title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
บิณฑ์ มอบ1ล้าน เงินช่วยน้ำท่วม สร้างอนุสาวรีย์กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ | บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พระเอกนักบุญขวัญใจชาวอุบลฯ พร้อมทีมงานมูลนิธิร่วมกตัญญู ลงสำรวจพื้นที่ก่อสร้างอนุสาวรีย์กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ร่วมกับ มูลนิธิอุบลราชธานีอนุสาวรีย์คนดีศรีวนาลัย ได้ฤกษ์ดี วางศิลาฤกษ์ 6 ส.ค.นี้ที่มณฑลพิธีทุ่งศรีเมืองอุบลราชธานี ถนนอุปราช อำเภอเมืองอุบลราชธานี นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พระเอกนักบุญฮีโร่ขวัญใจชาวจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยทีมงานมูลนิธิร่วมกตัญญู เจ้าหน้าที่มูลนิธิอุบลราชธานีอนุสาวรีย์คนดีศรีวนาลัย ลงพื้นที่สำรวจบริเวณจุดก่อสร้างพระอนุสาวรีย์กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ภายในที่ดินราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียน อบ.13 (บางส่วน)โดยการก่อสร้างพระอนุสาวรีย์กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ครั้งนี้ บิณฑ์ ได้นำเงินบริจาคของประชาชนชาวไทยที่มอบให้นำไปช่วยเหลือพี่น้องชาวจังหวัดอุบลราชธานี ในโครงการ Save Ubon ขณะที่เกิดอุทกภัย ปี 2562 จำนวน 1 ล้านบาท จากมูลนิธิร่วมกตัญญู 1 ล้านบาท ให้กับมูลนิธิอุบลราชธานีอนุสาวรีย์คนดีศรีวนาลัย ในการก่อสร้างพระอนุสาวรีย์กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติ คุณงามความดีบรรพบุรุษ ซึ่งมีคุณูปการต่อจังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธุชนทั่วไป และเพื่อให้เป็นที่เคารพสักการะ เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจังหวัดอุบลราชธานี และประชาชนทั่วไป โดยจะมีพิธีวางศิลาฤกษ์ ในวันที่ 6 สิงหาคม 2563บิณฑ์ กล่าวว่านอกจากมีพิธีวางศิลาฤกษ์แล้ว จะมีการส่งมอบรถพยาบาล รถโรงเรียน เรือกู้ภัย และอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ให้กับหน่วนงานโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย บุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยปี 2562 มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท ทั้งหมดเป็นเงินบริจาคโครงการ Save Ubon เช่นเดียวกัน | บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พระเอกนักบุญขวัญใจชาวอุบลฯ พร้อมทีมงานมูลนิธิร่วมกตัญญู ลงสำรวจพื้นที่ก่อสร้างอนุสาวรีย์กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ร่วมกับ มูลนิธิอุบลราชธานีอนุสาวรีย์คนดีศรีวนาลัย | ข่าว,ทั่วไทย | บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์,เงินช่วยน้ำท่วม,ช่วยน้ำท่วมอุบลราชธานี,เงินบริจาคช่วยน้ำท่วม,อุบลราชธานี,อนุสาวรีย์กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์,Save Ubon,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1892524 |
ประมงนครพนม เร่งตกปลานิลกว่า 300 ตันฝังกลบ เกษตรกรช้ำรัฐไม่มีเกณฑ์ชดเชย | ประมง จ.นครพนม ระดมตักปลานิลน็อกน้ำกว่า 300 ตัน ขึ้นจากกระชังไปทิ้งฝังกลบเกษตรกรสุดช้ำฝันสลาย สูญเงินรวมกว่า 20 ล้าน บางรายเป็นหนี้เพิ่มหลายล้าน ขณะที่รัฐไม่มีเกณฑ์ช่วยเหลือเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 นายสำราญ รื่นนาค ประมงจังหวัดนครพนม ประสานงานร่วมกับ พ.อ.ชวลิต พบจันอัด ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 อ.นาแก หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา รวมถึง ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง นำเครื่องจักร รถแบ็กโฮ เข้าไปช่วยเหลือเกษตรกร เลี้ยงปลากระชัง ในลำน้ำน้ำสงคราม ในพื้นที่ บ้านหาดกวน ต.ไชยบุรี จ.นครพนม ที่ได้รับผลกระทบ จากพายุฤดูร้อนทำให้ฝนตกหนักช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ปลานิลในกระชัง ของเกษตรกร ขาดออกซิเจนน็อกน้ำตาย โดยจากการสำรวจ เฉพาะในพื้นที่ บ้านหาดกวน ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม มีปลานิล ในกระชัง น็อกน้ำตาย เกือบ 200 ตัน และยังมีเกษตรกร ในพื้นที่ อ.นาหว้า อ.ศรีสงคราม ได้รับความเสียหาย จากปลานิล น็อกน้ำตาย ไม่ต่ำกว่า 100 ตันล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ต้องระดม นำรถแบ็กโฮ มาตักปลาในกระชัง ขึ้นไปฝังกลบทำลาย เนื่องจากทางประมงจังหวัดนครพนม ไม่แนะนำให้นำไปจำหน่าย หรือแปรรูปเป็นอาหาร ทำปลาร้า แต่ยังมีเกษตรกร บางส่วน นำไปทำปลาร้า รวมถึงนำไปเป็นปุ๋ยหมักชีวภาพ แต่เนื่องจากปลานิลมีจำนวนมาก กว่า 200 ตัน ไม่สามารถนำไปทำได้ทั้งหมด อีกทั้งเริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็น เกิดมลพิษทางน้ำ จึงต้องเร่งฝังกลบทำลายสำหรับแนวทางการช่วยเหลือ จากการตรวจสอบข้อมูลของหน่วยงานประมงจังหวัดนครพนม รวมถึง หน่วยงานเกี่ยวข้อง เกี่ยวกับแนวทางการช่วยเหลือ พบว่า ตามระเบียบราชการยังไม่สามารถชดเชยเยียวยาได้ เพราะไม่เข้าระเบียบหลักเกณฑ์ เบื้องต้นเกษตรกรต้องช่วยเหลือตนเอง รอหารหารือจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจจะช่วยเหลือได้เพียงการนำรถแบ็กโฮ มาช่วยตักปลาที่ตายไปฝังกลบ รวมถึงหาแนวทางจัดหาพันธ์ปลามาช่วยเหลือในระยะยาวผู้เลี้ยงปลาบางรายได้รับความเสียหายหนัก ต้องขาดทุนหลายล้านบาทบางรายต้องเป็นหนี้เพิ่ม 1-2 ล้านบาท หวังว่าจะนำเงินจากการขายปลา ไปจ่ายชำระหนี้สินต้นทุนในการเลี้ยง แต่สุดท้ายปลานิลในกระชังน็อกน้ำตายกะทันหัน เพราะส่วนใหญ่เป็นปลาขาดใหญ่ น้ำหนักประมาณ 1-1.2 กิโลกรัม รอการส่งขายสู่ตลอด ที่สำคัญทางประมงจังหวัดนครพนม ยังได้แจ้งเตือนเกษตรกร ให้ชะลอการเลี้ยง และเร่งนำปลาส่งขายตลาด ป้องกันความเสียหายซ้ำอีก และหมั่นตรวจสอบปริมาณปลากระชังไม่ให้แออัด ที่จะกระทบต่อปริมาณออกซิเจน จนเกิดอาการน็อกน้ำตามมา เนื่องจากช่วงนี้ยังมีแนวโน้มเกิดพายุฝนตกลงมาซ้ำอีก. | ประมง จ.นครพนม ระดมตักปลานิลน็อกน้ำกว่า 300 ตัน ขึ้นจากกระชังไปทิ้งฝังกลบ เกษตรกรสุดช้ำฝันสลาย สูญเงินรวมกว่า 20 ล้าน บางรายเป็นหนี้เพิ่มหลายล้าน ขณะที่รัฐไม่มีเกณฑ์ช่วยเหลือ | ข่าว,ทั่วไทย | ปลาน็อกน้ำ,ผู้เลี้ยงปลากระชัง,กระชังปลา,ประมงจังหวัดนครพนม,ฝังกลบ,พายุฤดูร้อน,ปลาขาดออกซิเจน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1790964 |
ตำนาน เจ้าชายกบ | เย็นย่ำค่ำวันอาทิตย์ที่ 3 ก.พ.นี้,จะมีเกม เทสติโมเนียลแมตช์ อำลาสนามอย่างเป็นทางการของ เจ้าชายกบ พิภพ อ่อนโม้ ดาวยิงในตำนานของศึกไทยลีก และ สโมสร ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี ที่ชลบุรี สเตเดียม,20 ปีเต็มของการโลดแล่นบนถนนพ่อค้าแข้งอาชีพ เจ้าโม้สร้างความสำเร็จไว้มากมายเหลือคณานับจริงๆครับ,ไม่ว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นกับทีม เจ้าบุญทุ่ม บีอีซีเทโรศาสน ที่เขาคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ 2 สมัย และเป็นรองแชมป์เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีกอีก 1 สมัย,ก่อนจะย้ายมาซบรังฉลามตั้งแต่ปี 2005 และสถาปนาตัวเองเป็น Prince of Shark ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา,โดยสร้างเกียรติประวัติชูถ้วยแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกสมัยแรกและสมัยเดียวกับทีมลูกน้ำเค็มในฤดูกาล 2007 เป็นแชมป์ถ้วยพระราชทาน ก 4 ครั้ง และแชมเปียนส์ เอฟเอคัพ อีก 1 ครั้ง,ขณะเดียวกันก็จารึกประวัติศาสตร์เป็น นักเตะไทยคนแรก ที่ซัลโวประตูในลีกสูงสุด เกิน 100 ลูก อีกต่างหาก,เอกลักษณ์สำคัญ ตลอด 15 ปีเต็ม ในยูนิฟอร์มฉลามของ กัปตันโม้ ที่ทุกคนคุ้นตาดี,คือ ชุดแข่งที่รัดติ้วพอดีตัว ซึ่งเขาสั่งให้ช่างที่รู้ใจเอาเสื้อ-กางเกงที่ใช้แข่งทุกตัวไปทำเป็นทรง เดฟ เหมือนชุดฟิตเนสยังไงยังงั้น,เสี่ยณพ อรรณพ สิงห์โตทอง บิ๊กบอสชลบุรี เคยกระซิบบอกผมว่า ความจริง ไอ้โม้ ไม่ได้อยากโชว์รูปร่างตัวเองเท่าไหร่หรอกแต่ที่ต้องทำกางเกงให้ตึงเป๊ะเข้าไว้,เพราะมันอยากโชว์ ข้าวหลามหนองมน ของตัวเองซะมากกว่า555,แม้จะยิ่งใหญ่เหลือเกินในการเล่นสโมสรแต่สำหรับเส้นทาง ทีมชาติ ดูจะตรงข้ามกัน เพราะชื่อของ พิภพ เคยโผล่เข้ามาติดโผทีมช้างศึกชุดใหญ่เพียง 6 นัดเท่านั้น,แถมเจ้าตัวยังอาภัพในการรับใช้ชาติ เพราะใครเลยจะรู้ว่าครั้งนึง กัปตันฉลามผู้เกรียงไกรคนนี้ เคยเป็น นักเตะเยาวชนไทย 16 ปี ในชุดแชมป์เอเชีย ที่กาตาร์ เมื่อปี 1998 มาแล้ว,แต่ทีมชาติชุดนั้นแทบไม่มีใครเคยกล่าวถึง เพราะเจอเหตุอื้อฉาวในยุคที่ เอเอฟซี เข้มงวดเรื่อง เด็กดอง พอดี,ทำให้ชื่อของเด็กรุ่นนี้แทบจะหายต๋อมไปจากวงการอย่างน่าเสียดายที่สุด,ยังดีที่หลงเหลือ เจ้าชายกบ พิภพ อ่อนโม้ ผู้นี้ ไว้เป็น Legend,บอกเล่าเรื่องราว บอลไทย จากยุคเก่า เชื่อมมาสู่ยุคใหม่,ได้อย่างพอดิบพอดี,บี บางปะกง | 20 ปีเต็มของการโลดแล่นบนถนนพ่อค้าแข้งอาชีพ เจ้าโม้สร้างความสำเร็จไว้มากมายเหลือคณานับจริงๆครับ | null | พิภพ อ่อนโม้,ไทยลีก,ชลบุรี เอฟซี,ตะลุยฟุตบอลโลก,บี บางปะกง | https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/1484836 |
ดราม่าบัตรคนจนในมือคนไม่จน แต่ปัญหาคนจนตัวจริงไม่ได้รับสิทธิ์ และถูกมองข้าม | โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนที่ภาครัฐทยอยแจกจ่ายและเริ่มมีการใช้งานตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัด ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลรวม 7 จังหวัด เริ่มแจกและใช้งานจริง 17 ต.ค. เพียงเดือนแรกของโครงการก็พบปัญหาหลายประการ ทั้งเรื่องเครื่องรับบัตร EDC ไม่พร้อม ร้านธงฟ้าไม่เพียงพอ และปัญหาทุจริตนำบัตรคนจนไปแลกเงินสด รวมทั้งเสียงวิจารณ์ว่าโครงการนี้เอื้อผู้ประกอบการรายใหญ่ อันที่จริงโครงการนี้ส่อแววมีปัญหามาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นโครงการ โดยเฉพาะแนวคิดลงทะเบียนคนจนเพื่อขอรับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผลปรากฏว่ามีผู้มีการศึกษาระดับด็อกเตอร์มาลงทะเบียนด้วย แนวคิดเปิดให้คนจนมาลงทะเบียน ผลลัพธ์ที่ได้คือคนที่มาลงทะเบียนอาจไม่จน ส่วนคนจนอาจไม่ได้มาลงทะเบียน ล่าสุดกับกรณีนายแบบหนุ่มโชว์ภาพใช้ชีวิตกินหรูอยู่สบายลงในโซเชียลมีเดีย พร้อมบัตรคนจนของรัฐเป็นหนึ่งในแอ็กเซสซอรีประจำตัว ปรากฏการณ์นี้สะท้อนช่องโหว่มโหฬารของนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่างชัดเจนการเปิดให้ลงทะเบียนคนจนสามารถทำได้ แต่อย่าลืมว่ามันจะมีช่องโหว่ 2 แบบ คือแบบที่คนไม่จนมาลงทะเบียน และคนจนตัวจริงไม่ได้มาดร. สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)คำถามคือกระบวนการที่ดีในการตามหาคนจนและการตอบโจทย์ความต้องการคนจนควรมีแนวทางอย่างไร ? ดร. สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ช่วยอธิบายปัญหาที่เกิดขึ้นและเสนอแนะเพื่อปรับนโยบายช่วยเหลือคนจนเรื่องแจกเงินนี่คนชนชั้นกลางไทยไม่ชอบ จะมีคำถามว่าทำไมให้เงินเขาไป ซึ่งเป็นความระแวงคนอื่นว่าเดี๋ยวงอมืองอเท้าไม่ยอมทำงาน เดี๋ยวเอาเงินซื้อบุหรี่ กินเหล้า แต่ถ้าถามนักเศรษฐศาสตร์ คือยังไงให้เป็นเงินก็ดีกว่าให้เป็นของกระบวนการตามหาคนจน ควรทำอย่างไร ? ทฤษฎีที่อยากให้ดึงมาใช้คือ ข้อมูลการใช้จ่าย อาจเรียกได้ว่าเป็น big data ทุกวันนี้เขายังไม่ได้เอาตรงนั้นมา ตอนนี้ดูแค่มีหนี้เท่าไหร่ มีทรัพย์สินเท่าไหร่ ตามที่พอจะหาข้อมูลเจอ แต่ที่แม่นยำมากคือข้อมูลการใช้จ่าย ถ้ารู้ว่าใน 11 หรือ 14 ล้านคน มีพฤติกรรมการใช้จ่ายตามปกติอย่างไรบ้าง ปกติเข้าห้างไปกินฟู้ดคอร์ตจ่ายครั้งละ 300 บาทหรือเปล่า หรือไปภัตตาคารหรู ถ้าพฤติกรรมแบบนี้พอจะอนุมานได้ว่าเขาไม่ใช่คนจน ถ้ามีข้อมูลประเภทนี้เข้ามาจะคัดกรองคนได้อีกเยอะ ตัวอย่างต่างประเทศที่เคยใช้คือการไปติดต่อกับบริษัทบัตรเครดิต คือแค่รู้ว่าเขามีบัตรเครดิตก็เพ่งเล็งได้แล้วว่าไม่จนจริง แล้วยิ่งถ้าดูจากพฤติกรรมการใช้จ่ายบัตรเครดิต เช่น ไปซื้อเปียโน แบบนี้ก็ตัดออกได้เลย ผมเคยไปแอฟริกาใต้เขาใช้วิธีนี้ เขาก็ตัดคนไม่จนออกไปได้เยอะ แต่ว่าตรงนี้ต้องมีความร่วมมือ รัฐบาลอาจต้องออกกฎหมายใหม่ด้วยซ้ำเพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูล เช่น เรื่องบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตของธนาคาร ว่าแต่ละคนจ่ายเรื่องอะไร มันอยู่ในวิสัยที่ทำได้ คือเทคโนโลยีทำได้ แต่จะมีขั้นตอนกฎหมายต่างๆ ถ้าทำได้จะช่วยแยกคนจนและไม่จนออกจากกันได้ค่อนข้างดี แต่ว่าปัญหาที่คนจนจริงๆ ไม่มาลงทะเบียนนี่ต้องแก้อีกแบบหนึ่ง สำหรับไทยก็มีกรณีนโยบายไฟฟ้า รถเมล์ร้อนฟรี ภาษาวิชาการเรียก self-targeting คือดูพฤติกรรมของคน แล้วนำข้อมูลไปคำนวณว่าเขาเป็นคนจนหรือไม่ คือถ้าคุณใช้ไฟน้อย ก็น่าจะเป็นคนจน อันนี้มันดีกว่าการจดทะเบียนคนจนตรงที่ว่าเอาพฤติกรรมการใช้มาเป็นตัววัด แต่ก็มีรั่วไหลบ้างคือ คนที่มีคอนโด บ้านหลังที่สอง ก็จะได้ใช้ไฟฟ้าฟรีไป หรือถ้าขึ้นรถเมล์ร้อนแบบในสมัยก่อน หรือรถไฟชั้น 3 ถามว่าถ้าคุณเป็นคนรวยคุณจะยอมเบียดขึ้นรถเมล์ร้อนไหม ในแง่นี้ตัวสินค้าหรือบริการมันช่วยสกรีนคนจนได้ คนรวยไม่มาแย่ง เทียบกับการจดทะเบียนคนจน มีถึงขั้นด็อกเตอร์มาลงทะเบียน ดังนั้นทั้งใช้ไฟ ขึ้นรถเมล์ รถไฟ แบบนี้เป็น self-targeting ซึ่งด้วยไอเดียมันดีกว่าลงทะเบียนคนจน คนให้ความช่วยเหลือมักทำว่ารู้ดีกว่า ทำเหมือนว่าเป็นพ่อกับแม่แล้วมองคนจนเหมือนลูก เหมือนเด็กที่ไม่รู้เรื่อง จะต้องคิดแทน และคิดแล้วว่าต้องเป็นสินค้านู่นนี่ เช่นเรื่องให้ขึ้นรถโดยสารฟรี นี่ก็เป็นเรื่องคิดแทน ทั้งที่ไม่ใช่ว่าคนจนทุกคนต้องใช้รถโดยสารปัญหาสำคัญกว่าคนไม่จนมารับสิทธิ์ คือ คนจนจริงๆ ไม่ได้รับสิทธิ์ หรือไม่ ย้อนมาการออกแบบคอนเซปต์ว่าการลงทะเบียนคนจน โดยใช้วิธีให้เขามารายงานว่าเขาเป็นคนจน ซึ่งเคยทำมาแล้วในสมัยรัฐบาลทักษิณก็มีปัญหามาแล้วในตอนนั้น คือคนที่ไม่จนมาประกาศตัวว่าเป็นคนจน ซึ่งมีแน่นอน ง่ายๆ ว่ามีคนลงทะเบียน 14 ล้านคนที่บอกว่าตัวเองเป็นคนจน แต่ตัวเลขทางการของสภาพัฒน์มีคนจนประมาณ 8% ของประชากร คิดเป็นประมาณ 4-5 ล้านคน ต่อให้เราขยับเส้นความยากจนให้สูงขึ้น เช่น มากกว่าตัวเลขสภาพัฒน์สองเท่า จำนวนคนจนก็จะอยู่ประมาณ 8 ล้านคน ก็ยังต่ำกว่า 14 ล้านคน แต่รัฐบาลก็บอกว่าเขาพยายามสกรีนออก บอกเหลือ 11 ล้าน แต่ 11 ล้านก็ยังสูงกว่า 8 ล้าน ดังนั้นคนที่ไม่จนจริงมาจดทะเบียนนั้นยังคงมีอยู่และมีเยอะด้วย ที่สำคัญคือคนจนจำนวน 4-5 ล้านคนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน เราไม่รู้เลยว่ามาครบไหม ซึ่งก็อาจจะมาไม่ครบ เพราะคนจนเขาหาเช้ากินค่ำ ถ้าต้องมานั่งหาข้อมูล กรอกโน่นนี่ บางทีคนจนก็กลัวการกรอกนะ ก็อาจไม่มากัน ดังนั้นถ้าคุณยึดฐานข้อมูลนี้เป็นเรื่องตายตัว แล้วคนจนที่ไม่ได้มาล่ะ ซึ่งคนที่ไม่มามักจะเป็นคนจนตัวจริง คือจนสุดๆ คนกลุ่มนี้ถูกละเลยทันที การเปิดให้ลงทะเบียนคนจนสามารถทำได้ แต่อย่าลืมว่ามันจะมีช่องโหว่ 2 แบบ คือแบบที่คนไม่จนมาลงทะเบียน และคนจนตัวจริงไม่ได้มา สิ่งที่ควรต้องคิดต่อคือ ควรทำอย่างไรกับคนจนที่ไม่ได้มาลงทะเบียน รัฐต้องมีกระบวนการอื่นตามตัวเขา แต่เราไม่มีการพูดถึงตรงนี้เลย สิ่งที่อยากฝากถึงภาครัฐคืออย่าหยุดปรับปรุง อย่าคิดว่ามาตรการคัดกรองคนจนที่ทำมาทั้งหมดดีพอแล้ว เพราะมันชัดเจนว่ายังดีไม่พอตามหาคนจน เพื่อนำเงินไปแจก ถูกต้องหรือไม่ ? เรื่องแจกเงินนี่คนชนชั้นกลางไทยไม่ชอบ จะมีคำถามว่าทำไมให้เงินเขาไป ซึ่งเป็นความระแวงคนอื่นว่าเดี๋ยวงอมืองอเท้าไม่ยอมทำงาน เดี๋ยวเอาเงินซื้อบุหรี่ กินเหล้า แต่ถ้าถามนักเศรษฐศาสตร์ คือยังไงให้เป็นเงินก็ดีกว่าให้เป็นของ ซึ่งประสบการณ์จากที่ต่างๆ ที่ให้เป็นเงินกับคนจน สัดส่วนคนที่ไปใช้เงินผิดประเภท ซื้ออบายมุขต่างๆ เพียง 1-2 % ถือว่าน้อยมาก อีกอย่างคือคนให้ความช่วยเหลือมักทำว่ารู้ดีกว่า ทำเหมือนว่าเป็นพ่อกับแม่แล้วมองคนจนเหมือนลูก เหมือนเด็กที่ไม่รู้เรื่อง จะต้องคิดแทน และคิดแล้วว่าต้องเป็นสินค้านู่นนี่ เช่นเรื่องให้ขึ้นรถโดยสารฟรี นี่ก็เป็นเรื่องคิดแทน ทั้งที่ไม่ใช่ว่าคนจนทุกคนต้องใช้รถโดยสาร ไปดูในชุมชนแออัด เขาจะชอบทำมาหากินใกล้บ้าน เขาไม่ได้ชอบเดินทาง การทำตัวเป็นพ่อแม่รู้ดี แต่รู้ไม่จริง ประโยชน์ที่จะได้ก็ไม่ได้ แนวคิดจำกัดการใช้บัตรเฉพาะร้านค้าธงฟ้า ก็มาจากไอเดียไม่ยอมให้เงิน ก็ต้องไปแลกเป็นของ พอเป็นของก็ต้องเพิ่มเงื่อนไขจำกัดแค่บางร้าน และต้องมีเครื่องอ่านบัตรโดยใช้กับทุกร้านทั่วประเทศไม่ได้ เพราะมันต้องลงทุนสูง จึงมีแค่ธงฟ้า ดังนั้นต้องกลับไปตั้งต้น คือตามตัวคนจนให้เจอและให้เป็นเงินไป เป้าหมายคือเพื่อให้เขาผ่านช่วงชีวิตที่มันลำบากไปได้ สิ่งที่อยากฝากถึงภาครัฐคืออย่าหยุดปรับปรุง อย่าคิดว่ามาตรการคัดกรองคนจนที่ทำมาทั้งหมดดีพอแล้ว เพราะมันชัดเจนว่ายังดีไม่พอ อยากให้ร่วมมือกับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสาธารณสุข ในเรื่องการให้ อสม. ช่วยเรื่องปรับปรุงฐานข้อมูล ส่วนเรื่องรั่วไหลไปคนไม่จน ไม่น่าซีเรียสเท่าไม่ถึงคนจนจริง แต่ก็ควรสกรีน ส่วนตัวมองว่าบัตรคนจนเป็นขั้นตอนของการเก็บข้อมูล แต่ข้อมูลที่ว่านี้มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ นำเรื่อง big data เข้ามา และมีกฎหมายเพื่อดึงข้อมูลต่างๆเข้ามา ข้อมูลมันจะดีขึ้นเพื่อนำไปใช้เรื่องอื่นๆภาพประกอบ: | ปัญหาที่พูดถึงกันมากของ บัตรคนจน คือมีคนไม่จนจริงมารับสิทธิ์ แต่สิ่งที่คนมองข้ามคือ คนจนตัวจริงที่ไม่ได้รับสิทธิ์การแจกเงินให้คนจน จากสถิติในต่างประเทศพบว่ามีการนำเงินไปใช้ผิดประเภทเพียง 1-2% | null | null | https://thestandard.co/poverty-card-mistake/ |
ณ อาร์ตคลับ ตอนแฟนเพลงลูกกรุง | ไม่บ่อยนักที่จะเห็นการขับร้องเพลงคู่กันระหว่างศิลปินเพลงลูกกรุงระดับแนวหน้าทั้งสอง สุเทพ วงศ์กำแหง และอรวี สัจจานนท์ ไม่ใช่เพราะสังกัดที่แตกต่าง หากอยู่ที่ความเชื่อของแฟนเพลงที่มักจินตนาการถึงภาพนักร้องคู่ขวัญในอดีต โดยเฉพาะคู่ของสุเทพ และสวลี ผกาพันธุ์ ซึ่งนอกจากจะมีน้ำเสียงที่เหมาะเจาะลงตัว ด้วยโทนเสียงใกล้กันแล้ว ลีลาการขับร้องยังชวนให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกคล้อยตาม เสมือนว่าทั้งสองเป็นคู่รักกัน นี่เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เพลงลูกกรุง โดยเฉพาะเพลงคู่จำนวนมากกลายเป็นบทเพลงอมตะมาจนถึงทุกวันนี้ลักษณะเฉพาะของบทเพลงลูกกรุงทั้งการประพันธ์และรูปแบบการร้องยังเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดแฟนเพลงกลุ่มใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการแสดงคอนเสิร์ต ที่จัดขึ้นบ่อยครั้ง โดยมีกลุ่มผู้ชมรุ่นใหม่ให้ความสนใจมากขึ้นแล้ว เวทีการประกวดร้องเพลงศาลาเฉลิมกรุง ที่จัดต่อเนื่องมาถึงปีที่ 10 ยังมีผู้ร่วมประกวดจำนวนมาก กระแสตอบรับเพลงลูกกรุงจากคนรุ่นใหม่ไม่เพียงแสดงให้เห็นพื้นที่ของเพลงลูกกรุงที่ขยายมากขึ้น แต่ยังสะท้อนถึงแนวโน้มทางการตลาดที่ไม่ได้เจาะจงกลุ่มผู้ฟังเฉพาะรุ่นใหญ่ดังที่ผ่านมาพบกับหลากหลายบทเพลงลูกกรุงที่ครองใจแฟนเพลงทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็กในรายการ ณ อาร์ตคลับ วันพุธที่ 20 กรกฎาคมนี้ เวลา 5 ทุ่มตรง ทาง ThaiPBS | กระแสตอบรับเพลงลูกกรุงจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งเวทีการประกวด และการแสดงคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นบ่อยครั้ง แสดงให้เห็นการขยายตัวของกลุ่มแฟนเพลงมากขึ้น เพราะอะไรทั้งแฟนเพลงรุ่นใหญ่และรุ่นเล็กจึงตกหลุมรักเพลงลูกกรุง พบคำตอบในรายการ ณ อาร์ตคลับ | ศิลปะ-บันเทิง | คอนเสิร์ต,ประกวด,ลูกกรุง,อาร์ตคลับ,แฟนเพลง | https://news.thaipbs.or.th/content/23892 |
เลบรอน เจมส์ ฉลองแชมป์บาสเอ็นบีเอสมัยแรกกับฮีท | หลังจากที่ไมอามี่ ฮีท ชนะ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ 4-1 เกม ในซีรีส์รอบชิงชนะเลิศบาสเกตบอลเอ็นบีเอ เเละเป็นการคว้าเเชมป์สมัยที่ 2 ของฮีท ต่อจากปี 2006 ผู้เล่นของฮีทนำโดยบิ๊กทรี อย่าง เลบรอนด์ เจมส์ ดเวน เหวด เเละคริส บอช ได้ร่วมฉลองเเชมป์ด้วยการเดินพาเหรดเเห่ถ้วยชนะเลิศโทรฟี แลร์รี โอ ไบรอัน ไปตามท้องถนนในเมืองไมอามี่ เพื่อมุ่งหน้าไปยังสนามอเมริกัน แอร์ไลน์ส อารีนาสำหรับเลบรอนด์ เจมส์ นี่แชมป์สมัยแรกของเขาหลังจากที่เข้าชิง 2 ครั้งก่อนหน้านี้ได้เพียงแค่รองแชมป์กับคลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส และกับฮีทเมื่อปีก่อน ขณะเดียวกับ เจมส์ ยังได้รับรางวัลผู้เล่นเอ็มวีพีในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของเขาด้วยเช่นกันหลังจบฤดูกาลแข่งขันในศึกเอ็นบีเอเหล่าซูเปอร์สตาร์ยัดห่วงของสหรัฐฯก็ยังต้องรอลุ้นการประกาศรายชื่อนักกีฬาชุดลอนดอนเกมส์ในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งทีมบาสเกตบอลชายสหรัฐเป็นเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่กรุงปักกิ่งการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกที่ประเทศอังกฤษ วันที่ 38 ลอร์ด เซบาสเตียน โค ประธานจัดการแข่งขันโอลิปมิกได้ร่วมวิ่งคบเพลิงด้วย หลังจากที่คบเพลิงโอลิมปิกได้เดินทางมาถึงเมืองเชฟฟิล์ดบ้านเกิดของ เซบาสเตียน โค สำหรับคบเพลิงโอลิมปิกถูกจุดขึ้นที่ประเทศกรีซตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคมทมี่ผ่านมา และลอนดอนเกมส์ครั้งนี้มีผู้ร่วมวิ่งคบเพลิงมากกว่า 8000 คน ใช้ระยะทางมากกว่า 12000 กิโลเมตร ก่อนที่พิธีเปิดจะเริ่มขึ้นวันที่ 27 กรกฎาคมการแข่งขันว่ายน้ำที่ประเทศสหรัฐฯเพื่อคัดเลือกตัวแทนไปโอลิมปิก วันแรกปรากฏว่า ไรอัน โรชต์ ว่ายแตะขอบสระเป็นที่ 1 เอาชนะไมเคิล เฟล์ปส ในการว่ายเดี่ยวผสม 400 เมตรชาย อย่างไรก็ตาม โรชต์ และ เฟล์ปสที่คว้าอันดับ 2 ก็ผ่านการคัดเลือกเข้าไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ได้สำเร็จ สำหรับการคัดเลือกทีมว่ายน้ำสหรัฐฯจะมีไปถึงวันที่ 2 กรกฎาคม | ไมอามี่ ฮีท ฉลองเเชมป์บาสเกตบอลเอ็นบีเออย่างยิ่งใหญ่ ที่เมืองไมอามี่ หลังจากที่ชนะโอกลาโฮม่า ขาดลอยในรอบชิงชนะเลิศ | กีฬา | ฉลอง,บาส,บาสเกตบอล,เลบรอน เจมส์,เอ็นบีเอ,แชมป์,ไมอามี่ ฮีท | https://news.thaipbs.or.th/content/93875 |
ม.แม่ฟ้าหลวง หนุนชาวบ้านตั้งชุมชนผลิตชาแม่ลอย ดึงนทท.สัมผัสวิถีชาวบ้าน | เก็บกลับไปเป็นของที่ระลึกได้,
เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 60 นางจันทรัตน์ วงค์ปัน อายุ 51 ปี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตชาแม่ลอย ซึ่งตั้งอยู่ที่ ม.13 ต.แม่ลอย อ.เทิง เผยว่า แต่เดิมที่หมู่บ้านมีต้นชาที่ปลูกมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ ขาดการเหลียวแล เพราะหันไปปลูกพืชสวนอย่างลำไยมากกว่า ทำให้มีการตัดทำลายต้นชาไปจำนวนมาก ต่อมา ทางราชการได้มาเห็นว่ามีต้นชาในหมู่บ้าน อยากไห้ชาวบ้านเก็บไว้ เพื่อส่งเสริมสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ และได้มีคณะจากมหาลัยแม่ฟ้าหลวงเข้ามาสนับสนุน สร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนตามนโยบายของจังหวัดเชียงราย เพื่อเป็นการดึงนักท่องเที่ยวมาชมวิถีชีวิตท้องถิ่น กระจายรายได้สู่ชุมชน
,นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้กระบวนการผลิตชาจากชาอัสสัม หรือ ชาป่า ที่ปลอดสารพิษ ซึ่งปลูกอยู่บนเขา ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กม. ตั้งแต่การเก็บชา การคั่วชา การนวดชา การตากชา การชงชา ตลอดจน การบรรจุภัณฑ์ชา และให้นักท่องเที่ยวนำชาที่แปรรูปกลับบ้านไปด้วย โดยนักท่องเที่ยวจะต้องพักแบบโฮมสเตย์ 1 คืน เพื่อเก็บใบชาในตอนเช้า นอกจากนี้ ยังจะได้ทดลองทำขนมที่ทำจากชา และทานอาหารท้องถิ่นที่ทำจากชา เช่น ยำยอดใบชาใส่ปลาย่าง แกงหน่อไม้ใส่ยอดชา ลูกชิ้นปลา/หมูห่อใบชาทอด และยำหมูยอใส่ยอดใบชา ที่น่าสนใจที่สุดคือ การเรียนรู้กระบวนการทำเมี่ยง ซึ่งคนในรุ่นปัจจุบันแทบไม่รู้จักกัน ได้ทานเมี่ยงคำที่สอดไส้ด้วยมะพร้าวอบแห้ง พริก ขิง ถั่ว และอื่นๆ ตามชอบ,
ในหมู่บ้านมีการทำสินค้าหัตถกรรมหลากหลาย อาทิ การทำกระเป๋าถักด้วยเชือกที่ทำจากผักตบชวา เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก การทำเครื่องจักสาน เป็นต้น นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสในการเรียนรู้และฝึกทำกระเป๋าสาน และซื้อเป็นของที่ระลึกกลับบ้านด้วย เตรียมต่อยอดนำใบชาไปผลิตเป็นสบู่ โลชั่น น้ำยาดับกลิ่นเท้า และสปาชา ในอนาคต
,ผศ.ดร.บุษบา สิทธิการ ประธานคณะกรรมการบริหารหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาจัดการการท่องเที่ยว สำนักการจัดการ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เน้นเรื่องการท่องเที่ยวโดยชุมชน ด้วยจังหวัดเชียงรายมีกลุ่มชาติพันธุ์อยู่เกือบ 30 กลุ่ม และมีการรวมตัวเป็นทางการจำนวน 17 ชาติพันธุ์ กระจายทั่วจังหวัด มฟล. จึงได้ทำการรวมกลุ่มเพื่อส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชน ชาวบ้านสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยมุ่งเน้นสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน 19 ชุมชน สร้าง การท่องเที่ยววิถีชา-กาแฟ ซึ่งบ้านเกี๋ยงใต้ ต.แม่ลอย ก็เป็นหนึ่งในชุมชนที่ร่วมโครงการ หลังจากที่นำข้อมูลโพสต์ลงเฟซบุ๊กก็มีผู้สนใจสั่งซื้อชาเข้ามาจำนวนมาก. | ม.แม่ฟ้าหลวง หนุนชาวบ้าน ต.แม่ลอย อ.เทิง ตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตชาแม่ลอย หวังดึงนักท่องเที่ยวมาสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน ชมการสาธิตและร่วมทำชาในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเก็บใบชาไปจนถึงแปรรูป พร้อมนำชาเขียวที่ทำได้ | ข่าว,ทั่วไทย | ม.แม่ฟ้าหลวง,ชุมชนผลิตชาแม่ลอย,ชาแม่ลอย,ชาอัสสัม,เชียงราย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1076255 |
ผู้เลี้ยงไก่ประท้วงฟาร์มเลี้ยงไก่ไม่จ่ายเงินรวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท | ผู้เลี้ยงไก่จากจังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดพิจิตร 66 ราย รวมตัวบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ช่วยเจรจากับทางบริษัท โกลเดนไลน์ บิสเนส จำกัด หรือ บริษัท สหฟาร์ม เนื่องจากบริษัทไม่จ่ายเงินให้กับผู้เลี้ยงไก่มากว่า 6 เดือน มูลค่ารวมกว่า 40 ล้านบาท ทำให้เกษตรกรต้องเป็นหนี้กับธนาคาร รวมทั้งหนี้สินค่าไฟฟ้า และน้ำประปานายหิรัญวัตติ์ รัตนวิชัย แกนนำผู้เลี้ยงไก่ บอกว่า ทำฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อ ส่งให้กับบริษัทแห่งนี้มา 12 ปี ไม่เคยประสบปัญหาอะไร แต่ครั้งนี้ผ่านมากว่า 6 เดือนแล้ว กลับยังไม่ได้รับเงิน ถึงแม้จะทวงถามแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบขณะที่ นายคณีธิป บุญยเกตุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ลงมารับหนังสือพร้อมระบุว่าขณะนี้ บริษัทสหฟาร์มได้มีหนังสือชี้แจงถึงสาเหตุที่ไม่จ่ายเงิน เป็นเพราะบริษัทกำลังประสบปัญหาขาดทุนจากต้นทุนการเลี้ยงไก่ และราคาเนื้อไก่ตกต่ำ ล่าสุดสถานการณ์เริ่มดีขึ้นแล้ว บริษัทจะเริ่มทยอยจ่ายเงินให้กับเกษตรกรทุกคนในเร็วๆ นี้ | ผู้เลี้ยงไก่จังหวัดเพชรบูรณ์ และพิจิตร เรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ช่วยเจรจากับ บริษัทสหฟาร์ม จำกัด เพราะยังไม่จ่ายเงินค่าเลี้ยงไก่มากว่า 6 เดือนแล้ว มูลค่ารวมกว่า 40 ล้านบาท | ภูมิภาค | พิจิตน,ฟาร์มเลี้ยงไก่,สหฟาร์ม,เพชรบูรณ์ | https://news.thaipbs.or.th/content/133477 |
จัดรถเมล์พิเศษแก้รถติดลาดพร้าว | ขสมก.เตรียม 3 สายเสนอที่ประชุม-จัดรีเวิร์สฯด่วนฉลองรัชเวิร์ก,พล.ต.ต.เอกลักษณ์ ลิ้มสังกาศ ผบก.ส.3 รองคณะทำงานติดตามผลบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล กล่าวว่า วันที่ 23 ส.ค.นี้ ที่ ขสมก. จะมีการประชุมคณะทำงานฯ มี พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผบช. สยศ.ตร. เป็นประธาน เพื่อติดตามการเตรียมความพร้อมการเดินรถเมล์พิเศษ 3 เส้นทาง เพื่อรองรับการเดินทางระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง การก่อสร้างสะพานคนเดินข้ามหน้าสถานีขนส่งหมอชิต 2 และการแก้ไขปัญหาจุดเชื่อมต่อทางขึ้น-ลงทางด่วน,ทั้งนี้ ขสมก. เตรียมจัดเส้นทางเดินรถเมล์พิเศษ 3 เส้นทาง ได้แก่ 1.สาย 168 ตลาดมีนบุรี-อนุสาวรีย์ชัยฯ เที่ยวไป เริ่มจากตลาดมีนบุรี ผ่าน ถนนสีหบุรานุกิจ เข้าถนนร่มเกล้า รามคำแหง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนมอเตอร์เวย์ สาย 9 ผ่านด่านทับช้าง เข้าถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ขึ้นทางด่วน ผ่านด่านศรีนครินทร์ อโศก 4 ลงถนนพหลโยธิน เลี้ยวเข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ ส่วนเที่ยวกลับ จากอนุสาวรีย์ชัยฯ เข้าถนนราชวิถี ดินแดง พระราม 9 ขึ้นทางด่วนที่ด่านพระราม 9 ไปออกถนนมอเตอร์เวย์ ผ่านด่านทับช้าง ถนนรามคำแหง ร่มเกล้า สิ้นสุดตลาดมีนบุรี,2.สาย 145 แพรกษา-หมอชิต 2 เที่ยวไป จากถนนบางปู ผ่านถนนแพรกษา ถนนสายลวด เข้าถนนสุขุมวิท ไปออกถนนศรีนครินทร์ เข้าถนนพระราม 9 ขึ้นทางด่วนศรีรัช ลงถนนเลียบด่วนรามอินทราฯ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนลาดพร้าว ตรงไปเข้าถนนพหลโยธิน กำแพงเพชร 2 สิ้นสุดหมอชิต 2 เที่ยวกลับ จากหมอชิต 2 ผ่านกำแพงเพชร พหลโยธิน เข้าถนนลาดพร้าว เลี้ยวซ้ายไปกลับรถเข้าถนนเลียบด่วนรามอินทราฯ ขึ้นทางด่วนไปลงถนนศรีนครินทร์ เลี้ยวขวาเข้าถนนสุขุมวิท ผ่านสายลวด แพรกษา สิ้นสุดถนนบางปู,3.สาย 32 อู่ท่าอิฐ-วัดโพธิ์ เที่ยวไป จากท่าอิฐ ผ่านถนนราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ สะพานพระราม 4 ปากเกร็ด ขึ้นด่วนแจ้งวัฒนะ ลงงามวงศ์วาน ผ่านแคราย เข้าติวานนท์ ไปตามเส้นทาง ปกติ สิ้นสุดวัดโพธิ์ เที่ยวกลับ จากวัดโพธิ์ผ่านถนนท้ายวัง มหาราช ถนนพระจันทร์ หน้าพระธาตุ ราชินี พระอาทิตย์ บางลำพู เข้าถนนสามเสน ประชาราษฎร์ ท่าน้ำนนท์ แยกแคราย ขึ้นด่วนงามวงศ์วาน ไปลงด่วนแจ้งวัฒนะ สิ้นสุดที่ปากเกร็ด,ด้านนายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า เมื่อเช้าวันที่ 22 ส.ค. กทพ.เริ่มเปิดใช้ช่องทางพิเศษ บนทางพิเศษฉลองรัช หรือทางด่วนสายรามอินทรา-อาจณรงค์ ช่วงเข้าฝั่งขาออก 1 ช่องทาง ระยะทาง 5.7 กม. ปรากฏว่า การจราจร บนทางด่วนในช่องทางหลัก ฝั่งขาเข้า และช่องทาง พิเศษ ฝั่งขาออก การจราจรคล่องตัว เฉพาะช่วง 5.7 กม. ใช้เวลาเดินทาง 5 นาที จากเดิม 10-15 นาที ทำให้ถนนพื้นราบก่อนถึงแยกถนนพระราม 9 ตัดเอกมัย รับและระบายรถไปอโศก-ดินแดงไม่ทัน มีท้ายแถวสะสมย้อนขึ้นมาบนทางด่วน ทางตำรวจ จราจรรับทราบปัญหาแล้วอยู่ระหว่างปรับจังหวะสัญญาณไฟให้สอดคล้องกับปริมาณรถ คาดว่าการจราจรในวันถัดไปจะดีขึ้น. | เพื่อติดตามการเตรียมความพร้อมการเดินรถเมล์พิเศษ 3 เส้นทาง เพื่อรองรับการเดินทางระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง | ข่าว,ทั่วไทย | ถนนลาดพร้าว,รถเมล์,รถเมล์พิเศษ,รถไฟฟ้าสายสีเหลือง,ลาดพร้าว-สำโรง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1360290 |
แม็คก้า พูดถึง ลิเวอร์พูล-แมนฯซิตี้ ชี้ชัด 1 ปัจจัยซิวแชมป์ (คลิป) | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 27 มี.ค. ว่า สตีฟ แม็คมานามาน ปีกระดับตำนานของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาพูดถึงอดีตสโมสรต้นสังกัด และ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมชี้ชัด 1 ปัจจัยซิวแชมป์ลีกไปครอง,เป็นที่เข้าใจกันว่า ยอดทีมแห่งลุ่มแม่น้ำเมืองเมอร์ซีไซด์ นำจ่าฝูงของตารางด้วยการมี 76 คะแนนจากการลงสนาม 31 นัด นำหน้า เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การนำทีม เป๊ป กวาดิโอลา เทรนเนอร์ชาวสเปน ที่แข่งน้อยกว่า 1 นัดที่สะสมไป 74 คะแนนด้วยกัน,ล่าสุด สตีฟ แม็คมานามาน ออกมากล่าวว่า ผมคิดว่าทุกคนเชื่อว่า ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ได้ พวกเขารั้งตำแหน่งจ่าฝูงลีกโดยนำสองแต้ม ทุกคนรู้ว่ามันจะเป็นอะไรที่ยาก ทุกคนรู้ว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังมีเกมอยู่ในมืออีกนัด แต่การแข่งขันระหว่างทั้งสองทีมนี้ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะทำผลงานได้ดีที่สุดจนจบ ผมคิดว่าทั้งสองทีมต่างยอดเยี่ยมมากๆ ไม่ว่าใครแพ้ก็เป็นอะไรที่โชคร้ายทั้งนั้น เพราะพวกเขาจะเก็บคะแนนได้เยอะมาก หากยังสามารถเล่นแบบนี้ต่อไปได้ แต่นั่นคือวิถีทางในฟุตบอล ผู้ชนะมีได้แค่หนึ่งเดียว ส่วนที่เหลือคือผู้แพ้ | สตีฟ แม็คมานามาน ปีกระดับตำนานของ ลิเวอร์พูล ยอดทีมแดนผู้ดี ออกมาพูดถึงอดีตสโมสรต้นสังกัด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมชี้ชัด 1 ปัจจัยซิวแชมป์ลีก | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | ลิเวอร์พูล,พรีเมียร์ลีก,สตีฟ แม็คมานามาน | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1528883 |
มหากาพย์ป้อมมหากาฬ (3): กอ.รมน.มาจากไหน ทำไมถึงไปกางเต็นท์นอนในชุมชน | คสช. ยังไม่กำหนดว่าจะออกตอนไหน ส่งผลกระทบต่อชุมชนแต่ชาวบ้านพูดไม่เหมือนกันในภาวะที่ประเทศที่รัฐธรรมนูญระบุว่ามีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยถูกปกครองโดยคณะรัฐประหารมาจะเข้าปีที่ 4 และวันเลือกตั้งเลื่อนก็มีแต่จะเลื่อนออกไปเรื่อยๆ นั้น ก็ไม่รู้ว่าชุมชนป้อมมหากาฬที่ทุกวันนี้เหลือกันอยู่ไม่เกิน 50 คน กำลังพบกับภาวะไม่ปรกติหรือไม่ เมื่อลานกลางชุมชนมีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.กทม.) ไปตั้งเต็นท์ลายพรางประจำการตลอด 24 ชั่วโมงมาตั้งแต่เดือน พ.ย. ปีที่แล้ว โดยอ้างว่าเข้ามาเพื่อปราบปรามการจำหน่ายพลุไฟ สอดคล้องกับคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากพลุไฟการเข้าไปประจำการของ กอ.รมน.กทม. ส่งผลกับความเป็นไปของชุมชนป้อมฯ อย่างชัดเจน เพียงแค่แต่ละคนพูดถึงผลกระทบไม่เหมือนกัน แต่ชี้ชัดว่ากิจการพลเรือนถูกหน่วยงานความมั่นคงเข้ามารับผิดชอบไปแล้วอย่างวันนี้ (22 ม.ค. 2561) เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. เข้ามา ตอนแรกก็บอกว่าจะดูเรื่องพลุ ยาเสพติด และผู้มีอิทธิพล แต่ปัจจุบันทุกสิ่งทุกอย่างหมดไป แต่เจ้าหน้าที่มาเจาะแต่ละบ้าน ไปถามว่า เมื่อไหร่จะไป ผมจะเอาบ้านให้ตรงโน้นตรงนี้ ก็เจาะแต่ละบ้าน ทุกวันนี้ที่โล่งๆ ก็คือคนที่อยากไป แล้วยังมีที่จะออกไปอีก สุภาณัช ประจวบสุข ผู้ที่ยังอาศัยในชุมชนระบุถึงท่าทีของเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.กทม. เธอยังระบุว่ารู้สึกกดดัน เหมือนถูกจับตามองธวัชชัย วรมหาคุณ อดีตประธานชุมชนป้อมมหากาฬและหนึ่งในผู้เข้าร่วมประชุม กล่าวระหว่างการประชุมกับภาคประชาชน นักวิชาการ สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์เมื่อ 21 ม.ค. 2561 ว่า ช่วงเวลา 3-4 เดือนที่ผ่านมาตนอยู่กับความหวาดระแวงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัว ในชุมชนป้อมฯ มีความเคลื่อนไหวมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการเอาทหารมาประจำการในพื้นที่เพื่อปราบปรามการขายดอกไม้ไฟ เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมามีการใช้อำนาจตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 13/2559 ที่ใช้เพื่อปราบปรามผู้มีอิทธิพล เรียกตนเข้าไปพบกับ กอ.รมน.กทม. และเมื่อสองวันที่แล้วมีนายทหารไปคุยกับหญิงชราที่มีอาชีพขายของชำป้อมมหากาฬว่า ถ้าคุณไม่ย้ายออกจากที่นี่ คุณคือศัตรูของกองทัพพีระพล เหมรัตน์ อดีตรองประธานชุมชนป้อมมหากาฬ ปัจจุบันย้ายออกมาอยู่ที่สถานพักพิงชั่วคราวที่การประปาแม้นศรี หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า บ้านอิ่มใจ เป็นชื่อเดียวกันกับที่พักพิงคนไร้บ้านซึ่งตั้งอยู่ในรั้วเดียวกัน กล่าวถึงเหตุผลการย้ายไปอยู่ที่บ้านอิ่มใจว่า แฟลตนี้ไม่มีชุมชนอื่น เป็นสถานที่เร่งด่วนที่สั่งโดย รองนายกฯ ประวิตร (วงษ์สุวรรณ) สั่งให้ กอ.รมน. มาดูที่นี่โดยเฉพาะ ให้ความสำคัญกับการหาที่อยู่ใหม่ให้คนในป้อม ให้อยู่สะดวกสบาย ก็มี เสธ. มาเดินดูหลายคน พีระพลให้ข้อมูลเพิ่มเติมเราก็สู้มา 25 ปีแล้ว เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการต่อสู้ เนื่องจากที่ตรงนั้น ข่าวสารและข้อมูลมันชัดเจนว่าไม่สามารถอยู่ต่อได้ในอนาคต เราและครอบครัวจึงปรึกษากันว่าไปดูที่อื่นไหม พอดีได้ที่ที่เกียกกาย หลังวัดแก้วแจ่มฟ้า มีที่ประมาณเกือบ 1 ไร่ เป็นที่ของกรมธนารักษ์ ซึ่งทางทหาร กอ.รมน. ก็ได้ดำเนินการขอเช่าที่ กรมธนารักษ์ก็ไม่ติดอะไร แต่ตอนนี้อยู่ในขบวนการจัดตั้งกลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อทำการเช่าที่ จึงตัดสินใจออกมา พีระพล กล่าวกวี (นามสมมติ) ชาวชุมชนป้อมฯ ที่ย้ายมาอยู่ที่บ้านอิ่มใจอีกคนหนึ่ง กล่าวว่า เคยมีปัญหากับอดีตผู้นำชุมชนเมื่อครั้งที่ตนจะถอนเงินจากออมทรัพย์ชุมชนเมื่อจะย้ายออก แต่ก็โดนบ่ายเบี่ยง จนถึงกับต้องแจ้งตำรวจ และทางทหารได้ช่วยเหลือเขาไว้หลายเรื่อง ซึ่งกวีระบุว่า ทหารพึ่งพาได้มากกว่าตำรวจ เพราะทหารยื่นมาเข้ามาช่วยเหลือเวลาที่ตนลำบาก โดยกวีได้ไปร้องเรียนเรื่องข้างต้นที่ กอ.รมน.กทม และเจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน.กทม ก็พาไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.สำราญราษฎร์บทบาทของ กอ.รมน.กทม. ที่อ้างว่าเข้ามาปราบปรามการขายพลุไฟ และเรียกตัวอดีตผู้นำชุมชนเข้าไปพบตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ได้ เป็นเรื่องที่น่าตั้งคำถามกับสังคมและหน่วยงานราชการฝ่ายพลเรือนได้สองประการหนึ่ง ภาวะเงียบงันของสังคมและหน่วยงานราชการฝ่ายพลเรือนต่อการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงในกิจการพลเรือน สะท้อนความชินชากับการอยู่ใต้ระบอบคณะรัฐประหาร และวัฒนธรรมความมั่นคงที่ทหารเป็นใหญ่หรือไม่สอง ความเงียบงันของสังคม และการตัดสินใจของ ผู้ว่าฯ กทม. ที่ให้ กอ.รมน.กทม. เข้าไปปฏิบัติการในชุมชนป้อมมหากาฬสะท้อนถึงการตีความด้านความมั่นคงในลักษณะกว้างมากถึงขนาดที่จะใช้หน่วยงานความมั่นคงแทนที่หน่วยงานพลเรือน แม้แต่ในเรื่องการจัดการการจำหน่ายพลุไฟและข้อสงสัยเรื่องการใช้อิทธิพลในพื้นที่่ชุมชนขนาดไม่เกิน 15 หลังคาเรือนใช่หรือไม่ หรือว่าลึกๆ มีเหตุปัจจัยที่ กทม. และ กอ.รมน.กทม. ยังไม่ได้บอกสาธารณชนกันแน่ประชาไทชวนดูที่มาของ กอ.รมน. บทบาท และอำนาจของหน่วยงานความมั่นคงที่กินอาณาบริเวณมาถึงกิจการพลเรือน รวมทั้งเดินทางไปยังสำนักงาน กอ.รมน.กทม. ที่ศาลาว่าการ กทม. เพื่อสัมภาษณ์พันเอกวิโรจน์ หนองบัวล่าง หัวหน้าฝ่ายข่าวของ กอ.รมน.กทม. ถึงเหตุผลของการไปตั้งเต็นท์ประจำการในพื้นที่ และที่มาของอำนาจในการไปประจำการในชุมชน ระบุว่า กอ.รมน. คือองค์กรที่แปรสภาพมาจากกองอำนวยการป้องกันและปราบปรามคอมมิวนิสต์ (กอ.ปค.) ใน พ.ศ. 2516 แต่ยังคงสืบต่อความรับผิดชอบในภารกิจป้องกันและปราบปรามคอมมิวนิสต์ต่อไป เมื่อเวลาผ่านไปและภัยคุกคามจากคอมมิวนิสต์มีน้อยลงจึงได้ปรับบทบาทให้มีภารกิจด้านการป้องกัน ปราบปรามยาเสพติด จัดระเบียบและเสริมความมั่นคงชายแดน การพัฒนาเพื่อความมั่นคงเฉพาะพื้นที่ การแก้ปัญหาชนกลุ่มน้อยและผู้หลบหนีเข้าเมือง การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี ปฏิบัติงานด้านการข่าวและปฏิบัติการจิตวิทยา (ปจว.)พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ระบุให้สถานะของ กอ.รมน. เป็น ส่วนราชการรูปแบบเฉพาะ ใต้การบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ผอ.รมน.) และมีผู้บัญชาการทหารบกเป็นรอง ผอ.รมน.กอ.รมน.กทม. เป็นหน่วยย่อยในระดับจังหวัดของ กอ.รมน. โดยมีผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ดำรงตำแหน่ง ผอ.รมน.กทม. (ผู้ว่าฯ ใน พ.ร.บ. หมายรวมถึงผู้ว่าฯ กทม. ที่มีที่มาของการดำรงตำแหน่งจากการเลือกตั้ง ต่างจากจังหวัดต่างๆ ที่มาจากการแต่งตั้ง) ขึ้นตรงกับ กอ.รมน.ภาค ที่มีแม่ทัพภาคเป็น ผอ.รมน.ภาค มีหน้าที่รับผิดชอบความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในเขตพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาค โดยหน่วยปฏิบัติงานระดับภูมิภาคนั้นเป็นหน่วยงานผสมระหว่างพลเรือน ตำรวจ ทหาร ทั้งที่เป็นอัตราประจำและช่วยราชการมาตรา 7 ของ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายใน ให้ กอ.รมน. มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินแนวโน้มของสถานการณ์ที่อาจก่อให้เกิดภัยคุกคามด้านความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และรายงานคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไปอำนวยการในการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ให้มีอำนาจหน้าที่เสนอแผนและแนวทางในการปฏิบัติงานและการดำเนินการต่อ ครม.อำนวยการ ประสานงาน และเสริมการปฏิบัติของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามแผนและแนวทางในการปฏิบัติงานตามข้อ 2 โดย ครม. จะมอบหมายให้ กอ.รมน. มีอำนาจในการกำกับการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐตามที่ ครม. กำหนดด้วยก็ได้เสริมสร้างให้ประชาชนตระหนักในหน้าที่ที่ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ สร้างความรักสามัคคีของคนในชาติ รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและความสงเรียบร้อยของสังคมดำเนินการอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ หรือตามที่ ครม. สภาความมั่นคงแห่งชาติหรือนายกรัฐมนตรีมอบหมายกอ.รมน. ปรากฏตามหน้าข่าวบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งเครือข่ายความมั่นคง หรือการปฏิสัมพันธ์กับชุมชนในลักษณะต่างๆ ซึ่งสามารถนิยามในภาพรวมได้ว่าเป็นพฤติการณ์ที่หน่วยงานความมั่นคงเข้าไปปฏิบัติการในกิจการพลเรือนฝ่ายข่าว กอ.รมน.กทม. เผย รับใบสั่งจากผู้ว่าฯ กทม. ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. และไม่มีกำหนดว่าจะย้ายออกเมื่อวันที่ 22 ม.ค. พันเอกวิโรจน์ หนองบัวล่าง หัวหน้าฝ่ายข่าวของ กอ.รมน.กทม. กล่าวว่า กอ.รมน.กทม. อาศัยอำนาจตาม เรื่องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ทาง กอ.รมน.กทม. ได้สังเกตการณ์มานาน และได้ส่งคนไปประจำการเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ทั้งยังไม่มีกำหนดเวลาว่าจะอยู่ถึงเมื่อไหร่ โดย กอ.รมน.กทม. จะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะปราบปรามการขายพลุให้แล้วเสร็จ ซึ่งชาวชุมชนเองก็ยืนยันหลายปากว่าไม่มีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพลุไฟหรือยาเสพติดการที่ กอ.รมน. ไปตั้งเต็นท์ในพื้นที่ เพราะอดีตมีการทำผิดกฎหมายของประชาชนในป้อม มีการค้าขายและสะสมพลุ ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้าม ผิดกฎหมาย ที่ผ่านมารายได้จากชุมชนในป้อมมาจากการจำหน่ายพลุ ทางเราก็ไปดำเนินกรรมวิธีตามกฎหมายว่า ไม่อยากให้ในป้อมมีการสะสมและจำหน่ายพลุ เราเลยเข้าไปอยู่ตรงนั้นเพื่อให้เห็นว่าเราทำตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งก็ทำสำเร็จ เพราะไม่มีคนขายและสะสมพลุในบริเวณนั้นอีกเลย รวมทั้งได้ไปตรวจพบและดำเนินการจับกุมบุคคลที่เป็นพ่อค้ารายใหญ่ที่อยู่ตรงบ้านบาตร ข้างวัดสระเกษที่เป็นแหล่งจำหน่ายและสะสมพลุจำนวน 7 คูหา มีพลุจำนวน 200 ตันที่นั่น เราก็ไปตรวจพบและจับกุมทั้งหมด เป็นการขยายผลจากชุมชนเราก็จะทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมั่นใจว่าจะไม่มีการจำหน่ายพลุ ปัจจุบันสืบทราบว่ายังมีการลักลอบจำหน่ายอยู่ คนที่เคยจับกุมไปแล้ว จากที่เคยมาขายที่ป้อมมหากาฬ หน้าร้านตัวเอง ตอนนี้ใช้กุฏิพระในวัดสระเกษเป็นที่เก็บ เดี๋ยวรอให้แน่ชัดก่อนจะไปจับให้หมดเลยเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวของ กอ.รมน.กทม. ระบุว่า แม้ทาง กทม. จะเป็นเจ้าของพื้นที่ดังกล่าว แต่ กอ.รมน.กทม. ก็มีหน้าที่รับผิดชอบทับกับ กทม. ในบางเรื่อง ในประเด็นชุมชนป้อมมหากาฬนั้น กอ.รมน.กทม. ได้รับคำมอบภารกิจจากผู้ว่าฯ กทม. ที่สวมหมวกผู้อำนวยการ กอ.รมน.กทม. อยู่แล้วอีกใบเขาเรียกว่าอยุ่ในความรับผิดชอบของ กทม. ในภาพรวม แต่ กอ.รมน. มีหน้าที่รับผิดชอบทับกับ กทม. ในบางเรื่อง เช่น ป้อมมหากาฬ ทางผู้ว่าก็ขอความร่วมมือมาทาง กอ.รมน. เพราะท่านก็เป็น ผอ. อยู่แล้ว ว่าช่วยเพ่งเล็งตรงนี้เรื่องการจำหน่ายพลุในป้อมเพิ่มเติมอีกภารกิจหนึ่ง โดย กอ.รมน.กทม. ได้มีการประสานงานกับส่วนกองกำลังรักษาความสงบ กองทัพภาคที่ 1 ส่วนสำนักงานเทศกิจเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตพระนคร และตำรวจ สน.สำราญราษฎร์คำตอบของวิโรจน์ในประเด็นบทบาทการไล่รื้อสะท้อนถึงทิศทางการจัดการพื้นที่และคนในชุมชนป้อมมหากาฬของหน่วยงานภาครัฐ ที่จะเก็บเอาไว้แต่บ้าน ส่วนคนนั้นเป็นอีกประเด็นหนึ่งแยกออกจากกันทราบว่าตรงนี้เป็นพื้นที่ที่กรุงเทพฯ ได้เวนคืนหมดแล้ว ชุมชนป้อมที่เราไปอยู่ก็มี 15 ครอบครัว ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ไม่มีพื้นฐานดั้งเดิมจากคนในป้อม แต่เป็นคนมาเช่าบ้าน เช่น เมื่อก่อนมีคนเขมรมาเช่าบ้านหลังหนึ่งอยู่ พอเราเข้ามาเขาก็ให้ออกไป เราก็ให้ประชาชนที่เขารู้จักกันมาอาศัยแทน รวมทั้งคนในป้อมที่มีหลายกลุ่มที่เป็นผู้บุกรุกแต่เดิมแต่อยู่มานาน ก็เป็นเรื่องที่ทาง กทม. ต้องดำเนินการต่อไปในสิ่งที่ตามกฎหมาย แต่ผมก็ทราบมาว่า ในส่วนของบ้าน ทาง กทม. จะอนุรักษ์ไว้ แต่จะอนุรักษ์เป็นโบราณสถาน ไม่ให้คนอาศัย เป็นบ้านที่เขาเห็นคุณค่าทางประวัติศาสตร์และจะอนุรักษ์เอาไว้ ผู้บุกรุกทั้งหมดต้องออกไปจากบริเวณนี้ทาง กทม. จะมีประวัติแต่ละบ้านว่าเป็นบ้านใคร จ่ายค่าชดเชย ค่าเวนคืนไปแล้วเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ จากข้อมูล กทม. มีบ้านที่ไม่ได้รับค่าเวนคืนอีกร้อยละ 25 หรือ 2 ครอบครัว จะจ่ายต่อเมื่อรื้อเท่านั้น ที่เหลือเป็นผู้บุกรุกทั้งหมดวิโรจน์ขยายความของผู้บุกรุกว่า เป็นคนที่เจ้าของบ้านเดิมให้เช่าบ้าน แล้วเจ้าของบ้านเดิมก็รับค่ารื้อถอนไปแล้ว แล้วก็ให้คนที่เช่าอยู่นั้นอยู่ต่อโดยไม่เก็บค่าเช่า คนที่อยู่โดยสถานภาพผู้เช่าก็กลายเป็นผู้บุกรุกไปโดยปริยาย เพราะไม่จ่ายค่าเช่าให้ กทม. และไม่ได้เป็นเจ้าของบ้าน แต่ กทม. ก็ไม่ได้ใจร้ายนะ เมื่อคนเช่าเดิมย้ายออกจากที่เช่าเดิมก็จะได้รับค่าเสียสิทธิ์จำนวน 43000 บาทเพื่อไปเช่าบ้านที่อื่นต่อ อันนี้คือที่ทราบมาแต่ในความเป็นจริง กอ.รมน.กทม. ก็มีหน้าที่เป็นหน่วยรับเรื่องร้องเรียนจากคนในชุมชนเหมือนกัน สะท้อนจากคำตอบของวิโรจน์ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง กอ.รมน.กทม. กับชุมชน ก็มีหลายคนที่อยู่ในนั้นมาร้องว่า คนทั้ง 5 ครอบครัวเหมือนกับทำตัวเป็นเจ้านายเขาซึ่งเขาไม่ชอบ เราก็เลยเชิญเขามาพูดคุยว่ามีการร้องเรียนแบบนี้ มีเหตุผลอะไรที่ไปอธิบายให้ฟังไหม ก็ไกล่เกลี่ยแล้วยุติกันไป วันที่ 26 ม.ค. นี้ก็มีอีกเหมือนกันเพราะคนภายในปล่อยกู้เงินแล้วดอกเบี้ยเกินอัตรา ก็จะเรียกมาสอบถามกันผู้สื่อข่าวประชาไทรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ซึ่งเป็นวันเดียวกันที่ กทม. พยายามเข้ารื้อบ้านหมายเลข 111 ในชุมชนป้อมฯ ธวัชชัยได้เดินทางไปยังศาลาคนเมืองเพื่อเข้าพบกับทาง กอ.รมน. หลังถูกเรียกตัวด้วยคำสั่งที่ 13/2559 กรณีมีบุคคลที่เพิ่งย้ายออกจากป้อมมหากาฬฟ้องร้องว่าธวัชชัยหลอกให้นำเงินจำนวน 80000 บาท ไปซ่อมแซมบ้าน จากนั้นธวัชชัยก็ใช้อิทธิพลกดดันให้ตนออกจากบ้านที่ซ่อมแซม ซึ่งหลังจากคู่กรณีพูดคุยกันและชี้แจงเรื่องค่าใช้จ่ายที่ กอ.รมน. ก็พบว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด เนื่องจากธวัชชัยไม่สามารถบังคับใครได้ เพราะไม่ใช่เจ้าของที่ดิน รวมถึงพฤติการณ์ที่ถูกกล่าวหาว่าใช้อิทธิพลกดดันนั้นมาจากการมองหน้าเท่านั้นเมื่อ 29 ม.ค. วิโรจน์กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ณ ชุมชนป้อมมหากาฬ ขณะที่มีการรื้อบ้านหมายเลข 113 ว่า กอ.รมน.กทม. เป็นหน่วยงานหลักที่ประสานงานหาที่อยู่ใหม่ให้กับผู้ที่ออกจากชุมชนป้อมฯ โดยที่จะเป็นบริเวณเกียกกาย ขนาดเกือบ 1 ไร่ เป็นที่ของกรมธนารักษ์ ซึ่งจะให้คนที่ไม่มีบ้านรวมเงิน และรวมตัวกันตั้งเป็นสหกรณ์ เก็บเงินสะสมรวมกันให้ได้ร้อยละ 10 ของราคาที่ แล้วยื่นเรื่องขอกู้เงินอีกร้อยละ 90 จากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) เพื่อเอาเงินจำนวนดังกล่าวมาสร้างบ้าน เช่าที่ โดยมีระยะเวลาผ่อนชำระ 15 ปี แต่ต้องเป้นบ้านตามรูปแบบที่ พอช. กำหนด คือเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น วิโรจน์ระบุว่า การประสานกับอธิบดีกรมธนารักษ์เป็นไปด้วยดี เราประสานกับรองอธิบดีกรมธนารักษ์แล้ว ท่านก็เต็มใจในส่วน กอ.รมน. เข้าไปดำเนินการจัดการ ก็เต็มใจที่จะให้ที่ตรงนั้นด้านอภิชาต พงษ์สวัสดิ์ อาสาสมัครด้านกฎหมายของชุมชนป้อมมหากาฬ กล่าวถึงการใช้อำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช. เรียกตัวบุคคลเข้าพบนั้นไม่สมควร เพราะคำสั่งดังกล่าวให้อำนาจในการควบคุมตัวบุคคลได้ 7 วัน ซึ่งไม่เป็นผลดีกับสภาพการณ์ เพราะทางชุมชนก็มีความขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่รัฐอยู่แล้ว ส่วนภาพรวมการต่อสู้ระหว่าง กทม. กับชุมชนป้อมมหากาฬนั้นเป็นการต่อสู้เชิงนโยบายในประเด็นอัตลักษณ์ชุมชน ส่วนกฎหมายนั้นแม้เป็นกฎหมายที่ลิดรอนสิทธิ์ แต่ก็ได้บัญญัติไปบังคับใช้ไปตั้งแต่ พ.ศ. 2535 แล้ว ทาง กทม. เองนอกจากต้องปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว อีกด้านหนึ่งก็ยังมีภาระที่ต้องดูแลชาว กทม. ซึ่งชาวชุมชนป้อมมหากาฬเองก็เป็นคน กทม. เหมือนกันถ้าว่ากันด้วยกฎหมาย รัฐได้ออกกฎหมายเวนคืนซึ่งเป็นกฎหมายลิดรอนสิทธิ์ เพื่อเอาที่ดินไปทำเป็นที่สาธารณะ แต่ในเชิงนโยบายที่ต่อสู้กันคือการรักษาอัตลักษณ์ของชุมชนเมือง เป็นเรื่องการต่อสู้เชิงนโยบายและการแก้ไขปัญหาชีวิตคนเมือง กทม. เองก็มีหน้าต้องทำตามกฎหมายเวนคืน แต่อีกด้านหนึ่งก็ต้องบำบัดทุกข์ บำรุงสุขคน กทม. ด้วย ซึ่งคนชุมชนป้อมมหากาฬก็เป็นคน กทม. ถามว่าวันนี้ถ้าเอาคนออกจากชุมชน เขาก็เป็นคนไร้บ้าน กทม. จะรับผิดชอบตรงนี้อย่างไร 25 ปีที่ผ่านมาก็เป็นการต่อรองทางนโยบาย ไม่ได้ต่อรองกฎหมาย เพราะกฎหมายบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2535 แล้ว อภิชาต ระบุชุมชนป้อมมหากาฬ เดิมมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 4 ไร่ 300 ตารางวา ปี 2559 มีบ้านเรือนทั้งหมด 64 หลัง ประชากรประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่มีอาชีพค้าขาย เช่น ขายกระเพาะปลา ส้มตำ ไก่ย่าง ขายพลุ ดอกไม้ไฟ ฯลฯ ถือเป็นย่านที่อยู่อาศัยเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์ แต่เดิมมีทั้งขุนนาง ข้าราชบริพาร ปลูกสร้างบ้านเรือนพักอาศัยอยู่นอกกำแพงพระนคร รวมทั้งมีชุมชนเรือนแพอยู่ในคลองโอ่งอ่าง โดยมีป้อมที่สร้างขึ้นตามกำแพงพระนครในสมัยนั้นรวม 14 ป้อม (เหลือปัจจุบันเพียง 2 ป้อม คือ ป้อมมหากาฬและป้อมพระสุเมรุ)ปัญหาที่ชุมชนป้อมมหากาฬได้รับผลกระทบอยู่ในปัจจุบันนี้เป็นผลมาจากโครงการปรับปรุงพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬเพื่อจัดทำเป็นสวนสาธารณะและอนุรักษ์โบราณสถานของชาติตั้งแต่ปี 2502 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาเกาะรัตนโกสินทร์ ทำให้ต้องมีการรื้อถอนบ้านและย้ายชุมชนที่อยู่ในแนวกำแพงป้อมมหากาฬออกทั้งหมด เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์และทำเป็นสวนสาธารณะแต่ก็ยังทำไม่สำเร็จ ต่อมา กทม.ทำการเวนคืนที่ดินในปี 2535 ตั้งแต่นั้นก็มีปัญหาไล่รื้อเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีชาวบ้านบางส่วนที่รับเงินค่าเวนคืนไปแล้ว แต่ชาวชุมชนส่วนใหญ่ต่อสู้และคัดค้านมาอย่างต่อเนื่อง เช่น ในปี 2546 กทม.ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาเพื่อปิดล้อมเตรียมการไล่รื้อ แต่ชาวชุมชนและเครือข่ายคูคลองหลายร้อยคนได้คล้องแขนเป็นกำแพงมนุษย์ปิดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่บุกเข้าไป ต่อมาในปี 2547 ชาวชุมชนยื่นฟ้อง กทม.ต่อศาลปกครอง ศาลปกครองพิพากษาในเวลาต่อมาให้ กทม. มีสิทธิในการเวนคืนเพื่อพัฒนาที่ดินเมื่อปี 2560 มีการประชุมคณะกรรมการ 4 ฝ่ายระหว่างกรุงเทพมหานคร ผู้แทนชุมชนป้อมมหากาฬ ผู้แทนภาคประชาสังคม และฝ่ายความมั่นคงช่วยเดือน เม.ย. - ก.ค. โดยกลุ่มนักวิชาการเสนอแนวทางการพิจารณาอนุรักษ์บ้านผ่านคุณค่าทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ ด้านประวัติศาสตร์ ด้านศิลปะ สถาปัตยกรรมและผังเมือง ด้านสังคมและวิถีชีวิต ด้านโบราณคดี และด้านวิชาการ ซึ่งข้อตกลงในตอนนั้นได้ตกลงกันว่าจะให้เก็บบ้านในชุมชนเอาไว้จำนวน 18 หลังเมื่อ 7 ก.ค. 2560 ยุทธพันธุ์ มีชัย เลขานุการผู้ว่าราชการ กทม. ตัวแทนพูดคุยประเด็นป้อมมหากาฬของทาง กทม. ระบุว่าไม่สามารถเก็บบ้านไว้ได้ทุกหลัง และแบ่งบ้านเป็นโซนที่จะอนุรักษ์และโซนที่จะต้องรื้อ ก่อนที่จะนำข้อเสนอดังกล่าวให้ทาง กทม. พิจารณาต่อไป แต่หลังจากนั้นก็มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเมืองขึ้นมาและได้ตัดสินให้คงบ้านไว้เพียง 7 หลัง ทั้งนี้ การเก็บบ้านไม่ได้หมายความว่าจะให้เจ้าบ้านอยู่อาศัยในบ้านได้ต่อไปในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของในหลวง ร.9 พื้นที่หัวป้อมถูกนำไปใช้เป็นห้องครัวและห้องสุขา และหลังจากพระราชพิธีฯ ในเดือน พ.ย. หน่วยทหาร-พลเรือน ของ กอ.รมน.กทม. เข้าไปตั้งเต็นท์อาศัยในลานกลางชุมชน โดยอ้างว่าเข้ามาเพื่อปราบปรามการลักลอบการจำหน่ายพลุไฟ และยังคงปักหลักอยู่ที่ลานกลางชุมชนจนถึงทุกวันนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ผลัดเวรมานั่งเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง15 ม.ค. กทม. เข้ารื้อบ้านเลขที่ 63 ที่เจ้าของบ้านสมัครใจย้ายออกไปอาศัยอยู่ที่พักพิงชั่วคราวที่สำนักงานประปาเก่าที่สี่แยกแม้นศรีที่ถูกจัดเอาไว้ให้ชาวชุมชนป้อมมหากาฬ ซึ่งในรั้วเดียวกันมีอาคารที่จัดเอาไว้เพื่อเป็นที่พักของคนไร้บ้าน เรียกว่า บ้านอิ่มใจ ทาง กทม. และ กอ.รมน.กทม. มีแผนที่จะใช้ที่ดินกรมธนารักษ์ในย่านเกียกกายปลูกที่พักอาศัยให้ชาวบ้านย้ายไปอยู่ต่อในวันเดียวกัน ธวัชชัย วรมหาคุณ อดีตประธานชุมชนป้อมมหากาฬ ถูก กอ.รมน.กทม. เรียกตัวด้วยคำสั่งที่ 13/2559 กรณีมีบุคคลที่เพิ่งย้ายออกจากป้อมมหากาฬฟ้องร้องว่าธวัชชัยหลอกให้นำเงินจำนวน 80000 บาท ไปซ่อมแซมบ้าน จากนั้นธวัชชัยก็ใช้อิทธิพลกดดันให้ตนออกจากบ้านที่ซ่อมแซม ซึ่งหลังจากคู่กรณีพูดคุยกันและชี้แจงเรื่องค่าใช้จ่ายที่ กอ.รมน. ก็พบว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด เนื่องจากธวัชชัยไม่สามารถบังคับใครให้อยู่หรือย้ายจากชุมชนได้ เพราะไม่ใช่เจ้าของที่ดิน รวมถึงพฤติการณ์ที่ถูกกล่าวหาว่าใช้อิทธิพลกดดันนั้นมาจากการที่ธวัชชัยมองหน้า และเพราะคนในชุมชนไม่พูดจาด้วยพรเทพ บูรณบุรีเดช อดีตรองประธานชุมชนป้อมมหากาฬระบุว่า ปัจจุบันเหลือประชากรในป้อมจำนวน 10 หลังคาเรือน จำนวนคนราว 45 คน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กทม. มีแผนจะเข้ารื้อบ้านอีกในช่วงวันที่ 29-31 ม.ค. 2561 โดยวานนี้ (29 ม.ค. 2561) มีการเข้าไปรื้อบ้านหมายเลข 113 ซึ่งเป็นบ้านของกวี (นามสมมติ) ที่เพิ่งย้ายออกไปอยู่บ้านอิ่มใจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีชาวชุมชนที่ออกไปส่วนหนึ่งกลับมาพร้อมคนงาน โดยให้เหตุผลว่ามาป้องกันเหตุทะเลาะกันระหว่างคนที่จะย้ายออกและคนที่ยังอยู่ในวันเดียวกัน สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมืองเก่า เรื่องมาตรการที่รัฐพึงปฏิบัติในการบริหารจัดการพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬ โดยเดินทางไปยื่นที่ที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติแวดล้อม โดยขอให้กรรมการอนุรักษ์ฯ ปฏิบัติตามกรอบข้อตกลง 4 ฝ่ายระหว่าง กทม. ตัวแทนชุมชนป้อมมหากาฬ นักวิชาการ และฝ่ายความมั่นคง ลงนามร่วมกันว่าด้วยการอนุรักษ์บ้านจำนวน 18 หลังเอาไว้ และให้พิจารณาเรื่องวัฒนธรรม วิถีชีวิตของชุมชนที่ถือเป็นชุมชนชานพระนครแห่งสุดท้ายอีกด้วย | ตอนสุดท้ายของชุดรายงานพิเศษ เมื่อ กทม.ใช้ฝ่ายความมั่นคงแก้ปัญหาพลเรือน ชวนดูที่มาและขอบเขตอำนาจ กอ.รมน. นายทหารฝ่ายข่าว กอ.รมน.กทม. ระบุ รับคำสั่งจากผู้ว่าฯ เข้าไปปราบปรามการขายพลุไฟตามคำสั่งหัวหน้า | การเมือง,คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน | กทม.,กอ.รมน.,กอ.รมน.กทม.,ชุมชนป้อมมหากาฬ,บ้านอิ่มใจ,วิโรจน์ หนองบัวล่าง | https://prachatai.com/journal/2018/01/75189 |
ทร. เปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ วันลอยกระทง | เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่หอประชุมกองทัพเรือ พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ เสนาธิการทหารเรือ เป็นประธานเปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำเนื่องในวันลอยกระทงประจำปี 2560 โดยมอบหมายให้กองเรือลำน้ำเป็นหน่วยงานหลักดูแลและช่วยเหลือประชาชน ซึ่งมีการจัดเรือ 37 ลำ พร้อมกำลังพล 200 นาย ยุทโธปกรณ์และชุดแพทย์เคลื่อนที่ อาทิ รถพยาบาล 2 คัน รถยนต์ 5 คัน ซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ของวันนี้ (3 พ.ย.) ถึงเวลา 08.00 น. ของวันที่ 4 พ.ย. โดยมีเส้นทางการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า สะพานตากสิน ท่าเรือบางนา อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สายด่วน 1696 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 0-2475-3093 0-2412-6963 0-2475-3094 0-2475-2097 และ0-2475-6068,ทั้งนี้ พล.ร.อ.พิเชฐ กล่าวว่า ศูนย์ดังกล่าวเริ่มต้นจาก พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้สั่งการให้กองเรือยุทธการโดยกองเรือลำน้ำจัดตั้งศูนย์นี้ขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ในวันนี้เพราะเป็นวันลอยกระทง หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นทางศูนย์ฯพร้อมทำงานช่วยเหลือประชาชนทันที อีกทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนที่มาลอยกระทงในคืนนี้ด้วย โดยการทำงานในครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่ดูแลแม่น้ำเจ้าพระยา มีกองเรือลำน้ำเป็นหน่วยงานหลัก ตำรวจน้ำ กรมเจ้าท่า กทม. รวมถึงมูลนิธิต่างๆ เข้าร่วมด้วย เพราะทุกหน่วยงานและทุกส่วนราชการตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนตามนโยบายของกองทัพเรือที่ระบุไว้ว่าทหารเรือจะอยู่เคียงข้างประชาชน,เมื่อถามว่า ปีนี้มีปริมาณน้ำมากมีความเป็นห่วงสิ่งใดเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ร.อ.พิเชฐ กล่าวว่า พวกเราเตรียมการทุกอย่างที่คิดว่าจะเป็นปัญหาในคืนนี้ได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว โดยเฉพาะการเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็มีเครื่องมือเข้าไปช่วยเหลือทันที ส่วนปริมาณน้ำที่สูงในวันลอยกระทงถือเป็นเรื่องธรรมดา ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าเราจะทำงานด้วยความตั้งใจและร่วมมือกันดูแลประชาชน,นอกจากนี้ เรายังได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการริมน้ำมาช่วยกันทำให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนเพราะทุกคนตั้งใจมาลอยกระทง ขอขมาพระแม่คงคาและปล่อยทุกข์ปล่อยโศก ซึ่งถือเป็นประเพณีของไทยที่มีมายาวนานและเราต้องดำรงต่อไป ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องให้ความร่วมมือ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา. | กองทัพเรือ เปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ วันลอยกระทง 2560 ระดมกำลังพล-ยุทโธปกรณ์ดูแลประชาชน พร้อมเข้าช่วยเหลือได้ทันที หากเกิดอุบัติเหตุ | ข่าว,การเมือง | ลอยกระทง,ลอยกระทง 2560,กองทัพเรือ,อุบัติเหตุทางน้ำ,ผู้ประสบภัย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1115785 |
นายกฯ นำ ครม.-เหล่าทัพ วางพวงมาลาวันปิยมหาราช | วันนี้ (23 ต.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี วางพวงมาลาเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ณ พระบรมราชานุสรณ์ พระลานพระราชวังดุสิต เนื่องในงานน้อมรำลึกครบรอบ 107 ปี วันคล้ายวันเสด็จสวรรคต 23 ตุลาคม 2560 พร้อมกันนี้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นำ พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รวมทั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมกำลังพล และสมาคมแม่บ้านเหล่าทัพ ร่วมวางพวงมาลาด้วยทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา ภาคเอกชน ประชาชนทุกหมู่เหล่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เดินทางมาวางพวงมาลาและถวายบังคมพระบรมราชานุสรณ์ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสำหรับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) มีพระราชกรณียกิจที่สำคัญยิ่งต่อประเทศชาติ ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ เช่น การเลิกทาส ทรงมีวิสัยทัศน์กว้างไกลในการนำชาติให้รอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตก และทรงพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านสังคม การศึกษา การคมนาคม ทำให้พระองค์ได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า สมเด็จพระปิยมหาราช โดยมีการจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติในวันที่ 23 ตุลาคม เป็นประจำทุกปี | นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ผู้นำเหล่าทัพ พร้อมประชาชนทุกหมู่เหล่า วางพวงมาลาพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันปิยมหาราช 23 ต.ค.2560 | สังคม | ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,วางพวงมาลา,นายกรัฐมนตรี,วันปิยมหาราช | https://news.thaipbs.or.th/content/267141 |
ปปง. ฟุ้งแถลงผลงานในรอบ 1 ปี ยึดทรัพย์คดีสำคัญกว่า 4 หมื่นล้านบาท | เมื่อวันที่ 18 ส.ค.60 ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการ ปปง. แถลงผลงานในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ยึดทรัพย์ในคดีสำคัญกว่า 40,000 ล้านบาท,พล.ต.อ.ชัยยะ กล่าวว่า ในช่วง 1 ปีเศษ นับตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ปปง. ได้ดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินและส่งสำนวนให้อัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินในคดีสำคัญต่างๆ แยกเป็นคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐร่วมกับเอกชนกระทำความผิด ประกอบด้วยดังนี้,คดีที่ 1 คดีคลองด่าน มูลค่าความเสียหาย 32,555 ล้านบาท ซึ่งทางสำนักงาน ปปง. ทำการยึดและอายัดทรัพย์สินได้มูลค่า 6,352 ล้านบาท และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินคดีความผิดฐานฟอกเงิน ดังนี้ 1.บริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด 2.บริษัท สี่แสงการโยธา (1979) จำกัด 3.บริษัท ประยูรวิศว์ จำกัด 4.บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ จำกัด 5.บริษัท เกตเวย์ ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด 6.บริษัท สมุทรปราการ ออพเปอร์เรทติ้ง จำกัด 7.นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล 8.บริษัท เอ็ม ดี เอ็กซ์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบันอัยการสูงสุดมีคำวินิจฉัยชี้ขาดให้ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 8 รายแล้ว,คดีที่ 2 คดีจำนำข้าว มีคดีกว่า 100 คดี มูลค่าความเสียหาย 405,000 ล้านบาท สำนักงาน ปปง. ทำการยึดและอายัดทรัพย์สินได้ส่วนหนึ่งที่มาจาก 4 สัญญา (ซึ่งเป็นสัญญาจีทูจี) และพนักงานสอบสวนดีเอสไอดำเนินคดีความผิดฐานฟอกเงิน 4 ราย ได้แก่ 1. นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง 2.นายสุธี เชื่อมไธสง 3.นายนิมล หรือณพชร รักดี 4.นายสมคิด เอื้อนสุภา ซึ่งปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ,คดีที่ 3 คดีธนาคารกรุงไทย มูลค่าความเสียหาย 10,000 ล้านบาท สำนักงาน ปปง. ทำการยึดและอายัดทรัพย์สินได้ มูลค่า 64 ล้านบาท,คดีที่ 4 คดีทุจริตการจัดซื้อสารเคมีผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืชกรณีภัยพิบัติฉุกเฉิน มูลค่าความเสียหาย 657 ล้านบาท สำนักงาน ปปง. ทำการยึดและอายัดทรัพย์สินได้มูลค่า 461 ล้านบาท,พล.ต.อ.ชัยยะ กล่าวต่อว่า ด้านคดีที่เอกชนกระทำความผิด เช่น คดีที่ 1 คดีค้ามนุษย์ (สถานบริการนาตารี) สำนักงาน ปปง.ทำการยึดและอายัดทรัพย์สินได้มูลค่า 724 ล้านบาท,คดีที่ 2 คดีบริษัทฝูอัน ทราเวล จำกัดและบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต หรือคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ สำนักงาน ปปง. ทำการยึดและอายัดทรัพย์สินได้มูลค่า 9,542 ล้านบาท และสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีความผิดอาญาฐานฟอกเงิน 13 ราย คือ 1.นายสมเกียรติ คงเจริญ 2.นางธวัล แจ่มโชคชัย 3.นางนิสา โรจน์รุ่งรังสี 4.นายวสุรัตน์ โรจน์รุ่งรังสี 5.บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต 6.บริษัท รอยัล เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 7.บริษัท รอยัล ไทย เฮิร์บ จำกัด 8.บริษัท บางกอก แฮนดิคราฟท์ จำกัด 9.บริษัท รอยัล พาราไดซ์ จำกัด 10.นายธงชัย โรจน์รุ่งรังสี 11.บริษัท บ้านขนมทองทิพย์ จำกัด 12.น.ส.สายทิพย์ โรจน์รุ่งรังสี 13.นายวินิจ จันทรมณี ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญา,คดีที่ 3 คดีธรรมกาย มูลค่าความเสียหาย 20,000 ล้านบาท สำนักงาน ปปง. ทำการยึดและอายัดทรัพย์สินได้มูลค่า 2,344 ล้านบาท อาทิ กรณีสั่งจ่ายเช็ค 27 ฉบับให้ พระธัมมชโย (โครงการเวิลด์พีซ) มูลค่า 1,585 ล้านบาท กรณีที่ดิน น.ส.อลิสา อัศวโภคิน จำนวน 8 แปลง มูลค่า 289 ล้านบาท กรณีการซื้อขายที่ดินระหว่างบริษัท เอ็ม – โฮม เอสพีวี 2 จำกัด กับนายอนันต์ อัศวโภคิน และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ มูลค่า 470 ล้านบาท เป็นต้น,คดีที่ 4 คดีผู้ลำเลียงยาเสพติดไปยังภาคใต้โดยใช้รถไฟ สำนักงาน ปปง.ทำการยึดและอายัดทรัพย์สินได้มูลค่า 196 ล้านบาท,คดีที่ 5 คดีเครือข่ายไซซะนะ สำนักงาน ปปง. บูรณาการเข้าร่วมตรวจค้นกับสำนักงาน ป.ป.ส., บช.ปส., กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำการยึดและอายัดทรัพย์สินได้มูลค่า 500 ล้านบาท,คดีที่ 6 คดีนายเล่าต๋า แสนลี่ สำนักงาน ปปง. บูรณาการร่วมกันกับ บช.ปส. และตำรวจภูธรภาค 5 ทำการยึดและอายัดทรัพย์สินได้มูลค่า 24 ล้านบาท,คดีที่ 7 คดี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ มูลค่าความเสียหาย 263 ล้านบาท สำนักงาน ปปง. ทำการยึดและอายัดทรัพย์สินได้มูลค่า 29 ล้านบาท,คดีที่ 8 คดีการพนันออนไลน์ สำนักงาน ปปง. ทำการยึดและอายัดทรัพย์สินได้มูลค่า 115 ล้านบาท,คดีที่ 9 คดีระหว่างประเทศ อาทิ คดีนายจาง ชิง ตวน สำนักงาน ปปง. ประสานงานกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน มูลค่าประมาณ 1,000 ล้าน สำนักงาน ปปง. ทำการยึดและอายัดทรัพย์สินได้มูลค่า 346 ล้านบาท,พล.ต.อ.ชัยยะ กล่าวตบท้ายว่า รวมมูลค่าความเสียหายในคดีสำคัญต่างๆ รวมทั้งสิ้น 469,034 ล้านบาท โดยทรัพย์สินที่สำนักงาน ปปง. ยึดและอายัดทรัพย์และส่งสำนวนให้อัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินในช่วง 1 ปีเศษที่ผ่านมา รวมมูลค่าทั้งสิ้น 40,000 ล้านบาท ทั้งนี้ผลการดำเนินงานดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ซึ่งยังมีคดีอีกเป็นจำนวนมากที่สำนักงาน ปปง.จะต้องนำกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินไปดำเนินการเพื่อนำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความความผิดกลับคืนสู่แผ่นดินต่อไป. | เลขาธิการ ปปง. แถลงผลงาน ปปง. ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ยึดทรัพย์ในคดีสำคัญกว่า 40,000 ล้านบาท อาทิ คดีธรรมกาย 2,344 ล้านบาท คดีลำเลียงยาเสพติด 196 ล้านบาท | ข่าว,อาชญากรรม | ปปง.แถลงผล,ปปง.,ยึดทรัพย์,ผลงาน ปปง.,พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1042125 |
มอร์ริสันหน้าเสียถูกชาวบ้านเหยื่อไฟป่ารุมด่า | มอร์ริสันของออสเตรเลียลงพื้นที่ติดตามภารกิจการดับไฟป่าในเขตเมืองชนบท โคบาร์โก รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 2 คนเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ หลายคนสูญเสียบ้านไปกับไฟป่า มอร์ริสันถูกกลุ่มชาวบ้านเข้ามารุมด่าอย่างไม่ไว้หน้า และมีชายคนหนึ่งชูนิ้วกลางให้ พร้อมตะโกนบอกว่าที่นี่ไม่ต้อนรับทั้งนี้ชาวบ้านวิจารณ์ความไม่พร้อมด้านเครื่องมือดับไฟป่าในพื้นที่ ถ้าเป็นเมืองใหญ่ๆ อย่างนครซิดนีย์และเมืองใหญ่อื่นๆคงได้รับการดูแลดีกว่านี้ และด้วยการต้อนรับของคนพื้นที่ไม่ดีนัก นายมอร์ริสันและทีมงานต้องออกจากพื้นที่เร็วกว่ากำหนด นายมอร์ริสันกล่าวในเวลาต่อมาว่าไม่แปลกใจและเข้าใจอารมณ์ของชาวบ้าน เพราะไม่เหลืออะไรเลยจากเหตุไฟป่านายกฯมอร์ริสัน ยังมีภารกิจต่อโดยไปเยี่ยมนักดับเพลิงที่เมืองความา รัฐนิวเซาท์เวลส์เช่นกันและได้รับการตอบรับไม่ดีเหมือนกัน นักดับเพลิงคนหนึ่งไม่ยอมจับมือด้วย นายมอร์ริสันต้องเอามือเข้าไปจับมือและตบที่หัวไหล่นักดับเพลิงคนดังกล่าวด้วยตัวเอง ก่อนรับฟังสถานการณ์ไฟป่าจากนักดับเพลิงอีกคนก่อนหน้านี้ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประกาศสถานการณ์ ฉุกเฉินรับมือไฟป่าขึ้นอีกเป็นครั้งที่สาม นาน 1 สัปดาห์มีผลบังคับตั้งแต่ 09.00 น. วันที่ 2 ม.ค. ตาม วันเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ยังสั่งอพยพนักท่องเที่ยวในพื้นที่ 250 กิโลเมตร ไล่ตั้งแต่แถบชายฝั่งทางใต้รัฐนิวเซาท์เวลส์ ไปจนถึงพื้นที่บางส่วนของรัฐวิคตอเรีย ให้ออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมงคำสั่งอพยพทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำมัน จราจรติดขัดและสินค้าขาดแคลน ทั้งนี้นับแต่เดือน ก.ย.ปีที่แล้ว ไฟป่าในหลายรัฐของออสเตรเลีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 คนด้านผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าอาจใช้เวลานับสิบปีกว่าสัตว์ป่าจะกลับมามีจำนวนในระดับมากเท่าปัจจุบัน หลังเกิดไฟป่า ด้านผลการศึกษาของยูนิเวอร์ซิตี้ออฟซิดนีย์คาดการณ์ว่าไฟป่าปีนี้ที่เกิดตั้งแต่เดือน ก.ย.ปีที่แล้ว ทำให้สัตว์ล้มตายไปจำนวนมาก โดยเฉพาะนิวเซาท์เวลส์รัฐเดียว มีสัตว์ป่าตายไปมากกว่า 480 ล้านตัว. | นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียถูกชาวบ้านรุมด่าไม่ใส่ใจแก้ปัญหาไฟป่าเหมือนเมืองใหญ่ๆอย่างซิดนีย์ เหตุเกิดขึ้นเมื่อ 2 ม.ค. ขณะนายกรัฐมนตรีสก็อตต์ | ข่าว,ต่างประเทศ | นายกรัฐมนตรีสก็อตต์,ชาวบ้านรุมด่า,ไฟป่า,ออสเตรเลีย,โคบาร์โก,นักดับเพลิง,รัฐนิวเซาท์เวลส์ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1739810 |
เกษตรกรร้องใช้ ม.44 แก้ปัญหาราคายางพารา | วันนี้ (4 ก.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวสวนยางหลายอำเภอของจังหวัดสงขลา ได้รับความดือดร้อนหลังราคายางพาราตกต่ำต่อเนื่องนาน 1 เดือน ล่าสุด เฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 48-52 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 70 บาทขณะที่นายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน เลขานุการเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศใช้มาตรา 44 แก้ปัญหายางพาราทั้งระบบอย่างเร่งด่วน โดยส่งเสริมให้ใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐเป็นวาระแห่งชาติ เริ่มจากทำถนนโดยผสมยางพารา เพื่อลดปริมาณยางในประเทศนายถนอมเกียรติ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่รัฐบาลไม่ประกาศใช้มาตรา 44 กำหนดให้ใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะการทำถนนผสมยางพารา ทั้งที่มีการคิดวิเคราะห์ต้นทุนและคำนวนราคากลางออกมาแล้วนั้น เชื่อว่ารัฐบาลกังวลว่าจะกระทบกลุ่มทุนที่มีผลประโยชน์ผูกขาดกับโครงการก่อสร้างถนนและการนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวกับยางพารา เครือข่ายฯ จึงเตรียมขึ้นป้ายประท้วงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีประกาศใช้ มาตรา 44 แก้ปัญหายาง จากนั้นจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนผ่านหน่วยงานต่างๆ | เครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ เรียกร้องให้รัฐบาลประกาศใช้มาตรา 44 เพื่อแก้ปัญหาราคาทั้งระบบ เริ่มจากนำมาเป็นส่วนผสมทำถนน | สิ่งแวดล้อม | ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ยางพารา,เกษตรกร,ราคายางพาราตกต่ำ | https://news.thaipbs.or.th/content/264050 |
ราคาน้ำมันปรับตัวสูง ดันส่งออก พ.ย. ขยายตัว 10.19% สูงสุดรอบ 9 เดือน | แน่,วันที่ 26 ธ.ค.59 นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยถึงสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า ในเดือน พ.ย.59 การส่งออกมีมูลค่า 18,911 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 10.19% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน เป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 9 เดือน นับจากเดือน ก.พ.59 ที่ขยายตัว 10.27% การนำเข้ามีมูลค่า 17,367.8 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 2.97% มีดุลการค้าเกินดุล 1,543.2 ล้านเหรียญฯ ส่วนในช่วง 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) ปี 59 การส่งออกมีมูลค่า 197,161.8 ล้านเหรียญฯ ลดลง 0.05% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้ามีมูลค่า 177,440.8 ล้านเหรียญฯ ลดลง 5.13% และเกินดุลการค้า 19,721 ล้านเหรียญฯ,การส่งออกเดือน พ.ย. ที่กลับมาบวกได้สูงถึง 10.19% สะท้อนถึงการฟื้นตัวของการส่งออกของไทย โดยตลาดส่งออกสำคัญกลับมาขยายตัวได้ดีเกือบทุกตลาด สินค้าอุตสาหกรรม สินค้าเกษตร ก็ขยายตัวได้ดี ที่สำคัญ สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันกลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบกว่า 25 เดือน ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น,สำหรับการส่งออกทั้งปี 59 คาดว่าจะมีมูลค่า 214,200-214,900 ล้านเหรียญฯ หรือขยายตัวอยู่ระหว่างติดลบ 0.1% ถึงบวก 0.2% แต่มั่นใจว่าน่าจะบวกเกิน 0% ได้แน่นอน และการส่งออกจะกลับมาเป็นบวกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ส่วนปี 60 ประเมินว่าจะขยายตัวอยู่ระหว่าง 2.5-3% จากปีนี้,ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนให้มูลค่าการส่งออกปี 60 ขยายตัว มาจากราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ทำให้สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันส่งออกได้ราคาดีขึ้น สินค้าเกษตรมีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น ทั้งยางพาราและน้ำตาลทราย เงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลดีต่อการส่งออก ขณะที่ผลเลือกตั้งสหรัฐฯ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดเงินและตลาดทุนอย่างชัดเจน และตลาดใหม่อย่าง CLMV ยังขยายตัวได้ดี ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อเนื่องจนถึงปี 60,อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เป็นไปอย่างล่าช้า โดยเฉพาะตลาดยุโรป ที่มองว่าจะมีปัญหาชะลอตัว ความกังวลในนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯ ที่จะเป็นปัจจัยกดดัน และค่าเงินของประเทศคู่ค้าสำคัญอ่อนค่า ทั้งมาเลเซียและจีน ที่จะกระทบต่อการส่งออกของไทยไปยังประเทศดังกล่าว และกระทบต่อการส่งออกไปยังตลาดที่เป็นคู่แข่งกัน,นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวต่อถึงรายละเอียดการส่งออกในเดือน พ.ย.59 ว่า สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร กลับมาส่งออกได้เพิ่มขึ้น 12.7% โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี เช่น ข้าว เพิ่ม 25.9%, ยางพารา เพิ่ม 15.6%, มันสำปะหลัง เพิ่ม 18.4, ผัก ผลไม้สดแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป เพิ่ม 17.1%, ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป เพิ่ม 20.8% ส่วนน้ำตาล ลดลง 23.5%,ขณะที่ สินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 9.8% สินค้าสำคัญที่เพิ่มขึ้น เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เพิ่ม 31.3%, เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ เพิ่ม 34.8%, เม็ดพลาสติก เพิ่ม 10.9%, ผลิตภัณฑ์ยาง เพิ่ม 12.5%, อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์ เพิ่ม 85.4% แต่อัญมณีและเครื่องประดับ ไม่รวมทองคำ ลดลง 10.9% เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ ลดลง 17.1% เครื่องนุ่งห่ม ลดลง 75% หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ ลดลง 9.8%,ด้านตลาดส่งออก กลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกตลาด โดยญี่ปุ่น เพิ่ม 22.5% จีน เพิ่ม 22% เอเชียใต้ เพิ่ม 11% CLMV เพิ่ม 3.5% ยูโรโซน (15 ประเทศ) เพิ่ม 13.8% สหรัฐฯ เพิ่ม 10.3% อาเซียน (9 ประเทศ) เพิ่ม 1.8%. | พาณิชย์ เผย ส่งออกเดือน พ.ย. ฟื้นตัวแรง ขยายตัว 10.19% สูงสุดในรอบ 9 เดือน หลังสินค้าอุตสาหกรรม เกษตร และสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน มูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น ส่วนยอดรวม 11 เดือน เหลือติดลบแค่ 0.05% มั่นใจทั้งปีพลิกกลับมาเป็นบวก | null | ส่งออกไทย,ส่งออกเดือน พ.ย.,พาณิชย์,มูลค่าส่งออก,สินค้าส่งออกไทย | https://www.thairath.co.th/content/821614 |
พรเพชร สัมมนาแนะนำบทบาท 33 สนช.ใหม่ รอง.ปธ.ชี้ทำหน้าที่แบบไม่มีพรรคแต่เป็นกลุ่มเดียวกัน | เป็นหนึ่งในแม่น้ำ 5 สาย21 ต.ค. 2559พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ สนช.ที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ จำนวน 33 คน ซึ่งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการ สนช. จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทอำนาจหน้าที่ จริยธรรมของสมาชิก การดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการ การยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตนคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามที่มีอยู่จริงในวันที่เข้ารับตำแหน่งหรือวันที่พ้นจากตำแหน่งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมทั้งสิทธิประโยชน์และการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิก สนช.พรเพชร ยังได้กำชับต่อสมาชิกถึงภารกิจสำคัญด้านนิติบัญญัติ โดยเฉพาะการเข้ามาทำหน้าที่ในช่วงนี้ที่จะต้องพิจารณากฎหมายจำนวนมาก ทั้งกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ กฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูป กฎหมายที่เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วางไว้ขณะที่ พีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช. คนที่ 2 ปาฐกถาพิเศษเรื่องจริยธรรมของสมาชิก โดยระบุถึงการเข้ามาทำหน้าที่แบบไม่มีพรรคแต่เป็นกลุ่มเดียวกัน เป็นหนึ่งในแม่น้ำ 5 สาย รับผิดชอบงานด้านนิติบัญญัติ และแม้ที่ผ่านมาทุกคนมาจากหน้าที่ที่หลากหลาย แต่สามารถดำเนินงานร่วมกันได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักกฎหมาย แต่ทุคนล้วนมีความรับผิดชอบ ส่วนการเข้าทำหน้าที่ของ สนช.ใหม่ในคณะกรรมาธิการสามัญ 16 คณะนั้น ไม่จำเป็นต้องแก้ไขข้อบังคับการประชุม สมาชิกใหม่สามารถเข้าไปเพิ่มจำนวนในคณะกรรมาธิการที่มีอยู่แล้วได้ทันทีที่มา | ประธาน สนช. เปิดสัมมนาเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ 33 สนช. ใหม่สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทอำนาจหน้าที่รองประธาน สนช.ระบุถึงการเข้ามาทำหน้าที่แบบไม่มีพรรคแต่เป็นกลุ่มเดียวกัน | การเมือง | พรเพชร วิชิตชลชัย,พีระศักดิ์ พอจิต,สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | https://prachatai.com/journal/2016/10/68472 |
การฟอกสีของแนวปะการัง มรดกโลกยังน่าเป็นห่วง | แนวปะการังเกรท แบร์ริเออร์ รีฟ ในประเทศออสเตรเลีย ความยาว 2,300 กิโลเมตร ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก กำลังประสบปัญหาการฟอกขาวรุนแรงที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา เนื่องจากอุณหภูมิน้ำทะเลร้อนขึ้นในช่วงเดือน มี.ค.–เม.ย.60 ซึ่งการสำรวจทางอากาศและน้ำพบว่าปะการังน้ำตื้นถูกทำลายไป 22% และขณะนี้มีเพิ่มขึ้นเป็น 29% แล้ว พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือทางตอนเหนือของเมืองพอร์ต ดักลาส ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม พบปะการังน้ำตื้นตายไปถึง 70%,การฟอกสีเกิดขึ้นจากสภาวะที่ผิดปกติ เช่น เมื่ออุณหภูมิของน้ำทะเลร้อนขึ้น ทำให้ปะการังขับไล่สาหร่ายเซลล์เดียวที่สามารถสังเคราะห์แสงซึ่งอาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อชั้นใน และเป็นตัวที่ปกป้องเนื้อเยื่อปะการังจากรังสีจากแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยคุกคามอื่นๆ เช่น การขยายพันธุ์ของปลาดาวมงกุฎหนามและพายุไซโคลนที่มีความรุนแรงขึ้น กระทบ 1 ใน 4 ของแนวปะการัง,ด้านนักวิทยาศาสตร์จากอุทยานแห่งชาติทางทะเลเกรท แบร์ริเออร์ รีฟ เผยว่า แนวปะการังแห่งนี้เป็นระบบที่มีขนาดใหญ่และยืดหยุ่น กุญแจสำคัญที่จะทำให้ปะการังสามารถฟื้นตัวคือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิน้ำทะเลร้อนขึ้น แต่การทำให้อุณหภูมิของน้ำลดลงและฟื้นคืนปะการังอาจต้องใช้เวลาถึงสิบปี อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงมีการลงนามในข้อตกลงปารีสเมื่อปี 2558 มีแผนการลดภาวะโลกร้อนโดยเฉลี่ย 2 องศาเซลเซียส และลดการเผาไหม้เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ เพื่อปกป้องมนุษย์ วิถีชีวิตและระบบนิเวศ. | แนวปะการังเกรท แบร์ริเออร์ รีฟ ในประเทศออสเตรเลีย ความยาว 2,300 กิโลเมตร ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก กำลังประสบปัญหาการฟอกขาวรุนแรงที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา | ข่าว,ต่างประเทศ | ทันโลก,การฟอกสี,แนวปะการัง,มรดกโลก,ออสเตรเลีย | https://www.thairath.co.th/news/foreign/959135 |
ส.ว.เชียงใหม่ ฟันธง กลุ่มอิทธิพล ฆ่าพระสุพจน์ | คิดว่า คงเป็นเรื่องของการพิพาทเรื่องที่ดิน และคงมีกลุ่มนายทุนผู้มีอิทธิพลเข้าเกี่ยวข้อง ซึ่งตนรู้ดี เนื่องจากเคยเป็นนายอำเภอฝางมา 5 ปี และตนก็เคยถูกนายทุนฟ้องมาก่อน ดร.อาคม ตุลาดิลก สมาชิกวุฒิสภา จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวในวงเสวนา การหาแนวทางแก้ไขปัญหาการคุกคามพระสงฆ์อนุรักษ์ป่าและการรักษาพื้นที่ป่าต้นน้ำ หลังจากกรณีการมรณภาพของพระสุพจน์ ด้วงประเสริฐ ที่สำนักปฏิบัติธรรมสวนเมตตาธรรม อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ดร.อาคม กล่าวในงานเสวนาที่มหาจุฬาลงกรณ์ วิทยาลัยเขตเชียงใหม่ วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่ ว่า เคยเป็นนายอำเภอฝาง มาเมื่อปี 2536-2540 และเคยรู้จักสำนักปฏิบัติธรรมสวนเมตตาธรรมมาก่อน ตั้งแต่สมัยที่ ดร.สิงห์ทน คำซาว เป็นเจ้าของที่ดินผืนนั้นและยอมรับว่า พื้นที่อำเภอฝางนั้นมีความขัดแย้งกันสูง เนื่องจากเป็นพื้นที่อยู่ติดชายแดน มีความขัดแย้งในเรื่องการแย่งชิงที่ดินและน้ำ เนื่องจากมีกลุ่มนายทุนปลูกสวนส้มกันมาก โดยเฉพาะหลังจากที่มีกฎหมายประกาศการปฏิรูปที่ดินหรือ สปก. ทำให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่ากันมากขึ้น โดยมีนายทุนเข้าไปจับจองกันมาก จนเกิดปัญหา แม้กระทั่งนายทุนถึงกับมีการฟ้องตน ซึ่งกรณีพระสุพจน์ แนวทางแก้ไขนั้น จำเป็นที่จะต้องมีประชาชนคอยเป็นผู้คุ้มครองพระสงฆ์ ชุมชนจะต้องร่วมกันเป็นกำแพงป้องกัน ส.ว.เชียงใหม่กล่าว ด้านนางเตือนใจ ดีเทศน์ วุฒิสมาชิกจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า นี่เป็นปัญหาใหญ่ 2 ปัญหา คือส่งผลสะเทือนต่อการเผยแผ่ธรรม ของพระนักพัฒนา ที่ได้พยายามประยุกต์หลักธรรมให้สอดคล้องกับยุคสมัยใหม่ ซึ่งถือว่าพระสุพจน์ เป็นผู้มีคุณูปการอย่างมาก ที่ได้ทำเว็บไซต์เผยแผ่ธรรมมะให้กับกลุ่มพุทธทาสศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นการสูญเสียนักวิชาการที่ส่งเสริมด้านหลักธรรมไปอย่างน่าเสียดาย นางเตือนใจ กล่าวต่อว่า อีกปัญหาหนึ่งก็คือ ปัญหาด้านนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนเลย แต่กลับมีนโยบายที่มุ่งทำลายทรัพยากร ไปส่งเสริมพืชเชิงเดี่ยวให้มีการปลูกส้มขยายไปทุกพื้นที่ โดยไม่ได้คำนึงถึงต้นทุนทางทรัพยากรธรรมชาติและต้นทุนทางสังคมที่สูญเสียไปมากมายเท่าใด จึงขอเสนอให้รัฐมีนโยบายคุ้มครองการเผยแผ่ธรรมมะ ให้มีความปลอดภัยจากการถูกคุกคาม และขอให้รัฐปรับเปลี่ยนนโยบายการจัดการทรัพยากรธรรมชาติกันใหม่ อีกทั้งขอให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้นตื่นตัวในการคลี่คลายคดีพระสุพจน์ แต่ไม่ควรรีบเร่งรัดเพียงเพื่อการจับแพะ แต่จะต้องสาวไปให้ถึงต้นตอให้ได้ นางเตือนใจ กล่าวในตอนท้าย | คิดว่า คงเป็นเรื่องของการพิพาทเรื่องที่ดิน และคงมีกลุ่มนายทุนผู้มีอิทธิพลเข้าเกี่ยวข้อง ซึ่งตนรู้ดี เนื่องจากเคยเป็นนายอำเภอฝางมา 5 ปี และตนก็เคยถูกนายทุนฟ้องมาก่อน ดร.อาคม ตุลาดิลก สมาชิกวุฒิสภา | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/06/4596 |
ตร.จับผู้ต้องหาค้ายาเสพติดเครือข่ายภาคเหนือ ยึดยาบ้า 3 หมื่นเม็ด | ยาบ้า 30000 เม็ด ยาไอซ์ 7 กิโลกรัม เป็นของกลางที่ตำรวจสืบสวนนครบาล 4 ยึดได้จากนายหนุ่ม สามลอ ผู้ต้องหาเครือข่ายค้ายาเสพติดจากภาคเหนือพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ตำรวจได้ล่อซื้อยาบ้าจากผู้ต้องหา 30000 เม็ด บริเวณปากซอยนวมินทร์ 24 เมื่อวานที่ผ่านมา ผู้ต้องหาจึงนำยาเสพติดใส่กระเป๋าเดินทางมาตามนัดหมาย จากนั้นได้ขยายผลไปค้นที่ห้องพัก พบยาไอซ์อีก 7 กิโลกรัม ผู้ต้องหาให้การว่านายอาลู่ ชาวเขาอ.แม่สาย จ.เชียงราย ส่งยาเสพติดมาเก็บไว้ในห้องพัก ก่อนจำหน่ายให้กับเครือข่ายนอกจากนี้ ตำรวจนครบาล 9 ยังจับผู้ต้องหา 2 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุตระเวนชิงทรัพย์โดยใช้ปืนและข่มขืน รวมทั้งค้ายาเสพติดในพื้นที่รอยต่อนครบาล ขณะขับรถจักรยานยนต์ไปส่งยาบ้า จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าระหว่างบวชเป็นพระได้ถอดจีวรมาตระเวนก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วในจ.นครสวรรค์ | ตำรวจนครบาลจับผู้ต้องหาเครื่อข่ายค้ายาบ้าจากภาคเหนือ ได้ของกลางเป็นยาบ้า 30000 เม็ด และยาไอซ์ 7 กิโลกรัม | อาชญากรรม | ตำรวจนครบาล,ภาคเหนือ,ยาบ้า,ยาเสพติด,ยาไอซ์ | https://news.thaipbs.or.th/content/184813 |
ประชาชนทั่วประเทศจับจองพื้นที่ร่วมกิจกรรมนับถอยหลังสู่ปีใหม่ | นักท่องเที่ยวเดินทางไหว้เจ้าแม่กวนอิมหยกขาว บริเวณวัดราชคีรีหิรัญยาราม เขาสมอแคลง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อความเป็นสิริมงคลในช่วงเทศกาลปีใหม่ ส่วนที่บึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร ประชาชนเข้าชมความงามของบึงสีไฟ แหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ และเตรียมรอชมภาพพระอาทิตย์ตกดิน แสงสุดท้ายของปี 2555 ซึ่งบริเวณนี้ สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกดินผ่านแผ่นน้ำกว้างใหญ่ ขณะที่จังหวัดเชียงราย เร่งจัดเตรียมสถานที่ บริเวณหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เพื่อจัดงานนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ในค่ำคืนนี้ (31 ธ.ค.)ที่จังหวัดเลย ดอกดาวเรืองที่บานสะพรั่ง ริมถนนสายภูเรือ - ด่านซ้าย อำเภอภูเรือ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว แวะถ่ายภาพระหว่างเดินทางไปพักค้างแรกที่อุทยานแห่งชาติภูเรือ ซึ่งปริมาณนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้ลานกางเต้นท์บนอุทยานถูกจับจองเต็มไปจนถึงวันที่ 2 มกราคมปีหน้า(2556)เช่นเดียวกับบริเวณผาเก็บตะวัน อุทยานแห่งชาติทับลาน อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางสัมผัสอากาศหนาว ซึ่งในช่วงเทศกาลนี้มีนักท่องเที่ยวรวมกว่า 60000 คน มีเงินสะพัดในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท สำหรับที่ปราสาทพนมรุ้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานนับถอยหลังคืนนี้(31 ธ.ค.) นักท่องเที่ยวต่างเข้าจับจองพื้นที่ เพื่อเฉลิมฉลองคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และวันพรุงนี้จะมีพิธี แห่ขบวนกองบุญขึ้นไปรับแสงแรกของปีบนยอดเขาพนมรุ้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนบรรยากาศบริเวณชายพัทยา จังหวัดชลบุรี เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานเทศกาลเมืองพัทยา 2013 ทำให้ถนนเลียบชายหาดหลายสายมีรถหนาแน่น แต่ยังเคลื่อนตัวได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังสายตรวจ และอาสาตามจุดบริเวณการจัดงาน เพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว ส่วนภาคใต้ เกิดปรากฎการณ์แม่คะนิ้ง บนภูผาหมอก อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เนื่องจากช่วงกลางคืนบนภูผาหมอก มีอากาศหนาวเย็น อุณภูมิลดต่ำประมาณ 2 องศาเซลเซียส สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างมาก ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช นักท่องเที่ยวเข้ากราบสักการะ สมเด็จพระศรีศากยมุณีศรีธรรมราช พระประธานประจำพระวิหารหลวงเพื่อความเป็นสิริมงคลช่วงปีใหม่ ท่ามกลางฝนที่ตกต่อเนื่อง ส่วนการท่องเที่ยวตามหมู่เกาะหลายแห่งคึกคักเช่นกัน โดยเฉพาะเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล มีท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมากว่า 10000 คน คาดว่ามีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท | สถานที่จัดกิจกรรมนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่หลายจังหวัดเริ่มคึกคัก นักท่องเที่ยวต่างเข้าจับจองพื้นที่เพื่อที่จะร่วมงานในค่ำคืนนี้(31 ธ.ค.) ขณะที่สถานที่ยอดนิยม ยังคงมีประชาชนเดินทางไปพักผ่อนวันหยุดจำนวนมาก | ภูมิภาค | 2556,จับจองพื้นที่,ทั่วประเทศ,นับถอยหลัง,ประชาชน,ปีใหม่,ร่วมกิจกรรม | https://news.thaipbs.or.th/content/136528 |
ยุคเปลี่ยนผ่าน | ในทางกลับกัน สื่อทุกชนิดได้ถึงยุคเจริญงอกงามที่สุด ช่องทางของการสื่อสาร แตกเหล่า-ผ่ากอ ออกไปมากมาย,จากเดิมที่เคยผูกขาด เช่น โทรทัศน์ สมัยตะกี้นั้น ก็ผูกขาดมัดคอแค่ 3 5 7 9 11 และ Thai Pbs,ใครอยากทำสื่อออกโทรทัศน์ ก็ต้องกราบกรานงอนง้อขอเวลาจากเจ้าของสื่อนั้นๆ,ต้องมีทุนรอนและทีมงานจำนวนมาก จึงจะผลิตสื่อชิ้นหนึ่งให้ผู้บริโภคได้เสพ,ผู้ชมจะนิยม หรือจะปฏิเสธจนหกคะเมนตีลังกา ก็ไม่มีใครทำนายได้ล่วงหน้า,นั่นคือวิกฤติของช่องทางสื่อในสมัยก่อน แต่เป็นยุคทองคำฝังเพชรของ เจ้าของหรือผู้ประกอบการสื่อ,แม้แต่รัฐเองก็หลงประเด็น อ่านไม่ขาด คิดว่าโทรทัศน์ในรูปแบบเดิมๆคือขุมทอง,ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า ออนไลน์จากสมาร์ทโฟนจะมาป่วนโลก และทำลายกัดกร่อนโทรทัศน์ในรูปแบบเดิมได้ในไม่กี่ปี,ค่าสัมปทานที่แพงเว่อร์เกินจริงของโทรทัศน์ดิจิตอลในวันนี้ เจ้าของช่องต่างๆที่กระโดดเข้ามาประมูล กำลังอยู่ในสถานะไม่มีจะชำระ หรือประกอบการได้ต่อไป,เม็ดเงินก้อนโตจากโฆษณา หดตัวลงตามสภาวะเศรษฐกิจ คนรุ่นใหม่ไม่ชมรายการโทรทัศน์ ทางเครื่องรับโทรทัศน์แบบเดิมๆ อีก,ความเจริญเติบโตของสื่อจึงล้นทะลัก เพราะใครก็เป็นเจ้าของสื่อได้ แค่มีโทรศัพท์มือถือก็ตั้งตนเป็นสื่อได้ทันที,หากมีพรสวรรค์ก็จะมีผู้ติดตามเป็นหลักแสนหลักล้าน มากกว่าเรตติ้งของทีวีบางสถานีที่ลงทุนและประมูลกันมาเป็นหลักพันล้านบาท,ส่วนคุณภาพสาระที่นำเสนอ ก็อยู่ที่วิจารณญาณและโชคเคราะห์ของผู้เสพ ตาดีได้ ตาร้ายเสีย ประมาณนั้น,เหมือน ลูกโป่งสวรรค์ ที่ถูกปล่อยให้ลอยสะเปะสะปะเต็มท้องฟ้าไร้ทิศทาง,ส่วนที่กำลังจะม้วนเสื่อกลับบ้านใครบ้านมัน คือเจ้าของสื่อแทบทุกรูปแบบ,วัดใจรัฐล่ะตอนนี้ ว่าจะมีนโยบายอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้,สันติพงษ์ นาคประดา,แจ๋วริมจอ,[email protected] | คุณดำรง พุฒตาล ได้กล่าวไว้เมื่อไปออกรายการถามตรงๆกับจอมขวัญ ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ว่า วันนี้ไม่ใช่วิกฤตการณ์สื่อ หากแต่เป็นวิกฤตการณ์ของผู้ประกอบการสื่อ หรือเจ้าของสื่อ | null | สื่อ,ยุคเปลี่ยนผ่าน,โทรทัศน์,ทีวีบันเทิง,แจ๋วริมจอ | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1162092 |
มาร์ค ถาม คสช.ขอชัดๆลต.เมื่อไหร่ ฟันธงมหรสพช่วยหาเสียงปัญหาเพียบ | เมื่อวันที่ 26 ม.ค.61 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี สนช.ลงมติให้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วันว่า เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่า จะออกมาในรูปนี้ แต่ประเด็นหลัก คือ คสช.และรัฐบาลจะต้องตระหนักว่าควรทำให้เกิดความเชื่อมั่น โดยหากจำเป็นต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ก็ควรประกาศให้ชัดอย่างตรงไปตรงมา เพราะเหตุผลที่ต้องขยายเวลาการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวออกไป ไม่สะท้อนความจริงที่เป็นผลมาจากการไม่ปลดล็อกทางการเมืองของ คสช. ดังนั้นความไม่แน่นอนดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาล คสช.และกระทบต่อประเทศ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ เนื่องจาก นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพิ่งออกมาระบุว่า อาจจะเกิดอะไรขึ้นอีกก็ได้,วันนี้คุณวิษณุบอกว่า ไม่มีใครสมควรที่บังอาจจะพูดว่าอะไร เมื่อไหร่ ดังนั้นยังไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้ เราก็ดูตามที่เขียนในกฎหมายได้ในตอนนี้ แต่ขณะเดียวกันถ้ามาตรา 44 สามารถที่จะถูกเอาออกมาใช้ทุกเมื่อ เพื่อแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ ความแน่นอนก็ไม่เกิด ยกเว้น คสช.แสดงเจตนารมณ์ให้ชัด ผมว่า คสช.จะต้องพูดให้ชัดว่า คำว่าโรดแม็ปไม่ใช่ยืดได้หดได้ตลอดเวลา ตกลง คสช.ต้องการให้ประเทศไทยเดินตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเมื่อไหร่ อย่างไร และมีเหตุผลอะไรบ้างที่อาจจะไม่เป็นไปตามนั้น และต้องสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นเหตุผลที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมเท่านั้นเอง ก็จะเกิดความมั่นใจและความน่าเชื่อถือ นายอภิสิทธิ์ กล่าว,นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อกติกาออกมาอย่างไร ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และยืนยันมาตลอดว่าพร้อมปฏิบัติ รวมทั้งกรณีการทำไพรมารี่โหวต ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จาก สนช.ว่าพรรคการเมืองไม่อยากทำ แต่เห็นว่าหากทำตามคำสั่ง คสช.ที่ออกมาจะกลายเป็นเพียงแค่พิธีกรรม ไม่ได้ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง และปมปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ คสช.ซึ่งยังไม่ยอมให้การปฏิบัติตามกฎหมายให้สามารถเดินไปตามปกติ เพราะ คสช.ยังมีคำสั่งที่ขัดกันเองอยู่ คือห้ามทำในเรื่องที่จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายอื่น,สำหรับกรณีที่ สนช.มีมติให้สามารถจัดมหรสพในการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งได้ และถูกมองว่าพรรคการเมืองใหญ่ได้เปรียบนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องว่าพรรคใหญ่หรือพรรคเล็กจะได้เปรียบ แต่เป็นเรื่องที่ควรมาประเมินว่าวิธีการจูงใจให้คนมาฟังการปราศรัย หรือทำกิจกรรมทางการเมืองด้วยวิธีนี้ จะเป็นการส่งเสริมประชาธิปไตยที่ทุกฝ่ายอยากจะเห็นหรือไม่ อย่างไรมากกว่า และตนเห็นว่าหากเปิดให้มีการจัดแสดงมหรสพรื่นเริงในการปราศรัยหาเสียงได้ ที่สุดจะมีความยุ่งยากตามมาอย่างแน่นอน เพราะจะมีปัญหาเรื่องการประเมินมูลค่าตัวเงินว่าการแสดงแต่ละครั้ง แต่ละคนเป็นอย่างไร เท่าไหร่ และยังมีกรณีที่ศิลปินที่มีชื่อเสียง มีสังกัดเป็นธุรกิจ อาจจะมีเรื่องของการใช้อำนาจรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง จึงไม่ง่ายในการควบคุมดูแล สรุปคือจะก่อให้เกิดปัญหาอื่นตามมาแน่ | อภิสิทธิ์ ขอ คสช.ชัดเจนเลือกตั้งเมื่อไหร่ คลุมเครือกระทบ รบ.-ประเทศ ยกคำพูด วิษณุ ถามโรดแม็ปยืดได้-หดได้ ย้ำ ปชป.พร้อมทำตาม ก.ม.ฟันธงมีมหรสพหาเสียงป่วนแน่ปัญหาเพียบ | เลือกตั้ง | อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,ประชาธิปัตย์,เลือกตั้ง,กฎหมาย ส.ส.,เลื่อนเลือกตั้ง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1187660 |
พบกะโหลก-กระดูกเด็ก นำเทียบดีเอ็นเอ น้องแพรว หายจากบ้านร่วม 4 เดือน | เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ก.ค.2559 พ.ต.ท.บุญนำ บุญอริยวัฒน์ พนักงานสอบสวน สภ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมใจ โพธิ์ศรีทอง สวป.สภ.ลานสกา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ เดินทางไปที่บ้านของนายพงษ์ศักดิ์ มหันต์ อายุ 44 ปี ที่บ้านเลขที่ 58/1 หมู่ 3 ต.ท่าดี อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช โดยเข้าตรวจสอบซากกะโหลกศีรษะและกระดูกมนุษย์ ที่มีผู้พบ ภายในสวนผลไม้หลังบ้านของนายพงษ์ศักดิ์,จากการตรวจสอบ พบกะโหลกศีรษะมนุษย์ขนาดเล็ก บางส่วนยังมีซากเนื้อที่แห้งกรังและเส้นผมติดอยู่กับกะโหลก ชิ้นส่วนกระดูกจำนวนหนึ่ง คาดว่าเป็นซากชิ้นส่วนศพของเด็กขนาดเล็ก อยู่ใต้ต้นมังคุดภายในสวนดังกล่าว ซึ่งตำรวจได้ขอความร่วมมืออาสาสมัครของมูลนิธิฯ ในการขุดค้นตรวจสอบพื้นที่ เพื่อหาซากชิ้นส่วนเพิ่มเติมในบริเวณสวนดังกล่าว,พ.ต.ท.บุญนำ บุญอริยวัฒน์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ลานสกา กล่าวว่า ช่วงเย็นวานนี้ได้รับแจ้งจากนายพงษ์ศักดิ์ เจ้าของสวนมังคุดดังกล่าว ว่าขณะที่ตนพร้อมด้วยลูกจ้างเข้าไปในสวนเพื่อเก็บผลไม้และผลหมากในสวน ได้เดินมาพบซากชิ้นส่วนกะโหลกและกระดูกดังกล่าว หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบยังสถานที่ที่ได้รับแจ้ง แต่เนื่องจากเมื่อเดินทางไปถึงเป็นเวลาพลบค่ำ ความมืดทำให้เกิดอุปสรรคในการตรวจสอบ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบเพิ่มเติมอย่างละเอียดในวันนี้,อย่างไรก็ตาม ผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านจำนวนหนึ่งคาดว่า ซากชิ้นส่วนกะโหลกและกระดูกที่พบ อาจเป็นของน้องแพรว หรือ ด.ญ.ขวัญฤทัย เพชรสุวรรณ อายุ 1 ปี 7 เดือน ที่หายตัวไปจากบ้านพักเลขที่ 191 บ้านในปริก หมู่ 3 ต.ท่าดี อ.ลานสกา เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหา แต่ไม่พบ ซึ่งจนถึงขณะนี้ ก็หายไปร่วม 4 เดือนแล้ว ซึ่งสวนผลไม้แห่งนี้อยู่ห่างจากบ้านของน้องแพรว ประมาณ 2 กม. อย่างไรก็ตามต้องรอการตรวจสอบดีเอ็นเอ และการตรวจเอกลักษณ์บุคคลก่อน ว่ากะโหลกและกระดูกที่พบเป็นของน้องแพรวหรือไม่,ทั้งนี้ หากการตรวจสอบมีความชัดเจนว่า กะโหลกและชิ้นส่วนกระดูกเป็นของน้องแพรว เจ้าหน้าที่ก็จะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน เพื่อสร้างความกระจ่างว่าน้องแพรวเสียชีวิตด้วยเหตุใด หากพบว่าถูกกระทำให้เสียชีวิต หรือถูกกระทำจนถึงแก่ความตาย ก็จะต้องเร่งดำเนินการติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,- ,น้องแพรว หายครบ 10 วัน ให้น้ำหนักเด็กถูกอุ้ม แม่วอนขอลูกคืน,- ,ครอบครัวน้องแพรว หันพึ่งร่างทรงไสยศาสตร์ ชี้ทางตามหากลับบ้าน | ตร.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เข้าตรวจสอบกะโหลกเด็ก และชิ้นส่วนกระดูก ภายในสวนผลไม้ ส่งพิสูจน์ดีเอ็นเอ เทียบ น้องแพรว วัยขวบ 7 เดือน หลังหายตัวจากบ้านร่วม 4 เดือน ยังตามไม่พบ… | null | กะโหลก,กระดูกเด็ก,น้องแพรว,ขวัญฤทัย เพชรสุวรรณ,เด็กหาย,เด็กหายจากบ้าน,ลานสกา,นครศรีธรรมราช,ดีเอ็นเอ,สวนผลไม้,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/666137 |
การเปลือยอก ภาษากาย และมรดกแห่งรัฐเทวราชานิยม | โดยถูกโยงใยถึงความเสื่อมเสียทางวัฒนธรรม[สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1303033776] และอีกเหตุการณ์หนึ่งคือ การที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ จ้องจะยื่นฟ้องกลุ่มผู้แสดงภาษากายในขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์กำลังปราศรัย โดยโยงว่าเป็นภาษากายที่บ่งชี้ถึงการเห็นด้วย หรืออวยนายจตุพร และการกระทำดังกล่าวเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ [สามารถอ่านรายละเอียดข่าวเพิ่มเติมได้จาก http://www.prachatai3.info/journal/2011/04/34074] ข่าวทั้งสองนี้ หากอ่านโดยไม่ได้สนใจอะไรมากนัก อาจจะมองมันในสถานะที่ไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ผมกลับมองว่ามันมีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวพ่วงกันอยู่ไม่น้อย นั่นก็คือ วิธีการมองด้วยมุมมองของพระเจ้า (Gods eye view) จากผู้ซึ่งเชื่อว่าตนเองเป็นผู้มีอำนาจในทางปกครอง มองลงมายังประชากรแห่งรัฐ ผู้ซึ่งคนกลุ่มดังกล่าวมองว่าเป็น ผู้ใต้ปกครอง ของตน ซึ่งรูปแบบการมองเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรในทางประวัติศาสตร์โลก เพราะสำนึกคิดแบบ เทวราชา นั้นแหละคือ รูปแบบการปกครองที่เป็นเช่นว่าโดยตรง คือ ตัวกษัตริย์นั้นเป็นผู้ทรงภูมิ ที่ได้รับการอนุญาตจากสวรรค์ หรือเป็นตัวแทนแห่งพระผู้เป็นเจ้า หรือเป็นเทพองค์หนึ่งเองที่ลงมาจุติบนโลกมนุษย์ เพื่อปกครองมนุษย์เดินดินธรรมดาให้อยู่รอดต่อไปได้ ฉะนั้นการ มีตัวตนอยู่ และการกระทำใดๆ ของคนในอาณาจักรนั้นๆ จึงเป็นเพียง การอนุญาตให้มีตัวตนอยู่ หรืออนุญาตให้กระทำได้ โดยกษัตริย์ผู้ซึ่งเป็นตัวแทนแห่งพระเจ้านั้นเท่านั้นเอง ปรากฏการณ์ และสำนึกคิดดังกล่าว เกิดขึ้นมาหมดแล้วแทบจะทุกพื้นที่ในโลก ตั้งแต่แดนไอยคุปต์ อินเดีย จีน ญี่ปุ่น อาณาจักรขอม จนถึงอาณาจักรอยุธยาเอง (ฯลฯ ฯลฯ) ภายใต้สำนึกคิดแบบนี้นั้น คนในดินแดน หรือผู้ใต้ปกครอง จึงจะเป็นเพียง วัตถุแห่งความปรารถนา (Object of Desire) ที่ขึ้นตรงอยู่กับผู้ปกครองเท่านั้น การกระทำใด ที่เสมือนจะทำไปโดยเสรีนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงการกระทำที่ ผู้ปกครองอนุญาต หรืออนุโลมให้ทำได้ ซึ่งการอนุญาต หรืออนุโลมนั้นพร้อมที่จะถูกดึงกลับคืนมาได้ทุกเมื่อ หรือกล่าวในอีกรูปแบบหนึ่งก็คือ สิทธิ และอำนาจเหนือร่างกายของตนเองนั้น ไม่ได้อยู่กับตัวเจ้าของร่างกายอันมีเลือดเนื้อนั้น แต่สิทธิ และอำนาจดังกล่าวตกอยู่กับตัวผู้ปกครองโดยสัมบูรณ์ เมื่อกาลผ่านไป แนวคิดแบบรัฐเทวราชานิยมนั้นก็ถูกกัดกร่อน ท้าทาย และทำลายลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการเกิดขึ้นของระบอบคิดแบบประชาธิปไตย ที่มองว่าอำนาจ และสิทธิเหนือร่างกายของตนนั้น เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่สุด ที่ไม่พึงโดนควบคุม หรือผูกขาดโดยผู้ใด อันนำมาสู่แนวคิดที่มองกระทั่งว่า อำนาจเหนือร่างกายนั้น คือ สัญลักษณ์แห่งเสรีภาพของประชาธิปไตย และการลุกฮือต่อต้านระบอบเก่า อย่างในการปฏิวัติฝรั่งเศสเอง ก็มีการนำภาพโป๊ (Pornography) มาใช้เพื่อสื่อแสดงถึงเสรีภาพ และอำนาจเหนือร่างกายในลักษณะดังกล่าวด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้ว ในสายตาของผมมันจึงเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่ในประเทศไทยตอนนี้ การที่หญิงสาวจะออกมาเต้นเปลือยอก หรือกลุ่มคนที่อยู่รอบตัวนายจตุพรจะแสดงท่าทางบางอย่างขึ้นมา แล้วจะต้องถูกเอาผิดโดยรัฐนั้น กลับเป็นเรื่องที่สังคมหลายภาคส่วนพากันเฮโลเห็นดีเห็นงามด้วย หรือแม้แต่นักเคลื่อนไหว ที่อ้างตนว่าเป็นเสรีชน หรือนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยบางคนยังออกมากล่าวร้ายสาวเปลือยอก ทั้งที่ท่าทีของคนในสังคมที่เป็นประชาธิปไตยมันควรจะตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ความลั่กลั่นในสังคมที่ตัวรัฐเองก็พยายามอ้างว่าตนเป็นประเทศประชาธิปไตย หรือขบวนการเคลื่อนไหว (ที่อ้างว่า) เพื่อประชาธิปไตยบางกลุ่ม (หรือบางคน) กลับเห็นด้วยกับการที่รัฐมาช่วงชิงสิทธิ และอำนาจเหนือร่างกายของสมาชิกแห่งรัฐผู้อื่นไป และทำให้การโชว์นม หรือการแสดงท่าทางบางอย่างรอบตัวนายจตุพร กลายเป็นอาชญากรรมไป ในขณะที่ทั่วโลก กำลังพยายามขยายขอบเขตของสิทธิ และอำนาจเหนือร่างกายของปัจเจกบุคคลให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีองค์กรอย่างเป็นทางการที่เรียกร้องเกี่ยวกับสิทธิในการเปลือยอกอย่างเท่าเทียม อย่าง Topless Equal Right Association หรือ TERA[1] ขึ้นมาแล้ว และในยุโรปหลายประเทศเอง ก็อนุญาตให้ทุกเพศ มีสิทธิในการเปลือยอกได้โดยทั่วไป อย่างเท่าเทียมกันแล้ว (ซึ่งจะยกเว้นก็แต่สถานที่ทางการของรัฐ หรือสถานที่ของเอกชนบางจุดที่อนุญาตให้กำหนดแนวทางการแต่งตัว – Dress Code – ได้ แต่โดยทั่วไปอนุญาต) อาทิเช่น ประเทศสวีเดน หรือ ประเทศเดนมาร์ก และยังมีประเทศที่ประชาธิปไตยก้าวหน้าอีกหลายแห่งทั่วโลกกำลังพยายามผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจังต่อไปเรื่อยๆ ในประเทศไทยนั้น ด้วยมรดกที่หลงเหลือมาจากยุครัฐเทวราชานิยม ซึ่งมรดกทางความคิดนี้เหลือมากเกินกว่าที่จะเรียกได้ว่าเป็นเพียงซากทางความคิด จึงทำให้เกิดเป็นสังคมไทยที่พยายามอ้างตัวว่าเป็นสังคมประชาธิปไตย แต่ในขณะเดียวกันก็มีมุมมองต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างกษัตริย์ในยุคเทวราชาต่อไป (ด้วยการอ้างแบบไร้ตรรกะผ่านคำว่า อเนกนิกรณ์สโมสรสมมติ)และเป็นรัฐซึ่งมีวาทกรรมเรื่อง ประเพณีไทยงดงาม ไม่แพ้ใครในโลก เป็นเสมือนหนึ่งสมบูรณาญาสิทธิวาทกรรม ที่ไม่อาจจะแตะต้อง หรือเห็นต่างได้ ด้วยความคิดว่าวัฒนธรรมไทยเป็นอะไรที่จรูญจรัสรัศมีพราวพร่างพร้อย อย่างที่เป็นอยู่ ทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่พร้อมจะดึงเอาลักษณะทุกอย่างที่ตนมองว่าเป็นสิ่ง ดีงาม รวมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเราเองได้หมดสิ้น โดยไม่รู้สึกแปลกประหลาด หรือเขินอาย ดั่งที่เราจะพบได้จากเพลงในโฆษณาเบียร์ช้าง โดยแอ๊ด คาราบาว ที่ว่า คนไหนคนไทย จะรู้ได้ไง ถ้ามีน้ำใจล่ะคนไทยแน่นอน อันซึ่งในทางความเป็นจริง ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวละอองธุลีใดๆ เลยที่จะบ่งวัดได้ว่า นั่นคือคนไทย หรือ การผูกขาดอำนาจเหนือความคิดในลักษณะเดียวกันว่า คนไทยทุกคนรักพ่อหลวง คนที่ไม่รักก็ไปอยู่ประเทศอื่น มันไม่ใช่คนไทย ฉะนั้นวิธีการในการ กำหนดลักษณะทางวัฒนธรรม (Cultural Characterization) ในสังคมไทยที่เกิดขึ้นนี้เองที่มันกลายมาเป็นเครื่องมือ (Mechanism) ของรัฐไทย ผู้ซึ่งยังมองตัวเองว่าเป็นผู้ปกครองในระบอบรัฐเทวราชานิยมอยู่นั้นสามารถใช้ประโยชน์ได้ต่อไป โดยจะมีเฉพาะลักษณะ (ทางการกระทำที่วัดมาตราฐานด้วยวัฒนธรรม) ที่ผู้กุมอำนาจเห็นควรให้อยู่เท่านั้น จึงมีสิทธิอยู่ต่อไปได้ และลักษณะของการกระทำใดที่รัฐไม่นิยม ก็จะต้องถูกเขี่ยทิ้งให้สูญพันธุ์ไป เพราะฉะนั้นด้วยพลังของวาทกรรมทางวัฒนธรรมที่รัฐพร่ำกล่อมเกลาตลอดวันตลอดคืน และสร้างให้เป็นวาทกรรมที่เห็นต่างไม่ได้ วิพากษ์ไม่ได้ เพราะนำมันไปผูกติดกับชาตินิยม และเทวราชานิยม ชนิดที่ว่าผู้ใดเห็นต่างจากวัฒนธรรมดังกล่าวก็จะถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกขายชาติ หรือโดนฝรั่งล้างสมองไปเสียหมด ย่อมทำให้สังคมอย่างไทยที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตยนั้น พร้อมจะคำราม ก่นด่าใส่ผู้ซึ่งพยายามจะหลุดออกจากการเป็นวัตถุแห่งปรารถนา (Object of Desire) แล้วกลายมาเป็น นายแห่งความปรารถนา (Subject of Desire) นั้น อย่างพร้อมเพรียงกัน และรู้สึกเป็นหน้าที่อันพึงกระทำ ในฐานะผู้สืบสานวัฒนธรรมอันแจ่มจรัสของชาติ ให้ไร้ซึ่งมลทินต่อไป ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าประหลาดอีกครั้ง หากเราลองสำรวจดู โดยใช้แว่นตาความรักชาติแบบหลวงวิจิตรวาทการยุคใหม่ (ที่คลั่งชาติ เสียยิ่งกว่าหลวงวิจิตรฯ เองเสียอีกนี่แหละ) มาสำรวจดู ประเทศที่เค้าอนุญาตให้สามารถเปิดอกโชว์ได้อย่างเต็มที่แล้วอย่างเดนมาร์ก หรือสวีเดนนั้น ก็ล้วนแต่เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานแสนนานไม่แพ้ประเทศไทย หรือสยามประเทศ หรือกรุงธนบุรี หรืออาณาจักรอยุธยา (ไล่ไปเรื่อย จนถึงเทือกเขาอัลไตไปนู่น) เลย และทั้งสองประเทศก็ล้วนแต่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขปกครองมาช้านาน มิได้ผิดแผกจากประเทศไทยเลยแม้แต่น้อย แต่ผมก็ไม่คิดว่าจะมีชาวโลกมาเที่ยวประณามว่าสองชาตินี้มีวัฒนธรรมอันบัดซบ ฟอนเฟะเพียงเพราะการให้คนสามารถมีสิทธิเหนือเต้าของตน หรือแม้แต่การวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์อย่างตรงไปตรงมาได้แต่อย่างใด เหตุที่ผมต้องพยายามสวมแว่นตาแบบหลวงวิจิตรฯ ทั้งที่ตัวผมนั้นรังเกียจเป็นอย่างยิ่งนี้ ก็เพื่อจะบอกท่านที่เชื่อเช่นนั้นว่า ข้ออ้างประเภทดังกล่าว ที่ว่าการเปลือยอกเป็นอาชญากรรม ทำลายวัฒนธรรมของชาติหรือที่ว่าการแสดงท่าทีบางประการเป็นการทำลายเกียรติ์ของประมุขของประเทศนั้น เป็นข้ออ้างที่ใช้ไม่ได้เลย (จริงๆ แล้ว ต่อให้ไม่ต้องมีข้อเปรียบเทียบที่ว่านี้ มันก็ใช้ไม่ได้ในเชิงตรรกะโดยตัวมันเองอยู่แล้ว สรุปคือ ใช้ไม่ได้ทั้งด้วยตัวมันเอง และเชิงเปรียบเทียบเลยทีเดียว) สิ่งสุดท้ายที่ผมอยากจะพูดถึงหลังจากได้พล่ามเรื่อยเปื่อยมามากมายแล้วนั่นก็คือ ผมอยากให้ทุกท่านโปรดจงระวังตัวให้ดี เมื่อใดก็ตามที่การเปลือยอก หรือการแสดงท่าทางใดๆ ได้กลายไปเป็นอาชญากรรมแห่งรัฐแล้วนั้น ทุกๆ ย่างก้าว และการกระทำในชีวิตท่าน นับตั้งแต่การรับประทานอาหาร ดื่มน้ำ ไปจนกระทั่งการมีเพศสัมพันธ์ ย่อมอาจกลายเป็นอาชญากรรมได้ทั้งสิ้น นั่นเป็นเพราะว่าสิทธิและอำนาจเหนือร่างกายท่านได้ถูกฉีกทึ้ง และถอนคืนไปแล้ว ไปสู่อุ้งมือของผู้มีอำนาจ และผู้ควบคุมกลไกทางวัฒนธรรม และใครก็ตามที่หวังจะลุกขึ้นต่อต้าน และแสดงความเป็นนายเหนือร่างกายของตนเอง ดังสตรีเปลือยอก หรือเหล่าคนที่ยืนรายรอบนายจตุพร ย่อมกลายเป็นเหยื่อสังเวยชั้นดี ที่ผู้มีอำนาจจะจิกทึ้งให้ท่านได้แลดูและหลาบจำว่า พี่เบิ้มกำลังจ้องมองคุณอยู่ ----------------------- [1] เว็บไซต์ทางการ ขององค์กร TERA สามารถเข้าถึงได้จาก http://www.tera.ca/ | ผมเชื่อว่าหลายท่าน คงจะพอได้ทราบข่าวสองข่าวที่ในขณะนี้กำลังเป็นกระแสร้อนแรงในสังคม นั่นคือ ข่าวของหญิงสาวที่ไปเต้นเปลือยอกบนหลังคารถในวันสงกรานต์ จนกลายมาเป็นประเด็นใหญ่โตในบ้านเมือง | การเมือง,สิทธิมนุษยชน,วัฒนธรรม,ความมั่นคง | การวิพากษ์วิจารณ์,รัฐเทวราชานิยม,หลวงวิจิตรวาทการ | https://prachatai.com/journal/2011/04/34123 |
บก.ลายจุดขอเคลียร์ประยุทธ์ มีปัญหาอะไรอีกทำไมยังต้องอายัดบัญชีธนาคาร | แต่ทำไมยังอายัดบัญชีอยู่ เผยมีลูกต้องดูแล มีพรรคเกียนที่ต้องทำ5 ต.ค. 2561 เวลา 10.00 น. สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ผู้จดจัดตั้งพรรค เกียน ได้เดินทางมาทำเนียบรัฐบาลประตู 5 เพื่อขอเคลียร์กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เพื่อพูดคุยเรื่องการอายัดบัญชีธนาคารโดยสมบัติ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากมียึดอำนาจเกิดขึ้นเพียงวันเดียว ตนถูก คสช. เรียกให้ไปรายงานตัวทันที แต่ตนตัดสินใจว่าจะไม่ไป ต่อมา คสช. จึงมีการออกคำสั่งให้อายัดบัญชีผู้ที่ไม่ไปรายงานตัว ตนจึงถูกอายัดบัญชี และถูกจับตัวได้ในที่สุด สำหรับตอนนี้คดีความตัดสินจบในชั้นศาลฎีกา ศาลสั่งปรับ 3000 บาท เมื่อปีที่ผ่านมา แต่บัญชีธนาคารยังถูกอายัดอยู่เดือดร้อนสิ เพราะผมมีลูกที่ต้องดูแล และกำลังเรียนอยู่ในระดับอุดมศึกษา ในความเป็นจริงผมต้องสนับสนุนลูก แต่ตอนนี้ลูกสาวผมต้องไปทำงานหารายได้ดูแลตัวเอง โอเคมันเป็นเรื่องดีที่เด็กสามารถหารายได้เลี้ยงดูตัวเอง แต่ว่าในฐานะของพ่อ พ่อก็ควรมีสิทธิที่จะได้ดูแลลูกด้วย ผมเรียกร้องแค่ให้ปลดการอายัดบัญชีผมจะได้ทำหน้าที่ของพ่อ สองชีวิตผมจะได้เดินต่อได้ และสามผมจะต้องไปเปิดบัญชี ตอนนี้ผมทำพรรคเกียนอยู่ ถ้าไม่มีบัญชีผมทำอะไรไม่ได้เลย กฎหมายมันระบุว่าหัวหน้าพรรคต้องไปเปิดบัญชีธนาคาร ผมอยากจะคุยกับพลเอกประยุทธ์ เพื่อนัดเคลียร์ปัญหากันสมบัติระบุต่อว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ไม่มาพบ ตนก็ต้องหาวิธีการต่อไปว่าจะทำอย่างไร วันนี้มตนมาถึงที่ทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์แล้ว แต่คิวงานของพล.อ.ประยุทธ์อาจจะไม่ได้เข้ามาทำเนียบ ตนก็ต้องดูต่อไปว่าจะนัดเคลียร์กันอีกครั้งที่ไหน เมื่อไหร่ และหากเรื่องนี้จบได้ ตนก็ไม่มีเรื่องอะไรที่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับพล.อ.ประยุทธ์อีกต่อมาเวลา 10.45 น. สมบัติได้รับการเชิญเข้าไปพูดคุยที่ศูนย์ดำรงธรรม ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน โดยเจ้าหน้าที่ประสานศูนย์ดำรงธรรมได้ถามถึงเอกสารร้องเรียน แต่สมบัติระบุว่า ไม่มีเอกสารอะไร เพราะคิดว่าเรื่องนี้แค่พูดคุยกันก็น่าจะเข้าใจ หากต้องการเอกสารมีให้เพียงแค่กระดาษลังที่ที่เขียนข้อความว่า คืนบัญชี คืนอำนาจ ให้ประชาชน เจ้าหน้าที่จึงขอเป็นบัตรประชาชนแทนเพื่อนำไปสืบค้นข้อมูลในระบบว่าการร้องเรียนในครั้งก่อนที่สมบัติเคยมายื่นเรื่องไว้เมื่อเดือน พ.ค. 2561 เรื่องไปถึงไหนแล้ว สมบัติ ระบุว่า วันนี้ลมเอากระเป๋าเงินมา จึงให้เจ้าหน้าที่นำชื่อตนไปสืบค้นแทน เจ้าหน้าที่ระบุว่า มันทำยาก สมบัติจึงให้เลขประจำตัวประชาชนไปแทนเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที เจ้าหน้าที่กลับมาพบสมบัติอีกครั้ง พร้อมเอกสาร 1 ชุด พร้อมชี้แจ้งว่า สมบัติได้ยื่นเรื่องเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2561 ในวันที่ 23 พ.ค. ทางศูนย์ดำรงธรรมได้ส่งเรื่องต่อไปยังนายกรัฐมนตรี ต่อมานายกรัฐมนตรีได้ส่งเรื่องกลับมาที่สำนักนายกรัฐมนตรีให้นำเรื่องนี้เรียนไปยังเลขาธิการ คสช. และทางสำนักนายกรัฐมนตรีก็ได้นำเรื่องเรียนไปยังเลขาธิการ คสช. เรียบร้อยแล้วสมบัติ ระบุว่า แล้วจะให้ตนดำเนินการอย่างไรต่อ จะต้องไปพบ พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ระบุว่ากำลังประสานให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาพูดคุย อย่างไรก็ตามวันนี้ไม่สามารถติดใครได้จึงขอให้สมบัติเดินทางกลับไปก่อน หากเรื่องมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบอีกที ด้านสมบัติยอมเดินทางกลับ พร้อมบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า จะกลับไปคิดก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่สมบัติ ถูกอายัดธนาคารบัญชีธนาคารเกิดจากการไม่ยอมไปรายงานตัวกับ คสช. ในช่วงหลังการรัฐประหารปี 2557 ซึ่งมีการออกคำสั่งเรียกผู้คนให้ไปรายงานตัวกับ คสช. และถูกนำเข้าสู่กระบวนการปรับทัศนคติ สมบัติถูกเรียกตัวตามคำสั่งคณะรักษาความสงบฉบับที่ 3/2557 โดยคำสั่งออกมาเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2557 เวลานั้นเขาไม่เห็นด้วยกับการใช้อำนาจเรียกตัวบุคคลไปปรับทัศนคติจะทำการอารยขัดขืนด้วยการไม่ยอมไปรายตัว โดยเก็บตัวอยู่ในประเทศไทย และยังคงใช้ทวิตเตอร์วิพากษ์วิจารณ์คณะรัฐหารอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมกลางดึกเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2557 ที่บ้านหลังหนึ่ง ใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี โดยการสนธิกำลังของ ผบก.ปอท. ร่วมกับ ร.21 รอ. ซึ่งปฎิบัติการในครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ห้ข้อมูว่า สามารถทราบที่อยู่ของสมบัติจากการตรวจไอพี โดยสำนักข่าวกรองแห่งชาติสมบัติถูกควบคุมตัวอยู่ 7 วัน เจ้าหน้าที่ทหารจึงได้นำตัวมาขออำนาจศาลทหารเพื่อฝากขัง โดยนอกจากการดำเนินคดีฐานฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. แล้ว สมบัติยังถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย สมบัติถูกศาลทหารฝากขัง 2 ครั้ง (24 วัน) และในการขอฝากขังครั้งที่ 3 เขาได้รับอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวสำหรับคดีไม่ไปรายงานตัวกับ คสช. นี้ ศาลฎีอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2560 โดยพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยมีความผิดตามประกาศคสช.ฉบับที่ 25/57 และฉบับที่ 29/57 อันเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานไม่มารายงานตัวตามคำสั่งและประกาศคสช. อันเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดตามมาตรา 90 ประมวลกฎหมายอาญา ให้จำคุก 2 เดือน และปรับ 3000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้ 1 ปี | นัดเขามาเลยมาคุยกับฉันมีเรื่องต้องคุยกันมากมาย บก.ลายจุด คอสเพลย์คนถังแตก ขอเคลียร์ประยุทธ์หน้าทำเนียบ ขอคืนบัญชีธนาคาร และคืนอำนาจให้ประชาชน ระบุคดีความไม่ไปรายงานตัวกับ คสช. จบไปเป็นปีแล้ว | การเมือง | บก.ลายจุด,สมบัติ บุญงามอนงค์,พรรคเกียน,การอายัดบัญชีธนาคาร,ประยุทธ์ จันทร์โอชา | https://prachatai.com/journal/2018/10/78990 |
รายงาน 1 เดือนโศกนาฏกรรมวัดปทุมฯ: เมื่อ ลุงบัวศรี เสื้อแดงชัยภูมิกลับมายืนที่เดิม | อาจเพราะที่นี่เป็นเขตอภัยทานที่มีหลักฐานการตายอันสะเทือนใจปรากฏอยู่จำนวนมาก มากกว่าที่อื่นๆ ที่เป็นความตายอันกระจัดกระจาย เป็นความตายอันไร้ซึ่งสักขีพยานประชาชนหลายร้อยคนร่วมทำบุญ รำลึกถึงผู้เสียชีวิตตั้งแต่เช้า หลายคนยังคงใส่เสื้อสีแดง กระทั่งในช่วงบ่ายมีผู้บาดเจ็บภายในวัดปทุมฯ เข้ามาร่วมรำลึกโศกนาฏกรรมครั้งนี้ด้วย จากนั้นจึงมี การกระชับวงล้อม ของบรรดาประชาชนผู้สนใจพากันล้อมวงเข้าสอบถามเหตุการณ์-อาการกับผู้บาดเจ็บ บ้างพยายามรวบรวมเงิน แบ๊งค์ยี่สิบ แบ๊งค์ร้อยกอบเป็นกำส่งให้ผู้บาดเจ็บ เพื่อสบทบทุนค่ารักษาพยาบาล ค่ารถ พร้อมด้วยคำอวยพรสารพัน ผู้รับบางคนถึงกับน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้งใจเก่ง หรือ วสันต์ สายรัศมี อาสาสมัครกู้ชีพฯ ที่เดินสายป่าวประกาศ เป็นพยานปากสำคัญในเหตุการณ์ในวัดปทุมฯ เมื่อเย็นวันที่ 19 พ.ค. เข้ามาสวัสดีลุงบัวศรี ทุมมา ผู้ชุมนุมชาวชัยภูมิที่โดนยิงเข้าฝ่าเท้าด้านบนทะลุฝ่าเท้าด้านล่าง พวกเขาทักทายกันอย่างสนิทสนม เพราะเก่งคือผู้ที่ปฐมพยาบาลให้ลุงบัวศรีในวันนั้นนั่นเอง จากนั้นเก่งก็เปิดแผล ล้างแผลให้ลุงบัวศรีเพื่อแสดงให้เห็นบาดแผล ซึ่งกระสุนได้ทำลายกระดูกเท้าและเส้นเอ็นรวมทั้งสร้างบาดแผลใหญ่มากบริเวณฝ่าเท้า ท่ามกลางเสียงฮือฮา ก่นด่า สาปแช่งรัฐบาลของผู้ที่ล้อมวงดู ราวเสียงหึ่งกังวานของวูวูเซล่าในสนามแข่งขันฟุตบอลโลกลุงบัวศรี อายุ 67 ปี เป็นชาวไร่ชาวนาจากชัยภูมิ ด้วยความที่แกอายุมากที่สุดในบ้านแต่ยังพอแข็งแรง ดูแลตัวเองได้ จึงได้รับสิทธิพิเศษให้เป็นตัวแทนของบ้านเดินทางร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช. ปล่อยให้การทำมาหากินเป็นหน้าที่ของลูกๆ 4 คน และการอยู่บ้านเลี้ยงหลานเป็นหน้าที่ของภรรยาแกเดินทางคนเดียวนั่งรถโดยสารออกจากพื้นที่มายังตัวจังหวัด ระยะทางกว่า 40 กม. จากนั้นนั่งรถประจำทางลงมายังกรุงเทพฯ โดยลงมาตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.วันที่ 10 เม.ย. ลุงบัวศรีก็ยังร่วมเดินขบวนเข้าไปกดดันทหารที่ทัพภาค 1 ซึ่งดูเหมือนการปะทะ ณ จุดนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรงวันที่ 10 เม.ย. ลุงบัวศรีวิ่งไปอยู่ด้านหน้าดันกับทหารและถูกตีจนปอดฉีกต้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน พอหายดีแกก็ยังไม่เข็ด เก็บสัมภาระออกเดินทางมาร่วมชุมนุมอีกก่อนมาแกก็นึ่งข้าวเหนียว ตำปลาร้าใส่กระปุกมาด้วย บอกว่าเที่ยวนี้ต้องมาหลายวัน คงไม่มีคนส่งอาหาร กระเป๋าเสื้อผ้าแกมีใบหนึ่ง แกก็เอาใส่กระเป๋าแกมา ป้าจำนงค์ เนียมขุนทด วัย 49 ปี ภรรยาของลุงบัวศรีเล่าให้ฟัง พร้อมกับบอกว่าก่อนหน้านี้ เมื่อปีที่แล้วแกยังไม่ถึงกับลงมากรุงเทพฯ เพียงแต่คอยตระเวนดูทีวีช่องเสื้อแดงตามบ้านเพื่อนในบางครั้ง และขี่มอเตอร์ไซด์ไปนั่งฟังปราศรัยที่ตัวจังหวัดทุกครั้งที่มีในวันเกิดเหตุ 19 พ.ค.ลุงบัวศรีนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่บริเวณลานจอดรถหน้าวัด ภายหลังแกนนำสั่งยุติการชุมนุมให้มวลชนกลับบ้าน ระหว่างนั้นเวลาประมาณห้าโมงกว่าเห็นทหารเดินมาเป็นแถวบนรางรถไฟฟ้า พร้อมทั้งมีเสียงปืนยิงไล่ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณนั้นจึงพากันหลบ ตัวลุงมุดไปอยู่ใต้ท้องรถกระบะคันหนึ่ง มันเป็นเวลาที่พระอาทิตย์ยังไม่จากไปทำให้ลุงบัวศรีเห็นชัดเจนว่ากระสุนมาจากกลุ่มทหารที่อยู่บนรางบีทีเอสลุงบอกว่าตอนนั้นนึกว่าหลบพ้นแล้วแต่ขาดันยื่นออกมานอกรถ จึงโดนยิงที่เข้าที่เท้า รู้สึกเจ็บมากและเลือดไหลเป็นกอง จากนั้นมีทหารตะโกนสั่งลงมาว่าให้คนที่อยู่ใต้ท้องรถออกมาให้หมดแล้วถอดเสื้อออก มิฉะนั้นจะยิงให้ตาย ตอนนั้นมีชายคนหนึ่งที่หมอบอยู่ด้านข้าง ลุกขึ้นแล้วยกมือชูเหนือหัว แต่ทหารก็ยิงลงมาอีก ถูกมือชายคนดังกล่าว เมื่อล้มลงก็ถูกยิงซ้ำอีก ลุงจึงหมอบเอาหน้าแนบพื้นใต้ท้องรถไม่ยอมออกมา ท่ามกลางเสียงกระสุนที่สาดเป็นระยะ และมีคนถูกยิงล้มลงอีกหลายคน จนกระทั่งพักใหญ่เจ้าหน้าที่อาสาฯ จึงเข้ามาลากตัวช่วยเหลือลุงไว้ได้ ระหว่างปฐมพยาบาลเบื้องต้นลุงก็หมดสติไปก่อนถูกส่งโรงพยาบาลอย่างทุลักทุเล ช่วงเวลาเดียวกันในอีกฝั่งหนึ่งที่จังหวัดชัยภูมิ ภรรยาและลูกๆ ของลุงได้ยินเสียงทุกอย่างอย่างชัดเจนราวกับถ่ายทอดสด มันทำให้หัวใจของผู้เป็นภรรยาแทบสลายเพราะเชื่อว่าสามีคงไม่รอดแน่ป้าจำนงค์เล่าว่า ป้าติดต่อกับลุงทางโทรศัพท์ก่อนที่จะถูกยิงไม่นาน และทำให้สามารถรับรู้ความเคลื่อนไหวระหว่างลุงหลบลูกกระสุนได้โดยตลอดตาบอก มันยิงมาใกล้แล้วยายๆ หลบดีๆ นะตา ใครยิงตาๆ พวกทหารมันยิงมาจากทางรถไฟนะยาย ซักพักนึง ปังๆ เงียบ พยายามกดโทรศัพท์อีก มันติด แต่ไม่มีคนรับแล้ว ก็บอกลูก ลูกก็บอกทำใจนะแม่ เหลือมาเท่าไหร่เราก็เลี้ยงแค่นั้นเธอย้อนเล่าเหตุการณ์ทั้งน้ำตา และบอกว่าเมื่อเธอต้องเล่าเหตุการณ์นี้ทีไรก็อดร้องไห้ไม่ได้ทุกทีการถ่ายทอดสดวันนั้นดำเนินการผ่านลำโพงโทรศัพท์เครื่องเก่าแก่ของป้าจำนงค์ มีลูกๆ 4 คน กับหลานเล็กๆ อีก 2 คน ล้อมวงนั่งฟัง ทุกคนคิดว่าพ่อ/สามี/ปู่/ตา ของพวกเขาคงไม่รอดแน่การตามหาลุงบัวศรีเป็นไปอย่างอยากลำบาก อาศัยว่าได้ผู้ใหญ่บ้านที่คอยประสานส.ส.ในพื้นที่ให้คอยอำนวยความสะดวกให้ขอให้ผู้ใหญ่เจริญ ช่วยติดต่อส.ส.ให้ เพราะเราเคยเลือกตั้งส.ส.ไว้แล้ว ทางส.ส. เขาก็มาดูแลให้ทันทีที่เราแจ้งไป แล้วพาตามารักษาที่รพ.ชัยภูมิอีก 3 อาทิตย์ คู่ทุกข์คู่ยากของลุงว่าแม้ลุงจะมีบาดแผลถูกยิงชัดเจน มีพยานยืนยันหลายคนว่าแกถูกยิงอย่างแน่แท้ แต่ใบรับรองแพทย์ รพ.ชัยภูมิเขียนเพียงว่า กระดูกเท้าแตก บาดแผลลึกจากหลังเท้าถึงฝ่าเท้า ขณะที่ใบรับรองแพทย์จากรามาระบุชัดเจนขึ้นมาอีกหน่อยว่า เป็นแผลขอบไม่เรียบ กระดูเท้าซ้ายด้านนิ้วก้อยหัก มีเศษเหล็กในบาดแผล พร้อมทั้งหมายเหตุว่าบาดแผลดังกล่าวอาจเกิดจากกระสุนปืนได้ เมื่อถามว่ารู้สึกเช่นไร หลังจากได้กลับมายืนที่เดิมอีกหลังจากผ่านเหตุการณ์มา 1 เดือน ลุงบัวศรีบอกว่า ผมดีใจที่ได้กลับมายืนที่นี่อีก มีความสุขในใจแล้วก็มีความเสียใจในเรื่องเบื้องหลัง มันไม่น่าจะสูญเสียแบบนี้ คนไทยทำไมมันฆ่ากันขนาดนี้นักข่าวคนหนึ่งถามลุงและป้าว่า ถ้ามีการชุมนุมอีกจะมาไหม คำตอบของทั้งคู่ตรงกันคือ มา และ ให้มาอุทิศตาให้ นปช.แล้ว เราห่วง เรารัก แต่เรายอม เพราะเราอยากได้ความถูกต้อง ความยุติธรรม ป้าจำนงค์ผู้มีอาชีพทำไร่และเลี้ยงหลานกล่าวส่วนลุงบัวศรีบอกถึงเหตุผลที่เคยมาและยังจะมาร่วมชุมนุมว่า ผมอยากช่วยให้ประชาธิปไตยกลับคืนมา ไม่อยากได้รัฐธรรมนูญ 50 มันร่างกันเอง เออกันเอง แล้วมันก็สองมาตรฐาน คนผิดก็ผิดลูกเดียว คนถูกก็ถูกลูกเดียว ไม่เป็นธรรมเลยการลงมากรุงเทพฯ เพื่อเข้าร่วมรำลึกเหตุการณ์ครั้งนี้ได้รับความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกจากผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ นั่นคือ ผู้ใหญ่ เจริญ เจสันเที๊ยะผู้ใหญ่เจริญเล่าว่า สภาพบรรยากาศในพื้นที่หมู่บ้านในชัยภูมินั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้นของลูกบ้าน ท่ามกลางแรงกดดันจากทางภาครัฐ ซึ่งเขาเองก็ไม่ค่อยเห็นด้วยนักเขาโกรธมากเลยครับที่มาทำร้ายประชาชน เขามาเรียกร้อง เขาก็มามือเปล่า เขาไม่ได้มาต่อสู้อะไร มาขอความเป็นธรรมเฉยๆ ไม่น่าจะทำกับเขาแบบนี้ เขาพูดกันเรื่อยๆ เลย ผมก็ได้แต่ฟังความคิดเห็น ไม่ห้ามเขาส่วนทางจังหวัดก็ไม่อยากให้เขาชุมนุม ทางอำเภอได้ประชุมผู้ใหญ่บ้านว่าอย่าให้เขามั่วสุมกันเกิน 5 คน ถ้าเขาจะเดินขบวนอะไรก็ให้บอกทางรัฐ ที่จริงถ้าเขาชุมนุมก็น่าจะต้องฟังเขาว่าต้องการอะไร ต้องการให้ช่วยเหลือแบบไหน ไม่ใช่ไม่ให้เขารวมกัน ไม่ให้ชุมนุม ทางการไม่บอกให้เราถามชาวบ้านเลย ผู้ใหญ่เจริญพยายามเล่าด้วยภาษากลางเหน่อๆ อย่างตรงไปตรงมาเมื่อถามว่ามีทหารหน่วยงานความมั่นคงเข้าไปดูแลในหมู่บ้านไหม ผู้ใหญ่เจริญบอกว่า ไม่มี จะมีก็แต่เพียงทหาร 2 กองร้อยที่คอยคุ้มกันศาลากลางทุกวันผมพาเขามาเพราะอยากให้คนกรุงเทพฯ รู้ว่าคนที่ชัยภูมิเขาเป็นยังไงบ้างแล้ว อยู่ยังไงบ้างแล้ว แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับเขา ผู้ใหญ่เจริญว่า พร้อมกับแนะนำให้รู้จักป้าค้าว เบอร์ขุนทด แม่ของเหยื่อเหตุการณ์ความรุนแรงอีกหนึ่งป้าค้าว อายุราว 65 ปีพูดภาษากลางไม่คล่องนักและขี้อายเกินกว่าจะไปนั่งให้นักข่าวสัมภาษณ์ดังเช่นลุงบัวศรี เมื่อค่อยๆ สอบถามเธอจึงได้ความว่า ลูกชายของเธอคือ นายนิคม เบอร์ขุนทด อายุ 42 ปี มีอาชีพขี่รถมอเตอร์ไซด์รับจ้างในกรุงเทพฯ ได้ขี่มอเตอร์ไซด์มาดูการชุมนุมเป็นประจำ และในวันเกิดเหตุก็ขี่รถมาส่งผู้โดยสารในที่ชุมนุม ระหว่างทางกลับนั้นเจอคนกลุ่มหนึ่ง คำสุดท้ายที่ลูกชายได้ยินคือ ไอ้นี่มันเสื้อแดง จากนั้นก็ถูกรุมตีจนสลบเมื่อถามถึงรายละเอียดเวลา สถานที่ รวมถึงลักษณะของกลุ่มคนดังกล่าว ผู้ใหญ่เจริญเล่าว่า นิคมจำอะไรไม่ได้มากนัก และมีอาการเบลอๆ เนื่องจากถูกตีจนหัวแตก และกระดูกคอต่อกระดูกสันหลังเคลื่อนจนต้องดามไว้จนถึงทุกวันนี้ และอาจต้องพักฟื้นอีกนานไม่รู้ว่าจะกลับมาเป็นปกติได้ไหม ตอนนี้เขาก็ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ ต้องนอนตลอด พอลุกนั่งก็เจ็บ ผู้ใหญ่ว่านิคม มีภูมิลำเนาในชัยภูมิเช่นกันแต่อยู่คนละอำเภอกับลุงบัวศรี เขาถูกนำส่งมารักษาตัวในโรงพยาบาลเดียวกัน นอนเตียงข้างๆ กันจึงได้รู้จักกัน ขณะนี้นิคม ย้ายไปพักฟื้นที่บ้านแล้วหลังนอนโรงพยาบาลเกือบเดือน โดยมีแม่และลูกสาววัย 14 ปีที่ต้องหยุดเรียนคอยดูแล นอกเหนือจากนี้พ่อของเจริญก็มีขาพิการ ทำงานไม่ได้ ครอบครัวนี้จึงอยู่ในสภาพไร้เสาหลักโดยสิ้นเชิง และไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ จากรัฐ | วัดปทุมวนาราม ในวันที่ 19 มิถุนายน 2553 กลายสภาพเป็นอนุสาวรีย์ผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมเดือนพฤษภาคม 53 ชั่วคราว เนื่องจากเป็นวันครบรอบ 1 เดือนการสูญเสีย | การเมือง,สิทธิมนุษยชน,ขีดเส้นใต้ | การสลายการชุมนุม 19 พฤษภาคม 2553,คนเสื้อแดง,นปช.,ลุงบัวศรี ทุมมา,วัดปทุมวนาราม,เหตุการณ์ 13-14 พฤษภาคม 2553,โศกนาฏกรรม | https://prachatai.com/journal/2010/06/30043 |
หนุ่มขี่ จยย. เฉี่ยวรถอีกคัน ไถลใต้ท้องรถบัส ถูกเหยียบหัว ดับสยอง | เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 10 พ.ค. 58 ร.ต.ท.สุพรรณ โสภี พงส.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักล้ม ถูกรถทัวร์เหยียบซ้ำเสียชีวิตคาที่ บนถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้าชลบุรี บริเวณหน้าบริษัท นครชัยขนส่ง จำกัด ก่อนถึงสามแยกถนนพัทยากลาง หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จึงพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าทางเข้าบริษัท นครชัยขนส่ง พบศพนายทองศุกร์ นามนา อายุ 36 ปี ชาวกาฬสินธุ์ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ริมถนนในสภาพกะโหลกศีรษะแตก เลือดไหลนองพื้น ตามร่างกายมีแผลถลอกหลายแห่ง ใกล้กันมีรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต ล้มคว่ำอยู่ สภาพพังเสียหายเล็กน้อย ห่างออกไปพบรถบัสรับ-ส่ง นักท่องเที่ยว สีขาว ยี่ห้อซันลอง ทะเบียน 32-2842 กรุงเทพมหานคร ของบริษัท แห่งหนึ่งจอดอยู่กลางถนน โดยมีนายชาติชาย โพธิ์ธานะ อายุ 50 ปี โชเฟอร์รถบัส ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ,จากการสอบสวนนายชาติชาย ให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ขับรถไปส่งนักท่องเที่ยวชาวจีนที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ซิตี้ และระหว่างกำลังจะเดินทางกลับอู่ ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวกับรถจักรยานยนต์อีกคัน ที่มาทางเดียวกันเพียงเล็กน้อย แต่ก็ทำให้เสียหลักล้มลื่นไถลเข้ามาใต้ท้องรถบัสของตนที่ขับตามหลังมา จนถูกล้อเหยียบศีรษะเสียชีวิตคาที่ ดังกล่าว | หนุ่มกาฬสินธุ์ ขี่จักรยานยนต์ เกี่ยวรถอีกคัน ก่อนเสียหลักล้ม ร่างไถลใต้ท้องรถบัส ถูกเหยียบศีรษะ กะโหลกศีรษะแตก ดับคาที่ | ข่าว,ทั่วไทย | เสียหลัก,ขี่รถจักรยานยนต์,เข้าใต้ท้องรถบัส,รถบัสรับ-ส่งนักท่องเที่ยว,รถบัสเหยียบหัว,กระโหลกศีรษะแตก,ข่าว,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/498092 |
โซลดาโด ซัดชัย ไก่ เปิดรังเชือด ทอฟฟี่ 2-1 | การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2014-15 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 พ.ย. คู่ 23.00 น. ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมอันดับ 10 เปิดสนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน รับการมาเยือนของ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 9,เกมนี้ เมาริซิโอ โปเชตติโน กุนซือสเปอร์ส วาง นาบิล เบนทาเล็บ คุมแดนกลางร่วมกับ ไรอัน เมสัน ส่วนแนวรุกมี โรแบร์โต โซลดาโด ลแะ แฮร์รี เคน เป็นทีเด็ด ด้าน โรเบอร์โต มาร์ติเนซ กุนซือเอฟเวอร์ตัน ส่ง กาเร็ธ แบร์รี ลงคุมเกมแดนกลาง ส่วนแนวรุกใช้ โลเมลู ลูคาคู จับคู่ ซามูเอล เอโต ลงล่าตาข่าย,เปิดฉากครึ่งแรก มาถึง น.15 เอฟเวอร์ตัน ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เควิน มิรัลลาส เก็บตกได้แถวหน้าเขตโทษ ก่อนจัดการปั่นด้วยขวาผ่าน อูโก โยริส นายด่านสเปอร์ส เสียบมุม เข้าไปอย่างสวยงาม,จากนั้น น.21 สเปอร์ส ตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ แฮร์รี เคน พาบอลขึ้นมาจนถึงหน้าเขตโทษก่อนซัดด้วยขวา ทิม โฮเวิร์ด นานด่านเอฟเวอร์ตัน ปัดออกมาเข้าทาง คริสเตียน อีริคเซน ซัดเข้าไปตุงตาข่าย,เข้าสู่ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก น.45+1 สเปอร์ส ได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ แฮร์รี เคน ตัดบอลจากผู้เล่นเอฟเวอร์ตันมาได้ ก่อนไหลต่อให้ อาร์รอน เลนนอน จ่ายเข้าเขตโทษด้านขวาให้ โรแบร์โต โซดาโด ซัดเข้าไปไม่เหลือซาก,จบครึ่งแรก ทอตแนม ฮอตสเปอร์ นำ เอฟเวอร์ตัน อยู่ 1-0,กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง ทั้งสองทีม เปิดเกมแลกกันอย่างสนุก แต่ไม่มีฝ่ายไหนทำประตูเพิ่มได้ จบเกม ทอตแนม ฮอตสเปอร์ เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ไป 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 20 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับ 7 ของตาราง ส่วน เอฟเวอร์ตัน มี 17 แต้ม หล่นมาอยู่อันดับ 10,รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม,ทอตแนม ฮอตสเปอร์,:อูโก โยริส, แยน แฟร์ตองเกน, วลาด ชิริเชส, เฟเดริโก ฟาซิโอ, เบน เดวีส์, อารอน เลนนอน, แฮร์รี เคน, คริสเตียน อีริคเซน, ไรอัน มาสัน, นาบิล เบนทาเลบ, โรเบอร์โต โซลดาโด,เอฟเวอร์ตัน,:ทิม โฮเวิร์ด, เลห์ตัน เบนส์, ฟิล จากีลกา, ซิลแวง ดิสแตง, เซมัส โคลแมน, ซามูเอล เอโต, เควิน มิรัลลาส, มูฮัมเหม็ด เบซิซ, กาเร็ธ แบร์รี, รอสส์ บาร์คลีย์, โรเมลู ลูคาคู | โรแบร์โต โซลดาโด ซัดประตูชัยตั้งแต่ช่วงท้ายครึ่งแรก พา ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ เปิดบ้านเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ไป 2-1 คว้า 3 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับ 7 ของตาราง | null | พรีเมียร์ลีก,ทอตแนม ฮอตสเปอร์,เอฟเวอร์ตัน,โรแบร์โต โซลดาโด,ข่าวกีฬา,ผลบอล | https://www.thairath.co.th/content/466478 |
จับแล้วฆ่าม.6 เบี้ยวค่ายาบ้า | โมโหกระโดดชกหน้าแย่งปืนจ่อยิงและกระหน่ำตีแล้วเผ่นหนี ขณะที่พ่อผู้ตายคาใจเหตุทวงหนี้วานตำรวจเร่งไขคดี,ตำรวจจับกุมโจ๋แค้นเบี้ยวเงินฆ่าเพื่อน ม.6 เปิดเผยเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 ม.ค. พ.ต.อ. สุบิน บุญเล็ก ผกก.สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แถลงข่าวจับกุมนาย วรพงษ์ สีใส อายุ 18 ปี นักเรียน ม.6/1 ร.ร.อรัญประเทศ อยู่บ้านเลขที่ 16/2 หมู่ 7 บ้านดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระแก้ว ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาพร้อมของกลางปืน .38 โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องและรถ จยย. 1 คัน รวบตัวได้ที่บ้านนายวรพงษ์,พ.ต.อ.สุบิน บุญเล็ก ผกก.สภ.อรัญประเทศ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ตำรวจรับแจ้งเหตุพบศพคนถูกฆ่าที่ริมถนนลูกรังภายในหมู่บ้านหนองไทร หมู่ 1 ต.บ้านใหม่หนองไทร ไปตรวจสอบในพงหญ้าริมถนนพบศพนายภูมิรพี วรนาม อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6/1 โรงเรียนอรัญประเทศ เป็นลูกชายนายวัลลภ วรนาม ผอ.โรงเรียนบ้านหนองบัว อ.อรัญประเทศ สภาพอยู่ในชุดนักเรียนถูกยิงที่ลำตัว 2 นัด บริเวณใบหน้าถูกตีเป็นแผลฉกรรจ์พบรถ จยย. 1 คัน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน,ต่อมาตำรวจฝ่ายสืบสวนนำตัวเพื่อนของผู้ตาย 10 คนมาสอบเค้นอย่างละเอียด พบว่านายวรพงษ์ซึ่งเป็นเพื่อนห้องเดียวกับผู้ตายท่าทางมีพิรุธให้การวกวนนำกำลังไปตรวจค้นที่บ้านพบปืนที่ใช้ก่อเหตุและโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย สารภาพว่าก่อเหตุเพียงคนเดียวอ้างว่านายภูมิรพีผู้ตายติดค้างเงินค่ายาบ้า 500 บาท เมื่อทวงถามแล้วไม่ยอมจ่ายจึงวางแผนหลอกนายภูมิรพีขี่รถ จยย.ไปที่เปลี่ยวแล้วทวงเงิน แต่นายภูมิรพียืนยันไม่จ่ายแล้วชักปืนยิงขู่ขึ้นฟ้า 1 นัด จากนั้นหันปากกระบอกปืนมาทางตนจึงกระโดดชกไปที่หน้าของนายภูมิรพีจนล้มเข้าแย่งปืนจ่อยิงนายภูมิรพีไป 2 นัด ใช้ด้ามปืนกระหน่ำตีที่ใบหน้าและศีรษะจนเลือดอาบ จากนั้นหนีกลับ บ้านนำปืนและโทรศัพท์มือถือของนายภูมิรพีไปด้วย ต่อมาตำรวจคุมตัวนายวรพงษ์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ ท่ามกลางชาวบ้านและเพื่อนนักเรียนโรงเรียนอรัญประเทศไปยืนดูกว่า 100 คน เจ้าหน้าที่กั้นพื้นที่ไว้เพื่อความปลอดภัย,ด้านนายวัลลภ วรนาม ผอ.โรงเรียนบ้านหนองบัว พ่อของผู้ตาย เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ครั้งนี้แทบไม่น่าเชื่อคนที่ฆ่าลูกชายตนจะเป็นนายวรพงษ์ซึ่งเพื่อนรักกันมักมาหาที่บ้านเป็นประจำ สาเหตุเพียงแค่ติดค้างเงินแค่ 500 บาทเท่านั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ เบื้องหลังจะมีคนอื่นร่วมด้วยหรือไม่นั้นขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจสืบสวนต่อไป ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นของตนมีทะเบียนถูกต้องเก็บไว้ที่บ้านไม่รู้ว่าลูกชายแอบพกปืนไปโรงเรียน | รวบแล้วโจ๋โหดฆ่านักเรียน ม.6 ลูก ผอ.โรงเรียนใน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เป็นเพื่อนสนิทร่วมห้องเรียน ตำรวจเค้นจนเปิดปาก อ้างผู้ตายติดเงินค่ายาบ้า 500 บาท เมื่อทวงถามไม่ยอมจ่ายซ้ำยังชักปืนขู่ยิงขึ้นฟ้า | null | ข่าวหน้า1,ฆ่าเพื่อน,เบี้ยวค่ายาบ้า,ฆ่านักเรียน ม.6,ฆ่าลูก ผอ.โรงเรียน,ฆ่าโหด,ฆ่าลูก ผอ.,ฆ่าลูก ผอ.ร.ร.บ้านหนองบัว,สุบิน บุญเล็ก,ทำแผน,ติดหนี้,ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ,อรัญประเทศ,สระแก้ว,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/559729 |
ริต้า เมินคนมอง ขันเงิน แต่งเพลงให้ อิ่มใจเดินสายทำบุญถี่เพื่อพ่อ | เพิ่งสูญเสียคุณพ่อไปได้ไม่นานสำหรับนางเอกลูกครึ่งสาวสวย ริต้า ศรีริต้า เจนเซ่น พอมีเวลาว่างก็เห็นเจ้าตัวบินไปพักใจที่เกาะสมุยและเดินสายทำบุญ แต่ก็มีคนสังเกตเห็นในไอจีของเจ้าตัวว่ามีโชว์เซ็กซี่เบาๆ ตอนไปเที่ยวทะเลซะด้วย นักข่าวเลยถามถึงเรื่องนี้กับริต้าหลังมาร่วมงานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ The Sis Clinic ณ ลานโปรโมชั่นชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า บางนา รวมถึงเรื่องความสัมพันธ์กับอดีตคนรู้ใจอย่างนักร้องหนุ่มวงไทยเทเนี่ยม ขันเงิน เนื้อนวล ด้วย,เดี๋ยวนี้ดูเซ็กซี่ขึ้น? ไม่เลยๆ เหมือนเดิมเลยค่ะ ริต้าก็ไม่ได้เซ็กซี่มากนะคะ แต่ว่าไปทะเลก็แอบมีนิดๆ หน่อยๆ ค่ะ แต่ถือว่าน้อยแล้วนะ คนชมว่าหุ่นปังอยู่? ขอบคุณมากค่ะ (ยิ้ม) ช่วงนี้พยายามออกกำลังกายบ่อย หาเวลาดูแลตัวเองเยอะๆ ค่ะ จะมีโอกาสเห็นความเซ็กซี่ของเรามากกว่านี้ไหม? ตอนนี้ยังนะ ค่อยๆ อย่างนี้แหละค่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยรับงานละครด้วย มีแฟชั่นติดต่อมาไหม? ก็มีติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ ยังถ่ายอยู่เรื่อยๆ นะคะ เซ็กซี่ก็มีค่ะ แต่ตัวริต้ายังก่อน เดี๋ยวขอฟิตก่อน ยังไม่พร้อมเรื่องหุ่น? เปล่าค่ะ ยังไม่ได้คิดจะถ่ายค่ะ มีแพลนไว้บ้างไหม? ยังเลยค่ะ อยู่เงียบๆ แบบนี้ดีแล้วค่ะ ภาพที่เราไปเที่ยวทะเลไปกับใคร? ไปกับเพื่อนๆ ค่ะ จริงๆ การไปสมุยครั้งนี้ริต้าไปทำบุญนะคะ ไปบริจาคตู้กดน้ำให้กับโรงเรียนที่เกาะสมุยค่ะ เป็นโรงเรียนรัฐบาลที่เขาขาดแคลนมาก ไม่มีน้ำสะอาดดื่ม ไม่มีเครื่องกดน้ำที่ปลอดภัยค่ะ เราก็เลยไปบริจาคเป็นโรงเรียนที่ 2 แล้วค่ะ แล้วก็เลี้ยงอาหารกลางวัน พอเสร็จแล้วเราก็ได้มีเวลาว่างก็เลยอยู่พักผ่อนต่อค่ะ เห็นมีถ่ายรูปชุดนุ่งกระโจมอกด้วย? ทางรีสอร์ตเหมือนเขาเป็นสปอนเซอร์ให้เราไปเที่ยวค่ะ เราก็เลยลงขอบคุณให้เขานิดนึงค่ะ,ช่วงนี้เดินสายทำบุญ? ใช่ค่ะ เรารู้สึกว่าเราได้รับโอกาสเยอะมาก การที่เรามาอยู่จุดนี้ เราได้มีเงินมีโอกาสอะไรมากมาย แล้วเป็นช่วงที่ริต้ารู้สึกว่าเราอยากจะให้กลับคืนบ้าง ปกติก็ทำบุญอยู่แล้ว ทำอยู่เรื่อยๆ ทำอิงลิชแคมป์ด้วย ก็ทำมา 8 ปีแล้ว การบริจาคตู้กดน้ำก็ 2 ปีแล้ว และมีอย่างอื่นเรื่อยๆ ค่ะ สำหรับใครที่อยากมาทำบุญกับริต้า ริต้าก็ยินดีนะคะ แล้วอันนี้เป็นโครงการของริต้าเอง คือโครงการศรีริต้าเพื่อการกุศลค่ะ อย่างตอนที่ไปกาญจนบุรีเขาก็ดีใจกันมากๆ เลยค่ะ บางทีเราคิดว่าเราให้แค่นี้ แต่สำหรับใจของเด็กๆ เขารู้สึกว่าเขาอิ่มใจมาก มีความสุขมากที่คนคนนึงเป็นห่วงเขา ดูแลเขาค่ะ แบ่งเวลาไปทำบุญทุกปีไหม? พยายามทำให้บ่อยที่สุดเลยค่ะ จริงๆ เราพยายามทำอยู่เรื่อยๆ ค่ะ มีไปถือศีลบ้าง เห็นริต้าหน้าฝรั่งแบบนี้ก็สายบุญเหมือนกัน ริต้าชอบอะไรแบบนี้มากๆ เลยค่ะ พอน้องๆ ได้เจอริต้าแล้วเป็นไงบ้าง? โอ้โห เขามีความสุขมาก เราก็มีความสุขมากค่ะ เขามอบความสุขให้เรากลับมาด้วย หลังจากนี้จะมีโครงการไปทำบุญที่ไหนอีกไหม? มีเรื่อยๆ เลยค่ะ ก็จะมีพาเด็กๆ ไปปลูกป่าด้วยเร็วๆ นี้ค่ะ,เราทำบุญแล้วคิดถึงคุณพ่อด้วยไหม? คิดถึงมาก ยิ่งช่วงนี้ริต้าเพิ่งเสียคุณพ่อไปด้วย ริต้ายิ่งทำเยอะมากเลยค่ะ เราก็เชื่อนะคะ คุณพ่อริต้าตอนอยู่เมืองไทยเนี่ยก็เข้าวัดทำบุญตลอดเลยค่ะ และรักพระเจ้าอยู่หัวมาก ถึงเขาอยู่ที่เดนมาร์กแล้วเป็นคริสต์ แต่ว่าเขาคงนับถือ 2 ศาสนา เราก็ทำทุกด้านทุกทาง ทำแล้วเราก็รู้สึกสบายใจเองด้วยค่ะ เห็นโพสต์ไอจีวันเกิดคุณพ่อด้วย? ใช่ค่ะ เศร้ามากเลยค่ะ เพราะทุกปีเป็นช่วงเวลาที่ริต้าต้องอยู่เดนมาร์กเพื่อไปวันเกิดคุณพ่อทุกปีค่ะ แต่ปีนี้เราไม่ได้อยู่ที่เดนมาร์กเวลานี้มันแปลกมากๆ เลยค่ะ ก็คิดถึงคุณพ่อเพราะว่ารูปงานนี้ถ่ายตอนก่อนกลับมาได้ไม่กี่วันหลังจากนั้นคุณพ่อก็เสียค่ะ,เรื่องหัวใจเป็นไงบ้าง เห็นว่าขันเงินก็รอริต้าอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ? ริต้าก็อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ เหมือนกัน ถามว่าได้คุยกันบ้างไหมมีบ้างค่ะ เพราะว่าเราก็คบกันมาตั้ง 6 ปี มันต้องมีเรื่องที่ต้องคุยกันอยู่ค่ะ แต่ว่าเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันค่ะ ขันเงินบอกว่าคุยกับเรามากขึ้น? คุยกันน้อยมากเลย อาจจะคุยกันบ้างตอนคุณพ่อเสียค่ะ เขาบอกว่ายังรอเราอยู่? คงไม่หรอกค่ะ เขาบอกว่าให้เวลาเราก่อน เขาเห็นเรามีความฝันที่อยากทำก็อยากให้ทำให้เสร็จ? จริงเหรอ เขาไม่เห็นพูดกับริต้าอย่างนี้เลย ไม่เห็นรู้เรื่องเลยค่ะ อันนี้เดี๋ยวรอได้ยินจากปากได้ไหมอะ (หัวเราะ) เหมือนเขาก็ตามง้อเราสุดฤทธิ์? ตามง้อยังไงคะ เขาไม่เห็นตามง้ออะไรเลย เพลงใหม่ของเขา เราได้ฟังไหม? เพลง พอแล้ว เหรอคะ ได้ฟังค่ะ คือเพลงนี้เขาเตรียมตัวมานานมากแล้ว เปลี่ยนมาหลายเวอร์ชั่นแล้ว เราก็ยังช่วยเขาแนะนำเขาเท่าที่เราแนะนำได้ คนมองว่าเขาแต่งให้เรา? ยังไงก็ได้ค่ะ ริต้าอยากให้เพลงเขาฮิตๆ ค่ะ อยากให้เพลงดัง คนตีความยังไงริต้าไม่มายด์ค่ะ แต่ริต้าฟังนานแล้วตั้งแต่ยังคบกันอยู่ค่ะ ถ้าเขาเดินหน้าง้อเราโอเคไหม? คือริต้ายังไม่คิดถึงเรื่องนี้จริงๆ ค่ะ เขาก็รู้ว่าริต้ายังไม่คิดถึงเรื่องนี้ ตอนนี้ยังไม่อยากคิดเรื่องนี้ค่ะ ตั้งแต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอกันเลยค่ะ แต่เดี๋ยวคงเจอกันในงานศพค่ะ. | ริต้า ศรีริต้า ปัดเซ็กซี่ขึ้น แจงไปเกาะสมุยเพื่อทำบุญบริจาคตู้กดน้ำให้โรงเรียนที่ขาดแคลน อิ่มใจเดินสายทำบุญเพื่อพ่อถี่หลังพ่อเสีย เล็งพาเด็กๆ ไปร่วมปลูกป่าเร็วๆ นี้ ย้ำสัมพันธ์ขันเงินเป็นเพื่อน เมินคนมองฝ่ายชายแต่งเพลงให้ | null | ริต้า ศรีริต้า เจนเซ่น,ขันเงิน เนื้อนวล,ริต้า ขันเงิน,ความรัก,แฟน,เลิก,แต่งเพลง,เพลง,พอแล้ว,ไทยเทเนี่ยม,ทำบุญ,บริจาค,ตู้กดน้ำ,เกาะสมุย,ถ่ายแบบ,แฟชั่น,เซ็กซี่,ข่าว,ข่าวบันเทิง,บันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์,บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/636727 |
สุดยอดหน่อไม้ฝรั่ง น้ำมันมะกอก ความเข้าใจผิด และความหลงใหลในวัตถุดิบจากฝรั่งเศส | เราทราบข่าวว่า อิษยา คุกกิ้ง สตูดิโอ มี หน่อไม้ฝรั่ง หรือ แอสพารากัส และ น้ำมันมะกอก ส่งตรงจากฝรั่งเศสมาให้ชิม แต่ความน่าสนใจไม่ได้อยู่ที่อาหาร แต่อยู่ที่การรวมเอาเชฟชั้นนำเอาไว้พร้อมๆ กันต่างหาก ทำให้ยิ่งอยากรู้ว่าทำไมเชฟแถวหน้าถึงต้องมาพร้อมเพรียงกันในวันนี้เชฟที่ว่ามีตั้งแต่ เชฟชยวีร์ สุจริตจันทร์ จากห้องอาหาร Sra Bua by Kiin Kiin เชฟอาโน ดูนัง โซทีเอร์ (Arnaud Dunand Sauthier) จากห้องอาหาร Le Normandie เชฟเมียร์โค่ เคลเลอร์ (Mirko Keller) จากห้องอาหาร Water Library และ เชฟริวกิ คาวาซากิ (Ryuki Kawasaki) จากห้องอาหาร Mezzaluna อะไรดึงดูดเชฟดังระดับดาวมิชลินมารวมตัวกันในคราวเดียวใช่แล้ว วัตถุดิบอาหารคุณภาพดียังไงล่ะ ซิลแวง เออฮาร์ต เจ้าของฟาร์ม Asperges de Roques-Hautes ฟาร์มชื่อดังที่ผลิตหน่อไม้ฝรั่งออร์แกนิกที่ได้รับการยอมรับจากคนครัวทั่วโลกแต่ไม่ใช่เพียงเท่านั้น เพราะเจ้าของวัตถุดิบเดินทางมาด้วยตัวเองจากฝรั่งเศสเพื่อมาบอกเล่าถึงวิธีการปลูกและคุณภาพของวัตถุดิบ ซิลแวง เออฮาร์ต (Sylvain Erhardt) เจ้าของฟาร์ม Asperges de Roques-Hautes ซึ่งเป็นฟาร์มชื่อดังที่ผลิตหน่อไม้ฝรั่งออร์แกนิก และได้รับการยอมรับจากคนครัวทั่วโลก จนบ้างเรียกเขาว่า ราชาแห่งหน่อไม้ฝรั่งฟาร์มแห่งนี้ไม่ได้ใช้เคมี แต่อาศัยหลักการของชีววิทยาและความออร์แกนิก ซิลแวงเล่าว่า ใน 1 ปีสามารถเก็บเกี่ยวหน่อไม้ฝรั่งได้เพียง 3 เดือน ส่วนมากจะเริ่มปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม จนไปสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวในเดือนพฤษภาคม ฟาร์มของเขาพยายามผลิตวัตถุดิบเพื่อผู้ใช้โดยเฉพาะ ซึ่งเขาหมายถึงเชฟและเหล่าคนครัวนั่นเอง ปรัชญาในการทำงานของเขาคือ พาตัวเองไปพูดคุยกับเชฟเพื่อให้ทราบในสิ่งที่เชฟต้องการ และเปลี่ยนมุมมองจากคนผลิตและผู้ใช้ปรุงอาหารซิลแวงกับหน่อไม้ฝรั่ง หรือแอสพารากัสขึ้นชื่อซิลแวงยังได้นำเอาภาพตั้งแต่การเตรียมปลูก การเก็บเกี่ยว และสัญญาณสิ้นสุดฤดูกาลมาแสดงให้เข้าใจสิ่งที่เขาทำ เขาปลูกหน่อไม้ฝรั่งโดยไม่ได้กำจัดต้นไม้ที่ขึ้นแซม นั่นเพราะต้นไม้เหล่านั้นเป็นสารอาหารให้กับดิน อุณหภูมิที่ดีที่สุดในการปลูกอยู่ที่ 18-20 องศาเซลเซียส เก็บได้ทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เนื่องจากหน่อไม้เหล่านี้ใช้เวลาเพียง 36 ชั่วโมงในการเติบโต แต่หากอุณหภูมิต่ำไปต้องใช้เวลายาวถึง 72 ชั่วโมง และสิ้นสุดการเก็บเกี่ยวเมื่อต้นไม้ที่ขึ้นแซมคลุมหน่อไม้ฝรั่งทั้งหมด ขนาดมาตรฐานที่สามารถเก็บเกี่ยวหน่อไม้ฝรั่งได้คือความยาว 26 มิลลิเมตรขึ้นไป เมื่อนำไปคัดแยกจะใช้มือหยิบแบบก้านต่อก้านเพื่อไม่ให้ช้ำ และได้ขนาดที่เท่ากัน ซึ่งในฟาร์มของเขามีให้เลือกถึง 10 ไซส์ และคัดเกรดออกขายเป็น 3 แบบ สวยที่สุดไปร้านอาหารมิชลิน คุณภาพรองลงมาเป็นร้านอาหารทั่วไป และคุณภาพรองลงมาส่งขายตามตลาด ซิลแวงบอกว่า คุณภาพและรสชาติดีเหมือนกัน ต่างกันที่ลักษณะภายนอกที่สวยงามกว่า ฟาร์มของเขาไม่ทิ้งแอสพารากัสไม่สวยทิ้งเลย แต่นำไปสู่ตลาดที่เหมาะสมมากกว่าซาเวียร์ อลาซาร์ด ที่ไร่มะกอกของเขาอีกวัตถุดิบอาหารบอกเล่าผ่าน ซาเวียร์ อลาซาร์ด (Xavier Alazard) ผู้ผลิตน้ำมันมะกอกแบรนด์ Le Carre des Huile แบรนด์ที่มีฟาร์มอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสใกล้กับโพรวองซ์ มีการปลูกต้นมะกอกประมาณ 3000 ต้น โดยครึ่งหนึ่งเป็นต้นมะกอกที่มีอายุกว่า 100 ปี ซึ่งซาเวียร์บอกว่าเป็นธุรกิจในครอบครัว ตัวเองเพิ่งเข้ามาช่วยได้เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา แบรนด์ของเขาการันตีด้วย AOP ของแคว้นโพรวองซ์ ผลิตจากมะกอก 4 สายพันธุ์ ด้วยเทคนิคที่แตกต่างกัน กลายเป็นน้ำมันมะกอก 6 แบบซาเวียร์ยังบอกในฐานะตัวจริงเรื่องมะกอกว่า คนส่วนมากเข้าใจผิดว่ามะกอกสีเขียวและมะกอกสีดำเป็นคนละสายพันธุ์กัน แต่ความจริงแล้วมะกอกสีเขียวคือมะกอกอ่อน และสีดำคือมะกอกที่โตเต็มที่ การผลิตน้ำมันมะกอกก็เช่นกันที่มีการผสมมะกอกอ่อนและมะกอกที่โตเต็มที่ให้ได้น้ำมันมะกอกที่หลากหลายเทสติ้งน้ำมันมะกอกแต่ละชนิดเขายังเผยว่า เรื่องของน้ำมันมะกอกนั้นอธิบายค่อนข้างยาก แต่แนะนำให้ลองชิมดูก็จะทราบถึงความแตกต่าง เริ่มจากตัวแรกมีรสเบาและมีความฟรุตตี้ ตัวที่สองฟรุตตี้ มีกลิ่นของอาร์ติโชกและอัลมอนด์ ส่วนตัวที่ 3 ได้ AOP และเป็นการบ่มแบบซิงเกิลบาเรล โดยใช้มะกอกถึง 4 สายพันธุ์ แต่เป็นมะกอกอ่อน มีรสชาติตามหลังของพริกไทย ในขณะที่ตัวที่ 4 ออกขมและมีเครื่องเทศ ส่วนตัวที่ 5 จะพิเศษหน่อย โดยใช้มะกอกที่โตเต็มที่ผลิต เก็บเกี่ยวแล้วเอามาทิ้งในที่อุณหภูมิประมาณ 32-35 องศาเซลเซียส ในห้องเก็บ ให้มะกอกโตขึ้นอีก ให้กลิ่นรสเหมือนกินมะกอกสดๆ และตัวสุดท้ายเป็น AOP ของโพรวองซ์เช่นกัน ซึ่งใช้มะกอก 4 สายพันธุ์เบลนด์รวมกัน แต่ใช้มะกอกที่โตเต็มที่ ซึ่งเป็นเทคนิคที่นิยมในฝรั่งเศส ตัวนี้ให้กลิ่นรสที่นุ่มกว่าตัวที่ 5 เหมือนดื่มไวน์ดีๆ ที่ยิ่งบ่มนานยิ่งนุ่ม ให้กลิ่นของมะกอกเช่นกัน แต่รสนวลกว่าหน่อไม้ฝรั่งกับไข่ออนเซนและซอสฮอลแลนเดสจากเชฟแชนด์เลอร์ ชูล์ซฟังแค่เรื่องราวอาจจะนึกไม่ออกว่า หน่อไม้ฝรั่ง และ น้ำมันมะกอก นำมาทำอาหารอะไรได้บ้าง มื้อนี้มีเชฟแชนด์เลอร์ ชูล์ซ (Chandler Schultz) จากร้านอาหาร Le Cochon Blanc มาทำอาหารให้ชิม จานแรก เชฟแค่นำแอสพารากัสไปจี่ในกระทะส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเป็นแอสพารากัสสด ราดด้วยน้ำมันมะกอกตัวที่ 4 เท่านั้น แอสพารากัสต้นอวบให้รสหวานที่ดีขึ้นเมื่อนำไปโดนความร้อน จานที่ 2 แอสพารากัสจี่ให้พอขึ้นสี เสิร์ฟกับไข่ออนเซนและซอสฮอลแลนเดส จานที่ 3 ปลาคอดกับหอยหวานในน้ำสต็อกปลาที่ผสมกับน้ำแอสพารากัส ใส่ด้วยถั่วหวาน จานที่ 4 เป็นเซอร์ไพรส์ที่เชฟอยากทำให้กิน ปิดท้ายด้วยของหวานไอศกรีมน้ำมันมะกอก ฟินองเซีย และโฟมมะนาวไม่รู้ว่าจะเรียกว่ามื้ออาหารหรืองานสัมมนาเรื่องวัตถุดิบอาหารย่อมๆ ส่วนคนที่อยากลิ้มลอง แนะนำให้อดใจรออีกหน่อย วัตถุดิบดีอร่อยแบบนี้รับรองว่าพ่อครัวจากร้านที่กล่าวมาข้างต้นเตรียมสั่งมาให้ลองชิมที่ร้านแน่นอนภาพประกอบ: Tanya S. | เกษตรกรมักจะเข้าใจผิดและคอยกำจัดพืชที่ขึ้นแซมกับหน่อไม้ฝรั่ง แต่แท้จริงแล้วกลับช่วยเพิ่มสารอาหารให้ดิน และเป็นตัวกำหนดฤดูกาลของการเก็บเกี่ยวหน่อไม้ฝรั่งเกษตรกรเองก็อยากพูดคุยกับผู้ใช้ผลผลิต ซึ่งก็คือเชฟ ไม่ได้อยากคุยเพื่อทำตามออร์เดอร์ที่เชฟต้องการเท่านั้น แต่ต้องการสื่อสารกลับไปยังเชฟว่า กว่าจะได้ผลผลิตต้องทำอย่างไรบ้างความยาว 26 มิลลิเมตร คือขนาดมาตรฐานของหน่อไม้ฝรั่งAOP Vallée des Baux-de-Provence ใช้เพื่อการันตีผลิตภัณฑ์จากมะกอกในแคว้นโพรวองซ์ ที่ครอบคลุม Split Olives Black Olives และ Olive Oil มะกอกสีเขียวและมะกอกสีดำเป็นสายพันธุ์เดียวกัน แต่ต่างกันที่อายุ | null | null | https://thestandard.co/asparagus-olive-oil-french-ingredient/ |
ประกาศ ฉ.2 ใต้ฝนถล่ม ดีเปรสชัน เคลื่อนจากเมืองคอน มาสุราษฎร์ 7 พ.ย. | วันที่ 6 พ.ย. กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ พายุดีเปรสชัน บริเวณอ่าวไทย ฉบับที่ 2 มีผลกระทบถึงวันที่ 9 พ.ย. 2560 ระบุว่า พายุดีเปรสชันบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีศูนย์กลางอยู่ทางด้านตะวันออกของจังหวัดนครศรีธรรมราชประมาณ 250 กิโลเมตร หรือละติจูด 8.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 102.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานีในวันที่ 7 พ.ย.นี้ และจะเคลื่อนลงทะเลอันดามันในระยะต่อไป,ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ภาคใต้มีลมแรง และมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณภาคใต้ขอให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง,สำหรับพื้นที่ ที่คาดว่าได้รับผลกระทบมีดังนี้,ช่วงวันที่ 6-8 พ.ย.60 ,- บริเวณจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานีรวมทั้งเกาะสมุย นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส,ช่วงวันที่ 7-9 พ.ย.60 ,- บริเวณจังหวัด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล,อย่างไรก็ตาม สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้. | กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ ฉ.2 พายุดีเปรสชัน เข้าเมืองคอน จ่อขึ้นฝั่งสุราษฎร์ธานี 7 พ.ย.นี้ ส่งผลให้ภาคใต้มีลมแรงเกิดฝนตกหนัก เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ขณะที่อ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กงดออกจากฝั่ง | ข่าว,ทั่วไทย | กรมอุตุนิยมวิทยา,พยากรณ์อากาศ,ดีเปรสชัน,ฝนตกหนัก,ภาคใต้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1118729 |
ช็อก CCTV เผยผู้ต้องหาฆ่าสาวอังกฤษ ซื้อกระเป๋าเดินทางใส่ศพ ขนไปฝังในป่า (คลิป) | เมื่อ 13 พ.ย.62 เว็บไซต์,เดลี่เมล ,เ,ดอะ ซัน, และ,มิร์เรอร์, สื่อดังในอังกฤษ ยังคงเกาะติดคดีสะเทือนใจ นางสาวเกรซ มิลเลน นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษวัย 22 ถูกฆาตกรรม ระหว่างเดินทางไปท่องเที่ยวที่เมืองโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ เพียงลำพัง เมื่อปลายปี 2561 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมดำเนินคดี หนุ่มผู้ต้องหาที่รู้จักกับนางสาวมิลเลน ผ่านทางแอปพลิเคชัน ทินเดอร์ เดต ซึ่งยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหา ยืนกรานเขาไม่ได้ฆ่านางสาวมิลเลน แต่การเสียชีวิตของเธอเป็นอุบัติเหตุนั้น,ทีมฝ่ายโจทก์ มีการนำคลิปวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดมาเป็นหลักฐานสำคัญต่อคณะลูกขุนศาลสูงเมืองโอ๊คแลนด์อีกครั้ง เมื่อ 13 พ.ย. ซึ่งมีพ่อแม่ของนางสาวมิลเลนมาร่วมรับฟังในศาลด้วย แสดงให้เห็นเหตุการณ์ขณะหนุ่มผู้ต้องหาวัย 27 ปี ไปซื้อกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เพื่อนำมาใส่ร่างของนางสาวเกรซที่เสียชีวิต รวมทั้งยังซื้อพลั่ว และมีการขนกระเป๋าเดินทางใบดังกล่าวออกมาจากห้องพักในโรงแรมซิตี้ ไลฟ์ โดยใช้รถเข็นกระเป๋าของโรงแรม,ชมคลิป : ,ที่นี่,จากคลิปวิดีโอ แสดงให้เห็นว่า ผู้ต้องหาได้นำกระเป๋าเดินทางใส่ไว้ในรถยนต์โตโยต้า แบบแฮชแบ็กสีแดง ที่เขาไปเช่ามาขับ ในวันที่นางสาวมิลเลนเสียชีวิตเนื่องจากถูกรัดคอ และเหตุการณ์ที่สร้างความตกตะลึงก็คือ นักสืบได้พบกระเป๋าเดินทางใบที่ใส่ร่างนางสาวมิลเลนถูกฝังอยู่ในป่า นอกเมืองโอ๊คแลนด์,ทั้งนี้ จากหลักฐานคลิปวิดีโอวงจรปิดที่ถูกนำมาแสดงต่อศาลสูงโอ๊คแลนด์นั้น ถือว่าขัดแย้งกับคำให้การของหนุ่มผู้ต้องหาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างการถูกสอบสวน หลังเขาถูกจับกุม โดยผู้ต้องหารายนี้ได้พยายามพูดโน้มน้าวให้ตำรวจสอบสวนเชื่อว่าหลังจากเขาพบกับนางสาวมิลเลนในคืนที่เกิดเหตุแล้ว เขาได้ร่ำลากับเธอ เนื่องจากเขาต้องการนั่งดื่มกับเพื่อนต่อๆ หนุ่มผู้ต้องหายังบอกว่า วันนั้น เขาเมามาก และมาตื่นตอน 10 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น ซึ่งขัดแย้งกับหลักฐานคลิปวิดีโอที่นักสืบสามารถเสาะหามาได้ ที่แสดงว่าเขาได้เข้ามาในโรงแรมซิตี้ไลฟ์ พร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบดังกล่าวตอน 09.00 น. ของวันรุ่งขึ้นหลังเกิดเหตุนางสาวมิลเลนถูกฆาตกรรม,Cr ภาพ : CCTV,ข่าวที่เกี่ยวข้อง เกรซ มิลเลน,เศร้า เผยสาวอังกฤษถูกรัดคอ ดับในนิวซีแลนด์ ขณะมีเซ็กซ์กับหนุ่มผู้ต้องหา,สะเทือนใจ เผยวงจรปิดวันสุดท้าย ก่อนนทท.สาวอังกฤษ ถูกฆ่าที่นิวซีแลนด์,เศร้า นักท่องเที่ยวสาวอังกฤษ สูญหาย มาเที่ยวนิวซีแลนด์ ถูกฆ่าตายแล้ว,เศรษฐีอังกฤษ วอนทั้งน้ำตา ตามหาลูกสาววัย 22 สูญหาย มาเที่ยวนิวซีแลนด์ | กล้องวงจรปิด ยัน หนุ่มผู้ต้องหาฆ่า เกรซ มิลเลน นักท่องเที่ยวสาวอังกฤษที่นิวซีแลนด์ ซื้อกระเป๋าเดินทางใบใหญ่-พลั่ว มาใส่ศพ ขนไปฝังในป่านอกเมืองโอ๊คแลนด์ | ข่าว,ต่างประเทศ | เกรซ มิลเลน,ข่าวเด่น,นักท่องเที่ยวสาวอังกฤษถูกฆ่า,ฆาตกรรม,ฆ่ารัดคอ,นิวซีแลนด์,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1703413 |
ตำนานบีจี ศุภชัย เตรียมแขวนสตั๊ด อำลากระต่ายแก้วหลังจบซีซั่น | วันที่ 16 ต.ค. 60 ศุภชัย คมศิลป์ แบ็กซ้ายจอมเก๋าของทีมบางกอกกล๊าส เอฟซี เปิดใจหลังจบเกมนัดล่าสุดที่ช่วยต้นสังกัด เปิดบ้านไล่ถล่ม มังกรไฟ บีอีซี เทโรศาสน ไปอย่างท่วมท้น 4-0 ว่า เตรียมที่จะประกาศอำลาสนามอย่างเป็นทางการ หลังจบไทยลีกฤดูกาล 2017 นี้,สำหรับอดีตแบ็กซ้ายทีมชาติไทยวัย 37 ปี กล่าวว่า นับเป็นการปิดฉากเกมสุดท้ายในลีโอ สเตเดียม ที่สมบูรณ์แบบ เพราะเรามีผลการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมจากการถล่มชนะ บีอีซี เทโรศาสน 4-0 หลังจากนี้ยังเหลือเกมอีก 4 นัด ก็จะทำให้เต็มที่ ส่วนฤดูกาลหน้าก็ยังคงทำงานอยู่กับทีมต่อ แต่ในอีกบทบาทหนึ่งที่ไม่ใช่นักเตะเหมือนที่คุ้นเคย โดยส่วนตัวก็รู้สึกใจหายเหมือนกัน เพราะอยู่กับทีมมานาน อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณแฟนบอลทุกคนที่เป็นกำลังใจและอยู่เคียงข้างทั้งผมและสโมสรมาอย่างยาวนาน,สำหรับ ศุภชัย คมศิลป์ เป็นลูกหม้อของธนาคารกรุงไทย ที่ย้ายมาเล่นให้กับ บางกอกกล๊าส เอฟซี ตั้งแต่ปี 2009 โดยลงสนามในเกมอย่างเป็นทางการจนถึงตอนนี้ไปทั้งหมด 184 นัด ยิงได้ 8 ประตูกับอีก 29 แอสซิสต์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือประตูประเดิมสนามหญ้าเทียมครั้งแรกในเกมไทยลีก 2010 นัดเปิดบ้านที่ เดอะ แรบบิท ชนะ อินทรีเพื่อนตำรวจ 1-0 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2553. | เจ้าบอย ศุภชัย คมศิลป์ แบ็กฝีเท้าดีวัย 37 ปี ของทีม กระต่ายแก้ว บางกอกกล๊าส เอฟซี เตรียมแขวนเกือกอย่างเป็นทางการหลังจบซีซั่นนี้ | กีฬา,ฟุตบอลไทย | ศุภชัย คมศิลป์,บางกอกกล๊าส เอฟซี,บีจี,ไทยลีก,กระต่ายแก้ว | https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/1099892 |
สั่งตาย ยิงดับอดีตนายก อบต.ภูน้ำหยด คาดปมการเมืองท้องถิ่น | เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 3 ธ.ค. ร.ต.ท.อนุชา ตาทิพย์ พนักงานสอบสวน สภ.พุเตย ต.พุเตย อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งเหตุยิงกันที่ไร่อ้อย หมู่ 1 บ้านยางสามต้น ต.ภูน้ำหยด อ.วิเชียรบุรี จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบก.ภ.จ.เพชรบูรณ์ พ.ต.อ.ธนวรรธน์ อยู่คง พ.ต.อ.อารักษ์ อ่อนแย้ม รอง ผบก. นำกำลังรุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุ บริเวณริมไร่อ้อย ห่างจากบ้านเลขที่ 6 ม.1 บ้านยางสามต้น ต.ภูน้ำหยด ราว 300 เมตร พบรถไถที่ดัดแปลงต่อพ่วงด้านหลังเป็นเครื่องตัดหญ้าจอดอยู่ บนรถมีหยดเลือด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ญาตินำส่ง รพ.วิเชียรบุรี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงไปตรวจสอบที่โรงพยาบาล ทราบชื่อผู้ตาย คือ นายไสว เรืองซ้อน อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 1 บ้านยางสามต้น ต.ภูน้ำหยด ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ที่บริเวณหน้าท้อง ต้นขา และอวัยวะเพศ พรุนเกือบสิบรู จึงส่งศพไปผ่าตรวจหาวิถีกระสุนที่ รพ.พระพุทธชินราช จ.พิษณุโลก,สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นอดีตกำนัน และเป็นอดีตนายก อบต.ภูน้ำหยด ช่วงเช้าขณะกำลังขับรถไถตัดหญ้าอยู่ริมไร่อ้อย เพื่อนำหญ้าไปเลี้ยงวัว ได้มีเสียงปืนดังขึ้น 5 นัด ลูกเมียผู้ตายที่อาศัยอยู่ที่บ้าน ห่างจุดเกิดเหตุราว 300 เมตร ได้ยิน แต่คิดว่าเป็นเสียงประทัด ประกอบกับเครื่องยนต์รถไถและเครื่องตัดหญ้ามีเสียงดังจึงไม่ได้สนใจ ผ่านไปเกือบชั่วโมง กระทั่งคนงานเดินผ่านไป มองเห็นแต่รถไถแต่ไม่เห็นคนขับ จึงรีบวิ่งมาตามบุตรชายของผู้ตายไปดู พบผู้ตายนอนหายใจรวยริน หมดสติอยู่บนเบาะรถไถ จึงรีบช่วยเหลือนำส่ง รพ.วิเชียรบุรี แต่เสียชีวิตระหว่างนำส่ง รพ.,จากการสอบถาม นายศราวุธ เรืองซ้อน อายุ 43 ปี สมาชิก อบต.ภูน้ำหยด บุตรชายคนโตของผู้ตาย เล่าให้ฟังว่า ผู้ตายดำรงตำแหน่งนายก อบต.1สมัย ต่อมาถูก กกต. แจกใบแดง จึงได้ให้ นายชัยรัตน์ เรืองซ้อน อายุ 37 ปี ลูกชายซึ่งเป็นน้องชายตนลงเลือกตั้ง และรับตำแหน่งนายก อบต.ภูน้ำหยด จนหมดวาระ ต่อมาผู้ตายได้ลงชิงตำแหน่งนายก อบต.อีกครั้ง แต่แพ้เลือกตั้ง ส่วนนายชัยรัตน์น้องชายก็ลงชิง ส.อบจ.แต่ก็แพ้เลือกตั้งเช่นกัน,นายศราวุธ กล่าวอีกว่า การเล่นการเมืองของบิดาและครอบครัวตน ทำให้เกิดความบางหมางกับฝ่ายตรงข้ามมาตลอด โดยเมื่อวันที่ 13 เม.ย.57 ผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งที่มีความสนิทสนมกับการเมืองฝ่ายตรงข้าม ได้ใช้อาวุธปืนยิงนายชัยรัตน์ น้องชายตน ซึ่งป็นอดีตนายก อบต.ภูน้ำหยด ต่อจากพ่อ จนเสียชีวิต โดยอ้างว่าเมาเหล้า คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดวิเชียรบุรี และก่อนหน้านี้ตนกับเพื่อนสมาชิก ได้ร่วมกันตรวจสอบการบริหารงานของนายก อบต. คนปัจจุบัน และข้าราชการประจำรายหนึ่ง ส่งผลให้ สตง.ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ผู้ตายซึ่งเป็นบิดา และเคยเป็นนายก อบต. มาก่อน มีความรู้เรื่องระเบียบปฏิบัติและขั้นตอนการทำงานเป็นอย่างดี จึงเป็นกำลังสำคัญในการให้คำปรึกษาและติดต่อประสานงานเดินเรื่องในการตรวจสอบดังกล่าว จึงคาดว่า อาจเป็นประเด็นนำไปสู่การสังหาร,อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งประเด็นสังหารเกี่ยวกับความขัดแย้งส่วนตัวของผู้ตาย รวมถึงเรื่องการเมืองท้องถิ่น และชู้สาว ซึ่งจะได้สืบสวนสอบสวนหาสาเหตุปมสังหารที่แน่ชัดอีกครั้ง เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป | อดีตกำนัน และนายก อบต. ที่วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ถูกมือปืนบุกยิงขณะขับรถตัดหญ้าให้วัว ไปสิ้นใจที่ รพ. ลูกชายเผย ก่อนหน้านี้น้องชายที่เคยเป็นนายกอบต. ช่วงที่พ่อโดนใบแดง ก็เพิ่งถูกคนของฝ่ายตรงข้ามยิงตาย โดยอ้างว่าเมาเหล้า | null | ยิงอดีตนายกอบต.,นายกอบต.ภูน้ำหยด,การเมืองท้องถิ่น,การเมืองโหด,ไสว เรืองซ้อน,สภ.พุเตย,วิเชียรบุรี,อาชญากรรม,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/content/467122 |
ดีอี ดูแลเนื้อหาไลน์ทีวี | เกี่ยวกับการกำกับดูแลเนื้อหารายการต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน ไลน์ทีวี (Line TV) เนื่องจากมีบางรายการมีเนื้อหาไม่เหมาะสม แต่ไม่ถูกกำกับดูแล ไม่ถูกสั่งปรับ หรือห้ามออกอากาศ เหมือนกับรายการที่ผ่านทางทีวีดิจิทัล รวมถึงไม่ต้องทำตามเงื่อนไขใบอนุญาตประกอบกิจการทีวี เช่นเดียวกับทีวีดิจิทัล ที่ต้องประมูลในราคาที่สูง และต้องถูกกำกับดูแลอย่างเข้มงวดจาก กสทช. นับเป็นความได้เปรียบเสียเปรียบในการทำธุรกิจอย่างมาก,ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า กสทช.ไม่มีอำนาจในการกำกับดูแลไลน์ทีวี รวมถึงเนื้อหารายการที่ผ่านมาทางไลน์ทีวีเลย เพราะ พ.ร.บ.องค์การจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2560 รวมถึง พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ไม่ได้ระบุไว้ที่จะให้เข้าไปกำกับดูแล ซึ่งที่ผ่านมา กสทช.ได้พยายามที่จะเข้าไปกำกับดูแล แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากมีฝ่ายไม่เห็นด้วยมาร้องเรียนภาครัฐ และบอร์ด กสทช.จึงมีมติให้ชะลอการร่างกฎระเบียบกำกับดูแลออกไปก่อน,เพราะฉะนั้นไลน์ทีวี หรืออะไรก็ตามที่ผ่านอินเตอร์เน็ต ต้องกำกับดูแลโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ผ่าน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ฉบับเดียวเท่านั้น เนื่องจากอยู่บนมือถือ บนอินเตอร์เน็ต ไม่ได้ผ่านวิทยุและโทรทัศน์ ดังนั้น อาจถึงเวลาที่ต้องทบทวนหรือแก้ไขกฎหมายทั้ง พ.ร.บ. กสทช. และ พ.ร.บ.ประกอบกิจการวิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งต้องระดมความเห็นผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล และผู้ประกอบการวิทยุกระจายเสียงด้วย เพราะเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด. | พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการสอบถามมายัง กสทช.จำนวนมาก | ข่าว,เศรษฐกิจ | นที ศุกลรัตน์,ไลน์ทีวี,กสทช.,ดูแลเนื้อหา,ทีวีดิจิทัล | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1389824 |
คนไทยแชตไลน์วันละชั่วโมงครึ่ง | โดยผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้บริการต่างๆ เพื่อเพิ่มความสุขในชีวิต,ในขณะที่ลูกค้าองค์กร สามารถใช้ไลน์ในการสร้างการรับรู้ สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มยอดขายให้กับสินค้าและบริการผ่าน 5 กลุ่มธุรกิจหลักของ LINE ได้แก่ ธุรกิจเกม ธุรกิจคอนเทนต์ ธุรกิจโซลูชั่นสำหรับองค์กร ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และธุรกิจเพย์เมนต์ โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการเหล่านี้ให้เทียบเท่ากับบริการแชต และยังมีแผนในการผนวกบริการที่มีอยู่เข้าด้วยกันภายใต้แอพพลิเคชั่นเดียวเป็นซิงเกิ้ลแพลตฟอร์ม เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น,นายอริยะกล่าวว่า ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศ Mobile First ประมาณ 2 ปีแล้ว ด้วยอัตราการใช้อินเตอร์เน็ตไร้สายเพิ่มสูงถึง 40 ล้านคน และ 33 ล้านคนเป็นผู้ใช้งานไลน์และคาดการณ์ว่าภายในปี 2560 นี้ ยอดผู้ใช้อินเตอร์เน็ตไร้สายจะเพิ่มขึ้นถึง 50 ล้านคน หลังจากการเปิดให้บริการ 4 จี โดยคนไทยใช้เวลากับสมาร์ทโฟนเฉลี่ยสูงถึง 5.7 ชั่วโมงต่อวัน และใช้เวลากับไลน์ในการแชตนานถึง 83.7 นาทีต่อวัน และเพื่อตอบรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้เวลาอยู่กับอินเตอร์เน็ตมากขึ้น ไลน์จึงมีบริการ Official Account (OA) สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรในการเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจ โดยการสื่อสารและสร้างการมีส่วนร่วม ด้วยข้อมูลที่กลุ่มเป้าหมายสนใจในเวลาและช่องทางที่เหมาะสม ตลอดจนเพิ่มยอดขายให้กับองค์กรได้มากขึ้น และสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีที่ปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 2.8 ล้านรายในไทย ไลน์ยังมีบริการ LINE@ ที่ใช้งานง่ายและมีค่าใช้จ่ายไม่สูง. | นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ ไลน์ (LINE) ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้เป้าหมายสำคัญ คือ การสร้างไลน์ให้เป็นมากกว่าแอพพลิเคชั่นแชต ด้วยการเป็นแพลตฟอร์มทั้งสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและองค์กรธุรกิจ | null | ไลน์,LINE,แอพพลิเคชั่นแชต,แชต ไลน์,อริยะ พนมยงค์,ผู้ใช้อินเตอร์เน็ต,4 จี,สมาร์ทโฟน,ใช้สมาร์ทโฟน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวเศรษฐกิจ | https://www.thairath.co.th/content/576271 |
โนแคร์นะจ๊ะ ขวัญ อุษามณี เคลียร์ดราม่าหน้าลอยแป้งผิดเบอร์ | ถูกแซวซะจนเกือบเสียหลักเลยทีเดียว สำหรับสาว ขวัญ อุษามณี ที่เจ้าตัวได้ใช้เวลาว่างจากการเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศออสเตรเลีย มาทำคลิปแต่งหน้าพร้อมกับทาลิปสติกแบรนด์ของตัวเองลงในยูทูบ,แต่ชาวเน็ตกลับมองว่า ขวัญนั้นทาแป้งที่หน้าดูขาวลอยกว่าลำตัว จนถูกชาวโซเชียลแซวกระหน่ำว่า ทารองพื้นผิดเบอร์รึเปล่า ทำไมหน้าถึงได้ลอยขนาดนั้น ซึ่งงานนี้ขวัญแทบจะปิดคอมเมนต์ในยูทูบแทบไม่ทันเลยทีเดียว ,แต่ล่าสุด ขวัญ ก็โนสนโนแคร์แต่อย่างใด เจ้าตัวได้โพสต์ภาพตัวเองพร้อมกับเขียนแคปชั่นว่า Not yet Not now YouTube <UsaLoveVer>> ไม่ได้ใช้รองพื้นนะจ๊ะ บร๊ายยย #ขอบคุณทุกคนที่รักกันนะคะ #ขวัญชื่นใจ,ซึ่งก็มีแฟนๆ ของ ขวัญ อุษามณี เข้ามาให้กำลังใจเธอเป็นจำนวนมาก พร้อมกับบอกว่า อย่าได้แคร์เลย ไม่ว่าลุคไหนก็สวยอยู่แล้ว.,อย่ามัวแต่อินกับ USA LOVER ขวัญโนแคร์ แต่ผู้หญิงอย่างเราโนแคร์ไม่ได้น๊ะจ๊ะ ช้อปรองพื้นตัวเด็ด ตัวดังได้ที่ ,Sephora, เค้าแจกส่วนลดเพิ่มสำหรับลูกค้าใหม่ด้วยน๊ะ | ขวัญ อุษามณี อวดความสวยแบบชัดๆ หลังจากแต่งหน้าเข้าที่แล้ว โนสนโนแคร์คนแซวรองพื้นผิดเบอร์ ลั่นไม่ได้ใช้รองพื้นนะจ๊ะ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ขวัญ อุษามณี,ขวัญ อุษามณี แต่งหน้า,ขวัญ อุษามณี ดราม่า,คลิปแต่งหน้า ขวัญ อุษามณี,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1482276 |
เอกชัย หงส์กังวาน : ข้อเสนอต่อร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม | โดยในชั้นแรกมีเป้าหมายเพื่อนิรโทษกรรมให้กับผู้ต้องหาทางการเมืองทุกเสื้อสี ยกเว้นแกนนำการชุมนุมและผู้สั่งสลายการชุมนุมจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากแต่เมื่อเวลาผ่านไปสาระสำคัญในร่าง พ.ร.บ.นี้ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงจนมีผลเป็นการนิรโทษกรรมให้กับทุกฝ่าย ยังผลให้เกิดความไม่เห็นด้วยอย่างกว้างขวางแม้แต่ในกลุ่มคนเสื้อแดงพรรคเพื่อไทยอ้างว่า หากร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งอาจขัดรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 3 แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็อ้างเช่นเดียวกันว่า หากร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งอาจขัดรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 309 จนทำให้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้อาจต้องเดินทางมาถึง ทางตัน ซึ่งไม่เป็นผลดีกับฝ่ายใดเลยด้วยเหตุนี้ ผมในฐานะผู้ต้องหาทางการเมือง มาตรา 112 ที่กำลังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างรอฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยไม่ได้รับการประกันตัว จึงอยากเสนอความเห็นเพื่อแก้ไขสาระสำคัญ มาตรา 3 ของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ดังนี้มาตรา 3 พ.ร.บ.ฉบับนี้ให้ครอบคลุมเฉพาะบรรดาการกระทำทั้งหลายทั้งสิ้นของบุคคลหรือประชาชนที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมือง หรือความขัดแย้งทางการเมือง หรือถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำผิดโดยคณะบุคคลหรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 รวมทั้งองค์กรหรือหน่วยงานที่ดำเนินการเรื่องดังกล่าวสืบเนื่องต่อมาที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 8 ส.ค.2556 ไม่ว่าผู้กระทำจะได้กระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำหรือผู้ถูกใช้ โดยการกระทำนั้นผิดกฎหมายการกระทำตามวรรคหนึ่ง หากศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด ลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง แต่หากศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดลงโทษจำคุกเกิน 2 ปี ให้ลดโทษเหลือ 2 ปี(อธิบาย: วรรคนี้จะมีผลให้ผู้ต้องหาทางการเมืองทุกเสื้อสีที่คดีถึงที่สุดไม่เกิน 2 ปี ได้รับการนิรโทษกรรมทั้งหมด ส่วนผู้ต้องหาทางการเมืองทุกเสื้อสีที่คดีถึงที่สุดเกิน 2 ปี จะได้รับการลดโทษเหลือเพียง 2 ปี ซึ่งขณะนี้ส่วนใหญ่ถูกคุมขังมาเกินกว่า 2 ปีแล้วจึงได้รับการปล่อยตัวทันที รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถูกพิพากษาจำคุก 2 ปี ในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินถนนรัชดาภิเษก ก็ได้รับการนิรโทษกรรมด้วย)การกระทำตามวรรคหนึ่ง หากศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ให้ผู้กระทำได้รับการประกันตัวในทุกชั้นศาล ไม่ว่าจะถูกฟ้องกี่กรรมหรือกี่คดีก็ตาม(อธิบาย: วรรคนี้จะมีผลให้ผู้ต้องหาทางการเมืองทุกเสื้อสีที่คดียังไม่ถึงที่สุด โดยเฉพาะผู้ต้องหามาตรา 112 ได้รับการประกันตัวเพื่อออกมาต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำ นปช. สามารถต่อสู้คดีได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะต้องถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดี)ผู้ต้องหาตามวรรคสาม หากต่อมาศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดลงโทษจำคุก ให้ปรับใช้วรรคสองของมาตรานี้โดยอนุโลม(อธิบาย: วรรคนี้จะมีผลให้ผู้ต้องหาทางการเมืองทุกเสื้อสีที่ได้รับการประกันตัวและต่อสู้คดีจนถึงที่สุด โดยหากถูกพิพากษาจำคุกได้รับการนิรโทษกรรมหรือลดโทษเช่นเดียวกับผู้ต้องหาทางการเมืองที่คดีถึงที่สุดก่อนหน้า ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหาเหล่านี้ส่วนใหญ่เคยถูกคุมขังเกินกว่า 2 ปี จึงไม่ต้องถูกดำเนินคดีหรือจำคุกอีก)เหตุผลที่ผมนำเสนอร่างเช่นนี้ เพราะหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ร่าง พ.ร.บ.ที่เข้าสู่รัฐสภาเป็นการนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง ซึ่งมีผลให้ผู้ต้องขังทางการเมืองเสื้อเหลืองได้รับประโยชน์มากกว่า โดยเฉพาะผู้สั่งการสลายการชุมนุม ด้วยเหตุนี้ผมจึงอยากนำเสนอการนิรโทษกรรมเฉพาะผู้ต้องหาทางการเมืองที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วเท่านั้น ส่วนผู้ต้องหาทางการเมืองที่คดียังไม่ถึงที่สุดจะได้รับการประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ หากแม้ในเวลาต่อมาคดีของพวกเขา ศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก พวกเขาก็จะได้รับการนิรโทษกรรมหรือลดโทษเหลือ 2 ปี ซึ่งพวกเขาส่วนใหญ่ถูกคุมขังเกินกว่า 2 ปี จึงไม่ต้องถูกคุมขังอีก ส่วนผู้ต้องหาทางการเมืองที่ยังไม่เคยถูกคุมขังหรือถูกคุมขังต่ำกว่า 2 ปี ก็จะถูกคุมขังเพียง 2 ปี เท่านั้น | ปัจจุบันรัฐบาลซึ่งมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำพยายามผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งมีวรชัย เหมะ (แกนนำ นปช.และส.ส.เพื่อไทย) เป็นผู้นำเสนอ | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | นิรโทษกรรม,ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม,เอกชัย หงส์กังวาน | https://prachatai.com/journal/2013/11/49657 |
กรมทรัพยากรธรณีคาดว่าแผ่นดินไหวปากช่องเกิดจากรอยเลื่อนลำตะคอง | วันนี้ (15 ต.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ข้าวโพด บริเวณบ้านหนองน้อย ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 3.0 ความลึก 7 กิโลเมตร เมื่อคืนนี้่ โดยจากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยความเสียหายเกิดขึ้นในบริเวณนี้ รวมไปถึงสถานที่ราชการ อาคารสูง และบ้านเรือน มีเพียงแรงสั่นสะเทือนที่ประชาชนรับรู้ได้เท่านั้น นายสุทธิโรจน์ กองแก้ว ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง เปิดเผยว่า เมื่อเช้านี้ ได้นำเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบความแข็งแรง ตั้งแต่เหนือเขื่อนไปจนถึงท้ายเขื่อน แต่ไม่พบร่องรอยของการแตกร้าว แต่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ชลประทานให้ส่งผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบความแข็งแรงของเขื่อนอีกครั้ง เนื่องจากเขื่อนลำตะคอง สร้างมาแล้วกว่า 50 ปีสำหรับ อ.ปากช่อง เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.0 มาแล้วมาเมื่อปี 2535 ส่วนที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด กรมทรัพยากรธรณีมองว่าเป็นแผ่นดินไหวขนาดเล็ก สันนิษฐานว่าเกิดจากการเลื่อนตัวรอยเลื่อนลำตะคอง เป็นรอยเลื่อนเก่า และยังเป็นรอยเลื่อนที่มีพลัง | กรมทรัพยากรธรณีคาดการณ์แผ่นดินไหวขนาด 3.0 ซึ่งมีจุดศูนย์กลางเกิดที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อคืนนี้ อาจเป็นรอยเลื่อนลำตะคองที่คาดว่ายังมีพลัง แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย | ภัยพิบัติ | ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,กรมทรัพยากรธรณี,แผ่นดินไหว,ปากช่อง,นครราชสีมา,รอยเลื่อนลำตะคอง | https://news.thaipbs.or.th/content/256694 |
จับโจ๋สุราษฎร์ฯ ตระเวนขโมย จยย.ขายทุ่งสง ยึดคืนได้ 8 คัน | เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 60 พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวศิน ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.โชติ เพชรหนองชุม รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาตระเวนลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ คือ นายโย (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ชาว อ.เมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ 8 คัน ของกลางอื่นๆ รวม 10 รายการ,พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า ช่วง พ.ย. 59 ถึง ก.พ. 60 มีเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี และพื้นที่ใกล้เคียงบ่อยครั้ง ชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมข้อมูลจากกล้องวงจรปิดจนได้รูปพรรณของผู้ก่อเหตุ และจากแนวการสืบสวนทำให้ทราบว่าคนร้ายคือ นายโย จากนั้นติดตามจนสามารถจับกุมได้ที่ร้านเกมแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี,สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ลักรถจักรยานยนต์หลายคันจริง ใช้วิธีการเดินหารถเป้าหมายตามห้างสรรพสินค้า ตลาด และสถานที่ที่ต้องจอดรถเป็นเวลานาน ทำทีว่าเป็นรถของตัวเองแล้วใช้กุญแจผีทดลองไข ถ้าสามารถไขได้ก็จะเอารถไปทันที ส่วนใหญ่เป็นฮอนด้า เวฟ เนื่องจากไม่มีระบบป้องกันตรงช่องเสียบกุญแจ จากนั้นนำไปขายทั้งคันในราคา 3,000 บาท ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช อีกทั้งให้การเพิ่มเติมว่า หลังจากขับรถไปขายที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนกลับจะตระเวนหารถเป้าหมายขโมยขับกลับมายัง จ.สุราษฎร์ธานี ด้วย. | ตำรวจสุราษฎร์ธานี ตามจับกุมหนุ่มวัย 19 ปี ใช้กุญแจผีตระเวนขโมยจักรยานยนต์ในเขตเมือง นำรถไปขายที่ อ.ทุ่งสง ก่อนจะขโมยรถจากทุ่งส่ง กลับมาด้วย ตามยึดคืนได้ 8 คัน | ข่าว,ทั่วไทย | ขโมยรถ,ขโมยมอเตอร์ไซค์,ขโมย จยย.,สุราษฎร์ธานี | https://www.thairath.co.th/news/local/864022 |
ชูไฮไลต์นิทรรศการหนังสือ ความทรงจำ นำเสนอพระราชกรณียกิจ รัชกาลที่ 9 | นำเสนอพระราชกรณียกิจ ผ่านหนังสือที่เกิดขึ้นในรัชสมัยของพระองค์กว่า 7 ทศวรรษ พร้อมเสวนาหัวข้อ ๙ วัน ๙ ความทรงจำ ธ สถิตอยู่ในใจไทยนิรันดร์,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ย.60 สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (pubat) ประกาศความพร้อมจัด มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 22 (Book Expo Thailand 2017) ในระหว่างวันที่ 18-29 ตุลาคม พ.ศ.2560 (12 วัน) ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด ความทรงจำ เชิญชมนิทรรศการความทรงจำ /นิทรรศการภาพถ่าย ๙ สู่สวรรคาลัย/ เสวนาหัวข้อ ๙ วัน ๙ ความทรงจำ ธ สถิตอยู่ในใจไทยนิรันดร์/ นิทรรศการ 100 Annual Book and Cover Design 2017/ นิทรรศการ ขอบฟ้าขลิบทอง ส่องทางเรา กวี-ชีวิต-อุชเชนี/ การจำหน่ายของที่ระลึก ที่คั่นหนังสือแห่งความทรงจำ ออกแบบเป็นพิเศษ รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้ โรงพยาบาลศิริราช/ การจำหน่ายตราไปรษณียากรชุดพิเศษ โดย บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด และกิจกรรมน่าสนใจอีกมากมายตลอด 12 วัน โดยมีผู้ร่วมงานแถลงข่าวอย่างคับคั่ง,นางสุชาดา สหัสกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 22 (Book Expo Thailand 2017) ถือเป็นงานแสดงหนังสือระดับชาติที่ได้รับความสนใจและรอคอยจากบรรดาคนรักการอ่านมาตลอด โดยเริ่มจากการเปิดตัวภาพลักษณ์ใหม่ของ สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ผ่านโลโก้ใหม่ของ PUBAT ให้สอดคล้องกับนโยบาย PUBAT 4.0 ในรูปลักษณ์ที่เรียบง่าย มีความเป็นสากล ทันสมัยและเป็นมิตรกับทุกคน เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าการอ่านหนังสือเป็นเรื่องของคนทุกเพศทุกวัย ทุกกลุ่มอาชีพ และทุกคนในครอบครัว ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายและกิจกรรมของสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ที่จะส่งเสริมให้เกิดการอ่าน รณรงค์ให้คนไทยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการอ่าน และส่งเสริมให้อ่านหนังสืออย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้สำนักพิมพ์และผู้เกี่ยวข้อง เกิดความตื่นตัว ปรับปรุงและพัฒนาการผลิตหนังสือ ให้มีคุณภาพ มีความหลากหลาย เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน โดยการอ่านจะเป็นรากฐานสำคัญนำไปสู่การพัฒนาประเทศในทุกด้าน, , มหกรรมหนังสือครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ความทรงจำ ซึ่งเชื่อมโยงกับนิทรรศการหลักของงานคือ ความทรงจำ โดยการสนับสนุนจาก กระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กรมศิลปากร และสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์กลางของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำหนังสือ ประสานความร่วมมือกับองค์กรภาครัฐและเอกชน อาทิ สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย สมาคมนักแปลและล่ามแห่งประเทศไทย สมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ชมรมบรรณาธิการไทย กสทช. มิวเซียมสยาม โครงการสารานุกรมไทย และสำนักพิมพ์ต่างๆ โดยทุกฝ่ายร่วมกันทำงานเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อวงการหนังสือของไทย ผ่านหนังสือพระราชนิพนธ์ และหนังสือที่เกิดขึ้นในรัชสมัยของพระองค์ ด้วยความตระหนักว่า หนังสือเป็น สิ่งที่จะทำให้มนุษย์ก้าวหน้าได้โดยแท้ สมดังพระบรมราโชวาทที่ได้พระราชทานแก่คณะสมาชิกห้องสมุดทั่วประเทศ 25 พฤศจิกายน 2514 ว่า,หนังสือเป็นการสะสมความรู้ และทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ได้สร้างมา ทำมา คิดมา แต่โบราณกาลจนทุกวันนี้ หนังสือจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เป็นคล้ายๆ ธนาคารความรู้และเป็นออมสิน เป็นสิ่งที่จะทำให้มนุษย์ก้าวหน้าได้โดยแท้, ,สำหรับไฮไลต์ของนิทรรศการความทรงจำ ในส่วนที่เปิดเผยได้รับความอนุเคราะห์จาก คุณไพศาลย์ เปี่ยมเมตตาวัฒน์ นักสะสมหนังสือและภาพโบราณจะนำ นิตยสาร วงวรรณคดี ฉบับเดือนสิงหาคม พ.ศ.2490 ซึ่งได้รับพระบรมราชานุญาตพิเศษให้ตีพิมพ์ พระราชนิพนธ์เรื่อง เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่ สวิทเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์เรื่องแรกเมื่อทรงขึ้นครองราชย์มาจัดแสดงร่วมกับหนังสือพระราชนิพนธ์เล่มอื่นๆ หนังสือที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอด 7 ทศวรรษ ในรัชสมัยของพระองค์ นอกจากนี้ยังมีสิ่งพิมพ์และของที่ระลึกต่างๆ ที่จัดทำขึ้นหลังวันสวรรคต 13 ตุลาคม พ.ศ.2559 จึงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนิทรรศการที่รวบรวมหนังสือและสิ่งพิมพ์ที่เกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาแสดงให้ชมมากที่สุดอีกด้วย นางสุชาดา กล่าว, ,ขณะที่ น.ส.สุลักษณ์ วิศวปัทมวรรณ อุปนายกฝ่ายต่างประเทศ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย กล่าวถึง นิทรรศการ 100 ABCD ซึ่งจะจัดแสดงผลงานปกหนังสือและรูปเล่มดีเด่นที่ผ่านการคัดเลือกจากโครงการ 100 Annual Book and Cover Design 2017 หรือ 100 ABCD ว่าจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 หลังจากได้รับการตอบรับในครั้งแรกอย่างดีเยี่ยม โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ร่วมกับ สมาคมนักออกแบบเรขศิลป์ไทย เพื่อคัดเลือกปกหนังสือและการออกแบบรูปเล่มดีเด่น ซึ่งมีเป้าหมายที่จะนำเสนอผลงานหนังสือที่มีการออกแบบที่ดีและโดดเด่น เพื่อแสดงศักยภาพวงการหนังสือและนักออกแบบกราฟิกของไทยสร้างคลังความรู้งานออกแบบสิ่งพิมพ์ที่ดีให้กับวงการหนังสือของไทย รวมทั้งเป็นการเผยแพร่วิชาชีพนักออกแบบหนังสือให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น,ทุกวันนี้ดีไซน์เป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญสำหรับการทำหนังสือ เพราะจะทำให้หนังสือโดดเด่นและถูกทำให้เห็นตั้งแต่แรก การออกแบบเข้ามาช่วยเราสร้างพื้นที่ระหว่างคนทำหนังสือกับดีไซเนอร์มากขึ้น โดยปีนี้มีผลงานที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากแวดวงศิลปะและหนังสือ โดยแบ่งเป็นประเภทปกหนังสือ 80 ผลงาน และการออกแบบรูปเล่ม 19 ผลงาน ซึ่งผลงานทั้งหมดนี้จะนำมาแสดงในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 22 นี้ รวมทั้งนำไปแสดงในงานแสดงหนังสือของต่างประเทศอีกด้วย ผู้สนใจสามารถเข้าไปดูงานได้อีกช่องทางหนึ่งที่ www.100abcd.org, ,เตรียมตัวให้พร้อมกับงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 22 ชมนิทรรศการ ความทรงจำ และนิทรรศการอื่นๆ ซึ่งจัดขึ้นเป็นพิเศษสำหรับงานนี้ รวมทั้งกิจกรรมบนเวทีเอเทรียมกว่า 90 รายการ และหนึ่งในนั้นคือ รายการ ๙ วัน ๙ ความทรงจำ ธ สถิตอยู่ในใจไทยนิรันดร์ กับบุคคลผู้มีชื่อเสียงที่จะแบ่งปันความทรงจำในห้วงเวลาสำคัญของชาวไทย อาทิ นายชวน หลีกภัย พลตำรวจเอกวสิษฐ เดชกุญชร นายแพทย์ดนัย โอวัฒนาพานิช เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้จัดทำของที่ระลึก ที่คั่นหนังสือแห่งความท๙งจำ Limited edition เพื่องานมหกรรมหนังสือระดับชาติในครั้งนี้โดยนักออกแบบชื่อดัง ซึ่งรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะมอบให้กับโรงพยาบาลศิริราช เพื่อสมทบทุนอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา พบกับหนังสือราคาพิเศษที่คัดสรรมาให้เลือกกว่า 1,000,000 เล่ม จากสำนักพิมพ์ 389 ราย รวมทั้งสิ้น 939 บูธ บนพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร ระหว่าง วันพุธที่ 18-วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2560 (12 วัน) ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์. | สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ เตรียมจัดมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 22 น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่มีต่อวงการหนังสือไทย ด้วยนิทรรศการ ความทรงจำ | ข่าว,ทั่วไทย | หนังสือ,นิทรรศการหนังสือ,มหกรรมหนังสือ,หนังสือไทย,พระราชกรณียกิจ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1079152 |
พาณิชย์นำเข้า น้ำดื่ม-ไข่ไก่-ปลากระป๋อง จากมาเลย์-ฮ่องกง | กระทรวงพาณิชย์เร่งรัดนำเข้าสินค้าจากประเทศในกลุ่มอาเซียนเพื่อจะบรรเทาปัญหาสินค้าบางรายการขาดแคลน และ มีราคาสูง โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คาดว่า จะกระจายสินค้าให้กับผู้บริโภคภายในสัปดาห์นี้ พร้อมกันนี้เบื้องต้นจะนำเข้าไข่ไก่ 7 ล้านฟองจากมาเลเซีย และ ฮ่องกง รวมถึงสินค้าอื่นเช่น ปลากระป๋อง และ น้ำดื่มด้านนายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ราคาสินค้าบางรายการปรับสูงขึ้น โดยเฉพาะผัก ไข่ไก่ รวมไปถึงอาหารแห้ง รัฐบาลจึงให้นำเข้าสินค้าเป็นการชั่วคราว โดยเฉพาะสินค้าที่มีความต้องการสูงบริษัทผู้ค้าหลายแห่งเริ่มสั่งสินค้านำเข้าบางรายการแล้ว เช่นปลากระป๋อง ที่จะนำเข้าในช่วงกลางเดือนนี้ รวมถึงนำเข้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แล ะไข่ไก่ ซึ่งกว่า 3 ล้านฟองจะมาถึงไทยในวันพฤหัสบดีนี้ และ จะค่อย ๆ ทะยอยนำเข้าเพิ่มเติมกระทรวงพาณิชย์ยังประสานให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กระจายสินค้าไข่ไก่เพิ่มเติมด้วย โดยในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ ( 2 พ.ย.) กรมปศุสัตว์ร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่จำหน่ายไข่ไก่ขนาดเบอร์ 2 และเบอร์ 3 จำนวน 100000 ฟอง ถาดละ 30 ฟองราคา 125 บาท เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนในส่วนของน้ำดื่มห้างค้าปลีกรายใหญ่ 2 ราย นำเข้าน้ำดื่มรวมแล้วกว่า 5400000 ขวด ขณะที่ทางการจะเร่งดึงสต็อกน้ำดื่มมาจากต่างจังหวัดวันละกว่า 1000000ขวด เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการนอกจากเร่งนำเข้าสินค้าแล้วกระทรวงพาณิชย์ยังออกประกาศราคาแนะนำสินค้าควบคุม 16 รายการในช่วงน้ำท่วม หลังมีผู้ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคา เช่น น้ำดื่มบรรจุขวดขนาด 600 ซีซี ไม่แช่เย็นขวดละ 7 บาท ทรายบรรจุถุง 45 บาท อิฐบล็อก ก้อนละ 10 บาท เสื้อชูชีพ 450 บาท เรือไฟเบอร์ 2 คนนั่งลำละ 4500 บาท รองเท้าบูธยาง 200 บาท ทั้งนี้หากขายสูงกว่าราคาแนะนำ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ | รมว.พาณิชย์ คาดว่า จะกระจายสินค้าให้กับผู้บริโภคภายในสัปดาห์นี้ โดยเบื้องต้นจะนำเข้าไข่ไก่ 7 ล้านฟองจากมาเลเซีย และฮ่องกง รวมถึงสินค้าอื่น เช่น ปลากระป๋อง และ น้ำดื่ม | เศรษฐกิจ | กรมการค้าภายใน,กระทรวงพาณิชย์,กิตติรัตน์ ณ ระนอง,วิกฤตน้ำท่วม,สินค้าขาดแคลน | https://news.thaipbs.or.th/content/43257 |
ชาวบ้านค้าน ศธ.ให้เด็กสวมฮิญาบในโรงเรียนปัตตานี | วันที่ 23 พ.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านกว่า 500 คน รวมตัวที่วัดนพวงศาราม จ.ปัตตานี เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาปัตตานี แก้ไขระเบียบของโรงเรียนอนุบาลปัตตานี ที่มีมากว่า 50 ปี โดยอนุญาตให้นักเรียนมุสลิมทั้งชายและหญิงแต่งกายตามหลักศาสนาได้ หรือผู้หญิงสามารถคลุมฮิญาบ และผู้ชายสวมกางเกงขายาวพระพิสิทธิ อนาถโย รองประธานสมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า โรงเรียนอนุบาลปัตตานีได้ยืมเช่าที่ดินของวัดนพวงศาราม ทำสัญญาเมื่อปี 2510 มีเจ้าอาวาสปกครองกฎระเบียบของโรงเรียน แต่มีผู้ปกครองมุสลิมกลุ่มหนึ่ง ออกมาประท้วงและผลักดันให้ลูกหลานผู้หญิงสวมฮีญาบเข้าเรียน อ้างว่าเป็นพหุวัฒนธรรมและสิทธิมนุษยชน ซึ่งเห็นว่าการแก้ไขระเบียบ เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม เนื่องจากตลอด 50 ปีที่ผ่านมา นักเรียนทุกศาสนาสามารถอยู่ร่วมกันได้ และเรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งภายในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.) หากไม่ดำเนินการจะเคลื่อนไหวอีกครั้ง | ชาวบ้าน 500 คน รวมตัวที่วัดนพวงศาราม จ.ปัตตานี คัดค้านกระทรวงศึกษาธิการแก้ไขระเบียบให้นักเรียนมุสลิมแต่งกายตามหลักศาสนาในโรงเรียนอนุบาลปัตตานี เรียกร้องยกเลิกคำสั่งภายในวันพรุ่งนี้ | ภูมิภาค | ฮิญาบ,มุสลิม,อิสลาม,ปัตตานี,วัดนพวงศาราม,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/272397 |
คสช. เห็นชอบกฎหมาย 38 ฉบับ ชงพิจารณา สนช. | คสช.เตรียมแก้ไข-ผลักดันกฎหมาย 38 ฉบับ รวม พ.ร.บ.จราจร - พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ - พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งแก้ไขประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง โดยจะให้ สนช. พิจารณาต่อ5 ส.ค. 2557 - จากผลการประชุม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วันนี้นั้น รายงานว่า จนถึงปัจจุบันนี้ คสช. ได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจำนวน 38 ฉบับก่อนเสนอให้ สนช. พิจารณาแล้วดังนี้1.ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่) พ.ศ(มท)2.ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่) พ.ศ(ยธ.)3.ร่างพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่) พ.ศ4.ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ5.ร่างพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่) พ.ศ6.ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่) พ.ศ7.ร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่) พ.ศ8.ร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม (ฉบับที่) พ.ศ9.ร่างพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ10.ร่างพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ11.ร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ12.ร่างพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่) พ.ศ….13.ร่างพระราชบัญญัติรับขนคนโดยสารและสัมภาระทางถนนระหว่างประเทศ พ.ศ14.ร่างพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ15.ร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 16.ร่างพระราชบัญญัติการกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2494 พ.ศ. 17.ร่างพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน (ฉบับที่) พ.ศ. 18.ร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่) พ.ศ. 19.ร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. 20.ร่างพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน (ฉบับที่) พ.ศ. 21.ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ.2540 พ.ศ. 22.ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติการชลประทานราษฎร์ พ.ศ.2482 พ.ศ. 23.ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่) พ.ศ. 24.ร่างพระบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่) พ.ศ. 25.ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่) พ.ศ. 26.ร่างพระราชบัญญัติสวนป่า พ.ศ. 27.ร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. 28.ร่างพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. .29.ร่างพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ พ.ศ. 30.ร่างพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. 31.ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 32.ร่างพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 33.ร่างพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ ) พ.ศ. 34.ร่างพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ ) พ.ศ. 35.ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ) พ.ศ. 36.ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตราย พ.ศ. 37.ร่างพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด (ฉบับ ) พ.ศ. 38.ร่างพระราชบัญญัติสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. | คสช.เตรียมแก้ไข-ผลักดันกฎหมาย 38 ฉบับ รวม พ.ร.บ.จราจร - พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ - พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งแก้ไขประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง โดยจะให้ สนช. พิจารณาต่อ 5 ส.ค. 2557 - จากผลการประชุม | การเมือง | คณะรักษาความสงบแห่งชาติ,คสช.,สนช.,สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | https://prachatai.com/journal/2014/08/54922 |
เติมความอร่อยในแบบที่ใช่ในสไตล์ที่ชอบ | อร่อยนัวไปกับเมนูซิกเนเจอร์ ตำถาด ที่มีให้เลือกทั้งตำทองหล่อ ตำเมรี และตำแม่พิมพ์, ไก่ย่างต้นตำรับ, น้ำตกคอหมู, ปากเป็ดทอด, ต้มแซ่บกระดูกอ่อน และล้างปากด้วย ไอศกรีมกะทิทรงเครื่อง อร่อยลงตัวแบบนี้ที่ ชั้น 2 อาคารเดอะ เทสต์ สุขุมวิท ทองหล่อ 11 ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. โทร.09-1874-4999,ส่วนที่ห้องอาหารเรือนต้น รร.มณเฑียร จัดเมนูรับลมร้อน ทั้งฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ และข้าวเหนียวมะม่วง ให้ได้ชิม ส่วนที่มณเฑียร เบเกอรี่ จัดทาร์ตมะม่วงหอมอร่อยให้ชิม โทร.0-2233-7060 ต่อ 5103ห้องอาหารเรดสกาย รร.เซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ จัดเซิร์ฟ แอนด์ เทิร์ฟ พรีเมียม บับบี้บรันช์ บุฟเฟ่ต์เนื้อนำเข้าคุณภาพเยี่ยมและซีฟู้ดสดใหม่จากทั่วโลก โทร.0-2100-6255ห้องอาหารจีนหล่งฟ่ง รร.สวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด จัดชุดอาหารกลางวัน บิสซิเนส ลันช์ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาอาหารกลางวันสไตล์จีน บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.30-14.30 น. โทร. 0-2694-2222 ต่อ 1540ตลอดเดือนนี้ ห้องอาหารจีน ฟุ หมาน เหลา รร.ทวิน ทาวเวอร์ ลดราคาเป็ดปักกิ่งหนังกรอบไร้มัน 50% เหลือเพียง 442 บาทถ้วน โทร. 0-2216-9555 ต่อ 11452 ห้องอาหารเอโดะ รร.มิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ชวนชิมเมนูเด็ดแก้มปลา ฮามาจิ จะเสิร์ฟถึง 31 มี.ค. โทร.0-2575-5599 ต่อ 1460,สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ต้อนรับหน้าร้อนด้วย เบิร์นท์ คาราเมล มัคคิอาโต เครื่องดื่มมัคคิอาโตสูตรใหม่ชิมความหอมหวานของคาราเมลแบบไหม้นิดๆ เพิ่มความเข้มของช็อตเอสเพรสโซ่ ปิดท้ายด้วยซอสคาราเมลราดแบบ cross-hatch และ ช็อกโกแลต เฮเซลนัท มัคคิอาโต ด้วยรสที่หอมหวานของช็อกโกแลต ถั่วเฮเซลนัท และช็อตเอสเพรสโซ่เข้มข้นสั่งได้ถึง 25 เม.ยส่วน คอฟฟี่เวิลด์ จัดเมนู Mango Milk Shake เครื่องดื่มที่ผสมผสานความอร่อยของไอศกรีมรสมะม่วง ปั่นกับนมสด และ Mango Yellow Shibuya toast โทสต์หอมๆ เนื้อนุ่มทานคู่กับไอศกรีมรสมะม่วงเข้มข้น เสิร์ฟถึง 30 เม.ยชื่นชอบเมนูไหน แวะไปชิมกันได้เลยค่ะ | สร้างความสุข ในครอบครัวช่วงวันหยุดด้วยการหา ของอร่อยกินกันดีกว่าค่ะ เริ่มจากอาหารอีสานรสแซ่บต้นตำรับระดับพรีเมียม ต้องยกให้ ตำทองหล่อ ร้านอาหารอีสานสไตล์โมเดิร์น ที่ได้คัดสรรวัตถุดิบชั้นเยี่ยมจากแหล่งผลิตชั้นนำ | ไลฟ์สไตล์,อาหาร | ตำทองหล่อ,ร้านอาหารอีสานสไตล์โมเดิร์น,อาหารอีสาน,อีสานโมเดิร์น,ห้องอาหารเรือนต้น,โรงแรมมณเฑียร,ห้องอาหารเรดสกาย,เซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์,สวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด,โรงแรม,ห้องอาหารโรงแรม,อาหาร,สตาร์บัคส์ คอฟฟี่,ร้านกาแฟ,ข่าวสตรี,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐฉบับพิมพ์,ข่าว | https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/588674 |
ตร.สตึกจับหนุ่มเลือดร้อน เอามีดฟันสุนัขบาดเจ็บ แผลฉกรรจ์เย็บ 28 เข็ม | เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2562 นายจรินทร์ ชอบชล อายุ 40 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 7 บ้านเจริญสุข ต.สะแก อ.สตึก พร้อมนำสุนัขพันธุ์ไทยสีขาวเพศเมีย เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สุระ ศรีจินดา รอง สว. (สอบสวน) สภ.สตึก ว่า นายสนอง พมูลพิลา ใช้มีดฟันหัวสุนัขของตนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส นายจรินทร์ เจ้าของสุนัข เล่าว่า ช่วงเช้าตนพร้อมเพื่อนนั่งดื่มเหล้ากันที่บริเวณหน้าบ้าน,ต่อมานายสนองที่อยู่หมู่บ้านใกล้กันได้เดินมาขอนั่งดื่มด้วย แล้วมีปากเสียงทะเลาะกันส่งเสียงดัง จากนั้นสุนัขของตนชื่อเจ้า เซเว่น เพศเมียอายุ 8 เดือนได้มาไล่เห่านายสนอง ด้วยความโมโหเพื่อนอยู่แล้วจึงใช้มีดติดตัวมาฟันหัวสุนัขอย่างแรง จนได้รับบาดเจ็บแผลเหวอะ ใกล้กับศีรษะจนต็องเย็บที่คลินิกสัตวแพทย์รวม 28 เข็ม จึงรายงานผู้บังคับบัญชา พ.ต.ท.จำรัส ศิริเลี้ยง รอง ผกก.ป สภ.สตึก พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวหน้าบ้านมีแคร่ไม้ พร้อมเครื่องดื่มวางอยู่ และพบนายสนอง พมูลพิลา หรือลอง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 6 ต.สะแก อ.สตึก นายสอง พมูลพิลา ให้การรับสารภาพกับตำรวจว่า ตนมานั่งดื่มสุรากับเพื่อนบ้าน และเป็นจังหวะที่ตนกำลังมีปากเสียงกับเจ้าของบ้านเสียงดัง ทันใดนั้นเจ้าเซเว่นสุนัขเจ้าของบ้าน ได้เห่าตนส่งเสียงดัง ทำท่าเหมือนจะวิ่งเข้ามากัดจึงใช้มีดปลายแหลมที่พกติดตัวมาฟันไปที่หัวเจ้าเซเว่น จนส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะวิ่งหนีไป จึงควบคุมตัวนายสนอง พร้อมของกลางมีดปลายแหลม 1 เล่ม มาที่ สภ.สตึก พร้อมแจ้งข้อกล่าวหากระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร ต้องระวางโทษจำคุกสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพื่อดำเนินคดีต่อไป. | ตำรวจสตึกตามจับตัวหนุ่มเลือดร้อนใช้มีดฟันหัวสุนัข เหตุถูกไล่เห่าเพราะมีปากเสียงในวงเหล้าทำหมาเห่าไม่หยุด เจ้าของสุดสงสารหมาร้องเจ็บปวด นำส่งสัตวแพทย์เย็บ 28 เข็ม แจ้ง ตร.จับทารุณกรรมสัตว์ | ข่าว,อาชญากรรม | ทารุณกรรมสัตว์,มีดฟันสุนัข,ทำร้ายหมา,หนุ่มเลือดร้อน,สภ.สตึก,บุรีรัมย์,สนอง พมูลพิลา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1624395 |
ทหารพราน ถูกลูกซองยิงดับ ร่างพรุน 40 รู เพื่อนบอกปืนลั่น ตร.ยังไม่เชื่อ | ฟุบข้างต้นกล้วย เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อสาเหตุปืนลั่นเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 17 มี.ค.63 พ.ต.ท.วัฒนา พาจันลา สว.(สอบสวน) สภ.ด่านซ้าย จ.เลย รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตถูกยิงด้วยอาวุธปืน ภายในสวนกล้วยห่างจากหมู่บ้านน้ำเย็นประมาณ 4 กิโลเมตร ในพื้นที่หมู่ 2 ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานไปยังแพทย์ รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย ชุดสืบสวน สภ.ด่านซ้าย ฝ่ายปกครอง อ.ด่านซ้าย และกู้ภัยสัจจะไมตรี ที่เกิดเหตุเป็นร่องน้ำอยู่ในสวนกล้วย พบผู้เสียชีวิตเป็นชายสภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดลายพรางทหาร สวมทับด้วยเสื้อยืดแขนยาวสีฟ้า นุ่งกางเกงขายาวสีฟ้า สวมรองเท้าบูต ทราบชื่อ ทพ.สำเรียง เย็นขัน อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 หมู่ 2 ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย เป็น เจ้าหน้าที่ทหารพรานศรีสองรัก 21 อ.ด่านซ้าย จ.เลย ตรวจสอบพบถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซองลูกปลาย เข้าที่บริเวณใบหน้า ต้นคอ หน้าอก ประมาณ 30 รู และที่แขนซ้าย 10 รู กระเป๋าเสื้อพบกระสุนปืนลูกซองยาว 1 นัด เสียชีวิตมาแล้ว 2-3 ชั่วโมง ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ห่างออกไปข้างศพ 1 เมตร พบปืนลูกซองยาว 1 กระบอก พบปลอกกระสุนปืนลูกซองที่ยิงไปแล้วอยู่ในลำกล้อง 1 ปลอก รอยเลือดหยดที่ต้นกล้วย แว่นตากระจกแตก 1 อัน ข้องใส่เขียด 1 อัน ไฟส่องกบ 1 อัน ของผู้ตายตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ห่างออกไปพบ นางสีสลับ เย็นขัน อายุ 50 ปี ภรรยาผู้ตาย ยืนร้องไห้ด้วยความเสียใจ และนายเมืองมน ไพรภิบาล อายุ 50 ปี เพื่อนผู้ตายและภรรยาอยู่ที่เกิดเหตุจากการสอบถาม นายเมืองมน เพื่อนผู้ตาย เล่าว่า ตนและผู้ตายพร้อมภรรยาทั้งคู่ มาอาศัยอยู่เถียงนาที่ไกลออกไปประมาณ 800 เมตร เพื่อออกหาเขียดมาหลายวันแล้ว จนหัวค่ำตนและผู้ตายได้แยกย้ายกันออกหาเขียด ทิ้งภรรยาไว้ที่เถียงนา โดยผู้ตายถือปืนลูกซองยาวไปด้วย จู่ๆได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงวิ่งไปดูคิดว่าผู้ตายคงยิงสัตว์ป่าได้ เมื่อไปถึงพบผู้ตายถูกยิงนอนฟุบอยู่ข้างต้นกล้วย หายใจรวยรินแล้วสะอึกจนเสียชีวิต มีปืนลูกซองยาวตกอยู่ด้านขวามือของผู้ตาย จึงนำร่างมานอนห่างจากที่เกิดเหตุ 1 เมตร พร้อมด้วยอาวุธปืนลูกซองยาว จากนั้นรีบโทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านช่วยแจ้งตำรวจทราบเบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของเพื่อนผู้ตาย เนื่องจากผู้ตายโดนยิงในระยะไม่เกิน 3 เมตร ไม่น่าจะเป็นสาเหตุปืนลั่น จึงนำตัวเพื่อนผู้ตายพร้อมภรรยา และภรรยาผู้ตาย มาสอบสวนที่ สภ.ด่านซ้าย หาสาเหตุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ต่อไป | ทหารพราน ค่ายสีสองรัก จ.เลย ถูกลูกซองยิงพรุน 40 รู ดับคาสวนกล้วย เมียร่ำไห้ระงม สอบถามเพื่อนผู้ตาย เผยออกแยกย้ายกันหาเขียด ได้ยินเสียงปืน เลยวิ่งมาดูพบผู้ตายโดนยิง นอนหายใจรวยริน | ข่าว,ทั่วไทย | ทหารพรานถูกยิง,ทหารถูกยิง,ปืนลั่น,ทหารถูกปืนลั่น,คนถูกยิง,ยิงปืน,ฆ่าคนตาย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1797476 |
จีน-ญี่ปุ่น เตรียมหารือนอกรอบ กรณีพิพาทพรมแดนทางทะเล | เรือประมงไต้หวันราว 40 ลำและเรือลาดตระเวนยามฝั่งไต้หวัน ที่คุ้มครองหมู่เรือประมงเข้าไปในน่านน้ำใกล้เกาะเตียวอวี๋ หรือเกาะเซ็นกากุ ที่ญี่ปุ่น จีน และไต้หวันต่างอ้างสิทธิ เดินทางกลับถึงท่าเรือเมืองยี่หลันของไต้หวันแล้ว หลังจากเมื่อวานนี้(25 ก.ย.) หมู่เรือจับปลารวมทั้งเรือลาดตระเวนไต้หวัน เผชิญหน้ากับเรือของยามฝั่งญี่ปุ่น ที่วางกำลังดูแลน่านน้ำรอบเกาะพิพาทซึ่งญี่ปุ่นถือว่าเป็นน่านน้ำของประเทศ และฉีดน้ำแรงดันสูงตอบโต้กัน ซึ่งกัปตันเรือประมงชาวไต้หวันที่เดินทางไปยังเกาะเตียวอวี๋ หรือ เซ็นกากุ ให้สัมภาษณ์หลังกลับถึงฝั่งว่า ชาวประมงไต้หวันต้องการต่อสู้เพื่อสิทธิในการจับปลา และอธิปไตยในบริเวณดังกล่าว ขณะที่กัปตันอีกคนบอกว่าไม่พอใจที่ญี่ปุ่นเข้าครอบครองเกาะ ทั้งที่เมื่อตอนเด็กๆ เขาก็เคยไปจับปลาบริเวณนั้นประเด็นพิพาทเกาะเตียวอวี๋หรือ เซ็นกากุ รวมทั้งประเด็นแย่งชิงพื้นที่ทำประมง เป็นประเด็นที่สร้างความขัดแย้งระหว่างไต้หวัน และญี่ปุ่นมาตลอด แต่โดยรวมความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย ถือว่าอยู่ในระดับดีแต่สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและญี่ปุ่นประเด็นข้อพิพาทเดียวกันนี้ กลับทำให้ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของทั้งสองประเทศ อยู่ในจุดตกต่ำมากที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งเมื่อวานนี้(25 ก.ย.) เรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของกองทัพเรือจีน ก็ได้เข้าประจำการเป็นวันแรก ท่ามกลางความตึงเครียดในภูมิภาค แต่ยังมีความพยายามจะแก้ไขความสัมพันธ์ผ่านการเจรจาโดยล่าสุดมีรายงานว่านายโคอิชิโระ เกมบะ รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น และนายหยาง เจีย ฉือ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ใช้โอกาสที่ต่างฝ่ายต่างเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ค ของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นพื้นที่เป็นกลาง ในการหารือนอกรอบสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าการพูดคุยของทั้งสองคนค่อนข้างเคร่งเครียด และไม่สามารถบรรลุความเข้าใจเรื่องใดใหม่ ซึ่งนักการทูตญี่ปุ่นระบุว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนได้ย้ำจุดยืนของรัฐบาลขณะที่รัฐมนตรีต่าประเทศญี่ปุ่น ก็ขอให้ฝ่ายจีนกระทำการด้วยความอดทนอดกลั้น เนื่องจากการประท้วงที่เกิดขึ้น สร้างความเสียหายแก่ธุรกิจของญี่ปุ่นและพันธมิตรในประเทศจีน และท้ายที่สุดรัฐมนตรีของทั้งจีนและญี่ปุ่น ต่างตกลงจะให้มีการพูดคุยกันต่อไปมีรายงานว่าผลกระทบทางธุรกิจที่เกิดขึ้นต่อสินค้าญี่ปุ่นในจีนจากข้อพิพาทเรื่องเกาะ ทำให้บริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ทั้งโตโยต้า และนิสสัน ต่างปรับลดกำลังการผลิตในจีน เนื่องจากความต้องการรถญี่ปุ่นในจีนลดน้อยลง นอกจากนี้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์นิสสันในจีน ยังจะยืดระยะเวลาหยุดสายพานการผลิตยาวนานกว่าช่วงวันหยุดยาวของจีนต้นเดือนตุลาคม | รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนและญี่ปุ่นใช้โอกาสนอกรอบของการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ เพื่อหารือถึงกรณีพิพาทพรมแดนทางทะเล ที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ จนอยู่ในจุดตกต่ำที่สุดในรอบหลายปี ขณะที่เรือประมงของไต้หวัน ที่เผชิญหน้ากับเรือยามฝั่งของญี่ปุ่น บริเวณน่านน้ำนอกเกาะพิพาทเมื่อวานนี้(25 ก.ย.) เดินทางกลับถึงฝั่งเกาะไต้หวันแล้ว | ต่างประเทศ | กรณีพิพาท,จีน,ญี่ปุ่น,พรมแดนทะเล,หารือ,เกาะเซ็นกากุ,เกาะเตียวอวี๋ | https://news.thaipbs.or.th/content/114305 |
บิ๊กตู่ จ่องดใช้โซเชียล แต่ยังจ้อทางทีวี | ภท.ร้องเตือนที่เว็บ กกต.ล่มโดนฉกข้อมูล,พปชร.ได้ฤกษ์ 1 ก.พ.16.30 น. แห่ขันหมากเข้าทำเนียบฯ เชิญ ประยุทธ์ ขึ้นบัญชีนายกฯ อุตตม ยึกยักยังไม่ได้ตัดสินใจร่วมแคนดิเดต สมคิด ก็อ้างยังไม่ได้ถูกทาบ ประยุทธ์ ขอบคุณที่เชิญแต่จะรับหรือไม่ยังมีเวลาคิด อุ้มนาฬิกาหรู บิ๊กป้อม แค่เรื่องเล็กน้อยตัดสินแล้วให้จบๆไป สมศักดิ์ ป้องนายกฯไม่ต้องไขก๊อกผวาลามถึง สมคิด พท.เขย่าใหม่ 3 ชื่อ เจ๊หน่อย-ชัชชาติ-ชัยเกษม ชิงนายกฯ ภูมิธรรม แจงไม่จัดลำดับใคร 1-2-3 วิโรจน์ ถอนตัวลงปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ปชป.เย้ย 4 กุมารลาออกกลัวผิดกฎหมายไม่ใช่มีสปิริต ธนาธร ท้าชน บิ๊กตู่ ดีเบตทุกเวที กกต.เคาะจุดปิดป้ายหาเสียง ห้ามขาดถนนราชดำเนิน-ถนนรอบพระราชวัง ต้นไม้-เสาไฟเกาะกลางถนน,แม้แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมยกคณะส่งเทียบเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้อยู่ในบัญชีบุคคลที่จะเสนอเป็นนายกฯของพรรคในวันที่ 1 ก.พ. แต่ พล.อ.ประยุทธ์ยังคงสงวนท่าที อ้างยังมีเวลาคิดจนถึงวันที่ 8 ก.พ.,บิ๊กตู่ โวผลงาน 4 เท่าของ 10 ปีก่อน,เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 31 ม.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานรับมอบสมุดปกขาวนโยบายเศรษฐกิจฐานรากสู่แนวทางการปฏิบัติ หลังรับฟังข้อเสนอจากตัวแทนกลุ่มต่างๆทั่วประเทศ พร้อมเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ จากนั้นนายกฯกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ นโยบายรัฐบาลในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย ว่ามาพบปะกันวันนี้ดีกว่าไปอยู่นอกรั้ว ที่ต้องไม่เกิดขึ้นอีก วันนี้อย่าไปฟังคนที่พูดจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น 4 ปีที่คนเหล่านี้เป็นรัฐบาล ทำอะไรได้ไม่ครบถ้วนเหมือนกัน แต่รัฐบาลนี้ทำมากกว่าเดิม 4 เท่าของ 10 ปีที่ผ่านมา บางอย่างยังไม่ถึงมือชาวบ้าน บางอย่างจับต้องไม่ได้ อย่างอำนาจการรบของเรา อุปกรณ์การสู้รบ อำนาจการรบถือเป็นขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่แบบไม่มีตัวตน แต่ทำให้มีศักยภาพดูแลประเทศ เป็นศักดิ์ศรีเกียรติยศดูแลประเทศสงบสุข,บ่นยังไม่ทำการเมืองถูกด่าเอาเปรียบ,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนการแก้ปัญหาทุจริตต้องกล้าแสดงออก กล้าแจ้งความ เราจะไปกลัวคนไม่ดีทำไม และไม่ต้องมากลัวตนเพราะทำให้พวกท่าน อย่าให้ใครมาใช้ประโยชน์จากความบริสุทธิ์ ใสซื่อของท่านไปเป็นประโยชน์ทางการเมืองเด็ดขาด วันนี้เสียงดังไปหน่อย ตอนแรกตั้งใจทำเสียงหล่อ แบบบางคนแต่ทำไม่ได้ เพราะงานมันท่วมท้นสมองทุกวัน ประชาชนบอกนายกฯประยุทธ์พูดไม่เพราะ แต่ทำจริงและกำลังทำอยู่ พอบอกอย่างนี้บอกว่าตนได้เปรียบ ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรทางการเมือง เขียนนิยายกันได้ทุกวัน เอาไว้ให้เข้าไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน ต้องระมัดระวังให้มากที่สุด วันนี้ได้เปรียบอย่างไร แต่ก่อนนั้นท่านเป็นรัฐบาลไม่ใช่ว่าได้เปรียบตนหรือ เป็นรัฐบาลมาก่อนทั้งนั้น รัฐบาลหน้าต้องเป็นรัฐบาลที่ปรองดองทุกพรรคได้ ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ทุกคนต้องปรองดองกันหลังเลือกตั้ง จะเดินขบวนกันอีกไม่ได้ ตีกันอีกไม่ได้ และอยู่ที่ประชาชนเป็นผู้กำหนดทั้งสิ้น เพราะเป็นคนเลือกตั้ง พรรคใดมีนโยบายปรองดองมาทำงานเพื่อชาติ ปฏิรูปการเมืองใหม่ทั้งหมดควรสนับสนุน,ขอบคุณที่เชิญแต่มีเวลาคิดถึง 8 ก.พ.,ต่อมาเวลา 12.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐจะมาเทียบเชิญเป็นนายกฯในบัญชีพรรควันที่ 1 ก.พ.ว่า มาเชิญเมื่อไหร่ก็ยินดี ขอบคุณที่มาเชิญ ส่วนจะรับหรือไม่รับนั้นมีเวลาพิจารณา ประกาศเซ็นตอบรับในเอกสารจนถึงวันที่ 8 ก.พ.ไม่ต้องมาถามทุกวัน เมื่อถามว่า การตัดสินใจทางการเมืองครั้งนี้ คิดมาตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.57 เลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่าไม่เคยคิดแม้แต่วันเดียว ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ก็เห็นปัญหาต่างๆ คิดว่าจำเป็นต้องทำต่อหรือไม่ ประชาชนอยากให้ทำต่อหรือไม่ อยู่ที่ประชาชน ไม่ได้อยู่ที่ตน และดูนโยบายพรรคใครเป็นอย่างไร จากนั้นตัดสินใจเลือกก็จบ,อุ้มนาฬิกาหรู บิ๊กป้อม เรื่องเล็กน้อย,เมื่อถามถึงองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ลดคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (ซีพีไอ) ปี 2018 ของไทย พล.อ.ประยุทธ์ ว่าต้องมาดูว่าอันดับตกเพราะอะไร สิ่งหนึ่งที่เขามองอยู่คือการเป็นรัฐบาลแบบนี้จะตรวจสอบได้หรือตรวจสอบไม่ได้ แต่ตนเห็นว่าตรวจสอบได้ทุกองค์กร เมื่อผลตรวจสอบออกมาอย่างไรต้องยอมรับกันบ้าง ถ้าไม่ยอมรับกันเลย คนตรวจสอบก็ทำงานไม่ได้ ตนไม่ได้ทำประโยชน์อะไรของตัวเองสักอย่าง อย่างน้อยคะแนนตนก็เต็มตรงนี้ ให้คะแนนตนไหมล่ะ เมื่อถามว่าส่วนหนึ่งที่อันดับของไทยตกลงผลมาจากกรณีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม นายกฯตอบว่า โอ๊ย เรื่องเล็กๆน้อยๆ เขาตัดสินหรือยัง เมื่อตัดสินแล้วก็จบ ให้จบๆไปเป็นเรื่องๆบ้างแล้วคดีใหญ่ๆบางคดีก็จบไม่ใช่หรือ ทั้งที่ขัดแย้งต่อสายตาประชาชน ก็จบใช่หรือไม่ ของไอ้คนหนีคดีหลายเรื่องก็จบ ทำไมไม่ดูตรงนู้น เชื่อมั่นกันหน่อยสิ,1 ก.พ. พปชร.ยกขบวนทาบ บิ๊กตู่,เมื่อเวลา 11.00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคได้ประสานทีมงานนายกฯเรียบร้อยแล้วว่าหลังประชุมคณะกรรมการบริหารพรรควันที่ 1 ก.พ. จะนำคณะผู้บริหารพรรค 4-5 คนไปเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ที่ทำเนียบรัฐบาลเวลา 16.30 น. เพื่อเชิญให้มาอยู่ในบัญชีนายกฯลำดับที่ 1 พร้อมนำเอกสารนโยบายไปมอบให้ประกอบการตัดสินใจ ส่วนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ พรรคยังไม่ได้ติดต่อเป็นทางการ เนื่องจากติดภารกิจอยู่ต่างประเทศกลับมาแล้วจะประสานไป ยังตอบไม่ได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะตอบรับเมื่อใด หวังว่าท่านจะตอบรับคำเชิญ ยังมีเวลาวันที่ 4-8 ก.พ. เพื่อยื่นชื่อต่อ กกต. ตนเป็น 1 ในรายชื่อจะเสนอเป็นนายกฯยังไม่ได้ตัดสินใจ ไม่ใช่ต้องรอ พล.อ.ประยุทธ์และนายสมคิดตัดสินใจก่อน ส่วนที่มีการหาเสียงให้เลือกพรรคทหารกับฝั่งประชาธิปไตย เป็นเหมือนวาทกรรมทางการเมืองป้ายสี บางคนพูดเรื่องประชาธิปไตยเป็นประชาธิปไตยแบบไหน แต่พรรคไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นแบบไหน แต่ต้องเป็นประชาธิปไตยของคนไทย,เปิดห้องสีม่วงให้สื่อตีข่าวขันหมาก,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลได้เตรียมห้องม่วง ตึกไทยคู่ฟ้าไว้รอต้อนรับ พร้อมเปิดให้สื่อมวลชนเข้าทำข่าวได้ ก่อนหน้านั้นเวลา 09.30 น. นายกฯจะแถลงผลการดำเนินงานปีที่ 4 ของรัฐบาล โดยนายกฯจะเป็นผู้แถลงเพียงคนเดียว ไม่มีการตอบคำถามสื่อมวลชน,สมคิด ยักท่ากลับจากญี่ปุ่นว่ากัน,วันเดียวกัน เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ประเทศญี่ปุ่น (ตามเวลาท้องถิ่นเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับการติดต่ออย่างเป็นทางการใดๆ กลับไปค่อยว่ากัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะตอบรับตามที่เห็นสมควร เคยประกาศไว้แล้วว่าประเทศไทยเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำเหมาะที่สุด ส่วน 4 อดีตรัฐมนตรีที่ออกไปตั้งพรรค ต้องให้กำลังใจเขา มีความรู้ มีการศึกษาดี เมื่อกล้าเสียสละไปทำให้การเมืองดีขึ้น ควรอย่างยิ่งต้องสนับสนุน การลาออกของทั้ง 4 คนถือเป็นตัวอย่างที่ดี,สมศักดิ์ หวั่นแรงบีบลามถึง สมคิด,ที่ จ.พิษณุโลก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคพลังประชารัฐไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ ได้บุคลากรสำคัญต่อยอดนโยบายได้ทันที พล.อ.ประยุทธ์ลาออกไม่ได้ เพราะมาในฐานะแคนดิเดตนายกฯ คงไม่ได้ออกมาช่วยหาเสียง ไม่จำเป็นต้องลาออก ที่ผ่านมาไม่มีประเพณีปฏิบัติที่ไหน ฝ่ายตรงข้ามวิจารณ์แนวเลือกข้างขอให้นำประเด็นอื่นมาพูดบ้าง เดี๋ยวลามไปถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯอีก การเชิญ พล.อ.ประยุทธ์มาเพราะมีผลงาน ต้องการนำนโยบายมาต่อยอด และที่ พล.อ.ประยุทธ์มาร่วมถือเป็นการประกันความมั่นคง และเป็นสายกลางไม่มีแบ่งสี,สุวิทย์ ห้าวจะถอดเสาไฟฟ้าภาคใต้,ที่โรงแรมบุรีศรีภู อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ เปิดตัว 50 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐทั้ง 50 เขต 14 จังหวัดภาคใต้ มีนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและผู้บริหารพรรคเข้าร่วม นายสุวิทย์เปิดเผยว่าพรรคต้องการเสียงในภาคใต้ 2 ล้านเสียงจากกว่า 5 ล้าน 3 แสนเสียง เป้าหมายเปลี่ยนแปลงภาคใต้ให้เป็น 26 ปีแห่งความหลังที่ขาดโอกาสมาตลอด จะถอดเสาไฟฟ้าออกทั้งหมด ภาคใต้ครั้งนี้รับรองมีหนาว ส่วนบัญชีนายกฯของพรรคพลังประชารัฐชัดเจนแล้วมี 3 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ นายอุตตม และนายสมคิด จะชัดเจนในวันที่ 8 ก.พ. พรรคประชาธิปัตย์อ้างว่าก๊อบปี้นโยบายบัตรคนจนนี่คือนโยบายของรัฐบาลลุงตู่ที่ทำได้จริง ตรงเป้ากลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่การหาเสียง ไม่ได้พูดอย่างทำอย่างเหมือนบางพรรค ขอให้หาเสียงสร้างสรรค์ นี่คือเหตุผลที่พรรคพลังประชารัฐต้องการก้าวข้ามความขัดแย้งจากการเมืองเดิมๆ,สรุปชงชื่อ เจ๊หน่อย–ชัชชาติ–ชัยเกษม,เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย และประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค พิจารณารายชื่อบุคคลที่พรรคจะเสนอเป็นนายกฯ จากนั้นเวลา 17.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มติกรรมการบริหารพรรคอนุมัติผู้สมัคร ส.ส. 250 เขต ภาคเหนือ 51 เขต อีสาน 112 เขต กลาง 55 เขต ใต้ 10 เขต กทม. 22 เขต เชื่อว่าจะชนะทั้ง 250 เขต ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคส่ง 100 คน พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่หนึ่ง ขอให้เลือกให้ได้เขตละเกิน 7 หมื่นคะแนน พรรคจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้น,นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ส่วนแคนดิเดตนายกฯ ได้ประชุมตัวแทนจังหวัด หัวหน้าทั้ง 4 สาขา ฟังความเห็นสมาชิกผ่านเว็บไซต์ มีเสนอมา 5 รายชื่อคือคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายชัยเกษม นิติสิริ และ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ซึ่งถอนตัวไป กรรมการบริหารพรรคมีมติส่ง 3 รายชื่อคือคุณหญิงสุดารัตน์ นายชัชชาติ และนายชัยเกษม โดยไม่จัดลำดับทั้ง 3 ชื่อ ไม่ว่าใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ ร่วมมือกันทำงานได้ และทั้ง 3 คน จะอยู่ในบัญชีรายชื่อ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อทั้งหมด,ปชป.หยัน 4 กุมารออกไม่ได้มีสปิริต,นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า 4 อดีตรัฐมนตรีลาออกก่อนรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.เพียง 4 วัน เชื่อว่าไม่ได้ลาออกด้วยสปิริตการเมือง แต่กลัวทำให้พรรคพลังประชารัฐมีปัญหา อาจถูก กกต.ดำเนินการทางกฎหมายได้ใช่หรือไม่ อยากถามนายอุตตม สาวนายน ว่า 4 ปีที่รัฐบาลนี้บริหารราชการแผ่นดิน เป็นรัฐบาลที่มีอำนาจพิเศษสูงสุด มาตรา 44 แต่กลับไม่สามารถนำพาประเทศให้ก้าวไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน มีปัญหาเศรษฐกิจ คนจนเพิ่มมากขึ้นทั้งประเทศ คนเดือดร้อนถ้วนหน้า ออกกฎกติกาเอื้อให้แม่น้ำห้าสายกับพรรคตัวเองทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตย ให้มี 250 ส.ว.แต่งตั้งเอาเปรียบการเมือง เพื่อสืบทอดอำนาจหลังเลือกตั้ง ห้ามพรรคอื่นทำกิจกรรมทางการเมือง แต่พวกตัวเองทำได้,ธนาธร ท้าชน บิ๊กตู่ ขึ้นเวทีดีเบต,นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ชัดเจนแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นแคนดิเดตนายกฯเบอร์ 1 ของพรรคพลังประชารัฐ เหลืออีก 50 กว่าวันก่อนถึงเลือกตั้ง ในฐานะตัวแทนแคนดิเดตนายกฯฝั่งประชาธิปไตย อยากดีเบตกับ พล.อ.ประยุทธ์ฝั่งเผด็จการ ให้ประชาชนตัดสินใจว่าต้องการอนาคตแบบไหน วันนี้ศักดิ์และศรีเราเท่ากันแล้ว มาดีเบตวิสัยทัศน์บริหารประเทศ องค์กรใดจัดให้ได้พร้อมไป,ชพน.ชู 9 หน้า 9 ไกล ไทยไร้ปัญหา,เมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ พรรคชาติพัฒนา จัดการประชุมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ แถลงร่างนโยบายพรรคและปฐมนิเทศว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรค นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ร่วมงาน ทั้งนี้ นายสุวัจน์แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 279 คน และนโยบายของพรรคว่า นโยบายระดับประเทศของพรรคคือ 9 หน้า 9 ไกล ไทยไร้ปัญหา คือ 1.นโยบายด้านการศึกษา จัดหลักสูตรให้ทันสมัย 2.เศรษฐกิจรากหญ้า แก้ปัญหาเกษตรกร ตั้งกองทุนสวัสดิการและเพิ่มเทคโนโลยีที่ทันสมัย สนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางให้เข้มแข็ง จัดตั้งกองทุนพัฒนาท่องเที่ยวประจำตำบล 3.ด้านสังคมตั้งโครงการบ้านเกษียณสำราญเพื่อผู้สูงอายุ ปรับปรุงบ้านพักคนชรา เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเป็น 2,000 บาท ให้ทุนรับน้องใหม่เด็กแรกเกิด เพิ่มช่วยเหลือคนพิการและช่วยเหลือผู้ใช้แรงงาน 4.โครงสร้างพื้นฐานพัฒนาเศรษฐกิจ พัฒนาเส้นทางคมนาคมทั้งภายในประเทศและเชื่อมโยงเพื่อนบ้าน,ดันสุดตัวท่องเที่ยวและกีฬา,นายสุวัจน์กล่าวอีกว่า 5.ด้านอุตสาหกรรม พลังงานและสิ่งแวดล้อม ลดมลภาวะเน้นการใช้พลังงานทดแทนที่สะอาด 6.ด้านท่องเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ส่งเสริมเอกชนสร้างแหล่งท่องเที่ยวคล้ายดิสนีย์แลนด์ ผลักดันโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า พัฒนาชายฝั่งอ่าวไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ควบคู่ฝั่งอันดามัน 7.ด้านเศรษฐกิจดิจิทัล พัฒนา การขายของออนไลน์ ระบบโมบายแบงกิ้ง 8.กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ปรับค่าตอบแทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และ 9.นโยบายกีฬา สร้างมินิสปอร์ตคอมเพล็กซ์ทุกพื้นที่ หาอีเวนต์ใหญ่ๆมาจัดที่ประเทศไทย หลังแถลงนโยบายเสร็จได้เปิดตัวเพลงประจำพรรคเวอร์ชันใหม่ชื่อเพลง ชาติพัฒนา โนพรอบแบลม แต่งและขับร้องโดยแอ๊ด คาราบาว,เพื่อชาติจัดเต็มลดเหลื่อมล้ำ-เลิกจน,นายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ เปิดเผยว่า วันที่ 1 ก.พ. เวลา 09.00 น. นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ จะแถลงเปิด ตัวผู้สมัครของพรรคระบบเขตเลือกตั้งทั้ง 350 เขต และระบบบัญชีรายชื่อจำนวน 150 คน ที่ห้องอภิวันท์ วิริยะชัย ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว พร้อมแถลงนโยบายหาเสียงทั้ง 9 ด้าน เพื่อลดความเหลื่อมลํ้าทางสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน สร้างโอกาสให้คนจน ส่งเสริมเกษตรกรฐานราก สร้างมาตรฐานสาธารณสุขให้คนไทยและใส่ใจชีวิตคนเมือง มีการปาฐกถาพิเศษ บทเรียนกับการเลือกตั้งของประเทศไทย โดยนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อชาติ,ภท.ห่วงเว็บ กกต.ล่มข้อมูลถูกฉก,พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทยและอดีตรองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า หลังเว็บไซต์ กกต. เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนขอเลือกตั้งล่วงหน้าล่ม กังวลมากที่สุดว่าระบบอาจถูกโจมตีจนระบบทำงานช้าลงจนล่ม ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูล หรือขโมยข้อมูล เว็บไซต์ กกต.ล่มทำให้เห็นว่าประชาชนตื่นตัวอยากใช้สิทธิเลือกตั้ง จึงไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆประชาชนจะหมดความเชื่อถือ เบื่อหน่ายจนไม่อยากจะลงทะเบียนใช้สิทธิลงทะเบียนล่วงหน้า ที่น่ากลัวที่สุดคือจะส่งผลให้มีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยกว่าเป้าที่วางไว้,กกต. กทม. เคาะจุดปิดป้ายหาเสียง,เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงาน กกต. น.ส.วิชชุดา เมฆานุวงศ์ ผอ.สำนักงาน กกต. ประจำ กทม. กล่าวถึงการกำหนดพื้นที่ปิดประกาศแผ่นป้ายหาเสียงในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า วันที่ 31 ม.ค. ลงประกาศใน ,www.ect.go.th/bangkok, และที่สำนักงานเขตทุกเขต ขอให้ผู้สมัครระมัดระวังการจัดทำแผ่นป้ายหาเสียง ต้องมีจำนวนและขนาดตามกฎหมายกำหนด กกต. กทม.จะมีคณะทำงานและผู้ตรวจการเลือกตั้งตระเวนตรวจสอบ หากพบความผิดจะแจ้งให้ปลัด กทม.หรือ ผอ.เขต สั่งให้ผู้สมัครแก้ไขในกำหนดเวลา หากพ้นกำหนดเวลา กกต.จะเข้ารื้อถอน และคิดค่าใช้จ่ายกับผู้สมัคร รวมทั้งส่งเรื่องให้วินิจฉัยไต่สวนชี้ขาดความผิดตามกฎหมายต่อไป,ห้ามราชดำเนิน-ถนนรอบราชวัง,น.ส.วิชชุดากล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ปิดแผ่นป้ายหาเสียง ให้คำนึงถึงความเหมาะสม ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความสะอาด มีทัศนียภาพ ทัศนวิสัยที่ดีไม่เป็นอันตรายต่อประชาชนและยานพาหนะ ไม่กีดขวางทางสัญจร การจราจร ไม่ติดทับซ้อนแผ่นป้ายหาเสียงผู้สมัครรายอื่น ให้ติดเฉพาะพื้นที่ที่กำหนดคือถนนและซอยเชื่อมต่อถนน ห้ามติดหน้าปากซอย ห้ามติดบนผิวการจราจร บนเกาะกลางถนน สะพานลอย รั้วหรือกำแพง ผนังอาคารของทางราชการ ต้นไม้และเสาไฟฟ้าบริเวณเกาะกลางถนน ศาลาที่พัก ผู้โดยสารและบริเวณโดยรอบในระยะ 10 เมตร ตู้โทรศัพท์ ตู้ไปรษณีย์ อนุสาวรีย์ ป้อมตำรวจ สุขาสาธารณะ สวนหย่อม สวนสาธารณะ วงเวียนทุกวงเวียน ถนนโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ถนนโดยรอบพระราชวังสวนจิตรลดา ลานพระบรมรูปทรงม้า ถนนราชดำเนินทั้งสาย,ทูตวีรชัย หวังคนไทยใช้สิทธิหลักแสน,นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.สหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์สำนักข่าววอยซ์ ออฟ อเมริกา ยืนยันความพร้อมรับลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรของคนไทยในสหรัฐฯ โดยเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ ,www.khonthai.com/TH, หรือ ,election.bora.dopa.go.th/ectabroad/, ผู้ลงทะเบียนต้องเลือกหน่วยเลือกตั้ง 4 แห่ง คือสถานทูตกรุงวอชิงตัน ดีซี. สถานกงสุลนครลอสแอนเจลิส สถานกงสุลนครชิคาโก และสถานกงสุลนครนิวยอร์ก จากนั้นจะได้รับจดหมายซองบัตรเลือกตั้ง ลงคะแนนนำบัตรใส่ซองที่ส่งกลับที่จะจ่าหน้าสถานที่ส่งกลับไว้เรียบร้อยตามที่ลงทะเบียนไว้ ให้ถึงผู้รับภายในวันที่ 15 มี.ค.,ชง ครม.ออกมติ ขรก.วางตัวเป็นกลาง,ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้เชิญ กกต.มาหารือข้อกำหนดการวางตัวของข้าราชการ รัฐมนตรี และนายกฯ ช่วงเลือกตั้ง ส่วน พล.อ.ประยุทธ์หากตอบรับให้เสนอชื่อเป็นนายกฯ ในบัญชีพรรคพลังประชารัฐ ไม่สามารถหาเสียงได้ทั้งในและนอกเวลาราชการ,นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต. กล่าวว่า กกต.ได้ขอให้ ครม.ออกเป็นมติเกี่ยวกับการวางตัวของข้าราชการ โดยจะยกร่างขึ้นมาใหม่ เสนอเข้าที่ประชุม ครม. คาดว่าจะเป็นวันที่ 5ก.พ.,นายกฯตู่ งดโซเชียลช่วงเลือกตั้ง,นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า หากนายกฯตอบรับลงบัญชีรายชื่อให้กับพรรคการเมือง การประชุม ครม.สัญจรหรือการลงพื้นที่ตามกฎหมายยังทำได้ แต่ต้องระวังเรื่องการพูดคุยกับประชาชน การให้สัมภาษณ์ต้องไม่ไปกระทบกับการเลือกตั้งหรือพรรคการเมือง รวมถึงรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนก็ทำได้ตามปกติ แต่ทุกอย่างที่ทำก็ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะให้คุณให้โทษกับพรรคที่เสนอชื่อเป็นนายกฯ เรื่องรูปสามารถขึ้นรูปคู่บนป้ายหาเสียงได้ ขณะที่การใช้โซเชียลมีเดียทั้ง 3 ช่องทางของนายกฯ เพื่อความปลอดภัยอาจจะส่งหนังสือถึง กกต.หยุดใช้ชั่วคราวเพราะไม่สามารถควบคุมผู้ที่มาแสดงความเห็นได้ | พปชร.ได้ฤกษ์ 1 ก.พ.16.30 น. แห่ขันหมากเข้าทำเนียบฯ เชิญ ประยุทธ์ ขึ้นบัญชีนายกฯ อุตตม ยึกยักยังไม่ได้ตัดสินใจร่วมแคนดิเดต | เลือกตั้ง | ประยุทธ์ จันทร์โอชา,พรรคพลังประชารัฐ,แคนดิเดตนายกฯ,กกต.,ข่าวหน้า1,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1484891 |
พอลลีน: ในนามของความเกลียดชัง อดีตนักสิทธิสตรี ผู้กลายเป็นอาชญากรฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และทารุณกรรมทางเพศต่อสตรี | นางพอลลีน เยียรามาซูฮูโก (Pauline Nyiramasuhuko) เพิ่งถูกพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตต่อความผิดฐานก่ออาชญากรรมที่เป็นภัยต่อมนุษยชาติเธอ เป็นผู้หญิงคนแรกที่ถูกคณะตุลาการศาลอาญาระหว่างประเทศสำหรับรวันดา (The International Criminal Tribunal for Rwanda: ICTR) พิพากษาให้รับโทษฐานเป็นผู้ก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และสนับสนุนให้มี การกระทำทารุณกรรมทางเพศต่อสตรีนางพอลลีน วัย 65 ปีเป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาสตรีและสวัสดิการครอบครัวแห่งประเทศรวันดาองค์ คณะผู้พิพากษาของ ICTR ระบุในคำพิพากษาว่า นางพอลลีนร่วมคบคิดวางแผนในการก่ออาชญกรรมที่เป็นภัยต่อมนุษยชาติ ทำลายล้าง ข่มขืน ไล่ล่าประหัตประหาร กระทำทารุณกรรมต่อชีวิต และเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในเหตุการณ์สังหารหมู่ชาวทุตซี่ (Tutsis) กว่า 800000 คนในประเทศ เมื่อปีพ.ศ. 2537 เหตุการณ์สังหารหมู่ครั้งนั้นถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์หลายเรื่อง เรื่องหนึ่งที่เป็นรู้จักกันอย่างแพร่หลายคือ Hotel Rwandaอาชญากรรม ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวทุตซี่ในรวันดา เกิดขึ้นระหว่างเดือนเมษายน-กรกฎาคม พ.ศ. 2537 ชาวทุตซี่ที่ตกเป็นเหยื่อของการสังหารหมู่ครั้งนี้มีประมาณ 800000 คนหรือร้อยละ 77 ของจำนวนประชากรชาวทุตซี่ในรวันดาก่อนเกิดเหตุการณ์ฯ ทั้งนี้ ก่อนปี 2537 จำนวนประชากรชาวทุตซี่ในรวันดามีอยู่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของประชากรทั้งประเทศในระหว่างการก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ นั้น กลุ่มพลเรือนติดอาวุธที่รัฐบาลฯจัดตั้งขึ้นทั่วประเทศได้ข่มขืนผู้หญิงและ เด็กหญิงชาวทุตซี่อย่างโหดร้ายทารุณด้วยนางพอลลีนถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในห้ารัฐมนตรีที่ร่วมวางแผนนี้เพื่อทำลายล้างชาวทุตซี่ หลัง เหตุการณ์ร้อยวันแห่งการสังหารในรวันดาสิ้นสุดลง นางพอลลีนหลบหนีไปอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยที่ประทศคองโก สามปีหลังจากนั้น เธอถูกจับได้ที่ประเทศเคนยาในปี พ.ศ. 2540 และถูกนำตัวไปควบคุมตัวไว้ที่แทนซาเนียเพื่อรอการพิจารณาคดีการพิจารณาคดีของนางพอลลีนเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 นับเป็นการพิจารณาคดีที่ใช้เวลายาวนานที่สุดของ ICTRนอก จากข้อกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรีในการจัดตั้งกลุ่ม พลเรือนติดอาวุธทั่วประเทศเพื่อกวาดล้างชนเผ่าทุตซี่ให้สิ้นสูญไปจากรวันดา ให้เร็วที่สุด พอลลีนยังถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สั่งการและส่งเสริมให้มีการสังหารหมู่ในเมือง Butare ทางตอนใต้ของรวันดาซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของเธอด้วย ทั้งนี้ เมือง Butare เป็นเมืองที่มีสัดส่วนของชาวทุตซี่และชาวฮูตู (Hutu) อยู่ร่วมกันจำนวนมากที่สุดแห่งหนึ่งในรวันดานางพอลลีนอายุ 48 ปี ในช่วงที่เธอก่ออาชญากรรมสะเทือนโลก เธอเป็นนักการเมืองและสตรีที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของรวันดาในขณะนั้นพอ ลลีนมาจากครอบครัวชาวนายากจนในชุมชนชนบทที่อยู่เขตรอบนอกของเมือง Butare หลังสำเร็จการศึกษาชั้นประถม พอลลีนได้เข้าไปเรียนต่อที่ Karubanda School of Social Studies ในเมือง Butare เมื่อจบการศึกษาระดับไฮสคูลจากที่นี่ เธอเริ่มต้นทำงานเป็นนักพัฒนาสังคมด้านส่งเสริมและพัฒนาสิทธิสตรี เธอแต่งงานกับ Maurice Ntahobali ปัญญาชนคนดังของรวันดา และมีบุตรชายหญิงด้วยกัน 4 คนพอลลีนเป็นเด็กหญิงจากหมู่บ้านชนบทที่ นำความภูมิใจมาสู่ชุมชนของเธอตลอดมา ทั้งยังเป็นผู้มีความอุตสาหะพยายามจนสามารถเรียนจบปริญญาตรีด้านกฎหมายได้ เมื่ออายุ 44 ปี ปี 2535 พอลลีนได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงกรการพัฒนาสตรีและสวัสดิการครอบ ครัว ตอนนั้นมีเสียงวิจารณ์กันว่าเธอได้ตำแหน่งนี้มาเพราะเป็นเพื่อนกับนางAgathe Habyarimana ภริยาประธานาธิบดี Juvenal Habyarimana แห่งรวันดา พอลลีนรู้จักกับ Agathe Habyarimana ในช่วงที่เรียนไฮสคูลประธานาธิบดี Juvenal Habyarimana ถูกลอบสังหารในเดือนเมษายน 2537 อสัญกรรมของประธานาธิบดีเชื้อชาติฮูตู ได้นำไปสู่อาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวทุตซี่ในรวันดาที่นางพอลลีนเข้าไป เกี่ยวข้องด้วยในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ฯนั้น สามีของพอลลีนดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดี มหาวิทยาลัยแห่งชาติรวันดาที่เมืองButare บุตรชายคนหนึ่งของเธอเป็นหัวหน้ากลุ่มพลเรือนติดอาวุธที่ไล่ล่าสังหารชาวทุ ตซี่และข่มขืนทารุณกรรมผู้หญิงชาวทุตซี่ตามคำสั่งเบื้องบนซึ่งมีพอลลีนเป็น หนึ่งในผู้สั่งการขณะที่หลบหนีอยู่ที่ค่ายผู้ลี้ภัยในคองโกเมื่อปี 2538 นั้น พอลลีนเคยให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่าเธอไม่เกี่ยวข้องใดๆกับการสังหารหมู่ใน รวันดา เธอตอบโต้ข้อกล่าวหาโดยหยิบยกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ เพศสภาพมาอธิบายประกอบว่า แม้แต่ไก่สักตัว ฉันก็ยังไม่กล้าฆ่า ถ้ามีใครมาบอกว่าผู้หญิง หรือคนที่เป็นแม่สามารถฆ่าคนได้ ฉันขอบอกเลยว่าฉันพร้อมที่จะโต้ตอบกับคนๆนั้นพอลลีนบอกว่าเธอตก เป็นเป้าของการถูกกล่าวหา เพราะเธอเป็นผู้หญิงฮูตูที่มีการศึกษาสูง เธอบอกว่า ผู้หญิงชาวฮูตูทุกคนที่ได้เรียนในมหาวิทยาลัย ถูกมองราวกับเป็นฆาตกรขณะที่สามีของเธอให้สัมภาษณ์นิวยอร์คไทมส์ ว่า พอลลีนเคยเป็นนักเคลื่อนไหวรณรงค์ด้านสิทธิสตรี ทำงานส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างหญิงชายมาตลอด เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะสนับสนุนให้ลูกชายข่มขืนผู้หญิงอย่างไรก็ตาม คณะผู้พิพากษาศาลอาญาระหว่างประเทศเพื่อรวันดาระบุว่าความผิดของนางพอลลีนนั้นบท ความเรื่อง Mother of Atrocities: Pauline Nyiramasuhokos Role in The Rwandan Genocise ที่เขียนโดย Carrie Sperling ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำ Legal Research and Writing University of Oklahoma College of Law อ้างถึงรายงานของ Human Rights Watch ที่ระบุว่า ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นไปพร้อมๆกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ คือ พวกลูกชายวัยรุ่นถูกบังคับให้ข่มขืมแม่ของพวกเขาเองต่อหน้าสมาชิกในครอบครัว คนอื่นๆ และ ในหลายเหตุการณ์ มีการเอาน้ำที่กำลังต้มเดือดหรือน้ำกรด เทใส่ช่องคลอดของเหยื่อที่ถูกข่มขืน รวมทั้งการกรีดอวัยวะเพศและการตัดนมของเหยื่อ | นางพอลลีน เยียรามาซูฮูโก (Pauline Nyiramasuhuko) เพิ่งถูกพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตต่อความผิดฐานก่ออาชญากรรมที่เป็นภัยต่อมนุษยชาติ เธอ เป็นผู้หญิงคนแรกที่ถูกคณะตุลาการศาลอาญาระหว่างประเทศสำหรับรวันดา (The | การเมือง,ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน | Pauline Nyiramasuhuko,ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์,นักกิจกรรม,พอลลีน เยียรามาซูฮูโก,รวันดา,สิทธิสตรี,สุภัตรา ภูมิประภาส | https://prachatai.com/journal/2011/06/35703 |
ใบตองแห้ง: ถ้าแพ้จะรัฐประหารไหม | ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เตือนจอห์น วิญญู อย่ายั่ว ผบ.ทบ. เดี๋ยวท่านมีน้ำโห นักการเมืองจะหาเสียงฟรีแหม่ เพื่อนซี้ ผบ.ทบ. พูดราวกับจะมีรัฐประหาร ทั้งที่เป็นไปไม่ได้ จะทำรัฐประหารได้อย่างไรในเมื่อประชาชนกำลังตื่นเต้นดีใจจะได้เลือกตั้ง ยิ่งกว่านั้น ท่านผู้นำรัฐประหารก็เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ เป็นตัวเก็งอันดับหนึ่ง นำหน้าทุกโพล เพราะคนอื่นเริ่มต้นที่ 0 ท่านเริ่มต้นที่ 250ถึงแม้จะถูกห้ามดีเบต แต่ท่านก็เดินสายแทบทุกวัน ไปสอยลางสาด กวนกะละแม แต่ไม่ได้หาเสียงนะเออ ชาวบ้านมาชูป้ายไฟนิยมท่านเองเพียงเพราะพรรคการเมืองเสนอนโยบายเลิกเกณฑ์ทหาร ตัดงบกลาโหม แล้วมีน้ำโห จะทำรัฐประหารล้มเลือกตั้ง มันเป็นไปไม่ได้หรอกทหารก็มีเหตุมีผล ทหารไม่เคยทำรัฐประหารด้วยข้ออ้างนักการเมืองจะตัดงบ พูดแบบนั้นได้อย่างไร เดี๋ยวประชาชนจะว่าใช้ปืนใช้รถถังปกป้องตัวเอง ทหารมีแต่อ้างนักการเมืองโกง อ้างสถาบัน อ้างความสงบ ฯลฯ ทำรัฐประหารเสร็จค่อยเพิ่มงบซื้อรถถัง เรือเหาะ เรือดำน้ำ และ GT200ฉะนั้น พรรคการเมืองไม่ต้องกลัวอะไร กับการเปิดเพลงหนักแผ่นดินในค่าย ออกกำลังกายโชว์สตรอง ติดป้ายหาเสียง ตัดงบทหาร เลิกเกณฑ์ทหาร กันได้เต็มที่ ชายไทยวัย 18-21 ปีจะได้มีความหวัง เผลอๆ ทหารเกณฑ์ออกมาลงคะแนนหน้าค่าย ก็พลิกโผได้เหมือนกัน ข้าราชการหน่วยอื่นก็อาจจะเอาด้วย ตัดงบทหารได้สักทีคำถามน่าคิดกว่าคือ ถ้าแพ้เลือกตั้งล่ะ จะรัฐประหารไหม จริงๆ ก็เป็นไปได้ยากที่จะแพ้ เพราะขอแค่ 126 เสียงก็พอ แต่ไม่แน่เหมือนกัน ระยะหลังกระแสชักไม่เป็นใจ ในหมู่คนรุ่นใหม่ #savethanathorn ก็เพิ่งขึ้นอันดับหนึ่งในทวิตเตอร์ พวก IO นกหวีด เห็นภาพธนาธรไปหาเสียงสยาม สวนดุสิต สวนสุนันทา คงอยากเอาหัวโขกฝาตาย โจ นูโว บอกแล้วไม่เชื่อ ยิ่งแชร์มันยิ่งมาถ้าพรรคเพื่อไทยยังรักษาฐานเสียงเหนือ อีสาน ต่อให้ยุบ ทษช. คะแนนก็กระจายไปในกลุ่มพรรคต้านลุง ถ้า ปชป.ยังรักษาฐานเสียงภาคใต้ แล้วพลังประชารัฐได้มาจุ๋มจิ๋ม จะทำอย่างไรกระแสคนในเมืองก็ไม่เป็นใจ ร่าง พ.ร.บ.ข้าว พาราควอต กัญชา โดนข้อหาเอื้อนายทุน ชี้แจงอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น กลุ่มที่ไม่พอใจ ไม่ใช่เสื้อแดงที่ไหนเลย ทีดีอาร์ไอ แพทย์จุฬาฯ NGO คนชั้นกลางในเมือง ทั้งนั้นถ้าแพ้เลือกตั้ง ถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาล ถ้าฝั่งตรงข้ามได้เป็น จะมีรัฐประหารไหม หลายคนมองว่าคงมาสูตรเดิม องค์กรอิสระ กรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ส.ว.แต่งตั้ง เตะสกัดตัดขา ไม่ให้บริหารประเทศได้ ไม่ให้ตัดงบทหารหรือปฏิรูปกองทัพได้ ไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญได้ นักการเมืองทำอะไรพลาดพลั้ง ก็จะมีม็อบออกมาไล่ จนนำไปสู่รัฐประหารแต่สังคมไทยจะดักดานจนเชื่อนิทาน copycat รอบที่สามหรือ แม้ประชาชนไม่กล้าออกมาสู้รถถัง แต่รัฐประหารก็จะถูกแอนตี้อย่างกว้างขวาง ทุกคนเข็ดแล้วกับระบอบทหาร 5 ปี สำหรับชนชั้นนำเอง การฉีกรัฐธรรมนูญ 2560 ก็ยิ่งเข้าทางตัน | ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เตือนจอห์น วิญญู อย่ายั่ว ผบ.ทบ. เดี๋ยวท่านมีน้ำโห นักการเมืองจะหาเสียงฟรีแหม่ เพื่อนซี้ ผบ.ทบ. | การเมือง | ใบตองแห้ง,เลือกตั้ง 62,รัฐประหาร | https://prachatai.com/journal/2019/02/81177 |
CAT กับการทรานส์ฟอร์มองค์กรแบบ CATALYST เมื่อรัฐวิสาหกิจไม่ใช่ยักษ์ใหญ่ที่ขยับยากเสมอไป | ได้ยินคำว่า รัฐวิสาหกิจ ทีไร ภาพที่มักจะปรากฏในมโนทัศน์ของคนส่วนใหญ่ก็น่าจะคล้ายๆ กัน นั่นคือการเป็นองค์กรภายใต้การดูแลของรัฐบาลที่มีรายได้สูง มีวิธีบริหารงานแบบเดิม เต็มไปด้วยลำดับขั้น (Hierarchy) ในองค์กรเคลื่อนไหวช้าCAT หรือ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ด้วยอายุที่มากกว่า 43 ปี ถ้าเปรียบเทียบเป็นคน ถึงเขาคนนี้จะเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสาร แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนอยู่ตลอดเวลา ก็ถึงเวลาที่ CAT จะปรับดีเอ็นเอครั้งใหญ่ โดยเน้นย้ำการขับเคลื่อนทุกความสำเร็จด้วยเทคโนโลยีและถึงแม้จะช่ำชองกับการทำธุรกิจแบบ B2B กับองค์กร บริษัท ไปจนถึงโอเปอเรเตอร์เจ้าใหญ่ในไทยมานาน แต่ครั้นต้องเริ่มให้บริการกับกลุ่มลูกค้าผู้ใช้งานทั่วไป (B2C) เมื่อประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว พวกเขาก็สามารถทำได้ดีในระดับหนึ่ง ติดแค่วิธีการทำงานหรือ Mindset บางอย่างที่อาจจะต้องได้รับการปรับจูนเสียใหม่ทั้งหมดจึงเป็นจุดตั้งต้นที่นำ CAT ไปสู่การทรานส์ฟอร์มองค์กรครั้งใหญ่ ล้างไพ่วิธีการทำงานแบบเดิมๆ สร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้เกิดขึ้นในองค์กร ลบมายาคติที่ว่ารัฐวิสาหกิจขยับตัวยากทิ้งให้เกลี้ยง ด้วยการขยับตัวมาอยู่ใกล้ผู้บริโภคอีกหนึ่งจังหวะ เพื่อให้เข้าใจและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้ดีกว่าเดิมก่อนจะตัดสินอะไรไปก่อน เราอยากชวนให้คุณลองเปิดใจรับฟังแนวคิดการทรานส์ฟอร์มผ่าตัดองค์กรครั้งใหญ่ของ ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดและบริการ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เพื่อหาคำตอบและบทเรียนร่วมกันว่า ทำไมแม้แต่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจถึงเริ่มคิดที่จะ เปลี่ยนเมื่อ New S-Curve คือ B2B2C และการให้บริการลูกค้ารายบุคคล วิธีคิดจึงต้อง เปลี่ยนในส่วนของการทำธุรกิจกับผู้บริโภคทั่วไป CAT เริ่มให้บริการสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง 3G และ 4G ในชื่อแบรนด์ my by CAT ครั้งแรกเมื่อประมาณปี 2555-2556 ซึ่งปัจจุบันภาพรวมและทิศทางการดำเนินงานก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับปี 2561 ที่ผ่านมา my มีฐานผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นที่ 10% มาอยู่ที่ 2.1 ล้านเลขหมาย และคาดว่าจบปีนี้ จำนวนผู้ใช้บริการน่าจะเพิ่มขึ้นอีกราว 20% มาอยู่ที่ 2.5 ล้านเลขหมายได้ไม่ยาก นอกจากนี้ยังมีอินเทอร์เน็ตบ้านที่เริ่มทำตลาดในช่วงไล่เลี่ยกันอย่าง C internet อีกหนึ่งแบรนด์จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ CAT มาจับตลาดกลุ่มรีเทลผู้ใช้งานทั่วไปมากขึ้น คือการทำธุรกิจแบบ B2B มีความผันผวนและความเสี่ยงสูง แม้แต่ละดีลจะมีมูลค่ามหาศาล แต่หากสัญญาหลุด หรือดีลใดๆ ล่ม ก็ย่อมแลกมาด้วยผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับรายได้องค์กร (B2B คิดเป็นสัดส่วน 70% ของรายได้บริษัท ณ ปัจจุบัน) การเติมพอร์ตธุรกิจด้วย B2C จึงช่วยลดความเสี่ยงได้เป็นอย่างมากประเด็นสำคัญก็คือ การเปลี่ยนบทบาทจากพ่อค้าที่ทำธุรกิจกับพ่อค้าด้วยกันมาเป็นพ่อค้าที่ต้องทำธุรกิจกับลูกค้าโดยตรงด้วย my by CAT และ C internet พวกเขายังมีอีกหลายๆ เรื่อง และหลายๆ บทเรียนที่ต้องเรียนรู้ โดยเฉพาะเมื่อ New S-Curve ขององค์กรคือ B2B2C การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จึงเกิดขึ้นCAT ทำธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมมาเป็นเวลามากกว่า 40 ปี เป็นหนึ่งในผู้นำที่สร้างรากฐาน Infrastructure ด้านโทรคมนาคมให้กับประเทศไทย แต่ทุกวันนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนแปลงไป รูปแบบการแข่งขันเปลี่ยนแปลงไป ความต้องการผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงไปทุกวันนี้คุณตื่นมาเข้า Facebook เช็ก LINE บริการเหล่านั้นคือสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวกับคุณ เขารู้หมดว่าในแต่ละวันคุณทำอะไรบ้าง ขณะที่เราเป็นผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคม แต่กลับรู้สึกว่าเริ่มอยู่ ห่างไกล จากลูกค้าหรือผู้ใช้งาน เพราะถึงคนจะใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น แต่กลับสนใจน้อยลงว่าใช้บริการของผู้ให้บริการเจ้าใดอยู่บางครั้งอินเทอร์เน็ตบ้านที่เราใช้กัน ถ้าเปลี่ยนผู้ให้บริการแต่ใช้ชื่อ WiFi (SSID) เดิม คนก็ไม่รู้สึกถึงความแตกต่างขนาดนั้นหรอก ตรงข้ามกับ Facebook หรือ LINE ถ้าพวกเขาสลับสี CI องค์กรและสีแอปพลิเคชันเป็นเขียวและฟ้า มีฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกมา คนจะสัมผัสได้ถึงความต่างมากกว่า รู้สึกกระทบกับชีวิตของพวกเขาแสดงว่าพวกเขาคือคนที่อยู่ใกล้ลูกค้า ไม่ใช่เรา ความเข้าใจลูกค้าก็จะมากกว่าคนที่อยู่ไกลเสมอ เราเลยตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะทำอย่างไรให้เข้าใกล้ลูกค้าได้เหมือนกันเพื่อที่จะสามารถเข้าใจพวกเขาได้ลึกซึ้งกว่าเดิม ไม่อย่างนั้นเราก็จะไม่มีวันสร้างบริการหรือพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์เขาได้ทั้งหมดจึงเป็นที่มาที่ทำให้ CAT ปรับภาพลักษณ์องค์กรใหม่ เพื่อให้สอดรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จะเห็นได้จากการเปลี่ยนแบรนด์แท็กไลน์ใหม่เป็น ขับเคลื่อนทุกความสำเร็จด้วยเทคโนโลยี หรือ Catalyse Achievement Through Technology ซึ่งเป็นทิศทางในการดำเนินธุรกิจขององค์กร โดยใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน และสอดคล้องกับการสร้างแบรนด์ดีเอ็นเอใหม่ของ CAT ที่สะท้อนการดำเนินงานในยุคใหม่ได้เป็นอย่างดีCATALYST แบรนด์ดีเอ็นเอใหม่ ให้บริการด้วยความสมบูรณ์แบบรอบด้าน รวดเร็ว ฉับไวดร.ดนันท์ เล่าให้เราฟังว่า ประสบการณ์และบทเรียนที่เขาได้รับจากการเริ่มต้นให้บริการในตลาดรีเทล และผู้ใช้งานทั่วไปตลอดระยะเวลากว่า 7 ปีคือความต่างในด้านการทำงาน ที่ชัดเจนที่สุดคือการต้องตอบสนองความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนที่มีอยู่หลากหลายแตกต่างกันออกไปให้ได้ทันท่วงที ซึ่งต่างจากการดีลกับคนจำนวนไม่กี่คนจากกลุ่มองค์กรแบบ B2Bนอกจากนี้ระบบหลังบ้าน และการเปลี่ยน Mindset ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญ ทำอย่างไรถึงจะพัฒนาให้ระบบต่างๆ สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ด้วยแนวคิดแบบ Customer Centric ได้ หรือดูแลลูกค้าแต่ละคนให้เกิดความรู้สึกที่ดี ประทับใจกับบริการที่มีอยู่ เปลี่ยนได้เร็ว ปรับได้เร็วเท่าทันความต้องการของแต่ละคนจึงเป็นที่มาของการสร้างแบรนด์ดีเอ็นเอใหม่ของเราที่ทำมาได้ประมาณปีกว่าๆ แล้ว โดยเพิ่มส่วนผสมบางอย่างลงไปในวัฒนธรรมองค์กรและวิธีการทำงานใหม่ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์การแข่งขันและทิศทางทางธุรกิจในปัจจุบันได้ ทุกวันนี้ใครๆ ก็ต้องเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจในโลกปัจจุบัน ถ้าเราอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไร วันหนึ่งเราก็จะตายไปแต่สิ่งที่มากกว่านั้นคือในตัวอักษรของคำว่า CATALYST แต่ละตัวยังสะท้อนดีเอ็นเอความเป็นตัวตนของเราด้วย เริ่มต้นที่ CAT ซึ่งเป็นส่วนที่เราอยากให้คนมองเข้ามาแล้วรู้สึกได้ถึงตัวตนของเรา ประกอบด้วยคำว่า Customer Centric การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางการให้บริการและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Agility ความสามารถในการปรับเปลี่ยนและคล่องตัว ที่สำคัญมากๆ ในการรักษาความเร็วของการทำงานควบคู่กับภาคเอกชน และสุดท้าย Trustworthy การให้บริการด้วยความน่าเชื่อถือขณะที่ Engine ในองค์กรซึ่งจะเป็นส่วนที่ขับเคลื่อนบริการออกไปประกอบด้วยตัวอักษร ALYST ซึ่งมาจาก Advocacy การทุ่มเทให้องค์กร พร้อมแก้ปัญหาของผู้ใช้บริการได้อย่างรวดเร็ว Leadership ความเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนสิ่งใหม่ๆ ให้ประสบความสำเร็จ Young at heart แม้องค์กรเราจะมีหลากหลายช่วงวัย แต่เรามองว่าคำนี้ไม่เกี่ยวข้องกับอายุ มันคือวิธีคิดที่อยากจะเรียนรู้ เปลี่ยนแปลง สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ด้วยเป้าหมายเดียวกัน ซึ่งจะเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ช่วยเชื่อมต่อช่วงห่างด้านวัยของคนในองค์กรได้เป็นอย่างดีตามมาด้วย Skill หรือทักษะที่ทุกคนในองค์กรต้องมีไม่ว่าจะด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนให้ธุรกิจองค์กรเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง และสุดท้ายคือคำว่า Teamwork นี่คือแบรนด์ดีเอ็นเอของเราที่หล่อหลอมเป็นคำว่า CATALYST ซึ่งนอกเหนือไปจากความหมายของแต่ละตัวอักษรแล้ว เมื่อรวมเป็นคำว่า CATALYST ยังมีความหมายว่า ผู้ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ (A person who creates great change) อีกด้วย ดร.ดนันท์กล่าวปิดท้ายผลลัพธ์จากการสร้างแนวคิดแบบ CATALYST และการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรที่สดใหม่หนึ่งสิ่งที่ทาง ดร.ดนันท์ ยืนยันกับเราว่าเห็นความเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรของเขาหลังจากเริ่มต้นใช้แบรนด์ดีเอ็นเอใหม่ คือการได้เห็นพนักงานที่ก่อนหน้านี้อาจจะอยู่คนละแผนกหรือคนละสายงาน พูดคุยกันมากขึ้น และ ทำงานร่วมกันมากขึ้น มีการทำงานแบบ Synergy ให้เห็นกันมากกว่าเมื่อก่อนสำคัญที่สุดคือลักษณะโครงสร้างขององค์กรแบบเก่าก็ถูกปรับให้ Flat แบนราบ จากเดิมที่อาจจะบริหารงานในลักษณะลำดับชั้น (Hierarchy) อย่างชัดเจน เปรียบเทียบเหมือนตึกสูง 10 ชั้นที่ต่างคนต่างทำงานในหน้าที่ หรือตำแหน่งในระดับชั้นของตัวเอง ทุกวันนี้แต่ละคนต่างลงมาทำงานร่วมกัน ใช้ชีวิตในพื้นที่ชั้นล่างสุดเพื่อให้เกิดการติดต่อสื่อสาร และการทำงานหรือภารกิจต่างๆ มีประสิทธิภาพมากที่สุดทุกองค์กรมี Hierarchy หมด แต่คำถามก็คือเราจะทำอย่างไรให้ความคิดดีๆ ของพนักงานที่ก่อนหน้านี้อาจจะไม่มีช่องทาง ไม่มีเวที หรือมีคนรับฟัง ไหลพรวดขึ้นมาข้างบน ไปถึงผู้บริหารระดับสูงได้จริงๆ เราจึงพยายามทำให้กระบวนการทำงานต่างๆ ภายในองค์กรมันไปในแนวราบมากขึ้นวิธีการคือเราได้สร้างแพลตฟอร์มเสมือนจริง (Virtual Platform) ขึ้นมาในองค์กร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติงานของ CAT ที่ลงพื้นที่ปฏิบัติงานจริง และใกล้ชิดกับลูกค้า สามารถพูดคุยหรือสะท้อนแนวคิดของพวกเขาในการพัฒนาบริการ สินค้า ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้กับผู้บริหารระดับสูงได้รับฟังโดยตรงแบบไร้ข้อจำกัดทั้งนี้เราก็ต้องผลักดันความคิดที่ดีๆ เหล่านั้นให้เกิดขึ้นจริงด้วย เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมให้คนที่มีไอเดียดีๆ วิ่งเข้ามาหาเราเป็นประจำ แล้วนอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผู้บริหารองค์กรก็ต้องทำลายวัฒนธรรมที่ไม่ดีแบบวัฒนธรรม 3C (Comment Complain Criticize) ซึ่งเป็นตัวกัดกร่อนการสร้างนวัตกรรมขององค์กรและฉุดรั้งไม่ให้องค์กรเดินไปข้างหน้าออกไปให้หมดการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพื่อให้พร้อมรับเข้ากับยุคสมัย Digital Disruption แต่ยังนับรวมถึงการเข้ามาอยู่ใกล้กับผู้ใช้งานมากกว่าเดิม เข้าใจพวกเขาในทุกอณูรายละเอียด รู้จักตัวตนเชิงลึกเพื่อให้สามารถพัฒนาบริการที่รู้ใจ และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ในระดับที่น่าประทับใจอีกหนึ่งบทบาทที่เราน่าจะได้เห็นจาก CAT มากขึ้นต่อจากนี้ นอกเหนือจากการรุกให้บริการผู้ใช้งานในระยะประชิดและการทรานส์ฟอร์มองค์กรด้วยแนวคิด CATALYST คือการเข้ามามีส่วนสำคัญในการให้บริการสาธารณะ (Public Service) ต่างๆ ของหน่วยงานภาครัฐ เข้าถึงประชาชนด้วยบริการดิจิทัลได้ดีขึ้น ครอบคลุมและครบถ้วนบนแพลตฟอร์มเพียงแพลตฟอร์มเดียว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้นำร่องให้บริการ WiFi ฟรีร่วมกับ Google ในชื่อ Google Station-CAT WiFi ที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทยแล้วกว่าร้อยแห่งพิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า | เมื่อต้องให้บริการแก่ลูกค้าแบบ B2B2C เพื่อยกระดับการบริการให้ทันเทรนด์เทคโนโลยี สิ่งที่ CAT หรือ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ต้องทำในฐานะรัฐวิสาหกิจ คือการปรับ Mindset การทำงานใหม่CATALYST คือแบรนด์ดีเอ็นเอใหม่ที่ CAT เริ่มนำมาใช้ในองค์กรได้เป็นระยะเวลากว่า 1 ปีแล้ว เพื่อทำให้เทคโนโลยีมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กรตลอดจนผู้ใช้งานทุกคนวัฒนธรรมองค์กรก็เปลี่ยนไปด้วย จากเดิมที่รัฐวิสาหกิจอย่าง CAT อาจจะเป็นองค์กรที่มี Hierarchy สูง ปัจจุบันก็ Flat กว่าเดิม และยังเปิดโอกาสให้พนักงานสะท้อนความคิดที่เป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อนองค์กรได้ด้วย | null | null | https://thestandard.co/catalyst/ |
เพจดังงง เมเจอร์ผิดอะไร ทำไมต้องขอโทษ หลังโพสต์เตือนห้ามถ่ายภาพในโรงหนัง | พร้อมบอกเล่าถึงความไม่พอใจ24 ก.ค.2562 จากกรณีที่ สราวุธ มาตรทองหรือ อ้น นักแสดงโพสต์ภาพอินสตาแกรมที่ตนเองถ่ายผู้ไม่ยืนทำความเคารพเพลงสรรเสริญฯ ในโรงหนังแห่งหนึ่ง พร้อมบอกเล่าถึงความไม่พอใจของตนเอง จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์โดยส่วนมากมองว่าสราวุธ ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลคนอื่น พร้อมทั้งผิดกฎของโรงหนัง จนต่อมา เพจ Major Group เองออกมาโพสต์เตือนข้อกฎหมายถึงการแอบถ่ายภาพหรือวิดีโอในโรงหนังว่ามีความผิดด้วย แต่เพจดังกล่าวลบโพสต์ออกในเวลาต่อมานั้นขณะที่ ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นดังกล่าวผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว โดยระบุว่าเมื่อผู้บริหาร เมเจอร์ คิดได้แค่นี้ ไปดูหนังที่ SF ก็ได้เข้าใจความรู้สึกอ้นคะเช่นเดียวกับ ผู้ประกาศข่าว ออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าว ว่าเพจ Major Group โพสต์คล้ายข่มขู่ อ้น ทั้งๆที่ ไม่ได้ถ่ายภาพขณะที่หนังฉายแล้วล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา เพจMajor Group โพสต์ประกาศขออภัยต่อกรณีที่โพสต์และส่งผลกระทบให้เกิดความไม่สบายใจขึ้นในโลกออนไลน์ ทางทีมงานขอน้อมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น โดยจะปรับปรุงการสื่อสารให้มีความรัดกุมและระมัดระวังป้องกันมิให้มีเหตุการณ์ผิดพลาดเช่นนี้เกิดขึ้นอีกอย่างไรก็ตามเฟสบุ๊คแฟนเพจดังอย่างคาราโอเกะชั้นใต้ดิน นำภาพมาใส่เนื้อเพลงประกอบว่า ผิดตรงไหนก็ไม่รู้ เช่นเดียวกับ เพจDrama-addict แชร์โพสต์ของMajor Group พร้อมข้อความว่า เมเจอร์ทำไรผิด โพสนั้นเขาก็เตือนถูกละนี่ | เพจ คาราโอเกะชั้นใต้ดิน-Drama-addict ตั้งคำถามทำไม เพจ Major Groupต้องขอโทษ เหตุโพสต์เตือนห้ามถ่ายในโรงหนัง หลังดราม่า อ้น สราวุธ แอบถ่ายคนไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญฯ | วัฒนธรรม,สิทธิมนุษยชน | กรณีไม่ยืนในโรงภาพยนตร์,Major Group,อ้น สราวุฒิ,คาราโอเกะชั้นใต้ดิน,Drama-addict | https://prachatai.com/journal/2019/07/83562 |
สาวยูกันดา เครียด ทะเลาะคนในมือถือ กระโดดตึกดับสยอง | โทร.เข้าโทรศัพท์มือถือของผู้ตายก่อนทะเลาะกันในสาย ทำให้สติแตกวิ่งพุ่งหลาวลงมาเสียชีวิต ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อสรุปสาเหตุการตายที่ชัดเจน,สาวผิวสีสติแตกกระโดดตึกดับ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 3 ต.ค. พ.ต.ท.ประดิษฐ์ ปลายด่วน สว. (สอบสวน) สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้ง เหตุพบศพหญิงชาวต่างชาติตกจากที่สูงเสียชีวิตบริเวณริมคลองแจงร้อน ข้างสุขสวัสดิ์ โมเดิร์นคอนโดวิว อาคารสูง 23 ชั้น เลขที่ 180 ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวชฯ รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ หลักฐานและมูลนิธิร่วมกตัญญู,ที่เกิดเหตุพบศพ น.ส.ชาลอน ฮูไบลา นามาคูลา อายุ 22 ปี ชาวยูกันดา เสียชีวิตนอนคว่ำหน้า อยู่บนรากไม้ริมคลอง สภาพหน้าอกยุบ ลำตัวฟกช้ำ ขาทั้งสองข้างหัก ในชุดเสื้อกล้ามสีดำ กางเกงขาสั้น สีน้ำเงิน ในกระเป๋ากางเกงพบโทรศัพท์มือถือสีขาวสภาพพังยับเยิน ตรวจสอบบริเวณโดยรอบพบกระเป๋าธนบัตรหนังแบบผู้หญิงสีดำ 1 ใบ ภายในมีพาสปอร์ตของผู้ตาย 1 ใบ เอกสารส่วนตัวอีกจำนวนหนึ่งและรองเท้ารัดส้นแบบผู้หญิงสีขาว 1 ข้าง จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน เวลาเดียวกัน มีนายอัชลี แดนเนียล อายุประมาณ 30 ปี ชาวอังกฤษ เพื่อนผู้ตาย เดินทางดูศพด้วยอาการคลุ้มคลั่งโศกเศร้าเสียใจ ตำรวจต้องนำตัวออกมาสงบสติอารมณ์เพื่อสอบปากคำ,พ.ต.ท.ประดิษฐ์เผยสอบสวนนายอัชลี ครูสอนภาษาโรงเรียนปัญญาศักดิ์ ย่านสุขสวัสดิ์ พักอยู่ห้องเลขที่ 344 ชั้น 16 ของสุขสวัสดิ์ โมเดิร์น คอนโดวิว ใกล้จุดพบศพ ทราบว่าพักอาศัยอยู่ในห้องเพียงคนเดียวได้ประมาณ 2 เดือน ก่อนเกิดเหตุประมาณเที่ยงคืน ออกไปเที่ยวที่สถานบันเทิงและกลับมาห้องพักพร้อมผู้ตายตอนตีสอง กระทั่งเวลา 04.00 น. ขณะนั่งเล่นกับผู้ตาย มีคนโทร.เข้าโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ระหว่างพูดคุยเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันในสาย ทำให้ผู้ตายสติแตกวิ่งกระโดดลงมาจากระเบียงห้องพักเสียชีวิต นายอัชลีจึงรีบวิ่งไปบอก รปภ.ของอาคารให้แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ ทั้งนี้ นายอัชลีมักเที่ยวราตรีบ่อยครั้งและมีคนผิวสีไปมาหาสู่ประมาณ 2 ครั้ง,เบื้องต้นตำรวจฝ่ายสืบสวนตรวจสอบภายในห้องพักของนายอัชลีไม่พบร่องรอยการต่อสู้ อยู่ระหว่างตรวจหาภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เตรียมสอบปากคำนายอัชลีเพิ่มเติมเพื่อคลายข้อสงสัยในบางประเด็น นำมารวมกับผลตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ผลตรวจที่เกิดเหตุของกองพิสูจน์หลักฐาน และผลชันสูตรศพของแพทย์นิติเวชฯ รพ.ศิริราช ก่อนสรุปหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดต่อไป | สาวยูกันดาสติแตกกระโดดจากห้องพักชั้น 16 ของคอนโดฯย่านถนนสุขสวัสดิ์ ตำรวจมึนสาเหตุ ขณะที่หนุ่มอังกฤษครูสอนภาษาเจ้าของห้อง ที่เกิดเหตุ ระบุพบผู้ตายหลังออกท่องราตรี ชวนมาที่ ห้องตอนตีสอง คล้อยหลังไม่นานมีคน | null | ข่าวหน้า1,กระโดดตึก,ฆ่าตัวตาย,ยูกันดา,คอนโดมิเนียม,ราษฎร์บูรณะ,เครียดกระโดดตึก,ตายปริศนา,ต่างชาติ,ชาวยูกันดา,ไทยรัฐ,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/742696 |
ปนัดดา แจงผลสอบข้าว ยึดผลประโยชน์ชาติ | วันที่ 22 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้คณะเยาวชนในโครงการยุวโฆษก รุ่นที่ 8 เข้าพบพร้อมบรรยายพิเศษเรื่อง ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ ในตอนหนึ่งว่า เราเป็นคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหน ก็เป็นคนไทยภายใต้ร่มพระบารมีเดียวกัน เรารักจังหวัดของเราได้ แต่เราต้องรักประเทศไทยยิ่งกว่า อย่าให้การบ้านการเมืองการปกครองมาแบ่งแยกเราเป็นภาคนิยม จังหวัดนิยม เลิกแบ่งพรรคแบ่งพวกแยกเป็นขั้วเป็นสี สังคมต้องซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส พวกเราต้องช่วยกันทุกภาคส่วน เพื่อให้ประเทศไทยกลับมาเป็นประเทศที่มีความสงบสุขและมีความสามัคคีเช่นเดิม,รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องที่มีคนออกมาตำหนิการตรวจสอบคุณภาพข้าวนั้น ตนไม่ว่าและจะไม่โต้ไม่ตอบโต้ เพราะตนเป็นข้าราชการประจำ จะไปทะเลาะวิวาทกับใคร หรือโต้ตอบใครไม่ได้ ตนไม่ใช่นักการเมือง และถึงแม้จะสวมหมวกอีกใบหนึ่งแต่แค่ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น และยังเหลือเวลาการทำงานก่อนที่จะเกษียณอายุราชการเพียงแค่อีกปีเศษๆ จะพยายามตั้งใจทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องการบ้านการเมืองใครจะขัดแย้งกับใคร พรรคไหนกลุ่มไหน ไม่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่วิสัยตน,ม.ล.ปนัดดา กล่าวอีกว่า ผลการตรวจสอบข้าวที่ออกมา โดยมีการแบ่งเกรดเอ บี และซี ซึ่งแบ่งตามคุณภาพ แต่หากเราจะเอาตามมาตรฐานของกระทรวงพาณิชย์ล้วนๆ ก็จะผ่านเพียงแค่ 12.23% ส่วนที่เหลือตกหมด ข้าวที่ไม่ผ่านมาตรฐานก็เสียเปล่า นั่นคือความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของเมืองไทย ทั้งหมดเราทำเพื่อช่วยทุเลาให้เป็นรายได้เข้าประเทศ ดีกว่าจะนำไปโยนให้เสียหายทั้งหมด ยังเป็นผลดีต่อพี่น้องเกษตรกร และรายได้ของแผ่นดินที่ทำทั้งหมดตนยังไม่แคล้วโดน นี่เค้าเรียกการเมือง ซึ่งตนไม่มีประสบการณ์ ไม่ใช่นักการเมือง,อย่างไรก็ตาม ม.ล.ปนัดดา ยังได้กล่าวให้โอวาทแก่ยุวโฆษกด้วยว่ายุวโฆษกคือการนำพาประเทศชาติไปสู่ความร่มเย็นเป็นสุข และเป็นตัวอย่างให้กับประชาชนได้เห็นและรักใคร่สามัคคีกันเหมือนยุวโฆษกรุ่นที่ผ่านมา ซึ่งตนและยุวโฆษกทุกคนจะทำหน้าที่ไปพร้อมๆ กันเพื่อฟื้นฟูประเทศ โดยยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต | ปนัดดา แจงผลสอบข้าวยึดผลประโยชน์ชาติ แนะยุวโฆษกต้องรักประเทศไทย อย่าให้การเมืองมาแบ่งภาคนิยม พ้อถูกวิจารณ์ผลตรวจข้าว ยันจะไม่ตอบโต้ เพราะไม่ใช่นักการเมือง แจงทุกอย่างทำเพื่อเกษตรกรและชาติ | null | ปนัดดา ดิศกุล,จำนำข้าว,คุณภาพข้าว,ข่าวการเมือง,ไทย,ภาคนิยม | https://www.thairath.co.th/content/470587 |
ชี้สั่งจอดำทีวีคู่อริดูเตร์เตขัดเสรีภาพสื่อ | เอบีเอส-ซีบีเอ็น สถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่และทรงอิทธิพลในฟิลิปปินส์ ถูกคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติสั่งให้ยุติการออกอากาศเมื่อวันที่ 5 พ.ค. หลังคำร้องขอต่อใบอนุญาตสัมปทานกิจการตกค้างรอการพิจารณาในสภาผู้แทนฯ ส่วนใบอนุญาตเดิมหมดอายุเมื่อวันที่ 4 พ.ค. ประธานของเอบีเอส-ซีบีเอ็นระบุว่าการถูกสั่งปิดเป็นเรื่องเจ็บปวดของพวกเราและของชาวฟิลิปปินส์หลายล้านคนที่เชื่อมั่นในการรายงานข่าวของเอบีเอสฯเอบีเอสฯ เคยทำให้ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นผู้นำใช้นโยบายแข็งกร้าวจัดการกับกลุ่มสื่อที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามไม่พอใจถึงขั้นโกรธเคืองกรณีปฏิเสธออกอากาศโฆษณาหาเสียงของดูเตร์เตระหว่างเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2559 ด้านกลุ่มฝ่ายค้านระบุว่าคำสั่งให้ยุติออกอากาศ บ่อนทำลายการต่อสู้การระบาดของไวรัสโควิด-19ด้านนายอันโตนิโอ อัลบาโน รองประธานคณะกรรมาธิการด้านการออกใบอนุญาตสัมปทานของสภาผู้แทนฯ ระบุว่าสภาผู้แทนฯจะสั่งให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมฯอธิบาย และว่า มีเพียงสภาผู้แทนฯมีอำนาจอนุมัติหรือยกเลิกสัมปทาน ขณะที่กลุ่มตรวจสอบเสรีภาพสื่อระบุกรณีนี้ขัดต่อสิทธิเสรีภาพสื่ออย่างยิ่ง เอบีเอสฯ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2496 เป็นเจ้าของสถานีวิทยุและโทรทัศน์ทั่วประเทศรวมทั้งบริการข่าวออนไลน์. | เอบีเอส-ซีบีเอ็น สถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่และทรงอิทธิพลในฟิลิปปินส์ ถูกคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติสั่งให้ยุติการออกอากาศเมื่อวันที่ 5 พ.ค. | ข่าว,ต่างประเทศ | เอบีเอส-ซีบีเอ็น,ABS-CBN,ฟิลิปปินส์,สถานีโทรทัศน์ฟิลิปปินส์,ยุติออกอากาศ,โรดริโก ดูเตร์เต,ข่าววันนี้ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1838294 |
ฆ่าด้วยค้อน หึงเมียเด็ก จับได้เล่นไลน์กับหนุ่ม ทุบหัวดับต่อหน้าลูก | เมื่อวันที่ 7 ม.ค.59 ร.ต.อ.ศุภชัย ดีมงคล พงส.สภ.เมืองลพบุรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.สืบพงษ์ ภาษยะวรรณ ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.ณัชภูม วรรณวิไล ผก.สภ.เมืองลพบุรี พ.ต.อ.พรชัย ไข่สนอง ผกก.สส.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.ณพล สายสุข พงส.ผทค.สภ.เมืองลพบุรี ไปตรวจสอบเหตุฆ่ากันตายที่ห้องแถวหมู่ 2 ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมืองลพบุรี,ที่เกิดเหตุ เป็นห้องแถวแบ่งให้เช่า พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาว นุ่งผ้าถุงลาย สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสีน้ำเงิน นอนหงายมีผ้านวมลายสีเขียวคลุมอยู่ เจ้าหน้าที่ได้เปิดผ้าขึ้น ตรวจสอบสภาพศพ พบมีรอยถูกตีด้วยของแข็งที่ศีรษะด้านหลัง 1 แผล ที่คิ้วซ้ายปูดบวม และดั้งจมูกยุบ ทราบชื่อต่อมา ชื่อ น.ส.เมษนี จางนิรันดร อายุ 22 ปี,ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวน นาย เลา เทา (loa thao) อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นชื่อตามหนังสือเดินทาง เดิมเป็นชาวม้ง และได้รับสัญชาติอเมริกัน สามีของผู้เสียชีวิตที่ยืนรอมอบตัว รับสารภาพว่า เป็นผู้ที่ฆ่าน.ส.เมษนี จางนิรันดร ภรรยาของตนเอง,นาย เลา เทา ให้การว่า ตนกับผู้ตาย อยู่กินกันมานาน มีลูกด้วยกัน 2 คน ต่อมาตนได้สัญชาติอเมริกัน จึงไปอยู่ที่อเมริกา ก่อนจะกลับมาใช้ชีวิตอยู่กับ น.ส.เมษนี โดยมีอาชีพรับจ้างก่อสร้าง แต่ต่อมาตนจับได้ว่า น.ส.เมษนี เล่นไลน์ และกำลังจะไปมีแฟนใหม่ จึงทะเลาะกันจนเกิดบันดาลโทสะ ใช้ค้อนตีตะปู เป็นอาวุธตีที่ใบหน้าและศีรษะของภรรยา ไป 3 ครั้งจนถึงแก่ความตาย ในขณะที่ลูก 2 คนก็นอนอยู่ในห้อง,หนุ่มม้งสัญชาติอเมริกัน ให้การด้วยว่า หลังจากก่อเหตุได้อุ้มลูกทั้ง 2 คนไปฝากญาติที่อยู่บ้านหน้าปากซอย ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ไปแจ้งตำรวจที่ป้อมสามแยกนิคมฯ ซึ่งตำรวจได้นำตัว นาย เลา เทา พร้อมค้อนที่ใช้ก่อเหตุ ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก ก่อนจะแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | หนุ่มใหญ่ชาวม้งได้สัญชาติอเมริกัน แต่มาอยู่กับเมียสาวที่ลพบุรี อายุห่างกันถึง 27 ปี ใช้ค้อนทุบหัวเมียดับต่อหน้าลูก 2 คนในบ้าน สารภาพทำไปเพราะหึงหวง หลังจับได้ว่าฝ่ายหญิงเล่นไลน์คุยกับหนุ่ม ระแวงจะนอกใจ | null | ฆ่าเมีย,หึงโหด,หึงเมียเด็ก,เลา เทา,หนุ่มม้ง,ฆ่าเมียต่อหน้าลูก,ฆาตกรรม,อาชญากรรม,ม้งสัญชาติอเมริกัน,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ใช้ค้อนฆ่าเมีย,ฆ่าด้วยค้อน | https://www.thairath.co.th/content/559457 |
เอ๋ เหน็บรัฐเสียดาย 4 ปี เพิ่งคิดได้ช่วยคนจน-ติงแก้ปัญหาราคายาง | ทำจริง,เมื่อวันที่ 21 พ.ย.61 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่ ครม.อนุมัติงบประมาณ 86,994 ล้านบาท เพิ่มมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ว่า ตนว่าการอัดงบประมาณครั้งนี้ค่อนข้างตรงเป้าหมาย คือ การโอนเงินตรงเข้าบัตรไปสู่คนจน มีจำนวนเงินให้นำไปซื้อของที่ร้านไหนก็ได้ เงินกระจายจับจ่ายเข้าสู่ระบบ ไม่เกิดการผูกขาดของนายทุนเจ้าใดเจ้าหนึ่ง ซึ่งไม่เหมือนกับของเดิมก่อนหน้านี้ ที่แม้ประชาชนได้เงินเข้าบัตรจริงแต่ติดข้อจำกัดหลายเรื่อง อาทิ ค่าเดินทางที่ต้องนำเงินไปใช้จ่ายที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ส่วนจะเรียกว่าหาเสียงหรือไม่นั้น ตนไม่อยากชมหรือด่า เพราะรัฐบาล คสช.เขาก็อัดงบฯ ช่วงปลายปีมาตลอด อาทิ ช็อปช่วยชาติ แค่เห็นว่ารัฐบาลไม่น่าเลือกกลัดกระดุมเม็ดเเรกผิด คือ ไม่ยอมโอนเงินตรงเข้าบัญชีแล้วให้ชาวบ้านใช้จ่ายที่ไหนก็ได้มาตั้งแต่แรก โดยเลือกจ่ายผ่านบัตรคนจน ไปเสียเงินพัฒนาระบบบัตรดังกล่าวสิ้นเปลืองไปหลักพันล้านบาท แถมยังถูกด่าถูกครหาฟรีๆว่า ทำโครงการเอื้อนายทุนและเจ้าสัว และน่าเสียดายที่มาเลือกทำเอาช่วงใกล้ๆวันที่จะมีการเลือกตั้ง ที่จริงน่าจะทำตั้งแต่ปีแรกๆที่เข้ามาบริหารประเทศแล้วด้วยซ้ำ,นอกจากนี้ นายอรรถวิชช์ ยังกล่าวถึงการแก้ปัญหาราคายางพารา ของ นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า 1. แก้ปัญหาระยะสั้นล้มเหลว รัฐบาลจะอุ้มราคายางพารา ก็มักจะทำช่วงฤดูหนาว หรือ ช่วงปิดกรีด เกษตรกรเค้าพักต้นยางพาราตามฤดูกาลอยู่แล้ว ราคาที่ขึ้นไปใครได้ประโยชน์กัน 2. ไม่มีชั้นเชิงการต่อรองกับจีนผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดของโลก ทั้งๆที่ไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลก ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย ที่มีส่วนแบ่งการตลาดรวมถึงร้อยละ 75 ของตลาดโลก ตนไม่เห็นการเดินสายเพื่อรวมกลุ่มประเทศผู้ขายเหล่านี้เลย,นายอรรถวิชช์ กล่าวต่อว่า 3. รัฐบาลจะเอายางพารามาทำถนน รัฐบาลนี้พูดมาไม่ต่ำกว่า 3 ปี ทำโชว์มากกว่าทำจริง ทั้งที่มีราคากลางรองรับไว้แล้ว ผิวทางลาดยางปกติแบบ Asphaltic Concrete อยู่ที่ 227 บาท ต่อตารางเมตร แต่ถ้าเป็นผิวทางลาดยางแบบยางพารา Para Asphalt Concrete จะอยู่ที่ 330 บาทต่อตารางเมตร ราคาห่างกันไม่มาก พร้อมทำจริงได้เลย แต่ก็ได้แค่ทำโชว์สั้นๆ และ 4.แผนระยะยาวก็ไม่ชัดเจน รัฐบาลควรจะชวนบริษัทยางรถยนต์ยักษ์ใหญ่ มาตั้งฐานการผลิตในไทยเลย ผ่านกลไก EEC ก็ได้ Bridgestone, Michelin, Goodyear ปีนี้กำแพงภาษียางรถยนต์ระหว่างไทยจีน ได้ถูกทำลายลงเหลือแค่ร้อยละ 5 ตามข้อตกลงการค้าเสรี FTA ไทยจีน ดังนั้น อย่าคิดแค่ส่งออกยางก้อน ควรส่งออกเป็นยางล้อรถไปเลย ถ้าทำกันจริงจังราคายางพาราพุ่งไปแล้ว | อรรวิชช์ เสียดาย รัฐบาล คสช.อยู่มา 4 ปีเพิ่งคิดได้ เรื่องช่วยเหลือคนจน อัด รมต.เกษตรฯ 4 ข้อ แก้ปัญหาราคายาง พูดได้แต่ทำไม่จริง พร้อมถามขึ้นราคาช่วงปิดกรีดใครได้ประโยชน์ แขวะ ทำโชว์มากกว่า | ข่าว,การเมือง | อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี,ประชาธิปัตย์,ปชป.,บัตรคนจน,ราคายางพารา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1426663 |
คนใต้แห่ฟ้อง สมานฉันท์ จี้เอาผิด พล.ต.อ. | กำพร้า - นายยะโกะ กาลอ กับหลานทั้ง 4 ซึ่งพ่อตายในเหตุการณ์กรือเซะ ขอให้กรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์ช่วยเหลือ----------------------------------------------------------------------------- ศูนย์ข่าวภาคใต้ - คนชายแดนใต้แห่งให้ข้อมูล กรรมการสมานฉันท์ฯ เพียบ นักศึกษาจี้ให้เอาผิด พล.ต.อ. มีส่วนร่วมซ้อมผู้ต้องหาคดีปล้นปืน ชาวบ้านโวยถูกคนของรัฐยิงผิดตัว วอนเลิกกฎอัยการศึก อานันท์ โยนลูก จาตุรนต์ ช่วยเยียวเหยื่อล้อมปราบ 28 เมษาฯ โคฟี อันนัน ชมเปาะไทยตั้งกรรมการสมานฉันท์ฯ แก้ปัญหาไฟใต้ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 เมษายน 2548 ที่ห้องประชุมสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี คณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ ได้จัดเวทีรับฟังข้อมูลและความคิดเห็นกรณีปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีนายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการฯ นายแพทย์ประเวศ วะสี รองประธานคณะกรรมการฯ นายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการฯ เป็นต้น เข้าร่วมรับฟัง มีประชาชนจากจังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นกว่า 400 คน ใช้เวลาพูดคุยกว่า 3 ชั่วโมง สำหรับปัญหาที่หยิบยกขึ้นมานำเสนอต่อที่ประชุม ประกอบด้วย ความไม่เป็นธรรมจากการดำเนินการของรัฐ ปัญหานักศึกษาหายไปจากห้องเรียนหลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ โดยมีบางคนถูกจับกุม เป็นต้น นายกูเซ็ง ปะเตาะ ชาวบ้านอำเภอบันนังสตา กล่าวต่อที่ประชุมว่า ขอให้ดำเนินคดีกับทหารพรานที่ยิงหลานของตน เมื่อปี 2547 เพราะตนมั่นใจว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบ และจากการตรวจสอบพบว่า ตั้งแต่ต้นปี 2547 มีชาวบ้านถูกเจ้าหน้าที่รัฐยิงเสียชีวิต 17 ราย มีเพียง 1 รายเท่านั้น ที่เกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องขบวนการแบ่งแยกดินแดน นายนิอารง นิเตะ นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวต่อที่ประชุมว่า ขอให้ตรวจสอบกรณีคนร้ายลอบยิงโต๊ะครูที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เมื่อปี 2547 เนื่องจากมีข้อมูลชัดเจนว่า คนร้ายที่ลงมือเป็นตำรวจจากส่วนกลาง และขอให้เอาผิดกับตำรวจระดับพลตำรวจเอกที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาคดีปล้นปืน เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 ซึ่งนำไปสู่การหายตัวไปของนายสมชาย นีละไพจิตร ประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม นายอานันท์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการแก้ปัญหา โดยเฉพาะกรณีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 หรือเหตุการณ์กรือเซะ และเหตุการณ์ตากใบ ซึ่งในวันที่ 24 เมษายน 2548 จะมีการเปิดเผยผลการสอบข้อเท็จจริงทั้ง 2 กรณีด้วย นายอานันท์ กล่าวกับผู้เข้าร่วมประชุมว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกำลังแก้ปัญหาอยู่ การร่วมกันแก้ปัญหาความไม่สงบนั้น สิ่งสำคัญ คือ สังคมไทยต้องช่วยกันลดความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ยอมรับและเรียนรู้ความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม เพราะประเทศไทย เป็นประเทศที่มีความเป็นอยู่อย่างหลากหลาย คณะกรรมการอิสระฯ ที่ตั้งขึ้น จึงมองคนพื้นที่เป็นเรื่องสำคัญในการร่วมกันแก้ปัญหา ผมเองนั้น บิดามีเชื้อสายมอญ ที่ถูกต้อนเป็นเชลยศึกเข้ามาสมัยรัชกาลที่ 3 รัชกาลที่ 4 มาตั้งรกรากที่อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ส่วนมารดาก็ไม่ใช่คนไทยตามที่คิดกัน เป็นคนไทยเชื้อสายจีน สมัยเด็กๆ ผมก็เคยถูกเรียกว่าเจ๊ก ตั้งแต่เกิดมาก็อยู่ในสังคมของความหลากหลายความแตกต่าง เคยไปสักการะพระที่เป็นวัดมอญ ร่วมทำกงเต็กกับญาติมารดา ส่วนปักษ์ใต้นั้นผมไม่รู้เรื่องอะไรมากนัก แต่รู้อย่างเดียวว่าทุกคนเป็นคนไทย เมื่อเขาเกิดบนแผ่นดินไทย ตั้งรกรากมาเป็นร้อยปี ถวายความจงรักภักดี พร้อมเป็นประชาชนไทย จะมาจากเชื้อชาติ ศาสนาใด ก็ไม่ใช่อุปสรรคใดๆ ที่จะให้เกิดความอยุติธรรม เกิดการปฏิบัติที่ไม่ทัดเทียมหรือเกิดความไม่เสมอภาค นายอานันท์ กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการอิสระฯ ที่ตั้งขึ้น มองคนพื้นที่เป็นเรื่องสำคัญในการร่วมกันแก้ปัญหา ช่วงบ่ายวันที่ 24 เมษายน 2548 จะเปิดเผยข้อเท็จจริงผลสอบกรณีสาลายการชุมนุมที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส และเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 เพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างกันอันจะนำไปสู่ความสมานฉันท์อย่างแท้จริง นายอานันท์ เปิดเผยว่า สำหรับข้อมูลและความคิดเห็นที่ได้รับฟังจากภาคประชาชน เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2548 ซึ่งเป็นวันแรกของการรับฟัง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องความไม่เป็นธรรม ความอยุติธรรม การไม่ยอมรับในความแตกต่าง ไม่เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่เคารพในอัตลักษณ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่มีอยู่หลายข้อ จากการพูดคุยกันครั้งแรก ซึ่งไม่ใช่ครั้งเดียว แต่จะลงมาอีกทุก 2 เดือน ก่อนหน้านี้ นายอับดุลอาซิซ ตาเดอินทร์ รองนายกสมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย กล่าวในที่ประชุมพบปะระหว่างคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2548 ที่โรงแรมซี.เอส.ปัตตานีว่า อยากให้ยกเลิกกฎอัยการศึกในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกำหนดเป็นขั้นตอนเวลาอย่างชัดเจน เพราะกฎอัยการศึกจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน แม้แต่ชาวบ้านจะไปละหมาดก็ยังถูกเรียกตรวจ ทหารไม่เข้าใจว่ามุสลิมต้องละหมาดวันละ 5 ครั้ง ไปละหมาดทุกครั้งก็ถูกเรียกตรวจทุกครั้ง แล้วถามว่าทำไมต้องละหมาดอีกแล้ว ถามแล้วถามอีกการกระทำดังกล่าวเป็นการบั่นทอนความรู้สึกของชาวบ้าน นายอับดุลอาซิซ กล่าว ต่อมา เมื่อเวลา 14.30 น.วันเดียวกัน คณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ ได้เดินทางไปที่วัดทรายขาว ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เพื่อเยี่ยมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และชุดอาสารักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และพบปะประชาชน จากนั้น ได้เดินทางไปพบกับญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะกัน เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 ที่บ้านเลขที 91/1 หมู่บ้านอาซัม ตำบลควนโนรี อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ 9 คน โดยมีญาติผู้เสียชีวิตจากตำบลม่วงเตี้ย อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี และชาวบ้านเข้าร่วมกว่า 100 คน โดยญาติผู้เสียชีวิตเรียกร้องให้ช่วยเหลือเยียวยา เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก นายอานันท์ กล่าวภายหลังรับฟังข้อมูลจากญาติผู้เสียชีวิตว่า คณะกรรมการไม่มีอำนาจในการเยียวยา แต่จะขอให้นายจาตุรนต์ ฉานแสง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นกรรมการฯ อยู่ด้วย ให้สำรวจข้อมูลผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย รวมทั้งผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาต่อไป นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตนรับจะดำเนินการตามคำแนะนำของนายอานันท์อย่างเร็วที่สุด เพราะตนได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เยียวยาผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่แล้ว สำหรับผู้สูญเสียในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2548 ในช่วงแรกได้ให้ความช่วยเหลือค่าทำศพ เนื่องจากเห็นว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้ร่วมก่อเหตุ แต่เมื่อตนกับนายบวรศักดิ์ อุวรรโณ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี มาพบญาติผู้เสียชีวิตเห็นความเดือดร้อน จึงเห็นว่าทั้งหมดเป็นเหยื่อของความรุนแรง ขณะนี้นางจิราพร บุนนาค รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติกำลังร่างแผนฯ ให้ความช่วยเหลืออยู่ คาดว่าภายในวันที่ 26 เมษายน 2548 นี้ จะดำเนินการได้ นายยะโกะ กาลอ ชาวบ้านอาซัม ซึ่งนำหลานมาด้วย 5 คน กล่าวว่า ตนเสียลูกชาย 2 คน และลูกเขย 1 คน ในเหตุการณ์วันที่ 28 เมษายน 2547 โดยลูกเขยได้ทิ้งหลาน 5 คนไว้ สิ่งที่ยังแทงใจตนอยู่ คือ ลูกและหลานของตนไม่มีจะกิน จะทำอย่างไรให้หายจากความเจ็บปวด จากการถูกเจ้าหน้าที่รัฐฆ่าลูกๆ พร้อมกันถึง 2 - 3 คน หากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเองจะรู้สึกอย่างไร และจะเยียวยาอย่างไร การที่รัฐบอกว่าลูกของตนออกไปทำสงครามกับรัฐ เป็นโจรก่อการร้าย มันเจ็บปวดมาก ถามว่าถ้าไปทำสงคราม จะใช้แค่มีดเป็นอาวุธหรือ มันต้องมีปืนมีอาวุธที่ต่อกรกันได้ แม้แต่คนไปยิงปลาก็ต้องเอาปืนไปด้วย เมื่อรัฐรู้ว่ามัสยิดเป็นสถานที่ทำคุณงามความดี แล้วทำไมต้องยิงคนในมัสยิดด้วย การทำเช่นนั้นเหมือนต้องการทำลายชาวมุสลิม และต้องการทำลายมัสยิด ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุเช่นนี้มาก่อน ผมไม่มีแรงทำงาน เพราะอายุมากแล้ว และไม่มีลูกช่วยทำงานหารายได้ ตอนนี้เดือดร้อนมาก อยากให้ช่วยสร้างบ้านให้เสร็จด้วย เพราะไม่มีลูกหลานมาช่วยสร้างให้อีกแล้ว นายยาโกะ กล่าว นางคอดีเยาะห์ หะหลี ลูกสาวของนายมะแอ หะลี อายุ 60 ปี ซึ่งเสียชีวิตที่มัสยิดกรือเซะ กล่าวด้วยเสียงสะอื้นว่า ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้ความช่วยเหลือเยียวยา ตนขอร้องให้ช่วยเหลือชาวบ้านที่สูญเสียทุกคน ที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานเข้ามาหาข้อมูล แต่ไม่เกิดผลอะไรเลย หากครั้งนี้ยังไม่ช่วยเหลือ ตนถือว่ารัฐบาลนี้โกหกหลอกลวง นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2548 ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย - แอฟริกา ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ได้กล่าวชื่นชมพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้ตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ แก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายโคฟี อันนันมีความเห็นว่า วิธีการแก้ปัญหาด้วยการปรึกษาหารือเช่นนี้ จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น | กำพร้า - นายยะโกะ กาลอ กับหลานทั้ง 4 ซึ่งพ่อตายในเหตุการณ์กรือเซะ ขอให้กรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์ช่วยเหลือ ----------------------------------------------------------------------------- | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/04/3767 |
ไม่ใช่ผีแม่ม่าย สธ.กาฬสินธุ์ แจง ชาวบ้านตายเยอะเหตุเป็นโรคไม่ติดต่อ | จากกรณีชาวบ้านภูฮัง หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 5 ต.ดงมูล อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ตกอยู่ในความหวาดผวาอย่างหนัก หลังเกิดเหตุมีคนเสียชีวิตในหมู่บ้านติดต่อกัน 5 ศพ โดยเฉพาะ 2 ศพแรกเป็นชายฉกรรจ์อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน เกิดอาการวูบสิ้นใจตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ญาติระบุพบลำคอเขียวคล้ำคล้ายถูกมือบีบ เชื่อเป็นฝีมือผีปอบและผีแม่ม่ายคร่าชีวิต จึงพากันแห่ทาเล็บแดง หาเครื่องรางของขลังพกติดตัว พร้อมนำเสื้อสีแดงและเขียนป้ายข้อความ บ้านนี้ไม่มีผู้ชาย ป้องกันผีปอบ-ผีแม่ม่ายเต็มหมู่บ้าน ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น,ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2561 ผู้สื่อข่าว จ.กาฬสินธุ์ ได้ติดตามบรรยากาศในหมู่บ้านภูฮัง พบว่าชาวบ้านยังคงตกอยู่ในอาการหวาดผวา และหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเชื่อว่าสาเหตุการตายของคนในหมู่บ้านทั้ง 5 รายนั้น เกิดจากการกระทำของผีปอบและผีแม่ม่าย โดยชาวบ้านระบุว่าเริ่มเป็นมาตั้งแต่มีคนฝันเห็นกลุ่มชายใส่ชุดดำ ยกขบวนมาสร้างที่พักที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน ก่อนที่จะมีเสียงสุนัขเห่าหอนในตอนกลางคืน และมีคนตายโดยไม่ทราบสาเหตุติดต่อกันเกิดขึ้น จนทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดผวาไปตามๆ กัน หลายคนไม่กล้าออกจากบ้านไปทำมาหากิน โดยเฉพาะเวลากลางคืน ซึ่งแทบทุกหลังคาเรือนต้องปิดบ้านเข้าที่พักตั้งแต่หัวค่ำ ทำให้บรรยากาศภายในหมู่บ้านเงียบเหงาและวังเวง ,นายศุภชัย จารย์โพธิ์ อายุ 49 ปี ชาวบ้าน หมู่ 3 บ้านภูฮัง ต.ดงมูล อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุและมีคนเฒ่าคนแก่แนะนำให้หาเสื้อแดง เขียนป้าย บ้านนี้ไม่มีผู้ชาย รวมทั้งทาเล็บ ห้อยพระและวัตถุมงคล เพื่อป้องกันผีปอบกับผีแม่ม่ายแล้วก็ตาม แต่ก็ยังอยู่กันอย่างตื่นตระหนก แต่ก่อนดำเนินชีวิตตามปกติ ตอนเย็นจับกลุ่มพูดคุยกันตามประสาที่ลานหน้าบ้านจนดึกดื่นจึงแยกย้าย แต่พอเกิดเหตุการณ์ตายติดต่อกัน กลางคืนสุนัขเห่าหอนโหยหวนทั่วหมู่บ้านก็หวาดผวา รีบปิดบ้านปิดไฟเข้านอน ทำให้บรรยากาศในหมู่บ้านเงียบเชียบวังเวงเป็นอย่างมาก ,ด้าน นางผอง ปัญญาสิทธิ์ อายุ 80 ปี บ้านเลขที่ 115 หมู่ 3 บ้านภูฮัง ต.ดงมูล อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เหตุการณ์คนในหมู่บ้านเสียชีวิตติดต่อกันหลายศพโดยไม่ทราบสาเหตุ ที่บ้านภูฮัง เคยเกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันเมื่อ 7 ปีก่อน เหตุที่เกิดในรอบนี้ ถึงแม้จะยังไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นฝีมือผีปอบหรือผีแม่ม่าย หรือสาเหตุจากอาการเจ็บป่วยก็ตาม แต่ที่แน่ๆ คือทุกวันนี้ชาวบ้านหวาดกลัวกันมาก เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ซ้ำรอยอย่างที่เคยเกิดในคราวก่อน ซึ่งตอนนั้นเสียชีวิตต่อเนื่องทั้งผู้หญิงและผู้ชาย 7 ศพ ชาวบ้านจึงได้นิมนต์พระเกจิมาทำพิธีขับไล่ เหตุการณ์จึงกลับสู่ภาวะปกติ ก่อนที่จะย้อนกลับมาเกิดในช่วงนี้อีก,ขณะที่ นายดนุพล ผือโย สมาชิกสภา อบจ.กาฬสินธุ์ เขต อ.หนองกุงศรี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุชาวบ้านเสียชีวิตติดต่อกันหลายศพ โดยชาวบ้านเชื่อว่าเป็นการกระทำของสิ่งที่ไม่มีตัวตน ที่เรียกว่า ผีปอบ และผีแม่ม่าย ถึงแม้จะพิสูจน์ไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่ฝังแน่นในสังคมชาวอีสานมายาวนาน ทั้งนี้ได้ประสานผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันมิจฉาชีพฉวยโอกาสกุข่าวหลอกลวง แสวงหาผลประโยชน์ และคอยสอดส่องให้กำลังใจชาวบ้าน โดยเฉพาะครอบครัวผู้สูญเสีย,ขั้นตอนต่อไปจากนี้ คงจะเป็นในส่วนของการฟื้นฟูจิตใจ จะโดยวิธีนิมนต์พระคุณเจ้าไล่จับปอบ จับผีแม่ม่าย หรือทำบุญหมู่บ้าน ตามอย่างที่เคยปฏิบัติกันตามความเชื่อ หรืออย่างไรก็ตามแต่ ก็จะได้หารือกับผู้นำชุมชนและชาวบ้าน เพื่อเรียกขวัญกำลังใจกลับคืนมา และให้หายจากอาการหวาดกลัว เพราะชาวบ้านมีความเชื่ออย่างนั้น มีความรู้สึกหวาดกลัวอย่างนั้นจริงๆ จะไปห้ามความคิดหรือปิดกั้นความเชื่อไม่ได้ ซึ่งเมื่อได้เกิดเหตุผิดปกติตามนี้แล้ว จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จะต้องลงมาดู ให้ความอบอุ่นกับชาวบ้าน นายดนุพล กล่าว,ส่วน นายแพทย์พรพัฒน์ ภูนากลม ผอ.โรงพยาบาลหนองกุงศรี พร้อมด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาภาคสนาม พยาบาลผู้เชี่ยวชาญทางสุขภาพจิต เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ ได้เข้าสอบสวนสาเหตุการตายผิดปกติของชาวบ้านภูฮังทั้ง 5 ราย และนำหน่วยแพทย์เข้าตรวจสุขภาพ ซึ่งเบื้องต้นพบว่าเป็นเหตุผิดปกติที่ไม่พบบ่อย โดยมีสาเหตุจากโรค NCDs หรือโรคที่ไม่ติดต่อ คือ โรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และอุบัติเหตุท้องถนน โดยสาเหตุการเสียชีวิตทั้ง 5 รายนั้น ได้แก่,รายที่ 1. นางน้อย โยการี อายุ 68 ปี มีอาการซึมไม่รู้สึกตัว เหงื่อออก ตัวเย็น มีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน และโรคไตวาย แพทย์วินิจฉัย เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และปอดอักเสบ เสียชีวิตวันที่ 10 กันยายน 2561,รายที่ 2. นายทองพันธ์ สุภาษร อายุ 44 ปี มีอาการแขนขาขวาอ่อนแรง พูดไม่ได้ แพทย์วินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมองแตก เสียชีวิตวันที่ 11 กันยายน 2561,รายที่ 3. นายสมพงษ์ วงชารี อายุ 46 ปี มีอาการล้มลงไม่รู้สึกตัวขณะทำกับข้าว มีโรคประจำตัวคือ โรคความดันโลหิต แพทย์วินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจ เสียชีวิตวันที่ 23 กันยายน 2561,รายที่ 4. นางภู วงชารี อายุ 73 ปี มีอาการปวดเอวข้างขวาร้าวลงมาขา มีโรคประจำตัวโรคความดันโลหิตสูง แพทย์วินิจฉัยโรคความดันโลหิตสูงและติดเชื้อในกระแสโลหิต เสียชีวิตวันที่ 29 กันยายน 2561,และรายที่ 5. นางสาวพรนภา ชัยศรี อายุ 16 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ชนท้ายรถซาเล้ง และกระเด็นไปโดนรถพ่วง 10 ล้อสลบไม่รู้สึกตัวคลำชีพจรไม่ได้ แพทย์วินิจฉัยเลือดคั่งในอวัยวะภายในจากอุบัติเหตุ,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ประเมินความเครียด ให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพแก่ชาวบ้าน ซึ่งการป้องกันโรค NCDs นั้นสามารถป้องกันได้ด้วย 3 อ. 2 ส. คืออาหาร อารมณ์ ออกกำลังกาย ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ ส่วนอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นต้องมีมาตรการป้องกันทั้งคน ยานพาหนะ และถนน ซึ่งถนนสายหนองกุงศรี-ท่าคันโท แคบ ไม่มีไหล่ทาง ทัศนวิสัยไม่ดี จึงเป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุ โดยพบการเสียชีวิตบนถนนสายนี้เฉลี่ยเดือนละ 1 ราย. | ชาวบ้านภูฮังผวาหนัก ผีแม่ม่าย ผีปอบกลับมาอาละวาดคร่าชีวิตชาวบ้านในรอบ 7 ปี ด้าน สธ.กาฬสินธุ์ แจง ที่ตายเป็นโรคหลอดเลือดสมอง หัวใจ เบาหวาน ความดันฯ สูง กับอุบัติเหตุต่างหาก | ข่าว,ทั่วไทย | กาฬสินธุ์,ผีแม่ม่าย,โรคไม่ติดต่อ,เสียชีวิตหลายราย,บ้านภูฮัง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1388666 |
จัดซื้อเมล์ NGV ล่ม ทีโออาร์ ขัดก.ม.-บ.ชนะประมูลโอดเสียหาย จ่อฟ้อง | เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 58 นางปราณี ศุกระศร รักษาการ ผอ.องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ขสมก. มีมติให้ยกเลิกประมูลจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน เนื่องจากคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์(กวพ.อ.) ตั้งข้อสังเกตว่า ร่างเอกสารการจัดซื้อจัดจ้าง(ทีโออาร์) ที่ ขสมก. จัดทำขึ้น ขัดกับมาตรา 26 ของ พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ในประเด็นเกี่ยวกับการแปลเอกสารภาษาต่างประเทศเป็นภาษาไทย โดยกฎหมายฉบับดังกล่าวกำหนดให้ผู้เข้าร่วมประมูลที่ยื่นเอกสารประกอบการประมูลเป็นภาษาต่างประเทศ จะต้องแปลเอกสารให้เป็นภาษาไทย และต้องมีการรับรองความถูกต้องเนื้อหาโดยสถานทูตไทยในประเทศที่เป็นเจ้าของภาษาในเอกสารเท่านั้น แต่ทีโออาร์ของ ขสมก. กลับกำหนดให้สถานทูตไทยในประเทศไทยเป็นผู้รับรองเอกสารได้ ซึ่งขัดแย้งกับกฎหมาย,นอกจากนี้ กวพ.อ. ยังเห็นว่า หลักเกณฑ์เกี่ยวการนำเสนอผลงานของบริษัทร่วมค้าในร่างทีโออาร์ของ ขสมก. ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ให้นำเสนอผลงานของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ทำให้ ขสมก. อาจจะต้องใช้ดุลพินิจในการพิจารณาตัดสินใจคัดเลือกผู้ชนะการประมูล ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายหากวินิจฉัยผิดพลาด ขณะที่ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี มีการระบุชัดเจนว่า ให้ใช้ผลงานของบริษัทใดบริษัทหนึ่งเท่านั้น,, นางปราณี ระบุ,นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า จากการหารือกับบริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหลังถูกยกเลิกประมูล ถือว่ามีแนวโน้มที่ดี โดยล่าสุดยังไม่มีการฟ้องร้อง ขสมก. แต่หากมีการฟ้องร้องต้องดูประเด็นใด จึงจะตอบได้ว่า ขสมก. จะสามารถเปิดประมูลรอบใหม่ได้หรือไม่ หากคดีอยู่ในชั้นศาล ซึ่งหากไม่มีปัญหาอะไร ขสมก. จะตั้งคณะกรรมการร่างทีโออาร์เพื่อเปิดให้มีการประมูลรอบใหม่ในเดือน ม.ค. 59 และเซ็นสัญญาได้ในเดือน มี.ค.,ด้าน นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช.ทวีดอลลาเซียน เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า แนวโน้มของบริษัทในขณะนี้ คาดว่าจะมีการฟ้องร้อง ขสมก. เพื่อรับผิดชอบความเสียหาย เนื่องจากพบว่าสาเหตุของการยกเลิกเกิดขึ้นจากความผิดพลาดของทีโออาร์ที่คณะกรรมการชุดต่าง ๆ ของ ขสมก. จัดขึ้น ในการร่างรายละเอียด และไม่ได้ถือเป็นเป็นผิดของบริษัท ทั้งนี้ ความล่าช้าของโครงการดังกล่าว ยังสร้างความเสียหายให้กับบริษัท จากเดิมที่คาดว่าปีนี้จะมีผลประกอบการเติบโตถึง 10% ปรับลดการเติบโตเหลือเพียง 2–3% เพราะบริษัทจัดเตรียมพื้นที่ภายในโรงงาน อุปกรณ์และพนักงานเตรียมไว้เพื่อเร่งดำเนินการประกอบรถเมล์เอ็นจีวีให้กับ ขสมก.,, นายสุรเดช กล่าว. | บอร์ด ขสมก.ยกเลิกประมูลจัดซื้อเมล์เอ็นจีวี 489 คัน หลังตรวจพบทีโออาร์ ขัดพ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองฯ จ่อเปิดรอบใหม่ ม.ค. 59 ด้านบริษัทชนะประมูลเตรียมฟ้องร้อง ทำเสียหาย มั่นใจไม่แพ้คดีแน่ | null | รถเมล์ NGV,จัดซื้อเมล์ NGV,ประมูลจัดซื้อเมล์ NGV,ยกเลิกจัดซื้อเมล์ NGV,ปราณี ศุกระศร,สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย,ขสมก.,ขสมก.ยกเลิกประมูลซื้อเมล์ NGV,ช.ทวี ดอลลาเซียน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวเศรษฐกิจ | https://www.thairath.co.th/content/542243 |
ก.แรงงาน เดินหน้าเทรน ป.ตรี ป้อนธุรกิจขนส่งและการค้าระหว่าง ปท. | เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.61 นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.)เปิดเผยว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน มอบหมายให้เร่งขับเคลื่อนการพัฒนาทักษะกำลังแรงงาน ตามนโยบายเร่งด่วน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาให้กับผู้จบปริญญาตรีที่ยังว่างงาน ตามแนวทาง ประชารัฐ ร่วมใจ เพื่อคนไทยมีงานทำ มีศูนย์บริการด้านแรงงานแบบเบ็ดเสร็จ 11 แห่ง และเปิดให้บริการพร้อมกันทั่วประเทศไปแล้ว ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค มุ่งช่วยเหลือผู้จบปริญญาตรีให้มีงานทำตามความสามารถ มีการพัฒนาทักษะฝีมือ ทั้งเพิ่มและปรับเปลี่ยนสายอาชีพ (Up-Skill/Re-skill) แก่บัณฑิตที่แจ้งความประสงค์ฝึกอาชีพ,นายสุทธิ กล่าวว่า ในครั้งนี้ กพร.ได้ร่วมกับสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (TIFFA) ได้ดำเนินการคัดเลือกผู้จบปริญญาตรี จำนวน 188 คนเข้าทดสอบภาคความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโลจิสติกส์ และด้านภาษาอังกฤษ เพื่อคัดเลือกเข้ารับการฝึกอบรมจำนวน 150 คน และจะมีการสัมภาษณ์ก่อนเข้าฝึกอบรมด้วย ผู้เข้ารับการคัดเลือก 188 คน เข้ารับการทดสอบภาคความรู้ ในเขตกรุงเทพ ณ ห้องจอมพล ป.พิบูลย์สงคราม กระทรวงแรงงาน จำนวน 131 คน และที่จังหวัดชลบุรี ณ มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตธนบุรีอีกจำนวน 57 คน ซึ่งผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการพิจารณาให้เข้าอบรม และเข้าทำงานในสถานประกอบกิจการในเขต EEC ด้วย และในช่วงเดือนเมษายน 2562 จะประกาศเปิดฝึกอบรมในรุ่นที่ 2 อีกจำนวนไม่น้อยกว่า 100 คน ซึ่ง TIFFA มีสถานประกอบกิจการที่เป็นสมาชิกกว่า 200 แห่ง แจ้งความประสงค์ขอรับผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมในโครงการนี้ในปี 2562 จำนวน 300 คน ตำแหน่งที่รับเข้าทำงาน เช่น พนักงานดูแลลูกค้า พนักงานด้านการจัดการ พนักงานด้านการตลาด พนักงานต้อนรับ พนักงานคลังสินค้า เป็นต้น,ด้านนายสง่า วงศ์ษาพาน ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า จากความร่วมมือของทั้ง 2 หน่วยงาน ช่วยลดปัญหาขาดแคลนแรงงานให้กับผู้ประกอบกิจการ และเป็นการฝึกทักษะให้กับแรงงานได้ตรงตามความต้องการของตลาด ทั้งปริมาณและคุณภาพ โดย TIFFA จะทำหน้าที่ในการแจ้งจำนวนและทักษะความสามารถที่ต้องการ พร้อมตำแหน่งงานที่ต้องการ ส่วนกพร.ดำเนินการสรรหากำลังแรงงาน กำกับดูแลการฝึกให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และร่วมกันพัฒนาทักษะให้ตรงกับความต้องการดังกล่าว เป็นการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ทำให้ผู้ผ่านการฝึกทุกคนได้รับการการันตีว่ามีงานทำ 100 เปอร์เซ็นต์,นางสาวระพีพรรณ เชษฐ์รัมย์ หรือน้องเจมส์ อายุ 23 ปี จบ ป.ตรี สาขาการจัดการด้านโลจิสติกส์ เล่าว่า เพิ่งเรียนจบจึงยังไม่ได้เข้าทำงาน เมื่อเห็นประกาศการรับสมัครเข้าฝึกอบรม และมีงานรองรับแน่นอน จึงสนใจสมัคร เพราะจบด้านโลจิสติกส์มาโดยตรง ทุกตำแหน่งในสายงานด้านโลจิสติกส์สามารถทำได้อย่างแน่นอน,นายณัฐพล ตรีทิพยรักษ์ หรือน้องแซม อายุ 26 ปี จบ ป.ตรี สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวว่า ตนมีประสบการณ์ในการทำงานด้านกราฟฟิกดีไซด์ ปัจจุบันมีอาชีพจำหน่วยสินค้าประเภทเครื่องสำอางผ่านออนไลน์ ต้องการเข้ามาเรียนรู้เกี่ยวกับระบบการขนส่ง และเปิดโอกาสในการเข้าทำงานในสถานประกอบกิจการด้านการค้าระหว่างประเทศ. | กพร. เทรน ป.ตรี ว่างงาน ป้อนธุรกิจขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ 300 อัตรา เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาทักษะกำลังแรงงาน ตามนโยบายประชารัฐ ร่วมใจ เพื่อคนไทยมีงานทำ เปิดพร้อมกันทั่วทั่วประเทศ | ข่าว,ทั่วไทย | กพร.,ก.แรงงาน,ป.ตรีว่างงาน,พัฒนาแรงงาน,ธุรกิจขนส่ง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1439186 |
สมุทรสาคร เข้มงวดรักษาความปลอดภัย 24 ชม. | รักษาการผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ออกมาตรการเพิ่มความเข้มงวด ในการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด แนะ ทุกหน่วยงานที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด ขอให้ตรวจสอบให้มีสภาพพร้อมใช้ ทั้งกำชับ เจ้าหน้าที่อยู่เวรยาม ให้สามารถติดต่อได้ 24 ชม. ,วันที่ 18 สิงหาคม 2558 นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ในการรักษาความปลอดภัยในจังหวัดสมุทรสาคร ขณะนี้ได้ออกหนังสือสั่งการ ให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ให้เพิ่มความเข้มงวด ในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดในพื้นที่และเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนเพื่อป้องกัน ป้องปราม การก่อเหตุร้าย รวมทั้งประเมินพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงและอาจตกเป็นเป้าหมายในการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ของผู้ไม่ประสงค์ดี โดยกำชับทุกหน่วยในสังกัดรวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ เพิ่มความเข้มข้นในการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยเฉพาะในพื้นที่ตั้งของหน่วยงานราชการ สถานที่ที่มีคนมาชุมนุมเป็นจำนวนมาก อาทิ ห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยว ศูนย์การค้า และ คลังน้ำมัน,นอกจากนี้ ขอให้หน่วยงานที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่มีอยู่ในพื้นที่ ตรวจสอบกล้องให้มีสภาพพร้อมใช้งาน รวมทั้งไฟฟ้าส่องสว่างโดยรอบอาคาร พื้นที่สาธารณะและจุดเสี่ยงต่างๆ พร้อมกำชับผู้ที่ได้รับมอบหมายในการอยู่เวร ให้เพิ่มความระมัดระวังการอยู่เวรยามรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ สถานที่สำคัญในพื้นที่ และให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน สามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง. | รักษาการผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ออกมาตรการเพิ่มความเข้มงวด ในการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด แนะ ทุกหน่วยงานที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด ขอให้ตรวจสอบให้มีสภาพพร้อมใช้ ทั้งกำชับ จนท.อยู่เวรยาม ให้สามารถติดต่อได้ 24 ชม. | ข่าว,ทั่วไทย | ระเบิดราชประสงค์,ระเบิดแยกราชประสงค์,ระเบิดพระพรหม,ระเบิดสยาม,สมุทรสาคร,แมนรัตน์ รัตนสุคนธ์,รักษาความปลอดภัย,ติดตั้งกล้องวงจรปิด,CCTV,ตลอด 24 ชม.,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/519081 |
เพื่อไทย เล็งแจ้งความ พ.ร.บ.คอมฯ คนปล่อยข่าวรัฐบาลไม่สนใจคนไทยในอียิปต์ | โฆษกเพื่อไทยเตรียมเอาผิดคนปล่อยข่าว รัฐบาลไม่สนใจคนไทยในอียิปต์ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์(18 ส.ค.56) พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวว่า กรณีวิกฤตการเมืองในอียิปต์ รัฐบาลมีความเป็นห่วงคนไทยในประเทศดังกล่าว โดยได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออพยพคนไทยออกจากอียิปต์อย่างเร่งด่วนแล้ว แต่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลกลับโจมตีในโซเชียลเน็ตเวิร์กว่ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยการกระทำนี้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐบาลและทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยเสียหายโฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า กำลังตรวจสอบและอาจแจ้งความเพื่อเอาผิดผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ก่อนหน้านี้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ออกหมายเรียกผู้ที่โพสต์ข่าวลือรัฐประหารบนสื่อสังคมออนไลน์ 4 คนมาสอบสวน โดยระบุว่าอาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และมาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญา (ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงแก่กฏหมายแผ่นดิน เกิดความปั่นป่วน ซึ่งจะก่อให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร) ล่าสุด ปอท.ระบุว่ายังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ โดยทั้งหมดจะอยู่ในฐานะพยาน | โฆษกเพื่อไทยเตรียมเอาผิดคนปล่อยข่าว รัฐบาลไม่สนใจคนไทยในอียิปต์ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ (18 ส.ค.56) พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวว่า กรณีวิกฤตการเมืองในอียิปต์ | ไอซีที | พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์,พรรคเพื่อ,เสรีภาพในการแสดงความเห็น,โซเชียลมีเดีย,โซเชียลเน็ตเวิร์ก | https://prachatai.com/journal/2013/08/48278 |
บิ๊กอ๊อด แนะผู้ตัดสินพัฒนาศักยภาพช่วยพัฒนาบอลไทย | วันที่ 7 มิ.ย. 59 ที่ห้องศรีวรา เอ ชั้น 2 โรงแรมทาวน์อินทาวน์ บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานและบรรยายพิเศษโครงการพัฒนาศักยภาพ คุณธรรมจริยธรรม ผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพ ประจำปีงบประมาณ 2559 ครั้งที่ 5 โซนภาคกลาง รุ่นที่ 2 โดยมีกรรมการผู้ตัดสินเข้าร่วมประชุม 150 คน ,นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวว่า นโยบายของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยุคนี้ ให้ความสำคัญในเรื่องของกรรมการผู้ตัดสินเป็นอันดับแรก เพราะการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย จะต้องพัฒนาไปพร้อมกันทั้งระบบ,ซึ่งกรรมการผู้ตัดสินถือเป็นส่วนสำคัญที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยุคนี้พร้อมที่จะสนับสนุนในทุกๆ ด้าน ทั้งการเปิดอบรมให้ความรู้ การทดสอบสมรรถภาพ และการนำผู้เชี่ยวชาญจากเอเอฟซี และฟีฟ่า มาให้ความรู้ มาช่วยแนะนำ วางระบบ เพื่อให้มีการพัฒนากรรมการผู้ตัดสินอย่างต่อเนื่อง,จากนี้ขอให้ทุกท่านช่วยกันสร้าง ช่วยกันผลิตกรรมการผู้ตัดสินรุ่นใหม่ๆ ที่มีทั้งความรู้ ความสามารถ มีคุณธรรมจริยธรรม เข้ามาช่วยยกระดับและพัฒนาวงการฟุตบอลไทยอย่างยั่งยืนต่อไป,สำหรับการโครงการพัฒนาศักยภาพ คุณธรรมจริยธรรม ผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพ ประจำปีงบประมาณ 2559 มีการฝึกอบรมทั้งหมด 5 ครั้ง ประกอบด้วย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดมหาสารคาม, ภาคใต้ จังหวัดภูเก็ต, ภาคเหนือ จังหวัดลำปาง, ภาคกลาง ที่ กทม.รุ่นที่ 1 และล่าสุด ที่ กทม.รุ่น 2 ระหว่างวันที่ 7-8 มิถุนายนนี้ | บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกโรงแนะ ผู้ตัดสินพัฒนาศักยภาพ พร้อมคุณธรรมและจริยธรรม ช่วยพัฒนาฟุตบอลไทย | null | ฟุตบอลไทย,บิ๊กอ๊อด,สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง,นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ,ผู้ตัดสิน,ผู้ตัดสินฟุตบอลไทย,โรงแรมทาวน์อินทาวน์,เอเอฟซี,ฟีฟ่า,โครงการพัฒนาศักยภาพ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวกีฬา | https://www.thairath.co.th/content/633830 |
กระแตยันสัมพันธ์เบิ้ลแค่พี่น้อง ปากเรียกดาร์ลิ่ง แต่ซุกหนุ่มตัวจริงอยู่ (คลิป) | กระแต อาร์สยาม, โพสต์รูปกอดแนบชิดกับเน็ตไอดอลบ้านนา 100 ล้านวิว ,เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม, ศิลปินค่ายเดียวกัน แถมอวยพรวันเกิดซะหวานแหวว เรียกดาร์ลิ่งอีกต่างหาก อ้าวเห้ยคู่นี้ชักจะยังไงๆเสียแล้ว แม้หนุ่มเบิ้ลจะออกมาให้สัมภาษณ์แล้วว่าไม่มีอะไร เป็นแค่พี่น้องกัน ทางสาว กระแตล่ะว่ายังไงกับความสัมพันธ์ครั้งนี้,กระแตเผยกับบันเทิงไทยรัฐว่า, จริงๆแล้วรูปที่เห็นในโพสต์นี่เบิ้ลเค้าเป็นคนอัพลงเฟซก่อนนะคะ น้องเป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดี แล้วก็ขี้เล่นค่ะ ชอบหยอกล้อกับพี่ๆ เราสองค่อนข้างสนิทกัน เจอกันบ่อยมากๆ ค่ะ ออกงานคู่กัน ไปงานคอนเสิร์ตสบายดี ด้วยกันมาหลายครั้งแล้วค่ะ น้องก็เลยกล้าเล่นกล้าแซวกัน ถามว่าจะให้คิดอะไรเลยเถิดไปเลยมั้ย สำหรับแตไม่กล้าคิดเลยจริงๆค่ะ เราก็อายุมากกว่าด้วย,แต่เห็นเรียกกันในไอจีเรียกกันว่า ดาร์ลิ่งตลอด?, เรื่องนี้เริ่มจากเบิ้ลเลยค่ะ เค้าเรียกเราว่าดาร์ลิ่ง เราเลยเรียกเค้ากลับไปบ้างว่าดาร์ลิ่ง อะไรแบบนี้ค่ะ,แล้วหนุ่มเบิ้ลเป็นคู่จิ้นกับธัญญ่าอย่างนี้ไม่โดนแฟนคลับโจมตีเหรอ?, ก็ไม่นะคะเราเป็นพี่น้องกันจริงๆค่ะ แต่แอบมีบางคนเชียร์คู่เราด้วยอีก แต่แตคิดว่าคงไม่เข้าไปยุ่งมากๆ เดี๋ยวจะโดนว่าเป็นมือที่สามของคู่จิ้นเบิ้ลธัญญ่า ซึ่งเรื่องนี้ธัญญ่าเค้าก็เข้าใจแฟนคลับก็เข้าใจดีนะคะ,แต่พอผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แล้วมีโอกาสเป็นไปได้มั้ย เพราะเห็นเบิ้ลพูดเปรยๆว่า อนาคตไม่แน่?, คงไม่น่าจะเป็นไปได้นะคะ,เพราะกระแตมีคนรู้ใจแล้วใช่มั้ย?, ก็มีคุยๆกันอยู่ค่ะ ดูมาได้สักพักล่ะค่ะ ขอเวลาอีกนิดตอนนี้ยังไม่ขอเปิดตัวค่ะ เค้าอยู่นอกวงการ ขอแน่นอนก่อนแล้วจะเปิดค่อยว่ากันอีกทีค่ะ,เห็นว่าตอนนี้เบิ้ลกับแตจะมีงานคู่กันอีก?, ใช่ค่ะจะมีงานในวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ค.นี้ ก็จะมีงานด้วยกันอีกที่ตลาดจตุจักรคุ้มเกล้า ลาดกระบัง คืองานมหกรรมฟรีคอนเสิร์ต ตู้เติมเงิน เอเจเติมสบาย เสนอคอนเสิร์ต สบายดีทีวี 4 มุมเมือง แต่ไม่ได้มีเราแค่สองคนนะคะ ยังมีศิลปินเกือบยกค่ายอาร์สยาม ทั้งน้องกระต่าย, พี่ลูลู่-ลาล่า, พี่วิด ไฮเปอร์, แมน มณีวรรณ, นุช วิลาวัลย์, กล้วย, ธัญญ่า, ต้นข้าว, เอิง สุกัญญา, ฝ้าย ทิพยา, ตาลใจ, ไฮคิว, ไนท์ บ้านนา, วงเส้นเล็ก และยังมีพี่แจ๊ส สปุ๊กนิก ปาปิยอง กุ๊ก กุ๊ก ก็จะมาสนุกกับพวกเราตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไปเลยค่ะ. | เป็นข่าวคราวมาพักใหญ่หลังลูกทุ่งสาวราชินีแดนซ์ กระแต อาร์สยาม โพสต์รูปกอดแนบชิดกับเน็ตไอดอลบ้านนา 100 ล้านวิว เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม ศิลปินค่ายเดียวกัน แถมอวยพรวันเกิดซะหวานแหวว เรียกดาร์ลิ่งอีกต่างหาก อ้าวเห้ย!คู่นี้ชักจะ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | กระแต อาร์สยาม,เบิ้ล ปทุมราช,เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม,นักร้อง | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1008589 |
อุตตม รับสนใจเล่นการเมือง แย้มถึงเวลาประกาศแน่นอน | ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังบ่ายวันนี้ (24 ก.ย.) รัฐมนตรีที่มีชื่อจะไปนั่งเป็นผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐ ทั้ง นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ที่มีข่าวจะมาเป็นหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ มาเป็นเลขาธิการพรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาเป็นโฆษกพรรค เดินทางเข้าพบ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ห้องทำงาน ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล รวมถึง นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เดินทางมารอก่อนล่วงหน้า แต่จนกระทั่งเวลา 16.00 น. ทั้งหมดได้แยกย้ายเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล โดยไม่ได้พบนายสมคิดแต่อย่างใด เนื่องจากนายสมคิดมีภารกิจไม่ได้เดินทางกลับเข้าทำเนียบรัฐบาล,โดย นายสนธิรัตน์ กล่าวภายหลังการพูดคุยว่า ไม่ได้พูดคุยกับนายสมคิด แต่มาพูดคุยเรื่องการทำงานเฉยๆ เมื่อข่าวถามถึงความชัดเจนในการร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ที่จะเปิดตัวในวันที่ 29 ก.ย.นี้ นายสนธิรัตน์ ไม่ตอบคำถาม พร้อมขึ้นรถกลับทันที,ขณะที่ นายอุตตม กล่าวถึงกรณีที่นายกฯ ประกาศสนใจการเมือง ว่า ในส่วนของตนเคยได้พูดเรื่องนี้แล้วว่า สนใจที่จะมีโอกาสทำงานเพื่อประเทศชาติ เพราะประเทศของเรากำลังก้าวเข้าสู่การเลือกตั้ง ประเทศต้องมีการเมือง เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะเป็นอย่างที่ตนเคยพูดให้ฟังว่า ได้พูดคุยกับหลายฝ่ายซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะเป็นไปในรูปแบบใด จึงจะมีโอกาสทำงานต่อไป เดี๋ยวถึงเวลาก็รู้,เมื่อถามว่า ได้ตอบรับที่จะนั่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้วหรือไม่ และพร้อมที่จะเปิดตัวในวันที่ 29 ก.ย.นี้เลยหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วจะประกาศแน่นอน,ด้าน นายสุวิทย์ กล่าวว่า ไม่ได้หารือถึงเรื่องการเมือง แต่มาพูดคุยกันถึงการเสนอเรื่องตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. แสดงท่าทีชัดเจนว่าสนใจการเมืองนั้น ตนไม่ทราบ,เมื่อถามว่า ส่วนตัวสนใจงานการเมืองหรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ยังครับ เอาไว้ก่อน ผมขอทำงานการบ้านก่อน,ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การหารือของ นายอุตตม นายสนธิรัตน์ นายสุวิทย์ และนายกอบศักดิ์ ในห้องทำงานของนายสมคิดครั้งนี้นั้น นายสมคิดไม่ได้อยู่ร่วมหารือด้วย เนื่องจากเมื่อนายสมคิดเสร็จภารกิจตรวจเยี่ยม และมอบนโยบายการดำเนินงานแก่คณะผู้บริหารกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯแล้ว นายสมคิดได้มีนัดรับประทานอาหารเที่ยงกับนักธุรกิจจากฮ่องกง และได้แจ้งทีมงานว่าจะไม่เข้าทำเนียบรัฐบาลอีก รวมถึงนายสมคิดก็มีอาการป่วยด้วย. | อุตตม ลั่นถึงเวลาประกาศแน่นอน นั่งเก้าอี้หัวหน้าพลังประชารัฐหรือไม่ หลัง 4 รมต.รอเก้อหารือ สมคิด แต่ติดภารกิจนอกทำเนียบฯ | ข่าว,การเมือง | อุตตม สาวนายน,รมว.อุตสาหกรรม,พรรคพลังประชารัฐ,ตั้งพรรคการเมือง,พรรคหนุน คสช.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1383042 |
ตั๊น บุกซอยหมอเหล็งมอบถุงยังชีพ ชงรัฐเร่งสร้างอาชีพ หลังวิกฤติโควิด | ตั๊น จิตภัสร์ บุกซอยหมอเล็งชุมชนคลองส้มป่อย พื้นที่ราชเทวี มอบถุงยังชีพ แอลกอฮอล์ และหน้ากาก Face Shield สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ผ่านโครงการ ปันหัวใจใส่หน้ากาก พร้อมชงรัฐบาลเร่งสร้างอาชีพ ทุ่มงบฯหนุนนวัตกรรมใหม่เมื่อวันที่ 16 เม.ย.63 น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาฯพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมามอบถุงยังชีพ หน้ากากผ้า และแอลกอฮอล์สเปรย์ ให้พี่น้องประชาชนในชุมชนคลองส้มป่อย หมู่บ้านทางรถไฟสายแปดริ้ว และชุมชนหมอเหล็ง เขตราชเทวี พร้อมรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ชุมชนดังกล่าวน.ส.จิตภัสร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตลอดหนึ่งเดือนได้มีความมุ่งมั่นตั้งใจลงพื้นที่ไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมาหลายพื้นที่ นอกเหนือจากการแจกจ่ายถุงยังชีพ หน้ากากผ้า แอลกอฮอล์สเปรย์ แล้วยังได้จัดส่งหน้ากาก Face Shield สำหรับแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่สนใจทั่วประเทศ ผ่านโครงการ ปันหัวใจใส่หน้ากาก ที่ได้ร่วมกับครอบครัว และเพื่อนๆจัดทำขึ้น ส่งมอบกระจายไปทั่วประเทศแล้วจากภาวะความทุกข์ยากที่เกิดขึ้น จึงอยากขอให้รัฐบาลทุ่มเทการช่วยเหลือไปสู่พี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการเตรียมการสำหรับการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจ การทำมาหากิน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาส่งเสริม สนับสนุนในการสร้างอาชีพใหม่ๆ ภายหลังวิกฤติโควิด ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของประเทศและโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น เพื่อรองรับวิถีชีวิต และวิถีความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยและสังคมโลก ที่ต่อไปจะเน้นไปที่การดูแลสุขอนามัยของประชาชาชน น.ส.จิตภัสร์กล่าวน.ส.จิตภัสร์ กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาการจ่ายเงินเยียวยา 5 พันบาท ขณะนี้ยังเป็นห่วงการบริหารจัดการ เพราะได้นับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนตามชุมชนต่างๆว่าประชาชนอีกไม่น้อยที่เข้าไม่ถึง โครงการเราไม่ทิ้งกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรรีบแก้ไขปรับปรุงระบบคัดกรองโดยใช้ AI และ Big data เพื่อทำให้มีข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่ตกหล่น และให้ความสำคัญผู้ที่เข้าไม่ถึงระบบ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนยากคนจน และผู้ที่กำลังเดือดร้อนอย่างหนักอยู่ในขณะนี้. | ตั๊น จิตภัสร์ บุกซอยหมอเล็ง ชุมชนคลองส้มป่อย พื้นที่ราชเทวี มอบถุงยังชีพ แอลกอฮอล์ และหน้ากาก Face Shield สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ผ่านโครงการ ปันหัวใจใส่หน้ากาก พร้อมชงรัฐบาล | ข่าว,ทั่วไทย | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,ซอยหมอเหล็ง,มอบถุงยังชีพ,ตั๊น จิตภัสร์,ปันหัวใจใส่หน้ากาก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1822511 |
ชูเทคนิคเปิดใจรับฟังสกัดสูญเสียด้านสุขภาพจิต | นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ,สังคมเริ่มให้ความ สำคัญกับความรู้ด้านสุขภาพจิตมากขึ้น แต่ปัญหาด้านสุขภาพจิตและความสูญเสียที่เกิดขึ้นยังคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก โลกยุคใหม่ที่เร่งรีบเคร่งเครียดมากขึ้น มีเวลาให้กันน้อยลง, ,สาเหตุเหล่านี้นำไปสู่ความเครียดและปัญหาด้านสุขภาพจิตอื่นๆ, อาทิ โรคซึมเศร้า มีผู้ประสบกับปัญหานี้อยู่ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ทั่วประเทศ และมีตัวเลขผู้เสียชีวิตกว่า 4,000 รายต่อปีจากการฆ่าตัวตาย หรือมีคนเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย 1 รายในทุก 2 ชั่วโมง กรมสุขภาพจิตได้เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงจัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในงานสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติตามจุดต่างๆขึ้นทั่วประเทศกว่า 20 แห่งตลอดเดือน พ.ย.นี้ เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพจิตที่ดี โดยเน้นสุขภาพจิตไทย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง,อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวต่อว่า เพื่อรณรงค์แสดงพลังและสร้างความตระหนักถึงความเข้าใจด้านสุขภาพจิตอย่างต่อเนื่อง ขอแนะนำเทคนิคในการเปิดใจรับฟังกัน 10 ประการตามแนวคิด ,ฟังกันวันละสิบ, เพราะการรับฟังคือพลังที่ดีที่สุด ได้แก่,1.แสดงความใส่ใจ พยักหน้าตอบรับด้วยท่าทีอบอุ่น,2.ฟังอย่างเปิดใจ,3.ใจอยู่กับผู้พูดตลอด ไม่เผลอคิดแทน,4.สังเกตภาษากายของผู้พูด สีหน้า แววตา ท่าทางว่าเปลี่ยนแปลงอย่างไร,5.ฟังน้ำเสียง จังหวะการพูด ว่ามีความรู้สึกอย่างไร,6.ระหว่างที่ฟังควรพยักหน้าเป็นระยะๆ,7.มีการทวนข้อความหรือซักถามเพิ่มเติม,8.การฟัง จะช่วยให้ได้ระบายความเครียด,9.คนทุกคนอยากมีค่าในสายตาของใครสักคนเสมอ,10.ใช้ใจรับรู้อารมณ์ ความรู้สึกของผู้พูด. | สังคมเริ่มให้ความ สำคัญกับความรู้ด้านสุขภาพจิตมากขึ้น แต่ปัญหาด้านสุขภาพจิตและความ สูญเสียที่เกิดขึ้นยังคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก | ข่าว,สังคม | กรมสุขภาพจิต,เกียรติภูมิ วงศ์รจิต,โรคซึมเศร้า,ฆ่าตัวตาย,สุขภาพจิต,รณรงค์,งานสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ,สุขภาพ | https://www.thairath.co.th/news/society/1710343 |
พบกัมมันตภาพรังสีปกคลุมยุโรป คาดเกิดอุบัติเหตุนิวเคลียร์ในรัสเซีย | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ไออาร์เอสเอ็น สถาบันความปลอดภัยนิวเคลียร์ของฝรั่งเศสเปิดเผยว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเมฆหมอกกัมมันตภาพรังสีลอยปกคลุมหลายพื้นที่ในทวีปยุโรป ซึ่งนี่อาจเป็นข้อบ่งชี้ว่า อาจเกิดอุบัติเหตุบางอย่างขึ้นที่โรงงานนิวเคลียร์ในประเทศรัสเซียหรือที่คาซัคสถานในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายน,ฌอง-มาร์ค เปเรส ผู้อำนวยการไออาร์เอสเอ็น ระบุในแถลงการณ์ว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ไออาร์เอสเอ็นและหน่วยงานความปลอดภัยนิวเคลียร์อีกหลายแห่งในยุโรป ตรวจพบธาตุ รูทีเนียม 106 ในระดับสูงในชั้นบรรยากาศครอบคลุมหลายประเทศในยุโรปเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม และค่อยๆ ลดลงตั้งแต่ 6 ตุลาคมเป็นต้นไป โดยธาตุดังกล่าวไม่สามารถเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่เกิดจากการแยกอะตอมในเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์,อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่อาจระบุจุดที่ปล่อยกัมมันตภาพรังสีออกมาได้ แต่จากแผนภูมิสภาพอากาศทำให้พบว่าจุดที่เป็นไปได้ที่สุดคือพื้นที่ตอนใต้ของเทือกเขาอูรัล ซึ่งพาดผ่านรัสเซียและคาซัคสถาน แต่พวกเขาไม่คิดว่าเกิดอุบัติเหตุกับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แต่น่าจะเป็นที่โรงเก็บเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ หรือที่ศูนย์เวชศาสตร์นิวเคลียร์ และเมฆหมอกดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ รวมทั้งต่อธรรมชาติในยุโรปแต่อย่างใด | หน่วยงานความปลอดภัยนิวเคลียร์ในฝรั่งเศสเผยว่า ตรวจพบกัมมันตภาพรังสีระดับสูงในชั้นบรรยากาศปกคลุมหลายประเทศในยุโรป เชื่อเกิดอุบัติเหตุนิวเคลียร์ขึ้นในรัสเซียหรือคาซัคสถาน | ข่าว,ต่างประเทศ | กัมมันตภาพรังสี,รัสเซีย,ยุโรป,นิวเคลียร์,อุบัติเหตุ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1123254 |
ฟังจากปากยาย น้องต๋องนร.เทคนิคสู้ชีวิต แม่อุ้มน้อง8เดือนมาให้เลี้ยง | จากเรื่องราวของหนุ่มน้อยนักเรียนเทคนิค วัย 16 ปี ชาวสมุทรสาคร ที่ชีวิตต้องดิ้นรนต่อสู้ทำงานหาเงินส่งตัวเองให้ได้เรียนหนงสือ ทั้งยังต้องดูแลยายและน้องอายุ 8 เดือน ที่ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.60 นั้น ผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับ นายนพรัตน์ จักรมา หรือน้องต๋อง อายุ 16 ปี นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร ชั้น ปวช.ปี 1 พักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 6 ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พบว่าสภาพบ้านของน้องต๋องที่อาศัยอยู่กับยาย และยังมีน้องชายวัย 8 เดือน นั้นเป็นบ้านเก่าชำรุดทรุดโทรม หลังคามุงด้วยสังกะสีและตับจากพอกันแดดกันฝนได้บ้าง แต่ก็ไม่ทั่วทั้งหลัง พื้นไม้ภายในบ้านก็ต้องค่อยๆ เดิน รอบบ้านแวดล้อมไปด้วยต้นจากและบึงน้ำ ยังดีที่บ้านที่ปลูกอยู่นั้นสร้างบนที่ดินที่เป็นของญาติกัน,น้องต๋องเล่าว่า ตนเองกำลังเรียนอยู่ในระดับชั้น ปวช.ปี 1 สาขาอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร อาศัยอยู่กับนางยุพา วรรณกี้ อายุ 65 ปี ผู้เป็นยายและเด็กชายภาคิน เวียงสันเทียะ อายุ 8 เดือน เป็นน้องชายต่างบิดา โดยตนได้ออกหางานทำเป็นรายได้พิเศษตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เพื่อหาเงินไว้ใช้เรียนหนังสือและซื้อข้าวกินกับยาย โดยได้เข้าไปเป็นพนักงานของคุ้งน้ำรีสอร์ต ทำงานทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์และวันนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 06.30 – 15.30 น. ต่อมาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แม่ได้เอาน้องชายมาให้ยายเลี้ยงอีกคน ทำให้ตนต้องหางานพิเศษทำเพิ่ม เพื่อหาเงินมาซื้อนมให้น้อง จึงไปรับจ้างที่ร้านขายหมูกระทะทุกวันหลังเลิกเรียน เมื่อเสร็จจากร้านหมูกระทะตอนประมาณ 4 ทุ่มก็จะกลับเข้าบ้านดูน้อง ดูยาย ทำการบ้าน แล้วอาบน้ำนอน พอเช้าจะดูแลน้อง ทำความสะอาด อาบน้ำให้น้องก่อน จากนั้นจึงจะแต่งตัวไปโรงเรียน,ขณะที่ยายยุพาเล่าว่า เลี้ยงดูน้องต๋องมาตั้งแต่อายุประมาณ 1 ขวบ หลังจากที่พ่อกับแม่แยกทางกันและก็ไม่เคยมีใครกลับมาดูน้องต๋องอีกเลย ซึ่งในอดีตตนพอทำงานได้บ้าง ทางครอบครัวแม้จะยากจนแต่ก็ไม่เดือดร้อนอะไรมากนัก จนอายุมากขึ้นก็หันไปเย็บตับจากขายมีรายได้วันละ 70 – 100 บาท ส่วนน้องต๋องออกหางานทำเป็นรายได้พิเศษในวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ เงินที่ได้มาก็จะเอามาให้ยายเก็บไว้ซื้ออาหาร ยารักษาโรค และเรียนหนังสือ,จนกระทั่งเมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว แม่ของน้องต๋องกลับมาที่บ้านอีกครั้งหลังจากที่หายไปนานหลายปี แต่การกลับมาคราวนี้ก็ได้อุ้มน้องพอร์ตน้องชายต่างพ่อของน้องต๋องกลับมาทิ้งไว้ให้ตนเลี้ยง ซึ่งทีแรกก็บอกว่าจะส่งเงินเป็นค่านมมาให้ทุกเดือน แต่ส่งมาให้แค่สองครั้งแล้วก็หายไป โทรศัพท์ไปหาแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก ตนก็ต้องเลี้ยงดูเรื่อยมา ส่วนน้องต๋องเองต้องหางานทำมากขึ้น เงินที่ตั้งใจว่าจะเก็บไว้สำหรับใช้ซื้ออุปกรณ์การเรียนก็ต้องเอาออกมาซื้อนมให้น้องชาย อีกอย่างน้องพอร์ตต้องกินนมแบบพิเศษไม่สามารถกินนมผงนมวัวแบบทั่วไปได้ เพราะแพ้นมวัว เมื่อกินเข้าไปแล้วจะเกิดอาการคัน แล้วเด็กก็จะเอามือไปเกาจนเกิดเป็นแผลพุพอง แต่นมแบบพิเศษนั้นก็จะมีราคาแพงกว่านมปกติทั่วไป จึงเป็นอีกหนึ่งภาระที่น้องต๋องต้องแบกรับมา,นางยุพา กล่าวอีกว่า รู้สึกสงสารหลานชายทั้งสองคนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะน้องต๋องที่ต้องมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงเป็นกำลังสำคัญของครอบครัว ต้องมาทำงานหาเงินเพื่อเลี้ยงดูยาย เลี้ยงน้อง และส่งตัวเองเรียนหนังสือ ซึ่งแต่ละวันกว่าหลานชายจะกลับมาถึงบ้านก็มืดค่ำ เพราะไปทำงานพิเศษที่ร้านหมูกระทะ เมื่อมาถึงบ้านก็ทำการบ้านเข้านอน เช้าก็ต้องรีบไปโรงเรียน แทบจะไม่มีเวลาได้เห็นหน้าน้อง แต่ก็ยังนับว่าน้องต๋องยังพอจะโชคดีอยู่บ้างที่มีลุง ซึ่งเป็นลูกชายคนที่ 3 ของตนคอยช่วยเหลือในเรื่องของค่าเทอมที่ไม่ได้มากอะไรนัก ส่วนที่เหลือทั้งค่ากินของ 3 ชีวิต ค่านมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งน้องต๋องต้องเป็นคนหามาเองทั้งหมด ขณะที่ตนเองก็ยังนับว่าโชคดีที่มีหลานชายอย่างน้องต๋องที่เป็นเด็กดี มีความประพฤติเรียบร้อย ขยันขันแข็ง ไม่เกเร ตั้งใจเล่าเรียนและมีความรับผิดชอบ ไม่ทิ้งน้อง ไม่ทิ้งยาย ซึ่งในส่วนความตั้งใจของยายนั้นก็อยากจะเห็นน้องต๋องเรียนให้สูงๆ ในอนาคตจะได้ไม่ลำบาก,ด้านน้องต๋อง บอกอีกว่า ทุกวันนี้ตนเองไม่เคยมองว่ายายกับน้องชายเป็นภาระอะไรเลย ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อประมาณ 2 วันที่แล้วนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน พม.สมุทรสาคร พร้อมกับ ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งฯ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวฯ เข้ามาเยี่ยมและมอบสิ่งของกับเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง ทางด้านของวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร ก็มอบทุนการศึกษาให้ในวันไหว้ครูเป็นเงิน 5,000 บาท ขณะที่ความฝันของตนเองก็อยากจะเรียนหนังสือให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อจะได้มีงานทำดีๆ มีรายได้มาดูแลยายและน้อง ส่วนสิ่งที่ตนเองต้องการอย่างมากในตอนนี้ก็คงเป็นโน้ตบุ๊กสำหรับใช้เพื่อการเรียนแต่ละวิชา และเครื่องมืออุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับสาขาช่างอิเล็กทรอนิกส์ เพราะต้องกลับมาทำงานที่บ้านเพื่อส่งอาจารย์ อีกอย่างคือ นมผงของน้องชายที่ต้องเป็นชนิดพิเศษสำหรับเด็กที่แพ้นมวัว ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะช่วยเหลือครอบครัวนายนพรัตน์ จักรมา หรือ น้องต๋อง สามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 06-2461-0028 หรือโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยสาขาศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร หมายเลข 986–1–21375–9 ชื่อบัญชี นายนพรัตน์ จักรมา. | เปิดชีวิตน้องต๋องหนุ่มน้อยนักเรียนเทคนิคที่ต้องเลี้ยงดูน้องชายวัย 8 เดือนที่แม่มาทิ้งไว้ ออกทำงานหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้านที่อยู่กับยายวัย 65 ปี หาเงินซื้ออุปกรณ์การเรียน ซื้อนมให้น้อง ไม่เคยมองว่าเรื่องเหล่านี้เป็นภาระ | ข่าว,ทั่วไทย | นักเรียนสู้ชีวิต,แม่เอาน้องมาให้เลี้ยง,ทำงานหาเงินเรียน,ธารใจไทยรัฐ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/976170 |
มุมมองทรีนีตี้ | หุ้นซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 47.25 บาท บวก 0.25 บาท, PTTEP ปิด 128 บาท บวก 3 บาท, AOT ปิด 66 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, PTTGC ปิด 63 บาท บวก 1.25 บาท และ CPALL ปิด 82 บาท บวก 0.75 บาท,ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ ประเมินหุ้นเดือน มิ.ย. แกว่งในกรอบ 1,580-1,680 จุด โดยดัชนีสร้างฐานที่บริเวณ 1,600 จุดได้แล้ว เนื่องจากเป็นระดับที่ค่อนข้างถูกในแง่ Valuation และจากการคำนวณล่าสุดพบว่าระดับ Earning yield gap ของหุ้นไทย สามารถยืนเหนือค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1,660 จุด ได้แล้ว แต่ดัชนีที่ขึ้นมาถึงบริเวณนี้จะเริ่มแกว่งออกด้านข้าง,ในเชิงกลยุทธ์แนะให้ถือสำหรับผู้ที่เข้าลงทุนดัชนีต่ำกว่า 1,620 จุด และหาจังหวะขายทำกำไร หากดัชนีขึ้นไปที่ 1,680 จุด,ปัจจัยที่ต้องติดตามเดือนนี้ คือการเมืองในประเทศหลังพลังประชารัฐได้ตั้งรัฐบาล แต่คงยังไม่มีเสถียรภาพเท่าที่ควร อาจทำให้การออก พ.ร.บ.งบประมาณเผชิญอุปสรรคระหว่างทางได้ จึงมีมุมมอง เป็นกลาง,ส่วนการประชุมคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ประเมินว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.25-2.50% แต่มีโอกาส 50:50 ที่จะปรับลดประมาณการ Dot plots ลงจากเดิม 1 ขั้น หากเกิดขึ้นจริง จะส่งผลให้ Bond yield สหรัฐฯทรงตัวระดับต่ำ เป็นบวกต่อหุ้นทั่วโลก,ขณะที่การประชุม G20 วันนี้ 28-29 มิ.ย.นี้ โดนัลด์ ทรัมป์ บอกจะใช้เวทีนี้ หารือกับ สี จิ้น ผิง โดยตรง และจะตัดสินใจหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 3.25 แสนล้านดอลลาร์หรือไม่,สำหรับธีมลงทุนที่น่าสนใจ ช่วงต้นเดือนที่ยังกังวลสงครามการค้า คาดหุ้น Domestic Play มีโอกาสปรับตัวดีกว่าตลาด เลือกหุ้นเด่น ADVANC, CPALL, CK ขณะที่หุ้นกลุ่มวัฏจักรมีโอกาสรีบาวด์ ขึ้นได้ในช่วงถัดไป หาก มี Positive surprise มองหุ้น PTTEP, PTTGC และ III น่าสนใจ,ส่วนธีมสุดท้าย คือหุ้นปันผลสูง มองตัวเด่นที่น่าสนใจได้แก่หุ้นใหญ่ในดัชนี SETHD ได้แก่ PTT, ADVANC, SCC, SCB, BBL, PTTGC และ LH,อินเด็กซ์ 51 | ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 10 มิ.ย. 62 ปิดที่ 1,664.73 จุด เพิ่มขึ้น 11.23 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 47,579.69 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,625.92 ล้านบาท | null | ดัชนีหุ้นไทย,ณัฐชาต เมฆมาสิน,บล.ทรีนีตี้,หุ้นซื้อขายสูงสุด,ธนาคารกลางสหรัฐ,เงาหุ้น,อินเด็กซ์ 51,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/stocks-gold/1588785 |
ทุนกองทัพไทย (4): ธุรกิจพลังงานของกองทัพ | บทความนี้เป็นตอนที่ 4 ในซีรีส์ ทุนกองทัพไทย บทความ 3 ตอนแรกอธิบายถึงกรรมสิทธิ์ทุนของกองทัพไทยในธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ทีวี สถานีวิทยุ รวมทั้งสิทธิครอบครองที่ดินประมาณ 5 ล้านไร่ เพื่อชี้ให้เห็นว่ากองทัพไทยคือกลุ่มทุนขนาดใหญ่และผูกขาดบางภาคธุรกิจมานานกว่าครี่งศตวรรษ ความเป็นกลุ่มทุนของกองทัพไทยเป็นเอกลักษณ์ของทุนนิยมแบบไทยๆ เพราะกองทัพในประเทศทุนนิยมอย่างสหรัฐฯและญี่ปุ่นไม่ถือหุ้นบริษัทและไม่ลงทุนในกิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศบทความนี้อธิบายเกี่ยวกับธุรกิจพลังงานของกองทัพไทย กล่าวคือ ธุรกิจน้ำมันและธุรกิจไฟฟ้า การสำรองพลังงานสำคัญต่อการป้องกันประเทศ เพราะกองทัพเคลื่อนทัพไม่ได้ถ้าไม่มีน้ำมัน และฐานทัพดำเนินงานไม่ได้ถ้าไม่มีไฟฟ้า กองทัพเป็นผู้ผลิตน้ำมันตั้งแต่พ.ศ. 2499 เนื่องจากกรมการพลังงานทหารได้รับโอนกิจการขุดเจาะและกลั่นน้ำมันที่อ.ฝาง จ.เชียงใหม่จากกรมโลหะกิจ (ซึ่งต่อมาคือกรมทรัพยากรธรณีสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม) การโอนกิจการดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลย์สงคราม และภายใต้การนำของจอมพลสฤษดิ์ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก กรมการพลังงานทหารได้จัดตั้งศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ รวมทั้งกองสำรวจและผลิต ได้สำรวจพบแหล่งน้ำมันเพิ่มเติมที่อ.ไชยปราการ ต่อมาก็ขยายการสำรวจแหล่งน้ำมันไปที่ จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.เชียงราย และจ.พะเยาในระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมากรมการพลังงานทหารมีกองสำรวจและผลิตปิโตรเลียมมาจนถึงปัจจุบัน ปีนี้กรมการพลังงานทหารมีแผนการผลิตน้ำมันดิบ 329400 บาร์เรล แม้ว่าเทียบแล้วไม่ถึง 1% ของสัดส่วนการผลิตจากแหล่งน้ำมันอื่นๆโดยรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนแต่ปริมาณน้ำมันดิบดังกล่าวก็มีมูลค่ากว่า 500 ล้านบาทเมื่อคำนวณด้วยราคา 45 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ถ้าประเมินด้วยมูลค่าปีละ 500 ล้านบาทในระยะเวลา 60 ปีก็จะคิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 30000 ล้านบาท ถ้าการเบิกจ่ายผลผลิตจากโรงกลั่นของกรมการพลังงานทหารมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันประเทศก็สอดคล้องกับหน้าที่ของกองทัพ แต่ถ้ามีการขายน้ำมันดิบหรือขายผลผลิตจากโรงกลั่นของกรมการพลังงานทหารให้ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยราชการอื่น ก็จะเกิดคำถามว่าส่วนธุรกิจขายปลีกน้ำมันที่เรียกว่าปั๊มสามทหารไม่ได้สังกัดกรมการพลังงานทหารแม้ว่าใช้รูปทหารเป็นสัญลักษณ์เพื่อส่งเสริมลัทธิทหารนิยม ปั๊มสามทหารสังกัดองค์การเชื้อเพลิงซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งโดยรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ในปี พ.ศ. 2503 องค์การเชื้อเพลิงมีหน้าที่ขายปลีกน้ำมัน จัดหาและกลั่นน้ำมัน ฉันไม่มีสถิติว่าองค์การเชื้อเพลิงรับซื้อน้ำมันจากกรมการพลังงานทหารมากน้อยแค่ไหน องค์การเชื้อเพลิงดำเนินงานจนกระทั่งรัฐบาลธานินทร์ กรัยวิเชียรจัดตั้งองค์การก๊าซธรรมชาติแห่งประเทศไทยมาแทนที่ในปี พ.ศ. 2520 ต่อมาก็กลายเป็นการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ในพ.ศ.2521 ยุครัฐบาลพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ปั๊ม ปตท.จึงเข้ามาแทนที่ปั๊มสามทหารในที่สุดหลังรัฐประหารครั้งล่าสุด กองทัพบกริเริ่มโครงการใช้ที่ดินในครอบครอง4460 ไร่เพื่อผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์หรือที่เรียกว่าโซลาร์ฟาร์มร่วมกับภาคเอกชน มีการทำเรื่องขอให้กระทรวงพลังงานรับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มในที่ดินกองทัพบก ไม่ปรากฎชัดเจนว่าในภายหลังกระทรวงพลังงานตัดสินใจอย่างไรถ้ากองทัพบกมีโครงการผลิตโซลาร์ฟาร์มเพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าภายในฐานทัพก็จะสอดคล้องกับหน้าที่ของกองทัพ แต่การใช้ที่ดินในครอบครองของกองทัพบกทำธุรกิจโซลาร์ฟาร์มเพื่อขายไฟฟ้าแสดงให้เห็นว่ากองทัพไม่ได้ใช้ที่ดินส่วนนั้นซ้อมรบหรือฝึกกำลังพล ชัดเจนว่าที่ดินส่วนนั้นไม่ได้ใช้เพื่อการป้องกันประเทศซึ่งเป็นหน้าที่ของกองทัพ ทำให้ประเมินได้ว่ากองทัพครอบครองที่ดินมากเกินความจำเป็น หน่วยราชการอื่นควรรับโอนดินส่วนนั้นเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นให้สอดคล้องกับหน้าที่ของภาครัฐบทความตอนหน้าของซีรีส์ทุนกองทัพไทย จะอธิบายถึงแรงงานซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญที่สุดของกองทัพไทยทุนกองทัพไทย (ตอนที่ 1)http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1332607776 ทุนกองทัพไทย (ตอนที่ 2)http://www.prachatai.com/journal/2012/04/40226 ทุนกองทัพไทย (ตอนที่ 3)http://prachatai.com/journal/2015/06/59565 ประวัติความเป็นมากรมการพลังงานทหารhttp://ded.mod.go.th/introduce/history.aspx แผนงานปฏิบัติงานเจาะและผลิตประจำปี 59: http://ep.npdc.mi.th/documents/work/Plan/ActionPlan59.pdf รายงานสถิติพลังงานของประเทศไทยhttp://www2.eppo.go.th/info/YearBook/index.html พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การเชื้อเพลิง พ.ศ. 2503http://dl.parliament.go.th/handle/lirt/27941พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การก๊าซธรรมชาติแห่งประเทศไทยhttp://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2520/A/017/51.PDF พระราชบัญญัติการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2521http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2521/A/152/1.PDF จี้พลังงานเปิดรับซื้อไฟเพิ่ม ฐานเศรษฐกิจhttp://prdnews.egat.co.th/clipnews_egat/2015/1/23/corporate-www.thanonline.com.pdf | บทความนี้เป็นตอนที่ 4 ในซีรีส์ ทุนกองทัพไทย บทความ 3 ตอนแรกอธิบายถึงกรรมสิทธิ์ทุนของกองทัพไทยในธุรกิจธนาคารพาณิชย์ [1] ทีวี สถานีวิทยุ [2] รวมทั้งสิทธิครอบครองที่ดินประมาณ 5 ล้านไร่ [3] | เศรษฐกิจ,ความมั่นคง | กองทัพ,กานดา นาคน้อย,ทุนกองทัพไทย,ธุรกิจพลังงาน | https://prachatai.com/journal/2016/07/67156 |
ฝ่ายค้านขอถอนร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบการชุมนุมในที่สาธารณะ ออกจากการพิจารณา | การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (9 มี.ค. 54) ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการชุมนุมในที่สาธารณะ พ.ศ ซึ่งมีการเสนอ 5 ฉบับ โดยนายพีระพันธ์ พาลุสุข และนายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.เพื่อไทย ได้ขอถอนร่างที่ตนเองเสนอออกไป โดยให้เหตุผลว่า ร่างพระราชบัญญัติที่เสนอโดยรัฐบาลขัดกับหลักการตามรัฐธรรมนูญทำให้เหลือ ร่างกฎหมายพิจารณาเพียง 3 ฉบับจากนั้นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้ชี้แจงเหตุผลว่า ร่างพระราชบัญญัติฉบับที่รัฐบาลเสนอเพื่อใช้ในการควบคุมการชุมนุมสาธารณะ ซึ่งแกนนำผู้ชุมนุมต้องแจ้งให้ตำรวจพื้นที่ทราบก่อนล่วงหน้า 72 ชั่วโมง หากผู้ชุมนุมไม่เห็นด้วยก็สามารถร้องขอต่อศาลเพื่อให้มีคำสั่งชี้ขาดได้ หากศาลมีคำสั่งว่าการชุมนุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย เจ้าหน้าที่สามารถประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ควบคุมและให้ผู้ ชุมนุมออกจากพื้นที่โดยเร็ว หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย พร้อมยืนยันว่า ร่างพระราชบัญญัติที่รัฐบาลพิจารณาอย่างรอบคอบและสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญทุก ประการอย่างไรก็ตามการพิจารณาต้องสะดุดอีกครั้งและเกิดความวุ่นวาย เมื่อนายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย พยายามอ่านหลักการและเหตุผล ฉบับที่ตนเองเสนอ แต่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนได้ขอถอนรายชื่อออกจากผู้เสนอ ออกจากร่างดังกล่าวเพราะนายจุมพฏ ได้ย้ายออกจากพรรคเพื่อไทยไปแล้ว ทำให้เกิดการโต้เถียงกันระหว่าง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ขอนับองค์ประชุมแบบขานชื่อ | การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (9 มี.ค. 54) ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการชุมนุมในที่สาธารณะ พ.ศ | การเมือง,ความมั่นคง | ร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ | https://prachatai.com/journal/2011/03/33458 |
ยึดฝูงไทยลีกต่อ กิเลนผยอง ยกพลบุกถล่มแข้งเทพ 4-2 | ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2017 นัดกลางสัปดาห์ วันพุธที่ 3 พฤษภาคม เป็นเกมนัดที่ 12 ของฤดูกาล คู่เอกอยู่ที่สนามธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม แข้งเทพ แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 8 รับการมาเยือนของ กิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์เก่า ที่กำลังนำจ่าฝูงในตอนนี้,เกมครึ่งแรกผ่านไปถึงนาทีที่ 14 แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้ประตูนำ 1-0 จากจังหวะที่ กิลแบร์โต มาเชนา กระชากบอลลุยเข้าไปในเขตโทษ ก่อนเปิดกลับมาให้ ดราแกน บอสโควิช สะกิดตุงตาข่าย,แต่อีก 6 นาทีต่อมา เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากลูกเตะมุมสุดสวยของ ธีราทร บุญมาทัน ที่มุดเข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น,จากนั้นในนาทีที่ 38 ทีมเยือนแซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ ธีรศิลป์ แดงดา แตะบอลหลบนายทวารเจ้าถิ่น ก่อนวิ่งเบียดไปกับกองหลังแข้งเทพ และโหม่งบอลเข้าประตูไป,แค่นาทีแรกของครึ่งหลัง พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา กระชากบอลเข้าไปยิงในเขตโทษอย่างสวยงามให้แชมป์เก่านำห่าง 3-1 และในนาทีที่ 56 ธีรศิลป์หลุดเข้าไปยิงโล่งๆ ในเขตโทษ เป็นประตูที่ 2 ของตัวเองช่วยให้กิเลนผยองนำห่าง 4-1,อีก 14 นทีต่อมา เกมเริ่มคึกคักเมื่อเจ้าถิ่นได้ประตูไล่มาเป็น 2-4 จากลูกยิงในเขตโทษของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ จากนั้นไม่มีการทำประตูเพิ่มอีก ทำให้จบเกม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด บุกมาชนะ 4-2 นำจ่าฝูงต่อไป โดยมี 31 แต้ม จาก 12 นัด,ส่วนผลคู่อื่นมีดังนี้,สุโขทัย เอฟซี เสมอ เชียงราย ยูไนเต็ด 2-2,สุพรรณบุรี เอฟซี ชนะ ซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ 3-1,ราชนาวี เอฟซี เสมอ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 0-0,พัทยา ยูไนเต็ด ชนะ ไทยฮอนด้า 1-0,บางกอกกล๊าส เอฟซี ชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-1,ราชบุรี เอฟซี ชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี 5-2,ชลบุรี เอฟซี ชนะ การท่าเรือ เอฟซี 2-1,โปลิศ เทโร ชนะ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด 2-1 | ธีรศิลป์ แดงดา เหมาคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ กิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด บุกไปถล่ม แข้งเทพ แบงค็อก ยูไนเต็ด 4-2 ทำให้ยังนำเป็นจ่าฝูงฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2017 ต่อไป | กีฬา,ฟุตบอลไทย | ไทยลีก,ผลบอล,โตโยต้า ไทยลีก,เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด,แบงค็อก ยูไนเต็ด | https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/930562 |
นัดถก มก.รื้อสะพานเกษตร รับเหมาสายสีเขียวให้ช่วยเสนอวิธีลดผลกระทบขุดรถไฟฟ้า | จะมีการจัดประชุมชี้แจงกับประชาคมมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ เพื่อชี้แจงกรณีการรื้อสะพานข้ามแยกเกษตรและโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพื่อเป็นการแจ้งเส้นทางเลี่ยง และผลกระทบรวมทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหาระหว่างที่มีการรื้อสะพานข้ามแยกเกษตรและขณะก่อสร้าง รวมทั้งในที่ประชุมจะมีการเปิดให้ประชาชน บุคลากรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อเป็นการหาทางออกร่วมกันที่ดีที่สุด เนื่องจากบริเวณแยกเกษตรศาสตร์ ถนนพหลโยธินเป็นจุดที่มีการจราจรหนาแน่น และยังมีทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน และชุมชน โดยในวันที่ 3 ก.ย.58 นี้ทางผู้รับเหมาจะได้เสนอแผนจัดการจราจรที่ผ่านความเห็นชอบจากทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกองบังคับการตำรวจราจร (บก.จร.) ซึ่งทางผู้รับเหมาจะประชุมร่วมกับทั้ง 2 หน่วยงานที่รับผิดชอบการจราจรในวันที่ 2 ก.ย. 58 โดยในการเข้าหารือกับประชาคมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นั้นจะต้องเสนอแผนที่ผ่านการเห็นชอบจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น,ทั้งนี้หลังจากการหารือและเสนอแผนจัดการจราจรให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วนั้น ทางผู้รับเหมาจะต้องรอประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ออกข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจร ซึ่งคาดว่าหากมี การออกข้อบังคับเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะสามารถปิดป้ายประกาศประชาสัมพันธ์ลงพื้นที่ก่อสร้างได้เลย เนื่องจากว่าการประชาสัมพันธ์ก่อสร้างโครงการนั้น ทางผู้รับเหมาได้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค.แล้ว ด้านสะพานข้ามแยกเกษตรนั้นหากให้รื้อช่วงปิดเทอม คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อระยะเวลาการก่อสร้าง เพราะในสัญญาระบุว่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 1,350 วันในการก่อสร้างและภายใน 90 วัน หลังจากลงนามเซ็นสัญญาการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะต้องส่งมอบพื้นที่ให้แก่ผู้รับเหมา ซึ่งตามสัญญาจะครบกำหนดในวันที่ 1 ก.ย. 58 นี้ ดังนั้นหากต้อง เลื่อนเวลาออกไปอีกก็จะส่งผลกระทบต่อสัญญาการก่อสร้าง. | เมื่อวันที่ 31ส.ค.2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทอิตาเลียนไทย จำกัด ผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนเหนือหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต สัญญาที่ 1 ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ | ข่าว,ทั่วไทย | มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,อิตาเลียนไทย,รถไฟฟ้าสายสีเขียว,รื้อสะพานเกษตร,สะพานข้ามแยกเกษตร,ข่าว,ทีมข่าวกทม.,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/news/local/522067 |
ศาลนนทบุรี ออกหมายจับ หนุ่มปืนโหดยิง 2 ศพที่บางกรวย | เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 16 ก.ค. 59 พ.ต.ท.ศุภชัย ตระการรังสี รอง ผกก.สส.สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน บก.ภ.จว.นนทบุรี นำหมายค้นของศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 46 คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งหน้าทางเข้ากระทรวงสาธารณสุข ถนนติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี ซึ่งเป็นห้องพักของ นายณัฐภูมิ ฟักยอดทอง กับแฟนสาว หลังจากมีภาพวงจรปิดจับภาพได้ขณะที่ นายณัฐภูมิ ออกมาจากร้านฟาดฟู้ดชื่อดัง อ้างว่าจะมาเอาเอกสารคู่มือจดทะเบียนรถ โดยเจ้าหน้าที่ของคอนโดฯ นำกุญแจสำรองมาเปิดห้องให้,จากการตรวจค้นภายในห้องไม่พบตัว นายณัฐภูมิ มีเพียงรูปถ่ายคู่กับแฟนสาวที่พักด้วยกันแต่หายตัวไปหลังเกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังพบสมุดคู่มือจดทะเบียนรถที่ออกโดยกรมการขนส่งทางบก ระบุหมายเลข 8471 นนทบุรี รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น เอสแอลเค 200 ป้ายแดง 1 เล่ม จึงยึดไว้ตรวจสอบ,ด้านการสอบสวน ล่าสุด ทางศาลจังหวัดนนทบุรี อนุมัติหมายจับ นายณัฐภูมิ หลังจากทางพนักงานสอบสวนนำหลักฐานการสอบปากคำพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ และภาพวงจรปิดที่บันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติของ นายณัฐภูมิ พบว่ามีหมายจับของ สน.บางนา ในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ ลงวันที่ 7 ก.ค. 59 ส่วนแนวทางการสืบสวน ทางตำรวจได้เบาะแสว่าขณะนี้ นายณัฐภูมิ พยายามติดต่อให้คนมีสีที่รู้จักและเคารพนับถือ เป็นคนกลางพาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง ,ไล่ฆ่าระห่ำ ยิงสนั่นบางกรวย ดับ 2 ศพ แท็กซี่คนดีจอดช่วย ตายด้วย | ตำรวจนนทบุรี นำหมายค้นคอนโดหนุ่มปืนโหด หลังก่อเหตุยิงดับ 2 ศพที่บางกรวย ยังไม่เจอตัว ขณะศาลอนุมัติหมายจับแล้ว ล่าสุด ตร. สืบทราบ ผู้ต้องหาเตรียมให้คนมีสีพามอบตัว พบมีประวัติฉ้อโกง | null | ยิงคนตาย,ฆ่าคนตาย,บางกรวย,นนทบุรี,ศุภชัย ตระการรังสี,ยิง 2 ศพ บางกรวย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/665586 |
หน่วยกู้ภัยอิตาลียุติค้นหาเหยื่อแผ่นดินไหว | หน่วยกู้ภัยของอิตาลียุติปฎิบัติการณ์ค้นหา หลังพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 คนในโรงงานที่พังถล่มในเมืองเมโดลล่า ซึ่งเป็นผู้สูญหายรายสุดท้ายจากเหตุแผ่นดินไหว 5.8 ริคเตอร์ทางภาคเหนือเมื่อวันอังคารที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 คน บาดเจ็บ 350 คน และมีผู้ไร้ที่อยู่หลายพันคนขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานแผ่นดินไหวและภูเขาไฟของอิตาลี ออกคำเตือนล่วงหน้าว่าอาจเกิดอาฟเตอร์ช็อคที่มีความรุนแรงระดับเดียวกับแผ่นดินไหว 5.8 ริกเตอร์ด้าน สมาคมธุรกิจคอนฟินดัสเตรียของอิตาลีประเมินมูลค่าความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวว่า อาจอยู่ที่ 500 ล้านยูโรหรือประมาณ 19900 ล้านบาท โดยบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวเป็นเขตอุตสาหกรรม ซึ่งมีอุตสาหกรรมผลิตเนยแข็งและน้ำส้มสายชูหมักในเมืองโมดีน่าที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก สินค้าในสต็อคได้รับความเสียหายเป็นมูลค่าหลายล้านยูโร นับเป็นความเสียหายที่ซ้ำเติมสภาพเศรษฐกิจของอิตาลีที่กำลังเผชิญมรสุมจากปัญหาวิกฤตหนี้สิน | หน่วยกู้ภัยของอิตาลียุติปฎิบัติการณ์ค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุโรงงานถล่มหลังเกิดแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีสัญญานว่าจะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติม | ต่างประเทศ | หน่วยกู้ภัย,อิตาลี,แผ่นดินไหว,โรงงาน | https://news.thaipbs.or.th/content/88345 |
สิงห์ ออลสตาร์ เตะกับหมอ 5 คณะแพทย์ เริ่ม 20 ก.ค.นี้ | วันที่ 26 มิ.ย. 62 ที่หอประชุม บริษัท บุญรอดฯ สามเสน คุณปิติ ภิรมย์ภักดี กรรมการ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และประธานทีมฟุตบอลสิงห์ออลสตาร์ เป็นประธานแถลงข่าวการจัดการแข่งขันฟุตบอลสิงห์ ออลสตาร์ + 5 มหาวิทยาลัยการแพทย์ เปลี่ยนคนไข้ให้เป็นคนเข้ม เตะกับหมอ โดยในงานนี้มีผู้แทนคณะแพทยศาสตร์ จาก 5 มหาวิทยาลัย ได้แก่ ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, รศ.นพ.ดิลก ภิยโยทัย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ผศ.นพ.ธเนศ รังษีขจี รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและการสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ดร. ต่อพันธ์ ทันดร รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และผศ.นพ.เอกสิทธิ ธราวิจิตรกุลรองคณบดี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมแถลงข่าว โดยมี เต๋า สมชาย เข็มกลัด กัปตันทีมสิงห์ออลสตาร์ พร้อมด้วย จอห์น บราโว่, สงกรานต์ รังสรรค์ และ มร.โรเบิร์ต แมทธิวส์ ฟุตบอล ดีเวลอปเมนท์ ออฟฟิเซอร์ สโมสรฟุตบอลเชลซี ร่วมแถลงข่าว,คุณปิติ เปิดเผยว่า สิงห์ ออลสตาร์ เกิดจากการรวมกลุ่มของดารา, นักแสดง, นักร้อง รวมถึงนักกีฬาที่มีชื่อเสียง ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมผ่านกีฬาฟุตบอล ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมต่อเนื่องกันทุกปี ปีนี้ทีมฟุตบอลสิงห์ออลสตาร์ ได้กำหนดภารกิจร่วมกับ 5 คณะแพทย์ในประเทศไทย คือ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะแพทย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, คณะแพทย์มหาวิทยาลัยของแก่น, คณะแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และคณะแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดโครงการ เตะกับหมอ เพื่อนำรายได้จากการจัดกิจกรรมสร้างสวนสุขภาพ เพื่อกระตุ้นให้พี่น้องประชาชนได้หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง พร้อมเปิดคลินิกฟุตบอลให้กับเยาวชนขึ้นทุกสนามที่ไปแข่งขัน โดยร่วมกับสโมสรฟุตบอลชื่อดังของโลก เชลซี ฝึกหัดสูตรติวเข้ม โดยทีมสตาฟฟ์ทีมเชลซี,สำหรับโปรแกรมการแข่งขันทั้ง 5 สนาม ที่ สิงห์ ออลสตาร์ จะลงแข่งมีดังนี้ สนามที่ 1 วันที่ 20 กรกฎาคม ที่สนามการท่าเรือ เอฟซี พบกับ คณะแพทย์มหาวิทยาลัยมหิดล, สนามที่ 2 วันที่ 31 สิงหาคม ที่สนามบีจี ลีโอ สเตเดียม พบกับ คณะแพทย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, สนามที่ 3 วันที่ 28 กันยายน ที่สนามอบจ.ขอนแก่น พบกับ คณะแพทย์มหาวิทยาลัยของแก่น, สนามที่ 4 วันที่ 5 ตุลาคม ที่สนามสิงห์ สเตเดี้ยม เชียงราย พบกับ คณะแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และสนามที่ 5 สนามสุดท้าย วันที่ 30 พฤศจิกายน พบกับ คณะแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่สนามกีฬากลางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่,ทั้งนี้ สิงห์ออลสตาร์ นำโดยเหล่าศิลปินนักแสดงและอดีตนักกีฬาทีมชาติไทยชื่อดัง อาทิ เต๋าสมชาย เข็มกลัด, ศรราม เทพพิทักษ์, มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์, จอห์น บราโว่ , บัวขาว บัญชาเมฆ, แก้ว พงษ์ประยูร, ปราโมทย์ แสงศร ฯลฯ โดยจะมีมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินมากมาย อาทิ ทอม อิศรา, สงกรานต์ รังสรรค์, บิว จรูญวิทย์, เจสซี เมฆวัฒนา, โฟล์คซอง, Season Five และ โอ แว่นใหญ่ พร้อมร่วมลุ้นและเป็นกำลังใจให้กับเหล่านักเตะได้ตามวันและเวลาดังกล่าว ได้กระทบไหล่ซุปตาร์ เชียร์ฟุตบอลมันส์ๆ สำหรับน้องๆ ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมคลินิกฟุตบอล หรือ แฟนๆ และผู้ที่สนใจเข้าร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลดาราสิงห์ออลสตาร์ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/SinghaAllStarTeam | สิงห์ ออลสตาร์ ยกพลดวลแข้ง หมอ 5 คณะแพทย์ สร้างสวนสุขภาพเปลี่ยนคนไข้ให้เป็นคนเข้ม ชวนคนออกกำลังกาย พร้อม เชลซี ร่วมติวเข้ม ฟุตบอลคลินิก | กีฬา,ฟุตบอลไทย | สิงห์ออลสตาร์,ปิติ ภิรมย์ภักดี,ทีมฟุตบอลสิงห์ออลสตาร์,เตะกับหมอ,มหาวิทยาลัยการแพทย์ | https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/1600901 |
หนุ่มโวย BTS เก็บค่าข้ามคลอง 10 บาท | สังคมออนไลน์แห่แสดงความคิดเห็น กรณีมีชายหนุ่มรายหนึ่งได้โพสต์กระทู้ในเว็บไซต์พันทิป โดยใช้หัวข้อว่า ,กทม.หลิ่วตาให้ BTS วุฒากาศเก็บเงินข้ามคลองครั้งละ 10 บาทเหรอครับ,,ในกระทู้ดังกล่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ชายหนุ่มรายนี้ต้องการจะเดินข้ามฝั่งเพื่อผ่านคลองด่าน จากถนนราชพฤกษ์ไปยังถนนวุฒากาศ โดยใช้สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีวุฒากาศ เป็นทางผ่าน ซึ่งจากความเข้าใจของเขานั้น พื้นที่นี้เป็นอาคารสถานีส่วนต่อขยายที่ กทม. สร้างขึ้นจากภาษีของประชาชน จึงสามารถเดินข้ามได้ แต่ขณะที่กำลังเดินข้ามไป เจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าได้เรียกค่าผ่านทาง จำนวน 10 บาท เมื่อชายหนุ่มไม่ยอม จึงเกิดการโต้เถียงกันนานกว่า 20 นาที ท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ได้อนุโลมให้ข้ามผ่านสถานี โดยไม่ได้เก็บเงินแต่อย่างใด,ทั้งนี้ เจ้าของกระทู้ได้ตั้งคำถามว่า เหตุใด กทม. จึงยอมปล่อยให้รถไฟฟ้า BTS เก็บเงินค่าผ่านทาง และไม่ยอมสร้างสะพานให้คนเดินข้ามไปได้อย่างสะดวก รวมทั้งเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเข้ามาดูแลด้วย นอกจากนี้ยังระบุว่า ได้โทรศัพท์ไปร้องเรียนที่คอลเซ็นเตอร์ของ กทม. แล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ,อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยบางส่วนได้แสดงความเห็นว่า เจ้าหน้าที่สถานีไม่ได้ผิดอะไร และปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องแล้ว เพราะสถานีรถไฟฟ้า BTS ไม่ใช่สะพานสำหรับข้ามคลอง บริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่ต้องซื้อบัตรโดยสาร หากต้องการเดินผ่าน ก็ต้องเสียเงิน 10 บาท ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรีบเข้ามาแก้ปัญหา โดยการสร้างสะพานให้ผู้สัญจรโดยเร็ว,นอกจากนี้มีความคิดเห็นบางส่วนกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตอนที่ยังไม่ได้ก่อสร้างเป็นสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศ บริเวณนี้จะมีสะพานเหล็กใช้สำหรับข้ามคลองอยู่ใต้ทางยกระดับ แต่เมื่อรถไฟฟ้า BTS เปิดดำเนินการได้สักพัก สะพานดังกล่าวก็ถูกรื้อหายไปเฉยๆ ทำให้คนที่จะข้ามคลองด่าน ต้องเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร โดยในความเห็นนี้ยังได้แชร์ภาพท หนังสือจากสำนักการจราจรขนส่ง ที่ส่งไปถึง ผู้อำนวยการเขตธนบุรี เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 เพื่อแสดงให้เห็นว่า มีการเสนอให้สร้างสะพานข้ามคลองขึ้นใต้สถานีรถไฟฟ้า วุฒากาศ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการ | หนุ่มโพสต์กระทู้โวย รถไฟฟ้า BTS สถานีวุฒากาศ เก็บค่าผ่านทางครั้งละ 10 บาท หากต้องการเดินข้ามคลอง | null | bts,บีทีเอส,รถไฟฟ้า,รถไฟฟ้าวุฒากาศ,วุฒากาศ,บีทีเอสเก็บเงิน,bts เก็บเงิน,พันทิป,pantip,สถานีวุฒากาศ,เก็บเงินข้ามคลอง 10 บาท,สายตรวจโซเชียล,โซเชียลมีเดีย,ร้องทุกข์,โซเชียล,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,กระทู้พันทิป,กระทู้แนะนำ,กระทู้ฮอต | https://www.thairath.co.th/content/486356 |
นักท่องเที่ยวไต้หวัน 30 กว่าชีวิต หนีตาย รถบัสไฟไหม้บนทางด่วน | เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 พ.ค. ร.ต.อ ฉัฎชัย จันทาพูน ร้อยเวร (สอบสวน) ทางด่วน 1 รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถทัวร์ปรับอากาศ รับ-ส่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ บนทางด่วนขั้นที่ 1 ขาเข้า แขวงบางจาก เขตพระโขนง ใกล้ด่านเก็บเงินด่วนสุขุมวิท 62 ประมาณ 200 เมตร จึงไปที่เกิดเหตุ พบช่องเลนซ้าย มีรถทัวร์ปรับอากาศ สีขาว-เหลือง ทะเบียน 31-2314 กรุงเทพ ของบริษัท YSK ทรานสปอร์ต เพลิงกำลังลุกไหม้ จากห้องเก็บสัมภาระ และลุกลามขึ้นมายังห้องผู้โดยสาร โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ต่ำกว่า 30 คน วิ่งหนีตายลงจากรถ ซึ่งเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากผ้าม่าน เบาะรถเป็นหนัง และกำมะหยี่ ทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี โดยเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยได้ระดมน้ำฉีด จนควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยเพลิงได้ลุกไหม้รถหมดทั้งคัน,ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทางด่วน 1 ได้ปิดการจราจรขาเข้า เป็นการชั่วคราว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับรถบรรเทาสาธารณภัย ทำให้มีรถติดสะสมไปถึงด่านบางนากว่า 2 กิโลเมตร ไปจนถึงไบเทคบางนา รวมถึงขาออก มีรถติดสะสมมีการชะลอตัวของรถ ตั้งแต่ทางลงด่วนท่าเรือ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เนื่องจากผู้ขับขี่ชะลอดูเหตุรถบัสไฟไหม้,ด้านนายพีรพงศ์ รมภักดี อายุ 43 ปี คนขับรถบัส เผยว่า ได้รับนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน จากโรงแรม NY ย่านบางเสาธง จ.สมุทรปราการ จะไปช็อปปิ้งสวนจตุจักร โดยวิ่งมาตามถนนบางนา-ตราด ขาเข้า ก่อนขึ้นด่วนบางนา ผ่านทางขึ้นด่วนสุขุมวิท 62 มาได้ประมาณ 200 เมตร ได้ยินเสียงผู้โดยสารร้องโวยวาย และมีกลิ่นเหม็นไหม้ จึงได้จอดรถข้างทาง ก่อนไฟลุกไหม้จากห้องเก็บสัมภาระด้านล่างจึงตะโกนบอกไกด์คนไทย ให้บอกนักท่องเที่ยวรีบหนีลงมาจากรถ ก่อนเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนไหม้หมดคัน โดยหลังเกิดเหตุได้ประสานงานกับทางบริษัท ให้มารับนักท่องเที่ยวตรงจุดเกิดเหตุ กลับไปที่พัก,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเกิดเพลิงไหม้ นักท่องเที่ยวต่างร้องไห้ เพราะหลายคนต้องสูญเสียข้าวของ ที่ติดไปกับกองเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ ทางเจ้าหน้ากองพิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจสอบต่อไป. | ระทึก!! นักท่องเที่ยวไต้หวัน หวีดร้อง รถบัสไฟไหม้บนทางด่วน กำลังจะนั่งไปช็อปปิ้งสวนจตุจักร 30 กว่าชีวิต รีบหนีตายลงจากรถ ก่อนไหม้วอดทั้งคัน บางคนร้องไห้เสียดายข้าวของหิ้วลงไม่ทันไหม้หมด | ข่าว,ทั่วไทย | ไฟไหม้รถถบัสนักท่องเที่ยว,รถบัสไฟไหม้บนทางด่วน,นักท่องเที่ยวไต้หวันหนีตายรถไฟไหม้,รถบัสไฟไหม้,ไหม้วอดรถบัสท่องเที่ยว,ข่าวเหตุ | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1286127 |
ของไหว้มีระดับ ลูกหลานจีนรู้ใจ แห่ซื้อรถหรู-สมาร์ทโฟน ส่งให้บรรพบุรุษ | เมื่อวันที่ 26 ม.ค.60 นางมะลิวรรณ ไชยวรรณ อายุ 66 ปี รองประธานกรรมการที่ปรึกษา บริษัท ยงสงวนกรุ๊ป จำกัด จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า นอกจากจะมีคนไทยเชื้อสายจีน คนลาวเชื้อสายจีนเข้ามาซื้อเซ่นไหว้แล้ว คนไทยแท้ๆ โดยเฉพาะผู้มีอาชีพค้าขายก็นิยมมาซื้อชุดไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย หรือ เทพเจ้าโชคลาภ เพื่อเป็นสิริมงคลด้านการค้าขายด้วยเช่นกัน,ทั้งนี้ สินค้าของทางร้านไม่มีการปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด โดยเราได้จัดทำใบแนะนำการจัดเตรียมเครื่องไหว้มงคลต่างๆ และบทอธิษฐานขอพร แผนผังการตั้งโต๊ะไหว้เทพเจ้าไว้คอยให้บริการลูกค้า ซึ่งปีนี้ชุดไหว้บรรพบุรุษที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากยังคงเป็น บ้านและที่ดิน รถเบนซ์สปอร์ต และไอโฟนเช่นเคย,ชาวกัมพูชาหันมาซื้อผลไม้แทนอาหารสดเพื่อเซ่นไหว้เจ้า,นางเยือน นี อายุ 42 ปี แม่ค้าชาวกัมพูชาที่มารับสินค้าไทยจาก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กล่าวว่า ชาวเขมรเชื้อสายจีนส่วนใหญ่ หันมาซื้อผลไม้ไหว้เจ้ากันมากขึ้น และลดการซื้ออาหารสด เช่น ไก่ และหมู เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย จึงทำให้การซื้อขายผัก ผลไม้ในปีนี้ดีกว่าทุกปี อีกทั้งผัก ผลไม้ก็ไม่ได้ขึ้นราคามากนัก ทำให้พ่อค้าชาวกัมพูชาต่างเข้ามาเลือกสินค้าดังกล่าวในตลาดโรงเกลือมากขึ้น เพื่อนำไปจำหน่ายในฝั่งกัมพูชา โดยเฉพาะที่บันเตียเมียนเจย และที่เสียมราฐ ที่ต้องการผักและผลไม้จากไทยเป็นจำนวนมาก,ชาวยะลาซื้อของเซ่นไหว้เท่าที่จำเป็น,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดยะลามีชาวไทยเชื้อสายจีนออกมาจับจ่ายซื้อข้าวของเซ่นไหว้เพื่อเตรียมไหว้บรรพบุรุษเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่มักจะซื้อเฉพาะสิ่งของที่จำเป็นเท่านั้น โดยเฉพาะผัก อาหารทะเล ที่ขาดตลาด โดยราคาปรับตัวสูงขึ้นกว่าปกติถึง 1 เท่าตัว เนื่องจากภาคใต้เกิดน้ำท่วมใหญ่เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา | ของไหว้มีระดับ! ลูกหลานไทยเชื้อสายจีนรู้ใจ เหล่ากง เหล่าม่า จัด บ้านและที่ดิน รถหรู สมาร์ทโฟน เตรียมเผาส่งให้บรรพบุรุษ เต็มที่ ขณะที่ชุดรับไหว้ เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยขายดี พ่อค้าแม่ค้าแห่ซื้อเตรียมไหว้เพื่อเป็นความเป็นสิริมงคล | null | ตรุษจีน,วันตรุษจีน,ไหว้เจ้า,ไหว้บรรพบุรุษ,เทพเจ้าโชคลาภ | https://www.thairath.co.th/content/844312 |
อีกแล้ว ต้นกล้วยประหลาด หัวปลี-เครือ โผล่กลางลำต้น | เมื่อวันที่ 29 พ.ย. มีรายงานว่า ภายในบ้านเลขที่ 455 ชุมชนน้ำอ้อมน้อย ม.4 ต.น้ำอ้อม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งปลูกต้นกล้วยน้ำว้า ได้มีต้นกล้วยต้นหนึ่งมีความประหลาด หัวปลีและเครือออกกลางลำต้น โดยนายประจักร ศรศิลป์ อายุ 46 ปี เจ้าของบ้านเชื่อว่าจะมีโชคลาภ,สำหรับต้นกล้วยดังกล่าว อายุประมาณ 2 ปี ขึ้นอยู่กลางสวน ซึ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งเจ้าของได้ปลูกมะนาวไร้เมล็ด และส่วนหนึ่งปลูกกล้วยน้ำว้า โดยนายประจักร เล่าว่า เมื่อช่วงกลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เข้ามาทำความสะอาดในสวน จนมาพบต้นกล้วยประหลาดต้นนี้ มีหัวปลีและเครือออกกลางลำต้น คิดว่าเป็นเรื่องแปลกอยู่แล้ว และต่อมาสังเกตเห็นกล้วยเครือนี้ แทนที่จะโค้งงอลงล่างเหมือนเครือกล้วยทั่วไป แต่กลับงอม้วนขึ้นข้างบน และเมื่อยาวออกมาเรื่อยๆ ก็แทงเข้ากลางลำต้นเข้าไปอีก,นอกจากนี้ กล้วยเครือนี้มีจำนวน 7 หวี นับแต่ละหวีมี 14 ลูกเท่ากันหมด และตรงข้างๆ ที่เครือกล้วยแทงออกมา พบว่ามีรอยเป็นจ้ำ สังเกตเห็นเหมือนตัวเลข เป็นเลข 50 และเลข 141 ตนจึงไปซื้อลอตเตอรี่เลข 14 มาไว้แล้ว โดยเชื่อว่าต้นกล้วยต้นนี้จะให้โชคลาภแก่ตน ซึ่งไม่ได้บอกให้ชาวบ้านรอบๆ ใกล้เคียงได้รู้ เพราะเกรงว่าคนจะเข้ามาเหยียบย่ำสวนเสียหาย จึงเก็บเงียบไว้ดูคนเดียว. | หนุ่มใหญ่ศรีสะเกษ ปลูกสวนกล้วยน้ำว้า จนมาวันหนึ่งเจอต้นกล้วยประหลาด ออกหัวปลีและเครือกลางลำต้น เจ้าตัวเชื่อให้โชคลาภ ไปซื้อลอตเตอรี่เลข 14 มาลุ้น! | null | กล้วยประหลาด,ออกเครือกลางลำต้น,กล้วยน้ำหว้า,ศรีสะเกษ,กันทรลักษ์,หวย,แทงหวย,เลขเด็ด,หัวปลี,โชคลาภ,เลข14 | https://www.thairath.co.th/content/466317 |
สงขลา ยืนยันติดโควิด-19 แล้ว 5 คน ชายล้วน กลับจากชุมนุมที่มาเลเซีย | วันที่ 22 มี.ค. นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา พร้อมคณะแพทย์สาธารณสุข จ.สงขลา ได้แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ในส่วนของ จ.สงขลา มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ยืนยันชัดเจนแล้ว 5 คน และทั้ง 5 คนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ในห้องแยก และอยู่ในการดูแลของแพทย์โดยเคร่งครัด แต่ผู้ป่วยทั้ง 5 รายมีอาการไม่รุนแรง เป็นเพศชายทั้งหมด อายุระหว่าง 52-72 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ใน 3 อำเภอ ทั้ง อ.หาดใหญ่ บางกล่ำ จะนะ และเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย หลังจากไปร่วมพิธีดาวะห์ หรือพิธีทางศาสนานายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา เปิดเผยว่า นอกจากจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ทั้ง 5 รายแล้ว ยังมีผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์ระวังโรค 181 ราย รอผลตรวจอีก 4 ราย และส่งตรวจแล้วไม่พบเชื้อ 159 รายสำหรับมาตรการหลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสงขลา และสถานบริการสาธารณสุขในสังกัด จะมีการติดตามสอบสวนโรค ทั้งผู้ที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือจุดที่ผู้ป่วยยืนยันเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หรือพื้นที่ที่มีรายงาน แล้วดำเนินการแยกกักตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดที่บ้านทุกราย เป็นเวลา 14 วัน พร้อมมีการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด และวัดอุณหภูมิร่างกายทุกวันเพื่อสังเกตอาการ. | ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา แถลง มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 แล้ว 5 คน เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากร่วมงานดาวะห์ที่ประเทศมาเลเซียทั้งหมด มีภูมิลำเนาในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ บางกล่ำ จะนะ เร่งแยกกักตัวผู้ใกล้ชิด | ข่าว,ทั่วไทย | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,โควิด-19สงขลา,ผู้ติดเชื้อ สงขลา,ไฮไลต์ไวรัสโคโรน่า,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1801036 |
น่าสงสาร ลุงเมืองชลตกใจมะพร้าวล้ม วิ่งหนีไปโดนทับดับคาที่ | เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 13 ส.ค. 58 พ.ต.ต.จีระศักดิ์ แอบแฝง พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีต้นไม้ล้มทับคนตาย บริเวณหลังวัดนพทองดีศรีพฤฒาราม ข้างบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 2 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุพบศพนายแหน ปกสันเทียะ อายุ 72 ปี ถูกต้นมะพร้าวขนาดใหญ่ สูงประมาณ 25 เมตร ล้มทับร่างจนเสียชีวิตคาที่ อยู่บริเวณสวนหลังบ้าน สภาพศพนอนคุดคู้อยู่กับพื้นดิน สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวลายสกอต นุ่งกางเกงขายาวสีน้ำตาล ตรวจสอบพบกะโหลกศีรษะแตก ขาขวาและแขนขวาหักผิดรูป ตามร่างกายมีแผลถลอกหลายแห่ง,จากการสอบสวนนางสมหมาย เบี้ยไคล อายุ 71 ปี ภรรยาอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.โป่ง และเป็นเจ้าของสวน ให้การว่า นายแหน เป็นลูกจ้าง คอยดูแลไร่มันสำปะหลังให้กับสามี โดยปลูกกระต๊อบอาศัยอยู่ที่สวนหลังบ้าน แต่ต่อมากระต๊อบที่ทำจากไม้เกิดผุพังไปตามกาลเวลา จึงได้ให้นายสนั่น ไม่ทราบนามสกุล ลูกจ้างอีกคน นำเลื่อยไปตัดต้นมะพร้าวในสวน เพื่อจะนำไม้มะพร้าวมาใช้ซ่อมแซมที่พักให้กับนายแหน แต่ระหว่างต้นมะพร้าวกำลังจะโค่นลงพื้น จู่ๆ นายแหน เกิดตกใจและวิ่งหนี เพราะคิดว่าต้นมะพร้าวจะล้มมาตรงจุดที่ตัวเองยืนอยู่,ขณะนั้นคนที่ยืนดูอยู่ใกล้ๆ หลายคน ได้ตะโกนบอกนายแหนว่า ให้ยืนอยู่กับที่ อย่าวิ่ง แต่ก็ไม่ทัน นายแหนที่อยู่ในอาการตกใจได้วิ่งไปอยู่ตรงจุดที่ต้นมะพร้าวล้มลงมาพอดี จึงถูกต้นมะพร้าวทับร่างเสียชีวิตคาที่ ส่วนนายสนั่น คนตัดต้นมะพร้าว หลังเกิดเหตุเกิดกลัวความผิด จึงได้หลบหนีไป,อย่างไรก็ตาม ภายหลังการสอบสวน เบื้องต้นญาติผู้เสียชีวิตไม่ติดใจเอาความ เพราะเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนมอบศพให้ไปทำพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป. | พ่อเฒ่าวัย 72 ปี อยู่เฝ้าสวนนายจ้างที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มานานจนบ้านพักผุพังต้องเลื่อยต้นมะพร้าวมาซ่อมใหม่ ปรากฏว่ายืนดูอยู่ดีๆ เกิดตกใจลนลานวิ่งหนีไปอยู่ตรงจุดที่ต้นมะพร้าวล้มลงไปพอดี ถูกทับตายคาที่ | ข่าว,ทั่วไทย | มะพร้าวทับตาย,มะพร้าวล้มทับ,เฒ่า71ปี,ต้นมะพร้าว,แหน ปกสันเทียะ,บางละมุง,ชลบุรี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/news/local/518055 |
บิ๊กป้อม กำชับ กรมชลฯ ช่วยผู้ประสบภัยแล้ง-ผันน้ำ แก้ความเค็ม เจ้าพระยา | พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำชับ กรมชลประทาน เร่งเพิ่มประสิทธิภาพระบายน้ำ ผันน้ำจากแม่กลองมาลงเจ้าพระยา เพื่อแก้ปัญหาความเค็มของน้ำ พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งวันที่ 3 พ.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) รับทราบ แนวทางของกรมชลประทาน ที่ดำเนินการขุดลอกคลองกำจัดวัชพืช เพื่อให้ความช่วยเหลือจังหวัด ที่ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จํานวน 27 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย เพชรบูรณ์ หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ศรีสะเกษ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี จันทบุรี ชลบุรี และสงขลา รวมท้ังสิ้น 158 อําเภอ 836 ตําบล 7262 หมู่บ้าน/ชุมชน 5 เทศบาลนอกจากนี้ กรมชลประทาน ยังรายงานคุณภาพน้ำเมื่อที่ 3 พ.ค.2563 เวลา 05.00 น. แม่น้ำเจ้าพระยา สถานีประปาสําแล จ.ปทุมธานี (ปกติ) ท่าน้ำนนทบุรี จ.นนทบุรี (ปกติ) ซึ่งกรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาความเค็ม โดยทําการผันน้ำบางส่วนจากแม่น้ำแม่กลอง มายังแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำบางปะกง สถานีปราจีนบุรี (ปกติ) แม่น้ำท่าจีน สถานีปากคลองจินดา (ปกติ) และแม่น้ำแม่กลอง สถานีปากคลองดําเนินสะดวก (ปกติ)ส่วนโครงการส่งน้ำและบํารุงรักษาท่าบัว สํานักงานชลประทานที่ 3 ได้ติดตามผลการระบายน้ำช่วยเหลือภัยแล้งคลองข้าวตอก จากการประชุมติดตาม สถานการณ์ภัยแล้ง จังหวัดพิจิตร ได้ร้องขอให้ช่วยเหลือสวนผลไม้ริมคลองข้าวตอก ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำและไม้ผลอาจยืนต้นตาย โดยการระบายน้ำ จากคลองส่งน้ำ ซี.1 ลงคลองข้าวตอก เพื่อเป็นการช่วยเหลือพื้นที่สวนผลไม้ดังกล่าวด้านโครงการส่งน้ำและบํารุงรักษายมน่าน สํานักงานชลประทานที่ 3 ลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณน้ำบริเวณ ทรบ.คลองเรือ ตําบลวังวน อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก และบริเวณ ทรบ.คลองวังขอน บ้านบึงธรรมโรง ต.ศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เพื่อตรวจสอบปริมาณน้ำ ติดตามสถานการณ์น้ำ และจัดสรรน้ำให้เพียงพอต่อการอุปโภค–บริโภค แก่เกษตรกรในพื้นที่ | พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำชับ กรมชลประทาน เร่งเพิ่มประสิทธิภาพระบายน้ำ ผันน้ำจากแม่กลองมาเจ้าพระยา เพื่อแก้ปัญหาความเค็ม พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง | ข่าว,การเมือง | ภัยแล้ง,ผันน้ำ,แม่กลอง,เจ้าพระยา,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,บิ๊กป้อม,กรมชลประทาน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1836149 |
โปลิศจับตำรวจ ส.ต.ท.ค้ายา เผยเคยร้อง ถูกชุดสืบฯ อุ้มไปรีด 5 แสน | วันที่ 8 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางกล่ำ จ.สงขลา นำโดย พ.ต.อ.ธิติ กิจรุ่งโรจน์ ผู้กำกับการ สภ.บางกล่ำ จับกุม ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ อายุ 24 ปี หรือแบงค์ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี และนายปิยะพงศ์ เรืองช่วย อายุ 31 ปี ลูกชายผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ พร้อมของกลางยาบ้า 89 เม็ด ยาไอซ์ 3.50 กรัม อาวุธปืน 9 มม. 1 กระบอก เครื่องช่างดิจิตอล หลอดกาแฟสำหรับตักยาไอซ์ หลอดแก้วจำนวน 4 หลอด และน้ำใบกระท่อมอีกจำนวนหนึ่ง,ทั้งนี้ ทั้งสองคนถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้พร้อมของกลางภายในห้องนอน บ้านเลขที่ 47/3 หมู่ 5 บ้านหนองขวน อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ได้รับรายงานว่าบ้านหลังนี้มีการมั่วสุมเสพยาเสพติดและจำหน่ายยาเสพติด ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.บางกล่ำ และให้การรับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐาน ถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดี 2 ข้อหา คือ ร่วมกันครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า ยาไอซ์) และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ,พ.ต.อ.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา ซึ่งเดินทางลงพื้นที่ไปควบคุมคดีนี้ เปิดเผยว่า การจับกุม ส.ต.ท.สัญลักษณ์ พร้อมยาบ้าและไอซ์ ทางตำรวจสภ.บางกล่ำ ร่วมกับชุดปราบปรามยาเสพติดของตำรวจภูธร จ.สงขลา สืบทราบว่าบ้านเป้าหมายหลังนี้มีการมั่วสุมเสพยาเสพติดและลักลอบค้ายาเสพติด เมื่อตำรวจไปถึงก็พบชาย 2 คนอยู่ในห้องนอนพร้อมของกลาง ซึ่งหนึ่งในนั้นบอกว่าตัวเองเป็นตำรวจแต่ไม่มีบัตรมาแสดง จึงได้ควบคุมตัวเอาไว้ และเมื่อมาตรวจสอบก็พบว่าเป็นตำรวจจริง ชื่อ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผบ.หมู่งานป.สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ซึ่งหลังจากนี้จะดำเนินการเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญา มีโทษถึงขั้นไล่ออก,สำหรับ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ เคยปรากฏเป็นข่าวดังมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ออกมาร้องเรียนว่าถูกกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 9 รวมกว่า 10 คน ยึดอาวุธปืนประจำกาย 2 กระบอก และอุ้มขึ้นรถยนต์กระบะ พร้อมกับกลุ่มเพื่อนผู้ชายที่ไม่ได้เป็นตำรวจอีก 5 คน เข้าไปที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทำการเรียกค่าไถ่รวมกันเป็นเงินจำนวน 5 แสนบาท กระทั่งตำรวจชุดจับกุมถูกตั้งกรรมการสอบสวนดำเนินการทั้งวินัยและอาญา มีทั้งที่ถูกสั่งย้าย สั่งพักราชการ และในทางการสอบสวนในครั้งนั้นพบว่า ส.ต.ท.สัญลักษณ์ มีส่วนพัวพันกับยาเสพติดด้วย แต่หลักฐานไม่ชัด ไม่สามารถเอาผิดได้ด้วย แต่สุดท้าย ส.ต.ท.สัญลักษณ์ ก็มาถูกจับพร้อมกับยาบ้าและยาไอซ์ดังกล่าว. | ส.ต.ท. ผบ.หมู่ สภ.กะพ้อ ปัตตานี โดนตำรวจบางกล่ำ สงขลา บุกรวบพร้อมเพื่อน พบของกลางทั้งยาบ้า ไอซ์ น้ำต้มใบกระท่อม พบเป็นคนเดียวกับที่เคยร้องว่าถูกชุดสืบ ภ.9 อุ้มไปรีด 5 แสน จนถูกเด้งกันระนาว | ข่าว,ทั่วไทย | จับตำรวจ,ตำรวจค้ายาบ้า,ส.ต.ท.ค้ายาบ้า,ตำรวจจับตำรวจ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1677985 |
ฝนที่ตกต่อเนื่องส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำเมย จ.ตากเพิ่มสูงขึ้น | โดยพ่อค้าแม่ค้าตลาดริมเมยใต้สะพานมิตรภาพไทย-พม่า บ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สินไปไว้ในที่สูง หลังแม่น้ำเมยไหลทะลักเข้าท่วมสูงกว่า 50 ซม. โดยเจ้าหน้าที่ต้องสนธิกำลังกว่า 100 นายช่วยเหลือ ส่วนในเขตเทศบาลนครแม่สอด น้ำที่ล้นจากทางระบายน้ำล้นยังคงไหลเข้าท่วมหลายจุด ในเขตเทศบาลนครแม่สอด ถนนหลายสายจมอยู่ใต้น้ำสูงกว่า 70 ซม. รถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ส่วนที่จ.น่าน เจ้าหน้าที่เข้าสำรวจพื้นที่บริเวณบ้านเชียงแล 1 และเชียงแล 2 ต.ริม อ.ท่าวังผา หลังน้ำป่าซัดสะพานยาว 10 เมตรเสียหายร้าว จนรถไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ขณะที่ไร่ข้าวโพดและนาข้าวกว่า 1000 ไร่ได้รับความเสียหายเช่นกันเช่นเดียวกับจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ตรวจสอบแนวป้องกันน้ำในแม่น้ำปิง เขตเทศบาลทั้ง 10 จุด ที่มีการเสริมกระสอบทรายและทำแนวพนังคอนกรีต ขณะที่นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ มั่นใจว่าปีนี้จะสามารถป้องกันน้ำท่วมได้ โดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยง ขณะนี้ได้เตรียมเครื่องสูบน้ำไว้รองรับแล้วส่วนที่จังหวัดหนองคาย เทศบาลเมืองหนองคาย นำเครื่องสูบน้ำเกือบ 10 เครื่องไปติดตั้งรอบๆเทศบาล หลังระดับน้ำในแม่น้ำโขง เพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวานนี้กว่า 1 เมตรและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยขณะนี้ระดับน้ำอยู่ต่ำกว่าตลิ่งไม่ถึง 2 เมตร ก็จะทำให้ล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมตัวเมืองหนองคายเช่นเดียวกับอีกหลายจังหวัดที่มีพื้นที่ติดริมแม่น้ำโขงต้องเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลน โดยเฉพาะอ.ด่านซ้าย จ.เลย มี 10 หมู่บ้านในต.โป่ง วังยาว อีปุ่ม โคกงาม และต.โพนสูงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากบ้านเรือนส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในหุบเขาสูงชัน และมีเส้นทางน้ำไหลผ่าน | ฝนที่ยังคงตกอย่างต่อเนื่องทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเมย อ.แม่สอด จ.ตาก เพิ่มระดับสูงขึ้นอีก ล่าสุดน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมตัวตลอดริมเมย จนพ่อค้าแม่ค้าต้องเร่งกันขนย้ายทรัพย์สินไปอยู่ในที่ปลอดภัย | ภูมิภาค | จ.ตาก,ฝนตก,ระดับน้ำ,เพิ่มสูงขึ้น,แม่น้ำเมย | https://news.thaipbs.or.th/content/104007 |
ทั่วไทย กลางวันอากาศร้อน ขณะด้านตะวันตก มีฝนตกเพิ่มขึ้น | วันที่ 17 เม.ย. จากการตรวจสอบจากระบบพยากรณ์อากาศของไทยรัฐทีวี เดอะ เวตเตอร์ คอมพานี พบว่า พายุไซโคลน MAARUTHA บริเวณอ่าวเบงกอล มีศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 18.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 93.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้เคลื่อนตัวทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณ รัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา เมื่อคืนที่ผ่านมา สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง ด้วย บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมภาคใต้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกน้อย,พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ด้านตะวันตกของประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นโดยจะมีฝนตกหนักบริเวณด้านตะวันตกของภาคเหนือในช่วงวันนี้ถึงวันที่ 18 เมษายน ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก ยังคงมีฝนฟ้าคะนองได้ สำหรับภาคใต้จะมีฝนน้อย,อุณหภูมิรายภาค,ภาคเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.,ภาคอีสาน อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ,ส่วนมากบริเวณจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.,ภาคกลาง อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ,ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ราชบุรี และสมุทรสงคราม ,อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ,ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.,ภาคตะวันออก อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ,ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ,ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร,ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย มีเมฆบางส่วน กับมีฝนเล็กน้อย ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร,ภาคใต้ฝั่งอันดามัน มีเมฆบางส่วน กับมีฝนเล็กน้อย ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร,กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. | ทั่วไทย อากาศร้อนในตอนกลางวัน ด้านตะวันตกของประเทศ จะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น จากอิทธิพลพายุไซโคลน MAARUTHA ในอ่าวเบงกอล | ข่าว,ทั่วไทย | พยากรณ์อากาศ,อากาศร้อนกลางวัน,ฝนตกเพิ่ม,พายุไซโคลน,ไทยรัฐทีวี เดอะ เวตเตอร์ คอมพานี | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/915397 |
หลายจังหวัดภาคใต้ประสบปัญหาน้ำท่วมขัง | กำลังพลหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 46 กองบัญชาการกองทัพไทย ยังคงประจำการอยู่ในพื้นที่บ้านบางหยด ต.อิปัน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมกว่า 60 ครอบครัว ล่าสุด ระดับน้ำยังสูงกว่า 1 เมตร โดยชาวบ้านเกรงว่าหากน้ำป่าจาก จ.กระบี่ ไหลลงมาสมทบ จะซ้ำเติมระดับน้ำให้กลับมาท่วมสูงอีกส่วนชาวบ้าน อ.สิงหนคร อ.สทิงพระ อ.กระแสสินธุ์ และ อ.ระโนด จ.สงขลา ที่มีบ้านติดริมทะเลสาบสงขลายังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมขัง เนื่องจากเป็นพื้นที่รองรับน้ำจาก จ.นครศรีธรรมราช และ จ.พัทลุง ส่งผลให้น้ำในทะเลสาบสงขลาเอ่อท่วมเป็นบริเวณกว้างกว่า 30-80 เซนติเมตรขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังคงใช้ธงสัญลักษณ์สีเขียว ซึ่งแสดงว่าระดับน้ำในคลองต่างๆ ในเขตเมืองนครศรีธรรมราช ยังอยู่ในระดับที่ปกติ แต่การคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาว่าอีก 2-3 วันนี้ จะมีฝนตกหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่เร่งขุดลอกคลองบรรจุถุงทราย หรือ บิ๊กแบ๊ค วางป้องกันตามริมคลอง โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับน้ำจากเทือกเขาหลวง ทำให้ชาวบ้านบางส่วนไม่มั่นใจ และยังไม่ขนของลงจากที่สูง | หลายจังหวัดภาคใต้ยังคงประสบปัญหาน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะชาวบ้าน 4 อำเภอใน จ.สงขลา ที่อยู่ติดกับทะเลสาบ คาดว่าต้องใช้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ถึงจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ส่วนที่ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ชาวบ้านยังเฝ้าระวัง หลังมีรายงานอาจมีน้ำป่าไหลลงมาสมทบซ้ำเติมสถานการณ์น้ำท่วม | ภูมิภาค | กระบี่,นครศรีธรรมราช,น้ำท่วม,พัทลุง,ภาคใต้,สงขลา,สุราษฎร์ธานี | https://news.thaipbs.or.th/content/209198 |
เจาะ 5 จุดเที่ยวสนุก ดูวิธีฟื้นป่า ห้วยฮ่องไคร้ ใช้ชีวิตตามรอยพ่อหลวง | หนึ่งในพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน ที่มีความสำคัญต่อชาวเราไม่น้อย นั่นคือ การรักษาและการฟื้นฟูป่า เพื่อให้เป็นแหล่งน้ำและแหล่งทำกินของประชาชน,เมื่อมีป่าก็มีอาหาร มีอาชีพ มีรายได้ นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ว่าแต่เราจะนำหลักคำสอนของท่านมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร? ถ้ายังนึกไม่ออก ก็ต้องเดินทางไปหาแรงบันดาลใจสักหน่อยแล้ว,วันนี้ ,ไทยรัฐออนไลน์, เลยขออาสาพาคุณไป เที่ยวและเรียนรู้ ที่,ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ, อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ซึ่งพระองค์มีพระราชประสงค์ที่จะให้เป็นศูนย์กลางในการศึกษา ทดลอง วิจัย เพื่อหารูปแบบการพัฒนาพื้นที่ต้นน้ำที่เหมาะสม และเผยแพร่ให้ราษฎรนำไปปฏิบัติต่อไป,ที่นี่เป็นศูนย์ศึกษาฯ ลำดับที่ 5 (จากทั้งหมด 6 แห่ง) ที่พระองค์ทรงใช้เวลาถึง 30 ปี ในการฟื้นฟูที่ดินอันแห้งแล้งแห่งนี้ให้กลับมามีแหล่งน้ำอันอุดมสมบูรณ์และผืนป่าอันเขียวขจี จนวันนี้ ศูนย์ศึกษาฯ ห้วยฮ่องไคร้ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่น่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย,ส่วนจะมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง มาดูกันเลย,1. ทำความรู้จัก ห้วยฮ่องไคร้,เริ่มต้นที่อาคารสำนักงานภายในศูนย์ฯ เพื่อมาหาความรู้กันก่อน คำว่า ฮ่อง เป็นภาษาเหนือ แปลได้ว่า ร่อง (ร่องน้ำ) ส่วนคำว่า ไคร้ ก็คือต้นไคร้ เป็นพืชน้ำที่เกิดตามร่องน้ำ บ่งชี้ได้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่นั้นๆ ,อดุลย์ มีสุข, นักวิชาการเกษตรประจำศูนย์ศึกษาห้วยฮ่องไคร้ เล่าที่มาของชื่อนี้ให้ฟัง,อดุลย์เล่าต่อว่า สมัยก่อนในหลวง ร.9 มาพบพื้นที่ตรงนี้ซึ่งเป็นป่าเสื่อมโทรม แห้งแล้ง มีแต่หินกรวด ไม่สามารถทำประโยชน์อะไรได้ แต่ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล ทรงเห็นว่าพื้นที่นี้น่าจะฟื้นฟูได้ พระองค์ท่านจึงทรงมีรับสั่งให้เจ้าหน้าที่มาดูพื้นที่ นำดินไปทดสอบ พบว่าดินเมื่อโดนน้ำแล้วละลายน้ำได้ดี (แปลว่าดินแบบนี้ฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ได้),พระองค์ทรงมีพระราชดำริว่า ให้ต่อท่อน้ำมาจากที่อื่น ให้มีน้ำชุ่มในร่องห้วยเก่า จากนั้นให้ทำฝายเล็กๆ ไว้ตามร่องห้วย ฝายช่วยชะลอการไหลของน้ำ พอลำห้วยมีน้ำ ป่าก็ฟื้นตัว ซึ่งวิธีฟื้นป่าดังกล่าว เกิดที่นี่แห่งแรกของประเทศไทย โดยเกิดจากหลักการของพระองค์ท่าน,จากนั้นเมื่อป่าเริ่มฟื้น พระองค์ก็ทรงส่งเสริมให้ปลูกป่าเพิ่ม ตามหลักการป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง หลังจากป่าแห่งนี้ฟื้นฟูแล้ว พบว่าจากเมื่อก่อนที่เคยน้ำท่วม แต่ตอนนี้น้ำไม่ท่วม และเกิดประโยชน์ขึ้นมามากมาย เกิดตาน้ำใต้ดิน มีพรรณไม้เพิ่มขึ้นมากถึง 300-400 ชนิด พบว่ามีสัตว์คืนถิ่น โดยเฉพาะ นกยูง พบประมาณ 300 ตัว,ผลจากการดำเนินงานเรื่องฟื้นฟูป่าตามแนวพระราชดำริ พระองค์ทรงให้เจ้าหน้าที่หลากหลายหน่วยงาน มาทำงานร่วมกันเชิงบูรณาการ ไม่ว่าจะเป็น กรมชลประทาน กรมป่าไม้ กรมพัฒนาที่ดิน กรมประมง ปศุสัตว์ องค์กรการเกษตร ฯลฯ ทำงานร่วมกันมานานถึง 30 ปี,2. ทุ่งดอกคอสมอส,หลังจากฟังความรู้คร่าวๆ แล้ว ก็ได้เวลาเดินทางไปเที่ยวชมภายในศูนย์ฯ ห้วยฮ่องไคร้ จุดแรกที่โดดเด่นสะดุดตาเลยก็คือ ทุ่งดอกคอสมอส คละสีกระจายตัวอยู่เต็มทุ่ง แถมยังมีดอกไม้ป่าอีกหลากหลายชนิดที่นำมาปลูกประดับไล่ระดับสีอย่างสวยงาม ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาแวะถ่ายรูปมุมนี้อยู่ไม่ขาดสาย,3. แปลงสาธิตเกษตรทฤษฎีใหม่,ส่วนบริเวณรอบนอก เป็นที่ตั้งของแปลงสาธิตการปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดต่างๆ มีทั้งแปลงข้าว หญ้าแฝก สวนต้นฟักข้าว แปลงพืชสมุนไพร ผักสวนครัว โรงเรือนจัดแสดงผีเสื้อพันธุ์ต่างๆ บ่อเลี้ยงปลาทับทิม บ่อเพาะพันธุ์กบ เป็นต้น,4. ฟาร์มแพะ ช็อปชิมชิล,จากนั้นเราเดินทางต่อไปยังฟาร์มแพะและฟาร์มวัวนม ที่ตั้งอยู่อีกฟากหนึ่งของศูนย์ฯ ห้วยฮ่องไคร้ ที่นี่มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองรีดนมวัว ให้อาหารแพะ และยังมีจุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์น่าสนใจ เช่น นมวัวสด นมแพะสด ไอศกรีมนมแพะ ไอศกรีมนมวัว ชีสนมแพะ โยเกิร์ตนมแพะ สบู่นมแพะ เป็นต้น,5. หอเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,ส่วนจุดนี้กำลังจะเปิดให้บริการในอนาคตอันใกล้ นั่นคือ หอเฉลิมพระเกียรติฯ ในหลวง ร.9 ซึ่งที่นี่เป็นอาคารสำหรับจัดแสดงองค์ความรู้ต่างๆ จากหลักการของพระองค์ ในรูปแบบที่ทันสมัย เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่ จัดสร้างขึ้นโดยโครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม ไทยเบฟฯ ที่ให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาคนและพัฒนาสิ่งแวดล้อม,โครงการจัดสร้างหอเฉลิมพระเกียรติฯ จัดขึ้นเนื่องในโอกาสครองราชย์ครบ 70 ปี ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทั้งหลาย จากโครงการพระราชดำริจำนวนมากมาย ที่ส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน จึงเป็นที่มาของโครงการนี้ โดยภายในโครงการได้มีการอนุรักษ์อาคารศาลาทรงงานหลังเก่าของพระองค์ท่านเอาไว้ พร้อมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่โดยรอบให้สวยงาม,ใครที่เดินทางมาเที่ยวที่เชียงใหม่ อย่าลืมแวะไปชม ชิม ชิล และสัมผัสธรรมชาติที่ศูนย์ฯ ห้วยฮ่องไคร้ นอกจากจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์แล้ว ยังได้เห็นสิ่งที่พระองค์ทรงลงมือทำอย่างเป็นรูปธรรมอยู่ตรงหน้า จนเหมือนได้ใกล้ชิดอยู่ใต้เบื้องพระยุคลบาท ทำให้รู้สึกอิ่มใจและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอย่างหาที่สุดมิได้. | แม้ว่าพระองค์จะทรงจากเราไปจนครบ 100 วัน เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าคนไทยทุกคนยังคงคิดถึงพระองค์ท่าน และระลึกถึงพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของพระองค์ท่านอยู่ไม่เสื่อมคลาย | ไลฟ์สไตล์,ท่องเที่ยว | โครงการจัดสร้างหอเฉลิมพระเกียรติ ไทยเบฟ,ห้วยฮ่องไคร้,เที่ยวห้วยฮ่องไคร้,โครงการในพระราชดำริ,ทุ่งดอกคอสมอส | https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/thaitravel/840974 |
อาร์โนลด์ พูดถึง 4 ดาวรุ่งหงส์แดง หลังฟอร์มหรูช่วงปรีซีซั่น | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 8 ส.ค. ว่า เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ยินดีกับ 4 แข้งดาวรุ่งจากอะคาเดมี ที่ได้รับโอกาสครั้งสำคัญกับทีมชุดใหญ่ในช่วงปรีซีซั่น,ราฟาเอล คามาโช, คามิล กราบารา, เคอร์ติส โจนส์, เคาอิมฮิน เคลเลเฮอร์ และ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ต่างได้รับโอกาสจาก เยอร์เกน คลอปป์ และทำผลงานได้ค่อนข้างดี ซึ่ง อาร์โนลด์ มองว่าอะคาเดมีของหงส์แดงประสบความสำเร็จอย่างมาก,พวกเขารู้ตัวเองดีว่าเป็นเรื่องยาก และมันจะต้องใช้เวลาอย่างมากในการทำงานหนัก มันไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในทันที แต่ผมคิดว่าพวกเด็กๆ ได้เข้ามาแล้วทำให้เห็นในช่วงปรีซีซั่นว่ามีความพิเศษ พวกเขาสร้างความภูมิใจให้กับอะคาเดมีทั้งในและนอกสนาม ด้วยแนวทางที่พวกเขาทำมันด้วยตัวเอง ตอนที่กลับมา ผมรู้ได้ยินเรื่องดีๆ มากมายจากบรรดาผู้เล่นซีเนียร์ของทีม ดังนั้นอะคาเดมีได้ทำให้เห็นอีกครั้งแล้วว่าพวกเขากำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง อาร์โนลด์ กล่าว | เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็กขวาของลิเวอร์พูล ออกมาพูดถึง 4 แข้งดาวรุ่ง ที่ได้แจ้งเกิดกับทีมในช่วงปรีซีซั่น | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์,ราฟาเอล คามาโช,คามิล กราบารา,เคอร์ติส โจนส์,เนธาเนียล ฟิลลิปส์ | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1350806 |
รัฐบาล-หน่วยงานความมั่นคง มีแนวคิดใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ดูแลชายแดนใต้ | กฎหมายพิเศษ 3 ฉบับที่รัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคง ใช้ดูแลสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในปัจจุบัน คือ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ปี 2551 พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ปี 2548 และกฎอัยการศึก ซึ่งการประกาศใช้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความจำเป็นของแต่ละพื้นที่หากเปรียบเทียบกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ จะพบว่า อำนาจการบังคับใช้ของ พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร นับเป็นกฎหมายไม้นวม ที่นอกจากจะใช้อำนาจในการบังคับใช้ที่เข้มข้นน้อยกว่า และยังมีเงื่อนไขสำคัญตามมาตรา 21 ที่ระบุถึงการเปิดทางให้ผู้ต้องหาในคดีความมั่นคง ที่ยอมเข้ามอบตัวต่อทางการ สามารถเลือกเข้ารับการฝึกอบรมเป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน แทนการรับโทษ ซึ่งทั้งหมดยังต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาว่า ผู้ต้องหารายนั้นๆ ได้กระทำการลงไปเพราะหลงผิด หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือไม่ โดยให้อำนาจศาลเป็นผู้พิจารณาแนวคิดการนำพระราชบัญญัติฉบับนี้มาใช้ ทดแทนการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่กำลังจะหมดอายุลงในช่วงกลางเดือนหน้า เป็นแนวคิดที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมด้านความมั่นคงที่ร่วมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ยังอยู่ระหว่างการหาข้อสรุปที่ชัดเจน เบื้องต้น เห็นว่า หากพื้นที่ใดที่สถานการณ์เริ่มน้อยลง ก็จะเก็บเป็นข้อมูลไว้ เพื่อพิจารณาปรับลดจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นพ.ร.บ.ความมั่นคงหลังมีข้อมูลดังกล่าว หลายฝ่ายประสานเสียงเห็นด้วยในการบังคับใช้กฎหมายข้อนี้ ซึ่งมีการตีความกันว่า นอกจากจะเปิดโอกาสให้ผู้กระทำผิดเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมากยึ้น ยังจะเป็นการส่งสัญญาณถึงสถานการณ์ที่เริ่มคลี่คลายลง แต่หากมองในอีกมุมหนึ่งจะพบว่า ขณะนี้ยังคงมีหลายพื้นที่ที่เกิดเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และ พ.ร.บ.ความมั่นคงฉบับนี้ ที่ได้เริ่มนำร่องมาตั้งแต่ วันที่ 1 ธันวาคม 2552 ในสมัยรัฐบาลของ นายอภิทธิ์ เวชชาชีวะ จนมาถึงในปัจจุบัน ซึ่งบังคับใช้อยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.สงขลา คือ จะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี พื้นที่รอยต่อของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กับ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นอำเภอเดียวในพื้นที่สามจังหวัดที่ประกาศใช้ ทำให้อำนาจของกฎหมายฉบับนี้ บังคับใช้กับ 5 อำเภอจาก 37 อำเภอของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลาหากชี้เฉพาะเจาะจงไปที่ความสำคัญของ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯตามมาตรา 21 จะพบว่า ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี หลังการประกาศใช้ มีผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ผ่านกระบวนการอบรมตามมาตรานี้ เสร็จสิ้นเพียง 2 คน และอยู่ในกระบวนการอบรมอยู่อีก 1 คน ซึ่งกรณีนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แนะนำว่า หากรัฐบาลต้องการให้กฎหมายฉบับนี้สัมฤทธิ์ผลมากยิ่งขึ้น อาจต้องมีการแก้กฎหมาย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมให้ความร่วมมือ เนื่องจากเห็นว่า กระบวนการก่อนที่จะนำไปสู่การนำตัวผู้ต้องหาไปอบรม ที่ต้องผ่านขั้นตอนในการพิจารณาของศาล อาจทำให้ผู้ที่ต้องการเข้ามอบตัว ไม่มั่นใจว่า จะถูกศาลพิพากษาให้รับผิดหรือไม่ จึงมีผู้เข้าสู่กระบวนการนี้ไม่มากนักแม้แนวคิดนี้จะยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า จะประกาศใช้หรือไม่อย่างไร แต่รัฐบาล ยืนยันว่า กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสม ขณะที่ฝ่ายค้าน ก็มีแนวโน้มที่จะเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนฝ่ายที่ต้องปฏิบัติการในพื้นที่อย่างกองทัพ แม้จะตอบไม่เต็มเสียงว่า สนับสนุนแนวทางนี้หรือไม่ โดยระบุว่า การจะบังคับใช้กฎหมายฉบับใด ต้องขึ้นอยู่บนพื้นฐานของประโยชน์ส่วนรวม และความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ซึ่งหลายพื้นที่อาจต้องบังคับกฎหมายหลายฉบับร่วมกัน | รัฐบาลและหน่วยงานด้านความมั่นคง มีแนวคิดที่จะพิจารณาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เข้ามาแทนการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เป็นกฎหมายที่มีความเข้มข้นน้อยกว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเปิดโอกาสให้สิทธิตามมาตรา 21 คือ ผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวในคดีความมั่นคง อาจเข้าสู่กระบวนการฝึกอบรมแทนการรับโทษได้ | ภูมิภาค | null | https://news.thaipbs.or.th/content/148352 |
ถวิล เปิดบ้าน ยันความบริสุทธิ์ ปัดยักยอกเงิน สจล. (ชมคลิป) | เมื่อช่วงเช้า วันที่ 22 มี.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. ได้เปิดบ้านพักส่วนตัวย่านจรเข้น้อยให้สื่อมวลชนเข้าชมทรัพย์สินและความเป็นอยู่ของตนเอง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกันยักยอกทรัพย์ของ สจล.กว่า 1,600 ล้านบาทและได้ประกันตัวในชั้นศาลเพื่อมาต่อสู้คดี,นายถวิล เปิดเผยว่า สาเหตุที่เปิดบ้านครั้งนี้เพื่อยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินครั้งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้ไปขอร้องให้ทนายสงกรานต์ ช่วยว่าความให้ ทนายสงกรานต์ จึงบอกให้แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการไปสาบานที่วัดพระแก้ว และเปิดบ้านให้สื่อมวลชนเข้าชมทรัพย์สินทั้งหมดภายในบ้าน โดยยืนยันว่าทรัพย์สินของตนเองกว่า 86 ล้านบาทเป็นทรัพย์ที่ได้มาก่อนการดำรงตำแหน่งอธิการบดี สจล.ตั้งแต่ปี 55,ทรัพย์สินนี้ซึ่งได้มาจากมรดกตกทอดและจากการทำธุรกิจเครื่องกันขโมย หอพักให้เช่า และจากการดำรงตำแหน่งผู้บริหารในหลายๆ ที่ ซึ่งไม่ใข่เงินที่ได้มาจากยักยอกทรัพย์จากสถาบันแต่อย่างใด โดยเมื่อปี 55 ก่อนดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ยื่นให้ ปปง. ตรวจสอบทรัพย์ และเมื่อพ้นตำแหน่ง ปี 56 ก็ได้ยื่นให้ตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อยืนยันว่าทรัพย์สินมีอะไรบ้าง นายถวิล ระบุ,ทั้งนี้ สำหรับการต่อสู้คดี นายถวิลเปิดเผยว่าต้องไปต่อสู้ในชั้นศาล หากต่อไปนี้ทางตำรวจมีหลักฐานเอาผิดเพิ่มเติม ตนจะขอตรวจสอบหลักฐานอีกครั้งหนึ่ง. | ถวิล พึ่งมาเปิดบ้านพักส่วนตัวย่านจรเข้น้อยให้สื่อมวลชนเข้าชมเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดียักยอกทรัพย์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังกว่า 1,600 ล้านบาท | ข่าว,ทั่วไทย | ถวิล พึ่งมา,ถวิล,สจล.,สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง,ลาดกระบัง,ยักยอกเงิน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,คดียักยอกเงิน | https://www.thairath.co.th/news/local/488395 |
อนุทินบินด้วยหัวใจ ช่วย น้องฟา 4 มิ.ย.จากเมืองคอนฯ มารักษาตัว กทม. | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 1 มิ.ย. เฟซบุ๊ก นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เนื้อข่าวว่า แม่ของ น้องฟา ลูกสาว วัย 15 ปี นักเรียน ร.ร.กีฬานครศรีธรรมราช นักกีฬายกน้ำหนัก แชมป์ถ้วยพระราชทาน หลังลูกเหล็กหล่นทับหลังเดาะ ส่อพิการ และต้องการขอเครื่องบิน เคลื่อนย้ายบุตรสาวจากโรงพยาบาลทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ยังรพ.พระมงกุฎเกล้า กรุงเทพมหานคร,พร้อมกันนั้น นายอนุทิน ยังโพสต์ว่า หากแพทย์อนุญาต ผมยินดี ขนย้ายน้องฟา มารักษาตัวที่กรุงเทพฯ ตามความปรารถนาของคุณแม่ของน้องครับ ขอเวลาประสานงานและติดต่อผู้ที่เกี่ยวข้องให้มั่นใจเรื่องความปลอดภัยแป๊บนึงนะครับ เพราะข้อมูลจากทางข่าวแค่นี้ คงไม่เพียงพอ ต้องประสานเรื่องโรงพยาบาล ที่จะรับต่อเพื่อรักษาตัวน้องฟา ให้หายด้วย คงใช้เวลาไม่นานครับ,ล่าสุด น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้รายงานสถานการณ์ดังกล่าวว่า ดีใจกับครอบครัวน้องด้วยค่ะ ตอนนี้ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี ความเห็นแพทย์ผู้ดูแล สามารถเคลื่อนย้ายได้ด้วยเฝือกพยุงลำตัว นอนปรับเอนได้ 30-60 องศา และให้ยาแก้ปวดเป็นมอร์ฟีนถ้าปวด,ภารกิจประสานงานสำเร็จด้วยดี,ได้ติดต่อ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช/ผอ.รพ.ทุ่งสง/แพทย์ผู้ทำการรักษาและทีมพยาบาลประจำหอผู้ป่วย พร้อมทั้ง ผู้ประสานงานทีมงานท่านอนุทิน ชาญวีรกูล แล้ว,สรุปว่าจะลำเลียงผู้ป่วยโดยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของท่านอนุทิน วันอังคาร ที่ 4 มิ.ย. นี้ช่วงเวลาเช้าโดยมีญาติ ทีมหมอและพยาบาลร่วมไปด้วย. ขอบคุณทุกทีมงานที่ได้ช่วยเหลือผู้ป่วยครั้งนี้ครับ #บินด้วยหัวใจ #ทีมอนุทิน | 4 มิ.ย.นี้ อนุทิน บินด้วยหัวใจ ช่วย น้องฟา สาวน้อยนักยกน้ำหนักซ้อมพลาดหลังเดาะ ส่อพิการ หลัง แม่ วอนผู้ใจบุญนำตัวจากทุ่งสง รักษาตัวกรุงเทพฯ | ข่าว,การเมือง | อนุทิน ชาญวีรกูล,บินด้วยหัวใจ,น้องฟา,รักษาตัวกทม.,นครศรีธรรมราช,ภูมิใจไทย,นักกีฬายกน้ำหนัก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1581968 |
ไม่อยากให้พลาด | ไบค์แมนศักรินทร์ตูดหมึก เป็นหนังไทยแนวตลกที่แฝงไปด้วยเรื่องราวปนซึ้งระหว่างความรักของแม่กับลูก คนส่วนใหญ่สะดุดกับการตั้งชื่อของหนังไปแล้วส่วนหนึ่ง ก็มีคำถามอยู่ในใจว่า หนังอะไรเกี่ยวกับ ตูดหมึก,เนื้อหาของหนังเรื่องนี้ แก่นของมันก็คือ คำโกหก ที่ลูกชายนามว่า ศักรินทร์ โกหกแม่ว่าเป็นหนุ่มแบงก์ แต่ความจริงลูกชายเป็นแค่คนขับวินมอเตอร์ไซค์พล็อตเรื่องมีแค่นี้จริงๆ แต่หากใครที่ได้ดูจะรู้เลยว่า มันมีอะไรที่มากกว่านั้น,หนังทำให้เห็นว่า เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่จะต้องแบกรับภาระทางบ้าน ไม่ว่าจะเป็นความเป็นอยู่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ที่จะต้องดูแลให้คนในครอบครัว ทั้งแม่และย่า ให้ได้อยู่อย่างสุขสบาย,เพราะฉะนั้นหนทางที่เขาจะทำได้คืออาชีพที่สุจริตและไม่เกี่ยงงานที่จะทำให้เขาอยู่รอด,คำโกหกสีขาวที่ศักรินทร์ทำก็เพื่อให้แม่ของเขาสบายใจนั่นเอง คำโกหกจึงเป็นที่มาของเรื่องราวต่างๆ,นักแสดงในเรื่องเล่นได้ดี ตัวละครเกี่ยวพันกันหมด ไม่ว่าจะเป็น พีช-พชร, ฝน-ศนันทฉัตร, เจนนิเฟอร์ คิ้ม ซึ่งเป็นหนังเรื่องแรกของเธอด้วย,แถมทัพความสนุกได้ โอ๊ต-ปราโมทย์, น้าค่อม,โรเบิร์ต สายควัน และนักแสดงสมทบอีกหลายคน ผู้ชมในโรงหัวเราะจนน้ำตาไหลหลายๆฉาก,ไม่ว่าจะเป็นฉากที่น้าค่อมกระโดดลงน้ำ, ฉากที่โรเบิร์ตซึ่งเป็นวินมอเตอร์ไซค์ปลอมตัวมาเป็นพนักงานแบงก์, ฉากที่โอ๊ต-ปราโมทย์ลิ้นพันกัน ผมเชื่อว่าทั้งหมดนี้ใครได้ชมต้องขำจนท้องแข็ง เพราะรอบที่ผมไปชมนั้น เสียงหัวเราะดังสนั่นโรงหนังเลยจริงๆ,ตัวละครที่ดึงดูดให้คนไปดูนั้น ไม่ได้เยอะมากมายอะไร แต่ด้วยความสามารถของนักแสดงที่เล่นได้เป็นธรรมชาติมากๆ บวกกับบทและมุกตลกของหนัง จึงไม่แปลกเลยที่กระแสความตลกของหนังเรื่องนี้จะทำให้เกิดกระแสคนชมแบบปากต่อปาก,ทำให้หนังไทยเรื่องนี้ ติดอันดับทำรายได้เปิดตัวหนังไทย ยอดหนังในสัปดาห์แรกพุ่งแรงมาเป็นอันดับ 2 ของปี 2018,ทุกวันนี้ เราถามหา สาระ จากสิ่งรอบตัวมาเยอะแล้ว หากจะลองคลายเครียด หันมาเติมเต็มชีวิตให้มี เสียงหัวเราะ ดูบ้าง ก็คงไม่เสียหายอะไร,แค่เราชวนคนข้างๆ ไปยิ้มด้วยกัน ได้ฟังเสียงหัวเราะของเขา แค่นี้ก็คุ้มค่าตั๋วแล้ว,แจ๋วริมจอ,[email protected] | ปกติไม่ค่อยได้ดูภาพยนตร์มากนัก แต่สำหรับภาพยนตร์เรื่อง ไบค์แมนศักรินทร์ตูดหมึก นี่ไม่ดูคงไม่ได้ เพราะแค่วันแรกที่ออกโรงฉาย กระแสโซเชียลที่พูดถึงพร้อมชื่นชมออกมาเยอะมาก | null | ทีวีบันเทิง,แจ๋วริมจอ,ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก,ภาพยนตร์ไทย,หนังไทย | https://www.thairath.co.th/entertain/movie/1387209 |
ส.บอลแบโผรายชื่อ แข้งช้างศึก ชุดชิงแชมป์อาเซียน 2016 | วันที่ 21 ต.ค. 59 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดําเนินการจัดส่งทีมฟุตบอล ทีมชาติไทย เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลรายการชิงแชมป์อาเซียน ซูซูกิ คัพ 2016 ระหว่างวันที่ 19 พฤศจิกายน ถึง 17 ธันวาคม 2559 นั้น สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จึงขอประกาศรายชื่อนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย เข้าร่วม แข่งขันรายการฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ซูซูกิ คัพ 2016 จํานวน 23 คน ดังนี้,1. นายธนา ชะนะบุตร สโมสรการท่าเรือ เอฟซี,2. นายเกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ สโมสรชลบุรี เอฟซี,3. นายประกิต ดีพร้อม สโมสรชลบุรี เอฟซี,4. นายปกเกล้า อนันต์ สโมสรชลบุรี เอฟซี,5. นายชนินทร์ แซ่เอียะ สโมสรชลบุรี เอฟซี,6. นายอดุล หละโสะ สโมสรชลบุรี เอฟซี,7. นายรุ่งรัฐ ภูมิจันทึก สโมสรราชบุรี มิตรผล เอฟซี,8. นายสิโรจน์ ฉัตรทอง สโมสรอุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด,9. นายนฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด,10. นายกรวิทย์ นามวิเศษ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด,11. นายอดิศร พรหมรักษ์ สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด,12. นายกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด,13. นายทริสตอง สมชาย โด สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด,14. นายชนาธิป สรงกระสินธ์ สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด,15. นายธีรศิลป์ แดงดา สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด,16. นายพีระพัฒน์ โน้ตชัยยา สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด,17. นายธีราทร บุญมาทัน สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด,18. นายธนบูรณ์ เกษารัตน์ สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด,19. นายสารัช อยู่เย็น สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด,20. นายสินทวีชัย หทัยรัตนกุล สโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี,21. นายศราวุฒิ มาสุข สโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี,22. นายมงคล ทศไกร สโมสรเชียงราย ยูไนเต็ด,23. นายประทุม ชูทอง สโมสรเชียงราย ยูไนเต็ด,สำหรับกำหนดการเก็บตัว สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะประสานขอตัวไปยังสโมสรต้นสังกัดเพื่อแจ้งให้ทราบต่อไป,ขอบคุณภาพจาก : http://fathailand.org | สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ทำการประกาศรายชื่อ แข้งช้างศึก ทีมชาติไทย ชุดลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน ซูซูกิ คัพ 2016 | null | สมาคมกีฬาฟุตบอล,สมาคมฟุตบอล,ฟุตบอล,ทีมชาติไทย,ฟุตบอลทีมชาติไทย,ชิงแชมป์อาเซียน,ซูซูกิ คัพ,ซูซูกิ คัพ 2016 | https://www.thairath.co.th/content/760757 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.