title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
SET Index พลิกบวกหลังร่วง 59 จุด แต่หลังจากนี้ตลาดหุ้นไทยปี 63 จะเป็นอย่างไร | ดัชนีตลาดหุ้นไทย หรือ SET Index วันนี้ (15.19 น.) แม้จะพลิกกลับเป็นบวกที่ 1442.91 จุด เพิ่มขึ้น 7.35 จุด แต่สถานการณ์เมื่อวานนี้ (24 กุมภาพันธ์) ที่หุ้นไทยร่วงลงกว่า 59 จุด ส่งผลให้ SET Index ปิดตลาดที่ระดับ 1435.56 จุด ต่ำสุดในรอบหลายปีจนทำให้หลายคนใจหายซึ่งสาเหตุที่ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงก็มาจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวลดลงจากความกังวลว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะรุนแรงขึ้น และส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่หุ้นไทยจะเป็นอย่างไร และนักลงทุนควรลงทุนแบบไหนKTBST ชี้ตลาดหุ้นไทยต้องเตรียมใจกับ 3 เรื่องใหญ่มงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST เปิดเผยกับ THE STANDARD ว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงตอนนี้ตลาดหุ้นไทยต้องเจอกับ 3 เรื่องใหญ่คือ 1.สถานการณ์การเมืองในประเทศไทยที่ไม่ชัดเจน2.กำไรตลาดที่ปรับลดลง โดยทั้งสองเรื่องนี้ตลาดยังสามารถคาดเดาสถานการณ์ได้ เห็นได้จากช่วงที่มีข่าวการยุบพรรคอนาคตใหม่เป็นไปตามที่ตลาดคาด ทำให้เกิดผลตอบรับที่ดี3.โรคโควิด-19 กลายเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ เพราะทวีความรุนแรงขึ้นจนแพร่ระบาดไปยังสหรัฐอเมริกา ยุโรป ฯลฯ ทำให้นักลงทุนทั้งไทยและทั่วโลกเจอความเสี่ยงที่มากขึ้นตลาดหุ้นไทยที่ปรับลดลงจากสถานการณ์โรคโควิด-19 จะรุนแรงที่สุดในช่วงวันแรกๆ ดังนั้นคาดว่าตั้งแต่เมื่อวานนี้ถึงสัปดาห์หน้าจะเห็นจุดต่ำสุดของปีนี้ ส่วนหนึ่งเพราะตลาดเริ่มรับรู้ผลที่เกิดขึ้นและปรับตัวได้ แต่หากการแพร่ระบาดยังรุนแรงขึ้นหรือมีสถานการณ์อื่นๆ อาจทำให้ดัชนีหุ้นปรับลดลงเช่นกันทั้งนี้คาดการณ์ว่าผลกระทบจากโรคโควิด-19 เบื้องต้นหากมีผลกระทบจำกัดในช่วงไตรมาส 1 ปี 2563 จะส่งผลกระทบต่อกำไรตลาดราว 20000 ล้านบาท (หรือ 1.9 บาทต่อหุ้น) ซึ่งล่าสุดทาง KTBST ประเมินว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 932441 ล้านบาท ลดลงจากประมาณการเดิมที่คาดว่าจะอยู่ 980395 ล้านบาท ขณะที่ดัชนี SET Index ปีนี้ยังมีโอกาสเพิ่มขึ้นโดยมีกรอบเป้าหมายอยู่ที่ 1630-1670 จุด ส่วนหนึ่งเพราะหากไม่รวมผลกระทบโรคโควิด-19 ตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยบวก เช่น งบประมาณภาครัฐที่จะออกมาเพิ่มเติมในช่วงครึ่งปีหลัง 2563โกลเบล็กแนะลงทุนทองคำ-หุ้นปันผลสูง-หุ้นได้ประโยชน์บาทอ่อนวิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่าภาพรวมไทยจะมีผลเชิงบวกระยะสั้น เช่น การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 คาดว่าจะออกมาในเดือนมีนาคมนี้หลังการประกาศราชกิจจานุเบกษา ด้านเงินบาทที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับต้นปีจะส่งผลดีต่อการส่งออก ดังนั้นแนะนำการจัดพอร์ตการลงทุนในทองคำที่ 30% ลงทุนในหุ้น 20% และถือครองเงินสด 50% โดยมีหุ้นแนะนำ ได้แก่ พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์ | เช้านี้ SET Index ร่วงต่อเนื่องจากเมื่อวานจนมีจุดต่ำสุดที่ 1416.58 จุด โดย สถานการณ์เมื่อวานนี้ (24 กุมภาพันธ์) ที่หุ้นไทยร่วงลงกว่า 59 จุด ส่งผลให้ปิดตลาดที่ระดับ 1435.56 จุด ต่ำสุดในรอบหลายปี (ช่วง 15.00 น. พลิกกลับมาบวกแตะที่ระดับ 1442.9 จุด)ตลาดหุ้นไทยต้องเตรียมใจรับ 3 ปัจจัยใหญ่ของโรคโควิด-19 การเมืองวุ่นวาย และกำไรตลาดลดลงKTBST ลุ้นปีนี้ตั้งเป้าหมายหุ้นไทย 1630-1670 จุด บล.โกลเบล็ก แนะนำจัดพอร์ตมีทองคำ 30% ลงทุนในหุ้น 20% และถือครองเงินสด 50% เผย 3 กลุ่มหุ้นเด่น | null | null | https://thestandard.co/set-index-increase-after-drop-59-points/ |
รวมไอเดียแต่งมุมหน้าประตู หรือ Entry Hall | ที่พร้อมจะสลัดข้าวของ ทุกอย่างที่ถือมาให้พ้นตัว หลายบ้านใช้เป็นมุม เก็บรองเท้า มุมกองจดหมาย มุมวางกุญแจ และ อีกหลายๆ อย่างที่ไม่น่ารวมไว้ที่มุมนี้ จริงๆ แล้ว การจัดระเบียบมุมหน้าประตูบ้านให้สวยงามเรียบร้อย และเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานให้ครบถ้วน จะช่วย ตอบโจทย์ได้ดีในช่วงเวลาเร่งรีบก่อนออกจากบ้าน และชวนให้ผ่อนคลายทุกครั้งที่เรากลับเข้าบ้านด้วย นะคะ,ติดชั้นไม้เล็กๆ สำหรับวางของสำคัญ เช่น กุญแจ กระเป๋าสตางค์ แว่นตา มือถือ ไม่ลืม เตรียมปลั๊กเผื่อไว้สำหรับชาร์จแบตโทรศัพท์ มือถือ และวางโคมไฟเล็กๆ ช่วยเพิ่มแสงสว่าง ยามค่ำคืน จะได้มองเห็นทุกอย่างไม่มีตกหล่น,สร้างบรรยากาศอบอุ่นต้อนรับการกลับบ้านด้วย การทาผนังสีเขียวหม่นทั้งสองฝั่งตัดกับเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งอื่นๆ ที่เป็นไม้สีอ่อน เพื่อสร้างความ ผ่อนคลาย ปูพรมลายสวยเป็นทางยาว ช่วยดักจับฝุ่น ที่อาจติดรองเท้าเข้ามาในบ้านได้อีกด้วย,ตกแต่งผนังด้วยปฏิทิน ทำได้ง่ายๆ เพียง แค่มีเทปกาวสีที่เราชอบกับฝีมืออีกนิดหน่อย เพียงเท่านี้เราก็จะไม่ลืมของที่ต้องซื้อ วันเกิดแฟน นัดสำคัญ และอีกหลายๆ อย่างที่ไม่อยากพลาด,ตกแต่งผนังบริเวณม้านั่งยาวสำหรับใส่รองเท้าด้วยตารางปฏิทินเพื่อช่วย เตือนความจำ วางตะกร้าเสียบร่มให้หยิบได้ทันทีก่อนออกจากบ้าน และต้นไทรใบสักเพิ่มความเขียวชอุ่มให้กับบ้านตั้งแต่เปิดประตู นอกจากนี้ ยังเป็นมุมสำคัญสำหรับเตรียมความพร้อมก่อนออกจากบ้าน พรุ่งนี้จะหยิบอะไร ของชิ้นไหนที่กลัวลืมก็ให้นำมาวางเตรียมไว้ตรงนี้ตั้งแต่ก่อนนอนก็สะดวกดี เหมือนกันนะ,กระจกบานใหญ่สำหรับเช็กเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อยก่อน ออกจากบ้าน ติดตะขอสำหรับแขวนกระเป๋า เสื้อคลุม หมวก ที่จะใช้ในวันถัดไป เป็นการฝึกเตรียมความพร้อมตั้งแต่ก่อน เข้านอน จะได้ไม่สายเพราะต้องวิ่งหาของรอบบ้านอีกต่อไป,มองหาอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสำนักงาน หรือแก็ดเจ็ตรุ่นใหม่ พร้อมรับ,ส่วนลด officemate ,มากมาย ที่นี่ที่เดียว | เป็นมุมเล็กๆ ที่มีทุกบ้าน เพียงแต่เราอาจไม่ค่อยได้ สนใจตกแต่งหรือจัดระเบียบให้เรียบร้อยสวยงาม บางคนปล่อยให้เป็นมุมสุดรก | ไลฟ์สไตล์,บ้าน | ตกแต่งบ้าน,มุมหน้าประตู,แต่งบ้าน,ประตูหน้าบ้าน,โฮมมี่ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/home/homedecor/1157423 |
ส.โบว์ลิ่ง เลื่อนจัด เวิลด์ทัวร์ ไปเดือน ก.ย.ปีหน้า | สมาคมโบว์ลิ่งแก้ข้อบังคับสมาคมฯ เรียบร้อยตาม พ.ร.บ.กกท. เปลี่ยนชื่อสมาคมฯ เป็น สมาคมกีฬาโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย ส่วนวาระการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ 4 ปี ตามสหพันธ์ฯ ส่วนการแข่งขันเวิลด์ทัวร์ ในปีนี้ ติดปัญหาเรื่องงบประมาณ ทำให้ต้องเลื่อนไปจัดการแข่งขันในปีหน้า แทนในเดือน ก.ย.ปี 59,เมื่อวันที่ 6 ก.ย. นางสุวลัย ศัตรูลี้ เลขาธิการสมาคมโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการประชุมใหญ่ วิสามัญประจำปีของสมาคมโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย ประจำปี 2558 ที่ ห้องประชุม 222 ราชมังคลากีฬาสถาน โดยมี นางสาวกมลวรรณ สุทธิบุตร หัวหน้างานองค์กรกีฬา กององค์กรและกองทุนกีฬาฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ และ สุทิน ทองประไพ ผู้ช่วยปฏิบัติงานฯ งานองค์กรกีฬากององค์กรและกองทุนกีฬา ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ เข้าร่วมประชุมด้วย,โดยวาระสำคัญในการประชุม อยู่ที่การแก้ไขข้อบังคับของสมาคมโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทยเพื่อให้สอดคล้องตาม พระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 ซึ่งจะเปลี่ยนชื่อสมาคมฯ ให้เป็นสมาคมกีฬาโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย ส่วนวาระการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ นั้น จะเป็นไปตามสหพันธ์กีฬาโบว์ลิ่งระหว่างประเทศ, สหพันธ์โบว์ลิ่งแห่งโลก และสหพันธ์กีฬาโบว์ลิ่งแห่งเอเชีย คือมีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ซึ่งที่ประชุมมีมติรับรองกฎข้อบังคับใหม่ของสมาคมฯ,นางสุวลัย ศัตรูลี้ เลขาธิการสมาคมกีฬาโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับครั้งนี้เป็นการประชุมเพื่อขอเสียงรับรองเห็นชอบ ในการแก้ไขขัอบังคับของสมาคมโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องตาม พ.ร.บ.กีฬา และเพื่อให้เป็นกีฬาอาชีพมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็เหลือแค่ขั้นตอนรอให้การกีฬาแห่งประเทศไทยรับรอง ภายใน 16 ก.ย. นี้ ส่วนกิจกรรมของสมาคมกีฬาโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทยในปี 2558 ตอนนี้ก็จะเหลือรายการ สิงห์ ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2015 โดยจะจบในวันที่ 15 พ.ย. นี้ โดยเรื่องการจัดการแข่งขันเวิล์ด ทัวร์ นั้นในปีนี้เราไม่ได้จัดการแข่งขัน เพราะมีปัญหาในเรื่องงบประมาณ เนื่องจากต้องแจ้งทางสหพันธ์ก่อนล่วงหน้า 1 ปี ซึ่งปีนี้ไม่ทัน แต่สำหรับปีหน้าเราได้เตรียมตัวแล้วว่าจะรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเวิล์ด ทัวร์ แน่นอน ซึ่งการแข่งขันจะจัดภายในเดือน ก.ย. ปี 2559 | สมาคมโบว์ลิ่งแก้ข้อบังคับสมาคมฯ เรียบร้อยตามพ.ร.บ.กกท. เปลี่ยนชื่อสมาคมฯ เป็น สมาคมกีฬาโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย ส่วนวาระการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ 4 ปี ตามสหพันธ์ฯ ส่วนการแข่งขันเวิลด์ทัวร์ เลื่อนไปเป็น ก.ย. ปี 59 | null | สุวลัย ศัตรูลี้,สมาคมโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย,ประชุมใหญ่ วิสามัญประจำปีของสมาคมโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย ประจำปี 2558,เวิล์ด ทัวร์,โบวลิ่ง,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/523364 |
ภาพรวมเรตติ้งครึ่งปีทีวีดิจิทัลเพิ่มขึ้น เสียดายรายได้ไม่เพิ่มขึ้น | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้จัดทำการวัดความนิยมทีวีดิจิทัล (เรตติ้ง) ครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ของปี 2563 พบว่า โดยมีปัจจัยเรื่องการทำงานที่บ้าน (Work From Home) ช่วยเร่งให้เรตติ้งดีขึ้น ประกอบกับช่องทีวีดิจิทัลเหลือ 18 ช่องจาก 24 ช่อง ซึ่งเป็นผลจากการอนุญาตให้คืนใบอนุญาตได้อย่างไรก็ตาม แม้เรตติ้งของทีวีดิจิทัลจะเพิ่มขึ้น แต่รายได้ของผู้ประกอบการแต่ละช่องไม่ได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาทำให้เจ้าของผลิตภัณฑ์สินค้าต่างๆ ชะลอการใช้เม็ดเงินในการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าโดยเรตติ้งในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ช่องที่มีผลงานเรตติ้งโดดเด่นมากที่สุด คือช่องอมรินทร์ทีวี มีเรตติ้งเฉลี่ย 0.532 อยู่อันดับ 7 สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่อยู่อันดับ 8 ซึ่งมีเรตติ้งเฉลี่ย 0.307 รองลงมาได้แก่ ไทยรัฐทีวี เรตติ้ง 0.599 อยู่อันดับ 5 สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนซึ่งทำเรตติ้งที่ 0.426 อยู่อันดับ 6 และช่องโมโน 29 เรตติ้งเฉลี่ย0.922 เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเรตติ้งอยู่ที่0.798 โดยยังรักษาระดับอยู่ในอันดับ 3 ของช่องเรตติ้งยอดนิยม ส่วนอันดับ 1 คือ ช่อง 7 เรตติ้งปี 2563 อยู่ที่ 1.905 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 1.845 และอันดับ 2 คือ ช่อง 33 เรตติ้งปี 2563 อยู่ที่ 1.257 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเรตติ้ง 1.199 ของช่วงเดียวกันปีก่อน. | ภาพรวมเรตติ้งทีวีดิจิทัลเพิ่มขึ้น แม้จะมีการนำรายการเก่ามาออกอากาศซ้ำ (รีรัน) เนื่องจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ไม่สามารถถ่ายทำรายการใหม่ได้ | ข่าว,เศรษฐกิจ | เรตติ้งทีวี,ทีวีดิจิทัล,ทีวีดิจิตอล,เรตติ้งทีวีดิจิทัล,ไทยรัฐทีวี,รายได้ทีวีดิจิทัล,ข่าววันนี้ | https://www.thairath.co.th/news/business/1899052 |
อุโมงค์น้ำริมหาดพัทยาถล่ม เจ็บ 2 หวิดเกิดโศกนาฏกรรมก่อนวันไหล | เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 เม.ย. ร.ต.อ.พุฒิพงษ์ ชื่นชม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุโครงเหล็กอุโมงค์น้ำที่ตั้งอยู่ริมชายหาดพัทยา บริเวณหน้าห้างดังแห่งหนึ่ง ล้มลงมาทับคนงานได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังรับแจ้งจึงนำกำลังตำรวจ พร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ไปตรวจสอบ พบโครงเหล็กสูงประมาณ 8 เมตร ที่สร้างเป็นอุโมงค์น้ำไว้ให้นักท่องเที่ยวเล่นในวันไหลพัทยา ซึ่งมีกำหนดจัดงานในวันที่ 19 เม.ย. ในสภาพเสาทั้ง 4 ด้านล้มครืนลงมาจนคานเหล็กที่สร้างครอบถนนอยู่ด้านบน หล่นลงมาทับรถยนต์ชาวบ้านเสียหายเล็กน้อย 1 คัน และกีดขวางการจราจร ทำให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้,นอกจากนี้ ยังมีพนักงานฝ่ายสวนสาธารณะ ส่วนส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม สำนักสิ่งแวดล้อมเมืองพัทยา ถูกโครงเหล็กทับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ขา 2 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่ง รพ.เมืองพัทยา ส่วนพนักงานที่เหลือต่างพากันรีบถอดส่วนประกอบเพื่อรื้อโครงเหล็กออกจากถนน ก่อนขนขึ้นรถบรรทุกนำไปเก็บไว้ พร้อมกับเปิดการจราจรตามปกติ,สอบถามหนึ่งในพนักงานฝ่ายสวนสาธารณะ เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้นำกำลังมาย้ายอุโมงค์น้ำจากจุดดังกล่าวไปไว้ที่หน้า สภ.เมืองพัทยา เพราะว่าทางห้างจะใช้พื้นที่ตั้งเวทีคอนเสิร์ต โดยที่ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทั้งๆ ที่ได้ติดตั้งโครงเหล็กและระบบน้ำไว้หมดแล้ว โดยในระหว่างช่วยกันยกเสาค้ำยันคานอุโมงค์น้ำอยู่นั้น จู่ๆ เสาเกิดล้มครืนลงมาทับขาพนักงาน 2 รายจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยดังกล่าว ภายหลังจึงช่วยกันรื้อโครงเหล็กนำไปเก็บไว้ และยกเลิกการติดตั้งอุโมงค์น้ำช่วงดังกล่าวไปโดยปริยาย,อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และจะได้ทำการสอบสวนพยานแวดล้อม เพื่อหาข้อสรุปและผู้ที่จะมารับผิดชอบความเสียหายต่อไป. | อุโมงค์น้ำริมหาดพัทยา ล้มครืนทับคนงานเจ็บ 2 ราย รถชาวบ้านเสียหายเล็กน้อย 1 คัน หวิดเกิดโศกนาฏกรรมก่อนวันไหล | ข่าว | อุโมงค์น้ำถล่ม,อุโมงค์น้ำพัทยาถล่ม,วันไหลพัทยา,โครงเหล็กอุโมงค์น้ำล้ม,พัทยา | https://www.thairath.co.th/news/916607 |
ศธ.น้อมนำศาสตร์พระราชา แก้ปัญหาประชากรวัยเรียนนอกระบบชายแดนใต้ | กระทรวงศึกษาฯ เผยแก้ปัญหาประชากรวัยเรียนนอกระบบชายแดนใต้ เข้าสู่ระบบได้ 60 เปอร์เซ็นต์ โดยน้อมนำยุทธศาสตร์ ร.9-ร.10 สร้างพื้นฐาน ด้านผู้เชี่ยวชาญฯ ยูเนสโก ชื่นชมความสำเร็จ พร้อมหนุนเด็กที่เหลือ นำเข้าสู่ระบบ,เมื่อวันที่ 24 ก.ค.61 พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานการประชุมสรุปและแถลงผลการดำเนินงานแก้ปัญหาประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อสาธารณชน ที่ จ.ปัตตานี ,โดย พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหนึ่งในงานสำคัญที่รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ เร่งดำเนินการ เพื่อยกระดับคุณภาพ และโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาอย่างทั่วถึง ด้วยมุ่งมั่นตั้งใจของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง นับตั้งแต่การประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันเมื่อเดือน พ.ย.60 เราติดตาม ช่วยเหลือ สนับสนุน แก้ไขปัญหา ให้เด็กวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาในพื้นที่รับผิดชอบ ได้เข้ารับการศึกษาในรูปแบบต่างๆ ครบทุกคนโดยเร็ว,พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จนถึงปัจจุบันกระทรวงศึกษาธิการ (ส่วนหน้า) ได้น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา รวมทั้งพระบรมราโชวาทในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ซึ่งพระราชทานเกี่ยวกับการศึกษาที่ต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน คือ 1. มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ที่ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรมจริยธรรม 3. มีงานทำ มีอาชีพสุจริต 4. เป็นพลเมืองดี เป็นหลักคิดในการดำเนินงาน ตั้งแต่การจัดทำฐานข้อมูลนักเรียน การศึกษาระเบียบกฎหมาย กำหนดแนวทางการติดตาม ค้นหาสาเหตุ และจัดหาที่เรียน พร้อมกำหนดผู้รับผิดชอบดูแลนักเรียน และติดตามผลเป็นระยะ,วันนี้จึงมีผลแห่งความก้าวหน้าเกิดขึ้น โดยกระทรวงศึกษา สามารถนำประชากรวัยเรียนอายุระหว่าง 3-18 ปี เข้าสู่ระบบการศึกษาได้กว่า 27,376 คน คิดเป็นร้อยละ 60.45 ของจำนวนเด็กที่อยู่นอกระบบฯ แบ่งเป็นเด็กปกติ 12,759 คน เด็กออกกลางคัน 7,175 คน จบภาคบังคับ 5,573 คน และเด็กพิการ 1,869 คน พร้อมกำหนดมาตรการป้องกันดูแลและช่วยเหลือนักเรียนที่เข้มแข็ง เพื่อให้คงอยู่ในระบบการศึกษา และเติบโตเป็นเยาวชนที่ดีของชาติในอนาคต ส่วนประชากรวัยเรียนที่เหลืออีกร้อยละ 40 จะเร่งติดตามนำเข้าสู่ระบบการศึกษาให้ได้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมจัดระบบช่วยเหลือให้ได้เรียนจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานและมีงานทำ ไม่ว่าจะเข้าเรียนในระบบ นอกระบบ ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา หรืออุดมศึกษา พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว,พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ความสำเร็จขั้นต้นของการทำงานครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นด้วย กระทรวงศึกษาฯ เพียงลำพัง แต่เป็นความร่วมมือของทุกฝ่ายในรูปแบบการทำงานประชารัฐ ที่จะเป็นแบบอย่างของการทำงานในพื้นที่ชายแดนใต้ และพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานของสำนักงาน กศน. ที่มีครู กศน. ทำงานเข้าถึงประชาชนและชุมชนในทุกพื้นที่ จึงย้ำว่า กระทรวงศึกษาจะยังคงให้ความสำคัญกับนักเรียนพิการ ผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษาให้มากขึ้น เพื่อให้ทุกคนได้รับการพัฒนาตามความสามารถ ศักยภาพ และความถนัด เพราะกระทรวงศึกษาฯ จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง, ,ขณะที่ นายอิชิโร มิยาซาวา ผู้เชี่ยวชาญด้านการรู้หนังสือและการเรียนรู้ตลอดชีวิต ยูเนสโก กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือว่าไทยเป็นประเทศผู้นำด้านการศึกษาในภูมิภาคอาเซียน จากการที่รัชกาลที่ 9 ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงสืบสานพระราชปณิธานและพระราชดำริริเริ่มการส่งเสริมการศึกษาให้กับประชาชนทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ชายแดน,นอกจากนี้ ไทยยังมีกฎหมายและนโยบายการศึกษาที่สำคัญต่อการจัดการศึกษาให้กับประชากรทุกคน โดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เช่น มติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการจัดการศึกษาให้แก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย เป็นการเปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับประชากรทุกคนที่อยู่อาศัยในประเทศไทย, การยกร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการสร้างเสริมความเข้มแข็งด้านการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชนตกหล่น ที่มีการลงนามรับรองในการประชุมสุดยอดอาเซียน เมื่อปี 2550 ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นต้น,นายอิชิโร กล่าวว่า ดังนั้น ความสำเร็จของไทยที่เกิดจากความพยายามตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา จึงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น หากแต่สิ่งสำคัญกว่าต่อจากนี้คือ หน่วยงานต่างๆ จะต้องร่วมหาแนวทางสนับสนุนเด็กกลุ่มนี้เป็นพิเศษ เพื่อช่วยให้เด็กคงอยู่ในระบบการศึกษาจนสำเร็จการศึกษาได้ และร่วมมือกับทุกภาคส่วนช่วยเหลือเด็กอีก 40 เปอร์เซ็นต์ ให้สามารถเข้าสู่ระบบการศึกษาจนสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยที่ยูเนสโกจะร่วมกับอาเซียนจัดการศึกษาให้เด็กตกหล่นในภูมิภาคนี้ที่มากถึง 4.1 ล้านคนเช่นกันด้วย,ขอแสดงความยินดีในความสำเร็จของการแก้ปัญหาเด็กตกหล่นของไทย ซึ่งสอดคล้องตามปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการสร้างเสริมความเข้มแข็งด้านการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชนตกหล่น และควรเผยแพร่ผลความสำเร็จให้ทั่วโลกรับรู้ ในฐานะองค์การยูเนสโกจะช่วยประกาศและเผยแพร่โครงการส่งเสริมการศึกษาสำหรับเด็กตกหล่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับสากล หวังว่าจะมีการขยายผลความสำเร็จการดำเนินงานเช่นนี้ไปยังจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนด้วย นายอิชิโร กล่าว | กระทรวงศึกษาฯ เผยแก้ปัญหาประชากรวัยเรียนนอกระบบชายแดนใต้ เข้าสู่ระบบได้ 60 เปอร์เซ็นต์ โดยน้อมนำยุทธศาสตร์ ร.9-ร.10 สร้างพื้นฐาน ด้านผู้เชี่ยวชาญฯยูเนสโก ชื่นชมความสำเร็จ พร้อมหนุนเด็กที่ | ข่าว,ทั่วไทย | กระทรวงศึกษาธิการ,ศธ.,การศึกษานอกระบบ,วัยเรียน,การศึกษาชายแดนใต้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1340705 |
ประโยคช็อกๆ ฟังแล้วจี๊ด คนดังเลิกกันสะเทือนโซเชียล | ประโยคนี้ติดอยู่ที่หูของไทยรัฐออนไลน์ เมื่อนางเอกคุณแม่คนดัง, แอฟ, ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ เตชะณรงค์ พูดหน้านิ่งๆ ถึงสามีหนุ่มไฮโซเจ้าของโบนันซ่าเขาใหญ่ สงกรานต์ เตชะณรงค์ ที่ลือสนั่นว่าเตียงหักมาก่อนหน้านี้ จนกระทั่งประโยคนี้ นางเอกคนดังพูดในงานอีเวนต์งานหนึ่ง ว่าตนและสามีไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ นอกจากฐานะคุณแม่และคุณพ่อของน้องปีใหม่ เท่านั้น,วันนี้ไทยรัฐออนไลน์เลยรวบรวม คู่รักคนดังที่ต่างสวมคอนเวิร์สแยกทางกัน แต่ยังมีประโยคที่ฟังแล้วช็อก ทำใจลำบากมาฝากกัน ไปดูกันเลยว่า ช็อกแค่ไหนถามใจดู.,1., ต่ำตมไม่หยุด, พิชญ์ แฮชแท็กแรงถึงโฟร์ ศกลรัตน์ อดีตแฟนสาว ที่ไปออกรายการคลับฟรายเดย์ พูดถึงความรักของทั้งคู่เมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา แต่งานนี้ท่าทางไม่ถูกใจหนุ่มพิชญ์ ก็เลยลั่นแฮชแท็กดังกล่าวออกมานั่นเอง,2. ,เธออาจจะเป็นคนเลวในสายตาใคร แต่สำหรับฉัน เธอจัญกว่าใครทุกคน, ข้อความนี้ สาวเมย์ พิชญ์นาฏ ฝากผ่านไอจีส่วนตัว ถึงอดีตแฟน สารวัตรโจ้ พ.ต.ต.ธิติสรรค์ อุทธนพล กรณีเลิกรากันแบบไม่สวย อีกทั้งสาวเมย์ยังถูกทวงของขวัญที่ฝ่ายชายเคยให้มาแบบไม่เหลือชิ้นดี,3., begin again, เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เป็นข้อความของเจ้าพ่อปากน้ำคนดัง เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม และนางเอกอย่าง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ที่เมื่อเลิกรากันก็ใช้ข้อความธรรมดาที่บอกเลยว่า แฟนๆ ต่างลุ้น เพราะกว่าจะจบเรื่องราวลงด้วยดีนั้น ก็ต้องผ่านอุปสรรคและมรสุมมากมายพอตัวเลยทีเดียว,4., คันไม่เลือกที่อย่าง เค้าเรียกว่า แรด ร่าน ด้าน, ตกใจสติหลุดไปเลยคุณขา เพราะเป็นข้อความจากไอจีของนางร้ายคนดัง หยก ธัญยกันต์ ที่โพสต์ผ่านไอจีส่วนตัว ในเวลานั้นคนก็โยงกันไปว่า นางเอกน้องใหม่ พีพี เป็นมือที่สามฉกตัวแฟนของเธอ คือพระเอกร่วมช่อง แอมป์ พีรวัช ไป งานนี้บอกเลยแค่ได้เห็นข้อความ เผือกร้อนๆ ก็ลอยมาเลย,5. ,คือเราไม่ได้ผิดอะเนอะ เจนี่เป็นแบบผู้โดนกระทำมากกว่า, คำพูดสะเทือนใจคนฟังยิ่งนักเมื่อได้ฟังจากปากนางเอกคนดัง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณที่เลิกรากับหนุ่มไฮโซ กึ้ง เฉลิมชัย มหากิจศิริ หลังรอบนี้โดนกระทำอีกแล้ว จับได้ว่าฝ่ายชายมีสาวคนใหม่เข้ามาพัวพัน,6., The End, ข้อความจากไอจี ไฮโซหนุ่มนักการเมือง ไผ่ วันพ้อยท์ ที่คาดว่าสถานการณ์ช่วงนั้นไม่ค่อยดี กับแฟนสาวคนดัง ดิว อริสรา หนุ่มไผ่เลยโพสต์ผ่านไอจี จนหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าเลิกไม่เลิก สรุปว่า สาวดิวกำลังอยู่ในช่วงเดินหน้าง้ออยู่ ส่วนจะสำเร็จหรือไม่นั้น หนุ่มไผ่น่าจะให้คำตอบเราได้,อย่างไรก็ตาม ยังมีหนุ่ม ขันเงิน เนื้อนวล กับสาวเฟมัส เฌอร์ลินที่ เค้าหาว่าหนุ่มขันเงินซุ่มกินเงียบ และกลายเป็นข่าวโด่งดัง เมื่อฝ่ายหญิงออกมาแฉความสัมพันธ์ลับๆ นี้ โดยขันเงินออกมาบอกว่าตนเองไม่ได้ขอเบรกเรื่องรักพร้อมทั้งบอกที่ผ่านมายังไม่เจอคนที่คลิก ส่วนคนที่เป็นข่าวด้วยอย่างสาวเฟมัส ก็ฝากผ่านสื่อไปถึงว่า ,อย่าจองล้างจองผลาญกันนักเลย, อู้ ฟังแล้วจี๊ดไปถึงหัวใจ. | ไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ ประโยคนี้ติดอยู่ที่หูของไทยรัฐออนไลน์ เมื่อนางเอกคุณแม่คนดัง แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ เตชะณรงค์ พูดหน้านิ่งๆถึงสามีหนุ่มไฮโซเจ้าของโบนันซ่าเขาใหญ่ สงกรานต์ เตชะณรงค์ ที่ลือสนั่นว่าเตียงหัก | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | ไฮโซเซเลบ,ดาราเลิกกัน,ประโยคเด็ด ดารา,ต่ำตมไม่หยุด,คนดังเลิกกัน | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/love/1135350 |
ปลวกเพศเมียบางตัวสืบพันธุ์ได้แม้ไร้ปลวกเพศผู้ | และสำคัญต่อระบบนิเวศป่าไม้ มันช่วยย่อยสลายซากพืชหรือต้นไม้ที่หักล้มให้กลายเป็นอินทรียวัตถุในดิน ส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของป่า และจัดเป็นแมลงทางสังคมที่อยู่ในอันดับไอสอปเทอรา (Isoptera) มีการแบ่งวรรณะหน้าที่การงานเป็น 3 แบบคือ ปลวกที่สร้างรังและหาอาหาร ปลวกที่ป้องกันศัตรู และปลวกที่มีหน้าที่สืบพันธุ์วางไข่,เมื่อเร็วๆ นี้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ในออสเตรเลียและจากมหาวิทยาลัยเกียวโตในญี่ปุ่นสงสัยว่าปลวกบางชนิดอาจแพร่พันธุ์โดยไม่จำเป็นต้องมีปลวกเพศผู้ หลังจากพบว่าปลวกสายพันธุ์ Glyptotermes nakajimai ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลห่างไกลแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เมื่อนำไปเปรียบเทียบสัณฐานวิทยาของกลุ่มปลวกต่างๆ ทั้งในพื้นที่เดียวกัน และปลวกจากพื้นที่อื่นๆ ที่อยู่กันอย่างคละเพศ นักวิจัยพบว่ากลุ่มปลวกที่มีแต่เพศเมีย ราชินีปลวกของกลุ่มนี้จะมีถุงกักเก็บอสุจิ (spermathecae) ที่ว่างเปล่า ซึ่งไข่ของมันก็จะไม่ได้รับการปฏิสนธิ ในขณะที่กลุ่มปลวกที่มีทั้ง 2 เพศอยู่รวมกัน ราชินีปลวกของกลุ่มนี้จะมีอสุจิจำนวนมากถูกเก็บไว้ในถุง,นักวิจัยเผยว่า ไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานใดๆ เกี่ยวกับปลวกเพศผู้เลยในกลุ่มปลวกสายพันธุ์ Glyptotermes nakajimai ที่อยู่บริเวณชายฝั่งทะเลดังกล่าว นั่นหมายความว่าปลวกกลุ่มนี้ประสบความสำเร็จในการแพร่พันธุ์สร้างอาณาจักรปลวกของตน โดยไม่ต้องใช้การผสมพันธุ์จากอสุจิของปลวกเพศผู้นั่นเอง.,Glyptotermes nakajimai Credit : University of Sydney | ปลวกเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มักจะก่อความเสียหายให้กับบ้านเรือน โดยอาหารอันโอชะของมันก็คือไม้ กระดาษ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีเซลลูโลสเป็นองค์ประกอบ แต่ในทางนิเวศวิทยาแล้วปลวกมีประโยชน์ | ข่าว,ต่างประเทศ | ปลวก,นักวิจัย,แพร่พันธุ์,สืบพันธุ์,ทันโลก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1388513 |
รัฐบาลแคนาดาสยบข่าวลือเรื่องรัฐบาลช่วยผู้ลี้ภัยมากกว่าผู้พึ่งพาสวัสดิการ | แต่ทางการแคนาดาก็ชี้แจงว่าเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนเรื่องตัวเลข และความช่วยเหลือต่อเดือนโดยรวมของผู้พึ่งพาสวัสดิการรัฐยังได้รับมากกว่า8 ม.ค. 2558 หลังจากที่มีกระแสข่าวลือแพร่กระจายในอินเทอร์เน็ตที่อ้างว่าผู้ลี้ภัยชาวซีเรียได้รับเงินช่วยเหลือค่าอาหารมากกว่าสวัสดิการที่คนแคนาดาเองได้รับ ล่าสุดเจ้าหน้าที่รัฐบาลแคนาดาออกมาชี้แจงว่าข่าวลือดังกล่าวเป็นเรื่องเท็จข่าวลือดังกล่าวมีการเผยแพร่ผ่านเว็บโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊คและอินสตาแกรมอ้างว่าผู้ลี้ภัยชาวซีเรียได้รับเงินช่วยเหลือค่าอาหารจากรัฐบาล 61 ดอลลาร์ต่อวันเมื่อเทียบกับผู้รับสวัสดิการรัฐในรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ที่ได้รับเพียง 3 ดอลลาร์ต่อวัน โดยในข้อความระบุอีกว่ามันเป็นเรื่องน่าขันที่รัฐบาลแคนาดาใช้เงินช่วยเหลือคนอื่นแทนที่จะช่วยเหลือคนประเทศตัวเองก่อนอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่รัฐทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับส่วนกลางต่างก็ให้สัมภาษณ์โต้แย้งข่าวลือนี้ผ่านสำนักข่าวซีบีซีว่าจำนวนตัวเลขที่อ้างในข่าวลือดังกล่าวไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยรัฐบาลแคนาดาจะคิดอัตราเงินช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวซีเรียตามระดับของสวัสดิการในแต่ละท้องถิ่นกระทรวงพัฒนาสังคมของรัฐบริติชโคลัมเบียเปิดเผยว่าจำนวนตัวเลขดังกล่าวเป็นการปะติดปะต่อข้อมูลกันอย่างสับสนของผู้โพสต์ ซึ่งจริงๆ แล้วจำนวนเงินดังกล่าวเป็นเงินที่รัฐบาลจ่ายชดเชยให้กับโรงแรมที่อยู่ใกล้กับสนามบินโตรอนโตและสนามบินมอนทรีออลที่ได้ให้ความช่วยเหลือด้านอาหารแก่ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียและให้ที่พักพิงชั่วคราวกับผู้ลี้ภัยจนกว่าจะหาที่อยู่ถาวรได้ และจำนวนตัวเลขค่าอาหารในแต่ละวันของผู้ลี้ภัยจริงๆ อยู่ที่ 10 ดอลลาร์ต่อวัน ส่วนอีก 50 ดอลลาร์ต่อวันเป็นเงินช่วยเหลือค่าที่พักในขณะที่สวัสดิการของประชากรวัยผู้ใหญ่ของรัฐบริติชโคลัมเบียคือความช่วยเหลือในด้านต่างๆ อย่าง ความช่วยเหลือด้านรายได้ 610 ดอลลาร์ต่อเดือน ความช่วยเหลือด้านที่พักอาศัย 375 ดอลลาร์ต่อเดือน และความช่วยเหลือด้านอื่นๆ รวมถึงค่าอาหาร 235 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งทางกระทรวงพัฒนาสังคมของรัฐบอกว่าผู้ลี้ภัยไม่ได้รับความช่วยเหลือต่อเดือนมากไปกว่าคนท้องถิ่นที่ต้องพึ่งสวัสดิการรัฐซีบีซีระบุว่าถึงแม้ข่าวลือดังกล่าวจะมีเจตนาต้องการเรียกร้องสวัสดิการรัฐเพิ่มซึ่งถือเป็นเรื่องที่ชอบธรรมในการนำมาถกเถียงกัน แต่มันก็เป็นเรื่องผิดในการอ้างอย่างผิดๆ ว่าผู้ลี้ภัยได้รับการสนับสนุนทางการเงินมากกว่าชาวแคนาดาที่ใช้สวัสดิการรัฐก่อนหน้านี้ยังเคยมีข่าวลือว่าผู้ลี้ภัยชาวซีเรียได้รับความช่วยเหลือทางการเงินมากกว่าผู้รับบำนาญวัยเกษียณจนทำให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลางแคนาดาต้องออกมาแก้ไขข้อมูลความเข้าใจผิดในเรื่องนี้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด มีนโยบายให้การต้อนรับและช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย โดยมีการตั้งเป้าหมายให้ผู้ลี้ภัย 25000 คนสามารถตั้งรกรากได้ภายใน 1 มี.ค. นี้ พวกเขาได้รับความช่วยเหลือเบื้องต้นในการตั้งตัวสูงสุด 25000 ดอลลาร์ต่อครอบครัว และจะได้รับความช่วยเหลือไปจนครบ 12 เดือน เว้นแต่พวกเขาจะสามารถตั้งตัวเลี้ยงดูตนเองได้ก็จะหยุดให้ความช่วยเหลือ | ในประเทศแคนาดาที่อ้าแขนต้อนรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียอย่างเต็มที่มีการปล่อยข่าวลือที่เป็นเท็จว่าทางการแคนาดาให้เงินช่วยเหลือผู้ลี้ภัยต่อวันมากกว่าผู้พึ่งพาสวัสดิการรัฐ | คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน | จัสติน ทรูโด,ผู้ลี้ภัย,ผู้ลี้ภัยซีเรีย,สวัสดิการ,อเมริกาเหนือ,แคนาดา | https://prachatai.com/journal/2016/01/63401 |
สื่อดัง เผย 10 แข้งพรีเมียร์ลีก ผลงานสุดห่วยแตก ป็อกบา นำก๊วน | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 11 พ.ค. ว่า โกล ดอท คอม เว็บไซต์ลูกหนังชื่อดังของโลก เผยรายชื่อ 10 นักเตะจากพรีเมียร์ลีกที่ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังหลังผ่านไป 11 นัดแรก ซึ่งก็เป็นไปตามคาดเมื่อสองแข้งจากปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง พอล ป็อกบา และ เฮนริกห์ มคิตาร์ยาน ติดโผด้วย,อันดับ 1 ไม่ใช่ใครที่ไหนนั่นก็คือ พอล ป็อกบา ที่ได้รับการตั้งความหวังจากหมู่มวลผีแดงว่าจะพาทีมกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่ทว่าเจ้าของค่าตัวแพงสุดในโลกกลับยังทำผลงานไม่สมกับราคาที่สโมสรจ่ายไปโดยปัจจุบัน ผีแดง ได้เพียงอยู่อันดับ 6 ของตารางโดยมีแต้มตามหลังจ่าฝูง หงส์แดง ลิเวอร์พูล ถึง 8 แต้ม,อันดับ 2 เจมี วาร์ดี หลังจากทำผลงานได้อย่างมหัศจรรย์ยิงประตูเป็นว่าเล่นในซีซั่นก่อนช่วยให้จิ้งจอกสยามคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบเหลือเชื่อแต่หลังจากที่เจ้าตัวปัดข้อเสนอย้ายไปเล่นอาร์เซนอล และต่อสัญญาใหม่กับทีมต่อไป เจ้าตัวทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ยิงได้เพียง 3 ประตูจาก 17 นัดทุกรายการเท่านั้น,อันดับ 3 มุสซา ซิสโซโก กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสที่สเปอร์ส ลงทุนทุ่มเงินถึง 30 ล้านปอนด์ ปาดหน้าเอฟเวอร์ตันคว้าตัวแข้งรายนี้มาจากนิวคาสเซิล แต่ทว่าเจ้าตัวยังทำผลงานได้ไม่ดี เป็นแค่ตัวเลือกรองในตำแหน่งแผงกลางของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือจอมแท็กติกของทีม,อันดับ 4 ริยาด มาห์เรซ เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ PFA พรีเมียร์ลีกซีซั่นก่อน แต่ทว่าฤดูกาลนี้เจ้าตัวยังทำผลงานได้ไม่เป็นชิ่นเป็นอัน ยิงได้เพียง 1 ลูกกับอีก 1 แอสซิสต์ เท่านั้นและทำให้ทีมของเขาหล่นไปอยู่อันดับที่ 14 แบบน่าตาเฉย,อันดับ 5 วินเซนต์ แยนส์เซน เจ้าของรางวัลดาวซัลโวลีกดัตช์ซีซั่นก่อน ทำให้สเปอร์ส ยอมควักเงินซื้อแข้งรายนี้มาร่วมทีม แต่หลังผ่านไป 11 นัดเจ้าตัวก็ยังไม่แสดงให้เห็นถึงฝีเท้าที่ถูกร่ำลือเมื่อยิงได้เพียง 1 ลูกเท่านั้น,อันดับ 6 โยฮัน กาบาย กองกลางดีกรีทีมชาติฝรั่งเศส ยังไม่สร้างความแตกต่างให้กับคริสตัล พาเลซ ในฤดูกาล เมื่อไม่สามารถช่วยทีมได้อย่างที่ตั้งความหวังไว้ ทำให้ทีมพ่ายไปถึง 6 เกมรั้งอันดับที่ 16 ของตาราง,อันดับ 7 อเล็กซ์ อิโวบี ปีกดาวรุ่งของอาร์เซนอล ถือเป็นตัวความหวังของทีม แต่การที่เจ้าตัวต้องยกระดับให้อยู่ในระดับสูงสุดอยู่เสมอทำให้เป็นเรื่องยากที่เขาจะเล่นร่วมกับพวก อเล็กซิส ซานเชซ หรือ เมซุต โอซิล ซุปเปอร์สตาร์ประจำทีมได้,อันดับ 8 คริสเตียน อิริกเซน ยังทำผลงานได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าที่ควรนับตั้งแต่ที่ แฮร์รี เคน คู่หูกองหน้า ได้รับบาดเจ็บ โดยสเปอร์ส ฤดูกาลนี้ต้องบอกว่าเป็นทีมที่ประสบปัญหาเรื่องการยิงประตูเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ดีล่าสุด แฮร์รี เคน ก็ได้กลับมาลงเล่นได้แล้ว และหวังกันว่า อีริกเซน จะฟอร์มดียิ่งขึ้น,อันดับ 9 เฮนริกห์ มคิตาร์ยาน ราชาแอสซิสต์แห่งลีกบุนเดสลีกา ย้ายมาดับกับผีแดงอย่างสิ้นเชิง หลังยังไม่ได้รับโอกาสจาก โชเซ มูรินโญ ลงสนาม โดยเจ้าตัวได้โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกเพียงแค่นัดเดียว และก็ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังอีกต่างหาก,อันดับ 10 ซิโมเน ซาซา จอมสับชาวอิตาลี ย้ายจาก ยูเวนตุส มาเล่นให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัวแต่ยังทำผลงานได้อย่างห่วยแตกลงเล่นไปแล้ว 528 นาทีแต่กลับยิงไม่ได้เลยสักลูก | โกล ดอท คอม สื่อแวดวงลูกหนังชื่อดังของโลก เผย 10 นักเตะพรีเมียร์ลีกที่ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในฤดูกาลนี้ หลังผ่านมา 11 นัดโดย พอล ป็อกบา แข้งค่าตัวแพงสุดในโลกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำก๊วน | null | พรีเมียร์ลีก,พอล ป็อกบา,เฮนริกห์ มคิตาร์ยาน,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/782157 |
กลับหัวคิด 110 ยิ่งทำยิ่งได้ | ครบ 1 ปีแล้ว ที่ผมมาเป็นกรรมการขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เรียกง่ายๆ คือ เป็น Board ขององค์การสวนสัตว์ ที่ต้องดูแลสวนสัตว์ 7 แห่ง คือ สวนสัตว์ดุสิตหรือเขาดิน สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมาหรือสวนสัตว์โคราช อุทยานสัตว์ป่าอีสานตอนบน ขอนแก่น-อุดรธานี (สวนสัตว์เขาสวนกวาง) สวนสัตว์สงขลา และโครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ โครงการนี้ล่ะครับ ที่ทำให้ช้างที่เคยเดินเร่รอนอยู่ในกรุงเทพฯ หายไปหมด เพราะองค์การสวนสัตว์นำมาดูแลอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ ผมมีโอกาสเดินทางมาที่สุรินทร์เพื่อที่จะมาร่วมปลูกป่าที่โครงการนี้ โดยมีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นสปอนเซอร์ ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณภาพชีวิตของช้างเหล่านี้ดีขึ้น อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ไม่ใช่มาเร่รอนอยู่ในเมือง,อันที่จริงงานประจำผมก็ยุ่งอยู่แล้ว แต่ผมรู้สึกว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะมาช่วยพัฒนาให้สวนสัตว์ของประเทศไทยให้เป็นสถานที่เยาวชนสามารถมาศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่าต่างๆ และยังเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของครอบครัวได้อีกด้วย,ต้องบอกว่าวันแรกที่มาทำงาน เริ่มต้นที่ศูนย์เลยครับ ด้วยความที่เป็นระบบงานแบบราชการ ซึ่งผมก็ไม่คุ้นเคยเท่าไรนัก งานที่ผมต้องรับผิดชอบโดยตรง คือ พัฒนาธุรกิจ และประชาสัมพันธ์ เป็นส่วนงานที่ต้องหาเงินเพิ่มนั่นเอง ตลอดหนึ่งปี ผมต้องเดินทางไปจังหวัดต่างๆ ที่มีสวนสัตว์ตั้งอยู่ เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ของแต่ละสวนสัตว์ว่าเป็นอย่างไร ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง เข้าใจตลาดในแต่ละพื้นที่ และเข้าใจผู้คนมากยิ่งขึ้น,ทำไปทำมาผมรู้สึกว่าการมาเป็น Board ของสวนสัตว์นี้ ผมได้ความรู้กลับไปมากมายครับ ผมได้เข้าใจระเบียบกฎเกณฑ์ของราชการมากขึ้น เข้าใจชีวิตสัตว์มากขึ้น อย่างสวนสัตว์นครราชสีมา เป็นที่เดียวที่มี Big Five คือ มีสัตว์ที่เวลาคนไปแอฟริกาแล้ว ต้องดูให้ครบ ไม่งั้นไม่ถึงแอฟริกา อย่าง สิงโต ช้าง แรด กระทิง และเสือดาว ซึ่งที่สวนสัตว์นี้ เรามีครบ ผมเคยสงสัยว่าทำไมไม่มีสวนสัตว์ไหนที่มีทั้งช้างเอเชีย และช้างแอฟริกาอยู่ในที่เดียวกันได้ และผมก็ได้คำตอบว่ามันมีเชื้อโรคบางชนิดที่ทำให้ช้างจาก 2 ทวีปนี้ ถ้าอยู่ใกล้กัน มันจะติด และตายในที่สุด เรียกว่าได้ความรู้ใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้,นอกจากนี้ใน Board ชุดนี้ ยังมีผู้คนที่ถ้าอยู่ในชีวิตปกติ ผมอาจจะไม่มีโอกาสรู้จักเลย เพราะวิถีชีวิตทำงานไม่น่าจะโคจรมาเจอกันได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนจากสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ทหาร นักวิชาการ นักการเงิน หรือนักการตลาดชั้นเซียน ผมรู้สึกว่าชีวิตผมโชคดีเหลือเกินที่มีโอกาสแบบนี้,เรียกว่าการที่มาเป็น Board องค์การสวนสัตว์ ผมได้เรียนรู้ และได้ร่วมทำงานกับผู้มีประสบการณ์งานหลากหลาย ได้รับความรู้มากมาย หลายๆ คน กลัวงานใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน หลายๆ คนพอได้รับมอบหมายอะไรใหม่ๆ ก็ปฏิเสธ ลองมาปรับความคิดใหม่นะครับ ว่าการได้ทำงานใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ ความรู้ใหม่ๆ และได้พบผู้คนใหม่ๆ นั้น คนที่ได้มากที่สุด คือ คุณ เองครับ ยิ่งทำยิ่งได้ครับ แล้ววันหนึ่งคุณจะทราบเองว่าประสบการณ์ที่หลากหลาย จากงานที่คุณทำเพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้น จะบ่มเพาะคุณให้ เก่ง แกร่ง และ รอบตัว ขึ้นเรื่อยๆ | ครบ 1 ปีแล้ว ที่ผมมาเป็นกรรมการขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เรียกง่ายๆ คือ เป็น Board ขององค์การสวนสัตว์ ที่ต้องดูแลสวนสัตว์ 7 แห่ง คือ สวนสัตว์ดุสิตหรือเขาดิน สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา | คนดังนั่งเขียน | คนดังนั่งเขียน,เกรียงไกร กาญจนะโภคิน,กลับหัวคิด,องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์,Board ขององค์การสวนสัตว์,องค์การสวนสัตว์,สวนสัตว์ดุสิต,สวนสัตว์เชียงใหม่,สวนสัตว์นครราชสีมา,ข่าวไลฟ์สไตล์,ไลฟ์สไตล์,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/527016 |
สิระ จัดหนัก ซูเปอร์โพล ซัดไร้ราคา-อวยกันเอง จวก พลังงาน ไร้น้ำยา | เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2563 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีซูเปอร์โพลเสนอผลสำรวจ ภาพการเมือง หลังสู้ศึกอภิปรายว่า ต้องถามว่าโพลนี้มีความน่าเชื่อถือมากน้อยขนาดไหน หลายคำถามเป็นคำถามเชิงชี้นำที่เป็นประโยชน์กับ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน หรือไม่ นอกจากนี้เท่าที่ตนทราบ คือ เจ้าของโพลนี้เป็นบุคคลที่มีนามสกุลเดียวกับโฆษกกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นการสมประโยชน์กันหรือไม่ ส่วนตัวตนคิดว่าโพลนี้ไม่มีความน่าเชื่อถือ หลายอย่างสวนทางกับความเป็นจริง ที่ผ่านมาประชาชนเดือดร้อน และบ่นถึงความลำบากหลายอย่าง ทั้งเรื่องไฟฟ้า น้ำมัน และก๊าซหุงต้ม พลังงานทดแทนก็ไม่มีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรม แต่โพลกลับออกมาชื่นชม ตนสงสัยว่าการทำโพลนี้ใช้นักวิชาการที่เชี่ยวชาญหรือใช้แต่พวกพ้องเป็นหลัก ตนอยากให้ทำโพลโดยใช้พื้นฐานความเป็นจริง ถ้ายังทำแบบนี้ต่อไปอาจจะหมดความน่าเชื่อถือตอนนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อน แทนที่กระทรวงพลังงานจะเอากองทุนพลังงานมาช่วยเหลือประชาชน แต่กลับเอาไปสร้างภาพลักษณ์ เอาไปอัดเงินโฆษณาและดูแลสื่อ ผมสงสัยว่ามีเงินตรงนี้ไปอยู่ในสื่อบางแห่งบ้างหรือไม่ ผมอยากจะตรวจสอบทีวีบางช่องว่า ได้งบประมาณจากส่วนนี้ไปมากน้อยแค่ไหน นายสิระ กล่าวเมื่อถามว่า การทำโพลลักษณะนี้เป็นการพยายามรักษาเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า การจะเป็นรัฐมนตรีต่อได้หรือไม่อยู่ที่ผลงาน การบริหารงานมีความเหมาะสมแค่ไหน ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ประเมินและตัดสินใจเอง ซึ่งการทำงานของรัฐมนตรีบางท่านในช่วงนี้ โดยเฉพาะนายสนธิรัตน์ ตนอยากให้ทำงานเพื่อประชาชนที่กำลังเดือดร้อน ไม่ใช่เอาเวลามาตำหนิคนในพรรคกันเอง | สิระ ซัด ซูเปอร์โพล ไม่น่าเชื่อถือ แฉเป็นคนนามสกุลเดียวกับ โฆษกพลังงาน โวยกองทุนพลังงานไม่ช่วยประชาชน กลับเอาเงินไปสร้างภาพ เล็งขอตรวจสอบงบจ้างสื่อบางค่าย | ข่าว,การเมือง | สิระ เจนจาคะ,พลังประชารัฐ,พรรคพลังประชารัฐ,ซูเปอร์โพล,สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์,รมว.พลังงาน,กระทรวงพลังงาน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1863258 |
พม่าหวังเศรษฐกิจเฟื่อง หลังอียูระงับคว่ำบาตร | นายบาร์เบอร์ โช เลขาธิการร่วมสมาคมค้าไม้ของพม่า กล่าวถึงกรณี สหภาพยุโรป หรือ อียู ประกาศระงับมาตรการคว่ำบาตรพม่าเป็นเวลา 1 ปี ว่า แม้ว่าการระงับการคว่ำบาตรจะช่วยสร้างงาน แต่ด้วยระยะเวลาเพียง 1 ปี ไม่น่าจะเพียงพอที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในพม่า ดังนั้นจึงไม่สามารถพูดได้ว่า การระงับการคว่ำบาตรจะส่งผลดีต่อการลงทุนจากต่างชาติ ยกเว้นอุตสาหกรรมที่ดำเนินอยู่แล้ว ซึ่งจะได้รับอานิสงฆ์จากการระงับการคว่ำบาตรในครั้งนี้ แม้ชาติตะวันตกอื่นๆ จะเดินตามรอยสหภาพยุโรป ขณะที่บรรยากาศการเมืองของพม่าที่มีแนวโน้มในทางที่ดี ทำให้เชื่อได้ว่าสหรัฐฯ จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรพม่าอย่างถาวรหรือไม่อย่างน้อยก็ระงับเหมือนกับสหภาพยุโรปด้านนายอ่อง มอ ผู้บริหารสมาคมเอเชียแปซิฟิค อินสเปคชั่น กล่าวเตือนว่า การปฎิรูปเศรษฐกิจของพม่าไม่สามารถทำได้แค่เพียงข้ามคืน เพราะสถานการณ์ทางการเมืองจำเป็นต้องมีเสถียรภาพ ขณะที่การปรับปรุงเรื่องสิทธิมนุษยชน การบังคับใช้กฎหมายและการสร้างประชาธิปไตยไม่สามารถเกิดขึ้นได้ภายในหนึ่งหรือสองวันทั้งนี้การระงับมาตรการคว่ำบาตรพม่าของสหภาพยุโรป ซึ่งไม่มีมาตรการห้ามค้าอาวุธรวมอยู่ด้วย คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์นี้ เปิดทางให้ษริษัทของยุโรปได้เข้าไปลงทุนในพม่า เพราะมีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญและยังมีพรมแดนเศรษฐกิจติดกับจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นสองชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของเอเชีย | สหภาพยุโรปประกาศระงับมาตรการคว่ำบาตรพม่าที่บังคับใช้มาตั้งแต่สมัยอดีตรัฐบาลทหาร สร้างความหวังให้กับธุรกิจของพม่าว่านักลงทุนต่างชาติจะหลั่งไหลเข้ามาลงทุน ผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโต | ต่างประเทศ | พม่า,มาตรการคว่ำบาตร,ระงับ,สหภาพยุโรป,เศรษฐกิจ | https://news.thaipbs.or.th/content/80852 |
อสส.รับคำร้อง ทนายทักษิณ ขอสอบพยานเพิ่ม 4 ปากคดี 112 | วันนี้ 13 ต.ค.60 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความรับมอบอำนาจจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ถึงนายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด ภายหลังมีข่าวอัยการสูงสุดมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายทักษิณ ข้อหา,หมิ่นเบื้องสูง, ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ จากการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเมื่อเดือน พฤษภาคม 58 ที่ประเทศเกาหลีแล้วภายหลังมีการเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลโดย ขอให้อัยการสูงสุดมีคำสั่งทบทวนความเห็นดังกล่าว เเละให้มีการสอบคำให้การพยานเพิ่มเติมอีก 4 ปาก ว่าได้เสนอหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของนายทักษิณขึ้นไปยังอัยการสูงสุดเเล้ว ขณะนี้รออัยการสูงสุดสั่งการลงมา ซึ่งโดยหลักปฏิบัติเเล้วอัยการสูงสุดจะสั่งให้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับสำนวนคดีดังกล่าวเป็นผู้พิจารณาก่อนส่งความเห็นมาให้ อสส.พิจารณาสั่งการต่อไป,ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัจจุบันนี้อัยการสูงสุดได้สั่งการให้ดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวหรือยัง นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า น่าจะยังไม่ได้มีการสั่งการเพราะกระบวนการก็จะดำเนินการตามปรกติของการร้องขอความเป็นธรรมทั่วไปไม่ได้เร่งดำเนินการเป็นพิเศษเเต่อย่างใด,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อมีการยื่นร้องขอความเป็นธรรมเเล้ว ตามขั้นตอนทั่วไป อสส.จะพิจารณาสั่งการให้อัยการเจ้าของสำนวนเป็นผู้พิจารณา ซึ่งคดีนี้เป็นในส่วนของคดีอาญาทั่วไป ก็จะมีสำนักงานคดีอาญา หรืออีกกรณีถ้าคดีเคยมีการร้องขอความเป็นมาก่อนก็จะมีสำนักงานร้องขอความเป็นธรรมที่เป็นผู้รับพิจารณาตามคำสั่ง อสส.ในเรื่องนี้ เป็นไปได้สองเเนวทางด้วยกัน. | รองโฆษกอัยการเผย อสส.รับสำนวนร้องขอความเป็นธรรมคดีหมิ่นเบื้องสูง ทักษิณ เเล้ว เตรียมส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้สอบพยาน 4 ปากตามคำร้องหรือไม่ | ข่าว,อาชญากรรม | ทนายทักษิณ,ทักษิณ ชินวัตร,คดี 112,หมิ่นเบื้องสูง,อสส.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1097840 |
ดาว-พอร์ช ต่อไม่ติด โสดสนิทหลังโควิด-19 หยุดระบาดค่อยเปิดใจ | หลังจากที่ปล่อยให้หลายคนลุ้นในความสัมพันธ์ว่าจะกลับมารีเทิร์นกันอีกรอบหรือไม่ สำหรับนางร้ายสาวสวย ดาว พิมพ์ทอง และพระเอกหนุ่ม พอร์ช ศรัณย์ ล่าสุดได้เจอสาวดาวที่งานแฟชั่นโชว์ต้อนรับฤดูกาลสปริง/ซัมเมอร์ 2020 จากแบรนด์ คานิท (CANITT) ก็ไม่พลาดที่จะอัปเดตชีวิตส่วนตัวและความรักกับหนุ่มพอร์ช ซึ่งสาวดาวเผยว่าเอาตัวรอดจากโควิดยังไงบ้าง?ตอนนี้มันก็เหมือนเริ่มใกล้ตัวขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เหมือนคนที่ใกล้ๆ ตัวเราก็เริ่มกักตัวกันแล้ว มันมีการโยงคนนี้เป็นคนนั้นไปเจอ เขาจะกักตัวไหมอันนี้มันอยู่ที่เราต้องกักตัวเอง อันนี้ดาวว่าเราต้องเริ่มกักตัวเองแล้ว ตัวดาวเองยังไม่ค่อยนะอย่างสถานบันเทิงดาวไม่ได้ไปอยู่แล้ว เลยอาจจะไม่ซีเรียสเรื่องนี้ว่าจะต้องเจอคนในชุมชนหรือสถานที่ที่มีคนเยอะ พลุกพล่าน แต่จะห่วงคนที่เรารู้จักเขาไปมารึเปล่า ก็ต้องดูแลตัวเองมากๆ นิดนึงตอนนี้ ก็พกเจลแอลกอฮอล์ตลอดเวลา สเปรย์แอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัยคนใกล้ตัวต้องโดนกักรึยัง?เหมือนจะมีแล้ว ก็เอาใจช่วยคนที่กักตัวดูผลอยู่ ยังไงก็เอาใจช่วยทุกคน ตอนนี้เราต้องดูแลตัวเองเหมือนกันกระทบงานไหม?งานที่เป็นอีเวนต์หรืองานที่ต้องออกไปใช้ชีวิตข้างนอกกระทบอยู่ทริปต่างๆ ล่ะ?โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีทริปไปต่างประเทศเลย มีแต่ทริปในประเทศไทย ก็ต้องใช้รถในการเดินทาง ซึ่งเราก็ไม่ซีเรียสมาก ถ้าเราไปก็ไปเป็นครอบครัว ก็ฝากทางโรงแรมที่เราไปดูแลหรือนักท่องเที่ยวคนไทยที่จะไปฝากใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อกันหน่อย ตอนนี้ก็เปลี่ยนจากการนั่งเครื่องเป็นนั่งรถ เอารถครอบครัวเรา เราเอาความสบายใจความรักล่ะโควิดทำให้ห่างไหม?ไม่ค่อยได้คุยกันเลย ช่วงหลังๆ มา เราไม่ได้คุยกันมาสักพักหนึ่งแล้วคือต่อกันไม่ติด?ใช่ค่ะ ก็เป็นเพื่อนกันมาสักพักหนึ่งแล้ว จากตอนนั้นที่เราเป็นเพื่อน ตอนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนเหมือนเดิม ไม่มีอะไรพัฒนาไปเขายังทำเหมือนเดิมไหม?ต้องถามเขานะ เราไม่ได้เข้าไปยุ่ง เข้าไปใช้ชีวิตกับเขาเหมือนเดิม เลยไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรของเขามากมาย ณ ตอนนี้ทั้งโรคระบาด และอะไรหลายๆ อย่าง ตอนนี้ต่างคนต่างกักตัวเองที่เขาบอกว่าเขาจะสู้ เขาได้สู้จริงหรือเปล่า?เขาก็สู้แหละค่ะ แต่มันก็ยังไม่พอไหม เขาก็เต็มที่แหละ เราก็เห็นความหวังดีที่เขาทำ แต่มันหลายๆ อย่างมันก็มันติดอะไร?มันน่าจะติดที่ไลฟ์สไตล์เราสองคนมากกว่า ไม่ได้อยู่กันที่เรารักกันมากแค่ไหน เราอาจจะรักกันมากแต่ตอนนี้มันติดอยู่ที่ไลฟ์สไตล์ เราก็ปรับกันเยอะ การใช้ชีวิตของเรากับเขามันค่อนข้างต่างกันมากเรียกว่ายังไม่มั่นใจในตัวเขา?ไม่ใช่ว่าไม่มั่นใจ แต่พอเราได้ถอยออกมาในระดับหนึ่งแล้ว เราจะมองทุกอย่างได้กว้างขึ้นว่าอะไรหลายๆ อย่างมันไปด้วยกันได้ไหม หรืออะไรทุกๆ อย่างมันไปด้วยกันไม่ได้ มันก็มี คือถ้ากลับไปมันก็ไม่เหมือนเดิมแน่นอน ที่ดาวเคยบอกว่ามันมีเรื่องๆ นึงที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ ถ้าเรากลับไปมันก็จะไม่สบายใจไปเลยมีคนใหม่เลย?ตอนนี้ยังไม่มีคนใหม่ค่ะโอกาสลุ้นกับพอร์ช?อย่าเพิ่งลุ้นเลยค่ะ ไม่ลุ้นดีกว่า เอา 50:50 อย่าลุ้นเลยเขาตื๊อไหม?เขาก็ทำดีที่สุดนะ เรามองเห็น แต่ก็อย่างที่บอกมันขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของเราทั้งสองคน เขาทำดีในไลฟ์สไตล์ของเขาแต่เรารู้สึกว่ามันอาจจะยังไม่ใช่สำหรับเรา ถามว่ารักกันไหมมันก็ยังรักกันแหละ ตอนนี้ก็ยังอยู่ในสถานะของเพื่อนเหมือนเดิมหรือว่าเรายังจับได้ว่าเขามีคนอื่น?เรื่องนั้นไม่มีค่ะ เรื่องผู้หญิง สิ่งที่เขาเคยทำไม่มี เขาไม่ได้ทำอะไรไม่ดีตอนนี้เปิดใจไหม?ก็เปิดนะ ก็มีคนเข้ามาบ้าง แต่ตอนนี้อย่างที่บอกว่าโรคระบาดมันระบาดขนาดนี้ไม่กล้าไปเดตกับใคร ไม่กล้าเลย เราไม่รู้ว่าคนที่เราไปเดตเขาไปเจอใครมาบ้าง มันจะมีการติดๆ กันมาเป็นห่วงโซ่รึเปล่าเราก็ไม่มั่นใจ เอาตัวเองให้เซฟไว้ก่อน ตอนนี้ก็คือโสดสนิทค่ะ เปิดนะคะแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ขอให้โรคระบาดผ่านพ้นไปก่อน | ดาว พิมพ์ทอง ไม่ไปต่อ พอร์ช ศรัณย์ หลังฝ่ายชายตามง้อ แต่ติดปัญหาในเรื่องไลฟ์สไตล์ ตอนนี้โสดสนิท โควิด-19 หยุดระบาดค่อยเปิดใจ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ดาว พิมพ์ทอง,พอร์ช ศรัณย์,ดาว พอร์ช ความรัก,ดาว พอร์ช,คู่รักดารา,ข่าวดารา,ดาว พอร์ช เลิก,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1796939 |
Kitaohji ไคเซกิส่งตรงจากกินซ่า | ของญี่ปุ่น ปัจจุบันอายุเกือบ 90 ปี และมีสาขาทั่วกรุงโตเกียวกว่า 12 แห่ง อาทิ กินซ่า ชินจูกุ อากาซากะ ส่วนที่กรุงเทพฯ นับเป็นสาขาแรกนอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเกิดจากความชื่นชอบของคุณสันติ ภิรมย์ภักดี หนึ่งในผู้บริหารเครือบุญรอดที่เดินทางไปกินบ่อย จนติดต่อและร่วมทุนกับคิตะโอจิเปิดสาขาแรกขึ้นในกรุงเทพฯ,อาหารไคเซกิไม่ใช่สิ่งใหม่ของวงการร้านอาหารญี่ปุ่นบ้านเรา แต่ยังมีคนรู้จักไม่มากนัก การมาของคิตะโอจิจึงเป็นโอกาสดีที่คนไทยจะได้เรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรมการกินแบบไคเซกิ ซึ่งถือว่าเป็นอาหารมื้อพิเศษที่คนญี่ปุ่นมักจะเตรียมไว้ให้กับแขกคนสำคัญโดยเฉพาะ เสิร์ฟเป็นคอร์ส เน้นวัตถุดิบชั้นดีตามฤดูกาลของญี่ปุ่น โดยนำเสนออาหารที่มีกลิ่น เนื้อสัมผัส สีสัน กรรมวิธีการปรุงที่หลากหลาย ศิลปะการจัดจาน และการคัดเลือกภาชนะเป็นพิเศษ,คิตะโอจิในญี่ปุ่นแตกต่างจากบ้านเราไม่มาก ปรับบางอย่างให้เข้ากับคนไทย ในญี่ปุ่นมื้ออาหารไคเซกิต้องใช้เวลาจองยาวนาน ส่วนในบ้านเรามากินได้เลยไม่ต้องจอง ในญี่ปุ่นเสิร์ฟเฉพาะเนื้อวากิวจากร้านเนื้อวากิวที่ส่งให้กับราชวงศ์ญี่ปุ่นเท่านั้น ส่วนในบ้านเรามีให้เลือกทั้งไคเซกิเนื้อวากิวและปูจากฮอกไกโด มีทั้งหมด 3 ชนิด อาทิ ปูขน ปูทาราบะ และปูซูไว,เราชิม Hairy Crab Kaiseki Course 7 คอร์ส เชฟนำเสนอรสชาติและกรรมวิธีที่ต่างกันของวัตถุดิบ เรียกน้ำย่อยด้วยเนื้อปลาปรุงต่างกัน อาทิ ลูกชิ้นปลามากุโระ ปลาไหลไข่หวาน มะเขือม่วงกับมันอิโมะ ตามด้วยคอร์สซาซิมิก่อนเข้าสู่อาหารจานหลัก ปูขนนึ่ง เสิร์ฟแบบเย็น กินกับมันปูและซอส ให้รสธรรมชาติที่มีกลิ่นอายของทะเล คั่นด้วยไข่ตุ๋นกับหอยเม่น ตามด้วยคอร์สของเทมปุระ คอร์สของเส้น เส้นโซเมงเย็นฉ่ำกับปลา ปิดท้ายด้วยของหวาน หรือถ้าอยากได้ไคเซกิพิเศษ อาจจะต้องขอให้เชฟเตรียมล่วงหน้า 5 วัน กับ Chefs Special Course รับรองว่าได้มื้อพิเศษแน่นอน,ส่วนอะลาคาร์ตใครชอบเนื้อวากิวหรือปูก็สั่งแยกได้ อาทิ Wagyu Hoba เนื้อวัวคะโงะชิมะ เกรดเอ 4 ย่างกับใบโฮบะ กินกับมิโซะผสมส้มยูซุและเกลือ Taraba ปูทาราบะย่างเนย เนื้อหวานปนเค็มน้ำทะเล หรือถ้าใครชอบซูชิ ก็มีเชฟซูชิปั้นมาใหม่ๆ ให้กินเช่นกัน,ร้านตั้งอยู่ที่ 212 ถนนสุขุมวิท ซอย 55 (ซอยทองหล่อ 8) เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เปิดบริการ 18.00-23.00 น.,ที่มา : ,กรูเม่ต์ | เดิม Kitaohji เริ่มต้นธุรกิจเรียวกัง ก่อนจะเปิดเป็นร้านอาหารสาขาแรกในย่านกินซ่า จนกลายเป็นที่รู้จักในฐานะร้านอาหารไคเซกิอันดับต้นๆ | ไลฟ์สไตล์,อาหาร | อาหารญี่ปุ่น,ไคเซกิ,คิตะโอจิ,Kitaohji,ร้านอาหารสุขุมวิท,ร้านอาหารญี่ปุ่นในสุขุมวิท,รวมร้านอาหารญี่ปุ่นสุขุมวิท,รวมร้านอาหารซอยสุขุมวิท,ร้านอาหารซอยทองหล่อ8,Wagyu Hoba,นิตยสารกรูเม่ต์,ร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย,ข่าว,ข่าวไลฟ์สไตล์,ข่าวไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ,รวมไลฟ์สไตล์,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/540239 |
กระหึ่มโลก ศรีสะเกษ ผงาดนักชกยอดเยี่ยมแห่งปี | เลือกให้เป็นนักชกแห่งปี 2017 เหนือนักชกดังของโลกรายอื่นๆ จากผลงานการพิชิต โรมัน 2 ครั้งซ้อนภายในปีเดียวกัน,วันที่ 28 ธ.ค.60 เจ้าแหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น แชมป์โลกรุ่นซุปเปอร์ฟลายเวทสภามวยโลก สร้างชื่อยิ่งใหญ่กระหึ่มโลกอีกรอบ เมื่อ HBO สถานีโทรทัศน์ที่เป็นผู้ถ่ายทอดสดการแข่งขันมวยสากลที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้คัดเลือกนักชกแห่งปี 2017 ของสถานี โดยการโหวตเลือกนักชกแห่งปีตามผลงานและความเหมาะสมในปี 2017 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า จำนวน 6 คน ได้เลือกให้ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น เป็นนักชกแห่งปี เอาชนะคะแนน อังเดร วอร์ด ที่ได้ 5 คะแนน รองลงมาคือนักชกอีก 3 คน ที่ได้รับผลโหวตคนละ 1 คะแนน ประกอบไปด้วย แดนนี จาค็อบส์, ซาอูล คาเนโล อัลวาเรซ, และแอนโธนี โจชัว,โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลตรงกันว่า ศรีสะเกษ เดินทางมาสหรัฐฯครั้งแรก สามารถพลิกล็อกคว้าแชมป์โลกรุ่นซุปเปอร์ฟลายเวทสภามวยโลกสมัยที่ 2 ด้วยการพลิกเอาชนะคะแนนยอดนักชกอันดับ 1 ของโลก เมื่อเทียบปอนด์ต่อปอนด์ โรมัน กอนซาเลซ ไปแบบดุเดือดเหนือความคาดหมาย ที่เมดิสัน สแควร์ การ์เด้น สหรัฐฯ รวมถึงสามารถป้องกันแชมป์ด้วยการเอาชนะน็อกโรมัน กอนซาเลซ ในยกที่ 4 ที่สหรัฐฯ ได้สำเร็จภายในปีเดียวกัน ภายใต้การถ่ายทอดสดของ HBO ทั้ง 2 ครั้ง และเป็นนักชกไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้จาก HBO,ตอนนี้ เจ้าแหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น แชมป์โลกชาวไทย รุ่นซุปเปอร์ฟลายเวทสภามวยโลก กำลังฟิตซ้อมเพื่อเตรียมขึ้นชกป้องกันแชมป์กับฮวน ฟรานซิสโก เอสตราดา รองแชมป์โลก อันดับที่ 1 จากเม็กซิโก ในวันที่ 24 ก.พ.ปีหน้า ที่เวที เดอะ ฟอรัม แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการจัดโดย HBO ทีวีดังสหรัฐฯ ผู้ถ่ายทอดสดมวยสากลอาชีพระดับโลก ร่วมกับเคทู โปรโมชั่นด้วย,สำหรับรางวัลนักชกยอดเยี่ยมนี้เป็นรางวัลที่ 3 ของศรีสะเกษ หลังผ่านเข้าชิงรางวัลยอดเยี่ยมแห่งปีของสื่อดังต่างประเทศต่อเนื่อง รวมทั้งของสภามวยโลกที่จะประกาศผลปลายปีนี้ โดยผ่านเข้าชิงรางวัลนักชกยอดเยี่ยมแห่งปีของ เดอะริง และก่อนนี้เพิ่งได้รับรางวัลนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยมของการกีฬาแห่งประเทศไทยประจำปีนี้ ในงานวันนักกีฬาแห่งชาติ เมื่อ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนมาคว้ารางวัลอันดับ 1 ในรางวัล 10 ยอดนักชกแห่งปี 2017 ของเว็บ เรียลสปอร์ต | เจ้าแหลม ศรีสะเกษ นคร-หลวงโปรโมชั่น แชมป์โลกชาวไทย สร้างชื่อกระหึ่มโลกอีกครั้ง เมื่อได้รับเลือกจาก HBO ทีวีดังสหรัฐฯ ผู้ถ่ายทอดสดการแข่งขันมวยสากลที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | ศรีสะเกษ,ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1164662 |
หญิงวัย 68 ควบเก๋งมุ่งหน้าเชียงใหม่ เสียหลักชนต้นยางดับ | วันที่ 23 มี.ค. ร.ต.ท.สุวิน ชัยคำหล้า พงส สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่า บนถนนสายเก่า ลำพูน - เชียงใหม่ หมู่ 7 ต.สารภี อ.สารภี มีรถเก๋งชนต้นไม้ยางข้างทาง มีคนขับติดอยู่ในรถ จึงรุดไปสอบสวน ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีเทาบรอนช์ ทะเบียน กต 9176 เชียงราย ด้านหน้ายุบพังเสียหาย กระจกด้านหน้าแตก เจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.สารภี ใส่สายน้ำเกลือและช่วยปั๊มหัวใจหญิงคนขับที่ติดอยู่ด้านหน้าคนขับ เลือดอาบใบหน้า ไม่ได้สติ,ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ชีพตำรวจทางหลวง ได้นำรถอุปกรณ์ตัดถ่างมาช่วยเหลือ พร้อมกู้ชีพที่อื่นๆ ได้มาช่วยเหลือ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถนำร่างหญิงคนขับออกมาได้ ก่อนที่ทางกู้ชีพ รพ.สารภี จะรีบนำตัวส่ง รพ. ใกล้กับที่เกิดเหตุ ทราบชื่อคือ นางปรียานาถ ทรงสุวรรณ อายุ 68 ปี ชาวพื้นที่หมู่ 7 ต.อุโมงค์ อ.เมือง จ.ลำพูน และเสียชีวิตก่อนถึงมือแพทย์ สภาพศพใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด ไหลออกทางจมูกและปาก หน้าอกยุบ ซี่โครงหัก และเสียชีวิตในที่สุด,เจ้าหน้าที่สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ตายขับรถมาคนเดียวจากตัวเมืองลำพูน จะไปทางในเมืองเชียงใหม่ พอมาถึงที่เกิดเหตุไม่ทราบด้วยเหตุใด รถที่ขับมาก็เสียหลักแฉลบพุ่งชนต้นยาง ขนาดหลายคนโอบ ด้านขวามือ ซึ่งคนที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้ยินเสียงดังสนั่น,อย่างไรก็ตาม หลังจากสอบสวนแล้ว จะได้แจ้งให้ทางญาติทราบ เพื่อมารับศพไปประกอบพิธี ส่วนทรัพย์สินทางราชการไม่มีเสียหาย ก่อนจะลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการต่อไป. | หญิงวัย 68 ขับเก๋งจากลำพูนไปเชียงใหม่ เกิดเสียหลักชนต้นยางขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่กู้ชีพยื้อชีวิตอยู่นาน สุดท้ายเสียชีวิตที่ รพ. ก่อนถึงมือแพทย์ | ข่าว,ทั่วไทย | ยื้อ,ยื้อไม่ไหว,ควบเก๋ง,เสียหลัก,ชนต้นไม้,ลำพูน,เชียงใหม่,เจ้าหน้าที่กู้ชีพ,ข่าว,ข่าวสังคม,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/488592 |
สดศรี เผยอนุฯ สอบปมเงินบริจาค ปชป. ขอขยายเวลา | บริจาคให้แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ และกรณีเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาทที่อาจมีการใช้ผิดวัตถุประสงค์นั้น ได้รายงานมายังตนว่า ยังสอบสวนไม่เสร็จ จึงต้องขอขยายเวลาอีก หลังจากได้ขอขยายเวลาการไต่สวนในครั้งก่อนอีก 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดที่ต้องรายงานผลการไต่สวนต่อที่ประชุม กกต. ในวันที่ 29 ก.ย.นี้ เพราะนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้บริหารบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ยังไม่ได้มาให้ถ้อยคำต่ออนุกรรมการ และยังมีเอกสารหลักฐานที่ กกต.ได้ขอจากบริษัทหลายหน่วยงานที่ขอให้ส่งมา กกต.แต่ก็ยังไม่ได้รับ รวมทั้งเอกสารบัญชีงบดุลที่ กกต.ยังไม่ได้รับจากบริษัท เมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ส่งหนังสือลายลักษณ์อักษรคำชี้แจงมาให้ กกต.แล้ว ทั้งนี้ ต้องรอหารือในที่ประชุม กกต.อีกครั้งว่า จะให้อนุกรรมการตัดพยานที่ยังไม่มาให้ปากคำต่อ กกต.ทิ้งไปหรือไม่ | วันนี้ (28ก.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.กล่าวว่า ฝ่ายเลขาอนุกรรมการไต่สวนกรณีสำนวนเงินบริจาค 258 ล้านบาท ที่มีการกล่าวหาว่า บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) | การเมือง | กกต.,คณะกรรมการการเลือกตั้ง,พรรคประชาธิปัตย์,เงินบริจาค | https://prachatai.com/journal/2009/09/26009 |
ขู่มีระเบิดบนเครื่อง เพิ่งลงจอดสนามบินควีนส์แลนด์ อพยพวุ่น | (ภาพจากยูทูบ : FastestBreakingNews),ระทึกกันทั้งสนามบิน พบข้อความขู่มีระเบิดบนเครื่องบินโดยสารลำหนึ่งของสายการบินแควนตัส เพิ่งมาลงจอดที่สนามบินเมืองควีนส์แลนด์ บนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ ตำรวจรีบอพยพประชาชนทั้งหมดออกจากอาคารผู้โดยสารอย่างเร่งด่วน,เมื่อ 24 ก.ค. 59 สื่อต่างประเทศรายงาน เกิดเหตุระทึก พบข้อความขู่มีระเบิดบนเครื่องบินโดยสารของสายการบินแควนตัส เที่ยวบินหนึ่ง ซึ่งเพิ่งลงจอดที่สนามบินเมืองควีนส์ทาวน์ บนเกาะใต้ของประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อช่วงบ่าย ก่อนเวลา 15.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบอพยพผู้คนออกมาจากอาคารผู้โดยสารของสนามบินอย่างเร่งด่วน และขณะนี้ เครื่องบินลำดังกล่าว ซึ่งคาดว่าเดินทางมาจากประเทศออสเตรเลีย กำลังจอดอยู่ที่สนามบิน,โฆษกของสำนักงานตำรวจในเมืองควีนส์ทาวน์ กล่าวว่า พนักงานทำความสะอาดคนหนึ่งเป็นคนเจอข้อความขู่มีระเบิดบนเครื่องบิน จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอพยพประชาชนออกมาจากอาคารผู้โดยสารทันทีเพื่อความปลอดภัย,จากการเปิดเผยของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์คนหนึ่ง บอกว่าทุกคนที่อาคารผู้โดยสารของสนามบิน ได้ถูกอยพไปอยู่ห่างจากอาคารผู้โดยสารประมาณ 50 เมตร และอยู่ห่างจากเครื่องบินลำที่พบข้อความขู่มีระเบิดราว 100-120 ม. | ระทึกกันทั้งสนามบิน พบข้อความขู่มีระเบิดบนเครื่องบินโดยสารลำหนึ่ง ของสายการบินแควนตัส เพิ่งมาลงจอดที่สนามบินเมืองควีนส์แลนด์ บนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ ตำรวจรีบอพยพประชาชนทั้งหมดออกจากอาคารผู้โดยสารอย่างเร่งด่วน | null | ระเบิด,ขู่มีระเบิด บนเครื่องบิน,ขู่มีระเบิด,ระเบิดบนเครื่องบิน,เครื่องบินโดยสาร,สนามบินควีนส์แลนด์,นิวซีแลนด์,อพยพประชาชน,อาคารผู้โดยสาร,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/671344 |
กุนซือเบลเยียมเผยชื่อ ว่าที่นายใหญ่คนใหม่อาร์เซนอล | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 23 เม.ย. ว่า โรเบร์โต มาร์ติเนซ กุนซือชาวสเปน ที่กำลังนำทัพทีมชาติเบลเยียม ระบุ เธียร์รี อองรี ตำนานกองหน้าของ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล เหมาะสมที่จะเป็นผู้สืบทอดอำนาจต่อจาก อาร์แซน เวนเกอร์,หลังการประกาศอำลาการคุมทีมอาร์เซนอล หลังจบฤดูกาลนี้ของเวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศส ทำให้สื่อหลายสำนักต่างคาดการณ์ถึงตัวผู้จัดการทีมคนใหม่ว่าจะเป็นใคร ล่าสุด มาร์ติเนซ ออกมาเผยว่า ผู้เหมาะสมที่สุดในการคุมทัพปืนใหญ่ในฤดูกาลหน้าคืออองรี,เธียร์รีหลงใหลฟุตบอลมาก เขาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นอะไรที่เกี่ยวกับฟุตบอล เขาเหมาะสมที่จะอยู่กับมัน ที่สำคัญเขามีความชาญฉลาดในเรื่องฟุตบอลอย่างคาดไม่ถึง และเป็นบุคคลที่เข้าถึงนักเตะได้เป็นอย่างดี มาร์ติเนซบรรยายสรรพคุณของอองรี,อดีตกุนซือทีมเอฟเวอร์ตัน กล่าวอีกว่า ประสบการณ์ลูกหนังอันโชกโชนของเธียร์รี สามารถช่วยเหลือนักเตะในทีมได้อย่างแน่นอน,สำหรับ อองรี วัย 40 ปี ทำงานเป็นผู้ช่วยมาร์ติเนซอยู่ในขณะนี้ และในสมัยเป็นนักเตะ ถูกเวนเกอร์คว้าตัวมาร่วมทีมอาร์เซนอล เมื่อปี 1999 จนถึงปี 2007 ก็ย้ายไปร่วมทีมบาร์เซโลนา
| โรเบร์โต มาร์ติเนซ ระบุ เธียร์รี อองรี เหมาะสมที่สุดในการเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของอาร์เซนอล หลังการวางมือของ อาร์แซน เวนเกอร์ | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | อาร์เซนอล,เธียร์รี อองรี,โรเบร์โต มาร์ติเนซ,อาร์แซน เวนเกอร์,ปืนใหญ่ | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1263212 |
ย้าย4บิ๊กพศ. เปิดทางบี้ทุจริต | ปมเงินอุดหนุนวัด สมภารอีสานแฉซํ้า ขอทอนคืนครึ่งนึง,ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ย้าย 4 บิ๊กข้าราชการ พศ.เปิดทางสอบทุจริตเงินอุดหนุนวัด วิจารณ์หึ่ง บุญเลิศ ผอ.กองพุทธศาสนศึกษา อดีตกรรมการสอบลงทัณฑ์บน รอง ผอ.พศ. บกพร่องโอนเงินวัดภาคใต้ปี 59 โดนโยกไปเป็น ผอ.พศจ.ลำปาง สลับเก้าอี้คนเก่าที่มีวัดถูกขึ้นบัญชีสอบถึง 5 แห่ง ตำรวจ ปปป.เดินหน้าดำเนินคดี 4 ผู้ต้องหา เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี จ.อำนาจเจริญ โต้วัดไม่มีส่วนทุจริตเงินอุดหนุน แฉได้รับ 3 ล้าน แต่โดนทอนคืนถึง 50 เปอร์เซ็นต์ อ้างเอาไปช่วยเหลือวัดภาคใต้ หลังเกิดเรื่องถึงกับเครียด,หลังจากมีการเปิดเผยวัด 12 แห่งทั่วประเทศทุจริตเงินงบประมาณอุดหนุนวัดจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ประกอบด้วย 1.วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา 2.วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน 3.วัดห้วยตาแกละ จ.เพชรบุรี 4.วัดราชบุรณะ (วัดนอก) จ.ชุมพร 5.วัดโพธิ์ศรี 6.วัดโคกเลาะ 7.วัดพระศรีเจริญ จ.อำนาจเจริญ 8.วัดวัฒนาราม 9.วัดหาดปู่ด้าย 10.วัดทุ่งต๋ำ 11.วัดบ้านอ้อ และ 12.วัดอุมลอง ทั้ง 5 แห่งอยู่ จ.ลำปาง ตรวจสอบพบว่าหลังให้เงินอุดหนุนวัดดังกล่าวแล้ว มีการขอเงินทอนหรือคืนเงินเพื่อช่วยเหลือโครงการต่างๆ กระทั่งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ประสานตำรวจ บก.ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) บุกค้นบ้านอดีตผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ และข้าราชการระดับสูงของ พศ.ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต,ต่อมาวันที่ 16 มิ.ย. พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีตำรวจ บก.ปปป.บุกค้นบ้านอดีต ผอ.พศ. และผู้บริหารระดับสูงของพศ. คาดว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินอุดหนุนงบประมาณบูรณปฏิสังขรณ์วัดกว่า 60 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ได้ ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ส่วนที่ตำรวจ ปปป.แจ้งผู้ต้องหามาทั้งหมด 4 คน ในจำนวนนี้เกษียณอายุไปแล้ว 1 คน คืออดีต ผอ.พศ. ส่วนอีก 1 คน ออกจากราชการไปแล้ว ที่เหลืออีก 2 คน ยังอยู่ในระบบราชการ ในตำแหน่งบริหารระดับสูง แบ่งเป็นระดับ 9 จำนวน 1 คน และระดับ 8 จำนวน 1 คน และให้บุคคลทั้ง 4 ไปรับทราบข้อกล่าวหากับทาง ปปป. ภายในวันที่ 16 มิ.ย. ทราบว่ามีผู้บริหารระดับ 8 เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ส่วนผู้บริหารระดับ 9 ยังไม่ได้เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาก็เป็นสิทธิของผู้ที่ถูกกล่าวหา ขณะเดียวกัน พศ. ได้ส่งเอกสารการโอนเงินรายปีให้วัดที่เกี่ยวกับรูปคดีไปให้ ปปป. เช่น สลิปการโอนเงิน ตารางการโอนเงิน เป็นต้น,เย็นวันเดียวกัน พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ. ลงนามในคำสั่งที่ 642/2560 เรื่องย้ายข้าราชการ 4 ราย ดังนี้ 1.นายบุญเลิศ โสภา ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนศึกษา เป็นผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ลำปาง 2.นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำปาง เป็นผู้อำนวยการกองพุทธศาสนศึกษา 3.นายอุบลพันธ์ ขันผนึก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำพูน ไปเป็นผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ และ 4.นายประพันธ์ คำจ้อย ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำพูน มีผลตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.2560 เป็นต้นไป,พ.ต.ท.พงศ์พรกล่าวถึงการโยกย้ายครั้งนี้ว่า การโยกย้ายดังกล่าวเพื่อจะตรวจสอบหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะเงินอุดหนุนของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเกี่ยวกับการศึกษาคณะสงฆ์ในกองพุทธศาสนศึกษา และการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ในกองส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เนื่องจากทั้ง 2 ส่วนได้รับงบประมาณจากสำนักงบประมาณค่อนข้างมาก,อย่างไรก็ตาม การโยกย้ายดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มข้าราชการ พศ.อย่างมาก เนื่องจากนายบุญเลิศ โสภา ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนศึกษา ที่ถูกย้ายไปลำปางถือเป็นหนึ่งในผู้บริหาร พศ.ที่ได้รับความไว้วางใจจากพระผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคม (มส.) หลายรูป อีกทั้งนายบุญเลิศ ยังเคยได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อเดือน ส.ค.2559 กรณีนายเสถียร ดำรงคดีราษฎร์ อดีต ผอ.พศจ.สงขลา และ น.ส.ประนอม คงพิกุล รอง ผอ.พศ. ที่มีชื่อในสำนวนการตรวจสอบของศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันจัดสรรเงินให้กับวัด 3 แห่ง ในภาคใต้วัดละ 4 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 12 ล้านบาท แต่มีการเรียกเงินบางส่วนคืน คณะกรรมการชุดดังกล่าวสรุปว่าพบความบกพร่องในการทำงานของทั้ง 2 คน ในส่วนของ น.ส.ประนอม พบกระทำผิดพลาดตามขั้นตอนของการจัดสรรเงิน แต่ไม่มีเจตนากระทำผิด ไม่มีบทลงโทษทางวินัย แต่ให้ถือว่าติดทัณฑ์บนไว้ ส่วนนายเสถียร พบความผิดพลาดกรณีการโอนเงินให้วัด มีความผิดทางวินัย แต่เมื่อโดนมาตรา 44 ให้พักงานแล้ว ถือว่าถูกลงโทษทางวินัยไปแล้ว,ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 14.00 น. วันที่ 16 มิ.ย. นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตเรียกคืนเงินอุดหนุนวัดว่า พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แจ้งความดำเนินคดีกับข้าราชการสังกัด พศ.ที่เกี่ยวข้องทั้ง 8 คนแล้ว เป็นข้าราชการ 4 คน และพลเรือน 4 คน ถ้าทั้ง 4 คน เป็นข้าราชการยังอยู่ในหน้าที่อาจต้องพักงานและตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย เมื่อถามว่าต้องกำหนดระเบียบรับเงินบริจาคเข้าวัดหรือไม่ นายออมสินตอบว่า การบริจาคเงินให้วัดเป็นศรัทธาของประชาชน คงต้องไปดูอีกครั้งหนึ่ง เพราะวัดเป็นนิติบุคคล มีเจ้าอาวาสเป็นผู้มีอำนาจดำเนินการเรื่องต่างๆ มีไวยาวัจกรวัดและคณะกรรมการวัดร่วมพิจารณาด้วย ดังนั้น ต้องดูเป็นเรื่องๆไป เพราะจะไปกระทบกับพระค่อนข้างเยอะ พระส่วนใหญ่ไม่ได้มีความผิดด้วย เหมือนกับท่านถูกหลอก อาจมองได้ว่าท่านไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะท่านไม่ได้รู้ ทั้งนี้ เชื่อว่าประชาชนจะยังไม่เสื่อมศรัทธาในศาสนา แต่เรื่องมีการทุจริตเป็นอีกเรื่องหนึ่ง,วันเดียวกัน พระปลัดศักทวี สิริธโร เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี บ้านกุดซวย ต.คำพระ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ 1 ในวัดที่ถูกระบุว่าทุจริตเงินอุดหนุนวัดและนายบรรพต บุญทน ไวยาวัจกรวัดโพธิ์ศรี เปิดเผยรายละเอียดเรื่องดังกล่าวว่า ปี 2554 วัดโพธิ์ศรีเขียนโครงการไปที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเพื่อขอรับเงินอุดหนุนก่อสร้างศาลาการเปรียญและปรับปรุงวัด ต่อมาปี 2555 วัดได้รับเงินอุดหนุนจำนวน 3 ล้านบาท แต่หลังได้รับมาแล้ว มีเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมาติดต่อขอเงินคืน 50 เปอร์เซ็นต์เพื่อจะนำไปช่วยเหลือวัดภาคใต้ที่กำลังเดือดร้อน,วัดคืนเงินครึ่งหนึ่งคือ 1.5 ล้านบาทแล้วนำเงินส่วนที่เหลือมาสร้างศาลาการเปรียญ และปรับปรุงซุ้มประตูโขงทางเข้าวัด และบริเวณโดยรอบ งบที่ได้ยังสร้างศาลาการเปรียญไม่แล้วเสร็จ ต้องขอรับบริจาคผ้าป่าเพิ่มอีกมากกว่าจะแล้วเสร็จ ขณะนี้ยอมรับว่าเครียดมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ขอยืนยันวัดไม่มีส่วนข้องกับการทุจริตงบอุดหนุนแต่อย่างใด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นเสมือนพี่เลี้ยงให้วัด คิดว่าสิ่งที่เขาแนะนำให้ทำคงจะถูกระเบียบ เพราะพระไม่รู้ระเบียบของทางราชการ เลยทำตามที่เขาบอก ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีกล่าว,ด้านนายสมาน นัดดาวงษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.หนองแก้ว อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ เปิดเผยกรณีวัดโคกเลาะ ต.หนองแก้ว อ.หัวตะพาน เป็น 1 ใน 3 วัด จ.อำนาจเจริญ ทุจริตเงินอุดหนุนวัดว่าวัดโคกเลาะได้เขียนโครงการขอรับการงบอุดหนุนจำนวน 10 ล้านบาท เมื่อปี 2554 แต่ได้รับงบประมาณมา 8 ล้านบาท เมื่อปี 2555 เป็นการแบ่งจ่ายเป็นงวดรวม 3 งวด ทางวัดนำเงินมาสร้างศาลาการเปรียญวัดและปรับปรุงบูรณปฏิสังขรณ์ภายในวัดและโอนเงินคืนให้สำนักงานพระพุทธศาสนา 8 แสนบาท,ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดพระศรีเจริญ ต.รัตนวารี อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ที่ถูกระบุทุจริต เงินดังกล่าวเช่นกัน ได้รับแจ้งจากพระลูกวัดว่า เจ้าอาวาสไม่อยู่ เนื่องจากมีอาการอาพาธต้องนอนพักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลหัวตะพาน ส่วนเรื่องเงินงบประมาณทราบเพียงว่าวัดได้รับเงินอุดหนุนมา 5 ล้านบาท และคืนให้สำนักงานพระพุทธศาสนาครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือเอาไปซื้อที่ดินและสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม | ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ย้าย 4 บิ๊กข้าราชการ พศ.เปิดทางสอบทุจริตเงินอุดหนุนวัด วิจารณ์หึ่ง บุญเลิศ ผอ.กองพุทธศาสนศึกษา อดีตกรรมการสอบลงทัณฑ์บน รอง ผอ.พศ. บกพร่องโอนเงินวัดภาคใต้ปี 59 | ข่าว,ทั่วไทย | ย้ายบิ๊กข้าราชการ,สำนักงานพระพุทธศาสนา,ทุจริตเงินอุดหนุนวัด,พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/975367 |
ยาบ้าทะลักเชียงราย ตร.-ทหาร รวบ2ราย ได้ของกลาง 2.74ล้านเม็ด ไอซ์ 10กก. |
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 27 ก.ค. 60 ขณะที่ ร.ต.ท.ชาญศักดิ์ วุฒิอดิเรก รองสวป.สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ร.ท.วัชรพงษ์ จันทร์คำ ฝ.3 ทพ.31 สนธิกำลัง ตชด.327 ตั้งด่านตรวจค้นยาเสพติดที่ด่านกิ่วทัพยั้ง บนถนนพหลโยธิน บ.ปงตอง ม.5 ต.แม่จัน พบรถเก๋งโตโยต้า วิส สีดำ ทะเบียน ษย 2861 กรุงเทพฯ ผ่านมาจึงให้สัญญาณหยุดเพื่อขอทำการตรวจค้น พบ นายปิติ นะดี อายุ 33 ปี อยู่บ้านที่ 9 หมู่ 1 ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เป็นคนขับ จากการตรวจค้นพบกระสอบฟาง 7 กระสอบ บรรจุยาบ้า 740,000 เม็ด วางอยู่บนเบาะนั่งด้านหลัง สอบสวนเบื้องต้นสารภาพรับยาบ้ามาจากโลตัสแม่สาย จะไปส่งที่ กรุงเทพฯ
,ส่วนอีกราย เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 27 ก.ค. 60 ขณะที่เจ้าหน้าที่ ชป.สภ.แม่จัน ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด บริเวณปากทางเข้าสามแยก บ.กิ่วพร้าว ต.จันจว้าใต้ อ.แม่จัน พบรถปิกอัพโตโยต้ารุ่นไฮลักซ์ วีโก้ สีขาว ทะเบียน กจ 775 น่าน ขับผ่านมาเจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถ แต่เมื่อรถคันดังกล่าวพบเจ้าหน้าที่ได้รีบขับรถถอยหลังเพื่อหลบหนี แต่เสียหลักไปชนกับหลักกิโล และไม่สามารถขับต่อไปได้ จากนั้นชาย 2 คนที่นั่งอยู่บนรถได้เปิดประตูรถออกมาวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงแบ่งกำลังไล่ติดตาม และจับ นายธงชัย แซ่เฮ้อ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 ม.6 ต.สะเนียน อ.เมืองน่าน จ.น่าน คนขับรถไว้ได้ ส่วนชายอีกคนได้วิ่งหลบหนีหายไป จากการตรวจสอบที่ท้ายกระบะหลังรถมีฝาแคร์รี่บอยปิดอย่างดี พบกระสอบฟาง 11 ใบ บรรจุยาบ้า 2,000,000 เม็ด ยาไอซ์ 10 กก. จึงยึดไว้เป็นของกลาง นำส่ง พงส.สอบสวน สภ.แม่จัน สอบสวนขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี.,
| ยาบ้าทะลัก!! จับ 2 รายที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้ของกลาง 2.74 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 10 กก. และรวบผู้ต้องหาได้ 2 ราย ทหาร-ตร.เตรียมขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี | ข่าว,ทั่วไทย | จับยาบ้าแม่จัน,ด่านกิ่วทัพยั้ง,แก๊งค้ายาบ้า,จุดตรวจบ้านกิ่วพร้าว,เชียงราย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1017789 |
ข้องใจทีมชาติไทย | เรียน คุณโจ้ ประจัญบาน,ข่าววงการกีฬาไทยช่วงนี้คงหนีไม่พ้นข่าวฟุตบอลไทยที่มีผลงานตกต่ำจากการแข่งขันฟุตบอล ซูซูกิคัพ จนมาถึงฟุตบอล เอเชียนคัพ ที่ลุ้นกันอย่างหนักหน่วงกว่าจะเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ขนาดปลด มิโลวาน ราเยวัช โค้ชต่างประเทศที่สมาคมกีฬาฟุตบอลคิดว่าดีที่สุดกลางอากาศ กระแสเลยไปถึงให้ปลดหรือให้นายกสมาคมฯคนปัจจุบัน แสดงสปิริตลาออก ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยพูดไว้แล้วว่า ถ้าทีมไม่ประสบความสำเร็จจะลาออก,คำพูดที่ออกมาจากปากระดับผู้ใหญ่ที่เคยเป็นผู้นำองค์กรของหน่วยงานที่เปรียบเสมือนเป็นกองทัพถือเป็นนาย อาชีพตำรวจก่อนที่จะมาเป็นนายกสมาคมฯ ท่านบอกว่าเป็นงานไซด์ไลน์หรืองานอดิเรก ส่วนงานหลัก คืองานที่ไปทำกับข้างนอก เล่นเอาข้าราชการสีเดียวกันด่ากันขรม,ผมและประชาชนอีกเป็นจำนวนมากมีข้อข้องใจกับทีมฟุตบอลทีมชาติไทยยุคนี้ที่ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ใช้โลโก้ตราช้างศึกติดที่หน้าอกด้านซ้ายและติดโลโก้สปอนเซอร์ด้านขวามือ ใช้ชื่อว่า ทีมช้างศึก ทีมชาติไทย สมาคมฯส่งในนามทีมชาติไทย มันก็ควรจะติดธงไตรรงค์หรือธงชาติไทยที่อกด้านซ้าย แสดงถึงความเป็นไทยแล้วเอาตราโลโก้ช้างศึกมาติดที่หน้าอกด้านขวามือก็ย่อมทำได้,จะบอกว่าโลโก้ช้างศึกก็มีชื่อภาษาอังกฤษว่า THAILAND ด้านบนแล้ว ด้านล่างเป็นรูปหัวช้างใส่สีแดง ขาว น้ำเงิน ก็สีธงชาติไทยแล้ว มันไม่ใช่หรอกครับ ถ้าลงแข่งในนามทีมชาติไทยก็ต้องติดธงไตรรงค์ ส่วนช้างศึกก็ไว้อีกด้านหนึ่งดูจะถูกต้องและเหมาะสม ก็อยากให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยดำเนินการให้ถูกต้องและเหมาะสมเขาทำกันมานานแล้ว จะเปลี่ยนทั้งทีทำให้มันดี ถูกต้องและเหมาะสม,อีกเรื่องหนึ่งผมก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง เรื่องรักชาติก็เหมือนกับทุกคน เวลาเพลงชาติไทยเปิดให้ทีมก่อนแข่งขันอยากให้นักกีฬาร้องให้เต็มปาก เต็มคำ ไม่ใช่อ้อมๆแอ้มๆ แล้วร้องเสียงให้มันดังหน่อย ตัวผมเองเวลาเคารพธงชาติ 08.00 น. จะร้องเพลงชาติไทย รวมถึงคนไทยร้องให้ดังกระหึ่มให้ชาวต่างชาติเขารู้ว่าคนไทยเลือดรักชาติมันแรง,ผมก็อยากจะฝากถึงผู้ใหญ่ช่วยดำเนินการและพัฒนาให้มันดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ใช่พัฒนาแล้วแย่ลง อะไรที่มันไม่มีก็ทำให้มันมี อะไรที่มีอยู่แล้วก็ทำให้มันดีขึ้น,จากคนไทยคนหนึ่ง,ถือเป็นคำแนะนำที่ดี ซึ่งผมก็เข้าใจทั้งคนที่เสนอแนะและสมาคมฟุตบอลที่ต่างก็มีมุมมองที่แตกต่างกัน แต่มีเจตนารมณ์ที่เหมือนกันคือต้องการเห็นทีมชาติไทยมีผลงานที่ดีไปถึงฝั่งฝันและมีภาพลักษณ์ที่ดีด้วย จากนี้คงเป็นหน้าที่ของสมาคมลูกหนังจะมีวิธีปรับอย่างไรเพื่อให้ลงตัวและถูกใจทั้งสมาคมและแฟนบอล ผมในฐานะสื่อกลางขอเป็นกำลังใจและเอาใจช่วยทั้งสองฝ่าย.,ขอบคุณภาพจาก : ,ฟุตบอลทีมชาติไทย,โจโจ้ | ข่าววงการกีฬาไทยช่วงนี้คงหนีไม่พ้นข่าวฟุตบอลไทยที่มีผลงานตกต่ำจากการแข่งขันฟุตบอล ซูซูกิคัพ จนมาถึงฟุตบอล เอเชียนคัพ ที่ลุ้นกันอย่างหนักหน่วงกว่าจะเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย | null | ช้างศึก,มิโลวาน ราเยวัช,ฟุตบอลทีมชาติไทย,เรียงหน้าชน,โจโจ้ | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1471478 |
จี้ทหารปล่อย ฐนกร โพสต์ข้อมูลราชภักดิ์ ถูกคุมตัวหายลึกลับ 4 วัน-ไม่อยู่ในมทบ.11 | ตามที่นายฐนกร ศิริไพบูลย์ พนักงานบริษัทเอกชน ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวจากบริษัทเอกชนย่านสมุทรปราการเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2558 จากกรณีที่พล.ต.วิจารณ์ จดแตง พร้อมด้วย พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวหาว่า นายฐนกรกระทำความผิดตามมาตรา 14 พระราชบัญญัติการกระทำความความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 112 และมาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญา เนื่องจากการโพสต์ข้อมูลการทุจริตในการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับการติดต่อจากญาตินายฐนกร เพื่อให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2558 จึงได้ติดตามสอบถามไปยังเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี ซึ่งตั้งอยู่ในมณฑลทหารบกที่ 11 แต่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้แจ้งว่า ไม่มีตัวนายฐนกรอยู่ในความควบคุม และไม่ทราบว่านายฐนกรอยู่ที่ใด ในขณะที่เจ้าหน้าที่ไม่ทราบสังกัด นอกเครื่องแบบ อีกรายหนึ่งได้แจ้งว่า การควบคุมตัวนายฐนกร เป็นการควบคุมตัวตามอำนาจในมาตรา 44 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ซึ่งไม่สามารถแจ้งได้ว่านายฐนกรถูกควบคุมตัวอยู่ที่ใดต่อมาวันที่ 11 ธ.ค.2558 ญาตินายฐนกรได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจสมุทรปราการว่า คดีดังกล่าวมีการแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม ให้ลองไปสอบถามข้อมูลที่ดังกล่าว ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน จึงได้ไปติดตามที่กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม แต่ไม่พบตัวนายฐนกร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า คดีดังกล่าวได้มีการมาแจ้งความและออกหมายจับแล้ว แต่ยังไม่มีการควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใดทั้งนี้นับแต่ที่นายฐนกร ถูกจับและควบคุมตัวไปโดยเจ้าหน้าที่ทหาร ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2558 จนปัจจุบันเป็นเวลา 4 วัน ที่ญาติและทนายความพยายามติดตามตัวนายฐนกร แต่ไม่ได้รับการแจ้งข้อมูลที่เป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับนายฐนกรได้ และยังไม่ทราบว่า เจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวนายฐนกรไว้ที่ใด และมีชะตากรรมเป็นเช่นไรศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเห็นว่า การที่เจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวบุคคล โดยอาศัยอำนาจตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 3/2558 เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ ซึ่งให้อำนาจควบคุมตัวบุคคลได้ไม่เกินเจ็ดวัน โดยปกปิดสถานที่ควบคุมตัวนั้น เป็นการละเมิดพันธกรณีอนุสัญญาระหว่างประเทศ ว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญ โดยถูกบังคับ (International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance: CED) ซึ่งประเทศไทยได้ลงนามแล้วตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2555 เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการริดรอนสิทธิเสรีภาพของบุคคลโดยเจ้าหน้าที่รัฐ และตามมาด้วยการปกปิดสถานที่ควบคุมตัว ทำให้บุคคลอยู่ภายนอกการคุ้มครองของกฎหมาย ซึ่งตั้งแต่ประกาศใช้คำสั่งดังกล่าวไม่มีกรณีใดเลยที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหรือเจ้าหน้าที่ทหารแจ้งสถานที่ควบคุมตัวอย่างเป็นทางการ ดังนั้นนายฐนกร ศิริไพบูลย์จึงถือเป็นบุคคลที่ถูกบังคับสูญหายตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.2558การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทหารที่ควบคุมตัวบุคคลโดยปกปิดสถานที่นั้น อาจส่งผลให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่นๆ เช่น การทรมาน หรือการฆ่านอกระบอบกฎหมาย และทำให้ผู้ถูกควบคุมตัวขาดหลักประกันสิทธิขั้นพื้นฐานต่าง เช่น สิทธิเข้าถึงทนายความ สิทธิที่จะได้พบญาติ สิทธิที่จะติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอก สิทธิที่จะยื่นคำร้องต่อศาลให้พิจารณาความ ด้วยกฎหมายของการควบคุมตัว เป็นต้น อันเข้าข่ายการควบคุมตัวโดยพลการหรือโดยอำเภอใจ เป็นการละเมิดพันธกรณีตามกติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง หรือ ICCPR ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีและขัดกับมาตรา 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติบัญญัติรับรองสิทธิและเสรีภาพที่ประชาชนเคยได้รับการคุ้มครองตามพันธกรณีระหว่างประเทศที่ไทยมีอยู่แล้วศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน จึงขอเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติเคารพต่อรัฐธรรมนูญและพันธกรณีระหว่างประเทศ ตามที่ประกาศไว้ต่อประชาชนและประชาคมโลก โดยยุติการใช้อำนาจในการควบคุมตัวบุคคลตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 3/2558 และขอให้เปิดเผยสถานที่ ที่ใช้ในการควบคุมตัวบุคคล เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงสิทธิในกระบวนการยุติธรรมตามข้อ 14 กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง | วันนี้ (11 ธ.ค.) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ออกแถลงการณ์ต่อการบังคับให้สูญหาย นายฐนกร ศิริไพบูลย์ ระบุว่า | การเมือง | ฐนกร ศิริไพบูลย์,ทหาร,ละเมิดสิทธิมนุษยชน,ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน,อุทยานราชภักดิ์,เรือนจำชั่วคราวมทบ.11 | https://news.thaipbs.or.th/content/6665 |
เตือนธุรกิจเร่งปรับตัว หลังผู้บริโภครัดเข็มขัดแน่นถึงปลายปี | กรุงเทพฯ-14 ก.ค.48เดิมที่เคยคาดว่า การบริโภคจะชะลอตัวถึงไตรมาส 2 ของปีนี้ แต่จากปัญหาราคาน้ำมันแพงและคนไม่มั่นใจต่อเศรษฐกิจในอนาคต จึงน่าจะทำให้การบริโภคชะลอตัวไปถึงไตรมาส 4 นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยระบุ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากค่าเฉลี่ยของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-มิ.ย.) แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งชี้นำว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน ส่วนสาเหตุมาจากราคาน้ำมันโดยเฉพาะดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้น นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ภาคธุรกิจต้องเร่งปรับตัวรับผลกระทบจากยอดขายที่อาจปรับตัวลดลง โดยเฉพาะในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และรถยนต์ ซึ่งประชาชนจะชะลอการใช้จ่ายเป็นอันดับแรก โดยปัจจัยลบด้านความเชื่อมั่นของประชาชน นอกจากภาวะราคาน้ำมันแพงแล้ว ประชาชนยังห่วงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอันจะส่งผลต่อรายได้ ปัญหาค่าครองชีพ และราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น การขาดดุลการค้าของประเทศ รวมถึงความไม่มั่นใจในสถานการณ์ความมั่นคงทางการเมือง สำหรับตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเดือนมิ.ย.นั้น ในส่วนของตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนมิ.ย.48 อยู่ที่ 80.5 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 79.6 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตเท่ากับ 96.9 | กรุงเทพฯ-14 ก.ค.48 เดิมที่เคยคาดว่า การบริโภคจะชะลอตัวถึงไตรมาส 2 ของปีนี้ แต่จากปัญหาราคาน้ำมันแพงและคนไม่มั่นใจต่อเศรษฐกิจในอนาคต จึงน่าจะทำให้การบริโภคชะลอตัวไปถึงไตรมาส 4 นายธนวรรธน์ พลวิชัย | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/07/4866 |
ชาวแปดริ้วนำหลวงพ่อโสธรประดิษฐานบนเรือ แห่ทางน้ำ ประเพณีเก่าแก่ 100 ปี | วันที่ 2 พ.ย.60 บริเวณริมท่าน้ำวัดโสธรวรารามวรวิหาร นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานประกอบพิธีบูชาหลวงพ่อโสธรบนเรือประดิษฐานองค์หลวงพ่อโสธร ก่อนตีฆ้องและจุดประทัดเปิดขบวนแห่พระพุทธโสธรทางน้ำ ประจำปี 2560 เนื่องในงานนมัสการหลวงพ่อโสธรและงานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมี พระธรรมมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยนายกิตติพันธุ์ โรจนชีวะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ พุทธศาสนิกชนชาวฉะเชิงเทรา เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก ,ในปีนี้ ขบวนแห่หลวงพ่อโสธรทางน้ำกำหนดจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 2 และวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2560 โดยในวันแรกขบวนแห่อัญเชิญหลวงพ่อโสธรจะล่องไปตามลำน้ำบางปะกง ผ่านอำเภอบ้านโพธิ์ อำเภอบางปะกง และในวันที่สองขบวนเรือฯ ขบวนแห่อัญเชิญหลวงพ่อโสธร เคลื่อนขบวนออกจากท่าน้ำวัดโสธร ล่องไปทางวัดจุกเฌอ วัดสมานรัตนาราม วัดสาวชะโงก เขตอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา อำเภอคลองเขื่อน และอำเภอบางคล้า ,สำหรับประเพณีการแห่หลวงพ่อโสธรทางน้ำถือเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่ดั้งเดิม นับเป็นเวลา 100 กว่าปีแล้ว โดยมีสาเหตุมาจากการเกิดโรคระบาดทางน้ำและชาวบ้านร่วมใจกันบนบานองค์หลวงพ่อโสธรให้ช่วยขจัดปัดเป่าโรคภัย โดยอัญเชิญหลวงพ่อโสธรแห่ทางน้ำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ถือเป็นประเพณีของจังหวัดฉะเชิงเทราที่ประชาชนรอคอยขบวนองค์หลวงพ่อโสธรผ่านทางน้ำ เพื่อให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนตั้งอยู่สองฟากฝั่งแม่น้ำบางปะกงได้มีโอกาสสักการบูชาขอพรหลวงพ่อโสธร โดยในแต่ละชุมชนจะมีการตั้งโต๊ะสักการะและมีประชาชนลงเรือเพื่อกราบไหว้ปิดทองเป็นจำนวนมาก เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว. | พุทธศาสนิกชนชาวฉะเชิงเทราทำพิธีบูชาหลวงพ่อโสธร ประดิษฐานบนเรือ ก่อนเริ่มแห่หลวงพ่อโสธรทางน้ำ ประจำปี 2560 วันที่ 2-3 พ.ย. ประเพณีเก่าแก่ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมานานกว่า 100 ปี | ข่าว,ทั่วไทย | หลวงพ่อโสธร,แห่พระ,แห่หลวงพ่อโสธรทางน้ำ,ฉะเชิงเทรา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1114569 |
บราซิล เปิดสนาม คาสเตเลา อารีน่า ใช้บอลโลก 2014 | นางดิลมา รูสเซฟ ประธานาธิบดีหญิงของบราซิล ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดสนาม คาสเตเลา อารีน่า อย่างเป็นทางการ ถือเป็นสนามแรกในที่ใช้ในฟุตบอลโลกที่บราซิลสร้างเสร็จโดยสนามคาสเตเลาอารีน่า เป็น 1 ใน 12 สนามที่จะใช้ในฟุตบอลโลกตั้งอยู่ในเมือง ฟอตาเลซ่า ทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล ใช้งบประมาณปรับปรุงทั้งสิ้นประมาณ 250 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7500 ล้านบาท และจุผู้ชมได้ 67000 คนสนามคาสเตเลา อารีน่าใช้ในฟุตบอลโลกทั้งหมด 6 นัด รวมถึงทีมชาติบราซิลจะได้ลงเล่นรอบแรกที่สนามแห่งนี้ และ การแข่งขันรอบ 2 และ รอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่สนามคาสเตเลา อารีน่า จะประเดิมใช้ในศึกฟุตบอลคอนเฟดเดอเรชั่นคัพในปีหน้าก่อน ขณะที่สนามมิไนเรา ซึ่งเป็นอีก 1 สนามที่จะใช้ในคอนเฟดเดอเรชั่นคัพเช่นกันจะมีการเปิดตัวในวันที่ 21 ธันวาคมแม้บางสนามในฟุตบอลโลกจะสร้างเสร็จแล้วแต่ฟีฟ่ายังมีความกังวลติดตามการสร้างสนามอีก 5 แห่งที่จะใช้ในฟุตบอลโลกอย่างใกล้ชิด และได้มีการเลื่อนตรวจสนามทั้ง 5 แห่งไปในเดือนมีนาคมปีหน้า | บราซิลเปิดตัวสนาม คาสเตเลา อารีน่า ซึ่งใช้เป็นสนามแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2014 จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(16ธ.ค.) ส่วนสนามอีก 5 แห่งที่จะใช้ในฟุตบอลโลกฟีฟ่าจะติดตามสถานการณ์การก่อสร้างอย่างใกล้ชิด | กีฬา | ดิลมา รูสเซฟ,บราซิล,ฟุตบอลโลก2014,สนามคาสเตเลา อารีน่า | https://news.thaipbs.or.th/content/133536 |
สลด ผัวผู้ใหญ่บ้านผูกคอตายกับขื่อบ้าน คาดน้อยใจเมีย ทำแต่งานไม่ดูแล | เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 28 ตุลาคม 2560 ร.ต.อ.ไชยยันต์ แสงจำปา รอง.สว.(สอบสวน) สภ.ชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ชนแดน ว่ามีเหตุคนผูกคอตายที่บ้านพักอาศัย ต.ชนแดน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น พร้อมด้วย กู้ภัยชนแดนสงเคราะห์ แพทย์เวร โรงพยาบาลชนแดน ไปยังที่เกิดเหตุ พบบ้านสองชั้น ฝาบ้านใช้สังกะสีทำฝาบ้าน และที่หน้าบ้านเขียนว่า ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน พบ นางเอ(นามสมมุติ) อายุ 46 ปี มีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน อยู่บ้านดังกล่าว เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิต เป็นสามีของตนเอง ชื่อ นายบี(นามสมมุติ) อายุ 53 ปี อยู่บ้านเดียวกัน ผู้ใหญ่บ้านหญิงบอกอีกว่า ตนได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้านมา 6 ปี แล้ว,หลังจากได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้านก็ไม่มีเวลาให้กับครอบครัวลูกสาวน.ส.ฟ้า(นามสมมุติ) อายุ 22 ปี และสามี โดยผู้ตายมักจะบ่นน้อยอกน้อยใจ เอาเวลาไปดูแลประชาชนลูกบ้านและคนอื่น อย่างเมื่อ วันที่ 8 – 21 ตุลาคม 2560 ได้รับคำสั่งให้ไปเข้ารับการอบรมที่วิทยาลัยการปกครอง พอกลับมา นางแดง(นามสมมุติ) อายุ 79 ปี แม่ที่อยู่ด้วย ป่วยหนักต้องพาตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก หลายวันต้องไปนอนเฝ้าหลังจาก พาแม่มารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลชนแดน ซึ่งตนเองและลูกสาวต้องไปดูแลนอนเฝ้าแม่ตลอดจนแม่หายนำกลับมาพักที่บ้านตนเองและตนเองได้ไปเตรียมจัดงานกฐินที่วัดวังลาดเลยอีกเลยไม่มีเวลาดูแลสามีทำอาหาร จนสุดท้ายก่อนเกิดเหตุ ลูกสาวมาพบพ่อตัวเองใช้เชือกพรวนสีขาว (เชือกผูกควาย-วัว) แขวนคอกับขื่อบ้านชั้นบนพร้อมกับเขียนจดหมาย บอกว่ารักลูกมาก ทิ้งไว้ข้างศพเสียชีวิตดังกล่าว | สุดสลด! เพชรบูรณ์ ผัว คาด น้อยใจเมียมีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ทำงานมา 6 ปี เอาแต่ไปดูแลลูกบ้าน ใช้เชีอกผูกวัว ควาย ผูกคอตายกับขื่อบ้าน ประชดภรรยาแถมทิ้งจดหมาย บอกรักลูกมาก | ข่าว,ทั่วไทย | ผูกคอตาย,ผัวผู้ใหญ่บ้าน,น้อยใจเมีย,ทิ้งจดหมาย,เพชรบูรณ์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1110525 |
เพนทากอน ยอมรับ ไม่มีทางรู้พลเรือนตายกี่คนในการทิ้งระเบิดโจมตีซีเรีย | ก็เคยประเมินตัวเลขพลเรือนผู้เสียชีวิตต่ำกว่าตัวเลขประเมินอื่นๆ มากเมื่อ 8 มิ.ย. 2561 สื่อ Vox เปิดเผยว่าทางการสหรัฐฯ ออกมายอมรับเองในเรื่องที่พวกเขาไม่ทราบเลยว่าตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมาที่พวกเขาทำสงครามต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายอย่างกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอซิส (ISIS) ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตไปกี่ราย และผู้ที่ให้ข้อมูลในเรื่องนี้คือกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เองพ.อ. โทมัส เวล โฆษกระดับสูงของหน่วยสัมพันธมิตรต่อต้านไอซิสที่นำโดยสหรัฐฯ เปิดเผยต่อสื่อเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ในเรื่องที่ว่าพวกเรารู้หรือไม่ว่ามีพลเรือนเสียชีวิตไปมากเท่าใดนั้น บอกตรงๆ เลยว่า ไม่มีทางที่จะรู้เรื่องนี้ได้เลย ใครก็ตามที่อ้างว่ารู้พวกเขากำลังโกหกเวลกล่าวอีกว่า เมื่อพวกเราประเมินความเสียหายต่อพลเรือนแล้ว มันเหมือนพวกเรากำลังบอกด้วยความแน่นอนในระดับหนึ่งว่าพวกเราได้สังหารคนไปอย่างน้อย X คน และมันเป็นเรื่องที่โชคร้ายอย่างยิ่ง มันแย่ เป็นส่วนที่เลวร้ายของสงคราม และพวกเราก็พยายามพิจารณาจากหลักฐานที่พวกเรามี หลักฐานที่ดีที่สุดที่พวกเรามี แต่ผมผมก็ไม่คิดว่า ไม่คิดว่าพวกเราจะมีวันรู้ พวกเราไม่มีวันรู้จำนวนตัวเลขได้คำให้สัมภาษณ์ของเวลเป็นการโต้ตอบคำถามของนักข่าวเกี่ยวกับรายงานขององค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล ที่ระบุว่าสหรัฐฯ สังหารประชาชนไปหลายล้านคนในช่วงที่มีการสู้รบในเมืองอัลรัคคาที่ไอซิสตั้งเป็นเมืองหลวงของกลุ่มตัวเอง การประเมินจากเหตุการณ์สู้รบดังกล่าวนี้เกิดขึ้นในปี 2560 รวมถึงเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็บอกว่ากองทัพสหรัฐฯ สังหารพลเรือนไปราว 500 ราย ในปี 2560 และทำให้ได้รับบาดเจ็บอีก 169 รายVox ระบุว่าสหรัฐฯ พยายามต่อสู้กับกลุ่มไอซิสด้วยสองวิธี วิธีแรกคือการคิดอาวุธให้กับกลุ่มอื่นๆ ในพื้นที่อิรักและซีเรียที่ต่อสู้กับกลุ่มไอซิสอยู๋ก่อนแล้ว รวมถึงช่วยฝึกซ้อมรบ ส่งเงินทุนให้ และให้การสนับสนุนอื่นๆ กับกลุ่มเหล่านี้ วิธีการที่สองคือการใช้ปฏิบัติการทางอากาศในการทิ้งระเบิดใส่เป้าหมายต่างๆ ที่เป็นของกลุ่มไอซิส เช่น โรงผลิตอาวุธ ขบวนคุ้มกัน ฐานที่มั่น และที่อื่นๆแต่ทว่าการใช้กำลังทางอากาศก็มีข้อเสียถึงแม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะนำมาใช้อ้างว่าประสบความสำเร็จในการกำจัดกลุ่มไอซิส แต่มันก็เป็นวิธีการที่ทำให้พลเรือนรอบบริเวณใกล้เคียงได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะถ้าหากกองกำลังที่นำโดยสหรัฐฯ ไม่มีมาตรการตรวจพิสูจน์เป้าหมายและพื้นที่โดยรอบถึงแม้ว่าจิม แมตทิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมจะเคยอ้างว่ากองทัพสหรัฐฯ เป็นกองทัพที่เอาใจใส่ต่อเรื่องความสูญเสียของพลเรือนมากที่สุดในโลกแล้ว แต่ก็มีรายงานเรื่องการเสียชีวิตของพลเรือนออกมาอย่างต่อเนื่องจากการใช้กำลังต่อต้านกลุ่มไอซิสของรัฐบาลทรัมป์ที่ทำให้ผู้คนเสียชีวิตไปแล้วหลายพันคน ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกับที่ทรัมป์เคยหาเสียงไว้คือการทิ้งระเบิดใส่อย่างเดียว แต่สุดท้ายแล้วมันก็สร้างปัญหาทำให้ประเมินว่าปฏิบัติการจะสร้างความเสียหายต่อพลเรือนได้อย่างไรยากขึ้น นอกจากนี้ยังเคยมีรายงานข่าวระบุว่าปฏิบัติการทางทหารที่นำโดยสหรัฐฯ ทำให้พลเรือนในอิรักเสียชีวิตมากกว่า 31 เท่า จากตัวเลขประเมินของทางการนั้นหมายความว่าการที่โฆษกทางทหารของสหรัฐฯ ออกมาพูดเองว่าพวกเขาไม่สามารถประเมินความเสียหายต่อพลเรือนได้ น่าจะไม่ใช่เรื่องเท็จ แต่นั่นก็หมายความว่า นี่อาจจะเป็นสงครามที่มีความโปร่งใสน้อยที่สุดในประวัติอเมริกันยุคหลังๆ เลยก็ได้ ข่านและโกปาลเคยเขียนแบบนี้ไว้ในรายงานของนิวยอร์กไทม์ | กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยอมรับ ไม่สามารถประเมินตัวเลขพลเรือนที่เสียชีวิตได้ ปฏิบัติการทางทหารที่เน้นทิ้งระเบิดถล่มส่งผลกระทบต่อพลเรือนที่ไม่ได้สู้รบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยในอดีตทางการสหรัฐฯ | ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน,ความมั่นคง | ซีเรีย,สงครามซีเรีย,สงครามต่อต้านการก่อการร้าย,สหรัฐอเมริกา,อิรัก,เพนทากอน,โดนัลด์ ทรัมป์,โทมัส เวล,ไอซิส | https://prachatai.com/journal/2018/06/77411 |
บาตาคล็อง ตัวอย่างมาตรฐานการรักษาปลอดภัยชมคอนเสิร์ตในปารีสที่ไร้ประสิทธิภาพ | ภาพกองกำลังตำรวจของฝรั่งเศสปีนบันไดด้านหน้าโรงละครบาตาคล็อง เพื่อเข้าไปช่วยเหลือตัวประกันนับร้อยคน คือนาทีชีวิตที่เกิดขึ้นในงานคอนเสิร์ตของ Eagles of Death Metal วงร็อกจากอเมริกัน เมื่อผู้ก่อการร้าย 4 คนบุกเข้าไปกราดยิงแฟนเพลง จนเป็นเหตุให้ผู้ชมและตัวประกันบางส่วนเสียชีวิตเกือบ 100 คน มีรายงานว่าสมาชิกของ Eagles of Death Metal หนีไปยังด้านหลังเวที ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่นิค อเล็กซานเดอร์ ผู้จัดการฝ่ายขายของวงเสียชีวิต เช่นเดียวกับสมาชิกของวง Deftones ซึ่งร่วมชมการแสดงคอนเสิร์ตในคืนดังกล่าว รอดชีวิตหลังออกจากงานก่อนการโจมตีเกิดขึ้นเพียง 15 นาทีเจอโรม บาร์เทเลมี หนึ่งในผู้รอดชีวิต กล่าวว่า ผู้ก่อการร้าย 4 คนที่เข้ามาในโรงละครพร้อมกับอาวุธปืน สั่งให้ฝูงชนหมอบลงกับพื้น ไม่นานก่อนที่เขาก็ได้ยินเสียงปืนกราดยิง โดยหลังจากที่กองกำลังตำรวจเข้าไปถึงที่เกิดเหตุ ผู้ก่อการร้าย 3 คนก็จุดระเบิดฆ่าตัวตาย โดยที่เหลืออีกคนถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญแม้เป็นปฏิบัติการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ พร้อมกัน แต่จำนวนผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ในโรงละครบาตาคล็อง แสดงถึงความเสี่ยงภัยในงานคอนเสิร์ตที่มีผู้คนรวมตัวกันจำนวนมาก โดยเฉพาะกรณีที่การรักษาความปลอดภัยไม่ทั่วถึง เช่น ครั้งที่ ไดม์แบค ดาร์เรล อดีตมือกีตาร์ของวง pantera และเหยื่ออีก 3 คน ต้องเสียชีวิตหลังจากผู้ก่อการร้ายที่พกปืนมาชมคอนเสิร์ต และบุกขึ้นไปกราดยิงถึงบนเวทีเมื่อปี 2004 ตลอดจนการนำพลุไฟมาจุดในไนท์คลับระหว่างการแสดงของวง Great White เมื่อปี 2003 เป็นเหตุให้แฟนเพลงต้องเสียชีวิตจากควันไฟ ความร้อน และเหยียบกันตายนับร้อยคน โดยเดือนที่แล้ว (ต.ค. 2558) การจุดพลูไฟในคอนเสิร์ตที่ประเทศโรมาเนีย ยังเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 51 คน โดยสมาชิก 4 จาก 5 คนของวง Goodbye to Gravity ที่เปิดการแสดงในคืนดังกล่าว ต้องพบกับจุดจบในเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วยการโจมตีกรุงปารีสเมื่อคืนวันศุกร์ที่13 พ.ย. 2558 ส่งผลให้มีการยกเลิกหลายกิจกรรมเช่น ฉายรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง Bridge of Spies ผลงานล่าสุดของผู้กำกับ สตีเวน สปิลเบิร์ก ในวันอาทิตย์นี้ เช่นเดียวกับการแสดงคอนเสิร์ตของวง U2 ที่จะมีขึ้นในคืนวันเสาร์นี้ ก็ต้องยกเลิกไปเพื่อความปลอดภัยเช่นกัน ซึ่งล่าสุดศิลปินนักร้องจากทั่วโลกได้ส่งให้กำลังใจให้ชาวปาริสผ่านสื่อออนไลน์ โดยใช้หอไอเฟล สัญลักษณ์สำคัญของกรุงปาริส มาเชื่อมโยงกับสัญลักษณ์แห่งสันติภาพศิลปินที่ยกเลิกคอนเสิร์ตยังรวมถึงวง Coldplay ที่ตัดสินใจเลื่อนการแสดง เพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่เหยื่อผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ | โรงละครบาตาคล็องเป็นจุดที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในเหตุก่อการร้ายที่กรุงปารีสเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 13 พ.ย.2558 จากการที่มือปืนบุกเข้าไปกราดยิงประชาชนที่เข้ามาชมคอนเสิร์ตและสังหารชีวิตตัวประกัน เหตุที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากแสดงถึงจุดอ่อนด้านการรักษาความปลอดภัยในงานคอนเสิร์ต | ศิลปะ-บันเทิง | Bridge of Spies,Eagles of Death Metal,ParisAttacks,thaipbs,ก่อการร้ายปารีส,บาตาคล็อง,ปารีส,ฝรั่งเศส,มาตรฐานความปลอดภัยการชมคอนเสิร์ตในปารีส,วงร็อกอเมริกัน,สตีเวน สปิลเบิร์ก ThaiPBSNews,สหรัฐฯ,โรงละคร,ไทยพีบีเอส,ไอเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/6081 |
กอ.รมน.ภาค 4 แจงยิงดับแกนนำRKK เพื่อป้องกันตัว ยันปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ | เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 ม.ค.60 ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงการปิดล้อมตรวจค้นบ้านสะโลบาแต ต.กอตอตือระ อ.รามัน จ.ยะลา เป็นเหตุให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต จำนวน 1 ราย ว่า กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า นายกอเซ็ง มิยะ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาหมายจับ ป.วิ อาญา จำนวน 4 หมายจับ เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ ม.3 บ.สะโลบาแต ต.กอตอตือระ อ.รามัน จ.ยะลา เพื่อเตรียมก่อเหตุในพื้นที่อำเภอรามัน เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันเข้าพิสูจน์ทราบพื้นที่ดังกล่าว ผลการปฏิบัติ ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าพิสูจน์ทราบ ณ บ้านเลขที่ 34/5 หมู่ที่ 3 บ้านสะโลบาแต ตำบลกอตอตือระ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ก่อน เพื่อเปิดทางหนี เจ้าหน้าที่จึงยิงป้องกันตัว นานประมาณ 10 นาที หลังจากเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบศพผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายกอเซ็ง มิยะ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/4 หมู่ที่ 6 บ้านตลาดล่าง ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา มีหมายจับ ป. วิ อาญา จำนวน 4 หมาย ดังนี้,กอ.รมน.ภาค 4 จึงขอชี้แจงการปฏิบัติงานในครั้งนี้ เป็นไปตามยุทธศาสตร์ กฎหมายนำการทหารตามการเมืองขยาย โดยการบังคับใช้กฎหมาย สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นผลมาจากความร่วมมือของประชาชนที่ช่วยกันแจ้งเบาะแส กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ และต้องการให้พื้นที่เกิดสันติสุข จึงได้ร่วมกันเฝ้าระวังป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายในพื้นที่ของตนเอง รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 กล่าว,พ.อ.ยุทธนา กล่าวว่า ทั้งนี้ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และผอ.รมน.ภาค 4 ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และขอเชิญชวนให้ผู้ที่หลบหนีอยู่ เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน หรือร่วมแสดงตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ หรือติดต่อโดยตรงได้ที่หมายเลข 092-5324989 ซึ่งเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของ แม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อที่จะได้ช่วยกันพัฒนาพื้นที่สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ต่อไป.,เครดิตภาพจาก กอ.รมน.,ทหาร-ตร.ยะลา ยิงปะทะใน รามัน กุดหัว 1 ศพ แกนนำอาร์เคเค | กอ.รมน.ภาค 4 แจงเหตุปะทะยิงดับคนร้าย หลังพบเตรียมก่อเหตุความไม่สงบในอ.รามัน ยันทหารดำเนินการตามยุทธศาสตร์ ยึดกฎหมาย เป็นผลจากประชาชนให้ความร่วมมือ | null | โจรใต้,จับผู้ก่อเหตุ จชต.,กอเซ็ง มิยะ,ยิงปะทะ,กอ.รมน.ภาค4 | https://www.thairath.co.th/content/836878 |
ปากซีดระวังไม่โดนโหวต รวม 5 ไอเทมริมฝีปากติดทนสุดปัง รับสงกรานต์นี้ | สงกรานต์มาสาดน้ำกัน เฮ้มาถึงแล้วสินะเทศกาลที่สนุกที่สุดแห่งปี แต่พอถึงเทศกาลนี้สิ่งหนึ่งที่สาวๆ จะต้องถามหาอย่างแน่นอนก็คือลิปสติกกันน้ำที่ต้องติดแน่นทนนาน เอาไว้ทาไปให้หนุ่มๆ สาดน้ำประแป้งกันอย่างสนุกสนาน ,ไทยรัฐออนไลน์ ที่แสนจะรู้ใจสาวๆ ได้ทำการรวบรวมลิปสติกที่รับประกันความติดทนกันน้ำ เพื่อไม่ให้สาวๆ ต้องโชว์หน้าสดให้เสียเซลฟ์กันอย่างแน่นอน จะมีตัวไหนเด็ดโดนใจกันบ้าง ไปดูกันเลย,benetint,มาดูไอเทมตัวแรกที่เป็นระดับตำนาน และขึ้นชื่อเรื่องความติดแน่นทนนานทาได้ทั้งแก้มและปาก แถมผลลัพธ์ที่ได้ยังทำให้ดูแดงระเรื่อแบบธรรมชาติสุดๆ สาวๆ สายเนเชอรัลจะต้องชอบอย่างแน่นอน เพราะถึงแม้จะเปียกสักแค่ไหน แป้งจะหลุด คิ้วจะหาย แต่รับประกันได้เลยว่าปากและแก้มของสาวๆ จะดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ เอาเป็นว่าหนุ่มเห็นก็คงอดใจไม่ไหวที่จะเดินมาประแป้งบนแก้มแดงๆ ของเราแน่นอน,maybelline.co.th,ถ้าพูดถึงลิปสติกตัวใหม่ล่าสุดของเมเบอลีนก็ต้องเป็นตัวนี้ Maybelline super stay matte ink ที่ออกตัวเคลมแรงว่าถึงจูบไม่หลุด อ๊ะๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไปใช้จูบใครวันสงกรานต์นะ แต่นางตัวแรงขนาดนี้ก็เลยต้องไปลองนางซะหน่อยแล้วพบว่านางทนจริง ที่สำคัญคือสีชัดเข้มข้น แต่อาจจะติดนิดนึงตรงที่นางก็ค่อนข้างแมทนี่แหละ ทางที่ดีแนะนำให้สาวๆ ทาลิปมันหรือบำรุงปากให้ดีก่อนลงตัวนี้นะ ไม่งั้นปากลอกเป็นขุยก็ไม่งามนะเธอ,www.wetnwildthailand.com,อีกหนึ่งตำนานของลิปสติกถูกและดี ที่เคยครองใจสาวๆ ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล wet n wild megalast lip color ที่สีชัดติดทนนาน แถมมีสีสันให้เลือกมากมายหลายหลาก แต่ก็เนอะติดนิดนึงตรงที่นางแห้งมากๆ นี่สิ แต่ถามว่าเป็นปัญหามั้ยไม่จ่ะ เพียงแค่สาวๆ อาจจะต้องลงลิปมันบางๆก่อนลงลิปสติกตัวนี้แล้วใช้ทิชชูซับออก แล้วทาทับอีกรอบ ขอบอกเลยว่ารับประกันความติดทนอย่างยิ่ง สาวๆ สายปาร์ตี้จะใช้ทาเป็นไนต์ลุคก็ปังสุดๆ ไปเลยจ้า,www.in2itcosmetics.com,มาถึงทินต์ที่ครองใจเหล่านักเรียนนักศึกษามาช้านาน อินทูอิท เจลทินท์ เพราะราคาที่น่ารัก บวกกับคุณภาพที่ได้ใจ แถมมีสีให้เลือกมากมาย ทำให้ลุคดูสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ ใช้ได้ทั้งแก้มและปาก แต่ตัวนี้ก็จะมีความเป็นเจลและมีความแน่นของสีมากกว่าตัวแรก เพราะฉะนั้นเวลาใช้ก็ต้องเบามือหน่อยนะจ๊ะ ไม่งั้นออกมาเหมือนลิงแล้วจะหาว่าไม่เตือนนะจ๊ะสาวๆ,www.katvondbeauty.com,ขยับราคาให้สูงขึ้นมาหน่อยกับ Kat Von D Everlasting liquid lipstick ที่ต้องขอบอกว่าเนื้อดีมากจริงๆ แล้วก็นับว่าติดทนในระดับหนึ่ง แต่ก็อาจจะไม่ถึงว่าเล่นน้ำทั้งวันแล้วปากจะยังอยู่ครบนะ นั่นก็เกินไป แต่เอาเป็นว่าทนที่พอจะให้สาวๆ โดนน้ำสาดแล้วลิปสติกไม่หลุดแน่นอน และที่สำคัญที่สุด นางไม่ได้มีแค่สีลิปสติกธรรมดาๆ แต่ยังมีสีแปลกๆ ให้สาวๆที่อยากจะครีเอตลุคสนุกๆ ไปเล่นสงกรานต์ได้อีกด้วย,เป็นไงจ๊ะ ชอบกันมั้ยกับลิปสติกที่เราเอามาฝากกัน จะออกไปเล่นน้ำทั้งที ต้องสวยเฉียบและปังเท่านั้นนะ.,เอ้า เล็งให้ดีตัวไหนยังไม่มี ไอเท็มไหนยังไม่ได้ แล้วก่อนซื้อหา,ส่วนลด Lazada, เป็นตัวช่วย แค่นี้ก็ได้มาไว้ในครอบครองครบองค์ประชุมแล้ว | อย่าปล่อยให้ปากซีด รีบหาลิปสติก สีสวยๆ ออกไปสาดน้ำกัน | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | ลิปสติกกันน้ำ,สงกรานต์ 2561,ลิปสติกแบบไหนกันน้ำ,เล่นน้ำสงกรานต์ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/beauty/1241162 |
ผุดรถไฟฟ้าพร้อมทางด่วน รายงานวันจันทร์-ใช้ประโยชน์ตอม่อเก่าเกษตร-นวมินทร์ | หลังจากที่คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) มอบให้สำนักงานนโยบายและแผน การขนส่งและจราจร (สนข.) ศึกษาความเหมาะสม โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี โดยใช้ประโยชน์จากเสาตอม่อกึ่งกลางถนนเกษตร-นวมินทร์ ขณะเดียวกันก็มอบให้ กทพ.เดินหน้าโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 N2 ปรากฏว่า เมื่อเร็วๆนี้บริษัทที่ปรึกษาโครงการ,มีข้อมูลเบื้องต้นของผลการศึกษาแล้ว,โครงการดังกล่าวใช้เวลาศึกษา 14 เดือน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 เม.ย.60 ถึงวันที่ 9 มิ.ย.61 พื้นที่การศึกษาเริ่มจากแยกแคราย นนทบุรี ไปตามถนนงามวงศ์วาน ถนนประเสริฐมนูกิจ ถนนนวมินทร์ และไปสิ้นสุดที่ถนนรามคำแหง ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมืองนนทบุรี และ กทม. 7 เขต,เบื้องต้นกำหนดรูปแบบทางเลือกโครงการไว้ 4 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบที่ 1.เป็นการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนด้วยรถไฟฟ้าโมโนเรล เริ่มต้นจากแยกแคราย ไปตามถนนงามวงศ์วาน ถนนเกษตร-นวมินทร์ สิ้นสุดถนนรามคำแหง บริเวณแยกลำสาลี เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ระยะทาง 21.5 กม.,รูปแบบที่ 2.พัฒนาเป็นระบบทางด่วน ขนาด 4 ช่องจราจรไปกลับ เริ่มต้นจากสี่แยกเกษตร ไปตามเกาะกลางถนนประเสริฐมนูกิจ ถึงถนนนวมินทร์ จากนั้นแนวเส้นทางจะซ้อนทับทางหลวงหมายเลข 351 ไปบรรจบถนนมอเตอร์เวย์สาย 9 ระยะทาง 11.9 กม.,รูปแบบที่ 3 พัฒนาเป็นระบบทางด่วน ขั้นที่ 3 สายเหนือ มีแนวเส้นทางและรูปแบบ เช่นเดียวกับรูปแบบที่ 2 ซึ่งมี 3 ทางเลือก คือ 1.จากแยกเกษตร ผ่านถนนงามวงศ์วาน ไปเชื่อมโทลล์เวย์และทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก 2.ตัดตรงระหว่างแยกเกษตรกับแยกรัชวิภา เชื่อมทางด่วนศรีรัชฯ 3.จากแยกเกษตร ผ่านแนวคลองบางบัว ไปเชื่อมโทลล์เวย์ และทางด่วนศรีรัชฯ,รูปแบบที่ 4 พัฒนาทั้งระบบรถไฟฟ้าและทางด่วน โดยจะมีแนวสายทางที่ซ้อนทับกันช่วงแยกเกษตร ถึงแยกถนนประเสริฐ-มนูกิจตัดกับถนนนวมินทร์ ระยะทาง 9 กม. ช่วงทับซ้อนออกแบบมี 5 ทางเลือก คือ 1.ทางด่วนอยู่ด้านบนสุดเหนือแนวรถไฟฟ้า 2.รถไฟฟ้าอยู่ด้านบนสุดเหนือแนวทางด่วน 3.รถไฟฟ้าและทางด่วนอยู่ระดับเดียวกัน 4. รถไฟฟ้าอยู่ด้านข้างฝั่งขาออก 5.รถไฟฟ้าอยู่ด้านข้างทั้งสองฝั่ง,สำหรับการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม พบว่าพื้นที่อ่อนไหวที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากโครงการช่วงแคราย-ลำสาลี มีจำนวน 179 แห่ง ประกอบด้วยสถานศึกษา 39 แห่ง ศาสนสถาน 14 แห่ง สถานศึกษา 9 แห่ง ชุมชน 133 แห่ง และหน่วยงานราชการ 4 แห่ง ช่วงถนนนวมินทร์-ถนนมอเตอร์เวย์สาย 9 จำนวน 28 แห่ง เป็นชุมชน 27 แห่ง วัดสุวรรณประสิทธิ์ 1 แห่ง,ทั้งนี้รายละเอียดเพิ่มเติมติดตามได้ที่ ,www.brownline-fs2560.com | ตอม่อกลางถนนเกษตร-นวมินทร์ ที่เคยคาใจหลายคนว่าทำไมไม่มีการก่อสร้างต่อนั้น ล่าสุดนี้มีความคืบหน้าของตอม่อเหล่านี้แล้ว หลังจากที่คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) มอบให้สำนักงานนโยบายและแผน การขนส่งและจราจร (สนข.) | ข่าว,ทั่วไทย | รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล,แคราย-ลำสาลี,เสาตอม่อ,เกษตร-นวมินทร์,รถไฟฟ้าโมโนเรล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1029540 |
วิจารณ์สนั่น รถหรูเกือบ 30 คันฝ่าไฟแดง ตำรวจเร่งติดตามผู้กระทำผิด (คลิป) | เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 13 ม.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปพร้อมข้อความว่า ,มาน่านคุณจะขับรถอย่างไรก็ได้งั้นหรือ ??? ถ่ายเอง ไฟแดงรถหรูไม่ต้องจอดค่ะ, โดยคลิปความยาวประมาณ 8 วินาที โดยในคลิปนั้นได้มีรถหรูหลายคันขับฝ่าไฟแดงเลี้ยวต่อกันไป และมีรถหรูประมาณ 2 คัน จอดขวางบริเวณสี่แยกพันต้นใจกลางเมืองน่าน เพื่อให้ในคณะทั้งหมดได้ฝ่าไฟแดงไป,ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังผู้โพสต์ทราบว่า คลิปที่ลงในเฟซบุ๊กนั้นเป็นช่วงที่พบเห็นรถหรูประมาณเกือบ 30 กว่าคัน มุ่งหน้าสู่สี่แยกไฟแดงวัดศรีพันต้น ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน เพื่อจะเข้าสู่ตัว อ.เมืองน่าน โดยขณะนั้นได้เป็นช่วงที่รถคันอื่นจอดรอสัญญาณไฟจราจรที่เป็นสีแดง แต่ก็มีรถหรูกลุ่มดังกล่าวไม่ได้จอดรอสัญญาณไฟ แต่กลับใช้รถหรู 2 คัน จอดขวางกลางสี่แยกเพื่อให้หรูในขบวนที่ขับตามกันมาผ่านไปโดยไม่เคารพกฎจราจร,ทางด้าน พล.ต.ต.สัณห์ โพธิ์รักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อัครภูมิ ชนะใหญ่ ผกก.สภ.เมืองน่าน มอบหมายให้ พ.ต.ท.ทศพล สืบกาสี รอง ผกก.จร.สภ.เมืองน่าน ดูข้อมูลจากกล้องวงจรปิดของศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ตามบริเวณแยกไฟแดงดังกล่าว พบว่า มีขบวนรถหรูจำนวน 25 คัน ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร และมีอีก 2 คันจอดขวางปิดกั้นจราจรเพื่อให้ขบวนรถหรูดังกล่าวผ่านสี่แยกวัดศรีพันต้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรได้ออกติดตามผู้กระทำผิดทั้งหมดที่ได้ฝ่าไฟแดงไป และจะมีการออกใบสั่งโดยตรวจสอบตามทะเบียนรถแต่ละคัน เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างกับรถคันอื่น,ทั้งนี้ หลังจากโพสต์ดังกล่าวลงไปประมาณ 1 ชม. ก็มีชาวเน็ตแชร์ออกไปจำนวนมาก รวมทั้งมีการแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย. | ชาวเน็ตวิจารณ์คลิปรถหรูเกือบ 30 คัน ขับฝ่าไฟแดงแยกวัดศรีพันต้น อ.เมืองน่าน ซ้ำมี 2 คันจอดขวางปิดถนน ด้านตำรวจเร่งติดตามผู้กระทำความผิดทั้งหมด | ข่าว,สังคม | รถหรูฝ่าไฟแดง,รถฝ่าไฟแดง,น่าน,แยกวัดศรีพันต้น,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1468804 |
อดีตร่างทรงมาเอง ถ้าเจอ 10 ข้อนี้ให้มั่นใจว่าปลอมไม่ต้องดูให้เสียเวลา | คุณ Entersoul สมาชิกเว็บไซต์พันทิป จึงตั้งกระทู้ว่า ,เมื่อฉันเคยเป็นร่างทรง แชร์ประสบการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ, โดยเล่าถึงจุดเร่ิมต้นในการเป็นร่างทรงว่า ตนเองเกิดในครอบครัวยากจน อยู่กับแม่และพี่สาว นับถือศาสนาพุทธมาโดยตลอด จนกระทั่งอายุ 15 ปี เร่ิมมีอาการปวดหัวบ่อยมาก ปวดเหมือนหัวจะระเบิด กินยาก็ไม่หาย ทำให้บางครั้งไม่ได้ไปช่วยขายของ จึงมีปากเสียงกับแม่จนต้องหนีไปอยู่ที่บ้านยาย,เมื่อไปอยู่กับยายก็ยังมีอาการปวดหัวจนมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย และฝันแปลกๆ เห็นยายทวดมาเหยียบอกดุด่าที่หนีแม่มา และเห็นชายแก่มาบอกว่าจะช่วย ไม่กี่วันต่อมายายได้บอกว่า แม่ไปดูดวงจนรู้ว่าตนหนีมาอยู่กับยายและให้พาตัวกลับไปส่ง เมื่อตนกลับไปหาแม่ก็ถูกพาไปยังสำนักแห่งหนึ่ง มีผู้ชายอายุประมาณ 30 ปีเป็นร่างทรงของ ,พ่อแก่บรมครูปู่ฤๅ ษี, บอกว่าเป็นชายแก่ที่ตนเห็นในฝัน หลังจากเหตุการณ์นั้นไม่นาน ตนก็ทีปากเสียงกับแม่จนมีความคิดอยากฆ่าตัวตายอีกครั้ง,ร่างทรงพ่อแก่ จึงแนะนำให้ไปงานไหว้ครู ซึ่งเป็นตำหนักใหญ่ที่เป็นครูของร่างทรงคนอื่นๆ เมื่อเจ้าของงานเร่ิมสวดอัญเชิญเทวดา องค์เทพ ตนก็กรี๊ดเสียงดังมาก ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เร่ิมพูดจาภาษาแปลกๆ ตอบโต้กับร่างทรงคนอื่นๆ มีอาการแปลกๆ ไม่หยุด ด้วยความกลัวจึงยอมรับขันธ์ เมื่อรับขันธ์แล้วก็กลับมาเป็นปกติ อาการปวดหัวรุนแรงเริ่มดีขึ้น มีความรู้สึกอยากสวดมนต์ นั่งสมาธิ ร่างกายปฏิเสธอาหารคาว หากกินเนื้อหรือของเหลือจากคนอื่น จะอาเจียน ตัวสั่น ต้องขึ้นธูปจึงจะหาย,ในตอนนั้นตนอายุประมาณ 18 ปี เป็นช่วงที่คิดว่าโชคดีและรวยจัง ซึ่งขณะนั้นตนยังไม่ได้ทรงหรือหลอกเงินบริจาคใคร แต่จะเห็นเลขเอง เมื่อไปซื้อหวยก็ถูก เล่นพนันบอลก็ถูก ทั้งที่ไม่รู้จักทีมฟุตบอล จนกระทั่งขึ้นมหาวิทยาลัย พ่อแก่และร่างทรงก็บอกให้รับทรง (ค่าครู 12 บาท) ได้แล้วเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ความรู้สึกเวลาทรงจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ทรงได้สักพักก็เร่ิมมีชื่อเสียงในทางโชคดี เวลาไปไหนก็มีคนมาขอหวย เรียกแม่หมอ,ส่วนแม่ก็จะบังคับให้ทรงก่อนหวยออก ซึ่งตนรู้สึกไม่ชอบและอยากเลิกยุ่งกับสิ่งนี้ จึงไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งไปลองของที่สำนักร่างทรงต่างๆ ส่วนใหญ่พบว่าเป็นการแสดง ไม่ใช่ของจริง จากนั้นจึงตัดสินใจจุดธูปกลางแจ้ง 36 ดอก ประกาศว่าจะไม่กราบไหว้เทพอีก ทำให้แม่โกรธมากจนเข้าหน้ากันไม่ติด แต่ตนก็ยังใจแข็งดำเนินชีวิตตามปกติและขอยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง,อย่างไรก็ตามเจ้าของกระทู้ได้ทิ้งท้ายเรื่องการดูลักษณะคนทรง ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ดังนี้,1.ตำหนักไหนที่มีค่าครูเกิน 99 บาท (จริงๆ ไม่ควรเกิน 49 บาทด้วยซ้ำ) ไม่ควรไปดูให้เสียเงินค่ะ,2.ตำหนักไหนที่มีเรื่องการซื้อดอกไม้ ซื้อบุหรี่ ซื้อชุดของไหว้ถวาย โดยให้ซื้อในตำหนักนั้น นี่ยิ่งไม่สมควรไปดู,3.ตำหนักเชิงพาณิชย์ มีการจองคิว จ่ายเงินจองล่วงหน้า มีคนดูแลคอยเก็บเงิน บงการต่างๆ แบบนี้นี่รีบหนีไปให้ไกล อย่าได้เข้าไปเลยค่ะ,4.ร่างทรงคนไหนที่มีคู่ มีแฟน มีสามี มีภรรยา มีลูก จำพวกนี้ศีลจะไม่บริสุทธิ์ มีภาวะทางอารมณ์จิตใจขุ่นมัวกับเรื่องครอบครัว ลักษณะนี้ยิ่งไม่น่าเชื่อถือ เกือบ 100% ทรงเองแบบไม่มีเทพค่ะ,5.ร่างทรงที่ชอบแสดงอิทธิฤทธิ์ อมไฟ พ่นไฟ โชว์ปาฏิหาริย์ นั่งหรือเดินในของร้อนๆ พวกนี้ของปลอมล้านเปอร์เซ็นต์ เทพไม่จำเป็นต้องโชว์อิทธิฤทธิ์ค่ะ ของจริงเขาจะเข้าไปแสดงในใจของเราเอง,6.ร่างทรงที่ทรงแล้วแสดงท่าทาง หน้าตาตลกๆ แปลกๆ คล้ายคนบ้า อันนั้นฟันธงได้เลยว่ามันบ้าแน่นอน 555+,7.ร่างทรงที่พูดจาหยาบคาย ใช้คำแทนตัวเองและคนอื่นแบบหยาบคาย พูดจาทำนองว่าตนเองยิ่งใหญ่ ตนเองสามารถทำร้ายหรือรังแกคนอื่นได้ ถ้าเจอประเภทนี้ลุกขึ้นเลยค่ะ ลุกขึ้นด่า(ในใจพอนะ) แล้วเดินออกได้เลย 55+,8.ร่างทรงองค์เทพชื่อแปลกๆ ตลกๆ ประเภท เจ้าพ่อนู่น เจ้าแม่นี่ ตัวการ์ตูน หรือคนที่เพิ่งตายแล้วมาทรง พวกนี้ถ้ามีจริงก็เป็นวิญญาณชั้นต่ำ อย่าไปหลงเชื่องมงายเด็ดขาดเลย,9.ร่างทรงในวรรณคดี เราเคยเจอ หนุมาน นางสีดา พระราม อื่นๆ อีกเยอะ พวกนี้ไร้สาระหนักมาก อย่าไปใส่ใจค่ะ,10.ร่างทรงพระมหากษัตริย์หรือวีรสตรีหาญกล้า ไม่มีเหตุผลใดที่ท่านต้องมาลงทรง ถ้าเจอกำลังควงดาบ ให้เอาไม้ลองฟาดดูจะรู้เลย 55+ คือเอาจริงๆ ดวงวิญญาณของท่านๆ อาจมีความผูกพันกับประเทศ แต่ท่านคงไม่อยากให้ประชาชนของท่านมางมงายจนประเทศไม่เจริญ หรอกค่ะ ,(อ่านต้นฉบับ ,คลิก,),คุณ Entersoul,คุณท้าวศรีสุวรรณภิรมย์ภักดี | อดีตสาวร่างทรง แชร์ประสบการณ์ความเชื่อส่วนบุคคลตั้งแต่รับขันธ์ชีวิตร่ำรวย ใบ้หวย ลองของ ท้าทาย จนกระทั่งทิ้งขันธ์ครูสู่ชีวิตปกติ พร้อมแนะนำวิธีสังเกตร่างทรงแท้หรืออวดอ้าง | ข่าว,สังคม | ร่างทรง,องค์เทพ,เข้าทรง,ความเชื่อ,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1300696 |
สมรภูมิตะกั่วป่า : โรฮิงญาและการต่อสู้ของชาวบ้านกับขบวนการค้ามนุษย์ | ความพยายามของชาวตะกั่วป่าในการสกัดกั้นขบวนการลักลอบพาคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้นักค้ามนุษย์ใช้บ้านของพวกเขาเป็นทางผ่านและเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวมุสลิมโรฮิงญาให้ได้รับความเป็นธรรม พวกเขาต่อสู้กับขบวนการอาชญากรรมที่ใหญ่โตโดยลำพังในขณะที่รัฐบาลและหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบยังไม่มีแนวทางการจัดการปัญหาที่ชัดเจนอำเภอตะกั่วป่า เป็น 1 ใน 4 พื้นที่ยุทธศาสตร์ของการลักลอบพาชาวโรฮิงญาหลบหนีเข้าประเทศไทยเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย เนื่องจากทั้ง 4 อำเภอ คือ อ.กะเปอร์ อ.สุขสำราญ จ.ระนอง และ อ.ตะกั่วป่า อ.คุระบุรี จ.พังงา มีชายฝั่งที่เป็นป่าชายเลน ต่างจากบริเวณอื่นที่เป็นหาดทราย นายหน้าสามารถลักลอบพาคนขึ้นฝั่งโดยอาศัยป่าเป็นที่กำบังก่อนเดินทางต่อไปมาเลเซียโดยรถยนต์ผู้อพยพชาวโรฮิงญาเดินทางเข้ามาในพื้นที่อำเภอตะกั่วป่าตั้งแต่ปี 2545-2547 ช่วงแรกเป็นการเดินทางมาเองโดยใช้เรือประมงเล็ก จนกระทั่งปี 2555-2556 จึงเริ่มมีขบวนการนายหน้าลักลอบนำพาชาวโรฮิงญาไปยังประเทศมาเลเซียอย่างเป็นระบบ ในเดือนตุลาคม 2557 นายอำเภอตะกั่วป่านำกำลังชาวบ้านจับกุม ขบวนการลักลอบนำพาชาวโรฮิงญาได้ 2 ครั้ง สามารถจับกุมนายหน้าได้ 3 คน และช่วยเหลือชาวโรฮิงญาซึ่งมีทั้งผู้หญิงและเด็กอยู่ด้วย รวมทั้งหมด 134 คน และในเดือนมกราคม 2558 จับกุมขบวนการได้อีก 1 ครั้ง จับนายหน้าได้ 1 คน และช่วยเหลือชาวโรฮิงญาได้ 53 คนชาวโรฮิงญาเหล่านี้จำแนกได้เป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่อาศัยอยู่ในรัฐอาระกัน ประเทศพม่า และกลุ่มที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนประเทศบังคลาเทศและพม่า พวกเขาหนีจากบ้านเกิดเนื่องจากปัญหาความรุนแรงภายในประเทศพม่า และความยากจน โดยหลงเชื่อว่านายหน้าจะพาออกนอกประเทศไปหาชีวิตที่ดีกว่าในประเทศมาเลเซีย แต่สุดท้ายกลับถูกขายต่อเป็นทอดๆ ถูกซ้อมทรมาน และถูกกักขังเพื่อเรียกค่าไถ่แลกกับอิสรภาพที่จะเดินทางไปพบครอบครัวในประเทศมาเลเซียนายอำเภอตะกั่วป่า นายมานิต เพียรทอง เป็นผู้หนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับขบวนการค้ามนุษย์ในพื้นที่ตะกั่วป่า เขาเห็นปัญหาการค้ามนุษย์เป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบไปทุกส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอำเภอตะกั่วป่าที่มีรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว ท่านนายอำเภอมีความเชื่อมั่นว่าสถานการณ์การค้ามนุษย์จะคลี่คลายลงได้ด้วยความเชื่อและศรัทธาในชีวิตเพื่อนมนุษย์ เห็นคนเป็นคนเท่าเทียมกันและไม่สนับสนุนการค้าขายคนจึงนำไปสู่การระดมอาสาสมัครชาวบ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จัดตั้งด่านตรวจเพื่อสกัดกั้นขบวนการนายหน้าค้ามนุษย์ที่ด่านทับกำ มีอาสาสมัครเฝ้าด่านตลอด 24 ชั่วโมง เป็น 4 ผลัด ผลัดละ 6 ชั่วโมงและจัดตั้งทีมออกลาดตระเวนทั้งทางบกและทางน้ำเป็นประจำทุกคืนกองกำลังชาวบ้านที่อาสามาต่อสู้กับขบวนการนายหน้าค้ามนุษย์ในสมรภูมิตะกั่วป่านี้ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆจากรัฐ พวกเขาเสียสละและเสี่ยงอันตรายเพื่อป้องกันบ้านเกิดของตนโดยไม่มีเบี้ยเลี้ยง หรือค่าตอบแทนอื่นใด มีแต่ชาวบ้านที่หอบหิ้วข้าวปลาอาหารมาแบ่งปันให้กับเพื่อนที่มาเฝ้าด่าน หรือเสียสละเรือประมงของตนให้เพื่อนใช้ออกลาดตระเวนยามกลางคืน ท่านนายอำเภอกล่าวว่าการทำงานด้วยใจของชาวบ้านเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้กองกำลังชาวบ้านยังยืนหยัดต่อสู้มาจนทุกวันนี้ เพราะหากพวกเขาทำเพราะหวังค่าตอบแทน นายหน้าที่มีอยู่จำนวนมากก็พร้อมที่จะเอาเงินจำนวนมากกว่าเบี้ยเลี้ยงหลายเท่ามาเสนอให้เช่นกันความพยายามของชาวบ้านตะกั่วป่าไม่สูญเปล่า สืบเนื่องจากการจับกุมขบวนการนายหน้าค้าชาวโรฮิงญาครั้งล่าสุดที่อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช สันนิษฐานได้ว่าการตั้งด่านทับกำของชาวบ้านตะกั่วป่าเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันให้นายหน้าเปลี่ยนเส้นทางไปยังอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซียปัจจุบันชาวโรฮิงญาส่วนหนึ่งได้รับการดูแลโดยบ้านพักเด็กและครอบครัว อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา โดยได้รับเงินอุดหนุนจากต้นสังกัดคือกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นค่าอาหาร 57 บาท/หัว/วัน แม้ว่าบ้านพักเด็กและครอบครัวจะไม่ได้มีภารกิจโดยตรงในการคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ แต่เจ้าหน้าที่บ้านพักได้พยายามอย่างดีที่สุดที่จะดูแลพวกเขาตามหลักมนุษยธรรมนักจิตวิทยา ผู้รับผิดชอบดูแลชาวโรฮิงญาที่อยู่ในบ้านพักฯจำนวนทั้งสิ้น 28 คน เล่าว่าทุกวันศุกร์จะพาชาวโรฮิงญาโดยเฉพาะเด็กๆออกไปละหมาดที่มัสยิดทุ่งมะพร้าว และบางคราวก็พาไปซื้อข้าวของใช้ประจำวันที่ซูเปอร์มาร์เกตใกล้ๆ เธอบอกว่าชาวบ้านในชุมชนมีความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ และพยายามให้ความช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ ทั้งนี้จากการประเมินสุขภาพจิตพบว่าเด็กชาวโรฮิงญาส่วนใหญ่มีภาวะซึมเศร้าเนื่องจากอยู่ห่างครอบครัวและได้รับความกระทบกระเทือนต่อจิตใจจากเหตุการณ์เลวร้ายที่ผ่านมาเด็กชายชาวโรฮิงญาคนหนึ่ง เล่าว่าเขาถูกจับลงเรือ มีคนจับเขาไปขังเอาไว้ บนเรือมีคนถูกทำร้ายร่างกายหรือถูกฆ่า ระหว่างเดินทางทุกคนจะมีอาการอ่อนเพลียตลอดเวลา เขาสงสัยว่านายหน้าได้ผสมยาลงในอาหารของเขา เพราะหากไม่กินจะบังคับเอานมผสมยากรอกปากด้วยหลอดฉีดยาอยากช่วยเหลือครอบครัวจึงตัดสินใจลงเรือ เป็นคำพูดของเด็กวัย 9 ขวบคนหนึ่งที่อยู่ในบ้านพัก อยู่บ้านพักสนุกสนาน สะดวกสบาย อิ่มและได้หัวเราะ แต่ครอบครัวในบังคลาเทศยากจน ต้องออกไปหางานทำโดยหลักการตามกฎหมายค้ามนุษย์การดูแลผู้ประสบปัญหาที่เข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะและมีสถานที่ที่เหมาะสม กฎหมายกำหนดให้ส่งผู้เสียหายไปอยู่ในสถานคุ้มครองที่จัดบริการสำหรับผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์โดยเฉพาะ แต่สำหรับกรณีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมากจนสถานคุ้มครองในพื้นที่ภาคใต้ดูแลไม่ไหวจึงต้องจัดให้บางส่วนมาอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว ซึ่งเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงาก็ได้ใช้ความพยายามในการดูแลอย่างเต็มความสามารถ อย่างไรก็ดี หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดพังงา เห็นว่า ยังจำเป็นต้องมีการปรับปรุงสถานที่ให้พร้อมเป็นสัดส่วน มีห้องแยกหญิงชายและจัดการอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อการช่วยเหลืออย่างตรงจุด เช่น กิจกรรมบำบัด มีทีมสหวิชาชีพที่สามารถดูแลและคุ้มครองผู้เสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในด้านการคุ้มครองสิทธิและการฟื้นฟูเยียวยาร่างกายและจิตใจเนื่องด้วยระยะเวลาการดำเนินคดีที่ยาวนาน ประกอบกับรัฐบาลไม่มีแนวทางในการช่วยเหลือที่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มชาวโรฮิงญาที่หนีภัยความตายมาจากประเทศพม่า ทำให้ชาวโรฮิงญาในบ้านพักเกิดความกลัวว่าจะถูกส่งกลับประเทศหรือการอยู่ในบ้านพักแบบไร้อนาคต ง่ายต่อการชักจูงใจของนายหน้า สำหรับนายหน้าชาวโรฮิงญา กลุ่มนี้ คือ ผลประโยชน์ก้อนใหญ่ นายหน้าสามารถนำพวกเขาไปขายต่อให้กับนายหน้าในมาเลเซีย หรือเรียกค่าไถ่จากญาติพี่น้องได้ไม่ต่ำกว่าคนละ 30000 บาท เจ้าหน้าที่บ้านพักเล่าว่าในเวลากลางคืนมักมีนายหน้าขับรถวนรถมาดูลาดเลาบ่อยๆ บางครั้งพวกเขาโยนโทรศัพท์มือถือข้ามรั้วเพื่อติดต่อให้เด็กในบ้านพักหลบหนี จนต้องประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองให้มาช่วยดูแลความปลอดภัยและดักจับนายหน้าฮามิช เด็กชายคนหนึ่งที่หลบหนีออกจากบ้านพัก ได้ติดต่อกลับมาหาเจ้าหน้าที่บ้านพักเพื่อแจ้งว่าปลอดภัยดี และเล่าว่าขณะอยู่ในบ้านพักเขาได้ติดต่อกับนายหน้าคนหนึ่งผ่าน โทรศัพท์มือถือที่นายหน้าโยนข้ามรั้วแล้วนำไปซ่อนเอาไว้ในดงต้นเข็ม หลังจากหลบหนีออกไปกับนายหน้าคนดังกล่าวแล้ว เขาถูกขายต่อไปยังมาเลเซียให้กับนายจ้างคนหนึ่งในราคา 35000 บาท แต่ปัจจุบันได้ใช้หนี้สินหมดแล้ว เขาได้งานใหม่ในคาร์แคร์แห่งหนึ่งและส่งเงินกลับไปให้ทางบ้านเดือนละ 10000 บาทการดำเนินคดีกับขบวนการนายหน้าค้ามนุษย์ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่าจะมีหลักฐานการนำพา การหลอกลวง และการซ้อมทรมานผู้เสียหาย แต่การจะขยายผลไปถึงหัวหน้าขบวนการที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงข้ามประเทศนั้นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างผู้บังคับใช้กฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญ นอกจากนั้นยังมีปัญหาในการตีความกฎหมายค้ามนุษย์ที่หน่วยงานหลายฝ่ายยังเห็นไม่ตรงกัน บ้างมองว่าการที่ชาวโรฮิงญาสมัครใจเดินทางมากับนายหน้าเองไม่ถือว่าถูกหลอกลวง หรือมองว่าความผิดฐานค้ามนุษย์ยังไม่สำเร็จเนื่องจากยังไปไม่ถึงปลายทางจึงยังสรุปไม่ได้ว่าจะเป็นการแสวงประโยชน์หรือไม่ ในขณะที่อีกฝ่ายมองว่าความผิดฐานค้ามนุษย์เกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากมีการแสวงประโยชน์จากผู้เสียหายด้วยการขายต่อเป็นทอดๆ และขูดรีดเอาเงินค่าไถ่รัฐบาลจำเป็นต้องกำหนดมาตรฐานหรือแนวทางในการใช้ดุลพินิจของพนักงานสอบสวนในการวินิจฉัยคดีค้ามนุษย์ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความลักลั่นในการบังคับใช้กฎหมาย ดังเช่นกรณีการจับกุมขบวนการที่เกิดขึ้นล่าสุดในเดือนมกราคม 2558 ที่ผ่านมาที่พบว่าชาวโรฮิงญากลุ่มที่ถูกจับที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา และที่ อ.หัวไทรจังหวัดนครศรีธรรมราชนั้นเดินทางมาจากประเทศพม่าด้วยเรือลำเดียวกัน แต่กรณีที่หัวไทรคัดแยกว่าเป็นกรณีการค้ามนุษย์ในขณะที่พังงาเป็นคดีลักลอบเข้าเมืองการต่อสู้กับขบวนการนายหน้าค้ามนุษย์ที่สมรภูมิตะกั่วป่ายังคงดำเนินต่อไป ไม่มีใครรู้ว่าก่อนหน้าฤดูมรสุมในปีนี้จะมีชาวโรฮิงญาถูกนำพาเข้ามาอีกสักกี่ร้อยคน ความพยายามของชาวบ้านตะกั่วป่าที่จะขจัดขบวนการค้ามนุษย์และคืนความสงบเรียบร้อยให้กับบ้านเกิดของตนจะบรรลุผลหรือไม่ คงต้องฝากความหวังไว้ที่ผู้รักษากฎหมายในพื้นที่อำเภอตะกั่วป่า ตลอดจนรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะไม่ปล่อยให้ชาวตะกั่วป่าต้องต่อสู้เพียงลำพัง | บรรยากาศ การทำงานของเจ้าหน้าที่ จุดตรวจสามแยกบ้านด่านทับกำ จ.พังงา ความพยายามของชาวตะกั่วป่าในการสกัดกั้นขบวนการลักลอบพาคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย | สิทธิมนุษยชน,แรงงาน | การค้ามนุษย์,ตะกั่วป่า,โรฮิงญา | https://prachatai.com/journal/2015/02/57874 |
สลด เด็กชาย ป.1 กอดคอกันจมแม่น้ำชี 4 ศพ | เมื่อเวลา 19.50 น. วันที่ 22 มิ.ย.59 พ.ต.ต.ขจรศักดิ์ ตระการไทย สว.(สอบสวน) สภ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี รับแจ้งว่าเมีเด็กจมน้ำเสียชีวิต 4 คน ที่บ้านกลางน้อย ต.ค้อทอง อ.เขื่องใน จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง รุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุ พบว่าชาวบ้านและเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยเขื่องใน นำศพเด็กชายทั้ง 4 คน ขึ้นมาจากแม่น้ำชี วางเรียงกันไว้ริมตลิ่งเรียบร้อยแล้ว โดยมีพ่อแม่ และญาติพี่น้องของเด็กทั้ง 4 คน พากันร้องไห้เสียงระงมด้วยความโศกเศร้า ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย,สอบถาม นายเจนประพฤติ แสงใส อาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยเขื่องใน ซึ่งมาถึงที่เกิดเหตุในช่วงแรกๆ ว่า ช่วงประมาณ 5 โมงเย็น ได้มีฝนตกหนักที่บ้านกลางน้อย ผู้ปกครองไม่เห็นเด็กทั้ง 4 คนกลับมาบ้าน และเป็นช่วงที่ต้องล้อมวงกินข้าวเย็น ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ โดยช่วงก่อนฝนตก ก็ยังเห็นเด็กทั้งสี่คนเล่นอยู่ด้วยกัน จึงพากันออกตามหา ไปพบรอยเท้าเด็กอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำชี ข้างวัดบ้านกลางน้อย และเห็นรองเท้าแตะฟองน้ำลอยอยู่ในน้ำ จึงระดมชาวบ้านกว่า 50 คน ช่วยกันงมหาร่างเด็กทั้งสี่,ช่วงแรกพบร่างเด็กสามคนจมอยู่ก้นแม่น้ำที่มีความลึกมาก แต่ก็ยังหาเด็กอีกคนไม่เจอ จึงต้องขอนักประดาน้ำจาก อ.เมืองอุบลราชธานี ไปช่วยค้นหา จึงเจอร่างของเด็กคนที่สี่ ที่จมอยู่ไกลออกไปในน้ำลึก การค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะเป็นช่วงกลางคืนและฝนตกไม่หยุด เจ้าหน้าที่จึงได้นำร่างของเด็กทั้งสี่คนไปไว้ที่วัดบ้านกลางน้อย,เบื้องต้น ทราบว่า เด็กทั้ง 4 เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ทราบชื่อ ด.ช.สิรวิทย์ พุ่มทอง 2. ด.ช.อติเทพ ทองเขียว 3. ด.ช.อิทธิพล ทองเขียว และ 4. ด.ช.ศิริวัฒน์ สุนทรารชุน ทั้งหมดเป็นนักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนบ้านส้มป่อย อ.เขื่องใน และเรียนอยู่ห้องเดียวกัน,น.ส.สุพล พุ่มทอง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 6 บ้านกลางน้อย ต.ค้อทอง แม่ของ ด.ช.สิรวิทย์ ซึ่งอยู่ในอาการโศกเศร้าได้กล่าวว่า ไม่คิดว่าลูกจะพากันไปเล่นน้ำ เพราะฝนตั้งเค้าจะตกมาตั้งแต่ช่วงเย็น โดยปกติก็ห้ามไม่ให้ลูกไปเล่นน้ำในแม่น้ำ เพราะเป็นช่วงที่น้ำขึ้นและไหลแรง สำหรับศพของเด็กทั้งสี่คน ญาติพี่น้องได้คุยกันแล้วว่าจะทำการฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้ (23 มิย.) หลังถวายพระเพล. | เด็กชาย ป.1 ทั้งหมด 4 คน ชวนกันไปเล่นน้ำในแม่น้ำชี พ่อแม่เอะใจลูกๆ หายไปไม่กลับบ้านทั้งที่ฝนตกหนัก พากันออกตามหา เจอรอยเท้าอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำชี ระดมชาวบ้านและกู้ภัยงมหา ได้มาแต่ร่างไร้วิญญาณ
| null | เด็กจมน้ำ,ป.1จมน้ำ,เด็กจมน้ำ 4 ศพ,ลูกพี่ลูกน้อง,แม่น้ำชี,อุบลราชธานี,กู้ภัยฯ,งมหาเด็กจมน้ำ,น้ำเชี่ยว,ฝนตกหนัก,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์,เด็กตกน้ำตาย,ตกน้ำตาย,จมน้ำตาย,เด็กเล่นน้ำ | https://www.thairath.co.th/content/644859 |
ส่งมอบกุฏิ หลวงพ่อสุดใจ บริจาคเงินทำบุญ 20.5 ล้าน สงเคราะห์โลก | ส่งมอบกุฏิ พระอาจารย์สุดใจ คืนวัดป่าบ้านตาด นำทองแท่ง ทองรูปพรรณ ส่งให้กองทุนสำรองฯ ส่วนเงินทำบุญจากพิธีประชุมเพลิง 20.5 ล้านบาท บริจาคสงเคราะห์โลกเวลา 09.00 น. วันที่ 11 มิ.ย.บริเวณศาลาในวัดเกษรศีลคุณ หรือ วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี พระอธิการสุธรรม สุธัมโม รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด พระราชสารโกศล เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี(ธ) เจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์พระอารามหลวง ร่วมรับคืนพื้นที่กุฏิพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด และวัตถุพยานของมีค่า ที่ตำรวจเก็บไว้ในวันเกิดเพลิงไหม้ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังจากเห็นว่าได้วัตถุพยานเพียงพอแล้ว มีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง สำนักงานพระพุทธศาสนาอุดรธานี สำนักงานวัฒนธรรม จ.อุดรธานี ตำรวจ ภ.จว.อุดรธานี และ สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมในการรับทั้งนี้ นายวันชัย จันทร์พร รอง ผวจ.อุดรธานี นำคณะกรรมการสำรวจและจัดทำบัญชีทรัพย์สินพระอาจารย์สุดใจ ประกอบด้วยหน่วยงานราชการ คณะศิษย์ที่เป็นพระสงฆ์ และฆราวาส ร่วมตรวจสอบทรัพย์สิน ที่บรรจุอยู่ภายในถุงเพื่อคัดแยกรวม 6 ถุง ประกอบด้วย ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ ทั้งที่ถูกไฟไหม้และไม่ถูกไฟไหม้ เตรียมส่งมอบให้กองทุนสำรองเงินตรา และเพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ ธนบัตรที่ถูกเพลิงไหม้บางส่วน และเหรียญบูชาจากนั้นพระสุธรรม สุธัมโม รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ร่วมกับนายวันชัย จันทร์พร รอง ผวจ.อุดรธานี พร้อมคณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานวัฒนธรรม จ.อุดรธานี เข้าตรวจสอบกุฏิพระอาจารย์สุดใจ ที่ถูกเพลิงไหม้ พบว่าความร้อนของไฟ ทำให้พระบูชาเนื้อโลหะละลายเสียหาย การตรวจค้นมุ่งเน้นไปที่ห้องจำวัดพระอาจารย์สุดใจอนึ่ง ก่อนหน้านั้น พระสุธรรม สุธัมโม รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ได้อ่านประกาศของวัด 2 ฉบับ ฉบับแรก เรื่อง หลักเกณฑ์การปฏิบัติงานในกิจการงานของวัดป่าบ้านตาด ได้แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาฝ่ายสงฆ์ วัดป่าบ้านตาด 6 รูป คือ พระบํารุง นวพโล พระบัณฑิต ธีรธัมโม พระนรา กตรักโข พระสุลาน ปภัสสโร พระสุริยันต์ วรคุโณ และพระสมบูรณ์ ฐิตญาโณ เพื่อให้วัดป่าบ้านตาด มีบรรยากาศแห่งสามัคคีธรรม ร่วมกันรักษาข้อวัตรปฏิบัติ ตามปฏิปทาที่พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนการลงนามหนังสือวัดป่าบ้านตาดหรือการสั่งการใดๆ ในนามวัด จึงให้คณะสงฆ์ดังกล่าวมีส่วนร่วมด้วย ตามแต่รักษาการเจ้าอาวาสจะเห็นสมควร คณะกรรมการการเงินของวัด และผู้ทําหน้าที่ต่างๆ อาทิ ตรวจนับ ฝากปัจจัย รวมถึงผู้ทําใบอนุมัติ ขอเบิกจ่ายเสนอต่อรักษาการเจ้าอาวาส และการอื่นๆ ให้ดําเนินงานต่อไปตามที่เคยปฏิบัติมา โดยไวยาวัจกรที่วัดแต่งตั้งขึ้น มีหน้าที่เฉพาะงานเกี่ยวกับโครงการพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ ไม่รวมกิจการงานของวัดในส่วนอื่นส่วนฉบับที่สอง เรื่อง ข้อปฏิบัติของสงฆ์ในการรับมอบบริขาร และสิ่งของของหลวงพ่อสุดใจ ทันตมโน 1. เครื่องอัฐบริขารและสิ่งของส่วนตัวหลวงพ่อสุดใจ ให้คณะสงฆ์ที่ได้รับแต่งตั้ง 6 รูป เป็นผู้รับผิดชอบเก็บรักษา 2. อัฐิข้อนิ้วเท้าพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตาพระมหาบัว (หากพบว่ามี) ให้พระสมบูรณ์ ฐิตญาโณ เป็นผู้รับผิดชอบในการเก็บรักษา 3. โฉนดที่ดินวัด ถือเป็นทรัพย์สินของวัด ให้พระนรา กตรักโข และพระสุลาน ปภัสสโร เป็นผู้รับผิดชอบในการเก็บรักษา4. ทองคำถวายเพื่อโครงการพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หรือทองคำถวายเพื่อโครงการสืบหน่อต่อแขนงคลังหลวงตามปณิธานองค์หลวงตา ให้คณะสงฆ์วัดป่าบ้านตาด 6 รูป เป็นผู้พิจารณาแยกประเภทส่งมอบถวายประธานสงฆ์ประจำโครงการนั้นๆ5. สิ่งของอื่น ให้คณะสงฆ์วัดป่าบ้านตาด 6 รูป เป็นผู้รับผิดชอบในการเก็บรักษา การดำเนินการในแต่ละกรณี ให้ผู้รับผิดชอบจัดทำใบรายงานผลแจ้งแก่รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระสุธรรม สุธัมโม รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ยังแจ้งต่อพระสงฆ์และญาติโยมว่า เงินบริจาคจากพุทธศาสนิกชน ในงานประชุมเพลิงสรีรสังขารหลวงพ่อสุดใจ ทันตมโน 20.5 ล้านบาท ได้สงเคราะห์ตามรายการ ประกอบด้วย 1. ถวายพระสงฆ์และค่าใช้จ่ายในการจัดงานพระราชทานเพลิงศพ หลวงพ่อสุดใจ ทันตมโน 2 ล้านบาท 2. พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ 2 ล้านบาท 3. มูลนิธิวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนในพระอุปถัมภ์ฯ 2 ล้านบาท 4. ธนาคารแห่งประเทศไทย คลังหลวง (ทุนสำรองเงินตรา) 2.5 ล้านบาท 5.โรงพยาบาลศิริราช 2 ล้านบาท 6. โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนเก่น 1 ล้านบาท 7. โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี (รถพยาบาล) 2.5 ล้านบาท 8. โรงพยาบาลกองบิน 23 (รถพยาบาล) 2.5 ล้านบาท 9. รถบรรทุกหกล้อรับ-ส่งนักเรียน โรงเรียนบ้านตาด 1760000 บาท 10. ปรับปรุงระบบไฟฟ้าวัดป่าบ้านตาด 2 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 20.5 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อบูชาคุณความดีอย่างไม่มีประมาณของหลวงพ่อสุดใจ ทันตมโนด้านนายวันชัย จันทร์พร รอง ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้คืนพื้นที่และสิ่งของที่ทางตำรวจได้เก็บหลักฐานต่างๆ เพียงพอแล้ว ในเรื่องของคดี โดยวันนี้เป็นการทำหน้าที่ของคณะกรรมการที่ ผวจ.อุดรธานี แต่งตั้งขึ้นมา เพื่อจะตรวจสอบทรัพย์สิน และจัดทำบัญชี ว่าสิ่งของมีค่าต่างๆ ในกุฏิของอดีตเจ้าอาวาส มีอะไรบ้าง โดยคณะกรรมการฯ กำลังตรวจสอบอยู่ ซึ่งสิ่งของต่างๆ ที่ได้มาทั้งหมดจากกุฏิ จะมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันนับ ซึ่งจากที่ตนดูส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุมงคล และเครื่องอัฐบริขารของหลวงพ่อสุดใจ ที่เราเก็บออกจากกุฏิใส่ถุงออกมาทั้งหมด แล้วนำมาตรวจสอบที่ศาลาใน โดยมีคณะกรรมการฯ ร่วมกันตรวจสอบอยู่ส่วนทองคำที่มีที่เป็นทั้งส่วนของโครงการช่วยชาติ และสำหรับการก่อสร้างเจดีย์ ในวันนี้คงจะยังแยกไม่ได้ว่าส่วนไหนเป็นส่วนไหน ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ มีหน้าที่เพียงตรวจสอบว่า มีทรัพย์สินอะไรบ้างเท่านั้น ส่วนจะเป็นอะไรของหลวงพ่อ หรือเป็นของส่วนไหน เป็นหน้าที่ของทางวัด ที่จะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งเราเป็นแค่คณะกรรมการฯ ที่มาตรวจสอบว่า มีสิ่งของอะไรบ้าง มีกี่รายการ โดยแยกสิ่งของออกเป็นหมวดหมู่เท่านั้น หลังจากนั้นทางวัดที่มีกรรมการอยู่ จะเป็นผู้ดำเนินการนายวันชัย กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องจากตรวจสอบระบบไฟฟ้า สายไฟ และ ระบบน้ำดับเพลิงในวัด เรื่องนี้ทาง ผวจ.อุดรธานี ได้เข้ามาดำเนินการ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ทาง กฟภ.อุดรธานี วัดป่าบ้านตาด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ กำลังเร่งตรวจสอบ เพื่อดูว่าจะมีกุฏิแต่ละหลังในศาลาทั้ง 2 แห่ง ที่ต้องแก้ไขปรับปรุง โดยทั้งหมดจะเป็นเงินงบประมาณของทางวัด และทางเจ้าหน้าที่ของเรา จะเป็นผู้เข้ามาดำเนินการติดตั้งให้ | ส่งมอบกุฏิ พระอาจารย์สุดใจ คืนวัดป่าบ้านตาด นำทองแท่ง ทองรูปพรรณ ส่งให้กองทุนสำรองฯ ส่วนเงินทำบุญจากพิธีประชุมเพลิง 20.5 ล้านบาท บริจาคสงเคราะห์โลก | ข่าว,ทั่วไทย | หลวงพ่อสุดใจ,วัดป่าบ้านตาด,หลวงพ่อสุดใจถูกไฟคลอก,หลวงพ่อสุดใจ ทันตมโน,หลวงพ่อสุดใจมรณภาพ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1866700 |
ยึดคืนเขากระโดง 2 พันไร่ เรียกนายทุน-ขรก.-ชาวบ้าน แสดงตัวใน 30 วัน | เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 59 พล.ต.เดชอุดม นิชรัตน์ ผบ.มทบ.26 พร้อม นายวิทยา จันทร์ฉลอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายภูมิจิตร ศรีวงษ์ราช นายอำเภอเมืองบุรีรัมย์ พ.ต.อ.บัณฑิต อ่อนสาคร ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ นำกำลังทหารจาก มทบ.26 กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองบุรีรัมย์ เข้าตรวจสอบขอคืนพื้นที่สาธารณะประโยชน์เขากระโดง หมู่ที่ 11 บ้านโคกเขา ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ หลังมีผู้บุกรุกถือครองที่สาธารณประโยชน์ปลูกสร้างที่พักอาศัย และสร้างอนุสรณ์สถาน จำนวน 192 ราย รวมเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่,จากการเข้าตรวจสอบพบว่า ผู้ที่บุกรุกครอบครองที่สาธารณประโยชน์เขากระโดง มีทั้งข้าราชการ นายทุน และชาวบ้าน แต่ไม่มีเอกสารสิทธิการถือครองที่ดินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ขณะที่บางรายอ้างว่าซื้อต่อมาจากนายหน้าขายให้ในราคาถูก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงให้ผู้บุกรุกทราบว่า ที่สาธารณประโยชน์ไม่สามารถถือครองและออกเอกสารสิทธิใดๆ ได้ พร้อมทั้งติดประกาศแจ้งผู้ครอบครองที่สาธารณะทั้ง 192 ราย รับทราบ และให้เข้าแสดงตัวกับทางเจ้าหน้าที่ภายใน 30 วัน หากพ้นกำหนดแล้วไม่มาแสดงตัว จะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมดำเนินการผลักดันและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่สาธารณะดังกล่าว,พล.ต.เดชอุดม กล่าวว่า ปัญหาการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์เขากระโดง เรื้อรังมานานตั้งแต่ก่อนปี 2554 มีการแจ้งความดำเนินคดีกลับกลุ่มผู้บุกรุกเดิมกว่า 10 ราย แต่คดียังไม่คืบหน้า ซึ่งได้กำชับให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามกระบวนการของกฎหมายโดยเร็ว สำหรับในปัจจุบัน มีผู้เข้ามาครอบครองปลูกสร้างที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอีก 192 ราย จึงเข้าดำเนินการอย่างจริงจัง โดยการขอคืนพื้นที่จากผู้บุกรุกเพื่อนำที่สาธารณะกลับไปเป็นสมบัติของแผ่นดิน และใช้ประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อไป หากรายใดยังฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะแจ้งความฟ้องร้องตามกฎหมาย. | ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองบุรีรัมย์ สนธิกำลังตรวจสอบพื้นที่ป่าสาธารณประโยชน์เขากระโดง พบผู้บุกรุกทั้ง ขรก. นายทุน ชาวบ้าน เกือบ 200 ราย เนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ อ้าง นายหน้าขายให้ราคาถูก จ่อขอคืนพื้นที่ | null | ยึดคืนพื้นที่ป่า,ยึดคืนผืนป่า,เขากระโดง,บุรีรัมย์,รุกป่า,รุกที่สาธาณประโยชน์,รุกเขากระโดง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/639652 |
แห่ขอเลขเด็ด รูปปั้นทหารโบราณ-มือกำดาบ ซุกใต้ดินที่นนทบุรี | เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 15 พ.ค.58 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีคนขุดพบรูปปูนปั้นเหมือนทหารโบราณขนาดเท่าคนจริง บริเวณที่ถมดิน ซอยบางศรีเมือง ถนนนครอินทร์ หมู่ 5 ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี บริเวณที่พบรูปปูนปั้นเป็นพื้นที่รกร้าง กำลังถมดินเพื่อที่จะก่อสร้างหมู่บ้าน ได้มีการนำรถดินมาถม โดยใช้รถแบ็กโฮค่อยปรับหน้าดิน มีชาวบ้านจำนวนมาก กำลังมุงดู และถ่ายรูป พร้อมกับส่องหาเลขตามรูปปั้น และนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้ พบว่ารูปปูนปั้นทหารโบราณ รูปร่างสูงใหญ่เท่าคนจริง มือขวากำไว้เพียงด้ามดาบส่วนตัวดาบได้หาบไป มือซ้ายถือฝักดาบ ส่วนผู้ที่ขุดพบคือนายไกรศร คำพิชิต อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194 หมู่ 6 ต.เสือเฒ่า อ.เชียงยืน จ.มหาสารคราม คนขับรถแบ็กโฮ,นายไกรศร กล่าวว่า ตนทำหน้าที่ขับรถแบ็กโฮ เพื่อคอยปรับหน้าดิน เพื่อที่จะสร้างหมู่บ้าน มาทำงานได้เพียง 2 วัน จนเวลา 18.00 น. ขณะที่กำลังขุดดินอยู่นั้นรู้สึกว่าเหมือนมือขุดไปกระแทกกับก้อนหิน จึงพยายามที่จะขุดขึ้นมาอยู่หลายครั้ง จึงตัดสินใจกระแทกเพื่อให้แตก แต่ไม่สามารถทำได้ และลองขุดอีกครั้งจนสามารถนำขึ้นมาได้ แล้วพบว่าเป็นรูปปั้นเหมือนทหารโบราณ ตนจึงนำมาตั้งไว้ด้านหน้าที่ถมดิน ก่อนจะใช้น้ำล้างให้สะอาด จนมีชาวบ้านที่ทราบต่างเดินทางมาดู และขอหวยกับรูปปั้นดังกล่าว. | หนุ่มมหาสารคาม ขับรถแบ็กโฮปรับหน้าดินเพื่อก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรเกิดขุดพบ รูปปูนปั้นทหารโบราณ ขนาดใหญ่เท่าคนจริง มือขวากำดาบ บริเวณซอยบางศรีเมือง จ.นนทบุรี ชาวบ้านทราบข่าวต่างแห่กราบไหว้ขอเลขเด็ดในวันหวยออก | ข่าว,ทั่วไทย | แห่ขอหวย,พบรูปปั้นทหารเก่าโบราณ,ซอยบางศรีเมือง จ.นนทบุรี,ไกรศร คำพิชิต,รูปปั้นทหารโบราณ,ข่าว,ข่าวสังคมทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์,คนขับรถแบ็กโฮ | https://www.thairath.co.th/news/local/499112 |
ชาบี คอนเฟิร์มลา บาร์ซา ย้ายซบ อัล ซาดด์ | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 21 พ.ค. ว่า ชาบี เอร์นานเดช กองกลางจอมเก๋าของ เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา สโมสรแกร่งลีกลาลีกา สเปน ประกาศอำลาสโมสรหลังจบฤดูกาล และเตรียมไปอยู่กับ อัล ซาดด์ ในลีกกาตาร์,แข้งวัย 35 ปี ถือเป็นกองกลางที่ดีที่สุดในโลก โดยเริ่มต้นเล่นกับอคาเดมีของถิ่นคัมป์นูมาตั้งแต่ปี 1991 ก่อนจะก้าวมาเล่นชุดใหญ่ในปี 1998 และเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมคว้าถ้วยแชมป์ถึง 23 ใบ ไม่ว่าจะเป็นของ ลาลีกา สเปน, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และ โกปา เดล เรย์,อย่างไรก็ตาม ในช่วงระยะหลังด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้ ชาบี ก็ต้องตกเป็นตัวสำรองของ อิวาน ราคิติช อยู่บ่อยครั้ง ทำให้เจ้าตัวต้องตัดสินใจลาทีมไปในที่สุด และมีรายงานว่าได้บรรลุข้อตกลงย้ายไปร่วมทีม อัล ซาดด์ แล้วโดยจะเซ็นสัญญากับต้นสังกัดใหม่ 3 ปี,ชาบี กล่าวกับสื่อว่า มันเป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาด ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้วที่จะไป,ผมยังคงรู้สึกว่าตัวเองยังมีประโยชน์กับที่นี่ แต่การเปลี่ยนแปลงมันเป็นสิ่งที่จำเป็น สิ่งที่อยู่ในหัวคือสิ่งที่บอกกับตัวผม ไม่ใช่หัวใจ,ผมจะเล่นต่อกับ อัล ซาดด์ อีก 2 ฤดูกาลโดยมีออฟชั่นขยายเพิ่มเป็นปีที่ 3 ผมยังจะได้กลายเป็นโค้ชและผู้อำนวยการกีฬาด้วย ไม่นานมานี้สโมสรได้เสนอสัญญาใหม่จนถึงปี 2018 แต่ผมก็ได้ตัดสินใจไปแล้ว,ที่กาตาร์เป็นโปรเจกต์อันน่าตื่นเต้นเลย แต่เป้าหมายสูงสุดของผมคือการได้กลับมาบาร์ซา ที่นี่คือบ้านของผม จะกลับมาในฐานะโค้ช, ผู้อำนวยการหรืออะไรก็แล้วแต่ | ชาบี เอร์นานเดช ห้องเครื่องจอมเก๋าของ เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา จัดปิดตำนาน 17 ปีในถิ่นคัมป์นู หลังจบฤดูกาล โดยเตรียมย้ายไปอยู่กับ อัล ซาดด์ ทีมในลีกกาตาร์… | null | ลาลีกา,สเปน,เจ้าบุญทุ่ม,บาร์เซโลนา,ชาบี เอร์นานเดช,อัล ซาดด์,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/500314 |
เพิ่มโทษอีก 6 ปี บุญทรง ขายข้าวจีทูจี ศาลอ่าน 7 ชั่วโมง จำคุก 48 ปี | ที่อาคารศาลฎีกา สนามหลวง เมื่อวันที่ 6 ก.ย. องค์คณะผู้พิพากษา 9 คน ชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ นัดฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ในคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ฟ้อง นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว, นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว และพวกรวม 28 คน คดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ,คดีนี้เมื่อวันที่ 25 ส.ค.60 ศาลฎีกาฯ ได้พิพากษาครั้งแรกให้ นายบุญทรง และจำเลยร่วมคนอื่นๆ รวม 15 ราย จำคุกคนละ 4-48 ปี และยกฟ้องกลุ่มเอกชน 8 ราย ต่อมาอัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ขอให้เพิ่มโทษจำเลยบางคน และให้ลงโทษกลุ่มบริษัทโรงสีข้าว ขณะที่จำเลยก็ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาตามกฎหมายใหม่,เมื่อถึงเวลานัด ศาลได้ให้คู่ความทั้งอัยการโจทก์, จำเลย, ทนายความ รวมทั้งกลุ่มญาติจำเลย ทยอยเข้าห้องพิจารณาตั้งแต่เวลา 11.00 น. เพื่อเตรียมรอฟังการอ่านคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ที่จะเริ่มอ่านในเวลา 12.00 น. โดยศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษา 7 ชั่วโมง เสร็จสิ้นในเวลา 19.00 น.,พิพากษาแก้ จำคุกนายบุญทรง จำเลยที่ 2 เพิ่มอีกกระทงหนึ่ง เป็นเวลา 6 ปี รวมโทษจำคุกนายบุญทรงจากโทษเดิม 42 ปี เป็นจำคุกทั้งสิ้น 48 ปี และให้ลงโทษกลุ่มบริษัทโรงสี ได้แก่ นายปกรณ์ ลีศิริกุล กรรมการบริษัท จำเลยที่ 26 และนางประพิศ มานะธัญญา กรรมการบริษัท เจียเม้ง จำกัด จำเลยที่ 28 คนละ 4 ปี พร้อมปรับคนละ 25,000 บาท,นอกจากนี้ ยังให้ปรับนิติบุคคล ซึ่งเป็นโรงสีอีก 4 ราย คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีกิจทวียโสธร จำเลยที่ 22, บริษัท กิจทวียโสธรไรซ์ จำกัด โดยนายทวี อาจสมรรถ กรรมการ จำเลยที่ 24, บริษัท เค.เอ็ม.ซี. อินเตอร์ไรซ์ (2002) จำกัด จำเลยที่ 25 และบริษัท เจียเม้ง จำกัด จำเลยที่ 27 อีกรายละ 25,000 บาท โดยที่การกระทำของนายทวี อาจสมรรถ หุ้นส่วนผู้จัดการ จำเลยที่ 23 เป็นความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษ 2 กะทง รวมจำคุกจำเลยที่ 23 จำนวน 8 ปี และปรับ 50,000 บาท โดยที่พฤติการณ์ของกลุ่มโรงสี จำเลยที่ 23, 26, 28 นั้น เห็นสมควรให้รอลงอาญาไว้คนละ 3 ปี,ยังให้กลุ่มโรงสีจำเลยที่ 22-23 ชดใช้เงิน 27 ล้านบาทให้กับกระทรวงคลัง, จำเลยที่ 25-26 รวมกันชำระเงิน 15 ล้านบาท และจำเลยที่ 27-28 ให้ร่วมกันชดใช้เงิน 55 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ได้มีการกำหนดในคำพิพากษานี้ตามที่อัยการสูงสุด โจทก์ ยื่นอุทธรณ์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามที่ศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษา,โดยวันนี้องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ได้ออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุดของจำเลยแต่ละคนตามคำพิพากษาแล้ว พร้อมออกคำบังคับการชดใช้ค่าเสียหายในส่วนแพ่งให้กับกระทรวงการคลังตามคำพิพากษาด้วย. | อุทธรณ์ จีทูจี พิพากษาแก้เพิ่มโทษจำคุก บุญทรง อีก 6 ปี รวมจำคุก 48 ปี ขณะที่กลุ่มโรงสีเจอโทษจากยกฟ้อง ให้จำคุก-ปรับ 6 ราย แต่รอลงอาญา 3 ปี | ข่าว,อาชญากรรม | จีทูจี,ขายข้าวจีทูจี,บุญทรง,เพิ่มโทษบุญทรง,บุญทรง เตริยาภิรมย์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1654935 |
เจฟฟรี่ย์ เว็บบ์ นั่ง ปธ.สหพันธ์ฟุตบอลคอนคาเคฟ คนใหม่แล้ว | หลังจากที่แจ็ค วอร์เนอร์ อดีตประธานสหพันธ์ฟุตบอลคอนคาเคฟ ถูกคณะกรรมการควบคุมวินัยของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติสั่งแบนจากวงการฟุตบอลไปเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดสหพันธ์ฟุตบอลคอนคาเคฟ ได้ลงคะแนนเสียงให้ เจฟฟรี่ย์ เว็บบ์ เข้ารับตำแหน่งประธานสหพันธ์คนใหม่ โดย เว็บบ์ วัย 47 ปี เป็นประธานสมาคมฟุตบอลหมู่เกาะคีย์แมนซึ่งเป็น 1 ใน 4 สมาคมฟุตบอลที่มีส่วนสำคัญในการเปิดเผยข้อกล่าวหาการติดสินบนของแจ็ค วอร์เนอร์ เมื่อปีที่แล้วและภายหลังการเลือกตั้งตำแหน่งประธานสหพันธ์คนใหม่เสร็จสิ้นลงไม่กี่นาที บอร์ดบริหารสหพันธ์ฟุตบอลคอนคาเคฟได้มีมติเป็นเอกฉันท์เรียกร้องให้ ชัค บลาเซอร์ อดีตเลขาธิการสหพันธ์ให้ก้าวลงจากตำแหน่งคณะกรรมการบริหารของฟีฟ่า เนื่องจากพวกเค้าเห็นว่า บลาเซอร์ มีการจัดการด้านการเงินของสหพันธ์ที่ไม่โปร่งใสในขณะที่ดำรงตำแหน่งขณะที่ เซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานฟีฟ่าได้กล่าวแสดงความยินดีกับ เจฟฟรี่ย์ ที่ได้ขึ้นมาเป็นประธานสหพันธ์คนใหม่ และ แบล็ตเตอร์ ยังยืนยันว่าได้ฟีฟ่าแต่งตั้ง ลิเดีย เซเกร่า นายกสมาคมฟุตบอลบูรันดี ให้เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของฟีฟ่าทั้งนี้ เซเกร่า เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้เป็นนายกสมาคมฟุตบอล เนื่องจากเธอต่อสู้กับการคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นในวงการฟุตบอลบูรันดี ก่อนจะได้รับแต่งตั้งเป็นนายกสมาคมในปี 2004 และ เธอยังเป็นสมาชิกของคณะกรรมการโอลิมปิกสากลอีกด้วย | สหพันธ์ฟุตบอลคอนคาเคฟแต่งตั้งประธานสหพันธ์คนใหม่แล้ว พร้อมทั้งเรียกร้องให้ ชัค บลาเซอร์ อดีตเลขาธิการสหพันธ์ออกจากตำแหน่งคณะกรรมการบริหารของฟีฟ่า | กีฬา | คอนคาเคฟ,บลาเซอร์,บูรันดี,ฟีฟ่า,ฟุตบอล,ลิเดีย เซเกร่า,แจ็ค วอร์เนอร์ | https://news.thaipbs.or.th/content/86917 |
กรมการขนส่งทางบก เด้งรับ ม.44 ตั้งจุดรับชำระใบสั่งจราจร | วันนี้ (23 มี.ค.2560) นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ออกคำสั่ง ม.44 แก้ปัญหาความปลอดภัยรถโดยสารและคุมเข้มวินัยจราจร โดยเฉพาะในส่วนของการออกใบสั่งรถยนต์ทั่วไปที่ถูกออกใบสั่งตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.นี้ จะเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างตำรวจกับกรมการขนส่งทางบก โดยจะใช้พื้นที่ของขนส่งเปิดโต๊ะรับชำระค่าปรับแทนตำรวจ เมื่อชำระค่าปรับเรียบร้อยแล้วจะสามารถต่อภาษีได้ทันทีนายสนิท บอกว่า แต่หากผู้ต่อภาษีไม่สะดวกชำระค่าปรับ กรมการขนส่งทางบกจะออกป้ายต่อภาษีให้ชั่วคราว มีลักษณะเป็นใบเสร็จพร้อมแสตมป์ข้อความระบุว่าใช้เป็นป้ายต่อทะเบียนภาษีชั่วคราว และหากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเรียกตรวจสอบรถ สามารถแสดงป้ายดังกล่าวได้ทันทีสำหรับป้ายต่อภาษีชั่วคราวจะมีอายุ 30 วัน ในระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวผู้ต่อภาษีจะต้องชำระค่าปรับให้ครบถ้วน หากไม่ยอมดำเนินการจนพ้น 30 วันแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้ดำเนินคดีฟ้องร้อง ซึ่งกรมการขนส่งทางบกและตำรวจจะประชุมหารือเรื่องการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างกันโดยเร็วต่อไปส่วนการติดตั้งเข็มขัดนิรภัย อธิบดีกรมขนส่งทางบกกล่าวว่า จะต้องติดตั้งในรถโดยสารและรถยนต์ส่วนบุคคลทุกคัน ส่วนข้อสงสัยที่ว่าจะมีผลครอบคลุมถึงรถกระบะต่อหลังคาหรือแค็บด้านหลังหรือไม่นั้น ขอชี้แจงว่าประกาศดังกล่าวจะครอบคลุมเฉพาะรถที่มีกำหนดโครงสร้างว่ามีจำนวนที่นั่งเท่าใด หากรถคันใดมีการต่อเติมที่นั่งเพิ่มเติมหรือเป็นพื้นที่ในรถที่ไม่ได้ถูกระบุเพื่อการใช้สำหรับโดยสาร (ใช้วางสิ่งของ) จะไม่เข้าข่ายตามประกาศดังกล่าว รวมถึงรถ 2 แถวที่ตามโครงสร้างไม่สามารถติดเข็มขัดนิรภัยได้ จึงจะใช้มาตรการควบคุมดูแลความปลอดภัยอื่น ทั้งนี้คำสั่ง คสช. เป็นความพยายามหนึ่งของรัฐบาลที่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนให้ประสบความสำเร็จ หลังพบว่าประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากถึงกว่า 20000 คนต่อปี ขณะที่ช่วงเทศกาลจะมีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นโดยสงกรานต์ปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 21 และเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 25 | กรมการขนส่งทางบก เด้งรับกฎหมายจราจรใหม่ ตั้งโต๊ะรับชำระค่าปรับใบสั่งที่ออกตั้งแต่ 21 มี.ค.นี้ พร้อมช่วยออกใบเสร็จชั่วคราวแทนต่อภาษี | สังคม | null | https://news.thaipbs.or.th/content/261093 |
คันเร่งค้าง กระบะสกลนคร พุ่งชนรถจอดข้างทาง 6 คันรวด โชคดีไร้เจ็บ | เมื่อเวลา 20.45 น. วันที่ 10 ก.พ. 59 ร.ต.อ.อนุพงษ์ ศรีสุข ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันหลายคัน บริเวณถนนตัดใหม่แยกบิ๊กซีสกลนคร จึงพร้อมด้วยกู้ภัยมูลนิธิเมตตาธรรม รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้คนจำนวนมากกำลังมุงดูเหตุการณ์ รวมถึงบรรดาเจ้าของรถหลายคันที่ประสบอุบัติเหตุ ต่างพากันเดินตรวจดูสภาพรถ,จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถที่ถูกชนทั้งหมดจอดชิดขอบทาง ต่อมามีรถกระบะอีซูซุ สีเทาดำ ทะเบียน บ1400 สกลนคร ขับมาจากสี่แยกบิ๊กซี ด้วยความเร็ว ก่อนเสียหลักพุ่งข้ามเลนชน รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ SLK 200 สีดำ ทะเบียน ญศ9889 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นยังชนรถคันอื่นๆ อีก 5 คัน ประกอบด้วย รถยนต์นิสสัน เทียน่า สีขาว ทะเบียน ฆภ1808 กรุงเทพมหานคร รถยนต์โตโยต้า ยาริส สีส้ม ทะเบียน กจ2451 หนองคาย รถยนต์ซูซูกิ สวิฟต์ สีดำ ทะเบียน กต1328 สกลนคร รถยนต์โตโยต้า โซลูน่า สีน้ำเงิน ทะเบียน กค9548 สิงห์บุรี และรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟีโน่ ทะเบียน 1กฉ5201 ขอนแก่น รวมทั้งหมด 6 คัน ส่งผลให้รถเกือบทั้งหมดอยู่ในสภาพพังยับเยิน และมี 4 คัน ที่ต้องใช้รถยกไป แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ,นายธนวัตร์ คำชมพู อายุ 20 ปี ผู้ขับรถกระบะคันต้นเหตุ ให้การว่า ขณะที่กำลังขับรถเพื่อกลับบ้านที่ชุมชนคำสะอาด ในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร เมื่อขับผ่านสี่แยกบิ๊กซี ได้เร่งเครื่องยนต์ก่อนเข้าเกียร์ แต่ปรากฏว่าคันเร่งค้าง ทำให้เกิดความตกใจและพยายามจะเบรก จึงทำให้รถเสียหลักพุ่งข้ามเลนไปชนกับรถที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้าม,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ และจะได้นำตัว นายธนวัตร์ ไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ก่อนจะสอบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป. | หนุ่มสกลนคร ขับกระบะเก่ากลับบ้าน ระหว่างทางคันเร่งค้าง พุ่งชนรถเก๋ง 5 คัน จยย. 1 คัน จอดริมถนนเสียหายหนัก ขณะ ตร. ยังไม่ปักใจเชื่อ นำตัวตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ ก่อนสอบละเอียดอีกครั้ง | null | คันเร่งค้าง,กระบะคันเร่งค้าง,รถชน,ชนแหลก,อนุพงษ์ ศรีสุข,เสียหลัก,พุ่งชน,อุบัติเหตุ,สกลนคร,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/575755 |
นพวรรณ เลิศชีวกานต์ตกรอบ 8 คนสุดท้าย ศึกเทนนิสเอเชี่ยนเเชมเปี้ยนชิพ | ทนนิส รายการ เอเชี่ยนแชมป์เปี้ยนชิพ ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในประเภทหญิงเดี่ยว รอบ 8 คนสุดท้าย นพวรรณ เลิศชีวกานต์ เสื้อสีฟ้า ที่วันนี้ ( 6 ธ.ค.)ลงสนามพบกับ ฮาน ซอง ฮี จากเกาหลีใต้ โดยเซ็ทแรก นพวรรณพยามยามต้านทานการบุก ของนักหวดจากเกาหลีใต้ ได้อย่างสนุก แต่ขาดความแน่นอนในช่วงท้าย ส่งผลให้เซ็ทแรก นพวรรณ แพ้ไปก่อน 4 ต่อ 6 ส่วนต้นเซ็ท 2 นพวรรณเกิดอาการเจ็บที่ข้อศอก จึงขอยอมแพ้ ส่งผลให้นพวรรณตกรอบ 8 คนสุดท้ายหลังจบเกมส์นพวรรณเปิดเผยว่า อาการบาดเจ็บที่ข้อศอก ที่เรียกว่า เทนนิสเอลโบ นั้นเริ่มมาตั้งแต่ต้นปีขณะลงแข่งขันที่อเมริกา แต่ก็พยายามลงแข่งขันรายการนี้เพราะจัดขึ้นในเมืองไทยในรอบ 5 ปี ซึ่งหลังจากนี้กลับไปเช็คอาการบาดเจ็บว่าจะพักร่างกายหลังจบรายการนี้ทันทีเลยหรือไม่สำหรับคู่แข่งขัน ของ ฮาน ซอง ฮี ในรอบ 4 คนสุดท้าย จะเป็นนักเทนนิสหญิง จากประเทศไทย ที่กำลังลงแข่งขันอยู่ในขณะนี้ คือ ลักษิกา คำขำ กับ วรัญชญา วงศ์เทียนชัยโดย รายการนี้ ชิงเงินรางวัลรวมประมาณ 3600000 บาท นอกจากนี้ เเชมป์ประเภทชายเดี่ยว ยังได้สิทธิเข้าแข่งขันรอบเมนดรอว์ ในศึกเทนนิสอาชีพชาย ไทยแลนด์ โอเพ่น 2013 ขณะที่ฝ่ายหญิง จะได้สิทธิเข้าแข่งขันรอบเมนดรอว์ ในศึกเทนนิสอาชีพหญิง พีทีที พัทยา โอเพ่นปีหน้า (56) | นพวรรณ เลิศชีวกานต์ พลาดตกรอบ 8 คนสุดท้ายในศึกเทนนิสเอเชี่ยนเเชมเปี้ยนชิพ หลังจากมีอาการบาดเจ็บรบกวน | กีฬา | ตกรอบ,นพวรรณ,น้องนก,เทนนิส,เอเชี่ยนเเชมเปี้ยนชิพ | https://news.thaipbs.or.th/content/131279 |
เสวนา มาตรา 112 ข้อถกเถียงทางกฎหมายสู่ข้อถกเถียงทางสังคม | ของพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค สมชาย หอมลออ กรรมการ คอป.ระบุปัญหาการใช้ 112 เป็นอุปสรรค จำกัดเสรีภาพการแสดงความเห็นวันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2555 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จัดงานวิชาการรำลึก ศาสตราจารย์ ดร. หยุด แสงอุทัย โดยเสวนาวิชาการหัวข้อ มาตรา 112 ข้อถกเถียงทางกฎหมายสู่ข้อถกเถียงทางสังคม ที่ห้องจี๊ด เศรษฐบุตร คณะนิติศาสตร์ มธ. ท่าพระจันทร์ ผู้ร่วมอภิปรายประกอบด้วย นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ภาคใต้ สมชาย หอมลออ กรรมการคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ผศ. ดร. กิตติศักดิ์ ปรกติ รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ดำเนินการโดย สาวตรี สุขศรี หัวหน้าภาควิชากฎหมายอาญาและอาชญาวิทยา คณะนิติศาสตร์ มธ.สุรศักดิ์ ลิขสิทธิ์วัฒนกุล คณบดีคณะนิติศาสตร์ กล่าวเปิดการเสวนาว่า หัวข้อเสวนานี้ เป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันมากและดูเหมือนจะสร้างความร้าวฉาน แต่เป็นหัวข้อที่สำคัญ และอยากให้คิดว่าในบ้านเมืองต้องหลอมรวมความคิดที่แตกต่างกันให้ได้ โดยไม่ใช้ความรุนแรงใดๆ ทั้งนี้ ดร.หยุด แสงอุทัยก็เขียนงานวิชาการแล้วถูกกล่าวหาว่าเขียนบทความที่เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ข้อเท็จจริงไม่มีการสอบสวนและดำเนินการต่อปูนเทพ ศิรินุพงศ์ อาจารย์ประจำ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อธิบายเพิ่มเติมกรณีที่ ดร.หยุด แสงอุทัยถูกร้องทุกข์กล่าวโทษโดย ส.ส. ผู้หนึ่ง จากกรณีที่ ดร.หยุด อ่านบทความผ่านทางสถานีวิทยุประจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันอังคารที่ 7 ก.พ. 2499 โดยข้อความที่ถูกกล่าวหาคือองค์พระมหากษัตริย์ไม่พึงรัสสิ่งใดอันเป็นปัญหาหรือเรื่องราวที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ การเมือง หรือทางสังคมของประเทศ โดยไม่มีรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลเป็นผู้สนองพระบรมราชโองการ โดยครั้งนั้น ส.ส. คนหนึ่งส่งบันทึกด่วนถึงอธิบดีกรมตำรวจว่า ดร.หยุดไม่มีสิทธิจะวิจารณ์ แต่ตำรวจให้ความเห็นว่า การวิจารณ์ดังกล่าวไม่เป็นการผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพียงแต่แนะประชาชนให้รู้ฐานะของกษัตริย์ไม่บังควรไปรบกวนให้ปฏิบัติการใด ทั้งจอมพล ป. นายกรัฐมนตรีคณะนั้นก็ได้ให้ความเห็นว่า ดร. หยุดไม่ได้ทำผิดด้วยถาวร เสนเนียม กล่าวว่าตลอดมา ประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งทุกประเทศต้องมีประมุข แต่แบ่งเป็นสองประเภท คือ เป็นพระมหากษัตริย์กับไม่ใช่กษัตริย์ คือประธานาธิบดี สำหรับมาตรา 8 ของรัฐธรรมนูญ นั้นบัญญัติว่ากษัตริย์ทรงเป็นที่เคารพสักการะ ละเมิดมิได้ ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางไม่แพ้มาตรา 112 ว่าเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นหรือไม่เขาตั้งประเด็นว่า ปัจจุบันนี้มีการกระทำผิดมาตรา 112 มากกว่าปกติเพราะอะไร ประการต่อไปคือมีการวิพากษ์วิจารณ์ให้แก้ไข 112 ต้องถามว่าบัญญัติไว้เป็นประชาธิปไตยหรือไม่ ขัดต่อรัฐธรรมนญไหม ขัดขวางในการแสดงความเห็นและขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนหรือไม่โดยที่มาตราดังกล่าวห้ามดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย ซึ่งการหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายคนอย่างถาวร เสนเนียม ก็ผิดกฎหมายเช่นกันประเด็นต่อมาคือ การทำผิดที่หลายคนพูดกันติดปากว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้นคือ มีองค์ประกอบความผิด 3 ประการ คือ ห้ามดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย กับคน 3 กลุ่มคือ พระมหากษัตริย์ ราชินี และองค์รัชทายาทนั้น ต้องดูหลักคิดที่นำมาใช้บัญญัติกฎหมายดังกล่าว และเทียบเคียงกับกรณีต่างประเทศด้วยว่ามีกฎหมายลักษณะเช่นเดียวกันหรือไม่ ทั้งนี้เขาระบุว่ากฎหมายนั้นแก้ไขได้ และมาตรา 112 ไม่มีใครห้ามแก้ แต่ต้องดูบรรยากาศที่เกิดขึ้นในสังคม ไม่ใช่แก้ด้วยอารมณ์ต้องแก้ด้วยเหตุผลเมื่อพูดถึงหลักกฎหมาย มาตรานี้คำนึงถึงหลักนิติธรรม ว่าไม่ต้องการให้เกิดผลร้ายกับผู้เสียหายหรือเหยื่อ ความไม่สงบ ความมั่นคงและเศรษฐกิจของสังคมนั้นๆ ด้วยประการต่อมา คือประมุขของรัฐต้องได้รับความคุ้มครองเป็นพิเศษ รัฐไทยก็ได้รับความคุ้มครองเป็นพิเศษเช่นเดียวกับต่างชาติ และประมุขของรัฐนั้นได้รับความคุ้มครองในฐานะที่เป็นสถาบัน ประการหนึ่ง และในฐานะบุคคลอีกประการหนึ่ง ซึ่งไม่แตกต่างกับต่างประเทศมากนักถาวรระบุด้วยว่า กฎหมายอาญามาตรา 113 ยังได้บัญญัติคุ้มครองประมุขต่างประเทศด้วย ขณะที่กฎหมายอาญามาตรา 134 ยังบัญญัติคุ้มครองเป็นพิเศษ ต่อผู้แทนรัฐต่างประเทศจากการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายเมื่อเป็นเช่นนี้ ถามว่านี่เป็นสิทธิพิเศษเขียนไว้คุ้มครองกษัตริย์ไทยหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าไม่เป็นพิเศษ เพราะเป็นไปตามลักษณะวัฒนธรรมไทยและสอดคล้องกับต่างประเทศขณะที่มีผู้อ้างว่ากฎหมายดังกล่าวนั้นขัดกับปฏิญญาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ แต่ภายใต้ปฏิญญาดังกล่าวก็ยังระบุว่าบุคคลทุกคนย่อมอยู่ภายใต้ข้อจำกัดตามกฎหมาย จึงไม่ใช่ทุกคนจะลุกขึ้นมาหมิ่นประมาทใคร แสดงความอาฆาตมาดร้ายใครก็ทำได้เขาตั้งคำถามว่า ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย มีการห้ามหรือการจำกัดสิทธิเสรีภาพในบางเรื่องนั้น ใครถูกใครผิด โดยยกตัวอย่างประเทศมาเลเซีย จะดูหมิ่นพระเจ้า หรือมีพฤติกรรมรักร่วมเพศ ไม่ได้ เป็นความผิด ขณะที่สามารถแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ในอเมริกาได้ ดังนั้น ในประเทศประชาธิปไตย การระบุว่าใครถูกใครผิดต้องคำนึงถึงศีลธรรมอันดีและความสงบเรียบร้อยของประเทศนั้นๆ เป็นหลักด้วยการจะแก้ไขมาตรา 112 นั้นผมยังไม่เห็นด้วยเพราะส่งผลกระทบไม่ว่าจะต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดี นายถาวรกล่าวย้ำ จากนั้นได้อ้างถึงพระราชดำรัส เราจะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม และแสดงความเห็นว่า การจะแก้กฎหมายนั้นยังยืนยันว่าแก้ได้ แต่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้นในสังคม วัฒนธรรมประเพณี การปกครองในระบอบประชาธิปไตยนั้นถูกจำกัดสิทธิมีในทุกประเทศไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยถาวรกล่าวต่อไปด้วยว่าระหว่างตัวกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายนั้นเราสับสน เช่นกรณียาเสพติด ที่คนมักอ้างว่ากฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งนี้ ดร.คณิต ณ นคร เคยกล่าวว่ากระบวนการยุติธรรมไทยมีพฤติกรรมน่ารังเกียจสามอย่าง ประการแรกคือ มักทำงานสบายๆ ประการที่สอง มักกลัวไปหมดทุกอย่าง วันที่ประชาธิปัตย์ทำงาน ก็กลัวว่าสิ่งนั้นผิดสิ่งนี้ผิด พอวันที่ประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำงานสิ่งนั้นไม่ผิดเสียแล้ว ประการที่สามมักจะชอบประจบโดยเขากล่าวว่า จากประสบการณ์ของตนเองในฐานะที่เคยเป็นอัยการมาก่อน เขาพบว่าหลักดุลพินิจของอัยการในการสั่งฟ้องสั่งไม่ฟ้องนั้นไม่ค่อยได้ใช้ ดังนั้น กรณีการแก้ไขมาตรา 112 นั้น เป็นเรื่องของการใช้กฎหมายเพื่อตอบเป้าหมายในการทำลายคู่แข่งทางการเมืองหรือไม่ในส่วนของข้อเสนอของพรรค ปชป. ที่พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นผู้จัดทำและเสนอนั้น ถาวระบุว่า ไม่เห็นด้วยทั้งสองประด็น คือการขยายความคุ้มครองไปยังราชวงศ์และการเพิ่มโทษ ทั้งนี้เขาเห็นว่าแม้จะมีการแก้ไขเพิ่มโทษใน พ.ศ. 2519 แต่ที่ผ่านมา ก็จะเห็นว่ามีการพระราชทานอภัยโทษ ดังนั้นมาตรา 112 ไม่น่าจะเป็นปัญหาของการบัญญัติแต่น่จะเป็นปัญหากระบวนการยุติธรรมของสังคมไทย ดังนั้นก็อยากให้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ช่วยขับเคลื่อนผลักดันพฤติกรรมอันน่ารังเกียจของกระบวนการยุติธรรมในสังคมไทย ขณะที่ถ้าจะมีการผลักดันให้มีการแก้มาตรา 112 ก็น่าจะเอามาตราอื่นที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา และปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนมาพิจารณาประกอบกันด้วยทั้งนี้เขาอธิบายว่า ส.ส. มีอิสระที่จะเสนอแก้กฎหมาย ส.ส. คนหนึ่ง รวบรวมคนได้ 20 คน ก็สามารถเสนอแก้ไขกฎหมายได้สมชาย หอมลออ แสดงความเห็นในฐานะกรรมการ คอป. ว่า 112 นี้ตกอยูในสภาวะที่แก้ก็ไม่ได้ ไม่แก้ก็ไม่ได้ เป็นภาวะที่อิหลักอิเหลื่อมาก ประเด็น 112 กลายเป็นประเด็นทางการเมืองและเกือบจะเป็นประเด็นที่จะแบ่งขั้วทางการเมืองของคนในสังคมด้วย ซึ่งหากถูกผลักดันเป็นขั้วขัดแย้งในสังคมแล้วจะลึกและรุนแรงกว่าความขัดแย้งในช่วงที่ผ่านมา แต่หลังจากที่มีคนกลุ่มหนึ่งมีความพยายามที่จะทำอย่างนั้นก็ไม่สำเร็จในการใช้มาตรา 112 มาแบ่งขั้วการเมืองในสังคมไทย แต่ถือเป็นความโชคดีที่ทำไม่สำเร็จการถกเถียงทางวิชาการด้วยเหตุด้วยผลจะทำให้การแก้ไขปัญหานี้สามารถทำได้ คือทำให้สภาวะที่แก้ก็ไม่ได้ ไม่แก้ก็ไม่ได้ นั้นหมดไปในส่วนของ คอป. นั้นมีภาระหน้าที่ในการตรวจสอบค้นหาความจริงและพยายามเสนอแนะต่อรัฐ สังคมและคู่ขัดแย้งต่างๆ เพื่อจะขจัดขวากหนามหรืออุปสรรคที่จะสร้างความปรองดอง ทำให้ คอป.พบปมขัดแย้งประการหนึ่งที่ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ คือ คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่มีผู้ถูกดำเนินคดีมากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่ม นปช. หรือกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลในช่วงที่มีการชุมนุมเมื่อปี 2553 ซึ่งเขาเองได้ดูสำนวนคดีหลายสำนวนและพฤติกรรมในการดำเนินคดี ก็พบว่าปัญหา 112 เป็นปัญหาทั้งตัวกฎหมาย การบังคับใช้ และการตีความกฎหมายโดยศาล คือไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะการบังคับใช้ แต่เป็นปัญหาที่ตัวบทกฎหมายด้วย จึงเสนอให้แก้ไขในสองประเด็นคือผู้ฟ้อง (เสนอให้ผู้ฟ้องคือสำนักพระราชวัง) และลดโทษลงในฐานะนักสิทธิมนุษยชน มาตรา 112 นั้นถูกนำไปใช้และเป็นอุปสรรค จำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นระดับหนึ่ง และในภาวะที่มีความขัดแย้งเป็นขั้วทางการเมืองแล้วก็ถูกนำไปใช้มาก ในขณะที่หลักสิทธิมนุษยชนนั้น เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเป็นเสรีภาพที่มีความสำคัญมากในสังคมประชาธิปไตยทั้งนี้ เสรีภาพในการแสดงออก เสรีภาพในการพูด หรือการโฆษณา นั้นมีความสำคัญมาก และแม้จะสามารถจำกัดได้ ไม่ได้สัมบูรณ์แต่การจำกัดนั้นจะต้องอยู่ในภาวะที่จำเป็นและด้วยเหตุผลบางประการเท่านั้น คือการรักษาดุลยภาพระหว่างสังคมกับบุคคลแต่เสรีภาพในการแสดงความเห็นนั้นเกี่ยวโยงอย่างชัดเจนและแยกไม่ออกกับเสรีภาพอีกสองประการ คือเสรีภาพทางวิชาการ ถ้ามีการค้นคว้ามากมายแต่เผยแพร่ไม่ได้ ก็เป็นวิชาการแบบสมัยกาลิเลโอ ไม่สามารถพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าได้ และเสรีภาพอีกประการคือ เสรีภาพทางความคิดความเชื่อ ซึ่งยังถูกจำกัดมาก ยกตัวอย่างเช่น การไปจดทะเบียนพรรคการเมืองในปัจจุบันแม้กฎหมายคอมมิวนิสต์จะเลิกไปนานแล้ว แต่ถ้าจะตั้งพรรคสังคมนิยมก็ตั้งไม่ได้ ซึ่งถ้าความคิดของคนไม่สามรารถเผยแพร่ได้เสียแล้ว ความคิดนั้นย่อมจะมืดบอด ตายไปในที่สุด ทั้งนี้เสรีภาพในทางความเชื่อเป็นเสรีภาพที่สัมบูรณ์ห้ามกันไม่ได้ประการที่สำคัญอีกประการคือ โดยหลักแล้วเราต้องสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออกเพราะในประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าสังคมที่แตกต่างหลากหลายเป็นสังคมที่สามารถพัฒนาเจริญและยั่งยืน ถ้าสังคมนั้นไม่มีพื้นที่สำหรับความแตกต่างแล้ว สังคมนั้น ถ้าจะต้องเปลี่ยนแปลงซึ่งต้องเปลี่ยนแปลงแน่นอนอยู่แล้ว การเปลี่ยนแปลงนั้นจะรุนแรง การจัดพื้นที่ให้ความแตกต่างจะทำให้ความเปลี่ยนแปลงนั้นลดความเจ็บปวดลง ไม่รุนแรงหรือสุดขั้วการที่ถูกจำกัดเสรีภาพในการเสนอความคิดเห็นต่อสถาบันต่างๆ นั้นจะทำให้สถาบันไม่สามารถไปได้ตลอดรอดฝั่งสำหรับการใช้บังคับมาตรา 112 ในสภาวะปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ หรืออัยการ ก็จะเตะลูกขึ้นไปข้างบนเพราะไม่กล้า ทั้งๆ ที่มีอำนาจทางกฎหมาย เช่นอัยการมีอำนาจหน้าที่ในการกลั่นกรองคดี จะโทษผู้มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูสังคมด้วย เพราะถ้าบอกว่าไม่ฟ้องโดนแน่ ทั้งการวิพากษ์วิจารณ์และตรวจสอบ พนักงานสอบสวนและอัยการต้องมีความเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพ แต่ต้องยอมรับว่าแรงกดดันทำให้บุคคลเหล่านี้หวั่นไหวได้ การตีตราก็เกิดตลอดเวลา และเคยเกิดภาวะเช่นนี้เมื่อ 30-40 ปีที่แล้วซึ่งสังคมไทยน่าจะได้เรียนรู้เพื่อไม่ให้เกิดสภาพเช่นนั้นอีกสมชาย กล่าวต่อไปถึงการตีความว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีร้ายแรงแต่เมื่อเทียบกับโทษอื่นๆ เช่นโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต ผู้ถูกกล่าวหากลับได้รับการประกันตัว ขณะที่คดี 112 มีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี เมื่อเทียบแล้วยังเป็นคดีที่ร้ายแรงน้อยกว่า โทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตกรรมการ คอป. กล่าวถึงกรณี อากง SMS เปรียบเทียบการส่ง SMS กับการออกอากาศทีวี ศาลตัดสินกรณีส่ง SMS ลงโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 3 ปี เพราะกฎหมายกำหนดว่าอย่างต่ำคือ 3 ปี นี่คือตัวอย่างว่ากฎหมายไม่ได้มีช่องว่างให้ศาลใช้ดุลพินิจที่เหมาะสมเลย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงกฎหมายมาตรานี้เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์รุนแรงปี 2519 คอป. จึงเสนอให้แก้ไข ลดจำนวนโทษ และไม่ใช่ใครก็ได้ไปกล่าวหาเป็นความผิด แล้วพนักงานสอบสวนจะไม่ดำเนินการก็ไม่ได้ เพราะการกดดันทางสังคม การวิพากษ์วิจารณ์จับจ้อง ดังนั้นคดีนี้จึงเป็นคดีที่ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะไปแจ้งความ เพราะลักษณะนี้เป็นผลเสียต่อสังคมและสถาบันด้วย และกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองไปส่วนที่กำหนดว่าทำไมต้องเป็นสำนักพระราชวัง เพราะอ้างอิงจากกรณีที่กฎหมายบัญญัติว่าถ้าจะมีการค้นพระราชฐานต้องได้รับความยินยอมจากสำนักพระราชวัง แต่อาจจะมีหน่วยงานอื่นที่มีความเป็นมืออาชีพในการกลั่นกรองก็ได้กิตติศักดิ์ ปรกติ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เองก็ยังสอนเรื่องเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์น้อยเกินไป และการเฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นั้นควรจะเฉลิมพระเกียรติด้วยความยุติธรรมกิตติศักดิ์ ปรกติ ระบุว่าปัญหามาตรา 112 นั้นเป็นปัญหาทั้งตัวกฎหมายและการปรับใช้ตัวกฎหมาย แต่เขาไม่เห็นด้วยกับความเห็นของนิติราษฎร์เรื่องการแยกความผิดระหว่างความผิดที่กระทำต่อกษัตริย์กับราชินีเขากล่าวว่า ปัญหามาตรา 112 หรือความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้นเป็นเส้นแบ่งที่สำคัญระหว่างการคุ้มครององค์พระมหากษัตริย์ในฐานะที่เป็นปัจจัยความมั่นคง ในฐานะเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยกับการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นการดูหมิ่นเป็นการแสดงความเห็นล้วนๆ แต่การหมิ่นประมาทเป็นการแสดงความเห็นประกอบการยืนยันข้อเท็จจริง ซึ่งต้องไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่นด้วย แต่มันไม่ใช่เส้นแบ่งแค่ความมั่นคงกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น โดยเขาเห็นว่า มาตรา 112 ยังเป็นเส้นแบ่งของสถานะพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยด้วย คือจะคุ้มครองกษัตริย์ในฐานะสถาบันทางวัฒนธรรมที่ดำรงอยู่มายาวนาน เป็นคำมั่นสัญญาที่มีมาตั้งแต่ 2475 ว่าจะเปลี่ยนแปลงเป็นประชาธิปไตยและมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์กับระบอบประชาธิปไตย เป็นการต่อสู้แสวงหาคำนิยามที่พยายามช่วงชิงกันว่า กษัตริย์จะมีสถานะอย่างไรในระบอบประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญ 2475 เป็นต้นมากำหนดชัดแจ้งว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักร และปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยโดยมีกษัตริย์เป็นประมุข และยังมีการระบุในรัฐธรรมนูญว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย และกษัตริย์ใช้อำนาจนั้นซึ่งต่างกับประเทศอื่นที่ว่า ประชาชนเป็นเจ้าของและเป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตยนั้น ที่ไทยเขียนแบบนี้ ก็ตอบได้อย่างเดียวว่าเป็นการประนีประนอมระหว่างผู้ถืออำนาจแต่ดั้งเดิมที่เป็นชุมชนทางการเมืองอันประกอบด้วยกษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการ และบรรดาผู้ที่สถาปนาระบอบประชาธิปไตยขึ้น ว่าจะหาทางใช้ระบอบประชาธิปไตยนี้ภายใต้กฎหมายอย่างไรคำถามคือ ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย แล้วประชาชนให้อำนาจกษัตริย์ใช้อำนาจตั้งแต่เมื่อไหร่ คำตอบคือ ตกลงกันไว้ตั้งแต่ 2475 อย่างไรก็ตาม ชาติกำเนิดไม่ก่อเกิดอภิสิทธิ์ ดังนั้นการคุ้มครองจึงไม่ครอบคลุมถึงราชวงศ์ด้วย การใช้ราชาศัพท์กับพระบรมวงศานุวงศ์นั้นเป็นการแสดงความสุภาพ ดังนั้นหากการแก้มาตรา 112 จึงไม่ควรขยายความคุ้มครองไปยังพระบรมวงศานุวงศ์กิตติศักดิ์กล่าวต่อไปว่า อีกประเด็นหนึ่งคือ ความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์กับปวงชนชาวไทย ซึ่งปวงชนชาวไทยนั้นมีผู้แทน คือ ส.ส. แต่ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ คือกษัตริย์นั้นเป็นประมุขและเป็นสัญลักษณ์ ขณะที่ผู้แทนปวงชนชาวไทยกลับไม่เป็นที่นิยมกษัตริย์ในฐานะสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม ในทางข้อเท็จจริง เมื่อมีผู้ทำผิดเกี่ยวกับกษัตริย์ ชาวบ้านก็นินทา แต่นินทาแล้วจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ก็อีกเรื่อง ค่านิยมทางวัฒนธรรมนั้นผูกอยู่กับทศพิธราชธรรม คือ ถ้ามีพฤติกรรมที่ขัดกับหลักทศพิธราชธรรมก็จะถูกนินทาเป็นธรรมดา แต่รู้กันว่าจะไม่ทำในที่สาธารณะ เมื่อเกิดการนินทาในทางสาธารณะขณะที่มีความเห็นที่หลากหลาย ก็เกิดความรุนแรงและกระทบต่อความมั่นคงได้ เพราะความเกี่ยวพันระหว่างกษัตริย์ ความเป็นชาติ รัฐ และความมั่นคง ทั้งนี้คำพิพากษาจำนวนไม่น้อยก็โคลงเคลงแกว่งไปมา โดยยกตัวอย่าง นักวิชาการไปกล่าวในวันสิทธิมนุษยชน นักวิชาการกล่าวว่าคนที่เรียกพระเจ้าอยู่หัวเป็นพ่อนั้นไม่ถูกเพราะกษัตริย์ไม่ใช่พ่อ และคนที่กล่าวอ้างนั้นผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเพราะอ้างตัวเป็นพระองค์เจ้า โดยคนที่กล่าวนั้นถูกร้องทุกข์กล่าวโทษ ตำรวจวินิจฉัยว่าการกล่าวเช่นนั้นไม่ผิด ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้และการตีความมาตรา 112กิตติศักดิ์ ระบุว่าถ้าไม่ทำความเข้าใจกันให้ชัดเจนก็จะมีการ ตู่ กันไปมา อีกประการคือ ความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์กับประชาชน ว่าเป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตยซึ่งเป็นของปวงชนชาวไทย เขากล่าวว่า กษัตริย์ใช้อำนาจในฐานะที่เป็นองค์กรที่เป็นบูรณาการ ไม่ใช่ทำตามอำเภอใจ ส่วนจะพึงใช้อย่างไรก็เห็นอยู่กิตติศักดิ์ กล่าวด้วยว่าองค์กรต่างๆ ได้ใช้พระมหากษัตริย์แสวงประโยชน์ส่วนตัวและประโยชน์ทางการเมือง อ้างว่าจงรักภักดี แล้วกล่าวหาคนอื่น ตัวอย่างง่ายๆ ในมหาวิทยาลัย เวลาเสด็จอย่ากราบได้ไหม เพราะตามพระราชบัญญัติสมัย ร. 5 ห้ามกราบ ยังไม่ได้ยกเลิกไป คือห้ามทอดตัวลงบนผืนดินแล้วกราบ เพราะเป็นหลักฐานแสดงการดูถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรีของคน แต่ยังมีผู้ไปหูไปนาเอาตาไม่ไร่ มีผู้ทักท้วงว่าอย่าพูดเดี๋ยวจะกลายเป็นไม่จงรักภักดี แต่ผมพูดด้วยความจงรักภักดี กฎหมายเขากำหนดไว้ก็ทำไปตามกฎหมาย ไม่มีข้อที่จะไปกล่าวหาได้ว่าไม่จงรักภักดีโดยกิตติศักดิ์ ย้ำว่าทุกวันนี้มีคนทำตัวเป็นราชายิ่งกว่าองค์ราชันย์เสียอีก นี่จึงเป็นปัญหาที่ทำให้ต้องแก้มาตรา 112 ทั้งตัวบทและการปรับใช้กฎหมายให้ชอบด้วยเหตุผล และในฐานะที่เป็นมหาวิทยาลัย นายวรเจตน์ได้เสนอแก้กฎหมายแล้ว แม้เขาจะไม่เห็นด้วยบางอย่าง แต่ก็มีประเด็นที่เขาเห็นด้วยคือ ต้องลดโทษลง แต่ตัวเขาเสนอให้กลับไปใช้โทษสมัยสมบูรณาญาสิทธิ์ คือไม่เกิน 3 ปีกิตติศักดิ์กล่าวในช่วงท้ายว่าประเด็นเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์นี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เองก็ยังสอนเรื่องเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์น้อยเกินไป และการเฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นั้นควรจะเฉลิมพระเกียรติด้วยความยุติธรรมวรเจตน์ ภาคีรัตน์ ระบุว่ามาตรา 112 นั้นมีปัญหาในหลายระดับทั้งระดับการบังคับใช้ ตัวบท แต่ที่เห็นว่ามีปัญหามากที่สุดคือระดับของอุดมการณ์ที่กำกับการบังคับใช้ตัวบทกฎหมาย การแก้ 112 อาจจะไม่ได้แก้ปัญหาทั้งหมด เพียงแต่บรรเทาลงโดยเขากล่าวถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่า เมื่อมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ ตำรวจต้องรับเรื่องและทำคดี ไม่สามารถใช้ดุลพินิจ ทุกกระบวนการจะผลักออกจากตัว ในแง่การบังคับใช้กฎหมายนี้มีปัญหาในตัวเอง ไม่ได้เกี่ยวกับตัวบทกฎหมายอย่างเดียว แต่เป็นบรรยากาศ สภาพแวดล้อมทางสังคมตัวบทนั้น ใครๆ ก็สามารถจะดำเนินคดี และโทษที่กำหนดไว้นั้นเกินสมควรกว่าเหตุ หลักการนี้เป็นหลักสำคัญในรัฐธรรมนูญ อย่างน้อยที่สุดโทษในมาตรานี้ ขัดกับหลักรัฐธรรมนูญ เพราะการกำหนดโทษไม่สามารถกำหนดโทษได้ตามอำเภอใจของผู้บัญญัติ และปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือโทษที่เป็นผลพวงโดยตรงจากการรัฐประหาร 2519 และไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียว แต่ยังพ่วงเรื่องการหมิ่นศาลและดูหมิ่นประมุขของต่างประเทศด้วย ดังนั้นการแก้ 112 ต้องแก้กฎหมายที่เกี่ยวพันกันด้วย เช่น การดูหมิ่นของประมุขของรัฐต่างประเทศ เวลาที่มีการเสนอจึงต้องเป็นไปโดยปริยายในการปรับแก้โทษของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกัน และเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติบางคนบอกว่าตัวบทกฎหมายนี้มีมาเป็นสิบๆ ปี ทำไมเพิ่งจะมาแก้กันตอนนี้ ซึ่งเขาเห็นว่ากฎหมายนี้มีปัญหามาตั้งแต่ตอนที่แก้ปี 2519 และมีปัญหามาตั้งแต่มีการบัญญติขึ้นในปี พ.ศ.2500 แต่มันไม่ได้เป็นประเด็นทางสังคม ถ้าพูดก็จะเหมือนกับที่เจอตอนนี้ เพราะมีการรณรงค์บอกว่า แก้ 112 เท่ากับล้มเจ้า ทั้งๆ ที่นี่เป็นตัวบทกฎหมายมาตราหนึ่งเท่านั้นวรเจตน์กล่าวว่าประเด็นมาตรา 112 ต้องพูดไปอีกหลายเวที และหากทาง คอป. จะจัดการพูดคุยเรื่องนี้ก็จะยินดีอย่างยิ่ง โดยเขาระบุว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดของมาตรา 112 คือไม่มีการกำหนดเหตุยกเว้นความผิดหรือเหตุยกเว้นโทษกรณีที่เป็นการติชมโดยสุจริตและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ซึ่งต่างกับกฎหมายหมิ่นทั่วไป การไม่เอาหลักเรื่องนี้มาใช้เป็นผลจาการตีความของศาลด้วยโดยวรเจตน์ได้ยกเอาคำสอนของอาจารย์กฎหมายรายหนึ่งระบุว่าเมื่อมีการกระทำที่เป็นการหมิ่นประมาทแล้วจะอ้างข้อแก้ตัวตามที่บัญญัติสำหรับคนธรรมดาหาได้ไม่ เพราะกษัตริย์นั้นเป็นที่เคารพสักการะอยู่เหนือการติชม ขณะที่รัชทายาทและราชินีนั้นเป็นเครื่องประกอบ วรเจตน์เห็นว่าการตีความแบบนี้ทำให้ไม่สามารถนำเอาเหตุยกเว้นความผิดหรือยกเว้นโทษได้ วรเจตน์กล่าวว่านี่เป็นการตีความที่เกินตัวบท ดังนั้นหากบุคคลธรรมดาตีความอย่างไร การดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทกษัตริย์ก็ต้องตีความอย่างเดียวกัน ความเข้าใจแบบนี้ ทำให้เกิดการตีความอย่างกว้างและบิดเบือนตัวบทวรเจตน์ยกตัวอย่างคำพิพากษา จ.นครสวรรค์ อัยการบรรยายฟ้องว่าการหมิ่นพระเทพฯ ผิดตาม 112 ขณะที่ตัวบทคุ้มครอง กษัตริย์ ราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการ โดยศาลชั้นต้น ขยายความคุ้มครองไปถึงพระบรมวงศ์ที่อาจสืบสัตติวงศ์ โดยระบุว่ารัชทายาทแห่งบทบัญญัติมาตรา 112 หมายรวมถึงพระราชโอรส พระราชธิดา ทีอาจสืบสันตติวงศ์ แต่คดีนี้ศาลอุทธรณ์ได้กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยเห็นว่าพระเทพฯ นั้นไม่ใช่รัชทายาทตามมาตรา 112 เพราะตามกฎมณเฑียรบาลมีตำแหน่งเดียวคือสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชวรเจตน์กล่าวว่าการตีความตัวบทในกรณีของศาลชั้นต้น จ.นครสวรรค์นี้ ก็น่าสงสัยว่าผู้พิพากษาตีความกฎหมายในระบอบการปกครองใด ในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การตีความมีเกณฑ์ ผู้พิพากษาจะเอาทัศนะต่างระบอบกันมาตีความไม่ได้วรเจตน์กล่าวว่า การคุ้มครองสถานะไม่ใช่เรื่องสถาบัน การตีความต้องชัดเจนว่าตำแหน่งกษัตริย์หมายถึงใคร ซึ่งต้องหมายถึงกษัตริย์พระองค์ปัจจุบัน เพราะถ้าไม่ตีความให้ดีก็อาจจะเกินเลยไปถึงกษัตริย์ในประวัติศาสตร์ได้ ดังนั้นการคุ้มครองจึงต้องเป็นกษัตริย์ที่เป็นประมุขของรัฐ และในความเห็นของตนเองเป็นไปไม่ได้ที่จะอธิบายว่ากษัตริย์เป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย เพราะกษัตริย์เป็นการกำหนดคอนเซ็ปท์รูปของรัฐ ว่าจะเป็นสาธารณรัฐ หรือเป็นราชอาณาจักร เมื่อเราตัดสินใจเป็นราชอาณาจักรก็ให้กษัตริย์เป็นประมุขของประเทศ การคุ้มครองกษัตริย์จึงคุ้มครองในฐานะประมุขไม่ใช่เจ้าอีกประเด็นที่โยงกับมาตราดังกล่าว คือประเด็นเรื่องความมั่นคง ซึ่งเขาเห็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง เพราะความมั่นคงนั้นต้องเกี่ยวข้องกับการมีอยู่หรือไม่มีอยู่ของรัฐ และจะดีมากหากอธิบายให้เห็นว่ามันคือความมั่นคงของนิติรัฐข้อโต้แย้งที่ว่าประเทศไทยมีวัฒนธรรมหรือขนบธรรมเนียมเป็นพิเศษ ผมคิดว่าข้อโต้แย้งแบบนี้ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง หากย้อนกลับไปสมัยที่ใช้กฎหมายตราสามดวงอยู่ ท่านก็จะเห็นว่าโทษนั้นมีอย่างไร เช่น การเปิดกะโหลกเอาถ่านร้อนๆ ใส่เข้าไป ท่านจะยอมรับโทษแบบนี้ได้ไหม คือเราอาจจะมีลักษณะบางอย่างที่เป็นคุณค่าเช่น การแต่งกาย อาหารการกิน แต่เรื่องบางเรื่องก็เป็นเรื่องคุณค่าสากล ที่ไม่ควรจะเอาลักษณะเฉพาะไปอ้างให้มีการกดขี่ เช่นการขว้างหินในประเทศอื่นๆ ก็กำลังมีการต่อสู้กันอยู่ ลักษณะเฉพาะเช่นนั้นก็ไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีที่จะเอามาอ้างเพื่อปกป้องสถาบันกษัตริย์ การปกป้องกษัตริย์ควรปกป้องด้วยความจริง เพื่อให้สถาบันอยู่กับประเทศไปอย่างยาวนานวรเจตน์ กล่าวย้ำถึงประเด็นสำคัญที่เห็นต่างกับกิตติศักดิ์เรื่องกษัตริย์เป็นผู้แทนปวงชน เพราะเขาเห็นว่ากษัตริย์นั้นเป็นผู้แทนรัฐ แต่ไม่สามารถเป็นตัวแทนปวงชนได้ เพราะการใช้อำนาจอธิปไตยคือ ประชาชนใช้อำนาจโดยตรง หรือใช้อำนาจผ่านองค์กรรัฐ การใช้อำนาจโดยตรงคือการเลือกตั้งและการลงประชามติ การเลือกตั้งจึงสำคัญเพราะเป็นวันที่เจ้าของอำนาจใช้อำนาจของตัวเอง องค์กรนิติบัญญัติ หรือบริหารนั้นจะมีความชอบธรรมเพราะเชื่อมโยงกับประชาชน ส่วนองค์กรตุลาการนั้นมีปัญหาความเชื่อมโยงกับประชาชน และกรณีคำพิพากษาศาลนครสวรรค์นั้นควรจะเป็นกรณีใหญ่ แต่สำหรับสังคมไทยกลับเป็นเรื่องที่ลืมๆ กันไป กล่าวย้ำว่าปัญหาหลักของมาตรา 112 คือปัญหาการใช้การตีความตัวบทมากกว่า การกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยติธรรมต้องผลักประเด็นนี้ต่อไปยังกระบวนการขั้นสูงขึ้นเพราะแรงกดดันทางสังคมนั้นเป็นเพียงข้ออ้างและขาดความกล้าหาญ โดยได้กล่าวตำหนิกลุ่มนิติราษฎร์ว่าการเสนอแก้ไขกฎหมายนั้นต้องเสนอบริบทกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย โดยการแถลงของนิติราษฎร์ในช่วงแรกนั้นไม่ได้เสนอให้รอบด้านถาวรได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของ คอป. ว่าการเสนอให้สำนักพระราชวังเป็นผู้ฟ้องนั้นจะยิ่งทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทเพราะเป็นองค์กรที่ใกล้ชิด และได้เรียกร้องให้คณะนิติราษฎร์ขับเคลื่อนให้เกิดความเปลี่ยนแปลง โดยเขายืนยันว่ากฎหมายแก้ไขได้เสมอ เมื่อไหร่ที่มีความจำเป็นสังคมจะเป็นตัวชี้ตัวกำหนดว่า กรณีข้อเสนอของนิติราษฎร์เมื่อ 18 ก.ย. แล้วมาทำเพิ่มเติมทีหลัง คือวันที่18 ก.ย. นั้นเป็นการเสนอเรื่องลบล้างผลพวงการรัฐประหารแต่มีมาตรา 112 พ่วงมาด้วย แต่ข้อเสนอเรื่องมาตรา 112 นั้นนิติราษฎร์ได้เสนอมาก่อนแล้วอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มธ. กล่าวว่าเวลาที่เราพูดกันเรื่องข้อตกลงระหว่างกษัตริย์กับราษฎร หรือพระมหากษัตริย์มีความรับชอบ การอภิปรายเรื่องนี้เป็นการอภิปรายแบบจอมปลอมเพราะเวลาที่เราพูดเรื่องสัญญาและความรับชอบ โดยพื้นฐานต้องมีคอมมอนเซนส์คือการจะกล่าวหาว่าใครผิดสัญญาด้วย ถ้าคุณสามารถพูดว่ารัฐบาลทำผิดสัญญาอย่างไร แต่พูดอีกกรณีหนึ่งไม่ได้ ยังไงก็พูดไม่ได้ ความตลกของเรื่องนี้ทั้งหมด คือคนอย่างอาจารย์กิตติศักดิ์น่าจะรู้ดี เพราะมันพูดในฝ่ายเดียว เกิดผมจะพูดในทางตรงข้ามออกไปก็โดนจับทันที คือการยกนามธรรมอย่างไรก็ได้ ผมฟังแล้วก็ไม่รู้จะเถียงยังไง เถียงก็โดนจับประเด็นสั้นๆ ที่อาจารย์ธีรยุทธพูดและผมเห็นด้วยคือ 112 ไม่ใช่เรื่อง 112 แต่เป็นเรื่องภาพสถาบันกษัตริย์ แต่ประเด็นใหญ่ที่อยากจะพูดคือ ถึงที่สุดแล้วยังมีประเด็นที่ผมไม่เห็นด้วยกับ 112 เพราะข้อเสนอของผมคือยกเลิกไปเลย แต่หัวใจของเรื่องจริงๆ คือเราต้องตั้งคำถามว่า มันมีความจำเป็นแค่ไหนที่ต้องมีกฎหมายพิเศษที่ต้องคุ้มครองประมุขในกรณีหมิ่นประมาท เหตุผลในการตอบคำถามนี้ตรงกันโดยยกกรณีว่านี่เป็นบรรทัดฐานทั่วไปว่าต้องคุ้มครอง แต่ผมไม่เห็นด้วย คนชอบพูดว่าเป็นมาตรฐานสากล นิติราษฎร์เองก็ยกมาตรฐานสากล แต่การยกเรื่องนั้มันไม่มีความหมาย เพราะถ้ายกตัวอย่างนั้นจริงๆ ตองถามว่าประเทศอื่นเขามีอย่างเราไหม เช่นมีการอนุญาตให้ประมุขพูดสดๆ สามารถควบคุมทรัพย์สินของรัฐเป็นหมื่นๆ ล้านได้ไหม และมีการโปรแกรมด้านดีด้านเดียวของสถาบันกษัตริย์ นี่เป็นประเด็นสำคัญเลยว่ามันชี้ขาดอย่างไรสอง ญี่ปุ่น อเมริกา สหรัฐ ไม่มีกฎหมายแบบนี้สาม ไม่ว่าจะมีหรือไม่มี แต่ปัญหาที่ต้องตั้งคำถามคือควรใช้บรรทัดฐานอะไรในการพูดถึงประมุข และถามว่าเอาหลักการมาจากไหน นี่ผมถามอย่างซีเรียสอย่างการยกกรณีตัวอย่างการขู่ประธานาธิบดีอเมริกา ต้องโทษ 5 ปี แต่ถ้าคุณขู่ FBI ต้องโทษ 10 ปีนะ ฉะนั้นการอ้างประมุขต้องได้รับความคุ้มครองมากกว่าปกติจึงไม่จริงเสมอไปที่สุดแล้ว เป็นเรื่องบรรทัดฐานของนักวิชาการ คุณต้องเอาบรรทัดฐานที่แท้จริง คือ ทุกวันนี้ใครเกลียดมาร์คเอารูปมาร์คไปใส่หัวควาย ใครเกลียดทักษิณก็ตัอรูปทักษิณไปใส่หัวหมา ถามว่าแล้วมีใครฟ้องไหม ประเด็นคือ ต้องใช้บรรทัดฐานเดียวกับประชาชนทั่วไป ไม่ใช่บรรทัดฐานของนักวิชาการ ว่าต้องเสนอไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ส่วนกรณีที่เยอรมนีนั้นประธานาธิบดีสามารถพูดได้โดยไม่ต้องให้สภาตรวจสอบก่อน ส่วนการเฉลิมพระเกียรติโดยเกินพอดีนั้นควรแก้ไขไหม ก็ต้องแก้ไขโดยการวิพากษ์วิจารณ์ไปตามขอบเขตว่าการเทียบประธานาธิบดีกับกษัตริย์อาจจะเทียบได้ลำบากเพราะประธานาธิบดีของเยอรมนีมีความชอบธรรมในทางประชาธิปไตยเพราะมีการเข้าสู่ตำแหน่ง ประธานาธิบดีนั้นมีสายโซ่ทีเชื่อมโยงกับประชาชนไม่ขาดตอนสำหรับประเด็นการคุ้มครองประมุขของรัฐนั้น เขาเห็นว่า เกณฑ์ในการวิจารณ์ในระบบทั่วไปไม่ยอมให้มีการด่าหยาบคาย ดูหมิ่น แม้แต่บุคคลธรรมดาก็เป็นสิ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถาจะยอมให้มีการดูหมิ่น หมิ่นประมาท ก็ต้องเลิกความผิดต่อบุคคลธรรมดาแล้วเลิกความผิดต่อกษัตริย์สำหรับกรณีประธานาธิบดีของสหรัฐ เป็นทั้งประมุขของรัฐและฝ่ายบริหาร ดังนั้นการวิจารณ์นั้นแยกยาก และอเมริกาก็เป็นประเทศที่มีความอดทนต่อคำพูดที่ไม่ดีสูงมาก มากกว่าคนอื่นในโลกจนเขาไม่แน่ใจว่าควรจะใช้เกณฑ์ของอเมริกาเป็นมาตรฐานหรือเปล่าส่วนกรณีที่คุณทักษิณ หรือมาร์คถูกดูหมิ่นแล้วไม่แจ้งความ อย่างผมหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเอาหน้าผมไปใส่หน้าลิง แล้วพาดหัววรเจี๊ยก ลิงหลอกเจ้า ผมก็ไม่ได้ฟ้อง แต่ผมไม่ทำแล้วจะใช้เป็นบรรทัดฐานกับคนทั้งสังคมหรือเปล่า คือเข้าใจว่าควรจะทำเกณฑ์แบบเดียวกันคือเลิกไปเลย แต่ตราบเท่าที่คนในสังคมยังมองเป็นอีกแบบหนึ่ง จะทำอย่างไรสำหรับรัฐธรรมนูญญี่ปุ่น ทำโดยฐานที่ญี่ปุ่นแพ้สงครามแล้วอเมริกาเข้ามาจัดการกฎหมาย ส่วนอังกฤษนั้นเขายอมรับว่ายังไม่ได้ศึกษาให้ชัดเจนคำถามว่าทำไมประมุขของรัฐถึงถูกคุ้มครองมากกว่าคนธรรมดา เพราะว่าประมุขของรัฐนั้นเป็นตัวแทนรัฐ เป็นสิ่งที่ represent รัฐ ในบริบทของบ้านเราอาจจะมีปัญหาอยู่ แต่ในการทำกฎหมายต้องเอาหลักการเป็นตัวตั้ง คณบดีคณะนิติศาสตร์ กล่าวปิดงานว่า ความคิดเห็นที่หลากหลายต้องได้รับการรับฟังไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย และวิธีการแสดงออกนั้นต้องเคารพผู้อื่นด้วย ถ้าเราจะมีความคิดเห็นร่วมกันต้องแสวงหาความเห็นที่รับฟังกันด้วย เวทีวิชาการอย่างนี้จะทำให้ได้รับความรู้ วันหนึ่งทุกคนก็จะคิดได้เอง และสังคมเราอ่านน้อย และเขาต่อต้านความรุนแรงส่าด้วยวาจาหรือกำลัง แต่สังคมจะเจริญด้วยวัฒนธรรมพลเมือง | เสวนารำลึก ดร. หยุด แสงอุทัย วรเจตน์ระบุ ปัญหาใหญ่ 112 คือปัญหาอุดมการณ์ที่กำกับการตีความตัวบท และไม่มีบทยกเว้นโทษและยกเว้นความผิด ถาวร เสนเนียม เผย ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอแก้มาตรา 112 โดยเพิ่มโทษ | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | กิตติศักดิ์ ปรกติ,ถาวร เสนเนียม,มาตรา 112,วรเจตน์ ภาคีรัตน์,สมชาย หอมลออ,สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล | https://prachatai.com/journal/2012/04/40276 |
วีระ ฉุนลูกชายถูกปืนจี้จ่อหัว แรมโบ้ ชี้ข่าวค้นเจอ ไวอะกร้า หวังทำลายครอบครัว | วันที่ 2 พฤษภาคม ตอนหนึ่งว่า เมื่อช่วงเที่ยงคืนวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะที่บุตรชายตนกำลังจะไขประตูเข้าบ้านที่อยู่ในซอยลึก มีชายฉกรรจ์ 6 คน ที่ขับรถตามมา เอาอาวุธปืนจี้ศีรษะ พร้อมตรวจค้นรถ เมื่อค้นไม่เจออะไร ก็บอกแต่เพียงว่า ค้นหายาเสพติด จากนั้นก็พากันขึ้นรถจากไป จึงคิดว่า น่าจะเป็นพวกตำรวจ ทหาร หรือหน่วยงานอื่นที่กระทำ ซึ่งการทำแบบนี้ถือว่า ผิดกฎหมายและละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญถ้าจะเอาตัวผมไปขังคุกจริง ก็โทร.มาบอกว่า รัฐบาลทนไม่ได้แล้ว ผมไม่ได้ต้องการเอาประชาชนมาเป็นเกราะป้องกันตัวเอง เพียงแต่ผมมาชุมนุมกับพี่น้องประชาชนของตน ถ้าอยากได้ตัวก็บอกมา ไม่ต้องเสียกำลังไพร่พล ให้มีคนบาดเจ็บล้มตาย ผมจะเดินไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งห่างจากนี้เพียงไม่กี่ก้าว ถ้าคิดว่า แก้ปัญหาทั้งหมดได้ก็บอกมา นึกไม่ถึงว่าหน่วยบ้าบอคอแตกหน่วยใดก็ตามแต่จะปฏิบัติตามไปถึงลูกหรือครอบ ครัวผม ซึ่งผมไม่ใช่คนขวัญอ่อน แต่สงสารคนที่เป็นแม่ของลูกที่เป็นคนเลี้ยงลูก แม่เขาทนไม่ได้ เขาไม่ยอมให้ใครเอาปืนมาจี้หัวลูกเขาโดยไม่มีเหตุมีผล นายวีระกล่าว และว่า จากการตรวจสอบพบว่า คนที่ทำเป็นทหารจากกองทัพอากาศ รู้ตัวคนที่ไปทำแล้ว นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไม่สบาย 2 วัน ก็มีคนไประรานที่บ้าน ทั้งๆ ที่นายณัฐวุฒิ ไม่อยู่บ้าน คนอื่นๆ ในกลุ่มพวกคนเสื้อแดงก็ถูกกระทำแบบนี้ก็เช่นกัน ทั้งนี้จะรอดูว่ารัฐบาลจะมีปฏิกิริยากับเรื่องนี้ แล้วออกมาชี้แจงอย่างไรเมื่อเวลา 10.30 น. นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำ นปช. กล่าวถึงกรณีที่ดีเอสไอบุกค้นตรวจค้นห้องพักย่านลาดพร้าวและพบเอกสารของศอ.รส. กระสุนปืน สลักระเบิด และยาไวอะกร้า ว่า ห้องที่ถูกตรวจค้นนั้น เป็นห้องของคนรู้จักเช่าเอาไว้ให้ใช้ ตนเคยไปพักบ้าง แต่ห้องที่ตนเช่าไว้จริงๆ อยู่ชั้นล่าง ยืนยันว่า ของที่ตรวจค้นพบในห้องดังกล่าวไม่ใช่ของตน หากแน่จริงก็ให้ไปพิสูจน์ลายนิ้วมือ ส่วนกรณีของยาไวอะกร้านั้น ถือเป็นอาวุธร้ายแรงที่อาจทำให้ครอบครัวของตนแตกแยกได้ ถือเป็นการดูถูกตนอย่างมาก ยืนยันว่า ยาดังกล่าวไม่ใช่ของตนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงในช่วงค่ำว่า ขอยืนยันการรื้อบังเกอร์คนเสื้อแดงบริเวณโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ว่า เป็นไปตามมาตรการและความต้องการของตำรวจ โดยคนเสื้อแดงไม่ได้ต่อรองขอพื้นที่บริเวณสวนลุมพินีแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่คณะแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยนั้น พล.ต.ท.สัณฐาน เตรียมนำตำรวจจำนวน 2 กองร้อยมารักษาความปลอดภัยบริเวณถนนพระราม 4 และถนนราชดำริ ทั้งนี้ขอเรียกร้องความเห็นใจจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่า ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของคนเสื้อแดง ที่ถูกรัฐบาลขู่ฆ่า ขู่สลายการชุมนุมรายวันด้วยผมขอเรียกร้องด้วยว่าบุคคลที่ออกมาประณามคนเสื้อแดง ผมยอมรับในความผิดพลาด แต่เมื่อสถานการณ์ได้คลี่คลายแล้วขอพื้นที่ของการให้อภัยให้กับคนเสื้อแดง ด้วย ขณะเดียวกันบุคคลหรือองค์ที่ออกมาประณามอย่าได้ตกเป็นเครื่องมือของรัฐบาล หรือหวังผลทางการค้ากำไรของการเมือง เพราะหากสังคมรู้ข้อเท็จจริง ระวังกระแสจะตีกลับ นายณัฐวุฒิกล่าวนายณัฐวุฒิกล่าวว่า กรณีที่ ครม. อนุมัติงบประมาณจำนวน 249 ล้านบาทให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่ากลุ่มทหารได้ปฏิเสธการใช้กำลังกับคนเสื้อแดง จึงได้ใช้เงินฟาดหัวตำรวจ หวังให้ออกมาเผชิญหน้ากับประชาชน ซึ่งตนอยากให้ตำรวจคิดให้ดีว่าจะเลือกอยู่ข้างนายอภิสิทธิ์ ที่อนาคตการเมืองริบหรี่ หรือจะอยู่ข้างประชาชนที่คอยยืนเคียงข้างตำรวจมาตลอดนายณัฐวุฒิกล่าวว่า กรณีที่รัฐบาลใช้เอสเอ็มเอสประกาศให้คนเสื้อแดงถอนตัวและออกจากบริเวณ พื้นที่การชุมนุมนั้น หากประชาชนเชื่อข้อความดังกล่าว ก็คงทำตามตั้งแต่นายกฯใช้สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 เผยแพร่ชักชวนไปนานแล้ว โดยในวันที่ 3 พฤษภาคม แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เดินทางเข้าเยี่ยมมวลชน คนเสื้อแดงแต่ละเต็นท์ที่พักอยู่รอบบริเวณที่ชุมนุม จากนั้น ตอนบ่ายก็จะร้องรำทำเพลงเพื่อคลายเครียด และช่วงหัวค่ำก็จะเปิดการปราศรัยทางการเมืองต่อไปรวมถึงกำหนดการเคลื่อนไหว ทางการเมืองต่อไป นายณัฐวุฒิกล่าว | นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ปราศรัยบนเวทีแยกราชประสงค์ เมื่อเวลา 20.30 น. | การเมือง | null | https://prachatai.com/journal/2010/05/29273 |
สงสารยายชุบ เนื้องอกเท้าซ้าย เข่าหลุด เร่ขายก๋วยจั๊บ เลี้ยงลูกป่วย | เมื่อหลายปีก่อน และยังป่วยด้วยโรคประจำตัวหลายโรค ยายชุบอาศัยในบ้านเก่าทรุดโทรมใกล้พัง มีเพียงพัดลม 1 ตัว และหม้อหุงข้าว 1 ใบเท่านั้น ในพื้นที่หมู่ที่ 9 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี ข้างคลองชลประทาน และต้องดิ้นรนทำมาหากินขายก๋วยจั๊บ หาเงินมาเลี้ยงดูตัวเองและลูกชายวัย 27 ปี ซึ่งประสบอุบัติเหตุต้องผ่าตัดสมองยื้อชีวิต จนสมองพิการผิดปกติด้านการรับรู้ยายชุบ เล่าว่า เคยมีอาชีพรับจ้างเป็นแม่บ้าน ได้ค่าแรงวันละ 300 บาท สามารถเลี้ยงดูตนเองและลูกชายที่ป่วยได้ แต่เมื่อ 2 ปี มีโรคประจำตัวหลายโรค จนหน้ามืดหมดสติหลายครั้ง ทำให้ไม่มีใครกล้าจ้างทำงาน จึงต้องยืมเงินเพื่อนบ้าน มาทำก๋วยจั๊บเร่ขายวันละครึ่งกิโลฯ โดยตื่นตี 3 อาศัยรถเพื่อนบ้านไปซื้อของในตลาดมาทำก๋วยจั๊บขาย บางวันขายได้และบางวันขายไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือ แต่พยายามทำตัวไม่เป็นภาระของใคร จึงดิ้นรนประกอบอาชีพเหมือนเวรกรรมค่อยซ้ำเติม เพราะมีโรคประจำตัวเยอะ จึงไปหยิบยืมเงินเพื่อนบ้านมารักษาโรคอยู่ตลอด จนทุกวันนี้เป็นหนี้สินหลายหมื่นบาท อยากตายวันหนึ่งหลายสิบครั้ง แต่ถ้าตายไปใครจะดูลูกชาย จะเอาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ ยายชุบกล่าวด้วยน้ำเสียงสิ้นหวังส่วนบ้านหลังนี้มีคนใจบุญให้อาศัย และใช้น้ำคลองหน้าบ้านอาบ ส่วนน้ำดื่มน้ำกินขอจากเพื่อนบ้าน และไฟฟ้าได้ขออาศัยบ้านเลขที่เพื่อนบ้านเพื่อขอไฟเกษตรมาใช้ ส่วนเครื่องครัวและเครื่องใช้ภายในบ้านได้รับบริจาคจากคนในชุมชน เพราะไม่มีปัญญาซื้อ โดยอยากมีเงินปลดหนี้ที่ไปหยิบยืมมารักษาตนเอง และถ้าเป็นไปได้อยากให้คนใจบุญมาซ่อมแซมบ้านให้ เพราะต้องนอนด้วยความหวาดกลัวทุกคืน เกรงว่าหลังคาบ้านจะพังลงมาทับด้าน นางชนากานต์ ฉวีศักดิ์ อายุ 60 ปี ซึ่งดูแลยายชุบ ระบุว่า คนในชุมชนเห็นใจยายชุบมาก เพราะเป็นคนขยันดิ้นรนสู้ชีวิต แม้พิการมีโรคประจำตัวหลายโรคแต่พยายามสู้ชีวิต ไม่นั่งแบมือขอใคร ที่ผ่านมาคนในชุมชนพยายามช่วยเหลือยายชุบ แต่ทำได้แค่ให้การช่วยเหลือเบื้องต้น และเห็นยายชุบช่วงนี้สุขภาพไม่ดี กลัวว่าจะไม่มีเงินรักษาตัว จึงอยากเปิดเผยเรื่องราวของยายชุบให้คนภายนอกได้รับรู้ เพื่อเข้ามาช่วยเหลือให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับผู้ใจบุญต้องการให้ความช่วยเหลือสามารถโอนเงินช่วยเหลือได้ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดศรีเมือง (ราชบุรี) ชื่อบัญชี น.ส.ชุบ ฉิมมะ หมายเลขบัญชี 678-9-66653-2 หรือติดต่อสอบถามนางชนากานต์ ฉวีศักดิ์ เบอร์โทร 087-1699781. | อีกชีวิตอยู่อย่างยากแค้นแสนลำเค็ญในวัยใกล้ฝั่ง ด้วยสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ของยายชุบ ฉิมมะ อายุ 66 ปี บริเวณเท้าซ้ายเป็นเนื้องอกจนผิดรูป ส่วนหัวเข่าหลุดทั้งสองข้าง เนื่องจากประสบอุบัติเหตุ | ข่าว,ทั่วไทย | ยายชุบ,ยายพิการ,ช่วยยายชุบ,เนื้องอกเท้าซ้าย,ยายชุบ ฉิมมะ,ยายอาศัยบ้านเก่าผุพัง,คนใจบุญช่วยยายชุบ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1761811 |
น้ำใจชาวเมืองปากซอง ระดมช่วยผู้ประสบภัยเขื่อนแตก | หลังเกิดเหตุอุทกภัยที่แขวงอัตตะปือของลาว เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา การช่วยเหลือแรกๆ ที่เข้าไปในพื้นที่คือ ความพยายามของชาวบ้านจากแขวงจำปาสัก โดยเฉพาะชาวเมืองปากซอง ที่อยู่ห่างจุดพื้นที่น้ำท่วม 50 กิโลเมตร พวกเขารวมตัวในนามกลุ่มจิตอาสาชาวเมืองปากซอง นำรถยนต์ส่วนตัวเข้าไปรับผู้ประสบภัยมาพักที่บ้าน ก่อนติดต่อประสานเจ้าของบริษัทจำหน่ายกาแฟ เพื่อขอใช้โกดังสินค้าเปิดเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวกองแก้ว แก้วบัวพา จิตอาสาชาวเมืองปากซอง แขวงจำปาสัก เล่าว่า หลังทราบข่าวน้ำท่วม ตัวเองได้รับการประสานขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองสนามไซ ว่ามีชาวบ้านติดค้างบนพื้นที่สูง ไม่มีอาหารและสิ่งของเครื่องใช้ตัวเองสามีได้แจ้งเพื่อนบ้านที่รวมกลุ่มในนามจิตอาสาชาวเมืองปากซอง นำรถยนต์ส่วนตัวไปรับผู้ประสบภัย 30 คน มาพักที่บ้านของตัวเองในคืนวันที่ 24 ก.ค. แต่มีผู้ประสบภัยหลายร้อยคนไม่มีอาหารและที่พัก เนื่องจากน้ำท่วมหมู่บ้านเสียหายทั้งหมดกองแก้ว ประสานขอความช่วยเหลือจากกลุ่มนักธุรกิจชาวลาว แขวงจำปาสัก นำรถบรรทุกหกล้อไปรับผู้ประสบภัยและขอความช่วยเหลือเจ้าของบริษัทจำหน่ายกาแฟ ในเมืองปากซอง ใช้โกดังสินค้า เปิดเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวในวันที่ 25 ก.ค. มีผู้ประสบภัยมาอาศัยกว่า 800 คน จากนั้นกลุ่มจิตอาสาระดมข้าวสาร อาหารปรุงแจกจ่ายผู้ประสบภัย รวมทั้งมีกลุ่มนักธุรกิจและเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาดูแลผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องกองแก้ว บอกว่า อาหารที่ปรุงสดใหม่ รสชาติ ถูกปากและได้กินเต็มอิ่ม คือน้ำใจจากพี่น้องชาวเมืองปากซองที่ทำให้ผู้ประสบภัยเริ่มคลายความกังวลและมีรอยยิ้ม หลังต้องทิ้งบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม เพื่อมาอาศัยที่ศูนย์พักพิง | เปิดใจจิตอาสาชาวเมืองปากซอง แขวงจำปาสัก ร่วมกลุ่มช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแขวงอัตตะปือของลาว ระบุยังต้องการอาสามัครเพิ่มเพื่อช่วยทำอาหารแจกจ่าย | ภัยพิบัติ | เขื่อนแตก,น้ำท่วมลาว,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/273630 |
กกต.ไม่กังวลคำวินิจฉัย ก.ม.สว.มั่นใจไม่กระทบการทำงาน จนท. | เมื่อวันที่ 23 พ.ค.61 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทางคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ในฐานะผู้ยกร่างจะพิจารณาว่าต้องยกร่างใหม่ทั้งฉบับหรือไม่ ซึ่งหากยกร่างใหม่ทั้งฉบับ ก็คาดว่าจะเชิญ กกต.เข้าไปร่วมเสนอแนะความคิดเห็นต่อการยกร่างกฎหมายฉบับนี้ เหมือนครั้งที่เคยเชิญเข้าร่วมเป็นคณะกรรมาธิการ แต่หาก กรธ.ตัดสินใจแก้ไขบางมาตราที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็อาจไม่เชิญ กกต.เข้าร่วมด้วย เพราะสามารถนำข้อคิดเห็นที่เสนอไว้ก่อนหน้านี้มาร่วมพิจารณาได้,ทั้งนี้ ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.อย่างไร ก็จะไม่กระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ กกต.โดยก่อนหน้านี้ได้เร่งทำความเข้าใจในเนื้อหาของกฎหมายลูกมาบ้างแล้ว แต่หากต้องปรับเปลี่ยน ทางสำนักงานฯ ก็จะเรียกเจ้าหน้าที่มาอบรม เพื่อศึกษาถึงเนื้อหาของกฎหมายทันที และเตรียมพร้อมกับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม ไม่ขอแสดงความเห็นว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะกระทบกับโรดแม็ปหรือไม่นั้น เพราะหน้าที่ของ กกต.คือจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้เท่านั้น | เลขาฯ กกต.ไม่กังวลคำวินิจฉัยกฎหมาย ส.ว.ของศาล รธน.ยันไม่กระทบการทำงาน จนท.ปัดแสดงความเห็นผลกระทบโรดแม็ป | ข่าว,การเมือง | จรุงวิทย์ ภุมมา,เลขาฯ กกต.,กกต.,กฎหมาย ส.ว.,วินิจฉัย ก.ม.ส.ว.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1289577 |
ย้ำโคลอสตรัมในน้ำนมแม่ช่วยสร้างพัฒนาการลูก | ช่วยในการเจริญเติบโตและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อโรค และเพิ่มความสูงมากกว่านมปกติ 100 เท่า ซึ่งความจริงแล้วน้ำนมเหลืองของวัว เป็นน้ำนมที่รีดได้ในช่วงระหว่าง 15 วันก่อนสัตว์ตกลูก และ 5 วันหลังจากตกลูกเป็นน้ำนมที่มีกลิ่นแรง รสชาติขม มีสีเหลืองออกแดง และมีความเหนียวข้น ปกติไม่นำมาใช้บริโภคสำหรับคน แต่ใช้เลี้ยงลูกอ่อนวัวแรกเกิด ซึ่งจากงานวิจัยโคลอสตรัมของวัว ให้สรรพคุณที่เป็นไปได้คือการเสริมสร้างภูมิต้านทาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของลำไส้ ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น หมู หนู แต่ยังไม่ชัดเจนในมนุษย์,นพ.วชิระกล่าวต่อว่า สิ่งที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตเสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อของร่างกาย รวมทั้งกระตุ้นพัฒนาการทางด้านร่างกายและสมองให้กับทารก คือ นมแม่ ซึ่งถือเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกในช่วง 6 เดือนแรก เพราะมีสารอาหารสำคัญครบถ้วนมากกว่า 200 ชนิด โดยเฉพาะส่วนที่เรียกว่า หัวน้ำนม หรือโคลอสตรัมหรือน้ำนมเหลือง ซึ่งเป็นน้ำนมที่หลั่งออกมาในช่วง 24-36 ชั่วโมงแรกหลังการคลอดเท่านั้นที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ทำหน้าที่เสริมสร้าง และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก และเด็กควรได้กินนมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 เดือน. | นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลเรื่องโคลอสตรัมหรือน้ำนมเหลืองวัวทั้งแบบผงและอัดเม็ด ที่ระบุว่าเป็นโคลอสตรัมธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นการสร้าง Growth Hormone | ข่าว | วชิระ เพ็งจันทร์,น้ำนม,โคลอสตรัมธรรมชาติ,นมแม่,หัวน้ำนม | https://www.thairath.co.th/news/907205 |
สศค.สั่งสอบ นายแบบ โพสต์บัตรคนจน | วันนี้ (30 ต.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ กรณีมีผู้โพสต์ภาพบัตรสวัสดิการแห่งรัฐคู่กับโทรศัพท์มือถือ นาฬิกา แก้วกาแฟ พร้อมกับข้อความว่า ได้บัตรแล้วครับ จนสมใจครับ รู้สึกภาคภูมิใจในชนชั้นที่ได้รับ ผ่านอินสตาแกรม ว่าเหมาะสมหรือไม่ที่เจ้าของภาพได้รับบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย แต่มีพฤติกรรมการใช้จ่ายในทางตรงข้ามขณะที่นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบในเชิงลึกว่ารายได้บุคคลดังกล่าวขัดหลักเกณฑ์ผู้มีรายได้น้อยจริงหรือไม่ ขณะนี้กระทรวงการคลังยังไม่สามารถตัดสิทธิ์บุคคลดังกล่าว เนื่องจากต้องตรวจสอบข้อมูลที่ชัดเจนก่อนหาก สศค.พบว่าผิดเงื่อนไขชัดเจนจะถูกตัดสิทธิ์การใช้บัตรทันทีและแจ้งความดำเนินคดีอาญา ฐานแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จแก่หน่วยงานราชการ พร้อมเรียกร้องค่าเสียหายจากการออกบัตรและวงเงินที่ใช้ไปก่อนหน้านี้ ส่วนผู้ยื่นอุทธรณ์ขอใช้สิทธิ์กว่า 258000 คน ขณะนี้ผ่านการพิจารณาแล้ว 9300 คน ส่วนความคืบหน้าการติดตั้งเครื่องรูดบัตร พบว่า ติดตั้งไปแล้ว 9500 เครื่อง และจะติดตั้งเพิ่มอีก 8000 เครื่องในเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนการเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ปี 2562 จะเป็นการลงทะเบียนแบบปีเว้นปีนายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง (ทีดีอาร์ไอ) ระบุว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องตามแก้ไข คือการรั่วไหลของสิทธิ์ไปยังคนที่ไม่จนจริง ส่วนคนจนจริงกลับไม่ได้รับสิทธิ์ ขณะเดียวกันคนต้องการเงินมากกว่าสิ่งของ จึงพบว่ามีการเอาบัตรไปวางให้ร้านค้ายึดไว้ | สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบนายแบบโพสต์ภาพบัตรสวัสดิการจากรัฐ ว่ามีฐานะยากจนจริงหรือไม่ ชี้หากผิดเงื่อนไขจะถูกตัดสิทธิ์ พร้อมแจ้งความดำเนินคดี | เศรษฐกิจ | ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,บัตรคนจน,บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ | https://news.thaipbs.or.th/content/267324 |
เดอ ยอง ตะบันชัย มิลาน เฉือน ซัสซูเอโล 2-1 โคปาอิตาเลีย | ศึกฟุตบอลโคปา อิตาลเลีย ฤดูกาล 2014/2015 ประจำวันที่ 13 ม.ค. เป็นการแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายคู่ระหว่าง ปีศาจแดงดำเอซี มิลาน ยักษ์หลับจากกัลโชเซเรียอา เปิดสนาม ซานซิโร ต้อนรับการมาเยือนของ ซัสซูเอโล ทีมจากลีกเดียวกัน,โดยทั้งสองทีมเพิ่งจะเจอกันในเกมลีกมาหมาดๆ ผลปรากฎว่าเป็น ซัสซูเอโล บุกมาลูบคม มิลานคาบ้าน 2-1 ทำให้เกมนี้มิลานหวังจะล้างตาจากเกมนัดนั้นให้ได้โดยส่ง อเลสซิโอ แซร์ชี,สเตฟาน เอลชาราวี และ จามเปาโล ปาซซินี เป็น 3 ผสานในแนวรุก,เปิดฉากเกมขึ้นมาเป็นมิลานครองเกมได้มากกว่า นาทีที่ 15 เกือบได้ประตูขึ้นนำ อเลสซิโอ แซร์ชี หัวหอกป้ายแดงได้โอกาสโขกทำประตูแต่บอลเหินข้ามคานออกไปได้ลุ้น,นาทีที่ 26 ยังเป็นมิลานมีลุ้นอีกรอบ แซร์ชี เจ้าเก่าได้บอลบริเวณเขตโทษก่อนพลิกตวัดยิงแต่ โปมินี นายด่านทีมเยือนใช้ขาเซฟออกไป,จนกระทั่งนาทีที่ 38 ความพยายามของมิลานก็ประสบผลสำเร็จ ขึ้นนำจนได้ 1-0 จากจังหวะพาบอลริมเส้นของ แซร์ชี ก่อนจะเปิดเข้ากลางให้กับ จามเปาโล ปาซซินี ตะบันเข้าไปไม่เหลือซาก,เวลาที่เหลือในครึ่งแรกไม่มีสกอร์เพิ่ม มิลานยังออกนำ ซัสซูเอโล อยู่ 1-0,เข้าสู่ครึ่งหลังมาถึงนาทีที่ 64 เจ้าบ้านมาเสียลูกโทษที่จุดโทษ จากจังหวะที่ ซาปาตา ไปเกี่ยว ปาโวเล็ตติ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่รีรอชี้เป็นจุดโทษทันทีก่อนที่ ซานโซเน จะรับหน้าที่สังหารไม่มีพลาด พาทีมเยือนตามตีเสมอได้สำเร็จ -1,อีก 5 นาทีต่อมา หลังโดนตีเสมอเจ้าบ้านเปิดเกมบุกอีกรอบ แซร์ชี ได้โอกาสตะบันด้วยขวาเต็มข้อบอลกำลังเสียบใต้คานอยู่แล้วแต่ โปมินี ยังบินปัดออกหลังหวุดหวิด,หลังจากนั้น มิลานยังเปิดเกมบุกอย่างหนัก จนกระทั่ง 3 นาทีสุดท้าย จากจังหวะฟรีคิกของ มอนโตลิโว เปิดเข้ากลางให้กับ โปลี่ โขกเต็มกบาล บอลไปจูบคานกระดอนมาเข้าทางของ ไนเจล เดอ ยอง ตะบันด้วยขวาไม่จบบอลเสียบเสาเข้าไปเป็นประตูขึ้นนำให้กับ เอซี มิลาน อีกครั้ง 2-1,เวลาที่เหลือ ทีมเยือนพยายามพังประตูตีเสมอแต่ก็ไม่สำเร็จ หมดเวลาการแข่งขัน เอซี มิลาน เปิดบ้านเอาชนะ ซัสซูเอโล 2-1 พร้อมกับตีตั๋วเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป | ไนเจล เดอยอง ตะบันเต็มข้อในช่วงท้ายเกมเป็นประตูชัยให้กับ ปีศาจแดงดำ เอซี มิลาน ล้างตาเอาชนะ ซัสซูเอโล ได้สำเร็จ 2-1 พร้อมกับตีตั๋วเข้ารอบ 8 ทีม โคปาอิตาเลีย ต่อไป | null | โคปาอิตาเลีย,โคปาอิตาเลีย 16 ทีม,เอซี มิลาน,ซัสซูเอโล,ไนเจล เดอ ยอง,ข่าวกีฬา,ผลบอล | https://www.thairath.co.th/content/474643 |
จีนเตรียมรับมือพายุโบลาเวน คาดว่าจะพัดถล่ม และทวีความรุนแรงขึ้น | พายุไต้ฝุ่นโบลาเวนสร้างความปั่นป่วนให้กับเกาะโอกินาวาทางภาคใต้ของญี่ปุ่น หลังพัดขึ้นฝั่งเมื่อวานนี้ด้วยความเร็วลมถึง 213 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดพายุลมแรง และฝนตกหนัก ประชาชนกว่าร้อยคนต้องอพยพเข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงของทางการ รถโดยสาร รถไฟ และสนามบินต้องหยุดให้บริการเพื่อความปลอดภัย ถนนที่เชื่อมระหว่างเมืองนาฮากับเมืองเกียวดะต้องปิดการสัญจร มีรายงานว่าบ้านเรือน 3000 หลังบนเกาะโอกินาวาและอีก 16400 หลัง บนเกาะอะมามิ ไม่มีกระแสไฟฟ้า เนื่องจากเสาไฟฟ้าหักโค่นก่อนหน้านี้สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า พายุไต้ฝุ่นโบลาเวน ซึ่งมีความรุนแรงระดับสี่จะทำให้เกิดฝนตกหนักมากสุดเป็นประวัติการณ์บนเกาะโอกินาวา และก่อให้เกิดคลื่นสูงถึง 13 เมตรขณะเดียวกันจีนก็เตรียมรับมือไต้ฝุ่นโบลาเวนที่คาดว่าจะพัดเข้าถล่มต่อจากญี่ปุ่นและทวีความรุนแรงเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่น โดยมีการเพิ่มระดับการเตือนภัยคลื่นลมแรงในทะเลเป็นสีส้ม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดอันดับสอง ขณะที่มณฑลเจ้อเจียง และมณฑลชานตงทางภาคตะวันออกต้องเรียกเรือประมงหลายพันลำกลับเข้าฝั่งเพื่อความปลอดภัยส่วนที่ไต้หวัน มีคำเตือนว่าพายุไต้ฝุ่นเทมบิงที่เคลื่อนตัวออกไปแล้วอาจพัดหวนเข้าถล่มอีก หลังพัดกระหน่ำพื้นที่ทางตอนใต้ของเกาะ ทำให้เกิดฝนตกหนักสุดในรอบกว่า 100 ปี และเกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ โดยคำเตือนมีขึ้นในขณะที่ชาวบ้านกำลังเก็บกวาดซากความเสียหายจากพายุ | พายุไต้ฝุ่นโบลาเวน (Bolaven) พัดถล่มเกาะโอกินาวาของญี่ปุ่น ทำให้เกิดฝนตกหนัก และพายุลมแรง นับเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ขณะที่จีนเตรียมรับมือพายุโบลาเวน ซึ่งคาดว่าจจะพัดเข้าถล่ม และทวีความรุนแรงเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่น | ต่างประเทศ | จีน,ญี่ปุ่น,พายุไต้ฝุ่น,โบลาเวน,โอกินาวา | https://news.thaipbs.or.th/content/107485 |
แฮมมิลตัน เซ็นสัญญา 3 ปี ย้ายร่วมทีม เมอร์เซเดส | หลังจากที่ลูอิส แฮมมิลตัน วัย 27 ปี ยอดนักขับมือ 1 ของทีม แม็กคาเลน ตกเป็นข่าวเรื่องย้ายสังกัดมาตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากการเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับทีม แม็กคาเลน ไม่มีความคืบหน้า ทั้งๆที่สัญญาฉบับปัจจุบันกำลังจะหมดหลังจากจบฤดูกาลนี้ล่าสุด แฮมมิลตัน ได้ตัดสินใจย้ายออกจากทีม แม็กคาเลน เพื่อไปร่วมทีม เมอร์เซเดส ที่มี นายรอส บรอว์น เป็นนายใหญ่เป็นทีเรียบร้อยแล้ว ด้วยระยะเวลาของสัญญา 3 ปี และรับค่าเหนื่อย 15 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 700 ล้านบาท ต่อฤดูกาลโดย แฮมมิลตัน จะเข้ามารับหน้าที่แทน มิชาเอล ชูมักเกอร์ อดีตแชมป์โลก 7 สมัย ที่ผลงานไม่เข้าตาและจะหมดสัญญากับ เมอร์เซเดส ในฤดูกาลนี้พอดี อย่างไรก็ตามมีการคาดกันว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ แฮมมิลตัน ที่อยู่กับทีม แม็คคาเลน มาตั้งแต่อายุ 16 ปี ตัดสินใจย้ายทีม ก็คือเรื่องสัญญาฉบับใหม่ที่ แม็กคาเลน เสนอให้มีตัวเลขค่าเหนื่อยที่ลดลงจาก 10 ล้านปอนด์ เหลือเพียงแค่ 7 ล้านปอนด์ต่อปี และ การที่แม็คคาเลน มี เจนสัน บัตตัน ทำให้ แฮมมิลตัน รู้สึกว่าไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนกับเป็นซูเปอร์สตาร์เบอร์ 1 ของทีมทีมแม็คลาเรน ตอนนี้เตรียมจะหันไปคว้าตัว เซร์คิโอ เปเรซ นักแข่งชาวเม็กซิกันของทีม เซาเบอร์ มาร่วมสังกัดเพื่อเป็นเพื่อนร่วมทีมคนใหม่ของ เจนสัน บัตตัน อดีตแชมป์โลกปี 2009 และจะเริ่มงานทันทีในฤดูกาล 2013ส่วนนายมาร์ติน วิชมาร์ช นายใหญ่ของทีม แม็กคาเลน ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์สปอร์ต เมล์ ว่า แฮมมิลตัน ตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต ที่ย้ายออกจากทีมแม็คคาเลน ที่เป็นเหมือนครอบครัวที่ 2 ออกไป โดย นาย วิชมาร์ช เชื่อว่า แฮมมิลตัน จะเจอกับความกดดันใหญ่หลวงจากค่าจ้างที่ทีม เมอร์เซเดส จ่ายไป และเขาไม่แน่ใจว่าทีม เมอร์เซเดส จะมีนักขับที่ค่อยช่วยเหลือ แฮมมิลตัน ได้ดีเหมือนที่ แฮมมิลตัน มี เจนสัน บัตตัน เป็นเพื่อนร่วมทีมหรือไม่ | ลูอิส แฮมมิลตัน ตัดสินใจย้ายออกจากทีมแม็กคาเลน ไปร่วมทีม เมอร์เซเดส เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมเซ็นสัญญาระยะยาว 3 ปี | กีฬา | ย้าย,ลูอิส แฮมมิลตัน,เซ็นสัญญา,เมอร์เซเดส,แม็กคาเลน | https://news.thaipbs.or.th/content/114981 |
สดร.ยันทฤษฎี ดาวนิบิรุ-วันสิ้นโลก ไม่จริง-อย่าตื่นตระหนก | วันนี้ (22 ก.ย.2560) ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) กล่าวถึงทฤษฎีเรื่องดาวนิบิรุ ว่า ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมาจากความเชื่อของคนบางกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันที่ 22-23 ก.ย.ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่กลางวันยาวเท่ากับกลางคืน (Autumnal Equinox) เนื่องจากคำว่า นิบิรุ เป็นภาษาบาบิโลน แปลว่าอิควิน็อกซ์ (เวลาที่กลางวันเท่ากับกลางคืน) จึงเอามาเชื่อมโยงแล้วสร้างเป็นข่าวลือให้เกิดความตระหนกไปทั่วโลกก่อนหน้านี้ องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ (นาซา) ออกมาปฏิเสธหลายครั้งเกี่ยวกับดาวเคราะห์ดังกล่าวนั้นไม่มีอยู่จริง หากมีดาวเคราะห์ที่สามารถพุ่งชนโลกและทำให้เกิดวันสิ้นโลกในเร็วๆ นี้จริง นักดาราศาสตร์ทั่วโลกจะสามารถตรวจพบได้ด้วยเทคโนโลยีการสำรวจทางอวกาศ ก่อนหน้าที่จะพุ่งชนโลกเป็นเวลานานแล้ว และมนุษย์บนโลกต้องมองเห็นด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจนขณะโคจรมาใกล้โลก ซึ่งจะสว่างมากกว่าดวงจันทร์ด้วยนอกจากนี้ โครงการสำรวจพื้นที่มุมมองกว้างบนท้องฟ้าในย่านรังสีอินฟราเรดของนาซา (WISE - Wide-Field Infrared Survey Explorer) ได้สำรวจวัตถุต่างๆ ที่โคจรอยู่บนท้องฟ้า ก็ไม่ปรากฎหลักฐานใดๆ ที่สามารถบ่งชี้ได้ว่ามีดาวเคราะห์ดังกล่าวอยู่ในระบบสุริยะ | สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ชี้แจงกระแสข่าวดาวเคราะห์นิบิรุ พุ่งชนโลก 23 ก.ย.นี้ ยันไม่เป็นความจริง เป็นเพียงเป็นข่าวลวงที่ไม่ได้รับการยืนยันจากนักดาราศาสตร์และไม่เกิดผลกระทบกับโลกแต่อย่างใด วอนประชาชนตรวจสอบข้อเท็จจริงและอย่าตื่นตระหนก | วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี | null | https://news.thaipbs.or.th/content/266311 |
ศาลฎีกาแก้จำคุก 1 ปี 6 ด. แนวร่วมต้านโรงไฟฟ้าบ่อนอก รอลงอาญา 2 ปี | ศาลฎีกา พิพากษาแก้ให้จำคุกแนวร่วมกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านโรงไฟฟ้าบ่อนอก 1 ปี 6 เดือน และปรับ 3 พันบาท ฐานบังคับให้เจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้านำเรือเข้าชายฝั่ง ทำให้ปราศจากเสรีภาพ แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ด้าน กรณ์อุมา แกนนำเผยชาวบ้านพอใจคำพิพากษา,เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 ธ.ค.58 ที่ห้องพิจารณาคดี 906 ศาลอาญา อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีหมายเลขดำที่ ด.2437/2545 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องนายเจริญ วัดอักษร อดีตแกนนำกลุ่มคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าบ่อนอก หินกรูด จ.ประจวบคีรีขันธ์ (เสียชีวิตแล้ว) นายวิลัย หรือไร สัตย์ซื่อ นางลัดดา สิงห์เล็ก นางกรณ์อุมา หรืออรอุษา พงษ์น้อย ภรรยานายเจริญ และนายชัยยศ แก่นทอง เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ และทำร้ายร่างกาย มีชาวบ้านหินกรูด ใส่เสื้อทีมสีเขียวมาฟังคำพิพากษาเช่นเดียวกับทุกครั้ง,คดีนี้โจทก์ฟ้องและนำสืบว่า เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2544 เวลากลางวัน จำเลยทั้งหมดกับพวกร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือกระทำอื่นใด ทำให้ นายบุญชัย ถิราติ ผู้เสียหายที่ 1 นายมารุต แก้วงาม ผู้เสียหายที่ 2 และนายร็อบ ฮาร์ดคอร์ด ผู้เสียหายที่ 3 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่บริษัท กัลฟ์ เพาเวอร์ เจเนอเรชั่น จำกัด ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ขณะเข้าไปสำรวจโครงการโรงไฟฟ้าบ่อนอก โดยจำเลยทั้งสี่กับพวกนำเรือประมงจำนวนหลายลำแล่นปิดล้อมเรือที่พาผู้เสียหายกับพวกโดยสารมาและกำลังแล่นสำรวจทะเลอ่าวไทยด้านชายฝั่งทะเลบ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้วบังคับให้ผู้เสียหายทั้งสามกับพวกหยุดเรือแล้วจำเลยที่ 1,3-5 กับพวก นำเรือประมงเข้าเทียบเรือของผู้เสียหายทั้งสาม หลังจากนั้นได้เข้าขับเร่งบังคับนำตัวผู้เสียหายทั้งสามเข้าฝั่งที่ ต.บ่อนอก แล้วบังคับให้ลงจากเรือ อันทำให้ผู้เสียหายทั้งสามปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295, 297, 310, 83 และ 91 ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ,คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2548 ว่า จำเลยที่ 3, 4 มีความผิดตามป.อาญา มาตรา 295 297 และ 309 วรรคแรก การกระทำเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษบทหนักสุด ตาม ป.อาญา มาตรา 90 ให้จำคุก จำเลยที่ 3, 4 คนละ 2 ปี และจำคุกจำเลยที่ 5 เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน ปรับ 3,000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษคนละ 2 ปี ในความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย และข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 และจำหน่ายคดีในส่วนของจำเลยที่ 1 ที่เสียชีวิต,ต่อมาโจทก์และจำเลยยื่นอุทธรณ์เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2553 ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมหารือแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 3, 4 กระทำผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น แต่พฤติการณ์แสดงว่าจำเลยที่ 3, 4 ไม่ได้เตรียมการมาก่อน กระทำไปด้วยความโกรธแค้น ส่วนจำเลยที่ 5 ให้ยกฟ้องทุกข้อกล่าวหา พิพากษาแก้ เป็นว่าจำเลยที่ 3, 4 มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย ลงโทษจำคุก เป็นเวลา 2 ปี โทษจำคุกให้รอการลงโทษเป็นเวลา 2 ปี และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 และ 5 ภายหลังโจทก์ยื่นฎีกาเฉพาะจำเลยที่ 5,ศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษากันแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ในวันเกิดเหตุผู้เสียหายที่ 1 เช่าเรือประมงของนายประจักษ์ โอ่เอียม กับเรือประมงอื่นอีกลำ เพื่อพาผู้เสียหายที่ 3 ไปสำรวจทะเลใกล้ ต.บ่อนอก ว่ามีวาฬอาศัยอยู่ตามที่ชาวบ้าน ต.บ่อนอกกล่าวอ้าง เพื่อคัดค้านมิให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าหรือไม่ และระหว่างที่เรือประมงทั้งสองลำแล่นห่างจากชายฝั่งประมาณ 2 กิโลเมตร มีเรือประมงของจำเลยที่ 5 กับพวกที่แล่นเข้ามาเทียบเรือของนายประจักษ์ ต่อมาจำเลยที่ 5 ได้ขึ้นไปบนเรือแล้วขับเรือลำดังกล่าวเข้าฝั่ง เห็นว่าการที่จำเลยที่ 5 ขึ้นไปบนเรือของผู้เสียหายทั้งสามแล้วบอกไม่ให้ไปสำรวจวาฬ ให้ขับเรือเข้าฝั่งต.บ่อนอก เพื่อไปพบกับจำเลยที่ 1 ซึ่งจำเลยที่ 5 เข้าไปขับเรือแทน โดยมีเรือหางยาวอีก 2 ลำขนาบข้างไปนั้น พฤติการณ์ของจำเลยที่ 5 เป็นการกระทำให้ผู้เสียหายทั้งสามปราศจากเสรีภาพในร่างกายแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 5 นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังขึ้นพิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลยที่ 5 เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน ปรับ 3,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์,ภายหลัง นางกรณ์อุมา เปิดเผยว่า ตนและชาวบ้านรู้สึกพอใจผลพิพากษาศาลฎีกาที่ให้รอลงอาญาไว้ ซึ่งทำให้พวกตนมีอิสรภาพที่จะกลับไปทำงานในพื้นที่ปกป้องและอนุรักษ์ทรัพยากรในพื้นที่บ่อนอกต่อไป เพราะถ้าหากมีชาวบ้านคนใดคนหนึ่งถูกจองจำ ก็จะทำให้เสียบุคลากรที่ยังจะต้องทำงานเพื่อส่วนรวม | ศาลฎีกา พิพากษาแก้ให้จำคุกแนวร่วมกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านโรงไฟฟ้าบ่อนอก 1 ปี 6 เดือน และปรับ 3 พันบาท ฐานบังคับให้เจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้านำเรือเข้าชายฝั่ง ทำให้ปราศจากเสรีภาพ แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี | null | โรงไฟฟ้าบ่อนอก,หินกรูด,กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านโรงไฟฟ้าบ่อนอก,เจริญ วัดอักษร,กลุ่มคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าบ่อนอก,ต่อต้านโรงไฟฟ้า,ศาลฎีกา,พิพากษาแก้,กรณ์อุมา พงษ์น้อย,ชาวบ้านหินกรูด,ผลพิพากษาศาลฎีกา,รอลงอาญา,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์,กทม. | https://www.thairath.co.th/content/549974 |
เอ บอนเน่ ปลื้มคว้า 2 แชมป์แบรนด์ไทย ชูสินค้าทีเด็ดเกลือสปาน้ำนม | นายสุเมธ งามเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ พลัส ซัพพลาย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางกลุ่มสินค้าบำรุงผิว ภายใต้แบรนด์ เอ บอนเน่ กล่าวว่า บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์เอ บอนเน่ 4 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มเกลือสปาขัดผิว 2. กลุ่มครีมอาบน้ำผสมเกลือสปา 3. กลุ่มบอดี้โลชั่น และ 4. กลุ่มสบู่บำรุงผิว ซึ่งทั้งหมดผ่านการวิจัยพัฒนาและได้มาตรฐานสากล พร้อมจุดเด่นวัตถุดิบจากธรรมชาติที่ได้คัดสรรค์อย่างดีจากในประเทศ ทั้งเกลือและน้ำนมแท้ ทำให้ไม่มีอาการแพ้หรือระคายเคือง อย่างไรก็ตาม สินค้าที่ทำให้ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศรู้จักเอ บอนเน่มากที่สุดและมีมูลค่ามากที่สุดคือ กลุ่มเกลือสปาขัดผิว โดยถือว่าเป็นสินค้าเด่นของ เอ บอนเน่ ,ทั้งนี้ ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวภายใต้แบรนด์เอ บอนเน่ และเป็นผู้ผลิตเกลือสปาขัดผิวสูตรน้ำนมเป็นรายแรกในประเทศไทย มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นสุดยอดแบรนด์ไทยที่ได้รับรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ประจำปี 2558 จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้แก่ รางวัลผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม และรางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นบริษัทฯ ที่สามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 2 รางวัล จากกลุ่มผู้ประกอบการทั้งขนาดใหญ่และขนาดย่อมที่ได้รับรางวัลรวมกว่า 30 บริษัท นอกจากนี้ เอ บอนเน่ ยังได้รับรางวัลซุปเปอร์แบรนด์ในประเทศฟิลิปปินส์ถึง 3 ปีติดต่อกัน,นายสุเมธ กล่าวต่อว่า ในการทำการตลาดและจัดจำหน่ายของเอ บอนเน่นั้น ใช้กลยุทธ์การวางสินค้าผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งสัดส่วนการส่งออกสินค้าถึง 70% ไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ได้แก่ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย กัมพูชา พม่า ลาว ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซูดาน ไนจีเรีย อียิปต์ เยเมน กาตาร์ และลิเบีย ส่วนในประเทศไทยสัดส่วนอยู่ที่ 30% ผ่านช่องทางจัดจำหน่ายโมเดิร์นเทรด เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น เทสโก้โลตัส วัตสัน เดอะมอลล์ และร้านค้าทั่วไป โดยจากนี้ จะมุ่งเน้นทำตลาดในประเทศเพิ่มมากขึ้น,กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ พลัสฯ กล่าวอีกว่า เอ บอนเน่ได้รับการรับรองเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศแล้วกว่า 15 ประเทศ และยังอยู่ในระหว่างดำเนินการอีก 10 ประเทศ ซึ่งเรื่องการรับรองเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศนี้ เป็นกุญแจสำคัญในการส่งออกจัดจำหน่ายในประเทศนั้นๆ เพราะหากไม่ผ่านการรับรองถือว่า จำหน่ายไม่ได้ สำหรับปีนี้ ตั้งเป้าที่จะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศไทยให้มากขึ้น เพื่อกระจายสินค้าให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์คุณภาพได้ทั่วถึงทุกภูมิภาค ส่วนต่างประเทศมีแผนที่จะขยายตลาดและเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง และแอฟริกาใต้ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมถึงประเทศจีน และอินเดีย ด้วยการคัดสรรค์พันธมิตรและตัวแทนจำหน่ายที่แข็งแกร่ง พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ โดยคาดว่าในปีนี้ จะเติบโตถึง 500 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมเครื่องสำอางอยู่ที่ประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท. | เอ บอนเน่ ปลื้มรับแชมป์สุดยอดแบรนด์ไทย 2 รางวัลซ้อนเพียงรายเดียว ในประเภทธุรกิจเอสเอ็มอี ชูธงผลิตภัณฑ์เกลือสปาขัดผิวสูตรน้ำนม พร้อมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวครบวงจร ป้อนตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ | null | เครื่องสำอางค์,เกลือสปา,เกลือขัดผิว,ครีมบำรุงผิว,รางวัลแบรนด์ไทย,เอสเอ็มอี,เอบอนเน่,บริษัท เอ พลัส ซัพพลาย จำกัด,สุเมธ งามเจริญ,ไทยรัฐออนไลน์,เครื่องสำอาง,เกลือ,เกลือน้ำนม,นมวัวแท้,เกลือน้ำนมขัดผิว | https://www.thairath.co.th/content/525184 |
ยืนยัน หญิงชาวจีนที่หัวหิน ป่วย ไวรัสโคโรน่า เป็นรายที่ 8 ของไทย | สสจ.ประจวบฯ เผยหญิงชาวจีนวัย 73 ปี ที่ป่วยคล้ายติดเชื้อไวรัสโคโรน่า รักษาตัวที่ รพ.เอกชน ไม่ใช่ รพ.หัวหิน เป็นผู้บริหาร รพ.จากเมืองอู่ฮั่น ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องสัมผัสผู้ป่วย ล่าสุดผลตตรวจจยืนยันแล้ว ป่วยจริง เป็นรายที่ 8 ของไทยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 มกราคม ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอหัวหิน พร้อมด้วย นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ได้ประชุมร่วมกับโรงแรม ศูนย์การค้าฯ สายการบิน และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์การป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหญ่ 2019 ในเขตอำเภอหัวหิน หลังพบผู้ป่วยหญิงชาวจีน อายุ 73 ปี เข้าข่ายติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่ 2019 และยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2563ในการประชุม นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้การดูแลหญิงผู้ป่วยต้องสงสัยว่าอาจจะเข้าข่ายติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธ์ุใหม่ 2019 เป็นผู้อำนวยการด้านการบริหารโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศจีน แต่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ยังอยู่ระหว่างรับการรักษาตัวในห้องปลอดเชื้อที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน ไม่ใช่โรงพยาบาลหัวหินตามที่ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนจากการนำเสนอภาพผ่านสื่อ และอาการเริ่มดีขึ้นแล้ว ทั้งนี้ ได้กำชับให้ผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนที่รับการรักษาผู้ป่วยชาวจีนรายนี้ ดูแลค่ารักษาพยาบาลตามความเหมาะสม และต้องรอผลการตรวจผู้ป่วยจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อให้ผู้บริหารระดับกระทรวงแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้งอย่างไรก็ดี ล่าสุด นายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า ในประเทศไทย จำนวนผู้ป่วยที่ป่วยด้วยเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (ประจำวันที่ 26 มกราคม 2563) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจากต่างประเทศ 8 ราย โดยอาการหายดีกลับบ้านแล้ว 5 ราย อีก 3 รายนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าผู้ป่วยทั้งหมดได้รับเชื้อจากต่างประเทศ ไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศไทย โดยรายที่ 6 เป็นหญิง อายุ 33 ปี เข้ารับการรักษาที่ รพ.เอกชน เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2563 ไว้ในห้องแยกโรคระหว่างรอผลแล็บ ก่อนส่งตัวเข้ารักษาที่ รพ.ราชวิถี รักษาจนอาการดีขึ้น และมีการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดไม่พบมีอาการป่วย รายที่ 7 เป็นหญิงจีน อายุ 57 ปี รับการรักษาที่ รพ.เอกชน ก่อนประสานแจ้งกรมควบคุมโรค รับตัวเข้ารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.2563 และรายที่ 8 เป็นหญิงจีน อายุ 73 ปี รักษาอยู่ที่ อ.หัวหิน | สสจ.ประจวบฯ เผยหญิงชาวจีนวัย 73 ปี ที่ป่วยคล้ายติดเชื้อไวรัสโคโรน่า รักษาตัวที่ รพ.เอกชน ไม่ใช่ รพ.หัวหิน เป็นผู้บริหาร รพ.จากเมืองอู่ฮั่น ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องสัมผัสผู้ป่วย | ข่าว,ทั่วไทย | ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่,ไวรัสโคโรน่า หัวหิน,ไวรัสโคโรน่าอู่ฮั่น,อู่ฮั่น,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1756783 |
สุวรรณภูมิ ยกระดับการรักษาความปลอดภัยเลเวล 3 รับมือหลังบึมป่วนกรุงเทพฯ | วันที่ 2 ส.ค.2562 เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พ.ต.อ.สุรชัย เจ็ดพีน้องรวมใจ รอง.ผบก.ภจว.สมุทรปราการ พ.ต.อ. วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก.จว. สมุทรปราการ พ.ต.อ.ปกปภพ บดีพิทักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.แดนไทย ปลั่งอี ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมประชุมพร้อมลงพื้นที่ตรวจภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดหลายจุดใน กทม.,โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เพิ่มระดับความปลอดภัยเป็นระดับ 3 แบบเต็มรูปแบบ กล่าวคือ เพิ่มวงรอบการตรวจของทุกส่วนงานการรักษาความปลอดภัย อย่างเข้มงวด ได้แก่ การตระเวนระงับเหตุ การรักษาการณ์ การจราจร การตรวจค้นสัมภาระติดตัวผู้โดยสารและสัมภาระบรรทุก การลาดตระเวนสุ่มตรวจของหน่วยทำลายวัตถุระเบิด รวมทั้งการออกบัตรอนุญาตบุคคลและยานพาหนะ,ขณะนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะเพิ่มความเข้มงวดการออกบัตรอำนวยความสะดวก (อน.) ทุกประเภท และประสานความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจในจุดล่อแหลม และจัดชุดตรวจผสมออกตรวจในวงรอบที่ถี่มากขึ้น รวมทั้งเพิ่มวงรอบการตรวจของสุนัขตำรวจ บริเวณอาคารจอดรถยนต์และจุดให้บริการแท็กซี่สาธารณะ โดยเจ้าหน้าที่ EOD สภ.สุวรรณภูมิ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ EOD ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ เจ้าหน้าที่ K-9 ตรวจพื้นที่ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามปกติ ที่ยังคงมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ระดับ 3 และสุ่มตรวจกระเป๋าต้องสงสัย ,ด้าน พ.ต.อ.สุรชัย เจ็ดพีน้องรวมใจ รอง.ผบก.ภจว.สมุทรปราการ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีแผนการปฏิบัติกันอยู่แล้ว เมื่อมีเหตุการณ์เกิดในกรุงเทพมหานครทางสนามบินก็ได้เพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัย โดยประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในสนามบินสุวรรณภูมิโดยเฉพาะ เพราะว่าสนามบินเป็นพื้นที่สำคัญ เป็นหน้าตาของประเทศและเป็นพื้นที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศอย่างยิ่ง และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าออกประเทศ รวมทั้งดูแลแอร์พอร์ตลิงก์ มีการตั้งด่านความมั่นคงเฝ้าระวัง และส่งสายตรวจตรวจตราในพื้นที่ ส่วนในห้างสรรพสินค้าหรือจุดที่มีประชาชนอยู่เยอะทางเจ้าหน้าที่จัดชุดสายตรวจลงพื้นที่เฝ้าระวังการก่อเหตุ ขอฝากประชาชนที่เจอวัตถุต้องสงสัย บุคคลแปลกหน้า ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ หรือโทร. 191 | ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพิ่มระดับความปลอดภัยเป็นระดับ 3 โดยจัดชุดผสม และชุดสุนัข K-9 ออกตรวจในวงรอบที่ถี่มากขึ้น หลังเกิดเหตุระเบิดหลายจุดในกรุงเทพฯ | ข่าว,ทั่วไทย | ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ,รักษาความปลอดภัย,ระเบิดป่วนกรุง,ระเบิด กทม.,สภ.สุวรรณภูมิ,สมุทรปราการ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1629026 |
ไม่ไช่ทรานส์ฟอร์เมอร์ แค่รถเครนเสียล้มตั้งชี้ฟ้า หน้า ร.ร.นายเรืออากาศ | เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 มิ.ย. 2560 ร.ต.อ.สมภพ นทีมุ่งเจริญ รอง สว.จร.สน.สายไหม รับแจ้งจากห้องวิทยุ สน.สายไหม ว่ามีอุบัติเหตุรถเครนพลิกหงายบริเวณแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต กลางถนนพหลโยธิน ระหว่างหน้าโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช และหน้ากองบัญชาการกองทัพอากาศ แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อม นางเรณู ซื่อสัตย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตสายไหม ตำรวจจราจร สน.สายไหม และเจ้าหน้าที่สำนักเทศกิจ,ที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างแนวก่อสร้างรถไฟฟ้า ช่วงสถานีพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ และสถานี กม.25 พบรถเครนชุดเข็มเจาะขนาดยี่ห้อซานี่ ขนาด 55 ตัน 12 ล้อ ทะเบียน 83-1642 ของบริษัทยูนิคเอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) สภาพรถพลิกหงายตั้งฉากกับพื้นถนน หมอนไม้รองขาเหล็กรับน้ำหนักรถหัก 1 ท่อน ขณะที่หม้อน้ำมันรถเครนแตก ทำให้น้ำมันไหลเจิ่งนองลงบนพื้นผิวจราจรฝั่งขาเข้า เจ้าหน้าที่ต้องทำการปิดถนน 1 ช่องทาง เพื่อทำการล้างพื้นผิวจราจร ทำให้การจราจรเคลื่อนตัวได้ช้า ฝั่งกลับกันการจราจรสามารถเคลื่อนตัวได้ตามปกติ จากอุบัติเหตุดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือทรัพย์สินราชการเสียหายแต่อย่างใด,จากการสอบถามคนงานที่อยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุรถเครนดังกล่าวมาจอดรถบริเวณสถานที่ก่อสร้าง และมีการกางขาเหล็กรับน้ำหนักรถโดยใช้ไม้หมอนรองเพื่อไม่ให้พื้นทรุด เพื่อทำการประกอบกับท่อขุดเจาะเสาเข็มขนาดประมาณ 20 เมตร แต่จังหวะที่รถเครนชุดเข็มเจาะหมุนตัวเพื่อยกตั้งท่อขุดเจาะ จู่ๆ ไม้หมอนรองขาเกิดหักทำให้รถหงายท้องหน้ารถตั้งชี้ฟ้าดังกล่าว ส่วนคนขับทราบว่าหลังเกิดเหตุได้ปีนลงมาก่อนหนีหายไป,เบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากระหว่างที่รถเครนทำการยกท่อขุดเจาะ ระหว่างที่หมุนตัวตั้งท่อประกอบ ทำให้น้ำหนักรถทั้งหมดไปรวมอยู่ที่ด้านท้ายรถ จึงทำให้ไม้หมอนรับน้ำหนักไม่ไหวจนแตกหัก ทำให้รถเครนเสียหลักพลิกหงายตั้งฉากดังกล่าว ไม่ใช่การแปลงร่างเป็นหุ่นทรานส์ฟอร์เมอร์ เพื่อโปรโมตภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องใหม่ หรือ ออปติมัส ไพร์ม พาพวกเดินทางมาโลกแต่ประการใด อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่บริษัทดังกล่าว จะได้ติดตามตัวคนขับรถเครนมาสอบถาม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป. | เกิดเหตุรถเครนที่ใช้ในการก่อสร้าง แนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวล้ม ตั้งหน้าทิ่มดินท้ายรถชี้ฟ้า ด้านหน้าโรงเรียนนายเรืออากาศ โชคดีไม่มีคนเจ็บ ยืนยันไม่ใช่การโปรโมตหนังทรานส์ฟอร์เมอร์ | ข่าว,ทั่วไทย | รถเครนล้ม,โรงเรียนนายเรืออากาศ,รถไฟฟ้าสายสีเขียว,ดอนเมือง,ถนนพหลโยธิน | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/965433 |
ทิ้งยาบ้า 7 แสนเม็ด ขนจากชายแดนเจอด่านที่เชียงราย | เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 10 มิ.ย.58 พ.ต.อ.ภูมิปัญญ์ญา นวตรกูลพิสุทธ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งจากนายพัฒนา นามวงศ์ กำนันต.แม่ข้าวต้ม ว่ามีผู้พบรถปิกอัพบรรทุกยาบ้าจำนวนมาก จอดอยู่กลางทุ่งนา บ้านห้วยอ้ม หมู่ 9 ต.แม่ข้าวต้ม จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประทักษ์ เจริญศิลป์ รอง ผบก.ภ. เชียงราย พ.อ.ปัญชา ดุริยพันธ์ รองผบ.กกล.จทบ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองเชียงราย ตำรวจ ทหาร และกำนันผู้ใหญ่บ้าน รุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุ พบรถปิกอัพมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน รุ่น L 200 สภาพเก่า ทะเบียน บษ 8956 เชียงราย จอดอยู่ริมถนนข้างทุ่งนา ลึกเข้าไปจากถนนบ้านเด่น-ท่าข้าวเปลือกประมาณ 50เมตร เขตบ้านห้วยอ้ม หมู่ 9 ต.แม่ข้าวต้ม อ.เมืองเชียงราย ข้างรถพบถุงฟางมีหูหิ้ว 1 ถุง ภายในบรรจุยาบ้าห่อด้วยพลาสติกสีดำ 2 ห่อ ส่วนบนรถมีถุงฟางเปล่า 1 ถุง ห่างไป 5 เมตร พบห่อยาบ้าสีดำ 3 มัด และห่างไปอีก 20 เมตร พบถุงฟาง 1 ถุงบรรจุยาบ้า 2 มัดซุกไว้ในป่าละเมาะ รวมยาบ้าทั้งหมด 700,000 เม็ด จึงยึดไปตรวจสอบที่ สภ.เมืองเชียงราย,จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ทราบว่า มีคนเห็นรถปิกอัพคันนี้จอดทิ้งไว้ 3 วันแล้ว สอบถามก็ไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของ จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน รายงานให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่า ผู้ครอบครองรถคันกล่าวเป็นเจ้าของบริษัทไฟแนนซ์ใหญ่ของจ.เชียงราย มีสาขาทั่วจังหวัด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเรียกตัวมาสอบสวน เพื่อหาคนที่เช่าซื้อรถต่อไป,ต่อมา ที่สภ.เมืองเชียงราย นายรัชกฤช สถิรนนท์ รอง ผวจ.เชียงราย ได้แถลงข่าวว่า การตรวจยึดยาบ้าครั้งนี้เป็นการทำงานแบบบูรณาการของทุกฝ่าย ทำให้สามารถสกัดกั้นยาเสพติดได้จำนวนมาก เบื้องต้นคาดว่า กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ได้ลำเลียงยาบ้าจำนวนดังกล่าวมาจากชายแดน เตรียมส่งมอบให้ลูกค้าพื้นที่ชั้นใน แต่พบกับด่านตรวจที่อยู่ห่างไป 5 กม.จึงขับรถหลบเข้าซอย จอดรถและพยายามนำยาบ้าลงจากรถไปซุกซ่อนในป่าละเมาะเพื่อรอคอยโอกาสปลอดเจ้าหน้าที่ แต่มีชาวบ้านเดินเข้าออกซอยดังกล่าวอยู่ตลอด ทำให้นำไปซ่อนไม่ทัน และเกรงจะถูกจับได้ จึงทิ้งรถและยาบ้าไว้แล้วหลบหนีไป. | แก๊งยาบ้าขนสินค้าลอตใหญ่จากชายแดน เข้ามาในเเมืองเชียงราย แต่เจอด่านตรวจเลยวนรถหาที่ซ่อน ขณะกำลังขนลงจากรถ มีชาวบ้านผ่านมา เลยทิ้งยาบ้ากับรถปิกอัพไว้ริมถนนข้างทุ่งนา มีถุงใส่ยาบ้ากระจัดกระจายนับได้ 7 แสนเม็ด | ข่าว,ทั่วไทย | ทิ้งยาบ้า,ยาบ้า7แสนเม็ด,ยาบ้าลอตใหญ่,ยึดยาบ้า,รถขนยาบ้า,แม่ข้าวต้ม,เชียงราย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/news/local/504278 |
ประติมากรรม ช้างไทย ไปโชว์่มิลาน เชื่อมสัมพันธ์ ไทย-อิตาลี ครบ 150 ปี | ช้างไทย-อิตาลี, ผู้นำโขลงในจำนวนช้างทั้งหมด 999 เชือกใน ,นิทรรศการศิลปะเส้นทางช้างไทย 999, ที่สร้างสรรค์โดย 9 ศิลปินระดับศิลปินแห่งชาติ สมาคมขัวศิลปะ ในสมัยรัชกาลที่ 9 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ช้างไทย ซึ่งเริ่มต้นเดินทางจากจังหวัดเชียงราย มาจัดแสดง ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้ฤกษ์เดินทางไปจัดแสดง ณ นครมิลาน ประเทศอิตาลีในปลายปีนี้ โดย, บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา, และพันธมิตรจากทุกภาคส่วน ได้ร่วมกันจัดพิธีส่งมอบช้างไทย-อิตาลี เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการครบ 150 ปี ไทย-อิตาลี มีเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศ ไทย ฟรานเชสโก ซาเวริโอ นิซิโอ เป็นผู้แทนรับมอบในนามของรัฐบาลและประชาชนชาวอิตาเลียน เมื่อเร็วๆนี้,สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์, ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า ประติมากรรมช้างไทย-อิตาลี สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 9 ในโครงการ นิทรรศการศิลปะเส้นทางช้างไทย 999 อำนวยการสร้างโดย บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ทำจากเรซิน ขนาดความกว้าง 3 เมตร ยาว 5.8 เมตร และสูง 4.2 เมตร โดยศิลปินแห่งขัวศิลปะทั้ง 9 ท่านที่ร่วมกันสร้างประติมากรรมแห่งประวัติศาสตร์นี้ ได้แก่ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์, อ.สมลักษณ์ ปันติบุญ, อ.ศรีวรรณ เจนหัตถการกิจ, อ.ทรงเดช ทิพย์ทอง, อ.อภิรักษ์ ปันมูลศิลป์, อ.เสงี่ยม ยารังษี, อ.ธีรยุทธ สืบทิม, อ.อังกฤษ อัจฉริยโสภณ และ อ.ทนงศักดิ์ ปากหวาน ทั้งนี้เพื่อฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 150 ปี ไทย-อิตาลี อย่างเป็นทางการ โดยทางเทศบาลเมืองมิลานจะจัดงานต้อนรับ ช้างไทย-อิตาลี ณ อุทยานศิลปะ อิโดรสคาโล (Idroscalo Art Park) สวนสุขภาพที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานของนครมิลาน ประเทศอิตาลี ผู้สนใจอยากชมหรือถ่ายภาพกับประติมากรรมผู้นำโขลงช้างชิ้นนี้ สามารถเข้าชมได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงกลางเดือนตุลาคม ณ บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์. | ประติมากรรม ช้างไทย-อิตาลี ผู้นำโขลงในจำนวนช้างทั้งหมด 999 เชือกใน นิทรรศการศิลปะเส้นทางช้างไทย 999 ที่สร้างสรรค์โดย 9 ศิลปินระดับศิลปินแห่งชาติ สมาคมขัวศิลปะ ในสมัยรัชกาลที่ 9 | ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์ | นิทรรศการศิลปะเส้นทางช้างไทย 999,ช้างไทย,อนุรักษ์ช้าง,สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์,เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์,ศิลปะ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1045035 |
ภารกิจร่วมของ นายกฯ กับ สุริยะ ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมไทยสู่โลก 4.0 | โดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนประเทศไทยจะเปลี่ยนวิกฤติของโลกในครั้งนี้ให้เป็นโอกาสได้อย่างไร,ท่านนายกฯโทร.มาหาผมว่า ทราบเรื่องที่ผู้บริหารของ US-ASEAN Business Council : USABC หรือสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน ที่เข้าพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และให้สัมภาษณ์สำนักข่าว CNBC หรือไม่ว่า อย่างไรเสียนักธุรกิจของสหรัฐฯก็จะต้องเคลื่อนย้ายการลงทุนมายังประเทศไทยผมก็เรียนว่าผมทราบแล้ว และกำลังวางแผนปรับปรุงโครงการของภาคอุตสาหกรรมไทย รวมถึงการขอสิทธิพิเศษเพื่อการลงทุนในประเทศไทยอยู่ ซึ่งท่านก็เห็นด้วย และได้รับการฝากฝังเรื่องนี้จากท่านนายกฯด้วยดี,นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยเรื่องนี้กับ ทีมเศรษฐกิจ ระหว่างการสนทนากับเขาถึงแนวคิดในการปรับโครงสร้างภาคการผลิตอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกของประเทศไทย ซึ่งตามความเห็นและข้อสงสัยของเราก็คือ นานกว่า 25 ปีกระมัง ที่สินค้าส่งออกของเรามีอยู่เพียง 11 รายการ ไม่นับรวมทองคำกับน้ำมัน ในจำนวนสินค้าเหล่านี้ มีแต่สินค้าเดิมๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ เครื่องจักรกลและอะไหล่ รถยนต์และอะไหล่ อัญมณี และเครื่องประดับ เป็นต้น,ที่เป็นปัญหา คือ ยิ่งวัน สินค้าอุตสาหกรรมที่มาแทนที่สินค้าภาคการเกษตรในสัดส่วน 80-20% นั้น ค่อยๆกลายเป็นสินค้าส่งออกประเภทที่เป็นต้นน้ำที่ไม่ได้รับการพัฒนาให้ก้าวหน้าขึ้นไปกว่าเดิม กระทั่งมีการย้ายฐานการผลิตไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านที่มีต้นทุนแรงงานถูกกว่าจำนวนมาก,การขยายฐานทางธุรกิจ-อุตสาหกรรมเพื่อรองรับนักธุรกิจจากต่างประเทศเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการ โดยเฉพาะในเรื่องของการให้สิทธิประโยชน์ เพื่อการลงทุนเพื่อให้สู้กับต่างประเทศ หรือเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียนด้วยกันเองให้ได้ และหลังจากตรวจสอบงบประมาณของกระทรวงดูก็พบว่ากระทรวงพิจารณาคำขอไว้ประมาณ 14,500 ล้านบาท ในการปรับภาคการผลิตให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของโลก ตามความจำเป็นเร่งด่วน,โดยเฉพาะในด้านการยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้มุ่งสู่ อุตสาหกรรม 4.0 เพื่อรองรับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป และแสวงหาโอกาสจากสงครามการค้าโลกที่เป็นเครื่องมือที่หลายประเทศดำเนินการต่อกัน โดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่ไทยควรใช้โอกาสนี้ดึงการลงทุนจาก 2 ประเทศ ขณะที่การใช้งบประมาณในแต่ละรายการและความสำคัญลำดับก่อนหลังนั้น จะต้องมุ่งไปยังโครงการที่สำคัญมากเท่านั้น และต้องไม่ใช่การเหวี่ยงแหเพื่อให้สำนักงบประมาณเห็นความสำคัญของโครงการเหล่านี้ว่ามีความจำเป็นจริงๆ,รมว.อุตสาหกรรม กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่ของกระทรวงได้ชี้แจงต่อสำนักงบประมาณว่า ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมไทยควรมีการปรับตัวอย่างเร่งด่วน ดังนั้นโครงการที่เป็นพื้นฐานสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมแข็งแกร่งควรได้รับการพิจารณาด้วย,เช่น ล่าสุดการขยายตัวของดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ลดต่ำที่สุดในรอบ 29 เดือน และอุตสาหกรรมที่ลดลงเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ คือยานยนต์ ปิโตรเคมี ที่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกแล้วว่า โครงสร้างอุตสาหกรรมของไทยกำลังเผชิญปัญหาหลายเรื่องด้วยกัน,สำหรับโครงการที่ต้องได้รับการปรับปรุงเร่งด่วนก็เช่น โครงการส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และศูนย์ทดสอบยานยนต์ รวมถึงยางล้อแห่งชาติ ตรงนี้ของบไว้ 1,565 ล้านบาท โครงการต่อไปคือ ยกระดับศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมเพื่อขับเคลื่อน SMEs สู่สากล 386 ล้านบาท,โครงการปั้นสินค้าเด่นระดับชุมชน 340 ล้านบาท โครงการพัฒนาและยกระดับเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 259 ล้านบาท โครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตาก 858 ล้านบาท เป็นต้น,นายสุริยะ กล่าวว่า ตนได้สั่งให้สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ สมอ.เร่งทำมาตรฐานอุปกรณ์การใช้โครงสร้างพื้นฐานของการก่อสร้างขนาดใหญ่เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมของไทย ดัดหลังต่างชาติที่อ้างสินค้าไทยไม่ได้มาตรฐาน มอก.ต้องนำเข้าสินค้าตัวเองมาก่อสร้างแทน ตรงนี้ถ้าเราทำได้เอง คนไทยต้องได้ประโยชน์มาก,เขาเปิดเผยด้วยว่า ได้มีโอกาสร่วมงาน 10 ปีของการครบรอบการมาเปิดตัวในประเทศไทยของ JETRO หรือองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ซึ่งเขาอยากให้เราสนับสนุนธุรกิจเชื่อมโยงการผลิตของเขาและบรรดา SMEs ที่จะตามมา ถ้าประเทศไทยเราสามารถทำให้การทำธุรกิจของ SMEs ของเขาได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเต็มที่ได้ เขาก็น่าจะย้ายฐานการลงทุนมาได้มาก โดยเฉพาะในการสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ,ผมคิดว่า ถ้าเราให้แบงก์ ทั้งของเราและของเขาซึ่งจะเป็นธุรกิจต่อเนื่องกับการผลิตในอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นได้ กู้ในอัตราที่ดอกเบี้ยต่ำตั้งแต่ 1–5% แล้ว เมื่อเขาทำแล้วประสบความสำเร็จตามสมควรก็ขอให้เงินหมุนเวียนกลับมาฝากแบงก์ใหม่เพื่อเป็นทุนในการขยายกิจการต่อเนื่องต่อไป,แนวคิดนี้ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีอีกทางโดยเฉพาะในการจัดตั้งกองทุนอุตสาหกรรมประชารัฐ ซึ่งจะต้องขอให้ภาคเอกชนไทยทำบัญชีเดียว เพื่อให้การทำบัญชีทางการเงินเข้า-ออกจาก Book Bank สะดวกด้วยกันทั้งสองฝ่าย,ในขณะที่กองทุนนี้จะแบ่งเป็นกองทุนเพื่อให้การช่วยเหลือแก่ SMEs ตั้งแต่ขนาน S คือ Small-Medium ไปจนถึง Large (SML) โดยเฉพาะเมื่อการเติบโตของ SMEs ในประเทศไทยนั้นเพียง 10 ปี คือ จากปี 2551-2561 สูงถึง 40% หรือคิดเป็นจำนวน 3,884-5,224 ราย และเป็น Startup ราว 1,040-1,089 รายที่ประสบความสำเร็จ,สำหรับยุทธศาสตร์เศรษฐกิจไทยภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ นายสุริยะ กล่าวว่า เขาได้สั่งการให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ไปจัดทำมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมที่ใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมระบบราง อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน ท่าเรือ รถไฟฟ้า โดยให้ไปพิจารณาว่า สินค้าประเภทใดของประเทศไทยที่ต้องการผลิตให้ได้ มอก.,ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของสากล เป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมในประเทศให้ได้รับอานิสงส์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย เนื่องจากที่ผ่านมามีเอกชนหลายรายกังวลว่า กลุ่มผู้ชนะการประมูลโครงสร้างพื้นฐานในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC : Easter Economic Corridor) มีบริษัทต่างชาติร่วมทุนอยู่หลายโครงการ จึงเกรงว่าจะต้องนำเข้าอุปกรณ์ในแต่ละโครงการหากอุปกรณ์นั้นๆผลิตในประเทศไม่ได้ มอก.,นโยบายนี้ภาครัฐต้องเน้นอุปกรณ์หรือสินค้าที่ผู้ประกอบการมีความพร้อมในการผลิตในประเทศ และต้องการให้ภาครัฐออกมาตรฐานสินค้าเพื่อให้เป็นที่ยอมรับสากล โดยผมจะไปหารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ เรื่องข้อกำหนดการส่งเสริมใช้ชิ้นส่วนในประเทศเพื่อสนับสนุนการใช้สินค้าไทย โดยต้องไม่ขัดกับข้อตกลงองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) เพราะโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ในประเทศควรให้ผู้ผลิตวัสดุอุปกรณ์ในประเทศได้รับผลประโยชน์,ขณะเดียวกัน หน่วยงานภาครัฐทุกแห่งก็จะต้องเร่งสร้างคุณค่ามาตรฐาน ทักษะแรงงาน เพื่อสนับสนุนพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต พัฒนาฝีมือให้เป็นระบบ รวมถึงส่งเสริมมาตรฐานอาหารแปรรูป สินค้าที่แปรรูปจากการเกษตรสำคัญมาก คือต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญา เช่น ศูนย์ทดสอบยานยนต์ และยางล้อแห่งชาติ เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่,นอกจากนี้ ยังจะเร่งรัดดำเนินโครงการ 5 เครื่องยนต์ขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรม ประกอบด้วย เครื่องยนต์แรก พัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต หรือเอสเคิร์ฟ เพื่อให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ๆขึ้นในประเทศเพื่อต่อยอดนโยบายในส่วนที่มีการดำเนินการไปแล้ว เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่มีค่ายผู้ผลิตรถยนต์ได้รับการส่งเสริมการลงทุนรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าคิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวม 53,000 ล้านบาท อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติที่ต่อไปจะให้ความสำคัญกับการลงทุนจากประเทศพันธมิตรโดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่นมากขึ้น,เครื่องยนต์ที่ 2 จะยกระดับผู้ประกอบการ SMEs และ Startup ให้เติบโตและเข้มแข็ง โดยจะนำนวัตกรรมการส่งเสริม สร้างต้นแบบพัฒนาผู้ประกอบการให้เกิดความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจรากหญ้า และเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน,โดยในปี 2563 กระทรวงอุตสาหกรรมได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจรากหญ้าในแนวทางเกษตรอุตสาหกรรมวงเงิน 400 ล้านบาท เพื่อยกระดับสู่การแปรรูปสินค้าเกษตร โดยเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์การเกษตรแปรรูปต่างๆ รวมทั้งเตรียมยกระดับชุมชนให้เป็นชุมชนเกษตรอุตสาหกรรม เสริมเครื่องทุ่นแรงในการแปรรูปอย่างง่าย และพัฒนาสินค้าให้มีความคิดสร้างสรรค์พร้อมนวัตกรรม,เครื่องยนต์ที่ 3 เป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงพื้นที่เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมกับศักยภาพเชิงพื้นที่และกระจายรายได้ไปสู่ภูมิภาคโดยการขับเคลื่อนผ่านเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC และเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน เน้นสร้างเศรษฐกิจภูมิภาคด้วยโมเดลเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการเกษตร,เครื่องยนต์ที่ 4 เน้นส่งเสริมการประกอบการที่เป็นมิตรต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน, การสร้างเศรษฐกิจชุมชนด้วยการใช้วัตถุดิบหมุนเวียน เพื่อให้เป็นกลไกเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนในรูปแบบใหม่ โดยจะแก้ไขข้อติดขัดของกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องให้เอื้อต่อนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน ส่งเสริมการนำวัตถุดิบหมุนเวียนของภาคอุตสาหกรรมและชุมชนกลับมาใช้ประโยชน์,เครื่องยนต์ตัวสุดท้าย ต้องปฏิรูปกระทรวงอุตสาหกรรมไปสู่ Smart Government ด้วยการนำระบบดิจิทัลมาใช้ในการบริการและปฏิบัติงานของกระทรวงอุตสาหกรรมในทุกมิติ เช่น ระบบการยื่นขอใบอนุญาตออนไลน์ ระบบการรายงานการประกอบการอุตสาหกรรมผ่านระบบออนไลน์แทน,การตรวจสถานประกอบการเพื่อต่ออายุใบอนุญาต เช่น ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน หรือ ใบ รง.4, มอก.ECO-Sticker สำหรับรถยนต์ที่ลดมลพิษ, ระบบการชำระค่าบริการออนไลน์ เป็นต้น,นายสุริยะ ยังเปิดเผย หลังหารือร่วมกับนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่สำนักงาน ส.อ.ท.ว่า ได้นำคณะผู้บริหารกระทรวงเข้าหารือกับ ส.อ.ท.เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนโดยเฉพาะด้านปัญหา และอุปสรรคที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกด้านการลงทุนและพัฒนาอุตสาหกรรมให้แข่งขันระดับโลกได้,โดย ส.อ.ท.ได้เสนอโมเดล Made In Thailand ให้กระทรวงไปประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการผลักดันให้โครงสร้างพื้นฐานของไทยทุกโครงการที่กำลังเดินหน้าใช้วัตถุดิบที่ผลิตในไทยในการก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 90%,อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติพบว่าโครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่ยังไม่มีการกำหนดสัดส่วนการใช้สินค้าที่ผลิตโดยคนไทย ยกเว้นบางโครงการ อาทิ รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ที่กำหนดให้ใช้สินค้าไทยไม่ต่ำกว่า 90% หรือการผลิตรถยนต์ของไทยที่กำหนดชิ้นส่วนในประเทศไม่ต่ำกว่า 90% ดังนั้น จึงต้องการให้รัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างจริงจังเพราะไทยกำลังจะมีโครงสร้างพื้นฐานอีกจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ส.อ.ท.จะไปรวบรวมบัญชีสินค้าที่สามารถผลิตได้ในไทย และเสนอรัฐบาลควบคู่ไปด้วย,ส.อ.ท.ยังเสนอให้มีการจัดงาน เมด อิน ไทยแลนด์ อินดัสทรี เอ็กซ์โป ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อแสดงสินค้านวัตกรรม เทคโนโลยีต่างๆของคนไทย เพราะปัจจุบันคนไทยสามารถผลิตสินค้าได้ทุกอุตสาหกรรม โดยหลังจากนี้จะติดตามความคืบหน้าของข้อเสนอทั้งหมดว่าขับเคลื่อนไปอย่างไรบ้าง,นายสุริยะ กล่าวว่า เขารับข้อเสนอ ส.อ.ท.เต็มที่ด้วยการผลักดันโครงสร้างพื้นฐานไทยให้ใช้ Local Contents 90% และให้หามาตรการตอบโต้เวียดนามเพื่อคุ้มครองนักลงทุนไทยด้วย,นายสุริยะ กล่าวในตอนท้ายว่าเขารับฟังเสียงสะท้อนที่เข้ามาของสภาอุตสาหกรรมและ พร้อมนำไปแก้ไขและปฏิบัติ โดยเฉพาะด้านปัญหาและอุปสรรคที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน ขณะเดียวกันก็ให้สภาอุตสาหกรรมไปรวบรวมบัญชีสินค้าที่สามารถผลิตได้ในประเทศไทยเพื่อนำเสนอรัฐบาลในการดำเนินการตามโครงการต่างๆควบคู่กันไป,ท้ายที่สุดทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม และสภาอุตสาหกรรม จะจัดงาน Made In Thailand ร่วมกันเพื่อแสดงความก้าวหน้าของสินค้าไทย นวัตกรรมใหม่ๆ และเทคโนโลยีต่างๆที่เป็นของคนไทยคิดค้นขึ้นในหลายสาขา และในภาคการผลิตสินค้าจำนวนไม่น้อย ซึ่งหากทั้งสองเดินไปในทิศทางเดียวกัน ในที่สุดประเทศไทยก็จะสามารถขับเคลื่อนภาคการผลิตในอุตสาหกรรมไทยให้มีศักยภาพ และขีดความสามารถเพื่อแข่งขันกันในเวทีการค้าของโลกได้,ที่สำคัญก็คือทั้งหมดจะนำมาซึ่งเงินตราเข้าประเทศ และทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้อันเป็นภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง และยั่งยืนที่คนไทยทั้งประเทศต้องการ.,ทีมเศรษฐกิจ | ประเด็นสำคัญของการที่ประเทศไทยจะต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างภาคการผลิตในกลุ่มอุตสาหกรรมของประเทศที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจ ก็คือสงครามการค้าที่เกิดขึ้นในโลก | ข่าว,เศรษฐกิจ | สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ,กระทรวงอุตสาหกรรม,รมว.อุตสาหกรรม,สงครามการค้า,อุตสาหกรรม 4.0,SMEs,ทีมเศรษฐกิจ | https://www.thairath.co.th/news/business/1650533 |
ซากดึกดำบรรพ์บรรพบุรุษมนุษย์ในโมร็อกโกเก่าแก่ที่สุด | สถาบันมักซ์พลังค์,เพื่อการวิจัยด้านมานุษยวิทยา ประเทศ,เยอรมนี, เผยถึงการค้นพบ,ซากดึกดำบรรพ์,ของบรรพบุรุษมนุษย์ที่รู้จักกันในชื่อ,โฮโม เซเปียนส์, ขุดพบบนเนินเขาในเขตพื้นที่ชื่อ,เซเบล อีร์ฮูด, ตั้งอยู่ระหว่างเมืองมาร์ราเกชและชายฝั่งทะเลแอตแลนติกของประเทศโมร็อกโก ,ซาก,ดังกล่าวถูกระบุว่ามีอายุเก่าแก่กว่า,ซากดึกดำบรรพ์,เดิมที่เคยพบถึง 100,000 ปี,จากการตรวจสอบซากของ,กะโหลก, ,กระดูกขากรรไกรล่าง, และ,ฟัน,ของ,ซากดึกดำบรรพ์,ที่พบอย่างน้อย 5 ราย เป็นผู้ใหญ่ 3 ราย วัยรุ่น 1 ราย และเด็กอายุประมาณ 8 ขวบอีก 1 ราย ทั้งหมดมีอายุราวๆเมื่อ 300,000 ปีที่แล้ว โดยใกล้ๆกันนั้นยังพบ,ซากดึกดำบรรพ์,สัตว์ ได้แก่ ละมั่ง ม้าลาย สันนิษฐานว่า,มนุษย์โบราณ,เหล่านี้ล่ามา รวมทั้ง,เครื่องมือหิน,อย่างปลายหอกและมีด ซึ่งเป็นหลักฐานว่าพวกเขาใช้,เครื่องมือหิน,เหล่านี้เพื่อจุดไฟ,การค้นพบ,ซากบรรพบุรุษมนุษย์,ครั้งนี้โต้แย้งข้อมูลเดิมๆที่ว่ามนุษย์,โฮโม เซเปียนส์,กำเนิดใน ,สวนแห่งอีเดน, ซึ่งเป็นที่ไหนสักแห่งในแอฟริกาตะวันออก หรือทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารา แต่ซากที่พบใหม่นี้ขุดเจอบริเวณตอนเหนือของแอฟริกา นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่าเมื่อ 300,000 ปีก่อนนั้น โ,ฮโม เซเปียนส์,น่าจะมีชีวิตอยู่กระจัดกระจายไปทั่วทวีปแอฟริกา แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่คาดฝันว่าจะพบ,ซากดึกดำบรรพ์,เก่าแก่เหล่านี้ในโมร็อกโก และเมื่อพิจารณาที่ตั้งของ,ซากมนุษย์,ยุคแรกๆ พวกเขาสรุปได้ว่ารูปแบบและอายุของ,ซาก,ดังกล่าวมีความลึกลับ ซึ่งการค้นพบนี้ยังแสดงให้เห็นรูปร่างของใบหน้าและฟันของ,โฮโม เซเปียนส์, ที่มีลักษณะไม่ต่างไปจากมนุษย์ในยุคปัจจุบันเลย. | นักบรรพมานุษยวิทยาจากสถาบันมักซ์พลังค์เพื่อการวิจัยด้านมานุษยวิทยา ประเทศเยอรมนี เผยถึงการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของบรรพบุรุษมนุษย์ที่รู้จักกันในชื่อโฮโม เซเปียนส์ ขุดพบบนเนินเขาในเขตพื้นที่ชื่อเซเบล อีร์ฮูด | ข่าว,ทั่วไทย | ทันโลก,ซากดึกดำบรรพ์,โฮโม เซเปียนส์,เซเบล อีร์ฮูด,เยอรมนี,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/local/973640 |
สุนัขตำรวจมือใหม่สุดเก่ง หาแม่และลูกน้อย 1 ขวบ หายไปนาน 2 วันจนพบ | เจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศเวลส์ได้เข้าช่วยเหลือแม่และลูกวัยเพียงขวบเดียวที่สูญหายไปนาน 2 วัน โดยตำรวจได้ยกความดีความชอบให้กับสุนัขตำรวจที่เพิ่งปฏิบัติภารกิจเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2563 สำนักข่าวซีบีเอสรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศเวลส์พบหญิงและลูกน้อยวัย 1 ขวบที่หายตัวไป ซึ่งไม่มีใครสามารถติดต่อหญิงคนดังกล่าวได้นาน 2 วัน หลังจากที่สุนัขตำรวจพบเธอขอความช่วยเหลือบริเวณริมหุบเขาในเมือง Powys โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบไปยังบ้านของผู้สูญหายก่อนจะตามรอยและพบรถยนต์ของหญิงคนดังกล่าวจอดไว้ใกล้กับข้างทางใกล้ภูเขา จากการค้นพบครั้งนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตีวงในการค้นหาได้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยกความดีความชอบให้กับ แม็กซ์ สุนัขตำรวจพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดวัย 2 ขวบ ที่เพิ่งออกปฏิบัติภารกิจเป็นครั้งแรก พร้อมกับ ปีเตอร์ ลอยด์ (Peter Lloyd) เจ้าหน้าที่ตำรวจคู่หูของแม็กซ์ โดยแม็กซ์ได้ออกเดินนำตำรวจ ก่อนที่พวกเขาจะพบกับผู้สูญหายยืนโบกมือขอความช่วยเหลืออยู่ที่ริมหุบเขา ซึ่งพวกเขาใช้เวลาเพียงแค่ราวๆ 1 ชั่วโมงครึ่งในการพบตัวผู้สูญหาย หลังเริ่มภารกิจเท่านั้นจากนั้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้าช่วยเหลือแม่และลูกได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่รายงานว่าทั้งสองรู้สึกหนาวและติดอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นระยะเวลาหนึ่ง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้นัดแพทย์ให้ตรวจสุขภาพของผู้สูญหายทั้งสองเพิ่มเติม ทั้งนี้ยังไม่มีการเปิดเผยถึงสาเหตุที่ทั้งสองไปปรากฏตัวอยู่ที่หน้าผาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันทำภารกิจในครั้งนี้ได้อย่างสำเร็จลุล่วง ด้านนายลอยได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขารู้สึกภาคภูมิใจที่เขาและแม็กซ์สามารถทำภารกิจได้สำเร็จ.Cr ภาพ : สำนักงานตำรวจเมืองPowys | เจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศเวลส์ได้เข้าช่วยเหลือแม่และลูกวัยเพียงขวบเดียว ที่สูญหายไปนาน 2 วัน โดยตำรวจยกความดีความชอบให้กับสุนัขตำรวจที่เพิ่งปฏิบัติภารกิจเป็นครั้งแรก | ข่าว,ต่างประเทศ | สุนัขตำรวจ,K-9,ตามหาคนหาย,เวลส์,ต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1906365 |
คัดบอลโลกอีก 5 นัด ซิโก้ ตั้งเป้าขอเก็บอีก 6-7 คะแนน | ด้าน โค้ชเฮง วิทยา เลาหกุล ประธานเทคนิคสมาคมลูกหนังไทย เตรียมถกแผนเตรียมทีมทุกรุ่นอายุในช่วงต้นปีหน้า ส่วนศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ ชง 3 จังหวัด ชลบุรี นครราชสีมาและเพชรบุรี ให้สมาคมพิจารณาเลือก ขณะเดียวกัน โค้ชวิทยายังได้เปิดตัวคัมภีร์ลูกหนังเล่มแรกไปเรียบร้อยแล้ว,วันที่ 23 ธ.ค.59 ความเคลื่อนไหว ช้างศึก ทีมชาติไทย ล่าสุดจากการประกาศอันดับโลก เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ผ่านเว็บไซต์สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า www.fifa.com ปรากฏว่า ทีมชาติไทยขยับขึ้น มาถึง 3 ขั้น มาอยู่ที่ 126 ของโลกแล้ว เป็นที่ 18 ของเอเชีย ที่ 2 ของอาเซียน แต่เพียงผู้เดียว มี 254 คะแนน ส่วนเบอร์ 1 อาเซียน ยังเป็นฟิลิปปินส์ เหมือนเดิม แม้อันดับโลกจะหล่นไปอยู่ที่ 120 ของโลกก็ตาม ซึ่ง ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมช้างศึก กล่าวว่า ตนไม่ได้ซีเรียสว่าเราเป็นเบอร์ 2 ของอาเซียน เพราะวันนี้เราเป็นราชาที่มีบัลลังก์ ตลอด 3 ปีที่ตนทำทีม เราได้แชมป์ซีเกมส์ กับเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ อย่างละ 2 สมัย,ส่วนการเตรียมทีมเพื่อสู้ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ในอีก 5 นัดที่เหลือซึ่งทีมชาติไทยจะลงเล่นในสนามราชมังคลากีฬาสถาน 3 แมตช์ ก่อนที่จะออกไปเยือนอีก 2 เกม เริ่มจากวันที่ 23 มี.ค.2017 พบ ซาอุดีอาระเบีย (เหย้า), วันที่ 28 มี.ค.2017 พบ ญี่ปุ่น (เยือน), วันที่ 13 มิ.ย.2017 พบ ยูเออี (เหย้า), วันที่ 31 ส.ค.2017 พบ อิรัก (เหย้า) และวันที่ 5 ก.ย.2017 พบ ออสเตรเลีย (เยือน) ซิโก้ เกียรติศักดิ์กล่าวว่า ตั้งเป้าจะเก็บให้ได้ 6-7 คะแนน,ด้าน บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย โค้ชเฮง วิทยา เลาหกุล อุปนายกฝ่ายเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และสุรพล อุทินทุ ผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ ช้าง นำคัมภีร์ โค้ชเฮง สู่วงการลูกหนังไทย ในหนังสือ MANUAL OF BEST PRACTICES BY COACH HENG ที่อาคารซีดับเบิลยู รัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.,โค้ชเฮง วิทยากล่าวว่า ตั้งใจเขียนหนังสือเล่มนี้เพื่อวางพื้นฐานเด็กไทยให้เล่นเหมือนกันทั้งประเทศ และให้โค้ชนำไปฝึกให้กับนักเตะเยาวชน โดยในชุดแรกนี้จะมี 4 เล่ม เล่มแรก การวอร์มอัพ, เล่ม 2 การพัฒนาเทคนิคและทักษะ เล่ม 3 การครอบครองบอล และเล่ม 4 พละกำลัง ซึ่งจากนี้จะมีอีก 11 เล่ม โดยเป็นพื้นฐานสำคัญของการฝึกฟุตบอล ซึ่งตัวเองไปเรียนการวาดการ์ตูนที่ญี่ปุ่น เพื่อนำมาวาดการ์ตูนประกอบในหนังสือเล่มนี้ด้วย ซึ่งโค้ชหรือผู้ใดสนใจสามารถติดต่อขอหนังสือได้ผ่านทางเฟซบุ๊ก Thaibevthaitalent พร้อมแจ้งความจำนงให้เหตุผลว่า หากได้รับหนังสือแบบฝึกชุดนี้จะเกิดประโยชน์อย่างไร พร้อมกันนี้จะนำไปมอบให้กับชุมชนตามจังหวัดที่ลงไปเปิดคลินิกฟุตบอล ช้าง โมบาย ฟุตบอล ยูนิต ด้วย โดยได้ผลิตมาหลายพันเล่ม และจะนำไปแจกจ่ายทั่วประเทศ,นอกจากนี้ โค้ชเฮง วิทยายังกล่าวถึงแผนการเตรียมทีมชาติในปีหน้าด้วยว่า เตรียมนำเรื่องเข้าที่ประชุม เพื่อให้โค้ชทีมชาติแต่ละชุดนำโครงสร้างไปดูแล ซึ่งจะเรียกประชุมในช่วงต้นปีหน้า ในทุกชุด ทั้งรุ่นไม่เกิน 12 ปี, 14 ปี, 16 ปี, 19 ปี, 23 ปี และชุดใหญ่ เพื่อวางแผนเตรียมทีมเข้าร่วมการแข่งขันในปีหน้า ส่วนศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติจะได้นำเสนอ 3 จังหวัด ชลบุรี นครราชสีมา และเพชรบุรี ให้สมาคมพิจารณาเลือกต่อไป,ขณะเดียวกัน ที่บริษัท แอพเพิล เวลธ์ โฮลดิ้งส์ และบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ ได้มอบเงินบริษัทละ 1 ล้านบาท รวม 2 ล้านบาท ให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เพื่อร่วมสมทบทุนช่วยสมาคมอัดฉีดแข้ง ช้างศึก ที่คว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 โดยมี บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศเป็นผู้รับมอบ ซึ่ง พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า จะมีการแบ่งสัดส่วนก่อนมอบให้กับนักเตะต่อไป โดยเงินอัดฉีดที่นักเตะไทยจะได้รับรวมทั้งสิ้น 22 ล้านบาท แบ่งเป็นจากสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ 15 ล้านบาท ซึ่งสมาคมกำลังหาจากผู้สนับสนุน ส่วนอีก 7 ล้านบาท เป็นเงินรางวัลจากเอเอฟเอฟที่มอบให้กับทีมแชมป์ ซึ่งจะโอนเข้าบัญชีของสมาคม โดยเราจะแบ่งสัดส่วนนักเตะได้รับ 80 เปอร์เซ็นต์ และทีมงานสตาฟฟ์โค้ชได้รับ 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นข้อตกลงที่เคยพูดคุยกันไว้ก่อนหน้านี้,พล.ต.อ.สมยศกล่าวต่อว่า สมาคมกำลังเดินหน้าว่าจ้างบริษัทระดับโลกเข้ามาวางระบบของวงการฟุตบอลไทยเหมือนอย่างที่สโมสรดังๆของโลก อาทิ เรอัล มาดริด ปารีส แซงต์ แชร์กแมง หรือกวางโจว เอเวอร์แกรนด์ กำลังทำอยู่ โดยบริษัท ดังกล่าวจะเข้ามาดูภาพรวมของฟุตบอลไทยทุกระดับให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้นจะไม่มีเรื่องระบบอุปถัมภ์เหมือนอย่างที่วงการกีฬาไทยประสบอยู่ทุกวันนี้แน่นอน | ช้างศึก ทีมชาติไทย อันดับโลกขยับขึ้นมา 3 ขั้น ล่าสุดมาอยู่ที่ 126 ของโลกแล้ว ขณะที่ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ช หวังเก็บ 6-7 คะแนน ในศึกคัดฟุตบอลโลก 2018 อีก 5 นัดที่เหลือ | null | ทีมชาติไทย,ฟุตบอลไทย,เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง,ฟุตบอลโลก 2018,รอบคัดเลือก โซนเอเชีย | https://www.thairath.co.th/content/819501 |
ศาลอาญานัดฟังถอนประกัน 5 ส.ส.เพื่อไทยหรือไม่ บ่ายวันนี้ | หลังจากศาลอาญาได้สอบถามพยานของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำ นปช.เสร็จสิ้นในช่วงเช้า ศาลได้นัดฟังคำสั่งการเพิกถอนสัญญาประกันของนายก่อแก้ว รวมทั้ง แกนนำ นปช.ทั้งหมดในช่วงเวลา 15.30 น.วันนี้ โดยกรณีนี้มาจาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้อ้างถึงพฤติการณ์การละเมิดคำสั่งศาลที่เข้าข่ายการกระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวก่อนหน้านี้นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ระบุว่า ไม่หนักใจหากจะมีคำสั่งเพิกถอนประกันตัวแกนนำ นปช.คนใดคนหนึ่ง รวมถึงไม่รู้สึกหนักใจเกี่ยวกับแรงกดดันของมวลชนเพราะเชื่อว่า ได้ทำหน้าที่อย่างยุติธรรม ซึ่งหากมีคำสั่งเพิกถอนประกันตัวจริงเป็นเพียงการลงโทษเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แกนนำ นปช.ทำผิดสัญญาประกัน และเป็นการปราม เพื่อไม่ให้กระทำผิดเงื่อนไข ในการให้ประกันตัวซ้ำอีก และจำเลยสามารถใช้ช่องทางยื่นประกันตัวได้ เหมือนกรณีของ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก | ศาลนัดฟังคำสั่งเพิกถอนประกันแกนนำ นปช. หรือไม่ในช่วงเย็นวันนี้ ( 30 พ.ย.) หลังจากได้สอบถามพยานแกนนำ นปช.เพิ่มเติมในช่วงเช้าไปแล้ว ขณะที่อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาไม่หนักใจหากจะมีการพิจารณาคำสั่งถอนประกันแกนนำ นปช.ในวันนี้ | อาชญากรรม | 5 ส.ส.,ถอนประกัน,ศาลอาญา,ส.ส.พท.,เพื่อไทย,แกนนำ นปช. | https://news.thaipbs.or.th/content/129984 |
เตย หัตถยา พูดถึงนาทีระทึก หลังขับรถเสียหลักปีนเกาะกลางถนน | เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 ต.ค. 60 ร.ต.อ.ไกรวุฒิ สวงโท รอง สว.(สอบสวน) สภ.สีคิ้ว ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิพรหมธรรมสีคิ้ว ว่าเกิดเหตุรถเก๋งของนักกีฬาทีมชาติไทย ปีนขึ้นเกาะกลางถนนมิตรภาพ บริเวณหลัก กม.ที่ 106-107 เยื้องวัดหลวงปู่โต ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีแดง จอดอยู่บนเกาะกลางถนนในสภาพด้านหน้าเสียหายเล็กน้อย โดยในที่เกิดเหตุพบ น.ส.หัตถยา บำรุงสุข (คนขับ) น.ส.ชัชชุอร โมกศรี และ น.ส.อัจฉราพร คงยศ นักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทยยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ข้างรถ,โดยนักตบลูกยางสาวไทยให้การเบื้องต้นว่า เดินทางจาก กทม. เพื่อจะไปประชุมเรื่องกีฬาที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา เมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วมาถึงที่เกิดเหตุ ปรากฏว่ารถเก๋งคันที่วิ่งนำหน้าเลนซ้ายมือ หักแซงรถบรรทุกเปลี่ยนเลนอย่างกะทันหัน ซึ่งเป็นจังหวะที่ตนกำลังจะเร่งเครื่องแซงคันหน้าเช่นกัน ตนเห็นดังนั้นจึงหักหลบ ทำให้รถเสียหลักปีนขึ้นไปบนเกาะกลางถนนดังกล่าว,ทั้งนี้ หลังจากให้ปากคำตำรวจเบื้องต้นแล้ว ทั้ง 3 สาวได้ขอตัวเดินทางไปประชุมก่อน โดยบอกว่าจะมาให้ถ้อยคำอีกครั้งถ้าทางตำรวจต้องการ ซึ่ง ร.ต.อ.ไกรวุฒิ เห็นว่าไม่มีทรัพย์สินของหลวงเสียหาย จึงให้สาวทั้ง 3 เดินทางไปประชุมตามความประสงค์ต่อไป. | เตย หัตถยา บำรุงสุข นักตบลูกยางสาวทีมชาติไทย เผยถึงวินาทีระทึก หลังขับรถเก๋งมุ่งหน้าจังหวัดนครราชสีมา ระหว่างทางรถเสียหลักขึ้นเกาะกลางถนน | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | หัตถยา บำรุงสุข,ชัชชุอร โมกศรี,อัจฉราพร คงยศ,วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย,อุบัติเหตุ | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1086165 |
คลังนั่งยันยืนยันไม่มีกักตุนเหล้าแน่นอน | ส่วนอัตราภาษีกลุ่มสินค้าอื่นๆ นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยขอยืนยันว่า ทุกขั้นตอนจะแล้วเสร็จก่อนกฎหมายมีผลบังคับใช้ก่อนวันที่ 16 ก.ย.นี้ อย่างแน่นอน ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับการกักตุนสินค้านั้น ยังไม่พบการกักตุนสินค้าอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกัน มองว่าผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องกักตุนสินค้า เพราะกฎหมายฉบับใหม่นั้น ไม่ได้สร้างภาระให้กับผู้ประกอบการ แต่ต้องการสร้างความโปร่งใส เป็นธรรม และมีความเหมาะสม,กรมฯได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อสำรวจว่า มีการกักตุนสินค้า ทั้ง สุรา เบียร์ ยาสูบ และไพ่หรือไม่เพราะเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยก็เตรียมพร้อม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบ และก็ทำมาอย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันว่า ขณะนี้ ยังไม่พบการกักตุนสินค้าอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องปกติ ที่ผู้ประกอบการจะกังวลใจ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ ได้พยายามเปิดรับฟังความเห็นจากเอกชนและทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดความเข้าใจว่า จะไม่กระทบและไม่เป็นการผลักภาระแน่นอน ส่วนที่กระทบจะเป็นกลุ่มสินค้าที่ไม่เคยเสียภาษี แต่ในครั้งนี้ ต้องเสียภาษีให้แก่รัฐบาล เช่น กลุ่มเครื่องดื่มที่มีค่าความหวานเกินกว่าอัตราที่กำหนดแต่ก็ได้ให้ระยะเวลาในการปรับตัวนานถึง 2 ปี,สำหรับ พ.ร.บ.สรรพสามิตใหม่นั้นได้รวมกฎหมายทั้งสิ้น 7 ฉบับไว้ในฉบับเดียว โดยเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง แนวทางการจัดเก็บใหม่ โดยจะจัดเก็บภาษีจากราคาขายปลีกแนะนำ จากเดิมที่กำหนดจากราคาหน้าโรงงาน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และทำให้การจัดเก็บรายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น. | นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยในวันที่ 12 ก.ย.นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติอัตราภาษีสินค้าบาป หรือสินค้าเป็นอบายมุข เช่น สุรา เบียร์ ยาสูบและไพ่ | ข่าว,เศรษฐกิจ | กระทรวงการคลัง,กักตุนสินค้า,พ.ร.บ.สรรพสามิตใหม่,ภาษีเหล้า,สมชาย พูลสวัสดิ์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1063327 |
มติท่วมท้น 216 เสียง สนช.รับร่าง พ.ร.บ.งบฯ 61 วงเงิน 2.9 ล้านล้าน บ. | เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 60 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 วงเงิน 2.9 ล้านล้านบาท ในวาระแรก ตามที่ ครม.เสนอมา มีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์และวิทยุแห่งประเทศไทย ช่อง 11 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ชี้แจงหลักการและเหตุผลของร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวต่อที่ประชุม,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นที่ประชุมได้เปิดให้สมาชิก สนช.จำนวน 20 คน สลับกันลุกขึ้นอภิปราย โดยสมาชิกอภิปรายสนับสนุนในหลักการของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี พ.ศ. 2561 เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งบรรยากาศเป็นอย่างราบรื่นไร้เหตุวุ่นวาย,โดย นายนิพนธ์ นาราพิทักษ์กุล สนช.ได้อภิปรายเสนอว่า อยากให้เน้นงบประมาณให้กระทรวงมหาดไทยให้มากขึ้น เพราะอย่างในระดับจังหวัด ผู้ว่าฯ มีหน้าที่ต้องดูแลประชาชนตามงานที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ และจากหน่วยงานต่างๆ จึงควรให้มีงบในการจัดการแก้ปัญหาเพื่อเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนมากขึ้น,จากนั้น 17.25 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ชี้แจง ว่า ด้านสาธารณสุข สิ่งแวดล้อม และการศึกษา หลายคนบอกว่าแย่ก็แย่จริง แต่ไม่เลวร้ายซึ่งตนรู้ทุกปัญหา วันนี้ต้องการให้ทุกคนดูในสิ่งที่ดี สิ่งที่ไม่ดีแก้ไขได้ ส่วนกระทรวงกลาโหม น่าจะพัฒนาการสร้างเรือดำน้ำเองจะได้ไม่ต้องไปซื้อเขา แต่ใครจะกล้าดำลงไปยังไม่รู้เลย ส่วนเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับธกส.ตนพร้อมรับฟัง และจะแก้ปัญหาให้ รวมถึงปัญหาหน่วยงานราชการค้างค่าไฟต้องเร่งแก้ไข โดยให้ไปจ่ายภายใน 3 เดือน โดยไม่ต้องมาทวงอีก ทุกเรื่องที่สมาชิกเป็นห่วงตนรับทุกเรื่องไม่ได้โกรธใครเลย,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้รัฐบาลทำหลายอย่าง มีคณะกรรมการขับเคลื่อน 6 คณะ ทุกคณะทำงานหมด ก่อนจะทำให้โลกสวยจะต้องทำให้อากาศปลอดโปร่งก่อน ท้องฟ้าแจ่มใสก่อน ดังนั้น ต้องรู้จักให้จึงจะเป็นผู้รับได้มากขึ้น ไม่มีอะไรได้มากเปล่าๆ ถ้าไม่ลงทุน ถ้าไม่คิดเปลี่ยนแปลงการปฏิรูปสิ่งใหม่ๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น ตนหวังว่าสมาชิกจะให้การสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพื่อเป็นแนวทางให้รัฐบาลดำเนินการใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด จากนั้นเวลา 18.10 น. ที่ประชุมได้มีมติเอกฉันท์ 216 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง รับหลักการร่าง พ.ร.บ.รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 พร้อมตั้ง กมธ.วิสามัญ จำนวน 50 คน เพื่อพิจารณาโดยมีกรอบระยะเวลาในการดำเนินการจำนวน 90 วัน รวมเวลาการอภิปรายทั้งสิ้น 8 ชั่วโมง 20 นาที,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงของการตอบคำถามของสมาชิก เป็นที่สังเกตว่านายกฯ พร้อม ครม. ได้ถือโอกาสใช้เวลาในการชี้แจงผลงานเป็นส่วนมาก ขณะที่สมาชิก สนช.ก็ไม่ได้ต้องอภิปรายซักถามในประเด็นการตั้งงบประมาณเท่าไรนัก โดยหลังลงมตินายกฯ ได้กล่าวลุกขึ้นกล่าวขอบคุณสมาชิกทุกคน พร้อมระบุว่า ขอขอบคุณพี่น้องทุกคนเป็นการส่วนตัว | ผ่านฉลุย ร่าง พ.ร.บ.งบฯ 61 วาระแรก หลังถกยาวกว่า 8 ชม. สนช.ลงเสียงรับร่าง ท่วมท้น 216 เสียง วงเงิน 2.9 ล้านล้านบาท | ข่าว,การเมือง | พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 61,ร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 61,สนช.,มติ สนช.,งบประมาณรายจ่าย ปี 61 | https://www.thairath.co.th/news/politic/966928 |
ชาวบ้านเปิดใจถูกหลอกเพราะชื่อ ยิ่งยง ยอดบัวงาม | จากการขายสินค้าและผลิตภัณฑ์เกษตร,โดยศาลตัดสินจำคุกนักร้องลูกทุ่งชื่อดังเป็นเวลา 20 ปี พร้อมพวกอีก 2 คน ก่อนพิจารณาให้ประกันตัว ตีราคาประกันคนละ 500,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศนั้น,ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 ได้มีผู้เสียหายจาก 13 คน ทั้งหมด 3 ราย คุณเจี๊ยบ คุณแดง และ คุณอ้อย (ใช้นามสมมติ) มาให้ข้อเท็จจริงกับทางรายการ เจาะประเด็น ทางช่อง 8 โดยมี ต่วย ภคพงศ์ อุดมกัลยารักษ์ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ เกี่ยวกับการเข้าไปลงทุนกับผลิตภัณฑ์เกษตรดังกล่าว,ขอถามข้อเท็จจริงกับผู้เสียหายว่าได้รู้จักกับบริษัทนี้ได้อย่างไร และไปลงทุนในลักษณะใดบ้าง?,คุณเจี๊ยบ ผู้เสียหายรายที่ 1, มีคนมาชักชวนให้เราซื้อปุ๋ยมาใช้ ซึ่งอาชีพของพี่ไม่ได้ทำเกษตรมาก่อน และที่เราตัดสินใจลองซื้อปุ๋ยมาใช้เพราะเห็นว่าคุณยิ่งยงมาลงทุนทำปุ๋ย แล้วพอซื้อมาใช้ครั้งแรก ใช้แล้วมันก็ดี แล้วคนที่ชักชวนเราเค้าก็บอกว่า หรือจะอยากลงทุนเยอะๆ ก็ได้นะ แบบฝากขาย และให้เอาเงินไปลงทุนแบบไม่ต้องเอาปุ๋ยมาใช้,เป็นการลงเงิน แล้วจะได้ผลตอบแทนตามที่บริษัทกำหนดให้ค่ะเป็นเปอร์เซ็นต์ แล้วถ้าเราไปชักชวนคนอื่นๆให้มาลงทุน เราก็จะได้ผลตอบแทนเป็นขั้นบันได ครั้งแรกลงทุนประมาณหลักแสน แล้วจะได้ผลตอบแทนประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือนค่ะ,คุณแดง ผู้เสียหายรายที่ 2, ช่วงแรกมีเพื่อนมาแนะนำว่าคุณยิ่งยงมาทำตลาดขายตรงปุ๋ย เราเลยลงทุนเพราะเห็นว่าคุณยิ่งยงมาลงทุนและเป็นพรีเซ็นเตอร์,เบื้องต้นก่อนจะลงทุนก็เปิดเว็บไซต์หาข้อมูล เราก็เลยรู้ว่าคุณยิ่งยงเป็นเจ้าของบริษัท แทนคุณแผ่นดินสยาม ครั้งแรกก็ซื้อปุ๋ยของบริษัทนี้มาใช้ค่ะ พอใช้ช่วงแรกก็ใช้ดีเราก็ซื้อมาใช้แล้วจะได้รับส่วนลด ทำให้เราได้ราคาปุ๋ยที่ถูกลง เราก็โอเค,พอเราใช้ดี มีการบอกต่อแนะนำ เราก็จะได้เงินที่เป็นค่าตอบแทนจากการแนะนำ โดยได้ลงเงินไปเป็นหลักแสน และมีได้รับผลตอบแทนเป็น 2 ส่วน ก็คือ ลงเงิน และบอกต่อแนะนำค่ะ, แล้วเริ่มมาสังเกตอย่างไรว่าบริษัทนี้มีความผิดปกติ?,คุณแดง ผู้เสียหายรายที่ 2, ช่วงแรกก็ไม่ได้มีความผิดปกติ คนที่ลงทุนได้รับค่าตอบแทนดีมาก เราก็เริ่มชักชวนคนอื่นๆ มาลงทุน แต่พอผ่านไปสักระยะหนึ่งแล้ว ปุ๋ยที่ซื้อไปใช้กันเริ่มจะไม่เห็นผล เลยมีเริ่มแนะนำมาให้มาลงทุนแบบเป็นการฝากขาย ไม่ต้องซื้อสินค้า โดยพอหลังจากฝากขายได้ครบ 365 วัน ก็จะมีเงินตอบแทน ให้ 6%,พอหลังจากครบกำหนดสัญญาของการฝากขาย สมาชิกที่ไปลงทุนก็ไม่ได้ส่วนแบ่ง แต่ก็ยังมีการชักชวนให้ลงทุนต่อ แล้วบริษัทก็เริ่มมีปัญหาประมาณ 2557 ตรงที่บริษัทเริ่มไม่มีสินค้าให้ เราก็เลยขอเจรจาและติดตามหลายครั้ง แต่ก็ตกลงกับทางบริษัทไม่ได้ แล้วสุดท้ายบริษัทก็ปิดตัวลงแบบที่เป็นข่าวค่ะ,คุณอ้อย ผู้เสียหายรายที่ 3, ขั้นตอนเหมือนกันเลยค่ะ แต่ไม่ได้เอาปุ๋ยมาใช้ ลงทุนเป็นเงินและฝากขายอย่างเดียว ครั้งแรกได้ผลตอบแทน พอครั้งที่ 2 เลยตัดสินใจลงทุนอีก หลังจากนั้นก็คอยตรวจสอบยอดเงินค่าตอบแทนในเว็บไซต์ของบริษัท แล้วจู่ๆ ก็ลบหายไป ก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น มารู้อีกทีเลยทราบว่าบริษัทปิดไปแล้วค่ะ,แสดงว่าหลังจากนั้นบริษัทก็ได้ปิดตัวไป ทางผู้ลงทุนก็ไม่ได้เงินคืนตามที่หวังไว้ ทางพวกคุณเชื่อหรือไม่ว่าคุณยิ่งยงมีส่วนเกี่ยวข้อง? ,ผู้เสียหายทั้ง 3 คน, เชื่อค่ะเพราะเขาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของบริษัท เป็นประธาน และยังถือหุ้นอยู่ในบริษัทนั้นอีก 50% แล้วที่เรากล้ามาลงทุนกับบริษัทนี้เพราะเห็นว่ายิ่งยงเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมีความน่าเชื่อถือ และไม่คิดว่าเขาจะมาหลอกลวงประชาชน ประเด็นสำคัญที่เราลงทุนไปเป็นเพราะคุณยิ่งยงคนเดียวเลยค่ะ,ทั้งนี้ ทางรายการ เจาะประเด็นได้โฟนอิน คุณฮาย อาภาพร นครสวรรค์ เพื่อนสนิทของคุณยิ่งยง,หลังจากที่พี่ฮายทราบเรื่องของพี่ยิ่งยงแล้วเป็นยังไงบ้าง? ,ฮาย อาภาพร, ตกใจมากๆ เลยค่ะ เพราะไม่เคยมีวี่แววว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น กว่าจะติดต่อคุณยิ่งยงได้ตอนนั้นก็ตอนเย็นแล้ว,พี่ยิ่งยงเคยเล่าให้ฟังมั้ยว่า ได้เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไร? ,ฮาย อาภาพร, เคย เล่าแค่ว่าเค้ากำลังจะเข้าไปทำกับบริษัทขายปุ๋ยนะ คือ เราก็รู้มาว่าแกทำหลายตัว พี่ยิ่งยงเป็นคนขยัน ทำนู้นทำนี้ตลอด,แล้วทางพี่ยิ่งยงได้บอกมั้ยว่าตัวพี่เค้าเป็นพรีเซ็นตอร์? ,ฮาย อาภาพร, ไม่ทราบเลยค่ะ และยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับคุณยิ่งยงเลย,ในฐานะที่พี่ฮายเป็นนักร้องมีชื่อเสียงและเคยเป็นพรีเซ็นเตอร์ มีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้? ,ฮาย อาภาพร, สำหรับพี่เป็นพรีเซ็นเตอร์ก็คือเป็นพรีเซ็นเตอร์เลย จะไม่เคยเกี่ยวข้องกับการบริหารอะไรเลย แบบนี้พี่ไม่เคยทำค่ะ,ทั้งนี้ทางผู้เสียหายได้กล่าวว่า สาเหตุที่ได้ออกมาฟ้องร้องคุณยิ่งยงเพียงต้องการเงินที่ลงทุนไปคืน ไม่ได้มีเจตนาจะทำลายชื่อเสียงแต่อย่างใด เพราะส่วนตัวทุกคนก็เป็นแฟนเพลงของคุณยิ่งยงเหมือนกัน,สามารถติดตามรายการ เจาะประเด็น ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.00-13.45 น. ทาง ช่อง 8 เข้มทุกเรื่องราว สุดทุกอารมณ์. | 3 ผู้เสียหายเปิดใจกลางรายการ เจาะประเด็น หลังยื่นฟ้องนักร้องดัง ยิ่งยง ยอดบัวงาม จากกรณีผู้เสียหาย 13 ราย รวมตัวกันยื่นฟ้องบริษัท แทนคุณแผ่นดินสยาม จำกัด และนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ยิ่งยง ยอดบัวงาม และพวก ในคดีฉ้อโกงชาวบ้าน | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ยิ่งยง,ยิ่งยง ติดคุก,ยิ่งยง ยอดบัวงาม,ยิ่งยง ยอดบัวงาม ติดคุก,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1194633 |
ดีเอสไอ จับมือตำรวจป่าไม้ตรวจสอบรุกป่าทำเหมืองแร่หัวหินควอทซ์ในหัวหิน | เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตำรวจป่าไม้พร้อมเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำกำลังเข้าตรวจสอบเหมืองแร่หัวหินควอทซ์ ในพื้นที่เทศบาลเมืองหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากได้รับแจ้งว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากการเข้าตรวจพบกองแร่ควอทซ์ 2 จุดน้ำหนักรวม 3000 ตัน สถานที่เก็บวัตถุระเบิด และน้ำมันเชื้อเพลิง และยังพบรถไถ 2 คัน รถแบ็คโฮ 2 คัน รถขุดเจาะหิน 1 คัน และรถบรรทุกแร่อีก 1 คัน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่อีกส่วนได้ขับรถยนต์ขึ้นไปด้านบนของภูเขา ยังพบว่าสภาพด้านบนมีการระเบิดภูเขา จนเป็นช่องเขาขนาดใหญ่ และยังมีการแผ้วถางป่าทำเส้นทางรถยนต์ขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อทำเหมืองแร่อีกด้วยพ.ต.ท.เสกสรร ศรีตุลาการ ผู้อำนวยการส่วนคดีปราบปรามยาเสพติด 2 สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า ได้รับการร้องเรียนว่าเหมืองแร่แห่งนี้ซึ่งเจ้าของเดิมได้รับประทานบัตรมา แต่เมื่อปี 2554 ได้มีผู้รับสัปทานคนใหม่เข้ามาดำเนินการ และไม่ทำตามข้อตกลงในสัญญา และมีการจดทะเบียนใหม่ในนามของ บริษัทหัวหินควอทซ์ โดยทางบริษัทยังระเบิดภูเขาเพื่อหาแร่ควอทซ์ในพื้นที่ 41 ไร่ และยังมีการบุกรุกพื้นที่ป่าที่โดยไม่ได้รับอนุญาตอีก 7 ไร่ | ดีเอสไอ และตำรวจป่าไม้ เข้าตรวจสอบเหมืองแร่หัวหินควอทซ์ในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่า ผู้รับสัมปทานมีการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำเหมืองเพิ่มขึ้น พร้อมยึดของกลางในการขุดเจาะทำเหมืองแร่หลายรายการ | ภูมิภาค | ดีเอสไอ,ป่าไม้,รุกป่า,เหมืองแร่,แร่ควอทซ์ | https://news.thaipbs.or.th/content/106899 |
กมธ.ยกร่าง รธน. ยืนกรานให้คงโทษประหารชีวิต | วันที่ 3 ธ.ค. ที่รัฐสภา พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แถลงว่า ที่ประชุมได้พิจารณารายงานของคณะอนุกรรมาธิการคณะที่ 2 ภาค 1 พระมหากษัตริย์และประชาชน ในส่วนสิทธิเสรีภาพพลเมือง การมีส่วนร่วมทางการเมือง และการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ โดยคณะอนุกรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่เสนอให้ยกเลิกโทษประหารชีวิตในทุกคดี แต่เสียงส่วนใหญ่ของคณะกรรมาธิการยกร่างฯ เห็นว่า ควรคงโทษประหารชีวิตไว้ เพราะมีคดีอุกฉกรรจ์หลายคดี ควรได้รับการลงโทษสาสมกับความผิดที่ได้ทำ เช่น ค้ายาเสพติด ฆ่าข่มขืน ฆาตกรต่อเนื่อง,โดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ฝากประเด็นดังกล่าวให้ นางถวิลวดี บุรีกุล กรรมาธิการยกร่างฯ ในฐานะผู้รับผิดชอบด้านการรับฟังความคิดเห็นประชาชน ไปสอบถามความเห็นจากประชาชนว่า ควรให้คงโทษประหารชีวิตหรือไม่ รวมถึงเรื่องสิทธิของบุคคลที่ไม่ได้เป็นคนไทย แต่พักอาศัยในประเทศไทยควรเป็นอย่างไร,พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการยกร่างฯ ได้พิจารณารายงานคณะอนุกรรมาธิการฯ คณะที่ 7 เรื่องศาลและกระบวนการยุติธรรม โดยคณะอนุกรรมาธิการมีความเห็นว่า ในส่วนของศาลยุติธรรม ควรให้คดีทั่วไปสิ้นสุดที่ศาลอุทธรณ์ แต่ถ้าจะสู้ต่อในชั้นศาลฎีกา ต้องทำคำร้องเป็นกรณีพิเศษ เพื่อลดปริมาณคดีในศาลฎีกา ที่มีอยู่จำนวนมากนอกจากนี้ ยังกำหนดให้ผู้พิพากษา มีอายุ 35 ปีขึ้นไป จากเดิมอยู่ที่ 25 ปี เพราะเห็นว่า หากมีอายุ 25 ปี วัยวุฒิจะไม่สมบูรณ์,ส่วนศาลรัฐธรรมนูญ เสนอให้แก้ไของค์ประกอบบางประการ เช่น สัดส่วนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ต้องมีความหลากหลายมากขึ้น โดยให้ผู้มีความรู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายมหาชน มาทำหน้าที่ด้วย จากเดิมที่กำหนดให้มาจากผู้พิพากษาศาลฎีกา ตุลาการศาลปกครอง ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ ซึ่งกรรมาธิการยกร่างฯ ก็เห็นด้วยในหลักการดังกล่าว สำหรับข้อเสนอเรื่องการเลือกตั้ง ส.ส.แบบเยอรมัน การกำหนดที่มาของนายกรัฐมนตรี และ ครม. ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ที่จะกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ เพราะคณะกรรมาธิการยกร่างฯ ต้องนำมากลั่นกรองว่าจะนำประเด็นใดไปอยู่ในรัฐธรรมนูญอีกครั้ง | เลิศรัตน์ รัตนวานิช เผย กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญฯ ยืนกรานให้คงโทษประหารชีวิต ย้ำคดีอุกฉกรรจ์ ต้องได้รับบทลงโทษสาสม | null | กมธ.,ยกร่าง,รธน.,เลิศรัตน์ รัตนวานิช,โฆษก กมธ.,ข่าวการเมือง,ประหารชีวิต | https://www.thairath.co.th/content/467099 |
เพลี้ยกระโดดถล่ม นาข้าวเจ๊งยับพันไร่ | นายอลงกาญจน์ มณีรัตน์ เกษตรอำเภอ แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า มีสีน้ำตาลถึงสีดำ ลำตัวสีเหลืองมีแถบสีขาวเห็นชัด มีทั้งชนิดปีกสั้นและปีกยาวจะวางไข่ในใบและกาบใบข้าว เพศเมียวางไข่ได้ 300-500 ฟอง ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะอาศัยอยู่บริเวณกอข้าวมีชีวิตอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ โดยในปีนี้พบเพลี้ยกระโดดหลังขาวระบาดในนาข้าวของเกษตรกรในพื้นที่ ต.แม่ลาน้อย 5 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ 1 บ้านแม่ลาน้อย หมู่ 9 บ้านทุ่งสารภี หมู่ 2 บ้านป่าหมาก หมู่ 5 บ้านวังคัน และหมู่ 7 บ้านแม่งะ มีเกษตรกรที่ได้ผลกระทบประมาณ 305 ราย พื้นที่การระบาด 1,545 ไร่,เกษตรอำเภอแม่ลาน้อยกล่าวอีกว่า การช่วยเหลือเบื้องต้นได้มอบสารชีวภัณฑ์ บิวเวอร์เรีย ให้ผู้นำหมู่บ้านไปแจกจ่ายเกษตรกรที่ประสบภัย และเสนอคณะกรรมการระดับอำเภอช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเหตุศัตรูพืชระบาด เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือ พร้อมกับแจ้งไปยังจังหวัดเพื่อพิจารณาอนุมัติงบประมาณในการจัดซื้อสารเคมี/ สารชีวภัณฑ์ในการป้องกันและกำจัดโรค แนวทางต่อไปคือสำรวจพื้นที่นาข้าวของเกษตรกรที่เสียหายโดยสิ้นเชิง ทางอำเภอจะแต่งตั้งคณะกรรมการเข้าตรวจสอบในพื้นที่นาข้าวที่เสียหายทั้งหมดเพื่อของบประมาณช่วยเหลือค่าชดเชยตามระเบียบต่อไป,เกษตรกรรายหนึ่งเปิดเผยว่า ทางเกษตรอำเภอแม่ลาน้อยได้เอายาฆ่าแมลงมาแจกจ่ายชาวบ้าน แต่ไม่ทั่วถึง จึงอยากจะให้ลงมาช่วยกำจัด เช่น ให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องฉีดพ่นมาช่วยชาวบ้าน แจกจ่ายยาให้ทั่วถึง ใครมีเครื่องฉีดพ่นก็ลงมือเองได้ หากใครไม่มีก็ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยฉีดพ่น ก็น่าจะทำให้ต้นข้าวฟื้นได้ หากภายใน 2 สัปดาห์นี้ ยังไม่ทำการฉีดฆ่าจริงๆ มีหวังต้นข้าวจะลีบแห้งตาย และข้าวไม่ออกรวง ชาวนาจะประสบปัญหาขาดทุนอย่างย่อยยับ ปีนี้นับเป็นปีแรกที่ชาวนา ต.แม่ลาน้อย เจอเพลี้ยกระโดดหลังขาวมากกว่าปีที่ผ่านมา. | ขอแจ้งพี่น้องเกษตรกรให้เฝ้าระวังโรคเพลี้ยกระโดดหลังขาว หากพบการระบาดให้รีบแจ้งมายัง สนง.เกษตรอำเภอโดยด่วน เพลี้ยกระโดดหลังขาวเป็นแมลงจำพวกปากดูด ตัวเต็มวัยบริเวณปีกจะมีจุดดำ มีแถบสีขาวส่วนนอกระหว่างฐานปีกทั้งสอง ตัวเต็มวัย | ข่าว,ทั่วไทย | แม่ฮ่องสอน,เพลี้ยกระโดดหลังขาว,อลงกาญจน์ มณีรัตน์,แม่ลาน้อย,เพลี้ยกระโดดระบาด | https://www.thairath.co.th/news/local/726163 |
บรรทัดฐานอยู่ที่ไหน? | กำลังเป็นเรื่องอกสั่นขวัญแขวนสำหรับสุจริตชน เพราะข่าวเกี่ยวกับพัสดุซุกยาเสพติดว่อนไปหมด,คนรับรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่มีคนถึงขนาดต้องติดคุกติดตะรางมาแล้ว,อย่างกรณี น.ส.สุปราณี หรือปลา พลดอน อายุ 22 ปี นักศึกษา ปวช.สถาบันแห่งหนึ่ง ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด จับกุมข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองที่บ้านเช่าในเขตเทศบาล ต.สุวรรณภูมิ,หลังมีคนส่งพัสดุไปรษณีย์มาให้ ภายในมียาไอซ์หนัก 10.30 กรัม บรรจุอยู่,น.ส.สุปราณี ถึงกับตาเหลือก ยืนยันว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตำรวจไม่เชื่อตรวจปัสสาวะก็ไม่พบสารเสพติดตาม,คำให้การ ให้การว่า มีเพื่อนชื่อ นางฐิตา หรือตุ๊กตา พงษ์อัครวานิช อายุ 23 ปี อยู่เลขที่ 364 หมู่ 3 ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ขอยืมใช้ชื่อที่อยู่รับพัสดุ,จากการสืบสวนพบว่า ผู้ส่งใช้ชื่อปลอมส่งจากไปรษณีย์ สาขาจรเข้บัว กรุงเทพฯ รีบประสานตำรวจ สน.โคกคราม สืบสวนหาข้อมูลต่อ พบว่าผู้ส่งยังเป็นเยาวชนชายอายุ 17 ปี รีบรวบรวมข้อมูลขออำนาจศาลออกหมายจับ ตามไปลากคอส่งตัวกลับไปให้ตำรวจ สภ.สุวรรณภูมิดำเนินคดี,เยาวชนชายที่หลงผิดให้การหมดเปลือกว่า ผู้ที่สั่งซื้อยาไอซ์คือ นางฐิตา ติดต่อซื้อขายกันมาเป็นปีแล้ว ตัวเองยังเคยนำยาเสพติดมาส่งที่ จ.ร้อยเอ็ดหลายครั้ง พาตำรวจไปชี้จุดถูกต้องหมด,แถมชี้ตัวนางฐิตาอย่างถูกต้องไม่ลังเล แต่นางฐิตายังให้การปฏิเสธ?,ส่วน น.ส.สุปราณี ผู้มีชื่อรับพัสดุ ผู้ต้องหารายนี้ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่ตำรวจ สภ.สุวรรณภูมิ ยังแจ้งข้อหาดำเนินคดี ส่งตัวเข้าเรือนจำหลายวันแล้ว,ไม่รู้ว่าตำรวจมีข้อมูลเชิงลึกหนักแน่นขนาดไหน?,ดูแล้วมันต่างกับคดีส่งพัสดุให้แม่ สารวัตรแย้ อย่างสิ้นเชิง ทั้งที่เป็นคดีลักษณะเดียวกัน ถึงวันนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาดำเนินคดี?,กระบวนการยุติธรรมก็แปลก คดีลักษณะเดียวกัน คนนึงยังไม่ถูกแจ้งข้อหา แต่อีกคนกลับต้องไปนอนในเรือนจำ โดยไม่มีใครยื่นมือช่วยเหลือ?,หรือว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นแค่นักเรียนลูกชาวบ้าน ไม่ใช่ญาติพี่น้องนายตำรวจ นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ?,สหบาท | ใครมีพัสดุมาส่งที่บ้าน ต้องดูที่มาที่ไปดีๆนะครับ ขอเตือนกำลังเป็นเรื่องอกสั่นขวัญแขวนสำหรับสุจริตชน เพราะข่าวเกี่ยวกับพัสดุซุกยาเสพติดว่อนไปหมด | null | ส่งพัสดุ,สารวัตรแย้,พัสดุซุกยา,พัสดุไปรษณีย์,สั่งซื้อยาไอซ์,สหบาท,ส่องตำรวจ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/1612721 |
นักบุญยังน่าห่วง บุกโดนสาลิกาดงยิงดับ 3-1 หนีตายต่อ | .,การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2018-19 ประจำวันเสาร์ที่ 20 เม.ย. คู่สุดท้าย สาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เปิดสนามเซนต์ เจมส์ ปาร์ค รับการมาเยือนของ นักบุญ เซาแธมป์ตัน ที่กำลังต้องการแต้มเพื่อลุ้นหนีตกชั้น,เปิดฉากครึ่งแรกมาถึงนาทีที่ 27 แฟนเจ้าถิ่นได้เฮกันลั่นสนาม เมื่อนิวคาสเซิล ขึ้นนำ 1-0 จากการยิงของ อโยเซ เปเรซ จากนั้นนาทีที่ 31 อโยเซ เปเรซ ก็มาบวกประตูที่ 2 ของตัวเองในเกมนี้ช่วยให้นิวคาสเซิลหนีเป็น 2-0 ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้,กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง ถึงนาทีที่ 59 เซาแธมป์ตัน มีแรงฮึดไล่มาเป็น 1-2 จากการยิงของ มาริโอ เลมินา แต่ทว่านาทีที่ 86 นิวคาสเซิล มาได้ประตูนำห่าง 3-1 จากการโหม่งของ อโยเซ เปเรซ และถือเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้,ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เอาชนะ เซาแธมป์ตัน ไป 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 47 คะแนน ขึ้นมาอันดับ 12 ของตาราง ส่วน เซาแธมป์ตัน มี 36 คะแนนเท่าเดิมอยู่อันดับ 16 มีแต้มเหนือโซนตกชั้นแค่ 5 คะแนน | นักบุญ เซาแธมป์ตัน อาการยังน่าเป็นห่วงสำหรับการลุ้นหนีตกชั้น หลังบุกมาแพ้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1-3 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | เซาแธมป์ตัน,นิวคาสเซิล,พรีเมียร์ลีก | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1548996 |
อินทรีเหล็กวิกฤติ | แอฟริกัน เนชันส์คัพ หรือฟุตบอลกระชับมิตร,มีเรื่องที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือฟอร์มการเล่นของทีมเยอรมนี แชมป์โลก 4 สมัยที่เล่นได้ย่ำแย่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติ หลังแพ้ไปแล้ว 6 นัดในปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการแพ้ที่มากที่สุดต่อ 1 ปีของแข้งเบียร์,สำหรับการแพ้ 6 นัดของ อินทรีเหล็ก ในปีนี้ก็ประกอบด้วย แพ้บราซิล 0-1, แพ้ออสเตรีย 1-2, แพ้เม็กซิโก 0-1, แพ้เกาหลีใต้ 0-2, แพ้ ฮอลแลนด์ 0-3 และนัดล่าสุดแพ้ฝรั่งเศส 1-2,โดยเฉพาะการแพ้เม็กซิโกและเกาหลีใต้ ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ทำให้พวกเขาตกรอบแรกใน เวิลด์คัพ ฉบับรัสเซีย ไปอย่างพลิกความคาดหมาย ทั้งๆที่ก่อนแข่งเป็นตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์มาครองก็ตาม,ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายออกมาบอกว่าเป็นช่วงตกต่ำที่สุดของฟุตบอลทีมชาติเยอรมนี ซึ่งทางสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน หรือเดเอฟเบ ก็ได้ออกมาตอบโต้กันอย่างพัลวันว่าไม่จริง,แต่หลังจากจบฟุตบอลโลก อินทรีเหล็ก ก็ยังไม่สามารถจะเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ 4 นัดหลังจากบอลโลก ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 2 นัด โดยเฉพาะยูฟ่า เนชันส์ลีก ลีกเอ ก็ทำท่าจะตกชั้นไปเล่นลีกบีอยู่รอมร่อ ซึ่งหากนัดต่อไป ฮอลแลนด์,ไม่แพ้ฝรั่งเศส ก็จะทำให้ อินทรีเหล็ก ร่วงไปเล่นลีกบีทันที,ซึ่งหลังจากดูแข้งเบียร์โชว์ลีลาในสนามแล้วบอกได้เลยว่าเหมือนนักเตะส่วนใหญ่จะขาดการกระตือรือร้นมากเท่าที่ควร ไม่แน่ใจเพราะอิ่มตัวมาจากการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปี ที่แล้วที่บราซิลหรือเปล่า เพราะส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้เล่นมาจากชุดดังกล่าว,โดยเฉพาะบรรดาตัวเก๋าที่คอยประคองทีม อย่างมานูเอล นอยเออร์, ซามี คิเดรา, โทมัส มุล– เลอร์ และเจอโรม บัวเต็ง ที่ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ในศึกฟุตบอลโลกปี 2018 ก็ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งออกมาได้ มีเพียงแค่โทนี โครส และ ฮูเลียน ดรักเลอร์ เท่านั้นที่ยังพอฝากความหวังได้,นอกจากนั้นปัญหาหลักของเยอรมนี ก็คือกองหน้าตัวเป้าที่ยังไม่มีกองหน้าเก่งที่จะลั่นสกอร์ได้อย่างต่อเนื่องและเด็ดขาด เพราะตั้งแต่หมด มิโรสลาฟ โคลเซ ไป ก็ยังไม่มีกองหน้าระดับท็อปขึ้นแทนที่ได้เลย ตอนนี้ก็มีที่พอฝากความหวังได้ก็คือ ติโม เวอร์เนอร์ ที่โชว์ฟอร์มให้กับต้นสังกัดได้อย่างยอดเยี่ยม แต่พอมารับใช้ชาติก็ไม่เปรี้ยงเท่าไร,แถมอีกหนึ่งปัญหาก็คือการขาดหายไปของเมซุต โอซิล เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งที่ประกาศอำลาทีมชาติไปแล้ว เนื่องจากไม่พอใจที่โดนเหยียด สัญชาติทำให้การสร้างสรรค์เกมรุกของ อินทรีเหล็ก ดูไม่หลากหลายเท่าที่ควร,ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากโจอาคิม เลิฟ กุนซือมาดเท่ห์ที่ดูจากการวางหมากและการแก้เกมไม่ได้เด็ดขาดเหมือนเก่าแถมยังไม่สามารถคุมลูกทีมได้เหมือนเดิมแล้ว,ทำให้หลายฝ่ายยิ่งมาตั้งประเด็นกันว่าการต่อสัญญาเลิฟ ออกไปอีก 4 ปี ตั้งแต่ก่อนลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 มันถูกต้องหรือไม่,ทำมั้ยถึงไม่รอดูฟอร์มของ อินทรีเหล็ก ในศึกฟุตบอลโลกก่อน แล้วค่อยต่อสัญญาเลิฟ ก็ยังไม่สาย พอต่อสัญญาไปแล้วฟอร์มไม่ดีจะปลดออกก็ต้องเสียค่าชดเชย ทำให้ทาง เดเอฟเบ ก็ เลือกที่จะไม่ปลดออก และหวังว่ากุนซือวัย 58 ปี จะคืนฟอร์มเก่งในศึกยูฟ่า เนชันส์ลีก,แต่สุดท้ายสถานการณ์ของทีมชาติเยอรมนียังไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น ก็ต้องรอดูว่าทาง เดเอฟเบ จะเอายังไงกับ เลิฟ ดี,จะยอมปล่อยให้เลิฟคุมทีมต่อไปหรือจะมีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่,เชื่อว่าอีกไม่เกิน 2 นัดในปีนี้ได้รู้กัน,มะระหวาน | เกมลีกต่างๆกลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้งหลังจากพักเบรกให้คิวกับทีมชาติไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ลงเตะรายการต่างๆกัน ไม่ว่าจะเป็นยูฟ่า เนชันส์ลีก, แอฟริกัน เนชันส์คัพ หรือฟุตบอลกระชับมิตร | null | ฟุตบอลโลก,ทีมชาติเยอรมนี,อินทรีเหล็ก,โจอาคิม เลิฟ,ตะลุยฟุตบอลโลก | https://www.thairath.co.th/sport/worldcup/1400437 |
ขนส่ง จัด วิ่งฟรี ทำดีเพื่อแม่ ปล่อยแท็กซี่ 200 คัน ไม่คิดค่าโดยสาร | ตั้งแต่เวลา 11.00-17.00 น. ณ บริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ,เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 59 นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นประธานเปิดกิจกรรม 12 สิงหามหาราชินี ประจำปี พ.ศ. 2559 ร่วมกับผู้ประกอบการรถแท็กซี่ สหกรณ์รถแท็กซี่ สหกรณ์รถยนต์รับจ้างสามล้อ สหกรณ์สี่ล้อเล็กรับจ้าง ชมรมศูนย์วิทยุสื่อสารแท็กซี่ ผู้ขับรถยนต์รับจ้างในเขตกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนน ได้แก่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยมอบทุนการศึกษาแก่บุตรผู้ขับรถแท็กซี่หรือรถรับจ้างที่เรียนดี การบริจาคเงินเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ,การมอบรางวัลแก่ผู้ขับรถแท็กซี่ดีเด่นที่ประกอบคุณงามความดีสร้างคุณประโยชน์แก่สังคมและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยผ่านการคัดเลือกจากสถานีวิทยุ จส.100 สวพ.91 สถานีวิทยุจราจรเพื่อสังคม FM 99.5 และกรมการขนส่งทางบก รวม 8 ราย โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับรางวัลเงินสดรายละ 5,000 บาท พร้อมประกาศเกียรติคุณจากกรมการขนส่งทางบก และจัดให้มีการกล่าวคำปฏิญาณตนเป็นผู้ขับรถแท็กซี่ที่ดีถวายเป็นพระราชกุศล,นายสนิท กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 กรมการขนส่งทางบกจัดกิจกรรม ต้นไม้แห่งความดี ให้ผู้ขับรถแท็กซี่และผู้เข้าร่วมงานเขียนคำปฏิญาณการทำความดีในกระดาษใบไม้ เพื่อถวายความตั้งใจทำความดี รวมทั้งจัดกิจกรรม วิ่งฟรี ทำดีเพื่อแม่ โดยปล่อยขบวนรถแท็กซี่จำนวนกว่า 200 คัน เพื่อเดินทางไปยังจุดให้บริการรถแท็กซี่ฟรี ณ บริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ประชาชนสามารถใช้บริการรถแท็กซี่ที่มีป้ายข้อความ แท็กซี่ให้บริการฟรี ติดด้านหน้ากระจกรถ ได้ตั้งแต่เวลา 11.00-17.00 น.,ทั้งนี้ ยังมีผู้ขับรถแท็กซี่อีกกว่า 1,000 คัน ที่เข้าร่วมกิจกรรม วิ่งฟรี ทำดีเพื่อแม่ ให้บริการรับส่งผู้โดยสารเที่ยวแรกภายในเขตกรุงเทพมหานครในวันนี้ โดยไม่คิดค่าโดยสาร ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และยังเป็นการเชิดชู สนับสนุนผู้ขับรถแท็กซี่ที่ทำดีเพื่อเป็นตัวอย่างแก่ผู้ประกอบอาชีพแท็กซี่ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ขับรถแท็กซี่หรือผู้ขับรถโดยสารสาธารณะที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวก็สามารถร่วมกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ด้านอื่นๆ การให้บริการที่ดีและปลอดภัยแก่ผู้โดยสารเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ | กรมขนส่งฯ ร่วมกับผู้ประกอบการรถแท็กซี่ และภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนน จัดงาน 12 สิงหามหาราชินี 59 ปล่อยขบวนรถแท็กซี่กว่า 200 คัน วิ่งฟรี ทำดีเพื่อแม่ ไม่คิดค่าโดยสารภายในเขต กทม. | null | วันแม่2559,วันแม่,วันแม่แห่งชาติ,วิ่งฟรี ทำดีเพื่อแม่,แท็กซี่ฟรี,แท็กซี่ไม่คิดค่าโดยสาร,ถวายเป็นพระราชกุศล,สนิท พรหมวงษ์,ขนส่งทางบก,ขบวนแท็กซี่,เซ็นทรัลเวิลด์,ข่าว,เศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/688658 |
ฟิล์มดำมืดตึ้บ เสี่ยงอุบัติเหตุสูงนะครับ | เมื่อต้องการลดความร้อนให้กับห้องโดยสารรถยนต์ส่วนตัวของคุณ การติดตั้งฟิล์มกรองแสงจึงกลายเป็นอุปกรณ์อันดับต้นๆ ที่เข้ามาช่วยลดอุณหภูมิในวันที่มีแสงแดดจัด เป็นอีกหนึ่งวิธีการลดความร้อนและแสงสว่างที่จัดจ้านของผู้ที่ใช้รถยนต์ในเขตร้อน จากตารางเปรียบเทียบไอความร้อน จากแหล่งกำเนิดแสงที่มีความต่างกันระหว่างดวงอาทิตย์กับหลอดไฟ,แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ 44%,แสงสว่างจากหลอดไฟ 20%,รังสีอินฟราเรดจากดวงอาทิตย์ 53%,รังสีอินฟราเรดจากหลอดไฟ 80-90%,รังสียูวี หรืออุลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์ 3%,รังสียูวี หรืออุลตราไวโอเลตจากหลอดไฟน้อยมาก วัดค่าไม่ได้,การเลือกฟิล์มกรองแสงที่เหมาะสมกับการใช้งาน นอกจากจะเลือกฟิล์มที่ไม่มืดจนเกินไป และทำให้มองไม่เห็นในช่วงที่เกิดฝนตก ช่วงโพล้เพล้ใกล้ค่ำ หรือแม้แต่การขับรถติดฟิล์มมืดๆ ในตอนกลางคืน ล้วนแล้วแต่เป็นการเพิ่มอันตรายจากการมองไม่เห็น หรือไม่ชัดเจนแจ่มแจ้ง จากการที่เป็นคนขี้ร้อน ฟิล์มที่ติดตั้งเลยเลือกเสียดำสนิท มองจากข้างนอกไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น ฟิล์มทึบแสงมากจนอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน คุณสมบัติในการลดความร้อนที่ดีของฟิล์มนั้น นอกจากช่วยป้องกันความร้อนจากภายนอกแล้ว ยังต้องช่วยให้ผู้ขับมองเห็นได้อย่างโปร่งโล่ง ,ไม่ควรใช้ฟิล์มที่มีความเข้มสูงมากจนดำมืด การเลือกใช้ฟิล์มจึงควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับการใช้งาน ที่เกี่ยวเนื่องกับสภาวะของการมองเห็นเป็นสำคัญ ฟิล์มที่มีคุณภาพไม่จำเป็นต้องเข้มทึบดำมืดตึ้บเสมอไป ควรจะเทียบระดับความเข้มของฟิล์มที่คุณสามารถมองเห็นได้ง่าย และป้องกันความร้อนได้ดี ดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่มีพลังงานในการส่องสว่าง และแพร่กระจายรังสีสูง แม้จะอยู่ห่างจากโลกไกลถึง 93 ล้านไมล์ ก็ยังส่งผลกระทบในด้านความร้อน และการแผ่รังสีที่มีผลต่อมนุษย์ แต่ก็ต้องคำนึงถึงสภาพการมองทั้งในเวลาที่เกิดฝนตก หมอกลงจัด หรือแม้แต่ตอนที่ขับใช้งานในสภาพไร้แสงสว่าง,เลือกฟิล์มที่ไม่บดบังทัศนวิสัยของการมองเห็น ไม่ว่าจะเกิดฝนตกหนัก หรือขับใช้งานรถยนต์ในช่วงโพล้เพล้ใกล้ค่ำ รวมถึงการใช้รถตอนกลางคืน หากรถคุณติดตั้งฟิล์มกรองแสงที่มีความเข้มมากเป็นพิเศษ การมองจะยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ ตามสภาพแสงหรือสภาวะของอากาศที่แปรเปลี่ยนตลอดทั้งวัน ฟิล์มเข้มดำมึดอาจช่วยปิดบังคุณสุภาพสตรีที่ขับรถคนเดียวจากสายตาที่ไม่หวังดีของคนร้ายซึ่งก็จริง แต่ควรใช้ฟิล์มที่ไม่มืดทึบดำสนิทมากจนเกินไป ซึ่งทำให้เกิดอันตรายจากการมองไม่เห็น มองไม่เคลียร์ จนเกิดอุบัติเหตุรุนแรงมามากต่อมาก,การเปลี่ยนช่องทางจราจรในรถที่ติดฟิล์มเข้ม ควรมองให้แน่ใจหรือมองให้ขาดว่าจะไม่เปลี่ยนช่องทางกระชั้นชิด หรือมองไม่เห็นรถร่วมทางจนเกิดการเฉี่ยวชน เช่นเดียวกับการขับรถฟิล์มทึบมืดตึ้บยังกับถ้ำหมีในช่วงฝนตกหนัก หรือหมอกลงจัดๆ รับประกันได้เลยว่าการมองเห็นจะด้อยกว่ารถที่ไม่ได้ติดฟิล์มมากจนน่าตกใจ กฎหมายจราจรเกี่ยวกับการติดตั้งฟิล์มกรองแสงที่เคยเข้มงวดกวดขันเมื่อนานมาแล้วกับรถยนต์ที่ติดฟิล์มดำมืดหายไป จนปัจจุบันใครอยากจะติดฟิล์มแบบใด เข้มจัดขนาดไหนก็สามารถทำได้เลย ซึ่งเป็นการเพิ่มเติมอุบัติเหตุโดยไม่รู้ตัว สำหรับนักขับขี้ร้อนทั้งหลาย เมื่อขับรถฟิล์มดำมืดก็สมควรที่จะใช้ความระมัดระวังให้มากขึ้นกว่าเดิม ทั้งการเปลี่ยนเลน การเลี้ยวกลับรถ หรือแม้แต่การใช้ความเร็วสูงบนไฮเวย์ ซึ่งต้องเพิ่มความระวัง มองไกลมองให้ขาดมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ขอให้ปลอดภัยในช่วงวันหยุดกับการขับรถเดินทางท่องเที่ยวครับ.,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,[email protected],Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom | อากาศร้อน กับความนิยมฟิล์มกันแดดติดรถยนต์ในประเทศไทยที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ติดฟิล์มมืดไปก็อันตรายนะครับ มองไม่เคลียร์ เปลี่ยนช่องทาง หรือเลี้ยวกลับลำ อาจจ๊ะเอ๋กับรถคันอื่นได้ง่ายๆ
| null | ฟิล์มกรองแสง,ฟิล์มติดรถยนต์,ฟิล์มติดรถ,ฟิลม์มืดทึบ,อุบัติเหตุ,ทัศนวิสัยไม่ดี,ยานยนต์ไทยรัฐ,อาคม รวมสุวรรณ,man and machine,ไลฟ์สไตล์,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าว | https://www.thairath.co.th/content/554242 |
ชาวมุสลิมพม่ากว่า 1000 คน ข้าม อ.แม่สอดมาขอรับเนื้อกรุบาน ในเทศกาลฮารีรายอ | ชาวพม่าที่นับถือศาสนาอิสลามในรัฐกะเหรี่ยง จากประเทศพม่า กว่า 1000 คน เดินทางข้ามแดนมาที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อมารับเนื้อกุรบาน หรือ เนื้อโค เนื้อแพะ และ เนื้อแกะ ที่ชาวมุสลิมเชือดแจกทำบุญให้คนยากจน ในเทศกาลฮารีรายอ ฮัจย์ ที่ อ.แม่สอดชาวมุสลิมพม่า บอกว่า พวกเขาวิตกกับเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างชาวพุทธ กับ ชาวมุสลิม ในรัฐอาระกัน ที่อาจจะบานปลายไปยังพื้นที่อื่นๆ จึงเดินทางไปที่ อ.แม่สอด เพื่อรับเนื้อกุรบานในฝั่งไทย เพราะไม่มั่นใจว่า ทางการพม่าจะอนุญาตให้ชาวมุสลิมเชือดโค หรือ สัตว์ที่ศาสนาอนุญาต หรือไม่ ซึ่งหากไม่อนุญาตก็จะทำให้ชาวมุสลิมในพม่าจะไม่ได้รับเนื้อกุรบานไปทานดังเช่นทุกปี โดยต้องการให้รัฐบาลพม่าเร่งแก้ปัญหาความขัดแย้งนี้ด้าน จ.ลำพูน สมาคมนักธุรกิจไทย-ตุรกี มอบเนื้อกุรบานแก่ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปที่ได้รับเบี้ยยังชีพ 17 ชุมชนในเขต อ.เมือง จ.ลำพูน จำนวน 1500 คน เพื่อเฉลิมฉลอง เทศกาลฮารีรายอ | ชาวมุสลิมพม่ากว่า 1000 คน เดินทางข้ามแดน อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อรับเนื้อกรุบาน เนื่องในเทศกาลฮารีรายอ เพราะไม่มั่นใจว่าทางการพม่าจะอนุญาตให้ชาวมุสลิมเชือดโค หรือ สัตว์ที่ศาสนาอนุญาต หลังเกิดเหตุการขัดแย้งระหว่างผู้ที่ยับถือศาสนาพุทธกับมุสลิมในรัฐอาระกัน | ภูมิภาค | ตาก,พม่า,มุสลิม,ฮารีรายอ,แม่สอด | https://news.thaipbs.or.th/content/201909 |
วันที่รอคอย เป๊ก คุกเข่าขอ นิว หวานกลางคอนเสิร์ตแพลนแต่งปลายปี | ขโมยซีนหวานคุกเข่าขอแต่งงานสาว นิว-นภัสสร แบบไม่เกรงใจเก้งกวางบ่างชะนีที่ตามมารอกรี๊ดเชียร์ศิลปินที่รัก เลยยิ่งกรี๊ดหนักกว่าเดิม รวมทั้ง อ๊อฟ-ปองศักดิ์ และ จิ๋ว-ปิยนุช ที่ยืนมองวินาทีสำคัญของเพื่อนซี้อย่างซาบซึ้ง อ๊อฟ ถึงกับออกปากว่าตัวเองร้องไห้อินหนักมากเหมือนถูกขอแต่งเอง,งานนี้เริ่มคึกคักตั้งแต่แรก เมื่อ 3 เพื่อนรักขึ้นสลิงลอยตัวเปิดคอนเสิร์ตแบบอลังการ ก่อนจะแบทเทิลสุดมันส์ ทั้งเมดเล่ย์และพาร์ตเดี่ยวของแต่ละคน เด็ดคนละแบบ แถมยังมีความซึ้ง เมื่อ อ๊อฟ ร้องเพลงให้กำลังใจตัวเองเรื่องแม่ป่วยถึงกับหลั่งน้ำตาบนเวที ก่อนจะเรียกพวกออกมาสู้ทั้ง ทีมอ๊อฟ ที่มี 5 สาวเดอะสตาร์ 12 เน็ต น้ำผึ้ง เจนนี่ ปิ่น พรีน และ หญิง-รฐา สาวแซ่บเพื่อนซี้ ส่วนฝ่าย ทีมนิวจิ๋ว เรียกแก๊ง เต๋อ-เพชร-ปิงปอง จากซีรีส์ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์มาเต้นสะบัดสนุกรวมเป็นแก๊งใหญ่ ปิดท้ายชวนแฟนโดดสนั่นฟลอร์ เป็นอันจบครบอรรถรสมันส์ฮาซึ้งฟินกระจาย,คอนเสิร์ตใกล้จบอารมณ์พีกยังไม่จบ ขณะ นิว จิ๋ว อ๊อฟ กำลังออกมาอังกอร์ลาแฟน ก่อนเข้าเพลงฟ้าส่งฉันมา จู่ๆหนุ่ม เป๊ก หวานใจสาว นิว ก็ถือช่อดอกไม้ใหญ่สีขาวเดินออกมาเซอร์ไพรส์จากข้างเวทีบอกความในใจว่า ตัวเองอยู่เคียงดาวดวงนี้คือนิวมานานเกือบ 7 ปี และได้แต่งเพลง เคียงดาว ไว้ วันนี้เลยอยากร้องให้ฟัง พอร้องจบ เป๊ก ทำเอาทุกคนอึ้ง ทำเซอร์ไพรส์ลงไปคุกเข่าขอ นิว แต่งงานบนเวที หยิบแหวนออกมาสวมนิ้วนางซ้ายให้กับนิวที่ร้องไห้น้ำตาแตก ทำเอาแฟนกรี๊ดกร๊าดสนั่น จากนั้นทั้งคู่ก็โผเข้ากอดกัน ท่ามกลางเพื่อนสนิทในวงการนับสิบทั้ง บอย-ปกรณ์, พิชญ์-กาไชย, โทนี่ รากแก่น,โดย นิว ว่าที่เจ้าสาวเผยหลังถูกเป๊กเซอร์ไพรส์สดๆร้อนๆว่า ถามตอนนี้ก็ยังงงๆอยู่ จริงๆเค้าบอกว่าจะเอาดอกไม้มาให้เฉยๆแต่ตัวเค้าไม่ได้มานะเพราะติดละครตั้งแต่ 6 โมงเช้า ก็งงๆไม่มีวี่แววว่าเค้าจะขอแต่งงานเลย (หัวเราะ) เห็นเราร้องไห้ด้วย? ร้องไห้เพราะเค้าร้องเพลงให้ แต่งเพลงให้ แล้วก็ไปนัดกับทุกคน นัดแฟนๆเพลงด้วยมันก็เลยรู้สึกพิเศษ มันงงมากเลย มันเป็นความสุขหลังจากจบคอนเสิร์ตแล้ว แล้วยังจะมีเหตุการณ์ตรงนี้เกิดขึ้นอีกก็เลยพูดอะไรไม่ออก (ยิ้ม),ฟาก เป๊ก เผยว่า เรียกว่าการขอครั้งนี้ฉุกละหุกนิดนึง จริงๆตั้งใจไปเที่ยวต่างประเทศกันและขอไปเซอร์ไพรส์ที่นั่น แต่คิดว่าจะช้าจะเร็วเราก็อยากแต่งกับผู้หญิงคนนี้ เลยขอในเมืองไทยดีกว่าจะได้มีเพื่อนฝูง คนที่รักเราร่วมแสดงความยินดี เพิ่งคิดไม่นานนี้ว่าในเมื่อเค้ามีคอนเสิร์ตก็อยากทำเซอร์ไพรส์ ตอนแรกแกล้งบอกว่าติดถ่ายละครไม่รู้จะมาทันรึเปล่า ส่วนเรื่องงานแต่ง แพลนไว้ว่าไม่ปลายปีนี้ก็คงเป็นต้นปีหน้าครับ.,ทีมข่าวบันเทิง | ต่อสู้กับหัวใจตัวเองจนรู้แน่แล้วว่า นิว คือคนที่ใช่ที่สุด หนุ่มเจ้าเสน่ห์หวงความโสดอย่าง เป๊ก-เปรมณัช ถึงได้ยอมโดดขึ้นเวทีคอนเสิร์ต ช้าง มิวสิค คอนเน็คชั่น พริเซ้นท์ส THE BATTLE OF BFF CONCERT ที่รอยัล พารากอนฮอลล์ | null | เป๊ก,เป๊ก เปรมณัช,เปรมณัช สุวรรณานนท์,นิว นภัสสร,เป๊กขอนิวแต่งงาน,นิวจิ๋ว,ช้าง มิวสิค คอนเน็คชั่น พริเซ้นท์ส,THE BATTLE OF BFF CONCERT,อ๊อฟ ปองศักดิ์,จิ๋ว ปิยนุช,ทีมนิวจิ๋ว,ทีมอ๊อฟ,ข่าว,ทีมข่าวบันเทิง,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐฉบับพิมพ์,ไทยรัฐ,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,thairath | https://www.thairath.co.th/content/649426 |
สลด เรืออพยพเมดิเตอร์เรเนียนขนคนเกินพิกัด ดับคาเรือ 40 ศพ | (ภาพ: AP),หน่วยกู้ภัยอิตาลี ช่วยเหลือผู้อพยพหลายร้อยคนจากเรือประมงเล็กๆลำหนึ่งในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมื่อวันเสาร์ โดยพบผู้เสียชีวิตอยู่บนเรือ 40 ราย เนื่องจากขาดอากาศ,สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยของกองทัพเรืออิตาลีเข้าสกัดเรือประมงลำหนึ่ง นอกชายฝั่งประเทศลิเบีย โดยเรือลำนี้บรรทุกผู้อพยพมามากกว่า 360 คน ซึ่งเกินความจุของเรือ และพบโดยว่ามีผู้อพยพอย่างน้อย 40 คน เสียชีวิตอยู่บนเรือลำนี้ คาดว่ามีสาเหตุจากการสูดควันพิษจากเครื่องยนต์เรือ,นาย แองเจลิโน อัลฟาโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอิตาลี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เข้าสกัดเรือประมงลำนี้ขณะลอยลำอยู่ห่างจากชายฝั่งประเทศลิเบียประมาณ 21 ไมล์ทะเล (ราว 39 กม.) และอยู่ทางใต้ของเกาะลัมเปดูซาของอิตาลี โดยขณะนี้ทีมกู้ภัยกำลังนับจำนวนผู้เสียชีวิต แต่มีผู้อพยพได้รับความช่วยเหลือแล้วประมาณ 320 คน ในจำนวนนี้รวมถึงเด็กและผู้หญิงจำนวนมาก,ทั้งนี้ ตั้งแต่เข้าสู่ปี 2015 จนถึงตอนนี้ มีผู้อพยพเดินทางหนีความยากจนในทวีปแอฟริกาไปยังยุโรปแล้วเกือบ 250,000 คน ในขณะที่มีผู้อพยพเสียชีวิตระหว่างพยายามเดินทางข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแล้วมากกว่า 2,000 ราย | หน่วยกู้ภัยอิตาลี ช่วยเหลือผู้อพยพหลายร้อยคนจากเรือประมงเล็กๆลำหนึ่งในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมื่อวันเสาร์ โดยพบผู้เสียชีวิตอยู่บนเรือ 40 ราย เนื่องจากขาดอากาศ | null | กู้ภัย,กองทัพเรือ,อิตาลี,เรือประมง,ลิเบีย,ผู้อพยพ,เมดิเตอร์เรเนียน,ควันพิษ,เครื่องยนต์,กระทรวงมหาดไทย,เกาะลัมเปดูซา,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/518548 |
ต้นโพธิ์ยักษ์ ใน ม.เชียงใหม่ หักโค่น ล้มทับรถ เสียหาย 6 คัน | เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 23 เม.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุ ต้นโพธิ์ยักษ์ อายุกว่า 20 ปี บริเวณริมถนนหน้าวิทยาลัยศิลปะ สื่อและเทคโนโลยี ภายในมหาวิทยาลัยเชียใหม่ หักโค่นลง ลำต้นและกิ่งก้าน หล่นทับรถยนต์ของประชาชน ที่นำไปจอดไว้ เสียหายถึง 6 คัน มีรถเบนซ์ ของนายทีปอุทัย แสดกาด อายุ 42 ปี เจ้าของร้านจิวเวลรี่ เสียหายหนักที่สุด หลังคาด้านหลังยุบ กระจกแตก มูลค่าความเสียหายกว่า 6 แสนบาท,ส่วนรถเก๋งของประชาชน อีก 5 คัน ถูกกิ่งต้นโพธิ์ทับ ทั้งกระโปรงหน้ารถ กระโปรงหลังรถ หลังคาและกระจกแตก /ส่วนใหญ่นำรถไปจอดทิ้งไว้นานประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อเข้าไปอ่านหนังสือภายในหอสมุด จึงไม่มีผู้ใดบาดเจ็บ ประกอบกับเป็นวันหยุด ประชาชนและนักศึกษาไม่พลุกพล่าน,จากการสอบถาม นายทีปอุทัย เผยว่า ก่อนหน้านั้น ได้ขับรถยนต์มาจอดไว้ใต้ต้นโพธิ์ แล้วก็เข้าไปห้องสมุด เมื่อกลับออกมา แต่ยังไม่ถึงรถมีลางสังหรณ์บางอย่าง จึงหันหลังเดินกลับไปที่หอสมุดอีกครั้ง จากนั้นก็มีเสียงดังโครม เมื่อวิ่งมาดูพบกิ่งต้นโพธิ์ ขนาดใหญ่หักโค่นใส่รถของตนและรถประชาชน อีก 5 คัน แต่ละคันกระโปรงหน้ารถ กระโปรงหลังรถ หลังคาและกระจกแตก ได้รับความเสียหาย โดยประชาชนส่วนใหญ่นำรถมาจอดทิ้งไว้นานประมาณ 2 ชั่วโมง เข้าไปอ่านหนังสือภายในหอสมุด ซึ่งสาเหตุที่ตนรอดชีวิตมาได้ในครั้งนี้ เชื่อว่ามีจากพระรอด วัดมหาวันลำพูน จังหวัดลำพูน ที่ตนให้ความเคารพนับถือแขวนติดคอไว้ตลอดเวลาก็อาจเป็นไปได้,อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามเจ้าของรถ ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ประกอบกับเป็นวันหยุด ประชาชนและนักศึกษาไม่พลุกพล่าน ส่วนสาเหตุ คาดว่าลำต้นโพธิ์ผุกร่อนมานาน ประกอบกับมีลมพัด ทำให้ต้นไม้หักโค่นลงมา ถือว่าเป็นภัยธรรมชาติ ต้องนำรถไปซ่อมกันเอง แต่ส่วนใหญ่มีประกันภัย ด้านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะเร่งสำรวจต้นไม้ใหญ่ภายในมหาวิทยาลัย เพื่อป้องกันเหตุซ้ำขึ้นอีก พร้อมทั้งนำเจ้าหน้าที่ไปตัดกิ่งไม้ที่ล้มขวางถนน จนเปิดใช้เส้นทางได้ตามปกติ. | เกิดอุบัติเหตุต้นโพธิ์ยักษ์ ภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หักโค่นทับรถยนต์หรู ของประชาชนที่จอดไว้ ได้รับความเสียหายถึง 6 คัน โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต | ข่าว,ทั่วไทย | ต้นไม้โค่นทับรถ,ม.เชียงใหม่,มช.,ต้นโพธิ์,ผุกร่อน,รถยนต์เสียหาย,เซียนพระ,พระรอด,รอดหวุดหวิด,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/610111 |
นรข.จับขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ | หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) เขตหนองคาย สนธิกำลังตรวจยึดของกลาง งูเห่า 3 ร้อยตัว และเต่าฮับ เต่าดำ จำนวน 569 ตัว พร้อมจับกุมตัว นายสายชล สาพิมล และนายมนตรี สุภาชม ชาว จ.หนองบัวลำภู ขณะลักลอบบรรทุกมาในรถกระบะ ทะเบียน ฒพ 6966 กรุงเทพมหานคร ผ่านถนนหนองคาย-บึงกาฬ ก่อนจะจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อหน้าตลาดรัตนวาปี เพื่อส่งข้ามแม่น้ำโขงไปให้นายทุนในประเทศเพื่อนบ้านจากการสอบสวนนายสายชล รับสารภาพว่า ได้ติดต่อซื้องูเห่า และเต่าฮับ ตามสถานที่ต่าง ๆ ราคาตั้งแต่ 150-450 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อได้น้ำหนักที่ต้องการจึงติดต่อซื้อขายกับ นายสุรพล ไม่ทราบนามสกุล ชาวอำเภอรัตนวาปี ซึ่งเป็นลูกค้าประจำเพื่อนำมาส่งที่ริมแม่น้ำโขง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ประสานเจ้าหน้าที่ประมงหนองคาย มารับเต่า และประสานเจ้าหน้าที่สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มารับงูเห่าไปฟื้นฟู และปล่อยกลับสู่ธรรมชาติ | หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง จับขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่า ได้ของกลาง งูเห่า 300 ตัว และเต่า 569 ตัว พร้อมผู้ต้องหา 2 คน ขณะเตรียมนำส่งลูกค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน | ภูมิภาค | งูเห่า,สัตว์ป่า,เต่า,แม่น้ำโขง | https://news.thaipbs.or.th/content/183826 |
ครม.แจกอั่งเปาตรุษจีน บัตรเดบิตรูดซื้อสินค้า คืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 5% | ครม.แจกอั่งเปาช่วงตรุษจีน ใช้บัตรเดบิตรูดซื้อสินค้าได้รับชดเชยคืนร้อยละ 5 ผ่านพร้อมเพย์ หวังส่งเสริมสังคมไร้เงินสด ตั้งงบรองรับ 9,240 ล้าน ยัน ไม่ได้หวังผลทางการเมืองใกล้เลือกตั้ง ศึกษามาตรการนานนับปี,วันที่ 18 ธ.ค. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามข้อเสนอกระทรวงการคลัง ออกมาตรการชดเชยคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) ในอัตราร้อยละ 5 ให้กับประชาชนทั่วไป ซื้อสินค้าและชำระเงินผ่านบัตรเดบิตระหว่างวันที่ 1-15 ก.พ. 2562 เพื่อเป็นของขวัญวันตรุษจีน และส่งเสริมสังคมไร้เงินสดตามนโยบายของรัฐบาล ตั้งงบกลางปี 2563 รองรับโครงการดังกล่าวจำนวน 9,240 ล้านบาท เมื่อรูดเงินซื้อสินค้าทั่วไป ไม่รวมสุรา ยาสูบ จะได้รับการชดเชยคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม หวังกระตุ้นการใช้เงินผ่านบัตรเดบิต จากนั้นรัฐบาลโอนเข้าระบบพร้อมเพย์ผูกกับบัตรประชาชนเท่านั้น จากปัจจุบันมีผู้ผูกบัญชีเงินฝากผ่านระบบพร้อมเพย์ 45 ล้านบัญชี,ยอมรับว่าแม้จะเป็นช่วงใกล้การเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ แต่แนวทางดังกล่าวรัฐบาลได้ศึกษาเพื่อส่งเสริมสังคมไร้เงินสดมาเป็นเวลานานแล้ว และเป็นการกำหนดเพียงช่วงสั้น 15 วัน ไม่ได้มุ่งกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะผู้ถือบัตรเดบิตมีอยู่จำนวนมาก คาดว่าจะประชาชนจะใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตมากขึ้น นายพุทธิพงษ์ กล่าว,นายพุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบการบริจาคให้กับสถาบันการศึกษา เพื่อส่งเสริมการศึกษาสำหรับบุคคลธรรมดานำค่าใช้จ่ายหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า หรือตามจ่ายจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของค่าลดหย่อนทั้งหมดในแต่ละปี สำหรับนิติบุคคล หักลดหย่อนได้ 2 เท่า หรือตามจ่ายจริงแต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิในแต่ละปี และต้องบริจาคผ่านระบบ E-Donation ผ่านระบบออนไลน์เพื่อให้สถาบันการศึกษาลงทะเบียนกับกรมสรรพากร จากนั้นผู้บริจาคจะได้ไม่ต้องส่งเอกสารการบริจาคแจ้งกับสรรพากร เพราะได้เชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดแล้ว ยอมรับว่ารัฐบาลสูญเสียรายได้ภาษี 390 ล้านบาท. | ครม.แจกอั่งเปาช่วงตรุษจีน ใช้บัตรเดบิตรูดซื้อสินค้าได้รับชดเชยคืนร้อยละ 5 ผ่านพร้อมเพย์ หวังส่งเสริมสังคมไร้เงินสด ตั้งงบรองรับ 9,240 ล้าน ยัน ไม่ได้หวังผลทางการเมืองใกล้เลือกตั้ง | เลือกตั้ง | ครม.,อั่งเปาตรุษจีน,บัตรเดบิตรูดซื้อสินค้า,ชดเชยคืนร้อยละ 5,สังคมไร้เงินสด,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1448058 |
วิสามัญผู้ต้องสงสัยระบิดห้างบิ๊กซีตาย 1 คน | เมื่อวานนี้ (12 ก.ค.2560) ตลอดทั้งวัน ทหารชุดเฉพาะกิจปัตตานี เข้าตรึงพื้นที่บริเวณหมู่ 5 ต.ปะกาฮะรัง อ.เมือง จ.ปัตตานี เพื่อป้องกันเหตุความไม่สงบ หลังเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มีการสนธิกำลังกว่า 50 นาย เข้าปิดล้อมพื้นที่ เพื่อติดตามกลุ่มก่อเหตุลอบวางห้างบิ๊กซี สาขาปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา และหลบหนีหมายจับในคดีความมั่นคงอีกหลายคดี หลบซ่อนตัวอยู่บริเวณป่าละเมาะ ด้านหลังมัสยิดซีอารุลแต่ขณะเข้าปิดล้อม กลุ่มชายฉกรรจ์ที่อยู่ 3 คน ได้กระจายกันหลบหนี หนึ่งในนั้นได้ยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทาง จนเกิดการปะทะกันขึ้นมานานกว่า 5 นาที เมื่อเสียงปืนสงบพบนายสุดิง มามะ ชาว ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก นอนเสียชีวิต พร้อมปืนพกสั้น ขนาด .38 จำนวน 2 กระบอก ตรวจสอบประวัติพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับฐานความผิดข้อหาลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ สำหรับอาวุธปืนที่ยึดไปอยู่ระหว่างตรวจสอบ | ทหารนำกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่เป้าหมาย เพื่อติดตามกลุ่มแนวร่วมที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดห้างบิ๊กซี สาขาปัตตานี เมื่อ 2 เดือนก่อน ก่อนถูกผู้ก่อเหตุยิงต่อสู้ จนเกิดการปะทะกันขึ้น เป็นเหตุให้ 1 ในผู้ต้องสงสัยถูกวิสามัญเสียชีวิต 1 คน | ภูมิภาค | ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,วิสามัญ,ผู้ต้องสงสัย,ระบิดห้างบิ๊กซี,ระเบิด,ปัตตานี,ห้างบิ๊กซี | https://news.thaipbs.or.th/content/264311 |
สุวพันธุ์ ชี้ ทำไม่ทำอยู่ที่ กรธ.แม่น้ำ 4 สาย ส่งข้อเสนอ ตามหน้าที่ | วันที่ 16 มี.ค. 59 เมื่อเวลา 13.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอ คสช.ทำหนังสือเสนอความเห็นต่อการปรับแก้รัฐธรรมนูญไปถึง กรธ. ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 15 มี.ค. 59 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ได้ชี้แจงในที่ประชุม ครม. แต่ถ้าถามความเห็นส่วนตัวต้องไปอ่านหนังสือที่ คสช.มีถึงประธาน กรธ. ในหนังสือจะบอกชัดเจนว่า ในความเห็นบอกถึงความห่วงใยบ้านเมือง บอกเรื่องความรับผิดชอบที่แม่น้ำ 4 สาย มีต่อประเทศในอนาคต ซึ่งแม่น้ำ 4 สายเห็นว่า เรามีหน้าที่ ซึ่งเราเป็นห่วงบ้านเมืองหน้าที่เราก็เสนอ เรียกว่า เป็นดุลความสัมพันธ์ ระหว่างกลไกประชาธิปไตย รัฐบาล สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา ศาล องค์กรอิสระ ซึ่งข้อเสนอเพื่อปรับปรุงบทเฉพาะกาล ไม่ได้ปรับปรุงรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งแม่น้ำ 4 สาย ทำหน้าที่ของตนเอง บนพื้นฐานที่เป็นห่วง และบนพื้นฐานที่รับผิดชอบต่อบ้านเมืองทั้งในปัจจุบันและอนาคต จึงมีการเสนอไปเพราะเชื่อว่ามันมีหนทาง,เมื่อถามว่า หากความเชื่อไม่เป็นไปตามเป้าหมายใครจะรับผิดชอบ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ข้อเสนอที่เราเสนอไปตามอำนาจหน้าที่ที่มีไปถึง กรธ.ที่มีอำนาจพิจารณาว่า จะทำหรือไม่ทำ หากเขาทำแล้วก็เป็นอำนาจของประชาชนอีกที่จะต้องออกเสียงประชามติ ฉะนั้นประชาชน คือ คนตัดสิน เมื่อถามว่า ข้อเสนอของแม่น้ำ 4 สาย มีแนวโน้ม ว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.จะรับได้ทั้งหมดหรือไม่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า คิดว่านายกฯ เคารพ นายมีชัย เคารพการทำงานของ กรธ. เพราะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิทั้งสิ้น ส่วนจะทำได้หรือไม่ได้ หรือ ทำมากน้อยขนาดไหน ตนคิดว่า เมื่อได้มีการศึกษาการหารือ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นรอบด้านมากขึ้น สุดท้ายน่าจะได้ข้อยุติที่ดี ตนมองโลกในแง่ดี ส่วนจะมากน้อยขนาดไหนเป็นเรื่องที่ต้องคุยกันหารือกัน ซึ่งมีกระบวนการพูดคุยได้,เมื่อถามว่า การให้มีตำแหน่ง ผบ.เหล่าทัพ ปลัดกลาโหม เข้าไปด้วยถือเป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ถ้าดูเจตนารมณ์จริงๆ ก็คือการให้ตำแหน่งหลักของฝ่ายความมั่นคงได้เข้าไปมีส่วนอยู่วุฒิสภา หัวใจของมัน คือ ตำแหน่งหลัก เมื่อถามว่า ทำไมต้องทำเหมือนรัฐบาลพม่า นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ไม่เหมือนกัน ตนยืนยัน เราอย่าไปมองอันนี้กองทัพส่วนหนึ่ง ตนไม่มองเรื่องค้านอำนาจหรือคนละฝั่ง ตนมองแบบคนเห็นหรือประเมินว่า บ้านเมืองจะเป็นอย่างไรในความหมายของตน เราได้ทำหน้าที่แล้ว เราอยากมีระยะเปลี่ยนผ่าน เราถึงว่าระยะเปลี่ยนผ่านควรมีดุลความสัมพันธ์ในแต่ละเรื่อง ควรจะเป็นอย่างไรเราก็เสนอ เพราะเป็นความรับผิดชอบ,คสช.รัฐบาล แม่น้ำ 4 สายให้ความสำคัญกับประชาชน ดูรัฐธรรมนูญฉบับนี้จาก กรธ. ไม่แวะไหนเลย แต่ไปที่ประชาชน ดังนั้น เราให้ความสำคัญประชาชนเต็มที่อยู่แล้ว เพราะไปตรงไปหาเลย ไม่ผ่านจุดไหนๆ นายสุวพันธ์ กล่าว. | นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้ แม่น้ำ 4 สาย ส่งข้อเสนอ กรธ.บนความห่วงใย-รับผิดชอบ ยัน ทำตามอำนาจหน้าที่ ทำไม่ทำแล้วแต่ กรธ.
| null | ร่าง รธน.,กรธ.,ข้อเสนอ,แม่น้ำ 4 สาย,สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ,รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี,คสช.,ประชามติ,ส.ว.สรรหา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/591760 |
วัยรุ่นโดนยิงถล่มหน้าผับดังเมืองเพชร เจ็บ 3 ราย โชคดีมีพระดีเลยรอดตาย | เมื่อกลางดึกวันที่ 18 พ.ค.62 ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 เพชรบุรี ได้รับแจ้งเหตุ ยิงกันบริเวณ ถนนหน้าร้านอพอลโลผับ ม.1 ต.ไร่ส้ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ต่อมา พ.ต.อ. ธานินทร์ ฉัตรเจริญพร ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี พร้อม พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ นพวัฒนนันทน์ ร้อยเวร สอบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี ได้มาตรวจสอบ พร้อม กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเพชรบุรี ( มทบ.15) ร่วมกับเจ้าหน้าพิสูจน์หลักฐานเพชรบุรี และอาสาสมัครมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน ร่วมอำนวยความสะดวก โดยในที่เกิดเหตุยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย ถูกนำตัวส่งไปรักษาตัว ที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้าฯ,ต่อมาทราบชื่อคือ 1.นายสมเกียรติ หรือแป๊ะ จันทร์ตา อายุ 40 ปี ซึ่งพึ่งพ้นโทษออกมาได้ 2 วัน ชาวบ้าน ม.8 ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณขาซ้าย อาการพ้นขีดอันตราย รายที่ 2 คือ นายสิทธิโชค หรือบอย ศรีจันทร์ อายุ 33 ปี ชาวบ้าน ม.5 ต.มาบปลาเค้า อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณ หน้าอกซ้าย 2 นัด เป็นรอย, สะโพกด้านขวา 1 นัดเป็นรอย และบริเวณน่องซ้ายกระสุนฝังใน อาการพ้นขีดอันตราย และ รายที่ 3.นายจตุรงค์ หรือหนุ่ม ปิดประสาน อายุ 38 ปี ชาวบ้าน บ้านไร่แค ต.บ้านหาด อ.บ้านลาด ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณ อุ้งมือขวาทะลุ อาการพ้นขีดอันตราย ปัจจุบันผู้บาดเจ็บทั้งหมด เข้ารักษาตัวอยู่ที่ รพ.พระจอมเกล้า อ.เมือง จ.เพชรบุรี โดยมีจนท.ตร.สภ.เมืองเพชรบุรี ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ,จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบรอยเลือดหลายจุด นอกจากนี้ บนถนนและใต้ท้องรถ พบปลอกกระสุนขนาด 11 มม.จำนวน 7 ปลอก และหัวกระสุนจำนวน 4 หัว ส่วนอีกด้านหนึ่งของฝั่งคลองพบปลอกกระสุน ขนาด 9 มม. จำนวน 3 ปลอก เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพชรบุรี ได้รวบรวมไว้เพื่อตรวจสอบต่อไป,นายสิทธิโชค หรือบอย หนึ่งในผู้ถูกยิง เปิดเผยกับว่า หลังจากร้านอพอลโลผับปิด ตนและเพื่อน ชื่อแป๊ะ ชาวแม่กลอง และหนุ่มชาวบ้านไร่แค ได้เดินออกมาพร้อมกัน เพื่อจะไปที่รถยนต์กระบะ ของบอย ที่จอดอยู่ห่างจากผับ ประมาณ 100 เมตร ระหว่างที่ทั้ง 3 คน ยังไม่ได้ขึ้นรถ กำลังยืนคุยกันอยู่ข้างรถต่อมาบอย บอกว่า เห็นรถยนต์ โตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ติดฟิล์มดำขับมาฝั่งตรงข้ามกับตน ซึ่งมีคลองชลประทานกั้นอยู่ จากนั้นคนร้ายที่นั่งอยู่เบาะหลัง ได้เปิดกระจกแล้วยื่นปืนออกมากระหน่ำยิง เข้ามายังกลุ่มของตนที่ยืนคุยกันอยู่ ,นายบอย เผยต่อว่า นอกจากนี้ ด้านฝั่งตรงข้ามที่มีถนนอยู่ระหว่างกลาง ก็มีรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนดา รุ่นสกูปี้ สีแดง มากันสองคน โดยคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายมา ก็กระหน่ำยิงเข้ามาในกลุ่มของตนเช่นกัน ในตอนแรกคิดว่าสองฝั่งเขายิงกัน แล้วกลุ่มเราอยู่ระหว่างกลาง แต่เมื่อนายแป๊ะ ล้มลง และนายหนุ่มล้มลงตาม ถึงได้รู้ว่าโดนกระหน่ำยิงจากสองฝั่งทั้งในรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ,ส่วนตัวเองถูกยิงที่หน้าอก 2 นัด บริเวณหัวใจพอดี แต่หัวกระสุนไม่ได้เจาะเข้าไปในผิวหนัง และที่สะโพกขวาก็เช่นกัน ที่มีรอยกระสุนแต่หัวกระสุนไม่ได้เจาะเข้าไปในผิวหนัง ส่วนอีกหนึ่งแห่งที่น่องขาด้านซ้ายดระสุนเจาะผิวหนังเข้า และไปฝังอยู่ในผิวหนัง ไม่รู้ว่าที่รอดตายมาได้นี้ เพราะห้อยพระ 3 องค์ คือ หลวงพ่ออุ้นวัดตาลกง รุ่นอายุยืน หลวงพ่อแดงรุ่นแม่ครัว และพระอีกองค์หนึ่งนั้น เป็นพระที่เพื่อนให้มาจากจังหวัดกาญจนบุรี สำหรับสาเหตุที่ถูก ขนาบพร้อมกระหน่ำยิงนั้น นายบอยเองก็ยังไม่ทราบ ว่ามาจากสาเหตุใด เพราะส่วนตัวบอยก็เก็บตัวอยู่บ้าน นานๆ ที จึงจะออกมาเที่ยว ,ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบุรี จะได้สอบสวน ผู้ถูกยิงทั้ง 3 คนเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุ ในการก่อเหตุในครั้งนี้ อย่างเร่งด่วนต่อไป นอกจากนี้ยังจะต้องรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบสวนพยานบุคคล และกล้องวงจรปิด เพื่อหาตัวกลุ่มมือปืน ที่ลงมือยิงในครั้งนี้ต่อไป,ทั้งนี้ พ.ต.อ.ธานินทร์ ฉัตรเจริญพร ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุดวลปืนกัน ที่หน้าแสงตะวันผับ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมือปืนที่ก่อเหตุก็ได้รับบาดเจ็บด้วยนั้น ได้ดำเนินการเข้มงวดกวดขัน ในการตั้งด่านตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารชุด กกล.รส. จังหวัดเพชรบุรี มาอย่างต่อเนื่องทุกๆ วัน แต่ก็ยังมีการก่อเหตุดังกล่าว ต่อไปต้องมีการดำเนินการเข้มข้นให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อป้องปราม ไม่ให้เหตุในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นได้อีก. | 3 วัยรุ่นเมืองเพชรโดนรุมยิงถล่มหน้าผับดังทั้ง 11 มม.และ 9 มม.บาดเจ็บ 3 คนรอดตายหวุดหวิด เผยไม่รู้ทำไมถึงโดนกระหน่ำยิงทั้งซ้ายและขวา 1 ในคนเจ็บบอกกระสุนโดนอก 2 นัดแต่ไม่เข้าหลวงพ่อช่วยไว้ | ข่าว,ทั่วไทย | เพชรบุรี,วัยรุ่นยิงกัน,ยิงหน้าผับ,ยิงไม่เข้า,สภ.เมืองเพชรบุรี,อพอลโลผับ,ถูกรุมยิง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1570553 |
นครบาลรวบอีกนักมวยดัง ล้มมวย-แลก 6 หมื่น หมายจับเซียนว่าจ้าง | หลังมีหลักฐานการล้มมวยเป็นข้อความติดต่อของเซียนมวยหลุดมาถึงมือ ขณะที่ชุดสืบสวนนครบาลตีปี๊บเตือนแก๊งพนันในวงการกีฬาทุกประเภท มีข้อมูลโดนดำเนินคดีทุกราย เตรียมจับเซียนมวยอีกคน มีพฤติกรรมจ้างล้มมวยเหมือนกัน,เจ้าของค่ายมวยแจ้งตำรวจจับนักมวยในสังกัดล้มมวย เปิดเผยขึ้นที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 28 ม.ค. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ รอง ผบก.สส.บช.น. และนายธัชนน คชาสุวรรณ เจ้าของค่ายมวยสิงห์มาวิน แถลงจับกุมนายเอกลักษณ์ ชุมทอง อายุ 20 ปี หรือร้อยเชิง สิงห์มาวิน ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.50/2562 ลงวันที่ 27 ม.ค.2562 ข้อหาห้ามมิให้นักมวยรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเอง หรือผู้อื่น เพื่อจูงใจให้นักมวยกระทำการล้มมวย หลังนายเอกลักษณ์เข้ามอบตัวที่ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. เมื่อวันที่ 27 ม.ค.เวลา 16.00 น.,พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ กล่าวว่า สืบเนื่องจากบก.สส.บช.น.ได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของค่ายมวยสิงห์มาวินว่า การชกมวยที่เวทีราชดำเนินในศึก ส.สมหมายเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2561 ร้อยเชิงนักมวยในค่ายของตัวเองขึ้นชกกับดาว ก.กัมปนาท น่าจะมีขบวนการว่าจ้างล้มมวย จึงนำไฟล์ภาพจากวิดีโอบันทึกเทปการชกมาตรวจสอบหาความเชื่อมโยง พบว่ามีการล้มมวยจริง เนื่องจากการชกครั้งนั้นร้อย–เชิงได้เปรียบคู่ต่อสู้เป็นอย่างมาก แต่กลับไม่ยอมออกอาวุธในยก 4 และ 5 อีกทั้งไม่ตอบโต้คู่ต่อสู้ทั้งที่มีจังหวะทำคะแนนได้ ทำให้แพ้คะแนนไป,แนวทางการสืบสวนพบว่า มีนักมวยคนหนึ่งชื่อนายเอ (นามสมมติ) เป็นเด็กฝากของนายวรพันธ์ รัตน์สิรสมโภม หรือเซียนเอก นำมาฝากซ้อมที่ค่ายสิงห์มาวิน ต่อมานายเอพยายามสอบถามนักมวยภายในค่ายว่า มีใครรับจ้างล้มมวยหรือไม่ หลังจากนั้นร้อยเชิงตกลงรับเงินค่าจ้างล้มมวยจากเซียนเอก พบหลักฐานการโอนเงินให้ก่อนการชก 30,000 บาท หลังชกเสร็จวันที่ 21 ธ.ค.61 อีก 30,000 บาท รวม 60,000 บาท พ.ต.อ.ธีระชัยกล่าว,รอง ผบก.สส.บช.น.กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน สามารถออกหมายจับร้อยเชิงได้ หลังเข้ามอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นอกจากนี้ยังออกหมายจับเซียนเอกตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.49/2562 ลงวันที่ 23 ม.ค.2562 ข้อหาผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือ ประโยชน์อื่นใดแก่นักมวย หรือผู้อื่นเพื่อจูงใจให้นักมวยกระทำผิดการล้มมวย อันเป็นความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.กีฬามวย 2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างตามตัวมาดำเนินคดี จากการตรวจสอบยังพบว่า มีขบวนการล้มมวยเช่นนี้อีกหลายครั้ง เร็วๆนี้จะจับกุมเซียนมวยอีกคนคือเซียนกร ที่มีพฤติกรรมลักษณะเดียวกัน,ด้านนายธัชนน คชาสุวรรณ หรือหนึ่ง สิงห์มาวิน เผยว่า ตนเปิดค่ายมวยมา 3 ปีมีร้อยเชิงเป็นนักมวยคนแรกของค่าย เนื่องจากเป็นคน จ.สงขลาเหมือนกัน รักเหมือนลูกเหมือนหลานดูแลดีมาตลอด แต่ช่วง 3-4 เดือนหลังรู้สึกว่าร้อยเชิงพฤติกรรมแปลกไป ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวไม่สนใจใคร อีกทั้งยังทราบด้วยว่า มีพฤติกรรมติดการพนันอย่างหนัก ช่วงหลังหลายคนมาทักว่า ให้ดูนักมวยในค่ายดีๆเพราะรับจ้างล้มมวย แต่ตนยังไม่ติดใจจนกระทั่งย้อนไปดูคลิปการชกระหว่างร้อยเชิงกับดาว ก.กัมปนาท นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนที่รู้จักส่งไลน์มาให้อ่านใจความว่า ร้อยเชิงวันนี้ สวนได้เลย เดี๋ยวจัดการเอง ตนจึงปักใจเชื่อว่ามีการล้มมวยจริง,ค่าตัวของร้อยเชิงอยู่ที่ 55,000 บาทต่อ 1 ไฟต์ ตามกฎหมายหากชกชนะจะต้องแบ่งค่าตัวคนละครึ่ง แต่ผมตกลงกับนักมวยในค่ายรวมถึงร้อยเชิงว่า หากชกชนะจะยกค่าตัวให้ทั้งหมด ถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่พอสมควรแต่ไม่ทราบว่าเงินไปไหนหมด ตั้งแต่ร้อยเชิงมาอยู่กับผมพบว่า มีปัญหาเรื่องเงินมานานแล้ว พยายามช่วยทุกอย่าง แต่ไม่คิดว่าจะมาโดนแบบนี้ รู้สึกเสียใจ แต่เชื่อว่านักมวยไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนี้ทุกคน คนดียังมีอยู่ นายธัชนนกล่าว,ส่วน พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ กล่าวว่า ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการกีฬาทุกวงการ ควรตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการทำให้วงการกีฬาเสื่อมเสีย โดยเฉพาะวงการมวยไทยอันเป็นกีฬาประจำชาติ และเป็นกีฬาที่แสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย ทุกคนควรอนุรักษ์และสืบสานศิลปะการต่อสู้ให้อยู่คู่ประเทศชาติ หากบุคคลใดยังมีพฤติการณ์จ้างล้มมวยรวมถึงกีฬาชนิดอื่น ให้ยุติการกระทำทันที หากตรวจพบจะเข้าไปดำเนินการทุกคดี ผู้มีเบาะแสหรือพยานหลักฐานแจ้งได้ที่เฟซบุ๊ก บก.สส.บช.น. หลังจากนี้จะสอบสวนผู้ต้องหาอย่างละเอียดเพื่อขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการต่อไป | สืบนครบาลจับ ร้อยเชิง สิงห์มาวิน นักมวยดัง วิกราชดำเนิน หลังรับเงิน 6 หมื่นบาทล้มมวย พร้อมออกหมายจับ เซียนเอก คนจ้าง งานนี้เจ้าของค่ายแจ้งจับนักมวยตัวเองเพราะทนไม่ไหว | ข่าว,ทั่วไทย | ร้อยเชิง สิงห์มาวิน,เซียนเอก,ล้มมวย,ธัชนน คชาสุวรรณ,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1482018 |
รายได้แผ่นดิน | หากเก็บไว้นานอาจเกิดปัญหาในอนาคต ,พ.ต.อ.ธีระ เถระพัฒน์, ผกก.สน.ท่าข้าม จึงทำหนังสือถึง ,พล.ต.ต.กัมปนาท โสภโณดร, ผบก.น.9 ในขณะนั้นขออนุมัติส่งของกลางจำหน่ายขายทอดตลาด,หลังจากศาลแขวงธนบุรีมีคำพิพากษา ,ริบของกลาง, เป็นรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 83-8763 สมุทรปราการ และรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 83-8813 สมุทรปราการ ที่ถูกจับเมื่อปี 2560 ข้อหา ,บรรทุกน้ำหนักเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด,อาศัยอำนาจตามประมวลระเบียบการตำรวจเกี่ยวกับคดีตามขั้นตอน,ต่อมา ผบก.น.9 ลงนามอนุมัติตามหนังสือพร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการขายทอดตลาดรถบรรทุกของกลางทั้ง 2 คัน ประกอบด้วย ,พ.ต.ท.ทองคูณ แกมขุนทด, รอง ผกก. (สอบสวน) หัวหน้างานสอบสวน สน.ท่าข้าม เป็นประธาน ,พ.ต.ท.ทศพล ปานกัน, สว. (สอบสวน) สน.ท่าข้าม และ ,ร.ต.อ.ธรรญธร รัศมี, รอง สว. (สอบสวน) สน.ท่าข้าม เป็นกรรมการ,มีประกาศการจำหน่ายขายทอดตลาดเมื่อวันที่ 13 ก.ย.62 เวลา 10.00-12.00 น. ผู้เข้าร่วมประมูลจำนวนทั้งสิ้น 52 ราย ตั้งราคาประเมินคันแรก 633,333 บาท ส่วนอีกคันราคา 550,000 บาท,ช่วงเวลาแค่ครึ่งวัน ผู้ร่วมประมูลขับเคี่ยวกันเสนอราคาไม่มีการ ฮั้ว แบบยกมืออย่างเข้มข้น,สรุปยอดคันแรกได้เงินสูงถึง 1,330,000 บาท ขณะที่ อีกคันได้ 1,060,000 บาท,เจ้าของรถที่เข้าร่วมประมูลด้วยแต่สู้ราคาไม่ได้ยังเข้ามาจับมือแสดงความยินดี ,พ.ต.อ.ธีระ เถระพัฒน์, ยอมรับการทำงานอย่างตรงไปตรงมา,คือความภาคภูมิใจของนายตำรวจหนุ่มที่สามารถหา ,รายได้ แผ่นดิน, ส่งให้แก่หลวงรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,390,000 บาท,นำร่อง โมเดลต้นแบบ ให้โรงพักอื่นเอาไปต่อยอดได้ไม่ยาก.,สหบาท | มองความสำคัญในเรื่องของกลางที่ยึดเป็นทรัพย์สินหลวง หากเก็บไว้นานอาจเกิดปัญหาในอนาคต พ.ต.อ.ธีระ เถระพัฒน์ ผกก.สน.ท่าข้าม จึงทำหนังสือถึง | null | ของกลาง,ยึดทรัพย์,รายได้แผ่นดิน,ขายทอดตลาด,สิบล้อ,ส่องตำรวจ,สหบาท | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1677160 |
สช. ดัน ภาครัฐและประชาชนร่วมใจพัฒนาสู่ประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผล | หน่วยงานรัฐหลายฝ่าย ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาสู่ประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผล โดยชุมชนเป็นศูนย์กลาง ครอบคลุมทั้งการพัฒนาตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ มุ่งหวังให้คนไทยปลอดภัยจากการใช้ยา และสามารถพึ่งตนเองดูแลความเจ็บป่วยเบื้องต้นของตนเองได้อย่างเหมาะสม15 ก.ค. 2563 วันที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมาในการประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ซึ่งมีคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลเป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบต่อแนวทางการดำเนินงานของหน่วยงานตามแผนปฏิบัติการเพื่อพัฒนาสู่ประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผล พ.ศ.2563– 2565ซึ่งครอบคลุมการพัฒนา ตั้งแต่ระบบการกำกับดูแลด้านยา (ต้นน้ำ) ผู้ประกอบวิชาชีพและสถานบริการสุขภาพ (กลางน้ำ) และ ประชาชน ครอบครัวและชุมชน (ปลายน้ำ) ทั้งการใช้ยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์ วัคซีน ยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทที่ใช้เพื่อการรักษา ยาสมุนไพร/ยาแผนโบราณ และยาสำหรับสัตว์ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มุ่งหมายใช้เป็นยานพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภาคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลและประธานอนุกรรมการฯ กล่าวว่า การใช้ยาไม่สมเหตุผลที่เกิดขึ้นทั้งในสถานพยาบาล ร้านขายยา และชุมชน เป็นปัญหาของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งสอดคล้องกับองค์การอนามัยโลกที่กล่าวไว้ว่า มากกว่าร้อยละ 50ของการจ่ายยาและการขายยาในประเทศกำลังพัฒนาเป็นไปอย่างไม่สมเหตุผล และเนื่องจากการใช้ยาไม่สมเหตุผลส่งผลเสียต่อสุขภาพและการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของประชาชน รวมถึงการเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านยาของประเทศ ทั้งนี้ใน พ.ศ.2561ค่าใช้จ่ายด้านยา คิดเป็นร้อยละ 44ของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ซึ่งสูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งมีค่าใช้จ่ายด้านยาเพียงร้อยละ 10-20ของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ จึงมีมติเห็นชอบการพัฒนาสู่ประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผล ตั้งแต่ธันวาคม ๒๕๖๑ และมอบหมายคณะอนุกรรมการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ดำเนินการให้เป็นไปตามมติประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผล หรือเรียกว่า Rational Drug Use country (RDU country)มีเป้าหมายให้การใช้ยาอย่างสมเหตุผลเป็นบรรทัดฐานของสังคมไทย เป็นสิทธิพื้นฐานของคนไทย และเป็นมาตรฐานด้านคุณภาพบริการสุขภาพ เพื่อคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีจากการมีสุขภาพดี และประเทศมีระบบสุขภาพที่มั่นคงและยั่งยืนอนึ่ง ยุทธศาสตร์การพัฒนาสู่ประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผล มีกระบวนการพัฒนานโยบายอย่างมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนอย่างกว้างขวางและต่อเนื่องทั้งในระดับผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงกระบวนการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 12พ.ศ.2562โดยมีสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) และภาคีเครือข่ายร่วมผลักดัน และมีมติสนับสนุนการดำเนินงานสู่RDU countryยุทธศาสตร์การพัฒนาสู่ประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผล ประกอบด้วย 6กลยุทธ์ ได้แก่ 1) พัฒนาระบบกลไกกำกับดูแลด้านยา เพื่อการใช้ยาอย่างสมเหตุผล 2) พัฒนาระบบบริการสุขภาพทั้งรัฐและเอกชนทุกระดับ รวมทั้งบริการสุขภาพของประชากรเฉพาะกลุ่ม (เช่น พระสงฆ์ ลูกจ้างในโรงงาน ผู้ถูกคุมขังในทัณฑสถาน) ให้มีการใช้ยาอย่างสมเหตุผล 3) พัฒนาการผลิตและพัฒนากำลังคนเพื่อการใช้ยาอย่างสมเหตุผลของวิชาชีพด้านสุขภาพ 4) ออกแบบและพัฒนาระบบสุขภาพชุมชนเพื่อการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ทั้งในเขตเมืองหลวง เขตเมือง และเขตชนบท รวมพื้นที่ชายแดน 5) บูรณาการการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพ ทั้งระบบการศึกษา และกลไกการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ ทั้งระดับองค์กรและชุมชน และ 6) พัฒนากลไกบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ยุทธศาสตร์ดังกล่าว สอดคล้องตามเป้าหมายของแผนแม่บทการเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดีของยุทธศาสตร์ชาติ 20ปีในยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวกับประชาชน ภาครัฐจะบูรณาการแนวคิดการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในระบบการศึกษา และการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพของประชาชน อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้มอบหมายให้มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) เป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับเครือข่ายผู้ป่วย องค์กรพัฒนาเอกชน และภาคประชาชน จัดทำข้อเสนอบทบาทของภาคประชาชน และข้อเสนอบทบาทภาครัฐในการสนับสนุน เครือข่ายดังกล่าว เพื่อขับเคลื่อนสู่ประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผล ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จะเป็นหน่วยงานสำคัญที่จะเชื่อมโยงประสานกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลนอกจากนี้ นพ.พิสนธิ์ จงตระกูลประธานคณะทำงานสร้างความเข้มแข็งประชาชนด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (สยส.) กล่าวว่า นอกเหนือจากการจ่ายยาและการขายยาอย่างไม่สมเหตุผลแล้ว องค์การอนามัยโลกยังระบุว่ามากกว่า ครึ่งของผู้ใช้ยายังไม่สามารถใช้ยาได้อย่างถูกต้องอีกด้วยการซื้อยาใช้ด้วยตนเองของประชาชนโดยขาดความรู้ ความเข้าใจ นำความเจ็บป่วย ความทุพพลภาพ และการเสียชีวิต มาสู่ประชาชนจำนวนมากในแต่ละปี เช่น กรณียาชุดแก้ปวด ที่ทำให้เลือดออกในทางเดินอาหาร ไตวาย ความดันเลือดสูงขึ้น หัวใจวาย หัวใจล้มเหลว และเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตจากเส้นเลือดสมองอุดตัน ยาชุดแก้อักเสบ (ฆ่าเชื้อ) ทำให้ซ้ำเติมปัญหาเชื้อดื้อยาที่เป็นวิกฤติอยู่แล้วในปัจจุบันให้ยิ่งเลวลง ยาแก้ปวดไมเกรนทั้งกลุ่มเอ็นเสดที่ก่อปัญหาเดียวกันกับยาชุดแก้ปวด และกลุ่มเออร์กอตที่อาจทำให้ขาดเลือดไปเลี้ยงที่ปลายมือ ปลายเท้า จนต้องตัดนิ้ว มือ หรือเท้า และบางคนก็เสียชีวิตลง การซื้อยาอันตรายจึงต้องซื้อจากร้านขายยาที่มีเภสัชกรอยู่ปฏิบัติงานเท่านั้นเพื่อให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้ยาคนไทยทุกคนสามารถมาร่วมสร้างบรรทัดฐานใหม่ (new normal) เพื่ออาร์ดียูได้โดยยึดหลักว่าความเจ็บป่วยเป็นทุกข์ซึ่งมีสมุทัยคือสาเหตุของการเกิดโรค การแก้ไขต้องเริ่มจากเหตุเพื่อนำไปสู่ความสุขทั้งกายและใจ เริ่มจากการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมเพื่อไม่นำโรคเอ็นซีดี เช่น เบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันเกาะตับ โรคเกาต์ โรคไต ตลอดจนโรคจากการสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การใช้สารเสพติด มาสู่ตน รวมไปถึงการนำบุตรหลานและบุคคลในครอบครัวไปรับวัคซีนต่าง ๆ ตามระยะเวลาที่กำหนด การกระทำเช่นนี้จะลดโอกาสป่วย ลดความจำเป็นในการใช้ยาลงได้อย่างมหาศาล แต่เมื่อเจ็บป่วยก็ต้องทำความรู้จักกับยาที่ได้รับและตั้งใจที่จะใช้ยานั้นอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องตามคำสั่งของแพทย์ ไม่หยุดยาเอง ไม่เลือกกินหรือไม่กินยาบางชนิด เมื่อมีข้อสงสัยเกี่ยวกับยาที่ใช้หรือไม่ประสงค์จะใช้ยาต่อต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เมื่อไปพบแพทย์ไม่ว่าจะเจ็บป่วยด้วยโรคใดแม้แต่โรคหวัด ไอ เจ็บคอ ก็ควรนำยาที่ใช้อยู่ไปด้วยเสมอเพื่อให้ผู้รักษาทราบปัญหาเดิมที่เป็นอยู่ ช่วยให้เลือกยาได้เหมาะสมมากที่สุดและป้องกันการใช้ยาซ้ำซ้อน การไปรับยาตามนัดก็ควรนำยาเดิมไปด้วย เพราะหากยาใดเหลือมากผู้รักษาจะได้สอบถามถึงเหตุผลและหาทางแก้ไขปัญหาให้ เช่น ฉลากยากำหนดให้ใช้วันละ 3ครั้งแต่ผู้ป่วยอาจใช้เพียงวันละ 1ครั้งเพราะไม่ได้อ่านฉลากยาหรือใช้ผิดด้วยความเข้าใจคลาดเคลื่อนอย่างใดอย่างหนึ่ง หากยาใดไม่ต้องใช้ต่อแล้วหรือมีการปรับขนาดยาผู้รักษาสามารถสื่อสารกับประชาชนได้ง่ายขึ้นด้วยยาเดิมที่นำไปยังโรงพยาบาล ผู้ป่วยบางรายมียาบางชนิดเหลือมากกว่า 1 พันเม็ดในกรณีนี้หลังทำความเข้าใจถึงความจำเป็นในการใช้ยาแล้ว แพทย์ก็ไม่ต้องสั่งยาเดิมเพิ่มเติมไปอีก รอไว้สั่งในครั้งต่อ ๆ ไปที่ยาใกล้หมด ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่ายาเหลือที่สะสมไว้โดยไม่ได้ใช้ของประชาชนรวมทั้งประเทศมีจำนวนและมูลค่ามหาศาล ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองค่ายาไปโดยเปล่าประโยชน์ตัวชี้วัดที่บ่งถึงความสำเร็จของRDU Countryคือความรอบรู้ของประชาชนด้านยาและสุขภาพเพียงพอที่จะเกิดพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วยวิธีการที่ไม่ต้องใช้ยา เมื่อใช้ยาก็ใช้อย่างถูกต้อง ทั้งด้านขนาดยา วิธีใช้ยา ความถี่ และระยะเวลาการใช้ ไม่หยุดยาเองเพราะเพื่อนบ้านแนะนำ ไม่มียาเหลือสะสมไว้เป็นจำนวนมาก รู้จักอันตรายของยาที่ช่วยให้หลีกเลี่ยงผลข้างเคียงบางประการของยาได้ ไม่ซื้อยาปฏิชีวนะใช้เอง สามารถป้องกันตนเองจากการขายหรือจ่ายยาปฏิชีวนะเกินจำเป็นจากร้านขายยาและสถานพยาบาลได้ การขายยาอันตรายที่ร้านชำในหมู่บ้าน และรถเร่ และการโฆษณาขายยาและอาหารเสริมอย่างผิดกฎหมายจากช่องทางต่าง ๆ ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ สื่อออนไลน์ต่าง ๆ ยุติลง และยาชุดหมดไปจากประเทศไทย | หน่วยงานรัฐหลายฝ่าย ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาสู่ประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผล โดยชุมชนเป็นศูนย์กลาง ครอบคลุมทั้งการพัฒนาตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ มุ่งหวังให้คนไทยปลอดภัยจากการใช้ยา | สังคม,คุณภาพชีวิต | RDU Country,ประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผล,คณะอนุกรรมการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล,สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ,นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา,นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล | https://prachatai.com/journal/2020/07/88592 |
ชาวไทใหญ่ในเชียงใหม่ เตรียมจัดคอนเสิร์ตระดมทุนช่วยน้ำท่วม 28 - 30 ต.ค. นี้ | เครือข่ายพี่น้องชาวไทใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่จากหลายกลุ่มองค์กรรวมตัวกันจัดงานเพื่อระดมทุนและรับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในประเทศไทย โดยใช้ชื่องานว่า งานคอนเสิร์ต: พี่น้องไทยใหญ่รวมใจ ช่วยภัยน้ำท่วม งานมีกำหนดจัดขึ้นที่วัดป่าเป้า ถ.มณีนพรัตน์ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีการเชิญศิลปินนักร้องชื่อดังจากรัฐฉานหลายคนมาร่วมแสดง อาทิ จายอ่องทีคำ จายหาญแลง นางหลาวหลาว นางแสงอ่อน นางหลานน และมีนักร้องนักดนตรีจากกลุ่มเยาวชนไทใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ร่วมแสดง งานนี้จะมีการเก็บค่าผ่านประตูเข้าชมคนละ 50 บาท ต่อคืน และภายในงานจะมีการตั้งโต๊ะรับบริจาคสิ่งของต่างๆ ด้วย ส่วนรายได้จากการจัดงานหลังหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจะมอบให้กับหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อไป เมื่อปีที่ผ่านมา (2553) เครือข่ายพี่น้องชาวไทใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดงานคอนเสิร์ตลักษณะนี้ แล้วครั้งหนึ่ง จากเหตุหลายพื้นที่ของประเทศไทยขณะนั้นเกิดภาวะวิกฤตน้ำท่วมหนัก ซึ่งชาวไทใหญ่เห็นว่าผู้ประสบภัยได้รับความเดือดร้อน ชาวไทใหญ่ที่อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยจึงสำนึกอยากมีส่วนร่วมในการให้ความเหลือและจึงได้รวมตัวกันจัดงานขึ้น โดยการจัดงานครั้งนั้นสามารถระดมเงินทุนได้กว่า 1.2 แสนบาท และได้นำไปมอบให้กับเทศบาลนครเชียงใหม่ส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำหรับรายละเอียดการจัดงานระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จัดโดยเครือข่ายพี่น้องชาวไทใหญ่จังหวัดเชียงใหม่ครั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณชัยยะ 087-1906928 คุณอานไตย 080-1257474 ชมภาพ / อ่านข่าวย้อนหลังได้ที่ http://www.khonkhurtai.org/ \คนเครือไท\ เป็นศูนย์ข่าวภาคภาษาไทยเครือข่ายสำนักข่าวอิสระไทใหญ่ หรือ สำนักข่าวฉาน (SHAN – Shan Herald Agency for News) มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในรัฐฉาน สหภาพพม่า ตลอดจนตามแนวชายแดนไทย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรการเมือง / การทหารกลุ่มใด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ [email protected] หรือ ติดตามอ่านข่าวสารภาคภาษาอังกฤษได้ที่ www.shanland.org ภาคภาษาไทใหญ่ที่ www.mongloi.org และภาคภาษาไทยที่ www.khonkhurtai.org | เครือข่ายพี่น้องชาวไทใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่รวมตัวกันเตรียมจัดงานคอนเสิร์ต 3 วัน 3 คืน เพื่อระดมทุนและรับสิ่งของบริจาคนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในไทย ในวันที่ 28-30 ตุลาคม 2554 นี้ | คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ | การช่วยเหลือน้ำท่วม,น้ำท่วม,พม่า,รัฐฉาน,ไทใหญ่ | https://prachatai.com/journal/2011/10/37593 |
เดินหน้า กัญชา เล็งปลูกเป็นไร่ใน ลุ่มนํ้าภูพาน ชู 4 ตํารับยาไทย | ตามตำนานเล่าขานว่า เป็นแหล่งกำเนิดกัญชาทันที เมื่อกฎหมายปลดล็อก แต่หวั่นหากปลดล็อกแล้วเข้มงวดมากไปไทยจะเสียเปรียบเพราะอาจนำเข้าหรือผลิตโดยต่างประเทศทั้งหมด,ผู้ป่วยมีลุ้นตำรับยาไทยที่มีส่วนผสมจากกัญชา โดยเมื่อวันที่ 22 ต.ค. นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงการใช้กัญชาในตำรับสมุนไพรไทยว่า ปัจจุบันกัญชายังไม่มีการปลดล็อกทางกฎหมาย จึงมีการยกเลิกการใช้กัญชาเป็นส่วนผสมแบบดั้งเดิมไปหลายตำรับ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกำลังมองว่ากัญชาที่จะนำมาใช้จะดำเนินการอย่างไร เจ้าของเรื่องหลักคือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขณะเดียวกัน นพ.โสภณ เมฆธน ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข ก็ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้ บูรณาการทุกส่วน ทุกกรมที่เกี่ยวข้อง ส่วนกรมการแพทย์แผนไทยฯ จะเสนอ 4 ตำรับยาที่มีกัญชาผสมเพื่อศึกษาและดูผลจากการรักษาต่อไป,ด้าน นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ ผอ.สถาบันการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า สำหรับ 4 ตำรับ ประกอบด้วย 1.ตำรับศุขไสยาศน์ มีสรรพคุณช่วยให้นอนหลับสบาย แก้ปวด เจริญอาหาร นำมาใช้ทดแทนหรือเสริมกับยาแผนปัจจุบันในกลุ่มยานอนหลับ ยาคลายเครียด 2.ตำรับทำลายพระสุเมรุ มีฤทธิ์ช่วยแก้อาการแข็งเกร็งจากอัมพฤกษ์อัมพาตได้ 3.ตำรับน้ำมันสนั่นไตรภพ เป็นตำรับของวัดโพธิ์ ช่วยเรื่องท้องมานท้องบวม คลายลมในท้อง ท้องอืดจากโรคมะเร็งตับ และ 4.ตำรับทัพยาธิคุณ ช่วยเรื่องโรคเบาหวาน ลดน้ำตาล เนื่องจากทางแพทย์แผนไทยจะมองว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นกลุ่มที่เรียกว่า กษัย ตัวนี้จะช่วยได้ ทั้งนี้ 3 ตำรับเป็นสูตรยารับประทาน ลักษณะแคปซูล หรือยาลูกกลอนยกเว้นตำรับสนั่นไตรภพ เป็นน้ำมันสำหรับทาบริเวณท้อง,เมื่อถามถึงแนวคิดปลดล็อกกัญชาด้วยการให้ อย.พิจารณาปรับจากยาเสพติดประเภท 5 เป็นประเภท 2 จะมีผลต่อสูตรตำรับแพทย์แผนไทยหรือไม่ ที่ใช้ ดอก ยอด ใบ นพ.ขวัญชัยกล่าวว่า ขณะนี้กำลังพิจารณา แต่ของเดิมแม้จะใช้ดอก ยอด ใบ แต่ก็จะเอามาต้มเป็นสารสกัดน้ำ เป็นยาต้มบรรจุขวด หรือสกัดจากแอลกอฮอล์ หรืออาจสกัดในรูปผง และนำมาบรรจุเป็นแคปซูล แต่ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหนก็จะถูกควบคุมโดย อย.ทั้งหมด ระหว่างนี้กรมมีแผนปลูกกัญชาสายพันธุ์ไทยบริเวณเชิงเขาภูพาน เป็นตำนานดั้งเดิมที่มีการระบุไว้ว่าเป็นแหล่งต้นกำเนิดของกัญชา จะอยู่บริเวณลุ่มน้ำสงคราม จ.นครพนม สกลนคร และมุกดาหาร เบื้องต้นได้ประสานมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร ในการขอใช้พื้นที่ 2 ไร่ เพื่อปลูกในระบบควบคุม เพื่อนำมาเป็นสูตรตำรับยาแพทย์แผนไทยในอนาคตเมื่อกัญชามีการปลดล็อก,สิ่งหนึ่งที่กังวลคือ หากมีการเข้มงวดมากจะกลายเป็นว่าสารสกัดยาเสพติดประเภท 2 จะเป็นสารสกัดที่นำเข้าหรือผลิตโดยต่างประเทศทั้งหมด เพราะประเทศไทยยังไม่มีอุตสาหกรรมหรือโรงงานที่ทำได้ ซึ่งจะทำให้เราเสียเปรียบ จากนี้จะมีการเก็บข้อมูลเรื่องกัญชาเป็นสารเสพติด จะมีการติดตามผลเมื่อจ่ายผู้ป่วยไปแล้วมีการติดหรือไม่ ซึ่งจะศึกษาในผู้ป่วย 100 ราย และหากมีผลที่ดีคือมีสรรพคุณที่ดีปลอดภัยไม่ทำให้เสพติด ก็จะขยาย โดยการเก็บข้อมูล 1,000 ราย หากผลดีก็จะต่อยอดไปขึ้นในทะเบียนบัญชียาหลักแห่งชาติ ของแพทย์แผนไทย เพื่อให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งต้องรอปลดล็อกก่อน นพ.ขวัญชัยกล่าว,ภญ.คลิชา ชั่งสิริพร เภสัชกรประจำ รพ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ในตำรับสมุนไพรมีหลายชนิด ที่มีกัญชาเป็นหนึ่งในส่วนประกอบ แต่ต้องตัดออกเพราะกฎหมายไม่อนุญาต แต่ก็ไม่มีการศึกษาเปรียบเทียบว่าพอตัดกัญชาออกไปแล้วทำให้ประสิทธิภาพของยา ลดลงหรือไม่ ไม่มีการเปรียบเทียบว่าหากมีหรือไม่มี แบบไหนมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน ส่วนที่ยังติดล็อกทางกฎหมายอยู่นั้น ก็เป็นเรื่องของนโยบาย ต้องรอลุ้นว่าผู้ใหญ่จะปลดล็อกได้หรือไม่ ก็ต้องรอดูว่าจะเป็นข่าวดีของวงการแพทย์หรือไม่ | กรมแพทย์แผนไทยเตรียมขอศึกษา 4 ตำรับยาไทยมีกัญชาเป็นส่วนประกอบ มี 1 ตำรับเป็นสูตรยาทาของวัดโพธิ์ ชี้พร้อมเดินหน้าใช้พื้นที่ 2 ไร่ มทร.อีสาน วข.สกลนคร ปลูกกัญชาสายพันธุ์ไทยแถบลุ่มน้ำภูพาน | ข่าว,ทั่วไทย | กัญชา,ปลูกกัญชา,กรมแพทย์แผนไทย,ยาวัดโพธิ์,ข่าวหน้า1,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/local/1401561 |
ติง พ.ร.บ.สงฆ์ คนทำไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ทำ | พระครูปลัดกวีวัฒน์ กังวล พ.ร.บ.คณะสงฆ์ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบของ สนช. 3 วาระรวด ติงไม่เชิญตัวแทนของ มหาเถรสมาคม เข้าไปเป็นผู้ประสานงานยกร่างเหมือนการแก้ไข พ.ร.บ.สงฆ์ในอดีต เกรงจะเข้าทำนอง คนทำไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ทำ อาจเลยเถิดทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่าง ธรรมยุต และ มหานิกาย เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ,กรณีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 84 คน นำโดย พล.ต.อ.พิชิต ควรเดชะคุปต์ ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปวัฒนธรรม เข้าชื่อเสนอแก้ไขมาตรา 7 พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 ประเด็นการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช จากเดิมที่ต้องผ่านความ เห็นชอบจากมหาเถรสมาคม (มส.) เปลี่ยนเป็นให้พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช และให้นายกรัฐมนตรีลงนามรับสนองพระบรมราชโองการได้เลย โดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบของ มส. ต่อมาในที่ประชุม สนช.ลงมติเห็นชอบร่างแก้ไข พ.ร.บ.สงฆ์มาตราดังกล่าว 3 วาระรวด ทำให้เกิดกระแส ต่อต้านออกมาจากหลายฝ่าย อาทิ พระเมธีธรรมาจารย์ (เจ้าคุณประสาร จนฺทสาโร) และ น.อ.(พิเศษ) คัมภีร์ คัมภีรญาณนนท์ เลขาธิการพรรคอธิปไตยปวงชนชาวไทย ในนามผู้แทนองค์กรพุทธ 48 องค์กรตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น,ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. พระครูปลัดกวีวัฒน์ รองเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านร่างแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. เมื่อย้อนดูเส้นทางการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ตั้งแต่ พ.ศ.2505 พ.ศ.2535 จนถึงปัจจุบัน เห็นได้ว่าเกิดขึ้นในรัฐบาลที่มาจากทหาร อย่างไรก็ตามเชื่อว่าสุดท้ายแล้วเมื่อ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ฉบับแก้ไข พ.ศ.2559 ประกาศใช้ทุกฝ่ายจะรับปฏิบัติ แต่ศูนย์พิทักษ์ฯมีความกังวลและห่วงใยอยู่ 2 ประเด็นคือ เรื่องของธรรมเนียมการปฏิบัติระหว่างฝ่ายอาณาจักรกับฝ่ายศาสนจักรในการเสนอแก้กฎหมายของคณะสงฆ์ หากย้อนกลับไปศึกษาดูจะพบว่า คณะกรรมการยกร่างพระราชบัญญัติในอดีตที่เกิดสมัยรัฐบาลรัฐประหารเช่นเดียวกับสมัยนี้ หรือกฎหมายอื่นใดที่จะต้องเกี่ยวข้องการคณะสงฆ์ไทย การยกร่างนั้นจะต้องมีผู้แทนของคณะสงฆ์ นั่นคือผู้แทนของมหาเถรสมาคม (มส.) ไปเป็นที่ปรึกษาร่วมพิจารณาเมื่อยกร่างกฎหมายแล้วเสร็จ ผู้แทนมหาเถรสมาคมจะต้องทำรายงานเสนอ มส.รับทราบ,ถ้ามีข้อท้วงติง มส.จะแจ้งผู้แทนไปดำเนินการประสานแก้ไข แต่การเสนอแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ครั้งนี้ กลับไม่มีการประสานงานระหว่างผู้แทนของฝ่ายบ้านเมืองคือ สนช.กับคณะสงฆ์คือ มส. จนทำให้มีผู้ไปวิจารณ์ว่า กฎหมายดังกล่าวคล้ายกับอะไรบางอย่างที่คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ เพราะคนร่างไม่ได้เป็นผู้ถูก บังคับใช้กฎหมาย และผู้ถูกบังคับใช้กฎหมายกลับไม่ได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขกฎหมาย อาจส่งผลต่อความไว้วางใจต่อกันระหว่างฝ่ายสงฆ์กับฝ่ายบ้านเมืองในวันข้างหน้า รองเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยกล่าว,พระครูปลัดกวีวัฒน์กล่าวต่อไปว่า ประเด็นที่ 2 คือเรื่องความสามัคคีของคณะสงฆ์ไทยในปัจจุบัน ประกอบด้วยคณะสงฆ์มหานิกายประมาณ 3 แสนรูป และคณะสงฆ์ธรรมยุตประมาณ 3 หมื่นรูป ที่ผ่านมามองว่า อำนาจคณะสงฆ์อยู่ในฝ่ายของคณะธรรมยุต แม้ในทางปฏิบัติคือ ตั้งแต่พระมหาเถระ พระเถระถึงระดับต่างๆของทั้ง 2 คณะ ล้วนทำงานด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อยู่ภายใต้ข้อตกลง เดียวกันคือ การยอมรับในการปกครองคณะสงฆ์โดย มส.กว่าจะเดินมาจนถึงวันนี้ คณะสงฆ์ทั้งมหานิกาย และธรรมยุตต้องใช้เวลา ความจริงใจ จนสามารถก้าวข้ามปมความขัดแย้งต่างๆในอดีตมาได้ ดังที่เมื่อวันที่ 5 ม.ค.2559 ที่ประชุม มส.มีมติเสนอรายชื่อ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ สมเด็จพระราชาคณะที่มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 20 มติดังกล่าวเป็นเอกฉันท์และเป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 โดยไม่มีข้อขัดแย้งระหว่างมหานิกายและธรรมยุต,แต่ในวันนี้ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เปราะบาง เพราะด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ของ สนช. อาจนำคณะสงฆ์ไทยกลับเข้าไปสู่วังวนแห่งความขัดแย้ง นำมาสู่ความอ่อนแอของคณะสงฆ์ไทยในที่สุด หากเกิดขึ้นจริงตามที่กังวลถือว่าจะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติไทย เพราะพระพุทธศาสนานับว่าเป็นศาสนาประจำชาติของคนไทย และสถาบันศาสนายังเป็น 1 ใน 3 สถาบันหลักของชาติอีกด้วย พระครูปลัดกวีวัฒน์กล่าว | พระครูปลัดกวีวัฒน์ กังวล พ.ร.บ.คณะ สงฆ์ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบของ สนช. 3 วาระรวด ติงไม่เชิญตัวแทนของ มหาเถรสมาคม เข้าไปเป็นผู้ประสานงานยกร่างเหมือนการแก้ไข พ.ร.บ.สงฆ์ในอดีต เกรงจะเข้าทำนอง คนทำไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ทำ | null | พระครูปลัดกวีวัฒน์,แก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์,พ.ร.บ.คณะสงฆ์,สนช.,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/content/825682 |
ตู่ ท้า กกต.สอบเทงบฯ ให้คนจน ยันมีแจกอีกเพียบ | ของขวัญผู้มีรายได้ปานกลาง พท.เช็กวุ่นได้กลิ่นยุบพรรค พปชร.คึกจัด-กลุ่ม 16 แห่ซบ,บิ๊กตู่ กลัวที่ไหน ท้า กกต.สอบทุ่มงบฯมโหฬารแจกคนจน แย้มมีอีกของขวัญปีใหม่ เปย์ข้าราชการผู้น้อย-ผู้มีรายได้ปานกลางค่อนข้างต่ำ บิ๊กป้อม โยนกลับ กกต.ตัดสินเลื่อนไม่เลื่อนเลือกตั้ง หลบพัลวันไม่ตอบโต้ ทักษิณ พลังประชารัฐรับสมาชิกครึกครื้น สุชาติ นำกลุ่ม 16 มาตามนัด อ้างเหตุผลสุดเริ่ดเข้า พปชร.ยึดอำนาจคืนจากเผด็จการ กลุ่มชลบุรีซบยกก๊วน สนธยา สั่งพลังชลเว้นวรรคเปิดทางตระกูลอัศวเหมศิโรราบ ขนลูกหลานพึ่งชายคา เพื่อไทยระส่ำ หนักกระเพื่อมแรงถึงเพื่อธรรม ทักษิณ เครียดหนักปวดหัว วราเทพ ขาดคุณสมบัติแต่ขนกลุ่มกำแพงเพชรชิ่งหนี สมพงษ์ ไขก๊อกฉุนถูกสั่งแช่แข็ง พ่อมดดำ รีบทาบฟื้นกลุ่ม 16 เพื่อชาติ รวมพลอลังการดึงพ่อลูก ตระกูลสุวรรณคีรี ลุยปรองดอง จตุพร ปลุกคนไทยโชว์พลังเลือกเอา-ไม่เอา ประยุทธ์ กกต.บอกข่าวดีได้กาบัตรแน่ 24 ก.พ.62,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมินพรรคการเมืองวิพากษ์วิจารณ์ออกคำสั่ง หน.คสช.หาเหตุเลื่อนการเลือกตั้ง ยืนกรานจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.2562 ส่วนกระแสโจมตีทุ่มงบประมาณเพิ่มบัตรสวัสดิการคนจนเป็นการหาเสียงล่วงหน้านั้น พร้อมให้ กกต.ตรวจสอบ ระบุจะมีของขวัญปีใหม่อัดฉีดงบฯ แจกเงินข้าราชการชั้นผู้น้อยและผู้มีรายได้ปานกลางค่อนข้างต่ำตามมาอีก,บิ๊กตู่ นัดถกพรรคการเมือง 7 ธ.ค.,เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.,ประยุทธ์ จันทร์โอชา, นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า การนัดหารือกับพรรคการเมือง เพื่อปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม กำหนดแล้วเป็นวันที่ 7 ธ.ค. ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ส่วนการปลดล็อกอย่างไรต้องคุยกันก่อน ต้องมีการร่างกฎระเบียบให้ชัดเจน แต่จะทำให้เร็วที่สุด รัฐบาลไม่ได้มีข้อขัดแย้งอะไรเข้าใจดี บอกแล้วว่าเมื่อกฎหมายต่างๆออกมาพร้อม จะปลดล็อกอะไรตรงไหนบ้างเพื่อให้บ้านเมืองปลอดภัย ส่วนกรณี 4 รัฐมนตรีร่วมงานพรรคพลังประชารัฐ เดี๋ยวทั้ง 4 รัฐมนตรีดูกันเองว่าจะออกเมื่อไหร่แล้วแต่เขา เมื่อถามว่าหาก 4 รัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งนายกฯ จะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่ปรับแล้ว ตามกฎหมายถ้าไม่ปรับก็มีคนแทนได้,ยังยืนยันเลือกตั้ง 24 ก.พ.62,พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงความชัดเจนวันเลือกตั้งว่า ยังยืนยันเป็นวันที่ 24 ก.พ.62 ตนไปเลื่อนตรงไหนสักอันหรือยัง เห็นแต่ข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ว่ามีพรรคการเมืองร้อง กกต.ขอให้เลื่อน ส่วน คสช.ยังไม่เห็นมีใครมาร้อง เป็นเรื่องของ กกต.จะไปว่ามา ตนไม่มีส่วนตัดสินใจ ผู้สื่อข่าวถามว่าจากที่บอกสนใจงานการเมือง ตอนนี้ตัดสินใจหรือยังว่าจะมาช่องทางใด พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ยัง ตอนนี้ยังฟังไม่ครบทุกพรรคเลย เมื่อถามว่าจะสมัครสังกัดพรรคการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่ขอตอบอะไรทั้งสิ้น ขอดู กฎหมายก่อนว่าเป็นอย่างไร เขียนไว้แล้ว ถ้านายกฯจะลงไปอยู่การเมือง จะต้องไปอยู่ตรงไหน ทำอะไรได้บ้าง ต้องไปดูตรงโน้น จะมาถามอะไรเราและต้องปรึกษาฝ่ายกฎหมายว่าทำอะไรได้แค่ไหน เมื่อถามว่าคิดเข้าพรรคเพื่อเป็นสมาชิกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่จำเป็น เมื่อถามต่อว่าเมื่อไหร่จะเปิดเผยความในใจ พล.อ.ประยุทธ์ส่ายหัวปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้,ท้าสอบงบฯคนจนจ่ออัดฉีด ขรก.ผู้น้อย,เมื่อถามถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะตรวจสอบกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงินงบประมาณเพิ่ม 86,994 ล้านบาทในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตรวจสอบได้ รัฐบาลจะออกมาตรการต่างๆ เรามีกฎหมายทุกฉบับรองรับ และฝ่ายกฎหมายพิจารณารอบคอบแล้ว ดูได้ทั้งจาก พ.ร.บ.การเงินการคลัง พ.ร.บ.การใช้จ่ายงบประมาณว่าทำได้หรือไม่ ต้องมอง 2 ด้าน ที่ผ่านมามักมองด้านเดียว นี่คือการบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน ฉะนั้นอย่ามาบอกว่ารัฐบาลนี้ทำเพื่อหาคะแนนเสียง และไม่คิดว่าจะมีรัฐบาลไหนดูแลคนได้ถึง 10 กว่าล้านคนเช่นนี้ ผู้มีรายได้น้อยเขายังลำบากอยู่ ส่วนผู้สูงอายุทุกคนมีพ่อแม่ ไม่ดูแลบุคคลเหล่านี้หรือ ดูกลไกใช้งบฯ ไม่ใช่ป้อนอย่างเดียว ที่ผ่านมารัฐบาลอื่นก็ทำเช่นนี้ เพียงแต่ดูแลแค่บางกลุ่มบางฝ่ายเท่านั้น และปีใหม่ต้องมีมาตรการเข้ามาดูแลกลุ่มคนอื่นๆอีก ข้าราชการชั้นผู้น้อย คนที่มีรายได้ระดับปานกลางค่อนข้างต่ำก็ต้องดูแล มาตรการต่างๆจะทยอยออกมา,บิ๊กป้อม ดีดกลับ กกต.เคาะเลื่อน ลต.,ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.,ประวิตร วงษ์สุวรรณ, รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ กกต.โยนให้แม่น้ำ 5 สาย ตัดสินใจเลื่อนเลือกตั้งตามข้อเสนอของพรรคการเมืองขนาดเล็กว่า ถ้าพรรคเล็กทำเรื่องถึง กกต. ทาง กกต.ต้องเป็นคนตัดสินใจ ที่มาโยนให้แม่น้ำ 5 สายให้ตัดสินนั้นยังไม่ได้ประชุมกัน จึงยังไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไร ดังนั้นจะมาถามหาคำตอบจากตนได้อย่างไร เมื่อถามว่าหากเลื่อนเลือกตั้งจะส่งผลเสียต่อ คสช.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่มีการเลื่อนการเลือกตั้ง ยืนยันทุกอย่างเป็นไปตามโรดแม็ป อีกทั้งงานด้านความมั่นคงขณะนี้เรียบร้อยดี,เลี่ยงพัลวันไม่ตอบโต้ ทักษิณ,เมื่อถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ ระบุว่า ทหารที่อาสาการเมืองตรงไปตรงมา น่าชื่นชมกว่าทหารที่เข้ามาโดยการยึดอำนาจไหมครับป้อม ว่า โอ๊ย ไม่มีๆ ไม่พูดอะไรแล้ว สื่อถามกันไปมาซ้ำซาก เมื่อถามอีกว่าหลังจากได้เตือน พล.อ.ยศนันท์ หร่ายเจริญ อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดและสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ มีปฏิกิริยาอะไรหรือไม่ พล.อ.ประวิตร พยายามกล่าวตัดบทว่า ไม่มีๆ ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม เรื่องพวกนี้อย่ามาถามเลย สื่อมาถามแล้วเอาข่าวฉันไปขึ้นหน้าหนึ่งตลอด สำหรับการประชุม สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในวันนี้ ไม่มีเรื่องการเมือง เพราะการเมืองต้องทำตามโรดแม็ป ไม่มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง เป็นการประชุมเรื่องความมั่นคงปกติ,แจงเงินคนจนมานานไม่ใช่ก่อน ลต.,พล.อ.,ประวิตร, กล่าวถึงกระแสโจมตีรัฐบาลอนุมัติโครงการเงินเพิ่มเติมให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่า ที่ผ่านมาพูดไปแล้ว ที่ยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบว่าเข้าข่ายการใช้นโยบายหาเสียงหรือไม่ ให้ กกต.ตรวจสอบได้เลย ยืนยันว่าเรื่องนี้ทำมาเป็นปีแล้ว เพราะมีคนเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก ต้องหาคนที่มีรายได้น้อยจริงๆ เพื่อทำให้ประชาชนแข็งแกร่งไม่ใช่เพิ่งมาทำตอนนี้ เราทำมานานแล้ว ที่นักการเมืองวิจารณ์ว่าการให้เงินใช้จ่ายครั้งเดียวก็หมด ควรไปสร้างอาชีพจะดีกว่านั้น ฝ่ายเศรษฐกิจได้พิจารณาแล้วว่าให้แล้วจะกระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจของไทยหรือไม่ แต่เป็นการดูแลประชาชนอย่างหนึ่ง เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา คสช.เคยเปรียบนโยบายช่วยเหลือคนจนว่า ควรให้เบ็ดมากกว่าให้ปลานั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สื่อก็พูดไปเรื่อย,พ่อมดดำ ยกก๊วนกลุ่ม 16 เข้า พปชร.,ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีอดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส.สมาชิกกลุ่มการเมืองต่างๆ ยังทยอยสมัครสมาชิกพรรคอย่างคึกคัก ที่น่าสนใจ นาย,สุชาติ ตันเจริญ, แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ อดีตสมาชิกกลุ่ม 16 พร้อมบุตรชายนายศักดิ์ชาย ตันเจริญ หรือมดเล็ก รองประธานสภาจังหวัดองค์การบริหารส่วน จ.ฉะเชิงเทรา นำอดีต ส.ส.นักการเมืองท้องถิ่นสมาชิกในกลุ่มทั้ง จ.ร้อยเอ็ด สกลนคร มหาสารคาม ยโสธร มุกดาหาร นครพนม มาสมัครสมาชิก มีนายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตหัวหน้าพรรคคนไทยตามมาด้วยโดยนายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตหัวหน้าพรรคคนไทย เผยว่าวันนี้ไม่ได้มาสมัครเป็นสมาชิก มาในฐานะผู้สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ เคยประกาศไว้แล้ว ไม่เคยด่าทหารเป็นการเสนอแนะติติง,สุชาติ อ้างยึดอำนาจเผด็จการคืน,นายสุชาติ กล่าวว่า การมาร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นการยึดอำนาจคืนมาจากเผด็จการ เพื่อต้องการกลับไปสู่โหมดประชาธิปไตย หลังจากนี้จะมีแต่คำว่าประชาธิปไตย ที่เข้าร่วมไม่เกี่ยวกับคดีเพราะไม่มีคดีติดตัว สมาชิกกลุ่ม 16 มากันเยอะทั้งนายวราเทพ รัตนากร อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯและอดีต รมช. เกษตรฯ รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ แกนนำกลุ่มวังบัวบาน พรรคเพื่อไทย เชื่อว่าจะมาร่วมกับพรรค นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเทศบาลเมืองพัทยา,ไม่มีกั๊กหนุน บิ๊กตู่ เป็นนายกฯ ต่อ,เมื่อถามว่าพรรคควรเสนอชื่อบุคคลใดเป็นนายกฯ นายสุชาติ ตอบว่า แล้วแต่พรรคถ้าเป็นทหารยิ่งดีและเป็นชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ยิ่งดีใหญ่ เมื่อถามว่าจะชวนนายคชาภา ตันเจริญ หรือมดดำ บุตรชายมาช่วยหาเสียง หรือไม่ นายสุชาติ ตอบว่า ชวนหลายครั้งแล้ว ไม่รู้ว่าจะเลือกระหว่างพ่อบังคับกับ โอ๊ค นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บังคับ การเลือกตั้งครั้งนี้อาจส่งนายศักดิ์ชาย บุตรชายลงสมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา ทุกพรรคล้วนมั่นใจว่าตัวเองจะชนะ ท้ายสุดขึ้นอยู่กับประชาชน,ด้านนายศักดิ์ชาย กล่าวว่า จะลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ ต้องหารือกับพ่อก่อน เวลานี้ลงพื้นที่อยู่แล้ว มั่นใจว่าสู้ไหว กระแสตอบรับในพื้นที่ดี,กลุ่มชลบุรี-อัศวเหมไม่พลาดมาเต็ม,ส่วนกลุ่มอื่นๆที่มาสมัครเข้าพรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า นำโดยนายอัครวัฒน์ อัศวเหม อดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ ลูกพี่ลูกน้องนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าสมุทรปราการ นำสมาชิกกลุ่มกว่า 10 คน ส่วนใหญ่เป็นคนในตระกูลอัศวเหม และนายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก หรือกรุง ศรีวิไล มาสมัครสมาชิก โดยนายอัครวัฒน์ กล่าวว่า กลุ่มตนเข้าร่วมพลังประชารัฐแบบไม่มีเงื่อนไข และไม่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับคดีนายชนม์สวัสดิ์ ต่อมาเวลา 12.30 น. นายพิชญุตม์ พอจิต นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดอุตรดิตถ์ บุตรชายนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช. พร้อมนายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต ลูกเขยนายพีระศักดิ์ มาสมัครสมาชิกเช่นกัน นอกจากนี้ กลุ่มอดีต ส.ส.ชลบุรี 9 คน นำโดยนายสันต์ศักย์ จรูญงามพิเชษฐ์ อดีต รมช.สาธารณสุข ในรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกฯ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังชล พร้อมอดีต ส.ส.ชลบุรี อาทิ นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ โดยพรรคพลังชลจะไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส. ขณะที่นางรัตนา จงสุทธานามณี อดีต ส.ส.เชียงรายหลายสมัย พรรคชาติพัฒนา และอดีตนายก อบจ.องค์การเชียงราย นำสมาชิกในกลุ่มที่วางตัวลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.พื้นที่เชียงรายมาร่วมสมัครสมาชิกพรรคด้วย,วราเทพ ยกกลุ่มกำแพงเพชรทิ้ง พท.,ผู้สื่อข่าวรายงานว่าส่วนนายวราเทพ รัตนากร แกนนำกลุ่มวังบัวบาน พรรคเพื่อไทย เตรียมนำอดีต ส.ส.ในกลุ่ม จ.กำแพงเพชร เข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ โดยช่วงเย็นวันที่ 23 พ.ย. นายวราเทพได้ส่งข้อความ พรรค (พัก) ผ่อนครับ ไปยังกลุ่มเพื่อนในไลน์ มีเนื้อหาว่า ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองปัจจุบัน ผมติดปัญหาคุณสมบัติห้ามเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ส่วนตัวผมไม่ได้สังกัดพรรคเพื่อไทยมานานแล้ว ขณะที่อดีต ส.ส.กำแพงเพชร ทราบว่าเป็นความจริงที่จะลาออกจากพรรคเพื่อไทยไปสังกัดพรรคใหม่ ส่วนจะทำงานการเมืองต่อไปอย่างไรหรือไม่นั้น ขออนุญาตจะเรียนให้ทราบในโอกาสที่เหมาะสมต่อไป ตอนนี้ขอสังกัดพรรค (พัก) ผ่อนก่อนครับ,ขน 5 ชีวิตเข้าบ้านใหม่ 24 พ.ย.,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ในไลน์กลุ่มพลังประชารัฐ ได้แจ้งผู้สื่อข่าวว่า วันที่ 24 พ.ย. นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค จะต้อนรับอดีต รมต.และอดีต ส.ส.ที่จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค โดยเวลา 11.00 น. นายวราเทพ รัตนากร จะนำอดีต ส.ส. กำแพงเพชร ได้แก่ นายไผ่ ลิกค์ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ นายปริญญา ฤกษ์หร่าย นายอนันต์ ผลอำนวย และนายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ อดีต ส.ว.กำแพงเพชร รวมถึงนายเดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ บุตรชายนายบุญทรง เตริยาภิรมณ์ อดีต รมว.พาณิชย์ รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเดินทางมาสมัคร สมาชิกพรรคเช่นกัน,เพื่อธรรมเละ สมพงษ์-พงศกร ไขก๊อก,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลังดูดของนายสุชาติ แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ และอดีตกลุ่ม 16 ได้สร้างปัญหาให้กับพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถึงกับเกิดอาการเครียด เนื่องจากเกรงว่าจะหาตัวผู้สมัครที่เหมาะสมมาลงแทนไม่ทันโดยเฉพาะ จ.กำแพงเพชร ที่นายวราเทพดูแลมาตลอด จนประเมินว่าต้องสูญเสีย ส.ส.ในจังหวัดนี้ไปแน่นอน ถึงกับเปรยกับคนใกล้ชิดที่เดินทางไปพบที่ประเทศสิงคโปร์ว่า ปวดหัว นอกจากนี้ ยังเกิดปัญหาขึ้นกับพรรคเพื่อธรรม หนึ่งในพรรคเครือข่ายของนายทักษิณขึ้นอีก เนื่องจากนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค และนายพงศกร อรรนพพร เลขาธิการพรรค ลาออกจากตำแหน่งและสมาชิกพรรค โดยมีการแก้ไขแต่งตั้งให้นางนลินี ทวีสิน รองหัวหน้าพรรค ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคแทน,สุชาติ เสือปืนไวทาบเสริมพลังกลุ่ม 16,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่นายสมพงษ์ลาออกจากพรรคเพื่อธรรมเพราะถูกกำหนดบทบาทไม่ให้เคลื่อนไหวหรือส่งตัวผู้สมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า อีกทั้งนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ ผู้อยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อธรรม ถูกคำสั่งจากพี่ชายให้ลดบทบาทในเครือข่ายทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากมีกรณีการถูกคำให้การซัดทอดจากกลุ่มผู้ต้องโทษคดีทุจริตจำนำข้าวจีทูจีที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ทั้งนี้ นายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ เพื่อนสนิทนายสมพงษ์ ได้ทาบทามให้ทั้งคู่มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐทันที เนื่องจากมีความสัมพันธ์แนบแน่นกันมาตั้งแต่สมัยยุคกลุ่ม 16 ที่มีนายสมพงษ์เป็นหัวหน้ากลุ่ม 16 และนายสุชาติเป็นแกนนำ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบรับจากทั้งคู่,6 อดีต ส.ส.ปชป.ตีจากไปอยู่กับ รปช.,ที่พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) นายสุรเชษฐ์ แวอาแซ อดีต ส.ส.นราธิวาส เขต 2 นายรำรี มามะ อดีต ส.ส.นราธิวาส เขต 3 และนายอับดุลการิม เต็งกะรีนา อดีต ส.ส.ยะลา เขต 2 มาสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค รปช.โดยนายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เลขาธิการพรรค รปช.ให้การต้อนรับ นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า ตัดสินใจไม่นานที่จะมาอยู่พรรค รปช. เพราะนายสุเทพเป็นบุคคลที่พวกเราเคารพในความคิดและอุดมการณ์ พวกตนนำร่องมาก่อน ยังมีนายเจะอามิง โตะตาหยง อดีต ส.ส.นราธิวาส นายรามัน นายซาตา อดีต ส.ส.ปัตตานี ทั้ง 2 คนรวมแล้วอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ย้ายมาพรรค รปช.มีทั้งหมด 6 คน และได้ชี้แจงให้ชาวบ้านในพื้นที่แล้วว่าอุดมการณ์และความตั้งใจของเราเข้มข้นกว่าเดิม,พท.ประณามคำสั่ง คสช.ไม่ชอบ,เมื่อเวลา 10.30 น. ที่,พรรคเพื่อไทย, นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงรายและคณะทำงานติดตามร่างรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทย และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงถึงคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2561 ที่ให้ กกต.ขยายเวลาแบ่งเขตเลือกตั้งไปจนถึงวันที่ 10 ธ.ค.2561 และให้การเปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้งของ กกต.ชอบด้วยกฎหมายและถือเป็นที่สุด โดยนายสามารถกล่าวว่า คำสั่ง คสช.มีนัยการเมือง ไม่ชอบด้วยหลักกฎหมายดังนี้ 1.กกต.กำหนดรูปแบบแบ่งเขต 3 รูปแบบแต่ละจังหวัดเสร็จแล้ว เตรียมประกาศ แต่จู่ๆ คสช.ออกคำสั่งดังหัวหน้า คสช.16/2561 โดยมิได้มีการร้องขอจากฝ่ายใด จึงมีนัยทางการเมืองแอบแฝง แทรกแซงก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ กกต. 2.การแบ่งเขตเลือกตั้ง 3 รูปแบบเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนตามหลักเกณฑ์มาตรา 27 ของกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. แต่คำสั่งให้ กกต.เปลี่ยนแปลงการแบ่งเขตเลือกตั้งได้ โดยไม่ต้องทำตามกฎหมาย ส่งสัญญาณให้ กกต.ทำผิดกฎหมาย โดยไม่คำนึงถึงกฎหมายและความคิดเห็นประชาชนนับหมื่นในแต่ละจังหวัดที่เสนอความเห็นต่อการแบ่งเขตเลือกตั้ง รับรองว่าการกระทำของ กกต.ให้ชอบด้วยกฎหมาย ไม่อาจยอมรับได้,โวยแบ่งเขตช่วยผู้สมัครฝ่ายรัฐบาล,นายชูศักดิ์กล่าวว่า 3.เนื่องจากมีหัวหน้าพรรคและผู้บริหารพรรคการเมืองเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล 4 คน และรัฐบาลกับ คสช.อยู่องคาพยพเดียวกัน อาจถูกมองเอื้อประโยชน์แก่ผู้สมัครพรรคซีกรัฐบาล เพื่อชิงความได้เปรียบ 4.กกต.ต้องเป็นกลางทางการเมืองไม่ควรโอนอ่อนไปตามความเห็นของบุคคล กลุ่มบุคคลใด โดยไม่คำนึงถึงกฎหมายและระเบียบ โดยไม่ฟังเสียงของประชาชนในเขตพื้นที่ ขอเรียกร้องและให้กำลังใจต่อ กกต.ให้ปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา ยึดกฎหมายเป็นหลัก แม้ได้อำนาจมาให้กระทำการที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายได้ก็ไม่ควรทำ รูปแบบเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงไม่เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ ไม่ฟังเสียงประชาชนไม่ควรเกิดขึ้นเด็ดขาด,ฉะใช้ต่อรองบีบอดีต ส.ส.ย้ายคอก,นายชูศักดิ์กล่าวต่อว่า ขอเสนอว่าจังหวัดใดที่จำนวน ส.ส.เท่าเดิม ไม่ควรเปลี่ยนเขตเลือกตั้ง ยกเว้นเขตที่มี ส.ส.ลดลง จะมีเพียงเหตุผลเดียวคือเอื้อประโยชน์การเมือง ตั้งแต่เริ่มการเลือกตั้งเอาเรื่องแบ่งเขตมาต่อรองทางการเมือง ใครอยู่กับเราจะแบ่งเขตให้ตามเดิม ใครดื้อแพ่งแบ่งเขตให้เสียประโยชน์มากที่สุด ฟันธงว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อรองของผู้มีอำนาจ หาก กกต.จะใช้เขตเลือกตั้งนอกเหนือจาก 3 รูปแบบเดิม ได้สอบถามความเห็นประชาชนหรือไม่ ควรเล่นแบบแฟร์เพลย์ ใน 1 อำเภอถูกแบ่งเป็นหลายเขต แล้วใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว หมายเลขผู้สมัครไม่เหมือนกัน ประชาชนสับสนอยู่แล้ว หาก กกต.ทำแบบนั้นจริง ประชาชนต้องจำหมายเลขผู้สมัครให้ได้,ชี้ วราเทพ มีปัญหาคุณสมบัติ,นายชูศักดิ์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวนายวราเทพ รัตนากร อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเตรียมนำอดีต ส.ส.กำแพงเพชร ตลอดจนอดีต ส.ส.ลำปาง เชียงใหม่ ลพบุรี ย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐว่าข่าวคงสับสนไปถึงวันที่ 26 พ.ย. ที่เป็นวันสุดท้าย ที่ผู้จะลงสมัครรับเลือกตั้งต้องเข้าสังกัดพรรค หากมีเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.62 จริง ส่วนตระกูลจันทสุรินทร์ จ.ลำปาง ได้ยืนยันกับตนเมื่อเช้าวันที่ 23 พ.ย.ว่า ข่าวที่ออกมาไม่จริง ยังยืนยันอยู่พรรคเพื่อไทย เช่นเดียวกับนางทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย ขณะที่นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี โทรศัพท์มายืนยันว่ายังอยู่กับพรรคเพื่อไทย แต่ที่พอมีความชัดเจนบ้างคือ กรณีนายเดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ บุตรชายนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ มาลาออกจริง และตัวท่านได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว สำหรับนายวราเทพยังไม่เจอ แต่เรียนแบบตรงไปตรงมาว่านายวราเทพติดเรื่องคุณสมบัติความเป็นสมาชิกพรรค คุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร ส.ส. จะไม่พูดมากไปกว่านี้ แต่หลายคนใน จ.กำแพงเพชรบอกว่ายังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย หากรัฐบาลนี้ต้องการปฏิรูปการเมือง อย่าให้พรรคที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้ กลายเป็นแบบพรรคสามัคคีธรรมในอดีต,กทม.-โคราชหั่นพื้นที่ไม่เป็นธรรม,นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าขอยกตัวอย่าง จ.นครราชสีมามี 14 เขตเลือกตั้ง ได้รับผลกระทบหลายเขต ก่อนหน้านี้ได้ร้องเรียน กกต.จังหวัดกว่า 10 เขต เช่น อ.พิมายเป็นเขตใหญ่ ไม่ควรถูกแบ่งออกจากกัน แต่กลับเอา อ.พิมายมาแบ่งเป็น 3 เขตนำไปรวมกับอำเภอต่างๆ เช่น อ.โนนสูง อ.ชมพูและ อ.เฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น ขณะที่ อ.สีคิ้วเป็นอำเภอ ใหญ่ก็ถูกแบ่งเป็น 3 เขตเลือกตั้งเช่นกัน เอาไปรวม กับ อ.เมืองที่ไม่เคยอยู่เขตเลือกตั้งเดียวกันมาก่อน ทั้งที่การคมนาคมต้นทางถึงปลายทางห่างกันร่วม 100 กม.,นายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าพื้นที่ กทม.ได้ทำหนังสือโต้แย้งกับ กกต.ไปตั้งแต่เดือน ต.ค. เช่น เขตสายไหม แขวงคลองถนน ถูกเอาไปรวมกับเขตบางเขน ส่วนเขตบางเขนถูกบวกกับเขตหลักสี่ และเขตมีนบุรีเอาไปรวมกับเขตคันนายาว เท่ากับเขตบางเขน สายไหม และมีนบุรี โดนแบ่งไปหมด ถ้าแบ่งไปรวมกับ จ.ฉะเชิงเทรา จ.สมุทรปราการ ได้เขาคงทำไปแล้ว,แฉทหารบุกถ่ายภาพศูนย์ประสาน ส.ส.,นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีต ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากผู้ดูแลศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อ.นาแก จ.นครพนมว่า มีทหารมาสอบถามและถ่ายภาพศูนย์ประสานงานฯ ขณะคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย จะไปเปิดศูนย์ประสานงานฯ เพื่อรับสมัครสมาชิกพรรควันที่ 25 พ.ย. ทั้งที่มีหนังสือประสานงาน กกต.จังหวัดแล้ว ผิดหวังเหมือนเป็นพลเมืองชั้น 2 ที่ คสช.ยังมัดมือมัดเท้าพรรคต่างๆไว้ ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลเอาเปรียบ ไม่มียุคใดเอาเปรียบเท่ายุคนี้ คงเป็นครั้งแรกในโลกที่จัดการเลือกตั้งภายใต้กติกาพิสดาร อาทิ หัวหน้า คสช.กับนายกฯเป็นคนเดียวกัน มีมาตรา 44 ในมือไปถึงการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งแล้วเสร็จ หรือการที่ ครม.อนุมัติงบกว่าแสนล้านบาทจากภาษีประชาชน เป็นซานตาคลอสแจกของขวัญปีใหม่ โดยมีรัฐมนตรี 4 คนผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐ นั่งประชุม ครม.ด้วย โดยอนุมัติงบฯ ก่อนการเลือกตั้ง 94 วัน จึงไม่น่าสงสัยว่าเหตุใดรัฐบาลนี้ จึงกลัวต่างประเทศมาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง,เพื่อชาติ รวมพลคนล้นห้องประชุม,เมื่อเวลา 07.00 น. ที่ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต พรรคเพื่อชาติจัดประชุมใหญ่ เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรค มีประชาชนจากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศจำนวนทุกเพศทุกวัยเข้าร่วมกิจกรรมและสมัครเข้าเป็นสมาชิกจำนวนมากจนล้นศูนย์ประชุม ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ปกาเกอะญอ จาก จ.เชียงใหม่ เข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ยังมีดารานักแสดงมาเป็นสมาชิกพรรค อาทิ นายเสรี รุ่งสว่าง นายดามพ์ ดัสกร นายโกวิท วัฒนกุล บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก มีผู้สนับสนุนพรรคอย่าง นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เดินทักทายสมาชิกพรรคอย่างเป็นกันเอง,ดึงคนตระกูลสุวรรณคีรีลุยปรองดอง,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมมีมติเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ทั้งสิ้น 25 คน โดยนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีต รมช.พาณิชย์ เป็นหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค 7 คน อาทิ พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางลลิตา ฤกษ์สำราญ อดีตรองประธานสภาฯ นายอารี ไกรนรา แกนนำ นปช. นางบุศรินทร์ ติยะไพรัช อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย พี่สาวนายยงยุทธ นายปรียนันท์ สุวรรณคีรี บุตรชายนายอำนวย สุวรรณคีรี อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ พี่ชายนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกฯ ในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ นางลินดา เชิดชัย อดีต ส.ส.นครราชสีมาพรรคเพื่อไทย เป็นเลขาธิการพรรค นายศักดา นพสิทธิ์ อดีตเลขานุการ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ เป็นรองเลขาธิการพรรค น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง อดีตผู้ประกาศข่าวช่องสปริงนิวส์ เป็นโฆษกพรรค นายเทวกฤต พรหมมา อดีตที่ปรึกษานายกฯฝ่ายข้าราชการประจำ เป็นผู้อำนวยการพรรค กรรมการบริหารพรรคมี 7 คน อาทิ นายพรศักดิ์ ศรีละมุล แกนนำ นปช.,เช็กยิบสัญญาณยุบพรรคดิ้นถ่ายเท ส.ส.,ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยได้เกาะติดกระแสข่าวการยุบพรรค พบว่าในการประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการรายงานผลการสำรวจความคิดเห็นชาวบ้านต่อกระแสความนิยมของพรรคพลังประชารัฐ แต่ปรากฏว่ายังไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสานแทบไม่ได้คะแนน ทำให้ผู้มีอำนาจไม่พอใจอย่างมาก และอาจจะให้มีการเร่งดำเนินคดียุบพรรคเพื่อไทย ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 พ.ย.มีกระแสข่าวสะพัดในหมู่อดีต ส.ส.เพื่อไทยบางส่วนว่ามีการส่งสัญญาณไปยัง กกต.ให้เริ่มกระบวนการยุบพรรคเพื่อไทยหลังวันที่ 26 พ.ย. จากกรณีการแถลงข่าวโจมตีผลงาน 4 ปี คสช. และการครอบงำชี้นำพรรคเพื่อไทยจากบุคคลภายนอก ที่มีการรวบรวมหลักฐานไว้พร้อมแล้ว จะทำให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยที่จะลงสมัคร ส.ส.ย้ายไปสังกัดพรรคอื่นไม่ทัน ขณะที่แกนนำกลุ่มคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่เชื่อว่าจะไม่มีการยุบพรรคเกิดขึ้นยังคงวางแนวทางเบื้องต้นให้เกลี่ยอดีตผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทยที่สอบตกในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ย้ายไปลงสมัครในนามพรรคไทยรักษาชาติ ส่วนอดีต ส.ส.และอดีตผู้สมัครที่สอบตก แต่คะแนนสูสีให้รอดูสถานการณ์จนถึงวันที่ 25 พ.ย.,สงคราม สู้เพื่อคนจน-ชาติต้องมี ปชต.,นายสงครามกล่าวในที่ประชุมว่า มีคำถามว่าทำไมจึงมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อชาติเพราะปกติอยู่เฉยๆก็สบายแล้ว แต่วันนี้สังคมเรากำลังป่วย จะให้บ้านเมืองอยู่อย่างนี้ต่อไปหรือ คณะกรรมการพรรคชุดที่แล้วมาขอให้เป็นหัวหน้าพรรค ปฏิเสธไป 2-3 ครั้ง แต่เมื่อคิดแล้วก็เห็นแก่ประเทศชาติเป็นสำคัญ จึงรับปาก ทั้งหมดนั้นเราทำเพื่อชาติ และยังยืนหยัดอยู่ในระบอบประชาธิปไตยไม่เปลี่ยน แปลง จุดยืนของเรา ตนไม่ได้เกิดมาร่ำรวย แต่เริ่มต้นลงทุนครั้งแรกตอนอายุ 13 ปี ด้วยเงินเพียง 130 บาท เจอวิกฤติปี 40 แต่พยายามแก้ไขมาจนได้ วันนี้นักการเมืองไม่มีความรู้ด้านเศรษฐกิจ ตนเคยเจอ ปัญหาเหล่านี้มาก่อนรู้ว่าจะทำอย่างไรให้คนหายจน พรรคเพื่อชาติจะทำเพื่อประชาชน เพื่อคนยากคนจน ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ที่สำคัญต้องมีความเป็นประชาธิปไตยในประเทศ,ให้คนไทยจิ้มเอา-ไม่เอา ประยุทธ์,ด้านนายจตุพรกล่าวว่า มีความหวังการเลือกตั้ง ครั้งต่อไปคือจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย อยากเห็นคนใหม่ๆ ไม่ต้องอายุน้อยก็ได้ เข้ามาเป็น ส.ส. พรรคเพื่อชาติอาจมีอดีต ส.ส.ไม่มาก แต่จะประคับ ประคองสร้าง ส.ส.หน้าใหม่เข้าไปในสภาฯ ดีใจที่พรรคเพื่อชาติเลือกนายสงครามเป็นหัวหน้าพรรค 10 กว่าปีที่ผ่านมา พวกตนอาศัยห้างอิมพีเรียลต่อสู้กับเผด็จการ แต่นายสงครามไม่เคยพร่ำบ่น นักธุรกิจร่ำรวยในประเทศมีหลายคน แต่นักธุรกิจที่มีความรัก ยินยอมเคียงบ่าเคียงไหล่สู้เพื่อประชาธิปไตย เห็นแต่นายสงครามเท่านั้น คนเราเมื่อมีทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ช่วงสุดท้ายของชีวิตคือการได้ตอบแทนแผ่นดิน เกิดคือประเทศไทย นายสงครามมีความพร้อมที่จะชดใช้ให้แผ่นดินแล้ว การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้ ถึงอย่างไรการเลือกตั้งก็ต้องเกิดขึ้นภายในวันที่ 9 พ.ค. คนจะเลือกระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ตัดสินใจลงรับสมัครเลือกตั้ง จะต้องตัดสินใจว่าเอาประยุทธ์หรือไม่เอาประยุทธ์เท่านั้น,จตุพร บี้ ส.ว.ยึดตามเสียงข้างมาก,นายจตุพรกล่าวอีกว่า พรรคเพื่อชาติไม่ใช่จะไปสยบยอมให้กับเผด็จการ เพียงแต่เห็นว่าการพูดคุยระหว่างฝ่ายต่างๆต้องมี ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองก็จะเกิดวิกฤติ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ ส.ว. 250 เสียงมีสิทธิโหวตเลือกนายกฯ เราจะไม่มีพรรคใดได้เสียงเกินครึ่งอีกต่อไป ถ้าไม่มีการพูดคุยกัน แล้วเอาเสียงข้างน้อยในสภาไปจับมือกับ 250 ส.ว. บ้านเมืองก็เดินไปไม่ได้ พรรคการเมืองจับมือกันให้ตายก็ไม่ถึงครึ่งหนึ่งในสภา พรรคเพื่อชาติจึงเสนอให้มีการพูดคุยเกาะกลางนั้นก็คือให้วุฒิสภาต้องโหวตตาม ส.ส.เสียงข้างมาก ประเทศจึงจะอยู่รอดได้ ส่วนที่รัฐบาลแจกเงินสารพัด อยากแจกอะไรก็แจก เพราะเป็นเงินของประชาชน เวลาเลือกตั้งขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน เลือกตั้งครั้งต่อไปจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทุกปัญหาไม่ว่าความเหลื่อมล้ำ แก้ไขได้ด้วยการที่พี่น้องออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ใครซื้อเสียง เอาเงินมาให้รับไว้ แต่ไม่ต้องไปเลือก เมื่อมาแจกตังค์ได้ เขาต้องไปถอนทุน ก่อนรัฐประหารปี 57 มีการพูดถึงการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง แต่การกวาดต้อนนักการเมืองสีเทาเป็นการปฏิรูปใช่หรือไม่ ขอให้พี่น้องร่วมพลิกฟื้นขึ้นมา รวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว เลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อชาติจะเป็นจุดเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ ขออย่ามาใส่ร้ายกันว่าพรรคเพื่อชาติจะไปสนับสนุนเผด็จการ อย่าว่าแต่ชาตินี้เลย ชาติหน้าก็ไม่สนับสนุน,พรศักดิ์ ยันไม่ยึดโยงคนแดนไกล,นายพรศักดิ์ ศรีละมุน กล่าวว่า สำหรับนายอำนวย สุวรรณคีรี พี่ชายนายไตรรงค์ ที่มาร่วมงานกับพรรคเพื่อชาติ เนื่องจากเป็นผู้ใหญ่ที่มีภาพลักษณ์ด้านคุณธรรมจริยธรรม และไม่ขัดข้องหากจะมาช่วยงาน เพราะพรรคนี้มีแนวทางชัดเจนในการสร้างความปรองดองทำเพื่อชาติ พรรคเพื่อชาติทำงานด้วยความสบายใจไม่สำคัญจะได้ ส.ส.กี่คน และไม่ได้ยึดโยงกันคนแดนไกล เราต้องการเป็นปากเสียงช่วยประชาชนที่กำลังลำบากโดยเฉพาะพี่น้องเสื้อแดง วันนี้การทะเลาะกันทำได้ง่าย แต่การยื่นมือเพื่อสร้างความปรองดองนั้นทำยาก แต่พวกเราได้เริ่มแล้ว คนที่ออกมาโจมตีว่าพรรคเพื่อชาติจะตัดคะแนนกับพรรคเพื่อไทยนั้นไม่เป็นความจริง เราเพียงต้องการสร้างความปรองดองและขอมีที่ยืนบ้างก็เท่านั้น,ทษช.เปิดตัว 20 ดร.ลงเรือลำเดียวกัน,เมื่อเวลา 14.00 น. ที่พรรคไทยรักษาชาติ มีการเปิดตัวบุคลากร ผู้มีคุณวุฒิปริญญาเอกกว่า 20 คน มาสมัครสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ พร้อมทั้งเปิดตัวผู้สมัครสมาชิกจากพื้นที่ภาคใต้ ภาคตะวันออกกว่า 40 คน อาทิ นางพนิดา กำภู ณ อยุธยา อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย โดย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวต้อนรับสมาชิกใหม่ ระบุเชื่อมั่นว่าเรือไทยรักษาชาติลำนี้จะเป็นความหวังนำพาประชาชนหลุดพ้นจากกับดัก เดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.62 และวันที่ 24 พ.ย. พรรคจะลงพื้นที่พร้อมรถรับสมัครสมาชิกเคลื่อนที่ไปรับสมัครสมาชิกหน้าห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ เวลา 10.30-12.00 น. วันที่ 25 พ.ย.กรรมการบริหารพรรค นำโดยตน นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรค จะร่วมประชุมจัดตั้งสาขาพรรคลำดับที่ 4 ภาคใต้ ที่โรงแรมราวดี จ.นครศรีธรรมราช,นายวีระกานต์ มุสิกพงษ์ แกนนำภาคใต้ กล่าวถึงกรณีทีมภาคใต้พรรคเพื่อไทยมาอยู่กับพรรคไทยรักษาชาติ แล้วพรรคเพื่อไทยจะส่งผู้สมัครในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ว่า เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยจะพิจารณา แต่พรรคไทยรักษาชาติจะหารือเรื่องนี้ในการเปิดสาขาพรรคภาคใต้ หวังว่าจะได้ผู้สมัครทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อ,แกนนำต้าน ปู กลับใจร่วมทัพ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการเปิดรับสมัครสมาชิกเมื่อวันที่ 23 พ.ย.มีนายชยานิน คงสง แกนนำเกษตรกรชาวสวนยาง ต.ควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ที่เคยเป็นแกนนำผู้ประท้วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เรื่องราคายางภาคใต้ที่ตกต่ำ เดินทางมาสมัครสมาชิกด้วย โดยนายชยานินกล่าวว่า ในอดีตที่ประท้วงเกิดจากความรักเพื่อนร่วมอาชีพ ด้วยความซื่อทำให้ตกเป็นเครื่องมือฝ่ายเผด็จการนำไปสู่การยึดอำนาจ วันนี้เห็นถึงความเป็นจริง จึงลุกขึ้นต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ,หนูนา เนื้อเต้น ณัฐวุฒิ คัมแบ็ก,ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ อดีต ส.ส.สุพรรณบุรี กลับมาสมัครสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาอีกครั้ง หลังลาออกไปสมัครเข้าพรรคเพื่อไทยได้ระยะหนึ่ง มี น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคและนายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรค ให้การต้อนรับสวมกอดกันอย่างอบอุ่น นอกจากนี้ สองอดีตนักชกคู่แฝดชื่อดัง นายสุระ แสนคำ หรือ เขาทราย แกแล็คซี่ และนายวิโรจน์ แสนคำ หรือ เขาค้อ แกแล็คซี่ ได้มาสมัครสมาชิกพรรคลงสมัคร ส.ส.เพชรบูรณ์ น.ส.กัญจนา กล่าวว่าเราได้พี่ชายที่รักกลับสู่บ้าน ดีใจที่สุด ไม่สามารถพูดเป็นคำพูด ได้เท่ากับความรู้สึก พี่ชายหนีไปเที่ยวแป๊ปนึง วันนี้กลับบ้านแล้ว พี่น้องก็อบอุ่น บิดาของเราสองคนไม่ว่า อยู่แห่งใดถ้าทราบคงดีใจมาก จ.สุพรรณบุรี ผู้สมัครเติมเต็มแล้วเหมือนสมัยนายบรรหารอยู่ นายณัฐวุฒิกลับมาเป็นพลังให้เรา พรรคจะชนะให้ได้ทุกเขตใน จ.สุพรรณบุรี,รับย้ายกลับเพราะกระแสหึ่งยุบ พท.,ด้านนายณัฐวุฒิกล่าวว่า ช่วงเช้าได้ไปลาออกกับ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก่อนเข้าพรรค ชทพ.ผู้ใหญ่พรรคเพื่อไทยมีความเข้าใจ เหตุที่ลาออกจากพรรค ชทพ.ก่อนหน้านี้ เพราะไม่ลงตัวเรื่องผู้สมัครแบบเขต เห็นว่าเต็มแล้วจึงขยับออกไป พอลงพื้นที่ประชาชนถามว่าลาออกทำไม จึงต้องรับฟังเขาด้วย ปฏิเสธไม่ได้ว่านายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติ ทิ้งผลงานอื่นไว้มหาศาลให้คนสุพรรณบุรี ขอโอกาสกลับมาสังกัดพรรค ชทพ.อีกครั้งหนึ่ง ได้บรรยากาศเก่าๆ เราผูกพันเหมือนครอบครัวเดียวกัน เมื่อถามว่าที่ตัดสินใจลาออกจากพรรคเพื่อไทย เพราะกระแสข่าวยุบพรรคด้วยหรือไม่ นายณัฐวุฒิ ยอมรับว่าเป็นเหตุผลหนึ่ง มีส่วนพอสมควรเลยทีเดียว เชื่อว่ามันมีเชื้ออยู่ แต่จะไปถึงขั้นนั้นหรือไม่ตนไม่ทราบ คนอื่นในพรรคเพื่อไทยต้องหาฐานที่มั่นให้ตัวเองอยู่รอด ทั้งนี้ อยากได้ทั้งทีม จ.อ่างทอง และ จ.ศรีสะเกษ กลับมาเพื่อให้มาเติมเต็ม,ชพน.เชิญ สุวัจน์ ขึ้น ปธ.ที่ปรึกษา,เมื่อเวลา 09.00 น. ที่พรรคชาติพัฒนา มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เป็นครั้งแรก โดยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา แถลงว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นประธานที่ปรึกษาพรรคและมีคณะที่ปรึกษาอีก 7 คน อาทิ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตหัวหน้าพรรค ร.ต.ประพาส ลิมปะพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค พ.อ.วินัย สมพงษ์ อดีต รมว.คมนาคม จากนั้นเวลา 11.30 น. ที่บ้านนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ซอยราชวิถี 20 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ นำคณะกรรมการบริหารพรรคเข้าพบเพื่อเชิญให้เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค โดยนายสุวัจน์กล่าวว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีพรรคเปลี่ยนโฉม ได้คนรุ่นใหม่มาทำงานถือเป็นยุคใหม่ตอบสนองประชาชนที่ต้องการได้นักการเมืองรุ่นใหม่ สร้างความปรองดองไม่มีความขัดแย้งอีกต่อไป รวมทั้งนำนโยบายหันหน้าเข้าหากันและ No problem ของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกฯมาใช้ วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงรวดเร็วไปตามกระแสเทคโนโลยีใหม่ ไม่ใช่ยุค 4 จีแต่กำลังจะเป็น 5 จี คาดหวังกับคนรุ่นใหม่ แต่บางครั้งการเมืองซับซ้อน ต้องใช้ประสบการณ์มาตัดสินใจ พวกเราจึงต้องช่วยให้คำปรึกษา น่าเป็นความลงตัวที่มีทั้งคนรุ่นใหม่และรุ่นเก่า,เชื่อ ลต.ตามกรอบจี้อธิบายกติกาให้ชัด,เมื่อถามถึงโรดแม็ปการเลือกตั้ง นายสุวัจน์ กล่าวว่า ถนนทุกสายวิ่งเข้าสู่การเลือกตั้ง เชื่อว่าการเลือกตั้งจะมีตามกรอบเดิม ยังไม่มีปัจจัยที่จะทำให้เลื่อนไป การคลายล็อกน่าจะอีกไม่นานนี้ ทุกพรรคทราบกติกาเตรียมพร้อมอยู่แล้ว อยากขอให้ช่วยกันประคับประคองให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อย ยอมรับผลการเลือกตั้ง จัดตั้งรัฐบาลที่ได้รับความยอมรับจากนานาชาติ เพราะการเมืองเป็นความหวังในการแก้ปัญหาปากท้องและเศรษฐกิจ จากการพบปะกับชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจกฎหมายการเลือกตั้ง โดยเฉพาะบัตรใบเดียว การคำนวณคะแนนและการ เลือกนายกฯ กกต.ต้องรีบประชาสัมพันธ์ ทำให้ชาวบ้านเข้าใจ ส่วนพรรคจะเสนอชื่อตนเป็น 1 ใน 3 รายชื่อนายกฯหรือไม่ คงต้องประชุมหารือกันก่อนจะเสนอใครบ้าง ส่วนตัวไม่ได้อยากมีตำแหน่งอะไรทางการเมือง,แม่ค้าสุราษฎร์บ่น เทือก ขายของไม่ดี,ที่ตลาดกอบกาญจน์ ในเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) พร้อม ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรค นายธานี เทือกสุบรรณ นายเชน เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ นายอวยชัย อินทร์นาค อดีต ผวจ.สุราษฎร์ธานี เดินพบปะพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนเชิญชวนสมัครเป็นสมาชิกพรรค ระหว่างที่นายสุเทพเดินจากตลาดสดเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีไปยังตลาดศรีไชยา มีแม่ค้าบางรายตะโกนข้ามแผงว่า ลุงกำนันสู้ๆ นายสุเทพตอบกลับว่า เราต้องช่วยกัน แต่มีพ่อค้าแม่ค้าหลายรายบ่นกับนายสุเทพถึงความเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งราคายางพารา ค้าขายของไม่ดี และการจัดระเบียบแผงลอย นายสุเทพกล่าวสั้นๆว่าจะไม่ทิ้งกัน จากนั้นได้ไปสักการะศาล หลักเมืองสุราษฎร์ธานี และไปที่วัดกลางใหม่ ต่อมาเวลา 11.20 น. นายสุเทพและคณะได้เดินทางมาที่สนามข้างโรงแรมวังใต้ เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จุดรับสมัครสมาชิกพรรค นายสุเทพและแกนนำพรรคขึ้นเวทีปราศรัยตอนหนึ่งว่า ขอให้ประชาชนจำไว้พรรค รปช.จะเป็นหลักของประเทศไทยในวันข้างหน้า ขอให้มั่นใจพรรคนี้เป็นรัฐบาลแน่นอน ตนจะไม่รับตำแหน่งในรัฐบาลทั้งสิ้น ก่อนนอนตนไหว้พระขอพรขออยู่อีกสัก 10 ปี จะได้ช่วยประชาชนอีก 2-3 สมัยเพื่อทำในสิ่งที่ดี,ไพบูลย์ โวได้แน่ล้านเสียง 14 ส.ส.,นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป (ปชช.) กล่าวว่า พรรคพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ในการส่งคนสมัครเลือกตั้ง ส.ส. มีบุคคลหลากหลายวงการแจ้งความประสงค์ลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคครบทั้ง 350 เขตเลือกตั้งแล้ว แม้ไม่ใช่พรรคใหญ่แต่พร้อมเดินหน้าการเมืองรูปแบบการเมืองใหม่ ไปพร้อมกับการช่วยเหลือประชาชนที่ถูกเอารัดเอา เปรียบ คาดว่าจะได้รับความไว้วางใจเลือกคนของ พรรคมีคะแนนมากกว่าล้านเสียงแน่นอน ถ้าได้คะแนนเกิน 1 ล้านเสียงจะได้ ส.ส.เข้าสภาฯถึง 14 คน แน่นอน เราทำงานช่วยเหลือชาวบ้านมาตลอด โดยไม่ต้องทำนโยบายขายฝัน แต่ลงมือทำจริง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรมในสังคม,อนุทิน บอกพรรคเล็กไม่พร้อมรอก่อน,เมื่อเวลา 13.30 น. ที่เดอะไพน์ รีสอร์ต อ.สามโคก จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคการเมืองในนามกลุ่มสหพรรคการเมือง ยื่นหนังสือถึงประธานกกต.ขอเลื่อนวันเลือกตั้งไปเป็นวันที่ 5 พ.ค.2562 ว่า คนอื่นเขาพร้อมกันหมด ไม่พร้อมก็รอเที่ยวหน้า อย่ามาหยุดยั้ง อ้างโน่นอ้างนี่ ทุกพรรคมีเวลาเท่ากัน ไม่มีพรรคใหม่พรรคเก่า เลื่อนไปอีก 1-2 เดือนไม่มีความหมายอะไร ที่จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งหรืออ่อนแรงลง พรรคภูมิใจไทยพูดเสมอว่าพร้อมเลือกตั้งตลอดเวลา ถ้าไม่พร้อมแล้วให้รอไปขึ้นรถไฟเที่ยวหน้า อย่าทำให้คนอื่นเสียเวลา ส่วนกรณีคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2561 ที่ให้อำนาจ กกต. ขยายเวลาการแบ่งเขตเลือกตั้ง ยอมรับว่ามีสมาชิกหลายคนแสดงความกังวล ถ้าดูแล้วบางเขตไม่เหมาะสมกับตัวเองก็ไม่ต้องลงเลือกตั้ง พรรคคงไม่ไปขอให้กำหนดเขตเลือกตั้งตามใจพรรค เพราะเป็นหน้าที่ของ กกต. เราพร้อมส่งผู้ที่เหมาะสมลงต่อสู้ ไม่มีปัญหา,กกต.ตีปี๊บเลือก ส.ว.ทั่วประเทศ,เมื่อเวลา 09.15 น. ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดแถลงข่าว กกต.พร้อมจัดการเลือกตั้ง ส.ว. ชี้แจงกระบวนการเลือกตั้ง ส.ว.ต่อสื่อมวลชน โดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.กล่าวตอนหนึ่งว่าตามกระบวนการ กกต.ต้องจัดให้มีการเลือก ส.ว. คัดให้เหลือ 200 คน เพื่อเสนอให้ คสช.คัดเลือกเหลือ 50 คน คาดว่า จะเสนอให้ คสช.ได้ภายในวันที่ 2-5 ม.ค.2562 ต่อมา พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.แถลงว่า การเลือก ส.ว.สำคัญเพราะมีส่วนเลือกนายกฯ วาระเริ่มแรก 5 ปีเท่ากับมีสิทธิเลือกนายกฯ 2 สมัย ไม่อยากให้มองว่าเลือกได้ ส.ว. แค่ 50 คน แต่ใช้งบฯ 1,300 ล้านบาทไม่คุ้มค่า ส่วนการเปิดรับคำร้องการแบ่งเขตเลือกตั้งได้ถึงวันที่ 25 พ.ย. แม้จะเป็นวันหยุดราชการ แต่จะเปิดรับเรื่องร้องเรียน จากนั้นวันที่ 26-30 พ.ย. กกต.จะแบ่งเขตเลือกตั้งให้เสร็จ,เผยข่าวดีเลือกตั้งแน่ 24 ก.พ.62,เวลา 13.00 น. นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการฯ กกต.บรรยายสรุปกระบวนการขั้นตอนการเลือก ส.ว.ตอนหนึ่ง ถึงปฏิทินการเลือกตั้ง ส.ส.ว่า ยังเชื่อว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.62 ในสัปดาห์หน้า กกต.จะพิจารณาเรื่องการแบ่งเขตให้เสร็จสิ้น และในเดือน ธ.ค.จะมีข่าวดีเกิดขึ้น ขณะนี้เรื่องปฏิทินการเลือกตั้ง ส.ส.มีความชัดเจนขึ้นมาก ทุกอย่างจะเร็วขึ้นจากเดิม 2 สัปดาห์ ทุกอย่างจะเสร็จในเดือน ธ.ค.ทั้งหมดพรรคการเมืองและผู้สมัครจะมีเวลาหาเสียงมากขึ้น ถือเป็นความปรารถนาดีของผู้บริหารประเทศ คาดว่าภายในเดือน พ.ค.-มิ.ย.จะได้รัฐบาลใหม่ เมื่อถามว่าข่าวดีกลางเดือน ธ.ค.หมายถึงจะมี พ.ร.ฎ.การเลือกตั้ง ส.ส.และกำหนดวันเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายณัฏฐ์ ไม่ปฏิเสธ โดยบอกเพียงว่าให้สื่อมวลชนไปคิดเอาเอง และแนะนำให้สื่อมวลชนไปอ่านคำสัมภาษณ์ของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้ละเอียดจะเห็นภาพชัดเจน ส่วนภาคปฏิบัติได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว,คาด 14–18 ม.ค.62 เปิดรับสมัครแบ่งเขต,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สิ่งที่นายณัฏฐ์ชี้แจงน่าจะหมายถึงหลัง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้วันที่ 11 ธ.ค. และจะมี พ.ร.ฎ.การเลือกตั้ง ส.ส.จากนั้นภายใน 5 วัน กกต.จะประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง กำหนดวันรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต จำนวน ส.ส.ที่แต่ละจังหวัดพึงมี และกำหนดสถานที่ที่พรรคการเมืองจะส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อโดยทุกอย่างจะเกิดขึ้นภายในเดือน ธ.ค.ขยับขึ้นจากเดือน ม.ค.62 ทั้งนี้วันเปิดรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตคาดว่าจะยังเป็นปฏิทินเดิมคือวันที่ 14-18 ม.ค.62 ทั้งนี้ มีรายงานจาก กกต.ว่าการเลือก ส.ว.นั้น กกต.มีกำหนดส่งรายชื่อ 200 คน ให้ คสช.วันที่ 2 ม.ค.62 ส่วนการสรรหา ส.ว. คสช.กำหนดปฏิทินไว้วันที่ 9 ก.พ.62 เพื่อคัดเลือกให้เหลือ 194 คน สำรอง 50 คนจาก 400 คน และจะประกาศรายชื่อ ส.ว. 250 คน หลังประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.3 วันหรือในวันที่ 27 เม.ย.,ศรีสุวรรณ ร้อง สนช.ถอด อิทธิพร,เมื่อเวลา 10.45 น. ที่รัฐสภา นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ามายื่นหนังสือต่อนายพงศ์กิตติ์ อรุณภักดีสกุล ที่ปรึกษาด้านการเมือง การปกครอง และการบริหารจัดการ ให้ส่งเรื่องไปยังเลขาธิการวุฒิสภา ขอให้วินิจฉัยการขาดคุณสมบัติของกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณกล่าวว่า กรณีที่นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ให้สัมภาษณ์ว่าการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง อาจคลาดเคลื่อนไปจากปฏิทินของ กกต.กำหนดไว้ในระเบียบว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้ง เพราะปัญหาสุขภาพต้องไปผ่าตัดตา ทำให้เวลาการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งในราชกิจจานุเบกษาไม่เกินวันที่ 10 พ.ย. เคลื่อนออกไป เป็นเหตุเปิดช่องให้มีการแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต. ได้ด้วยการออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2561 เป็นหลักฐานผูกมัดประธาน กกต.โดยชัดแจ้งว่ามีสุขภาพที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขัดต่อคุณสมบัติของการเป็น กกต. ประธาน กกต.จะต้องพ้นจากตำแหน่ง เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย | บิ๊กตู่ กลัวที่ไหน ท้า กกต.สอบทุ่มงบฯมโหฬารแจกคนจน แย้มมีอีกของขวัญปีใหม่ เปย์ข้าราชการผู้น้อย-ผู้มีรายได้ปานกลางค่อนข้างต่ำ | เลือกตั้ง | กกต.,บัตรคนจน,งบประมาณ,หาเสียง,ข่าวหน้า1,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1428518 |
เสถียร ทำมือ แต่งเพลง รักพ่อรักแผ่นดิน น้อมแสดงความอาลัย ในหลวง ร.9 | วันที่ 27 ต.ค. 59 ที่ร้านอาหารเสถียร ทำมือ ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไป พบว่า นายเสถียร ทำมือ นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังคนศรีสะเกษ หลังจากที่ นายเสถียร ได้แต่งเพลงเกี่ยวกับในหลวง รัชกาลที่ 9 เสร็จ ซึ่งได้ตั้งชื่อเพลงว่า รักพ่อรักแผ่นดิน,ทั้งนี้ จากการที่ผู้สื่อข่าวได้นั่งพูดคุยกับนายเสถียร โดยนายเสถียรได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนได้นั่งแต่งเพลงนี้เสร็จเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2559 ที่ผ่านมา ก่อนจะมานั่งเรียบเรียงแก้ไขอีกครั้งจนเสร็จ เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2559 โดยเนื้อหาในเพลงในพูดถึงการเสียสละของพระองค์ท่าน ที่พระองค์ท่านทรงเสียสละทุกอย่างเพื่อพสกนิกรไทย ไม่ใช่เพื่อตัวพระองค์ท่านเอง ทรงงานโดยไม่หวังเอาหน้า พระองค์ท่านผู้ปิดทองหลังพระ และเรื่องราวอื่นๆ อีกมากมายของพระองค์ท่าน ที่ตนนำมารวบรวม ร้อยเรียง เล่าเป็นเรื่องราวออกมาเป็นบทเพลง,นายเสถียร กล่าวต่อไปว่า ที่นั่งแต่งเพลงนี้ขึ้นมา ก็เพราะว่าเราถือว่าเป็นลูกคนหนึ่งของพระองค์ท่าน ได้เสียพ่อที่เป็นที่รักไป เราจะสามารถตอบแทนอะไรได้บ้าง ดังนั้น ในนามที่เราเป็นศิลปิน ตนเลยคิดว่าจะต้องแต่งเพลงถวายแด่พระองค์ท่าน ซึ่งตอนแรกผมก็ว่าจะไม่ทำแล้ว เพราะคนหรือกระแสออกมาว่าเรา อย่าง ไปเกาะกระแสเพื่อให้เพลงเราดัง ทำไมถึงทำแบบนี้ แต่พอมานั่งคิดๆ ดู ตนก็ไม่สนใจเรื่องกระแสหรือคำนินทาของคนอื่น เพราะถ้าใครไม่รู้ถึงเจตนารมณ์ของตน แต่ตัวเราเองนี่ละที่รู้ว่าเราทำไปเพราะอะไร ดังนั้น ตนจึงกลับมานั่งแต่งเพลงนี้ต่อจนเสร็จ,ในอนาคตตนจะนำบทเพลงนี้ (รักพ่อรักแผ่นดิน) มาเปิดให้บุคคลสำคัญ และประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ ได้ร่วมกันขับร้องเพลงนี้ไปด้วยกัน เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และแสดงความอาลัยถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผ่านเสียงเพลง | เสถียร ทำมือ ศิลปินนักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังชาวศรีสะเกษ นั่งแต่งเพลงและขับร้องบทเพลง รักพ่อรักแผ่นดิน เพื่อน้อมแสดงความอาลัย ในหลวง รัชกาลที่ 9 | null | ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,พระราชกรณียกิจ,พระราชประวัติ,ประวัติในหลวง,รูปในหลวง,ภาพในหลวง,พระราชดำรัส,พระบรมฉายาลักษณ์,พระบรมสาทิสลักษณ์,พระบรมมหาราชวัง,สนามหลวง,เสถียร ทำมือ,ศรีสะเกษ,รักพ่อรักแผ่นดิน,แสดงความอาลัย | https://www.thairath.co.th/content/766217 |
กระบี่ใช้แอปฯ หมอชนะ ผ่อนคลายเข้า-ออกจังหวัด เริ่ม 1 มิ.ย. | เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2563 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผวจ.กระบี่ ในฐานะ ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกระบี่ ลงนามในประกาศจังหวัดกระบี่ออกประกาศจังหวัด เรื่อง มาตรฐานเข้า-ออกจังหวัดกระบี่ ระบุว่า ตามที่จังหวัดกระบี่ได้มีการระบาดของโรค COVID-19 มาตั้งแต่เดือนม.ค.2563 และได้มีมาตรการต่างๆ ในการควบคุมป้องกันโรค ประกอบกับการได้รับความร่วมมือจากประชาชนในจังหวัดกระบี่ จนทำให้สถานการณ์โรค COVID-19 ของจังหวัดกระบี่ในขณะนี้คลี่คลายลง แต่จังหวัดกระบี่ยังมีความจำเป็นในการเฝ้าระวัง ติดตาม การเข้า-ออก ของคนที่จะเดินทางเข้ามาจังหวัดกระบี่ ต่อไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจังหวัดกระบี่จะปลอดภัย จากโรค COVID-19ดังนั้น อาศัยอำนาจตามความ ข้อ 1 ประกอบ ข้อ 11 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มี.ค.2563 จึงประกาศมาตรการเข้า-ออกจังหวัดกระบี่ เพื่อให้ผู้เดินทางถือปฏิบัติ ณ จุดตรวจบูรณาการระดับจังหวัด ดังนี้1.ให้ผู้เดินทางติดตั้งแอปพลิเคชั่น หมอชนะ ไปกรอกข้อมูลในเอกสารแจ้งรายละเอียดการเดินทาง ในกรณีที่ไม่มีอุปกรณ์สมาร์ทโฟน ให้กรอกข้อมูลในเอกสารแจ้งรายละเอียดการเดินทางเพียงอย่างเดียว เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ณ จุดตรวจระดับจังหวัด ให้แล้วเสร็จก่อนการเดินทาง โดยสามารถดาวน์โหลดเอกสารได้ที่ www.krabi.go.th/covid19 หัวข้อมาตรการเข้า-ออกจังหวัด2.เมื่อเดินทางถึงจุดตรวจระดับจังหวัด ให้ผู้เดินทางดำเนินการดังนี้2.1 ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย เพื่อตรวจสอบอุณหภูมิร่างกาย2.2 ให้ผู้เดินทางแสดง QR code จากแอปพลิเคชั่น หมอชนะ หรือบัตรผ่าน QR code และเอกสารรายละเอียดการเดินทางต่อเจ้าหน้าที่เพื่อคัดกรองสถานะผู้เดินทางดังนี้(1) สถานะสีเขียว อนุญาตให้เดินทางเข้า-ออก จังหวัดกระบี่(2) สถานะสีเหลือง อนุญาตให้เดินทางเข้า-ออก จังหวัดกระบี่ โดยมีเงื่อนไขติดตามอาการ 14 วัน และส่งเอกสารแจ้งรายละเอียดการเดินทาง ให้เจ้าหน้าที่เพื่อบันทึกด้วยระบบ QT 14(3) สถานะสีส้ม/สีแดง ไม่อนุญาตให้เดินทางและนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาต่อไป3.ผู้เดินทางที่ไม่มีอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและพำนักในจังหวัดกระบี่ จะได้รับบัตรผ่าน QR code เพื่อแสดงตนในการผ่านเข้า-ออกจังหวัด หรือเข้า-ออกสถานที่ในจังหวัดกระบี่4.เมื่ออยู่ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ให้ผู้เดินทางแสดง QR code ไทยชนะ ก่อนเข้าหรือออกสถานที่ในจังหวัดกระบี่ด้วยแอปพลิเคชั่น หมอชนะ หรือแสดงบัตรผ่าน QR code ให้เจ้าหน้าที่สแกนคิวอาร์โค้ดก่อนเข้าหรือออกสถานที่5.ผู้เดินทางที่ได้รับการประเมินสถานะเป็นสีเหลือง ตามข้อ 2 จะได้รับการติดตามโดยการวัดอุณหภูมิ หากมีไข้หรืออาการเจ็บป่วยให้ไปพบแพทย์ และแจ้งโรงแรมที่พำนัก เพื่อแจ้งให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคแห่งท้องที่6.ผู้เดินทางเข้าจังหวัดกระบี่ และพำนักในระยะยาว ต้องยินยอมหากมีการสุ่มตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) โดยเสียค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง ซึ่งอาจมีการสุ่มตรวจในช่วงวันที่ 5 ของการพำนักเป็นต้นไป7.ผู้เดินทางชาวต่างชาติ หากประสงค์จะเดินทางเข้าจังหวัดกระบี่ แต่ไม่มีเอกสาร หรือใบรับรองผลตรวจยืนยันหาเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือไม่ผ่านการกลับตัว state Quarantine ครบ 14 วัน ตามประกาศของประเทศไทย ต้องยอมรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) โดยเสียค่าใช้จ่ายเองทุกราย8.ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางไปยังจังหวัดอื่น โดยใช้เส้นทางผ่านจังหวัดกระบี่ เมื่อได้รับการคัดกรองตามข้อ 2 แล้ว ให้เดินทางต่อไปได้ โดยไม่ต้องแวะพักภายในจังหวัดกระบี่ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2563 เป็นต้นไป | กระบี่ประกาศผ่อนคลายให้เข้าจังหวัดได้ แต่ให้ใช้แอปลิเคชั่น หมอชนะ ตรวจสอบ-ติดตาม เฝ้าระวัง เริ่มตั้งแต่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป | สังคม | COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,มาตรการเข้า-ออกกระบี่,จังหวัดกระบี่ | https://news.thaipbs.or.th/content/293135 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.