title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
พี่สาวต่างแม่ วอนเมแกนผ่านสื่อ ขอให้พ่อได้พบหลานชาย อาร์ชี
เมื่อ 12 พ.ค.62 เว็บไซต์,มิร์เรอร์, รายงานว่า ,ซาแมนธา มาร์เคิล, พี่สาวต่างมารดาของเมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ กล่าวผ่านสื่อ ขอให้เจ้าชายแฮร์รี่และ,เมแกน, อนุญาตให้นายโทมัส มาร์เคิล บิดาของเมแกนได้มีโอกาสพบหลานชาย ,อาร์ชี, โอรสองค์น้อยของเจ้าชายแฮร์รี่กับเมแกน ซึ่งมีประสูติกาลเมื่อ 6 พ.ค.62 เพื่อช่วยเยียวยาความบาดหมางระหว่างนายโทมัส มาร์เคิล กับเมแกน ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนถึงวันแต่งงานกับเจ้าชายแฮร์รี่แล้ว,ซาแมนธา มาร์เคิล วัย 53 ปี ซึ่งเปิดศึกต่อว่าต่อขานเมแกนมาตลอด ตั้งแต่ก่อนเมแกน มาร์เคิลจะแต่งงานมาจนถึงขณะนี้ ยังกล่าวด้วยว่า เธอรู้สึกว่าเมแกนทำผิดที่ไม่เชิญพ่อให้ไปมีส่วนร่วมในการแสดงความยินดีที่โอรสอาร์ชี หลานชายทรงลืมตาดูโลก นอกจากนั้นเธอยังปรารถนาให้นางดอเรีย แร็กแลนด์ มารดาของเมแกนยื่นมือเข้ามาช่วยทำให้นายโทมัส อดีตสามีของเธอ มีโอกาสได้พบกับพระโอรสอาร์ชีด้วย,ซาแมนธา มาร์เคิล ยังบอกด้วยว่า ในวันที่เจ้าชายแฮร์รี่อุ้มพระโอรส อาร์ชี ปรากฏพระองค์ต่อสาธารณชนครั้งแรก หลังเมแกนมีประสูติกาลได้ 2 วัน อีกทั้งหลังจากเธอได้เห็นพระรูปของครอบครัวเจ้าชายแฮร์รี่ พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินเบอระ และนางดอเรีย แร็กแลนด์นั้น เธอได้รีบโทรศัพท์ไปบอกพ่อด้วยความตื่นเต้น,พ่อนั่งอยู่ในความสับสน มันเป็นช่วงเวลาที่เศร้าของพ่อ นางซาแมนธา กล่าวด้วยความเห็นใจที่พ่อของเธอไม่มีโอกาสได้พบหน้าหลานชาย นอกจากนั้นเธอยังแสดงความเห็นถึงพระนามโอรสองค์น้อย อาร์ชีว่า เป็นชื่อที่เท่ และโอรสทรงดูน่ารักมาก ซึ่งเธอคิดว่าโอรสอาร์ชีคล้ายกับเจ้าชายแฮร์รี่เล็กน้อย และมีจมูกเหมือนเมแกน,ทั้งนี้ เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกนได้ตั้งชื่อพระโอรส ทายาทองค์แรกของทั้งสองพระองค์ว่า อาร์ชี แฮร์ริสัน เมานต์แบ็ตแทน-วินด์เซอร์ โดยไม่มีบรรดาศักดิ์ นำหน้าว่า เจ้าชาย ซึ่งพระโอรสเจ้าชายแฮร์รี่จะเป็นรัชทายาทลำดับที่ 7 ของราชวงศ์อังกฤษ.
ซาแมนธา มาร์เคิล พี่สาวต่างแม่ ออกโรงวอนผ่านสื่อ ขอให้เมแกนอนุญาตให้พ่อโทมัส มีโอกาสพบหน้าหลานชาย อาร์ชี หลังเมแกนมีประสูติกาลโอรสองค์แรก
ข่าว,ต่างประเทศ
อาร์ชี,เมแกน,เจ้าชายแฮร์รี่,พ่อแมแกน มาร์เคิล,ซาแมนธา มาร์เคิล
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1566040
ดีเอสไอ แจงบังคับใช้กฎหมายตรวจค้น วัดพระธรรมกาย
หลังจากมีคำสั่งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ประกาศใช้อำนาจตามมาตรา 44 เข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา มีคำสั่งเตรียมปฏิบัติการจากทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ทันที เป็นคำสั่งฉบับที่ 1 เตรียมลงพื้นที่เข้าตรวจค้น เพื่อกดดันให้พระธรรมชโยออกมามอบตัวหนังสือจาก ดีเอสไอ ระบุ คำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 5/2560 ที่ 1/2560 เรื่องการปฏิบัติการภายในเขตพื้นที่การควบคุม เพื่อให้การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ภายในพื้นที่ควบคุมเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความข้อ 2 แห่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย บริเวณพื้นที่วัดพระธรรมกาย มีคำสั่งจากอธิบดี ดีเอสไอ โดยห้ามผู้ไม่ใช่พนักงาน กระทำการดังนี้ ห้ามเข้า-ออกพื้นที่วัดโดยเด็ดขาด เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ห้ามพกพาอาวุธ เครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิด ห้ามใช้เครื่องกระจายเสียงในพื้นที่ควบคุม ห้ามขัดขวางยั่วยุ หรือทำการใด ๆ ขัดขวางการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ ห้ามปลุกระดม ปลุกปั่น หรือก่อกวนเจ้าหน้าที่ ห้ามใช้อากาศยานไร้คนขับในพื้นที่ควบคุม ห้ามใช้อุปกรณ์ส่งสัญญาณหรือลำแสง หรือวิธีการใดรบกวนเจ้าหน้าที่ ห้ามจอดยานพาหนะบนทางสาธารณะในพื้นที่ควบคุม เว้นได้รับอนุญาต ห้ามถ่ายภาพ หรือบันทึกเสียงเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ควบคุม เว้นได้รับอนุญาต หรือ เป็นสื่อมวลชนที่ได้รับอนุญาตแล้ว ผู้ใดขัดขวาง มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับสั่ง ณ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 พันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 5/2560 วันนี้ (16 ก.พ.2560) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกันแถลงความจำเป็นที่จะต้องใช้กฎหมายพิเศษ หรือ มาตรา 44 ในการเข้าบังคับใช้กฎหมายกับวัดพระธรรมกาย ส่วนกำลังตำรวจ ทหาร ดีเอสไอ ที่ใช้ทั้งหมดกว่า 3000 นาย ก็เพื่อรักษาความเรียบร้อยของเหตุการณ์ รวมทั้งประเด็นที่นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายที่เข้ามอบตัวแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา ด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ขณะนี้นายองอาจ ซึ่งถูกออกหมายจับในคดีอั้งยี่ซ่องโจรนั้น ได้เดินทางเข้ามอบตัวแล้วในช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งทางพนักงานสอบ สวน.สภ.คลองหลวง ได้อนุญาตให้ประกันตัวออกไป ขณะเดียวกันทางตำรวจมีการประสานงานกับดีเอสไอตลอดเวลาเพื่อป้องกันเหตุมือที่ 3 สำหรับผู้ที่ขัดขวางเจ้าพนักงาน หรือใช้ความรุนแรง ทางเจ้าหน้าที่จะพูดคุยไปตามขั้นตอนหน้างานก่อน จะไม่มีการปะทะหรือใช้อาวุธเด็ดขาด และจะทำต่อเนื่องตลอดทังวันจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ
กรมสอบสวนคดีพิเศษ แจงเหตุต้องใช้ มาตรา 44 เข้าปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อนำ พระธัมมชโย เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย เบื้องต้นขอเจรจา ด้านนายองอาจ เข้ามอบตัวแล้ว
อาชญากรรม
กรมสอบสวนคดีพิเศษ,ดีเอสไอ,พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,พระธัมมชโย,องอาจ ธรรมนิทา,ปทุมธานี,วัดพระธรรมกาย,ธรรมกาย
https://news.thaipbs.or.th/content/260241
ราชัน ซึม ส.บอลกระทิง ปัดรับอุทธรณ์ ร่วงโกปาฯ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. สหพันธ์ฟุตบอลสเปน (อาร์เอฟอีเอฟ) ปฏิเสธรับอุทธรณ์โทษของ ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด สโมสรดังประจำลีก ลาลีกา สเปน จากกรณีที่ถูกปรับตกรอบฟุตบอลถ้วย โกปา เดล เรย์,ทีมแกร่งจากเมืองหลวงถูก อาร์เอฟอีเอฟ ปรับตกรอบศึกฟุตบอลถ้วย จากกรณีที่พวกเขาส่ง เดนิส เชอริเชฟ มิดฟิลด์ชาวรัสเซียลงสนามเป็นตัวจริงในเกมรอบ 32 ทีมนัดแรก ที่บุกไปชนะ กาดิช 3-1 โดยไม่ทราบว่าดาวเตะจากแดนหมีขาวยังคงมีโทษแบนติดค้างมาจากการลงเล่นในรายการนี้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว,จากกรณีดังกล่าว ทำให้ มาดริด ต้องตัดสินใจยื่นอุทธรณ์สู้ พร้อมทั้งพยายามชี้แจงว่าพวกเขาไม่ได้ทำผิดกฏ และไม่มีใครแจ้งให้ทางสโมสร รวมถึง เชอรีเชฟ ทราบว่าตัวนักเตะยังมีโทษแบนติดค้างอยู่,อย่างไรก็ตามล่าสุดทาง คณะกรรมการตัดสินก็ยังคงยืนยันคำพิพากษาเดิม โดยอิงหลักฐานคำแถลงการณ์ของสหพันธ์ และหลักฐานที่ว่าได้ยื่นเรื่องโทษดังกล่าวให้ ราชันชุดขาว รับทราบไปแล้ว,ทั้งนี้มีความเป็นไปได้สูงว่า มาดริด จะยังคงสู้ต่อโดยจะยื่นเรื่องอุทธรณ์กับ ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (ซีเอเอส) ต่อไป.
สหพันธ์ฟุตบอลสเปน (อาร์เอฟอีเอฟ) ปฏิเสธรับการยื่นอุทธรณ์โทษของ ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด จากกรณีที่ถูกปรับตกรอบ โกปา เดล เรย์ ในข้อหาส่งนักเตะที่ติดโทษแบนลงสนาม …
null
สหพันธ์ฟุตบอลสเปน,อาร์เอฟอีเอฟ,โกปา เดล เรย์,เดนิส เชอริเชฟ,ราชันชุดขาว,เรอัล มาดริด,ลาลีกา,สเปน,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/547471
10 จังหวัดภาคใต้ ฝนตกหนักบางแห่ง เรือเล็กงดออกจากฝั่งถึง 9 ม.ค.นี้
24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และ ตรัง ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทย ควรงดออกจากฝั่งจนถึง 9 ม.ค.นี้,วันที่ 8 ม.ค. 60 จากการตรวจสอบระบบพยากรณ์อากาศของไทยรัฐทีวี เดอะเวตเตอร์ คอมพานี พบว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีแนวโน้มเคลื่อนตัวทางทิศเหนืออย่างช้าๆ คาดว่าจะเคลื่อนเข้าอ่าวมะตะบัน และประเทศเมียนมา ในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรง ยังคงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง มีคลื่นสูง 2-3 เมตร,พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และ ตรัง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน มีกำลังแรง มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทย ควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 9 มกราคม 2560 และติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด,สำหรับภาคใต้ตอนล่าง บริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส เริ่มมีปริมาณฝนลดลง โดยในภาพรวมของสถานการณ์ฝนบริเวณภาคใต้ จะลดลงในวันที่ 9 มกราคม 2560,ภาคเหนืออากาศเย็น โดยมีฝนบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาเซลเซียส,ภาคอีสานอากาศเย็น โดยมีฝนบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-17 องศาเซลเซียส,ภาคกลางมีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส,ภาคตะวันออกมีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร,ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง,บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-29 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม/ชม.,ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร,ภาคใต้ฝั่งอันดามันมีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร,กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส
24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และ ตรัง ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือเดินเรือ
null
พยากรณ์อากาศ,เดอะเวตเตอร์ คอมพานี,น้ำท่วมใต้,ฝนตกหนัก,10 จังหวัดภาคใต้
https://www.thairath.co.th/content/830601
ทุจริตจัดซื้อภัยคุกคามธุรกิจไทย
จากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการตรวจสอบและป้องกันอาชญากรรมทางการเงินของภาครัฐและภาคเอกชนว่า จากการสำรวจผู้เข้าร่วมงานสัมมนาครั้งนี้พบว่า ผู้ถูกสำรวจมากถึง 93% ระบุว่า มีโอกาสเกิดการทุจริตจากการจัดซื้อ กับธุรกิจที่ดำเนินการในไทยในช่วงปี 60-61 ซึ่งการทุจริตในการจัดซื้อนี้ ถือเป็นปัญหาและภัยร้ายแรงที่ตรวจพบมากที่สุดเป็นลำดับต้นๆ,ทั้งในไทยและระดับโลก สอดคล้องกับผลสำรวจอาชญากรรมทางเศรษฐกิจปี 59 ของ PwC ประเทศไทย ซึ่งสำรวจองค์กรภาคธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐในไทยพบว่า การทุจริตจัดซื้อจะเป็นปัญหาการทุจริตที่ตรวจพบมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของไทยในปีนี้ รองจากการยักยอกสินทรัพย์และการรับสินบนและคอร์รัปชัน ปัญหาอาชญากรรมทางเศรษฐกิจล้วนเกิดจากพนักงานภายในองค์กร ทำให้ยากต่อการตรวจสอบการทุจริต โดยผลสำรวจปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ได้ดี เพราะผู้ถูกสำรวจเกือบ 80% ยอมรับว่าการทุจริตเกิดจากคนในทั้งสิ้น,นายวรพงษ์กล่าวต่อว่า สาเหตุของการทุจริตจัดซื้อที่พบส่วนใหญ่ เกิดจากการที่พนักงานสมรู้ร่วมคิดกับคู่ค้า และบ่อยครั้งก็มีการฮั้วในขั้นตอนการเลือกผู้ค้า ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่องค์กรต่างๆจะต้องมีการตรวจสอบวิเคราะห์คุณสมบัติพื้นฐานของพนักงานและคู่ค้า ครอบคลุมถึงความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานกับบุคคลที่สามที่เป็นผู้ค้าของบริษัท โดยหากบริษัทมีการประเมินความพร้อม และตรวจสอบคุณสมบัติพื้นฐานของผู้ค้า จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดทุจริตในขั้นตอนการประกวดราคา การจัดซื้อจัดจ้าง และการชำระเงินได้,สำหรับประเทศไทยนั้นนายวรพงษ์กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เพราะส่งผลต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศ ทั้งนี้ จากผลการจัดอันดับดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันประจำปี 59 โดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ พบว่าไทยตกมาอยู่ที่อันดับ 101 จากทั้งหมด 176 ประเทศ ถือเป็นลำดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี นับจากปี 56 ค่าคะแนนดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันของไทยถือว่ารั้งท้ายประเทศกลุ่มเศรษฐกิจบริคส์ และคิวบาที่ถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ สะท้อนให้เห็นว่าทุกฝ่ายต้องทำหน้าที่ให้ดีกว่านี้ หากต้องการให้ไทยเป็นประเทศที่น่าดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ.
นายวรพงษ์ สุธานนท์ หุ้นส่วนสายงาน Forensic services บริษัท PwC Consulting (ประเทศไทย) เปิดเผยในงานสัมมนา PwC Forensics Summit ซึ่งจัดขึ้นเพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในองค์กร
null
ปัญหาการทุจริต,PwC Forensics Summit,วรพงษ์ สุธานนท์,อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ,ทุจริตภายในองค์กร
https://www.thairath.co.th/content/877726
ฐานข้อมูลคลาดเคลื่อน หลังพบชื่อ อภิสิทธิ์ ร่วมโหวต กมธ.หลากหลายทางเพศ ทั้งที่ลาออก ส.ส.แล้ว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แจงเป็นความคลาดเคลื่อนทางฐานข้อมูล เหตุมีรายชื่อ อภิสิทธิ์ ร่วมโหวต กมธ.หลากหลายทางเพศ เนื่องจากไม่ได้มีสถานะความเป็น ส.ส.แล้ว25 ส.ค.2562 จากกรณีเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมานั้นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่สนับสนุนในการก่อตั้งคณะกรรมการธิการสามัญเรื่องคนหลากหลายทางเพศ โดยมีเสียงสนับสนุน 101 เสียง ขณะที่ที่อีก 365 เสียงคัดค้านนั้นเว็บไซต์สนุกดอทคอมเปิดรายชื่อ ส.ส. ทั้งผู้ที่สนับสนุนและคัดค้าน โดยมีรายชื่อหนึ่งที่สะดุดตาคือ ชื่อของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่าไม่เห็นด้วยกับการตั้ง กมธ. ดังกล่าวด้วยทั้งๆ ที่ อภิสิทธิ์ เคยประกาศลาออกจาก ส.ส. เพื่อรักษาคำพูดและรับผิดชอบกับคำพูด ที่เคยให้ไว้กับประชาชนตอนรณรงค์เลือกตั้งตั้งแต่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากพรรคประชาธิปัตย์มีมติพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐผู้สื่อข่าวประชาไท สอบถามไปยังราเมศ รัตนะเชวงโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงรายชื่อของอภิสิทธิ์ที่ปรากฎนั้น ว่าเป็นความคลาดเคลื่อนทางฐานข้อมูล เพราะไม่สามารถเป็นไปได้ที่อภิสิทธิ์จะไปร่วมโหวตในสภาเนื่องจากไม่ได้มีสถานะความเป็น ส.ส.แล้วทั้งนี้ หลังจากที่ อภิสิทธิ์ ประกาศลาออก ทำให้สุทัศน์ เงินหมื่น อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ได้รับการขยับขึ้นมาเป็น ส.ส.แทนนั้น ผู้สื่อข่าวตรวจสอบ กลับไม่พบชื่อของสุทัศน์ ในรายงานข่าวดังกล่าวที่เว็บไซต์สนุกดอทคอมเปิดเผยเช่นกัน
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แจงเป็นความคลาดเคลื่อนทางฐานข้อมูล เหตุมีรายชื่อ อภิสิทธิ์ ร่วมโหวต กมธ.หลากหลายทางเพศ เนื่องจากไม่ได้มีสถานะความเป็น ส.ส.แล้วภาพซ้ายจากเว็บไซต์สนุกดอทคอม25 ส.ค.2562
การเมือง
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,พรรคประชาธิปัตย์
https://prachatai.com/journal/2019/08/84030
ชมความน่ารัก น้องปีใหม่ สอนน้องเรื่องมารยาท-โชว์สเตปเต้นน่าเอ็นดู (คลิป)
เรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ สำหรับ น้องปีใหม่ ลูกสาวสุดน่ารักของไฮโซหนุ่ม สงกรานต์ เตชะณรงค์ และนางเอกสาวหน้าหวาน แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ เพราะเมื่อตอนที่น้องปีใหม่ไปหาคุณพ่อสงกรานต์ที่บ้าน และได้เจอ น้องโคโม่ ลูกสาวของ แจน พัทธมน น้องสาวของสงกรานต์ งานนี้น้องปีใหม่ก็ได้สอนมารยาทน้องโคโม่เรื่องโต๊ะอาหารด้วย เรียกว่าถอดแบบคุณแม่แอฟมาเป๊ะๆ,งานนี้คุณพ่ออย่างหนุ่มสงกรานต์ก็ได้โพสต์คลิปตอนที่น้องปีใหม่และน้องโคโม่นั่งกินข้าวด้วยกันที่โต๊ะอาหาร และเขียนแคปชั่นว่า พี่ปีบ่นไรครับ โดยในคลิปดังกล่าวน้องปีใหม่ช่วยพี่เลี้ยงดูแลน้องโคโม่ระหว่างกินข้าว และมีตอนหนึ่งที่น้องโคโม่หัวเราะ น้องปีใหม่หันไปพูดกับน้องโคโม่ว่า ไม่ควรหัวเราะค่ะโคโม่ เดี๋ยวติดคอ เดี๋ยวจะไม่สบายตาย อดเจอแม่ด้วย หลังจากนั้นแฟนๆ เลยเข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมในความน่ารักของน้องปีใหม่ บ้างก็บอกว่าน้องปีใหม่มารยาทงาม มีเช็ดปากหลังดูดเส้น เอากระดาษวาง นั่งมือประสาน ก่อนจะบอกว่าถอดแบบแม่แอฟมาชัดๆ, , ,ล่าสุดสงกรานต์โพสต์คลิปตอนที่น้องปีใหม่กับน้องโคโม่เต้นตามจังหวะเพลง และเขียนแคปชั่น เอาวิชานี้มาจากไหนครับ? ทำเอาแฟนๆ ที่ได้เห็นอดขำท่าเต้นของน้องปีใหม่ไม่ได้ แถมยังแซวว่าเต้นได้เซ็กซี่มาก บ้างก็บอกว่าน้องโคโม่ก็ไม่ยอมแพ้พี่ปีใหม่ด้วย เป็นโมเมนต์ที่น่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ., ,
เห็นแล้วเอ็นดู เมื่อน้องปีใหม่ ลูกสาวคุณพ่อสงกรานต์และคุณแม่แอฟ สอนน้องโคโม่เรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหาร รวมทั้งโชว์สเตปเต้นน่ารักๆ คู่กัน
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
น้องปีใหม่,น้องปีใหม่ ลูกสาวแอฟ สงกรานต์,น้องโคโม่ ลูกสาวแจน พัทธมน,สงกรานต์ เตชะณรงค์,แอฟ ทักษอร,อินสตาแกรมดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1659350
โดนัลด์ ทรัมพ์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
วันนี้ (9 พ.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งที่ 58 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 8 พ.ย.2559 ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ และภายหลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการเสร็จสิ้นลง นายโดนัลด์ ทรัมพ์ จากพรรครีพับลิกัน เฉือนชนะ นางฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครต โดยได้คะแนนเสียงมากกว่า 290 เสียงจากคะแนนทั้งหมด 538 เสียง โดยฮิลลารีได้ 218 เสียงทำให้ นายโดนัลด์ ทรัมพ์ กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ คนที่ 45 อย่างไม่เป็นทางการ แทนที่นายบารัค โอบามา ที่หมดวาระลงโดยทรัมพ์ใช้แคมเปญหาเสียงว่า We will make America great again โดยมีนโยบายสำคัญคือ สนับสนุนปฏิบัติการภาคพื้นดินในซีเรีย และเร่งปราบปรามกลุ่มไอเอส ที่กำลังเป็นภัยคุกคามต่อประชาคมโลกในขณะนี้ ลดบทบาทสหรัฐฯ คัดค้านข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน สานสัมพันธ์กับรัสเซีย คุมเข้มการตรวจคนเข้าเมือง สร้างอาชีพ 25 ล้านตำแหน่งให้ชาวอเมริกัน นโยบายการค้าแบบสหรัฐฯ ต้องมาก่อนชัยชนะในครั้งนี้ทำให้นายทรัมพ์เป็นตัวแทนจากพรรครีพับลิกันคนที่ 19 ที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อจาก นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช
นายโดนัลด์ ทรัมพ์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ คนที่ 45 ต่อจากนายบารัค โอบามา
ต่างประเทศ
เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ,เลือกตั้งอเมริกา,ประธานาธิบดี,ฮิลลารี คลินตัน,โดนัลด์ ทรัมพ์,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ThaiPBSnews,ผลการเลือกตั้ง,สหรัฐฯ,อเมริกา
https://news.thaipbs.or.th/content/257544
ซิวหนุ่มเดินยา หิ้วกล่องพัสดุซุก 2 หมื่นเม็ด ส่งตรงจาก แดนกังหันลม
เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ 26 มิ.ย.60 ที่ สน.บางรัก พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รอง ผบช.น. พ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก.สน.บางรัก พ.ต.อ.เกื้อกมล ดวงประทีป ผกก.1 บก.ทท. พ.ต.ต.สาธิต สอนชา สว.สส.สน.บางรัก พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.บางรัก แถลงผลจับกุม นายพิเชษฐ หรือเชษฐ กลมสม อายุ 39 ปี พร้อมของกลางเป็นยาอีจำนวน 22,090 เม็ด ยาบ้า 26 เม็ด ไอซ์น้ำหนักรวม 2 กรัม ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวแต่อย่างใด,พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่า นายพิเชษฐมีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติด โดยก่อนหน้านี้เคยถูกจับกุมมาแล้ว และเพิ่งออกจากคุกมาเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะไปบวชที่ต่างจังหวัด และสึกมาวันที่ 24 มิ.ย. แต่ก็ยังไม่เลิกพฤติกรรมดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จึงจัดชุดซุ่มดูกระทั่งพบตัวผู้ต้องหาในพื้นที่ สน.บางรัก จึงเข้าทำการตรวจค้นภายในตัว พบยาบ้าจำนวน 26 เม็ดและไอซ์หนัก 2 กรัม จากนั้นได้นำตัวขยายผลตรวจค้นภายในห้องพักเลขที่ 105 สี่พระยาอพาร์ทเมนท์ ซอยแก้วฟ้า แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพฯ พบกล่องพัสดุไปรษณีย์ขนาดใหญ่ ภายในพบเป็นกล่องอาหารเช้ายี่ห้อ QUAKER Creusli จำนวนหนึ่ง บรรจุยาอีจำนวน 20,090 เม็ด,จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนได้กระทำการดังกล่าวจริง โดยทำเป็นครั้งแรก ซึ่งตนทำหน้าที่เป็นคนไปรับกล่องพัสดุจากไปรษณีย์ (สาขายานนาวา) ที่ส่งมาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อนำมาส่งต่อให้นาง ข.(นามสมมติ) โดยได้รับค่าจ้างไปรับพัสดุจำนวน 20,000 บาท และค่าเช่าห้องพักอีกจำนวน 10,000 บาท,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาแก่นายพิเชษฐว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า ยาไอซ์ ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย หลังจากนี้จะทำการสอบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ ควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ชุดสืบสวน สน.บางรัก โชว์แถลงผลจับกุมหนุ่มใหญ่วัย 40 เพิ่งพ้นคุกมาไม่นาน หันมาเป็นเอเย่นต์เดินยา ขยายผลค้นห้องพัก เจอกล่องพัสดุไปรษณีย์ซุกยาบ้ากว่า 2 หมื่นเม็ด ส่งมาจากประเทศเนเธอร์แลนด์
ข่าว,อาชญากรรม
จับยาบ้า,ยาเสพติด,เนเธอร์แลนด์,สืบบางรัก,เอเย่นต์เดินยา
https://www.thairath.co.th/news/crime/984772
ผบ.ทร. รับ ยังมีคนเห็นต่าง คสช.-รัฐบาล
วันที่ 20 พ.ย. พล.ร.อ.ไกรสร จันทรสุวาณิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น แล้วเกิดการต่อต้านขึ้นว่า ถือเป็นเรื่องปกติที่มีความคิดที่ต่างกันอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องภายในประเทศ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ ตนคิดว่า คงต้องใช้เวลาสักระยะในการแก้ปัญหา ทั้งนี้ จริงๆแล้วทางรัฐบาลได้ให้โอกาสกับบุคคลที่เห็นต่าง อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้พรรคการเมือง ร่วมแสดงความคิดเห็น ต่อการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ ดังนั้น ขอให้มาร่วมมือกันดีกว่า เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้ ไม่ควรไปคิดแต่เรื่องในอดีตที่ผ่านมา ไม่งั้นจะไม่สามารถลบภาพความขัดแย้งเดิมๆได้,เมื่อถามว่า จากกรณีดังกล่าว จะเกิดการเลียนแบบต่อต้านในพื้นที่อื่นๆ อีกหรือไม่ พล.ร.อ.ไกรสร กล่าวว่า ตนไม่มั่นใจว่า จะมีลัทธิเอาอย่างอีกหรือไม่ แต่คิดว่า คนส่วนใหญ่เชื่อใจรัฐบาล เนื่องจากผลงานที่ผ่านมา รัฐบาลได้แสดงให้เห็นแล้วว่า สามารบริหารประเทศได้ดี สำนักโพลต่างๆ มีผลชี้วัดที่ออกมาเป็นผลดีเสียส่วนใหญ่ ฉะนั้นขอให้ช่วยกัน โดยเฉพาะสื่อฯเอง ต้องช่วยนำเสนอข่าวที่มีประโยชน์ต่อบ้านเมือง อย่าไปนำเสนอข่าวในแง่ลบที่ไม่มีประโยชน์ต่อสังคม ก็จะสามารถช่วยให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้
พล.ร.อ.ไกรสร จันทรสุวาณิชย์ ผบ.ทร. รับ ยังมีบุคคลเห็นต่างกับ รบ.-คสช. ชี้ เป็นเรื่องปกติ ติงสื่อฯ ควรเสนอข่าวด้านดี เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้
null
ไกรสร จันทรสุวาณิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ,ผบ.ทร.,เห็นต่าง,รบ.,คสช.,เรื่องปกติ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี,ติงสื่อฯ,เสนอข่าว,ด้านดี,ประเทศ,เดินหน้า,ข่าวการเมือง,หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
https://www.thairath.co.th/content/464611
ต่อยอดมาตรการ เราเที่ยวด้วยกัน เปิดช่อง ธุรกิจ รีบขึ้นทะเบียนกับคลัง-ททท.
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.กำลังเตรียมมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวเพิ่มเติมเพื่อต่อยอดมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หรือโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน ที่กำลังดำเนินการในขณะนี้ โดยมีแนวคิดว่า ควรจะหามาตรการมาสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วงวันธรรมดาให้มากขึ้น เพราะมาตรการที่ออกมาใช้ในช่วงนี้เป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดมากกว่าสศค.กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนออกมาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องในทุกๆวันของสัปดาห์ ไม่ใช่เที่ยวเฉพาะช่วงวันหยุดเท่านั้น ส่วนจะใช้แนวทางใดนั้น ต้องเสนอระดับนโยบายเพื่อหาข้อสรุปก่อน นอกจากนี้ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการนี้ได้มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบการ กระทรวงการคลัง และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำลังพิจารณาว่าจะเปิดกว้างให้กลุ่มนี้เข้าถึงมาตรการดังกล่าวด้วย อาทิ กลุ่มที่อยู่ระหว่างการยื่นขอจดทะเบียน กลุ่มที่ใบอนุญาตหมดอายุไม่เกิน 1 ปี และกลุ่มที่ยังไม่มีใบอนุญาตเช่น กลุ่มบูทีค โฮเทล แต่ยังไม่ได้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม เพราะยังไม่ได้เกณฑ์มาตรฐาน เป็นต้นอย่างไรก็ตาม หากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวของรัฐบาลมีเสียงตอบรับที่ดี ประชาชนให้ความสนใจมาก ก็อาจจะพิจารณาขยายระยะเวลาของมาตรการเพิ่มเติม เพราะเชื่อว่า วงเงินที่กำหนดไว้เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับห้องพัก จำนวน 5 ล้านห้อง ห้องละ 3000 บาท จำนวน 15000 ล้านบาท จะใช้ไม่เต็มวงเงิน เนื่องจากหากจะใช้เต็มวงเงิน ผู้เข้าร่วมมาตรการจะต้องเข้าพักในราคาค่าที่พักคืนละ 7500 บาทถ้าจะใช้เต็มวงเงิน 15000 ล้านบาท ผู้เข้าร่วมมาตรการจะต้องเข้าพัก 5 ล้านห้องในราคา 7500 บาทต่อคืน ซึ่ง สศค.ประเมินว่า ประชาชนบางส่วนจะใช้ห้องพักราคาต่ำกว่านี้ ดังนั้น เงินที่เราจะชดเชยให้ก็จะยังมีเหลือพอหากมีการต่อระยะเวลามาตรการ อย่างไรก็ตาม สศค.ประเมินว่า มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นจีดีพีได้ 0.2-0.3% และกระตุ้นการใช้จ่ายในลักษณะกระจายไปทั่วประเทศ ไม่ได้กระจุกอยู่ในจุดใดจุดหนึ่งเท่านั้น.อ่าน เราเที่ยวด้วยกันลงทะเบียน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เปิดให้ประชาชนชิงสิทธิ์ แจกเงินเที่ยวแล้ว
สศค.กำลังเตรียมมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวเพิ่มเติมเพื่อต่อยอดมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หรือโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน ที่กำลังดำเนินการในขณะนี้
ข่าว,เศรษฐกิจ
เราเที่ยวด้วยกัน,เที่ยวปันสุข,โครงการเที่ยวปันสุข,โครงการเราเที่ยวด้วยกัน,วันหยุดยาว,ลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกัน,ข่าววันนี้
https://www.thairath.co.th/news/business/1884448
ชี้มวยเด็ด : ศึกจิตรเมืองนนท์ ยอดขุนทัพ มีฮึดกว่า จะชนะ ประจัญบาน
ยอดขุนทัพมีฮึดกว่าจะชนะประจัญบาน อภิวัฒน์–แท่งทอง–วิษณุชัย–ต้องลุ้น,เวทีราชดำเนิน วันจันทร์ที่ 4 พ.ย. (วันนี้) เป็นรายการมวย ศึกจิตรเมืองนนท์ จัดโดยโปรโมเตอร์ สมจิตร แว่นแก้ว คู่มวยคู่คี่ เก็บค่าดู 400-800-2,000 บาท ชัย ศิษย์ อ.บี้ ขอวิจารณ์ไปตามฝีมือดังนี้,จอมเดช จิตรเมืองนนท์ มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงแต่เสียดสีเป็นรอง จะแพ้ เพชรสิงหา เพชรอะไหล่ซิ่ง 126 ป.,เฉลิมเกียรติ เกียรติเปเป้ มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงฉลาดการเตรียมตัวดีกว่า จะชนะ คนเหล็กเพชร เกียรติบุญเกิน 122 ป.,เฮอริเคน (ส.เดชะพันธ์) จิตรเมืองนนท์ มวยแข็งแกร่งเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดกว่า จะชนะ ไทยแลนด์เล็ก (สิงห์พรชัย) ส.จุลเสน 128 ป.,วิษณุชัย จิตรเมืองนนท์ (แพ้ทีเคโอ จงอางศึก ศิษย์กำนันดิ่ง ยก 3 ที่สมุทรปราการ) มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงสภาพแวดล้อมแรงเชียร์ดีกว่า จะชนะ จ้าวพายุ ต.เพชรตะวัน (แพ้คะแนน พระรามเก้า 13 เหรียญรีสอร์ท ที่ ลพน.) มวยแข็งแกร่งเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงแต่สภาพแวดล้อมแรงเชียร์เป็นรอง 134 ป.,งาเทา ป.วราลักษณ์ (แพ้คะแนน กำชัย ส.พงษ์อมร ที่สมุทรปราการ) มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกปล้ำตีรุนแรงเก๋าเกมแต่สภาพร่างกายเป็นรอง จะแพ้ แท่งทอง เพชรมณีรัตน์ (ชนะทีเคโอ ยอดขุนพล นิธิพัฒน์ทนายความ ยก 2 ที่ ลพน.) มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกแม่นยำรุนแรงสภาพร่างกายดีกว่าชนิดต้องลุ้น 123 ป.,อภิวัฒน์ ส.สมนึก (แพ้คะแนน สุริยันต์เล็ก พ.เย็นยิ่ง ที่ดอนเมือง) มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกปล้ำตีรุนแรงฉลาดกว่า จะชนะ มังกรเพชร สก.สุไหงยิมส์ (ชนะทีเคโอ เพชรดำ ภ.เจริญแพทย์ ยก 4 ที่สมุทรปราการ) มวยแข็งแกร่งเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดแต่จังหวะเป็นรองช้ากว่า 127 ต่อ 128 ป.,ประจัญบาน สจ.วิชิตเมืองแปดริ้ว (เสมอกับ กุมารทอง จิตรเมืองนนท์ ที่ รดน.) มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกปล้ำตีรุนแรงแต่แรงปลายเป็นรอง จะแพ้ ยอดขุนทัพ สก.สุไหงยิมส์ (แพ้ทีเคโอ ช่อฟ้า ท.แสงเทียนน้อย ยก 4 ที่ รดน.) มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดกว่าท้ายๆชนิดสนุก 129 ป.,พรเสน่ห์ เกียรติเปเป้ มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงการเตรียมตัวดีกว่า จะชนะ สิงห์พยัคฆ์ พยัคฆ์ลำพอง ชนิดสนุกอีกครั้ง 126 ป.,ดัง จิตรเมืองนนท์ จะชนะ ทหารเอก ศิษย์เซียนอ้วน 100 ป.,ชัย ศิษย์อาจารย์บี้
เวทีราชดำเนินวันนี้ เป็นรายการมวย ศึกจิตรเมืองนนท์ จัดโดยโปรโมเตอร์ สมจิตร แว่นแก้ว คู่มวยคู่คี่ เก็บค่าดู 400-800-2,000 บาท ชัย ศิษย์ อ.บี้ ขอวิจารณ์ไปตามฝีมือดังนี้
null
คู่มวยเด็ด,วิเคราะห์มวย,ประกบคู่มวย,มวยคู่เอก,ศึกจิตรเมืองนนท์,ชี้มวยเด็ด,ชัย ศิษย์อาจารย์บี้
https://www.thairath.co.th/sport/boxing-mma/1696031
บิ๊กตู่ ย้ำเลือกตั้งยังตามโรดแม็ปปี 60 การันตีพร้อมเพย์ปลอดภัย
เมื่อวันที่ 9 ส.ค.เวลา 09.30 น.ที่ห้องประชุม 501 ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ คสช.ภายหลังร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงผ่านประชามติ เพื่อกำหนดแนวทางขั้นตอนการดำเนินการหลังจากนี้ โดย ครม.และสมาชิก คสช.เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม รองหัวหน้า คสช.พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม สมาชิก คสช. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม สมาชิก คสช. พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ผบ.สส. พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม สมาชิก คสช. พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ.และเลขาธิการ คสช. พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผบ.ทร.สมาชิก คสช. และ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผบ.ทอ.สมาชิก คสช. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.สมาชิก คสช.และ นายมีชัย ฤชุพันธ์ุ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) สมาชิก คสช.,ทั้งนี้ ก่อนการประชุมร่วม ครม.-คสช.ที่ชั้น 1 ตึกบัญชาการ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง นำคณะจากสมาคมธนาคารไทยเข้าพบนายกฯ เพื่อประชาสัมพันธ์การลงทะเบียนพร้อมเพย์ ซึ่งมีธนาคาร 7 แห่งร่วมออกบูธ อาทิ กรุงไทย ออมสิน กรุงเทพ กรุงศรี ทหารไทย เอสซีบี มาเปิดบริการให้ ครม.ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนลงทะเบียนใช้บริการดังกล่าว,โดยนายกฯ ได้ลงทะเบียนระบบพร้อมเพย์ ธนาคารกรุงศรี กรุงไทย และเอสซีบี และได้กล่าวว่า ขอให้เชื่อมั่นว่าระบบพร้อมเพย์ มีความพร้อมและปลอดภัย มาพร้อมกันทุกธนาคาร แต่ทำทุกธนาคารคงไม่ไหว และกล่าวหยอกล้อผู้สื่อข่าวว่า คราวหน้าบัตรผ่านประตูนักข่าวต้องใช้พร้อมเพย์ ,ขณะเดียวกัน นายกฯ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ก่อนขึ้นประชุม ถึงโรดแม็ปเลือกตั้งปี 60 ว่า ขอให้เชื่อมั่น โรดแม็ปไม่เคยพูดเป็นอย่างอื่น ไม่ต้องถาม.
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ถกร่วม ครม.-คสช. หลังร่าง รธน.-คำถามพ่วงผ่านประชามติ ย้ำก่อนประชุม เลือกตั้งยังเดินตามโรดแม็ปปี 60 พร้อมนำ ครม.-ข้าราชการ ลงทะเบียนสมัครระบบ พร้อมเพย์ หวังการันตีปลอดภัยจริง
null
เลือกตั้งปี 60,โรดแม็ป,ร่างรัฐธรรมนูญ,คำถามพ่วง,ประชามติ,พร้อมเพย์,ระบบพร้อมเพย์,ลงทะเบียนพร้อมเพย์,โรดแม็ปเลือกตั้งปี 60,ประชุม ครม.- คสช.,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/685653
ตร.ชุมแพจับ เจ๊ตุ๊ คดีฉ้อโกงประชาชน พบสัญญาเงินกู้ไม่เป็นธรรม
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 16 พ.ย. 61 พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.ชุมแพ พ.ต.ท.ปรัชญามาศ ไชยสุระ รอง ผกก.สส.สภ.ชุมแพ พ.ต.ท.ชาญศักดิ์ สุนทโรจน์ รอง.ผกก สว.สอบสวน สภ.ชุมแพ พ.ต.ท.ปรเมศร พะละพิลา สว.สส.สภ.ชุมแพ พ.ต.ท.กฤติเดช สุพรรณ์ สว.สอบสวน สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.พรเทพ ทุ้ยแป รอง ผกก.กก.สส.3 บก.สส.ภ.4 พ.ต.ท.ชาติชาย ทิมินกุล สว.กก.สส.3 บก.สส.ภ.4 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 4 สืบสวนภูธรจังหวัดขอนแก่น และชุดสืบสวน สภ.ชุมแพ กว่า 30 นาย พร้อมหมายจับศาลจังหวัดชุมแพ เลขที่ ค.449/2561 ลงวันที่ 14 พ.ย. 61 เข้าจับกุมนางตุ๊ ฐิตรัตน์สกุล อายุ 77 ปี หรือเจ๊ตุ๊ อยู่บ้านเลขที่ 92/6 ม.2 ต.ชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ภายในบ้านพักโรงน้ำแข็งทรงวุฒิ เลขที่ 345-346 ม.2 ต.ชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น พร้อมอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายและจับกุมตัวส่งฟ้องศาลดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและให้ผู้อื่นกู้ยืมเงิน โดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด,พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจาก วันที่ 9 พ.ย. 61 ที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นโรงน้ำแข็งดังกล่าวและบ้านพักเดี่ยวด้านในของนางตุ๊ หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์การฉ้อโกงประชาชนตำรวจภูธรภาค 4 ก่อนตรวจยึดเอกสารไปทำการตรวจสอบจำนวนหนึ่ง ผลการตรวจสอบเอกสารพบว่า นางตุ๊มีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้ ทำสัญญากู้ยืมไม่เป็นธรรมกว่า 200 ฉบับ เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด มีลักษณะการจำนอง ขายฝาก ที่ดิน ไม่เป็นธรรม ทำให้ประชาชนเดือดร้อนจริง จึงได้ขออนุมัติหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เพื่อหาพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดี จึงเข้าควบคุมตัวนำไปสอบสวน นางตุ๊ให้การปฏิเสธ. 
ตร.ชุมแพ บุกจับ เจ๊ตุ๊ ตามหมายจับพร้อมอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง ในคดีฉ้อโกงประชาชนและให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินดอกโหด หลังพบหลักฐานสัญญาไม่เป็นธรรม นำตัวส่งดำเนินคดี ด้านผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
ข่าว,ทั่วไทย
เจ๊ตุ๊,อ.ชุมแพ,ปล่อยเงินกู้,สัญญาไม่เป็นธรรม,ฉ้อโกงประชาชน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1422631
เพื่อไทยดักคอรัฐ อย่าใช้งบหาเสียงล่วงหน้า เอื้อคนไม่กี่กลุ่ม
เมื่อวันที่ 14 ม.ค.61 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2561 เพิ่มเติม 150,000 ล้านบาท ว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมจากงบปกติ 3 ครั้ง คิดเป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 396,000 ล้านบาท แต่ประชาชนโดยเฉพาะในระบบเศรษฐกิจฐานราก สัมผัสไม่ได้ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลเน้นแต่แผนการแจกเงิน แต่ไม่ได้เน้นโครงการในลักษณะสร้างงานสร้างอาชีพเพื่อยกระดับรายได้ที่มั่นคง รัฐบาลต้องไปเน้นย้ำการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อให้เกิดการใช้งบประมาณในการสร้างรายได้ให้กับประชาชน โดยเฉพาะในช่วงปลายรัฐบาลแบบนี้ ประชาชนอยากเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กลุ่มประชาชนผู้มีรายได้น้อย เกษตรกรได้ประโยชน์ ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น สร้างการหมุนเวียนของรายได้เข้าไปในระบบเศรษฐกิจที่แท้จริง แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ รวยกระจุก จนกระจาย,นอกจากจะแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำไม่ได้ ปัญหาดังกล่าวยังพุ่งสูงขึ้นไปอีก ไม่ควรใช้งบประมาณไปเพื่อการหาเสียงล่วงหน้า ซึ่งผลประโยชน์จะไปตกอยู่ในกลุ่มคนไม่กี่กลุ่ม ขอให้บริหารจัดการให้ดีถ้าสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้บ้าง ประชาชนก็เลือกท่านเอง ไม่จำเป็นต้องไปหาเสียงล่วงหน้าแล้วไม่เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แท้จริง แม้ว่า คสช.จะให้กำเนิด สนช. แต่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2561 เพิ่มเติม ทุกฝ่ายควรทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่ออย่างน้อยในวาระท้ายของการทำหน้าที่ ประชาชนจะได้เห็นว่าท่านได้ตระหนักถึงการยึดเอาประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง.
เพื่อไทย เตือน รบ.ไม่ควรใช้งบกลางปีหาเสียงล่วงหน้า หยันแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ปชช.จะเลือกกลับมาเป็นรัฐบาลเอง
ข่าว,การเมือง
เพื่อไทย,เศรษฐกิจ,ปัญหาเศรษฐกิจ,เศรษฐกิจตกต่ำ,ปัญหาปากท้อง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1177152
แบบนี้นี่เอง มาดามแป้ง เปิดใจล่าสุดหลัง ชบาแก้ว ลิ่ว 8 ทีม อชก.
วันที่ 22 ส.ค.61 ความเคลื่อนไหวฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย หลังผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ 2018 จากการคว้าอันดับสามที่ดีที่สุด ตามเงื่อนไขการแข่งขัน ทั้งนี้ผลการแข่งขันในกลุ่มซีคือ ไทยพ่ายญี่ปุ่น 0-2 และไทยพ่ายเวียดนาม 2-3 ส่วนเวียดนามพ่ายญี่ปุ่น 0-7 โดยทีมไทยจะรอพบอันดับ 1 ของกลุ่มเอ หรืออันดับ 1 ของกลุ่มบี ต้องรอผลการแข่งขันของกลุ่ม บี ในวันนี้ (22 ส.ค. 61) จบลงเสียก่อน,ด้าน มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยยอมรับผิดหวังในรอบแรกที่ผลงานไม่เข้าเป้า แต่เมื่อได้เข้ารอบ ยืนยันว่าจะพาทุกคนทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยกล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษแฟนบอลชาวไทยสำหรับการแข่งขันนัดที่ผ่านมากับเวียดนาม ยอมรับว่าเราผิดฟอร์ม ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แม้จะได้โอกาสเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ด้วยตำแหน่งอันดับสามนั้น ทำให้ต้องเจอคู่ต่อสู้สุดหิน ไม่ว่าจะเป็น เกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ หรือ จีน หนักหนาพอกับการเจอญี่ปุ่นในนัดแรก,แต่เมื่อยังมีโอกาสไปต่อได้อีกครั้ง แป้งมองว่าเป็นโอกาสให้ทุกคนได้พัฒนาตัวเอง แก้ไขความผิดพลาด มาถึงตรงนี้ ก็ต้องมาสู้กันใหม่ค่ะ มองในแง่ดี เราจะมีโอกาสเล่นกับทีมใหญ่ๆ แบบนี้ได้ที่ไหนอีก เป็นประสบการณ์ชีวิตล้วนๆ ค่ะ เราก็ต้องลุยต่อให้เต็มที่ แป้งและทีมก็ขอสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุดแน่นอนในรอบต่อไปค่ะ มาดามแป้ง กล่าวปิดท้าย,สำหรับในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย จะพบกับทีมอันดับ 1 กลุ่มเอ หรือ กลุ่มบี นั้น ต้องรอผลการแข่งขันนัดสุดท้ายของกลุ่มบี ทั้งสองคู่ ในวันที่ 22 สิงหาคม 2561 ซึ่งหากแข้งสาวไทย พบกับ อันดับ 1 ของกลุ่มเอ จะแข่งขันในวันที่ 24 สิงหาคม 2561 เวลา 16.00 น. แต่หากพบกับ อันดับ 1 ของกลุ่มบี ก็จะแข่งขันในวันที่ 25 สิงหาคม 2561 เวลา 19.30 น. ที่สนาม จาร์กาแบริ่ง สเตเดียม
นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมคนสวยของ ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ออกมาเปิดใจหลังทีมทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึก เอเชียนเกมส์ 2018
กีฬา,เอเชียนเกมส์
มาดามแป้ง,นวลพรรณ ล่ำซำ,ชบาแก้ว,ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย,เอเชียนเกมส์
https://www.thairath.co.th/sport/asiangame/1360047
เอฟทีเอ ว็อทช์ ส่งสารถึง ประยุทธ์ ก่อนไปญี่ปุ่น ขออย่าเข้า CPTPP ชี้ก่อปัญหาทั้งสังคม
ทำให้ไทยกลายเป็นถังขยะโลก ถ้าพลาดคราวนี้ ภาคเกษตรล่มสลายทรัพยากรชีวภาพถูกขโมยเรียบ4 ต.ค.2561 ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. มีกำหนดการเตรียมเดินไปประชุมความร่วมมือแม่น้ำโขงกับญี่ปุ่น ณ กรุงโตเกียว ระหว่างวันที่ 8-9 ต.ค.นี้ กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ ว็อทช์) จัดแถลงข่าว ส่งสารถึงหัวหน้า คสช.ก่อนเยือนญี่ปุ่น: 10 ปีบทเรียน JTEPA ก่อนตัดสินใจเข้าร่วมความตกลง CPTPP โดยระบุว่า การเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ หนึ่งในวัตถุประสงค์ของรัฐบาล คสช.คือการไปเดินหน้าขอเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าของหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค (CPTPP) ซึ่งญี่ปุ่นให้การสนับสนุนและเร่งเร้ามาโดยตลอด นับตั้งแต่สหรัฐฯถอนตัวจากความตกลงนี้ไปกรรณิการ์ กิจติเวชกุล รองประธานเอฟทีเอ ว็อทช์ กล่าวว่า ก่อนที่นายกฯและหัวหน้าคสช.จะดำเนินการเช่นนั้น ขอให้ศึกษาข้อมูลและบทเรียนที่เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างถี่ถ้วน โดยเฉพาะผลที่เกิดขึ้นหลังการจัดทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็นถังขยะโลก และหากเข้าร่วม CPTPP จะทำให้ญี่ปุ่นสามารถยึดกุมทรัพยากรชีวภาพของไทย เช่นที่ทำมาแล้วกับ พืชกัญชา พืชกระท่อม และยังขัดขวางไม่ให้เกษตรกรไทยเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกได้อีก แต่ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์กลับโฆษณาประชาสัมพันธ์ถึงข้อดีของการเข้าความตกลง CPTPP อย่างบิดเบือน พูดเพียงข้อดีของความตกลง และพยายามให้ข้อมูลว่า หลายข้อห่วงใยด้านยาและการคุ้มครองการลงทุนถูกตัดออกไปแล้ว เมื่อสหรัฐฯถอนตัวจากการเจรจา ทั้งที่จริงเป็นเพียงการหยุดชั่วคราว ซึ่งไม่มีความชัดเจนว่า จะถูกนำกลับมามีผลบังคับใช้เมื่อไรอย่างไร อีกทั้งไม่ได้วิเคราะห์ถึงความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะถูกเรียกร้องให้ต้องแลกเปลี่ยนหรือผูกพันมากกว่าความตกลงฯจากสมาชิก 11 ชาติก่อนหน้าเพื่อให้ยอมรับไทยฉะนั้นไม่มีทางที่หัวหน้าคสช.จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องมากพอสำหรับการตัดสินใจในอนาคตของชาติกับเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เอฟทีเอ ว็อทช์จึงต้องออกมาส่งสารถึงพวกท่าน และการเข้า CPTPP ยังส่งผลกระทบทางลบโดยตรงกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของคสช.เองเสียด้วยซ้ำรองประธานเอฟทีเอ ว็อทช์ กล่าวทางด้าน เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ กล่าวว่า เมื่อ 11 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ 22 ธันวาคม 2549 องค์กรพัฒนาเอกชนที่รวมกันในนามเอฟทีเอ ว็อชท์ ออกมาแสดงความกังวลที่รัฐบาลไทยไปทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ขณะนั้นจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นถังขยะโลก ซึ่งคำเตือนครั้งนั้นไม่ได้เป็นการพูดเกินจริงจาก 11 ปีที่ผ่านมา ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) มีจุดมุ่งหมายให้เปิดการเคลื่อนที่ของขยะที่ประเทศร่ำรวยไม่สามารถกำจัดเองได้ ถูกส่งออกไปกำจัดที่ประเทศยากจนกว่า โดยสาระสำคัญของความตกลงดังกล่าว คือการทำให้ขยะเป็นสินค้า แบ่งเป็นชนิดกว่า 1000 รายการ และสามารถค้าขายได้ ตัวอย่างเช่น กากสารเคมี ขี้เถ่าจากเตาเผาขยะ ตะกอน ขยะเทศบาล ฯลฯ แม้จะเป็นขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้เลย ขจัดอุปสรรคทางกฎหมายต่างๆ นี่คือสิ่งที่ความตกลง JTEPA ได้ปูทาง แต่สถานการณ์ย่ำแย่มากขึ้นหลังรัฐประหาร แม้รัฐบาล คสช. ประกาศให้เรื่องขยะเป็นวาระแห่งชาติ แต่การออกคำสั่งโดยใช้มาตรา 44 คำสั่ง คสช. 4/2559 ยกเว้นผังเมือง ให้โรงแยกขยะ โรงไฟฟ้าขยะ สามารถตั้งที่ไหนก็ได้ และยังมีกฎหมายอำนวยความสะดวกที่นักลงทุนให้กดดันเมื่อถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเข้มงวดเกินไป ทำให้ธุรกิจกำจัดของเสียให้เกิดเพิ่มขึ้นทุกปี ไฟเขียวตั้งโรงงานให้ง่ายขึ้น เช่น ที่สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี พื้นที่รอบแหลมฉบัง ยิ่งเมื่อจีนเลิกรับขยะเข้าประเทศ ประเทศไทยจึงกลายเป็นปลายทางขยะอิเล็กทรอนิกส์ ขยะพลาสติกของโลกเพ็ญโฉม กล่าวผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศระบุว่า ขยะพิษทั่วโลกที่พบในประเทศไทยไม่ใช่เรื่องปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย แต่เป็นผลการเปิดทางของความตกลง JTEPA ทำให้อนุสัญญาบาเซลไม่สามารถคุ้มครองไทยได้ เพราะไปเปิดทางไว้หมดแล้วโดยไม่จำกัดแค่ขยะจากญี่ปุ่นเท่านั้นขยะกับการค้าเสรี (FTA) เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มหาศาล ทั้งผลประโยชน์การเมือง ท้องถิ่น และอีกมากมาย แม้ปัจจุบันงานศึกษาของรัฐบาลญี่ปุ่นแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้คำ FTA เปลี่ยนเป็น หุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (EPA – Economic Partnership Agreement) ที่ให้ความรู้สึกดีกว่า แต่แท้จริงแล้วไม่ต่างกัน เพราะกลไกนี้ท้ายที่สุดก็คือการทำให้ประเทศร่ำรวยในยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น แก้ไขปัญหาขยะในบ้านตัวเองได้โดยนำขยะมาทิ้งไว้ในประเทศกำลังพัฒนา กรณีญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ผลิตขยะต้นๆของโลก เฉลี่ยขยะเทศบาลตามบ้านเรือน 40 ล้านตัน ขยะอันตราย 400 ล้านตัน ซึ่งมีมากกว่าประเทศไทยมาก แต่ไม่มีพื้นที่ทิ้งขยะ ญี่ปุ่นจึงต้องคิดยุทธศาสตร์แก้ปัญหาประเทศเรื่องขยะ โดยใช้กลไกการค้าเสรีในอนาคตไทยมีความสามารถเป็นพื้นที่รองรับขยะที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียได้หรือไม่ หลายสิบปีก่อน ประเทศจีนเป็นจุดหมายปลายทางของขยะหมุนเวียนจากประเทศต่างๆ ในปี 2558 จีน นำเข้าขยะกว่า 49.6 ล้านตัน แต่ปัจจุบันจีนยกเลิกการนำเข้าขยะเนื่องจากปัญหาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นและต้องการฟื้นฟูประเทศ จึงเกิดคำถามว่าประเทศไทยมีศักยภาพรองรับขยะได้เหมือนจีนหรือไม่ มาตรฐานของโรงงานรีไซเคิลไทยทำได้หรือไม่ และจะเกิดผลกระทบอะไรหากประเทศไทยนำเข้าขยะมากที่สุดในภูมิภาค ซึ่งตัวเลขจากนักวิชาการจากสหรัฐฯชี้ว่าในช่วงครึ่งปี 2561 มีขยะ 8 หมวดส่งมาที่ไทยมากกว่าเดิม 2000-7000% จากเดิมที่ถูกส่งไปจีนผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ กล่าวข้อตกลงการค้าเสรีที่ประเทศไทยทำแล้วเริ่มตั้งแต่ 2546 มีถึง 14 ฉบับ เร่งการค้าขยะปลอดภาษี ตัวอย่างการยกเว้นภาษีและลดอัตราศุลกากรสำหรับของที่มีถิ่นกำเนิด หมายถึงว่าข้อตกลงเหล่านี้ทำให้ไทยกลายเป็นประเทศที่นำเข้าขยะปริมาณนำเข้าของเสียเคมี จากประเทศญี่ปุ่นปีละหลายพันตัน เช่น เศษน้ำมัน ขี้แร่ ฯลฯ และการนำเข้าเศษทังสเตน ญี่ปุ่นส่งเข้าสูงที่สุด ลองลงมา ตุรกี เยอรมนี ที่ไทยนำเข้ามา ตัวขี้แร่นำเข้ามาจาก 6 ประเทศ ญี่ปุ่นมาอันดับ 1 ขยะเทศบาล ตัวเลขนำเข้าขยะที่นำเข้าประเทศไทย เช่น ขี้น้ำมัน ที่ไทยน้ำเข้าขยะมากว่า 30 ประเทศ ทำให้เกิดคำถามว่าประเทศไทยเป็นที่รองรับขยะอันตรายใช่หรือไม่ และเมื่อ พ.ย.2560 กระทรวงการคลังยังได้ออกประกาศลดอากรสินค้าซึ่งทั้งหมดเป็นขยะเท่ากับยอมรับการนำเข้า ขณะที่การตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์นำเข้าถูกบังคับให้ทำได้แค่ 10% ส่งออกตรวจได้ 20%ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อรัฐบาลให้ยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ 4/2559 และกฎหมายที่เอื้ออำนวย พระราชบัญญัติโรงงาน และกรมโรงงานที่ย่อหย่อนต่อการเปิดโรงงานขยะ ทบทวนและดำเนินการเพื่อให้มีการปรับปรุงแก้ไขความ ตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจบางประเด็นเพื่อห้ามการนำเข้าขยะอันตรายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ (BIOTHAI) กล่าวว่า บทเรียนกว่า 10 ปีที่ประเทศไทยรับข้อตกลงระหว่างประเทศ เริ่มตั้งแต่ปี 2544 รัฐบาลทักษิณ จนถึงรัฐบาล คสช. ทุกครั้งที่รัฐบาลไปลงนามความตกลงระหว่างประเทศ มีการเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมน้อยมาก ดังเช่นครั้งที่รัฐบาลทักษิณไปลงนามความตกลงเอฟทีเอกับออสเตรเลีย ประชาชนมีโอกาสเห็นเนื้อหาข้อตกลงในขณะที่ลงนามไปแล้ว ไม่มีโอกาสได้รู้เนื้อหาก่อน ขณะที่ความตกลง JTEPA มีข้อจำกัดมากมายในการเข้าถึงข้อมูล ขณะนั้นกระทรวงการต่างประเทศให้เข้าไปดูแต่ห้ามจด ไม่มีการประเมินผลกระทบในปัจจุบันประชาชนก็ยังมีส่วนร่วมน้อยมาก เป็นเรื่องของกลุ่มผู้นำที่ไม่ว่ารัฐบาลใดก็ไม่แตกต่าง ทุกครั้งที่มีความตกลง จะมีการสัญญาหลายเรื่อง เมื่อ 11 ปีที่แล้ว คณะเจรจาฯนำโดยกระทรวงการต่างประเทศกับญี่ปุ่น ก็อ้างว่าภาคเกษตรจะได้ประโยชน์ เช่น มีการลดลงภาษีสินค้าเกษตรถึงร้อยละ 80 ยกเว้นเรื่องข้าวที่ญี่ปุ่นขอไว้ อัญมณี ส่งทอ จะได้ประโยชน์อย่างชัดเจน ในภาคบริการ คนไทยกว่า 135 อาชีพ สามารถไปทำงานที่ญี่ปุ่นได้ง่ายขึ้น ความร่วมมือระว่างสหกรณ์การเกษตรจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรรายย่อยในประเทศไทย เช่น สหกรณ์ที่ปลูกกล้วยหอมทองส่งออกญี่ปุ่น แต่จากงานวิจัยของข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ 5 ปีหลัง JTEPA มีผลบังคับใช้ พบว่า กล้วยหอมที่ส่งไปน้อยลงเป็นลำดับ น้อยลงกว่า 3 เท่าตัว เพราะญี่ปุ่นหันไปหาตลาดที่ถูกกว่า นี่จึงเป็นคำสัญญาที่ไม่เป็นจริง เช่นเดียวกับ เอฟทีเอไทย-จีน ผัก-ผลไม้ที่เดิมเคยได้ดุลก็ลดการได้ดุลไปเรื่อยๆ ขณะที่นักลงทุนจีนก็เข้ามาทำการผลิตเอง โดยที่เกษตรกรไทยเป็นเพียงเจ้าของที่ดินหรือแรงงานเท่านั้น ผอ. BIOTHAIกล่าวนอกเหนือจากเรื่องการค้าสินค้าที่คำสัญญาไม่เป็นจริง แต่สิ่งที่ญี่ปุ่นต้องการได้มากที่สุดจากความตกลง JTEPA เมื่อ 11 ปีที่แล้ว คือทรัพยากรทางชีวภาพของไทย ผู้อำนวยการ BIOTHAI กล่าวว่า ในความตกลง JTEPA ระบุห้ามปฏิเสธคำขอสิทธิบัตรจุลชีพที่มาจากธรรมชาติ นี่เกี่ยวพันกับสิทธิบัตรสิ่งมีชีวิตโดยตรง เมื่อเทียบกับความตกลงฯของญี่ปุ่นกับประเทศในอาเซียนไม่มีประเทศไทยใดยอมเนื้อหาเช่นนี้ แต่การประท้วงของประชาชนในช่วงนั้นทำให้รัฐบาล คมช.ต้องทำจดหมายข้างเคียง (Side Letter) ระบุว่า จะไม่มีการแก้กฎหมายในประเด็นนี้ทำให้นี่คือสิ่งที่ญี่ปุ่นต้องการให้ไทยเข้าความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค (CPTPP) ครั้งนี้นอกจากนี้ สาระใน CPTPP ที่กระทรวงพาณิชย์ประชาสัมพันธ์ว่า ไม่มีปัญหาและไทยจะได้ประโยชน์นั้น กำหนดเรื่องที่เกี่ยวกับทรัพยากรชีวภาพอีกเรื่องคือ ให้รับอนุสัญญาบูดาเปสต์ ที่อ้างว่า เป็นการจัดเก็บจุลชีพเปิดทางในการจดสิทธิบัตร ซึ่งไม่จำกัดแค่จุลชีพ แต่ยังรวมไปถึงเซลล์และเนื้อเยื่อ ดังนั้นครอบคลุมไปถึงการจดสิทธิบัตรสิ่งมีชีวิตนั่นเอง ซึ่งจะสร้างผลกระทบอย่างมากในอนาคตและ การเข้าเป็นภาคีบูดาเปสยังปิดช่องทางในการออกกฎหมายและระเบียบปฏิบัติในการคุ้มครองทรัพยากรจุลินทรีย์ของประเทศในอนาคต ผลกระทบต่อการวิจัยและพัฒนาภายในประเทศซึ่งอุตสาหกรรมชีวภาพ 60% ในญี่ปุ่นมาจากจุลินทรีย์ ญี่ปุ่นมีบทบาทมากในอุตสาหกรรมนี้ มูลค่าเกือบ 2 ล้านๆบาท ไม่นับเรื่องการผลิตยารุ่นใหม่ ขณะที่เกษตรกรไทยกว่า 2 ล้านครอบครัวใช้จุลชีพในรูปแบบของน้ำหมักและรูปแบบอื่นๆในการทำการเกษตรจะได้รับผลกระทบโดยตรง หากถูกผูกขาดอีกเรื่องที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน คือ การผูกขาดพันธุ์พืช ญี่ปุ่นโน้มน้าวให้ประเทศไทยปรับปรุงกฎหมายให้เป็นมาตรฐาน คือพยายามรับข้อตกลง UPOV 1991 เพื่อให้เกิดการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่และให้สิทธินักปรับปรุงพันธุ์ การที่พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งนี้ ต้องไม่ไปรับปากโง่ๆ เพราะการรับข้อตกลงจะนำมาซึ่งผลกระทบต่อสังคมอย่างรุนแรงทำไมญี่ปุ่นต้องการผลักดัน UPOV1991 มีทุนไทยอยู่เบื้องหลังด้วยไหม ให้ดูตัวเลขตลาดเมล็ดพันธุ์โลก 8 บริษัทครอง 75% ญี่ปุ่น 2 บริษัท คือ ซาคาตะ และ ตาคิอิ บริษัทไทย เจียไต๋ เป็นพันธมิตรกับตาคิอิ และยังเป็นพันธมิตรกับมอนซานโต/ไบเออร์การที่ไทยอยากไปเข้า CPTPP ครั้งนี้ ญี่ปุ่นพยายามผลักดันมาโดยตลอด เพื่อให้เกิดการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่และนักปรับปรุงพันธุ์ที่เข้มข้น ตาม UPOV1991 ความตกลงนี้จะขยายสิทธิผูกขาดให้บริษัทมีสิทธิผูกพันคล้ายกับกฎหมายสิทธิบัตร สนับสนุนให้บริษัทครอบครองเมล็ดพันธุ์อย่างถูกกฎหมายโดยไม่แบ่งปันผลประโยชน์ให้กับชุมชนเจ้าของเมล็ดพันธุ์ อุตสาหกรรมเกษตรยักษ์ใหญ่ในประเทศจะได้ประโยชน์ เชื่อมโยงกับบริษัทเมล็ดพันธุ์ยักษ์ใหญ่ เช่น เจริญโภคภัณฑ์ และสมาชิกสมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย ที่สมาชิกคือบรรษัทข้ามชาติด้านเมล็ดพันธุ์ทั้งสิ้นทั้งนี้ สมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย ที่ไม่ได้มีแค่ไทย มีมอนซานโต-ไบเออร์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ผลักดันการแก้ไขกฎหมายพันธุ์พืชของไทยหลายประเด็น การยอมรับข้อตกลงดังกล่าว จะส่งผลต่อการเก็บพันธุ์ปลูกต่อทำไม่ได้อีกต่อไป และการละเมิดเรื่องนี้จะมีความผิดทางอาญา ทำให้บริษัทสามารถตั้งราคาเมล็ดพันธุ์สูงขึ้นอันเกิดมาจากที่บริษัทได้สิทธิผูกขาดครอบครองภายใต้ความตกลงมีเรื่องการผูกขาด ให้ความคุ้มครองพันธุ์พืช การผูกขาดสิทธิ ขยายความคุ้มครองจากเมล็ดพันธุ์ไปยังผลิตผลและผลิตภัณฑ์ ให้อำนาจกับบริษัทเอกชนมากขึ้น และไม่เพียงห้ามเกษตรกรเก็บพันธุ์ไปปลูกต่อ แต่ยังห้ามการแลกเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ระหว่างกันด้วย ซึ่งนี่ขัดกับสิ่งที่ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศกล่าวสนับสนุนความตกลงนี้จากงานวิจัยของมูลนิธิชีววิถีที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติพบว่า ราคาเมล็ดพันธุ์จะแพงขึ้นแน่ๆ โดยเฉพาะพืชที่ได้รับการคุ้มครองตาม UPOV1991 จากการคำนวณ จะมีราคาเพิ่มขึ้น จาก 28542 ล้านบาทต่อปี เป็น 80721-142932 ล้านบาทต่อปี ใกล้เคียงกับผลกระทบที่เกิดขึ้นมี่ฟิลิปปินส์ คือ 4 เท่า ต่างชาติเข้าถึงฐานทรัพยากรโดยไม่แบ่งปันผลประโยชน์ ทั้งที่เป็นยา เทคโนโลยีเกษตรต่างๆรองประธานเอฟทีเอ ว็อทช์ สรุปว่า จากข้อมูลและบทเรียนผลกระทบที่เกิดจากความตกลง JTEPA ที่ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นถังขยะโลกเต็มตัว แต่การเข้า CPTPP จะทำให้ทรัพยากรชีวภาพและพันธุ์พืชไทยถูกยึดครองโดยบรรษัทข้ามชาติ บรรษัทญี่ปุ่น และทุนเกษตรยักษ์ใหญ่ของไทยหัวหน้าคสช.ควรตระหนักในเรื่องนี้ เพราะเนื้อหาเหล่านี้สร้างผลกระทบโดยตรงกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของ คสช.เองเสียด้วยซ้ำ ทั้งผู้นำคสช.และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจอย่าใช้นโยบายการหาเสียงระยะสั้นๆเพราะผลกระทบเสียหายระยะยาวเสียยิ่งกว่าการที่ JTEPA ทำให้ไทยเป็นถังขยะโลก ในท้ายนี้อยากให้ทุกพรรคการเมืองประกาศจุดยืนทางนโยบายให้ชัดเจนในเรื่องนี้ เพื่อที่ประชาชนจะได้ตัดสินใจเมื่อมีการเลือกตั้งกรรณิการ์ กล่าว
เอฟทีเอ ว็อทช์ ส่งสารถึงหัวหน้า คสช.ก่อนไปญี่ปุ่นสัปดาห์หน้า อย่าเข้าความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค ระบุก่อปัญหาทั้งสังคม ชี้บทเรียน 10 ปีความตกลงไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA)
การเมือง,เศรษฐกิจ,ต่างประเทศ
ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น,JTEPA,CPTPP,เอฟทีเอ ว็อทช์,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ญี่ปุ่น,กรรณิการ์ กิจติเวชกุล,ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าของหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค,การค้าเสรี
https://prachatai.com/journal/2018/10/78979
รอง ผบ.ตร. ตรวจเยี่ยมศูนย์ควบคุมการเข้า-ออกเรือประมงนครศรีธรรมราช
วันที่ 27 ส.ค. 58 พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมลูกเรือประมงและเรือประมงที่ปากน้ำสิชล บริเวณแพปลาวิชชุ ม.3 ต.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เพื่อพูดคุยรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการเรือประมง อ.สิชล และร่วมประชุมที่ศูนย์ควบคุมเรือเข้าออกปีโป้ (pipo) ภายในศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ หัวหน้าศูนย์ควบคุมการเข้า-ออกเรือประมง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมรช และนายกสมาคมประมง อ.สิชล นายอำเภอสิชล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้บังคับกองร้อยค่ายฝึกการรบพิเศษสิชล ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 424 ร่วมให้การต้อนรับ,พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการติดตามรับทราบการดำเนินงานของศูนย์ควบคุมการเข้า-ออกเรือประมงของ อ.สิชล ซึ่งดูแลการเข้าออกของเรือประมงพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ขนอม อ.สิชล และ อ.ท่าศาลา ว่าดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนที่ตกลงกันไว้ หรือไม่ ซึ่งศูนย์ฯดังกล่าว มีหน้าที่เพื่อควบคุมดูแลเรือประมงไม่ให้กระทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเครื่องมือในการทำประมง แรงงานที่ทำการประมง ฯลฯ เพื่อให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการเข้ามาสนับสนุนดูแลในเรื่องของแรงงานประมงที่ผิดกฎหมาย เพื่อเพิ่มความร่วมมือในการดำเนินการดังกล่าวให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ต่อไป
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจเยี่ยมศูนย์ควบคุมการเข้า-ออกเรือประมง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พร้อมสนับสนุนชุดปฏิบัติการดูแลแรงงานประมงผิดกฎหมาย เพื่อให้การปฏิบัติงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ข่าว,ทั่วไทย
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ,ลูกเรือประมง,เรือประมง,ปากน้ำสิชล,แพปลาวิชชุ,จังหวัดนครศรีธรรมราช,ผู้ประกอบการเรือประมง,ศูนย์ควบคุมเรือเข้าออกปีโป้ (pipo),ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง,การดำเนินงาน,ติดตาม,เครื่องมือประมง,แรงงาน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/news/local/521174
แกนนำ นปช.บุกทำเนียบฯ ร้อง บิ๊กตู่ หยุดคุกคามสิทธิ-เสรีภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.58 ที่ศูนย์บริการประชาชนทำเนียบรัฐบาล แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งประกอบด้วย นางธิดา ถาวรเศรษฐ, นพ.เหวง โตจิราการ, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ, และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอให้ยุติการคุกคามและละเมิดสิทธิของประชาชน โดยมี นายสุขสวัสดิ์ สุวรรณวงศ์ ผอ.ส่วนประสานมวลชนและองค์กรประชาชน เป็นตัวแทนรับเรื่อง,โดยนางธิดา กล่าวว่า หลังการรัฐประหาร ผ่านไป 1 ปี สถานการณ์ทั่วไปที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ คสช. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปัญหาโครงการอุทยานราชภักดิ์เป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. วิเคราะห์และวิจารณ์เหมือนพลเมืองทั่วไป เพื่อให้สังคมกระจ่าง,นางธิดา กล่าวต่อว่า หลังมีการปล่อยตัว ปรากฏมีการยกระดับคุกคาม และละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะนายณัฐวุฒิ มีทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบ ยานพาหนะรูปแบบต่างๆ ไม่ติดป้ายทะเบียน ติดตามเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งไม่น่าไว้วางใจ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ถึงขั้นคุกคามภรรยาและลูกหลานแล้ว แม้ไปส่งลูกที่โรงเรียน ก็มีการติดตามและถ่ายภาพไปถึงโรงเรียน จึงขอให้หัวหน้า คสช.พิจารณายุติข่มขู่คุกคาม มีแต่จะสร้างปัญหามากขึ้น น่าจะปลดปล่อยให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพได้แล้ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นประชาชน ในการนำประเทศไปสู่ประชาธิปไตย แม้จะปกครองด้วยอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ แต่มาตรา 4 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 57 ระบุศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค บรรดาที่ชนชาวไทยเคยได้รับการคุ้มครองตามประเพณีการปกครองประเทศไทย ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและตามพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยมีอยู่แล้ว ย่อมได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญนี้,นางธิดา กล่าวต่อว่า ที่สำคัญไม่ควรนำมาตรา 44 มาใช้กับนายณัฐวุฒิและนายจตุพร เพราะไม่ได้มีการนำมวลชนไป จึงเรียกร้องรัฐบาลยุติการกระทำที่ป่าเถื่อน ยุติการคุกคามที่ไม่ใช่เฉพาะแกนนำ นปช.เท่านั้น รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วย หลังจากนี้ จะยื่นหนังสือไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติด้วยหรือไม่นั้น ขอหารือกันก่อน,ด้าน นพ.เหวง กล่าวว่า ความจริงแล้ว ถ้ามีอะไรก็ควรจะเชิญตัวไปพูดคุย หรือจะให้ลงนามในหนังสืออะไรก็ว่าไป แต่ไม่ใช่มาตามเฝ้า 24 ชั่วโมง ขอให้ถอนกำลังทหารออกไปทั้งหมดทันที อยากให้เข้าใจความรู้สึกของคนที่ถูกคุกคาม โดยเฉพาะคนที่เป็นเพศแม่ แค่ไปส่งลูกเรียนหนังสือ ไม่เห็นมีอะไรต้องตาม ด้านนายวีระกานต์ กล่าวว่า การมาร้องนายกฯ ครั้งนี้ เพื่อให้รู้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทนไม่ได้ แค่เด็กอนุบาลไปเรียนหนังสือ ก็ขับรถตาม ทำอะไรควรคำนึงถึงกฎหมาย เพราะถ้ายังทำให้เป็นนิติรัฐไม่ได้ ก็อย่าไปถามถึงหลักนิติธรรมเลย เสียเวลา เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ขอความกรุณานายกฯ ตรวจสอบ นำตัวผู้กระทำความผิดมาสอบสวนและลงโทษ เพราะเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ไม่ใช่ปล่อยให้ทำได้ตามอำเภอใจ โดยที่วุฒิภาวะไม่ถึง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนรวม จะได้เป็นหลักประกันว่ายังคำนึงถึงหลักนิติธรรมอยู่บ้าง,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวได้มีการนำรูปภาพถ่ายครอบครัวทั้งของ นายจตุพรและนายณัฐวุฒิ ในอิริยาบทต่างๆ มาแสดงด้วย
แกนนำ นปช. บุกทำเนียบฯ ร้อง บิ๊กตู่ ยุติคุกคาม ซัดป่าเถื่อน ส่งทหารตามเพศแม่ 24 ชั่วโมง เรียกร้องสอบสวนนำตัวลงโทษ ไม่ใช่ปล่อยทำตามอำเภอใจ ยก ม.4 รธน.ชั่วคราวปี 47 คุ้มครองสิทธิเสรีภาพ
null
แกนนำ นปช.ยื่นหนังสือ นายกฯ,คุกคามสิทธิ,ธิดา ถาวรเศรษฐ,คุกคาม ตู่-เต้น,ทหารเฝ้าหน้าบ้าน ตู่-เต้น,ยุติการคุกคาม,ละเมิดสิทธิแกนนำ นปช.,เหวง โตจิราการ,นปช.ยื่นหนังสือหยุดคุกคาม ตู่-เต้น,มาตรา 44,รธน.ชั่วคราว ปี 47,คุ้มครองสิทธิ-เสรีภาพ,นปช.,คนเสื้อแดง,เสื้อแดงบุกทำเนียบฯ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/544007
PES : Payment for Ecosystem Service ทางเลือกฟื้นป่ารักษาน้ำ
ร่างแผนแม่บทการบริหารจัดการนํ้า 20 ปี ที่ประกอบไปด้วย 6 ยุทธศาสตร์หลักการคงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรป่าไม้ เป็นยุทธศาสตร์ลำดับที่ 5 มีการตั้งเป้าใหม่จะฟื้นฟูป่าที่เสื่อมโทรม เพื่อเพิ่มสัดส่วนพื้นที่ป่าไม้ของประเทศให้ได้ 40% ภายในปี 2569,จากปัจจุบันที่มีอยู่เพียง 31% นั่นเท่ากับว่า จะต้องเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ให้ได้อีก 30 ล้านไร่,เพื่อจะได้มีป่าไว้ช่วยเก็บน้ำ ชะลอน้ำไม่ให้ไหลเร็ว น้ำจะได้มีโอกาสซึมไปเก็บไว้ในชั้นใต้ดินมากขึ้น ลดการกัดเซาะทำลายหน้าดิน การตื้นเขินของอ่างเก็บน้ำ แม่น้ำ ลำคลอง ลดน้อยลง คุณภาพน้ำดีขึ้น ฯลฯ,เหตุผลเหล่านี้เป็นที่รู้กันดีว่า ป่าช่วยได้ ที่ผ่านมาทั้งภาครัฐและเอกชนต่างมีโครงการปลูกป่ากันมาหลายสิบปี แต่กลับไม่ได้ป่าเพิ่มขึ้นเหมือนที่ได้ลงทุนลงแรงโหมโฆษณาแต่อย่างใด แถมพื้นที่ป่าไม้ยังถูกบุกรุกทำลายเพิ่มมากขึ้นอีกต่างหาก,แม้แต่ยุครัฐบาลอำนาจพิเศษที่เปิดฉากโชว์ศักยภาพเอาจริงเอาจังกับปัญหานี้ ถึงขั้นประกาศนโยบายทวงคืนผืนป่าป่ายังถูกบุกรุกเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 1.5 แสนไร่,สรุปแล้วถ้าเรายังคงใช้วิธีการแบบเดิมๆ เป้าหมายอีก 7 ปี ต้องสร้างป่าเพิ่มให้ได้ 30 ล้านไร่ คงเป็นได้แค่เพียงภาพฝันเท่านั้นเอง,แต่กระนั้น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) หน่วยงานหลักด้านน้ำของประเทศ,ไม่ละความพยายามในการหาแนวทางใหม่ๆ ที่จะทำให้ยุทธศาสตร์ลำดับที่ 5 บรรลุเป้าหมาย,เมื่อ กลุ่มวิเคราะห์เศรษฐกิจและสังคม กองนโยบายและยุทธศาสตร์ สทนช. พบว่า การนำแนวคิดภายใต้กรอบการจ่ายค่าตอบแทนในการบริการของระบบนิเวศ ที่เรียกว่า PES (Payment for Ecosystem Service) มาใช้แทนการฟื้นฟูป่าแบบเดิมๆ น่าจะบรรลุเป้าหมายได้,เพราะมีการนำแนวทางนี้ไปใช้ใน 26 ประเทศ 74 โครงการ ปรากฏว่าได้ผลฟื้นฟูป่าได้รวดเร็วตัวอย่างที่เห็นผลได้ชัดเจน สภาพพื้นที่ ภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศ ภูมิรัฐศาสตร์ ใกล้เคียงกับบ้านเรา นั่นคือ เวียดนาม,ที่ได้เริ่มโครงการในช่วงปี 2543-2553 ที่จังหวัดแลมดอง เนื่องจากเป็นพื้นที่มีราษฎรบุกรุกทำลายป่าเพื่อทำการเกษตรเป็นจำนวนมาก,จากเดิมก่อนปี 2543 จังหวัดแลมดองมีพื้นที่ป่ารวมทั้งสิ้น 706,205 ไร่ เมื่อนำระบบ PES มาใช้ 10 ปีผ่านไป ได้พื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นมาถึง 3 เท่าตัว เป็น 2,131,450 ไร่,โดยรัฐบาลเวียดนามใช้วิธีออกกฎหมายยอมรับให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้แบบพึ่งพาอาศัยกัน ยอมให้ทำการเกษตรแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือที่บ้านเราเรียกกันว่า ทำเกษตรแบบ GAP และมีการจ้างให้เกษตรกรทำหน้าที่เฝ้าดูแลป่า ปลูกป่า โดยมีการตั้งกองทุนขึ้นมาให้ทางจังหวัดเป็นผู้ดูแล,และเงินกองทุนที่ได้มาใช้จ่ายจ้างเกษตรกรให้ช่วยกันดูแลป่า ฟื้นฟูป่า มาจาก 3 แหล่งใหญ่ด้วยกัน นั่นคือ จากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ จากบริษัทองค์กรที่ผลิตน้ำประปาหรือนำน้ำไปใช้ประโยชน์ และจากกลุ่มผู้ประกอบการการท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการในป่า,เงินที่เข้ามาในกองทุน 80% จะถูกจัดสรรจ่ายไปให้เกษตรกรเป็นค่าเดินตรวจป่า ป้องกันไฟป่า ดูแลป่า และปลูกป่า อีก 20% จะถูกจัดสรรไปให้องค์กรปกครองท้องถิ่น เพื่อใช้ในด้านวิชาการ อบรมให้ความรู้กับเกษตรกร ทั้งในเรื่องการปลูกป่า ดูแลป่า และทำการเกษตรแบบเป็นมิตรกับระบบนิเวศ ไม่ทำลายป่า,ปรากฏว่า วิธีการนี้นอกจากจะได้พื้นที่ป่าฟื้นคืนกลับมาอย่างรวดเร็วแล้ว ยังทำให้คนอยู่กับป่ามีรายได้เสริมจากการฟื้นฟูป่าไร่ละ 3,076-3,516 บาทต่อปี,โดยรัฐไม่ต้องควักจ่าย แต่ได้ป่ามากกว่าที่ประเทศไทยถมเงินจ้างปลูกป่าปีแรกไร่ละ 3,900 บาท แต่วัดผลไม่ได้ว่า ได้ป่าเพิ่มมาจริงแค่ไหน.,ชาติชาย ศิริพัฒน์
น้ำเป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานสำคัญของทุกชีวิต ทั้งยังเป็น Infrastructure ที่ขาดไม่ได้ทั้งในภาคเกษตร อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว
ข่าว,ทั่วไทย
การบริหารจัดการนํ้า,เพิ่มพื้นที่ป่าไม้,สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ,PES,ชาติชาย ศิริพัฒน์,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/local/1470269
อนาคตใหม่ พร้อมลุยเลือกตั้งซ่อมนครปฐม หากคว้าชัยเชื่อเกมสภาเปลี่ยน
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, กล่าวถึงความพร้อมการส่ง,ผู้สมัครเลือกตั้ง เขต 5 จ.นครปฐม, ย้ำว่าพรรคจะใช้ทรัพยากร ผู้บริหาร ส.ส.ของพรรค รวมถึงตนเอง จะให้เวลากับการหาเสียงที่ จ.นครปฐม อย่างเต็มที่ เพราะเป็นการเลือกตั้งที่สำคัญ เนื่องจากการเลือกตั้งที่ จ.นครปฐม จะเป็นมติของประชาชนนอกสภาผู้แทนราษฎรว่าจะไว้ใจรัฐบาลชุดนี้หรือไม่,ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่าจะเปิดทางให้พรรคอนาคตใหม่ได้ทำพื้นที่อย่างเต็มที่ โดยส่วนตัวไม่ทราบและไม่ขอยุ่งเกี่ยว พรรคอื่นจะมีรูปแบบอย่างไร พรรคอนาคตใหม่จะสู้เต็มที่ ขณะที่พรรคพลังประชารัฐหลบให้พรรคประชาธิปัตย์ส่งผู้สมัคร แล้วพรรคอนาคตใหม่จะสู้ได้หรือไม่นั้น นายธนาธร ยืนยันว่าไม่ขอก้าวก่ายเรื่องพรรคอื่น แต่พื้นที่นี้พรรคอนาคตใหม่มีบุคลากรที่มีคุณภาพและจะส่งลงพื้นที่,นอกจากนี้ นายธนาธร ยังกล่าวว่า ประชาชนรู้อยู่แล้วว่าสภาผู้แทนราษฎรตอนนี้มีเสียงปริ่มน้ำทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ดังนั้น ,การเลือกตั้งทุกเขตทั้ง จ.สมุทรปราการ จ.นครปฐม จ.กำแพงเพชร และ จ.ขอนแก่น มีความสำคัญ เพราะหนึ่งเสียงของประชาชนที่อยู่ในเขตที่เลือกตั้งใหม่ จะเปลี่ยนดุลสมการในสภาผู้แทนราษฎรได้ ซึ่งนั่นหมายความว่านี่จะเป็นโอกาสที่จะเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี และจะเป็นโอกาสที่ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าได้, จึงอยากฝากประชาชนคนไทยและในเขตที่มีการเลือกตั้งใหม่ ทุกเสียงของท่านมีความหมาย ให้ออกมาใช้สิทธิของตัวเองในการกำหนดอนาคตของประเทศอีกครั้ง,สำหรับการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่น พรรคอนาคตใหม่จะส่งตัวแทนของพรรค เริ่มต้นในระดับจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) โดยจะส่ง 15 จังหวัด เพราะพรรคจะเน้นบุคคลที่มีคุณภาพ ส่วนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่ในระหว่างพิจารณา แต่ส่วนตัวอยากให้มีผู้สมัครในนามของพรรคอนาคตใหม่,อย่างไรก็ตาม ,หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, กล่าวทิ้งท้ายเรื่องการส่งผู้สมัครลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า พรรคยังไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องดังกล่าวในตอนนี้ เพราะยังมีงานใหญ่หลายงาน โดยเฉพาะในสนามการเมืองท้องถิ่น ส่วนเลือกตั้งกรุงเทพฯ จะขอหารือและจัดลำดับความสำคัญก่อน หากจัดการคนที่จะลงสมัครใน อบจ.เสร็จเมื่อไหร่ จะมาคัดเลือกคนลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอีกครั้ง.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,- ,เพื่อไทยจ่อเปิดทางอนาคตใหม่ชิง ส.ส.นครปฐม ชี้ ฝ่ายค้านพร้อมชำแหละงบ 63,- ,กกต.เคาะ 23 ต.ค. วันปิยมหาราช เลือกตั้งซ่อมนครปฐม ลั่นระฆังหาเสียงได้เลย
ธนาธร ลั่น อนาคตใหม่ พร้อมเต็มที่เลือกตั้งซ่อมนครปฐม ชี้ หากคว้าชัยอาจแก้เกมเปลี่ยนตัวนายกฯ ได้ เผย ยังไม่โฟกัสเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ขอลุยเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน จ่อส่งลงแข่ง 15 จังหวัด
เลือกตั้ง
เลือกตั้งซ่อม,เลือกตั้งซ่อมนครปฐม,ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,พรรคอนาคตใหม่,เลือกตั้งท้องถิ่น,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1670846
อสม.ผุด Grab Drug ส่งยาถึงมือทุกบ้านป้องกัน COVID-19
วันนี้ (24 เม.ย.2563) เฟซบุ๊ก เผยแพร่ข้อความ ระบุว่า โครงการดีๆ เพื่อสังคม ที่น่าสนใจอย่างมากในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เมื่ออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. แห่งภาคีเครือข่ายโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุ่งนางโอก อ.เมืองยโสธร จัดทีมให้บริการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ถึงมือผู้ป่วยถึงบ้านภาพ : ไทยคู่ฟ้านอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางมารับยาที่โรงพยาบาลแล้ว ยังสามารถลดความแออัดในการใช้บริการ และป้องกันการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ได้อีกด้วยเรื่องนี้ เป็นการเผยแพร่ของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า ดาริน กานต์ ได้โพสต์เล่าถึงกิจกรรมดี ๆ ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าภาพ : ไทยคู่ฟ้าล่าสุด เริ่มมีภาพ คุณหมอ พยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และ อสม. ร่วมใจกันทำโครงการ อสม.Grab Drug ส่งยาถึงมือทุกบ้าน ในหลายพื้นที่แล้วเช่นกันภาพ : ไทยคู่ฟ้า
อสม. และ รพ.สต. ต.ทุ่งนางโอก อ.เมืองยโสธร จัดทีมให้บริการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ถึงมือผู้ป่วยถึงบ้านผ่านโครงการ Grab Drug เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ป่วยและผู้ดูแล พร้อมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19
สังคม
COVID-19,COVID19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,โควิด19,โควิด-19,ไวรัสโคโรนา 2019,อสม.,ส่งยา,Grab Drug
https://news.thaipbs.or.th/content/291608
พนง.มหาลัย ฟ้องผู้บริหาร แฉสัญญาจ้างไม่เป็นธรรม
พบกรณีสัญญาพนักงานมหาวิทยาลัยไม่เป็นธรรมทุกภูมิภาค ชี้ระบบพนักงาน ม.ยากต่อการเรียกร้องสิทธิผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากแหล่งข่าว พร้อมเอกสารถึงกรณีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษผู้บริหารมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ต่อสถานีตำรวจภูธร จังหวัดเชียงราย และผู้ตรวจการแผ่นดิน ถึงกรณีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาไต่สวนโดยแหล่งข่าวแจ้งว่า มูลเหตุจูงใจที่ทำให้ต้องเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว เพราะมีความรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมในการประเมินการต่อสัญญาจ้าง ในลักษณะกดดัน และบีบสัญญาจ้าง รู้สึกถูกประเมินในลักษณะกลั่นแกล้ง ขยายการจ้างเป็น 1 เดือน และ 6 เดือน เพื่อจ้างพนักงานมหาวิทยาลัย ตำแหน่งอาจารย์ วุฒิ ป.โท และ ป.เอก ในช่วงปิดปีงบประมาณเดือน ต.ค. นี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ ประธานหลักสูตรนิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะเลขาธิการศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา โดย รศ.วีรชัย กล่าวว่า ทางศูนย์ประสานงานฯ ได้รับทราบข้อมูลทั่วประเทศ และมีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงทุกภูมิภาค ล่าสุดที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษร์ธานี ก็ได้รับแจ้งจากเพื่อนคณาจารย์ว่า มีการแจ้งความในลักษณะเดียวกันรศ.วีรชัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 56 ที่ผ่านมา ตนเองและตัวแทนคณะอาจารย์ทั่วประเทศกว่า 50 คนได้เข้าพบและนำเรียนปัญหานี้แล้วกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยเน้นย้ำเรื่องระบบพนักงานมหาวิทยาลัย ที่เป็นระบบที่ดีมากในระบบอุดมศึกษา แต่ในปัจจุบันมีเรื่องสัญญาจ้างที่ไม่เป็นธรรม ได้กลายเป็นเครื่องมือในการขจัดคนดีคนเก่งออกจากระบบของผู้บริหารที่ไม่มีธรรมาภิบาลบางแห่ง ศักดิ์ศรีและความไม่มั่นคงในอาชีพพนักงานมหาวิทยาลัยลดลง จะทำธุรกรรมการเงินก็ไม่มีใครอยากให้ทำ เพราะสัญญาจ้างหากเหลือ 6 เดือน ทั้งที่จบปริญญาเอก เป็นนักเรียนทุนรัฐบาล หากถูกให้ออกหรือไม่จ้างต่อ ต้องใช้ทุนหัวโต พร้อมกับศักดิ์ศรีในอาชีพที่แทบจะไม่เหลือ และระบบพนักงานมหาวิทยาลัย ไม่ขึ้นกับกฎหมายแรงงาน การฟ้องเรียกคืนความเป็นธรรม ทำได้ลำบากมากผมเคยเห็นเพื่อนอาจารย์ ประกาศหางานใหม่ ในช่วงปิดปีงบประมาณ เดือน ต.ค. 56 นี้จำนวนมาก ผ่านหน้าเฟซบุ๊ก ตนเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่สะเทือนใจอย่างยิ่งต่อ วงการอุดมศึกษาไทย อยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ ออกกฎกระทรวง หรือ กฎ ก.พ.อ. เป็นแนวปฏิบัติกลางที่เป็นธรรม ในการจ้างพนักงานมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นข้าราชการพันธุ์ใหม่ ให้ถึงอายุ 60 ปี แล้วค่อยประเมินผลงานในการคัดคนไม่เก่งออก เหมือนระบบราชการเดิม จะดีกว่าการมาทำสัญญาระยะสั้น ซึ่งเปิดช่องทางในการกลั่นแกล้ง และลิดรอนสิทธิเสรีภาพของคณาจารย์ ในการวิพากษ์วิจารณ์ วีรชัย พุทธวงศ์ กล่าว
พนง.มหาวิทยาลัย แจ้งความผู้บริหารมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กรณีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แฉถูกกดดัน-บีบสัญญาจ้าง ด้านศูนย์ประสานงานบุคลาการในสถาบันอุดมศึกษาเผย
คุณภาพชีวิต,แรงงาน
พนักงานมหาวิทยาลัย,มหาวิทยาลัยออกนอกระบบ,ศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา
https://prachatai.com/journal/2013/10/49299
ช้าหมดอดวิ่ง
ขณะเดียวกัน ผู้จัดงานหลายราย ก็ดึงจุดเด่นของงานตัวเอง ออกมาโชว์ได้อย่างน่าสนใจ,ดังนั้น ในเมื่ออุปสงค์และอุปทานตรงกันเช่นนี้ เลยทำให้งานวิ่งหลายต่อหลายรายการ ถูกจับจองหมดในเวลาอันรวดเร็ว,ยิ่งยุคนี้ ไม่ต้องออกไปต่อแถวสมัครวิ่ง เพียงคลิกผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟนกันไม่กี่ครั้ง ก็สามารถลงทะเบียนจองสิทธิ์วิ่งในงานต่างๆกันได้แล้ว,แน่นอนงานวิ่งดีๆ หลายรายการ เต็ม ในเวลาไม่นาน ใครสมัครไม่ทัน ถึงกับต้องรอกันใหม่ปีหน้าเลยทีเดียว,เรียงหน้าชนวันนี้ จึงอยากฝากงานวิ่งที่ไม่ควรมองข้ามไว้ 2 รายการ จะได้ไม่เสียใจกันภายหลัง,งานแรกเป็นดอกบัวคู่ มินิฮาล์ฟ มาราธอน ที่จะมีขึ้นวันที่ 16 มิ.ย.นี้ ที่สวนหลวง ร. 9 กรุงเทพฯ ปีนี้จัดเป็นปีที่ 13 เพื่อฉลองครบ 42 ปี ของการก่อตั้งบริษัทดอกบัวคู่,อีกทั้งเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนคนไทยทั่วไปออกกำลังกายเพื่อสุขภาพด้วยวิถีธรรมชาติ,นอกจากนี้ รายได้ส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่าย ยังจะสมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา, มูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล, บำรุงสภากาชาดไทย และโรงพยาบาลสิรินธรกรุงเทพมหานคร อีกด้วย,ที่สำคัญ รับจำนวนจำกัดเพียง 6,000 คนเท่านั้น,แยกเป็นวิ่งเพื่อสุขภาพ 5 กม. รับจำกัด 1,500 คน, วิ่งมินิมาราธอน 10 กม. รับจำนวน 3,000 คน และวิ่งฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กม. รับจำนวน 1,500 คน สมัครได้ที่ ,www.running.twinlotus.com, ,ส่วนอีกงาน เดิน-วิ่ง โอลิมปิกเดย์ 2019 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 16 มิ.ย.นี้เช่นกัน ที่สนามกีฬาแห่งชาติ,งานนี้มีคุณค่ายิ่ง เมื่อคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับบีอีซี เทโร เอนเตอร์เทนเมนต์ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองกิจกรรมโอลิมปิกเดย์ ในเดือน มิ.ย.,ตามแนวทางความต้องการขององค์กรกีฬาใหญ่อย่างคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี ที่อยากเห็นทุกคนในโลก มีกิจกรรมออก-กำลังกายอย่างสม่ำเสมอ,รับรองการจัดที่ได้มาตรฐาน โดยสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ ทั้งเส้นทางการวิ่ง จุดบริการน้ำ จุดรับฝากของ จุดพยาบาล และเจ้าหน้าที่ตลอดเส้นทาง,ทั้งนี้ เมื่อเข้าเส้นชัย นักวิ่งทุกท่านจะได้รับเหรียญโลโก้โอลิมปิก 5 ห่วง และประกาศนียบัตร ซึ่งถือว่าหาไม่ได้จากงานวิ่งรายการอื่นๆ,โดยครั้งนี้จะจัดวิ่ง 2 ระยะ 5 กม. เบอร์วิ่งไม่มีชิป ค่าสมัคร 370 บาท เปิดรับ 3,000 คน และ 10 กม. เบอร์วิ่งมีชิป ค่าสมัคร 370 บาท เปิดรับ 10,000 คน,สนใจสมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ดูรายละเอียดสถานที่สมัคร และสมัครทางออนไลน์ได้ที่ ,www.thaiticketmajor.com, ,แม้ตอนนี้สภาพอากาศจะร้อนอบอ้าว เหมือนอยู่ในเตาอบ ไม่เหมาะกับการวิ่งเท่าไหร่ แต่เชื่อว่า เมื่อถึงเดือน มิ.ย. อากาศจะเหมาะสมกว่านี้หลายเท่านัก,ทราบแล้ว อย่ารีรอ รีบสมัครกันได้เลยด้วย ความหวังดี ขอเตือนไว้ตรงนี้ ช้าหมดอดวิ่ง,ช่วยไม่ได้แล้วจริงๆ,ฟ้าคำราม
กระแสความนิยมในการวิ่งจะเพื่อออกกำลังกาย จะเพื่อสุขภาพ หรือเพื่อ ไล่ล่ารางวัล ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ลดลงไปแต่อย่างใด
null
มินิฮาล์ฟ มาราธอน,งานวิ่ง,วิ่งเพื่อสุขภาพ,ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ,มูลนิธิชัยพัฒนา,เรียงหน้าชน,ฟ้าคำราม
https://www.thairath.co.th/sport/others/1555488
หนุ่มโหดเปิดปากรับแล้ว ฆ่า สาว 18
บีบคอเผาศพอำพราง ชิงสร้อย-แหวนทอง,ตำรวจสุราษฎร์ฯล็อกตัวหนุ่มเพื่อนบ้านทมิฬดำเนินคดี 3 ข้อหาหนัก หลังยอมเปิดปากสารภาพบีบคอฆ่า น้องปลา ,สาววัย 18 ปี,จนขาดใจตายคามือก่อนย้อนกลับมาจุดไฟเผาศพพร้อมรถ จยย.หมกป่าละเมาะข้างทาง อ้างแค่ต้องการชิงทรัพย์แต่เหยื่อต่อสู้ขัดขืน พ่อผู้ต้องหารู้ข่าวว่าลูกชายเป็นมือสังหารตัวจริง ตกใจถึงช็อกทรุดกองกับพื้น ขณะที่ยายเหยื่อโหดไม่ปักใจเชื่อจะลงมือเพียงลำพัง,ปริศนาคดีสะเทือนขวัญคลี่คลาย กรณีพบศพ น.ส.จรินยา หรือปลา ช่วยพยัคฆ์ อายุ 18 ปี ถูกเผาคาซากรถจักรยานยนต์ ทิ้งศพไหม้เกรียมไว้ในป่าละเมาะริมถนนบ้านศรีควนทอง-บ้านควนราชา หมู่ 8 ต.ช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ตายเพิ่งแต่งงานกับนายศรายุทธ คงคล้าย อายุ 35 ปี ได้เพียง 5 เดือน และญาติเข้าแจ้งความคนหายไว้ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุตำรวจนำนายพีระพล นวลเสน่ห์ อายุ 27 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ และพบในภาพวงจรปิดขณะขี่รถ จยย.ตามหลัง น.ส.จรินยา ก่อนจะหายตัวไปมาเค้นสอบ แต่ผู้ต้องสงสัยให้การปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต,ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อสายวันที่ 25 พ.ค. พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.สมบัติ ฉ่ำแสง ผกก. สภ.กาญจนดิษฐ์ พ.ต.ท.ปิยะวัติ บัวขาว รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.นพดล เกิดกุลรัตน์ สว.สส. สภ.กาญจนดิษฐ์ ร่วมสอบปากคำผู้ต้องหา หลังชุดสืบสวนได้ขอศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี อนุมัติหมายจับ ที่ 153/2562 จับกุมนายพีระพล หรือฤทธิ์ นวลเสน่ห์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 223 หมู่ 8 ต.ช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ ข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้นทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายและทำให้เสียหายทำลายศพโดยไม่มีเหตุอันสมควร รวม 3 ข้อหา,คดีนี้หลังจากพบศพ น.ส.จรินยา หรือน้องปลา ถูกเผาพร้อมรถ จยย. ตำรวจได้นำตัวนายพีระพล มาสอบปากคำและพบว่า ตามร่างกายมีบาดแผลเป็นรอยขีดข่วนหลายแห่ง แต่นายพีระพลให้การปฏิเสธ อ้างว่ารอยขีดข่วนดังกล่าวเกิดจากการไล่จับตะกวดในสวนยางพารา แต่เมื่อส่งตัวตรวจดีเอ็นเอ พบว่าตรงกับของคนร้ายที่พบในที่เกิดเหตุ ประกอบกับกล้องวงจรปิดในร้านทองพื้นที่ สภ.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี บันทึกภาพขณะนายพีระพลนำสร้อยคอทองหนัก 1 บาท และแหวนทองหนัก 1 สลึงของเหยื่อไปขาย เมื่อนายพีระพลจำนนต่อพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ได้ยอมเปิดปากให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าเผา น.ส.จรินยาจริง,นายพีระพลมือฆ่าเผาอำมหิตให้การอ้างว่า ลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว สาเหตุที่ทำลงไปเพื่อต้องการชิงทรัพย์เท่านั้น เพราะต้องการเงินไปใช้จ่ายเที่ยวเตร่ วันเกิดเหตุเห็นผู้ตายขี่รถ จยย.ออกจากร้านรับซื้อน้ำยางพารา เลยรีบขี่รถ จยย.ไปจอดไว้ที่บ้าน แล้วไปดักทำร้ายร่างกายเหยื่อระหว่างทางด้วยการบีบคอ แล้วถีบรถ จยย.เหยื่อจนกระเด็นตกคูน้ำ,จากนั้นตามไปบีบคอซ้ำจนเหยื่อขาดใจตายคามือแล้วปลดทรัพย์สินหลบหนีกลับบ้าน กระทั่งช่วง 5 ทุ่มเศษคืนวันเดียวกัน ได้ย้อนกลับมายังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ใช้น้ำมันราดจุดไฟเผาศพเหยื่อพร้อมรถ จยย.อำพรางคดี,ขณะที่นายสำรวม นวลเสน่ห์ พ่อของนายพีระพลที่มารอฟังการสอบปากคำของลูกชาย เนื่องจากมั่นใจว่าลูกไม่ใช่คนร้าย แต่เมื่อทราบว่าลูกตกเป็นผู้ต้องหาและถูกศาลอนุมัติหมายจับ 3 ข้อหาฆ่าหนักในคดีฆ่าเผาน้องปลา พร้อมให้การรับสารภาพเป็นฆาตกรตัวจริง นายสำรวมถึงกับเกิดอาการช็อก เข่าอ่อนทรุดลงกองกับพื้นที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีทันที,นางจริยา ปานริน อายุ 57 ปี ยายของ น.ส.จรินยาเปิดเผยขณะเดินทางไปดูหน้าผู้ต้องหาที่ห้องสอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ ว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่เชื่อว่านายพีระพล หรือฤทธิ์ นวลเสน่ห์ วัย 27 ปี เพื่อนบ้านที่เห็นหน้ากันมาตั้งแต่เล็กๆ จะเป็นฆาตกรอำมหิตและก่อเหตุเพียงลำพัง แม้ตำรวจจะมีพยานหลักฐานมัดตัวคนก่อเหตุแน่นหนา ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมีผู้ร่วมมือด้วย ใจจริงอยากถามผู้ก่อเหตุว่าทำอย่างนี้ทำไม เพราะอะไร การกระทำมันโหดเหี้ยมมาก
ตำรวจสุราษฎร์ฯล็อกตัวหนุ่มเพื่อนบ้านทมิฬดำเนินคดี 3 ข้อหาหนัก หลังยอมเปิดปากสารภาพบีบคอฆ่า น้องปลา สาววัย 18 ปี
ข่าว,ทั่วไทย
ฆ่าเผาสาว18,ฆ่าอำพราง,เพื่อนบ้าน,สุราษฎร์ธานี,ฆ่าเผา สุราษฎร์ธานี,บีบคอฆ่า,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1576265
อลงกรณ์ เผยเตรียมส่งไม้ต่อนายกฯ สานต่องานปฏิรูป 31 ก.ค.นี้
เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 60 นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ คนที่ 1 กล่าวว่า สปท.จะส่งมอบผลงานการปฏิรูปต่อนายกรัฐมนตรี วันที่ 31 ก.ค.นี้ จำนวน 200 เรื่อง ครอบคลุม 37 วาระปฏิรูปใน 11 ด้าน เฉลี่ยเดือนละ 10 เรื่อง ทั้งแผนปฏิรูปข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปและกฎหมายที่จำเป็นต่อการปฏิรูป ทำให้ประเทศแข็งแรงขึ้นและดีขึ้นกว่าในอดีตอย่างมีอนาคต ถือเป็นการเสร็จสิ้นภารกิจที่ดำเนินการมา 1 ปี 9 เดือน อย่างเป็นทางการ ซึ่งในการทำงานร่วมกับแม่น้ำ 5 สาย โดยการนำของนายกรัฐมนตรี และทุกภาคีภาคส่วน ทำให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันดีขึ้น 3 ปีต่อเนื่อง โดยการวัดผลของสถาบันไอเอ็มดี จากอันดับที่ 30 ในปี 2558 ขยับเป็นอันดับที่ 28 ในปี 2559 แซงเกาหลีใต้ที่ตกไปอยู่อันดับที่ 29 และในปี 2560 เราขยับเป็นอันดับที่ 27 ส่วนสำนักบลูมสเบิร์กจัดเรตติ้งให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความทุกข์ยากน้อยที่สุดในโลกติดต่อกัน 3 ปีซ้อน เหนือกว่าสวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ สหรัฐฯ จีน ฟินแลนด์ และญี่ปุ่น เช่นเดียวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ 3 ปี ติดต่อกันจากไม่ถึง ร้อยละ 1 ในปี 2557 จนใกล้ร้อยละ 4 ในปีนี้ โดยมีทุนสำรองระหว่างประเทศเกือบ 2 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงมากที่สุดเป็นอันดับ 9 ของโลก ขณะที่ หนี้สาธารณะมีร้อยละ 44 ของจีดีพีเท่านั้น และหนี้ครัวเรือนลดลงครั้งแรกในรอบทศวรรษ ขณะที่การหารายได้เข้าประเทศและการลงทุนใหม่ๆ ดีขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกครึ่งปีแรกเติบโดมากที่สุดในรอบ 6 ปี ยิ่งกว่านั้นการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในปีที่แล้วเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 200 และ ร้อยละ 51 ของโครงการใหม่เป็นการลงทุนในโมเดลเศรษฐกิจใหม่ และ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่สะท้อนว่าการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศสู่เศรษฐกิจเพิ่มมูลค่าสินค้า และบริการด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ กำลังเกิดขึ้นแล้ว เพื่อก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งเป็นเป้าหมายใหม่ของประเทศของเรา ขณะที่การท่องเที่ยวของไทยสร้างรายได้กว่า 2 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวกว่า 30 ล้านคน ทำให้ไทยกระโดดเป็นแชมป์ท็อปไฟว์ของโลก  ,ตรงนี้ที่เคยบอกว่า เราต้องปฏิรูปประเทศให้เกิดมรรคผลให้คุ้มค่ากับการสูญเสียประชาธิปไตยจากการรัฐประหาร เพื่อแก้ไขปัญหาที่รากเหง้าอันเป็นต้นเหตุแห่งการรัฐประหาร 13 ครั้งที่ผ่านมา และนายกรัฐมนตรีก็ตั้งใจเช่นนี้เพื่อตัดวงจรอุบาทว์ทางการเมือง และขอให้เป็นการรัฐประหารครั้งสุดท้าย นายอลงกรณ์ กล่าว,นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า ในวาระที่ สปท.สิ้นสุดภารกิจจึงขอฝาก 3 เรื่องสำคัญให้ทุกฝ่ายช่วยดำเนินการต่อไป ได้แก่ 1. สานต่อและสนับสนุนการปฏิรูปให้เกิดความต่อเนื่องยั่งยืน เพราะเป็นการปฏิรูปประเทศของเราเพื่อคนไทยในวันนี้ และวันหน้า 2. ช่วยกันสร้างความสามัคคีปรองดอง ยุติความแตกแยกขัดแย้งแบ่งฝ่ายและ 3. ลด ละเลิก การทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งเสมือนมะเร็งร้ายที่กัดกินบ้านเมืองอย่างรุนแรงมาโดยตลอด ทำให้ประเทศอ่อนแอ เมื่อกำจัดจุดอ่อนนี้แล้วการสร้างความมั่งคั่งมั่นคงอย่างยั่งยืนสู่ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการปฏิรูปประเทศอย่างต่อเนื่อง ภายใต้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ก็จะบรรลุเป้าหมายง่ายขึ้น เร็วขึ้น และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติของเราในที่สุด 
อลงกรณ์ เผย สปท.เตรียมส่งต่องานปฏิรูปให้นายกฯ 200 เรื่อง ครอบคลุม 37 วาระ ใน 11 ด้าน 31 ก.ค.นี้ พร้อมฝาก 3 เรื่องสานต่อ ปฏิรูป-ปรองดอง-ปราบโกง
ข่าว,การเมือง
อลงกรณ์ พลบุตร,สปท.,ปฏิรูปประเทศ,วาระ สปท.,งานปฏิรูป,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1020845
มุกเรียกเรตติ้ง?ดราม่าประกาศผิด จากมิสยูนิเวิร์สซ้ำรอยออสการ์(ชมคลิป)
งานนี้ไม่คิดว่าเวทีระดับโลกจะมีการประกาศรางวัลผิดเกิดขึ้นถึง 2 ปีซ้อน แม้จะเป็นคนละเวทีและคนละปีก็ตาม แต่งานใหญ่มีคนดูทั่วโลกขนาดนี้ไม่น่าจะเกิดการผิดพลาดประกาศผลผิด ว่าแต่จะมีเวทีไหนที่มาตกม้าตายด้วยการประกาศผลรางวัลผิดบ้าง วันนี้บันเทิงไทยรัฐออนไลน์จะพาไปดูกัน ,เริ่มต้นการผิดพลาดแบบน่าอายระดับโลก กับเวทีการประกวด มิสยูนิเวิร์สปี 2015 ในช่วงเดือนธันวาคมนั้น ที่มีการจัดการประกวดขึ้นที่ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา ในวินาทีสุดท้ายของการประกาศผลว่าใครคือ สาวงามผู้ครองมงกุฎ มิสยูนิเวิร์ส 2015 และเมื่อ สตีฟ ฮาร์วีย์ พิธีกรประกาศผลว่าผู้ที่ได้รับมงกุฎ คือ ARIADNA GUTIERREZ-ARÉVALO ตัวแทนนางงามจาก Colombia เป็นผู้ชนะเลิศเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในจักรวาล บรรยากาศในตอนนั้นเป็นช่วงเวลาแห่งความดีใจ และเธอก็ได้สวมมงกุฎไปยังไม่ถึง 2 นาที แล้ว สตีฟ ฮาร์วีย์ ก็เดินกลับออกมาอีกครั้ง พร้อมยอมรับว่าเป็นความผิดของตนเองแต่เพียงผู้เดียว พร้อมกับโชว์ผลรางวัลให้ดูว่า สาวงามที่คว้ามงกุฎ คือ PIA ALONZO WURTZBACH จาก Philippines ทำเอานางงามทั้งคู่ตกตะลึงไปพร้อมๆ กัน ก่อนที่มงกุฎบนหัวของเธอนั้นจะถูกถอดออกมาสวมให้กับ PIA ซึ่งก็ทำเอาแฟนนางงามกังขาอยู่ไม่น้อยว่าทำไมเวทีระดับโลก และพิธีกรที่มีประสบการณ์โชกโชนอย่าง สตีฟ จะประกาศผลผิดได้ขนาดนี้เชียวหรือ เพราะเหตุนี้หลายคนเลยคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเป็นการตั้งใจประกาศผลผิดเพื่อเรียกกระแสให้กับการประกวดเสียมากกว่าการประกาศผลผิดจริงๆ เพราะเป็นปีแรกที่เปลี่ยนมือผู้ถือลิขสิทธิ์เลยต้องเรียกกระแสสร้างความฮือฮากันหน่อย (ชมคลิป ,ช็อกโลก ผลมิสยูนิเวิร์ส 2015,),ห่างกันแค่ปีกว่า เวทีประกาศผลรางวัลที่ยิ่งใหญ่และมีมายาวนานอีกเวทีนึงอย่างเวทีประกาศผลรางวัลออสการ์ ที่รวบรวมคนในแวดวงฮอลลีวูดมารวมตัวอยู่ที่นี่ เพราะฉะนั้นเรื่องการผิดคิวหรือผิดพลาดของเวทีนี้แทบจะไม่มีให้ได้เห็นกันเลย แต่สุดท้าย เวทีออสการ์ 2017 ก็มาตกม้าตายในรางวัลสุดท้ายเหมือนเวทีมิสยูนิเวิร์สเช่นกัน กับการประกาศรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดยมี Warren Beatty และ Faye Dunaway เป็นผู้ประกาศรางวัลดังกล่าว โดยในระหว่างที่จะประกาศผล ทั้งคู่ก็ดูมีทีท่าลังเลก่อนที่จะประกาศออกมาว่า la la land คือภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี หลังจากที่ทีมงานขึ้นมากล่าวความรู้สึกบนเวทีไม่ถึง 2 นาที ก็เกิดเหตุการณ์ชุลมุนอยู่บนเวทีก่อนจะมีการประกาศอีกครั้ง พร้อมโชว์ผลให้ได้เห็นกันว่าภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปีจริงๆ นั้นตกเป็นของ Moonlight ซึ่งก็ได้สร้างความตกใจให้กับแฟนๆ ที่กำลังติดตามชมอยู่ไม่แพ้กัน เรียกว่าการผิดพลาดในครั้งนี้ทำให้เวทีออสการ์หมดความน่าเชื่อถือไปไม่น้อย แถมยังถูกมองว่าใช้มุกเก่าประกาศผลผิดเพื่อสร้างกระแสเหมือนเวทีมิสยูนิเวิร์สอีกด้วย ,งานนี้อะไรยังไม่รู้ รู้แต่ว่ายุคใหม่สมัยนี้ มองดูดีๆ ก็เหมือนว่าขาดอะไรขาดไม่ได้ แต่ขาดดราม่าไม่ได้เพราะเดี๋ยวเรตติ้งไม่ดี คนจะไม่พูดถึง เอ้าๆ ปีหน้าใครมีมุกอะไรมาใช้ก็รอดู ดราม่าบ้างอะไรบ้างก็บันเทิงดีเหมือนกัน., 
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เมื่อเวทีประกาศรางวัลในตำนานอย่าง ออสการ์ ดราม่าซ้ำรอยเวทีประกวดสาวงามมิสยูนิเวิร์ส ประกาศผลผิด! อาจเจอวิจารณ์กระหึ่มว่าหวังเรียกกระแส กระตุ้นเรตติ้ง
null
ออสการ์,ออสการ์ 2017,มิสยูนิเวิร์ส 2015,ออสการ์ประกาศผลผิด,มิสยูนิเวิร์สประกาศผลผิด
https://www.thairath.co.th/content/868926
แค่ชื่อเหมือนกัน กลุ่มไอซิส ทำยอดขาย ช็อกโกแลตในเบลเยียม ตกวูบ
เมื่อวันที่ 7 พ.ย. สื่อต่างประเทศรายงาน ชื่อของกลุ่มติดอาวุธนิกายสุหนี่หัวรุนแรง รัฐอิสลาม หรือมีช่ือย่อว่า ไอซิส (ISIS) หรือ ไอเอส (IS )นอกจากกำลังก่อเหตุรุนแรงในอิรักและซีเรียแล้ว ยังส่งผลให้ บริษัทช็อกโกแลตแห่งหนึ่ง ในเบลเยียม ซึ่ง ตั้งชื่อช็อกโกแลตของบริษัทตนว่า ไอซิส ช็อกโกแลต ( ISIS Chocolates) มาก่อนแล้ว ต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย เพราะทำให้ยอดขายตกลงอย่างน่าใจหาย จนถึงขนาด ต้องมีการเปลี่ยนชื่อใหม่,ตามคำเปิดเผยของสำนักข่าว SBS รายงานว่า นับตั้งแต่กลุ่มติดอาวุธไอซิสก่อเหตุบุกรุกคืบยึดเมืองต่างๆ ในอิรัก รวมทั้งเมืองโมซุล และยังแสดงความเหี้ยมโหดฆ่าตัดศีรษะตัวประกันชาวอเมริกันและอังกฤษแล้วหลายคน ปรากฏว่า ทำให้ยอดจำหน่าย ไอซิส ช็อกโกแลต พลอยตกลง จนต้องเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ลีบีเอิร์ท เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ชื่อไปตรงกับกลุ่มติดอาวุธสุดโหด,ผู้อำนวยการบริษัทช็อกโกแลตแหน่งนี้ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ อิ๊กแนซ ลีบีเอิร์ต ก่อตั้งบริษัต ผลิตช็อกโกแลตแห่งนี้ขึ้นมาตั้งแต่ ปี 1923 เมื่อพวกตนได้เห็นยอดสั่งช็อกโกแลตเมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมจำหน่ายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของปีนี้ แต่กลับไม่มี ออเดอร์ หรือคำสั่งซื้อมาจากลูกค้าในสหรัฐฯ หรือ อังกฤษ จนทำให้พวกตนต้องตั้งคำถามว่า กำลังเกิดอะไรขึ้นหรือนี่? และเมื่อเห็นว่า ชื่อ ช็อกโกแลต ไอซิส เป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกค้าไม่สบายใจ จึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อเป็น ลีบีเอิร์ต ตามชื่อผู้ก่อตั้งบริษัทคนแรก,ข่าวแจ้งว่า บริษัทช็อกโกแลตในเบลเยียม กลายเป็น บริษัทล่าสุดที่ได้รับผลกระทบจากชื่อ ไอซิส ที่พอดีไปตรงกับชื่อติดอาวุธมุสลิมนิกายสุหนี่ โดยก่อนหน้านี้ มีคนชื่อไอซิส ISIS เกือบ 38,000 คนได้ร้องเรียนผ่านโลกออนไลน์ และเรียกร้องให้สื่อมวลชนยุติการใช้ชื่อ ไอซิส เป็นชื่อขอกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้เสียที
บริษัทช็อกโกแลตในเบลเยียม ทนไม่ไหวชื่อกลุ่มติดอาวุธไอซิส (ISIS) พลอยทำให้ยอดขายช็อกโกแลต ที่ตั้งชื่อมานานนมว่า ไอซิส ช็อกโกแลต ตกวูบ จนถึงขนาด ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อใหม่
null
กลุ่มไอซิส,ช็อกโกแลต ไอซิส,ยอดขายตกวูบ,ชื่อตรงกัน,ขาวต่างประเทศ,เบลเยียม
https://www.thairath.co.th/content/461939
ราคาดีมีกระจังใหม่ มาแล้ว กระบะสายย่อ HILUX REVO Z EDITION 2019
Toyota Motor Thailand แนะนำรถกระบะ Hiiux REVO แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ปรับปรุงใหม่ปี 2562 ในรุ่นสมาร์ทแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ พร้อมดีไซน์ใหม่ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 2.4 ลิตร มีให้เลือกทั้งรุ่นเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด,Hilux REVO เป็นรถกระบะภายใต้โครงการ IMV: Innovative International Multi-Purpose Vehicle เจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่ประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับจากลูกค้า นับตั้งแต่แนะนำสู่ประเทศไทย สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยด้วยการส่งออกรถยนต์ไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ,Toyota แนะนำ Hilux REVO รุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2562 เพื่อกระตุ้นยอดขายผลิตภัณฑ์รถกระบะแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ทั้งในรุ่นสมาร์ทแค็บและดับเบิ้ลแค็บ ภายใต้ชื่อ Hilux REVO Z Edition โดย Z มีที่มาจากแนวทางในการแต่งรถ ซึ่งเป็นที่นิยมเรียกกันว่า แต่งแซ้ป (Zaap) หรือแต่งซิ่ง (Zing) รูปลักษณ์ภายนอกติดตั้งกันชนและกระจังหน้าใหม่ เพิ่มทัศนวิสัยและความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยไฟตัดหมอกหน้า แนะนำ พรีเซนเตอร์คนใหม่ของ Hilux REVO Z Edition  ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์  ตรงกับแนวคิดของรถและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย,Toyota Hilux REVO Z Edition มีให้เลือกทั้งรุ่นเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ เพื่อให้ครอบคลุมทุกการใช้งาน ทั้งในส่วนของการใช้งานเชิงพาณิชย์ และการใช้งานส่วนบุคคล นอกจากนั้น Toyota Hilux REVO Z Edition ยังได้รับการปรับปรุงอุปกรณ์มาตรฐานในแต่ละรุ่น ,Toyota Hilux REVOZ Edition ,รุ่นสมาร์ทแค็บ เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อ ,2.4J Plus เกียร์ธรรมดา 599,000 บาท,2.4E เกียร์ธรรมดา 690,000 บาท,2.4J Plus เกียร์อัตโนมัติ 699,000 บาท,รุ่นดับเบิ้ลแค็บ เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อ ,2.4J Plus เกียร์ธรรมดา 690,000 บาท,2.4J Plus เกียร์อัตโนมัติ 740,000 บาท,2.4E เกียร์ธรรมดา 784,000 บาท.,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,[email protected],Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
Toyota แนะนำรถกระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ ตัวเตี้ย รุ่นปรับปรุงใหม่ Hilux REVO Z EDition 599,000 บาท ถึง 784,000 บาท
ข่าว,ยานยนต์
Toyota Hilux REVO Z-Edition,Toyota Hilux,Toyota,อาคม รวมสุวรรณ
https://www.thairath.co.th/news/auto/news/1512840
ลอบกัด โจรใต้ลอบวางระเบิด 2 ลูกซ้อน อ.ตากใบ ทหาร-ตร.เจ็บ 7 ราย
ไม่สงบ โจรใต้ลอบวางระเบิด 2 ลูกซ้อนหวังสังหาร จนท.ที่เข้าซ่อมแซมบ้านพัก หลังศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง อ.ตากใบ นราธิวาส โดยแฝงตัวแล้วจุดชนวนระเบิด จยย.บอมบ์ ทำให้เจ็บ 3 นาย และกดซ้ำขณะที่ทหาร-ตร.ได้กั้นที่เกิดเหตุ ทำให้บาดเจ็บเพิ่มอีกรวมทั้งหมด 7ราย และทราบชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุคือ มามะ แมฮะ ,เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. 60 พ.ต.ท.ธงชัย พุกภาพันธุ์ สารวัตรสอบสวน สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด ร้อย ร.15123 ฉก.นราธิวาส 30 ที่บริเวณหัวสะพานข้างประตูด้านหลังของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งนราธิวาส ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.ตากใบ พ.ท.พงศกร แสงกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 ร.ต.ท.พลวัฒน์ เทพษร รอง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบซากชิ้นส่วนของรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า สีดำ ทะเบียน ขทง 0829 นราธิวาส ที่คนร้ายใช้ซุกระเบิดชิ้นส่วนกระจัดกระจายเหลือเพียงแต่โครงรถ พร้อมกองเลือดและอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งตกอยู่บนถนน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลตากใบไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อคือ 1. พลทหาร ศิริเขต มรรคาเขต ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาขวาอาการสาหัส 2. พลทหาร ธนภูมิ ขุนชำนาญ ถูกสะเก็ดระเบิดที่โหนกแก้มขวา และ 3. พลทหาร สิทธิพงศ์ คาราวะ มีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อ แต่เนื่องจาก พลทหาร ศิริเขต อาการสาหัส แพทย์ได้ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ,จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารจำนวน 5 นาย นั่งรถยนต์กระบะ เพื่อที่จะเดินทางไปซ่อมแซมบ้านพักของเครือญาติผู้เห็นต่าง ขณะที่กำลังจอดรถยนต์กระบะ ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในละแวกดังกล่าว ได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิด จยย.บอมบ์ ที่นำไปจอดไว้ที่ข้างประตูด้านหลังของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งนราธิวาส จนเกิดระเบิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 3 นาย และในจุดห่างกันประมาณ 30 นาที ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบจุดเกิดเหตุอยู่นั้น ได้เกิดระเบิดขึ้นอีก 1 จุด ซึ่งเป็นถนนเลียบแม่น้ำตากใบ ห่างจากจุดเกิดเหตุแรก ประมาณ 800 เมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 30 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตากใบ ที่กำลังเดินทางไปปิดกั้นเส้นทางเพื่อไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องผ่าน โดยคนร้ายลอบนำระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 5 ถึง 7 กก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ไปลอบวางไว้ริมถนน ส่งผลทำให้ ส.ต.ท.กิตติพงษ์ พร้อมเสน ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.ตากใบ ถูกสะเก็ดระเบิดของคนร้ายที่บริเวณก้นกบ และพลทหารอามีน ยอดณรงค์ มีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อ แต่เนื่องจาก ส.ต.ท.กิตติพงษ์ อาการสาหัส แพทย์ต้องส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาส,หลังเกิดเหตุ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางมาเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 5 นาย พร้อมมอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับ พลทหารศิริเขต มรรคาเขต ที่แพทย์กำลังนำตัวขึ้นรถพยาบาล เพื่อส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังจุดเกิดเหตุทั้ง 2 จุด.,ล่าสุดจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ทราบว่า คนร้ายได้นำระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิกที่ตัดแบ่งออกเป็นครึ่งซีก หนัก 10 ก.ก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร นำไปวางซุกไว้ซุกใต้เบาะส่วน จุดที่ 2 คนร้ายได้นำระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิง หนัก 20 ก.ก.จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ที่คนร้ายนำไปวางซุกไว้ใต้โคนมะพร้าว ห่างจากจุดเกิดเหตุแรก ประมาณ 800 เมตร เพื่อจุดชนวนดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารที่เดินทางมาปิดกั้นเส้นทาง เพื่อไม้ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องผ่านไปยังจุดเกิดเหตุโดยเหตุระเบิดทั้ง 2 จุด ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ รวม 7 นาย ซึ่งมีอาการสาหัส 2 นาย ได้ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ คือ 1.ส.ท.กิตติพงศ์ ผอมเสน 26 ปี มีแผลฉีกขาดที่ก้นทั้ง 2 ข้าง 2.พลทหารศิริเขต มรรคาเขต ถูกสะเก็ตระเบิดที่ต้นขาขวาและซ้าย,ส่วนอีก 5 นาย นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลตากใบ คือ 1.พลฯสิทธิพงศ์ คาราวะ 2.พลฯธนภูมิ ขุนชำนาญ 3.พลฯอามีน ยอดณรงค์ 4.พลฯธัชนนท์ บุญพันธ์ 5.พลฯ มูหะหมัด ปานเพ็ชร ซึ่งทั้ง 7 นายอาการปลอดภัยแล้ว,ด้าน พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.ตากใบ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือการกระทำของกองกำลังติดอาวุธ กลุ่มนายมามะ แมฮะ ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.ตากใบ โดยเชื่อว่าคนร้ายได้ประกอบระเบิดที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน แล้วลอบนำเข้ามากับเรือ ก่อนที่จะนัดแนะกันก่อเหตุในครั้งนี้ โดยมีจุดประสงค์ที่จะข่มขวัญสมาชิกแนวร่วมที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ที่ให้ความร่วมมือกับทางการ จนนำไปสู่การดูแลเรื่องความเป็นอยู่ของเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ในวันนี้จะเดินทางไปซ่อมแซมบ้านให้กับเครือญาติของผู้หลงผิดรายหนึ่ง.
ไม่สงบ!! โจรใต้ลอบวางระเบิด 2 ลูกซ้อนหวังสังหาร จนท.ที่เข้าซ่อมแซมบ้านพัก หลังศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง อ.ตากใบ นราธิวาส โดยแฝงตัวแล้วจุดชนวนระเบิด จยย.บอมบ์ ทำให้เจ็บ 3 นาย และกดซ้ำขณะที่ทหาร-ตร.ได้กั้นที่เกิดเหตุ
ข่าว,ทั่วไทย
โจรใต้,วางระเบิด,จยย.บอมบ์,ฉก.นราธิวาส 30,ตากใบ
https://www.thairath.co.th/news/local/south/960485
เกษตรกรชี้ ส.ป.ก. ทำถนนในชุมชนไม่สนข้อเสนอประชาชน ผลอาสินถูกทำลาย หวั่นบ้านเรือนถูกรื้อ
หากรัฐยังทำตามผังถนนที่วางไว้เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2560 เวลา 09.44 น. เจ้าหน้าที่จากสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และเจ้าหน้าที่ทหารที่ได้รับมอบหมายจากคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เข้าไปที่ชุมชนก้าวใหม่ หมู่ที่ 5 ตำบลไทรทอง อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เข้ามาวางแนวเขตถนนในชุมชน ก่อนนำรถแทรกเตอร์เข้ามาไถ ทำให้เกษตรกรที่อาศัยอยู่ในชุมชนมีความกังวลว่า การเข้ามาวางแนวเขตดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดการทำลายผลอาสินของเกษตรกรที่อยู่ตามแนวถนนตามตามา แม้ก่อนหน้านี้ประชาชนซึ่งเป็นกลุ่มเกษตรกรไร้ที่ดินที่เข้ามาใช้ประโยชน์จากที่ดินของ ส.ป.ก. ไปพลางก่อน โดยได้มีการเจรจาแก้ไขปัญหากับหลายรัฐบาลก่อนหน้า จะได้เสนอแผนผังในการทำถนนซึ่งเป็นผังเดิมที่ชุมชนได้มีข้อตกลงร่วมกันให้กับภาครัฐไปแล้วก็ตามอย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ได้ปฏิเสธข้อเสนอของกลุ่มเกษตรกรไร้ที่ดิน โดยอ้างว่า การจัดรูปแบบที่ดินต้องเป็นไปตามผังของ ส.ป.ก.เท่านั้น จึงจะสามารถจัดสรรที่ดินให้กับกลุ่มเกษตรกรได้ หากใครขัดขวางการพัฒนาอาจถูกดำเนินคดีอาญากรณีดังกล่าวสืบเนืองจากเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2560 ธราดล วัชราวิวัฒน์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่กรมชลประทานได้เข้าไปในพื้นที่แปลง 1700 ไร่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนต่างๆ (อดีตที่ตั้งของบริษัทรวมชัยบุรีปาล์มทอง) เพื่อชี้แจงนโยบายโครงการสำรวจพื้นที่เพื่อจัดหาหรือพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรโดยวิธีการขุดสระน้ำขนาดใหญ่ จำนวนประมาณ 300ไร่ และกำหนดแผนผัง รวมทั้งกำหนดขนาดแปลงที่ดินในโครงการจัดสรรที่ดินใหม่ สำหรับเป็นที่ดินทำการเกษตร ครอบครัวละ 5ไร่ และที่อยู่อาศัย ครอบครัวละ 1 ไร่ (5+1)โดยผู้ได้รับการจัดสรรต้องผ่านคุณสมบัติตามระเบียบของ คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)จากแนวทางการจัดระเบียบที่ดิน ดังกล่าวของ ส.ป.ก.ส่งผลทำให้ต้องบุกเบิกพื้นที่สร้างถนนซอยสายใหม่ทั้งหมด 14 ซอย แต่ละซอย กว้าง 6 เมตร จึงไปทับซ้อนทำลายแปลงเกษตรที่เกษตรกรได้ปลูกสร้างพืชผลต่างๆไว้ และได้รับผลผลิตแล้วทำให้เกิดการสูญเสียพื้นที่ทางการเกษตรเพราะการรื้อแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินในปัจจุบันทิ้ง และจัดทำแผนผังใหม่โดยการวางแผนผังถนนซอยใหม่ การตัดซอยใหม่ ทำให้เกษตรกรรายย่อยที่มีฐานะยากจนอยู่แล้ว จะต้องถูกทำลายพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะพืชยืนต้นที่ปลูกสร้างมานาน และเพิ่งเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เพียง 3 ปี ซึ่งจะส่งผลกระทบให้สูญเสียรายได้ทั้งหมดที่เคยได้รับจากการขายผลผลิตทางการเกษตรตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ เห็นว่าการกระทำในครั้งนี้ของหน่วยงานภาครัฐนั้นไม่ได้ให้ความสำคัญกับข้อเสนอของประชาชนเลย แม้ว่าในชุมชนจะมีถนนหลักและซอยย่อยต่างๆ อยู่แล้ว รัฐสามารถที่จะปรับปรุงตามเส้นทางเดิมที่มีอยู่ได้ แต่กลับเลือกที่จะทำตามผังใหม่ทั้งหมด และนอกจากที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ซึ่งถูกทำลายผลอาสิน และหลายรายอาจจะถูกรื้อถอนบ้านเรือนตามแนวถนนใหม่ ยังเป็นการใช้งบประมาณภาครัฐที่เกิดความจำเป็น อย่างไรก็ตามการเข้ามาจัดการที่ดินในชุมชนครั้งนี้อาจจะทำให้สมาชิกในชุมชนประมาณครึ่งหนึ่งไม่มีที่อยู่อาศัย และรัฐยังไม่มีมาตรการรองรับเนื่องจากการแก้ไขปัญหาที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ป่าไสท้อนและป่าคลองโซง เขตพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลไทรทอง อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดำเนินมาอย่างยืดเยื้อยาวนานหลายรัฐบาล ปัญหาดังกล่าวก็คงดำรงอยู่จนถึงปัจจุบันโดยในส่วนของ ชุมชนก้าวใหม่ ที่ได้อยู่อาศัยในพื้นที่นี้ เป็นระยะเวลา 9 ปี มาแล้วนั้น ได้ถือครองและทำประโยชน์ในที่ดินโดยการปลูกพืชยืนต้นต่างๆ รวมถึงพืชเศรษฐกิจ อาทิเช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และ ไม้ผล เต็มพื้นที่และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตขายสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้แล้ว ทั้งนี้ ตามขนาดการถือครองที่ดินที่ได้มีการเดินนำสำรวจการถือครอง และรังวัดแนวเขตแต่ละแปลงโดยช่างรังวัดจาก ส.ป.ก. ในปี 2556การเข้าถึงที่ดิน และเริ่มต้นทำมาหากินในพื้นที่ ส.ป.ก. ดังกล่าวข้างต้น สืบเนื่องมาจากเคยได้รับการผ่อนผันให้อยู่อาศัยและทำกินในเขตที่ดินของรัฐ ตามวิถีชีวิตปกติของเกษตรกร จนกว่าการดำเนินคดีฟ้องขับไล่นายทุนและบริษัทฯ จะแล้วเสร็จ ทั้งนี้ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1/2552 วันที่ 11 มีนาคม 2552 โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เป็นประธานอนึ่ง ชุมชนก้าวใหม่ ตำบลไทรทอง อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน ให้เป็นพื้นที่นำร่องในการบริหารจัดการที่ดินตามแนวทางโฉนดชุมชน เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2553
สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) ระบุทหารเข้ามาในชุมชนก้าวใหม่ เพื่อทำถนนใหม่ตามแนวทางคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่งผลให้ผลอาสินของประชาชนในชุมชนถูกทำลาย หวั่นบ้านเรือนถูกรื้อ
คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,สิ่งแวดล้อม
การจัดการที่ดิน,คทช.,ชุมชนก้าวใหม่,สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้,เกษตรกรไร้ที่ดิน,ส.ป.ก.,สกต.
https://prachatai.com/journal/2017/08/72686
10 องค์กรสิทธิฯ ฟ้องศาลยุโรป กรณีรัฐบาลอังกฤษสอดแนมประชาชน
เนื่องจากการสอดแนมเหล่านี้ละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนยุโรป (ECHR)11 เม.ย. 2558 องค์กรสิทธิมนุษยชน 10 องค์กร ฟ้องร้องต่อศาลสิทธิมนุษยชนสูงสุดของยุโรปเพื่อดำเนินคดีกับรัฐบาลอังกฤษจากการที่รัฐบาลอังกฤษกระทำการสอดแนมประชาชนเป็นจำนวนมากเป็นประวัติการณ์และเป็นการกระทำการอย่างไม่มีข้อผูกมัดควบคุมใดๆ ตามที่เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตคนทำงานให้กับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (NSA) เคยเปิดโปงเรื่องนี้ผ่านสื่อต่างๆองค์กรสิทธิมนุษยชนทั้ง 10 องค์กร อาทิเช่น องค์กรไพรเวซีอินเตอร์เนชันแนล สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล สภาเพื่อเสรีภาพพลเมืองแห่งชาติอังกฤษ และองค์กรไบต์ฟอร์ออล ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าจะดำเนินการทางกฎหมายต่อโครงการสอดแนมต่างๆ ได้แก่ PRISM UPSTREAM และ TEMPORA ในข้อหาละเมิดสิทธิตามที่ถูกระบุไว้ในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนยุโรป (ECHR)ในใบคำร้องต่อศาลระบุว่าองค์กรทั้ง 10 รู้สึกเป็นห่วงในเรื่องที่มีการดักเก็บข้อมูล ตรวจสอบข้อมูล เผยแพร่ข้อมูล และเก็บรักษาข้อมูลการสื่อสารของประชาชนเป็นจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ กระบวนการสอดแนมเหล่านี้มีการดักเก็บข้อมูลการสื่อสารจำนวนหลายร้อยล้านครั้งและเกิดขึ้นโดยไม่มีคำสั่งอนุญาตจากศาล โดยทางการอังกฤษเป็นทั้งผู้ที่ปฏิบัติการสอดแนมเองและเป็นผู้ที่ได้รับข้อมูลจากการสอดแนมแบบเดียวกันมาจากสหรัฐฯนิค วิลเลียมส์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของแอมเนสตี้อินเตอร์เนชันแนลกล่าวว่า การสอดแนมของรัฐบาลอังกฤษถูกปล่อยให้เกิดขึ้นโดยไม่มีการยับยั้งและเกิดขึ้นในวงกว้างซึ่งส่งผลลัพธ์อย่างใหญ่หลวงต่อสิทธิความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปได้โอกาสในการทำให้เรื่องนี้กระจ่าง นิค วิลเลียมส์กล่าวก่อนหน้านี้ศาลอำนาจไต่สวนของอังกฤษ (IPT) ซึ่งเป็นองค์กรตุลาการอิสระที่ตั้งขึ้นเพื่อรับการร้องเรียนเกี่ยวกับการสอดแนมในอังกฤษ เคยตัดสินเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า โครงการสอดแนมในอังกฤษไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ทำให้กลุ่มสิทธิมนุษยชนเหล่านี้พยายามป้องร้องทางกฎหมายในประเด็นนี้ต่อ และเมื่อเห็นว่าไม่มีลู่ทางตามกฎหมายใดๆ ในอังกฤษเหลืออยู่พวกเขาจึงนำเรื่องนี้ส่งฟ้องศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปในคำร้องต่อศาลสิทธิมนุษยชนยุโรประบุอีกว่า IPT ตัดสินคดีนี้ผิดพลาดเพราะโครงการสอดแนมถือว่าละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนยุโรปซึ่งให้การรับรองสิทธิความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ทั้งนี้ยังระบุอีกว่า IPT ไม่มีการให้กลุ่มสิทธิมนุษยชนเข้ารับฟังการไต่สวนอย่างเป็นธรรมวิลเลียมส์กล่าวว่ามันเป็นเรื่องน่าขันที่รัฐบาลอนุญาตให้มีกระบวนการไต่สวนคดีแบบปิดลับไม่เปิดให้คนอื่นเข้ารับฟังเพื่อที่จะอ้างว่าพวกเขามีความโปร่งใสเป็นไปตามกฎหมายคาร์ลี นิสต์ ผู้อำนวยการด้านกฎหมายขององค์กรไพรเวซีอินเตอร์เนชันแนลกล่าวว่า ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปมีประวัติที่ดีจากการเคยทำให้หน่วยข่าวกรองต้องปฏิบัติการโดยเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนมาก่อน นิสต์ยังหวังอีกว่าสำนักงานข่าวกรองอังกฤษ (GCHQ) จะต้องรับผิดชอบต่อการสอดแนมประชากรโลกอย่างไร้การควบคุมกลุ่มสิทธิมนุษยชนเหล่านี้ยอมรับว่าที่โครงการสอดแนมเหล่านี้เผยแพร่ออกสู่สาธารณะได้เป็นเพราะการเปิดโปงของสโนว์เดน
หลายองค์กรยื่นฟ้องต่อศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปให้ดำเนินคดีกับรัฐบาลอังกฤษกรณีสอดแนมประชาชนร่วมกับสหรัฐฯ ในโครงการต่างๆ ตามที่ถูกเปิดโปงโดยเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน
ต่างประเทศ,ไอซีที
การสอดแนมมวลชน,ความเป็นส่วนตัว,สหราชอาณาจักร
https://prachatai.com/journal/2015/04/58827
ฉาวหนัก อดีตประธานสมัชชาใหญ่ยูเอ็น โดนข้อหารับสินบนเกือบ 47 ล้าน
เมื่อวันที่ 7 ต.ค. สื่อต่างประเทศรายงานข่าวอื้อฉาวครั้งใหญ่ที่เกิดกับองค์การสหประชาชาติ เมื่อ นาย จอห์น แอช ซึ่งเคยดำรงตำแหน่ง ประธานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติระหว่างปี 2554-2557 ได้ถูกอัยการที่นิวยอร์ก ในสหรัฐฯ ตั้งข้อหารับสินบน ทั้งในรูปของเงินสด และสินค้าราคาแพง อย่างนาฬิกาโรเล็กซ์ รวมเป็นเงิน 1.3 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 46.8 ล้านบาท จากนายอึ้ง แลป เซง นักธุรกิจมหาเศรษฐีชาวจีน เพื่อแลกเปลี่ยนกับการช่วยให้นายอึ้ง เจ้าพ่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชาวจีนผู้นี้ได้งานสร้างศูนย์การประชุมของสหประชาชาติ ที่มาเก๊า,คณะอัยการที่นิวยอร์ก ระบุว่า นายจอห์น แอช ได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ของเขาแลกกับการรับผลประโยชน์ เพื่อช่วยให้นายอึ้งได้งานสร้างศูนย์การประชุมของยูเอ็นที่มาเก๊า ขณะที่ นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่า เขารู้สึกช็อก ตกใจและรู้สึกกังวลใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาเหล่านี้ที่เล่นงานนายจอห์น แอช,บีบีซี รายงานว่า นายจอห์น แอช อดีตประธานสมัชชาใหญ่แห่งยูเอ็นได้ถูกจับกุมพร้อมกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ อีก 5 คน รวมทั้งนายอึ้ง นักธุรกิจชาวจีน เมื่อวันอังคารที่ 6 ต.ค. โดยอัยการสหรัฐฯ กล่าวว่า ขณะนี้การสืบสวนกำลังดำเนินอยู่และคาดว่าจะจับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้มากกว่านี้
เสียชื่อหมดจอห์น แอช อดีตประธานสมัชชาใหญ่ของยูเอ็น ถูกอัยการนิวยอร์กตั้งข้อหารับสินบนมหาศาล เกือบ 47 ล้าน จากนักธุรกิจมหาเศรษฐีชาวจีน เพื่อเปิดทางให้ได้งานก่อสร้างศูนย์การประชุมยูเอ็นที่มาเก๊า
null
จอห์น แอช,อดีตประธานสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ,สมัชชาใหญ่สหประชาชาติ,ยูเอ็น,โดนข้อหา,รับสินบน,นักธุรกิจจีน,ศูนย์การประชุม,มาเก๊า,ยูเอ็นเสียชื่อ,ข่าว,คอร์รัปชัน,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ
https://www.thairath.co.th/content/530666
จัดยิ่งใหญ่ โขนหน้าไฟ พระเทพฯทรงสั่งจัดในราชพิธี
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยจะมีการแสดงทั้งโขนพระราชทานและหนังใหญ่ ใช้ผู้แสดงมากถึง 300 ชีวิต แล้วต่อด้วยโขนกรมศิลป์ แสดงต่อเนื่องถึงรุ่งเช้า ด้านคนไทยเชื้อสายรามัญทั่วประเทศ รวมตัวประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลถวายพระบรมศพ ในหลวง ร.9 ตามธรรมเนียมมอญ,ครบรอบ 164 วัน การเสด็จสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ดร.สุรัตน์ จงดา ผู้ช่วยอธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป (สบศ.) กระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการแสดงโขนพระราชทาน ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับสั่งให้มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และ สบศ. จัดการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ หรือโขนพระราชทาน ซึ่งเป็นการแสดงโขนหน้าไฟในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ จะใช้เวลาแสดงประมาณ 2 ชั่วโมง โดยเบิกโรงด้วยหนังใหญ่พากย์สามตระ เพื่อเป็นการไหว้ครู พระอิศวร พระพรหม พระนารายณ์ และเทพเทวดา ก่อนการแสดงโขน ต่อด้วยการแสดงเบิกโรงหนังใหญ่ชุดจับลิงหัวค่ำ ก่อนจะแสดงหนังใหญ่ เนื่องจากโรงมหรสพนี้จะมีการแสดงทั้งโขนและหนังใหญ่ จากนั้นจึงเริ่มการแสดงโขนพระราชทาน เรื่องรามเกียรติ์ ในตอนรามาวตาร ตอน ทศกัณฐ์ลักนางสีดา ตอน พระรามพบสดายุ ตอน หนุมานถวายพล ตอน ตามนางสีดา ตอน พิเภกถูกขับ และตอน พิเภกสวามิภักดิ์ เมื่อเสร็จสิ้น สำนักการสังคีต กรมศิลปากร จะแสดงโขนกรมศิลปากรต่อ เรื่องรามเกียรติ์ ในตอน พระรามข้ามสมุทร-ยกรบ-รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยจะแสดงต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ชั่วโมง จนถึงรุ่งเช้า,ดร.สุรัตน์กล่าวอีกว่า โขนพระราชทานครั้งนี้ ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ ราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นผู้อำนวยการแสดง อาจารย์เกิดศิริ นกน้อย เป็นผู้ช่วยผู้กำกับการแสดง อาจารย์ประเมษฐ์ บุณยชัย เป็นผู้จัดทำบท ขณะนี้เรียบเรียงบทเสร็จแล้ว โดยเหตุที่เลือกแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ตอนรามาวตาร นั้น เปรียบได้กับในหลวง รัชกาลที่ 9 เหมือนพระนารายณ์อวตารลงมาปราบมารร้าย เกิดเรื่องราวต่างๆมากมาย แล้วมาจบที่ขับยักษ์พิเภกออกจากเมือง ซึ่งยักษ์ตนนี้เป็นน้องทศกัณฐ์ แต่มาสวามิภักดิ์พระราม แสดงถึงความซื่อสัตย์ รักษาความเที่ยงธรรมและจงรักภักดี เพื่อแสดงให้คนไทยได้เห็นและสานต่อเรื่องคุณธรรมถวายพระองค์,ดร.สุรัตน์กล่าวต่ออีกว่า ในการแสดงจะใช้ผู้แสดงมากถึง 300 คน มากกว่าโขนพระราชทานปกติที่ใช้ผู้แสดง 200 คน ดังนั้น จึงต้องจัดทำเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับโขนเพิ่มเติมตามโบราณราชประเพณี โดยใช้ช่างฝีมือของศูนย์ศิลปาชีพ สีบัวทอง จ.อ่างทอง ศูนย์ศิลปาชีพสวนจิตรลดา และสมาชิกของศูนย์ศิลปาชีพอีกหลายแห่ง เพื่อร่วมกันปักเครื่องโขนพระราชทานให้วิจิตรงดงาม ทั้งนี้ การจัดทำเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ประกอบฉากจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้ ส่วนผู้แสดงเริ่มระดมพลแล้ว โดยกำหนดให้ผู้แสดงโขนทั้งหมดซ้อมร่วมกันที่วิทยาลัยนาฏศิลป์ ศาลายา จ.นครปฐม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียน นักศึกษาของวิทยาลัยนาฏศิลป ที่เคยแสดงโขนพระราชทานมาแล้ว รวมถึงยังมีครูบาอาจารย์ด้านนาฏศิลป์ที่อยากมีส่วนร่วมแสดงถวายพระองค์เป็นครั้งสุดท้ายด้วย,สำหรับบรรยากาศภายในพระบรมมหาราชวัง ตลอดวัน เนืองแน่นไปด้วยประชาชนจากทั่วประเทศ อาทิ จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ ลำพูน ฯลฯ รวมถึงคณะแม่ชี จำนวน 120 ท่าน จากโครง การบวชแม่ชีน้อย หน่อบัวแก้ว และบวชศีลจาริณี นำโดยแม่ชีชูใจ ปทุมนันท์ กรรมการสถาบันแม่ชีไทย เข้ามาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้,ขณะที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ในช่วงเช้า พระเทพวีราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ เป็นประธานร่วมกับตำรวจนครบาล นำโดย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และ พล.ต.ต. ทรงพล วัธนะชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 และรองโฆษกประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดพิธีบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ประจำปี 2560 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีเยาวชนเข้าบรรพชา จำนวน 114 คน ซึ่งภายหลังเสร็จพิธี สามเณรทั้งหมดได้เดินทางไปถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพระบรมมหาราชวัง ทั้งนี้ พระราชรัตนสุนทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการฯ กล่าวว่า สามเณรที่เข้าร่วมโครงการบรรพชาแล้วประสงค์บวชต่อ โดยไม่ลาสิกขา วัดได้เตรียมโรงเรียนบาลีสาธิตศึกษา มจร. (วัดโพธิ์ ท่าเตียน) เพื่อเข้ารับการศึกษาแผนกนักธรรมบาลี ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ได้เลย ถือเป็นโอกาสดีของสามเณรที่ได้เรียนอย่างต่อเนื่อง เป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา,อีกด้านหนึ่งที่สวนสันติชัยปราการ ถนนพระอาทิตย์ สมาคมไทยรามัญ พร้อมด้วยชาวไทยเชื้อสายรามัญจากชุมชนมอญทั่วประเทศ กว่า 1,000 คน รวมตัวประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตามธรรมเนียมมอญ ประกอบด้วยพิธีรำสามถาด เป็นพิธีบวงสรวงเทพเทวดา และบวงสรวงดวงพระวิญญาณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ให้เสด็จสู่สวรรคาลัย พิธีมอญร้องไห้ เป็นพิธีที่ชาวมอญร้องพรรณนาถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อชาวไทยเชื้อสายรามัญ เป็นภาษามอญ และพิธีรำมอญ โดยชาวมอญจากชุมชนเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี ชุมชน จ.ปทุมธานี ชุมชนพระประแดง จ.สมุทรปราการ ชุมชนโพธาราม จ.ราชบุรี และชุมชนสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ทั้งนี้ นายประพัฒน์ กองศรี ประธานสมาพันธ์ชาวไทยเชื้อสายรามัญ จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ชาวมอญทุกคนในแผ่นดินไทยล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีพระเมตตาชาวมอญที่มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารมาตลอดรัชสมัย และภูมิใจที่ได้เกิดในรัชสมัยของพระองค์,นอกจากนี้ ช่วงเช้าวันเดียวกัน นายกัมพล ตันสัจจา ผอ.สวนนงนุชพัทยา นำทีมรุกขกรสวนนงนุชพัทยา และเจ้าหน้าที่สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร เข้ามาขนย้ายต้นมะขามรอบแรกจำนวน 14 ต้น จากทั้งหมด 44 ต้น ที่อยู่ด้านทิศใต้สนามหลวง ฝั่งตรงข้ามวัดมหาธาตุฯ อยู่ในพื้นที่ก่อสร้างพระเมรุมาศ นำไปอนุบาลที่สวนเจอาร์พันธุ์ไม้ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยนายกัมพลกล่าวว่า แม้ว่าระยะเวลาล้อมรากต้นมะขามเหล่านี้แค่เพียงเดือนเดียว แต่เท่าที่สังเกตน่าจะมีโอกาสรอดถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ได้เตรียมการไว้แล้ว ตั้งเป้าไว้ให้ต้นมะขามทั้งหมดรอด 70 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าดีที่สุดแล้ว ถ้าหากตาย เราได้ทำพันธุกรรมพืชเอาไว้ โดยแต่ละต้น รุกขกรได้ตัดกิ่งของต้นนั้นๆ ไปเสียบยอดเตรียมไว้แล้ว เมื่อต้นไหนตายลงจะนำเอาที่เสียบยอดไว้ของต้นนั้น มาทาบกับต้นใหม่ก็เท่ากับว่าได้ต้นเก่ามีชีวิตกลับคืนมา แต่อยู่ในลำต้นใหม่ โดยจะต้องหาต้นที่ค่อนข้างใหญ่ใกล้เคียงกับต้นที่ตายไป แล้วนำกลับมาปลูกในจุดเดิม ซึ่งแต่ละต้นรุกขกรทำบันทึกไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนต้นมะขามที่เหลืออีก 2 เดือนจะมาย้ายออกไปทั้งหมด
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี รับสั่งให้มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ จัดแสดงโขนหน้าไฟ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
null
โขนหน้าไฟ,พระราชพิธีถวายพระเพลิง,พระบรมศพ,ในหลวงรัชกาลที่ 9,มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ
https://www.thairath.co.th/content/895912
คนเวียงแหงจวกทีมอีไอเอ มช.ไม่เป็นกลาง
ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-25 ก.พ.2548 นายมนัสไปหลอกชาวบ้านว่า ต่อไปเวียงแหงจะมีห้างสรรพสินค้า จะมีสนามบิน จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง พร้อมกับมีการข่มขู่เวลาลงพื้นที่เก็บข้อมูล โดยได้อ้างว่าเป็นโครงการพระราชดำริ และยังตอกย้ำด้วยว่า โครงการพัฒนาเหมืองเวียงแหงนี้จะไม่มีผลกระทบแต่ประการใด สามารถป้องกันแก้ไขได้ทุกอย่าง ซึ่งชาวบ้านรับไม่ได้ ถือว่าไม่มีจรรยาบรรณ ขาดความชอบธรรมอย่างชัดเจน ไม่มีความเหมาะสมที่จะเข้าทำอีไอเอ ตรงนั้น นายณัฐนิติ กล่าว นายบุญยืน กาใจ ประธานเครือข่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเวียงแหง กล่าวว่า หลังจากที่มีโครงการสร้างเหมืองเข้ามาในชุมชน ได้ทำให้คนเวียงแหงเกิดความแตกแยก ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เคยบอกว่า ปัญหาของคนแม่เมาะยังคงแก้ไขไม่ได้ และจะไม่มีการสร้างเหมืองที่เวียงแหง ดังนั้นจึงขอวิงวอนขอให้ยกเลิก หากยังเดินหน้าต่อ ชาวบ้านก็พร้อมที่จะสู้ต่อไป ความจริงเราไม่โทษ กฟผ. ไม่โทษทีมศึกษาผลกระทบ ไม่ได้โทษถ่านหินที่มันอยู่ใต้ผืนดินเวียงแหง แต่ตนโทษคนที่ต้องการเงิน ตัณหา ความโลภ เพราะความโลภไปอยู่ตรงไหน ก็จะสร้างความเดือดร้อนทันที นายบุญยืน กล่าว ในขณะที่ พระสมุห์ฐานี ชิติวิริโย ครูใหญ่เวียงแหงปริยัติธรรมศึกษา อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ตั้งข้อสังเกตว่า คณะทำงาน EIA จะต้องไม่ไปทำมวลชนสัมพันธ์กับชาวบ้าน ว่าจะสร้างโน่นสร้างนี่ เพราะหน้าที่หลักคือ การศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น หากทีมอีไอเอ ไปทำกิจกรรมมวลชนสัมพันธ์ ถือว่า เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ โครงการพัฒนาเหมืองเวียงแหง เป็นอีกหนึ่งโครงการ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ซึ่งกำลังดำเนินการศึกษา EIA ก่อนจะทำการเปิดพื้นที่เหมือง เพื่อขุดเอาถ่านหินลิกไนต์ในเนื้อที่ประมาณ 3500 ไร่ ซึ่งมีเนื้อที่ครอบคลุมไปทั้ง 3 ตำบล คือ ต.เปียงหลวง ต.แสนไห และ ต.เมืองแหง ของ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ เพื่อทำการขนย้ายมาให้กับโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-25 ก.พ.2548 ที่หอประชุมบ้านธารแก้ว ม.พายัพ จ.เชียงใหม่ นายณัฐนิติ วุฒิธรรมปัญญา แกนนำคัดค้านการสร้างเหมืองถ่านหินเวียงแหง ได้กล่าวโจมตีนายมนัส สุวรรณ อาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์
สิ่งแวดล้อม
null
https://prachatai.com/journal/2005/02/2885
โสมชบาจ๊ะจ๋า 16/01/61
(คุณหญิงทิพยวรรณ ตันตกิตติ์),สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ ณ อาคารชัยพัฒนา วันที่ 19 ม.ค. เวลา 18.00 น. ให้ผู้ได้รับพระราชทาน ทุนอานันทมหิดลเฝ้าฯทูลลาไปศึกษาต่อต่าง ประเทศ,วันเกิดครบ 71 ปี คุณหญิงทิพยวรรณ ตันตกิตติ์ ได้รับข่าวปลื้ม ที่ได้รับประกาศเกียรติคุณเป็น 1 ใน 9 อักษรศาสตร์ดีเด่น ประจำปี 2560 ในฐานะนิสิตเก่าที่สร้างสรรค์สิ่งดีงามและทำประโยชน์ให้สังคม,นั่งแต่โบอิ้งและแอร์บัส การบินไทยกันมาตลอด วันก่อน น.ต.พงษ์ธร เทพกาญจนา นำชาวบินไทย และ Ms. Hania Tabet แห่งมูลนิธิแอร์บัส นั่งเครื่อง C130 กองทัพอากาศ ไปมอบสิ่งของให้เยาวชน ตามโครงการ ปันรักจากการบินไทยสู่ชายแดนใต้ ให้ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร แห่ง ศอ.บต. และ น.อ.เลอศักดิ์ คชนันทน์ ที่หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ นราธิวาส,เสียดุลย์มาสองครั้ง เพราะลูกสาว จิตสุภา-ธนวลัย แต่งกับหนุ่มต่างชาติ ปีนี้ ยิ่งลักษณ์ วัชรพล กับ สรรเสริญ ธีระสาสน์ เพิ่งได้ดุลย์คืนมาบ้าง เมื่อลูกชายคนเดียว วัชร ให้ยกขันหมากไปขอ สิริผกา ลูกสาว พล.ต.ต.แสงสูรย์-พัฒนวดี กรรณสูต--พิธีหมั้นและรดน้ำสังข์ จัดที่ห้องนภาลัย ดุสิตธานี 18 ม.ค. เวลา 08.50 น. ,ครองชีวิตคู่อย่างแสนสุขมานานถึง 45 ปี มาลีรัตน์-นคร ปลื้มจิตรชม ได้รับยินดีอานิเวอซารี่จากเพื่อนพ้องหลายครั้งมาก เพราะช่วงนี้มีงานเลี้ยงรุ่นต่างๆที่ต้องไปตลอด เลยฉลองซะในงาน,สามารถ จิรพัฒนกุล ให้เสริมเฮงรับปีจอ กับ แลคตาซอย แชริตี้ 2018 ชวนไปม่วนซื่นถิ่นอีสาน อิ่มบุญดนโดน ณ สกลนคร-นครพนม วันที่ 3-4 ก.พ.--สมัครได้ถึง 18 ม.ค. ที่เฟซบุ๊ก Lactasoy ,เปลี่ยน พ.ศ.ใหม่แล้ว แต่ โสมชบา ยังเหมือนเดิม คือเขียนชื่อเขียนยศไม่เคยแม่น จึงขออภัย สุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ ที่อิชั้นเปลี่ยนชื่อมาดามคนเดิมคนเดียว ฐิติมา เป็น จิตติมา จนบ้านเกือบพัง เพราะ คุณอ่อน-ฐิติมา ชักสงสัยนิดๆว่าอีกชื่อมีตัวตนหรือไม่ ,ส่วน เยาวณี นิรันดร ก็กำชับสามี พล.อ.นพ.วิทยา ช่อวิเชียร ว่าเวลาฝังเข็มรักษาอาการแขนชาให้ โสมชบา ให้ฝังจุดสมองแถมด้วย จะได้ไม่เขียนลดยศคุณหมอ เป็น พล.ท. อีก.,โสมชบา
วันเกิดครบ 71 ปี คุณหญิงทิพยวรรณ ตันตกิตติ์ ได้รับข่าวปลื้ม ที่ได้รับประกาศเกียรติคุณเป็น 1 ใน 9 อักษรศาสตร์ดีเด่น ประจำปี 2560 ในฐานะนิสิตเก่าที่สร้างสรรค์สิ่งดีงามและทำประโยชน์ให้สังคม
null
โสมชบาจ๊ะจ๋า,โสมชบา,ทิพยวรรณ ตันตกิตติ์,วัชร วัชรพล,ยิ่งลักษณ์ วัชรพล
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/hisoceleb/1177998
ผี เปิดศึก สิงห์บลู แย่งปราการหลังดาวรุ่งทอฟฟี่
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 16 มิ.ย. ว่า สองทีมยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีกทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี เตรียมเปิดศึกนอกสนามด้วยการแย่งตัว จอห์น สโตนส์ ปราการหลังของทีมเอฟเวอร์ตัน มาร่วมทีมในฤดูกาลหน้า หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และถูกกุนซือทีมชาติอังกฤษ เรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้วในปี 2014,อดีตเด็กปั้นของทีมเบิร์นลีย์ วัย 21 ปี ถูกจับตามองว่า จะก้าวขึ้นมาเป็นปราการหลังระดับเสาหลักของทัพสิงโตคำรามในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากมีเซนส์บอลที่ดีเยี่ยม และการเข้าสกัดหนักหน่วงเด็ดขาด,ล่าสุด สำนักข่าวเดลี เมล์ รายงานว่า สองทีมยักษ์ใหญ่เมืองผู้ดี พร้อมเปิดศึกแย่งตัวกองหลังรายนี้ไปร่วมทีมในฤดูกาลหน้า เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในแผงหลัง โดยมีข่าวว่า หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่ของทีมปิศาจแดง ต้องการที่รวบตัวกองหลังดาวรุ่งรายนี้มาร่วมทีมให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันการปั่นราคา หากมีข้อเสนอจากทีมที่ยื่นเข้ามาในช่วงเดียวกัน,นอกจากนี้ ยังมีข่าวอีกด้วยว่า ปราการหลังทีมชาติอังกฤษรายนี้ มีใจให้กับทีมปิศาจอยู่ไม่น้อย เนื่องจากเจ้าตัวตามเชียร์ และเป็นสาวกเรด อาร์มี แบบเข้าไส้อีกคนหนึ่งด้วยเช่นกัน 
ปิศาจแดง และ เชลซี พร้อมเปิดสงครามล่าตัว จอห์น สโตนส์ กองหลังดาวรุ่งสัญชาติอังกฤษ ของทีมเอฟเวอร์ตัน มาร่วมทีมในฤดูกาลหน้า เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในแนวรับ
null
จอห์น สโตนส์,เอฟเวอร์ตัน,ทีมชาติอังกฤษ,ปิศาจแดง,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,เชลซี,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/505459
ประธานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคแจงผลกระทบเอฟทีเอด้านยา
รศ.จิราพร ลิ้มปานานนท์ ประธานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า ราคายาในไทยถือว่าสูงมาก เมื่อเปรียบเทียบยาในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เนื่องจากถูกผูกขาดภายใต้ระบบสิทธิบัตรยาถึง 20 ปี และตามกรอบเจรจาเอฟทีเอ สหภาพยุโรปยังเรียกร้องให้ยืดอายุสิทธิบัตรยาที่ยาวนานขึ้น รวมถึงผูกขาดข้อมูลทางยาอีก 5 ปี ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านยาจะสูงขึ้นกว่า 80000 ล้านบาทต่อปี และระยะยาว ระบบหลักประกันสุขภาพของไทยจะล่มสลาย เนื่องจากรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหวนายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี เอดส์ ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ติดเชื้อเอชไอวีเข้าถึงยาต้านไวรัสในราคาที่ถูกลง แต่ยาสูตรสำรองเพื่อป้องกันการดื้อยาต้านไวรัสยังมีราคาสูงอยู่ การผูกขาดด้วยระบบเอฟทีเอ จะทำให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังเข้าถึงยาได้ยากขณะที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะเจรจากรอบเอฟทีเอ มีตัวแทนภาคประชาชนร่วมเป็นที่ปรึกษาทั้งก่อน และหลังเจรจาแต่ละรอบอยู่แล้ว ส่วนประเด็นเปิดการค้าเสรีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่ ยืนยันที่จะไม่เจรจาเพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
ประธานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคระบุว่าหากเปิดเขตการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ ไทย-สหภาพยุโรป ประชาชนจะเข้าถึงยาราคาถูกได้ยากขึ้น ขณะที่ปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายยาต่อคนต่อปีอยู่ที่ 135000 บาท เทียบกับราคายาบางชนิด สูงกว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าว 3 เท่า
สังคม
ประธานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค,ผลกระทบ,ยา,สหภาพยุโรป,เอฟทีเอ
https://news.thaipbs.or.th/content/150702
แมลงกระเบื้องนับล้าน บุกบ้านยายวัย 72 ที่อ่างทอง เร่งพ่นยากำจัด
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 59 เจ้าหน้าที่ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านพราน พร้อมหน่วยทหารชุดรักษาความสงบประจำจังหวัดอ่างทอง สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ จังหวัดลพบุรีเข้าตรวจสอบบ้านนางน้อย ฟักสกุลนี อายุ 72 ปี เลขที่ 102 หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านพราน อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง หลังได้รับแจ้งว่ามีแมลงกระเบื้องอยู่ที่บ้านเป็นจำนวนมาก,จากการตรวจสอบพบบ้านไม้สองชั้น ภายในพื้นบ้านและตามขื่อรอดและเสที่ยึดตัวบ้านนั้นเต็มไปด้วยแมลงกระเบื้องปีกแข็งเกาะกลุ่มรวมตัวกันแน่นจำนวนมาก ส่วนตามพื้นใต้เสื่อใต้ที่นอน และสิ่งของที่วางไว้ก็จะมีแมลงกระเบื้องปีกแข็งเข้าไปหลบพักอาศัยอยู่จำนวนมาก,นางน้อย กล่าวว่า เจ้าแมลงกระเบื้องปีกแข็งมักจะมาในช่วงฝนตก ซึ่งตอนนี้ก็ทนอยู่มานานหลายเดือนแล้ว แต่ในช่วงนี้ฝนตกต่อเนื่องทุกวันทำให้แมลงกระเบื้องปีกแข็งเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถพักอาศัยหลับนอนได้แล้ว สร้างความรำคาญและน่าขยะแขยง กลัวว่าจะเดินเข้าหูซึ่งที่บ้านมีทั้งเด็กเล็กและเด็กออทิสติกที่ไม่รู้ภาษาและบอกไม่ได้หากเกิดอันตายจากแมลงเข้าหู และกัดเป็นแผลผื่นคัน,ทางด้านนายวินัย บุญศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านพราน กล่าวว่า จะเร่งรีบดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยได้จัดเตรียมสถานที่พักอาศัยเป็นเต็นท์พักพิงชั่วคราวของ อบต. พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ทหารช่วยขนย้ายของ จากนั้นจะประสานขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อนำยามาฉีดพ่น กำจัดแมลงปีกแข็งให้หมดไป และทิ้งไว้นานประมาณ 1 สัปดาห์แล้วจะให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง นำน้ำมาล้างทำความสะอาดจนสารเคมีอันตรายหมดไปก่อน เพื่อให้ยายน้อยเข้าอยู่อาศัยได้ตามปกติ.
พบแมลงกระเบื้องนับล้านตัวบุกบ้านยายวัย 72 ปีที่อ่างทอง สร้างความรำคาญให้ครอบครัว เกรงแมลงจะเข้าหูเด็กเล็ก ด้านนายก อบต. เตรียมย้ายยายออกจากบ้าน แล้วฉีดพ่นยาประมาณหนึ่งสัปดาห์ จึงให้ยายกลับเข้าบ้านได้
null
แมลงกระเบื้อง,แมลงกระเบื้องบุกบ้านไม้,แมลงกระเบื้องอยู่ในบ้านคน,แสวงหา,อ่างทอง,ข่าว,ทั่วไทย,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,แมงกระเบื้อง,แมลงบุกบ้าน,ฉีดพ่นสารเคมี,แมลงกระเบื้องบุก
https://www.thairath.co.th/content/648689
สหรัฐฯลงมติเก็บภาษีเอดีกุ้ง6ประเทศ ไทย/อินเดียติดกลุ่มแต่จะทบทวนใหม่หลังได้ข้อมูลผลกระทบซึนามิ
ประชาไท - 6 ม.ค.2548 (วอชิงตัน) คณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกาได้ลงมติให้มีการเรียกเก็บภาษีป้องกันการทุ่มตลาด(เอ.ดี.)ของกุ้งแช่แข็งจาก 6 ประเทศคือ บราซิล จีน เอกวาดอร์ อินเดีย ไทย และเวียดนาม แต่จะมีการทบทวนเป็นการพิเศษสำหรับสองประเทศที่ประสบปัญหาภัยธรรมชาติซึนามิที่อาจจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกุ้ง คณะกรรมการลงมติด้วยคะแนน 4 ต่อ2 ด้วยพิจารณาแล้วเห็นว่าสินค้ากุ้งแช่แข็งที่นำเข้านี้ส่งผลเสียหายต่ออุตสาหกรรมกุ้งของสหรัฐโดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเข้ากุ้งจากจีน ไทยและเวียดนาม ในขณะที่การนำเข้าจากบราซิล เอกวาดอร์ และอินเดียไม่ได้สร้างผลกระทบเท่าไรเนื่องจากมีสัดส่วนการนำเข้าไม่ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ ด้วยการเรียกเก็บภาษีเอดีกุ้งตามมตินี้จะส่งผลให้ราคากุ้งนำเข้าที่มีราคาต่ำกว่าราคาตลาดในสหรัฐฯต้องเขยิบราคาขึ้นมาอยู่ในระดับที่เท่ากัน ทางกรมการค้าของสหรัฐฯได้มีการคำนวณอัตราส่วนต่างในตลาดไว้เป็นช่วงระหว่าง 2.35 เปอร์เซ็นต์ ถึง 67.8 เปอร์เซ็นต์ สำหรับ4ประเทศ คือ บราซิล เอกวาดอร์ อินเดีย และไทย ส่วนเวียดนามกำหนดที่ 25.76 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่จีนถูกกำหนดไว้สูงถึง 112.81 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของการพิจารณาถึงปัญหาผลกระทบที่อุตสาหกรรมกุ้งในอินเดียและไทยอันเนื่องมาจากภัยคลื่นซึนามิ คณะกรรมการสรุปว่าจะมีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้วค่อยนำมาสู่การพิจารณาเงื่อนไขการเปิดใช้ภาษีเอดีกุ้งในสองประเทศนี้อีกทีหนึ่ง ต่อเรื่องนี้ นางเจนนิเฟอร์ ฮิล แมน หนึ่งในคณะกรรมการได้แสดงความรู้สึกเสียใจต่อการที่คณะกรรมการฯได้ลงมติให้กำหนดค่าเอดีภาษีกุ้งโดยทันทีแทนที่จะเลื่อนออกไปก่อน นายแบรดฟอร์ด วอร์ด ทนายความของอุตสาหกรรมกุ้งสหรัฐฯได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวหลังการลงมติว่ากุ้งที่นำเข้าจากอินเดียและไทยส่วนใหญ่เป็นกุ้งแช่แข็ง และชัดเจนว่าจะต้องได้รับผลกระทบจากการเรียกเก็บค่าเอดีกุ้งในครั้งนี้ สำหรับการนำเข้ากุ้งจากทั้ง6ประเทศนี้ในปี 2546 มีมูลค่ารวม 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยประมาณ 1พันล้านเหรียญเป็นการนำเข้าจากจีนและเวียดนาม อีกหนึ่งพันล้านคือมูลค่าการนำเข้าจากไทย มีความเห็นจากบริษัทที่จัดจำหน่ายอาหารทะเลต่อมติการเก็บภาษีเอดีกุ้งในครั้งนี้ว่า ผู้บริโภคที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารทะเลจะต้องได้รับผลกระทบจากราคากุ้งที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน (ข้อมูลจาก The Washington File is a product of the Bureau of International Information Programs U.S. Department of State. Web site: http://usinfo.state.gov)
ประชาไท - 6 ม.ค.2548 (วอชิงตัน) คณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกาได้ลงมติให้มีการเรียกเก็บภาษีป้องกันการทุ่มตลาด(เอ.ดี.)ของกุ้งแช่แข็งจาก 6 ประเทศคือ บราซิล จีน เอกวาดอร์ อินเดีย ไทย
สิ่งแวดล้อม
null
https://prachatai.com/journal/2005/01/2174
มีชัย จ่อถกรื้อแผนปฏิรูป ตร. เหตุไม่ตรง รธน. ยังพบเกรงใจตำรวจ
เมื่อวันที่ 12 เม.ย.61 ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ กล่าวถึงแผนปฏิรูปตำรวจของคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ที่มี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธาน ได้มีการทำแผนปฏิรูปดังกล่าวเป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้หรือไม่ ว่า ตนยังไม่เห็น แต่ได้ยินเขาบอกว่า ยังไม่ใช่ จึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่เพื่อพิจารณาอีกครั้ง โดยจะประชุมนัดแรกหลังสงกรานต์ ในช่วงเย็นและจะใช้สถานที่การประชุม คือ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา,เมื่อถามว่า คณะกรรมการชุดที่ตั้งขึ้นมาใหม่ สามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหาในแผนปฏิรูปชุดของ พล.อ.บุญสร้าง ได้หรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า ทำได้และไม่จำเป็นต้องยึดแผนปฏิรูปดังกล่าว เพราะสามารถพูดคุยกันได้หากสิ่งที่ทำมาเป็นเรื่องดี,ชุดปฏิรูปตำรวจที่ผ่านมาพบว่ายังมีความเกรงใจตำรวจอยู่ จึงจะต้องปรับแก้ไขใหม่ และมั่นใจว่าคณะกรรมการฯ ชุดของผมจะพิจารณาจากแก่นปัญหาอย่างแท้จริง โดยไม่เกรงใจใครและจะยึดรัฐธรรมนูญเป็นหลัก เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ความสำคัญในการปฏิรูป 2 เรื่อง คือ การศึกษาและตำรวจ นายมีชัย กล่าว,เมื่อถามว่า ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ปฏิรูปตำรวจภายใน 1 ปี หากพ้นระยะเวลาดังกล่าว การแต่งตั้งโยกย้ายต้องยึดหลักอาวุโส ซึ่งขณะนี้ครบ 1 ปีแล้ว ดังนั้นต้องใช้ระบบอาวุโสหรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า ใช่ ถือว่าเข้าเกณฑ์เรียบร้อยแล้ว หากการแต่งตั้งไม่ใช่เกณฑ์นี้ สามารถฟ้องร้องได้เลย ทั้งนี้คาดว่ากฎหมายปฏิรูปตำรวจที่จะทำไม่ทันกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจในเดือน ต.ค.นี้ ฉะนั้นหลักการแต่งตั้งตำรวจจะต้องยึดลำดับอาวุโสตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด., 
มีชัย จ่อรื้อแผนปฏิรูปตำรวจ ชุดบุญสร้าง เตรียมถกนัดแรกหลังสงกรานต์ เหตุไม่ตรงตาม รธน. พบแผนดังกล่าวยังเกรงใจ ตร. ชี้โยกย้ายตำรวจ ต.ค.นี้ ยึดหลักอาวุโส
ข่าว,การเมือง
มีชัย ฤชุพันธุ์,ปฏิรูป ตร.,ตำรวจ,แผนปฏิรูปตำรวจ,ตร.,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1254529
มนุษย์รูมุกดาหาร ผู้สร้างอาณาจักรด้วยหินกว่า 3 ล้านก้อน เสียชีวิตแล้ว
ลูกสุดเศร้า นายดวง คล่องแคล่ว วัย 75 ตำนานมนุษย์รู จ.มุกดาหาร สร้างกำแพงบนยอดเขาหินมากกว่า 3 ล้านก้อน เสียชีวิตลงแล้ว ด้าน ญาติ ประกอบพิธีทางศาสนา 1 คืน พรุ่งนี้ (14 ส.ค.) ทำการฌาปนกิจศพที่เชิงตะกอนป่าช้า บ้านตูมหวาน เวลา 14.00 น.,เมื่อวันที่ 13 ส.ค.59 จากกรณีข่าว นายดวง คล่องแคล่ว อายุ 75 ปี ได้ไปสร้างรูหิน หรือถ้ำหินมุกดาหาร ที่ ภูธง บ้านตูหวาน หมู่ 3 ต.โพนงาม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร และพักอาศัยในรูหินมากว่า 10 ปี โดยสร้างกำแพงหินสูงร่วม 1 เมตร 80 เซนติเมตร ด้วยก้อนหินมากกว่า 3 ล้านก้อน ด้วยมือล้วนๆ ซึ่งพื้นที่โดยรอบทำการเกษตร ขุดบ่อเลี้ยงปลาและปลูกผักบุ้ง ปลูกมะขามหวาน จำนวน 20 ไร่ โดยมีนักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาดูกำแพงหินและถ้ำหินของมนุษย์รูคนดังกล่าว,ความคืบหน้าล่าสุด นายอภัย วุฒิโสภากร นายอำเภอคำชะอี จ.มุกดาหาร เปิดเผยขึ้นว่า เมื่อเวลา 00.15 น. ลูกๆ ของนายดวง ได้แจ้งว่านายดวง ได้สิ้นลมหายใจลงแล้ว ซึ่งสร้างความเสียใจกับลูกชายลูกสาวและตลอดจนพี่น้องอย่างยิ่ง โดย นายอภัย ได้เดินทางไปเคารพศพนายดวง พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือลูกชายลูกสาวอีกส่วนหนึ่งอีกด้วย ส่วนศพนายดวง จะประกอบพิธีทางศาสนา จำนวน 1 คืน และวันที่ 14 ส.ค.59 ทางญาติพี่น้องจะเคลื่อนศพนายดวง ไปยังป่าช้าบ้านตูมหวาน หมู่ 3 ต.โพนงาม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร เพื่อทำการฌาปนกิจศพที่เชิงตะกอนป่าช้า บ้านตูมหวาน ในเวลา 14.00 น.,ทั้งนี้ ในวันที่ 14 ส.ค.59 นี้ ทางญาติจึงขอเชิญชวนผู้ที่รู้จักคุ้นเคยกัน ได้มาชมกำแพงหินมากกว่า 3 ล้านก้อน ของนายดวง ที่ได้สร้างเป็นอนุสรณ์ที่ยอดเขา ภูธง บ้านตูมหวาน และร่วมงานศพของนายดวง ที่ป่าช้าบ้านตูมหวาน กันได้ตามสะดวก,ด้าน นายสมัย คล่องแคล่ว อายุ 32 ปี ลูกชายคนเล็ก กล่าวขอบคุณทุกคนที่ได้ร่วมกันบริจาคเงิน เพื่อช่วยเหลือนายดวง ในการดูแลรักษาอาการป่วย ตลอดจนได้โอนเงินบริจาคเข้ามายังบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเมืองใหม่บางพลี สมุทรปราการ ชื่อบัญชี นายสมัย คล่องแคล่ว เลขที่บัญชี 320-465794-0 ประเภทบัญชีเงินฝากออมทรัพย์.,สังขารไม่อำนวย มนุษย์รู กลับหมู่บ้าน อบต.จ่อปลูกหลังใหม่ไว้อยู่ยามชรา,มนุษย์รู ปิดถ้ำมารอลูก 8 คน ยังไม่มีใครมารดน้ำดำหัว (ชมคลิป),วอนช่วย มนุษย์รู มุกดาหาร ป่วยหนัก ลูกหลานหมดเงินรักษา
ลูกสุดเศร้า! นายดวง คล่องแคล่ว วัย 75 ตำนานมนุษย์รู จ.มุกดาหาร สร้างกำแพงบนยอดเขาหินมากกว่า 3 ล้านก้อน เสียชีวิตลงแล้ว ด้าน ญาติ ประกอบพิธีทางศาสนา 1 คืน พรุ่งนี้ (14 ส.ค.) ทำการฌาปนกิจศพที่เชิงตะกอนป่าช้า บ้านตูมหวาน
null
มนุษย์รู,มนุษย์รูมุกดาหาร,มนุษย์รู เสียชีวิต,รูหิน,ถ้ำหินมุกดาหาร,อาศัยในรูหิน,ภูธง,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/689467
มงคลกิตติ์ ลุย สามพราน ช่วยผู้สมัครหาเสียง โชว์ผลงาน ฝ่ายค้านอิสระ
วันที่ 3 ต.ค. นาย,มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์, ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงการลงพื้นที่ช่วย น.ส.ปริมปรางค์ แสงสว่าง ผู้สมัคร ส.ส.นครปฐม เขต 5 ของพรรคว่า เมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) ตนและแกนนำพรรค ได้แก่ พลโทอัศวิน รัชฏานนท์ รองหน้าพรรค, นางสาวภคอร จันทรคณา ว่าที่ รองหัวหน้าพรรค, นายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ เลขาธิการพรรค, นางสรกฤช จันทรคณา ว่าที่ โฆษกพรรค, นายอภิรักษ์ อินดี ว่าที่ รองโฆษกพรรค พร้อมทีมงาน ได้ลงพื้นที่โดย รถนำขบวนหาเสียง ซึ่งมี เครื่องบินขนาดใหญ่ 2 ลำ ซึ่งเป็นผลงานของ ฝ่ายค้านอิสระ เดิมทีมีแค่ 1 เสียง ตอนนี้มี 2 เสียง ก็ยังสามารถยับยั้งการจัดซื้อเครื่องบิน 38 ลำ 1.56 แสนล้านบาท ทำให้คนไทยไม่ต้องเป็นหนี้เพิ่มเติมได้ โดยขบวนเริ่มแห่จากบริเวณหน้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ มุ่งสู่ วัดไร่ขิง โดยตนและคณะ ได้สักการะ หลวงพ่อวัดไร่ขิง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่ชาวอำเภอสามพรานเพื่อเป็นสิริมงคลในการเลือกตั้งครั้งนี้ ต่อจากนั้นมุ่งไปที่ ตลาดพันล้าน ต.อ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน เพื่อช่วยผู้สมัครหาเสียงขอคะแนนประชาชนเพิ่มเสียงฝ่ายค้านอิสระ เพื่อที่จะทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน,จากผลงานที่ผ่านมาหลายเรื่องในการทำหน้าที่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกว่า 4 เดือน เราทำหน้าที่ยิ่งกว่าฝ่ายค้าน ชื่อว่า ฝ่ายค้านอิสระ มันคือ ค้านจริงๆ อย่างมีเหตุมีผลรัฐบาลปฏิเสธยาก ลงพื้นที่ครั้งนี้ดีกว่าตอนหาเสียงก่อนเลือกตั้งทั่วไป ที่ผ่านมามาก ตอนนั้นประชาชนรู้จักพรรคเราน้อย แต่ตอนนี้ รู้จัก ชื่อพรรค รู้จักหัวหน้าพรรค รู้จัก พี่เต้ พระราม 7 รู้จักผลงานเรา ชื่นชอบในการทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรอย่างมาก ตรงไปตรงมา มีเหตุผล ทำให้ผมรู้สึกมั่นใจลึกๆ ว่า จะสามารถชนะการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ได้ หรืออย่างน้อยๆคะแนนน่าจะถึงอันดับ 3 ของเขตนี้ ผมมั่นใจ นายมงคลกิตติ์ กล่าว
มงคลกิตติ์ นำ ไทยศรีวิไลย์ ลุย สามพราน ช่วย น้องเฟิร์น ปริมปรางค์ หาเสียงโชว์ผลงาน ฝ่ายค้านอิสระ ยับยั้งจัดซื้อเครื่องบิน 38 ลำ ทำคนไทยไม่เป็นหนี้เพิ่ม 1.56 แสนล้าน
ข่าว,การเมือง
มงคลกิตติ์,เต้มงคลกิตติ์,ไทยศรีวิไลย์,เลือกตั้งซ่อม,ตลาดพันล้าน,นครปฐม,ปริมปรางค์ แสงสว่าง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1674378
ขนาดไม่ใช่ทั้งหมด ไม่ต้องถึงกล้วยหอม แค่กล้วยไข่เราก็ฟินได้
เมื่อไม่นานมานี้กระแส ช้างศึก จากภาพหลุดของแฟนหนุ่มดาราสาว สายป่าน ถูกพูดถึงกันอย่างมากบนโลกโซเชียล หนุ่มๆ ทั้งหลายก็ออกมาคุยข่มกันว่า ผมใหญ่กว่า ผมยาวกว่า ผมยังงู้น ผมยังงี้,เกริ่นถึง ขนาด มาเยิ่นยาว ใช่ค่ะ เ,รื่องบนเตียงใสๆ สไตล์เกอิช้อย ,วันนี้เราจะมาพูดถึง ไซส์กล้วย ของคุณหนุ่มๆ ว่าสิ่งที่พวกคุณนำมาบลัฟกันมันถูกต้องอย่างที่พวกคุณเข้าใจหรือไม่ เพราะช้อยรู้ว่าพวกคุณทุกคนก็ต้องเคยนึกสงสัยว่า ไซส์ปิกาจู มันสัมพันธ์กันกับเรื่องบนเตียงหรือไม่? ช้อยมีคำตอบมาให้คุณแล้วค่ะ,ก่อนอื่น ช้อยต้องขอเท้าความก่อนว่า หากจุดประสงค์ของคุณคือทำให้อีกฝ่ายพึงพอใจในเรื่องเซ็กซ์ คุณต้องเรียนรู้ถึงลักษณะและจุดสำคัญบนร่างกายของสาวๆ เอาไว้เสียก่อน เพราะจากเท่าที่ฟังมาจากสาวๆ หลายคน พวกเธอคอนเฟิร์มแล้วว่า ขนาดไม่ใช่ทุกอย่างนะคะคุณขา แต่ถ้าจะให้ดีความยาวจะทำให้เราฟินมากกว่าความอวบอ้วนของคุณค่ะ หากถามว่าทำไม สาวๆ อย่างเราถึงสุขสมกับน้องหนูที่มีขนาดเรียวยาว มากกว่าอวบอ้วนแต่สั้น มาดูคำตอบกันค่ะ,-1-,นั้นก็เพราะมีผลวิจัยพบว่า จุดหรรษาของสาวๆ ที่มีชื่อว่า ,G Spot, จะอยู่ลึกเข้าไปในช่องคลอดห่างจากปากมดลูกประมาณ 2 นิ้ว ถ้าคุณผู้ชายสามารถกระตุ้นจุดจีสปอตของเราได้ สวรรค์ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ไม่ว่าคุณจะเป็นกล้วยหอม กล้วยไข่ หรือกล้วยเล็บมือนาง หากเข้าไปถูกจุด และบรรเลงมันอย่างต่อเนื่อง เป็นจังหวะที่เราพึงพอใจก็มั่นใจได้เลยว่าคุณจะพาสาวๆ ไปถึงฝั่งฝันแน่นอน ,-2-,อีกหนึ่งตำแหน่งที่ไม่ควรละเลยคือ C Spot (หรือปุ่มคลิตอริส) ที่อยู่ด้านหน้าเหนือรูปัสสาวะ แน่นอนว่าคุณไม่ควรละเลยมันเด็ดขาด ควรสัมผัสมันด้วยความอ่อนโยนเพื่อให้เธอปลดปล่อยอารมณ์ได้อย่างเต็มที่ และไหลลื่นไม่ติดขัด อย่างไรก็ดี คุณอาจเพิ่มความเสียวที่มากขึ้นให้กับเธอด้วยเซ็กซ์ทอย หรืออุปกรณ์เครื่องสั่นต่างๆ,-3-,ขึ้นชื่อว่า ,P Spot, อาจไม่ค่อยมีใครรู้จักเท่าใดนัก เพราะจุดนี้อยู่ตรงกล้ามเนื้อพีซี (Pubococcygeus Muscle) หรืออย่างที่เรารู้จักกันอย่างง่ายว่ากล้ามเนื้อหูรูดที่ห่อหุ้มอยู่บริเวณปากช่องคลอด และทวารหนัก ซึ่งการขมิบแรงๆ ในจุด P Spot นี้ ไม่เพียงแต่ทำให้สาวๆ ถึงจุดสุดยอดได้ แต่ยังบีบรัดฝ่ายชายให้ถึงฝั่งฝันได้เร็วขึ้นเช่นกัน,แต่อย่างไรก็ตาม ช้อยคิดว่าความสุขทางเพศมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดเสียทีเดียว ของแบบนี้มันต้องอยู่เทคนิคด้วย พูดง่ายๆ ถ้าใครที่มีขนาดใหญ่ก็ใช้เทคนิคน้อยหน่อย แต่หากมีขนาดเล็กก็ใช้เทคนิคเยอะหน่อยเท่านั้นเอง อย่าไปซีเรียสให้มากนักเลยจ้า
เรียกได้ว่ากำลังเป็นกระแสเลยทีเดียวสำหรับรูปลักษณ์ สี และขนาด ของ น้องชาย ดังนั้นเกอิช้อยจะพาทุกท่านไปเคลียร์ประเด็นที่ว่าเล็กหรือใหญ่ ไซส์ไหนไฉไลกว่ากัน
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
เซ็กซ์,เพศสัมพันธ์,เกอิช้อย,ขนาด อวัยวะ,G Spot
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/love/1169873
564 คนไทย บินจาก 4 ชาติถึงประเทศวันนี้ มีไข้ 24 คน ญี่ปุ่นมากสุด
คนไทย 564 คน บินกลับจาก 4 ประเทศ ถึงไทยวันนี้ พบมีไข้ 24 คน นำส่ง รพ.ทันที่ ส่วนที่เหลือ ส่งกักตัว 14 วันตามมาตรการ รบ.เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 16 มิ.ย.63 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พล.อ.ปริพัฒน์ ผลาสินธุ์ รองเสนาธิการทหาร พร้อมด้วย นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) เจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กรมควบคุมโรค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจรับคนไทยที่ทยอยเดินทางมาจากประเทศ ซึ่งวันนี้มีผู้โดยสารคนไทยที่เดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 5 เที่ยวบิน จาก แอฟริกาใต้ ญี่ปุ่น อุซเบกิสถาน และกาตาร์โดยเที่ยวบินแรก มาจากประเทศแอฟริกาใต้ โดยสายการบินแอฟริกาใต้แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ SA2986 เครื่องลงเวลา 10.06 น. มีผู้โดยสารจำนวน 161 คน พบผู้โดยสารคนไทยมีไข้สูง จำนวน 4 คน เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคนำส่งโรงพยาบาลทันที ส่วนที่เหลือนำส่งการกักตัว 14 วันตามมาตรการรัฐบาล ที่โรงแรมเบย์บีช และโรงแรมเบเวอร์ลี่ พัทยา จ.ชลบุรีเที่ยวบินที่ 2 มาจากประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินออลนิปปอนแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ NH847 เครื่องลงเวลา 15.00 น. มีผู้โดยสารจำนวน 211 คน เป็นนักการทูตญี่ปุ่น 2 คน นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น 19 คน พระภิกษุ 1 รูป พบผู้โดยสารคนไทยมีไข้สูง 16 คน ผู้ติดตามไป รพ.จำนวน 3 คน เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคนำส่งโรงพยาบาลทันที ส่วนที่เหลือนำส่งกักตัว 14 วัน ตามมาตรการรัฐบาล ที่โรงแรมบาซาร์ รัชดาภิเษก โรงแรมเมอเวนพิค ถ.วิทยุ และโรงแรมคิวว์ สุขุมวิท 79 ส่วนพระภิกษุ 1 รูป ถูกแยกไปพักที่โรงแรม H2DO จ.สมุทรปราการ สำหรับนักการทูตญี่ปุ่น ทางสถานทูตมารับตัวไปกักตัวในสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ ขณะที่นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น 19 คน ถูกส่งไปกักตัวที่โรงแรมดิไอดอล เรสซิเดนท์ จ.ปทุมธานี โรงแรมเมอเวนพิค ถ.วิทยุ และโรงแรมคิวว์ สุขุมวิท 79เที่ยวบินที่ 3 มาจากประเทศอุซเบกิสถาน โดยสายการบินอุซเบกิสถานแอร์เวย์ เที่ยวบิน SU 83533 เครื่องลงเวลา 16.30 น. มีผู้โดยสารจำนวน 37 คน พบผู้โดยสารคนไทยที่มีไข้สูง 1 คน นำตัวส่งโรงพยาบาลทันที ส่วนที่เหลือส่งกักตัว 14 วัน ตามมาตรการรัฐบาล ที่โรงแรมเอ็นวายซิตี้ รีสอร์ท จ.สมุทรปราการเที่ยวบินที่ 4 มาจากประเทศกาตาร์ โดยสายการบินโอมานแอร์ เที่ยวบิน WY 0815 เครื่องลงเวลา 17.30 น.มีผู้โดยสาร 155 คน พบผู้โดยสารคนไทยมีไข้ 3 คน นำส่งโรงพยาบาลทันที ส่วนที่เหลือส่งกักตัว 14 วันตามมาตรการของรัฐบาล ที่โรงแรมแกรนด์เบลลา พัทยา และโรงแรมคิวว์ สุขุมวิท79
คนไทย 564 คน บินจากกลับจาก 4 ประเทศ ถึงไทยวันนี้ พบมีไข้ 24 คน นำส่ง รพ.ทันที่ ส่วนที่เหลือ ส่งกักตัว 14 วันตามมาตรการ รบ.
ข่าว,ทั่วไทย
โควิด-19,โควิดฯ,คนไทย,คนไทยต่างประเทศ,คนไทยตกค้าง ตปท.,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1870493
ศีลธรรมแบบเห็นแก่ตัว ในพุทธศาสนาแบบไทยๆ
ตัวตน ของปัจเจกบุคคลเมื่อมี ตัวตน ก็ยึดถือตัวตนจึงทำให้เกิดความเห็นแก่ตัวและเมื่อเห็นแก่ตัวก็ยึดถือผลประโยชน์ส่วนตนในการตัดสินถูก-ผิดทางศีลธรรมคือถ้าการกระทำที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองก็บอกว่าเป็นการกระทำที่ดีดังที่เรามักเห็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองบ่นๆกันทำนองว่า คนทุกวันนี้มันเห็นแก่ตัวเอะอะอะไรก็เรียกร้องสิทธิเสรีภาพแต่ไม่ถามบ้างว่าหน้าที่ของตนคืออะไรจะเอาแต่สิทธิเสรีภาพแต่ไม่ยอมทำหน้าที่และแล้วพวกเขาก็เทศนาต่อทันทีว่า แนวคิดเรื่องสิทธิเสรีภาพอาจไม่เหมาะกับสังคมไทยเพราะทำให้คนเห็นแก่ตัวไม่รู้จักหน้าที่สังคมไทยเรามีลักษณะพิเศษคือให้ความสำคัญกับหน้าที่มากกว่าสิทธิเสรีภาพเช่นหน้าที่ของพ่อแม่ครูอาจารย์หน้าที่ของลูกลูกศิษย์หน้าที่ของผู้ปกครองผู้ใต้ปกครองหน้าที่ของทุกคนที่ต้องจงรักภักดีต่อสถาบันชาติศาสน์กษัตริย์เป็นต้นถ้าแต่ละคนทำหน้าที่ของตนให้ถูกต้องบ้านเมืองก็สงบสุขแต่อันที่จริงตามแนวคิดเรื่องสิทธิเสรีภาพของตะวันตกนั้นเราไม่สามารถแยกสิทธิเสรีภาพของเราออกมาจากสิทธิเสรีภาพของคนอื่นๆ แล้วให้ความหมายพิเศษปกป้องมันอย่างเป็นพิเศษเหนือสิทธิเสรีภาพของคนอื่นๆ ได้หมายความว่าเมื่อเราพูดถึงสิทธิเสรีภาพของปัจเจกแต่ละคนเท่ากับพูดถึงสิทธิเสรีภาพของปัจเจกบุคคลในฐานะที่เขาเป็น มนุษย์ และความเป็นมนุษย์ของทุกคนย่อมเสมอภาคกันฉะนั้นสิทธิเสรีภาพที่ทุกคนมีภายใต้ระบบสังคม-การเมืองจึงต้องเป็นสิทธิเสรีภาพที่เท่าเทียมกันเราจึงไม่อาจใช้สิทธิเสรีภาพของตนเองโดยไม่เคารพสิทธิเสรีภาพของคนอื่นๆ และสิทธิเสรีภาพของเราจะมีได้ก็ต่อเมื่อได้รับการเคารพโดยคนอื่นๆ เช่นกันพูดง่ายๆ คือสิทธิเสรีภาพของแต่ละคนจะมีได้ก็เพราะว่าทุกคนมี หน้าที่ เคารพสิทธิเสรีภาพของกันและกันฉะนั้นตามแนวคิดเรื่องสิทธิเสรีภาพแบบตะวันตกแม้จะเน้นตัวตนหรือ ความเป็นตัวของตัวเอง ของปัจเจกบุคคลก็สรุปไม่ได้ว่าเป็นเรื่องความเห็นแก่ตัวที่แต่ละคนต่างก็จะเอาแต่สิทธิเสรีภาพของตนเองโดยไม่คำนึงถึง หน้าที่ ดังความเข้าใจอย่างผิดๆ ข้างต้นเช่นที่พระสอนกันว่ารักษาศีล5เพื่อให้ได้รับอานิสงส์คือความร่ำรวย (สีเลนโภคสัมปทา) เพื่อไปสู่สุคติหรือสวรรค์ (สีเลนสุคะติงยันติ) เพื่อบรรลุนิพพาน (สีเลนนิพพุติงยันติ)เห็นไหมว่าความร่ำรวยสวรรค์นิพพานล้วนแต่เป็น ความสุขส่วนตัว ฉะนั้นเหตุผลของการรักษาศีลตามที่สอนกันในพุทธศาสนาแบบไทยๆจึงไม่ใช่เหตุผลเพื่อ ความสุขของส่วนรวม แต่เป็นเหตุผลเพื่อ ความสุขส่วนตัว เวลาคนเข้าวัดปฏิบัติธรรมรักษาศีลก็นึกถึงตัวเองว่าทำไปแล้วตัวเองจะได้อะไรตอบแทนแทบไม่ได้ถูกชี้แนะให้นึกถึงคนอื่นๆหรือสังคมเลยถ้าพิจารณาตาม แบบแผน ของการปลูกฝังศีลธรรมแบบนี้ก็หมายความว่าการกระทำความดีหรือการเป็นคนดีมีศีลธรรมจะส่งผลให้ได้รับ ความสุขส่วนตัว เท่ากับเป็นการทำความดีเพื่อหวัง รางวัลตอบแทน ส่วนตัวทั้งนั้นและหากเป็นคนช่างคิดหน่อยก็จะเห็นว่า รางวัลตอบแทน ส่วนตัวนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับรางวัลจากการ ถูกหวย เพราะดูเหมือนว่าระหว่าง การกระทำความดี กับ รางวัลตอบแทน จะไม่มีความสัมพันธ์เป็นเหตุเป็นผลแก่กันเลยเช่นรักษาศีล5จะเป็นสาเหตุให้ร่ำรวยได้อย่างไร (ถ้าไม่ทำธุรกิจหรือ ฯลฯ) จะเป็นสาเหตุให้ไปเกิดในสวรรค์อย่างไร (พิสูจน์อย่างไร)และยิ่งเมื่อพิจารณาดูการโปรโมทการทำ ความดี ในพุทธแบบไทยๆ นั้นล้วนแต่สามารถจะมีอานิสงส์ยิ่งกว่า ถูกหวย ด้วยซ้ำเพราะการทำความดีด้วยการให้ทานรักษาศีลเจริญภาวนานั้นย่อมก่อให้เกิดอานิสงส์หรือรางวัลตอบแทนส่วนตัว อย่างวิจิตรพิสดารยิ่งซึ่งเราไม่มีทางอธิบายได้ว่าระหว่างการทำความดีด้วยการให้ทานรักษาศีลเจริญภาวนานั้นมันมี ความสัมพันธ์เป็นเหตุเป็นผล กับความสวยหล่อร่ำรวยยศถาบรรดาศักดิ์เงินทองไหลมาเทมา ฯลฯ อย่างไรทว่าเรากลับได้เห็นความไร้เหตุผลต่างๆ นั้นพร้อมๆ กันกับได้ฟังการโปรโมทตลอดเวลาว่า พุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งเหตุผลเป็นศาสนาแห่งปัญญาเป็นวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ (ส่วนที่ พระเซเล็บ บอกว่า คนสมัยก่อนเขาเหาะเหินเดินหาว และ อย่างมงายในวิทยาศาสตร์ นั้นก็ทำเอา แฟนคลับ จำนวนมากน้ำหูน้ำตาไหลตามๆกันนี่แหละ พุทธหลายเวอร์ชั่น นะโยมนะ)แต่เมื่อพิจารณาแนวคิดเรื่องสิทธิเสรีภาพแบบตะวันตกเราจะเห็นความเป็นเหตุเป็นผลว่า การทำความดี ด้วยการเคารพปกป้องสิทธิเสรีภาพของตนเองและของกันและกันและ/หรือการปรับใช้หลักสิทธิเสรีภาพกับทุกคนอย่างเท่าเทียมย่อมก่อให้เกิด ผลดี คือ ความยุติธรรม ทางสังคม-การเมืองแต่ภายใต้แบบแผนการปลูกฝังศีลธรรมของพุทธศาสนาแบบไทยๆ ที่อ้างว่าเป็น ศีลธรรมแห่งการละความเห็นแก่ตัว นั้นโดยข้อเท็จจริงแล้วกลับเป็นศีลธรรมที่มุ่งทำความดีเพื่อความสุขส่วนตัวและหวังผลจากการทำความดีแบบ ถูกหวย หรือเกินจริงอย่างยิ่งเพราะผลแห่งการทำความดีไม่ใช่มุ่งหมายให้สังคมดีหรือมีความยุติธรรมแบบแนวคิดตะวันตกแต่เป็น ผลตอบแทนส่วนตัว ที่วิจิตรพิสดารยิ่งตั้งแต่สวยรวยหล่อยศเกียรติปราศจากโรคาพยาธิกระทั่งไปเกิดในสวรรค์เป็นเทพบุตรมีนางฟ้า500เป็นบริวาร (แต่ไม่ยักได้เกิดเป็นนางฟ้ามีเทพบุตร 500 เป็นบริวารแฮะ)ฉะนั้นที่กล่าวหาว่าศีลธรรมแบบตะวันตกที่เน้นสิทธิเสรีภาพเป็นความเห็นแก่ตัวนั้นน่าจะไม่ถูกนักศีลธรรมในพุทธศาสนาแบบไทยๆต่างหากที่เป็น ศีลธรรมแบบเห็นแก่ตัว และยังเป็น ความเห็นแก่ตัวอย่างไร้เหตุผล อีกด้วยนึกๆ ดูพุทธะสลัดทิ้งทุกสิ่งเพื่อแสวงหาสัจธรรมและอิสรภาพของชีวิต (การทำความดี ของพุทธะ= การใช้ชีวิตแสวงหาสัจธรรม และ ผลตอบแทน = อิสรภาพของชีวิต)แต่พุทธศาสนาแบบไทยๆ กลับ อ้างอิง สิ่งที่พุทธะสลัดทิ้งแล้วเช่นความมั่งคั่งยศถาบรรดาศักดิ์ ฯลฯ มาเป็น อานิสงส์ หรือผลตอบแทนของการทำ ความดี (การทำความดี=means ไปสู่ end ที่เป็น พันธนาการของชีวิต)
ชาวพุทธแบบไทยๆ มักวิจารณ์ว่าแนวคิดเรื่องสิทธิเสรีภาพของตะวันตกเป็นแนวคิดแบบเห็นแก่ตัวเพราะก่อให้เกิด ลัทธิปัจเจกชนนิยม (individualism)ที่ให้คุณค่าสูงสุดกับสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลหรือเน้นความมี
สังคม
พุทธศาสนา,สุรพศ ทวีศักดิ์
https://prachatai.com/journal/2012/03/39798
หนุ่มช่างรับเหมา ควบกระบะยางระเบิด ชนสนั่นดับ 1 สาหัส 3
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 17 ส.ค.58 ร.ต.ท.กิตติศัพท์ ตาพล พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถยนต์กระบะชนกัน 3 คันรวด มีผู้เสียชีวิตคาที่ 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 3 ราย บนถนนสายนครศรีธรรมราช-ลานสกา หมู่บ้านวังก้อง หมู่ 6 ต.กำแพงเซา รับแจ้งแล้วจึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต็กตึ๊ง รุดตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะจำนวน 3 คัน ชนกันเสียหลักตกลงไปอยู่คูน้ำริมถนน สภาพพังยับเยินทั้ง 3 คัน เป็นรถยนต์กระบะ สีเขียวตอนเดียว ทะเบียน บบ 9566 นครศรีธรรมราช รถยนต์กระบะตอนครึ่ง สีน้ำตาล ทะเบียน บธ 1403 นครศรีธรรมราช และรถยนต์กระบะสี่ประตู สีดำ ทะเบียน กท 6638 นครศรีธรรมราช บริเวณกลางถนนพบศพผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ศพ ทราบชื่อนายประทีป ผลอินทร์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ 3 ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช มีอาชีพเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง สภาพศพคอหักกะโหลกศีรษะแตก เสียชีวิตคาที่,ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย ทราบชื่อนายสกล กาญจนะ อายุ 33 ปี เป็นคนขับรถยนต์กระบะ สีน้ำตาล และนายทะนงศักดิ์ แก้มแกม อายุ 49 ปี เป็นคนขับรถยนต์กระบะสี่ประตู สีดำ และนางสาวสุนาค เพ็ชรวิจิตร อายุ 62 ปี เป็นชาวบ้านที่เดินอยู่ริมถนน ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้ง 3 ราย เจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ก่อนหน้านี้แล้ว,จากการสอบสวนเบื้องต้นจากพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่นายประทีป ผู้เสียชีวิตซึ่งมีอาชีพเป็นช่างรับเหมาก่อสร้างได้ขับรถยนต์กระบะ ขนเครื่องมืออุปกรณ์ก่อสร้างใส่ท้ายรถขับออกจากบ้านพักมุ่งหน้าไปทำงานในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ปรากฏว่าเมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุยางล้อหลังเกิดระเบิดกะทันหัน ทำให้รถเสียการทรงตัวหมุนคว้างขวางกลางถนน เป็นจังหวะเดียวกับที่รถยนต์กระบะอีก 2 คันที่แล่นสวนมาพุ่งชนประสานงากัน 3 คันรวด ทำให้นายประทีปร่างกระเด็นออกจากตัวรถ คอหักตายกลางถนนทันที ส่วนคนขับรถทั้ง 2 คัน และนางสุนาค ชาวบ้านที่เดินริมถนนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการชันสูตรพลิกศพเสร็จแล้วได้มอบศพให้กับญาตินำศพไปจัดการตามประเพณีต่อไป.
หนุ่มช่างรับเหมา ขับกระบะขนเครื่องมืออุปกรณ์ก่อสร้างจะไปทำงานในตัวเมืองนครศรีธรรมราช เกิดยางระเบิดขวางถนน ถูกปิกอัพที่แล่นสวนมาอีก 2 คัน พุ่งชนประสานงาอย่างจัง ส่งผลให้คนขับร่างกระเด็นคอหักดับคาที่-เจ็บระนาวอีก 3 ราย
ข่าว,ทั่วไทย
อุบัติเหตุ,ยางระเบิด,ช่างรับเหมาก่อสร้าง,กระบะยางระเบิด,ชนประสานงา,รถชนกัน,นครศรีธรรมราช-ลานสกา,คอหัก,นครศรีธรรมราช,ข่าวภูมิภาค,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/518785
คสช. เรียกรายงานตัวอีก นักกิจกรรม ทนาย ผู้สื่อข่าว และนักวิชาการ
สื่อมวลชน นักวิชาการ และนักกิจกรรม รวม 28 คนคำสั่งคสช.ที่ 42/2557 ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม 2 คน คือ 1) นายคารม พลพรกลาง และ 2) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะคำสั่ง คสช.43/2557 ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม 8 คน ได้แก่ 1) พ.ต.อ.นริศ แสวงจิตร 2) นางหน่อย แดงเป้า 3) นางสาวการิน ประจันทร์ 4) สิทธิชัย กิตติธเรศวร 5)นายประภัทสร์ จงสงวน 6) จักรพันธุ์ ยมจินดา 7) บัญญัติ เย็นใจเฉื่อย 8) ณรงค์ศักดิ์ พลายอร่ามโดยให้ไปรายงานตัวที่ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ 2 มิถุนายน 2557 เวลา 10.00-12.00 น.คำสั่งคสช.ที่ 44/2557 ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม 28 คน ได้แก่1. นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ2. นายเก่งเกิจ กิตติเลียงลาภ3. นายรัชพงศ์ โอชาพงศ์4. นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย5. น.ส. อุทัยรัตน์ มณีด้วง6. นายอัมรินทร์ ใสรัมย์7. นายนิพนธ์ ผดุงศิลป์ไพโรจน์8. นางปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์9 .นายกิตติศักดิ์ สุจิตตารมย์10. น.ส. จิตรา คชเดช11. นางสลิลทิพย์ ณ พัทลุง12. นายสุวัฒน์ หล่ำบุตร13. นายเสรีภาพ สุนทรชัยภัค14. นายพฤธ์นริทร์ ธนบริบูรณ์สุข15. นายสราวุฒิ ภูธรโยธิน16. นายวันชัย จงจรูญหิรัณย์17. นายธนพร ศรียากูล18. นายพฤกษ์ พฤกษ์สุนันท์19. นายพิพัฒน์ พรรณสุวรรณ์20. นางยุพิณ กองจันดี21. นายเฉลียว จันเขียด22. นายสิรภพ กรณ์อรุษ23. นายเอกราช เนตรดี24. นายปัญญา สุรกำจรโรจน์25. นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์26. นายธนัท ศรีนิธิโฆษิต27. น.อ.สุรพล นะวะมวัฒน์28. นายคฑาวุธ บูรณ์พิทักษ์โดยให้ไปรายงานตัวที่ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ 3 มิถุนายน 2557 เวลา 10.00-12.00 น.ทั้งนี้รายชื่อที่เรียกรายงานล่าสุด ประกอบไปด้วยนักวิชาการ เช่นนายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ นายเก่งเกิจ กิตติเลียงลาภ นักกิจกรรมทางสังคม และสื่อมวลชน เช่น นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย ผู้สื่อข่าวของเว็บไซต์ประชาไท และนายปัญญา สุรกำจรโรจน์ นักสื่อสารมวลชนอิสระซึ่งทำหน้าที่รายงานสดการเสวนาทางวิชาการผ่านทางเว็บไซต์มาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี นักกิจกรรมทางสังคม เช่น น.ส. จิตรา คชเดช นายรัชชพงศ์ โอชาพงศ์ นายธนพร ศรียางกูร ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าพรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทย เป็นต้น
1 มิ.ย.2557 ประมาณ 21.20 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งฉบับที่ 42-44 เรียกบุคคลเข้ารายงานตัวเพิ่มเติม มีทั้งนักการเมือง ทนาย นปช.
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
การรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557,คสช.
https://prachatai.com/journal/2014/06/53711
เปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำ จ.แพร่
ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนที่สนใจ กว่า 200 คน เข้ารับฟังการบรรยายพิเศษ เรื่องการบูรณาการจัดการน้ำ และการมีส่วนร่วมพัฒนาลุ่มน้ำ เป็นหนึ่งในกิจกรรมการเปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำจังหวัดแพร่ ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่จัดตั้งขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อบริหารจัดการน้ำในลุ่มแม่น้ำยมทั้งระบบแบบบูรณาการนายรอยล จิตรดอน เลขาธิการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า มูลนิธิอุทกพัฒน์ ได้ร่วมทำงานกับภาคประชาชนในจังหวัดแพร่ มาแล้ว 3 ปี มีโครงการพัฒนาลุ่มน้ำกว่า 10 โครงการ ซึ่งพบว่าภาคประชาชนมีการทำงานบริหารจัดการน้ำได้ดี สามารถสานต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และ จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในภาคเหนือ จึงต้องเฝ้าระวังพายุฝนและฝนทิ้งช่วง ที่จะเกิดขึ้นได้ในช่วง 3 เดือนนี้ พร้อมกันนี้ได้มอบอุปกรณ์คาดการณ์ฝนตกล่วงหน้า 7 วัน หรือ มีเดียร์บ็อคซ์ ให้กับ อบต. ในพื้นที่จังหวัดแพร่ด้วย
องค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ร่วมกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำจังหวัดแพร่ เพื่อสร้างเครือข่ายจัดการน้ำภาคประชาชนและภาครัฐ ในการบริหารจัดการน้ำในลุ่มแม่น้ำยม
ภูมิภาค
เครือข่ายจัดการน้ำ จ.แพร่ มูลนิธิอุทกพัฒน์ แม่น้ำยม
https://news.thaipbs.or.th/content/175508
โค้ชยะ พอใจผลงานทีมวอลเลย์บอลเยาวชนหญิง 20 ปี
แม้จะไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายในการผ่านเข้ารอบ 2 การแข่งขันวอลเลย์บอลเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปีชิงแชมป์โลก ที่ประเทศสาธารณรัฐเช็ก โดยแพ้ทั้ง 5 นัดในรอบแรก ก่อนจะมาแก้ตัวเอาชนะได้ 2 นัดในรอบจัดอันดับจนคว้าอันดับที่ 18 จาก 20 ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน แต่โค้ชยะ ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมวอลเลย์บอลเยาวชนหญิงไทยก็ยอมรับว่า ยังพอใจกับผลงานของลูกทีมทุกคน แม้จะมีบางส่วนที่ต้องแก้ไขปรับปรุงก็ตาม โดยเฉพาะในเรื่องสภาพจิตใจที่บางครั้งนักกีฬาอาจจะมีสภาพจิตใจที่ไม่พร้อม หรือไม่แข็งแกร่งพอในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ในทีมชุดนี้มีผู้เล่นหลายคนที่น่าจะพัฒนาก้าวขึ้นไปทดแทนรุ่นพี่ในทีมชาติชุดใหญ่ได้ในอนาคตสำหรับนักกีฬาเยาวชนชุดนี้มีหลายคนที่หลังจากนี้จะต้องเดินทางไปแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลกที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย ในระหว่างวันที่ 6-17 กรกฎมาคมนี้ ไม่ว่าจะเป็น กัตติกา แก้วพิน คัทลีย์ ปิ่นสุวรรณ ธนาภรณ์ พลเรือง ศศิวิมล แสงปาน แก้วกัลยา กมุลทะลา ทัดดาว นึกแจ้ง กรรณิกา สิทธิแพทย์ สุวัจณีย์ แก่นสา และศศิธร พิมพา โดยทีมไทยมีโปรแกรมรอบแรกลงพบกับฮ่องกง ในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ ต่อด้วยวันที่ 9 กรกฎาคม พบ ชิลี และวันที่ 10 กรกฎาคม พบ ญี่ปุ่น
โค้ชวอลเลย์บอลเยาวชนหญิงทีมชาติไทยพอใจกับผลงานของทีม แม้จะทำได้เพียงคว้าอันดับ 18 ในการแข่งขันวอลเลย์บอลเยาวชนชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ที่สาธารณรัฐเช็ก
กีฬา
ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค,วอลเลย์บอล,สาธารณรัฐเช็ก,เยาวชน,เยาวชนหญิง,โค้ชยะ
https://news.thaipbs.or.th/content/181488
ทำความดีเพื่อให้ ได้ความสบายใจ
โดยไม่แบ่งว่าจะเป็นใครหรือชาติไหน อย่างนี้สมควรที่จะได้รับการยกย่องชมเชยอย่างที่สุด,ซึ่งตัวอย่างของการทำความดีมีทั้ง กรณีที่นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันที่เข้าช่วยเหลือคนไทย ซึ่งประสบอุบัติเหตุรถตกคูเมืองเชียงใหม่ ทั้งนี้ ททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) สำนักงานเชียงใหม่ ได้มอบช่อดอกไม้และของที่ระลึกแก่นายแจนฟิลลิป ไลฟิลด์ และนางสเตลลา มาเรีย คาเลท 2 นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันที่เข้าช่วยเหลือครอบครัวคนไทยซึ่งขับรถประสบอุบัติเหตุตกคูเมืองเชียงใหม่ไว้ได้ งานนี้เห็นชาวต่างชาติมีน้ำใจต่อคนไทยแล้วปลื้มใจมากทีเดียว ซึ่งชาวเยอรมัน 2 คนนี้มาเที่ยวเมืองไทยแท้ๆ แต่กลับแสดงความมีน้ำใจและให้การช่วยเหลือคนไทยอย่างไม่น่าเชื่อ งานนี้ ททท.ทำดีแล้วที่ได้มอบของตอบแทนความดีให้กับฮีโร่ชาวเยอรมันคู่นี้,เรื่องราวทำนองนี้ล่ะค่ะที่อยากได้ยินบ่อยๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวน่ารักไม่แพ้กันเมื่อพนักงานเก็บค่าโดยสารหรือกระเป๋ารถเมล์ได้เก็บกระเป๋าผู้โดยสารที่มีเงินสดอยู่กว่า 1 ล้านบาท และส่งคืนถึงมือเจ้าของครบถ้วน เรื่องนี้อยากยกย่องคุณสุมน มทิดุลย์ วัย 50 ปี กระเป๋ารถเมล์ สาย ปอ.511 เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นตัวอย่างของการทำความดี และพวกเราก็ควรชื่นชมคนที่ทำความดี (และสมควรจะได้รับความดีความชอบ) ด้วย,เอาเป็นว่า ถ้าจะเลียนแบบใครก็ขอให้พวกเราเลียนแบบความดีของบุคคลเหล่านี้เข้าไว้ ส่วนตัวอย่างที่ไม่ดีก็อย่าไปเลียนแบบทำตามเด็ดขาด เนื่องจากสังคมทุกวันนี้ก็วุ่นวายและซับซ้อนพออยู่แล้ว แถมมนุษย์ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชอบกระทำการเลียนแบบสิ่งที่ไม่ดีของคนอื่นแทนที่จะเลียนแบบทำความดีซะด้วยสิ จึงอยากฝากเป็นข้อเตือนใจกันไว้ ทว่ารู้น่าว่าคนส่วนใหญ่น่ะชอบทำสิ่งที่ดีต่อสังคมอยู่แล้ว เพราะเชื่อเรื่องทำความดีแล้วมักจะได้ดีเป็นสิ่งตอบแทน วันนี้จึงขอเสนอวิธีทำความดี แล้วได้ความสบายใจ มาคุยกัน,งานนี้สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ได้เสนอแนะไว้ดังนี้,1.ตื่นเช้าขึ้นมาก็คิดแต่สิ่งดีๆเข้าไว้ ทันทีที่ตื่นนอน หากเราคิดถึงแต่สิ่งที่ดีงามก็จะทำให้จิตใจเราสดชื่น กระตือรือร้น พร้อมที่จะรับมือกับชีวิตประจำวันด้วยความร่าเริง ไม่หงุดหงิด แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว,2.ยิ้มแย้มแจ่มใสกับตัวเองและผู้อื่นเข้าไว้ ถ้ารู้จักยิ้มแย้มหน้าตาของเราก็จะเป็นมิตร ทำให้คนอยากเข้าใกล้ ถ้าเรามีแฟนแล้ว และยิ้มให้แฟนก่อนออกไปทำงาน แฟนก็มีกำลังใจในการทำงานทั้งวันว่ามะ,3.แบ่งปันน้ำใจไมตรี เช่น ลุกให้คนท้องและผู้สูงวัยนั่งในรถโดยสาร, แบ่งขนมให้เพื่อน ไรงี้ เป็นต้น แค่นี้ใจก็มีความสุขแล้ว.,คนสมถะ
เห็นคนมีน้ำใจต่อผู้อื่นแล้วรู้สึกดีใจจริงๆค่ะ แถมยิ่งถ้าเป็นคนซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังตกอยู่ในอันตรายแล้วรีบเข้าไปช่วยเหลือได้ทันท่วงทีก็ยิ่งน่ายินดีปรีดาที่คนบางคนมีน้ำใจต่อมนุษย์ร่วมโลก
ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์
ประทีปส่องใจ,คนสมถะ,ทำความดี,นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน,กระทรวงวัฒนธรรม,สุขภาพกาย/ใจ
https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1057865
Rule Curve
หรือ เกณฑ์ควบคุมปริมาณน้ำในเขื่อน อ่างเก็บน้ำ มาใช้รับมือน้ำท่วมน้ำแล้ง,แค่ได้ยินชื่อเป็นภาษาต่างแดน ชาวบ้านเป็นงง Rule Curve นี่สำคัญยังไง จะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งให้ชาวบ้านได้อย่างไร และทำไมต้องมีการปรับปรุงกันใหม่,นายสำเริง แสงภูวงค์ รองเลขาธิการ สทนช. อธิบายในแต่ละเดือน แต่ละฤดูกาล อ่างเก็บน้ำแต่ละแห่งจะต้องเก็บกักน้ำไว้แค่ไหนถึงจะมีน้ำใช้ในช่วงแล้ง ในช่วงฤดูฝนต้องเก็บไว้เท่าไร ต้องระบายน้ำออกแค่ไหน ถึงจะมีพื้นที่มากพอจะรับน้ำที่ไหลเข้าไม่ให้น้ำล้นอ่างฯจนแตกพัง,จะมี Rule Curve หรือเส้นกราฟเป็นตัวกำหนด แต่ละเดือนต้องมีน้ำไม่เกินและไม่น้อยกว่าที่กำหนด,แต่ Rule Curve ที่มีอยู่ ใช้กันมานานหลายสิบปี ตั้งแต่สร้างเขื่อนเสร็จใหม่ๆ สถิติปริมาณฝนตก น้ำไหลเข้าอ่างฯในแต่ละเดือนที่นำมาใช้กำหนด Rule Curve เป็นสถิติเก่าที่เกิดขึ้นในอดีต ตั้งแต่ยุคฝนฟ้ายังตกต้องตามฤดูกาล แต่ปัจจุบันเกิดภาวะโลกร้อน ฝนเอาแน่เอานอนไม่ได้ ที่เคยตกมากกลับน้อย แถมบางที่ตกมาแค่คืนเดียวน้ำเต็มอ่างฯเหมือนอย่างที่เกิดกับเขื่อนแก่งกระจานเมื่อปีที่แล้ว,รองเลขาธิการ สทนช. บอกถึงเหตุผลที่ต้องมีการปรับ Rule Curve ใหม่จากเดิมเกณฑ์กำกับควบคุมน้ำจะต้องให้อยู่ในเส้น Rule Curve น้ำต้องมีไม่เกินกว่าเส้นบน และต้องไม่ให้น้อยกว่าเส้นล่าง ได้มีการปรับปรุงเพิ่มเส้นควบคุมน้ำใหม่ขึ้นมาอีกเส้น,เป็นเส้นควบคุมปริมาณน้ำในปัจจุบันให้สอดคล้องกับการพยากรณ์อากาศใน 2-3 เดือนข้างหน้าเพื่อให้การเก็บน้ำและระบายน้ำในเขื่อนทำได้ล่วงหน้านานนับเดือน,ไม่ใช่แค่ไม่กี่วันเหมือนที่ผ่านมา จนทำให้เกิดปัญหาน้ำเต็มเขื่อน ระบายไม่ได้ ระบายไม่ทัน ระบายลงมาเติมทุกข์ให้ชาวบ้านในพื้นที่ท้ายน้ำ,ฤดูฝนปีนี้คงจะได้พิสูจน์ Rule Curve ใหม่ จะช่วยได้แค่ไหน คงต้องรอดูผลงาน.,สะ–เล–เต
นับแต่บ้านเรามี สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) มาตั้งแต่ปลายปี 2560ปีนี้เป็นครั้งแรกที่มีการนำเรื่อง Rule Curve
null
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ,สทนช.,Rule Curve,เกณฑ์ควบคุมปริมาณน้ำในเขื่อน,เขื่อน,หน้ามองฟ้าเท้าหยั่งดิน,สะ-เล-เต
https://www.thairath.co.th/news/local/1600670
ราชัน เปิดศึกบาร์ซา แย่งคว้า มาร์เชียล พ้นรังผีแดง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 3 ธ.ค. ว่า ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด และ เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา 2 สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลา ลีกา สเปน พร้อมเปิดศึกนอกสนาม ในการแย่งคว้าตัว อองโตนี มาร์เชียล กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส ของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาร่วมทัพ,มาร์เชียล วัย 20 ปี ย้ายจากทีมโมนาโก มาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และซัดไป 17 ประตูรวมทุกรายการ อย่างไรก็ตามฤดูกาลนี้ฟอร์มของเขาไม่ค่อยร้อนแรงเท่าไหร่ แต่ก็ยิงไปแล้ง 4 ประตู จากก 16 เกมรวมทุกรายการ,ซึ่งรายงานข่าวล่าสุดจาก เดอะ ซัน สื่อของอังกฤษ ระบุว่า เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลนา พร้อมที่จะเปิดศึกนอกสยามในการแย่งชิงจัว มาร์เชียล มาร่วมทีม แต่ดูเหมือนว่า เรอัล มาดริด จะมีโอกาสมากกว่า เพราะเป็นที่เชื่อกันว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยากได้ ฮาเมส โรดริเกซ กองกลางตัวสำรองของราชันชุดขาวมาร่วมทีม ซึ่งทำให้ทางเรอัล มาดริด อาจใช้ ฮาเมส เป็นส่วนหนึ่งในข้อเสนอเพื่อคว้า มาร์เชียล มาสู่ถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบว
ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด และ เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา ตกเป็นข่าว พร้อมเปิดศึกนอกสนาม แย่งคว้าตัว อองโตนี มาร์เชียล ดาวยิงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาร่วมทัพ
null
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,บาร์เซโลนา,เรอัล มาดริด,อองโตนี มาร์เชียล
https://www.thairath.co.th/content/801486
สวยหวานจับใจ พลอย คว้ามงกุฎทุเรียน เป็นขวัญใจ 5 จังหวัดใต้
5 จังหวัดชายเเดนใต้ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา สตูล จัดงานขึ้นไปแล้วอย่างสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จ.ยะลา ,สวยสนั่นยะลา ผลการประกวดมีดังนี้,ที่ 1 มิสเเกรนด์น่าน พลอย พีรชาดา ขุนรักษ์ ,ที่ 2 มิสเเกรนด์ชัยนาท ทราย สุวิมล เสมาปรุ ,ที่ 3 มิสเเกรนด์นครพนม โกโก้ อารยะ ศุภฤกษ์   ,ที่ 4 มิสเเกรนด์สงขลา ปอม รุจิรดา ศรีพิทักษ์ ,หลายวันที่ผ่านมา สาวงามผู้เข้าประกวด มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2019 ทั้ง 77 จังหวัด ต่างมีความสุขล้นอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมทำกิจกรรมดีๆ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ และสร้างขวัญกำลังใจให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมจาก ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต) ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 5 จังหวัด และทุกๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง,การประกวด มิสแกรนด์ขวัญใจ 5 จังหวัดชายเเดนใต้ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา สตูล งานเริ่มขึ้นช่วงบ่าย ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จ.ยะลา เปิดเวทีการประกวดด้วยการแสดงชุดอัศจรรย์ จากนักเรียนโรงเรียนยะหาศิรยานุกูล,สองพิธีกรกิตติมศักดิ์ ยุทธนา ปลื้มสำราญ ผู้บริหารสถานีวิทยุ 97.5 ยะลา และนางงามรุ่นพี่ แพม เปรมิกา พาเมล่า มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2017 กล่าวต้อนรับและเชิญประธาน พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขา ศอ.บต. ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวเปิดงาน จากนั้น ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานกองประกวด มิสแกรนด์ไทยแลนด์ Miss Grand Thailand กล่าวขอบคุณ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ให้การสนับสนุนและต้อนรับผู้เข้าประกวดเป็นอย่างดีเยี่ยม,รีบไปพบกับความสวยงามเกินจะบอกได้หมด ของผู้เข้าประกวด มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2019 ในชุดบานง เริ่มจาก มิสแกรนด์ภาคใต้, มิสแกรนด์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, มิสแกรนด์ภาคกลาง และมิสแกรนด์ภาคเหนือ ต่อด้วยชุดราตรีสวยสะพรึงแรง,จากนั้นประกาศผลผู้เข้ารอบ 12 คนสุดท้าย ภาคละ 3 คน โดยผู้เข้ารอบภาคใต้ ได้แก่ มิสแกรนด์พังงา มิสแกรนด์ภูเก็ต มิสแกรนด์สงขลา ผู้เข้ารอบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ มิสแกรนด์นครพนม มิสแกรนด์มหาสารคาม มิสแกรนด์อุบลราชธานี,นางงามที่เข้ารอบภาคกลาง ได้แก่ มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา มิสแกรนด์ชัยนาท มิสแกรนด์ระยอง และผู้เข้ารอบภาคเหนือ ได้แก่ มิสแกรนด์เชียงใหม่ มิสแกรนด์น่าน มิสแกรนด์พะเยา เพื่อตอบคำถามจากคณะกรรมการ ,การเดินทางมาเก็บตัวที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้ ถ้าคุณมีเวลา 30 วินาที คุณจะบอกเล่าเรื่องใด,นางงามที่เข้ารอบต่างตอบคำถาม ได้อย่างว่องไว ฉะฉานและถูกใจกรรมการ รวมถึงกองเชียร์ต่างแหกปากกรี๊ดๆๆๆ เชียร์กันอย่างสนุกสนาน สร้างความหนักใจให้กับคณะกรรมการว่าจะให้มงให้ดี สวยมาแต่ไกล นางงามรุ่นพี่ ฝ้าย สุภาพร มะลิซ้อน มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2016 เป็นผู้เชิญมงกุฎ ควีน ออฟ เมาท์เท่น ดูเรียน Queen of Mountain Durian มูลค่า 300,000 บาท สู่เวทีอย่างสวยงาม,ณวัฒน์ ได้กล่าวถึงแรงบันดาลใจ ในการออกแบบมงกุฎประจำตำแหน่ง มิสแกรนด์ ขวัญใจ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มงกุฎมิสแกรนด์ ขวัญใจ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แรงบันดาลใจ และอัตลักษณ์มาจากทุเรียนภูเขา ซึ่งเป็นของดีเมืองยะลา เพิ่งทำเสร็จสดๆ ร้อนๆ เลย จริงๆ แล้วผมออกแบบมงกุฎไว้อยู่แล้ว 1 มง แต่พอได้ลงมาเก็บตัวที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดไอเดียใหม่ จากการที่เห็นทุเรียนภูเขา มีรสชาติอร่อยมาก จนผมไปศึกษาเรื่องทุเรียนของที่นี่ และมีโอกาสไปดูทุเรียนบนภูเขาสูง,เซอร์ไพรส์มากๆ ที่หุบเขาหลายลูกมีทุเรียนเกิดจากธรรมชาติ ออร์แกนิค 100% มีอายุแต่ละต้นไม่ต่ำกว่า 40 ปีอายุยืนมาก ยิ่งหวานยิ่งอร่อย เกิดในที่สูงไม่มีน้ำท่วมขัง เนื้อจึงแห้ง และผมจะได้สัมปทานการ เป็นตัวแทนขายทุเรียนภูเขา บาย นางงาม ในเดือนสิงหาคมนี้ เราจะสร้างระบบออนไลน์ขึ้นมา เพื่อจัดขายทุเรียนโดยเฉพาะ เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนพี่น้องชาวใต้,ผมจึงเพิ่มอัตลักษณ์เครื่องประทับรูปทุเรียน ลงไปในมงกุฎ มิสแกรนด์ขวัญใจ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าไปด้วย นางงามที่ได้รับตำแหน่ง นอกจากได้เป็นเจ้าของมงกุฎมูลค่า 3 แสนบาท สายสะพาย เงินสด 50,000 บาท ยังจะได้เป็นเจ้าของทุเรียนภูเขา บาย นางงามด้วยครับ,ตื่นเต้นเร้าใจกันต่อ พิธีกรประกาศผู้เข้ารอบ 4 คนสุดท้าย ได้แก่ มิสแกรนด์สงขลา มิสแกรนด์นครพนม มิสแกรนด์ชัยนาท มิสแกรนด์น่าน สวยๆ ทั้งนั้นเลย เพื่อตอบคำถามจากคณะกรรมการที่ว่า ,ถ้าคุณต้องลงมาอยู่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คุณจะเลือกอยู่จังหวัดอะไร และจะประกอบอาชีพอะไร เพราะเหตุใด,สาวงามแต่ละคนต่างใช้ไหวพริบปฏิภาณในการตอบคำถาม เรียกเสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดแตกจากกองเชียร์ได้คึกคักสุดขีด และแล้ววินาทีแห่งความตื่นเต้นสุดพลังก็มาถึง พิธีกรประกาศ มิสแกรนด์ขวัญใจ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่เกินคาด เพราะสวยหวานพุ่งจับจิตจับใจมาเลย แถมตอบคำถามได้ใจด้วย มิสแกรนด์น่าน พลอย พีรชาดา ขุนรักษ์ คว้ามงกุฎ ควีนออฟเมาท์เท่นดูเรียน Queen of Mountain Durian สายสะพาย เงินสด 50,000 บาท,มิสแกรนด์น่าน พลอย พีรชาดา ขุนรักษ์ ฉีกยิ้มกว้างๆ บอกเลยว่า ดีใจมากๆ ค่ะ เพราะสิ่งที่เราตั้งใจประสบความสำเร็จ ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้พลอยชนะใจกรรมการได้ คิดว่าเรื่องการตอบคำถาม เพราะพลอยเก็บทุกรายละเอียดในกิจกรรม ที่เราได้ไปสัมผัสทุกอย่าง มาตอบ รอบแรก ก็ตอบไปว่า 5 จังหวัดชายแดนใต้น่าอยู่มาก ผู้คนน่ารัก,สิ่งที่ประทับใจคือแกงส้ม เพราะแกงส้มไม่ได้บ่งบอกแค่ความอร่อย แต่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ทุกอย่างของที่นี่ รสชาติที่เป็นของชาวใต้ บ่งบอกถึงวัฒนธรรรมการกินของชาวใต้ คือเสน่ห์ของชาวใต้ ที่ใครก็หลงใหลค่ะ,ส่วนคำถามที่ 2 หนูเลือกอยู่ยะลา และประกอบอาชีพสื่อมวลชน เพราะว่าเราจะได้เป็นกระบอกเสียงเล็กๆ ให้กับคนภายนอกได้รับรู้ว่า ยะลาไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง แล้วจะรู้ว่ายะลาน่าอยู่ค่ะ อยากขอบคุณพี่น้องชาวใต้และทุกๆ คน ที่เป็นกำลังแรงเชียร์ เต็มที่มากๆ ค่ะ ,ไปตามติดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ Miss Grand Thailand 2019 ทางเฟซบุ๊ก Facebook, ไอจี Instagram, ทวิตเตอร์ Twitter, ยูทูบ Youtube คลิก ,www.missgrandthailand.com,โหลดด่วน สตาร์โฟน แอปพลิเคชัน Star Phone Application *789 ดาวน์โหลดฟรี กับโทรศัพท์มือถือทุกระบบ โหวต Vote ให้มิสแกรนด์จังหวัดที่ปลื้มปริ่มแรง ได้ตลอดการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2019,อย่าพลาด รอบชุดประจำชาติสุดเซี้ยะ จะมีขึ้น 10 กรกฎาคม และรอบรอมงลง หรือรอบพรีลิมมินารีโชว์ พฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม รอบตัดสิน เสาร์ 13 กรกฎาคม 2562 ทางฮอลล์ 100 ไบเทคบางนา สมุทรปราการ ถ่ายทอดสด 100% น่าจะตื่นเต้นเร้าใจ เริ่ม 22.30 น. ช่อง 7 HD ติดตามและจองบัตรด่วนได้ ,www.missgrandthailand.com
สวยแรงกระชากใจคณะกรรมการไปแล้ว ประเดิมรางวัลแรก กับการประกวด มิสแกรนด์ขวัญใจ
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
มิสแกรนด์ขวัญใจ5จังหวัดชายเเดนใต้,มิสเเกรนด์น่าน พลอย พีรชาดา ขุนรักษ์,มิสเเกรนด์ชัยนาท ทราย สุวิมล เสมาปรุ,มิสเเกรนด์นครพนม โกโก้ อารยะ ศุภฤกษ์,กอสซิป
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1608720
อีก 100 เมตรจะถึงบ้าน หนุ่มใหญ่ขี่จยย.ชนท้ายพ่วงดับ
หนุ่มใหญ่วัย 54 ปีชะตาขาด ขี่รถมอเตอร์ไซค์จะกลับบ้านหลังร่วมงานสู่ขวัญนาคเพื่อนบ้านอีก 100 เมตร จะถึงบ้าน เกิดอุบัติเหตุขี่ชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ซึ่งตำรวจกำลังสืบสวนว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวกำลังวิ่งหรือจอดอยู่ข้างทางขณะเกิดเหตุ,เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 28 ก.พ.58 พ.ต.ต.สมัย มงคลชู พงส.ผนก. สภ.เมืองร้อยเอ็ด ไปห้องเก็บศพ รพ.ร้อยเอ็ด เพื่อชันสูตรศพ นายฉลอง บุตรพรม อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 11 ต.ขวัญเมือง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งปอดแตก และศีรษะได้รับบาดเจ็บรุนแรงจากการขี่มอเตอร์ไซค์พุ่งชนรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ,โดยก่อนหน้า นายฉลองเสร็จจากร่วมงานสู่ขวัญนาค ที่บ้านญาติในหมู่บ้านเดียวกันแล้ว ขี่จักรยานยนต์ตามถนนสาย อ.เสลภูมิ ไป จ.ยโสธร เพื่อจะกลับบ้าน แต่ขณะไปถึงหน้าร้านปรีชาพันธุ์ไม้ ต.ขวัญเมือง ซึ่งเหลือระยะทางอีก 100 เมตร ก็จะถึงบ้าน รถจักรยานยนต์พุ่งเข้าชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ซึ่งนายขจรศักดิ์ สิทธิชัย อายุ 51 ปี ชาว จ.สุรินทร์ เป็นคนขับบรรทุกต้นยูคาลิปตัสซึ่งตัดเป็นท่อนเพื่อจะนำส่งบริษัทผลิตเนื้อเยื่อกระดาษที่ จ.ขอนแก่น เป็นเหตุให้นายฉลอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งยื้อชีวิตที่ รพ.เสลภูมิ ก่อนส่งต่อรักษาที่ รพ.ร้อยเอ็ด แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา,ขณะเดียวกัน ร.ต.ท.นที ทศวัฒน์ พงส.สภ.เสลภูมิ ท้องที่เกิดเหตุกำลังสอบสวนพยานหลักฐานเพื่อต้องการทราบว่ารถพ่วงบรรทุกท่อนยูคาลิปตัสกำลังวิ่งหรือจอดขณะเกิดเหตุ.
หนุ่มใหญ่วัย 54 ปีชะตาขาด ขี่รถมอเตอร์ไซค์จะกลับบ้านหลังร่วมงานสู่ขวัญนาคเพื่อนบ้านอีก100เมตรจะถึงบ้านเกิดอุบัติเหตุขี่ชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ซึ่งตำรวจกำลังสืบสวนว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวกำลังวิ่งหรือจอดอยู่ข้างทางขณะเกิดเหตุ
ข่าว,ทั่วไทย
อุบัติเหตุทางถนน,รถพ่วง18ล้อ,รถบรรทุก18ล้อ,เสลภูมิ ร้อยเอ็ด,อุบัติเหตุร้อยเอ็ด,ฉลอง บุตรพรม,ขจรศักดิ์ สิทธิชัย,พ.ต.ต.สมัย มงคลชู,สภ.เมืองร้อยเอ็ด,ข่าว,ข่าวภูมิภาค,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/484228
สลด รถพ่วง 18 ล้อ เลี้ยวตัดหน้า ปิกอัพเบรกไม่ทัน ชนดับ 1 เจ็บ 2
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 58 พ.ต.ต.สุคนธ์ สงสกุล พงส.ผนก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุบนถนนสายเลี่ยงเมืองคันทด หมู่ 1 ต.ท่าระหัด จึงพร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกัน ไปตรวจสอบ ,ที่เกิดเหตุ พบรถปิกอัพนิสสัน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บต 625 อ่างทอง สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ภายในรถตรงเบาะนั่งคนขับ พบศพ นายสุชาติ อรุณเกสร อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 319/ข หมู่ 8 ต.บางปลากด อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ส่วนคนเจ็บอีก 2 ราย เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อคือ นายศิริชัย ตันเจริญ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 2 ต.สายทอง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง กับ นายสมศักดิ์ ไหมทอง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ต.คลองสระบัว อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ นอกจากนี้ ห่างออกไปมีรถพ่วง 18 ล้อ อีซูซุ สีฟ้าขาว บรรทุกลูกรังของบริษัท แก้วเมืองเพชร ขนส่งฯ หัวลากทะเบียน 82-3777 ฉะเชิงเทรา พ่วงท้ายทะเบียน 82-1771 ฉะเชิงเทรา จอดนิ่งขวางถนนอยู่,สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขับรถปิกอัพมาจาก จ.อ่างทอง กับเพื่อนบ้านอีก 2 คน เพื่อมาหาซื้ออะไหล่รถยนต์ใน จ.สุพรรณบุรี ถึงที่เกิดเหตุรถบรรทุก 18 ล้อ ที่มี นายนิธิ เหนือคูเมือง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 17 ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ ขับบรรทุกดินลูกรัง มาจาก อ.อู่ทอง หักเลี้ยวตัดหน้าเพื่อข้ามฝั่งถนนมุ่งหน้าไปกรุงเทพมหานคร ในระยะกระชั้นชิด ทำให้รถผู้ตายที่วิ่งมาในทางตรงไม่ทันระวังพุ่งชน จนศีรษะ นายสุชาติ อรุณเกสร อายุ 44 ปี กระแทกกับคอลโซลรถอย่างแรง เป็นเหตุทำให้เสียชีวิตทันที เพื่อนบ้านที่มาด้วยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีต่อไป.
รถบรรทุกดินลูกรัง 18 ล้อ หักเลี้ยวตัดหน้าข้ามฝั่งกะทันหัน ปิกอัพขับมาทางตรงเบรกไม่ทัน ประสานงาอย่างจังรถพังยับ คนขับดับคาเบาะ 1 ราย ขณะเพื่อนบ้านนั่งมาด้วยบาดเจ็บ 2 คน
ข่าว,ทั่วไทย
รถพ่วง18ล้อตัดหน้าปิกอัพ,ปิกอัพถูกรถ18ล้อตัดหน้า,รถบรรทุกตัดหน้ารถปิกอัพ,รถบรรทุกประสานงารถปิกอัพ,ดับคารถ,เสียชีวิตคารถ,สุคนธ์ สงสกุล,พงส.ผนก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี,โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช,มูลนิธิเสมอกัน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค
https://www.thairath.co.th/news/local/522284
จาตุรนต์ สับ กรธ.เขียนรธน.ล้าหลัง ทำประเทศอ่อนแอ
เมื่อวันที่ 22 พ.ย.58 นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความเห็นของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่จะลดอำนาจ ส.ว.ในการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแทนว่า ข้อเสนอนี้มีขึ้นเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการกำหนดให้ ส.ว.มาจากการแต่งตั้ง เมื่อได้ข้อสรุปแล้วว่า ส.ว.มาจากการแต่งตั้ง ก็พบว่า ส.ว.ที่จะมีขึ้นนี้ยังมีหน้าที่อีกมากมาย ทั้งการตรวจสอบรัฐบาล แต่งตั้งกรรมการองค์กรอิสระ และอำนาจอื่นๆ อีกมาก กลายเป็น ส.ว.ที่มีอำนาจมหาศาลเบ็ดเสร็จอยู่ดี ขณะเดียวกันการยกอำนาจถอดถอนไปให้องค์กรอื่นทำไม่ได้ เพราะจะกระทบการถ่วงดุลอธิปไตย ทำให้มีแนวโน้มฝ่ายตุลาการจะมีอำนาจเหนือกว่าอำนาจอื่นๆ ส่วนรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งจะเหลืออำนาจน้อยลง,นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ส่วนข้อเสนอที่ให้ยกเลิก ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อนั้น ความจริง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ถือเป็นการพัฒนาการเมืองไทย ที่ทำให้ประชาชนให้ความสนใจที่จะเลือกพรรคการเมือง และพรรคการเมืองต้องทำนโยบายให้ดีสอดคล้องความต้องการประชาชน รวมถึงยังเปิดทางให้ผู้มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ แต่ไม่ถนัดการเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต พัฒนาไปเป็นผู้บริหารได้ด้วย ตรงกันข้ามข้อเสนอนี้กลับทำให้การเมืองถอยหลัง รวมถึงที่เสนอให้จังหวัดที่มีจำนวนประชากรมากๆ มี ส.ส.ในเขตได้หลายคน แต่ให้ประชาชนเลือกผู้สมัครได้คนเดียว เป็นการบิดเบือนเสียงประชาชน ทำลายระบบพรรค เพราะในเขตนั้นควรจะเลือกได้ 3 คน แต่เลือกได้คนเดียว ทำลายระบบพรรค เพราะคนจะเลือกได้แต่ตัวบุคคล,นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นการทุจริตที่ กรธ.เสนอกำหนดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถ้าชี้มูลความผิดแล้วให้พ้นหน้าที่ทันที มันจะขัดหลักยุติธรรม เพราะการชี้มูลของ ป.ป.ช.มันยังไม่ถึงที่สุด เนื่องจากธรรมดาเมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลแล้ว ต้องส่งไปรัฐสภา ไปอัยการและศาล พิจารณาถอดถอน ซึ่งหมายความว่าไปส้ินสุดที่รัฐสภา หรือที่ศาล และบางกรณีเรื่องเมื่อไปถึงศาลยกฟ้องก็มีหรือส.ว.ไม่มีการถอดถอนก็มี ดังนั้นการให้ ป.ป.ช.ชี้มูลใครแล้วให้พ้นหน้าที่เลย อาจเป็นช่องทางทำให้ ป.ป.ช.มีอำนาจในการล้มหรือเปลี่ยนรัฐบาล ทั้งๆ ที่คนเป็นนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี ไม่ได้กระทำผิดจริงด้วย,ดูโดยรวมๆ แล้วทั้งจากกรธ.และสปท.ที่เสนอความเห็นกันอยู่ มีแนวโน้มว่าเขียนรัฐธรรมนูญ นำประเทศไปสู่ความล้าหลัง เสียหายการถ่วงดุลอำนาจ ทำลายระบบการเมือง ทำลายระบบการตรวจสอบ จนส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลและเสถียรภาพการเมืองของประเทศ ไม่เหมาะสม อาจทำให้ไทยไม่สามารถรับมือปัญหาในโลกที่ซับซ้อนขึ้น มีทั้งการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นและต้องการความร่วมมือกับประเทศต่างๆ การจะอยู่ในโลกที่มีสภาพอย่างนี้ได้ ประเทศต้องมีความเข้มแข็ง แต่ร่างรัฐธรรมนูญนี้กำลังทำให้ประเทศอ่อนแอ ล้าหลัง ไม่สามารถรับมือกับความเป็นไปของสังคมโลกได้ นายจาตุรนต์ กล่าว,นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ขณะนี้ถือได้ว่ามันเลยขั้นที่จะขจัดพรรคใดพรรคหนึ่งไปแล้ว หรือทำให้เห็นว่ามีจุดยืนร่วมกันกับบางพรรคบางฝ่าย เพราะตอนนี้จุดมุ่งหมายเลยไปกว่านั้นอีก ทำให้ประเทศอยู่ภายใต้การกำกับควบคุมองค์กรที่ไม่มาจากการเลือกตั้ง โดยไม่คำนึงว่าจะใช้ระบบล้าหลังหรือไม่มีประสิทธิภาพไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ขณะที่ข้อเสนอแนะ 10 ข้อของคสช.นั้น จริงๆ แล้วได้กำหนดแนวทางร่างรัฐธรรมนูญไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 57 ไว้แล้ว เมื่อคสช.มีข้อเสนอแนะออกมาอีก ทำให้เห็นแนวทางชัดเจนว่า มีจุดมุ่งหมายการสร้างระบบการปกครองที่ประชาชนจะไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไร เป็นการรับรองอย่างเป็นทางการอยู่ในรัฐธรรมนูญ ที่บ้านเมืองจะอยู่ภายใต้การปกครองของทหาร ดูสอดคล้องกันไปหมดกับบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้อง ตอนนี้เหลืออยู่เพียงแต่ว่าประชาชนที่ต้องการให้บ้านเมืองเป็นอย่างไรต่อไป คิดอ่านอย่างไร
จาตุรนต์ ค้านโอนอำนาจ ส.ว.ถอดถอนนักการเมืองให้ศาล รธน. ชี้กระทบการถ่วงดุลอธิปไตย อัดแนวคิดล้ม ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ทำการเมืองถอยหลัง ชี้เขียนรธน.ล้าหลัง ทำประเทศอ่อนแอ
null
การคัดสรร ส.ว.,การถอดถอน ส.ว.,ให้อำนาจศาล รธน.ถอดถอน ส.ว.,จาตุรนต์ ฉายแสง,ส.ว.แต่งตั้ง,ที่มา ส.ว.,ลดอำนาจรัฐสภา,ให้อำนาจตุลาการ,การเลือกตั้ง,พรรคการเมือง,ป.ป.ช.,การเขียน รธน.,ทำลายระบบการเมือง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/541130
อุเทน เปรียบ ม.44 คืออาวุธร้ายแรง หากหยิบมาใช้แกล้งฝ่ายตรงข้าม
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Utain Shartpinyo ถามถึงรัฐบาล คสช.ที่จะนำ ม.44 มาใช้แทนกฎอัยการศึก โดยมีเนื้อหาว่า จะกฎหมายฉบับไหน จะกฎหมายมาตราใด มันไม่น่ากลัวหรอก ถ้าเราไม่กระทำผิด การจะยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึก เป็นการกระทำที่ถูกแล้ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ต่างชาติ และที่สำคัญจะสามารถลดการผูกโยงการประกันความเสี่ยงในการท่องเที่ยว ที่ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ชาวยุโรปเขากังวล แต่การเรียกใช้ มาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ ชั่วคราว 2557 อาจสร้างความกังวลและข้อกังขาให้คนในชาติแทน,ส่วนตัวเชื่อว่า ท่านนายกฯ ตู่ หรือ หัวหน้า คสช. จะไม่ใช้กฎหมาย มาตรา 44 นี้ ไปในทางมิชอบ ไม่ถูกต้อง หรือแกล้งฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล แต่สำหรับคนรอบข้าง ท่านนายกฯ ผมไม่แน่ใจ ใครล่ะจะกล้าประกัน? ในเมื่อ ม.44 นี้ เปรียบดั่งอาวุธปืนร้ายแรง แต่หากไม่เอามาใช้ มายิง มันก็ไม่อันตราย ไม่น่ากลัว เพราะเอาไว้ใช้ทั้งป้องกันตัว ทรัพย์สิน ได้อย่างน่าเกรงขาม แต่ถ้าใครคนใดคนหนึ่ง หยิบมาใช้โดยไม่มีใจที่เที่ยงธรรม มีคุณธรรมดีพอ อะไรจะเกิดล่ะ คนดีๆ อาจถูกให้ร้ายหรือทำร้ายเอาได้ไหม? นี่แค่ตั้งข้อสังเกตนะ เพราะเป็นกฎหมายที่หัวหน้า คสช. ชงเอง กินเองได้เลย แถมประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติท่านก็ตั้งเองมิใช่หรือ? ดังนั้น ถ้าท่านใช้แล้วเกิดผิดพลาด เมื่อส่งไปให้รัฐบาลเพื่อให้นายกฯ เห็นชอบ รวมถึงประธานสภานิติฯ จะมีใครไหมที่กล้าไม่เห็นด้วยกับท่านหัวหน้า คสช. ผมล่ะกลัวว่าจะถูกหวย โดยที่ไม่ได้ซื้อล่ะครับ.
อุเทน โพสต์เฟซบุ๊ก ตั้งข้อสังเกต ม.44 เปรียบดังอาวุธร้ายแรง น่าเกรงขาม ถ้าหยิบมาใช้แกล้ง หรือใช้กับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล เพราะเป็นกฎหมายที่ หัวหน้า คสช. ชงเอง กินเองได้เลย
null
มาตรา44,ม.44,อุเทน ชาติภิญโญ,หัวหน้าพรรคคนไทย,Utain Shartpinyo,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี,หัวหน้า คสช.,กฎอัยการศึก,คสช.,ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/489995
เรือนจำจัดแพทย์-พยาบาลดูแล กำนันเป๊าะ ตรวจพบป่วยหลายโรค
พ.ต.อ.สุชาติ วงค์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยหลังการเข้าตรวจสอบการฝากขังนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งถูกดำเนินคดีใน 2 กรณี คือคดีจ้างวานฆ่านายประยูร สิทธิโชติ หรือกำนันยูร และคดีทุจริตที่ทิ้งขยะเขาไม้แก้ว ว่ากรมราชทัณฑ์ได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ซึ่งจะปฏิบัติตามอำนาจในการควบคุมไม่มีสิทธิพิเศษใดๆด้านนายแพทย์ชาตรี สุนพงศรี ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ กล่าวว่า จากการตรวจร่างกาย พบว่า นายสมชาย ป่วยเป็นโรคความดัน โรคหลอดเลือดในสมองตีบ มีลักษณะอาการพูดช้า พูดไม่ชัด ซึ่งผู้ต้องขัง ได้รักษามาอย่างต่อเนื่องจากโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งการดูแลเบื้องต้นได้มีแพทย์เฉพาะทางและมีพยาบาลดูแลอยู่ในเรือนจำอยู่แล้ว และไม่จำเป็นต้องย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ หรือต้องมีการติดตามดูอาการวันต่อวันส่วนกรณีที่ญาติแจ้งมาว่าต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากมีอาการหยุดหายใจขณะนอนหลับมีการดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว หรือต้องให้ทางญาติไปติดต่อทางโรงพยาบาลสมิติเวช เพื่อขอประวัติการรักษามาทำการรักษาต่อทั้งนี้ คดีนายสมชาย คุณปลื้ม หรือ กำนันเป๊าะ ถูกดำเนินคดีครั้งแรก ในข้อหาร่วมกันทุจริตการซื้อขายที่ดินป่าเขาไม้แก้ว ให้กับเมืองพัทยา เนื้อที่ 140 ไร่ เป็นมูลค่ากว่า 93 ล้านบาท เพื่อให้จัดทำเป็นที่ทิ้งขยะ และระหว่างการต่อสู้คดีทุจริตป่าเขาไม้แก้ว เกิดเหตุนาย ประยูร สิทธิโชติ หรือกำนันยูรถูกยิง เสียชีวิตขณะร่วมงานแต่งงาน ตำรวจกองปราบปรามได้สืบสวน จนสามารถออกหมายจับนาย สมชาย และนายภาสกร หอมหวล อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองแสนสุข ในข้อหาจ้างวานฆ่าผู้อื่น และคดีนำขึ้นสู่ศาลในปี 2548ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และเป็นหัวหน้าชุดสืบสวนในคดีทุจริตที่ดินเข้าไม้แก้ว ระบุว่า วันนี้ (31 ม.ค.) จะแถลงข่าวถึงการจับกุมนายสมชาย หลังถูกผู้สื่อข่าวซักถามถึงกรณีดังกล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียาเวช ในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสืบสวน คดีทุจริตที่ดินเขาไม้แก้ว ระบุว่า จะตอบคำถามกับสื่อมวลชน ถึงกรณีการจับกุม นายสมชาย คุณปลื้ม หรือ กำนันเป๊าะ ผู้ต้องขังในคดีที่เพิ่งถูกจับกุมได้เมื่อวานนี้ หลังหลบหนีคดีอย่างต่อเนื่องกว่า 6 ปี ขณะที่กำนันเป๊าะ ขณะนี้ได้ถูกนำตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครแล้ว
อาชญากรรม
กำนันเป๊าะ,คดีทุจริตที่ดินเขาไม้แก้ว,พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียาเวช,สมชาย คุณปลื้ม,หัวหน้าชุดพนักงานสืบสวน
https://news.thaipbs.or.th/content/143553
ลุงขอนแก่น โวย ขโมยขึ้นบ้านครึ่งเดือนยังจับไม่ได้ สูญกว่า 7 แสน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 มี.ค. 60 นายสุชาติ กุลจารุอภิชน อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180/1 ม.1 บ้านศิลา ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น ร้องเรียนสื่อมวลชน หลังช่วงระหว่างคืนวันที่ 19 เข้าวันที่ 20 ก.พ. 60 คนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ในบ้านพักทรัพย์สินสูญหาย จากนั้นแจ้งตำรวจ สภ.สภ.ย่อยศิลา แต่ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ จึงเกิดความไม่สบายใจ เกรงว่าคนร้ายจะไปก่อเหตุกับชาวบ้านรายอื่นอีก ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด หน้าบ้านเปิดเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยว นายสุชาติ พาดูร่องรอยการงัดแงะ และรอยเท้าคนร้ายปีนกำแพงปูนหลังบ้าน,นายสุชาติ เปิดเผยว่า มีคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ในบ้านในช่วงกลางคืนขณะที่คนในบ้านนอนพักผ่อนกันหมด จนช่วงเช้าเห็นร่องรอยการรื้อค้นตู้เสื้อผ้าและกระเป๋าสะพายของคนในบ้าน ทรัพย์สินที่หายไปประกอบด้วย นาฬิกาฝังเพชร 1 เรือน ราคา 250,000 บาท แหวนเพชร 3 วง รวม 175,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง รวม 30,000 บาท แหวนทอง 1 วง ราคา 10,000 บาท เงินสด 40,000 บาท กระเป๋าแบรนด์เนม 1 ใบ ราคา 200,000 บาท รวมมูลค่ากว่า 705,000 บาท ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ในกระเป๋าแบรนด์เนมที่วางไว้ในห้องโถงชั้นล่าง จากนั้นจึงรีบแจ้งตำรวจ สภ.ย่อยศิลา,ต่อมา มีตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมกับเจ้าหน้าที่วิทยาการจาก ศพฐ.4 ขอนแก่น แต่ผ่านไปเกือบครึ่งเดือนยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่ให้รายชื่อผู้ต้องสงสัยไปแล้ว โทรศัพท์สอบถามก็ได้คำตอบว่าเกิดเหตุลักทรัพย์หลายรายให้ใจเย็นๆ และอยากได้ทรัพย์สินคืน แต่ถ้าไม่ได้คืนก็ถือว่าสงเคราะห์ผู้ยากไร้ แค่อยากให้จับคนร้ายมาดำเนินคดี,จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ พ.ต.ต.กอบเกียรติ พาลา รอง สว.สส.สภ.ย่อยศิลา แต่ไม่พบเนื่องจากเดินทางไปราชการ จึงสอบถาม พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ สภ.เมือง และ สภ.ย่อยศิลา กล่าวว่า ชุดสืบสวนทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง คาดว่าคนร้ายน่าจะเข้าบ้านผู้เสียหายทางด้านหลัง ซึ่งมีถนนตัดผ่านและมีที่ดินว่างเปล่า สามารถปีนเข้ามาได้ แต่บริเวณใกล้เคียงมีกล้องวงจรปิด ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดใกล้บ้านที่เกิดเหตุและตามถนนสายต่างๆ,ทั้งนี้ ขอความร่วมมือร้านเพชร ร้านทอง ร้านรับซื้อ รับจำนำในพื้นที่ ช่วยตรวจสอบบุคคลที่นำทรัพย์สินไปขายหรือนำจำ หากมีทรัพย์สินหรือเครื่องประดับลักษณะใกล้เคียงกันให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที.
เจ้าของบ้านชาวขอนแก่น โวย วอนตำรวจจับคนร้าย หลังถูกลักทรัพย์นานเกือบครึ่งเดือนยังล่าตัวไม่ได้ หิ้วกระเป๋าแบรนด์เนมพร้อมนาฬิกาฝังเพชร แหวานเพชร ทอง มูลค่ากว่า 7 แสนบาท ลอยนวล
null
ขโมยของ,ลักทรัพย์,งัดบ้าน,ขโมยทรัพย์สิน,ขอนแก่น
https://www.thairath.co.th/content/872787
รักไม่มีเงื่อนไข แม่ชีศันสนีย์ เปิดใจความรักที่มีต่อ เสถียร เสถียรสุต (คลิป)
แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต กล่าวในการแสดงธรรมภายในงานสวดพระอภิธรรม คุณเสถียร เสถียรสุต ณ วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 60 ว่า คุณเสถียร ถือเป็นตัวอย่างของความรักที่ไม่มีเงื่อนไข วันที่คุณเสถียรจะคืนลมหายใจให้กับธรรมชาติ เป็นช่วงเวลาที่เสถียรธรรมสถานกำลังสร้าง ธรรมาศรม หรือ Mindfulness Hospital เพื่อดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย อยู่ช่วงเวลาเดียวกันที่แม่ต้องไปๆ มาๆ ระหว่าง โรงพยาบาลและเสถียรธรรมสถาน ในขณะที่ตัวเองก็ป่วยเป็นมะเร็ง,คุณเสถียร เข้าโรงพยาบาลด้วยอาการผู้สูงอายุ ซึ่งคุณเสถียรมีอายุ 90 ปี และมีอาการหกล้มทำให้กระดูกข้างซ้ายแตก แต่ไม่ได้บอกใคร เป็น 2 วันที่อดทนต่อความเจ็บป่วยโดยไม่ได้บอกใคร จนกระทั่งผู้ดูแล เล่าว่า คุณเสถียรไม่ลุกจากที่นอน และเรียกให้คนดูแลนวดให้หน่อย ซึ่งคุณเสถียรเองก็ไม่ทราบว่ากระดูกแตก คนที่เฝ้าบอกดูผิดปกติ จึงเรียกรถโรงพยาบาลมา ช่วงนั้นเป็นช่วงที่วางแผนกันว่า ถ้าเผื่อคุณเสถียรแข็งแรงดี จะทำการผ่าตัดในเช้าของวันเสาร์ที่ 9 ธ.ค.,ทั้งนี้ ช่วงวันเสาร์ ร่างกายของคุณเสถียรไม่พร้อมจะเข้าห้องผ่าตัดและดมยาสลบ หมอปรึกษาว่าจะบล็อกหลัง และถือเป็นการไม่พร้อมแบบสมัครใจที่จะไม่เข้าห้องผ่าตัด ถ้าเรามองตามความเป็นจริงจะเห็นอย่างหนึ่งว่า ถ้าผู้ป่วยมีความปรารถนาที่จะใช้ชีวิตในช่วงสำคัญเพื่อเผชิญความเจ็บปวด,คุณเสถียรอยู่กับความเวทนาด้วยความอดทน หมอปรึกษาว่า คุณเสถียรยังมีความรู้สึกที่ดี เช่น การรับรู้ จึงให้คุณเสถียร วางใจ เอาใจวางไว้ได้เลย เรามีเวลาที่อยู่กับกุศลมากกว่าอกุศล ขอให้ระลึกเสมอว่าเสถียรธรรมสถาน ทำกุศลทุกวัน ซึ่งตอนคุณเสถียรบีบมือเพื่อแสดงว่ารับรู้ทุกอย่าง,แม่ชีศันสนีย์ กล่าวอีกว่า เวลาที่พูดถึงว่าเราจะยังพบกันในเวลาที่เราสงบ จากราคะ โทสะ โมหะ จิตของเราก็จะบริสุทธ์ เมื่อเราพบกันด้วยความบริสุทธิ์ คือ ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข เนื่องจากคุณเสถียร เป็นคนโรแมนติก และเป็นคนที่มีความโก้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งคุณเสถียร อยู่ในสภาพที่พึ่งตัวเองไม่ได้ จะอึดอัด เป็นคนที่พึ่งพาตัวเองตลอด เป็นคนมีความเป็นส่วนตัวสูง คุณเสถียรที่ดูแลตัวเองในช่วงสุดท้าย ลักษณะของเวทนาที่เกิดขึ้น คุณเสถียร ก็ใช้ภาวะการปลดปล่อยด้วยอารมณ์ขัน หรืออารมณ์อื่นๆ ซึ่งคนที่ดูแลก็เข้าใจ,ช่วงเวลาวิกฤติที่ได้เรียนรู้ ได้ใช้บทสวดมนต์อานาปานสติ การหายใจที่มีสติ ทำให้เราได้ฝึกปฏิบัติไปด้วยกัน ช่วงแรก ก็เอ่ยเสียงสวดไปด้วย รอบที่สอง ก็มีภาวะที่อ่อนลง การเต้นของหัวใจที่อ่อนลง เราก็ต้องประคองใจให้เป็นกุศล สิ่งที่พบคือ ช่วงนั้นคุณเสถียร รับรู้อย่างต่อเนื่อง ได้ใช้ช่วงเวลานั้น ได้ใช้การคืนลมหายใจอย่างสง่างาม เป็นการคืนลมหายใจแบบไม่ทุกขเวทนา เป็นการคืนแบบสงบ,การดูแลผู้ป่วย เราจะต้องเฝ้าสังเกต แบบไม่เอาความรู้สึกเป็นตัวตั้ง เฝ้าสังเกตแบบความรักไม่มีเงื่อนไข เราจะทำให้อย่างไรให้ผู้ป่วย หรือคนที่เรารักกังวลกับเราน้อยที่สุด การวางใจ คือ การไปแบบไม่ต้องกังวล ไม่ต้องห่วงใย ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆ คุณเสถียรไปด้วยลมหายใจกล้ำกลืนไม่ฝืนไว้ และสงบ,อย่างไรก็ตาม แม่ชีบวชมา 38 ปี ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. 2523 ตอนที่นำคุณเสถียรออกมาจากโรงพยาบาลพากลับมาที่วัดนี้ เวลาที่เราพบว่า 38 ปีที่แล้วพาคุณแม่มาบวช เป็นสิ่งที่ชัดเจน เป็นการแสดงออกว่าเป็นรักที่ไม่มีเงื่อนไข เป็นความรักที่ไม่ต้องดึงเอาไว้ ว่าเป็นของฉัน ไม่ต้องบอกว่าจะเข้าไปครอบครอง แต่เป็นลักษณะการวางใจ รักใคร ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงที่เราได้เรียนรู้มาก และคุณเสถียร ก็ยังต้องทำใจ,เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา หลวงพ่อใหญ่ ท่านก็แนะนำให้ได้ซื้อที่ใกล้ๆ ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ตอนนั้นก็เป็นการจากพรากอีกครั้ง แม้ว่าสิ่งที่รักตายจาก หลวงพ่อก็แนะนำให้คุณเสถียรซื้อที่ดินใกล้ๆ จึงกลายเป็นเสถียรธรรมสถาน,หลังจากนั้นหลวงพ่อก็มรณภาพ 3 เดือนต่อมาด้วยท่านั่งสมาธิ เราก็เสียใจเราจะทำอย่างไรกับความรักที่จะต้องจากพราก สิ่งที่เราพบคือ คุณเสถียรเป็นหนึ่งที่แสดงว่า การเคารพในการตัดสินใจ และเป็นส่วนหนึ่งของการก่อกำเนิดของเสถียรธรรมสถาน แม่ก็ทำงานแบบนี้มาเป็นปีที่ 30 และจะเป็นที่จะก้าวสู่ทศวรรษของเสถียรธรรมสถาน ให้รับรู้ว่าความรักที่มีนั้นจะคงยังอยู่,ทั้งนี้ สิ่งที่แม่ทำได้มากมายขณะนี้ เป็นเพราะคุณเสถียร ทั้งสิ้น ก่อนหน้าเราเคยเตรียมสถานที่ในธรรมาศรมแต่คุณเสถียร ไม่ยอมมาอยู่ และคุณเสถียรก็ได้คืนสู่ธรรมชาติก่อน,อย่างไรก็ตาม พอคุณเสถียรรู้ว่าแม่เป็นมะเร็ง ก็ถามแม่ว่า เราจะอยู่กับใคร ทั้งที่มาเสถียรธรรมสถานไม่บ่อย แต่มาที่วัดศิริพงษ์มากกว่า ซึ่งจะมาแค่ปีละครั้ง และรูปหน้าศพที่ถ่ายคือ ตอนอายุ 90 ปี เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 60,หลังจากนั้น คุณเสถียร ก็มาพบคุณแม่อีกครั้ง ตอนรู้ว่าแม่เป็นมะเร็ง มาแบบไม่ต้องนั่งรถเข็น และถามแม่ว่า คุณเจ็บมากไหม คุณเสถียรร้องไห้เมื่อรู้ว่าแม่เป็นมะเร็ง และจะอยู่อย่างไร แม่ก็นึกว่า เขาถามแม่ว่าจะอยู่อย่างไร แต่นั่นหมายถึงเขาจะอยู่อย่างไร ซึ่งคุณเสถียร เขาไปก่อนเพราะไม่อยากอยู่คนเดียว,ในตอนสุดท้ายคุณเสถียรไม่ห่วงแล้ว แต่ก่อนคุณเสถียร มาเสถียรธรรมสถาน ต้องใส่ชุดหล่อตลอด เสื้อผ้าสีสันสดใส และเดินมาไม่ยอมนั่งรถเข็น แต่วันเสาร์ที่ 2 ธ.ค. คุณเสถียรใส่ชุดขาว ซึ่งทุกอย่างรวดเร็วมาก แต่แม่ก็ได้เยียวยาในเวลาที่สำคัญที่สุด และคุณเสถียรก็ทิ้งลมหายใจคืนธรรมชาติตอน 15.25 น. ของวันที่ 9 ธ.ค.60
ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แสดงธรรม เปิดใจความรักครั้งแรก และครั้งเดียวที่มีต่อ เสถียร เสถียรสุต หนึ่งในผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน
ข่าว,สังคม
แม่ชีศันสนีย์,แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต,เสถียร เสถียรสุต,เสถียรธรรมสถาน,รักไม่มีเงื่อนไข,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1150858
หนุ่มตกใจ คู่ขาดับระหว่างร่วมรัก หิ้วศพทิ้งอำพราง
พบศพแล้ว หนุ่มพนักงานรัฐวิสาหกิจ หลังหายออกจากบ้านไป 8 วัน พบถูกทิ้งในบ่อดินร้าง ห่างริมถนนเลี่ยงเมืองขอนแก่น 100 เมตร ตร.ตามรวบคู่ขาหนุ่ม รู้จักกันทางเน็ต สารภาพนัดเจอ และมีเพศสัมพันธ์แบบพิสดาร ออกมาจากห้องน้ำ พบไม่หายใจ จึงใช้ผ้าปูห่อศพ ก่อนนำไปทิ้งอำพราง ,เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 ต.ค. 58 พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น, พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และพงส.สภ.เมืองขอนแก่น นำตัว นายกฤษณมนญ์ ธนดลไพศาลกุล อายุ 27 ปี อยู่บ้าน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่น ปกปิดซ่อนเร้น ไปชี้จุดทิ้งศพบริเวณพงหญ้า ในบ่อดินร้าง ห่างจากถนนเลี่ยงเมือง บ้านหนองหลุบ หมู่ 5 ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เข้าไปประมาณ 100 เมตร ,บริเวณดังกล่าว พบศพ นายโจ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี หนุ่มพนักงานรัฐวิสาหกิจ จึงประสานแพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่กู้ภัยขอนแก่น สามัคคีอุทิศ ร่วมชันสูตร เบื้องต้น พบสภาพศพ ถูกห่อด้วยผ้าปูที่นอนสีน้ำตาล สวมชุดบอดี้สูทเต็มตัว ชนิดที่สวมถึงศีรษะ ที่ลำคอถูกรัดด้วยสายชาร์ตโทรศัพท์มือถือ และเชือกไนล่อน รวม 3 เส้น มือไพล่หลัง ศรีษะถูกคลุมด้วยถุงพลาสติกใส คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 อาทิตย์,พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สส.2บก.สส.ภ.4 หน.ชุดจับกุม เผยว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย. พี่ชายผู้เสียชีวิต มาขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวน้องชาย ที่หายตัวไปหลังรับโทรศัพท์ ในคืนวันที่ 22 ก.ย. พร้อมรถยนต์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขอนแก่น จึงลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสคนร้าย จนทราบจากเพื่อนสนิทว่า ผู้ตาย มีรสนิยมชอบไม้ป่าเดียวกัน มีการแชตคุยกับเพื่อนชายผ่านเน็ต จึงตรวจเช็กข้อมูลทางโซเชียล จนแน่ใจว่า คนร้ายน่าจะเป็น นายกฤษณมนญ์ หรือ นายแชมป์  จึงนำภาพนายกฤษณมนญ์ ไปให้เพื่อนผู้ตายดู และยืนยันว่าเป็นชายหนุ่มคนล่าสุด ที่คนผู้ตายแชตคุยและนัดเจอกัน,เจ้าหน้าที่จึงตามหาตัว นายกฤษณมนญ์ ที่บ้านพัก พบรถเก๋งจอดอยู่ กระทั่ง นายกฤษณมนญ์ เปิดประตูบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบใบขับขี่ของผู้ตาย ซุกอยู่ที่กระเป๋า เบาะหลังคนขับ นายกฤษณมนญ์ จึงจำนนต่อหลักฐาน พร้อมๆ กับเปิดปากเผยถึงเหตุการณ์ทั้งหมด และพานำชี้จุดที่ทิ้งศพผู้ตาย,พ.ต.อ.เกษม เผยว่า สอบสวนเบื้องต้น หลังถูกจับกุม นายกฤษณมนญ์ ให้การว่า เจอกับผู้ตายผ่านฮอนเน็ตครั้งแรก โดยนัดเจอกันที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ห่างจากจุดทิ้งศพประมาณ 5 กม. อ้างว่า ผู้ตายเตรียมชุดเซ็กซี่ และอุปกรณ์เพิ่มอารมณ์ทางเพศแบบพิสดาร แต่ระหว่างมีเพศสัมพันธ์ผู้ตายเกิดแน่นิ่ง และพบว่าเสียชีวิตในสภาพที่ยังสวมชุดเซ็กซี่ จึงตัดสินใจเอาผ้าปูเตียงห่อร่างผู้ตาย ใส่รถยนต์ของผู้ตายขับรถออกจากรีสอร์ต แล้วนำไปทิ้งไว้ที่บ่อดินร้างดังกล่าว จากนั้นนำรถยนต์ผู้ตายไปจอดไว้ภายในหมู่บ้าน ห่างจากบ้านพักตัวเองประมาณ 50 เมตร,ด้าน พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า นายกฤษณมนญ์ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี เล่าทุกขั้นตอน และหลังการสอบสวน ผู้ต้องหาพาไปเอารถยนต์ของผู้ตายที่จอดทิ้งไว้ในหมู่บ้าน ภายในรถพบผ้าปูที่นอนสีขาวเปื้อนเลือด ยัดอยู่ที่เบาะหลัง ส่วนในรถเก๋งของผู้ต้องหา พบโซ่ และชุดบอดี้สูทสีน้ำเงิน เชือกไนล่อน ส่วนกุญแจมือ สารภาพว่า โยนทิ้งข้างถนน ขณะเอาร่างคนตายไปทิ้ง จึงแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นและปกปิดซ่อนเร้น
พบศพแล้ว หนุ่มพนักงานรัฐวิสาหกิจ หลังหายจากบ้าน 8 วัน พบถูกทิ้งในบ่อดินร้าง ที่ขอนแก่น ตร.รวบคู่ขาหนุ่ม สารภาพนัดเจอ และมีเพศสัมพันธ์แบบพิสดาร ออกมาจากห้องน้ำ พบไม่หายใจ จึงใช้ผ้าปูห่อศพ ก่อนนำไปทิ้งอำพราง
ข่าว,ทั่วไทย
เจอศพแล้ว,คู่เกย์,เล่นท่ายาก,สิ้นใจคาเตียง,เสียชีวิต,รับสารภาพ,แชทคุย,ฮอนเน็ต,ผ้าปูที่นอนห่อศพ,ไปทิ้งบ่อดิน,จิตรจรูญ ศรีวนิชย์,ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น,นิยามชัย วงษ์ภู่,พนักงานคลังและพัสดุ สำนักงานชลประทานที่ 6,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ภูมิภาค
https://www.thairath.co.th/news/local/529288
เอสเซียง จ่อซบทีมดังลีกดินแดนเทพนิยาย
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 16 พ.ค. ว่า ไมเคิล เอสเซียง อดีตกลางทีมชาติกานา เตรียมย้ายไปหาประสบการณ์ และความท้าทายใหม่ในอาชีพการค้าแข้ง โดยพร้อมตอบรับข้อเสนอของทีมดังแห่งฟุตบอลลีกของกรีซ อย่าง พานาธิไนกอส หลังหมดสัญญากับ เอซี มิลาน หลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้,มิดฟิลด์วัย 32 ปี กำลังจะสิ้นสุดสัญญาระยะสั้น 18 เดือน กับทีมปิศาจแดงดำแห่งอิตาลี หลังจบฤดูกาลนี้เท่านั้น และกำลังได้รับความสนใจจากหลายทีมในทวีปเอเชีย และเมเจอร์ ซอคเกอร์ ของสหรัฐฯ,แต่ล่าสุด สำนักข่าวท้องถิ่นในประเทศกรีซ ได้ตีข่าวว่า ทีมยักษ์ใหญ่ของประเทศ อย่าง พานาธิไรกอส จ่อคว้าตัวอดีตกองกลางของทีมสิงโตน้ำเงินครามรายนี้ มาร่วมทีมด้วยสัญญา 2 ปี พร้อมรับค่าเหนื่อยสูงถึงปีละ 1 ล้านยูโร (ราว 38 ล้านบาท) ,มิดฟิลด์พันธ์ุแกร่งชาวกานา แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการกับทีมโอลิมปิก ในฝรั่งเศส และเป็นหนึ่งขุนพลคนสำคัญของ โชเซ มูรินโญ เมื่อครั้งคุมทีมเชลซี ไล่ล่าความสำเร็จ ก่อนจะถูกส่งต่อใน เรอัล มาดริด ยืมตัว และขายขาดให้กับ เอซี มิลาน ในฤดูกาลที่ผ่านมา 
ไมเคิล เอสเซียง มิดฟิลด์พันธุ์แกร่ง ของทีมเอซี มิลาน เตรียมย้ายไปหาประสบการณ์ในช่วงบั้นปลายอาชีพการค้าแข้ง กับยอดทีมแห่งลีกเทพนิยายอย่าง พานาธิไรกอส หลังจบฤดูกาลนี้
null
เชลซี,เอซี มิลาน,พานาธิไนกอส,กรีซ,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์,ไมเคิล เอสเซียง,กานา
https://www.thairath.co.th/content/499198
หลากความเหลื่อมล้ำมิติเพศสภาพ ผู้หญิงยังเผชิญความรุนแรงหนัก
ซึ่งเป็นหนึ่งในซีรี่ส์เสวนาว่าด้วยความเหลื่อมล้ำหลากมิติวิทยากร ได้แก่ เนื้อแพร เล็กเฟื่องฟู อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ วราภรณ์ แช่มสนิท จากสมาคมเพศวิถีศึกษาวราภรณ์ กล่าวว่า มิติเพศสภาพนั้นครอบคลุมทุกเพศ ปัจจุบันหากพูดถึง Gender ก็จะไม่ได้มีแค่หญิงกับชายแต่มีเพศอื่นๆ ที่เจอกับปัญหาความเหลื่อมล้ำด้วย โดยเรื่องความเหลื่อมล้ำจะเห็นได้หลายมิติ เช่น ความเหลื่อมล้ำในตลาดแรงงาน การกระจุกตัวของตำแหน่งงานในองค์กร ผู้บริหารส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย คนที่ทำงานใช้ทักษะน้อยจะเป็นผู้หญิง รายได้ที่ไม่เท่ากันของชาย-หญิงในลักษณะงานเดียวกัน การรับภาระงานที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อย่างการที่ผู้หญิงที่ต้องรับทำงานในบ้าน ในการเมืองการดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้งระดับชาติ ระดับท้องถิ่นก็ยังมีแต่เพศชายเป็นส่วนใหญ่วรภรณ์กล่าวอีกว่า ในด้านสังคมวัฒนธรรม ตัวชี้วัดสำคัญอันหนึ่งคือภาพตัวแทนในสื่อ ทั้งหญิง ชาย และคนข้ามเพศถูกนำเสนอภาพแบบไหน แตกต่างกันอย่างไร ในด้านสังคมก็มีภาระที่เหลื่อมล้ำกันอยู่ เช่น การดูแลสมาชิกในครอบครัวอย่างการดูแลผู้สูงอายุ เพศใดที่ต้องแบกรับภาระนี้มากกว่ากันหากมองในระดับสากล ตัวชี้วัดเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเพศมีอยู่ 2-3 ตัวชี้วัด เช่น gender equality index ตัวชี้วัดอีกอันหนึ่งคือ economic forum เป็นรายงานช่องว่างทางเพศสภาพระดับโลกซึ่งดู 4 ด้านด้วยกัน เรื่องเศรษฐกิจ การศึกษา สุขภาพ การเมือง โดย economic forum เก็บข้อมูลมา 12 ปีแล้วคำนวณดูว่าแต่ละปีช่องว่างน้อยลงเท่าไร หากพิจารณาบนฐานการลดลงช่องว่างระหว่างหญิงชายในอัตราที่ดำเนินมา 12 ปีที่ผ่านมา พบว่า กว่าช่องว่างจะลดหรือมีความเท่าเทียมกันระหว่างชายหญิงในระดับโลก ต้องใช้เวลาประมาณอีก 100 กว่าปี แต่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียแปซิฟิกต้องใช้เวลาอีกประมาณ 170 ปีข้อสังเกตเรื่อง Gender หรือเพศสภาพจะเห็นได้ว่าแทรกอยู่ในมิติต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องงานการพัฒนาเศรษฐกิจ การศึกษา สุขภาพ การเงิน เรียกว่าเป็นสิ่งที่ต้องสร้างความเป็นธรรมในทุกด้าน พูดอีกอย่างหนึ่งคือในชีวิตของคนเรามันมีปัญหาความเหลื่อมล้ำในแต่ละด้านทับซ้อนกันในเรื่องวัฒนธรรมด้านเพศเกี่ยวพันกับความรุนแรง หน่วยงานของ UN ระบุว่า 1 ใน 3 ของผู้หญิงทั่วโลกเคยถูกใช้ความรุนแรง หรือจะมีโอกาสถูกใช้ความรุนแรงในช่วงชีวิต เป็นความรุนแรงทางด้านร่างกายหรือทางเพศส่วนในประเทศไทยเคยมีการสำรวจพบว่า 44% ของผู้หญิงไทยอายุ 15-49 ปีที่มีคู่หรือเคยมีคู่ก็เคยถูกใช้ความรุนแรง ซึ่งตัวเลขนี้สูงกว่าตัวเลขเฉลี่ยระดับโลก การสำรวจเมื่อ 2 ปีที่แล้วของคณะแพทยศาสตร์ รามาธิบดี สำรวจระดับครอบครัวพบว่า 34.76% ของครอบครัวไทยให้ข้อมูลว่ามีการใช้ความรุนแรงรูปแบบต่างๆ ในครอบครัวรูปแบบความรุนแรงในชีวิตคู่พบว่ามีหลายรูปแบบนอกเหนือจากการทำร้ายร่างกายเช่น การทำร้ายทางเพศ การทำร้ายจิตใจ การข่มขู่ บังคับ จำกัดอิสรภาพ การใช้ลูกเป็นเครื่องต่อรอง มันอาจจะถูกมองว่าอย่างนี้มันความรุนแรงด้วยหรือ จนอาจจะทำให้ถูกมองข้ามไป ทั้งหมดนี้การที่เราดำรงอยู่ ยอมรับ และสืบทอดวัฒนธรรม เป็นกระบวนการที่ทำให้ความรุนแรงเป็นเรื่องปกติในที่นี้จะพูดถึงความรุนแรงของชีวิตคู่ ผลกระทบด้านสุขภาพก็จะมีสุขภาพจิตที่ผู้หญิงถูกใช้ความรุนแรงในครอบครัวอาจเป็นโรคซึมเศร้า ติดแอลกอฮอล์ ใช้สารเสพติดมากเป็น 2 เท่าของผู้หญิงกลุ่มอื่น ด้านสุขภาพอนามัยเจริญพันธุ์หากตั้งครรภ์มีโอกาสที่จะมีลูกที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ 16% มากกว่าผู้หญิงกลุ่มทั่วไป และมีโอกาสที่จะติดเชื้อ HIV หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากกว่าผู้หญิงกลุ่มอื่น 1.5 เท่าในแง่เศรษฐกิจมีการวัดความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่มีผลมาจากความรุนแรง ในบางประเทศวัดความสูญเสียทางเศรษฐกิจบนฐานความสูญเสียของราคา เช่น ค่าเดินทางไปโรงพยาบาล ค่ารักษาพยาบาล ตรวจร่างกาย ส่วนหนึ่งก็เป็นมูลค่าเศรษฐกิจกับการการสูญเสียโอกาส การสูญเสียรายได้จากผู้ถูกกระทำที่ต้องหยุดงานหรือมีความสามารถในการผลิตลดลงในการทำงาน หากประมาณการค่าใช้จ่ายในความรุนแรงต่อผู้หญิงหรือความรุนแรงทางเพศมีค่าใช้จ่ายถึง 37% ของ GDP หรือสูงกว่าค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาที่หลายประเทศลงทุนด้านการศึกษาเนื้อแพร กล่าวถึงความหมายของเพศสภาพในเชิงเศรษฐศาสตร์ และในเชิงของข้อมูลที่มีในการเปรียบเทียบเรื่องความเหลื่อล้ำในเรื่องเพศว่า ทำได้เพียงการนิยามผ่านทางเพศที่ติดตัวมาแต่กำเนิด หรือทางกายภาพ (Physiological) ซึ่งความจริงแล้วการพูดถึงเรื่องเพศสภาพในความหมายเชิงอัตลักษณ์ (Identity) ก็มีความสำคัญแต่เป็นสิ่งที่งานวิจัยในยุคปัจจุบันยังไปไม่ถึง เนื่องจากไม่มีความสามารถที่จะเข้าถึงข้อมูลได้เพียงพอ ดังนั้นในวงสัมมนาครั้งนี้จึงใช้ผู้หญิงและผู้ชายเป็นตัวเปรียบเทียบแต่ก็มีความหมายที่มากกว่าเรื่องเพศที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ส่วนประเด็นเรื่องการเหมารวมลักษณะความเป็นหญิงว่าจะต้องรักสวยรักงาม หรือ ความเป็นชายที่จะต้องแข็งแรง ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่จะใช้พิจารณาในการศึกษาเนื้อแพร กล่าวถึงประเด็นเรื่องความเหลื่อล้ำว่า ความเหลื่อมล้ำมีอยู่ 2 มิติ คือความเหลื่อล้ำในเชิงของโอกาส (Opportunities) และความเหลื่อล้ำในเชิงของผลลัพธ์ (Outcomes) ซึ่งถ้าหากมีความเหลื่อมล้ำในเชิงของโอกาสแล้ว โอกาสที่จะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในเชิงของผลลัพธ์จะเป็นไปได้ยากมากประเด็นแรกคือ ช่องว่างที่เกิดขึ้นในระบบการศึกษา เมื่อดูจากสถิติจะเห็นได้ว่าในการศึกษาภาคบังคับมีช่องว่างที่เกิดขึ้นเล็กน้อย ไม่เท่ากับการศึกษาที่เกินภาคบังคับขึ้นไปที่เด็กและผู้ปกครองสามารถที่จะเลือกได้ว่าจะไปเรียนต่อสายสามัญหรือสายอาชีวะ สิ่งที่พบคือ มีสัดส่วนของผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอยู่ในสายสามัญ แต่พอมาดูสัดส่วนชาย/หญิง ในสายอาชีวะ ซึ่งเป็นสายนโยบายหลักของชาติ เป็นสายที่เกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าการศึกษาระดับ STEM (Science Technology Engineering Mathematics) ปรากฏว่ามีผู้หญิงอยู่ที่ประมาณ 37% เท่านั้นสิ่งที่อยากชวนคิดคือ สถิติที่เห็นนี้ เกิดจากเด็กแต่ละคนเลือกด้วยความตั้งใจของตัวเอง หรือเป็นเพราะว่าได้ตัดสินใจผ่านข้อจำกัดบางอย่างให้เขาคิดว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่ดีที่สุดที่สามารถทำได้แล้ว เนื่องจากว่าเลือกไปแล้วก็อาจจะไปไม่ถึงในสิ่งที่เขาต้องการ หรือไม่มีโอกาสเลือกด้วยซ้ำเนื้อแพรกล่าวว่า ผู้หญิงที่สามารถเข้ามาสู่สายสามัญได้ เมื่อดูในระดับปริญญาตรีและโทก็จะมีผู้หญิงอยู่เยอะผู้ชายกว่าในระดับการศึกษาที่ค่อนข้างสูง ถ้าเด็กหญิงไทยได้เรียนก็จะเป็นกำลังแรงงานที่ค่อนข้างฉลาดเมื่อมาดูสาเหตุของความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษาโดยดูจากสาเหตุที่ทำให้เด็กชายหรือหญิงต้องออกจากการเรียนจะพบว่า 35% ของนักเรียนหญิง (ประถมถึงมัธยมต้น) มีสาเหตุที่ต้องออกจากการเรียนกลางคันและไม่กลับมาเรียนอีกเลย คือ การสมรส เพราะท้องก่อนแต่งและโรงเรียนขอให้ออก ในขณะที่สาเหตุของเด็กผู้ชายคือมีปัญหาด้านการปรับตัว เนื้อแพรตั้งคำถามว่า ปัญหานี้อาจมาจากสาเหตุเชิงวัฒนธรรมที่มองเรื่องการท้องเป็นเรื่องน่าอาย และเป็นสิ่งต้องรับผิดชอบ และการตัดโอกาสในการศึกษาตั้งแต่แรกแบบนี้มันส่งผลกระทบไปยังการใช้ชีวิตของเขาในระยะยาวเนื้อแพรได้ยกข้อมูลสถิติของประเทศไทยในระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ที่สะท้อนให้เห็นถึงอัตราการเข้าร่วมในตลาดแรงงาน มองแบบผิวเผินจะพบว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาผู้ชายทำงานเยอะกว่าผู้หญิง แต่คำถามคือ ข้อมูลของผู้หญิงที่ไม่ได้อยู่ในตลาดแรงงานเป็นตัวเลือกหรือเป็นข้อจำกัดของผู้หญิง บนพื้นฐานโครงสร้าง นโยบายและตัวชี้วัดของตลาดแรงงานสถิติต่อมาเมื่อแยกประเภทของแรงงานว่าเป็นกลุ่มคนโสด กับ คนที่แต่งงานแล้ว ตั้งแต่อายุ 15 ปีถึง 65 ปีแสดงให้เห็นว่าในส่วนของคนโสดชายและหญิง มีความอยากทำงานและการเป็นส่วนหนึ่งของกลไกตลาดแรงงานอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันมาก แต่เมื่อมาเปรียบเทียบชาย/หญิงที่แต่งงานแล้วจะพบว่า ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาระดับไหน จะพบช่องว่างของการมีโอกาสในการเข้าร่วมตลาดแรงงานของชายและหญิงเกือบ 30% ซึ่งหากสถิตินี้มาจากเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ผู้หญิงเหล่านั้นจะต้องเอาตัวเองออกมาจากตลาดแรงงานโดยไม่ใช่จากการเลือกของตัวเอง นี่ก็อาจเป็นช่องว่างที่สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำอะไรบางอย่างเนื้อแพรชี้ให้เห็นถึงความเชื่อเกี่ยวกับผู้หญิงที่ว่า ผู้หญิงไม่จำเป็นที่จะต้องเรียนสูงๆ เพราะยังไงก็ต้องออกมาเลี้ยงดูครอบครัว หรือไม่มีเวลาทำงานอยู่ดี ความเชื่อดังกล่าวเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง เพราะถ้าผู้หญิงและผู้ชายอยู่ในตลาดแรงงานเหมือนกัน เมื่อดูความสามารถของเขาผ่านชั่วโมงการทำงาน ก็จะพบว่าช่วงอายุไหนก็ตามเมื่อเปรียบเทียบชายเปรียบเทียบหญิง ชั่วโมงการทำงานทำพวกเขาเหล่านั้นยินดีทำโดยเฉลี่ย ความขยันในการทำงานไม่แตกต่างกันเลย ซึ่งในบางช่วงเส้นกราฟทางสถิติของผู้หญิงมีสูงกว่าของผู้ชายด้วยซ้ำไปเนื้อแพรได้สะท้อนให้เห็นว่าสิ่งที่ปรากฏในข้อมูลทางสถิติที่กล่าวมามีผลกับความเชื่อทางสังคมอันเป็นความเหลื่อมล้ำระหว่างชายกับหญิงที่สะท้อนผ่านใบรับสมัครงานซึ่งสามารถนำมาอธิบายช่องว่างในตลาดแรงงานที่เกิดขึ้นได้ว่าทำไม เกณฑ์การรับสมัครจึงต่างกัน ทำไมอัตราค่าจ้างจึงต่างกัน และช่องว่าในเนื้อหาของงานที่ฝ่ายหญิงและฝ่ายชายสามารถทำได้ ประกาศงานส่วนใหญ่ยังเป็นงานที่ยังไม่ได้ระบุเพศเท่าใด แต่ก็ยังมีงานหลายๆงานที่จะมีการระบุเพศที่เน้นไปยังเพศชาย ซึ่งการระบุเพศในทางเศรษฐศาสตร์สะท้อนว่าเพื่อให้นายจ้างได้มีผลประโยชน์สูงสุดจากการให้แรงงานในเพศนั้นๆช่องว่างหนึ่งที่เราจะเห็นคือเงินเดือนในประกาศ เนื้อแพรกล่าวว่านายจ้างได้ตั้งเงินเดือนในประกาศที่รับแต่เพศหญิง ให้ต่ำกว่าประกาศที่ไม่ระบุเพศหรือประกาศที่รับแต่เพศชายถึง 4.5% จึงเป็นช่องว่างที่เกิดขึ้นในเงินเดือน และสิ่งที่พบอีกอย่างคือ ข้อมูลของทางผู้สมัครงานด้วยอาชีพและตำแหน่งที่เหมือนกัน ฝ่ายหญิงเรียกเงินเดือนตัวเองต่ำกว่าการเรียกเงินเดือนของฝ่ายชายถึง 7.3% ดังนั้นข้อมูลชุดนี้จึงสะท้อนให้เห็นว่า นายจ้างมีการมองถึงความสามารถในการสร้างผลประโยชน์ให้ธุรกิจของตน ด้วยปัจจัยเชิงเพศค่อนข้างสูง ส่งผลให้เกิดการเลือกรับผู้สมัครงานที่จะมาทำงานให้ ส่งผลให้มีการตั้งอัตราจ้างระหว่างหญิงกับชายอย่างไม่เท่าเทียมกัน และก็ยังส่งผลไปยังผู้สมัครงานผู้หญิงที่คิดว่าตัวเองไม่มีมูลค่าทางแรงงานเท่ากับฝ่ายชายเนื้อแพรกล่าวว่า การเลือกปฏิบัติ (Discrimination) ที่สำคัญคือการตัดโอกาสทางการศึกษา โดยยกตัวอย่างมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ในประเทศญี่ปุ่น ประมาณ 10 แห่ง ที่ตัดสินใจว่าผู้หญิงฉลาดเกินไป ดังนั้นจึงมีการปรับคะแนนให้ผู้หญิงสอบตกแล้วให้ผู้ชายสอบผ่าน ซึ่งก็เกิดขึ้นในประเทศไทยเช่นกันที่มีการตัดสินผู้หญิงให้ไม่ต้องมีการศึกษา เพราะเรียนไปแล้วก็คงไปมีครอบครัว และความสามารถความรับผิดชอบก็ไม่เท่ากับเพศชายเนื้อแพรได้อธิบายประเด็นเรื่อง Discrimination ว่า นายจ้างอาจจะคิดว่าเมื่อทำแล้วอาจเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับนายจ้าง แต่จริงๆแล้วในทางเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมเรียกสิ่งนี้ว่า Confirmation Bias คือ การที่คิดว่าสิ่งที่เคยทำมาแล้วซ้ำๆ เป็นสิ่งที่ดี หรือ กบในกะลา เพราะไม่ไปเคยลองสิ่งอื่นเลย นายจ้างจึงคิดว่าฝ่ายชายต้องเป็นช่างมีฝีมือดี แล้วจึงคิดว่าผู้หญิงไม่มีทางทำได้เนื้อแพรกล่าวว่า ประเด็นของกบในกะลามีผลต่อในเชิงนโยบายพอสมควร ถ้าหากการออกนโยบายต่างๆที่เกี่ยวของกับเพศหญิงโดยตรง เป็นการวงนโยบายด้วยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่มีเชื่อเดียวเท่านั้น ซึ่งมีตัวอย่างเรื่องการออกนโยบายการทำแท้งในสหรัฐฯ ซึ่งพบว่าผู้ชายทั้งหมดเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะทำยังไงกับนโยบายเชิงเพศ หรือ นโยบายเชิงผู้หญิง ในประเทศไทยจะเห็นได้จาก สมาชิกวุฒิสภามีเพียง 20 คน จาก 250 คน ที่เป็นผู้หญิง เพราะฉะนั้นการวางนโยบายจึงเป็นสิ่งที่น่ากลัวและน่ากังวลสำหรับการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำนี้ เพราะมันก็ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนวางนโยบายด้วยเนื้อแพรได้ตอบคำถามของผู้เข้าร่วมงานสัมมนาเกี่ยวกับปัญหาเรื่องเพศสภาพในมิติเชิงวัฒนธรรม โดยเสนอให้มีสิ่งที่เรียกว่าภาพแทน (Representation) ของความเป็นกลางระหว่างเพศ ผ่านผู้ที่สามารถเข้าไปกำหนดนโยบายที่ตอบโจทย์ปัญหาความเหลื่อล้ำทางเพศสภาพที่มีผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง ซึ่งภาพแทนดังกล่าวสามารถส่งผ่านมาได้ตั้งแต่ครอบครัวไปจนถึงสื่อต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยน และสิ่งที่สำคัญคือกฎหมายที่เอื้อต่อการใช้ชีวิต อย่างเช่น กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการให้ผู้เป็นพ่อลาออกมาเลี้ยงลูก ก็เป็นส่วนหนึ่งการการแสดง Representation ได้เช่นกันเนื้อแพรได้ตอบคำถามของ วราภรณ์ แช่มสนิท จากสมาคมเพศวิถีศึกษา หนึ่งในวิทยากรงานสัมมนาเกี่ยวกับการกำหนดหรือระบุเพศในใบสมัครว่าผิดกฎหมายแรงงานหรือไม่ การระบุเพศ หรือการกำหนดเพศ อายุ และการแต่งงาน ในการรับเข้าสมัครงาน ไม่ผิดกฎหมายแรงงานเพราะไม่มีระบุไว้ แต่กฎหมายที่จะมาช่วยคือ พ.ร.บ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศ ที่ออกมาในปี 2558 ซึ่งยังเป็นกฎหมายที่ยังไม่ถูกผลักดันให้ใช้ในวงกว้าง
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2562 ศูนย์วิจัยความเหลื่อมล้ำและนโยบายสังคม (CRISP) คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จัดสัมมนาเรื่องความเหลื่อมล้ำในมิติเพศสภาพ
เศรษฐกิจ,สังคม,วัฒนธรรม,การศึกษา,แรงงาน,สิทธิมนุษยชน
ความเหลื่อมล้ำ,เพศสภาพ,วรากรณ์ แช่มสนิท,เนื้อแพร เล็กเฟื่องฟู,ความรุนแรงในครอบครัว,ความรุนแรงทางเพศ
https://prachatai.com/journal/2019/06/83126
ไทยรัฐออนไลน์กวาด 7 รางวัลเวทีข่าวดิจิทัลยอดเยี่ยม
สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ จัดงานประกาศ ,รางวัลข่าวดิจิทัลยอดเยี่ยม ประจำปี 2561, เพื่อสร้างสรรค์และสนับสนุนการผลิตข่าวดิจิทัลที่มีคุณภาพเป็นประโยชน์ต่อสังคม บนการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งของอุปกรณ์ดิจิทัล และบริการออนไลน์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นทุกวัน,นายก้าวโรจน์ สุตาภักดี นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ กล่าวว่า ในปัจจุบันสื่อออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคมเพิ่มมากขึ้น และในปีนี้ได้รับความสนใจจากสื่อสำนักต่างๆ ส่งผลงานเข้าประกวดจำนวนมาก แต่ละผลงานมีความโดดเด่น และมีคุณภาพอย่างน่าสนใจ คณะกรรมการใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ในการคัดเลือกผลงานที่มีความโดดเด่น และมีคุณภาพอย่างน่าสนใจ คณะกรรมการใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ในการคัดเลือกผลงานที่มีความโดดเด่นในแต่ละประเภท สร้างสรรค์และจรรโลงสังคมไทยให้น่าอยู่มากขึ้นไป,ข่าวที่ดีมีคุณภาพจะเป็นการช่วยสร้างสังคม ประเทศชาติที่ดีได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน นายก้าวโรจน์ กล่าว,ด้าน,นายอภิรักษ์ โรจน์อำพร Online News Exclusive Editor และ Head of Social Media ไทยรัฐออนไลน์ ,กล่าวว่าไทยรัฐออนไลน์ให้ความสำคัญกับข่าวที่ให้ประโยชน์กับสังคมไทยมาก รางวัลที่ไทยรัฐออนไลน์ได้รับเป็นกำลังใจสำหรับทีมข่าวที่ตั้งใจและทุ่มเทกับข่าวทุกชิ้น ทั้งนี้ทิศทางการทำข่าวในปี 2562 ไทยรัฐออนไลน์ยังคงให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวที่เป็นข้อมูลเชิงลึก รวมถึงสารคดีเชิงข่าวที่มีผลกระทบต่อสังคมไทย นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับ Data journalism ซึ่งเป็นแนวโน้มใหม่ที่คนอ่านให้ความสนใจ ,โดยรายชื่อผลการตัดสินการประกวด รางวัลข่าวดิจิทัลยอดเยี่ยม ประจำปี 2561 มีดังต่อไปนี้,1. ประเภทข่าวหรือสารคดีเชิงข่าวออนไลน์เชิงสืบสวนยอดเยี่ยม ,รางวัลยอดเยี่ยม 1 รางวัล,ชื่อข่าว: รายงานพิเศษชุด โกงงบอาหารกลางวัน?,ชื่อองค์กร: องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ,Website: ,http://www.thaipbs.or.th/,รางวัลชมเชย 2 รางวัล,ชื่อข่าว: ,ย้ายค่าย ได้โปร(ลับ) EP.1 - EP.3,ชื่อองค์กร: บริษัท เทรนด์ วีจี 3 จำกัด ,Website: www.thairath.co.th,ชื่อข่าว: ,ล้วงเล่ห์ขายครีม EP.1 - EP.4,ชื่อองค์กร: บริษัท เทรนด์ วีจี 3 จำกัด ,Website: ,www.thairath.co.th,2. ประเภทข่าวออนไลน์จากประเด็นในสื่อสังคมออนไลน์ยอดเยี่ยม ,รางวัลยอดเยี่ยม 1 รางวัล,ชื่อข่าว: รายงานพิเศษชุด เล่ห์ ลวง โลภ แชร์ลูกโซ่,ชื่อองค์กร: องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ,Website: ,http://www.thaipbs.or.th/,รางวัลชมเชย 2 รางวัล,ชื่อข่าว: รายงานพิเศษชุด นาก ทูตแห่งพื้นที่ชุ่มน้ำ,ชื่อองค์กร: องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ,Website: http://www.thaipbs.or.th/,ชื่อข่าว: รายงานพิเศษ ,สาวไลฟ์สดโดดพระราม 8,,ชื่อองค์กร: บริษัท เทรนด์ วีจี 3 จำกัด ,Website: ,www.thairath.co.th,3. ข่าวออนไลน์ส่งเสริมสังคมยอดเยี่ยม ,รางวัลยอดเยี่ยม 1 รางวัล,ชื่อข่าว: ขอวาฬนำร่องครีบสั้น สัตว์ตัวสุดท้ายสังเวยชีวิต เหยื่อขยะ,ชื่อองค์กร: องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ,Website: http://www.thaipbs.or.th/,รางวัลชมเชย 2 รางวัล,ชื่อข่าว: ,หนีนรกที่บาห์เรน EP.1-3,ชื่อองค์กร: บริษัท เทรนด์ วีจี 3 จำกัด ,Website: www.thairath.co.th,ชื่อข่าว: ผู้ต้องขังกระทำผิดซ้ำเพราะ สังคมไม่ให้โอกาส หรือ กลัวตราบาปในใจ,ชื่อองค์กร: บริษัท บางกอกมีเดียแอนด์บรอดคาสติ้ง จำกัด ,Website: ,www.pptvthailand.com,4. ประเภทข่าวออนไลน์ที่นำเสนอในรูปแบบคลิปวิดีโอยอดเยี่ยม ,รางวัลยอดเยี่ยม 1 รางวัล,ชื่อข่าว: ชัวร์ก่อนแชร์ : มันหมูเป็นอาหารสุขภาพอันดับ 8 ของโลก จริงหรือ ?,ชื่อองค์กร: บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ,Website: ,www.TNAMCOT.com,รางวัลชมเชย 2 รางวัล,ชื่อข่าว: เกาะลิง คุกหรือสวรรค์,ชื่อองค์กร: องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ,Website: http://www.thaipbs.or.th/,ชื่อข่าว: ตีป้อม ROV แก้ติด ร.,ชื่อองค์กร: องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ,Website: ,http://www.thaipbs.or.th/,5. ประเภทข่าวที่นำเสนอในรูปแบบอินโฟกราฟิกยอดเยี่ยม ,รางวัลดีเด่น 1 รางวัล,ชื่อข่าว: ข้อมูลบัตรประชาชนรั่วไหล เราจะได้อะไรเป็นของแถม,ชื่อองค์กร: บริษัท ไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด ,Website: ,www.manager.co.th,รางวัลชมเชย 2 รางวัล,ชื่อข่าว: 9 สัญญาณเตือนน่าสงสัย? ที่คุณอาจเป็นโรคซึมเศร้า,ชื่อองค์กร: บริษัท ดาราเดลี่ จำกัด ,Website: https://www.daradaily.com/,ชื่อข่าว: รถไฟฟ้า BTS เสียได้เงินคืนไหม?,ชื่อองค์กร: องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ,Website: http://www.thaipbs.or.th/,6. ประเภทข่าวออนไลน์ส่งเสริมสิทธิเด็กยอดเยี่ยม ,รางวัลดีเด่น 1 รางวัล,ชื่อข่าว: ครูนอกกรอบ เด็กทุกคนเป็นที่ 1 ของผม,ชื่อองค์กร: องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ,Website: ,http://www.thaipbs.or.th/,รางวัลชมเชย 2 รางวัล,ชื่อข่าว: หรือเพราะแค่ ไร้สัญชาติ โอกาสจึงเป็นแค่ความฝัน,ชื่อองค์กร: องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ,Website: http://www.thaipbs.or.th/,ชื่อข่าว: ,อึ้ง เด็ก 7 ขวบเริ่มเล่นพนัน ลูก ตร.ติดหนี้บอล เข้าข่ายโรคจิตเวช สมองขาดคันเบรก,ชื่อองค์กร: บริษัท เทรนด์ วีจี 3 จำกัด ,Website: ,www.thairath.co.th,7. ประเภทข่าวออนไลน์ส่งเสริมเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมของไทย ,รางวัลดีเด่น 1 รางวัล,ชื่อข่าว: ,เปิดใจหมอไทยคนแรก คว้าที่ 1 งานวิจัยโลก รักษาผมร่วงศีรษะล้านจากพันธุกรรม,ชื่อองค์กร: บริษัท เทรนด์ วีจี 3 จำกัด ,Website: ,www.thairath.co.th,รางวัลชมเชย 2 รางวัล,ชื่อข่าว: นักธรณีฟิสิกส์พบโครงสร้างปริศนาใต้วัดไชยฯ อยุธยา,ชื่อองค์กร: บริษัท ไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด ,Website: www.manager.co.th,ชื่อข่าว: ไขมันทรานส์ คืออะไร ถึงคร่าคนได้ทั้งโลก 5 แสนคนต่อปี,ชื่อองค์กร: บริษัท บางกอกมีเดียแอนด์บรอดคาสติ้ง จำกัด ,Website: www.pptvthailand.com,8. ประเภทภาพข่าวออนไลน์ยอดเยี่ยม,รางวัลยอดเยี่ยม 1 รางวัล,ชื่อข่าว: ตำรวจกองปราบปราม บุกเข้าจับกุม ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม ทนายร่างทรง 4 จี ในข้อหารุกป่า,ชื่อองค์กร: บริษัท ไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด ,Website: ,www.manager.co.th,รางวัลชมเชย 2 รางวัล,ชื่อข่าว: น้ำใจคนไทยที่หน้าถ้าขุนน้ำนางนอน,ชื่อองค์กร: บริษัท บางกอกมีเดียแอนด์บรอดคาสติ้ง จำกัด ,Website: www.pptvthailand.com,ชื่อข่าว: เบี่ยงทางน้ำ,ชื่อองค์กร: บริษัท เทรนด์ วีจี 3 จำกัด ,Website: www.thairath.co.th
ไทยรัฐออนไลน์ คว้า 7 รางวัล จากเวทีข่าวดิจิทัลยอดเยี่ยม สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ รายงานพิเศษ เปิดใจหมอไทยคนแรก คว้าที่ 1 งานวิจัยโลก รักษาผมร่วงศีรษะล้าน จากพันธุกรรม คว้าดีเด่น
ข่าว,ทั่วไทย
รางวัลข่าวดิจิทัลยอดเยี่ยม ประจำปี 2561,สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์,SONP,ประกาศรางวัลข่าวดิจิทัล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1395037
ซูนาร์ นักเขียนการ์ตูนมาเลเซียถูกจับหลังวาดรูปเสียดสีศาลมาเลเซียกรณี อันวาร์ อิบราฮิม
เพียงเพราะเขียนการ์ตูนเสียดสีวิพากษ์วิจารณ์ว่าศาลมาเลเซียเอียงข้างรัฐบาล กรณีตัดสินลงโทษผู้นำฝ่ายค้านฐานมีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน 13 ก.พ. 2558 ซูคิฟลิ อัลวาร์ อุลาฮัค นักวาดการ์ตูนที่ผู้คนรู้จักในนาม ซูนาร์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียบุกจับกุมที่บ้านพักของเขาเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยข้อหาปลุกระดมต่อต้านรัฐบาลหลังจากที่เขานำเสนอภาพการ์ตูนเกี่ยวกับกรณีที่ศาลพิพากษาให้อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำพรรคฝ่ายค้านมาเลเซียจำคุก 5 ปีฐานมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกันก่อนหน้านี้ซูนาร์โพสต์รูปการ์ตูนเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ว่าศาลมาเลเซียที่ยอมจำนนต่อการกดดันของรัฐบาลทำให้มีการพิพากษาอิบราฮิม ซึ่งอันวาร์ อิบราฮิม เคยให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวบีบีซีว่าคดีของเขาเป็นความพยายามของพรรรัฐบาลที่จะกีดกันเขาออกไปจากการเมืองซุนาร์มีแผนการต้องไปพูดคุยกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่กรุงเจนีวาภายในเดือนหน้าในงานที่จัดโดยกลุ่ม ARTICLE 19 ซูนาร์ต้องการชี้แจงให้ยูเอ็นทราบถึงความสำคัญของการคุ้มครองการแสดงออกทางศิลปะ นอกจากนี้ซูนาร์ยังถูกจัดให้แถลงข่าวต่อยูเอ็นในเรื่องการปราบปรามกลุ่มผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชนโธมัส ฮิวจ์ส ผู้อำนวยการบริหารของกลุ่ม ARTICLE 19 ซึ่งเป็นกลุ่มคุ้มครองด้านเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเรียกร้องให้ทางการมาเลเซียปล่อยตัวซูนาร์โดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข โดยบอกว่าการจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นการโจมตีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นภายในมาเลเซียและเป็นความพยายามปิดกั้นคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างถูกต้องชอบธรรมต่อรัฐบาลทั้งในและนอกอินเทอร์เน็ตกฎหมายที่ทางการมาเลเซียนำมาใช้กับซูนาร์ คือกฎหมายว่าด้วยการปลุกระดมปี 2491 (Sedition Act 1948) ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีมาตั้งแต่ช่วงยุคอาณานิคมของอังกฤษที่สั่งลงโทษจำคุกนานสุด 3 ปีกับผู้ที่ มีแนวโน้มยุยงปลุกระดม ซึ่งรวมถึง การกระตุ้นให้เกิดความไม่ชอบ หรือ ทำให้เกิดการดูหมิ่นหรือเกลียดชัง ต่อรัฐบาลหรือผู้ปกครองประเทศ แต่กฎหมายก็มีปัญหาตรงที่ฝ่ายอัยการไม่จำเป็นต้องพิสูจน์เจตนาของผู้กระทำเมื่อไม่นานมานี้มีการพยายามใช้กฎหมายเพื่อปราบปรามฝ่ายต่อต้านรัฐบาลในมาเลเซียมากขึ้น โดยนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2557 จนถึงตอนนี้มีผู้ถูกจับกุมด้วยข้อหานี้มากกว่า 20 คนแล้วซูนาร์เคยถูกไต่สวนในข้อหาปลุกระดมเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ก่อนหน้านี้เขาถูกควบคุมตัวเป็นเวลา 2 วันเมื่อปี 2553 และอีกครั้งหนึ่งเกิดขึ้นในเดือน พ.ย. 2557 ซึ่งเขาถูกไต่สวนพร้อมกับอีกข้อกล่าวหาคือการละเมิดกฎหมายอาญาว่าด้วยสื่อสิ่งพิมพ์และการจัดตีพิมพ์กระทรวงกิจการภายในของมาเลเซียเคยสั่งแบนหนังสือของซูนาร์ 5 เล่ม และในเดือน พ.ย. 2557 ผู้ช่วยของซูนาร์ 3 คน ก็ถูกจับกุมเพราะขายหนังสือของเขา อีกทั้งผู้จัดการเว็บไซต์ยังถูกไต่สวนในข้อหาปลุกระดมด้วย เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมาตำรวจยังบุกตรวจค้นสำนักงานของเขาเพื่อยึดหนังสือสองปกจำนวน 155 เล่มซูนาร์วาดการ์ตูนให้กับสำนักข่าว มาเลเซียกีนี และหนังสือพิมพ์อื่นๆ เขาเคยได้รับรางวัลนักเขียนผู้กล้าหาญจากฮิวแมนไรท์วอทช์ เขามักจะเขียนล้อเลียนการเมืองมาเลเซียหลายประเด็นรวมถึงการบังคับใช้กฎหมายและเรื่องการทุจริตซูนาร์เคยกล่าวให้สัมภาษณ์กับประชาไทว่ามีคนชอบอ่านการ์ตูนเขามากเพราะในมาเลเซียมีการ์ตูนในเชิงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอยู่น้อยส่วนใหญ่จะมีแต่การ์ตูนชมรัฐบาล และตัวเขาเองคิดว่าการวิจารณ์รัฐบาลเป็นเรื่องที่เขาต้องทำแม้จะเสี่ยงต่อการถูกจับกุมหรือถูกยึดหนังสือก็ตามคุณกำหนดไม่ได้อยู่แล้วว่าตำรวจจะมาจับกุมคุณหรือเปล่า แต่ที่สำคัญคือเราต้องทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ และทำให้ดีที่สุด และเตรียมรับมือกับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้น และเตรียมตนเองให้พร้อมอยู่เสมอ ซูนาร์กล่าวให้สัมภาษณ์กับประชาไทเมื่อปี 2555Malaysia: ARTICLE 19 calls for the immediate and unconditional release of political cartoonist Zunar ARTICLE 19 11-02-2015
กลุ่มคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ARTICLE 19 เรียกร้องให้ปล่อยตัวนักเขียนการ์ตูนชื่อ ซูนาร์ ซึ่งถูกตำรวจบุกจับเพื่อไต่สวนข้อหา ปลุกระดม
ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน
Article 19,การ์ตูน,ซูนาร์,มาเลเซีย
https://prachatai.com/journal/2015/02/57912
หมดครึ่งแรก เวลส์ ฮึดไล่เจ๊า เบลเยียม 1-1
การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 1 ก.ค. ที่สนาม สต๊าด ปิแอร์ เมารอย มังกรแดง เวลส์ พบกับ ปิศาจแดงแห่งยุโรป เบลเยียม,เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 6 เบลเยียม น่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆ ยานนิค เฟอร์ไรรา คาร์ราสโก กดด้วยขวาในเขตโทษ ติดบล็อกกระดอนมาเข้าทาง โธมัส มูนิเยร์ ยิงอัดเข้าไปก็ติดบล็อกมาเข้าทาง เอเดน อาซาร์ด ซัดอีกที ก็โดนกองหลังเวลส์สกัดทิ้งไปได้,ถัดมา 3 นาที เวลส์ ได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ เกเรธ เบล พาบอลกระชากเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนซัดด้วยซ้ายเน้นๆ บอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย,จากนั้น นาทีที่ 13 เบลเยียม ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ รัดยา เนียงโกลัน ยิงไกลเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม,และในนาทีที่ 26 เวลส์ น่าตีเสมอได้ จากจังหวะที่ อารอน แรมซีย์ หลุดเข้าเขตโทษด้านขวา ก่อนจ่ายเข้ากลาง ให้ นีล เทเลอร์ วิ่งมายิงแบบไม่ต้องจับ แต่ ติโบต์ กูร์ตัวส์ เซฟออกไปได้อย่างสุดยอด,ถึง นาทีที่ 31 เวลส์ ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะได้เตะมุมทางฝั่งขวา อารอน แรมซีย์ เปิดบอลโค้งเข้ากรอบเขตโทษ และเป็น แอชลีย์ วิลเลียมส์ โขกเข้าไปตุงตาข่าย,ช่วงที่เหลือของครึ่งแรกทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรก เวลส์ เสมอ เบลเยียม อยู่ 1-1,รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม,เวลส์:เวย์น เฮนเนสซีย์, คริส กันเทอร์, นีล เทย์เลอร์, เบน เดวีส์, เจมส์ เชสเตอร์, แอชลีย์ วิลเลียมส์, โจ อัลเลน, ฮัล ร็อบสัน-คานู, อารอน แรมซีย์, เกเรธ เบล,โจ เล็ดลีย์,เบลเยียม:ติโบต์ กูร์ตัวส์, โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์, รัดยา เนียงโกลัน, อักเซล วิตเซล, เควิน เดอ บรุน, โลเมลู ลูกากู, เอเดน อาซาร์ด, ยานนิค เฟอร์ไรรา คาร์ราสโก, เจสัน เดนาเยอร์, โธมัส มูนิเยร์, จอร์แดน ลูกากู
จบครึ่งแรกไปแบบสุดมัน เวลส์ ไล่ตามตีเสมอ เบลเยียม 1-1 ในศึกฟุตบอลยูโร 2016 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
null
ยูโร 2016,เวลส์,เบลเยียม,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ผลบอล
https://www.thairath.co.th/content/652751
มหาลัย: สารพันความศักดิ์สิทธิ์ หรือ พื้นที่ความคิดทางปัญญา
จึงชวนคุยเรื่องนี้อีกหนทั้งในมุมสังคมวิทยามานุษยวิทยา วิทยาศาสตร์ ยุกติ-อภิญญา-เจษฎา-วัชรพล-สรยุทธการเรียนมหาวิทยาลัยถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญของชีวิต จากชีวิตในรั้วโรงเรียนสู่สังคมใหม่ที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อพัฒนาความรู้ทักษะที่จะต้องนำไปใช้ในอนาคต สำหรับการศึกษาไทย นอกจากแทบทุกคนจะต้องเจอกับการรับน้องและระบบโซตัสแล้ว เรายังเจอกับเรื่องเล่าลี้ลับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เรื่องอาถรรพ์ ในมหาวิทยาลัยต่างๆ อีกด้วยเคยได้ยินหรือเคยเชื่ออะไรแบบนี้ไหม ใครใส่ชุดครุยหรือสวมหมวกบัณฑิตก่อนเรียนจบจะทำให้เรียนไม่จบ บางแห่งก็เชื่อว่าเจอปลาบึกในบ่อน้ำมหาวิทยาลัยจะติด F บางแห่งเชื่อว่าเจอ เหี้ย ลงน้ำจะได้ F แต่ถ้าขึ้นจากน้ำจะได้ A ฯลฯ ยังไม่รวมสถานที่ต่างๆ ที่ถูกทำให้ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา ไม่ว่าอนุสาวรีย์บุคคลสำคัญของมหาวิทยาลัย บันไดขึ้นตึก ลิฟต์ หอนาฬิกา ครั้นเมื่อสิ่งเหล่านี้ถูกท้าทายก็มักมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก โดยเฉพาะเรื่องการให้เกียรติและกาลเทศะ เช่น การใส่ การตัดต่อภาพบัณฑิตนั่งบนหอนาฬิกาที่เพิ่งมีดราม่ากันเมื่อเร็วๆ นี้จากกระแสโต้เถียงกันเรื่องดังกล่าว เราขอนำเสนอแง่มุมความคิดเห็นต่อเรื่องเล่า ความเชื่อ ความศักดิ์สิทธิ์ในรั้วมหาวิทยาลัย ผ่านนักวิชาการในศาสตร์ต่างๆ จากหลายมหาวิทยาลัย เพื่อมองเรื่องราวเหล่านี้ อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อธิบายถึงพื้นที่ ความศักดิ์สิทธิ์ ศาสนา การศึกษาและความเป็นมนุษย์ในสถานศึกษาความศักดิ์สิทธิ์หรือความไม่ศักดิ์สิทธิ์มันถูกสร้างขึ้นมาได้ เช่น มีคนเอาศาลพระภูมิไปตั้งไว้ที่ใดที่หนึ่งนานเข้าก็จะมีคนเอาของบูชามาวางเพิ่มจนเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ได้เหมือนกัน หรืออนุสาวรีย์ หรือรูปปั้นของใครบางคนก็ถูกทำให้ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา อย่างเช่น อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ อยู่ดีดีก็มีรูปปั้นขึ้นมา ซึ่งอาจารย์ป๋วยเป็นคนปกติที่คนเคารพนับถือมากมาย พื้นที่ที่ตั้งตรงนั้นก็จะกลายเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาทันที อีกอย่างคือ พื้นที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์หรือมีตำนานอยู่ก่อน อย่างเช่น ลิฟท์แดง ก็เป็นพื้นที่ที่มีเรื่องเล่าที่ทำให้พิเศษขึ้นมาว่าเคยมีคนตายอยู่ในนั้นจากเหตุการณ์ของมหาวิทยาลัยและถูกเล่าต่อกันมาจนกลายเป็นตำนานมันเป็นความเชื่อที่สร้างขึ้นมา สมมติว่าอยู่ๆ มีคนสร้างความเชื่อขึ้นมาว่า หมอน ถ้าไม่อยากนอนจริงอย่าไปนอนเพราะนอนแล้วอาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาเลย แบบนี้ก็อาจมีคนเชื่อจริงๆ ก็ได้ ผมก็ไม่เคยได้ยินนะว่าการถ่ายรูปคู่กับโดมจะทำให้เรียนไม่จบ ผมคิดว่ามันอาจเพิ่งถูกสร้างในยุคหลัง ซึ่งสะท้อนว่าคนในรุ่นหลังมีความไม่มั่นใจมากขึ้น มีความกังวลใจเกี่ยวกับการเรียนจบหรือไม่จบด้วยอย่างนั้นหรือเปล่าก็เลยทำให้มีความเชื่อแบบนี้ผูกติดกับสถานที่ขึ้นมาเราสามารถอธิบายได้ว่าคนไม่ได้หลุดออกจากความเชื่อความงมงายอย่างแท้จริง เรายังเชื่อว่ามีอำนาจพิเศษบางอย่างที่อยู่เหนือความควบคุมของมนุษย์ แม้ว่าความสำเร็จของการศึกษาจะขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนั้นเอง นี่สะท้อนให้เห็นว่าสุดท้ายแล้วระบบสังคมของเรายังหลีกไม่พ้นระบบวิธีคิดของยุคก่อนสมัยใหม่ที่เชื่อว่ามนุษย์ไม่สามารถกำหนดทุกสิ่งทุกอย่างได้บางเรื่องที่เรากำหนดไม่ได้นั้นถูกกำหนดโดยอำนาจลึกลับ ที่ไม่ใช่อำนาจตามธรรมชาติ หรือกายภาพที่วิทยาศาสตร์จะอธิบายได้ อันนี้คือวิธีคิดของโลกก่อนสมัยใหม่ที่เรายังเชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่มันอาจจะมีผลเสีย ในแง่ที่เราอาจจะเคารพนับถืออะไรโดยที่ไม่จำเป็น อย่างเช่นการที่เราจะเคารพคนสักคนอย่างปรีดี พนมยงค์ พอเขามีสถานะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาก็จะกลายเป็นสิ่งที่แตะต้องไม่ได้ ไม่ต้องถึงขนาดล้อเล่นไม่ได้อย่างกรณี อั้ม เนโกะ (ถ่ายรูปนั่งตักปรีดี) แต่การแตะต้องไม่ได้นี้อาจเป็นการวิพากษ์วิจารณ์การกระทำในอดีตของเขาหรือผลของการกระทำของเขาอันนั้นก็พูดลำบาก และเป็นผลเสียกับการศึกษาแน่นอน ตราบใดที่เราไม่สามารถแสดงความคิดเห็นต่อสิ่งต่างๆ ด้วยเหตุผลที่ว่ามันเป็นศักดิ์สิทธิ์ จะทำให้ความรู้หรือการศึกษาไม่ก้าวหน้าแน่นอนความคิดทางศาสนาเป็นความคิดที่ขัดขวางการคิดเชิงวิพากษ์วิจารณ์และการสร้างสรรค์ความรู้ใหม่ๆ มันมีลักษณะในการหยุดความคิดไว้ทำให้ผมคิดว่าสองสิ่งนี้ไปกันไม่ได้ ศาสนามักอ้างความคิดสูงสุดและไร้ขอบเขตของความรู้ทั้งๆ ที่ตัวมันเองมีข้อจำกัดมากมาย ความคิดเรื่องความศักดิ์สิทธิ์อาจไม่ได้แย่เท่าศาสนาด้วยซ้ำ เพราะศาสนาใหญ่ๆ ในโลกมักอ้างความเป็นสากลที่เหนือกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์พวกนั้น ผียังต้องมาไหว้พระพุทธเจ้า ถ้าคุณเป็นพระผีต้องกลัว ถ้าเราไปเชื่อความเหนือกว่าตรงนั้นก็จะทำให้เราไม่สามารถคิดพัฒนาศักยภาพอะไรใหม่ๆ ได้อีกต่อไป เพราะศาสนาพุทธมักจะบอกว่าทุกอย่างอยู่ในพระไตรปิฎกแล้วหรือพระพุทธเจ้ารู้แจ้งรู้สิ้นหมดแล้ว ฉะนั้นใครที่ศรัทธาศาสนามากๆ แล้วมาเรียนกับผม ผมก็จะบอกว่าเลิกเรียนเสียเถอะ แล้วก็ไปบวชซะ เพราะคุณรู้หมดแล้วหรือคุณไปหาความรู้ที่มันตอบได้ทุกอย่างดีกว่ามันก็มีแบบนั้นเหมือนกัน แต่ถึงที่สุดแล้วพัฒนาการของความรู้สมัยใหม่ที่เกิดขึ้นมา เป็นศาสตร์ขึ้นมา มันแตกตัวออกมาจากศาสนาและมันก็ปฏิเสธความรู้แบบศาสนา ดูง่ายๆ ว่าบรรดานักวิทยาศาสตร์ก็ยังเชื่อในการมีอยู่เรื่องพระเจ้า แล้วคุณอธิบายว่าสิ่งที่เขาค้นหาคือพระเจ้า มันก็ไม่ได้ มันคือการค้นหาความจริงอีกอย่างโดยไม่ได้สนใจการมีอยู่ของพระเจ้า หรือจะสนใจการมีอยู่ของพระเจ้าก็ได้แต่ว่าพระเจ้าก็จะอยู่ในส่วนของพระเจ้าไป แม้ว่ามหาวิทยาลัยเกิดจากจุดเริ่มต้นของศาสนาก็จริงแต่ที่สุดแล้วความรู้เหล่านั้นมันไม่ได้วางอยู่บนศาสนามหาวิทยาลัยควรจะมีอิสระของตัวเองในการแสวงหาความรู้ ถึงจุดหนึ่งจะต้องชี้แนะสังคมได้ว่าอะไรควรหรืออะไรไม่ควรหรือมีข้อเสนอหรือบริการสังคมในยามสังคมเกิดปัญหา ฉะนั้นการทำให้มหาวิทยาลัยทำบทบาทนั้นได้อย่างเต็มที่ต้องปล่อยให้มหาวิทยาลัยเป็นอิสระ เป็นเอกเทศ แน่นอน คุณอาจจะบอกว่า วิธีคิดแบบใหม่ที่เชื่อในการวิพากษ์วิจารณ์อาจเป็นศาสนาอีกแบบหนึ่ง ก็ใช่ แต่ว่าในอีกแง่หนึ่งคือ อย่างน้อยมันกลายเป็นศาสนาในโลกของการหาความรู้ มันเป็นศาสนาที่มีการถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์กันตลอดเวลา แลกเปลี่ยนกันหรือไม่ยอมกันได้ตลอดเวลา นั่นคือกฎของมัน ซึ่งไม่เหมือนกับในโลกของศาสนาใครเชื่ออย่างนั้นก็ทำไป แต่คุณก็ต้องยอมรับว่ามีคนไม่เห็นด้วยเหมือนกัน คือผมไม่คิดว่าการเอาเรื่องผีมาจัดระเบียบทางสังคมจะเป็นเรื่องถูกต้อง ถ้าคุณทำด้วยความหลอกลวงมันแย่เพราะคุณรู้อยู่ว่ามันไม่จริง แต่คุณไปหลอกคนเขา แต่ถ้าคุณทำเพราะเชื่อจริงๆ ก็ยิ่งแย่ขึ้นไปอีก เพราะคุณไม่เชื่อมั่นในศักยภาพของคุณในความเป็นมนุษย์ในการสร้างความคิดความอ่านความสามารถที่จะสร้างสรรค์ชีวิตของตัวเองได้ อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อธิบายว่า อย่ามองว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งตรงข้ามทางวิทยาศาสตร์อภิญญากล่าวว่า เบื้องต้นไม่อยากให้มองเรื่องความเชื่อเป็นเหตุเป็นผลแบบวิทยาศาสตร์ และอย่ามองว่าวิทยาศาสตร์กับไสยเป็นคู่ตรงข้าม ถ้ารามองเป็นคู่ตรงข้ามก็จะเหมือนว่าอันหนึ่งมีเหตุผลอันหนึ่งไร้เหตุผล ในเรื่องนี้ถ้ามองในมุมมองวิทยาศาสตร์เราจะตั้งคำถามได้ว่าทำไมความเชื่อแบบนี้จึงแพร่หลายในสถานศึกษาชั้นสูง แต่ไสยก็ยังมีคำอธิบายได้ในตัวของมันอยู่ วิธีคิดแบบไสยที่ยังคงอยู่เพราะมีหน้าที่อยู่ ตั้งแต่สมัยโบราณถึงปัจจุบัน ซึ่งบางสิ่งความเป็นสมัยใหม่ตอบสนองโจทย์เหล่านั้นไม่ได้ แต่ไสยตอบสนองได้มันถึงยังคงอยู่ความคิดแบบไสยในบางพื้นที่นักมานุษยวิทยาจะเรียกว่า เทคโนโลยีในการจัดการทรัพยากร ซึ่งเป็นหน้าที่ของผีที่มีมาอย่างยาวนานในสังคมก่อนสมัยใหม่ เช่น ชาวกะเหรี่ยงมีประเพณีเอารกเด็กแรกเกิดไปฝังไว้ที่ต้นไม้ เป็นการนำจิตวิญญาณผูกไว้กับต้นไม้ต้นนั้น พวกเขาจึงสามารถรักษาป่าได้ เป็นต้น เมื่อสังคมมาสู่ยุคสมัยใหม่หน้าที่เหล่านี้ก็ยังคงอยู่ อย่าง ชาวนาไทยเชื่อพระแม่โพสพ นักวิชาการข้าวบอกว่าควรใช้ปุ๋ย สูตร ก. สูตร ข. ใช้ยาฆ่าแมลงจะเจริญงอกงาม แต่ก็ยังไม่ได้เลิกไหว้แม่โพสพ เพราะเป็นอะไรที่ทำให้รู้สึกมั่นคงทางจิตใจในสังคมเมืองสมัยใหม่ที่ประชากรมีชีวิตอย่างไม่มั่นคง มันตัดขาดโดดเดี่ยว ตัวใครตัวมัน เปลี่ยวเหงา ฉะนั้นปรากฏการณ์อย่างตุ๊กตาลูกเทพจึงเกิดได้อย่างไม่น่าแปลกใจ ในสังคมโลกาภิวัตน์ยิ่งหมุนไปเท่าไหร่ ไสยก็จะยิ่งงอกงามและจะถูกทำให้เป็นสินค้าได้ง่ายมากกับบริโภคนิยม ลูกศิษย์ที่มหาวิทยาลัยก็เลี้ยงกุมารทองไว้ทั้งหมด 7 ตน เพราะเด็กเหงา เวลาเลี้ยงกุมารจะมีลักษณะของความใกล้ชิด เมื่อผีอยู่ในเขตเมือง ผีจะมีลักษณะวัฒนธรรมเมือง คือ มีลักษณะเป็นของส่วนตัว กุมารจึงจะมีชื่อตั้ง มีนิสัยใจคอ เขาจึงรู้สึกว่ามีเพื่อน ฉะนั้นยิ่งโลกาภิวัฒน์ ไสยก็จะยิ่งเฟื่อง ผ่านวัตถุของเล่น หนัง หรือการ์ตูน ไสยเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของคนมากขึ้นไสยจึงเป็นวิธีคิดโดยใช้ตรรกะอีกชุดหนึ่งซึ่งมนุษย์ชอบภาพฝัน อย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องของเด็ก บางทีคนเราไม่ต้องการความชัดเจนแบบวิทยาศาสตร์ไปทุกเรื่อง ในทางหนึ่งวิทยาศาสตร์ไม่สามารถขับไล่วิธีคิดแบบความรักใน magic อะไรที่กึ่งฝันกึ่งจริงมันขายได้กับผู้ใหญ่ และจะไม่หายไปเราอย่าไปยึดติดว่าถ้าเป็นความคิดแบบไสยแล้วจะงมงาย ปัญหาอยู่ที่ตัววิธีการ เช่นคนที่ยึดวิทยาศาสตร์แบบงมงายก็มี ฉะนั้นความงมงายไม่อยู่ที่ตัวความเชื่อแต่อยู่ที่คุณยึดสิ่งนั้นจนไม่มองมุมอื่น แล้วตัดความคิดแบบนั้นออกไป ถ้าคุณคิดวิพากษ์เป็นก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ถ้าคิดวิพากษ์เป็นแล้วบอกว่าคุณเชื่อไสยคุณงมงายก็จะเป็นการแปะป้าย ซึ่งดูไม่ยุติธรรม ขอให้แยกแยะระหว่างตัวความคิดกับวิธีการยึดนักสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา อาจารย์ภาควิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิเคราะห์ปรากฏการณ์ภาพตัดต่อบนหอนาฬิกาผ่านลัทธิบูชาวัตถุหรือสินค้า มานุษยวิทยา ความเป็นอำนาจนิยมเบื้องต้นคงต้องมองว่าการตัดต่อภาพนักศึกษาในชุดครุยรับปริญญานั่งบนหอนาฬิกานั้นเกิดในโลกดิจิทัล ไม่ได้เกิดในโลกทางกายภาพ แต่การเกิดในโลกเสมือนจริงกลับมีผลทิ่มแทงลักษณะบางประการของระบบการศึกษาสมัยใหม่ในมหาวิทยาลัยไทยที่อยู่ในโลกกายภาพอย่างอดเสียมิได้ ลักษณะที่ว่านั้นคือ fetishism หรือ ลัทธิบูชาวัตถุหรือสินค้า และวัตถุดังกล่าวมันได้กลายเป็นสัญลักษณ์หรือตัวแทนของระบบการศึกษา หรือเป็นสิ่งที่สะท้อนความเป็นสถาบันและตัวตนของคนในสถาบันนั้นๆ ไป ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ คำถามที่ว่าอะไรคือสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย ตอบอย่างเป็นทางการคือ บรรดาเข็มกลัดหรือสถานที่ต่างๆ นั่นแหละ ทว่าเอาเข้าจริง บรรดาฝูงม้าลายหน้าศาลพระภูมิ ของบนบานต่างๆ บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยต่างหากที่เป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยที่สะท้อนระบบการศึกษาได้เป็นอย่างดี (สมัยเป็นนักศึกษาผมเคยตามเพื่อนหลายคนไปบนบานและพบว่านักศึกษาจำนวนมากเรียนสายวิทย์) สิ่งสำคัญของการมองว่าอะไรเป็น fetishism นั้นคือการพิจารณาว่าเบื้องหลังวัตถุบูชาต่างๆ นั้นสะท้อนความสัมพันธ์ทางสังคมและวัฒนธรรมอย่างไรบ้าง มันสะท้อนให้เห็นถึงการศึกษาไทยที่มุ่งเน้นการสร้างนักศึกษาให้เป็นเพียงแรงงานในการผลิต การศึกษาในลักษณะที่เป็นกลไกตามระบบอุตสาหกรรม จนนักศึกษาเองก็รู้สึกแปลกแยกจากระบบการศึกษา ระบบการศึกษาไม่สามารถเชื่อมปรัชญาการศึกษากับความเคลื่อนไหวของโลกภายนอกได้ มันมีผลอย่างยิ่งทำให้นักศึกษาไม่เชื่อมั่นในวิชาและการเรียนรู้ของตนเอง นำไปสู่การพึ่งพิงสิ่งเหนือธรรมชาติและทดเทิดให้วัตถุต่างๆ มีอำนาจนำเหนือชีวิตของตนเอง fetishism ในมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งน่าสนใจเพราะไม่เพียงเป็นแค่การบูชาวัตถุเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงการทำให้คนกลายเป็นวัตถุของการบูชาได้อีกด้วย บุคคลากรจำนวนมากของมหาวิทยาลัยหรือระบบการศึกษาได้กลายเป็นวัตถุของการบูชาทั้งที่เสียชีวิตไปแล้วและยังมีชีวิตอยู่ระบบของ fetishism เกี่ยวพันกับอำนาจนิยมค่อนข้างมาก เนื่องจากสังคมไทยเป็นสังคมที่เน้นความสูงต่ำของฐานันดรทางสังคมและชนชั้นทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางการกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบแรงงาน นักศึกษายังถูกสั่งสอนให้เป็นผู้น้อยที่ต้องเชื่องเชื่อ ดังนั้น fetishism ยังเป็นภาพสะท้อนของการผลิตซ้ำอุดมการณ์หลักของสังคมไทย เราไม่อาจตีความได้ว่าผู้บูชาต้องการหาที่พึ่งทางใจ การบูชาสินค้าและวัตถุเป็นเพียงการสร้างสภาวะชั่วคราวให้ปลอดภัยภายในระบอบที่อำนาจนิยมทำงานร่วมกับการศึกษาในระบบทุนนิยมเท่านั้นเองในการทำความเข้าใจ ปรากฏการณ์หอนาฬิกา ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ด้านหนึ่งมันบอกว่าทั้งนักศึกษาและผู้หลักผู้ใหญ่ต่างก็ให้ความหมายและทดเทิดวัตถุให้มีความสำคัญต่อการระบุและอ้างอิง self ของตน คนทั้งสองกลุ่มนั้นต่างต้องมีแหล่งอ้างอิงในการบูชาวัตถุเหมือนกัน ต่างกันที่ฝ่ายหลังเน้นลำดับความสูงต่ำและพยายามสถาปนาให้การบูชาวัตถุสิ่งของนั้นให้มีลักษณะของความเป็นสถาบัน หอนาฬิกาซึ่งมิเคยศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างไรในสายตาของนักศึกษาจึงถูกทำให้กลายเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ราวกับศาลพระภูมิจนเกินไป อันนี้คือความพยายามจนลืมนึกไปว่ามันคือแท่งคอนกรีตขนาดใหญ่ที่มีเข็มนาฬิกาตั้งอยู่ข้างบนและตั้งอยู่กลางวงเวียนให้รถวิ่งวนไปมา เหตุผลที่ดูเหมือนฟังไม่ขึ้นของฝ่ายออกมาทักท้วง อาทิ เป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย และเหมือนไปนั่งทับหัวผู้ใหญ่หรือคนสัญจรไปมานั้น แม้จะแทบฟังไม่ขึ้นแต่มันดันฟังขึ้นสำหรับผู้พยายามบูชามันและสถาปนามัน ทว่าเหตุผลเช่นนี้เองสะท้อนความกลวงของระบบการศึกษา ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยที่ภาพตัดต่อของนักศึกษาจึงกลายเป็นสิ่งที่กระทบต่อบุคลากรอื่นที่ไม่ใช่นักศึกษา สำหรับนักศึกษามช.จำนวนไม่น้อย หอนาฬิกาไม่ได้บอกแค่เวลา (ซึ่งส่วนมากไม่ค่อยตรงและเสีย) แต่ยังเป็นเสมือนวัตถุของการท้าทายอำนาจ หอนาฬิกาแห่งนี้มีชีวิตผ่านเรื่องเล่าว่าด้วยการเห็นผีและสิ่งเหนือธรรมชาติ อาทิ ในเวลาเที่ยงคืนตรงใครที่ขับรถย้อนศรวนรอบหอนาฬิกาจนครบสามรอบจะเห็นผี หรือเรื่องเล่าอื่นๆ อีก เรื่องเล่าพวกนี้สะท้อนถึงการพยายามท้าทายระเบียบแบบแผนของอำนาจและกฎเกณฑ์ในมหาวิทยาลัยทั้งในเรื่องของการใช้เวลายามค่ำคืนและการขับขี่ (แน่นอน เราก็ต้องพิจารณาเรื่องความปลอดภัย) ผมแค่ต้องการบอกว่าการตัดต่อภาพของนักศึกษาก็เช่นกัน และหลังการเผยแพร่ภาพออกไปในโลกออนไลน์ ผี ก็ปรากฏออกมาจริงๆ แต่มันคือผีที่ตามหลอกหลอนระบบการศึกษา ผีที่ตามหลอกหลอนถึงโลกออนไลน์ และเป็นผีที่ทำให้โลกออนไลน์เป็นพื้นที่จริงเสียยิ่งกว่าโลกกายภาพ ผี ในที่นี้มิใช่ตัวบุคคลหรือหน่วยงานแต่คืออุดมการณ์ที่ซ่อนอยู่หลังวัตถุที่ถูกบูชาอาจารย์ภาควิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร มองการสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในมหาวิทยาลัยว่าสะท้อนภาพชนชั้นในมหาวิทยาลัยและการต่อสู่กับคติชนรวมไปถึงการเปลี่ยนผ่านความเชื่อไปสู่ความรู้ ผ่านมุมมองของ มาร์กซ์และกรัมชี่โดยหลักๆ ถ้าเรามองในมุมของมาร์กซ์จะมองผ่านของพื้นฐานการวิเคราะห์ในทางชนชั้น เมื่อมองแบบนี้เวลามีพิธีกรรมต่างๆ ของแต่ละคณะ ไม่ว่ารูปแบบใดก็ตาม ทั้งการตั้งเสาผูกผ้าสามสี การขึ้นป้ายศักดิ์สิทธิ์ห้ามละเมิดต่างๆ ซึ่งน่าจะเป็นอยู่ในหลายพื้นที่ ผมคิดว่ามันไม่สำคัญอะไร แต่เนื้อหาหลักของมาร์กซ์มองกันที่ชนชั้นและพยายามมองสิ่งต่างๆ ให้ทะลุจากฉากหน้าที่เราเห็น ดังนั้นฉากหน้าจะเป็นอะไรก็ได้ในหลายๆ แบบแต่ฉากหลักของเรื่องเหล่านี้คือการรักษาสถานะทางชนชั้นเอาไว้ ไม่ว่าจะโดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตามมันเป็นภาพสะท้อนความไม่เข้มแข็งทางปัญญาของทั้งสังคมมากกว่า ไม่ได้เป็นแค่มหาวิทยาลัย แต่มหาวิทยาลัยอาจเป็นที่ที่ถูกคาดหวังการชี้นำทางความคิดทางปัญญาได้ ถ้าเรามองแบบมาร์กซ์เราจะมองแบบองค์รวมคือมหาวิทยาลัยก็แยกไม่ออกจากเศรษฐกิจสังคมการเมืองทั้งหลาย ดังนั้นมหาวิทยาลัยก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมแบบไทยๆ อย่างอาจารย์ที่สอนวิทยาศาสตร์ของคณะวิทย์ไปบนบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ผลแล็บมันออกก็มี มันเป็นภาพสะท้อนของสังคมแบบไทยว่าเราเชื่อมั่นอะไรบางอย่างมากกว่าศักยภาพของมนุษย์ คือมันไม่ใช่ทุกคนในมหาวิทยาลัย แต่มหาวิทยาลัยก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบสังคม วัฒนธรรม อุดมการณ์ ที่กลืนกันไป ไม่ได้แยกออกมาเป็นพื้นที่พิเศษที่มีอุดมการณ์อย่างต่างประเทศ ฉะนั้นจึงมีคนทั้งสองส่วน ทั้งคนที่ตระหนักรู้ อยากจะก้าวข้าม กับอีกพวกที่ยอมถูกกลืนอยู่ในกระบวนการอย่างนี้ต่อไปเรื่องเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงจิตสำนึกทางชนชั้นของนักศึกษาที่เข้ามาศึกษาเพื่อเปลี่ยนผ่านความเชื่อไปเป็นความรู้ แต่เรื่องศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้กลับอยู่กับการเปลี่ยนผ่านไปพร้อมกันได้อย่างไรต้องมองแยกเป็นสองส่วนว่าหากเรามองว่าปัญญาชนในที่นี้คือผู้ที่เรียนจบรับดีกรีปริญญาตรี โท เอก ในที่นี้มหาวิทยาลัยก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่องอย่างไร เพราะสามารถผลิตบัณฑิตที่มีปริญญาได้ตามความต้องการหรือตามมาตรฐานที่ สกอ.กำหนดแต่ถ้าเรามองผ่านแนวคิดปัญญาชนของกรัมชี่ ปัญญาชนไม่จำเป็นต้องมีปริญญาก็ได้ ปัญญาชนสำหรับกรัมชี่คือคนที่มีหน้าที่ผลักดันขับเคลื่อนสังคมที่เป็นอยู่ให้ดีกว่าเดิม ฉะนั้นปัญญาชนในที่นี้เป็นใครก็ได้ เป็นได้ทุกคน ถ้าเรามองปัญญาชนในแบบหลัง มหาวิทยาลัยก็อาจจะล้มเหลวในเรื่องนี้ เพราะไม่ได้ชี้ให้ผู้คนเห็นว่าสิ่งเหล่านี้มันมีอยู่เพื่อทำอะไรกับเราบ้างแต่เรายอมรับมัน ถ้าเรามองว่าเอาแค่รับปริญญาก็เป็นปัญญาชนแล้ว มหาวิทยาลัยก็ไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดถ้าแม้แต่ปัญญาชนในที่นี้ซึ่งหมายถึง คนที่มีสถานะพิเศษในสังคม มีชื่อเสียง มีบทบาทสำคัญ ยังเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์งมงายอยู่ มันก็สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลว ในสถานะหนึ่งเขาเป็นนักวิชาการที่ตกอยู่ภายใต้กรอบแห่งความสัมพันธ์ ดังนั้นก็ไม่ได้แปลกและเข้าใจได้ว่าเขาก็อยู่ในกรอบที่สังคมสร้างกันมา พูดง่ายๆ ว่าปัญญาชนเหล่านี้ก็มองไม่ออกจากสิ่งที่มีอยู่เวลาเราพูดเรื่องของกาลเทศะเป็นเรื่องของ time and space แต่โดยหลักแล้วแนวคิดเรื่องนี้คือ เวลาคุณจะทำอะไรมันต้องเหมาะสมกับ time and space ด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับบริบทสังคมและประวัติศาสตร์ของที่นั้นๆ ถ้ามองในเรื่องนี้ ในพื้นที่อื่นๆ ก็จะไม่เป็นอะไร อาจจะ ตลก สนุก และเท่ห์ดี แต่ในประเทศของเราที่มีบริบทวัฒนธรรมอีกแบบ ชุดของคำอธิบายที่ได้คือ ไม่เหมาะสม แต่บางทีผมคิดว่าไม่ใช่ไม่เหมาะสมอะไร มีงานแปลของกรัมชี่ชิ้นหนึ่งที่ชื่อว่า ข้าพเจ้าเกลียดวันขึ้นปีใหม่ () ซึ่งได้กล่าวว่าเวลาไม่ได้สำคัญมากในแง่ของการเฉลิมฉลอง กรัมชี่มองว่าเวลาตอนไหนก็สำคัญได้ ถ้าเราจะปฏิวัติหรือเปลี่ยนแปลงก็ไม่จำเป็นจะต้องรอเวลา ดังนั้นถ้ามองในมุมของกรัมชี่ เขาอาจจะชี้ชวนให้เรามองโลกอีกแบบ เราไม่รู้ด้วยว่ามันถูกหรือผิด ดีหรือเลว แต่เป็นการชวนเรามองโลกไปอีกแบบโรงเรียนมีหน้าที่หลักในการผลิตคนเพื่อสู้/ต้านกับคติชาวบ้านหรือความเชื่อทั่วไป รวมถึงวิธีการมองโลกในแบบที่เชื่อสืบต่อกันมา ในสังคมแบบที่ไม่วิพากษ์นั้นการมองโลกในแบบที่เชื่อสืบต่อกันมาจะทรงพลังและในท้ายที่สุดจนกลายเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ยากเพราะวิธีการมองโลกหรือความเชื่อเช่นนั้นได้กลายมาเป็นเรื่องลี้ลับหรือพิเศษไป การดำรงอยู่และผลิตซ้ำของคติชาวบ้านในเรื่องต่างๆ เป็นไปเพื่อรักษาผลประโยชน์บางประการของบาง (หรือหลาย) ชนชั้น กรัมชี่เสนอว่าเพื่อให้มนุษย์สามารถหลีกพ้นไปจากเรื่องลึกลับที่ฝังตัวในสังคม โรงเรียนในฐานะผู้ให้การศึกษาควรสร้างคนให้ยึดมั่นในเรื่องของการทำงาน กรัมชี่เสนอว่ามนุษย์นั้นเข้าถึงและเข้าใจการทำงานของตนได้ไม่ใช่แต่เพียงการแสวงหาอำนาจที่มากขึ้นและการทำการผลิตเท่านั้น แต่มนุษย์ยังต้องยึดมั่นและเคารพในกฎเกณฑ์ทั้งในเชิงสังคมและเชิงกฎหมายด้วย มนุษย์ต้องเคารพกฎเกณฑ์ต่างๆ จากภายในไม่ใช่เพียงเพราะถูกบังคับจากแรงกดดันภายนอก การรักษาความสัมพันธ์ระหว่างระเบียบทางสังคมและการทำงานทั้งกิจกรรมเชิงทฤษฎีและปฏิบัติของแต่ละคนนั้นกรัมชี่มองว่าเป็นการ สร้าง พื้นฐานขั้นต้นให้กับการเข้าใจโลกที่เป็นอิสระและปลอดจากความเชื่อในเรื่องวิเศษและเหนือธรรมชาติได้ดังนั้นบทบาทของครูผู้สอนทั้งในการสอนบทเรียนต่างๆ และบทบาทด้านการให้การศึกษา ซึ่งไม่ใช่เพียงในเรื่องบทเรียนแต่เพื่อชีวิตทางสังคมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากบทบาทของผู้สอนได้มีส่วนสำคัญในการผลิตสร้างวิธีการมองโลก วัฒนธรรม ตลอดจนคติความเชื่อแบบใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมไปสู่สังคมที่ดีกว่าเดิมได้อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับ พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์กับพื้นที่วิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัย ไทยเชื่อไหมว่า การห้ามถ่ายรูปกับบันไดนาค (บันไดหน้าตึกคณะอักษรศาสตร์) หรือการใส่ชุดครุยก่อนเรียนจบจะทำให้เรียนไม่จบ สมัยผมเรียนยังไม่มี นั่นแปลว่าเรื่องต่างๆ มันถูกสร้างขึ้นมาเองเรื่อยๆ ผ่านมุมมองความเชื่อและเวลาในมหาวิทยาลัย ตั้งแต่เข้าศึกษาในปีที่ 1 ก็จะโดนปลูกฝังโดยรุ่นพี่ถึงความเชื่อในแต่ละพื้นที่แต่ละคณะ ความเชื่อบางอย่างเคร่งเครียดมาก ห้ามทำนั่น ห้ามทำนี่ ความเชื่อบางอย่างก็เป็นความเชื่อแบบเล่นๆ แต่ก็มีที่มาที่ไป อย่างคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ จะมีข้อห้ามสำหรับน้องใหม่ เช่น ที่บันไดตึกชีววิทยา 1 ห้ามปี1 ขึ้น ใครเดินบันไดทางขึ้นกลางจะทำให้ถูกรีไทร์ พอเขาทักมาก็ไม่มีใครกล้าทำ แต่ถ้ามันเป็นวิทยาศาสตร์มันก็ต้องทดลองทำสิว่าจะรีไทร์ไหม ความตลกก็คือเพื่อนรุ่นผมเคยขึ้นบันไดนั้นแล้วปรากฏว่าเขารีไทร์จริงๆ แต่มันก็ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ต้องทำบ่อยๆ แล้วต้องอธิบายได้ด้วยว่าทำไมถึงรีไทร์ สุดท้ายมันอธิบายไม่ได้ว่าเขาตั้งกฎเกณฑ์แบบนี้เพื่ออะไรฉะนั้นกฎเกณฑ์พวกนี้มันจะมีคำอธิบายภายหลัง ถ้าเมื่อไรไม่มีคำอธิบายจะกลายเป็นความเชื่อหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่างวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ อธิบายว่าสมัยก่อนตึกไม่ได้มากขนาดนี้ ใครจะเรียนก็จะต้องเดินผ่านหน้าบันไดนี้อยู่แล้ว ฉะนั้นพวกพี่ๆ สมัยก่อนก็จะไปนั่งอารมณ์แบบ SOTUS เต็มบันไดไปหมดเลย เพื่อดูว่าน้องๆ แต่งตัวผิดระเบียบหรือไม่ อันนี้อธิบายในทาง SOTUS ถ้าลึกกว่านั้นก็คือที่จริงแล้วบันไดตรงนี้ สมัยก่อนคณะวิทยาศาสตร์เคยเรียนรวมกันคณะแพทย์ด้วย เวลามีอาจารย์ใหญ่หรือศพที่มาดองก็จะดองตรงนั้น ฉะนั้นจึงเป็นการให้เกียรติ ไม่ควรเดินข้าม แต่ก็ไม่ตอบโจทย์นะว่าทำไมรุ่นพี่ถึงยังเดินได้พอได้คณะอื่นคุณก็จะเห็นว่ามีกฎเกณฑ์คล้ายๆ กัน สถาปัตย์ก็จะมีตัวหนังสือ ถ.ป. อยู่กับพื้นห้ามน้องเดินผ่านหรือบันไดหน้าของครุศาสตร์เหมือนกัน ห้ามขึ้นตรงๆ ต้องขึ้นข้างๆ ซึ่งทั้งหมดที่อธิบายอาจไม่ใช่ความเชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดแต่เป็นเรื่องของคำสั่งทั้งนั้น เรื่องกฎเกณฑ์พวกนี้มันมีความเป็นวิทยาศาสตร์ คือ มันมีที่มาและเหตุผล แต่เหตุผลนั้นจะน่าเชื่อถือน่ายอมรับหรือไม่ มันเป็นเรื่องของยุคสมัยถ้าถามว่ามหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่ความหวังของสังคมไหมก็อาจจะยังเป็น แต่ว่าไม่มาก เพราะเป็นส่วนประกอบเล็กๆ ของคนทั้งสังคม โรงเรียนหรือเอกชนบางอย่างใหญ่กว่าเรา มหาวิทยาลัยจึงอาจจะยังเชื่อได้บ้างถ้าศรัทธายังมี ซึ่งกลายเป็นเรื่องขำที่เราต้องมาพึ่งศรัทธา คนในสังคมเชื่อคนในมหาวิทยาลัยพูดเพราะศรัทธา ไม่ได้เชื่อเพราะว่าวิชาการ เชื่อเพราะเป็นจุฬาฯ เป็นมหิดล เป็นมหาวิทยาลัยต่างๆ ฉะนั้นมหาวิทยาลัยยังพอพูดอะไรที่ค้านกระแสสังคมได้ แต่ถ้าไม่รู้จักค้านกระแสสังคม ไม่รู้จักอะไรที่มันแปลกแยกออกไป คนก็จะไม่ศรัทธามหาวิทยาลัย ก็จะไม่มีสถานะที่พึ่งได้ผมคิดว่าวิทยาศาสตร์ไทยโดยภาพรวม มันอ่อนแอมาตั้งแต่แรกแล้ว คนไทยโดยพื้นฐานไม่ได้มีความคิดแบบวิทยาศาสตร์ ว่าเรื่องนี้แย้งได้ไหม เถียงได้ไหม เรื่องนี้หาทางพิสูจน์ได้ไหม ถ้าเป็นผม จะตั้งคำถามว่าเรื่องจริงหรือไม่ ต้องพิสูจน์ไหม ทุกคนก็จะบอกว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ตั้งแต่แรก ทุกคนจึงคิดแต่จะเล่าต่อๆ กัน สนุกไปเรื่อยโดยไม่คิดที่จะโต้แย้ง มันสะท้อนสิ่งน่าสนใจอย่างหนึ่งคือ เมื่อเทคโนโลยีมันไปไกลมาก ประเทศไทยก็มีลักษณะพิเศษ คือวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสูงมาก เมื่อเทียบกับหลายๆ ชาติ แต่ประเทศไทยไม่เอากระบวนความคิดแบบวิทยาศาสตร์มาใช้ เราเสพเทคโนโลยีเหมือนกับว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกชิ้นหนึ่งผมเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยหนึ่งซึ่งก็มีศาลพระภูมิเหมือนกัน แล้วก็ไม่แปลกที่คนจะกราบไหว้ หรือจุฬาฯ ก็มีพระรูปสองรัชกาลคนก็กราบไหว้ ผมเคยบอกเรื่องบั้งไฟ ถ้าคุณเชื่อว่าพญานาคมีจริงก็สามารถเชื่อได้ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าวันใดที่คุณบอกว่าลูกไฟนั้นเกิดจากแก๊สธรรมชาติลอยออกมาจากน้ำ ผมก็จะบอกว่ามันไม่จริง วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ว่าไม่จริง ฉะนั้นการกราบไหว้ที่อยู่ในกรอบของการเรียกขวัญกำลังใจ ผมว่าไม่เสียหายวันนี้คำศัพท์อย่ากะลาแลนด์มันแรงขึ้นเพราะว่าคนออกไปเห็นอะไรข้างนอกเยอะมากขึ้นแล้ว และเริ่มรู้ว่าโลกของไทยไม่เหมือนข้างนอก เพราะโลกแคบลงมี โซเชียลเน็ตเวิร์คมากขึ้น มีการถกเถียงมากขึ้น การที่คนใช้คำว่ากาลเทศะมาหยุดคุณก็จะโดนแย้งมาขึ้นในอนาคตว่ามันไม่จำเป็น และเป็นกาลเทศะของคุณ จะมาครอบเราตลอดเวลาไม่ได้ เพราะเราก็มีกาลเทศะของเราเองเช่นกัน ทุกคนมีพื้นที่ของตัวเองมากขึ้นเมื่อก่อนเราคิดว่าสิ่งต่างๆ มันทำงานได้ด้วยพลังของมัน มีความศักดิ์สิทธิ์ มีพลังที่เรามองไม่เห็น แต่เรามาสู่ยุคสมัยที่จะบอกว่าเราไม่แตะตรงนั้นเพราะมันดูโบราณและอ้างวิทยาศาสตร์แทน วิทยาศาสตร์ถูกเอามาอ้างเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่า GT 200 ตรวจระเบิดได้ เพราะมันเป็นวิทยาศาสตร์ขั้นสูง จากฟิสิกส์ ควอนตัม และศัพท์ต่างๆ ที่เราฟังแล้วดูเหมือนไม่เข้าใจแต่ดูแล้วเริ่มศรัทธาเพราะมันเป็นวิทยาศาสตร์ อันนี้ไม่ใช่วิทยาศาสตร์จริงๆ เป็นวิทยาศาสตร์เทียมที่ไม่ได้เกิดจากการอธิบายปรากฏการณ์ได้ ทดลองได้ ฉะนั้นถ้าคุณเชื่อว่าทำงานได้ คุณโดนวิทยาศาสตร์เทียมหลอกแน่นอนโดยภาพรวมของการศึกษาไทยค่อยข้างล้มเหลวและวิทยาศาสตร์ไทยก็ล้มเหลวค่อนข้างมาก เราสอนวิทยาศาสตร์เป็นคัมภีร์ เรามีตำรา ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เป็นรูปแบบนี้ ใครตอบผิดก็คือผิด แต่ไม่มีการบอกว่ามันมีข้อยกเว้นหรือมีการทดลองใหม่ๆ หรือไม่ เราไม่เคยเจอบรรยากาศที่เด็กเถียงอาจารย์ตั้งแต่แรก และอาจารย์ก็ไม่ค่อยถามว่าเห็นด้วยไหม เราเรียนวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่พื้นฐานว่ากินข้าวกันยังไง 5 หมู่หรือไม่ ก็เป็นวิทยาศาสตร์ แต่ก็ไม่เคยสอนว่ามีอะไรที่นอกกรอบจากนี้ วิทยาศาสตร์จริงๆ จะเริ่มจากการตั้งคำถาม เราไม่เริ่มจากตรงนั้น เราเริ่มจากเนื้อหา มันก็เลยหลงทางจนวันนี้ ใช้ความเชื่อ ความศรัทธา เชื่อตามตำรา เชื่อตามที่ครูบอก ซึ่งความรู้ของครูเองก็อาจเป็นความรู้ย้อนหลังไปเมื่อสมัยยังเรียนอยู่ก็ได้ในตัววิทยาศาสตร์เอง ยิ่งคุณเรียนสูงยิ่งถกเถียงน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะความรู้มันเยอะ วิทยาศาสตร์ยิ่งเรียนสูงจะยิ่งโง่เพราะจะยิ่งแคบ คุณจะรู้เรื่องนี้ดีมากๆ แต่คุณจะไม่รู้เรื่องอย่างอื่น คุณจะไม่เจอบรรยากาศที่ถกเถียงว่าจริงหรือเปล่าไม่จริงหรือเปล่าอย่างสายสังคมศาสตร์ แต่ถ้าคุณเรียนวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็กๆ คุณจะไม่เจอว่าใครผิดเลย ทุกคนจะถูกหมด ครูบาอาจารย์เองที่จะหลุดพ้นวิทยาศาสตร์แบบเดิมๆ ก็ยังน้อย เป็นขบวนการแม่พิมพ์ ไม่เหมือนกับต่างประเทศที่ครูบาอาจารย์เป็นแค่ไกด์นำทางในการสอน
หอนาฬิกา ม้าลาย บันได ลิฟต์ ตัวเงินตัวทอง ครุย ฯลฯ หลายความเชื่อ หลากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่มหาวิทยาลัย หลายครั้งก็มีดราม่า ความเหมาะสม กาลเทศะ
วัฒนธรรม,การศึกษา
ผีในมหาวิทยาลัย,พื้นที่ศักสิทธิ์,ภานุวัฒน์ ทรงสวัสดิ์ชัย,มหาวิทยาลัย,ยุกติ มุกดาวิจิตร,วัชรพล พุทธรักษา,ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ,อภิญญา เฟื่องฟูสกุล,เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์
https://prachatai.com/journal/2017/02/69898
นักรบ ไร้พ่าย อัด ควายป่า 20-13 คว้าชัย 10 เกมติด
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 24 พ.ย. ว่า การแข่งขัน,อเมริกันฟุตบอล, เอ็นเอฟแอล สหรัฐอเมริกา ฤดูกาล 2015-16 เกมสัปดาห์ที่ 11 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) ซึ่งตรงกับเช้าวันอังคารตามเวลาของไทย เกมที่ ยิลเลตต์ สเตเดียม นักรบกู้ชาติ นิว อิงแลนด์ เพเทรียตส์ ทีมแกร่งสาย เอเอฟซี ตะวันออก ลงเล่นในรังตัวเองรับการมาเยือนของ ควายป่า บัฟฟาโล บิลล์ส ทีมในสายเดียว,ออกสตาร์ตควอเตอร์แรก นิว อิงแลนด์ เก็บคะแนนขึ้นนำก่อน 3-0 จากลูกฟิลด์โกลระยะ 35 หลา ของยอดตัวเตะ สตีเฟน กอสต์โกวสกี ก่อนที่ฝั่งของ บัฟฟาโล จะมาไล่ตีเสมอเป็น 3-3 ในควอเตอร์ที่ 2 จากลูกฟิลด์โกลระยะ 52 หลาของ แดน คาร์เพนเตอร์ แต่ฝั่งเจ้าถิ่นก็กลับมาขึ้นนำได้อีกครั้ง ทอม เบรดี ปา 20 หลาให้ เจมส์ ไวท์ ทะลวงทำทัชดาวน์ พาทีมขยับสกอร์เป็น 10-3,ควอเตอร์ที่ 3 ทัพ ควายป่า กลับมาตีเสมอได้อีกครั้ง เลอซอน แม็คคอย รันนิงแบ็กตีนผีสับ 27 หลาเข้าเอนด์โซนเก็บทัชดาวน์ช่วยทีมไล่เป็น 10-10 แต่ฝั่งของ นักรบกู้ชาติ ยังร้อนแรงบวกแต้มทิ้งห่างเป็น 20-10 จาก การวิ่งทำทัชดาวน์ระยะ 6 หลาของ ไวท์ ก่อนที่ กอสต์โกวสกี จะทำคะแนนจากการเตะฟิลด์โกลระยะ 35 หลา,ขณะที่ควอเตอร์สุดท้ายทีมเยือนมาได้คะแนนเพิ่มจากฟิลด์โกลระยะ 33 หลาของ คาร์เพนเตอร์ แต่สุดท้ายก็ไล่ไม่ทัน จบการแข่งขัน นิว อิงแลนด์ เพเทรียตส์ เอาชนะ บัฟฟาโล บิลล์ส ไป 20-13 ทำสถิติไร้พ่าย 10 เกมติด,ผลการแข่งขันบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (ทีมหลังเป็นเจ้าบ้าน),ออร์แลนโด แมจิก แพ้ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส 103-117
,ซาคราเมนโต คิงส์ แพ้ ชาร์ลอตต์ ฮอร์เนตส์ 122-127
,นิว ยอร์ก นิกส์ แพ้ ไมอามี ฮีต 78-95
,ดีทรอยต์ พิสตันส์ แพ้ มิลวอกี้ บักส์ 88-109
,ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตี้ซิกเซอร์ส แพ้ มินเนโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์ 95-100
,ฟีนิกซ์ ซันส์ แพ้ ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส 84-98
,โอกลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์ ชนะ ยูทาห์ แจซซ์ 111-89
นักรบกู้ชาติ นิว อิงแลนด์ เพเทรียตส์ คว้าชัย 10 เกมติดหลังเปิดบ้านเอาชนะ ควายป่า บัฟฟาโล บิลล์ส ไปอย่างเหนือชั้น 20-13
null
อเมริกันฟุตบอล,เอ็นเอฟแอล,สหรัฐอเมริกา,ฤดูกาล 2015-16,นักรบกู้ชาติ,นิว อิงแลนด์ เพเทรียตส์,ควายป่า,บัฟฟาโล บิลล์ส,บาสเกตบอล,เอ็นบีเอ,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/541614
เมอร์เรย์ อัดเพื่อนร่วมชาติ ลิ่วตัดเชือกเทนนิสไชน่า โอเพ่น
เซตแรกเป็นไปอย่างสูสี โดยทั้งคู่ทำคะแนนมาเสมอกันที่ 6-6 ต้องสู้กันในช่วงไทเบรก ก่อนที่เมอร์เรย์จะเฉือนชนะไป 7-6 ไทเบรก 11-9,ในเซตที่ 2 เอดมันด์ แผ่วไปเฉยๆ ทำให้เมอร์เรย์ที่เล่นได้ดีต่อเนื่อง หวดเอาชนะไป 6-2 ทำให้ชนะ 2-0 เซต ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ไปพบกับ ดาบิด เฟร์เรร์ มือวางอันดับ 5 จากสเปน ที่พิชิต อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ จากเยอรมัน 2-1 เซต 6-7 ไทเบรก 4-7, 6-1, 7-5,ผลรอบ 2 ประเภทชายเดี่ยว มีดังนี้,มิลอส ราโอนิค (แคนาดา, มือ 3) ชนะ มาเลค จาซิรี (ตูนีเซีย) 2-0 เซต 6-3, 6-4,พาโบล การ์เรโน บุสตา (สเปน) ชนะ ริชาร์ด กาสเกต์ (ฝรั่งเศส, 8) 2-1 เซต 5-7, 6-4, 6-1,พาโบล คาร์เรโน แพ้ มิลอส ราโอนิค 0-2 เซต 4-6,4-6,กริกอร์ ดิมิตรอฟ ชนะ ราฟาเอล นาดาล 2-0 เซต 6-2,6-4,ผลรอบ 8 คนสุดท้าย ประเภทหญิงเดี่ยว มีดังนี้,เมดิสัน คีย์ส (สหรัฐอเมริกา, 8) ชนะ เพตรา ควิโตวา (เช็ก, 14) 2-1 เซต 6-3, 6-7 ไทเบรก 2-7, 7-6 ไทเบรก 7-5,โจแฮนนา คอนทา (สหราชอาณาจักร, 11) ชนะ จาง ฉ่วย (จีน) 2-0 เซต 6-4,6-0
แอนดี เมอร์เรย์ ทำผลงานดีตามคาด หลังไล่หวดเอาชนะเพื่อนร่วมชาติ 2-0 เซต ตบเท้าเข้าตัดเชือก ศึกไชนา โอเพ่น 2016 ได้สำเร็จ โดยจะพบกับ ดาบิด เฟร์เรร์ มือดีจากแดนกระทิงดุ
null
แอนดี เมอร์เรย์,ไชน่าโอเพ่น,ไชนา โอเพ่น,เทนนิสไชนา โอเพ่น,ดาบิด เฟร์เรร์
https://www.thairath.co.th/content/746787
ไม่เคยบอก จะไม่อุทธรณ์ แม่ไม่เชื่อ เปรี้ยวพอใจคำพิพากษา
เวลา 13.00 น. วันที่ 17 พ.ค.61 ที่สำนักงานทนายความบุญยง แก้วฝ่ายนอก ตั้งอยู่เลขที่ 42/65 ถนนอำมาตย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น น.ส.ประภาศิริ ประสมศรี พร้อมด้วย นางสาคร ภาษี พี่สาวและแม่ของ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว จำเลยคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม เดินทางมาจาก อ.เขาสวนกวาง เข้าพบกับนายบุญยง เพื่อขอคำปรึกษาในการยื่นอุทธรณ์ของเปรี้ยว,น.ส.ประภาศิริ ประสมศรี กล่าวถึงการเข้าพบนายบุญยง แก้วฝ่ายนอก ในครั้งนี้ว่า หลังจาก น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว น้องสาว ถูกศาลตัดสิน จำคุก 34 ปี 6 เดือน ในคดีร่วมกันฆ่า น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม ซึ่งขณะนี้น้องสาวถูกจำคุกอยู่ภายในเรือนจำกลางจังหวัดขอนแก่น และมีข่าวทางสื่อมวลชนว่า น้องสาวไม่ขอยื่นอุทธรณ์นั้น อาจเป็นเพราะน้องสาวยังตกใจในคำพิพากษาของศาล และยังไม่เข้าใจการอุทธรณ์ว่ามันคืออะไร จึงได้เข้าหารือกับทนายบุญยง เนื่องจากว่าในคดีดังกล่าวทีมทนายความมีทนายบุญยงเป็นหัวหน้าทีม เพื่อจะนำสิ่งที่ได้หารือกัน เข้าไปบอกน้องสาวในเรือนจำ ซึ่งตนจะเข้าไปเยี่ยมในช่วงบ่ายวันนี้ และมั่นใจว่า น้องสาวจะยื่นอุทธรณ์ ขณะที่นางสาคร ภาษี แม่ กล่าวว่า เปรี้ยวต้องอุทธรณ์อยู่แล้ว เปรี้ยวไม่เคยบอกว่าจะไม่อุทธรณ์ เพราะเปรี้ยวไม่ได้ตั้งใจฆ่าคนตาย ,ทางด้าน นายบุญยง แก้วฝ่ายนอก ทนายความ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้มีคำพิพากษาในคดีร่วมกันฆ่าน.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม โดยมีคำสั่งจำคุกจำเลยที่ 1 น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว และ จำเลยที่ 2 น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิน คนละ 34 ปี 6 เดือน, จำเลยที่ 3 น.ส.จิดารัตน์ พรมคุณ หรือเบนซ์ จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา, จำเลยที่ 4 นายวศิน นามพรม หรือนิว จำคุก 23 ปี 4 เดือน 20 วัน และจำเลยที่ 5 น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ จำคุก 33 ปี 9 เดือน รวมทั้งให้ชดใช้ค่าเสียหายกับครอบครัวของน้องแอ๋ม รวม 1,170,000 บาท แยกเป็นค่าปลงศพ 100,000 บาท และค่าอุปการะเลี้ยงดู 1,070,000 บาท โดยคิดเป็นอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปี ,ในวันนี้ มารดาและพี่สาวของน.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว ได้มาหารือในเรื่องการยื่นขออุทธรณ์ เพราะมารดาและพี่สาวยืนยันว่า เปรี้ยวจะอุทธรณ์มาตลอด แต่เมื่อมีข่าวออกมาว่า เปรี้ยวพอใจกับคำตัดสินของศาลชั้นต้น ไม่ขอใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ใดๆ พี่สาวและมารดาจึงจะเข้าเยี่ยมเปรี้ยว เพื่อขอคำยืนยันอีกครั้ง ในส่วนของทนายความทีมของฝ่ายจำเลยที่ดูแลอยู่ ก็จะได้เรียกประชุม ทำความเข้าใจกันใหม่
แม่เผย เปรี้ยวไม่เคยบอกจะไม่อุทธรณ์ เตรียมเข้าเยี่ยมลูกขอคำยืนยัน หลังมีข่าวพอใจในคำพิพากษา ขณะที่หัวหน้าทนาย จะเรียกทีมงานของฝ่ายจำเลยมาประชุมอีกครั้ง
ข่าว,ทั่วไทย
เปรี้ยว,ฆ่าหั่นศพ,น้องแอ๋ม,เปรี้ยวไม่อุทธรณ์,คดีเปรี้ยว,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1284297
นักวิชาการเชื่อขึ้นค่าจ้าง 300 บาททำได้
นายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ นักวิชาการด้านแรงงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายดิเรก ปัทมสิริวัฒน์ นักวิชาการจากคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ร่วมเสวนา ซึ่งต่างออกมายืนยันตรงกันว่า นโยบายนี้สามารถทำได้จริง แต่ต้องควบคู่กับการควบคุมราคาสินค้า เพราะที่ผ่านมา นายจ้างฉวยโอกาสนำต้นทุนจากการปรับขึ้นค่าจ้าง ร้อยละ 3 มาปรับเพิ่มราคาสินค้าที่ ร้อยละ 10-15ขณะเดียวกัน นอกจากมาตรการลดหย่อนภาษีรัฐบาลชุดใหม่ควรหามาตรการอื่น มาสร้างแรงจูงใจ เช่นจัดตั้งกองทุนดอกเบี้ยต่ำ ปล่อยกู้ให้กับนายจ้าง ในการสร้างหอพักใกล้กับสถานประกอบการ เพื่อประหยัดค่าเดินทางและค่าที่พักของลูกจ้าง ในกรณีที่ไม่สามารถจ่ายค่าจ้างได้ถึง 300 บาท และจากการวิเคราะห์มั่นใจว่า หากมีการปรับขึ้นค่าจ้างจริง จะมีการปลดคนงานน้อย เพราะหาคนงานยาก และการปรับค่าจ้างควรเร่งทำภายใน 6 เดือนขณะที่เครือข่ายองค์กรแรงงานเรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าจ้างในอัตราเดียวกันทั่วประเทศ หรือตามกลุ่มอุตสาหกรรมเป็นประจำทุกปี รวมทั้งให้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ ซึ่งมีตัวแทนจากทุกฝ่าย มาร่วมทำงาน เพื่อหาแนวทางในการทำนโยบายค่าจ้าง 300 บาทให้เป็นความจริงด้านนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล รองประธานคณะกรรมการบริหารการเงินฯ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวถึง นโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ของรัฐบาลใหม่ว่า เป็นสิ่งที่เหมาะสมเนื่องจากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาอัตราค่าแรงขั้นต่ำปรับเพิ่มเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนีราคาสินค้า ปรับแซงหน้าค่าแรงโดยปี 2553 อัตราค่าแรงขั้นต่ำในกรุงเทพมหานครอยู่ที่วันละ 206 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่อยู่ที่วันละ 157 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1.3 เท่า ขณะที่ดัชนีราคาสินค้าเพิ่มขึ้น 1.4 เท่า ซึ่งสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ทำให้แรงงานตกอยู่ในสถานะเสียเปรียบโดยเห็นว่าการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้นจะทำให้มีทั้งผู้ได้ประโยชน์ และเสียประโยชน์ ดังนั้นรัฐบาลใหม่จะต้องมีการบริหารจัดการที่ดี หรือการเข้าไปดูแลเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ เช่น เอสเอ็มอี โดยการลดภาษีบางอย่าง การให้สินเชื่อเพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ขณะเดียวกัน ก็ควรเพิ่มประสิทธิภาพของแรงงานด้วย
นักวิชาการจากหลายสถาบันต่างยืนยันว่าการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาทของรัฐบาลใหม่สามารถทำได้จริง และส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มเพียงร้อยละ 3
เศรษฐกิจ
Election54,hilight,ค่าจ้าง,นักวิชาการ,สัมมนา,เลือกตั้ง
https://news.thaipbs.or.th/content/24910
สมาพันธ์เกษตรกรรายย่อย ชุมนุมล้อม ก.คลัง ก่อนไปต่อทำเนียบ จี้รัฐฯ แก้ปัญหา
น.เกษตรกรจำนวนราว 500 คน ในนามสมาพันธ์เกษตรกรรายย่อย ปิดล้อมหน้ากระทรวงการคลัง ถนนพระราม 6 ขวางประตูทางเข้า-ออกทุกประตู เพื่อเรียกร้องให้แก้ปัญหาหนี้สินเกษตร การขวางทุกประตูเข้า-ออกของกลุ่มเกษตรกรทำให้ ข้าราชการไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ แต่ทางตำรวจได้เจรจาจนสามารถสัญจรได้แล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินเท้าต่อไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดันระหว่างที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ เรียกร้องให้แก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร โดยจะให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาแก้ด้วยตนเอง เพราะว่ากองทุนฟื้นฟูมีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง ทำให้การแก้ไขปัญหาไม่คืบหน้า ยังคงมีการขายที่ดินของเกษตรกรทอดตลาด พร้อมปราศรัยเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ ยืนยันว่าหากไม่ทำตามข้อเรียกร้องจะมีการปิดล้อมตลอดทั้งวันปิดการจราจรบริเวณแยกพาณิชย์ ใกล้สนามม้านางเลิ้ง ส่งผลให้การจราจรรอบทำเนียบรัฐบาลค่อนข้างติดขัด ด้าน นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลมีแนวโน้มปรับโครงสร้างหนี้ให้เกษตรกร โดยได้มอบหมายผ่านทางกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรอยู่แล้ว ซึ่งจะเร่งเจรจาไปยังเกษตรกรแต่ละกลุ่มที่เดือดร้อน โดยขอให้เกษตรกรไม่ต้องเป็นห่วง เรียบเรียงจาก: ASTVผู้จัดการ และ มติชนออนไลน์
ม็อบเกษตรกรเดินหน้าชุมนุมจากกระทรวงการคลัง ไปชุมนุมต่อที่หน้าทำเนียบฯ ร้องรัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร แฉกองทุนฟื้นฟูถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง วานนี้ (4 เม.ย.54) ตั้งแต่ 06.00
คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน
กระทรวงการคลัง,กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร,การชุมนุม,ทำเนียบรัฐบาล,ม็อบเกษตรกร,สมาพันธ์เกษตรกรรายย่อย
https://prachatai.com/journal/2011/04/33886
นิพิฏฐ์ ชวน กรธ.จัดเวทีถกร่าง รธน.ออกทีวี
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี กรธ.กำหนดคิวชี้แจงเรื่องเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญกับ สนช. สปท.และภาคประชาชน ในช่วงเดือน ก.พ.2559 ว่า การที่ กรธ.ยังไม่วางคิวชี้แจงนักการเมืองเพราะคงคิดว่า 1. นักการเมืองแสดงความเห็นผ่านสื่อให้ได้ยินกันอยู่แล้ว 2. ถ้าให้ฝ่ายการเมืองเข้าแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาจริงๆ อาจมีบางประเด็นที่ประชาชนเห็นด้วยกับนักการเมืองมากกว่าฝ่ายผู้ร่าง ทำให้รัฐธรรมนูญจะสุ่มเสี่ยงไม่ผ่านประชามติ อย่างไรก็ตาม ควรเปิดเวทีที่ไม่ใช่การดีเบต แต่ให้แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง เช่น จัดเวทีผ่านรายการโทรทัศน์บางช่องก็ได้ ถ้าช่องของรัฐไม่ทำก็ให้เอกชนจัดน่าจะเป็นแนวทางที่ดี การร่างรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าไม่เปิดเวทีให้แสดงความคิดเห็นใดๆเลยจะถือว่าผิดปกติ,รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายสมพงษ์ สระกวี สมาชิก สปท.ออกมาเตือน กรธ.อย่าคิดว่า รัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติง่ายๆ ถ้านักการเมืองสองพรรคใหญ่จับมือกันออกมาคัดค้านว่า ไม่อยากให้ใครคิดว่า การร่างรัฐธรรมนูญคือต้องเอาชนะคะคานกัน ถ้ายิ่งขัดแย้งทุกอย่างจะไม่มีที่สิ้นสุด ความจริงรัฐบาลควรใช้โอกาสที่กำลังร่างรัฐธรรมนูญ เป็นบททดสอบว่าบ้านเมืองจะปรองดองสมานฉันท์กันได้หรือไม่ โดยเปิดให้ทุกฝ่ายพูดคุยกัน ง่ายกว่าใช้เรื่องนิรโทษกรรมมาทดลองเป็นไหนๆ อย่างไรก็ตาม กรธ.วันนี้แม้จะถูกหลายฝ่ายวิจารณ์ แต่ในฐานะผู้ร่าง ผู้สร้าง อาจถูกติติง ห้ามตอบโต้เด็ดขาด ต้องอดทน ชี้แจงจนกว่าประชาชนจะเข้าใจ แม้จะรู้ดีว่ามีพวกพูดออกนอกกรอบบ้างก็ห้ามไปทะเลาะด้วย ซึ่งจะพิสูจน์วุฒิภาวะว่า กรธ.มีมากแค่ไหน.
นิพิฏฐ์ ชวน กรธ.จัดเวทีถกร่าง รธน.ออกทีวี เพื่อให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง แนะรัฐบาลควรใช้ รธน.พิสูจน์บ้านเมืองจะปรองดองสมานฉันท์กันได้หรือไม่ โดยเปิดให้ทุกฝ่ายพูดคุยกัน ง่ายกว่าใช้เรื่องนิรโทษกรรม
null
ร่างรัฐธรรมนูญ,ร่าง รธน.,นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ,พรรคประชาธิปัตย์,แสดงความคิดเห็น ร่าง รธน.,เวทีดีเบต,ออกโทรทัศน์,กรธ.,ปรองดอง,สมานฉันท์,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/567028
ร้องปอศ.ถูกสาว ป.โท หลอกลงทุนหุ้น ก่อนเชิดเงินหนี เสียหายกว่า 100 ล.
เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ 22 พ.ค.60 ที่กองบังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นายยุทธนา ญาณโยธิน ทนายความ อายุ 40 ปี พร้อมผู้เสียหายประมาณ 10 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พงศ์พจน์ ธรรมากุลวิชช์ รองผกก.5 บก.ปอศ. เพื่อแจ้งความเอาผิดกับ น.ส.ณิชภัทร ภัทรธาดา อายุ 32 ปี ชาวบ้าน ม.2 ต.บางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม ในความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4 ภายหลังหลอกผู้เสียหายกว่า 300 คน ร่วมลงทุนหุ้นโดยจะได้รับเงินปันผลและแจกเงินสดหรือทองคำ แต่กลับเงียบหายไปกว่า 1 เดือน รวมมูลค่าความเสียหาย 100 ล้านบาท,น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย อาชีพทำสวน เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับ น.ส.ณิชภัทร ตั้งแต่ทำงานอยู่ที่บริษัทเกี่ยวกับการจัดการพื้นที่เช่าห้างสรรพสินค้า ก่อนที่ตนจะลาออกมาเป็นคนสวน ส่วน น.ส.ณิชภัทร ได้ออกมาทำงานเป็นเซลส์ขายบรรจุภัณฑ์พลาสติก ย่านสามพราน เรียนจบ ป.โท ทั้งนี้ในช่วงเดือน ก.ค.59 ตนเริ่มเห็น น.ส.ณิชภัทรโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อชักชวนคนที่เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กและบุคคลอื่นที่สนใจร่วมลงทุนหุ้น ราคาหุ้นละ 100 บาท หากลงทุนจะได้รับเงินปันผล 3% ของเงินที่ลงทุนในทุกๆ 7 วัน และมีการจัดโปรโมชั่นดึงดูดความสนใจ อาทิ ลงทุน 5,000 หุ้น (500,000 บาท) ซึ่งเป็นราคาหุ้นสูงสุด จะได้รับเงินสดคืนพิเศษนอกจากเงินปันผล 3% จำนวน 29,000 บาท ส่วนราคาหุ้นต่ำสุด ลงทุน 200-499 หุ้น (20,000-49,000) จะได้รับเงินสดคืน 100 บาท ตามเรตที่ตั้งไว้ เมื่อมีคนสนใจก็จะดึงเข้ากรุ๊ป บ้านเลขที่ 5 ซึ่งเป็นกลุ่มปิดบุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้ เพื่อแจ้งรายละเอียดการลงทุนหุ้นและโปรโมชั่น เมื่อมีคนลงทุนหุ้นตามโปรโมชั่นใด ก็จะถูกดึงเข้ากรุ๊ปแชตเฟซบุ๊กของโปรโมชั่นนั้น เพื่อสรุปยอดผู้ลงทุนแต่ละสัปดาห์ ซึ่งตนเห็นว่ามีคนสนใจ เข้ามาคอมเมนต์โพสต์ของน.ส.ณิชภัทร และร่วมลงทุนจำนวนมาก จึงตัดสินใจร่วมลงทุนด้วยในเดือน ส.ค.59,น.ส.เอ (นามสมมติ) เปิดเผยต่อว่า เริ่มแรก ตนลงทุนเป็นเงิน 10,000 บาท ทุก 7 วัน ก็ได้รับเงินปันผลกลับมา 3% เท่ากับ 300 บาท ก่อนจะลงทุนเพิ่มและนำเงินปันผลที่ได้ไปร่วมลงทุนด้วยต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือน ส.ค.59 ถึงปัจจุบัน เป็นเงินประมาณ 800,000 บาท จนกระทั่ง เมื่อปลายเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา ทางน.ส.ณิชภัทร เริ่มมีปัญหาในการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ร่วมลงทุน โดยอ้างว่ามีสมาชิกถอนเงินไปจำนวนมาก ทำให้ขาดสภาพคล่อง จึงจ่ายเงินปันผลช้ากว่ากำหนด พอถึงช่วงต้นเดือนเม.ย. มีสมาชิกบางคนเห็นว่าอาจถูกหลอกลงทุน จึงจะไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางน.ส.ณิชภัทร ก็ได้ข่มขู่กลับมาว่า หากไปแจ้งความจะไม่จ่ายเงินปันผลให้ จนกระทั่ง ปลายเดือนเม.ย. ไม่มีการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ร่วมลงทุน สมาชิกเลยพยายามติดต่อกับ น.ส.ณิชภัทร ทางแชตเฟซบุ๊กและโทรศัพท์แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงเดินทางไปที่บ้านพักของน.ส.ณิชภัทร ซึ่งอยู่ย่านศาลายา จ.นครปฐม ปรากฏว่าบ้านปิดเงียบและไม่พบใคร จึงรวมตัวมาแจ้งความกับตำรวจ บก.ปอศ.ในวันนี้.,ด้าน พ.ต.ท.พงศ์พจน์ กล่าวว่า เบื้องต้นอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหายและรวบรวมหลักฐาน หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง จึงจะดำเนินการออกหมายเรียก น.ส.ณิชภัทร ให้มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป.
กลุ่มผู้เสียหายประมาณ 10 คนพร้อมทนายเดินทางเข้าแจ้งความตำรวจ ปอศ. หลังถูกสาว ป.โท หลอกลงทุนหุ้น โดยอ้างเอาเรื่องเงินปันผลมาเป็นเครื่องล่อใจ ก่อนเชิดเงินหนีสูญเงินกว่า 100 ล้านบาท
ข่าว,ทั่วไทย
หลอกลงทุนหุ้น,สาว ป.โท,หลอกลงทุน,ต้มตุ๋น,หลอกลงทุนทองคำ
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/948967
แม่ พ่อเลี้ยง เสพยาบ้า เมาน้ำท่อม ทำร้ายลูกชายเจ็บหนัก ปล่อยให้อดข้าว
เมื่อวันที่ 10 ม.ค.62 ที่ผ่านมา นางสาวชนัญธิดา สุดรอด พนักงานคุ้มครองบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชุมพร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปช่วยเหลือ เด็กชายเอ (นามสมมติ) อายุ 1 ขวบ 11 เดือน ส่งโรงพยาบาล โดยมี นางสาวไก่ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ผู้เป็นแม่ของเด็กติดตามมาด้วย,จากการตรวจร่างกาย เด็กชายเอ พบว่า ที่เบ้าตาทั้ง 2 ข้างมีรอยเขียวช้ำ ที่หน้าอก แขนขวา กลางแผ่นหลัง มีรอยถูกทำร้ายเขียวคล้ำ มีรอยฟันคล้ายถูกกัดอีกหลายแห่งตามลำตัว มีอาการบอบช้ำภายใน และพบว่าเด็กมีสภาวะขาดสารอาหาร ความเข้มข้นของเลือดต่ำมากมีเพียง 14% จากปกติ 33% กำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤติ อาจทำให้เกิดอาการช็อกและเสียชีวิตได้ ,นางสาวไก่ เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ได้เลิกรากับสามีเก่าตอนเด็กชายเออายุได้ 7 เดือน แล้วมาได้สามีใหม่ชื่อ นายบอย (นามสมมติ) อายุ 26 ปี อาชีพรับจ้างตัดปาล์ม และไม่ได้มีฐานะมากมาย,หนูและสามีซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง ไม่ได้ทำร้ายลูก อาจจะตีบ้างแต่ไม่รุนแรง เนื่องจากลูกชายชอบร้องไห้งอแง ส่วนรอยฟันที่กัดนั้นไม่ได้ตั้งใจ ตนกัดแค่เพียงหยอกกันตามประสาแม่ลูกเท่านั้น,อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบสอบประวัติทั้งคู่ที่ผ่านมา พบว่ามีพฤติกรรมเสพยาบ้า และน้ำต้มใบกระท่อม หรือสี่คูณร้อย ไม่ค่อยสนใจเด็กชายเอ ปล่อยให้ต้องอดอาหาร และให้กินแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จนเด็กชายเอร้องไห้งอแงด้วยความหิว,ขณะเดียวกัน เด็กชายเอ ก็จะถูก นายบอย พ่อเลี้ยงทุบตี ขณะที่นางสาวไก่ แม่แท้ๆ ก็จะทุบตีทำร้ายร่างกายให้ลูกหยุดร้องไห้อยู่เป็นประจำเช่นกัน ทำให้ตามร่างกายเด็กชายเอ มีบาดแผลจากการถูกทำร้ายและรอยเขียวช้ำสะสมเรื่อยมาจนดูสภาพบอบช้ำอย่างมาก,ทั้งนี้ จากเจ้าหน้าที่ได้นำเด็กชายไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์แล้ว และจะให้อยู่ในความคุ้มครองดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชุมพร พร้อมกับจะดำเนินการกับ นางสาวไก่ และ นายบอย ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 ต่อไป.
รุดช่วยเด็กชายวัยขวบกว่าถูกแม่แท้ๆ กับพ่อเลี้ยงเมายาบ้า 4X100 ทุบตีเป็นแผลทั่วตัว ขอบตาเขียวช้ำ แถมปล่อยให้อดข้าวจนร่างกายขาดสารอาหารขั้นวิกฤติ
ข่าว,สังคม
ทำร้ายลูก,ทำร้ายลูกเลี้ยง,เมายาบ้า,เมาน้ำท่อม,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1467023
บิ๊กป้อม บอก ดี ขยายเวลาบังคับใช้ก.ม.ไป 90 วัน ปัดกระทบเชื่อมั่นบิ๊กตู่
วันที่ 26 ม.ค. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวถึงกรณี ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.โดยขยายเวลาบังคับใช้ออกไป 90 วัน ว่า เป็นเรื่องที่ดีเพราะถึงอย่างไรการเลือกตั้งก็ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แม้จะไม่เป็นไปตามโรดแม็ป ที่เคยประกาศไว้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปีนี้ แต่เมื่อ สนช.เห็นชอบก็คงไม่สามารถทำอะไรได้ ขณะเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องชี้แจงให้ต่างประเทศเข้าใจและเชื่อว่า ไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นในตัวของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่เคยป่าวประกาศไว้กับผู้นำทั่วโลกเนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นมติชัดเจนของ สนช. ที่สำคัญในเมื่อต่างชาติต้องการให้ไทยมีการเลือกตั้ง ไทยก็กำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้งเพียงแต่อาจจะล่าช้าออกไปอีกสามเดือน,ขณะเดียวกันปฏิเสธว่า การลงมติของ สนช.ไม่ได้เป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อยืดเวลาการเลือกตั้งตามที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตและไม่ทราบว่าคิดเช่นนั้นได้อย่างไรเพราะเห็นอยู่ว่าสมาชิก สนช.ทำการอภิปรายร่างกฎหมายดังกล่าวทั้งวันทั้งคืน,เมื่อถามว่า หากเป็นไปตามนี้ ยืนยันได้หรือไม่ว่า ต้นปี 2562 จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น พลเอกประวิตร ระบุว่า เป็นเรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้วตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ โดยเชื่อว่า ไม่น่าจะมีปัจจัยอะไรให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก หากอยู่ด้วยความสงบแบบทุกวันนี้ และหากทุกอย่างดำเนินการเสร็จเรียบร้อยก็จะพิจารณาปลดล็อกทางการเมือง
บิ๊กป้อม บอกเป็นเรื่องดี ขยายเวลาบังคับใช้ก.ม.ไป 90 วัน ยัน มีเลือกตั้งแน่ ชี้ ปัดสนช.ยื้อเลือกตั้ง ไม่จำเป็นชี้แจงต่างประเทศ เชื่อไม่กระทบความเชื่อมั่นนายกฯ หากดำเนินการเรียบร้อยพิจารณาปลดล็อกการเมือง
เลือกตั้ง
บิ๊กป้อม,เลือกตั้ง,เลื่อนเลือกตั้ง,ขยายเวลาบังคับใช้ก.ม. 90 วัน,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1187338
ไม่แคร์สื่อ ปธ.ฮัลล์ เตรียมยื่นเรื่องขอเปลี่ยนชื่อทีมอีกรอบ
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 17 มี.ค. ว่า อัสเซม อัลเลน ประธานสโมสรฮัลล์ ซิตี ในศึกพรีเมียร์ลีก อาศัยจังหวะชุลมุนระหว่างฤดูกาล เตรียมยื่นเรื่องขอสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือเอฟเอ เพื่อขอเปลี่ยนชื่อสโมสรอีกครั้ง หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมา ถูกปัดคำร้องไปอย่างไร้เยื่อใย,มหาเศรษฐีชาวอียิปต์ ซึ่งเข้ามาถือหุ้นเป็นเจ้าของสโมสรฮัลล์ ซิตี คนล่าสุด ต้องการที่จะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ฮัลล์ ไทเกอร์ส โดยอ้างว่าที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อชื่อเสียงและผลประโยชน์อันดีที่จะตกอยู่กับสโมสร แต่ไม่ได้รับการเห็นชอบจากแฟนบอลที่ต้องการให้สโมสรแห่งนี้ใช้ชื่อเดิมเหมือนที่เคยเป็นมากว่า 110 ปี,ด้านสมาพันธ์ฟุตบอลอังกฤษ ได้ออกมาให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวโดยชี้ว่า การยื่นเรื่องดังกล่าวไม่ได้รับการเห็นชอบจากบุคคลที่มีส่วนได้เสีย จึงต้องให้มีการประชุมกับ มิลส์ คลาร์ก ประธานสหพันธ์กองเชียร์แห่งอังกฤษเสียก่อน เพื่อหาข้อสรุปและยื่นคำร้องกลับมาอีกครั้ง,ขณะที่ มิลส์ คลาร์ก ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของสหพันธ์กองเชียร์แห่งเมืองผู้ดี กล่าวว่า การตัดสินใจทุกอย่างควรสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มกองเชียร์ของสโมสร โดยมีการลงความเห็นจากทุกฝ่ายเสียก่อน จึงจะมีการยื่นเรื่องเปลี่ยนชื่อทีม และไม่ได้ทำไปด้วยความอคติ หรือลำเอียงแต่อย่างใด,อย่างไรก็ตาม ได้มีการเปิดช่องให้กับประธานของทีม เดอะ ไทเกอร์ส ยื่นเรื่องอีกรอบ โดยขณะนี้ไม่สามารถเปลี่ยนชื่อสโมสรได้ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการแข่งขันในฤดูกาล แต่สามารถทำได้อีกครั้งหลังจากปิดซีซั่น เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในการแข่งขันฤดูกาลถัดไป
ประธานสโมสร ฮัลล์ ซิตี เตรียมทำเรื่องช็อกความรู้สึกแฟนบอลอีกครั้ง ด้วยการขอยื่นเรื่องเปลี่ยนชื่อสโมสรเป็น ฮัลล์ ไทเกอร์ส หลังจากถูกปฏิเสธจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษเมื่อปีที่แล้ว
null
ฮัลล์ ซิตี,ฮัลล์ ไทเกอร์ส,เดอะ ไทเกอร์ส,อัสเซม อัลเลม,พรีเมียร์ลีก,สมาคมฟุตบอลอังกฤษ,เอฟเอ,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/487463
BTS พร้อมอำนวยความสะดวกช่วงหยุดยาว 4 วัน
วันนี้ (24 ก.ค.2563) นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาววันที่ 25 – 28 ก.ค.นี้ ได้เตรียมพร้อม ด้านการให้บริการ และความปลอดภัย พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร ที่จะใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้บริการจำนวนมากด้านการอำนวยความสะดวก ได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและให้บริการ ประชาสัมพันธ์จุดให้บริการเชื่อมต่อรถรับจ้างสาธารณะ ขสมก. แท๊กซี่ หรือ การเดินทางต่อเรือ ผู้โดยสารที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัด สามารถเดินทางลงที่ สถานีหมอชิต ออกประตูที่ 1 3 เพื่อเดินทางต่อไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต 2)หรือ ลงสถานีเอกมัย ทางออกประตูที่ 2 เพื่อเดินทางต่อไปยัง สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (เอกมัย) หรือจะเดินทางลงที่ สถานีบางหว้า ทางออกประตูที่ 5 ไป ท่าเรือบางหว้า เพื่อต่อเรือโดยสารคลองภาษีเจริญ หรือลงที่ สถานีสะพานตากสิน ทางออกประตูที่ 1 2 ไปท่าเรือสาทร เพื่อข้ามเรือไปท่องเที่ยวต่อตามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานอกจากนี้เพื่อลดปริมาณความหนาแน่นของผู้มาใช้บริการ บีทีเอสยังคงจัดขบวนรถไฟฟ้าออกให้บริการ แก่ประชาชน ทั้งหมด 98 ขบวน เพื่อเพิ่มความสะดวก และขอให้ผู้โดยสารทุกท่านโปรดเผื่อเวลาในการเดินทางด้านการรักษาความปลอดภัย เพิ่มมาตรการเพื่อป้องกัน และดูแลความปลอดภัยในทุกด้าน โดยให้ทุกสถานีมีการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เข้มงวดในการตรวจสัมภาระผู้โดยสารก่อนเข้าระบบรถไฟฟ้า เพื่อตรวจหาวัตถุต้องห้ามที่ไม่สามารถนำเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้านอกจากนี้ ยังคงเข้มงวดในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เน้นย้ำให้ผู้โดยสาร สวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า ระหว่างการเดินทาง งดการพูดคุยภายในขบวนรถไฟฟ้า และงดคุยโทรศัพท์ในขบวนรถไฟฟ้า 100 % พร้อมทั้งควบคุมความหนาแน่นของผู้โดยสารทั้งในชานชาลา และในขบวนรถไฟฟ้า
บีทีเอสพร้อมอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ในช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ทั้งการบริการขบวนรถ ความปลอดภัย และการเฝ้าระวังไวรัส COVID-19
เศรษฐกิจ
COVID-19,โควิด19,วันหยุดยาว
https://news.thaipbs.or.th/content/294882
ทรัมป์ ชี้การระบาด COVID-19 ในสหรัฐฯ ถึงจุดสูงสุดแล้ว
วันนี้ (19 เม.ย.2563)ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวว่าการระบาดของCOVID-19 ในทั่วทุกพื้นที่ของสหรัฐฯ ถึงจุดสูงสุดแล้ว พร้อมทั้งระบุว่ารัฐเท็กซัสและรัฐเวอร์มอนต์ จะอนุญาตให้ธุรกิจบางประเภทเริ่มเปิดทำการในวันพรุ่งนี้ (20 เม.ย.) แต่ยังคงต้องปฏบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อผู้นำสหรัฐฯ ยังคงพยายามหาทางที่จะให้รัฐต่างๆ ผ่อนคลายข้อจำกัดในมาตรการควบคุมโรค เพื่อให้สหรัฐฯ กลับมาเปิดเศรษฐกิจได้อีกครั้ง หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของCOVID-19 ทำให้ชาวอเมริกันว่างงานถึง 22 ล้านคน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการผ่อนคลายมาตรการควบคุม โรคที่เร็วเกินไปจะก่อให้เกิดหายนะนอกจากนี้ผู้นำสหรัฐฯยังเตือนจีนว่าจะเผชิญผลพวงที่เลวร้าย หากสืบรู้ได้ว่าจีนต้องรับผิดชอบต่อการระบาดที่ลุกลามไปทั่วโลก โดยก่อนหน้านี้ทรัมป์และที่ปรึกษาระดับสูงต่างวิพากษ์วิจารณ์จีน อย่างเผ็ดร้อนว่าขาดความโปร่งใสกรณีการระบาดของ COVID-19 ในเมืองอู่ฮั่นจนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 735086 คน เสียชีวิตรวม 38910 คน ข้อมูลจาก Johns Hopkins University (JHU) วันนี้ 19 เม.ย.63 เวลา 12.55 น.เยอรมนีควบคุมการระบาดได้แล้วด้านนายเยนส์ สฟาห์น รัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนี เปิดเผยว่า มาตรการล็อกดาวน์นาน 1 เดือน ช่วยให้เยอรมนีสามารถควบคุมการระบาดของCOVID-19 ได้ โดยนับตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาหายพุ่งสูงกว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ ขณะที่อัตราการติดเชื้อลดลงเหลือร้อยละ 0.7 ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้ติดเชื้อแต่ละรายแพร่เชื้อไปให้กับคนอื่นได้น้อยลงเยอรมนีมียอดผู้เสียชีวิตจากCOVID-19 อยู่ที่ 3868 คน น้อยกว่าอิตาลี สเปน และฝรั่งเศส และมีผู้ติดเชื้อ 134000 คน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าการระบาดของ COVID-19 ในสหรัฐฯ ถึงจุดสูงสุดแล้ว และรัฐบางรัฐจะอนุญาตให้ธุรกิจบางประเภทเริ่มเปิดทำการได้ในวันพรุ่งนี้ (20 เม.ย.)
ต่างประเทศ
COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,สหรัฐฯ
https://news.thaipbs.or.th/content/291366
โจรใต้ยิงถล่มชาวบ้านตาย 1 เจ็บ 3 ที่ตากใบ
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 2 พ.ย. 57 ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงถล่มใส่บ้านเลขที่ 154/1 บ้านตาเซ๊ะ ม.2 ต.นานาค อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายประดับ แก้วเลี่ยม อายุ 43 ปี ขณะที่นายประดับและเพื่อนบ้าน กำลังนั่งคุยอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อน หน้าบ้านพัก ทำให้ นางสมพร โพธิโพช อายุ 40 ปี เสียชีวิตคาที่ ส่วน ส.ต.ต.ลิขิต ละดาศรี ผบ.หมู่ ตชด.447 นางรัญจวน ชำนาญกลาง และนายประดับ แก้วเลี่ยม ได้รับบาดเจ็บ และถูกส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก,โดยหลังเกิดเหตุ ชาวบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านของนายประดับ ได้ช่วยกันใช้อาวุธปืนยิงใส่คนร้ายที่นั่งอยู่ในรถยนต์กระบะ จนคนร้ายต้องขับรถยนต์กระบะหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุไปอย่างรวดเร็ว  หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตากใบ และเจ้าหน้าที่ทหารหมวดปืนเล็กที่ 4 ฉก.นราธิวาส 31 ได้กระจายกำลังกันติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่คาดว่า หลบหนีไปทาง บ้านโคกยามู ม.3 ต.นานาค แต่ขณะนี้ยังไม่พบตัวแต่อย่างใด
โจรใต้ยิงถล่มชาวบ้าน ตาย 1 เจ็บ 3 ที่ ตากใบ นราธิวาส ขณะเจ้าของบ้านและเพื่อนบ้านกำลังนั่งคุยกันที่หน้าบ้านพัก เจ้าหน้าที่จัดกำลังไล่ล่าแต่ไม่พบตัว
null
ยิงตาย,ตากใบ,ชาวบ้าน,นราธิวาส,คนร้าย,ยิงถล่ม,รถกระบะ,อาวุธปืน,ไม่ทราบขนาด,บ้านตาเซ๊ะ,นานาค,สมพร โพธิโพช,ทหารหมวดปืนเล็กที่ 4,ข่าวภูมิภาค
https://www.thairath.co.th/content/460869
ฆ่ายัดเก๋งถ่วงน้ำ
เจ้ามือหวย ถูกฟาดเละ ทรัพย์-หาย,ฆ่าสุดโหดเจ้ามือหวยรายใหญ่ คนร้ายใช้ของแข็งทุบหน้าผากและท้ายทอยแตกยุบ ใบหน้าแหลก เละ ยัดศพหมกท้ายรถเก๋งเหยื่อ เข็นลงคลองชลประทานเปลี่ยว ชาวบ้านเห็นแสงไฟท้ายรถแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยงมค้นหาก่อนลากขึ้นมาตรวจสอบพบรถล็อก กุญแจรถเสียบคาอยู่ เกียร์อยู่ตำแหน่งเกียร์ว่าง ในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยเกิดอุบัติเหตุ ตำรวจยกรถมาตรวจสอบที่โรงพักพบศพหมกฝากระโปรงท้าย ในรถพบโพยหวยยอดเงินนับแสนบาท ผกก.เผยก่อนเกิดเหตุเหยื่อขับรถไปหาเพื่อนที่ อ.ปากท่อ แล้วหายไปกระทั่งกลายเป็นศพ คาดคนร้ายไม่น้อยกว่า 2 คน รู้จักผู้ตายลวงไปสังหาร มุ่งปมฆ่าชิงทรัพย์ กับขัดผลประโยชน์ธุรกิจที่ทำอยู่,ฆ่าเหี้ยมเจ้ามือหวยรายใหญ่ยัดศพหมกท้ายรถเก๋งทิ้งคลองชลประทานรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 1 พ.ย. ร.ต.ท.ชุกรี ประดุกา พงส.สภ.เมืองราชบุรี รับแจ้งเหตุรถยนต์ตกลงไปในคลองชลประทาน หมู่ 3 ต.หินกอง คาดว่ามีคนติดอยู่ในรถ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อนินท์ ศรีสรรพางค์ ผกก. นำกำลังรุดไปสอบสวน,ที่เกิดเหตุเป็นคลองชลประทานมีน้ำเกือบเต็มและไหลเชี่ยว เป็นที่เปลี่ยวไม่มีบ้านเรือนใกล้ เคียง พบเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ กำลังงมค้นหารถจมน้ำมิดทั้งคัน โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯแจ้งว่ามีชาวบ้านขี่รถ จยย.มาตามถนนเลียบคลองชลประทานเห็นไฟท้ายรถยนต์อยู่ในน้ำ แจ้งไปเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯงมค้นหาเพราะเชื่อว่ามีคนติดอยู่ภายใน ซึ่ง เจ้าหน้าที่งมค้นหาจนพบแล้วใช้รถยกลากนานกว่า 1 ชั่วโมง สามารถนำรถขึ้นมาได้อย่างทุลักทุเล,พบว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถเก๋งฮอนด้าซีวิคสีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน สต 6041 กรุงเทพมหานคร รถถูกล็อก กระจกด้านซ้ายเปิดแง้มไว้ กุญแจรถยังเสียบคาอยู่ และเกียร์รถเป็นเกียร์ออโต้อยู่ในตำแหน่ง N หรือเกียร์ว่าง แต่ไม่พบคนติดในรถตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยว่ามีอุบัติเหตุ จึงยกรถกลับมาตรวจสอบที่โรงพัก พบว่าภายในรถมีโพยหวยใต้ดิน 3-4 แผ่น มียอดแทงจากลูกค้า หลายรายวงเงินนับแสนบาท,ปรากฏว่าเมื่อตำรวจงัดฝากระโปรงท้ายรถตรวจ สอบถึงผงะพบศพนายเกรียงศักดิ์ ชัยวิชิต อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 6 ต.ดอนไผ่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี สวมกางเกงขายาวสีดำซิปกางเกงขาด เสื้อยืดลายสีเข้มถูกถลกขึ้นไปคลุมศีรษะ มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็ง หน้าผากและท้ายทอยแตกยุบ ใบหน้าแหลกเละ แผ่นหลังมีรอยถลอกและพบเศษดินลูกรังติดอยู่กับกางเกง ข้อมือซ้ายสวมนาฬิการาโดเรือนทองฝังเพชร คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง,สอบสวนเบื้องต้นนายเกรียงศักดิ์มีอาชีพทำสวนผลไม้ และเป็นเจ้ามือหวยรายใหญ่ ยืมรถเก๋งคัน ดังกล่าวของลูกชายขับออกจากบ้านมาตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยบอกกับทางบ้านว่า จะไปหาเพื่อนที่ อ.ปากท่อ สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี ลวงผู้ตายไปสังหารแล้วยัดศพใส่ท้ายรถเก๋งเข็นลงคลองชลประทานเพื่ออำพรางคดี ส่วนทรัพย์สินที่หายไปมีสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง และกระเป๋าสตางค์ มุ่งปมฆ่าชิงทรัพย์ กับขัดผลประโยชน์ธุรกิจบางอย่างที่ผู้ตายทำอยู่,ทางด้าน พ.ต.อ.อนินท์ ศรีสรรพางค์ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้โทรศัพท์ติดต่อญาติผู้ตาย ยืนยันว่าสวมสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง และผู้ตายชอบพกเงิน ติดตัวจำนวนมาก คาดว่าคนร้ายนำ ไปด้วย เบื้องต้นคาดชนวนสังหารมาจากฆ่าชิงทรัพย์ ส่วนในประเด็นอื่นๆก็ยังไม่ตัดทิ้งไม่ขอเปิดเผยจะทำให้ผู้ตายเสียหาย ซึ่งตำรวจได้ประสานญาติมาสอบสวนเพื่อหาชนวนสังหารที่แท้จริง และเป็นข้อมูลสืบสวนหาตัวคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย,ต่อมาเวลา 16.00 น. พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผบก.ภ.จ.ราชบุรี เปิดเผยความคืบหน้าคดีว่าได้สั่งการเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานหาหลักฐานในรถ รวมทั้งร่องรอยต่างๆที่อยู่ตามรถและจุดที่เกิดเหตุ พร้อมได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและได้แบ่งมอบหน้าที่ติดตามคนร้าย ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายที่ต้องสงสัยเกี่ยวกับคดีดังกล่าวแล้วแต่ยังเปิดเผยไม่ได้ ส่วนสาเหตุนายเกรียงศักดิ์ถูกฆ่าโหดเบื้องต้นตั้งประเด็นฆ่าชิงทรัพย์ เนื่องจากญาติๆของผู้ตายยืนยันว่ามีสร้อยคอหนัก 10 บาท และเงินอีกจำนวนหนึ่งหายไป
ฆ่าสุดโหดเจ้ามือหวยรายใหญ่ คนร้ายใช้ของแข็งทุบหน้าผากและท้ายทอยแตกยุบ ใบหน้าแหลก เละ ยัดศพหมกท้ายรถเก๋งเหยื่อ เข็นลงคลองชลประทานเปลี่ยว
null
ข่าวหน้า1,ฆ่ายัดท้ายรถ,ถ่วงน้ำ,เจ้ามือหวย,ฆ่าเจ้ามือหวย,เกรียงศักดิ์ ชัยวิชิต,คลองชลประทาน,ราชบุรี
https://www.thairath.co.th/content/460732
อุตุฯคาด ปาบึก ขึ้นฝั่งราวบ่าย 3-4 โมงที่นครฯ
จ.นครศรีธรรมราช -ผู้ว่านครฯ สั่งการให้อพยพประชาชนจากอำเภอท่าศาลาไป ม.วลัยลักษณ์4 ม.ค.2562ภูเวียง ประคำมินทร์อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา พายุ ปาบึก (PABUK) ฉบับที่ 17 เมื่อเวลา 11.00 น. ระบุว่าเมื่อเวลา 10.30 น. ของวันนี้ (4 ม.ค. 62) พายุโซนร้อน ปาบึก (PABUK) บริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 125 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือที่ละติจูด 8.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 100.9 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็ว 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณระหว่างอำเภอปากพนังและอำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราชในวันนี้ (4 ม.ค. 62) ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ รายงานด้วยว่า ภูเวียง กล่าวว่า ขณะนี้พายุโซนร้อนปาบึกอยู่ห่างจากอ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราชราว 80 กิโลเมตร คาดว่าพายุจะขึ้นฝั่งในเวลา 15.00 - 16.30 น. ในบริเวณ อ.หัวไทร หรือ อ.ท่าศาลา หรือ อ.เมือง ของ จ.นครศรีธรรมราชสำหรับผลกระทบนั้น ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา พายุ ปาบึก (PABUK) ฉบับที่ 17 ระบุไว้ดังนี้ในวันที่ 4 ม.ค. 2562 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูลในวันที่ 5 ม.ค.2562 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูลสำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 3-5 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากลมแรง และคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรงดการเดินเรือจนถึงวันที่ 5 ม.ค. 2562ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รายงานว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยโดยด่วนแล้ว พร้อมสั่งการสถานศึกษาหยุดเรียนการสอนชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ตลอดจนได้มีการระดมสรรพกำลังและอุปกรณ์กู้ภัยเตรียมการ ให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง ข้อมูลจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนครศรีธรรมราชส่วนหน้าที่ 1 ได้รายงานจำนวนผู้อพยพในพื้นที่อำเภอท่าศาลาล่าสุดมีจำนวน 3784 คน ทั้งนี้ พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 4 โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 จัดรถรับ-ส่งผู้อพยพจากศูนย์อพยพเดิมที่ศาลาประชาคมอำเภอท่าศาลา ส่งไปยังศูนย์อพยพมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์แล้ว เนื่องจากจุดรองรับเดิมสถานที่ค่อนข้างคับแคบ และไม่ปลอดภัย ซึ่งทาง รองศาสตราจารย์ ดร.ศราวุธ ปาลิโภชน์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ยืนยันว่าทางมหาวิทยาลัยมีความพร้อมในการรองรับผู้อพยพได้มากถึง 5000 คนและขณะนี้ได้มีการเตรียมอาหารน้ำดื่ม เพื่อรองรับผู้อพยพเป็นที่เรียบร้อยแล้วในขณะที่ผู้อพยพก็ต่างหาที่สำหรับพักผ่อน โดยสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างสะดวกสบายพอสมควร เนื่องจากภายใน ศูนย์อพยพมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์มีสถานที่กว้างขวาง ท่ามกลางการดูแลของเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนรวมถึงบุคคลากรของทางมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ด้วย
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุขณะนี้พายุโซนร้อนปาบึกอยู่ห่างจากอ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราชราว 80 กิโลเมตร คาดว่าพายุจะขึ้นฝั่งในเวลา 15.00 - 16.30 น. ในบริเวณ อ.หัวไทร หรือ อ.ท่าศาลา หรือ อ.เมือง ของ
คุณภาพชีวิต,สิ่งแวดล้อม
กรมอุตุนิยมวิทยา,พายุปาบึก
https://prachatai.com/journal/2019/01/80381
รวบหนุ่มจีน ลักทรัพย์บนเครื่องบิน พบวางแผนมาดี เลี่ยงการจับกุม
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 2 พฤษภาคม 2561 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท., พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พร้อมชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยว กก.3 บก.ทท.1 ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายสู เสวียเหลียง อายุ 32 ปี สัญชาติจีน พร้อมของกลาง เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ 100 ดอลลาร์,พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่สายการบิน ว่ามีเหตุลักทรัพย์บนเครื่องบิน ในขณะเครื่องจอดอยู่ที่บริเวณประตูจอดเครื่องบินที่ อี8 (E8) อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีผู้โดยสารโวยวายว่า ทรัพย์สินของตนเองสูญหายไป จึงได้เข้าไปตรวจสอบ พบผู้เสียหายชื่อ นายไฟ ก๊ก อู๋ สัญชาติฮ่องกง ยืนยันว่า นายสู เสวียเหลียง เป็นคนร้าย เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจค้นตัว ,จากการตรวจค้น พบเงินไทยจำนวน 4,210 บาท เงินสกุลฮ่องกง จำนวน 1,710 เหรียญดอลลาร์ฮ่องกง ห่ออยู่ในกระดาษทิชชู่ ในมือด้านขวาของผู้ต้องหา ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าว นายไฟ ก๊ก อู๋ ผู้โดยสารเที่ยวบินดังกล่าวยืนยันว่า เป็นของตนเองที่เก็บไว้ในกระเป๋าติดตัวขึ้นเครื่อง และถูกผู้ต้องหาลักเอาไป แต่ผู้เสียหาย มีความจำเป็นต้องเดินทางขึ้นเครื่องต่อไป เจ้าหน้าที่สายการบินและลูกเรือ จึงได้บอกให้ผู้ต้องหานำเงินดังกล่าวคืนผู้เสียหายไป ผู้ต้องหาก็ยินยอมคืนเงินดังกล่าว โดยไม่โต้แย้งปฏิเสธแต่อย่างใด,ชุดจับกุมจึงได้แจ้งประสานให้ฝ่ายภาคพื้นทราบ และแจ้งนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม แต่ผู้ต้องหากลับให้การปฏิเสธ,ทั้งนี้เมื่อตำรวจตรวจค้นตัวโดยละเอียด ก็พบเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ฉบับละ 1 ดอลลาร์ เป็นจำนวนมาก อยู่ในตัวผู้ต้องหา จึงน่าเชื่อว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมขโมยทรัพย์สินของผู้อื่น บนเครื่องบินมาโดยตลอด เพราะเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ที่พบเป็นแผนประทุษกรรมของคนร้าย ที่เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาก่อน โดยเตรียมไว้ยัดใส่แทนเงินที่ลักทรัพย์ของผู้อื่นได้ เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายสงสัยหรือผิดสังเกต,และเมื่อตรวจสอบการเดินทางของผู้ต้องหา จะพบว่าเดินทางไปกับสายการบินที่ผู้โดยสารค่อนข้างมีฐานะใช้บริการ และผู้ต้องหาจะอยู่ในพื้นที่ต่อเครื่อง ภายในท่าอากาศยานของประเทศต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าประเทศซึ่งเป็นวิธีการหลบหลีกการถูกจับกุม,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชุดสืบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่สายการบินจึงได้ทำการจับกุมตัว พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ผู้อื่นในยวดยานสาธารณะ (อากาศยาน) นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดำเนินคดีต่อไป.
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ แถลงรวบหนุ่มจีน ลักทรัพย์บนเครื่องบิน พบวางแผนมาดี เลือกเที่ยวบินที่ผู้โดยสารค่อนข้างมีฐานะใช้บริการ ก่อเหตุในพื้นที่ต่อเครื่อง เลี่ยงเข้าประเทศ เสี่ยงโดนจับ
ข่าว,อาชญากรรม
ลักทรัพย์บนเครื่องบิน,ผู้ต้องหาชาวจีน,ลักทรัพย์,ดอลลาร์สหรัฐ,สุวรรณภูมิ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1271559
ศาลคืนอิสรภาพ ลูกอดีตประธานาธิบดีเปรู
เมื่อ 30 เม.ย. ศาลสูงสุดเปรูยอมรับการยื่นอุทธรณ์พร้อมสั่งให้ยกเลิกการจำคุก 15 เดือนกับนางเคอิโกะ ฟูจิโมริ อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเปรู และเป็นลูกสาวของอดีตประธานาธิบดี อัลเบอร์โต ฟูจิโมริ แห่งเปรู หลังอยู่ระหว่างถูกอัยการสืบสวนสอบสวนตามข้อกล่าวโทษว่าฟอกเงินด้วยการรับเงินจากบริษัท โอเดรเบรชต์ รัฐวิสาหกิจด้านก่อสร้าง ของบราซิล เพื่อใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งแล้วแสร้ง ว่าเป็นแหล่งเงินที่ได้มาจากที่อื่น แม้นางเคอิโกะไม่เคยถูกตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อเดือน ม.ค. ผู้พิพากษาศาลยังสั่งให้คุมขังนางเคอิโกะระหว่างอยู่ในช่วงสอบสวนต่อ ซึ่งถูกฝากขังมาแล้ว 13 เดือนคำตัดสินของศาลสูงสุดนี้ คาดว่านางเคอิโกะจะได้รับการปล่อยตัวในวันรุ่งขึ้น ซึ่งตรงกับวันหยุดราชการด้วยเป็นวันแรงงานสากล แต่เป็นในลักษณะ เสรีภาพจำกัด ซึ่งไม่สามารถเดินทางออกนอกกรุงลิมายกเว้นได้รับการอนุญาตก่อนล่วงหน้า และต้องไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ทุก 30 วัน.
ศาลสูงสุดเปรูยอมรับการยื่นอุทธรณ์พร้อมสั่งให้ยกเลิกการจำคุก 15 เดือนกับนางเคอิโกะ ฟูจิโมริ อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเปรู และเป็นลูกสาวของอดีตประธานาธิบดี อัลเบอร์โต ฟูจิโมริ
ข่าว,ต่างประเทศ
เปรู,เคอิโกะ ฟูจิโมริ,อัลเบอร์โต ฟูจิโมริ,ลูกสาวของอดีตประธานาธิบดี,ฟอกเงิน,ปล่อยตัว เคอิโกะ ฟูจิโมริ,ข่าววันนี้
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1835226
ด้วยแรงศรัทธา ปชช.นับพันคนร่วมฟังครูบาบุญชุ่ม แสดงธรรม
วันนี้ (17 ม.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประชาชนทั้งชาวไทย ชาวไทใหญ่และกลุ่มชาติพันธุ์ จำนวนมาก เดินทางมาร่วมรับฟังการแสดงพระธรรมเทศนา พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโรเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร จำนวนมากจนที่นั่งที่ถูกจัดเตรียมราว 2000 ที่นั่งไม่เพียงพอจึงจัดสถานที่ให้ประชาชนรับชมการแสดงธรรมเทศนาผ่านผ่านทางจอมอนิเตอร์ด้านนอกห้องประชุมนายวินัย แสงทอง ชาวไทใหญ่ อายุ 30 ปี เดินทางมาจาก จ.สมุทรปราการ พร้อมครอบครัวเพื่อมาฟังการแสดงธรรมของครูบาบุญชุ่มนายวินัย แสงทอง อายุ 30 ปี ชาวไทใหญ่ ประกอบอาชีพช่างในโรงงานอุตสาหกรรมใน จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ตนเองเลื่อมใสศรัทธา ครูบาบุญชุ่มมาหลายปีแล้ว และครั้งนี้เมื่อทราบเมื่อทราบว่าครูบาบุญชุ่มจะเดินทางมาแสดงธรรมเทศนาที่สโมสรตำรวจจึงเดินทางมาจาก จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่ช่วงเช้าและสามารถจองที่นั่งเพื่อรับฟังการแสดงธรรมครั้งนี้ได้นอกจากนี้ตนเองและครอบครัวรวมกว่า 10 ชีวิตที่ยังได้นำน้ำ อาหารและผลไม้มาแจกให้กับประชาชนที่เดินทางมาร่วมฟังการแสดงธรรมในครั้งนี้ด้วยนายทุน ชาวไทใหญ่ อายุ 22 ปี และครอบครัวเดินทางมาจากที่พักย่านลาดพร้าวขณะที่นายทุน ชาวไทใหญ่ อายุ 22 ปี ที่เดินทางมาพร้อมกับภรรยาและลูก จากที่ทำงานย่านลาดพร้าว กล่าวว่า ตนเองเคารพ เลื่อมใส ครูบาบุญชุ่มสมัยเด็กตั้งแต่อยู่ที่บ้านเกิด และเดินทางมาฟังธรรมครั้งนี้เพราะทราบว่า ครูบาบุญชุ่มจะแสดงธรรมที่ประเทศไทยอีก 1 ครั้ง จากนั้นจะเดินทางไปที่ประเทศภูฎานตนเองจึงเดินทางมาในครั้งนี้ ซึ่งตนเองเดินทางมาทันทีหลังเลิกงานทำให้ไม่สามารถเข้าไปฟังธรรมในห้องประชุมได้แต่การมาฟังธรรมแม้จะอยู่ด้านนอกก็ถือว่าคุมค่าเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบครูบาบุญชุ่มสำหรับวัตถุประสงค์การจัดแสดงธรรมเทศนาครั้งนี้ เป็นการร่วมมือระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติและคณะศิษยานุศิษย์ เปิดให้ประชาชนที่มีความศรัทธา พระครูบาบุญชุ่ม รับฟังการแสดงธรรมเทศนาเนื่องในปีใหม่เพื่อเป็นสิริมงคลประชาชนที่มีจิตศรัทธา ตั้งโต๋ะนำอาหาร และน้ำมาแจกจ่ายให้กับผู้ที่มารับการแสดงธรรมขณะที่ในวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.) พระคูบาบุญชุ่ม จะไปแสดงธรรมเทศนาอีกครั้ง ที่อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ก่อนจะเดินทางไปปฎิบัติธรรมที่ประเทศภูฏานเป็นเวลา 1 เดือน
ประชาชนทั้งชาวไทย ชาวไทใหญ่ จำนวนมาก เดินทางมาร่วมรับฟังการแสดงพระธรรมเทศนา พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร
สังคม
ครูบาบุญชุ่ม,แสดงธรรม,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/277089
แบบนี้ได้เหรอ? ประกันแสบโทรไม่รับแต่แอบตัดเงิน แนะกลเม็ดสู้ดำเนินคดี
มีปัญหาไม่จบไม่สิ้น กับกรณีการขายประกันทางโทรศัพท์ ที่ผ่านมา ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, เคยเขียนรายงานพิเศษเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้ว 2 ครั้ง 2 หน ประกอบด้วย ,คุ้ยเบื้องลึก Call ขายประกัน ข้อมูลคนไทยซื้อง่าย ช่างด้อยราคา? (ฟังคลิป ), และ ,รำคาญไหม? ฮัลโหลโทรขายประกัน เสาะหาเบอร์จากไหน รับมืออย่างไร ต้องรู้, ซึ่งมาถึงคราวนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง,เรื่องของเรื่องคือ เมื่อเร็วๆ นี้ อาสาม ไทม์แมชชีน หนึ่งใน ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้รับเรื่องร้องเรียนมาจาก ผู้เสียหายจากเหตุการขายประกันแบบไม่ชอบมาพากล ซึ่งหลังเกิดเรื่องได้ทำการร้องเรียนไปยัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) รวมถึงร้องเรียนไปยังต้นสังกัดประกันภัย และได้เงินที่ถูกตัดจากบัตรเครดิตคืนมาแล้ว แต่ที่มาเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะไม่อยากเห็นคนตกเป็นเหยื่ออีกต่อไป,บุคคลต้นเรื่องของรายงานพิเศษชิ้นนี้ คือ ,นายยุทธพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี, พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ถึงแม้เหตุการณ์เกิดขึ้นหลายเดือนแล้ว แต่เขาขอบอกเล่าประสบการณ์ และอยากจะเตือนไปยังบุคคลที่คิดจะขายประกันแบบไร้จริยธรรมให้หยุดเถอะ ไม่งั้นคุณอาจติดคุก,นายยุทธพงษ์ หรือ คุณโอ้ เริ่มต้นเล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง ถึงเรื่องที่ประสบพบเจอมาว่า เหตุการณ์นี้เริ่มจากมีโทรศัพท์เบอร์ 063-213-XXXX พยายามโทรหาตน 3-4 ครั้ง ตอนนั้นตนกำลังทำงานและเห็นว่าเป็นเบอร์ไม่คุ้นเคยจึงไม่รับสาย แต่ปรากฏว่าจากนั้นไม่นาน ได้มีข้อความส่งมาถึงเขียนว่า, ขอบคุณสำหรับการใช้จ่ายผ่านบัตร XXX จำนวนเงิน 5,400 บาท @บริษัทประกันแห่งหนึ่ง หากข้อมูลไม่ถูกต้องให้ติดต่อหมายเลข 02-XXX-XXXX, เมื่อได้รับข้อความตนรู้สึกมึนงงเป็นอย่างมาก เพราะยังไม่ได้คุยกับใคร ไม่ได้รับสายใคร ไม่ได้ทำประกันกับใคร แล้วทำไมจู่ๆ จึงมีการหักเงิน,ตอนนั้นรู้สึกโกรธมาก มันคืออะไร จู่ๆ มาหักเงินกันแบบนี้ได้ยังไง ขายประกันแบบนี้ก็ได้หรือ? จึงได้พยายามโทรไปสอบถามที่เบอร์คอลล์เซ็นเตอร์ที่ให้ไว้ ปรากฏว่า ปลายสายตอบกลับมาว่า ได้มีการทำกรมธรรม์ดังกล่าวจริง และไม่ทราบว่า กรณีถูกหักเงินทั้งที่ยังไม่มีการตอบตกลงซื้อกรมธรรม์ได้อย่างไร กระทั่งต่อมา ได้มีบุคคลรายหนึ่งอ้างเป็นโบรกเกอร์ที่ตกลงทำประกันให้ พร้อมกับกล่าวขอโทษพร้อมบอกว่าจะคืนเงินให้ แต่ต้องส่งเอกสารคือ บุ๊กแบงก์ โดยให้ส่งแฟกซ์ไปที่บริษัทประกันดังกล่าว ระหว่างนั้นผมคิดอยู่ตลอด ,เราเป็นคนผิดหรือ? ทำไมต้องแก้ปัญหาสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ, อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้เงินคืนจึงโทรกลับไปและขอส่งเอกสารไปทางอีเมลแทน เนื่องจากไม่สะดวกส่งแฟกซ์ จากนั้น บุคคลดังกล่าวก็เงียบ เมื่อเขาโทรเข้ามาอีกครั้งก็บอกว่าต้องส่งกรมธรรม์คืนให้ก่อนถึงจะได้เงินคืน กระทั่งอีกไม่กี่วันต่อมา ได้มีกรมธรรม์เลขที่ C5203XXXX ส่งมาให้ถึงที่บ้านพัก,ผู้เสียหายจากเหตุการณ์ขายประกันครั้งนี้ ได้ตัดสินใจนำเรื่องทั้งหมดเข้าแจ้งความ ที่ สน.ตลิ่งชัน เมื่อวันที่ 9 พ.ค.59 หลังจากได้รับกรมธรรม์แล้ว และได้ส่งกรมธรรม์กลับทางไปรษณีย์ วันที่ 19 พ.ค. และได้ตรวจสอบการส่งทางออนไลน์ พบว่าถึงบริษัทดังกล่าว ในวันที่ 20 พ.ค. มีผู้รับเป็นเจ้าหน้าที่ รปภ. เมื่อได้โทรสอบถามว่าเอกสารถึงที่หมายหรือยัง กลับได้คำตอบว่ายังไม่ถึง ด้วยความร้อนใจ ,ได้เดินทางไปสอบถามที่บริษัทประกันที่หักเงินตนถึงที่ ระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่มารับเรื่อง แต่ก็เหมือนจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ตนจึงพูดเสียงดังขึ้น กระทั่งมีเจ้าหน้าที่อีกคนเข้ามาสอบถามและเมื่อได้พูดคุยกัน จึงยอมรับเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมกับรับปากว่าจะคืนเงินให้เต็มจำนวน, นอกจากนี้ ตนยังขอทราบชื่อตัวแทนที่เดินเรื่องซื้อประกันในครั้งนี้ แต่ทางบริษัทประกันดังกล่าว อ้างว่า โบรกเกอร์รายดังกล่าว ได้ทำการฉ้อโกงบริษัทเช่นกัน พร้อมให้ชื่อนามสกุลโบรกเกอร์รายนี้มา,อย่างไรก็ดี หลังจากเข้าร้องเรียนยังบริษัทประกันได้ 3-4 วัน จึงได้เงินคืนมาเต็มจำนวน 5,400 บาท หลังจากนั้น จึงนำเรื่องดังกล่าวเข้าร้องเรียนกับทาง สำนักงาน คปภ. และ คปภ. ก็ให้คำตอบที่น่าตกใจว่า ,จากการตรวจสอบของ คปภ. พบว่า นายรัศมิธศิลป์ (สงวนนามสกุล) ตัวแทนบริษัทแห่งหนึ่ง (คนขายประกันให้ผู้เสียหาย) ใบอนุญาตขายประกันหมดอายุ และไม่ได้มีการมาต่ออายุใบอนุญาตแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังเห็นว่ามีผู้มาร้องเรียนกับ คปภ. กรณีการขายประกันทางโทรศัพท์หลายราย ซึ่งทราบว่าบางรายได้เงินคืนไม่เต็มจำนวนด้วย,นายยุทธพงษ์ ยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ตนไม่ไว้วางใจต่อการทำงานของตัวแทนขายประกัน โดยเฉพาะเรื่องที่ถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง ทุกวันนี้ยังรู้สึกผวาไม่รู้ว่าจะเจอกับเหตุการณ์แบบไหนอีก ในชีวิตตนทำบัตรเครดิตแค่ 2 ใบ กับ ธนาคารแห่งหนึ่ง และ นอนแบงก์ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า ข้อมูลที่หลุดออกไปจากการทำบัตรเครดิต อยากให้ผู้เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลกฎหรือระเบียบการทำประกันทางโทรศัพท์ว่า อย่างน้อย ให้มีเอกสารมาให้เซ็นยืนยันก่อนแล้วส่งกลับไป ถึงจะหักเงินได้ดีกว่า ไม่ใช่ว่า เอาแค่คลิปเสียง (จริงๆ แล้ว สามารถมีการดัดแปลง ตัดต่อ เพื่อเอามาเป็นหลักฐานได้ ก็มี) แล้วพอโดนหักแล้ว ผู้เสียหายก็จะต้องเสียเวลา เงินทอง เพื่อเดินเรื่อง บางรายก็ปล่อยไป เพราะไม่มีเวลา ต้องทำมาหากิน เพราะการตกลงทำประกัน ไม่ได้รีบร้อนอะไรมากนี่ ใช่ไหม? เรื่องนี้ร้องเรียนกันมามาก แต่ก็ไม่มีใครจัดการได้สักทีนะ แม้แต่ คปภ. ซึ่งเป็นหน่วยงานโดยตรง,หลังจากฟังเรื่องราวจาก นายุทธพงษ์ แล้ว อาสามฯ จึงต้องขอฟังจากปาก สำนักงาน คปภ. บ้าง ว่าเคสลักษณะนี้จะมีการดำเนินการลงโทษ หรือสอบสวนผู้กระทำผิดอย่างไร ซึ่ง ,นายตนุภัทร รัตนพูลชัย รองเลขาธิการ ด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ คปภ., กล่าวว่า ,การตัดเงินทั้งที่ไม่มีการตอบรับดังกล่าวนั้น ส่วนตัวเชื่อว่าใบอนุญาตขายประกันของโบรกเกอร์รายดังกล่าว น่าจะถูกเพิกถอนแล้ว เนื่องจากเรามีระเบียบเงื่อนไขว่า ต้องบันทึกเทปไว้ด้วย และขอเทปฟัง หากบุคคลนั้นไม่มีใบอนุญาต บุคคลนั้นจะถูกดำเนินคดี จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับเงินไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเรื่องนี้คงต้องไปตามดูรายละเอียดอีกครั้งว่าบริษัทขายประกันรู้เห็นหรือไม่,กระบวนการทางกฎหมายกับกระบวนการทางความรู้สึกนั้นมีความแตกต่างกัน ตามกฎหมายนั้น เราจะดำเนินคดีกับใครได้เราจะต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน แตกต่างจากความรู้สึก ทราบว่าผู้เสียหายนั้นเสียความรู้สึกไปแล้ว ทั้งนี้ การขายทางโทรศัพท์ใช่ว่ามีแต่ประกันภัย ยังมีการขายบัตรเครดิตด้วย แต่สำคัญที่สุดคือ เราต้องถามว่า คุณเอาข้อมูลมาจากไหน อย่างไรก็ตาม กรณีการขายข้อมูลนั้น มีนักกฎหมายได้ตีความหลายสำนัก เช่น บางสำนักบอกว่า ตอนเราทำบัตรเครดิต เราไม่ได้บอกเขาว่า ห้ามเปิดเผย เขาก็เลยเอาไปเปิดเผย แต่นักกฎหมายบางคนก็บอกว่า ข้อมูลส่วนบุคคลจะเปิดเผยก็ต่อเมื่อได้แจ้งกับเจ้าตัวแล้ว,กรณีลักษณะนี้ เข้าข่ายฉ้อโกงหรือไม่, อาสามฯ ถามนาย นายตนุภัทร ตอบว่า, การฉ้อโกงเป็นคดีอาญา และมีองค์ประกอบหลายอย่าง หากมีบันทึกเทปเสียง ก็ถือเป็นประจักษ์พยาน ถ้าหากไม่มีการบันทึกเทป แต่มีเงินตัดเข้าบัญชีบริษัทประกัน มีกรมธรรม์ และมีการทำประกันจริง ความเห็นตนว่าไม่ฉ้อโกง ทั้งนี้ ยังขึ้นอยู่กับมุมมองนักกฎหมาย ถามว่าผิดหรือไม่ คนขายผิดแน่ ผิดจรรยาบรรณ ใบอนุญาตของโบรกเกอร์ ติดแบล็กลิสต์ ซึ่งจะกลับมาทำใบอนุญาตอีกไม่ได้ภายใน 5 ปี ซึ่งกรณีแบบนี้ ถ้าโดนแล้วส่วนใหญ่จะกลับมาทำอาชีพเดิมไม่ได้อีก,เกี่ยวกับกรณีนี้ อาสามฯ ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านข้อกฎหมาย เพื่อหาทางแก้ไข และเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ,นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความชื่อดัง, และ ,ท่านชาลี ทัพภวิมล ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์, ซึ่งกรณีนี้, ท่านชาลี กล่าวอย่างหนักแน่นว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้น่าจะเข้าข่ายการฉ้อโกง หลอกลวงโดยใช้กลอุบาย ทำให้เราต้องเสียทรัพย์ อยากจะแนะนำให้กับผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องไว้ก่อน หากรู้ชื่อนามสกุลผู้ที่ติดต่อเข้ามาก็จะยิ่งดี,,แม้จะได้รับการคืนเงินแล้วแต่ไม่มีผลต่อคดี เพราะความผิดสำเร็จไปแล้ว, หากมีหลักฐานว่า เขาพูดโทรศัพท์จากที่ไหน เครื่องไหน ก็จะยิ่งดี ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นหน้าที่ตำรวจสืบสวน แต่ถ้ามั่นใจว่าเป็นคนนี้ ชื่อนี้ เรานำชื่อมอบให้กับตำรวจ ส่วนตำรวจจะดำเนินคดีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่มีอีกครั้ง ทั้งนี้ ตามกฎหมายฉ้อโกง หรือ ยักยอกทรัพย์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ซึ่งสามารถยอมความกันได้ยกเว้นมีเหตุฉกรรจ์ จนกลายเป็นคดีฉ้อโกงประชาชน เช่น คดีดังในสมัยก่อน แชร์แม่ชม้อย เป็นต้น,สอดคล้องกับ นายสงกานต์ ที่ให้คำแนะนำอย่างน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่า,วิธีการรับมือเมื่อเจอเรื่องแบบนี้ นายสงกานต์ แนะนำว่า,1. แจ้งความหรือลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อน ,2. ร้องไปยัง เลขาธิการ คปภ. และ สคบ. ,3. ร้องไปยังสื่อมวลชน (เพื่อให้สื่อตีแผ่ข้อเท็จจริง) ,4. เดินหน้าดำเนินคดีให้เพื่อให้เป็นตัวอย่าง และจะได้ไม่กล้าทำอีก,ช่วงท้าย นายสงกานต์ กล่าวว่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ผู้ใดเบียดบังเอาทรัพย์ผู้อื่นมาครอบครองเป็นของตนเอง ถือว่าเป็นการยักยอกทรัพย์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทางแพ่ง เราสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ เนื่องจากเราต้องเสียเวลาในการตามทวงถามคืน เสียเวลาไปแจ้งความ เสียค่ารถ รวมไปถึงค่าขาดโอกาสจากงาน เช่น เราขายของมีรายได้วันละ 1,000 บาท ต้องเสียเวลาติดตามกี่วัน ก็สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ โดยเราสามารถฟ้องเจ้าหน้าที่กับตัวบริษัทต้นสังกัด ในลักษณะลูกจ้างและนายจ้างต้องรับผิดร่วมกัน ตนเห็นว่าควรดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป,หลายคนสงสัยกันว่าเขาเหล่านั้นเอาเบอร์โทรศัพท์เราท่านมาจากที่ใด นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม, บอกกับเราถึงการซื้อขายข้อมูลส่วนตัวที่มีวงเงินสะพัดกว่า 5 พันล้านบาทว่า ,การซื้อขายข้อมูลส่วนตัวนั้นทำกันเป็นขบวนการมานานแล้ว โดยเฉพาะชื่อและเบอร์โทรศัพท์ ราคาอยู่ใน 50 ชื่อละ 50 สตางค์ จนถึง ราคา 50 บาท ตามชื่อของบุคคล หากเป็นคนมีเงินหรือบบุคคลที่มีชื่อเสียง ราคาก็จะยิ่งแพง แต่ที่ร้ายแรงกว่านั้นคือ การซื้อขาย Statement บุคคล โดยเฉพาะคนที่มีเงินจำนวนมากในบัญชีธนาคาร จะขายราคาชื่อละ 500 บาทขึ้นไป ที่หนักกว่านั้นคือ ยังมีการรับจ้างในการตกแต่งบัญชีด้วย,ปัจจุบันมีการทุจริตภายในธนาคารหลากหลายรูปแบบ ซึ่งปัจจุบัน ชื่อกับเบอร์โทร เขาจะไม่ค่อยเอากันแล้ว จึงมีการนำมาขายกันโลกออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ขบวนการดังกล่าว ส่วนตัวเชื่อว่า ทำคนเดียวทำไม่ได้ จะต้องทำเป็นขบวนการ ธนาคารแห่งเดียวก็ไม่สามารถทำได้ การกระทำดังกล่าว ผมเชื่อว่ามีการจัดตั้งในรูปแบบองค์กร และอาจจะเกี่ยวข้องกับระดับผู้บริหารในหลายๆ ธนาคาร นายอัจฉริยะ เชื่ออย่างนั้น,คนที่ขายก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คนในธนาคารนั่นแหละประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวพร้อมเน้นย้ำว่า เขาเอาข้อมูลของธนาคารที่มีอยู่แล้ว มาขายกับพนักงานด้วยกันเองต่อ เสร็จแล้วก็นำไปขายให้กับบริษัทประกันภัย ที่ร้ายกว่านั้นคือ ไปขายให้กับบริษัทรับจ้างทวงหนี้หากบริษัททวงหนี้เหล่านี้รู้ว่าคุณมีเงินเท่าไร เขาก็จะได้ตามทวงหนี้ได้ถูก, ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าว,หากใครเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้ สามารถร่วมกันแชร์ประสบการณ์หรือส่งข้อมูลมาให้กับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ได้ เพื่อมิให้คนกระทำผิดลอยนวลต่อไป, ,เชือดขายประกันผ่านมือถือ ลุงตู่สั่งออกกฎหมายช่วยลูกค้าสกัดบังคับขาย,ทีมข่าวเฉพาะกิจ
ขายประกันทางโทรศัพท์ทำแบบนี้ก็ได้หรือ หักเงินจากบัตรเครดิต ทั้งที่ยังไม่ได้รับสาย ฟังผู้เชี่ยวชาญไขข้อกฎหมาย เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่ทำผิด และ ฟัง คปภ. แก้ปัญหาดังกล่าวอย่างไร
null
ขายประกัน,โทรศัพท์,คปภ.,ยักยอกทรัพย์,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/806797
Taiwan Excellence เปิดนวัตกรรมเครื่องจักรอัจฉริยะ รับอุตสาหกรรม 4.0
น ในงาน Manufacturing Expo 2018 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 มิ.ย.61 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ,นาย เจสัน สวี่  ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย กล่าวว่า ไต้หวันและประเทศไทยมีความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนที่เติบโตและต่อเนื่องเมื่อปี 2560 มูลค่าการค้าทวิภาคีสูงถึง 10.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และไต้หวันก็เป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 11 ของประเทศไทยสำหรับพาวิลเลียน Taiwan Excellence ในงาน Manufacturing Expo 2018 ครั้งนี้ เราได้เข้าร่วมเป็นครั้งที่สองหลังจากความสำเร็จอย่างมากเมื่อปีที่แล้ว โดยจะมีผลิตภัณฑ์ชั้นนำ 35 ชิ้น จากบริษัท 18 แห่งที่ได้รับรางวัล Taiwan Excellence และคัดเลือกมาเปิดตัวในงานนี้โดยเฉพาะ  ,ในพาวิลเลียน Taiwan Excellence ประจำปีนี้ จะนำเสนอเครื่องจักรและโซลูชั่นอุตสาหกรรมล้ำยุคที่ได้รับรางวัล ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของไต้หวันในการส่งเสริมนโยบายด้านการพัฒนา พร้อมกับผนึกความตั้งใจดังกล่าวควบคู่ไปกับภาคส่วนอุตสาหกรรมทุกระดับ เวลานี้ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญของไต้หวันในการร่วมมือกับประเทศไทย และถ่ายทอดประสบการณ์ด้านการพัฒนาการผลิตแบบยกระดับตามที่ได้แถลงเอาไว้ในนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหรรมในปัจจุบันของไต้หวัน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ยุคแห่งการผลิตด้วยแนวทางอัจฉริยะได้เกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ และเพื่อให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าในปัจจุบัน ไต้หวันจึงเตรียมการสนับสนุนและผลักดันนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่จะทำให้ยุคอุตสาหกรรมอัจฉริยะสัมฤทธิ์ผล,ทั้งนี้เมื่อปี 2560 ไต้หวันเป็นประเทศผู้ส่งออกอุปกรณ์เครื่องจักรที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ด้วยเครื่องจักรและอุตสาหกรรม ICT ที่ล้ำสมัย เช่น IoT และเทคโนโลยี big-data รวมถึงความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ไต้หวันได้กลายเป็นประเทศผู้นำแห่งยุคการผลิต 4.0 ,สำหรับไฮไลท์บางส่วนในพาวิลเลียน Taiwan Excellence ที่นำมาจัดแสดงปีนี้ คือ โซลูชั่นส์อุตสาหกรรมอัตโนมัติ 4.0 จากบริษัท Avantech จำกัด , โซลูชั่นส์บำรุงรักษาอุตสาหกรรมจาก Axiomtek , ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีมอเตอร์แบบไฮเทคจาก HiwinMikrosystem Corp.  , SAG-DE Angle Head Holder สำหรับเครื่องจักรหัวคู่จาก บริษัท Shin-Yain Industrial จำกัด และหุ่นยนต์ TM-5 จากบริษัท Techman Robot จำกัด หุ่นยนต์ที่สามารถคิดและปฏิบัติงานได้เหมือนมนุษย์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์พร้อมนวัตกรรมชวนตะลึงอีกเป็นจำนวนมากให้เยี่ยมชม,ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ไต้หวันได้นำเทคโนโลยีมาจัดแสดงที่ประเทศไทย โดยปีนี้ได้นำมีผลิตภัณฑ์ชั้นนำ 35 ชิ้น จากบริษัท 18 แห่ง และคัดเลือกมาเปิดตัว อาทิ แอพพลิเคชั่นเพื่อสิ่งแวดล้อม , หุ่นยนต์ที่สามารถคิดและปฏิบัติงานได้เหมือนมนุษย์ และเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์อุสาหกรรมสมัยใหม่ และนวัตกรรมชวนตะลึงอีกจำนวนมาก ที่เชื่อว่าจะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมของไทยได้นายเจสันกล่าว,ด้านนายสมศักดิ์ ศรีสุภรวาณิชย์ กรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า งานดังกล่าวถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาอุสาหกรรมของไทย ที่จะได้ใช้เทคโนโลยีทันสมัย พร้อมทั้งได้รับรางวัลการันตรีคุณภาพจาก Taiwan Excellence ยิ่งทำให้สินค้าต่างๆไทยมีโอกาส ที่จนเทคโนโลยีภายในงาน มาสร้าง,มาตรฐาน ผลิตได้รวดเร็ว และมีราคาถูกลง ที่สำคัญยังเป็นการส่งเสริมให้ภาคแรงงาน และการศึกษา ทั้งระดับเยาวชน นักศึกษาในสายอาชีพ และระดับมหาวิทยาลัย ได้เรียนรู้เครื่องจักรกล รวมทั้งเทคโนโลยีทันสมัยต่างๆอีกด้วย เพื่อนำไปพัฒนาประเทศชาติ และส่วนรวมในมิติต่างๆต่อไป.
Taiwan Excellence จับมือกับ 18 ผู้ผลิตเครื่องจักรอัจฉริยะ และ 35 ผู้ผลิตสินค้านวัตกรรมจากภาคการผลิตไต้หวัน นำเสนอขีดความสามารถเครื่องจักรอัจฉริยะของประเทศ การันตีด้วยรางวัลยอดเยี่ยมจากไต้หวั
ข่าว,เศรษฐกิจ
เจสัน สวี่,สภาอุตสาหกรรมไต้หวัน,สภาส่งเสริมไต้หวัน,ไทยแลนด์4.0,เครื่องจักรอัจฉริยะ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1315597
เวทีประชุมตึกสูงโลกที่มหานครนิวยอร์ก เพซผงาดโชว์ศักยภาพ
เมืองแห่งสีสันที่เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญทางเศรษฐกิจที่มีตึกสูงระฟ้าใหม่ๆผุดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีจะมีบริษัทผู้พัฒนาตึกสูงและสถาปนิกชั้นนำจากทั่วโลกเข้าร่วมการประชุม เพื่อให้ข้อมูลแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับโครงการตึกสูงในเมืองใหญ่ของโลก ทั้งด้านนวัตกรรมเชิงเทคโนโลยี ระดับความสูง รูปทรงตึก วัสดุ และเทคนิคการก่อสร้าง รวมทั้งโอกาสและทิศทางการพัฒนาตึกสูงในเมืองใหญ่,การประชุมครั้งนี้พบว่าตึกสูงในเมืองใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางความเจริญด้านเศรษฐกิจยังคงมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ควบคู่ไปกับการพัฒนานวัตกรรมเชิงเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆให้กับตึกสูง,นอกจากนี้ยังพบว่า กระแสเงินลงทุนที่ขับเคลื่อนให้โครงการตึกสูงเกิดขึ้นได้ มีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกัน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนช่วง 1-2 ทศวรรษที่ผ่านมา เช่น โครงการในซิดนีย์ได้รับการขับเคลื่อนโดยกลุ่มทุนจากเซี่ยงไฮ้ หรือกลุ่มทุนจากแคนาดาช่วยสนับสนุนการพัฒนาตึกสูงในลอนดอน ขณะที่กลุ่มทุนจากตะวันออกกลางได้แผ่ขยายไปทุกที่ทั่วโลก,และการเติบโตอย่างต่อเนื่องมากกว่า 1 ทศวรรษของตึกสูงจำนวนมากในเมืองใหญ่ของจีน ทำให้จีนเริ่มนำความเชี่ยวชาญนี้ไปลงทุนในหลายโครงการในเมืองใหญ่ๆทั่วโลก,ขณะที่กรุงเทพมหานครของไทย ถือเป็นเป้าหมายหรือแลนด์มาร์กของการพัฒนาตึกสูงของกลุ่มทุนทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก โดยเฉพาะเมื่อประเทศไทยได้ถูกจัดวางให้เป็นศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC),สรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (PACE) นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ทุ่มงบลงทุน กว่า 20,000 ล้านบาท สร้าง โครงการมหานคร ตึก สูงใจกลางกรุงเทพฯ จึงได้รับเชิญให้ขึ้นเวที นำเสนอวิสัยทัศน์ และประสบการณ์การก่อสร้างโครงการมหานคร ประชันกับผู้พัฒนาโครงการตึกสูงจากมหานครลอนดอนและสหรัฐอาหรับ–เอมิเรตส์,นับเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยรายแรกและรายเดียวที่ได้รับเกียรติขึ้นพูดบนเวทีระดับโลกนี้,ด้วยความโดดเด่นของรูปแบบการดีไซน์และนวัตกรรมการก่อสร้างของ โครงการมหานคร ที่ทันสมัยรูปทรงอาคารเป็นแท่งตรง เหมือนถูกแกะสลักเป็นแนวริบบิ้นโอบล้อมตัวอาคาร ก่อให้เกิดโครงสร้างที่โดดเด่นสะดุดตา,ภายในงานนี้ สรพจน์ ได้พูดถึง การพัฒนาตึกสูงในบริบทของประเทศไทย โดยฉายภาพถึงการพัฒนาและนวัตกรรมการก่อสร้างตึกสูงของประเทศในช่วงที่ผ่านมา ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองทั้งภายในและนอกประเทศ ที่โลกต้องเผชิญกับวิกฤติทางการเงิน แต่โครงการมหานครสามารถเผชิญกับปัญหาและเดินหน้าโครงการได้อย่างต่อเนื่อง จนการก่อสร้างกำลังจะเสร็จสมบูรณ์ในต้นปี 59 ที่จะถึงนี้,ซึ่ง สรพจน์ มั่นใจว่า โครงการมหานคร จะเป็นสถาปัตยกรรมแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร เทียบชั้นแลนด์มาร์กเมืองหลวงแห่งอื่นของโลก นอกเหนือจากการโค่นแชมป์ผงาดขึ้นเป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยความสูง 77 ชั้น 314 เมตร,นอกจากความสวยงามทางสถาปัตยกรรมของโครงการแล้ว สรพจน์ บอกว่ายังต้องคำนึงถึงการวางผัง ส่วนประกอบของโครงการ ที่ต้องสามารถให้ผลตอบแทนทางกำไรที่ชัดเจนกับบริษัท ผ่านองค์ประกอบสำคัญ คือการคัดสรรร้านค้า ร้านอาหาร ที่พักอาศัย โรงแรม ที่เป็นสุดยอดของโลกมารวมไว้ในโครงการแห่งนี้,โดยตั้งแต่ชั้น 1-20 ได้รับการจัดวางให้เป็น โรงแรมบางกอก เอดิชั่น บูทีคโอเท็ลระดับห้าดาวในเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลจำนวน 159 ห้อง และตั้งแต่ชั้น 23-73 เป็นที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ เดอะ ริทซ์–คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก ที่ทุกเรสซิเดนซ์รายล้อมด้วยกระจก สร้างบรรยากาศราวกับลอยอยู่บนฟ้าพร้อมด้วยบริการระดับ 5 ดาว ขนาดตั้งแต่ 125-844 ตารางเมตร สนนราคาเริ่มตั้งแต่ 45 ล้านบาทไปจนถึงกว่า 300 ล้านบาท ที่มีมหาเศรษฐีจากทั่วโลกรวมทั้งเศรษฐีไทย แห่มาจับจองเป็นเจ้าของไปแล้วมากกว่า 80%,ส่วนชั้นสูงสุดเป็นจุดชมวิว Sky Observation Deck สำหรับชมทัศนียภาพที่สวยงามของกรุงเทพฯ พาโนราม่า 360 องศา ที่สามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเพื่อชมวิวเมืองกรุงเทพฯได้อย่างจุใจ,ขณะที่ยังมี มหานคร คิวบ์ อาคารศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์รีเทล ที่เป็นศูนย์รวมของร้านค้าและร้านอาหารชั้นเลิศหลากสไตล์ ชั้นนำระดับโลก ทั้ง ลัตเตอลิเย เดอ โจเอล โรบูชง โว้ก เลาจน์ เอ็ม ครับ และ ดีน แอนด์ เดลูก้า ซึ่งนอกจากเป็นการสนับสนุนรายได้ให้ธุรกิจหลักแล้ว ยังถือเป็นการส่งมอบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ระดับไฮเอนด์ของคนเมืองที่ครบวงจรไว้ในที่แห่งนี้,สรพจน์ ปิดท้ายว่า เนื่องจากโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของกรุงเทพมหานครที่ทันสมัย สวยงาม เป็นมิตรและมีเสน่ห์ จึงได้จัดพื้นที่และจัดสัดส่วนให้สาธารณชนและนักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับโครงการ โดยมี มหานคร สแควร์ พื้นที่สาธารณะหน้าโครงการที่สามารถจัดกิจกรรมทางสังคม เช่นงานโชว์ศิลปะ คอนเสิร์ต และการแสดงโชว์ทางวัฒนธรรมต่างๆ นอกจากจุดชมวิวที่สูงสุดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกดังกล่าว.
การประชุมนานาชาติ สภาตึกสูงและที่อยู่อาศัยในเมือง (Council on Tall Building and Urban Habitat : CTBUH) ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ที่มหานครนิวยอร์ก
null
ประชุมนานาชาติ,สภาตึกสูงและที่อยู่อาศัยในเมือง,ประชุม CTBUH,นิวยอร์ก,ตึกสูงในเมือง,โครงการตึกสูง,กรุงเทพมหานคร,สรพจน์ เตชะไกรศรี,เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น,โครงการมหานคร,มหานคร คิวบ์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวเศรษฐกิจ
https://www.thairath.co.th/content/538055
ผงะ พบศพหญิงสาว แต่งกายคล้ายหมอนวด ลอยอืดเหม็นเน่า ในลำห้วยหมากแข้ง
แต่ยังไม่ตัดปมฆาตกรรมทิ้ง เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 12 มี.ค.63 ขณะที่ ร.ต.อ.คมกริช ไชยวรรณ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า พบศพลอยอืดอยู่ในลำห้วยหมากแข้ง บริเวณหน้าสถานีสูบน้ำลำห้วยหมากแข้ง ม.6 ถ.เลี่ยงเมือง อุดร-หนองคาย ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ต.ธนนท์ ศรีกงพาน สว.สส.ฯ ร.ต.อ.เจริญชัย นิกูลกาญจน์ รอง สวป.ฯ ตำรวจสืบสวน ตำรวจป้องกันและปราบปราม ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมสถานที่เกิดเหตุพบศพหญิงสาวรูปร่างเล็ก ผิวขาว อายุประมาณ 40-50 ปี สูงประมาณ 145 เซนติเมตร สวมเสื้อลูกไม้คอกลมแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงลายไทยสีน้ำตาล คล้ายกับชุดหมอนวดแผนโบราณ ลอยอืดคว่ำหน้าอยู่ในลำห้วย ที่มีน้ำปนเศษขยะและวัชพืชลึกประมาณ 1.5 เมตร แต่สันคูลำห้วยมีความสูงชันประมาณ 5 เมตร ซึ่งยากต่อการนำศพขึ้นมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมสถาน จึงเตรียมเชือกและห่วงยางลอยไปผูกกับศพไว้ และช่วยกันดึงขึ้นมาจากลำหวยจนสำเร็จอย่างทุลักทุเลจากการตรวจสอบสภาพศพเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ ส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปทั่วบริเวณ ตรวจสอบตามร่างกายเบื้องต้นไม่พบบาดแผล และร่องรอยการถูกทำร้าย และจะนำศพไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ก่อนมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาจากการสอบสวน นายชัยยา วิเศษศรี อายุ 48 ปี พนักงานขับรถบรรทุกเก็บขยะ สนง.เทศบาลนครอุดรธานี ให้การว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 16.00 น. ตนและพนักงานท้ายรถรวม 3 คน นำรถบรรทุกขยะมาล้างที่สถานีสูบน้ำแห่งนี้ เห็นขยะในลำห้วยจำนวนมาก จึงเดินไปดูมองเห็นคล้ายศพคน แต่เพื่อนร่วมงานบอกว่าน่าจะเป็นตุ๊กตา เนื่องจากเหนือศพมีเศษขยะและวัชพืชปกคลุม จึงนำเรื่องราวไปพูดให้หัวหน้าฟัง แต่ไม่มีใครเชื่อ แต่ตนเกิดความสงสัยและค้างคาใจ กระทั่งวันนี้หลังจากทำงานเสร็จ จึงพากันเดินมาดูตรงจุดดังกล่าวอีกครั้ง และใช้ก้อนหินปาลงไปที่จุดต้องสงสัย จนเศษขยะและวัชพืชแตกกระจายแยกออกจากกัน ก่อนเห็นแขนขามนุษย์ รู้สึกตกใจมาก ก่อนแจ้งตำรวจมาตรวจสอบด้าน ร.ต.อ.คมกริช ไชยวรรณ กล่าวว่า จาการตรวจสอบสภาพศพคาดว่า ผู้ตายเกิดอุบัติเหตุพลัดตกคลอง หรือกระโดดน้ำฆ่าตัวเองตาย ส่วนประเด็นฆาตกรรมยังไม่ตัดทิ้ง ต้องรอให้แพทย์ชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง อีกทั้งยังไม่พบเอกสารและหลักฐาน ที่สามารถยืนยันว่าเป็นใครมาจากไหน พบเพียงเสื้อผ้าที่ผู้ตายสวมใส่ คล้ายกับชุดหมอนวดแผนโบราณสวมใส่เวลาทำงาน และขอประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชน หากญาติใครหายตัวออกไปจากบ้านหรือที่พัก ประมาณ 1 สัปดาห์ และติดต่อไม่ได้ ขอให้ไปตรวจสอบและยืนยันตัวบุคคลที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
หนุ่มคาใจ เห็นคล้ายศพคนลอยอืดในลำห้วยหมากแข้ง ตัดสินใจย้อนมาดู ผงะพบเป็นศพหญิงสาว แต่งกายคล้ายหมอนวดแผนโบราณ ตำรวจคาดตายมาแล้ว 1 สัปดาห์ แต่ไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย คาดพลัดตกคลอง-ฆ่าตัวตาย
ข่าว,ทั่วไทย
พบศพ,พบศพหญิงสาว,ศพลอยน้ำ,พบศพลอยน้ำ,ศพลอยอืด,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1793734
จับ ร.ต.จอมซ่า คว้า9มม.ยิงคนขับรถไถตายสุดอุกอาจ
  ,เมื่อเวลา 16.20 น.วันที่ 14 ม.ค. ร.ต.ท.ธนวัฒน์ ไวกสิกรรม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งเหตุยิงกัน มีผู้เสียชีวิต จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบก.ภ เพชรบูรณ์ พ.ต.อ.ปริญญา วิศิษฐฏากุล รอง ผบก.ภ. พ.ต.อ.สมนึก คำวิเศษ ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ นำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยร่มโพธิ์เพชรบูรณ์,ที่เกิดเหตุภายในซอยสามัคคีชัย 4 เขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์มีกองดินกำลังอยู่ระหว่างเตรียมการก่อสร้างหอพัก บนเนื้อที่ราว 1 ไร่ ใกล้กับบ้านเลขที่ 99/127 หมู่ 2 ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ พบรถไถสีแดงหมายเลขทะเบียน ตค5487 เพชรบูรณ์จอดอยู่ ที่บริเวณตัวถัง เบาะนั่งคนขับ และล้อยางถูกยิงมีรอยกระสุน 5 รู ห่างออกไปราว 15 เมตร พบศพนายวิชัย ไข่ทอง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/1 หมู่ 2 ต.ป่าเลา อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ถูกยิงเข้าที่แผ่นหลังข้างซ้ายนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บนพื้นดิน และพบปลอกกระสุนตกอยู่จำนวน 3 ปลอกจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน,ส่วนมือปืนทราบว่าหลบหนีไปอยู่ในบ้านเลขที่ 99/127 หมู่ 2 ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ใกล้ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตามเข้าไปจับกุมตัวไว้ได้ ทราบว่าชื่อร้อยตรีแสงอนันต์ แสงสุริยะ อายุ 53 ปี เป็นเจ้าของบ้าน พร้อมอาวุธปืนของกลางยี่ห้อบาเร็ตต้าขนาด 9 มม. สีเงิน และแมกกาซีน 1 อัน,จากการสอบสวนทราบว่านายวิชัยผู้ตาย เป็นพนักงานขับรถไถของ หจก.พรเซอร์วิส ซึ่งได้รับการว่าจ้างจาก หจก.หลีเฮง ให้มาไถและปรับที่เพื่อเตรียมก่อสร้างอาคารหอพักขนาดใหญ่บนที่ดินที่เกิดเหตุ โดยพยานรายหนึ่ง ซึ่งเป็นคนงานก่อสร้างของ หจก.หลีเฮง อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุระบุว่าขณะเกิดเหตุนั้นผู้ตายกำลังบดอัดและปรับหน้าดินให้เรียบ ร้อยตรีแสงอนันต์ แสงสุริยะ อดีตนายทหารสังกัด ม.พัน 18 ค่ายพ่อขุนผาเมือง จ.เพชรบูรณ์ ที่เออลี่รีไทร์ออกมาอยู่บ้านได้ 2- 3 ปีแล้ว ได้เดินเข้ามาหาในอาการเมาสุรา เดินโซซัดโซเซพร้อมด่าทอต่อว่าการปรับไถดินของผู้ตายที่ทำให้เกิดความลำบากในการเข้าบ้าน เพราะถนนทางเข้าบ้านนั้นแคบและต่ำกว่าพื้นที่ผู้ตายกำลังปรับไถอยู่ ทั้งมีดินบางส่วนไหลลงไปบริเวณทางเข้าบ้านของร้อยตรีแสงอนันต์ ด้วย,พยานคนเดิม กล่าวอีกว่า เมื่อมีคนต่อว่า นายวิชัยผู้ตายได้ตอบไปว่า ตนเองนั้นไม่รู้อะไรมากนัก หากจะสอบถามข้อมูลให้ไปสอบถามนายจ้างจะดีกว่า จากนั้นจึงทำการปรับไถดินต่อไป ซึ่งสร้างความไม่พอใจทำให้ ร.ต.แสงอนันต์ ที่อยู่ในอาการเมา เดินเข้าบ้านไปด้วยความโมโหและไปคว้าปืนพกขนาด 9 มม. ออกมากระหน่ำยิงใส่ผู้ตายขณะนั่งอยู่บนรถไถหลายนัด คนงานที่อยู่ใกล้เคียงต่างวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น คมกระสุนถูกรถไถที่ตัวถัง ล้อรถและเบาะนั่งกว่า 5 รู และมี 1 นัดพุ่งเจาะเข้ากลางแผ่นหลังข้างซ้ายของผู้ตาย ทำให้ผู้ตายตกใจรีบกระโดดลงมาหลบอยู่ข้างรถไถได้สักพักจึงพยายามวิ่งหนีออกไปได้ราว 15 เมตรจึงล้มลงขาดใจตาย,ทั้งนี้ ภายหลังจับกุมผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดเผยว่า ร้อยตรีแสงอนันต์ แสงสุริยะ ผู้นี้ เคยต้องคดีพยายามฆ่า ใช้อาวุธปืนยิงดีเจคนหนึ่งที่ทำงานอยู่สถานบันเทิงเพชรบูรณ์พลาซ่าได้รับบาดเจ็บ คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนคดีนี้ ได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป.
ร้อยตรีนอกราชการ ก่อเหตุสุดอุกอาจคว้าปืน9มม.จากในบ้านมายิงใส่คนขับรถไถตายอนาถ มีคนเห็นว่าเมาเดินมาต่อว่า เรื่องไถที่แล้วมีดินไปปิดทางเข้าบ้าน ก่อนจะบันดาลโทสะไปคว้าปืนออกมายิงตาย เผยเคยต้องคดีพยายามฆ่าดีเจ เรื่องยังอยู่ในศาล
ข่าว,ทั่วไทย
ยิงคนขับรถไถ,จับร้อยตรี,ทหารนอกราชการ,แสงอนันต์ แสงสุริยะ,วิชัย ไข่ทอง,คนขับรถไถ,ไถดิน,อาชญากรรม,เพชรบูรณ์,ข่าวภูมิภาค
https://www.thairath.co.th/news/local/474823
เห็นแล้วผวา งูเหลือมยาว 6 ม. ย่องแอบกินไก่ จนเกือบหมดเล้า
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 23 กรกฎาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงาน หน่วยกู้ภัยสว่างบึงสามพันธรรมสถาน อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งจาก นายดาบตำรวจ คมกริต เทียนธูป ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.บึงสามพัน ว่ามีงูเข้าไปกินไก่ในเล้าชาวบ้าน ที่ร้านอาหารเชิงดอย บ้านเลขที่ 55/2 หมู่ 4 ต.ซับสมอทอด อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ เจ้าของร้านชื่อ นายพรชัย ทับแก้ว อายุ 42 ปี  จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ หน่วยกู้ภัยสว่างบึงสามพันธรรมสถาน ออกตรวจสอบบ้านดังกล่าว พบงูเหลือมขนาดใหญ่ มีความยาวประมาณ 6 เมตร กำลังกินไก่อยู่ในเล้า และพบซากไก่ ตายกองอยู่กว่า 5 ตัว 
,สอบถาม นายพรชัย ทับแก้ว เจ้าของไก่ เผยว่าเลี้ยงไก่ไว้ 30 ตัว สังเกตไก่ทยอยหายไปทีละตัวสองตัวมาหลายวันแล้ว ไม่รู้ว่ามีงูเหลือมแอบเข้ามาลักไก่กิน ก่อนเกิดเหตุ ได้ยินเสียงไก่ร้องจึงไปดูที่เล้าไก่หลังบ้าน พบงูกำลังคาบไก่กินอยู่ จึงแจ้งตำรวจแจ้งหน่วยกู้ภัยสว่างบึงสามพันธรรมสถาน ทำการจับงูเหลือมขนาดใหญ่ ออกมาจากเล้าไก่ และนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป
 
เจ้าของร้านอาหารที่เพชรบูรณ์ ขอให้กู้ภัยมาช่วยจับงูเหลือม ตัวยาวถึง 6 เมตร แอบมาลักกินไก่จนเกือบหมดเล้า หลังไก่หายไปทีละตัวสองตัว จนสุดท้ายได้ยินเสียงไก่ร้อง จึงไปดู พบงูเหลือมกำลังคาบไก่กินอยู่
ข่าว,ทั่วไทย
งูเหลือม กินไก่,กู้ภัยช่วยจับงูเหลือม,งูเหลือมกินไก่เกือบหมดเล้า,บึงสามพัน,เพชรบูรณ์
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1013607
ณเดชน์-ยุ้ย จีรนันท์ คว้าดารานำโทรทัศน์ทองคํา ลูกทาส ละครดีเด่น
ผู้กำกับดีเด่น และองค์ประกอบศิลป์ดีเด่น ,เมื่อวันที่ 14 มีนาคม มีการประกาศผลรางวัลโทรทัศน์ทองคํา ครั้งที่ 29 ประจำปี 2557 ซึ่งในปีนี้ จัดขึ้นที่หอประชุมใหญ่ กรมประชาสัมพันธ์ ซ.อารีย์สัมพันธ์ โดยมีดารามาร่วมงานคับคั่ง อาทิ ยุ้ย จีรนันท์, ธันญ์ ธนากร, จุ๋ย วรัทยา, โอ๊ต วรวุฒิ, โฬม พัชฏะ, วาววา ณิชารีย์, บอย ถกลเกียรติ, หนุ่ม คงกะพัน, ติ๊ก กัญญารัตน์, แองจี้ เฮสติ้ง, พิชญ์ กาไชย ฯลฯ,สำหรับผลรางวัล แบ่งตามประเภทได้ดังนี้,ประเภทละคร,รางวัลละครดีเด่น,ละคร ลูกทาส ทางช่อง 3,รางวัลดารานำหญิงดีเด่น,ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม จากละคร เนตรนาคราช ทางช่อง 7,รางวัลดารานำชายดีเด่น,ณเดชน์ คูกิมิยะ จากละคร รอยฝันตะวันเดือด ทางช่อง 3,รางวัลดาราสนับสนุนหญิงดีเด่น,จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา จากละคร สามีตีตรา ทางช่อง 3,รางวัลดาราสนับสนุนชายดีเด่น ,โอ๊ต วรวุฒิ นิยมทรัพย์ จากละคร มาลีเริงระบำ ทางช่อง 3,รางวัลผู้กำกับดีเด่น,ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์ ละคร ลูกทาส ทางช่อง 3,รางวัลบทละครโทรทัศน์ดีเด่น,ละคร ในสวนขวัญ ทางช่อง 3,รางวัลเพลงละครดีเด่น,เพลง สิ่งลึกลับซับซ้อนในจักรวาล จากละคร คัพเค้ก รักล้นครีม ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี,รางวัลองค์ประกอบศิลป์ดีเด่น,ละคร ลูกทาส ทางช่อง 3,รางวัลละครสร้างสรรค์สังคมดีเด่น,ละคร เด็กชายในเงา ทางช่องไทยพีบีเอส,รางวัลมิวสิกวิดีโอเพลงไทยสากลดีเด่น,เพลง ฝากไว้ในกายเธอ ศิลปิน วิโอเลต วอเทียร์,ประเภทสถานี,รางวัลสถานีส่งเสริมรายการข่าวดีเด่น,สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7,รางวัลสถานีส่งเสริมรายการกีฬาดีเด่น,สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7,รางวัลสถานีส่งเสริมรายการความรู้และศิลปวัฒนธรรมดีเด่น,สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5,รางวัลสถานีส่งเสริมรายการเด็ก เยาวชน สตรี และครอบครัวดีเด่น,สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส,ประเภทรายการข่าวและสถานการณ์ปัจจุบัน,รางวัลผู้สื่อข่าวดีเด่น,กรุณา บัวคำศรี สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3,รางวัลผู้ประกาศข่าวดีเด่น,กิตติมา ณ ถลาง สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์,รางวัลรายการวิเคราะห์เจาะลึกสถานการณ์ดีเด่น,รายการ คอลัมน์หมายเลข 7 ทางช่อง 7,ประเภทรายการกีฬา,รางวัลรายการส่งเสริมกีฬาดีเด่น,รายการ เสน่ห์กีฬา ทางช่อง 3 ,รางวัลผู้บรรยายกีฬาดีเด่น,ไพโรจน์ กิ่งแก้ว ผู้บรรยายกีฬาเอเชียนเกมส์ 2014,ประเภทผู้พากย์และผู้บรรยาย,รางวัลผู้พากย์ดีเด่น,ทีมพากย์การ์ตูนเรื่อง ไอซ์เอจ 4 เจาะยุคน้ำแข็งมหัศจรรย์ กำเนิดแผ่นดินใหญ่ ทางช่อง 7,รางวัลผู้บรรยายสารคดีดีเด่น,ธนศักดิ์ อุ่นอ่อน เรื่อง ทะลุเวลาสู่ยุโรป ทางช่อง 7,ประเภทรายการเกมโชว์และปกิณกะ,รางวัลรายการเกมโชว์ดีเด่น,รายการ เกมพันหน้า เอื้ออาทร ทางช่อง 7,รางวัลรายการปกิณกะดีเด่น,รายการ บางอ้อ ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี,ประเภทรายการเด็ก เยาวชน สตรี และครอบครัว,รางวัลละครส่งเสริมเยาวชนดีเด่น,ละคร หลวงตามหาชน ทางช่อง 3,รางวัลรายการสตรีดีเด่น,รายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ทางช่องไทยพีบีเอส,รางวัลรายการครอบครัวดีเด่น,รายการ ลุยไม่รู้โรย ทางช่องไทยพีบีเอส,ประเภทรายการส่งเสริมความรู้และศิลปวัฒนธรรม,รางวัลรายการสารคดีเทิดพระเกียรติดีเด่น,รายการ ฟ้าห่มดิน ทางช่อง 5,รางวัลรายการส่งเสริมความรู้ทั่วไปดีเด่น ,รายการ ทั่วถิ่นแดนไทย ทางช่องไทยพีบีเอส,รางวัลรายการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมดีเด่น,รายการ กระจกหกด้าน ทางช่อง 7,ประเภทพิธีกร หรือผู้ดำเนินรายการ,รางวัลผู้ดำเนินรายการชายดีเด่น,จรงศักดิ์ รองเดช รายการภัตตาคารบ้านทุ่ง ทางช่องไทยพีบีเอส,รางวัลผู้ดำเนินรายการหญิงดีเด่น ,ติ๊ก กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ รายการเซย์ไฮ ทางช่อง 3,รางวัลเกียรติยศคนทีวี,สุชาดี มณีวงศ์,พิศณุ นิลกลัด,ถกลเกียรติ วีรวรรณ
ณเดชน์-ยุ้ย จีรนันท์ คว้าดารานำรางวัลโทรทัศน์ทองคํา ครั้งที่ 29 จุ๋ย-โอ๊ต วรวุฒิ ได้ดาราสนับสนุน ละครดีเด่น ขณะที่ ละคร ลูกทาส ช่อง 3 กวาด 3 รางวัล ละครดีเด่น, ผู้กำกับดีเด่น และองค์ประกอบศิลป์ดีเด่น
null
โทรทัศน์ทองคํา,ประกาศรางวัล,รางวัลโทรทัศน์ทองคํา,ผลรางวัลโทรทัศน์ทองคํา,โทรทัศน์ทองคํา ครั้งที่29,ละคร,เพลงละคร,ดารานำ,ดาราสมทบ,รายการข่าว,ข่าวบันเทิง,ยุ้ย จีรนันท์,จีรนันท์ มะโนแจ่มลูกทาส,ณเดชน์ คูกิมิยะ,จุ๋ย วรัทยา,วรัทยา นิลคูหา,โอ๊ต วรวุฒิ,วรวุฒิ นิยมทรัพย์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/486939
อุปทูตสหรัฐฯร่วมไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดราชประสงค์
วันที่ 19 ส.ค. เมื่อเวลา14.30น.ที่บริเวณหน้าศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ นายดับเบิ้ลยู แพททริค เมอร์ฟี่ อุปทูตและรักษาการเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูต จำนวนหนึ่ง เดินทางนำดอกกุหลาบสีชมพู มาวางดอกไม้อาลัยแก่เหยื่อผู้เสียชีวิต และให้กำลังใจกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ เมื่อค่ำวันที่ 17 ส.ค. จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก พร้อมกันนี้ นายดับเบิ้ลยู. แพททริค เมอร์ฟี่ ยังนำพวงมาลัยดอกดาวเรือง มาสักการะท้าวมหาพรหม,จากนั้นให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่มารอทำข่าวเป็นจำนวนมากว่า ในนามรัฐบาลสหรัฐฯ รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้กำลังใจกับผู้บาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตทุกคน ให้สามารถดำเนินชีวิตต่อไป กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางการสหรัฐ ก็ไม่เคยได้รับการแจ้งเตือนมาก่อนเช่นกัน เรามีข้อมูลเท่าที่รัฐบาลไทยมีข้อมูลอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือประเทศไทยเท่าที่สามารถให้ได้ หากรัฐบาลไทยร้องขอความช่วยเหลือมา,ขณะที่ก่อนหน้านี้ บรรยากาศบริเวณศาลท้าวมหาพรหม มูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ ได้เปิดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าสักการะองค์ท้าวมหาพรหมแล้ว ตั้งแต่เวลา เวลา 08.15น. โดย มีประชาชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ศรัทธา เริ่มมาสักการะขอพร พร้อมดอกไม้ที่นำมาไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิด ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ เฝ้าระวังเหตุอย่างใกล้ชิด,ทั้งนี้ นายเจ้าเว่ย นักท่องเที่ยวชาวจีน จากเมืองซีฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเดินทางมาสักการะท้าวมหาพรหมพร้อมกับครอบครัว กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกกลัว หรือตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ระเบิดที่ผ่านมา เพราะเหตุการณ์คล้ายกับเหตุการณ์ที่ระเบิดสมุย ส่วนที่กลุ่มชาวจีนเริ่มกลายเป็นเป้าหมายของผู้ก่อการร้ายนั้น ตนคิดว่า ชาวจีนส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวประเทศไทยเป็นจำนวนมากทุกปี ไม่ได้รู้สึกกลัวเช่นเดียวกัน
อุปทูตสหรัฐฯร่วมวางดอกไม้ไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิด ยัน สหรัฐไม่เคยได้รับข้อมูลแจ้งเตือนมาก่อน ยินดีให้ความช่วยเหลือไทย หากรัฐบาลร้องขอมา ขณะที่ บรรยากาศ บริเวณศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ข่าว,ทั่วไทย
ระเบิดราชประสงค์,ระเบิดแยกราชประสงค์,ระเบิดพระพรหม,ระเบิดสยาม,อุปทูตสหรัฐ,ไว้อาลัย,ระเบิด,ราชประสงค์,วางดอกไม้,ดับเบิ้ลยู แพททริค เมอร์ฟี่,อุปทูตและรักษาการเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย,ดอกกุหลาบ,ท้าวมหาพรหม,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/news/local/519434
บิ๊กซี ลดค่าครองชีพผู้ปกครอง ขนสินค้ารับเทศกาลเปิดเทอม
นายปฐพงศ์ เอี่ยมสุโร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซีเปิดเผยว่า บิ๊กซีเล็งเห็นความสำคัญที่จะช่วยลดค่าครองชีพให้ผู้ปกครอง เพื่อต้อนรับการเปิดเทอมในเดือน ก.ค.นี้ โดยได้จัดโปรโมชันสุดคุ้มภายใต้แคมเปญ ลดสนั่น ช็อปสนุก ขนทัพสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำกว่า 10000 รายการ มอบส่วนลดสูงสุด 80% อาทิ ชุดนักเรียน เริ่มต้นที่ 39 บาท รองเท้านักเรียน เริ่มต้น 99 บาท ถุงเท้า เริ่มต้น 25 บาท กระเป๋านักเรียน เริ่มต้น 179 บาท และชุดชั้นในเด็กชาย เด็กหญิง เด็กลดสูงสุด 25% รวมถึงอุปกรณ์ลูกเสือ เนตรนารี คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก และโต๊ะเขียนหนังสือ สำหรับกลุ่มเครื่องเขียนราคาลดสูงสุดกว่า 50% อาทิ อุปกรณ์เครื่องเขียนยูนิคอร์น ราคาเริ่มต้นที่ 9 บาท/ชิ้นนอกจากนี้ บิ๊กซียังเตรียมโปรโมชันพิเศษเพื่อรองรับการเรียนหนังสือออนไลน์สำหรับการเรียนแบบ New Normal โดยจัดสินค้าในกลุ่มทีวี 24 นิ้ว ราคาพิเศษ 2290 บาท เครื่องพรินเตอร์ราคาพิเศษ 1690 บาท โน้ตบุ๊ก เลอโนโว ราคา 14990 บาท และซื้อสินค้าโน้ตบุ๊กฟรีเครื่องพรินเตอร์ โต๊ะญี่ปุ่นยูนิคอร์น ราคา 139 บาท จากราคาปกติ 199 บาท รวมถึงยังมีชุดของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กในราคาพิเศษต่างๆอีกมากมายให้เลือกซื้อ โดยบิ๊กซีตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 600 ล้านบาทจากแคมเปญดังกล่าว จนถึง 8 ก.ค.63 นี้.
นายปฐพงศ์ เอี่ยมสุโร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เปิดเผยว่า บิ๊กซีเล็งเห็นความสำคัญที่จะช่วยลดค่าครองชีพให้ผู้ปกครอง
ข่าว,เศรษฐกิจ
บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์,ห้างค้าปลีก,ปฐพงศ์ เอี่ยมสุโร,โปรโมชันพิเศษ,เรียนหนังสือออนไลน์,ลดค่าครองชีพ,ข่าววันนี้
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1866789
หนีไฟแนนซ์-โจรกรรม-จำนำบ่อน ชี้จุดเดียวรถไทยข้ามไปลาว 100 คันต่อเดือน
วันที่ 4 ธ.ค. ว่าที่ ร.อ.พงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 พ.ต.ต.ศักดิ์ชัย บุญภิโย รักษาราชการแทน ผบ.ร้อย ตชด.237 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ลงพื้นที่ตรวจสอบหารือวางมาตรการแก้ปัญหาการลักลอบนำรถยนต์โจรกรรมข้ามชาติ ส่งออกไปขายประเทศเพื่อนบ้าน หลังมีปัญหาการลักลอบนำรถยนต์โจรกรรมส่งข้ามไปขายบ่อยครั้ง,ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้ตรวจยึดรถยนต์กระบะโตโยต้า 4 ประตู วีโก้ สีขาว ถึง 2 คันซ้อน ขณะขบวนการโจรกรรมรถยนต์ข้ามชาตินำลงเรือหางยาวขนาดใหญ่ที่ต่อเป็นแพ แต่เจ้าหน้าที่สกัดตรวจยึดไว้ได้ทัน บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านนาขาท่า หมู่ 8 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม (,ยึด 2 คัน วีโก้ สีขาว 4ประตู ของโปรดโจรข้ามชาติ ขนลงแพจ่อข้ามโขงไปขาย,),ทั้งนี้ จากการตรวจสอบต่อมาทราบว่า เป็นรถยนต์ที่อยู่ระหว่างการเช่าซื้อ คาดว่ามีการนำไปจำนำตามบ่อนพนัน ก่อนถูกส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้จากข้อมูลเชิงลึกพบว่า มีการลักลอบขนส่งรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมไปขายประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 100 คัน จึงต้องมีการเพิ่มมาตรการป้องกันตัดวงจรเส้นทางการโจรกรรม,ว่าที่ ร.อ.พงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหาการลักลอบนำรถยนต์โจรกรรมส่งข้ามไปขายประเทศเพื่อนบ้าน ถือเป็นปัญหาสำคัญที่จะต้องร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ตชด. ทหาร และชุมชนหมู่บ้าน วางแนวทางสกัดกั้นปราบปรามจริงจัง เพราะมีการลักลอบบ่อยขึ้น แต่ละเดือนพบว่ามีรถยนต์จำนวนมากที่ลักลอบส่งข้ามไปขาย เนื่องจากพื้นที่แนวแม่น้ำโขงมีระยะทางยาว เป็นอุปสรรคในการตรวจสอบดูแลได้อย่างทั่วถึง ซึ่งรถยนต์ที่มีการลักลอบส่งไปขาย ล่าสุดจากการตรวจสอบเชิงลึก พบว่าส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ที่ได้มาจากบ่อนการพนันต่างจังหวัด ที่เจ้าของนำไปจำนำ และเป็นรถยนต์ที่ยังอยู่ระหว่างการเช่าซื้อกับบริษัทผู้ขาย บางคันที่ใช้วิธีดาวน์ต่ำและนำมาขาย ยอมที่จะผิดสัญญาเช่าซื้อ หรืออาจมีการแจ้งหาย เพื่อเรียกค่าเสียหายจากบริษัทประกันภัย,นายอำเภอท่าอุเทน กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน กลุ่มโจรกรรมจะไม่เน้นเรื่องรถยนต์โจรกรรม เนื่องจากส่งขายลำบาก เพราะผู้เสียหายติดตาม แต่หากเป็นรถยนต์จากบ่อนพนัน หรือหนีไฟแนนซ์ จะไม่มีผู้เสียหายติดตาม ง่ายต่อการลักลอบ อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการวางแผนเพิ่มมาตรการเข้มงวดมากขึ้น เพราะจะเป็นต้นเหตุของการโจรกรรมรถยนต์ จะต้องมีการตัดวงจรการค้า โดยจะได้หารือกับทางตำรวจ ทหาร นรข. ฝ่ายปกครอง ในการลงพื้นที่สกัดกั้นปราบปรามจับกุมต่อเนื่อง ที่สำคัญจะต้องเดินหน้าเรื่องการสร้างความเข้าใจ ให้ความรู้กับชาวบ้านร่วมแจ้งข้อมูล เบาะแส รวมไปถึงการส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ยั่งยืน ไม่หวังประโยชน์จากกลุ่มขบวนการกระทำผิดกฎหมาย,จากการตรวจสอบส่วนใหญ่จะลักลอบส่งไปขายในพื้นที่เดิม มีเป้าหมายไม่กี่จุด ที่จะต้องวางแนวทางป้องกัน และเชื่อว่ามีคนในพื้นที่เกี่ยวข้องด้วยแน่นอน ดังนั้นหากชาวบ้านในพื้นที่ให้ความร่วมมือแจ้งเบาะแส ก็มั่นใจว่าจะลักลอบทำผิดได้ยาก นายอำเภอท่าอุเทน กล่าว. 
นอภ.ท่าอุเทน นครพนม สั่งสอบเชิงลึกแก๊งมิจฉาชีพนำรถยนต์ลงแพในแม่น้ำโขงขายข้ามชาติ ชี้พักหลังไม่ค่อยพบรถถูกโจรกรรม แต่จะเป็นรถที่จำนำในบ่อน หรือดาวน์ถูกหนีไฟแนนซ์ เชื่อมีคนในพื้นที่รู้เห็นแน่นอน ดึงชุมชนช่วยแจ้งเบาะแส
null
โจรกรรมรถข้ามชาติ,ส่งขายลาว,ลักรถขายลาว,ท่าอุเทน,นครพนม
https://www.thairath.co.th/content/801641
ชูวิทย์ สอนคติประจำใจ ใช้ชีวิตในคุก อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้
ชูวิทย์ สอนเรื่องคุก เรื่องตะราง ชี้ ชีวิตในคุกจะต้อง อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ ถือเป็นคติประจำใจคนคุก ระบุ มันไม่เข้าใครออกใคร มีสิทธิ์ติดกันได้หมด ตั้งแต่ยาจกยันรัฐมนตรี อย่าคิด ออกมาแล้วจะไม่ได้กลับเข้าไปอีก,เรื่องคุก เรื่องตะราง,ความจริง คือ ประสบการณ์,ผมมีประสบการณ์จากคุกมาหลายอย่าง โดนไป 3 หน ครั้งแรกปี 2546 ล่าสุดปี 2561 จนเอามาเล่าในหนังสือ เหลี่ยมคุก ขายดิบขายดี เพราะคนอยากรู้เรื่องในคุกแดนสนธยา,เคยเข้าไปตรวจคุกในฐานะ ส.ส. และเข้าไปติดคุกในสถานะนักโทษ แฉเรื่องคุก แล้วกลับไปติดอีก เข้าๆ ออกๆ หลายครั้งหลายครา จนผู้คุมระอา ถามว่า ,ชูวิทย์ จะกลับมาอีกไหม?,ผมสรุปให้สั้นๆ ว่า ชีวิตในคุกจะต้อง อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ ถือเป็นคติประจำใจของคนคุก,เหตุที่เอามาพูดเพราะมีผู้ที่ รู้ไม่จริง ออกมาพูดเรื่องในคุก ทั้งที่ไปติดอยู่ในเรือนจำเพียง 2-3 เดือน ถึงกับเอามาเสวนาเรื่องคุก ว่ามีแดนวีไอพีบ้าง เลี้ยงวันเกิดในคุกบ้าง ล้วนแต่พูดไปด้วยความมันส์ตอนออกนอกคุก แต่ทำให้เดือดร้อนกันทั้งคุกเพราะความอยากดัง,ในคุกต้องมองทั้งด้านของผู้ควบคุม (กรมราชทัณฑ์) และด้านของนักโทษ จึงเล่าในฐานะศิษย์เก่า 3 รอบ หลายสถานะ ดังนี้,1. ประเทศไทยมีเรือนจำอยู่ทั้งหมด 143 แห่ง พร้อมเหล่านักโทษหลากหลายประเภท ทั้งพวกประกันตัวไม่ได้ ไปจนถึงพวกนักโทษเดนนรก ร่วม 400,000 คน คิดดูว่าจำนวนผู้คุม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และงบประมาณ จะต้องมีเท่าไหร่? เพื่อให้เพียงพอต่อการควบคุมจำนวนนักโทษขนาดนี้,2. ในฐานะที่ผมเคยเป็น ส.ส. อยู่ในคณะกรรมาธิการงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร พิจารณางบทุกกระทรวง ทบวง กรม ที่ใช้เงินหลวงแม้แต่บาทเดียวก็ต้องผ่านคณะนี้ ไม่มีใครอยากอนุมัติเงินงบประมาณไปให้กรมคุก เพื่อไปลงทุนกับนักโทษ เพราะงบประมาณมีอย่างจำกัดจำเกี่ย จึงคิดว่า สู้เอาเงินไปให้พัฒนาประเทศ ช่วยฐานเสียง ดีกว่าไปให้คนคุกเป็นไหนๆ,เอาเฉพาะอาหาร 3 มื้อ ในแต่ละเรือนจำ ที่ต้องเลี้ยงคนคุก 400,000 คนต่อวัน แค่นี้ก็เป็นปริมาณมหาศาล จึงเหลืองบไปลงทุนพัฒนาเรือนจำได้น้อยนิด,3. กลุ่มคนที่ต้องพูดถึงคือบรรดาเจ้าหน้าที่เรือนจำหรือ ผู้คุม ข้าราชการเหล่านี้ต้องใช้ชีวิตอยู่กับนักโทษ เหมือนติดคุกตลอดชีวิต อยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกันกับคนคุก ไม่มีอะไรที่น่าอภิรมย์สักนิด แม้จะหมดเวรกลับบ้าน ก็อาจเอาโรคภัยไข้เจ็บจากคุกที่มีมาก ไปฝากลูกฝากเมียที่บ้านด้วย ไม่ว่าวัณโรค เอดส์ หรือโรคติดต่ออื่นๆ ได้เบี้ยเลี้ยงเสี่ยงภัยเพียงน้อยนิดแค่พันกว่าบาทต่อเดือน,นักโทษที่อยู่ในคุก หากอยู่เป็น ต้องอย่าทำผิดระเบียบเรือนจำ เลี่ยงทำตัวเด่นดัง นิ่งให้ได้ ใจต้องเย็นที่สุด เพราะเดินมาถึงจุดตำ่สุดของชีวิตแล้ว,แต่ชีวิตของคนที่ติดคุกนานๆ หรือตลอดชีวิต อาจไม่มีความหมาย และผู้คุมคือผู้ที่ต้องรับความเสี่ยงตลอดช่วงเวลาที่เข้าเวรเฝ้านักโทษ,ผมเคยเข้าไปในคุก ด้วยสถานะกรรมาธิการตำรวจ ไปตรวจคุก ตอนนั้นท่าน นัทธี จิตสว่าง เป็นอธิบดี จนปี 2559 เข้าไปอีกครั้งในฐานะนักโทษ ได้อภัยโทษ 2 ครั้ง ออกมา และเป็นผู้สื่อข่าวเข้าไปทำข่าวในคุก จนได้กลับเข้าไปใหม่ในสถานะนักโทษอีก เมื่อปี 2561 เข้าๆออกๆ อยู่หลายสถานะ จึงเข้าใจหัวอกของทั้งสองฝั่งเป็นอย่างดี,ไม่ใช่ตอนอยู่ในคุก เป็นลูกแมวเซื่อง พอออกมาได้ก็ทำเป็นโวยวาย รู้มาก เดี๋ยวสักพักได้กลับไปอยู่ใหม่อีก แล้วจะจ๋อย,เรื่องคุก เรื่องตะราง มันไม่เข้าใครออกใคร มีสิทธิ์ติดกันได้หมด ตั้งแต่ยาจกยันรัฐมนตรี,และอย่าคิดว่า ออกมาแล้ว จะไม่ได้กลับเข้าไปอีก.
ชูวิทย์ สอนเรื่องคุก เรื่องตะราง ชี้ ชีวิตในคุกจะต้อง อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ ถือเป็นคติประจำใจคนคุก ระบุ มันไม่เข้าใครออกใคร มีสิทธิ์ติดกันได้หมด ตั้งแต่ยาจกยันรัฐมนตรี
ข่าว,การเมือง
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์,คนคุก,เรื่องคุกเรื่องตะราง,อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้,เหลี่ยมคุก,นักโทษ,กรมราชทัณฑ์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1609293
ป้าต้องการคำตอบ เงินฝากธนาคาร อันตรธานจากบัญชี 8.5 หมื่น
จากกรณีที่ นางบังอร สิงห์โตทอง อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 ม.1 ม.1 ต.ตลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ร้องทุกข์ต่อผู้สื่อข่าว กรณีที่ บัญชีเงินฝากประจำของสามี ชื่อบัญชีนายทองดี อินทร์ยัง เปิดบัญชีฝากประจำตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน กับ ธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาอ.เมืองชัยนาท จำนวนกว่า 2 แสนบาท แต่เงินหายล่องหนไป 85,000 บาทเศษ หายจากบัญชีอย่างไร้ร่องรอย และเป็นปริศนา,ทั้งนี้ นางบังอร ยืนยันว่า ที่บ้านตนไม่มีใครไปเบิกเงินเลย แต่พบมีการถอนออกจากบัญชีซึ่งเป็นชื่อของสามีไปแล้วจำนวน 11 ครั้ง เริ่มถอนตั้งแต่ปี 2554 ด้วยความที่สามีเชื่อใจ จึงไม่ได้ตรวจสอบอะไร แต่เมื่อไปถาม กลับถูกพนักงานขู่ว่าถ้าไปแจ้งความก็จะฟ้องกลับทันที ทำให้รู้สึกว่าถูกรังแก และไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง จึงวอนให้สื่อมวลชนช่วยเป็นกระบอกเสียงทวงความยุติธรรม และคืนเงินมาให้อยู่หมือนเดิม ,ล่าสุด เวลา 10.00 น. วันที่ 18 ก.พ. นางบังอร สิงห์โตทอง เดินทางมายังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท พบกับ นางสาวพรเพ็ญ โตประเสริฐ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท เพื่อขอคำปรึกษาและหาข้อยุติเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว พร้อมขอความเป็นธรรม เนื่องจากตนหาเช้ากินค่ำ เงินฝากที่จะเก็บไว้กินตอนแก่ และรักษาสามีที่ป่วยเส้นเลือดในสมองแตก ช่วยตัวเองไม่ได้แล้ว เงินที่เก็บไว้กลับต้องมาสูญหายอย่างไร้ร่องรอย,ด้าน นางสาวพรเพ็ญ โตประเสริฐ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้เชิญทางธนาคารที่สามีนางบังอร เปิดบัญชีไว้มาชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เกิดอะไรขึ้น โดยทางธนาคารรับปากว่าจะมาในช่วงบ่ายวันนี้ พร้อมนำเอกสารหลักฐานมาชี้แจง มีอัยการฝ่ายคุ้มครองสิทธิ มาเพื่อให้ความเป็นธรรม และเป็นตัวกลางในการเจรจาหาข้อยุติ คลายข้อสงสัยในเรื่องนี้
ป้าชัยนาท ยังเดินหน้าทวงเงินจากธนาคาร หลังเงินในบัญชีหายไป 8.5 หมื่น ยืนยันในบ้านไม่มีใครถอนไปแน่นอน ครวญตั้งใจเก็บไว้กินตอนแก่ ผัวก็ป่วยหนัก ล่าสุดธนาคารฯ เตรียมชี้แจ้งต่อหน้าอัยการ
ข่าว,ทั่วไทย
เงินหายจากบัญชี,เงินหาย8.5หมื่น,เงินฝากหาย,เงินในบัญชีหาย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1498945
ศูนย์ดำรงธรรมยุคใหม่ ทำงานเชิงรุกเพื่อประชาชน
วานนี้ (23 ธ.ค.2562) ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม พร้อมปลัดอำเภอ ทุกจังหวัด กระทรวงมหาดไทย กว่า 300 คน เข้าร่วมโครงการสัมมนาเชิงปฎิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพศูนย์ดำรงธรรมในการขับเคลื่อนและช่วยเหลือประชาชนนายพิชัยยา ตุระซอง ผอ.กลุ่มงานอำนวยการ สำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด ช่วยราชการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ดำรงธรรมคือด่านแรกในการให้บริการและแก้ไขปัญหาของประชาชน การเพิ่มความรู้ด้านเทคนิคกระบวนการไกล่เกลี่ยประนีประนอมข้อพิพาท จึงมีความจำเป็นและสำคัญที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ต้องมีความรู้ความสามารถ และนำไปใช้ได้จริง จึงประสานหน่วยงานอัยการ รวมถึงหน่วยงานต่างๆมาให้ความรู้บุคลากรด้านนาย ณรงค์ ศรีระสันต์ อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน กล่าวว่าการที่จะยุติปัญหาให้กับประชาชนที่มีข้อขัดแย้งกันนั้น ต้องมีศิลปะในการพูดไกล่เกลี่ย สร้างความเข้าใจ สร้างความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายและบางปัญหาต้องเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมไกล่เกลี่ย ยกตัวอย่างเช่นกรณีรถบรรทุกของบริษัทแห่งหนึ่งชนคนเสียชีวิต การจะให้คนขับมารับผิดชอบเพียงคนเดียว รายได้คงไม่เพียงพอ ดังนั้นการเชิญ นายจ้าง เชิญประกันภัย เชิญหน่วยงานคปภ. และตำรวจน่าจะเป็นทางออกอย่างหนึ่งที่ทำให้ฝ่ายผู้สูญเสียได้รับเงินเยียวยาดีกว่าต้องไปฟ้องร้องต่อศาลซึ่งต้องใช้ระยะเวลายาวนานนอกจากนี้ศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ ยังเปิดเผยถึงการรับเรื่องร้องเรียน ในปี2562 พบว่า การขอความช่วยเหลือด้านต่างๆของประชาชนมีจำนวนมาก ต่อมาคือการร้องเรียนเรื่องปัญหาที่ดิน ซึ่งมีความสลับซับซ้อนช่องทางการรับเรื่องร้องเรียน ของศูนย์ดำรงธรรม มี 6 ช่องทางดังนี้1.มารับบริการด้วยตนเอง2.โทรศัพท์สายด่วน 1567 (โทรฟรี 24 ชม.)3.ส่งจดหมาย มาที่ ตู้ ปณ.101 ปณฝ.มหาดไทย กทม.102004.www.damrongdhan.moi.go.th5 App Spond แจ้งเบาะแสหรือร้องเรียน6.App MOI1567
กระทรวงมหาดไทยเปิดปฎิบัติการ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ เติมเทคนิคความรู้ด้านกฎหมาย แก้ไขปัญหาข้อพิพาทให้ประชาชน กับอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน
อาชญากรรม
ข่าวไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/287377
ปากซอยพหลโยธิน 58 กองขยะทิ้งเกลื่อนกลาดกีดขวางทาง วอนจนท.จัดระเบียบ
บริเวณหน้าปาก ซอยพหลโยธิน 58 แยก 73 แขวงและเขตสายไหม มี ถุงขยะถูกกองทิ้งไว้ จำนวนมาก จนกีดขวางทางเข้า–ออก ประชาชนเห็นแล้วดูสกปรกไม่เป็นระเบียบ รบกวน เขตสายไหม ช่วยจัดระเบียบจุดทิ้งขยะบริเวณนี้ด้วย,ฝาท่อแตกชำรุด, ภายใน ซอยวัดเจ้ามูล เขตบางกอกใหญ่ ชาวบ้านแจ้งมา ฝาท่อทรุดตัวเป็นหลุมลึก หวั่นเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงในเวลากลางคืน เพราะถนนเส้นนี้สามารถทะลุออกได้หลายเส้นทาง ทำให้มีรถสัญจรไปมาจำนวนมาก ฝากเจ้าหน้าที่รับผิดชอบ เขตบางกอกใหญ่ ซ่อมแซมให้ด่วน,ประชาชนเดือดร้อน, เจอพวกมักง่ายจอดซื้อของข้างถนน บริเวณตลาดจุลจักร ซอยสะแกงาม 42 ถนนสะแกงาม แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน เพราะความเห็นแก่ตัวทำให้รถติด จอดซ้อนคันไม่เป็นระเบียบ จากถนน 2 เลน เหลือแค่ครึ่งเลน เจ้าหน้าที่รับผิดชอบ เขตบางขุนเทียน ลงมาจัดการหน่อย,ถนนแตกร้าว,คนคันคลองร้องมา บริเวณ ถนนเลียบคลองชลประทาน ต.เขาน้อย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ ตลาดแพไม้ ไปจนถึง สี่แยกไฟแดง ผิวถนนคอนกรีตแตกร้าวทรุดตัวทั้งสองฝั่งเป็นหลุมบ่อต่างระดับ ชาวบ้านใช้รถขับขี่กันแบบไม่ปลอดภัยหวั่นเกิดอุบัติเหตุในยามค่ำคืน พื้นที่ใครรับผิดชอบ เร่งจัดการซ่อมแซมให้ที,พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.นครปฐม ชี้แจงกรณี ,ชาวบ้านแจ้งมา, ,ถูกชายคนหนึ่งดักเก็บค่าจอดรถ, บริเวณสถานีรถไฟนครปฐม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม สภ.เมืองนครปฐม ตรวจสอบแล้ว บริเวณดังกล่าวมีการเก็บค่าจอดรถจักรยานยนต์จริง ในอัตรา 10 บาท/วัน โดยสถานีรถไฟได้ทำสัญญาตกลงมอบหมายให้ นายเจษฎา มาสม เป็นผู้ดูแล โดยมีการออกใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีอย่างถูกต้อง จึงเรียนมาเพื่อทราบ,[email protected]
บริเวณหน้าปาก ซอยพหลโยธิน 58 แยก 73 แขวงและเขตสายไหม มี ถุงขยะถูกกองทิ้งไว้ จำนวนมาก จนกีดขวางทางเข้า–ออก ประชาชนเห็นแล้วดูสกปรกไม่เป็นระเบียบ รบกวน เขตสายไหม ช่วยจัดระเบียบจุดทิ้งขยะบริเวณนี้ด้วย
ข่าว,ทั่วไทย
ทิ้งขยะข้างถนน,ฝาท่อแตกชำรุด,ดักเก็บค่าจอดรถ,จอดรถซ้อนคัน,ห้องร้องทุกข์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/1149830