title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
สปช.อภิปรายร่างรัฐธรรมนูญวันแรกยาวถึง 24.00 น.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังไม่ยืนยันว่าการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จำเป็นต้องทำประชามติหรือไม่ แต่ย้ำว่าร่างรัฐธรรมนูญต้องมีการรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ขณะนี้เป็นช่วงของการรับฟังความคิดเห็นจาก สปช. หลังจากนั้นจะเป็นทาง คสช. การจะแก้ไขหรือไม่ขึ้นอยู่กับ กมธ.ยกร่างฯ ซึ่งทาง คสช.จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะได้รับการยอมรับหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุนายกรัฐมนตรียังกำชับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้รัฐมนตรีทุกคนนำร่างรัฐธรรมนูญไปศึกษาร่างอย่างละเอียด และให้พิจารณาใน 3 ประเด็นหลัก คือ ข้อบัญญัติจะสามารถแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานในความรับผิดชอบได้มากน้อยเพียงใด มีการเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมอย่างเหมาะสมหรือไม่ และประชาชนจะได้ประโยชน์อะไรจากร่างฉบับนี้ และให้แต่ละกระทวงรวบรวมความเห็นส่งให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ภายในวันที่ 14 พ.ค.นี้ พร้อมนัดประชุมร่วมคณะรัฐมนตรีและ คสช.ในวันที่ 19 พ.ค. เพื่อสรุปข้อคิดเห็นทั้งหมดให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้ยกร่างต่อไปส่วนการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เพื่ออภิปรายเสนอแนะและขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกในวันนี้ ยังคงอภิปรายในภาคที่ 1 ซึ่งว่าด้วยข้อบัญญัติเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์และประชาชน ซึ่งสมาชิก สปช.ส่วนใหญ่เห็นชอบในเจตนารมณ์ที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญวางไว้ แต่จะมีการขอปรับถ้อยคำในแต่ละมาตราเท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะอภิปรายถึงการมีส่วนร่วมของพลเมือง ทั้งการตรวจสอบและการเข้าถึงบริการสาธารณะ รวมถึงประเด็นสื่อมวลชน ที่นอกจากจะมีการตรวจสอบกันเองแล้ว เห็นควรให้มีภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อยกระดับให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นขณะที่คณะกรรมการปฏิรูปของ สปช. ที่อภิปรายไปแล้ว 6 คน มีข้อคิดเห็นที่น่าสนใจของสมาชิก นายอลงกรณ์ อภิปรายว่ายังมีหลายประเด็นที่สังคมยังคงเคลือบแคลงสงสัย โดยเฉพาะโครงสร้างทางการเมืองว่าด้วยที่มานายกรัฐมนตรี- ส.ว. และอภิปรายสนับสนุนการทำประชามติเพื่อสร้างความชอบธรรมนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธาน กมธ.ปฏิรูปป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกยังขาดกลไกด้านการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่นที่รัดกุม โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้างในภาครัฐที่มีการรั่วไหลมากที่สุดขณะที่วิป สปช. ยืนยันว่าวันนี้ต้องอภิปรายในภาค 1 ให้แล้วเสร็จ เพื่อที่จะมีการอภิปรายในภาค 2 ว่าด้วยเรื่องผู้นำการเมืองที่ดีและระบบผู้แทนที่ดี
การประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เพื่ออภิปรายเสนอแนะและขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญวันแรกวันนี้ (20 เม.ย.2558) คาดว่าจะดำเนินไปถึงเวลา 24.00 น. ซึ่งยังคงอภิปรายในภาคที่ 1 ซึ่งว่าด้วยข้อบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์และประชาชน สมาชิก สปช.ส่วนใหญ่เห็นชอบในเจตนารมณ์ที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญวางไว้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีกำชับรัฐมนตรีให้ศึกษาร่างรัฐธรรมนูญทุกมาตรา เพื่อยื่นคำขอแก้ไขในเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน
การเมือง
ข่าว19.00,ข่าวการเมือง,ประมนต์ สุธีวงศ์,ร่างรัฐธรรมนูญ,สปช.,สภาปฏิรูปแห่งชาติ
https://news.thaipbs.or.th/content/471
ครั้งเดียวเข็ด หลอกป้าทำข้าวกล่อง สั่งหมื่นสี่ไม่มีคนมารับ ต้องแจก
วันที่ 29 พ.ค. ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้าน นางผาณิต พ่อค้าพานิช อายุ 47 ปี แม่ค้าอาหารตามสั่ง ที่บ้านเลขที่ 432 ถนนไตรอนุสนธิ์ เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี หลังจากได้มีลูกค้าได้โทรมาสั่งทำข้าวกล่อง 220 กล่อง และเครื่องดื่ม 400 ขวด เป็นเงิน 14,500 บาท แล้วไม่มาเอาสินค้าตามที่ได้นัดหมาย ต้องให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานีมารับไปแจกจ่าย และเอาไปถวายพระที่วัดด้วยส่วนหนึ่ง,นางผาณิต กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่รับสั่งทำข้าวกล่อง โดยปกติได้เปิดร้านขายกาแฟ เครื่องดื่ม และอาหารตามสั่งอยู่อีกที่หนึ่ง ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ได้มีลูกค้าสั่งทำข่าวกล่องเพื่อไปส่งให้คณะทัวร์ที่มาพักโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี นัดหมายวันที่ 29 พ.ค.จึงได้ปิดร้านกาแฟเพื่อมาทำข้าวกล่อง เมื่อทำเสร็จก็ได้โทรให้ลูกค้ามารับในเวลา 11.00 น. ซึ่งลูกค้าบอกว่าจะให้คนมารับ แต่จน 12.00 น. ก็ไม่มา จึงโทรไปอีกครั้งคราวนี้โทรไม่ติด จึงตัดสินใจเดินทางไปที่โรงแรม ซึ่งทางโรงแรมบอกว่าไม่มีคณะทัวร์ และมีหลายร้านที่ถูกสั่งข้าวกล่องแล้วไม่ไปรับสินค้าแบบนี้,เป็นครั้งแรกและคงเป็นครั้งสุดท้ายที่จะรับทำข้าวกล่อง ตอนนี้พยายามไม่คิดอะไรมาก ส่วนข้าวกล่องก็แจกจ่ายกับเอาไปทำบุญ และไม่ได้แจ้งความแต่อย่างใด แต่อยากเตือนให้เพื่อนแม่ค้าด้วยกันว่าถ้ามีสั่งข้าวกล่องจำนวนมากก็ควรรับมัดจำไว้บ้าง จะได้ไม่ขาดทุนเข้าเนื้อตัวเองทั้งหมด นางผาณิต กล่าวในที่สุด.
หลาบจำ! แม่ค้าอาหารตามสั่งที่สุราษฎร์ฯ เปิดร้านมานาน แต่เพิ่งรับสั่งทำข้าวกล่องครั้งแรก งานใหญ่ทั้งข้าวทั้งเครื่องดื่ม14,500บาท อ้างเป็นกรุ๊ปทัวร์ ถึงวันจริงทำเสร็จไม่มีใครมารับ ไปตามที่โรงแรมพนักงานบอกเจอแบบนี้แล้วหลายราย
ข่าว,ทั่วไทย
ข้าวกล่อง,หลอกทำข้าวกล่อง,สั่งข้าวไม่มารับ,สุราษฎร์ธานี
https://www.thairath.co.th/news/local/south/956502
ยึดยาบ้า 9 หมื่นเม็ด มูลค่า 23 ล้านซุกรถไฟ ขบวนกรุงเทพฯ-สุไหงโกลก
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 21 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสืบทราบของ พล.ต.ต.ชำนาญ ชำนาญเวช ผบก.รฟ. ว่าจะมีคนลักลอบนำยาเสพติดมากับขบวนรถไฟ ไปส่งลูกค้ายังจังหวัดภาคใต้ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กฤษณะ สุขสมบูรณ์ รอง ผบก.รฟ พ.ต.ท.มงคล พรหมเมศร์ สว.ส.รฟ.หัวหิน กก.3 นำกำลังขึ้นตรวจค้นบนขบวนรถเร็วที่ 171 วิ่งระหว่าง กรุงเทพฯ - สุไหงโกลก,เมื่อมาถึงโบกี้ที่ 2 ขณะเข้าสถานีรถไฟหัวหิน พบกระเป๋าเป้แบบสะพายหลัง สีดำ - แดง และกระเป๋าเป้หนังสีน้ำตาล อย่างละ 1 ใบอยู่บนชั้นวางของเหนือศีรษะ ระหว่างเลขที่นั่ง 47 - 48 สอบถามแล้วไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ จึงเปิดออกดู พบว่าเป็นยาบ้าเม็ดสีส้มและสีฟ้า ห่อหุ้มด้วยกระดาษไขสีเหลือง จำนวน 45 มัด รวม 90,900 เม็ด คิดเป็นมูลค่าประมาณ 23 ล้านบาท ส่วนคนร้ายรู้ทัน กระโดดรถไฟหลบหนีไปก่อนหน้านี้,พ.ต.ท.มงคล กล่าวว่า ขณะนี้ทราบตัวคนร้ายแล้ว จากการตรวจสอบภาพกล้องวรจรปิดและชื่อจากตั๋วโดยสารรถไฟ โดยคนร้ายเป็นชายวันรุ่น 1 คน สะพายเป้บรรจุยาบ้าดังกล่าว ขึ้นจากสถานีหัวลำโพง เพื่อไปลงยัง จ.นครศรีธรรมราช แต่ระหว่างทางถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบเสียก่อน ซึ่งจะติดตามจับกุมตัวอย่างเร่งด่วนแล้ว.
ตำรวจรถไฟหัวหินยึดยาบ้า 90,900 เม็ด มูลค่าประมาณ 23 ล้านบาท ซุกในกระเป๋าขบวนรถเร็วที่ 171 วิ่งระหว่าง กรุงเทพฯ - สุไหงโกลก ส่วนคนร้ายไหวตัวทัน โดดหนีไปก่อน
ข่าว,ทั่วไทย
ยึดยาบ้า,จับยาบ้า,ยาบ้า,ตำรวจรถไฟ,หัวหิน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1476243
ประชุม นบข.วันนี้ พณ.เตรียมเสนอมาตรการสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวเปลือก
ราคารับซื้อข้าวเปลือกในขณะนี้ถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี เช่น ข้าวหอมมะลิ ราคารับซื้อเพื่อส่งออกเหลือเพียงประมาณ 16000 บาทต่อตัน จากเดิมที่ไม่เคยต่ำกว่า 20000 บาทต่อตัน สถานการณ์ราคาข้าวตกต่ำในขณะนี้กำลังส่งผลกระทบกับชาวนาเกือบ 4 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศจากสถานการณ์ดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจึงเรียกประชุม นบข.ในวันนี้ เพื่อหารือมาตรการช่วยเหลือชาวนา ซึ่งมีรายงานว่านางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอที่ประชุม นบข. ปรับปรุงโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก หรือ การจำนำข้าวในยุ้งฉาง ให้เกษตรกรได้รับเงินหลังขายผลผลิตไม่น้อยกว่าตันละ 11500 บาทพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความเป็นห่วงต่อราคาข้าวในขณะนี้ แต่ขณะเดียวกันกลับพบว่ามีนักการเมืองและสื่อมวลชนบางกลุ่มใช้ความเดือดร้อนของประชาชนสร้างความเข้าใจผิดและสร้างข้อมูลเท็จ เป็นการซ้ำเติมความทุกข์ใจของคนสังคม เช่น กรณีข่าวชาวนาประกาศขายที่นา เพราะราคาข้าวตกต่ำ ซึ่งไม่เป็นความจริงพล.ท.สรรเสริญขอให้เกษตรกรรอฟังมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรจากที่ประชุม นบข.ในวันนี้ พร้อมเสนอให้เกษตรกรเช่าฝากข้าวโกดังโรงสีในพื้นที่เดียวกันแทนยุ้งฉาง ควบคู่กับมาตรการที่ออกมาแล้ว เช่น มาตรการช่วยเหลือด้านปัจจัยการผลิตไร่ละ 1000 บาท การลดดอกเบี้ยและพักชำระหนี้ เป็นต้นด้านนายวิชัย ศรีนวลกุล อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทยกล่าวว่า รัฐบาลควรประกาศมาตรการในการช่วยเหลือที่ชัดเจนโดยเร่งด่วน เพื่อพยุงราคาข้าวไม่ให้ตกลงไปมากกว่านี้และเปิดเผยว่า ขณะนี้ ราคาข้าวหอมมะลิในประเทศเหลือเพียง 9500 บาทต่อตัน เนื่องจากผู้ส่งออกตั้งราคารับซื้อเพียง 16600 บาทต่อตันเท่านั้น จากปกติที่ราคาข้าวหอมมะลิจะไม่ต่ำกว่า 20000 บาทต่อตันพณ.หารือโรงสี-ผู้ส่งออกข้าวกระจายออเดอร์ให้ทั่วถึงน.ส.วิบูลย์รักษ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวตกต่ำเป็นเพราะตัวเลขคาดการณ์ผลผลิตในเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2559 จะมีข้าวออกสู่ตลาดกว่า 20 ล้านตัน และไทยมีคู่แข่งส่งออกข้าวมากขึ้น ประกอบกับปีนี้เก็บเกี่ยวผลผลิตต่อไร่ได้มากกว่าปีที่ผ่านมา รวมทั้งราคาข้าวตลาดโลกตกต่ำ จึงส่งผลกระทบต่อราคาข้าวในประเทศ ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเราจะประชุมกับโรงสีและผู้ส่งออกว่าถ้าได้ออเดอร์มาจะกระจายไปยังจังหวัดต่างๆ อย่างไรเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวภายหลังร่วมประชุมที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลวังกรด อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร เมื่อวานนี้ (30 ต.ค.)ราคาข้าวเปลือกที่ตกต่ำในขณะนี้ ทำให้ชาวนาบางส่วนใน จ.พิจิตร และหลายจังหวัดภาคเหนือ เริ่มชะลอการเกี่ยวข้าวออกไปให้นานที่สุด โดยคาดหวังให้ราคาขยับขึ้น หรือรอให้ภาครัฐมีมาตรการออกมาช่วยเหลือ ส่วนชาวนาที่รอไม่ได้ ก็จำเป็นต้องขายข้าวในราคาที่ขาดทุนตัวแทนชาวนาและโรงสี จ.พิจิตรเปิดเผยว่า ขณะนี้ข้าวเปลือกขายได้เพียงตันละ 5200-6000 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่พอกับต้นทุนจึงขอให้หน่วยรัฐช่วยเหลือ โดยระบุว่า หากรัฐบาลให้พ่อค้าส่งออกข้าวส่งออร์เดอร์ข้าวให้จังหวัดพิจิตร ประมาณ 50000 ตัน และรับซื้อในราคาที่สูงขึ้น โรงสีก็สามารถรับซื้อข้าวจากชาวนาได้ในราคาที่สูงขึ้นได้ชาวนาอีสานวอนรัฐบาลเร่งช่วยเหลือชาวนาให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการช่วยเหลือราคาข้าวที่ตกต่ำอย่างเร่งด่วน ขณะที่สหกรณ์การเกษตรพิมาย จ.นครราชสีมา เปิดจุดรับซื้อข้าว โดยให้ราคาสูงกว่าท้องตลาดเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่สามารถบรรเทาความเดือดร้อนได้ทั้งหมด ชาวนาอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ทยอยนำข้าวเปลือกไปขายยังจุดรับซื้อภายในสหกรณ์การเกษตรพิมาย ซึ่งเมื่อวานนี้ (30 ต.ค.) เปิดรับซื้อข้าวเปลือก กข 15 กิโลกรัมละ 6.40 บาท หลังโรงสีข้าวเอกชนเปิดรับซื้อกิโลกรัมละ 5-6 บาทเท่านั้นชาวนาตำบลท่าหลวงเปิดเผยว่า ปีนี้ราคาข้าวตกต่ำมากที่สุด จากเดิมที่เคยขายกิโลกรัมละ 10-12 บาท แต่ปีนี้ขายได้กิโลกรัมละ 5-6 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่คุ้มค่าในการลงทุน เนื่องจากต้องแบกรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งค่าปุ๋ยและค่ารถเกี่ยวข้าว พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งหามาตรการช่วยเหลือทำให้ราคาข้าวเปลือกสูงขึ้นกว่านี้ด้านนายสาทิช บวชสันเทียะ ที่ปรึกษาสหกรณ์การเกษตรพิมายระบุว่า สหกรณ์ได้เปิดรับซื้อข้าวจากชาวนามาประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว ซึ่งข้าวที่รับซื้อขณะนี้คือข้าว กข 15 หรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่า ข้าวเบา โดยราคาตั้งแต่วันเปิดตลาดรับซื้อครั้งแรกอยู่ที่กิโลกรัมละ 8 บาท ซึ่งในแต่ละวันราคาจะไม่คงที่สหกรณ์ฯ พยายามรวบรวมข้าวเพื่อเสนอไปยังพ่อค้าในพื้นที่ภาคกลาง ให้ช่วยรับซื้อต่อไปอีกทอด เพราะหากไม่ทำเช่นนี้ ชาวนาในพื้นที่จะไม่มีเงินมาใช้หนี้และใช้จ่ายในครัวเรือน นายสาทิชกล่าว
วันนี้ (31 ต.ค.2559) คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) จะประชุมเพื่อหามาตรการช่วยเหลือชาวนาที่ได้รับผลกระทบจากราคาข้าวที่ตกต่ำที่สุดในรอบทศวรรษ โดยมีรายงานว่ากระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอปรับปรุงโครงการสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวเปลือก
สิ่งแวดล้อม
ราคาข้าวตก,นบข.,ข้าวหอมมะลิ,ราคา,มาตรการช่วยเหลือชาวนา,สินเชื่อ,จำนำข้าวในยุ้งฉาง,โรงสี,ขายที่นา,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,กระทรวงพาณิชย์,อภิรดี ตันตราภรณ์,สรรเสริญ แก้วกำเนิด
https://news.thaipbs.or.th/content/257188
น่าเอ็นดู บอย ปกรณ์ เผยภาพข้อความ น้องวันใหม่ เขียนถึงแม่
เป็นขวัญใจตัวน้อยที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะมาตลอด สำหรับ น้องวันใหม่ สาวน้อยน่ารักของครอบครัวฉัตรบริรักษ์ ซึ่งตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ป.2 โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์ ฝ่ายประถม ล่าสุดทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมวันแม่ โดยให้นักเรียนเขียนข้อความถึงคุณแม่ของตัวเอง พร้อมทั้งทำพวงมาลัยกระดาษสีสันสดใส งานนี้น้องวันใหม่เลยเขียนข้อความเผยความในใจถึงคุณแม่งามทิพย์ในวันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค. 2562 ด้วย,โดยหนุ่มบอยได้โพสต์ภาพข้อความที่น้องวันใหม่เขียนถึงคุณแม่ ซึ่งมีใจความว่า คุณแม่ หนูขอโทษที่หนูดื้อ หนูไม่อยากให้คุณแม่ต้องผิดหวังกับหนู หนูจะปรับปรุงให้คุณแม่ไม่ผิดหวัง คุณแม่ก็ผิดหวังเหมือนกัน ไม่ใช่คุณแม่คนเดียวที่ผิดหวัง หนูก็ผิดหวังเหมือนกัน หนูรักแม่เพราะคุณแม่ทำทุกอย่างเพื่อหนู ตอนนี้หนูรู้แล้วว่าทุกคนรักหนู หนูก็รักทุกคนที่รักหนูและเข้าใจหนู หนูก็ขอโทษที่หนูดื้อจริงๆ ค่ะ หนูจะสำนึกบุญคุณของทุกคน และโตขึ้นหนูจะคอยดูแลแม่และเฮียๆ และบอยก็ได้เขียนแคปชั่นบรรยายว่า เด็กดื้อของพวกฉัน #ดื้อจริง #แต่ก็รักจริงๆ #พอฉันแก่มาดูแลฉันด้วย #สายเลือดของพวกฉัน#mywm @lilwanmai@momomama1234, , ,ด้านคุณแม่งามทิพย์ก็เขียนข้อความบรรยายไว้ว่า ตั้งแต่มีหนูมาเป็นลูกแม่ หนูให้ความสุข รอยยิ้มเสียงหัวเราะ ความรู้สึกดีๆ สิ่งดีๆ มากมายกับครอบครัวเรา ไม่ใช่แค่ความดื้อที่หนูคิด โตอีกนิดนึงหนูจะค่อยๆ เข้าใจสิ่งดีๆ ที่หนูมีให้ครอบครัวของเราจนรู้สึกต้องขอบคุณ ทุกคนรักหนูมาก เป็นเด็กดี และโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีนะวันใหม่ #มาลัยน้อยฝีมือหนูจะสดในใจแม่ตลอดกาล 5555 นางตื่นเต้นมาหลายวันเพื่อจะเซอร์ไพรส์แม่ แต่บอกทุกคนในบ้านยกเว้นแม่ 12/8/62 #lilwanmai, , ,เป็นข้อความที่นอกจากจะทำให้ทุกคนในครอบครัวฉัตรบริรักษ์ ยิ้มได้แล้ว ยังทำให้แฟนๆ ที่ได้อ่านแอบยิ้มในความน่ารักน่าเอ็นดูของน้องวันใหม่ไปตามๆ กันด้วย.
เห็นแล้วเอ็นดู บอย ปกรณ์ โพสต์ภาพข้อความที่น้องวันใหม่เขียนถึงคุณแม่งามทิพย์ในวันแม่แห่งชาติ บอกขอโทษที่หนูดื้อ จะปรับปรุงตัวไม่ให้คุณแม่ผิดหวัง
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
น้องวันใหม่,น้องวันใหม่ ฉัตรบริรักษ์​,บอย ปกรณ์,งามทิพย์ ฉัตรบริรักษ์,แม่บอย ปกรณ์,อินสตาแกรมดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1637565
ติดตั้ง ราง รับถาดรองพระบรมโกศ บนราชรถปืนใหญ่
วันที่ 8 สิงหาคม ที่สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ถนนพุทธมณฑลสาย 5 ทีมช่างจากกองโรงงานช่างแสง ศูนย์อุตสาหการสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก ร่วมกับสำนักช่างสิบหมู่ นำโดยนางวิจิตร ไชยวิชิต รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ดำเนินการติดตั้ง ราง รับถาดรองพระบรมโกศ บนราชรถปืนใหญ่ หมายเลข 21866 ที่ใช้ในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 3 เชิญพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เวียนอุตราวัฏ (เวียนซ้าย) รอบพระเมรุมาศ โดยรางที่ติดตั้งทำขึ้นด้วยเหล็กเนื้อเหนียวขนาด 3 นิ้ว สูง 1 นิ้ว 1 หุน มีระยะความห่างของราง 49.5 ซม. ระหว่างการติดตั้ง มีการนำถาดรองพระบรมโกศ ทั้งของเก่า และถอดรองพระบรมโกศใหม่ ที่อยู่ระหว่างการจัดทำ มาทดสอบในเลื่อนเข้าสู่ราง,ขณะเดียวกันการออกแบบถาดรองพระบรมโกศใหม่ ที่สำนักช่างสิบหมู่ดำเนินการอยู่นั้น กรมสรรพาวุธทหารบก ยังได้ออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์พิเศษขึ้นมาชุดหนึ่งที่จะติดตั้งในถาดรองพระบรมโกศ ที่จะทำให้ถาดรองพระบรมโกศสามารถตั้งอยู่ได้อย่างมั่นคง ทั้งบนพระยานมาศสามลำคาน พระมหาพิชัยราชรถ และราชรถปืนใหญ่ นางวิจิตร เผยว่า นักช่างสิบหมู่ ดำเนินการแกะสลักลายต่างๆ ของราชรถปืนใหญ่หมายเลข 21866 เสร็จสิ้น พร้อมลงสีพื้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากติดรางแล้วจะเข้าสู่ขั้นตอนประณีตศิลป์ คือการลงรักปิดทอง และประดับกระจก ต่อไป.
กองโรงงานช่างแสง ศูนย์อุตสาหการสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก ร่วมกับสำนักช่างสิบหมู่ ดำเนินการติดตั้ง ราง รับถาดรองพระบรมโกศ บนราชรถปืนใหญ่ หมายเลข 21866 ที่ใช้ในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 3 เชิญพระบรมโกศ รัชกาลที่ 9
ข่าว,สังคม
พระบรมศพ,รัชกาลที่ 9,ติดตั้งราง,พระบรมโกศ,ราชรถ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1031205
แจ้งเปิดจุดคัดกรองเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ตลอด 24 ชม.
วันนี้ (29 ก.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนจำนวนมากต่อแถวรอเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ส่วนใหญ่มาตั้งแต่ช่วงกลางคืน เต็มจุดคัดกรองตั้งแต่เช้าและตลอดทั้งวันล่าสุด สำนักพระราชวัง ปรับเวลาเปิดจุดคัดกรองจากเดิมตั้งแต่ 04.00-21.00 น. เป็นตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง 2 จุด คือ จุดคัดกรองโรงแรมรัตนโกสินทร์ และจุดคัดกรองวงเวียนรักษาดินแดน โดยเมื่อผ่านจุดตรวจทั้ง 2 จุด จะเข้าคิวยืนคอยในแถว จากนั้นมาบรรจบกันบริเวณแยกศาลหลักเมืองและปล่อยแถวเข้าเต้นท์ ซึ่งจัดเก้าอี้ให้นั่งเพื่อเข้าประตูไปยังสนามหลวงขณะที่เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกทั้งอาหารและน้ำดื่ม ซึ่งจิตอาสารวมตัวกัน 15 คณะช่วยกันประกอบอาหารทุกวัน บริเวณหลังศาลพระแม่ธรณีบีบมวยผมพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจการปรับปรุงถนนและทางเท้าตามถนนมหาราช ซึ่งจะเป็นเส้นทางริ้วขบวนพระบรมศพ เมื่อครบกำหนดเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ วันที่ 5 ต.ค.นี้ จะเตรียมพร้อมการซ้อมใหญ่ริ้วขบวนฉุดชักราชรถ
สำนักพระราชวังแจ้งเปิดจุดคัดกรองประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตลอด 24 ชั่วโมง
สังคม
ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,รัชกาลที่9,พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ,ในหลวง
https://news.thaipbs.or.th/content/266508
มติ กกต.ชี้ ดอน พ้น รมต. หลังคู่สมรสไม่แจ้ง ป.ป.ช.ถือหุ้นเกิน 5%
เมื่อวานนี้ (31 พ.ค.2561) ที่ประชุม กกต.มีมติเสียงข้างมากเห็นว่าการถือครองหุ้นของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 264 ประกอบมาตรา 187 ที่บัญญัติไม่ให้รัฐมนตรีถือครองหุ้นในห้างหุ้นส่วน หรือบริษัท หรือในกรณีประสงค์จะได้รับประโยชน์จากหุ้นที่ถือครอง ให้แจ้งประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งและให้โอนหุ้นจนอาจเป็นเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 โดยขณะนี้ ได้มอบหมายให้สำนักกฎหมายของสำนักงาน กกต.ดำเนินการยกร่างคำร้อง เพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไปทั้งนี้ กรณีดังกล่าวมาจากการที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 1 พ.ค.2560 ขอให้ กกต.ตรวจสอบการถือครองหุ้นสัมปทานของ 9 รัฐมนตรี ที่ประกอบไปด้วย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายอดิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ในขณะนั้น ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในขณะนั้น พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในขณะนั้น หลังรัฐธรรมนูญ 60 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2560 เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ ทำให้ความเป็นรัฐมนตรีต้องสิ้นสุดหรือไม่ซึ่ง กกต.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นตรวจสอบและรายงานว่า คณะอนุกรรมการได้เสนอรายงานผลการตรวจสอบต่อ กกต.ว่าการถือครองหุ้นของรัฐมนตรี 8 คนนั้นไม่มีปัญหา เห็นควรที่ กกต.จะยุติเรื่อง มีเพียงของนายดอน ที่อาจมีปัญหาขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากคู่สมรสถือครองหุ้นในธุรกิจอยู่เกินกว่าร้อยละ 5 และไม่มีการแจ้งต่อ ป.ป.ช.ภายในกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนดอย่างไรก็ตาม ยังเหลือคำร้องของนายเรืองไกร กรณีการถือครองหุ้นของ 3 รัฐมนตรี ที่ประกอบด้วย นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และการถือครองหุ้นของ 90 สนช.ที่ กกต.ยังดำเนินการตรวจสอบไม่แล้วเสร็จ
กกต.มีมติเสียงข้างมากให้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ขาดคุณสมบัตินั่งเก้าอี้รัฐมนตรี เหตุคู่สมรสถือหุ้นในธุรกิจเกินร้อยละ 5 โดยไม่แจ้ง ป.ป.ช.ตามกำหนด ขณะที่การถือครองหุ้นของ 8 รัฐมนตรี พบว่าไม่มีปัญหา
การเมือง
ดอน ปรมัตถ์วินัย,กกต.,ขาดคุณสมบัติ,รัฐมนตรี,รมว.ต่างประเทศ,ศาลรัฐธรรมนูญ,ถือหุ้น,ถือครองหุ้น,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/272545
หนุ่มตกเป็นทาสพนัน ทิ้งจดหมายบอกเพื่อน เลิกได้เลิก ก่อนผูกคอดับหนีหนี้
หนุ่มตกเป็นทาสพนัน ทิ้งจดหมายบอกเพื่อนๆ เลิกได้เลิก ก่อนผูกคอดับหนีหนี้นับแสนเมื่อวันที่ 27 เม.ย.63 พ.ต.ท.บำรุงเกียรติ จันทะวงษ์ สว.(สอบสวน) สภ.วังสะพุง จ.เลย ได้รับแจ้งมีเหตุคนแขวนคอตาย ที่สำนักงานสินเชื่อแห่งหนึ่ง เลขที่ 43 หมู่ 6 บริเวณหน้าวัดป่าสัมมานุสรณ์ เมื่อรับแจ้งจึงประสานไปยังแพทย์โรงพยาบาลวังสะพุง กู้ภัยสว่างคีรีธรรม เดินทางไปชันสูตรพลิกศพ ที่เกิดเหตุระเบียงหลังห้องเช่าพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย ผูกคอเสียชีวิตทราบชื่อคือ นายธีระวุฒิ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นเจ้าหน้าที่สินเชื่อของบริษัทดังกล่าว จากการชันสูตรเบื้องต้นพบเสียชีวิตมาแล้ว 1-2 ชั่วโมง ส่วนในห้องที่พักพบจดหมายลาตาย 3 ฉบับ เขียนว่าขอโทษเพื่อนรัก กูจบแล้วว่ะ กูเกมแล้ว กูขอโทษพวกมึงทุกคนนะ กูเหนื่อยแล้ว พวกมึงต้องเป็นคนดีนะ อย่าทำมันพัง เลิกได้เลิก ชีวิตผมมันตกเหวไปนานแล้ว และผมคิดว่าถึงเวลาที่ผมจะถูกปลดปล่อย กับเรื่องบ้าๆ เพราะการพนันล้วนๆ ขอโทษทุกคน เงินบริษัททั้งหมด 309772 บาท เงินหนี้บัตรเครดิต เงินหนี้เคลมมอเตอร์ไซค์ เงินยืม รวมทั้งหมด 517942ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าผู้ตายน่าจะเอาเงินบริษัทไปหมุนและเล่นการพนัน จนไม่สามารถหามาคืนได้ จึงตัดสินใจแขวนคอตายและเขียนจดหมายลาตายถึงเพื่อนๆ ส่วนร่างผู้ตายนำส่งชันสูตรพลิกศพที่ รพ.วังสะพุง และติดตามแจ้งให้ญาติทราบต่อไป.
หนุ่มตกเป็นทาสพนัน ทิ้งจดหมายบอกเพื่อนๆ เลิกได้เลิก ก่อนผูกคอดับหนีหนี้นับแสน
ข่าว,สังคม
ฆ่าตัวตาย,ฆ่าตัวตายหนีหนี้,ทาสพนัน,เลย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1831521
ฉายไฟแดนสนธยา (จบ) : กฎใหม่-คุณภาพชีวิตใหม่? หลังย้ายคุกเชียงใหม่
ที่ควบคุมผู้ต้องขังระหว่าง เยี่ยมได้เฉพาะในวันจันทร์ แดน 5 ผู้ต้องขังเด็ดขาดในคดีทั่วไป เยี่ยมได้วันอังคาร แดน 7 นักโทษเด็ดขาดในคดียาเสพติด เยี่ยมได้ในวันพุธ แดน 8 แดนความมั่นคงสูง เยี่ยมได้ในวันพฤหัส และวันศุกร์เปิดให้เยี่ยมผู้ต้องขังผู้ช่วยงาน ผู้ต้องขังต่างชาติ และผู้ต้องขังแดนอื่นๆ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับทั้ง 4 แดน การเปลี่ยนระเบียบเช่นนี้ทำให้ญาติสามารถเยี่ยมผู้ต้องขังได้เพียงสัปดาห์ละหนึ่งวัน-หนึ่งครั้งเท่านั้นผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่กล่าวถึงเหตุที่ทำให้มีการเปลี่ยนระเบียบการเยี่ยมนั้น เนื่องมาจากจำนวนผู้ต้องขังที่มาก จึงจำเป็นต้องลดจำนวนญาติเยี่ยมในแต่ละวันลง ทั้งเห็นว่า ญาติเดินทางมาไกล ถ้าเยี่ยมพร้อมๆ กันทุกแดนได้เหมือนเรือนจำเดิม ระยะเวลาเยี่ยมก็จะลดลง แทนที่จะเป็น 15-20 นาที อาจลดเหลือ 7-8 นาที ทำให้การเดินทางไกลไม่คุ้มกับการเยี่ยม จึงใช้วิธีเฉลี่ยวันกันไปในแต่ละแดน โดยในช่วงแรก ญาติไม่ทราบเรื่องการเปลี่ยนระเบียบนี้ แต่ทางเรือนจำก็ได้พยายามชี้แจงทำความเข้าใจ นอกจากนั้นเรือนจำยังนำระบบบัตรคิวมาช่วยอำนายความสะดวกในการเยี่ยมและฝากเงินให้ผู้ต้องขังด้วยผู้ต้องขังรายหนึ่ง (ขอสงวนนาม) เล่าว่า ระบบการกำหนดให้เยี่ยมญาติได้แดนละวันนี้ เกิดขึ้นเพราะทางเรือนจำกลัวจะมีปัญหาหากแต่ละแดนออกมาพร้อมๆ กัน ผู้ต้องขังที่เป็นอริต่อกันจะได้พบกัน อาจทะเลาะกัน หรือนัดส่งยาเสพติดต่างๆ เลยใช้วิธีแยกกันเยี่ยม รวมทั้งเรือนจำยังอ้างว่าเป็นการลดการใช้เจ้าหน้าที่ในการควบคุมดูแลการเยี่ยม แต่การกระจายการเยี่ยมก็ทำให้มีเวลาเยี่ยม 15 นาที มากกว่าเรือนจำในพื้นที่เดิมซึ่งให้เวลาเยี่ยมไม่เกิน 10 นาทีญาติผู้ต้องขังรายหนึ่ง (ขอสงวนนาม) เล่าถึงการเดินทางมาเรือนจำว่า ตนไม่ได้มีรถยนต์ส่วนตัว และอยู่ในอำเภอแม่ออน ต้องต่อรถประจำทางกว่า 4 ต่อเพื่อเดินทางมาเยี่ยมญาติที่เรือนจำ คือจากหมู่บ้านในอำเภอเข้ามายังตัวอำเภอสันกำแพง แล้วนั่งรถสองแถวเข้ามายังตัวเมืองเชียงใหม่เพื่อต่อรถไปยังอำเภอแม่แตง ก่อนต่อรถจักรยานยนต์รับจ้างจากปากทาง เข้าไปยังเรือนจำซึ่งอยู่ลึกเข้าไปอีกกว่า 2.5 กิโลเมตร กว่าจะถึงเรือนจำเชียงใหม่ก็ใช้เวลา 2 ชั่วโมงเพื่อมาเยี่ยมลูกชายในเวลา 15 นาที สภาพเช่นนี้ทำให้ต้องหยุดงานทั้งวันเพื่อมาเยี่ยมผู้ต้องขังโดยเฉพาะผอ.สำนักทัณฑปฏิบัติ กรมราชทัณฑ์ ให้ความเห็นถึงระยะทางที่ค่อนข้างไกลจากเมืองของเรือนจำว่า นอกจากกระทบต่อผู้ต้องขังที่จะมาศาล ยังสร้างความยุ่งยากสำหรับคนที่จะไปเยี่ยมด้วยความที่สังคมไทยเป็นสังคมที่ระบบครอบครัวและเครือญาติเหนียวแน่นมาก ไม่ทิ้งกัน ก็อยากจะไปเยี่ยม ไปเยี่ยมเหมือนไปเยี่ยมคนที่โรงพยาบาล ไปทุกวันเลย ซึ่งจริงๆ ในต่างประเทศ ครอบครัว ภรรยาหรือบุตร เขาจะไปในวันหยุด ไปนานๆ ที สองสามเดือนก็ไปกินข้าวด้วยกันที แต่ของเราไปเหมือนไปเยี่ยมไข้เลย ซึ่งสิ้นเปลืองมาก ไปอยู่แม่แตงก็ไม่สะดวกในการเดินทาง คนที่ไม่มีพาหนะส่วนตัวก็ยากหน่อยจากการสำรวจเรือนจำอื่นๆ บางส่วนพบว่า แต่ละแห่งมีระบบการเยี่ยมญาติที่แตกต่างกันออกไป ตามสภาพของแต่ละเรือนจำ เช่น ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ได้กำหนดให้ผู้ต้องขังคดียาบ้าตั้งแต่ 1000 เม็ดขึ้นไป เยี่ยมได้สัปดาห์ละครั้ง ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ เยี่ยมได้เฉพาะวันพุธ ส่วนผู้ต้องขังที่เหลือเยี่ยมได้ทุกๆ วัน วันละหนึ่งรอบ รอบละ 10-15 นาทีที่เรือนจำกลางลำปาง ซึ่งมีผู้ต้องขังชายและหญิงอยู่ภายในเรือนจำเดียวกัน แต่คุมขังแยกแดนออกจากกัน ได้กำหนดให้ผู้ต้องขังชายเยี่ยมได้ในวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ส่วนผู้ต้องขังหญิงเยี่ยมได้ในวันอังคาร และวันพฤหัสบดี รอบละ 15 นาทีเช่นเดียวกันส่วนเรือนจำกลางเชียงราย กำหนดให้แดน 2 เยี่ยมได้วันจันทร์ วันพุธ และบ่ายวันพฤหัส ส่วนแดน 3 เยี่ยมได้ในวันอังคาร วันศุกร์ และวันพฤหัสเช้า ในส่วนแดนแรกรับ แดน 4 แดนหญิง ส่วนการศึกษา สูทกรรม พัสดุ ฝึกวิชาชีพ พยาบาล และกักขังแดน 1 เยี่ยมได้ทุกวันทำการอนึ่งยังพบด้วยว่า เรือนจำหลายแห่งมีกฎระเบียบประกาศระบุไว้หน้าห้องเยี่ยมว่า ให้เยี่ยมเฉพาะญาตินามสกุลเดียวกันกับผู้ต้องหาเท่านั้น หรือ บุคคลที่เข้าเยี่ยมผู้ต้องขังได้ต้องมีความสัมพันธ์ทางสายโลหิตเท่านั้น แต่ในระยะหลังเจ้าหน้าที่ก็เริ่มผ่อนปรนระเบียบนี้มากขึ้นการออกแบบระบบการเยี่ยมนี้อยู่ในอำนาจของผู้บัญชาการแต่ละเรือนจำ ซึ่งกำหนดพิจารณาตามความเหมาะสมของสภาพเรือนจำและสภาพผู้ต้องขัง โดยมีระเบียบกว้างๆ จากกรมราชทัณฑ์ เช่น ระบบความมั่นคง ให้การเข้าไปเยี่ยมต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวด เป็นต้น และในช่วงหลังทางราชทัณฑ์ได้เริ่มอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการเยี่ยมญาติ เรียกว่า การเยี่ยมแห้ง คือเยี่ยมผ่านวีดีโอ conference โดยผู้ต้องขังไม่ต้องออกมาจากแดนนอกจากนั้น กรณีเรือนจำกลางเชียงใหม่ ยังมีความเปลี่ยนแปลงในเรื่องระบบสวัสดิการผู้ต้องขัง โดยญาติจะไม่สามารถซื้อของฝากหรืออาหารจากภายนอกส่งเข้าไปให้ผู้ต้องขังได้อีก โดยอ้างว่าป้องกันการลักลอบส่งยาเสพติดเข้าไปภายในเรือนจำ ทำให้ญาติต้องซื้ออาหารหรือข้าวของผ่านร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขังของเรือนจำแต่เพียงอย่างเดียว สินค้าที่ซื้อจะไม่ผ่านมือญาติ โดยญาติจะชี้สินค้าที่ต้องการตามรูปภาพ มีการบรรจุหีบห่อสินค้าที่ส่งเข้าไปอย่างดี และผู้ต้องขังจะได้รับของผ่านทางร้านค้าสงเคราะห์ที่อยู่ภายในเรือนจำอีกที ทั้งนี้เรือนจำเพิ่งจะเพิ่มอัตราเงินที่ผู้ต้องขังแต่ละคนสามารถใช้ได้ในแต่ละวัน จากไม่เกิน 200 บาท ไปเป็นไม่เกิน 300 บาทต่อวันส่วนในประเด็นสินค้าที่ขายในร้านสงเคราะห์ ก็จะมีการตรวจสอบราคาสินค้ากับร้านค้าภายนอกไม่ให้แพงกว่าท้องตลาด หรือบางเรือนจำอาจจะไม่ให้มีการขายสินค้าบางประเภท เช่น งดไม่ให้มีขายบุหรี่ ส่วนในกรณีเรือนจำกลางเชียงใหม่ ให้มีการจำกัดการซื้อบุหรี่ของญาติได้ไม่เกิน 2 ซองรวมทั้ง เรือนจำยังไม่ให้มีการส่งพัสดุเข้าไปให้ผู้ต้องขังด้วย ยกเว้นกรณีพิเศษซึ่งจะพิจารณาเป็นครั้งคราวไป เช่น ในกรณีฤดูหนาว ก็จะอนุโลมให้ญาติส่งเครื่องกันหนาวเข้าไป ขณะเดียวกันระบบการส่งพัสดุหรือจดหมายที่มีอยู่เดิม คือจะส่งออกไปภายนอกอาทิตย์ละสองวัน แต่รับเข้ามาได้ทุกวัน แต่จดหมายจะถูกเปิดและอ่านอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้มีการเขียนเรื่องภายในเรือนจำที่ไม่ดีออกไปจะเห็นได้ว่า การจัดระบบเยี่ยมญาติและการฝากของให้ผู้ต้องขังนั้น เป็นเรื่องดุลพินิจของผู้บริหารเรือนจำโดยแท้ ทว่าในแต่ละครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงระเบียบ ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงก็คือผู้ต้องขังและญาติ ซึ่งต้องยอมปรับตัวให้เข้ากับระเบียบใหม่ด้วยตัวเอง ไม่ว่าระเบียบนั้นจะเป็นธรรมหรือไม่อย่างไร โดยช่องทางร้องเรียนต่างๆ มักไม่ค่อยได้ผลด้านอาหารการกินในคุก อดีตผู้ต้องขังในเรือนจำเก่ารายหนึ่งเล่าว่า โดยปกติในโรงเลี้ยงจะมีนักโทษด้วยกันเป็นคนปรุงอาหาร แต่อาหารที่กินในคุกอยู่ในสภาพที่รับได้ยาก คือมักจะไม่อร่อย ถ้าเป็นประเภทปลาจะมีกลิ่นเหม็นคาวมากๆ จนกินไม่ได้ หรือถ้าเป็นอาหารที่มีไก่ ก็เรียกได้ว่าเป็น วิญญาณไก่ คือมักไม่มีเนื้อไก่เหลือมาถึงจานอาหารของผู้ต้องขัง หรือบางวันก็เจออาหารที่เป็นมะเขือสามเวลา โดยในเดือนหนึ่งจะมีอาหารพื้นเมือง เช่น ลาบคั่ว แกงโฮะ แกงฮังเล ให้กินสักครั้งหนึ่ง สภาพเช่นนี้ทำให้บางคนก็ใช้กาแฟไปแลก ซื้อยอด (หมายถึงซื้ออาหารจากข้างนอกมากินข้างใน) เพื่อให้ได้กินดีมากขึ้นผู้ต้องขังในเรือนจำใหม่ให้ความเห็นเช่นเดียวกันว่า กับข้าวในเรือนจำไม่อร่อย คล้ายกับ แกงตาย ที่กินไม่ได้ ทั้งคาวทั้งเหม็น ผู้ต้องขังที่ไม่มีญาติจะประสบปัญหาในการใช้ชีวิต เนื่องจากจะไม่มีสวัสดิการอะไรดูแลมาก โดยค่าอาหารที่รัฐจัดสรรให้นักโทษปัจจุบัน อยู่ที่เพียงหัวละ 45 บาทต่อวัน สภาพเช่นนี้ทำให้ผู้ต้องขังที่ญาติไม่ได้ซื้ออาหารส่งเข้าไปให้ หรือฝากเงินไว้ให้ซื้อของ ต้องทนตกอยู่ในสภาพลำบากด้านอาหารการกินนอกจากภารกิจรับนักโทษที่มีโทษสูงจาก 8 จังหวัดภาคเหนือแล้ว เรือนจำกลางเชียงใหม่ยังทำหน้าที่รองรับผู้ต้องขังที่ป่วยรุนแรงหรือมีโรคประจำตัวในเขตจังหวัดภาคเหนือที่ส่งตัวมายังโรงพยาบาลนครพิงค์ หรือโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ (โรงพยาบาลสวนดอก) รวมถึงผู้ต้องขังที่ต้องได้รับการตรวจทางจิตเภททั่วภาคเหนือก็จะส่งตัวมาที่นี่ เพื่อดูแลในการรับส่งตัวไปยังโรงพยาบาลสวนปรุงต่อไปผบ.พิรุณ ให้ข้อมูลว่า เดิมที่เรือนจำเก่า โรงพยาบาลที่เป็นหน่วยปฐมภูมิ คือโรงพยาบาลนครพิงค์ เมื่อย้ายมาที่ใหม่นี้ โรงพยาบาลหน่วยปฐมภูมิ คือโรงพยาบาลแม่แตง ที่อยู่ห่างจากเรือนจำราว 2 กิโลเมตร และจะส่งแพทย์เข้ามาตรวจผู้ต้องขังภายในเรือนจำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ในกรณีผู้ต้องขังมีอาการรุนแรงในระดับที่โรงพยาบาลแม่แตงรับไม่ได้ จะมีการส่งตัวผู้ป่วยเข้าไปโรงพยาบาลภายในจังหวัดต่อไปตามหลักนั้น ผู้ต้องขังที่ต้องนอนโรงพยาบาล จะต้องใช้ผู้คุมจำนวน 2 คนไปควบคุมตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจากตัวเลขในช่วงเดือนธันวาคม 2556 มีผู้ต้องขังที่ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ 4 คน นอกจากนั้นยังมีผู้ต้องขังที่ต้องออกไปตรวจตามนัดของแพทย์ วันหนึ่งเฉลี่ยราว 5-10 ราย ทำให้ต้องใช้ผู้คุมอีกประมาณ 10 คนเพื่อควบคุมผู้ต้องขังที่ป่วยออกไปตรวจภายนอกเรือนจำส่วนสถานพยาบาลภายในเรือนจำนั้น รองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 50 คนต่อวัน มีพยาบาลวิชาชีพประจำภายในอยู่เพียง 2 คน มีนักสังคมสงเคราะห์ และอาสาสมัครช่วยงาน ซึ่งเป็นผู้ต้องขังด้วยกันที่พอมีความรู้ด้านการแพทย์อีกจำนวนหนึ่ง ทำหน้าที่เดินเอกสาร จัดยา โดยผู้ที่ผ่านการอบรมแล้วจึงจะสามารถช่วยเรื่องการฉีดยา ล้างหรือเย็บแผลได้ จากสภาพขาดบุคลากรเช่นนี้ ทำให้เป็นเรื่องยากลำบากพอสมควรที่จะดูแลผู้ป่วยให้ทั่วถึงเรือนจำกลางเชียงใหม่ มีอัตราการเสียชีวิตของผู้ต้องขังเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 2 คน ส่วนใหญ่จะมีเหตุมาจากโรคประจำตัว แยกเป็นการเสียชีวิตภายในเรือนจำ กับเสียชีวิตภายนอก คือที่โรงพยาบาลหรือขณะนำส่งตัว นอกจากนั้น กรณีผู้พิการ ผู้มีโรคประจำตัว หรือผู้ป่วยโรคจิตเภท เรือนจำยังไม่ได้มีการแยกแดนเป็นพิเศษ แต่อยู่ปะปนกับผู้ต้องขังทั่วไป และให้มีอาสาสมัครในแต่ละห้องนอนเป็นคนดูแลเป็นพิเศษ แต่ไม่ได้หมายความว่า อาสาสมัครเหล่านั้นจะมีความเชี่ยวชาญเพียงพอที่จะดูแลผู้ต้องขังป่วยได้อย่างเหมาะสมผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่แตง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่เรือนจำย้ายมาแรกๆ นั้น ทางเรือนจำยังต้องส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลนครพิงค์ซึ่งอยู่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่ เพราะยังไม่ได้ตกลงระบบระเบียบการจัดการกับทางโรงพยาบาลแม่แตง ภายหลังเมื่อได้พูดคุยกันแล้ว ทางแพทย์จากโรงพยาบาลแม่แตงจึงรับหน้าที่เข้าไปให้บริการ โดยเรือนจำมีหน้าที่คัดกรองผู้ป่วยเข้ามารับบริการตรวจรักษา (คัดโดยพยาบาลวิชาชีพ 2 คน) ส่วนทีมแพทย์จะเข้าไปยังแดนพยาบาลภายในกำแพงเรือนจำในทุกๆ บ่ายวันศุกร์ ซึ่งคณะที่เข้าไปประกอบด้วยแพทย์ 1 คนและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอีก 2-3 คนในการรักษาผู้ต้องขังของแพทย์นั้นแบ่งเป็น 2 กรณี คือกรณีทั่วไปที่แพทย์เข้าไปตรวจรักษาในเรือนจำ ให้ยาตามปกติ และกรณีที่รักษาไม่ได้ ผู้ต้องขังก็จะต้องทำใบคำร้อง โดยแพทย์ต้องเขียนระบุลงไปว่า กรณีคนไข้รายนี้ต้องส่งไปตรวจรักษาที่อื่นที่มีศักยภาพสูงกว่า และให้คำแนะนำว่าจะต้องส่งตรวจอาการใดอย่างไร รวมถึงตรวจที่สถานพยาบาลในเมืองเชียงใหม่แห่งใด จากนั้นจึงเป็นหน้าที่ของทางเรือนจำที่จะดำเนินการต่อในกรณีฉุกเฉินที่ต้องส่งผู้ต้องขังป่วยไปรักษาอย่างเร่งด่วน โรงพยาบาลแม่แตงจะจัดบริเวณสำหรับคนไข้จากเรือนจำโดยเฉพาะ แต่กระบวนการส่งตัวผู้ต้องขังออกมาเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการเอกสารหลายขั้นตอนนพ.สมศักดิ์ ชี้ว่า เรือนจำยังให้ความสำคัญกับเรื่องสาธารณสุขและการดูแลรักษาพยาบาลน้อยเมื่อเทียบกับสภาพที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะการที่สถานพยาบาลในเรือนจำ มีพยาบาลประจำอยู่เพียงแค่ 2 คน (เคยมีอยู่แค่สามคน แต่มีการโอนย้ายไปที่อื่น 1 คน) แต่ต้องดูแลประชากรเรือนจำประมาณ 4 พันกว่าคน ซึ่งไม่ใช่การกระจายตัวของประชากรในหมู่บ้านตามปกติประชากรในเรือนจำมีโอกาสเจ็บป่วยค่อนข้างสูง เนื่องจากสุขภาพอนามัยที่ไม่ดี รวมทั้งผู้ต้องขังจำนวนมากมีความเจ็บป่วยเบื้องต้นมาก่อนหน้าการคุมขังแล้ว โดยเฉพาะในคดีล่วงละเมิดทางเพศ หรือคดียาเสพติด ซึ่งมีโอกาสติดโรคต่างๆ มาก่อนอยู่แล้ว อัตราผู้ต้องขังในเรือนจำกลางเชียงใหม่ที่มีโรคประจำตัวมีอยู่ราวร้อยละ 9.21 ของนักโทษทั้งหมด โดยมีผู้ต้องขังอยู่ในระบบประกันสุขภาพประมาณ 3000 คน มีประกันสังคมราว 800-900 คน ใช้สิทธิเบิกประมาณไม่เกิน 100 คน และเป็นกลุ่มคนต่างด้าวราว 800-900 คนจากสภาพพื้นฐานเหล่านี้ จึงจำเป็นต้องเข้าดูแลและบริหารจัดการตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งในส่วนคนไข้โรคเรื้อรังที่ต้องรับยาเป็นประจำ กลุ่มคนไข้สูงอายุที่มักจะเป็นเบาหวานหรือความดัน และส่วนของคนไข้โรคติดต่อซึ่งมีโอกาสที่จะแพร่กระจายไปสู่คนอื่นค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะวัณโรคและโรคเอดส์ก็ต้องได้รับการดูแล ต้องรับยาอย่างต่อเนื่อง และได้รับการตรวจสุขภาพประจำปีเหมือนกับคนไข้ทั่วไปแต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การดูแลมักเป็นไปในเชิงรับ หรือเมื่อมีความเจ็บป่วยรุนแรงจึงจะรักษาอย่างฉุกเฉิน ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงที่ทำให้โรคต่างๆ แพร่กระจายไปได้ง่าย และโรงพยาบาลขนาดเล็กในต่างอำเภอก็ไม่สามารถจะรองรับความเจ็บป่วยต่างๆ ได้ทันท่วงทีด้วย (โรงพยาบาลแม่แตง มีแพทย์ประจำเพียง 3 คน ที่เหลือเป็นแพทย์เกษียณอายุที่ทำการเฉพาะวัน)นพ.สมศักดิ์เห็นว่า ปัญหานี้ไม่ใช่เพียงความรับผิดชอบของโรงพยาบาลในเขตที่เรือนจำมาตั้งอยู่ แต่มีพื้นฐานอยู่ที่สถานพยาบาลภายในเรือนจำ ซึ่งต้องให้ความสำคัญในการจัดองค์ประกอบของแพทย์และพยาบาลในการดูแลสถานพยาบาลแต่ละแห่ง และยังเกี่ยวโยงไปถึงแนวคิดของภาครัฐ การประสานงานร่วมกันในระดับกระทรวง ทบวง กรม ระหว่างส่วนกระทรวงยุติธรรมกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งต้องให้ความสำคัญเรื่องนี้ทุกวันนี้คนไข้ประจำเท่าที่อยู่ในเรือนจำที่นี่มีอย่างน้อย 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่กับการลงทุนของรัฐกลับมีบุคลากรเจ้าหน้าที่หรือพยาบาลแค่ 2 หรือ 3 คน ซึ่งต้องถามกลับไปยังส่วนราชการของรัฐว่า เขาคิดอย่างไร ต้องให้ประชาชนถามเขา ไม่ใช่มาถามตรงนี้ นพ.สมศักดิ์ กล่าวด้านอดีตผู้ต้องขังที่เคยถูกคุมขังในเรือนจำกลางเชียงใหม่เก่าเล่าให้ฟังว่า โรคที่ผู้ต้องขังเป็นกันมากคือโรคผิวหนัง บางคนที่เป็นหนักๆ ก็ต้องแยกไปแดนพยาบาลโดยเฉพาะ โดยปกติแพทย์จะเข้ามาในเรือนจำคนเดียว แต่มาทุกวัน โดยมีบุรุษพยาบาลประจำคนหนึ่ง ที่เหลือเป็นพวกนักโทษที่เข้ามาทำงานเป็นผู้ช่วยเหลือ อีกทั้งขั้นตอนการเบิกยายังทำได้ค่อนข้างยาก มักอ้างว่าหมอไม่มาบ้าง หรือส่วนมากก็ให้แต่ยาพาราเซตามอล และมีรูปแบบการจัดให้เบิกยาได้คนละวันกันด้วย เช่น ผู้ที่ทำงานกองกลาง เบิกได้ในวันพฤหัส หรือหน่วยงานอื่นๆ ก็เบิกได้ในวันอื่นอดีตผู้ต้องขังรายนี้เล่าต่อว่า ในกรณีที่ผู้ต้องขังขึ้นไปยังเรือนนอนแล้ว และมีอาการหนักๆ เกิดขึ้น ผู้ต้องขังที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าห้องจะเป่านกหวีดเรียกผู้คุม บางทีผู้คุมก็มาเร็ว หรือบางทีก็ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง ทำให้ต้องเป่าแล้วเป่าอีก เมื่อผู้คุมมาดูแล้วก็อาจให้เขียนคำร้อง เพื่อไปยื่นให้พยาบาล และกว่าที่ หมอ หรือพยาบาลจะมาถึงก็อีกนาน โดยหมอในตอนกลางคืนก็มักจะเป็นนักโทษด้วยกันที่เข้าไปช่วยอยู่ในแดนพยาบาลความล่าช้าเช่นนี้ทำให้หลายครั้งมีผู้ต้องขังเสียชีวิต จากอาหารช็อก หายใจไม่ออก หรือหัวใจวายเฉียบพลัน โดยหากมีคนตาย ก็ต้องรอให้แพทย์จริงๆ ฝ่ายปกครอง อัยการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาชันสูตรตามกฎหมายในตอนเช้า และกว่าจะเอาศพลงได้ก็ตอนบ่ายๆ ซึ่งทำให้ผู้ต้องขังรายอื่นที่นอนอยู่ในห้องเดียวกันต้องนอนร่วมกับศพจนถึงเช้า ผู้ต้องขังรายนี้ประมาณการณ์ว่า ในเดือนหนึ่งๆ มีผู้ต้องขังเสียชีวิตอาจจะถึง 10 คนอยากให้ปรับปรุงเรื่องสถานพยาบาล คือเปรียบเทียบแล้ว ในคุกนั้น สถานพยาบาลก็เป็นเหมือนโรงฆ่าสัตว์โดยตรง คือนักโทษที่จะออกข้างนอกได้ต้องรอ บางทีคนปวดท้องใกล้จะตาย ก็ออกไปไม่ได้ ต้องผ่านหลายอย่าง อย่างในคดีอากง (อ้างถึงกรณีนายอำพล ตั้งนพกุล ผู้ต้องขังคดี มาตรา 112 ที่เสียชีวิตที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ) อยากให้ปรับปรุงเรื่องสถานพยาบาล เป็นอะไรนิดหน่อยมีแต่ตายๆ คือ กว่าจะส่งนักโทษไปจนถึงมือหมอ ก็ไปตายที่มือหมอ เคยมีหมอโรงพยาบาลป่าแงะ (ชื่อเรียกทั่วไปของโรงพยาบาลนครพิงค์) มาประท้วงหน้าเรือนจำ เรื่องการส่งคนไข้ ส่งนักโทษไป ขอให้ส่งให้ไวหน่อยได้ไหม คือไปตายปุ๊บก็โทษหมอใช่ไหม ถึงมือหมอก็ตายพอดี คือหมอมาประท้วง นักโทษมันตายเยอะเกิน อดีตนักโทษรายนี้ให้ข้อมูลประกอบความเห็นไว้เช่นนี้นอกจากนั้น ในเรือนจำเก่ายังมีปัญหาผู้ต้องขังผูกคอตายด้วย โดยมากคนที่จะผูกคอตายมักจะขึ้นห้องไปก่อนผู้ต้องขังคนอื่น หรือผูกคอตายตามบันไดโดยใช้เสื้อผ้าทั่วไป เนื่องจากถ้าเป็นในเรือนนอน ตอนกลางคืนจะมีการจัดผู้ต้องขังเป็นเวรยาม ให้คอยเฝ้าดูคนละ 1 ชั่วโมง และหากมีการผูกคอตายในห้อง เวรยามผลัดนั้นๆ อาจโดนลงโทษได้นักโทษในเรือนจำปัจจุบันอีกรายหนึ่งเล่าคล้ายกันว่า สภาพการรักษาพยาบาลภายในเป็นเรื่องแย่ ผู้ต้องขังที่สามารถออกไปโรงพยาบาลได้ต้องป่วยหนักจริงๆ ซึ่งหากถามว่าต้องหนักขนาดไหน ก็คือหนักถึงขั้นหามออกไป แต่ถ้าใครมีเส้นสายหรือมีเงินก็อาจจะได้ออกไว โดยมีอาการนิดๆ หน่อยๆ ก็จะได้ออกปกติการไปพบแพทย์ในวันศุกร์ ต้องเขียนคำร้องยื่นต่อผู้บังคับแดนเพื่อขอพบหมอ โดยบุรุษพยาบาลกับนางพยาบาลประจำในเรือนจำจะเป็นคนสกรีน บางทีพอพบหมอแล้ว หมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก ก็ขอยาได้ค่อนข้างยาก มักได้แต่ยาพาราฯ และถ้าเป็นไข้เล็กน้อย ส่วนใหญ่ก็ต้องรอถึงวันศุกร์ ส่วนกรณีโรคประจำตัวต่างๆ จะมีการให้ยารักษาเป็นประจำอยู่แล้ว ผู้ต้องขังรายนี้ประมาณว่า ในแดนที่ตนอยู่เคยมีคนเสียชีวิตประมาณ 3-4 คน มีนักโทษเคยแขวนคอตาย 1 คน เพราะความเครียด หลับแล้วก็ชักและตายด้วยโรคประจำตัวอีก 2-3 คนส่วนในทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ เล่าว่า จะมีพยาบาลอยู่ประจำสองคนและนักจิตวิทยาหนึ่งคน มีแพทย์เข้าไปสัปดาห์ละหนึ่งวัน ทั้งนี้ ในแดนพยาบาลจะมีเตียงพักฟื้นและห้องทันตกรรมให้ผู้ป่วย ผู้ต้องขังที่มีอาการป่วยและจะไปแดนพยาบาลในช่วงเช้าของแต่ละวัน จะต้องขออนุญาตหน่วยที่รับผิดชอบผู้ต้องขังคนนั้นก่อนจึงจะไปได้ในแต่ละวัน ยังมีกรณีผู้ป่วยที่ต้องออกไปตรวจประจำยังโรงพยาบาล หรือผู้ป่วยโรคจิตเภทก็ต้องไปโรงพยาบาลสวนปรุงด้วย ซึ่งผู้ต้องขังหลายคนที่มีโรคหนักๆ เช่น มะเร็ง เอชไอวี โรคไต ก็ต้องไปโรงพยาบาลที่เป็นเขตรับผิดชอบ คือโรงพยาบาลนครพิงค์ และก็มีการส่งผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลมหาราชด้วยในกรณีของผู้ต้องขังหญิง ยังมีกรณีที่ตั้งครรภ์มาจากโลกภายนอก และต้องออกไปคลอดลูกในโรงพยาบาล จะมีการตรวจสภาพร่างกายผู้ต้องขังตั้งแต่รับเข้าไปวันแรก หากมีการตั้งครรภ์ จะมีการนำออกมาฝากครรภ์ข้างนอก และมีศูนย์อนามัยแม่และเด็กเข้าไปดูแล พอใกล้เวลาคลอด จะส่งตัวผู้ต้องขังออกมาคลอดภายนอก เมื่อคลอดแล้วสามวันจึงจะนำตัวกลับเข้าไปภายใต้ บ้าน ในโครงการดูแลแม่และเด็ก จะให้แม่เลี้ยงลูกและให้นมเอง และมีพี่เลี้ยงในการบริบาลทารก จนเด็กอายุสักหนึ่งขวบ จะขอให้ญาติมารับออกไปทั้งนี้โดยพื้นฐาน เรือนจำของผู้หญิงมีระเบียบต่างๆ เหมือนกับของชาย แต่ในรายละเอียดอาจมีการดูแลที่แตกต่างกันบ้าง เช่น ในเรื่องการตรวจค้น กรณีผู้หญิง ต้องไม่ตรวจค้นให้ผู้อื่นเห็น หรือไม่ให้ทำงานที่ใช้กำลังหนักมากเกินไป รวมทั้งในเรื่องของความเป็นแม่ที่จะต้องดูแลบุตร นอกจากนั้น สำหรับผู้ต้องขังหญิงแล้ว ยังมี อันเป็นข้อกำหนดสหประชาชาติว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำ (แต่ไม่ได้มีฐานะเป็นกฎหมายที่มีสภาพบังคับให้ประเทศต่างๆ ต้องปฏิบัติตาม)ในภาพรวม อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงปัญหาการรักษาพยาบาลและเสียชีวิตของผู้ต้องขังในเรือนจำ ว่าแบ่งเป็นสองด้าน ด้านหนึ่งคือกรณีที่ไม่ได้นำตัวผู้ต้องขังออกมารักษาข้างนอก แต่ปรากฏว่าเป็นโรคที่ร้ายแรงและรักษาข้างในไม่ได้ ทำให้เกิดการเสียชีวิตภายในเรือนจำ แต่อีกด้านหนึ่ง คือบางทีผู้ต้องขังก็อาศัยช่องว่างส่วนนี้ แกล้งบอกว่าไม่สบาย เพื่อออกมารับการรักษา เสร็จแล้วก็หลบหนีไป กลายเป็นปัญหาแรงดึงสองด้าน คือด้านหนึ่งรีบนำตัวผู้ต้องขังมารับการรักษาภายนอก กับอีกด้านหนึ่งคือเจ้าหน้าที่ก็ไม่กล้าให้ออกมา เนื่องจากยังไม่แน่ใจว่าจะมีการหลบหนีหรือไม่ ปัญหาเกิดขึ้น เมื่อคนที่ควรได้รับการปล่อยให้ออกมารักษาพยาบาล เรือนจำกลับไม่ปล่อย แต่บางทีไม่ควรปล่อยออก กลับปล่อย ปัญหาจึงอยู่ที่ทำอย่างไรจึงจะรู้ได้ว่า กรณีไหนควรหรือไม่ควรนัทธีให้ข้อมูลว่า โดยปกติแล้วการจะให้ผู้ป่วยออกมารับการรักษาภายนอกเรือนจำได้หรือไม่ เป็นดุลพินิจของผู้บัญชาการเรือนจำแต่ละแห่งประกอบกับความเห็นแพทย์ ซึ่งจะเป็นผู้ตรวจเบื้องต้นและเสนอขึ้นไป แต่ปัญหาคือ ภายในเรือนจำก็ไม่ได้มีแพทย์ประจำอยู่ ทำให้หากมีกรณีรุนแรง การติดตามแพทย์จากภายนอกอาจเป็นไปอย่างล่าช้า หรือหากเกิดเหตุในตอนกลางคืน แพทย์ก็จะไม่เข้าไป โดยนัทธีเห็นว่าทางแก้ไข คือควรจะมีแพทย์ประจำอยู่ในเรือนจำ แต่ปัญหาคือ การหาแพทย์ก็เป็นไปได้ยาก แม้แต่ข้างนอกเอง แพทย์ยังขาดแคลน และยังต้องขอความร่วมมือกับทางกระทรวงสาธารณสุขด้วยโดยสรุปจากกรณีเรือนจำในจังหวัดเชียงใหม่นี้ แม้การย้ายเรือนจำจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังดีขึ้นในบางส่วน แต่ก็มีส่วนที่สร้างปัญหาและกระทบต่อสิทธิผู้ต้องขังในหลายด้าน ได้แก่ กระทบต่อสิทธิผู้ต้องขังในกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะการที่เรือนจำอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลจากศาล ทำให้เกิดกรณีผู้ต้องขังมาศาลไม่ทันเวลา เป็นเหตุให้กระบวนพิจารณาล่าช้าออกไป หรือการเดินทางไปเยี่ยมของทนายความก็มีข้อจำกัด รวมทั้งสิทธิในการพบญาติก็ถูกจำกัดลง จากทั้งระยะทางและการเปลี่ยนระเบียบให้ผู้ต้องขังในแต่ละแดนได้รับการเข้าเยี่ยมเพียงสัปดาห์ละหนึ่งวันในส่วนอาคารพักอาศัยและระบบสาธารณูปโภคของแต่ละแดนนั้น เดิมออกแบบมาสำหรับรองรับผู้ต้องขังหญิงซึ่งมีจำนวนน้อยกว่าผู้ต้องขังชายเกือบหนึ่งเท่าตัว ทำให้เกิดสภาพแออัดในส่วนของแต่ละแดนและเรือนนอนอยู่เช่นเดิม รวมทั้งปัญหาความพร้อมในการจัดการสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ทั้งปัญหาน้ำเสีย ขยะ สิ่งปฏิกูล และกลิ่นเหม็น อันเป็นผลมาจากความหนาแน่นของจำนวนประชากรในเรือนจำ ทำให้เกิดปัญหากับชุมชนโดยรอบเรือนจำที่แต่เดิมก็มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อคุกอยู่แล้ว แม้ว่าในภายหลังทางเรือนจำจะได้แก้ไขบรรเทาปัญหาเหล่านี้ลงได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังใช้เวลานานเกินไปในการจัดการภาพเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า การวางแผนการย้ายคุกนั้นยังขาดประสิทธิภาพ ขาดการเตรียมพร้อมรับกับปัญหา รวมทั้งในส่วนของปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด และปัญหาสิทธิในการรักษาพยาบาลของผู้ต้องขัง ก็ยังคงเป็นปัญหาที่สืบเนื่องต่อมาจากเรือนจำเดิมโดยไม่ได้รับการแก้ไขมากนักสภาพปัญหาและกรณีตัวอย่างของเรือนจำในจังหวัดเชียงใหม่ดังที่ยกมานี้ ทำให้เห็นได้ว่า ภาครัฐจำเป็นต้องคำนึงถึงการแก้ไขปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำในเชิงระบบ โดยนัทธี จิตสว่าง เห็นว่า ระบบยุติธรรมตอนนี้ยังปฏิบัติต่อคนที่ทำผิดโดยเน้นเรื่องการใช้โทษจำคุกเป็นหลัก จึงจำเป็นต้องหาวิธีการหลีกเลี่ยงโทษจำคุกให้มากขึ้น ต้องแก้ไขทั้งในเชิงกฎหมาย และการหามาตรการไม่ควบคุมตัวมาใช้มากขึ้น เช่น การให้ทำงานบริการสังคม การควบคุมตัวที่บ้าน การใช้กำไลอิเล็กทรอนิกส์มาควบคุม เป็นต้น ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นปัญหาดุลพินิจของศาลด้วยเช่นเดียวกับที่ ผบ.พิรุณ หน่อแก้ว ชี้ว่า เคยมีการประชุมร่วมกันระหว่างศาล อัยการ ตำรวจ และราชทัณฑ์ โดยทางเรือนจำได้เคยเสนอปัญหาผู้ต้องขังล้นคุกไปที่ศาลว่า เรือนจำอยู่ในสภาวะที่รับไม่ไหวแล้ว โดยเสนอให้ใช้วิธีลงโทษแบบอื่นๆ เช่น Electronic Monitoring หรือควบคุมด้วยวิธีอื่นๆ รวมทั้งเรื่องการให้สิทธิประกันตัวและการรอกำหนดโทษ โดยในการประกันตัวนั้น แม้จะอนุญาตให้ใช้บุคคลแทนหลักทรัพย์ได้ แต่ทางปฏิบัติ ข้าราชการก็ไม่สามารถประกันคดีนโยบายอย่างเช่นคดียาเสพติดได้ แม้แต่ตำแหน่งผบ.เรือนจำเอง ก็ไม่สามารถใช้ตำแหน่งประกันผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้เกี่ยวกับปัญหายาเสพติดนั้น ผบ.พิรุณ เสนอให้เรือนจำต้องพยายามแยกกลุ่มผู้ต้องขังเฉพาะออกจากผู้ต้องขังคดีอื่นอย่างเด็ดขาด เพื่อควบคุมไม่ให้ยาเสพติดแพร่กระจายไปยังผู้ต้องขังคดีอื่นๆ และจำเป็นต้องกลับไปแก้ไขที่ความเป็นอยู่ในสังคมโดยตรงด้วย เช่น เมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษกลับไปอยู่ในพื้นที่เดิม พยายามไปสมัครงานก็ไม่มีใครรับ (เพราะมีประวัติการต้องโทษ) จึงหันกลับไปค้ายา หรือบางครอบครัวก็ค้ายากันทั้งบ้าน ทั้งพ่อและแม่ถูกจับกุมกันหมด หรือในคดีอื่นๆ เช่น ลักทรัพย์ ปล้นฆ่า หลายกรณีก็มักมีมูลเหตุมาจากยาเสพติด เป็นต้นด้านกิตติพัฒน์ เดชะพหุล กล่าวว่า ตนไม่ค่อยมีความหวังกับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมไทย เพราะเห็นว่าการปฏิรูปกระบวนการนี้ต้องเป็นงานในระดับสภา และออกแบบประเทศไทยใหม่ เริ่มตั้งแต่การออกแบบรัฐธรรมนูญ เขียนโครงสร้างใหม่ และทำให้ศาลมีความรับผิดชอบต่อประชาชน มีองค์กรที่มีการคานอำนาจกันในระบบยุติธรรม โดยศาลต้องเป็นระบบที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วยในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง องค์กรอื่นก็ปรับตัวหมด แก้ไขหมด แต่ศาลเป็นองค์กรเดียวที่ไม่มีผลกระทบเลย ยังทำงานเหมือนเดิม untouchable (แตะต้องไม่ได้) กระบวนการศาลยังเป็นองค์กรที่สืบเนื่องมาจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเต็มๆ เลยมันอยู่ที่การออกแบบประเทศ แต่จะพูดถึงศาลอย่างเดียวก็ไม่ได้ อัยการก็ไม่มีใครถ่วง ตำรวจก็ยิ่งไม่มี ส่วนของราชทัณฑ์นั้น มันแค่ปลายเหตุ กิตติพัฒน์กล่าวส่วน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เห็นว่า ความตื่นตัวเรื่องสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมยังมีค่อนข้างน้อย โดยหากเทียบกับองค์กรทางด้านสาธารณสุข จะพบการตื่นตัวของแพทย์มากกว่า ซึ่งสาเหตุอาจเป็นเพราะแต่ละองคาพยพของกระบวนการยุติธรรมปิดล้อมอยู่ในอาณาจักรของตนเอง ยังมีลักษณะการทำงานที่ทุกคนต่างสร้างอาณาจักรของตัวเอง พอคิดจะเข้าไปดูรายละเอียดแต่ละส่วนก็ทำได้ยาก และการจะเอามาเชื่อมต่อกันก็ยิ่งทำได้ยาก รวมทั้งวิธีคิดและหลักปฏิบัติก็ถูกครอบงำมาโดยตลอดนพ.นิรันดร์ยังเห็นว่า ไม่ค่อยมีการคิดแก้ไขปัญหาในเชิงระบบกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ ทั้งที่ตามรัฐธรรมนูญ 2550 กำหนดว่า จะต้องมีคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม แต่ในทางปฏิบัติยังไม่เกิดขึ้น โดยเกิดแต่เพียงคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) เท่านั้นนอกจากนั้น ในศาลเองก็มีปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย คือมองการบังคับใช้กฎหมายโดยถือว่า รัฐมีอำนาจ แต่ไม่ค่อยมองเรื่องรัฐธรรมนูญซึ่งมีหลักสิทธิเสรีภาพเป็นกฎหมายสูงสุด ไม่ว่าตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษา ก็จะมีการตัดสินที่ละเมิดต่อรัฐธรรมนูญโดยที่ไม่นึกถึงหลักสิทธิมนุษยชน และมีลักษณะของการใช้หลักกฎหมายเชิงเดี่ยว แทนที่จะเป็นหลักกฎหมายเชิงซ้อนที่เอาเรื่องมิติทางสังคม วัฒนธรรม หรือหลักสิทธิมนุษยชนเข้าไปประกอบด้วยในกรณีของเรือนจำ นพ.นิรันดร์เห็นว่า หลักการปฏิรูปพื้นฐานก็เหมือนกับทุกระบบ คือต้องมีการกระจายอำนาจไปสู่ชุมชนท้องถิ่น อาจให้ส่วนกลางรับผิดชอบเฉพาะนักโทษหรือผู้ต้องขังที่สำคัญๆ และรุนแรง ส่วนผู้ต้องขังทั่วไปอาจให้ท้องถิ่นสามารถจัดการดูแลได้ การดูแลผู้ต้องขังส่วนนี้ก็จะอยู่บนฐานการเข้าใจสภาพชีวิตวัฒนธรรม มิติทางสังคม ซึ่งมีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ส่วนที่สอง นพ.นิรันดร์เห็นว่า ควรจะต้องปฏิรูปในเรื่องจิตสำนึกและความเข้าใจ ซึ่งมีความสำคัญมากกว่า ยิ่งอยู่ในเรือนจำก็กลายเป็นมาเฟียไปเลย ในเรื่องของการเอาผลประโยชน์กับนักโทษ โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องยาเสพติด หรือแม้กระทั่งเรื่องทั่วไป จะมีมาเฟียอยู่ข้างใน แม้กระทั่งผู้คุมก็ยังกลัว ตรงนี้เป็นปัญหาที่พอระบบมันปิด ก็ยิ่งทำให้เกิดการใช้อำนาจอิทธิพลที่ไม่ถูกต้องมากขึ้น ต้องเปิดทุกอย่าง คือให้มีการเข้าไปตรวจสอบ ระบบการตรวจสอบในกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ถ้าไม่มีการตรวจสอบ ก็จะกลายเป็นการทำลายตัวเอง จากการที่มันมีอำนาจเยอะโดยสรุปแล้ว นอกจากการคิดถึงปัญหาที่จะตามมาจากการย้ายเรือนจำดังที่กล่าวไป กล่าวได้ว่าการแก้ไขปัญหาของเรือนจำ จำเป็นต้องคิดถึงการออกแบบการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ มากกว่าเพียงคิดแยกเป็นหน่วยๆ หรือจำเป็นต้องคิดถึงการแก้ไขตัวบทกฎหมายเพื่อใช้โทษจำคุกให้ลดน้อยลง และคิดถึงการตรวจสอบการทำงาน อำนาจหน้าที่ระหว่างหน่วยงานภายในกระบวนการยุติธรรมซึ่งมีงานราชทัณฑ์เป็นส่วนหนึ่งในนั้นด้วย รวมทั้งจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงเชิงวิธีคิดภายในหน่วยงานของกระบวนการยุติธรรมที่แนวโน้มยังมีลักษณะอนุรักษ์นิยมอยู่อีกด้วย
การเปลี่ยนแปลงสำคัญอีกประการหนึ่งของเรือนจำกลางเชียงใหม่ ภายหลังโยกย้ายมาในพื้นที่ใหม่ คือการเปลี่ยนแปลงระบบการเยี่ยม จากที่เรือนจำเดิมเคยเปิดให้ญาติเข้าเยี่ยมได้ทุกวัน ปัจจุบันได้กำหนดให้แดน 4
การเมือง,คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน
ข่าวเจาะ,ฉายไฟแดนสนธยา,นพพล อาชามาส,นักโทษ,เรือนจำเชียงใหม่,โครงการให้ทุนข่าวเจาะ
https://prachatai.com/journal/2014/03/52530
ไอเออีเอ ตรวจวิธีทดสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ญี่ปุ่น
ทีมผู้เชี่ยวชาญของทบวงพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) เดินทางถึงญี่ปุ่น และเริ่มการตรวจทบทวนวิธีการทดสอบความแข็งแกร่งทนทานของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ที่หน่วยงานมาตรฐานความปลอดภัยอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ของญี่ปุ่น ใช้ตรวจสอบเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ไปก่อนหน้านี้ ตามเกณฑ์ที่ได้จากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญในประเทศ หลังแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ทำให้เกิดวิกฤตนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิชิ และต้องปิดการทำงานของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั่วประเทศการเชิญผู้เชี่ยวชาญนานาชาติของ IAEA เข้ามาตรวจทบทวนวิธีการทดสอบเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ก็เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่สาธารณะ ว่าวิธีการทดสอบที่หน่วยงานญี่ปุ่นใช้ได้ตามมาตรฐานนานาชาติขณะที่ผลการตรวจสอบที่ได้มา จะมีคณะกรรมาธิการผู้เชี่ยวชาญของญี่ปุ่นเป็นผู้ทบทวนผลอีกรอบหนึ่ง ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นหวังว่าจะช่วยลดเสียงคัดค้านในการเปิดใช้งานเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั่วประเทศ ที่ถูกสั่งปิดหลังแผ่นดินไหว
ทีมผู้เชี่ยวชาญของ IAEA เดินทางมาญี่ปุ่น เพื่อทบทวนวิธีการที่หน่วยงานของญี่ปุ่นใช้ในการทดสอบความแข็งแกร่งทนทานของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ไปก่อนหน้านี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่สาธารณชน ก่อนเปิดใช้งานเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์อีกครั้ง
ต่างประเทศ
IAEA,ญี่ปุ่น,เตาปฏิกรณ์,โรงไฟฟ้านิวเคลียร์,ไอเออีเอ
https://news.thaipbs.or.th/content/61372
เช็กสิทธิ์ เยียวยาเกษตรกร ธ.ก.ส.พบ 2 แสนรายโอนเงินไม่ได้ เพราะไม่ใส่เลขบัญชี
เช็กสิทธิ์ เยียวยาเกษตรกร ธ.ก.ส.พบเกษตรกรกว่า 2 แสนราย โอนเงินไม่ได้เพราะไม่ใส่เลขบัญชี ย้ำใส่เลขบัญชีธนาคารใดก็ได้ผ่าน www.เยียวยาเกษตรกร.comนายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครอบครัวละ 5000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้นล่าสุด ภายในวันที่ 31 พ.ค.นี้ ธ.ก.ส.จะสามารถจ่ายเงินเดือนแรกให้เกษตรกรกลุ่มแรกที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งรายชื่อมาแล้วเสร็จ โดยจะดำเนินการโอนเงินในวันเสาร์-อาทิตย์ด้วย เพื่อเก็บตกการโอนรอบสุดท้ายของเกษตกรในกลุ่มที่ 2 ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ นำไปตรวจสอบความซ้ำซ้อนประมาณ 1.57 ล้านราย และยังไม่มั่นใจว่าจะผ่านเกณฑ์ และส่งรายชื่อมายัง ธ.ก.ส.เท่าใดสำหรับการจ่ายเงินให้เกษตรกร ล่าสุด จนถึงวันที่ 27 พ.ค. 63 มีการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรไปแล้ว 5.72 ล้านราย เป็นเงินกว่า 28600 ล้านบาท โดยในวันนี้ (28 พ.ค.) จะโอนเงินอีกกว่า 500000 ราย ทำให้มีเกษตรกรได้รับเงินโอนแล้วกว่า 6.2 ล้านราย และที่เหลือเสาร์ที่ 30 พ.ค.-อาทิตย์ที่ 31 พ.ค. 63 จะโอนเงินให้กับรายชื่อในกลุ่มที่ 2 ที่กระทรวงเกษตรฯ จะส่งรายชื่อมาจากการประเมินเบื้องต้นน่าจะมีเกษตรกรได้รับเงินเยียวยากว่า 8 ล้านคน คงไม่ถึง 10 ล้านคน เพราะเกษตรกรบางรายทำอาชีพหลายอย่าง เช่น ปลูกข้าว ปลูกพืชไร่ เลี้ยงปลา ก็ไปลงทะเบียนไว้ทุกอาชีพ อย่างไรก็ตามในการจ่ายเงินเยียวยานั้นจะให้แค่ 1 หมายเลขบัตรประชาชนเท่านั้นสำหรับเกษตรกรที่ผ่านเกณฑ์แล้ว และส่งรายชื่อมายัง ธ.ก.ส.แล้ว พบว่าไม่สามารถโอนเงินได้ เนื่องจากไม่พบบัญชีเงินฝาก ล่าสุดมีจำนวนเหลือ 256000 ราย จากก่อนหน้านี้ 400000 ราย โดยอยากให้เกษตรกรดังกล่าวแจ้งบัญชีเงินฝากกรณีที่เป็นบัญชีจากธนาคารอื่นๆ ผ่านเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.comนายกษาปณ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีมติ ครม.เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ระบุว่า ข้าราชการทำการเกษตรจำนวน 91000 ราย หมดสิทธิ์รับเงินเยียวยา หากจ่ายเงินไปแล้วให้หักเงินเดือนคืนว่า ธ.ก.ส.ยังไม่ได้จ่ายเงินให้กับข้าราชการที่ขึ้นทะเบียนเกษตร จำนวน 91000 รายทั้งนี้ เนื่องจากจะรอความชัดเจนจาก ครม. จึงชะลอการจ่ายเงินดังกล่าวไว้ก่อน เมื่อตรวจพบ และเมื่อมติ ครม.ออกมาชัดเจนว่าข้าราชการหมดสิทธิ์ ถือว่ายกเลิกรายชื่อที่ต้องจ่าย คงไม่ต้องไปหักเงินเดือนคืน เพราะยังไม่มีการจ่ายออกไป
เช็กสิทธิ์ เยียวยาเกษตรกร ธ.ก.ส.พบเกษตรกรกว่า 2 แสนราย โอนเงินไม่ได้เพราะไม่ใส่เลขบัญชี ย้ำใส่เลขบัญชีธนาคารใดก็ได้ผ่าน www.เยียวยาเกษตรกร.com
ข่าว,เศรษฐกิจ
เยียวยาเกษตรกร,www.เยียวยาเกษตรกร.com เช็คสิทธิ์,เยียวยาเกษตรกรตรวจสอบสิทธิ์,ลงทะเบียนเยียวยาเกษตรกร,ตรวจสอบสิทธิ์เกษตรกรรับเงินเยียวยา,www.เยียวยาเกษตรกร.com,เงินเยียวยาเกษตรกร,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1855324
1 ปีคดีประวัติศาสตร์ ฆ่าเสือดำ ทุ่งใหญ่
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจุดตั้งแคมป์ห้วยปะซิ ของคณะนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย และพวก 3 คน หลังเข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พบซากสัตว์ป่า-อาวุธปืนลงบันทึกจับกุม นายเปรมชัย และพวกรวม 4 คน 9 ฐานความผิด ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก ทนายความยื่นขอประกันตัววงเงินคนละ 150000 บาทพล.ต.อ.ศรีวราห์ นำทีม บก.ปทส.และกรมอุทยานฯ ค้นบ้านพักเปรมชัย พบปืน 43 กระบอก งาช้าง 2 คู่ สั่งอายัด ตรวจหลักฐานครอบครอง และตรวจ DNA ลายนิ้วมือออกหมายเรียกเปรมชัย และพวกรวม 4 คน แจ้งข้อกล่าวหากระทำทารุณกรรมสัตว์ ฐานความผิดที่ 10นายเปรมชัยพร้อมพวกไม่มาตามนัด ทนายขอเลื่อนรับทราบข้อหาทารุณกรรมสัตว์ครบกำหนดฝากขังครั้งแรกอัยการ ภาค 7 แถลงผลการพิจารณาคดี นายเปรมชัย กับพวก ตามคำชี้ขาดอัยการสูงสุด ประกอบด้วย สั่งฟ้อง นายเปรมชัย ผู้ต้องหาที่ 1 จำนวน 6 ข้อหา นายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 จำนวน 7 ข้อหา นางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 จำนวน 5 ข้อหา และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 จำนวน 8 ข้อหา และเรียกค่าเสียหายทางอาญา 3012000 บาทครบกำหนดฝากขัง ครั้งที่ 7 ผัดสุดท้ายและต้องมารายงานตัวนายเปรมชัย -นางคณิตดา กรรณสูต (ภรรยานายเปรมชัย) และน.ส.วันดี สมภูมิ จำเลยทั้ง 3 ถูกฟ้องในฐานความผิดฐาน (1) ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต (2) ร่วมกันนำพาของที่ยังไม่ได้เสียภาษี ของต้องห้าม ต้องกำกับ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และ (3) ร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้โดยประการใดๆ ซึ่งรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรณ์ ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 คดีนี้ ศาลอาญาได้นัดตรวจพยานหลักฐานแต่ละฝ่ายอีกครั้งในวันที่ 3 ก.ย.2561นายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกรวม 4 คน ขอเลื่อนนัดสืบพยานหลักฐาน สอบคำให้การ และตรวจพยานเอกสาร เป็นวันที่ 6 มิถุนายน 2561 เพราะทนายความติดว่าความคดีอื่นพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ได้กําชับเจ้าหน้าที่ตํารวจให้ดําเนินการสืบสวน สอบสวนด้วยความรวดเร็ว โดยพล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. และ พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ ผกก.5 บก.ปปป. ได้เร่งรัดการสืบสวน สอบสวน และสรุปสํานวนส่งฟ้อง ต่อพนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริตภาค 7 ไปเมื่อวันที่ 30 มี.ค.61นายเปรมชัย กรรณสูต กับพวก ยื่นคำร้องอ้างว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 คือนายเปรมชัย และนายยงค์ ถูกฟ้องในคดีอาญาทุจริตประพฤติมิชอบภาค 7 (ร่วมกันติดสินบนเจ้าพนักงาน) ซึ่งได้แถลงว่าคดีนี้น่าจะเกี่ยวพันกับคดีดังกล่าว จึงขอให้ศาลส่งคดีนี้ไปให้ประธานศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจศาลดังกล่าวหรือไม่ ทางศาลจังหวัดทองผาภูมิจึงส่งคดีนี้ไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย และนัดมาฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 27ส.ค.2561ประธานศาลอุทธรณ์ มีคำวินิจฉัยให้คดีนายเปรมชัย และพวก อยู่ในอำนาจการพิจารณาคดีของศาลจังหวัดทองผาภูมิ ไม่ต้องโอนคดีไปศาลทุจริตภาค 7ศาลจังหวัดทองผาภูมินัดสืบพยานโจทก์ ทั้งหมด 32 ปาก รวม 10 นัด ตั้งแต่วันที่วันที่ 6-7 ธ.ค.และ วันที่ 11-13 ธ.ค.61 และวันที่ 18 ธ.ค.นี้ โดยในระหว่างการสืบพยานฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลย ศาลจังหวัดทองผาภูมิ การวางข้อกำหนดเอาไว้ว่า ห้ามฝ่ายจำเลยและฝ่ายโจทก์ นำข้อมูลต่างๆ ในห้องพิจารณาคดีออกมาเผยแพร่ภายนอกโดยเด็ดขาด19 -26 ธ.ค.2561ส่วนการสืบพยานจำเลย 16 ปากเริ่มตั้งแต่วันที่ 19-26 ธ.ค.61 ซึ่งเป็นนัดสุดท้าย ทั้งนี้ นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน ระบุว่า หลังจากสืบพยานโจกท์ และจำเลยเสร็จสิ้นภายในวันที่ 26 ธ.ค.นี้อัยการโจทก์ และจำเลย ยื่นแถลงการณ์ปิดคดีศาลทองผาภูมิ นัดพิพากษาคดีศาลชั้นต้นคดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ อ่าน
ไทยพีบีเอสออนไลน์ รวมลำดับเหตุการณ์ คดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียน-ไทย ดีเว๊ลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวกรววม 4 คนคดีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรีผ่านมา 1 ปีเต็ม ถูกจับตาจากหลายฝ่าย วันพรุ่งนี้(19 มี.ค.) เวลา 09.00 น.ศาลชั้นต้นนัดตัดสินคดีประวัติศาสตร์นี้
สิ่งแวดล้อม
เสือดำ,เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร,กาญจนบุรี,เปรมชัย,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/278498
ช่วยมาหลายเคสแต่ไม่เป็นข่าว นักร้องดังเปิดใจนาทีช่วยมอเตอร์ไซค์ถูกชน
หลังจากที่ชาวเน็ตแห่ชื่นชม ซานิ นิภาภรณ์ ฐิติธนการ หรือ ซานิ เอเอฟ นักร้อง-นักแสดงหญิงชื่อดัง ที่เพจร่วมด้วยช่วยกัน ได้นำภาพของนักร้องสาวที่ไปช่วยตามคนขับรถเก่งที่ชนมอเตอร์ไซค์ล้มจนได้รับบาดเจ็บมารับผิดชอบคู่กรณี โพสต์ลงในเพจ ล่าสุด ซานิได้เปิดเผยถึงนาทีที่ตัดสินใจทิ้งรถแล้วนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปตามคู่กรณีให้มารับผิดชอบ โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า,ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 2 ทุ่ม กำลังกลับจากทำงานจะกลับบ้าน ได้ยินเสียงเกิดอุบัติเหตุ เลยหันไปดูเห็นมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ล้ม มีคนเจ็บ นอนกองอยู่กับพื้น ส่วนคู่กรณีเห็นตูดแวบๆ และขับไปเร็วมาก โชคดีถ่ายทะเบียนทัน หลังจากนั้นก็เลยวิ่งไปดู รู้แค่ว่าจะต้องเอาคนชนมารับผิดชอบให้ได้ แล้วบังเอิญมีน้องผู้หญิงเป็นพยาบาลศิริราชขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาพอดี เค้าก็ถามว่าพี่จะไปด้วยกันมั้ย เลยบอกไปด้วย,และตามไปจนเจอ คู่กรณีจอดรถหลบอยู่ พอลงไปเคลียร์ตอนแรกไม่ยอมกลับไปดูคนเจ็บเลย และพูดแค่ว่าไม่ได้ชน ไม่ได้มีเจตนาและก็กลัวว่าจะต้องเสียเงินค่าชดใช้เยอะ และคู่กรณีเหมือนขับรถไม่แข็ง เพราะตอนที่ขับรถวนกลับมาดูคนเจ็บ ก็เหมือนจะขับรถชนซานิด้วย สงสัยจะขับรถไม่แข็งจริงๆ พร้อมทั้งเปิดเผยต่อว่า เคยช่วยเหลือมาหลายเคสแล้วแต่ไม่เป็นข่าว แต่ครั้งนี้เพจร่วมด้วยช่วยกันเอามาลงไว้
ซานิ เอเอฟ เปิดใจนาทีช่วยรถมอเตอร์ไซค์ถูกชนแล้วคู่กรณีหนี เจ้าตัวบอกช่วยมาหลายเคสแล้วแต่ไม่เป็นข่าว
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ซานิ เอเอฟ,ซานิ นิภาภรณ์,ซานิ ช่วยคน,ไล่ตามรถ,ชนแล้วหนี,นักร้องชื่อดัง,นักร้อง
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1615875
ตร.เล็งถกประเด็นพื้นที่แม่น้ำเจ้าพระยารอยต่อ นนทบุรี-กทม. จบปัญหาใครจะทำคดี
จากกรณีที่โลกโซเชียล มีการแชร์ข่าวเกี่ยวรับคดีชายนิรนามกระโดดลงแม่น้ำ ใต้สะพานพระราม 7 ช่วงเวลา 00.30 น. วันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าตำรวจไม่มาทำคดี ทำให้กู้ภัยต้องรอถึงเช้า เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมักมีปัญหาเกี่ยงกันทำคดี ระหว่าง สภ.บางกรวย สภ.เมืองนนทบุรี สน.บางโพ ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้,ล่าสุด พ.ต.อ.แดนไทย ปลั่งดี ผกก.สภ.บางกรวย จ.นนบุรี  ชี้แจงว่า ครั้งแรกทางพนักงานสอบสวน สน.บางโพ  แจ้งว่าจะมาดูศพ หลังจากนั้นจึงแจ้งว่ามาแล้ว พบว่าไม่ใช่พื้นที่ของ สน.บางโพ ตนจึงให้พนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย ไปดำเนินการจนเสร็จเรียบร้อย,สำหรับ เรื่องการแบ่งเขตพื้นที่รับผิดชอบในแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงรอยต่อกทม.-นนทบุรีนี้ จะนัดท้องที่ใกล้เคียงที่มีปัญหา เข้าไปหารือที่ สตช.ในวันจันทร์นี้ (25 ก.พ.62),ส่วนผู้ตายที่กระโดดน้ำที่พระราม 7 ทราบชื่อแล้ว โดยญาติระบุว่า ผู้ตายป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งผู้ตายบอกกับทางบ้านว่าจะออกมาหาหมอ ก่อนพบเป็นศพในแม่น้ำเจ้าพระยา,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,สรุปจบหวยออกที่ สภ.บางกรวย รับผิดชอบคดีชายโดดน้ำกู้ภัยรอยันหว่าง,กู้ภัยเซ็ง เจอศพตีสอง แจ้ง4โรงพัก เกี่ยงกัน ยันเช้ายังไม่มีใครมา,ผกก.บวรมงคล ยันไม่เคยเกี่ยงพลิกศพโยนชายโดดสะพานฯ ของบางกรวย
ฟัง ผกก.สภ.บางกรวย พูดถึงเคสชายโดดน้ำสะพานพระราม 7 ที่กู้ภัยรอ ตร.มาทำคดียันเช้า บอกการแบ่งเขตในแม่น้ำเจ้าพระยารอยต่อระหว่างนนทบุรี และ กทม. จะมีการนำเรื่องนี้ไปคุยที่ สตช.เพื่อหาข้อยุติ
ข่าว,สังคม
สภ.บางกรวย,เฝ้าศพ,ตำรวจไม่มา,ตำรวจไม่มาพลิกศพ,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1503288
ปคอป.เตรียมเสนอ ครม.ขยายกรอบเยียวยาผู้ชุมนุมทางการเมือง
ประธานคณะกรรมการประสานงานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ หรือ ปคอป.เตรียมเสนอ ครม.ในวันอังคารหน้า ( 13 มี.ค.55 ) เพื่อพิจารณาเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง หลังเปิดให้ผู้ได้รับผบกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองลงทะเบียนวานนี้ ( 8 มี.ค. ) แล้วพบว่ายังไม่ครอบคลุมไปถึง ขณะเดียวกันรองนายกรัฐมนตรี เตรียมเสนอ ครม.เห็นชอบต่ออายุการบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นอกจากนี้ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกฯและประธานคอป. เตรียมนำเรื่องเข้าหารือเพื่อขอความเห็นชอบที่จะเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมด้วย เนื่องจากกรอบการอนุมัติและการเปิดลงทะเบียนทำให้เห็นว่าการเยียวยายังไม่ครอบคลุมถึง พร้อมกันนั้นได้ย้ำในหลักการพิจารณาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งกรณีเสียชีวิตและบาดเจ็บหรือพิการ โดยจะยึดตามหลักข้อเท็จจริงสำหรับความคืบหน้าในการปรับภูมิทัศน์บริเวณทำเนียบรัฐบาล ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยเริ่มจากการเตรียมพื้นที่ประดิษฐานศาลพระภูมิใหม่ ที่บริเวณด้านข้างตึกไทยคู่ฟ้า จากเดิมที่อยู่บริเวณริมรั้วด้านหน้าตึกสันติไมตรี ส่วนการปรับปากกระบอกปืนใหญ่ ที่ปลายกระบอกหันเข้าทำเนียบฯ จะต้องปรับให้หันออกไปด้านนอกนั้นยังต้องใช้เวลาพิจารณาผลกระทบด้านศิลปกรรมสถานด้วย
ปธ.ปคอป.เตรียมเสนอ ครม.ในวันอังคารหน้า (13 มี.ค.55 ) เพื่อพิจารณาการเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง หลังเปิดให้ลงทะเบียนวานนี้ ( 8 มี.ค. ) แล้วพบว่ายังไม่ครอบคลุมไปถึง พร้อมกับเตรียมเสนอ ครม.เห็นชอบต่ออายุการบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
การเมือง
การเมือง,ครม.เงินเยียวยา,ปคอป.,พ.ร.ก.,ภาคใต้
https://news.thaipbs.or.th/content/71565
เก๋งหลับใน ชน จยย.ดับคาที่ ก่อนไถลเสยเสาป้ายสาหัส
เมื่อเวลา 01.51 น. วันที่ 26 ม.ค.58 พ.ต.ต.ถาวร นาคะบัตร พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ ที่บริเวณปากซอยนาคำ 10 ถนนสุขาพัฒนา ต.ขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี มีผู้เสียชีวิต จึงรีบรุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายสุดใจ บัวขจร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 ม.11 ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี นอนคว่ำหน้า จมกองเลือด ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าสภาพพังยับเยินไม่ต่างจากเศษเหล็ก ห่างออกไปพบคู่กรณีเป็นรถเก๋งมิตซูบิชิแลนเซอร์สีเขียว ทะเบียน กข 3415 อุบลราชธานี สภาพด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้ารถแตก พบคนขับเป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 25 ปี บาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบช่วยเหลือนำส่งรักษาท่ีโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี,จากการสอบสวน ทราบว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์ เบื้องต้นคาดว่า รถทั้งสองขับมาในทิศทางเดียวกัน ก่อนรถยนต์เก๋งจะพุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ ซึ่งคนขับเก๋งอาจหลับใน ก่อนรถเก๋งจะเสียการควบคุมพุ่งไปชนเสาป้ายซอยนาคำ 10 จนเสาป้ายหักโค่น เป็นเหตุให้นายสุดใจ คนขับรถจักรยานยนต์เสียชีวิตคาที่ โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานเพื่อสอบสวนถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป
เกิดอุบัติเหตุ หนุ่มวัย 30 กะรัต ซิ่งเก๋งหลับใน พุ่งชน จยย.หนุ่มเคราะห์เสียชีวิตคาที่ บนถนนสุขาพัฒนา เมืองอุบลฯ ก่อนจะเสียหลักพุ่งไปชนเสาป้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส
ข่าว,ทั่วไทย
อุบลราชธานี,ขามใหญ่,สุขาพัฒนา,อุบัติเหตุ,รถชน,สภ.เมืองอุบลราชธานี,ไทยรัฐออนไลน์,สุดใจ บัวขจร,ไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/news/local/477141
จตุพรยันไม่จริงจับมือสนธิตั้งพรรคเพื่อชาติ เชื่อเข้าใจผิด
เมื่อวันที่ 9 ต.ค. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.กล่าวถึงกรณีที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภาออกมาระบุว่า ตนจับมือกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ตั้งพรรคเพื่อชาติขึ้นมาหวังสลายสีเสื้อเหลือง แดง ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงเลย เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันมากกว่า เข้าใจว่าที่นายงยุทธพูดแบบนั้น อาจจะเห็นการพูดคุยระหว่างตนกับนายสนธิรวมถึงพุทธอิสระในเรือนจำ ซึ่งเป็นคนที่เห็นต่างทางการเมืองแต่สามารถพูดคุยหาทางออกให้กับประเทศร่วมกันได้ ถือเป็นภาพความงดงามอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นคนละส่วนกับเรื่องที่จะมาตั้งพรรคการเมืองร่วมกัน เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ต่างคนต่างถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองจะมาคุยเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร ยืนยันว่าตนและนายสนธิพูดกันแต่เรื่องปัญหาของชาติบ้านเมืองเท่านั้น ไม่เคยพูดกันเรื่องตั้งพรรคเพื่อชาติหรือตั้งพรรคใดทั้งสิ้น 


,นายจตุพร กล่าวต่อว่า สำหรับกระแสข่าวเรื่องการตั้งพรรคเพื่อชาตินั้น ยอมรับว่ามีกลุ่ม นปช.บางส่วนที่สนใจอยากเข้ามาทำงานการเมือง อยากมีเวทีที่จะทำงานต่อโดยไม่มีเรื่องของความขัดแย้งมาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ ออกแบบมาเพื่อจัดการกับพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าคนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิฯ จึงกระจายกันอยู่ถึง 5 พรรค ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคประชาชนปฏิรูป และพรรคพลังธรรมใหม่ ซึ่งนายสุเทพอ่านขาดตั้งแต่ต้น ขณะที่พรรคเพื่อไทยจะประสบปัญหาเพราะไม่มีที่เหลือเลย ขณะที่กลุ่ม นปช.มีบางส่วนที่อยากทำหน้าที่ในสภาฯ ก็ต้องมีพรรคเพื่อให้เข้ามาอยู่ภายใต้กติกาเดียวกัน ดังนั้นพรรคเพื่อชาติจึงเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ให้กลุ่มคนที่รักประชาธิปไตย รวมทั้ง นปช. อย่างไรก็ตาม นปช.ที่มีพื้นที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ก็สามารถอยู่พรรคเพื่อไทยต่อได้ แต่คนที่ไม่มีพื้นที่ก็มาอยู่พรรคเพื่อชาติแทน.
จตุพร โวย ยงยุทธ ปล่อยข่าวจับมือ สนธิ ลิ้ม ตั้งพรรคเพื่อชาติ ยันไม่จริง น่าเป็นการเข้าใจผิด เพราะต่างคนต่างถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่ยอมรับว่ามี นปช.บางส่วนสนใจทำงานการเมืองหลายคน
ข่าว,การเมือง
จตุพร พรหมพันธุ์,ประธาน นปช.,พรรคเพื่อชาติ,จับมือสนธิ,สลายสีเสื้อ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1393574
ออม แย้มมีหนุ่มในวงการจีบแต่กั๊กเพื่อน รับเซ็นสัญญาวิก 3 แล้ว
มาร่วมงานฉลองมงคลสมรส บีม-ออย ที่โรงแรมสยามเคมปินสกี้ พอได้เจอนางเอกหน้าใส ออม สุชาร์ มานะยิ่ง เลยถามถึงวันเกิดของเจ้าตัวเมื่อ 9 ม.ค. ที่ผ่านมาว่าเป็นยังไงบ้าง พร้อมทั้งอัพเดตถึงเรื่องราวหัวใจว่าโตขึ้นอีกปีแล้วคุณแม่จะปล่อยให้มีความรักได้แล้วรึยัง รวมถึงข่าวที่เจ้าตัวตัดสินใจเซ็นสัญญากับทางช่อง 3 เรียบร้อยแล้ว งานนี้เจ้าตัวจะว่าไงบ้างต้องไปฟัง,ถามถึงวันเกิดที่ผ่านมาเป็นไงบ้าง? ไปทำบุญที่บ้านราชาวดี ทุกปีออมจะทำบุญกับเด็กๆ แล้ววันเกิดปีนี้ตรงกับวันเด็กด้วย เลยได้ไปอยู่ในส่วนหนึ่งของงานวันเด็กค่ะ น้องๆ มาร่วมกิจกรรมกับเรา ก็พาเล่นเกม เอาขนมไปให้น้องๆ ที่อยู่ข้างในตึกด้วยที่ออกมาไม่ได้ค่ะ มีของขวัญอะไรให้ตัวเองไหม? จะเป็นของขวัญให้คุณแม่ค่ะ วันนั้นเขาน่าจะเจ็บปวดที่สุดค่ะ ก็เลยให้เช็คเงินสด 99,999 บาทค่ะ แม่ก็ดีใจ (หัวเราะ) ก็เหมือนขอโทษแม่ คือออมชอบทะเลาะกับแม่ด้วย เราก็เป็นเหมือนคนแข็งๆ ถือโอกาสขออโหสิกรรมกับแม่ด้วยค่ะ ก็สัญญาว่าต่อไปจะทำให้แม่มีความสุข แม่ก็คงไม่คิดว่าปีใหม่ออมจะเปลี่ยนไป ปกติทะเลาะกับแม่ตลอด แม่มีบอกไหมว่าอยากให้มีคนดูแลได้แล้ว? ปีนี้เขาก็โอเพ่นมากขึ้น ก่อนหน้านี้เขาค่อนข้างสตริ๊กกับออมเรื่องนี้ บอกว่าออมยังเด็กอยู่ ห้ามคบใคร ปีนี้แม่ก็บอกว่าจะไม่ว่าอะไรแล้ว ถ้าอยากคบใครก็ลองดูก็ได้ค่ะ,แล้วมีใครเข้ามาบ้างรึยัง? ก็มีเข้ามาบ้างค่ะ แต่อยู่ในช่วงศึกษากันไปค่ะ เป็นคนในวงการค่ะ (พระเอกรึเปล่า?) อุ๊ย อย่าถามขนาดนั้น เดี๋ยวรู้ (หัวเราะ) ไม่ๆ ค่ะ ก็ทั่วๆ ไปค่ะ ยังไม่อยากบอกว่าเป็นใครค่ะ จริงๆ ไม่ได้คบกันนะ ก็เป็นเพื่อนกันค่ะ เรียกว่าศึกษาดูใจไหม? ก็ประมาณนั้น จริงๆ ออมชอบดูคนไปเรื่อยๆ ค่ะ ไม่ได้เจ้าชู้นะคะ แต่ว่าเราถือว่าเราได้เรียนรู้คนไปด้วย คุยคนเดียวไหมตอนนี้? ก็ไปเรื่อยๆ ค่ะ (หัวเราะ) ดูมานานแค่ไหนแล้ว? จริงๆ หนูรู้จักกันมานานแล้วค่ะ (เขาร่วมงานกับเรารึเปล่า?) ไม่ๆ ค่ะ ใช่ท็อป จรณ รึเปล่า เขาก็ให้สัมภาษณ์ดูสาวในวงการเหมือนกัน? จริงเหรอ ไม่ใช่ท็อป ท็อปเป็นเพื่อนกันค่ะ จริงๆ คนนั้นเป็นเพื่อนกันนะ รู้จักกันมานานค่ะ เป็นคนที่นักข่าวรู้จักคุ้นเคยกันดีไหม? ไม่น่านะคะ ไม่ชอบอะไรหวือหวา (หัวเราะ) จะศึกษาอีกนานแค่ไหนกว่าจะเปิดตัว? ถ้าไม่ใช่ก็ไม่เปิดไปเลยค่ะ (หัวเราะ) ก็หายไปเลยค่ะ แล้วตอนนี้เขาใช่ไหม? จริงๆ ยังไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ มาดูงานแต่ง เราคิดอยากแต่งงานไหม? หูย เป็นคนกลัวการแต่งงานมาก เอาจริงๆ นะ ออมเป็นคนไม่ค่อยกล้าคิดเรื่องพวกนี้ค่ะ แต่ผู้หญิงทุกคนก็ต้องมีคิดบ้างแหละ แต่เราไม่ได้คาดหวังอะไรขนาดนั้นค่ะ ทำไมถึงกลัว? จริงๆ สำหรับออมเรื่องแต่งงานไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญมาก ออมเชื่อเรื่องการใช้ชีวิตด้วยกันมากกว่าค่ะ แล้วก็กลัวเหนื่อย เพราะงานรับปริญญาก็รู้สึกว่าเหนื่อยจัง เลยรู้สึกว่างานอะไรที่มันใหญ่ๆ มันเหนื่อย ออมเป็นคนที่ไม่ค่อยมีพิธีรีตองอะไรเท่าไหร่ค่ะ ถ้าเขาขอแต่งงานเราจะโอเคไหม? ก็โอเคค่ะ แต่ตอนนี้เรารู้สึกว่าหนูยังเด็กอยู่เลย (หัวเราะ) เดี๋ยวค่อยคิดเรื่องนี้ค่ะ,ถามถึงข่าวว่าเราเซ็นสัญญากับช่อง 3? ใช่ค่ะ ตอนนี้ก็เซ็นกับทางช่อง 3 แล้วค่ะ เพิ่งเซ็นไป 3 ปีค่ะ จริงๆ กับช่อง 3 ออมก็ทำงานมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนทำรายการสตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก แต่ว่าไม่เคยได้เซ็นในแง่ของละครค่ะ พอเราโตขึ้น ผู้ใหญ่ก็ทาบทามว่าดูแลกันจริงจังเลยไหมค่ะ ก็คิดว่ายังไงเราก็อยู่ที่นี่เหมือนเป็นบ้านของเราอยู่แล้ว ก็เลยเซ็นเพื่อให้ผู้ใหญ่สบายใจด้วย เซ็นเพื่อเล่นบทนางเอกไหม? อ๋อ ไม่ได้ระบุอะไรขนาดนั้นค่ะ เราเซ็นว่าเราเป็นนักแสดงภายใต้สังกัดช่อง 3 ป้อนงานจากทางช่อง 3 ตอนนี้ก็มีงานละคร 2 เรื่อง คือเรื่อง แรงตะวัน กับ รักพลิกล็อค ค่ะ ตั้งเป้าไหมว่าปีนึงรับละครกี่เรื่อง? จริงๆ ไม่นะคะ ปีนึงรับได้มากสุดก็ 2 เรื่องอยู่แล้วค่ะ แล้วแต่ผู้ใหญ่เห็นเหมาะสมดีกว่าว่ายังไง งานที่จีนจะเบรกไปเลยไหม? ไม่เบรกค่ะ มันอยู่ในช่วงการแพลนนิ่งเพราะคือต้นปี เราคิดว่าถ้าปิดละคร 2 เรื่องนี้แล้วจะแว้บไปทำงานที่โน่นบ้าง ก็แพลนร่วมกันกับทางผู้ใหญ่ค่ะ แบบนี้งานซีรี่ส์ก็คงไม่มีโอกาสได้เห็นกับทางช่องอื่นแล้ว? จริงๆ ออมคิดว่ามันเป็นเรื่องการเติบโตในการทำงาน ก่อนหน้านี้ออมเหมือนเป็นเจ้าแม่ซีรีส์เนอะ รู้สึกว่าเราก็เล่นมาเยอะ แต่เราไม่ได้ปิดกั้นในส่วนอื่นๆ แต่ว่าในช่วงจังหวะปีนี้หรือใกล้ๆ เราก็ลองมาลุยงานละครก่อนค่ะ เราสามารถรับงานหนังได้เหมือนเดิมไหม? ได้ค่ะ ปีนี้น่าจะมีแพลนมีหนังสักเรื่องนึงค่ะ เสียดายโอกาสที่ก่อนหน้านี้เรารับงานได้หลายช่องไหม? ไม่หรอกค่ะ เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้รับหลายๆ ช่อง จริงๆ เหมือนเรารู้สึกผิดนะเพราะมีหลายคนอยากให้เราไปเล่นค่ะ แต่เวลาในชีวิตเราต้องเลือก เราก็เลือกแล้วล่ะว่าถ้าปีนึงเราต้องป้อนให้เราสักเรื่องนึงก็โอเค อยู่ได้แล้วค่ะ ทางช่องดูแลเราเป็นไงบ้าง? ดูแลดีค่ะ ผู้ใหญ่ที่ช่องก็คุ้นเคยกันอยู่แล้ว ทั้งพี่ตู่ พี่ดิว เป็นพี่ที่เราเคารพอยู่แล้วค่ะ.
ออม สุชาร์ แฮปปี้ทำบุญวันเกิดกับเด็กๆ ที่บ้านราชาวดี เผยให้เช็คเงินสด 99,999 บาท เป็นของขวัญให้แม่ในวันเกิดตนเอง แย้มมีหนุ่มในวงการตามจีบแต่ยังกั๊กเพื่อน แต่ไม่ใช่ท็อป จรณ รับเซ็นสัญญาละครช่อง 3 ไว้ 3 ปี แต่ไม่เบรกงานที่จีน
null
ออม สุชาร์ มานะยิ่ง,ความรัก,แฟน,หนุ่มในวงการ,จีบ,เซ็นสัญญา,ช่อง 3,3 ปี,ละคร,วันเกิด,ทำบุญ,บ้านราชาวดี,ของขวัญวันเกิด,เช็คเงินสด,ข่าว,ข่าวบันเทิง,บันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์,บันเทิงไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/562442
มิโตรวิช โขกเบิกร่อง หมดครึ่งแรกเซอร์เบียออกนำสวิตฯ 1-0
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ในคืนวันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน 2561 โดยเกมนัดที่ 2 ของกลุ่ม อี ที่สนามคาลินินกราด สเตเดียม เป็นการดวลกันระหว่าง ทีมชาติเซอร์เบีย พบกับ ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์,เริ่มเกมในครึ่งแรกไปได้เพียงแค่ 5 นาที เป็นเซอร์เบียที่ขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว ดูซาน ทาดิช เปิดบอลจากฝั่งขวาไปให้ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ขึ้นโขกตุงตาข่าย,ถัดมาอีก 5 นาที สวิตเซอร์แลนด์ได้ลุ้นบ้าง ริคาร์โด โรดริเกวซ เปิดจากเส้นหลังไปให้กับ เบลริม เซไมลี ยิงเล่นทางหลุดเสาสองออกไป,นาที 30 สตีเวน ซูเบอร์ จ่ายบอลตัดแนวรับเซอร์เบียให้กับ เบลริม เซไมลี หลุดเข้ายิงอีกครั้ง แต่ยังโดน วลาดิเมียร์ สตอยโควิช เซฟเอาไว้ได้แบบหวุดหวิด ทำให้หมดครึ่งแรกเซอร์เบียยังนำอยู่ 1-0.,11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม,ทีมชาติเซอร์เบีย : วลาดิเมียร์ สตอยโควิช, ดัสโก โทซิช, ลูกา มิลิโวเยวิช, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช, ดูซาน ทาดิช, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, นิโกลา มิเลนโควิช, ฟิลิป คอสติช, เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช, เนมันยา มาติช,ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ : ยานน์ ซอมเมอร์, สเตฟาน ลิชต์สไตเนอร์, มานูเอล อคันญี, ฮาริส เซเฟโรวิช, กรานิต ชากา, วาลอน เบห์รามี, ริคาร์โด โรดริเกซ, สตีเวน ซูเบอร์, เบลริม เซไมลี, ฟาเบียน แชร์, เซอร์ดาน ชากิรี.,ติดตามการวิเคราะห์เจาะลึกฟุตบอลได้ที่ ,https://www.thairath.co.th/sport/preview,ร่วมกิจกรรมทายผลแชมป์บอลโลก 2018 ลุ้นรางวัลรวมมูลค่า 32 ล้านบาท และอื่นๆ อีกมากมาย ,ที่นี่, วันนี้ ถึง 14 ก.ค. 61
อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช โขกทำประตูตั้งแต่ต้นเกม ช่วยให้ เซอร์เบีย ออกนำ สวิตเซอร์แลนด์ อยู่ในครึ่งแรก 1-0
กีฬา,ฟุตบอลโลก
ผลบอล,ฟุตบอลโลก,ทีมชาติเซอร์เบีย,ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์,ผลบอลโลก
https://www.thairath.co.th/sport/worldcup/1315582
ล่าหื่นโรคจิตทำสาวผวา ออกลงมือลากข่มขืน ตบทรัพย์ในคอนโด
มีหญิงสาวตกเป็นเหยื่อแล้ว 4 ราย กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ชัดเจน คาดยังกบดานอยู่ในละแวกใกล้เคียง ด้านหญิงสาวที่พักอาศัยในคอนโดฯ ผวาหนัก หวั่นไอ้หื่นโผล่มาก่อเหตุอีก,กรณี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี พัก อยู่ห้อง 9/11 ชั้น 9 อาคารซี 6 คอนโดมิเนียมเมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สมโภชน์ สืบวงศกร รอง สว. (สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่าเมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้ลงมาจากห้องพักเพื่อมาซื้อของกินที่บริเวณชั้นล่างของอาคาร หลังจากซื้อของเสร็จได้มารอลิฟต์ฝั่งทางด้านเลขคู่เพื่อกลับขึ้นห้องพัก ขณะที่รอลิฟต์สังเกตเห็นคนร้ายเป็นชาย รูปร่างสูงใหญ่ อายุประมาณ 30-35 ปี ไว้ผมรองทรง ขึ้นลิฟต์มาพร้อมกัน พอถึงชั้น 10 ตนได้ออกจากลิฟต์เพื่อเดินลงบันไดหนีไฟไปยังห้องพักชั้น 9 จู่ๆชายดังกล่าวได้เดินตามหลังมาล็อกคอเอามือปิดปาก พร้อมทั้งขู่บังคับไม่ให้ขัดขืน และพยายามกดตัวลงกับพื้นหมายจะปลุกปล้ำขืนใจ จึงสะบัดตัวหนีออกมา พร้อมตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ คนร้ายเห็นท่าไม่ดีเผ่นหนีไป,ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 ก.ย. พ.ต.ท.ยศวิน เอี่ยมพุ่ม รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้ประสานชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาเบาะแสของคนร้าย โดย พ.ต.ท.ยศวินเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งความจากหญิงผู้เสียหายที่พักอยู่ในคอนโดมิเนียมเมืองทองธานีแล้วรวมทั้งหมด 4 ราย ที่ถูกคนร้ายคนเดียวกันนี้ เดินตระเวนก่อเหตุที่อาคารซี 6 ซี 7 และซี 8 ในแต่ละอาคารลักษณะการก่อเหตุจะเหมือนๆกัน ล่าสุดทราบตัวคนร้ายรายนี้แล้ว คือนายชานนท์ ทองรอด อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 5 ต.ดอนตะหนิน อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ขณะก่อเหตุกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้อย่างชัดเจน พนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาล จ.นนทบุรี ออกหมายจับเรียบร้อยแล้วในข้อหา กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา,พ.ต.ท.ยศวินเปิดเผยอีกว่าจากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าคนร้ายรายนี้มีพฤติกรรมคล้ายคนมีอาการทางจิต เดินตระเวนเคาะประตูห้อง ตามอาคารของคอนโดมิเนียมแต่ละชั้น หากพบเหยื่อเป็นหญิงสาวหน้าตาดี เดินอยู่บนอาคารตามลำพังก็จะลงมือเข้าลวนลามจับของสงวนทันที โดยเฉพาะห้องที่ไม่มีเหล็กดัด หากเจ้าของห้องเป็นผู้หญิงพักอยู่ตามลำพังมาเปิดประตูก็จะถูกคนร้ายบุกเข้าไปย่ำยีขืนใจ มีหญิงผู้เสียหายรายหนึ่งถูกนายชานนท์ก่อเหตุบุกเข้าไปในห้องลงมือขืนใจจนสำเร็จความใคร่เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ผู้เสียหายอับอายไม่กล้าแจ้งความดำเนินคดี ถือเป็นบุคคลอันตรายและเป็นภัยสังคม ตำรวจเชื่อว่านายชานนท์ยังคงวนเวียนอยู่ในโซนของคอนโดมิเนียมเมืองทองธานี นายชานนท์เคยพักอาศัยที่คอนโดมิเนียมเมืองทองธานี แต่ได้หายหน้าไปหลายเดือน ก่อนจะย้อนกลับมาก่อเหตุ กำลังเร่งตามล่ามาดำเนินคดีแล้ว,วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสังเกตการณ์ที่บริเวณอาคารซี 6 ซี 7 และซี 8 คอนโดมิเนียมเมืองทองธานี เป็นจุดที่นายชานนท์ลงมือก่อเหตุบุกข่มขืนหญิงสาวที่พักอาศัยในอาคาร พบว่าเป็นอาคารสูง 16 ชั้น มีผู้พักอาศัยเกือบเต็มทั้งอาคาร แต่ละอาคารเข้าออกได้เพียงประตูเดียว มี รปภ.ดูแลทุกอาคาร ผู้พักอาศัยต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าออก และจากการสังเกตพบว่าบางคนที่ไม่มีคีย์การ์ดจะอาศัยช่วงจังหวะคนมีคีย์การ์ดเปิดประตูเดินตามเข้าไป อาจว่าเป็นช่องทางคนร้ายเข้าไปก่อเหตุ ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากหญิงสาวรายหนึ่ง ที่พักอาศัยอยู่ในอาคารซี 6 ว่า หลังทราบข่าวรู้สึกตกใจกลัวมาก ถือเป็นภัยน่ากลัวสำหรับผู้หญิง ที่ต้องเดินกลับห้องพักและอาศัยอยู่ตามลำพัง อยากให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด ตอนนี้บรรดาหญิงสาวที่พักอาศัยในคอนโดฯต่างมีความวิตกไปตามๆกัน แทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่รู้ว่าคนร้ายจะโผล่มาก่อเหตุอีกวันไหน
ตำรวจระดมกำลังออกติดตามไล่ล่าไอ้หื่นโรคจิต หลังตระเวนก่อเหตุข่มขืนหญิงสาวตามคอนโดมิเนียมเมืองทองธานี เผยพฤติกรรมสุดแสบเดินตระเวนเคาะประตูห้องตามอาคารคอนโดฯ หากพบเหยื่อหญิงสาวหน้าตาดีอยู่คนเดียวจะลงมือบุกข่มขืน
ข่าว,ทั่วไทย
ข่มขืน,เมืองทองธานี,อาคารซี 6,ชานนท์ ทองรอด,คอนโดเมืองทอง
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1078207
นสพ.ตำรวจพลเมือง ยืนยันพร้อมคืนเงิน
แห่เข้ายื่นเรื่องขอลาออกเพื่อประสงค์ขอรับเงินค่าสมัครเป็นสมาชิกคืนกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายที่ทางคณะกรรมการจัดระเบียบสังคมของ จ.พิษณุโลก ได้กำหนดรับเรื่องขอลาออกไว้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้อำนวยการศูนย์ซึ่งนำเอกสารหลักฐานของสมาชิกในกลุ่มของตนมายื่นเรื่องด้วย เพื่อแจ้งความประสงค์ขอเงินค่าสมัครสมาชิกจำนวน 1,500 บาท และเงินค่าสมัครเป็นผู้สื่อข่าวจำนวน 700 บาทคืน,ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการศูนย์บางราย เข้าพบกับ นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก เพื่อขอความมั่นใจเกี่ยวกับกรณีที่มีสมาชิกในกลุ่มของตนเสียชีวิต และผู้รับผลประโยชน์ได้รับเงินจากสวัสดิการของ นสพ.ตำรวจพลเมืองและสมาคมฌาปณกิจสงเคราะห์เครือข่ายประชาชนไปแล้ว รวมทั้งหมดจำนวน 85,000 บาท เมื่อตนในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ขอลาออกจากการเป็นสมาชิก ผู้รับผลประโยชน์รายนั้นจะถูกเรียกขอเงินจำนวนดังกล่าวคืนหรือไม่ นายธานินทร์จึงชี้แจงถึงข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ทราบ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ทางสมาคมก็จ่ายเงินให้ไม่ครบตามที่ได้ประชาสัมพันธ์ไว้ คือเมื่อสมาชิกเสียชีวิตจะได้ศพละ 1 ล้านบาทเช่นเดียวกัน คงจะไม่มีเหตุผลใดที่จะขอเงินส่วนนี้คืนจากผู้รับผลประโยชน์,ด้าน น.ส.ธิติยาพร ธรรมชลทรัพย์ รอง บก. นสพ.ตำรวจพลเมือง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวไทยรัฐว่า พวกตนเป็นผู้แทนของ นายทรัพย์อนันต์ เจริญวัฒนอุดม บรรณาธิการ นสพ.ตำรวจพลเมือง มาตรวจสอบรายชื่อสมาชิกทั้งหมดว่ามีใครมาขอเงินคืนจำนวนเท่าไหร่ จากนั้นจะเดินทางมาอีกครั้งในวันที่ 7 กรกฎาคม 2558 เพื่อจ่ายเงินคืนให้ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป สำหรับรายชื่อของสมาชิกที่ขอลาออก ส่วนแรกอยู่ในโครงการที่ 11 จำนวน 50 ราย ได้ส่งเรื่องไปยังอีกองค์กรหนึ่ง ส่วนที่สองในโครงการที่ 22 จำนวน 560 ราย อยู่ในสวัสดิการเพื่อสมาชิก นสพ.ตำรวจพลเมือง และส่วนที่สามสมาชิกที่ยื่นเรื่องไว้จำนวนหนึ่งที่ไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนของทางสมาคมจะตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนดำเนินการตามระเบียบต่อไป.
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก สมาชิก นสพ.ตำรวจพลเมือง และผู้อำนวยการศูนย์แต่ละเขต
ข่าว,ทั่วไทย
หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง,นสพ.ตำรวจพลเมือง,ลาออก,คืนเงิน,ค่าสมัครสมาชิก,ธิติยาพร ธรรมชลทรัพย์,เงินค่าสมัคร,ผู้สื่อข่าว,ข่าว,ข่าวภูมิภาค,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/news/local/508634
นักวิจัยสหรัฐฯ ชี้จอดรถตากแดด 54 องศาฯฆ่าเชื้อ COVID-19
วานนี้ (21 พ.ค.2563) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวในแถลงข่าวสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ว่า ขณะนี้มีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยจอร์เจีย ผลผลวิจัยว่าไวรัสโคโรนา COVID-19 มีความคงทนแค่ไหนที่อยู่พื้นผิว ที่เคยบอกว่าจะอยู้ได้ 2-3 วัน โดยแต่ไวรัสจะตายถ้ามีอุณหภูมิสูง และจะมีชีวืตนานขึ้ยถ้าอุณหภูมิต่ำลง ดังนั้นอุณหภูมิที่สูงขึ้นจากการจอดรถตากแดดสามารถฆ่าไวรัสโฆษก ศบค.กล่าวว่า หลายคนชอบจอดรถ แล้วจะต้องมีที่บังแดดเพื่อให้ร่มๆ ตอนนึ้ควรจะตากรถกลางแดด ให้โดนแดดจัดๆ เพราะถ้าปิดกระจกแล้ว อุณหภูมิในรถจะสูงกว่า 54 องศาเซลเซียส เมื่อเข้ามาปลอดภัยปลอดโรค เรื่องนี้อาจจะเป็นเทรนด์ใหม่ปรับตัวเข้ากับชีวิตวิถีใหม่ ทุกคนไปอาจต้องหาที่จอดกลางลานจอดรถให้แดดลงได้เต็มที่
ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ระบุจอดรถตากแดดที่มีอุณหภูมิสูง 54 องศาเซลเซียสนาน 20 นาที ฆ่าเชื้อโรค COVID-19 ได้ถึง 99.99 % หมอทวีศิลป์แนะเทรนด์ใหม่จอดรถกลางแดด
สังคม
COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,โควิด19,จอดรถตากแดด
https://news.thaipbs.or.th/content/292768
ล่าระทึก 2 ชายหญิง สงสัยยิง-เผาทิ้งรถซีอาร์วีที่ขอนแก่น หนีเข้าเลย
ตำรวจเลย ไล่ล่ารถ 2 คัน พร้อมผู้ต้องสงสัย ก่อเหตุยิงใส่รถซีอาร์วีแล้วเผาทิ้งที่ขอนแก่นเมื่อสัปดาห์ก่อน คันแรกพุ่งชนรถกู้ภัย รถตำรวจหนีไปได้ อีกคันมีชาย 1 หญิง 1 จนมุมลงมาโบกแท็กซี่หนีแต่ไม่รอดโดนจับพร้อมปืน กระสุน ยาบ้า นำตัวไปสอบขยายผลสืบเนื่องจากเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจสภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้รถเก๋ง ริมถนนสายมัญจาคีรี-พระยืน บริเวณทางโค้งใกล้ปากทางเข้าบ้านนาฮี ต.โพนเพ็ก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมเดินทางไปที่เกิดเหตุ พบรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซีอาร์วี รุ่นปี 2013 ทะเบียน กน-6999 จันทบุรี สภาพถูกไฟไหม้ทั้งคัน ที่ประตูหน้าข้างคนขับมีรอยกระสุน 1 รู และที่ฝาถังน้ำมัน 1 รู และพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ริมถนนใกล้จุดที่รถถูกไฟไหม้จำนวน 7 ปลอก ไม่พบคนขับและคนเจ็บ จึงได้สืบสวนและติดตาม จนทราบว่าน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย หรือเรื่องทะเลาะวิวาทจนมาเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 6 มิ.ย. พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผกก.สภ.เมืองเลย ได้รับการประสานจาก สภ.มัญจาคีรี ว่าชุดสืบสวนได้ติดตามมีรถฮอนด้าซีวิค ไม่ทราบทะเบียน ผู้ต้องสงสัยจำนวน 2 คัน ที่เกี่ยวข้องกับคดียิงเผาซีอาร์วี พื้นที่ สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ได้หลบหนีเข้าพื้นที่ จ.เลย แต่รถทั้ง 2 คัน ได้ขับฝ่าไฟแดงหนีไปทางมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ถนนสายเลย-เชียงคาน ต.เมือง อ.เมืองเลย คันแรกเป็นรถฮอนด้าซีวิค สีขาว ไม่ทราบทะเบียน มีชายไม่ทราบอายุ 2 คน ขับหลบหนีตำรวจเข้าไปในซอยหมู่บ้านอเวนิวปาร์คแต่เป็นทางตัน คนร้ายได้กลับรถมาเจอรถ จยย.ของกู้ภัยฯ ชนจนพลิกคว่ำ จากนั้นขับหลบหนีเข้าเมือง ชนรถเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามจับกุม จนหนีรอดไปได้ส่วนคันที่สองเป็นรถฮอนด้าซีวิค สีน้ำเงิน ทะเบียน กษ 3912 ภูเก็ต ขับหลบหนีไปทางสามแยกปากภู ต.เมือง อ.เมืองเลย เจ้าหน้าที่ได้ยิงสกัดที่ล้อรถ แต่คนร้ายได้ขับหนีเข้าไปที่วัดศรีทัศน์ บ้านปากภู ต.เมือง อ.เมืองเลย ไปชนกำแพงวัดและต้นไม้ จากนั้นคนร้ายมีชายวัยรุ่น 2 คน หญิง 1 คน ได้รีบลงจากรถ ไปโบกรถแท็กซี่ให้ไปส่งที่ จ.ขอนแก่น แต่เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้ที่ด่านตรวจสี่แยกศาลากลาง จึงได้นำตัวมาที่เกิดเหตุภายในวัดศรีทัศน์ เพื่อตรวจค้นรถพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 50 นัด ยาบ้า 50 เม็ด ยาไอซ์จำนวนหนึ่ง ป้ายทะเบียนปลอม ชว 1606 กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แผ่น จึงนำตัวมาขยายผลที่ สภ.เมืองเลยเบื้องต้นทราบชื่อ ทั้ง 2 คน1.นางสาวสุพัตรา ธรรมจิต อายุ 31 ปี อยู่ ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น 2.นายนิกร การเต อายุ 31 ปี อยู่ ต.โนนหญ้า อ.พล จ.ขอนแก่น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลรายละเอียดจะแจ้งให้ทราบต่อไป.
ตำรวจเลยไล่ล่ารถ 2 คัน พร้อมผู้ต้องสงสัย ก่อเหตุยิงใส่รถซีอาร์วีแล้วเผาทิ้งที่ขอนแก่นเมื่อสัปดาห์ก่อน คันแรกพุ่งชนรถกู้ภัย รถตำรวจหนีไปได้ อีกคันมีชาย 1 หญิง1 จนมุมลงมาโบกแท็กซี่หนีแต่ไม่รอด
ข่าว,ทั่วไทย
เผารถทิ้ง,เผารถซีอาร์วี,จับผู้ต้องหาเผารถ,คดีเผารถ ขอนแก่น,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1862678
ตร.เชียงใหม่ จับแม่ค้าลอบขายหวยไข่ไก่
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 8 ธ.ค.57 พ.ต.ท.ดร.วิทค์ รัตนฟูวงศ์ รอง.ผกก.ป.สภ.สันกำแพง เชียงใหม่ พ.ต.ท.ภิชณุ แก้วยอด สว.ป.สภ.สันกำแพง พร้อมชุดสืบสวนได้นำกำลังตำรวจออกตรวจที่ตลาดสด บ้านสันโค้ง หมู่ 1 ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่ามีพ่อค้า-แม่ค้าเล่นการพนันจับสลาก โดยเอาไข่ไก่หรือของใช้อย่างอื่นมาออกสลากเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกัน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นางบุญยอม ปวงคำ อายุ 63 ปี บ้านอยู่ ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ของกลางมีไข่ไก่สดจำนวน 5 ถุง ถุงละ 10 ฟอง จึงได้นำตัวมาที่โรงพัก ในที่สุดผู้ต้องหาได้เอาหมายเลขต่างๆ 10 ชิ้น ที่ยัดหน้าอกออกมาให้ทางเจ้าหน้าที่หมด เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเล่นการพนัน (จับสลากไข่ไก่) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อหา ส่งตัวพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย,ด้าน พ.ต.ท.ภิชณุ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาจับพ่อค้า-แม่ค้าตามตลาดสดต่างๆ ในพื้นที่ได้รวม 14 รายแล้ว ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีส่งฟ้องศาล ส่วนการเล่นการพนันคือ เอาไข่ไก่หรือของใช้อย่างอื่นออกจับสลาก มีหมายเลข 00-99 ขายสลากละเท่าไหร่ก็แล้วแต่ เมื่อเจ้ามือประกาศจะจับรางวัล และถ้าเบอร์ไม่ออกตามที่ลูกค้าซื้อเจ้ามือจะเป็นฝ่ายรับแบบเดียวกับหวยใต้ดิน เท่าที่ทราบมาพ่อค้า-แม่ค้าทำกันมานาน สร้างฐานะได้ร่ำรวยเป็นแถว จนได้รับการร้องเรียนจึงออกปราบปรามเข้มงวดต่อไป
ตำรวจ สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ จับแม่ค้าขายสลาก (หวยไข่ไก่) พนันเอาทรัพย์สินกัน ที่ตลาดสดบ้านสันโค้ง ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง ระบุทำเจ้ามือรวยมาหลายรายแล้ว
ข่าว,ทั่วไทย
หวยไข่ไก่,จับแม่ค้าขายสลากไข่ไก่,การพนัน,ต.ทรายมูล,อ.สันกำแพง,รวยหวย,จับหวย,สภ.สันกำแพง,เชียงใหม่,บ้านสันโค้ง
https://www.thairath.co.th/news/local/467889
แมนฯซิตี้ แม่นโทษดับลิเวอร์พูล ผงาดแชมป์คอมมิวนิตีชิลด์
การแข่งขันฟุตบอลคอมมูนิตี ชิลด์ 2019 ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 4 ส.ค. หงส์แดง ลิเวอร์พูล พบกับ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้,เกมนี้ เยอร์เกน คลอปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ไม่มี ซาดิโอ มาเน ที่ยังไม่ฟิต 3 ประสานแนวรุกใช้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต เฟอร์มิโน และ ดิวอค โอริกี ขณะที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา นายใหญ่แมนฯซิตี้ ใช้ แบร์นาโด ซิลวา, ราฮีม สเตอร์ลิง และ เลรอย ซาเน ทะลวงแนวรับหงส์แดง,เปิดฉากครึ่งแรกนาทีที่ 4 แมนฯซิตี้ ได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง จ่ายบอลให้ เลรอย ซาเน หลุดไปซัดในเขตโทษ บอลเข้าข้างตาข่าย,จากนั้นนาทีที่ 6 โอกาสของลิเวอร์พูล เมื่อ โรแบร์โต เฟอร์มิโน กระดกบอลหลบกองหลังแล้ววอลเลย์ด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่บอลตรงตัว เคลาดิโอ บราโว นายด่านแมนฯซิตี้,จากนั้นนาทีที่ 12 แมนฯซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา กระดกบอลในเขตโทษเข้ากลางให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ยิงด้วยซ้าย อลิสสัน เซฟไม่อยู่ บอลเข้าประตูไป,ถึงนาทีที่ 15 ลิเวอร์พูลน่าตีเสมอสุดๆ เมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กระชากเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนซัดเน้นๆ บอลชนเสาออกไป,จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำ ลิเวอร์พูล 1-0,กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 48 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นก่อนเลย ดิวอค โอริกี ได้ซัดจากหน้าเขตโทษ บอลแฉลบ แต่ บราโว ยังรับไว้ได้ และในนาทีเดียวกัน เป็นโอกาสของ แมนฯซิตี้ เมื่อ ดาบิด ซิลบา จ่ายบอลทะลุขึ้นมาให้ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดไปยิงในเขตโทษ บอลชนเสาออกไป,จากนั้นนาทีที่ 57 ลิเวอร์พูล ได้ลูกเตะมุมฝั่งซ้าย เทรนต์ อเล้กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดบอลเข้าเขตโทษ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ตวัดยิงด้วยซ้าย บอลชนคานกระดอนเกือบเข้าประตู,จากนั้นนาทีที่ 69 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นอีกแล้ว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ยิงแถวกรอบเขตโทษ บอลแฉลบไปที่เสาแรก แต่ บราโว พุ่งรับไว้ได้,ถึงนาทีที่ 73 เรือใบสีฟ้า เกือบได้ประตูเพิ่มเมื่อ เควิน เดอ บรุน ได้กดด้วยซ้าย อลิสสัน เบคเกอร์ เซฟไว้ได้,ถัดมา 4 นาที ลิเวอร์พูล ตีเสมอ 1-1 จนได้ จากจังหวะเปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษ กองหลังแมนฯซิตี้โหม่งสกัดไปดีไปเข้าทาง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กระดกเข้ากลาง โจเอล มาติป โขกเข้าไปเลย,และในนาทีที่ 83 ลิเวอร์พูล เกือบขึ้นนำ นาบี เกอิตา ได้ยิงเน้นๆ แต่ บราโว เซฟได้อย่างยอดเยี่ยม,เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+2 ลิเวอร์พูล น่าได้ประตูที่ 2 สุดๆ เมื่อ ซาลาห์ หลุดไปยิงเขตโทษ บอลติดเซฟ แต่ซาลาห์ ดหม่งซ้ำอีก บอลจะเข้าประตูอยู่แล้ว ไคล์ วอลเกอร์ วิ่งมาหวดทิ้งไปหวุดหวิด,จบเกม 90 นาที ลิเวอร์พูล เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ต้องตัดสินหาผู้ชนะด้วยการยิงจุดโทษ และเป็น แมนฯ ซิตี้ ยิงแม่นกว่า ชนะไป 5-4 คว้าแชมป์ไปครอง,ลิเวอร์พูล,เซอร์ดัน ชาคิรี เข้า,จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ไม่เข้า,อดัม ลัลลานา เข้า,อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด แชมเบอร์เลน เข้า,โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เข้า,แมนเชสเตอร์ ซิตี้,อิลคาย กุนโดกัน เข้า,แบร์นาโด ซิลวา เข้า,ฟิล โฟเดน เข้า,โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก เข้า,กาเบรียล เฆซุส เข้า
เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดวลจุดโทษชนะ หงส์แดง ลิเวอร์พูล 5-4 หลังเสมอใน 90 นาที 1-1 คว้าแชมป์คอมมิวนิตี ชิลด์ มาครอง
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
ลิเวอร์พูล,แมนเชสเตอร์ ซิตี้,คอมมิวนิตี ชิลด์,ผลบอล
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1630306
วางยาเบื่อฆ่า ตัวเงินตัวทองตายคาคลองหนองโพธิ์ จ.สระบุรี
วันนี้ (2 ก.พ.2561) นายเบงจะ ตรีสาร รักษาการผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 จ.ปราจีนบุรี เข้าตรวจสอบกรณีที่ประชาชนร้องเรียนว่ามีซากตัวเงินตัวทอง ลอยอยู่ในคลองหนองโพธิ์ ประมาณ 10 ซาก ท้องที่หมู่ที่ 10 ต.หนองสรวง อ.วิหารแดง จ.สระบุรีทั้งนี้เจ้าหน้าที่จากส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า พร้อมด้วยสัตวแพทย์จาก สบอ.1 ปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่ปกครองและเจ้าหน้าจากมูลนิธิปอเต๊กตึ๊ง ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่ามีซากตัวเงินตัวทองตายจำนวนมาก และต้องเก็บซากตัวเงินตัวทอง และซากปลาที่ตายลอยอยู่ในลำคลองขึ้นมากำจัดเพื่อไม่ให้เกิดการเน่าเสียพร้อมกันนี้ ประสานงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 7 เข้าเก็บตัวอย่างน้ำไปวิเคราะห์หาสารปนเปื้อนและกำหนดแนวทางบำบัดคุณภาพน้ำต่อไป เนื่องจากคาดว่าเกิดจากการวางยาเบื่อ แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปตรวจสอบทั้งนี้สำนักฯ โดยได้ลงบันทึกประจำวันเพื่อหาคนวางยาเบื่อ พร้อมทั้งเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนและขอความร่วมมือในเฝ้าระวังดูแลสัตว์ป่าคุ้มครองทุกชนิดในพื้นที่ด้วย เนื่องจากตัวเงินตัวทองเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองภายใต้พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
กรมอุทยานฯ พร้อมหน่วยงานในพื้นที่เร่งกำจัดซากเหี้ย ที่คาดถูกวางยาเบื่อตายในคลองหนองโพธิ์ กว่า 10 ตัว พร้อมทำความเข้าใจประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับการจัดการสัตว์ป่าคุ้มครอง และเก็บตัวอย่างน้ำหาสารปนเปื้อน
สิ่งแวดล้อม
ตัวเงินตัวทอง,คลองหนองโพธิ์,สระบุรี,สบอ.1,ปราจีนบุรี,สัตว์ป่าคุ้มครอง,เหี้ย,คุณภาพน้ำ,สารเคมี,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/269886
iLaw: ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับ สพธอ.2556: โทษคุกฐานก้อปปี้ไฟล์ เก็บภาพโป๊เด็ก
เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2556 สำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) จัดงานเผยแพร่ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ) ฉบับใหม่ โดยมีกำหนดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างดังกล่าวผ่านทางหน้าเว็บไซต์จนถึงวันที่ 15 เมษายนนี้สพธอ.กล่าวถึงเจตนารมณ์ในการแก้ไขร่างกฎหมายฉบับนี้ว่า เนื่องจาก พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ฉบับปี 2550 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ยังไม่ครอบคลุมความผิดหลายอย่าง เช่น ปัญหาเรื่องอีเมลสแปม และมีการบังคับใช้ที่ผิด เช่น การนำพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ไปใช้ฟ้องคดีหมิ่นประมาทบุคคล เป็นต้นเมื่อพิเคราะห์ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับสพธอ.2556 (เผยแพร่วันที่ 3 เมษายน) ประเด็นสำคัญที่แก้ไขเพิ่มเติม มีดังนี้ นับว่าเป็นประเด็นสำคัญที่เพิ่มขึ้นมาในร่างฉบับนี้ ที่กำหนดให้การ ทำซ้ำ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นเป็นความผิด คณะผู้ร่างให้เหตุผลของการเขียนมาตรานี้ว่า เพื่อป้องกันการขโมยข้อมูล เพราะก่อนหน้านี้มีคดีที่ศาลตัดสินว่า การก้อปปี้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ไม่ถือเป็นการลักทรัพย์ เพราะไม่ถือว่ามีทรัพย์อะไรถูกเอาไปแม้คณะผู้ร่างกฎหมายจะชี้แจงว่า เจตนารมณ์ของร่างมาตรานี้มุ่งคุ้มครองข้อมูลคอมพิวเตอร์ในส่วนที่ไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา แต่ยังมีข้อกังวลว่าร่างมาตรานี้อาจถูกใช้ซ้ำซ้อนกับกฎหมายลิขสิทธิ์ ซึ่งคณะผู้ร่างชี้แจงว่า การบังคับใช้กฎหมายในกรณีที่มีกฎหมายหลายฉบับบัญญัติฐานความผิดทับซ้อนกัน ให้ใช้หลักการกระทำ กรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท คือ ให้ลงโทษผู้กระทำความผิดตามบทกฎหมายที่มีอัตราโทษสูงสุด ในร่างนี้จึงอาจใช้อัตราโทษให้ สอดรับ กับกฎหมายลิขสิทธิ์คำชี้แจงนี้ชี้ให้เห็นว่า แม้ผู้ร่างไม่ได้ตั้งใจจะให้ใช้ร่างมาตรานี้กับเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา แต่ก็เป็นไปได้ที่กฎหมายจะถูกนำมาใช้ในฐานะภาคต่อของกฎหมายลิขสิทธิ์ ซึ่งการเขียนเรื่องนี้เอาไว้ในพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เท่ากับเป็นการกำหนดว่าต่อไปนี้ การทำซ้ำเป็นอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และเป็นไปได้ว่า จะมีการตีความกฎหมายแบบแข็งกระด้างเพื่อเอาผิดกับการก้อปปี้ข้อมูลโดยกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป ทั้งที่กฎหมายลิขสิทธิ์มุ่งเอาผิดเฉพาะกรณีการละเมิดเพื่อการค้าหากำไรเท่านั้น มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ(๔) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้-ไม่มี- เสนอปรับแก้บทบัญญัติในประมวลกฎหมายอาญาให้ครอบคลุมการครอบครองภาพลามกของผู้เยาว์ โดยหากมีคอมพิวเตอร์เข้าไปเกี่ยวข้อง เช่น การเผยแพร่ผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต ก็อาจกำหนดระวางโทษให้สูงขึ้นกว่าปกติ แนวทางดังกล่าวน่าจะมีความเหมาะสมกว่าการกำหนดฐานความผิดไว้ในกฎหมายฉบับนี้ กำหนดฐานความผิดไว้ในกฎหมายฉบับนี้ อาจกล่าวได้ว่า ร่างมาตรานี้เป็นนวัตกรรมใหม่ของเรื่อง ลามก ใน กฎหมายไทย ร่างกฎหมายฉบับนี้กำหนดให้การครอบครองภาพลามกของเด็กหรือเยาวชนเป็นความผิด ขณะที่ประมวลกฎหมายอาญากำหนดคำว่าลามกอนาจารไว้อย่างกว้างๆ และไม่ได้ระบุชัดเจนว่ามุ่งเน้นคุ้มครองประชาชนกลุ่มใดคณะผู้ร่างเปิดช่องทางเลือกเอาไว้ว่า หากไม่เขียนเรื่องนี้เอาไว้ในกฎหมายอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ก็อาจไปแก้ไขในประมวลกฎหมายอาญาก็ได้อย่างไรก็ดี ความน่ากลัวของข้อเสนอนี้คือการกำหนดว่า เพียงแค่ ครอบครอง ก็ถือเป็นความผิดแล้ว ไม่ได้มีองค์ประกอบความผิดเหมือนความผิดอื่นๆ ที่ต้องมีการ นำเข้า หรือ เผยแพร่ส่งต่อ หรือ มีไว้เพื่อประโยชน์ทางการค้า นั่นคือ เพียงแค่มีไฟล์บางอย่างที่มีลักษณะลามกของเด็กและเยาวชน ก็นับว่าเป็นความผิดโดยทันที โดยไม่ได้จำกัดว่าจะ ได้มา อย่างไร? และ มีไว้ เพื่อวัตถุประสงค์ใด ซึ่งมีข้อน่ากังวลว่าเพียงแค่การมีไฟล์อยู่ในเครื่องของตนจะเท่ากับว่ามีความผิดฐานเป็นผู้ ครอบครอง ไฟล์นั้นไปโดยทันทีได้หรือไม่ นอกจากนี้ ร่างมาตรานี้ยังกำหนดโทษจำคุกเอาไว้สูงถึงหกปี มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ(๑) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน (๒) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน(๓) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับมาตรา ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ต้องระวางโทษ มาตรา 14 ในพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ปัจจุบัน เป็นมาตราที่ถูกใช้เอาผิดคนมากที่สุด ซึ่งเกี่ยวกับการกระทำความผิดในเชิงเนื้อหา เช่น การโพสต์ข้อมูลหมิ่นประมาทคนอื่น การหลอกลวงกันในอินเทอร์เน็ต หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ เป็นต้นผู้ร่างกฎหมายชี้แจงว่า แท้จริงแล้วมาตรา 14 (1) ไม่ได้เขียนไว้เพื่อใช้กับกรณีหมิ่นประมาท เพราะการหมิ่นประมาทสามารถใช้ประมวลกฎหมายอาญาได้ แต่มาตรา 14 (1) ที่พูดถึงข้อมูลปลอมนั้นตั้งใจจะให้ใช้กับกรณีการฟิชชิ่ง (Phishing) แต่ตลอด 4-5 ปีที่ใช้กฎหมายมาปรากฏว่ามาตรานี้ถูกตีความผิดมากที่สุด และถูกนำไปใช้ฟ้องร้องกันแทนกฎหมายหมิ่นประมาท ดังนั้นเจตนารมณ์ของการแก้ไขครั้งนี้จึงพยายามปรับถ้อยคำให้ใช้กับกรณีฟิชชิ่งเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ลดโทษลงจากโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี เหลือจำคุกไม่เกิน 1 ปีอย่างไรก็ดี มาตรา 14 (2) และ (3) เดิมที่เป็นเรื่องเนื้อหาที่กระทบต่อความมั่นคงนั้น ยังคงอยู่ในร่างฉบับใหม่ โดยอาจมีการเปลี่ยนแปลงอัตราโทษ มาใช้วิธีกำหนดโทษขั้นต่ำสุดแทนการกำหนดโทษขั้นสูงสุด โดยในเอกสารของสพธอ.เขียนกำกับไว้ว่า อาจเปลี่ยนมาใช้วิธีกำหนดโทษขั้นต่ำ เพื่อเปิดโอกาสให้ศาลได้ใช้ดุลพินิจในการกำหนดโทษหนักเบาต่อประเด็นนี้ มีข้อสังเกตว่า ตามหลักการเขียนอัตราโทษในกฎหมาย เพื่อเปิดให้ศาลใช้ดุลพินิจพิจารณาความหนักเบาแห่งการกระทำผิดได้นั้น ต้องใช้วิธีการกำหนดโทษขั้นสูงสุด (เช่น กำหนดโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน xx ปี) ไม่ใช่การกำหนดโทษขั้นต่ำ (เช่น กำหนดโทษจำคุกตั้งแต่ x – xx ปี) เพราะการกำหนดโทษขั้นต่ำจะทำให้ศาลไม่สามารถพิจารณาลงโทษอย่างเบาที่สุดสำหรับกรณีที่เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ได้ มาตรา ๑๕ ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๑๔ ปัญหาที่ชัดเจนที่สุดของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับปี 2550 ก็คือการกำหนดภาระความรับผิดของผู้ให้บริการ ว่าหาก จงใจสนับสนุนหรือยินยอม ให้มีการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นความผิด ต้องรับโทษเท่ากับผู้โพสต์ข้อความนั้น การเขียนกฎหมายลักษณะนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเติบโตของวงการธุรกิจในโลกออนไลน์ เพราะทำให้ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยหวาดผวาว่าตนเองอาจถูกลงโทษได้โดยไม่มีเจตนา และ มาตรานี้ก็ก่อให้เกิดระบบการเซ็นเซอร์ตัวเองอย่างกว้างขวางด้วยในร่างฉบับใหม่นี้ แก้ไขถ้อยคำใหม่ โดยเปลี่ยนจากคำว่า ผู้ให้บริการที่ จงใจสนับสนุนหรือยินยอม มาเป็นคำว่า ผู้ให้บริการที่ รู้หรือควรได้รู้ โดยมุ่งเฉพาะความผิดที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติคณะผู้ร่างทำข้อเสนอไว้สองลักษณะซึ่งไม่แตกต่างกันมากนัก แบบแรกกำหนดหน้าที่โดยอัตโนมัติของผู้ให้บริการว่า ต้อง รู้ หรือ ควรได้รู้ ข้อเสนอนี้มาจากฐานคิดที่ว่า ผู้ให้บริการมีหน้าที่ควบคุมดูแลระบบคอมพิวเตอร์ จึงย่อมรู้หรือควรจะได้รู้ว่ามีข้อมูลที่มีลักษณะเป็นความผิดอยู่แบบที่สอง ยังคงกำหนดหน้าที่โดยอัตโนมัติของผู้ให้บริการ แต่เขียนเพิ่มว่า ผู้ให้บริการที่ รู้ หรือ ควรได้รู้ ได้รับแจ้งจากพนักงานเจ้าหน้าที่ให้แก้ไขหรือระงับการทำให้แพร่หลาย ซึ่งต้องดำเนินการภายในระยะเวลาที่เหมาะสมทั้งนี้ ผู้ร่างเขียนเจตนารมณ์ของมาตรานี้เอาไว้ในเอกสารประกอบ( () ) ว่า มาตรานี้ไม่จำต้องกำหนดชัดเจนว่าจะถือว่าผู้ให้บริการรู้ต่อเมื่อได้รับแจ้งจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ว่ามีข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นความผิดอยู่ในระบบของตน เพราะถือว่า ผู้ให้บริการต้องมีมาตรการกำกับดูแลอยู่แล้ว หากกำหนดให้ถือว่า รู้ ต่อเมื่อได้รับแจ้งจากพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วอาจเป็นช่องว่างให้ผู้ให้บริการหลีกเลี่ยงหรือละเลยมาตรการในการกำกับดูแลตนเองและละเลยการตรวจสอบข้อมูลที่ไม่เหมาะสมข้อสังเกตที่มีต่อร่างมาตรานี้คือ การเปลี่ยนถ้อยคำจากคำว่า ผู้ให้บริการที่ จงใจสนับสนุนหรือยินยอม มาเป็นคำว่า รู้หรือควรได้รู้ ไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอะไร ความพยายามพูดถึงการปฏิบัติงานระหว่างพนักงานเจ้าหน้าที่กับผู้ให้บริการภายหลังที่ได้รับการแจ้งนั้น ก็ยังไม่ใช่มาตรการ Notice and Take down เพราะกฎหมายไม่ได้ให้ความสำคัญกับขั้นตอนและมาตรการการปฏิบัติหน้าที่ เท่ากับความรับผิดที่ผู้ให้บริการพึงมีโดยอัตโนมัติ มาตรา ๒๖ ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีจำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ให้บริการผู้ใดเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เกินเก้าสิบวันแต่ไม่เกินหนึ่งปีเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้มาตรา ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีจำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ให้บริการผู้ใดเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เกินกว่าเก้าสิบวันก็ได้ แต่มิให้เกินกว่าปี กฎหมายปัจจุบันกำหนดให้ผู้ให้บริการต้องเก็บข้อมูลการใช้งานคอมพิวเตอร์ หรือล็อกไฟล์เป็นเวลา 90 วัน และขยายเวลาได้ในกรณีพิเศษ แต่ขยายได้ไม่เกินหนึ่งปี ในร่างใหม่นี้แก้ไขให้ พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถร้องขอให้ผู้ให้บริการเก็บข้อมูลเอาไว้ได้สูงสุดสองปี และในกรณีที่จำเป็น รัฐมนตรีสามารถประกาศกำหนดให้เก็บข้อมูลนานกว่านั้นได้โดยไม่มีเพดานระยะเวลาต่อร่างมาตรานี้ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานหลายฝ่ายยังมองว่า ระยะเวลาสองปีอาจจะสั้นเกินไป เพราะบางครั้งกว่าสำนวนคดีความจะไปถึงชั้นศาลก็ใช้เวลาเกินสองปี ขณะที่ผู้ให้บริการก็มองว่าการให้เก็บข้อมูลโดยไม่มีระยะเวลาขั้นสูงสุดนั้นเป็นภาระที่ผู้ให้บริการต้องแบกรับเกินความจำเป็น อย่างน้อยที่สุดกฎหมายควรต้องกำหนดเพดานเวลาขั้นสูงสุดเอาไว้ด้วย มาตรา ๒๐ ในกรณีที่การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เป็นการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามที่กำหนดไว้ในภาคสองลักษณะ ๑ หรือลักษณะ ๑/๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีอาจยื่นคำร้องพร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอานาจขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการระงับการทำให้แพร่หลายนั้นเอง หรือสั่งให้ผู้ให้บริการระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นก็ได้มาตรา ในกรณีที่การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เป็นการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อาจเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา หรือที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่อาจยื่นคำร้องพร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอานาจขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการเอง หรือสั่งให้ผู้ให้บริการดำเนินการระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น จนกว่าพฤติการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปมาตราที่ว่าด้วยการบล็อคเว็บ ได้แก้ไขจากเดิมที่ให้บล็อคเว็บเฉพาะที่เป็นความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ (อันได้แก่ เรื่องลามก ความมั่นคง ข้อมูลปลอม) ร่างใหม่นี้ขยายประเด็นให้รวมถึงความผิดใน กฎหมายอื่นๆ ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือได้ด้วย เช่น หากมีเจ้าหน้าที่ทรัพย์สินทางปัญญา เจ้าหน้าที่องค์การอาหารและยา พบเห็นการโพสต์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่จำหน่ายสินค้าผิดกฎหมาย ก็ร้องขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายนี้ระงับการเผยแพร่เว็บไซต์ดังกล่าวได้กล่าวคือ ร่างกฎหมายนี้ครอบคลุมการกระทำความผิดทั้งที่เป็นการกระทำความผิดต่อระบบคอมพิวเตอร์โดยตรง และการกระทำความผิดโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ โดยไม่จำเป็นต้องกำหนดความผิดอันเป็นเหตุแห่งการบล็อคเว็บไว้ในกฎหมายฉบับนี้ทุกกรณีทั้งนี้ ร่างมาตรานี้แก้ไขปัญหาการบล็อคเว็บตามกฎหมายปัจจุบัน ที่เมื่อมีการบล็อคเว็บแล้วคือบล็อคถาวร ไม่มีช่องทางให้เพิกถอนคำสั่งการบล็อคเว็บได้ ร่างฉบับนี้เพิ่มถ้อยคำว่า ให้ระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ จนกว่าพฤติการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปสำหรับปัญหาเรื่องกระบวนการขออำนาจศาลที่มีการวิจารณ์กันว่า กลไกของศาลไม่ได้ตรวจสอบการใช้อำนาจอย่างแท้จริง แต่เป็นเหมือนตรายางที่สร้างความชอบธรรมให้การใช้อำนาจมากกว่า ในร่างกฎหมายยังไม่มีการแก้ไขเรื่องนี้อย่างชัดเจน โดยระบุว่าเป็นรายละเอียดที่ต้องกำหนดเพิ่มเติมในภายหลังอย่างไรก็ดี การบล็อคเว็บ คือการปิดกั้นเสรีภาพสื่ออย่างร้ายแรง หากกฎหมายเปิดช่องไว้กว้างเกินไปอาจทำให้สิทธิที่ได้รับการรับรองไว้ตามรัฐธรรมนูญไม่มีความหมาย คณะผู้ร่างควรตระหนักว่า ในโลกสมัยใหม่การปิดกั้นเว็บไซต์ไม่สามารถปิดกั้นการรับรู้ของประชาชนได้อย่างแท้จริง แทนที่จะให้อำนาจบล็อคเว็บอย่างกว้าง ควรกำหนดประเด็นที่จะยอมให้ปิดกั้นเว็บไซต์ได้ให้เฉพาะเจาะจงมากกว่า เช่น กรณีที่ข้อมูลนั้นละเมิดต่อสิทธิส่วนบุคคล เป็นต้น มาตรา ๑๒ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๙ หรือ มาตรา ๑๐(๑) ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นในทันทีหรือในภายหลังและไม่ว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกันหรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท(๒) เป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือการบริการสาธารณะ หรือเป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาทถ้าการกระทำความผิดตาม (๒) เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปีมาตรา ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา มาตรา มาตรา มาตรา มาตรา มาตรา หรือมาตรา (๑) ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นในทันทีหรือในภายหลังและไม่ว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกันหรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท(๒) เป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อ ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ และการบริการสาธารณะ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาทถ้าการกระทำความผิดตาม (๒) เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี เห็นได้ว่าในร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับสพธอ.2556 มีความพยายามขยายขอบเขตของ บทฉกรรจ์ หรือว่าเหตุเพิ่มโทษในความผิดที่เกี่ยวกับการเข้าถึงระบบ/ข้อมูลโดยมิชอบ การรบกวนข้อมูล/ระบบ การทำสำเนาข้อมูล การดักรับ ที่จากเดิมกำหนดว่าจะมีเหตุเพิ่มโทษได้ต่อเมื่อเป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงฯ ซึ่งยังเน้นการคุ้มครองอาชญากรรมที่กระทำต่อคอมพิวเตอร์ แต่ตามร่างใหม่นี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นความผิดที่กระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ เพียงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงฯ ก็เป็นเหตุเพิ่มโทษได้แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความกังวลต่อภัยที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยสาธารณะ จนน่าเป็นห่วงว่าจะทำให้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อาจมีลักษณะเป็นกฎหมายความมั่นคงมากกว่ากฎหมายอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ปัญหาที่พบบ่อยในคดีคอมพิวเตอร์ฯ คือ ผู้เสียหายเดือดร้อนไปแจ้งความที่สถานีตำรวจแต่ตำรวจกลับไม่รับและปัดคดีออก เพราะตีความว่าตนเองไม่มีอำนาจแบบพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จึงไม่มีอำนาจทำคดีนั้นๆ ได้ร่างฉบับสพธอ. เพิ่มเติมมาตราหนึ่งเข้ามา กำหนดให้เจ้าหน้าที่ตามกฎหมายอื่นๆ ซึ่งไม่ต้องเป็นเจ้าพนักงานตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ สามารถติดต่อผู้ให้บริการเพื่อสอบถามข้อมูลการใช้งานคอมพิวเตอร์ (ล็อกไฟล์) ได้ และหากจะทำมากกว่านั้น เช่น จะทำสำเนาข้อมูล ยึด อายัด ตรวจค้นข้อมูลในคอมพิวเตอร์ หรือเจาะเข้าระบบ ก็ให้เจ้าหน้าที่ตามกฎหมายอื่นๆ สามารถร้องขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ช่วยรวบรวมหลักฐานให้ได้ร่างมาตรานี้อาจจะช่วยในแง่การบริการประชาชนให้ไม่ต้องเจอปัญหาตำรวจไม่รับแจ้งความ แต่ด้านผู้ให้บริการคงมีภาระเพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันผู้ให้บริการแต่ละรายอาจมีแนวปฏิบัติสำหรับประสานงานกับพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เป็นการเฉพาะตัว เช่น การรับมือกับการขอความร่วมมือด้วยวาจาไม่มีเอกสารเป็นทางการ ซึ่งหากร่างมาตรานี้ถูกประกาศใช้ ผู้ให้บริการก็ต้องปรับตัวให้หาวิธีการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายต่างๆ ทั่วประเทศให้ได้ มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สาหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับมาตรา ๖ มาตรา ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน หรือทั้งจำทั้งปรับ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับมาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สาหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับมาตรา ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไ หรือทั้งจำทั้งปรับ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับร่างฉบับสพธอ.กำหนดว่า การเข้าถึงระบบ/ข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น ไม่ว่าระบบ/ข้อมูลนั้นๆ จะมีมาตรการการป้องกันการเข้าถึงหรือไม่ก็ตาม ก็ล้วนเป็นความผิด เป็นการแก้ไขจากเดิมที่จะมีความผิดก็เฉพาะกรณีที่ระบบ/ข้อมูลนั้นๆ มีมาตรการป้องกันไว้แต่มีคนพยายามเข้าถึง โดยคณะผู้ร่างชี้แจงเหตุผล () ว่า เพื่อป้องกันการกลั่นแกล้งกันจึงแก้ให้มาตรานี้เป็นความผิดอันยอมความได้อย่างไรก็ดี แม้คณะผู้ร่างจะเล็งเห็นแล้วว่ามาตรานี้อาจนำไปสู่การกลั่นแกล้งกันได้ จึงแก้ปัญหาโดยกำหนดโทษให้เบา และกำหนดให้เป็นความผิดอันยอมความได้ แต่การแก้ไขเช่นนี้ก็ยังไม่แน่ว่าจะป้องกันการกลั่นแกล้งกันได้ การป้องกันการกลั่นแกล้งกันควรมาจากการเขียนกฎหมายให้รัดกุมเพื่อไม่ให้เกิดการฟ้องกันตั้งแต่ต้น หากปล่อยให้เข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องกันในศาลแล้ว ผู้ฟ้องย่อมมีข้อต่อรองที่เหนือกว่า และเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขในการไกล่เกลี่ยได้ การกำหนดให้เป็นความผิดอันยอมความได้จึงไม่แก้ปัญหาการกลั่นแกล้งกัน มาตรา ๑๑ ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทมาตรา ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ รบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท ปัญหาเรื่องการส่งสแปมเป็นปัญหาที่ใครๆ ก็เจอ ซึ่งแม้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับปัจจุบันนั้นจะกำหนดให้เป็นความผิด แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะกำหนดไว้เพียงว่า การส่งเมลสแปมจะเป็นความผิดก็ต่อเมื่อไม่เปิดเผยชื่อผู้ส่ง ซึ่งการเขียนเช่นนี้ไม่ช่วยแก้ปัญหาสแปมได้เลยในร่างฉบับใหม่จึงเขียนใหม่ว่า การส่งเมลที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับแจ้งบอกเลิก ปฏิเสธการรับเมล ถือว่ามีความผิดมาตรานี้อาจจะจัดได้ว่าเป็นมาตราที่แก้ไขแล้วนำไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้นของร่างฉบับนี้ มาตรา ๑๗ ผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้นอกราชอาณาจักรและ(๑) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้นหรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ หรือ(๒) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทยหรือคนไทยเป็นผู้เสียหายและผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษจะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักรมาตรา ผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้นอกราชอาณาจักรและ(๑) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้นหรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ หรือ(๒) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทยหรือคนไทยเป็นผู้เสียหายและผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร ปกติ กฎหมายไทยย่อมมีอำนาจบังคับเพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น ความผิดที่เกิดขึ้นในต่างประเทศจะมาฟ้องร้องกันตามกฎหมายไทยให้ลงโทษในไทยไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์เชื่อมถึงกันหมดทั่วโลก ไม่ว่าจะโพสข้อมูลจากที่ใดก็อาจส่งผลไม่ต่างกัน ดังนั้น ร่างฉบับ สพธอ.นี้จึงมุ่งเน้นขยายอำนาจบังคับของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ให้เอาผิดกับกรณีที่การกระทำบางส่วนทำในประเทศไทยบางส่วนทำนอกประเทศ และกรณีที่ผลของการกระทำเกิดในประเทศไทยหรือเล็งเห็นได้ว่าควรเกิดในประเทศไทยด้วยตัวอย่างเช่น การเจาะระบบคอมพิวเตอร์ที่แฮกเกอร์อยู่ที่อเมริกา แต่เจาะระบบที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย หรือ หากแฮกเกอร์อยู่ที่อเมริกา และเซิร์ฟเวอร์ที่เก็บข้อมูลก็อยู่ที่อเมริกา แต่เมื่อเจาะระบบแล้วเกิดความเสียหายกับเจ้าของเว็บไซต์ที่ทำกิจการในประเทศไทย เช่นนี้ คือกรณีที่การกระทำเกิดนอกประเทศแต่ผลของการกระทำเกิดในประเทศ ซึ่งพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ปัจจุบันกำหนดว่า ต้องให้รัฐบาลไทยหรือผู้เสียหายร้องขอให้ลงโทษก่อน แต่ตามร่างฉบับ สพธอ. ให้ถือว่าการกระทำนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย สามารถลงโทษตามกฎหมายไทยได้เลยและหากเป็นความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติไทยนั้น ร่างฉบับสพธอ.กำหนดว่า ไม่ต้องคำนึงถึงการร้องขอของผู้เสียหาย ไม่จำเป็นต้องคำนึงว่ามีการกระทำส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือผลของการกระทำจะเกิดขึ้นในประเทศไทยหรือไม่ ก็สามารถดำเนินคดีลงโทษในประเทศไทยได้เผยแพร่ครั้งแรกที่
ร่างพ.ร.บ.คอมฯ ใหม่ เพิ่มลักษณะความผิด เช่น การก้อปปี้ไฟล์ การครอบครองภาพโป๊เด็ก ฯลฯ ตีความครอบคลุมความผิดตามกฎหมายอื่นที่อาจใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อ เพิ่มรายละเอียดความรับผิดของผู้ให้บริการ
สิทธิมนุษยชน,วัฒนธรรม,ไอซีที
iLaw,ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับ สพธอ.2556
https://prachatai.com/journal/2013/04/46240
ตรวจหอพักทั่วกรุง รณรงค์ห้ามขายเหล้า-เล่นพนันช่วงบอลยูโร 2012
สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์ เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ (สท.) ส่งทีมเจ้าหน้าที่ ลงตรวจหอพักรอบสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 11 แห่ง เพื่อขอความร่วมมือปฏิบัติตามกฎหมายหอพัก รวมถึงการรณรงค์ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเล่นการพนันในช่วงฟุตบอลยูโร 2012นายปิ่นชาย ปิ่นแก้ว ผู้อำนวยการสท. ปล่อยขบวนรถรณรงค์ในกิจกรรมสัปดาห์รณรงค์ออกตรวจหอพัก ระหว่างวันที่ 18-22 มิถุนายน 2555 เพื่อเชิญชวนให้ผู้ประกอบการหอพักที่รับนักเรียน นักศึกษา ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ประกอบกิจการให้ได้มาตรฐานหอพัก โดยการยื่นจดทะเบียนหอพักให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ยังได้ทำการรณรงค์ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในหอพัก และบริเวณร้านค้าโดยรอบ รวมถึงการไม่เล่นพนันในช่วงเทศกาลฟุตบอลยูโร 2012 และการใช้หอพักเป็นแหล่งมั่วสุมสำหรับการออกตรวจหอพักในครั้งนี้ จะดำเนินการใน 6 พื้นที่บริเวณโดยรอบสถาบันอุดมศึกษาในกรุงเทพมหานคร 11 แห่ง อาทิ มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นต้น ซึ่งมีหอพักในพื้นที่จำนวน 284 แห่ง โดยยื่นจดทะเบียนถูกต้อง 148 แห่ง และไม่จดทะเบียน 136 แห่ง ทั้งนี้จะมีการขอความร่วมมือ จนถึงการตักเตือนเพื่อให้เจ้าของหอพักดังกล่าวดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายข้อมูลจากสท.ระบุว่า ในช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว จนถึงเดือนเมษายนปีนี้ พบหอพักที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายทั้งสิ้น 14129 แห่ง แบ่งเป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร 1939 แห่ง ภาคกลาง 1407 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5497 แห่ง ภาคเหนือ 4121 แห่ง และภาคใต้ 1165 แห่ง ขณะที่บทลงโทษเจ้าของหอพักที่ไม่จดทะเบียนถือเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติหอพัก ปี 2507 มีโทษปรับไม่เกิน 2000 บาท จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
สท.ส่งทีมตรวจหอพัก 11 แห่งทั่วกทม.ขอให้จดทะเบียน หลังตรวจพบไม่ทำเกือบครึ่ง พร้อมรณรงค์ห้ามขายเหล้า-เล่นพนัน หรือมั่วสุมในหอพักช่วงฟุตบอลยูโร 2012
สังคม
หอพัก ตรวจ ฟุตบอลยูโร2012 เหล้า แอลกอฮอล์ การพนัน จดทะเบียน รามคำแหง เกษตรศาสตร์
https://news.thaipbs.or.th/content/92001
เจะอามิง ไม่หวั่น วาดะห์ ตั้งพรรค เดี๋ยวรู้กันนอมินีขั้วไหน
เมื่อวันที่ 26 มี.ค.61 นายเจะอามิง โตะตาหยง อดีต ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกลุ่มวาดะห์ประกาศตั้งพรรคประชาชาติ โดยจะกวาดที่นั่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้ง 15 ที่นั่งว่า การลงสมัครรับเลือกตั้งต้องเคารพสิทธิ์และเสียงที่ประชาชนมีแต่ละพื้นที่ จะเลือกว่าจะให้ใครเข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวแทน ไม่ได้อยู่ที่นักการเมืองจะตัดสินใจเอาเอง ซึ่งการประกาศรวมตัวของอดีต ส.ส.กลุ่มวาดะห์ในพื้นที่,ส่วนตัวไม่หนักใจเพราะการเลือกตั้งครั้งล่าสุดกลุ่มวาดะห์ก็เพลี่ยงพล้ำ ไม่ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.เลย ดังนั้นการประกาศตัวรวมกลุ่มเพื่อเป็นพลังให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยการระบุว่าเป็นพรรคของคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนไม่ค่อยมั่นใจเพราะทราบว่า คนที่ไปยื่นเรื่องขอจดแจ้งตั้งพรรคประชาชาติ ชื่อ นายสุรพร นาควานิช ซึ่งอาจมีนามสกุลพ้องกับแม่ทัพภาคที่ 4 (มท.ภ.4) แต่ส่วนตัวเชื่อว่า มท.ภ.4 ไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง และพรรคใหม่นี้ อาจเป็นพรรคการเมืองแนวร่วม หรือเป็นพรรคซับเซตของพรรคการเมืองใหญ่เดิม ที่มีทุนหนาพรรคหนึ่งก็ได้ โดยใช้ยุทธศาสตร์แยกกันเดินเพื่อรวมกันตี คือ แยกพรรคหาเสียงตามภูมิภาคนิยม เมื่อได้ ส.ส.เข้าสภาฯ แล้ว อาจมารวมพรรคหรือร่วมจับมือกันทำงานเป็นขั้วเดียวกันก็ได้,พร้อมยืนยันว่าไม่หนักใจเปรียบแล้วเหมือนสินค้าเก่าติดฉลากใหม่ให้คนสนใจเท่านั้นเอง คาดว่าไม่นานก็จะรู้ว่าพรรคใหม่ที่ว่านี้ เป็นนอมินีหรือพรรคแนวร่วมของการเมืองขั้วไหนกลุ่มใด.
เจะอามิง ไม่หนักใจ กลุ่มวาดะห์ ตั้งพรรค หวังกินรวบเก้าอี้ ส.ส.ชายแดนใต้ เย้ยเลือกตั้งล่าสุดก็กินแห้ว ไม่ได้เก้าอี้ ยันแค่สินค้าเก่า ติดฉลากใหม่ คาดไม่นานรู้กันเป็นนอมินีการเมืองขั้วไหน
ข่าว,การเมือง
ประชาธิปัตย์,กลุ่มวาดะห์,พรรคประชาชาติ,ส.ส.พื้นที่ชายแดนใต้,เจะอามิง โตะตาหยง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1239547
ชาวลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมฯ ยอมเปิดถนนสาย 340 แล้ว
ตัวแทนเจ้าหน้าที่จากกรมชลประทานเดินทางไปเจรจรกับกลุ่มชาวบ้านที่ชุมนุมปิดถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี หรือ ทางหลวงหมายเลข 340 บริเวณตำบลท่าไม้ อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ตามข้อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดประตูระบายน้ำคลองลำโพ คลองตรง และคลองลำรี โดยให้ยกบานประตูระบายน้ำทั้ง 3 แห่งที่ 1.50 เมตรเพื่อระบายน้ำในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน เช่น ตำบลระหาร และตำบลหน้าไม้ ที่น้ำยังท่วมขังทางเจ้าหน้าที่ยินยอมตามที่แกนนำชาวบ้านยื่นข้อเสนอแต่จะขอเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 3 บาน ที่ระดับ 1 เมตร จากข้อเรียกร้องของชาวบ้านที่ 1 เมตรครึ่ง ส่วนการขอติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ชุมชนละ 10 เครื่อง เจ้าหน้าที่รับปากจะประสานกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อเร่งสูบระบายน้ำขณะที่ข้อเสนอขอให้ลดระดับประตูระบายน้ำคลองลากค้อนอีก 1 เมตรที่ติดต่อกับคลองพระยาบันลือ เพื่อชะลอน้ำเข้าพื้นที่ เจ้าหน้าที่เจจราขอลดประตูระบายน้ำที่ประมาณ 50 เซนติเมตรจากเดิมเปิดไว้ที่ 2 เมตรทำให้กลุ่มชาวบ้านพอใจ และ สลายการชุมนุม โดยภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมแม่น้ำลดระดับลง แต่พบว่า บางพื้นที่ของอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ยังมีท่วมขัง และ เน่าเสีย
ปัญหาน้ำท่วมขังที่ยังไม่สามารถระบายออกได้ในบางพื้นที่ของอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่บางส่วน ชุมนุมปิดถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี หรือ ทางหลวงหมายเลข 340 เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาน้ำท่วม ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ไปเจรจากับชาวบ้านจนยอมสลายการชุมนุมแล้ว
สังคม
ปทุมธานี,ปิดถนนประท้วง,ลาดหลุมแก้ว,วิกฤตน้ำท่วม,สาย 340
https://news.thaipbs.or.th/content/52640
ส่องโพสต์ล่าสุดในไอจี ซองเฮเคียว ก่อนมีข่าวหย่า ซงจุงกิ
กลายเป็นข่าวช็อกแฟนคลับคู่รักดาราเกาหลีอย่างพระเอกหนุ่มฮอต ซงจุงกิ และนางเอกดัง ซองเฮเคียว แบบสุดๆ เมื่อมีข่าวว่าซงจุงกิกำลังยื่นเรื่องหย่าซองเฮเคียว และได้เผยผ่านตัวแทนเพื่อขอโทษแฟนๆ โดยทั้งคู่แต่งงานและใช้ชีวิตคู่มาได้เพียง 1 ปี 8 เดือน,ซึ่งหลังจากมีข่าวดังกล่าว United Artists Agency (UAA) ต้นสังกัดของนางเอกดังได้ออกมาชี้แจงถึงสาเหตุที่ทั้งคู่ต้องเลิกรากันว่าเป็นเพราะวิถีชีวิตที่ต่างกันเกินไป และทั้งคู่ไม่สามารถปรับตัวและก้าวผ่านสิ่งนี้ไปได้ พร้อมทั้งขอร้องให้หยุดกระจายข่าวลือที่ไม่เป็นจริงและไม่ได้รับการยืนยันด้วย,และเมื่อเข้าไปดูในไอจีส่วนตัวของซองเฮเคียว @kyo1122 ซึ่งก่อนจะมีข่าวเลิกราเพียง 5 วัน เจ้าตัวได้โพสต์ภาพตัวเองกับสุนัขแสนรักของตัวเอง พร้อมทั้งเขียนข้อความเป็นภาษาเกาหลี ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า Hello Lets go และปิดไอจีไม่ให้คนที่เจ้าตัวไม่ได้ฟอลโลว์แสดงความคิดเห็นได้ ซึ่งมีกระแสมาว่านางเอกสาวได้ปิดไอจีไม่ให้แสดงความคิดเห็นมาได้สักระยะแล้ว.
ส่องโพสต์ล่าสุดในไอจีนางเอกดัง ซองเฮเคียว หลังมีข่าวว่าซงจุกิกำลังยื่นเรื่องหย่า หลังใช้ชีวิตคู่มาได้ 1 ปี 8 เดือน
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ซงจุงกิ,ซองเฮเคียว,ซองเฮเคียว หย่า,จุงกิ ซองเฮเคียว หย่า,จุงกิ หย่า,จุงกิ ซองเฮเคียว เลิก,อินสตาแกรมดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1601381
เวย์น รูนีย์ อำลาสิงโต
ในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดย ทรีไลอ้อนส์ เปิดบ้านไล่ถล่ม พญาอินทรี สหรัฐอเมริกาไปขาดลอย 3–0,โดยในเกมดังกล่าวนี้ รูนีย์ได้ลงสนามเป็นตัวสำรอง และทันทีที่ได้ลงสนามก็ได้รับบทกัปตันทีม ถือว่าเป็นการสวมปลอกแขนกัปตันทีมครั้งสุดท้ายในการรับใช้ทีมชาติอังกฤษมาอย่างยาวนาน ถึง 120 นัด โดยยิงได้ 53 ประตูด้วยกัน ซึ่งเป็นรองเพียงแค่ปีเตอร์ ชิลตัน ผู้รักษาประตูระดับตำนานที่ทำเอาไว้ 125 นัดด้วยกัน,เท่านั้นยังไม่พอตัวเลข 53 ประตูนั้นเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ยิงให้ สิงโตคำราม อีกด้วย ซึ่งแซงหน้าบรรดาตำนานอย่างบ็อบบี ชาร์ลตัน หรือแกรี ลินิเกอร์ ซึ่งบอกได้เลยว่ายากพอสมควรที่ใครจะทำลายได้,เรียกได้ว่า รูนีย์เป็นอีกหนึ่งนักเตะทีมชาติอังกฤษที่รับใช้ทีมชาติมาอย่างยาวนานถึง 15 ปีหลังจากประเดิมสนามเกมแรกพบกับ จิงโจ้ ออสเตรเลีย ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2003 ด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น สมัยยังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงกับ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ซึ่งกลายเป็นนักเตะ ที่อายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษก่อนจะโดนธีโอ วัลค็อตต์ เจ้าของสถิติคนปัจจุบันทำลาย ในเวลาต่อมา,ซึ่งรูนีย์ก็แจ้งเกิดในศึกฟุตบอลยูโร 2004 ที่โปรตุเกส ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรกกลาย เป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ยิงได้ในรายการนี้ แม้ว่าจะถูกทำลายในอีก 4 วันต่อมา แต่ทั้งทัวร์นาเมนต์เจ้าตัวก็ยิงได้ถึง 4 เม็ด จนขยับขึ้นไปติดทีมยอดเยี่ยมเลยทีเดียว,จากนั้นเจ้าตัวก็กลายเป็นกำลังหลักของทีมชาติอังกฤษมาตลอด ก่อนจะได้ไปลุยในศึกฟุตบอลโลกปี 2006 ที่ประเทศเยอรมนี ก่อนจะโดนไล่ออกในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่พบกับโปรตุเกส หลังจากทำฟาวล์หนักใส่ริคาร์โด คาร์วัลโญ จนเพื่อนร่วมทีม ปิศาจแดง อย่างคริสเตียโน โรนัลโด โวยวายใส่กรรมการ จนทำให้รูนีย์โดนไล่ออกในที่สุด กลายเป็นกระแส เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด อยู่พักใหญ่ๆ,ก่อนที่รูนีย์จะได้กลับมาลงเล่นในรายการใหญ่อีกครั้งในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งถือว่าเป็นฟอร์มที่ย่ำแย่ นอกจาก สิงโตคำราม จะตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย รูนีย์ก็คล้ำเป้าไม่เจอเช่นกัน จนมาถึงอีก 2 ปีต่อมาในศึกยูโร 2012 ที่โปแลนด์และยูเครน ฟอร์มก็ยังไม่ดีขึ้นจนโดนวิจารณ์อย่างหนัก,แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ทำผลงานในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก จนติดทีมไปลุยรอบสุดท้ายที่แดนแซมบ้าก่อนจะทำประตูในศึกฟุตบอลโลกได้ในที่สุดในเกมที่แพ้ต่ออุรุกวัย 1-2,หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ยังมีชื่อรับใช้ชาติมาตลอดจนถึงเกมที่ 119 ในปี 2016 หลังจากนั้นมาเจ้าตัวก็ไม่ได้ถูกเรียกกลับมาติดทีมชาติอีกเลย จนออกมาประกาศอำลาทีมชาติในที่สุดหลังจากจบศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่รัสเซีย,ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้ถูกเรียกติดทีมไปด้วย ก่อนจะได้เรียก มาติดทีมเป็นนัดสุดท้ายในเกมอำลาทีมชาติของตัวเอง,สิ่งที่เจ้าตัวได้ทำเอาไว้เรียกได้ว่ากลาย เป็นอีกหนึ่งตำนานของทีมชาติอังกฤษก็ว่าได้ การลงเล่นในเกมกับสหรัฐอเมริกา ถือว่าเป็น การปิดฉากการรับใช้ทีมชาติอย่างสวยงาม ของ รูนีย์.,มะระหวาน
จบไปแล้วสำหรับเกมอำลาทีมชาติอังกฤษ ของ เวย์น รูนีย์ กองหน้าตัวเก่งของดีซี ยูไนเต็ด ทีมดังในศึกเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์
null
เวย์น รูนีย์,ดีซี ยูไนเต็ด,ทีมชาติอังกฤษ,ตะลุยฟุตบอลโลก,มะระหวาน
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1423485
ดาวิเด เฉือนนักดริฟต์ฮ่องกง คว้าแชมป์พีทีที สเตชั่น บีอาร์ไอซีฯ
สเตชั่น บีอาร์ไอซี ดริฟต์ แอ็ทแท็ค 2018 ที่ ดริฟต์ แทร็ก สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ,วันที่ 23 ธ.ค. 61 การแข่งขันดริฟต์รายการ พีทีที สเตชั่น บีอาร์ไอซี ดริฟต์ แอ็ทแท็ค 2018 มาถึงสนามสุดท้ายของปีเพื่อตัดสินแชมป์หาดริฟต์ก๊อดของไทย ระหว่างวันที่ 22-23 ธันวาคม ที่สนามดริฟต์ แทร็ก สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์,ศึกพีทีที สเตชั่น บีอาร์ไอซี ดริฟต์ แอ็ทแท็ค 2018 ถือเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่ถูกติดตามมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งดวลกันในสนามดริฟต์ที่สวยงามทันสมัยแห่งหนึ่งของเอเชีย ภายใต้การตัดสินของกรรมการ ที่เป็นนักดริฟต์อันดับต้นๆ ของโลกอย่าง โนมูระ เคน ยอดนักดริฟต์ชาวญี่ปุ่น และ เจค โจนส์ ดริฟต์ก๊อดชาวออสเตรเลียนล่าสุด เป็นการแข่งขันรวมของทุกคลาส ได้แก่คลาส โอเพ่น, คลาสบี และ คลาสซี ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักดริฟต์หน้าใหม่ได้มีพื้นที่สำหรับการพัฒนาตนเอง และหากพิสูจน์ความแข็งแกร่งได้ก็มีโอกาสได้แข่งกับนักดริฟต์หัวแถวในสนามเดียวกันด้วย ซึ่งผลการแข่งขันในรอบไฟนอลของคลาส โอเพ่น เป็นการพบกันระหว่าง เด ดาวิเด โดริโก ดริฟต์ก๊อดไทยคนปัจจุบันจาก ทรู วิชั่นส์ ดริฟต์ ทีม และยอดนักดริฟต์ชาวฮ่องกงอย่าง ชาร์ลส์ อึ้ง ซึ่งต้องดวลกันอย่างเข้มข้น โดยแชมป์ตกเป็นของ ดาวิเด ที่เอาชนะได้ไปในรอบแบตเทิลหลังดวลกัน 3 รุ่น ส่งผลให้แชมป์ในคลาสโอเพ่นยังอยู่กับคนไทย ส่วนอันดับ 3 เป็นของ เก่ง วุฒิพัธ ปานกำเหนิด ยอดนักดริฟต์จาก พีทีที เพอร์ฟอร์ม่า ดริฟต์ ทีมขณะที่การดวลลีลาในคลาสบีนั้นเข้มข้นไม่แพ้ในรุ่นใหญ่,สำหรับแชมป์ในสนามนี้ตกเป็นของ อีวาน วาห์ดาท ยอดนักดริฟต์อเมริกัน ซึ่งแบตเทิลเอาชนะนักดริฟต์ชาวไทยอย่าง เอ ชนิน ประภาพยืนยง จากตรินิตี มอเตอร์, แอลอาร์ ออโตเวิร์คส์ หลังขับเคี่ยวกันอย่างสุดมันในรอบชิงชนะเลิศ ส่วนอันดับ 3 ตกเป็นของ ซุน ไฮดะ ที่แม้ในสนามนี้จะทำได้ดีที่สุดในอันดับ 3 แต่ก็เพียงพอจะทำให้เขาคว้าแชมป์ประจำปีในคลาสบีไปครองได้สำเร็จ ด้านการแข่งขันในคลาสซี แชมป์ตกเป็นของ เซิ้น พรหมเทพ นักดริฟต์สุดร้อนแรงจากประเทศลาว ที่บดเอาชนะ ไรอัน เจ็ต ยอดนักดริฟต์ชาวไทย น้องชายแท้ๆ ของนักแสดงสาวชื่อดัง วิกกี้ สุนิสา เจ็ต หลังจากแบตเทิลกันอย่างสุดโหด ส่วนอันดับ 3 สนามนี้ตกเป็นของ เต๋า ชาคริส จันทราวดี จาก Tam GoodRide LiquiMoly Drift Team,ทั้งนี้ การแข่งขัน พีทีที สเตชั่น บีอาร์ไอซี ดริฟต์ แอ็ทแท็ค 2018 ยังเหลือไฮไลต์อีก 1 วัน ซึ่งเป็นการดวลลีลาเพื่อหาดริฟต์ก๊อดของไทยในปี 2018 โดยเป็นการชิงชัยของยอดนักดริฟต์ในคลาสเอกว่า 32 คน เพื่อตัดสินหาเบอร์หนึ่งของไทยอย่างแท้จริง
ดีเจเด ดาวิเด โดริโก ดริฟต์ก๊อดไทยคนปัจจุบัน จาก ทรู วิชั่นส์ ดริฟต์ ทีม โชว์ลีลาดริฟต์สุดร้อนแรง เบียดเอาชนะยอดนักดริฟต์ชาวฮ่องกง ชาร์ลส์ อึ้ง ก่อนผงาดคว้าแชมป์โอเพ่นคลาส ในศึกพีทีที
กีฬา,กีฬาอื่นๆ
ดริฟต์รถ,พีทีที สเตชั่น บีอาร์ไอซี ดริฟต์ แอ็ทแท็ค 2018,สนามดริฟต์ แทร็ก
https://www.thairath.co.th/sport/others/1452738
ตั้งข้อสงสัยกรมการค้าภายใน พิรุธผลิตหน้ากากอนามัยเกิน ให้รัฐรับซื้อเกินราคาควบคุม
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้การผลิตหน้ากากอนามัยของไทยเพิ่มขึ้นมากมาอยู่ที่วันละประมาณ 4.2ล้านชิ้น เพราะมีโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยตั้งใหม่หลายราย ล่าสุด มีโรงงานที่ผลิตได้มาตรฐาน และขายให้กับรัฐรวม 16 ราย ซึ่งรัฐรับซื้อวันละ 3 ล้านชิ้น จัดสรรให้กระทรวงสาธารณสุข 1.8 ล้านชิ้น และกระทรวงมหาดไทย 1.2 ล้านชิ้น ขณะเดียวกันวัตถุดิบสำคัญ โดยเฉพาะเมลท์โบลนที่เป็นแผ่นกรองเชื้อโรคหาซื้อได้ง่ายขึ้น และราคาถูกลง เพราะจีนกลับมาส่งออกมากขึ้น จากที่จำกัดการส่งออกเพื่อให้มีเพียงพอในประเทศทั้งนี้ จากสถานการณ์การผลิตที่ดีขึ้น รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยเริ่มดีขึ้น ส่งผลให้มีหน้ากากอนามัยส่วนเกินมากถึงวันละ 1.2 ล้านชิ้น ดังนั้น เมื่อเร็วๆนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงมีมติให้กรมการค้าภายใน หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางบริหารจัดการให้เหมาะสมจากการหารือกับกรมบัญชีกลาง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข เห็นตรงกันว่ารัฐจะรับซื้อหน้ากากอนามัยส่วนเกินวันละ 1.2 ล้านชิ้น เพื่อนำมาขายให้หน่วยงานที่มีความจำเป็นต้องใช้ในราคาต้นทุน เช่น บริษัท การบินไทย สายการบินต่างๆ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ส่วน 3 ล้านชิ้น ที่จัดสรรให้สาธารณสุข และมหาดไทย ได้รับแจ้งว่าสาธารณสุขตุนไว้เกิน 1 เดือนแล้ว จังหวัดต่างๆก็เช่นกันกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารจัดการพัสดุสำหรับการป้องกันควบคุมหรือรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้เสนอให้คณะกรรมการเฉพาะกิจ พิจารณาปรับเปลี่ยนวิธีการจัดซื้อหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ใหม่ จากในช่วงก่อนหน้า รัฐรับซื้อจากโรงงานทุกวันที่ชิ้นละ 4.28 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มาเป็นวิธีการประมูล โดยให้โรงงานเสนอราคาขายมา รายใดเสนอต่ำสุด รัฐจึงจะรับซื้อ ทำให้การซื้อเดือน มิ.ย.ซื้อได้ในราคาต่ำลงที่ชิ้นละ 4-4.15 บาท ส่วนเดือน ก.ค. เหลือเพียงชิ้นละ 3.65 บาท และคาดว่าราคาในเดือน ส.ค.นี้จะต่ำลงอีก ทั้งนี้ คณะกรรมการเฉพาะกิจเห็นชอบให้ต่ออายุการห้ามส่งออกต่อไปอีกจนถึงสิ้นสุดวันที่ 3 ก.พ.64.
ขณะนี้การผลิตหน้ากากอนามัยของไทยเพิ่มขึ้นมากมาอยู่ที่วันละประมาณ 4.2ล้านชิ้น เพราะมีโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยตั้งใหม่หลายราย ล่าสุด มีโรงงานที่ผลิตได้มาตรฐาน และขายให้กับรัฐรวม 16 ราย
ข่าว,เศรษฐกิจ
หน้ากากอนามัย,กรมการค้าภายใน,กระทรวงพาณิชย์,ข่าววันนี้,โรงงานผลิตหน้ากากอนามัย,หน้ากากอนามัยขาดแคลน,โควิด-19
https://www.thairath.co.th/news/business/1884437
ยอดจองไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ทะลัก
จองซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทยหรือ Thailand Future Fund (TFFIF) เมื่อวันที่ 12-19 ต.ค.ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า ประชาชนทั่วไปยื่นจองซื้อหน่วยลงทุน 41,200 ใบจอง มูลค่ารวม 28,800 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศ ส่งผลให้ได้ราคาเสนอขายสูงสุดอยู่ที่ 44,700 ล้านบาท,นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ สคร. ในฐานะโฆษก สคร. กล่าวว่า กองทุน TFFIF เป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ที่ภาครัฐสนับสนุนเพื่อให้ประชาชน มีทางเลือกในการลงทุน ได้ผลตอบแทนที่มั่นคง มีโอกาสเติบโต จึงได้พิจารณาจัดสรรหน่วยลงทุนให้ประชาชนทั่วไปมากกว่า 50% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่เสนอขายทั้งหมด โดยมีสัดส่วนของผู้ถือหน่วยลงทุนของ TFFIF ภายหลังจากการระดมทุนดังนี้ 1.กระทรวงการคลัง 457 ล้านหน่วย มูลค่า 4,570 ล้านบาท หรือ 10% 2.ประชาชนทั่วไป 2,300 ล้านหน่วย มูลค่า 23,000 ล้านบาท หรือ 50% 3.ผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ 1,813 ล้านหน่วย มูลค่า 18,130 ล้านบาท หรือ 40%,ด้านนายวราห์ สุจริตกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะตัวแทนที่ปรึกษากองทุน TFFIF กล่าวว่า นักลงทุนรายย่อยสนใจจองซื้อหน่วยลงทุนของกองทุน TFFIF มากกว่า 28,800 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามากกว่ามูลค่าที่ได้จัดสรรไว้เบื้องต้น ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศ และสถาบันที่บริหารกองทุนเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั่วไป เช่น กองทุนรวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนประกันสังคม เป็นต้น ได้แสดงความต้องการจองซื้อหน่วยลงทุนมากกว่าที่จัดสรรไว้เบื้องต้นเช่นกัน ส่งผลให้จำนวนหน่วยลงทุนเสนอขายครั้งนี้อยู่ที่ 4,470 ล้านหน่วย ราคาหน่วยละ 10 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขายเท่ากับ 44,700 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้จองซื้อสามารถตรวจสอบผลการจัดสรรได้ที่ บลจ. กรุงไทย, บลจ.เอ็มเอฟซี, บล.ฟินันซ่า, บล.ภัทรธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงเทพ และตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ ,www.settrade.com,  และ ,www.tffif.com, ,นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า หน่วยลงทุนส่วนเพิ่มทุนของ TFFIF น่าจะเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในวันที่ 31 ต.ค.นี้ โดยกองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง และในแต่ละรอบปีบัญชีจะจ่ายในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว.
นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า จากการเปิดให้ประชาชนและนักลงทุนสถาบัน
ข่าว,เศรษฐกิจ
ประภาศ คงเอียด,ชาญวิทย์ นาคบุรี,วราห์ สุจริตกุล,กองทุน TFFIF,หลักทรัพย์
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1401658
รมว.ศธ. ตรวจโรงเรียน จ.สุพรรณฯ เล็ง เพิ่มครูดูแลสถานศึกษาเด็กพิเศษ
ชี้ แม้เริ่มคลี่คลาย แต่ก็อย่าประมาทวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมความพร้อมของ โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย สุพรรณบุรี โรงเรียนสุพรรณบุรีปัญญานุกูล และ ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 5 เพื่อดูความพร้อมในการเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2563 ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ว่า การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งสถานศึกษาในแต่ละพื้นที่มีบริบทที่แตกต่างกันนายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก็ได้เห็นการปรับตัวของโรงเรียนในทุกระดับ ทั้งโรงเรียนขนาดใหญ่ โรงเรียนขนาดเล็ก รวมถึงสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนสำหรับเด็กพิเศษ ซึ่งผู้บริหารและคณะครูก็ได้บริหารจัดการโดยคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขเป็นหลักอีกทั้ง กระทรวงศึกษาธิการก็ส่งเสริมให้สถานศึกษา บริหารจัดการด้วยความยืดหยุ่นและบูรณาการร่วมกับคณะกรรมการสถานศึกษา และทุกภาคส่วนในพื้นที่รมว.ศธ. กล่าวว่า ในขณะเดียวกัน ก็มีสิ่งที่ผู้บริหารสถานศึกษาต้องวางแผนบริหารจัดการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีนักเรียนจำนวนมากและมีพื้นที่จำกัด โดยได้เน้นย้ำให้วางแผนการบริหารจัดการให้ดี หากจำเป็นต้องแบ่งนักเรียนเข้าชั้นเรียน หรือสลับวันมาเรียนและสลับช่วงเวลาเข้าชั้นเรียน ทั้งนี้ สถานศึกษาต้องพิจารณาตามความเหมาะสม ตามบริบทของโรงเรียน เพื่อดูแลเด็กให้ทั่วถึงและส่งเสริมให้ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพในส่วนของการจัดการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษนั้น เป็นสิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญอย่างมาก การดูแลเด็กพิเศษในช่วงวิกฤติ COVID-19 อาจต้องเพิ่มจำนวนครูและบุคลากรที่ทำหน้าที่ดูแล กระทรวงศึกษาธิการก็จะพิจารณาการบรรจุบุคลากรด้านการศึกษาพิเศษให้มากขึ้น พร้อมจัดสรรงบประมาณตามความเหมาะสม ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการจะรวบรวมข้อมูลความต้องการของสถานศึกษาที่จัดการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษทุกแห่ง และดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป รมว.ศธ. กล่าว
รมว.ศธ. ตรวจความพร้อมโรงเรียน และศูนย์การศึกษาพิเศษ จ.สุพรรณบุรี เตรียมเปิดเรียน 1 ก.ค.นี้ ชี้ ร.ร.ใหญ่ อาจต้องสลับเวลาเรียน เล็งเพิ่มครูดูแลสถานศึกษาเด็กพิเศษ รับมือ แพร่ระบาดโควิด-19
ข่าว,การเมือง
ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ,รมว.ศธ.,เปิดเทอม 1ก.ค.,โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,สลับเวลาเรียน,ตรวจความพร้อมโรงเรียนจ.สุพรรณบุรี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1867781
เพื่อนกันจนวันตาย หงส์แดงยิ้มร่ามีโอกาสสูงได้โถ 2 ชปล.เคียงข้างผี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 21 ส.ค. ว่า หงส์แดง ลิเวอร์พูล มีโอกาสสูงที่จะขยับขึ้นมาอยู่โถ 2 ในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาล 2018/19 หลังจากที่ เบนฟิกา เสมอกับ พีเอโอเค 1-1 ในนัดแรกของรอบเพลย์ออฟ,โดยเงื่อนไขเดียวที่ หงส์แดง จะได้ขึ้นมาอยู่โถ 2 ในการจับสลากแบ่งกลุ่มยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้ก็คือ เบนฟิกา ต้องตกรอบ จะทำให้พวกเขาขยับขึ้นจาก โถ 3 มาอยู่ โถ 2 แทน,ซึ่งนั่นหมายความว่าหลังจากที่ พีเอโอเค ไปคว้าอเวย์โกลจากเบนฟิกาได้ทำให้เลกสองที่บ้านของพวกเขา ขอแค่ผลเสมอ 0-0 ก็จะได้เข้ามาเล่นในรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และก็ผลักให้หงส์แดงไปอยู่ในโถ 2 ด้วย,โดยโถ 2 นั้นจะมีบรรดาเสือสิงห์กระทิงแรดไม่ว่าจะเป็น ดอร์ทมุนด์, ปอร์โต, ชัคเตอร์ โดเนตส์ก, นาโปลี, สเปอร์ส, โรมา และคู่ปรับตัวฉกาจอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งหากหงส์แดงอยู่ในโถ 2 ก็จะไม่มีโอกาสเจอทีมจากโถนี้,อย่างไรก็ตามหากเบนฟิกาบุกไปปราบ พีเอโอเค ได้ในเลกสองก็จะทำให้หงส์แดงต้องอยู่โถ 3 ต่อไปตามเดิมร่วมกับ ชาลเก, ลียง, โมนาโก, ซีเอสเคเอ มอสโก และก็มีโอกาสอยู่ในกรุ๊ปออฟเดธร่วมกับ โถ 1 ที่รวมยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป รวมถึงโถ 2 ที่กล่าวไปข้างต้น,สำหรับการจับสลากแบ่งกลุ่มยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกจะมีขึ้นวันที่ 30 สิงหาคม
หงส์แดง ลิเวอร์พูล มีโอกาสสูงเลยทีเดียวที่จะได้ขึ้นมาอยู่โถ 2 ในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เคียงข้างกับคู่รักคู่แค้นอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
ลิเวอร์พูล,ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/eufa/1359589
หมอเตือน ฉากกั้นโต๊ะอาหาร ไม่พ้นเสี่ยงเชื้อ COVID-19
วันนี้ (10 พ.ค.2563) นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์ที่กระทรวงสาธารณสุข ภายหลังมาตรการผ่อนปรนกิจการ กิจกรรม โดยเฉพาะกรณีร้านอาหารบางแห่งที่ใช้แผงฉากใสกั้นระหว่างบุคคล โดยระบุว่า ในมาตรการผ่อนปรน ร้านอาหารที่จัดตั้งแผงฉากกั้นระหว่างบุคคล ซึ่งส่วนใหญ่ใช้แผงกั้น นอกจากจะกั้นตรงกันข้ามกันแล้ว แนะนำว่าระหว่างโต๊ะอาหารมากกว่า ควรจะกั้นระหว่างโต๊ะอาหาร ซ้ายและขวาซึ่งจะมีประโยชน์ที่สูงมากขึ้น โดยมีความสูงมากกว่าศีรษะเมื่อเวลาที่นั่งหรือยืน มีระยะห่างจากผู้นั่ง ด้านหน้าอย่างน้อย 1.5 เมตร ด้านหลัง 1.5 เมตรปัจจัยเสี่ยงระบาดรอบ 2 - เปิดห้างต้องระวังคนแน่นนพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า ส่วนปัจจัยการระบาดระลอก 2 ตอนนี้เริ่มพบว่าการที่คนเริ่มออกจากบ้านมากขึ้น ดังนั้นปัจจัยจึงขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ติดเชื้อในชุมชน ซึ่งขณะนี้มีจำนวนที่ค่อนข้างต่ำ และการที่คนออกไปสัมผัสกันมากน้อยเพียงใดในแต่ละวัน หากพบคนมาก ความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรคก็จะสูง สถานที่แต่ละแห่งมีความเสี่ยงไม่เท่ากัน เช่น พื้นที่เคยมีรายงานพบผู้ป่วย ความเสี่ยงจะสูงกว่าพื้นที่ที่ไม่เคยพบผู้ป่วยเลยเช่น ถ้าต้องตีความว่า กทม.ยังมีความเสี่ยง และจะมีโอกาสพบผู้ป่วยตรงไหนก็ได้ดังนั้น จึงบอกว่าการออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น และการสนับสนุนทำงานที่บ้าน เพื่อลดความแออัดในพื้นที่สาธารณะ รถไฟฟ้า รถประจำทาง รถตู้ ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือช่วยกันลดความเสี่ยง การสวมใส่หน้ากากผ้ายังเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ขณะนี้เริ่มเห็นบางคนการ์ดตก ออกจากบ้านโดยไม่สวมหน้ากากป้องกันส่วนคำถามว่าหากเปิดห้างสรรพสินค้าจะเพิ่มความเสี่ยงหรือไม่ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การที่คนกังวลว่า กลัวคนจะเต็มห้าง แต่การกลับมา ของธุรกิจต้องไม่เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อเพิ่ม ส่วนบุคคล ถ้าไม่จำเป็นอย่าเดินเล่น ควรไปแล้วรีบกลับ ให้มองว่าการไปดินห้างจะเพิ่มความเสี่ยงทั้งตัวเองและและคนในครอบครัวนอกจากนี้ผู้ประกอบการต้องลดความเสี่ยงให้กับคนที่คนมาในห้าง คัดกรอง ทำความสะอาดพื้นผิวบ่อยที่สุด จัดการระบบอากาศถ่ายเทภายใน เพราการที่อากาศปิดจะเพิ่มความเสี่ยง ระบบอากาศในห้างต้องพิจารณาปรับปรุงใหม่ผู้สื่อข่าวถามว่า การใช้มาตรการผ่อนปรนระยะที่ 1 ว่า หากสัปดาห์หน้าพบว่า มีผู้ป่วยรายเพิ่มรายวันเพิ่มสูงขึ้น 30-40 คน จะมีการเลื่อนผ่อนปรนระยะที่ 2 หรือไม่ นพ.ธนรักษ์กล่าวว่า เป็นความคิดเห็นเชิงวิชาการ หากมีการระบาดเช่นนั้นเกิดขึ้น จะต้องพิจารณาเป็นพื้นที่ว่าเกิดขึ้นที่ใด และลงพื้นที่ไปตรวจสอบส่วนพื้นที่อื่นก็สามารถป้องกันและใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติต่อไป เนื่องจากการระบาดที่ผ่านมามีการเกิดขึ้นในไม่กี่จังหวัด แต่มาตรการที่เข้มข้นคือ การปิดทั่วประเทศ ดังนั้น หากเข้าใจสถานการณ์ระบาด และใช้มาตรการที่สมเหตุสมผล เพื่อไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจประเทศอ่าน
รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุแผนกั้นกลางโต๊ะอาหารยังมีโอกาสเสี่ยงเชื้อ COVID-19 ชี้ต้องเว้นระยะห่าง 1.5 เมตรจากฉาก และควรต้องกั้นระหว่างโต๊ะ ส่วนการเปิดห้าง ไม่แนะนำให้เดินเล่นนาน ต้องจัดคนเข้าห้าง และดูแลคัดกรองเพื่อไม่ให้มีความเสี่ยงติดเชื้อเพิ่ม
สังคม
COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,ห้าวสรรพสินค้า
https://news.thaipbs.or.th/content/292287
ไทยสเตนเลสฯ เชื่อ ธุรกิจเครื่องครัวปี 59 สดใส รับอานิสงส์เปิด เออีซี
วันที่ 24 ธ.ค.58 นายอรุณ เรืองจรุงพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสเตนเลสสตีล จำกัด ผู้ผลิตเครื่องครัวสเตนเลสสตีลและนอนสติก ภายใต้แบรนด์ ซีกัล และ จรวด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเครื่องครัวของไทยในปีนี้ค่อนข้างอิ่มตัว หลายแบรนด์ในตลาดต่างๆ ได้ออกมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยกระตุ้นให้ตลาด กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง กระทั่งเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น,ขณะที่ กลุ่มตลาดส่งออกนั้นยังมีการเติบโต โดยเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศแถบเอเชีย ส่วนมาตรฐานการผลิต พบว่า ผลิตภัณฑ์เครื่องครัวของไทยยังคงถูกจัดอยู่ในกลุ่มสินค้าคุณภาพ ทั้งมาตรฐานการผลิตที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ตลอดจนคุณภาพของวัสดุที่ใช้ผลิตและมีดีไซน์ที่สวยงาม,แม้ในปีนี้ภาพรวมเศรษฐกิจจะยังไม่เติบโตอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ แต่ด้วยการปรับกลยุทธ์ตลอดปี 2558 ที่เน้นเพิ่มการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้ภาพรวมรายได้ของไทยสเตนเลสสตีลมีการเติบโตอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ นายอรุณ กล่าว ,สำหรับในปี 2559 การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดยังคงมีให้เห็นตลอดทั้งปี รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีให้เห็นเพิ่มขึ้น อีกส่วนหนึ่งที่น่าจับตา คือ การสั่งซื้อของภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์การประชุม โรงแรม ภัตตาคาร และร้านอาหารในระดับต่างๆ ก็น่าจะเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับธุรกิจท่องเที่ยว เนื่องจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่า จะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นถึง 14% โดยจะมีนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยราว 30 ล้านคนในปีหน้า,ด้าน พฤติกรรมผู้บริโภคในปี 59 การทำอาหาร จะยังคงเป็นอีกหนึ่งไลฟ์สไตล์ที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจมากขึ้น โดยการเลือกซื้อเลือกใช้เครื่องครัว จะเน้นความอเนกประสงค์ ความคุ้มค่าคุ้มราคา และความสวยงามด้านการออกแบบ ส่วนพฤติกรรมคนไทย ที่มีแนวโน้มหันมาใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดมิเนียม และอาศัยในแนวดิ่งเพิ่มขึ้น ทั้งในเขต กทม. และปริมณฑล ดังนั้น การนำเสนอสินค้าเครื่องครัว จึงต้องนำโจทย์เรื่องความจำกัด ด้านพื้นที่และความอเนกประสงค์ในการใช้งาน ผสานด้วยดีไซน์ที่สวยงาม เข้ามาใช้ในการพัฒนาและผลิตสินค้าเพื่อให้ตอบโจทย์ ผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด,ทั้งนี้ ตลาดอาเซียน ถือเป็นตลาดที่ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผู้ผลิตในเอเชียก็ยังคงได้เปรียบ เพราะเข้าใจถึงพฤติกรรมการบริโภคในแถบอาเซียนเป็นอย่างดี ส่งผลให้การออกแบบและพัฒนาสินค้าสามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้มากกว่า โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ยุค AEC ไทยสเตนเลสสตีลเองก็จะเพิ่มการทำตลาดในส่วนนี้มากขึ้นด้วยเช่นกัน.
ประธาน ไทยสเตนเลสสตีล เผย ท่องเที่ยว-AEC กระตุ้น ธุรกิจเครื่องครัวปี 59 เติบโต พร้อม เตรียมแผนการตลาดเชิงรุก สร้างการเติบโตในตลาดทั้งในและต่างประเทศ
null
ไทยสเตนเลสสตีล,เครื่องครัว,ธุรกิจเครื่องครัว,ภาพรวมตลาดเครื่องครัว,มาตรฐานเครื่องครัวไทย,อรุณ เรืองจรุงพงศ์,พฤติกรรมผู้บริโภค,สินค้าส่งออก,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/553720
ชงปรับโครงสร้างเหลือปลัด ศธ.นั่งซี 11
ซึ่งเป็นข้อเสนอจากหลายหน่วยงานแต่ยังไม่ตกผลึก ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้วและได้สอบถามว่าจะมีความชัดเจนเมื่อไหร่ โดยตนได้ขอเวลาไปหารือกับองค์กรก่อน เพราะการปรับโครงสร้างต้องได้รับการยอมรับจากคนใน ศธ. ตนไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง จึงขอเวลาทบทวนและพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง ส่วนจะปรับลดองค์กรหลักระดับ 11 ให้เหลือปลัด ศธ.มีอำนาจสั่งการเพียงคนเดียวหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้แต่อย่างน้อยต้องมีซีอีโอเพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้ลำบากในการปกครอง คาดว่าในการประชุมซุปเปอร์บอร์ดครั้งต่อไปน่าจะเสนอรูปแบบที่ชัดเจนได้,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงสร้างใหม่ของ ศธ.จะกลับไปเป็นรูปแบบเดิม คือมี ปลัด ศธ.สั่งการเพียงคนเดียว โดยให้ยุบองค์กรหลักทั้งหมดคงเหลือเฉพาะสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และมีหน่วยงานใหม่ที่มีฐานะเป็นกรม มีอธิบดีเป็นผู้บังคับบัญชาดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา กรมการศึกษานอกโรงเรียนและการศึกษาตามอัธยาศัย กรมอาชีวศึกษา กรมปฐมวัยและประถมศึกษา กรมมัธยมศึกษา กรมวิชาการและมาตรฐานการศึกษา กรมการศึกษาพิเศษ และสำนักงานศึกษาธิการภาค 1-13 ที่จะเชื่อมโยงระหว่างส่วนกลางและภูมิภาค มีศึกษาธิการภาคเป็นผู้บังคับบัญชาการศึกษาระดับกลุ่มจังหวัด มีศึกษาธิการจังหวัดเป็นผู้บังคับบัญชาการศึกษาระดับจังหวัด มีคณะกรรมการการศึกษาภาคและกรรมการการศึกษาจังหวัด มีสำนักงานระดับจังหวัด ทั้งการศึกษานอกโรงเรียน การศึกษาปฐมวัยและประถมศึกษา การมัธยมศึกษา การศึกษาพิเศษ และอาชีวศึกษา.
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงการปรับโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา หรือซุปเปอร์บอร์ดการศึกษา ตนได้นำเสนอรูปแบบการปรับโครงสร้าง ศธ.
null
ปรับโครงสร้าง,กระทรวงศึกษาธิการ,ซุปเปอร์บอร์ดการศึกษา,ปรับโครงสร้าง ศธ.,ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ,ปลัด ศธ.,ยุบองค์กรหลัก,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการศึกษา
https://www.thairath.co.th/content/536620
4 องค์กรวิชาชีพสื่อถกคุมจริยธรรมสื่อ
4 องค์กรวิชาชีพสื่อถกคุมจริยธรรมสื่อ เตรียมร่างแนวทางปฏิบัติตามกรอบจรรยาบรรณวิชาชีพ เล็งดึง กสทช.ร่วมดูแลจริยธรรม พร้อมเสนอแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์24 ก.ค.2557รายงานว่า ที่อาคารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยตัวแทน 4 องค์กรวิชาชีพสื่อ นำโดย นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นายวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ นายกสมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์ไทย นายจักร์กฤษ เพิ่มพูล ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และนายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ได้ประชุมหารือถึงสถานการณ์สื่อมวลชนไทยและแนวทางการปฎิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน ในสถานการณ์ปัจจุบัน หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีประกาศฉบับที่ 103/2557 ให้องค์กรวิชาชีพสื่อกำกับดูแลเรื่องจริยธรรมสื่อกันเอง โดยใช้เวลาหารือกว่า 3 ชั่วโมงนายจักร์กฤษ เพิ่มพูล ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เปิดเผยว่า การหารือกับองค์กรวิชาชีพสื่อในวันนี้ เป็นการทำความเข้าใจการทำหน้าที่สื่อร่วมกันแต่ละองค์กรวิชาชีพสื่อ และข้อสรุปร่วมกันว่า สภาวิชาชีพสื่อ ทั้งสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ จะมีการร่วมกันร่างแนวทางปฏิบัติงานสื่อตามกรอบจรรยาบรรณวิชาชีพ ที่มีความชัดเจนมากขึ้นและจะเข้มงวดในการกำกับดูแลการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนตามหลักจริยธรรม ภายใต้กฎหมายที่มีการบังคับใช้ โดยเฉพาะหากมีการข้อร้องเรียนจากประชาชน จะมีการตรวจสอบอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งจะมีการดึง กสทช.เข้ามาร่วมดูแลเรื่องจริยธรรมของสื่อมวลชนด้วยนอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีการเสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550 กำหนดให้องค์กรที่จะะจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนได้นั้น จะต้องเป็นสมาชิกสภาการวิชาชีพด้วย อย่างไรก็ตามข้อเสนอนี้ยังไม่เป็นที่ยุติ
4 องค์กรวิชาชีพสื่อถกคุมจริยธรรมสื่อ เตรียมร่างแนวทางปฏิบัติตามกรอบจรรยาบรรณวิชาชีพ เล็งดึง กสทช.ร่วมดูแลจริยธรรม พร้อมเสนอแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ 24 ก.ค.2557 เว็บไซต์เดลินิวส์รายงานว่า
การเมือง
กสทช.,คสช.,จริยธรรมสื่อ,ประกาศ คสช.,พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550,สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ,สภาวิชาชีพข่าววิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย,สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย,สมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์ไทย จักร์กฤษ เพิ่มพูล,องค์กรวิชาชีพสื่อ,เสรีภาพสื่อ
https://prachatai.com/journal/2014/07/54739
พรหมจารี ราคาที่ต้องจ่าย? จุดพลิก ข้อคิด วันเสียตัวแห่งชาติ
แล้วทำไมต้องเสียตัว ได้ตัว ที่แสดงออกแบบนั้น ใช่ความรักหรือ?,ให้ตายเถอะโรบิ้น วัยรุ่นคงค้านหัวชนฝา แย้งในใจตั้งแต่ก่อนลอยกระทงซะอีก,ตึ่งโป๊ะ นี่แหละความจริงที่ผู้ใหญ่อย่างเราๆ รับไม่ได้,สัจธรรม…แห่งความจริง บางทีมันก็เจ็บปวด แต่มันก็แฝงซึ่งบทเรียนเสมอๆ เชื่อเลย ,วาเลนไทน์, ปีนี้ หลายคนคงมีความหลังกับวันวาเลนไทน์ในปีที่ผ่านๆ มา บ้างสุข บ้างทุกข์ บ้างระทม แตกต่างกันไป แต่ท้ายสุดนั่นเรียกว่า ,บทเรียนราคาแพง,ถ้าขึ้นต้นว่า ,วัยรุ่น, นั่นคือวัยแห่งการอยากรู้อยากลอง ถามจริงๆ ว่าผิดมั้ย คงไม่ใช่ทั้งหมด น่าจะเรียกว่า ไม่เหมาะสมมากกว่า ส่วนผลที่ตามมา ก็ล้วนแล้วแต่เกิดจากผลของการกระทำทั้งสิ้น,จะคุณแม่วัยใส คุณแม่วัยโจ๋ แม่วัยรุ่น แม่เลี้ยงเดี่ยว ทุกอย่างนั่นคือความไม่พร้อม การมีครอบครัวไม่ใช่เรื่องง่าย ,#ความรักก็เช่นกัน, ไม่งั้นข่าวคลอดลูก ทิ้งเด็ก ยัดทารกลงถังขยะ คงไม่ปรากฏตามสื่อต่างๆ บ่อยๆ จะบอกว่า ชิน คงไม่ใช่ เพราะนั่นเรียกว่า ,ปัญหาดังกล่าว ยังเป็นปัญหาของสังคมไทย ไม่ใช่เพราะแค่วันวาเลนไทน์วันเดียว อย่างไรก็ตาม ,ไทยรัฐออนไลน์, ได้ให้ ,แพทย์หญิงเบญจพร ปัญญายง แพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข, แสดงความเห็นถึงเรื่องดังกล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า จริงๆ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่น จะขึ้นอยู่กับช่วงอายุมากกว่า โดยเด็ก ม.2 ก็เริ่มมีเพศสัมพันธ์แล้ว แต่จะน้อยกว่า ม.5 หรือ ปวช. ส่วนเรื่องสำคัญอีกเรื่อง คือ เรื่องของโอกาสที่มันมีเพิ่มขึ้น เช่นการอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง และมีสิ่งเร้าเกิดขึ้น โดยเฉพาะช่วงวันวาเลนไทน์ โอกาสก็สูงกว่าช่วงอื่นๆ แต่มันก็ไม่แน่นอนเสมอไป,จริงๆ เราบอกไม่ได้ ว่าอายุเท่าไหร่ จึงจะเหมาะกับการมีเพศสัมพันธ์ เราไปกำหนดกฎเกณฑ์ไม่ได้ แต่สำหรับบ้านเรา กฎหมายไทย ระบุไว้ว่า อายุต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ ยังถือว่าละเมิดทางเพศ และเด็กที่อายุ 17 ปีบริบูรณ์ สามารถแต่งงานได้ตามกฎหมาย ดังนั้น อายุ 17 เขาก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่สำหรับหมอ หมอว่า เมื่อไหร่ที่เหมาะกับการมีเพศสัมพันธ์นั้น คือ เมื่อเรามีความพร้อม รับผิดชอบได้ แต่สำหรับสากล ก็น่าจะหลังจาก 16 ปี คือหลังจากการมีงานพรอม แต่จริงๆ อายุต่ำกว่า 17 ปี เขายังให้เรียนรู้การชะลอในการมีเพศสัมพันธ์อยู่ดี ขณะที่ 18-19 ปี จะเน้นเรื่องการคุมกำเนิด เพราะเขายังไม่พร้อมในเชิงกฎหมาย วุฒิภาวะ ทั้งกายและใจ,แพทย์ทรงคุณวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า ความรักของเด็กและวัยรุ่น มันคือความลุ่มหลง มันไม่ใช่ความรักในเชิงความสัมพันธ์ ระหว่างเพื่อน ระหว่างเพศ หรือระหว่างคน 2 คน แต่เราจะเห็นว่า มันเป็นความรักแบบลุ่มหลง เหมือน Puppy Love ที่โอกาสในการแต่งงานในระยะยาวจะน้อยมาก จะหวือหวา วูบวาบ มากกว่าวัยรุ่น แต่ถ้าถูกห้ามปราม จะออกนอกลู่นอกทางได้มากกว่า เช่น อาจจะตัดสินใจทำร้ายตัวเองทั้งคู่ เมื่อรักไม่สมหวัง เขาถึงไม่ห้ามที่จะให้วัยรุ่นรักกัน แต่เลือกที่จะสอนวิธีการดูแลความรัก เพราะถ้าห้ามวัยรุ่นจะไม่เชื่อ ท้าทาย อยากเรียนรู้ อยากทดลองด้วยตัวเอง แต่ถ้าเกิดอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เสี่ยง มันก็จะเสี่ยงตาม เช่น เรื่องยาเสพติด,3 สิ่งควรหลีกเลี่ยง ที่แพทย์หญิงเบญจพร ชี้แนะให้กับวัยโจ๋ เพื่อไม่ให้วาเลนไทน์นี้ผิดพลาดไป,1., อิทธิพลของเพื่อน, มีผลกับวัยรุ่นเป็นอย่างมาก เช่น ถ้าอยู่ในกลุ่มที่เพื่อนๆ ทั้งกลุ่มมีแฟน เราไม่มี มันก็แปลก ถ้าในกลุ่มมีเพศสัมพันธ์กันหมด เราไม่มี มันก็แปลกเหมือนกัน ถ้าจะให้เปลี่ยนกลุ่มเพื่อน คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกว่าวัยรุ่นจะเข้ากันได้ มันต้องใช้เวลาเรียนรู้กัน,2. ,แรงกดดันเพศตรงข้าม, ถ้าไม่ยอม แสดงว่าไม่รักจริง คำนี้ยังมีอิทธิพลอยู่มาก เพราะเขารู้สึกกดดัน โอกาสที่จะพลาดจากคำนี้สูงมาก หรืออย่างวันวาเลนไทน์ เพื่อนมีอะไรกัน เราก็อยากมีบ้าง เรื่องนี้โอกาสสูงมาก,3. ,สถานการณ์สุ่มเสี่ยง, แม้ว่าคุณจะเก่งมาก จะเรียนดี โอกาสที่จะพลาดพลั้ง ก็ไม่น้อย ถึงต้องสอนว่า อย่าพาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลม เพราะเราจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ บรรยากาศพาไป ดูหนังอีโรติก ก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าถึงจุดหนึ่ง เราก็ห้ามตัวเองไม่ได้ ก็ได้แต่ป้องกันตัวเอง ไม่ให้ท้อง ไม่ให้ติดเชื้อ ไม่ให้ติดโรค,สุดท้ายสำหรับผู้ที่ผิดพลาดไป คุณหมอ ให้กำลังใจได้อย่างดีเยี่ยม ว่า ,ท้ายสุด สุขสันต์วันวาเลนไทน์ชาวไทยรัฐออนไลน์ ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆ ในวันนี้ แล้วอย่าลืมแสดงความรักต่อคนรอบข้าง อย่างคุณพ่อ คุณแม่ พี่น้อง เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงานด้วยล่ะ เพราะวันนี้ มันไม่ใช่แค่, วันแห่งคู่รัก, อย่างเดียวเข้าใจมั้ยจ๊ะ.
เอาจริงๆ ทำไมต้องเสียตัววันวาเลนไทน์ เพราะอะไร??? เพราะเป็นวันแห่งความรักเหรอ? แล้วทำไมต้องเสียตัว ได้ตัว ที่แสดงออกแบบนั้น ใช่ความรักหรือ? ให้ตายเถอะโรบิ้น! วัยรุ่นคงค้านหัวชนฝา แย้งในใจตั้งแต่ก่อนลอยกระทงซะอีก
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
วาเลนไทน์,Valentine,เสียตัววันวาเลนไทน์,เสียตัว,ความรักก็เช่นกัน,คุณแม่วัยใส,ท้องไม่พร้อม,วัยรุ่น,วันแห่งความรัก,ข่าว,14กุมภาพันธ์,ม่านรูด,วันเสียตัว,ดอกไม้,วันวาเลนไทน์,ข่าวไลฟ์สไตล์,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/480770
ไว้ศพ โค้ชแต๊ก วัดธาตุทอง ซิโก้ยกเป็นต้นแบบชั้นครู
ส่วน เนวิด ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดร่วมอาลัย -ขอจดจำตลอดไป,หลังจากการเสียชีวิตของ โค้ชแต๊ก อรรถพล ปุษปาคม หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมเพื่อนตำรวจ แห่งศึกฟุตบอลยามาฮ่า ลีกวัน ในวัย 52 ปี เมื่อช่วงเช้ามืดของวันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดและปอด ซึ่งจะมีการนำศพไปทำพิธีทางศาสนาในวันเดียวกันนี้ พร้อมรดน้ำศพในเวลา 16.00 น. และสวดพระอภิธรรมที่วัดธาตุทอง ศาลา 18 กรุงเทพมหานคร เป็นเวลา 5 วัน,ล่าสุด เหล่าบรรดาผู้คนในวงการลูกหนังไทยต่างแสดงความอาลัยต่อการจากไปของยอดกุนซือรายนี้ เริ่มจาก ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทย เปิดเผยว่า มีโอกาสเล่นร่วมทีมชาติ ในซีเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่สิงคโปร์ ตอนนั้น ตนเป็นดาวรุ่ง เพิ่งขึ้นมา ส่วน อรรถพล เป็นกองกลางตัวหลัก เล่นกับ ตะวัน (ธชตวัน) ศรีปาน สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ซึ่งคราวนั้นทีมไทยได้เหรียญทอง,พี่แต๊ก เป็นแบบฉบับที่ดีของนักบอลรุ่นหลัง ให้คำปรึกษาชี้แนะแก่น้องๆ สุภาพ เรียบร้อย จนมาเป็นโค้ช ยังได้อยู่วงการเดียวกัน พี่แต๊ก เป็นคนที่มันสมองยอดเยี่ยม ทั้งการเล่นบอลและโค้ช เมื่อดูจากความสำเร็จในการเป็นโค้ช ที่ได้มาเกือบทุกแชมป์ในระดับสโมสร ผมยกให้ พี่แต๊ก เป็นโค้ชไทยที่เก่งที่สุด การสูญเสียครั้งนี้จึงถือว่าน่าเสียใจ และเสียดายอย่างมาก ซิโก้ กล่าว,ขณะที่ เดอะตุ๊ก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน กองหน้าตำนานทีมชาติไทย กล่าวว่า สมัยเป็นนักเตะ ตนกับ อรรถพล เล่นร่วมกันทั้งทีมชาติ และสโมสร ตนเป็นผู้ดึง แต๊ก พร้อมด้วย วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ ไปเล่นทีมปาหัง ในมาเลเซีย โดยเล่นร่วมกันได้ 2 ปี แต๊ก เป็นนักบอลที่อดทน ความรับผิดชอบสูง มีทัศนคติที่ดี เห็นชัดเจนตั้งแต่เล่นให้ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้ง ปาหัง จนมาเป็นโค้ช ก็มีผลงานโดดเด่นมาก ทั้งกับ บีอีซีเทโรฯ บุรีรัมย์ บางกอกกล๊าส และเพื่อนตำรวจ ที่กำลังเกาะหัวตารางลีกวัน นับว่าเป็นบุคคลที่เปี่ยมด้วยความสามารถมาก เสียดายที่วงการฟุตบอล ต้องสูญเสียคนดีมีฝีมือไป,ด้าน นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัว ปุษปาคม และขอไว้อาลัยต่อการจากไปของ แต๊ก อรรถพล ปุษปาคม โดยนายเนวิน ได้โพสต์ข้อความแสดงความไว้อาลัยและรำลึกถึง โค้ชแต๊ก ว่า 2 ปีเศษ ที่ผมกับแต๊ก ได้ร่วมงานกัน มีทั้งสุขและทุกข์ ความผิดหวัง ความสมหวัง ความสำเร็จ และความล้มเหลว แต๊ก เป็นคนเก่ง มุ่งมั่น ทำงานจริงจัง เชื่อมั่นตัวเอง หลายครั้งเราขัดแย้งกันทางความคิด แนวทางการทำงาน และการตัดสินใจ ที่ไม่ตรงกัน แม้การแยกทางกันในวันนั้น แม้จะไม่สวยงามนัก แต่ก็น่าจะดีกว่าที่ทั้ง 2 คน จะได้ทำงานตามแนวทางของตนเอง,จากนั้น ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังได้ขอบคุณ โค้ชแต๊ก ที่มาร่วมสร้างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ปีแรกที่ยังเป็นบุรีรัมย์ พีอีเอ พร้อมระบุว่า 7 แชมป์แรกของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็น 7 แชมป์ที่ แต๊ก มีส่วนร่วมสร้างขึ้นมา เป็นเกียรติประวัติของสโมสรที่น่าภาคภูมิใจ และแม้จะไม่ได้ร่วมงานกันแล้ว แต่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงให้เกียรติ แต๊ก ด้วยการติดภาพ แต๊ก นำทีมขึ้นรับแชมป์ เป็น วอลเปเปอร์อยู่ใน ไอโมบาย สเตเดียม จนถึงทุกวันนี้,วันพรุ่งนี้ พวกเราจะร่วมกันร้องเพลง เรามีเรา ให้กับ แต๊ก ก่อนการแข่งขันกับ ทีมทหารบก เอฟซี ที่สนามกีฬากองทัพบก เวลา 18.45 น. นายเนวิน เขียนข้อความ พร้อมกับทิ้งท้ายว่า ขอบคุณ แต๊ก ที่ร่วมกันสร้างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึ้นมา และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะจดจำ แต๊ก ไว้ตลอดไป,อนึ่ง อรรถพล ปุษปาคม โด่งดังในฐานะนักเตะในสมัยที่ค้าแข้งอยู่ทีมการท่าเรือ จนกระทั่งติดทีมชาติไทยและได้รับการดึงตัวไปค้าแข้งในเอ็มลีก กับ ทีมปาหัง ในประเทศมาเลเซีย ก่อนจะกลับมาแขวนสตั๊ดในเมืองไทยกับทีมสโมสรตลาดหลักทรัพย์ในปี 2541,ด้านผลงานในฐานะผู้ฝึกสอน โค้ชแต๊ก ได้สร้างชื่อจากการคุมทีมสโมสรบีอีซี เทโรศาสน คว้ารองแชมป์เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ในปี 2545-46 รวมถึงสามารถพาทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ไทยลีก และปัจจุบันรับงานคุมทีมเพื่อนตำรวจ ในศึกยามาฮ่า ลีกวัน.
ผู้คนในวงการลูกหนังไทยร่วมแสดงความอาลัย โค้ชแต๊ก กุนซือสโมสรเพื่อนตำรวจ ขณะที่ กำหนดพิธีสวดศพมีขึ้นที่ศาลา 18 วัดธาตุทอง กทม. เป็นเวลา 5 วัน ด้าน ซิโก้ เฮดโค้ชทีมชาติไทย ยกย่องเป็นต้นแบบที่ดีให้กับนักกีฬาไทย
null
โค้ชแต๊ก,อรรถพล ปุษปาคม,โค้ชแต๊กเสียชีวิต,เพื่อนตำรวจ,ติดเชื้อในกระแสเลือด,ฟุตบอลไทย,สุภาพบุรุษโล่เงิน,ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง,ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน,ข่าว,ข่าวสังคม,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/493302
ไขปริศนาสสารมืดกับผลลัพธ์จากเครื่องตรวจจับอนุภาคที่ละเอียดอ่อนที่สุดในโลก
เชื่อไหมว่าสสารทั้งหมดที่อยู่รอบตัวเราที่ประกอบขึ้นเป็นข้าวของเครื่องใช้ ร่างกายสิ่งมีชีวิต ไฟฟ้า อากาศ และแม้แต่ดาวฤกษ์ทั้งหมดบนท้องฟ้า ฯลฯ ทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วนเพียง 5% ของมวลสารและพลังงานทั้งหมดในเอกภพ ที่เหลืออีกราวๆ 27% เป็นสสารมืด (Dark Matter) และอีก 68% เป็นพลังงานมืด (Dark Energy) พลังงานมืดเป็นสิ่งที่ทำให้เอกภพของเราขยายตัวด้วยความเร็วสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ตรวจจับอัตราการขยายตัวของเอกภพได้อย่างแม่นยำ แต่สสารมืดเป็นสิ่งหนึ่งที่ลึกลับที่สุดสำหรับโลกฟิสิกส์ในตอนนี้ก็ว่าได้Photo: สสารมืด (Dark Matter) เป็นสิ่งที่ไม่ทำปฏิกิริยากับแสงหรือแรงใดๆ เลยนอกจากแรงโน้มถ่วงซึ่งเป็นแรงที่อ่อนกำลังที่สุด นักฟิสิกส์ตรวจจับมันได้ทางอ้อมจากการสังเกตความเร็วการหมุนของกาแล็กซีที่ผิดไปจากทฤษฎีแรงโน้มถ่วงปกติ กล่าวคือ บริเวณขอบกาแล็กซีต่างๆ มีอัตราการหมุนเร็วเกินกว่าที่แรงโน้มถ่วงจากสสารที่มองเห็นจะดึงดูดไว้ได้ นักฟิสิกส์จึงเชื่อว่ามีสิ่งที่เรียกว่า สสารมืด ส่งแรงโน้มถ่วงมาดึงดูดจนมวลสารในกาแล็กซีมีการเกาะกลุ่มและมีความเร็วการหมุนสูงอย่างที่นักฟิสิกส์สังเกตได้ (นอกจากนี้นักฟิสิกส์ยังพบหลักฐานอื่นๆ อีกมากมายที่บ่งชี้ถึงการมีอยู่ของสสารมืด) งานวิจัยในปัจจุบันจึงมุ่งเน้นไปที่การพยายามมองให้เห็นว่าสสารมืดมีการกระจายตัวอยู่อย่างไร ผ่านการหมุนของกาแล็กซีและปรากฏการณ์ความโน้มถ่วงอื่นๆ ที่สสารมืดส่งออกมา รวมทั้งศึกษาสสารมืดส่งผลอย่างไรต่อการเกิดโครงสร้างของกาแล็กซี รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของเอกภพในระดับภาพรวม ส่วนงานวิจัยอีกสายหนึ่งมุ่งเน้นมาที่การหาคำตอบว่าตัวตนของสสารมืดนั้นคืออะไรกันแน่ พูดง่ายๆ ว่าสสารมืดประกอบขึ้นจากอนุภาคอะไรและมีคุณสมบัติอะไรบ้าง แต่ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนเลยว่าสสารมืดนั้นประกอบขึ้นจากอนุภาคอะไรกันแน่ห้องปฏิบัติการสำหรับตรวจจับสสารมืดในโครงการ XENON เพื่อตอบคำถามนี้ อุปกรณ์การทดลองที่มีชื่อว่า XENON1T จึงถูกสร้างขึ้นและติดตั้งไว้ใต้ดินบริเวณภูเขา Gran Sasso ของประเทศอิตาลีเพื่อไม่ให้เครื่องมือถูกรบกวนจากรังสีต่างๆ ที่มีอยู่มากมายบนผิวโลก โดยนักวิจัยหลายประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา อิตาลี เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ โปรตุเกส ฝรั่งเศส สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฯลฯ ร่วมมือกันเพื่อวิเคราะห์และใช้งานเครื่องมือดังกล่าว ภายในประกอบด้วยถังขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยซีนอนเหลว (Liquid Xenon) ที่บริสุทธิ์สูงปริมาณ 3.5 ตัน เก็บไว้ที่อุณหภูมิต่ำถึง -95 องศาเซลเซียส ซึ่งอิเล็กตรอนของซีนอนหรือนิวเคลียสของซีนอนจะทำปฏิกิริยากับอนุภาคที่ประกอบเป็นสสารมืดที่พุ่งเข้ามาชน นักฟิสิกส์คาดหวังว่าการชนจะทำให้เกิดการปลดปล่อยพลังงานออกมาจนเครื่องมือสามารถตรวจจับได้ ล่าสุดในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้ ทีมนักวิจัยประกาศผลการเดินเครื่องตรวจจับนี้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วจนถึงเดือนมกราคมเมื่อต้นปีว่า ไม่สามารถพบสัญญาณใดๆ ที่บ่งชี้ถึงอนุภาคสสารมืดเลย พูดง่ายๆ ว่านักวิจัยพบความว่างเปล่า ทว่าทีมนักวิจัยก็ไม่ได้รู้สึกหมดหวังหรือท้อใจมากมายกับผลลัพธ์ที่ได้ เพราะทีมงานมองว่านี่เป็นการเดินเครื่องช่วงแรกๆ และการหาไม่เจอเป็นหนึ่งในผลลัพธ์ที่ถูกคาดไว้แล้ว ภายในปีนี้ทีมนักวิจัยคาดหวังจะพบสัญญาณการตรวจจับสสารมืดบ้าง แน่นอนว่าต้องมีการปรับปรุงแบบจำลองเชิงทฤษฎีของสสารมืดที่นักฟิสิกส์เคยคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าเครื่องมือ XENON1T จะสามารถตรวจจับอนุภาคสสารมืดได้ หากจนแล้วจนรอดก็ตรวจจับไม่ได้ นักฟิสิกส์อาจต้องสร้างเครื่องมือที่ใหญ่ขึ้นหรือแม้แต่ปรับทฤษฎีทั้งหมด แต่ถ้า XENON1T ตรวจจับอนุภาคสสารมืดพบ มันจะเป็นครั้งแรกที่นักฟิสิกส์พบตัวตนของสสารที่เป็นปริศนาที่สุดแห่งเอกภพของเราและน่าจะเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งที่ปรากฏขึ้นในประวัติศาสตร์โลกฟิสิกส์ สรุปว่าไม่ว่าจะพบอนุภาคสสารมืดหรือไม่พบก็ล้วนแล้วแต่ส่งผลสะเทือนต่อวงการฟิสิกส์ทั้งสิ้นหมายเหตุ: ภาพปก เป็นภาพกระจุกกาแล็กซี Abell 1689 ที่ถ่ายโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลในภาพนี้มีปรากฏการณ์ที่เรียกว่า เลนส์ความโน้มถ่วงอย่างเข้ม (Strong Gravitational Lensing) ซึ่งเกิดจากการที่แสงเดินทางผ่านสสารมืดแล้วแรงโน้มถ่วงของสสารมืดส่งผลให้แสงเดินทางโค้งเหมือนถูกหักเหด้วยเลนส์อ้างอิง: – https://goo.gl/tsjJ0K – https://goo.gl/JAv2rT – https://goo.gl/x04eT4 – https://goo.gl/knF5WY
สสารมืดคือสิ่งหนึ่งที่ลึกลับที่สุดในโลกฟิสิกส์ เพราะไม่ทำปฏิกิริยากับแสงหรือแรงใดๆ เลยนอกจากแรงโน้มถ่วง นักฟิสิกส์จึงสามารถตรวจจับมันได้ทางอ้อมจากการสังเกตความเร็วการหมุนของกาแล็กซีที่ผิดไปจากแรงโน้มถ่วงปกติเพื่อหาว่าสสารมืดคืออะไรกันแน่ อุปกรณ์การทดลองที่มีชื่อว่า XENON1T จึงถือกำเนิดขึ้นไม่ว่า XENON1T จะตรวจจับอนุภาคสสารมืดได้หรือไม่ นี่จะเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกฟิสิกส์
null
null
https://thestandard.co/opinion-science-dark-matter/
สั่งเด้ง 3 เสือ สังเวยค้ากามเมืองอุดรฯ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 30 ม.ค. 58 ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผบช.ภ.4 เดินทางตรวจราชการ และ พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจซอยกิจขยัน หรือซอยเสาไฟแดง หลังจากเมื่อคืนวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผวจ.อุดรธานี นำกำลังเจ้าหน้าปราบปรามการค้ามนุษย์ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย บุกเข้าจับกุมหลังมีการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี สามารถจับสาวลาวได้ 33 คน มีหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี 2 คน,พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่า ถือโอกาสมาดูที่เกิดเหตุ เพื่อหาข้อมูลวางแนวทาง และมอบนโยบาย ที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบนี้ดำเนินการต่อไป จากการตรวจที่เกิดเหตุพบเป็นห้องเช่า ซึ่งมีทั้งคนไทยและคนลาวมาเช่า คนไทยที่เช่าเป็นที่พักอาศัยจะเห็นว่ามีห้องหลายห้องล็อกอยู่ สอบถาม ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ผู้เช่ายังไม่ได้ย้ายออก แต่ก็มีส่วนหนึ่ง หรือจำนวนหนึ่งเป็นผู้หญิงลาวมาเช่า แล้วก็ใช้เป็นสถานที่ค้าประเวณี จากการสอบถามก็ได้ความว่า เจ้าของสถานที่มีส่วนรู้เห็น หรือได้รับประโยชน์จากการค้าประเวณี ได้กำชับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบเรื่องนี้ให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาด กับผู้ที่มีส่วนรู้เห็น ในการค้าประเวณีที่นี่ และถ้าการสอบสวนพาดพิงเกี่ยวข้องถึงใครได้รับประโยชน์เกี่ยวกับธุรกิจนี้ เราก็จะดำเนินการกับทุกคนอย่างเฉียบขาด อาจจะไม่มีการยกเว้น หรือจะไม่มีการทำให้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนไป,พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยต่อว่า วันนี้ได้พบ ได้เห็น ได้ฟัง ก็จะนำสิ่งเหล่านี้ไปดำเนินการในการตัดสินใจในเบื้องต้น ตนก็คงจะต้องมีคำสั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ ส่งผู้ที่รับผิดชอบในพื้นที่นี้มาตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ถ้าผลการตรวจสอบมีผลพาดพิงถึงใครก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด เบื้องต้นให้ ผบช.ภ.4 เป็นผู้ดำเนินการในเบื้องต้นก่อน ส่วนที่เหนือกว่านั้นตนก็จะได้พิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง ส่วนการจ่ายส่วยให้ตำรวจจะต้องมีการสอบลึกลงไปอีกระดับหนึ่ง,เมื่อสักครู่ได้คุยกับท่านผู้กำกับเมืองอุดรฯ ท่านเพิ่งมารับตำแหน่งใหม่ได้ไม่กี่วัน ท่านได้มอบนโยบายและกำชับผู้ปฏิบัติ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เข้มงวดกับเรื่องนี้ เพราะทราบดีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญของประเทศเรา เป็นเรื่องสำคัญของรัฐบาล เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้ความสนใจ เพราะมันจะมีผลกระทบกับประเทศชาติเรื่องการค้าแรงงานต่างชาติที่ผิดกฎหมาย หรือค้ามนุษย์ พล.ต.อ.สมยศ กล่าว,อย่างไรก็ตาม ช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานีเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ว่า ทาง พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผบช.ภ.4 ได้สั่งการให้ตนดำเนินการทางวินัยกับตำรวจที่บกพร่อง จึงได้มีสั่งให้ พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.สุมิตร นันสถิตย์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรฯ และ พ.ต.ท.ขจรฤทธิ์ วงษ์ราช รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรฯ ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ภ.จว.อุดรธานี ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยมีคำสั่งวันที่ 30 มกราคม 2558.
สมยศ มาเอง สั่งจเรตำรวจสอบข้อเท็จจริงค้ากามเมืองอุดรฯ หากมีตำรวจรับผลประโยชน์ ให้ฟันขั้นเด็ดขาด พร้อมให้ทุกพื้นที่เข้มงวดการค้ามนุษย์ เนื่องจากเป็นปัญหาระดับชาติ ล่าสุด ผบช.ภ.4 สั่งเด้งแล้ว 3 เสือเมืองอุดรฯ
ข่าว,ทั่วไทย
ซ่องอุดรธานี,ค้ากาม,ค้าประเวณี,ค้ามนุษย์,อุดรธานี,สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง,พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง,ผบ.ตร.,สภ.เมืองอุดรธานี,สอบซ่องค้ากามเมืองอุดรฯ,ค้ากามเมืองอุดรฯ,ข่าว,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/478116
รีบดูก่อนโดนลบ 10 อันดับ ลูกดาราเสี่ยงโดนIGแบน
หลังต่ำกว่า 13 ปี และไม่ได้เปิดใช้บัญชีด้วยตนเอง,งานนี้ ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, เลยขอจัดอันดับลูกดาราขวัญใจชาวไอจีที่มียอดฟอลโล่สูง เสี่ยงว่าจะโดนแบนและเหลือเพียงแค่ความทรงจำ หรือ บางคนอาจจะโดนล้างบาง เคลียร์แอคเคาท์ทิ้ง ซึ่งจะมีซุปตาร์เด็กคนไหนกันบ้าง ไปดูกัน,1. วันใหม่ ซุปตาร์ตัวน้อย น้องสาวของเฮียบอย ปกรณ์ ที่มีผู้ติดตามเยอะถึง 1,020,992 คนใน ,@lilwanmai, ที่รวมภาพอิริยาบถน่ารักๆ ของวันใหม่ไว้ถึง 1,648 โพสต์ งานนี้แฟนคลับคงตามเซฟกันไม่ทันเลย,2. บีน่า-บรู๊คลิน ฝาแฝดลูกรักของเวย์ ไทยเทเนี่ยม และ นานา ไรบีนา ก็มีไอจีไว้เก็บภาพความน่ารัก ที่ ,@bena_brooklyn, และมียอดผู้ติดตาม 436,847 คน โพสต์ไปแล้วถึง 1,539 ครั้ง,3. น้องณดา ปุณณดา ลูกสาวพ่อบรู๊ค-ดนุพร กับแม่กบ-สุวนันท์ ที่ก็เกือบจะโดนปิดแอคเคาท์ทิ้งไป แต่ดีที่เปลี่ยนชื่อทันเป็น ,@kob_punnadapunnakanta, มียอดผู้ติดตาม 421,949,4. น้องโปรด อัษศดิณย์ บุญยรัตกลิน ลูกชายของแม่เป้ย ปาดวาด  เด็กชายแก้มป่อง ขวัญใจแม่ยกในอินสตาแกรม ,@prod_assadin, มียอดผู้ติดตาม 221,739 คน,5. เจ้าขุน 1 ใน 3 หนุ่มจอมซน แห่งบ้าน วรรธนะสิน ลูกชายของเจ้าพ่อแรพโย่ เจ เจตริน และ ปิ่น เก็จมณี ที่ฉายแววความหล่อในไอจี ,@JJaokhun, มียอดติดตาม 180,594 คน,6. น้องไลลา เจน บัทเทอรี่ ลูกสาววัยกำลังซนของคุณแม่พอลล่า ที่สวยน่ารักได้คุณแม่มาเต็มๆ ได้ใจคนในอินสตาแกรม ,@lylajanebuttery, มียอดผู้ติดตาม 148,757 คน,7. น้องณิริน ลูกสาวแก้มยุ้ยของคุณแม่สุดแซ่บ หนิง ปณิตา ที่ยิ่งโตก็ยิ่งฉายแววความน่ารัก งานนี้ก็อวดภาพในไอจี ,@nirin_tumwattana, มีคนติดตามเยอะถึง 115,964 คน,8. หนุ่มน้อยรูปหล่อ น้องอชิ-อชิรวัตติ์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของสาว โบ ชญาดา กับหนุ่มฟลุค เกริกพล ที่มีคนติดตาม 115,728 คน ในอินสตาแกรม ,@achirawat,9. สาวน้อยตาแป๋วแหวว น้องนาวา ลูกสาวของคุณแม่ อ้อม-พิยดา ก็มีแฟนรัก แฟนหลง ตามติดในอินสตาแกรม ,@nava_patchranant,  มียอดติดตามกว่า 109,268 คน,10. และ 1 สาวน้อย น้องลียา ลูกสาวที่แสนน่ารักของธัญญ่า ธัญญาเรศ และ เป๊ก สัณชัย เองตระกูล เราก็ได้เห็นภาพน้องบ่อยๆ ในอินสตาแกรม ,@liyah_engtrakul, มียอดผู้ติดตาม 73,453 คน,งานนี้คุณพ่อ-คุณแม่คงแอบมีเสียใจ กังวล ว่าไอจีเหล่านี้จะถูกสั่งแบนหรือไม่ แต่ยังไงเราก็ขอเป็นกำลังใจและจะตามติดเป็น FC ของเหล่าซุปตาร์ตัวน้อย ต่อไปเรื่อยๆ,ส่วนหากใครอยากรู้ว่า ข้อกำหนด ของแอพสุดฮิต อย่าง IG มีข้อกำหนดอะไร ที่อาจทำให้คุณถูกแบนโดยไม่รู้ตัว คลิกไปดูสารพัดข้อห้ามต่างๆ ได้เต็มๆ,ที่นี่ ,https://help.instagram.com/478745558852511, 
เป็นประเด็นฮือฮาบนโลกโซเชียล ที่ทำเอาสาวกไอจีมีอันต้องสั่นสะเทือน จนกลายเป็นดราม่าเรื่องนี้ต้องถึง CEO อินสตาแกรมกันเลยทีเดียว หลังจากมีกรณีของน้องวันใหม่ ขวัญใจพี่ ป้า น้า อา ถูกสั่งแบนและจะลบบัญชี @lilwanmai เนื่องจากมีอายุ
null
วันใหม่,โดนลบ,IG,บอย ปกรณ์,เสี่ยงโดนIGแบน,ลูกดารา,น้องสาว,รีบดู,10 อันดับ,สาวกไอจี,ตัวน้อย,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,ซุป'ตาร์
https://www.thairath.co.th/content/474821
ทารกหัวเล็กพุ่ง วอนศาลสูงบราซิล อนุญาตหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อไวรัสซิกา ทำแท้งได้
เมื่อ 29 ม.ค. 59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน กลุ่มทนายความ นักเคลื่อนไหวและนักวิทยาศาสตร์ ในบราซิล รวมตัวยื่นเรื่องขอให้ศาลสูงบราซิล อนุญาตให้หญิงตั้งครรภ์ซึ่งติดเชื้อไวรัสซิกา สามารถทำแท้งได้ เนื่องจากขณะนี้โรคศีรษะขนาดเล็กผิดปกติ ซึ่งพบในเด็กทารกแรกเกิดนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับมารดาของเด็กได้ติดเชื้อไวรัสซิการะหว่างตั้งครรภ์ และเชื้อไวรัสซิกากำลังเกิดการแพร่ระบาดในบราซิล รวมทั้งหลายประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกา รวมทั้งประเทศในแถบแคริบเบียน,บีบีซี แจ้งว่า การทำแท้งในบราซิลยังเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะยกเว้นให้หญิงตั้งครรภ์ทำแท้งได้ เฉพาะกรณีหากยังตั้งครรภ์ต่อไปจะมีผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพ หรือเนื่องจากถูกข่มขืน ขณะที่กฎหมายดังกล่าว ซึ่งออกมาตั้งแต่ปี 2555 ได้อนุญาตเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ที่ตรวจพบทารกน้อยมีภาวะไม่มีสมองและกะโหลกศีรษะ (Anencephaly) จึงอนุญาตให้ทำแท้งได้เท่านั้น ยังไม่ครอบคลุมถึงภาวะเด็กศีรษะขนาดเล็กผิดปกติ,ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสเตือนว่า จะมีผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาในทวีปอเมริกาในปีนี้ถึงประมาณ 3-4 ล้านคน ขณะเดียวกัน นายโธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ยังได้เพิ่มมาตรการเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสซิกา ระหว่างจะมีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่นครริโอ เดอ จาเนโร ในบราซิล ปีนี้,ทั้งนี้ บราซิล เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบร้ายแรงที่สุดจากการระบาดของไวรัสซิกา ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า ผลการตรวจสอบยืนยันออกมาแล้ว เด็กทารกที่เกิดมามีศีรษะเล็ก 270 ราย เกิดจากมารดาที่ติดเชื้อไวรัสซิกา และเด็กทารกศีรษะเล็ก 3,448 ราย อยู่ระหว่างการตรวจสอบอยู่
กลุ่มนักเคลื่อนไหวทางสังคมในบราซิล ยื่นเรื่องขอศาลสูงอนุญาตให้หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อไวรัสซิกาสามารถทำแท้งโดยไม่ผิดกฎหมาย ชี้จำนวนเด็กทารกหัวเล็กที่แม่ติดเชื้อไวรัสซิกาพุ่ง ขณะเชื้อไวรัสร้ายกำลังระบาดหนัก
null
ไวรัสซิกา,ไวรัสซิการะบาด,บราซิล,หญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อ,ลูกเกิดมาหัวเล็ก,เด็กทารกศรีษะเล็ก,ทารกหัวเล็ก,ยุงลาย,ระบาด,ลาตินอเมริกา,ประเทศแคริบเบียน,ทำแท้ง,ศาลสูง,เรียกร้อง,อนุญาตให้ทำแท้ง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ
https://www.thairath.co.th/content/569969
ย้อนไว 15 หนังเด็ดอำลา 15 ปีเฮาส์อาร์ซีเอ ต้องปิดแล้ว
แฟนหนังตัวจริงอิ่มเอม มาตั้งแต่ 9 กรกฎาคม 2547 ต้องปิดโรงไปแล้ว ในวันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม 2562 ไม่ต้องเสียใจเยอะนะ เพราะย้ายไปเป็น เฮาส์สามย่าน HOUSE SAMYAN ที่ใหม่หาง่ายเดินทางสะดวกเวอร์ อยู่ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ Samyan Mitrtown เดินทางได้ง่ายด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามย่าน พร้อมเปิดให้บริการปลายกันยายนนี้,จุดแข็งของเฮาส์อาร์ซีเอ HOUSE RCA คือนำหนังคุณภาพจริงหาดูยาก หาดูจากโรงหนังที่ไหนไม่ได้ 15 ปีที่ผ่านมา เฮาส์อาร์ซีเอ HOUSE RCA ครองใจแฟนหนังได้อย่างเหนียวแน่นหนึบ เพราะสองผู้บริหาร อุ๋ย ชมศจี เตชะรัตนประเสริฐ ,จ๋อง พงศ์นรินทร์ อุลิศ ฉลาดเลือกหนังเด่นโดนใจจัง มาให้ดูเรื่อยๆ รวมหนังที่ฉายไปมากกว่า 600 เรื่อง หลายแนวทั่วโลกกว่า 40 ประเทศ 15 ปีที่ผ่านมา จะมีหนังเรื่องไหน ที่ทิ่มแทงใจแฟนหนัง บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ รวมมิตรมาให้ระลึกนึกถึงกันแล้ว,15. TOMORROW Ill DATE WITH YESTERDAY YOU,น้ำตาลไม่ต้อง หวานเวอร์เพ้อเจ้อข้ามเวลาหากัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพวกที่กำลังตกหลุกรัก แบบถอนตัวไม่ขึ้น หนังเรื่องสุดท้าย รอบสุดท้าย 20.30 ของเฮาส์อาร์ซีเอ HOUSE RCA ตั๋วเต็มอย่างไว ซาบซึ้งน้ำตาคลอกันไปแล้ว เพราะเป็นเรื่องสุดท้ายแล้ว ที่ต้องอำลาเฮาส์อาร์ซีเอ HOUSE RCA ,14. Eternal Summer, ,เสพติดความเจ็บจี๊ดให้สาแก่ใจ ของคนแอบรัก ฉันรักเธอ เธอไม่รักฉัน เราสามคนจะรักกันหมดไม่ได้ จึงต้องมีคนเจ็บปางตาย เพราะพิษรักที่ค่อยๆ ซึมเหมือนยาพิษ ยากจะรักษาได้ในชาตินี้ ,13. Mario,ดูแค่หน้าจ้องแค่หุ่นแน่น ของสองพระเอกก็โคตรคุ้มแล้ว รักระเบิดเกิดขึ้นมาแล้ว ช่างยากเย็นนักจะหักห้ามจิต จำใจลาไกล ทำเหมือนไม่แคร์ แต่จริงๆ โคตรๆ แคร์เลย เพราะเส้นทางรักคันของหนุ่มแน่นอกในวงการฟุตบอล ไม่ยินดีต้อนรับชายรักชายอย่างเปิดเผยได้,12. Burning ,ไฟเผาผลาญทุกสิ่งให้แหลกย่อยยับ ส่วนไฟตัณหาราคะ ต้องรู้เท่าทัน ดับๆ กันเอาเองนะ ค่อยๆ ขยี้คนดูให้ตะลึงตายคาจอ เล่นน้อยแต่ให้ความรู้สึกที่ทะลักล้นอย่างมาก เสียดสีสังคมคนรวยคนจนได้อย่างมีมิติลุ่มลึก จึงไม่น่าแปลกที่จะเป็นหนังโปรดของใครหลายคน,11. Fahrenheit 11/9  ,กระตุ้นพลังบวกๆ ในตัวเราให้ลุกโชติช่วงชัชวาล โดยไม่ต้องรอให้นักการเมืองหน้าไหน มาช่วยทำให้เรา ต้องรู้เท่าทันเล่ห์กลของนักการเมือง ประชาชนอย่าฉลาดน้อย ต้องตรวจสอบการทำงานของนักการเมืองตลอด หนังเหมาะมากที่จะให้นักการเมืองทั่วโลกได้ดู และประชาชนได้ตาสว่างกับความเจนจัดของนักการเมืองโสโครก ,10. Tonight at Romance Theater,เล่าเรื่องรักหวานเจี๊ยบ ได้ดั่งเทพนิยายจับใจจัง แฟนตาซีเลิฟที่เราอยากให้เกิดขึ้นจริง ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งด้วย ถ้าใครยังไม่ได้ดูในโรงหนัง แบบเต็มตาเต็มอารมณ์,9. Formula 17,กรี๊ดแหลกยาวไป หนังไต้หวันน่ารักมาก ดีงานไร้ที่ติ มุ้งมิ้งงอนๆ ง้อๆ แลดูน่ารำคาญจัง แต่จริงๆ ดูแล้วช่างทำให้หัวใจบานฉ่ำชื่น โลกช่างสวยงามน่าอยู่ โลกของเรานี้เป็นสีชมพูวิ้งๆ ,8. Whiplash  ,แค่ดียังไม่พอ ต้องให้ดีที่สุด แต่ก็ยังไม่พออีก ต้องให้ดีขึ้นๆ ไปอีกๆ แบบไม่มีที่สิ้นสุด ตอกย้ำให้เห็นว่า อยากให้เป็นที่ 1 แค่พรสวรรค์ไม่พอพึ่งไม่ได้ ต้องได้ครูเก่งสุดโหดคอยขัดเกลา และต้องอาศัยความมานะพยายาม ตั้งใจอย่างยิ่งยวด อย่างไร้ขอบเขตอีกด้วย ,7. Whitney,นักร้องสาวเสียงทรงพลัง ที่ลาโลกไปแล้ว ช่างน่าเสียดาย เหลือแต่ผลงานเพลงอมตะหลายเพลง ที่เราจะต้องได้ยินไปอีกนานหลายชาติ จนโลกแตกดับสูญสิ้นไป หนังแฉเละชีวิตสุดอเมซิ่งของ วิทนีย์ ฮุสตัน แฟนเพลงแม่วิทนีย์ ได้ดูต่างน้ำตาแตกกันไปแล้ว,6. Call Me By Your Name ,ฤดูร้อนอันเร่าร้อนในเมืองเล็กๆ ที่อิตาลี เอลิโอ-โอลิเวอร์ ได้ค่อยๆ เรียนรู้ศึกษาใจ สานสัมพันธ์สุดแซ่บแตก ยังตราตรึงอยู่ไร้กาลเวลา แม้วันอันแสนหวานล้นของเรา จะไม่มีวันหวนกลับมาอีก แต่จะไม่มีวันลบเลือนไปจากหัวใจเรา  ,5. Shadow  ,อลังการงานสร้าง งดงามตื่นตะลึงเตะตาแตก ทุกซีนทุกชอต เหนือกว่านั้นคือ ปรัชญาลุ่มลึกสุดฤทธิ์สุดเดช ที่หนังได้บรรจงปราณีตแทรกเอาไว้อย่างเนียนกริบ บาดคมทะลุจอจริง,4. The Way He Looks  ,หนังรักจากบราซิลสุดกลมกล่อม ต้องเชียร์ๆ อวยๆ ที่ขัดเกลาหัวใจเราให้อิ่มเอมในรักแรก เป็นหนังรักที่ตีแตกละเอียด ให้นิยามความหมายของคำว่ารักโรแมนติกที่เคลียร์คัต ในช่วงวัยแรกรุ่นแตกเปลี่ยว ได้อย่างยอดเยี่ยมไร้เทียมทาน,3. รักแห่งสยาม Directors Cut,เวอร์ชั่นยาวเหยียด กล้าฉายที่เฮาส์อาร์ซีเอ HOUSE RCA หนังยาวปาไป 3 ชั่วโมง ใครจะทนดู แต่แฟนคลับยังแห่มาดูกันอย่างแยะ เรื่องรักของเราตั้งแต่เด็ก เติบใหญ่วัยโจ๋รักนั้นก็เบ่งบานไปตามวันเวลา แต่ต้องสะดุด เพราะรักเรามันไม่ง่ายที่จะสานต่อไปได้ไกล ,2. Be With You,ต้นฉบับจากญี่ปุ่น ต่อมาเกาหลีนำไปทำใหม่ ก็ยังซึ้งจัดซึ้งจริงได้อีกๆ ละมุนละไมสุดขีด กระชากอารมณ์ซาบซึ้งได้อย่างเจ๋งจริง ปาฏิหาริย์แห่งรักของครอบครัวอบอุ่น ที่ยังอยู่ในหัวใจคนดูมิรู้เสื่อมคลาย ,1. พี่ชาย My Hero (How to Win at Checkers - Every Time),นำรถมอเตอร์ไซค์ของพระเอก อั้ม ถิร ชุติกุล ที่ขับจริงในหนัง มาตั้งโชว์หน้าโรง เฮาส์อาร์ซีเอ HOUSE RCA สับๆ ฟาดๆ ความเสื่อมของไทยแลนด์ แดนดินลับลวงพรางได้อย่างแสบสุดพลัง พี่ชาย My Hero (How to Win at Checkers - Every Time) ผลงานกำกับของ จอช คิม สุดหล่อเด้ง ที่นักวิจารณ์หนัง-แฟนหนังทั่วไทย ต่างยกให้เป็นหนังสุดจี๊ดเจ็บจริงที่ไม่กล้าลืม เคยมีแฟนหนังบ้าคลั่งระห่ำ ตามไปดูในโรงมากถึง 15 รอบ.
ปิดตัวไปแล้ว โรงหนังเล็กๆ แต่ยอดเยี่ยมยิ่ง เฮาส์อาร์ซีเอ HOUSE RCA เปิดฉายให้
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
เฮ้าส์อาร์ซีเอ HOUSE RCA,หนังเก่าดีฉายที่เฮ้าส์อาร์ซีเอ,พี่ชาย My Hero How to Win at Checkers - Every Time,เฮ้าส์สามย่าน HOUSE SAMYAN,กอสซิป
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1650135
วิลลี่ ตอบแล้ว หลังลือเตียงหัก เยลหลี รับมีเรื่องทะเลาะกันบ่อย (คลิป)
เคยมีข่าวกระหน่ำว่า อดีตพระเอกเลิกเมียนางแบบ ก็หนีไม่พ้นคู่ของ วิลลี่ เยลหลี ที่ตรงข้อสงสัยทั้งเป็นอดีตพระเอกและภรรยาก็เป็นนางแบบ งานนี้ วิลลี่ เยลหลี หย่า จริงหรือไม่ วิลลี่ เยลหลี เตียงหัก จริงหรือเปล่า ไปฟังจากปากทั้งคู่ที่มาเปิดใจในรายการ ตีท้ายครัว,ข่าวขาเตียงหักยังไงกัน,วิลลี่, ช่วงนั้นยอมรับว่าน้ำหนักขึ้น (หัวเราะ) ประเด็นมายังไงรู้ไหม อันดับแรกพีอาร์โทรมาถามว่าพี่วิลลี่บ้านพี่มีปัญหาหรือเปล่า,เพราะนักข่าวได้ยินมาแล้วว่า อดีตพระเอกชื่อดัง ที่มีภรรยาเป็นนางแบบทะเลาะกันกำลังสั่นคลอนใกล้เลิก เราก็กลับบ้านไปถามเยลหลีว่านอกจากคู่เราแล้วมีคู่ไหนอีก ที่เป็นอดีตพระเอกกับภรรยานางแบบ ซึ่งก็มี,แล้วเราก็รู้สึกว่าเอ๊ะไม่ใช่คู่เราแล้วละ เราก็บอกเยลหลีว่าเงียบไว้ก่อน คราวนี้พอเรื่องมันเริ่มออกมา แต่ละคู่ก็เริ่มออกมาพูด แต่ตัวเราไม่พูด ตายละ เป้ามาที่เราแล้ว สุดยอดดีใจที่สุดเลยมีข่าวแล้ว (หัวเราะ),เยลหลี ,แต่เราก็ออกนะ เพราะตอนนั้นเยลหลีอ้วนมาก ก็ไม่ชอบออกอินสตาแกรม หรืออะไร สองถ้าเขาพาวินไปเที่ยว เยลหลีก็ไม่ออกเพราะถ้าออกไปกับพ่อ พ่อชอบพาน้องวินไปเล่นอะไรแปลกๆ ปล่อยลูกฉันไปนั่งลูบช้าง ไปอยู่ข้างหลังช้าง เราก็จะกรี๊ด มีแต่เสียง No No เยอะแยะไปหมด ไม่สนุกเลยก็ไม่ไปดีกว่า,คู่เรามีเคล็ดลับการครองรักยังไง,เยลหลี, ห้ามเอาชนะ จริงๆ ต้องอยู่ด้วยกันแล้วทั้งคู่ชนะ ไม่มีแพ้,วิลลี่, เป็นผู้ชนะผู้แพ้ไม่มีประโยชน์,เยลหลี, มุมมองผู้หญิงผู้ชายไม่เหมือนกัน ผู้ชายทำอะไรเขาทำได้อย่างเดียว เขาทำหลายอย่างไม่ได้ ดูทีวีเค้าก็ดูอย่างเดียว ผู้หญิงดูทีวีเล่นมือถือ คุยไปด้วยเราทำได้,วิลลี่, รู้มั้ยทะเลาะกันบ่อยสุดเรื่องอะไร เรื่องเย็นนี้จะกินอะไร,เยลหลี, บางทีผู้หญิงก็เบื่อที่ต้องมานั่งคิดเมนู เพราะว่าเราต้องแพลน ถามว่าจะกินไรไม่ตอบ กินอะไรก็ได้ พอทำไปแล้วบอกไม่อยากกินอันนี้ รู้มั้ยว่าแต่ละเมนูมันทำนาน แล้วจะบอกรู้มั้ยบอกอีกที โน้น 45 นาทีจะกินแล้วมาบอกว่าอยากกิน คุณขา ทำไม่ทันนะคะ,วิลลี่, บางทีไปดูหนังกัน กินยังอิ่มๆ อยู่เลย เตรียมเข้าโรงดูหนัง เรียกเช็กบิลปุ๊บ เอาละถามแล้ว เย็นนี้กินอะไร โอ้โห (หัวเราะ),วิลลี่, พูดตรงๆ นะวันไหนไม่ทะเลาะก็รู้สึกแปลกๆ,เยลหลี, อย่าบอกทะเลาะ เถียงกันจุ๊กๆ จิ๊กๆ,วิลลี่, เราทะเลาะกันได้ แต่คำว่าขอโทษต้องพูดได้.
เคยมีข่าวกระหน่ำว่า อดีตพระเอกเลิกเมียนางแบบ ก็หนีไม่พ้นคู่ของ วิลลี่ เยลหลี ที่ตรงข้อสงสัยทั้งเป็นอดีตพระเอกและภรรยาก็เป็นนางแบบ งานนี้ วิลลี่ เยลหลี ตอบแล้ว!
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
วิลลี่ เยลหลี,วิลลี่ เยลหลี หย่า,วิลลี่ เยลหลี เตียงหัก,อดีตพระเอกเลิกเมียนางแบบ,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1311334
ปี 2560 คนจีนเสียชีวิตจากการทำงาน 38000 คน
เว็บไซต์ รายงานเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2561 ที่ผ่านมาว่าสื่อของรัฐบาลจีนระบุว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจากการทำงานในปี 2560 ลดลงร้อยละ 12.1 จากปี 2559 โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 38000 คนในทางกลับกันพบว่าค่าปรับที่รัฐจัดเก็บได้จากนายจ้างที่ละเมิดข้อบังคับเกี่ยวกับความปลอดภัยในสถานที่ทำงานกลับเพิ่มสูงขึ้น โดยในปี 2560 ที่ผ่านมารัฐบาลจีนจัดเก็บค่าปรับได้ถึง 3.3 พันล้านหยวน (ประมาณ 16380 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 58 เมื่อเทียบกับปี 2559ทางการจีนระบุว่าปี 2560 ที่ผ่านมามีการตรวจสอบความปลอดภัยในสถานที่ทำงานถึง 4.6 ล้านแห่ง ทั้งนี้จีนกำลังเผชิญกับกระแสกดดันเรื่องความปลอดภัยในที่ทำงานโดยมีคนทำงานกว่า 43 ล้านคน เดินทางไปทำงานเป็นประจำทุกวันในภาคอุตสาหกรรมถ่านหินของจีน ซึ่งนับเป็นหนึ่งในสถานที่ทำงานที่มีความเสี่ยงสูง มีอัตราผู้เสียชีวิต 375 คน ในปี 2560 ถือว่าลดลงร้อยละ 28.7 จากปี 2559 เป็นผลมาจากการรณรงค์ต่อต้านการทำเหมืองแร่ผิดกฎหมายทั่วประเทศ จำนวนผู้เสียชีวิตในภาคอุตสาหกรรมถ่านหินนี้ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องจากที่เคยมีผู้เสียชีวิตจุดสูงสุดเกือบ 5000 คน ในปี 2546 และในปี 2560 ที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้ปิดเหมืองขนาดเล็กที่ไม่ปลอดภัยไปประมาณ 6100 แห่ง
ทางการจีนระบุตลอดทั้งปี 2560 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในการทำงาน 38000 คน ลดลงจากปี 2559 ร้อยละ 12.1 เก็บค่าปรับนายจ้างที่ละเมิดข้อบังคับเกี่ยวกับความปลอดภัยในสถานที่ทำงานได้ถึง 3.3 พันล้านหยวน
ต่างประเทศ,แรงงาน
ความปลอดภัยในการทำงาน,จีน
https://prachatai.com/journal/2018/01/75199
สนั่นโตเกียว รถถัง ควง อ่อง ลา-บิเบียโน ป้องกันแชมป์ที่ญี่ปุ่น
 บิเบียโน เฟอร์นานเดส รวมไปจนถึง รถถัง จิตรเมืองนนท์ พร้อมใจป้องแชมป์ ขณะที่ จอร์จิโอ เปโตรเซียน ซิวเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ในศึก ONE: CENTURY PART II ที่ญี่ปุ่น,วันที่ 13 ต.ค.62 ONE Championship ระเบิดความมันครั้งล่าสุด ฉลองการแข่งขันครั้งที่ 100 อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้ชื่อศึก ONE: CENTURY ที่เรียวโงกุ โกกุงิกัง กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยในช่วงเย็นเป็น Part II ของรายการ ประกอบด้วยโปรแกรมการแข่งขันทั้งหมด 11 คู่ ท่ามกลางกองทัพนักกีฬาระดับโลกพาเหรดขึ้นสังเวียนกันอย่างคับคั่ง,สำหรับคู่เอก เป็นการป้องกันแชมป์โลก ONE รุ่นไลต์เฮฟวีเวตของ The Burmese Python อ่อง ลา เอ็น ซาง ชาวเมียนมาร์ พบกับ The Truth แบรนดอน เวรา จากฟิลิปปินส์ ดีกรีแชมป์โลก ONE รุ่นเฮฟวีเวต ที่ลดน้ำหนักลงมาขอท้าชิงแชมป์ ผลปรากฏว่า อ่อง ลา ระเบิดฟอร์มสุดยอด ปิดเกมสำเร็จในยกที่สอง ชิงจังหวะศอกกลับเข้าใบหน้าเวราเต็มๆ จนกำปั้นฟิลิปิโน-อเมริกันทรุดลงไปนั่ง แชมป์ชาวเมียนมาร์ไม่ปล่อยโอกาสทองให้หลุดมือ โผตามเข้าอัดกับลูกกรงแล้วรัวกำปั้นซ้ายใส่เป็นชุด กรรมการบนเวทีเห็นว่าเวราไม่สามารถตอบโต้ได้จึงปรี่เข้ายุติการแข่งขัน ส่งผลให้ ออง ลา เอ็น ซาง ชนะทีเคโอป้องกันแชมป์โลก ONE รุ่นไลต์เฮฟวีเวต ไว้ได้อย่างยิ่งใหญ่,อีกคู่ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เป็นการชิงแชมป์โลก ONE รุ่นแบนตัมเวต The Flash บิเบียโน เฟอร์นานเดส เจ้าของเข็มขัดจากบราซิล ทำศึกครั้งที่สี่กับคู่รักคู่แค้น The Silencer เควิน เบลิงกอน ผู้ท้าชิงชาวฟิลิปปินส์ ผลปรากฏว่า ยอดฝีมือชาวแซมบ้าเป็นฝ่ายชนะซับมิสชั่นในยกที่สอง ป้องกันแชมป์ไว้ได้อย่างสวยงาม ,นอกจาก 3 คู่นำรายการแล้ว ยังมีอีก 2 คู่ที่น่าสนใจที่มีเข็มขัดแชมป์เป็นเดิมพัน ซึ่งมีนักกีฬาชาวไทยขึ้นเวทีด้วย ไฟต์ชิงแชมป์โลก ONE Super Series มวยไทยรุ่นฟลายเวต The Iron Man รถถัง จิตรเมืองนนท์ แชมป์ชาวไทย พบกับ วอลเตอร์ กอนซาลเวส ผู้ท้าชิงชาวบราซิล คู่นี้สู้กันได้สนุกสูสีตลอดห้ายก ยกแรก สองกำปั้นเดินหน้าแลกอาวุธกันดุเดือด รูปเกมต่อเนื่องยาวมายันยกสองและยกสาม รถถังเป็นฝ่ายคุมจังหวะเดินหน้าเข้าหา กอนซาลเวสถอยหลังคุมเชิงแต่ก็มีลูกตอบโต้น่ากลัว ยกที่สี่ แชมป์ชาวไทยเร่งเครื่องหวังเผด็จศึกให้ได้ แต่ผู้ท้าชิงก็อาศัยความคล่องตัวทำให้ยังไม่เพลี่ยงพล้ำ ยกสุดท้าย รถถังเดินบดเข้าประชิด กอนซาลเวสเน้นคุมเชิงรอดักจังหวะสองแต่ก็ไม่เข้าเป้าเท่าไร ครบห้ายก รถถังจึงเป็นฝ่ายชนะคะแนนไปอย่างไม่เอกฉันท์,ส่วนการแข่งขัน ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ คิกบ็อกซิง รุ่นเฟเธอร์เวต รอบชิงชนะเลิศ The Doctor จอร์จิโอ เปโตรเซียน กำปั้นระดับตำนานชาวอิตาเลียน-อาร์เมเนียน โชว์ฟอร์มเยี่ยมด้วยการชนะคะแนนอย่างเอกฉันท์เหนือ เซมี AK47 ซานา คู่ต่อกรชาวฝรั่งเศส คว้าเงินรางวัล 1 ล้านดอลลาร์ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ รูปเกมเป็นซานาที่ได้เปรียบเรื่องช่วงชกและส่วนสูงเดินหน้าเข้าหา แต่เปโตรเซียนอาศัยชั้นเชิงและอาวุธที่หลากหลายดักต่อยได้เข้าเป้าจะแจ้งมากกว่า ครบสามยกกรรมการให้คะแนนเทใจให้เปโตรเซียนเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะไปอย่างไร้ข้อกังขา,สรุปผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการของศึก ONE: CENTURY PART II,ชิงแชมป์โลก ONE MMA รุ่นไลต์เฮฟวีเวต : ออง ลา เอ็น ซาง ชนะ แบรนดอน เวรา ในยกที่ 2,MMA รุ่นไลต์เวต : ชินยะ อาโอกิ ชนะซับมิสชั่น ชนะ โฮโนริโอ บานาริโอ ในยกที่ 1,ชิงแชมป์โลก ONE MMA รุ่นแบนตัมเวต : บิเบียโน เฟอร์นานเดส ชนะซับมิสชั่น เควิน เบลิงกอน ในยกที่ 2,ชิงแชมป์โลก ONE Super Series มวยไทยรุ่นฟลายเวต : รถถัง จิตรเมืองนนท์ ชนะคะแนน(ไม่เอกฉันท์) วอลเตอร์ กอนซาลเวส ,คิกบ็อกซิ่งเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต : จอร์จิโอ เปโตรเซียน ชนะคะแนน(เอกฉันท์) เซมี ซานา ,MMA รุ่นเฮฟวีเวต : อาร์จาน บูลลาร์ ชนะคะแนน(เอกฉันท์) มาวโร เซริลลี,MMA รุ่นอะตอมเวตหญิง : เมอิ ยามากูชิ ชนะคะแนน(เอกฉันท์) เจนนี ฮวง ,MMA รุ่นสตรอว์เวต : โยซูเกะ ซารูตะ ชนะเคโอ ไดอิชิ คิทากาตะ ในยกที่ 2,MMA รุ่นแบนตัมเวต : โชโก ซาโตะ ชนะทีเคโอ ราฟาเอล ซิลวา ในยกที่ 2,MMA รุ่นเวลเตอร์เวต : ฮิโรยูกิ เทตซูกะ ชนะคะแนน(เอกฉันท์) เฮอร์นานิ เปอร์เปโตร ,MMA รุ่นไลต์เวต : เทกาซูเกะ คูเมะ ชนะคะแนน(เอกฉันท์) โคชิ มัตสึโมโตะ ,อัปเดตข่าวสารความเคลื่อนไหวของ ONE Championship ได้ที่ ,www.onefc.com, รวมทั้งทางทวิตเตอร์กับอินสตาแกรม @ONEChampionship และเฟซบุ๊ก ,www.facebook.com/ONEChampionship
สามนักชกชั้นแนวหน้าอย่าง อ่อง ลา เอ็น ซาง, บิเบียโน เฟอร์นานเดส รวมไปจนถึง รถถัง จิตรเมืองนนท์ พร้อมใจป้องแชมป์ ขณะที่ จอร์จิโอ เปโตรเซียน ซิวเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ในศึก ONE: CENTURY PART II
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
วัน แชมเปียนชิพ,มวยไทย,รถถัง จิตรเมืองนนท์,อ่อง ลา เอ็น ซาง,บิเบียโน เฟอร์นานเดส
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1681706
ศาลให้ถอนอุทธรณ์คดี เณรคำ ยึดศาลชั้นต้น ยืนคุก 20 ปี ฉ้อโกง-ฟอกเงิน
เมื่อวันที่ 4 ก.ค.62 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตหลวงปู่เณรคำ จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มายังศาลอาญา เพื่อฟังคำสั่งและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีดำ อ.2341/60 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ เป็นจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ฟอกเงิน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์,จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 17 ก.พ.52-27 มิ.ย.57 จำเลยได้อาศัยความเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา และความศรัทธาเลื่อมใสของประชาชนโดยการหลอกลวง ปกปิดข้อเท็จจริงต่อประชาชนอ้างว่า จำเลยเป็นประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จึงเชิญชวนและโพสต์ข้อความในเว็บไซต์ให้ประชาชน นำเงิน และสิ่งของมีค่ามาร่วมทำบุญก่อสร้างพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก ศาสนสถานต่างๆ จนมีผู้หลงเชื่อ 29 ราย มอบเงินสด โอนเงิน ทรัพย์สินฯ เป็นเงินทั้งสิ้น 28,649,553 บาท ซึ่งล้วนเป็นเท็จ เหตุเกิดที่วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ และที่อื่นๆเกี่ยวพันกัน ที่ห้องพิจารณา 701 ในเวลา 10.00 น. คดีนี้ศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 9 ส.ค.61 จำคุกจำเลยรวม 114 ปี แต่คงจำคุกจำเลยไว้ 20 ปี ตามกฎหมาย แต่จำเลยได้มีการยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์ไป เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา,ผู้สื่ข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่จำเลยยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์ ซึ่งศาลต้องอ่านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ก่อนว่าจะอนุญาตให้จำเลยถอนอุทธรณ์หรือไม่ หากศาลไม่อนุญาตให้ถอนอุทธรณ์ ก็จะอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เลย ทั้งนี้เมื่อถึงเวลาศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ถอนอุทธรณ์คดีในวันนี้ และมีคำสั่งให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำคุก 20 ปี และมีคำสั่งให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ขอถอน จึงเท่ากับว่าคดีถึงที่สุดแล้ว
ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนอุทธรณ์คดี อดีตหลวงปู่เณรคำ และมีคำสั่งให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำคุก 20 ปี และมีคำสั่งให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ขอถอน ถือว่าคดีถึงที่สุดแล้ว
ข่าว,ทั่วไทย
เณรคำ,จำคุก,คดีเณรคำ,ศาล,ถอนอุทธรณ์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1606828
มืออาชีพความรู้สึกไว
ระเบิดลามเป็นศึกนางสิงห์ คู่กัด ประจำสภาฯ,ล่าสุด น้องช่อ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ตั้งแท่นยื่นฟ้อง น้องเอ๋ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ต่อศาลอาญา,ฐานหมิ่นประมาท กรณีที่ น.ส.ปารีณาโพสต์ข้อความลงบนเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก พร้อมภาพตัดต่อของ น.ส.พรรณิการ์ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ รวมทั้งคณะทำงานของพรรค ในลักษณะที่อาจทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าพรรคมีส่วนเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงกับการก่อเหตุรุนแรงหลายจุดในกรุงเทพฯ,บึมป่วนเมืองพลิกเป็นการเมือง เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง,โดยแรงสั่นสะเทือนจิ๊บจ๊อยมาก เมื่อเทียบกับสถานการณ์ประท้วงในฮ่องกงต่อต้านอำนาจรัฐบาลจีน,กับฉากคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ประเทศไหนมาก่อน ผู้ประท้วงจงใจขัดขวางการเดิน,รถไฟฟ้าในชั่วโมงเร่งด่วน สกัดกั้นไม่ให้รถไฟออกจากสถานีรถไฟใต้ดิน ส่งผลให้การจราจรติดขัดยาวเหยียด บริการเดินรถโดยสารและรถไฟหยุดชะงักเป็นวงกว้าง รวมทั้งรถไฟเชื่อมท่าอากาศยาน,ม็อบแยกกำลังชุมนุม ผละงานประท้วงพร้อมกันเกือบ 10 จุด โดยเฉพาะท่าอากาศยานที่มีผู้โดยสารตกค้างจำนวนมาก เพราะมีการยกเลิกเที่ยวบินกว่า 200 เที่ยว สถานทูต สถานกงสุลเตือนพลเรือนแต่ละประเทศให้ระวัง,ฮ่องกงที่เคยคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวแทบกลายเป็นเมืองร้าง เศรษฐกิจพังพินาศ,ตามบทวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญ โอกาสเกิดความรุนแรงจากการที่รัฐบาลจีนจะส่งกำลังทหารเข้าปราบปรามม็อบขั้นเด็ดขาด การสลายการชุมนุมเกิดขึ้นได้ทุกขณะ,ว่ากันถึงขั้นจะเป็นฉากนองเลือด เทียนอันเหมิน ภาค 2,ขณะที่อีกด้านสงครามการค้าสหรัฐอเมริกากับจีนก็ยกระดับเกมรบรอบใหม่ ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์จีนได้ส่งสัญญาณให้บริษัทต่างๆของจีนหยุดซื้อสินค้าทางการเกษตรของสหรัฐฯแล้ว แถมขู่ซ้ำรีดภาษีผลิตภัณฑ์จากฟาร์มอเมริกาที่ซื้อหลังจากวันที่ 3 สิงหาคมนี้,เป็นเกมตอบโต้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ประกาศกำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่ มูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์,ตามเงื่อนไขสถานการณ์หักดิบ ทำให้ข้อตกลงสงบศึกทางการค้าระหว่างจีนและอเมริกาพังครืนทันที ก่อแรงสั่นสะเทือนเขย่าเศรษฐกิจโลกหลายแมกนิจูด,ไม่ต้องพูดถึงสถานการณ์ส่งออกของไทยที่เจอแรงกระแทกเต็มๆ,แค่รอลุ้นตัวเลขจะติดลบอีกมากน้อยแค่ไหน,แต่ในท่ามกลางลางร้าย วิกฤติ สึนามิ เศรษฐกิจโลกจ่อถล่มทั่วทุกทวีป แถมการเมืองไทยยังวุ่นวายกับควันระเบิดป่วนเมืองซ้ำจนแทบมองไม่เห็นทิศทางข้างหน้า,มันก็ยังมีโลกแง่ดี กับการเร่งปั๊มเศรษฐกิจเร่งด่วนภายในระยะเวลา 3 เดือน,นั่นไม่เท่ากับการเปิดวิสัยทัศน์ของทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจรัฐบาล ประยุทธ์ ภาค 2 ที่มาจากการเลือกตั้ง ทั้งนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ที่ระบุภายหลังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ มอบนโยบายแก่ผู้บริหารกระทรวงการคลัง เตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แพ็กเกจใหญ่ ภายในเดือนสิงหาคมนี้,เน้นดูแลคนทุกกลุ่มตั้งแต่ระดับฐานรากยันธุรกิจท่องเที่ยวในภาพรวม,ขณะที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดแผนช่วง 3 เดือนแรก จะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาสร้างความสมดุล ปรับโครงสร้างไบโอดีเซลตามแนวทางแก้ปัญหาสต๊อกน้ำมันปาล์ม ร่วมมือกับกระทรวงการคลัง ปรับแนวทางการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย สามารถใช้พลังงานราคาถูก,โดยการช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เช่น ค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม,อีกด้าน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ก็เตรียมหารือธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับ 32 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ตามที่เอกชนส่วนใหญ่ต้องการไม่ให้แข็งค่าเกินไป จนกระทบขีดความสามารถในการแข่งขันของเอกชน,และยังเตรียมคิวโรดโชว์เพื่อดึงนักลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯกับจีนมาลงทุนในประเทศไทยที่มีจุดแข็ง โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี),อย่างน้อยก็เป็นจุดที่กระตุกความหวัง ฝากผีฝากไข้ กับทีม มือบริหารอาชีพ,รีบวิ่งเข้าชนปัญหา คิดไวทำไว วางแผนเดินเนื้องานได้อย่างเป็นระบบ,ไม่ต้องเสียเวลารำมวย ขึ้นเวทีชกแบบตะลุมบอนทันที,ที่สำคัญความรู้สึกไวกว่ารัฐบาลท็อปบูตเห็นได้ชัด.,ทีมข่าวการเมือง
ล่าสุด น้องช่อ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ตั้งแท่นยื่นฟ้อง น้องเอ๋ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ต่อศาลอาญา
ข่าว,การเมือง
มืออาชีพ,ความรู้สึกไว,รัฐมนตรีเศรษฐกิจ,มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ,มือบริหารอาชีพ,ทีมข่าวการเมือง,วิเคราะห์การเมือง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1631913
สำนักข่าวต่างประเทศ ระบุยอดผู้เสียชีวิตเหตุแผ่นดินไหวเนปาล 1805 คน
เจ้าหน้าที่เนปาล เปิดเผยว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ตามมาตราริกเตอร์ เมื่อวานนี้ (25 เม.ย.2558) เพิ่มขึ้นเกือบ 1500 คนแล้ว โดยสรุปยอดล่าสุดก่อนหน้านี้อยู่ที่ 1450 คน ขณะที่สำนักข่าวซีเอ็น เอ็น อ้างข้อมูลของกระทรวงหมาดไทยเนปาล ระบุมีจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1805 คน และบาดเจ็บ 4718 คน นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากที่ต้องรักษาตัวนอกโรงพยาบาลท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บถึงจุดเยือกแข็งของเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.2558) ผู้สื่อข่าวต่างชาติรายงานว่าอาการของผู้บาดเจ็บจำนวนมากอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วงสำหรับแผ่นดินดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (25 เม.ย.) เวลา 12.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งศูนย์กลางอยู่ในระดับใต้ดินที่ตื้นมากระหว่างกาฐมาณฑุกับเมืองโพคารา ส่งผลให้เกิดความเสียหายรุนแรงเป็นบริเวณกว้าง โดยอาคาร วัด ศาสนสถานและโบราณสถานหลายแห่งพังเสียหาย และขาดบุคคลากรและเครื่องมือที่จะกู้ภัย ซึ่งขณะนี้หลายประเทศกำลังส่งเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์มาช่วยกู้ภัยในเนปาลอย่างเร่งด่วน โดยแผ่นดินไหวในเนปาลครั้งนี้มีความเสียหายรุนแรงมากที่สุดในรอบ 80 ปี
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานยอดผู้เสียชีวิตในเหตุแผ่นดินไหวเนปาลเมื่อวานนี้ (25 เม.ย.) อยู่ที่ 1805 คน ขณะที่นานาชาติเร่งระดมเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์เข้าช่วยเหลือ
ต่างประเทศ
earthquake,nepal,nepalearthquake,PrayforNepal,กรุงกาฐมาณฑุ,ข่าวต่างประเทศ,ซีเอ็นเอ็น,ผู้เสียชีวิต,อินเดีย,เนปาล,เอเวอร์เรสต์,แผ่นดินไหว
https://news.thaipbs.or.th/content/732
ดำเนินคดีไกด์พาทัวร์จีนปืนกำแพง วัดพระศรีสรรเพชญ์
ความคืบหน้ากรณี มีการนำภาพคลิปที่เจ้าหน้าที่บันทึกไว้เป็นหลักฐาน ขณะตำรวจจักรยาน สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา โต้เถียงกับมัคคุเทศก์ ที่นำลูกทัวร์ชาวจีนกว่า 30 คน ปีนกำแพงข้าม จากลานจอดรถพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือ สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง เข้าไปยังภายในบริเวณวัดพระศรีสรรเพชญ์ โดยไม่ได้ซื้อบัตรเข้าชมวัด เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่ไกด์จะยอมออกไปซื้อบัตรผ่านวันนี้(9พ.ค.2560) จากการตรวจสอบ พบว่า มัคคุเทศก์คนดังกล่าวชื่อ นายปรัชญาธรณ์ ฉันทยานนท์ จึงประสานนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อส่งเรื่องไปยังนายทะเบียนสาขาที่มัคคุเทศก์คนดังกล่าวขึ้นทะเบียนอยู่ ให้เรียกตัวมาชี้แจง นายเอกสรา สืบสหภพ นักพัฒนาการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าแจ้งความกับตำรวจ ให้ติดตามตัวนายปรัชญาธรณ์ มาดำเนินคดี แม้ว่าจะออกมาซื้อตั๋วแล้วก็ตาม เนื่องจากถือว่ามีความผิดในการกระทำความผิดตามมาตรา 88 ที่ระบุว่ามัคคุเทศก์ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 51 ที่ระบุถึงอาชีพและหน้าที่ของไกด์ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5000 บาท
ถูกวิจารณ์ในโลกโซเชียล กรณีคลิปไกด์คนไทย พยายามพานักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 30 คน ปืนกำแพงข้าม เข้าไปยังภายในบริเวณวัดพระศรีสรรเพชญ์ โดยไม่ยอมซื้อบัตรผ่าน ล่าสุดตำรวจท่องเที่ยว
สังคม
ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,มัคคุเทศก์,ทัวร์จีน,ตำรวจจักรยาน,สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา,พระศรีสรรเพชญ์
https://news.thaipbs.or.th/content/262326
สุรพศ ทวีศักดิ์: ศีลธรรม ศาสนา และสังคมประชาธิปไตย
ผมจะพูด ๓ ประเด็นหลักๆ คือ ๑) ปรากฏการณ์ความขัดแย้งที่เป็นอยู่ในสังคมไทยปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นรูปแบบการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างไร ๒) ภายใต้รูปแบบการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย มีการตีความ อ้างอิงใช้ศีลธรรม ศาสนา ประชาธิปไตยที่เด่นๆ อย่างไรบ้าง และ ๓) การตีความ อ้างอิงใช้ศีลธรรม ศาสนา ประชาธิปไตยนั้นๆ ให้คำตอบสำหรับอนาคตที่ควรจะเป็นอย่างไร แต่ละประเด็นมีรายละเอียดมาก แต่จะพยายามพูดให้กระชับที่สุดมีการอธิบายหลายแบบ แต่ผมคิดว่าคำอธิบายที่ให้ภาพปัญหาได้ตรงไปตรงมาคือ คำอธิบายที่ว่าปรากฏการณ์ความขัดแย้งที่เป็นมาตั้งแต่รัฐประหาร ๒๕๔๙ ถึงปัจจุบัน เป็นความขัดแย้งระหว่าง เครือข่ายอำมาตย์ กับ เครือข่ายทุนนิยมใหม่ ที่นำโดยทักษิณ แต่ละเครือข่ายก็มีแนวร่วมที่สลับซับซ้อน มีมวลชน หรือกลุ่มคนสนับสนุนจำนวนมาก จนกลายเป็นสองกลุ่มใหญ่คือ เหลือง-แดง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ความขัดแย้งขนาดใหญ่กว่าครั้งใดๆ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยข้อแตกต่างที่ชัดเจนคือ เครือข่ายทุนนิยมใหม่พยายามผูกโยงตัวเองเข้ากับ วิถีทางประชาธิปไตย เพราะกลุ่มนี้เชื่อว่าพวกเขาจะเข้าสู่อำนาจทางการเมืองได้ต้อง ผ่านการเลือกตั้ง เท่านั้น และพวกเขายังผูกโยงตัวเองเข้ากับคนชั้นกลางใหม่ หรือคนชั้นกลางระดับล่าง และคนชั้นล่างทั้งในเมืองและชนบท ด้วยการสร้าง การแข่งขันเชิงนโยบาย และ ประสิทธิภาพในการบริหาร ที่เน้นผลงานที่เป็นรูปธรรมขณะเดียวกันพวกเขาก็ผูกโยงตัวเองกับระบบทุนนิยมโลกาภิวัตน์ด้วยแน่นอน เราอาจจะตั้งคำถามได้ว่า พวกเขาโกงการเลือกตั้ง ทุจริตคอร์รัปชัน นโยบายประชานิยมก่อให้เกิดปัญหา การนำประเทศเข้าสู่ระบบทุนนิยมโลกาภิวัตน์ก่อปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจสังคมอย่างไรบ้าง กระทั่งถามได้ว่ากลุ่มทุนนิยมใหม่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยจริงหรือไม่ หรือแค่ใช้ประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว แต่ข้อเด่นของกลุ่มนี้ที่เราปฏิเสธไม่ได้คือ พวกเขายืนยันที่จะ ต่อสู้ในวิถีทางประชาธิปไตย และยืนยัน การแข่งขันเชิงนโยบาย ซึ่งเราไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ ความชอบธรรม ของการยืนยันที่จะ ต่อสู้ในวิถีทางประชาธิปไตย ได้ และการยืนยัน การแข่งขันเชิงนโยบาย ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า เป็นอีกมิติหนึ่งของพัฒนาการประชาธิปไตยในภาคนักการเมืองฉะนั้น ในความคิดของผมสำหรับกลุ่มทุนนิยมใหม่ แม้เขาจะมีปัญหาในหลายๆ ด้าน แต่เมื่อว่าโดย หลักการ แล้ว กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่สังคมยังสามารถตรวจสอบเขาได้ตามวิถีทางประชาธิปไตย ประชาชนมีสิทธิเลือก และประเมินผลงานตามนโยบายที่เขาเสนอได้ ซึ่งหมายความว่า ต่อให้เขาเลวร้ายอย่างไรก็ยังอิงวิถีทางประชาธิปไตย และประชาชนสามารถใช้ วิถีทางประชาธิปไตย ในการวิจารณ์ ตรวจสอบเอาผิดทางกฎหมายได้ ถ้าระบบกลไกการตรวจสอบไม่มีประสิทธิภาพก็ยังแก้ได้ส่วนเครือข่ายอำมาตย์นั้น ที่จริงแล้วก็ไม่ได้ปลอดจากทุนนิยม เพราะ ทุนอำมาตย์ ก็อยู่ในระบบตลาดทุนนิยม และอาศัยกลไกอำนาจรัฐในการขยายทุนของพวกตนเองเช่นกัน โดยอาศัยกลไกรัฐขยายทุนมาแต่ยุคจอมพลสฤษดิ์ ยุคพลเอกเปรม จนถึงปัจจุบัน แต่ไม่ได้ถูกตั้งคำถาม ขุดคุ้ย วิจารณ์ตรวจสอบเหมือนกลุ่มทุนนิยมใหม่ ปัญหาคือกลุ่มนี้ไม่ได้ผูกโยงตัวเองอยู่กับวิถีทางประชาธิปไตย คือกลุ่มนี้จะใช้ วิถีทางใดๆ ก็ได้ จะใช้วิถีทางประชาธิปไตยก็ได้ ถ้าหากได้รัฐบาลที่อยู่ภายใต้อาณัติของพวกเขา ใช้รัฐประหารก็ได้ เผด็จการก็ได้ หากช่วยปกป้องความมั่นคง และสถานะ อำนาจของพวกเขาจุดเด่นของกลุ่มเครือข่ายอำมาตย์ คือ ๑) พวกเขามีอำนาจทางวัฒนธรรมที่ส่งทอดมาแต่ยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ๒) พวกเขามีชัยชนะในการกุม อำนาจนำ ทางการเมืองมายาวนาน กล่าวคือประมาณ ๑๕ ปี ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔๗๕ ถึง ๒๔๙๐ เป็นช่วงเวลาของการต่อสู้ขับเคี่ยวระหว่างคณะราษฎร และฝ่ายกษัตริย์นิยม ฝ่ายแรกพยายามวางรากฐานประชาธิปไตยเชิงโครงสร้างผ่านรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้ทำอย่างจริงจังในเรื่องปฏิวัติวัฒนธรรม ฝ่ายหลังพยายามต่อสู้เพื่อฟื้นฟู พระราชอำนาจ ผ่านทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญ และการฟื้นฟูอุดมการณ์เชิงวัฒนธรรมกษัตริย์นิยมในที่สุด รัฐประหาร ๒๔๙๐ ก็ขจัดปรีดี พนมยงค์และสมาชิกคณะราษฎรหัวก้าวหน้าลงได้อย่างราบคาบ ปี ๒๔๙๒ มีรัฐธรรมนูญที่ระบุระบอบการปกครองของไทยว่าเป็น ระบอบประชาธิปไตยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เป็นครั้งแรก และเพิ่มพระราชอำนาจในรัฐธรรมนูญมากขึ้น รัฐประหาร ๒๕๐๐ ขจัดจอมพล ป.พิบูลสงครามออกไป เข้าสู่ยุคจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่เป็นยุคเผด็จการทหาร พร้อมกับการเชิดชูสถาบันกษัตริย์ให้มีความสำคัญเหนือประชาธิปไตยมากขึ้น อันเป็นจุดเริ่มต้น ของลัทธิ ไฮเปอร์-รอยัลลิสม์ มาถึงปัจจุบันภาพลักษณ์ของสถาบันกษัตริย์ที่เราสัมผัสรับรู้ในปัจจุบัน ที่มีฐานะเป็น พ่อของแผ่นดิน ผู้รักราษฎร เสียสละเพื่อราษฎร เป็นศูนย์รวมความรู้รักสามัคคีของราษฎรนั้น คือภาพลักษณ์ของสถาบันกษัตริย์ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ยุคจอมพลสฤษดิ์ และถูกเสริมเติมแต่งมาเรื่อยๆ โดยการปลูกฝังผ่านสถาบันศาสนา สถาบันการศึกษา กองทัพ หรือระบบราชการโดยรวม สื่อมวลชน รวมทั้งกิจกรรมในโครงการพระราชดำริ และกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมด้านต่างๆ ของชาติอาจกล่าวโดยภาพรวมได้ว่า ตั้งแต่ยุคสฤษดิ์ ถนอม ประภาส จนถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ๑๔ ตุลา ๖ ตุลา พฤษภา ๓๕ และพฤษภา ๕๓ นับเป็นประวัติศาสตร์แห่งการ เพิ่ม ความสำคัญของสถาบันกษัตริย์ทั้งในทางกฎหมาย และทางอุดมการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ยุคสฤษดิ์ เพิ่มอัตราโทษ ๑๑๒ จาก ๓ ปี เป็น ๗ ปี ๑๔ ตุลา มีนายกฯพระราชทานเป็นครั้งแรก ๖ ตุลา เพิ่มอัตราโทษ ๑๑๒ จาก ๗ ปี เป็น ๑๕ ปี หลังรัฐประหาร ๑๙ กันยา ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงถูกกำหนดเป็นนโยบายแห่งรัฐ โดยบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ ทุกวันนี้มีการเรียนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตั้งแต่ประถมถึงมหาวิทยาลัย มีการใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นตัวบ่งชี้ในการประกันคุณภาพทางการศึกษา หลังพฤษภา ๕๓ มีการเพิ่มงบประมาณเทิดทูนสถาบันมากขึ้นเรื่อยๆ ปีละหลายพันล้าน จนถึงกว่าหมื่นล้านแต่ทว่าหลังรัฐบาลที่มาจากรัฐประหารแต่ละครั้ง เมื่อกลับเข้าสู่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง กลับไม่เคยมีการปรับแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายลูกเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นได้เลย ขณะที่เมื่อมองย้อนหลังไปดูเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ เราจะเห็นภาพกองซากศพของนักศึกษา ประชาชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจนนับไม่ถ้วน อย่างน่าสลดหดหู่ แต่เรายังไม่ได้มาซึ่งรูปแบบการปกครองที่เป็นประชาธิปไตย สมกับที่พวกเขาเหล่านั้นสละชีวิตเข้าแลกแต่อย่างใดย้อนกลับมาถามว่า ความขัดแย้งระหว่างเครือข่ายอำมาตย์กับเครือข่ายทุนนิยมใหม่ สะท้อนให้เห็นรูปแบบการปกครองที่เป็นอยู่ อย่างไรหรือ คำตอบของสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล น่าจะช่วยให้เรามองเห็น หน้าตา ของรูปแบบการปกครองปัจจุบันอย่างชัดเจนว่าฉะนั้น รูปแบบการปกครองเช่นนี้เองที่เป็น เวที ของความขัดแย้งที่กำหนดให้ฝ่ายหนึ่งอ้างอิงการใช้ วิถีทางประชาธิปไตย เข้ามามีอำนาจทางการเมือง แต่อีกฝ่ายสามารถใช้ วิธีการใดๆ ก็ได้ ในการขจัดคู่ขัดแย้ง ที่จริงแล้วการตีความ และการอ้างอิงใช้ศีลธรรม ศาสนา ประชาธิปไตยในบ้านเราสับสนปนเปกันมาก แต่อาจแยกได้คือ มีทั้งการตีความ และการอ้างอิงใช้ที่สะท้อนให้เห็นความขัดแย้งระหว่างศีลธรรม ศาสนา และประชาธิปไตย กับความพยายามที่จะตีความ และอ้างอิงใช้ศีลธรรม ศาสนา ประชาธิปไตยไปในทางที่สนับสนุนส่งเสริมกันเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ขอยกตัวอย่างการวิเคราะห์ของนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ที่แยกแนวคิดประชาธิปไตยในสังคมไทยออกเป็นสองสำนัก คือ สำนักคิดประเพณีนิยม กับ สำนักคิดตะวันตก นักคิดสายแรกอ้างแนวคิดพุทธศาสนามาสนับสนุนประชาธิปไตย เช่น อ้างทฤษฎี อเนกชนนิกรสโมสรสมมติ ของ ร. ๔ ว่ามีความเป็นประชาธิปไตย โดยโยงไปถึง อัคคัญญสูตร ในพระไตรปิฎกว่า เป็นแนวคิด สัญญาประชาคม ในพุทธศาสนา ที่ถือว่าผู้ปกครองได้อำนาจในการปกครองมาจากความยินยอมของประชาชน และว่าวัฒนธรรมประชาธิปไตยมีอยู่แล้วในสังคมสงฆ์ที่มีความเสมอภาค เสรีภาพ ภราดรภาพ โดยวัฒนธรรมประชาธิปไตยของสังคมสงฆ์ถูกส่งทอดมาสู่วิถีชาวบ้านของสังคมไทยในอดีต สำหรับความเป็นประชาธิปไตยตามแนวคิดของกลุ่มนี้ต้องมีศีลธรรมกำกับ เช่น แนวคิด ธรรมิกประชาธิปไตย และ ธรรมิกสังคมนิยม ของท่านพุทธทาสภิกขุ และแนวคิดของสุลักษณ์ ศิวรักษ์ เป็นต้นส่วนนักคิดสายสำนักคิดตะวันตก จะอ้างอิงหลักการสากลคือหลักเสรีภาพ ความเสมอภาคของมนุษย์เป็นฐานคิดในการนิยามประชาธิปไตย ฉะนั้น สำหรับนักคิดสายนี้ ประชาธิปไตยไม่เคยมีมาก่อนในสังคมไทย เพิ่งเริ่มต้น ระบอบประชาธิปไตย ขึ้นจากการปฏิวัติสยาม ๒๔๗๕ แต่เป็นการเริ่มต้นประชาธิปไตยที่ยังต้องเดินทางต่อ และต้องฟันฝ่าอุปสรรคขวากหนามจากฝ่ายกษัตริย์นิยม เผด็จการทหาร และอำนาจทุนที่คอยบั่นทอนความเป็นประชาธิปไตย ตลอดกว่า ๘๐ ปีที่ผ่านมาแต่จะอย่างไรก็ตาม มีความซับซ้อนในการตีความ และอ้างอิงใช้ศีลธรรม ศาสนา สนับสนุนประชาธิปไตยระหว่างสองสำนักนี้อยู่ คือถ้าเราแยกอย่างหลวมๆ ว่า นักคิดสายสำนักคิดประเพณี เป็น ฝ่ายจารีตนิยม นักคิดสายสำนักคิดตะวันตกเป็น ฝ่ายก้าวหน้า หรือ เสรีนิยม เราจะพบว่าที่จริงแล้ว ไม่ใช่เฉพาะนักคิดฝ่ายจารีตนิยมเท่านั้นที่ตีความพุทธศาสนาสนับสนุนประชาธิปไตย แม้ฝ่ายก้าวหน้าบางส่วนก็ตีความศีลธรรม ศาสนาสนับสนุนประชาธิปไตยด้วยเช่นกัน เช่น ปรีดี พนมยงค์ ก็ตีความการปกครอง ระบบสามัคคีธรรม ในคัมภีร์พุทธศาสนาสนับสนุนประชาธิปไตย เห็นว่า ประชาธิปไตยต้องมีศีลธรรม ทั้งยังเขียนหนังสือ ความเป็นอนิจจังของสังคม ที่ตีความแนวคิดของพุทธศาสนาสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมที่มีความเสมอภาค แต่งนิยายเรื่อง พระเจ้าช้างเผือก โดยอ้างอิงคำสอนพุทธศาสนาสนับสนุนสันติภาพ เป็นต้น จอมพล ป.พิบูลสงครามเองก็อ้างแนวคิด ธรรมาธิปไตย สนับสนุนประชาธิปไตย แม้แต่ปัญญาชนหัวก้าวหน้าอย่างกุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือศรีบูรพา ก็อ้างอิงแนวคิดพุทธศาสนาสนับสนุนการแสวงหาสัจจะ เสรีภาพ ความเสมอภาคด้วยเช่นกันแม้แต่นิธิ เอียวศรีวงศ์ ที่อ้างแนวคิดตะวันตกตั้งคำถามกับทฤษฎี อเนกชนนิกรสโมสรสมมติ ว่า ที่จริงแล้วชนชั้นปกครองที่เป็นเจ้าของทฤษฎีนี้ก็ไม่เคยวางแนวทางปฏิบัติอย่างเป็น รูปธรรม ว่า ประชาชนทั่วไปจะมีสิทธิเลือกผู้ปกครองของตนเองอย่างไร แต่ขณะเดียวกันนิธิก็ยืนยันว่าสายชล สัตยานุรักษ์ ที่อ้างหลักคิดตะวันตกวิพากษ์ ความเป็นไทย บางด้าน ก็ยังเห็นว่ามีความเป็นไทยบางด้านที่ควรนำมาสนับสนุนประชาธิปไตย และเห็นว่า ในอดีตทุกศาสนาล้วนมีการตีความหลักคำสอนใหม่ให้เอื้อต่อบริบททางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น การตีความศาสนาให้เอื้อต่อระบอบประชาธิปไตย จึงเป็นเรื่องที่น่าจะสามารถกระทำได้ ขณะที่เสกสรรค์ ประเสริฐกุล เสนอในการปาฐกถา รำลึก ๔๐ ปี เหตุการณ์ ๑๔ ตุลา เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ควรมี เสรีนิยมทางการเมือง เพื่อให้ทุกฝ่ายมีเสรีภาพถกเถียงต่อรองในเรื่องต่างๆ ได้ แต่ก็ควรคำนึงถึงมิติทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมเฉพาะของสังคมไทย และการมีที่ยืนของคุณค่าอนุรักษ์ต่างๆ ด้วย ดังที่เขากล่าวว่าส่วนฝ่ายจารีตนิยมที่ตีความ และอ้างอิงใช้ศีลธรรม ศาสนาสนับสนุนประชาธิปไตย ก็ยังแบ่งได้เป็นสองกลุ่ม คือ ทำให้ผลของการตีความของกลุ่มนี้เท่ากับเป็นการปกป้องรูปแบบการปกครองที่ยังไม่เป็นประชาธิปไตย คือรูปแบบที่สมศักดิ์ เรียกว่า ให้คงอยู่ต่อไป และเท่ากับเป็นสร้างระบบ สองมาตรฐานทางศีลธรรม ขึ้นมา ด้วยการตีความ อ้างอิงใช้ศีลธรรม และศาสนาตั้งคำถาม วิจารณ์ ตรวจสอบ ตัดสินถูก ผิด เฉพาะนักการเมืองเป็นด้านหลัก ขณะที่ตีความ อ้างอิงใช้ศีลธรรมและศาสนายกย่องความดีงามสูงส่งของสถาบันกษัตริย์แต่ด้านเดียว ผลก็คือทำให้เกิดการเปรียบเทียบว่า นักการเมืองเลว ไร้ศีลธรรม แต่สถาบันกษัตริย์ดีงามสูงส่งทางศีลธรรมอย่างไร้ที่ติการใช้ สองมาตรฐานทางศีลธรรม คือ ความไม่เป็นธรรม ในการ ตัดสินทางศีลธรรม (moral judgment)ความไม่เป็นธรรมนี้คือรากฐานของความไม่เป็นธรรมด้านอื่นๆ เช่น การใช้วิธีการผิดๆ อย่างไรก็ได้จัดการกับนักการเมืองเลว และใช้วิธีการผิดๆ อย่างไรก็ได้ปกป้องสถาบัน อีกทั้งยังทำให้สังคมละเลย เพิกเฉย หรือ ทำเป็นไม่รู้ ว่า เครือข่ายอำมาตย์มีการอ้างอิงใช้สถาบันกษัตริย์เพื่อแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมือง ทางธุรกิจอย่างไรบ้าง จึงไม่เรียกร้องให้มีการขุดคุ้ย ตรวจสอบ เหมือนที่เรียกร้องให้ทำกับนักการเมืองนี่คือ อคติ อันเป็นรากฐานของวาทกรรมตัดสินถูก-ผิดทางการเมืองแบบ ขาว-ดำ เทพ-มาร และการอ้าง เทพ มาช่วยกำจัด มาร ที่มักนำไปสู่ความรุนแรงในนามของการปกป้องอุดมการณ์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตลอดมา ดังที่เราได้เห็นผ่านวาทกรรม ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป จนมาถึงวาทกรรม ธรรมนำหน้า ซึ่งนำไปสู่รัฐประหาร ๑๙ กันยา ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งและความรุนแรงอีกหลายระลอกต่อๆ มา ตัวแทนของการตีความในแนวนี้ที่ชัดเจนคือ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ที่ไม่ได้อ้างหลักทศพิธราชธรรมเพื่อสรรเสริญเจ้าดังประเพณีที่ปฏิบัติสืบกันมายาวนาน แต่อ้างเพื่อกำกับตรวจสอบ ความชอบธรรม ของสถาบันกษัตริย์ โดยเขากล่าวว่า กษัตริย์ที่ทรงทศพิธราชธรรมต้องเป็นแบบอย่างในการรักษา ระบบที่ถูกต้อง ของสังคม (ธรรมาธิปไตย) ถ้าเป็นกษัตริย์ในระบบประชาธิปไตย กษัตริย์ต้องมีหน้าที่ พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เป็นแบบอย่างของราษฎร ต้องโปร่งใสวิพากษ์วิจารณ์ตรวจสอบได้ ไม่มีอภิสิทธิ์ใดๆ ไม่ต้องมีกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ต้องอยู่ให้ห่างความมั่งคั่ง สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ควรเปลี่ยนเป็นสำนักงานทรัพย์สินของแผ่นดิน ที่บริหารโดยรัฐบาล ชั่ว ดีอย่างไร รัฐบาลก็ถูกตรวจสอบและต้องรับผิดชอบทางกฎหมายอยู่แล้ว สถาบันกษัตริย์ต้องอยู่ห่างจากกองทัพ จากอำนาจ ควรเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ เป็นที่เคารพนับถือของราษฎรเท่านั้น ผมคิดว่าข้อถกเถียงดังกล่าวทำให้เราเข้าใจได้ว่า การตีความ และการอ้างอิงใช้ศีลธรรม ศาสนาสนับสนุนประชาธิปไตยพร้อมๆ กับสนับสนุนอำนาจศักดิ์สิทธิ์ของสถาบันกษัตริย์ที่ตรวจสอบไม่ได้นั้น ในที่สุดเท่ากับการรักษาความไม่เป็นประชาธิปไตยให้คงอยู่ และเป็นการสร้างสองมาตรฐานทางศีลธรรมในทางการเมือง ซึ่งเป็นอคติหรือความไม่เป็นธรรมที่เป็นรากฐานของความไม่เป็นธรรมอื่นๆ ในสังคมไทย ปัญหานี้ควรถูกหยิบยกมาอภิปรายให้เกิดการตื่นรู้ในสังคมวงกว้าง และในบรรดาพระสงฆ์ เมื่อนำไปสู่การเลิกวัฒนธรรมการตีความ และการอ้างอิงใช้ศีลธรรม ศาสนาแบบสองมาตรฐานในอนาคตส่วนการตีความพุทธศาสนาสนับสนุนประชาธิปไตยของฝ่ายก้าวหน้าบางส่วน และการตีความพุทธศาสนาสนับสนุนประชาธิปไตยของสุลักษณ์นั้น โดยสาระสำคัญแล้วไม่ได้ขัดกับสำนักคิดตะวันตกที่อ้างอิงหลักการสากลเรื่องเสรีภาพ ความเสมอภาคเป็นฐานในการนิยามประชาธิปไตย เพราะการที่สุลักษณ์ยืนยันว่า สถาบันกษัตริย์ต้องวิพากษ์วิจารณ์ตรวจสอบได้ เท่ากับยืนยัน เสรีนิยมทางการเมือง ตามข้อเสนอของเสกสรรค์นั่นเอง แต่แนวคิดเรื่องประชาธิปไตยแบบพุทธของสุลักษณ์ ไม่เห็นด้วยกับระบบเศรษฐกิจทุนนิยมเสรี บริโภคนิยม วัตถุนิยม ซึ่งดูเหมือนเป็นการเสนอ เนื้อหา ของประชาธิปไตยอีกแบบหนึ่ง ตรงนี้เราอาจเข้าใจได้จากข้อเสนอของสมศักดิ์ที่ว่า การเถียงเรื่องประชาธิปไตย เราควรเถียงกันเรื่อง รูปแบบ ของการปกครองให้ได้คำตอบที่ชัดเจนร่วมกันก่อน ควรเถียงเรื่อง เนื้อหา ให้น้อยที่สุด เพราะถ้าเถียงกันว่าจะเอาเนื้อหาประชาธิปไตยแบบไหน แบบสังคมประชาธิปไตย หรือแบบรัฐสวัสดิการ ก็เถียงกันมานานมากแล้ว ไม่มีวันจบถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ข้อเสนอของสมศักดิ์ก็คือ ให้เรามาเถียงกันว่าจะสร้างรูปแบบการปกครองที่เป็น เสรีประชาธิปไตย กันอย่างไร เมื่อสร้างรูปแบบการปกครองนี้ได้ เรามี เสรีภาพ ที่จะพูด จะถกเถียงกันได้ทุกเรื่องแล้ว จึงค่อยมาเสนอกันว่าใครจะเพิ่มเนื้อหาส่วนไหนเข้ามาอย่างไร เช่นจะเอาระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมหรือรัฐสวัสดิการ แม้แต่จะเอาสถาบันกษัตริย์หรือไม่ หากเสียงส่วนใหญ่เอาอย่างไร ก็ต้องเอาตามนั้น โดยยังเคารพสิทธิของเสียงข้างน้อย แน่นอน การถกเถียงเรื่อง รูปแบบ ของการปกครองประชาธิปไตย ก็หนีไม่พ้นที่จะอภิปรายเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญและกฎหมายเกี่ยวกับสถานะ อำนาจ บทบาทของสถาบันกษัตริย์ให้สอดคล้องกับรูปแบบการปกครองแบบเสรีประชาธิปไตยบางคนมองว่า ข้อเสนอเช่นนี้สร้างความขัดแย้ง แต่ที่จริงความขัดแย้งเกิดขึ้นมานานและยังดำเนินต่อไปอยู่แล้ว ข้อเสนอนี้คือการสร้าง เวที ที่มีกติกาที่ free and fair แก่ทุกกลุ่มความขัดแย้ง เป็นการทำให้ความขัดแย้งที่ดำเนินมาอย่างไร้เหตุผลในแบบเดิมๆ ที่ฝ่ายหนึ่งอ้างวิถีทางประชาธิปไตยฝ่ายหนึ่งจะใช้วิธีการใดๆ ก็ได้ มาเป็นให้ทุกฝ่ายต้องอยู่ในวิถีทางประชาธิปไตยเท่านั้น มีเสรีภาพที่จะพูดได้ทุกเรื่องกันทุกฝ่าย นี่จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้ความขัดแย้งเป็นความขัดแย้งที่มีความหมาย คือสู้กันด้วยเหตุผลจริงๆ ไม่ใช้เป็นความขัดแย้งภายใต้ มายาคติ นักการเมืองเลวบริสุทธิ์ ฝ่ายกษัตริย์นิยมดีบริสุทธิ์อย่างที่เป็นมาแต่ตรงนี้เราจะมองว่าเป็น ทางตัน หรือเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน เปิดทาง ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันเปิดทาง โดยเฉพาะฝ่ายกษัตริย์นิยมก้าวหน้าที่มีต้นทุนทางสังคมสูง เช่น คุณอานันท์ ปันยารชุน ศ.นพ.ประเวศ วะสี เป็นต้นควรออกมาเสนอทางออกที่เป็นรูปธรรมว่า สังคมไทยควรจะวางท่าที และมีแนวทางปฏิบัติอย่างไรบ้างเพื่อสร้างกติกาเกี่ยวกับสถานะ อำนาจ บทบาทของสถาบันกษัตริย์ให้สอดคล้องกับรูปแบบการปกครองแบบเสรีประชาธิปไตยขณะเดียวกันก็เป็นหน้าที่ของนักวิชาการ ปัญญาชน สื่อมวลชน กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยกลุ่มต่างๆ ควรหยิบยกปัญหานี้มาอภิปรายถกเถียงด้วยเหตุผล จนสังคมมีความเข้าใจร่วมกันและพบทางออกร่วมกันได้ โดยไม่เกิดความรุนแรงนองเลือดอีกต่อไป สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมจริง: เงื่อนไขของการยอมรับความหลากหลาย ใน เกษม เพ็ญภินันท์ ๒๕๕๒ หน้า ๓๓-๓๔ ดู นครินทร์ เมฆไตรรัตน์.บทความ: วาทกรรทางการเมืองว่าด้วยประชาธิปไตยของไทย จากหนังสือรวมบทความวิชาการทางรัฐศาสตร์ พ.ศ.๒๕๒๖-๒๕๔๒หน้า ๒๑๔-๒๕๖ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ๒๕๔๓ นิธิ เอียวศรีวงศ์.พระกับการเมือง. สายชล สัตยานุรักษ์ วิถีไทยกับการเสริมสร้างพลเมืองไทย ใน ฉัตรทิพย์ นาถสุภา และฉลอง สุนทราวาณิชย์ (บก.)..กรุงเทพฯ: สร้างสรรค์ ๒๕๕๖ หน้า ๓๑๘ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล: การประกาศจุดยืน-ข้อเสนอแนะต่อขบวนประชาธิปไตย (ประชาไท ๑๓ ต.ค.๒๕๕๖)
บทความว่าด้วยการตีความ อ้างอิงใช้ศีลธรรม ศาสนา ประชาธิปไตยนั้นๆ ให้คำตอบสำหรับอนาคตที่ควรจะเป็นอย่างไร?
การเมือง,วัฒนธรรม
ประชาธิปไตย,ศาสนา,ศีลธรรม,สุรพศ ทวีศักดิ์
https://prachatai.com/journal/2013/10/49326
คู่มือ ร้านอาหาร Bib Gourmand Benelux 2018 ของมิชลิน ออกแล้ว
วันที่ 15พ.ย. 2560 บุญธง ก่อมงคลกูล ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำเบลเยียม รายงาน ว่า มิชลินเบลเยียมแถลงข่าวออกคู่มือร้านอาหาร Bib Gourmand Benelux 2018 ซึ่งเป็นฉบับที่ 10 มีร้านอาหารที่ได้รับเลือกใหม่ในเบลเยียม จำนวน 23 ร้าน จากจำนวนร้านอาหารในประเทศเบลเยียมที่ได้รับการคัดเลือกอยู่ในคู่มือร้านอาหารมิชลินฉบับพิเศษนี้ จำนวนเพียง 168 ร้าน เท่านั้น ซึ่งเป็นร้านอาหารที่นำเสนอเมนูครบเซ็ต ที่มีคุณภาพด้วยราคาไม่เกิน 37 ยูโร และมีร้านอาหารที่ได้รับการคัดเลือกจากประเทศเบเนลักซ์ (เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์ก) รวมทั้งสิ้น 317 ร้าน,ร้านอาหารที่ปรากฎอยู่ในคู่มือร้านอาหารพิเศษ Bib Gourmand Benelux 2018 ของมิชลินมีความหลากหลายที่จะต้องเน้นคุณภาพอาหารและราคาที่ยุติธรรม หรือเมนูอาหารครบเซ็ตที่จะต้องมีรสชาติดี คุณภาพสูง และอยู่ในระดับราคาที่ลูกค้ามีความรู้สึกถึงความคุ้มค่า,นายไมเคิล เอลลิส ผู้อำนวยการระหว่างประเทศ มิชลินไกด์ กล่าวว่า นักชิมของเราจะลงพื้นที่ทำการตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ร้านอาหารที่ได้รับเลือกมีความรู้สึกภูมิใจกับเกียรติที่ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในคู่มือนี้ โดยคำนึงถึงความพึงพอใจของลูกค้าในคุณภาพอาหารและราคา นอกจากนั้น จะต้องมีรายการอาหารหลากหลายรายการที่มีคุณภาพสูงให้เลือกในราคายุติธรรม ในทางกลับกัน ลูกค้าก็จะมีความมั่นใจและช่วยบอกปากต่อปากถึงร้านอาหารที่มีชื่อปรากฎอยู่ในคู่มือ Bib Gourmand,นอกจากนั้น ร้านอาหารที่ปรากฎใน คู่มือร้านอาหาร Bib Gourmand Benelux 2018 ไม่ใช่มีดาวมิชลิน แต่เป็นการคัดเลือกพิเศษเฉพาะแยกออกไป สำหรับร้านอาหารที่เสนอเมนูคุณภาพสูงในราคาไม่เกิน 37 ยูโร และไม่ใช่การเตรียมตัวให้ดาวด้วย เป็นคุณสมบัติพิเศษแยกต่างหาก โดยเน้นร้านอาหารที่ให้บริการอาหารคุณภาพสูงในราคายุติธรรม,ประเทศลักเซมเบิร์ก มีร้านอาหารที่ได้รับคัดเลือกอยู่ในคู่มือร้านอาหาร Bib Gourmand Benelux 2018 จำนวน 14 ร้าน มีร้านที่ได้รับเลือกใหม่ 1 ร้าน เนเธอร์แลนด์ มีร้านอาหารได้รับคัดเลือก 135 ร้าน เป็นร้านที่ได้รับเลือกใหม่ 20 ร้าน เบลเยียมมีร้านอาหารได้รับคัดเลือก 167 ร้าน เป็นร้านที่ได้รับเลือกใหม่ 23 ร้าน มีร้านที่ถูกปลดออก จำนวน 20 ร้าน,ทั้งนี้ ในกรุงบรัสเซลส์ มีร้านอาหารไทยที่ได้รับเลือกอยู่ในคู่มือร้านอาหาร Bib Gourmand Benelux 2018 เพียงร้านเดียวคือ Villa Singha ซึ่งเปิดดำเนินการมาจะครบ 25 ปี ในปี 2018 นี้
คู่มือร้านอาหาร Bib Gourmand Benelux 2018 ของมิชลินออกแล้ว เน้นคุณภาพอาหารและราคาที่ยุติธรรม หรือ เมนูอาหารครบเซ็ต ที่จะต้องมีรสชาติดี คุณภาพสูง และอยู่ในราคาที่ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่า
ข่าว,ต่างประเทศ
มิชลิน,มิชลินไกด์,อาหารมิชลิน,ดาวมิชลิน,Bib Gourmand Benelux 2018,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1127987
ชมคลิป นายด่านอุรุกวัยวัย 14 โซโล่เดี่ยวทำประตูท้ายเกม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 11 ธ.ค. ว่า ผู้รักษาประตูวัย 14 ปี ของทีม ฟอร์เมติวาส นาซิอองนาล โชว์ผลงานสุดมหัศจรรย์ด้วยการตัดสินใจโซโล่เดี่ยวจากหน้าปากประตูของตัวเอง เข้าไปทำประตูชัยให้กับทีมในนาทีสุดท้าย เอาชนะคู่แข่งไปได้อย่างสุดมัน ในเกมฟุตบอลถ้วยเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ของประเทศอุรุกวัย,โดยในเกมฟุตบอลถ้วยรอบตัดเชือก ระหว่าง ฟอร์เมติวาส นาซิอองนาล อดีตต้นสังกัดของ หลุยส์ ซัวเรส พบกับ ซี.เอ.พี ซึ่งเกมเป็นไปอย่างสนุก จนกระทั่งในช่วงท้ายเกมก่อนหมดเวลาทีม ซี.เอ.พี ได้ลูกเตะมุมจากฝั่งซ้ายทำให้ผู้เล่นของทั้งสองทีม พยายามเติมเกมขึ้นมาเพื่อโหม่งทำประตู,แต่แล้วเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ กีเยร์โม เซ็นจูเรียน นายด่านวัยกระเตาะขึ้นตัดบอลได้ และตัดสินใจเล่นเร็วด้วยพาบอลขึ้นมาเองถึงกลางสนาม ซึ่งมีผู้รักษาประตูของทีม ซี.เอ.พี อยู่เพียงคนเดียว ก่อนจะแตะบอลหลบเข้าไปทำประตูในช่วงนาทีสุดท้าย ท่ามกลางความสะใจของเหล่ากองเชียร์ และเพื่อนร่วมทีม.,ชมคลิปโซโล่เดี่ยวของนายทวารวัย 14 ปี
ชมคลิปสุดฮือฮา นายทวารวัย 14 ปี ของทีมเยาวชนในอุรุกวัยลากบอลโซโล่เดี่ยวจากหน้าประตูตัวเอง เข้าไปทำประตูชัยในช่วงท้ายเกมได้อย่างพลิกความคาดหมาย ในศึกฟุตบอลถ้วยเยาวชนแห่งแดนจอมโหด
null
คลิปกีฬา,โซโล่เดี่ยว,ฟุตบอลรุ่นอายึไม่เกิน 14 ปี,อุรุกวัย,ฟอร์เมติวาส นาซิอองนาล,หลุยส์ ซัวเรส,ซี.เอ.พี,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์,กีเยร์โม เซ็นจูเรียน
https://www.thairath.co.th/content/547867
มอบตัวอีก 2 แทง นร.เทคนิคเมืองคอนตาย 1 เจ็บ 1
เกิดเหตุกรณีกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 4 คน ของโรงเรียนเอกชนชื่อดังใน จ.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงนายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นักเรียน ปวช.1 ในนครศรีธรรมราช เสียชีวิต และนายบี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บ,เหตุเกิดบริเวณถนนราชดำเนิน หน้าสนามกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อเย็นวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา สาเหตุแค่มองหน้ากันแล้วไม่พอใจ ก่อนจะรุมเข้าทำร้ายจนบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยเมื่อเช้าวันที่ 11 มิ.ย. ตำรวจชุดสืบสวนได้จับกุม 1 ใน 4 ผู้ต้องหามาได้ 1 ราย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าถูกผู้ตายมองหน้าทำให้ไม่พอใจก่อนแทงจนบาดเจ็บและเสียชีวิต,ต่อมา เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 11 มิ.ย. พ.ต.ท.สุทัศน์ สงสยม รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และ พ.ต.ต.วันชัย สุวรรณรัตน์ สว.สส. ได้ร่วมรับมอบตัวผู้ต้องหาอีก 2 คนที่ถูกศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับ เลขที่ 19-20 / 2558 ลงวันที่ 10 มิ.ย.คือ นายแดง (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นร.ชั้น ม.5 โรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช และนายดำ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นร.ชั้น ม.5 โรงเรียนเดียวกัน โดยทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนตำรวจคุมตัวนำส่ง พงส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธมีดแทง นร.เทคนิค ในนครศรีธรรมราชเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 รายเข้ามอบตัว ก่อนถูกส่ง พงส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราชดำเนินคดีตามกฎหมาย
ข่าว,ทั่วไทย
ผู้ต้องหา,นักเรียนเทคนิค,นครศรีธรรมราช,อาวุธมีด,แทง,บาดเจ็บ,เสียชีวิต,ไม่พอใจ,โรงเรียนเอกชน,ศาลเยาวชน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม
https://www.thairath.co.th/news/local/504459
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ คว้ารางวัลองค์กรความเป็นเลิศบริหารการเงินการคลัง
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เข้ารับรางวัลในพิธีมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ครั้งที่ 5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ ประกาศเกียรติคุณด้านการเบิกจ่าย ระดับดี และรางวัลประกาศเกียรติคุณด้านปลอดความรับผิดทางละเมิด ระดับดีเลิศ ซึ่งจัดโดยกรมบัญชีกลาง เพื่อมอบรางวัลให้กับส่วนราชการที่มีการบริหารจัดการด้านการเงินการคลังเป็นเลิศ เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ส่วนราชการเห็นความสำคัญของการประเมินผลด้านการเงินและบัญชีของหน่วยงานภาครัฐที่มีความสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพในองค์รวม แบ่งรางวัลเป็น 5 มิติ คือ มิติด้านการจัดซื้อจัดจ้าง มิติด้านการเบิกจ่าย มิติด้านการบัญชีภาครัฐ มิติด้านการตรวจสอบภายใน และมิติด้านปลอดความรับผิดทางละเมิด โดยมีนายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เข้ารับรางวัลจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ,นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบบริหารจัดการด้านการเงินการบัญชีของสหกรณ์และเกษตรกรให้มีคุณภาพและเชื่อถือได้ ด้วยหลักการยึดมั่นในวิชาชีพผู้สอบบัญชีของบุคลากร คือ เป็นผู้มีความแม่นยำในกฎเกณฑ์ กฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ และกระบวนการทำงาน มีการพัฒนาตนเองสู่การเป็นผู้มีองค์ความรู้ในการปฏิบัติงานอย่างแท้จริง เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาสหกรณ์และเกษตรกรให้เข้มแข็ง เติบโตด้วยหัวใจของผู้ให้บริการที่มีความซื่อสัตย์และเป็นที่ไว้วางใจได้ ประกอบด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้บริหารและบุคลากรผู้ปฏิบัติงานทุกระดับที่มีส่วนร่วมในการผลักดันให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นองค์กรแห่งคุณธรรม เป็นต้นแบบแห่งการสร้างธรรมาภิบาลให้แก่ผู้รับบริการตลอดมา จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กรมฯ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติทั้ง 2 รางวัลจากกรมบัญชีกลาง ได้แก่ รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการเบิกจ่าย ระดับดี และรางวัลประกาศเกียรติคุณด้านปลอดความรับผิดทางละเมิด ระดับดีเลิศ,สำหรับรางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการเบิกจ่าย กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้รับรางวัลต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงคุณค่า สร้างความภาคภูมิใจ รวมถึงเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่องค์กรและบุคลากรทุกคน ทั้งนี้ เทคนิคในการทำงานที่สำคัญ ที่ส่งผลให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่อง คือ การบริหารจัดการอย่างมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในองค์กร ด้วยการศึกษารายละเอียดข้อมูลอย่างเป็นระบบ มีการวางแผนงานและกำหนดเป้าหมายการใช้จ่ายเงินงบประมาณ และสร้างความรับผิดชอบร่วมกันในองค์กร อีกทั้งผู้บริหารมีการประชุมติดตามประเมินผลสถานการณ์การเบิกจ่ายงบประมาณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ในการปฏิบัติงาน ทำให้การบริหารจัดการด้านการเบิกจ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสำเร็จตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้,ในส่วนของรางวัลประกาศเกียรติคุณด้านปลอดความรับผิดทางละเมิด เป็นรางวัลที่แสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ มีความถูกต้อง โปร่งใส ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผลประโยชน์สาธารณะและสิทธิประโยชน์ของประชาชน รวมทั้งยังเป็นการสร้างแรงผลักดันให้บุคลากรดำเนินภารกิจให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องมีความมุ่งมั่น ซื่อสัตย์ สุจริต และเป็นมาตรฐานในการปฏิบัติงานที่ดี,กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ขอขอบคุณกรมบัญชีกลางที่ได้จัดให้มีรางวัลที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลังภาครัฐ ทำให้เกิดการพัฒนาระบบงานบริหารการเงินการคลังภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งกรมตรวจบัญชีสหกรณ์จะรักษามาตรฐานในการบริหารจัดการงานที่ดีเช่นนี้ตลอดไป อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าว.
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ คว้ารางวัลประกาศเกียรติคุณจากกรมบัญชีกลาง มุ่งมั่นสู่องค์กรแห่งคุณธรรม ต้นแบบการสร้างธรรมาภิบาลที่ดี
ข่าว,ทั่วไทย
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์,รางวัลเกียรติคุณ,กรมบัญชีกลาง,องค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1540823
เลขเด็ดคำชะโนด นาคน้อยดูน้ำมนต์มี 35 คนรักหวยยิ้มหวาน เลขนี้ตรงใจ (คลิป)
เลขเด็ดคำชะโนด, นาคน้อยมาดูน้ำมนต์มี 35 คนรักหวยยิ้มหวาน เลขนี้สิตรงใจ,เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 62 ที่ลานบวงสรวงหน้าเกาะคำชะโนดวังนาคินทร์ดินแดนพ่อปู่ศรีสุทโธ และแม่ย่าศรีปทุมมา บ้านโนนเมือง หมู่ที่ 11 ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี หนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากทุกสารทิศเพื่อแก้บน ,ขอ,เลขเด็ด, ,เลขดัง ,จาก, คำชะโนด, รวมถึงโชคลาภ,ทั้งนี้ มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจังหวัดชลบุรีได้นำคณะผู้มีจิตเป็นกุศลได้ร่วมกันบริจาคเป็นกองผ้าป่าเพื่อนำมาถวายที่วัดศิริสุทโธ ก่อนที่จะนำผ้าไปถวายได้ร่วมกันทำพิธีบวงสรวงจากนั้นคณะจึงถวายผ้าป่า ร่วมกันรำบวงสรวงถวายปู่ศรีสุทโธ และแม่ย่าศรีปทุมมา,โดยมีนาคน้อยเกาะคำชะโนดร่วมรำถวายปู่ ทำเอาแฟนของนาคน้อยรอชมการชูนิ้วว่า งวดนี้จะเห็นเลขเด็ด และนาคน้อยได้ส่องขันน้ำมนต์พิธีด้วย การส่องแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ส่วนนาคน้อยส่องบอกว่าเห็นน้ำตาเทียนเป็นเลข ,35, และ, 80, บางคนเห็นเลขสามตัว ,576, ตามความเชื่อของคนชอบตัวเลข,อ่านข่าว ,หวย, ที่เกี่ยวข้อง,คนรักเลขแวะส่อง สถิติหวยออกวันอังคาร พบหวยออก 35 ซ้ำ 3 รอบ,มาแล้ว เลขเด็ด อ่างน้ำมนต์ ตาทองงิ้วราย คอหวยไม่พลาดเหมาเกลี้ยงแผง,ไฟหน้ารถติดขึ้นเอง คู่ผัวเมียผวา นำ ปลาไหลสีทอง ถวายวัดสว่างอารมณ์ (คลิป),เปิดสถิติเลขท้าย 2 ตัวปี 62 พบหวยออก 65 ซ้ำ 2 รอบ เลขเด็ด 8 มา 5 ครั้ง,คอหวยร้อยเอ็ดเต็มสำนักสงฆ์ภูกุ้มข้าว ขอ เลขเด็ด ย่าตะเคียนพันปีได้ 6
นักคณิตกดเครื่องคิดเลขรัวๆ รอคอย เลขเด็ดคำชะโนด นาคน้อยมาดูน้ำมนต์มี 35 คนรักหวยยิ้มหวาน เลขนี้สิตรงใจ
ข่าว,สังคม
เลขเด็ดนาคน้อย,หวยคำชะโนด,หวยไทยรัฐ,เลขเด็ด,หวย
https://www.thairath.co.th/news/society/1670838
นสพ.ญี่ปุ่นคาดจักรพรรดิอากิฮิโตะ สละบัลลังก์ มี.ค.62
เมื่อวันที่ 20 ต.ค. หนังสือพิมพ์อาซาฮีของญี่ปุ่น รายงานอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวไม่ระบุนามในรัฐบาลญี่ปุ่นว่า รัฐบาลญี่ปุ่นอยู่ระหว่างการเตรียมการขั้นสุดท้ายในการกำหนดตารางเวลา พระราชพิธีสละราชบัลลังก์ของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ แห่งราชวงศ์ญี่ปุ่นแล้ว สืบเนื่องจากกรณีเดือน มิ.ย. ที่รัฐสภาญี่ปุ่นลงมติผ่านร่างกฎหมายพิเศษแบบใช้ครั้งเดียว อนุญาตให้องค์พระจักรพรรดิสละราชบัลลังก์ได้ ซึ่งจะถือเป็นการสละราชบัลลังก์ครั้งแรกในรอบเกือบ 200 ปี,ทั้งนี้ จากรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์อาซาฮีระบุว่า กำหนดพระราชพิธีสละราชบัลลังก์ของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือน มี.ค.2562 และให้เจ้าชายนารุฮิโตะ วัย 57 ชันษา ขึ้นครองราชย์ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2562 เป็นต้นไป โดยพระราชพิธีดังกล่าวคาดว่าจะพยายามให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด ขณะที่ก่อนหน้านี้สำนักพระราชวังญี่ปุ่นต้องการให้กำหนดการอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2562 เนื่องจากในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว เป็นช่วงที่พระราชวังมีพระราชพิธีอื่นๆมากมาย,อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวต่างประเทศสอบถามไปยังนายโยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า ยังไม่รับรู้ถึงรายงานข่าวนี้ และยังไม่ถือว่าเป็นข้อมูลความจริง รัฐบาลญี่ปุ่นยังคงอยู่ในช่วงหารือความเหมาะสมต่อไป และจะทำอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้พระราชพิธีสละราชบัลลังก์เป็นไปอย่างราบรื่น,วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าบรรยากาศการเลือกตั้งใหญ่ญี่ปุ่นที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 ต.ค.นี้ ว่าอาจได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่น แลง ที่จะเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่ตะวันออกของหมู่เกาะโอกินาวะ ทางภาคใต้ญี่ปุ่น ในวันดังกล่าว คาดความเร็วลมเกิน 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะส่งผลให้ฝนตกหนักหลายพื้นที่ ขณะที่เทศบาลท้องถิ่นโอกินาวะ ประกาศให้บางหมู่เกาะจัดลงคะแนนเลือกตั้งในวันที่ 21 ต.ค.,ด้านนักวิชาการญี่ปุ่นระบุ จากการเก็บสถิติพบว่า ผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนที่มิได้ชื่นชอบพรรคใดพรรคหนึ่งอย่างแน่ชัด มักจะไม่เดินทางไปลงคะแนนหากสภาพอากาศไม่เป็นใจ อย่างเช่น ฝนตกหนัก ซึ่งกรณีไต้ฝุ่นที่อาจทำให้ฝนตกในหลายพื้นที่ครั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นการสร้างความได้เปรียบแก่พรรครัฐบาลเสรีประชาธิปไตยของนายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ขณะที่พรรคแห่งความหวัง พรรคใหม่ของนางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว จะได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย.
สื่อแดนอาทิตย์อุทัย คาดจักรพรรดิอากิฮิโตะ จะทรงสละราชบัลลังก์ ช่วงปลายเดือนมีนาคม ปี 2562 โดยจะทรงให้เจ้าชายนารุฮิโตะขึ้นครองราชย์แทน ขณะที่เลขาฯรัฐบาลยังปฏิเสธ
ข่าว,ต่างประเทศ
จักรพรรดิอากิฮิโตะ,จักรพรรดิอากิฮิโตะ สละราชบัลลังก์,จักรพรรดิญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น,เจ้าชายนารุฮิโตะ
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1104397
ใบเตย อาร์สยาม เจอชาวเน็ตแฉ ไลฟ์ขายแบรนด์เนมมือสองแพงเกินจริง
แม้จะกำลังตั้งท้อง แต่นักร้องสาวเซ็กซี่นุ่งสั้นเสมอหู ใบเตย อาร์สยาม หรือ สุธีวัน กุญชร ก็ยังเจอชาวเน็ตดราม่าใส่อีกแล้ว หลังจากที่เจ้าตัวอุ้มท้องไลฟ์สดขายของแบรนด์เนมที่ตัวเองใช้ เพื่อส่งต่อสินค้าดีๆ ให้เหล่าบรรดาแฟนคลับได้ใช้ต่อบ้างโดยชาวเน็ตได้เข้ามาคอมเมนต์วิจารณ์กันอย่างมากมาย ถึงการไลฟ์สดขายของแบรนด์เนมมือสองของนักร้องสาว โดยบอกว่าของแบรนด์เนมที่ใบเตยเอามาไลฟ์ขายนั้น บางชิ้นก็ตั้งราคาแพงเกินราคาสินค้ามือสอง บางชิ้นแพงกว่าราคาขายในช็อป หรือบอกข้อมูลของสินค้าไม่ถูกต้อง พร้อมกับแฉต่อว่า มักเห็นว่าที่คุณแม่คนสวยไปเอฟกระเป๋ามือสองที่เพจของคนดังคนนึงทีละหลายๆ สิบใบอีกด้วยแต่ถึงจะมีชาวเน็ตบางคนเข้ามาวิจารณ์การขายแบรนด์เนมของ ใบเตย อาร์สยาม ว่าแพงเกินไป แต่ก็มีแฟนคลับของสาวใบเตยเข้ามาคอมเมนต์ชี้แจง และปกป้องนักร้องสาวแทนว่าราคาที่เอามาเปรียบเทียบกับของใบเตยอาจมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ และมีพวกร้านขายของแบรนด์เนมบางร้านที่ขายไม่ดีแต่มาบลัฟนักร้องสาวก็เป็นได้
ใบเตย อาร์สยาม เจอชาวเน็ตคอมเมนต์แฉดุเดือด หลังไลฟ์ขายแบรนด์เนมมือสองแต่ราคาแพงเกินจริง
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ใบเตย อาร์สยาม,ใบเตย สุธีวัน กุญชร,ใบเตย อาร์สยาม ดราม่า,ใบเตย อาร์สยาม ขายของแบรนด์เนม,ดาราขายแบรนด์เนม,ดาราขายของ,ข่าวดารา,นักร้อง
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1854521
ชาวนบพิตำ เมืองคอน วอนกทม.ชะลอรื้อสะพานแบริ่ง หวั่นกระทบสัญจรไป-มา
ร้างสะพานให้ใหม่,ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ 15 ม.ค. ที่สะพานแบริ่งข้ามคลองโชน บ้านคลองโชน เขตรอยต่อระหว่าง หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 7 ต.นาเหรง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ได้มีชาวบ้านจากหมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 8 ต.นาเหรง ประมาณ 200 คน นำเต็นท์โต๊ะเก้าอี้มาวาง บริเวณคอสะพานมารวมตัวกัน เพื่อเรียกร้องไปยัง นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.นครศรีธรรมราช ให้ชะลอการขอคืนสะพานแบริ่ง สะพานชั่วคราว จาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร,นายประภาส บุญสยอง อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 1 ต.นาเหรง หนึ่งในคณะกรรมการหมู่บ้านหมู่ 1 ต.นาเหรง และแกนนำการรวมตัวในครั้งนี้ ว่า สะพานแบริ่งหรือสะพานเหล็ก ดังกล่าว มีความยาว 25 เมตร กว้าง 5 เมตร ชาวบ้านได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร เมื่อครั้งเกิดมหาอุทกภัย ดินถล่ม น้ำป่าหลากท่วม มีผู้เสียชีวิตบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อเดือนมีนาคม 2554 มาใช้แทนสะพานคอนกรีตที่ถูกน้ำป่าพัดถล่มพังเสียหาย ให้ชาวบ้านกว่า 1 พันครัวเรือน ได้ใช้เป็นเส้นทางออกสู่โลกภายนอกเป็นการชั่วคราวจนถึงปัจจุบัน,ก่อนหน้านี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดไปบอกกับชาวบ้านว่า ได้มีการจัดสรรงบประมาณจำนวน 2 ล้าน 8 แสนบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อสร้างสะพานใหม่ แต่ในที่สุดก็ไม่มีการก่อสร้างสะพานแต่อย่างใด เป็นการหลอกชาวบ้านให้รอเก้อเท่านั้น,กระทั่ง ล่าสุดผู้บริหารท้องถิ่น ได้รับแจ้งจาก กรุงเทพมหานครว่า จะมีเจ้าหน้าที่มารื้อสะพานแบริ่งกลับคืน โดยไม่มีข้อแม้ หรือ การต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น ในวันนี้ 15 ม.ค. ทำให้ชาวบ้านเกรงว่า ถ้ามีการรื้อสะพานจะเกิดความเดือดร้อนอย่างใหญ่หลวงให้แก่ชาวบ้าน ซึ่งประกอบด้วย นักเรียน นักศึกษา ประชาชน เกษตรกรชาวสวนยาง การขนย้ายผู้ป่วย ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่เข้าเยี่ยมแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในพื้นที่,จึงขอเรียกร้องไปยัง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร ได้โปรดยับยั้งหรือชะลอการรื้อคืนสะพานไปอีกสัก 1 ปี หรือจนกว่าชาวบ้านจะมีสะพานใหม่,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ชาวบ้านยังคงปักหลักรอคำตอบจากทางจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยการกางเต็นท์รอ มีการประกอบอาหารรับประทานร่วมกัน จนกว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจน โดยทางผู้นำท้องถิ่นกำลังอยู่ระหว่างการประสานงานกับทางจังหวัด.
ชาวนบพิตำ กว่า 200 คน ร้องผู้ว่าฯเมืองคอน ขอให้กทม.ชะลอสั่งรื้อสะพานแบริ่งคืนจากพื้นที่ที่ให้ใช้ชั่วคราว หลังเกิดเหตุอุทกภัย น้ำป่าซัดสะพานในหมู่บ้านพังเมื่อปี 54 หวั่นได้รับความเดือดร้อนในการสัญจรไปมา เพราะขณะนี้ยังไม่มีการส
ข่าว,ทั่วไทย
นบพิตำ,รื้อสะพาน,ประท้วง,แบริ่งคืน,นครศรีธรรมราช,เห็นใจ,ยืดเวลา1ปี,กทม.,ได้รับความเดือดร้อน,ไม่มีสะพานใช้,ข่าวสังคม,พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.นครศรีธรรมราช,คลองโชน,สุขุมพันธุ์ บริพัตร
https://www.thairath.co.th/news/local/475022
ชี้มวยเด็ด 12/07/60
เวทีราชดำเนิน วันพุธที่ 12 ก.ค. (วันนี้) เป็นรายการมวย ศึกวันมิตรชัย จัดโดยโปรโมเตอร์ มิตร นคร สุเมธ ซื่อสัตตบงกช คู่มวยคู่คี่ เก็บค่าดู 300–600–2,000 บาท ชัย ศิษย์ อ.บี้ ขอวิจารณ์ไปตามฝีมือดังนี้,บัลลังก์ทอง ว.สารพัดช่าง มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าดีแต่เสียดสีเป็นรอง จะแพ้ จันทร์เจ้า พ.เพชรมากคง 102 ป.,เพชรสกล เดอะเบสท์-มวยไทย มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงแต่หายจากเมืองกรุงไปนานสภาพร่างกายเป็นรอง จะแพ้ กึกก้อง 13 เหรียญรีสอร์ท 114 ป.,เพชรจงรักษ์ (ยอดมวยพลรัตน์) ศักดิ์สมบูรณ์ มวยแข็งแกร่งเตะแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดกว่า จะชนะ เพชรเดช ศักดิ์วิเชียร ชนิดสนุกอีกครั้ง 101 ต่อ 103 ป.,ยอดสยาม ไฟต์เตอร์มวยไทย มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงแต่เสียดสีเป็นรอง จะแพ้ อีสานเขียว หนุ่มพรเทพ ชนิดสนุกพลิกไปมาอีกครั้ง 113 ป.,ไก่ป่า 13 เหรียญรีสอร์ท มวยแข็งแกร่งเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงฟอร์มสดมีฮึดตลอด จะชนะ สั่งฟ้า ช.วสันต์ 105 ป.,ธนูเพชร ว.สังข์ประไพ (แพ้คะแนน ยอดขุนศึก ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ที่รังสิต) มวยสูงยาวจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงฉลาดฟิตซ้อมเตรียมตัวมาแก้มือ จะชนะ เทพวาฤทธิ์ ราไวย์มวยไทย (แพ้คะแนน ณัฐพล นาเชือกวิทยาคม ที่รังสิต) มวยแข็งแกร่งเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดชนิดสนุกอีกครั้ง 126 ป.,น้องยศ ศิษย์เจ๊กานต์ (ชนะทีเคโอ ปวริศ สมจิตรยิมส์ ยก 4 ที่ รดน.) มวยทรหดเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดแต่ช้ากว่า จะแพ้ หยกมรกต ว.สังข์ประไพ (แพ้ทีเคโอ ยอดบัวแดง เดอะกลั๊ฟพัทยา ยก 4 ที่ รดน.) มวยจังหวะฝีมือเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงฉลาดกว่าชนิดสนุกอีกครั้ง 116 ป.,บัลลังก์ทอง เกียรตินะดีย์ มวยแข็งแกร่งเตะแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงกว่า จะชนะ ขุนพลน้อย ส.เทียนชัย 118 ป.,เพชรวานร ดาบเรศ ปส. จะชนะ ณรงค์น้อย หิมาลัยยิม 106 ป. ,ชัย ศิษย์อาจารย์บี้
มิตร นคร จัดศึกวันมิตรชัยวันนี้ที่ รดน.หยกมรกตฉลาดกว่าจะชนะน้องยศอีกครั้งธนูเพชร–ไก่ป่า–อีสานเขียว–ได้เปรียบ
null
ชี้มวยเด็ด,ชัย ศิษย์อาจารย์บี้,เวทีราชดำเนิน,มวย,มิตร นคร
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1001109
ผู้เลี้ยงปลาอุบลราชธานีใช้ผ้าใบคลุมบ่อ ป้องกันอากาศร้อน
ผู้เลี้ยงปลาในเขตอำเภอเมือง จ.อุบลราชธานี ต้องนำผ้าใบมาคลุมบ่อปลาดุกและปลานิล หลังสภาพอากาศในพื้นที่ร้อนจัดอุณหภูมิสูงกว่า 36 องศาเซลเซียส นอกจากนั้นกลุ่มผู้เลี้ยงปลาต้องสูบน้ำจากบ่อบาดาล เติมลงไปในบ่อเลี้ยง เพื่อทดแทนน้ำที่แห้ง แต่ก็ทำให้ปลาขาดออกซิเจน ทยอยตายอย่างต่อเนื่องส่วนชาวบ้านในเขตเทศบาลหนองบัวลำภู อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ออกมาจับปลาในสระน้ำหนองบัว ซึ่งเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำที่สำคัญของจังหวัด หลังปลาขาดออกซิเจนทยอยตายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะปลาแม่พันธุ์ตัวละกว่า 10 กิโลกรัม จากการตรวจสอบอุณหภูมิ จ.หนองบัวลำภู พบว่าในช่วง 1 - 2 วันนี้ อากาศร้อนอบอ้าวสลับกับมีฝนตกในช่วงเย็นจึงทำให้ปลาปรับสภาพไม่ทันชาวนาใน ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ถูกน้ำป่าไหลเข้าท่วมนาข้าวกว่า 1200 ไร่ หลังฝนตกหนักในพื้นที่ไม่สามารถระบายออกจากนาข้าวได้ เนื่องจากผู้รับเหมาโครงการขุดแก้มลิง ขุดลอกคลองสาขาแม่น้ำยม ปิดเส้นทางน้ำ โดยล่าสุดเปิดทางระบายน้ำลงสู่บึงระมานแล้ว คาดว่าอีกประมาณ 4 วันระดับน้ำจะปกติขณะว่าที่ ร.ต.ธรรมนูญ ท้าวฮาย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่าง ประสานให้ผู้นำท้องถิ่นสำรวจความเสียหายนาข้าวในพื้นที่ทั้งหมด เพื่อเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก จัดหางบประมาณช่วยเหลือชาวนาที่เดือดร้อนต่อไป
จากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวสลับกับมีฝนตกในช่วงเย็น กำลังส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงปลาในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ จ.อุบลราชธานี ที่ผู้เลี้ยงปลาต้องนำผ้าใบมาคลุมบ่อ
ภูมิภาค
ปลา,ร้อน,อากาศ,อุบลราชธานี,แปรปรวน
https://news.thaipbs.or.th/content/84009
วงเสวนาชี้ ร่างพ.ร.บ.คุมสื่อฯ มีปัญหา และองค์กรวิชาชีพสื่อเองก็มีปัญหาด้วยเช่นกัน
สื่อในฐานะผู้ที่จะตรวจสอบคนอื่นต้องโปร่งใสด้วย สุณัย HRW ถามทำไมสื่อค้านร่างพ.ร.บ. แต่ไม่ค้านประกาศ คสช.ให้หนัก16 ก.พ. 2560 ในเวทีเสวนาเรื่อง พ.ร.บ. (ไม่) คุ้มครองสื่อ/ ความอิสระภายใต้งบรัฐ? ที่จัดโดยมีเดีย อินไซด์ เอ้าท์ เมื่อวานนี้ (15 ก.พ.) พูดคุยกันเรื่อง ร่าง พ.ร.บ. การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ ซึ่งร่างโดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการสื่อสารมวลชน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ถูกองค์กรวิชาชีพสื่อคัดค้านมาตลอดตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากเกรงว่าจะมีการใช้อำนาจรัฐเข้ามาแทรกแซงความเป็นอิสระของสื่อ จนล่าสุด ที่ประชุม สปท. มีมติให้ กมธ.นำไปปรับแก้ใหม่อาทิตย์ สุริยะวงศ์กุล ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองเน็ต ให้ภาพว่า ขณะนี้มีร่าง พ.ร.บ.ในลักษณะนี้อย่างน้อยสี่ฉบับฉบับแรก คือ ฉบับของ สปท. ชื่อ ร่างพ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน ซึ่งมีการนำเสนอในเว็บไอลอว์ ประมาณเดือน ม.ค.อีกฉบับจาก สปท. ลงวันที่ 9 ม.ค. 2560 เป็นฉบับที่กลุ่มองค์กรวิชาชีพสื่อไปยื่นค้าน สองฉบับนี้มีเนื้อหาคล้ายกันสาม ฉบับที่กลุ่มองค์กรวิชาชีพสื่อเป็นผู้เสนอ ชื่อและฉบับของ สนช. ชื่อ ร่าง พ.ร.บ.สภาวิชาชีพสื่อมวลชน ลงวันที่แก้ไขล่าสุดเมื่อ 28 ธ.ค. 2559สิ่งที่มีร่วมกันคือ มีการมองว่าที่ผ่านมา สมาคมสื่อฯ มีกลไกกำกับดูแลอยู่แล้ว แต่อาจบังคับใช้ลำบากเพราะไม่มีกฎหมายบังคับ จึงเห็นว่าควรมีกฎหมายโดยให้ผู้ประกอบการสื่อจัดตั้ง รวมกลุ่มกันเอง แต่กฎหมายให้อำนาจบางอย่างรองรับไว้ และเป็นแรงจูงใจว่าถ้าเข้าร่วม กฎหมายอาจช่วยเหลือทางคดีหรือกันจากการถูกฟ้องคดีบางอย่างอย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างบางส่วน เช่นฉบับ สปท. นิยาม ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อ ว่าต้องทำหน้าสื่อโดยปกติธุระ หรืออย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นประจำ ตามนิยามแล้ว บล็อกเกอร์ หรือผู้ที่โพสต์ในอินเทอร์เน็ตในลักษณะชั่วครั้งชั่วคราว จะไม่ถูกนับรวม แต่เพจต่างๆ ที่โพสต์สม่ำเสมอ ได้สปอนเซอร์ หรือค่าโฆษณา อาจถูกนับได้ฉบับ สนช. นิยาม ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อ ว่าหมายถึง บุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพเป็นปกติธุระในการสร้างสรรค์หรือกำกับดูแลเนื้อหาหรือดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวกับสื่อมวลชน จะเห็นว่านิยามค่อนข้างกว้าง ไม่ได้พูดถึงค่าตอบแทน และไม่ได้นับเฉพาะผู้สร้างสรรค์แต่รวมถึงผู้กำกับดูแลเนื้อหาด้วย ทั้งนี้ เวลาพูดถึงอินเทอร์เน็ต จะมีเนื้อหาที่ผู้ใช้เป็นผู้สร้าง เจ้าของแพลตฟอร์มเป็นโมเดอเรเตอร์ เช่น เพจหรือช่องยูทูบ เปิดให้คนส่งเข้ามา แล้วนำมาจัดหมวดหมู่ จึงอาจถูกนับเป็นผู้ประกอบการสื่อ แม้ไม่ได้ค่าตอบแทนก็ตาม นอกจากนี้ มีการระบุถึง บัตรประจำตัวผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน เกิดคำถามว่าต่อไปต้องมีใบอนุญาตนักข่าวหรือไม่ฉบับ สปท. ให้มีกรรมการ 3 ชุด คือ คณะกรรมการองค์การวิชาชีพสื่อมวลชน คณะสภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติ และคณะกรรมการจริยธรรมสื่อมวลชนกลไกกำกับดูแลกันเองขององค์กรสื่อ ทำโดยให้สื่อกำกับกันเองก่อน หากเรื่องร้องเรียนทำกันเองในองค์กรสื่อไม่ได้ ไปที่องค์การวิชาชีพ หากไม่พอใจไปที่คณะกรรมการสภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติ เรียกว่าถ้าสื่อดูแลกันเองไม่ได้ให้โยนไปให้รัฐคณะสภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติ องค์ประกอบ ได้แก่ ผู้แทนสมาชิกสภาวิชาชีพ 5 คน และคนจากรัฐ 4 คน คือ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งมีข้อกังวลว่าจะเป็นการเอาคนจากรัฐมานั่งในคณะกรรมการซึ่งจะส่งผลได้ผลเสียต่อการดำเนินงานของสื่อคณะกรรมการจริยธรรมสื่อมวลชน มีหน้าที่กำหนดมาตรฐานจริยธรรมสื่อ องค์ประกอบมาจากผู้แทนจากสภาทนายความ องค์กรด้านการเฝ้าระวังสื่อ สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค สถาบันสื่อเด็กและเยาวชนและผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชน มีข้อสังเกตว่า 1-4 คนแรก มาจากองค์กร แต่กรณีผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชน เป็นผู้เชี่ยวชาญไม่ได้มีใครรองรับฉบับขององค์กรวิชาชีพสื่อฯ มีคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและส่งเสริมมาตรฐานผู้ประกอบการวิชาชีพสื่อมวลชน ซึ่งองค์ประกอบแตกต่างจากฉบับ สปท. อย่างเห็นได้ชัด เพราะไม่มีคนจากองค์กรรัฐอยู่ โดยกำหนดให้มาจากการสรรหาของคณะกรรมการ 7 คน ประกอบด้วย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการองค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค นายกสภาทนายความ ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และประธานสภาวิชาชีพข่าวและวิทยุโทรทัศน์ไทยตรงนี้เขียนค่อนข้างรัดกุม เพราะให้กรรมการที่มาจากองค์กรต่างๆ ต้องมีมติขององค์กรนั้นๆ รองรับด้วยพูดถึงเนื้อหาอะไรที่เสนอได้ไม่ได้ ตามมาตรฐานจริยธรรม ฉบับ สปท. บอกว่า ให้องค์กรสื่อไปทำจริยธรรมตัวเอง โดยมีมาตรฐานกลางกำหนดมาแล้ว 6 ข้อ ฉบับ สนช. มี 10 ข้อ โดยในเนื้อหาของ สนช. ส่วนหนึ่งไปคล้ายกับ 7 ข้อในประกาศ คสช. 97/2557 แก้ไขเพิ่มเติม 103/2557 ห้ามเสนอเนื้อหาหมิ่นสถาบันกษัตริย์ การวิจารณ์ คสช. ทำไม่ได้ โดยไม่ได้พูดเรื่องประโยชน์สาธารณะเลยอาทิตย์ชี้ว่า ต่อให้ไม่มีกฎหมายนี้ ก็ยังมีประกาศเหล่านั้นยังอยู่ จนกว่าจะมีพ.ร.บ.มายกเลิก ถามว่าสมาคมสื่อได้ต่อสู้เพียงใดไม่ให้มีข้อจำกัดเหล่านั้น ขณะประกาศ คสช.ฉบับที่ 97/2557 ออกมา มีการต่อสู้จนแก้ไขจนได้ประกาศ คสช. ฉบับที่ 103/2557 แต่สาระหลักไม่ได้เปลี่ยนแปลงนักเขาชี้ว่า จะเห็นว่าที่ผ่านมา สมาคมสื่อไม่ได้สู้กับรัฐเสียเท่าไหร่ นอกจากไม่สู้รัฐ แล้วไม่สู้กับทุนด้วย ทำให้เกิดคำถามว่า องค์กรวิชาชีพสื่อเป็นตัวแทนของคนทำสื่อ หรือเจ้าของสื่อ(ทุน) ยกตัวอย่างโครงการฝึกอาชีพเลี้ยงไส้เดือนขององค์กรวิชาชีพสื่อแห่งหนึ่ง เพื่อช่วยเหลือนักข่าวที่มีรายได้น้อย ถามว่า ถ้ารู้ว่าเขาทำงานไม่พอกิน ทำไมไม่มีการต่อสู้กับเจ้าของสื่อเพื่อเรียกร้องสวัสดิการเลยหรือรัฐก็ไม่สู้ ทุนก็ไม่สู้ ต่อให้มีสมาคมวิชาชีพแบบที่สมาคมสื่อเสนอ ปัญหานี้จะยังถูกแก้หรือไม่ อาทิตย์กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม เราต้องมีจุดยืนสนับสนุนองค์กรวิชาชีพ 30 องค์กร เพราะสิทธิเสรีภาพของประชาชนจะถูกคุกคามแน่ๆ หากร่างกฎหมายนี้ผ่าน แต่ย้ำเช่นกันว่าคำถามใหญ่ๆ ที่ประชาชนมีกับองค์กรสื่อและองค์กรวิชาชีพสื่อก็ยังอยู่ขณะที่ สุชาดา จักร์พิสุทธิ์ ผู้อำนวยการ TCIJ ชี้ว่า มีเรื่องที่เป็นห่วง 2 เรื่อง คือ หนึ่ง เราจะมีกฎหมายที่คลอดจากรัฐบาลรัฐประหาร และคาดหวังอะไรดีๆ ได้ยากมาก สอง สื่อไม่ได้ทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นศรัทธาได้เลย ว่าเชื่อมั่นแล้วจะเป็นตัวแทนเสรีภาพได้จริง ทำให้ภาพต่อต้านร่างกฎหมายนี้ มีเพียงสื่อหลักไม่กี่องค์กร ประชาชน และสถาบันวิชาการด้านนิเทศศาสตร์ ไม่หือไม่อือ องค์กรอิสระต่างๆ ไม่ส่งเสียงนี่เป็นเรื่องแย่ที่เราต้องร่วมสู้ ไม่ว่าสื่อจะน่าเชื่อถือหรือเป็นปากเสียงได้จริงหรือไม่ แต่เป็นการเมืองภาคประชาชนที่ต้องร่วมสู้กับความพยายามในการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก สุชาดากล่าวผู้อำนวยการเว็บไซต์ TCIJ แสดงความเห็นต่อว่า ส่วนตัวมองว่า อย่างไรก็คงต้องมีกลไกใหม่ออกมากำกับ หรือถ่วงดุลสื่อหลักให้มากกว่าที่ผ่านมา เพราะสื่อหลักเป็น actor ของความขัดแย้งอย่างเป็นที่ประจักษ์ โดยยกตัวอย่างกรณีของนักข่าวที่ออกไปชุมนุมบนท้องถนน และเชียร์ให้ใช้เฮทสปีช แต่เธอก็ยังเห็นว่าไม่ใช่การกำกับโดย พ.ร.บ.ฉบับนี้เรื่องการกำกับตัวเองของสื่อเป็นไปได้ แต่ยังไม่น่าวางใจหรือทำให้สิ้นสงสัยว่าจะทำได้ สุชาดากล่าว พร้อมยกตัวอย่างกรณีนักข่าวแต่งชุดนักเรียนไปพบนายกฯ หรือผู้นำรัฐประหารในช่วงวันปีใหม่ว่า แสดงให้เห็นว่าพวกเขายังไม่เห็นว่านี่คือปัญหาจริยธรรม แล้วจะวางใจได้อย่างไร ยังไม่นับเรื่องที่ TCIJ เปิดโปงเรื่ององค์กรธุรกิจจ่ายเงินสื่อ แต่องค์กรวิชาชีพใช้เวลาสอบถึงสองปี มีการตั้งคณะกรรมการคนคุ้นเคยมาสอบ เป็นเช่นนี้มาทุกยุคทุกสมัย เพราะฉะนั้น จึงไม่สิ้นสงสัยว่าองค์กรสื่อจะกำกับดูแลตัวเองได้สอง สื่อจะลุกขึ้นสู้ทุกครั้ง เมื่อมีการออกกฎหมายระหว่างคู่ขัดแย้ง หรือสื่อที่เป็นพรรคพวกตัวเอง คำกล่าวว่า เสรีภาพของสื่อคือเสรีภาพของประชาชน เป็นสิ่งที่พิสูจน์แล้วว่าวางใจไม่ได้ ถามว่า เสรีภาพของประชาชนคนไหน ทำไมบางเรื่องเช่น กรณีไผ่ ดาวดิน ที่แสดงให้เห็นถึงกระบวนยุติธรรมที่ผิดฝาผิดตัว สามัญสำนึกง่ายๆ ถึงไม่เป็นข่าวสุชาดา กล่าวว่า น่าสังเกตว่า รัฐบาลทหารและสื่อต่างก็แหย สื่อออกมาไขว้มือค้านร่างกฎหมาย รัฐบาลก็ถอยบอกว่าจะทบทวน สื่อก็จะบอกว่าจะพัฒนาทักษะคนทำงานให้รู้เท่าทันทุน แต่จะเห็นว่า องค์กรวิชาชีพสื่อไปรับเงินขององค์กรธุรกิจ มาจัดอบรมภาษาเวียดนาม ให้ไปเที่ยวเวียดนามฟรี ถามว่าจะทำให้ทำงานได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้นหรือ รวมถึงมีการอบรมหลักสูตรผู้บริหารการสื่อสารมวลชนระดับกลาง (บสก.) หลักสูตรผู้บริหารการสื่อสารมวลชนระดับสูง (บสส.) ซึ่งน่าสงสัยตั้งแต่เจตนารมณ์ในการรับเงิน เพราะเอาตัวแทนธุรกิจมานั่งเรียนร่วมกับสื่อ เพื่อความสัมพันธ์อันดีกับแหล่งข่าวที่เป็นธุรกิจ ถามว่าตกลงองค์กรวิชาชีพที่มีอยู่เป็นตัวแทนของนักข่าวตัวเล็กจริงหรือไม่สุชาดา บอกว่า ถ้าเข้าใจว่าสื่อคือพื้นที่ส่วนกลาง ต้องมีตัวแทนสาธารณะ หรือต้องทำตัวเป็นพื้นที่ที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้จริง เช่น หากมีกรณีต้องสอบสวน ก็ควรจัดเวทีพูดคุย เพื่อให้เกิดการบาลานซ์ ไม่ใช่แค่ข้อวินิจฉัยแบบปิดประตูคุย นอกจากนี้ ยังควรเปิดให้มีเลือดใหม่หรือคนใหม่เข้ามา ผ่านกระบวนการสรรหาอย่างโปร่งใส ไม่ใช่แต่คนหน้าเดิม ไม่เช่นนั้น ต่อให้มีองค์กรวิชาชีพอันใหม่ มีสภาการวิชาชีพสื่อ แต่เอายังองค์กรเดิมมารวมกัน มายาคติชุดเดิมยังมี ปัญหาเดิมย่อมมีอยู่หากคิดเรื่องกำกับตัวเองจริงๆ จะต้องจัดเวทีระดมสมองกันครั้งใหญ่ เปิดให้คนที่เคยถูกมองเป็นคนนอกเข้ามาช่วยคิด เมื่อได้ข้อเสนอ ก็แถลงสู่สังคม เช่นนี้ก็จะได้แนวร่วม แต่คำถามแรกคือจะเริ่มหรือยังสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์วอทช์ ประจำประเทศไทย แสดงความเห็นว่า ประเทศที่ถือว่าประสบความสำเร็จในการทำให้กฎหมายสื่อเป็นกฎหมายที่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ไม่ใช่เป็นกฎหมายที่จำกัดสิทธิเสรีภาพ มันเป็นกระบวนการที่เกิดคู่ขนานไปกับพัฒนาทางการเมืองที่เปิดกว้างมากขึ้น นำไปสู่การเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น แต่กรณีของไทย ความพยายามในการจัดระเบียบสื่อมันเกิดขึ้นในบริบทของการหวนกลับของวิวัฒนาการทางการเมืองที่นำไปสู่ระบอบอำนาจนิยมมากขึ้นเขาชี้ว่า โครงร่างของเครื่องมือที่จะมากำกับสื่อ แม้ว่าจะออกมาจากองค์กรวิชาชีพสื่อ ก็สะท้อนความพยายามก่อนหน้านั้นในการเล่นงานสื่อที่อยู่ตรงข้ามทางการเมือง ส่วนการออกแบบเครื่องมือโดยภาครัฐหรือกลไกที่ตอบสนองรัฐ อย่าง สนช. สปท. ก็สะท้อนกับธงในรัฐประหาร 2549 และย้ำอีกครั้งในรัฐประหาร 2557 ที่ต้องการให้รัฐควบคุมวิธีคิดของคนตัวที่จริงๆ เข้มข้นที่สุดและมีผลบังคับใช้มาเนิ่นๆ เลยคือ ประกาศ คสช. ที่ 97/2557 ที่บอกว่าสื่อไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ คสช.ได้ ห้ามเชิญคนอย่างผมไปออกสื่อ หรือเขียนบทความลงสื่อ ถ้าสมาคมสื่อฯ เอาจริงเอาจังกับการรักษาสิทธิเสรีภาพ ต้องออกมาแย้งเรื่องนี้ทุกวัน เขาอาจชี้แจงว่าเขาแย้ง แต่แย้งอย่างจริงจังแค่ไหน สักแต่ว่าแย้งหลังจากถูกตำหนิถูกประณาม แล้วหลังจากนั้นก็เงียบหายไปตามสายลม แต่ผลจากคำสั่ง คสช. ดังกล่าว ยังคงอยู่กับเราจนถึงทุกวันนี้ตราบจนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่บังคับใช้ ผลของมันก็ยังอยู่กับเราต่อไป ดังนั้น เครื่องมือคุมสื่อที่จะอยู่ยั้งยืนยง คือ พ.ร.บ.นี้ และคำสั่ง คสช. ถามว่า ถ้าองค์กรสื่อค้านตัวเล็กแล้วทำไมจึงไม่ค้านตัวใหญ่ความน่าเชื่อถือขององค์กรวิชาชีพสื่อเอง ไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า นี่เป็นการสู้ยืนยันเพื่อสิทธิเสรีภาพ ไม่ใช่แค่รักษาหม้อข้าวตัวเองสุณัย กล่าวอีกว่า อีกส่วนที่ติดใจมากคือ ร่างทั้งหลายทั้งปวง มาจากกลุ่มรัฏฐาธิปัตย์ในปัจจุบัน แต่เวลาผู้นำองค์กรสื่อวิจารณ์กลับว่าบอกว่า เกรงรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในอนาคตจะใช้อำนาจ คุณถูกข่มขืนอยู่ในปัจจุบันแล้ว ทำไมไม่ร้อง มันผิดที่ผิดทางหรือเปล่าจากจุดยืนของฮิวแมนไรท์วอทช์ สิ่งที่กังวลมากคือ องค์กรควบคุมจริยธรรม ไม่ว่าจากรัฐหรือสื่อ จะนำไปสู่การเซ็นเซอร์ เพราะวิสัยทัศน์ของรัฐหลังรัฐประหาร มีจุดยืนชัดเจนว่าจะควบคุมข้อมูลข่าวสาร เพื่อนำไปสู่การควบคุมวิธีคิดของคน ขณะเดียวกัน หากให้สื่อคุมกันเอง จุดยืนสื่อตอนนี้ก็ไม่ได้สะท้อนความเป็นอิสระอย่างแท้จริง จะกลายเป็นการเซ็นเซอร์ตัวเอง หรือคุมสื่อที่ไม่ได้อยู่ในอำนาจ เป็นจริยธรรมแบบเลือกข้างอาทิตย์ กล่าวว่า มีกรณีที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการกำกับดูแลตัวเองในอังกฤษ หลายปีก่อน สื่อ News of the World แฮกโทรศัพท์ของเหยื่อคนหนึ่ง แล้วทำให้พ่อแม่เข้าใจว่าเหยื่อยังไม่ตาย จนทำให้สุดท้ายช่วยเหลือเหยื่อไม่ได้ การแฮกระบบเอาไปทำข่าวนั้นผิดจริยธรรม แต่คณะกรรมการรับเรื่องร้องเรียนสื่อไม่มีแอคชั่นใดๆ คนมองกันว่าล้มเหลว รัฐบาลจึงตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพราะเป็นเรื่องใหญ่ หลายครั้งแล้วที่ไม่ว่า ดารา หรือราชวงศ์ก็โดนดักฟังโทรศัพท์เพื่อเอาไปทำข่าวรายงานบอกว่าจำเป็นต้องมีการปฏิรูปกลไกการกำกับดูแล โดยนักการเมือง สื่อ เจ้าหน้าที่รัฐ สนิทกันเกินไปในหลายกรณี บางกรณี สื่อสนิทกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะช่วยให้เข้าถึงข้อมูลบางอย่าง เอามาเป็นข่าวได้ นักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐมองว่าอาจทำให้ตัวเองพ้นการตรวจสอบบ้างรายงานนี้ไม่ได้ปฏิเสธความสนิทสนม แต่ชี้ว่าในหลายกรณี ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประโยชน์สาธารณะเลย จึงบอกว่าควรต้องเปิดเผยข้อมูลด้วยว่า นักการเมือง สื่อ ใครติดต่อกันบ้าง ให้สาธารณะทราบ และคณะกรรมการรับเรื่องร้องเรียน ต้องทำงานอย่างเปิดเผยโปร่งใส ตรวจสอบได้อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอหนึ่งของรายงานชิ้นนี้บอกว่า ให้เปิดให้กลไกของรัฐบางส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ถูกองค์กรสิทธิวิจารณ์ว่า เมื่อใดกลไกกำกับสื่อแทรกแซงจากรัฐได้ จะหมดความเป็นอิสระแต่ที่น่าสนใจคือ รายงานนี้บอกว่า องค์กรกำกับกันเอง ต้องมีความเป็นอิสระ ต้องโปร่งใส ความสัมพันธ์รัฐ นักการเมือง สื่อ ต้องเปิดเผยด้วย เป็นการเรียกร้องอย่างเดียวกันทั้งกับคนที่จะถูกตรวจสอบและกับคนที่จะไปตรวจสอบคนเหล่านั้นนอกจากนี้ เขาเสนอด้วยว่า ปัญหาส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการที่คนในองค์กรไม่สามารถส่งเสียงร้องเรียนให้มีการแก้ไขปัญหาในองค์กรของตัวเองได้ บางทีองค์กรวิชาชีพสื่อควรต้องมองปัญหานี้ด้วยว่าทำอย่างไรให้คนในองค์กรสื่อมีช่องทางร้องเรียนได้ด้วย เพราะก่อนหน้านี้มีการพูดถึงแต่เฉพาะกรณีคนนอกองค์กรที่ได้รับความเสียหายจากการนำเสนอข่าวโจทย์จึงคือทำอย่างไรให้คนภายในองค์กรสื่อ ที่พบว่ากำลังจะมีสิ่งผิดจริยธรรม ร้องเรียนก่อนการตีพิมพ์ข่าวได้ ซึ่งสิ่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้านักข่าวไม่เชื่อใจความเป็นอิสระของคณะกรรมการต่อให้อิสระจากรัฐ แต่ถ้านักข่าวไม่เชื่อใจว่าคณะกรรมการจะไม่เข้าข้างเจ้าของสื่อกันเอง นักข่าวเหล่านั้นคงไม่กล้าร้องเรียน ปัญหาก็จะอยู่ต่อไป ความเป็นอิสระของคณะกรรมการนี้ไม่ใช่จากรัฐเท่านั้น ต้องอิสระจริงๆ
วงเสวนาเห็นด้วยต้องคัดค้านร่างกฎหมายคุมสื่อ แต่ยังมีคำถามให้คิดต่อ สุชาดา TCIJ ถาม องค์กรวิชาชีพเป็นตัวแทนสื่อจริงหรือ อาทิตย์ ไทยเน็ต ยกกรณีศึกษาปฏิรูปสื่ออังกฤษ
การเมือง,สิทธิมนุษยชน,ไอซีที
กำกับสื่อ,พ.ร.บ.คุมสื่อ,สุชาดา จักร์พิสุทธิ์,สุณัย ผาสุข,องค์กรวิชาชีพสื่อ,อาทิตย์ สุริยะวงศ์กุล
https://prachatai.com/journal/2017/02/70127
อุทาหรณ์ คลิปจยย.ตัดหน้าถูกกระบะชน คนขี่ตัวลอยปลิวกลางอากาศ
โลกออนไลน์แห่แชร์คลิปวิดีโออุบัติเหตุ อุทาหรณ์สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ โดยสมาชิกเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Panorama Thailand ได้โพสต์คลิปวิดีโอไปยังแฟนเพจเฟซบุ๊ก Youlike (คลิปเด็ด) ระบุข้อความว่า วินาที มอเตอร์ไซค์ตัดหน้ารถ โดนชนเข้าเต็มลำเต็มๆ เป็นเหตุการณ์จากกล้องหน้ารถ จับภาพขณะรถกระบะขับอยู่บนถนนแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะมีรถจักรยานยนต์เลี้ยวตัดหน้าอย่างกระชั้นชิด ทำให้รถกระบะพุ่งชนรถจักรยานยนต์เข้าอย่างจัง จนผู้ขี่รถจักรยานยนต์ตัวลอยกระเด็นกลางอากาศ ล่าสุดมีผู้เข้าชมคลิปวิดีโอนี้กว่า 2 แสนครั้ง,(,ชมคลิป,),นอกจากนี้ยังมีสมาชิกเฟซบุ๊กชื่อว่า PRiew Pariyachat ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้ขับรถกระบะ ออกมาโพสต์ข้อมูลอัพเดตเพิ่มเติมว่า วันนี้ไปเยี่ยมลุงขับมอเตอร์ไซค์มาแกโชคดีมาก แกหัวแตก และซีกโครงหัก แกพูดคุยได้ปกติ สมองปกติแกปลอดภัยดี แต่รถแกไม่มี พรบ.อะไรเลย ซึ่งในเหตุการณ์จะเห็นว่าแกขับมาไม่ได้ดูรถเราเลย ตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้รถแกผิดเต็มๆเลย สงสารแกเหมือนกันค่ะ รถเราก็ซ่อมอีกนานเลย,ล่าสุด ,สายตรวจโซเชียล, ไทยรัฐออนไลน์ ได้ติดต่อไปยัง พ.ต.ท. ประพนธ์ ภูจอมนิล รองกำกับสอบสวน สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา บริเวณปากทางเข้าบ้านโจด ถนนกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ โดยรถจักรยานยนต์กำลังจะขี่รถเลี้ยวขวาเข้าบ้าน แต่เป็นจังหวะที่มีรถบังทัศนวิสัย ทำให้มองไม่เห็นรถกระบะที่สวนทางมา ล่าสุดตัวผู้ขี่รถจักรยานยนต์พ้นขีดอันตรายแล้ว โดยมีผู้รถกระบะที่ชนคอยดูแลเป็นอย่างดี ส่วนเรื่อง พรบ.รถมอเตอร์ไซต์กำลังตรวจสอบอยู่ว่าขาดจริงหรือไม่
คลิปวิดีโออุบัติเหตุอุทาหรณ์จากกล้องหน้ารถ จับภาพรถจักรยานยนต์เลี้ยวตัดหน้ารถกระบะอย่างกระชั้นชิด ทำให้เสียหลักพุ่งชนเข้าอย่างจัง
null
รถชน,กระบะ,รถจักรยานยนต์,ตัวปลิว,ลอยกลางอากาศ,ชนกระเด็น,กล้องหน้ารถ,อุบัติเหตุ,เลี้ยวตัดหน้า,อุทาหรณ์,คลิป,คลิปวิดีโอ,ข่าว,ข่าวด่วน,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐ,สายตรวจโซเชียล,โซเชียล,Thairath
https://www.thairath.co.th/content/600616
ชี้ลายแทงเด็ด เกาะทาคาชิมะ เชื่อกันว่าไปแล้วจะทำให้มีโอกาสถูกหวย
เรื่องโชคลาภไม่เข้าใครออกใคร และปฏิเสธไม่ได้ว่าใครๆ ก็อยากได้มาครอบครอง ทำให้หลายคนเดินทางไปไหว้ขอพรตามสถานที่ที่ (เขา) บอกว่าศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะขึ้นเหนือ ล่องใต้ก็ไปมาหมดแล้ว ซึ่งวันนี้ ไทยรัฐออนไลน์ขอนำเสนอสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นอกประเทศกันบ้าง ที่ขึ้นชื่อเรื่องโชคลาภ,นั่นก็คือ ,เกาะทาคาชิมะ, (Takashima) หรือที่เรียกกันว่า เกาะหวย ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่คาราซึ จ.ซากะ ประเทศญี่ปุ่น มีพื้นที่โดยรอบ 3 กิโลเมตร และมีพลเมืองอาศัยอยู่เพียงประมาณ 330 คน,สำหรับความโด่งดังในเรื่องโชคลาภมาจาก ,ศาลเจ้าโฮเท, ซึ่งเป็นที่นิยมในการขอพรให้ถูกลอตเตอรี่ โดยมีวิธีการขอพรคือ ให้ใส่อากาศของศาลเจ้าไว้ในถุง ที่เรียกว่า ไคอุนโฮโทฟุคุโระ และเมื่อนำกลับไปให้ใส่ตั๋วหรือลอตเตอรี่ไว้ในถุงนี้ ซึ่งมีเรื่องเล่าว่า เคยมีคนมาขอพรและถูกหวย 30 ล้าน รวมทั้งมีทีมงานในกองถ่ายทำภาพยนตร์ได้ขอพรให้ Timeline จดหมายแห่งความทรงจำ โด่งดังและทดลองนำตั๋วภาพยนตร์ใส่ไว้ในถุงดังกล่าว จนพบว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่รู้จักในเวลาต่อมานั่นเอง.,(ข้อมูลจาก ,saga-tripgenius.com,, ศูนย์ข้อมูลจังหวัดซากะ)
ชี้เป้าแหล่งขอพรเรื่องโชคลาภสุดฮิต เกาะทาคาชิมะ หรือ เกาะหวย ใน จ.ซากะ ประเทศญี่ปุ่น เชื่อกันว่าให้นำอากาศใส่ถุงแล้วนำลอตเตอรี่มาใส่ จะมีโอกาสถูกหวย พบเคยมีคนขอพรแล้วถูกหวย 30 ล้าน
ข่าว,สังคม
เกาะหวย,เกาะทาคาชิมะ,ญี่ปุ่น,หวย,เลขเด็ด,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1190728
เปิดโปรไฟล์ ลูกหนุน-ลูกหนัง ลูกสาวของ ตั้ว ศรัณยู สวย เก่งครบทุกด้าน
เป็นผู้หญิงที่น่าตาดีและสวยมาก สำหรับ น้องลูกหนุน-น้องลูกหนัง ลูกสาวฝาแฝดคนสวยของ ตั้ว ศรัณยู กับ เปิ้ล หัทยา วงษ์กระจ่าง ที่เรียกว่าลูกไม้ตกใต้ต้นจริงๆ ถึงแม้ว่าน้องทั้งสองคนจะเป็นฝาแฝดกัน แต่ก็มีความถนัดและความสามารถกันคนละด้านในวัยเด็กนั้น พ่อตั้วกับแม่เปิ้ล ได้เห็นว่า ลูกสาวทั้งสองคนมีความสนใจในวิชาด้านสายศิลป์ จึงได้สนับสนุนลูกสาวทั้งสองคนในทุกด้านตามความชอบของลูกๆ ทั้งยังส่งให้เรียนว่ายน้ำ บัลเล่ต์ ขี่ม้า ไอซ์สเก็ต ไวโอลิน ขับร้อง และด้านอื่นๆ อีกมากมายน้องลูกหนุน ชื่อจริงว่าศุภรา วงษ์กระจ่าง ส่วน น้องลูกหนัง ชื่อว่าศีตลา วงษ์กระจ่าง ทั้งสองคนเรียนจบชั้นมัธยมจาก โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี จากนั้นก็แยกกันไปเรียนต่อคนละสายตามที่ตัวเองถนัดโดย ลูกหนุน เลือกเรียนปริญญาตรีที่วิทยาลัยดนตรี สาขาการแสดงขับร้องมหาวิทยาลัยรังสิตส่วน ลูกหนัง นั้นได้ไปศึกษาต่อที่เกาหลีใต้Ewha Womans University และยังเป็นนางแบบของค่ายดังใน YGKPlus ของเกาหลีใต้อีกด้วยในอนาคตเราอาจจะได้เห็นลูกสาวฝาแฝดของ ตั้ว ศรัณยู กับ เปิ้ล หัทยา มาโลดแล่นในวงการบันเทิงก็เป็นได้ซึ่งตอนนี้ทั้งสองคนก็ใกล้จะเรียนจบแล้ว แม่เปิ้ล ได้บอกว่า ความฝันของ พ่อตั้ว ก็คือการได้ไปร่วมงานรับปริญญาของลูกสาวทั้งสองคน บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัววงษ์กระจ่างนะคะ.
เปิดประวัติของ น้องลูกหนุน-น้องลูกหนัง ลูกสาวฝาแฝดของ ตั้ว ศรัณยู กับ เปิ้ล หัทยา โปรไฟล์ไม่ธรรมดา แถมยังหน้าตาดีเหมือนพ่อกับแม่อีกด้วยจ้า
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ตั้ว ศรัณยู,ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง,ลูกตั้ว ศรัณยู,ลูกหนุน ลูกหนัง,ลูกหนุน ศุภรา,ลูกหนัง ศีตลา,ข่าวบันเทิง,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1867159
รอง ผบ.ตร.ตรวจจุดคนร้ายทิ้งมีด ใช้ฟันคอเด็ก ม.3 ดับที่สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 ก.พ.2561 ที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร./โฆษก ตร. พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางแก้ว พร้อมพนักงานสอบสวน และฝ่ายสืบสวน สภ.บางแก้ว ร่วมกันแถลงผลการควบคุมตัวเยาวชน ผู้ก่อเหตุใช้มีดฟันคอเด็ก นร. ม.3 ร.ร.เทพศิรินทร์ เสียชีวิต บริเวณปากซอยบางพลี-หนามแดง 21 ถนนหนามแดง-บางพลี ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 15 ก.พ.61 ที่ผ่านมา,รองผบ.ตร./โฆษก ตร. กล่าวว่า ในส่วนของคดีที่เกิดขึ้นตอนนี้ตำรวจแบ่งสำนวนออกเป็น 2 คดี คือคดีฆ่าผู้อื่น กับคดีทำร้ายร่างกาย โดยในส่วนของคดีฆ่าผู้อื่น มีผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชน 2 ราย ประกอบด้วย นายโม (นามสมมติ) และนายนัน (นามสมมติ) อายุ 16 ปี โดยนายโม (นามสมมติ) ได้เดินทางเข้ามอบตัวที่สภ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา เมื่อวานนี้ ส่วนนายนัน (นามสมมติ) ตำรวจเชิญนำตัวมาเพื่อรอสอบถามข้อมูลตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้ทางพนักงานสอบสวน จะร่วมกับสหวิชาชีพ และผู้ปกครอง ทำการซักถามข้อมูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายและพาอาวุธเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมนำตัวเยาวชนทั้ง 2 คนไปขออำนาจศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการ ส่งไปควบคุมตัวไว้ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสมุทรปราการ ,ส่วนคดีทำร้ายร่างกาย ตอนนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คนแล้วเป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี ทั้งหมดเป็นเด็ก นร.ของร.ร.บางแก้วประชาสรรค์ ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกทั้ง 6 คนให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่า ส่วนมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุเด็กทั้ง 2 โรงเรียนก่อเหตุทะเลาะวิวาทซ้ำนั้น หลังจากนี้ตนจะเชิญผู้อำนวยการของ 2 โรงเรียนดัง มาร่วมพูดคุยหาทางออกต่อไป ,หลังจากนั้น พล.ต.อ.วิระชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ พฐ.ได้เข้าตรวจยึดอาวุธมีด ที่เยาวชนบอกว่าซุกซ่อนไว้หลังก่อเหตุ บริเวณป่าหญ้าข้างทาง ภายในซอยศรีด่าน 22 หมู่ 16 ต.บางแก้ว อ.บางพลี พบอาวุธมีดคล้ายสปาร์ตา 3 เล่ม คาดว่า 1 ใน 3 เล่มนี้จะเป็นอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นมีดดาบความยาวประมาณ 90 ซม. และมีดขออีก 1 เล่ม หลังจากนี้จะให้พฐ.นำไปตรวจหาดีเอ็นเอว่า อาวุธที่พบเป็นของใคร เพื่อใช้ประกอบสำนวนในการทำคดีต่อไป.
วิระชัย นำทีม ตร.สมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่ พฐ. ได้เข้าตรวจยึดอาวุธมีด ที่เยาวชนบอกว่าซุกซ่อนไว้หลังก่อเหตุ บริเวณป่าหญ้า ซอยศรีด่าน 22 เผยรู้ตัวคนลงมือทั้ง 6 และออกหมายเรียกแล้ว
ข่าว,อาชญากรรม
ฟันคอเด็ก ม.3,ฟันคอม.3หลังวัดหนามแดง,ฟันคอนักเรียน,สมุทรปราการ,วิระชัย ทรงเมตตา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1210172
อุตตม ย้ำ 28 มี.ค. ลงทะเบียนช่วย ผู้รับผลกระทบโควิด-19 เริ่ม 6 โมงเย็น
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง โพสต์เฟซบุ๊ก ส่วนตัว ดร.อุตตม สาวนายน พรุ่งนี้ (28 มี.ค.) เปิดลงทะเบียนช่วยเหลือผลกระทบโควิด-19 รับคนละ 5000 บาทผ่านออนไลน์ เว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ตั้งแต่ 18.00 น.เป็นต้นไป ยัน เปิดรับตลอดเวลาไม่มีการปิด จึงไม่ต้องกังวลว่าจะลงทะเบียนไม่ทันวันพรุ่งนี้ หรือวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2563 เป็นวันแรกในการเปิดรับลงทะเบียน ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็น หรือ 18.00 น.เป็นต้นไป โดยจะเปิดรับตลอดเวลาไม่มีการปิด ดังนั้นผู้ที่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนด จึงไม่ต้องกังวลว่าจะลงทะเบียนไม่ทันอีกทั้งการช่วยเหลือนี้ ก็ไม่ได้จำกัดปริมาณผู้ที่จะได้รับสิทธิไว้แค่ 3 ล้านคน แต่จะเปิดรับไปเรื่อยๆ เพื่อให้ครอบคลุมผู้มีคุณสมบัติที่จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาทั้งหมดทั้งนี้ กระทรวงการคลัง โดยธนาคารกรุงไทย ได้พยายามอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนในการลงทะเบียนผ่านออนไลน์ หรือ เว็บไซต์ อย่างเต็มที่ เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดการเดินทางหรือไปรวมตัวกันที่ธนาคาร เพื่อสอดรับกับมาตรการทางสาธารณสุขนอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกด้วยว่า ผู้ได้รับสิทธิสามารถรับเงินผ่านบัญชีธนาคารทุกธนาคารที่ตนเองมีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีใหม่กับธนาคารของรัฐเพิ่มเติมแต่อย่างใด รวมทั้งสามารถโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ได้ด้วยส่วนกรณีที่กังวล ว่าหลายคนอาจลงทะเบียนผ่านออนไลน์ไม่เป็นนั้น จะขอรบกวนให้สอบถามขอคำแนะนำจากคนใกล้ชิดหรือลูกหลาน ซึ่งผมเชื่อว่าวันนี้คนไทยเรียนรู้มีประสบการกับเทคโนโลยีมากขึ้นแล้ว ไม่น่าจะมีอุปสรรคในเรื่องนี้เหมือนในอดีตอย่างไรก็ตาม ผมได้ให้ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน และให้คำแนะนำ โดยธนาคารกรุงไทย ได้จัดตั้งคอลเซ็นเตอร์ ให้บริการประชาชน ที่หมายเลข 02-111-1144 ซึ่งสามารถติดต่อสอบถามไปได้อีกช่องทางหนึ่ง
รมว.คลัง โพสต์เฟซบุ๊ก ส่วนตัว พรุ่งนี้ (28 มี.ค.) เปิดลงทะเบียนช่วยเหลือผลกระทบโควิด-19 รับคนละ 5000 บาทผ่านออนไลน์ เว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ตั้งแต่ 18.00 น.เป็นต้นไป ยัน เปิดรับตลอด
ข่าว,การเมือง
โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,COVID-19,อุตตม สาวนายน,เราไม่ทิ้งกัน.com,รมว.คลัง,เงินชดเชย 5 พันบาท,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1806029
โจ๋โหดยิงคู่อริเจ็บ ถอยกระบะทับซ้ำ
แก๊งวัยรุ่นทมิฬโคตรโหด ควบรถกระบะมาไล่ชกต่อยหนุ่มวัยรุ่นคู่อริหน้าร้านเซเว่นฯกลางตลาดโต้รุ่งเมืองลพบุรี เพื่อนเข้าช่วยถูกคนร้ายใช้ปืนลูกซองพกจ่อยิงศีรษะกระจุยร่างพรุนดับสยองคาที่ ส่วนเพื่อนคู่หูถูกยิงล้มทรุดบาดเจ็บ คนร้ายขับรถกระบะถอยหลังขยี้ซ้ำบาดเจ็บปางตาย ก่อนบึ่งรถหนีลอยนวล ผบก.ภ.จ.ลพบุรีเดือด จัดชุดเร่งตามลากคอเพราะก่อคดีอุกอาจแถมพฤติกรรมโหดเหี้ยมอำมหิต,แก๊งโจ๋เมืองลิงโคตรโหดตามยิงถล่มหนุ่มคู่อริดับสยอง ส่วนเพื่อนถูกยิงล้มดิ้นโดนคนร้ายขับรถกระบะถอยหลังขยี้ซ้ำบาดเจ็บปางตายเปิดเผยเมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 5 ธ.ค. ร.ต.ท.มาโนช ช้างพงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าหิน อ.เมืองลพบุรี ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บ บริเวณหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ถนนหน้าพระกาฬ ต.ท่าหิน จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและพร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.ภ.จ.ลพบุรี พ.ต.อ.กองสรร ควรระงับกมน ผกก.สภ.ท่าหิน แพทย์เวรโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รุดไปตรวจสอบ,จุดเกิดเหตุบริเวณหน้าร้านเซเว่นฯ กลางตลาดโต้รุ่ง พบศพชายวัยรุ่นถูกยิงนอนจมเลือดทราบชื่อนายธเนศ เชื้อเชิญ อายุ 23 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 69 ถนนเจ้าเงาะ ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ สภาพ ศพนุ่งกางเกงยีนส์สีดำ เสื้อยืดคอกลมสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าบริเวณศีรษะและตามร่างกายหลายแห่งเลือดเปรอะ ส่วนผู้บาดเจ็บชื่อนายธีระพงษ์ แก่นจันทร์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/7 ถนนบ้านป้อม ต.ท่าหิน อ.เมืองลพบุรี เพื่อนของผู้ตายถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าบริเวณลำตัวและมีร่องรอยถูกรถยนต์ทับซ้ำบริเวณหน้าอกนอนร้องโอดโอยอาการสาหัส เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช,จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายธเนศผู้ตายและนายธีระพงษ์คนเจ็บชวนกันไปเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตัวเมืองลพบุรี จากนั้นพากันมานั่งกินข้าวต้มที่ร้านข้าวต้มใกล้ร้านเซเว่นฯ หลังกินเสร็จทั้งคู่เดินออกมายืนคุยกันที่หน้าร้านเซเว่นฯ ระหว่างนั้นมีคนร้ายเป็นวัยรุ่นคู่อริที่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันขับรถกระบะมาจอดประกบก่อนลงมาทำร้ายชกต่อยนายธีระพงษ์ นายธเนศเห็นเพื่อนถูกทำร้ายพยายามเข้าช่วยเลยถูกคนร้ายชักปืนลูกซองพกจ่อยิงนายธเนศล้มทรุดขาดใจตายคาที่ ส่วนนายธีระพงษ์ถูกยิงล้มฟุบบาดเจ็บ คนร้ายได้ถอยรถกระบะแล่น ทับซ้ำที่หน้าอกก่อนขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว,ด้าน พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.ภ.จ.ลพบุรี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเร่งติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีโดยเร็ว โดยเฉพาะคนขับรถกระบะที่ถอยรถทับซ้ำร่างคนเจ็บหลังถูกยิง เพราะเป็นการกระทำที่อุกอาจและโหดเหี้ยมมาก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพอรู้เบาะแสมือปืนและคนขับรถกระบะที่ก่อเหตุแล้ว คาดว่าจะจับกุมตัวได้ในเร็วๆนี้
แก๊งวัยรุ่นทมิฬโคตรโหด ควบรถกระบะมาไล่ชกต่อยหนุ่มวัยรุ่นคู่อริหน้าร้านเซเว่นฯกลางตลาดโต้รุ่งเมืองลพบุรี เพื่อนเข้าช่วยถูกคนร้ายใช้ปืนลูกซองพกจ่อยิงศีรษะกระจุยร่างพรุนดับสยองคาที่ ส่วนเพื่อนคู่หูถูกยิงล้มทรุดบาดเจ็บ
ข่าว,ทั่วไทย
วัยรุ่น,รถกระบะ,จ่อยิง,คู่อริ,ธเนศ เชื้อเชิญ,ธีระพงษ์ แก่นจันทร์,ลพบุรี,ถอยรถทับ
https://www.thairath.co.th/news/local/467525
ไม่รอด ศาลอนุมัติแล้ว จับ เสกโลโซ ยิงปืนระห่ำหน้าศาลพระเจ้าตากสิน
กรณี เสก โลโซ ยิงปืนขึ้นฟ้าบริเวณหน้าพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แถมยังไลฟ์สดในเฟซบุ๊กให้ดู หลังจบงานแสดง แล้วไหว้พระในวัดเขาขุนพนม หมู่ 3 ต.บ้านเกาะ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช โดยกระหน่ำยิงปืนขึ้นฟ้า 9 นัดรวด แล้วเคลียร์ลงพื้นอีก 1 นัด จนเกลี้ยงแม็กซ์ เมื่อคืนวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา ,ความคืบหน้า เวลา 16.00 น. วันที่ 30 ธ.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน สภ.พรหมคีรี ได้ขออำนาจศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับ นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ และศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้อนุมัติหมายจับที่ 478/2560 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2560 ในข้อหา มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร และไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีอายุความ 15 ปี นับแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป,รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานด้วยความรวดเร็ว และมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าตรงไปตรงมา เพื่อให้ความเป็นธรรม หากพี่น้องประชาชนท่านใดมีข้อมูลเบาะแสเพิ่มเติม สามารถแจ้งข้อมูลเบาะแสได้ที่ สภ.พรหมคีรี หรือ ศปก.ตร. สายด่วน 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง,ขณะที่เสก โลโซ ยังคงโพสต์ ลงในโซเชียลอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะประชดประชัน ด่า และตัดพ้อว่า ตอนที่ทำดี ไม่เห็นมีคนชม และอื่นๆ.
โดนแล้ว เสก สิบนัด ยิงปืนขึ้นฟ้า หน้าพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสิน ในงานที่นครศรีธรรมราช ศาลอนุมัติหมายจับทันที ข้อหามีอาวุธปืน พกพา และยิงปืนในที่ชุมชน อายุความ 15 ปี ขณะที่เจ้าตัวโพสต์ตัดพ้อ ทำดีไม่เคยชม
ข่าว,ทั่วไทย
เสก โลโซ,ยิงปืนขึ้นฟ้า,จับเสก โลโซ,เสกสรรค์ ศุขพิมาย,ออกหมายจับเสก โลโซ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1166117
บีร็อด หวัง สเตอร์ริดจ์-ลัลลานา ฟิตทันระเบิด ปืนใหญ่
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 2 เม.ย. ว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล มีความหวังว่า ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ และ อดัม ลัลลานา 2 กำลังหลักจะสลัดคราบเดี้ยงกลับมาทันช่วยทีมลงเตะกับ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ในวันเสาร์นี้,ทั้งสเตอร์ริดจ์ และ ลัลลานา ต้องถอนตัวจากทีมชาติอังกฤษสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่สะโพกและขาหนีบตามลำดับ ตามรายงานเบื้องต้น สเตอร์ริดจ์ต้องพักอย่างน้อย 1 เดือน อย่างไรก็ตาม ร็อดเจอร์ นายใหญ่หงส์แดง ยังเชื่อว่า สเตอร์ริดจ์ และ ลัลลานา จะสลัดคราบเดี้ยงก่อนกำหนดและกลับมาช่วยทีมในสุดสัปดาห์นี้ได้แน่,ดาเนียล กลับมาซ้อมกับทีมในวันนี้ เราจะรอดูสภาพร่างกายเขาต่อไปวันพรุ่งนี้ ส่วนอดัมผมหวังเขาจะกลับมาซ้อมกับทีมวันพรุ่งนี้และพร้อมลงเล่นในสุดสัปดาห์ที่จะถึง ร็อดเจอร์สแถลงความพร้อมทีมเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา,สำหรับ หงส์แดง รั้งอยู่อันดับ 5 ของตารางพรีเมียร์ลีก โดยมีคะแนนตามหลัง พื้นที่ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 4 อยู่ 5 คะแนน
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล แอบหวังให้ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ และ อดัม ลัลลานา 2 แข้งคนสำคัญฟิตกลับมาทันช่วยทีมทำศึกบิ๊กแมตช์กับ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล สุดสัปดาห์นี้
null
พรีเมียร์ลีก,พรีเมียร์ลีก 2015,ลิเวอร์พูล,เบรนแดน ร็อดเจอร์ส,ดาเนียล สเตอร์ริดจ์,สตีเวน เจอร์ราร์ด,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/490775
ตำรวจท่องเที่ยวจับหญิงสาวหลอกขายบัตรคอนเสิร์ตผ่านอินเทอร์เน็ต
น.ส.ชุติมา เรืองทิพย์ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงถูกตำรวจท่องเที่ยวควบคุมตัวได้ที่ย่านบางกะปิ หลังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่าถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกลวงขายบัตรคอนเสิร์ตศิลปินต่างประเทศที่มาเปิดคอนเสิร์ตในไทย โดย น.ส.ชุติมา รับสารภาพว่าหลอกลวงด้วยวิธีการขายบัตรผ่านอินเทอร์เน็ตมานานกว่า 3 ปี โดยใช้วิธีเข้าไปหาตามเว็บไซต์ต่างๆ หากพบก็จะอ้างว่ามีบัตรมาขายในราคาถูกจากการตรวจสอบพบว่า น.ส.ชุติมาเคยถูกตำรวจนครบาลลาดพร้าวจับ และดำเนินคดีมาแล้ว เมื่อปี 2553 แต่ยังกลับมาใช้วิธีการเดิมหลอกลวงอีก จนกระทั่งในเว็บไซต์ต่างๆ เช่นพันทิพย์ หรือเฟสบุ๊ค จะส่งคำเตือนการติดต่อซื้อบัตรจากผู้ต้องหารายนี้ พร้อมทั้งส่งต่อข้อมูลส่วนตัวของผู้ต้องหาไปตามเว็บไซต์ต่างๆ ด้วย แต่ยังมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้มีผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มเติมกว่า 30 คน
ตำรวจท่องเที่ยวจับหญิงสาววัย 21 ปี หลอกลวงขายบัตรคอนเสิร์ตศิลปินต่างชาติผ่านอินเทอร์เน็ตมานานกว่า 3 ปี ล่าสุดมีผู้เสียหายติดต่อร้องเรียนกว่า 30 คน
อาชญากรรม
คอนเสิร์ต,จับ,ตำรวจ,บัตร,บัตรคอนเสิร์ต,บางกะปิ,หญิงสาว,หลอก,อินเทอร์เน็ต
https://news.thaipbs.or.th/content/127483
เสียชื่อ ไกด์ไทยเมาหนัก ชกลูกทัวร์สาวชาวจีนอ้วกแตกคาแหลมบาลีฮาย
เมื่อช่วงดึกของวันที่ 8 ธ.ค.59 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ปวัชร์ชัย สุดสคร รอง ผกก.ปป.สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุพบนักท่องเที่ยวจำนวนมากมุงดู และวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บทราบชื่อภายหลังคือ MISS CAO NA (เชา นา) อายุ 25 ปี สัญชาติจีน ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บที่ดั้งจมูกมีเลือดไหล และมีอาการอาเจียนออกมา นอนรอการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่โดยมีกลุ่มเพื่อนนั่งเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ มาถึงจึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเคลื่อนย้ายตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วน,อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้เป็นไกด์ของบริษัททัวร์แห่งหนึ่งทราบชื่อคือ นายเปรม ศุภปกรณ์ อายุ 35 ปี อยู่ในอาการมึนเมา พูดจาวกไปวนมาและให้การปฏิเสธ และยังอ้างว่าผู้บาดเจ็บชกตนเอง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมายังสภ.เมืองพัทยา,สอบถาม นายชาญธิราช เจริญวิวรรธน์ อายุ 36 ปี เป็นไกด์ของผู้บาดเจ็บทราบว่า ขณะที่เดินในท่าเทียบเรือนั้นได้มีลูกทัวร์เข้ามาบอกว่านางสาว เชา นา ถูกไกด์ของอีกกรุ๊ปทัวร์ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ตนเองจึงรีบวิ่งมาดูและแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ส่วนสาเหตุนั้นตนเองยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากอะไร แต่ผู้เป็นไกด์ก็ไม่น่าจะทำร้ายนักท่องเที่ยวเช่นนี้ ถือเป็นการเสียภาพลักษณ์ของไกด์เป็นอย่างมาก.
เสียชื่อการท่องเที่ยวไทย ไกด์ไทยเมาหนัก เกิดทะเลาะวิวาทชกลูกทัวร์สาวจีนเจ็บหนักที่แหลมบาลีฮาย พัทยา เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ บอกฝ่ายหญิงทำร้ายก่อน ขณะที่ไกด์ทัวร์ของฝ่ายหญิง งง ลูกทัวร์ถูกทำร้าย
null
ไกด์ไทย,ลูกทัวร์จีน,ชกลูกทัวร์จีน,แหลมบาลีฮาย,ชลบุรี
https://www.thairath.co.th/content/806622
อายัดรถบัส-สปีดโบ๊ตในภูเก็ต บริษัททัวร์จีนเข้าข่ายนอมินี
เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 6 ก.ค. 59 พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ประชุมเตรียมความพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต กก.5 บก.ทท. ทัพเรือภาคที่ 3 และ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต นปพ.ภ.จว.ภูเก็ต กว่า 100 นาย ก่อนเข้าปฏิบัติตามยุทธการตรวจยึดทรัพย์สินของบริษัททัวร์จีนที่เข้าข่ายนอมินีของบริษัท ทรานลี่ ทราเวิล จำกัด และในเครือ 5 จุดหลัก หลังจากสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้เขต 2 ภูเก็ต ยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการด้านการท่องเที่ยวของบริษัทดังกล่าวเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 59 โดย นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการตรวจสอบและควบคุมการประกอบกิจการของคนต่างด้าวในประเทศไทยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ และ จ.ภูเก็ต เป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมาย หลังมีการร้องเรียนเป็นจำนวนมาก จนเป็นที่มาของการตรวจสอบเชิงลึกผู้บริหารบริษัทดังกล่าว,กระทั่งพบว่ามีการใช้บัตรประชาชนคนไทยยื่นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เพื่อให้สามารถถือหุ้นได้ 51% และมีบริษัทในเครือข่ายนี้อีก 17 บริษัท ทั้งหมดเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น เรือ รถรับส่งนักท่องเที่ยว โรงแรม เป็นต้น ตั้งมาเป็นเวลาร่วม 10 ปี มี นายวีระชัย คำไผ่ประพันธ์กุล กับ นายกฤชกร รุ่งมงคลนาม เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยบุคคลทั้ง 2 คน เป็นต่างด้าว และใช้เอกสารอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน พบว่าบัตรประชาชนเป็นของปลอม ออกที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จากนั้น นายกฤชกร เข้ามอบตัว ส่วนอีกคนหลบหนีไปแล้ว จากนั้นมีการตรวจสอบเอกสารของบริษัทต่างๆ เพื่อหาที่มาของการเสียภาษีว่าถูกต้องหรือไม่ อย่างไร พร้อมกับหาความเชื่อมโยงการเกี่ยวข้องกับการเป็นนอมินีหรือไม่,จากการตรวจสอบ บริษัท ทีแอล เบทเตอร์เวย์ จำกัด เลขที่ 29/40 หมู่ 1 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 1 ใน 5 เป้าหมายที่เข้าอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอยู่บนเนื้อที่กว่า 20 ไร่ โดยพบเป็นสถานที่จอดรถบัสของบริษัทในเครือ เจ้าหน้าที่แสดงหมายค้นกับ รปภ. พร้อมกระจายกำลังเข้าตรวจสอบรถบัสที่จอดอยู่ในลานจอด นับได้ 53 คัน ส่วนใหญ่ระบุชื่อบริษัท ทีแอล เบทเตอร์เวย์ นอกจากนี้ยังมีรถบัสของบริษัทอื่นๆ ที่วิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวรวมอยู่ด้วย ขณะเดียวกัน พบคนขับรถบัสที่รอเวลานำรถออกไปรับนักท่องเที่ยวที่สนามบินภูเก็ต จำนวนหนึ่ง จึงเรียกมาสอบถามข้อมูล ซึ่งจะไม่มีการจับกุมผู้ใด เพียงแต่มาอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเท่านั้น โดยมีการบันทึกรายชื่อคนขับรถไว้เป็นหลักฐาน เพื่อประสานรถบัสของบริษัทอื่นนำรถไปรับนักท่องเที่ยวที่สนามบินภูเก็ต ไปส่งยังสถานที่พักต่างๆ ป้องกันผลกระทบกับนักท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวชั่วคราว โดยมีทนายความของบริษัทมารับฟังข้อมูลการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่,ส่วนอีกเป้าหลายเป็นสถานที่จอดเรือสปีดโบ๊ต บริเวณท่าเรืออินทรี ถ.ศรีสุทัศน์ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ได้เข้าอายัดเรือสปีดโบ๊ตของบริษัทที่รับส่งนักท่องเที่ยวระหว่างเกาะภูเก็ต กับเกาะยาว จ.พังงา และโรงแรมในเครือบริษัทบนเกาะยาว จ.พังงา จำนวนหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ประสานเรือสปีดโบ๊ตของบริษัทอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท ทรานลี่ ทราเวิล เข้ารับนักท่องเที่ยวนำส่งตามแหล่งท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราวเช่นกัน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่อายัดนับร้อยล้านบาท,ทั้งนี้เวลา 11.00 น. วันนี้ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผบก.ทท. ตลอดจน ปปง. จะเข้าร่วมตรวจสอบทรัพย์สินตามเป้าหมายต่างๆ ด้วย.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง ,ตร.ภูเก็ตบุกค้นบริษัททัวร์จีนหลังพบเบาะแสส่อเป็นนอมินี-เลี่ยงภาษี,ศรีวราห์ สั่งกองปราบแกะรอยเส้นทางการเงินนอมินีทัวร์จีนในภูเก็ต
ผู้การฯ ภูเก็ต สนธิกำลัง จนท.ร่วม 100 นาย บุกอายัดทรัพย์สิน บ.ทรานลี่ ทราเวิล 5 จุด รอบเกาะภูเก็ต มูลค่านับร้อยล้านบาท หลังถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการท่องเที่ยว
null
ทรานลี่ ทราเวิล,นอมินี,ทัวร์จีน,บริษัททัวร์จีน,ภูเก็ต,อายัดรถบัส,อายัดสปีดโบ๊ต,อายัดทรัพย์สินนอมินี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/content/655999
หมอกควันจังหวัดแม่ฮ่องสอนเกินมาตรฐาน แนะสวมหน้ากากอนามัย
นพ.ไพศาล ธัญญาวินิชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน หรือ สสจ. แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จ.แม่ฮ่องสอน เป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหาหมอกควันทุกปี ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพพี่น้องประชาชน สำหรับการเตรียมการรองรับปัญหาหมอกควันของ สสจ.แม่ฮ่องสอน ได้เตรียมหน้ากากอนามัยส่งให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง เพื่อแจกจ่ายให้ผู้ป่วยและพี่น้องประชาชน พร้อมกับเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ แนะนำประชาชนให้รู้วิธีการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเมื่อเจอภาวะหมอกควันด้าน สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.แม่ฮ่องสอน ขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาริมทาง งดการเผาในพื้นที่ป่า รวมทั้งงดเผาขยะเศษวัสดุการเกษตรและกิ่งไม้ใบหญ้า เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังมีการตรวจพบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน เฉลี่ย 24 ชั่วโมง อยู่ที่ 125 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นับเป็นวันแรกในรอบปีที่ค่าเกินมาตรฐาน
แพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอนแนะนำประชาชนสวมหน้ากากอนามัย หลังพบว่าค่าหมอกควันในพื้นที่เกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง
ภูมิภาค
จังหวัดแม่ฮ่องสอน,สวมหน้ากากอนามัย,หมอกควัน,เกินค่ามาตรฐาน,แพทย์สาธารณสุข
https://news.thaipbs.or.th/content/151235
แม่ค้าแจงคลิปพ่นยาฆ่าแมลงใส่อาหารทะเลที่แท้คือ น้ำมันกระป๋อง (ชมคลิป)
จากกรณีที่มีกระแสข่าวบนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก เกี่ยวกับคลิปวิดีโอแม่ค้าจำหน่ายอาหารทะเลสดในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้นำกระป๋องสเปรย์สารเคมีบางอย่างฉีดพ่นลงบนแผงจำหน่ายอาหารทะเล ซึ่งกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในด้านลบ โดยชาวเน็ตโจษจันกันว่า สเปรย์กระป๋องดังกล่าวเป็นยาฆ่าแมลง หรือบ้างก็ว่าฟอร์มาลีน แต่ก็ไม่มีใครที่จะสามารถระบุได้ว่าสเปรย์ดังกล่าวคืออะไร,ล่าสุดวันที่ 14 มิ.ย. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้านจำหน่ายอาหารที่เป็นต้นตอของคลิปวิดีโอดังกล่าว ตั้งอยู่บริเวณ ลานฝั่งตรงข้ามโรงแรมแกรนด์โซเล่ (ลานกู๋ไช้) ถ.พัทยาสาย 2 เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า มีร้านดังกล่าวตั้งอยู่ทราบชื่อร้านอาหารทะเลดังกล่าวคือ ร้าน PAUL THAI FOOD โดยมี นางสมปอง ยะหา อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ม.16 ต.หินกอง อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งรับเป็นเจ้าของร้าน,นางสมปอง เปิดเผยว่า แท้จริงแล้วสเปรย์กระป๋องดังกล่าว คือ สเปรย์น้ำมันกระป๋องสำหรับประกอบอาหาร (สเปรย์ คาโนล่า ออยล์) ยี่ห้อ Crisco Original ซึ่งตนเองจะใช้สำหรับดับกลิ่นคาวของอาหารทะเล และป้องกันแมลงวันตอม โดยสเปรย์น้ำมันกระป๋องเป็นที่รู้จักและใช้กันอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้จำหน่ายอาหารทะเล ซึ่งได้รับการรับรองจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาอย่างถูกต้อง และหาซื้อได้ในห้างสรรพสินค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป,ทั้งนี้ ตนเองจึงอยากฝากไปยังผู้ที่ถ่ายคลิปวิดีโอ หรือประชาชน หากมีข้อสงสัยให้ถามตนได้เลย ตนพร้อมจะเปิดเผยทุกๆ อย่าง และการที่แอบถ่ายคลิปวิดีโอแล้วนำไปออกสื่อในทางเสียหายโดยไม่ทราบความจริง ทำให้ตนและกลุ่มผู้จำหน่ายอาหารทะเลต้องได้รับความเสื่อมเสีย และเดือดร้อนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังเสียภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวอีกด้วย จึงอยากให้คิดไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะโพสต์ หรือทำไรลงไป
แม่ค้าอาหารทะเล แจง คลิปพ่นยาฆ่าแมลงใส่อาหารทะเล ในเมืองพัทยา แท้จริง คือ สเปรย์น้ำมันกระป๋อง วอนนักเลงคีย์บอร์ดก่อนจะโพสต์ควรไตร่ตรองให้ดีก่อน เพราะกระทบการท่องเที่ยว และภาพลักษณ์
ข่าว,ทั่วไทย
พ่นยาฆ่าแมลงใส่อาหารทะเล,อาหารทะเล,ชลบุรี,คลิปฉาว,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,จำหน่ายอาหารทะเล,พัทยา,สเปรย์น้ำมันกระป๋อง
https://www.thairath.co.th/news/local/505077
มนัส ฟาดปากแคนาดา ร่วมศึกฟ้าลั่น 22 เม.ย.นี้
ร่วมศึก ฟ้าลั่นจูเนียร์-อาร์บูตัน 22 เม.ย.นี้ ที่กองพลทหารราบที่ 7 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ถ่ายทอดสดเวลา 16.00 น.เป็นต้นไป,วันที่ 7 เม.ย. 59 จิมมี่ ดร.เอกรัฐ ไชยโชติช่วง โปรโมเตอร์เกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น เผยว่า มนัส บุญจำนงค์ ศักดิ์กรีรินทร์ ฮีโร่ประวัติศาสตร์ 2 เหรียญโอลิมปิกเกมส์ มีคิวขึ้นชกไฟต์ที่ 5 กำหนด 8 ยก กับ ไรอัน ฟอร์ด นักชกแคนาดา ดีกรีอดีตแชมป์ MMA ร่วมรายการ ศึกกำปั้นสะท้านโลก เทิดพระเกียรติพระองค์ดำ ซึ่งมี ฟ้าลั่นจูเนียร์ เกษตรพัฒนา ขึ้นชกชิงแชมป์ ที่ว่าง รุ่นจูเนียร์ฟลายเวท IBF แพนแปซิฟิก กับเลสเตอร์ อาร์บูตัน นักชกชาวฟิลิปปินส์ เป็นคู่ชูโรง ในวันศุกร์ 22 เม.ย.นี้ ที่เวทีมวยชั่วคราวกองพลทหารราบที่ 7 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยมีมูลนิธิสหชาติร่วมกับ พล.ต.อุทัย ชัยชนะ ผบ.พล.ร.7 ประธานจัดการแข่งขัน ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ถ่ายทอดสดเวลา 16.00-18.00 น.,โปรโมเตอร์ จิมมี่ เผยว่า ไรอัน ฟอร์ด เจ้าของฉายา เดอะเรียลเดียล วัย 34 ปี ชาวแคนาเดียน เป็นอดีตแชมป์ MMA รุ่นเวลเตอร์เวท (147 ปอนด์) มีสถิติชกชนะ 22 แพ้ 5 เป็นการชนะน็อก 12 ครั้ง ก่อนจะประกาศหันหลังให้กับ MMA ในปี 2014 จากนั้นหันมาชกมวยสากลอาชีพเพียงอย่างเดียว โดยมีสถิติชนะรวด 5 ครั้ง (น็อกเอาต์ 3 ครั้ง) ส่วน มนัส ครองเหรียญทองและเหรียญเงินโอลิมปิกในรุ่นจูเนียร์เวลเตอร์เวท (140 ปอนด์) ซึ่งมีสถิติชกมวยอาชีพเท่ากัน ชนะรวด 5 ไฟต์และชนะน็อก 3 ครั้งเช่นเดียวกัน,สำหรับ ฟอร์ด เดินทางล่วงหน้ามาเมืองไทย 1 เดือนแล้วโดยเก็บตัวฟิตซ้อมที่ค่ายมวยภูเก็ตท็อปทีมจังหวัดภูเก็ต ก่อนเดินทางขึ้นเหนือมาชกกับมนัสที่จังหวัดเชียงใหม่ และมุ่งมั่นที่จะเอาชนะมนัสเพื่อเป็นเกียรติประวัติกับตัวเอง ดังนั้น มนัสจะประมาทไม่ได้เป็นอันขาด เพราะมีเป้าหมายไต่เต้าผงาดขึ้นเป็นแชมป์โลกเจริญรอยตาม เจ้าเพชร อำนาจ เกษตรพัฒนา แชมป์รุ่นฟลายเวทสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) ซึ่งเป็นอดีตนักมวยทีมชาติไทยเหมือนกัน ตามแผนผลักดันของ พล.ต.ท.ดร.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผู้บัญชาการจเรตำรวจ
เกียรติกรีรินทร์ปรับโผคิวเทิร์นโปรครั้งที่ 5 กำหนด 8 ยกของ เจ้าเติ้ล มนัส บุญจำนงค์ ศักดิ์กรีรินทร์ โดยเลือก ไรอัน ฟอร์ด อดีตแชมป์ MMA ชาวแคนาเดียน ซึ่งมีสถิติการชกมวยสากลอาชีพชนะ 5 ครั้ง (น็อก 3) เท่ากันเป๊ะมาวัดฝีมือ
null
มนัส บุญจำนงค์ ศักดิ์กรีรินทร์,เกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น,เอกรัฐ ไชยโชติช่วง,ไรอัน ฟอร์ด,ศึกกำปั้นสะท้านโลก,เทิดพระเกียรติพระองค์ดำ,ไทยรัฐทีวี,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/602619
ตรวจอีก บ้าน ตี๋ ปาร์ตี้ ฉายแสงหาสารคัดหลั่ง พบกระจายบนโซฟา (คลิป)
เวลา 10.00 น.วันที่ 3 ต.ค. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.สิรภพ อนุศิริ ผกก.สภ.บางบัวทอง พ.ต.ท.สมุทร เกตุยา รอง ผกก.สอบสวน สภ.บางบัวทอง พร้อมหน่วยพิสูจน์หลักฐานจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมอุปกรณ์ เดินทางมาที่บ้านเลขที่ 100 / 199 หมู่บ้านพฤกษา 3 ริมคลอง 3 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านที่ใช้จัดงานปาร์ตี้ จนกลายเป็นข่าวครึกโครมจากการเสียชีวิตของพริตตี้สาวลันลาเบล โดยมี นายนที สถิตพงษ์สถาพร หรือตี๋ อายุ 33 ปี นายชัยพล พรรณา หรือคิว อายุ 29 ปี น.ส.พิกุลทอง บุญตา หรือเฟิร์ส อายุ 24 ปี นายโกเมศ ฤทธิ์นิธิฤกษ์ หรือปิงปอง อายุ 35 ปี อยู่ที่บ้าน นำตรวจ,พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี กล่าวว่า ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานในที่เกิดเหตุจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บรายละเอียดในบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง ตามคำร้องขอของเจ้าหน้าที่ตำรวจบางบัวทอง ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในการคลี่คลายคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนได้อย่างถูกต้องและยุติธรรม,ด้าน พ.ต.อ.สิรภพ อนุศิริ ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวว่า วันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานจะเข้าทำการตรวจสอบเก็บรายละเอียดใหม่ทั้งหมด ทั้งในส่วนของห้องที่จัดงานเลี้ยงและในห้องนอนที่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่าถูกกระทำอนาจาร ในส่วนความคืบหน้าของผลตรวจหาคราบอสุจิที่ถูกระบุว่า พบในผ้าห่มกับกางเกงขาสั้นที่ผู้เสียหายแจ้งความนั้น ขอยืนยันว่า ผลการตรวจสอบยังไม่แล้วเสร็จ ทาง สภ.บางบัวทอง ยังไม่ได้รับรายงานผลตรวจดังกล่าวแต่อย่างใด, ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้นำเครื่องมือเครื่องกำเนิดแสงหลายความถี่ (Forensic Light source) เข้าฉายแสงหาคราบ น้ำคัดหลั่งภายในห้อง โดยจุดที่พบมาก เช่นที่ โซฟาด้านใน อย่างน้อย 5 จุด โดยยังไม่ทราบว่าเป็นสารอะไร ต้องนำไปตรวจสอบก่อนจึงจะทราบ
ตำรวจบางบัวทอง นำทีมพิสูจน์หลักฐาน ลงบ้านปาร์ตี้ฉาว เก็บรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ฉายแสงหาคราบสารคัดหลั่ง พบกระจายบนโซฟาไม่ต่ำกว่า 5 จุด ยังไม่รู้อะไรแน่
ข่าว,ทั่วไทย
ลันลาเบล,ข่าวเด่น,ปาร์ตี้,ตรวจบ้านปาร์ตี้,บ้านบางบัวทอง,น้ำอุ่น,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1674398
สาวไส้ นามสกุลเดิม หม่อมบิ๊ก ผตห.ฉ้อโกง ไม่ใช่ อิศรางกูร ณ อยุธยา
เมื่อช่วงสายวันที่ 22 ธ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.สามารถ สาโรจน์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้มีการเชิญตัว นายชัยรินทร์ หรือหม่อมบิ๊ก อิศรางกูร ณ อยุธยา อายุ 44 ปี ชาวบ้าน หมู่ 3 ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี มาสอบปากคำ หลังจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ก่อนหน้านี้ ว่าถูกนายชัยรินทร์ ซึ่งแอบอ้างตัวเองว่าเป็นหม่อม และเป็นนายทหารยศใหญ่ หลอกยืมเงิน โดยมีผู้เสียหาย 4 ราย พร้อมหลักฐานทั้งการยืมเงิน ยอดรวมกว่า 2 ล้านบาท และได้ให้ประกันตัวออกไป,ต่อมา พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้เปิดเผยว่า หลังจากการให้ประกันตัวไปแล้วนั้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนหาความกระจ่างเรื่องนามสกุล อิศรางกูร ณ อยุธยา ว่าได้เปลี่ยนจากนามสกุลเดิมคือ ยอดบ่อพลับ มาเป็นนามสกุลอิศรางกูร ณ อยุธยา ได้อย่างไร และใครเป็นผู้รับรอง ส่วนเรื่องฉ้อโกง เจ้าหน้าที่กำลังเร่งรวบรวมหาหลักฐานเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง,เบื้องต้นการฉ้อโกง มีผู้เข้ามาแจ้งความแล้ว 2 ราย ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ และใกล้เคียง คาดว่ามีหลักฐานมากพอที่จะดำเนินการเรียกตัวนายชัยรินทร์มาสอบสวนต่อไป.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,บุกค้นบ้านหม่อมตุ๋น เจอแต่ปลอกกระสุน
สาวต่อเนื่องเรื่องนามสกุล นายชัยรินทร์ หรือหม่อมบิ๊ก อิศรางกูร ณ อยุธยา ถูกแจ้งความหลอกยืมเงิน แอบอ้างเป็นหม่อม และนายทหารยศใหญ่ หลังถูกปล่อยตัว เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบนามสกุลเดิม สืบรู้มาว่าใช้นามสกุล ยอดบ่อพลับ
ข่าว,ทั่วไทย
หม่อมบิ๊ก,อิศรางกูร ณ อยุธยา,ฉ้อโกง,ยอดบ่อพลับ,นครสวรรค์
https://www.thairath.co.th/news/local/818825
สารสังหารสายลับ
มีชื่อเรียกขานในวงการว่า โนวิโช้ค แปลว่าผู้มาใหม่ เป็นอาวุธจากยุคสงครามเย็น จัดอยู่ในประเภทสารทำลายระบบประสาทชั้นแนวหน้า ผลิตโดยรัฐบาล สหภาพโซเวียต แต่ปีที่ทำสำเร็จไม่แน่ชัด เชื่อกันว่าอยู่ในช่วง พ.ศ.2513-2532 ศูนย์การผลิตใหญ่เคยอยู่ที่สถาบันวิจัยเคมีในอุซเบกิสถาน,สารประเภทนี้ถูกผลิตแตกไลน์เป็นหลายรุ่น อันตรายที่สุดเชื่อว่าคือ รุ่นเอ-230 มีฤทธิ์รุนแรงกว่าสารพิษวีเอ็กซ์ ที่ใช้ลอบสังหารพี่ชายผู้นำเกาหลีเหนือ 5-8 เท่า,ลักษณะการทำงานคล้ายสารทำลายระบบประสาททั่วไป ตัดสัญญาณประสาทที่สั่งการกล้ามเนื้อ ทำให้สูญเสียการควบคุมร่างกาย จากนั้นจะทำปฏิกิริยาที่ปอด ให้ผลิตสารคัดหลั่งเป็นจำนวนมากจนหายใจไม่ออก ควบคู่ไปพร้อมๆกับการทำให้กล้ามเนื้อหัวใจหยุดทำงาน,โดยช่วงเวลาการออกฤทธิ์จะอยู่ที่ 30 วินาที ถึง 2 นาที หากใช้ในรูปแบบของเหลว แต่ถ้าเป็นแบบผงจะใช้เวลานานกว่านั้น โอกาสรอดขึ้นอยู่กับความเร็วตอนช่วยเหลือ แต่อาจพิการอัมพาตถาวร,แน่นอนว่าที่สกัดเป็นแบบผง เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจพบโดยฝ่ายความมั่นคง ซึ่งในหนังสือ มาตรการรับมือขั้นสูงต่อการก่อการร้ายทางเคมีและชีวภาพ ของมหาวิทยาลัยเท็กซัส สหรัฐฯ เสริมว่าโนวิโช้คถูกออกแบบมาเพื่อบรรลุเป้าประสงค์ 4 ประการคือ ตรวจจับไม่ได้ด้วยอุปกรณ์ของฝ่ายนาโต้ ชุดกันเคมีของนาโต้ป้องกันไม่ได้ สารตั้งต้นที่ใช้สร้างโนวิโช้คไม่ถูกแบล็กลิสต์โดยองค์การห้ามอาวุธเคมี (OPCW),และสุดท้ายคือ ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน โดยผลิตในรูปแบบอาวุธ ทวิภาค คือสกัดออกมาเป็นสาร 2 ชนิด ที่ไม่เป็นอันตรายต่อใคร แต่จะออกฤทธิ์พร้อมใช้งานเมื่อนำมาผสมกัน,จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสกรีพาล เมื่อ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติระบุว่า อาวุธเคมีในยุคโซเวียต ยุติการผลิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2535 ขณะที่องค์การห้ามอาวุธเคมียืนยันว่ารัสเซียทำลายคลังอาวุธเคมีในครอบครองทั้งหมด 39,967 ตัน เมื่อเดือน ก.ย.2560,อย่างไรก็ตาม ฮามิช กอร์ดอน ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเคมีอังกฤษ เชื่อว่า โนวิโช้คผลิตอยู่ที่เดียวคือ รัสเซีย แต่หากมีพิมพ์เขียวสูตรเคมีแล้ว อังกฤษ สหรัฐฯ หรือฝรั่งเศส น่าจะทำได้เช่นกัน.,ตุ๊ ปากเกร็ด
เป็นที่ปรากฏแล้วว่า สายลับสองหน้ารัสเซีย เซอร์เก สกรีพาล วัย 66 ปี พร้อมลูกสาว ยูเลีย สกรีพาล วัย 33 ปี ถูกวางยาในอังกฤษด้วยสารทำลายระบบประสาทที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
null
สงครามเย็น,สายลับ,สหภาพโซเวียต,หน้าต่างโลก,ตุ๊ ปากเกร็ด
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1231351
สธ.-สปสช. จับมือ 5 หน่วยงานสุขภาพจัดระบบเข้าถึง ยาต้านพิษ-เซรุ่ม หนุน รพ.ช่วยผู้ป่วยแล้วกว่า 5 พันราย
และศูนย์รักษาพิษจากสัตว์ จัดระบบให้ผู้ป่วยเข้าถึงยา รพ.รักษาช่วยผู้ป่วยรอดวิกฤตจาก สารพิษ-งูพิษกัด จนถึงปัจจุบันกว่า 5000 ราย ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ด สปสช.) กล่าวว่า การคุ้มครองด้านยาในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินั้น เป็นหนึ่งในภารกิจหลักของบอร์ด สปสช. โดยเฉพาะในกลุ่มยาที่มีปัญหาการเข้าถึง ยากำพร้า หรือยาที่มีอัตราการใช้ต่ำ แต่จำเป็นต้องใช้ หาซื้อไม่ได้ตามท้องตลาด มีราคาแพงมาก ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มยาต้านพิษ เช่น พิษจากโลหะหนัก และพิษเชื้อคลอสตริเดียม โบทูลินั่ม จากหน่อไม้ปี๊บ และเซรุ่มแก้พิษงู เป็นต้น ดังนั้นเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยา และหน่วยบริการไม่ต้องแบกรับภาระ บอร์ดสปสช.จึงได้จัดงบประมาณส่วนหนึ่งเพื่อใช้สำหรับจัดหายากำพร้าและเซรุ่มแก้พิษงู ภายใต้การดำเนินงานของคณะอนุกรรมการคัดเลือกยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นและมีปัญหาในการเข้าถึงของประชาชนในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อคัดเลือกยากำพร้าในกลุ่มยาต้านพิษมาดำเนินการก่อน โดยมีองค์ประกอบของคณะทำงานจากคณะกรรมการอาหารและยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สมาคมพิษวิทยาแห่งประเทศไทย ซึ่งมีศูนย์พิษวิทยา รพ.รามาธิบดี ศูนย์พิษวิทยา รพ.ศิริราช รวมทั้งสภากาชาดไทย องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และเภสัชกรรมทหาร ร่วมกันออกแบบและดำเนินการ ในช่วงแรก สปสช.ได้เสนอขออนุมัติต่อบอร์ด สปสช.ใช้เงินที่ประหยัดได้จากการประมูลยาบัญชี จ.(2) จำนวน 5 ล้านบาทมาดำเนินโครงการยาต้านพิษเมื่อปีงบประมาณ 2553 ต่อมา เมื่อประสบความสำเร็จ ก็ได้ขยายโครงการไปครอบคลุมกลุ่มของเซรุ่มแก้พิษงู เพื่อเพิ่มโอกาสในการช่วยชีวิตผู้ป่วยให้รอดชีวิตศ.นพ.รัชตะ กล่าวต่อว่า นวัตกรรมที่โดดเด่นในการจัดทำโครงการนี้ คือ การเข้าถึงข้อมูลแหล่งสำรองยาให้กับผู้ป่วยได้โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศด้านภูมิศาสตร์ มาช่วยในการออกแบบและจัดทำข้อมูลการสำรองยาต้านพิษและเซรุ่มของหน่วยบริการแต่ละระดับ แต่มีระบบการส่งยาที่รวดเร็ว การจัดระบบนี้ถือเป็นความสำเร็จภายใต้ความร่วมมือของทุกภาคส่วน ตั้งแต่นักวิชาการจากมหาวิทยาลัย ตัวแทนจากหน่วยงานของ สธ. ในการคัดเลือกรายการยาที่มีปัญหาและความจำเป็นในการเข้าถึงเพื่อจัดระบบแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน และเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับประเทศในการจัดการยากำพร้าอย่างเป็นระบบ หน่วยผลิตยาในประเทศได้แสดงบทบาทในการสร้างความมั่นคงต่อวงการสาธารณสุขเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น การผลิตยาต้านพิษขึ้นใช้เองโดยความร่วมมือจากสภากาชาดไทย ในการผลิตยาต้านพิษหลายรายการ เช่น Sodium nitrite Sodium. Thiosulfate Methylene blue สำหรับยาที่ผลิตเองไม่ได้ ก็ได้รับความร่วมมือจาก อภ.ในการทำหน้าที่จัดหาเพื่อให้มีรายการยาครบตามที่ต้องการพร้อมทั้งจัดระบบการกระจายยาให้หน่วยบริการทั้งประเทศ โดยมีศูนย์พิษวิทยา รพ.รามาธิบดี ศูนย์พิษวิทยา รพ.ศิริราช และศูนย์รักษาพิษจากสัตว์ทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษาแนะนำการเลือกใช้ยาต้านพิษ พร้อมทั้งติดตามประเมินผลให้การรักษาผู้ป่วยหลังจากได้รับยาแล้วด้าน ภญ.เนตรนภิส สุชนวนิช ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า จากผลดำเนินงานที่ผ่านมา ได้ช่วยผู้ป่วยที่รับสารพิษรอดชีวิตจากการเข้าถึงยาเพิ่มขึ้นจาก 49 รายในปี 2554 เป็น 466 รายในปี 2557 คณะทำงานฯจึงได้มีมติขยายผลไปยังการจัดการเซรุ่มแก้พิษงู ภายใต้หลักการสำรองตามความเหมาะสมและจำเป็น เนื่องจากกระจายของงูในแต่ละภาคมีความหลากหลายแตกต่างกัน ทำให้สามารถลดงบประมาณในการจัดหาเซรุ่มแก้พิษงูในระดับประเทศ แต่เพิ่มการเข้าถึงเซรุ่มและการช่วยชีวิตผู้ได้รับพิษให้รอดชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ได้รับการช่วยชีวิตให้รอดพ้นจากพิษต่างๆเหล่านี้ กว่า 5000 รายแล้วหลายเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการรับสารพิษ ผลจากความร่วมมือดังกล่าว มีการจัดหายาต้านพิษให้กับ รพ.เพื่อใช้รักษา และทำให้ผู้ป่วยรอดชีวิตและกลับมาเป็นปกติได้ อย่างกรณีที่เด็กๆ ในโรงเรียน อ.อุ้มผาง จ.ตาก ที่ตรวจพบสารตะกั่วในเลือดต้องได้รับยา succimer ในการรักษา ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มยาต้านพิษที่ สปสช.กำหนดไว้ในการดำเนินการเพื่อการเข้าถึง ส่งผลให้เด็กๆ เหล่านี้รอดพ้นจากภาวะพัฒนาการช้าได้ หรือการส่งยา Botulinem antitoxin ให้กับโรงพยาบาลในจังหวัดห่างไกล อย่างเชียงใหม่ นครศรีธรรมราช หรือชัยภูมิ โดยจากความร่วมมือของทุกฝ่ายทำให้ผู้ป่วยได้รับพิษจากหน่อไม้ปี้บสามารถได้รับยาภายใน 24 ชม. และหายเป็นปกติได้ทั้งหมด ยังไม่นับกรณีอื่นอีกมาก สิ่งเหล่านี้เป็นมูลค่าที่นับไม่ได้ ผู้ช่วยเลขาธิการ สปสช. กล่าว
บอร์ด สปสช.เผยผลดำเนินงาน สนับสนุนประชาชนเข้าถึงยาจำเป็นราคาแพง โดยเฉพาะกลุ่มยาต้านพิษ-เซรุ่ม สธ.-สปสช.จับมือร่วมกับ 5 หน่วยงาน สภากาชาดไทย อภ. ศูนย์พิษวิทยา รพ.รามา–รพ.ศิริราช
คุณภาพชีวิต
คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.),พิษจากโลหะหนัก,พิษเชื้อคลอสตริเดียม โบทูลินั่ม,ยาต้านพิษ,รัชตะ รัชตะนาวิน,เซรุ่มแก้พิษงู,เนตรนภิส สุชนวนิช
https://prachatai.com/journal/2015/03/58526
ผู้บริหารโรงแรมแกรนด์ ทาวเวอร์ อินน์ เชื่อสาเหตุไฟไหม้เกิดจากการวางเพลิง
เจ้าหน้าที่โรงแรมแกรนด์ทาวเวอร์ อินน์ ซอยเจริญนคร 14/2 เขตคลองสาน กำลังทำความสะอาดและเก็บสิ่งของที่เสียหายบริเวณชั้น 1 หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา จนทำให้มีพนักงานของโรงแรมเสียชีวิต 1 คน และมีผู้บาดเจ็บทั้งชาวไทยและต่างชาติอีกกว่า 10 คนขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 และตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบและหาพยานหลักฐานในโรงแรม เพื่อรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งสอบปากคำพนักงานในโรงแรมและผู้ที่เข้าพัก เบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างสรุปสาเหตุ เนื่องจากต้นเพลิงเกิดจากกองผ้าปูที่นอนในรถเข็น ที่อยู่ภายในห้องควบคุมไฟฟ้า ทำให้เกิดเพลิงไหม้ชั้น 6 ลุกลามไปชั้น 7 รวมทั้งมีเพลิงไหม้ที่บริเวณชั้น 1 อีกด้วย ซึ่งยังอยู่ระหว่างการรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิด และสอบปากคำพนักงานในโรงแรมก่อน ว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือมีผู้ลอบวางเพลิงขณะที่นายเดโช เอี่ยมชีรางกูร กรรมการบริหารของโรงแรม ระบุว่า ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเป็นการวางเพลิงเนื่องจากเพลิงได้ลุกไหม้จำนวน 2 จุดไล่เลี่ยกัน ส่วนห้องพัก 312 ที่มีพนักงานเสียชีวิต เป็นห้องที่ปิดและมีคีย์การ์ดล๊อคอยู่ จึงไม่ทราบว่าพนักงานคนดังกล่าวเข้าไปในห้องนั้นได้อย่างไร ทั้งนี้ จากการให้ช่างของโรงแรมตรวจสอบระบบไฟฟ้าแล้ว ยังไม่พบว่าจุดใดบกพร่องจนนำไปสู่การเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
ตำรวจเข้าตรวจสอบเพลิงไหม้โรงแรมแกรนด์ ทาวเวอร์ อินน์ ย่านคลองสานเมื่อคืนที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้ เนื่องจากมีเพลิงไหม้พร้อมกัน 2 จุด ขณะที่ผู้บริหารของโรงแรมเชื่อว่ามีการลอบวางเพลิง
อาชญากรรม
คลองสาน,เพลิงไหม้,โรงแรมแกรนด์ ทาวเวอร์ อินน์
https://news.thaipbs.or.th/content/142661
ผู้เสียหายร้องรัฐตรวจสอบตำรวจนอกเครื่องแบบทำร้ายเจ้าของแผงขายซีดี ย่านสายไหม
ผู้เสียหาย 2 คน นำหลักฐานคลิปวิดีโอ ขณะที่ชายอ้างตัวเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ และเข้ามาตรวจจับซีดีอนาจารและทำร้าย รวมทั้งหมายเรียกให้ไป รับทราบข้อกล่าวหาของ สถานีตำรวจนครบาลสายไหม รับทราบข้อกล่าวหาผู้เสียหายให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน ว่า ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ มาด้วยกัน 3 คน ขณะที่ผู้เสียหายกำลังขายซีดีมือ 2 ที่ตลาด วงศกรณ์ ย่านสายไหม เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2556 1 ใน 3 คน เข้ามาถามว่ามีซีดีอนาจารหรือไม่ เมื่อเจ้าของร้านปฏิเสธ จึงล็อคตัวตัวผู้ชายที่เป็นคนขาย และจับกดพื้น พร้อมใส่กุญแจมือ จากนั้นชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจได้แสดงบัตรเป็นตำรวจ ก่อนที่จะเดินหนีไป พร้อมยึดแผ่นซีดีไปประมาณ 40 แผ่นเหตุการณ์ทั้งหมดมีผู้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ก่อนเผยแพร่ลงโซเชียลมีเดีย การเข้าร้องเรียนกองปราบปรามเพื่อขอให้ตรวจสอบว่าชายทั้งหมดเป็นตำรวจจริงหรือไม่ และการกระทำเป็นการทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ นอกจากนี้วันที่ 14 พ.ค.2556 ได้หมายเรียกจากสถานีตำรวจนครบาลสายไหม ให้รับทราบข้อกล่าวหา เรื่องเช่าแลกเปลี่ยนหรือจำหน่าย ภาพยนตร์โดยไม่ผ่านการตรวจพิจารณาและได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวิดีทัศน์ มีไว้เพื่อจำหน่ายวัตถุหรือสิ่งลามกอนาจาร และร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายด้วย ซึ่งขณะนี้ตำรวจกองปราบปรามกำลังอยู่ระหว่างการสอบปากคำและตรวจสอบข้อเท็จจริง
ผู้เสียหายและที่ปรึกษาด้านกฎหมาย นำหลักฐาน กรณีชาย 3 คนอ้างเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ มาจับซีดีอนาจาร และทำร้ายเจ้าของแผง ขณะขายที่ตลาด วงศกร ย่านสายไหม พร้อมให้ตำรวจกองปราบปราม ตรวจสอบว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่
อาชญากรรม
ซีดี,ตำรวจนอกเครื่องแบบ,ผู้เสียหาย,วิดีโอ,สายไหม
https://news.thaipbs.or.th/content/170079
กูรูฟันธงบอสกับม็อบ นศ.โยงการเมืองแบบใด แล้วคดีไหนสะเทือนรัฐหนักกว่า
เรื่องการเมืองที่ร้อนแรงที่สุดในช่วงนี้ หนีไม่พ้น คดี บอส อยู่วิทยา ที่อัยการสั่งไม่ฟ้องคดีขับรถชน ตร.เสียชีวิต เมื่อปี 2555 กับปมม็อบ นร.-นศ. ที่ออกมาเรียกร้อง 3 ข้อ ให้แก้ รธน.-ยุบสภา และหยุดคุกคามประชาชน เรื่อง บอส ดูแล้วตอนแรกอาจไม่เกี่ยวข้องการเมืองนัก แต่ต้องยอมรับว่าก็มีความพยายามโยงให้ไปถึงจนได้ ร้อนจนนายกฯ ต้องออกมาปฏิเสธ และสนับสนุนให้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ได้ติดตามสัมภาษณ์เหล่าบรรดา นักวิชาการ-นักการเมือง เหล่ากูรู ออกมาฟันธงว่า จุดจบ 2 คดีนี้จะไปอยู่ที่จุดใด จะส่งแรงสั่นสะเทือน กระทบความมั่นคงของรัฐมากน้อยหรือไม่อย่างไร เราไปดูกันเริ่มที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีต ส.ส.พัทลุง กล่าวกับ ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ถึงปมคดี บอส อยู่วิทยา ที่อัยการสั่งไม่ฟ้องคดีขับรถชน ตร.เสียชีวิตเมื่อปี 55 จนสร้างความคลางแคลงใจในสังคม ร้อนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ต้องออกมายืนยันว่า ไม่เคยช่วยเหลือใคร และ อสส.มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่า มันมีหลักอย่างนี้ ความยุติธรรมเป็นเสาค้ำยันระบอบประชาธิปไตย อันนี้เป็นหลักปรัชญาเลย ที่นี้ถ้าคนไม่เชื่อมั่นต่อความยุติธรรมก็จะส่งผลให้คนไม่เชื่อมั่นต่อการบริหารงานของรัฐบาลด้วย เพราะฉะนั้นท่านนายกฯ ต้องทำให้คนเชื่อมั่นว่ากระบวนการยุติธรรมประเภทนี้สามารถบังคับใช้ได้จริงส่วนเรื่องม็อบ นร.-นศ. ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ม็อบเขาติดใจเรื่องอะไรบ้าง เช่น การแก้รัฐธรรมนูญ การยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน รัฐบาลจะบอกเบื่อไม่ได้ ต้องชี้แจง ห้ามบอกว่าเบื่อ เพราะเป็นการแสดงความคิดเห็นของประชาชน รัฐบาลต้องอดทนต่อการแสดงความเห็นต่าง ถ้าเราไม่อดทน มันก็ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย ถ้าไม่อดทน ก็จะเป็นระบอบอื่น ผมว่า ท่านนายกฯ ที่ผ่านมา ท่านก็อดทนนะ ท่านก็เปลี่ยนบุคลิก เปลี่ยนอะไรไปมากเหมือนกัน นายนิพิฏฐ์ กล่าวนายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ทั้งเรื่อง ม็อบ และเรื่องคดี บอส โดยเฉพาะเรื่องคดี บอส ความเห็นส่วนตัวผม คิดว่า มันเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงของประเทศมากด้วย มันเป็นเชื้อปะทุที่รุนแรงมากกว่าเรื่องม็อบของนักศึกษาเสียอีก ม็อบประเทศนี้เราเห็นมาบ่อย แต่ครั้งนี้ประชาชนเกิดความคลางแคลงใจกับกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะกรณี บอส ผมว่าครั้งนี้รุนแรงมากกว่าทุกครั้ง ปกติคดีขับรถชนคนตายคดีอื่น อาจไม่รุนแรงเท่านี้ แต่นี่พอดีคดีนี้คนชนเป็นคนรวยอันดับ 3 ของประเทศ อันนี้มันทำให้เห็นถึงช่องว่างระหว่าง คนจน-คนรวย และโอกาสในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ฉะนั้นมันจึงรุนแรงมากันที่ความเห็นของ รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่องคดี บอส กับ ม็อบ กระทบความมั่นคงของรัฐหรือไม่ ว่า ประเด็นแรก 2 เรื่องนี้รัฐบาลต้องชี้แจงเรื่องที่ประชาชนสงสัยและไม่สบายใจ การสนับสนุนให้ชี้แจงของฝ่ายบริหารสามารถทำได้ ประเด็นที่ 2 ในอดีต ฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารอาจไม่มีการเชื่อมโยงเกี่ยวโยงกันโดยตรง แต่ปัจจุบัน ท่านนายกฯ ก็สนับสนุนให้มีการชี้แจง ประเด็นที่ 3 ฝ่ายอื่นๆ เองก็ควรต้องประเมินสถานการณ์ แล้วก็ดูว่ามีอะไรน่าเป็นกังวลหรือเปล่า แต่ชั้นนี้ก็ดูปกติอยู่ อาจมีคนเป็นกังวลว่าดูทำให้การเมืองมันเข้มข้นขึ้น แม้แต่การโยงกันทางการเมืองก็ยังมีให้เห็นอยู่บ้างทั่วไปในอินเทอร์เน็ต แต่ก็ยังเป็นเรื่องปกติอยู่รัฐบาลก็ต้องให้ตรวจสอบว่า ไม่เกี่ยวข้อง ไม่มีการแทรกแซง ฝ่ายตุลาการ ฝ่ายองค์กรอิสระ โดยทุกฝ่ายต้องสนับสนุนให้มีการตรวจสอบ เพราะคนติดใจกันเยอะ ฝ่ายนักวิชาการ ออกมากันบ้างแล้ว ทั้ง 32 คณะอาจารย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการเซ็นชื่อ จี้ให้มีการตรวจสอบแล้ว รัฐบาลต้องเปิดกว้างให้มีการตรวจสอบ ชุมนุมเรียกร้องก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เป็นกังวัลเรื่องการแพร่เชื้อโควิด-19 ในการชุมนุมมากกว่า แต่ดูม็อบเขาก็มีการป้องกันอยู่แล้ว และก็ให้ความร่วมมือดีในเรื่องนี้ รศ.ดร.ปณิธาน กล่าวขณะที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)มั่นใจว่า การเคลื่อนไหวของนักเรียน นักศึกษา จะสร้างความรับรู้จนขยายวงเพิ่มขึ้นไปทั่วประเทศอดีตเลขาฯ สมช.เชื่อว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง รับรู้ และมองเห็นปัญหาในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะการชุมนุมจะมีความหลากหลายมากขึ้น ไม่มีแกนนำ และจะเชื่อมโยง รับลูกถึงกันด้วยอุดมการณ์ร่วมกัน ซึ่งจะมีความต่อเนื่อง และกระจายออกไปพื้นที่ต่างๆความเห็นของ พล.ท.ภราดร เชื่อว่า พลังการเคลื่อนไหวของนักเรียน นิสิตนักศึกษา ประชาชน จะกลายเป็นฉันทามติร่วมที่นำไปสู่การแก้ไข และการดำเนินการตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 เรื่อง เพราะการเคลื่อนไหวของนักเรียน นักศึกษา เชื่อมโยงไปถึงคนทุกกลุ่มปัจจุบันมาถึงจุดที่โชคร้ายของนายกฯ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กลายเป็นตัวปัญหาหลักดังนั้น นายกฯ จะต้องถอยเพื่อให้บุคคลใหม่เข้ามาดำเนินการ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญจากตัวนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องยาก พล.ท.ภราดร กล่าว.
เรื่อง บอส ดูแล้วตอนแรก อาจไม่เกี่ยวข้องการเมืองนัก แต่ต้องยอมรับว่าก็มีความพยายามโยงให้ไปถึงจนได้ ร้อนจนนายกฯ ต้องออกมาปฏิเสธ และสนับสนุนให้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบ
ข่าว,การเมือง
บอส อยู่วิทยา,ม็อบนิสิตนักศึกษา,นิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ,ปณิธาน วัฒนายากร,ภราดร พัฒนถาบุตร,ข่าวการเมือง,special content,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1898540
ชายพิการช่วยสุนัขตกน้ำ ผญบ.โดดช่วยจมน้ำดับคู่
วานนี้ (29 ส.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุชายพิการช่วยสุนัขที่ตกน้ำจนถูกน้ำพัดจมหาย ผู้ใหญ่บ้านเห็นเหตุการณ์ลงไปช่วยอีกคน กลับจมน้ำเสียชีวิต ทั้ง 2 คน ขณะที่สุนัขรอดกลับมาฝั่งได้เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณฝายทดน้ำบ้านขามน้อย หมู่ที่ 8 ต.ขอนแตก อ.สังขะ จ.สุรินทร์ หลังรับแจ้งเหตุนักประดาน้ำได้เข้าค้นหาชายทั้ง 2 คน แต่การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เชือกผูกติดลำตัว ก่อนจะดำน้ำเพื่อค้นหาผู้เสียชีวิตผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า นายชัยพร อินดี อายุ 44 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขาพิการได้ลงไปช่วยสุนัขของตัวเองที่ตกน้ำ แต่เนื่องจากร่างกายพิการทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ จึงถูกกระแสน้ำพัดร่างจมหายไป โดยสุนัขรอดกลับเข้ามายังฝั่งเองได้ขณะที่นายประกาษิต วิวาสุข ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ้านขามน้อย ซึ่งเห็นเหตุการณ์ ได้ลงไปช่วยนายชัยพร แต่ก็จมหายไปอีกคน จากการค้นหาอยู่หลายชั่วโมง นักประดาน้ำ พบร่างนายชัยพร จมน้ำเสียชีวิต แต่ยังไม่พบร่างนายประกาษิต โดยคาดว่าอาจถูกกระแสน้ำพัดร่างลอยออกไปไกลจากจุดเกิดเหตุ กระทั่งเวลา 22.00 น. นักประดาน้ำ ได้ค้นหาอีกครั้งจึงพบร่างนายประกาศิต พร้อมกับนำส่งให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
เกิดเหตุชายพิการช่วยสุนัขที่ตกน้ำจนถูกน้ำพัดจมหาย ผู้ใหญ่บ้านเห็นเหตุการณ์ลงไปช่วยอีกคน กลับจมน้ำเสียชีวิต ทั้ง 2 คน ขณะที่สุนัขรอดกลับมาฝั่งได้
ภูมิภาค
สุรินทร์,ชายพิการ,สุนัข,ตกน้ำ,จมน้ำ,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/265651
พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จัดงานสนองพระราชปณิธาน กษัตริย์ เกษตร ในหลวง ร.10
พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี เตรียมจัดงาน สนองพระราชปณิธาน กษัตริย์ เกษตร ระหว่างวันที่ 6-8 ก.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว,เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.61 นายสหภูมิ ภูมิธฤติรัฐ ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวว่า พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ เตรียมจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โดยครั้งนี้จัดภายใต้หัวข้อ สนองพระราชปณิธาน กษัตริย์ เกษตร โดยภายในงานมีกิจกรรมให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ได้ร่วมลงนามถวายพระพร และเรียนรู้พระราชประวัติพระราชกรณียกิจ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สนองพระราชปณิธาน เพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยทั้งปวง และนิทรรศการใต้ร่มพระบารมี 2 กษัตริย์ นักพัฒนา ดิน น้ำ ป่า คน,นอกจากนี้ยังมีการออกบูธนิทรรศการให้ความรู้ ด้านนวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง คลินิกเกษตรเศรษฐกิจพอเพียงที่ให้บริการแนะนำ ให้คำปรึกษาหลายศาสตร์วิชาด้านเกษตร และมีกิจกรรมให้ร่วมเรียนรู้และร่วมสนุก พร้อมรับของที่ระลึกติดมือกลับบ้านด้วย เช่น คลินิกดินสร้างชีวิต ให้ความรู้เรื่องการปลูกพืชบำรุงดิน และบริการรับตรวจธาตุอาหารในดิน คลินิกการเลี้ยงสัตว์ในวิถีเกษตร เรียนรู้วิธีการเลี้ยงไก่ไข่ เป็ด แพะ และสัตว์อื่นๆ ที่สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว คลินิกน้ำ สีสันแห่งสายน้ำ เรียนรู้การจัดการสร้างธนาคารใต้ดิน การบำบัดและปรับค่า PH ของน้ำ ด้วยเทคโนโลยีสรรพสิ่ง,คลินิกเกษตรสูงวัย ผู้สูงวัยกับการดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพรหลากหลายชนิด เรียนรู้วิธีการเพาะและปลูกสมุนไพร การปลูกพืชผักปลอดภัย 3 ฤดูกาล และการดูแลสุขภาพด้วยการกินการอยู่ตามวิถีชีวิต คลินิกเกษตรกรมือใหม่ ให้คำปรึกษาสำหรับผู้เริ่มต้นทำมือใหม่ ปัญหาคาใจ เทคนิคทำเกษตรให้พึ่งตนเองได้และคลินิกต่างๆ พร้อมกิจกรรมอีกมากมาย ตลอดจนเปิดอบรมวิชาของแผ่นดินและอบรมเชิงปฏิบัติการ 30 หลักสูตร ซึ่งลงทะเบียนเรียนฟรี อาทิ สลัดอินทรีย์ส่งออก เพาะเห็ดตับเต่าสร้างอาชีพ ฟาร์มเกษตรเชิงท่องเที่ยว เทคนิคการปลูกพืชตระกูลแตง การผลิตเห็ดหลินจือและการแปรรูป ปลดหนี้ด้วยเกษตรสรรพสิ่ง สร้างชีวิต ทำเกษตรอย่างไรไม่จน การทำตู้อบโซลาร์เซลล์และเตาชีวมวล การทำเส้นก๋วยเตี๋ยวจากข้าวกล้อง สิ่งประดิษฐ์จากหญ้าแฝก การปลูกผักสลัดอินทรีย์ เป็นต้น,พร้อมทั้งเชิญมาชิมมาชมมาช็อปสินค้าเกษตร ผลผลิตตามฤดูกาล ต้นไม้ พันธุ์ไม้ อาหารพื้นบ้าน ขนมไทยโบราณ ซึ่งมีให้เลือกซื้อกันมากมายในราคามิตรภาพกว่า 200 ร้านค้า กิจกรรมพิเศษในงานนี้ การประชัน หุงข้าวด้วยหม้อดิน รับสมัครมือเก๋า มือใหม่จะวัยไหนๆ ก็ร่วมประชันกันได้ทุกวันและกิจกรรม จิตอาสาสืบสานพระราชปณิธานกษัตริย์เกษตร เชิญชวนประชาชน เยาวชนที่สนใจใฝ่เรียนใฝ่รู้ด้านการเกษตรร่วมทำกิจกรรม จิตอาสาเพาะเมล็ดพันธุ์ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำความดีด้วยหัวใจ และสืบสานและต่อยอดพระราชปณิธานเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง ,สอบถามรายละเอียดได้ทางโทรศัพท์ 0-2529-2212-13 มือถือ 087-359-7171, 094-649-2333 หรือคลิกดูรายละเอียด www.wisdomking.or.th และทาง face book/Instagram: wisdomkingfan หรือ Line ID: @wisdomkingfan
พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี เตรียมจัดงาน สนองพระราชปณิธาน กษัตริย์ เกษตร ระหว่างวันที่ 6-8 ก.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา ในหลวง ร.10
ข่าว,ทั่วไทย
พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ,เกษตร,งานเฉลิมพระเกียรติ,งานเฉลิมพระชนมพรรษา,รัชกาลที่ 10,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1322126
เปิดอบรมหนูน้อยเจ้าเวหาปี 5 ในภาคใต้
สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับร่วมกับสำนักพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนใต้ จัดพิธีเปิดการอบรมเครื่องบินบังคับราคาถูก เพื่อให้น้องๆ จาก 5 จังหวัดชายแดนใต้ คือ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สตูล กับอีก 5 อำเภอใน จ.สงขลา ได้มีความรู้เพื่อเข้าแข่งขัน เครื่องบินบังคับรายการหนูน้อยจ้าวเวหาที่ไทยพีบีเอสจัดแข่งขันต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 โดยใช้ พื้นที่หอประชุมโรงเรียนหาดใหญ่พิทยาคม จ.สงขลา ท่ามกลางน้องๆ ที่เดินทางมาเข้าร่วมอบรมจนเต็มหอประชุมสำหรับปีนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกของสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองที่ปรับกติกาการแข่งขันแบบในร่ม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสภาพอากาศ จึงต้องเน้นความรู้ เรื่องการออกแบบโครงสร้างของเครื่องบินบังคับให้สามารถบินได้ในพื้นที่จำกัด ซึ่งทางเจ้าภาพมั่นใจว่าการทุ่มเทงบประมาณ การอบรมเครื่องบินบังคับให้กับน้องๆ ทางภาคใต้ จะทำให้เยาวชนมีโอกาสได้รับความรู้จากอากาศยานบังคับราคาถูก และนำไปปรับใช้ในการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ในห้องเรียนได้เป็นอย่างดีสำหรับการอบรมที่ภาคใต้จะเสร็จสิ้นในวันอาทิตย์นี้ จากนั้นจะเว้นช่วงให้นักกีฬากลับไปฝึกซ้อมเป็นเวลา 1 เดือน ก่อนกลับมาแข่งขันในวันที่ 27 กันยายนที่หอประชุมโรงเรียนหาดใหญ่พิทยาคม จ.สงขลา ส่วนวันที่ 6 กันยายนนี้ ไทยพีบีเอสจะจัดแข่งขันที่ โรงเรียนบ้านกาดวิทยา จ.เชียงใหม่ โดยจะเป็นการบันทึกเทป เพื่อนำไปออกอากาศในช่วงเดือนพฤศจิกายน
การอบรมเพื่อเข้าแข่งขันเครื่องบินบังคับรายการหนูน้อยจ้าวเวหาปี 5 ในพื้นที่ภาคใต้ เต็มไปด้วยความท้าทาย เนื่องจากเป็นปีแรกที่ผู้เข้าอบรมต้องฝึกทำการบินในอาคาร
กีฬา
หนูน้อยเจ้าเวหา,อบรม,เครื่องบินบังคับ
https://news.thaipbs.or.th/content/191547
จ.ลำปาง เตรียมพร้อมรับมือ ป้องกันไฟป่า-หมอกควัน
วันนี้(17ธ.ค.2562)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองลำปาง นายวาทติ ปัญญาคม นายอำเภอเมือง ได้กล่าวต้อนรับ นายสุรพล บุรินทร์ทราพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธาน เปิดประชุมคณะกรรมการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน อำเภอเมืองลำปาง และศูนย์รวมข้อมูล และสั่งการ (War Room) ปี 2563โดยมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อำเภอเมืองลำปาง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฝ่ายปกครองท้องถิ่นพื้นที่ หน่วยงานป่าไม้ หน่วยงานอุทยานแห่งชาติ ตำรวจทหาร จิตอาสาต่างๆ เขาร่วมรับฟังนโยบาย และเตรียมแผนรับมือการป้องกันแก้ไขไฟป่าในพื้นที่ ซึ่งในปีนี้ ถือว่าเป็นปีแรกที่ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมรับมือปัญหาดังกล่าวตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งคาดหวังว่าปัญหาไฟป่าหมอกควันที่จะกระทบในพื้นที่ จ.ลำปาง จะลดลงกว่าปีที่ผ่านๆ มานายสุรพล บุรินทร์ทราพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เร่งลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ แก่เกษตรกร ประชาชนทั่วไป ให้ลดการเผาพื้นที่โล่งแจ้ง หญ้าแห้ง เศษวัชพืช พืชผลทางการเกษตร ให้ทราบถึงพิษภัย และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น แนะนำให้เกษตรกรที่จำเป็นต้องเผา หรือบริหารจัดการเชื้อเพลิง ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าไปแนะนำในกาจัดการเผาโดยจะมีช่วงเวลาในการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในห้วงเดือน ม.ค. ถึงเดือน ก.พ. 2563 ส่วน มาตรการห้ามเผาเด็ดขาด หรือ 60 วันห้ามเผา จะอยู่ในห้วง วันระหว่างวันที่ 1 มี.ค. – 30 เม.ย. 2563 โดยมีมาตรการทางกฏหมายดำเนินคดีกับผู้ที่ผ่าฝืนอย่างเข้มข้น ขณะเดียวกัน พื้นที่โดยรอบพื้นที่เสี่ยง จะมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับได้มีการประสานกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจในพื้นที่ ออกสืบสวนหาข่าวผู้ที่มีอาชีพล่าสัตว์ป่าหาของป่า ว่ามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม้เถื่อนหรือไม่ เพราะที่ผ่านๆ มา พบว่ามีผู้กระทำผิดในเรื่องดังกล่าวเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับไฟป่าในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ส่วนมาตรการด้านอื่นๆ ก็ยังคงเดินหน้าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
อำเภอเมืองลำปาง ประชุมด่วนทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมมาตรการรับมือป้องกันแก้ไขไฟป่าหมอกควันประจำปี 2563 โดยเฉพาะมาตรการตั้งจุดตรวจจุดสกัด การเข้าออกพื้นที่เสี่ยงไฟไหม้ป่าอย่างเข้มข้น และเตรียมประกาศ ห้ามเผา 60 วัน ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. – 30 เม.ย. 2563
ภูมิภาค
แก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน,ศูนย์รวมข้อมูลและสั่งการ,ห้ามเผา,ตั้งจุดตรวจจุดสกัด
https://news.thaipbs.or.th/content/287144
6 เดือนแรกปี 2563 COVID-19 ทำแรงงานเม็กซิโก ตกงานแล้วกว่า 9.2 แสนคน
สำนักงานประกันสังคมเม็กซิโก (IMSS) รายงานตัวเลขผู้สูญเสียงานรอบ 6 เดือนแรกของปี 2563 เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมาว่ามีจำนวนถึง 921583 คน ซึ่งเป็นผลจากการระบาดของโรค COVID-19 โดยเฉพาะในเดือน มิ.ย. 2563 เดือนเดียว คนเม็กซิโกต้องสูญเสียงานไปถึง 83311 ตำแหน่งในช่วงเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา เม็กซิโกซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของละตินอเมริการองจากบราซิล มีแรงงานเกือบ 19.5 ล้านคน ที่อยู่ในระบบประกันสังคมของเม็กซิโก โดยร้อยละ 86.6 เป็นพนักงานประจำ และอีกร้อยละ 13.4 เป็นพนักงานชั่วคราวทั้งนี้ประธานาธิบดีของเม็กซิโก ได้เคยประเมินไว้ว่า ประเทศจะสูญเสียตำแหน่งงาน 1 ล้านตำแหน่งในปี 2563 เนื่องจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ในขณะที่รัฐบาลกำลังดำเนินการตามแผนเพื่อสร้างงานใหม่สูงสุด 2 ล้านตำแหน่งนับตั้งแต่การตรวจพบการติดเชื้อ COVID-19 ในวันที่ 28 ก.พ. 2563 ล่าสุด เม็กซิโกมียอดผู้เสียชีวิตสูงเป้นอันดับ 4 ของโลกแล้ว โดยกระทรวงสาธารณสุขเม็กซิโกระบุเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2563 ว่าในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 276 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้น 35006 ราย แซงหน้าอิตาลีซึ่งมียอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 34954 รายขณะเดียวกันพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 4482 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นเป็น 299750 ราย อย่างไรก็ดี รัฐบาลเม็กซิโกระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริงอาจสูงกว่าตัวเลขที่ยืนยันในขณะนี้อยู่มาก
Carl Campbell (CC BY 2.0)สำนักงานประกันสังคมเม็กซิโก (IMSS) รายงานตัวเลขผู้สูญเสียงานรอบ 6 เดือนแรกของปี 2563 เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมาว่ามีจำนวนถึง 921583 คน
แรงงาน,ต่างประเทศ
COVID-19,ละตินอเมริกา
https://prachatai.com/journal/2020/07/88566
โคฟี่ อันนัน เรียกร้องยูเอ็นหยุดเสียงปืนในซีเรียให้ได้
นายโคฟี่ อันนัน กล่าวผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์มายังที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ โดยระบุว่า ขณะนี้การปราบปรามผู้ประท้วงในซีเรียยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและรุนแรง ซึ่งต้องหาทางหยุดเสียงปืนจากรถถัง รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์ของรัฐบาลซีเรียให้ได้นายอันนัน ได้รับการแต่งตั้งจากสหประชาชาติให้เป็นทูตพิเศษมายุติความรุนแรงในซีเรียซึ่งกว่า 1 ปีที่ผ่านมารัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดได้ใช้มาตรการกวาดล้างจนทำให้ผู้ประท้วงเสียชีวิตจำนวนมาก โดยสหประชาชาติ ระบุว่า มีมากกว่า 9000 คน แต่ฝ่ายผู้ประท้วงกลับยืนยันว่าขณะนี้มีมากกว่า 11000 คนรัฐบาลซีเรียรับปากว่าจะปฏิบัติตามเส้นตายให้หยุดยิงของนายอันนันในวันที่ 10 เมษายนนี้ โดยรัฐบาลซีเรียยังอ้างด้วยว่าระหว่างนี้ได้เริ่มการถอนกำลังทหารและอาวุธหนักกลับฐาน แต่นักเคลื่อนไหวในฝ่ายผู้ประท้วงกลับยืนยันว่า เฉพาะเมื่อวานนี้มีพลเรือนชาวซีเรียเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 77 คน
ทูตพิเศษสหประชาชาติ ระบุว่า จะต้องทำให้เสียงปืนจากรถถังของรัฐบาลซีเรียเงียบลงให้ได้ ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณกดดันครั้งสำคัญ
ต่างประเทศ
กวาดล้าง,ซีเรีย,บาชาร์ อัล อัสซาด,โคฟี่ อันนัน
https://news.thaipbs.or.th/content/77703
ปัญหาหมอกควันภาคเหนือยังไม่คลี่คลาย
ทัศนะวิสัยในการมองเห็นตามถนนสายต่างๆ ในจังหวัดลำปางเริ่มคลี่คลาย สามารถมองเห็นได้ไกลขึ้น เนื่องจากมีฝนโปรยปรายลงมาเล็กน้อย แต่จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ที่จุดตรวจวัดศาลหลักเมืองลำปาง วัดได้ 130 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่ายังเกินค่ามาตรฐาน ที่กำหนดไว้ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบากศก์เมตรอยู่เช่นเดียวกับที่จังหวัดน่านที่ยังคงถูกปกคลุมด้วยหมอกควัน วันนี้วัดได้ 178 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ยังไม่ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยว เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวัดเก่าแก่ เพื่อดูศิลปะ และวัฒนธรรมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ระบุว่าไฟป่าที่ยังคงเกิดขึ้นในหลายจุด ทำให้หลายจังหวัดภาคเหนือมีหมอกควันปกคลุม โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งเข้าไปดับ แต่ด้วยระยะทาง และลักษณะพื้นที่เป็นเขาสูงชัน ทำให้การทำงานเป็นไปด้วยยากความยากลำบากขณะที่กรมควบคุมมลพิษรายงานสภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ วันนี้ยังมี 6 จังหวัดที่คุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานคือ เชียงราย ลำปาง แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน และพะเยา โดยเฉพาะจังหวัดเชียงรายที่อำเภอแม่สาย คุณภาพอากาศเกินค่ามากที่สุดคือ 327 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
กรมควบคุมมลพิษระบุปัญหาหมอกควันใน 6 จังหวัดภาคเหนือ ยังมีค่าเกินมาตรฐาน ขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปดับไฟในป่าลึก แต่พบอุปสรรคการเดินทางเข้าป่าที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก
ภูมิภาค
กรมควบคุมมลพิษ,ควัน,ภาคเหนือ,หมอก
https://news.thaipbs.or.th/content/70215
ธนาธร ปราศรัยกลางเมืองเชียงใหม่ โจ๋-วัยใสแห่ฟังแน่นเวที
์,เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 8 มี.ค.62 ที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์กลางเมืองเชียงใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มาช่วยลูกพรรคผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 หาเสียง ว่า ได้เดินทางไปหาเสียงทั่วประเทศ ที่จังหวัดปัตตานีมีคนฟังจำนวนมาก แต่ปรากฎว่าที่เชียงใหม่ในคืนนี้มีคนมาฟังมากลบสถิติทุกแห่ง มากกว่า 2,000 คน โดยไม่ใช่มีการจัดตั้งเหมือนพรรคอื่น ,นายธนาธร กล่าวถึงเรื่องปัญหาหมอกควัน ที่เกิดจากการเผาป่า ที่ก่อปัญหาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปลูกข้าวโพด ที่ไม่ต้องบอกว่านำไปขายให้บริษัทใด แต่มาทิ้งปัญหาเรื่องการเผาซังข้าวโพดให้คนเชียงใหม่ต้องเจอปัญหา ซึ่งจะต้องมีการแก้ปัญหาต่างๆให้เป็นระบบและคนที่จะแก้ปัญหาก็คือคนที่มีอำนาจของประเทศก็คือนายกรัฐมนตรี จากนั้นได้พูถึงเรื่องปรับลดหนี้สินเกษตรกร สร้างระบบจนส่งสาธารณะ เพิ่มอำนาจท้องถิ่นตัดสินใจ ยุติระบบราชการรวมศูนย์ กระจายอำนาจ กระจาย แบ่งสัดส่วนรายได้ใหม่ ส่วนกลาง และท้องถิ่น 50-50 คนทุกจังหวัดต้องมีอำนาจจัดการภาษีตนเอง ปัญหาที่เกิดขึ้นมากมาย ทุกปัญหาต้องวิ่งไปหานายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวที่เกี่ยวข้องหลายกระทรวงที่จะต้องแก้,นายธนาธร ยังได้พูดถึง พรบ.เชียงใหม่มหานคร หากยังจำได้เชียงใหม่เป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย ที่บอกว่าไม่เอาไม่ยอมรับอีกแล้วกับอำนาจรัฐราชการรวมศุนย์ที่กรุงเทพ พี่น้องชาวเชียงใหม่ได้รวมตัวกันล่ารายชื่อตามกฎหมายกำหนดแล้วเสนอ พรบ.เชียงใหม่มหานครเข้าสู่สภาผู้สภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลในตอนนั้นเป็นรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เสียดาย พรบ.ฉบับนี้ไปอยู่ในรัฐบาลแล้วแท้ๆ แต่ลุงตู่ขับรถถังออกมาเสียก่อน พรบ.นี้จึงไม่ได้ถูกพิจารณาในสภา เพราะเกิดรัฐประหารปี พ.ศ.2557ขึ้น ไม่รู้ว่าป่านนี้เชียงใหม่จะเจริญไปถึงไหนแล้ว ถ้าผ่าน พรบ.เชียงใหม่มหานครออกมาได้ ปัญหาสิ่งแวดล้อมปัญหาหมอกควันในเชียงใหม่เรื่องเดียว เราสามารถเข้าใจได้ถึงปัญหาราชการที่รวมศูนย์ที่กรุงเทพ,ตนเชื่อว่าคนเชียงใหม่ไม่ได้ไม่มีความฝัน ไม่ได้ไม่มีวิธีการ แก้ปัญหา แต่สิ่งที่เราไม่มีก็คืออำนาจในการแก้ปัญหา อำนาจในการจัดการดินฟ้าอากาศป่าของเรา อำนาจในการวางผังเมืองของเรา เพราะอำนาจไปกระจุกตัวที่ส่วนกลาง ทำให้การพัฒนาประเทศที่ผ่านมาความเจริญจึงไปกระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่ไม่กี่เมือง กรุงเทพ ชลบุรี สมุทรปราการ ระยองทีมีรายได้ต่อหัวดี แต่ในขณะที่จังหวัดอื่นจน ก็บอกว่าที่พวกเราจนก็เพราะพวกเราโง่ เป็นเพราะพวกเราขี้เกียจ พรรคอนาคตใหม่ปฎิเสธความเชื่อเช่นนั้น พรรคอนาคตใหม่เชื่อว่าเหตุผลที่ต่างจังหวัดไม่มีงานทำไม่มีรายได้ที่ดี ไม่มีคุณภาพที่ดี เป็นเพราะเราไม่มีอำนาจ ไม่ใช่เพราะเราโง่และขี้เกียจ เรื่องนี้พรรคอนาคตใหม่ต้องการทำอย่างจริงจังคือเรื่องการเอาอำนาจกลับคืนสู่ท้องถิ่นยุติการรวมศูนย์ที่ส่วนกลาง,ถ้ามีการกระจายอำนาจจากส่วนกลางออกมาได้ ต่อไปใครอยากจะยึดอำนาจก็ยึดไปเลย ยึดอำนาจที่กรุงเทพ เชียงใหม่ไม่เกี่ยว ปัญหามันทำไม่ได้เพราะอะไร ถ้ายึอำนาจที่กรุงเทพ ไม่มีใครปล่อยงบประมาณมาที่เชียงใหม่ แค่นี้เชียงใหม่ก็ตายแล้ว แต่หากเรากระจายอำนาจออกมาได้ ยุติระบบราชการรวมศูนย์ได้ ภาษีที่เกิดขึ้นที่เชียงใหม่ เก็บที่เชียงใหม่ ตัดสินใจใช้จ่ายกันที่นี่ ไม่ต้องไปกังวลว่าใครจะแย่งอำนาจกับใครที่กรุงเทพ ดังนั้นตนพูดเรื่องนี้ก็เพื่อให้รู้ว่าคนที่ถืออำนาจอยู่ว่าอย่ายุ่งกับการเมือง โดยมีการหลอกให้พวกเราเข้าใจว่าการเมืองเป็นเรื่องสกปรก เพื่อจะบอกว่าไม่ต้องไปยุ่งกับการเมือง เมื่อไม่มีใครยุ่งกับการเมืองอำนาจจึงเป็นของเขา เขาไม่ต้องการให้พวกเราลุกขึ้นมาทวงอำนาจที่เป็นของเราคืนจากเขาไป แต่พรรคอนาคตใหม่บอกว่าการเมืองเป็นเรื่องของเราจึงต้องออกมาในครั้งนี้นายธนาธรกล่าว
ธนาธร เปิดเวทีปราศรัยกลางเมืองเชียงใหม่ คนรุ่นใหม่ วัยโจ๋ แห่ร่วมฟังตรึม ยกไอเดียปรับลดหนี้สินเกษตรกร สร้างขนส่งสาธารณะ เพิ่มอำนาจท้องถิ่นสู่ระบบการกระจายอำนาจ รวมทั้งยุติระบบราชการรวมศูนย
เลือกตั้ง
เลือกตั้ง62,อนาคตใหม่,ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,ปราศรัยเชียงใหม่,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1514743
จ่อเอาผิดกฎหมายคอมพิวเตอร์ ก.ล.ต.ส่งคลังเชือด ม่านฟ้า-เก๋ เลเดอเรอร์
ก.ล.ต.–ธปท. สอดส่องเอาผิด คนหลอกลวงประชาชน ด้านประธานสภาตลาดทุนชื่นชม ก.ล.ต.ทำงานเชิงรุกรวดเร็ว ปกป้องผู้ลงทุนก่อนเกิดความเสียหายบานปลาย,นายสมชาย พงษ์พัฒนาศิลป์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวถึงกรณีที่สำนักงาน ก.ล.ต.ได้เข้าร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กล่าวโทษบริษัท ม่านฟ้า กรุ๊ป จำกัด และบริษัท เลเดอเรอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด รวมทั้งกรรมการผู้มีอำนาจของทั้งสองบริษัทคือ นางสาวอรปภัตร จันทรสาขา หรือ ไฮโซม่านฟ้า และนางสาวกันยกร ศุภการค้าเจริญ หรือ เก๋ เลเดอเรอร์ กรณีเสนอขายหลักทรัพย์ประเภทหุ้นกู้ต่อประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต, ,หลังทั้ง 2 บริษัทได้ประกาศชักชวนประชาชนให้ร่วมหุ้นผ่านไอจีโซเชียลมีเดีย อ้างว่าจะให้ผลตอบแทนสูง 10-15% ต่อปี โดยสัญญาว่าจะทยอยคืนเงินร่วมหุ้นพร้อมผลตอบแทนทุกๆ 30 วัน จนกว่าจะครบสัญญา ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายเสนอ ขายหลักทรัพย์ประเภทหุ้นกู้ต่อประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืน พ.ร.บ.หลักทรัพย์ปี 35 นั้น,นายสมชายกล่าวว่า หลัง ก.ล.ต.ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ บก.ปอศ.ไปแล้ว ก.ล.ต.ยังได้รวบรวมข้อมูลที่ได้จากการดำเนินการทั้งหมดส่งไปยังหน่วย งานรัฐที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกลุ่มงานป้องปรามการเงินนอกระบบ ที่อยู่ภายใต้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ที่มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแล พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน เพื่อให้พิจารณาหรือตรวจสอบในเชิงลึกว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายนี้หรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามที่ภาครัฐได้ประชุมและตกลงร่วมกันว่า จะมีการประสานและส่งต่อการทำงานร่วมกันมากขึ้น เพื่อร่วมกันกำกับดูแลและปราบปรามการกระทำความผิดทางด้านการเงิน เบื้องต้น ก.ล.ต.พบว่าเข้าข่ายผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ และได้ส่งข้อมูลให้หน่วยงานตรวจสอบภาครัฐอื่นไปดำเนินการต่อให้ครบในทุกประเด็นว่ามีการทำธุรกรรมที่เข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมายอื่นๆ ที่หน่วยงานตนเองดูแลอีกหรือไม่ โดยสามารถดำเนินการต่อได้ทันที,กรณีนี้ ก.ล.ต.ไม่ได้นิ่งนอนใจเมื่อมีการชี้เบาะแสและพบว่ามีพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายความผิด จึงได้เร่งดำเนินการ ก่อนที่จะมีคนเข้ามาร่วมหุ้นด้วยจำนวนมาก หรือก่อนที่จะมีความเสียหายขึ้น และเป็น การเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการลงทุนใดๆที่เสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริง ว่าอาจมีการกระทำที่เข้าข่ายความผิด,ด้านนางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) กล่าวว่า ขอชื่นชม ก.ล.ต.ที่ทำงานเชิงรุกและดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เมื่อพบความไม่ชอบมาพากลและเห็นว่าหากปล่อยไว้อาจเกิดความเสียหายต่อประชาชนในวงกว้าง ก็ได้เข้าไปตรวจสอบทันที เมื่อ ก.ล.ต.ทำหน้าที่แล้ว หวังว่าจะได้เห็นหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องรับลูกต่อและเร่งช่วยกันตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความกระจ่าง โปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ถือเป็นการทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองประชาชน ในอดีตมีกรณีการระดมทุน และฉ้อโกงประชาชนเกิดขึ้นมากมาย ที่กว่าทางการจะเข้าไปตรวจสอบเอาผิดได้ ก็เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง มีประชาชนเข้าไปเกี่ยวข้องจำนวนมาก และเกิดความเสียหายมหาศาลจนเกินเยียวยา แต่ ปัจจุบันมีการระดมทุนชักชวนประชาชนผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งทำให้มีการเผยแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วกว่าในอดีตมาก ดังนั้น ประชาชนต้องช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นความไม่ชอบมาพากลต้อง ชี้เบาะแสแจ้งข้อมูลกับทางการตามช่องทางต่างๆ ทั้งการชักชวนไปลงทุนหุ้น น้ำมัน ทองคำ หรืออัตราแลกเปลี่ยน รวมทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค,นายอุตตม สาวนายน รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า ได้กำชับให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ประสานงานกับ ก.ล.ต.ใกล้ชิด และตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด กรณีที่มีบุคคลชักชวนประชาชนให้ร่วมลงทุนผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะกรณีที่ ก.ล.ต.ได้ชี้มูลความผิดแล้ว ปอท.ต้องมาตรวจสอบว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ด้วยหรือไม่ ขณะที่ต้องประสานการทำงานกับ บก.ปอศ.ด้วย เพราะกฎหมายของ บก.ปอศ.มีความเข้มข้นมากกว่า นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้ปอท.ช่วยสอดส่องโซเชียลมีเดียว่ามีกรณีใดที่เห็นว่าผิดสังเกตและส่อว่าจะหลอกหลวงประชาชนให้ร่วมลงทุนหรือร่วมธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ ก็ขอให้ประสานงานไปยัง ก.ล.ต.และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทันที เพื่อร่วมกันดูแลป้องกันมิให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคนดังกล่าว ผมได้ย้ำกับทุกหน่วยงานในไอซีทีให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ ให้ข้อมูลเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการกระทำของกลุ่มหลอกลวงซึ่งมีหลายรูปแบบมาก.
ก.ล.ต.เผยส่งข้อมูลกรณี ไฮโซม่านฟ้า–เก๋ เลเดอเรอร์ ต่อให้กลุ่มงานป้องปรามการเงินนอกระบบ สศค.ตรวจสอบเชิงลึกต่อ ขณะที่ รมว.ไอซีทีสั่ง ปอท.รับลูกสอบเอาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พร้อมกำชับให้ทำงานใกล้ชิด
null
สมชาย พงษ์พัฒนาศิลป์,ก.ล.ต.,ไฮโซม่านฟ้า,เก๋ เลเดอเรอร์,หุ้นกู้,ลงทุน,โซเชียลมีเดีย
https://www.thairath.co.th/content/715745
มือปืนยิงหัว 4 นัด เจ้าของร้านซีฟู้ด พุ่งปมมรณะ พนัน-ชู้สาว ขัดแย้งญาติ
ลูกสาววอนตำรวจเร่ง จับกุมคนร้ายโดยเร็วเพราะอำมหิตเกินมนุษย์ ผู้การเพชรบุรีสั่งระดมทีมสืบสวนลงพื้นที่ไล่ล่าตั้ง 3 ปม มรณะ ขัดแย้งทรัพย์สินมรดก หักกันในวงพนัน และเรื่องชู้สาวมือมืดบุกกระหน่ำยิงเจ้าของร้านอาหารทะเลสด ตายสยองคาที่นอนรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 ก.ค. ที่ห้องประชุม สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พล.ต.ต.เทียนชัย คามะปะโส ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยชุดสืบสวนภาค 7 ชุดสืบสวน ภ.จ.เพชรบุรี ชุดสืบสวน สภ.ชะอำ พนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคนร้ายบุกสังหารนายอำพิน โตแก้ว เจ้าของร้านอาหารทะเลสด ป้าฮี๊ดซีฟู้ด ตั้งอยู่บริเวณสะพานปลาชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา จากนั้นนำกำลังชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่วิทยาการ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมจัดทีมสืบสวน 3 ชุดเร่งไล่ล่าคนร้ายเร่งด่วนคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 30 ก.ค. พ.ต.ท.สุนทร พราหมณ์สังข์ สว. (สอบสวน) สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี รับแจ้งมีชายถูกยิงเสียชีวิตในบ้านชั้นเดียวเพิ่งสร้างเสร็จยังไม่มีเลขที่ บริเวณใกล้ร้านทิพย์ ซีฟู้ด สะพานปลาชะอำ ต.ชะอำ ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.เทียนชัย คามะปะโส ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล รอง ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี พ.ต.อ.วรเดช สวนคล้าย ผกก.สภ.ชะอำ ชุดสืบสวน สภ.ชะอำ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.เพชรบุรี แพทย์เวร รพ.ชะอำ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน จุดชะอำภายในห้องนอนพบศพนายอำพัน โตแก้ว อายุ 50 ปี สวมเสื้อยืดแขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีเหลือง นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่ สภาพศพถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบชนิดเข้าศีรษะ 4 นัด ไม่พบปลอกกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ ตรวจสอบบริเวณทางเข้าบ้านพบรอยนิ้วมือและรอยรองเท้าย่ำเปรอะพื้นใกล้ลูกกรงข้างบ้าน เบื้องต้นทราบว่า นายอำพันผู้ตาย เป็นเจ้าของร้านขายอาหารทะเลสด ป้าฮี๊ดซีฟู้ด ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ป้าฮี๊ด แม่ของนายอำพันได้เสียชีวิตลง หลังจัดงานศพเสร็จสิ้น นายอำพันได้ย้ายเข้ามานอนที่บ้านหลังเกิดเหตุได้ไม่ถึง 2 วัน กลับถูกคนร้ายบุกเข้ามายิงตายถึงในห้องนอนอย่างโหดเหี้ยมต่อมาเวลา 16.00 น. ภรรยาและลูกสาวของผู้ตายเดินทางไปรับศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเนรัญชราราม อ.ชะอำ น.ส.พรรณทิตา โตแก้ว อายุ 16 ปี ลูกสาวผู้ตายกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุพ่อนอนอยู่ในบ้านคนเดียว ส่วนตนออกไปข้างนอก กระทั่งมีคนโทร. มาบอกว่าพ่อถูกยิงเสียชีวิต ไม่รู้ว่าพ่อไปทำอะไรให้ใครถึงมาถูกคนร้ายบุกยิงตายคาบ้านเช่นนี้ ประเด็นที่น่าจะเป็นชนวนเหตุในการสังหาร น่าจะมาจาก 2 สาเหตุ ปกติพ่อเป็นคนชอบเล่นการพนัน จะเดินสายเล่นพนันเกือบทุกชนิด และประเด็นเรื่องชู้สาว ส่วนประเด็นอื่นยังนึกไม่ออก ต้องการให้ตำรวจจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วเพราะอุกอาจโหดเหี้ยมมาก ขณะที่ น.ส.มุก น้อยใส่ อายุ 46 ปี ภรรยาคนปัจจุบันของผู้ตายเปิดเผยว่าไม่ทราบสาเหตุเพราะสามีไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง ยอมรับว่าสามีเป็นคนชอบเล่นการพนัน ส่วนเรื่องอื่นยังไม่ชัดเจนตามแนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ ได้ตั้งประเด็นการสังหารไว้ 3 เรื่อง คือ 1.ขัดแย้งการขายบ้านหลังหนึ่งของผู้ตายให้กับชาวต่างชาติ แต่ภายหลังกลับมีปัญหาทะเลาะกันรุนแรง รวมทั้งหลังจากมารดาเสียชีวิต ผู้ตายมีความคิดจะขายร้านอาหารซีฟู้ดของแม่ในราคาประมาณ 5 ล้านบาท และนำเงินไปสร้างร้านอาหารแห่งใหม่ แต่ถูกญาติพี่น้องขัดขวางจนมีปัญหากันในหมู่ญาติ 2.เรื่องหักกันในวงพนัน เพราะผู้ตายเป็นนักเล่นตัวยง เดินสายเล่นการพนันหลายประเภท อาจไปมีปัญหากับกลุ่มนักพนันจนถึงขั้นตามมาฆ่าทิ้ง และ 3.ปมชู้สาว เนื่องจากผู้ตายเป็นคนมีฐานะดี มีหญิงสาวมาติดพันหลายคน อาจทำให้ชายที่หมายปองหญิงสาวคนใดคนหนึ่งไม่พอใจ ถึงขั้นบุกมาฆ่าเพื่อขจัดมารหัวใจ อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 ประเด็นเป็นเพียงการวางแนวทางสืบสวนสอบสวนของตำรวจ ยังไม่ฟันธงว่ามาจากเรื่องใดแน่ จะต้องสอบปากคำญาติและคนใกล้ชิดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
หนุ่มใหญ่เจ้าของร้านอาหารทะเลดัง ป้าฮี๊ดซีฟู้ด ใกล้หาด ชะอำชะตาขาด ถูกมือปืนเหี้ยม บุกซัลโว 4 นัดซ้อน สิ้นใจตายสยองคาที่นอน เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุได้ไม่ถึง 2 วัน
ข่าว,ทั่วไทย
ข่าวหน้า1,ยิงพ่อค้าอาหารทะเล,ซุ่มยิง,พ่อค้าอาหารทะเลชะอำ,ยิง4นัด,ยิงโหด,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1901152
ประเพณีระบบรัฐสภา
เพราะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 184 ที่ห้าม ส.ส.ดำรงตำแหน่งในหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ แต่ ส.ส.เป็นรัฐมนตรีได้ เพราะยกเว้นไว้ในมาตรา 163 ของรัฐธรรมนูญ,มติที่ห้าม ส.ส.เป็นข้าราชการการเมือง ส่งผลกระทบต่อการแต่งตั้ง และคณะที่ปรึกษารัฐมนตรี 35 คน ของคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ต้องยกเลิกคำสั่งแต่งตั้ง และอาจกระทบถึง ส.ว.หลายคน ที่เป็นกรรมการยุทธศาสตร์แห่งชาติ กรรมการปฏิรูปประเทศ อ้างว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ,การห้าม ส.ส.เป็นเลขานุการรัฐมนตรี หรือที่ปรึกษารัฐมนตรี เป็นการทำลายประเพณีอันดีงามของการปกครองระบบรัฐสภาที่ประเทศไทยยึดถือมาตั้งแต่หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 87 ปีมาแล้ว ระบบรัฐสภาไม่ได้แยกอำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจบริหารออกจากกันเด็ดขาด เหมือนกับระบบประธานาธิบดี เพียงแต่แบ่งงานกันทำ,ผู้ที่กุมอำนาจนิติบัญญัติในสภา และอำนาจบริหารในระบบรัฐสภา มาจากพรรคเดียวกัน นั่นก็คือพรรคที่กุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร โดยมอบหมายให้ระดับคณะผู้บริหารพรรค เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ส่วน ส.ส.ธรรมดาทำหน้าที่นิติบัญญัติ แต่ ส.ส.ก็ต้อง ฝึกงาน ฝ่ายบริหาร เช่น เป็นเลขานุการรัฐมนตรี ก่อนที่จะก้าวเป็นรัฐมนตรี,ระบบรัฐสภาสนับสนุน ส.ส.ให้เรียนรู้งานฝ่ายบริหาร ด้วยการเป็นเลขานุการรัฐมนตรี จนมีความรู้ความสามารถที่จะเป็นรัฐมนตรีด้วยตัวเอง การเป็นเลขานุการรัฐมนตรีไม่จำเป็นจะต้องไปก้าวก่าย งานประจำ ของข้าราชการ และระบบรัฐสภายังยึดถือประเพณีด้วยว่า นายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส. แม้จะไม่มีรัฐธรรมนูญบังคับ,แต่ตรวจสอบดูได้ บรรดาประเทศประชาธิปไตยที่ใช้ระบบรัฐสภา ล้วนแต่มีนายกรัฐมนตรีจาก ส.ส.ทั้งๆที่รัฐธรรมนูญไม่ได้บังคับ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ซึ่งเป็นแม่บทระบบรัฐสภา หรือเยอรมนี เบลเยียม แม้แต่ประเทศประชาธิปไตยในเอเชีย เช่น อินเดียและญี่ปุ่น รัฐธรรมนูญของไทยในยุคประชาธิปไตยเบ่งบาน ระบุนายกฯต้องมาจาก ส.ส.,ประเทศไทยนอกจากห้าม ส.ส.เป็นข้าราชการการเมืองแล้ว ยังสร้างประเพณีแปลกๆ เช่น ส.ส. ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีต้องลาออกจาก ส.ส. ไม่รู้ว่ายึดหลักการอะไร ถ้าลาออกจาก ส.ส.แบบบัญชีรายชื่ออาจไม่มีปัญหาเพราะเลื่อนคนต่อไปขึ้นแทนได้ แต่ถ้าเป็น ส.ส.เขตต้องเลือกตั้งซ่อมและอาจสอบตกสูญเสียเสียงสนับสนุนในสภา.
รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายยืนยัน ห้าม ส.ส.เป็นข้าราชการการเมืองโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเลขานุการรัฐมนตรี หรือที่ปรึกษารัฐมนตรี
null
ส.ส.,ข้าราชการการเมือง,ขัดรัฐธรรมนูญ,ระบบรัฐสภา,รัฐสภา,รัฐมนตรี,บทบรรณาธิการ
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1627615