title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
มหาวิทยาลัย 4 ภาคทดสอบ 5 จี
กสทช.ต่อเชื่อมภาคเกษตร-การแพทย์-ความปลอดภัย,นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวภายหลังลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) เพื่อร่วมจัดตั้งศูนย์ทดลองทดสอบ 5 จี ว่า กสทช.ต้องการเตรียมพร้อมประเทศไทยเข้าสู่ยุค 5 จี ในช่วงปลายปี 2563 กสทช.จึงเร่งทำการทดสอบการนำเทคโนโลยี 5 จี เพื่อใช้ในภาคการผลิต การบริการ ขนส่งสินค้า เกษตรกรรม ฯลฯ โดยคาดว่าในช่วง 2-3 เดือน ข้างหน้า จะเห็นผลที่ชัดเจนยิ่งขึ้น,กสทช.ต้องการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ยุค 5 จี เพราะจะเป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของโลก หากไทยไม่ปรับตัว ไม่เตรียมความพร้อมตั้งแต่วันนี้อาจตกขบวนและล่าช้ากว่าประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มอาเซียน ซึ่งขณะนี้เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ก็เตรียมทดสอบ 5 จีเช่นกัน ซึ่งหลังจากนี้แต่ละมหาวิทยาลัยจะไปจัดทำโครงการที่จะนำเทคโนโลยี 5 จี ไปใช้ในการทดสอบ ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินงบประมาณราว 50 ล้านบาทต่อมหาวิทยาลัย โดยก่อนหน้านี้ได้อนุมัติวงเงินดังกล่าวให้กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไปดำเนินการทดสอบก่อนหน้า,ด้านนายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ขณะนี้ กสทช.อยู่ระหว่างร่างกฎระเบียบสำหรับการ ทดลองทดสอบ 5 จี เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการโทรคมนาคมในการขอใช้คลื่นความถี่ได้อย่างรวดเร็ว โดยคลื่นที่จะนำมาใช้ทดลองทดสอบครั้งนี้จะเป็นย่าน 26 กิกะเฮิรตซ์ กับ 28 กิกะเฮิรตซ์ คาดว่าภายใน 2 เดือนข้างหน้าจะดำเนินการแล้วเสร็จ และเปิดให้เอกชนที่สนใจยื่นขอทดลองในพื้นที่ กสทช.กำหนดต่อไป,การทดลองทดสอบในมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความเป็นไปได้ที่จะทดลองกับภาคเกษตรกรรม เป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ขณะที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะทดลองระบบความปลอดภัย การจัดเก็บข้อมูลยืนยันตัวตน ในพื้นที่ภาคใต้ เป็นการนำร่อง ส่วนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เบื้องต้น จะนำมาใช้ในการสื่อสารระหว่างโรงพยาบาลกับรถพยาบาล รวมถึงสื่อสารกับทีมแพทย์ แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับการเสนอโครงการของแต่ละมหาวิทยาลัยด้วย.
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวภายหลังลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.)
ข่าว,เศรษฐกิจ
ฐากร ตัณฑสิทธิ์,กสทช.,ยุค 5 จี,เทคโนโลยี,เอ็มโอยู,ก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร,การโทรคมนาคม
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1596855
สาวไทย ลอบขนยาเสพติดเข้าญี่ปุ่น ล่ามเตือนอาจกระทบ นักท่องเที่ยวไทย
นายธนากร ใจสุขสกุลดี, ล่ามภาษาญี่ปุ่น โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า สาวไทยขนยาเสพติดประเภทโคเคน มาจากสนามบินเนปาลเข้ามาที่สนามบินคันไซ ฉลองเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบินเนปาล วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ศุลกากรสนามบินคันไซ รู้สึกผิดปกติที่ผู้หญิงไทยคนดังกล่าวนำเสื้อโค้ตกันหนาวชนิดหนา สำหรับฤดูหนาวใส่ในกระเป๋าเดินทางมาด้วยถึง 4 ตัว ทั้งที่ในวันนั้นอากาศร้อนอุณหภูมิสูงถึง 35 องศาฯ จึงนำเข้าเครื่องเอกซเรย์และพบว่ามีโคเคนถูกแบ่งใส่ถุงเล็กๆ 14 ถุง ยัดซุกซ่อนภายในตัวเสื้อโค้ต,โดยโคเคนทั้งหมดมีน้ำหนักรวมถึง 3.2 กิโลกรัม มีมูลค่าราคาในท้องตลาดญี่ปุ่นสูงถึง 65 ล้านสามแสนเยน ศุลกากรจึงได้แจ้งตำรวจให้นำตัวสาวไทยไปดำเนินคดีในข้อหาลักลอบขนยาเสพติดเข้าญี่ปุ่น ผู้ต้องสงสัยชื่อ น.ส.ศิริรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี อาชีพพนักงานบริษัท ผู้ต้องสงสัยให้การยอมรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างด้วยค่าจ้าง 20,000 บาท หากทำสำเร็จ,จากนั้น เจ้าของโพสต์ดังกล่าวได้โพสต์เพิ่มเติมว่า ตามมาติดๆ กันอีกข่าวหนึ่ง วันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่สนามบินคันไซที่เดิม ศุลกากรสนามบินตรวจจับผู้หญิงไทยขนยาเสพติดได้อีก โดยทั้งสามถูกตรวจพบว่าพยายามลักลอบขนยาเสพติดเข้าญี่ปุ่น โดยการเอายาเสพติดบรรจุใส่ในถุงยางอนามัยแล้วแบ่งกันยัดซุกซ่อนใส่ในกางเกงในและจิมิ ยาเสพติดน้ำหนักรวม 1.5 กิโลกรัม มูลค่าในตลาดกว่า 90 ล้านเยน,ทั้งสามคนให้การยอมรับสารภาพแต่โดยดี,หลังจากนั้นในวันเดียวกันศุลกากรสามารถตรวจจับผู้หญิงชาวมาเลเซียอายุ 47 ปี เดินทางมาพร้อมลูกชายอายุ 18 ปี เธอใช้วิธีละลายยาเสพติดจำนวน 900 กรัมลงในน้ำแล้วกรอกใส่ลงในขวดแชมพู แต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาของเจ้าหน้าที่สนามบินไปได้,ดังนั้น นักท่องเที่ยวชาวไทย ต่อไปท่านอาจจะต้องถูกเจ้าหน้าที่เปิดกระเป๋าตรวจสอบอย่างละเอียด อาจจะถูกล้วงทั่วร่างกายกันถ้วนหน้านั่นแหละ เดินทางครั้งต่อไปกรุณาเผื่อเวลากันไว้ให้มากด้วยนะครับทุกคน ปลาเน่าสองสามตัวเหม็นทั้งประเทศ.,ธนากร ใจสุขสกุลดี,yahoo japan
งามหน้า สาวไทยลอบขนยาเสพติดเข้าสนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น พบซ่อนตามเสื้อโค้ต กางเกงใน และอวัยวะเพศ ขณะที่ล่ามเตือนอาจกระทบนักท่องเที่ยวไทย เพราะปลาเน่าไม่กี่ตัวทำเหม็นทั้งประเทศ
ข่าว,สังคม
ขนยาเสพติด,ลอบขนยาบ้า,ขนยาเข้าญี่ปุ่น,ตำรวจญี่ปุ่น,สนามบินคันไซ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1674390
วงเสวนาจัดการน้ำท่วมชี้บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ตอกย้ำความรู้สึกไม่เท่าเทียมกัน
การจัดทำความสะอาด หรือ Big Cleaning Day ในขณะที่ชานเมืองและพื้นที่เกษตรรอบกรุงเทพมหานครยังไม่ได้รับการแก้ปัญหาจากน้ำท่วมอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการที่รัฐเร่งกู้นิคมอุตสาหกรรม เป็นประเด็นที่นางสมลักษณ์ หุตานุวัตร จากเครือข่ายศูนย์อาสาฝ่าน้ำท่วม เห็นว่า เป็นเรื่องไม่เหมาะสม แสดงถึงความไม่เป็นธรรมในการเลือกปฏิบัติ ก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคม และเห็นว่าสื่อมวลชนไม่ควรให้ความร่วมมือในการนำเสนอข่าวนี้ด้านรองผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถีเห็นว่า ที่ผ่านมาภาคเกษตรเป็นภาคที่ได้รับความเป็นธรรมน้อยที่สุด โดยดูได้จากลำดับความสำคัญในการจัดสรรน้ำ ซึ่งในฤดูแล้งจะจัดสรรให้เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าและอุตสาหกรรมก่อน โดยภาคเกษตรมาหลังสุด แต่ในทางกลับกัน เมื่อเกิดภาวะน้ำท่วม กลับใช้ภาคเกษตรเป็นพื้นที่รับน้ำ และปกป้องภาคธุรกิจอุตสาหกรรมอย่างเต็มกำลัง ขณะที่ค่าชดเชยให้เกษตรกรก็ไม่มีมาตรฐาน โดยเฉพาะในกลุ่มปศุสัตว์ที่มีความเสียหายมากในวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ แต่ได้รับการเยียวยาที่ไม่เป็นธรรม
ผู้เข้าร่วมเสวนาความเป็นธรรมในการจัดการน้ำท่วมเห็นว่า ประชาชนภาคเกษตรกรรมเป็นผู้ที่ได้รับความเป็นธรรมน้อยที่สุด และการจัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ยิ่งสร้างความรู้สึกไม่เท่าเทียมในสังคม
สังคม
น้ำท่วม,บิ๊กคลีนนิ่งเดย์,มูลนิธิชีววิถี,เครือข่ายศูนย์อาสาฝ่าน้ำท่วม
https://news.thaipbs.or.th/content/48302
อธิบดีกรมควบคุมโรค แนะวิธีซื้อสัตว์ปีกป้องกันโรค
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า แนะนำวิธีเลือกซื้อสัตว์ปีกเบื้องต้น 7 ข้อ เพื่อให้ลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยจากโรค1. เลือกซื้อเป็ดไก่ ที่ดูสดใหม่ เนื้อไม่มีสีคล้ำ ผิวหนังหรือเครื่องในไม่มีจ้ำเลือด 2. ไข่ไก่และไข่เป็ด เลือกฟองที่ดูสดใหม่ และไม่มีมูลติดเปื้อนที่เปลือกไข่ และควรล้างให้สะอาดก่อนปรุงอาหาร 3. ขณะประกอบอาหาร ไม่ควรใช้มือที่เปื้อนจับจมูก ตา และปาก และหมั่นล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะหลังจับเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ และเปลือกไข่ที่มีมูลสัตว์เปื้อน 4. แยกเขียงสำหรับหั่นอาหารดิบ อาหารที่ปรุงสุกแล้ว หรือผักผลไม้โดยเฉพาะ ไม่ใช้เขียงเดียวกัน5. เนื้อไก่ เป็ด และไข่ไก่ ไข่เป็ด ที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดถือว่ามีความปลอดภัย สามารถบริโภคได้ตามปกติ แต่ต้องปรุงให้สุกก่อนรับประทาน ไม่ควรรับประทานแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ และควรเลือกซื้อเป็ด ไก่ที่ผ่านการรับรองจากกรมปศุสัตว์ โดยสังเกตได้จากสายรัดขาสัตว์ปีก ที่ระบุข้อความและหมายเลขของกรมปศุสัตว์6. ไก่และเป็ดที่ขายในท้องตลาด เพื่อใช้ในพิธีเซ่นไหว้ในช่วงตรุษจีน มักนิยมต้มแบบไม่ให้สุกมากนัก ดังนั้นก่อนนำมารับประทาน ควรนำมาปรุงให้สุกอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและมั่นใจในการนำไปบริโภค7. ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ปีก ไม่ควรสัมผัสสัตว์ปีกด้วยมือเปล่า หากจำเป็นต้องอุ้มสัตว์ปีกให้ระวังไม่ให้สัตว์ปีกสัมผัสกับหน้า จมูก หรือปาก ไม่สัมผัสสารคัดหลั่งจากสัตว์ปีก เช่น น้ำมูก หรือน้ำลาย และต้องล้างมือด้วยน้ำและสบู่หลังจับสัตว์ปีกทันทีส่วนผู้บริโภคที่จะซื้อสัตว์ปีกมาชำแหละเอง ต้องเลือกสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ที่สะอาดและปลอดภัย ไม่มีสิ่งปนเปื้อนและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ควรเลือกสถานที่ที่มีการติดป้าย ตลาดสด น่าซื้อ หรือ ป้ายรับรองสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์สะอาด (เขียงสะอาด) ที่ติดไว้หน้าร้านจำหน่าย เพื่อความมั่นใจแก่ประชาชนที่เลือกซื้ออาหารสำหรับนำไปประกอบพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ และความปลอดภัยในเรื่องการบริโภคสัตว์ปีก และหากประชาชนมีอาการ ไข้ ปวดหัว หนาวสั่น เจ็บคอ ไอ มีประวัติสัมผัสสัตว์ปีกที่ป่วยหรือตายผิดปกติ ภายใน 7 วัน ต้องรีบไปสถานพยาบาลโดยเร็ว เพื่อรับการตรวจคัดกรองและรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับโรค ได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลฮ็อตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข โทร 1422
อธิบดีกรมควบคุมโรค แนะวิธีเลือกซื้อสัตว์ปีก เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยจากโรค โดยผู้บริโภคที่จะซื้อสัตว์ปีกมาชำแหละเองต้องเลือกสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ที่สะอาดและปลอดภัย ไม่มีสิ่งปนเปื้อน
สังคม
ซื้อสัตว์ปีก,ตรุษจีน,วิธี,อธิบดีกรมควบคุมโรค
https://news.thaipbs.or.th/content/60109
บุกยิงหัว แม่ค้า สลดคาร้านชำปัตตานี คนร้ายทำทีขอซื้อเบียร์
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 ก.พ.63 ร.ต.ท.มณฑล บัวพัว รอง สว.(สอบสวน) สภ.มายอ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่บ้านเลขที่ 40 บ้านควนหยี ม.3 ต.ปะโด จึงรายงานให้ พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พ.ต.อ.สืบสกุล มณีนวล ผกก.สภ.มายอ รับทราบ พร้อมนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดหตุเมื่อไปถึงพบว่าที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว เปิดเป็นร้านขายของชำ ภายในร้านไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ที่พื้นพบกองเลือดจำนวนมาก ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บพลเมืองดีได้ช่วยกันนำส่ง รพ.มายอ ทราบชื่อต่อมาคือ นางปิยาพร นวลแก้ว อายุ 57 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าที่ศีรษะ จำนวน 1 นัด แพทย์ได้พยายามยื้อชีวิตให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากเสียเลือดมากอาการสาหัสเสียชีวิตในเวลาต่อมาสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายอยู่ในร้านตามลำพังและดำเนินชีวิตตามปกติทุกวัน ก่อนเกิดเหตุปรากฏว่ามีคนร้ายสองคนขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน จากนั้นคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายเดินลงจากรถมาเรียกผู้ตายทำทีขอซื้อเบียร์ เมื่อผู้ตายเดินไปหยิบเบียร์ในตู้เย็นแล้วยื่นให้นั้น คนร้ายได้ยื่นเงินให้พร้อมกับชักอาวุธปืนจ่อยิงทันทีอย่างโหดเหี้ยมเข้าที่ศีรษะ 1 นัด จนล้มฟุบกองกับพื้น หลังก่อเหตุคนร้ายจึงวิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ เร่งเครื่องหนีทันทีหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พร้อมด้วย พ.อ.สมคิด คงแข็ง ผบ.ฉก.ทพ.42 ได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบหาวัตถุพยาน พร้อมให้สนธิกำลังปิดล้อมหมู่บ้านในรัศมี 500 เมตร กำชับจุดตรวจในพื้นที่ตรวจค้นรถและบุคคลต้องสงสัยอย่างละเอียดเพื่อไล่ล่าคนร้าย คาดว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่ เนื่องจากรู้เส้นทางการหลบหนีเป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ได้ประสานไปยังผู้นำท้องที่ให้ระวังบุคคลแปลกหน้าเข้ามาหลบซ่อนตัว โดยมีแนวร่วมในพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ ส่วนสาเหตุเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ที่มีความพยายามสร้างสถานการณ์ โดยเลือกก่อเหตุกับเป้าหมายที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานเพื่อจับกุมคนร้ายต่อไป.
ซัลโวอุกอาจยิงหัวแม่ค้าร้านขายของชำใน อ.มายอ จ.ปัตตานี เสียชีวิต เผย 2 คนร้ายใช้รถจยย.เป็นยานพาหนะ ทำทีขอซื้อเบียร์ สบโอกาสชักอาวุธปืนลงมืออย่างเหี้ยมโหด ตำรวจคาดสร้างสถานการณ์
ข่าว,อาชญากรรม
ยิงหัว,ยิงแม่ค้า,บุกยิงหัว,ร้านชำ,ปัตตานี,ยิงกันตาย,สร้างสถานการณ์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1765636
โตโยต้า กาซู เรซซิ่งฯ ส่ง พุทธมนต์-กฤษฎิ์ สู้ศึกใหญ่ที่ญี่ปุ่น
วันที่ 13 พ.ย. 62 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด สนับสนุนนักแข่งมอเตอร์สปอร์ตไทย ไปเปิดประสบการณ์แข่งขันและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในการแข่งขันรถยนต์ระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง และในปีนี้ โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง มอเตอร์สปอร์ต 2019 รายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน พร้อมส่ง 2 นักแข่งรุ่นใหม่ตัวแทนประเทศไทย ที่มีคะแนนสะสมสูงสุดจากรุ่นโคโรลลา อัลติส วันเมคเรซ คือ โมโม่ พุทธมนต์ ธนะพาสุข หมายเลข 96 จากทีม CFON RACING TEAM และ กล้า กฤษฎิ์ วสุรัตน์ หมายเลข 69 จากทีม Singha-Muangthai-Pakelo by Tein Master Shop เป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมแข่งกับนักแข่งญี่ปุ่นที่ผ่านการคัดเลือกจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศในรายการใหญ่ประจำปี Toyota Gazoo Racing Netz Cup Vitz Race วันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ สนามทวิน ริง โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น,โมโม่-พุทธมนต์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีและภูมิใจที่ได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมแข่งที่ญี่ปุ่น อีกเป็นครั้งที่ 2 ผมมองว่าประสบการณ์จากปีก่อนมีข้อดีคือ ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นและเกร็งน้อยลงในการลงสนาม และยังเป็นแรงผลักดันชั้นดีที่ทำให้อยากจะลงแข่ง และทำผลงานปีนี้ให้ออกมาดีที่สุด ส่วนตัวคิดว่า ในญี่ปุ่นมีการสนับสนุนกีฬามอเตอร์สปอร์ตอย่างจริงจัง ทำให้มีนักแข่งที่มีฝีมือจำนวนมาก และทุกคนผ่านการฝึกฝนอย่างจริงจัง ทำให้เมื่อเราได้มีโอกาสลงสนามเพิ่มความรู้ และเรียนรู้เทคนิคจากการแข่งขันด้วย ส่วนสิ่งที่ต้องปรับตัวให้เร็วคือ การจดจำไลน์สนามที่เราจะเจอเป็นครั้งแรก และรถที่ใช้ในการแข่งขัน ที่อาจมีคาแร็คเตอร์เวลาขับที่ต่างออกไป พยายามจะดึงตัวเองให้เข้าเร็วที่สุด และตั้งใจว่าจะทำให้เต็มที่ครับ,ด้าน กล้า-กฤษฎิ์ กล่าวว่า ผมดีใจมากๆ ครับ ที่ทราบว่าได้เป็นตัวแทนไปแข่งที่ญี่ปุ่น ผมคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีและเป็นครั้งแรกที่ได้ไปแข่งในระดับนานาชาติแบบนี้ ตอนนี้เตรียมความฟิตร่างกายด้วยการออกกำลังกายทุกวัน ส่วนสนาม ซึ่งเราจะได้ไปแข่งเป็นครั้งแรก เรียนรู้ผ่านการขับซีมูเลเตอร์ และจากคลิปยูทูบของนักแข่งท่านอื่นๆ ในสนามนี้ ซึ่งผมทราบว่า สนามทวิน ริง โมเตกิ เป็นสนามขับแบบไฮสปีด และรถจะขับกันด้วยความเร็วสูง ถ้าเราจดจำสนามให้แม่นยำ จะทำให้เวลาแข่งจริง จะตัดสินใจได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพราะเวลาแข่งจริง เราไม่มีโอกาสมองเห็นไลน์สนามข้างหน้าของเราเลย การที่จำไลน์ได้ก่อน จะทำให้เราตัดสินใจได้ดีว่า ระยะไหนควรเร่ง ควรเบรก ควรผ่อน หรือจะแซงตรงไหน เพื่อให้ได้พื้นที่ไลน์การขับดีที่สุด ซึ่งแม้จะไปเป็นปีแรก ผมก็อยากทำให้ดีที่สุด อยากทำให้ทุกคนได้ภูมิใจ อยากให้รู้ว่านักแข่งจากประเทศไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลกเหมือนกัน ช่วยติดตามเชียร์และเป็นกำลังใจให้พวกเราทั้ง 2 คน ด้วยครับ,สำหรับแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตร่วมส่งกำลังใจและติดตามเชียร์ โมโม่-พุทธมนต์ ธนะพาสุข และ กล้า-กฤษฎิ์ วสุรัตน์ 2 นักแข่งตัวแทน Toyota Gazoo Racing Motorsport ร่วมแข่งกับนักแข่งระดับตัวแทนจากทุกภูมิภาคของญี่ปุ่นในรายการใหญ่ประจำปี Toyota Gazoo Racing Netz Cup Vitz Race ที่สนามสนามทวิน ริง โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน ทาง www.facebook.com/ToyotaGazooRacingMotorsportThailand และ IG: ToyotaGazooRacingMotorsport
โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ส่ง 2 นักแข่งไทย โมโม่ พุทธมนต์ ธนะพาสุข และ กล้า กฤษฎิ์ วสุรัตน์ ลุยศึกใหญ่ที่ญี่ปุ่น 17 พ.ย.นี้
กีฬา,กีฬาอื่นๆ
โตโยต้า,โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง มอเตอร์สปอร์ต 2019,โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง,พุทธมนต์ ธนะพาสุข,กฤษฎิ์ วสุรัตน์
https://www.thairath.co.th/sport/others/1703320
พิษสคจ. แห่ถอน6สหกรณ์ กลัวล้ม
ปลัดเกษตรฯรีบโต้ข่าวลือ,กระทรวงเกษตรฯแถลงพบสหกรณ์ 6 แห่ง มีสมาชิกแห่ถอนเงินสูงกว่าปกติ โดยเฉพาะสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา 10 วัน ถอนแล้ว 227 ล้านบาท แต่ยืนยันไม่กระทบเพราะยังมีเงินสำรองให้สมาชิกถอนได้อีก 3,400 ล้านบาท ชี้หาก 20 มี.ค.นี้ศาลสั่งให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นล้มละลาย จะยื่นเสนอแผนฟื้นฟูกิจการอีกครั้ง ด้านปลัดเกษตรฯ เผยส่งผลสอบข้อเท็จจริงข้าราชการเอี่ยวทุจริตให้ รมว.เกษตรฯแล้ว,คดียักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ที่ดีเอสไอและ ปปง.กำลังรุกไล่ตามล่าก้อนเงินอย่างหนัก กลายเป็นเหมือนการเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว เพราะส่งผลให้มีสมาชิกสหกรณ์หลายแห่งหวั่นกลัวจะเกิดการทุจริตของสหกรณ์ต่างๆแบบเดียวกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พากันแห่ถอนเงินกันจำนวนมาก,ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถนนราชดำเนินนอก กทม. เมื่อบ่ายวันที่ 12 มี.ค. นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรฯ พร้อมนายโอภาส กลั่นบุศย์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ แถลงข่าวด่วนหลังตรวจพบการเบิกถอนเงินจากสหกรณ์สูงกว่าปกติในช่วงระหว่างวันที่ 1-10 มี.ค. นายโอภาสกล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบการเบิกถอนเงินออกจากสหกรณ์ต่างๆ หลังมีการรายงานผ่านสื่อว่า สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมาแห่ถอนเงินออกจากสหกรณ์เป็นจำนวนมาก,นายโอภาสกล่าวว่า ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าระหว่างวันที่ 1-10 มี.ค. หรือ 10 วันที่ผ่านมา สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด เบิกถอนเงินออกไป รวม 227 ล้านบาท สูงกว่าระดับปกติจริง แต่ยังไม่ถือว่ามีความน่าเป็นห่วง เพราะสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมายังมีเงินสำรองให้สมาชิกเบิกถอนได้อีกประมาณ 3,400 ล้านบาท และยังมีเงินฝากกลับเข้ามาตามปกติวันละประมาณ 10 ล้านบาท ถือว่าสถานะการเงินยังแข็งแกร่งมาก สาเหตุที่สมาชิกพากันไปถอนเงิน น่าจะเป็นความกังวล เพราะสหกรณ์แห่งนี้ฝากเงินไว้กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด (สคจ.) ประมาณ 500 ล้านบาท,อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังพบสหกรณ์แห่งอื่นๆที่มีการเบิกถอนเงินมากกว่าปกติอีก 5 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนเคหะรัษฎาภูเก็ต จำกัด มีตัวเลขเบิกถอนประมาณ 5 ล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยสงขลา-นครินทร์ จำกัด เบิกถอนประมาณ 66 ล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสงขลา จำกัด เบิกถอนประมาณ 100 ล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์ครูปทุมธานี จำกัด เบิกถอนประมาณ 42 ล้านบาท และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนห้วยท่าช้าง จำกัด จ.เพชรบุรี เบิกถอน ประมาณ 2 ล้านบาท,นายโอภาสกล่าวว่า ขอยืนยันว่าสหกรณ์ทั้งระบบยังมีความเข้มแข็ง สมาชิกสหกรณ์ทั่วประเทศทุกแห่งยังมาเบิกถอนเงินได้สบายๆ ถ้าดูตัวเลขสหกรณ์ทั้งประเทศ มากกว่า 8,000 แห่ง มีทุนการดำเนินงานรวม 2.25 ล้านล้านบาท ระดมเงินฝากจากสมาชิกได้ทั้งระบบ รวมประมาณ 600,000 ล้านบาท มีสมาชิกรวมทั้งประเทศ 11.2 ล้านคน ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าดูกลุ่มสหกรณ์ 76 แห่ง ที่ไปฝากเงินไว้กับ สคจ. จนหลายฝ่ายเป็นห่วง ก็ไม่น่ากังวล เพราะสหกรณ์ทั้ง 76 แห่ง ฝากเงินไว้กับ สคจ.รวมประมาณ 7,400 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 1% ของเงินฝากที่ทั้ง 76 แห่งระดมเข้ามาได้รวม 80,716 ล้านบาท,สำหรับการเตรียมการรองรับคำพิพากษาของศาลล้มละลายกลาง ที่นัดฟังคำพิพากษาแผนฟื้นฟู สคจ.ในวันที่ 20 มี.ค. กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เตรียมไว้ 3 แนวทาง คือ กรณีที่ 1 ศาลสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ และสั่งให้ สคจ. ในฐานะลูกหนี้เป็นผู้จัดทำแผน กระทรวงเกษตรฯ จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมากำกับควบคุมการบริหารงานของคณะผู้บริหารชั่วคราว ประกอบด้วยหน่วยงานรัฐ ผู้แทนเจ้าหนี้แต่ละกลุ่ม และเสนอรัฐบาลสนับสนุนเงินทุน เพื่อฟื้นฟูกิจการ,กรณีที่ 2 หากศาลสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ แต่ไม่ให้คณะกรรมการ สคจ.ชุดปัจจุบันจัดทำแผนตามขั้นตอน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะนัดประชุมเจ้าหนี้ เพื่อเลือกผู้จัดทำแผนรายใหม่ กรมในฐานะเจ้าหนี้รายหนึ่ง จะเสนอผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการต่อที่ประชุมเจ้าหนี้ โดยจะเสนอบริษัทในบัญชีรายชื่อของกระทรวงยุติธรรม และกรณีที่ 3 ศาลยกคำร้องการฟื้นฟูกิจการ หรือสั่งให้ สคจ. ล้มละลาย จะส่งผลให้กลุ่มเจ้าหนี้ สคจ.ที่ฟ้อง สคจ. และได้รับคำสั่งให้สหกรณ์ชำระหนี้ มีสิทธิ์บังคับทรัพย์จาก สคจ.ได้ ส่วนกลุ่มเจ้าหนี้ที่ยังไม่ได้ฟ้อง ก็จะสามารถยื่นฟ้องได้ทันที ทั้งหมดนี้จะทำให้ สคจ. เป็นหนี้ล้นพ้นตัว ดังนั้น กรมจะต้องยื่นขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลอีกครั้ง,ด้านนายวิณะโรจน์กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ทุกแห่งที่ทำธุรกรรมโยงใยกับ สคจ. ไม่พบความผิดปกติทางการเงินใดๆ ส่วนผู้สอบบัญชีเอกชน ที่เป็นผู้สอบบัญชี สคจ. ได้ถูกสั่งการพักใบอนุญาตเป็นเวลา 3 ปีแล้ว และได้มอบหมายให้ผู้สอบบัญชีรัฐเข้าไปตรวจสอบแทน นอกจากนี้ ยังได้รับการแจ้งจากคณะกรรมการชุดปัจจุบันของ สคจ. ว่า คณะกรรมการทั้งหมดประกาศไม่ขอรับเงินเบี้ยเลี้ยงการประชุม และค่ายานพาหนะทั้งหมด เพื่อความโปร่งใส โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.นี้เป็นต้นไป,นายชวลิตกล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี การทุจริตภายใน สคจ. ว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ตามคำสั่งของนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรฯที่ให้สรุปส่งผลสอบภายในระยะเวลา 7 วัน หรือวันที่ 16 มี.ค. ได้จัดทำสรุปผลสอบแล้วเสร็จ และส่งไปยัง รมว.เกษตรฯแล้ว แต่ รมว.เกษตรฯ ยังติดภารกิจที่ต่างประเทศ จึงต้องรอคำสั่งอีกครั้งว่า นายปีติพงศ์ จะสั่งการให้มีการสอบสวนประเด็นใดเพิ่มเติม หรือจะให้ดำเนินการกับข้าราชการรายใดหรือไม่,ด้าน พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล หัวหน้าพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ชุดตรวจสอบความเชื่อมโยงทางการเงิน ระหว่างสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นกับวัดพระธรรมกาย เผยว่า ตามที่ได้มีกำหนดเรียกพระมนตรี สุตาภาโส ที่มีชื่อรับเช็คจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เข้าให้ข้อมูลในวันที่ 12 มี.ค. ทนายความพระมนตรีได้ติดต่อขอเลื่อนการให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน เนื่องจากอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนได้กำหนดเวลานัดหมายใหม่ หลังกลุ่มพระได้ส่งทนายความขอเลื่อนนัดหมายทุกราย โดยกำหนดให้พระครูปลัดวิจารย์เข้าให้ปากคำวันที่ 19 มี.ค. พระมนตรีเข้าให้ปากคำในวันที่ 20 มี.ค. ส่วนธัมมชโยเข้าให้ปากคำในวันที่ 26 มี.ค. สำหรับการสอบปากคำกลุ่มนิติบุคคล 38 บริษัท ที่ได้รับเช็คจากนายศุภชัยนั้น ดีเอสไอทยอยเรียกสอบปากคำให้ครบ โดยทยอยสอบวันละ 4 บริษัท จนถึงขณะนี้ได้สอบนิติบุคคลไปแล้ว 16 บริษัท,วันเดียวกัน พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม เข้าพบนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม ยื่นหนังสือคัดค้านการตั้งพระพรหมวชิรญาณ-พระพรหมดิลก พระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ โดยอ้างว่าไม่เหมาะสม เพราะมีส่วนลงมติ ในการไม่เอาผิดต่อธัมมชโยให้ต้องอาบัติปาราชิก ตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช โดยมีนายอภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้รับหนังสือ จากนั้นพุทธะอิสระเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านในเรื่องเดียวกันนี้ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.,ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษเผยว่า ดีเอสไอนัดสอบปากคำนายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทเอสดับบลิว โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศ-ไทย) จำกัด ที่ได้รับการโอนหุ้นมูลค่า 1,000 ล้านบาท จากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ว่ามีการชำระเงินค่าหุ้นจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงการโอนหุ้นลมเท่านั้น รวมทั้งจะสอบปากคำในประเด็นการลงทุนทำธุรกิจเหมืองแร่ที่ จ.นครสวรรค์ และธุรกิจอื่นๆของบริษัททั้งหมด โดยนัดสอบปากคำที่กรมสอบสวนคดีพิเศษในวันที่ 1 เม.ย.,ด้านนายอเนก สมประเสริฐ ทนายความส่วนตัวของนายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล เผย ดีเอสไอต้องการให้นายสถาพรไปเตรียมเอกสารเพื่อมาชี้แจงตั้งแต่มีการจัดตั้งบริษัทเอสดับบลิว โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด และชี้แจงเรื่องธุรกิจค้าอัญมณี ธุรกิจเหมืองแร่ที่จังหวัดนครสวรรค์ ยืนยันว่าการทำธุรกิจของนายสถาพรมีเพียงบริษัทเอสดับบลิว โฮลดิ้งกรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทเดียวเท่านั้นที่นายศุภชัย เข้ามาเกี่ยวข้อง ยืนยันว่าในวันที่ 1 เม.ย. นายสถาพรจะเดินทางเข้าให้ปากคำตามนัดอย่างแน่นอน และพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง
กระทรวงเกษตรฯแถลงพบสหกรณ์ 6 แห่ง มีสมาชิกแห่ถอนเงินสูงกว่าปกติ โดยเฉพาะสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา 10 วัน ถอนแล้ว 227 ล้านบาท แต่ยืนยันไม่กระทบเพราะยังมีเงินสำรองให้สมาชิกถอนได้อีก 3,400 ล้านบาท
ข่าว,ทั่วไทย
ข่าวหน้า1,ยักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน,ดีเอสไอ,ปปง.,สมาชิกสหกรณ์,แห่ถอนเงิน,สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน,สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา
https://www.thairath.co.th/news/local/486633
บุกรวบตำรวจนอกรีต ผันตัวค้ายาบ้า อ้างรายได้ไม่พอ
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 13 ก.ย. ที่ สน.บางเขน พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปรเมษฐ โพยนอก รองผกก.สส.สน.บางเขน พ.ต.ท.เสน่ห์ มณีฉาย สว.สส.สน.บางเขน พ.ต.ต.ภิญโญ แสงทิพย์ สว.สส.สน.บางเขน ร.ต.อ.อมรินทร์ แย้มกลิ่น รอง สว.สส.สน.บางเขน ร.ต.ท.เมธสสิทธิ์ มณีนิล รอง สว.สส.สน.บางเขน ร.ท.พิรพงศ์ คงสมพงษ์ ผบ.ร้อย รส.เขตบางเขน ร.11 พัน 2 รอ. และกำลังฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน ร่วมกันจับกุมตัว ร.ต.ต.ฐิติวุฒน์ สุขอำไพวรรณ อายุ 56 ปี สังกัดด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.บึงกาฬ และ นายกฤตธนพล ด่านซ้าย อายุ 51 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,750 เม็ด รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี สีดำ หมายเลขทะเบียน ฆฌ 2362 กทม. โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เงินสดที่ใช้ในการล่อซื้อ 280,000 บาท โดยสามารถจับกุมตัวได้ภายในร้านกาแฟ เวนิสดี ไอริส ถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.,พ.ต.อ.อำนาจ เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีแก๊งยาเสพติดนำยาบ้ามาจำหน่ายในพื้นที่ย่านวัชรพล เจ้าหน้าที่จึงวางแผนให้สายลับติดต่อล่อซื้อยาเสพติดบริเวณดังกล่าว จนกระทั่งมีชายต้องสงสัย 2 คน เดินเข้ามาภายในร้านกาแฟ และกำลังส่งยาบ้าให้กับสายลับตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนเพิ่มเติม,จากการสอบสวน ร.ต.ต.ฐิติวุฒน์ ให้การรับสารภาพว่า ตนรับยาบ้าดังกล่าวมาจากแก๊งยาเสพติดที่ จ.สุรินทร์ ในราคา 200,000 บาท ก่อนนำมาเพื่อส่งขายให้กับเอเย่นต์ยาบ้าในพื้นที่ กทม. เมื่อได้เงินมาก็จะนำมาแบ่งกัน และนำไปใช้จ่ายส่วนตัว ส่วนสาเหตุที่ทำเพราะรายได้ไม่พอใช้จ่าย จึงหันมาจำหน่ายยาเสพติด และเพิ่งทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา มียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป,ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่าได้มีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา สั่งพักราชการ ร.ต.ต.ฐิติวุฒน์ ไว้ตั้งแต่เดือน ม.ค. เนื่องจากถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการทำเรื่องขออุทธรณ์.
นอกรีต!! สน.บางเขน ร่วมกับร้อย รส.ร.11พัน.2 ล่อซื้อยาเสพติด ก่อนเข้ารวบ ร.ต.ต. ซึ่งอยู่ระหว่างถูกพักราชการ อ้างเพิ่งทำครั้งแรก เนื่องจากรายได้ไม่พอจึงผันตัวส่งยา
null
คร.ค้ายา,ตร.นอกรีต,ฐิติวุฒน์ สุขอำไพวรรณ,ล่อซื้อ,จับยาบ้า,อำนาจ อินทรศวร,ผกก.สน.บางเขน,ข่าวบันเทิง,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/720960
รายงาน: ส่องวงการบันเทิง นักแสดง-บท คนพิการ หายไปไหน-ทำไมต้องมี?
รวมทั้งลูกคนเล็กของเขาป่วยด้วยภาวะผิดปกติด้านการเรียนรู้ ได้เขียนบทความในเว็บสำนักข่าวดิอินดิเพนเดนท์ เกี่ยวกับบทบาทการแสดงของคนพิการในสื่อชนิดต่างๆ โดยเฉพาะในภาพยนตร์และละคร โดยเล่าถึงความแปลกใจต่อซีรีย์เรื่องหนึ่ง ที่แสดงโดยคนแคระ แต่กลับไม่ได้นำความแคระแกร็นเหล่านั้นมาเป็นจุดเด่นในการแสดง กรณีแบบนี้หาได้ยากเพราะโดยทั่วไปมายาคติเกี่ยวกับความพิการ มักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของโศกนาฏกรรมหรือภาพความสำเร็จบนชะตากรรมที่ทุกข์ยากอยู่เสมอเบอเรลอ้างถึงผลการศึกษาว่า ร้อยละ 16 ของผู้ที่ได้รับรางวัลออสการ์ ล้วนแสดงในบทบาทของคนพิการ หรือผู้ที่มีปัญหาทางจิต พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า บทบาทเหล่านั้นกลับไม่ได้แสดงโดยคนพิการ เช่น แดเนียล เดย์ ลิวอิส จากเรื่อง ลินคอล์น (Lincoln) ดัสติน ฮอฟแมน จากเรื่องเรน แมน (Rain man) เจฟฟรีย์ รัช หรือแม้แต่ทอม แฮงค์ จากเรื่อง ฟอเรซ กัมป์ (Forrest Gump) ดังเช่นเรื่อง The Theory of Everything นำแสดงโดยเอดดี เรดเมย์น (Eddie Redmayne) ซึ่งขึ้นรับรางวัลออสการ์ ในบทบาทของ สตีเฟน ฮอว์กิง (Stephen Hawking) ในปี 2015บีบีซี ทีวีสาธารณะของอังกฤษเปิดเผยว่า คนอังกฤษ 1 ใน 5 มีสัญลักษณ์ของความพิการปรากฏอยู่ แต่มีเพียงร้อยละ 1.2 เท่านั้นที่มีโอกาสเปิดเผยในสื่อ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ปัญหาของนักแสดง หรือผู้จัด แต่ยังเกี่ยวเนื่องกับทัศนคติของสังคมในวงกว้างกว่านั้น อีกทั้งให้คำมั่นสัญญาว่า ในปีหน้าจะเพิ่มจำนวนคนพิการบนจอทีวีขึ้นอีก 4 เท่าจากปัจจุบัน ขณะที่ช่อง 4 ทีวีสาธารณะอีกช่องของอังกฤษ วางแผนว่าจะเพิ่มตัวแสดงหลักอย่างน้อยเรื่องละ 1 คน ที่มาจากกลุ่มคนชายขอบ โดยกล่าวในเว็บไซต์ www.channel4.com ว่า ต้องการเพิ่มความหลากหลาย โดยครอบคลุมถึงเรื่องคนพิการ LGBT (กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ) กลุ่มชาติพันธุ์ และเรื่องเพศอีกด้วยปีที่แล้วในอเมริกา ซีรีย์ บอร์น ดิส เวย์ เริ่มฉายเป็นครั้งแรก โดยนักแสดงทั้งหมดล้วนเป็นดาวน์ซินโดรม บอร์น ดิส เวย์นำเสนอเรื่องราวของ 7 หนุ่มสาว ทั้งในแง่การใช้ชีวิต อาชีพ ความรัก รวมไปถึงการสร้างครอบครัว ซึ่งคริสตินา หนึ่งในนักแสดงเรื่องนี้ก็กำลังจะแต่งงานกับแฟนหนุ่มซึ่งคบหากันมากว่า 4 ปี นอกจากซีรีย์เรื่องนี้จะแปลกใหม่ในสายตาของผู้ชมแล้ว ยังแฝงไปด้วยแง่คิดและมุมมองใหม่ๆ ที่สวนทางกับมายาคติของสังคมภายนอก ทั้งยังได้รับกระแสตอบรับที่น่าสนใจจากสังคม เช่น บางคนคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ตลกขบขัน จริงใจ และน่าสนใจ หรือกล่าวว่า เรื่องนี้ทำให้อบอุ่นหัวใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นใคร ก็สามารถมีความสุขกับตัวตนของเราได้ปลายปีที่แล้ว วงการภาพยนตร์ไทยก็มีภาพยนตร์สร้างกระแสอย่าง เดอะดาวน์ เป็นคนธรรมดามันง่ายไป ภาพยนตร์กึ่งสารคดีที่ใช้เวลาถ่ายทำกว่า 1 ปี ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตประจำวันผ่านนักแสดงที่เป็นดาวน์ซินโดรม 5 คน ทั้งในแง่การใช้ชีวิต การทำงาน และที่สำคัญภาพยนตร์เรื่องนี้เทน้ำหนักไปที่ความสำคัญของครอบครัวว่า มีส่วนช่วยในการสนับสนุนให้คนที่เป็นดาวน์ซินโดรมเข้ามามีบทบาทในสังคมได้อย่างไร ซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดีจากผู้ชม บ้างก็ว่าทำให้รู้จักคนที่เป็นดาวน์ซินโดรมมากขึ้น บ้างก็ว่าได้รับกำลังใจที่ดีจากภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่นานมานี้ มีผู้สมัครคัดเลือกนักแสดงจากละคร สงครามนางงาม ซีซั่น 2 เฟิร์ส ธัญชนก ซึ่งพิการทางการได้ยิน และต้องอาศัยภาษามือในการสื่อสาร สามารถชนะใจกรรมการ และเข้าไปเป็น 1 ใน 10 นักแสดงตัวจริงในบทบาทของแม่ค้าขายเสื้อผ้าหูหนวก ท่ามกลางกระแสสังคมที่ต่างพร้อมใจกันกล่าวว่า เฟิร์สนั้นมีความสามารถทางการแสดงเทียบเท่าหรือมากกว่าคนไม่พิการ แต่กรรมการส่วนใหญ่ก็ยังมีความกังวลว่า เธอนั้นจะสามารถท่องบท สื่อสารให้คนดูเข้าใจ และทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างไร รวมทั้งอาจต้องใช้เวลาในการถ่ายทำเพิ่มขึ้นอีกด้วยกรณีของเฟิร์ส นับว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญของวงการบันเทิงไทย เพราะช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ ของคนในสังคมที่มีต่อคนพิการ ซึ่งเห็นได้จากแรงเชียร์มากมายที่มีต่อเธอด้วยความที่อาชีพนักแสดงพิการยังเป็นเรื่องแปลกใหม่ในไทย จึงมักเกิดความกังวลใจว่า คนพิการจะสามารถโลดแล่นบนจอทีวีได้อย่างไร แม้ว่ามีความพยายามในการเพิ่มเติมบทบาทของกลุ่มคนเหล่านี้ แต่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี ผู้ที่รับบทเหล่านี้ ส่วนมากยังคงเป็นนักแสดงที่ไม่ได้มีความพิการแต่อย่างใด เห็นได้จากบทบาทของ ชายน้อย ในเรื่อง บ้านทรายทอง ซึ่งเน้นย้ำให้เกิดภาพจำแห่งความน่าสงสาร และรู้สึกต้องสงเคราะห์อยู่ตลอดเวลา หากแม้มีนักแสดงที่เป็นคนพิการ ก็มักถูกนำเสนอในรูปแบบของสารคดี ที่นำเสนอชีวิตของพวกเขาเหล่านั้น เสมือนกับว่า แค่ได้รับรู้เรื่องราวในชีวิตประจำวัน ก็เป็นเรื่องน่าสนใจไปเสียแล้วเป็นเรื่องน่าสงสัยว่า เหตุใดจึงไม่ค่อยพบนักแสดงที่เป็นคนพิการ เข้ามาเล่นในบทบาทอื่นๆ ที่ไม่ได้นำความพิการเหล่านั้นมาเป็นจุดเด่น เช่น เล่นในบทบาทของตัวเอก เพื่อนตัวเอก ผู้ร้าย แม้แต่ประกอบฉาก หรือเล่นในบทบาทด้านอาชีพ เช่น พนักงานบริษัท ครู หมอ ตำรวจ นักธุรกิจ ฯลฯ กล่าวคือ ทำไมบทบาทที่ผู้พิการเล่นจึงมีลักษณะกึ่งสารคดี แทนที่จะแสดงในบทบาท ปกติ เหมือนกับนักแสดงทั่วๆ ไปครรชิต สพโชคชัย กรรมการผู้จัดการและผู้กำกับหนังโฆษณา บริษัท หับ โห้ หิ้น จำกัด ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับบทบาทคนพิการในสื่อไทยว่า บทบาทของคนพิการในวงการบันเทิงไทยนั้นยังนับว่ามีน้อย ซึ่งอาจเกิดจากหลายๆ ปัจจัย เช่น ผู้เขียนบทไม่เคยมีประสบการณ์ร่วมหรือใกล้ชิดกับคนพิการ ไม่เคยรับรู้ และไม่มีจินตนาการเกี่ยวกับเรื่องความพิการ จึงไม่ปรากฏภาพความพิการเหล่านั้นในบทที่เขียน รวมทั้งภาพจำของสังคมที่เห็น ไม่ค่อยมีภาพคนพิการอยู่ในความทรงจำเหล่านั้น จึงทำให้การถ่ายทอดเป็นไปตามความเคยชินที่พบเจอ จนทำให้ภาพของคนพิการไม่ได้ถูกหยิบยกมานำเสนอถ้าเราอยากผลักดัน เราอาจจะต้องเอาตัวอย่างของคนพิการมานำเสนอให้น่าสนใจขึ้น ให้คนมองเห็นขึ้น มองเห็นแบบไหนด้วย มองแบบยอมรับว่าเขาก็เป็นเรื่องปกติ หรือมองแบบที่คนไทยชอบมองว่า ต้องสงสาร ต้องให้ความเมตตา มันก็จะถูกทำซ้ำ และวางบทบาทแบบนั้น ซึ่งผมเห็นว่าเราควรจะเลิกคิดแบบนี้ เขากล่าวเขากล่าวต่อว่า คนไทยยังอาจมองว่าคนพิการทำนั่น ทำนี่ไม่ได้ ชีวิตต้องน่าเวทนา และข้องเกี่ยวกับบาปบุญ คุณโทษตลอดเวลา เสมือนว่ามีลิสต์รายการสำหรับคนพิการว่า สามารถทำสิ่งนี้ได้ และสิ่งนั้นไม่ได้ พอพบเจอคนพิการที่มีชีวิตที่เท่าเทียมคนไม่พิการ เลยถูกมองว่าแปลก ซึ่งความคิดเหล่านี้ยังเป็นทัศนคติที่ต้องขยับเขยื้อนในสังคมนอกจากขยับความคิดของสังคมแล้ว เขากล่าวว่า ตัวคนพิการเองก็ต้องหลุดออกจากกรอบความพิการ เพิ่มทักษะ และต้องมีบรรทัดฐานความสามารถในการแสดงเท่ากันกับคนไม่พิการด้วยสิบปีที่แล้วเคยเป็นอาสาสมัครทำสารคดีให้กับเครือข่ายผู้ติดเชื้อ HIV แล้วได้ไปสัมภาษณ์พี่คนหนึ่ง เขาพูดสิ่งซึ่งผมคิดว่าจริงว่ะ เขาบอกว่า ถ้าอยากจะให้คนไทยทั่วไปยอมรับผู้ติดเชื้อ จุดแรกเลยผู้ติดเชื้อก็ต้องยอมสลายตัวเองลง ยอมสลายกำแพงของตัวเองออก ยอมสลายความเป็นผู้ติดเชื้อของตัวเองออก แล้วก็บอกว่าตัวเราก็คือคนปกติ เขาเสริมเขากล่าวว่า สื่อมีบทบาทสูง ในการรวมกลุ่มคนต่างๆ เข้าด้วยกัน เพราะคนบริโภคเนื้อหาจากสื่อ จนค่อยๆ ซึมซับไปโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นจึงควรเลิกการใช้คำจำกัดความ เช่น คนชายขอบ คนพิการ เพื่อลดการแบ่งกลุ่มและขจัดความสงสาร สงเคราะห์ และสร้างให้เกิดภาพจำใหม่ๆ ว่าคนพิการก็มีความสามารถทัดเทียมคนไม่พิการ รวมทั้งต้องสะท้อนกลับไปสู่สังคมว่า เราแข็งแรงนะ เราทำได้นอกจากนั้น นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องเคาท์ดาวน์ จากค่ายจีทีเอช ซึ่งมีประสบการณ์ในการกำกับเอ็มวีและโฆษณา ได้ให้ความเห็นว่า ความไม่หลากหลายในวงการบันเทิงนั้นเกิดขึ้นทุกๆ ประเทศ บางครั้งคนพิการอาจเล่นได้ดีในบทบาทหนึ่งๆ เท่านั้น จึงทำให้ความหลากหลายในการรับงานหายไป แต่ในทางกลับกัน หากมีบทบาทที่เหมาะสม เขาเชื่อว่าคนพิการเป็นตัวเลือกที่เพอร์เฟ็กต์ในปีที่ผ่านมา เขาได้ถ่ายทำโฆษณาสองเรื่อง ซึ่งมีตัวเอกที่เป็นผู้พิการทางสายตา หนึ่งในนั้นคือโฆษณาของ S&P โดยมีแนวคิดที่ว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้พิการหรือไม่พิการ ทุกคนสามารถทำในสิ่งที่ต้องการได้ เป็นในสิ่งที่อยากเป็นได้ รู้สึกอย่างที่พวกเรารู้สึกได้ และสามารถรักลูก ห่วงลูกได้ ซึ่งเขาเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนไม่พิการแสดงไม่ได้ ด้วยท่าทาง รายละเอียดในการแสดงต่างๆ อีกทั้งอินเนอร์บางอย่างที่ไม่สามารถเลียนแบบได้ ซึ่งการทำงานก็มีความยากขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ด้วยความเชื่อมั่นและร่วมมือ ผลลัพธ์ที่ได้จึงค่อนข้างน่าพอใจก็เป็นการพิสูจน์ในทางการสร้างและคนดูทั่วไปว่าเห็นไหม เขาก็ทำได้ ไม่จำเป็นต้องเอาคนที่เป็นนักแสดงซึ่งคิดว่าจะเล่นเก่งมาเล่น เราต้องทำให้ผู้พิการทางสายตาได้พัฒนาศักยภาพตัวเอง ทางด้านการแสดงขึ้นมาให้เทียบเท่าคนไม่พิการให้ได้ นี่คือความเชื่อผม เขากล่าวเขากล่าวว่า ในไทย ทิศทางของภาพยนตร์ ซีรีย์ ละครต่างๆ ก็กำลังถูกขยายกรอบออกไป เป็นผลจากการทำงานของกลุ่มคนรุ่นใหม่ๆ ที่ช่วยกันลบล้างมายาคติเดิมๆ ที่ว่า การมีคนพิการในสื่อจำเป็นต้องมีปมหลังบางอย่าง แต่ควรทำให้เห็นว่าจริงๆ แล้วมันไม่สำคัญ ความเป็นมนุษย์คือความเป็นมนุษย์ ไม่ได้ถูกแบ่งย่อยด้วยความพิการ และหากทำอย่างเข้มแข็งพอ น่าจะนำไปสู่จุดที่ว่านักแสดงที่ดี คือนักแสดงที่เก่งและสามารถรับได้ทุกบทบาท โดยไม่จำเป็นต้องแยกแยะว่า นี่คือคนพิการหรือไม่อย่างไรหวังว่าในหนังจะมีตัวละครที่เป็นคนพิการ ที่การเป็นคนพิการของเขาไม่ได้ถูกโปรในด้านดราม่า ก็เป็นแค่ตัวละคร ก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง ที่มีความรู้สึกเหมือนกับพวกเราทั่วๆ ไป ซึ่งผมเชื่อว่า วันนั้นจะมาถึงในเร็ววันWhere are the disabled actors?New TV Series Features Young Adults With Down Syndrome (นาทีที่ 10.57)
ต้นปีที่ผ่านมา เอียน เบอเรล (Ian Birrell) คอลัมนิสต์ชาวอังกฤษ ผู้มีความสนใจเกี่ยวกับประเด็นคนพิการเป็นทุนเดิม และมีผลงานเขียนที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของคนพิการหลายชิ้น
คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,วัฒนธรรม,สังคม
การแสดง,คนพิการ,ครรชิต สพโชคชัย,นลัทพร ไกรฤกษ์,นัฐวุฒิ พูนพิริยะ,ภาพยนตร์,ละคร
https://prachatai.com/journal/2016/02/64068
เปิดมาตรการรับมือไวรัสโควิด-19 อุตตม เทหมดหน้าตักทุ่มแสนล้านฝ่าวิกฤติโลก
หลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี 2562 ณ วันที่ 7 มี.ค. มีผู้ติดเชื้อทั่วโลก 102188 ราย เสียชีวิต 3491 ใน 101 ประเทศ สร้างความหวาดผวาให้กับทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว การค้าขาย การส่งออก รวมทั้ง การใช้จ่ายทั่วโลกหน่วยงานหลักทางเศรษฐกิจของโลก ทั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ธนาคารโลก รวมทั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ได้ออกมาระบุถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่รุนแรงมากกว่าที่คิด และได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การแพร่ระบาดยังดำเนินต่อไป ซึ่งจะกระทบต่อเนื่องต่อเศรษฐกิจโลกมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับประเทศไทย คาดกันว่าผลกระทบในกรณีฐานการแพร่ระบาดจะจบลงใน 2-3 เดือนนี้ จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวลดลงประมาณ 1.1%แต่ล่าสุด คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ได้ปรับมุมมองต่อการแพร่ระบาดของโรคนี้ จากเดิมคาดว่าจะสิ้นสุดได้ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ มาเป็นเริ่มลดการแพร่ระบาดได้ในช่วงเดือน มิ.ย.ปีนี้ จากนั้นสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นปลายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4จากมุมมองต่อเศรษฐกิจที่มีผลกระทบยาวนานขึ้นจากโควิด-19 นี้ ทำให้รัฐบาลตัดสินใจออกมาตรการชุดที่ 1 เพื่อช่วยลดผลกระทบของผู้ประกอบการ ให้ยังคงสามารถทำธุรกิจต่อไปได้ แรงงานไม่ถูกลอยแพ และผู้มีรายได้น้อยยังมีเงินจับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะผลักดันให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ทีมเศรษฐกิจ ได้สัมภาษณ์ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ผู้รับผิดชอบหลักที่จะพาประเทศไทยฝ่าภัยโควิด -19 ในครั้งนี้รัฐยันกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องการดำเนินมาตรการกระตุ้นเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อเนื่องนั้น รัฐบาลได้ดำเนินการต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเห็นเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจอยู่ในทิศทางที่ชะลอตัวลงและในเดือน ม.ค. รัฐบาลได้ทำมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมอีก ยกตัวอย่างเช่น เติมทุนให้แก่ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) วงเงิน 250000 ล้านบาท ประกอบด้วย บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันลูกหนี้เพิ่มจากเดิม 30% เป็น 40% สินเชื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักร การหักค่าใช้จ่าย 2.5 เท่าสำหรับการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร การยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรทุกรายการ และออกสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการส่งออกของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิม แบงก์) จำนวน 5000 ล้านบาท เป็นต้นโดยคาดหวังว่าจะประคับประคองเศรษฐกิจไทยปี 2563 ให้เติบโตได้ประมาณ 2% ดีกว่าหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน และสิงคโปร์ ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวเหมือนไทยแต่เหตุการณ์ปลายเดือน ม.ค. ก่อนเทศกาลตรุษจีนเพียงวันเดียว คือวันที่ 23 ม.ค. รัฐบาลจีนสั่งปิดเมืองอู่ฮั่น เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยคาดคิดมากก่อนว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ทำให้ภาวะเศรษฐกิจไทยที่กำลังฟื้นตัวจากมาตรการต่างๆ ต้องหยุดชะงักฤดูกาลท่องเที่ยวของไทยที่เตรียมไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากจีน ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง นักท่องเที่ยวหายไปถึง 80% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้กระทรวงการคลังต้องมาทบทวน และวางแผนกันใหม่ว่า ทำอย่างไรถึงจะทำให้ประเทศไทยฟันฝ่าวิกฤติไวรัสโควิด-19 ไปให้ได้ต้นเดือน ก.พ. ผมจึงตัดสินใจใส่เงินกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 123000 ล้านบาท โดยขยายเวลาชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาออกไป 3 เดือน จากเดิมเดือน มี.ค.เป็นเดือน มิ.ย.2563 เพื่อลดภาระภาษีให้แก่ประชาชน นำค่าใช้จ่ายในการอบรม สัมมนาในต่างจังหวัดมาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า เป็นต้น โดยตั้งเป้าหมายให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเป็นบวกมากกว่า 1% ซึ่งในช่วงเวลานั้น ยังไม่มีใครคิดว่าความรุนแรงของไวรัสโควิด-19 จะมากถึงขนาดนี้แจกเงิน 2 พันเพิ่มใช้จ่ายไม่ ประชานิยมผลกระทบจากโควิด-19 รุนแรงมากขึ้นเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ เมื่อประเมินภาพชัดเจนในช่วงปลายเดือน ก.พ.กระทรวงการคลัง จึงต้องเร่งเสนอให้คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา มีมาตรการชุดใหญ่เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยเป็นมาตรการระยะสั้นเพียง 2 เดือน โดยอัดมาตรการลงไปในเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้มาตรการชุดที่ 1 เป็นเพียงมาตรการระยะสั้นเท่านั้น และในอนาคต หรือในอีก 3-4 เดือนข้างหน้า จะมีมาตรการชุดที่ 2 และชุดที่ 3 ตามมาอีกตามความจำเป็น ขึ้นอยู่กับว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยุติได้รวดเร็วภายใน 1-2 เดือนนี้ หรือลากยาวไปถึงสิ้นปี 2563โดยมาตรการชุดที่ 1 นี้ มีทั้งหมด 4 มาตรการ ได้แก่1.มาตรการบรรเทาค่าครองชีพแก่ประชาชน2.มาตรการทางด้านการเงิน3.มาตรการด้านภาษีและ 4.มาตรการอื่นๆ โดยใช้เงินงบประมาณ และวงเงินสินเชื่อรวมมากกว่า 100000 ล้านบาท เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้มาตรการชุดที่ 1 จึงเป็นการช่วยเหลือครอบคลุมทุกกลุ่ม เริ่มตั้งแต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ เอสเอ็มอี และประชาชนทั่วไป โดยมาตรการแรก คือ มาตรการบรรเทาค่าครองชีพแก่ประชาชน โดยจะแจกเงินเดือนละ 1000 บาท ระยะเวลา 2 เดือน รวม 2000 บาท เริ่มเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้ ขอบเขตของประชาชนที่จะได้รับมีทั้งหมด 3 กลุ่ม คือ ผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร และอาชีพอิสระ ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างวางหลักเกณฑ์ และกำหนดคุณสมบัติ เพื่อประกาศรับลงทะเบียน และจ่ายเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ของธนาคารพาณิชย์อย่างถูกฝาถูกตัวพักหนี้เก่า-ให้เงินกู้ใหม่เพิ่มสภาพคล่องต่อมาเป็นมาตรการทางด้านการเงิน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่มีภาระต้นทุน และไม่ให้เลิกจ้างงานหรือลอยแพลูกจ้าง ประกอบด้วย1.การจัดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษ (ซอฟต์โลน) จากธนาคารออมสิน วงเงิน 100000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0.01% เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์นำไปปล่อยกู้ต่อให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในอัตราไม่เกิน 2% ระยะเวลา 2 ปี วงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อราย2.พักเงินต้นเงินและขยายเวลาชำระหนี้แก่ลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ประกอบด้วย พักเงินต้น ลดดอกเบี้ย ขยายเวลาชำระหนี้ ผ่อนคลายเงื่อนไขการจ่ายค่าสินไหมทดแทน รวมถึงการให้สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-193.ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย โดยประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกอบด้วย ผ่อนปรนเกณฑ์การจัดชั้นสินเชื่อปกติได้เร็วขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่นในการประเมินกระแสเงินสดเพื่อการกู้ ซึ่งนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท.ได้ออกประกาศไปแล้วตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้การแก้ไขหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ครอบคลุมลูกหนี้ตั้งแต่เดือน ม.ค.25624.สินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานของสำนักงานประกันสังคม สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้น 3% ต่อปี ระยะเวลา 3 ปี แก่ สถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนประกันสังคม เพื่อช่วยผู้ประกอบการให้สามารถจ้างลูกจ้างต่อได้ วงเงินสินเชื่อรวม 30000 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชะลอการเลิกจ้างของนายจ้าง ที่ประกอบกิจการธุรกิจท่องเที่ยว และที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว รวมถึงผู้ประกอบการทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19มาตรการภาษีพยุงเอกชนลด เลิกจ้างสำหรับมาตรการทางภาษี มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่มีภาระต้นทุน เพื่อให้อยู่ต่อไปได้ และไม่ต้องเลิกจ้างแรงงาน ประกอบด้วย1.คืนสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการในประเทศ โดยลดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย2.ลดภาระดอกเบี้ยจ่ายของผู้ประกอบการ โดยให้สิทธิหักรายจ่ายดอกเบี้ยสำหรับเอสเอ็มอีที่เข้าร่วมโครงการซอฟต์โลนเพื่อปรับปรุงโครงสร้างหนี้และจัดทำบัญชีเดียว สามารถนำดอกเบี้ยเงินกู้ระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-31 ธ.ค.2563 ไปคำนวณเป็นรายจ่ายได้3.ส่งเสริมการจ้างงาน โดยผู้ประกอบการสามารถนำรายจ่ายของลูกจ้างในธุรกิจเอสเอ็มอี ที่จ่ายตั้งแต่ 1 เม.ย.- 31 ก.ค.2563 มาหักเป็นรายจ่ายได้และ 4.เร่งคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต)ให้แก่ ผู้ประกอบการภายในประเทศ ในกรณีเป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ดี แบ่งเป็น1.กรณียื่นแบบ ภ.พ.30 ทางอินเตอร์เน็ต ได้รับคืนภายใน 15 วันและ 2.ยื่นแบบ ภ.พ.30 ณ สรรพากร ได้รับคืนภายใน 45 วันและ 5.มาตรการอื่นๆ ซึ่งเป็นการร่วมมือกันของหลายส่วนราชการ เพื่อแบ่งเบาภาระต้นทุนให้กับผู้ประกอบการและบรรเทาค่าครองชีพให้แก่ประชาชนทั่วไป ประกอบด้วย1.การบรรเทาค่าธรรมเนียม ค่าเช่า ค่าตอบแทนในการให้บริการของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ โดยส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ พิจารณาลด/ ชะลอ/เลื่อนการเก็บ ค่าธรรมเนียม ค่าเช่า ค่าตอบแทนในการให้บริการ หรือค่าใช้จ่ายอื่นให้ผู้ประกอบการ2.บรรเทาภาระการจ่ายค่าน้ำค่าไฟ โดยให้รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานต้นสังกัดที่เกี่ยวข้อง พิจารณาลดและเลื่อนการชำระค่าน้ำ และค่าไฟให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบตามความเหมาะสม3.ลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมของนายจ้างและลูกจ้าง โดยขอความร่วมมือกระทรวงแรงงานพิจารณาลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม4.เพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 โดยการปรับขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ รวมทั้งเร่งดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนและ 5.สร้างความเชื่อมั่นในระบบตลาดทุน โดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับประชาชนทั่วไป ที่ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (เอสเอสเอฟ) จากเดิมที่กองทุนไม่ได้กำหนดสัดส่วนการลงทุน แต่จะขอขยายเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์ไม่น้อยกว่า 65% เพื่อไฟเขียวให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) นำเงินจากเอสเอสเอฟไปลงทุนในตลาดหุ้นได้อย่างเต็มที่ตั้งกองทุนช่วยคนถูกเลิกจ้างสุดท้ายกระทรวงการคลังยังได้วางกลไกในการดูแลผู้ประกอบการและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เหมือนกับเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 โดยจะจัดตั้งกองทุนลักษณะพิเศษ ที่สามารถนำเงินไปใช้จ่าย หรือช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนได้ทันที โดยไม่ติดขัดกฎระเบียบราชการ เพื่อให้ประชาชนและผู้ประกอบการได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาของกระทรวงการคลัง แต่ยืนยันได้ว่ากองทุนนี้จะมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะช่วยเหลือประชาชน และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19ประชาชนที่ถูกเลิกจ้างจากธุรกิจท่องเที่ยว ทำให้รายได้ลดลง ต้องหยุดพักงาน หรือถูกลดการทำงานล่วงเวลา (โอที) จะต้องได้รับการดูแลจากรัฐบาล เพื่อให้ทุกคนสามารถฟันฝ่าวิกฤติไวรัสโควิด-19 ไปได้ด้วยกัน หรือถ้าจะมีคนไทยบาดเจ็บ เสียหายจากเหตุการณ์นี้ ผมจะพยายามทำให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด นายอุตตมกล่าวทิ้งท้ายก่อนจบการสนทนา.ทีมเศรษฐกิจ
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี 2562 ณ วันที่ 7 มี.ค. มีผู้ติดเชื้อทั่วโลก 102188 ราย เสียชีวิต 3491 ใน 101 ประเทศ สร้างความหวาดผวาให้กับทั่วโลก
ข่าว,เศรษฐกิจ
แจกเงิน,โควิด-19,แจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,เศรษฐกิจไทย,แจกเงิน 1000,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1789804
ร้อยเชิง เก๋ากว่า เร่งทำคะแนนชนะ เพชรเกรียงไกร ศึกยอดมวยไทยรัฐ
ศึกยอดมวยไทยรัฐ สัปดาห์ที่ 21 ประจำวันเสาร์ที่ 23 มกราคม 2559 ณ เวที มนตรีสตูดิโอ มวยคู่เอก พิกัด 116-120 ปอนด์ เป็นการพบกันระหว่าง ร้อยเชิง จ้อยนาทวี มุมแดง มวยแข็งแกร่งต่อน้ำหนักให้กับ เพชรเกรียงไกร ต.ศิลาชัย มวยรุ่นน้อง มุมน้ำเงิน ถึง 4 ปอนด์,เปิดฉากยกแรก เพชรเกรียงไกร ทำได้ดีกว่าเปิดหน้าแลกใส่ ร้อยเชิง ทันทีแต่ร้อยเชิงอาศัยดักวางแข้งซ้ายหน้าดักไว้ได้หมด,ยกที่สองยังเป็น เพชรเกรียงไกร ที่ลุยเข้าใส่เหมือนเดิมแต่ยังเอา ร้อยเชิง ไม่ลง เข้าสู่ยกที่สาม ร้อยเชิง เริ่มอยู่ไม่ได้ออกมาโชว์ลูกเก๋าบ้างแต่ เพชรเกรียงไกร ยังมาดีหวดขวาซ้ายคามุม ยกนี้ทั้งคู่ออกอาวุธได้อย่างคู่คี่สูสี,มาถึงยกที่สี่กลายเป็นยกของ ร้อยเชิง ก็ว่าได้จับ เพชรเกรียงไกร ล็อกก่อนอัดแต่ละดอกหนักๆ เน้นๆ เพชรเกรียงไกร เริ่มเป๋ ร้อยเชิง เห็นท่าได้เปรียบอัดเข้าใส่ไม่ยั้งทำให้โมเมนตั้มเป็นของร้อยเชิงเต็มๆ,เข้าสู่ยกสุดท้าย ร้อยเชิง โชว์เก๋าเริ่มวนรอบเวทีให้ เพชรเกรียงไกร บุกก่อนจะดักเตะทำคะแนนสุดท้ายระฆังดังครบ 5 ยกกรรมการชูมือ ร้อยเชิง จ้อยนาทวี เอาชนะคะแนน เพชรเกรียงไกร ต.ศิลาชัย ไปแบบเอกฉันท์,ส่วนผลคู่อื่น มีดังนี้,สกัดเพชร เพชรสี่หมื่น ชนะคะแนน แสงอาทิตย์ เกียรติกำธร,ฉมวกเพชร เพชรสี่หมื่น แพ้คะแนน หนึ่งพยัคฆ์ ภ.หลักบุญ,เพชรสีนิล คงชูช่วย ชนะน็อก คชสารเล็ก ก.กัมปนาท 
ร้อยเชิง จ้อยนาทวี อาศัยลูกเก๋าปล้ำตีเข่ายกเดียวขาดลอยเอาชนะคะแนน เพชรเกรียงไกร ต.ศิลาชัย คู่เอกศึกยอดมวยไทยรัฐประจำวันเสาร์ที่ 23 มกราคม 2559
null
ศึกยอดมวยไทยรัฐ,ร้อยเชิง จ้อยนาทวี,เพชรเกรียงไกร ต.ศิลาชัย,ข่าวกีฬา,ผลมวย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/567078
ระวังความน่าเชื่อถือ
ออกระเบียบและประกาศฉบับใหม่ ขยายตำแหน่งที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน รวมไปถึงนายกสภาและกรรมการสภามหาวิทยาลัย ทำให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเตรียมลาออกเป็นจำนวนมาก,กรรมการมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งคาดว่าจะมีนายกสภาและกรรมการสภามหาวิทยาลัยทั่วประเทศลาออกกว่าครึ่งแน่นอน โดยเฉพาะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน เพราะไม่สบายใจที่จะต้องมาชี้แจงเรื่องทรัพย์สิน รวมทั้งทรัพย์สินของคู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ นอกจากจะเป็นภาระแล้ว ยังเสี่ยงต่อการแจ้งทรัพย์สินไม่ครบถ้วน มีสิทธิติดคุกได้,ตำแหน่งนายกสภาและกรรมการสภามหาวิทยาลัย ไม่ใช่ตำแหน่งผู้บริหาร ไม่มีโอกาสที่จะรับเงินหรือสร้างความร่ำรวยผิดปกติ เพราะได้เบี้ยประชุมเดือนละไม่กี่พันบาท ส่วนทรัพย์สินที่มีได้จากการทำธุรกิจ ไม่เกี่ยวข้องกับเงินของแผ่นดิน และกฎหมายก็ให้อธิการบดีและรองอธิการบดี ซึ่งเป็นผู้บริหารมหาวิทยาลัย ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.อยู่แล้ว,จากเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากวงการมหาวิทยาลัย แสดงว่าก่อนที่ออกระเบียบใหม่ ป.ป.ช.ไม่ได้ศึกษาอย่างรอบคอบ ตำแหน่งใดจำเป็นที่จะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน เพื่อให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ เพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริต แต่ใช้วิธีเหวี่ยงแหคลุมถึงตำแหน่งระดับสูงต่างๆในวงราชการและการเมือง ป.ป.ช.จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพียงพอหรือไม่,มีผู้ฝากความถึง ป.ป.ช. ว่า สิ่งที่สังคมต้องการที่สุดคือให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ และทำความจริงให้กระจ่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการซื้อเรือบิน และการซื้ออาวุธทั้งหลาย รวมทั้งเรื่องอื้อฉาวนาฬิกาหรู ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพด้วยความโปร่งใสตรงไปตรงมา ไม่เลือกปฏิบัติหรือลูบหน้าปะจมูก และดำรงไว้ซึ่งความเป็นอิสระสมกับที่เป็นองค์กรอิสระ,น่าเป็นห่วงว่าประกาศฉบับใหม่ของ ป.ป.ช. จะเปิดช่องให้การเมืองแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของ ป.ป.ช. เพราะเมื่อปัญหาเกิดขึ้น รัฐบาลก็ต้องเข้าไปร่วมแก้ไข โดยหารือร่วมกับ ป.ป.ช. และอาจนำไปสู่การแก้ปัญหาด้วยมาตรา 44 ต้องไม่ลืมว่ากรรมการ ป.ป.ช. ปัจจุบัน ที่เป็นกรรมการเสียงข้างมาก มาจากการสรรหาและแต่งตั้ง ในยุคของ คสช.,ป.ป.ช.เป็นองค์กรอิสระที่ได้รับการอุ้มชูเป็นพิเศษ จากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งเป็น 1 ในแม่น้ำ 5 สายของ คสช. โดย สนช. ออกกฎหมายให้ ป.ป.ช.ปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งต่อไป จนกว่าจะครบวาระ ทั้งที่กรรมการบางคนมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ต่างจาก กกต.ที่โดนโละทั้งคณะ ป.ป.ช.จึงต้องระวังการถูกแทรกแซง เพราะกระทบถึงความน่าเชื่อถือ.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แสดงความกังวลว่าขณะนี้เกิดแรงกระเพื่อมอย่างหนัก หลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
null
ความน่าเชื่อถือ,ป.ป.ช.,ยื่นบัญชีทรัพย์สิน,สภามหาวิทยาลัย,บทบรรณาธิการ
https://www.thairath.co.th/news/politic/1415490
The Loft บาร์วิวสวย ที่พกเอาศิลปะมาไว้ในค็อกเทล
บาร์แห่งนี้ได้แรงบันดาลใจจาก The Waldorf Bar ซึ่งเป็น American Bar ของโรงแรม Waldorf Astoria ที่นิวยอร์ก ซึ่งปัจจุบันคือที่ตั้งของตึกเอ็มไพร์สเตท ดังนั้นงานสถาปัตยกรรมแนว Art Deco และ Art Nouveau ของบาร์แห่งประวัติศาสตร์ที่ได้รับการกล่าวขานมาอย่างช้านาน จึงถูกขนให้มาอยู่ใน The Loft ชั้น 56 ของโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok ย่านราชประสงค์แห่งนี้ด้วย The Vibeทันทีที่ก้าวเข้ามาใน The Loft คุณจะต้องแปลกใจกับคอลเล็กชันงานคอลลาจจากข้าวของต่างๆ ที่อยู่ด้านขวามือของโถงทางเข้า และหากมองลึกเข้าไปข้างในจะเห็นเป็นห้องเล็กๆ แสนส่วนตัว เหมาะสำหรับชมวิวและแลกเปลี่ยนบทสนทนากับคนรู้ใจ แต่ถ้ามองไปข้างหน้าจะพบกับโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ที่ดูขลังด้วยสีที่เขรอะกัง ละม้ายคล้ายโต๊ะทำงานของศิลปิน ในพื้นที่บริเวณนั้นหากมองไปทางซ้าย คุณจะพบกับวิวสวยๆ ของกรุงเทพฯ ในยามค่ำคืน ที่เต็มไปด้วยแสงสีและความเคลื่อนไหวของชีวิตคนกรุง แต่หากหันมาทางขวาก็จะพบกับตัวบาร์ที่ถูกกั้นด้วยโพรซิเนียม ที่มีตู้กระจกไว้สำหรับหอยหลากชนิด และใบไม้ประหลาดต่างๆ ราวอยู่ในห้องสตูดิโอในสมัยยุค Edwardian ที่การสำรวจและค้นคว้าคือรากฐานแห่งความสร้างสรรค์ ภายในบาร์ใช้ศิลปะสไตล์ Art Nouveau ในการตกแต่ง ซึ่งเต็มไปด้วยเส้นสายที่อ่อนช้อย แต่กระนั้นก็ยังมีการผสมผสานของเส้นสายที่เรียบง่ายและสมมาตรตามแบบฉบับของ Art Decor ที่ทำให้บรรยากาศไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป เหมาะกับการนั่งดื่มทอดอารมณ์เป็นที่สุดThe Drinksบาร์เมเนเจอร์ของ The Loft บาร์เมเนเจอร์ของ The Loft คือหนุ่มอิตาเลียน มิคเคลเล มอนตาอูติ (Michele Montauti) ซึ่งเขาได้นำ The Old Waldorf Bar Book ที่นักประวัติศาสตร์ อัลเบิร์ต สตีเฟนส์ คร็อกเกตต์ (Albert Stevens Crockett) เป็นผู้บันทึก เขาและทีมงานต่างศึกษาบันทึกนั้นอย่างถี่ถ้วน ก่อนพบว่า The Waldorf Bar เสิร์ฟค็อกเทลทุกสาย ไล่มาตั้งแต่สปิริตฟอร์เวิร์ด สวีตแอนด์ซาวร์ สแมชและฟิซซี่ ก่อนจะออกมาเป็นเมนูของทางร้าน โดยเริ่มจากดริงก์ที่เป็นสปิริตฟอร์เวิร์ดอย่าง Waldorf (450 บาท) ซึ่งรสออกขมนิดๆ สมุนไพรหน่อยๆ เนื่องจากมีส่วนผสมของโหระพาที่เข้าไปผสมกับน้ำเชื่อมเมเปิ้ลและผักชี เหล้าที่ใช้เป็นเบสคือ เบอร์เบิร์น ก่อนเติมมิติด้วยช็อกโกแลตบิตเตอร์Waldorfต่อมาเป็นดริงก์แบบสแมชบ้าง ลองเป็น Whisky Smash (520 บาท) ใช้วิสกี้ที่บ่มนานถึง 18 ปี ผสมกับทิงเจอร์เก๊กฮวยที่มีกลิ่นหอมละมุน เติมความเปรี้ยวด้วยน้ำมะนาว โปะด้วยเชอร์เบตส้มแทงเจอรีน แต่งด้วยใบมินต์ ดื่มสบายเข้าถึงง่าย Whisky Smashตามมาด้วย Waldorf Claret Cups (480 บาท) ที่มีเบสเป็นคอนยักและไวน์จากบอร์โดซ์ที่ถูกทำการรีดักชัน (Reduction) ตามด้วยดรายคาราซาว มาราสชิโน่ และน้ำมะนาว ผสมกันลงตัว ก่อนท็อปด้วยโซดา จบด้วยการตกแต่งด้วยผลไม้ทรอปิคัลอย่างองุ่นหมักปลายๆ แต่หวานใช้ได้ สายหวานน่าจะชอบ Waldorf Claret Cupsและตัวสุดท้ายคือ Mamie Taylor (650 บาท) ซึ่งตัวนี้เป็นดริงก์ที่มีไข่ขาวผสมอยู่ อบอวลไปด้วยกลิ่นของขิงที่ได้จากจิงเจอร์เอลและผลลูกจันทน์เทศ ที่มาในฟอร์มของทั้งทิงเจอร์และขูดสด นอกจากนี้ยังมีเวอร์มูธที่อินฟิวส์ด้วยหญ้าฝรั่น และเหล้าที่ตัวหลักเป็นสกอตช์ ส่วนตัวที่ให้ความเปรี้ยวคือมะนาว นับเป็นดริงก์ที่เชกจนเกิดฟองสวยน่าดื่มMamie TaylorThe Dishesต่อให้ที่นี่เป็นบาร์ค็อกเทล แต่ก็มีสแน็กไว้ช่วยพยุงไม่ให้แขกเหรื่อต้องหิวจนท้องกิ่ว ดังนั้นเมนูอาหารจึงเน้นของทานง่าย เช่น Charcuterie (1350 บาท) ที่มีตับห่านบด ริลแล็ตต์เป็ด ซาลามี และเนื้อเค็มแล่บาง เสิร์ฟมาพร้อมกับขนมปัง หรือ Lobster Roll (1250 บาท) ที่ตัวล็อบสเตอร์ถูกคลุกเคล้ามายองเนสและไข่กุ้ง เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอดด้วยน้ำมันเป็ด ส่วนสายเนื้ออาจลองเป็น Beef Tartar (650 บาท) หรือ หอยนางรมสด ที่สามารถเลือกแหล่งที่มาและจำนวนได้ตามความเหมาะสม (840-2200 บาท)(ซ้าย) Beef Tartar (ขวา) Lobster RollThe LoftOpen: ทุกวันเวลา 17.00-01.00 น. Address: 151 ราชดำริ ลุมพินี กรุงเทพฯBudget: 220-50000 บาทContact: 0 2846 8888Website: waldorfastoria3.hilton.comPage: www.facebook.com/WaldorfAstoriaBangkokMap:พิสูจน์อักษร:
จุดเด่นอยู่ที่การผสมผสานงานสถาปัตย์สไตล์ Art Nouveau และ Art Deco ที่พร้อมต้อนรับเหล่านักดื่ม บวกวิวสวยๆ ที่ทำให้เห็นกรุงเทพฯ ได้อย่างถนัดตาจากย่านธุรกิจบาร์เมเนเจอร์ของ The Loft คือหนุ่มอิตาเลียน Michele Montauti ผู้นำเอาหนังสือ The Old Waldorf Bar Book ที่นักประวัติศาสตร์ Albert Stevens Crockett เป็นผู้บันทึกมาศึกษา ก่อนครีเอตเป็นเมนู เช่น Waldorf (450 บาทซึ่งรสออกขมนิดๆ สมุนไพรหน่อยๆ เนื่องจากมีส่วนผสมของโหระพาที่เข้าไปผสมกับน้ำเชื่อมเมเปิ้ลและผักชี เหล้าที่ใช้เป็นเบสคือ เบอร์เบิร์น ก่อนเติมมิติด้วยช็อกโกแลตบิตเตอร์ Waldorf Claret Cups (480 บาท) เบสเป็นคอนยักและไวน์จากบอร์โดซ์ที่ถูกทำการรีดักชัน (Reduction) ตามด้วยดรายคาราซาว มาราสชิโน่ และน้ำมะนาว ผสมกันลงตัว ก่อนท็อปด้วยโซดา จบด้วยการตกแต่งด้วยผลไม้ทรอปิคัลอย่างองุ่นหมักปลายๆ แต่หวานใช้ได้ สายหวานน่าจะชอบ
null
null
https://thestandard.co/the-loft/
จนท.ตรวจสอบประวัติแนวร่วมเสียชีวิต จากเหตุปะทะในจ.นราธิวาส
เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายกระกำลังออกติดตามกลุ่มแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบ 2 คน ซึ่งคาดว่าหลบหนีไปได้ จากเหตุปะทะกับตำรวจชุดสอบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และทหารที่นำกำลังเข้าปิดล้อม พื้นที่หมู่ 1 ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) ทำให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย ส่วนแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 4 คนและถูกจับกุมได้ 7 คนจากการตรวจสอบพบว่า นายอับดุลรอฮิง ดาอีซอ หรือ เปเล่ดำ 1 ใน 4 ของผู้เสียชีวิต เป็นหนึ่งผู้ก่อเหตุซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 27 กันยายน แล้วนำวิดีโอคลิปขณะซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ออกเผยแพร่ผ่านอินเทอร์เน็ตส่วนการตรวจสอบประวัติแนวร่วม 7 คน ที่ถูกจับได้พบว่า มีหมายจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหลายคดี 4 คน ส่วนอีก 3 คน เป็นแนวร่วมรุ่นใหม่ที่ยังไม่ถูกออกหมายจับ
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบ ที่เสียชีวิตจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ในอ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) พบว่า หนึ่งในนั้นเป็นแกนนำอาร์เคเคที่ซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา
ภูมิภาค
จ.นราธิวาส,ปะทะ,อ.รือเสาะ,แนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบ
https://news.thaipbs.or.th/content/199908
กาโน ฮีโร่ เสือดำ ต่อเวลาอัด เกือกม้า 29-26
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 3 พ.ย. ว่า การแข่งขัน,อเมริกันฟุตบอล, เอ็นเอฟแอล สหรัฐอเมริกา ฤดูกาล 2015-16 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเช้าวันอังคารของไทย เป็นเกมสัปดาห์ที่ 8 ณ สนามแบงก์ ออฟ อเมริกา สเตเดียม เสือดำ แคโรไลนา แพนเธอร์ส ทีมจากกลุ่มเอ็นเอฟซี ใต้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เกือกม้า อินเดียนาโปลิส โคลต์ส ทีมจากกลุ่ม เอเอฟซี ใต้,เปิดเกมควอเตอร์แรก เสือดำ จัดการทำแต้มออกนำไปก่อน 10-0 โดยประเดิมคะแนนแรกจากการเตะฟิลด์โกลระยะ 39 หลาของ เกรแฮม กาโน ก่อนที่ โจนาธาน สจวร์ต ตัววิ่งหลักจะวิ่ง 3 หลาทำทัชดาวน์ปิดท้าย แต่ในควอเตอร์ต่อมาทัพ เกือกม้า ขอเอาคืนจากสุดยอดตัวเตะ อดัม วินาเทียรี ที่ทำแต้มจากการซัดสองฟิลด์โกลระยะ 47 และ 34 หลา ช่วยให้ทีมไล่จี้มาเป็น 6-10,ควอเตอร์ที่ 3 แพนเธอร์ส เก็บคะแนนเพิ่ม แคม นิวตัน ขว้าง 27 หลาให้ เกร็ก โอลเซน ไทตเอนด์ตัวเก๋าเจาะเข้าทางฝั่งซ้ายทำทัชดาวน์ช่วยทีมนำห่างไปเป็น 17-6 และในควอเตอร์ที่ 4 ทีมเจ้าถิ่นก็มาได้เพิ่มโดยเป็น นิวตัน ที่ขว้าง 8 หลาให้ คอรีย์ บราวน์ เข้าทำทัชดาวน์พาทีมนำเพิ่ม 23-6,อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นกลายเป็นฝั่งของทีมเยือนที่รัวเอาคืนจากการทำสองทัชดาวน์ ซึ่งเป็น แอนดริว ลัค ที่ปา 18 หลาให้ อังเดร จอห์นสัน รุกเข้าเอนด์โซนทางฝั่งซ้าย ก่อนที่จะปาให้ โคบี ฟลีเนอร์ รับทำทัชดาวน์ระยะ 8 หลา ไล่มาเหลือ 20-23 และใน 2 วินาทีสุดท้ายก่อนหมดควอเตอร์ ทัพ เกือกม้า ก็ได้แต้มสำคัญจากการเตะฟิลด์โกลระยะ 24 หลาของ วีนาเทียรี ส่งผลให้จบเกม อินเดียนาโปลิส โคลต์ส เสมอ แคโรไลนา แพนเธอร์ส 23-23 ต้องไปเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษ,ในช่วงต่อเวลาฝั่งของ โคลต์ส ประเดิมเก็บแต้มก่อนจากลูกฟิลด์โกลระยะ 50 หลาของ วีนาเทียรี ทำให้ทีมออกนำ 26-23 แต่หลังจากนั้นกลายเป็นเจ้าถิ่นที่รัวเอาคืนโดยมี กาโน รับหน้าที่ทำคะแนนจากฟิลด์โกล ระยะ 42 และ 52 หลา ส่งผลให้จบเกม แคโรไลนา แพนเธอร์ส เอาชนะ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส ไป 29-26 คว้าชัย 7 เกมติดต่อกัน.,ผลการแข่งขัน บาสเกตบอล ,เอ็นบีเอ, ฤดูกาล 2015-16,
คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ชนะ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตี้ซิกเซอร์ส 107-100
,มิลวอกี บักส์ ชนะ บรู๊คลีน เนตส์ 103-96
,ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส ชนะ นิวยอร์ก นิกส์ 94-84
, โอกลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์ แพ้ ฮุสตัน ร็อกเกตส์ 105-110
,ปอร์ตแลนด์ เทรล เบลเซอร์ส ชนะ มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส์ 106-101
, เมมฟิส กริซซ์ลีส์ แพ้ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส 69-119
,ฟีนิกซ์ ซันส์ แพ้ ลอส แองเจลิส คลิปเปอร์ส 96-102,(ทีมหลังเป็นเจ้าบ้าน)
เกรแฮม กาโน ซัดฟิลด์โกลสำคัญช่วย เสือดำ แคโรไลนา แพนเธอร์ส เปิดบ้านเอาชนะ เกือกม้า อินเดียนาโปลิส โคลต์ส ไปในช่วงต่อเวลาพิเศษ 29-26
null
อเมริกันฟุตบอล,เอ็นเอฟแอล,บาสเกตบอล,เอ็นบีเอ,ฤดูกาล 2015-16,เสือดำ,แคโรไลนา แพนเธอร์ส,เกือกม้า,อินเดียนาโปลิส โคลต์ส,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/536732
เลขยันต์ สายรกพระพุทธเจ้า
นี่คือส่วนหนึ่งของความในใจ คุณณัฐธัญ มณีรัตน์ ผู้เขียนหนังสือ เลขยันต์ แผนผังอันศักดิ์สิทธิ์ (วารสารมิวเซียมสยาม สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ จัดพิมพ์ พ.ศ.2553),ณัฐธัญเชื่อมั่นว่า ระบบเลขยันต์ เป็นหนึ่งในความเชื่อที่มีมาคู่กับความเป็นมนุษย์ เกี่ยวข้องกับทุกอารยธรรมโบราณของโลกทุกภูมิภาค คำกล่าว เลขยันต์ไร้สาระ ทำให้พุทธศาสนามัวหมอง ดูจะไม่ยุติธรรม,ณัฐธัญเชื่อว่า ระบบเลขยันต์อาจจะเป็นอุบาย ทำให้คนเข้าหาพุทธธรรม อาจมีสารัตถะสำคัญซุกซ่อนไว้ แบบอาศัยเปลือกหุ้มแก่น,หนังสือเลขยันต์ แผนผังอันศักดิ์สิทธิ์ มาจากงานวิจัยเรื่อง การศึกษาวิเคราะห์ระบบยันต์ในภาคกลางของประเทศไทย ที่รองศาสตราจารย์ สุกัญญา สุจฉายา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นบรรณาธิการ,อาจารย์สุกัญญาเขียนไว้ในคำนำ ข้าพเจ้าสงสัย เหตุใดอาจารย์เทพ สาริกบุตร จึงได้ให้ความหมายของยันต์ว่า สายรกพระพุทธเจ้า,คำ สายรก มีความหมายโดยนัยของแหล่งกำเนิดชีวิต และเป็นภาพที่แสดงเส้นสาย,อาจารย์สนใจคัมภีร์ปถมัง คัมภีร์ที่ประมวลความรู้เกี่ยวกับวัฏฏะของการเกิดและการดับของจักรวาลไว้ในรูปเส้นสัญลักษณ์ กำเนิดของจักรวาลภัทรกัลป์ การอุบัติของพระพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ กำเนิดของสรรพชีวิตในโลก,จนถึงสูญนิพพาน โดยแสดงเป็นสัญลักษณ์เริ่มต้นที่ พินทุ หรือจุดวงกลมเล็กๆ จุดตั้งต้นการลากเส้นยันต์,พินทุจึงเป็นจุดรวมจิต เป็นจุดกำเนิดของสรรพชีวิต ผู้ที่ศึกษาคัมภีร์ปถมัง จึงต้องเริ่มต้นด้วยพลังศรัทธา ข้อสงสัยต่อมา จุดพินทุกับเส้นสายชีวิตและพลังแห่งจิตสัมพันธ์กันอย่างไร,ปี 1990 นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์สมัยใหม่ ค้นพบทฤษฎี สตริง ซึ่งพัฒนาต่อมาเป็นทฤษฎี ซุปเปอร์สตริง ทฤษฎีนี้มีคำอธิบาย สิ่งที่เราคิดว่าเป็นคลื่นอนุภาคเช่นอิเล็กตรอนในสภาพหนึ่งเป็นอนุภาค หรือมีลักษณะเป็นจุดนั้น,หากแยกต่อไป แทนที่จะเป็นจุด กลับกลายเป็นสายสตริงที่เล็กละเอียดกว่าอะตอมถึงสามเท่า และยังสั่นระรัวๆ แสดงว่า จักรวาลมิได้มีเพียงหนึ่งเดียวคือจักรวาลของเราเท่านั้น ยังมีจักรวาลอื่นซ้อนอยู่ถึง 10 มิติ,มิติยิ่งต่ำยิ่งสั่นสะเทือนมาก มิติยิ่งสูงยิ่งสั่นสะเทือนน้อย,นักวิทยาศาสตร์ยังพบว่า นอกจากแรงทางฟิสิกส์ทั้งสี่แรง แรงดึงดูด แรงแม่เหล็กไฟฟ้า แรงนิวเคลียร์อย่างแข็ง แรงนิวเคลียร์อย่างอ่อน,ยังมีพลังงานหรือแรงจิต ที่สามารถรวมแรงทั้งสี่ประสานเข้าเป็นหนึ่งเดียว,นักวิทยาศาสตร์ตะวันตก เพิ่งค้นพบความรู้นี้ไม่กี่สิบปี คัมภีร์ลบผงทั้ง 5 คัมภีร์ที่เหลืออยู่ คือประจักษ์พยานแสดงปรีชาญาณของพระสงฆ์สยามในอดีต ว่ารู้เรื่องมิติของสถานที่และมิติของเวลาล่วงหน้าก่อนหลายร้อยปี,อาจารย์สุกัญญาได้ยินชื่อ คัมภีร์ปถมัง เมื่ออ่านขุนช้างขุนแผน เข้าใจว่าเป็นวิชาไสยศาสตร์ ความน่าทึ่งเป็นวิชาที่ถ่ายทอดโดยผู้หญิง คือนางทองประศรี เมื่อได้อ่านคัมภีร์ทั้งเล่ม ก็ต้องทำลายความคิดเก่า นำไปสู่ความเชื่อใหม่,คัมภีร์ปถมังเป็นพุทธศาสตร์ และจักรวาลศาสตร์อันลึกซึ้ง เป็นคู่มือสำคัญของนักปฏิบัติ,ผมอ่านถึงตรงนี้ เริ่มศรัทธาน้อมใจว่า ไสยศาสตร์ที่มีหลาย,ผู้รู้ดูแคลนนั้น แท้จริงเป็นเปลือกหุ้มแก่น ถ้ากะเทาะเปลือกออก ก็ใช้เป็นเส้นทางไปถึงพระนิพพานได้,ท่านผู้ใหญ่ที่กำลังจะชำระพุทธพาณิชย์ในวงการสงฆ์ เห็นจะต้องตั้งหลักคิดใหม่ อีกด้านของเลขยันต์ สัญลักษณ์ของไสยศาสตร์นั้น ซ่อนแก่นธรรมเอาไว้ ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลไร้สาระไปโดยสิ้นเชิง.,กิเลน ประลองเชิง
เรื่องของเลขยันต์ผู้รู้หลายท่านชี้ว่างมงายไร้สาระ มอมเมาชาวบ้านให้ลุ่มหลงไสยศาสตร์ เป็นเดรัจฉานวิชา ไม่ใช่แก่นธรรม การปลุกเสกพระเครื่องของขลัง ในวงการสงฆ์ เหมือนการอาศัยศาสนาหากิน
null
เลขยันต์,ไสยศาสตร์,พระพุทธเจ้า,กิเลน ประลองเชิง,ชักธงรบ
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1304017
ศาลมะกันตัดสินประหารชีวิต มือปืนคลั่งขาว กราดยิงโบสถ์คนดำ 9 ศพ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 10 ม.ค. ศาลของสหรัฐอเมริกา ตัดสินลงโทษประหารชีวิตนาย นายดีแลนด์ รูฟ หนุ่มชาวอเมริกันวัย 22 ปี ผู้มีแนวคิดยกย่องคนขาวว่ายอดเยี่ยมที่สุด (white supremacist) ซึ่งก่อเหตุกราดยิงผู้คนในโบสถ์ เอมมานูเอล เอเอ็มอี ในเมืองชาร์ลส์ตัน รัฐเซาท์ แคโรไลนา ที่คนผิวสีมักรวมตัวศึกษาคัมภีร์ไบเบิล เมื่อเดือนมิ.ย. ปี 2015 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย,เมื่อเดือนก่อน นายรูฟถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีอาญา 33 กระทง รวมทั้งการก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชัง ขณะที่ในการพิจารณาคดีเมื่อวันอังคาร คณะลูกขุนใช้เวลาเพียงไม่ถึง 3 ชั่วโมงในการหารือเพื่อตัดสินลงโทษเขา โดยนายรูฟกล่าวก่อนหน้านั้นว่า เขาไม่เห็นว่าจะมีข้อดีอย่างไรถ้าคณะลูกขุนไว้ชีวิตเขา และในตอนเกิดเหตุเขารู้สึกว่าต้องทำในสิ่งที่เขาได้ทำลงไป และตอนนี้ก็ยังรู้สึกอยู่,อย่างไรก็ตาม หลังคำพิพากษาถูกประกาศออกมา นายรูฟยืนขึ้นและร้องขอให้ตั้งทนายกลุ่มใหม่และจะยื่นคำร้องเพื่อขอให้มีการไต่สวนใหม่ อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ ริชาร์ด เจอร์เจล ตอบกลับไปว่า เขายินยอมและสั่งให้นายรูฟไปคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ในคืนนั้น และกล่าวด้วยว่า ทนายความชุดปัจจุบันของนายรูปทำหน้าที่ได้อย่างน่าชื่นชมแล้ว
ศาลสหรัฐฯ ตัดสินประหารชีวิต มือปืนคลั่งคนขาว ผู้ก่อเหตุกราดยิงในโบสถ์คนผิวสีในรัฐเซาท์ แคโรไลนา เมื่อ 2 ปีก่อน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย
null
ดีแลนน์ รูฟ,กราดยิงในโบสถ์,คนผิวสี,ประหารชีวิต,อาชญากรรมจากความเกลียดชัง
https://www.thairath.co.th/content/832978
กิเลน แย้มส่ง อุ้ม บู๊ ปราสาท ศึกไทยลีก นัดที่ 24
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ก.ค. 59 ที่ห้องประชุมศุภชลาศัย สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ได้จัดงานแถลงข่าว มีท เดอะ เพรส โตโยต้า ไทยลีก 2016 นัดที่ 24 ของฤดูกาล ซึ่งจะทำการฟาดแข้งในวันที่ 23-24 ก.ค.นี้ โดยได้รับเกียรติจาก ต่อศักดิ์ สายทอง อุปนายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย มาเป็นประธาน,พร้อมด้วยตัวแทนของ 6 สโมสร ประกอบด้วย ธชตวัน ศรีปาน กุนซือ เอสซีจี เมืองทองฯ, สุรพงษ์ สวัสดี ผจก.ทั่วไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, สุธี แป้นน้อย ผจก.ทั่วไป บีบีซียู เอฟซี, ยุทธนา ทวีสรรพสุข ผจก.ทีม พัทยา ยูไนเต็ด, ธัญญะ วงศ์นาค ผจก.ทั่วไป บีอีซี เทโรศาสน และ วสพล แก้วผลึก ผช.โค้ช แบงค็อก ยูไนเต็ด ร่วมกันแถลงความพร้อม,ต่อศักดิ์ สายทอง อุปนายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย บอกว่า ทาง บ.พรีเมียร์ลีก ไทยแลนด์ จำกัด ได้แจ้งมาแล้วว่า เบนจามิน ตัน ผอ.ฝ่ายพัฒนาและตรวจสอบ คลับ ไลเซนซิ่ง ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้เริ่มเดินทางไปตรวจสภาพสนามในไทยลีกและดิวิชั่น 1 เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับฤดูกาลหน้า ให้ตรงตามมาตรฐานและผ่านคลับ ไลเซนซิ่ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว,โดยสโมสรไหนที่จะทำการปรับปรุงหรือต่อเติมให้สนามผ่านมาตรฐานในการตรวจสอบในครั้งนี้ เหมือนกับสนาม ยูไนเต็ด สเตเดียม ของ เชียงราย ยูไนเต็ด สามารถแจ้งความจำนงไปได้ เพราะในการตรวจครั้งนี้ยังมีเรื่องมาตรฐานของบุคลากร เจ้าหน้าที่สโมสร ที่จะต้องยกระดับขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งด้วย,ความพร้อมของแต่ละทีม เริ่มจากคู่ซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ ธชตวัน ศรีปาน กุนซือ เอสซีจี เมืองทองฯ เผย ทีมได้ นาโออากิ อาโอยามะ กับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ พ้นโทษแบนกลับมา แต่ อดิศร พรหมรักษ์ ติดโทษแบน อีกทั้งต้องเช็กความฟิตของ มาริโอ อบบรานเต้ แต่ ธีราทร บุญมาทัน พร้อมที่จะลงเจอทีมเก่า เชื่อเกมนี้ออกได้ 3 หน้า แต่นักเตะเชื่อมั่นในทีมตัวเอง มุ่งมั่นที่อยากจะเอาชัยชนะให้ได้เหนือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด,ส่วน สุรพงษ์ สวัสดี ผจก.ทั่วไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เชื่อว่า การที่ทีมชนะมา 4 เกมติดต่อกัน ทำให้เรียกขวัญกำลังใจได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสภาพทีมเวลานี้ไม่เหมือนตอนเลกแรกที่แพ้ เอสซีจี เมืองทองฯ คาบ้านตัวเอง 0-3 เพราะได้ ดิโอโก หลุยซ์ ซานโต หายเจ็บกลับมา รวมถึงไม่มีปัญหาผู้เล่นติดโทษแบนอีกด้วย โดยไม่ได้โฟกัสที่ ธีราทร บุญมาทัน เป็นพิเศษ มั่นใจจะบุกมาชนะได้อย่างแน่นอน,สุธี แป้นน้อย ผจก.ทั่วไป บีบีซียู เอฟซี เผย ทีมโฟกัสไปที่ชัยชนะทุกนัดที่ลงสนาม และ วู กึน ยอง กองหน้าตัวหลักอยู่ในฟอร์มที่ดี ทำให้เชื่อว่าจะเอา 3 แต้มจาก โลมา ในบ้านตัวเองได้ ฝั่ง ยุทธนา ทวีสรรพสุข ผจก.ทีม พัทยา ยูไนเต็ด เผยว่า จูเนียร์ เนเกรา อยู่ในช่วงมั่นใจหลังจากซัด 4 ประตู จาก 2 เกมที่ผ่านมา อีกทั้งยังได้ อันโตนิโอ พีน่า กลับมาจากอาการบาดเจ็บ น่าจะทำให้ทีมบุกไปคว้าชัยจากถ้ำ เสือสามย่าน ได้แน่,ด้าน ธัญญะ วงศ์นาค ผจก.ทั่วไป บีอีซี เทโรศาสน มั่นใจในทีมสปิริตว่า ทัพมังกรไฟจะสามารถต่อกรกับ แข้งเทพ ได้ แต่ต้องเช็กความฟิตของ สเลเท่า สเลเตโนวิช ว่าจะไหวมาคุมหลังหรือไม่ ส่วน วสพล แก้วผลึก ผช.โค้ช แบงค็อก ยูไนเต็ด ชี้ทีมกำลังมองที่ผลงานตัวเอง ไม่ได้มองที่ใครทั้งนั้น และต้องการบุกไปชนะ มังกรไฟ ในการไปเล่นถ้วยเอเชียให้ได้,สำหรับศึกโตโยต้า ไทยลีก 2016 นัดที่ 24 ประกอบด้วย วันที่ 23 ก.ค.59 ที่สนาม พาวเวอร์ สเตเดียม เวลา 18.00 น. ซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ พบ สุโขทัย เอฟซี ถ่ายทอดสด ทรูสปอร์ต 2 (682)/ทรูสปอร์ต เอชดี 3 (668), ที่สนาม มิตรผล สเตเดียม เวลา 18.00 น. ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบ ราชนาวี ถ่ายทอดสด ทรูสปอร์ต 6 (685), ที่สนามเขาพลอง สเตเดียม เวลา 19.00 น. ชัยนาท ฮอร์นบิล พบ สุพรรณบุรี เอฟซี ถ่ายทอดสด ทรูสปอร์ต 7 (686), ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มีนบุรี เวลา 20.00 น. บีอีซี เทโรศาสน พบ แบงค็อก ยูไนเต็ด ถ่ายทอดสด ทรูสปอร์ต 2 (682)/ทรู โฟร์ ยู (002),วันที่ 24 ก.ค.59 ที่สนามเทศบาลนครนนท์ เวลา 18.00 น. บีบีซียู เอฟซี พบ พัทยา ยูไนเต็ด ถ่ายทอดสด ทรูสปอร์ต 6 (685), ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา เวลา 18.00 น. นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบ ศรีสะเกษ เอฟซี ถ่ายทอดสด ทรูสปอร์ต 7 (686), ที่สนามเอสซีจี สเตเดียม เวลา 19.00 น. เอสซีจี เมืองทองฯ พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถ่ายทอดสด ทรู โฟร์ ยู (002)/ทรูสปอร์ต เอชดี 2 (667), ที่สนาม ลีโอ สเตเดียม เวลา 19.00 น. บางกอกกล๊าส เอฟซี พบ เชียงราย ยูไนเต็ด ถ่ายทอดสด ทรูสปอร์ต เอชดี 3 (668) และที่สนามกองทัพบก เวลา 19.00 น. อาร์มี่ ยูไนเต็ด พบ ชลบุรี เอฟซี ถ่ายทอดสด ทรูสปอร์ต 2 (682)
กิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงเตรียมส่ง เจ้าอุ้ม ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายตัวเก่งลงดวลกับต้นสังกัดเก่าอย่าง ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้าน พีแอลทีรุดตรวจรังเหย้า 2 ลีก
null
ไทยลีก,ไทยลีก 2016,โตโยต้า ไทยลีก,กิเลนผยอง,เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด,ปราสาทสายฟ้า,บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด,เจ้าอุ้ม,ธีราทร บุญมาทัน,พีแอลที,มีท เดอะ เพรส โตโยต้า,ต่อศักดิ์ สายทอง,อุปนายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬา,ธชตวัน ศรีปาน,สุรพงษ์ สวัสดี,สุธี แป้นน้อย,ยุทธนา ทวีสรรพสุข,ธัญญะ วงศ์นาค,วสพล แก้วผลึก,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/669924
ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน กรอกข้อมูลผิด ยกเลิกได้ เปิดทำผ่านระบบวันนี้
ธนาคารกรุงไทย เปิดให้ยกเลิกการลงทะเบียนรับเงิน 5000 บาท (3 เดือน) สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนผิด คลาดเคลื่อนจากความจริง พร้อมปรับเวลาลงทะเบียนรับเงิน ผ่านเว็บในแต่ละวันเฟซบุ๊กเพจ Krungthai Care ระบุว่า ธนาคารกรุงไทย เปิดให้ขอยกเลิกการลงทะเบียน มาตรการเยียวยา 5000 บาท (3 เดือน) สำหรับท่านที่มีความประสงค์จะขอยกเลิกการลงทะเบียน เนื่องจาก ลงทะเบียนผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง สามารถยกเลิกได้ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. 63 เป็นต้นไปโดยตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2563 มีผู้มาลงทะเบียนแล้ว 23.4 ล้านราย (ข้อมูลถึง วันที่ 2 เมษายน 2563)อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมจำนวนผู้มาลงทะเบียนในแต่ละวัน มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง และในช่วงเวลากลางคืนมีปริมาณการเข้าใช้งานน้อย ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2563 เว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com จะเริ่มปรับเวลาการลงทะเบียนใหม่ เพื่อพัฒนาการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น โดยจะเปิดรับลงทะเบียนเฉพาะในช่วงเวลา 06.00-23.59 น. ของทุกวันทั้งนี้ ในส่วนของผู้ลงทะเบียนที่ให้ข้อมูลถูกต้องครบถ้วน ผ่านการตรวจสอบและคัดกรองตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว จะมีการทยอยส่ง SMS เพื่อแจ้งผลการลงทะเบียนทั้งผู้ที่ได้รับสิทธิและไม่ได้รับสิทธิตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2563 เป็นต้นไปในการนี้ ผู้ได้รับสิทธิขอให้รอรับเงินโอนเข้าบัญชีหรือพร้อมเพย์ที่ได้ลงทะเบียนไว้ ส่วนผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิสามารถเข้าไปตรวจสอบสาเหตุได้ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com
ธนาคารกรุงไทย เปิดให้ยกเลิกการลงทะเบียนรับเงิน 5000 บาท (3 เดือน) สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนผิด คลาดเคลื่อนจากความจริง พร้อมปรับเวลาลงทะเบียนรับเงิน ผ่านเว็บในแต่ละวัน
ข่าว,เศรษฐกิจ
เราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนรับเงิน 5000,www.เราไม่ทิ้งกัน.com,วิธีรับเงิน5000,โควิด-19,ยกเลิกข้อมูล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1812118
เชือด มาร์เก็ตติ้ง ไม่ห้ามอินไซด์หุ้น
นางสาวเพชรี อาทิตยมณฑล โดย ขณะกระทำความผิดสังกัด บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กรณีไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและรอบคอบเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ ฐานไม่ทักท้วงลูกค้าที่น่าสงสัยว่าใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้น ทั้งนี้ ก.ล.ต.ได้รับรายงานการตรวจสอบจากตลาดหลักทรัพย์ และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าในวันที่ 8 พ.ค.60 นางสาวเพชรีซึ่งเป็นผู้แนะนำการลงทุนของลูกค้ารายหนึ่ง ได้ส่งคำสั่งซื้อหุ้นบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่งให้ลูกค้ารายดังกล่าวจำนวน 4 ล้านหุ้น โดยนางสาวเพชรีมิได้ยับยั้งหรือทักท้วงลูกค้า ทั้งที่นางสาวเพชรีรู้ว่าลูกค้าเป็นมารดาและภรรยาของผู้บริหารบริษัทดังกล่าว และมีเหตุน่าเชื่อว่าอาจส่งคำสั่งซื้อหุ้นโดยใช้ข้อมูลภายในของบริษัทที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อประชาชนเป็นการทั่วไป,การกระทำของนางสาวเพชรีดังกล่าวเป็นการไม่ยับยั้ง ไม่ทักท้วง หรือไม่แจ้งในการให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์กับบุคคล ซึ่งน่าเชื่อหรือสงสัย ว่ามีการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและรอบคอบเยี่ยงผู้ประกอบ วิชาชีพ ก.ล.ต. จึงสั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสาร ซับซ้อนประเภท 1 เป็นเวลา 6 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.62,ทั้งนี้ ก.ล.ต.มีความคาดหวังให้ผู้แนะนำการลงทุนใช้ความระมัดระวังการรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์จากลูกค้า โดยในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าลูกค้าอาจมีการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เช่น ซื้อหรือขายหลักทรัพย์โดยอาศัยข้อมูลภายใน หรือสร้างราคาหลักทรัพย์ เป็นต้น ผู้แนะนำการลงทุนควรทักท้วงลูกค้าและควรรายงานให้ผู้บังคับบัญชาหรือหน่วยงาน compliance ของบริษัทหลักทรัพย์ต้นสังกัดทราบโดยเร็ว มิฉะนั้นอาจถูกลงโทษ โดยก่อนหน้านี้ ก.ล.ต.ได้นำมาตรการลงโทษทางแพ่ง มาใช้บังคับกับลูกค้ารายดังกล่าว กรณีซื้อขายหลักทรัพย์โดยเป็นบุคคล ซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้สั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 1 ราย
ข่าว,เศรษฐกิจ
เพชรี อาทิตยมณฑล,ไม่ทักท้วง,ขายหลักทรัพย์,ตลาดหลักทรัพย์,คำสั่งซื้อหุ้น,ราคาหลักทรัพย์,การลงทุนตราสาร
https://www.thairath.co.th/news/business/stocks-gold/1714270
ชาวบ้านจะนะ-เทพา ร้องศูนย์ดำรงธรรม ผลกระทบบ่อขยะ
นายยงยุทธ เพ็ญสุข สมาชิกอบต.สะกอม หมู่ 5 ต.สะกอม เปิดเผยว่า ที่ชาวบ้านสะกอม และเทพา เดินทางมาในวันนี้ เพราะเดือดร้อนทั้งฝั่งชาวบ้านจะนะและฝั่งชาวบ้านเทพา เนื่องจากเทศบาลตำบลจะนะ เข้าไปสร้างบ่อขยะที่หมู่ 10 โดยไม่ถามไถ่ชาวบ้านเลย และสร้างห่างชุมชนเพียง 800 เมตร ได้เชิญทางเทศบาลให้ไปชี้แจงหลายครั้งแต่ไม่เข้าไปชี้แจงกับชาวบ้านล่าสุดผมและชาวบ้านบางส่วน ได้ไปยื่นหนังสือที่เทศบาลเพื่อชี้แจงและระงับการก่อสร้างไปก่อน หากบ่อขยะเกิดขึ้นจริง พวกผมและชาวบ้านจะเดือดร้อน เพราะไม่มีที่ทำกิน น้ำกินน้ำใช้ บ่อกุ้งบ่อปลา ทำสวนทำไร่ เพราะนี่คืออาชีพหลักของชาวบ้านละแวกนั้น ผมมาขอความเป็นธรรมจากศูนย์ดำรงธรรม ต้องการยกเลิกโครงการบ่อขยะ นายยงยุทธกล่าวด้านนายรุ่งโรจน์ และสุบ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา ออกมารับหนังสือร้องเรียน กล่าวว่า ขอเวลาตรวจสอบข้อมูลเป็นระยะเวลา 2 เดือน หากถามว่า จะสร้างบ่อขยะหรือไม่นั้น ต้องรอตรวจสอบหลักฐานข้อมูลก่อน แต่ทางเทศบาลตำบลจะนะ คงหยุดการก่อสร้างโครงการไม่ได้ เพราะโครงการนึ้ได้เซ็นสัญญากับบริษัทเอกชนไปแล้ว
วันนี้ (15 มิ.ย.) เวลา 14.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา ชาวบ้านบ่อต้นแซะ อ.จะนะ จ.สงขลา ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างบ่อขยะประมาณ 100 คน เดินทางมาที่ศูนย์ดำรงธรรมสงขลา เพื่อยิ่นหนังสือคัดค้านการสร้างบ่อขยะ เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อน้ำกินน้ำใช้ บ่อกุ้งบ่อปลา ทำสวนทำไร่ เพราะนี้คืออาชีพหลักของชาวบ้าน
ภูมิภาค
ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/253172
วิถีสันดานโจร ย่องลักของกลางวันแสกๆ ฉวยจังหวะเจ้าของร้านหลับลึก (คลิป)
เปิดภาพวงจรปิดของร้านไทม์แมชชีน ซึ่งเปิดเป็นร้านอาหาร ริมถนนกลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น บันทึกพฤติกรรมของคนร้าย ตั้งแต่ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่าฟีโน่ สีขาว-ส้ม มาจอดข้างร้าน โดยใส่หมวกกันน็อคเต็มใบสีดำสวม เสื้อแจ็คเก็ตสีดำ กางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบสีดำ เดินขึ้นมาภายในร้าน ก่อนจะมองผ่านกระจกเห็นคนในร้านกำลังนอนหลับอยู่ จึงค่อยๆเลื่อนประตูเปิดเข้าไปสำรวจคนในร้านที่กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟา เมื่อมั่นใจว่าไม่ตื่นจึงเดินผ่านเข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สินเป็นกระเป๋าสะพายข้างแบบผู้หญิงสีน้ำตาล 1 ใบ แล้วรีบเดินออกจากร้านไปขึ้นรถอย่างรวดเร็ว โดยคนในร้าน 2 คน ซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ไม่รู้สึกตัวแต่อย่างใด,ส่วนผู้ก่อเหตุนายภูผา หรือ ใหญ่ ลามา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151/1 หมู่ 9 ต.ช้างตะลุด อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น สามารถติดตามจับกุมมาได้ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2560 ที่ผ่านมา ตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ จ.349/2560 ลงวันที่ 22 ก.ย. 2560 ในข้อหา ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปและเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ซึ่งสามารถจับกุมได้พร้อมรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟิโน สีส้ม ขาว คันที่ใช้ก่อเหตุ,จากการสอบสวนนายภูผา ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง พร้อมกันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำคลิปวงจรปิดที่ผู้เสียหายแต่ละแห่งนำมาเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้นายภูผาดู โดยรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุทั้งหมด รวมภาพวงจรปิดกว่า 10 แห่ง และที่ไม่มีภาพวงจรปิดอีกจำนวนหลายแห่ง พร้อมตามยึดทรัพย์สินของผู้เสียหายที่นายภูผา นำไปขายตามร้านรับซื้อต่างๆ ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท พระเครื่องอีก 27 องค์ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท และยังมีทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ยังติดตามไม่ได้ และอยู่ระหว่างการติดตามอีกจำนวนมาก.
รวบหนุ่มหัวขโมย ตระเวนลักทรัพย์ร้านค้าในตัวเมืองขอนแก่นหลายแห่ง รวมกว่า 1 ล้าน เปิดภาพวงจรปิดขณะย่องเข้าร้านอาหาร ไม่สนว่ามีคนอยู่ เพราะหลับสนิทอยู่บนโซฟา รีบเข้าด้านในฉกทรัพย์สิน ก่อนเผ่นหนี แต่ไม่รอดถูกจับจนได้
ข่าว,ทั่วไทย
ย่องขโมยทรัพย์สินร้านค้า,ขโมยของร้านค้าเมืองขอนแก่น,วงจรปิดจับภาพหัวขโมย,ภาพวงจรปิดหนุ่มหัวขโมย,ขโมยของร้านอาหาร,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1101250
เนเกรโด โขกหาย ค้างคาว ลิ้นห้อย เฉือน อัลเมเรีย 3-2 ขึ้นที่ 3
ศึกฟุตบอล ลาลีกาสเปนฤดูกาล 2014/2015 ประจำวันที่ 17 ม.ค. เป็นการแข่งขันในคู่ระหว่าง ค้างคาว บาเลนเซีย ทีมอันดับ 5 ของตาราง เปิดสนาม เมสตายา สเตเดียม ต้อนรับการมาเยือนของ อัลเมเรีย ทีมอันดับ 17 ของตาราง,เปิดฉากมาแค่ 11 นาทีเจ้าบ้านขึ้นนำก่อน จากจังหวะเปิดเข้ากลางให้ของ อันโตนิโอ บาร์รากาน ก่อนที่ ดานี บาเรโฆ จะวิ่งเข้ามาซัดไม่จับเป็นประตูออกนำ 1-0,แต่อีก 2 นาทีไล่หลังทีมเยือนก็ตามตีเสมอทันควันจากจังหวะลุยของ เวลลิงตัน ซิลวา ก่อนจ่ายยัดเข้ากลางและเป็น โทเมอร์ เฮเมด โฉบมาชาร์จเข้าไปตีเสมอ 1-1,หลังจากนั้นเจ้าบ้านครองเกมได้มากกว่า และนาทีที่ 28 มาได้ประตูขึ้นนำอีกรอบ 2-1 จากจังหวะที่ อังเดร โกเมส แทงให้ปาโก อัลกาเซร์ ตวัดมาให้กับ โรดริโก จิ้มเข้าไปง่ายๆ,จนกระทั่งนาทีที่ 33 ทีมเยือนยังไม่ยอมแพ้ ตามตีเสมออีกรอบ 2-2 จากลูกเตะมุม เบร์ซาเปิดโค้งมาหน้าประตู ก่อนที่ โทเมอร์ เฮเมด เจ้าเก่าจะโขกเข้าไปไม่เหลือซาก และเป็นประตูที่ 2 ในเกมนี้ของเจ้าตัวอีกด้วย,เวลาที่เหลือในครึ่งแรกไม่มีสกอร์เพิ่ม ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 2-2,เข้าสู่ครึ่งหลัง เจ้าบ้านยังโหมบุกอย่างหนัก นาทีที่ 52 เกือบได้ประตูขึ้นนำ เจา คานเซโล เปิดตักมาให้กับ อังเดร โกเมส โฉบมาโหม่งบอลหลุดกรอบนิดเดียว,หนึ่งชั่วโมงผ่านไป เกมเจ้าบ้านดูเหมือนจะตันทำให้ต้องส่ง อัลบาโร เนเกรโด ดาวยิงตัวยืมลงสนามมาแทนและมีโอกาสลุ้นทันทีในอีก 2 นาทีต่อมา โรดริโก เปิดมาให้กับ เนเกรโด โขก แต่ยังติดเซฟ ฆูเลียน นายด่านทีมเยือน,เกมเป็นของเจ้าบ้านแทบจะสิ้นเชิง นาทีที่ 82 โรดริโก ได้กระหน่ำเต็มข้อด้วยขวา บอลไปชนคานกระเด้งลงพื้นแต่ผู้ตัดสินยังไม่เป่าให้เป็นประตู,แต่อีก  นาทีต่อมา ความพยายามของเจ้าบ้านก็มาสัมฤทธิผล จากจังหวะ เติมเกมมาของ ฆาบี กายา ก่อนจะบรรจงเปิดด้วยซ้ายเข้ากลางประตู ก่อนที่ อัลบาโร เนเกรโด จะเทคตัวโขกเข้าไปเป็นประตูขึ้นนำให้กับเจ้าบ้านอีกครั้ง 3-2,เวลาที่เหลือทีมเยือนพยายามทำเกมหวังเอาประตูตีเสมอแต่ไม่สำเร็จ หมดเวลาการแข่งขัน บาเลนเซีย เปิดบ้านเอาชนะ อัลเมเรีย ไปได้ 3-2 เก็บ 3 แต้มทะยานขึ้นไปเป็นที่ 3 ของตารางชั่วคราว,ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่นมีดังนี้,เรอัล โซเซียดาด แพ้ ราโย บาเยกาโน 0-1,บียาร์เรอัล ชนะ แอตเลติโก บิลเบา 2-0,เอสปันญอล ชนะ เชลตา บีโก 1-0
อัลบาโร เนเกรโด สวมบทซุปเปอร์ซับ โขกพังประตูในนาทีที่ 83 พา ไอ้ค้างคาว บาเลนเซีย เปิดบ้านเบียดเอาชนะ อัลเมเรีย ไปแบบหืดจับ 3-2 เก็บ 3 แต้มขึ้นที่ 3 ชั่วคราวแล้ว
null
ลาลีกา,ลาลีกา 2015,บาเลนเซีย,อัลเมเรีย,อัลบาโร เนเกรโด,ข่าวกีฬา,ผลบอล
https://www.thairath.co.th/content/475452
ชาวนา จี้ อคส.เร่งออกใบประทวนโครงการรับจำนำข้าว
นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาข้าวไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีเกษตรกรจากหลายจังหวัด เช่น ปทุมธานี อยุธยา ปราจีนบุรี นครสวรรค์ กำแพงเพชร ร้องเรียนการออกใบประทวนที่ล่าช้าในโครงการรับจำนำข้าว ทำให้เกษตรกรได้เงินล่าช้าขณะที่ องค์การคลังสินค้า หรือ อคส. ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ออกใบประทวน อ้างว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นข้าวของเกษตรกรจริงหรือไม่และเกรงว่าเกิดปัญหาสวมสิทธิ์ได้ ก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์ยืนยันหลังออกใบประทวน เกษตรกรจะได้รับเงินภายใน 3 - 7 วัน แต่ปัจจุบันใช้เวลากว่า 1 เดือนด้าน นายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ปัญหาออกใบประทวนล่าช้า เนื่องจากขณะนี้ผลผลิตข้าวนาปรังในหลายพื้นที่ออกมามาก ทำให้ชาวนาบางส่วนมีผลผลิตมากกว่าที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร จึงต้องเพิ่มการตรวจสอบ เพราะปกติจะให้ชาวนานำผลผลิตเข้ารับจำนำได้ไม่เกินร้อยละ 20 จากที่ขึ้นทะเบียนไว้กรมการค้าภายใน รายงานผลการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2555 ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึง10 เมษายน พบว่า องค์การคลังสินค้า และ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ออกใบประทวนให้กับเกษตรกรไปแล้วจำนวน 280425 ราย รวมปริมาณข้าวทุกชนิด 3321308 ตันขณะที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร รายงานว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงวันที่ 24 เมษายน ได้จ่ายเงินให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไปแล้วจำนวน 214083 ราย ปริมาณข้าวกว่า 2.8 ล้านตัน รวมเป็นเงินกว่า 40000 ล้านบาท
ชาวนาหลายจังหวัดเรียกร้องให้องค์การคลังสินค้าแก้ปัญหาการออกใบประทวนที่ล่าช้าอย่างเร่งด่วน เพราะทำให้การขึ้นเงินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรต้องล่าช้าออกไปด้วย
เศรษฐกิจ
ชาวนา,อคส.,โครงการรับจำนำข้าว,ใบประทวน
https://news.thaipbs.or.th/content/80674
ชง คกก.ปฏิรูประบบสาธารณสุข ช่วย คนไทยรอพิสูจน์สถานะ เข้าถึงบริการสุขภาพ
พร้อมเสนอเร่งกระบวนการพิสูจน์สถานะ เหตุล่าช้านานเป็นปี ทำเสียสิทธิทั้งที่เป็นคนไทย15 ธ.ค. 2561 นพ.ขวัญประชา เชียงไชยสกุลไทย นักวิจัยสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาให้กับกลุ่มคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนให้มีหลักประกันสุขภาพรองรับว่า ที่ผ่านมา คณะทำงานพัฒนาการเข้าถึงบริการระบบหลักประกันสุขภาพของกลุ่มคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนได้นำข้อมูลสถานการณ์กลุ่มคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนและปัญหาการเข้าถึงบริการสุขภาพ พร้อมข้อเสนอการแก้ไขปัญหานำเสนอต่อคณะอนุกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยกรรมการ สปสช. ในที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยที่คนกลุ่มเหล่านี้ต้องได้รับการดูแลด้านสุขภาพ แต่ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ระบุชัดเจนว่า ผู้มีสิทธิตามกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติต้องเป็นคนไทยที่มีสถานะทะเบียนชัดเจนคือมีสัญชาติไทยแล้ว ทำให้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติไม่สามารถครอบคลุมดูแลถึงคนกลุ่มนี้ได้ ดังนั้น สปสช.อาจไม่ใช่หน่วยงานหลักเรื่องนี้ จึงต้องหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเพื่อผลักดันต่อ อย่างเช่น กระทรวงสาธารณสุข เป็นต้นนพ.ขวัญประชา กล่าวว่า ในการขับเคลื่อนพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศ มีคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูประบบสาธารณสุเพื่อปฏิรูปด้านการเงินการคลังในระบบสุขภาพที่มี ศ.นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล เป็นประธาน ภายใต้อนุกรรมการชุดนี้ มีคณะทำงานย่อยเพื่อดูในเรื่องหลักประกันสุขภาพในประเทศทั้งหมด ที่ครอบคลุมทั้งคนไทย ผู้ที่ตกหล่นทางทะเบียน รวมถึงแรงงานต่างด้าว ที่ผ่านมาจึงได้นำเสนอเรื่องนี้ต่อคณะทำงานชุดนี้และได้ร่วมพูดคุยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานได้เข้าใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้นดี และจะมีการหารือต่อเนื่องในการประชุมครั้งต่อไป ทั้งนี้การช่วยเหลือคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนเข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพ มี 2 ประเด็นที่ต้องขับเคลื่อน คือ 1.การลงทะเบียนให้คนเหล่านี้มีเลข 13 หลัก หรือบัตรประชาชนรองรับ ที่ต้องมีกลไกสนับสนุนเพื่อทำให้การลงทะเบียนรวดเร็วขึ้น ซึ่งปัจจุบันใช้เวลาเร็วสุด 2 เดือน แต่ส่วนใหญ่ใช้เวลาเป็นปี เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ และ 2.การจัดตั้งกองทุนฉุกเฉินเพื่อดูแลคนเหล่านี้ให้เข้าถึงการรักษาแในช่วงระหว่างรอพิสูจน์สถานะขึ้นทะเบียน แต่ยังใม่มั่นใจว่าจะเสนอไปหน่วยงานใดเพื่อเป็นแกนหลักผลักดันและดำเนินการ แต่มีผู้เสนอให้หารือกับกระทรวงสาธารณสุขเพราะเป็นหน่วยงานที่ดูแล กองทุนประกันสุขภาพบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ แต่เบื้องต้นมองว่าคงต้องให้ทั้ง สธ.และ สปสช.ร่วมมือผลักดัน เพราะเป็นการทำเพื่อดูแลคนไทยด้วยกัน ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมต่อข้อซักถามว่า ความยากในการจัดตั้งกองทุนฉุกเฉินเพื่อรักษาพยาบาลกลุ่มคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน นพ.ขวัญประชา กล่าวว่า คงเป็นเรื่องงบประมาณ เพราะการจัดตั้งกองทุนนี้เป็นการของบประมาณก้อนใหม่ ประกอบกับคนไทยที่มีปัญหาสถานะที่ยังมีจำนวนไม่ชัดเจน แต่จากประมาณการณ์คาดว่ามีราว 1 แสนคน ทำให้สำนักงบประมาณเกิดความกังวลได้ แต่การจะทำการสำรวจเพื่อให้ได้ข้อมูลชัดเจนก็เป็นเรื่องที่ยาก ในการจัดตั้งกองทุนนี้จึงไม่ได้เสนอของบรายหัว แต่เป็นรูปแบบกองทุนหมุนเวียนแทน อย่างไรก็ตามในอดีตเราเคยสำรวจคนไทยตกหล่นทะเบียนเมื่อปี 2553 และเปิดให้ขึ้นทะเบียนมาแล้ว แต่ปรากฎยังมีคนไทยที่ตกหล่นมาขึ้นทะเบียนไม่ทันจำนวนมาก รวมถึงไม่ได้รับสิทธิการรักษาพยาบาล ทั้งยังไม่สามารถเข้าสู่กองทุนประกันสุขภาพบุคคลที่มีปัญหาสถานะได้ ดังนั้นทีมนักวิชาการมองว่า การแก้ปัญหารัฐควรเปิดให้มีการลงทะเบียนคนไทยที่ยังตกสำรวจเป็นระยะ เพื่อดึงคนเหล่านี้กลับเข้าสู่ระบบ นพ.ขวัญประชา กล่าวว่าหากเป็นไปได้เรื่องนี้อยากผลักดันเป็นหนึ่งในข้อเสนอการปฏิรูประบบสุขภาพ โดยให้มีการจัดตั้งกองทุนฉุกเฉินเพื่อรักษาพยาบาลกลุ่มคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนในระหว่างการรอพิสูจน์สถานะ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับหน่วยบริการที่ดูแลคนไทยเหล่านั้น ไม่ต้องกังวลค่าใช้จ่าย แต่มีเงื่อนไขว่าผู้รับบริการต้องเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิ ขณะเดียวกันให้เร่งรัดกระบวนการพิสูจน์สิทธิ หากเป็นไปได้ต้องแล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือน ทั้งในส่วนการตรวจสอบเอกสารและการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ โดยในการตรวจดีเอ็นเอนั้นทางกระทรวงมหาดไทยมีงบประมาณที่เป็นค่าใช้จ่ายในการพิสูจน์สถานะบุคคลอยู่แล้ว เพียงแต่ยังขาดการประสานงานและเชื่อมต่อการพิสูจน์สถานะ ซึ่งเรื่องนี้คงต้องมีการแก้ไขปัญหาต่อไป
ชง คกก.ปฏิรูประบบสาธารณสุข ช่วย คนไทยรอพิสูจน์สถานะ เข้าถึงบริการสุขภาพ คาดราว 1 แสนคน ลดภาระค่ารักษาหน่วยบริการ หลัง กองทุนบัตรทอง ติด พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จำกัดแค่คนสัญชาติไทย
สังคม,คุณภาพชีวิต
คนไทยรอพิสูจน์สถานะ,สปสช.,สุขภาพ
https://prachatai.com/journal/2018/12/80092
ระวัง คิดดีๆ ก่อนเล่น ภัยแฝง แบบทดสอบบนเฟซบุ๊ก เฉลยวิธีแก้ไข
คุณหน้าเหมือนใคร?,จะเป็นอย่างไรเมื่อกลายเป็นคนต่างเพศ?,ซุปเปอร์ฮีโร่ตัวไหนคือคุณ?,แบบทดสอบเหล่านี้กำลังรอให้พวกคุณกดเข้าไป เพราะเราเชื่อว่าหลายคนคงเห็นผ่านตามาบ้างผ่านการเล่น-แชร์ของเพื่อนๆ บนเฟซบุ๊ก,บางคนก็ยอมรับว่างวันไหนนึกสนุกก็เข้าไปเล่นบ้าง โดยมิได้คำนึงถึงอันตรายที่อาจตามมาสักนิด วันนี้ ,IT by Choice, จึงอยากจะมาเตือนผู้อ่านทุกท่านถึงเกี่ยวกับความปลอดภัยของตัวท่านเอง เพื่อไม่ให้เหล่าอาชญากรไซเบอร์นำข้อมูลของท่านไปใช้ในทางที่ผิด,แบบทดสอบเหล่านี้จะได้อะไรจากคุณ?,แน่นอนเมื่อคุณเข้าไปทำแบบทดสอบเหล่านี้ จะมีการถามความยินยอมว่าคุณสมัครใจให้เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว อาทิ โปรไฟล์สาธารณะ, โพสต์บนไทม์ไลน์, รูปภาพ และที่อยู่อีเมลของคุณ หรือไม่ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะกด ยอมรับ,หลังจากแบบทดสอบที่สนุกสนาน พร้อมกับแชร์แบบทดสอบของตัวเองเรียบร้อย ในขณะเดียวกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือข้อมูลเหล่านั้นของคุณจะถูกแชร์ให้กับผู้พัฒนาแบบทดสอบนั่นเอง,เอาข้อมูลเราไปทำไม?,ข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ชื่อ-นามสกุล, เบอร์โทรศัพท์, และอีเมล เหล่านี้สามารถนำไปขายต่อแก่บุคคลที่สามจำพวก บริษัทลงโฆษณา หรือผู้ส่งอีเมลขยะ หรือไม่ก็นำไปดำเนินการอื่นๆ ต่อ,ก็แค่อีเมล แล้วจะมีผลกระทบยังไง?,ถ้าเป็นเพียงแค่การส่งอีเมลอย่างที่ระบุไว้ข้างต้นอาจไม่น่ากลัวเท่าไร แต่หากบุคคลที่สามที่ได้ข้อมูลของคุณไป นำข้อมูลเหล่านั้นไปวิเคราะห์ต่อยอด เพื่อเข้าถึงคุณในรูปแบบของการโจรกรรมบางสิ่งผ่านออนไลน์แพลตฟอร์มคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไร,ยกตัวอย่าง ผู้ที่ได้ข้อมูลส่วนตัวของคุณไป เจตนาที่จะนำข้อมูลเหล่านั้นกลับมาหลอกลวงคุณในรูปแบบของการล้วงยูสเซอร์เนม-พาสเวิร์ดของคุณ (ที่อาจจะผูกอยู่กับบัญชีธนาคารใดซักแห่ง) ซึ่งเราเชื่อว่าคุณคงนึกภาพได้ไม่ยากจากข่าวที่เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน,ในเคสที่แย่กว่านั้น,บางแบบทดสอบ หรือแอปฯบางประเภท อาจจะมีมัลแวร์ซ่อนอยู่ ซึ่งอาชญากรไซเบอร์ส่วนใหญ่มักจะใช้มัลแวร์เหล่านี้เจาะเข้าไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่คุณใช้ประจำ เพื่อเฝ้าดูการใช้งานของคุณ หากคุณไม่ระวังหรือโอนเงินผ่านคอมพิวเตอร์บ่อยๆ ก็เสี่ยงที่อาชญากรไซเบอร์เหล่านี้จะได้รหัสของคุณไป พร้อมกันนี้อาจนำข้อมูลส่วนตัวไปทำเรื่องที่ผิดกฎหมายได้ด้วย,หากกดยินยอมไปแล้ว แก้ไขอย่างไรได้บ้าง?,ไม่ต้องตกใจไป อย่างน้อยเฟซบุ๊กก็ไม่ได้ใจร้ายกับคุณขนาดนั้น เพราะคุณสามารถเข้าไปกดยกเลิกการแชร์ข้อมูลส่วนตัวกับผู้ผลิตแบบทดสอบเหล่านั้นได้ เพียงแค่ทำตามภาพด้านล่างนี้,ที่แหละนะที่ใครต่อใครต่างก็พูดกันว่า ,เทคโนโลยีเปรียบเสมือนดาบสองคม, ทางหนึ่งก็ให้คุณประโยชน์นานัปการ แต่ในขณะเดียวกันหากนำไปใช้ไม่ถูกวิธีก็เกิดโทษจนคาดไม่ถึง ดังนั้นเราต้องรู้จักเรียนรู้เพื่อที่จะอยู่กับเทคโนโลยีได้อย่างมีความสุข
แบบทดสอบบนเฟซบุ๊กที่หลายคนชอบเล่นอาจมีอันตรายมากกว่าที่เราคิด วันนี้ IT by Choice อยากจะมาแนะนำทุกท่าน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรไซเบอร์ที่จ้องคุณอยู่
ข่าว,ไอที
ข่าวไอที,เฟซบุ๊ก,อันตราย เฟซบุ๊ก,แบบทดสอบ เฟซบุ๊ก,IT by Choice,รีวิว
https://www.thairath.co.th/news/tech/1210138
ยะใส แนะ บิ๊กตู่ ระวังกับดักการเมือง เตือนอย่าหลงกระแสนิยม
เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 59 นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึงกรณีที่นักการเมือง ทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ตั้งพรรคการเมืองและลงเลือกตั้งว่า เป็นข้อเสนอหลงโลก ไม่เป็นประโยชน์ และไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ เป็นเพียงโวหารเก่าๆ จากการเมืองเก่าๆ ที่ติดอยู่กับลัทธิเลือกตั้ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองที่ล้มเหลว และตนก็หวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ลุ่มหลงกับโวหารเช่นนี้ เพราะเป็นกับดักทางการเมืองที่ ฆ่านายพล มาแล้วหลายคน สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ควรตระหนักที่สุดในขณะนี้คือ ต้องกล้าวิจารณ์ตนเอง และทบทวนว่า 2 ปีกว่าที่ผ่านมา และอีกปีกว่าก่อนเลือกตั้ง คสช.ได้ทำให้สังคมการเมืองเข้าสู่การปฏิรูปได้จริงหรือไม่ และมีหลักประกันได้หรือไม่ว่าการเมืองไทยจะไม่วนกลับไปสู่ความแตกแยกขัดแย้งอีก,นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ในขณะนี้เริ่มเห็นบรรดานักการเมืองเคลื่อนไหวแสดงตนกันมากขึ้น โดยที่ยังไม่เห็นพรรคการเมืองใดปฏิรูปตัวเองเลย ยังเถียงกันอยู่ในประเด็นนายกรัฐมนตรีคนใน หรือคนนอก ยิ่งน่าเป็นห่วงว่าการเมืองไทยจะก้าวไม่พ้นความแตกแยก การออกแบบกฎหมายพรรคการเมืองต้องวางกลไกปฏิรูปพรรคการเมืองให้ชัดเจนด้วย ซึ่งในขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังถูกกลุ่มก้อนการเมืองหลายกลุ่มรุมล้อม และอาจถูกฉุดกระชากไปอยู่ในวงโคจรของการเมือง ที่ไม่ได้แก้ปัญหาประเทศ จนทำให้ความคาดหวังของประชาชนหดหาย และไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม ซึ่งต้องระวัง และควรใช้ต้นทุนที่มีในขณะนี้ เป็นผู้นำในการปฏิรูปในเรื่องใหญ่ๆ ให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง ,ความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่านักการเมืองในขณะนี้ เป็นเพียงกระแสฉาบฉวยมาแล้วก็หายไป และไม่มีใครอยู่ยั่งยืนได้ด้วยกระแส แต่ผลงานที่เป็นวีรกรรมต่างหากที่ทำให้คนกลายเป็นรัฐบุรุษ และถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ นายสุริยะใส กล่าว.
สุริยะใส ชี้ข้อเสนอฝ่ายการเมือง ชง บิ๊กตู่ ตั้งพรรคลงเลือกตั้ง เป็นข้อเสนอหลงโลก ไร้ประโยชน์ เตือนนายกฯ อย่าหลงกระแสนิยม ชี้เป็นกับดักทางการเมือง ฆ่านายพล มาแล้วหลายราย
null
นายกฯคนนอก,การเลือกตั้ง,สุริยะใส กตะศิลา,กระแสนิยม,วาทกรรม,กับดักการเมือง,ลัทธิการเมือง,การเมืองล้มเหลว,ปฏิรูปการเมือง,ความแตกแยก,ความขัดแย้ง,ปฏิรูป
https://www.thairath.co.th/content/704614
หนุ่มใหญ่สุดกลั้น เห็นแฟนนั่งเมากับชายอื่น ต่อยไม่ยั้งเฒ่า 65 ดับคาที่
เมื่อวันที่ 4 พ.ค.60 ร.ต.อ.สมชัย ภูสิลิตร รองสารวัตรสอบสวน สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง รับแจ้งเหตุพบศพชายสูงอายุนอนเสียชีวิตข้างขวดสุรา ในสวนกล้วยบริเวณ หมู่ที่ 2 ต.บางพลับ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวร เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารชุดรักษาความสงบ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย พบศพนายวิชัย สร้อยแก้ว อายุ 65 ปี นอนเสียชีวิตในป่ากล้วย โดยมีขวดสุราวางอยู่ปลายเท้า,นางสาวสุดสวย (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ให้การว่า คนที่ทำร้ายนายวิชัย คือนายประมวล เวชไธสง อายุ 45 ปี แฟนหนุ่มของตน โดยก่อนหน้านี้ตนเองพบผู้ตายที่ดื่มเหล้าอยู่ที่ร้านค้าในหมู่บ้าน จึงชักชวนกันซื้อเหล้ามานั่งดื่มต่อในสวนกล้วยที่เกิดเหตุกันสองคน เพื่อที่จะตกลงปัญหาส่วนตัวกัน,ทั้งนี้ นายประมวล แฟนของตนตามมาพบ จึงเกิดความหึงหวงมีปากเสียงกัน พร้อมตรงเข้าทำร้ายทั้งเตะและต่อยจนนายวิชัยหงายหลังนอนแน่นิ่งไป จากนั้นนายประมวลก็พาตนกลับบ้านพัก โดยไม่ยอมให้ตนมาช่วยเหลือดูแลนายวิชัย พอนายประมวลทราบข่าวว่านายวิชัยเสียชีวิตแล้ว จึงได้หนีหายไป.
หนุ่มใหญ่อ่างทอง วัย 45 เห็นแฟนสาวตั้งวงกินเหล้ากับเพื่อนชายวัย 65 ปี ที่ป่ากล้วย โกรธจัดประเคนทั้งหมัด ทั้งเตะใส่เพื่อนชายเสียชีวิตทันที ก่อนหลบหนีหาย
ข่าว,ทั่วไทย
หึงแฟนสาว,สภ.โพธิ์ทอง,ทำร้ายร่างกาย,อ่างทอง,หึงหวง
https://www.thairath.co.th/news/local/central/931633
ผู้ปกครอง-ครู หวั่น เด็กใช้แท็บเล็ตเข้าเว็บไซต์ไม่เหมาะสม
ในงานเสวนา จิบน้ำชา : แท็บเล็ตในมือเด็ก เศษเหล็ก หรือ ตำรา จัดโดยชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ผู้ปกครองและครูให้ความเห็นถึงการใช้แท็บเล็ตของเด็กนักเรียนชั้น ป.1 ภายหลังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที ได้ลงนามจัดซื้อแท็บเล็ตจากประเทศจีนจำนวน 1000000 เครื่องเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมานางศรีดา ตันทะอธิพานิช ประธานเครือข่ายผู้ปกครองออนไลน์ กล่าวว่า นโยบายดังกล่าวยังไม่ชัดเจนนัก โดยเฉพาะการแจกแท็บเล็ตที่ยังมีความไม่เข้าใจอยู่หลายส่วน ทั้งการนำกลับบ้าน การบำรุงรักษา การปรับการเรียนสอน การให้คำแนะนำต่อบุตรหลาน ซึ่งผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังขาดความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวรวมถึงความไม่แน่ใจถึงข้อมูลที่ถูกบรรจุอยู่ในแท็บเล็ต แม้ว่าเนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นระบบปิดที่กระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้บรรจุข้อมูลวิชาการซึ่งไม่มีความน่ากังวลนัก แต่ในส่วนของระบบเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่อาจทำให้เด็กเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เหมาะสม ทั้งเว็บไซต์อนาจาร การพนัน หรืออาจติดเกมก็เป็นได้ดังนั้นจึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดอบรมผู้ปกครองให้เข้าใจถึงการใช้แท็บเล็ต เพื่อสามารถที่จะดูแลบุตรหลานได้อย่างเหมาะสม เพราะผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวอย่างมากขระที่นางนันท์ภัส ศรีประเทศ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนราชวินิต กรุงเทพฯ ยอมรับว่า ครูส่วนใหญ่จำเป็นที่จะต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อให้สามารถทำการสอนให้สอดรับกับเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งในมุมหนึ่งสามารถดึงดูความสนใจของนักเรียนได้เป็นอย่างดี แต่จุดที่น่าเป็นห่วงก็คือ เด็กในปัจจุบันมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีได้อย่างคล่องแคล่ว และอาจจะทำให้เข้าถึงข้อมูลที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากครูสามารถดูแลพฤติกรรมของนักเรียนได้เฉพาะในโรงเรียนเท่านั้นขณะที่เมื่อนักเรียนนำแท็บเล็ตกลับบ้านอาจนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมซึ่งผู้ปกครองควรที่จะเรียนรู้และดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด
ผู้ปกครอง-ครู หวั่นเด็กใช้แท็บเล็ตเข้าเว็บไซต์ไม่เหมาะสม เรียกร้อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดอบรมผู้ปกครองให้รู้เท่าทันสามารถแนะนำบุตรหลานในการใช้แท็บเล็ตได้อย่างถูกต้อง ขณะที่ครูแนะนำผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ป้องกันลูกติดแท็บเล็ต-เข้าเว็บไซต์ไม่เหมาะสม
วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
ป้องกัน,พนัน,อนาจาร,เกม,เด็ก,เว็บไซต์,แท็บเล็ต
https://news.thaipbs.or.th/content/84275
ช้างศึกยู-21 ใจชื้น อาการเจ็บ กานต์นรินทร์ ดีวันดีคืน
วันที่ 18 ธ.ค. 60 ความเคลื่อนไหวของทัพนักเตะ ช้างศึก ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ซึ่งยังคงอยู่ระหว่างการทำศึก ทันห์เนียน นิวเปเปอร์ คัพ 2017 ที่เมืองเกิ่นเทอ ประเทศเวียดนาม,ล่าสุด เจ้าฟลุ๊ก กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์ มิดฟิลด์กัปตันทีมคนสำคัญ ที่ได้รับบาดเจ็บในเกมนัดแรก ได้ออกมาเผยถึงอาการล่าสุดของตัวเองว่า วันนี้ก็เพิ่งไปทดสอบสภาพร่างกาย อาการบาดเจ็บก็ดีขึ้นเรื่อยๆ คงต้องดูอาการแบบวันต่อวันว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป โดยส่วนตัวก็หวังจะฟิตร่างกาย เพื่อกลับมาลงสนามในเกมที่เหลืออยู่ เพราะว่าการดูเพื่อนร่วมทีมเล่นแล้ว ผมอยากลงไปช่วยเพื่อนร่วมทีมในสนามให้เร็วที่สุด,การแข่งขันครั้งนี้ มันก็มีข้อบกพร่องหลายอย่างที่เราต้องกลับไปปรับปรุง ทุกทีมพยายามพัฒนาทีมอยู่ตลอดเวลา เราเองต้องพัฒนาไปข้างหน้าต่อไป ก็หวังว่าจะเก็บชัยชนะในเกมต่อไป เพื่อเพิ่มโอกาสในการผ่านเข้าไปเล่นรอบชิงชนะเลิศให้ได้,สำหรับทีมชาติไทย ยู-21 มีคิวลงสนามในเกมนัดต่อไป ด้วยการพบกับ ทีมชาติเวียดนาม ยู-19 ในวันพุธที่ 20 ธันวาคมนี้ เวลา 16.00 น.
มิดฟิลด์กัปตันช้างศึกยู-21 เผย อาการบาดเจ็บดีขึ้นเรื่อยๆ และหวังจะหายทันกลับมาลงสนามช่วยทีมได้อีกครั้ง ในเกมที่เหลือของศึกทันห์เนียน คัพ
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
ทันห์เนียน นิวเปเปอร์ คัพ 2017,ทันห์เนียน คัพ,กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์,ทีมชาติไทยยู-21,ช้างศึก
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1156288
ลดภาษี 10% กระทบแน่รายได้สรรพากร จ่อแก้ก.ม.รีดภาษีเฟซบุ๊ก
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ภายหลังนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เข้ามารับตำแหน่ง ได้ขอให้กรมสรรพากรเข้ามาชี้แจงถึงความเป็นไปได้ในการลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% ตามแนวนโยบายที่รัฐบาลได้หาเสียงไว้ ซึ่งกรมสรรพากรจะเสนอข้อดีและข้อเสียให้พิจารณาประกอบการตัดสินใจว่าทำได้หรือไม่ ทั้งนี้ การลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% กระทบกับรายได้ของกรมสรรพากรค่อนข้างมาก ส่วนจะทำให้ฐานภาษีหายไปเป็นจำนวน 3 ล้านรายตามที่นายกรณ์ จาติกวานิช อดีต รมว.คลัง ระบุไว้หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะต้องรายงาน รมว.คลัง ก่อน,นอกจากนี้จะเสนอให้ รมว.คลัง เดินหน้าร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ) พ.ศ. เพื่อรองรับการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) ซึ่งขณะนี้ยังค้างอยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการไทย เนื่องจากปัจจุบันการให้บริการซื้อสินค้าและบริการบนเว็บไซต์ หรือแพลตฟอร์มที่จดทะเบียนในต่างประเทศ แต่มีรายได้เกิดขึ้นในประเทศไทย จึงทำให้ไม่ต้องเสียภาษีใดๆ ให้กับประเทศไทย เช่น facebook, Google, Amazon เป็นต้น เบื้องต้นจะเสียเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่มที่เป็นรายได้ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถเก็บภาษีกำไรจากการดำเนินกิจการได้,สำหรับมาตรการลดหย่อนภาษีจากการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่จะสิ้นสุดในสิ้นปี 2562 นี้ กรมสรรพากรยังยืนความเห็นว่าไม่ควรต่ออายุอีกต่อไป แต่ยังสนับสนุนมาตรการลดหย่อนภาษีจากการลงทุนในกองทุนเพื่อการเกษียณอายุ (RMF) ต่อไป.
สรรพากร เตรียมเสนอข้อดี-ข้อเสีย ให้ขุนคลังคนใหม่ตัดสินใจ ลดภาษีเงินได้ 10% ตามที่รัฐบาลหาเสียง ยอมรับกระทบจัดเก็บรายได้ค่อนข้างมาก จ่อชงแก้ ก.ม. รีดภาษีเฟซบุ๊ก-กูเกิล
ข่าว,เศรษฐกิจ
รีดภาษีเฟซบุ๊ก,ลดภาษี 10%,นโยบายพลังประชารัฐ,ภาษีเงินได้,ผลกระทบลดภาษีเงินได้,สรรพากร,E-commerce ภาษี aec
https://www.thairath.co.th/news/business/1618035
สื่อตั้งฉายาตำรวจปี 59 จักรทิพย์-สุภาพบุรุษโล่เงิน อัศวิน-ผู้ว่าส้มหล่น
วันนี้ (11 ธ.ค.2559) นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นายสมชาย จรรยา รองนายกสมาคมฯ นายธนากร ริตุ เลขาสมาคมฯ ได้ร่วมกันเปิดเผยฉายาตำรวจประจำปี 2559 ว่า ทางสมาคมฯ ได้ทำงานใกล้ชิดกับแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะนำผลงานต่างๆ มาเสนอต่อสายตาประชาชนจนเป็นที่ยอมรับของสังคม และตลอดเวลาที่ผ่านมาสื่อมวลชนได้ดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในรอบปี ทางสมาคมจึงได้ร่วมตั้งฉายาตำรวจประจำปีขึ้น ซึ่งเกณฑ์ในการตั้งได้ประชุมกับผู้สื่อข่าว ซึ่งเป็นตัวแทนจากสื่อมวลชนจากสังกัดต่างๆ มีการเสนอชื่อนายตำรวจเข้ามาและคัดเหลือ 11 นายด้วยกันมีดังนี้ 1.พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ฉายา สุภาพบุรุษโล่เงิน จากการทำงานในรอบปีที่ผ่านได้ เดินเครื่องเต็มสูบในการขับเคลื่อนการปฏิรูป การบริการประชาชน ทำให้คดีอาชญากรรมลดลง และองค์กรมีความสามัคคีขึ้น ล่าสุดได้สั่งการให้ตำรวจทั่วประเทศ ลงไปช่วยเหลือชาวนา บรรเทาความเดือดร้อน โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ติดราชการ และไม่ให้งานปกติเสียหาย ออกไปช่วยเกี่ยวข้าวในลักษณะจิตอาสา ขณะเดียวกัน เพื่อเพิ่มช่องทางขายข้าวให้ชาวนา สามารถนำข้าวไปวางขายที่สถานีตำรวจทุกแห่งทั่วประเทศ จนได้รับคำชมจากประชาชนว่าเป็นสุภาพบุรุษ จึงเป็นที่มาของ ฉายา สภาพบุรุษโล่เงิน2.พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ฉายา นายพลน้ำดี ดูแลงานป้องกันและปราบปราม พร้อมลุยงานป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ จากผลงานที่ผ่านมาไม่ว่า จะจับกุมคดีงาช้าง จับกุมคดีตัดไม้ทำลายป่า จนเป็นที่ยอมรับของประชาชน และเป็นตำรวจที่ทำงานผ่านมาโดยไม่มีประวัติด่างพร้อย จึงเป็นที่มาของ ฉายา นายพลน้ำดี3.พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ฉายา ผู้ว่าส้มหล่น จากที่ผ่านมา เป็นรองผู้ว่าได้มุ่งเน้นที่จะให้กรุงเทพฯ อยู่อย่างสุขสงบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดระเบียบสังคม หรืองานบริการด้านต่างๆ การทำงานของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง จึงเป็นที่โดดเด่นในสายตาของประชาชน ภายหลัง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้ถูกพักราชการ นายกรัฐมนตรีจึงได้ใช้ ม.44 แต่งตั้งให้เป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร โดยไม่ต้องมีการเลือกตั้งเหมือนผู้ว่าอื่นที่ผ่านมา จึงเป็นที่มาของ ฉายา ผู้ว่าส้มหล่น4.พล.ต.ท.ดร.สุวีระ ทรงเมตตา รรท.(สบ10) ฉายา นายพล วันสต๊อบเซอร์วิส ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ดร.สุวีระ จับกุมคดีสำคัญๆ ที่ผ่านมา จนเป็นที่ไว้วางใจของ ผบ.ตร.จึงตั้งให้เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ในการปฏิรูป การให้บริการประชาชนในสถานีตำรวจทั่วประเทศ ให้เสร็จสิ้น ณ จุดเดียว ด้วยการจัดทีมบูรณาการ รับแจ้งความอย่างรวดเร็ว และดูแลบริการประชาชนอย่างญาติมิตร ทั้งออกตรวจสถานที่เกิดเหตุ และติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างโดนใจประชาชนสมกับเป็นตำรวจยุคใหม่ จึงเป็นที่มาของ ฉายา นายพล วันสต๊อบเซอร์วิส5.พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ฉายา หมอเฉพาะทาง เนื่องจากว่า บช.ก. เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบครอบคลุมเกือบทุกด้าน มีความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว เหมือนกับหมอที่เชี่ยวชาญเฉพาะโรค ถ้าเกิดคดีสำคัญในท้องที่ต่างๆ บช.ก.ก็มีกำลังและหน่วยงานที่มีความสามารถและเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่น กองปราบ บก.ปอท. บก.ปทส. จะลงไปไปแก้ไขปัญหาจนสามารถปิดคดีได้ อย่างโดนใจประชาชน จนเป็นที่ยอมรับของสื่อมวลชนและประชาชน จึงเป็นที่มาของฉายา หมอเฉพาะทาง6.พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. ฉายา มือปราบอินเตอร์ หลังจากเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ก็นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาตรวจสอบประวัติอาชญากรข้ามชาติที่หลบหนีเข้ามาอยู่ในเมืองไทย จนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากที่สุดในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา จึงได้รับ ฉายา มือปราบอินเตอร์7.พล.ต.ท.ศานิตย์ ถาวร ผบช.น. ฉายา น.1 บึ่งทุกที่ ส่วนใหญ่ประชาชนและสื่อมวลชนจะเห็ยการทำงานของ พล.ต.ท.ศานิตย์ อย่างขยันขันแข็ง โดยไม่สนใจว่าจะเป็นคดีเล็กหรือคดีใหญ่ ขอให้เป็นเรื่องที่ประชาชนเดือนร้อน จะลงไปกำกับดูแลคดี และบริการประชาชน ด้วยตัวเองทุกครั้ง จึงเป็นที่มาของ ฉายา น.1 บึ่งทุกที่8.พล.ต.ต.ดร.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ฉายา นายพลอกหัก เนื่องจากที่ผ่านมามีการเสนอชื่อเข้าชิง ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และเป็นที่ยอมรับของสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ทุกคนจึงคาดการณ์ว่าจะได้เป็น ผบช.รร.นรต. แต่ผลการแต่งตั้งออกมากลับไม่มีชื่อของ พล.ต.ต.ดร.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ เป็น ผบช.รร.นรต.เจ้าตัวคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เหมือนโดนปล้นเก้าอี้ จึงทำหนังสือร้องสื่อมวลชนขอความเป็นธรรม ชี้การแต่งตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นที่มาของ ฉายา นายพลอกหัก9.พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.ปพ. ฉายา มือปราบสายธรรมะ เนื่องด้วย พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นหัวหน้าหน่วยคอมมานโด ที่ดูแข็งแกร่งน่าเกลงขาม และปราบปราม กลุ่มมาเฟีย และผู้มีอิทธิพล จนเป็นที่หวาดกลัวของคนร้าย แต่อีกด้านเมื่อว่างเว้นภารกิจมักจะพาผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าวัดปฏิบัติธรรม ช่วยเหลืองานการกุศลไม่ขาดสาย ทั้งมอบทุนการศึกษา มอบจักรยานให้เด็กนักเรียนในถิ่นทุรกันดารและสร้างบ้านให้กับคนจน ถือว่าเป็นนายตำรวจตัวอย่างดังคำกล่าวที่ว่า งานบุญไม่ขาด งานราษฎร์ไม่เคยทิ้ง จึงเป็นที่มาของฉายา มือปราบสายธรรมะ10.พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร ฉายา ผู้กำกับปวดหาย ตั้งแต่เข้ามาประจำการในตำแหน่ง ผู้กับกับใน.สังกัด บชน. เริ่มจากสน.ทุ่งสองห้อง ก็เกิดคดีการตรวจยึดรถหรูจำนวนกว่า 200 คัน และตามมาด้วยพนักงานสอบสวนที่ทำคดีเกิดแรงกดดันตัดสินใจยิงตัวตายคาแฟลตตำรวจ ก่อนจะย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผกก.สน.สุทธิสาร ของเก่ายังไม่เคลียร์ แต่ยังไม่วายเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นมาอีก ผู้ใต้บังคับบัญชาไปทำร้ายร่างกายนักพนันจนเสียชีวิต ไม่ว่าจะย้ายไปที่ไหนงานก็เข้าทุกที่ จนต้องกินยาแก้ปวดหาย จึงเป็นที่มาของ ฉายา ผู้กำกับปวดหาย11.ด.ต.มานะ จอกโคกสูง ผบ.หมู่งานจราจรโครงการพระราชดำริ กก. 6 บก.จร. ฉายา หมอตำแยสายแว้น เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจรในพื้นที่ กทม. ประกอบหน่วยงานในสังกัดได้มีการจัดอบรมการทำคลอดฉุกเฉิน ซึ่งเมื่อมีเหตุหญิงท้องแก่ใกล้คลอดระหว่างนำส่งรพ. แต่ประสบปัญหาการจราจรติดขัด จนทำให้ ด.ต.มานะ และเพื่อนในสังกัด บึ่งรถจักรยานยนต์คู่กาย ไปทำคลอดกลางถนนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ราย จนเป็นที่ยอมรับของประชาชน จึงให้ ฉายา หมอตำแยสายแว้น
สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทยเผยฉายาตำรวจประจำปี 2559 ตั้งฉายา 11 บิ๊กตำรวจ จักรทิพย์ สุภาพบุรุษโล่เงิน อัศวิน ผู้ว่าส้มหล่น เฉลิมเกียรติ นายพลน้ำดี และ ด.ต.มานะ หมอตำแยสายแว้น
อาชญากรรม
ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ฉายาตำรวจ,ผู้ว่าส้มหล่น,สุภาพบุรุษโล่เงิน,สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย,ผู้สื่อข่าวอาชญากรรม,ช่างภาพอาชญากรรม,พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา,พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง
https://news.thaipbs.or.th/content/258595
โด้ โชว์พระเอก ฝอยทอง รัวดับ เวลส์ 2-0 ลิ่วชิงดำยูโร 2016
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือศึกยูโร 2016 รอบรองชนะเลิศ ณ สนาม ปาร์ค โอลิมปิก เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ประจำวันที่ 6 ก.ค. คู่ระหว่าง ทีมชาติเวลส์ พบกับ ทีมชาติโปรตุเกส,เกมนี้ เวลส์ ขาดสองตัวหลักอย่าง อารอน แรมซีย์ และ เบน เดวีส์ ที่ติดโทษแบนทำให้ แอนดี คิง มิดฟิลด์จากเลสเตอร์ ซิตี้ ต้องลงมาบัญชาเกมรุกร่วมกับ เกเรธ เบล และ ฮัล ร็อบสัน-คานู ขณะที่ โปรตุเกส ขาด วิลเลียมส์ กาบาเยโร และ เปเป สองแข้งตัวหลักที่ติดโทษแบนและเจ็บ แต่แนวรุกยังมี คริสเตียโน โรนัลโด นำทัพร่วมกับ นานี และ เรนาโต ซานเชซ เจ้าหนูวัย 18 ปี,เปิดฉากเกมขึ้นมาทั้งสองทีมยังไม่เปิดหน้าแลกกันเท่าที่ควร โอกาสครั้งแรกของเกมกว่าจะมาก็ปาไปถึงนาทีที่ 16 โปรตุเกส ได้ลุ้นประตู โรนัลโด ไหลให้ เจา มาริโอ หลุดไปยิงหักข้อบอลหลุดเสาสองออกไป,อีกสามนาทีให้หลัง เป็นโอกาสของ เวลส์ บ้าง จากลูกเตะมุม เกเรธ เบล วิ่งมายิงด้วยซ้ายบอลเหินข้ามคานหวุดหวิด,นาทีที่ 23 เวลส์ เกือบนำอีกครั้งจากลูกโต้กลับ เกเรธ เบล กระชากมาเองก่อนเลี้ยงจี้เข้าหาเขตโทษก่อนตัดสินใจยิงด้วยซ้ายบอลเข้าซอง ปาทริซิโอ รับไว้ได้ไม่มีกระฉอก,มาถึงนาทีที่ 33 โปรตุเกส ได้ลุ้นประตูอีกครั้ง อาเดรียน ซิลวา หาจังหวะยิงด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษบอลหลุดเสาออกไป,นาทีสุดท้าย โปรตุเกส เกือบได้ประตูขึ้นนำ คริสเตียโน โรนัลโด เทคตัวขึ้นโขกบอลเหินข้ามคานออกไป,หลังจากนั้นยังไม่มีทีมใดเพลี่ยงพล้ำ ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบครึ่งแรก โปรตุเกส กับ เวลส์ ยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันอยู่แบบไร้สกอร์ 0-0 ต้องไปสู้กันต่อในครึ่งหลัง,เข้าสู่ครึ่งหลังแค่ 5 นาที โปรตุเกสได้ประตูออกนำ 1-0 จากลูกเตะมุมสั้น เจา มาริโอ ไหลให้ ราฟาเอล เกร์เรโร เปิดให้กับ คริสเตียโน โรนัลโด เทคตัวขึ้นโขกบอลผ่านมือ เวย์น เฮนเนสซี เข้าไป,อีก 3 นาทีต่อมา โปรตุเกส ได้ประตูหนีห่าง 2-0 จากลูกกึ่งยิงกึ่งผ่านของ คริสเตียโน โรนัลโด บอลมาเข้าทาง นานี ยิงเปลี่ยนทางเข้าไปตุงตาข่าย,นาทีที่ 65 เป็นโอกาสทองของ โปรตุเกส นานี ตะบันไกล 30 หลาบอลพุ่งแรงแต่ไปติดเซฟ เวย์น เฮนเนสซี บอลมาเข้าทาง เจา มาริโอ ยิงโล่งๆ บอลหลุดกรอบเหลือเชื่อ,ถัดมานาทีที่ 71 โปรตุเกส เกือบได้ลูกที่สามอีกแล้ว จากลูกเตะมุม โฆเซ ฟอนเต เทคตัวขึ้นโขกเต็มๆ แต่บอลลอยไปเข้าซอง เวย์น เฮนเนสซี รับไว้ได้,เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 77 เวลส์ เกือบตีไข่แตก เกเรธ เบล ส่องไกลด้วยซ้ายบอลเข้าซอง รุย ปาทริซิโอ รับไม่มีกระฉอกอีกครั้ง,นาทีต่อมา เป็นโอกาสทองของ โปรตุเกส อีกรอบ กองหลัง เวลส์ พลาดก่อนโดน ดานิโล แปร์ไรรา ฉกไปได้ หลุดเดี่ยวยิงโล่งๆ บอลติดเซฟ เฮนเนสซี บอลกระฉอกออกมาเกือบเข้าแต่เฮนเนสซียังตามไปตะครุบหวุดหวิด,มาถึงนาทีที่ 80 เวลส์ เปิดหน้าแลก เกเรธ เบล ได้ยิงอีกครั้ง แต่ รุย ปาทริซิโอ วันนี้ยังไม่พลาดบินปัดออกไป,สี่นาทีสุดท้าย โปรตุเกส น่าจะได้ประตูปิดกล่องสุดๆ โรนัลโด หลุดเดี่ยวแตะบอลหนี เฮนเนสซี ไปแล้ว แต่มุมมันแคบยิงไปเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย,หลังจากนั้น เวลส์ ยังเดินหน้าลุยแหลกแต่ไม่สามารถทะลวงแนวรับของ โปรตุเกสได้ก่อนจะครบ 90 นาทีผู้ตัดสินเป่านกหวีดยาวจบเกมการแข่งขันทำให้ โปรตุเกส เอาชนะ เวลส์ ไปได้ 2-0 ตีตั๋วเข้ารอบชิงชนะเลิศไปรอพบผู้ชนะระหว่าง แชมป์โลก เยอรมนี หรือ เจ้าภาพ ฝรั่งเศส ต่อไป,รายชื่อตัวจริงของทั้งสองทีม,เวลส์ : 5-3-2 : เวย์น เฮนเนสซี (GK), นีล เทย์เลอร์, แอชลีย์ วิลเลียมส์, เจมส์ คอลลินส์, เจมส์ เชสเตอร์, คริส กันเทอร์, โจ อัลเลน, โจ เลดลีย์, แอยดี คิง, เกเรธ เบล, ฮัล ร็อบสัน-คานู,โปรตุเกส : รุย ปาทริซิโอ (GK), เคดริก ซูอาเรส, บรูโน อัลเวส, โฆเซ ฟอนเต, ราฟาเอล เกร์เรโร, ดานิโล แปร์ไรรา, เจา มาริโอ, อาเดรียน ซิลวา, เรนาโต ซานเชซ, คริสเตียโน โรนัลโด, นานี
คริสเตียโน โรนัลโด ซุปเปอร์สตาร์พันล้านสวมบทพระเอกยิง 1 จ่าย 1 พาพลพรรคฝอยทอง โปรตุเกส ต้อนเอาชนะ เวลส์ ไปได้ 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในศึกยูโร 2016 ไปรอพบผู้ชนะระหว่าง เจ้าภาพ ฝรั่งเศส หรือ แชมป์โลก เยอรมนี ต่อไป
null
ยูโร 2016,โปรตุเกส,เวลส์,คริสเตียโน โรนัลโด,ข่าวกีฬา,ข่าว,ผลบอล,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/656847
มติ กนง.เอกฉันท์ คงดอกเบี้ย 1.50% ชี้ศก.ยังชะลอ-หนี้เน่าพุ่ง
เมื่อวันที่ 16 ก.ย. มีรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.50% เนื่องจากยังมองว่าเศรษฐกิจไทยยังชะลอตัว โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับมาเป็นบวกในช่วงไตรมาส 1/59 ซึ่งช้ากว่าคาดการณ์เดิม สำหรับเงินบาทที่อ่อนค่าในระดับปัจจุบันมีส่วนช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัว แต่อย่างไรก็ตาม กนง.ยังคาดว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยคงจะเติบโตได้ต่ำกว่า 3% จากผลกระทบปัจจัยภายนอกเป็นหลัก,พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 และเดือนก.ค.58 ขยายตัวอย่างช้าๆ การส่งออกที่หดตัวต่อเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและเอเชีย และรายได้ครัวเรือนที่ยังไม่กระเตื้องขึ้น เป็นปัจจัยลบต่อความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของภาคเอกชน อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจมีแรงขับเคลื่อนจากภาคการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวสูง และการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐบาลที่เร่งตัวขึ้น รวมทั้งจะได้รับผลจากมาตรการเศรษฐกิจชุดใหม่ของภาครัฐด้วย,ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อปรับลดลงตามราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาดเป็นหลัก ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มติดลบต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีนี้ และคาดว่าจะกลับเป็นบวกในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีหน้า ซึ่งช้ากว่าที่ประเมินไว้ แต่สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเป็นบวก สะท้อนว่าราคาสินค้านอกกลุ่มพลังงานส่วนใหญ่ยังมีแนวโน้มทรงตัวสูงหรือปรับขึ้น และการคาดการณ์เงินเฟ้อของสาธารณชนยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเป้าหมาย เงินเฟ้อ ทำให้ความเสี่ยงของภาวะเงินฝืดยังคงมีจำกัด,กนง.ยังประเมิน ว่าเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับปัจจัยลบ โดยเฉพาะจากต่างประเทศ รวมทั้งความผันผวนของตลาดการเงินโลกที่อาจสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ภาวะการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนยังเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ โดยในระยะต่อไปนโยบายการเงินยังควรอยู่ในระดับผ่อนปรนอย่างเพียงพอและต่อเนื่อง โดยพร้อมใช้เครื่องมือเชิงนโยบายที่มีอยู่อย่างเหมาะสม เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ,ด้านนายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการ กนง.กล่าวว่า เศรษฐกิจภาพรวมตอนนี้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดราย ได้ (NPL) ในระบบ ซึ่ง ธปท.ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แต่คงไม่มีการใช้นโยบายการเงินใดๆ เข้ามาดูแลเป็นพิเศษ เพราะ NPL ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากเศรษฐกิจชะลอตัวเป็นหลัก ซึ่งยังไม่น่าเป็นกังวล และเชื่อว่าจะไม่ลุกลาม,สำหรับอัตราแลกเปลี่ยน ยอมรับว่าเงินบาทมีความผันผวนมาก ซึ่ง ธปท.เข้าไปดูแลบ้าง แต่การอ่อนค่าของเงินบาทในระดับปัจจุบันช่วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้ ซึ่งการอ่อนค่าที่เกิดขึ้นก็มาจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ทั้งเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว รวมทั้งกรณีที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ดี ธปท.ควรจะดูแลให้ค่าเงินบาทสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก,ส่วนกรณีเงินบาทที่อ่อนค่าจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนหรือไม่นั้น มองว่า การลงทุนคงไม่ได้ยึดเหตุผลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเป็นหลัก แต่จะต้องดูผลตอบแทนมากกว่า ทั้งนี้ การประมาณการเศรษฐกิจไทยรอบใหม่ของ ธปท.ในปลายเดือนนี้ เบื้องต้นคาดว่าเศรษฐกิจคงขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 3% แม้จะมีปัจจัยบวกในเรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น การปล่อยสินเชื่อ กองทุนหมู่บ้าน แต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยปัจจัยลบที่มีอยู่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เช่น ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนที่จะส่งผลต่อการส่งออกของไทย
ตามคาด กนง.คงดอกเบี้ย 1.50% มองศก.ไทยยังชะลอตัว ดันหนี้เน่าเพิ่มขึ้น แต่เชื่อไม่ลุกลาม ชี้บาทอ่อนในปัจจุบันช่วยศก.ฟื้นตัวได้ พร้อมจ่อประมาณการจีดีพีรอบใหม่ปลายก.ย.นี้ คาดโตต่ำกว่าเป้า 3% แม้รบ.ออกมาตรการกระตุ้น ศก.
null
กนง.คงดอกเบี้ย,ประชุมกนง,มติกนง.,คงดอกเบี้ยนโยบาย,เศรษฐกิจชะลอตัว,กรรมการนโยบายการเงิน,เงินเฟ้อ,จีดีพีไทย,เงินเฟ้อติดลบต่อเนื่อง,เศรษฐกิจขยายตัว,กระตุ้นเศรษฐกิจ,หนี้เน่าพุ่ง,ประชุมกนง. 16 ก.ย.,อัตราเงินเฟ้อ,มาตรการเศรษฐกิจ,เมธี สุภาพงษ์,เศรษฐกิจโลก,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,บาทอ่อน
https://www.thairath.co.th/content/525682
ช้างนับ 10ตัว ออกจากป่าภูวัวหาของกิน ชาวบ้านผวาไม่กล้าออกกรีดยาง

,
เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ 21 ก.พ. นายจรูญ บุหิรัญ นายอำเภอบุ่งคล้า นำ ทหาร ร้อย.รส.จังหวัดบึงกาฬ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่บ้านซำบอน หมู่ที่ 8 ต.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ทั้งชายและหญิงกว่า 30 คน ร่วมกันเฝ้าระวังและติดตามการลงมาหากินของช้างป่า โดยร่วมกันวางกำลังตามสวนยางพารา ที่คาดว่าช้างป่าจะลงมาทำลายพืชผลทางการเกษตร พร้อมนำอุปกรณ์ขับไล่ เช่น โคมไฟฉาย ประทัด อุปกรณ์ที่คล้ายเสียงปืน (บั้งแก๊ส) ที่ทำจากกระบอกไม้ไผ่ เสียงดังคล้ายเสียงปืนใหญ่ และก่อกองไฟ หากว่าช้างป่าลงมาใกล้พื้นที่ชุมชนก็พร้อมที่จะใช้อุปกรณ์เหล่านี้ขับไล่ช้างป่าได้ทันที ซึ่งจากการเฝ้าระวังช้างป่าในวันนี้พบว่ามี ช้างป่า 1 โขลงทั้งตัวผู้ตัวเมีย และลูกช้างป่า รวมกว่า 8 ตัว เดินออกมาจากป่าที่ติดกับสวนยางพาราของชาวบ้าน 

,ด้านนายจรูญ บุหิรัญ นายอำเภอบุ่งคล้า กล่าวว่า หลังจากการเฝ้าดูช้างพบว่า มีจำนวนมาก ฝูงใหญ่ เกือบ 10 ตัว จึงให้ผู้นำชุมชนที่มาเฝ้าระวัง ให้ออกห่างจากฝูงช้างในระยะที่ปลอดภัย หากช้างป่าเข้ามาใกล้ก็ให้รีบออกห่าง และสั่งกำชับให้ชาวบ้านและชาวสวนยาง ที่อาศัยอยู่ตามสวนยางอยู่ตามหัวไร่ปลายนา ช่วงนี้หากค่ำมืดเห็นว่าสถานการณ์ไม่ปลอดภัยให้กลับเข้าไปอาศัยอยู่ในหมู่บ้านก่อน หลีกเลี่ยงการกรีดยางในช่วงกลางคืน ซึ่งหลังจากนี้จะได้ให้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ที่มีชุดปฏิบัติการขับไล่ช้างป่าพร้อมอุปกรณ์ลงมาในพื้นที่ เพื่อไล่ต้อนช้างให้กลับขึ้นไปบนเขาโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้ช้างป่าลงมาก่อกวนอีก.
ชาวบ้านผวาช้างป่าฝูงใหญ่หิว ออกจากป่าภูวัวมาหาของกินในช่วงกลางคืน และกัดกินต้นกล้วย ทำลายพืชทางการเกษตร ใน 2 ตำบลของ อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ จนไม่กล้าออกมากรีดยางตอนกลางคืนหวั่นได้รับอันตราย
ข่าว,ทั่วไทย
ช้างป่า,ฝูงช้างป่า,ป่าภูวัว,ช้างหิว,บึงกาฬ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1210408
กลุ่มไอเอสก่อเหตุระเบิดรถยนต์ในซีเรีย เสียชีวิต 31 คน
นักรบของกลุ่มไอเอส จุดชนวนระเบิดรถยนต์ 2 คันในเมืองมาเรีย (Marea) ของซีเรีย ห่างจากเมืองอเลปโป (Aleppo) ไปทางเหนือประมาณ 40 กม. โดยมีเป้าหมายโจมตีที่มั่นใหญ่ของกลุ่มติดอาวุธที่เป็นปรปักษ์ ซึ่งแรงระเบิดทำให้เกิดไฟลุกไหม้และมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 คน ในจำนวนนี้มีผู้นำระดับสูงหลายคนของกลุ่มแนวร่วมอัล-นุสรา ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย รวมทั้ง อาบู มาริยา ผู้นำกลุ่มแนวร่วมอัล-นุสราในเมืองมาเรียที่ผ่านมากลุ่มไอเอสมักจะสู้รบกับกลุ่มติดอาวุธที่เป็นปรปักษ์ในซีเรีย แต่บางครั้งทั้ง 2 กลุ่มก็ร่วมมือกันจนทำให้การต่อสู้โค่นล้มรัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ที่ดำเนินมาเป็นเวลา 4 ปี ยังคงมีความสลับซับซ้อน โดยฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย เปิดเผยว่ากลุ่มไอเอสสกัดการรุกคืบของกลุ่มทางตะวันตกที่เมืองมาเรียเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว (2557) ทำให้เมืองมาเรียกลายเป็นสมรภูมิสู้รบที่สำคัญ ขณะที่ถนนสายต่างๆ ทางตอนเหนือของเมืองอเลปโปกลายเป็นเส้นทางลำเลียงยุทธปัจจัยที่สำคัญของกองกำลังฝ่ายต่อต้านในซีเรีย
กลุ่มไอเอสก่อเหตุโจมตีกลุ่มติดอาวุธที่เป็นปรปักษ์ในเมืองทางภาคเหนือของซีเรีย โดยวางระเบิดรถยนต์ 2 คัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 31 คน รวมทั้งผู้นำระดับสูงหลายคนของกลุ่มแนวร่วมอัล-นุสรา ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย
ต่างประเทศ
กลุ่มก่อการร้าย,กลุ่มไอเอส,ข่าว 09.00 น.,ข่าวต่างประเทศ,ซีเรีย,อัล-นุสรา,อเลปโป,เมืองมาเรีย
https://news.thaipbs.or.th/content/30
หงส์ขาว คอนเฟิร์มคว้า เอแดร์ เสริมคม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่  1 มิ.ย. ว่า หงส์ขาว สวอนซี ซิตี้ สโมสรแกร่งแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ  ประกาศคว้าตัว เอแดร์ กองหน้าทีมชาติโปรตุเกส ของ บรากา มาเสริมแนวรุกเป็นที่เรียบร้อย เซ็นสัญญาเป็นเวลา 3 ปี โดยไม่มีการเปิดเผยค่าตัวแต่อย่างใด แต่คาดกันว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านปอนด์,เอแดร์ วัย 27 ปี ลงเล่นให้ บรากา ไป 29 นัด ซัดไป 10 ประตู ในซีซั่นที่ผ่านมา ช่วยให้ต้นสังกัดจบอันดับ 4 ของตารางในลีกสูงสุดของโปรตุเกส จนทำให้ฟอร์มไปเข้าตา แกร์รี มองค์ กุนซือของหงส์ขาวเต็มๆ ก่อนจัดการคว้าตัวมาร่วมทีมในที่สุด โดย เอแดร์ จะเข้ามาผนึกกำลังในแนวรุกของสวอนซี ร่วมกับ บาเฟติมบี โกมิส และ อังเดร อายิว ซึ่ง เอแดร์ จะสวมเสื้อหมายเลข 17 ลงสนามให้กับสวอนซี,สวอนซี ซิตี้ แถลงการณ์บนเว็บไซต์ของสโมสรว่า เอแดร์ วัย 27 ปี ได้จรดปากกาเซ็นสัญญากับสวอนซีเป็นเวลา  3 ปี หลังผ่านการตรวจร่างกายเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา,ทั้งนี้ เอแดร์  มีชื่ออยู่ในทีมชาติโปรตุเกส ชุดที่ไปลุยฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิลอีกด้วย
หงส์ขาว สวอนซี ซิตี้ ประกาศคว้าตัว เอแดร์ ดาวยิงชาวโปรตุกีสของ บรากา มาเสริมแนวรุกเป็นที่เรียบร้อย เซ็นสัญญาเป็นเวลา 3 ปี โดยไม่มีการเปิดเผยค่าตัวแต่อย่างใด
null
พรีเมียร์ลีก,สวอนซี ซิตี้,บรากา,เอแดร์,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/508805
นักเขียนชีวประวัติคนดังอังกฤษ จวกเมแกน เจตนาร้าย เห็นแก่ตัว หยาบคายกับควีน
ทอม โบเวอร์ นักเขียนชีวประวัติคนดังอังกฤษ ตำหนิเมแกน หลังออกแถลงการณ์ยาวเหยียดผ่านเว็บไซต์ Sussex Royal ชี้เจตนาร้าย เห็นแก่ตัว หยาบคายกับควีน หลังทรงมีรับสั่งห้ามใช้แบรนด์ Sussex Royalเมื่อ 24 ก.พ. 63 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า ทอม โบเวอร์ นักเขียนชีวประวัติชื่อดังชาวอังกฤษ วัย 73 ปีแสดงความเห็นต่อกรณีเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ออกแถลงการณ์ยาวเหยียดถึง 1014 คำ อัปเดตผ่านเว็บไซต์ Sussex Royal เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทอม โบเวอร์ ได้ตำหนิแถลงการณ์ดังกล่าวว่า ถือเป็นการแสดงความหยาบคายต่อสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษทอม โบเวอร์ ซึ่งได้รับเชิญให้มาร่วมรายการ Good Morning Britain หลังจากสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งห้ามเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกนใช้ตราสัญลักษณ์และแบรนด์ Sussex Royal เนื่องจากทั้งคู่ได้ขอลดบทบาทจากการเป็นสมาชิกชั้นสูงราชวงศ์อังกฤษ ก่อนที่ต่อมาเว็บไซต์ Sussex Royal ได้เผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าว ซึ่งตามความเห็นของ ทอม โบเวอร์ มองว่า เมแกนมีเจตนาร้าย เห็นแก่ตัว ขณะที่อาชีพการงานของเธอได้จบลงแล้วเมื่อได้พบกับเจ้าชายแฮร์รี่แถลงการณ์นี้เป็นเจตนาร้ายจากเมแกน เพราะอะไรที่เมแกนต้องการ เมแกนต้องได้ มันเป็นการแสดงความหยาบคายต่อควีน เจตนาร้ายก็คือ เธอได้แต่งงานกับสมาชิกราชวงศ์อังกฤษเพียงไม่นาน เธอก็กระโดดร่มหนี แต่เธอต้องการไปด้วยเงื่อนไขของเธอ ทอม โบเวอร์ แสดงความเห็นต่อเมแกน ที่อยากจะใช้คำว่า Sussex Royal เพื่อประโยชน์ทางการตลาด เป็นช่องทางแสวงหารายได้ของเธอ.
ทอม โบเวอร์ นักเขียนชีวประวัติคนดังอังกฤษ ตำหนิเมแกน หลังออกแถลงการณ์ยาวเหยียดผ่านเว็บไซต์ Sussex Royal ชี้เจตนาร้าย เห็นแก่ตัว หยาบคายกับควีน หลังทรงมีรับสั่งห้ามใช้แบรนด์ Sussex Royal
ข่าว,ต่างประเทศ
เจ้าชายแฮร์รี่,ข่าวเด่น,เมแกน,Sussex Royal,ทอม โบเวอร์,ควีนเอลิซาเบธที่2
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1779241
กลุ่ม We Walk ถึงขอนแก่น งัดแผนดาวกระจายเดิน 4 เส้นทาง ปักธงเขตเทศบาล
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 16 ก.พ.61 กลุ่มประชาชนในนาม People Gold Network ที่ได้ร่วมจัดกิจกรรม We Walk เดินมิตรภาพ ที่เริ่มออกเดินทางจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยล่าสุดได้เดินทางมาถึงที่เขตเทศบาลนครขอนแก่นแล้ว โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง คอยอำนวยความสะดวกและให้การจัดกิจกรรมของกลุ่มผู้เคลื่อนไหว เป็นไปด้วยความเรียบร้อย 
,นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ผู้ประสานงานเครือข่าย We Walk กล่าวว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นการสะท้อนปัญหาจากผลกระทบในนโยบายรัฐ ใน 4 ประเด็นหลักคือ รัฐสวัสดิการความมั่นคงทางอาหาร, ทรัพยากรธรรมชาติ, สิทธิชุมชน และเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ในการจัดกิจกรรมวันนี้เริ่มจากสามแยกบ้านกุดกว้าง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นขบวนหลักที่สื่อถึงรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย
,กิจกรรมวันนี้ได้กำหนดรูปแบบการเดินทั้งหมด 4 เส้นทาง 4 ประเด็น โดยเส้นทางแรก คือ เรื่องประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ เริ่มต้นจากปากซอยโรงเรียน บ.กุดกว้าง เดินเข้าสู่ตัวเมืองขอนแก่น เส้นทางต่อมาคือเรื่องหลักประกันสุขภาพและรัฐสวัสดิการ เริ่มต้นจากบริเวณทางแยกเข้าสนามบินขอนแก่น เส้นทางที่ 3 คือเรื่องเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร โดยมีจุดเริ่มต้นจากศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 และเส้นทางสุดท้าย คือ เรื่องทรัพยากรสิ่งแวดล้อมและสิทธิชุมชน เริ่มจากโรงเรียนเทศบาลบ้านหนองใหญ่ โดยที่ทุกเส้นทางที่ได้กำหนดการเดินนั้นได้มารวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเขตเทศบาลนครขอนแก่น นายเลิศศักดิ์กล่าว
,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่นักเคลื่อนไหวได้เดินทางมาถึงบริเวณ ด้านหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ได้แสดงออกทางสัญลักษณ์ ด้วยการปักธงที่ต้องการสื่อสารต่อสาธารณชนใน 4 ประเด็นที่ได้มีการจัดกิจกรรมรวมทั้งการประทับรอยเท้าลงบนผืนผ้า และการประกาศว่าได้เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดของการจัดกิจกรรมคือที่ จ.ขอนแก่น แล้ว ก่อนที่ทั้งหมดจะแยกย้ายกันไปรวมตัวที่ วัดป่าอดุลยาราม เพื่อจัดกิจกรรมในด้านต่างๆต่อไป โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้ติดตามความเคลื่อนไหว และอำนวยความสะดวกตามคำสั่งศาล อย่างใกล้ชิด.
กลุ่ม We Walk เดินเข้าถึงขอนแก่น พร้อมงัดแผนดาวกระจาย เดิน 4 เส้นทาง มารวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเขตเทศบาลนครขอนแก่น ก่อนจะแยกย้ายไปเจอกันที่วัดป่าอดุลยราม เพื่อจัดกิจกรรมต่อไป

ข่าว,ทั่วไทย
วีวอร์ค,กลุ่มWe Walk,เดินมิตรภาพ,มธ.,ขอนแก่น,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1206025
บุญใหญ่เพิ่มวาสนา หนุนนำเสริมบารมี
ครั้นทำบุญไหว้พระ ถวายพวงมาลัยดอกไม้ ธูปเทียนบูชา หากตายไปแล้วเกิดชาติหน้าฉันใดก็จักอุดมด้วยลาภยศ ชื่อเสียง,หากมีโอกาสได้ทำบุญสร้างโบสถ์ สร้างวิหารสืบต่อพระศาสนา กล่าวกันว่าเกิดชาติหน้าก็จะมีวาสนา บารมีมากมายเหลือคณา หรือทำบุญสวดมนต์ ก็มีความเชื่อกันว่าจะทำให้มีสติปัญญาแหลมคม,บริจาคยาสุขภาพจะแข็งแรง บริจาคหนังสือ จะส่งผลหนุนนำทำให้อนาคตได้ดี มีการศึกษาสูงๆ หรือทำบุญน้ำมันตะเกียงจะทำให้ชีวิตโชติช่วงชัชวาล เจริญรุ่งเรือง มีชื่อเสียงโด่งดังดั่งเปลวไฟ,หากคิดที่จะพิมพ์หนังสือธรรมะแจกเป็นธรรมทาน เกิดชาติหน้าว่ากันว่าจะมีบารมีวาสนา มีชีวิตความเป็นอยู่สุขสมบูรณ์พร้อมสรรพ,หรือจะไปทำบุญ ช่วยเด็กกำพร้าเด็กเร่ร่อน บุญหนักอย่างนี้ มีความเชื่อกันว่าเกิดชาติหน้าจะทำให้ชีวิตครอบครัวสมบูรณ์พร้อมสุข มีพ่อแม่อุ้มชู ครอบครัวอบอุ่นพร้อมหน้า,บุญ คือการกระทำดีตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา ความเชื่อเกี่ยวกับบุญทำให้เราๆท่านๆทำบุญมากขึ้นหรือน้อยลงอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับศรัทธาในหัวใจของผู้ใจบุญแต่ละคน,งานใหญ่บุญมากอีกงานของคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล 131 ปี ศิริราช เทศน์มหาชาติเฉลิมพระเกียรติ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-24 เมษายน 2562 ณ หอประชุมราชแพทยาลัย,การนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตรสำหรับถวายพระธรรมกถึก จำนวน 13 ไตร และได้รับพระเมตตาจากพระเถรานุเถระในการจัดงาน อาทิ พระราชธรรมวาที วัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร พระเทพวิสุทธิดิลก วัดสามพระยา,เชื่อถือกันด้วยว่าอานิสงส์แห่งการฟังเทศน์มหาชาติครบ 13 กัณฑ์ และดำเนินชีวิตตามหลักธรรม จะได้รับผลดีทั้งภพนี้และภพหน้า,รายได้จากการจัดงานจะนำไปช่วยเหลือพระภิกษุ สามเณรอาพาธ,และใน วันที่ 26 เมษายน ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชทานกำเนิดโรงพยาบาลศิริราช เวลา 10.00 น. มีพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้พระราชทานกำเนิดโรงพยาบาลศิริราช พระบรมวงศานุวงศ์ และผู้มีคุณูปการต่อโรงพยาบาลศิริราช,ผู้มีจิตเมตตา ร่วมแรง ร่วมใจ ร่วมศรัทธาประกอบบุญสนับสนุนกำลังทรัพย์อันเป็นกุศล สมทบทุนช่วยเหลือพระภิกษุ สามเณรอาพาธ ให้พ้นทุกข์จากโรคภัย โดยสามารถร่วมเป็นเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์มหาชาติ หรือบูชาธรรมได้ ดังนี้#ด้วยตนเองที่งานการเงิน ฝ่ายการคลัง ตึกชัยนาทนเรนทรานุสรณ์ ชั้น 2 รพ.ศิริราช,หรือศิริราชมูลนิธิ ตึกมหิดลบำเพ็ญ ชั้น 1 รพ.ศิริราช,#ผ่านธนาคาร บัญชีออมทรัพย์ (กองทุนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์) ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาศิริราช หมายเลขบัญชี 016-4-30779-2, บัญชีออมทรัพย์ (กองทุนสงเคราะห์พระกรรมฐาน) ธนาคารกสิกรไทย สาขาศิริราช หมายเลขบัญชี 638-2-13545-6, ธนาคารกรุงเทพ สาขาศิริราช หมายเลขบัญชี 901-7-00988-8, ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาศิริราช หมายเลขบัญชี 016-2-51252-9,#ผ่าน Application ธนาคารที่ท่านมีบัญชีเงินฝาก กรณีผู้บริจาคเงินผ่าน QR Payment และระบุยินยอม ธนาคารจะเป็นผู้ส่งข้อมูลการบริจาคเงินให้กรมสรรพากรตามที่ผู้บริจาคแจ้งความประสงค์ โดยไม่ต้องขอหลักฐานใบเสร็จรับเงิน สำหรับการบริจาคหรือทำบุญทุกช่องทาง สามารถนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่กฎหมายกำหนด สอบถามเพิ่มเติมได้ที่งานประชาสัมพันธ์และกิจการพิเศษ โทร.0-2419-7646-8,ความเชื่อ ของ มนุษย์ คือการยอมรับว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นจริง บางครั้งความเชื่อก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีเหตุผลประกอบ อย่างที่เราๆ ท่านๆหลายคนเชื่อในเรื่องฤกษ์ยาม วันเวลาตกฟาก เชื่อเรื่องเครื่องรางของขลัง ปาฏิหาริย์สิ่งยึดเหนี่ยวที่ให้คุณแก่ตนได้อีกทั้งอำนาจลี้ลับ พลังเหนือธรรมชาติ อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่างๆที่มีอยู่มากมาย ทั้งที่ได้เจอกับตัวเองในแบบที่อธิบายไม่ได้ รวมถึงเรื่องเล่าต่างๆอีกมากมายที่มีถ้วนทั่วทุกภูมิภาค,ความเชื่อจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับความจริงเสมอไป เมื่อเป็นเช่นนั้นคนเราก็อาจจะกระทำอะไรที่จริงจัง บ้าคลั่งได้ด้วยความเชื่อที่ผิดๆเท่าๆกับที่ทำด้วยความเชื่อที่ถูกต้อง,ศรัทธา นำมาซึ่ง ปาฏิหาริย์เชื่อไม่เชื่อมากน้อยกันอย่างไร ก็โปรดอย่าได้ลบหลู่.,รัก–ยม
เชื่อ!กันว่า หากได้ทำบุญปล่อยสัตว์จะเป็นการซื้อชีวิต เกิดชาติหน้าฉันใดจะมีสุขภาพที่ดี อายุยืน หากปล่อยนกปล่อยปลาจะช่วยให้พ้นเคราะห์ มีลูกหลานเต็มบ้าน
ข่าว,สังคม
สร้างบุญ,เหนือฟ้าใต้บาดาล,รัก-ยม,131 ปี ศิริราช เทศน์มหาชาติเฉลิมพระเกียรติ,คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล,การฟังเทศน์มหาชาติ,13 กัณฑ์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1548478
พช.เสริมแกร่ง OTOP เพิ่มช่องทางขายออนไลน์ ยกระดับคุณภาพสู่สากล
มุ่งหวังยกระดับคุณภาพสู่มาตรฐานสากล,เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.62 นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) พบปะผู้ผลิตและผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ OTOP จำนวน 50 ราย ที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมผู้ผลิตและผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ OTOP ด้านการจำหน่ายสินค้า Online โดยร่วมมือกับ กับบริษัทแอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด ในชื่อเว็บไซต์ weloveshopping จัดฝึกอบรมผู้ผลิตและผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ OTOP จำนวน 150 คน (3 รุ่น รุ่นละ 50 คน) ฝึกอบรมเป็นเวลาจำนวน 3 วัน ณ โรงแรม ทีเค พาเลช,โดย นายนิสิต กล่าวว่า การฝึกอบรมผู้ผลิตและผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ OTOP ครั้งนี้เป็นการให้ความรู้ในเรื่องการจัดทำ Template ผลิตภัณฑ์, การถ่ายภาพ, การเขียน Content และการสร้างร้านค้า หลังจากการฝึกอบรมผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ทั้ง 150 คน เพื่อให้สามารถนำผลิตภัณฑ์ สามารถสร้างหน้าร้าน และจำหน่ายใน weloveshopping,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้คำแนะนำในการนำสินค้า OTOP ไปขายทาง Online ได้สนับสนุนงบประมาณ 1,860,000 บาท เพื่อจัดฝึกอบรมผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ดังกล่าว ซึ่งหลังจากการฝึกอบรมผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP นี้แล้วทั้ง 150 คน สามารถนำผลิตภัณฑ์ สามารถสร้างหน้าร้าน และจำหน่ายใน weloveshopping ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จะมียอดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP มากขึ้น,นอกจากนี้ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวด้วยว่า จะมีการให้ความรู้กับผู้ผลิตและผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ OTOP เพิ่มขึ้นอีก 250 ราย ภายในเดือนกรกฎาคม 2562 และจะขยายให้ได้ 10,000 ราย ในเดือนธันวาคม 2562 พร้อมกับบอกว่าทิศทางการพัฒนา OTOP เน้นใน 3 เรื่อง คือ คุณภาพ มาตรฐาน และก้าวสู่สากล
กรมการพัฒนาชุมชน เสริมประสิทธิภาพผู้ผลิต-ผู้ประกอบการ OTOP เพิ่มช่องทางค้าขาย Online ติวเข้มการจัดทำ Template ผลิตภัณฑ์ การถ่ายภาพ การเขียน Content และการสร้างร้านค้า
ข่าว,ทั่วไทย
OTOP,โอทอป,สินค้าOTOP,กรมการพัฒนาชุมชน,พช.,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1586766
เกษตรกร-ผู้บริโภควอนเข้มงวดจีเอ็มโอ
เนื้อความในจดหมายได้เรียกร้องให้ประธานในที่ประชุมการกำหนดกติกาความปลอดภัยด้านอาหารพิจารณาความเห็นของเครือข่ายผู้บริโภคและเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกในการปฏิเสธอาหารและการปลูกพืชดัดแปลงพันธุกรรม (GMOs) โดย 1) ขอให้สนับสนุนหลักการ ปลอดภัยไว้ก่อน (Precautionary Principle) เนื่องจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถประเมินความเสี่ยงของอย่างแม่นยำได้ 2) ในการจัดทำการประเมินความเสี่ยงต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส เป็นอิสระ และพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆอย่างรอบด้านและต่อเนื่อง 3) ให้มีกฎหมายบังคับการติดฉลากอาหารที่มาจากการดัดแปลงพันธุกรรมทุกชนิดอย่างเคร่งครัด เป็นสากล มีความชัดเจนและอ่านง่าย 4) ให้มีกฏหมายเกี่ยวกับความรับผิดชอบและการชดเชยต่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากอาหารที่มีส่วนผสมของการดัดแปลงพันธุกรรม และ 5) ให้มีกฎหมายอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และมีมาตรการลงโทษผู้กระทำผิดที่ปล่อยให้สิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรมปนเปื้อนออกสู่สิ่งแวดล้อมในขณะที่การประเมินยังไม่เสร็จสิ้น อนึ่ง ในระหว่างการยื่นจดหมาย ได้มีการนำมะละกอปลอดจีเอ็มโอจากจังหวัดฉะเชิงเทรามาแจกจ่ายให้ผู้เข้าร่วมและสื่อมวลชนรับประทาน ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกมะละกอได้เล่าว่ามะละกอเหล่านี้เป็นมะละกอพันธุ์พื้นเมืองที่ปลูกแบบเกษตรผสมผสาน โดยไม่มีปัญหาโรคใบด่างวงแหวนที่เกษตรกรทั่วๆ ไปประสบ แต่อาจจะมีปัญหาที่ขนาดมะละกอซึ่งเล็กบ้าง ใหญ่บ้างเท่านั้น
กรุงเทพฯ-12 ต.ค.47 สหพันธ์องค์การผู้บริโภค (สอบ.) มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก และองค์กรความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาไทย (ไบโอไทย)
สิ่งแวดล้อม
null
https://prachatai.com/journal/2004/10/770
ร้องกรมปศุสัตว์สอบต้นตอ กาฬโรคในม้า ระบาด
วันนี้ (20 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าของฟาร์มเลี้ยงม้าแห่งหนึ่งใน ต.นครชุม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ต้องใช้น้ำยากำจัดแมลงทาลงบนตัวม้าและกางมุ้งให้กับม้าทุกตัวที่เลี้ยงไว้ เพื่อป้องกันแมลงกินเลือด ซึ่งเป็นพาหะของโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้ากัด ตามมาตรการควบคุมโรคที่กรมปศุสัตว์กำหนดไว้ แม้จะยังไม่พบการระบาดของโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้าระบาดใน จ.ราชบุรีม้าที่เลี้ยงไว้ในฟาร์มแห่งนี้มีไว้สำหรับใช้ในการแสดง และร่วมขบวนแห่นาค แต่เมื่อพบการระบาดของโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้าระบาดในหลายจังหวัด มีคำสั่งห้ามเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่ ทำให้เจ้าของฟาร์มขาดรายได้ ซ้ำเติมความเดือดร้อน เพราะ 2-3 เดือนมานี้แทบจะไม่มีงานจ้างม้าแสดง หรือร่วมขบวนแห่นาคอยู่แล้ว เพราะมีการงดจัดงานทุกประเภทจากการระบาดของไวรัสโควิด-19เจ้าของฟาร์มเลี้ยงม้า เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของกาฬโรคแอฟริกาในม้า เป็นการเพิ่มภาระและค่าใช้จ่ายให้กับผู้เลี้ยง ที่สำคัญคือเกิดความกังวลว่าม้าที่เลี้ยงไว้มานานอาจล้มตาย เพราะโรคระบาด จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะกรมปศุสัตว์เร่งสอบสวนโรค เพื่อเอาผิดผู้ที่เป็นต้นเหตุให้โรคกาฬโรคแอฟริกาในม้าเข้ามาในประเทศไทยสำหรับข้อเรียกร้องนี้สอดคล้องกับเจ้าของฟาร์มเลี้ยงม้าหลายคนใน จ.สระบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พบม้าตาย เพราะติดเชื้อกาฬโรคแอฟริกาในม้าแล้ว 30 ตัว ที่ต้องการให้กรมปศุสัตว์เอาผิดกับผู้ที่เป็นต้นตอ ทำให้เกิดการระบาดของโรคนี้ในไทยทั้งนี้ ในวงการผู้เลี้ยงม้าทราบข้อมูลว่าก่อนที่จะเกิดการระบาดของโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้าขึ้นในหลายจังหวัดของไทย มีเจ้าของสวนสัตว์แห่งหนึ่งมีการนำเข้าม้ามาจากต่างประเทศ โดยไม่ผ่านกระบวนการกักกันโรค ซึ่งหากเป็นเรื่องจริงต้องการให้มีการเอาผิดสถานหนัก เพราะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้เลี้ยงม้าทั่วประเทศ
กลุ่มผู้เลี้ยงม้าเรียกร้องให้กรมปศุสัตว์เร่งตรวจสอบหาแหล่งต้นตอของโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้าระบาด หลังทราบเบาะแสสวนสัตว์แห่งหนึ่งนำเข้าม้าลายจากต่างประเทศแล้วไม่กักโรค หากพบเป็นเรื่องจริงให้เอาผิดสถานหนัก เพราะทำเดือดร้อน
ภูมิภาค
กาฬโรคในม้า,ม้า,ราชบุรี,สระบุรี
https://news.thaipbs.or.th/content/292679
บทเรียนสันติภาพ ดร.แซมชี้ทั้งคนใน-คนนอก ทุกฝ่ายต้องมีส่วนร่วม
ด้านนอเบิอร์ต โรเปอร์ส เห็นว่าชาวปาตานีต้องรื้อฟื้นการพูดคุยที่หยุดชะงัก ในขณะที่อาจารย์วิทยาการสื่อสาร มอ.ชี้ สื่อต้องสื่อสารเพื่อสันติภาพการบรรยายสาธารณะ กระบวนการสันติภาพ ประชาสังคม และบทบาทของผู้อำนวยความสะดวกในมินดาเนาและปาตานี:มุมมองจากมาเลเซีย โดยศาสตราจารย์กามารุซซามาน อัสกันดาร์ หรือที่หลายคนรู้จักในนาม ดอกเตอร์แซม นักวิชาการและนักปฏิบัติการสันติภาพชาวมาเลเซียคนสำคัญ ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยซายน์มาเลเซียในปีนัง เป็นผู้ก่อตั้งศูนย์วิจัยและการศึกษาเพื่อสันติภาพ หรือ REPUSM เป็นผู้ประสานงานระดับภูมิภาคของเครือข่ายการศึกษาความขัดแย้งแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asian Conflict Studies Network) หรือ SEACSN ดอกเตอร์แซมทำงานเพื่อสนับสนุนการสร้างสันติภาพในพื้นที่ความขัดแย้งหลายแห่งการบรรยายครั้งนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2557ณ ห้องประชุมศรีวังสา ชั้น 3 คณะ รัฐศาสตร์ มอ.ปัตตานี โดยมี นอร์เบิร์ต โรเปอร์ส และผศ.ดร.กุสุมา กูใหญ่ รองคณบดีคณะวิทยาการสื่อสารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมแลกเปลี่ยน มีผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตรภิรมย์ศรี และ อ.ไพซอล ดาโอ๊ะ ดำเนินรายการศ.ดร.กามารุซซามาน อัสกันดาร์ กล่าวถึงกระบวนการสันติภาพว่าเป็นกระบวนการที่ที่กระทำโดยตัวแสดงที่มีหลายตัวแสดงที่เป็นคู่ขัดแย้ง ผู้อำนวยความสะดวก สักขีพยาน ผู้สังเกตการณ์ ผู้เฝ้าติดตาม ผู้ประเมินผล และยังเป็นกระบวนการที่รวมเอาหลายเรื่องที่เป็นกระบวนการจากข้างใน ข้างนอก ทั้งระดับบน ระดับล่าง ดังนั้นกระบวนการสันติภาพจึงมีคำถามสำคัญที่ว่า ตัวแสดงต่างๆ ในกระบวนการเหล่านี้ทำงานอย่างไรในบทบาทของตนเองศ.ดร.กามารุซซามาน กล่าวว่าบทบาทที่สำคัญที่สุดของผู้อำนวยความสะดวกในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพคือ จะต้องออกแบบองค์ประกอบของแต่ละฝ่ายเพื่อให้มีการส่งเสริมกันและกันในกระบวนการพูดคุย ไม่ใช่การแข่งขันกันหรือให้มีความขัดแย้งขึ้นในกระบวนการในการบรรยายครั้งนี้ ศ.ดร. กามารุซซามาน ได้กล่าวถึงกรณีความขัดแย้งในมินดาเนาว่าเป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมานานและมีปัญหาที่ต่างจากกรณีปาตานีหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ความแย้งนั้นมีกลุ่มชนที่มีความแตงต่างทางภาษาถึง 13 กลุ่มชน มีความขัดแย้งทางศาสนาระหว่างกลุ่มที่นับถือศาสนาอิสลามและกลุ่มศาสนาคริสต์รวมทั้งมีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ที่เป็นข้อขัดแย้งทางการเมืองในพื้นที่ด้วยในปี 1968 ได้เกิดกลุ่มขบวนการที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนที่ก่อตั้งโดยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์คือ Moro National Liberation Front (MNLF) ซึ่งเป็นกลุ่มแนวร่วมที่ไม่แบ่งแยกศาสนาเพื่อเรียกร้องเอกราชจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ ต่อมาในปี 1976 ได้เกิดองค์กร Moro Islamic Liberation Front (MILF) ที่เป็นองค์กรของกลุ่มมุสลิมที่แยกตัวออกมาเพื่อต้องการแบ่งแยกดินแดนมินดาเนา และยังได้เกิดกลุ่มต่อต้านรัฐบาลและกลุ่มติดอาวุธอีก 13 กลุ่มกระจายอยู่ในพื้นที่ความขัดแย้งซึ่งฝ่ายรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้พยายามปราบปรามโดยกำลังทหารมาตลอดจนกระทั่งได้มีริเริ่มการพูดคุยเพื่อสันติภาพในปี 1996ศ.ดร. กามารุซซามานกล่าวถึงบทบาทของมาเลเซียในการเข้าไปเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเจรจาสันติภาพมินดาเนาว่าเกิดจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ของนางมากาปากาล อาโรโย่ ต้องการให้มีฝ่ายที่สามในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนมินดาเนาและได้เชิญมาเลเซียเพื่อเป็นผู้อำนวยความสะดวกในกระบวนการเจรจาในกระบวนการอำนวยความสะดวกนั้นรัฐบาลมาเลเซียได้กำหนดให้ Research Department ซึ่งเป็นหน่วยงานของสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นองค์กรดำเนินการอย่างลับๆ โดยมีเจ้าหน้าที่นานาชาติจำนวน 69 คนจาก 4 ประเทศคือ มาเลเซีย บรูไน ลิบเบีย ญี่ปุ่น ในนาม International Monitoring Team ลงพื้นที่ประเมินผล ติดตาม การพูดคุยสันติภาพในด้านต่างๆ ทั้งด้านการลดความรุนแรง ติดตามประเมินผลตามข้อตกลงหยุดยิง รวมทั้งการสนับสนุนโครงการพัฒนาต่างๆ ในพื้นที่ต่อมาได้มีการตั้งกลไกท้องถิ่นคือ คณะกรรมการประสานงานยุติความเป็นปรปักษ์ (CCCH) อันเป็นคณะทำงานร่วมกันระหว่างกลุ่มเห็นต่างและเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมีสองชุดคือ กลไกลดความรุนแรงที่เกิดจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ การแบ่งแยกดินแดนและอีกชุดหนึ่งที่ดูกรณีอาชญากรรมทั่วไป ความขัดแย้งส่วนตัว ในส่วนการแก้ไขความขัดแย้งกรณีการแย่งชิงที่ดินได้มีข้อตกลงเพื่อป้องกันการไล่ที่ของบรรพบุรุษขึ้นหรือที่เรียกว่า Memorandum of Understanding for Ancestral Domainศ.ดร. กามารุซซามานกล่าวถึงบทเรียนสำคัญของกระบวนการสันติภาพมินดาเนาว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องเอาทุกฝ่ายเข้าร่วมในกระบวนการพุดคุยเพื่อสันติภาพและต้องมีผู้เข้าร่วมโดยเฉพาะผู้มีส่วนได้เสียและผู้ได้รับผลกระทบเข้าร่วมให้มากที่สุด เพราะผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมอาจจุรู้สึกว่าตนถูกละทิ้ง กระบวนการพูดคุยจะต้องมีฝ่ายที่สามที่จะช่วยให้เป็นหลักประกัน ซึ่งกระบวนการเจรจาสันติภาพมินดาเนามี International contact group จำนวน 4 ประเทศ และมีองค์กรระหว่างประเทศ 4 องค์กรที่เป็นฝ่ายที่สามในการติดตามการเจรจา และทำสำคัญอย่างยิ่งคือจะต้องมีการปรึกษาหารือกับประชาชนส่วนใหญ่แม้ว่ากระบวนการพูดคุยจะกระทำกันอยู่ในห้องลับก็ตามกระบวนการสันติภาพมินดาเนาสามารถบรรลุผลสำเร็จได้นั้น ศ.ดร. กามารุซซามาน กล่าวว่าเป็นเพราะรัฐบาลฟิลิปปินส์มีความจริงใจในการแก้ปัญหาและต้องการให้เกิดสันติภาพในพื้นที่ความขัดแย้งซึ่งได้เกิดเขตปกครองพิเศษที่เรียกว่า Bangsa Moro ขึ้นซึ่งเป็นคำใหม่ที่ถูกบัญญัติขึ้นโดยมีความครอบคลุมถึงพื้นที่ เชื้อชาติ วัฒนธรรมและการการบริหารการปกครองซึ่งกระบวนการทั้งหมดมีกำหนดที่จะให้เสร็จสมบูรณ์ในปี 2015ศ.ดร. กามารุซซามาน กล่าวถึงกระบวนการสันติภาพปาตานีที่เริ่มมีการพูดคุยเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมาว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เป็นหลักประกันความสำเร็จคือ กระบวนการพูดคุยที่เกิดขึ้นมีความจริงใจในการแก้ปัญหาแค่ไหน มีองค์ประกอบอะไรบ้างในกระบวนการพูดคุย มีกระบวนการติดตาม (Peace Monitoring) อย่างไร ตัวแทนการพูดคุยเป็นเป็นตัวแทนของประชาชนจริงหรือ มีเจตจำนงเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดคือองค์ประกอบที่จะนำไปสู่ความสำเร็จดร.นอร์เบิร์ต โรเปอร์ส นักวิจัยอาวุโสสถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวในการแลกเปลี่ยนบนเวทีว่าข้อแตกต่างระหว่างกระบวนการสันติภาพมินดาเนากับปาตานีคือ ที่ฟิลิปปินส์มีกระบวนการเจรจามากว่า 2 ทศวรรษแล้วในขณะที่ปาตานีเพิ่งเริ่มเพียง 1 ปี อย่างไรก็ตามเมื่อประเมินความสำเร็จของกระบวนการพูดคุยสันติภาพปาตานีก็จะเห็นได้ใน 3 ประการประการแรกคือ รัฐบาลไทยยอมรับว่าความขัดแย้งและความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งทางการเมืองและต้องแก้ไขด้วยแนวทางทางการเมือง ประการที่สองคือ การที่รัฐไทยยอมรับให้รัฐบาลมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกในกระบวนการพูดคุย แม้ว่าทั้งรัฐไทยและ BRN ไม่มั่นใจในผลประโยชน์ของมาเลเซียในบางระดับ ซึ่งมีข้อพิจารณาว่าอาจจะต้องมีประเทศอื่นๆ มาเป็นสักขีพยาน เป็นหลักประกันกระบวนการพูดคุยประการที่สาม นอร์เบอร์ตเห็นว่าการที่ BRN มีข้อเสนอ 5 ข้อนั้น จะทำอย่างไรให้ข้อเสนอนี้ได้รับการพิจารณา ให้ฟื้นคืนและกลับเข้ามามีส่วนในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพซึ่งอยู่ในสภาพที่ชะงักงันในขณะนี้ดร.นอร์เบิร์ต โรเปอร์สกล่าวว่าปัญหาการเมืองของไทยที่ทำให้กระบวนการพูดคุยสันติภาพหยุดชะงักเป็นเวลานานในช่วงนี้ ฝ่ายประชาชนจะต้องวางรากฐานให้กระบวนการพูดคุยฟื้นคืนมาให้ได้ โดยจะต้องทำให้องค์กรที่เกี่ยวข้องในพื้นที่มีความรู้ความเข้าใจในการหาทางออก อาจจะต้องเรียนรู้จากำมินดาเนาที่จะต้องเรียกหาคนอื่นๆ ให้มามีบทบาท ประสานกับองค์กรภายนอกให้ตัวแสดงอื่นๆ แสดงบทบาทจากภายนอกด้วยผศ.ดร.กุสุมา กูใหญ่ รองคณบดีคณะวิทยาการสื่อสารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวถึงบทบาทของสื่อในกระบวนการสันติภาพว่าปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นคือ ในสถานการณ์ความขัดแย้งสื่อมักใช้ กรอบความมั่นคง ในการมองปัญหา ทำให้สื่อนำเสนอเนื้อหาการต่อสู้ ต่อรอง ซึ่งไม่ได้เกิดเป็นผลบวกต่อกระบวนการพูดคุยผศ.ดร.กุสุมา เห็นว่าเมื่อเกิดกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพแล้ว สื่อควรจะต้องเปลี่ยนกรอบการมองปัญหาเป็น กรอบสันติภาพ ซึ่งจะต้องข้ามพรมแดนการนำเสนอโดยการมองหาฮีโร่ ผู้ล่า ผู้ถูกล่า โดยจะต้องนำเสนอให้สาธารณะชนเห็นความถูกต้อง มองเห็นอะไรที่ซ่อนอยู่ เพราะในกระบวนการพูดคุยยังมีอะไรที่ถูกเก็บงำอีกมากผศ.ดร.กุสุมา กล่าวว่าสื่อจะต้องไม่เป็นส่วนหนึ่งของคู่เจรจา หรือแสดงบทบาทราวกับเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ต้องไม่มองว่าการพูดคุยสันติภาพเป็นคู่ตรงข้ามที่มีฝ่ายได้เปรียบเสียเปรียบ ทั้งนี้สื่อสามารถหนุนเสริมกระบวนการสันติภาพได้โดยการรายงานข้อเท็จจริงทั้งเรื่องอดีต ปัจจุบันและการวาดภาพอนาคต โดยการเชื่อมต่อของเวลาจะทำให้เราสามารถเป็นอนาคตร่วมกันได้
เวทีบรรยายสาธารณะมุมมองจากมาเลเซียต่อกระบวนการสันติภาพปาตานี ดร.แซม ชี้การเจรจาต้องมีความจริงใจและการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายโดยเฉพาะผู้มีส่วนได้เสีย และการเจรจาต้องมีสักขีพยานเป็นหลักประกัน
การเมือง,คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,ความมั่นคง
กระบวนการสันติภาพ,ชายแดนใต้,ต่างประเทศ,มินดาเนา,สัมภาษณ์,อาเจะห์
https://prachatai.com/journal/2014/05/53177
พายุคะนองที่สกลนคร ทำอ่วมอีกรอบ เจอทั้งฟ้าผ่า ไฟฟ้าดับ หลังคาปลิว (คลิป)
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 17 พ.ค. 61 ได้เกิดพายุฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดสกลนคร สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนประชาชน ต้นไม้หักโค่นล้มทับถนนหลายเส้นทาง และมีฟ้าผ่าจนส่งผลให้ไฟฟ้าดับ โดยภายในเขตเทศบาลนครสกลนคร เกิดมีฝนตกอย่างหนักและมีลมพายุพัดแรง ฟ้าผ่าหลายครั้งจนไฟฟ้าดับทั้งเมือง โดยที่บริเวณห้างบิ๊กซีสาขาสกลนคร มีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกคลิปวิดีโอ ขณะที่ลมพายุพัดแรง ที่พัดเอาป้ายโฆษณาของบรรดาห้างร้านต่างๆ ปลิวกระจัดกระจายไปตามลม,นอกจากนี้ มีภาพเหตุการณ์ที่บริเวณหน้าห้างที่มีการกางเต็นท์ จัดแสดงของโชว์รูมรถยนต์แห่งหนึ่ง ถูกลมพายุพัดจนเต็นท์ยกลอยขึ้นปลิวตกลงมาทับรถที่จอดโชว์ไว้ด้านล่าง และรถของลูกค้าที่จอดไว้ริมถนนเสียหาย 3-4 คัน สำรวจรอบๆ เขตเทศบาลนคร พบร่องรอยต้นไม้ความเสียหายกระจายเป็นหย่อมๆ ทั้งหลังคาบ้านเรือนประชาชน ต้นไม้กิ่งที่หักโค่นปลิวกระจาย ถนนหลายสายถูกต้นไม้ล้มขวางทับไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้,ที่บริเวณถนน ต.พัฒนา เสาอากาศของสถานีวิทยุลูกทุ่งไทอิสาน ถูกพายุพัดโค่นล้มลงมาขวางถนน ส่วนที่บริเวณถนน สกล-กาฬสินธุ์ ช่วงบริเวณหน้าปั๊ม ปตท.ศูนย์ราชการไปจนถึงสี่แยกตะวันแดง มีน้ำท่วมขังเนื่องจากระบายไม่ทัน หน้าทางเข้าตลาดพีซีมีนั่งร้านเหล็กที่แขวนป้ายล้มลงมาขวางถนน เช่นกันกับที่ชุมชนหนองสนมถนนด้านหลังเมตตาธรรมมูลนิธิ ก็มีน้ำท่วมขังเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าที่บ้านหนองห้าง ม.4 ต.ม่วงลาย อ.เมือง มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจากการถูกพายุพัดหลังคาปลิวหายไป 2-3 หลัง แต่ยังไม่สามารถสรุปความเสียหายทั้งหมดได้ในขณะนี้,ขณะเดียวกัน มีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Alis Bowling ได้โพสต์ภาพขณะเกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าไว้ได้เป็นภาพสายฟ้าสีขาวที่ผ่าลงมาดูน่ากลัว จากการสอบถามเจ้าของภาพ คือ นางสาวอริสรา แก้วก่า ได้ความว่าภาพดังกล่าวเธอบันทึกไว้ได้ขณะอยู่ที่สมาคมชาวไร่อ้อยสกลนคร เป็นช่วงในขณะที่พายุฝนเริ่มตกหนักและมีฟ้าผ่าฟ้าคะนองอยู่เป็นระยะๆ จึงได้หยิบมือถือขึ้นมาลองถ่ายดูก็ปรากฏว่าถ่ายติดได้ภาพขณะฟ้าผ่าลงมาพอดี แต่ก็ไม่ทราบจุดที่ฟ้าผ่าว่าเป็นจุดใด โดยล่าสุด จนท.หลายหน่วยงานได้เคลียร์ต้นไม้และเศษสิ่งปรักหักพังออกจากถนน ขณะที่ จนท.การไฟฟ้า ก็ดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขจนสามารถจ่ายกระแสไฟได้เกือบทั้งหมดแล้ว.
พายุฝนกระหน่ำหนักที่สกลนคร อ่วมไปตามๆ กันเจอทั้ง ฟ้าผ่า ไฟฟ้าดับ ต้นไม้หักโค่น หลังคาบ้านและเต็นท์ปลิวกระจาย หล่นทับรถหน้าห้างบิ๊กซีเสียหายหลายคัน
ข่าว,ทั่วไทย
สกลนคร,พายุถล่ม,ไฟฟ้าดับ,หลังคาปลิว,เต็นท์ปลิว,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1284631
เด็กมข.ล่ารายชื่อปลดกกต. มึนตึ้บ ความหมาย บัตรเขย่ง
เวลา 13.00 น. วันที่ 29 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. ได้มีนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นทยอยกันมาร่วมลงลายชื่อเพื่อถอดถอนคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. โดยเฉพาะนักศึกษาที่เป็นสมาชิกของกลุ่ม ดาวดิน ได้มาร่วมลงชื่อถอดถอน กกต. กันตลอดทั้งวัน,นายธีระวัฒน์ รูปใหญ่ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะนิติศาสตร์ มข. กล่าวว่า การตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อยื่นถอดถอน กกต. ของนักศึกษา มข. ในวันนี้ ทุกคนล้วนมีความเห็นร่วมกันว่าการกระทำของ กกต.เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มคนบางกลุ่ม ทั้งที่ควรวางตัวเป็นกลาง โดยที่ล่าสุด กกต.ได้ออกมาแถลงข่าวถึงผลการนับคะแนน ที่คะแนนของพรรคการเมืองบางพรรคเพิ่มขึ้นจำนวนมหาศาล และ กกต.ก็ตอบว่าเกิดจากบัตรเขย่ง ,ผมเรียนกฎหมายมายังไม่เคยได้ยินเลยคำว่า บัตรเขย่ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการแก้ตัวของ กกต.แบบน้ำขุ่นๆ อีกทั้งในการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ประเทศ นิวซีแลนด์ ที่มีบัตรเลือกตั้งจำนวน 1,542 ใบ ที่ก่อให้เกิดความสงสัยต่อเหตุการณ์ขึ้นในขณะนี้ แทนที่ กกต.จะออกรับผิดชอบกลับบอกว่าเป็นบัตรที่ไม่สามารถนำมานับได้ ซึ่งก็ไม่แตกต่างอะไรกับบัตรเสีย ผมมองว่าเป็นการไม่เคารพสิทธิ์ของประชาชน แต่ถ้าจะรอให้ กกต.รับผิดชอบด้วยการลาออกเองคงไม่มีความหวัง,นายธีระวัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า การพร้อมใจกันของกลุ่มนักศึกษาในการลงลายชื่อเพื่อถอดถอน กกต. นั้นนักศึกษาเห็นว่าการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ของ กกต.ชุดปัจจุบัน มีความคลุมเครืออยู่หลายประการ มีการกระทำที่ไม่โปร่งใส ไม่ว่าจะเป็นความผิดปกติของผลคะแนนที่เกิดขึ้นในหลายเขตเลือกตั้ง ความผิดปกติในกระบวนการดำเนินการเลือกตั้ง การนับคะแนนเสียง และปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้รับการอธิบายต่อสังคมอย่างโปร่งใส ก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยในผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นต่อประชาชนทั่วไป ดังนั้น กกต.ชุดนี้จึงควรแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการลาออกสถานเดียว เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ใหม่ โดย กกต.ชุดใหม่เท่านั้น.
นักศึกษามข. ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อถอดถอนกกต. สมาชิก กลุ่มดาวดิน ร่วมด้วย จี้ ต้องลาออกยกชุด จัดการเลือกตั้งใหม่ด้วย กกต.ชุดใหม่ ชี้ ยกคำ บัตรเขย่ง คือการแก้ตัว
เลือกตั้ง
เลือกตั้ง62,กกต.,ปลดกกต.,บัตรเขย่ง,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1532740
เซลล์สาวชุมพรขี่ จยย.มุดท้ายสิบล้อจอดไหล่ทาง คอหักดับคาที่
เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 4 ก.ย.61 ร.ต.อ.ธนเทพ สุวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถ จยย.ชนกับรถบรรทุกสิบล้อ มีผู้เสียชีวิตที่บริเวณถนนตัดใหม่สายทางตัน-ท่าแซะ หมู่ที่ 2 ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ,ที่เกิดเหตุบนถนนสายตัดใหม่ห่างจากแยกไปแดงบ้านหนองส้มประมาณ 200 เมตร พบรถบรรทุกสิบล้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 70-2568 ชุมพร บรรทุกอาหารสัตว์เต็มคัน มีผ้าใบปิดคลุมมิดชิดจอดเปิดไฟเหลืองหน้าหลังกะพริบอยู่ในช่องขอบไหล่ทาง บริเวณท้ายรถสิบล้อ พบรถ จยย.ยามาฮ่า แกรนด์ฟีลาโน่ ไฮบริด สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพพุ่งชนมุดเข้าไปเสียบคาอยู่ใต้ท้องจนพังยับเยิน ส่วนบนพื้นถนนไหล่ทาง พบศพทราบชื่อ น.ส.อุไรวรรณ ผุดวรรณา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 5 ตำบลนากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร มีอาชีพเป็นเซลล์ติดต่อขายสินค้าเบ็ดเตล็ดทั่วไปให้กับผู้ประกอบการใน จ.ชุมพร,นอนจมกองเลือดสภาพศพใส่เสื้อยืดคอกลมสีดำแขนยาว นุ่งกางเกงยีนส์รัดรูปสีดำ คลุมทับด้วยเสื้อกันฝนสีฟ้า สวมรองเท้าหุ้มส้นสีดำยี่ห้อดัง ศีรษะยุบ คอหัก มีเลือดไหลออกทางปากจมูก ข้างศพมีหมวกนิรภัยสีชมพูคาดขาวตกอยู่ และกระจกกันลมสีดำทึบแตกหล่นใกล้ๆ กัน ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการเบรกแต่อย่างใด โดยมี นายนราศักดิ์ สุนทรกุล อายุ 25 ปี ชาวบ้าน หมู่ 2 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร คนขับรถบรรทุกสิบล้อยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ,จากการสอบสวน นายนราศักดิ์ คนขับรถบรรทุกสิบล้อคันเกิดเหตุ ให้การว่าได้กลับจากไปบรรทุกอาหารสัตว์ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อจะนำมาส่งให้กับนายจ้างในท้องที่ตำบลนาชะอัง อ.เมืองชุมพร ขณะเกิดเหตุช่วงเช้ามืดได้แวะจอดรถบนไหล่ทาง พร้อมเปิดไฟกะพริบหน้าหลังใกล้กับหน้าบ้านพัก เพื่อจะลงไปกินข้าวเช้าก่อนจะนำอาหารสัตว์ไปส่งให้กับนายจ้าง ขณะเข้าไปที่บ้านพักได้ราว 5 นาที ซึ่งห่างจากถนนประมาณ 20 เมตร ได้ยินเสียงดังโครมเหมือนรถถูกชน จึงออกมาดูพบว่ามีคนขี่รถ จยย.ชนท้ายรถสิบล้อเสียชีวิต จึงโทรศัพท์ไปบอกนายจ้าง และแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะต้องสอบสวนพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.
เซลล์แมนสาวที่ชุมพร ขี่ จยย.แกรนด์ฟีลาโน่ มุดท้ายรถสิบล้อที่จอดบนไหล่ทางริมถนนสายทางตัน-ท่าแซะ คอหักดับอนาถ เมื่อตอนช่วงเช้ามืด
ข่าว,ทั่วไทย
จยย.ชนท้ายสิบล้อ,สาวชุมพร,ชุมพร,คอหักตาย,จยย.มุดท้ายสิบล้อ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1368494
เทศกาลพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ภูมิรู้ สู้วิกฤต
จ.แพร่ เป็นพื้นที่ที่ทหารญี่ปุ่นใช้เป็นทางผ่านไปพม่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อสงครามยุติลง ชาวบ้านได้พบระเบิด 3 ลูก แล้วนำไปให้ที่วัด ซึ่งคุณสมบัติที่มีเสียงก้องกังวาล ก็ถูกนำมาทำเป็นระฆัง นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ให้เป็นถึงปัญหาของสงคราม ยังให้คนรุ่นใหม่ได้ศึกษาด้วยให้เสียงก้องกังวานไม่ต่างจากระฆังจริงๆ หากนี่เป็นระเบิด 1 ใน 3 ลูก ที่ชาวบ้านจังหวัดแพร่เก็บกู้ได้จากลำน้ำตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2488 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติ แต่เดิมชาวบ้านนำซากระเบิดมาตัดท้ายแล้วทำเป็นถังใส่น้ำใช้ล้างเท้าหน้าบ้าน แต่เห็นประโยชน์ที่เหนือกว่าและเพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ จึงจัดพิธีแห่ลูกระเบิดนำไปมอบให้กับวัดในชุมชน เป็นที่มาของคำว่า แพร่แห่ระเบิด และกลายเป็นอีกสัญลักษณ์ของจังหวัดแพร่ที่ถ่ายทอดเรื่องราวครั้งประสบภัยสงคราม 1 ในข้าวของเครื่องมือเครื่องใช้ที่สร้างสรรค์ในช่วงเวลาวิกฤตจากภัยสงคราม ในเทศกาลพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ภูมิรู้ สู้วิกฤตชาวบ้านเขาเห็นว่ามันดัง กังวานเขาก็เอาไปให้ที่วัด ตอนนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ ก็มีเด็กๆ ที่มาก็จะมาดู มาศึกษาเรื่องราวจากระฆังนี้ พัฒน์ อารินทร์ เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์วัดศรีทองคำ จ.แพร่ขบวนแห่นางแมวที่สนุกสนาน เดินสายแห่รอบงานให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้ประเพณีขอฝนของชาวอีสาน ไม่เพียงให้หลายคนได้ฟังเพลงเซิ้งสนุกๆอย่างใกล้ชิด ยังได้สัมผัสกับการพยายามอยู่รอดในภาวะฝนแล้งของชาวบ้านผ่านพิธีกรรมความเชื่อ ทั้งยังได้เรียนรู้ที่มาและความหมายผ่านอุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีขอฝนในช่วงสงครามที่ชาวบ้านต้องเอาตัวรอด ข้าวของเสียหายไม่เว้นแม้แต่เครื่องนุ่งห่ม วัสดุจากธรรมชาติอย่างกาบกล้วย จึงถูกนำมาสานเป็นชุดสำหรับสวมใส่ // ความพยายามเอาตัวรอดอยู่ร่วมกับวิกฤตด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนไทยในอดีต สะท้อนสติปัญหาและการนำสิ่งรอบตัวมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้สามารถอยู่ได้ไม่ว่าสถานการณ์ใดเราเห็นของหลายอย่างที่คนสมัยก่อนคิดค้น อย่างบางคนเขาคิดเรือแบบง่ายๆ เพื่อให้อยู่ได้ในน้ำท่วม บางทีเราก็เออ เวลามีปัญหา อย่างเช่น การดูพฤติกรรมของสัตว์ที่บอกภัยพิบัติได้ เราก็จำไว้ เพราะสามารถเอาไปใช้ได้ ปริญญา ปัญญานันท์ - ธนพร สมบูรณ์ ผู้ร่วมงานประเพณีพื้นบ้านที่นำมาเป็นตัวชูโรงเรียกนักท่องเที่ยว อาจช่วยให้งานสลากภัตของชาวเหนือเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ขนาดและความสวยงามของสลากภัตจึงถูกให้ความสำคัญมากกว่าความหมายและคุณค่าที่แท้จริงของประเพณี ตัวอย่างวิกฤตวัฒนธรรมสะท้อนความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อวิถีท้องถิ่น เทศกาลพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ภูมิรู้ สู้วิกฤต จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 นำข้าวของ เครื่องมือเครื่องใช้ ถ่ายทอดภูมิความรู้ที่ช่วยขจัด ปัดเป่า บรรเทาปัญหาในแต่ละท้องถิ้นชุมชน ให้อยู่รอดในช่วงวิกฤต 5 เรื่อง ได้แก่ โรคภัยไข้เจ็บ สงครามการเมือง เศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม ให้คนรุ่นใหม่ได้ศึกษา นำภูมิรู้มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เทศกาลพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ภูมิรู้ สู้วิกฤต จัดขึ้นจนถึงวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ ที่ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ข้าวของเครื่องใช้ที่ผ่านกาลเวลาไม่เพียงบอกเล่าประวัติศาสตร์ หากยังสะท้อนภูมิความรู้ของผู้สร้างสรรค์ที่นำมาใช้ในยามวิกฤตต่างๆให้สามารถอยู่รอดและผ่านพ้นไปได้ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น นำมาให้ได้เรียนรู้ในเทศกาลพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ภูมิรู้ สู้วิกฤต
ศิลปะ-บันเทิง
พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น,ภูมิรู้,สู้วิกฤต,เทศกาล
https://news.thaipbs.or.th/content/128639
มทภ.2 ติวเข้มงานมั่นคง 20 จังหวัด สั่งกำชับดูแลพื้นที่ชายแดน
เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.59 ที่สโมสรร่วมเริงไชย กองทัพภาคที่ 2 พล.ท.วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานการประชุมมอบนโยบาย และแนวทางการปฏิบัติงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้ง 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ในฐานะเจ้าของพื้นที่กล่าวต้อนรับ ร่วมผู้ว่าราชการจังหวัด ทหาร ตำรวจ และฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับมอบนโยบายอย่างพร้อมเพรียงกัน ทั้งนี้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงต่างๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งเรื่องการป้องกัน ปรามปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญหาแรงงานต่างด้าว การค้ามนุษย์ การตัดไม้ทำลายป่า โดยเฉพาะต้นพะยูง เป็นต้น,พล.ท.วิชัย ได้เน้นย้ำแก่ทุกฝ่าย ให้เกิดความสงบเรียบร้อยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่สลับซับซ้อนทำให้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ได้วางแผน อำนวยการ–บูรณาการ และประสานงาน กำกับดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติ ประกอบด้วย การรักษาความมั่นคงพื้นที่ตามแนวชายแดน–การป้องกันและอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้-การลักลอบเข้าเมือง-การก่อการร้ายข้ามชาติ และการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความปรองดองสมานฉันท์ เป็นต้น นอกจากนั้นได้เน้นย้ำให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาเพื่อลดต้นทุนการผลิตและจัดหาตลาดจำหน่ายข้าวเปลือกและข้าวสารบรรจุถุงเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้,ทั้งนี้ ส่วนด่านถาวรหรือด่านการค้าชายแดนในพื้นที่รับผิดชอบเราก็ยังคงเปิดปกติ แต่มีการคุมเข้ม เพื่อให้ชาวบ้านเป็นหูเป็นตา โดยมีการบูรณาการร่วมกันของกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และประชาชน ซึ่งมีหน่วยทหารที่ดูแลชายแดนอยู่ โดยเฉพาะสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด รวมทั้งรถบรรทุกพืชผลทางการเกษตรที่อาจจะมีการสอดแทรกหรือสอดไส้เข้ามาด้วย ทั้งข้าวเปลือกและมันสำปะหลังที่เข้ามาจำนวนมาก และสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ เหล่านี้ต้องมีการตรวจตราเข้มข้นมากขึ้น พล.ท.วิชัย กล่าว.
มทภ.2 ติวเข้มฝ่ายความมั่นคงทั้ง 20 จังหวัดภาคอีสาน สั่งกำชับดูแลพื้นที่ชายแดน ย้ำผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดเร่งช่วยเหลือชาวนา ระบุด่านถาวรยังเปิดปกติ แต่คุมเข้มรถบรรทุกพืชผลการเกษตรทั้งข้าวเปลือกและมันสำปะหลัง
null
แม่ทัพภาคที่2,มอบนโยบาย20จังหวัด,งานความมั่นคงภาคอีสาน,ช่วยชาวนา,ด่านการค้าชายแดน
https://www.thairath.co.th/content/804457
เกิดเหตุปะทะ จ.ปัตตานี จนท.เจ็บ 3 นาย-ผู้ก่อเหตุเสียชีวิต 1 คน
เมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.2558) เจ้าหน้าที่สนธิกำลัง 3 ฝ่าย ร่วมติดตามจับกุมและปฏิบัติตามกฎหมายในพื้นที่ ม.1 บ.บูดล ต.ปะโด อ.มายอ จ.ปัตตานี หลังจากแหล่งข่าวในพื้นที่แจ้งความเคลื่อนไหวของผู้ก่อความไม่สงบ และเมื่อตรวจสอบแล้วจึงได้ให้ผู้นำในพื้นที่เจรจาเพื่อขอให้ออกมามอบตัว จนกระทั่งมีผู้ออกมามอบตัว 2 คน คือ นายนิอิดือเระ เจะแห อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 43/17 ม.5 ต.ลูโบะยีไร อ.มายอ จ.ปัตตานี และนายอาชิ ดาโอง อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 31/4 ม.5 ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานีเจ้าหน้าที่ได้ทำการซักถามเบื้องต้น ทราบว่าทั้ง 2 คนเป็นกลุ่มอาร์เคเค ระดับแกนนำปฏิบัติการ นายนิอิดือเระ ให้การว่าซุกซ่อนอาวุธปืนไว้ภายในบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ พร้อมกับผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าของบ้าน ได้นำตัวนายนิอิดือเระ เข้าไปภายในบ้านเพื่อนำไปชี้จุดที่ซุกซ่อนอาวุธปืนพกขนาด 9 มม. ยี่ห้อซีแซด ที่ซุกซ่อนอยู่ในที่นอน ระหว่างที่นายนิอิดือเระเข้าไปในบ้านและทำท่าว่าจะชี้จุดซุกซ่อนปืนพกดังกล่าว แต่ได้หยิบอาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ จนทำให้เกิดการปะทะ โดยเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 3 นาย คือ ร.ต.อ.วิเชษ แห้วขุดทด ร.ท.นพพร มารวิชัย และ อส.ทพ.อำนวย ชูวงศ์ นำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ส่วนนายนิอิดือเระ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนเข้ามาหลบซ่อนตัวในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อนัดประชุมกับกลุ่มผู้ก่อเหตุอื่นๆ เกี่ยวกับการเตรียมก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ แต่เจ้าหน้าที่ได้ทราบความเคลื่อนไหวก่อนขณะที่ผู้สื่อข่าว รายงานว่าเวลาประมาณ 01.00 น. วันนี้ (14 พ.ค.2558) ได้ควบคุมตัวนายอับดุลอาซิ ดาโอง และนายมูซอ แมรีวา เจ้าของบ้าน ซึ่งจะถูกส่งตัวไปดำเนินการกรรมวิธีที่หน่วยซักถาม ฉก.ทพ 43 เพื่อทำการสอบสวนต่อไป ส่วนในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ยังคงสนธิกำลังเข้าตรวจค้นอย่างต่อเนื่อง
เจ้าหน้าที่สนธิกำลัง 3 ฝ่าย ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายใน จ.ปัตตานี หลังมีรายงานความเคลื่อนไหวของผู้ก่อความไม่สงบ ก่อนเกิดการปะทะทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 3 นาย และผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 1 คน ขณะนี้ได้คุมตัวเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ 2 คน เพื่อสอบสวนต่อไป
ภูมิภาค
##@3 จังหวัดชายแดนใต้,ความไม่สงบ,จ.ปัตตานี,นายนิอิดือเระ เจะแห##@
https://news.thaipbs.or.th/content/1561
คิดถึงพ่อมิลืมเลือน+งานเด็ก กุ๋งกิ๋ง เที่ยวไทย
มาเริ่มกันด้วยงานใหญ่ของ พิพิธภัณฑ์เกษตร เฉลิมพระเกียรติฯ หมู่ 13 ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี สืบทอดพระราชปณิธานมิลืมเลือน ที่จะเริ่มวันนี้ (2 ก.ย.) ถึงพรุ่งนี้ (3 ก.ย.) ณ บริเวณพิพิธภัณฑ์ ตรงข้าม โรงพยาบาลการุญเวช (นวนครเดิม),พบกับหลักสูตรอบรมด้านเกษตร 2 ชั่วโมง ทำมาหากินได้ 12 หลักสูตร พร้อมตลาดนัดการเกษตร นำสินค้าสดๆคาวๆ วางจำหน่าย สนองศรัทธานักช็อป และพลาดไม่ได้กับนิทรรศการ คิดถึงพ่อมิลืมเลือน และนิทรรศการการทรงงานด้านเกษตรตลอด 70 ปีที่ทรงครองราชย์ ณ อาคาร ในหลวงรักเรา ที่จะเปิดให้เข้าชมโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย,นี่ก็งานด้านเกษตรบวกกับของดีจังหวัดนครปฐมขอเชิญร่วมชมร่วมชิมและช็อปในงาน วันส้มโอนครชัยศรี และของดีนครปฐม จัดโดย หอการค้านครปฐม และ จังหวัดนครปฐม ที่จะเริ่มตั้งแต่ 7-13 กันยายนนี้ พบกับสุดยอดส้มโอพันธุ์ดีจาก สวนส้มไทยทวี และสวนดังอื่นๆแบบเต็มพิกัด พรั่งพร้อมด้วยของอร่อยนครปฐม อาทิ เป็ดย่าง เป็ดพะโล้ เจ้าสัวโภชนา ขนมเปี๊ยะ ครูสมทรง ข้าวหลาม แม่แอ๊ด วุ้นมะพร้าว โชคดียืนยง ฯลฯ กว่า 80 ร้านค้า ที่ เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา,จากส้มโอไปสู่อัญมณี กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวง พาณิชย์ จัดงานแสดงสินค้า อัญมณีและเครื่องประดับครั้งที่ 60 ระหว่าง 6-10 ก.ย.นี้ โดยในช่วง 6-8 ก.ย.เป็นการเจรจาธุรกิจระหว่างพ่อค้าแม่ขายทั้งในและต่างประเทศ จากนั้น 9-10 ก.ย. จะเปิดสำหรับบุคคลทั่วไปข่าวแจ้งมาอย่าลืมแวะบูธ The Niche Showcase ซึ่งจะมีอัญมณีและเครื่องประดับสวยงามคลาสสิกให้เลือกซื้อจำนวนมาก,สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ขอเชิญผู้ประกอบธุรกิจ อุตสาหกรรมอาหารเข้าร่วมสัมมนาเรื่อง นวัตกรรมหรือธรรมชาติ วันที่ 14 ก.ย. เวลา 08.30 น. ณ ห้องจูเนียร์บอลรูม โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ แกรนด์ สุขุมวิท ขอข้อมูลได้ที่ 0-2422-8688 ต่อ 3109,บริษัท เคพีเอ็นไชนีส อะคาเดมี ขอเชิญหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนและผู้ประกอบการร่วมสัมมนาฟรีในหัวข้อ เสริมสร้างศักยภาพพนักงานด้านภาษาจีน วันพุธที่ 20 ก.ย. เวลา 13.00 น. ณ โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยท์ เทอร์มินอล 21 สอบถามรายละเอียดที่ 0-2717-0187 หรือ ,www.kpnchinese.com, ภายใน 5 กันยายน,นักล่ารางวัลโปรดทราบ ช่อง 9 MCOT HD ขอเชิญเยาวชนและประชาชน ไม่จำกัดเพศอายุ ตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป เข้าร่วมการประกวดออกแบบ สติกเกอร์ กับรายการไนน์เอ็นเตอร์เทน ของ อสมท ชิงรางวัล 150,000 บาท เฉพาะสติกเกอร์ ชนะเลิศจะได้ถึง 100,000 บาท หาข้อมูลด่วนที่ 0-2201-6071 หรือ ,www.nineentertain.tv, หมดเขต 30 ก.ย.,จากหนังสืออ่านสำหรับเด็กที่ทำสถิติยอดขายเกือบ 3 ล้านเล่ม ของ แปลน ฟอร์คิดส์ กุ๋งกิ๋ง ตัวละครเอกที่น้องๆหนูๆรู้จักดีจะกลับมาจัดงานปาร์ตี้ ตอน กุ๋งกิ๋ง เที่ยวทั่วไทย พาเด็กๆท่องเที่ยวทั่วไทย ในโซนกิจกรรมที่จะมีกิจกรรมให้เด็กๆได้เพลิดเพลินและเรียนรู้เมืองไทยครบ 5 ภาค ณ ห้องจัดเลี้ยงทีโอที สำนักงานใหญ่ ทีโอที ถนนแจ้งวัฒนะ 7-10 กันยายนนี้ มีทั้งรอบโรงเรียนและรอบผู้ปกครองจองบัตรและขอรายละเอียดได้ที่ 0-2575-2559 หรือ ,www.planforkids.com,ข่าวหนังสือสัปดาห์นี้เป็นของ สยามอินเตอร์ ทั้งชุดเลยครับ เริ่มจากนวนิยายอิงประวัติศาสตร์สุดอลังการ ย้อนเวลาขึ้นเป็นอ๋อง จากการรจนาของ เยี่ยกวน เจียระไนเป็นภาษาไทย โดย น.นพรัตน์ ล่าสุด มาถึงเล่ม 11มหากาพย์แห่งเหมาซาน ประพันธ์โดย ต้าลี่จินกังจ่าง แปลโดย หลินหยาง มาถึงเล่ม 8ไฟรักไฟสงคราม ของ จิ่วถู แปลโดย จิระกิตติ์ ลิ่มธันยพงศ์ มาถึงเล่ม 5, หมี่เยวี่ยจอมนางพลิกแผ่นดิน ของ เจี่ยงเซิ่งหนาน แปลโดย ดารินทิพย์ มาถึงเล่ม 10 และ เหยี่ยวมารสยบสิบทิศ ของปรมาจารย์ หวงอี้ ผู้ล่วงลับ แปลโดย น.นพรัตน์ มาถึงเล่ม 18 เล่มจบสมบูรณ์ของภาคนี้อย่าลืมหาอ่านด้วยละกันเนื้อที่พอมีเหลือ แถมให้อีกเล่มละกันครับ จิตลวงร่าง หรือ Lock In แต่งโดย จอห์น สกัลซี แปลเป็นไทยโดย วีรวัฒน์ เตชะกิจจาทร จัดพิมพ์โดย แม็กซ์ พับลิชชิ่ง ในเครือโมโนกรุ๊ป.,ซูม
วันเสาร์ที่ 2 กันยายน 2560 เสาร์แรกของเดือนที่ 9 แห่งปี เวียนมา ถึงพร้อมรายการ เสาร์สารพัน ชวนเที่ยวงานชวนอ่านหนังสือกลับมารับใช้ท่านผู้อ่านเช่นเคย
null
เหะหะพาที,ซูม,เสาร์สารพัน,พิพิธภัณฑ์เกษตร เฉลิมพระเกียรติฯ,หนังสือน่าอ่าน
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1056744
ขอทาน AEC EP.1 เขมรถึงพัทยา ไล่ล่านายหน้าค้ามนุษย์ ทารก1ด.ยังถูกใช้หาเงิน (ชมคลิป)
คุณว่า วณิพก กับ ขอทาน แตกต่างกันไหม ในเมื่อปลายทางคือการขอเงิน?,คำตอบของคำถามนี้คือ แตกต่าง เนื่องจากตาม พ.ร.บ.คุ้มครองขอทาน ปี พ.ศ.2559 ระบุชัดๆ ในมาตรา 13 ว่า,การกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไปนี้ให้ถือว่าเป็นขอทาน,(1) การขอเงินหรือทรัพย์สินจากผู้อื่นเพื่อเลี้ยงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการขอด้วยวาจา ข้อความ หรือ การแสดงกิริยาอาการใด ,(2) การกระทำด้วยวิธีการใดให้ผู้อื่นเกิดความสงสารและส่งมอบเงินหรือทรัพย์สินให้,ทั้งนี้ตาม ,มาตรา 19 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 13 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ,นี่คือ ขอทาน ,ส่วน ,วณิพก, นั้น ตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้ระบุว่า การแสดงความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรีหรือการแสดงอื่นใด เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินหรือทรัพย์สินจากผู้ชมหรือผู้ฟัง การขอเงินหรือทรัพย์สินกันฐานญาติมิตร หรือ การเรี่ยไรตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการเรี่ยไร ไม่ถือว่าเป็นการขอทาน ตามพระราชบัญญัตินี้,แต่การจะเป็น วณิพก ขอเงินนั้น ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นด้วยนะ หากไม่แจ้งก็อาจเจอเจ้าหน้าที่สั่งให้หยุดได้,ที่ผ่านมา เวลาเราจะให้เงินใครสักคนนั้น มันเริ่มจากอะไร แน่นอนคำตอบคือ สงสาร แล้ว คนเหล่านี้น่าสงสารจริงหรือไม่ อันนี้ตอบยากคงต้องตามดูถึงบ้าน ,เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ร่วมกับหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย ตำรวจท่องเที่ยว สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตำรวจในพื้นที่ เมืองพัทยา เข้าปฏิบัติการกวาดล้างขอทาน (อีกครั้ง),สิ่งที่แตกต่างคือการดำเนินการครั้งนี้ หากควบคุมตัวได้ ทุกคนจะถูกเจาะเลือดตรวจ DNA เพื่อชี้ชัดว่า เด็กที่นำมาขอทานนั้นเป็นลูกหลานจริงหรือไม่? ซึ่งในเรื่องนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้ติดตามปฏิบัติการไปถึงเมืองพัทยา ว่ากันว่า นี่คือแหล่งทำเงินของเหล่าขอทานอีกแห่ง เหตุเพราะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแจกหนัก,ก่อนเดินทางไป ทีมสืบสวนจับกุมได้ทำการแฝงตัวในพื้นที่หาข่าวเพื่อดำเนินการจับกุมขอทานชาวต่างด้าว ซึ่งจากการข่าวพบว่า เหล่าขอทานเหล่านี้ ส่วนใหญ่มาจากประเทศกัมพูชา และใช้วิธีการอุ้มเด็กมานั่งขอทานกลางแดดให้ดูน่าสงสาร ,โดยมีนายหน้าชาวไทยในพื้นที่ ขอย้ำ ในพื้นที่พัทยา เป็นตัวกลาง, ซึ่งมีการประสานความร่วมมือกับ นายหน้าชาวกัมพูชาในการอำนวยความสะดวกส่งตัวเข้ามาด้วยวิธีการเดินลัดเลาะตามเส้นทางธรรมชาติในฝั่งสระแก้ว,พ.ต.ต.จตุพร อรุณฤกษ์ถวิล ผอ.ส่วนป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ, ที่ลงมาทำงานนี้ด้วยตัวเอง กล่าวว่า สืบเนื่องจากมูลนิธิกระจกเงา มาร้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่ามีขบวนการขอทานนำพาเด็กมาเร่ขอทานที่พื้นที่พัทยา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว นับเป็นจังหวัดท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก,ที่ผ่านมา เราได้มีการจับกุมมาแล้วหลายครั้ง แต่จับแล้วก็จะกลับมาใหม่ วนซ้ำไปซ้ำมา เนื่องจากสิ่งที่ทำได้ในอดีตนั้นคือ การดำเนินการในข้อหา ,ต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง, เมื่อผลักดันกลับก็จะเดินทางเข้าใหม่ อย่างไรก็ดี ประจวบเหมาะที่ ทาง NGO ทางฝั่งกัมพูชา ได้เข้ามาร้องกับเราว่ามีเด็กคนหนึ่งที่ถูกผลักดันกลับ เราเขาเปิดเผยว่า เขาถูกบังคับให้ร่อนเร่ขอทาน เราจึงได้ลงไปสอบสวนกับตำรวจกัมพูชา,ดังนั้น ทางดีเอสไอจึงได้ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว นิติวิทยาศาสตร์ และบ้านไร้ที่พึ่ง (พม.เป็นผู้รับผิดชอบ) สิ่งที่แตกต่างคือ หลังจับกุมแล้ว เรานำมาตรวจ DNA เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นแม่ลูกกันจริงหรือไม่ ซึ่งผลการดำเนินงานปรากฏว่า เราจับได้ทั้งหมด 16 ราย ซึ่งแบ่งเป็นผู้ใหญ่(หญิงทั้งหมด) 7 ราย เด็ก 9 ราย เด็กชาย 6 คน เด็กหญิง 3 คน ทั้งหมดเป็นชาวกัมพูชา ที่เร่ร่อนขอทานตามจุดต่างๆ ในพื้นที่พัทยาเหนือ,ผลการตรวจ DNA นั้นต้องใช้เวลาในการตรวจอีกสักระยะ หากพบว่าคู่ไหนไม่ใช่แม่ลูกกัน ก็จะดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์ ทั้งนี้ ในเบื้องต้นมีการยอมรับแล้ว 3 คู่ ว่าไม่ใช่แม่ลูกกันจริง เนื่องจากอายุแตกต่างกันมาก ซึ่งเราได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ดี คนที่เราตามจับนั้น เรามั่นใจว่าเป็นกลุ่มแก๊งเดียวกันเนื่องจากได้ติดตามดูพฤติกรรมอยู่นานแล้ว ซึ่งมีรูปแบบเป็นผังเครือข่าย ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น เราบอกได้เลยว่าพอรู้ตัวแล้ว และจะมีการออกหมายเรียกให้มาชี้แจงต่อไป,ขณะที่ พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. กล่าวว่า พื้นที่พัทยามีนักท่องเที่ยวมาก ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ขอทานเข้ามาหากินจำนวนมาก เนื่องจากได้เงินมากกว่าในพื้นที่อื่น เราเองได้ร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่ได้กวดขันจับกุมมาตลอด แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งอื่น คือ เราร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมวางแผนกันก่อน,เท่าที่เคยสอบถามมา พบว่าขอทานในพื้นที่จะได้เงินประมาณวันละ 1,000 บาทขึ้นไป ทางเราก็ต้องตรวจสอบว่า เงินที่ได้มานั้นเขาต้องไปให้ใครหรือเปล่า หรือเก็บเข้ากระเป๋าตัวเองทั้งหมด,ที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามแก้ไขมาโดยตลอด ซึ่งกลุ่มขอทานเหล่านี้เลือกที่จะใช้เด็กมาทำมาหากิน ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ประเทศ การท่องเที่ยวเมืองพัทยา ยังไงฝากนักท่องเที่ยวชาวไทยหรือชาวต่างชาติว่าอย่าให้เงินเขาเลยยิ่งเราให้ก็ทำให้เขาสามารถมาประกอบอาชีพแบบนี้อยู่ต่อไป,ด้านนางรัตนาวลี วงษ์หาญ ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดชลบุรี, กล่าวว่า เด็กที่อยู่ในการดูแลนั้น ทาง พม.จะนำมาเลี้ยงดูชั่วคราวจนกว่าคดีจะเสร็จสิ้น ซึ่งจากนั้นก็จะนำเข้าสู่กระบวนการต่อไป โดยในเบื้องต้น หากเป็นแม่ลูกกันจริงเราก็จะไม่แยก หากแม่ถูกส่งกลับไปกัมพูชาลูกก็ต้องไปด้วย ส่วนที่ไม่ได้เป็นแม่ลูกกัน เราก็จะประกาศตามหาญาติ ทั้งนี้ส่วนใหญ่ที่พบคือ หากไม่ใช่แม่ลูกกันก็มักจะเป็นญาติพี่น้องกัน,ตามกฎหมายแล้ว ขอทานคนไทยกับต่างด้าว เราจะแยกส่วนกัน คือ คนไทย ทาง พม. จะเป็นผู้ดูแลโดยจะส่งไปบำบัดฟื้นฟู ที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ที่ จ.นนทบุรี หรือที่ ธัญบุรี ซึ่งศูนย์นี้มีทั้งหมด 7 แห่ง หลังจากบำบัดเสร็จเราก็จะส่งเขาคืนสู่ชุมชนเพื่อให้เขากลับไปหางานเลี้ยงตัวได้ ส่วนคนต่างด้าวนั้นจะส่ง ตม. ตามกระบวนการ,ปฏิบัติการครั้งนี้สิ่งที่น่าสงสารที่สุดก็คือเด็ก เพราะต้องนั่งทนตากแดดทั้งวันทั้งคืน เจอทั้งฝน ลม และหนาว ที่น่าเวทนาคือ เด็กที่อายุน้อยที่สุดนั้น มีอายุเพียง 1 เดือนเท่านั้น และนี่คือที่มาของการช่วยเหลือ เพราะไม่อยากให้ตกเป็นเครื่องมือหากิน แบบนี้ใช่ไหมที่เรียกว่าทำนาบนหลังคน,ในตอนหน้าโปรดติดตามเบื้องหลังแก๊งค้ามนุษย์ที่นำมาเร่ร่อนขอทานว่ามีที่มาที่ไปจากแหล่งไหน มีเด็กถูกลักนำตัวมาเป็นขอทานบ้างหรือไม่ โปรดติดตาม,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์รายงาน ,อ่านต่อ ,ขอทาน AEC EP.2 เปิดรายได้ ส่องทำเลทอง วงจรอุบาทว์ ปั๊มลูกขอเศษเงิน
เมื่อเร็วๆ นี้ ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ร่วมกับหลายหน่วยงาน กระกอบด้วย ตำรวจท่องเที่ยว สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตำรวจในพื้นที่ เมืองพัทยา เข้าปฏิบัติการกวาดล้างขอทาน (อีกครั้ง)
สกู๊ปไทยรัฐ
ขอทาน,ขอทานต่างด้าว,พัทยา,ค้ามนุษย์,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/scoop/897166
มอบเหรียญบางระจัน ทพ.ถูกวางระเบิด ขณะช่วยสร้างบ้านผู้ยากไร้ที่ยะลา
วันที่ 29 เม.ย. พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า/หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ชี้แจงเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดกำลังพลหน่วย ฉก. กรม ทพ. 47 ขณะทำการช่วยเหลือในการก่อสร้างซ่อมแซมบ้านผู้ยากไร้ บริเวณบ้านเคระ หมู่ 4 ต.บาโระ อ.ยะหา จ.ยะลา ทำให้กำลังพลเสียชีวิต 2 นาย และได้รับบาดเจ็บ 4 นาย,จากการที่ หน่วย ฉก. กรม ทพ. 47 ได้จัดกำลังเข้าทำการช่วยเหลือในการก่อสร้างซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้กับราษฎรผู้ยากไร้ ซึ่งเป็นบ้านของ นางบีดะ ดอเลาะ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/4 หมู่ 4 ต.บาโระ อ.ยะหา จ.ยะลา ขณะกำลังก่อสร้าง มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ได้จุดชนวนระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้กำลังพลเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบ พบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุในถังแก๊สปิกนิกจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร โดยคนร้ายนำวัตถุระเบิดซุกซ่อนไว้ในกองทรายหลังบ้าน ซึ่งหน่วย ฉก.กรม ทพ. 47 ได้เข้าช่วยเหลือซ่อมแซม,จากเหตุการณ์ดังกล่าว พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผอ.รมน.ภาค 4 ขอแสดงความเสียใจกับกำลังพลที่สูญเสียและบาดเจ็บ เนื่องจากกำลังพลทุกนายได้เสียสละชีวิตและเลือดเนื้อขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นหน้าที่ในการเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนซึ่งยากไร้และเดือดร้อน และขอยกย่องกำลังพลที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ ว่าได้กระทำหน้าที่อย่างสมเกียรติและศักดิ์ศรีของชายชาติทหาร ซึ่งทางกองทัพจะได้ดูแลสิทธิและปูนบำเหน็จตามระเบียบของทางราชการ และจะให้การดูแลช่วยเหลือครอบครัวต่อไป พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้หน่วย ฉก.กรม ทพ.47 เข้าควบคุมพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่,จากพฤติกรรมดังกล่าวจะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง มุ่งสร้างสถานการณ์ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นครอบครัวของพี่น้องประชาชนที่เป็นผู้ยากไร้ ในครอบครัวมีแต่ผู้หญิง เด็ก และคนชรา ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และหน่วย ฉก.กรม ทพ. 47 ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าวเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง กลับใช้พฤติกรรมแบบสุดโต่ง ไร้ซึ่งมนุษยธรรม ฉกฉวยโอกาสขณะที่หน่วยกำลังเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน ซึ่งการกระทำดังกล่าวสมควรที่จะถูกประณามอย่างกว้างขวาง จึงขอเรียกร้องให้ องค์กรสิทธิมนุษยชน และภาคประชาสังคมช่วยกันประณามพฤติกรรมอันเหี้ยมโหดของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง,อย่างไรก็ตาม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอยืนยันว่าทางหน่วยยังคงดำรงความมุ่งหมายในการปฏิบัติการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มผู้ก่อเหตุโดย ยึดหลักของกฎหมาย จึงขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแสกลุ่มคนร้าย และหากพบเห็นสิ่งผิดปกติสามารถแจ้งได้ที่ เจ้าหน้าที่ทุกหน่วย หรือสายด่วน 1341,ขณะเดียวกัน ที่วัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พล.ท.อุกฤษณ์ อากาศวิภาค รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ อาสาสมัครทหารพราน สุรศักดิ์ สุวรรณปาน อายุ 38 ปี สังกัด ร้อย ทพ. 4708 ทพ.47 อ.ยะหา จ.ยะลา เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดชนิดแสวงเครื่องระหว่างปฏิบัติหน้าที่ช่วยก่อสร้างบ้านให้กับนางบีดะ ดอเลาะ ที่บ้านเคระ หมู่ 4 ต.บาโระ อ.ยะหา เมื่อเวลา 07.50 น. วันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล รอง ผบช.ศชต. นายราชิต สุดพุ่ม รอง ผวจ.ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายพลเรือน และประชาชน ตลอดจนญาติพี่น้องมาร่วมพิธีจำนวนมาก,ในการนี้ พล.ท.อุกฤษณ์ อากาศวิภาค รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้มอบเหรียญบางระจันให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตเพื่อไว้เชิดชูเกียรติวงศ์ตระกูลที่ได้สร้างคุณงามความดี เสียสละชีวิตเพื่อประเทศชาติ และยังได้มอบเงินช่วยเหลือเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ พร้อมกันนี้ นายราชิต สุดพุ่ม รอง ผวจ.ยะลา ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาจำนวน 500,000 บาท ให้กับนางละเอียด สุวรรณปาน มารดา และนางเพ็งพิศ วงจันทร์ ภรรยาของผู้เสียชีวิต และยังมีอีกหลายหน่วยงานมอบเงินช่วยเหลือเช่นเดียวกัน หลังพิธีรดน้ำศพแล้ว จะได้ทำการเคลื่อนย้ายศพโดยเฮลิคอปเตอร์ ไปบำเพ็ญกุศลยังภูมิลำเนาเดิม ที่บ้านเลขที่ 282 หมู่ 3 ต.ควนชุม อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ต่อไป. 
รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 สน.เป็นประธานรดน้ำศพทหารพรานที่เสียชีวิต ขณะไปช่วยผู้ยากไร้สร้างบ้านใน อ.ยะหา จ.ยะลา คนร้ายซุกระเบิดในกองทราย มีกำลังพลเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 4 นาย มอบเหรียญบางระจัน สดุดีเสียสละเพื่อชาติ
null
รดน้ำศพ,มอบเหรียญบางระจัน,ทหารพราน,สุรศักดิ์ สุวรรณปาน,สถานการณ์ใต้,โจรใต้,ยะหา,ยะลา,กอ.รมน.ภาค4ส่วนหน้า,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค
https://www.thairath.co.th/content/613207
สร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมรอบนิคมฯในอยุธยา - ปทุมธานีคืบหน้าร้อยละ 50
ภาพรวมการฟื้นฟูโรงงานอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 6 แห่ง ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี คืบหน้าไปเกือบร้อยละ 80 โดยโรงงาน 657 แห่ง จากทั้งหมด 839 แห่ง ที่ได้รับความเสียหาย เริ่มเดินหน้าการผลิตแล้วผู้บริหารสวนอุตสาหกรรมบางกะดีคาดว่าเดือนตุลาคมนี้โรงงานในนิคมฯ จะฟื้นฟูได้ทั้งหมด และส่งออกสินค้าได้ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี พร้อมหวังว่ารัฐบาลจะเร่งการเบิกจ่ายเงินสนับสนุนการสร้างเขื่อน 2 ใน 3 ส่วนโดยเร็วขณะที่ ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม คาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายเงิน ในวงเงิน 3200 ล้านบาท ให้กับนิคมฯ ทั้ง 6 แห่ง ได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้สำหรับการก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมของนิคมอุตสาหกรรม 6 แห่ง ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี คืบหน้าไปแล้วร้อยละ 40-50 ยกเว้นเพียงนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครยังไม่ได้เริ่มการก่อสร้าง เนื่องจากต้องปรับแผน สร้างเขื่อนกั้นน้ำในจุดที่อ่อนไหว โดยทำเป็นเขื่อนกั้นน้ำชั่วคราว เพื่อให้ทันกำหนดแล้วเสร็จสิ้นเดือนสิงหาคมนี้
ผ่านมากว่า 6 เดือนหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ นิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และปทุมธานีเริ่มฟื้นตัว ขณะที่การสร้างเขื่อนป้องกันเหตุน้ำท่วม คืบหน้าไปมาก ยกเว้นที่นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ที่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง โดยจะปรับแผน สร้างเป็นเขื่อนกั้นน้ำชั่วคราวก่อน เพื่อให้ทันช่วงฤดูฝนนี้
ภูมิภาค
นิคมอุตสาหกรรม,นิคมฯ,น้ำท่วม,ปทุมธานี,พระนครศรีอยุธยา,เขื่อน
https://news.thaipbs.or.th/content/90815
หนุ่มขับรถทางไกล พักงีบกลางทาง ชนซุ้มเฉลิมพระเกียรติ จ.อุทัยฯ พังทรุด
เวลา 07.00 น. วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ต.ท.อนันต์ อัศวรัตน์ หัวหน้าพนักงาน สภ.เมืองอุทัยธานี ได้รับแจ้ง มีรถกระบะพุ่งชนเสาซุ้มเฉลิมพระเกียรติขาเข้าตัวเมืองอุทัยธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตรงบ้านหาดทนง หมู่ 6 ต.หาดทนง พบร่องรอยของเสาซุ้มเฉลิมพระเกียรติโดนชนตรงเสากลางจนพัง คานซุ้มหักลงทั้งสองข้าง และพบรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์สีดำ ทะเบียน ฒห 1974 กรุงเทพมหานคร ตะแคงข้างตกอยู่ที่ไหล่ถนน กระเป๋าและข้าวของตกเกลื่อนกระจายจากการสอบถาม นายจตุพงษ์ กาอิจัน อายุ 20 ปี หนึ่งในผู้โดยสารที่มากับรถคันดังกล่าวบอกว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. คนขับชื่อนายสมโภช ไม่ทราบนามสกุล ได้ขับพาผู้โดยสารนั่งมาในรถและกระบะท้ายรวม 5 คน เดินทางจากจังหวัดเชียงรายเพื่อไปทำงานในกรุงเทพฯ ได้แวะหาญาติพี่น้องในตัวเมืองอุทัยธานี และพักงีบที่บ้านญาติแล้วเดินทางต่อ พอถึงที่เกิดเหตุรถส่ายไปมาเสียหลักพุ่งชนเสาตรงกลางถนนอย่างแรงจนเสียหลักตกลงไปข้างทาง ได้รับบาดเจ็บเกือบทุกคน พลเมืองดีเห็นเหตุการณ์เรียกชาวบ้านมาช่วยงัดรถเอาตัวคนเจ็บส่ง รพ.อุทัยธานี ทุกคนปลอดภัยด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบว่า ซุ้มเฉลิมพระเกียรติที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานีสร้างไว้ ได้รับความเสียหายน่าจะหลักล้านขึ้นไป แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าจำนวนจริงเท่าไร จะต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนคดีอยู่ในขั้นตอนสอบปากคำนายสมโภชคนขับว่าเป็นอุบัติเหตุ ประมาท หรือเมาสุรา หรือหลับในหรือไม่อย่างไรก็ตาม ซุ้มที่หักเอนลงมา ทำให้รถใหญ่ไม่สามารถวิ่งผ่านได้ โดยชาวบ้านและผู้ที่ผ่านไปมาได้ลงมาถ่ายภาพและเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเพราะบุญบารมีทำให้พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.10 ขนาดรถชนที่เสาซุ้มอย่างแรง แต่พระบรมฉายาลักษณ์กลับไม่หล่นลงมา ยังคงอยู่บนคานเสา.
อุบัติเหตุคนขับรถระยะไกลหลับใน พุ่งชนเสาซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติพังยุบขวางถนน ส่วนรถเสียหลักลงข้างทางบาดเจ็บ 3 คน ส่งผลให้รถใหญ่ผ่านเข้าตัวเมืองอุทัยธานีไม่ได้ ค่าเสียหายหลักล้าน
ข่าว,ทั่วไทย
รถชนซุ้ม,ชนซุ้มเฉลิมพระเกียรติ,ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ,หลบในชนซุ้มประตู,อุบัติเหตุ อุทัยธานี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1885497
พวกไม่ทำตามที่พูด จะไม่มีใครอยากคบ
คุณไปทานข้าวด้วยสักที,ทำให้คุณรู้สึกเซ็ง, โมโห, โกรธ และเบื่อกับคำพูดที่ไม่รับผิดชอบของเพื่อนหรืออาจเป็นเพียงแค่คนรู้จักคนนี้มากๆเลยใช่ไหม? ก็แหงละนะ พอเจอ พวกไม่ทำตามที่พูด แล้วมันเสียความรู้สึกน่ะเซ่,ที่จริงถ้า พวกที่ไม่ทำตามที่พูด จะไม่พูดอะไรที่เป็นการนัดกันหรือให้สัญญากับคุณ เชื่อว่าคุณจะรู้สึกดีซะกว่า มาให้ ความหวัง แบบลมๆแล้งๆ ว่า เค้าอยากเจอคุณหรือเราทั้งคู่จะได้มีกิจกรรมอะไรทำร่วมกันในวันหยุดหรือช่วงหลังจากเลิกงานใช่ไหมล่ะ,ซึ่ง พวกที่ไม่ชอบทำตามที่พูด ถือเป็นคนที่ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ และถ้าเผื่อใครคบกับคนแบบนี้ หรือมีเพื่อนแบบนี้ อ่ะ แบบไหนน่ะรึ? ก็เป็นพวกที่พูดแต่ไม่ทำ น่ะซี ถือว่าโชคร้าย มากๆ,หากสังเกตดีๆ จะชอบพูดสัญญิงสัญญาหรือให้ความหวัง ด้วยการพูดนัดแนะทำนองชวนว่าจะไปทำนู่นทำนี่ด้วยกันนะ แต่คุณจะมารู้ภายหลังว่า ถูกแหกตา เข้าอย่างจัง,ที่จริง คนที่ไม่รักษาคำพูด หากพวกเราได้ยินเค้าชวนบ่อยๆ ก็คงพอจับทางได้ว่า เค้าก็ดีแต่พูดไปอย่างนั้นเอง เพราะไม่เคยทำตามที่ตัวเองพูดได้สักครั้งเดียว บอกตามตรงรู้สึกเบื่อกับไอ้พวกนี้มาก แม้ระยะหลังๆที่พวกนี้พูดอะไร คุณจะไม่เชื่อสนิทใจเหมือนเมื่อก่อนแล้วก็ตาม แต่พฤติกรรมของเค้าก็ยังทำให้พวกเรารู้สึกขัดหู, ขัดตาและขัดใจทุกทีสิน่ะ,บอกแล้วว่า ถ้าพวกนี้ไม่พูดอะไรในลักษณะนี้ยังดีซะกว่า แถมพวกนี้พูดออกมาแล้ว พอพูดบ่อยๆ แล้วก็เท่ากับดิสเครดิตตัวเอง คนอื่นจะไหวตัวทันว่า เชื่อลมปากของคนคนนี้ไม่ได้ เค้าก็จะดูแย่ไปเอง และไม่มีใครเชื่อถือเค้าอีกต่อไป,ทางที่ดี เวลาที่คุณจะไปพูดกับใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นแค่คนรู้จัก, เพื่อนฝูงหรือญาติผู้ใหญ่ คุณควรรับผิดชอบต่อคำพูดของคุณด้วยนะ ด้วยการ,1. คิดก่อนที่จะพูด หากคุณเอ่ยปากชวนคนอื่นซึ่งเป็นใครก็ตามจะสนิทหรือไม่สนิท ก็ควรคิดให้ถี่ถ้วนก่อนว่า สิ่งที่คุณจะพูดชวนเค้าไปโน่น ไปนี่ หรือสัญญิง สัญญาว่าจะซื้อขนมมาฝาก หรือจะซื้ออาหารมาให้บ้างล่ะ ถ้าคุณทำได้จริงตามนั้นก็พูดออกมาเลย แต่ถ้าทำไม่ได้ควรปิดปากเงียบไว้ดีกว่า,2. จำสิ่งที่ตัวเองได้พูดไปแล้วให้ได้ อย่าทำเป็นพูดไปอย่างงั้นแล้วไม่รักษาคำพูด ระวังจะถูกคนอื่นเอาคืนนะ.,คนสมถะ
เคยเจอคนที่ชอบพูดกับคุณทำนองว่า ไว้อาทิตย์นี้ไปทานข้าวกันนะ เดี๋ยวโทร.ไปนัดอีกที พยายามทำตัวให้ว่างด้วยล่ะ แต่เอาเข้าจริง วันไหนวันนั้น ไอ้คนที่มาพูดกับคุณในลักษณะนี้ ก็ไม่เห็นโทร.มานัด
ข่าว,สังคม
คนโกหก,ไม่รักษาคำพูด,ไม่มีคนคบ,ประทีปส่องใจ,คนสมถะ
https://www.thairath.co.th/news/society/1440248
สนนท.-แนวร่วม ค้าน ม.นอกระบบ ย้ำบทเรียนที่เห็นส่งผลกระทบ นศ.โดยตรง
(สนนท.) แถลงการณ์ เรื่อง การแปรรูปมหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ (ม.นอกระบบ) ระบุ เมื่อมหาวิทยาลัยถูกทำให้ออกนอกการควบคุมของรัฐแล้วใครจะเป็นคนขัดเกลาพลเมืองของรัฐ คงเหลือแต่เงินตราที่เป็นตัวชี้ทางให้กับสังคมเท่านั้น เรียกร้องให้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น และทำประชามติ และสร้างหลักประกันว่าจะไม่ผลักภาระให้กับผู้เรียนในทุกๆ ด้าน และมหาวิทยาลัยต้องแสดงความโปร่งใสในการบริหารงาน ระบบการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งที่รัฐต้องให้ความสำคัญอย่างสูงสุด รัฐจึงต้องมีหน้าที่สนับสนุน ด้านกลุ่มแนวร่วมนิสิต-นักศึกษา คัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ แถลงการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อตัวนักศึกษาโดยตรง และเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่กล่าวอ้างทั้งสิ้น ทั้งด้านที่มาและความชอบธรรม โดยเรียกร้องให้ยุติการดำเนินการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการนำมหาวิทยาลัยทุกที่ออกนอกระบบ จนกว่าจะมีการศึกษาจากหลายๆ ฝ่ายว่ามีข้อดี-ข้อเสีย ขอให้เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบให้เป็นที่รับรู้ต่อคนทั่วไปโดยเฉพาะนักศึกษาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากที่สุด และให้มีการรับฟังความคิดเห็น การมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบในทุกขั้นตอนจากนักศึกษาและประชาชนอย่างทั่วถึง 0 0 0 แถลงการณ์สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) เรื่อง การแปรรูปมหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ (ม.นอกระบบ) การแปรรูปมหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยในระบบราชการหรือที่เรียกง่ายๆว่า ม.นอกระบบ นั้นเป็นนวัตกรรมใหม่ที่น่าสนใจของวงการการศึกษา เมื่อผู้ที่ต้องการให้มหาวิทยาลัยออกนอกรระบบผลิตชุดความคิดที่ว่า ถ้ามหาวิทยาลัยออกนอกระบบแล้ว จะมีคุณภาพที่ดีกว่าการอยู่ในการควบคุมของรัฐ ทั้งในด้านความคล่องตัวในการบริหารจัดการและคุณภาพการศึกษา อาจลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาล และมหาวิทยาลัยสามารถเปิดหลักสูตรเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานได้ สิ่งเหล่านี้เป็นค่านิยมที่ถูกป้อนเข้าสู่สังคมให้เกิดการเชื่อและคิดตามว่า การเปลี่ยนให้เป็นมหาวิทยาลัยนอกระบบนั้นดีกว่าการอยู่ในระบบที่ควบคุมโดยรัฐ ดังนั้นจึงเกิดคำถามว่า เมื่อรัฐสมัยใหม่ถูกสถาปนาให้ทำหน้าที่ดำรงไว้ซึ่งความมั่นคงปลอดภัยต่อพลเมืองในรัฐ และสิ่งหนึ่งที่ทำให้รัฐมีความมั่นคงคือ พื้นฐานทางการศึกษาของพลเมือง แต่รัฐกลับไม่สามารถตอบสนองได้อย่างเต็มที่และมีคุณภาพ รัฐกลับตอบสนองความต้องการทางด้านการเงินกลับกลุ่มทุนเพียงอย่างเดียว โดยการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ดังนั้น เราจะมีรัฐทำไม เพื่ออะไร และเราได้รับอะไรจากรัฐ? เมื่อการศึกษาเป็นปัจจัยพื้นฐานสำหรับมนุษย์ เป็นหนึ่งในกระบวนการขัดเกลาทางสังคม(socialization)ที่รัฐต้องให้กับสังคม แต่เมื่อมหาวิทยาลัยถูกทำให้ออกนอกการควบคุมของรัฐแล้วใครจะเป็นคนขัดเกลาพลเมืองของรัฐ คงเหลือแต่เงินตราที่เป็นตัวชี้ทางให้กับสังคมเท่านั้นหรือ จากข้างต้น จึงขอแจกแจงสภาพปัญหาของมหาวิทยาลัยนอกระบบเป็นรายประเด็น ดังต่อไปนี้ 1.ปัญหาความไม่เท่าเทียม และการเพิ่มค่าเทอม เมื่อระบบการศึกษาถูกกำหนดด้วยเงินตราแล้ว ความเท่าเทียมกันในด้านการศึกษาคงยากที่จะได้เห็น และเมื่อค่าเล่าเรียนที่เพิ่มสูงขึ้นลิ่บลิว ตัดโอกาสทางการศึกษาผู้ที่มีรายได้น้อยทางอ้อม แม้จะมีสมองคิดเหมือนๆกันแต่โอกาสที่จะได้เรียนที่ดีๆต่างกัน การออกนอกระบบของมหาวิทยาลัยจะสูบบุคลากรของชาติเข้าสู่ระบบโรงงานผลิตความรู้และสร้างเครื่องจักรที่เรียกว่ามนุษย์เข้าสู่ระบบตลาดเพียงอย่างเดียว อีกทั้งเมื่อมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ มหาวิทยาลัยจะสามารถมีอิสระในการบริหารจัดการ สามารถเปิดหลักสูตรเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานเพียงอย่างเดียว สิ่งที่ตามมาคือ การปิดตัวลงของคณะหรือหลักสูตรที่ไม่คุ้มทุนในการสอน เช่น คณะศิลปกรรมศาสตร์ที่มีค่าอุปกรณ์ที่แพงแต่ความต้องการของตลาดแรงงานกลับน้อยลงเท่ากับเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มทุน คณะเหล่านี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะต้องปิดตัวลงไป 2.ปัญหาความไม่โปร่งใสของค่าใช้จ่ายที่นักศึกษาต้องจ่ายให้กับมหาวิทยาลัย เมื่อมหาวิทยาลัยออกนอกระบบและทำการบริหารโดยอยู่ในสถานะที่เกือบเทียบเท่ากับองค์กรเอกชนแล้ว เราจะไม่สามารถทราบถึงความไม่โปร่งใสของการบริหารจัดการเงินที่นักศึกษาจ่ายไปได้เลย เราไม่สามารถทราบได้ว่าเงินที่ได้มาจากนักศึกษานั้นทางมหาวิทยาลัยใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้มิใช่เพียงความโปร่งใสทางด้านการเงินอย่างเดียว แต่ทางด้านบุคลากรที่จะเกิดระบบฝาก ยัด หรือติดสินบนในการรับบุคลากร หรือไล่บุคลากรออก มากขึ้น ฝ่ายบริหารจะมีสถานะที่มีอำนาจตัดสินใจอย่างเด็ดขาดโดยที่ไม่ต้องมีหลักการหรือข้อบังคับใดๆ ทำให้เกิดความไม่โปร่งใสและตรวจสอบได้ยาก 3.ปัญหารัฐสวัสดิการที่เรายังได้ไม่เพียงพอและไม่มีคุณภาพ หลักการของรัฐสวัสดิการคือ รัฐบาลต้องดูแลประชาชนในทุกๆด้าน ครอบคลุมทั้งทางด้านสาธารณสุข คมนาคม การศึกษา ฯลฯ โดยเฉพาะทางด้านการศึกษา ที่รัฐบาลจำเป็นต้องดูแลและรับภาระค่าใช้จ่ายให้กับนักศึกษาจนถึงระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ดังเช่นประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศในยุโรป ทั้งนี้ในประเทศไทย รัฐมิได้มีสวัสดิการทางด้านการศึกษาให้แก่ประชาชนอย่างเพียงพอ และยังด้อยคุณภาพอีกด้วย เห็นได้ชัดว่ารัฐมิได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาของประชาชนอย่างจริงจังแต่อย่างใด จากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.) จึงมีข้อเสนอต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกๆฝ่าย ดังต่อไปนี้ 1. ควรมีการทำประชามติถึงข้อดี-ข้อเสียของการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ และผลักดันให้มีเวทีสาธารณะ เพื่อเปิดให้วิพากษ์วิจารณ์และรวบรวมข้อเสนอ แนวทาง ปัญหาต่างๆอย่างเป็นระบบ และเป็นกระบวนการที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ตามหลักประชาธิปไตย ฝ่ายบริหารต้องฟังเสียงของนักศึกษาและรับฟังความเดือดร้อนและผลกระทบของนักศึกษาอย่างรอบด้านและปราศจากอคติ 2. มหาวิทยาลัยควรมีหลักประกันในการที่จะไม่เป็นการผลักภาระให้กับผู้เรียนในทุกๆ ด้าน และมหาวิทยาลัยต้องแสดงความโปร่งใสในการบริหารงาน ทั้งค่าเทอม ค่าอุปกรณ์เรียน ฯลฯ เพราะการผลักภาระค่าใช้จ่ายโดยการขึ้นค่าเทอม ค่าอุปกรณ์ ค่าอื่นๆ เป็นเสมือนการคัดคนเข้าเรียนไปในตัวว่าต้องมีเงินเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าเรียนได้ ซึ่งไม่ยุติธรรมสำหรับคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นประชาชนที่มีฐานะทางเศรษฐกิจต่ำกว่า และเรื่องความโปร่งใส มหาวิทยาลัยต้องแจกแจกค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนทั่วไปและนักศึกษาให้สามารถตรวจสอบการทำงานและการบริหารด้านการเงินภายในของมหาวิทยาลัยได้ว่าเกิดประโยชน์สูงสุดเพียงใด 3. เมื่อประชาชนเป็นผู้เสียภาษีให้กับรัฐ ในการบริหารจัดการประเทศให้เจริญ ระบบการศึกษาก็เป็นส่วนหนึ่งที่รัฐต้องให้ความสำคัญอย่างสูงสุด รัฐต้องสนับสนุนทุกอย่างตั้งแต่เกิดจนถึงตายโดยเฉพาะด้านการศึกษา ไม่ควรเป็นการผลักภาระด้านการศึกษาให้กับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งบริหารจัดการ การศึกษาต้องเป็นรัฐสวัสดิการที่ให้กับประชาชน การศึกษาต้องเข้าถึงประชาชน ทั้งนี้อย่าถามเราเลยว่ารัฐบาลจะสามารถรับภาระค่าใช้จ่ายที่มากมายมหาศาลนี้ได้เช่นไร เพียงแค่ลดงบประมาณจากกระทรวงกลาโหม กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงไอซีที หรือกระทรวงอื่นๆที่ไม่จำเป็นในการพัฒนาประเทศซ้ำยังทำหน้าที่ฉุดรั้งสังคมด้วยการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ในการทำสงครามเข่นฆ่าประชาชน ตีกรอบศีลธรรมอันคับแคบให้ประชาชน หรือปิดปากปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดลงไปบ้าง แล้วให้ความสำคัญกับการศึกษาที่จะเพิ่มคุณภาพความคิด ความรู้ ความสามารถให้กับประชาชนในประเทศมากขึ้น ทั้งนี้รัฐบาลมีหน้าที่ในการดูแลประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกันมิใช่ดูแลนายทุนหรือกลุ่มอำมาตย์เพียงกลุ่มเดียว เราขอร่วมเดินต่อสู้เคียงข้างพี่น้องนิสิตนักศึกษาเกี่ยวกับการคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและของพี่น้องนิสิตนักศึกษาเป็นสำคัญ ด้วยจิตคารวะ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.) 0 0 0 แถลงการณ์ กลุ่มแนวร่วมนิสิต-นักศึกษา คัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ตราบใดที่ผมยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ จะไม่มีการนำมหาวิทยาลัยใดๆออกนอกระบบเป็นอันขาด เป็นคำพูดของรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ซึ่งประกาศชัดเจนต่อหน้านักศึกษา แต่ผ่านไปไม่กี่เดือน รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา(สกอ.) นายสุเมธ แย้มนุ่น ได้เผยยืนยันความพร้อมในการออกนอกระบบของมหาวิทยาลัยของรัฐ 4 แห่ง อันได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต และมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งความจริงที่เห็นได้ชัดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวคือความรีบเร่งในการนำมหาวิทยาลัยทุกที่ในประเทศออกนอกระบบ เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยไม่สนใจในสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น โดยได้ใช้แต่ชุดความคิดที่ฟังแล้วดูดีต่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นการทำให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการและคุณภาพของการศึกษาที่ดีขึ้น เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาลอีกทั้งมหาวิทยาลัยสามารถเปิดหลักสูตรเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดได้ ซึ่งคำถามสำคัญคือ รัฐไม่สามารถที่จะตอบสนองเรื่องการศึกษาได้ใช่หรือไม่ จนต้องปล่อยให้มหาวิทยาลัยบริหารควบคุมดูแลเองโดยกลุ่มผู้บริหารเพียงกลุ่มเดียว แต่หากมองความเป็นจริงที่กลุ่มนักศึกษาซึ่งได้ติดตามและเฝ้าระวังการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบร่วมกันวิเคราะห์แล้วกลับพบว่า จะส่งผลกระทบต่อตัวนักศึกษาโดยตรงและเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่กล่าวอ้างทั้งสิ้น ทั้งด้านที่มาและความชอบธรรมตามหลักการประชาธิปไตย ดังนี้ 1. ด้านที่มา พบว่าการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบนั้นเป็นการกระทำที่ขัดต่อความมีตัวตนของรัฐ เมื่อรัฐมีไว้เพื่อรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของพลเมือง และหนึ่งในการทำให้รัฐมีความมั่นคงและความปลอดภัยคือพื้นฐานทางการศึกษาของพลเมือง หากปล่อยให้การศึกษาไร้การควบคุมโดยรัฐแล้ว จะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติได้อย่างไร ประเทศอยู่ได้ก็ด้วยอาศัยพลเมืองที่มีคุณภาพในประเทศ หากประเทศไร้ซึ่งพลเมืองที่มีคุณภาพทางการศึกษาแล้วประเทศคงล้มสลายมลายหายไป หรือเรียกได้ว่ารัฐอ่อนแอ การนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบก็เปรียบเสมือนการทำลายรัฐเพราะการศึกษาเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานสำหรับมนุษย์ สุดท้ายมหาวิทยาลัยจะกลายเป็นโรงงานผลิตพลเมืองสำหรับป้อนเข้าสู่ระบบตลาดโรงงานไปในที่สุด 2. ด้านความชอบธรรม พบว่าในการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบนั้นไม่ได้เป็นไปตามถ้อยคำที่ผู้มีอำนาจกล่าวอ้างแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการทำตามระเบียบขั้นตอน การนำเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการ การร่างพระราชบัญญัติ การเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ที่ไม่มีการยึดโยงกับนักศึกษาเลย ไม่มีการทำประชาพิจารณ์ของบุคลากรในมหาวิทยาลัยทั้งนักศึกษาและอาจารย์ แต่เป็นการตัดสินใจโดยคณะกรรมการบริหารของมหาวิทยาลัยแต่เพียงกลุ่มเดียว ตัวอย่างเช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในช่วงประสบอุทกภัยในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยที่ สกอ.มีการเสนอสอบถามความพร้อมในการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ แต่กลุ่มผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้ส่งเรื่องกลับไปให้ สกอ.ว่ามีความพร้อมในการออกนอกระบบ ทั้งๆที่ในช่วงเวลาดังกล่าวกำลังประสบอุทกภัย ดังนั้นพิสูจน์ได้ว่าไม่มีการทำประชาวิจารย์กับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยทั้งที่เป็นประชากรกลุ่มมากในมหาวิทยาลัย จากสภาพดังกล่าวได้นำมาสู่ปัญหาการออกนอกระบบของมหาวิทยาลัย ซึ่งสรุปจากมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบไปก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นด้านความไม่เท่าเทียมของการศึกษา เนื่องด้วยการศึกษาไม่ได้คัดคนเข้าศึกษาที่ความสามารถแต่เป็นการคัดคนเข้าศึกษาโดยความรวย-ความจน ด้วยมีการเพิ่มค่าเทอม อันเป็นการตัดโอกาสทางการศึกษาของผู้ที่มีรายได้น้อยไปโดยปริยาย เช่นมหาวิทยาลัยบูรพาที่ออกนอกระบบไปในปี 50 คณะเภสัชศาสตร์ได้เพิ่มค่าเทอมแบบเหมาจ่าย กว่า 40000 บาท ซึ่งแพงมากเมื่อเทียบกับค่าเทอมของมหาวิทยาลัยที่ยังไม่ออกนอกระบบ และปัญหาด้านความไม่โปรงใสของค่าใช้จ่ายที่นักศึกษาต้องจ่ายให้กับมหาวิทยาลัยในการบริหารจัดการของผู้บริหารว่าเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดมากน้อยเพียงใดต่อตัวนักศึกษาเอง จากสภาพปัญหาการออกนอกระบบของมหาวิทยาลัยดังกล่าว กลุ่มนักศึกษาหลากมหาวิทยาลัยที่เฝ้าระวังและติดตามการออกนอกระบบของมหาวิทยาลัยจึงได้ศึกษาร่วมกันถึงข้อดี-ข้อเสีย มีข้อเสนอต่อสังคมและผู้มีอำนาจ ดังต่อไปนี้ 1. ขอให้ยุติการดำเนินการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการนำมหาวิทยาลัยทุกที่ออกนอกระบบ จนกว่าจะมีการศึกษาจากหลายๆ ฝ่ายว่ามีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรและร่วมกันหาทางออกสำหรับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัย ทั้งฝ่ายรัฐ ฝ่ายผู้บริหาร ฝ่ายคณาจารย์และฝ่ายนักศึกษาและประชาชนผู้เสียภาษีให้กับรัฐ 2. ขอให้เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบให้เป็นที่รับรู้ต่อคนทั่วไปโดยเฉพาะนักศึกษาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากที่สุด 3. ข้อให้มีการรับฟังความคิดเห็น การมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบในทุกขั้นตอนจากนักศึกษาและประชาชนอย่างทั่วถึง หยุดการแปรรูปมหาวิทยาลัยบนคราบน้ำตาประชาชน ด้วยจิตคารวะ 1.เครือข่ายนักศึกษาสี่ภาค 2.สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.) 3.กลุ่มดาวดิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น 4.เครือข่ายนักศึกษาคัดค้านม.นอกระบบ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 5.เครือข่ายนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาไม่เอาม.นอกระบบ 6.กลุ่มแสงดาว มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 7.กลุ่มปูกฮัก มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 8.กลุ่มลูกชาวบ้าน มหาวิทยาลัยบูรพา 9.กลุ่มสะพานสูง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 10.กลุ่มเสรีนนทรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 11.ซุ้มเหมราช มหาวิทยาลัยรามคำแหง 12.กลุ่มประกายไฟ 13.กลุ่มนกกระจอก มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช 14.ชมรมฅนสร้างฝัน มหาวิทยาลัยสารคาม 15.กลุ่มอาสากลาง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 16.กลุ่มสำนึกรักบ้านเกิด มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี 17.กลุ่มเพื่อนวันสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 18.ชมรมนักศึกษาเพื่อการพัฒนา ม.ขอนแก่น 19.กลุ่มเถียงนาประชาคม มหาวิทยาลัยสารคาม 20.ชมรมมหาวิทยาลัย-ชาวบ้านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 21.กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จังหวัดอุดรธานี
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) และกลุ่มแนวร่วมนิสิต-นักศึกษา ออกแถลงการณ์แจงเหตุผลคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ พร้อมข้อเรียกร้อง 12 ธันวาคม 2554 สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย
การศึกษา
มหาวิทยาลัยนอกระบบ,สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.),แถลงการณ์
https://prachatai.com/journal/2011/12/38296
ครม.ไฟเขียว ปรับเพดานเงินเดือนข้าราชการพลเรือนสามัญ
18 ต.ค. 2559 รายงานว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือนสูงกว่าขั้นสูงของตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ตามที่สำนักงาน คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)เสนอ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมาสำนักงาน ก.พ. รายงานว่า 1. กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการประเภทต่าง ๆ กำหนดเกี่ยวกับการได้รับเงินเดือนของข้าราชการไว้แตกต่างกันทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการรับเงินเดือนระหว่างข้าราชการแต่ละประเภท คือ 1. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา 2. ข้าราชการทหารและข้าราชตำรวจ 3. ข้าราชการพลเรือนสามัญ 2. ก.พ. ในการประชุมครั้งที่ 9/2559 เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้พิจารณาปัญหาความเหลื่อมล้ำในการได้รับเงินเดือนของข้าราชการประเภทต่าง ๆ แล้วเห็นว่า การที่ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือนถึงอัตราเงินเดือนขั้นสูง (เงินเดือนตัน) ในอัตราที่ต่ำกว่าข้าราชการประเภทอื่น ถือเป็นกรณีที่มีเหตุผลและความจำเป็นสมควรที่จะกำหนดให้ข้าราชการดังกล่าวได้รับการเยียวยาตามมาตรา 50/1 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 จึงได้มีมติเห็นชอบการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือนสูงกว่าขั้นสูงของตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้ง และให้หลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2559สำหรับหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือนสูงกว่าขั้นสูงของตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้ง สรุปได้ ดังนี้ 1. ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทและระดับใดที่ได้รับเงินเดือนถึงอัตรา เงินเดือนขั้นสูง (ตามบัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญท้านกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน) หรือได้รับเงินเดือนถึงอัตราเงินเดือนสูงสุด (เงินเดือนตัน) เมื่อได้รับการพิจารณาเลื่อนเงินเงินเดือนตามรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการแล้วให้ได้รับเงินเดือนในระดับถัดไปของแต่ละประเภทตำแหน่ง เช่น ข้าราชการระดับชำนาญการที่เงินเดือนตัน (อัตรา 43600 บาท) ให้ได้รับเงินเดือนในระดับชำนาญการพิเศษถึงขั้นสูง (อัตรา 58390 บาท) เป็นต้น ยกเว้นกรณีดังต่อไปนี้1) ผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไประดับทักษะพิเศษและผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญ (ได้รับเงินเดือนขั้นสูงอัตรา 69040 บาท) ให้ได้รับเงินเดือนในตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ โดยให้ได้รับเงินเดือนไม่เกินอัตราที่ ก.พ. กำหนดตามข้อ 3 (2) ของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือน พ.ศ. 2551 (อัตราไม่เกิน 64340 บาท) ทั้งนี้ ในปัจจุบันผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิได้รับเงินเดือนไม่เกิน 74320 บาท (ตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ด่วนที่สุด ที่ นร 1012.2/ว 6 ลงวันที่ 25 พ.ค. 2558 เรื่อง การปรับเงินเดือนเข้าสู่บัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ) 2) ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิให้ได้รับเงินเดือนไม่เกินขั้นสูงของประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (อัตรา 76800 บาท) 3) ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูง (ได้รับเงินเดือนขั้นสูงอัตรา 70360 บาท) ให้ได้รับเงินเดือนในตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้นถึงขั้นสูง (อัตรา 74320 บาท)2. ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่างประเภทต่างสายงาน หรือต่างระดับ และเงินเดือนที่ได้รับอยู่สูงกว่าเงินเดือนขั้นสูงหรืออัตราเงินเดือนสูงสุดสำหรับตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้ง ให้ได้รับเงินเดือนในอัตราที่ได้รับอยู่เดิมโดยให้ได้รับเงินเดือนตามข้อ 1 ตั้งแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่างประเภทต่างสายงาน หรือต่างระดับ 3. ข้าราชการพลเรือนสามัญที่ได้รับเงินเดือนตามหลักเกณฑ์และวิธีการในข้อ 1 ให้ได้รับเงินเดือนในวันที่ 1 เมษายน หรือวันที่ 1 ตุลาคม ตามรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการโดยคำนวณจากฐานในการคำนวณสำหรับการเลื่อนเงินเดือนของตำแหน่งที่ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้นั้นดำรงตำแหน่งอยู่ (ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. 2552) ยกเว้นกรณีผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไประดับอาวุโสและประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ ในสายงานที่ ก.พ. กำหนดอัตราเงินเดือนสูงสุดไว้ เมื่อได้รับเงินเดือนถึงอัตราเงินเดือนสูงสุดที่ ก.พ. กำหนดแล้วแต่กรณีแล้วให้ผู้นั้นได้รับเงินเดือนโดยคำนวณจากรากฐานในการคำนวณสำหรับการเลื่อนเงินเดือนของตำแหน่งประเภททั่วไประดับอาวุโสหรือตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ ระดับบน 2 ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. 2552 ในกรณีที่ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดต้องพ้นจากราชการเพราะเหตุเกษียณอายุ ให้ผู้นั้นได้รับเงินเดือนดังกล่าวในวันที่ 30 กันยายน ของปีสุดท้ายก่อนที่จะพ้นจากราชการเพราะเหตุเกษียณอายุ4. ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดได้รับเงินเดือนตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ เมื่อได้รับเงินเดือนจนถึงอัตราเงินเดือนขั้นสูงสุดหรืออัตราเงินเดือนสูงสุดที่ ก.พ. กำหนดแล้ว ให้ได้รับค่าตอบแทนพิเศษตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการและลูกจ้างประจำผู้ได้รับเงินเดือน หรือค่าจ้างถึงขั้นสูง หรือใกล้ถึงขั้นสูงของอันดับหรือตำแหน่ง5. ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดได้รับค่าตอบแทนพิเศษตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการและลูกจ้างประจำผู้ได้รับเงินเดือน หรือค่าจ้างถึงขั้นสูงหรือใกล้ถึงขั้นสูงของอันดับหรือตำแหน่งอยู่ในวันที่หลักเกณฑ์และวิธีการนี้มีผลใช้บังคับ ให้นำค่าตอบแทนดังกล่าวมารวมเป็นเงินเดือน ในกรณีที่มีเศษไม่ถึงสิบบาทให้ปรับเป็นสิบบาท และให้ได้รับเงินเดือนในอัตราใหม่ตั้งแต่วันที่หลักเกณฑ์และวิธีการนี้มีผลใช้บังคับ และ 6. กรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ให้นำเสนอ ก.พ. พิจารณา
18 ต.ค. 2559 เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลรายงานว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือนสูงกว่าขั้นสูงของตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
การเมือง
ข้าราชการพลเรือนสามัญ,ณะกรรมการข้าราชการพลเรือน,เงินเดือน
https://prachatai.com/journal/2016/10/68415
สนช.เห็นชอบร่างกฎหมาย ป.ป.ช. ให้ กก.ชุดปัจจุบันอยู่จนครบวาระ 9 ปี
กมธ.พิจารณาร่างกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. เผยหารือครบทุกมาตราแล้ว25 ธ.ค. 2560 รายงานข่าวระบุว่า การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ วาระ 3 ซึ่งสมาชิก สนช.ส่วนใหญ่ได้ลงมติเห็นชอบในทิศทางเดียวกัน ยกเว้นมาตรา 178 ซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญที่กรรมาธิการฯ ปรับแก้ว่า ให้กรรมการ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบันอยู่ทำหน้าที่ต่อจนครบวาระ 9 ปี จากเดิมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กำหนดให้อยู่ต่อได้เฉพาะ ป.ป.ช.ที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสมาชิก สนช. ส่วนใหญ่ลงมติด้วยคะแนน 157 เสียง แต่มีจำนวน 26 คนลงมติไม่เห็นชอบ และงดออกเสียงจำนวน 29 คน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของ สนช.บางส่วน และกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่มองว่าการปรับแก้ด้วยการยกเว้นไม่ให้นำคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ ป.ป.ช.บางเรื่องมาบังคับใช้ อาจสุ่มเสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญวันเดียวกัน ทวีศักดิ์ สูทกวาทิน โฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พ.ศ. ของ สนช. แถลงความคืบหน้าว่า กมธ.มีการหารือแล้วครบทั้ง 178 มาตรา กมธ.มีการแก้ไข จำนวน 17 มาตรา อาทิ ให้ กกต. สามารถมีมติ 2 ใน 3 จากจำนวนกรรมการทั้งหมดที่มีอยู่ กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้ กรณีที่มีเหตุจำเป็นไม่สามารถจัดการเลือกตั้งทั่วไปได้ หรือการห้ามผู้สมัครจัดยานพาหนะนำผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปเพื่อการเลือกตั้ง การห้ามสำรวจความคิดเห็นของประชาชนโดยมีเจตนาไม่สุจริต นอกจากนี้ ได้เชิญ สนช. 4 คน ที่เสนอแปรญัตติรวม 8 มาตรา เข้าให้ข้อมูลประกอบการพิจารณา ขณะที่ กมธ. ตั้งข้อสังเกตไว้ท้ายรายงานจำนวน 3 มาตราทวีศักดิ์ กล่าวต่อว่า กมธ. ยังมีมติให้รอการพิจารณาใน 4 มาตรา คือ มาตรา 35 68 72 และ 129 ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจ อาทิ การตัดสิทธิผู้ที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและมิได้แจ้งเหตุที่ไม่ไปใช้สิทธิ หรือแจ้งเหตุที่ไม่อาจแจ้งเหตุที่ไม่ไปใช้สิทธิแล้ว แต่เหตุนั้นมิใช่เหตุผลอันสมควร ผู้นั้นจะถูกจำกัดสิทธิพื้นฐาน ประการ ได้แก่ สิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส. สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.หรือสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ว. และสิทธิสมัครรับเลือกเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ขณะเดียวกัน กมธ.จะพิจารณาเรื่องการจำกัดสิทธิ ระยะเวลาการตัดสิทธิเพิ่มเติม รวมทั้งการกำหนดระยะเวลาและวิธีการหาเสียงด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ และการคำนวณจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่พบว่ายังมีข้อแตกต่างกัน ทั้งนี้ กมธ.จะนำประเด็นทั้งหมดมาหารือเพิ่มเติมเพื่อปรับแก้ไขร่างกฎหมายให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น รวมทั้งนำความเห็นของประชาชนที่ส่งเข้ามาที่เว็บไซต์ของ สนช. ซึ่งจะครบกำหนดปิดรับฟังในวันที่ 27 ธ.ค. นี้ มาประมวลประกอบการพิจารณาต่อไปด้วยที่มา : และ
สนช.เห็นชอบร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ให้กรรมการ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบันดำรงตำแหน่งจนครบวาระ 9 ปี พร้อมเห็นชอบตั้งกรรมาธิการฯ ตรวจสอบประวัติ 7 ว่าที่ กกต. ชุดใหม่
การเมือง
กกต.,ป.ป.ช.,ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ,ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
https://prachatai.com/journal/2017/12/74720
เรือใบทางสะดวก วงในแฉ อเล็กซิส ชัดเจนอยากย้ายหนีปืนใหญ่
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 7 ก.ค. ว่า อเล็กซิส ซานเชซ กองหน้ากึ่งปีกทีมชาติชิลี ของปืนใหญ่ อาร์เซนอล ต้องการย้ายออกจากถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดียม เพื่อไปร่วมทีม เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในซัมเมอร์นี้,เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มี อเล็กซิส เป็นเป้าหมายสำคัญในการเสริมทัพช่วงซัมเมอร์นี้ และแม้ว่า อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซนอลจะไม่ต้องการปล่อยนักเตะคนสำคัญให้กับทีมคู่แข่ง แต่ล่าสุดแหล่งข่าวใกล้ชิดกับ อเล็กซิส ให้สัมภาษณ์กับ เอล เมอร์ซูริโอ สื่อดังของชิลี ไว้ได้อย่างน่าสนใจ โดยอ้างว่า ดาวเตะวัย 28 ปี ต้องการย้ายทีม เพราะอาร์เซนอลไม่ได้เล่นแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลหน้า,การไม่ได้เล่นในแชมเปียนส์ลีก คือเรื่องใหญ่สำหรับอเล็กซิส เขามีแรงกระตุ้นที่จะเข้าร่วมและคว้าแชมป์ อเล็กซิส พูดคุยกับเพื่อนร่วมทีมของเขาที่รัสเซีย (ช่วงแข่งฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชัน คัพ) เกี่ยวกับเรื่องนี้ และเขาก็พูดคุยกับครอบครัวของเขาเช่นกัน และทุกคนก็เห็นตรงกันว่ามันจะเป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับเขาหากเขาจบการเดินทางกับอาร์เซนอลแล้วไปร่วมทีมแมนฯซิตี้ อเล็กซิสไม่เต็มใจที่จะอยู่กับอาร์เซนอลต่อไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ความคิดเดียวของเขาในช่วงเวลานี้คือย้ายทีม
แหล่งข่าวใกล้ชิด เปิดเผยว่า อเล็กซิส ซานเชซ ดาวยิงของอาร์เซนอล ต้องการย้ายออกจากทีมปืนใหญ่ในซัมเมอร์นี้
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
อเล็กซิส ซานเชซ,อาร์เซนอล,แมนเชสเตอร์ ซิตี้,พรีเมียร์ลีก
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/998219
เยาวชนดีเด่น 890 คน พบนายกฯ รับโล่รางวัล โอวาท วันเด็กแห่งชาติ ปี 62
ที่เป็นความขัดแย้ง,วันที่ 9 ม.ค. นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำเด็กและเยาวชนดีเด่นที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ รวม 890 คน เข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อรับโล่รางวัล และรับโอวาทเนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2562,โดยพลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจให้เด็กทุกคน ขอให้มีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเกียรติประวัติให้กับตัวเอง และวงศ์ตระกูล เด็กเป็นทรัพยากรสำคัญของประเทศ เราเตรียมทรัพยากรมนุษย์ให้เข้าไปสู่ศตวรรษที่ 21 ที่เป็นช่วงเวลาเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ ต้องเป็นผู้ใหญ่ที่ดีของสังคมต่อไป นี่เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีมุ่งหมาย และตั้งใจทำงาน เพื่อกำหนดอนาคตประเทศ และเป็นหน้าที่ของทุกคนไม่ใช่แค่ของรัฐบาลหรือ นายกรัฐมนตรี ทุกคนต้องมีส่วนรับผิดชอบในการทำให้เด็กเป็นคนดีในสังคม สิ่งเหล่านี้ฝังแน่นอยู่กับคนไทยมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การซื่อสัตย์ กตัญญู สำคัญที่สุด ทุกคนต้องกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ต่อประเทศชาติ ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และศึกษาหาความรู้ให้มากๆ ขอเน้นให้ทำตามความถนัดของตัวเอง เราต้องเรียนไปเพื่อมีงานทำ มีครอบครัวอบอุ่น มีรายได้เพียงพอ ซึ่งการศึกษาในห้องเรียน เราเรียนรู้กันโดยหลักการ วิชาการ และต้องพัฒนาต่อไปคือกระบวนการคิดของตัวเอง ศึกษาตำราอย่างเดียวคงจะลำบาก การพัฒนาจำเป็นต้องอาศัยเวลา,วันนี้คำขวัญวันเด็กที่มอบไป คิดเร็วๆ คือ เด็ก เยาวชน จิตอาสา ร่วมพัฒนาชาติ เพราะประเทศประกอบด้วยภูมิประเทศ และประชาชน ที่ต้องมีศักยภาพในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วในการพัฒนาประเทศ และรักษาความสงบเรียบร้อย รัฐบาลให้ความสำคัญกับเด็กมาโดยตลอด คงไม่ใช่คำพูดที่เป็นนามธรรมกันอย่างเดียว แต่ต้องหาวิธีสร้างการรับรู้ว่าจะทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้อย่างไร จะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความรู้กันเท่าเทียม เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความแตกแตกต่าง หรือความไม่เท่าเทียมกันให้ได้ หลายอย่างที่มีการพูดเรื่องคนรายได้มากรายได้น้อย คนพูดเหมือนกันทั้งโลก และเป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้ ขณะที่เด็กและเยาวชนต้องมีความรอบรู้ คิดเป็น มีเหตุผล มีความคิดสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและตัวเอง เราไม่สามารถเลือกทำเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่งได้,อย่างไรก็ตาม วันนี้มีแผนพัฒนา 20 ปี ที่หลายคนอาจมองว่า นานไปหรือไม่ แต่ใน 20 ปี จะมีการพัฒนาอย่างมีขั้นตอนตามยุทธศาสตร์ชาติที่มีทั้งหมดด้าน จึงอยากฝากให้ทุกคนทำความเข้าใจแม้จะหนักเกินไปในขณะนี้ ขอฝากให้กระทรวงศึกษาธิการช่วยชี้แจงด้วยว่าเด็กๆ และเยาวชนอยู่ส่วนใดของยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องขับเคลื่อนให้เป็นไปตามแผน ดังนั้นจะขัดแย้งกันไม่ได้อีกแล้ว ขณะเดียวกัน หลายอย่างมีการขยายข่าวขยายความ จนกลายเป็นความขัดแย้ง ซึ่งส่วนตัวเราไม่สบายใจ จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องคำนึงถึงในการเป็นรัฐบาลและประชาชน,นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เด็กที่มาในวันนี้มีตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงเด็กโต รวมไปถึงเด็กพิเศษที่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ซึ่งจะต้องเรียนรู้ และขออย่ามองว่าตัวเองมีปัญหา และสังคมจะต้องร่วมกันดูแลเด็กเหล่านี้ ไม่ใช่สร้างให้สังคมขัดแย้งกันไปมา ซึ่งการรวมกลุ่มกันทำผิดกฎหมายไม่ดี ต้องร่วมกันสร้างความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ขณะเดียวกัน ส่วนตัวเป็นห่วงสุขภาพของเด็ก เพราะบางคนมีร่างกายอ่อนแอ และเด็กผู้ชายบางคนน้ำหนักเกินเกณฑ์ จึงอยากให้ออกกำลังกาย ไม่ใช่คิดแต่จะไปแต่หาหมอ เพราะการไปหาหมอ ถือว่าเป็นภาระ จึงต้องลดภาระนั้นด้วยการออกกำลังกาย ตลอดจนการศึกษาหาความรู้จากหนังสือ ก็เป็นอีกทางหนึ่ง ซึ่งเด็กนักเรียนยังสามารถหาความรู้ได้อีกทางหนึ่งบนเว็บไชต์ และในโซเซียลมีเดียต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ แต่ต้องระมัดระวังเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม จึงต้องมีภูมิคุ้มกันในการเสพสื่อ โดยส่วนตัวได้เคยแนะนำให้โรงเรียนมีการสอนนักเรียน อาจจะยกตัวอย่างข่าวจากเว็บไซต์ว่า ข่าวใดจริงหรือไม่จริง เพราะทั้งหมดนี้จะเป็นภูมิคุ้มกันให้กับทุกคนได้
เยาวชนดีเด่น 890 คน เข้าพบนายกฯ รับโล่รางวัล และโอวาท วันเด็กแห่งชาติปี 62 นายกฯ ระบุทุกคนถือเป็นส่วนหน่ึงของการพัฒนาตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จึงขอให้ทำความเข้าใจ และไม่ทำสิ่งใด
ข่าว,การเมือง
เยาวชนดีเด่น,นายกฯ,วันเด็กแห่งชาติ ปี 2562,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1465271
นายกฯแถลงพร้อมยุบสภา-ลาออก ย้ำสภาประชาชนไร้กฎหมายรองรับ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยมีใจความดังนี้นับตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาร่วมเดือนเศษแล้ว ที่มีสถานการณ์ความขัดแย้งเกิดขึ้น จนทำให้ประเทศตกอยู่ในขั้นวิกฤต รัฐบาลต้องขอแสดงความเสียใจ และขอโทษต่อเหตุการณ์ที่ทำให้พี่น้องประชาชน ต้องเดือดร้อนกังวลใจ และไม่สบายใจในเรื่องต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลได้พยายามอย่างยิ่งยวด ที่จะป้องกันเหตุรุนแรงต่างๆ รวมทั้งพร้อมที่จะเปิดเวทีรับฟังข้อเสนอของผู้ชุมนุมอยู่ทุกเมื่อ อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอของผู้ชุมนุมไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งสภาประชาชน หรือ การขอนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 7 นั้น ไม่มีบทบัญญัติใดภายใต้รัฐธรรมนูญปัจจุบันรองรับ และยังไม่มีความชัดเจนในทางปฏิบัติว่าจะดำเนินการอย่างไร อีกทั้งยังไม่มีกฎหมายใดรองรับในการกระทำ และยังมีการถกเถียงกันทางวิชาการ จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้ได้ข้อสรุป อันเป็นที่ยอมรับของทุกๆฝ่าย ดิฉันขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า รัฐบาลพร้อมที่จะยุบสภา หากเป็นความต้องการของพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามข้อกฎหมายกล่าวคือ เมื่อยุบสภาแล้วก็ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายในไม่เกิน 60 วัน ตามที่กฏหมายกำหนด และในกติกาที่เป็นธรรม แต่หากผู้ชุมนุมและพรรคการเมืองใหญ่ไม่ตอบรับ หรือไม่ยอมรับผลของการเลือกตั้งก็จะเป็นเพียงการยืดเวลาของความขัดแย้งออกไป เช่นเดียวกับเหตุการณ์ความวุ่นวาย ในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งมีพรรคการเมืองบอยคอตไม่ลงรับสมัครในการเลือกตั้ง ทำให้เกิดภาวะสุญญากาศทางการเมือง อันนำไปสู่การรัฐประหารในที่สุด ดังนั้นรัฐบาลจึงเสนอให้ตั้งเวทีหารือกันในข้อเสนอของผู้ชุมนุม หากยังขัดแย้งกันจนหาข้อยุติที่ตรงกันไม่ได้ ก็ขอเสนอให้ทำประชามติ เพื่อให้เสียงส่วนใหญ่ของพี่น้องประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ พร้อมทั้งสรุปแนวทางการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม และเกิดฉันทามติของทุกพรรคการเมือง ผู้ชุมนุมและทุกภาคส่วน ให้ยอมรับผลการตัดสินใจของประชาชนตามกติกา เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นให้หมดสิ้นไปอย่างแท้จริง ดิฉันขอยืนยันอีกครั้งว่า ดิฉันไม่ติดยึดกับตำแหน่ง ยินดีที่จะยุบสภาหรือลาออก เพียงแต่ขอให้มั่นใจว่าเป็นทางออกที่แท้จริง และสามารถทำให้ข้อขัดแย้งยุติ ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ โดยต้องมั่นใจว่าข้อเสนอนั้นเป็นข้อเสนอของเสียงส่วนใหญ่ ของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ข้อเสนอของคุณสุเทพที่ยืนยันมาโดยตลอดว่า ยุบสภาก็ไม่เอา นายกฯลาออกก็ไม่เอา แต่ต้องการให้คืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชน โดยไม่ต้องมีการเลือกตั้งนั้น ถือเป็นสิ่งใหม่ที่ยังไม่มีข้อยุติว่า เป็นไปตามครรลองในระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ รัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารประเทศ โดยที่ไม่ผ่านกระบวนการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบต่อภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นของประเทศชาติอย่างมาก หากจะเสนอให้ดำเนินการ น่าที่จะต้องถามความเห็นพี่น้องประชาชนว่า เป็นความต้องการของเสียงส่วนใหญ่ของประเทศจริงหรือไม่ ซึ่งการทำประชามติถือเป็นวิธีที่มีการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ สุดท้ายนี้ ดิฉันเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า เราทุกคนมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรักประเทศชาติไม่แพ้กัน ดังนั้นเพื่อให้ประเทศชาติ ไม่ต้องบอบช้ำไปมากกว่านี้ ดิฉันอยากเห็นเราทุกคนหันหน้าเข้าหากันเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา สำหรับในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ รัฐบาลยินดีจะรับฟังข้อเสนอของผู้ชุมนุม มาพิจารณาและหาทางออกร่วมกัน ไม่มีใครแพ้ แต่เราทุกคนรวมถึงประเทศชาติเป็นผู้ชนะด้วยกันทั้งหมด
นายกรัฐมนตรีแถลงย้ำการจัดตั้งสภาประชาชน หรือ การขอนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 7 ไม่มีบทบัญญัติรัฐธรรมนูญรองรับ และพร้อมลาออกหรือยุบสภา หากเป็นความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ ยืนยันการเปิดเวทีรับฟังข้อเสนอของผู้ชุมนุม
การเมือง
ชุมนุม,นายกรัฐมนตรี,ยุบสภา,ลาออก,สภาประชาชน,สุเทพ
https://news.thaipbs.or.th/content/210819
ไม่เชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย
โดยจะขยายตัวเฉลี่ยในอัตรา 3.7% ทำให้ทั้งปีเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 3.5% ตามที่ ธปท.คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้การส่งออกและการใช้จ่ายลงทุนภาครัฐ ยังเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยการส่งออกไตรมาส 2 ขยายตัว 8% จากระยะเดียวกันปีก่อน และครึ่งปีแรกขยายตัว 7.4% ส่วนการส่งออกปรับตัวดีขึ้น ส่งผลต่อเนื่องถึงการนำเข้า และภาคการผลิตของไทยให้ปรับตัวดีขึ้น การนำเข้าไตรมาส 2 ขยายตัวได้ 13.8% โดยการนำเข้าที่ดีขึ้นส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อการส่งออกเป็นหลัก,อย่างไรก็ตาม เครื่องชี้การอุปโภคบริโภคแม้จะขยายตัว แต่ยอมรับว่ายังไม่เข้มแข็ง เช่นเดียวกับการลงทุนภาคเอกชน 6 เดือนของปีนี้ยังคงหดตัว โดยดัชนีการอุปโภคและบริโภคภาคเอกชนไตรมาส 2 ขยายตัว 2.1% ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ที่ขยายตัว 2.5% ทั้งนี้ เหตุผลที่การใช้จ่ายยังไม่ฟื้นตัว มาจากความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยยังไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร แม้ว่ารายได้เกษตรกรไตรมาส 2 ขยายตัว 14.6% แต่รายได้ที่สูงขึ้นมาจากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็นหลักไม่ได้มาจากราคา ทำให้เกษตรกรยังไม่มั่นใจที่จะใช้จ่าย นอกจากนั้น การส่งออกยางครึ่งปีหลัง ยังมีแนวโน้มชะลอตัวลง ขณะที่แรงงานนอกภาค เกษตร เริ่มมีความกังวลถึงโอกาสการหางานในอนาคตว่าจะลดลง ทั้งจากโครงสร้างเศรษฐกิจไทยที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังไม่เต็มที่ ขณะที่ด้านการลงทุนนั้น ในครึ่งปีแรก การลงทุนภาครัฐมีความล่าช้าพอสมควร ทำให้เอกชนยังมีลงทุนตาม ส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนไตรมาส 2 หดตัว 0.2% และเมื่อเทียบการลงทุนภาคเอกชนเดือน มิ.ย.กับเดือนก่อนหน้าหดตัว 0.4% แต่ ธปท.ยังมีหวังว่าทั้งปีการลงทุนจะกลับมาเป็นบวกได้.
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ขยายตัวใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 3.3% และคาดว่าครึ่งปีหลังจะขยายตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก
ข่าว,เศรษฐกิจ
เศรษฐกิจไทย,ธนาคารแห่งประเทศไทย,ดอน นาครทรรพ,การลงทุนภาคเอกชน,ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/1022429
หนุ่มเบจเพส ซิ่ง จยย.เสยท้ายกระบะ ย่านถนนเทพารักษ์ เสียชีวิต
เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 26 เม.ย.36 พ.ต.ท.ประพัฒน์ ตระการพิทักษ์ สว.(สอบสวน) สภ.บางพลี รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถยนต์กระบะ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณหน้าห้างไทวัสดุ ถนนเทพารักษ์ กม.19 ขามุ่งหน้า บางบ่อ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สตราด้า สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ณท 978 กทม. มี นายอาทิตย์ บุญยู้ อาชีพพ่อค้าตลาดนัด อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1029/33 ภม.15 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เป็นคนขับ สภาพถูกชนฝากระบะท้ายยุบได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังพบรถจักรยานยต์ยี่ห้อยามาฮ่า อาร์ 15 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 8 กฐ 8727 กทม. สภาพหน้ารถพังยับเยิน ทำให้ นายวัชระ แหล่งหล้า อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 332/1 ม.3 ต.หนองพระ อ.วังทอง จ.พิษนุโลก คนขับขี่เสียชีวิตคาที่ ส่วนโชเฟอร์รถกระบะยืนรอให้ปากคำตำรวจในที่เกิดเหตุจากการสอบถาม คนขับรถกระบะ เล่าว่า ตนขับรถจะกลับบ้านที่เคหะบางพลี โดยขับมาในเลนกลางจนมาถึงจุดที่เกิดเหตุ ก็มีรถจักรยานยนต์ขี่มาชนท้ายรถตนอย่างแรง จนกระแทกพวงมาลัย ตนจึงจอดรถลงมาดู ก็พบผู้ได้รับบาดเจ็บนอนหมดสติอยู่กลางถนน โดยมีคนผ่านทางโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือ แต่ไม่ทัน ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตก่อนเบื้องต้นตำรวจจะสอบสวนคนขับกระบะ พร้อมผู้อยู่ในเหตุการณ์ และตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาสาเหตุ และดำเนินตามกฎหมายต่อไป
พ่อค้าตลาดนัด ขับกระบะมุ่งหน้ากลับบ้าน ระหว่างทางถูก จยย.พุ่งชนท้ายอย่างจัง ทำหนุ่ม 25 คนขับขี่ จยย. เสียชีวิต ส่วนคนขับกระบะยืนรอมอบตัว ตร.
ข่าว,ทั่วไทย
รถชนกัน,จักรยานยนต์,จยย.ชนท้าย,รถชนท้าย,อุบัติเหตุ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1831051
แข้งไทยขยับขึ้นที่ 120 ฟ้าขาวรั้งเบอร์ 1 โลก ฟีฟ่าแรงกิ้ง
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 11 ส.ค. ว่า สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ประกาศการจัดอันดับฟุตบอลทีมชาติ ประจำเดือนสิงหาคม (ฟีฟ่า แรงกิ้ง) ทีมชาติไทย ขยับขึ้น 1 ขั้น จาก 121 อันดับ ขึ้นมาอยู่ที่ 120 ขณะที่แชมป์ยูโร 2016 โปรตุเกส ยังอยู่อันดับ 6 ตามเดิม,ช้างศึก ทีมชาติไทย มี 305 คะแนน ขยับขึ้น 1 ขั้น จากอันดับ 121 ขึ้นมาอยู่ที่ 120 โลก รั้งอันดับ 18 เอเชีย และอันดับ 1 อาเซียน ขณะที่อันดับ 1 โซนเอเชีย ยังเป็นทีมอิหร่าน มี 674 คะแนน อยู่อันดับ 39 ของโลก ตามด้วยทีมเกาหลีใต้ มี 609 คะแนน อยู่อันดับ 2 เอเชีย โดยอยู่อันดับ 48 ของโลก ส่วนทีมอุซเบกิสถาน มี 560 คะแนน อยู่อันดับ 3 เอเชีย และอยู่อันดับ 55 ของโลก,ด้านอันดับ 1 โซนยุโรป ยังเป็นทีมเบลเยียม มี 1,401 คะแนน อยู่อันดับ 2 ของโลก ขณะที่อันดับ 1 โซนอเมริกาใต้ ยังเป็นทีมชาติอาร์เจนตินา รองแชมป์โกปา อเมริกา 2016 มี 1,585 คะแนน และรั้งอยู่อันดับ 1 ของโลก ต่อไป ขณะที่แชมป์ยูโร 2016 โปรตุเกส ยังอยู่อันดับ 6 โลก ตามเดิม,ส่วนอันดับ 1 โซนโอเชียเนีย ยังเป็นทีมนิวซีแลนด์ มี 366 คะแนน อยู่อันดับ 93 ของโลก ขณะที่อันดับ 1 โซนคอนคาเคฟ ยังเป็นทีมเม็กซิโก มี 1,042 คะแนน อยู่อันดับ 14 ของโลก และอันดับ 1 โซนแอฟริกา ยังเป็นทีมแอลจีเรีย มี 781 คะแนน อยู่อันดับ 32 ของโลก,สำหรับทีมเกาหลีเหนือ เป็นทีมที่ขยับอันดับขึ้นมากที่สุดในเดือนนี้ โดยขยับ 18 อันดับ จากอันดับ 117 ขึ้นมาอยู่ที่ 99 มี 354 คะแนน,10 อันดับ ฟีฟ่า แรงกิ้ง ประจำเดือนกรกฎาคม,1. อาร์เจนตินา,2. เบลเยียม,3. โคลอมเบีย,4. เยอรมนี,5. ชิลี,6. โปรตุเกส,7. ฝรั่งเศส,8. สเปน,9. บราซิล,10. อิตาลี
ฟีฟ่า แรงกิ้ง ประจำเดือนสิงหาคม ช้างศึก ทีมชาติไทย ขยับจากอันดับ 121 ขึ้นมาอยู่ที่ 120 ของโลก ขณะที่ทีมโปรตุเกส แชมป์ยูโร 2016 ยังรั้งที่ 6 ตามเดิม ส่วนอันดับ 1 อาร์เจนตินา
null
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ,ฟีฟ่า,ฟีฟ่า แรงกิ้ง,อันดับโลก,ช้างศึก,ทีมชาติไทย,โปรตุเกส,แชมป์ยูโร 2016,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/687898
ห้ามอดีตนักโทษนวดแผนไทย 1 ปี?
กลับออกมาแล้วตั้งตัวมีชีวิตอยู่ในสังคมได้ โดยไม่กลับเข้าไปอีก?,เป็นที่มาของการลงทุนฝึกสารพัดอาชีพให้นักโทษในเรือนจำมาหลายสิบปี ประสบความสำเร็จบ้าง ไม่ประสบความสำเร็จบ้าง,อย่างน้อยเชื่อกันว่า มีผู้ต้องขังส่วนหนึ่งที่เข็ดหลาบ พยายามกลับเนื้อกลับตัว?,แต่บางกรณีดูเหมือนกฎหมายที่ออกมา ขีดเส้นปิดทางหากินของอดีตนักโทษเหล่านี้ต้องจำใจกลับเข้าสู่วงจรเดิมๆ กลับไปทำผิดกฎหมายอีก,ตัวอย่างเช่น ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจาก ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ กำลังจับมือกับทัณฑสถานหญิงทั่วประเทศ ต่อสู้เพื่อขอแก้ไข พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ 2559 บางข้อ,ข้อสำคัญคือ มาตรา ๒๑ ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้าม,(๒) เป็นผู้เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทําผิดในความผิดเกี่ยวกับเพศ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด หรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี เว้นแต่ได้พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี ก่อนวันยื่นคำขอขึ้นทะเบียน,สรุปคือ หลังฝึกอาชีพนวดแผนไทยในคุกมาแล้ว หลังพ้นโทษออกมาไม่น้อยกว่า 1 ปี ผู้ต้องขังเหล่านี้ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง จะทำงานนวดแผนไทยเพื่อเลี้ยงชีพไม่ได้?,คำถามที่ร้องเรียนมาและโดนใจมากคือ แล้วจะให้เค้าไปทำอะไรกิน?,ถ้าไม่มีอาชีพ ไม่มีเงินใช้จ่ายในการดำรงชีวิต ก็ต้องกลับเข้าสู่วงจรเดิมๆซึ่งเป็นที่มาของการติดคุกติดตะรางอีก ไม่ว่าจะเป็นค้าประเวณี ส่งยาเสพติด ลักขโมย ฯลฯ,ที่สำคัญ ข้อร้องเรียนนี้มาจากผู้ต้องขังเองโดยตรง เจ้าหน้าที่ทัณฑสถานหญิงกลั่นกรองมาแล้วว่า มันเป็นปัญหาจริงๆ เป็นผลลัพธ์ออกมาหลังบังคับใช้กฎหมายมาแล้ว 2 ปี,ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ดูแลเรื่องกฎหมายบ้านเมือง ช่วยหันมาเหลียวแลหน่อย,อย่างน้อยถ้าทำให้นักโทษหญิงไม่ต้องเดินกลับเข้าคุกซัก 5 เปอร์เซ็นต์ก็ยังดี?,สหบาท
มีความพยายามจากหลายหน่วยงาน ทั้งหน่วยงานหลักและหน่วยงานรองมานมนาน ที่จะทำให้ผู้ต้องขังทั้งชายและหญิงที่เคยติดคุกติดตะราง
null
ส่องตำรวจ,สหบาท,ผู้ต้องขัง,ฝึกอาชีพ,นักโทษ
https://www.thairath.co.th/news/local/1360530
สภานิวซีแลนด์ฉาว นายกฯ ไล่รัฐมนตรีฟ้าผ่า เหตุมีความสัมพันธ์ลับกับพนักงาน
นายกหญิงนิวซีแลนด์ลงดาบ ปลดรัฐมนตรีฉาว ไม่สนข้ออ้าง หลังถูกกล่าวหามีความสัมพันธ์ไม่เหมาะสมกับอดีตเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2563 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ปลดนายIain Lees-Galloway รัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมือง (Immigration Minister) ออกจากตำแหน่งหลังถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกับอดีตเจ้าหน้าที่ ถึงแม้ว่ารัฐมนตรีผู้นี้จะระบุว่าเป็นความสัมพันธ์ที่เกิดจากการยินยอมก็ตามด้านรัฐมนตรี Iain Lees-Galloway ระบุว่าเขายอมรับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีและขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมยอมรับว่าเขาได้ทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมและไม่สามารถทำหน้าที่รัฐมนตรีต่อไปได้เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดคดีฉาวในสภานิวซีแลนด์ โดยเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานอัยการจากพรรคเนชันเนลออกจากตำแหน่งเนื่องจากคดีความฉาวโฉ่หลังจากถูกกล่าวหาว่าส่งรูปอนาจารให้หญิงอายุน้อยมาแล้วที่มา: Reuters
นายกหญิงนิวซีแลนด์ลงดาบ ปลดรัฐมนตรีฉาว ไม่สนข้ออ้าง หลังถูกกล่าวหามีความสัมพันธ์ไม่เหมาะสมกับอดีตเจ้าหน้าที่
ข่าว,ต่างประเทศ
ปลดรัฐมนตรี,นิวซีแลนด์ปลดรัฐมนตรี,รมต.ตรวจคนเข้าเมือง,นิวซีแลนด์,จาซินดา อาร์เดิร์น,ข่าวต่างประเทศ
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1895036
ญี่ปุ่นส่งหุ่นยนตร์ควินซ์เก็บภาพภายในเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์
หุ่นยนตร์ควินซ์ หมายเลข 2 ได้ เก็บภาพภายของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ หมายเลข 2 ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูจิมะ ไดอิชิ ของญี่ปุ่น ซึ่งเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อปีที่แล้ว บริษัทเทปโก้ เจ้าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูจิมะ ไดอิชิ นำมาเปิดเผย ซึ่งสารกัมมันตภาพรังสีภายในเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ หมายเลข 2 สูงกว่า 220 มิลิซีเวิร์ตต่อชั่วโมง ซึ่งสูงเกินกว่าที่จะส่งพนักงานเข้าไปได้ ขณะที่พนักงานกู้โรงไฟไฟ้านิวเคลียร์ฟูกูจิมะไดอิชิ กว่า 3 พันคน กังวลกับปริมาณสารกัมมันตภาพรังสีที่อาจได้รับ โดยหน่วงานความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์ของญีปุ่นกำหนดให้พนักงานจะต้องได้รับกัมมันตภาพรังสีไม่เกิน 250 มิลิซีเวิร์ตต่อปีบริษัทเทปโก้เปิดเผยว่า พนักงานหลายคนได้รับกัมมันตภาพรังสีเกินกว่ากำหนดไว้ถึง 5 เท่า แต่พนักงานเหล่านี้ยังทำงานต่อไป เพราะต้องการให้วิกฤตนิวเคลียร์ยุติในช่วงชีวิตของพวกเขา โดยไม่ต้องการให้ลูกหลานเผชิญกับภัยนิวเคลียร์
ประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยภาพภายในเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 2 ซึ่งเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อปีที่แล้ว ที่มีสารกัมมันตภาพรังสีสูงเกินกว่าที่จะส่งพนักงานเข้าไปได้
ต่างประเทศ
ญี่ปุ่น,ภาพ,หุ่นยนตร์ควินซ์,เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์,เทปโก้
https://news.thaipbs.or.th/content/69496
จ.สุรินทร์ จัดงานยิ่งใหญ่ ต้อนรับ น็อคเอาท์ 15 ก.ค.นี้
ส่วนกลางคืนมีมหรสพสมโภช พร้อมมอบรางวัลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจที่สร้างชื่อเสียง 15 ก.ค.นี้,วันที่ 4 ก.ค. 59 ที่ห้องประชุมวิทยาลัยอาชีวศึกษาจังหวัดสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ พ.อ.ปฎิกรณ์ เอี่ยมละออ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมในการต้อนรับ น็อคเอาท์ ซีพีเฟรชมาร์ท แชมป์มวยโลก รุ่นมินิมั่มเวท 105 ปอนด์ ของสมาคมมวยโลก (WBA) แชมป์โลกคนที่ 48 ของไทย หลังจากชนะคะแนน ไบรอน โรฮาส นักชกชาวนิการากัว ซึ่งเป็นขวัญใจชาวไทยคนใหม่ ชาวสุรินทร์ มีนายปกรณ์ มุ่งเจริญพร อดีต ส.ส.สุรินทร์ ประธานอุตสาหกรรมจังหวัดสุรินทร์ ตัวแทนประธานหอการค้าสุรินทร์ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการร้านค้า และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม,นายปกรณ์ กล่าวภายหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นว่า ในที่ประชุมเห็นตรงกันว่า จะจัดพิธีต้อนรับแชมป์โลกคนใหม่ ในวันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคมนี้ เริ่มงานตั้งแต่เวลา 18.00 น. จะมีขบวนแห่ช้างให้แชมป์โลกและคณะได้นั่ง พร้อมทั้งมีขบวนรถยนต์ และขบวนนักศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์, อาชีวศึกษาและอีกหลายสถาบัน จากบริเวณหน้าสถานีรถไฟ ผ่านตลาดไปยังสถานที่จัดงานมหรสพสมโภช บริเวณอนุสาวรีย์พระยาศรีณรงค์ จางวาง ช่วงเย็นมีการมอบรางวัลจากพ่อค้าประชาชนที่จะมอบให้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และสร้างชื่อเสียงให้จังหวัดสุรินทร์ อีกด้วย,สำหรับ น็อคเอาท์ ซีพีเฟรชมาร์ท เป็นแชมป์เฉพาะกาลของไทย ขึ้นล้มแชมป์กับ โรฮาส แชมป์โลกชาวนิการากัว ผลปรากฏว่าเมื่อครบ 12 ยก กรรมการทั้ง 3 คน ให้ชนะคะแนน โดยชกกันที่สนามมวยหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งนัดนี้ถือเป็นมวยแชมป์ล้มแชมป์ รุ่นมินิมัมเวท 105 ปอนด์ ของสมาคมมวยโลก
จังหวัดสุรินทร์ เตรียมจัดงานต้อนรับ น็อคเอาท์ ซีพีเฟรชมาร์ท แชมป์มวยโลก รุ่นมินิมั่มเวท 105 ปอนด์ ของสมาคมมวยโลก (WBA) ขวัญใจชาวไทยคนใหม่ ที่ชนะคะแนน ไบรอน โรฮาส ชาวนิการากัว ซึ่งจะมีขบวนช้างและขบวนรถแห่รอบเทศบาลเมือง
null
น็อคเอาท์ ซีพีเฟรชมาร์ท,แชมป์เฉพาะกาล,แชมป์โลกคนใหม่,แชมป์โลกคนที่ 48 ของไทย,แชมป์มวยโลก รุ่นมินิมั่มเวท,สมาคมมวยโลก,สุรินทร์,พิธีต้อนรับแชมป์โลกคนใหม่,มวย
https://www.thairath.co.th/content/654679
นายกฯ ไม่รู้แก้ พ.ร.บ.สงฆ์ ยันจับ ธัมมชโย เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 59 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกระแสข่าวการเสนอแก้ไข  พ.ร.บ.สงฆ์ ว่า ถือเป็นเรื่องธรรมดา และตนเองยังไม่รู้ ส่วนการแก้ไข พ.ร.บ.ฉบับใดก็ตามถือเป็นหน้าที่ของทุกคนเสนอใช้กฎหมายได้ รัฐบาลก็เสนอได้ สภานิติบัญญัติ (สนช.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ก็เสนอได้ ซึ่งขั้นตอนมีอยู่แล้ว นี่คือขั้นตอนของการทำงาน ในเรื่องการเสนอกฎหมาย ตนไม่ต้องไปสั่งใคร หรือใครต้องมาขออนุญาต ถือเป็นกลไกทางกฎหมายที่ฝ่ายนิติบัญญัติเป็นผู้ดำเนินการ ผมยังไม่รู้อะไรเลยในเรื่องนี้,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย ว่า จะสามารถดำเนินการได้ก่อนหรือหลังปีใหม่ ขอถามว่าได้อะไรกับประเทศชาติบ้าง ก็ไม่เห็นได้อะไร ตอนนี้คดีที่เกี่ยวข้องปาไป 200 กว่าคดีแล้ว แล้วทำไมไม่ดูถึงความก้าวหน้ากันบ้าง อย่างกรณีที่รักษาการเจ้าอาวาสได้เข้ามามอบตัว และในหลายๆ อย่างที่เกี่ยวข้อง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ก็ได้เตรียมการ และดำเนินการกันไปแล้ว คือถ้าสถานการณ์พร้อมเมื่อไร จะต้องดำเนินการตามหมายค้น หมายจับ ทำได้เมื่อไรก็เมื่อนั้น ไม่ต้องไปเร่งรัดอะไรกันนักหนา ผมบอกแล้วอย่างไรว่าขอให้ทุกคนมีความสุขในช่วงปีใหม่ก่อนไม่ดีกว่าหรือ เข้าไปแล้วจะได้อะไร หรือไม่ได้อะไร จะดีหรือเสีย หรือจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ทุกคนคาดการณ์ออกกันอยู่แล้วว่าเขาต้องการอะไร แล้วเราจะเดินไปตามทางที่เขาวางขุดล่อไว้หรืออย่างไร เป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องควบคุมสถานการณ์นี้ให้ได้,นายกฯ กล่าวต่อว่า ทุกคนจะต้องอยู่ในความสงบเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็น พระ คน ต่างก็มีหน้าที่กันอยู่แล้ว กระทรวงยุติธรรมก็มีหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย ก็ได้ทำหน้าที่กันไปแล้ว คดีความต่างๆ ก็อยู่ระหว่างการนำสู่กระบวนการพิจารณา ฟ้องร้องดำเนินคดีไปทั้งหมดแล้ว หลายร้อยคดี ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องของดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งกฎหมายเขียนไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า ถ้าเหตุการณ์จะส่อไปสู่ความวุ่นวาย มีอันตรายเกิดขึ้น เมื่อได้เวลาที่เหมาะสมก็ค่อยดำเนินการ ก็ไม่ได้สั่งว่าจะต้องเป็นเมื่อไร ทุกคนก็รู้อยู่แล้ว สื่อต้องการจะให้เกิดขึ้นเร็วๆ หรือไม่ ใครอยากไปเวลาเขาดำเนินการให้บอกมา เดี๋ยวจะจัดให้ไปด้วย ไปเป็นแนวหน้าด้วยกัน.
ประยุทธ์ ชี้แก้กฎหมายทุกคนเสนอได้ ไม่ต้องขออนุญาต ยังไม่รู้แก้ พ.ร.บ.สงฆ์ ระบุจัดการ ธัมมชโย เป็นไปตามกฎหมายขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม อย่าเร่งรัดถึงเวลาเหมาะสมค่อยดำเนินการ บอกใบ้ให้ประชาชนมีความสุขปีใหม่ก่อน
null
ธัมมชโย,วัดพระธรรมกาย,กฎหมาย,นายกรัฐมนตรี,พ.ร.บ.สงฆ์
https://www.thairath.co.th/content/822825
อนาคตใหม่ เมิน กกต.ลุยระดมทุน ธนาธร ย้ำจุดยืนไม่เอารัฐประหาร
ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่สร้างวาจาแห่งความเกลียดชัง   ,เมื่อวันที่ 18 ต.ค.61 ที่พรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการดำเนินกิจกรรมของพรรค รวมถึงการประกาศจุดยืนเกี่ยวกับการระดมทุน เพื่อดำเนินกิจกรรมการเลือกตั้งของพรรค,โดย นายปิยะบุตร กล่าวว่า สำหรับการรับสมัครและการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง พรรคอนาคตใหม่กำหนดหลักการพื้นฐานสำคัญของผู้สมัครไว้ คือ 1. การเปิดกว้าง 2. อุดมการณ์และคุณค่าพื้นฐาน 3. การมีส่วนร่วม แบ่งเป็น 5 ขั้นตอน 1. การเปิดรับสมัคร 2. การตรวจสอบคุณสมบัติตามกฎหมาย จากเอกสารและการสัมภาษณ์ 3. การทำไพรมารีโหวต โดยคณะกรรมการสรรหาประกาศผู้มีสิทธิเข้าแข่งขันไพรมารีโหวต จากนั้นสมาชิกพรรคในแต่ละเขตเลือกตั้งลงคะแนนผ่านระบบออนไลน์ 4. ประกาศผลไพรมารีโหวต นำรายชื่อผู้ที่ได้คะแนนลำดับ 1 และ 2 ไปรับฟังความเห็นจากสาขาพรรคประจำจังหวัดหรือคณะทำงานประจำจังหวัด 5. การลงมติเลือกโดยคณะกรรมการบริหารพรรค โดยต้องพิจารณาเลือกลำดับที่ 1 เป็นหลัก เว้นแต่มีกรณีจำเป็น อาจเลือกลำดับที่ 2 ได้,นายปิยะบุตร กล่าวอีกว่า ส่วนการรับสมัครและการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ พิจารณาคัดเลือกผู้สมัครโดยยึดหลักการ คือ 1. มีความรู้ความสามารถ 2. กระจายตามสัดส่วนของภาคต่างๆ 3. การสนับสนุนกลุ่มบุคคลที่อาจถูกกีดกัน และอาจถูกเลือกปฏิบัติได้เข้ามามีบทบาททางการเมือง 4. การอุทิศตนให้กับพรรค 5. ความคิดและการกระทำสอดคล้องกับอุดมการณ์ของพรรค 6. การมีส่วนร่วมของสมาชิกผ่านไพรมารีโหวต สำหรับกลุ่มผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1. หัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคที่หัวหน้าพรรคคัดเลือก 2. ตัวแทนของภาคต่างๆ 3. ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญประสบการณ์ในด้านต่างๆ ตลอดจนบุคคลทั่วไป 4. กลุ่มบุคคลที่อาจถูกกีดกันและเลือกปฏิบัติจากสังคม ทั้งนี้จะมีการจัดทำไพรมารีโหวตด้วย,นายปิยะบุตร กล่าวต่อว่า ไทม์ไลน์การทำไพรมารีและการเลือกตั้งภายใน ผู้ประสงค์ลงสมัครโหวตเพื่อคัดเลือกเป็นผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ได้ตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.-18 พ.ย. โดยเปิดรับสมัครผู้ประสงค์ลงสมัครไพรมารีโหวตเพื่อคัดเลือกเป็นผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนต่างๆ ตามกระบวนการของพรรค ซึ่งจะประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคทั่วประเทศ 31 ธ.ค. ทั้งนี้ ในวันที่ 18-29 ต.ค. จะมีการเปิดรับสมัครผู้ประสงค์ลงสมัครเป็นคณะทำงานจังหวัด จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนต่างๆ ตามกระบวนการของพรรค ตั้งสาขาพรรคใน 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น พระนครศรีอยุธยา ระยอง นครศรีธรรมราช และนราธิวาส รวมถึงตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ซึ่งจะส่งเอกสารจัดตั้งสาขาพรรคและตัวแทนพรรคประจำจังหวัดให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง 16 ธ.ค.,นอกจากนี้ นายธนาธร ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ระบุว่า ไม่ยืนยันว่าจะไม่ทำรัฐประหารว่า ตนยืนยันว่าไม่ต้องการเห็นสังคมที่มีการทำรัฐประหารอีก และการใช้คำโกหกหรือข่าวลวงที่ทำให้ประชาชนเกิดความเกลียดกลัวกัน เป็นข้ออ้างในการสร้างบรรยากาศไปสู่การทำรัฐประหาร ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ยืนยันจะพยายามเต็มที่ ไม่ให้ประเทศไทยเกิดการรัฐประหารขึ้นอีก,เมื่อถามว่า ในฐานะที่ก้าวเข้าสู่การเมือง จะไม่เป็นส่วนร่วมในการทำให้เกิดการจลาจลในอนาคต ตามที่ ผบ.ทบ.ระบุหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า เรายืนยันสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต และการชุมนุมโดยสุจริต เราจะยืนยันเรื่องหลักการไม่ใช้ความรุนแรง และพรรคยืนยันว่าจะไม่สร้างวาจาแห่งความเกลียดชังให้ประชาชนเกลียดกันเอง ดังนั้นด้วยจุดยืนเหล่านี้เราจะไปเป็นคนที่ทำให้เกิดความแตกแยกได้อย่างไร
พรรคอนาคตใหม่ เมิน กกต.ประกาศจุดยืนระดมทุนเลือกตั้ง ปิยะบุตร เผยเริ่มเปิดรับสมัครคัดเลือกไพรมารีโหวต 18 ต.ค.นี้ เชื่อได้ผู้สมัครครบสิ้นปี ด้าน ธนาธร ย้ำจุดยืนไม่เอารัฐประหาร ยันหลักการ
ข่าว,การเมือง
พรรคอนาคตใหม่,ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,อนาคตใหม่,รัฐประหาร,ระดมทุน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1399261
ทร.ยันเรือ สันทัดสมุทร 1 ยังเกยตื้นติดหาดชุมพร ตู้สินค้าอยู่ครบ
จากกรณี พลเรือโทรังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผอ.ศรชล. เขต 1 /ผบ.ทรภ.1 สั่งการให้หมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ 1 สนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง นำโดย นาวาโทตุลรัฐ ทรงทิมไทย ผู้ควบคุมอากาศยานฯ วางแผนและนำเครื่องบินลาดตระเวนแบบที่ 1 (DO-228) ขึ้นบินลาดตระเวนสำรวจเพื่อพิสูจน์ทราบ และช่วยเหลือเรือสินค้าถูก คลื่นลมซัดเกยตื้นที่หาดคอสน อ.ท่ายาง จ.ชุมพร เมื่อเวลา 10.30 น. ของวันนี้นั้น,เมื่อเวลา 12.30 น. ของวันเดียวกัน นาวาโทตุลรัฐ ทรงทิมไทย ผู้ควบคุมอากาศยานฯ ได้นำเครื่องบินลาดตระเวนแบบที่ 1 (DO-228) ขึ้นบินลาดตระเวนสำรวจเพื่อพิสูจน์ทราบ ด้วยการฝ่าอากาศในทัศนวิสัยการมองเห็นต่ำกว่า 3 กม. ความเร็วลมแรงมากกว่า 25 นอต ขึ้นจากสนามบินอู่ตะเภา ทะลุเมฆด้วยเพดานบินความสูง 8,500 ฟุต ความเร็ว 220 นอต จนถึงที่หมาย ซึ่งต้องใช้เวลาในการบินกว่า 1 ชม. จนถึงที่หมาย และลดเพดานบินลงเหลือ 300 ฟุต ในสภาพทัศนวิสัยไม่ดี คลื่นลมในทะเล และสภาพลมในอากาศแรงมาก ,พบเรือบรรทุกสินค้าชื่อ สันทัดสมุทร 1 สัญชาติไทย ตัวเรือสีเขียว น้ำหนักบรรทุก 875 ตันกรอส บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 20 ตู้ ในสภาพเรือจอดเกยตื้นติดโขดหินอยู่ในแนวขนานกับชายหาด มีลักษณะเอียงเล็กน้อย ตู้สินค้ายังอยู่บนเรือปกติ ห่างจากชายฝั่งประมาณ 300-400 เมตร ,จากการติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่บนเรือ ทราบว่า เรือสินค้าลำดังกล่าว ได้บรรทุกสินค้า (ตู้คอนเทนเนอร์) มาจาก จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อนำมาส่งยังท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี แต่ได้เจอกับพายุคลื่นลมที่แรงมากบริเวณอ่าวปะทิว จ.ชุมพร จึงได้จอดทอดสมอเพื่อรอคลื่นลมสงบก่อนเดินทางต่อ แต่ปรากฏว่าได้ถูกคลื่นลมที่แรงมากโถมเข้าซัดจนทำให้สมอเกา (สมอเอาไม่อยู่) เรือถูกซัดเข้าฝั่งมาเกยตื้นที่หาดคอสนชายหาดชุมพร ดังกล่าว ส่วนการจะลากเรือออกกำลังประสานกับทางบริษัทเจ้าของเรืออยู่ คาดว่าคงต้องรอให้คลื่นลมสงบก่อนจึงจะสามารถลากเรือที่เกยตื้นออกได้,ด้าน นาวาโทตุลรัฐ ทรงทิมไทย ผู้ควบคุมอากาศยานฯ เดินทางเข้าสำรวจในครั้งนี้ กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่ทัศนวิสัยไม่ค่อยดี การมองเห็นประมาณ 2-3 กม. แต่ก็สามารถนำเครื่องบินเข้าลาดตระเวนพิสูจน์ทราบพบเรือลำดังกล่าวเกยตื้นอยู่.,ภาพจาก กองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1
เครื่องบินดอร์เนียร์ 228 ของกองบินทหารเรือ บินดูเรือสันทัดสมุทร 1 ที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 20 ตู้ ที่ถูกคลื่นซัดเกยตื้นติดโขดหินอยู่ในแนวขนานกับชายหาดคอสน จ.ชุมพร โดยพบมีลักษณะเอียงเล็กน้อย ตู้สินค้ายังอยู่บนเรือปกติ
null
สันทัดสมุทร 1,เรือสินค้าเกยตื้น,หาดคอสน,เครื่องบินลาดตระเวน,ดอร์เนียร์ 228,ตุลรัฐ ทรงทิมไทย,เรือเกยตื้น,เรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์,ชุมพร,ข่าวทั่วไทย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/574708
โรงตึ๊งขนเงินรอ 1.95 หมื่นล้าน
รับคลื่นมหาชน 1.33 ล้านคนแบกทรัพย์เข้าโรงจำนำ,นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่า ครม.อนุมัติการกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการของสำนักงานธนานุเคราะห์ ประจำปีงบประมาณ 62 วงเงิน 500 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ ซึ่งทางสำนักงานธนานุเคราะห์ได้ประมาณการแผนทางการเงินตามสภาวการณ์ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก โดยคาดว่าจะมีจำนวนผู้มาใช้บริการรับจำนำในปี 62 จำนวน 1,339,419 ราย หรือเพิ่มขึ้นจากปี 61 จำนวน 38,630 ราย เนื่องจากประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำด้วยการนำทรัพย์สินมาจำนำกับโรงรับจำนำของรัฐบาลที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่าแหล่งเงินทุนและโรงรับจำนำเอกชน,นอกจากนี้ สำนักงานธนานุเคราะห์ยังได้ประมาณการจำนวนเงินการรับจำนำปี 62 ประมาณ 19,555.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 61 ประมาณ 569.05 ล้านบาท ดังนั้น การกู้เงิน 500 ล้านบาทเพื่อไว้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและรองรับธุรกรรมการรับจำนำของประชาชนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งเพื่อประกันการขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทั้งนี้ เมื่อกู้เงิน 500 ล้านบาท มาเพื่อรองรับธุรกรรมรับจำนำดังกล่าวแล้ว จะได้รับรายได้รวม 795.39 ล้านบาท เมื่อหักค่าใช้จ่าย 438.16 ล้านบาทแล้วจะมีกำไรสุทธิ 357.23 ล้านบาท ตามประมาณการงบทำการรับจำนำปีงบประมาณ 62,ทั้งนี้ สำนักงานธนานุเคราะห์ได้จัดทำกรอบงบประมาณลงทุนประจำปี 62 ดังนี้ งบลงทุนรวม 109.62 ล้านบาท เป็นงบลงทุนเพื่อปรับปรุงอาคาร เครื่องใช้สำนักงานเพื่อใช้ในกิจการรับจำนำ 5.56 ล้านบาท และงบลงทุนที่เป็นแผนระยะยาว ได้แก่ แผนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและแผนขยายสถานธนานุเคราะห์ 104.06 ล้านบาท ส่วนงบทำการรับจำนำมีรายละเอียดดังนี้ รายได้ 795.39 ล้านบาท เป็นรายได้จากดอกเบี้ย 677.69 ล้านบาท และกำไรจากการจำหน่ายทรัพย์หลุดจำนำ 115.70 ล้านบาท และรายได้อื่น 2 ล้านบาท ขณะที่มีรายจ่าย 364.17 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการขาย 364.17 ล้านบาท และดอกเบี้ยจ่ายสำหรับเงินกู้ 73.99 ล้านบาท ดังนั้น จะมีกำไรสุทธิ 357.23 ล้านบาท.
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่า ครม.อนุมัติการกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการของสำนักงานธนานุเคราะห์
ข่าว,เศรษฐกิจ
ณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์,โรงจำนำ,เงินกู้,งบประมาณ,เงินทุนหมุนเวียน
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1477411
กทม.เร่งซ่อมแนวป้องกันน้ำท่วม คาดเสร็จ ก.ย.นี้
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเยว่า ขณะนี้ กทม. อยู่ระหว่างการซ่อมแซมแนวป้องกันน้ำท่วม และเสริมคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย คลองมหาสวัสดิ์ และคันกั้นน้ำพระราชดำริด้านตะวันออก รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำ ขุดลอกคลอง ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ เครื่องสูบน้ำ และสร้างระบบเตือนภัย โดยติดตั้งเครื่องวัดอัตราการไหลของน้ำ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้ส่วนการลอกท่อระบายน้ำในถนนสายหลัก และบริเวณที่เป็นจุดอ่อนน้ำท่วม 362 เส้นทาง ระยะทาง 1022 กิโลเมตร แบ่งเป็นกทม.ดำเนินการเอง ด้วยการใช้รถดูดเลน และจ้างเหมากรมราชทัณฑ์ ขณะนี้เสร็จสิ้นไปแล้ว 187 กิโลเมตร ขณะที่การทำความสะอาดถนนเสร็จแล้วจำนวน 67 เส้นทาง ส่วนกองทัพบก ซึ่งรับผิดชอบขุดคลอง 277 คลอง ดำเนินการไปแล้ว 9 คลอง อยู่ระหว่างดำเนินการจำนวน 66 คลองสำหรับเงินเยียวยา 5000 บาท กรุงเทพมหานคร จะเร่งออกหนังสือรับรองทั้งหมด และส่งไปให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ภายในวันที่ 15 มีนาคมนี้ ส่วนเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังซึ่งจะครบกำหนดให้ประชาชนยื่นคำร้องวันที่ 10 มีนาคมนี้ กรุงเทพมหานคร ได้ยื่นขอขยายเวลาออกไปอีก 90 วัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กรุงเทพมหานคร เร่งซ่อมแนวป้องกันน้ำท่วมของกรุงเทพมหานคร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำ คาดว่าจะเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ พร้อมเตรียมประสานงานกับกองทัพอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน
สังคม
กทม.,ซ่อม,น้ำท่วม,ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร,แนวป้องกัน
https://news.thaipbs.or.th/content/70865
เจ้าอาวาสวัดศรีนคร เข้าแจ้งความ สภ.ธารโต โดนมือมืดขู่ฆ่าทางโซเชียล
จากกรณีเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2561 พระครูสมุหพิสิทธิ์ อนาลโย เจ้าอาวาสวัดศรีนคร ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา ได้รับผลกระทบจากการเข้าร่วมหารือข้อเรียกร้องจากผู้ปกครองโรงเรียนอนุบาลปัตตานี ในการหาผลสรุปการกำหนดเครื่องแบบนักเรียน ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ทำให้ พระครูสมุหพิสิทธิ์ อนาลโย พระนักพัฒนา และเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีนคร ถูกเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ไปตามสื่อสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง จนทำให้มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม เข้ามาตอบโต้โดยใช้ข้อความระบุ ข่มขู่ ขู่ฆ่า และจะเผาวัด,ล่าสุด วันที่ 27 พ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พระครูสมุหพิสิทธิ์ อนาลโย เจ้าอาวาสวัดศรีนคร อ.ธารโต จ.ยะลา ได้กล่าวถึงกรณีว่า ในวันดังกล่าว อาตมาได้เดินทางไปร่วมประชุมหารือ เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับการแต่งกายนักเรียน ร่วมกับผู้ปกครองของโรงเรียน โดยมีความประสงค์ที่จะให้ผู้อนุมัติคำสั่ง ออกมาชี้แจง และรับผิดชอบ กับการตัดสินใจในคำสั่งวาจา ที่ได้สั่งการลงมา เพื่อเอาใจคนอีกกลุ่มหนึ่ง โดยได้มีสื่อมวลชนรายงานเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง แต่บางสื่อก็นำเสนอไปในทางที่บิดเบือน ไม่ตรงกับความเป็นจริง บ้างก็ว่า อาตมาเป็นพระหัวรุนแรง สร้างความแตกแยก ปลุกระดมความคิด แท้จริงแล้วอยากให้ทุกคนมองความสำคัญในส่วนของการเรียกร้อง เพื่อให้เป็นระเบียบปฏิบัติที่เหมือนกัน ดังเช่นที่เคยทำมากว่า 50 ปี,เจ้าอาวาสวัดศรีนคร กล่าวอีกว่า อาตมาได้ปรึกษากับผู้หลักผู้ใหญ่ และได้ดำเนินการนำเอาหลักฐาน เอกสาร ที่เป็นการโพสต์ข่มขู่ทางสื่อออนไลน์ ดำเนินการแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.ธารโต จ.ยะลา แล้ว เพื่อเอาผิดกับเพจที่ผิดเบือนข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ก็มีข่าวรายงานว่า กลุ่มบุคคลที่ไม่พึงประสงค์และไม่พอใจกับอาตมา ได้ปลุกระดมให้เกิดความเกลียดชังและจะทำร้ายอาตมา อีกทั้งตั้งรางวัลเป็นค่าหัวอีกด้วย,อย่างไรก็ตาม พระครูสมุหพิสิทธิ์ อนาลโย กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังคงปฏิบัติกิจสงฆ์ตามปกติ และไม่อยากให้เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงน้ำผึ้งหยดเดียว ที่จะทำให้เกิดปัญหากับกลุ่มประชาชนในพื้นที่ แต่หากเกิดปัญหาบานปลาย ก็คงจะมาจากผู้ที่เสียผลประโยชน์ ที่บิดเบือนข้อมูลข่าวสารที่ไม่เป็นความจริง เพราะขณะนี้ในพื้นที่มีกลุ่มคนที่ต้องการให้เกิดปัญหากันอยู่แล้ว ที่ผ่านมา สมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยต้องลงมาดูแล และการเรียกร้องเพื่อต้องการให้อยู่ภายใต้ระเบียบของกฏเกณฑ์ของโรเรียน แต่ไม่ใช่ว่าผู้มีอำนาจ จะใช้อำนาจมาบีบบังคับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องทำตามเพื่อเอาใจกลุ่มคนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่ให้มองเรื่องของกฎระเบียบเป็นหลักให้มาก.
เจ้าอาวาสวัดศรีนคร เข้าแจ้งความ สภ.ธารโต จ.ยะลา หลังถูกมือมืดโพสต์ขู่ฆ่าทางโซเชียล กรณีเข้าร่วมหารือเรียกร้องไม่ให้ นร.ของอนุบาลปัตตานีสวมฮิญาบ ยันแค่อยากให้เป็นระเบียบปฏิบัติเหมือน 50 ปี
ข่าว,ทั่วไทย
พระครูสมุหพิสิทธิ์ อนาลโย,วัดศรีนคร,ยะลา,ไม่ให้สวมฮิญาบ,โรงเรียนอนุบาลปัตตานี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1292792
“สโนว์บอร์ดหรือโต้คลื่นไม่ได้เกี่ยวกับความแมน” คุยกับ ‘Torah Bright’ นักกีฬาโอลิมปิกมือหนึ่งแดนจิงโจ้
นับตั้งแต่จำความได้ โทราห์ ไบรท์ (Torah Bright) เด็กหญิงผมบลอนด์ชาวออสเตรเลียจากรัฐนิวเซาท์เวลส์หลงใหลในหิมะขาวปุย จนเริ่มสนใจหยิบจับอุปกรณ์สกีตอน 2 ขวบ และหันมาสนใจกีฬาสโนว์บอร์ดอย่างจริงจัง โทราห์ด้วยวัยเพียง 13 ปี ได้เข้าร่วมกับทีมแข่งขันของ Roxy จนได้โลดแล่นอยู่บนเนินหิมะขาวโพลนในฐานะนักกีฬาโอลิมปิกที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งของออสเตรเลีย โดยคว้าเหรียญทองที่โอลิมปิกฤดูหนาวปี 2010 และผ่านสนามแข่งมาแล้วทั้ง TTR World Tour Global Open Series FIS World Cups และ Winter X Games เธอยังเป็นนักกีฬาเพียงคนเดียวในโลกที่ผ่านเข้ารอบไปแข่งถึง 3 รายการในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่โซชิ ประเทศรัสเซีย เมื่อปี 2014 จนคว้าเหรียญเงินมาครองได้สำเร็จ THE STANDARD พบกับ โทราห์ ไบรท์ ขณะเธอกำลังล้อคลื่นที่ภูเก็ตในงาน Roxy Fitness Run และได้พูดคุยกับเธอถึงกีฬากับผู้หญิงในฐานะนักกีฬาหญิงระดับโลก และนางแบบในวัย 30 ปีคุณมาหลงใหลกีฬาสโนว์บอร์ดได้อย่างไรกัน บ้านของฉันอยู่ในบริเวณที่มีแต่ภูเขาหิมะในออสเตรเลีย ทางตอนใต้ของซิดนีย์ประมาณ 5 ชั่วโมงได้ ทำให้เริ่มเล่นสกีตั้งแต่ 2 ขวบ และเริ่มมาจับสโนว์บอร์ดได้ตอนอายุ 11 มันเป็นกิจกรรมสนุกๆ ของครอบครัวเรา ตอนแรกๆ เราก็ไม่ได้ตั้งใจไปเล่นสโนว์บอร์ดเลยหรอก เราปั้นตุ๊กตาหิมะ เขวี้ยงหิมะใส่กัน มันเริ่มจากตรงนั้น และทำให้เราหลงใหลในกิจกรรมพวกนี้ การอยู่บนภูเขาหิมะแล้วได้เห็นหิมะสีขาวบริสุทธิ์ค่อยๆ ร่วงจากฟ้า มันน่าอัศจรรย์มากเลยนะคุณตัดสินใจตอนไหนว่าจะเป็นนักกีฬาเต็มตัว ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเป็นนักกีฬาทีมชาติ รู้แค่ว่าฉันชอบในสิ่งนี้ และพ่อกับแม่ก็ผลักดันฉันด้วยในเรื่องนี้ จนได้มาเล่นให้กับทีมชาติ มันเหมือนกับฝันที่เป็นจริงเหมือนกันนะ เพราะคุณก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่ชอบเล่นซนบนหิมะ แล้วสุดท้ายคุณก็ได้กลายมาเป็นตัวแทนคนทั้งประเทศ ฉันว่าฉันเป็นคนที่โชคดีมากที่สุดคนหนึ่งก็ว่าได้ เพราะได้การสนับสนุนจากคนรอบข้างและทีมของ Roxy ด้วย ทำให้ฉันได้เดินทางไปในที่น่าทึ่งตั้งหลายที่ และให้ฉันได้มานั่งคุยกับคุณอยู่บนหาดสวยๆ ของภูเก็ตนี่ไงคุณมักคิดถึงอะไรตอนอยู่บนเกลียวหิมะ เวลาที่ฉันขึ้นไปอยู่บนยอดเขามักเป็นช่วงเวลาที่ฉันได้อยู่กับตัวเอง ลืมทุกสิ่งรอบตัวแล้วอยู่กับวินาทีนั้น ลืมนึกถึงสิ่งที่ต้องทำ ภาระหน้าที่ต่างๆ ไปก่อน แล้วเสพความสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า และจากประสบการณ์แล้ว ถ้าใจคุณไม่อยู่กับวินาทีนั้น คุณอาจบาดเจ็บเอาได้ เพราะคุณต้องดูสิ่งรอบๆ ตัวเสมอ เพราะอาจมีคนมาขวางทางคุณก็ได้ และอย่าลืมว่าคุณกำลังอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ฉันชอบความเร็ว มันเหมือนกับคุณกำลังเอาชนะ ได้หลุดไปอยู่ในโลกโลกหนึ่งที่ทุกสิ่งไร้ความหมายคุณรักอะไรที่สุดเกี่ยวกับการสโนว์บอร์ดล่ะ ในความขาวโพลนนั้น สิ่งที่ท้าทายที่สุดจริงๆ แล้วคือความเร็ว นั่นเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดแล้ว ฉันเป็นคนชอบความเร็ว ชอบการแข่งรถ มันเหมือนกับคุณกำลังเอาชนะ ได้หลุดไปอยู่ในโลกโลกหนึ่งที่ทุกสิ่งไร้ความหมาย นั่นคือความสนุกที่ท้าทายทั้งร่ายกายและจิตใจไปพร้อมๆ กันสำหรับฉัน นั่นทำให้ฉันรักการแข่งขันสโนว์บอร์ดไปด้วย ฉันว่าการได้เล่นสโนว์บอร์ดเป็นเหมือนกิจกรรมช่วยผ่อนคลาย มันทำให้คุณได้ยืนอยู่บนยอดเขาเงียบๆ คนเดียว ได้เลือกหนทางที่คุณจะเลือกไปต่อจากตรงนั้น มันเป็นการได้ใช้เวลาคนเดียวอย่างมีความสุข แถมยังได้ไอเดียสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ไปพร้อมกับเรียกอะดรีนาลีนในร่างกายไปด้วย จะเล่นแบบท้าทาย ทำอะไรใหม่ๆ หรือแบบเพลย์เซฟเพลินๆ ก็ทำได้ แต่มันก็ไม่ได้ราบรื่นขนาดนั้นหรอก เพราะคุณก็ต้องเจ็บตัวบ้างเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะเวลาเล่นครั้งแรกๆ 2-3 วันแรกคุณอาจจะล้มลุกคลุกคลานหน่อย แถมตื่นมายังปวดกล้ามเนื้อไปทั้งตัว เพราะถึงแม้ว่าคุณจะแข็งแรงและฟิตแค่ไหน การเล่นสโนว์บอร์ดจะไปกระตุ้นกล้ามเนื้อส่วนที่คุณไม่ค่อยได้ใช้ให้ทำงานอยู่ดี และคุณยังต้องใส่รองเท้าบู๊ตใหญ่เบ้อเริ่ม ใส่อุปกรณ์ป้องกันตัวและความหนาวไปทั้งตัว มันอาจจะหนักหน่อยในฐานะที่คนไทยไม่ค่อยเล่นกีฬาฤดูหนาวกันนัก ขอถามหน่อยเถิดว่าคุณอึดอัดไหมเวลาใส่ชุดเต็มขนาดนั้น ก็นิดหน่อยนะ เพราะคุณต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะมันทั้งหนาวทั้งอันตราย แต่ฉันใส่จนจินตนาการไปแล้วว่าเป็นซูเปอร์ฮีโร่ เหมือน Wonder Woman หรือ Spider-Man ในชุดสุดพิเศษ จนตอนนี้การได้ใส่ชุดจัดเต็มสำหรับฉันเป็นเหมือนได้ใส่สูทออกไปทำอะไรเท่ๆ สนุกๆ ไปแล้ว (หัวเราะ)เป้าหมายของคุณคืออะไรตอนนี้ ตอนเด็กๆ ฉันอยากร่วมในการแข่งขัน Arctic Challenge มากๆ และฉันก็ทำมันไปแล้ว ฉันชอบตั้งเป้าเอาไว้ว่า ฉันอยากชนะรายการนี้ แล้วพอฉันทำได้ ฉันก็รู้สึกอิ่มกับมัน แล้วมองหาเป้าหมายต่อไป ตอนที่แข่งในโซชิ (ในรัสเซีย) ฉันไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าจะทำได้สำเร็จ ฉันแค่โฟกัสกับมัน ที่สำคัญสนุกกับมันให้มากที่สุดเวลาที่ขึ้นไปอยู่บนยอดเขามักเป็นช่วงเวลาที่ฉันได้อยู่กับตัวเอง ลืมทุกสิ่งรอบตัวแล้วอยู่กับวินาทีนั้น ลืมนึกถึงสิ่งที่ต้องทำ ภาระหน้าที่ต่างๆ ไปก่อน แล้วเสพความสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามีคำแนะนำอะไรไหมสำหรับคนที่เล่นสโนว์บอร์ดครั้งแรก ถ้าคุณพอมีกำลังจ่าย ฉันแนะนำว่าให้จ้างคนสอนดีๆ ในครั้งแรกๆ ให้รู้เทคนิคพื้นฐานที่ควรรู้ เพราะมันจะทำให้คุณเล่นเป็นได้เร็วขึ้น แถมยังเจ็บตัวน้อยกว่า เพราะคนที่มีประสบการณ์เยอะจะช่วยแนะให้คุณไปถูกทาง และให้เวลากับตัวเอง ไม่ต้องรีบ เพราะมันอาจใช้เวลาสัก 2-3 วัน กว่าคุณจะถูไถไปได้ และฉันสาบานว่าคุณจะไม่ผิดหวังเลยที่ทำแบบนั้น และทางที่ดีควรหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์บนหิมะไปด้วยสักคน แล้วหารีสอร์ตหรือที่สอนที่เซตอัพอุปกรณ์ดีๆ ให้เพื่อเรียน การพาเพื่อนไปด้วย คุณก็ได้เฮฮาไปพร้อมกัน ดีกว่าทำคนเดียวตั้งเยอะคนที่เริ่มเล่นควรระวังอะไรบ้าง แน่นอนมันเป็นกีฬาที่อันตราย ดังนั้นอย่าประมาทเด็ดขาด และต้องใส่หมวกกันกระแทกทุกครั้ง อย่าคิดว่าหิมะนุ่มๆ จะรองรับคุณเสมอไป มันอาจจะแข็งมากจนทำคุณล้มก็ได้ ดังนั้นปลอดภัยไว้ก่อนเป็นสำคัญ อุบัติเหตุทางศีรษะไม่คุ้มกันคุณหมายถึง 3 วันคุณถึงจะตั้งไข่พอถูไถไปได้อย่างนั้นหรือ? ฉันหมายถึง 3 วันแล้วคุณจะหายเจ็บตัวแล้วเริ่มสนุกกับมันมากขึ้น และอย่าเพิ่งถอดใจ เพราะถ้าได้ไปเห็นวิวสวยๆ จากยอดเขา แล้วได้ไต่ลงมาจากสโลปนั้น คุณจะรู้สึกดีจับใจลืมเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งฉันว่าไม่ว่าจะสโนว์บอร์ด สกี หรือโต้คลื่น มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความดูแมนหรือการทำตัวเป็นผู้ชาย มันเป็นเรื่องของการได้ออกไปทำอะไรสนุกๆ มากกว่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผู้หญิงเราจะไม่ควรลองกีฬาที่ผู้ชายเล่นกันเยอะเสียหน่อยมีวิธีการเลือกครูสอนที่ดีอย่างไร ฉันว่ามันอยู่ที่ว่าคุณเข้ากับคนคนนั้นได้หรือเปล่า ครูบางคนอาจมีวิธีอธิบายให้คุณเข้าใจเร็วกว่าคนอื่น เพราะครูสอนส่วนใหญ่จะผ่านวิธีการฝึกที่ใกล้เคียงกันมาก่อน ดังนั้นขึ้นอยู่กับเคมีมากกว่า และพอเป็นเรื่องของการขยับร่างกาย ควรจำไว้ว่าเราต้องใช้เวลาด้วยในการสังเกตการบังคับทิศทางตัวเองและควบคุมร่างกายส่วนต่างๆ ให้ไปตามที่ต้องการ และสุดท้ายแล้วการได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เป็นเรื่องน่าสนุกเสมอนะฉันว่าคุณชอบไปสโนว์บอร์ดที่ไหนที่สุด ที่บ้านฉันที่นิวเซาท์เวลส์ในออสเตรเลีย เพราะมันคือบ้านที่ฉันคุ้นเคยที่สุด แต่ฉันก็ชอบที่แอสเปนในรัฐโคโลราโดด้วย เพราะวิวสวยน่าทึ่งมากในมุมมองของคุณ ผู้หญิงเล่นสโนว์บอร์ดหรือโต้คลื่นกันน้อยไปไหม ฉันว่าไม่ว่าจะสโนว์บอร์ด สกี หรือโต้คลื่น มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความดูแมนหรือการทำตัวเป็นผู้ชาย มันเป็นเรื่องของการได้ออกไปทำอะไรสนุกๆ มากกว่า ในออสเตรเลีย ผู้คนชอบออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งกันเยอะ นั่นทำให้คนใกล้ชิดกับกีฬาเยอะขึ้นตามไปด้วย และฉันว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่ผู้หญิงเราจะไม่ควรลองกีฬาที่ผู้ชายเล่นกันเยอะเสียหน่อย นั่นทำให้ฉันสนับสนุนกิจกรรมที่ชวนผู้หญิงออกมาวิ่ง ออกมาทำกิจกรรมสนุกๆ ด้วยกันเหมือนกับงาน Roxy Fitness Run-Yoga ที่จัดริมหาดภูเก็ตนี่ เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ เผลอๆ คุณอาจได้เพื่อนใหม่กลับไปด้วย และในเมื่อไม่มีอะไรมาห้ามคุณให้ออกไปลอง คุณจะหยุดตัวเองทำไม อยากทำก็ทำเลยSpecial Thanks: สายการบินบางกอกแอร์เวย์สPhoto: Courtesy of Roxy
ทำความรู้จัก โทราห์ ไบรท์ (Torah Bright) นักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิกหญิงของออสเตรเลียวัย 30 ปี ผู้เริ่มเล่นกีฬาตั้งแต่วัยกระเตาะ และเป็นนักกีฬาเพียงคนเดียวในโลกที่ผ่านเข้ารอบไปแข่งถึง 3 รายการในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่โซชิ ประเทศรัสเซียในปี 2014 โทราห์ฝากข้อคิดถึงความสนุกและข้อควรระวังสำหรับนักสโนว์บอร์ดป้ายแดงที่อยากท้าประลองความเร็วบนหิมะควรหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์บนหิมะไปด้วยสักคน แล้วหารีสอร์ตหรือที่สอนที่เซตอัพอุปกรณ์ดีๆ ให้เพื่อเรียน คุณก็ได้เฮฮาไปพร้อมกัน ดีกว่าทำคนเดียวตั้งเยอะถ้าได้ไปเห็นวิวสวยๆ จากยอดเขา แล้วได้ไต่ลงมาจากสโลปนั้น คุณจะรู้สึกดีจับใจลืมเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งสโนว์บอร์ดเป็นกีฬาที่อันตราย ดังนั้นอย่าประมาท ต้องใส่หมวกกันกระแทกทุกครั้ง อย่าคิดว่าหิมะนุ่มๆ จะรองรับคุณเสมอไป มันอาจแข็งจนทำคุณล้ม ดังนั้นปลอดภัยไว้ก่อนเป็นสำคัญ
null
null
https://thestandard.co/torah-bright/
ภัยมืด หญิง พักเดี่ยวคอนโดมิเนียม
วันนี้ (26 ก.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขยายตัวของชุมชนในย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี ที่มีมากขึ้นเมื่อเทียบกับ 4-5 ปีก่อน ทำให้ผู้คนต่างถิ่นเข้ามาพักอาศัยในพื้นที่จำนวนมาก เห็นได้จากจำนวนที่พักเปิดใหม่ที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ในจำนวนนี้มีหญิงสาว ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม เพราะใช้ชีวิตตามลำพังอยู่จำนวนไม่น้อย และหลังเกิดเหตุฆาตกรรมพนักงานสาว สถานความงามชื่อดัง ซึ่งพักอยู่ตามลำพังในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งใน อ.บางบัวทอง ทำให้พวกเธอต้องทบทวนในมาตรการความปลอดภัยของสถานที่พัก และหลายคนตัดสินใจย้ายห้อง เพราะขาดความเชื่อมั่นเหตุที่เกิดจากคนแปลกหน้า คือภัยคุกคามที่หญิงสาว โดยเฉพาะผู้ที่อยู่คนเดียวในห้องพักที่บุคคลภายนอกสามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ คือสิ่งที่ยากจะป้องกันตัว เช่นเดียวกับกรณีนี้ ซึ่งผู้ก่อเหตุฉวยโอกาสที่ผู้เสียชีวิตอยู่ตามลำพังบุกเข้าไปในห้องพักหวังล่วงเกินทางเพศ แต่เมื่อขัดขืน จึงใช้มีดกระหน่ำแทงแม้ตำรวจจะใช้เวลาเพียงชั่วข้ามคืนในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุ แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่สามารถเรียกคืนได้แล้ว กลายเป็นคำถามถึงความปลอดภัยในชีวิตของผู้คนที่ต้องใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ ทั้งที่ความจริงแล้วสถานที่พักควรเป็นสถานที่ที่มีความปลอดภัยมากที่สุด แต่ปัจจุบันกลับตรงข้ามอ่าน
ตำรวจใช้เวลาเพียงชั่วข้ามคืน สามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุฆาตกรรมพนักงานสถานเสริมความงามชื่อดังและสิ่งที่ทำให้เธอตกเป็นผู้ถูกกระทำ เพียงเพราะผู้ก่อเหตุรู้ว่าเธออยู่คนเดียวในห้องพัก
อาชญากรรม
บางบัวทอง,นนทบุรี,ภัยมืด,สถานเสริมความงาม,ฆาตกรรม,คอนโดมิเนียม,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/266442
อีก 2 วันรู้ ผลตรวจอสุจิใครฆ่าสาว 15 ดีเอ็นเอตรงกับใครจับทันที
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ก.ค. 60 พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางมาประชุมความคืบหน้าคดี ,ด.ญ.เกด, (นามสมมติ) อายุ 14 ย่าง 15 ปี ที่ สภ.บ้านโพธิ์ หลังเสียชีวิตในบ้านพัก และผลการชันสูตรพบว่า ขาดอากาศหายใจ ร่างกายมีรอยช้ำ คอมีรอยถูกรัดจากลวดผ้าม่าน นอกจากนี้ยังพบ,คราบอสุจิ,บนเสื้อผ้าของผู้ตายด้วย โดยมี พ.ต.อ.ชิตพล ยืนยาว ผกก.สภ.บ้านโพธิ์ กองกำกับการสืบสวนจังหวัดฉะเชิงเทรา กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดฉะเชิงเทรา และตำรวจ สภ.บ้านโพธิ์ เข้าร่วมเพื่อสรุปเหตุการณ์พร้อมนำหลักฐานที่เก็บได้ในวันเกิดเหตุมาเปิดเผยว่าพบอะไรที่เกี่ยวข้องกับตัวคนร้ายบ้าง ซึ่งได้มีการประชุมเกือบ 2 ชั่วโมง,หลังประชุมเสร็จสิ้น พล.ต.ต.ธีรพล ให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้นตำรวจได้ตั้งประเด็นการฆ่าคือ คนร้ายหวังล่วงละเมิดทางเพศเพียงเรื่องเดียว เพราะคราบอสุจิที่พบเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ซึ่งตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงวันนี้ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ญาติสนิท หรือวัยรุ่นในละแวกใกล้เคียงมาสอบปากคำพร้อมเก็บชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจดีเอ็นเอแล้ว 20 คน ซึ่งทุกคนอยู่ในช่วงเป็นผู้ต้องสงสัยทั้งหมด พร้อมกันนี้มีการนำเพื่อนของผู้ตายมาสอบ 3 คน ให้การเป็นประโยชน์ ขณะที่ผลตรวจดีเอ็นเอทั้ง 20 ตัวอย่าง จะต้องนำส่งที่สถาบันนิติเวชเพื่อเทียบกับผลของตรวจคราบอสุจิว่าตรงกับใคร ซึ่งหากตรงกับ 1 ใน 20 ตัวอย่าง จะเข้าจับกุมทันที และผลจะออกในวันที่ 18 ก.ค.นี้ ส่วนเลือดที่พบภายในห้องก็มีการนำส่งตรวจว่าเป็นเลือดของผู้ตายคนเดียวหรือมีเลือดของคนร้ายปนอยู่ด้วย จะทราบผลวันเดียวกัน,พล.ต.ต.ธีรพล ระบุแน่ชัดว่า คนร้ายจะต้องเป็นคนที่สนิทและรู้จักกับผู้ตายพอสมควร เพราะแม่ระบุว่าปกติผู้ตายจะนอนล็อกห้อง คนร้ายจะต้องเรียกให้เดินมาเปิดประตูจึงจะสามารถเข้าไปในห้องนอนได้ ซึ่งร่องรอยที่มีตรวจพบหลังจากการผ่าพิสูจน์ ทำให้เห็นว่าผู้ตายพยายามขัดขืน เพราะคนร้ายพยายามจะล่วงละเมิดทางเพศ จึงทำให้ถูกทำร้ายอย่างหนัก และมีการใช้สิ่งของบางอย่างรัดคอเพื่อให้สลบหรือเสียชีวิต ตอนนี้มีการนำตัวญาติของผู้ตายมาสอบเครียดทุกวัน วันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อจะสอบหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งตอนนี้ยังชี้ไม่ได้ว่าใคร เพราะหากไม่มีหลักฐานที่สามารถมัดตัวคนร้ายก็คงไม่ยอมจำนน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่มีเงื่อนงำหลายจุด ทางตำรวจต้องทำงานอย่างละเอียดและกับหลักฐานให้ได้มากที่สุด.
ผู้การฯ ฉะเชิงเทรา เผยคืบหน้าคดีฆ่าสาว 15 เรียกสอบเครียดทุกวัน ขณะอีก 2 วันรู้ผลตรวจ DNA จากผู้ต้องสงสัย 20 คน ตรงกับใครจับกุมทันที
ข่าว,อาชญากรรม
สาว 15,ฆ่าข่มขืน,ฆ่าสาว 15,ฉะเชิงเทรา,ฆ่ารัดคอ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1006489
หอการค้าฯ เผยดัชนีเชื่อมั่นเดือน พ.ย. ดีขึ้นรอบ 11 เดือน
ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย. ดีขึ้นเป็นเดือนที่ 2 และสูงสุดในรอบ 11 เดือน หลังคนเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว ตามมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล แต่กังวลก่อการร้ายในฝรั่งเศส และศึกรัสเซีย-ตุรกี บวกส่งออกลด เกษตรตก ค่าครองชีพเพิ่ม คาดกำลังซื้อเริ่มฟื้นตัวไตรมาส 4 และดีขึ้นไตรมาสแรกปีหน้า ,วันที่ 3 ธันวาคม นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย.58 ว่า ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกรายการ โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ 74.6 จาก 73.4 เมื่อเดือน ต.ค.58 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันอยู่ที่ 54.5 เพิ่มจาก 53.6 ซึ่งทั้ง 2 ดัชนีดีขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และดีสุดในรอบ 11 เดือน, ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคตอยู่ที่ 82.6 เพิ่มจาก 81.3 ปรับตัวดีขึ้นในรอบ 3 เดือน ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 63.4 เพิ่มจาก 62.2 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำอยู่ที่ 69.6 เพิ่มจาก 68.6 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 90.8 เพิ่มจาก 89.4,ทั้งนี้ เป็นเพราะสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 58 เพิ่มขึ้น 2.9% ถือว่าดีสุดในรอบ 3 ปี และปี 59 คาดขยายตัว 3-4% ขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดจีดีพีปี 58 โตเกิน 3% และปี 59 โต 3.8% เพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ซึ่งช่วยเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ,ส่วนปัจจัยลบที่เป็นปัจจัยใหม่คือ ความกังวลต่อเหตุการณ์ก่อการร้ายในฝรั่งเศส และกรณีพิพาทระหว่างรัสเซียและตุรกี ซึ่งมีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และอาจกระทบต่อการส่งออกและเศรษฐกิจไทย และปัจจัยเดิม เช่น การส่งออกที่ยังชะลอลง ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ทั้งยางพารา ข้าว และปศุสัตว์ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เดือน พ.ย. ลดลง 45.94 จุด เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 35.783 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ และผู้บริโภคยังกังวลปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าแพง ,ด้าน นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือน พ.ย.58 ปรับตัวดีขึ้นทุกรายการ เพราะผู้บริโภครู้สึกว่าภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันดีขึ้นเล็กน้อย และมีความหวังว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้ในอนาคตอันใกล้จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่ยังมีความกังวล เมื่อเกิดเหตุก่อการร้ายในฝรั่งเศส และกรณีพิพาทรัสเซียกับตุรกี บวกกับการส่งออกที่ยังไม่ฟื้นตัว ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ค่าครองชีพยังสูง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่น,ศูนย์ฯ คาดว่า การบริโภคของประชาชนน่าจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปี หลังจากเม็ดเงินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเข้าไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น โดยจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 4 เป็นต้นไป และฟื้นตัวชัดเจนขึ้นในช่วงกลางไตรมาสแรกของปีหน้า ส่วนเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 คาดว่าจะขยายตัว 3.3-3.6% ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะขยายตัวได้ 3% นายธนวรรธน์ กล่าว,นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ศูนย์ฯ ยังได้สำรวจทัศนคติและพฤติกรรมประชาชนเกี่ยวกับวันพ่อ โดยคาดว่าวันพ่อปีนี้ จะมีเงินสะพัดประมาณ 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.23% เพราะเป็นวันหยุดยาวติดต่อกัน และราคาสินค้าแพงขึ้น ทำให้การใช้จ่ายสูงขึ้น โดยค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะเป็นการพาพ่อไปทานข้าว พาไปทำบุญ และพาไปเที่ยว รวมถึงการซื้อของขวัญให้ เช่น เงิน ทอง เครื่องดื่มบำรุงร่างกาย เสื้อผ้า รองเท้า เป็นต้น
ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย. ดีขึ้นเป็นเดือนที่ 2 และสูงสุดในรอบ 11 เดือน หลังคนเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว ตามมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล ห่วงก่อการร้ายฝรั่งเศส และศึกรัสเซีย-ตุรกี ฉุดความเชื่อมั่น
null
หอการค้าฯ,ม.หอการค้า,ดัชนี,ความเชื่อมั่น,เดือน พ.ย.,ความเชื่อมั่นผู้บริโภค,ปรับตัว,เพิ่มขึ้น,รายได้,ปัจจัย,เศรษฐกิจ,มาตรการกระตุ้นของรัฐบาล,ความกังวล,ก่อการร้าย,ฝรั่งเศส,รัสเซีย-ตุรกี,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/544064
โพลดารา
หนึ่งปีมีแค่ครั้งเดียว กับโพลดารา นสพ.ไทยรัฐ โพลดี โพลเดิม เพิ่มเติมคือความแซ่บบ เปิดโอกาสให้เหล่าดาราที่รู้วงในดีซะยิ่งกว่าใครได้สำรวจคนกันเอง แจกแบบสอบ ถามดารากว่า 200 ชีวิต ไม่มีแบ่งค่าย แบ่ง สังกัดเช่นเดิม เทคะแนนให้ดาวดวงโดดเด่นในแต่ละด้านประจำปี 2558 ใครจะติดโผอะไร ต้องไปลุ้น,โค่นยังไงก็ไม่ลง ณเดชน์ คูกิมิยะ รักษาแชมป์ปีที่ 4 ด้วยคะแนน 21.3% ในจอตีบทแตกแถมนอกจอยังวางตัวดี ตามติดอันดับ 2 แบบเฉียดฉิวด้วยคะแนน 20.4% เวียร์-ศุกลวัฒน์ พระเอกวิก 7 สีที่ขึ้นแท่นรุ่นใหญ่แถวหน้า เรียกว่าคู่นี้ติดโผกันทุกปี ส่วนอันดับ 3 คะแนน 17.3% ตกเป็นของพระเอกหัวใจแกร่ง ปอ-ทฤษฎี ล้มป่วยด้วยไข้เลือดออกรุนแรงแต่ใจสู้จนคนไทยส่งพลังใจให้แข็งแรงในเร็ววัน ตามมาด้วยอันดับ 4 พระเอกพ่อลูกสองอารมณ์ดี ป๋อ-ณัฐวุฒิ ด้วยคะแนน 13.1% และอันดับ 5 คะแนนเท่ากัน 8.4% คือพระเอกเกรียน บอย–ปกรณ์ และ ฌอห์ณ จินดาโชติ หนุ่มคิดดีที่โดดเด่นติดท็อปไฟว์ปีแรก,ตำแหน่งนางเอกครองใจปีนี้ตกเป็นของ ญาญ่า–อุรัสยา ด้วยคะแนน 25.8% ใช้ความน่ารักแบ๊วใสเฉือนซุปตาร์รุ่นพี่ อั้ม–พัชราภา ดาวค้างฟ้าติดอันดับ 2 ด้วยคะแนน 22.1% ขนาดว่าปีนี้ไม่ได้มีละครก็ยังครองใจ ตามมาด้วยอันดับ 3 สาวตาคม ใหม่–ดาวิกา โชว์ฝีมือโดดเด่นในปีนี้ และอันดับ 4 ชมพู่–อารยา นางเอกแถวหน้าที่อยู่ในใจคนบันเทิง ส่วนอันดับ 5 ปุ๊กลุก–ฝนทิพย์ ตีบทแตกบทดราม่าจนเบียดพุ่งเข้ามาในโพล,อันดับ 1 ปีนี้ บี้–สุกฤษฎิ์ คว้าคะแนน 18.6% นอกจากเพลงคึกคักโดนใจ ยังสร้างชื่อเป็นความภูมิใจของคนไทยได้ไปเล่นละครเวทีบรอดเวย์ อันดับ 2 15.2% วง โปเตโต้ วงดนตรีขาร็อกที่กลับมาผงาดพร้อมเพลงดัง ทิ้งไว้กลางทาง พอๆกับอันดับ 3 14.1% วง ลาบานูน ที่ปล่อยเพลง เชือกวิเศษ โด่งดังคนดังก็ชอบ ตามมาด้วยอันดับ 4 คว้าไป 10.9% เบิร์ด–ธงไชย ซุปตาร์ตลอดกาลที่ไม่ว่าปีไหนๆก็ติดอันดับ อันดับ 5 คะแนนเท่ากัน 8.7% ทั้งนักร้องเจ้าบ่าวป้ายแดง แสตมป์–อภิวัชร์ และดูโอดีว่า นิว–จิ๋ว,ซีรีส์ฮอร์โมน ไฟนอล ซีซั่นส่งให้ สกาย-วงศ์รวี ผู้รับบท พละ หนุ่มน้อยหน้ายิ้มตาหยีมาแรงแซงโค้ง คว้าแชมป์ดาวรุ่งด้วยคะแนน 15.5% ตามมาด้วยนักร้องสาวน้อยร้อยล้านวิว พลอยชมพู–ณานนีน คว้า 13.7% อันดับ 3 เอสเธอร์–สุปรีย์ลีลา พอผันมาเป็นนางเอกอิสระก็แจ้งเกิดกับละคร เล่ห์รตี โกยคะแนน 12.8% ต่อด้วยอันดับ 4 ดีเจพุฒ–พุฒิชัย ที่ถือว่าเป็นปีทองสาวๆเทคะแนนให้ แต่ไม่คว้าแชมป์เพราะหลายคนมองว่าโด่งดังเกินกว่าเป็นแค่ดาวรุ่งเลยได้มาแค่ 10.4% ตบท้ายท็อปไฟว์ด้วยนางเอกหน้าใหม่ใสแบ๊ว 2 วิก ทั้ง ณิชา–ณัฏฐณิชา ช่อง 3 และ โบว์–เมลดา ช่อง 7 ส่งเข้าประกวด เท่ากันที่ 7.9% แต่ที่ไม่ใช่ดาราแล้วมาเบียดในโพล ดาวรุ่ง ยกให้ซุปตาร์น้อยสุดน่ารักขวัญใจคนไทยทั้งประเทศ มะลิ-พาขวัญ สหวงษ์ ลูกสาวตัวน้อยกำลังใจสำคัญของพ่อ ปอ–ทฤษฎี รอคอยวันพ่อปอตื่น,เทรนด์ปีนี้ตกเป็นของเหล่าสาวเซ็กซี่ไม่มีวันเสื่อม อันดับ 1 อั้ม–พัชราภา นอนกอดตำแหน่งแบบไม่ให้ใครแย่งด้วยคะแนน 26.8% โดยเบียดมาแบบหายใจรดต้นคอคือสาวเซ็กซี่หุ่นเฟิร์ม ปู–ไปรยา 25.1% ต่อด้วยอันดับ 3 ตามคาด ชมพู่–อารยา ถึงมีครอบครัวแล้วก็ยังแซ่บมีสไตล์ได้ไป 23.5% อันดับ 4 นางร้ายหน้าสวย เนย–โชติกา ตามมาห่างๆ 13.4% และอันดับ 5 เมย์–พิชญ์นาฏ ที่ยังไม่หลุดโผได้มา 9.5%,ตำแหน่งใหม่ให้สาวๆได้ใจละลาย อันดับ 1 มาแรงแซงโค้งด้วยคะแนน 30.1% ผู้หญิงทั้งหลายแพ้กล้ามล่ำ ดาร์ค ทอล แอนด์แฮนซั่มของ เวียร์–ศุกลวัฒน์ ที่หล่อเก๋าเกมครบทุกด้าน อิจฉาสาว เบลล่า-ราณี จริงจริ๊งตามมาด้วยอันดับ 2 ดีเจพุฒ–พุฒิชัย ที่ปีนี้ดังพลุแตกเอะอะถอดให้สาวๆกรี๊ดซิกซ์แพ็กคว้า 22.2% อันดับ 3 เป็นของพระเอกหัวนมชมพู มาริโอ้ เมาเร่อ กล้ามแน่นๆไม่เป็นรอง คะแนน 18.0% ตามด้วยอันดับ 4 รุ่นใหญ่ ป้อง–ณวัฒน์ คว้าไป 12.5% พ่วงมาด้วย มิกค์ ทองระย้า พระเอกทะเล้นสูงโปร่งหุ่นดีวิก 7 สี รั้งอันดับ 5 ได้ 7.5%,แชมป์ความจิ้น ตกเป็นของคู่ NY ณเดชน์-ญาญ่า คว้าอีกตำแหน่งถูกใจคนบันเทิง ด้วยความน่ารักกุ๊กกิ๊กแล้วยังพากันไปในทางดี ได้ไป 20.8% แต่เรื่องสวีตต้องยกให้อันดับ 2 คู่จิ้น MK หมาก-ปริญ และ คิม–คิมเบอร์ลี่ ที่จิ้นทะลุจอเป็นคู่รักคู่หวานน้ำตาลเรียกพี่มีคะแนน 16.9% ส่วนอันดับ 3 ฌอห์ณ–เอสเธอร์ คู่จิ้นตบจูบโด่งดังอย่างรวดเร็ว ด้วย 14.2% อันดับ 4 คู่จิ้นพี่ๆน้องๆ เวียร์–ศุกลวัฒน์ และ มิน–พีชญา ฉายา คู่จิ้นพันธุ์ข้าวเหนียว ตามมาใกล้เคียง 13.8% ทิ้งคู่สุดท้าย บอย-ปกรณ์ และ มาร์กี้–ราศรี ที่ช่วงหลังแผ่วความจิ้นแต่ยังอยู่ในใจคนบันเทิงคะแนน 8.4%,ทำใจลำบากกับตำแหน่งยี้ที่ไม่มีใครอยากอยู่ในรายชื่อ ถือเป็นกระจกสะท้อนมุมมองจากคนอื่น เพื่อเป็นบทเรียนแก้ไข เริ่มด้วย แตงโม–ภัทรธิดา เพิ่งได้ฉายาบันเทิง ล้างท้องร้องหาผัว หลังเจอมรสุมชีวิตเลิกรา โตโน่–ภาคิน จนถึงขั้นกินยา-กรีดข้อมือฆ่าตัวตาย ถูกมองว่าดราม่าเพื่อเรียกร้องความสนใจใหม่–ดาวิกา มีกระแสย้ายช่องมาอย่างต่อเนื่องทั้งที่ยังไม่หมดสัญญากับวิก 7 สี แต่กลับมี ข่าวแอบตกลงกับช่องทรูโฟร์ยูว่าจะไปเล่นละครให้ และมีข่าวแอบไปเจรจากับช่อง 3 ไว้แล้ว จนมาพีกสุดๆกับกรณีที่ ใหม่ ไม่โผล่ไปงานครบรอบช่อง 7 สี จนโดนข้อหาเนรคุณ เจมส์–จิรายุ พระเอกวิก 3 ที่ถูกมองว่าเป็นซุปตาร์เรื่องเยอะปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล เจ้าของฉายา ทุยทิ้งเมีย เพราะทิ้งให้ภรรยาสาว พลอย–พรพรรณ ทำหน้าที่เลี้ยงลูกอยู่คนเดียวแต่ตัวเองกลับหายจ้อยไร้ความรับผิดชอบเอมมี่–อมลวรรณ ที่ขยันสร้างข่าว เอ๊ย ตกเป็นข่าวฉาวเพื่อให้มีกระแสตลอด.
หนึ่งปีมีแค่ครั้งเดียว! กับโพลดารา นสพ.ไทยรัฐ โพลดี โพลเดิม เพิ่มเติมคือความแซ่บบ เปิดโอกาสให้เหล่าดาราที่รู้วงในดีซะยิ่งกว่าใครได้สำรวจคนกันเอง แจกแบบสอบ ถามดารากว่า 200 ชีวิต
null
โพลดารา,พระเอกแห่งปี,นางเอกแห่งปี,ณเดชน์ คูกิมิยะ,ญาญ่า อุรัสยา,นักร้องแห่งปี,บี้ สุกฤษฎิ์,ดาวรุ่งพุ่งแรง,สกาย วงศ์รวี,สาวเอ็กซ์เซ็กซี่แห่งปี,อั้ม พัชราภา,หนุ่มเซ็กซี่ขยี้ใจ,เวียร์ ศุกลวัฒน์,คู่จิ้นฟินเฟร่อ,ณเดชน์ ญาญ่า,NY,ยี้ประจำปี,แตงโม ภัทรธิดา,ข่าว,ทีมข่าวบันเทิง,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/content/556601
บาร์เซโลน่า ชนะ อาร์เซน่อล 3-1 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าเเชมเปี้ยนส์ลีก
การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่าเเชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 บาร์เซโลน่า เปิดคัมป์นู ชนะ อาร์เซน่อล 3-1 ได้ประตูจาก เนย์มาร์ นาที 18 ตามด้วย หลุยส์ ซัวเรซ นาที 65 เเละเมสซี่ นาที 88 อาร์เซน่อล เเก้คืนได้ลูกเดียวในนาที 51 จาก โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ นาที 51 รวมผล 2 นัด บาร์ซ่า เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ประตูรวม 5-1ส่วนบาเยิร์น มิวนิค พบ ยูเวนตุส โดยทีมเยือนออกนำก่อน 2-0 จาก พอล ป็อกบา นาทีที่ 5 ตามด้วย ฮวน กัวดราโด้ นาที 28 ก่อนที่ บาเยิร์น จะไล่ตามเป็น 1-2 จาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ นาที 51 เเละโทมัส มุลเลอร์ ในช่วงนาทีสุดท้าย รวมผล 2 นัดเสมอกัน 4-4 ต้องเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที ปรากฏว่า บาเยิร์น ได้อีก 2 ประตู ชนะ ยูเวนตุส 4-2 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ประตูรวม 6-4
บาร์เซโลน่า เปิดคัมป์นู ชนะ อาร์เซน่อล 3-1 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลยูฟ่าเเชมเปี้ยนส์ลีก รวมผล 2 นัด ประตูรวม 5-1
กีฬา
ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,บาร์เซโลน่า,อาร์เซน่อล,ฟุตบอล,ยูฟ่าเเชมเปี้ยนส์ลีก
https://news.thaipbs.or.th/content/251000
หมวดเจี๊ยบ เหน็บส.ส. ป้อง บิ๊กตู่ ไม่ต้องแจง กมธ.ควรเป็นผู้แทนลุงตู่
 แต่ควรเรียกตัวเองว่า ผู้แทนของลุงตู่ และ บิ๊กตู่ ต้องขอบคุณ ปารีณา ให้มากๆ เพราะกางปีกป้องนายกฯ ราวกับแม่ปกป้องลูก สมกับเป็นมารดาประชารัฐ, ,เมื่อวันที่ 17 พ.ย.62 ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า น่าแปลกใจที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลสรรหาวิธีการต่างๆ นานา เพื่อลดอำนาจคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรในการตรวจสอบฝ่ายบริหาร โดยลงทุนถึงขนาดจะยกเลิกกฎหมายที่ให้อำนาจคณะกรรมาธิการในการออกคำสั่งเรียกบุคคลมาชี้แจง คือ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการฯ โดยส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ากฎหมายดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ ทั้งยังทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ยับยั้งการเชิญ  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาพบคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.ที่สภา ทั้งๆ ที่นั่นเป็นการทำลายกลไกการถ่วงดุลตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎรเสียเอง ซึ่งหาก ส.ส.ซีกรัฐบาลเป็นฝ่ายขนะโดยทำลายอำนาจตรวจสอบของคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ได้สำเร็จ ก็อยากถามว่าประชาชนจะได้อะไรจากเรื่องนี้ ,สุดท้ายผู้ที่เสียประโยชน์ก็คือประชาชน เนื่องจากคณะกรรมาธิการต่างๆ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญของชาวบ้านในการถ่วงดุลอำนาจกับรัฐบาล จะหมดน้ำยาในการตรวจสอบผู้มีอำนาจทันที แต่คนที่ได้ประโยชน์จะมีเพียงคนเดียว คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งจะมีข้ออ้างไม่ต้องมาชี้แจงที่สภา ดังนั้นถ้าสภาถึงกับยอมยกเลิกอำนาจของตัวเองในการออกคำสั่งเรียกบุคคลมาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ หรือลงทุนแก้ไขหรือบิดเบือนข้อบังคับการประชุมต่างๆ เพียงเพื่อช่วยเหลือคนคนเดียว คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้มีข้ออ้างไม่ต้องมาตอบคำถามที่สภาแล้วล่ะก็ บรรดา ส.ส.ทั้งหลายก็ไม่สมควรเรียกตัวเองว่าเป็นผู้แทนราษฎรอีกต่อไป แต่ควรเปลี่ยนตำแหน่งเป็น ผู้แทนของลุงตู่ เพราะพวกท่านรักษาผลประโยชน์ของ พล.อ.ประยุทธ์ มากกว่าปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดยงานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องขอบใจ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์  ให้มากๆ เพราะกางปีกป้องนายกฯ ราวกับ แม่ปกป้องลูก สมกับเป็น มารดาประชารัฐ จริงๆ หมวดเจี๊ยบกล่าว.
หมวดเจี๊ยบ ลั่นถ้าสภาฯยอมยกเลิกอำนาจตัวเองออกคำสั่งเรียกบุคคลมาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ เพื่อปกป้อง ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ให้มาตอบคำถามบรรดา ส.ส.ทั้งหลาย ก็อย่าเรียกตัวเองว่าผู้แทนราษฎร
ข่าว,การเมือง
หมวดเจี๊ยบ,สุณิสา ทิวากรดำรง,กมธ.,สภาผู้แทนฯ,ประยุทธ์​ จันทร์โอชา,ตอบคำถามในสภา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1706231
กระบวนการนอก กม. คุมตัว-ขู่ล้วงข้อมูล-ทำ MOU ผู้แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์
เปิดกระบวนการนอกกฎหมายจัดการกับผู้แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ เจ้าหน้าที่ไม่ทราบหน่วย คุมตัว-ขู่บังคับให้ข้อมูล-ทำ MOUล่าสุด นศ.ธรรมศาสตร์ โดน กับคำถามที่ว่าเสรีภาพเพิ่มขึ้น? แม้คดี 112 จะลด ขณะที่ ทวิตเตอร์ รายงานในรอบปีไม่มีการร้องขอข้อมูลจาก จนท. พร้อม 5 ข้อสังเกตและคำแนะนำของศูนย์ทนายสิทธิฯจำนวนคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือ ความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทกษัตริย์จากการแสดงความคิดเห็นแม้จะลดลง หรืออาจจะเรียกว่าไม่มีคดีใหม่เลย ทางหนึ่งอาจเป็นการใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 หรือข้อหา ยุยงปลุกปั่น แต่อีกกระบวนการที่เจ้าหน้าที่ใช้จัดการกับผู้ที่แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างหรือความเห็นที่ ถูก เจ้าหน้าที่มองว่ากระทบต่อความมั่นคงหรือหมิ่นประมาทกษัตริย์ก็มีกระบวนการคุมตัว บังคับให้ข้อมูลและทำข้อตกลงหรือ MOU ที่ ภาวิณี ชุมศรี ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่ติดตามประเด็นการละเมิดสิทธิทางการเมืองและเสรีภาพการแสดงออก มองว่า ไม่ถือว่าอยู่ในกระบวนการตามกฎหมาย เพราะหากตามกฎหมายนั้นไม่ต้องทำความยินยอม เมื่อมีหมายจับหรือหมายเรียกก็ต้องปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมายทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน อธิบายถึงกระบวนการนี้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือให้เซ็นชื่อยินยอมให้ข้อมูลที่ไม่ได้แจ้งผู้ถูกซักถามตั้งแต่แรก ทำให้คนเหล่านั้นไม่ทราบว่าสามารถปฏิเสธได้ สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นเหมือนการมัดมือชกภายหลัง ซึ่งกระบวนการตามกฎหมายนั้นต้องมีหมายเรียก หมายจับ หมายค้น หรือต้องมีการแจ้งข้อกล่าวหา ที่ไม่สามารถเอาตัวหรือเรียกว่าเชิญตัวไปคุยก่อนภาวิณี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กระบวนการแบบนี้ เริ่มชัดเจนหลังจากแนวโน้มการใช้มาตรา 112 ยุติไปประมาณปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม กระบวนการแบบนี้นั้นมีมาโดยตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้มีบางกรณีที่ไม่ได้ดำเนินคดีตามมาตรา 112 ก็จะใช้ข้อหาอื่น เช่น มาตรา 116 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่กระบวนการคู่ขนานกันที่พวกตนได้รับทราบมาเป็นระยะนั้นมีการใช้กระบวนการ การนำตัวไป ซักถาม ขอดูอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ขอรหัส หรือสั่งให้ลบโพสต์ ซึ่งทั้งเฟสบุ๊กแฟนเพจหรือคนที่แสดงความเห็นผ่านเฟสบุ๊กที่ถูกกระบวนการแบบนี้ แต่ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะเพราะเกรงว่าจะมีปัญหา หรือเกรงว่าจะถูกดำเนินคดี เมื่อเซ็นชื่อและข้อตกลงแล้วก็เลือกที่จะเงียบ แม้แต่กลุ่มคดีสหพันธรัฐไทก็มีหลายรายที่ถูกใช้กระบวนการแบบนี้หากเปรียบเทียบระหว่างกระบวนการไปพูดคุยในลักษณะนี้อาจจะดีกว่าการถูกดำเนินคดีตาม ม.112 นั้น ภาวิณี มองว่า แล้วแต่คน บางคนก็รู้สึกว่ามันดีกว่าจะได้ไม่ต้องถูกดำเนินคดี แต่การไปเซ็นแล้วนั้นทำให้เขาได้หลักฐานและบุคคลเหล่านั้นไม่ทราบว่าในอนาคตจะถูกดำเนินการอะไร เนื่องจากสิ่งที่ไปเซ็นนั้นอาจจะเป็นหลักฐานมัดในภายหลังในการดำเนินคดี ซึ่งดีที่สุดคือไม่ควรเซ็น และต้องดูด้วยว่าการกล่าวหาว่าคนเหล่านั้นผิดเป็นเรื่องอะไร เพราะบางกรณีอาจเป็นเพียงการกดไลค์ หรือแชร์ต่อ ตนมองว่ามีโอกาสที่จะต่อสู้คดีได้ แต่เมื่อเซ็นแล้วพยานหลักฐานก็ถูกเก็บไปหมดแล้ว หากจะมาดำเนินคดีในภายหลังก็เท่ากับเขามีทุกอย่างแล้ว อีกประการคืออาจมีการขยายผลจากคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลของเรา ก็อาจจะขยายไปสู่คนอื่นๆ ประการที่ 3 คือ เราก็จะไม่ปลอดภัยอีกต่อไปหลังจากนั้น จะถูกติดตามตลอดภาวิณี กล่าวต่อว่า ไม่แน่ใจว่าอย่างใดดีกว่ากัน แต่สิ่งสำคัญอย่างน้อยแต่ละคนจะต้องทราบว่าจะต้องเจอกับอะไร และแต่ละคนจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจเองโดยมีคำแนะนำที่รอบด้าน ได้ปรึกษากับทนายหรือผู้อื่นที่รอบด้าน ซึ่งที่ผ่านมาหลายคนทำไปเพราะไม่ได้ข้อมูลที่รอบด้าน สุดท้ายก็รู้สึกว่ามันเป็นการละเมิดสิทธิ หรือไม่เป็นธรรมกับตัวเขาสำหรับกลุ่มคนที่ถูกกระบวนการนี้นอกจากบางรายในกลุ่มคดีสหพันธรัฐไทแล้ว ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ยืนยันว่า เท่าที่ทราบนั้นยังมีกรณีอื่นๆ อีก ซึ่งอยู่ในระหว่างการติดต่อขอข้อมูลจากกรณีเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ @99CEREAL ทวิตเล่าเรื่องการถูกควบคุมตัวจากมหาวิทยาลัยไปยัง สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จากกรณีการรีทวิตข้อความในทวิตเตอร์ โดยเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้มีการแสดงหมายจับหรือแนะนำสังกัด ภายหลังถูกนำตัวไปซักถามเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายดังกล่าวยังถูกกดดันให้เซ็นบันทึกข้อตกลง โดยมีข้อหนึ่งระบุว่าจะไม่ทวิตเรื่องเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์อีก ซึ่งขณะนี้ไม่สามารถเข้าถึงทวิตดังกล่าวแล้ว รายงานข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้ใช้ทวิตเตอร์บัญชีดังกล่าวซึ่งเป็นหญิงใช้นามสมมติว่า พี เปิดเผยข้อมูลกับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ถึงเหตุการณ์การควบคุมตัวดังกล่าวว่าเกิดขึ้นเมื่อช่วงวันที่ 1 พ.ย. 2562 เวลาประมาณ 9.00-10.00 น. ระหว่างที่ตนกำลังเรียนอยู่ในคาบเรียนช่วงเช้า ปรากฎว่าได้มีเจ้าหน้าที่ชายและหญิงไม่ต่ำกว่า 3 คน ในชุดนอกเครื่องแบบ โดยสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำเดินทางเข้ามาติดต่อกับฝ่ายทะเบียนของภาควิชาหนึ่งในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อขอพบตัวเธอ โดยยังไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้แสดงหลักฐานใดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนหรือไม่พี เล่ากับศูนย์ทนายความฯ ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนได้ติดต่อมายังเลขาของภาควิชา และได้พาเจ้าหน้าที่มาพบถึงห้องเรียน โดยเข้าไปแจ้งในห้องเรียนว่ามีคนต้องการพบ จึงได้ออกจากห้องเรียนไป เมื่อได้พบเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ไม่มีใครแนะนำชื่อ หรือยศ ตำแหน่งสังกัดให้ทราบ บอกเพียงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังไม่ได้มีการแสดงเอกสารใด ๆ บอกแต่เพียงว่า มาเพราะเรื่องทวิตเตอร์ในเชิงหมิ่นฯ ให้เดินตามมา โดยมีเลขาของภาควิชาได้ขอเดินทางติดตามไปด้วยพี ถูกนำตัวขึ้นรถเก๋งที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ จากนั้นถูกนำตัวขึ้นไปยังชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องสอบสวนของ สภ.คลองหลวง และถูกซักถามโดยมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบไม่ทราบสังกัดประมาณ 10 คน ร่วมการซักถาม โดยไม่มีผู้ใดแนะนำตัวว่าเป็นใคร สังกัดหน่วยใด และมาจากที่ใดบ้าง และระว่างซักถามมีกล้องวีดิโอวางอยู่ด้านหน้าเพื่อบันทึกภาพ รวมทั้งยังถูกถ่ายรูปจากกล้องมือถือของเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบด้วย มีผู้ซักถามหลักราว 3 คน และมีเจ้าหน้าที่นั่งพิมพ์บันทึกบทสนทนาด้วยคอมพิวเตอร์อีกคนหนึ่งสำหรับประเด็นซักถามนั้น มุ่งความสนใจไปที่เรื่องการแสดงออกต่อสถาบันกษัตริย์ โดยมีการปรินท์ภาพจากทวิตเตอร์ของพีที่มีการรีทวิตข้อความของบุคคลต่างๆ เช่น ทวิตของสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ทวิตของผู้ใช้นามแฝงว่า นิรนาม ทวิตข่าวสารคดีจากต่างประเทศที่นำเสนอเรื่องประเทศไทย เป็นต้น โดยทวิตแทบทั้งหมดที่ถูกนำมาสอบถามเกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม รวมทั้งยังถูกซักถามความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องแฮชแท็กขบวนเสด็จ และการไม่ยืนในโรงภาพยนตร์ รวมไปถึงความคิดเห็นต่อรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในปัจจุบันเจ้าหน้าที่ชุดที่สอบสวนนี้ได้บอกให้ลบข้อความที่เคยทวิตไปแล้วทั้งหมดด้วยเจ้าหน้าที่ ยังได้ซักถามไปถึงเรื่องเพื่อนร่วมชั้นเรียน รูมเมท และครอบครัว รวมถึงญาติผู้ใหญ่ของ พี และข้อมูลที่เจ้าหน้าที่นำมาพูดคุยสอบถามรวมไปถึงเรื่องราว 2-3 ปีย้อนหลัง ทำให้ พี ทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้มีการขุดค้นข้อมูลในทวิตเตอร์ของเธอย้อนหลังไปมากพอสมควรหลังจากการซักถาม เจ้าหน้าที่ได้ขอโทรศัพท์มือถือของ พี ไปเพื่อจะตรวจสอบถึง 3 ครั้ง แต่ พี ไม่ยินยอม ยินยอมได้เพียงให้ตรวจสอบโดยที่โทรศัพท์ยังคงอยู่ในมือของพี เจ้าหน้าที่ได้ขอถ่ายภาพ IP ของโทรศัพท์มือถือ ชื่อล๊อคอินทวิตเตอร์ เบอร์โทรศัพท์ ชื่ออีเมล์ทั้งหมดและจดหมายที่ถูกส่งเข้ามา รวมไปถึงการขอดูแชทไลน์ Instagram story และเฟสบุ๊ก ซึ่งไม่ได้ถูกใช้งานมานานแล้วด้วยท้ายที่สุด พี ถูกกดดันให้ลงชื่อในเอกสารข้อตกลง (MOU) ที่มีเนื้อหาที่สำคัญ คือการยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอุปกรณ์ และอนุญาตให้นำข้อมูลไปใช้ การให้การรับรองว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย และข้อตกลงว่าจะไม่ทวิตข้อความเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์อีก หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัว พี ขึ้นรถกลับมาส่งที่คณะ หลังจากใช้เวลาสอบถามประมาณ 1 ชั่วโมงพี เปิดเผยกับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ด้วยว่าประสบการณ์ดังกล่าว ทำให้รู้สึกถูกคุกคาม ถึงโดยรวมเจ้าหน้าที่จะไม่ได้พูดจาไม่ดี แต่ก็สร้างความรู้สึกเครียด เพราะถูกรุมล้อมและซักถามโดยเจ้าหน้าที่จำนวนมาก และยังได้รับความกดดัน เพราะตนไม่ได้มีความรู้ทางกฎหมาย และเจ้าหน้าที่บีบคั้นให้เปิดเผยข้อมูลต่างๆ จนหลังจากเหตุการณ์แล้ว ได้มาศึกษาเบื้องต้น ก็พบว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีสิทธิมากระทำการในลักษณะนี้กับประชาชน และตนเองก็ไม่จำเป็นต้องให้ข้อมูลเช่นนั้น จึงคิดว่าคนอื่นๆ ควรจะได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ และได้เลือกออกมาเปิดเผยข้อมูลว่ามีการกระทำเช่นนี้ในส่วนข้อสังเกตว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่จึงสามารถระบุตัวตนของผู้ใช้งานทวิตเตอร์รายดังกล่าวได้ ทั้งที่ไม่ได้มีการใช้ชื่อสกุลจริงในการใช้งาน พี สันนิษฐานว่าก่อนหน้านั้นหลายเดือน ตนได้เคยทวิตภาพเอกสารที่อาจจะใช้ระบุตัวตนได้ออกไป จึงอาจเป็นไปได้ว่าเจ้าหน้าที่อาจจะใช้ภาพดังกล่าวติดตามตัวตนต่อมาจากกรณีข้างต้น การตามตัวของเจ้าหน้าที่นั้น แม้ พี สันนิษฐานมาจากการทวิตภาพเอกสารที่อาจจะใช้ระบุตัวตนได้ จนเป็นหลักฐานมาติดตามตัว แต่ก็มีคนตั้งข้อสังเกตว่าได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอย่าง ทวิตเตอร์ ด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตามจากรายงานการขอข้อมูลของทวิตเตอร์เองปีนี้ ยังไม่มีการถูกร้องขอมาแต่ช่วงเดือน ก.ค.-ธ.ค.ปี 61 นั้น มีคำขอข้อมูลกับทวิตเตอร์ 1 ครั้ง แต่ทวิตเตอร์ไม่ได้ให้ข้อมูล หลังจากนั้นต้องย้อนกลับไปถึง ม.ค.-มิ.ย.57 เลยที่มีการขอข้อมูลกับทวิตเตอร์ แต่ทวิตเตอร์รายงานว่าไม่ได้ให้ข้อมูลเช่นกันศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน มีข้อสังเกตต่อกรณีดังกล่าวว่า แม้ในระยะหลังมีแนวโน้มการดำเนินคดีต่อการแสดงออกที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์ที่เปลี่ยนไปแต่กลับพบรูปแบบการใช้กระบวนการนอกกฎหมายในการค้น ควบคุมตัว ขอข้อมูลส่วนบุคคล และทำบันทึกข้อตกลง ซึ่งศูนย์ทนายความฯ มีข้อสังเกต และคำแนะนำต่อกรณีดังกล่าวต่อไปนี้1. การโพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียนั้น ไม่ใช่การกระทำความผิดซึ่งหน้า ดังนั้น หากเป็นแม้กลุ่มบุคคลดังกล่าวจะอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ก็ตาม หากเผชิญกระบวนการในลักษณะนี้ ไม่ควรติดตามไปโดยไม่ทราบว่าเป็นบุคคลใด จะพาไปยังสถานที่ใด ด้วยสาเหตุใด และเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจตามกฎหมายใด เพราะอาจเกิดเหตุการณ์ที่นอกเหนือความคาดหมายมากกว่าการซักถาม หรือถูกบังคับให้ข้อมูลได้2.กลุ่มบุคคลดังกล่าวมักจะไม่แสดงตัวว่าชื่ออะไร สังกัดใด แต่จะหว่านล้อมและจูงใจ โดยอ้างว่าการให้ความร่วมมือจะเป็นประโยชน์มากกว่า และมีข้อแลกเปลี่ยนว่าหากยินยอมให้ข้อมูลและลงชื่อในบันทึกข้อตกลง การดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ จะยุติลง และจะไม่ถูกดำเนินคดีแต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่าเมื่อเราให้ข้อมูลแล้วจะไม่มีการดำเนินคดีเกิดขึ้นในทางตรงกันข้ามเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว ผู้ถูกควบคุมตัวมักถูกกดดันจนต้องยอมให้ข้อมูลส่วนตัว หรือต้องอธิบายความจนอาจเป็นเหตุให้ถูกดำเนินคดีได้ นอกจากนี้ ศูนย์ทนายความฯ พบว่าบันทึกข้อตกลงในบางกรณีนั้นเป็นบันทึกที่ลงชื่อโดยผู้ถูกควบคุมตัวเพียงฝ่ายเดียว ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมตัวร่วมลงชื่อร่วมด้วย3.กรณีเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ การที่เจ้าหน้าที่จะทำสำเนาข้อมูล เข้าถึงข้อมูล หรือให้ส่งมอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ (รวมถึงโทรศัพท์มือถือ) นั้น จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีหมายศาลเท่านั้นไม่ควรให้สำเนาอุปกรณ์ หรือรหัสผ่าน (password) แก่บุคคลอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่ไม่แสดงตัว เพราะข้อมูลดังกล่าวอาจถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นอันก่อความเดือดร้อนมากกว่าความเป็นจริงได้4. ข้อความที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวนำมาแสดงหรือกล่าวหา หากถูกดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมยังต้องได้รับการตรวจสอบจากพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ ว่าเข้าข่ายเป็นความผิดกี่ข้อความและต้องถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาใดบ้าง ไม่ใช่ว่าเราจะถูกดำเนินคดีตามข้อความที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวนำมาแสดงทุกข้อความ อีกทั้งภาพบันทึกหน้าจอ (capture) เพียงอย่างเดียวไม่สามารถระบุตัวตนของผู้โพสต์ข้อความได้ พยานหลักฐานในการดำเนินคดีจะแน่นหนาเพียงใดนั้นต้องพิจารณาในชั้นศาล5. อย่างไรก็ตาม หากยินยอมเข้าสู่กระบวนการดังกล่าว พึงระลึกว่าเรายังมีสิทธิอย่างเต็มที่ในการที่จะให้ข้อมูลหรือไม่ให้ข้อมูล มีทนายความหรือบุคคลที่ไว้วางใจระหว่างกระบวนการ ปรึกษาทนายความก่อนเข้าร่วมกระบวนการ แจ้งญาติ หรือนัดหมายในวันเวลาและสถานที่ที่เราสะดวก และหากเปลี่ยนใจในระหว่างกระบวนการ สามารถถอนความยินยอม หรือไม่ลงชื่อในเอกสารใดๆ ก็ตามได้ทุกเมื่อ เนื่องจากขั้นตอนดังกล่าวนั้นไม่ใช่ขั้นตอนตามกฎหมาย การดำเนินการต่างๆ จึงขึ้นอยู่กับความยินยอมของเราเพียงเท่านั้น
เปิดกระบวนการนอกกฎหมายจัดการกับผู้แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ เจ้าหน้าที่ไม่ทราบหน่วย คุมตัว-ขู่บังคับให้ข้อมูล-ทำ MOU ล่าสุด นศ.ธรรมศาสตร์ โดน กับคำถามที่ว่าเสรีภาพเพิ่มขึ้น? แม้คดี 112 จะลด
การเมือง,สิทธิมนุษยชน,ไอซีที
กษัตริย์,MOU,ม.112,ทวิตเตอร์,เสรีภาพการแสดงความคิดเห็น,ภาวิณี ชุมศรี,กระบวนการนอกกฎหมาย,กระบวนการยุติธรรม
https://prachatai.com/journal/2019/11/85172
สาทิตย์ รับไม่ติดใจสูตรเลือกตั้ง กรธ. แต่หวั่นปมซื้อเสียงมากกว่า
 ,เมื่อวันที่ 3 พ.ย.58 นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส. กล่าวถึงระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมว่า เท่าที่ตนดูยังเห็นแค่เพียงหลักการคร่าวๆ ว่าต้องการเคารพทุกเสียงของประชาชน ไม่ให้คะแนนเสียงต้องสูญเปล่า ส่วนรายละเอียดที่ทางกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้เปิดเผยออกมาขณะนี้นั้นยังไม่มีความชัดเจน น่าจะเป็นการโยนหินถามทางเพื่อให้เกิดการวิจารณ์ถึงข้อดีข้อเสีย และตนก็เชื่อว่ารายละเอียดเหล่านี้ก็ยังไม่ใช่ข้อยุติ เพราะทาง กรธ.ยังคงต้องขอความเห็นจากหลายฝ่ายรวมถึงฝ่าย กปปส.,แกนนำ กปปส. กล่าวต่อว่า สำหรับตนแล้วไม่ติดใจเรื่องระบบการเลือกตั้ง แต่หลักใหญ่ของ กปปส.ก็คือว่าจะต้องไม่ทำให้เกิดเผด็จการรัฐสภาขึ้นมาอีก จะต้องไม่ทำให้พรรคการเมืองเป็นพรรคที่ถูกกลุ่มทุนเข้ามายึดกุม ชี้นำ ส.ส.ได้ และที่สำคัญที่สุดก็คือการจัดการกับปัญหาการทุจริตการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ซึ่งเรื่องนี้ใหญ่กว่าระบบการเลือกตั้งมาก เพราะระบบไม่ว่าจะออกแบบอย่างไร แต่คนที่จะโกงมันก็จะโกงอยู่ดี,นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า ดังนั้นจึงควรออกแบบระบบที่ป้องกันกลโกงและสามารถสนับสนุนให้จัดการคนโกงได้ด้วย อาทิ การออกแบบอำนาจคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือการยกร่างกฎหมายพรรคการเมืองเป็นต้น ซึ่งตนมองที่ทั้งระบบไม่ได้มองแค่ที่ระบบการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว ที่ผ่านมาทาง กปปส. ได้เคยเสนอไปบ้างแล้ว อาทิ เรื่องการให้ใบแดงให้เป็นอำนาจหน้าที่ของศาล แทนอำนาจของ กกต.เป็นต้น,แกนนำ กปปส. กล่าวต่อถึงการที่ กรธ.ได้บัญญัติหมวดใหม่ที่ชื่อว่าหน้าที่ของรัฐขึ้นมาว่า การบัญญัติหมวดนี้เป็นเหมือนกับยาที่ใช้เฉพาะในสังคมไทย  ซึ่งคงจะไปแก้ไขปัญหาในอดีต ที่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งบางรัฐบาลกลับทำสิ่งที่ไม่ควรทำ อาทิ จัดงบประมาณโดยไม่เป็นธรรม แล้วก็บอกว่าจังหวัดไหนเลือกเรา เราให้งบก่อนเป็นต้น ซึ่งตรงนี้คงจะผิดหน้าที่รัฐ ดังนั้น การบัญญัติหมวดนี้ลงไปตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะรัฐธรรมนูญต้องเป็นสะท้อนเจตจำนงของประชาชนที่ต้องการให้รัฐเข้ามาเพื่อทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์,ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าทาง กปปส.จะเข้ามาเสนอความเห็นต่อทาง กรธ. ซึ่ง นายสาทิตย์ เปิดเผยว่าในขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกันในหมู่แกนนำว่าจะมีใครเดินทางเข้ามาบ้าง และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยจะเดินทางมาหรือไม่ แต่ว่าในขณะนี้ทาง กปปส.ได้เตรียมประเด็นที่จะนำเสนอกับทาง กรธ.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว.
สาทิตย์ มอง กรธ.โยนหินถามทาง แนะต้องฟังความเห็นจากหลายฝ่าย รับไม่ติดใจสูตรเลือกตั้ง หวั่นปมโกงซื้อเสียงมากว่า ย้ำต้องแก้มากกว่าระบบ ชี้ตั้งหมวดหน้าที่รัฐแก้ปัญหาเลือกปฏิบัติ จ่อยื่นเสนอความเห็นสัปดาห์หน้า
เลือกตั้ง
สาทิตย์ วงศ์หนองเตย,ระบบเลือกตั้งใหม่ กรธ.,สูตรเลือกตั้งใหม่,ระบบแบ่งสันปันส่วนผสม,แก้ไขการโกงเลือกตั้ง,ความเห็นระบบเลือกตั้งใหม่,หมวดหน้าที่รัฐ,วิธีแก้ทุจริตเลือกตั้ง,กปปส.,ร่าง รธน.,วิธีคิดคำนวนคะแนนเลือกตั้ง,พรรคประชาธิปัตย์,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์,เลือกตั้ง,ซื้อสิทธิขายเสียง,โกงเลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/content/536817
ใบตองแห้ง: เอาเปรียบตามกติกา
พรรคสามัญชนชูสปอตหาเสียง ถ้าไม่เห็นด้วยกับเผด็จการทหาร ลงคะแนนให้พรรคสามัญชน ไม่มีอะไรต้องสูญเสีย นอกจากโซ่ตรวนปรากฏว่า กกต.ขอให้เปลี่ยน เอาคำว่า เผด็จการทหาร และ โซ่ตรวน ออกไป เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ หัวหน้าพรรคยืนยันไม่เปลี่ยน ก็ยังไม่ทราบว่า กกต.จะตัดสิทธิ หรือยื่นยุบพรรคฐานเป็น ปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือไม่เพราะ ประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ไม่เหมือนชาติใดในโลก หาเสียงต้านเผด็จการก็ไม่ได้ หาเสียงลดงบทหารก็ไม่ได้ หาว่าปลุกความเกลียดชัง ทั้งที่พวกตัวเองถือปืนเปิดเพลง หนักแผ่นดิน ปลุกใจอยู่ในค่าย พรรคประชานิยมติดป้ายให้คนฮือฮา เลิกซื้อรถถังเอาเงินไปสร้างโรงพยาบาล ก็โดน กกต.สั่งปลดไม่ทราบ กกต.ต้องยุ่งอะไร หาเสียงเว่อร์ไปทำได้จริงไหม ประชาชนมีวิจารณญาณการเลือกตั้งโดยสงบของ กกต. คือห้ามโจมตีกันว่าเป็นเผด็จการ สืบทอดอำนาจ ห้ามเอาทหารและ คสช.มาเกี่ยวข้อง ทุกพรรคเป็นประชาธิปไตยทั้งนั้น ไม่ว่าพรรคที่เคยปิดเมืองขัดขวางเลือกตั้ง หรือพรรคที่ชูหัวหน้าคณะรัฐประหารเป็นแคนดิเดตนายกฯเออ ถ้าเลือกตั้งแข่งขันเสรี ภายใต้กติกาเท่าเทียม ก็ว่าไปอย่าง แต่นี่พรรคการเมืองอื่นเริ่มต้นจาก 0 ท่านผู้นำเริ่มต้นจาก 250 มีอำนาจตั้ง 250 ส.ว.มาเลือกตัวเองเป็นนายกฯ ยังบอกว่าอย่าดูถูก 250 คนมีสมอง รักประเทศ ฯลฯ ตรรกะวิปริตเห็น ๆเป็นหัวหน้า คสช. ม.44 เป็นนายกฯ ที่มีอำนาจเต็ม แล้วมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ ถามว่าไปดีเบตได้ไหม ช่วยพรรคหาเสียงได้ไหมกกต.บอกว่าดีเบตได้ ทุกคนก็ดีใจ ยึดทีวีทุกช่องพูดคนเดียวมาห้าปี พูดโดยมีคู่แข่งซักทีจะกล้าไหมแล้วช่วยพรรคหาเสียงได้ไหม ก็น่าจะได้สิ แต่ยอมรับกติกาเดียวกันกับรัฐบาลจากเลือกตั้งหรือเปล่า เช่นรัฐบาลอภิสิทธิ์ปี 54 รัฐบาลยิ่งลักษณ์ปี 57 ครม.สัญจร เดินสายแจกของ หรือทำอะไรที่เอื้อประโยชน์ไม่ได้ อนุมัติงบผูกพันไม่ได้ แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการก็ไม่ได้ ต้องมีไฟเขียวจาก กกต.แต่ไม่ใช่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ก็หาเหตุไปตรวจราชการพร่ำเพรื่อ ไปแจกโฉนด ไปให้ประโยชน์โน่นนี่ โดยใช้ตำแหน่งหน้าที่ ใช้ทรัพย์สินราชการ โดยอ้างว่าไม่ได้หาเสียง แต่ระดมประชาชนมาเชียร์ ข้าราชการมาต้อนรับ ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐก็บังเอิญมาด้วย หรือมาตามหลังนี่ถ้าย้อนไปดู ระเบียบ กกต.ตั้งแต่ปี 54 ที่ใช้กับรัฐบาลอภิสิทธิ์ ก็เขียนไว้ชัด แต่ใช้กับรัฐบาลนี้ไม่ได้เพราะเป็นรัฐบาลอำนาจเต็ม ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการระหว่างยุบสภาถ้า กกต.ตีความว่านอกเวลาราชการไปหาเสียงช่วยพรรคได้ แต่ในเวลาราชการยังไปตรวจเยี่ยมประชาชนได้ ก็คงสนุกพิลึกข่าวหุ้นธุรกิจ
พรรคสามัญชนชูสปอตหาเสียง ถ้าไม่เห็นด้วยกับเผด็จการทหาร ลงคะแนนให้พรรคสามัญชน ไม่มีอะไรต้องสูญเสีย นอกจากโซ่ตรวนปรากฏว่า กกต.ขอให้เปลี่ยน เอาคำว่า เผด็จการทหาร และ โซ่ตรวน ออกไป เลิศศักดิ์
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
ใบตองแห้ง,เลือกตั้ง 62,กฏหมายเลือกตั้ง
https://prachatai.com/journal/2019/02/81214
ผจก.บ.ประกันฯ ขับเก๋งประสานงารถส่งสินค้า ติดคารถต้องปั๊มหัวใจยื้อชีวิต
เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 13 มี.ค.2559 ร.ต.อ.บุญล้ำ วงศ์วันดี ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน บริเวณถนนสกล-นาแก หน้าร้านสกลค้าไม้ ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง สกลนคร ใกล้กับสี่แยกหอนาฬิกาในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร และมีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ จึงพร้อมด้วยอาสาสมัครกู้ภัยเมตตาธรรมมูลนิธิ ชุดกู้ภัยอุทิศ และชุดกู้ภัย ปภ.เขต7 แพทย์เวร รุดไปตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกสินค้าของบริษัทเบทาโกร เกษตรอุตสาหรรม จำกัด สีขาวหมายเลขทะเบียน บม 8635 กาฬสินธุ์ จอดขวางถนน สภาพด้านหน้าฝั่งคนขับพังเสียหาย ส่วนคนขับ(ยังไม่ทราบชื่อ) ซึ่งได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์สกลนครแล้วนอกจากนี้ ใกล้กันพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าสีดำ หมายเลขทะเบียน กก 3039 สกลนคร จอดขวางอยู่กลางถนน สภาพด้านหน้ามีร่องรอยถูกชนพังยับเยิน และมีผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นคนขับ ,ทราบชื่อต่อมาว่า นายจักรพงษ์ สาระวรรณ ผู้จัดการบริษัทไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด สาขามุกดาหาร ได้รับบาดเจ็บสาหัสหมดสตินอนหายใจรวยรินติดคาอยู่ภายในรถบริเวณเบาะนั่งคนขับ ไม่สามารถนำตัวออกมาได้เนื่องจากถูกตัวถังรถด้านหน้ากดทับบริเวณขาทั้งสองข้าง เจ้าหน้าที่กู้ภัย ปภ.เขต7 จึงได้ช่วยกันเร่งใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง ตัดชิ้นส่วนรถบริเวณประตูด้านคนขับ เพื่อนำตัวออกมา โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยปั๊มหัวใจอยู่ตลอดเวลา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถช่วยเหลือนายจักรพงษ์ออกมาได้ ก่อนรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์สกลนครทันที ,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามกับผู้เห็นเหตุการณ์ได้ความว่า รถขนสินค้าของบริษัทอาหารชื่อดัง ขับออกมาจากสี่แยกหอนาฬิกา มุ่งหน้าไปทางอำเภอนาแก ขณะที่รถเก๋งคันดังกล่าว ที่มีนายจักรพงษ์เป็นคนขับ มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองด้วยความเร็วสูง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งมีลักษณะเป็นทางโค้ง ได้เกิดเสียหลักข้ามเลนพุ่งชนประสานงากับรถขนสินค้าของบริษัทอาหารชื่อดังเข้า อย่างจัง จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้.
ผจก.ประกันชีวิต ขับเก๋งเสียหลักข้ามเลนประสานงารถส่งสินค้าบ.อาหารดัง บาดเจ็บสาหัสติดคาในรถ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยปั๊มหัวใจ ก่อนใช้อุปกรณ์ตัดถ่างช่วยเหลือนำตัวออกมาส่งโรงพยาบาล
null
รถเก๋งประสานงารถบรรทุก,รถชนกัน,รถเก๋งชนรถบรรทุก,บุญล้ำ วงศ์วันดี,สภ.เมืองสกลนคร,ถนนสกล-นาแก,ต.ธาตุเชิงชุม,อ.เมืองสกลนคร,สกลนคร,จักรพงษ์ สาระวรรณ,ผจก.บริษัทประกันชีวิต,ข่าวท่ัวไทย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/590344
ฝนตก 3 วัน ทำปลากระชังแม่น้ำสงครามตาย 300 ตัน เจ๊ง 20 ล้าน
เกษตรกรร้อง เจอฝนหลงฤดู 3 วัน ปลากระชังแม่น้ำสงครามใน 3 อำเภอของจ.นครพนม น็อกน้ำตาย 300 ตัน เสียหายร่วม 20 ล้าน อ่วมไม่เข้าเกณฑ์ชดเชยเยียวยา ครูแก้ว ส.ส.ศุภชัย โพธิ์สุ เร่งประสานประมง ช่วยเหลือวันที่ 9 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม ผลกระทบจากฝนหลงฤดูตกต่อเนื่อง ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้สภาพน้ำในลำน้ำสงคราม เปลี่ยนแปลงกะทันหัน ทั้งสภาพน้ำ อุณหภูมิ รวมถึงปริมาณออกซิเจนลดลง ทำให้ปลานิลในกระชังของเกษตรกรที่เลี้ยงในลำน้ำสงคราม ในพื้นที่ อ.นาหว้า อ.ศรีสงคราม และ อ.ท่าอุเทน น็อกน้ำตาย เพราะปรับสภาพไม่ทัน ซึ่งล่าสุดยังได้รับผลกระทบต่อเนื่อง ปลานิลในกระชังทยอยตายจำนวนมากทั้งนี้ นายสำราญ รื่นนาค ประมงจังหวัดนครพนม ได้ประสานเจ้าหน้าที่ประมงในพื้นที่อำเภอ ที่ได้รับผลกระทบ ลงพื้นที่ตรวจสอบ ให้คำแนะนำชาวบ้าน พร้อมวางมาตรการป้องกันช่วยเหลือขณะที่นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ได้ประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบหาทางช่วยเหลือป้องกันไม่ให้ตายเพิ่มขึ้นจากการตรวจสอบของประมงจังหวัดนครพนม พบว่า มีปลานิลในกระชัง ตายไม่ต่ำกว่า 300 ตัน หนักสุดในพื้นที่ บ้านหาดกวน ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน มีปลาในกระชังตายไม่ต่ำกว่า 100 ตัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 15 – 20 ล้านบาท เพราะมีราคาซื้อขายที่กิโลกรัมละ 50-60 บาท ซึ่งเป็นปลาที่มีขนาดน้ำหนักประมาณ 1-1.2 กิโลกรัม ที่กำลังเตรียมส่งขายสู่ตลาด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกับเกษตรกร เร่งเก็บปลานิลที่ตายขึ้นจากน้ำ เพื่อนำมาทำปลาร้า และทำปุ๋ยหมัก แต่มีจำนวนมากเกิน จึงต้องหาทางนำไปทำลายทิ้งด้วยการฝังกลบ เพราะเริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็น และเริ่มสร้างมลพิษทางน้ำส่วนการเยียวยาช่วยเหลือ อยู่ระหว่างการหารือหน่วยงานเกี่ยวข้อง แต่ยังไม่สามารถเยียวยาชดเชยได้ เพราะไม่เข้าหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือตามระเบียบราชการ ทำได้เพียงการหามาตรการป้องกันแก้ไข ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านขาดทุนหนัก บางรายต้องเป็นหนี้นับล้านนางสาวนารี โพธิ์สา ประมงอำเภอศรีสงคราม จ.นครพนม เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางประมงจังหวัดนครพนม ได้ประสานให้ระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุ พบว่ามาจากน้ำเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพรวดเร็วหลังฝนตกหนักในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา จากปกติระดับน้ำต่ำ มีอุณหภูมิสูง แต่พอหลังฝนตกทำให้อุณหภูมิน้ำลดกะทันหัน มีสภาพขุ่น และมีปริมาณออกซิเจนต่ำ ทำให้ปลานิลในกระชัง ปรับสภาพไม่ทัน น็อกน้ำตายจากการสำรวจเบื้องต้นในพื้นที่ 3 อำเภอ ที่เลี้ยงปลาในลำน้ำสงคราม มี อ.นาหว้า อ.ศรีสงคราม และ อ.ท่าอุเทน พบว่า มีปลานิลในกระชังตายไม่ต่ำกว่า 300 ตัน ซึ่งการช่วยเหลือ ยังอยู่ระหว่างการหารือ จากหลายหน่วยงาน เบื้องต้นทางประมงได้เข้าไปดูแล ให้คำแนะนำเกษตรกร ให้เร่งนำปลาส่งขาย รวมถึงลดปริมาณการเลี้ยง และย้ายปลาในกระชังออกให้มีปริมาณพอเหมาะไม่ให้แออัดเกินไป ป้องกันปัญหาออกซิเจนต่ำ เกิดปลาน็อกน้ำตามมา รวมถึงช่วงนี้เกษตรกรควรลดการให้อาหาร ไม่ควรให้อาหารปลาในปริมาณมาก ควรให้จำนวนน้อยแต่ให้บ่อยขึ้น รวมถึงหมั่นสังเกตอาการปลาตลอด ที่สำคัญหากได้ขนาดพอขาย ให้เร่งขายในช่วงนี้ เพื่อลดความเสียหาย
เกษตรกรร้อง เจอฝนหลงฤดู 3 วัน ปลากระชังแม่น้ำสงครามใน 3อำเภอของจ.นครพนม น็อกน้ำตาย 300 ตัน เสียหายร่วม 20 ล้าน อ่วมไม่เข้าเกณฑ์ชดเชยเยียวยา ครูแก้วส.ส.ศุภชัย โพธิ์สุ เร่งประสานประมง ช่วย
ข่าว,ทั่วไทย
ปลากระชัง,ปลากระชังตาย,ปลาน็อกน้ำ,ปลากระชังแม่น้ำสงคราม,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1790379
เด้ง 14 ตร.อุดรฯ ร้องขู่เรียกเงินหมื่นผู้ปกครองโจ๋
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคำสั่งตำรวจภูธรภาค 4 ที่ 2494/2557 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 4 ,โดยเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้มีคำสั่งย้ายตำรวจป้องกันปราบปราม สภ.เมืองอุดรธานี ตั้งแต่ระดับสารวัตรป้องกันปราบปราม รองสารวัตร และผู้บังคับหมู่ สภ.เมืองอุดรธานี รวม14 นาย มาประจำที่ ตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อตั้งกรรมการสอบสวน ,สืบเนื่องจาก มีผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ปกครองกลุ่มวัยรุ่นบ้านโนนสูง ต.โนนสูง อ.เมือง ประมาณ 10 คน เข้าร้องเรียนว่าถูกตำรวจชุดปราบปราม นำกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยก่อเหตุฆ่ากลุ่มอริ มาข่มขู่รีดเงินจากผู้ปกครอง รายละ 10,000 บาท,ทั้งนี้ ตำรวจชุดดังกล่าว เป็นชุดปราบปรามยาเสพติดนอกเครื่องแบบชุด อัศวิน มี พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล สวป.สภ.เมือง อุดรธานี เป็นหัวหน้าชุด ภายในชุดประกอบด้วย ร.ต.อ.สุรบดินทร์ วงศ์รินทอง ร.ต.อ.ภัทรธน เจริญผล ร.ต.อ.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ ร.ต.ท.พิเชษฐ์ ปักเคชาติ ร.ต.ต.บัญชา ประสารพันธ์ ร.ต.ต.จำลอง ทองเพื่อง ร.ต.ต.วินัย ผิวผ่อง รอง สวป.สภ.เมือง อุดรธานี ด.ต.สมประสงค์ ผลลาภ ด.ต.ธนู จันทร์ดาเบ้า ด.ต.เสกสรรค์ สุวรรณบุตร ด.ต.ประทุม กรมวงศ์ ด.ต.ชัยวัฒน์ ชื่นอิสรา ด.ต.ประเทือง ริยะวงศ์ ผบ.หมู่ ป.สภ.เมือง อุดรธานี.
ผบช.ภ.4 มีคำสั่งย้าย 14 ตำรวจเมืองอุดรฯ ยศ พ.ต.ท.-ด.ต. หลังผู้ปกครองโจ๋ ร้องถูกขู่รีดเงินหมื่น พร้อมสั่งตั้งกรรมการสอบ
ข่าว,ทั่วไทย
สั่งย้าย,โยกย้าย,เด้ง,นายตำรวจ,อุดรธานี,ผบช.ภ.4,ร้องเรียน,เรียกเงิน,ข่มขู่รีดเงิน,ผู้ปกครอง,หมื่นบาท,ข่าวภูมิภาค
https://www.thairath.co.th/news/local/467318
ถูกกีดกันทั้งที่ส่งเสีย แม่อดีตเขยยิงแม่ยายเผย ลูกเคยระบายให้ฟัง
จากกรณี,อดีตลูกเขย, ที่เพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติด ชักปืนยิงแม่ยาย ซึ่งขวางไม่เอาตัวลูกสาววัย 5 เดือนไป จนได้รับบาดเจ็บบริเวณชายโครงซ้าย 1 แผล และอาการปลอดภัยแล้ว หลังก่อเหตุ ได้ทิ้งลูกสาวไว้ริมคันนา ก่อนหลบหนีการจับกุม เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา,ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ต.ท.ศิริพงษ์ สุดา รอง ผกก.สส. สภ.เมืองอุบลราชธานี ประชุมชุดสืบสวนวางแผนกดดันให้ผู้ก่อเหตุมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ โดยแบ่งชุดสืบสวนไปยังบ้านของผู้ต้องหา ที่หมู่บ้านบุ่งมะแลงใต้ หมู่ที่ 4 ต.บุ่งมะแลง อ.สว่างวีรวงศ์ จ.อุบลราชธานี โดยพบกับพ่อแม่ของนายนิคม ซึ่งทั้งสองคนอ้างว่า ลูกชายไปพักอยู่ในเมือง แต่ไม่ทราบอยู่ที่ใด,ทั้งนี้ พ่อและแม่ของ นายนิคม เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายเคยมาระบายความในใจให้ฟังว่า รักลูกมาก และเป็นคนหาเงินมาส่งเสียเลี้ยงดูลูกมาตลอด แต่ถูกกีดกันจากแม่ยาย ไม่ให้พบลูก แต่หากนายนิคม ติดต่อมาหา ก็จะนำตัวลูกชายเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ,อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอีกชุด ได้ติดตามไปที่บ้านเพื่อนสนิท นายนิคม แต่ก็ไม่พบตัว ,ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รอง ผกก.สอบสวน และร้อยเวรเจ้าของคดีได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานในคืนเกิดเหตุ เพื่อขออนุญาตศาลจังหวัดอุบลราชธานี ออกหมายจับตัว นายนิคม ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในชุมชน เมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร.
ตร.อุบลราชธานี เร่งตามตัว ลูกเขยก่อเหตุยิงแม่ยายเจ็บ ชิงลูกวัย 5 เดือน ด้านแม่ผู้ก่อเหตุ เผยลูกเคยมาระบายให้ฟัง ถูกกีดกัน ทั้งที่หาเงินส่งเสีย
ข่าว,อาชญากรรม
อดีตลูกเขย,ลูกเขยยิงแม่ยาย,ถูกกีดกัน,อุบลราชธานี,ชิงลูก,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1178240
นายกฯ ไฟเขียว สร้างทัพนักรบดิจิทัล รับมือภัยไซเบอร์ ยกระดับความพร้อม
เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2561 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการไซเบอร์แห่งชาติ นัดแรก เพื่อให้หน่วยงานรัฐและเอกชน มีกำลังคนรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ทุกรูปแบบ และเน้นสร้างความเข้มแข็งโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ,ด้านนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ได้เสนอพิจารณา 4 เรื่อง คือ กรอบแนวคิดนโยบายและแผนระดับชาติ เพื่อป้องกัน รับมือ และลดความเสี่ยงให้สอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน กำหนดโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศของประเทศ และแนวปฏิบัติต่อสถานการณ์ฉุกเฉินทางความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พัฒนาบุคลากรด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ระยะเร่งด่วน และแนวทางจัดตั้งไซเบอร์ซิเคียวริตี้ซึ่งเป็นหน่วยประสานกลางและหน่วยเผชิญเหตุด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เพราะสถานการณ์ด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ขณะนี้เกิดจากหลายปัจจัย ทำให้คนทั่วโลกเข้าถึงข่าวสารได้อย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งมาพร้อมกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีผลกระทบร้ายแรง เช่นการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญชั้นความลับ,รมว.กระทรวงดิจิทัลฯ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมจึงได้เห็นชอบให้จัดกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานทางสารสนเทศ 6 กลุ่ม คือ ความมั่นคงและบริการภาครัฐ การเงิน เทคโนโลยีสารสนเทศโทรคมนาคม ขนส่งโลจิสติกส์ พลังงาน และสาธารณสุข พร้อมทั้งเตรียมการจัดอบรมให้กับบุคลากรด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ หรือ นักรับไซเบอร์ จำนวน 1,000 คน ให้เกิดความเชี่ยวชาญ รับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ และกระทรวงดีอีตั้งเป้ายกระดับดัชนีความพร้อมด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ให้ติดในอันดับที่ 20 ของประเทศที่มีความพร้อม จากเดิมที่ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 22.
นายกรัฐมนตรีเห็นชอบให้กระทรวงดีอี อบรมนักรบไซเบอร์ 1,000 คน เพื่อรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ ล้วงข้อมูล ตั้งเป้าไทยติดอันดับ 20 ประเทศที่มีความพร้อมด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี้
ข่าว,การเมือง
นักรบไซเบอร์,ภัยไซเบอร์,ไซเบอร์ซิเคียวริตี้,กระทรวงดิทิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม,ภัยออนไลน์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1277347
เจ้าหน้าที่เผยผลสอบสวนเบื้องต้น เหตุเครื่องบินเอเชียน่าตกในสหรัฐฯ
คณะกรรมการความปลอดภัยการคมนาคมแห่งชาติหรือเอ็นทีเอสบีของสหรัฐเข้าเก็บหลักฐานในจุดเกิดเหตุ เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777 ตกขณะพยายามร่อนลงจอดที่สนามบินนานาชาตินครซานฟรานซิสโกเมื่อวานนี้ (7 ก.ค.2556) ทั้งนี้ ประธานเอ็นทีเอสบีเปิดเผยว่ามีข้อมูลหลักฐานพร้อมสรรพและยังไม่ตัดประเด็นสาเหตุใดทิ้ง ซึ่งเบื้องต้นข้อมูลทั้งหมดชี้ว่า ขณะกำลังร่อนลงจอด เครื่องบินใช้ความเร็วต่ำกว่าพิกัด 254 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคณะสอบสวนสาเหตุเผยด้วยว่า ทางหอบังคับการบินได้แจ้งให้เร่งความเร็วขึ้นอีก แต่ปรากฏว่านักบินตอบกลับมาว่า จะยังไม่แลนดิ้งหรือลงจอด และขอบินวนก่อน โดยเมื่อนักบินนำเครื่องบินวนไปได้ เพียง 1.5 วินาที จึงได้เกิดเหตุ ซึ่งพบว่าส่วนหางไปปะทะกับกำแพงกั้นทะเลจนหลุดออกเครื่องบินที่เกิดเหตุเป็นของสายการบินเอเชียน่าสายการบินใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของเกาหลีใต้ โดยก่อนเกิดเหตุได้ออกจากกรุงโซลไปพร้อมลูกเรือ 16 คนและผู้โดยสาร 291 คน ซึ่งในจำนวนผู้อยู่บนเครื่องทั้งหมด 307 คนมีผู้โดยสารสตรีชาวจีนเสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บทั้งสิ้น 182 คน โดย 43 คนอาการสาหัส
ผลการสอบสวนสาเหตุการตกขณะลงจอดของเครื่องบินโดยสารจากเกาหลีใต้ในสหรัฐฯ เบื้องต้นมีข้อมูลชี้ว่า เครื่องบินใช้ความเร็วต่ำกว่าพิกัดขณะพยายามร่อนลงจอด และนักบินขอบินวนจนเกิดเหตุสลดิ
ต่างประเทศ
จีน,ผลสอบสวน,สหรัฐฯ,เกาหลีใต้,เครื่องบิน,เอเชียน่า
https://news.thaipbs.or.th/content/182525
มกอช. ปลื้ม นักช็อปสนใจนวัตกรรมสมัยใหม่ แห่ซื้อสินค้าเกษตรดิจิทัลอื้อ
วันที่ 8 ก.ย. 59 นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กล่าวว่า จากการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) จับมือกัน จัดงานตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ภายใต้แนวคิด เกษตรดิจิทัล บริเวณด้านข้างทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากประชาชนในการเข้าเยี่ยมชม และอุดหนุนสินค้าคุณภาพมาตรฐานของเกษตรกรไทยอย่างล้นหลาม รวมทั้งให้ความสนใจในการเยี่ยมชมนิทรรศการด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและเทคโนโลยีการเกษตรจำนวนมาก,อย่างไรก็ตาม งานดังกล่าว จะมีไปถึงวันที่ 25 ก.ย. 59 จึงอยากเชิญชวนประชาชนและคนกรุงเทพฯ มาอุดหนุนสินค้าเกษตรกร และร่วมเป็นกำลังใจให้กับเกษตรกรไทยในครั้งนี้ ซึ่งภายในงาน มีโซนจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และสินค้านวัตกรรมที่ผลิตโดย Smart farmer และ Young smart farmer สินค้าออร์แกนิก สินค้าเกษตรที่มีคุณภาพผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP และ Q มีทั้งสินค้าพืช ปศุสัตว์ และประมง สินค้าสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตร์(GI) ผลผลิตจากแปลงเศรษฐกิจพอเพียง สินค้าเกษตรพื้นที่สูง และมีสินค้าแปรรูปที่เป็นอาหารและมิใช่อาหาร ผ้าและผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งจำหน่ายผลผลิตอันเกิดจากการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีเกษตรกร เข้าร่วมจำหน่ายสินค้า 220 ร้านค้า รวมทั้งนำเสนอความรู้ด้านการนำเทคโนโลยีดิจิทัล ต่อยอดผลผลิตทางการเกษตร การจำหน่ายสินค้าเกษตรคุณภาพผ่านออนไลน์อีกด้วย,ด้าน นายกฤษ อุตตมะเวทิน ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีและการสื่อสาร สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าการผสมผสานของวิถีเกษตรและเทคโนโลยีสมัยใหม่ สามารถนำมาใช้ร่วมกันได้ หลายคนเข้ามาเยี่ยมชมแล้ว ทึ่งกับนวัตกรรมสมัยใหม่ด้านเกษตรที่ก้าวล้ำไปมาก โดยในส่วนของ มกอช. ได้นำข้อมูลระบบตามสอบสินค้าเกษตร สำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (ACFS SME Traceability Program) ในรูปแบบ QR Code มาจัดแสดง เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการในครั้งนี้ นับว่ามีประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากผู้ผลิตและผู้ประกอบการ SME สามารถนำไปใช้ในการบริหารจัดการ ตามสอบสินค้าพืชผักและผลไม้สดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบดังกล่าว สามารถตามสอบถึงแหล่งผลิตสินค้า และแหล่งที่ส่งสินค้าไปจำหน่าย ตลอดจนแสดงรายการเรียกคืนสินค้าที่มีปัญหาได้อีกด้วย ซึ่งโปรแกรมระบบตามสอบสินค้าเกษตร สำหรับผู้ประกอบการ SME สามารถใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและโน๊ตบุ๊ก หรือคอมพิวเตอร์แบบเครือข่ายได้ มีหน้าจอการบันทึกข้อมูลที่ใช้งานง่าย สามารถเก็บข้อมูลตามสอบได้ครบถ้วน และเชื่อมโยงไปสู่ห่วงโซ่ถัดไปได้อีกด้วย ซึ่งผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลการตามสอบสินค้าเกษตรได้ผ่าน QR Code ที่ติดมากับสินค้าด้วยสมาร์ทโฟน (Smart Phone) ที่สำคัญระบบดังกล่าว ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของสินค้าเกษตรแก่ผู้บริโภคได้อีกทางหนึ่งด้วย,นอกจากนี้ มกอช.ยังได้จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการตลาดแนวใหม่ผ่านเครื่องมือสื่อสาร IT อาทิ การเปิดขายสินค้าเกษตรแบบจองผล/ต้น ผ่านทางออนไลน์ การจัดบริการด้านการตลาดสินค้าออนไลน์และส่งมอบจริง ทั้งยังร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายและซื้อซ้ำ จากลูกค้าและประชาชนที่เข้าร่วมงานอีกด้วย,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,ไอซีที จัดงาน เกษตรดิจิทัล เพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้า ช่วยเหลือเกษตรกร
กระทรวงเกษตรฯ ปลื้ม คนแห่ช็อปสินค้าเกษตรคุณภาพมาตรฐาน GAP-ออร์แกนิก งาน ตลาดนัดเกษตรดิจิทัล เผย นักช็อปสนนวัตกรรมแหล่งผลิตเกษตรสมัยใหม่ ด้วยระบบ QR Code กระทุ้งคนเมือง ชม ชิม ช็อป แชร์ สินค้าเกษตรคุณภาพ-สินค้าไอทีราคาพิเศษ
null
ตลาดนัดเกษตรดิจิทัล,สินค้าเกษตร,สินค้าเกษตรนวัตกรรม,สินค้าไอที,ดุจเดือน ศศะนาวิน,มกอช.,กฤษ อุตตมะเวทิน,ICT,ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม,ช่วยเหลือเกษตรกร
https://www.thairath.co.th/content/715953
ปคบ.กับ ตำรวจภาค 2 ทลายโรงงานท่อแว้น
กลางเมืองชลบุรีขายผ่านโซเชียล ท่อดัดแปลงและอุปกรณ์การผลิตเพียบ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เผยพฤติกรรมรับซื้อท่อเก่ามาโมดิฟายใหม่ โฆษณาผ่านสื่อโซเชียลทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์ และแอปพลิเคชันต่างๆ ส่งขายแก๊งเด็กแว้นเอาไปซิ่งประลองความเร็วบนท้องถนน คุมตัวลูกชายดำเนินคดี ส่วนพ่อไหวตัวหลบหนีทลายแหล่งผลิตและจำหน่ายท่อไอเสียรถ จยย.ส่งขายแก๊งเด็กแว้น เปิดเผยเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ก.ค. พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องของ (ศปข.ตร.) นำกำลังร่วมกับ พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ประการ ประจง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี และ พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศรัย ผบก. ปคบ. นำหมายค้นศาลจังหวัดชลบุรีเข้าตรวจค้นโกดังไม่มีเลขที่ ซอยชลเจริญ 3 หมู่ 6 ต.บางทราย อ.เมือง ชลบุรี และอาคารพาณิชย์ เลขที่ 207/4 หมู่ 6 ต.บางทราย อ.เมืองชลบุรีสืบเนื่องจากตำรวจขยายผลจับแก๊งเด็กแว้นทราบว่า โกดังและอาคารพาณิชย์ดังกล่าวเป็นแหล่งผลิตอุปกรณ์ดัดแปลงท่อไอเสียรถ จยย. มีการประกาศโฆษณาจำหน่ายท่อไอเสียผิด พ.ร.บ.จราจรขนส่งทางบก ผ่านทางสื่อโซเซียลทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์ และแอปพลิเคชันต่างๆ เมื่อไปถึงพบนายบรรจง ใจพรม อายุ 34 ปี แสดงตัวเป็นคนดูแลนำเจ้าหน้าที่ตรวจค้นโกดัง ภายในเป็นโรงงานผลิตท่อไอเสีย มีแท่นตัดเหล็ก แท่นเจาะ และอุปกรณ์เครื่องผลิตดัดแปลงท่อไอเสียรถ จยย.ครบครัน โดยมีคนงานทั้งหมด 7 คนส่วนที่อาคารพาณิชย์เป็นแหล่งเก็บและจำหน่ายท่อไอเสีย พบท่อไอเสียผลิตเสร็จแล้วรอส่งขายให้ลูกค้าตามออร์เดอร์ ประกอบด้วย ท่อไอเสียรถ จยย. 35 ท่อ ปลายท่อ 1 ชิ้น คอท่อไอเสีย 29 ชิ้น กระบอกปลายท่อไอเสีย 128 ชิ้น ปากท่อ 174 ชิ้น เครื่องผลิตรวม 12 เครื่อง และชิ้นส่วนอื่นๆรวม 14 รายการ จำนวน 883 ชิ้น จากการตรวจของกลางทั้งหมดไม่ได้มาตรฐาน มอก. ตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องพล.ต.ท.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นจับกุมแหล่งผลิตท่อไอเสียเสียงดังในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายกวาดล้างแหล่งผลิตทั้งรายเล็กและรายใหญ่ และรถ จยย.ท่อเสียงดังที่กลุ่มเด็กแว้นชอบนำมารวมตัวกันแข่งขันบนทางหรือถนนเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน ขณะตรวจค้นทั้ง 2 จุดทั้งอาคารพาณิชย์และโกดังผลิตท่อไอเสียพบว่ามีการซื้อท่อไอเสียเก่าจากแหล่งต่างๆมาดัดแปลงตกแต่งให้เป็นของใหม่และเสียงดัง ส่วนเจ้าของอาคารพาณิชย์และโกดังเป็นชื่อของนายนิพนธ์ ใจพรม พ่อนายบรรจง ใจพรม แต่ไหวตัวหลบหนีไปก่อนเบื้องต้นตำรวจ กก.3 บก.ปคบ. คุมตัวนายบรรจง ลูกชายเจ้าของบ้านและโกดังที่รับเป็นคนดูแลไปสอบสวนดำเนินคดี ข้อหา 1.ทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 เข้าข่ายฝ่าฝืน ม.20 โทษตาม ม.48 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2000000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ2.โฆษณาเพื่อจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำหรือนำเข้ามาเพื่อจำหน่ายในราชอาณาจักร เข้าข่ายฝ่าฝืน ม.36 โทษตาม ม.55 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตำรวจ ปคบ.ผนึกกำลังภาค 2 บุกทลายแหล่งผลิตและจำหน่ายท่อไอเสีย จยย.ไม่ได้มาตรฐาน มอก.กลางเมืองชล ยึดของกลางเครื่องตัด แท่นเจาะ
ข่าว,ทั่วไทย
ข่าวหน้า1,ทลายโรงงานท่อจยย.,แก๊งเด็กแว้น,ทลายแหล่งผลิตท่อไอเสีย,ชลบุรี,ปคบ.,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1895416
สิ้นแล้ว หลวงปู่บุญหนา ศิษย์หลวงปู่มั่นรุ่นสุดท้าย สิริอายุ 84 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 เมษายน 59 รถพยาบาลฉุกเฉินโรงพยาบาลศรีนครินทร์ นำหลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน เจ้าอาวาสวัดป่าโสตถิผล เดินทางกลับถึงกุฏิวัดป่าโสตถิผล ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ภายหลังอาพาธหนักเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น โดยหลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน อาการทรุดลงอย่างต่อเนื่องจากอาการอาพาธรุมเร้ามานาน ล่าสุด มีอาการเลือดท่วมปอด แต่หลวงปู่บุญหนายังรู้สึกตัวดี ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาล จึงประสงค์ขอตัวกลับมารักษาเองที่วัดป่าโสตถิผล ขณะที่เดินทางกลับมาถึงวัดนั้น บรรดาศิษยานุศิษย์ ญาติโยม ที่เลื่อมใส และเคารพศรัทธา ต่อหลวงปู่บุญหนา ต่างทยอยเดินทางมาเฝ้ารับหลวงปู่บุญหนากันจำนวนมากจนแน่นวัด ,ทีมแพทย์ ที่เฝ้าทำการรักษา ได้ดูแลอาการอาพาธอย่างใกล้ชิด โดยขณะเดินทางมาถึงนั้นหลวงปู่ไม่มีอาการตอบสนองใดๆ คณะแพทย์ผู้ทำการรักษาได้ดูแลอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.30 น. หลวงปู่เริ่มมีอาการตอบสนองและกลับมารู้สึกตัวดี ทีมแพทย์ได้เรียกถามหลวงปู่ตลอดเวลาและกราบเรียนหลวงปู่ว่า ได้พาหลวงปู่กลับมาถึงวัดแล้ว ,ต่อมาเมื่อเวลา 14.52 น. หลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน จึงได้ละสังขารไปอย่างสงบ สิริอายุ 84 ปี 9 เดือน 1 วัน 64 พรรษาหลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน เกิดวันที่ 5 กรกฎาคม 2474 แรม 6 ค่ำ เดือน 8 ปีมะแม เข้าบรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุ 12 ปี เป็นหลานแท้ๆ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร แห่งวัดป่าอุดมสมพร พระเกจิชื่อดังของจังหวัดสกลนคร นอกจากนี้หลวงปู่บุญหนายังเป็นศิษย์ธรรมสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีในบวรพุทธศาสนา พระสายวิปัสสนากัมมัฏฐาน ที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยและหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา ถือว่าเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นรุ่นสุดท้ายที่ดำรงอยู่ ณ วัดป่าโสติถิผล ต.ช้างมิ่ง อ.พรรรณานิคม จ.สกลนคร,ตลอดเวลาที่ครองสมณเพศ หลวงปู่ได้ปฏิบัติธรรม เผยแผ่หลักธรรมคำสอนพระพุทธศาสนา โดยใช้หลักแนวคิด สอนญาติโยมให้รู้จักครองตนอยู่ในศีลธรรม ประพฤติตนเป็นคนดี ให้เป็นผู้มีสติ ระลึกรู้ในกาย วาจา คำพูด สติ อยู่เสมอ จนนับได้ว่าเป็นพระอริยสงฆ์ที่ควรค่าแก่การกราบไหว้ การละสังขารจากไปอย่างสงบของหลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน จะจากไปแต่เพียงสังขารของหลวงปู่เท่านั้น แต่คุณงามความดีของหลวงปู่จะยังตราตรึงอยู่ในใจของพุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใส ศรัทธาต่อหลวงปู่บุญหนา ทุกคนทั้งนี้ กำหนดการเบื้องต้น สำนักพุทธศาสนาจังหวัดสกลนครแจ้งว่า ในวันพรุ่งนี้ (7/4/59) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานน้ำหลวงสรงศพ หลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน โดยพิธีจะเริ่มขึ้นในเวลา 15.00 น. ณ วัดป่าโสตถิผล ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร.
หลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน แห่งวัดป่าโสตถิผล ศิษย์หลวงปู่มั่นรุ่นสุดท้าย มรณภาพแล้ววันนี้ด้วยอาการสงบที่วัดป่าโสตถิผล จ.สกลนคร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานน้ำหลวงสรงศพใน วันพรุ่งนี้
null
หลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน,วัดป่าโสตถิผล,หลวงปู่บุญหนา,หลวงปู่บุญหนา มรณภาพ,ต.ช้างมิ่ง,อ.พรรณานิคม,สกลนคร,หลานหลวงปู่ฝั้น อาจาโร,ศิษย์ธรรมสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต,วิปัสสนากัมมัฏฐาน,ข่าวทั่วไทย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/602173
อยากให้ยิงกบาล หยาบคาย+กฎหมาย ผลพวงหลังรณรงค์ No มาตรา112
mso-fareast-font-family:Times New Roman> mso-fareast-font-family:Times New Roman>เริ่มเป็นที่ตอบรับทั้งจากนานาชาติและกลุ่มผู้ใช้เน็ตเพื่อรณรงค์ประชาธิปไตยและ เสรีภาพทั้งหลาย (mso-fareast-font-family:Times New Roman>Social Network) Free from Fear - 112 mso-fareast-font-family:Times New Roman>อ. สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ได้พูดถึงการรณรงค์ครั้งนี้ว่า รณรงค์ mso-fareast-font-family:Times New Roman>ในขณะที่กระแส ตอบรับในกิจกรรมดีขึ้นเรื่อยๆ โดยมีคนไทยทั้งในประเทศไทยและจากต่างประเทศทยอยส่งรูปมาร่วมกิจกรรมเพื่อจัดทำโปสเตอร์แผ่นแรกฉบับคนไทยและมีการแชร์ภาพและการTimes New Roman> update (mso-fareast-font-family:Times New Roman>Times New Roman> (ACT4DEM) 50 NO 112″ 29 2555 mso-fareast-font-family:Times New Roman>นอกจาก คำว่าเลว และคำด่าทอตามปกติของคนคลั่งด้วยภาษาหยาบคาย ยังมีการโพสต์ที่คุกคามถึงสวัสดิภาพในชีวิตด้วย ดังภาพข้างล่างที่ว่าmso-fareast-font-family:Times New Roman> mso-fareast-font-family:Times New Roman>mso-fareast-font-family:Times New Roman>mso-fareast-font-family:Times New Roman>คงจำกันได้ว่า แม้แต่เฟซบุ๊คของสถานทูตสหรัฐฯ ยังถูกกลุ่มคนเหล่านี้โจมตีอย่างสาดเสียเทเสียมาแล้ว จนเป็นที่น่าสมเพชเวทนาและขบขันในหมู่คนที่มีเหตุผล เพราะมีการไล่สถานทูตอเมริกาให้ออกไปจากประเทศไทย อีกทั้งยังถามคำถามสถานทูตอเมริกาว่า อเมริกา คนไทยหรือเปล่าTimes New Roman> mso-fareast-font-family:Times New Roman>แต่กระนั้น เราก็คงไม่ลุกขึ้นมาพูดถึงพฤติกรรมไร้การควบคุมที่กระทำในนามความรักสถาบันฯ ด้วยการขี่มาตรา mso-fareast-font-family:Times New Roman>112 KFC LV mso-fareast-font-family:Times New Roman>แต่คนกลุ่มนี้กลับเป็นคนที่ทนไม่ได้แม้แต่น้อยที่จะได้ฟังเสียงจากนานาชาติ - ที่นำกระแสการบริโภคของพวกเขา - ยามที่ติติงไทยในประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน เรื่องเสรีภาพสื่อและเสรีภาพในการแสดงออกในประเทศไทย โดยเฉพาะการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมาตรา mso-fareast-font-family:Times New Roman>ยิ่งกว่านี้มาตรา Times New Roman>112 EU mso-fareast-font-family:Times New Roman>คนคลั่งเจ้ายังคิดและเชื่ออยู่หรือว่าTimes New Roman> mso-fareast-font-family:Times New Roman>mso-fareast-font-family:Times New Roman>พวกเขารู้ว่า คนต่างชาติรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นที่เมืองไทยและร่วมประกาศว่าเรารู้ว่าต้นตอปัญหาเมืองไทย คนคลั่งเจ้าจึงคลั่งเป็นฟืนเป็นไฟ และเกิดการโจมตี จรรยา ยิ้มประเสริฐ ผู้ประสานแอคชั่นเพื่อประชาธิปไตยในประเทศไทย (mso-fareast-font-family:Times New Roman>ACT4DEM) NO 112 mso-fareast-font-family:Times New Roman>mso-fareast-font-family:Times New Roman>โดยมีคนมารับลูกว่าTimes New Roman> mso-fareast-font-family:Times New Roman>ทั้งนี้ เราไม่มีเวลาตามเก็บข้อมูลเสียบประจานทุกเพจmso-fareast-font-family:Times New Roman>mso-fareast-font-family:Times New Roman>อืม สงสัยคนตั้งชื่อเพจนี่ฝักใฝ่ลัทธินาซี เพราะ ชื่อเพจนี่ทำให้นึกถึงmso-fareast-font-family:Times New Roman>mso-fareast-font-family:Times New Roman>แม้แต่ ในหน้าวอลล์ของจรรยา ก็ถูกคนคลั่งเข้ามาใช้ภาษาหยาบคายบ้างเป็นระยะ โดยเฉพาะในช่วงจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยกเลิกมาตรา mso-fareast-font-family:Times New Roman>112 mso-fareast-font-family:Times New Roman>ล่าสุดก็ถูกนายวิพุธ สุขประเสริฐ หรือ mso-fareast-font-family:Times New Roman>IPAD 112 30 mso-fareast-font-family:Times New Roman>เขาคนนี้มีท่าทีที่อวดเบ่ง และใช้ภาษาที่หยาบคาย อี ไอ้ ด่ากราดผู้คนด้วยคำว่าTimes New Roman> mso-fareast-font-family:Times New Roman>นี่คือพฤติกรรมของคนที่อ้างรักในหลวงและฟ้องร้องนักคิด นักเขียน นักวิชาการ และสื่อมวลชนถึง mso-fareast-font-family:Times New Roman>น่าสังเวชใจว่าสังคมไทยปล่อยให้คนบ้าคลั่งคนหนึ่ง ที่ไม่มีวุฒิภาวะและเหตุผลอย่างสิ้นเชิง ใช้กลไกทางกฎหมายมาตรา Times New Roman>112 IPAD mso-fareast-font-family:Times New Roman>IPAD mso-fareast-font-family:Times New Roman>mso-fareast-font-family:Times New Roman>mso-fareast-font-family:Times New Roman>mso-fareast-font-family:Times New Roman>mso-fareast-font-family:Times New Roman>ขอตอบว่า ไม่มีกฎหมายข้อใดเลย ที่ห้ามสถาบันฯ ดำเนินการฟ้องร้องใครmso-fareast-font-family:Times New Roman>แต่ ที่สถาบันฯ ไม่ต้องฟ้องเอง เพราะกฎหมาย โดยเฉพาะมาตรา mso-fareast-font-family:Times New Roman>โดยเฉพาะถ้าบอกว่าทุกคนคือหนึ่งคนเท่ากัน แต่คนทั้งประเทศไม่สามารถฟ้องสถาบันฯ ได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น เพราะสถาบันฯ โดยเฉพาะกษัตริย์อยู่ภายได้การคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญมาตรา mso-fareast-font-family:Times New Roman>8mso-fareast-font-family:Times New Roman>แต่คนคิดต่างทั้งประเทศถูกฟ้องหมิ่นสถาบันฯ จากใครก็ได้ ไม่ว่าที่ไหน กี่คดีก็ได้ ไม่ว่าจริงหรือเท็จ และตำรวจก็ต้องรับฟ้องสถานเดียว และอัยการก็ต้องส่งฟ้องสถานเดียวภายใต้มาตรา Times New Roman>112mso-fareast-font-family:Times New Roman>นี่ไม่ใช่ปัญหาหรือTimes New Roman>? ?mso-fareast-font-family:Times New Roman>นอกจาก แค่ทำตามหน้าที่ก็ปฏิเสธไม่ได้แล้ว รัฐบาลตั้งแต่สมัยอภิสิทธิยังตั้งวอรูมหลายคณะ ที่ mso-fareast-font-family:Times New Roman>เมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาก็มี ชาวไอทีถูกสอยเพราะกระบวนการล่อซื้อ นี่เรียกได้ว่า ไม่ใช่แค่การทำตามหน้าที่ธรรมดา แต่เป็นกระบวนการปราบจับด้วยวิธีคิดเดียวกันกับการจัดการกับอาชญากรค้ายาเสพติดmso-fareast-font-family:Times New Roman>คนตั้งคำถามเกี่ยวกับสถาบันฯ ไม่ใช่ผู้ร้าย ไม่ใช่ผู้ค้าหรือผู้เสพยาบ้า ไม่ใช่อาชญากร แต่รัฐมองพวกเขา พวกเราเป็นอาชญากร เพราะทำอาชญากรรมทางความคิดmso-fareast-font-family:Times New Roman>รัฐบาลที่ไม่เคารพผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง เลือกตัวเองเข้ามาบริหารบ้านเมือง และโหดร้ายกับผู้ลงคะแนนเสียงของตัวเอง เท่านี้ ไม่มีอีกแล้วในประเทศอารยะmso-fareast-font-family:Times New Roman>?mso-fareast-font-family:Times New Roman>ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ ยังทำงานอยู่ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ภายใต้การกำกับของ รมต. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และรมต. เฉลิม อยู่บำรุงmso-fareast-font-family:Times New Roman>mso-fareast-font-family:Times New Roman>การนำเอาตัวอย่างคำด่าทอ และข่มขู่เหล่านี้มาให้ดูกัน เพื่อทำให้สังคมไทยได้ร่วมกันฉุกคิดว่า จะยอมให้การคุกคามคนอื่นอย่างเลวทรามเช่นนี้ กระทำกันได้ต่อไปโดยไม่มีการติติง เพราะคนกลุ่มนี้อ้างว่าทำไปเพราะรักในหลวงกันได้ต่อไปหรือTimes New Roman> ?mso-fareast-font-family:Times New Roman>เราคงต้องมาร่วมเตือนสติกันและกันในสังคมไทยบ้างว่า mso-fareast-font-family:Times New Roman> mso-fareast-font-family:Times New Roman>และต้องลุกมาช่วยกันปรามพฤติกรรมที่ก้าวร้าว รุนแรง ของพวกลัทธินาซีใหม่ทั้งหลาย ที่ชอบใช้ท่วงทำนอง และภาษา ที่นอกจากเหยียดหยามความเป็นมนุษย์แล้ว ยังเต็มไปด้วยคำข่มขู่ คำอาฆาตมาดร้าย และการเสียดสีทางเพศที่ไม่เป็นเรื่องจริงแม้แต่น้อย อาทิ พวกนี้กลับมาโดนกระทืบแน่นอนmso-fareast-font-family:Times New Roman>ในทางตรงกันข้าม น่าเศร้าใจที่นอกจากไม่มีการห้ามปรามแล้ว ผู้ทำหน้าที่แอดมินของเพจคลั่งเจ้าทั้งหลายจำนวนไม่น้อย อาทิ ในเพจที่ยกมาให้ดูนี้ ยังได้แสดงอาการยุยงต่อด้วย โดยไม่มีการห้ามปรามให้คนใช้สติและเหตุผลTimes New Roman> mso-fareast-font-family:Times New Roman>คนไทยจำเป็นจะต้องเข้าใจ ว่า ประเทศไทยนั้นมีความหลากหลาย ทั้งมีพื้นที่กว้างใหญ่พอสมควรกว่า ห้าแสนกว่าตารางกิโลเมตร แบ่งออกเป็น mso-fareast-font-family:Times New Roman>78 66 40 mso-fareast-font-family:Times New Roman>หรือ จะเรียกว่ามี Times New Roman>66 66 mso-fareast-font-family:Times New Roman>ประเทศส่วนใหญ่ที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์Times New Roman> mso-fareast-font-family:Times New Roman>ทำไมเมืองไทย จึงเป็นปัญหามากนัก กับแค่การแก้กฎหมายมาตราเดียวเช่นมาตรา mso-fareast-font-family:Times New Roman>mso-fareast-font-family:Times New Roman>***********mso-fareast-font-family:Times New Roman>ข้อมูลเพิ่มเติมmso-fareast-font-family:Times New Roman>mso-fareast-font-family:Times New Roman>เกี่ยวกับ Times New Roman>mso-fareast-font-family:Times New Roman>ประวัติและผลงานTimes New Roman>
เริ่มเป็นที่ตอบรับทั้งจากนานาชาติและกลุ่มผู้ใช้เน็ตเพื่อรณรงค์ประชาธิปไตยและ เสรีภาพทั้งหลาย (Social Network) เริ่มรณรงค์แนวร่วมจากโลกไซเบอร์ ประกาศ Free from Fear - อิสระจากความกลัวมาตรา 112 อ.
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
การคุกคาม,จรรยา ยิ้มประเสริฐ,มาตรา 112,วิพุธ สุขประเสริฐ,เสรีภาพ
https://prachatai.com/journal/2012/05/40401
รวบหนุ่มก่อสร้าง พยายามข่มขืน นศ.สาว อ้างหลอน-มีคนสั่งให้ทำ
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 58 พ.ต.อ.อุกกฤษฏ์ ทรงชัยสงวน ผกก.สภ.เมืองนครพนม สั่งการให้ พ.ต.ท.โดมฤทธิ์ ศรีพิณเพราะ สว.สส.สภ.เมืองนครพนม นำกำลังชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบ กรณีมีเหตุคนร้ายบุกข่มขืนนักศึกษาสาว ในห้องพักอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง เขตเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งผู้เสียหายมีการต่อสู้ขัดขืนร้องขอความช่วยเหลือ จนทำให้คนร้ายตัดสินใจวิ่งหลบหนีไป, ภายหลังมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบคนร้ายเดินเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่นานนับครึ่งชั่วโมง และเดินขึ้นไปสำรวจบนชั้นต่างๆ ของอพาร์ตเมนต์ อีกทั้งนั่งดูพฤติกรรมเหยื่อในชั้น 1 จนกระทั่งพบว่า ห้องผู้เสียหายมีหญิงสาวที่เป็นพี่สาวของผู้เสียหายออกไปจากห้อง จึงตัดสินใจเปิดประตู และพบว่าไม่ได้ล็อก จึงบุกเข้าไปพยายามข่มขืนผู้เสียหายเป็นเวลาประมาณ 10 นาที แต่ผู้เสียหายพยายามสู้ขัดขืนสุดชีวิต และร้องเสียงดัง ทำให้ตัดสินใจหนี ,กระทั่งเวลาต่อมา ตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายได้ หลังหนีไปซ่อนตัวใน วัดอรัญญิกาวาส ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ทราบชื่อภายหลังคือ นายสงบศึก ผาสุก อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 2 บ้านโคกสว่าง ต.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ,สอบสวนทราบว่า เป็นแรงงานที่เดินทางมารับจ้างทำงานก่อสร้าง และอาศัยพักในวัด เข้ามาอยู่ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ได้ประมาณ 3 เดือน อ้างว่าเกิดอาการทางประสาท มีคนมาสั่งให้ไปตามล่าข่มขืนหญิงสาว จึงได้เดินไปหาจุดที่พักของหญิงสาว ก่อนพบอพาร์ตเมนต์และตัดสินใจก่อเหตุ แต่ผู้เสียหายขัดขืน จึงตัดสินใจวิ่งหนีเกรงว่าจะมีคนมาพบ โดยสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง และเป็นคนเดียวกับในกล้องวงจรปิด ซึ่งตำรวจได้ตรวจยึดหลักฐานเสื้อโปโลสีขาวที่สวมใส่ขณะเกิดเหตุตามที่กล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ด้วย พร้อมฝากเตือนให้บุคคลที่มีความเสี่ยง เช่น หญิงสาว ระมัดระวังในการล็อกประตูทุกครั้งเมื่ออยู่ในห้องพักคนเดียว หรือตามบ้านเรือนที่อยู่ในที่เปลี่ยว ป้องกันคนร้ายฉวยโอกาสก่อเหตุลักษณะนี้.
ตร.นครพนม รวบหนุ่มก่อสร้างชาวบึงกาฬ บุกเข้าอพาร์ตเมนต์ หวังข่มขืนสาว ฝ่ายหญิงขัดขืน ส่งเสียงร้อง จนต้องรีบหนี ก่อน ตร.ตามรวบตัว สารภาพอ้างประสาทหลอน มีคนสั่งให้ทำ ตร.เตือนผู้อยู่คนเดียว ต้ควงล็อกประตูทุกครั้ง
ข่าว,ทั่วไทย
หนุ่มบุกหอพัก,หนุ่มข่มขืนสาว,บุกข่มขืน,ต่อสู้ขัดขืน,อุกกฤษฏ์ ทรงชัยสงวน,โดมฤทธิ์ ศรีพิณเพราะ,ข่มขืน,ปะสาทหลอน,หนุ่มประสาทหลอน,หนุ่มก่อสร้าง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค
https://www.thairath.co.th/news/local/528433
หมวดจรูญ ฟ้องครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น-เจ๊พัช เบิกความเท็จ
วันนี้ 19 เม.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ คู่กรณีแย่งชิงสลากกินแบ่งรัฐบาลมูลค่า 30 ล้านบาท กับนายปรีชา ใคร่ครวญ เดินทางไปยื่นฟ้องนายปรีชา นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น และ น.ส.พัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช แม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรี ในความผิดอาญาฐานเบิกความเท็จ ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้ง 3 คนได้ขึ้นเบิกความในคดีแพ่งที่นายปรีชา ฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ ทั้งนี้ มีหลักฐานเชื่อได้ว่าทั้ง 3 คนทำความผิดจริง มีอัตราโทษจำคุก 5 ปีด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีอัยการส่งคืนสำนวนสลากกินแบ่งรัฐบาล 30 ล้านบาท ให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามว่า คดีนี้ไม่ใช่เป็นกรณีอัยการสั่งไม่ฟ้อง เพราะยังไม่มีการวินิจฉัยชี้ขาดในเนื้อหา ซึ่งการที่บุคคลออกมาแสดงความไม่พอใจที่อัยการยังไม่ฟ้อง อาจเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน โดยอัยการคืนสำนวนให้พนักงานสอบสวนไปทำให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เรื่องอำนาจ ป.ป.ช. เท่านั้นนายโกศลวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นความผิดกรรมเดียว คือเรื่องเดียวกัน ความผิดเดียวกัน เจตนาเดียวกัน เมื่อเป็นความผิดเกี่ยวพันกันคือกรรมเดียวกัน จะให้อัยการแยกฟ้องความผิดฐานแจ้งความเท็จไปก่อนจึงไม่ถูกต้อง หากอัยการฝืนทำเช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อคดีที่ถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนการกระทำผิดของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ในเรื่องอำนาจฟ้องของอัยการได้ ซึ่งคดีนี้มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 200 มีอัตราโทษสูงกว่าอยู่ด้วยขณะที่นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ทาง ป.ป.ช.ได้รับสำนวนดังกล่าวไว้แล้ว และมอบหมายให้สำนักไต่สวนภาครัฐ 1 รับไปดำเนินการต่อไป โดยให้ไปรวมพิจารณากับเรื่องที่กองปราบปรามฯ ส่งมาให้ก่อนหน้านี้ พร้อมสั่งการไปแล้วว่าให้ดำเนินการโดยด่วน
ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ยื่นฟ้องครูปรีชา เจ๊บ้าบิ่น และเจ๊พัชในความผิดฐานเบิกความอันเป็นเท็จในการไต่สวนคำร้องฉุกเฉิน คดีสลากกินแบ่งรัฐบาล 30 ล้านบาท
อาชญากรรม
ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,หวย,จรูญ,ครูปรีชา,หวย 30 ล้าน,สลากกินแบ่งรัฐบาล
https://news.thaipbs.or.th/content/271758
ครูเฮ ศธ.ผุดเงินทุนหมุนเวียนให้กู้ใช้หนี้
ยืม 3 แสนคิดดอกร้อยละ 4 ต่อปี คาด เม.ย.ลงนามข้อตกลงใหม่กับออมสิน,เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กล่าวว่า ตามที่สำนักงาน สกสค. และธนาคารออมสิน ได้บรรลุข้อตกลงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูในโครงการสวัสดิการเงินกู้สมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ตั้งแต่โครงการ 2-7 โดย สกสค.จะไม่รับเงินค่าบริหารจัดการที่ธนาคารออมสินส่งคืนให้โครงการที่ 2-7 จำนวน 0.5-1% เพื่อให้ธนาคารนำไปลดดอกเบี้ยให้แก่ครูที่มีวินัยการชำระหนี้ที่ดีนั้น ล่าสุด ธนาคารออมสินอยู่ระหว่างจัดทำเอกสารเงื่อนไขและข้อตกลงฉบับใหม่ คาดว่าจะส่งให้ สกสค.ตรวจสอบรายละเอียดเร็วๆ นี้ และน่าจะลงนามได้ภายในเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งหลังการลงนามในข้อตกลงฉบับใหม่ ครูที่กู้เงินในโครงการ ช.พ.ค. 2-7 ที่มีประวัติการชำระเงินดีจะได้รับการปรับลดดอกเบี้ยตั้งแต่ระดับ 0.5-1% โดยโครงการที่ 2 จะได้ลด 0.5% โครงการที่ 3 ได้ลด 0.5% โครงการที่ 4 ได้ลด 0.75% โครงการที่ 5 ได้ลด 1% โครงการที่ 6 ได้ลด 0.75% และโครงการที่ 7 ได้ลด 0.5%,เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวอีกว่า นอกจากการดำเนินการเรื่องดังกล่าวแล้ว รัฐบาลยังได้จัดสรรเงินงบประมาณเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งครูได้กู้ยืมนำไปชำระหนี้ โดยมอบหมายให้สำนักงาน ก.ค.ศ. เป็นผู้ดำเนินการบริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียน ปัจจุบันเงินทุนหมุนเวียนมีการบริหารและดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ.การบริหารเงินทุนหมุนเวียน พ.ศ. 2558 และระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู พ.ศ.2558 กำหนดให้บริหารงานในรูปองค์คณะบุคคล มีคณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู โดยปีงบประมาณ พ.ศ.2561 คณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูตำแหน่งครู ให้กู้ยืมรายละไม่เกิน 300,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ผ่อนชำระเป็นงวดรายเดือน ไม่เกิน 96 งวด หรือ 8 ปี ผู้สนใจสอบถามที่ส่วนราชการ/สำนักงานเขตพื้นที่ทางการศึกษา และเว็บไซต์สำนักงาน ก.ค.ศ. ,www.otepc.go.th, หรือโทร.0-2280-7972-4.
เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากร
ข่าว,สังคม
พินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์,ก.ค.ศ.,สกสค.,หนี้ครู,หนี้สิน,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/society/1234029
นาฏลีลาวากเนอร์โดยศิลปินยิว
ขณะที่แขนซ้ายเกาะเกี่ยวกันไว้เพื่อแสดงการเต้นโฮรา ท่าเต้นล้อมวงพื้นบ้านของอิสราเอล แต่มือขวาของนักแสดงกลับทำท่าสดุดีแบบนาซีไปพร้อมๆ กัน คือการประสาน 2 วัฒนธรรมที่แตกต่างกันสุดขั้วในการแสดงนาฏลีลาชื่อ Hacking Wagner ในเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักในอิสราเอล เมื่อผู้อยู่เบื้องหลังการแสดงครั้งนี้คือ ซาร์ มาเกล นักออกแบบท่าเต้นสาวชาวยิว ที่ท้าทายความเกลียดชังผลงานของ ริชาร์ด วากเนอร์ คีตกวีชาวเยอรมนีที่มีอยู่ในสังคมอิสราเอลมานับร้อยปีไม่เพียงต่อต้านยิว แต่ริชาร์ด วากเนอร์ ยังเป็นศิลปินคนโปรดของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ถึงขนาดนำเพลงของเขาไปเชื่อมโยงกับกิจกรรมของนาซี ทำให้บทเพลงของวากเนอร์ไม่เป็นที่ยอมรับในอิสราเอล และถูกแบนจากการแสดงในประเทศครั้งแรกเมื่อปี 1938 เพื่อประท้วงเหตุการณ์ที่กองทัพนาซีบุกกวาดล้างชุมชนชาวยิวกว่า 30000 คนในเยอรมัน จนวันนี้แม้ไม่มีกฎหมายห้ามการแสดงผลงานของวากเนอร์ในอิสราเอล แต่เพลงของเขากลายเป็นของต้องห้ามในสังคมชาวยิวอยู่เสมอHacking Wagner เลือกเปิดการแสดงใน Haus der Kunst หอศิลป์ที่ฮิตเลอร์เคยใช้เป็นสถานที่เผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของนาซี โดยทีมนักเต้นจะแสดงอยู่ในกลุ่มของผู้ชม ด้านหน้าเวทีใช้เป็นที่ฉายวีทีอาร์สารคดีเกี่ยวกับปัญหาการแสดงผลงานของวากเนอร์ในอิสราเอล โดยมีรถเต่าที่สร้างขึ้นมาตามคำสั่งของฮิตเลอร์ ซึ่งยังคงใช้อย่างแพร่หลายในอิสราเอลในวันนี้ประกอบฉาก เป็นการเหน็บแนมสังคมปากว่าตาขยิบที่ยอมรับในสินค้าจากยุคนาซี แต่กลับกีดกันงานศิลปะอย่างไม่เป็นธรรมซาร์ มาเกล กล่าวว่า มีชาวอิสราเอลไม่น้อยที่เกลียดชังวากเนอร์โดยอ้างความรู้สึกของเหยื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่บรรพบุรุษของเธอซึ่งล้วนรอดจากการเป็นเหยื่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของนาซี ต่างสนับสนุนการแสดงครั้งนี้ เพราะสำหรับพวกเขาหากมีการแบนคีตกวีที่เกลียดชังชาวยิวทั้งหมด คงเหลือเพลงในศตวรรษที่ 19 ให้ฟังไม่กี่เพลง หากภาษาเยอรมันไม่ใช่ภาษาของนาซี ดนตรีของวากเนอร์ก็ไม่ใช่ดนตรีของนาซี ความงดงามของบทเพลงไม่ควรแปดเปื้อนจากความขัดแย้งที่การเมืองก่อขึ้น
รอยด่างพร้อยในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ดนตรีของวากเนอร์ คีตกวีชาวเยอรมัน กลายเป็นสิ่งต้องห้ามในอิสราเอล แต่มีความพยายามของนักออกแบบท่าเต้นชาวยิวผู้หนึ่งที่ต้องการปรับเปลี่ยนทัศนคติดังกล่าว จากมุมมองว่าดนตรีเป็นศิลปะอันเป็นสากล
ศิลปะ-บันเทิง
คีตกวี,นาฏลีลา,ยิว,วากเนอร์,ศิลปิน,สงครามโลก,อิสราเอล,เยอรมนี
https://news.thaipbs.or.th/content/101703
เสียดายที่ผู้ชายไม่ค่อยรู้ว่า Jo Malone London ไม่ได้มีแค่น้ำหอมเฉพาะผู้หญิง
พลังของกลิ่นหอมช่างมีเสน่ห์อย่างประหลาด สังเกตเวลาที่เราเดินผ่านเคาน์เตอร์ น้ำหอมเป็นต้องลืมเรื่องที่กำลังเมาท์กับเพื่อน แล้วเผลอเดินไปเทสต์กลิ่นอื่นๆ ราวกับต้องมนต์แทบทุกครั้ง พอเป็นแบบนี้บ่อยๆ ทำให้ผู้เขียนเริ่มสังเกตว่า คนที่มาเทสต์กลิ่นน้ำหอมส่วนใหญ่มักเป็นผู้หญิง โดยเฉพาะที่บูติกน้ำหอม Jo Malone London ที่มีน้ำหอมเรียงรายอย่างโดดเด่นในสไตล์ผู้ดีอังกฤษ ยิ่งพอได้ลองยิ่งพบว่า แนวกลิ่นน่าสนใจภายในบูติกน้ำหอมแห่งนี้ ไม่ได้มีแค่น้ำหอมสำหรับผู้หญิงเพียงอย่างเดียว แต่แนวกลิ่นเท่ๆ สำหรับผู้ชายก็มีให้เลือก Combine ได้สนุกมากไม่แพ้กัน THE STANDARD จึงอยากพาทุกคนไปรู้จักกับดีเอ็นเอของน้ำหอมแบรนด์นี้ด้วยกันสักครั้ง Jo Malone London เป็นน้ำหอมสำหรับ Unisex จริงๆ แล้ว Jo Malone London เป็นน้ำหอมสำหรับ Unisex ที่สามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จุดเด่นที่แฟนๆ ของน้ำหอมแบรนด์นี้ทราบกันดีคือ ความเป็น Fragrance Combining ที่ผู้ใช้สามารถ Combine กลิ่นน้ำหอมที่ชอบผสมกันเป็นกลิ่นใหม่ในแบบของตัวเองได้ เพราะแต่ละคนย่อมมีแนวกลิ่นที่ชอบไม่เหมือนกันอยู่แล้วสมมติว่ากลิ่น English Pear & Freesia ที่เป็นกลิ่นยอดฮิตในหมู่สาวๆ ก็ไม่ได้แปลว่าหนุ่มๆ จะใช้กลิ่นนี้ไม่ได้ เพราะความสนุกอยู่ที่การมิกซ์แอนด์แมตช์กลิ่นได้ตามใจหนุ่มๆ ที่ชอบความหวานของ English Pear & Freesia ก็อาจเบรกความหวานให้ดูแมนขึ้นด้วยการ Combine กับกลิ่น Wood Sage & Sea Salt ได้ หรืออาจเลือกแนวกลิ่นเดียวที่เป็นกลุ่มความหอมแบบ Woody ซึ่งจะสตรองขึ้นมาอีกระดับ ไอเดีย Combine กลิ่นน้ำหอมผู้ชายให้เข้ากับลุคและสไตล์ที่ต่างกันน้ำหอม Jo Malone London จะมีบางแนวที่กลิ่นออกแบบมาสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ เช่น Mens Cologne Collection ที่มีการคัดสรรกลิ่นที่ใช่มาให้หนุ่มๆ เลือกง่ายขึ้น (หรือสาวๆ จะเลือกให้แฟนหรือคุณพ่อก็ได้นะ) เช่น ถ้าคุณเป็นผู้ชายลุคสบายๆ มีไลฟ์สไตล์ชิลๆ ก็น่าจะเหมาะกับ Lime Basil & Mandarin แต่ถ้าเป็นหนุ่มในเมืองที่ต้องคีปลุคทันสมัยก็น่าจะไปได้ดีกับกลิ่น Wood Sage & Sea Salt ส่วนหนุ่มที่ออกแนวเซ็กซี่ชอบเทกแคร์สาวๆ อาจจะเลือกกลิ่นที่เย้ายวนขึ้น เช่น Black Cedarwood & Junipe หรือถ้ามีบุคลิกเท่ๆ เข้มๆ ก็เหมาะกับกลิ่นทรงเสน่ห์อย่าง Oud & Bergamot Cologne Intense ซึ่งกลิ่นจะมีความเข้มและเท่ลิสต์น้ำหอม Jo Malone London ที่หนุ่มๆ เทใจให้จนติดอันดับขายดี ด้วยสภาพอากาศเมืองไทยที่เป็นเมืองร้อน แนวกลิ่นที่ขายดีและได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ชายคือ แนวกลิ่นที่บ่งบอกถึงความสบาย สดชื่น และสะอาด เช่น กลิ่นท็อปฮิตอย่าง Wood Sage & Sea Salt กลิ่นนี้จะเป็นกลิ่นของผู้ชายเจ้าสำอางนิดๆ ที่มีความทันสมัย สูดกลิ่นแล้วได้ฟีลสะอาดๆ เบื้องหลังของกลิ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชายฝั่งของทะเลแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ ซึ่งจะมีลมโชยพัดสบาย และมีกลิ่นอายความเป็นทะเลเบาๆ มีความแคชวลผสมผสานอยู่ในกลิ่นของน้ำหอม เวลาหนุ่มๆ ใช้กลิ่นนี้จะเหมือนได้ Get Away ไปจากสถานที่วุ่นวาย แต่ถ้าคุณเป็นคนเนี้ยบ แดปเปอร์ขึ้น แนะนำแนวกลิ่น English Oak & Hazelnut ออกแนวกลิ่น Woody อุ่นๆ มีความเท่อยู่ในตัว เป็นกลิ่นที่แบรนด์คอนเฟิร์มว่าถ้าฉีดแล้วสาวๆ เป็นต้องเหลียวหลังแน่นอน แต่ถ้าเป็นผู้ชายที่มีบุคลิกซนๆ ขี้เล่นหน่อยๆ เหมาะกับกลิ่น Blackberry & Bay เป็นแนวฟรุตตี้ ทำมาจากผลของแบล็กเบอร์รีที่สดฉ่ำ ทำให้ได้กลิ่นหอมที่มีความขี้เล่น ชอบกิจกรรมเอาต์ดอร์เบาๆ และอย่างที่บอกว่าทุกกลิ่นยังสามารถ Combine กันได้อีก ทำให้น้ำหอมหนึ่งกลิ่น เมื่อไปฉีดทับกับอีกกลิ่น จะได้กลิ่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทันที ภาพประกอบ: ภาพ:พิสูจน์อักษร: แบรนด์ Jo Malone London ก่อตั้งโดย โจ มาโลน (Jo Malone) ผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดศาสตร์การปรุงสกินแคร์มาจากคุณแม่ (ไอลีน มาโลน) ที่ทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ประทินผิวในกรุงลอนดอน เริ่มแรก เธอไม่มีสินค้าแบรนด์ตัวเอง ภายหลังแม่ของเธอป่วยจนทำงานไม่ได้ โจจึงทำงานเป็นช่างนวดหน้าประทินผิว จนมีชื่อเสียงเลื่องลือ ผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกของ โจ มาโลน เป็นน้ำหอมสกัดจากจันทน์เทศและขิง ที่เธอคิดค้นสูตรเอง และนำมาผสมลงในออยล์อาบน้ำให้กับลูกค้า ทำให้ยอดสั่งซื้อถล่มทลาย หลังจากนั้นโจและสามีได้ซื้อที่ในเมืองเชลซีเปิดร้านเล็กๆ ขายน้ำหอมและสกินแคร์แบรนด์ Jo Malone และขายดีจนโด่งดังไปทั้งลอนดอน ภายหลัง พ.ศ. 2542 โจ มาโลน ตัดสินใจขายกิจการให้กับบริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่อย่าง Estée Lauder แต่เธอยังรั้งตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการสร้างสรรค์ และดูแลงานด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Jo Malone London
แบรนด์ Jo Malone London ก่อตั้งโดย โจ มาโลน (Jo Malone) ผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดศาสตร์การปรุงสกินแคร์มาจากคุณแม่ (ไอลีน มาโลน) ที่ทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ประทินผิวในกรุงลอนดอน จริงๆ แล้ว Jo Malone London เป็นน้ำหอมสำหรับ Unisex จุดเด่นอยู่ที่ความเป็น Fragrance Combining ที่ผู้ใช้สามารถ Combine กลิ่นน้ำหอมที่ชอบ ผสมกันเป็นกลิ่นใหม่ในแบบของตัวเองได้
null
null
https://thestandard.co/jo-malone-london-unisex/