุมนานนท์ และนัท มีเรีย เผยถึงนาทีที่คนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีพร้อมกัน ว่ารู้สึกขนลุกในความตั้งใจ พลังความจงรักภักดีที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ต่อให้ประเทศไหนในโลกก็ไม่สามารถทำแบบเราได้ เช่นเดียวกับ แก้ม เดอะสตาร์ นักร้องหญิงชื่อดัง เผยว่า วันนี้เป็นความรู้สึกดีมากจริงๆ แค่ได้มาเราก็ภูมิ ใจแล้ว ส่วน นิว-วงศกร ปรมัตถากร ก็กล่าวว่า สิ่งที่เราทำวันนี้ เป็นสิ่งเล็กๆ ที่เราจะแสดง ออกถึงความจงรักภักดี ความซาบซึ้งที่มีต่อพระองค์ท่าน ซึ่งไม่ได้สักเสี้ยวหนึ่งที่พระองค์ท่านทำเพื่อคนไทย แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย,เชื่อทั่วประเทศร้องเพลงเดียวกัน,ขณะที่ ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย กล่าวว่า เชื่อว่าไม่ใช่แค่ที่สนามหลวง แต่ชาวไทยทั่วประเทศร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นการแสดงออกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และร่วมสร้างประวัติศาสตร์ให้พ่อที่อยู่บนสรวงสวรรค์ได้ทรงเห็นถึงความรักและสามัคคีของคนไทย จากนี้อยากให้ทุกคนน้อมนำคำสอนของในหลวงไปปฏิบัติ เช่นเดียวกับ นายโชติ บัวสุวรรณ อายุ 22 ปี หรือซัน หัวหน้าวงสยาม ฟิลฮาโมนิค ออร์เคสตร้า ตำแหน่งไวโอลิน กล่าวว่า นับเป็นเกียรติครั้งสำคัญในชีวิต ดีใจที่ได้เล่นเพลงเพื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นอะไรที่ตื้นตันใจเป็นอย่างมาก ทุกคนอยากเป็นส่วนหนึ่งของวันสำคัญ ที่ประชาชนพร้อมใจออกมารวมพลังเพื่อพ่อของแผ่นดิน โดยเพิ่งได้มาซ้อมก่อนงานจะเริ่มไม่กี่ชั่วโมง ทั้งนักดนตรีและคอรัสจะต้องมองที่ อ.สมเถา สุจริตกุล คนเดียว ก็จะสามารถเล่นเพลงไปด้วยกันได้ ซึ่งช่วงเช้าได้ซ้อมไปประมาณ 4-5 รอบก็ได้จุดลงตัว สำหรับความรู้สึกที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ตนประทับใจในพระปรีชาสามารถด้านการดนตรีจะมีกษัตริย์สักกี่พระองค์ที่จะแต่งเพลงได้ ซึ่งเพลงพระราชนิพนธ์ตนได้ฝึกเล่นมาตั้งแต่เด็ก นับเป็นจุดเชื่อมต่อที่ทำให้ตนรู้จักในหลวงรัชกาลที่ 9 มากขึ้น,ลุงจากปากช่องขออยู่ครบ 100 วัน,ส่วนนายโอด ปลื้มใจ อายุ 84 ปี หนึ่งในผู้สูงอายุ ซึ่งพิการนิ้วมือด้านซ้ายไม่สามารถใช้งานได้ทั้ง 5 นิ้ว ซึ่งปักหลักนอนอยู่ที่บริเวณเต็นท์กลางสนามหลวง ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 21 ต.ค. จนกระทั่งได้ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ให้สัมภาษณ์พร้อมถือพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไว้แนบอกว่า ตั้งใจจะมาร่วมพิธีต่างๆในกรุงเทพฯ จึงออกจากบ้านที่ปากช่องพร้อมนำพระบรมฉายาลักษณ์ติดตัวมาตั้งแต่เช้าตรู่วันที่ 21 ต.ค. ด้วยการปั่นจักรยานมาเรื่อยๆ ตั้งใจจะปั่นให้ถึงกรุงเทพฯ แต่เมื่อมาถึง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงเกรงตนจะเป็นอะไรระหว่างทาง เพราะจักรยานก็ไม่มีเบรก จึงนำตนขึ้นรถมาส่งถึงสนามหลวงเมื่อดึกวันที่ 20 ต.ค. และก็หาที่หลับนอนกลางสนามหลวง ตั้งใจว่าจะอยู่ที่นี่จนเสร็จพิธีต่างๆ ใน 100 วันที่กำหนด ทั้งนี้เมื่อทราบข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รู้สึกเสียใจมาก รักพระองค์มาก เพราะพระองค์ทำเพื่อประชาชนทุกอย่างไม่ว่าจะยากดีมีจน,พระองค์โสมฯ ทรงทอดไก่แจก,ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วงใกล้เที่ยง พระเจ้า วรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ได้เสด็จฯเป็นการส่วนพระองค์ มาที่รถหน่วยเคลื่อนที่ เพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ช่วยด้วยใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย ซึ่งจอดประจำการหน้ากรมศิลปากร โดยทรงทอดไก่ ด้วยพระองค์เอง เป็นวันที่ 2 เพื่อให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯไปแจกจ่ายประชาชนที่มาเข้าแถวต่อคิวรอแสดงความอาลัย บนศาลาสหทัยสมาคม ระหว่างทรงทอดไก่ ยังรับสั่งกับข้าราชบริพารในพระองค์ให้ไปแจกน้ำให้ประชาชนที่มาต่อรอรับแถวยาวเหยียด ทั้งทรงรับสั่งว่า ใจเย็นนิดนึงค่ะ เดี๋ยวไก่ไม่สุก อีกนิดเดียวรอให้เหลืองก่อน จากนั้นพระองค์ทรงทอดไก่แจกประชาชนอย่างไม่ถือพระองค์ สร้างความรู้สึกปลาบปลื้มให้คนที่ผ่านไปมาในบริเวณนั้น ต่างแห่มาชื่นชมพระบารมีใกล้ชิดเป็นจำนวนมาก หลายคนยกโทรศัพท์มือถือ ขึ้นเพื่อบันทึกภาพพระองค์โสมฯ ขณะทรงงาน เพื่อไว้เก็บเป็นความทรงจำที่ดี ปรากฏว่าได้มีเจ้าหน้าที่ ที่รักษาการอยู่แถวนั้นเข้ามาห้าม พระองค์โสมฯ ที่กำลังทรงทอดไก่บนรถ รับสั่งลงมาว่า ไม่ต้องห้ามฉันอนุญาต ทำให้ประชาชนที่มาชื่นชมพระบารมี ต่างดีใจส่งเสียงไชโย และถวายพระพรว่า ทรง พระเจริญ กระทั่งเวลาประมาณ 18.30 น. พระเจ้า วรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ จึงเสด็จกลับ รวมเวลาอยู่ที่รถหน่วยเคลื่อนที่เกือบ 7 ชั่วโมง,พม.นำเยาวชนร่วมเก็บขยะ,ขณะเดียวกัน ตามเต็นท์ของแต่ละกระทรวงและหน่วยงานรัฐต่างๆ มีผู้บริหารเดินทางมาตรวจงานและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชน อาทิ ที่เต็นท์กระทรวงแรงงาน บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์ สถานแห่งชาติ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน พร้อมด้วย ม.ล.ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารกระทรวง เข้าตรวจเยี่ยมการให้บริการประชาชนที่เดินทางมาลงนามแสดงความอาลัย โดย พล.อ.ศิริชัยร่วมทอดไก่แจกประชาชน ส่วนที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ นายไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานปล่อยขบวนกิจกรรม เยาวชนจิตอาสาทำดีเพื่อพ่อหลวง ซึ่งเป็นเด็กและเยาวชนในความอุปการะจากสถานรองรับ 4 แห่ง ได้แก่ สถานสงเคราะห์เยาวชนมูลนิธิมหาราช สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด และสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี จำนวน 125 คน พร้อมเยาวชนจิตอาสาจากเครือข่ายต่างๆ มาร่วมกันเก็บขยะบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวังและสนามหลวง ท่ามกลางแสงแดดร้อนเปรี้ยง แต่ เด็กๆก็ไม่บ่นหรือท้อถอย,บ่ยั่นแม้ปักหลักกลางสายฝน,ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 16.00 น. ที่ท้องสนามหลวง ระหว่างที่ประชาชนนั่งพักผ่อนรอติดตามชมพระราชพิธีอยู่นั้น เกิดฝนตกพรำโปรยปรายอย่างต่อเนื่อง ทำให้อากาศเย็นชุ่มชื่นช่วยคลายความร้อนอบอ้าวในตอนบ่าย ขณะที่ประชาชนบางส่วน เดินหลบเข้าเต็นท์หาที่บังฝน ขณะที่บางคนนั่งกางร่ม สวมเสื้อกันฝนนั่งชมพระราชพิธีฯ ผ่านจอมอนิเตอร์ท่ามกลางสายฝนอย่างไม่หวาดหวั่น ท่ามกลางสภาพพื้นสนามหญ้าที่บางจุดเป็นหลุมเป็นแอ่ง ทำให้มีน้ำท่วมขังเป็นหย่อมๆ,คนเฉียด 2 แสนแน่นสนามหลวง,กระทั่งเวลา 17.00 น. สำนักพระราชวังปิดการลงนามแสดงความอาลัยบนศาลาสหทัยสมาคม รวมจำนวนพสกนิกรที่เดินทางมาลงนามแสดงความอาลัย ในวันที่ 22 ต.ค.2559 จำนวนทั้งสิ้น 34,005 คน รวม 8 วัน 252,397 คน มีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศล จำนวน 1,033,890 บาท รวมยอดเงินที่ประชาชนถวายตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.จำนวนทั้งสิ้น 4,175,084.25 บาท ขณะที่ผู้สื่อข่าวก็ได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ทหารจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ซึ่งประจำการในพื้นที่สนามหลวง และบริเวณโดยรอบพระบรม มหาราชวัง ประเมินจำนวนผู้ที่มาร่วมในการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และแสดงความอาลัย โดยรอบพระบรมมหาราชวังและสนามหลวง ในวันที่ 22 ต.ค.ดังนี้ 1.หน้าพระบรมมหาราชวัง-วัดมหาธาตุ-ศาลฎีกา-สะพานผ่านพิภพฯ-ศาลหลักเมือง มีประชาชนประมาณ 45,000 คน ทั้งทยอยออกและเข้าตลอด รอบสนามหลวง-สะพานพระปิ่นเกล้า ปิดการจราจร มีประชาชนประมาณ 85,000 คน ถนนสนามไชย ประมาณ 30,000 คน ถนนมหาราช ประชาชนประมาณ 15,000 คน ถนนท้ายวังประมาณ 2,000 คน รวมใน 5 พื้นที่ ประมาณ 177,000 คน,ทูลกระหม่อมฯ เสด็จเยี่ยมพสกนิกร,ต่อมาเวลา 18.00 น. ทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ เพื่อเยี่ยมเยียนประชาชนที่มาสักการะพระบรมศพ โดยรอบพระบรมมหาราชวัง จากนั้นเสด็จมายังเต็นท์บริเวณสวนหย่อม ฝั่งตรงข้ามประตูเทวาพิทักษ์ เพื่อประทานข้าวกล่อง ข้าวเหนียว ไก่ทอด ลองกอง และน้ำดื่ม ให้ประชาชนที่ต่างมา เข้าแถวรอรับด้วยความปลื้มปีติ หลังทรงใช้เวลาประทานอาหารและน้ำดื่มราว 30 นาที จึงเสด็จกลับ พร้อมกันนี้ได้ทรงทักทายและโบกพระหัตถ์ให้ประชาชนที่มาชมพระบารมีอย่างไม่ถือพระองค์,สมเถา ทึ่งความตั้งใจของทุกคน,ช่วงค่ำวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายสมเถา สุจริตกุล วาทยากรในการบรรเลงและขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ครั้งประวัติศาสตร์ กล่าวว่า สิ่งที่อยากจะสื่อในวิธีเรียบเรียงเพลงคือ อยากให้เป็นการแสดงคล้ายกับประวัติศาสตร์การครอง– ราชย์ 70 ปี ของพระองค์ท่าน รวบรวมมาอยู่ใน 2 นาที เพลงเริ่มจากโน้ตตัวเดียวทุกคนร้องโน้ตเดียวกันแล้วค่อยๆขยายขึ้นจนเสียงเต็มเหมือนน้ำที่ไหลเพียงหยดเดียว กลายมาเป็นลำธารแล้วไหลไปเป็นแม่น้ำ ในที่สุดก็กลายเป็นมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่ จริงๆแล้วปัญหาอย่างหนึ่งในการกำกับวงดนตรีในพื้นที่กว้าง คือเราต้องการให้คนเห็นว่าตรงไหนต้องดนตรีเบา ตรงไหนต้องยืด บางทีเราต้องทำท่าที่กว้างกว่าปกติ แม้ว่าจะทำท่ากว้างเท่าที่กว้างได้แต่ก็ยังไม่ทั่วถึง คนที่นั่งอยู่ไกลจึงต้องอาศัยฟังเสียงดนตรีจากคนข้างหน้า ก็มีความกลัวอยู่นิดหน่อย แต่ด้วยทุกคนมีความตั้งใจมาก เคล็ดลับการเล่นดนตรีไม่ใช่แค่แสดงเก่งเป็นคนเดียว แต่ต้องฟังคนอื่นด้วย วันนี้เราได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว,แสงเทียนสว่างไปทั่วพื้นที่,ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากตั้งแต่ช่วงเย็นพื้นที่โดยรอบบริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง มีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทำให้ประชาชนจำนวนหนึ่งที่ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีในรอบเช้า ทยอยเดินทางกลับ แต่ส่วนใหญ่ยังปักหลักอยู่กลางทางท้องสนามหลวงทิศใต้ โดยเฉพาะบริเวณหน้าเวทีออเคสตร้า มีคนนั่งกางร่มจับจองอยู่เต็มพื้นที่อย่างไม่ท้อ ท่ามกลางความชื้นแฉะบนสนามหญ้า เพื่อเฝ้ารอที่จะร่วมจุดเทียนและร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีตามที่คณะผู้จัดงานที่นำโดย ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล นัดไว้ในช่วงค่ำ จากนั้นเมื่อใกล้ถึงเวลาที่นัดหมายผู้คนที่หลบสายฝนไปนั่งพักผ่อน ทั้งตามเต็นท์ต่างๆ รวมไปถึงในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ฯลฯ ต่างฝ่าสายฝนที่ยังตกปรอยๆออกมารวมตัวกันบริเวณมณฑลพิธี ทำให้ท้องสนามหลวงตลอดจนถนนโดยรอบ ทั้งถนนราชดำเนินใน ถนนหน้าพระลาน ถนนหน้าพระธาตุ กลับมีบรรยากาศคึกคักอีกครั้ง กระทั่งเวลา 22.00 น.ประชาชนทั้งในและบริเวณรอบสนามหลวงพร้อมใจกันจุดเทียนขาว หันหน้ามาทางทิศเหนือฝั่งสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า แสงเทียนนับแสนดวงที่ถูกจุดสว่างไสวทั่ว พร้อมกับเสียงร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ที่ออกจากปากพสกนิกรดังก้องกังวานไปไกล แต่กลับแฝงไปด้วยน้ำเสียงแห่งความเศร้า หลายคนก็ยังคงร่ำไห้ออกมา ในขณะที่มือชูภาพพระบรมฉายาลักษณ์ไว้เหนือหัว กระทั่งการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีดำเนินผ่านไป 4 ครั้ง จนทีมงานบันทึกภาพได้ครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่ตั้งไว้ กิจกรรมร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีครั้งประวัติศาสตร์จึงยุติลง,เตือนระวังแก๊งมิจฉาชีพ,ในส่วนการดูแลความเรียบร้อยโดยรอบสนามหลวงนั้น วันเดียวกัน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.กล่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ากรณีที่มีบุคคลโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ระบุพบบุคคลมีพฤติกรรมเข้ามาตีสนิทและพยายามจะก่อเหตุลักพาตัวบุตรของผู้โพสต์ ขณะไปถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระบรมมหาราชวัง แต่ไม่สามารถทำสำเร็จ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงได้กำชับให้ตำรวจเพิ่มความเข้มเพื่อป้องกันเหตุลักพาตัวเด็ก และแจ้งเตือนมายังประชาชน ที่จะเดินทางไปถวายสักการะพระบรมศพ ให้ระมัดระวังมิจฉาชีพที่จะฉวยโอกาสก่อเหตุ รวมทั้งให้ บช.น.จัดตั้งศูนย์บริการคนหายพลัดหลงร่วมกับเต็นท์พยาบาล รพ.ตร. ขอประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ปกครองที่พาบุตรหลานไปร่วมพิธี ควรจัดทำบัตรประจำตัวหรือเบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้กับตัวเด็กในกรณีพลัดหลง โดย เขียนชื่อของเด็ก ที่อยู่ พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเสื้อหรือกางเกงของเด็ก หากเกิดการพลัดหลงให้แจ้งได้ที่กองอำนวยการร่วม บริเวณหน่วยบริการทางการแพทย์ หน้าประตูวิเศษไชยศรี,แนะให้วางแผนการเดินทาง,พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวด้วยว่า ในช่วงวันหยุดยาว 3 วัน อาจมีประชาชนจากต่างจังหวัดเข้ามาลงนามแสดงความอาลัยที่พระบรมมหาราชวัง ขอให้วางแผน การเดินทางล่วงหน้า และขอความร่วมมือให้เดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ทั้งนี้ ติดตามรายละเอียดการจราจรได้ที่ ,www.trafficpolice.go.th, หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเส้นทางสอบถามได้ที่ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) สายด่วน 1197 และแจ้งเบาะแสอาชญากรรม แจ้งเหตุหรือบุคคลต้องสงสัยจะก่อความวุ่นวาย หรือต้องการขอความช่วยเหลือ สายด่วน 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง,ปคม.จัด จยย.รับส่ง–รับแจ้งเด็กหาย,ต่อมา พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. เปิดเผยว่า ได้นำตำรวจ กก. 1-6 และฝ่ายอำนวยการ บก.ปคม. แบ่งออกเป็น 4 ชุดปฏิบัติ รวม 20 นาย ขี่รถจักรยานยนต์บริการรับส่งประชาชนจากท่าราชวรดิฐ ถึง สน.พระราชวัง สังเกตหมวกกันน็อกจะเขียนว่า บก.ปคม. พร้อมรักษาความปลอดภัยในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง โดยเริ่มปฏิบัติตั้งแต่เวลา 07.00-15.00 น. และ 15.00-23.00 น. ในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังรับแจ้งเด็กหายพลัดหลง หากผู้ใดมีข้อมูลเบาะแส หรือพบเห็นพวกมิจฉาชีพ สามารถขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม.ที่คอยรับส่งประชาชนบริเวณดังกล่าว หรือแจ้งสายด่วนค้ามนุษย์ 1191 ได้ตลอดเวลา,ปิดถนน 27 สายรับคลื่นมหาชน,ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจจราจร กล่าวว่าเนื่องจากมีประชาชนเดินทางมาร่วมงานพระราชพิธีฯ เป็นจำนวนมาก ทำให้การจราจรหนาแน่นในหลายพื้นที่ ขอแจ้งปิดการจราจร (ชั่วคราว) ตลอดเวลา ระหว่างวันที่ 22-24 ต.ค. ใน 27 เส้นทาง ดังนี้ 1. ถนนหน้าพระลาน ตลอดสาย 2.ถนนหน้าพระธาตุ ตลอดสาย 3.ถนนราชดำเนินใน จากแยกผ่านพิภพฯ ถึงแยกป้อมเผด็จฯ 4.ถนนสนามชัย จากแยกป้อมเผด็จฯ ถึงหน้า สน.พระราชวัง 5.ถนนหับเผย 6.ถนนหลักเมือง 7.ถนนกัลยาณไมตรี ถึงสะพานช้างโรงสี 8.ซอยสราญรมย์ 9.ถนนพระจันทร์ 10.ถนนมหาราช ตลอดสาย 11.ถนนท้ายวัง ตลอดสาย 12.ถนนเชตุพน 13.ถนนเศรษฐการ 14.ถนนเจริญกรุง จากวงเวียน รด. ถึงแยกสะพานมอญ 15.ถนนพระพิพิธ 16.ถนนราชดำเนินนอก จากแยก จปร. ถึงแยกผ่านฟ้า 17. ถนนนครสวรรค์ จากแยกจักรพรรดิพงษ์ ถึงแยกผ่านฟ้า 18.ถนนหลานหลวง จากแยกหลานหลวง ถึง แยกผ่านฟ้า 19.ถนนราชดำเนินกลาง (ตลอดสาย) 20.ถนนพระสุเมรุ จากแยกวันชาติ ถึงแยกป้อมมหากาฬ 21.ถนนมหาชัย จากแยกสำราญราษฎร์ ถึงแยกป้อมมหากาฬ 22.ถนนดินสอ จากแยกวันชาติ ถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 23.ถนนดินสอ จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถึงแยกมหรรณพ 24.ถนนตะนาว จากแยกตัดถนนข้าวสาร ถึงแยกคอกวัว 25.ถนนตะนาว จากแยกศาลเจ้าพ่อเสือ ถึงแยกคอกวัว 26.ถนนจักรพงษ์ จากแยกตัดถนนข้าวสาร ถึงถนนราชดำเนินกลาง 27.ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า จากแยกอรุณ–อมรินทร์ ถึงแยกผ่านพิภพฯ,แนะจากฝั่งธนฯให้ใช้เรือข้ามฟาก,รรท.ผบก.จร.กล่าวต่อว่า ขอแนะนำให้ใช้เส้นทางเลี่ยงเพื่อความสะดวกในการเดินทาง ดังนี้ 1. กรณีรถที่มาจากทางด่วนยมราชให้ใช้เส้นทางถนนพิษณุโลก 2.กรณีที่ใช้รถบนทางพิเศษ (เนื่องจากทางลงทางด่วนยมราชการจราจรหนาแน่นมาก) ที่มาจากแจ้งวัฒนะจะไปทางงามวงศ์วาน ให้ซ้ายออกคู่ขนานตรงทางด่วนประชาชื่น เพื่อออกไปทางถนนรัชวิภา และถนนวิภาวดี มาจากทางด่วนประชาชื่นลงทางด่วนพระราม 6 มาจากทางด่วนมักกะสัน ให้ลงทางด่วนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่มาจากทางด่วนพระราม 4 ให้ลงทางด่วนหัวลำโพง ที่มาจากต่างระดับ ศรีนครินทร์ ให้ลงด่วนพระราม 9 และใช้ทางพื้นราบ 3.กรณีมาจากคู่ขนานขาเข้า ให้ใช้ถนนสิรินธรบางพลัด สะพานกรุงธน (ซังฮี้) 4. กรณีประชาชนจากฝั่งธนบุรีที่จะเข้ามาร่วมงานพระราชพิธีฯ ขอให้ใช้บริการเรือข้ามฟาก ท่าพระจันทร์ และท่าช้าง,รฟม.เปิดอาคารให้จอดรถ ฟรี,ขณะเดียวกัน การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า รฟม.เปิดให้ประชาชนที่ต้องการเดินทางไปสักการะพระบรมศพ สามารถนำรถยนต์มาจอดภายในอาคารจอดแล้วจร (Park& Ride) ของ รฟม. ได้ ฟรี ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 22 ต.ค.เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ถึง 01.00 น. ได้แก่ อาคารจอดแล้วจร สถานีลาดพร้าว 2,200 คัน สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย 205 คัน โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีม่วง) และอาคารจอดแล้วจร ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ อาคารจอดแล้วจร สถานีคลองบางไผ่ 1,800 คัน รถโดยสารขนาดใหญ่สามารถนำมาจอดบริเวณลานด้านหน้าอาคารได้ 80 คัน สถานีสามแยกบางใหญ่ 1,460 คัน รถโดยสารขนาดใหญ่นำมาจอดบริเวณลานด้านหน้าอาคารได้ 10 คัน สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ 1,070 คัน รถโดยสารขนาดใหญ่นำมาจอดบริเวณลานด้านหน้าอาคารได้ 20 คัน สถานีแยกนนทบุรี 1 จำนวน 450 คัน | คลื่นมหาชนนับแสนทะลักล้นท้องสนามหลวง รวมพลังแห่งความจงรักภักดีร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีดังกึกก้อง ก่อนที่จะร่วมจุดเทียนแสดงความอาลัยในช่วงค่ำเป็นการน้อมฯ รำลึก ในพระมหากรุณาธิคุณต่อองค์พ่อหลวงของแผ่นดิน | null | ข่าวหน้า1,ท้องสนามหลวง,คลื่นมหาชนนับแสน,ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี,พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล,พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช,ไทยรัฐฉบับพิมพ์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/761766 |
ประยุทธ์ โต้ สุดารัตน์ ยัน บัตรคนจน ไม่แบ่งชนชั้น ปิ๊งไอเดียเปลี่ยนชื่อ บัตรความสุข | ให้ผู้ถือบัตรรักษาฟรี ย้ำเป็นเรื่องแบ่งแยกคนจนคนรวยย้อนกลับไปเหมือนยุค บัตรอนาถา ขณะที่ ประยุทธ์โต้ไม่ได้แบ่งชนชั้น ปิ๊งไอเดียเปลี่ยนชื่อ บัตรความสุข ส่วน สรรเสริญ คาด สุดารัตน์ เขียนหวังผลทางการเมือง ลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล16 ต.ค.2561 หลังจากวานนี้ (15 ต.ค.61) สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟสบุ๊กแฟนเพจ เรื่อง อย่าทำให้คนไทยไม่เท่ากันด้วยบัตรคนจน โดยระบุว่า รัฐบาลนี้ให้ผู้ถือบัตรคนจนรักษาฟรี เป็นการแบ่งแยกคนรวยคนจน นั้น ส่งผลให้รัฐบาลมีการตอบโต้ ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีวันนี้ (16 ต.ค.61) รายงานว่าก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ซึ่ง กอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำ ไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการแม่ฮ่องสอน พร้อมคณะ เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่ง หัวหน้า คสช. กล่าวว่า ขอเปรียบตรงนี้หน่อย พอเราใช้แก้จน ก็มีคนมาแปลงเจตนาผิด ไปมองว่าเป็นการแบ่งแยกชนชั้น ก็เห็นอยู่แล้ว ถ้าเขาเข้าใจเราก็จบ แต่ถ้าไม่เข้าใจก็เป็นประเด็นทางการเมือง ดังนั้นลองไปเปลี่ยนดู ไม่ว่าเรื่องบัตรสวัสดิการต่างๆเราใช้คำว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อต้องการดูแลประชาชนที่ขึ้นทะเบียน เราไม่ต้องการแบ่งแยกชนชั้น ลองไปเปลี่ยนชื่อดูว่าจะเรียกอย่างไรได้เต็มปาก เป็นบัตรความสุขหรืออะไรทำนองนี้ได้ไหม พอบอกบัตรคนจนกลายเป็นการแบ่งแยกชนชั้น ที่ผ่านมาก็ไม่ได้แก้ปัญหาเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้ พอเราแก้มาก็ถูกโจมตีโน้นนี้ เพราะฉะนั้นก็ต้องระวังแล้วกัน วันนี้คนก็ไม่มีใครอยากถูกเรียกว่าคนจน เราก็ไม่ได้มองเขาแบบนั้น เพียงแต่ต้องเพิ่มการกระจายรายได้ให้กับเขา โครงการต่างๆก็ไม่ได้แก้จน แต่เป็นการเพิ่มความสุขให้กับเขา อย่างไรก็ตามไม่ว่าคนรวยคนจน ก็สามารถเข้าถึงโอกาสได้พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องมีโครงการลงไป เช่น ไทยนิยม ยั่งยืน ที่คิดขึ้นมาว่าจะทำอะไรแล้วเติมลงไป ไม่ใช่มองอย่างเดียวเป็นการเดินทางการเมือง มันไม่ใช่ ทั้งนี้ไม่มีปัญหาใดที่แก้ไม่ได้ หากทุกคนร่วมมือกัน ดีกว่ามาสร้างความขัดแย้ง โจมตีกันไปทำ ตนไม่อยากจะทำตรงนี้ มันเป็นปัญหาของประเทศเรา และวันนี้หลายประเทศจับตาประเทศเราอยู่ เขาไม่ได้มองประชาธิปไตยเพียงอย่างเดียว แต่เขามองในเรื่องการพัฒนาด้วย ตนไปประชุมหลายประเทศก็ได้รับคำชมเชยมาหลายประเด็นที่เรามีความคืบหน้าและเขาอยากให้เราเดินหน้าต่อไป15 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ รายงานว่า พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีโพสต์ดังกล่าวของสุดารัตน์ ว่า คุณหญิงสุดารัตน์อาจจะไม่ได้ศึกษาจนเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าอะไรเป็นอะไร โดยมองปัญหาจากความคิดของตัวท่านเองเป็นหลัก เพราะมติ ครม.ที่ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรักษาฟรีนั้น เป็นเพียงการแก้ไขเพิ่มเติมข้อความในกฎหมายให้ครอบคลุมผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการฯ ไม่ได้มีผลต่อสิทธิรับการรักษาที่ฟรีอยู่แล้ว และเมื่อดูจากเนื้อหาที่คุณหญิงสุดารัตน์เขียนก็น่าจะหวังผลทางการเมือง เพื่อลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลมากกว่าที่จะเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับสังคม คล้ายกับที่ครั้งหนึ่งรัฐบาลเคยถูกกล่าวหาว่าจะยกเลิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ทั้ง ๆ ที่ไม่เป็นความจริงโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง หรือ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นเรื่องเดียวกัน ซึ่งพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำเสมอว่า คนไทยทุกคนที่ไม่ได้อยู่ในระบบราชการหรือประกันสังคมจะได้รับสิทธินี้ ซึ่งเป็นการรักษาฟรีด้วยคุณภาพที่ดีทัดเทียมกัน ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ แต่หากใครมีกำลังพออยากจะร่วมจ่ายกับภาครัฐก็สามารถทำได้พล.ท.สรรเสริญ ยืนยันว่า รัฐบาลนี้ไม่เคยแบ่งแยกประชาชน มีแต่นักการเมืองบางกลุ่มบางคนที่ชอบใช้วาทกรรมแบ่งแยกคนรวยคนจนให้เกิดความขัดแย้ง พร้อมทั้งย้ำว่า สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้รับการพัฒนาไปมาก ทั้งเรื่องงบประมาณรายหัวที่รัฐสนับสนุน ประเภทของโรคและยาที่เพิ่มขึ้น และอีกหลายเรื่อง จนได้รับการยกย่องชื่นชมจากองค์การอนามัยโลกและนานาชาติ ส่วนองค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบายสุขภาพแห่งชาตินั้น เป็นการรวมบุคคลหรือหน่วยงานที่หลากหลายกระจายไปทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยราชการที่มีภารกิจด้านสุขภาพ สภาวิชาชีพ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาสังคมและเอกชน และผู้ทรงคุณวุฒิ ให้เข้ามาทำงานร่วมกัน ไม่ได้จำกัดเฉพาะแค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้นสำหรับโพสต์ดังกล่าวของสุดารัตน์ ในหัวข้อ นั้น ระบุว่า หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือ 30 บาทรักษาทุกโรค ต้องยึดหลักความทัดเทียม ที่คนไทยทุกคนจะต้องได้รับสิทธิ และโอกาสเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างมีคุณภาพทัดเทียมกัน หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นของประชาชน จึงต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม แต่ล่าสุดคณะรัฐมนตรี กลับมีมติอนุมัติกฎหมายตั้งซูเปอร์บอร์ดสุขภาพ โดยให้มีภาคประชาชนเพียง 3 คน จาก 45 คน ซึ่งที่เหลือส่วนมากเป็นข้าราชการ และมีเอกชนตัวแทนบริษัทยาข้ามชาติมาเป็นกรรมการแล้วประชาชนอยู่ตรงไหนคะ?สุดารัตน์ ตั้งคำถาม พร้อมระบุว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่รัฐบาลนี้ ได้ประกาศให้ผู้ที่ถือบัตรคนจนรักษาฟรี ทั้งที่ในความเป็นจริงประชาชนทุกคน ที่ได้รับบัตรทอง30 บาทรักษาทุกโรค ก็ได้รับการรักษาฟรีอยู่แล้ว โดยไม่ได้แบ่งแยกว่าเป็นคนจน แต่รัฐบาลกลับมีมติ ครม. ให้ผู้ถือบัตรคนจนรักษาฟรี ซึ่งกลายเป็นเรื่องแบ่งแยกคนจนคนรวยย้อนกลับไปเหมือนยุค บัตรอนาถา สำหรับคนจน เหมือนเมื่อสมัยปี พ.ศ.2518 ซึ่งอาจจะเป็นการเปิดช่องแบ่งแยกคนจนออกไป และอาจทำให้มีการเลือกปฏิบัติได้ ซึ่งถือเป็นการขัด หลักการ ของโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าอย่างร้ายแรงสุดารัตน์ กล่าวย้ำว่า หลักการของโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือ 30 บาทรักษาทุกโรค คือต้องการให้คนไทยทุกคนมีสิทธิเข้าถึงการรักษาพยาบาลด้วยคุณภาพดีทัดเทียมกัน โดยไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ คนรวยหรือคนจน ไม่ใช่คนจนต้องรักษาแบบอนาถานี่คือหัวใจของโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคมิใช่เรื่องที่ใครจะพยายามเอาเรื่องการรักษาฟรีไปหาเสียงอย่างผิดๆ โดยทำให้หลักการของโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าผิดเพี้ยน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดิฉันยอมไม่ได้สุดารัตน์ โพสต์ทิ้งท้าย | หลัง สุดารัตน์ โพสต์ อย่าทำให้คนไทยไม่เท่ากัน ด้วยบัตรคนจน ชี้มติ ครม. | การเมือง,คุณภาพชีวิต | 30 บาทรักษาทุกโรค,บัตรทอง,บัตรคนจน,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์,สรรเสริญ แก้วกำเนิด,บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ | https://prachatai.com/journal/2018/10/79169 |
ย้ำคำทำนายหมอดูอีที ระวังน้ำท่วม-สงครามใหญ่ โหรโสรัจจะเห็นพ้อง | เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้หมอดูอีที หมอดูชื่อดังชาวเมียนมาเสียชีวิตเป็นเวลามากกว่า 2 วันแล้ว แต่ในแวดวงผู้นับถือ คนดัง นายทหาร นักการเมืองไทย ที่เคยให้ทำนายดวงชะตายังคงต่างร่วมแสดงความเสียใจ พร้อมย้ำความแม่นในการทำนายเหตุการณ์ต่างๆ,ขณะเดียวกัน โหรชื่อดังของไทยยังเห็นพ้องคำสั่งเสียหมอดูอีที ทั้งการเกิดสงครามครั้งใหญ่และภัยพิบัติ มีความเป็นไปได้สูง แต่เตือนสติว่าอย่าไปวิตกมากขอให้ทำบุญเยอะๆ ทำในสิ่งที่ดี จะผ่อนหนักให้เป็นเบาลงได้,ทั้งนี้ ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ สอบถามไปยังโหรระดับแถวหน้าของไทย นายโสรัจจะ นวลอยู่ ถึงโอกาสจะเกิดขึ้นและกระทบกับไทยหรือไม่ เกี่ยวกับคำทำนายสั่งเสียของหมอดูอีที ได้รับคำตอบว่า ไม่เคยได้ไปสัมผัสกับหมอดูอีที รู้แต่ว่ามีคนไปหากันเยอะมาก ส่วนที่มีคนวิตกคำทำนายสุดท้ายของหมอดูอีทีที่มีการนำมาเผยแพร่ จะมีน้ำท่วมใหญ่ และจะเกิดสงครามโลก ให้เก็บข้าวสารอาหารแห้งตุนไว้ หากดูดวงโลกก็มีความเป็นไปได้ เพราะวันที่ 1 ธ.ค. ดาวเสาร์จะย้ายจากราศีพิจิกเข้าราศีธนู ภพที่ 8 ซึ่งเป็นภพมรณะดวงโลก ปลายปีนี้จึงน่าเป็นห่วง เสาร์กับราหู เป็นดาวที่จะส่งผลเรื่องภัยร้ายแรง และขณะนี้มฤตยูยังเข้าราศีเมษทับลัคนาดวงเมืองของไทยไปนานอีก 6 ปี ตรงนี้ส่งผลกับโลกด้วย เพราะมฤตยูไปเกี่ยวกับสงครามครั้งใหญ่ เรื่องสงครามใหญ่ กับภัยพิบัติ จึงมีความเป็นไปได้สูง แต่ทั้งหมดมันเป็นเรื่องของดวงดาว อย่าไปวิตกมาก ขอให้ทำบุญเยอะๆ ทำในสิ่งที่ดี จะทำให้เรื่องหนักเบาลงได้,ด้าน หมอช้าง นายทศพร ศรีตุลา หมอดูชื่อดัง กล่าวว่า หมอดูอีทีจะใช้เซนส์ในการทำนาย ไม่ได้ใช้หลักวิชาทางโหราศาสตร์เหมือนของไทย คนที่เคยไปดูมาเล่าให้ฟังว่า สามารถทายเลขธนบัตรในประเป๋าสตางค์ และทายชื่อบนบัตรได้อย่างถูกต้อง แต่หมอดูอีทีเป็นใบ้จะใช้วิธีการเขียนข้อความให้ญาติแปลคำทำนายแทน ซึ่งถ้าทายเลขในกระเป๋าสตางค์ได้แม่นขนาดนั้น ก็ต้องยอมรับ ประกอบกับดังมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะดัง มีชื่อเสียงตั้งแต่ยังไม่มีโลกโซเชียล มีเฟซบุ๊ก มีไลน์ เหมือนสมัยนี้ ประกอบกับขณะนั้นเมียนมายังไม่เปิดประเทศ แต่ชื่อเสียงยังสามารถทะลุออกมาได้ก็ต้องไม่ธรรมดา ส่วนเรื่องความตายไม่มีใครหนีพ้น แม้หมอดูจะดูดวงตัวเองหรือรู้ชะตาตัวเอง ก็ใช่ว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ทั้งหมด เพราะบางเรื่องไม่สามารถแก้ไขได้. | คนดัง นายทหาร นักการเมืองไทย ที่เคยให้ หมอดูอีที ทำนายดวงชะตา ต่างร่วมแสดงความเสียใจ พร้อมย้ำความแม่นในการทำนายเหตุการณ์ต่างๆ ขณะที่โหราจารย์ดังของไทย ส่องดวงไทย-ชะตาโลกแล้ว เห็นพ้อง คำสั่งเสียหมอดูคนดัง | ข่าว,สังคม | หมอดูอีที,หมอดูอีทีตาย,หมอช้าง,โสรัจจะ นวลอยู่,ทศพร ศรีตุลา | https://www.thairath.co.th/news/society/1067280 |
ยะลา พบผู้ป่วยโควิด อีก 3 มี ด.ญ.7 ขวบด้วย ติดเชื้อจากคนในครอบครัว | ยะลา ยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่มอีก 3 คน อยู่อ.บันนังสตา 2 คน มีด.ญ.วัย 7 ขวบด้วย ส่วนอีก 1 เป็นชายวัย 69 ปี อยู่ อ.เมือง ทั้ง 3 เป็นผู้ที่ไปร่วมและสัมผัสคนในครอบครัวที่ไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 17 เม.ย. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19)ของ จ.ยะลา พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นอีกจำนวน 3 ราย ทำให้ผู้ป่วยสะสมของ จ.ยะลา รวมเป็นจำนวน 96 รายสำหรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น 2 ราย เป็นชาวบ้านในพื้นที่บ้านตันหยงนากอ หมู่ 2 ต.บาเจาะ และบ้านบือซู หมู่ 6 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา รายแรกเป็น ด.ญ.อายุ 7 ปี มีประวัติการสัมผัสเชื้อจากคนในครอบครัวที่ไปร่วมกิจกรรมที่ฮัลเกาะห์ มัสยิดพงยามู หมู่ 3 ต.บันนังสตา เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา และอีกรายเป็นเพศชาย อายุ 21 ปี ติดเชื้อจากการไปมาหาสู่กับผู้ป่วยที่เป็นเพื่อนกันในพื้นที่บ้านฆูแด หมู่ 2 ต.บันนังสตา ซึ่งเพื่อนผู้ป่วยเป็นผู้ได้รับเชื้อจากหัวหน้าครอบครัวจากการร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่เดียวกันส่วนรายที่ 3 เป็นเพศชาย อายุ 69 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านเปาะยานิ ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา บริเวณรอบศูนย์ดะวะห์แห่งประเทศไทย หรือ มัรกัส สอบประวัติพบว่า เป็นผู้ที่ไปทำกิจกรรมดะวะห์ที่ศูนย์ย่อยมัสยิดพงยามู ต.บันนังสตา เช่นเดียวกัน ผู้ป่วยใหม่ทั้งหมดถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาภายในโรงพยาบาลต่อไปแล้วนายธราวุธ ช่วยเกิด นายอำเภอบันนังสตา กล่าวว่า อ.บันนังสตา มีผู้ติดเชื้อสูงสุดในจังหวัดยะลา เรียกว่าเพิ่มรายวันเกือบทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 2 ราย เช่นเดียวกับวันนี้ ผู้ป่วยส่วนหนึ่งเป็นคนในพื้นที่ ต.เขื่อนบางลาง ดังนั้น ทางกองโรงไฟฟ้าเขื่อนบางลาง จึงได้สนับสนุนอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและกำลังใจในการทำงานของทีมเจ้าหน้าที่ โดยมอบอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ มี เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย(Forehead thermoscan) 3 เครื่อง แอลกอฮอล์เจลขนาด 780 ml. จำนวน 2 ขวด เจลอนามัย กฟผ. 5 ลิตร และหน้ากากผ้า จำ 60 ชิ้น ในการนี้ น.ส.วาทิตรัตน์ ศรีทอง หน.งานสุขภาพอนามัย กฟผ.เขื่อนบางลาง เป็นตัวแทนมอบ และนายกู และ ต่วนจอหลง รองนายกเทศบาลตำบลเขื่อนบางลาง เป็นผู้รับมอบ ซึ่งจะได้มอบให้ศูนย์กักตัวประจำตำบลเขื่อนบางลาง (Local Quarantine) และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามด่านตรวจคัดกรองในตำบลเขื่อนบางลาง จำนวน 3 จุด ต่อไป | ยะลา ยังพบผู้ติดชื้อโควิด-19 ต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่มอีก 3 คน อยู่ อ.บันนังสตา 2 คน มีด.ญ.วัย 7 ขวบด้วย ส่วนอีก 1 เป็นชายวัย 69 ปี อยู่ อ.เมือง ทั้ง 3 เป็นผู้ที่ไปร่วมกิจกรรม สัมผัสคนในครอบครัว | ข่าว,ทั่วไทย | ไวรัสโคโรนา,โควิด-19,COVID-19,ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19,โควิด-19 ยะลา,ผู้ติดเชื้อ ยะลา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1822424 |
ชากิรี ตีลังกายิง หงส์ไล่ต้อนผี 4-1 ศึกแดงเดือดไอซีซีคัพ | การแข่งขันฟุตบอลอินเตอร์เนชันแนล แชมเปียนส์ คัพ 2018 (ไอซีซีคัพ) วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม ตามเวลาท้องถิ่น ที่สนามมิชิแกน สเตเดียม เมืองแอน อาร์บอร์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา หงส์แดง ลิเวอร์พูล ลงเล่นนัดที่ 3 ทำศึกแดงเดือดกับ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อนร่วมศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ลงสนามเป็นนัดที่ 2 ในรายการนี้,เริ่มเกมครึ่งแรก หงส์แดงเดินเกมบุกเข้าใส่ทันที จนถึงนาทีที่ 28 จากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โดนเตะล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษทันที ซาดิโอ มาเน ยิงเข้าไปให้ทีมนำ 1-0,แต่อีก 3 นาทีต่อมา ปิศาจแดงตามตีเสมเป็น 1-1 จากลูกยิงฟรีคิกสุดสวยระยะ 25 หลาของ อันเดรียส์ เปไรรา,เกมครึ่งหลังผ่านไปถึงนาทีที่ 66 เซอร์ดัน ชากิรี ได้บอลในเขตโทษ ก่อนไหลคืนให้เดเนียล สเตอร์ริดจ์ ซัดเสียบเสาเข้าไปให้ลิเวอร์พูลออกนำ 2-1,อีก 8 นาทีต่อมา หงส์แดงได้ลูกจุดโทษอีกครั้งเมื่อ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน โดนเตะล้มในเขตโทษ เชยี โอโจ สังหารเข้าไปให้ทีมนำห่าง 3-1,ถึงนาทีที่ 82 หงส์แดงที่บุกแทบจะข้างเดียว ก็ได้ประตูปิดท้าย จากจังหวะที่ เบน วูดเบิร์น โยนบอลไปหน้าประตู ชากิรีโดดตีลังกายิงเข้าประตูไปแบบสุดสวย ช่วยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะไปขาดลอย 4-1 ปิดฉากศึกไอซีซีคัพอย่างสวยงาม | เซอร์ดัน ชากิรี ลงประเดิมสนามนัดแรก ยิง 1 จ่าย 1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ไล่ต้อนเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปขาดลอย 4-1 คว้าชัยปิดท้ายศึกไอซีซีคัพ 2018 | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | ผลบอล,หงส์แดง,ลิเวอร์พูล,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ไอซีซีคัพ | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1343657 |
วัชระ ชง การ์ดแดงโยงธรรมกาย จี้ นปช. คืนปืนให้รัฐ | วันที่ 3 มิ.ย. นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายกิตติศักดิ์ ศรีสุนทร หรือ แจ๊ค การ์ด นปช.ใส่ชุดขาวเข้าไปในวัดพระธรรมกาย ว่า ชัดเจนว่ากลุ่มคนเสื้อแดงกับวัดแห่งนี้เกี่ยวพันกัน เพราะทั้งระดับนำคือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกฯ เคยใช้เป็นฐานทางการเมือง และเมื่อเกิดคดีความ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ก็เป็นกระบอกเสียงให้ พระธัมมชโย รายวัน ส่วนระดับผู้ปฏิบัติการก็สวมชุดขาวแทรกซึมเข้าไปในวัดนี้ ถ้าไม่ใช่พวกเดียวกันคงยากที่จะทำเช่นนี้ได้,ซึ่ง นายกิตติศักดิ์ การ์ด นปช. เปิดเผยเองว่า นายทักษิณ เป็นนายใหญ่ในต่างแดน โดยเมื่อเรื่องถูกเปิดเผย นายกิตติศักดิ์ ก็ระบุให้การ์ดถอนกำลังออกมาเพราะเรื่องแดงแล้ว ทำให้ผู้ปฏิบัติธรรมจริงๆ ในวัดพระธรรมกายเสื่อมเสีย และถูกตั้งข้อสงสัยไปด้วย ไม่เป็นผลดีต่อภาพพจน์ของวัดนี้ จึงควรให้ทางราชการเข้าไปตรวจสอบ และดูแลความปลอดภัยให้ผู้ปฏิบัติธรรมด้วย,นายวัชระ กล่าวว่า นายกิตติศักดิ์ ยังยอมรับเองว่า ในเหตุการณ์เดือนเม.ย. 53 เป็นคนหนึ่งที่ร่วมยึดอาวุธสงครามของทหารแล้วนำไปให้แกนนำ ซึ่งจากการเปิดเผยของ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกขณะนั้น ยืนยันกับกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรว่า กลุ่ม นปช.ยึดอาวุธปืนทราโว่ 25 กระบอก ปืนเอ็ม 16 อีก 4 กระบอก ปืนลูกซอง 49 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก อาวุธเหล่านี้ได้กลับคืนเพียงปืนเอ็ม 16 กระบอกเดียวเท่านั้น เมื่อเห็นข่าวการ์ด นปช. เข้าไปในวัดพระธรรมกาย ตนจึงขอเรียกร้องให้ นายจตุพร รีบคืนอาวุธปืนสงครามที่กลุ่ม นปช.ยึดไปให้กับทางราชการโดยด่วน เพื่อแสดงออกถึงความบริสุทธิ์ใจ หากยังนิ่งเฉย หรือปฏิเสธ ถ้าเกิดเหตุความรุนแรงขึ้น นายจตุพร จะว่าอย่างไร ใครจะรับผิดชอบชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์อีก จะอ้างแดงเทียมอีกหรือไม่ และขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการคลี่คลายคดี พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ที่ถูกชายชุดดำใช้อาวุธสงครามยิงเสียชีวิต หากในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่สามารถจัดการคดีนี้ได้ ก็อย่าหวังว่ารัฐบาลใดจะทำได้ เพราะคนสั่งการลอยนวลไปไกลแล้ว | นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ชงข้อสังเกตการ์ดแดงโยง ธรรมกาย ยิ่งเสื่อม บี้ รบ.คลี่คดี ร่มเกล้า จี้ นปช. คืนปืนรัฐ | null | การ์ดแดง,โยง,ธรรมกาย,วัชระ เพชรทอง,อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์,กิตติศักดิ์ ศรีสุนทร,การ์ด นปช.,พระธัมมชโย,จตุพร พรหมพันธุ์,ประธาน นปช.,ทักษิณ,ชุดขาว,แทรกซึม,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ภูมิภาค,ทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/631459 |
กลาโหมยอมแก้ถ้อยคำ โรคจิตถาวร ใน สด.43 เริ่มใช้เกณฑ์ทหารปีหน้า | พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีกลุ่มสาวประเภทสองยื่นฟ้องขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งให้กระทรวงกลาโหม แก้ไขถ้อยคำในใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารกองประจำการ หรือ ใบสด.43 ที่ใช้ข้อความผิดปกติทางจิตถาวร ว่า เรื่องนี้ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องหลังจากมีเรื่องร้องเรียนเข้ามา ในปี 2552 คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงแก้ไขข้อความส่วนนี้แล้วครั้งหนึ่งแต่กลุ่มเครือข่ายความหลากหลายทางเพศยังไม่เห็นด้วยจึงร้องเรียนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมแพทย์ทหารบก หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน กระทรวงสาธารณสุข จนมีความเห็นตรงกัน ควรใช้คำว่า ภาวะเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด โดยมีความหมายรวมถึงสภาพร่างกายและจิตใจซึ่ง รมว.กลาโหม รมว.มหาดไทย เห็นชอบกับข้อความดังกล่าว โดยล่าสุดอยู่ที่ขั้นตอนกรมพระธรรมนูญส่งหนังสือถึงคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาต่อไปก่อนนำเสนอความเห็นชอบกับคณะรัฐมนตรี คาดว่า จะมีผลบังคับใช้ในการตรวจเลือกทหารเกณฑ์ปี 2555 หากคณะรัฐมนตรีพิจารณาได้ทันพ.อ.ธนาธิปกล่าวถึงผู้ที่มีปัญหาจากการรับใบ สด.43 ไปก่อนหน้านี้ที่ถูกระบุข้อความไปแล้วสามารถติดต่อหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนออกหนังสือรับรองกำกับว่า การแก้ไขข้อความต่าง ๆ อยู่ในขั้นตอนดำเนินการ | กระทรวงกลาโหมเร่งเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแก้ไขถ้อยคำในใบ สด.43 กรณีสาวประเภทสองเข้ารับตรวจเลือกเกณฑ์ทหาร จากคำว่า โรคจิตถาวร โรคต้องห้ามในการเป็นทหาร เป็นคำว่า ภาวะเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในการตรวจเลือกทหารเกณฑ์เดือนเมษายนปีหน้า | สังคม | กระทรวงกลาโหม,ภาวะเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด,สาวประเภทสอง,เกณฑ์ทหาร,แก้ถ้อยคำ,โรคจิตถาวร,ใบ สด.43 | https://news.thaipbs.or.th/content/31515 |
ภาพข่าวยอดเยี่ยมประจำวันที่ 29 เมษายน ถึง 3 พฤษภาคม 2561 | คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมทำพิธีขอขมา และบรรจุร่างผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา หรืออาจารย์ใหญ่ลงหีบ ประจำปีการศึกษา 2560 จำนวน 325 ท่าน ณ อาคารแพทยพัฒน์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อเตรียมนำไปยังวัดต่างๆ โดยจะมีการพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่ (เป็นกรณีพิเศษ) ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2561 นี้Photo: ฐานิส สุดโตแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ปล่อยลูกโป่งสีขาวในกิจกรรม หยุดระบอบ คสช. หยุดยื้อเลือกตั้ง ที่ลานปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพื่อแสดงออกให้รัฐบาลจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว มีการแถลงจุดยืนครั้งที่ 6 ของการชุมนุม ย้ำจุดยืนเดิมคือต้องการให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีนี้เท่านั้น จัดการเลือกตั้งให้เกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องมี คสช. ถึงเวลาต้องเปิดประเทศให้เสรี เพื่อให้มีการเลือกตั้งที่เสรี พร้อมแนะให้รัฐบาลลาออกถือเป็นการแสดงสปิริต และให้กองทัพหยุดสนับสนุน คสช. ให้ทหารกลับเข้ากรมกอง หากไม่ดำเนินการ 22 พ.ค. นี้ จะเดินขบวนจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไปยังทำเนียบรัฐบาลPhoto: ชาติกล้า สำเนียงแจ่มคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ร่วมกับสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ รวมตัวจัดกิจกรรมเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติประจำปี 2561 โดยมีผู้ใช้แรงงานจากหลากหลายกลุ่มอาชีพร่วมเดินรณรงค์จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ไปยังทำเนียบรัฐบาล มีไฮไลต์สำคัญ เช่น หุ่นยนต์ในยุค 4.0 ที่อาจเข้ามาทดแทนแรงงานคน การเรียกร้องสิทธิการลาคลอด 120 วัน และไม่เห็นด้วยกับการขยายอายุรับเงินชราภาพจาก 55 ปี เป็น 60 ปีPhoto: ฐานิส สุดโตเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ อย. เข้าตรวจค้นร้านจำหน่ายสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และความงามที่ไม่ได้มาตรฐาน ที่ตลาดใหม่ดอนเมืองเป็นรอบที่ 4 เมื่อวันที่ 5 พ.ค. โดยมีหมายตรวจค้นจำนวน 24 หมาย สามารถจับกุมได้ 15 ราย พร้อมนำของที่ทาง อย. ชี้ว่าเป็นของผิดกฎหมายไปตรวจพิสูจน์ โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจค้นต่อจนกว่าจะเสร็จสิ้นจึงจะถอนกำลัง สำหรับตอนนี้จะตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ เพื่อไม่ให้ผู้กระทำผิดกฎหมายนำสิ่งของผิดกฎหมายหลบหนีออกไปจนกว่าการตรวจค้นจะเสร็จPhoto: ฐานิส สุดโตพ.ต.ท. สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการสันติบาล ที่ปรึกษาตลาดใหม่ดอนเมือง ขณะกำลังโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมพื้นที่ภายในตลาดใหม่ดอนเมือง โดยได้นำรถยนต์ส่วนตัว 2 คันมาจอดหน้าศูนย์ปฏิบัติการตำรวจ ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าออก เพื่อขอชี้แจงเกี่ยวกับการตรวจค้นร้านค้า แต่ตำรวจไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่และทำการตรวจค้นรถ เพราะเกรงจะมีสิ่งผิดกฎหมาย จึงเกิดการปะทะคารมจนเกิดความวุ่นวาย หลังจากตรวจค้นแล้วไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ได้เชิญให้ออกจากพื้นที่ปฏิบัติงานPhoto: ฐานิส สุดโตคอกเหล็กสีเขียวบริเวณถนนบรมราชชนนี คือจุดทิ้งขยะ กทม. แบบใหม่ล่าสุดในยุคผู้ว่าฯ กทม. พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ตามโครงการ ทิ้งเป็นที่ เก็บเป็นเวลา หวังเป็นจุดทิ้งขยะเพื่อแก้ปัญหาการทิ้งขยะเกลื่อนกลาด โดยที่คอกทิ้งขยะจะระบุเวลาทิ้งและเวลาเก็บที่ชัดเจน พร้อมเบอร์โทรศัพท์เจ้าหน้าที่ให้โทรตามได้ ซึ่งปัจจุบันเริ่มโครงการในพื้นที่นำร่องของทั้ง 50 เขตแล้ว โดยให้ทางสำนักงานเขตจัดหาจุดทิ้งและจัดคอกขยะเป็นจุดทดลองก่อนPhoto: ชาติกล้า สำเนียงแจ่มสมาชีกทีมงาน Teamlab เดินตรวจตราห้องจัดแสดงนิทรรศการดิจิทัลอาร์ตท่ีถูกประดับด้วยโคมไฟจำนวนมากโยงระย้าลงมาจากเพดาน ซึ่งจะเปลี่ยนสีทันทีที่มีคนเดินเข้าไปใกล้ๆ ขณะที่ในห้องอื่นๆ ยังมีการติดตั้งงานศิลปะดิจิทัลไว้อีกมากมาย เช่น น้ำตกลวงตาและทุ่งดอกไม้หลากสี โดยงานนิทรรศการนี้จะเปิดให้เข้าชมพร้อมกันในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัล Mori Building Digital Art Museum ย่านโอไดบะ กรุงโตเกียว Photo: Behrouz Mehri / AFPแผ่นป้ายบิลบอร์ดหาเสียงเลือกตั้งรัฐสภาในประเทศเลบานอนถูกติดตามอาคารบ้านเรือนในเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศเป็นจำนวนมาก หลังเลบานอนจะจัดการเลือกตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี (การเลือกตั้งครั้งล่าสุด: 6 พฤษภาคม 2009)Photo: Joseph Eid / AFPกลุ่มผู้ประท้วงแต่งกายด้วยชุดสีดำและอุปกรณ์อำพรางใบหน้าครบสูตรพร้อมถือป้ายพ่นสีสเปรย์สัญลักษณ์อนาธิปไตย (Anarchist) เดินขบวนประท้วงกิจกรรมวันแรงงาน ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 1 พฤษภาคม 2018Photo: Thomas Samson / AFPพนักงานดับเพลิงช่วยกันดับไฟที่ยังคงลุกโชนเผาซากปรักหักพังอาคาร 24 ชั้นใจกลางเมืองเซาเปาลู ประเทศบราซิล ที่พังถล่มลงมา ตามรายงานจากสื่อท้องถิ่นระบุว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และทำให้ครอบครัวจำนวนมากต้องเผชิญสถานะคนไร้ที่พักพิงPhoto: Nelson Almeida / AFPผู้อพยพจากประเทศแถบอเมริกากลางกำลังปีนข้ามกำแพงแบ่งแยกพรหมแดนสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก ณ ชายหาดตีฮัวนา รัฐบาฮากาลิฟอร์เนีย ประเทศเม็กซิโก เพื่อร่วมเดินขบวนคาราวาน ผู้อพยพ Via Crucis เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน ขณะที่ทางการสหรัฐฯ ขู่จับกลุ่มตัวผู้อพยพจำนวน 100 คน หากพวกเขาพยายามจะลักลอบเข้ามายังบริเวณชายแดนสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโกPhoto: Guillermo Arias / AFPกลุ่มทหารเกาหลีเหนือกำลังดำเนินการรื้อลำโพงและเครื่องกระจายเสียงที่ถูกใช้ประชาสัมพันธ์โฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองใกล้ๆ บริเวณพรหมแดนประเทศเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ท่ามกลางสถานการณ์ของทั้ง 2 ประเทศพี่น้องที่เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ หลังคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และมุนแจอิน ผู้นำเกาหลีใต้ ได้พบปะกันอย่างชื่นมื่นเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้วPhoto: Kim Hong-ji / AFPพลเมืองชาวอาร์เมียนจำนวนเรือนหมื่นคนเคลื่อนพลประท้วงพร้อมปิดเส้นทางสัญจรในเยเรวาน เมืองหลวงประเทศอาร์เมเนีย ต่อต้านรัฐบาลและแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อกรณีที่รัฐสภาปฏิเสธการแต่งตั้งผู้นำฝ่ายต่อต้าน นิโคล พาชิเนียน ขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ Photo: Vano Shlamov / AFPผู้สนับสนุนคอมมิวนิสต์ชาวเช็กยืนโพสท่าถ่ายรูปหน้าแผ่นป้ายผ้าขนาดยักษ์พร้อมข้อความ เพื่อสังคมนิยม – สหภาพเยาวชนคอมมิวนิสต์ ในระหว่างการเฉลิมฉลองวันเมย์เดย์ที่จัดขึ้นในกรุงปราก สาธารณรัฐเช็กPhoto: Michal Cizek / AFPผู้สื่อข่าวชาวอัฟกานิสถานตกอยู่ในเหตุการณ์ชี้เป็นชี้ตายจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน 2 ครั้งในใจกลางกรุงคาบูล โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คน ในจำนวนนี้มีนักข่าวจาก AFP BBC และสำนักข่าวอื่นๆ รวม 5 คนเสียชีวิตด้วย ด้านกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมาอ้างว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุความรุนแรงในครั้งนี้Photo: Omar Sobhani / REUTERS | พิธีขอขมาและบรรจุร่างอาจารย์ใหญ่ กลุ่มคนอยากเลือกตั้งจัดกิจกรรมเรียกร้อง คสช. เลิกยื้อการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ อย. ลงพื้นที่ดอนเมืองตรวจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร-ความงามไม่ได้มาตรฐาน จุดทิ้งขยะแบบใหม่โดย กทม. ทหารเกาหลีเหนือทยอยรื้อเครื่องกระจายเสียงบริเวณชายแดนเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ เหตุระเบิดพลีชีพ 2 ครั้งซ้อนในคาบูล พบกับภาพข่าวยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์จากทั่วโลกในสายตาของ THE STANDARD ได้ที่นี่ | null | null | https://thestandard.co/best-pictures-of-the-week-29-april-3-may-2561/ |
สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 25 มิ.ย. - 1 ก.ค. 2556 | ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่ง สมัครเป็นผู้ประกันตน เพื่อขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมถึงกลุ่มแรงงานนอกระบบ และกลุ่มเกษียณอายุพร้อมทั้งอนุมัติหลักการเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ 56 งบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 165 ล้านบาท เพื่อเตรียมการรองรับการดำเนินงาน และอนุมัติหลักการสนับสนุนบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนผู้ประกันตนตามมาตรา 40 แห่ง พ.ร.บ.ประกันสังคม พศ.2533 ทางเลือกที่ 1 ทางเลือกที่ 2 และทางเลือกที่ 3 ต่อเนื่องไปจนกว่าร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคมฉบับใหม่ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรจะมีผล บังคับใช้(ประชาชาติธุรกิจ 25-6-2556)เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน จัดงาน วันมาตรฐานแรงงานไทย ครั้งที่ 13 เรื่อง มรท.ยกระดับคุณภาพชีวิต ธุรกิจไทยเข้มแข็ง พร้อมสู่ประชาคม ASEAN โดยนายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงานและกล่าวภายหลังการจัดงานว่า เพื่อให้สถานประกอบการ นายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้มีความรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการดำเนินการพัฒนาระบบมาตรฐานแรง งานสู่ระดับสากล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ใช้แรงงาน อันจะนำไปสู่ความเข้มแข็งของธุรกิจไทย และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน อีกทั้งจากกระแส CSR (Corporate Social Responsibility) รวมทั้งหากสถานประกอบการมีมาตรฐานแรงงานก็จะทำให้สามารถส่งออกสินค้าไปขาย ได้ทั่วโลก และทำให้ไม่ถูกกีดกันทางการค้า รวมทั้งเป็นการยกระดับชีวิตผู้ใช้แรงงานอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันสถานประกอบการต่างๆ ในประเทศไทย มีความสนใจและมีแนวโน้มจะเข้าร่วมเพิ่มมากขึ้นที่ผ่านมา จำนวนสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการมีจำนวนลดลง เนื่องจากเป็นการแจ้งเข้าร่วมโครงการปีต่อปี ซึ่งบางสถานประกอบการก็ได้มาตรฐานแต่ไม่ได้ยื่นต่อ กสร.หรือบางครั้งก็ยื่นไม่ทันเวลา ซึ่งปัจจุบันเรามีสถานประกอบการที่ได้รับ มรท.จำนวน 732 แห่งและตั้งเป้าจะรักษาจำนวนสถานประกอบการที่เข้าร่วมในแต่ละปีไว้ และขยายจำนวนสถานประกอบการที่เข้าร่วม มรท.ให้เพิ่มขึ้น นายอนุสรณ์กล่าว และว่า โดยจะเพิ่มการรณรงค์ และวางแผนจัดทำเว็บไซต์รวบรวมรายชื่อ รายละเอียดของสถานประกอบการที่เข้าร่วมและได้ มรท.จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เป็นภาษาอังกฤษเพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้ต่างประเทศทราบ ซึ่งในอนาคต อาจใช้ มรท.เป็นมาตรฐานในการคัดเลือกภาคเอกชนที่เข้ามาร่วมงานกับภาครัฐในอนาคตนอกจากนี้ ภายในงานมีการมอบรางวัลพร้อมใบประกาศเกียรติคุณแก่สถานประกอบการที่เข้าร่วม มรท.ต่อเนื่อง 9 ปี และมอบใบประกาศเกียรติคุณ มรท.8001-2553 แก่สถานประกอบการที่เข้าร่วม(มติชนออนไลน์ 26-6-2556)26 มิ.ย. 56 - คณะกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติเตรียมใช้โซเชียลมีเดียแก้ ปัญหาตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น-วัยแรงงาน มีบริการถามตอบปัญหาทางอินเทอร์เน็ต เพิ่มคลินิกบริการรูปแบบใหม่ทันสมัย ให้บริการเป็นกันเองครบครันทั้งความรู้ เสริมสวย อินเทอร์เน็ต ให้คณะอนุกรรมการจัดทำร่างแผนปฏิบัติให้เสร็จภายใน 60 วันนพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์ แห่งชาติครั้งที่ 2 ประจำปี 2556 ว่า ที่ประชุมวันนี้ได้หารือ 2 ประเด็นหลักคือ 1.อัตราการเกิดของคนไทยน้อยลง และ2.ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น โดยที่ประชุมให้ความสำคัญ ปัญหาตั้งครรภ์ในวัยรุ่นอยู่อันดับ 1 และมอบให้คณะกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ เป็นผู้รับผิดชอบแก้ไขตามกลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่ม 1.เยาวชนที่อยู่ในระบบการศึกษา 2.ผู้หญิงที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรม ปัญหาที่พบขณะนี้มี 3 เรื่อง ประการแรกได้แก่ ทัศนคติประชาชนยังมองว่าการคุมกำเนิดเป็นการส่งเสริมการมีเพศสัมพันธ์ 2.การเข้าถึงบริการบริการคุมกำเนิดของวัยรุ่นยังไม่ดี และ3.วัยรุ่นยังขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องการคุมกำเนิดการแก้ปัญหาดังกล่าวจะเน้น 3 กลยุทธ์หลัก 1.ประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลความรู้แยกเป็นรายกลุ่ม โดยในกลุ่มเยาวชนที่อยู่ในระบบการศึกษา ให้ความรู้เรื่องผลเสียการมีเพศสัมพันธ์ขณะที่ไม่พร้อม 2.การใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นกลยุทธ์ใหม่ ช่วยให้วัยรุ่นเข้าถึงบริการได้ทุกเรื่องโดยใช้อินทอร์เน็ตเข้ามาให้คำ ปรึกษา ไม่ต้องเผชิญหน้าใคร มีความส่วนตัว 3.ขยายคลินิกบริการวัยรุ่นและสตรีวัยแรงงานในภาคอุตสาหกรรม โดยสถานบริการอยู่นอก รพ.และอาจตั้งชื่อแบบเก๋โดนใจวัยรุ่น แทนการเปิดบริการแบบเดิม และให้บริการหลากหลาย เช่น มีอินเทอร์เน็ต มีบริการเสริมสวย มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาทุกเรื่องแบบกันเอง รวมทั้งดึงวัยรุ่นและกลุ่มสตรีที่ใช้แรงงานในภาคอุตสาหกรรม เข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบการจัดบริการให้ตรงปัญหาและความต้องการแท้จริง ทั้งหมดนี้ที่ประชุมมอบให้คณะอนุกรรมการจัดทำร่างแผนปฏิบัติการให้แล้วเสร็จ ภายใน 60 วัน และนำเสนอในที่ประชุมครั้งต่อ ไปสำหรับแหล่งงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินการเบื้องต้นจะมาจาก 2 แหล่ง งบจาก สปสช.ในหมวดของการส่งเสริมสุขภาพ และ สสส.ด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติ และสร้างความเข้าใจเรื่องการคุมกำเนิดในเยาวชน ทั้งนี้ มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติจำนวน 3 ชุด 1.ชุดคณะอนุกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์ มีผู้แทนหน่วยงานต่างๆ จำนวน 32 คน มีอธิบดีกรมอนามัยเป็นประธาน 2.ชุดคณะอนุกรรมการพัฒนาระเบียบและกฎหมายด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ มีทั้งหมด 27 คน มีนายวัชรินทร์ ปัจเจกวิญญูสกุล เป็นประธาน 3.ชุดคณะอนุกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์ระดับจังหวัด และของ กทม. โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่า กทม.เป็นประธาน(สำนักข่าวไทย 26-6-2556)27 มิ.ย. 56 - ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวให้สัมภาษณ์โดยไม่ขอแสดงความเห็นกรณีการปรับคณะรัฐมนตรีที่มีกระแสว่า จะย้ายตนเองไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพราะต้องรอให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯก่อน ทั้งนี้เห็นว่าหากมีการโยกย้ายจริงก็เชื่อว่านายกฯได้พิจารณาอย่างรอบคอบ แล้ว โดยตนเองไม่ยึดติดกับตำแหน่งและสามารถไปทำงานได้ทุกที่ อย่างไรก็ตามไม่กล้าฝากงานเรื่องการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ เพราะต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่แก้ยาก ซึ่งเห็นว่าการพูดคุยกับกลุ่ม BRN นั้นจะต้องมีการรายงานต่อนายกฯก่อนที่จะเผยแพร่ข้อมูลให้สื่อมวลชน ทั้งนี้ตนเองจะไม่เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ในวันเสาร์-อาทิตย์ นี้้ เนื่องจากในวันนี้นายกฯได้ยกเลิกการประชุมความมั่นคงออกไปอย่างไรก็ตามยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก รมว. ยุติธรรม ที่มีกระแสข่าวว่าจะมาดำรงตำแหน่งแทนตนเอง และไม่มีการพูดคุยกับนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว. แรงงาน พร้อมกันนี้ยังปฎิเสธว่าไม่ได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกับ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกฯ ถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ ยืนยันจะยังต้องพาพันตำรวจโททักษิณกลับประเทศไทยตามที่เคยตั้งใจไว้ และเชื่อว่าหากโดนปรับออกจากตำแหน่งรองนายกฯจริงก็ไม่เกี่ยวข้องกับการที่ตน เองพูดถึง 3 กลุ่มทุนที่จะล้มรัฐบาล และเชื่อว่าไม่ได้มาจากความขัดแย้งภายในพรรคเพราะตนเองก็ยังมีความนิยมจากคน ในพรรคอยู่อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ. เฉลิม เห็นว่า หากมีการปรับคณะรัฐมนตรีใหม่ตามที่มีโผออกมาจากสื่อมวลชนนั้นก็เห็นว่ามี ความเหมาะสม ถึงแม้จะปรับท่ามกลางปัญหาที่ยังรุมเร้ารัฐบาล และสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่ปกติ ซึ่งหลังจากนี้หากมีการปรับ ครม. แล้วจะเชิญสื่อมวลชนมาฟังการวิเคราะห์ทางการเมืองของตนเองด้วย(มติชนออนไลน์ 27-6-2556)นายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขสมก. ได้มีการเจรจากับพนักงานรัฐวิสาหกิจและสหภาพแรงงาน ขสมก. รวมถึงพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเดินรถทุกคน ให้ความร่วมมือปฏิบัติงานล่วงเวลางานในช่วงเวลาเร่งด่วนของช่วงเช้าและเย็น เพื่อให้มีรถวิ่งบริการเพียงพอกับจำนวนประชาชนที่ใช้บริการเป็นจำนวนมากผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวต่อว่า ด้านการสำรวจปัญหาการเดินรถในเส้นทางต่างๆ นั้น ได้มอบหมายให้สายตรวจ ขสมก.จัดรถสายตรวจ ออกตรวจถนนสายหลัก เพื่อให้ทราบถึงปัญหา และนำปัญหาที่พบมาหารือถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการจราจรติดขัด(ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 29-6-2556)เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 กรกฎาคม ที่กระทรวงแรงงาน นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางเข้ามายังกระทรวงฯเพื่ออำลาตำแหน่ง โดยมีนายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงานพร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการและเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ โดยนายสมเกียรติได้กล่าวขอบคุณนายเผดิมชัยในการทุ่มเททำงานเพื่อกระทรวงแรง งานและเพื่อผู้ใช้แรงงานมาตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีนายเผดิมชัยกล่าวว่า จากการทำงานร่วมกับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯในระยะเวลากว่า 2 ปี ที่ผ่านมาทำให้เห็นว่าเป็นกระทรวงฯที่มีความรับผิดชอบ ทว่าการทำงานและจัดการในเรื่องเกี่ยวกับคนจำนวนมากไม่ใช่เรื่องง่าย รวมทั้งกระทรวงแรงงานเป็นกระทรวงที่ถูกกล่าวหาว่ามีการคอร์รัปชั่นสูง ซึ่งทุกวันนี้ก็มีความพยายามในการแก้ปัญหาเป็นอย่างมากที่ผ่านมามีแรงงานต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมากและวันนี้เรากำลังดำเนิน งานอย่างถูกกฎหมาย อาจจะยังไม่สำเร็จเรียบร้อยแต่ก็ได้เริ่มดำเนินงานไปแล้ว นายเผดิมชัยกล่าว และว่า อยากฝากให้หน่วยงานทุกหน่วยของกระทรวงแรงงานร่วมแรงร่วมใจในการทำงาน อย่าคิดแยกส่วนกัน แต่ขอให้คิดว่าเราทำเพื่อประเทศไทยเหมือนกัน และอยากให้แรงงานมีความมั่นใจในกระทรวงแรงงานว่าจะเป็นที่พึ่งให้กับพวกเขา ได้ รวมทั้งอยากฝากให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคนใหม่สานต่องาน โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์และเรื่องการผลักดันให้รัฐบาลรับรอง อนุสัญญาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 87 และ 98นายเผดิมชัยกล่าวต่อไปว่า ร.ต.อ.เฉลิมได้โทรศัพท์มาหาตน 2-3 ครั้ง เพื่อสอบถามรายละเอียดต่างๆ ของกระทรวงแรงงานว่ามีหน่วยงานเท่าใด ทำหน้าที่ด้านใดบ้าง เป็นรายละเอียดทั่วๆ ไปของกระทรวงจากนั้นผู้บริหารกระทรวงแรงงานรวมทั้งข้าราชการได้มอบดอกกุหลาบ นายเผดิมชัยได้ไปสักการะพระพุทธชินราชจำลองด้านหน้ากรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จากนั้นเข้าสักการะศาลพระภูมิชัยมงคลและศาลท้าวมหาพรหมเทวฤทธิ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงานขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานถึงกำหนดการเข้าทำงานที่กระทรวง โดย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ยังไม่มีกำหนดเดินทางเข้าทำงานที่กระทรวงฯแต่อย่างใด เพราะในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ค.) มีกำหนดเดินทางไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามที่แพทย์นัด ส่วนเรื่องนโยบายขอศึกษาข้อมูลรายละเอียดก่อน(มติชนออนไลน์ 1-7-2556) | ครม.อนุมัติขยายความคุ้มครองประกันสังคมครอบคลุมแรงงานนอกระบบ-วัยเกษียณ ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติหลักการร่าง | คุณภาพชีวิต,แรงงาน,สังคม | สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ | https://prachatai.com/journal/2013/07/47471 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.