title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
บุกถึงถิ่น ไฮเปอร์ดอน แอปเปิล วอตช์ เสิ่นเจิ้นโผล่ที่ CES2015 | ระหว่างที่รอแอปเปิล เปิดตัวสมาร์ทวอตช์ใหม่ Apple Watch แอปเปิล วอตช์ ที่คาดว่าจะวางขายช่วงเดือน มี.ค.2558 บริษัทจากประเทศจีนอย่าง ไฮเปอร์ดอน (Hypierdon) อาศัยการจัดงาน CES2015 ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เปิดตัวผลิตภัณฑ์สมาร์ทวอตช์ ของเลียนแบบแอปเปิล วอตช์ ที่โขกหน้าตามาเหมือนกันอย่างกับแพะกับแกะ และเอามาขายถึงหน้าบ้านของแอปเปิลเลยทีเดียว,ทีมงานเว็บไซต์ Mashable ที่เป็นคนเดินไปเจอในงาน กล่าวว่า นาฬิการุ่นนี้ทำที่เสิ่นเจิ้น ประเทศจีน โดยบริษัทไฮเปอร์ดอน จริงๆ แล้วก็คือสมาร์ทโฟนที่เหมือนกับของแอปเปิลมากๆ โดยหน้าจอจะแสดงผลขึ้นมาเมื่อกดปุ่มเปิด ส่วนไอคอนต่างๆ ก็เลียนแบบแอปเปิลมาหมด และจากที่ได้ทดลองเอามาเชื่อมต่อใช้กับไอโฟน 6 มันสามารถใช้โทรออกและรับสายได้ มันยังมีตัวนับก้าวเดิน นาฬิกาจับเวลา นาฬิกาปลุก และบางสิ่งที่เป็นฟังก์ชั่นกันเรียกว่า Anti-Lost ที่ไม่แน่ใจว่าทำได้หรือไม่ แต่มีตัวเลือกให้ตั้งค่าว่า ทำงาน หรือไม่ทำงาน,ทีมงานของ Mashable เชื่อว่า Anti-Lost ที่อยู่บนเครื่องไม่ใช่การป้องกันเครื่องหาย แต่เป็นการป้องกันสัญญาณบลูทูธหลุดมากกว่า อีกทั้งยังมีฟีเจอร์แจ้งเตือนเมื่อมีข้อความเข้ามา จากแอพพลิเคชั่นข้อความ เช่น WeChat หรือแอพแชตอื่นๆ สมาร์ทวอตช์รุ่นนี้ผู้ผลิตอ้างว่าการชาร์จไฟ 1 ครั้งสามารถใช้งานได้นาน 180 ชั่วโมง แต่ยังไม่มีใครทดสอบว่าเป็นจริงตามอ้างหรือไม่ โดยราคาค่าตัวของไฮเปอร์ดอนอยู่ที่ราวๆ 27-30 เหรียญสหรัฐฯ.,ที่มา : ,mashable | ไฮเปอร์ดอน สมาร์ทวอตช์จากเสิ่นเจิ้นบุกเปิดตัวขายในงาน CES2015 โดยมีรูปลักษณ์ที่เลียนแบบแอปเปิล วอตช์ ทั้งรูปร่างและไอคอนบนจอแสดงผล โดยทีมงาน Mashable ไปเจอเผยมีฟังก์ชั่นทำงานหลากหลายแต่ขายในราคา 27-30 เหรียญเท่านั้น
| null | ไฮเปอร์ดอน,Hypierdon,Apple Watch,เสิ่นเจิ้น,ของเลียนแบบ,CES2015,ลาสเวกัส,สหรัฐอเมริกา,ข่าวไอที,ไทยรัฐออนไลน์,สมาร์ทวอตช์ | https://www.thairath.co.th/content/473758 |
ไม่มีข้อมูลใหม่ | ใครก็ขวางไม่ได้ เมื่อเหตุและปัจจัยต่างๆเอื้อหนุนแบบครบวงจร,ข่าว เขย่าขวด สุดสัปดาห์นี้ก็ตรงประเด็นดีจะได้ไม่ต้องไปถาม ไปวิเคราะห์กันให้ยุ่งยากเมื่อ เจ้าตัว ประกาศเองแล้วว่าเอาแน่,เพียงแต่ว่าจะไปถึงฝั่งฝันหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศชัดเจนแล้วว่าเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้วและพร้อมจะเป็นนายกฯคนนอก,คือมาตามกติกา เพราะรัฐธรรมนูญครึ่งใบกำหนดให้เป็นได้,บรรดานักการเมืองก็ต้องต้อนรับน้องใหม่กันได้เลย แม้ก่อนหน้านี้จะมาแบบ ทหาร เต็มตัวแต่เมื่อผันตัว อย่างนี้แล้ว,ก็อย่าไปรังเกียจรังงอน โจมตีว่าเป็น ทหาร กันอีกก็แล้วกัน,ถ้าหากจะเจาะลึกกันว่าเหตุไฉนจู่ๆก็ออกมาเปิดกลางแจ้งอย่างนี้ มีปัจจัยอะไรที่จะต้องทำอย่างนี้,เอ้าก็อยากจะเป็นนายกฯต่อไป มีปัญหาหรือ?,ว่าไปแล้ว ต้องไม่ลืมว่าจังหวะก้าวของนายกฯลุงตู่นั้น นับแต่ปลายปีที่ผ่านมาจนถึงต้นปี 61 มีอะไรหลายอย่างที่ต้องตัดสินใจ บางอย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้,การเมืองดูเหมือนบีบคั้นมากที่สุดถึงขั้นมีข้อเสนอให้พรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรคคือ เพื่อไทยและประชาธิปัตย์จับมือกันเพื่อดันให้ทหารไปนอกสารบบการเมือง,ว่าที่จริง คนเสนอเรื่องนี้ หากไม่หลงลืม เพราะวัยหรือผิดเพี้ยนทางการเมืองน่าจะจำความว่าตัวเองเคยทำอะไรมาก่อน,เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองแต่ไม่สนับสนุนทหารที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเป็นนายกฯด้วยข้ออ้าง,ข้อมูลใหม่,แต่วันนี้กลับมาเสนอในสิ่งที่ตรง กันข้ามกับที่กระทำมา ที่สำคัญก็รู้อยู่แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้และไม่มีทางเป็นไปได้,ก็ลองดูซิ ทั้งประชาธิปัตย์และเพื่อไทยมีหวังถูกแนวร่วมที่สนับสนุนถลกหนังหัวแน่ แม้จะเอาเหตุผลอะไรมาอ้างก็ตาม,เมื่อแรงการเมืองกดดันมากๆเข้า พล.อ.ประยุทธ์ก็แก้ลำทันควันด้วยการประกาศตัวเป็นนักการเมืองที่อดีตเคยเป็นทหารมาก่อน,เท่ากับว่าแยกตัวเองออกมาจากทหารจะได้ยุติการโจมตีประเด็นนี้,พลันที่เปิดทำงานวันแรกตลาดหุ้นไทยวิ่งฉิวอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นั่นเป็นการสะท้อนภาพว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยพุ่งโลดแน่,นั่นเป็นการพิสูจน์ว่าแนวทางของรัฐบาลมาถูกทางและปัญหารากหญ้าจะคลี่คลายไปในทางที่น่าพอใจ,นี่แหละคือ จุดสำคัญที่เรียกคะแนนและการยอมรับ,พูดตรงๆก็คือจะได้ กองหนุน คืนมาแน่,อีกทั้งฉากลับๆก็ต้องไม่ลืมว่าทีมงานด้านการเมืองของ คสช.นั้นได้ทำงานการเมืองมาเป็นระยะๆ จนพอจะมั่นใจได้ว่าโอกาสได้ไปต่อนั้นมีสูง,การแอบติดต่อลับๆกับนักการเมืองค่ายต่างๆนั้นเป็นไปอย่างน่าพึงพอใจจนทำให้มีความมั่นใจได้ว่าจะมีฐานเสียงสนับสนุนมากขึ้นเรื่อยๆ,กระสุนดินดำ ก็พร้อมกว่าพรรคคู่แข่ง,นักการเมืองไทยนั้น หากไม่มีอุดมการณ์หรือหลักการจริงๆแล้ว การเปลี่ยนแปลงเพื่อไปสู่การได้มีอำนาจนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ,ใครไม่ชอบที่จะได้เป็นรัฐบาลหรือ? ใครไม่ชอบที่จะอยู่กับผู้มีอำนาจหรือ?,อย่าไปสะดุด นาฬิกา ก่อนก็แล้วกัน?,ลิขิต จงสกุล | เขามาแล้วนายกฯคนนอกประกาศความพร้อมเต็มพิกัด เมื่อทุกอย่างเป็นใจให้ ที่เหลืออยู่ที่บุญวาสนาเท่านั้น | null | นายกฯคนนอก,นักการเมือง,รัฐธรรมนูญ,สับรางวันอาทิตย์,ลิขิต จงสกุล | https://www.thairath.co.th/news/politic/1170220 |
เห็นยืนกันริมถนน ชาวบ้านบึงทำบุญใหญ่อุทิศส่วนกุศล เหยื่อรถตู้ 25ศพ | มายืนริมถนนช่วงกลางดึก,เมื่อวันที่ 12 ม.ค.60 นายพิเนตร์ เลิศเขมทัต นายอำเภอบ้านบึง จ.ชลบุรี พร้อมด้วยนางอารีรัตน์ สิงห์โตทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองอิรุณ ได้ร่วมกันจัดทำพิธีทำบุญกรวดน้ำใหญ่ โดยการนำพระภิกษุสงฆ์จากวัดอ่างเวียน จำนวน 13 รูป มาเจริญพุทธมนต์ให้กับผู้ประสบอุบัติเหตุจากรถตู้โดยสาร สายกรุงเทพฯ-จันทบุรี ชนกับรถยนต์กระบะ จนทำให้ไฟลุกไหม้ และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 25 ศพ ที่บริเวณริมถนนสาย 344 บ้านบึง–แกลง ซึ่งสร้างความสะเทือนใจกับผู้พบเห็นเป็นจำนวนมาก จนผ่านไป 10 วัน ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ยังหวาดผวา เนื่องจากยังพบเห็นวิญญาณของผู้เสียชีวิตมายืนอยู่ริมถนนในช่วงกลางดึก,นายพิเนตร์ กล่าวว่า การจัดทำบุญในครั้งนี้ เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต ที่ชาวบ้านต่างมีความเชื่อว่าวิญญาณยังวนเวียนอยู่ในจุดเกิดเหตุ อีกทั้งยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับญาติของผู้ตายได้เดินทางมาร่วมทำบุญด้วยกัน ซึ่งการจัดทำบุญแบบไทย และมีการไหว้และทำพิธีแบบจีน พร้อมเงินที่มีการบริจาคในครั้งนี้กว่า 3 หมื่น ก็จะนำไปไถ่ชีวิตโคกระบือ ที่จะส่งผลให้ทางวิญญาณได้ไปในภพใหม่ และจะทำให้อุบัติเหตุลดน้อยลงอีกด้วย,ด้านชาวบ้านเผยว่า ที่แห่งนี้เป็นที่อาถรรพณ์ ก่อนหน้านี้ประมาณ 20 กว่าปี ก็ได้มีอุบัติเหตุรถบัสโดยสารชนกับรถบรรทุกยาง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตในครั้งนั้น จำนวน 30 ศพ และไม่มีการทำบุญ จนทำให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมาอีก และมีการเสียชีวิตอีก 25 ศพ. | ชาวบ้านบึง จ.ชลบุรี จัดทำบุญครั้งใหญ่อุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับจากอุบัติเหตุรถตู้โดยสารกรุงเทพฯ-จันทบุรี ชนรถกระบะ ทำให้มีคนเสียชีวิต 25 ศพ ชาวบ้านเผยถนนนี้มีอาถรรพณ์ 20 ปีที่แล้ว เคยมีตายหมู่ 30 ศพ ขณะที่อีกส่วนบอกเห็นวิญญาณ | null | รถตู้,รถตู้ 25 ศพ,ทำบุญให้ผู้เสียชีวิต,ชลบุรี,ยืนเต็มริมถนน | https://www.thairath.co.th/content/834426 |
รุมยำหนุ่มนอร์เวย์ สลบคาวอล์กกิ้งสตรีทพัทยา เหตุเมาจับนมสาว | เมื่อช่วงดึกของวันที่ 22 ธ.ค.59 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณหน้าผับแห่งหนึ่งในถนนวอล์กกิ้ง สตรีท พัทยาใต้ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบ,ทั้งนี้ ร่างผู้บาดเจ็บเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ คาดว่าน่าจะเป็นชาวยุโรป มีบาดแผลที่ศีรษะ ตาข้างซ้ายปูดบวม บนใบหน้าเขียวช้ำ ริมฝีปากยังมีแผลฉีกขาด ตามใบหน้าและเสื้อเปียกชุ่มไปด้วยเลือด นอนหมดสติไม่สามารถให้การได้ พลเมืองดีช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนส่งตัวให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ นำส่งโรงพยาบาล เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน,ทางด้านพ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา กล่าวว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายเอกสิทธิ์ หรือ บอย ไวยทิ อายุ 20 ปี นาย Pana Viviano JR อายุ 33 ปี ชาวฟิลิปปินส์ และนาย Silvestre Allev อายุ 33 ปี ชาวฟิลิปปินส์ มาดำเนินคดีตามกฎหมายที่ สภ.เมืองพัทยา หลังเป็นผู้ทำร้ายร่างกาย Mr.OLE MAGNUS BRATHEN อายุ 22 ปี ชาวนอร์เวย์ ได้รับบาดเจ็บ,นายเอกสิทธิ์ ยอมรับสารภาพว่า ชกต่อยผู้บาดเจ็บจริง โดยตนเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุตนเองได้เล่นหยอกล้อชกต่อยกับชาวต่างชาติที่รู้จักกันชื่อ คริสเตรียน จนกระทั่งการหยอกล้อเริ่มแรงขึ้น จนนางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี แฟนสาวของตนจึงมาห้าม จากนั้นผู้บาดเจ็บที่อยู่ในอาการเมาเดินมาจับหน้าอกแฟนสาว ตนเองจึงเกิดความโมโห จึงได้ชกต่อยผู้ได้รับบาดเจ็บจนเกิดการชุลมุน จากนั้นได้มีนักดนตรี 2 คนเข้ามาช่วยห้าม แต่ตนเองไม่ทราบว่าทั้ง 2 คนได้ร่วมทำร้ายหรือไม่ เนื่องจากคนค่อนข้างมาก,พ.ต.อ.อภิชัย กล่าวอีกว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งได้ควบคุมตัวทั้ง 3 คน ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนทาง นางสาวเอ จะแจ้งความเอาผิดทางผู้ได้รับบาดเจ็บ ก็เป็นสิทธิ์และสามารถกระทำได้ | นักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ถูกคนไทยและนักดนตรีปินส์รุมยำหน้าผับ นอนไม่รู้สึกตัวกลางวอล์กกิ้ง สตรีท พัทยา จ.ชลบุรี หลังเมาไม่รู้เรื่องจับหน้าอกสาว แฟนหนุ่มไม่ทนอัดน่วม | null | ทำร้ายนักท่องเที่ยว,นักท่องเที่ยวโดนทำร้าย,การ์ดผับ,วอล์กกิ้ง สตรีท พัทยา,ชลบุรี | https://www.thairath.co.th/content/819081 |
ไทยทีวี หนุน กสทช. เปิดช่องเปลี่ยนมือใบอนุญาตทีวีดิจิตอล | เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2558 นายสุชาติ ชมกุล ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย บริษัท ไทยทีวี เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับแนวทาง ที่เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.เสนอให้เปลี่ยนมือผู้ถือครองใบอนุญาตทีวีดิจิตอลได้ เพราะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการหลายช่อง ที่ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ ส่วนการเจรจากับบริษัทอื่น หรือการเดินหน้าของไทยทีวียังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ ขอรอความชัดเจนจาก กสทช. ก่อน,ก่อนหน้านี้นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงาน เสนอ 2 แนวทาง คือ ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เร่งแก้ไขมาตรา 9 พระราชบัญญัติประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ 2551 และมาตรา 43 พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม 2553,แนวทางที่ 2 เสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ออกคำสั่งตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฯ ฉบับชั่วคราว โดยให้ออกประกาศแก้ไขกฎหมายทั้งสองฉบับ ให้ใบอนุญาตทีวีดิจิตอลสามารถโอนเปลี่ยนมือได้ แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจาก กสทช.,หากแก้กฎหมายสำเร็จ ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล สามารถทำหนังสือมายื่นที่ กสทช. ให้พิจารณาโอนเปลี่ยนมือได้ ภายใต้เงื่อนไขว่าผู้รับใบอนุญาต ห้ามถือครองเกิน 3 ช่องรายการรวมทั้ง ห้ามช่องรายการระดับความคมชัดสูง หรือ HD ถือครองช่องข่าว ตามหลักเกณฑ์ ของกสทช. เพื่อป้องกันการครอบงำและเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาดในด้านสื่อ,เลขาธิการ กสทช. เชื่อว่าแนวทางนี้จะเป็นทางออกของผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ที่ไม่สามารถประกอบกิจการต่อไปได้ และป้องกันปัญหารัฐเก็บรายได้ไม่ครบ นอกจากนี้ยืนยันว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์กับบริษัทไทยทีวี แต่ทำเพื่อภาพรวมอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอล. | ฝ่ายกฎหมายตัวแทนของไทยทีวีเห็นด้วยกับ กสทช.ที่เสนอให้แก้กฎหมาย หรืออาศัยอำนาจของ ม.44 เพื่อให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล สามารถโอนเปลี่ยนมือใบอนุญาต เพื่อเป็นทางออกสำหรับผู้ประกอบการที่ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ | null | ไทยทีวี,แก้กฎหมาย,พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์,ม.44,มาตรา 44,กสทช.ทีวีดิจิตอล,โอนเปลี่ยนมือใบอนุญาต,สุชาติ ชมกุล,ฐากร ตัณฑสิทธิ์,กสทช.,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/503733 |
DSI บุกค้นตู้นิรภัยคดีแชร์เช่าเหมาลำ พร้อมจับผู้ต้องหาแชร์คอนโดหัวหิน | เครดิตภาพ : ดีเอสไอ,ดีเอสไอ เข้าค้นตู้นิรภัยที่ธนาคารเมืองยะลา ใช้ซุกซ่อนทรัพย์สินคดี แชร์เช่าเหมาลำเครื่องบิน พร้อมจับกุมสาวผู้ต้องหาหลอกลวงแชร์คอนโดที่หัวหิน ฝากเตือนประชาชน อย่าตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อร่วมทุน,วันนี้ 30 พ.ย. 59 พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนคดีความผิดแชร์เช่าเหมาลำเครื่องบิน หรือคดีพิเศษที่ 146/2558 มีผู้เสียหายประมาณ 100 ราย ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ล่าสุด พบว่าผู้กระทำผิดรายสำคัญได้เช่าตู้นิรภัยที่ธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ยะลา ไว้เพื่อเก็บทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด หัวหน้าพนักงานสอบสวนจึงเดินทางลงไปทำลายกุญแจเพื่อเปิดตู้ดังกล่าว เพื่อสืบเสาะทรัพย์สินและยึดทรัพย์สินที่ได้มา หรือเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดกลับมาเยียวยาผู้เสียหายต่อไป,ด้าน นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการส่วนคดีอาญาพิเศษ 2 สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 นำตัว นางสาวณัฐพัชร์ แสงอุทัยวัฒนา ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษที่ 93/2557 กรณีหลอกให้ประชาชนร่วมลงทุนในธุรกิจคอนโดมิเนียมในพื้นที่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีผู้เสียหายจำนวน 30 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 40 ล้านบาท ผู้ต้องหาไปยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อฝากขังครั้งที่ 1 ทั้งนี้ ดีเอสไอ ขอฝากเตือนไปยังประชาชนให้ระมัดระวังในการชักชวนให้ลงทุนร่วมทำธุรกิจ ที่อ้างว่ามีผลตอบแทนสูง ทั้งนี้ กลุ่มเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีคือ กลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จากการหลอกหลวงประชาชน จึงขอให้ระมัดระวังการชักชวนผู้อื่นให้ลงทุนในลักษณะดังกล่าว,อนึ่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ กำลังเร่งติดตามดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่อีกหลายคดี ซึ่งคาดว่าจะทยอยแจ้งข้อกล่าวหา และออกหมายจับเพื่อนำผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป. | ดีเอสไอ เข้าค้นตู้นิรภัยที่ธนาคารเมืองยะลา ใช้ซุกซ่อนทรัพย์สินคดี แชร์เช่าเหมาลำเครื่องบิน พร้อมจับกุมสาวผู้ต้องหาหลอกลวงแชร์คอนโดที่หัวหิน ฝากเตือนประชาชน อย่าตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อร่วมทุน | null | ดีเอสไอ,แชร์ลูกโซ่,แชร์เช่าเหมาลำ,แชร์คอนโด,ค้นตู้นิรภัย | https://www.thairath.co.th/content/798092 |
จับอีก ลูกน้อง แม่มณี พนักงานในร้าน รวยอู้ฟู่ ยึดเงินสด 5.5 ล้าน | เวลา 11.00 น. วันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จ.อุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.สุพรรณี หรือแต๊ก นิกรกุล อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 7 ต.หนองหญ้าไซ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ 267/2562 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เงินสด 5.5 ล้านบาท ทองรูปพรรณ 10 บาท แหวนเพชร 1 วง ราคา 2 แสนบาท,พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบช.ภ.4 เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ตำรวจได้ติดตามจับกุมนายปิยะ หรือเต้ คีรีสุวรรณกุล อายุ 23 ปี และ น.ส.พรสวรรค์ ภูอินอ้อย พนักงานและคนสนิทหุ้นส่วนกิจการ น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช อายุ 30 ปี แม่มณี เท้าแชร์ลวงโลก ซึ่งทั้งสองได้รับมอบอำนาจให้ทำธุรกรรมการเงินแทนนายเมธี ชิณภา อายุ 20 ปี สามีแม่มณี โดยถอนเงินสด 23 ล้านบาท โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดในธนาคารกสิกรไทย สาขาเซ็นทรัลพลาซ่าอุดรธานี เป็นหลักฐาน และติดตามยึดอายัดเงินและทรัพย์สินรวม 27.3 ล้านบาท,ขณะที่ พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า วันนี้ได้จับกุม น.ส.สุพรรณี ซึ่งเป็นทั้งพนักงาน และผู้ร่วมกิจการเครื่องสำอางมะนิลาช็อป นอกจากนี้ยังเป็นนางแบบรีวิวเครื่องสำอางอีกด้วย ติดตามยึดทรัพย์สิน เงินสด 5.5 ล้าน ทองรูปพรรณน้ำหนัก 10 บาท และแหวนเพชรราคา 2 แสนบาท ซึ่งทั้งสามคน มีหลักฐานเชื่อมโยงในการยักย้าย ถ่ายโอน ทรัพย์สินจาก น.ส.วันทนีย์ โดยทั้งหมด เป็นพนักงานในสำนักงาน ยังมีชื่อเป็นหุ้นส่วนในกิจการ ร้านทองแม่มณี น้ำปลาร้าแม่มณี และเครื่องสำอางมะนิลาช็อป ได้รับความไว้วางใจในการทำธุรกรรมทางการเงินแทนแม่มณี และสามี,ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยต่อว่า ผู้ต้องหาได้รู้จักกับแม่มณี ผ่านทางเฟซบุ๊ก แล้วเข้ามาทำงานเป็นพนักงาน มีทรัพย์สินเงินทองเพิ่มขึ้นมามากมาย เชื่อว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน คงจะไม่สบายใจนัก แต่เมื่อทำงานอยู่กับแม่มณี ก็ต้องถูกดำเนินคดี จากนี้ ยังคงรวบรวมพยานหลักฐาน คาดจะออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 1-2 คน รวมทั้งการติดตามยึดอายัดทรัพย์ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ เนื่องจากจะต้องส่งมอบสำนวน พยานหลักฐาน ผู้ต้องหา ทรัพย์สินที่ยึดมาให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ),ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้บรรดาลูกแชร์ ที่เป็นผู้เสียหายมาแจ้งความ ได้ตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นมามีสมาชิกจำนวนมาก และกำลังมีการตั้งวงแชร์กันอีก จะฝากเตือนคนกลุ่มนี้หรือไม่ ได้รับคำตอบว่า ลักษณะการหลอกลวงมีมานาน วงแชร์เป็นอีกวิธีหนึ่ง เกิดมานาน และเกิดต่อเนื่องยังหลอกกันอยู่ ขอให้หยุดเล่นแชร์ลักษณะแบบนี้ ให้คิดอยู่เสมอว่าไม่มีธุรกิจอะไร สร้างผลกำไรได้มากมายขนาดนี้ มีแต่การหลอกลวงกันทั้งนั้น | จับคนสนิท แม่มณี สาววัย 21 พนักงานในร้าน และนางแบบรีวิวเครื่องสำอาง ยึดเพชรทองเงินสด 5.5 ล้าน พบหลักฐานเชื่อมโยง ยักย้าย ถ่ายโอน ทรัพย์สิน | ข่าว,ทั่วไทย | แม่มณี,ข่าวเด่น,แชร์แม่มณี,แชร์ลูกโซ่,ลูกน้องแม่มณี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1698198 |
ทอย ดีใจคนจิ้น ฝน ทะลุจอ ลุ้นตรงสเปกเคยเผยใจว่าปลื้มจริง | อยากให้เป็นแฟนกันนอกจอเพราะมีความมุ้งมิ้งแถม ทอย ดูปลื้มฝนซะด้วย เจอ ทอย เลยแอบแซะว่าความสัมพันธ์มีอะไรคืบหน้าแล้วรึยัง เพราะคนยังจิ้นไม่จบ? ก็ดีครับ ฟีดแบ็กดีมาก แฟนคลับลงรูปคู่จิ้น มีเพจ มีไอจี ขอบคุณที่คนจิ้นในคู่เรา แปลว่าแสดงถึงบทบาทจริง,แล้วจิ้นได้ในชีวิตจริงมั้ย? เป็นเพื่อนกันมากกว่า อายุไล่เลี่ยกัน เค้าอายุมากกว่าเรา 1 ปี,ฝนเป็นสเปกเรามั้ย? ถือว่าตรงสเปกเลยครับ,พูดเหมือนโยนหินถามทางรึเปล่า? ไม่เชิงครับ เราเป็นเพื่อนกัน ผมมองว่ามันเป็นโอกาสที่เราได้รู้จักคนใหม่ๆมากขึ้น ส่วนเรื่องอนาคตค่อยว่ากันอีกที,ฝนมีข่าวว่ามีหนุ่มคุยอยู่แล้ว เรารู้สึกยังไง? เรารู้อยู่แล้ว เราก็ไม่ได้ไปจีบอะไรเค้าแค่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน,ข่าวจิ้นเยอะๆไม่กลัวคนของเค้าหวงเหรอ? ผมว่าเค้าน่าจะเข้าใจว่ามันเป็นพาร์ตของงาน,ถ่ายทำจบไปแล้วยังได้เจอกันบ้างมั้ย? ก็มีเจอกันบ้างในงานปิดกล้อง,มีไลน์หากันเซย์กู๊ดไนต์บ้างมั้ย? ไม่มีครับ (ยิ้ม) มีคุยกันในกรุ๊ปไลน์รวมๆกัน,สนิทกันในกองแล้วพอถ่ายจบเราเหงามั้ย? ไม่เชิงครับ งานที่ผ่านๆมามองว่าทำให้รู้จักคนใหม่ๆ,ฝนเค้ารู้มั้ยว่าเราปลื้มเค้า? ก็มีบอกเค้าตอนถ่ายแรกๆ ว่าเราปลื้มเค้า ถามว่าเค้ามีทีท่าเขินมั้ย เค้าก็บอกว่า อะไร อย่ามาหวาน แซวๆ มากกว่า,หลายคนบอกว่าหน้าคล้ายกันด้วย? คงออกแนวมีเชื้อสายจีน หน้าเลยใกล้เคียงกัน,รู้สึกยังไงที่คนเชียร์ให้เป็นแฟนกันเยอะ? ตอนนี้เป็นเพื่อนกันไปก่อน ทำงานก่อน,คุยกับเค้าถึงฟีดแบ็กที่คนเชียร์มั้ย? ก็มีคุยกัน แคปไอจีมาดูกันว่าข่าวมาอีกแล้ว น่ารักดี,จะมีโอกาสได้ร่วมงานกันอีกมั้ย? เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ครับ,ถือเป็นเพื่อนผู้หญิงที่เราสนิทได้มั้ย? ถือว่าเป็นคนที่สนิทอีกคนนึงในวงการบันเทิง,เราออกตัวว่าปลื้มฝนแบบนี้แฟนคลับเรามีหวงหรือสนับสนุนมั้ย? ส่วนมากยังไม่เจอแฟนคลับแบบนั้น ส่วนใหญ่เค้าจะซัพพอร์ตกันมากกว่า มีแต่เราไปเล่นเรื่องไหนเค้าก็เชียร์เรื่องนั้น ยังไม่เจอแบบหวง,ส่วนตัวมีคนคุยๆอยู่มั้ย? ยังไม่มีเลยครับ ช่วงนี้ทำงาน เรียน ก็แทบไม่มีเวลาเจอเพื่อน. | จิ้นกันตั้งแต่ยังไม่ทันออกอากาศ ขนาดซีรีส์ Love Songs Love Series ตอน ฤดูร้อน จบไปแล้ว แต่คนก็ยังจิ้นพระเอกหนุ่มมาแรง ทอย-ปฐมพงศ์ กับสาว ฝน-ศนันธฉัตร | null | ทอย ปฐมพงศ์,ปฐมพงศ์ เรือนใจดี,ฝน ศนันธฉัตร,ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล,คู่จิ้น,ข่าวบันเทิง,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐฉบับพิมพ์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐ,ข่าว | https://www.thairath.co.th/content/635980 |
เร่งช่วย หนุ่มบินพารามอเตอร์ฝ่าหมอกหนาจากแม่สาย หลงเข้าลาว | เมื่อเวลา 07.07 น. วันที่ 27 ธ.ค.58 ร.ต.ท.พิชิต เชื้อเมืองพาน พงส.สภ.เวียงแก่น ได้รับแจ้งจาก นางอัญชนา เสถียรพีระกุล อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 186/7 ถ.เมืองสมุทร ต.ช้างม่อย จ.เชียงใหม่ ว่า เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. 58 นายทวีศักดิ์ อุณหพัฒนา อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 132 หมู่ 8 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้ขึ้นบินพารามอเตอร์ออกจาก อ.แม่สาย มุ่งหน้าไป อ.เวียงแก่น เพื่อร่วมงานเปิดงานเทศกาลองุ่น อ.เวียงแก่น และเมื่อถึงเวลา 10.00 น. เพื่อนที่ร่วมบินไปถึงเวียงแก่น แต่ไม่พบเห็น นายทวีศักดิ์ และไม่สามารถติดต่อได้ คาดว่าจะเกิดอุบัติเหตุในเขตพื้นที่ดอยกิ่วหก เขตพื้นที่ สภ.บุญเรือง อ.ดอยหลวง จึงขอแจ้งไว้เป็นหลักฐาน และวันนี้ทีมพารามอเตอร์ได้ออกบินสำรวจติดตามให้การช่วยเหลือ,ต่อมา พ.อ.ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผบ.ฉก.ม.2 ได้รับรายงานเหตุ จึงจัดชุดค้นหาและชุดเฮลิคอปเตอร์พยาบาล ร่วม รพ.ค่ายเม็งรายมหาราช ขึ้นบินสำรวจค้นหาพื้นที่ชายแดนตามเส้นทางการบินของพารามอเตอร์ ตั้งแต่ อ.แม่สาย ดอยหลวง เขตติดต่อ ภูชี้ฟ้า อ.เทิง อ.เชียงของ อ.เวียงแก่น จนกระทั่งได้รับรายงานว่าชาวบ้านฝั่งลาวพบ นายทวีศักดิ์ บินพารามอเตอร์ท่ามกลางหมอกลงจัดพลัดหลงไปตกที่บ้านป่าซาง เมืองคอบ แขวงไซยะบุรี สปป.ลาว ตรงข้ามบ้านพิทักษ์ไทย - ภูชี้ฟ้า ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย มีสภาพบาดเจ็บเล็กน้อย และทางการลาวได้คุมตัวไว้,พ.อ.ประพัฒน์ กล่าวว่า จะดำเนินการประสานขอรับตัวนักพารามอเตอร์กลับ ผ่านศูนย์สั่งการชายแดนไทย-ลาว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ คอยคำตอบจากทางฝั่งลาว. | หนุ่มเชียงรายวัย 45 ปี บินพารามอเตอร์จาก อ.แม่สาย ร่วมเปิดงานองุ่นที่ อ.เวียงแก่น พร้อมคณะ เจอหมอกหนาหลงเข้าเขตบ้านป่าซาง ประเทศลาว และโดนควบคุมตัวไว้ ทหาร ฉก.ม.2 ประสานศูนย์สั่งการชายแดนขอรับตัวกลับแล้ว | ข่าว,ทั่วไทย | พารามอเตอร์,บินพารามอเตอร์,พารามอเตอร์หลงเข้าป่า,พิชิต เชื้อเมืองพาน,พารามอเตอร์หลงทาง,พารามอเตอร์พลัดหลง,พารามอเตอร์ตกลาว,แม่สาย,เชียงราย,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/555035 |
เจ้าหน้าที่ปิดล้อมตรวจค้นแหล่งกบดานกลุ่มอาร์เคเคใน จ.นราธิวาส | ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า สนธิกำลังร่วมกับชุดปฏิบัติการร่วม จังหวัดนราธิวาส เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ ในหมู่บ้านกูแบปูยู หมู่ 8 ตำบลมะรือโบออก อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส หลังสืบทราบว่าสมาชิกกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเคที่ร่วมถล่มฐานปฏิบัติการนาวิกโยธิน บ้านยือลอ หมู่ 3 ตำบลบาเระใต้ อำภอบาเจาะ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา แฝงตัวกบดานอยู่ในหมู่บ้านเมื่อถึงเป้าหมายเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังตรวจค้น พบกลุ่มผู้ก่อเหตุจำนวน 3 - 4 คน วิ่งหลบหนีลงไปในป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังติดตาม จึงเกิดการปะทะกันขึ้นเป็นระยะๆ ประมาณ 5 นาทีเมื่อสิ้นสุดการปะทะ เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เป็นอาสาสมัครทหารพราน สังกัดกรมทหารพรานที่ 48 คือ อาสาสมัครทหารพราน อำรี ดอแม อายุ 34 ปี ถูกยิงที่สะโพก และอาสาสมัครทหารพรานแสงชัย แสงมณี อายุ 29 ปี ถูกยิงขา ถูกนำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ส่วนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่หลบหนีไปได้ มีรายงานว่าถูกเจ้าหน้าที่ยิงได้รับบาดเจ็บ และได้แฝงตัวหลบซ่อนอยู่ในป่า ซึ่งจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงตรึงกำลังปิดล้อมพื้นที่ไว้ เพื่อติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ | เจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมพื้นที่ในอำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ที่มีการยิงปะทะกันกับกลุ่มผู่ก่อเหตุ เมื่อคืนนี้ จนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เพื่อเร่งติดตามกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่หลบหนี และคาดว่าได้รับบาดเจ็บ | ภูมิภาค | กบดาน,ตรวจค้น,นราธิวาส,ปิดล้อม,อาร์เคเค,เจาะไอร้อง,เจ้าหน้าที่ | https://news.thaipbs.or.th/content/157390 |
วิดิช เชื่อแฟนผีแดงเคารพเหตุการณ์ ฮิลล์โบโร่ ในศึกแดงเดือด | หลังจากที่มีการสรุปสาเหตุของโศกนาฏกรรมฮิลล์โบโร่เมื่อ 23 ปีก่อน ซึ่งมีแฟนบอลเสียชีวิตในเกมเอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศถึง 96 คน เนมานย่า วีดิช กองหลังของแมนฯ ยู ไนเต็ด เชื่อว่า แฟนบอลทั้งสองทีมไม่ว่าจะเป็นแมนยู และ ลิเวอร์พูล จะให้ความเคารพซึ่งกันและกันในเกมแดงเดือดวันอาทิตย์นี้ก่อนหน้านี้เกมที่แมนยู ชนะ วีแกน 4-0 มีแฟนบอลแมนยูบางกลุ่มร้องเพลงล้อแฟนบอลลิเวอร์พูลถึงเหตุการณ์ที่ฮิลล์โบโร่ แต่ในเกมสำคัญอาทิตย์นี้ วีดิช เชื่อว่า แฟนบอลแมนยูจะไม่แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมออกมา ขณะเดียวกันก่อนเกมที่แอนฟิล์ดจะเริ่ม วิดิช และ สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด จะร่วมกันปล่อยลูกโป่งสีแดง 96 ลูกเพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่ฮิลล์โบโร่ด้วยอย่างไรก็ตามการพบกันฤดูกาลที่แล้วทั้งสองทีมมีปัญหาระหว่างนักเตะจากกรณีของ หลุยซ์ ซัวเรซ กับ ปาทริก เอวร่า ซึ่งครั้งนั้น ซัวเรซ ถูกลงโทษแบนถึง 8 นัด จากข้อหาเหยียดผิว และ การพบกันนัดที่สอง ซัวเรซ ไม่ยอมจับมือกับเอวร่าตามธรรมเนียมก่อนลงสนามส่วนควันหลงฟุตบอลยูโรป้าลีกเกมที่สเปอร์ส เสมอกับ ลาซิโอ 0-0 อังเดร วียาส โบอาส โค้ชของสเปอร์ส เรียกร้องไปยัง มิเชล พลาตินี ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป ซึ่งนั่งชมเกมดังกล่าวด้วยให้ออกมาดำเนินการขั้นเด็ดขาดหากพบว่า กองเชียร์ลาซิโอมีการพูดเหยียดผิวนักเตะผิวสีของสเปอร์สอย่าง เจอร์เมน เดโฟ อารอน เลนนอน และ อันดรอส ทาวน์เซนด์ ทั้งนี้ โบอาส บอกว่าเขาไม่ได้ยินด้วยตัวเอง แต่ฝ่ายจัดการแข่งขันควรจะเข้ามาสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น | เนมานย่า วิดิช กองหลังของแมนฯยูไนเต็ด เชื่อว่า แฟนบอลแมนฯยูไนเต็ด จะให้ความเคารพต่อเหตุการณ์โศกนาฏกรรมฮิลล์โบโร่ ในเกมแดงเดือดที่แมนยูจะบุกไปเยือนลิเวอร์พูลวันอาทิตย์นี้ | กีฬา | ลิเวอร์พูล,ฮิลล์โบโร่,เนมานย่า วิดิช,แดงเดือด,แมนฯยูไนเต็ด | https://news.thaipbs.or.th/content/113328 |
เกาะติดน้ำท่วมภาคใต้ : รบ.ตั้งกองบัญชาการบรรเทาน้ำท่วมใต้-เตรียมงบช่วย | เมื่อวันที่ 7 ม.ค.60 พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ประกาศยกระดับการจัดการปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ให้เป็นการจัดการสาธารณภัยขนาดใหญ่ ระดับ 3 โดยได้จัดตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ส่วนหน้า ขึ้น ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 12 สงขลา ซึ่งมี รมว.มหาดไทยเป็นผู้บัญชาการ ทำหน้าที่บูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน,ผู้บัญชาการสามารถจัดตั้งส่วนสนับสนุนการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉิน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายพลเรือน และภาคประชาสังคม ร่วมกันทำงานเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ซึ่งขณะนี้ภาครัฐได้เร่งดำเนินการทุกเรื่อง ทั้งการอพยพผู้ประสบภัยออกนอกพื้นที่ การจัดสถานที่พักพิงชั่วคราวเพื่อรอน้ำลด การแจกถุงยังชีพ อาหาร น้ำ และยารักษาโรค รวมทั้งการดูแลให้คำปรึกษาด้านจิตใจ พล.ท.สรรเสริญกล่าว,พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า กระทรวงมหาดไทยยังได้สั่งการให้แต่ละจังหวัดกำหนดพื้นที่ที่ประสบภัย พื้นที่เสี่ยงภัย และผู้รับผิดชอบให้ชัดเจน เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยประสานงานกับ สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยภาค หน่วยทหารบกและทหารเรือให้ระดมเรือ เครื่องยนต์ และรถยกสูง เข้าไปลำเลียงประชาชนที่ติดค้างในบ้านพักให้ออกมาโดยเร็วที่สุด และล่าสุดกองทัพเรือได้ส่งเรือผลักดันน้ำ 50 ลำ ลงไปสนธิกำลังกับทางบกช่วยเร่งระบายน้ำที่ จ.นครศรีธรรมราชแล้ว นอกจากนี้ ในพื้นที่ยังได้จัดหน่วยแพทย์พลเรือนและทหารออกดูแลสุขภาพประชาชน และร่วมกับภาคเอกชนและจังหวัดใกล้เคียงที่ไม่ได้ประสบภัยเข้าไปช่วยสนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภค และบริจาคอาหารปรุงสำเร็จ ยารักษาโรค ด้วย,ท่านนายกฯ ห่วงใยประชาชนเป็นอย่างมาก โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและวางแผนการช่วยเหลือในระยะต่อไป ซึ่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน หากมีความเสียหายเกิดขึ้น ผวจ.สามารถอนุมัติเบิกจ่ายเงินทดรองราชการได้ภายในวงเงิน 20 ลบ. นอกจากนี้ คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี ยังสามารถให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมได้หากมีการร้องขอ เช่น ค่าเครื่องอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค เครื่องมือประกอบอาชีพ เครื่องใช้อื่นๆ ที่จำเป็นแก่ครอบครัว ค่าจัดการศพกรณีมีผู้เสียชีวิต ค่าซ่อมแซมบ้านทั้งหมดหรือบางส่วนตามความจำเป็น ทั้งนี้ต้องไม่ซ้ำซ้อนกับส่วนราชการที่ช่วยเหลืออยู่แล้ว โฆษกรัฐบาลกล่าว,สำหรับการเปิดรับบริจาคของหน่วยงานภาครัฐตามที่เป็นข่าวในโซเชียลมีเดียนั้น เบื้องต้นเป็นข้อมูลเก่า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยที่เกี่ยวข้อง และรัฐบาลยังสามารถดูแลช่วยเหลือประชาชนได้ อย่างไรก็ตาม หากมีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวจะแจ้งให้สาธารณชนทราบต่อไป. | รัฐบาลตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยส่วนหน้า เร่งบูรณาการช่วยเหลือชาวใต้ พร้อมอพยพผู้ประสบภัย แจกจ่ายอาหาร น้ำดื่ม ยา และฟื้นฟูจิตใจ เตรียมอนุมัติเงินช่วยเหลือหากพบความเสียหาย | null | น้ำท่วม,น้ำท่วมภาคใต้,สรรเสริญ แก้วกำเนิด,โฆษกรัฐบาล,รัฐบาลช่วยน้ำท่วม | https://www.thairath.co.th/content/830246 |
กูรู เจียไต๋ จัดให้ พืชใช้น้ำน้อยสู้แล้ง (2) | เรื่องจะทำนาปรังเลี้ยงตัวคงต้องมองข้าม เพราะไม่ว่าจะปลูกด้วยวิธีแกล้งข้าวที่ช่วยประหยัดน้ำได้ 20-30% ก็ยังใช้น้ำถึงไร่ละ 900-1,200 ลบ.ม.อยู่ดีมากกว่าปลูกพืชใช้น้ำน้อย ที่ซดน้ำแค่ไร่ละ 300-500 ลบ.ม.,แต่จะปลูกพืชใช้น้ำน้อยชนิดไหน ถึงจะเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ภูมิอากาศ และช่วยให้มีรายได้เท่ากับ หรือมากกว่าทำนาปรังภาคเหนือ ควรจะปลูกอะไร กูรูเจียไต๋ บอกไปแล้ว,วันนี้มาว่ากันต่อด้วยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ,สุภัทร เมฆิยานนท์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัทเจียไต๋ จำกัด แนะนำ พริกขี้หนู, ฟักทอง, แตงร้าน หรือแตงท่อน,,บวบงู, มะระขี้นก และ แตงโม,เพราะเป็นพืชที่ตลาดในพื้นที่ภาคอีสานเองมีความ ต้องการสูง และยังเป็นพืชที่ค่อนข้างทนสภาพแล้งได้ดียิ่ง แตงร้าน, บวบงู, มะระ ด้วยแล้ว มีความโดดเด่นในเรื่องปลูกหลังเกี่ยวข้าวนาปีถือเป็นการปลูกนอกฤดู ย่อมขายได้ราคาดีกว่า ปลูกในฤดู,พื้นที่ 1 ไร่ปลูกบวบงูในหน้าแล้ง จะทำรายได้ให้ประมาณ 7 หมื่น-1 แสนบาท, แตงร้าน 6-8 หมื่นบาท, มะระ 4-6 หมื่นบาทส่วนใครจะได้มากได้น้อย ขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่นำมาปลูก และความสามารถ ขยันเอาใจใส่ดูแลไม่ใช่ปลูกทิ้งๆขว้างๆ แล้วมานั่งฝัน นอนฝัน จะได้เงินเหมือนเล่นหวย,ส่วน พริกขี้หนู แม้จะไม่ใช่พืชนอกฤดูของภาคอีสาน เพราะ จ.ขอนแก่น นิยมปลูกหลังนา (พ.ย.-ธ.ค.) เก็บเกี่ยว (มี.ค.-พ.ค.) แต่ก็น่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากเป็นพืชที่ให้ผลผลิตมีระยะเวลาเก็บได้นาน เก็บขายได้ทุกวัน ขายได้ทั้งในระยะผลเขียว ผลแดงถ้ามีปัญหาผลสดราคาไม่ดี ยังเก็บไปตากแดด ขายเป็นพริกแห้งตอนมีราคาได้อีกต่างหากช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไร่ละ 6-9 หมื่นบาท,แตงโมถึงจะเป็นพืชหลังนาปี นิยมปลูกในหน้าแล้ง กูรูเจียไต๋ บอกว่า ไม่ต้องกลัวล้นตลาด ขายไม่ออก เพราะยิ่งแล้งยิ่งร้อน คนยิ่งต้องการบริโภคแตงโมมากขึ้น ช่วยให้มีรายได้ไร่ละประมาณ 4 หมื่นบาท,ฟักทองก็เช่นกัน เป็นพืชในฤดู นิยมปลูกกันหลังนาปี เพราะเป็นพืชทนแล้งเป็นเลิศ แต่ยังไงก็ทำรายได้ให้เกษตรกรไร่ละ 1–2 หมื่นบาทดีกว่าทำนาปรัง ไร่หนึ่งอย่างเก่ง ได้แค่ 4–5 พันบาทเท่านั้นเอง,ตอนหน้ามาว่ากันต่อพืชใช้น้ำน้อยที่เหมาะกับภาคเจ้าปัญหา พื้นที่ชลประทานกระทบแล้งมากสุด.,ชาติชาย ศิริพัฒน์ | ปีนี้ว่าแล้งจัด น้ำในเขื่อนยังมีมากกว่าแล้งหน้าสาหัสแน่ เรื่องจะทำนาปรังเลี้ยงตัวคงต้องมองข้าม เพราะไม่ว่าจะปลูกด้วยวิธีแกล้งข้าวที่ช่วยประหยัดน้ำได้ 20-30% ก็ยังใช้น้ำถึงไร่ละ 900-1,200 ลบ.ม.อยู่ดี | null | เจียไต๋,พริกขี้หนู,แตงโม,สุภัทร เมฆิยานนท์,เขื่อน,น้ำ,พืช,แตงร้าน,บวบงู,มะระ,ข่าว,ข่าวเกษตร,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/534692 |
กัลยา จี้ รบ.เร่งเยียวยาโกงเงิน ให้คนยากไร้ หลังยังไม่ได้รับเงิน | วันที่ 29 ส.ค.61 คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการสวมสิทธิ์โกงเงินผู้ยากไร้ในต่างจังหวัด ว่า มีการทุจริตโกงเงินผู้ยากไร้ที่ จ.ขอนแก่น ตั้งแต่เดือนมี.ค. 2561 เป็นต้นมา จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) รัฐบาลจำเป็นที่จะต้องหาทางมาตรการเยียวยาให้ชาวบ้านได้รับสิทธิ์ที่ควรได้รับคู่ขนานไปกับการตรวจสอบหาคนทำผิด เริ่มตั้งแต่จ.ขอนแก่น และทุกจังหวัดที่ตกเป็นเหยื่อ เพราะเห็นแล้วว่าข้าราชการของ พม. นับตั้งแต่อดีตปลัดกระทรวง กระทรวงและเจ้าหน้าที่ต่างๆ มีส่วนรู้เห็นจึงได้รับโทษ ซึ่งเข้าใจว่า มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่โดนคดีนี้แล้วกินยาฆ่าตัวตาย จนบัดนี้ผ่านไปแล้ว 4-5 เดือนรัฐบาลก็ไม่นำพา ประชาชนที่เป็นเหยื่อถูกสวมสิทธิ์ถูกทุจริตคอร์รัปชันจากข้าราชการยังไม่ได่รับการเยียวยา,จึงขอเรียกร้องอีกครั้งให้รัฐบาลและผู้ที่รับผิดชอบ หรือผู้ที่มีอำนาจช่วยในเรื่องนี้ ตนติดตามว่าเมื่อไหร่ที่รัฐบาล หรือผู้ปกครองประเทศจะมีเมตตาต่อคนยากจนคนยากไร้ ที่ถูกโกงเงินผู้ยากไร้ เพราะการทุจริตเกิดขึ้นหลายระดับ แต่รัฐบาลทราบแล้ว เพราะมีการลงโทษคนผิดไปแล้ว แต่ว่าเงินยังไม่ได้ฟ้องแพ่งเอามาคืนชดใช้ให้รัฐ แต่รัฐบาลนี้มีอำนาจล้นมือ เป็นรัฏฐาธิปัตย์มีกฎหมายพิเศษสามารถตัดสินใจได้เร็วกว่าปกติในการเยียวยาชาวบ้านผู้ยากไร้นำเข้าที่ประชุมครม.ได้เลย. | กัลยา จี้ รัฐบาลเร่งเยียวยา โกงเงินคนจน พม. วอนผู้มีอำนาจติดตามเรื่องนี้ให้คนยากจน คนยากไร้ที่ถูกโกง เพราะได้มีการลงโทษคนผิดไปแล้ว แต่เงินยังไม่ได้ชดใช้ | ข่าว,การเมือง | เงินคนจน,เงินยากไร้,ทุจริตเงินคนจน,สวมสิทธิ์โกงเงิน,กัลยา โสภณพนิช,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1364447 |
เจ้าของสุดช้ำ สาววัยรุ่นเช่าห้อง 1 ปีกว่า ขยะเกลื่อน สยองเจอผ้าห่ออึ | จากกรณีเฟซบุ๊ก Patamavadee Rattanaliam โพสต์ภาพห้องเช่าที่เต็มไปด้วยกองขยะ ระบุข้อความว่า ไม่คิดเลยว่าจะเจอกับตัวเอง เคยเห็นแต่ในข่าว ยังคิดเลยว่าถ้าเจอกับตัวเอง จะทำยังไง วันนี้รู้แล้วว่าทำอะไรไม่ถูกเลยจริงๆ ไม่รู้จะเริ่มยังไง ไม่รู้จะทำอะไรยังไงก่อน ตั้งแต่ทำห้องเช่ามาจะ 20 ปี เพิ่งเจอครั้งแรก มีห้องเช่าไม่ได้สบายอย่างที่คิด นอกจากนี้ยังเจอผ้าขนหนูห่ออุจจาระทิ้งในห้องน้ำล่าสุด วันที่ 28 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังเจ้าของโพสต์ ซึ่งเป็นเจ้าของห้องพัก เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดเลยว่าห้องจะเป็นแบบนี้ เพราะผู้เช่าเป็นผู้หญิงวัยรุ่น อายุประมาณ 20-22 ปี เช่าอาศัยอยู่มาประมาณ 1 ปีกว่าที่ผ่านมาจ่ายค่าเช่าปกติ แต่ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาผู้เช่าได้หายไปหลายวัน จนมาเจอห้องสภาพนี้ สุดท้ายนี้ตนอยากฝากถึงผู้เช่าว่า อย่าไปทำแบบนี้กับใคร.Patamavadee Rattanaliam | เปิดใจเจ้าของห้องเช่า เข่าอ่อนแทบทำอะไรไม่ถูก หลังผู้เช่าหายทิ้งห้องสกปรก กองขยะสุมเต็มห้องแทบไม่มีที่เดิน เผย คนเช่าเป็นวัยรุ่น ภายนอกปกติทุกอย่างจนไม่เอะใจ | ข่าว,สังคม | ห้องสกปรก,ห้องรก,ห้องเช่า,เจ้าของห้องเช่า,คนเช่าหนี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1782756 |
เตรียมลุ้นผลใช้น้ำมันกัญชา อ.เดชา 25 ธ.ค. | วันนี้ (2 ธ.ค.2562) นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ประชุมเชิงปฏิบัติการสื่อสารนโยบาย พร้อมชี้แจงแผนงานการขับเคลื่อนงานการแพทย์แผนไทยให้กับส่วนภูมิภาคว่า ขณะนี้ได้เปิดให้บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทยทั้งหมด 24 แห่ง ให้บริการตำรับยาศุขไสยาศน์ ในกลุ่มอาการนอนไม่หลับ และตำรับทำลายพระสุเมรุ ในผู้ป่วยอัมพฤกษ์-อัมพาต อาการเกร็งกล้ามเนื้อ แขนขาอ่อนแรง รวมมีผู้มาใช้บริการแล้วกว่า 1300 คน และอยู่ระหว่างผลิตเพิ่มอีก 2 ตำรับ ได้แก่ ตำรับแก้ลมแก้เส้น และตำรับริดสีดวงทวารภาพ : กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกส่วนน้ำมันกัญชาสูตร นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ มีผู้ป่วยได้รับน้ำมันกัญชาแล้วกว่า 1000 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามลักษณะการใช้ และประเมินผลอาการจากการติดตามอาการผู้ป่วยที่ได้รับยากัญชาทางแพทย์แผนไทยทั้ง 2 ตำรับยาพบว่า ส่วนใหญ่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่ประสิทธิผลต่อการรักษาโรคนั้น ยังต้องรอประเมินผลอีกครั้งก่อน เนื่องจากยังอยู่ในระยะแรกของการให้ยา เช่นเดียวกับน้ำมันกัญชาของนายเดชา ศิริภัทร คาดว่าจะสามารถวิเคราะห์ผลการใช้ยาได้ในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ภาพ : กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกสำหรับเป้าหมายในปี 2563 ตั้งเป้าขยายการให้บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์ให้ได้ 110 แห่ง จากที่เปิดบริการแล้ว 25 แห่ง ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมทั้ง พัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่มีความปลอดภัย และศึกษาวิจัยตำรับยาให้เพิ่มขึ้น | อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ ระบุ หลังจ่าย 2 ตำรับยา แผนไทยที่มีกัญชาปรุงผสม พบส่วนใหญ่ผู้ป่วยคุณภาพชีวิตดีขึ้น เตรียมลุ้นผลรักษาโรคจากน้ำมันกัญชาสูตร อ.เดชา 25 ธ.ค.นี้ | สังคม | น้ำมันกัญชา,อ.เดชา,กัญชารักษาโรค,มูลนิธิข้าวขวัญ | https://news.thaipbs.or.th/content/286632 |
กาชาดชวนบริจาคโลหิตเตรียมพร้อมสำรองช่วงสงกรานต์ | วันนี้ (9 เม.ย.2560) นาวาโทหญิงแพทย์หญิงอุบลวัณณ์ จรูญเรืองฤทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า วันหยุดเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จัดกิจกรรมเชิญชวนประชาชนบริจาคโลหิตในโครงการ แล้งนี้ทำดีเพื่อพ่อ สานต่อที่พ่อทำ ด้วยการให้โลหิต ระหว่างวันที่ 10–17 เมษายน 2560 ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถนนอังรีดูนังต์ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย เนื่องจากก่อนวันหยุดเทศกาล โรงพยาบาลต่างๆ จะทยอยขอเบิกโลหิตเพื่อนำไปสำรองในคลังเลือด เพื่อเตรียมความพร้อมหากเกิดความต้องการโลหิตเร่งด่วน รวมทั้งยังคงต้องทำการรักษาผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลอีกด้วย ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จึงต้องจัดหาโลหิต ให้ได้ตามเป้าหมายวันละ 2000 ยูนิต และตามมาตรฐานต้องมีโลหิตสำรองคงคลังวันละ 3000 ยูนิต จึงจะเพียงพอใช้ในการรักษาได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ผู้บริจาคโลหิตในโครงการดังกล่าว จะได้รับ เสื้อยืดสีขาว มีเลข ๙ ไทย ตรงหน้าอกด้านซ้าย เป็นที่ระลึก บริจาคโลหิตได้ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ ดังนี้ วันที่ 10 เมษายน 2560 เวลา 08.00-16.30 น. วันที่ 11-12 เมษายน 2560 เวลา 07.30-19.30 น. และวันที่ 13-17 เมษายน 2560 (วันหยุดสงกรานต์) เวลา 08.30-15.30 น.ส่วนภูมิภาค จัดโครงการฯ พร้อมกันทั่วประเทศ 12 แห่ง ได้แก่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ จ.ชลบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช สงขลา ภูเก็ต และงานบริการโลหิต สถานีกาชาดหัวหินเฉลิมพระเกียรติ จ.ประจวบคีรีขันธ์ สอบถามวันเวลารับบริจาคโลหิตได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์และจัดหาผู้บริจาคโลหิต ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย โทร.0 2256 4300 0 2263 9600-99 ต่อ 1101 | สภากาชาดไทยชวนบริจาคโลหิตเตรียมพร้อมสำรองช่วงสงกรานต์ในโครงการ แล้งนี้ทำดีเพื่อพ่อ สานต่อที่พ่อทำ ด้วยการให้โลหิต วันที่ 10–17 เมษายน 2560 โดยผู้บริจาคโลหิตจะได้รับ เสื้อยืดสีขาว มีเลข ๙ ไทย ตรงหน้าอกด้านซ้าย เป็นที่ระลึก | สังคม | ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,กาชาด,ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ,สภากาชาดไทย,บริจาคโลหิต,สงกรานต์,แล้งนี้ทำดีเพื่อพ่อ สานต่อที่พ่อทำ ด้วยการให้โลหิต,เสื้อยืดสีขาว | https://news.thaipbs.or.th/content/261501 |
ผัวใหม่หึงบุกแทง หนุ่มกู้ภัยบาดเจ็บ | มือมีดระงับอารมณ์ไม่อยู่ ขี่รถ จยย.พาพวกบุกมาหาถึงหน้าบ้าน พอเห็นเหยื่อเดินออกจากบ้าน ปรี่เข้าหาไม่พูดพร่ำทำเพลงชักมีดจ้วงแทงท้อง 1 แผลแล้วเผ่นหนี,พิษรักแรงหึงหนุ่มกู้ภัยถูกสามีใหม่ของอดีตภรรยาเลิกลากันกว่า 5 ปี บุกแทงปางตายรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 22 ก.ย. พ.ต.ท. สมนึก มุมทอง สว. (สอบสวน) สภ.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี รับแจ้งว่ามีเหตุแทงกันบาดเจ็บหน้าบ้านเลขที่ 60/34 หมู่ 3 ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี นำกำลังและเจ้าหน้าที่มูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ รุดไปสอบสวน,ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว พบนายวรชัย สุขภิรมย์ อายุ 27 ปี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ ถูกแทงด้วยมีดเข้าสีข้างซ้ายนั่งกุมแผลอยู่กับพื้นหน้าบ้าน แจ้งว่าคนร้ายชื่อนายสุกรี เจริญศักดิ์ อายุ 26 ปี บ้านอยู่ย่านท้ายบ้าน อ.เมืองชลบุรี เป็น สามีของอดีตภรรยาของตน ขี่รถ จยย.ฮอนด้าดรีมซุปเปอร์คัพ สีฟ้า-ขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนหลบหนีไปพร้อมกับเพื่อนอีก 1 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัย รีบห้ามเลือดทำแผลนำคนเจ็บส่ง รพ.เอกชล 2,สอบสวนนางกุลทนันท์ โพน้อย อายุ 50 ปี แม่คนเจ็บ ให้การว่า ชนวนเหตุลูกชายถูกบุกแทง ครั้งนี้น่าจะมาจากเรื่องหึงหวง ชนวนเหตุน่าจะเป็น น.ส.โม อายุ 26 ปี อดีตภรรยาของลูกชาย ซึ่งเลิกลากันไปตั้งแต่ช่วงที่ลูกชายติดเกณฑ์ทหารเมื่อปี 2556 ทราบว่าลูกชายกับนายสุกรี มือมีดทะเลาะกันทางโทรศัพท์มาระยะหนึ่งแล้วแต่ไม่คิดว่าจะมีอะไรรุนแรง เพราะลูกชายกับ น.ส.โมไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้ว,แม่เหยื่อมีดให้การอีกว่า ก่อนเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมงทั้งคู่ทะเลาะท้าทายกันทางแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก เมสเซนเจอร์ จากนั้นลูกชายตัดการติดต่อแต่งตัวเตรียมไปทำงาน พอเดินออกจากบ้าน นายสุกรีขี่รถ จยย.มีเพื่อนนั่งซ้อนท้ายมาจอดขวางหน้า แล้วลงจากรถปรี่เข้าหาลูกชาย พร้อมชักมีดจ้วงแทง 1 ครั้ง แล้วขี่หลบหนี โดยที่ไม่มีการทะเลาะด่าทอ หรือต่อสู้กันแต่อย่างใด ตำรวจจะติดตามจับกุมมือมีดมาดำเนินคดีต่อไป | หนุ่มกู้ภัยหวิดสิ้นชื่อถูกผัวใหม่ของอดีตภรรยาบุกกะซวกท้องปางตาย หลังมือมีดโทรศัพท์หาเรื่องทะเลาะเพราะหึงหวง แชตเคลียร์ข้อข้องใจทางแอป เฟซบุ๊กเมสเซนเจอร์ เกิดการท้าทายเยาะเย้ยกัน | ข่าว,ทั่วไทย | กู้ภัย,บุกแทง,พิษรักแรงหึง,หนุ่มกู้ภัย,คนร้าย,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1666503 |
สุดทนรัวพรุนลูกทรพี เมายาจะทําร้ายพ่อ | ซัด2ชุดด้วยปืน.38ก่อนมอบตัวกับตร.,ฆ่าทิ้งลูกชายทาสยานรก พ่อวัย 77 ปี คว้าปืน .38 กระหน่ำยิงร่างพรุน 9 นัด ดับอนาถคาบ้านแล้วยืนถือปืนรอมอบตัว ยอมรับสิ้นลูกชายติดยาบ้ารุนแรงและมีนิสัยก้าวร้าว หลังมึนเมามักทำร้ายคนในบ้าน แม้กระทั่งพ่อแม่ก็ยังไม่เว้นแถมเคยเมาเผาบ้านเคราะห์ดีช่วยกันดับได้ทัน ล่าสุดเพิ่งออกมาจากคุกได้ไม่ถึงปีกลับมาเสพยาอีก ก่อนจบชีวิตเมายาล็อกคอจะทำร้ายอีก พ่อเลยจำใจตัดสินปัญหาด้วยความตาย,พ่อสุดทนคว้าปืนยิงทิ้งลูกชายทาสยานรกรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 ธ.ค. พ.ต.อ.กุลชาติ กุลชัย ผกก.สภ.บ่อทอง จ.ชลบุรี เรียกประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีที่นายยนต์ คุ้มพรม อายุ 77 ปี ใช้ปืนลูกโม่กระหน่ำยิงนายวายุ คุ้มพรม อายุ 36 ปี ลูกชายเสียชีวิตคาบ้านเมื่อค่ำวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบสำนวนการสอบสวน และวางแนวทางการรวบรวมพยานหลักฐาน เนื่องจากหลังก่อเหตุนายยนต์ ผู้เป็นพ่อยืนถือปืนทูตมรณะรอมอบตัว ในที่ประชุม พ.ต.อ. กุลชาติ สั่งให้พนักงานสอบสวนนำศพส่ง รพ.ชลบุรี เพื่อผ่าพิสูจน์ศพตามขั้นตอน ส่วนหัวกระสุนปืน พร้อมปืนของกลาง นำส่งกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ให้แน่ชัดอีกครั้ง,คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. ร.ต.อ.เดชา ใจคำ รอง สว. (สอบสวน) สภ. บ่อทอง รับแจ้งจากศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างเหตุบ้านทุ่งเหียงพนัสนิคมว่า มีเหตุยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 8 ต.บ่อกวางทอง จึงพร้อม พ.ต.อ.กุลชาติ กุลชัย ผกก.นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.บ่อทอง เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูน บริเวณระเบียงหน้าบ้านชั้นล่าง พบศพนายวายุ คุ้มพรม นอนหงายจมเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืน .38 เข้าลำคอ 2 นัด หน้าท้อง 6 นัด และชายโครง 1 นัด รวม 9 นัด เลือดทะลักจำนวนมาก ตรวจที่เกิดเหตุพบกระสุนพลาดไปโดนโทรศัพท์มือถือของผู้ตายพังเสียหาย ข้างศพพบปลอกกระสุนตกอยู่เกลื่อน 11 ปลอก โดยมีนายยนต์ คุ้มพรม เจ้าของบ้านและพ่อผู้ตาย ยืนถือปืนรอมอบตัวอยู่ในบ้าน จึงคุมตัวไปสอบสวนที่โรงพัก,จากการสอบปากคำนายยนต์ให้การยอมรับสิ้นว่า ผู้ตายติดยาเสพติดรุนแรง มักมีนิสัยก้าวร้าว ชอบด่าทอทำร้ายคนในบ้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อและแม่ ก่อนหน้านี้เคยเผาบ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่โชคดีที่ช่วยกันดับไว้ทัน ล่าสุดผู้ตายเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติด ออกมาจากเรือนจำได้ยังไม่ถึงปี หลังออกจากคุกไม่กี่วันก็หันไปเสพยาบ้าอีก พอมึนเมาก็ทำร้ายคนในบ้านเหมือนเดิม ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเมายาด่าทอตนและใช้มือค้ำคอจะต่อย ตนสุดจะทนกับพฤติกรรมของลูกชาย วิ่งไปคว้าปืนในห้องนอนออกมากระหน่ำยิงจนหมดโม่ชุดแรก 6 นัด โหลดกระสุนใหม่ยิงซ้ำเสียชีวิตดังกล่าว จึงแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา นำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมาย,พ.ต.อ.กุลชาติ กุลชัย ผกก.เผยว่า คดีดังกล่าวไม่มีอะไรซับซ้อนเนื่องจากผู้ต้องหารอมอบตัวและให้การรับสารภาพสิ้น ในที่ประชุมจึงสั่งให้พนักงานสอบสวนนำศพส่งไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ.ชลบุรี และให้นำหลักฐานอาวุธปืน ปลอกกระสุนปืน เขม่าดินปืน ส่งไปตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐาน ต้องรอผลตรวจอีกระยะหนึ่ง ส่วนตัวผู้ต้องหานั้นเป็นผู้สูงอายุ มีอาชีพทำสวนยางพาราสวนผลไม้ มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งไม่มีพฤติการณ์ส่อไปในทางจะหลบหนี หลังสอบสวนอย่างละเอียดทุกขั้นตอน จึงได้ปล่อยตัวชั่วคราวไปก่อน | ฆ่าทิ้งลูกชายทาสยานรก พ่อวัย 77 ปี คว้าปืน .38 กระหน่ำยิงร่างพรุน 9 นัด ดับอนาถคาบ้านแล้วยืนถือปืนรอมอบตัว ยอมรับสิ้นลูกชายติดยาบ้ารุนแรงและมีนิสัยก้าวร้าว หลังมึนเมามักทำร้ายคนในบ้าน | ข่าว,ทั่วไทย | พ่อยิงลูก,ลูกติดยาบ้า,ทาสยาบ้า,ชลบุรี,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1436363 |
ฝ่ายจัดแข่งยูเอสโอเพ่นยันพร้อมจัดแข่งขันตามกำหนดเดิม | หลังจากที่ความรุนแรงของพายุเฮอร์ริเคนไอรีน ได้สร้างความเสียหายเป็นอย่างมากในพื้นที่ชายฝั่งของกรุงนิวยอร์ค อย่างไรก็ตาม ฝ่ายจัดการแข่งขันเทนนิสยูเอส โอเพ่น แกรนด์สแลมป์รายการสุดท้ายของปี เปิดเผยว่า ฟลัชชิ่ง มีโดวส์ สนามซึ่งใช้ทำการแข่งขันโชคดีที่รอดพ้นจากพายุเฮอร์ริเคน ไอรีน และได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้นโดยเวลานี้ฝ่ายจัดการแข่งขันได้เข้าไปดูแลความเรียบร้อยของสนามในส่วนที่ได้รับความเสียหายแล้ว และเทนนิสยูเอสโอเพ่นจะเริ่มแข่งขันตามกำหนดเดิมคือในคืนวันนี้ โดยคู่แรกจะเริ่มแข่งในเวลา 01.00 น. ส่วนนักเทนนิสไทยที่ลงแข่งขันในรายการนี้ รอบแรก แทมมี่ แทมมารีน ธนสุกาญจน์ จะพบกับ คาเอีย คาเนปิ มือ 31 ของรายการจากเอสโตเนีย ส่วน น้องนก นพวรรณ เลิศชีวกานต์ จะพบกับ อนาสตาซิย่า ยาคิโมว่า นักเทนนิสจากเบลารุสส่วนการแข่งขันเทนนิสช้างแซท แบงคอก โอเพ่น 2011 ที่สนามโรงแรมรามาการ์เด้น ซึ่งเป็นการแข่งขันเทนนิสอาชีพที่มีการเก็บคะแนนสะสมอันดับโลก ชายเดี่ยวรอบแรก ก้องภพ เลิศชัย มือไวล์ดการ์ดดาวรุ่งวัย 18 ปี เจอกับ ปีแอร์ ลูโดวิช ดักลอส จากแคนาดา นักเทนนิสไทยยังขาดประสบการณ์ในระดับอาชีพทำให้แพ้ขาดลอย 1-6 และ 2-6 ตกรอบแรก ขณะที่ดนัย อุดมโชค รวมถึงสนฉัตร สรรค์ชัย มีโปรแกรมลงสนามในวันพรุ่งนี้ | ฝ่ายจัดการแข่งขันเทนนิสยูเอสโอเพ่นยืนยันพร้อมที่จะจัดการแข่งขันขึ้นตามกำหนดเดิมในคืนวันนี้ หลังสนามแข่งขันได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากพายุเฮอร์ริเคน ไอรีน | กีฬา | ฝ่ายจัด,พายุ,ยูเอสโอเพ่น,สนาม,เทนนิส,เฮอร์ริเคน,แข่งขัน,ไอรีน | https://news.thaipbs.or.th/content/30871 |
แล้งวิกฤติ พืชตายยืนต้น เร่งสูบน้ำช่วยเหลือ ชาวบ้านนางรอง-หนองโบสถ์ | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2559 เจ้าหน้าที่ อบต.นางรอง นำโดย พ.จ.อ.ไพรินทร์ เสาว์โร เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำรถดับเพลิง ขนาด 6,000 ลิตร สูบน้ำจากสถานีผลิตจ่ายน้ำบ้านหนองโบสถ์ การประปาส่วนภูมิภาค สาขานางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ส่วนใหญ่เป็นน้ำที่สูบมาจากลำปลายมาศ,ทั้งหมดนี้ก็เพื่อมาช่วยเหลือชาวบ้านที่ หมู่ 10 บ้านหนองตาโรง ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่ประสบภัยแล้ง น้ำในบ่อน้ำแห้งขอดติดก้นสระ ผลผลิตทางการเกษตร พืชผัก อาทิ พริก บวบ ใบกะเพรา ยืนต้นตายเพราะขาดน้ำ จนท.นำน้ำใส่บ่อพักน้ำขนาด 7.5 คิวหรือ 750,000 ลิตร จำนวน 4 เทียว หรือประมาณ 24,00 ลิตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเบื้องต้น ท่ามกลางชาวบ้านที่นำถังน้ำมารอใส่น้ำ,นายสมยศ แสนตื้อ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านสำโรง ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เผย รายได้ของชาวบ้านหลังจากทำนาคือปลูกผักสวนครัวเป็นหลัก เช่น พริก เก็บขายได้ 2,500-3,000 บาท ต่อการปลูกแต่ละครั้ง แต่เมื่อไม่มีน้ำต้องงดปลูกผักทั้งหมู่บ้านทำให้ขาดรายได้สำหรับเตรียมให้ลูกหลานในช่วงเปิดเทอม ชาวบ้านเดือดร้อนกันมาก,ด้าน พ.จ.อ.ไพรินทร์ เสาว์โร เจ้าพนักงาน เผย ทาง อบต.ต้องแจกน้ำชาวบ้านทุกวันในแต่ละหมู่บ้านเพราะสระในหมู่บ้านน้ำแห้งหมด, ,เครดิตภาพและข่าวจาก เกล้า ประภาพร นโรปการณ์ ขทร. อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ | แล้งวิกฤติ! พืชตายยืนต้น เร่งสูบน้ำกว่า 6,000 ลิตร ไปช่วยเหลือ ชาวบ้านนางรอง และบ้านหนองโบสถ์ จ.บุรีรัมย์ บรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ประชาชนดีใจนำถังมารอต่อแถวใส่น้ำไว้ดื่มใช้ | null | น้ำแล้ง,น้ำขาดแคลน,วิกฤตน้ำ,ชาวบ้านขาดน้ำ,ช่วยเหลือชาวบ้าน,พืชตายยืนต้น,หนองโบสถ์,นางรอง,การประปาส่วนภูมิภาค,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/594709 |
เสริมอึ๋มอัพไซส์ สุดท้ายนมเน่า หมอไม่เก่ง คลินิกไร้มาตรฐาน หรืองานถูก? | อยากจะตาโต จมูกโด่ง นมใหญ่ ก็แค่หาข้อมูลคลินิก หรือโรงพยาบาลศัลยกรรมดีๆ ที่มีทีมแพทย์มือฉมัง จ่ายเงินเนรมิตความต้องการให้ออกมาสวยสมใจนึก,และถ้าอะไรๆ มันง่ายขนาดนั้นคงดี ทำทีเดียวเป๊ะ สวยเปลี่ยน ไม่เกิดปัญหา ไม่ต้องผ่าแก้ แต่ที่เห็นเป็นข่าวดังขึ้นหน้าหนึ่งอยู่ตลอดทั้งปี เพราะผู้ใช้บริการเลือกคลินิกศัลยกรรมผิดพลาด ไม่ได้มาตรฐาน หรือดำเนินงานโดยหมอเถื่อน ? อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องศึกษาหาข้อมูลก่อนตัดสินใจทำ โดยเฉพาะการศัลยกรรมหน้าอก เสริมอึ๋มให้ใหญ่ ปัญหาระดับโลกของสาวๆ สมัยใหม่ที่ นมเล็ก ,เลือกแพทย์ เลือกคลินิกศัลยกรรมอย่างไร ไม่เสี่ยงก่อให้เกิดความผิดพลาด หมดปัญหา นมติดเชื้อ นมเน่า นม 2 ข้างใหญ่ไม่เท่ากัน วันนี้ ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ สัมภาษณ์แพทย์ศัลยกรรมเฉพาะทาง เชี่ยวชาญด้านการเสริมทรวงอกจากคุณหมอกิตติ์ อเมทิส คลินิก ศัลยกรรมความงามทรวงอก ,- กว่าจะเป็นแพทย์ศัลยกรรม - ,หลายๆ คนอาจไม่ทราบว่า กว่าจะเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งได้ จำเป็นต้องผ่านการฝึกอบรมอย่างหนักขนาดไหน? โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 ทางแพทยสภาได้เห็นชอบกับทางสมาคมฯ ทำการเปลี่ยนข้อบังคับ ดังนั้นผู้ที่อยากจะเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งต้องผ่านการฝึกอบรมในสาขาศัลยศาสตร์ทั่วไปเสียก่อน โดยผู้เข้ารับการฝึกอบรม ต้องผ่านการฝึกอบรมสาขาศัลยศาสตร์ทั่วไปอย่างสมบูรณ์เป็นเวลา 3 ปีเต็ม,นั่นหมายความว่า จะต้องมีการศึกษาและประสบการณ์การผ่าตัดในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับศัลยศาสตร์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น การดูแลคนไข้หนักทางศัลยกรรม การผ่าตัดช่องท้อง พวกกระเพาะอาหาร ไส้ติ่ง ลำไส้เล็ก สำไส้ใหญ่ ตับ ม้าม การผ่าตัดทรวงอกทั้งหัวใจและปอด การผ่าตัดเส้นเลือดทั่วร่างกาย การผ่าตัดบริเวณต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งลำคอ ต่อมไทรอยด์ หลังจากนั้น ผู้เข้ารับการฝึกอบรมจึงจะมีสิทธิ์เข้ารับการฝึกอบรมในสาขาศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้างอีก 2 ปี,ซึ่งจะมีการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติโดยการผ่าตัด ซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ผิดปกติไปทางเชิงรูปร่าง อันจะนำไปสู่ความสามารถในการผ่าตัดเสริมสวยในเวลาต่อมา การฝึกอบรมทางด้านศัลยศาสตร์ทั่วไปมีการเปลี่ยนแปลงกลายเป็น 4 ปี ทำให้การเรียนต่อเพื่อเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งยาวนานขึ้น กลายเป็น 6 ปี กระทั่ง เมื่อปี พ.ศ. 2551 ทางสมาคมฯ ได้ขอปรับเปลี่ยนระยะเวลาการฝึกอบรมอีกครั้งหนึ่ง โดยให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมต้องผ่านสาขาศัลยศาสตร์ทั่วไปเพียง 2 ปี แล้วผ่านสาขาศัลยศาสตร์ตกแต่ง 3 ปี ทำให้ระยะเวลารวมเป็น 5 ปี,- เช็กรายชื่อศัลยแพทย์ตกแต่งอย่างไร ไม่โดนหมอเถื่อนหลอก? - ,ตามจังหวัดใหญ่ๆ ในหัวเมืองต่างๆ ละลานตาเต็มไปด้วยคลินิกเสริมความงามศัลยกรรมตกแต่ง อาจจะยากตรงที่ผู้เข้ารับบริการบางรายไม่ใช้เวลาหาข้อมูลให้ถี่ถ้วน เลือกทำกับคลินิกที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในพื้นที่ หรือราคาถูก โดยอาจไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือผลลัพธ์ที่อาจจะตามมา เหตุนี้เองทำให้เรื่องราวบานปลายกลายเป็นความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับสภาพร่างกายและจิตใจ เพราะผู้เข้ารับบริการ ไม่ละเอียดรอบคอบในการตรวจสอบรายชื่อ ที่มาแพทย์ศัลยกรรม,ผู้ใช้บริการสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อแพทย์จากฐานข้อมูลแพทย์สภา ที่เว็บไซต์ ,ตรวจสอบรายชื่อ ,ก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ ทางที่ดีที่สุด ควรจะทำกับคุณหมอที่ได้รับการอบรม เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง ต้องเป็นหมอศัลยกรรมตกแต่งโดยตรง และต้องคำนึงถึงมาตรฐานของอุปกรณ์ ความสะอาดของสถานที่หรือคลินิกด้วย,- จบด้านอื่น แอบอ้างเป็นหมอศัลยกรรม - ,อย่างที่ข้อมูลระบุไปแล้วว่า แพทย์มีหลายสาขา ดังนั้นแพทย์ที่ไม่ได้จบโดยตรงด้านศัลยกรรมมา ก็มีไม่น้อยที่แอบแฝงอยู่ตามคลินิกต่างๆ ให้บริการเสริมความงาม ซึ่งถือว่าใช้ใบวิชาชีพผิดประเภท นอกจากนี้ ยังมีพวกบรรดาหมอกระเป๋า หรือหมอเถื่อน อาศัยวิชาครูพักลักจำ อาจจะเคยทำงานร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาก่อน ประสบการณ์ที่ได้สามารถนำมาพัฒนาเรียนรู้ด้วยตัวเอง ก่อนแอบแฝงเปิดคลินิกหากิน หลอกลวงผู้ใช้บริการ จึงไม่แปลกที่เกิดปัญหาบานปลายตามมา ,- สาเหตุปัญหา อันตราย นมเน่า นมแตก นมติดเชื้อ -,หัตถการที่ต้องเสริมวัสดุการแพทย์เข้าไปมีความเสี่ยงอยู่แล้ว หากผู้รับบริการไม่ได้ทำกับศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีความชำนาญ อัตราความเสี่ยงสูงมาก เพราะแพทย์เถื่อนเหล่านี้ นอกจากจะไม่มีทักษะความรู้แม้กระทั่งขั้นพื้นฐาน อาจทำให้อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือไม่ได้มาตรฐาน ติดเชื้อระหว่างการผ่าตัด รวมไปถึงซิลิโคนที่ใช้ต้องได้มาตรฐาน ผ่านการตรวจสอบ,สาเหตุที่กล่าวมาข้างต้น ส่งผลให้ นมเน่า นมติดเชื้อ นมแตก ได้ทั้งนั้น ในส่วนของนมไม่เท่ากัน เราต้องเข้าใจก่อนว่า นมของมนุษย์เราทั้ง 2 ข้าง ไม่เท่ากันอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อต้องการเสริมนมใหม่ ลักษณะขนาดต้องตรวจวัดให้ดี เลือกซิลิโคนให้เหมาะสมในแต่ละข้าง ที่สำคัญควรเลือกใช้ซิลิโคลนที่มีคุณภาพดี สอดรับกับสภาพร่างกายของผู้เข้ารับบริการด้วย ,- การเลือกขนาดสำหรับคนที่อยากเสริมหน้าอก -,หลักการเสริมหน้าอก คือการแก้ปัญหาเรื่องของขนาด และการแก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยในระดับน้อยๆ ดังนั้นการเลือกขนาดซิลิโคนเสริมหน้าอก ขึ้นอยู่กับความกว้างของตัวคนไข้ เบื้องต้นควรบอกความต้องการ ว่าอยากได้เพิ่มจากของเดิมประมาณเท่าไร ทั้งนี้หมอต้องดูต้นทุนตัวลักษณะหน้าอกเดิม ว่ามีขนาดประมาณเท่าไร,ดังนั้นซิลิโคนที่ใช้ก็ต้องเลือกตามปัจจัยพื้นฐานลักษณะของเนื้อหน้าอก ความกว้างของตัวหน้าอก ซึ่งเราจะต้องเอาไปสัมพันธ์กันกับขนาดของตัวซิลิโคนที่เราเอาไปใช้ได้ เพื่อกันฐานของซิลิโคนไม่ให้มันล้มไปด้านข้าง และมีขนาดที่สวยงามเหมาะสม ,โดยส่วนใหญ่เราควรใช้ซิลิโคนที่ผ่านการรับรองคุณภาพ ในเมืองไทยก็ต้องผ่านการตรวจสอบจาก อย. แต่ถ้าในต่างประเทศก็เป็นมาตรฐานของต่างประเทศ อย่างพวก MBA ฉะนั้นมันเป็นสิ่งที่เราควรรู้ว่าจะใช้อะไร แบบไหน ทางคลินิกจะต้องเป็นคนบอกว่าเราใช้ซิลิโคนแบบไหน ซึ่งเราสามารถสอบถามทางคลินิกได้,- โอกาสในการติดเชื้อมีมาก ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญที่สุด -,การติดเชื้อมีโอกาสเกิดขึ้นสูง เมื่อไหร่ที่เราใช้วัสดุทางการแพทย์ วัสดุพวกนี้มันไม่ใช่เนื้อเยื่อเรา สิ่งที่เราจะป้องกันได้คือต้องลดการปนเปื้อนให้น้อยที่สุด หรือไม่ให้มีการปนเปื้อนกับแบคทีเรียที่อยู่ในสภาพแวดล้อมเลย แต่ในความเป็นจริงมันไม่มีใครตรวจเช็กได้ ฉะนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ต้องมีการเตรียมอุปกรณ์ฆ่าเชื้อให้สะอาด ประกอบกับเช็กภูมิคุ้มกัน หรือสภาพร่างกายของคนไข้ ว่าเขามีความแข็งแรงแค่ไหน ถึงแม้จะมีการปนเปื้อนอยู่นิดหน่อย แต่ตามกระบวนการของร่างกายก็สามารถกำจัดได้ ,- รู้ตัวว่าติดเชื้อควรทำอย่างไร? - ,จะต้องเอาวัสดุออกโดยทันที และรอระยะเวลาพักนานมากกว่า 6 เดือน จากนั้นคอยดูอาการ เพื่อให้ร่างกายมันฟื้น หากยังอยากจะเสริมขนาดหน้าอก ต้องอยู่ในการพิจารณาของแพทย์ว่าควรเสริมต่อไปหรือไม่ อย่างไร ที่ผ่านมา หากสงสัยว่าจะมีการติดเชื้อ แพทย์ต้องทำการส่งเพาะเชื้อ เพื่อพิสูจน์ร่วมกับเอาวัสดุออก แพทย์บางราย เลือกรักษาโดยการยื้อ ให้ยาค่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะ ซึ่งส่วนใหญ่ ถ้าเป็นการรักษาหน้าอก มักจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เพราะมันเป็นวัสดุขนาดใหญ่ มีโครง และอาจจะเป็นอันตรายมากกว่า ,- ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของหมอ เป็นเรื่องสำคัญ - ,นอกจากแพทย์ต้องจบด้านศัลยกรรมโดยตรงแล้ว ประสบการณ์ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก รู้ทฤษฎี ต้องเข้าใจในด้านการปฏิบัติ และมีศิลปะที่จะทำให้ความสวยงามก่อกำเนิดขึ้น สร้างความประทับใจให้ผู้ใช้บริการ ดังนั้นเรื่องของประสบการณ์จึงมีผล ลดความเสี่ยง อันตราย ติดเชื้อไปได้เยอะ,- จำเป็นมั้ยที่ว่า ทำนมออกมาสวยและดี ต้องจ่ายราคาแพงเสมอไป - ,ขึ้นอยู่กับมาตรฐานให้บริการ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ว่ามีคุณภาพ และราคาสูงแค่ไหน คลินิกศัลยกรรม หรือโรงพยาบาลต่างๆ คิดค่าบริการเท่าไร? ของแพงไม่จำเป็นต้องดีเสมอไป ส่วนของถูก ก็ใช่ว่าเป็นของไม่ดี หากตัดสินใจจะทำแล้ว ควรหาข้อมูลเบื้องต้นที่เกริ่นนำมาทั้งหมด อยากให้ผู้ใช้บริการคำนึงถึงความปลอดภัย ออกมาสวยงาม ไม่มีปัญหาการติดเชื้อภายหลัง มากวัดกันที่มาตรฐานราคาว่า ถูกหรือแพง จึงจะดีกว่ากัน | ถ้าคุณรู้สึกไม่พอใจ กับอวัยวะที่พ่อแม่สร้างให้ตั้งแต่กำเนิดเกิดมา ใช่ว่าจะเป็นปัญหาใหญ่ เพราะเทคโนโลยีความทันสมัยด้านศัลยกรรมตกแต่งในประเทศไทยก็พัฒนารุดหน้าไปไกล | ข่าว,ทั่วไทย | ศัลยกรรม,ทำนม,นมเน่า,นมใหญ่,ข่าวร้อน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1437106 |
ชาวบ้านบ่อแก้ว บอกประยุทธ์หากจริงใจยกเลิก แผนแม่บทป่าไม้ฯ ก่อน | ตามรายงานข่าวของ เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2558 ภายหลังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ว่า ไม่ต้องการเอาที่ดินคืน แต่ต้องการจัดระเบียบใหม่ ซึ่งหากทุกคนเรียกร้องจะเอาแต่โฉนด ให้ไปกี่ครั้งก็นำไปขาย จากคำให้สัมภาษณ์นี้ กลายเป็นประเด็นสำคัญของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบในเรื่องที่ดินทำกิน ย้อนกลับมาตั้งคำถามกันต่อไปว่า คำพูดของนายกรัฐมนตรี จะมีความจริงจังมากน้อยเพียงใดเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2558 สำนักข่าวปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน ได้ลงพื้นที่ชุมชนบ่อแก้ว ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในพื้นที่ที่ถูกผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่า เพื่อสอบถามความความเห็นของชาวบ้านต่อกรณีการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีนิด ต่อทุน ตัวแทนชุมชนและประธานโฉนดชุมชนบ่อแก้ว กล่าวว่า ในฐานะที่พลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อพูดออกมาแล้วจะต้องไม่กลับคำพูด แต่ทั้งนี้ ก็ยังไม่มีความแน่ใจว่า จัดระเบียบใหม่ นั้นหมายถึงอะไร ซึ่งมีข้อสังเกตว่า จะเป็นการนำ มติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 ที่สนับสนุนให้เพียงเจ้าหน้าที่ป่าไม้ผูกขาดอำนาจการจัดการป่าอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด โดยขาดการส่วนร่วมของชุมชนมีอีกหรือไม่ และหากเป็นเช่นนั้นจริง ทั้งชุมชนบ่อแก้ว และพื้นที่ชุมชนอื่นๆ ต่างยืนยันไม่เห็นด้วยกับการจัดระเบียบใหม่ ที่อาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานภาครัฐ เหมือนที่เคยเป็นมาอีกแน่นอนประธานโฉนดชุมชน เพิ่มเติมอีกว่า โฉนดชุมชนเป็นสิ่งที่พวกเราร่วมผลักดันกันมาอย่างต่อเนื่อง เพราะการบริหารจัดการที่ดินในรูปแบบโฉนดชุมชน เป็นสิทธิร่วมกันของชุมชนที่ให้สมาชิกใช้ที่ดินเพื่อทำการเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัยเท่านั้น ทั้งมีกฎระเบียบกติกา มีแผนการใช้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น ที่ดินไม่สามารถขายแก่บุคคลภายนอกได้ นอกจากขายให้กับชุมชนหรือสมาชิก และสมาชิกจะปลูกพืชชนิดใดต้องนำเสนอและได้รับความเห็นชอบจากกลุ่ม และต้องเป็นเกษตรกรรมอินทรีย์ เป็นต้น ซึ่งโฉนดชุมชนจะต่างจากโฉนดที่เป็นกรรมสิทธิ์เอกชน ดังนั้นชาวบ้านไม่เอาที่ดินไปขายตามที่ท่านกังวลใจ เพราะพวกเราต่างยึดถือกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ดังที่ปฏิบัติกันมาอยู่เสมอสิ่งที่ท่านนายกฯ พูดออกสื่อ ถือเป็นประเด็นสำคัญมาก เพราะการฉวยโอกาสแย่งชิงทรัพยากรจากภาครัฐ ยังมีการสืบทอดอย่างไม่ขาดสาย และหากจริงใจที่ไม่ต้องการเอาที่ดินคืน หรือพูดภาษาบ้านๆ ว่า จะไม่มีการไล่รื้อ ไม่มีโครงการเข้ามาอพยพพวกเราออกไปไหนอีก พวกเราจะได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติสุขเสียที ไม่ต้องคอยกังวลใจว่ารัฐจะมีแผนปฏิบัติการมาไล่รื้ออีก ที่ผ่านมาพวกเราถูกจำกัดสิทธิการถือครองที่ดินทำกินมาโดยตลอด ทำให้ขาดความต่อเนื่องและไม่มีความยั่งยืน จึงอยากเรียนว่า ขอให้ท่านนายกฯ มีหนังสือคำสั่งไปยังหน่วยงานในพื้นที่ด้วยว่า ให้ยกเลิกทุกอย่าง เช่น คำสั่ง คสช.ที่ 64/57 แผนแม่บทป่าไม้ฯ หรือนโยบายทวงคืนผืนป่า เพื่อป้องกันสิ่งที่จะสร้างปัญหาผลกระทบต่อผู้เดือดร้อนต่อไปอีก ตัวแทนชุมชนบ่อแก้ว กล่าวทิ้งท้าย | ชาวบ้านชุมชนบ่อแก้ว โต้กลับหลังนายกยืนยันไม่ได้ต้องการยึดคืนที่ดิน หากจริงใจยกเลิก แผนบทป่าไม้ฯ นโยบายทวงคืนผืนป่า และคำสั่ง 64/2557 ก่อน พร้อมย้ำการจัดระเบียบใหม่ หากชาวบ้านไม่มีเสียง ไม่เอาด้วย | การเมือง,คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,สิ่งแวดล้อม,สังคม | ชุมชนบ่อแก้ว,การไล่รื้อ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ปัญหาที่ดิน,แผนแม่บททรัพยากรป่าไม้ฯ 2557 | https://prachatai.com/journal/2015/12/63185 |
บิ๊กแป๊ะ ยันชัด บังฟัต สุดอำมหิต ยิงเองฆ่ายกครัว 8 ศพ ปมที่ดิน | เมื่อเวลาประมาณ 16.45 น. วันที่ 16 ก.ค. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. แถลงข่าวคดีคนร้ายพร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้าไปบ้านของนายวรยุทธ สังหลัง อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านเขางาม อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เมื่อคืนวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา นำไปสู่การ,ฆ่ายกครัว ,8 ศพ และต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 8 คน ว่า กลุ่มคนร้ายไปที่เกิดเหตุจริง 7 คน และมีผู้เกี่ยวข้อง 2-3 คน เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา 7 คน ส่วนมูลเหตุขัดแย้งเรื่องฝากขายที่ดิน และคนตายกับกลุ่มคนร้ายเคยมีปากเสียงกัน โดยเฉพาะฝากขายที่ดินมีการฟ้องร้องขึ้นศาล ขณะที่เจ้าของรถก่อเหตุจะเกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องเรียกมาสอบ,ทั้งนี้มูลเหตุเนื่องจากผู้ใหญ่บ้านได้นำโฉนดที่ดินมาฝากที่กลุ่มคนร้าย โดยคนร้ายมีความพยายามทำร้าย 2-3 ครั้ง ซึ่งผู้ใหญ่บ้านได้เอาเงินไปไถ่ถอนแล้ว แต่ไม่ได้ที่ดินคืน มีการนำไปจำนำต่อ ซึ่งรายละเอียดตนจะพยายามไม่ตอบ เพราะทุกอย่างอยู่ในสำนวน ก่อนหน้ามีการปากเสียงอาจมีการท้าทายกัน โดยครั้งสุดท้ายได้มีโอกาสจนนำไปสู่การลงมือฆ่า สำหรับคนลงมือลั่นไก เป็นคนคนเดียวกัน ซึ่งพยายามสร้างเรื่องว่าผู้ใหญ่บ้านมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ มีปัญหาเรื่องครอบครัว โดยรถยนต์ยาริสของผู้ใหญ่บ้าน ได้มีการโอนให้คนร้ายก่อนเสียชีวิต ซึ่งเอกสารการโอนรถได้มีการทำลายไปแล้ว โดยคนร้ายพยายามจะก่อเหตุตั้งแต่ปลายปี 59 มีการนำชุดคล้ายทหารไว้เบาะหลังรถ ส่วนหลักฐานได้เจอเมมโมรี่กล้องวงจรปิด โดยนายซูริกฟัต บ้านนบวงศ์สกุล อายุ 41 ปี หรือบังฟัด เป็นตัวการสำคัญ ซึ่งทำอาชีพรับจำนำจำนอง ส่วนแนวทางการสืบสวนของเรายืนยันว่าบังฟัตดำเนินการ ส่วนการว่าจ้างคนอื่นได้ให้เงินครั้งละพันบาท,พร้อมยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับทหารแน่นอน อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งสิ่งที่ตนตอบจากการซักถามเบื้องต้น โดยเมื่อคืนไปยังจุดที่คนร้ายให้การได้หลักฐานเพิ่มเติม อย่างที่นครศรีธรรมราช ได้ปืนมาอีก พร้อมระบุคนลงมือทำคนเดียว เพราะค่อนข้างอำมหิต ทั้งนี้กลุ่มลงมือตนเชื่อว่าต้องโดนประหารอยู่แล้ว ส่วนจะมีคนอยู่เบื้องหลังอีกหรือไม่ อยู่ระหว่างสอบสวน โดยกลุ่มก่อเหตุไม่ใช่ซุ้มมือปืน เป็นเพียงบุคคลธรรมที่ทำอาชีพสวนยาง เป็นอดีตรปภ.ที่บังฟัดจ้างมา โดยคนร้ายตั้งใจมาฆ่า และตั้งใจมาสร้างสถานการณ์ ,สำหรับกลุ่มคนร้ายรับสารภาพทุกคน โดยบังฟัต คิดอยู่คนเดียว ซึ่งผู้เกี่ยวข้องถูกดึงมาในลักษณะถูกหลอก ยืนยันชัดเจนไม่เกี่ยวกับโรงโม่หิน จากหลักฐานยังพบถุงมือ และกุญแจมือ ซึ่งบังฟัตเป็นผู้วางแผนเอง อีกทั้งผู้ใหญ่บ้านก็ขู่ฆ่าล้างโคตรเหมือนกัน โดยมีปัญหาเมื่อปลายปี 59 ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำงานทั้งวันทั้งคืนประมาณ 5 วันจนสามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ จนได้พยานหลักฐานของกลางครบทั้งหมด ทั้งอาวุธที่คนร้ายนำมาใช้ รวมถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ คาดว่าภายใน 4 วันจะออกหมายจับและส่งฟ้องคดีให้เร็วที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องนำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ,นอกจากนี้ยังได้สร้างความเชื่อถือสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งคนไทยและตน รวมถึงนายกรัฐมนตรี ก็มีความรู้สึกกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการกระทำกับเด็ก ซึ่งไม่อยากได้ตัวคนร้ายแบบเป็นด้วยซ้ำไป เพราะไม่มีการยิงต่อสู้ ยืนยันทุกข้อหาจัดเต็มอยู่แล้ว เพราะตนจะเอาถึงประหารชีวิต,ภายหลังแถลงข่าวได้มีประชาชนในพื้นที่ จ.กระบี่ ได้นำกระเช้าดอกไม้มาขอบคุณ พล.ต.อ.จักรทิพย์. | บิ๊กแป๊ะ ตั้งโต๊ะแถลง ยัน บังฟัต ตัววางแผน สุดอำมหิต ลงมือยิงเอง ฆ่ายกครัว 8 ศพ ปมขัดแย้งฝากขายที่ดิน มีปากเสียงตั้งแต่ปลายปี 59 ถึงขั้นขู่ฆ่าล้างโคตร พยายามสร้างเรื่องว่าผู้ใหญ่บ้านมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ลั่นต้องโดนประหาร | ข่าว,อาชญากรรม | ฆ่ายกครัว,ฆ่ายกครัว 8 ศพ,จับมือฆ่ายกครัว,ฆ่ายกครัวผู้ใหญ่บ้านกระบี่,ปมขัดแย้งที่ดิน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1006585 |
ยักแย่ยักยัน | ความจริงหยุดสงกรานต์แค่ 4 วัน แต่ รัฐบาลลุงตู่ สั่งหยุดเพิ่มพิเศษอีก 1 วัน รวมเป็น 5 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้พี่น้องชาวไทยเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดไปฉลองเทศกาลสงกรานต์ตามประเพณีไทยให้สำราญบานใจ,ขอให้ทุกท่านใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง เพื่อให้ถึงที่หมายด้วยความปลอดภัย เมาอย่าขับ ง่วงอย่าขับ เพื่อลดอุบัติเหตุจราจรที่เพิ่มสูงขึ้นๆทุกปีๆ,ส่วนใครจะใช้ช่วงหยุดยาว 5 วัน บินไปท่องเที่ยวต่างประเทศก็ไม่ผิดกติกา,ช่วงหยุดสงกรานต์ปีนี้จะมีคนไทยแห่ไปเที่ยวเมืองนอกกันสะบึมส์,คาดว่าจะมีกองทัพทัวร์ไทยยกโขยงไปชมดอกซากุระบานที่ญี่ปุ่นไม่ต่ำกว่า 2 แสนคน จนสนามบินสุวรรณภูมิแทบแตกแหกกระเจิง,แม่ลูกจันทร์ หลบลมร้อนเมืองไทยไปรับไอหนาวมา 10 วัน ปรากฏว่าการเมืองหลังเลือกตั้งยังยักแย่ยักยันเหมือน 10 วันที่ผ่านไป,ยังวนอยู่ที่เดิมไม่คืบหน้าแม้แต่นิดเดียว,การจับขั้วตั้งรัฐบาลใหม่ยังติดเดดล็อกเหมือนเดิม,ผลเลือกตั้ง ส.ส. เขต 350 เขตยังยักตื้นติดกึกยักลึกติดกักอยู่ที่ กกต.,แถมสูตรคำนวณแบ่งโควตา ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน ยังสับสนอลหม่าน ไม่รู้ว่า กกต.จะใช้สูตรไหนแน่นอน??,จะโทษ กกต.ฝ่ายเดียวก็ไม่แฟร์,เพราะมาตรา 128 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส. กับมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญเขียนไว้กำกวมตีความได้หลายแง่หลายมุม,ทำให้เรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องยาก เรื่องสั้นกลายเป็นเรื่องยาว,ไม่ว่า กกต.จะใช้สูตรแบบไหนแบ่งโควตา ส.ส.บัญชีรายชื่อจะเกิดปัญหาขัดแย้งว่า กกต.ทำผิด พ.ร.บ.เลือกตั้งตามมา,ทำให้ กกต.เกิดพิพักพิพ่วน ไม่รู้ว่าจะตัดสินใจใช้สูตรไหนดี??,เพราะถ้าแบ่งโควตา ส.ส.ผิดไปแม้แต่หนึ่งคน??,กกต.ทั้ง 7 คน ต้องรับผิดชอบเต็มเปา,และถ้าเกิดผิดพลาดทำให้การเลือกตั้ง ส.ส.เป็นโมฆะ,กกต.ทั้ง 7 คน จะต้องรับผิดชอบงบ 5,800 ล้านบาท ที่ใช้จัดเลือกตั้งครั้งนี้ทุกบาททุกสตางค์,เฉลี่ยแล้ว กกต. 1 คน ต้องใช้ค่าเสียหาย 825 ล้านบาททีเดียว,แม่ลูกจันทร์ จึงไม่แปลกใจที่ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ออกมาแบะท่าว่า กกต.อาจยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความว่าจะใช้สูตรไหน? คำนวณแบ่งโควตา ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน ให้ได้ข้อยุติชัดเจน,เพื่อความปลอดภัยของ กกต.เองและเพื่อป้องกันปัญหาบานปลาย,ปัญหาคือเหลือเวลาอีก 28 วัน จะถึงเส้นตายที่ กกต.ต้องประกาศผลเลือกตั้ง ส.ส.เขต 350 เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน อย่างเป็นทางการ,ช้ากว่านั้นไม่ได้แม้แต่วันเดียว,นายอิทธิพร ประธาน กกต.จะยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยประเด็นนี้หรือไม่,ต้องรีบตัดสินใจด่วนจี๋ภายใน 3 วัน 5 วัน,เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีเวลาพิจารณารับคำร้อง วินิจฉัยข้อกฎหมาย และลงมติให้เสร็จทันเส้นตายที่เหลืออีกไม่เกิน 23 วัน,ถ้า กกต.ยื่นคำร้องช้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่ทันทำให้การประกาศผลเลือกตั้งไม่ทันเส้นตาย,ถือว่าการเลือกตั้งไม่สมบูรณ์ตามกติกา,โอยงานช้างเชียวนะ กกต.,แม่ลูกจันทร์,อ่านข่าวล่าสุด เจาะลึกข้อมูลเลือกตั้ง 2562,https://www.thairath.co.th/election, | วันนี้ (12 เม.ย.) เริ่มต้นโปรโมชันหยุดยาวมาราธอนฉลองสงกรานต์ปีใหม่ไทย 5 วัน ความจริงหยุดสงกรานต์แค่ 4 วัน แต่ รัฐบาลลุงตู่ สั่งหยุดเพิ่มพิเศษ | เลือกตั้ง | จัดตั้งรัฐบาล,ส.ส.บัญชีรายชื่อ,กกต.,พ.ร.บ.เลือกตั้ง,รัฐธรรมนูญ,สำนักข่าวหัวเขียว,แม่ลูกจันทร์,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1542388 |
แบงก์ชาติ ประเมินเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 หลังโควิด-19 ระบาด | ธนาคารแห่งประเทศไทย ประเมินเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 ของปี 63 หลังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำหลายอย่างหยุดชะงักเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 63 นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ แบงก์ชาติ เปิดเผยในงานประชุมนักวิเคราะห์ (Analyst Meeting) ว่า เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาสที่ 2 ปี 2563 หลังมีมาตรการควบคุมการระบาดไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ในประเทศได้เป็นผลสำเร็จทั้งนี้ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มทยอยปรับเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ทั้งการเดินทาง การจับจ่ายใช้สอย และการผลิต แต่ยังคงจำเป็นต้องมีนโยบายด้านอุปทานเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจโดยให้สอดคล้องกับบริบทใหม่หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง ซึ่งต้องดำเนินการควบคู่กับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เพื่อเสริมสร้างให้เศรษฐกิจมีความเข้มแข็ง และช่วยรักษาระดับศักยภาพการเติบโตให้สามารถกลับมาเติบโตได้ในระยะต่อไปทั้งนี้ แบงก์ชาติ มองว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาสที่ 2 ปี 2563 และทยอยฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปี 2563 โดยมีปัจจัยสนับสนุน ดังนี้- ไทยสามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้เป็นผลสำเร็จ- หลายประเทศรวมทั้งไทย เริ่มทยอยผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดโควิดตั้งแต่เดือน มิ.ย.63- กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยปรับเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ทั้งการเดินทาง การจับจ่ายใช้สอย และการผลิต- ส่วนประเด็นที่ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่มีแนวโน้มติดลบในปีนี้ไม่ได้แสดงว่าไทยกำลังเผชิญกับภาวะเงินฝืด แต่แบงก์ชาติก็ให้ความสำคัญ และติดตามความเสี่ยงในระยะต่อไป- กนง. หรือ คณะกรรมการนโยบายการเงิน การดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายเชิงรุก ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 ช่วงต้นปี 63 ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 3 ครั้งจากร้อยละ 1.25 มาอยู่ที่ร้อยละ 0.50 ซึ่งต่ำเป็นประวัติการณ์- แบงก์ชาติได้ออกมาตรการด้านการเงิน และสินเชื่อของ ธปท. เชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ด้วยการการผ่อนคลายนโยบายการเงินควบคู่กับมาตรการด้านการเงินและสินเชื่อได้ช่วยบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งรายย่อย ธุรกิจ ตลาดเงิน และสถาบันการเงินทั้งนี้ ข้อเสนอแนะของธนาคารแห่งประเทศไทย มีดังนี้ภาครัฐจะต้องประสานกันเพื่อลดผลกระทบระยะยาวต่อเศรษฐกิจ (scars) รักษาศักยภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจ และเอื้อให้เกิดการปรับตัวไปสู่โลกใหม่หลังโควิด-19- นโยบายการคลัง ที่ตรงจุดและทันการณ์จะมีบทบาทสำคัญต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการสนับสนุนการจ้างงานและช่วยธุรกิจ รวมถึงรักษาระดับศักยภาพการเติบโต (potential growth)- นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อเนื่อง และดำเนินมาตรการด้านการเงินและสินเชื่อเพิ่มเติม เช่น ดูแลให้สภาพคล่องที่มีเพียงพอในระบบกระจายไปสู่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ เร่งให้สถาบันการเงินปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (debt restructuring) รักษาเสถียรภาพระบบสถาบันการเงินให้เข้มแข็งต่อเนื่อง และเตรียมมาตรการเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางการเงิน- นโยบายด้านอุปทาน เพื่อสนับสนุนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ (economic restructuring) ทั้งธุรกิจ ทุน และแรงงาน ให้สอดคล้องกับภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจใหม่หลังการระบาดนอกจากนี้ภาครัฐควรให้ความสำคัญกับนโยบายด้านอุปทานเพื่อสนับสนุนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้ในภูมิทัศน์ใหม่หลังโควิด-19 คลี่คลาย ดังนี้- มีกลไกการบริหารกำลังการผลิตส่วนเกิน หรือ excess capacity- สร้างงานใหม่รองรับผู้ว่างงาน และนักศึกษาจบใหม่- พัฒนาทักษะแรงงาน เอื้อให้แรงงานปรับตัวเข้าสู่ภูมิทัศน์ใหม่- เร่งปฏิรูปกฎเกณฑ์ภาครัฐที่เป็นอุปสรรคต่อการปรับตัวของภาคธุรกิจให้สอดคล้องกับภูมิทัศน์ใหม่- สนับสนุนอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและมีโอกาสฟื้นตัวเร็วหลังการระบาด- เร่งรัดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับเศรษฐกิจดิจิทัล. | ธนาคารแห่งประเทศไทย ประเมินเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 ของปี 63 หลังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำหลายอย่างหยุดชะงัก | ข่าว,เศรษฐกิจ | แบงก์ชาติ,เศรษฐกิจไทย,ธนาคารแห่งประเทศไทย,โควิด-19,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1889144 |
กระแต อัปเดตป่วยฝีเต้านม ไม่เกี่ยวกับทำหน้าอก ยันของแท้แม่ให้มา | ก่อนหน้านี้นักร้องลูกทุ่ง กระแต อาร์สยาม ต้องนอนโรงพยาบาลนานเป็นเดือน เพราะป่วยเป็นฝีที่เต้านม ล่าสุดได้เจอสาวกระแต เลยไม่พลาดที่จะอัปเดตอาการป่วยว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่าอัปเดตอาการหน้าอก?เป็นฝีเต้านมค่ะ จริงๆ เราก็ไม่ได้ศึกษามาก่อน พอเป็นก็ศึกษาเลย โรคฝีเต้านมร้ายแรงเท่าๆ มะเร็งเต้านมเลยอาการเริ่มต้นยังไง? จริงๆ หนูเป็นน้ำเลือดไม่ดีตั้งแต่เด็ก แตะอะไรก็ช้ำเป็นฝีหมดมีโอกาสลามไปที่อื่นไหม?จริงๆ ต้องรีบผ่าเพราะว่า ตัวเชื้อมันกินเนื้อเรา ก่อนหน้านั้นกระแตไปเต้น เกิดอุบัติเหตุแล้วไปช้ำ เสร็จแล้วมันก็เริ่มม่วง พอมันอักเสบมันก็เรื่มเป็นหนองบวกกับภูมิต้านทานไม่ดี ก็เลยกลายเป็นติดเชื้อ หน้าอกเราเลยม่วงเต็มไปหมดเลยเกิดจากการเต้น?จริงๆ เกิดจาการที่หนูฟกช้ำ อักเสบเสร็จก็ติดเชื้อ มันก็เลยลามเลยต้องผ่าออก มันกระทบกับหน้าอกไหม? ไม่เลยไม่เกี่ยวกัน แต่ว่าเนื้อก็หายไปเป็นสองข้างเลยไหม?เป็นข้างขวาข้างเดียวมันมีโอกาสกลับมาเป็นอีกไหม?หมอบอกมีโอกาสกลับมาเป็นอีกได้ บางทีมันยังไม่หมดไป เพื่อนแตเป็นกันเยอะ บางทีผ่าตัด 2-3 รอบ แต่ก็ภาวนาอย่าให้เป็นอีก ตอนนี้ก็หายแล้วมีกระทบกับไซส์หน้าอกเราไหม?นิดเดียวค่ะ และมีตำหนิเป็นแผลมันเกี่ยวกับการทำหน้าอกไหม? ไม่เกี่ยวเลย มันเกี่ยวกับการที่เราไม่ระวังแล้วช้ำ พอเป็นหนองก็อักเสบ เชื้อมันเลยลามแค่นั้นเองเราต้องคอยระวังอะไรเป็นพิเศษ? จริงๆ หนูระวังตลอด แต่อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ แต่ว่าอันนั้นที่มันอันตรายก็จะลดลงเรามีแพลนจะทำหน้าอก?จริงๆ หนูแอบถามหมอนะ หมอบอกว่าให้รอประมาณอีก 1-2 ปี ให้ข้างในมันสมานก็อาจจะทำได้ ก็อยากทำ แต่ไม่แน่อีก 2 ปีอาจจะเป็นเทรนด์นมเล็กก็ว่าได้นะคะ(หัวเราะ)แสดงว่าเราไม่เคยทำ?ใช่ค่ะ เป็นเทคนิคการโกยหลายคนสงสัยมันจะกลายเป็นมะเร็งได้ไหม?แตไม่มีความรู้ด้านนี้ แต่หมอบอกว่าอาการฝีเต้านมคล้ายกับมะเร็ง ผู้หญิงเป็นกันเยอะต้องระวังยืนยันว่าแม่ให้มาไม่ได้ไปทำอะไร?จริงๆ ก็ไม่ได้มีเยอะนะ พอเข้าโรงพยาบาลไปคิดอะไรได้เยอะมาก เพราะเกิดมาไม่เคยนอนโรงพยาบาลเป็นเดือน ก็อยากจะทำอะไรใหม่ๆ ปีนี้ก็ตั้งแพลนไว้เยอะมาก ตอนนี้ก็ทำเพลงใหม่ 3 เพลงรวดเลยเต้นเยอะขึ้นไหม?เรียกว่าเปลี่ยนสไตล์และดูดีขึ้น แล้ววันนี้ก็เปลี่ยนลุคใหม่ ทำผมใหม่ ตัดสั้นลง เพราะอยากเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมค่ะ | กระแต อาร์สยาม เล่าอาการป่วยฝีเต้านม มีความร้ายแรงพอๆ กับมะเร็งเต้านม เกิดจากตอนที่ตนล้มจนหน้าอกช้ำ เลยทำให้เป็นหนองและลุกลาม ยันไม่เกี่ยวกับการทำหน้า | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ข่าวบันเทิง,กระแต อาร์สยาม,กระแต นักร้องลูกทุ่ง,นักร้องลูกทุ่ง,นักร้อง | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1741646 |
กอร.พระราชพิธีฯ ยืนยันพระเมรุมาศจำลองแล้วเสร็จพร้อมกันทั่วประเทศ 15 ต.ค.นี้ | วันนี้ (14 ต.ค.2560) นายเอนก อาจมังกร ผู้อำนวยการสำนักการสังคีต พร้อมด้วยนายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วง ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ร่วมกันแถลงผลประชุมกองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ถึงการดำเนินการพระราชพิธีส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และการแสดงมหรสพสมโภชในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันที่ 26 ต.ค.ว่า ความคืบหน้าของการก่อสร้างพระเมรุมาศจำลอง 76 แห่งทั่วประเทศเสร็จสมบูรณ์แล้ว 68 แห่ง ที่เหลือจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในวันพรุ่งนี้ (15 ต.ค.) เช่นเดียวกับซุ้มดอกไม้จันทน์ขนาดใหญ่ 679 แห่งและขนาดเล็ก 153 แห่งที่กระจายในทุกอำเภอทั่วประเทศจะแล้วเสร็จในวันพรุ่งนี้ด้วยเช่นกันส่วนพระจิตกาธาน ขณะนี้ทางกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการก่อสร้างในจุดห่างจากที่วางดอกไม้จันทน์ 20-30 เมตรทั่วประเทศ จำนวน 878 แห่งจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 20 ต.ค.ตามกำหนดเวลา ขณะที่จิตอาสาทั้งหมด มีกว่า 4 ล้านคน โดยจิตอาสาในประเทศมี 3.6 ล้านคนจะกระจายตัวไปทั่วประเทศ ขณะที่จำนวนที่เหลือเป็นจิตอาสาในต่างประเทศการใช้อากาศยานไร้คนขับหรือว่าโดรนที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีการออกประกาศหลักเกณฑ์การอนุญาต เพื่อการใช้ในพื้นที่ต่างๆ ในงานพระราชพิธีในภูมิภาค จะต้องดำเนินการเช่นเดียวกับส่วนกลางที่อากาศยานไร้คนขับจะต้องผ่านการลงทะเบียนของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยและประกาศของกระทรวงคมนาคมเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายโดยจะต้องห้ามบินโดรนเข้าไปในบริเวณพระบรมมหาราชวัง มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และพื้นที่โดยรอบในรัศมี 19 กิโลเมตร เพื่อการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในทุกพื้นที่สำหรับการแสดงมหรสพสมโภชในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จะเป็นไปตามแบบแผนโบราณราชประเพณี จะมีใน 4 จุด คือ 1. ทิศเหนือของสนามหลวง เป็นการแสดงโขนใหญ่ รามเกียรติ์ 2. บริเวณศาลฎีกา เป็นการแสดงหุ่นกระบอก และการแสดงละคร เช่น เรื่องพระมหาชนก ละครอิเหนา 3. ทิศตะวันตก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ การแสดงดุริยางค์สากล เพลงพระราชนิพนธ์ โดยจะเริ่มในเวลา 19.00-20.00 น. และจะแสดงอีกครั้งในเวลา 24.00 น. ส่วนจุดที่ 4 ที่เป็นบริเวณพระเมรุมาศ เป็นการแสดงโขนรามเกียรติ์ โดยจะเริ่มแสดงในเวลา 20.00 น.ส่วนการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศในวันพรุ่งนี้จะมีการปิดถนน 18 เส้นทางโดยรอบสนามหลวงตั้งแต่เวลา 22.00 น. ของคืนนี้ และเปิดให้ประชาชนเข้าชื่นชมพระบารมีและแสดงซึ่งความจงรักภักดีถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยผ่านจุดคัดกรอง 9 แห่ง ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันพรุ่งนี้ หรือหากสงสัยให้โทรสอบถามที่ 1441 | กองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ยืนยันพระเมรุมาศจำลองแล้วเสร็จพร้อมกันทั่วประเทศในวันพรุ่งนี้ (15 ต.ค.) ส่วนพระจิตกาธานจะแล้วเสร็จในวันที่ 20 ต.ค.นี้ ขณะที่พรุ่งนี้จะมีการปิดถนน 18 เส้นทาง เพื่อริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ | สังคม | ในหลวง รัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,กอร.พระราชพิธีฯ,พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ,สำนักพระราชวัง,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/266913 |
ผงะติดโควิดรายใหม่ วันเดียวกว่า 1.5 หมื่น ฟลอริดาอ่วม ทุบสถิติอเมริกา | เมื่อ 13 ก.ค.63 สำนักข่าวบีบีซี รายงานสถานการณ์เชื้อโควิด-19 ระบาดในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังน่าวิตกอย่างหนัก โดยทางการรัฐฟลอริดาแถลงยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะรายใหม่ ภายใน 24 ชั่วโมงล่าสุด ถึง 15299 ราย ในขณะที่รัฐฟลอริดามีประชากรแค่เพียง 7% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้น การพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในวันเดียวที่สูงขนาดนี้ ยังเป็นการทำลายสถิติของรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่เคยพบผู้ติดเชื้อในช่วง 24 ชั่วโมงสูงสุดในประเทศอีกด้วยก่อนหน้าจะพบผู้ติดเชื้อพุ่งทะยานถึงขนาดนี้ ทางการรัฐฟลอริดาได้เริ่มผ่อนปรนมาตรการคุมโควิด-19 เมื่อเดือนพฤษภาคม ซึ่งได้แสดงให้เห็นว่าช่องโหว่ของมาตรการคุมไวรัสโคโรนา เนื่องมาจากการท่องเที่ยว และประชากรสูงอายุตามการวิเคราะห์ของรอยเตอร์ ระบุว่า ขณะนี้ รัฐฟลอริดา ได้เป็นรัฐที่อยู่ในอันดับ 4 ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ภายใน 1 วัน สูงที่สุดของโลก โดยห้องไอซียูของโรงพยาบาลกว่า 40 แห่งในรัฐฟลอริดา เต็มไปด้วยผู้ป่วยโรคโควิด-19 หมดแล้ว ขณะที่บีบีซียังชี้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในรัฐฟลอริดาที่สูงกว่า 1.5 หมื่นคน มีขึ้นเพียงวันเดียว หลังจากวอลต์ ดิสนีย์ เวิลด์ ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดาได้กลับมาเปิดบริการอีกครั้ง นับตั้งแต่ปิดไปนาน 4 เดือน: ข่าวต่างประเทศ-ไทยรัฐออนไลน์ | รัฐฟลอริดาพบผู้ติดโควิด-19 รายใหม่ ในช่วง 24 ชม.กว่า 1.5 หมื่น ทุบสถิติสูงสุดของประเทศ ชี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พุ่งทะยานขนาดนี้ แสดงให้เห็นช่องโหว่ของการควบคุมการติดเชื้อหลังคลายล็อก | ข่าว,ต่างประเทศ | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ฟลอริดา,สหรัฐอเมริกา,โควิดสหรัฐ,ข่าวต่างประเทศอเมริกา,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1888095 |
ผจก.ทีมอิสานยูไนเต็ดเรียกสอบการ์ดกรณีทำร้ายแฟนบอลกลุ่ม กูปรีพลัดถิ่น | แฟนบอลกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่จะตามแช่งทีมอิสานยูไนเต็ดไปทุกที่โดยเฉพาะที่สนามเหย้าของอิสานยูไนเต็ดที่ จ.อุบลราชธานี เคยถึงตามไปเผาหุ่นผู้บริหารมาแล้วเนื่องจากไม่พอใจที่นำทีมศรีสะเกษย้ายมาเล่นที่อุบลราชธานีโดยแฟนบอลกลุ่มกูปรีพลัดถิ่นได้ เผยกับนักข่าวว่า ถูกการ์ดของทีมอิสานยูไนเต็ด ซึ่งสวมชุดดำ 4-5 คนเข้ามาที่รถด้วยการข้างปา กระเบื้อง ไม้ และขวด จนถูกแฟนบอลได้รับบาดเจ็บ 2 คน และรถได้รับความเสียหายเล็กน้อย และได้มีการไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรอุบลราชธานีแล้วเพื่อดำเนิคดีกับการ์ดของอิสานยูไนเต็ดส่วนทางด้าน นายชัยกร ชัยมงคลยศ ผู้จัดการทีมอิสานยูไนเต็ด กล่าว่า ได้ทราบเรื่องเมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) ได้พยายามสอบถามการ์ดทุกคนแต่ยังไม่มีใครให้ข้อสรุปว่าฝ่ายใดผิด ซึ่งต้องขอตรวจพิจารณาหลักฐานอีกครั้ง ซึ่งหากการ์ดของทีมอิสาน ผิดจริงพร้อมยอมรับผิด แต่จะมีการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก | ควันหลงที่ไม่ค่อยดีของเกมที่ SCG เมืองทอง ตามตีเสมอ อิสานยูไนเต็ด 1-1 ซึ่งแฟนบอลศรีสะเกษเมืองไทยเอฟซีที่ใช้ชื่อว่า กูปรีพลัดถิ่น อ้างว่า โดนการ์ดของทีมอิสานยูไนเต็ดทำร้าย | กีฬา | การ์ด,ทำร้าย,ศรีสะเกษเมืองไทยเอฟซี,อิสานยูไนเต็ด,อุบลราชธานี | https://news.thaipbs.or.th/content/80364 |
Homemade Soap Ideas ปาร์ตี้สบู่ทำมือ | ร้อนนี้ my home ชวนคุณมาเพิ่มอรรถรสในการอาบน้ำ ด้วยการดีไซน์สบู่ให้กลายเป็นของตกแต่งห้องน้ำ งานนี้สวยสนุก ลืมภาพสบู่ก้อนกลมมนหรือทรงสี่เหลี่ยมไปได้เลย รับรองว่าคราวนี้ทุกคนในบ้านจะอยากเดินเข้าไปอาบน้ำกันทั้งวัน หรือจะต่อยอดทำให้เป็นของขวัญ ของแต่งบ้านก็ได้ อาบน้ำก็ยิ่งดี ไอเดียน่ารักแบบนี้คนให้และคนรับยิ้มแก้มปริแน่นอน,ส่วนผสม, น้ำมันปาล์ม 400 กรัม, น้ำมันมะพร้าว 150 กรัม, น้ำมันมะกอก 50 กรัม, น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน 100 กรัม, น้ำมันดอกคาโนล่า 50 กรัม, โซเดียมไฮดรอกไซด์ (โซดาไฟ) 111 กรัม, น้ำเปล่า 247 กรัม, สีไมก้า สีสำหรับใส่สบู่ชนิดละลายน้ำมัน เป็นเกรด FD & C (Food, Drug & Cosmetics) , กลิ่นใส่สบู่,อุปกรณ์, แม่พิมพ์ซิลิโคน (ไอศกรีม ถ้วยคัพเค้ก เค้ก) , เครื่องชั่งน้ำหนัก, ถ้วยสแตนเลส (สำหรับละลายโซดาไฟ), โถสแตนเลสหรือโถเมลามีนขนาดใหญ่ (สำหรับผสมส่วนผสมทั้งหมด), ถ้วยพลาสติกขนาดเล็ก-กลาง (สำหรับแบ่งเนื้อสบู่), ตะกร้อมือ, ไม้พายปาด, ช้อนเล็ก (สำหรับตักแบ่งสี), ไม้ไอศกรีม , ตะแกรงกรอง, ชุดหัวบีบแต่งหน้าเค้ก , ถุงมือยาง, ผ้าปิดจมูก, แว่นตา (ป้องกันโซเดียมไฮดรอกไซด์กระเด็น),ขั้นตอนการทำ,1. ผสมโซเดียมไฮดรอกไซด์กับน้ำ คน 2-3 รอบ ตั้งทิ้งไว้บริเวณที่ลมถ่ายเทสะดวก รอจนละลายเป็นน้ำใสและไม่มีความร้อน ควรใส่อุปกรณ์ป้องกันสารเคมี ถุงมือยาง ผ้าปิดจมูก แว่นตา และทำในที่ที่ลมถ่ายเทสะดวก, ,2. ผสมน้ำมัน 5 ชนิด คนให้เข้ากัน,3. นำน้ำละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ที่ทำไว้มาผสมกับน้ำมันโดยเทผ่านที่กรอง,4. ใช้ตะกร้อมือตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวจนเนื้อเข้มข้นเหมือนนมข้นหวาน,5. แบ่งเนื้อสบู่ออกมาผสมสี คนให้สีสม่ำเสมอ,6. ใส่กลิ่นสบู่แล้วคนให้เข้ากัน,ideas,Ice-cream : เทสบู่ลงในแม่พิมพ์ รอให้สบู่แข็งตัว 1 วัน > ไอศกรีมสีสันสดใส,Cupcake : ใส่สบู่สีที่ 1 ลงในแม่พิมพ์คัพเค้ก เคาะให้เนื้อสบู่เรียบเสมอกัน > ใส่สบู่สีที่ 2 > ใช้หัวบีบ บีบเนื้อสบู่แต่งหน้าคัพเค้ก > โรยท็อปปิ้งแต่งหน้าคัพเค้กได้ตามชอบใจ,Cake : ใส่สบู่สีที่ 1 ลงในแม่พิมพ์เค้ก > ใส่สบู่สีที่ 2 ใช้ไม้พายปาดเนื้อเค้กให้เรียบ > ใช้หัวบีบบีบเนื้อสบู่แต่งหน้าเค้ก > ตัดแบ่งเค้กสบู่พร้อมเสิร์ฟความสะอาด ,tips,ประโยชน์ของน้ำมันชนิดต่างๆ , น้ำมันปาล์ม ช่วยให้สบู่แข็งตัว, น้ำมันมะพร้าว ช่วยทำให้สบู่มีฟอง (แต่หากใส่น้ำมันมะพร้าวในสบู่มากไปอาจทำให้ผิวแห้ง), น้ำมันมะกอก มีโครงสร้างที่คล้ายหรือใกล้เคียงกับน้ำมันที่หล่อเลี้ยงผิว จึงเข้ากับผิวคนได้ดี ช่วยบำรุงและดึงความชุ่มชื้นสู่ผิว , น้ำมันเมล็ดทานตะวัน ทำให้เนื้อสบู่ไม่แข็งมาก ฟองไม่มาก แต่เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวพรรณได้ดี อุดมไปด้วยวิตามินอีและเกลือแร่ ช่วยต่อต้านการเกิดริ้วรอยก่อนวัย เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว, น้ำมันคาโนล่า ให้ความชุ่มชื้น ซึมลงผิวได้ค่อนข้างไว ปรับสภาพและทำให้ผิวนุ่ม สุขภาพดี,ปาร์ตี้พร้อมเสิร์ฟความสะอาดให้ร้อนนี้สนุกสนานไปกับการอาบน้ำสบายอารมณ์,ที่มา - my home,www.myhome-mag.com, | ร้อนนี้ my home ชวนคุณมาเพิ่มอรรถรสในการอาบน้ำ ด้วยการดีไซน์สบู่ให้กลายเป็นของตกแต่งห้องน้ำ งานนี้สวยสนุก ลืมภาพสบู่ก้อนกลมมนหรือทรงสี่เหลี่ยมไปได้เลย | ไลฟ์สไตล์,บ้าน | สบู่ทำมือ,ของตกแต่งบ้าน,วิธีทำสบู่,ประโยชน์ของน้ำมัน,my home,Homemade Soap Ideas,งานทำมือ,ข่าว,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์,Thairath | https://www.thairath.co.th/lifestyle/home/598012 |
ระทึก เครื่องบินตกในอัฟกานิสถาน เขตยึดครองตาลีบัน | (ภาพประกอบ)เมื่อ 27 ม.ค.63 สำนักข่าวต่างประเทศและเว็บไซต์มิร์เรอร์ รายงานเกิดเหตุเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737-400 ของสายการบิน Ariana Afghan Airlines (อาเรียนา อัฟกัน แอร์ไลน์) เที่ยวบินภายในประเทศ FG 507 บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือรวม 83 คน ประสบเหตุตก ทางตะวันออกของจังหวัดกาซนี หลังเครื่องบินได้ทะยานออกจากสนามบินเมืองเฮรัต มุ่งสู่กรุงคาบูล เมืองหลวงอัฟกานิสถาน เมื่อวันจันทร์ที่ 27 ม.ค. เบื้องต้น ยังไม่มีรายงานถึงชะตากรรมของผู้โดยสารและลูกเรือ ว่ามีผู้รอดชีวิตหรือไม่มิร์เรอร์ แจ้งว่า เครื่องบินสายการบินอาเรียนา อัฟกัน แอร์ไลน์ ประสบเหตุตกและเกิดระเบิด ไฟไหม้อย่างรุนแรง ในเขตพื้นที่ชนบทและภูเขาในเขตเดห์ ยัค ทางตะวันออกของจังหวัดกาซนี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กลุ่มติดอาวุธตาลีบัน ยึดครองอยู่ โดยตามรายงานหลายแห่ง ระบุว่า สมาชิกกลุ่มตาลีบันได้รีบไปยังจุดเครื่องบินตก และพยายามจะดับไฟที่ลุกไหม้เครื่องบิน ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษของอัฟกานิสถานกำลังไปยังที่เกิดเหตุอย่างไรก็ตาม ต่อมา ทางรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินอาเรียนา อัฟกัน แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติในอัฟกานิสถานได้ออกมาปฏิเสธ โดยยืนยันว่ามีเครื่องบินตกในอัฟกานิสถานจริงแต่ไม่ใช่เครื่องบินโดยสารของสายการบินอาเรียนา อัฟกัน แอร์ไลน์ จึงทำให้เจ้าหน้าที่อัฟกานิสถานกำลังเร่งตรวจสอบว่าเป็นเครื่องบินอะไรที่ตก | ด่วน เครื่องบินตกในอัฟกานิสถาน บริเวณเขตยึดครองของกลุ่มตาลีบัน เบื้องต้น มีรายงานเป็นเครื่องบินโดยสารของอาเรียนา อัฟกัน ก่อนต่อมาซีอีโอของสายการบินออกมาปฏิเสธไม่ใช่เครื่องบินของอาเรียนาฯ | ข่าว,ต่างประเทศ | เครื่องบินตกในอัฟกานิสถาน,ข่าวเด่น,อาเรียนา อัฟกัน แอร์ไลน์,อาเรียนา อัฟกัน แอร์ไลน์ตก,อัฟกานิสถาน,เครื่องบินตก,ข่าวด่วน | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1757495 |
แชร์ให้คนที่คุณรัก จูงมือคุณนายเที่ยว 7 งานฉลองสัปดาห์วันแม่แห่งชาติ | ตามกิจกรรมต่างๆ ดังกล่าว มาแนะนำให้คุณได้ควงแขนคุณแม่ไปเดินเที่ยวกันอีกเช่นเคย,สำหรับสัปดาห์นี้ เราได้รวบรวมทั้งงานกิจกรรมวันแม่ และงานอีเวนต์ดีๆ หลายงานที่คุณแม่คุณลูกไปเดินชมแล้วน่าจะถูกใจไม่มากก็น้อย มีทั้งงานแสดงสินค้าของโครงการหลวง งานแสดงดนตรี งานสินค้าของขวัญวันแม่ งานแสดงสินค้าเมืองเหนือ และอีกมากมาย ส่วนรายละเอียดจะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย,1. โครงการหลวง 46,วันนี้ - 16 ส.ค. 2558 ชวนไปช็อป ชิม ชิล กับผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงกว่า 3,000 รายการ ในงาน โครงการหลวง 46 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ภายในงานพบกับสินค้าแนะนำประจำปี ได้แก่ เสาวรสพันธุ์เหลืองหวาน เป็นเสาวรสพันธุ์ใหม่ รับประทานสด ผลโตสีเหลือง เนื้อแน่น น้ำเยอะ มีความฉ่ำ รสชาติหอมหวานคล้ายกลิ่นน้ำผึ้งเล็กน้อย,ต่อด้วย มะระรูปหัวใจ มีลักษณะผลเป็นรูปหัวใจ สีเขียวสด ผิวมัน รสชาติไม่ขมมากและเนื้อกรอบ มีคุณค่าทางอาหารสูง เช่น สารโมโมดิซิน (Momodicine) แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินซี วิตามินบี 1 - บี 3, เบต้าแคโรทีน, ไฟเบอร์, ธาตุเหล็ก และโพแทสเซียม,และดอกลิเซียนทัส มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ เป็นไม้ดอกขนาดเล็ก ออกดอกจะเป็นช่อ มีกลีบบางอ่อน มีหลายสี เช่น สีขาว พีช ชมพู ม่วง ขาวขอบชมพู ขาวขอบม่วง มักถูกใช้ประดับในช่อดอกไม้ในงานแต่งงาน เพราะมีความหมายดี นั่นคือ มิตรภาพที่ยั่งยืน ความทรงจำที่ดี,นอกจากนี้ ยังมีสินค้าอีกมากมาย เช่น มะเขือเทศเชอรี่เหลือง ผักกาดกวางตุ้ง ฟักสปาเกตตี ฟักบัตเตอร์นัท ซาโยเต้อินทรีย์ เสาวรสหวานสีม่วง อะโวคาโด พลับ มะเดื่อฝรั่ง กิมจิผักกาดขาว เห็ดหอมกรอบ น้ำเคพกูสเบอรี่ ไก่เบรสรมควัน ไก่ฟ้ารมควัน ไข่ไก่อินทรีย์ ซุปไก่กระดูกดำกระป๋อง น้ำมะเขือเทศโซเดียมต่ำ ฯลฯ สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-640-7000,2. แม่ลูก Check-in,วันนี้ -18 ส.ค. 2558 ชวนคุณแม่คุณลูกไปชิม เที่ยว ช็อป กับงาน แม่ลูก Check-in ณ Victoria Gardens เพชรเกษม 69 ภายในงานพบกับกิจกรรมลุ้นรับ Gift Voucher มูลค่า 100 บาท เพื่อใช้จ่ายภายในศูนย์การค้าวิคตอเรีย การ์เด้นส์ กติกาง่ายๆ เพียง คุณแม่และคุณลูกถ่ายภาพ แล้วโพสต์ภาพพร้อม Check-in ที่ศูนย์การค้าวิคตอเรีย แค่นี้ก็มีสิทธิ์ลุ้นรางวัล โดยจะประกาศผลวันที่ 19 ส.ค. นี้,นอกจากนี้ ในวันที่ 15-16 ส.ค. 2558 ก็ยังมีการจัดงาน Victoria Market ณ ลานกิจกรรมการ์เด้นส์ 2 ศูนย์การค้าวิคตอเรีย ตลาดเปิดตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป งานนี้ขนขบวน Food Trucks มาให้ได้ชิมอาหารอร่อยๆ มีสไตล์ กันหลายเมนู แถมยังจะได้นั่งฟังเพลงชิลล์ๆ กับวงดนตรีสดในบรรยากาศสบายๆ อีกด้วย สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08 7288 0800,3. GREEN CONCERT หมายเลข 18,วันที่ 29-30 ส.ค. 2558 ชวนควงแขนคุณแม่ไปฟังเพลงเพราะๆ ที่งานคอนเสิร์ต GREEN CONCERT หมายเลข 18 THE LOST LOVE SONGS : ร้อยเพลงรักที่หายไป ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ โดยคุณจะได้พบกับบทเพลงไพเราะจากเหล่าศิลปินที่ตบเท้ามาร่วมงานมากที่สุด ในคอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่แห่งปี,ศิลปิน ได้แก่ ตู่ ภพธร / ป๊อบ ปองกูล / โรส ศิรินทิพย์ / มาเรียม / ว่าน ธนกฤต / สุเทพ ประยูรพิทักษ์ / เจิน เจิน / ตั๊ก ศิริพร / อ้วน วารุณี / โอ ชัยรัตน์ / จรวยพร จิตตรีญาติ / จิ๊บ วสุ / อ๊อด คีรีบูน / กุ้ง ตวงสิทธิ์ / คทาวุธ สท้านไตรภพ,นก สินจัย / ต่าย เพ็ญพักตร์ / ฮันนี่ ภัสสร / เอ้ ชุติมา / อังคณา ทิมดี / จำรัส เศวตาภรณ์ / ตั้ม สมประสงค์ / กบ ทรงสิทธิ์ / บี๋ คณาคำ / ก้อย พรพิมล / เอ๋ XYZ / โบ XYZ / T-Skirt / ยุ้ย ปัทมวรรณ
,ป้อม ออโต้บาห์น / มิคกี้ / สุรสีห์ / ชรัส เฟื่องอารมย์ / ปั่น ไพบูลย์เกียรติ / อุ้ย รวิวรรณ / เอ๋ นรินทร / จันทนีย์ อูนากูล / แอนนา โรจน์รุ่งฤกษ์ / พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ (ส.) / เล็ก คาราบาว (อา.) / เทียรี่ เมฆวัฒนา (อา.),บัตรราคา 3,500 / 3,000 / 2,500 / 2,000 / 1,500 บาท รายได้ส่วนหนึ่งมอบให้ กองทุนเพื่อผู้พิทักษ์ป่า มูลนิธิสืบนาคะเสถียร จำหน่ายบัตรที่ thaiticketmajor นอกจากนี้บุคคลทั่วไปยังสามารถร่วมบริจาคสมทบให้ผู้พิทักษ์ป่าไทย ร่วมกับ GreenConcert18 ได้ โดยบริจาคมาที่ ชื่อบัญชี บริษัท เอ-ไทม์ มีเดีย จำกัด เพื่อ กองทุนเพื่อผู้พิทักษ์ป่า ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 032-471012-5,4. MOM I LOVE YOU,วันนี้ - 20 ส.ค. 2558 ชวนไปช็อปของขวัญให้คุณแม่กันในงาน MOM I LOVE YOU ณ ชั้น 1 แกรนด์ฮอลล์ อยุธยาซิตี้พาร์ค ภายในงานพบกับ การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้ามากมาย อาทิ ผลิตภัณฑ์ความงาม, เครื่องแต่งกาย, เครื่องหนัง, เครื่องสำอาง, น้ำหอม, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว กิ๊ฟช็อป, แว่นตา, นาฬิกา, กระเป๋า, เข็มขัด, รองเท้า และอีกมากมาย เพื่อฉลองสัปดาห์วันแม่แห่งชาติ สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 3522 9234,5. Rhythm Street Market ,วันนี้ - 16 ส.ค. 2558 ชวนไปเดินเที่ยวฟินๆ ในตลาดชิคๆ แนวไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ Rhythm Street Market ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. ณ เสนาเฟส เจริญนคร 16 ภายในตลาดพบกับ คาราวานฟู้ดทรักระดับแนวหน้า รวมถึงร้านอาหารแนวสตรีทฟู้ด เช่น เบเกอรี่โฮมเมด ของทานเล่น สินค้า DIY สินค้าแฟชั่น เครื่องประดับ เครื่องสำอาง ของแต่งบ้าน ของสะสม ต้นไม้ประดับสวน สวนในโหลแก้ว,พร้อมมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกในงาน เช่น การแสดงดนตรี สตรีทโชว์ โซนนั่งเล่นพักผ่อน และร้านค้าศิลปินดารา ที่มาเปิดจำหน่ายด้วยตัวเอง สอบถามเพิ่มเติม โทร. 080 781 7377,6. I LOVE MOM ,วันนี้ - 18 ส.ค. 2558 ชวนควงแขนคุณแม่มาช็อปปิ้งชิลล์ๆ ในงาน I LOVE MOM B ฝั่งโรบินสัน ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค ภายในงานพบกับ บูธจำหน่ายของขวัญวันแม่ กับชุดของขวัญสุดพิเศษมากมาย มีสินค้าหลายประเภท ได้แก่ สบู่วันแม่แกะสลัก กระเป๋า เสื้อผ้า เครื่องประดับ ขนมหวานในชะลอมพร้อมพวงมาลัยวันแม่ และอีกมากมาย สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2958 0011,7. มหกรรมของดีล้านนา,วันนี้ - 17 ส.ค. 2558 ชวนไปช็อปสินค้าพื้นเมืองในงาน มหกรรมของดีล้านนา ตระการตา 4 ภาค ณ ดิ อัพ คอมมูนิตี้ มอลล์ พระราม 3 ภายในงานพบกับสินค้าคุณภาพจากภาคเหนือ หลากหลายรายการ เช่น สมุนไพรไทย ลูกประคบ น้ำมันหอม เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องหนัง ผ้าทอพื้นเมือง รวมถึงอาหารเหนือ และเครื่องดื่มอีกหลายชนิด และพลาดไม่ได้กับการแสดงโชว์พื้นบ้านสุดตระการตา อีกทั้งมีกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09 6880 4199, 08 3077 7237,ที่มาข้อมูลและภาพ : ,victoriagarden,, ,greenwave,, ,centralworld,, ,rhythm,Ayutthaya-City-Park,, ,futureparksociety,, ,theuprama3 | สุดสัปดาห์ที่แล้ว เราได้นำเสนองานอีเวนต์ต่างๆ เกี่ยวกับวันแม่ ที่หลายหน่วยงานพร้อมใจกันจัดขึ้นมาหลายงาน มาสัปดาห์นี้ก็ยังคงจัดกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อฉลองสัปดาห์วันแม่แห่งชาติ ปฏิทินท่องเที่ยว ไทยรัฐออนไลน์ จึงไม่พลาดที่จะติด | ไลฟ์สไตล์,ท่องเที่ยว | ปฏิทินท่องเที่ยว,ปฏิทินข่าว,ปฏิทินกิจกรรม,วันหยุดไปไหนดี,วันหยุด พาแม่เที่ยวไหนดี,วันแม่แห่งชาติ,วันแม่,วันหยุดนี้ เที่ยวไหน,โครงการหลวง 46,แม่ลูก Check-in,GREEN CONCERT หมายเลข18,MOM I LOVE YOU,Rhythm Street Market,I LOVE MOM,มหกรรมของดีล้านนา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/518021 |
ยอมถอย คลังระงับระเบียบจ้างลูกจ้างนอกงบฯ-แพทย์ชนบทยกเลิกนัดประท้วง | พร้อมเชิญหน่วยงานทุกกระทรวงทำประชาพิจารณ์เพื่อรู้แผนอัตรากำลังที่ตรวจสอบได้ ด้านชมรมแพทย์ชนบทออกแถลงการณ์จับตา 1 เดือนไม่ทำจะมาประท้วงใหม่31 พ.ค.2561 ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังร่วมหารือกับรมว.การคลัง เรื่องระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างพนักงานหรือลูกจ้างโดยใช้เงินนอกงบประมาณ 2561 ว่า ระเบียบดังกล่าวทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนของหลายๆ ฝ่าย ดังนั้น รมว.การคลัง จึงขอระงับการใช้ระเบียบดังกล่าวไปก่อน โดยในช่วงบ่ายของวันที่ 31 พ.ค.นี้ ก็จะมีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ทุกหน่วยงานทุกกระทรวง เข้ามาเพื่อทำประชาพิจารณ์ก่อนจะทำการปรับเปลี่ยนระเบียบดังกล่าวเพื่อให้เกิดความเข้าใจในระเบียบมากขึ้น ส่วนในแต่ละกระทรวงจะมีข้อตกลงอย่างไรกับกระทรวงการคลังก็สามารถทำได้ตามความต้องการสิ่งสำคัญคือต้องรู้และมีแผนเรื่องของอัตรากำลังที่ชัดเจน ทำให้เกิดการมีวินัย มีการวางแผนที่ชัดเจนเพื่อให้เกิดความคล่องตัว อย่างไรก็ตามการสั่งระงับระเบียบดังกล่าวนั้นก็ไม่ได้มีผลกระทบกับการจ้างงานของ สธ. เพราะยังใช้ระเบียบเดิมอยู่ ทุกอย่างสมารถทำได้เหมือนเดิมรมว.สาธารณสุขเมื่อถามถึงกรณีระเบียบเงินบำรุงของ สธ.จะต้องมีการปรับแก้ด้วยหรือไม่ ศ.นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ต้องมีการหารือร่วมกันว่า สิ่งใดที่ทำให้เกิดความคล่องตัว และสามารถตรวจสอบได้ก็ปรับ ซึ่งเราต้องดูในรายละเอียด และอาจมีการปรับระเบียบเงินบำรุงได้ตามสิ่งที่ควรจะเป็นตามหลักการด้าน ออกแถลงการณ์ระบุว่าชมรมแพทย์ชนบทได้เข้าพี่น้องที่ยังไม่เดินทางเข้ | หลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก รมว.สาธารณสุข ปิดห้องถกกับ รมว.คลัง ชะลอการบังคับใช้ระเบียบการจ้างพนักงานหรือลูกจ้างโดยใช้เงินนอกงบไปก่อน | คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,สังคม | กระทรวงการคลัง,กระทรวงสาธารณสุข,ชมรมแพทย์ชนบท,นอกงบประมาณ,ประท้วง,ระเบียบการจ้างลูกจ้าง | https://prachatai.com/journal/2018/05/77221 |
ศึกจ้าวมวยไทย ช่อง 33 : ฮ่องเต้-ยอดขุนพล-นำพลเล็ก-ดี | ช่อง 33 : ฮ่องเต้-ยอดขุนพล-นำพลเล็ก-ดี,เวทีสยามอ้อมน้อย-เวทีลุมพินี วันเสาร์ที่ 29 ธ.ค. (วันนี้) มีมวยให้ชมกันทั้ง 2 แห่ง ชัย ศิษย์ อ.บี้ ขอวิจารณ์ไปตามฝีมือดังนี้,ศึกจ้าวมวยไทย ช่อง 33 เอชดี ถ่ายทอดสด 12.15 น.,นำพลเล็ก ก.กัมปนาท (ชนะคะแนน ธงสยาม ว.สุริยนต์ ที่อ้อมน้อย) มวยแข็งแกร่งเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดกว่า จะชนะ แท่งทอง เพชรมณีรัตน์ (ชนะคะแนน บัวเขียว ป.เปาอินทร์ ที่อ้อมน้อย) มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าแม่นยำรุนแรงฉลาดแต่เสียดสียืดเยื้อเป็นรองท้ายๆ 120 ป.,ยอดขุนพล ส.รจรินทร์ (แพ้คะแนน ซันเดย์ บูมเด็กเซียน ที่อ้อมน้อย) มวยจังหวะเตะต่อยหมัด แทงเข่าศอกปล้ำตีรุนแรงมีลุ้นกว่า จะชนะ เพชรกังวาล เพชรมณีรัตน์ (แพ้คะแนน โชควิทยา พุ่มพันธ์ม่วง ที่อ้อมน้อย) มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตี รุนแรงฉลาดชนิดแย่งกันเกิด 113 ป.,กัมปนาท ภ.หลักบุญ มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรง ฉลาดแต่ปะทะยืดเยื้อมียุบ จะแพ้ ฮ่องเต้ รินมวยไทย มวยแข็งแกร่งเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึด ตลอดกว่าท้ายๆชนิดสนุกพลิกไปมาอีกครั้ง (ฟอร์มหลัง ฮ่องเต้ ชนะคะแนน กัมปนาท ที่ รดน.) 107/105 ป.,สะแกงาม จิตรเมืองนนท์ (ชนะทีเคโอ เอกยะลา ยุ้ยการช่าง ยก 4 ที่สุรินทร์) มวยทรหดเตะต่อยหมัด แทงเข่าปล้ำตีอุตลุดมีฮึดตลอดกว่า จะชนะ รุ่งพิทักษ์ นุ้ยสี่มุมเมือง (แพ้คะแนน เพชรรุ่งเรือง อ๊อดตึกแดง ที่ รดน.) มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรง แต่แรงปลายเป็นรอง 108 ป.,ศึกมวยไทยลุมพินีทีเคโอ ช่อง 9 ถ่ายสด 16.00 น.,ชาโด้ สวนอาหารปีกไม้ มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกปล้ำตีรุนแรงฉลาดกว่า จะชนะ เดชศักดิ์น้อย ส.สมานการ์เม้นท์ 138 ป.,เซียน พรัญชัย มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดกว่า จะชนะ ไหวพริบ ว.วังพรม 108 ป.,เก้าแบงค์ ลูกพระบาท มวยจังหวะเตะแทงเข่าปล้ำตีคล่องแต่แข็งแกร่งเป็นรอง จะแพ้ เพชรสยาม ราชานนท์ 106 ป.,เพชรภูเงิน หมูปิ้งอร่อยจุงเบย มวยแข็งแกร่งเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงฟอร์มสดมีฮึดตลอด จะชนะ ตะขาบเพชร เพชรภาวิณี 112 ป.,ทองใบ แป๊ะมีนบุรี มวยทรหดเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกรุนแรงมีลุ้นตลอด จะชนะ เพชรปรีชา ก.สกุลเชื้อ 114 ป.,หงส์ขาว เอราวัณ มวยจังหวะฝีมือเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีคล่องฉลาดแต่รุนแรงเป็นรองจะแพ้ น่ารัก ป.ประจักษ์ มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกรุนแรงฟอร์มสดชนิดสนุก 108 ป.,ยอดอีที ปตท.ทองทวี มวยทรหดเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดกว่า จะชนะ ขุนพลน้อย ศิษย์แก้วประพล มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกแม่นยำรุนแรงแต่ปะทะยืดเยื้อเข่าในเป็นรองท้ายๆ 130 ต่อ 131 ป.,มะเฟืองเล็ก ลูกมะขามหวาน จะชนะ เผด็จศึก ร.ร.กีฬาสกลนคร 115 ป.,เทพสัมฤทธิ์ น.นริสสร จะแพ้ ทรงกลดน้อย ส.เดชะพันธ์ 114 ป.,ชัย ศิษย์อาจารย์บี้ | เวทีสยามอ้อมน้อย-เวทีลุมพินี วันเสาร์ที่ 29 ธ.ค. (วันนี้) มีมวยให้ชมกันทั้ง 2 แห่ง ชัย ศิษย์ อ.บี้ ขอวิจารณ์ไปตามฝีมือดังนี้ | null | เวทีสยามอ้อมน้อย,ศึกจ้าวมวยไทย,เวทีลุมพินี,ชี้มวยเด็ด,ชัย ศิษย์อาจารย์บี้ | https://www.thairath.co.th/sport/boxing-mma/1456835 |
เทพไท ชี้ สมคิด โยนหิน ลั่น ไม่กลัวยุบสภา แต่หวั่นรัฐประหารสืบอำนาจ | เทพไท ชี้ สมคิด โยนหิน ยุบสภาฯ ชี้ เรตติ้ง บิ๊กตู่-อุตตม ดี บอก คนเทคะแนน แค่ 25% จาก 48 ล้านคน ที่ได้เงินเยียวยา เลือกใครก็เป็น รบ. ลั่น ไม่กลัวยุบสภา แต่กลัวรัฐประหารสืบทอดอำนาจ ไม่รู้จบวันที่ 1 ก.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเตือนให้ระวังพายุเศรษฐกิจลูกใหญ่ พร้อมแนะดูตัวอย่างรัฐบาลสิงคโปร์ ที่ชิงยุบสภา เพราะคาดว่า เศรษฐกิจจะย่ำแย่ ให้เลือกตั้งใหม่ เพื่อให้ได้รัฐบาลมีประสิทธิภาพมาแก้ปัญหานั้น ว่า เป็นการแสดงความเห็นทางการเมืองแบบ โยนหินถามทาง ที่นักการเมือง หรือพรรคการเมือง ไม่ควรมองข้าม เพราะคนอย่างนายสมคิด ที่มีฐานะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลนี้ ออกมาส่งสัญญาณเรียกร้องให้ยุบสภา น่าจะมีการประมวลข้อมูลทางการเมือง หรือวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองอย่างรอบคอบแล้ว ก่อนแสดงท่าทีลักษณะเช่นนี้ ซึ่งนายสมคิด เป็นหัวหน้ากลุ่ม 4 กุมาร และที่ผ่านมาได้ทำนโยบายหลายอย่าง ที่เกี่ยวกับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 น่าจะมีการวัดคะแนนนิยม หรือผลสัมฤทธิ์ในการเยียวยาให้กับประชาชนจำนวน 48 ล้านคนมาแล้ว และคงจะมีความเชื่อว่า ความนิยมในเรื่องการแก้ปัญหาเยียวยาครั้งนี้ ไม่ได้มีเฉพาะกับตัวของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่านั้น ตัวของนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ก็เป็นผู้มีบทบาทในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ถ้าหากมีการยุบสภาฯ เกิดขึ้นจริง ตามคำแนะนำของนายสมคิด และมีการเลือกตั้งใหม่ นายสมคิดคงเชื่อลึกๆ ว่า สามารถเรียกคะแนนนิยมให้กับกลุ่ม 4 กุมาร ได้อย่างแน่นอน เพราะถ้าดูจากผลสำรวจของนิด้าโพล จะพบว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับคะแนนนิยมสูงสุดในฐานะผู้มีความเหมาะสม ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และคะแนนนิยมความเห็นใจกลุ่ม 4 กุมาร ก็มีจำนวนมากเช่นกัน ถ้ามีการแยกตัวไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ ก็จะโกยคะแนนไปได้ไม่น้อยดังนั้น ถ้าหากเกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้นมาในช่วงนี้ กลุ่มที่ได้ประโยชน์ หรือได้เปรียบทางการเมืองมากที่สุด คือพลเอกประยุทธ์ และนายอุตตมเท่านั้น ที่ประชาชนรู้จักและกล่าวขานถึงผลงานการเยียวยาแจกเงินให้กับประชาชนมากถึง 48 ล้านคน ถ้าหากกลุ่มเป้าหมายนี้ แปรเป็นคะแนนในการเลือกตั้งแค่ 25% จะได้เป็นคะแนน 12 ล้านเสียง มากกว่าคะแนนของทุกพรรคการเมืองในการเลือกตั้งเมื่อ 24 มีนาคม 2562 ด้วยซ้ำไป นายเทพไท กล่าวนายเทพไท กล่าวต่อว่า สำหรับตน พร้อมยอมรับความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นในทุกสถานการณ์ ชีวิตนักการเมืองทุกคน เมื่อเจอวิกฤติการยุบสภาฯ เกิดขึ้น ก็พร้อมจะลงสนามเลือกตั้งใหม่ เพื่อพิสูจน์ตัวเองต่อประชาชน จึงเห็นว่าชีวิตนักการเมืองไม่ต้องกลัวการยุบสภาฯเพราะเมื่อยุบสภาฯ แล้วก็ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าการยุบสภาฯ คือการรัฐประหาร เพราะเกิดขึ้นแล้วก็ไม่รู้อนาคตว่า จะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ และจะมีการสืบทอดอำนาจอีกนานแค่ไหน | เทพไท ชี้ สมคิด โยนหิน ยุบสภาฯ ชี้ เรตติ้ง บิ๊กตู่-อุตตม ดี บอก คนเทคะแนน แค่ 25% จาก 48 ล้านคน ที่ได้เงินเยียวยา เลือกใครก็เป็น รบ. ลั่น ไม่กลัวยุบสภา แต่กลัวรัฐประหารสืบทอดอำนาจ | ข่าว,การเมือง | พรรคประชาธิปัตย์,เทพไท เสนพงศ์,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,รัฐประหาร,สืบทอดอำนาจ,ไม่กลัวยุบสภา,ยุบสภา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1880160 |
พ่อแม่ทหารถูกแทงดับวันสงกรานต์ นำอัฐิลอยอังคารกลางน้ำโขง | เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 62 ที่สถานีเรือรัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย นายสมบูรณ์ ยศมาร บิดาของสิบเอกพลนิกร ยศมาร หรือ พลทหารพลนิกร พร้อมด้วยญาติพี่น้อง ได้นำเถ้าอัฐิของสิบเอกพลนิกร ไปลอยอังคาร โดยเจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง สถานีเรือหนองคาย ได้อำนวยความสะดวกนำครอบครัวไปลอยอังคารกลางแม่น้ำโขง ซึ่งได้นิมนต์พระสงฆ์ประกอบพิธีตามศาสนาทุกขั้นตอน โดยศพของสิบเอกพลนิกร ฌาปนกิจ เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา,นายสมบูรณ์ ยศมาร กล่าวว่า การเสียชีวิตของลูกชายแม้ว่าจะเสียใจ แต่ก็ภูมิใจที่ลูกชายเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ เต็มภาคภูมิสมกับเป็นชายชาติทหาร เพราะครอบครัวตนไม่ว่าจะเป็นรุ่นปู่ อา น้องชายหลายคนก็เคยเป็นทหาร ตนก็อยากให้ลูกชายเป็นทหาร หลังจากลูกชายติดทหารก็ดีใจมาก เพราะเป็นอาชีพที่มีเกียรติ เมื่อลูกชายเสียชีวิตทางผู้บังคับบัญชาไม่ได้นิ่งนอนใจ ให้การดูแลงานศพ และเลื่อนชั้นยศเป็น สิบเอก ให้ เป็นเกียรติประวัติกับครอบครัวตนเอง ส่วนเรื่องรูปคดีให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ก็ยังอยากขอให้วัยรุ่นคนอื่นๆ ใช้ชีวิตอย่างมีสติ จะได้ไม่เกิดความสูญเสียเหมือนกับครอบครัวของตนเองอีก. | ครอบครัว ญาติ พลทหารพลนิกร ยศมาร ที่ถูกแทงเสียชีวิตช่วงวันสงกรานต์ นำเถ้าอัฐิไปลอยอังคารในแม่น้ำโขง จ.หนองคาย พ่อเผยภูมิใจลูกชายตายในหน้าที่อย่างสมเกียรติ ขอวัยรุ่นอย่าคะนองมีสติให้มากๆ | ข่าว,ทั่วไทย | ทหารถูกแทง,ลอยอังคาร,แม่น้ำโขง,หนองคาย,พลนิกร ยศมาร,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1547910 |
มาเป็นเซต เอซุสเผยโฉมมือถือ-โน้ตบุ๊ก-แท็บเล็ต ชูเซนโฟน 3 เรียกเรตติ้ง | นายอิรีค เฉิน ประธาน เอซุส เปิดเผยว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์กลุ่มโน้ตบุ๊กของเอซุสเป็นอันดับที่ 1 ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยส่วนแบ่งตลาด 26% ขณะที่คอนซูเมอร์โน้ตบุ๊กอยู่ในอันดับที่ 2 ของตลาดโลก และสมาร์ทโฟนมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงเป็นอันดับที่ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยสัดส่วน 11% ส่วนในประเทศไทยนั้นบริษัทมีอัตราการเติบโตราว 100% ต่อปี และมีช่องทางจำหน่ายแบบค้าปลีกราว 3,700 แห่งทั่วประเทศ,นายจอห์น เฉิน ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโส บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า เอซุสมีส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยอยู่ที่ 4.5% ถือเป็นผู้นำอันดับที่ 6 ของตลาด ซึ่งบริษัทตั้งเป้าขยายส่วนแบ่งตลาดเป็น 10-12% เพื่อขึ้นเป็นผู้นำสมาร์ทโฟนใน 3 อันดับแรก ภายใน 1-2 ปีนี้ ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของผลิตภัณฑ์กลุ่มโน้ตบุ๊กในเดือนมิถุนายนนั้นอยู่ที่ 24.3% จากเดิม 22% อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีนี้ตลาดสมาร์ทโฟนจะสามารถเติบโตได้เป็นเท่าตัว โดยมีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท เช่นเดียวกับตลาดโน้ตบุ๊กซึ่งคาดว่าอาจมีมูลค่าราว 10,000 ล้านบาท,ส่วนตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยนั้น เอซุสมีความแข็งแกร่งในกลุ่มราคา 5,000-10,000 บาท ซึ่งมียอดจำหน่ายราว 50% จากยอดขายสมาร์ทโฟนเอซุสในประเทศไทย ส่วนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเซนโฟน 3 ซีรีส์ในครั้งนี้ เป็นการขยายสายผลิตภัณฑ์สู่กลุ่มราคา 10,000-30,000 บาท ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสและขยายตลาดสู่กลุ่มราคาระดับบน โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดอีก 20% สำหรับสมาร์ทโฟนราคา 10,000-15,000 บาท,เอซุสมองว่าไอโฟนและซัมซุงคือคู่แข่งในตลาดสมาร์ทโฟนไทย และเราเชื่อว่าสินค้าของเอซุสมีความสามารถในการแข่งขันได้เป็นอย่างดี จากจุดเด่นของสมาร์ทโฟนในกลุ่มเซนโฟน 3 ซีรีส์ เช่น หน้าจอป้องกันรอยแบบ 2.5D กล้องถ่ายภาพที่พัฒนาร่วมกับโซนี่เพื่อมอบประสิทธิภาพที่ดีในการใช้งาน ลำโพงที่ให้เสียงได้ไพเราะขึ้น รวมถึงความสวยงามในการดีไซน์เครื่องด้วยโลหะ และระบบประมวลผลที่ทำให้เครื่องสามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล ขณะที่การแข่งขันในตลาดโน้ตบุ๊กก็ยังคงมีคู่แข่งแบรนด์หลักๆ เช่นเดิม ซึ่งเอซุสเน้นการนำเสนอดีไซน์ที่มาพร้อมเทคโนโลยี และเชื่อว่าตลาดโน้ตบุ๊กในไทยยังสามารถเติบโตได้ จากความต้องการใช้งานที่ยังมีอย่างต่อเนื่องและกลุ่มเกมเมอร์,สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เอซุสเปิดตัวในครั้งนี้ แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ภายใต้แนวคิดเซนโวลูชั่น (Zenvolution) คือ สมาร์ทโฟนเอซุส เซนโฟน 3 ซีรีส์, โน้ตบุ๊กเอซุส เซนบุ๊ก 3 และแท็บเล็ตที่สามารถใช้งานเป็นโน้ตบุ๊ก เอซุส ทรานฟอร์เมอร์ 3 ซีรีส์ ซึ่งจะทยอยวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงกลางเดือน-ปลายเดือนสิงหาคมนี้,โดยผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวครั้งนี้ ในกลุ่มสมาร์ทโฟน ได้แก่ เซนโฟน 3 (Zenfone 3), เซนโฟน 3 อัลตร้า (Zenfone 3 Ultra), เซนโฟน 3 ดีลักซ์ (Zenfone 3 Deluxe), เซนโฟน 3 เลเซอร์ (Zenfone 3 Laser), เซนโฟน 3 แม็กซ์ (Zenfone 3 Max) ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 5,990-28,900 บาท ส่วนกลุ่มโน้ตบุ๊ก ได้แก่ เซนบุ๊ก 3 (Zenbook 3) ราคา 69,990 บาท และกลุ่มแท็บเล็ต ได้แก่ ทรานฟอร์เมอร์ 3 (Transformer 3), ทรานฟอร์เมอร์ 3 โปร (Transformer 3 Pro) มีราคาตั้งแต่ 40,090-59,990 บาท,นอกจากนี้ เอซุส ประเทศไทย ยังได้เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ชาวไทยคนแรก คือ ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก เพื่อเป็นตัวแทนในการสื่อสารถึงแบรนด์เอซุสด้วยภาพลักษณ์ของคนรุ่นใหม่อีกด้วย. | Asus เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งกลุ่มสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก และแท็บเล็ต หวังเรียกเรตติ้งยอดขายไทย เจาะกลุ่มราคาระดับกลาง-สูง… | ข่าว,ไอที | Asus,เอซุส,เซนโฟน 3,Zenfone 3,เซนโฟน 3 อัลตร้า,Zenfone 3 Ultra,เซนโฟน 3 ดีลักซ์,Zenfone 3 Deluxe,เซนโฟน 3 เลเซอร์,Zenfone 3 Laser,เซนโฟน 3 แม็กซ์,Zenfone 3 Max,เซนบุ๊ก 3,Zenbook 3,ทรานฟอร์เมอร์ 3,Transformer 3,ทรานฟอร์เมอร์ 3 โปร,Transformer 3 Pro,สมาร์ทโฟน,โน้ตบุ๊ก,แท็บเล็ต,อิรีค เฉิน,จอห์น เฉิน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์,ข่าวไอที | https://www.thairath.co.th/news/tech/680617 |
นายกฯ เซ็นตั้ง 6 กุนซือ ช่วยขับเคลื่อนนโยบาย เพิ่มประสิทธิภาพงาน รบ. | เมื่อวันที่ 21 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 55/2562 เรื่องการแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดิน และการขับเคลื่อนงานของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11(6) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 นายกรัฐมนตรี จึงมีการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิดังต่อไปนี้ ให้เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษา และพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่างๆตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย,1. นายดิสทัต โหตระกิตย์,2. นายบุญทักษ์ หวังเจริญ,3. นายปิติ ตัณฑเกษม,4. นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร,5.นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ,6.นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์,ทั้งนี้ให้ส่วนราชการสนับสนุนการดำเนินงาน ของที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ตามที่ได้รับการร้องขอ และให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะปรึกษาฯ สำหรับการเบิกจ่ายเบี้ยประชุม และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน ให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ โดยให้เบิกจ่ายจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 11 มี.ค.2562,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประวัติการทำงานของทั้ง 6 คน ที่น่าสนใจ มีดังนี้,1.นายดิสทัต โหตระกิตย์ เคยเป็นอดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และอดีตสมาชิกสภานิตติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แต่ได้ยื่นหนังสือลาออกจาก สนช.เมื่อวันที่ 18 ก.พ.62 ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (คณะกรรมการ กฟผ.) ชุดใหม่,2.นายบุญทักษ์ หวังเจริญ เป็นอดีตสมาชิก สนช.และอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีเอ็มบี ถือเป็นผู้นำวางรากฐานทางการเงิน ที่ทำให้ทีเอ็มบีพ้นจากภาวะขาดทุนสะสม และเป็นผู้ที่นำการสร้างแบรนด์ทีเอ็มบี Make THE Difference,3.นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารทหารไทย อดีตกรรมการบริหารความเสี่ยง และกรรมการสรรหา บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถือเป็นนักการธนาคารที่มีประสบการณ์ เข้าร่วมงานกับ TMB ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ และปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน มีประสบการณ์ในวงการธนาคารมากว่า 25 ปี,4.นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม อดีตซีอีโอ ปตท.เข้ามาในช่วง ครม.ประยุทธ์ 5 ดีกรีด็อกเตอร์วิศวกรรมศาสตร์จากประเทศญี่ปุ่น ขณะที่งานสำคัญของรัฐบาล คือ เดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ระบบขนส่งมวลชน และโครงการเมกะโปรเจ็กต์เชื่อมเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.),5.นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ กรรมการอิสระ ประธานกรรมการบริหารความเสี่ยง กรรมการสรรหา และกรรมการตรวจสอบ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นนักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่ ดร.เศรษฐพุฒิ เคยทำงานธนาคารโลก ปัจจุบันทำงาน ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผ่านการบริหารเศรษฐกิจจริงมาอย่างโชกโชนทั้งในภาครัฐและเอกชน ในอดีตเขาเคยทำงานเป็นนักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารโลก ปัจจุบันเศรษฐพุฒิเป็นหนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.),6.นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ,ทั้งนี้ทั้ง 6 คน ถือเป็นบุคลลากรที่เข้ามาช่วยดูเรื่องกฎหมาย เศรษฐกิจ การลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน และอีอีซี ถือเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ และจะเป็นทีมงานที่เข้ามาขับเคลื่อนนโยบายสำคัญๆ โดยเฉพาะหาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้กลับมาเป็นนายกฯหลังการเลือกตั้ง | นายกฯ ลงนามแต่งตั้ง 6 กุนซือที่ปรึกษาช่วยงานเรื่อง กฎหมาย-เศรษฐกิจ-การลงทุน-โครงสร้างพื้นฐาน-อีอีซี หวังช่วยงานบริหารราชการแผ่นดิน ขับเคลื่อนงานรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพ
| ข่าว,การเมือง | แต่งตั้ง,ลงนามแต่งตั้ง,ที่ปรึกษานายกฯ,แต่งตั้งที่ปรึกษา,นายกฯ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1525785 |
เปิดใจ 2 สตาร์เจแปน จับเทียบความร้อนแรง โรล่า Vs โนโนะ ใครเจ๋งกว่ากัน (ชมคลิป) | ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงกับงานออโตซาลอน 2015 ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ณ ชาเลนเจอร์ 2-3 เมืองทองธานี นอกจากมหรรมรถยนต์และของแต่งรถยนต์ และแฟชั่นสุดร้อนแรงและพริตตี้สุดเซ็กซี่แล้ว อีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ก็คือการปรากฏตัวของ ซุปเปอร์สตาร์ชาวญี่ปุ่นขวัญใจหนุ่มๆ ทั้งประเทศ 2 คน,ไทยรัฐออนไลน์มีโอกาสได้สัมภาษณ์เปิดใจและนำมาเปรียบเทียบความเจ๋งของ โนโนะ มิซึซะวะ (Nono Mizusawa) และ โรล่า มิซากิ (Rola misaki) เจ้าของฉายา มาเรียโอซาวา มิยาบิ 2 ซุปเปอร์สตาร์สุดเซ็กซี่ของประเทศญี่ปุ่น บทสัมภาษณ์ 15 นาทีที่รับประกันได้ว่า อ่านแล้วอยากเจอตัวจริงรับประกัน ฟันธง (,ชมคลิปล้างรถ2สาว,),ทำความรู้จัก Nono Mizusawa,1. โนโนะ มิซึซะวะ เกิดวันที่ 6 กันยายน 1993 อายุ 22 ปี ซึ่งตัวจริงดูอ่อนวัยกว่าอายุ,2. สัดส่วน 34-24-33 ส่วนสูง 165 เซนติเมตร เป็นสัดส่วนและส่วนสูงเธอ,3. โนโนะ มิซึซะวะ ได้รับรางวัลนักแสดงเซ็กซี่ขวัญใจมหาชนประจำปี 2014 โดยรางวัลนี้วัดจากยอดขายหนังผู้ใหญ่ที่ได้อันดับที่ 1 ,4. อะไรคือเสน่ห์ที่ทำให้มียอดขายดีขนาดนี้ โนโนะ มิซึซะวะ บอกว่า ส่วนหนึ่งด้วยความที่เป็นคน Friendly มีความเป็นกันเอง ยิ้มเก่ง อีกส่วนหนึ่งคือเราเป็นคนที่ใส่ใจกับรูปร่างหน้าตา จะดูแลไม่ให้อ้วนเกินไป ส่วนใหญ่วิธีดูแลก็ออกกำลังกายด้วยการเดิน วิ่งบ้างและดูแลเรื่องอาหารการกิน ,5. เธอบอกว่าไม่ได้มาเมืองไทยครั้งแรก แต่มาแทบทุกครั้งจะชอบไปกินเมงยะ โคจิ แถวสุขุมวิท 39 ร้านราเมงสุดอร่อย ส่วนอาหารไทยที่อยากไปกิน แต่ยังไม่ได้กินก็คือ ปูผัดผงกะหรี่ ต้มยำกุ้ง พวกส้มตำไทย แต่กินเผ็ดไม่ได้,6. ก่อนเข้าวงการการแสดงหนังผู้ใหญ่ โนโนะบอกว่าเป็นเรื่องน่าดีใจที่ส่วนใหญ่สาวๆ คนอื่นจะไปออดิชั่น แต่เธอมีแมวมองมาชักชวน ปัจจุบันอยู่วงการนี้มาเกือบ 2 ปี,7. อนาคตถ้าไม่เกี่ยวกับหนังผู้ใหญ่ ถ้ามีโอกาสก็อยากแสดงหนังแนวเซ็กซี่ของญี่ปุ่น ถ้าไม่ได้ถ่ายเอวีก็จะไปแนวหนังเซ็กซี่แทน โดยบทที่เธออยากเล่นอาจจะไม่ใช่แนวน่ารัก จะเป็นแนวเซ็กซี่ อาจจะเป็นบทภรรยาเซ็กซี่ๆ ,8. ทายซิว่าส่วนไหน เธอบอกว่าชอบชอบบอดี้ไลน์ของตัวเองมากๆ เวลาโพสท่าจะสวย,9. ถ้าจะให้แนะนำคนไทยที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่น ที่ไหนน่าเที่ยว เธอบอกว่า ถ้าเป็นวัยรุ่นหน่อย ก็เป็นชิบูย่า และถิ่นช็อปปิ้งแถวกินซ่า เธอย้ำว่าเป็นคนที่ชอบช็อปปิ้งมากๆ,10. เมื่อถามว่าอยากจะไปเที่ยวที่ไหนในประเทศไทย โนโนะ มิซึซะวะ บอกว่าอยากไปฟาร์มเสือ เพราะชอบเสือ แล้วก็อยากไปยิงปืน,11. ถามถึงไอดอลในวงการหนังผู้ใหญ่โนโนะ มิซึซะวะ บอกแบบอมยิ้มน่ารักว่า Akiho Yoshizawa,12. ข่าวดีสำหรับหนุ่มๆ ไทยที่จะไปจิ้นต่อ โนโนะบอกกับเราว่าปัจจุบันไม่มี แถมยังบอกด้วยว่าคนไทยหล่อ เท่ แต่สเปกจริงๆ ต้อง ล่ำๆ บึ้กๆ,ทำความรู้จัก Rola misaki,1. โรล่า มิซากิ เกิดวันที่ 1 มิถุนายน 1992 อายุ 23 ปี เธอเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-รัสเซีย,2. สัดส่วน 33-23-34 และ 172 เซนติเมตร เป็นสัดส่วนและส่วนสูงของ โรล่า มิซากิ ,3. โรล่า มิซากิ บอกว่าเธอมาทำงานที่เมืองไทยเป็นครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้เคยมาเที่ยว เธอบอกว่าเมืองไทยอากาศไม่ได้ร้อนเหมือนที่คิดไว้ ก่อนมาคิดว่าจะร้อนมาก แสงแดดแรงมากด้วย แล้วน่าจะตัวดำ พอมาถึงแล้วมันก็ไม่ได้ต่างจากญี่ปุ่นเท่าไร,4. รู้ตัวไหมว่าในเมืองไทยดังขนาดไหน เราสงสัย โรล่ายิ้มหวานมองตาเขม่งและบอกว่า ไม่รู้มาก่อนว่าตัวเองจะมีชื่อเสียงในเมืองไทยขนาดนี้ ตอนที่จะมางานโชว์ตัว ล้างรถออโตซาลอน 2015 ยังคิดอยู่เลยจะมีแฟนคลับไหม,5. ถามถึงสเปกหนุ่มๆ ว่า ชอบหนุ่มๆ แบบไหน ญี่ปุ่น หรือ ต่างชาติ เธอบอกแบบอายๆ ว่าที่ผ่านมารู้จักแต่ผู้ชายญี่ปุ่น แต่จากนี้ถ้าได้รู้จักประเทศอื่นๆ ก็คงจะดี ไม่ว่าจะคนไทยหรือต่างชาติก็ตาม แต่ว่าเป็นคนที่เราชอบ ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนก็ไม่สำคัญ,6. สเปกชายในฝัน โรล่า มิซากิ หัวเราะดังและว่า บอกไม่ถูก คนที่ชอบก็คือชอบ ตัดสินด้วยความรู้สึก ไม่ได้มีวาดไว้ว่าต้องเป็นแบบนี้ๆ แต่ส่วนตัวชอบผู้ชายมีกล้ามเนื้อ นี่เป็นความชอบส่วนตัว แต่ผู้หญิงญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็จะชอบผู้ชายผอมนิดหนึ่ง,7. หลังจากออกจากวงการทำอะไรบ้าง เธอบอกว่าส่วนใหญ่จะรับงานอีเวนต์โชว์ตัว หลายๆ ประเทศในเอเชีย แต่จะไปเมืองจีนบ่อยมาก มีผู้ติดตามใน weibo network หรือทวิตเตอร์ในจีน กว่า 4.8 ล้านคนเลยทีเดียว ซึ่งหลังจากนี้หากเมืองไทยมีคนจ้างก็ยินดีจะมา,8. โรล่า มิซากิ บอกด้วยว่าถ้าให้เลือกระหว่างดูหนัง ฟังเพลง เธอเลือกอย่างหลัง และชอบเพลงที่มันสนุกสนาน ที่เปิดในผับ และก็ชอบเพลงสากลมากๆ แต่ไม่ได้ชอบร้องเพลงขนาดที่ชวนเพื่อนๆ ไปร้องคาราโอเกะ แต่ถ้าเพื่อนๆ ชวนไปก็พร้อมจะไป เอ๊ะ ยังไง,9. ดีใจล่วงหน้าเลยเธอตอบคำถามว่ามีแพลนมาเที่ยวไทยอีกไหมในอนาคต ถ้ามีงานก็พร้อมจะมาเรื่อยๆ แต่ส่วนตัวชอบไปเที่ยวเกาะ ชอบทะเล อย่างภูเก็ต กระบี่ เป็นต้น,10. อยากให้โรล่า มิซากิ แนะนำหนุ่มๆ ที่คิดจะไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น ต้องไปที่ไหนอยากจะให้ลองไปที่แยกชิบูย่า ตรงที่คนผ่านเยอะๆ สนุกดี,11. เมื่อถามถึงเรื่องข่าวการว่าจ้างผูกขาดนานหลายสิบปี เธอปฏิเสธให้สัมภาษณ์เรื่องนี้,และทั้งหมดนี้คุณเท่านั้นที่จะบอกได้ว่าคนไหนที่อยู่ในดวงใจคุณ. | ไทยรัฐออนไลน์มีโอกาสได้สัมภาษณ์เปิดใจและนำมาเปรียบเทียบความเจ๋งของ โนโนะ มิซึซะวะ (Nono Mizusawa) และ โรล่า มิซากิ (Rola misaki)เจ้าของฉายา มาเรียโอซาวา มิยาบิ 2 ซุปเปอร์สตาร์สุดเซ็กซี่ของประเทศญี่ปุ่น บทสัมภาษณ์ 15 นาทีที่ | null | นักแสดงเอวี,โนโนะ มิซึซะวะ,Nono Mizusawa,โรล่า มิซากิ,Rola misaki,มาเรียโอซาวา มิยาบิ,ออโต้ซาลอน2015,ออโต้ซาลอนจัดที่ไหน,ชิบูย่า,ไลฟ์สไตล์,ข่าวไลฟ์สไตล์,ข่าวไทยรัฐออนไลน์,ประวัติโนโนะ มิซึซะวะ,ประวัติโรล่า มิซากิ,สัมภาษณ์พิเศษโนโนะ,สัมภาษณ์พิเศษโรล่า,เปิดใจดาราเอวี | https://www.thairath.co.th/content/507743 |
พัฒนาชุด กระตุ้นจั่น แก้วิกฤติมะพร้าวไม่ติดลูก | นับแต่นี้เกษตรกรไม่ต้องกังวลปัญหานี้อีกต่อไป รศ.วรภัทร ลัคนทินวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์เครื่องมือเพื่อการวิจัยขั้นสูง ภาควิชาเทคโนโลยีการเกษตร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สามารถแก้ปัญหานี้ได้สำเร็จ แม้แต่ฟิลิปปินส์ยังตามตื๊อ,มะพร้าวน้ำหอมติดลูกน้อย บางปีแทบไม่ติดลูก ปัญหานี้เกิดขึ้นมานาน บางรายแม้จะบอกตัวเองว่ารอดูปีหน้าอีกปี แต่รอไปรอมาชักทำใจไม่ได้ คิดว่ามะพร้าวไม่ติดลูกเพราะกลายพันธุ์ ถึงปีก่อนๆจะมีลูกมะพร้าวเต็มคอต้น แต่สุดท้ายเลยแก้ปัญหาด้วยการโค่นปลูกใหม่ ซึ่งเป็นวิธีที่ผิด,การแก้ปัญหา รศ.วรภัทร บอกว่า ทำได้ง่าย ด้วยการผสมจั่นมะพร้าวด้วยตัวเอง ซึ่งพัฒนาต่อยอดมาจากงานวิจัยผสมมะพร้าว แต่วิธีการเดิมยุ่งยาก ต้องปีนขึ้น-ลงต้นมะพร้าวหลายรอบ เลยพัฒนาเครื่องผสมเกสรมะพร้าวแบบ 2 in 1 หรือเกษตรกรจะใช้ถังฉีดยาทั่วไปที่ใช้แรงมือโยกก็ได้ แต่ต้องเป็นถังใหม่ยังไม่เคยใช้งานจะได้ชัวร์ว่าไม่มียาเคมีตกค้าง,การช่วยมะพร้าวผสมเกสร ช่วงเวลาที่เหมาะ 05.00-11.00 น. เพราะจะช่วยให้ติดลูกง่ายเริ่มจากนำสารล้าง-ผสมเกสร ซึ่งมีจำหน่ายที่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต 1 ชุด ราคา 300 บาท ผสมมะพร้าวได้ 100 ต้น นำมาผสมกับน้ำแยกออกเป็น 2 ถัง,ถังแรกใช้สารล้างช่อ 1 ส่วน ผสมกับน้ำ 20 ลิตรส่วนถัง 2 ใช้เกสรตัวผู้ 100 กรัม บดให้แตกเอาไปละลายกับน้ำ 20 ลิตร กรองกากทิ้ง ใส่สารผสมเกสร 1 ส่วน,เลือกจั่นที่แก่ได้ที่พร้อมผสมพันธุ์ สังเกตจั่นจะมีสีเขียวตองอ่อน ปลายดอกลูกมะพร้าวตัวเมีย แตก 3 แฉก ขั้นแรกใช้สารล้างฉีดพ่นราน้ำค้างออกให้หมด แล้วฉีดตามด้วยสารผสมเกสรทำซ้ำๆอย่างนี้ 3 วันหากภายใน 4 ชั่วโมงไม่มีฝนตก รศ.วรภัทร การันตีมะพร้าวติดผลแน่นอน 100%,เพื่อให้งานวิจัยนำไปใช้แก้ปัญหาให้กับเกษตรกรได้จริง ปีที่ผ่านจึงร่วมกับสภาเกษตรกร จังหวัดราชบุรี ให้ชาวบ้าน อ.ดำเนินสะดวกทดลองใช้,นายเมธัสสิทธิ์ ลัคนทินวงศ์ หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกร จ.ราชบุรี เล่าว่า ระยะ 3-4 ปีมานี่มะพร้าวน้ำหอมดำเนินสะดวกติดลูกน้อย และไม่เคยมีวิธีใดมาช่วยแก้ปัญหาได้ กระทั่งทีมวิจัยเข้ามาอบรมให้ความรู้ชาวบ้าน ช่วยให้มะพร้าวน้ำหอมติดลูกเพิ่มขึ้น จากเดิมแต่ละหางหนูอย่างเก่งมีมะพร้าวไม่เกิน 10 ลูกแต่ปีนี้มีมะพร้าวติดผล 15-17 ลูก เลยเป็นปีทองของคนดำเนินสะดวก มีมะพร้าวน้ำหอมขายหน้าสวนลูกละ 17-20 บาท และมีขายได้ตลอดทั้งปี,สนใจเทคนิคผสมพันธุ์มะพร้าว ติดต่อ สอบถามได้ที่ 09-0987-8772 สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สนับสนุนการอบรมให้ฟรี.,เพ็ญพิชญา เตียว,ลักษณะของจั่นตัวเมียที่พร้อมผสมพันธุ์. | มะพร้าวน้ำหอมหน้าสวนมีราคาแพง แต่ชาวสวนกลับไม่มีมะพร้าวให้เก็บขาย นั่นเพราะภาวะภัยแล้งส่งผลให้มะพร้าวน้ำหอมติดลูกน้อยเป็นปัญหาเกิดขึ้นซ้ำๆเกือบทุกปี | null | เพ็ญพิชญา เตียว,มะพร้าว,ไม่ติดลูก,กระตุ้นจั่น,วรภัทร ลัคนทินวงศ์,มะพร้าวน้ำหอม,ติดลูก | https://www.thairath.co.th/content/502510 |
โฟกัสที่ตัวเอง สารัช สุดตื่นเต้น ได้เรียนรู้จากโค้ชระดับโลก | วันที่ 28 ส.ค.62 สารัช อยู่เย็น กองกลางทีมชาติไทยยืนยันว่า ขอโฟกัสที่การฝึกซ้อมของตัวเองเป็นหลัก พร้อมรับตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับโค้ชระดับโลกชาวญี่ปุ่น,โดยมิดฟิลด์จากค่ายกิเลนผยอง กล่าวว่า ก็ค่อนข้างพร้อมครับ เรื่องของสภาพร่างกายก็ปกติ พร้อมที่เข้ามาเรียนรู้วิธีการเล่นที่โค้ช (อากิระ นิชิโนะ) ต้องการ ,ถือว่าเป็นเรื่องดีที่มีกองกลางหลายคน ทำให้การแข่งขันในทีมสูงขึ้น เราเองต้องมีการผลักดันตัวเองให้มากขึ้น ผลสุดท้ายเเล้วจะติดหนึ่งใน 23 คนหรือเปล่ายังไม่ทราบ แต่ว่าโค้ชก็ต้องเลือกคนที่เข้ากับแท็กติกที่เขาต้องการ,ไม่ใช่ไม่แคร์เรื่องของการวิพากษ์วิจารณ์ แต่เราก็มีการรับมือได้ดีขึ้น คือไม่ได้ไปโฟกัสกับตรงนั้นมากเท่าไร อย่างที่บอกเน้นโฟกัสไปที่การฝึกซ้อมของตนเอง และก็การแข่งขันรวมถึงวิธีการเล่นที่โค้ชต้องการแค่นั้น,การที่ได้มาฝึกกับโค้ชก็ตื่นเต้น มันป็นสิ่งที่ดีกับนักเตะที่จะได้เรียนรู้กับโค้ชระดับโลก และเขามาจากประเทศที่ฟุตบอลนั้น มีการพัฒนาไปได้ค่อนข้างไกลแล้ว,สำหรับ ดัง วาน ลัม เองเขาก็ถือว่าอยู่ในช่วงของฟอร์มที่ดี ก็น่าจะมีความมั่นใจในการเล่นมากขึ้นรวมถึงทีมชาติด้วย ก็น่าจะเป็นอีกจุดแข็งหนึ่งของทีมเวียดนาม,ผมมองว่ามันอยู่ที่จังหวะและสถานการณ์ในทีมมากกว่า เราไม่สามารถบอกได้ว่าวันนั้นจะเป็นวันที่ดีของเราหรือไม่ เราไม่สามารถพูดได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่กับวันที่ 5 ว่าจบเกมแล้วมาดูว่าใครจะเป็นผู้ชนะ | มิดฟิลด์ร่างเล็กจากเอสซีจี เมืองทองฯ สุดตื่นเต้นกับการร่วมงานกับโค้ชระดับโลก พร้อมขอโฟกัสที่ผลงานของตัวเองเป็นหลัก โดยไม่สนใจเสียงวิจารณ์จากรอบด้าน | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | สารัช อยู่เย็น,ช้างศึก,ทีมชาติไทย,ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1648183 |
สัมภาษณ์ สุรชาติ บำรุงสุข: ถึงเวลาจัดความสัมพันธ์รัฐบาลเลือกตั้ง VS กองทัพ | อย่างเรื่องการจัดความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งกับกองทัพ จะทำอย่างไรประชาไท พาไปคุยกับ สุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการ สายความมั่นคง แห่งรัฐศาสตร์ จุฬาฯแม้ดูเหมือนทหารจะกลับเข้ากรมกองไปแล้วในคราวหลังเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 แต่เมื่อ 19 กันยายน 2549 ทหารก็ทำรัฐประหารและกลับเข้าสู่เส้นทางการเมืองไทยอีกครั้ง จนถึงการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 ที่หวังกันว่า จะเป็นการคืนเวทีให้รัฐบาลพลเรือนเข้ามาจัดการต่อ กระนั้น จากเดจาวู 19 กันยาฯ ก็ทำให้ไม่อาจมั่นใจได้อีกแล้วว่า ทหารจะกลับเข้ากรมกองจริงๆ แล้ววันนี้ที่ยืนของทหารจะอยู่ตรงไหน พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในที่เพิ่งผ่าน (ฉลุย) ไป จะเกี่ยวอะไรกับการมีอยู่ของทหารในทางการเมืองหรือเปล่า เรื่องเหล่านี้ สุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการสายความมั่นคง แห่งรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกไว้ว่า เพื่อจะตอบคำถามข้างต้น จะต้องทำให้ปัญหา ตกค้างแต่ไม่ตกผลึก อย่างเรื่องการจัดความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งกับกองทัพเป็นเรื่องที่คิดกันอย่างจริงจังเสียทีเรื่องตรงนี้เราได้ยินคนพูดกันเยอะมาก และเห็นท่าทีจากผู้นำทหารปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก ผบ.ทบ. ว่า ทหารพยายามจะไม่เข้าไปยุ่งกับการเมือง แต่คำพูดเฉยๆ ไม่เพียงพอ ที่พูดอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าเราควรจะเชื่อหรือไม่เชื่อใจ พล.อ.อนุพงษ์ (เผ่าจินดา - ผู้บัญชาการทหารบก) ผมคิดว่าคนละประเด็นกันประเด็นใหญ่คือถ้าเราคิดว่าทหารต้องกลับเข้ากรมกอง หลังจากที่การเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ ประเด็นสำคัญที่ต้องเกิดจริงๆ ก็คือ กระบวนการที่จะทำให้ หนึ่ง ทหารกลับเข้ากรมกองจริง สอง การกลับเข้ากรมกองของทหารนั้นมีภาวะที่ยั่งยืนหรือถาวรผมมีข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่า ถ้าเราย้อนอดีตกลับไปสู่เหตุการณ์พฤษภาคม 35 สภาพมันก็มีอะไรบางอย่างที่เป็นบทเรียนให้เรา หลังปี 35 เราพูดเรื่องทหารกลับเข้ากรมกองเยอะมาก แล้วหลังปี 35 ถ้าพูดเรื่องการยึดอำนาจหรือการแทรกแซงทางการเมืองของทหาร ผมคิดว่าไม่มีคนเชื่อ แต่จนสุดท้าย จากปี 35 ถึงปี 49 ประมาณ 14-15 ปี สิ่งที่เราเห็นก็คือ กระบวนการกลับเข้ากรมกองของทหารไม่เกิดขึ้นจริง มันเป็นเพียงความคาดหวังที่เราเชื่อง่ายๆ ว่า หลังเกิดเหตุการณ์ พ.ค. 35 ทหารกลับเข้าไปแล้วล่ะเราปล่อยกระบวนการของการจัดความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นไปตามยถากรรม ผมใช้คำนี้เพราะเหตุว่า เมื่อเราไม่มีกรอบคิดหรือแนวนโยบายแล้ว ความสัมพันธ์ตรงนี้ไม่ถูกจัด เราไม่มีคำตอบในหลายอย่าง รวมถึงบทบาทของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในหลายประเด็นนั้นควรเป็นอย่างไร และในทำนองเดียวกัน บทบาทของกองทัพที่อยู่ในกรอบที่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งนั้นควรจะเป็นอย่างไร เราไม่มีวิธีคิดถ้าตอบจนถึงที่สุด อาจเป็นเพราะสังคมไทยเป็นสังคมที่เราอยู่กันง่ายๆ แล้วไม่ต้องคิดอะไรมาก เราปล่อยให้ประเด็นสำคัญประเด็นนี้ เดินไปเรื่อยๆ ด้วยตัวของมันเอง แต่ว่าที่จริงก่อนปี 35 ก็ปัญหาเดียวกัน หลัง 14 ต.ค. ก็เช่นกัน หลังเหตุการณ์ 6 ต.ค. เรามีปัญหาอีกแบบหนึ่ง แต่เมื่อช่วงของรัฐบาลแบบประชาธิปไตยครึ่งใบเข้ามา การจัดตรงนี้ไม่เกิดเลยผมไม่รู้ว่าจะเปรียบได้ไหมว่า สังคมไทยเหมือนอาหารสำเร็จรูป เราคุ้นกับการเปิดบะหมี่ ฉีกซอง แล้วเติมน้ำร้อน เราคุ้นกับการเปิดขวดกาแฟ ตักกาแฟผง แล้วเอาน้ำร้อนใส่เราอยู่ในสังคมที่สำเร็จรูปซะจนเคย จนเราคิดว่า การเมืองก็คงเหมือนอาหารสำเร็จรูปที่เอาน้ำร้อนใส่แล้วเราทานได้เลย แต่ผมคิดว่าในความเป็นจริง ประชาธิปไตยต้องการกระบวนการคิด ต้องการระยะเวลาของการพัฒนาตัวเอง เพราะฉะนั้นเมื่อเราไม่มีกระบวนการคิดรองรับ หลังเหตุการณ์ พ.ค. 35 ทุกครั้งที่เรามีปัญหา ถ้าสังเกต จะเห็นสื่อถามว่า ทหารจะเอายังไง ทำไมเราไม่ถามในมุมกลับว่าสังคมจะเอาอย่างไรที่ผ่านมา เราโชคดีว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นในบ้านเรา อย่างกรณีวิกฤตเศรษฐกิจ เมื่อ พ.ค. ปี 40 ที่มีความผันผวนทางเศรษฐกิจมาก แต่ข้อดีคือทหารไม่ได้กลับเข้ามา เรามีวิกฤตการณ์ที่ซ้อน ไม่ว่าจะเป็นสงครามการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเรา เช่น 11 กันยายน 2544 หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ ทหารก็ไม่กลับ จนสุดท้ายทหารตัดสินใจกลับมา เมื่อ 19 กันยายน 49 ด้วยความเชื่อว่า ถ้าทหารไม่กลับจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นบนถนนค่ำของคืนวันยึดอำนาจ ถ้าใครเปิดโทรทัศน์ดู จะเห็นการประท้วงรัฐบาลของคนในฮังการี ซึ่งออกมาบนถนนแล้วปะทะกับตำรวจ การปะทะกับตำรวจถ้าดูจากข่าวต่างประเทศถึงขั้นใช้ระเบิดเพลิงปาใส่ตำรวจ ผมนั่งดูข่าวฮังการีแล้วผมมีคำถามอยู่ในใจ ทำไมกองทัพบกฮังการีไม่ยึด ในขณะที่เหตุการณ์บนถนนที่กรุงเทพฯ ยังไม่ถึงขั้นปะทะ แต่ทำไมยึด หรือว่าสุดท้าย เรากลัวการสูญเสีย เรากลัวว่าการเมืองจะพาไปสู่การสูญเสียแต่ผมคิดว่า เราคงจะต้องยอมรับเหมือนกันว่า ความขัดแย้งในระบบประชาธิปไตยเป็นภาวะปกติ ถ้าความขัดแย้งในระบบประชาธิปไตยเป็นภาวะปกติ ปัญหาใหญ่คือทำอย่างไรที่ความขัดแย้งนี้จะไม่ขยายตัวเป็นความรุนแรงจนเกินขอบเขตต่างหากวันก่อนมีข่าวการวิวาทในรัฐสภาในเกาหลีใต้ หรือหลายครั้ง เราเห็นเหตุวิวาทในรัฐสภาในประเทศแถบเอเชีย มันก็มีคำถามคล้ายกัน แล้วทำไมทหารไม่ยึด หรือแม้กระทั่ง กองทัพที่แข็งกว่าเราในอดีตอย่างกองทัพเกาหลีใต้ วันนี้เกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์ กลุ่มทุนในเกาหลีใต้ไม่กลัวคอมมิวนิสต์จากเกาหลีเหนือที่มีอาวุธจากนิวเคลียร์เหรอ หรือว่าวันนี้ กลุ่มทุน-กลุ่มชนชั้นกลางในเกาหลีใต้ รวมถึงกลุ่มต่างๆ ในเกาหลีใต้มีวุฒิภาวะพอที่จะอยู่กับสังคมประชาธิปไตยที่มีความขัดแย้งภายใน ซึ่งประเด็นนี้ผมคิดว่าสังคมอาหารสำเร็จรูปแบบไทย คงต้องเรียนรู้พอสมควร ทำอย่างไรที่เราจะใจเย็นพอและใจแข็งพอที่จะให้โอกาสประชาธิปไตยพัฒนาถ้าเราไม่ให้โอกาสประชาธิปไตยพัฒนา แล้วเราคาดหวังทุกอย่างแบบอาหารสำเร็จรูป สุดท้ายเราไม่ใช่คนปรุงอาหาร แล้วแย่ที่สุดคือ เราก็ไม่ใช่คนที่ได้ชิมอาหารในชามนั้นด้วย ถ้าเราคิดว่าเราใจเย็นพอ ใจแข็งพอ วันนี้สังคมไทยปรุงอาหารด้วยกันไหม แล้วก็รับประทานด้วยกัน ไม่ต้องไปเชื้อเชิญคนอื่นมารับประทานแทนเราวันนี้ สังคมไทยเริ่มถอยสู่อดีต คำถามสำคัญยังเป็นคำถามเดิม ทำอย่างไรที่กระบวนการถอนตัวของทหารจะมีความเป็นสถาบัน ผมใช้ความหมายของการเป็นสถาบัน คือมีฐานะที่ยั่งยืนและถาวร ถ้ากระบวนการอย่างนี้เกิดไม่ได้ ประชาธิปไตยไทยจะไม่มีวุฒิภาวะเลย พูดง่ายๆ ผมเคยใช้เสมอว่า สุดท้ายประชาธิปไตยไทยเป็นแค่เด็กชาย เพราะพอเริ่มตั้งไข่ก็ล้ม เริ่มตั้งไข่ได้ระยะหนึ่ง ก็ล้ม หรือบางทีไม่ล้มก็มีคนมาเตะตัดขา ด.ช.ประชาธิปไตยให้ล้มอีกผมคิดว่าประเด็นตรงนี้ เรามีบทเรียนเยอะ ใครจะชอบหรือไม่ชอบเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อ 1 ปีเศษๆ ที่ผ่านมา แต่ถ้าเราตั้งสติแล้วลองมองย้อนกลับเปรียบเทียบก่อนรัฐประหารจนถึงปัจจุบัน ผมคิดว่าสิ่งที่เห็นชัดคือ ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในสังคมไทยเอง ถ้าบอกว่าก่อนรัฐประหารแตกแยก ผมเชื่อว่า หลังรัฐประหารแตกแยกมากกว่า พูดง่ายๆ ก็คือรัฐประหารไม่แก้ปัญหาสิ่งที่ผมเคยพูดเสมอ ถ้าใช้สำนวนของเกมโชว์เมืองไทย ก็คือ รัฐประหารไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของการเมืองไทย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่รัฐประหารเป็นคำตอบของการเมืองไทย คุณเป็นยาจกด้วยกันพร้อมกันหมด เพราะเศรษฐกิจไม่สามารถขับเคลื่อนภายใต้เงื่อนไขการรัฐประหารได้ การลงทุนจากต่างชาติก็ไม่มี ในเกมโชว์ คำตอบสุดท้ายคุณอาจได้เป็นเศรษฐี แต่ในเกมการเมืองไทยวันนี้ ถ้าคำตอบสุดท้ายคือรัฐประหาร ผลพวงจากรัฐประหารตอบชัดว่า วันนี้เราเป็นยากจนด้วยกันทั้งสังคมกระบวนการถอนตัวของทหารต้องมีความเป็นสถาบันคือ ต้องเกิดอย่างมีกระบวนการรองรับ แล้วสามารถทำให้กระบวนการรองรับนั้น ทำให้ผลของการถอนตัวมีความยั่งยืน ในระบบของบ้านเรา เมื่อเราไม่แตะเรื่องพวกนี้อย่างจริงจัง กระบวนการถอนตัวของกองทัพจากการเมืองไม่เคยถูกสร้างให้เป็นกระบวนการ มันเป็นแต่เพียงความหวังถ้าสังเกต พ.ค. 35 เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด พ.ค. 35 เรามีความหวัง แล้วเราไม่สร้างกระบวนการตัวนี้รองรับ แล้ววันนี้ พอปัญหาเกิด สิ่งที่ต้องคิดต่อคือ ถ้าวันนี้ทหารอยากถอนตัวจริงๆ คำพูดของผู้นำทหารอย่างเดียวไม่พอ ไม่ใช่ว่าผู้นำทหาร ดีไม่ดี เชื่อได้หรือเชื่อไม่ได้ เพราะก่อนการยึดอำนาจ ทหารก็บอกไม่ยึด ไม่ต่างกันแต่ปัญหาที่ต้องคิดคือ บทเรียนในต่างประเทศมีแล้ว สิ่งที่เห็นชัดคือ การเมืองในอเมริกาใต้ ไม่ว่าจะในบราซิล ชิลี เปรู มีการยึดอำนาจมากกว่าและรุนแรงกว่าในสังคมไทย แต่วันนี้การรัฐประหารในอเมริกาใต้ไม่มี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ การรัฐประหารในอเมริกาใต้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง อาจจะมากกว่าประเทศแถบภูมิภาคเราอีก เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราเห็นคืออะไร ผมคิดว่า คำตอบมันตอบจากละตินอเมริกา ก็คือ การถอนตัวของกองทัพออกจากการเมืองในอเมริกาใต้นั้นมีกระบวนการรองรับและมีความเป็นสถาบันที่ทำให้ทหาร ถอยออกไปแล้วดำรงตัวเองอยู่นอกการเมืองได้ในกระบวนการอย่างนี้มันมีหลายเงื่อนไข ที่จริงผมเคยเขียนบทความตั้งแต่หลังปี 35 เพื่ออธิบายกระบวนการถอนตัวของทหารออกจากการเมืองไทยหลังปี 35 ว่ามีทั้งปัจจัยภายนอก คือเงื่อนไขระหว่างประเทศที่ไม่เอื้อ เงื่อนไขของปัจจัยระดับชาติ ที่สงครามคอมมิวนิสต์ไม่มีหรือสงครามเย็นยุติ เงื่อนไขภายในกองทัพเอง ทหารก็เริ่มไม่อยากยุ่งการเมือง แต่วันนี้ ปัจจัย ปี 35 อธิบายปี 49 ไม่ได้ แต่อธิบายในมุมกลับ ถ้าจะถามว่าโลกาภิวัตน์สนับสนุนให้ทหารยึดอำนาจไหม ผมว่าก็ไม่ใช่ ในระดับชาติเรามีสงครามที่ต้องกลัวจนทหารต้องยึดอำนาจ เหมือนกับยุคที่พรรคคอมมิวนิสต์กำลังทำสงครามไหม ก็ไม่ใช่ตกลงวันนี้ ปัญหาเงื่อนไขมีปัญหาเดียวคือ ผู้นำทหารไทยคิดอย่างไรกับการเมืองของไทย พูดง่ายๆ ก็คือ วันนี้ผู้นำทหารไทยพร้อมที่จะยอมรับกระบวนการทางการเมืองในภาวะปกติหรือไม่ หรือผู้นำทหารไทยเชื่อว่า ผลประโยชน์ของผู้นำทหารเท่ากับผลประโยชน์ของกองทัพ และผลประโยชน์ของกองทัพเท่ากับผลประโยชน์ของชาติ ถ้าสมการเป็นอย่างนี้ มันตอบอย่างเดียว ผลประโยชน์ของผู้นำทหารเท่ากับผลประโยชน์ของชาติ สุดท้าย การยึดอำนาจจะเป็นสิ่งที่ยังเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในสังคมไทย เพราะถ้าผู้นำทหารเชื่อว่า ผลประโยชน์ของเขาถูกคุกคาม เขายึดอำนาจได้และชอบธรรม เพราะผลประโยชน์ของเขาเท่ากับผลประโยชน์ของชาติ ถ้าผลประโยชน์ของเขาถูกคุกคาม ก็คือผลประโยชน์ของชาติถูกคุกคามในระบอบประชาธิปไตย บทบาทสื่อสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สังคมที่อยู่ในระยะเปลี่ยนผ่านอย่างสังคมไทย บทบาทของสื่อมีส่วนช่วยโดยตรง ด้านหนึ่งสื่อมีบทบาทในการให้ความรู้ อีกด้านหนึ่งสื่อมีบทบาทในการให้ข้อเท็จจริง เพราะฉะนั้นในสภาพอย่างนี้ สื่อมีบทที่สามารถเป็นผู้ชี้นำสังคม แม้ว่ากระบวนการเมืองประชาธิปไตยจะดำรงอยู่ ซึ่งผมคิดว่าไม่ต่างจากในประเทศตะวันตกแต่ปัญหาที่สำคัญสำหรับในประเทศที่การเมืองอยู่ในระยะเปลี่ยนผ่านแบบไทย ผมคิดว่าสื่อต้องตระหนักถึงบทบาทที่สร้างสรรค์ในทางการเมือง แต่ก็มุมหนึ่งก็เข้าใจได้ว่าคำถามของสื่อบางอย่าง ถ้าไม่ถือว่าสะท้อนอะไร ก็คงสะท้อนความกังวลของคนในสังคมไทยโดยรวม ในมุมนี้ก็คงว่าสื่อไม่ได้ คนจำนวนมากในสังคมไทยมองการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยความกังวลว่า ตกลงกองทัพรวมถึงผู้นำทหารที่มาจากการยึดอำนาจพร้อมเข้าสู่ภาวะปกติ ที่มีการเลือกตั้งเป็นการขับเคลื่อนเดินไปข้างหน้าได้หรือไม่ แล้วถ้าผลไม่เป็นอย่างที่พวกเขาต้องการ เขาจะยึดอำนาจรอบใหม่ไหมตั้งแต่การลงประชามติรัฐธรรมนูญ จนถึงการออกกฎหมายเลือกตั้ง คนก็พูดกันเยอะว่า ถ้าผลออกมาไม่ตรงกับที่กองทัพต้องการ กองทัพอาจจะยึด ซึ่งหลายท่านคงเห็นตัวอย่าง อย่างน้อยบทเรียนของพม่าคงเป็นข้อคิดให้เราได้ ว่าตอนการเลือกตั้ง เดือนสิงหาคม 1988 ซึ่งผลการเลือกตั้งออกมาไม่เป็นดังใจที่ผู้นำทหารอยากเห็น ผลสุดท้าย ผู้นำทหารของพม่าจับนางอองซาน ซูจี คุมขัง หรือ house arrest เพราะฉะนั้น ในมุมอย่างนี้เข้าใจได้ว่าทำไมคนไทยกังวลหรือในภาพคู่ขนานกับระยะเปลี่ยนผ่านทางการเมืองไทยวันนี้ คือ การเมืองปากีสถาน ถ้ามองภาพกว้างๆ มองการเมืองไทย แล้วมองการเมืองปากีสถานแล้วมองคู่ขนานอีกมุมคือ การเมืองพม่า น่าสนใจมากผมถึงบอกว่า สุดท้ายแล้ว มันย้อนกลับมาที่ประเด็นตอนต้นว่า กระบวนการถอนตัวของทหารจากการเมืองต้องมีนโยบายและกรอบคิดรองรับ เพราะคำพูดลอยๆ ของใครก็ไม่มีหลักประกัน เห็นได้จาก คำพูดของ ผบ.ทบ. ย้ำกับสื่อทุกฉบับว่า ไม่ยึดอำนาจ เพราะฉะนั้น วันนี้ไม่ใช่คำพูดที่ทำให้เกิดหลักประกันทางการเมือง แต่เป็นนโยบาย กรอบคิด และที่สำคัญ ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในการจัดความสัมพันธ์กับกองทัพ วันนี้ต้องคิด สังคมไทยปล่อยเรื่องนี้มานานมาก ประเด็นนี้ย้อนหลังไปอดีตไกลๆ เป็นปัญหามาตั้งแต่ 14 ต.ค. 16ตอบยาก เพราะเราไม่รู้ว่า หนึ่ง นักการเมืองจะคิดอย่างไร สอง รัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งเป็นกุญแจหลัก ถ้าไขกุญแจไม่ได้จะทำอย่างไรเราชอบมองว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่มีลักษณะเฉพาะ (unique) ผมคิดว่าในความเป็นจริง เราไม่มีลักษณะเฉพาะ เพราะเราเห็นบทเรียนที่เกิดขึ้นในทั่วโลก การเมืองในระยะเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย ผมคิดว่าตัวแบบในละตินอเมริกาให้ข้อคิดกับเรามาก ต้องมียุทธศาสตร์แล้วในยุทธศาสตร์ ต้องมีบุคคลที่ทำให้ยุทธศาสตร์เกิดเป็นจริง และในขณะเดียวกัน ต้องทำให้กองทัพยอมรับตรงนี้ด้วยยกตัวอย่างง่ายๆ ตกลงการแต่งตั้ง ผบ.ทบ. ในอนาคต จะเอายังไง เราไม่มีอะไรเลย ผมเคยล้อเสมอว่า มีลูกคนหนึ่งซึ่งคลอดยากมาก คือ เด็กชายโผ ไม่รู้เมื่อไหร่จะคลอด ค้างอยู่ในครรภ์มารดานานมาก แล้วไม่รู้ว่าใครเป็นมารดา หรือใครเป็นหมอทำคลอด เพราะฉะนั้น แค่การแต่งตั้ง ผบ.ทบ. นี่คือตัวปัญหา ยึดอำนาจกุมภาพันธ์ปี 34 ก็ปัญหาข่าวลือปลด ผบ.ทบ. ยึดอำนาจ ก.ย. 49 ก็ปัญหาข่าวลือปลด ผบ.ทบ. วันนี้ เรื่องของการทำโผทหารต้องคิดใหม่ นี่เฉพาะเรื่องเดียว ยังไม่แตะเรื่องการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เรื่องการเลื่อนชั้นเลื่อนตำแหน่งในกองทัพ เรื่องของการทำงบประมาณทหาร เพราะฉะนั้นกรอบตรงนี้ใหญ่มาก มันอาจจะกินระยะเวลาพอสมควรในอนาคต ที่ต้องหากลุ่มคนที่ต้องเริ่มคิดวางยุทธศาสตร์ตรงนี้จริงๆคำถามที่ใหญ่ที่สุด สังคมไทยพร้อมไหมที่จะมีการปฏิรูปกองทัพและการเมืองคู่ขนานกัน ย้ำว่า ต้อง ปฏิรูปกองทัพและการเมือง คู่ขนานกัน เพราะถ้าการเมืองจะปฏิรูป ต้องปฏิรูปกองทัพด้วย นั่นคือถ้าจะทำให้การเมืองเป็นประชาธิปไตย ก็ต้องทำให้กองทัพก็ต้องเป็นประชาธิปไตย โดยนัยยะเดียวกันถ้าจะทำให้กองทัพเป็นประชาธิปไตยได้ การเมืองก็ต้องเป็นประชาธิปไตยคู่ขนานกันมีสองส่วน ส่วนทางการเมือง ชัด คือ บทบาททหารทางการเมืองขยายตัวมาก คือ หนึ่ง กฎหมายความมั่นคง สอง การขยายบทบาทของ กอ.รมน. สาม การขยายบทบาทของทหาร และสี่ การขยายบทบาทที่เกินเลยกว่าบทบาทของการป้องกันประเทศ คือการนำเอาสถาบันทหารเข้ามายุ่งกับการเมืองโดยตรง ซึ่งกรณีหลังจะเห็นชัดว่า หลังปี 35 บทบาทส่วนนี้หายไปเยอะมากผลพวงจาก 19 ก.ย. ตรงนี้ต้องยอมรับว่าเรื่องใหญ่ ปัญหาในระยะเปลี่ยนผ่านสั้นๆ ของการเมืองไทยคือ ผลพวงตรงนี้ใครจะเป็นคนแก้ เช่น วันนี้รัฐบาลอยากลดบทบาทของกองทัพในทางการเมือง ถามด้วยคำถามที่ง่ายที่สุดคือ ผู้นำกองทัพยอมไหม เพราะผู้นำกองทัพบางคนยังออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่ไม่ยอม และถ้าไม่ยอมตกลง กองทัพจะเอาอย่างไร กองทัพจะเป็นสถาบันนอกการเมืองที่สามารถครอบการเมืองไทยได้ใช่ไหม วันนี้สังคมไทยยอมรับสถานะของการเป็นรัฐซ้อนรัฐในเชิงอำนาจทางการเมืองที่กองทัพมีหรือไม่แต่ถ้าบอกว่า เราคิดว่าไม่ยอมรับ วันนี้สังคมไทยต้องคิดด้วยกันใหม่ทั้งกระบวน พูดง่ายๆ ต้องเลิกคิดด้วยวิธีการสำเร็จรูป แบบประเภทฉีกซองบะหมี่แล้วเติมน้ำร้อน สังคมไทยต้องคิดด้วยกันใหม่ทั้งหมด อย่าโทษกันไปโทษกันมา ทางทหารมักจะพูดว่า ต้องให้การเมืองปฏิรูปก่อน ผมคิดว่าไม่ใช่ ต้องปฏิรูปการเมืองและปฏิรูปกองทัพพร้อมๆ กันผมตอกย้ำเสมอว่า พ.ร.บ.ความมั่นคง คือการทำให้อำนาจของทหารในการเมืองไทยมีความเป็นสถาบัน พูดง่ายๆ คือ ทำให้อำนาจของทหารอยู่อย่างถาวรในการเมืองไทยมากขึ้น ผมมีข้อเรียกร้องในการพูดในวันรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ว่า จริงๆ แล้ว น่าจะเรียกร้องสัญญาประชาคมจากทุกพรรคการเมือง ว่าใครก็ตามที่มาเป็นรัฐบาล ขอให้ยกเลิก พ.ร.บ. ความมั่นคง เพราะ พ.ร.บ. นี้ไม่เป็นประโยชน์ อ่านดูในเชิงสาระ พ.ร.บ.นี้ไม่ได้แก้ปัญหาความมั่นคง สาระหลักคือ การตั้ง กอ.รมน.ให้เป็นองค์กรถาวรผมไม่ได้ต่อต้านกฎหมายความมั่นคงแบบชนิดไม่รับเลย ใครที่เคยอ่านข้อเขียนผม ผมพูดตั้งแต่หลังการยกเลิก พ.ร.บ.คอมมิวนิสต์ว่า สังคมไทยควรมีกฎหมายความมั่นคง แต่ไม่ใช่กฎหมายความมั่นคงกรอบใหญ่ ที่ให้อำนาจกับรัฐแบบครอบคลุมทุกอย่างที่ไม่รู้ว่า ในท้ายที่สุด มูลฐานความผิดที่เกิดขึ้นในปัญหาความมั่นคงคืออะไรผมคิดว่า ตัวอย่างของ พ.ร.บ.ความมั่นคงปัจจุบันคือสิ่งที่เราเห็นได้ชัดเจน วันนี้ถ้าเราคิดว่าเราชอบ พ.ร.บ.ความมั่นคง ลองตั้งสติ แล้วถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับปัญหาการใช้กฎหมายความมั่นคงในมาเลเซียผมคิดว่า ตัวอย่างของ พ.ร.บ.ความมั่นคงปัจจุบันคือสิ่งที่เราเห็นได้ชัดเจน วันนี้ถ้าเราคิดว่าเราชอบ พ.ร.บ.ความมั่นคง ลองตั้งสติ แล้วถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับปัญหาการใช้กฎหมายความมั่นคงในมาเลเซียผมพยายามนำเสนอตัวแบบของปัญหาที่เกิดขึ้นในมาเลเซียให้สังคมไทยคิด แต่ย้ำว่า ผมไม่ได้ปฏิเสธกฎหมายความมั่นคงทั้งหมด ยังยืนยันว่าเราควรมีกฎหมายความมั่นคง แต่เป็นกฎหมายความมั่นคงกรอบเล็ก คือเป็นกฎหมายความมั่นคงเฉพาะเรื่อง เช่น กฎหมายการต่อต้านการก่อการร้าย กฎหมายต่อต้านการก่อวินาศกรรมหรือกฎหมายต่อต้านงานข่าวกรองที่ข้าศึกกระทำกับเรา เป็นต้น แต่ไม่ใช่กฎหมายที่ขยายมูลฐานความผิดแบบครอบคลุมทุกอย่าง แล้วให้อำนาจแก่ฝ่ายบริหารโดยไม่มีข้อจำกัด เพราะถ้าเราทำอย่างนั้น สุดท้ายปัญหาจะหวนกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยของเราเอง คือ กฎหมายอย่างนี้จะเกิดปัญหาให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจเกินขอบเขตได้ง่าย หรือในทำนองเดียวกัน จะนำไปสู่ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในอนาคต ซึ่งก็ไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศผมเห็นด้วยนะ มีข้อสังเกตคล้ายๆ กันคือ ในสภาพที่ผมเคลื่อนไหวคัดค้านกฎหมายความมั่นคงนั้น ไม่สามารถขยายการเคลื่อนไหวได้ เป็นการเคลื่อนไหวที่โดดเดี่ยวมาก เพราะไม่สามารถสร้างแนวร่วมในมหาวิทยาลัยได้ ถ้าเป็นสมัยก่อน ผมเชื่อว่าปัญญาชนในมหาวิทยาลัยเอาด้วยกับผม แต่หลัง19 ก.ย. เห็นได้ชัดว่า ปัญญาชนบางส่วนหันไปสนับสนุนทหารในการยึดอำนาจ ผลพวงที่ตามมาก็คือ พวกนี้ไม่กล้าคัดค้านกฎหมายความมั่นคง เพราะคิดว่าสิ่งที่ทหารทำถูกต้อง หรือโดยนัยยะคือถ้าต้องเลือกระหว่างกฎหมายความมั่นคง หรือต้องคัดค้านทหาร เขาเลือกที่จะเลือกกฎหมายความมั่นคงดีกว่ามีคนบอกผมว่าสิ่งที่ผมเสนอซับซ้อนเกินไปในสังคมไทย คนในสังคมไทยไม่เข้าใจผลกระทบของกฎหมายความมั่นคง แล้วยังมองว่าไม่มีอะไร ผมยังจำได้ว่า ตัวแทนสื่อที่มาพูดเรื่องกฎหมายความมั่นคง ก่อนวันที่ 10 ธ.ค. ก็ยังบอกว่าไม่เป็นไร เพราะในความเป็นจริง รัฐบาลไม่เคยใช้กฎหมายความมั่นคงหรอก เพราะฉะนั้นอย่าไปกลัว อะไรอย่างนั้น เป็นต้นกฎหมายความมั่นคงไม่มีนัยยะเกี่ยวข้องกับปัญหาภาคใต้ ผมคิดว่า รัฐบาลจงใจที่จะเบี่ยงเบนประเด็น รัฐบาลพยายามที่จะบอกว่า การที่รัฐบาลไม่ออก พ.ร.ก.หรือ พ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้องกับ ศอ.บต. ให้นั้นจำเป็นต้องรอกฎหมายความมั่นคงก่อน ผมคิดว่าไม่ใช่ถึงกฎหมายความมั่นคงออกมา หลักการจริงก็คือ การให้อำนาจกับ กอ.รมน. ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับ ศอ.บต. โดยตรง คำถามผม กรณี ศอ.บต. เป็นปัญหามาตลอด ทำไมรัฐบาลไม่ตัดสินใจร่างกฎหมายให้ ศอ.บต. ตั้งแต่ต้น ถ้ารัฐบาลคิดว่า รัฐบาลเดิมมีปัญหาในการยุบ ศอ.บต. แล้วรัฐบาลปัจจุบันหลังการยึดอำนาจ ออกคำสั่งตั้ง ศอ.บต.ใหม่ แต่ตั้งแล้วไม่มีกฎหมายรองรับ พูดง่ายๆ คือส่งไปทำงานแต่ไม่มีอำนาจอะไรให้ แล้วรัฐบาลก็มาพูดในภายหลังว่า ต้องรอให้กฎหมายความมั่นคงออกก่อน ซึ่งผมคิดว่าเป็นคนละประเด็นโดยนัยยะคือกฎหมายความมั่นคงในกรณีนี้เป็นเพียงตัวหลอกให้คนในสังคมไทยเชื่อว่า ถ้าอยากแก้ปัญหาใต้ต้องสนับสนุนให้กฎหมายความมั่นคงออก ทำไมไม่คิดในมุมกลับว่า กฎหมายความมั่นคงที่ออกมาจะทำให้ปัญหาในภาคใต้มีความซับซ้อนขึ้น เพราะอะไร เพราะกลุ่มคนบางส่วนจะเอากฎหมายความมั่นคงไปโฆษณาตอบโต้ว่า รัฐบาลกำลังมีเครื่องมือที่อาจจะใช้ในการละเมิดสิทธิมนุษยชนกับปัญหาในภาคใต้ ซึ่งไม่เป็นผลดี วันนี้เรามี พ.ร.ก. ที่ออกตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้ว ปัญหาเดิมคือ ทำไมเราไม่ใจแข็งใช้แค่นั้นร่าง พ.ร.บ.ใหม่กับ พ.ร.ก. ที่ออกในสมัยรัฐบาลที่แล้ว มีความซ้ำซ้อนกันอยู่มาก ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นต้องออกกฎหมายซ้ำซ้อนกัน ปัญหาเหมือนเดิมที่ต้องถามคือเราใจแข็งพอไหมที่จะตั้งหลักในการคิดผมคิดว่าเรากำลังถูกหลอกด้วยภาษาทางกฎหมาย เพราะโดยสภาพแล้ว นายกฯ ไม่ได้เป็นผู้ใช้กฎหมาย เพราะกฎหมายนี้ในความเป็นจริงเป็นกฎหมาย กอ.รมน. ไม่ใช่กฎหมายความมั่นคง เพราะเป็นการร่างกฎหมายที่ทำให้ กอ.รมน. มีฐานะเป็นองค์กรถาวร เพราะฉะนั้นเราถูกหลอกว่า อำนาจในฐานะประธานคือ นายกฯ แต่ในร่างที่เป็นจริง จะเห็นว่า อำนาจถูกฝากไว้ที่ตัว ผบ.ทบ.ในมาตรา 5 ในการปฏิบัติหน้าที่และการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้อำนวยการจะมอบอำนาจเป็นหนังสือให้รองผู้อำนวยการเป็นผู้ปฏิบัติหรือใช้อำนาจแทนก็ได้ เพราะฉะนั้น ในความเป็นจริง ผมไม่ได้คิดว่า นายกฯ ลงมานั่งคุมหน่วยงานอย่างนี้ เรากำลังถูกหลอกด้วยวลีทางกฎหมาย เสมือนหนึ่งว่านายกฯ เป็นผู้บังคับบัญชา แต่ในความเป็นผู้บังคับบัญชานั้น นายกฯ ได้มอบอำนาจนี้ให้กับ ผบ.ทบ.ต่างหาก แล้วมันยังถูกกำหนดด้วยว่าในการตั้งอันนี้ เสธ.กอ.รมน. ก็จะเป็นเหมือนกับเลขาธิการขององค์กรในการใช้กฎหมายนี้ พูดง่ายๆ คือ กฎหมายความมั่นคง เป็น กฎหมายของ กอ.รมน. โดย กอ.รมน. เพื่อ กอ.รมน.เท่านั้นเองต้องยอมรับว่าในสังคมไทยยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง และอาจต้องยอมรับด้วยว่า มีจำนวนมากพอสมควรที่เชื่อว่า ทหารแก้ปัญหาได้ หลัง 19 กันยา เราเริ่มเห็นพลังของประชาธิปไตย 4 ส่วนซึ่งเป็นส่วนที่มีบทบาทมากในเหตุการณ์ พ.ค. 35 เคลื่อนไหวชัดเจน คือ สื่อ ปัญญาชน เอ็นจีโอ และชนชั้นกลาง ข้อสังเกตที่ชัดของ 4 พลังคือ เมื่อถึง 19 ก.ย. คนเหล่านี้บางส่วน ย้ำว่า บางส่วน เล่นบทบาทของพลังเผด็จการ แล้วมีส่วนขับเคลื่อนให้เกิดการรัฐประหารถามว่าวันนี้ทหารยังแทรกแซงได้ไหม ผมว่าทหารแทรกแซง เพราะผู้นำทหารเชื่อว่า วันนี้ ถ้าพวกเขาเคลื่อน อาจยังมีคนที่เอาดอกไม้ไปให้ แม้ว่าในทัศนะเรา อาจจะเชื่อว่า ก้อนอิฐน่าจะเป็นของแทนดอกไม้ สำหรับการยึดอำนาจรอบหน้าแต่ถ้าเราเชื่อว่าวันนี้รัฐประหารอาจจะเกิดขึ้นได้ลำบาก ก็ต้องลองย้อนอดีตว่า หลังปี 35 เราก็คิดอย่างนั้นไม่ใช่หรือ นั่นหมายความว่ายังมีพลังแฝงในสังคมไทยบางส่วน ที่ต้องการใช้กองทัพเป็นเครื่องมือทางการเมือง ที่จะจัดการกับปัญหาทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคตตรงนี้จึงเป็นจุดที่ผมย้ำเสมอว่า กระบวนการถอนตัวของทหารออกจากการเมือง ต้องมีนโยบายและยุทธศาสตร์ รองรับประชาธิปไตยที่เกิดจากการเลือกตั้ง ด้วยรัฐธรรมนูญ 50 นั้นเป็นประชาธิปไตยบงการ คือมีกลุ่มพลังแฝงบางส่วนเคลื่อนไหวคู่ขนานกับกระบวนการประชาธิปไตยที่เราเห็นตามเวทีปกติถ้าถามผม คำตอบอาจจะสุดโต่ง ผมอยากใช้รัฐธรรมนูญ ปี 40 แล้วแก้ส่วนที่มีปัญหา ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 50 พร้อมกับยกเลิกกฎหมายหลายฉบับที่ สนช. ออกคู่ขนานกัน ผมยังอยากเห็นรัฐบาลใหม่และรัฐสภาใหม่เกิดขึ้นบนจิตสำนึกของประชาธิปไตย เลิกคิดเสียทีว่าใครยึดอำนาจแล้ว ก็เป็นองค์รัฐฐาธิปัตย์ หรือมีอำนาจถูกต้อง ผมคิดว่าความถูกต้องมีทั้งความถูกต้องทางกฎหมายและความถูกต้องทางการเมือง ที่ต้องการความชอบธรรม ถ้ากระบวนการยึดอำนาจไม่ถูกต้องทั้งทางการเมืองและทางกฎหมายตั้งแต่ต้น เอาไหม ยกเลิก รัฐธรรมนูญ 50 ใช้ รัฐธรรมนูญ 40 แล้วแก้ส่วนที่มีปัญหาต้องถามคนในสังคมว่าอะไรคือข้ออ่อน จุดเสียหายของรัฐธรรมนูญ 40 อย่างไรก็ตาม สำหรับผม รัฐธรรมนูญ 40 เป็นรัฐธรรมนูญที่ดี เพราะอย่างน้อยเป็นรัฐธรรมนูญที่ถูกสร้างบนความเห็นของคนหลายๆ ฝ่าย และเพิ่งถูกใช้ มีอายุอยู่เพียง 9 ปีแล้วเราก็ตัดสินใจยกเลิกผมคิดว่าคนไทยไม่ใจแข็งเลย ทำไมเราไม่ใจแข็งแก้รัฐธรรมนูญด้วยกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ พูดง่ายๆคือแก้ปัญหารัฐสภาด้วยกระบวนการรัฐสภา เมื่อเราไม่ใจแข็ง สิ่งที่ผมเคยเปรียบเปรยคือเลิกคิดที่จะเอาทหารมาเป็นเทศบาลล้างท่อเวลาท่อตัน เพราะถ้าท่อตันแล้วเราต้องเรียกเทศบาลที่เป็นทหารมาล้างท่อเรื่อยๆ ประชาธิปไตยไม่มีวุฒิภาวะ กระบวนการทางรัฐสภาก็เกิดขึ้นไม่ได้ สุดท้ายปัญหาที่จะเกิดก็มีอยู่อย่างเดียวคือที่สื่อจะถามทุกครั้งที่มีปัญหาว่าตกลงจะมีรัฐทหารหรือไม่ ตกลงกองทัพจะเอาอย่างไร คำถามอย่างนี้จะคาราคาซังอยู่กับคนในสังคมไทยไปอีกนานผมจึงพูดเสมอว่าหลัง 14 ตุลา 16 จนถึงปัจจุบัน สังเกตหรือไม่ เรื่องเรื่องหนึ่งที่เป็นปัญหาตกค้างในสังคมไทย แล้วไม่มีข้อยุติในเชิงยุทธศาสตร์ นโยบาย แล้วไม่มีแนวคิดที่ชัดเจน คือการจัดความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งกับกองทัพ ปัญหานี้กลายเป็นปัญหาตกค้างแต่ไม่ตกผลึกผมอยากเห็นกฎหมายหลักๆ ที่ สนช. ออก แล้วเป็นกฎหมายซึ่งควรจะรอรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้ดำเนินการ รวมถึงผมไม่ได้พูดในฐานะของคนในจุฬา การเอาจุฬาฯ ออกนอกระบบคือตัวอย่าง รัฐบาลชุดนี้ที่มาจากการรัฐประหารบวกรัฐสภาที่มาจากการรัฐประหาร สังเกตอย่างหนึ่งหรือไม่ ทำในเรื่องที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์ แต่เรื่องที่ควรทำไม่ทำถ้าหลังการรัฐประหาร รัฐบาลบวกรัฐสภาเดิม คิดว่ามีปัญหาที่ต้องแก้ไขในหลายเรื่อง เช่น กระบวนการทางการเมือง ผมยังไม่เห็นอะไรเลยที่เป็นการออกมาตรการหรือกฎหมายรองรับจริงๆ แต่สิ่งที่วันนี้เราเริ่มเห็นคือ ออกกฎหมายความมั่นคง เอามหาวิทยาลัยออกจากระบบ เรื่องเรื่องหนึ่งฝากย้ำ รัฐบาลชุดนี้พยายามผ่านกฎหมายหนึ่งแล้วไม่ทันออกคือ พ.ร.บ. น้ำนั่นหมายความว่า ถ้า พ.ร.บ.น้ำออกสู่สังคมไทย น้ำจะเป็นสมบัติของรัฐแล้วคนที่ใช้น้ำทุกคนต้องจ่ายสตางค์ หมายความว่าพี่น้องเกษตรกรในชนบททั้งหมดทั่วประเทศ ต้องจ่ายสตางค์ค่าน้ำทันที ผมย้ำว่าเป็นมหาวิกฤติทางการเมืองทันที แต่โชคดีที่มีคนคงพยายามไปรั้ง พ.ร.บ.น้ำ ส่วนมหาวิทยาลัยวันนี้ไม่มีน้ำยา ก็เอามหาวิทยาลัยออก กฎหมายความมั่นคงก็ชนะอีก เพราะรัฐสภาที่มาจากการรัฐประหารก็หนุนกฎหมายที่ทหารเสนออยู่แล้วผมเคยพูดเสมอว่า ปัญหาหลังพฤษภาคม 2535 หนึ่งในสิ่งที่ต้องถกคือพื้นที่ทางการเมืองของทหาร อยู่ตรงไหนและคืออะไร แต่ถ้าบอกพื้นที่ทางการเมืองของทหารคือมีสถานะ มีอำนาจเสมือนหนึ่งเป็นรัฐแบบเดิม มันจะเกิดอาการรัฐซ้อนรัฐคิดว่ามี แต่มันไม่อยู่ในรูปแบบเก่าที่เราคุ้นเคย และทหารไม่ได้เป็นปัจจัยหลักหรือองค์กรเดียวที่อยู่ในภาวะเงื่อนไขที่ต้องรับมือกับสงครามสงครามรูปแบบใหม่คือปัญหาที่เราพูดกันในความหมายของความขัดแย้ง ความรุนแรงในโลกสมัยใหม่ ก็ไม่ใช่ตัวแบบหรือสงครามแบบที่เราทำสงครามในยุคคอมมิวนิสต์ ตรงนี้ผมจึงมีคำถามว่ากฎหมายความมั่นคงออกมารองรับอะไร กฎหมายความมั่นคงทำเสมือนหนึ่งไม่ต่างกับกฎหมายที่เราสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์ คือ เอาองค์กรทหารเข้าไปสู้กับ พคท.ยังอยากเห็น แต่หวังหรือไม่ไม่กล้าตอบ ได้ข่าวว่าในช่วงรณรงค์หาเสียงหลายพรรคการเมืองยืนยันว่าไม่เอาผมเห็นด้วย สังเกตหรือไม่ ตั้งแต่ พ.ร.บ.ความมั่นคง ออก สื่อไม่เล่นเท่าที่ควร สื่ออาจจะรู้สึกว่าคงไม่เท่าไหร่ ปัญญาชนก็ไม่เล่น แล้วตกลงยังไง ทั้งสื่อและปัญญาชนไม่เล่น โทษใครล่ะ ผมจึงบอกว่าพลังนำในสังคมสองส่วนหลัก สื่อ ปัญญาชน รวมถึงเอ็นจีโอก็ไม่เล่น ไม่เคลื่อนหนักเลยในข้อสังเกตผม แล้วถ้าอย่างนั้นเราคาดหวังอะไร ผมถึงมีความรู้สึกว่าความเคลื่อนไหวเรื่องนี้ เฉพาะในกรอบของมหาวิทยาลัย แรงสนับสนุนไม่มาก แต่ก็ย้ำว่าเราไม่ใช่แกะดำ เราเป็นแกะขาวปัญหาใหญ่ที่สุดคือหลังพฤษภาคม 2535 จำได้ว่ามาประชุมกัน แล้วพูดกันเรื่องความเข้มแข็งของภาคประชาสังคม แล้วภาคประชาสังคมเข้มแข็งที่เราพูดกันเมื่อ 2534 และ 2535 คืออะไร แล้วเราใจแข็งพอที่จะสร้างประชาสังคมให้เข้มแข็งอย่างที่เราคาดหวังหรือไม่โดยหลักการประชาธิปไตยพัฒนาไม่ได้ ถ้าภาคประชาสังคมไม่เข้มแข็ง เมื่อพัฒนาไม่ได้ แล้วภาคประชาสังคมไม่เข้มแข็ง สุดท้ายก็กลับมาที่คำถามเดิมจะยึดหรือไม่ ทหารจะทำอะไร คำถามวนอยู่แค่นั้นผมจึงบอกว่าต้องเริ่มคิดปัญหากระบวนการการเมืองไทยอย่างเป็นจริงเป็นจัง ไม่ใช่ในความหมายของการฉีกซองบะหมี่แล้วเทน้ำร้อนจะมีรัฐประหารอีกหรือไม่ ต้องตอบด้วยความหวังว่า เมื่อกระบวนการเลือกตั้งเดินได้ขนาดนี้แล้ว ต้องคาดหวังว่าไม่มี แล้วต้องเชื่อว่า เมื่อประชาชนตัดสินแล้วก็ต้องคิดว่า อย่างน้อยอำนาจการตัดสินทางการเมืองนั้น ถอยกลับไปอยู่ที่กระบวนการการเมืองปกติ หรือไปอยู่ในมือประชาชนมากขึ้น เชื่อว่าผู้นำทหารหรืออำนาจแอบแฝงทั้งหลายน่าจะตระหนักว่า 1 ปีเศษที่ผ่านมา พวกเขาไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลยวันนี้ต้องบอกทั้งปัญญาชนที่เคยสนับสนุนรัฐประหาร สื่อที่หนุนรัฐประหาร และเอ็นจีโอที่หนุนรัฐประหารว่า ผลพวงชัดแล้ว อย่าดื้อเลย ไม่มีประโยชน์ที่จะดื้อแล้วดันทุรังว่ารัฐประหารเป็นสิ่งที่ถูกต้อง | ทหารจะกลับเข้ากรมกองจริงๆ หรือยัง แล้ววันนี้ที่ยืนของทหารจะอยู่ตรงไหน พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในที่เพิ่งผ่าน (ฉลุย) ไป จะเกี่ยวอะไรกับการมีอยู่ของทหารในทางการเมืองรึเปล่า ปัญหาตกค้างแต่ไม่ตกผลึก | การเมือง | ปฏิรูปกองทัพ,สัมภาษณ์,สุรชาติ บำรุงสุข | https://prachatai.com/journal/2007/12/15317 |
ผุด กรีน อี-คอมเมิร์ซ เร่งหนุนผู้ประกอบการไทยโกออนไลน์ ขยายโอกาส | นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. (ETDA) เปิดเผยว่า สพธอ. ยังคงเดินหน้าผลักดันธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทย โดยล่าสุดได้เปิดโครงการกรีน อี-คอมเมิร์ซ (Green e-Commerce) บ่มเพาะผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซไทยสู่เศรษฐกิจดิจิตอลที่มั่นคงปลอดภัย โดยในช่วงแรกจะนำร่องเสริมทักษะความรู้แก่ผู้ประกอบการ 400 ราย พร้อมทั้งติวเข้มเทคนิคและเครื่องมือการตลาดออนไลน์ตลอดระยะ 2 เดือน ซึ่งใช้งบประมาณราว 20 ล้านบาท,เราตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการเป็น 10,000 ราย ภายในปี 2559 และแม้ว่าปัจจุบันประเทศไทยจะมีความพร้อมในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังจัดเป็นกลุ่มประเทศในระดับกลางเท่านั้น แต่เชื่อว่าประเทศไทยจะมีความพร้อมมากขึ้นภายใน 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากมีเทคโนโลยี 4จี รวมถึงการพัฒนาของระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ระบบการจัดส่งสินค้า,สำหรับโครงการกรีน อี-คอมเมิร์ซ เป็นการนำร่องด้วยผู้ประกอบการที่มีร้านค้าออนไลน์ จำนวน 400 ราย ซึ่งคัดเลือกมาจากผู้สมัครเข้าร่วมโครงการนับ 1,000 ราย ภายใต้คุณสมบัติ อาทิ จดทะเบียนการค้า (บุคคลธรรมดา) หรือจดทะเบียนนิติบุคคล ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน จำหน่ายสินค้าถูกต้องตามกฎสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) องค์การยาอาหารและยา (อย.) และผ่านการตรวจสอบตัวตนทางธุรกิจจากเจ้าหน้าที่ สพธอ.,ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะสนับสนุน 3 ส่วน คือ 1.การสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ซื้อผู้ขายออนไลน์ จากการพัฒนา Thaimarket.com เป็นเว็บ e-Directory เพื่อรวบรวมเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ที่มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ และสามาถตรวจสอบตัวตนได้ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการใช้งาน 2.การเสริมทักษะเพิ่มพูนความรู้ โดยการทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงกลุ่มสื่อโฆษณาออนไลน์ พร้อมทั้งสนับสนุนเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์ ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านอี-คอมเมิร์ซให้คำปรึกษาตลอดโครงการ และ 3.การปกป้องคุ้มครองผู้บริโภคออนไลน์ เปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียนออนไลน์ เพื่อเป็นศูนย์กลางรับปัญหาจากการทำธุรกรรมออนไลน์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยนำร่องกับร้านค้าภายใต้ Thaimarket.com และขยายการให้บริการในอนาคต,ผู้อำนวยการ สพธอ. กล่าวอีกว่า ตลาดอี-คอมเมิร์ซไทยนั้นเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปีประมาณ 10% โดยมูลค่าตลาดปี 2557 อยู่ที่ 768,014 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตราว 3.2% จากปี 2556 คาดว่าภายใน 2-3 ปีจากนี้ ตลาดดังกล่าวจะสามารถเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 25% จากการเติบโตของการใช้งานมือถือและอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการผลักดันสินค้ากลุ่มโอทอป (Otop) ให้เข้าสู่ตลาดอี-คอมเมิร์ซ ขณะเดียวกัน ควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคและพัฒนาคุณภาพผู้ประกอบการไปพร้อมกัน ทั้งความรู้ความเข้าใจในการขายสินค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการรับประกันสินค้าเพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า ซึ่งยังคงเป็นปัญหาสำคัญของผู้ประกอบการไทยในปัจจุบัน รวมถึงความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้า และระบบตรวจสอบสถานะการจัดส่งที่มีมาตรฐานด้วย,นายรัฐศาสตร์ กรสูต ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักส่งเสริมธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ETDA กล่าวว่า จากข้อมูลกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ระบุว่ามีผู้ประกอบการโอทอปกว่า 36,092 ราย ซึ่งมีสินค้ารวม 71,739 ผลิตภัณฑ์ หากสามารถผลักดันผู้ประกอบการดังกล่าวเข้าสู่โครงการกรีน อี-คอมเมิร์ซได้ ก็จะสามารถเพิ่มมูลค่าตลาดอี-คอมเมิร์ซได้อีกเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่ายอดขายให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการได้ไม่ต่ำกว่า 15% อีกด้วย,นางทรงพร โกมลสุรเดช รักษาการ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า การส่งเสริมธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ) ในประเทศไทยนั้น จำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคเพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้งาน โดยเฉพาะความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการชำระเงิน รวมถึงทำความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการให้มีความซื่อสัตย์ต่อการค้า เพื่อส่งเสริมการใช้อี-คอมเมิร์ซในประเทศไทยเติบโต. | สพธอ. (ETDA) ประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ Green e-Commerce สนับสนุนผู้ประกอบการโอทอปและเอสเอ็มอี ขยายช่องทางจำหน่ายเข้าออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ… | ข่าว,ไอที | กรีน อี-คอมเมิร์ซ,Green e-Commerce,สพธอ.,ETDA,อี คอมเมิร์ซ,e-Commerce,สินค้าออนไลน์,ซื้อ ขาย ออนไลน์,ธุรกรรม อิเล็กทรอนิกส์,สุรางคณา วายุภาพ,ทรงพร โกมลสุรเดช,สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์,กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร,ICT,ไอซีที,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์,ข่าวไอที | https://www.thairath.co.th/news/tech/508304 |
หน้าเหมือนกันมาก 15 ปีพี่ไฟว์น้องโฟร์ท แฝดสยามผ่าแยกร่างโตเป็นสาวแล้ว | เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 ก.ค.60 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 90/5 หมู่ 5 ต.หนองกบ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี หลังมีผู้โพสต์ในเพจข่าวสารชาวบ้านโป่ง ถึงภาพแฝดสยามชาว อ.บ้านโป่ง หน้าตาดี สุขภาพแข็งแรง ก่อนได้พบกับ น.ส.ปาริชาติ เนรา หรือไฟว์ อายุ 15 ปี พี่สาว และ น.ส.ปาริฉัตร เนรา หรือโฟร์ท อายุ 15 ปี น้องสาว เป็นนักเรียนชั้น ม.3 ของโรงเรียนมัธยมวัดดอนตูม เป็นบุตรของนายมาโนชย์ เนรา และนางธนาพร แซ่เล้า รวมทั้ง น.ส.ปรีญารัตน์ เนรา หรือโฟร์ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวคนโต อาศัยร่วมกันอยู่ภายในบ้าน,สำหรับฝาแฝดพี่ไฟว์และน้องโฟร์ท ตกเป็นข่าวดังเมื่อ 15 ปีก่อน หลังพบว่าเป็นแฝดสยามคู่ที่ 3 และทางคณะแพทย์โรงพยาบาลศิริราช สามารถผ่าตัดแยกร่างได้เป็นผลสำเร็จ,ทั้งนี้ ฝาแฝดได้นำสูติบัตรการเกิด รูปถ่ายขณะที่ลำตัวติดกัน และภาพหลังทำการผ่าตัด รวมถึงโชว์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ หน้า 1 ฉบับวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2545 ที่นำเสนอข่าวของคณะแพทย์ รพ.ศิริราช ผ่าตัดแฝดสยามประสบผลสำเร็จ ซึ่งทางครอบครัวเก็บไว้เป็นอย่างดีมาให้ผู้สื่อข่าวดูด้วย ,นางธนาพร ผู้เป็นแม่ เล่าว่า หลังจากคลอดลูกสาวคนแรกอายุได้ 5 ขวบ ก็เริ่มตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลซานคามิลโล อ.บ้านโป่ง ต่อมาอายุครรภ์ได้ประมาณ 20 สัปดาห์ แพทย์ตรวจอัลตราซาวด์พบว่า ตั้งครรภ์แฝด แต่เด็กอาจมีความผิดปกติ ก่อนส่งตัวไปที่ รพ.ศิริราช กรุงเทพฯ จนอายุครรภ์ครบกำหนด จึงผ่าตัดคลอดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2545 ที่ รพ.ศิริราช หลังคลอดพบว่าเด็กทั้ง 2 คน มีร่างกายแข็งแรง น้ำหนักรวมกัน 4,590 กรัม แต่เด็กมีลำตัวติดกันตั้งแต่ช่วงอกถึงช่วงท้อง ส่วนหัวใจและระบบทางเดินอาหารนั้นแยกจากกัน ,หลังจากนั้นประมาณ 4 เดือน ทีมคณะอาจารย์แพทย์โรงพยาบาลศิริราช จึงทำการผ่าตัดแยกร่างฝาแฝดออกจากกัน ใช้เวลาผ่าตัดนานกว่า 10 ชั่วโมง ก่อนประสบความสำเร็จและเด็กสามารถใช้ชีวิตอยู่รอดมาถึงปัจจุบัน ซึ่งแฝดสยามทั้งคู่มีโครงหน้าแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยแทบแยกไม่ออก นิสัยคล้ายกัน อาชีพที่เป็นความใฝ่ฝันในอนาคต พี่ไฟว์อยากเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ส่วนน้องโฟร์ทอยากเป็นดีไซเนอร์ ทางครอบครัวฝาแฝดสยาม ฝากขอบคุณถึงคณะทีมแพทย์ รพ.ศิริราช ที่ทำให้เด็กทั้งคู่ให้กลับมาเกิดใหม่ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป และขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนงที่ช่วยนำเสนอข่าวอีกด้วย. | ไฟว์-โฟร์ท แฝดสยามคู่ที่ 3 ชาวบ้านโป่ง หมอ รพ.ศิริราชผ่าตัดแยกร่างสำเร็จเมื่อ 15 ปีก่อน เติบโตแข็งแรง หน้าคล้ายกันจนแยกไม่ออก พี่ไฟว์อยากเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ส่วนน้องโฟร์ท ฝันอยากเป็นดีไซเนอร์
| ข่าว,ทั่วไทย | แฝดสยาม,แฝดสยามคู่ที่3,หมอศิริราชผ่าตัดแฝดสยาม,ผ่าตัดแยกร่าง,แฝดสยามบ้านโป่ง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1007329 |
ภาวะโลกร้อนอาจทำให้เกาะเล็กๆ หายไปในอีก 100 ปี | ซึ่งบรรดาผู้นำของประเทศหมู่เกาะต่างๆ หวังว่ามาตรการการควบคุมมลพิษที่รุนแรงของประเทศจีน รวมทั้งในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ กำลังได้รับการปรับปรุง โดยคาดหวังว่าชาติในยุโรปน่าจะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของสาธารณรัฐปาเลา ซึ่งเป็นประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ราว 500 กิโลเมตร เผยว่า ตอนนี้เกาะบางส่วนหายไปแล้ว และเกาะขนาดเล็กอาจหายไปได้ในหลายๆกรณีหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ ขณะกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาก็ไม่ได้เพิกเฉยกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยกำลังพิจารณาความร่วมมือกับประเทศอื่นๆในการป้องกันภาวะโลกร้อน ด้วยการมุ่งมั่นลดอุณหภูมิโลก 2 องศาเซลเซียส,ด้านประธานคณะกรรมการควบคุมสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ นายจิม สเคีย เผยว่า หมู่เกาะขนาดเล็กเป็นพื้นที่ที่เปราะบางที่สุดในโลก หากอุณหภูมิโลกสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ก็จะเป็นภัยคุกคามบรรดาหมู่เกาะอย่างเฉียบพลัน นอกจากจะเป็นอันตรายต่อแนวปะการังยังส่งผลถึงเศรษฐกิจความเป็นอยู่ของประชากรในประเทศและโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สนามบิน ท่าเรือต่างๆ เนื่องจากประเทศหมู่เกาะเล็กๆต้องพึ่งพาการทำประมงและการท่องเที่ยว แม้จะมีกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ออกโครงการที่เรียกว่า 1.5 to stay alive เพื่อการต่อสู้กับอุณหภูมิที่สูงขึ้น 1.5 องศาฯ แต่พวกเขาก็ยอมรับว่าอาจยังไม่ได้ผลเต็มที่นัก. | การที่ประเทศสหรัฐอเมริกาถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการลดโลกร้อนและควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อาจจะส่งผลต่อประเทศหมู่เกาะบางแห่งไม่สามารถอยู่รอดได้ภายในอีก 100 ปีข้างหน้า | ข่าว,ต่างประเทศ | ทันโลก,ภาวะโลกร้อน,เกาะเล็กๆ,ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/foreign/996622 |
น้องชายนายกฯ สิงคโปร์ ประกาศร่วมพรรคฝ่ายค้านก่อนหน้าการเลือกตั้งในเดือนหน้า | น้องชายของนายกรัฐมนตรี ลีเซียนหลง ประกาศจะเข้าร่วมพรรคฝ่ายค้าน โดยที่สองพี่น้องคู่นี้มีความขัดแย้งกันมาตั้งแต่ประเด็นอื่นก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา ลีเซียนหยาง น้องชายของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ประกาศจะเข้าร่วมพรรคฝ่ายค้านคือพรรคโปรเกรสสิงคโปร์หรือพีเอสพีในช่วงก่อนการเลือกตั้ง 10 ก.ค. ที่กำลังจะมาถึงนี้ลีเซียนหยางเป็นน้องชายของนายกรัฐมนตรี ลีเซียนหลง เขาประกาศในเรื่องนี้ที่ตลาดเทียงบารูเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 มิ.ย. ลีเซียนหยางผู้เคยเป็นอดีตผู้นำบรรษัทยังคงไม่เปิดเผยรายละเอียดอะไรมากเกี่ยวกับแผนการเกี่ยวกับการเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึงนี้ โดยเปรยไว้ว่าถ้าหากเขาพร้อมก็จะบอกเองว่าเขาจะเข้าลงชิงเก้าอี้ในการเลือกตั้งหรือไม่สำหรับสาเหตุที่เขาประกาศเข้าร่วมพรรคการเมืองฝ่ายค้านในครั้งนี้ลีเซียงหยางบอกว่า เป็นเพราะเขาคิดว่า เอเดรียน ตัน หมอที่เป็นผู้ก่อตั้งและเลขาธิการพรรคพีเอสพี มีพันธกรณีในการทำในสิ่งที่ถูกต้องให้กับประเทศสิงคโปร์และชาวสิงคโปร์ อีกทั้งยังบอกอีกว่าเป็นเพราะตันเป็นคนที่ รักประเทศชาติ เป็นคนที่คำนึงถึงเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรฐานการบริหารและเรื่องปัญหาความเหลื่อมล้ำทางรายได้ และเป็นคนที่ทำให้คนที่มีวิสัยทัศน์แบบเดียวกันกับเขามารวมตัวกันได้ ซึ่งลีเซียงหยางเชื่อว่าจะทำให้สิงคโปร์ดีขึ้นฝ่ายตันเองก็พูดถึง ลีเซียนหยางว่าลีเข้าร่วมพรรคมาตั้งแต่ 3 เดือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่เพิ่งจะได้รับบัตรสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. นี้ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีการระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้ยังแถลงว่าเขาต้อนรับ ลีเซียนหยาง เข้าสู่พรรคด้วยความยินดียิ่ง นอกจากนี้ยังเน้นพูดถึงเรื่องที่ ลีเซียนหยาง เป็นลูกของอดีตผู้นำลีกวนยูโดยบอกว่าการที่ ลีเซียนหยาง มาเข้าร่วมกับพวกเขาแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไม่ได้เดินตามรอยในสิ่งที่พ่อของเขาต้องการชาวสิงคโปร์มองว่าลูกๆ ของอดีตผู้นำลีกวนยูเป็นเสมือน ครอบครัวหมายเลขหนึ่ง ในฐานะที่ลีกวนยูเป็นผู้ก่อตั้งสิงคโปร์ ลีเซียนหลง เป็นลูกชายคนพี่ที่เป็นผู้นำรัฐบาล และหัวหน้าพรรคการเมืองพีเพิลแอกชันปาร์ตี หรือ พีเอพี ที่ผู้เป็นพ่อของเขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง สองพี่น้องตระกูลลีนี้มีแสดงออกเรื่องความไม่ลงรอยกันมาตั้งแต่ปี 2560 แล้ว จากเรื่องการตัดสินใจต่างกันว่าจะทำอย่างไรกับบังกะโลพ่อของตัวเอง จนถึงเมื่อกลางปีที่แล้วลีเซียนหยางก็ประกาศว่าเขาสนับสนุนพรรคการเมืองพีเอสพีที่ก่อตั้งใหม่ จากใจจริงตัน ผู้ก่อตั้งพรรคฝ่ายค้านเคยเป็นคนที่ต่อต้านพรรคพีเอพีมาก่อนในช่วงปี 2523-2549 ที่เป็น ส.ส. ในสภา ในช่วงการเลือกตั้งปี 2554 เขาเคยเกือบเอาชนะพรรคของรัฐบาลได้ ตันเคยกล่าวไว้ว่าเขาตั้งพรรคใหม่เพราะกังวลว่าพรรคพีเอพีที่ปกครองประเทศมาเป็นเวลานานหลายปีเริ่มมีความโปร่งใสและมาตรฐานการบริหารลดลงเรื่อยๆสำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ พีเอสพีเป็นหนึ่งใน 12 พรรคการเมืองฝ่ายค้านที่จะเข้าร่วมชิงชัยในการเลือกตั้งพวกเขาเคยประกาศว่าจะส่งผู้แทน 24 รายลงแข่งขันในครั้งนี้มีความขัดแย้งในหมู่ลูกคนโต 3 คนของลีกวนยู ผู้ที่มีอิทธิพลในสิงคโปร์ โดยที่ก่อนหน้านี้ผู้คนมักจะรู้จักลีเว่ยหลิง และลีเซียนหลง หลังจากที่พวกเขาปรากฏตัวต่อสาธารณชนในปี 2560 จนกระทั่งต่อมาลีเซียนหยางก็เปิดฉากดราม่ากับพี่ชายตัวเองบนโซเชียลมีเดียโดยกล่าวหาว่าพี่ชายของเขาลุแก่อำนาจบริหารของตัวเองโดยการอ้างใช้อำนาจเหล่านี้ห้ามไม่ให้มีการรื้อถอนบังกะโลของครอบครัวตัวเองทั้งที่พ่อของพวกเขาต้องการให้รื้อบังกะโลเหล่านี้ทิ้งฝ่ายลีเซียนหลงแถลงตอบโต้ข้อกล่าวหานี้โดยบอกว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการตัดสินใจเรื่องบังกะโลของรัฐบาล และรัฐบาลจะไม่เปลี่ยนแปลงสภาพดั้งเดิมใดๆ ของบ้านบังกะโลเหล่านี้ที่มีลีเซียงหยางเป็นเจ้าของและมีลีเว่ยหลิงเป็นผู้อยู่อาศัยตราบใดที่ลีเว่ยหลิงยังพักอาศัยอยู่ในสถานที่เหล่านี้ทั้งนี้ลีเซียนหยางยังมักจะใช้เฟซบุ๊กของตัวเองที่มีผู้ติดตามจำนวนมากในการกล่าวโจมตีพี่ชายของตัวเอง ในสัปดาห์ที่แล้วเขาเคยเขียนถึงเรื่องความขัดแย้งบังกะโลไว้ว่าจากความขัดแย้งในเรื่องนี้ทำให้เขามองว่าพี่ชายของตัวเองไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไปทั้งในฐานะพี่ชายและในฐานะผู้นำประเทศSingapore PMs brother Lee Hsien Yang joins opposition party ahead of July 10 election 24-06-2020 | สิงคโปร์กำลังจะมีการเลือกตั้งในเดือน ก.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจจะกลายเป็นศึกสายเลือดระหว่างทายาท ลีกวนยู อดีตผู้นำที่ได้รับความนิยมมากในสิงคโปร์ หลังจากที่ลีเซียนหยาง | การเมือง,ต่างประเทศ | ลีเซียนหลง,ลีเซียนหยาง,ลีเว่ยหลิง,การเลือกตั้ง,การเลือกตั้งสิงคโปร์ 2563,สิงคโปร์,พรรคโปรเกรสสิงคโปร์,เอเดรียน ตัน | https://prachatai.com/journal/2020/06/88378 |
เครือข่ายปกป้องอันดามันฯ จุดเทียนเดินรอบทำเนียบ เตรียมยกระดับชุมนุมค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ | เมื่อเวลา 9.00 น.วันนี้ (22 ก.ค.2558) นายอัครเดช ฉากจินดา และนายประสิทธิ์ชัย หนูนวล แกนนำเครือข่ายฯ นำสมาชิกจุดเทียนเดินวนรอบทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดันนายกรัฐมนตรียกเลิกโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ หวังส่องสว่างกลางใจนายกรัฐมนตรี ให้ร่วมปกป้อง จ.กระบี่ จากถ่านหิน โดยมีตำรวจประมาณ 30 นาย สังเกตการณ์ และดูแลความปลอดภัย หลังเมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินอดข้าวจริงหรือไม่ นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล ออกมาชี้แจงที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งข้อสังเกตเรื่องการอดอาหาร อดน้ำ ยืนยันตนได้ดื่มน้ำแทนการรับประทานอาหาร โดยแต่ละวันจะดื่มน้ำไม่ต่ำกว่า 1.5 ลิตร สลับกับการดื่มน้ำหวาน น้ำมะพร้าว ซึ่งสามารถอยู่ได้เป็นเดือน และไม่เคยละเมิดสัจจะแอบรับประทานอาหารช่วงกลางคืน นายประสิทธิ์ชัย บอกด้วยว่า ไม่กังวลหากนายกรัฐมนตรีจะใช้กฎหมายการชุมนุมสาธารณะที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนสิงหาคมนี้มาใช้ยุติการชุมนุมของเครือข่ายฯ เพราะยังยืนยันเจตนารมณ์เดิมว่าการออกมาเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องอันดามัน และรักษารายได้จากการท่องเที่ยวให้ประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องตัดสินใจว่าจะเลือกความเป็นความตายของประชาชน หรือจะเอากฎหมายมาทำร้ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของนายกรัฐมนตรีขณะเดียวกันในช่วงบ่ายวันนี้ กลุ่มเครือข่ายสลัม 4 ภาค กว่า 500 คน และชาวบ้านในพื้นที่ จะร่วมสมทบชุมนุมจนกว่าจะได้คำตอบจากนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรที่เห็นด้วยให้ยกเลิกการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) | เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ร่วมกันจุดเทียนหน้าทำเนียบรัฐบาล กดดันนายกรัฐมนตรี ดำเนินการตามข้อเรียกร้องของเครือข่าย และเตรียมยกระดับความชุมนุมต่อเนื่องจนกว่าจะยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ | สิ่งแวดล้อม | ข่าวสิ่งแวดล้อม,ถ่านหิน,ถ่านหินสะอาด,ประสิทธิ์ชัย หนูนวล,อัครเดช ฉากจินดา,เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน,โรงไฟฟ้า,โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่,ไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/3770 |
ไม่อยากไป พ่อตาย-ลูกชายจ้างยกบ้านทรงไทยทั้งหลัง พังทับคนงานสาหัส 4 | เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 12 ก.พ.59 พ.ต.ต.ชาญชัย นนท์ชนะ พงส.ผนก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งมีเหตุบ้านไม้ทรงไทยหลังใหญ่พังทับคนงาน อยู่เยื้องห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี สาขา จ.ร้อยเอ็ด ข้างถนนสาย จ.ร้อยเอ็ด ไป จ.กาฬสินธุ์ ช่วงผ่านบ้านหนองตากร้า หมู่ 11 ต.เหนือเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จึงไปที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย อบต.เหนือเมือง หน่วยกู้ภัยอโสก และหน่วยกู้ภัยนครสาเกต กำลังเข้าช่วยเหลือคนงานจำนวน 4 คน ซึ่งถูกซากบ้านพังทับลำตัว แขนและขา ได้รับบาดเจ็บสาหัส,ทราบชื่อผู้บาดเจ็บมี นายสันทิศน์ สิงห์สง่า อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ 10 ต.มะต้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก นายอำนวย ศรีเมืองแก้ว อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 /3 หมู่ 2 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.พิจิตร นายณัฐพงศ์ รัตนะ อายุ 17 ปี และนายธรณีเทพ ดีมั่น อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141/2 หมู่ 2 เมือเก่า อ.เมือง จ.พิจิตร ถูกนำส่งรักษาที่ รพ.ร้อยเอ็ด โดยนายสันทัศน์ สิงห์สง่า ยังอยู่ในขั้นวิกฤติ เพราะถูกวงกบบานประตูทับหลังติดพื้นอยู่กว่า 30 นาที ,ส่วนสาเหตุที่บ้านทรงไทยหลังใหญ่ ขนาดเสา 9 ต้น พังลงมาทับคนงาน นายนิติ คำบุศย์ อายุ 36 ปี ให้การกับ พ.ต.ต.ชาญชัย นนท์ชนะ ว่า บ้านหลังนี้เป็นของนายขจร คำบุศย์ พ่อตน เสียชีวิตไปแล้วกว่า 2 ปีแล้ว เลขที่ 62 สร้างอยู่ในที่ดินกรรมสิทธิ์ของนายภิมุข คำบุศย์ อายุ 77 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของพ่อ โดยสร้างจากไม้มะค่า สั่งซื้อจากประเทศลาว เมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นเงินกว่า 800,000 บาท นำมาสร้างบ้าน เสาและคานทำด้วยคอนกรีต เป็นบ้านทรงไทยมีเสากลมจำนวน 9 ต้น ราคาก่อสร้างรวมค่าแรงงานเมื่อ 15 ปี ที่ผ่านมา เป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท,นายนิติ ให้การต่อว่า ต่อมาตนไปได้ที่ดินแปลงใหม่ อยู่ห่างจากที่บ้านหลังของพ่อไปทางทิศเหนือระยะทางกว่า 70 เมตร จึงอยากจะย้ายบ้านไปอยู่ในที่ดินแปลงใหม่ โดยไม่ต้องให้มีการรื้อถอนบ้านที่พ่อสร้างไว้ เพื่อรักษาสภาพบ้านหลังเดิม และคุณค่าความสวยงามเอาไว้ จึงประกาศหาผู้รับเหมาเคลื่อนย้ายบ้าน ปรากฏว่าในภาคอีสาน ไม่มีผู้รับจ้าง จนมีนายเฉลา เนียมทรัพย์ อยู่บ้านเลขที่ 138 หมู่ 2 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.พิจิตร มาเป็นผู้รับจ้างเคลื่อนย้ายบ้านเป็นเงินค่าแรงงานจำนวน 389,000 บาท โดยเริ่มพาคนงานกว่า 10 คน มาลงมือเคลื่อนย้ายบ้านตั้งวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา,คนงานจะเคลื่อนที่บ้านวันละ 5 เมตร กระทั่งมาถึงวันที่ 12 ก.พ. ตัวบ้านกำลังเคลื่อนจะเข้าที่ดินแปลงใหม่ เหลือระยะเพียง 5 เมตรเท่านั้น ไม่ทราบด้วยเหตุอันใด ตัวบ้านซึ่งเสาและคานบ้านสร้างด้วยคอนกรีต เกิดหัก ทำให้บ้านไม้มะค่าทั้งหลัง พังลงมาทับคนงานได้รับบาดเจ็บดังกล่าว นายนิติ คำบุศย์ ผู้ว่าจ้าง กล่าว. | หนุ่มร้อยเอ็ดไปได้ที่ดินผืนใหม่ จ้างผู้รับเหมาจากพิจิตร มายกบ้านทรงไทยหลังใหญ่ของพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว สร้างด้วยไม้มะค่าจากลาว ยกเขยิบไปวันละ 5เมตร จนสุดท้ายจะถึงที่หมาย บ้านพังลงมาทั้งหลังโดยไม่ทราบสาเหตุ ทับคนงานสาหัส 4คน | null | บ้านพัง,บ้านพังทับคนงาน,บ้านไม้มะค่า,บ้านทับคนงาน,บ้านทรงไทย,ยกบ้าน,ย้ายบ้าน,ยกบ้านทั้งหลัง,ร้อยเอ็ด,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/576611 |
พบศพหนุ่มใหญ่ ลอยอืดในเจ้าพระยา เร่งสอบ | เมื่อเวลา 19.20 น. วันที่ 7 ก.ย. 58 ร.ต.ท.ไชยสิทธิ์ ขัดผาบ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบผู้เสียชีวิตบริเวณใกล้ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา (ฝั่งตะวันออก) หมู่ 1 ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบร่วมกับชุดสืบสวน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมนำเรือท้องแบน 1 ลำ ในที่เกิดเหตุพบศพชายลอยอืดอยู่ จึงได้ให้อาสามูลนิธิฯ ใช้เชือกนำศพมาขึ้นที่ริมฝั่งหน้าวัดน้ำวน หมู่ 6 ต.บางเดื่อ อ.เมืองปทุมธานี เพื่อรอให้แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ร่วมตรวจสอบและชันสูตร,เบื้องต้นพบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุประมาณ 50 ปี สวมเสื้อยืดสีเทา นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเทา โดยขณะนี้ยังไม่สามารถตรวจค้นหาเอกสารหลักฐานในตัวผู้ตายได้ เนื่องจากต้องรอแพทย์ร่วมชันสูตร และจากการประสานตามท้องที่ใกล้เคียง ได้รับการประสานจาก สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (6 ก.ย.) มีชาวบ้านแจ้งว่าพบเห็นคนกระโดดสะพานนนทบุรี (นวลฉวี) โดยไม่ทราบว่าเป็นหญิงหรือชาย และจะเป็นรายเดียวกับศพที่พบวันนี้หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบต่อไป. | ตร.ปทุมธานี ร่วมอาสามูลนิธิ เข้าตรวจสอบ หลังพลเมืองดีแจ้งพบศพหนุ่มใหญ่ลอยอืดในแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะ จนท. เร่งตรวจสอบ คนเดียวกับที่กระโดดสะพานนวลฉวี บ่ายวานนี้หรือไม่ | ข่าว,ทั่วไทย | ศพในแม่น้ำ,ศพลอยอืดในแม่น้ำ,ศพในแม่น้ำเจ้าพระยา,ไชยสิทธิ์ ขัดผาบ,กระโดดสะพานนวลฉวี,ฆ่าตัวตาย,กระโดดน้ำตาย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,โดดน้ำตาย,คิดสั้น,กระโดดแม่น้ำ,ศพขึ้นอืด,ศพลอยอืด | https://www.thairath.co.th/news/local/523639 |
ทีมก้าวกินอะไร? ดู 10 เมนูน้ำใจคนไทยให้ พี่ตูน และทีมก้าวคนละก้าว | ในที่สุดพี่ตูนก็ทำสำเร็จ ดูไลฟ์สดวันที่ทีมก้าวฯ วิ่งเข้าสู่เส้นชัยที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย แล้วขนลุก ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายคนนี้ทำมันได้จริงๆ นอกจากพลังกายพลังใจที่ดีของตูน ก้อย และทีมงานก้าวคนละก้าวแล้ว อีกหนึ่งกำลังใจสำคัญก็มาจากพี่น้องคนไทยทั่วประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์, จะพาไปส่องเบื้องหลังทีมงานก้าวคนละก้าว ตลอดระยะเวลา 55 วัน กับการพิชิตระยะทาง 2,215 กิโลเมตร จากเบตง-แม่สาย แต่ละก้าวในแต่ละวัน พี่ตูนและทีมงานได้ของกินอร่อยๆ จากพี่น้องคนไทยเพียบเลย มาดูกันหน่อยซิว่าได้อะไรมากินบ้างจ๊ะ?,1. ขนมไทยพระราชทาน,ขอเริ่มจากอาหารที่เป็นมงคลสูงสุดของชีวิต ของทีมก้าวคนละก้าว เมื่อได้รับ ขนมไทยพระราชทาน จาก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10,ก้อย รัชวิน และทีมงานบอกว่า ถือเป็น ยาวิเศษ มาเติมพลังในการทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วง และถือเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต,ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้,ข้าพระพุทธเจ้า นางสาว รัชวิน วงศ์วิริยะ และคณะ ก้าวคนละก้าว,ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน,2. ขนมนมเนยจากเพื่อนๆ ในวงการ,พลังใจอีกส่วนหนึ่งมาจากเพื่อนๆ และพี่น้องในวงการบันเทิง ทั้งพิธีกร ดารา ศิลปินนักร้อง ต่างก็ออกมาส่งพลังเชียร์พี่ตูน ก้อย หมอเมย์ พี่เบล และทีมงานก้าวฯ คนอื่นๆ ทุกคน มีทั้งออกมากล่าวมอบกำลังใจผ่านวิดีโอ มีทั้งออกมาร่วมวิ่งด้วยในระยะทางต่างๆ เท่าที่สามารถจะช่วยได้,บางคนมาไม่ได้ ก็ส่งขนมนมเนยมาเพิ่มพลังให้ทีมงาน หนึ่งในนั้นคือขนมอบธัญพืชของกาละแมร์ ทั้งอร่อย มีประโยชน์ ให้พลังงานในการวิ่ง น่ารักมากๆ เลย,3. ปลาเค็มในตำนาน,พลังใจที่สำคัญที่สุดสำหรับพี่ตูน และทีมก้าว คงหนีไม่พ้นกำลังใจจากคนไทยทั้งประเทศ ที่ออกมาช่วยกันบริจาคกันล้นหลามจนละทุเป้า ในวันสุดท้ายของโครงการสามารถรวบรวมยอดบริจาคได้มากกว่า 1,148 ล้านบาท นอกจากบริจาคเป็นเงินสำหรับช่วย 11 โรงพยาบาลแล้ว ระหว่างทางก้าว ยังมีประชาชนออกมามอบของที่ระลึก และอาหารการกินเพิ่มพลังให้ทีมงานก้าวอยู่ทุกๆ วัน ไฮไลต์เด็ดๆ ก็คือปลาเค็มในตำนานจากภาคใต้ ตัวใหญ่มากๆ เป็นภาพที่ชาวโซเชียลพูดถึงกันไม่น้อยในการวิ่งช่วง 3-4 วันแรก,4. ด้วงมะพร้าว,ของกินท้องถิ่นของภาคใต้ ถือว่าเป็นเมนูแปลกหาทานยาก ซึ่งกลายเป็นสีสันหนึ่งให้กับทีมงานก้าวคนละก้าวได้วิ่งอย่างมีความสุข สนุกสนานไปกับเรื่องง่ายๆ รอบตัว และชาวใต้รอบข้างที่ช่วยให้กำลังใจตลอดเส้นทาง,5. มะพร้าวสด น้ำมะพร้าวเผา,อีกหนึ่งสิ่งที่ทีมก้าวได้รับจากพี่น้องประชาชนสม่ำเสมอ ได้มาแทบทุกวัน นั่นคือ มะพร้าวสดๆ มาเป็นทะลาย รวมถึงมีน้ำมะพร้าวสด น้ำมะพร้าวเผา มีมาเสิร์ฟให้ทีมงานตลอด,6. กล้วย/ทุเรียน,นอกจากมะพร้าวก็ยังมีกล้วย ไม่ใช่แค่หวีสองหวี แต่มาเป็นเครือๆ ทั้งแบบดิบและแบบสุก และตามมาติดๆ คือ ทุเรียน พี่น้องชาวเมืองนนท์หอบมาให้หลายลูกเลยทีเดียว,7. เงาะ/มะม่วง,เงาะก็มาเป็นพวงเลย แถมยังมีมะม่วงยักษ์จากชาวไร่ชาวสวนที่ออกมาบริจาคเงินสมทบในโครงการฯ และก็ยังเอาของดีที่สุดเท่าที่ตัวเองมี มามอบให้พี่ตูนด้วยน้ำใจของคนไทยด้วยกัน,8. เมล่อนบิงซู,และนี่คือสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะหอบมาให้ระหว่างก้าว นั่นคือ บิงซูเมล่อน หอมหวานอร่อยชื่นใจ ทีมงานทานไปยิ้มไป อร่อยชื่นใจสุดๆ,9. กุ้งมาเป็นหม้อ/ไข่ไก่,นอกจากนี้ก็ยังมีกุ้งต้ม ไข่ไก่ ที่ประชาชนคนไทยนำมามอบให้ทีมก้าวคนละก้าว,10. ไก่ย่าง/แคปหมู,ของกินมีมาไม่ขาดค่ะคุณ ไก่ย่างมาทั้งตัว ปิ้งติดไม้มามอบให้พี่ตูนกันเลยทีเดียว และในส่วนของแคปหมูนั้น ทางทีมงานก็ได้รับมาจากน้ำใจของประชาชนทางภาคเหนือตั้งแต่ จ.พะเยา, จ.ลำปาง มาเรื่อยๆ จนถึงแม่สาย จ.เชียงราย ในที่สุด,จริงๆ ของกินไม่ได้มีแค่ 10 ข้อนี้ที่เอามาให้ชม แต่ยังมีอื่นๆ อีกหลายอย่างนับไม่ถ้วนเลย ไม่ว่าจะเป็น ข้าวกล้องต้มกุ้ง หมูกระจก ข้าวแต๋น จิ้นส้ม เต้าหู้นมสด ปาท่องโก๋ ขนมชั้น น้ำปั่น น้ำส้ม ข้าวหมูทอดเต้าหู้ยี้ สะตอสด สะตอผัดกุ้ง หลนปู พิซซ่าโคน ฯลฯ,นี่แหละน้ำใจคนไทยหลั่งไหลมาเพื่อคนดีศรีสยามอย่างพี่ตูนจริงๆ.,ที่มาภาพ : ,kaokonlakao,, ,what.did.p.toon.get,, ,rachwinwong | ในที่สุดพี่ตูนก็ทำสำเร็จ! ดูไลฟ์สดวันที่ทีมก้าว วิ่งเข้าสู่เส้นชัยที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย แล้วขนลุก ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายคนนี้ทำได้จริงๆ นอกจากพลังกายพลังใจที่ดีของตูน ก้อย และทีมงานก้าว อีกหนึ่งกำลังใจสำคัญคือคนไทยทั้งประเทศ | ไลฟ์สไตล์,อาหาร | อาหาร,ท่องเที่ยว,ตูน บอดี้สแลม,ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ,ทีมงานก้าว | https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/1163000 |
เปิดใจ โก๊ะ เด็กปวช. คนขยัน แม้มีคนช่วยเหลือ แต่ก็จะรับจ้างทำงานตามเดิม | เปิดชีวิตต้องสู้ของ น้องโก๊ะ เด็กหนุ่ม ปวช.ปี 2 ทำงานรับจ้างสารพัด รีดผ้าตัวละ 2 บาทหาเลี้ยงชีพ ส่งตัวเองเรียน หลังพ่อแม่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งทั้งคู่ เผยความฝันอยากเรียนจบวิศวะไฟฟ้าให้ได้ ด้านเพื่อนบ้าน ยัน น้องโก๊ะเป็นเด็กขยัน,จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ,Tan แทน, ได้โพสต์เรื่องราวชีวิตต้องสู้ของนักศึกษา ปวช.2 ช่างไฟฟ้า วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์ ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง เนื่องจากพ่อแม่เสียชีวิตไปหมด จึงต้องทำทุกอย่างเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง และส่งตัวเองเรียน โดยรับจ้างทำงานรีดเสื้อผ้าตัวละ 2 บาท เพื่อจ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ 1,000 บาท ,วันที่ 17 ธ.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยัง ดร.แทน โมราราย เป็นรอง ผอ.วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์ ซึ่งเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า นักศึกษารายนี้ ชื่อนายเอกพล ไทยธานี อายุ 19 ปี หรือ น้องโก๊ะ อาศัยอยู่ในชุมชนหนองปลาแห้ง ต.นครสวรรค์ออก อ.เมืองนครสวรรค์ จากนั้นได้พาผู้สื่อข่าวไปที่บ้านพักของนายเอกพล พบว่าบ้านพักเป็นลักษณะห้องแถวชั้นเดียว สภาพเก่า ภายในบ้านมีข้าวของเครื่องใช้เพียงไม่กี่อย่าง ,จากการสอบถามเพื่อนบ้าน ทุกคนต่างกล่าวว่า, เด็กคนนี้เป็นคนน่าสงสาร ขาดพ่อแม่ตั้งแต่อายุยังน้อย ต้องทำงานหนักทุกวัน เพื่อหาค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และค่าเรียนหนังสือ แต่เป็นคนขยันมาก ทุกคนในชุมชนจะรักเอ็นดูและให้ความช่วยเหลือเท่าที่ทำได้,นางสาวโนรี นุสโต อายุ 34 ปี หมู่ที่ 4 ต.นครสวรรค์ออก เจ้าของร้านรับซักรีด เปิดเผยว่า เห็นน้องโก๊ะมาตั้งแต่เด็ก เป็นเด็กขยันช่วยงานแม่ จึงรับน้องให้มาช่วยรีดผ้าที่บ้าน โดยให้ตัวละ 2.50 บาท ในช่วงที่น้องไม่มีเรียนก็จะมารีดผ้าแทบทุกเย็นได้วันละ 30-50 ตัว ส่วนเรื่องข้าวปลาอาหารตนก็หาให้ทานทุกวันเพราะคิดว่าน้องโก๊ะเป็นลูกตนเองอีก 1 คน,ทั้งนี้ น้องโก๊ะ เล่าว่า พ่อกับแม่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง พ่อเสียชีวิตไปเมื่อปี 2559 ส่วนแม่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ตอนที่แม่เสีย ตนมีเงินติดตัวเพียง 400 บาท จ่ายเป็นค่ายาฉีดศพแม่เท่านั้น ส่วนค่าใช้จ่ายอย่างอื่นต้องพึ่งพาเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประธานหมู่บ้านได้ให้ยืมเงิน 5,000 บาท เพื่อนำมาเป็นค่าจัดงานศพ 1 วัน ซึ่งตนได้นำซองที่ได้จากการทำบุญไปใช้หนี้คืนหมดแล้ว ,,ทุกวันนี้ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว พ่อแม่ไม่มีแล้ว จึงต้องดิ้นรนทุกอย่างเพื่อให้ชีวิตอยู่รอดได้ นอกจากนี้ยังต้องเช่าบ้านอยู่คนเดียว โดยหาเงินจาก การรับจ้างรีดผ้า ทำงานล้างรถยนต์ร้านทองคำยนต์แคร์ (วันเสาร์) ขายเสื้อผ้าผ่านออนไลน์ รับจ้างทั่วไป ขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่ช่วยเหลือด้านอื่นๆ เช่นให้ความอนุเคราะห์รับเข้าทำงานร้านรีดผ้า ร้านทองคำแคร์ ครับ,,ด้าน ดร.แทน โมราราย รอง ผอ.วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์ เปิดเผยว่า ได้รับทราบเรื่องราวของนายเอกพลจากอาจารย์ในสังกัด จึงได้นำเรื่องราวทั้งหมดไปโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ก พร้อมกับทำเรื่องให้ทางวิทยาลัยช่วยเหลือ โดยส่วนตัว ที่โพสต์ไปนั้น เพียงแค่ต้องการให้นักศึกษาภายในวิทยาลัย ได้รับรู้เรื่องราวและเอาเป็นแบบอย่างที่ดีเท่านั้น,น้องโก๊ะมีความขยัน เรียนดี ได้เกรดเฉลี่ย 3 กว่าทุกเทอม แถมยังพฤติกรรม ไม่เกเร เข้ากันได้ดีกับเพื่อนๆ และอาจารย์ทุกคน ผมรู้สึกสงสารจึงทำการช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมกับจะมีการช่วยเหลือในด้านการศึกษา ทั้งในเรื่องทุนการศึกษา และกู้ยืมต่อไป แต่ขณะนี้ อาจารย์ในวิทยาลัยก็มีการช่วยเหลือทุนในเรื่องอาหารแต่ละวัน ให้กับน้องโก๊ะแล้ว,ทั้งนี้ หากมีผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือนายเอกพล (น้องโก๊ะ) สามารถบริจาคได้ที่ ชื่อบัญชีนายเอกพล ไทยธานี เลขที่ 4088838861 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซี นครสวรรค์ โดยเงินที่ได้จากการบริจาคจะมีหัวหน้าแผนกช่างไฟฟ้า อาจารย์ที่ปรึกษา และน้องโก๊ะเอง เข้ามาดูแลควบคุมการใช้จ่ายเงินจนกว่าจะจบการศึกษา ตัวน้องโก๊ะเองก็จะทำงานอย่างเดิม เงินในส่วนที่ได้มานั้นจะขอเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาจนจบปริญญาตรี เพื่อความสบายใจของผู้ช่วยเหลือสามารถสอบถามได้ที่เบอร์ 091-1953311 ดร.แทน โมราราย รอง ผอ.วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์ ,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,ต้องสู้ หนุ่ม ปวช. เหลือตัวคนเดียว รับจ้างสารพัด รีดผ้าตัวละ2บาท เลี้ยงชีพ | เปิดชีวิตต้องสู้ของ น้องโก๊ะ เด็กหนุ่ม ปวช.ปี 2 ทำงานรับจ้างสารพัด รีดผ้าตัวละ 2 บาทหาเลี้ยงชีพ ส่งตัวเองเรียน หลังพ่อแม่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งทั้งคู่ เผยความฝันที่อยากเรียนจบวิศวะไฟฟ้าให้ | ข่าว,สังคม | น้องโก๊ะ,เด็ก ปวช.,รับจ้างรีดผ้า,พ่อแม่เสียชีวิต,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1447305 |
ปฏิรูปกฎหมายสิ่งแวดล้อม : ประเด็นร้อนของคดีโลกร้อน | ปรากฏว่ามีชาวบ้านที่ถูกหน่วยงานรัฐดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาฐานบุกรุกเขตพื้นที่อนุรักษ์รักษาพันธุ์สัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อมอีกทั้งถูกเรียกค่าสินไหมทดแทนความเสียหายที่ทำให้ โลกร้อน เป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ชาวบ้านเหล่านี้เป็นกลุ่มที่อยู่ในชนชั้นล่างของฐานเศรษฐกิจ อาศัยการดำรงชีพด้วยการทำเกษตรกรรมแบบไร่หมุนเวียน และไม่มีที่ดินทำกินของตนเอง บางรายเมื่อถูกดำเนินคดีอาญา ไม่มีเงินชำระค่าปรับจึงต้องถูกจำคุกแทนเป็นเวลา 6 เดือน จึงเกิดคำถามขึ้นในสังคมไทยว่า เกิดอะไรขึ้นกับกฎหมายสิ่งแวดล้อมของไทย เหตุใดจึงเกิดความไม่ยุติธรรมขึ้นกับชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 ในขณะที่ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยรับรองสิทธิชุมชนในการเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการ บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม รวมทั้งความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืน (มาตรา 66) ทั้งยังรับรองสิทธิของชุมชนในการออกเสียงความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมที่กระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง (มาตรา 67 วรรค 2) แต่ยังคงมีคำถามที่เกิดในใจของชาวบ้านและสังคมคือ เพราะเหตุใดชาวบ้านที่อาศัยที่ป่าทำกินยังคงได้รับผลกระทบจากการเป็น อาชญากรโลกร้อน จึงเกิดเป็นประเด็นคำถามแก่สังคมว่า ยุติธรรมแล้วหรือที่ชาวบ้านจะถูกดำเนินคดีโลกร้อน ต้นเหตุของความอยุติธรรมอยู่ที่ใด และ แนวทางอำนวยความยุติธรรมควรเป็นเช่นไรบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาคำตอบสำหรับคำถามข้างต้นและนำเสนอแนวทางว่าควรที่จะปฏิรูปกฎหมายสิ่งแวดล้อม รวมถึงพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 อย่างไร โดยผู้เขียนจะทำการวิเคราะห์ ที่มาหรือแนวคิดของกฎหมายเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ในมุมมองเชิงสังคมวิทยากฎหมาย อันจะนำไปสู่การนำเสนอแนวทางปฏิรูปกฎหมายสิ่งแวดล้อมเพื่อแก้ไขความเดือดร้อนของชาวบ้านในคดีโลกร้อนปัญหาโลกร้อน เป็นที่พรั่นพรึงและจับตามองของประชาคมโลกอย่างเข้มข้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากผลสะท้อนของปัญหาโลกร้อนเห็นได้ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นทุกปีในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ในปี พ.ศ. 2546 เกิดคลื่นร้อนในทวีปยุโรปส่งผลให้มีคนตายกว่า 30000 คน หรือการที่อุณหภูมิในประเทศอินเดียสูงถึง 48.1 องศาเซลเซียส โดยสาเหตุของปัญหาโลกร้อนมาจากกิจกรรมของมนุษย์ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไฟฟ้า การใช้นำมันเชื้อเพลิงในภาคขนส่งและอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก ทำให้ความร้อนไม่อาจสะท้อนออกจากผิวโลกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศได้ เพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหา ในปี พ.ศ. 2535 องค์การสหประชาชาติได้จัดทำอนุสัญญากรอบความร่วมมือ United Nations Framework Convention on Climate Change (UNFCC) ขึ้น โดยประเทศไทยก็เข้าร่วมเป็นภาคีด้วย และในปีเดียวกันนั้นประเทศไทยก็ได้ปรับปรุงกฎหมายสิ่งแวดล้อมกล่าวคือ พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 อันมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มมาตรการควบคุมและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติมจากกฎหมายฉบับเดิมภายใต้อนุสัญญา UNFCC ข้อตกลงต่างๆ มากมายได้จัดทำขึ้นเพื่อให้นานาประเทศร่วมกันแก้ไขปัญหาโลกร้อน แต่ข้อตกลงที่สำคัญที่สุดที่อาจเป็นเครื่องกระตุ้นให้หน่วยงานรัฐในประเทศไทยเริ่มไล่ล่า อาชญากรโลกร้อน อย่างกว้างขวางในระยะ 4 ปีที่ผ่านมา คือ ข้อตกลงที่ทำขึ้นใน พ.ศ. 2553 Cancun Agreement ซึ่งเป็นข้อตกลงที่มุ่งหมายให้การช่วยเหลือประเทศต่างๆ เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซที่เกิดจากการเผาผลาญเชื้อเพลิง (emission) อันเป็นสาเหตุของภาวะเรือนกระจก ให้อยู่ในระดับต่ำตามเกณฑ์ที่กำหนด อีกทั้งให้การสนับสนุนทุนแก่รัฐภาคีเพื่อใช้ในกิจกรรมเพื่อนำไปสู่เป้าหมายนั้น และประเทศไทยก็เป็นภาคีในข้อตกลงนี้ด้วยเช่นเดียวกัน จึงอาจไม่น่าแปลกใจที่เห็นการใช้บังคับพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 อย่างเข้มข้น หากแต่น่าผิดแปลกใจตรงที่ แทนที่จะเป็นธุรกิจรีสอร์ต หรือโรงงานอุตสาหกรรม กลับกลายเป็น ดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า การที่ประเทศไทยมีความพยายามปรับปรุงกฎหมายและใช้บังคับกฎหมายส่งเสริมสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มข้นนั้นอาจเนื่องมาจากความพยายามดำเนินการภายใต้พันธกรณีและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาโลกร้อน แต่สิ่งที่น่าสงสัยซึ่งอาจเป็นต้นตอของความพิลึกพิลั่นของคดีฟ้องชาวบ้านฐานทำให้โลกร้อน อาจอยู่ที่บทบัญญัติหรือการใช้การตีความพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ก็ได้ ประเด็นจึงความพิจารณาว่า เจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติดังกล่าวคืออะไรพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มีเจตนารมณ์เพื่อเพิ่มเติมมาตรการควบคุมและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมจากกฎหมายฉบับเดิม ซึ่งได้แก่มาตรการดังต่อไปนี้(1) (เช่น องค์กรเอกชนที่ได้จดทะเบียนตามมาตรา 7 อาจได้รับการช่วยเหลือหรือสนับสนุนทางราชการในการคุ้มครองและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายแก่ประชาชนที่ได้รับอันตรายหรือความเสียหายจากภาวะมลพิษรวมทั้งเป็นตัวแทนในด้านคดีความเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ได้รับอันตรายหรือความเสียหายนั้น)(2) (3) (4) (5) ( กำหนดให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งมลพิษ มีหน้าที่รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือค่าเสียหายจากการรั่วไหลหรือแพร่กระจายมลพิษอันเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายหรือความเสียหาย และ ที่กำหนดให้ผู้ที่ทำลายหรือทำให้สูญหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นของรัฐหรือสาธารณสมบัติของแผ่นดิน มีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐ)(6) ด้วยเหตุที่พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มีเจตนารมณ์ประการหนึ่ง คือ การกำหนดความรับผิดของผู้ก่อให้เกิดมลพิษไว้อย่างชัดเจนในมาตรา 96 และมาตรา 97 ดังนี้มาตรา 96 เป็นบทบัญญัติที่ใช้หลักความรับผิดโดยเคร่งครัด (Strict Liability) มาใช้ กล่าวคือ ผู้เสียหายจากการรั่วไหลหรือแพร่กระจายของมลพิษไม่มีภาระการพิสูจน์ว่าผู้เป็นเจ้าของ หรือผู้ครอบครองแหล่งมลพิษจงใจหรือประมาทเลินเล่อหรือไม่ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าเข้าข้อยกเว้นใดข้อหนึ่ง ตามมาตรา 96 (1) – มาตรา 96 (3) และ คำว่า แหล่งกำเนิดมลพิษ มาตรา 4 ของพระราชบัญญัติดังกล่าว นอกจากจะกำหนดว่าหมายถึง โรงงานอุตสาหกรรม อาคาร สิ่งก่อสร้าง สถานประกอบการหรือสิ่งอื่นใดๆ ที่เป็นที่มาของมลพิษแล้ว ยังหมายถึง ชุมชน ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของมลพิษด้วยส่วนในกรณีของมาตรา 97 เป็นกรณีที่ทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นของรัฐหรือสาธารณสมบัติถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไป โดยถ้อยคำของบทบัญญัติ มีดังต่อไปนี้มาตรา 97 เป็นกรณีที่ทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นของรัฐหรือสาธารณสมบัติของแผ่นดินถูกทำลายหรือทำให้เสียหายไป โดยบุคคลหนึ่งบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดา (รวมถึง ชาวบ้าน ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ) ซึ่งมิได้คำนึงถึงองค์ประกอบภายใน กล่าวคือ จงใจหรือประมาทเลินเล่อหรือไม่ จึงถือได้ว่ามาตรา 97 ได้รับเอาหลักความรับผิดโดยเคร่งครัด (Strict Liability) มาใช้ด้วยเช่นกันส่วนค่าเสียหายนั้น พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มิได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ จึงต้องเป็นไปตามหลักของการเรียกค่าสินไหมทดแทนกรณีละเมิด ซึ่งต้องเป็นค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ตามสมควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงของการละเมิด อีกทั้งศาลมีดุลพินิจในการกำหนดค่าสินไหมทดแทนให้เหมาะสม (มาตรา 438) และในทางปฏิบัติศาลจะพิจารณาว่าค่าสินไหมทดแทนเป็นการชดเชยความเสียหายอันเป็นผลจากการละเมิดโดยตรงของจำเลยหรือไม่ ซึ่งโดยข้อเท็จจริงปรากฏว่า ในการฟ้องร้องดำเนินคดีกับชาวบ้าน เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากการตัดไม้ทำลายป่าและการทำให้โลกร้อน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ใช้ฐานการคิดคำนวณตาม แบบจำลองสำหรับประเมินค่าเสียหายทางสิ่งแวดล้อมบางประการหลังการทำลายป่าไม้ ซึ่งเป็นแบบจำลองที่ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยคิดคำนวณ โดยนำข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้งจังหวัด ชนิดป่า พื้นที่หน้าตัดป่า ความสูงต้นไม้เฉลี่ย ขนาดพื้นที่ที่ถูกทำลาย ความลาดชัน ทิศด้านลาด ลักษณะดินมาใช้ในการคิดแบบจำลอง ซึ่งศาลก็รับไว้ใช้พิจารณาพิพากษาคดี และเห็นว่าแบบจำลองดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือ ประกอบกับการที่โจทก์เป็นหน่วยงานรัฐมีหน้าที่ปฏิบัติงานในเรื่องที่เกี่ยวข้องจึงยิ่งทำให้แบบจำลองมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดีในท้ายที่สุด ศาลเห็นว่าค่าเสียหายที่คำนวณได้อาจคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง จึงปรับลดค่าสินไหมทดแทนลง ทั้งๆ ที่ฐานการคิดคำนวณ และสูตรสำเร็จของ แบบจำลองสำหรับประเมินค่าเสียหายทางสิ่งแวดล้อมบางประการหลังการทำลายป่าไม้ นี้เป็นการคำนวณจากสมมติฐาน ไม่ใช่มาจากผลการทดลองทางวิทยาศาสตร์เพื่อหาความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงของป่าในกรณีนั้นๆ และศาลเองก็ยอมรับ กรณีของแบบจำลองจึงไม่น่าเชื่อได้ว่าเป็นค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริง และด้วยเหตุนี้จึงนำไปสู่การถกเถียงในหมู่นักวิชาการว่าแบบจำลองมีความน่าเชื่อถือจริงหรือไม่ และมีความพยายามที่จะนำคดีขึ้นสู่ศาลปกครองเพื่อให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนแบบจำลองดังกล่าวแต่ศาลปกครองมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องเนื่องจาก แบบจำลองฯ มิใช่ คำสั่งทางปกครอง ซึ่งจะทำให้ศาลมีอำนาจรับไว้พิจารณา ปัญหาของการที่ชาวบ้านถูกทำให้ตกเป็นจำเลยในคดีโลกร้อนจึงดูท่าจะไม่มีวี่แววที่จะคลี่คลาย นอกจากนี้ปรากฏว่า จากสถิติของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2553 พบว่า มีคดีที่ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกของเครือข่ายฯ ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาฐาน บุกรุก ที่ป่าทั้งหมด 131 คดี จำนวน 500 รายทั่วประเทศ และถูกฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งในฐานอาชญากรรมโลกร้อนถึง 30 ราย ความเสียหายที่กรมอุทยานฯ เรียกเก็บ ดังที่ได้กล่าวแล้วว่า พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ออกมาในช่วงที่ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีในอนุสัญญา UNFCC United Nations Framework Convention on Climate Change ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างกรอบการทำงานร่วมกันกับประเทศต่างๆ ในโลกเพื่อให้เกิดความคงที่ของก๊าซเรือนกระจก (GHGs) อันเป็นสาเหตุทำให้โลกร้อนและภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งจากรายงานของ UNFCC พบว่าสาเหตุของเกิดก๊าซ GHGs มาจากกิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังปฏิวัติอุตสาหกรรม และกิจกรรมของมนุษย์ที่ก๊าซ GHGs ได้แก่ การใช้และการผลิตพลังงานเชื้อเพลิงซึ่งได้จากการเผาไหม้น้ำมันฟอสซิล การตัดไม้ทำลายป่า (deforestation) และการทำอุตสาหกรรมเป็นต้น อย่างไรก็ดี ในส่วนของการตัดไม้ทำลายป่า ในรายงานยังกล่าวด้วยว่า การตัดไม้ทำลายป่าเพื่อการเกษตรกรรมหรือการพัฒนา จะทำให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ แต่ถ้าปลูกป่าขึ้นใหม่จะทำให้ต้นไม้ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ขจัดออกไปจากชั้นบรรยากาศ จึงเห็นได้ว่า การตัดไม้ทำลายป่าเป็นเพียงแต่กิจกรรมหนึ่งที่อาจทำให้เกิดโลกร้อน และถ้าหากปลูกป่าทดแทนก็จะช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ และเมื่อประกอบกับเจตนารมณ์อีกประการหนึ่งของพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ที่มุ่ง การลงโทษชาวบ้านที่มีวิธีชีวิตและอาศัยดำรงชีพอยู่กับป่า โดยไม่ทำความเข้าใจกับชาวบ้านก่อนว่ากิจกรรมหรือวิถีชีวิตของชาวบ้านส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร หรือไม่เปิดโอกาสให้ชาวบ้านโต้แย้งว่าวิถีชีวิตของชาวบ้านและชุมชนช่วยส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างไร จึงถือได้ว่าขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมาย และไม่เป็นธรรมยกตัวอย่าง เช่น กรณีของนางขันเงิน (นามสมมติ) เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ อาศัยอยู่ในเขตอนุรักษ์ป่าภูผาแดง ตำบลปากช่อง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยได้รับการผ่อนผันตามมติคณะรัฐมนตรี ฉบับลงวันที่ 30 มิถุนายน 2541 ซึงผ่อนผันให้ราษฎรที่ทำกินอยู่เดิมในเขตสามารถทำกินต่อไปได้ นางขันเงินมีอาชีพเกษตรกร ทำไร่หมุนเวียน คือ ทำไร่แต่ละปีไม่ซ้ำแบบเดิม และจะเสาะแสวงหาที่เหมาะสมในการเพาะปลูกแห่งใหม่ไปเรื่อย หลังจากเพาะปลูกครบ 6 แห่งแล้ว ก็กลับมาทำในพื้นที่ที่เคยทำอีก โดยรอบ และเวียนรอบหนึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 20 ปี ซึ่งต่อมานางขันเงินถูกกล่าวหาและถูกดำเนินคดีในความผิดฐานบุกรุกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและถูกศาลตัดสินให้ชดใช้ค่าเสียหายฐานทำให้โลกร้อนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ทั้งๆ ที่ในสากลเห็นว่า วิถีชีวิตชาวบ้านในการทำไร่หมุนเวียนอาจมีส่วนช่วยในการรักษาป่า นอกจากนี้ ข้อเท็จจริงยังปรากฏอีกด้วยว่า จากการศึกษาของสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน ทั้งสิ้น 22 กรณี ซึ่งเป็นกรณีที่พิพาทพื้นที่ป่าไม้ 13 กรณี และปัญหาที่สาธารณประโยชน์ 9 กรณี พบว่า ทุกกรณีชาวบ้านถือครองทำประโยชน์ในที่ดินมาแล้วก่อนการประกาศให้เป็นพื้นที่ดินของรัฐ จึงเกิดคำถามซึ่งเป็นข้อย้อนแย้งว่า อีกทั้งเกิดคำถามขึ้นอีกประการหนึ่งว่า และ ทรัพยากรธรรมชาติ มีวิวัฒนาการมาจากรากฐานความคิดทางกฎหมายที่เกี่ยวกับทรัพย์ ที่เชื่อว่า การใช้สอยประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติบนโลกจึงเป็นไปตามความสามารถของมนุษย์ที่จะหาได้อย่างเสรี แต่ต่อมาเมื่อมนุษย์สร้างสังคมเริ่มมีข้อขัดแย้งในเรื่องสิทธิในตัวทรัพย์ แนวคิดเรื่องทรัพย์สิน การครอบครองและหลักกรรมสิทธิ์จึงได้เกิดขึ้น เช่น สัตว์ป่ามิได้เป็นของผู้ใด แต่ถ้าใครสามารถล่าสัตว์ป่าได้นั้นถือว่าเนื้อสัตว์เป็นของผู้นั้น หรืออีกนัยหนึ่งคือเชื่อว่าทรัพยากรบนโลกไม่อาจเป็นของผู้ใดแต่ต่อมาเมื่อมนุษย์มีความสามารถในการแสวงหา ใช้สอยทรัพยากรและเมื่อพัฒนาเป็นสังคม กฎหมายจึงพัฒนาไปเป็นหลักกรรมสิทธิ์ เนื่องจากเห็นว่า ทรัพย์บางอย่างบนโลกมนุษย์สามารถเป็นเข้าของได้ถ้ามีความพยายามเสาะแสวงหา จับจองและครอบครองมาได้ ก็จะได้เป็นเจ้าของและมีอำนาจทวงคืนด้วย ต่อมาเมื่อสังคมได้เปลี่ยนแปลงไป โครงสร้างและสถาบันทางสังคมมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น กฎหมายจารีตประเพณีได้พัฒนาไปเป็นกฎหมายของนักนิติศาสตร์ ซึ่งมีความซับซ้อนมากขึ้น กฎหมายที่ว่าด้วยทรัพย์ได้ถูกพินิจพิเคราะห์และมีการจัดแบ่งประเภททรัพย์เป็นหมวดหมู่ ที่เห็นได้ชัดคือ ความเห็นของนักนิติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงชาวโรมัน ไกยุส (Gaius) ซึ่งมีอิทธิพลต่อกฎหมายโรมันเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากความเห็นของไกยุสได้ถูกนำมารวบรวมในประมวลกฎหมายจัสติเนียน ไม่ว่าจะอยู่ในหมวด Digest หรือ หมวด กฎหมายเบื้องต้นของประมวลกฎหมายจัสติเนียน (Institutiones of Justinian Code) ในภาคที่ว่าด้วยเรื่องทรัพย์สิน ซึ่งเข้าใจว่า ลอกมาจากตำรากฎหมายเบื้องต้นของ ไกยุส (Institutiones of Gaius) ไกยุสเห็นว่าทรัพย์แบ่งแยกในลักษณะที่กว้างที่สุดได้เป็นสองประเภท ตามลักษณะการใช้สอย มิใช้ลักษณะของตัวทรัพย์ โดยประเภทที่หนึ่งคือ ทรัพย์ที่เป็นเทวสิทธิ (Justinian Code ใช้คำว่า res divini iuris ส่วนไกยุสใช้คำว่า res nullius) คือทรัพย์ที่มนุษย์ไม่อาจถือเอาได้ เช่น ศาสนสมบัติ โต๊ะบูชา วิหาร ประตูเมือง กำแพงเมือง เป็นต้น หรือเป็นทรัพย์นอกพาณิชย์ ส่วนอีกประเภทหนึ่งคือ ทรัพย์ที่เป็นมนุษยสิทธิ (res humani iuris) คือทรัพย์ที่มนุษย์ถือเอาได้ และสามารถก่อให้เกิด ใช้สอย หรือโอนทรัพย์สินในทางเศรษฐกิจได้ ทรัพย์ที่เป็นมนุษยสิทธินั้น ไกยุส กล่าวว่า (G.II. 9) และ อาจเป็นทรัพย์ประเภท (ทรัพย์สินของแผ่นดิน หรือ สาธารณสมบัติ) (ทรัพย์สินของเอกชน) ก็ได้ (G.II.10) สำหรับทรัพย์ประเภท res publicae นั้น ไกยุส อธิบายว่า คือ (G.II. 11) ส่วนกฎหมายพระเจ้าจัสติเนียนนั้น อธิบายว่า res publicae คือโดยหลักกฎหมายโรมัน สาธารณสมบัติของแผ่นดิน อยู่ภายใต้บริหารของผู้บริหาร หรือข้าราชการ หรือสัมปทานให้เอกชน จึงไม่อยู่ภายใต้อำนาจของศาลแพ่งปกติ และย่อมอยู่ภายใต้อำนาจชี้ขาดของฝ่ายบริหาร การครอบครองสาธารณสมบัติเพื่อให้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ย่อมทำไม่ได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่ทรัพย์นั้นไม่ใช้แล้วสามารถโอนให้เอกชนได้หลัก res publicae ของโรมันมีลักษณะคล้ายคลึงกับบริการสาธารณะ (public goods) ของประเทศฝรั่งเศสและประเทศอื่นในสหภาพยุโรป ที่ทุกคนมีสิทธิเข้าถึงและได้ใช้สอยทุกคนและมีการคิดค่าธรรมเนียมการใช้สาธารณประโยชน์ แต่ค่าธรรมเนียมนั้นมิได้มุ่งหมายแสวงหากำไรเช่นทรัพย์ของเอกชน นอกจากทรัพย์สินของแผ่นดินหรือสาธารณสมบัติแล้ว (res publicae) กฎหมายจัสติเนียนยังจำแนกทรัพย์ของมนุษย์ออกเป็นประเภท res communes (common things หรือ ทรัพย์ร่วมกัน) ด้วยอีกหนึ่งประเภท ซึ่งต่างจากไกยุสที่ไม่มีการแยกหรืออธิบายทรัพย์ประเภทนี้ กฎหมายจัสติเนียนอธิบายว่า res communes คืออากาศ ทไางน้ำ ทะเล และ ชายฝั่งทะเล ฉะนั้น ชายฝั่งทะเลย่อมเปิดให้ทุกคนใช้ได้ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องไม่ล่วงละเมิดแก่บ้านพักผ่อน อนุสาวรีย์และโรงเรียน เพราะทรัพย์เหล่านี้มิใช่ทรัพย์จาก ius gentium เหมือนทะเล (I.II.I.1) จากคำอธิบายข้างต้น แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่แตกต่างระหว่าง res publicae กับ res communes ของกฎหมายจัสติเนียน คือ res publicae ประชาชนมีสิทธิใช้สอยได้ทุกคนในทรัพย์ที่เป็นสาธารณสมบัติซึ่งจัดการโดยรัฐหรือรัฐให้สัมปทานแก่เอกชน ด้วยค่าธรรมเนียมที่มิได้เพื่อการแสวงหากำไร ส่วน res communes คือ ทรัพย์ที่เป็นของทุกคนร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นคนชาติ หรือ คนชาติอื่น เนื่องจากตกอยู่ภายใต้กฎหมายนานาชาติ เป็นทรัพย์ของทุกคน และปัจเจกชนไม่อาจถือเอาเป็นเจ้าของได้เลย แต่ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ได้ โดยไม่ต้องเสียค่าตอบแทน เช่น น้ำ ทะเล อากาศจากแนวคิดนี้ จะเห็นได้ว่าในแนวคิดนี้ กฎหมายโรมันในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน เห็นว่า ซึ่งหากไม่คำนึงว่าทรัพยากรธรรมชาติจะเป็นของผู้ใด โดยนัยนี้ จึงมีความหมายใกล้เคียงกับ res nullius ในแนวคิดดั้งเดิมไม่มากก็น้อยในแง่ที่ว่าทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้โดยเสรี เข้ามาจำกัดการใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติของปัจเจกชนในเมื่อทุกคนควรจะเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติไม่ว่าทรัพยากรธรรมชาตินั้นจะเป็นของรัฐ ของมนุษยชาติ หรือเป็นของโลกหลักฐานที่ชัดเจนประการหนึ่งคือการที่นานาประเทศต่างเป็นกังวลต่อสภาวะของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอันก่อให้เกิดภัยพิบัติและเกิดผลเสียต่อมนุษยชาติจึงทำความตกลงร่วมกันว่าจะพยายามจำกัดกิจกรรมของมนุษย์ในการแสวงหาประโยชน์จากธรรมชาติ และรักษาทรัพยากรธรรมชาติไม่ให้เสื่อมโทรม เช่น อนุสัญญา UNFCCC ดังที่ได้กล่าวไปแล้วในบทที่แล้วซึ่งการที่สภาวะของโลกที่เปลี่ยนไปนั้น มีสาเหตุเนื่องมาจากการที่สังคมมนุษย์มุ่งแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติซึ่งไม่มีใครเป็นเจ้าของที่แน่นอน ด้วยเหตุนี้ การ์เรตต์ ฮาร์ดิน (Garrett Hardin) นักนิเวศน์จากประเทศสหรัฐอเมริกาจึงเสนอว่า เพื่อมิให้ทรัพยากรเสื่อมโทรมและร่วมกันรักษาธรรมชาติ รัฐจึงต้องเข้ามาแทรกแซง แปลงให้ทรัพยากรธรรมชาติเป็นสิทธิของรัฐโดยกฎหมาย (de jure right) และดูแลจัดการทรัพยากรธรรมชาติ โดยยึดหรือแปรสภาพทรัพยากรธรรมชาติให้มาเป็นของรัฐ แล้วรัฐดูแล จัดการและบำรุงรักษาด้วยตัวเองหรือมอบสิทธิให้บุคคลอื่นจัดการ ในปัจจุบัน รูปแบบการมอบหมายสิทธิในการดูแลจัดการสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการยอมรับ คือ การมอบหมายให้ชุมชนจัดการ ด้วยรากฐานความคิดที่ว่า เป็นการจัดการทรัพยกรธรรมชาติที่ยั่งยืน โดยหลักการนี้เป็นของ อิลินอร์ ออสตรอม (Elinor Ostrom) ผู้ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ซึ่งออสตรอม ได้เสนอหลักการจัดการทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน (Common Pool Resources) 8 ประการ ดังนี้ ส่วน กฎหมายสิ่งแวดล้อมของแต่ละประเทศมีพัฒนาการที่แตกต่างกัน ทั้งนี้มีสาเหตุมาจากรากฐานทางประวัติศาสตร์ของ การต่อสู้ เพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรมทางสิ่งแวดล้อม ยกตัวอย่างเช่นในคดี Oposa vs Factoran ของประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเด็กและเยาวชน 44 คนฟ้องร้องต่อศาลในนามของ ชนรุ่นหลังของฟิลิปปินส์ (future generations) เรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยุติการให้สัมปทานป่าไม้ และศาลสูงของฟิลิปปินส์ยืนยันว่าเด็กๆ มีอำนาจฟ้อง และผู้ใหญ่มีหน้าที่ที่จะต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติโดยคำนึงถึงชนรุ่นต่อๆ ไป หรืออย่างในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีการพัฒนากฎหมายสิ่งแวดล้อมเรียกว่า CERCLA หรือ Supper Fund ซึ่งด้วยเรื่องความรับผิดทางสิ่งแวดล้อม (Environmental Liability) ซึ่งรวมถึง (Polluter Pays Principle) ที่มุ่งเน้นการชดเชยเยียวยาให้กับธรรมชาติ มากกว่าการรับผิดทางละเมิดในทางแพ่ง อันเป็นที่มาของมาตรา 97 พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ซึ่งเป็นความรับผิดเคร่งครัด (strict liability) มาใช้ในคดีสิ่งแวดล้อม โดยในคดี Exxon Valdez เรือชนหินโสโครกและน้ำมันและน้ำมันจากเรือไหลทะลักลงสู่ทะเล ทะเล หาดทราย หิน เต็มไปด้วยคราบน้ำมัน ทำให้สัตว์น้ำ สิ่งมีชีวิตในทะเลตายไป ศาลยุติธรรมสหรัฐฯ พิพากษาให้ ผู้กระทำผิดต้องส่งคืนและแก้ไขเยียวยาธรรมชาติให้เหมือนเดิมก่อนที่ความผิดจะเกิดขึ้น รวมทั้งค่าเสียหายที่เกิดจากการกระทำดังกล่าวด้วย นั่นหมายความว่า คราบน้ำมันที่อยู่ในทะเล และที่ติดอยู่กับชายฝั่ง โขดหิน หาดทราย สัตว์น้ำทั้งหมดต้องถูกขจัดและทรัพยากรทางทะเลจะต้องถูกฟื้นฟู นอกจากนี้ เป็นที่น่าสรรเสริญว่า ส่วนในประเทศที่ใช้ระบบซิวิลลอว์ (Civil Law) ก็มีกฎหมายสิ่งแวดล้อมที่น่าสนใจ แตกต่างกันไป เช่น ในประเทศเยอรมนีพัฒนาหลักความยุติธรรมทางสิ่งแวดล้อมที่ประกอบด้วย หลักการเฝ้าระวัง หลักผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย และ หลักความร่วมมือ ซึ่งได้รับการคุ้มครองในมาตรา 20 (a) ของรัฐธรรมนูญเยอรมัน ซึ่งหลักการทั้งสามดังกล่าวยังได้สอดแทรกอยู่ในบัญญัติของต่างๆ ที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ในทำนองเดียวกัน ในประเทศฝรั่งเศสมีการออก กฎบัตรว่าด้วยสิ่งแวดล้อม (La Charte de Lenvironent) แนบท้ายรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีปรัชญาพื้นฐานด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น สิ่งแวดล้อมเป็นสมบัติร่วมกันของมนุษย์ (res communes) ดุลยภาพระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม สิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ในการมีสิ่งแวดล้อมที่ดี ความยุติธรรมทางสิ่งแวดล้อมต่อคนรุ่นหลัง หลักการพัฒนาที่ยั่งยืน และ สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งหลักการทั้งปวงเป็นหลักการพื้นฐานของประมวลกฎหมายสิ่งแวดล้อมของประเทศฝรั่งเศสและกฎหมายสิ่งแวดล้อมในลำดับรอง เมื่อพิจารณาจากกฎหมายสิ่งแวดล้อมจากประเทศต่างๆ แล้ว ไม่ว่าจะถือว่าสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติเป็นของรัฐ (res publicae) ของมนุษยชาติ (res communes) หรือของสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตบนโลก จะเห็นได้ว่ามีความพยายามทำให้กฎหมายสิ่งแวดล้อมไร้พรมแดน ทันสมัย เป็นระบบระเบียบและสอดคล้องกับปรัชญาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งในด้านการดูแล จัดการและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติให้มีความยั่งยืน อิลินอร์ ออสตรอม เสนอว่าควรดำเนินการร่วมกับชุมชนภายใต้หลักการจัดการทรัพยากรธรรมชาติร่วมกันสิทธิชุมชน ปรากฏขึ้นครั้งในในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยในปี พ.ศ. 2540 และปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปัจจุบัน ซึ่งรัฐธรรมนูญปัจจุบันให้การรับรองสิทธิชุมชน ดังนี้สิทธิชุมชนตามความของรัฐธรรมนูญ จึงหมายถึง บุคคลที่อยู่รวมกลุ่ม รวมกันเป็นชุมชน เป็นสถาบันสังคมแบบหนึ่ง และก่อให้เกิดสิทธิร่วมกัน (collective rights) ไม่ใช่ สิทธิของปัจเจกบุคคล (individual rights) สิทธิของชุมชนที่รัฐธรรมนูญรับรองตามมาตรา 66 – 67 มีดังนี้เมื่อพิจารณาบทบัญญัติตามมาตรา 66 – 67 แล้วเห็นได้ว่า ในแง่หนึ่งถือได้ว่าสิทธิชุมชนได้รับการยอมรับ รับรอง และคุ้มครองในระดับหนึ่ง แต่ในความเป็นจริง ยังอาจมีประเด็นปัญหาหรือข้อบกพร่องในการรับรองสิทธิชุมชนอยู่บ้าง ยกตัวอย่างเช่นการที่ชุมชนไม่ได้รับการรับรองให้มีอำนาจร่วมกำหนดวิถีชีวิตของตนเองหรือร่วมกำหนดแผนการจัดการ การบำรุงรักษา และใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม หรือกีดกันบุคคลภายนอกหรือทุนออกไป ในท้ายที่สุดทุนก็จะเข้ามาแทรกแซง กีดกันชุมชนออกไป และแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งประเทศอาจไม่มีทั้งชุมชน วัฒนธรรม ประเพณีพื้นถิ่นหรือทรัพยากรธรรมชาติหลงเหลือให้กับลูกหลานในอนาคตเลยในประเทศลาวก็เคยประสบปัญหาทำนองเดียวกัน แรกเริ่มเดิมทีกฎหมายจารีตประเพณียอมรับว่าชุมชนมีสิทธิใช้ประโยชน์และบริหาร จัดการ ป่าไม้ร่วมกัน แต่เมื่อประเทศเปลี่ยนไปเป็นระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ จนกระทั่งปัจจุบัน กฎหมายของประเทศไม่รับรองสิทธิของชุมชนในป่าไม้ อย่างไรก็ดีในปัจจุบัน ประเทศลาวได้มีกฎหมายป่าไม้ฉบับใหม่ ซึ่งแม้ว่าจะไม่รับรองสิทธิของชุมชนในป่าไม้แต่อนุญาตให้รัฐนำป่าไม้ที่เป็นของรัฐไปให้ชุมชนดูแลและจัดการภายใต้แผนงานที่รัฐอนุมัติ และรัฐจะจ่ายเงินให้แก่ชุมชนเป็นค่าดูแลและจัดการป่าไม้ ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลลาวจึงได้ริเริ่มโครงการอนุรักษ์และจัดการป่าประเทศลาว (The Laos Forest Management and Conservation Program – FOMACOP) โดยได้รับการสนับสนุนจากธนาคารโลก รัฐบาลประเทศฟินแลนด์ กลไกทุนสิ่งแวดล้อมโลก (Global Environmental Facility Trust Fund) และกระทรวงเกษตรกรรมและป่าไม้และการพัฒนาป่าไม้ ประเทศลาว (The Laotian Ministry of Agriculture and Forestry and Development of Forestry) ซึ่งโครงการ FOMACOP นี้ดำเนินงานภายใต้แนวคิดการจัดการทรัพยากรธรรมชาติร่วมกันระหว่างรัฐและชุมชน ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับอิทธิพลจากอิลินอร์ ออสตรอมโครงการมีการวางแผนการแบ่งเขต เตรียมที่ดินสำหรับการใช้งาน กำหนดต้นไม้ วางแผนการโค่นต้นไม้และคัดเกรด การวัดผลหลังการโค่นต้นไม้ ในรอบ 5 – 10 ปี ซึ่งมีการจำกัดจำนวนต้นไม้ที่จะโค่นต่อตารางพื้นที่ และปลูกป่าทดแทน โดยในระหว่างปี ค.ศ.2541 – 2542 รายได้ร้อยละ 69 จากการตัดไม้นำเข้าสู่รัฐบาลของประเทศ ร้อยละ 19 เป็นเงินให้กับผู้รับเหมาที่โค่นต้นไม้และขนส่ง และส่วนร้อยละ 12 ที่เหลือเป็นเงินของชุมชน ซึ่งชุมชนใช้เงินครึ่งหนึ่งของรายได้เป็นค่าตอบแทนสำหรับแรงงาน ค่าอำนวยการ ฯลฯ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งชุมชนสำรองไว้เป็นค่าพัฒนาโครงการ ค่าสวัสดิการ และเงินทุน โครงการนี้นับเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับประเทศไทยในการบริหาร จัดการ และอนุรักษ์ป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมโดยมีชุมชนซึ่งมีสิทธิในการกำหนดเจตจำนงและจัดการในเรื่องที่เกี่ยวกับต้นเองเป็นแกนกลางร่วมกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งนอกจากจะเคารพกฎหมายจารีตประเพณี รักษาคน และรักษาป่าแล้ว ยังถือได้ว่าเป็นการแก้ไขปัญหาของประชาชนซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ด้อยโอกาส ช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนามนุษย์ได้อย่างยั่งยืนอีกด้วยส่วนพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ของไทยนั้น แม้จะประกาศเจตนารมณ์ไว้อย่างชัดเจนว่าเพื่อ ส่งเสริมประชาชนและองค์กรเอกชนให้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม แต่กลับไม่มีมาตราใดเลยที่ยอมรับให้ผู้แทนชุมชน หรืออย่างน้อยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายหรือแผนจัดการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ มีเพียงช่องทางเดียวคือให้องค์กรพัฒนาเอกชนที่ได้รับการรับรองเป็นตัวแทนของชุมชน นอกจากนี้ บทบัญญัติยังขาดมิติคุ้มครองมนุษย์หรือชุมชน ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้าน มุ่งแต่คุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติแต่ยังขาดการคุ้มครองสิทธิของชุมชน จากการศึกษา คดีโลกร้อนและพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 เพื่อศึกษาว่าเหตุใดชาวบ้านซึ่งเป็นชนชั้นล่างทางเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่อาศัยการดำรงชีพด้วยการทำเกษตรกรรมแบบไร่หมุนเวียน และไม่มีที่ดินทำกินของตนเอง จึงถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรโลกร้อน แท้จริงปัญหาอยู่ที่ใด และแนวทางการแก้ไขปัญหาควรเป็นอย่างไรพบว่า เกิดจากการที่นักนิติศาสตร์ซึ่งออกกฎหมายและใช้กฎหมายโดยไม่มีความเข้าใจต่อจารีตประเพณีของท้องถิ่นซึ่งตรงกับจารีตประเพณีสากลเกี่ยวกับสิทธิในการได้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งคนในชุมชนเห็นว่ามิใช่กรรมสิทธิ์ของผู้ใดผู้หนึ่ง หรือปัจเจกชนใด แต่เป็นของส่วนรวม ที่ทุกคนมีสิทธิเข้าถึง ใช้สอย และดูแลจัดการร่วมกันเพื่อให้เกิดความยั่งยืน นอกจากนี้นักนิติศาสตร์ที่ออกกฎหมายยังไม่เข้าใจอีกด้วยว่า กฎหมายสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นเพราะการแสวงหาประโยชน์จากธรรมชาติอย่างไม่หยุดยั้งของภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม จนเกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและมนุษยชาติโดยรวม กฎหมายแทนที่จะมุ่งเอาผิดกับภาคธุรกิจหรืออุตสาหกรรมอย่างรัดกุม เคร่งครัด กลับกลายเป็นว่าถูกนำมาใช้เอาผิดกับชาวบ้านในฐานะผู้ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม โดยไม่คำนึงถึงสิทธิของชุมชนในการใช้สอยและจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่อยู่ในชุมชนแต่ดั้งเดิมนอกจากนี้แม้ว่ารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยจะให้การรับรองสิทธิชุมชนแต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการเช่น ในกรณีที่ชุมชนเข้าไปมีส่วนร่วมกับรัฐในการจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม หากมีข้อขัดแย้งในเรื่องประโยชน์ระหว่าง ชุมชน กับ รัฐ หรือ ประโยชน์ของรัฐ เอกชน และชุมชน มีแนวโน้มว่ารัฐจะอ้างว่าประโยชน์ของรัฐมีคุณค่าเหนือกว่า อีกประการหนึ่ง ในกรณีที่มีการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ชุมชนอาจไม่มีสิทธิยับยั้งมิให้รัฐดำเนินการเพราะรัฐธรรมนูญรับรองสิทธิชุมชนไว้เพียงแค่แสดงความคิดเห็น ซ้ำเมื่อประกอบกับทัศนคติของเจ้าหน้าที่รัฐที่มองว่าชาวบ้านเป็น ผู้บุกรุก ทำลายป่า มุ่งรักษาป่ามากกว่ารักษาชาวบ้าน ด้วยเหตุนี้ คดีโลกร้อนที่มีชาวบ้านตกเป็นจำเลยจึงยังคงออกมาให้เห็นต่อสาธารณชนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายเพื่อการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในคดีโลกร้อน และป้องกันมิให้เกิดความอยุติธรรมในคดีสิ่งแวดล้อมอีกผู้เขียนจึงขอนำเสนอแนวทางปฏิรูปกฎหมายสิ่งแวดล้อม ดังนี้: แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ทั้งฉบับ ดังนี้:ผู้เขียนเห็นว่าในคดีสิ่งแวดล้อมมีรากฐานความคิดปรัชญาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และที่มาทางประวัติศาสตร์ของกฎหมายสิ่งแวดล้อมทางสากล และท้องถิ่นของแต่ละประเทศซึ่งอาจเหมือนกันหรือแตกต่างกันไป อีกทั้งในการทำความเข้าใจผลกระทบของกิจกรรมของมนุษย์กับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้องอาศัยศาสตร์ต่างๆ เข้ามาช่วยในการศึกษาวิเคราะห์ รวมถึงวิทยาศาสตร์ ในการออกกฎหมายหรือวินิจฉัยอรรถคดี จึงมีความจำเป็นที่จะต้องดึงองค์ความรู้เหล่านี้เข้ามาใช้ นอกจากนี้กฎหมายสิ่งแวดล้อมควรอยู่ในบริบทที่สอดคล้องกับการพัฒนามนุษย์ สิทธิชุมชน และสิทธิพลเมืองในการมีส่วนร่วมในนโยบายและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับตนและสิทธิในการดำรงชีพ การพัฒนากฎหมายสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยจึงควรสอดรับกับแนวคิดดังกล่าว เพื่อพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ป้องกันความขัดแย้งในสังคม และหลีกเลี่ยงผลอันไม่พึงประสงค์ของกฎหมาย กล่าวคือ ความอยุติธรรมอย่างไรก็ดี ข้อเสนอดังกล่าวเป็นเพียงข้อพิจารณาในเบื้องต้น เนื่องจากข้อจำกัดในกรอบระยะเวลาของการศึกษาในครั้งนี้ ผู้เขียนจึงเห็นความจำเป็นที่จะมีการศึกษาเพื่อพัฒนากฎหมายสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยอย่างละเอียดรอบคอบต่อไป (กฎเกณฑ์ของชุมชนปกาเกอญอ) | นับตั้งแต่มีการประกาศใช้บังคับพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ซึ่งมีเจตนารมณ์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนและองค์การพัฒนาเอกชนในการรักษาและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม | คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,สิ่งแวดล้อม | กฎหมาย,กรวิไล เทพพันธ์กุลงาม,ทรัพยากรธรรมชาติ,โลกร้อน | https://prachatai.com/journal/2014/01/51005 |
เจออีก ปลาครึ่งตัวยังมีชีวิตอยู่ ว่ายวนไปมาในตู้ (ชมคลิป) | เจ้าของคลิปนี้คือสมาชิกเฟซบุ๊กที่ชื่อ ป๋าอิฐ อิสระพันธุ์ปลา ซึ่งได้ถ่ายคลิปแล้วนำมาแชร์ในโลกโซเชียล เขียนเล่าว่ามันคือ ปลาครึ่งตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ ต่อมาแฟนเพจชื่อดังหลากหลายเพจได้นำคลิปไปแชร์ต่อ ซึ่งก็สร้างความฮือฮาให้กับคนในโลกออนไลน์ จนมีผู้เข้าชมคลิปนับแสนครั้งแล้ว บางรายก็รู้สึกสงสารปลาที่ต้องพิการ ขณะที่บางรายก็ยกให้เป็น ปลาสู้ชีวิต,ทีมข่าวสายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ ได้สอบถามไปยังเจ้าของคลิป ซึ่งก็คือ นายอิสระ แจ่มสว่าง เจ้าของร้านอิสระพันธุ์ปลา อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเปิดเผยว่า ปลาที่เห็นในคลิปเป็นปลาหมอสี ที่ร้านของตัวเองเลี้ยงไว้ได้ 3 เดือนแล้ว แต่เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (22 ส.ค.) ปลาตัวนี้ได้ถูกปลาตัวอื่นที่เลี้ยงไว้ด้วยกันกัดจนเหลือแค่ครึ่งตัว แต่มันกลับไม่ตาย ยังสามารถว่ายน้ำได้ปกติ ตัวเองจึงเอามาแยกตู้เลี้ยงไว้ และถ่ายคลิปเก็บไว้ดู เพราะไม่เคยเห็นปลาครึ่งตัวมาก่อน,อย่างไรก็ตาม ปลาในลักษณะครึ่งตัวจากคลิปนี้ ไม่ได้ถูกค้นพบเป็นตัวแรก หากใครยังจำได้ เราเคยนำเสนอเรื่องราวของ เจ้าบุญครึ่ง ปลาตะพากครึ่งตัว ที่กระดูกหลังหักจากการกระแทกอย่างรุนแรง แต่เจ้าของชาวราชบุรีเลี้ยงดูอย่างดี จึงยื้อชีวิตไว้ได้นานถึง 6 เดือน ก่อนจะตายลงด้วยอาการติดเชื้อ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา,ทั้งนี้ในทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า มีความเป็นไปได้ที่ปลาครึ่งตัวจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ เพราะอวัยวะส่วนสำคัญยังอยู่ครบ เช่น เหงือก ตับ ไต สมอง เป็นต้น คล้ายๆ กับคน เมื่อถูกตัดขาออกไปก็ยังมีชีวิตอยู่ได้ อย่างไรก็ตาม ปลาส่วนใหญ่มักตายจากการติดเชื้อ หากไม่ได้รับการรักษาที่ดีพอ,-ข่าวที่เกี่ยวข้อง-,อาจารย์ มก.ยัน คลิปปลาครึ่งตัวมีจริง ชี้คนเลี้ยงดูแลดี,สุดยื้อ เจ้าบุญครึ่ง ปลาตะพากครึ่งตัว ตายแล้ว | โลกออนไลน์แห่แชร์คลิปวิดีโอ ปลาที่มีรูปร่างหน้าตาแปลกประปลาด ตัวขาดครึ่งท่อน กำลังว่ายวนอยู่ในตู้ | null | ปลา,ปลาหมอสี,ปลาครึ่งตัว,ปลาครึ่งตัวมีชีวิต,ร้านขายปลา,ปลาสู้ชีวิต,คลิป,คลิปวิดีโอ,สายตรวจโซเชียล,โซเชียล,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,Thairath | https://www.thairath.co.th/content/698979 |
ร้องไทยทบทวนแผนอพยพผู้ลี้ภัยไทยใหญ่ | กลุ่มองค์กรไทใหญ่และสหรัฐ ร่วมกันเรียกร้องให้รัฐบาลไทยทบทวนนโยบายสั่งย้ายผู้ลี้ภัยไทยใหญ่กว่า 400 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก จะกลายเป็นเหยื่อของกระบวนการค้ามนุษย์ และถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนมากยิ่งขึ้น ศูนย์ข่าวสาละวิน รายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา องค์กรอิสระไทยใหญ่ 5 องค์กร ประกอบด้วยสหพันธ์ประชาธิปไตยรัฐฉาน (SDU) ร่วมกับองค์กรสิทธิมนุษยชนรัฐฉาน(SHRF) องค์กรรัฐฉาน (SSO) เครือข่ายปฏิบัติงานสตรีไทยใหญ่ (SWAN) กลุ่มเครือข่ายเยาวชนรัฐฉาน (SYNG) และกลุ่มพลังเยาวชนรัฐฉาน(SYP) ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลไทยให้ทบทวนนโยบายสั่งย้ายบ้านเด็กกำพร้าและผู้ลี้ภัยไทยใหญ่บนดอยไตแลงซึ่งจะดำเนินการย้ายภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ กลุ่มองค์กรดังกล่าว ได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยทบทวนนโยบายสั่งย้ายผู้ลี้ภัยไทยใหญ่กว่า 400 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก โดยผู้ลี้ภัยเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของผู้ลี้ภัยบนดอยไตแลงทั้งหมด 1800 คน ซึ่งอาศัยอยู่บนสันเขาชายแดนระหว่างอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอนและอำเภอเมืองโต๋น รัฐฉาน ประเทศพม่า สืบเนื่องจากหมู่บ้านของผู้ลี้ภัยไทยใหญ่ ตั้งอยู่บนสันเขาซึ่งคร่อมชายแดนประเทศไทย บริเวณอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน กับอำเภอเมืองโต๋น รัฐฉาน ประเทศพม่า โดยบริเวณที่กินอาณาเขตเข้ามายังพิกัดของประเทศไทยในปัจจุบัน เป็นที่ตั้งของบ้านเด็กกำพร้าจำนวน 208 คน และบ้านของผู้ลี้ภัยไทยใหญ่จำนวน 68 ครัวเรือน จำนวน 449 คน ทางกองทัพไทยได้มีนโยบายไทยสั่งให้ผู้ลี้ภัยที่อาศัยอยู่ในอาณาเขตของไทยย้ายเข้าไปอยู่ในเขตฝั่งรัฐฉานมาตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. โดยจะเริ่มย้ายภายในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ กลุ่มผู้ออกจดหมายได้แสดงความห่วงใยว่า บริเวณที่ผู้อพยพถูกผลักดันให้ย้ายเข้าไปอยู่เป็นบริเวณที่ใกล้เคียงกับจุดสู้รบระหว่างกองกำลังว้า UWSA กองพัน 171 ของเหว่ยเซียะกังและกองกำลังกู้ชาติไทยใหญ่ SSA นโยบายนี้จึงทำให้ผู้ลี้ภัยและเด็กกำพร้าต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากการสู้รบมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ องค์กร Human Rights Watch (HRW) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกายังได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลไทยเปิดรับผู้ลี้ภัยไทยใหญ่ที่หนีภัยการละเมิดสิทธิมนุษยชนเข้ามายังประเทศไทย โดยปัจจุบัน มีผู้ลี้ภัยไทยใหญ่อพยพข้ามพรมแดนมาทางอำเภอฝางและอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 200-500 คน แต่ประเทศไทยไม่มีนโยบายเปิดค่ายรองรับผู้ลี้ภัยเหล่านี้ ขณะเดียวกัน กลับมีนโยบายผลักดันผู้ลี้ภัยเหล่านี้ให้กลับไปยังประเทศพม่า ผลจากการไม่เปิดรับผู้ลี้ภัยไทยใหญ่อย่างเป็นทางการทำให้ผู้ลี้ภัยหลายคนต้องพยายามอยู่รอดด้วยการเป็นแรงงานต่างด้าวที่ได้รับค่าแรงราคาถูก ผู้หญิงและเด็กตกเป็นเหยื่อของกระบวนการค้ามนุษย์มากยิ่งขึ้น นายแบร็ด อะดัมส์ (Brad Adams) ผู้อำนวยการ Human Rights Watch ในเอเชีย กล่าวว่า รัฐบาลไทยยังคงปฏิเสธที่จะรับชาวไทยใหญ่ที่หนีภัยการสู้รบและถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนในฐานะผู้ลี้ภัย แม้ว่าพวกเขาจะเผชิญกับความรุนแรงจากการอยู่ในประเทศพม่าอย่างเห็นได้ชัดก็ตาม การปฏิเสธสถานภาพผู้ลี้ภัยและการให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมเหล่านี้ นับได้ว่ารัฐบาลไทยกำลังกระทำการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและปฏิเสธปัญหาที่อยู่ตรงหน้า ผู้อำนวยการ Human Rights Watch กล่าว ล่าสุด แหล่งข่าวจากชายแดนระบุว่า ขณะนี้ฝ่ายกองกำลังว้า ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธจากกองทัพพม่า ยังคงมีการเสริมกำลังอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่การรบในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันบนสันดอยชายแดนไทย - รัฐฉาน บริเวณ พิกัด MB 20175 MB 203795 MB200800 MB 197807 ตลอดระยะ 3 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของกองกำลังว้า UWSA กองพันที่ 171. | กลุ่มองค์กรไทใหญ่และสหรัฐ ร่วมกันเรียกร้องให้รัฐบาลไทยทบทวนนโยบายสั่งย้ายผู้ลี้ภัยไทยใหญ่กว่า 400 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก จะกลายเป็นเหยื่อของกระบวนการค้ามนุษย์ | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/06/4229 |
ยำตำรวจ หั่นดอกไม้และกระบอง 23/09/61 | โอม อมฤต เข้าเวรคอลัมน์ ยำตำรวจ ฉบับวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ย.2561,โผนายพลประจำปียุค พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. คุมบังเหียนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กำกับดูแล ดูไม่ดุเดือดเลือดพล่านเหมือนที่ผ่านมาเพราะขั้วอำนาจยังคงเดิม สถานการณ์บ้านเมืองยัง คสช.ก็ต้องให้เข้มแข็งมั่นคง ไว้ก่อน,แต่ที่ฮือฮาคงเป็นตำแหน่ง ผู้การกองปราบปราม เจ้าของเก้าอี้ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด นรต.37 ลุกไปนั่งเป็น ผบก.ปอศ.ผู้การเศรษฐกิจ เพื่อเปิดทางให้ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. นรต.รุ่น 50 คนหนุ่มไฟแรง ลูกหม้อกองปราบปราม ขึ้นนั่งเก้าอี้ ผู้การประเทศไทย มีอำนาจดูแลคดีทั่วราชอาณาจักร โอม อมฤต สัมผัสมาแล้วเป็นตำรวจน้ำดีไม่เลือกชั้นวรรณะ ใครเดือดร้อนมาหาช่วยเหลือหมดทุกคน,อีกคนที่ต้องจับตาดูยาวๆ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ นรต.36 บุตรชายอดีต อ.ตร. พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ เพราะอายุน้อยสุดในรุ่น นรต.36 จะไปเกษียณ อายุราชการในปี 2565 โยกย้ายครั้งนี้อาจถูกดึงกลับเข้าไลน์ รอง ผบ.ตร,ชื่อชั้น พล.ต.อ.สุชาติ หรือเดอะใหม่ ไม่ธรรมดา เป็นมือปราบที่เคยฟาดฟันกับแก๊งยาเสพติดมหากาฬ บังรอน มาอย่างโชกโชน ไล่ล่ายิงกันตายไปหลายศพ สดๆร้อนๆก็เพิ่งไปเอาตัวเสี่ยอ้วนฆ่า 2 ศพเขาชีจรรย์ ชลบุรี ที่ประเทศกัมพูชากลับมาดำเนินคดีที่ไทยสำเร็จ,อะไรๆก็ โจ๊ก ชื่อนี้ติดหูชาวบ้านไปแล้ว พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก พ่อแม่ตั้งให้เพราะชอบรับประทานโจ๊ก ทำทุกเรื่องจนคนคิดว่าเป็น ผบ.ตร. ตั้งแต่แก๊งต่างชาติหลอกคนไทย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทัวร์ศูนย์เหรียญ ดำเนินคดีเรือนักท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ต และแก๊งเงินกู้นอกระบบหลายจังหวัด เจรจาที่ถูกยึดโฉนดที่ดิน ทรัพย์สินชาวบ้านคืนให้เจ้าทุกข์จนเป็นผลงานรัฐบาลจนท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยิ้มกริ่ม,ล่าสุด โอม อมฤต ชอบมากเข้าไป ทลายเครือข่ายฉ้อโกงประชาชนที่เริ่มต้นจากอดีตผู้การจังหวัดเลย พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช หลอกตำรวจชั้นผู้น้อยเข้าไปติดบ่วงหลายร้อยคน เป็นหนี้เป็นสินล้นพ้นตัวปรากฏว่ามันไม่ได้เสียหายแค่ตำรวจ กลับเป็นการฉ้อโกงครั้งใหญ่ อ้างเอาไปลงทุนตลาดหุ้นตลาดเงิน ลุกลามไปทั้งภาคเหนืออีสานวงเงินกว่าพันล้านบาท เพราะมีเครือข่ายข้าราชการ ระดับใหญ่ที่ประชาชนเชื่อถือเข้ามาเกี่ยวข้องคนก็เลยเชื่อกันใหญ่,ทุกคดีที่บิ๊กโจ๊กดำเนินการ พล.ต.อ.จักรทิพย์ทราบพร้อมมอบหมายให้ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร.นายตำรวจตงฉินเข้าไปดูแลติดตามทรัพย์สินคืนให้เหยื่อให้ได้มากที่สุด,ล่าสุด ผบ.ตร.ลงดาบ เชือดตำรวจที่เกี่ยวข้องอีก 3 นายมี พ.ต.อ.ชยวุฒิ จันทร์สมบูรณ์ พ.ต.อ.อุดร ชูก้าน พ.ต.ท.กฤษฎา นิติพจน์ ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะเกี่ยวข้องสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจเลย,สีกากีหลงยุค สารวัตรชา หรือ พ.ต.ต.บัญชา เจือจาน ช่วยราชการตำรวจสืบ 1 นครบาลร่วมแก๊งดาบโหด ถูกนายศักดิ์ชัย แน่นอุดร พ่อค้าส้มตำฮึดสู้ร้องเรียนแจ้งความตำรวจ สน.พญาไท ดำเนินคดี จับรีดเงิน 5 หมื่นบาท กลายเป็นข่าวฉาวนครบาล น.1 พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น.ให้ความเป็นธรรมเต็มที่ แต่ต้องจับตาทีมสอบสวน สน.พญาไทอย่าเป็นมวยล้มนะครับ,ตำรวจเชิงรุก พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส.จัดทำวารสารและ E-Book วารสาร ศปทส.ตร.ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เผยแพร่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงาน ตลอดจนสาธารณชน เพื่อกระตุ้นให้สนใจและเห็นความสำคัญต่อการร่วมกันปกป้องอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่า ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ บก.ปทส. ,WWW.nepolice.go.th,โอม อมฤต | โผนายพลประจำปียุค พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. คุมบังเหียนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กำกับดูแล | null | โผตำรวจ,ยศนายพล,ผบ.ตร.,ยำตำรวจ,โอม อมฤต | https://www.thairath.co.th/news/crime/1381669 |
บขส.มั่นใจไม่มีผู้โดยสารตกค้างช่วงสงกรานต์ แนะเผื่อเวลาเดินทาง 2 ชม. | วันนี้ (11 เม.ย.2558) นายนพรัตน์ การุณยะวนิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการเดินรถ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวถึงการจัดรถโดยสารบริการประชาชนเมื่อวานนี้ (10 เม.ย.) ว่า บขส. และรถร่วมฯ ได้จัดเที่ยววิ่งรถให้บริการรวม 8002 เที่ยว สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 208356 คน สูงกว่าประมาณการเกือบ 15000 คน อย่างไรก็ตาม บขส.สามารถจัดรถโดยสารได้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนและไม่พบปัญหาผู้โดยสารตกค้าง ส่วนข้อมูลการเดินรถเมื่อวันที่ 9–10 เม.ย.2558 บขส.และรถร่วมฯ ได้จัดเที่ยววิ่งรถให้บริการรวม 15251 เที่ยว มีผู้โดยสารเดินทางรวม 354324 คนสำหรับบรรยากาศการเดินทางที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต 2) ในเช้าวันนี้ (11 เม.ย.) ประชาชนยังคงทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 มีปริมาณผู้โดยสารจำนวนมาก โดยเฉพาะเส้นทางสายนครราชสีมา และหล่มสัก เพชรบูรณ์ อย่างไรก็ดีขอให้ผู้โดยสารซื้อตั๋วโดยสารที่ช่องจำหน่ายตั๋วเท่านั้น พร้อมเผื่อเวลาในการเดินทางอย่างน้อย 2 ชม. เนื่องจากการจราจรบริเวณสถานีขนส่งหมอชิต 2 ค่อนข้างหนาแน่น | ประชาชนยังทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างต่อเนื่อง ขณะที่บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ระบุเมื่อวานนี้ (10 เม.ย.) ได้จัดเที่ยววิ่งรถให้บริการรวม 8002 เที่ยว รองรับผู้โดยสาร 208356 คนและไม่มีปัญหาผู้โดยสารตกค้าง พร้อมแนะนำประชาชนเผื่อเวลาในการเดินทางอย่างน้อย 2 ชม. | สังคม | นพรัตน์ การุณยะวนิช,บขส.,รถโดยสาร,สงกรานต์,สถานีขนส่ง,สถานีขนส่งหมอชิต,หมอชิต 2 | https://news.thaipbs.or.th/content/166 |
นายกฯตรวจน้ำท่วม จ.อยุธยา พร้อมช่วยเหลือปชช.เต็มที่ ย้ำบางพื้นที่ต้องเสียสละ | วันนี้ (5 ต.ค.2559) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำ และรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำจากนายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่วัดโบสถ์ล่าง อ.เสนานายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แม้ไม่ได้มาในวันนี้แต่หัวใจก็อยู่ที่ประชาชน พร้อมระบุว่า ต้องเตรียมความพร้อมในการการแก้ปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง จากอิทธิพลของลานินญ่า ซึ่งรัฐบาลก็กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหา และเยียวยาเกษตรที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมกับการวางแนวทางแก้ปัญหาในระยะยาว ขณะเดียวกันเกษตรกรก็ต้องปรับตัวในการทำการเกษตร ไม่เช่นนั้นก็จะทำให้เกิดปัญหาเช่นเดิม เมื่อมีน้ำไม่เพียงพอก็จะเกิดความขัดแย้งกันเรื่องการบริหารจัดการน้ำต้องมองภาพรวมทั้งประเทศ ไม่ใช่เพียงพื้นที่ใดใดพื้นที่หนึ่ง โดยบางพื้นที่อาจต้องเสียสละเพื่อส่วนรวม พร้อมขอให้ทุกคนรักษาสัญญาเรื่องในการร่วมกันบริหารจัดการน้ำ ไม่เอาเปรียบกัน รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือตามจริง ในส่วนที่ปลูกไปแล้วเสียหายก็จะชดเชยเป็นพิเศษ | นายกฯตรวจน้ำท่วม จ.พระนครศรีอยุธยา ยืนยันช่วยเหลือประชาชนเต็มที่ ย้ำบางพื้นที่ต้องเสียสละเพื่อส่วนรวม | ภูมิภาค | พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา,พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา,กระทรวงมหาดไทย,พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท,ผู้บัญชาการทหารบก,พระนครศรีอยุธยา,น้ำท่วม,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/256376 |
เปิดที่มา เกรย์ วูลฟ์ หลังนักวิเคราะห์เชื่อเกี่ยวข้องระเบิดแยกราชประสงค์ | นายแอนโทนี่ เดวิส นักวิเคราะห์ข้อมูลด้านความมั่นคงและทางทหารเปิดประเด็นในเวทีเสวนาที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.2558) โดยเชื่อว่า กลุ่มเกรย์ วูฟ ของตุรกีมีความเป็นไปได้มากที่สุดในการก่อเหตุระเบิดแยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2558 ที่ผ่านมาจนเป็นเหตุทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากกลุ่มเกรย์ วูฟ (Grey Wolves) เป็นส่วนหนึ่งของ พรรค Nationalist Movement Party หรือ พรรค MHP ในภาษาตุรกี แปลว่า พรรคขบวนการชาตินิยม มีอุดมการณ์ขวาจัด นำโดยนายเดฟเลท บาเซลี มีสุนัขป่าเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มเกรย์ วูฟ ก่อตั้งขึ้นในปี 2511 มีลักษณะเป็นองค์กรแบบทหารใช้หลักศาสนาอิสลามเป็นหลักปฏิบัติ ต้องการรวบรวมกลุ่มชาวเติร์กทั่วโลกเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน จัดตั้งค่ายฝึกเยาวชนที่ใช้ภาษาตระกูลเติร์กในเอเชียกลาง เป้าหมายหลักคือชาวมุสลิมอุยเกอร์ในมณฑลซินเจียงของจีนกลุ่มชาตินิยมในตุรกีกลุ่มนี้ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการโจมตีและลอบสังหารหลายครั้ง เช่นความพยายามลอบสังหารสมเด็จพระสันตปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 เมื่อปี 2524 และนายตูรกูทโอซาล อดีตนายกรัฐมนตรีของตุรกี ปี 2531 เคยมีส่วนในการพยายามก่อรัฐประหารในอาเซอร์ไบจาน เมื่อปี 2538 คาซัคสถานประกาศให้กลุ่มนี้เป็นองค์กรก่อการร้ายพื้นที่ปฏิบัติการของเกรย์ วูล์ฟ มีทั้งอาเซอร์ไบจาน สาธารณรัฐเชเชน มณฑลซินเจียงของจีน ไซปรัส และหลายประเทศในยุโรป ข้อมูลบางส่วนระบุว่า เกรย์ วูล์ฟ มีรายได้จากการค้ายาเสพติด การขู่กรรโชกทรัพย์และการนำพาคนข้ามพรมแดน รวมถึงการโจมตีสถานทูตไทยในตุรกีหลังรัฐบาลไทยตัดสินใจส่งชาวมุสลิมอุยเกอร์กลับไปยังจีน ก็มีชื่อกลุ่ม เกรย์ โวลฟ ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังแอนโทนี เดวิส นักวิเคราะห์จากไอเอชเอส (IHS) วิเคราะห์จากแรงจูงใจ ศักยภาพและรูปแบบการก่อเหตุที่ผ่านมาของกลุ่มการเมืองภายในไทย กลุ่มก่อเหตุในภาคใต้ เครือข่ายของกลุ่มไอเอสและอัลกออิดะห์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่ามีความเป็นไปได้น้อย มีเพียงเกรย์ วูฟ ที่มีน้ำหนักมากที่สุด แต่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่มีความเห็นเรื่องนี้เกรย์ โวลฟ อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จริงหรือไม่อาจจะอยู่ในชั้นการสอบสวนที่ไม่เปิดเผยแต่การไม่พูดชื่อกลุ่มและไม่ให้น้ำหนักกับการก่อการร้าย เป็นสิ่งที่ฝ่ายความมั่นคงยืนยันมาตั้งแต่วันแรกที่เกิดระเบิด | นักวิเคราะห์ข้อมูลด้านความมั่นคงและทางทหารเปิดประเด็นในเวทีเสวนาที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.2558) โดยเชื่อว่า กลุ่มเกรย์ วูฟ ของตุรกีมีความเป็นไปได้มากที่สุดที่ก่อเหตุระเบิดแยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2558 ที่ผ่านมา | อาชญากรรม | gray wove,Grey Wolves,MHP,Nationalist Movement Party,ก่อการร้าย,จีน,ซินเจียง,ตุรกี,พรรคขบวนการชาตินิยม,ระเบิดราชประสงค์,ราชประสงค์,อุยเกอร์ | https://news.thaipbs.or.th/content/4673 |
เมื่อคนตาย เราควรฟังเสียงใคร? | เพื่อเปรียบเทียบในบางประเด็นกับปรากฎการณ์ความตายของคุณชัยภูมิ ป่าแสอยากชวนย้อนไปวันพุธที่ 13 ก.พ. 2556 หลังจากมีการปะทะกันในเขตฐานปฎิบัติการนาวิกโยธิน อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เป็นการปะทะที่ทำให้ฝ่ายผู้ก่อการติดอาวุธจำนวน 16 คน ได้เสียชีวิตทันที นับว่าเป็นการปะทะครั้งใหญ่ที่สุดที่มีผู้เสียชีวิตเป็นฝ่ายกลุ่มขบวนการอย่างชัดเจน มีอาวุธครบมือ หลายฝ่ายโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ประสบความสำเร็จอย่างไม่เคยมาก่อนหน้านี้หากทว่าภายในวันเดียวกันหลังจากเกิดเหตุการณ์ นาวาเอก สมเกียรติ ผลประยูร (ยศในขณะนั้น) ได้กล่าวว่า 16 คนที่เสียชีวิตไม่ใช่ชัยชนะของเจ้าหน้าที่ ไม่เคยมีชัยชนะจากความสูญเสียของผู้คนในแผ่นดินเดียวกัน ในทุกกรณีที่ผ่านมาและหลังจากนั้นนาวาเอก สมเกียรติ ได้ตอบคำถามสื่อต่างๆจำนวนมาก โดยได้ให้สัมภาษณ์ทางวิทยุ ทีวี ด้วยท่าทีอ่อนน้อมและย้ำตลอดเวลาว่า การมีคนตายไม่ใช่เรื่องชัยชนะของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นการสูญเสียร่วมกันการแสดงออกดังกล่าวได้มีผลในทางระงับการแสดงความรู้สึกสะใจของกองเชียร์ หรือผู้ที่ไม่ได้อยู่ในสนามรบจริง และช่วยในการบรรเทาความรู้สึกโกรธแค้นของครอบครัว ท่าทีข้างต้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและถือว่าได้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ไปได้บางส่วนผมเข้าใจเอาเองว่า นี้คงไม่ใช่ระบบทหารแน่ๆ แต่เป็นทักษะเฉพาะบุคคลของ นาวาเอก สมเกียรติ ผลประยูร ที่รู้จักสื่อสารกับสังคมโดยเฉพาะหลังจากมีคนตายจากเหตุการณ์ปะทะครั้งใหญ่ และหลังจากเหตุการณ์ไม่ประมาณไมเกินหนึ่งสัปดาห์เห็นจะได้ นาวาเอกสมเกียรติก็ได้ต้อนรับเดินทางมางานเสวนาที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เพื่อร่วมกันงานเสวนาเกี่ยวกับเหตุการณ์ข้างต้นต่อหน้าผู้ฟังทั้งคนมลายูและคนพุทธ เจ้าหน้าที่รัฐและองค์กรพัฒนาเอกชนในพื้นที่มาร่วมงานแน่นห้องประชุมใหญ่หลายคนได้ให้ความสนใจต่อการพูดของ นาวาเอก สมเกียรติ ที่เป็นมือปราบ 16 ศพ หากทว่าวันนั้นเป็นการพูดโดยไม่มีท่าทีถึงการแสดงความสำเร็จจากการปะทะข้างต้น แต่กลับย้ำว่า หากจับเป็นได้ผมอยากจะจับเป็นเพื่อจะได้คุยกับพวกเขา และยอมรับว่าขบวนการที่ต่อสู้ที่ปะทะด้วยกันคงไม่ใช้พวกที่ติดยาเสพติดแน่ๆ เพราะการโจมตีเป็นระบบที่ผ่านมาฝึกมาอย่างดีทำให้บรรยากาศคลี่คลายไปในทิศทางที่เข้าใจได้เป็นการปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ ชาวบ้านที่มาร่วมงานทุกคนก็ยอมรับฟังคำอธิบายที่ตรงไปตรงมาและให้เกียรติแก่ผู้ตาย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่มีฝ่ายใดออกมาพูดจาโจมตีทหารหรือตั้งข้อสงสัยใดๆเลยมันช่างแตกต่างกับกรณีความตายของชัยภูมิ ป่าแส ที่เจ้าหน้าที่ได้ออกมาให้ความเห็นโดยไม่มีท่าทีเสียใจและปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมทำงานอย่างโปร่งใส ทั้งเรื่องของพยานหลักฐานและการตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเข้ามาตรวจสอบการที่แม่ทัพภาคที่ 3 ออกมากล่าวว่า ปกติการตัดสินใจของน้องพลทหารเขายิงเพียงนัดเดียว ขณะที่เขาทำท่าขว้างระเบิด ถ้าเป็นผม ณ. เวลานั้นอาจกดออโต้ได้ เป็นปฎิกริยาและคำพูดที่ตัดสินไปแล้วว่าอีกฝ่ายมีระเบิดอย่างแน่นอน หากทว่าปราศจากการเคารพและให้เกียรติแก่ญาติ พี่น้อง และเพื่อนฝูงของผู้ตายคงต้องกล่าวตรงๆทำให้ผมนึกถึงประโยคจากภาพยนตร์เรื่อง 2499 อันธพาลครองเมือง ที่ว่า ถ้าคิดจะยิงใคร ต้องยิงแม่งให้ตาย ถ้าแม่งไม่ตาย เราตาย — หมู่เชียร พูดกับแดง ไบเลย์หลังจากเหตุการณ์การเสียชีวิตจำนวน 16 คน ทางผมและคณะได้เข้าไปดูในเขตฐานปฎิบัติการของฝ่ายทหารที่เกิดการปะทะขึ้นและได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องเดินทางกลับเพราะดวงอาทิตย์กำลังหมดแสง และอีกประการคือ ได้มีคำสั่งออกประกาศให้เป็นพื้นที่กฎอัยการศึก สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดภัยอันตรายหากขับรถกลางคืนกลับจังหวัดปัตตานี เพราะในใจคาดเดาว่าจะมีการปะทะรอบดึกอีกรอบขณะขับรถออกจากฐานทหาร ระหว่างทางได้พบบ้านหลังหนึ่งมีชาวบ้านรวมอยู่เป็นจำนวนมาก ทางเราจึงได้ชะลอรถถามว่า มีอะไรเกิดขึ้น ชาวบ้านก็ตอบว่า มาเยี่ยมบ้านคนที่ตาย นี่คือบ้านหนึ่งใน 16 ศพ ทางเราก็สอบถามว่าจะขอลงไปเยี่ยมได้ไหม ชาวบ้านก็ยินดีหลังจากแนะนำตัวเพื่อให้รู้ว่าเป็นใครมาจากไหนเป็นที่เรียบร้อย ผมและกลุ่มคณะที่ลงพื้นที่ด้วยอีก 3 คนก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับพ่อแม่ของผู้ตาย ตามบันทึกสั้นๆ ในสมุดบันทึกโน๊ต และความทรงจำอันเลือนลางในรายละเอียด แต่ยังชัดเจนในใจความสำคัญพ่อและแม่ของผู้ตายได้สลับกันพูดเรื่องราวเกี่ยวกับลูกของเขาว่า ลูกชายมีนิสัยเป็นคนขี้กลัว เพราะรู้จักลูกเขาดี จึงไม่คิดว่าจะกล้าตัดสินใจสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐได้ ผู้เป็นพ่อเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่ลูกกลับมาจากการเป็นทหารเกณฑ์ ก็มาอยู่บ้าน และได้ช่วยที่บ้านทำงานกรีดยาง รับจ้างต่างๆ แต่ก็ไม่พอกิน ลูกเขาก็เลยตัดสินใจไปหางานในตัวเมืองจังหวัดนราธิวาส และช่วงระหว่างหางานก็ได้ขับมอเตอร์ไซด์ผ่านด่านตรวจทางเข้าหมู่บ้านตลอด ลูกของเขาได้เล่าให้ฟังว่า เขาอึดอัดมากที่ต้องโดนตรวจตลอดเวลา โดยโดนเจ้าหน้าที่ถามซ้ำๆ ว่าไปไหน ไปทำอะไร จนถึงขั้นโดนแกล้ง เช่นโดนตบหัว โดนซักถามนานๆ จนบางครั้งก็ไม่ทันเวลาละหมาด หลายครั้งที่ผู้เป็นพ่อได้เห็นลูกของเขาร้องไห้ด้วยความกลัวและความอึดอัด จากการโดนตรวจบ่อยครั้ง แต่ผู้เป็นพ่อก็คิดว่าไม่มีอะไร เพราะเขาบอกว่าเขารู้จักลูกชายของเขาดี ว่าเป็นเด็กขี้กลัว แม้จะอายุยี่สิบต้นๆ แล้วก็ตาม จึงไม่ได้คิดอะไรมากหลังจากนั้นไม่นานลูกของเขาก็เปลี่ยนไป และหายตัวไปจากบ้านบ่อยๆ เป็นเวลานาน เป็นเวลาเกือบสองปี มีบางครั้งที่กลับมาที่บ้านบ้าง แต่ก็อยู่ไม่นาน ครั้งสุดท้ายที่เจอเป็นช่วงกลางคืน ก่อนเกิดเหตุการณ์หนึ่งสัปดาห์ ลูกชายของเขาได้มาบอกว่าจะมีงานใหญ่ที่ต้องทำ และทนไม่ไหวแล้วกับเรื่องที่ผ่านมา แต่นั้นคือเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอ ก่อนจะมาเจอศพที่ฐานปฎิบัติการทหาร ในเช้าวันที่ 13 ก.พ. ที่เป็นหนึ่งใน 16 ศพที่เสียชีวิตผมและคณะที่ไปด้วยได้ถามไถ่ด้วยความห่วงใยว่าเสียใจมากไหม ทางผู้เป็นมารดาก็บอกว่าเสียใจที่รู้ว่าตาย แต่มันก็ยุติธรรมแล้ว เพราะลูกของเขาเลือกเส้นทางที่ไปใช้อาวุธ และทหารเขาก็ป้องกันตัว ไม่ได้ติดใจอะไรหลังจากฟังคำพูดของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ที่ต้องสูญเสียลูกชายไป มันเป็นความรู้สึกเหมือนกับว่าไม่ได้สนทนาแค่เพียงระหว่างคณะผมกับพ่อและแม่ของผู้ตาย เพราะในการสนทนาก็จะมีชาวบ้านมามุงดูแน่นทั้งในบ้านและบริเวณรอบๆ บ้าน การสนทนาใช้ภาษามลายู โชคดีที่วันนั้นมีล่ามช่วยแปลภาษาให้ ทุกๆ คำตอบจะมีสายตาชาวบ้านจับจ้องและสนใจมาก อาจจะเป็นเพราะทุกคนที่นั้นอยากทราบความจริงและความรู้สึกจากปากของคนที่ต้องสูญเสียลูกชายไประหว่างทางกลับ บริเวณข้างทางมืด เงียบสงัดและบรรยากาศเย็นยะเยือกสอดรับกับการประกาศกฎอัยการศึกของรัฐบาล สายตาผมมองออกไปข้างทางเห็นด่านตรวจบนถนน แต่ไม่มีทหารประจำการ เห็นแต่แท่งปูนสี่เหลี่ยมและเศษไม้ท่อนขนาดกลางที่ถูกประกอบขึ้นเป็นสิ่งกีดขวางทางเพื่อชะลอความเร็วรถ วางสลับกันไปมา เป้าหมายเพื่อให้คนขับรถชะลอความเร็วและใช้ทักษะในการประคองรถหลบซ้ายและขวาแต่ก็อีกนั้นแหละ คำถามจึงโผล่ขึ้นมาว่า จะมีนักรบและกลุ่มขบวนการต่อสู้ใดที่ใช้ถนนสายหลักทางเข้าหมู่บ้านในการลำเลียงอาวุธหรือเสบียง เพราะดูจากสายตาประมาณสองร้อยเมตร ก็จะเห็นมาว่ามีด่านตรวจ ยิ่งเป็นนักรบในพื้นที่แล้วย่อมเจนจัดเส้นทางกว่าเจ้าหน้าที่ที่มาประจำการชั่วครั้งชั่วคราวพูดก็พูดเถอะ มาถึงตรงนี้ก็ทำให้นึกถึงข้อเสนอของคุณภัควดี วีระภาสพงษ์ ที่เคยเขียนในบทความ ข้อเสนอข้างต้นจะทำให้กองทัพมีประสิทธิภาพทั้งด้านการรบและทักษะอยู่ร่วมกับประชาชนจำนวนมากในประเทศไทย เพราะรัฐ/ชาติย่อมต้องการทหารเป็นกองทัพแน่ๆ แต่รัฐ/ชาติจะอยู่ได้อย่างไรหากประชาชนไม่มีสิทธิทวงถามสาเหตุของการตายภายใต้กระบวนการยุติธรรมที่เชื่อมั่นและใว้ใจได้ และความตายของชัยภูมิก็เช่นกัน มันคือบทพิสูจน์ศักดิ์ศรีความเป็นคนเท่ากันของสังคมนี้ ความจริงและความยุติธรรมย่อมเป็นเครื่องหมายของสังคมที่มีอารยะ เผยแพร่ครั้งแรกใน | จากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่รัฐได้กระทำการวิสามัญคุณชัยภูมิ ป่าแส ชวนให้นึกถึงเรื่องราวในเหตุการณ์จังหวัดชายแดนใต้ และอยากหยิบยกเล่าถึงเหตุการณ์และประสบการณ์ที่ได้พบเจอ | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | กองทัพ,การวิสามัญฆาตกรรม,ชัยภูมิ ป่าแส,วิจักขฐ์ สิริบรรสพ,สมเกียรติ ผลประยูร,เอกรินทร์ ต่วนศิริ | https://prachatai.com/journal/2017/03/70762 |
ภ.1ไล่ยิงระทึก จับแก๊งยา ทิ้งรถอุ้มเด็ก2คนหนีรอด | แต่ถูกชุดจับกุมไล่ยิงสกัดยางแตก 3 ล้อ รถพรุน ยังขับหนีไปจอดทิ้งหน้าตลาดนัดห่างไป 4 กม. ชาวบ้านเห็นมีเด็ก 2 คนนั่งมาในรถถูกอุ้มพาขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไปด้วย ค้นในรถเจอยาบ้า 400 เม็ด เร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับแล้ว,เหตุการณ์ระทึกขวัญตำรวจไล่ยิงถล่มรถแก๊งค้ายาเสพติดเปิดเผยเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 6 ต.ค. ร.ต.อ.พงษ์นรินทร์ นนตานอก รอง สว. (สอบสวน) สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับแจ้งจากตำรวจชุดสืบสวนภาค 1 ว่า ได้ล่อซื้อยาเสพติดนัดส่งของในซอยหลังที่ทำการ อบต.บางโฉลง ถนนบางนา-ตราด ขาเข้า กม.ที่ 17 คนร้ายขับรถหลบหนีจนมีการไล่ยิงสกัดรถคนร้ายไปจอดทิ้งไว้บริเวณหน้าตลาดนัดเรือบิน ทางออกถนนเทพารักษ์ กม.ที่ 17 จึงรายงานให้ พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก. พ.ต.ท.รักศักดิ์ เมฆจินดา รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ประมวล ทองภู รอง ผกก.สอบสวน นำกำลังไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุพบรถกระบะมิตซูบิชิไทรทัน 4 ประตู สีดำ ทะเบียน ชอ 5700 กรุงเทพมหานคร ของคนร้ายจอดอยู่ ถูกยิงกระจกประตูฝั่งขวาหน้าและหลังแตกร้าวทั้ง 2 บาน และประตูข้างคนขับมีรอยกระสุนปืนอีก 4 นัด ส่วนล้อรถถูกยิงยางแตก 3 ล้อ ตรวจค้นในรถพบยาบ้า 2 ถุง ถุงละ 200 เม็ด รวม 400 เม็ด จึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจเก็บลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอไว้เป็นหลักฐาน ใกล้กันพบรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ของตำรวจจอดขวางอยู่ สภาพด้านหน้าข้างขวาถูกชนจนยุบ,สอบถามตำรวจชุดสืบสวนภาค 1 เผยว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม วางแผนล่อซื้อยาบ้านัดส่งมอบของในซอยหลังที่ทำการ อบต.บางโฉลง เข้าซอยประมาณ 200 เมตร เยื้องร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น เมื่อถึงเวลานัด รถกระบะคันดังกล่าวขับเข้ามาจอด มีชายฉกรรจ์ 3 คนลงมายืนข้างรถ จึงให้สายลับชี้ยืนยันก่อนจู่โจมเข้าจับกุม โดยใช้รถฟอร์จูนเนอร์ขับเข้าไปขวางด้านหน้าและรถอีกคันเข้าไปจอดปิดท้าย เมื่อชายทั้ง 3 คนรู้ตัวว่าถูกล่อซื้อ รีบกระโดดขึ้นรถขับรถพุ่งชนรถฟอร์จูนเนอร์ที่จอดขวางด้านหน้าออกมา ตำรวจจึงใช้ปืนยิงยางล้อรถสกัดกว่า 10 นัด จนยางหลังทั้ง 2 ข้าง และยางหน้าขวาแบน แต่คนร้ายยังขับรถหลบหนีไปได้ประมาณ 4 กม. ถึงหน้าตลาดนัดเรือบิน รถแล่นไปต่อไม่ได้ต้องจอดทิ้งรถวิ่งหลบหนีไป, ,สอบถามพ่อค้าขายสเต๊กปากซอยใกล้จุดที่คนร้ายจอดทิ้งรถเผยว่า เห็นรถกระบะมิตซูบิชิ 4 ประตูขับด้วยความเร็วเข้ามาจอดริมถนนใกล้ร้าน จากนั้นคนในรถต่างคนต่างรีบเปิดประตูลงมาและแยกย้ายกันวิ่งหลบหนี เท่าที่จำได้มีทั้งหมด 6 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน และเด็กอีก 2 คน โดยชาย 2 คนที่ลงมาจากประตูหน้าและหลังฝั่งคนขับอุ้มเด็กทั้งสองวิ่งไปโบกรถแท็กซี่หลบหนีไป ส่วนหญิงและชายอีกคนที่นั่งมาอีกฝั่งพากันวิ่งหลบหนีเข้าไปในตลาด ตำรวจกระจายกำลังออกตามล่าแต่ยังไม่พบตัว,พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี กล่าวว่า ตำรวจชุดสืบสวนภาค 1 เข้ามาล่อซื้อยาเสพติดในพื้นที่ จนมีการไล่ยิงสกัดก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะขับรถหลบหนีมาจอดทิ้งไว้ ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.บางพลีอยู่ระหว่างตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองรถกระบะคันดังกล่าว พร้อมขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 1 คน เป็นชายอายุประมาณ 36 ปี ตามพยานหลักฐานที่ชุดสืบสวนภาค 1 ติดต่อล่อซื้อยาเสพติดเพื่อนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป | ตำรวจสืบสวนภาค 1 ไล่ยิงถล่มรถแก๊งค้ายานรกระทึกขวัญ กลางเมืองบางพลี หลังวางแผนล่อซื้อนัดส่งของกลางดึก แก๊งวายร้ายหลงกลขับรถมาตามนัด ถูกตำรวจจู่โจมขับรถขวางทางปิดหัวท้าย ไม่ยอมจนมุมง่ายๆ เหยียบคันเร่งพุ่งชนแหกวงล้อมออกมาได้ | ข่าว,ทั่วไทย | แก๊งค้ายา,ไล่ยิงแก๊งค้ายา,ล่อซื้อยาบ้า,สมุทรปราการ,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1092062 |
ซาอุฯเสนอกาวใจอินเดียปากีฯ-ยูเอ็นพร้อมช่วย | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานบรรยากาศเดินสายเยือนภูมิภาคเอเชียของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย ตามกำหนดการเยือนสามประเทศคือปากีสถาน-อินเดีย-จีน ซึ่งมีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างปากีสถานและอินเดีย ภายหลังสัปดาห์ก่อน สมาชิกกลุ่มหัวรุนแรง เจียช์-อี-โมฮัมหมัด (เจอีเอ็ม) ใช้รถยนต์บรรทุกระเบิดโจมตีขบวนกองทัพอินเดียในแคว้นพิพาทแคชเมียร์ ส่งผลให้ทหารเสียชีวิตกว่า 40 นาย และต่อมารัฐบาลอินเดียซึ่งกล่าวหามาตลอดว่าปากีสถานสนับสนุนกลุ่มเจอีเอ็มอยู่เบื้องหลัง ได้ประกาศจะโดดเดี่ยวปากีสถานจากประชาคมโลก ขณะที่ปากีสถานจี้ให้อินเดียแสดงหลักฐาน พร้อมประกาศจะตอบโต้หากอินเดียทำการโจมตีใดๆ,ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.พ. รัฐบาลซาอุดีอาระเบียเปิดเผยว่า พร้อมที่จะทำงานเพื่อคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างปากีสถาน-อินเดีย และหาทางออกอย่างสันติ โดยเป็นการประกาศภายหลังเจ้าชายซัลมาน เดินทางออกจากปากีสถาน มุ่งสู่อินเดีย เข้าหารือกับนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ซึ่งต่อมาเจ้าชายซัลมาน ได้ร่วมลงนามข้อตกลงกับนายโมดี ส่งเสริมการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ท่องเที่ยว โทรคมนาคม รวมทั้งลงนามข้อตกลงแนวทางการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์,นอกจากนี้ เจ้าชายซัลมานยังร่วมแถลงข่าวกับนายโมดี ว่าทั้งสองประเทศมีความกังวลต่อภัยก่อการร้าย และซาอุฯพร้อมจะให้ความร่วมมือในทุกๆด้าน รวมถึงการแบ่งปันข่าวกรอง ขณะที่อินเดียประกาศว่าจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านความ ร่วมมือต่อต้านก่อการร้าย ความมั่นคงทางทะเล และความมั่นคงไซเบอร์ ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานด้วยว่า ซาอุฯให้ความสนใจลงทุนในตลาดอินเดียรวมถึงแย่งส่วนแบ่งตลาดพลังงานอินเดียจากอิหร่าน ส่วนนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติเรียกร้องให้ปากีสถานและอินเดีย ดำเนินการที่จำเป็นโดยทันที เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียด และพร้อมจะเป็นตัวกลางช่วยไกล่เกลี่ยหากทั้งสองฝ่ายยอมตกลง,วันเดียวกัน คณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งดูแลโดยพรรคฝ่ายค้านเดโมแครต เปิดเผยว่าอยู่ระหว่างการสอบสวนเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน หลังได้รับรายงานว่า ทำเนียบขาวสหรัฐฯมีความพยายามผลักดันโครงการขายเทคโนโลยีด้านพลังงานนิวเคลียร์ให้กับรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ซึ่งกังวลว่าอาจถูกนำไปต่อยอดพัฒนาเป็นอาวุธ ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพตะวันออกกลาง พร้อมเผยว่า เรื่องนี้พัวพันกับนายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีเหตุแทรกแซงเลือกตั้ง. | รัฐบาลซาอุดีอาระเบียเปิดเผยว่า พร้อมที่จะทำงานเพื่อคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างปากีสถาน-อินเดีย หลังเกิดการปะทะที่แคชเมียทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย | ข่าว,ต่างประเทศ | ซาอุดีอาระเบีย,ตัวกลาง,อินเดีย,ปากีสถาน,แคชเมียร์ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1501065 |
ศรีสะเกษ ได้ฤกษ์ฟาดปาก เอสตราด้า ไฟต์บังคับ 24 ก.พ.ปีหน้า | เจ้าแหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น แชมป์โลกขวัญใจชาวไทย ลงล็อกป้องกันเข็มขัดไฟต์บังคับกับฮวน ฟรานซิสโก เอสตราด้า ผู้ท้าชิงรองอันดับ 1 ชาวเม็กซิโก วันที่ 24 ก.พ. ที่เกรทเวสเทิร์นฟอรั่ม อิงเกิลวูด รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสังเวียนเดียวกับที่ หมาน ข้าวมันไก่ สมาน ส.จาตุรงค์ เคยชนะน็อก ฮุมเบอร์โต กอนซาเลซ มาแล้ว ขณะที่ผู้ท้าชิงจังโก้ออกข่าวข้ามประเทศ ขอคว่ำ ศรีสะเกษ คว้าแชมป์โลกเส้นที่ 3 ให้ได้เพื่อชาวเม็กซิโก ด้าน เสี่ยฮุย สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ โปรโมเตอร์นครหลวง ยอมรับ ไฟต์นี้ไม่ง่าย เอสตราด้าเป็นมวยเหนียวแน่นแรงไม่มีหมด ธาตุทรหดสูง สั่งซ้อมหนักกว่าเดิม โดยให้เริ่มลงนวมซ้อมคู่ตั้งแต่ต้นเดือนหน้า พ.ย. ยังมั่นใจจะเป็นฝ่ายชนะได้อีกครั้ง,ความเคลื่อนไหวของ เจ้าแหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น แชมป์โลกขวัญใจชาวไทยที่มีคิวป้องกันเข็มขัดไฟต์บังคับกับฮวน ฟรานซิสโก เอสตราด้า ผู้ท้าชิงรองอันดับ 1 ชาวเม็กซิโก และอดีตแชมป์โลก 2 สถาบัน ล่าสุด ทางฝั่งเอสตราด้าได้ออกข่าวกับทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่า ในการป้องกันไฟต์บังคับที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.ที่เกรทเวสเทิร์นฟอรั่ม อิงเกิลวู๊ด รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ ตนจะต้องเป็นฝ่ายกระชากเข็มขัดจากเอวแชมป์โลกชาวไทยได้แน่นอน เพราะจากที่ดูจากเทปการชกกับคูเอดราส เพื่อนร่วมชาติ และโรมัน กอนซาเลซ แล้ว คิดว่าไม่เท่าไหร่ ตนจะเป็นฝ่ายชนะคว้าแชมป์โลกเส้นที่ 3 กลับแดนจังโก้แน่นอน,ด้านความพร้อมของศรีสะเกษ เสี่ยฮุย สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ โปรโมเตอร์และผู้จัดการเปิดเผยว่า ตอนนี้เจ้าแหลม เริ่มเข้าค่ายซ้อมแล้วตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยช่วงนี้จะเป็นการซ้อมแบบเบาๆ เพื่อปรับสภาพร่างกายหลังจากหยุดไปพักผ่อน ซึ่งโปรแกรมที่ตนวางไว้สำหรับไฟต์นี้คิดว่าต้องหนักกว่าเดิม โดยจะให้เริ่มลงนวมซ้อมคู่ตั้งแต่เดือน พ.ย.ไปเลย เพราะเท่าที่ดูเอสตราด้าเป็นมวยประเภทบู๊เดินหน้าฆ่ามันอย่างเดียว ถอยไม่เป็นมีความทรหดสูงและพลังหมัดที่หนักหน่วงทีเดียว,โปรโมเตอร์นครหลวงกล่าวอีกว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าววันชกจากที่ เอสตราด้า ออกข่าวมาว่าการชกจะมีขึ้นในวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งเวทีแห่งนี้เป็นเวทีเดียวกับที่ หมาน ข้าวมันไก่ สมาน ส.จาตุรงค์ เคยชนะ น็อก ฮุมเบอร์โต กอนซาเลซ มาแล้ว ดังนั้น ไฟต์นี้ ตนจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมกว่าเดิม จะประมาทไม่ได้อย่างเด็ดขาด ยิ่งเป็นไฟต์บังคับด้วยแล้วเชื่อว่าทางเอสตราด้าเองก็คงเตรียมตัวมาดีเช่นกันเพื่อจะคว้าแชมป์เส้นนี้ไปให้ได้ อย่างไรก็ตาม แม้เอสตราด้าจะเป็นมวยเหนียว มีธาตุทรหดสูงก็ตาม แต่ก็ยังมีช่องโหว่เหมือนกัน ตนยังมั่นใจพลังหมัดของ เจ้าแหลมจะไม่ทำให้แฟนมวยชาวไทยผิดหวังแน่นอน. | เจ้าแหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ลงล็อกป้องกันเข็มขัดไฟต์บังคับกับฮวน ฟรานซิสโก เอสตราด้า ผู้ท้าชิงรองอันดับ 1 ชาวเม็กซิโก วันที่ 24 ก.พ.ที่เกรทเวสเทิร์นฟอรั่ม อิงเกิลวูด รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น,ฟรานซิสโก เอสตราด้า,สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์,เสี่ยฮุย,มวยสากลชิงแชมป์โลก | https://www.thairath.co.th/sport/others/1110124 |
ชาวบ้านร้องมา หมู่ 12 ต.ชุมพวง แล้งหนัก สระน้ำสาธารณะแห้งขอด วอนหน่วยงานช่วยด้วย | แล้งหนัก ชาว บ้านพันธ์เจริญ หมู่ 12 ต.ชุมพวง อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา เดือดร้อน จาก ปัญหาภัยแล้ง ปีนี้มาเร็วกว่าทุกปี สระน้ำ สาธารณะแห้งขอด ที่สำคัญใช้ผลิตน้ำประปา หมู่บ้านด้วย วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำน้ำมาแจกจ่ายและขุดบ่อบาดาล บรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านด้วย,ระวังแบงก์ปลอม พ่อค้า แม่ค้า แจ้งเตือนว่า เมื่อกลางเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา กลุ่มมิจฉาชีพนำแบงก์ 500 ปลอม มาซื้อสินค้าในพื้นที่ หมู่ 3 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ โดนไป หลายรายแล้ว โดยแบงก์ปลอมจะมีเลขหมวด เดียวกันคือ 9 D 3219922 ขอให้ระวังด้วย ใครพบเห็นแจ้ง ตร.จับได้เลย,เอาไปทิ้งที ชาว ตลาดสามชุก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เดือดร้อนจากมี คนเก็บขยะตามถังขยะแล้วนำมากองสุมไว้ในซอย 20 หน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาสามชุก ส่งกลิ่นเหม็นมาก ยิ่งช่วงนี้อากาศร้อน เกรง จะเกิด ไฟไหม้บ้านเรือน ประชาชน หน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเทศบาลสามชุก เข้ามา จัดการทีเถอะ,ขอแสงสว่าง บริเวณ ทางสามแพร่ง บ้านลำพญา ต.รางหวาย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี อบต.รางหวายกำลังจะเทปูน ทำถนนใหม่ ชาวบ้านต้องการให้ อบต.ประสานงานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาพนมทวน มาติดตั้ง ไฟส่องสว่างไปจนถึงหน้าวัดสระบ้านกล้วย เพราะมืดมาก เกรงเกิดอุบัติเหตุ อบต.ทราบเรื่องแล้ว รออะไรอีก,ขนออกไป โครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอด ถนนพัฒนาการ–รามคำแหง–ถาวรธวัช สร้างมาตั้งแต่ปี 59 สิ้นสุดปี 61 อุโมงค์เสร็จแล้ว แต่ถนนด้านข้างยังไม่เสร็จ ทำให้การจราจรติดขัดทั้งขาเข้าและขาออก เพราะมีอุปกรณ์ก่อสร้างวางกีดขวางทาง เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยมาเก็บออกไปหน่อย,[email protected],โทร.0-2127-1000 กด 2,แฟกซ์ 0-2272-1333,จันทร์-เสาร์ 09.00-17.00 น. เว้นวันอาทิตย์ | แล้งหนัก ชาว บ้านพันธ์เจริญ หมู่ 12 ต.ชุมพวง อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา เดือดร้อน จากปัญหาภัยแล้ง ปีนี้มาเร็วกว่าทุกปี สระน้ำ สาธารณะแห้งขอด ที่สำคัญใช้ผลิตน้ำประปาหมู่บ้านด้วย | ข่าว,ทั่วไทย | ห้องร้องทุกข์,ชุมพวง,ภัยแล้ง,น้ำประปา,บ่อบาดาล,แบงก์ปลอม,นครราชสีมา | https://www.thairath.co.th/news/local/1553731 |
หนุ่มนิ้วเท้าขาดฉุน รพ.ไร้คนเข็นวีลแชร์ โต้เถียงเจ้าหน้าที่ก่อนต่อยกระจกแตก (คลิป) | เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. 61 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.อาทิตย์ ศรีปราชญ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลประจันตคาม ว่า มีผู้ป่วยคือ นายพีรภัทร สวัสดิ์วงษ์ อายุ 22 ปี ชาว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เข้ามาในโรงพยาบาลและไม่พอใจเจ้าหน้าที่ โดยเดินไปชกกระจกประตูห้องฉุกเฉินแตกเสียหาย จากนั้นขึ้นรถกระบะออกไปมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองปราจีนบุรี ,เจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสอบที่โรงพยาบาลประจันตคาม พบกระจกประตูห้องแตกเสียหาย 1 บาน จากนั้นแบ่งกำลังตำรวจขับรถติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้ระหว่างทางจึงนำไปที่ สภ.ประจันตคาม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาทำให้เสียทรัพย์ ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร อ.เมืองปราจีนบุรี,จากนั้นพนักงานสอบสวนขอดูภาพวงจรปิดจากห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล พบว่า นายพีรภัทร นั่งรถกระบะสีดำมาลงที่โรงพยาบาลประจันตคาม เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุจนนิ้วเท้าขวาขาด โดยเดินลงจากรถไปนั่งรถวีลแชร์ของโรงพยาบาล ก่อนที่จะพยายามเข็นรถด้วยตัวเองขึ้นทางลาดขึ้นไปหน้าห้องฉุกเฉินโดยไม่มีเจ้าหน้าที่มาช่วยเข็นอาจทำให้เจ้าตัวไม่พอใจ เมื่อเข้าไปภายในห้องฉุกเฉิน นายพีรภัทร ได้ร้องตะโกนว่า ไม่มีคนเข็นเลยหรอ ห้ะ ปัดโธ่คนเจ็บ ไม่มีคนเข็นเลย นิ้วผมขาดมีใครจะทำแผลให้ผมไหมครับ พอสิ้นเสียงก็มีเจ้าหน้าที่หญิงรายหนึ่งตะโกนตอบกลับด้วยน้ำเสียงดุว่า มี ทำไมล่ะ ทำให้ นายพีรภัทร ไม่พอใจพร้อมกล่าวว่า เดี๋ยวเจอร้องเรียน แล้วลุกออกจากวีลแชร์เดินออกไปชกกระจกประตูห้องฉุกเฉินแตกกระจาย ก่อนที่จะเดินออกขึ้นรถยนต์ออกไป ,ต่อมา นายต้อย ระเบียบ อายุ 44 ปี ชาว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับ พ.ต.ท.อาทิตย์ ศรีปราชญ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ประจันตคาม ว่าถูกนายพีรภัทร ทำร้ายร่างกายก่อนที่เจ้าตัวจะมาก่อเหตุที่โรงพยาบาล. | หนุ่มนิ้วเท้าขาดตวาดลั่น รพ.ประจันตคาม ไร้คนเข็นวีลแชร์ โต้เถียงเจ้าหน้าที่ก่อนลุกเดินต่อยกระจกห้องฉุกเฉินแตกกระจาย ซ้ำเจอหนุ่มใหญ่แจ้งความทำร้ายร่างกาย | ข่าว,ทั่วไทย | ต่อยกระจก,ห้องฉุกเฉิน,โรงพยาบาลประจันตคาม,วีลแชร์,ปราจีนบุรี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1456668 |
นิ้ง กุลสตรี สู้สุดใจแม้จะแอบน้ำตาไหลพราก หลังต้องตัดชิ้นเนื้อไปตรวจอีกรอบ | เข้ารับการรักษาตัวจากโรคไขกระดูกบกพร่องมาเป็นเวลาปีกว่าแล้ว สำหรับ นิ้ง กุลสตรี ทำให้ต้องนอนโรงพยาบาลและรักษาอย่างเคร่งครัด ท่ามกลางกำลังใจจากพี่น้อง เพื่อนพ้องและแฟนๆ ที่ส่งให้อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง นิ้ง เองก็ได้อัปเดตอาการป่วยอยู่เป็นระยะๆ ในอินสตาแกรม ให้แฟนๆ ที่ติดตามได้ทราบอย่างก่อนหน้านี้เอง นิ้ง ก็ได้บอกว่า ตอนนี้เจออาการแทรกซ้อนของโรค เลยทำให้ร่างกายทรุดลง ส่วนอาการป่วยจากโรคไขกระดูกบกพร่องนั้น สามารถคุมได้แล้ว แต่ที่คุมไม่ได้ก็คืออาการแทรกซ้อนของโรคนั่นเอง เป็นผลทำให้เธอถ่ายเป็นเลือด ค่าเลือดตกอย่างเร็ว ต้องรับเลือดแดงและพลาสมา อีกทั้งยังปวดตัว ปวดกระดูกต้องฉีดมอร์ฟีนถึง 3 เข็มและมีอาการอาเจียน แต่ นิ้ง เองก็พยายามสู้สุดใจเช่นกันล่าสุด นิ้ง ก็ได้เผยภาพผมทรงใหม่ที่ตัดสั้นเรียบร้อยแบบไม่ต้องเซตทรง พร้อมกับอัปเดตอาการป่วย โดยบอกว่า ต้องส่องกล้องลำไส้ใหญ่ เพื่อตัดชิ้นเนื้อไปตรวจอีกรอบ แม้จะยิ้มสู้ แต่พอหันหลังไปก็น้ำตาไหลพรากรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลจะครบเดือน ผมยาวรุงรัง นิ้งเลยรบกวนคุณเบริด์มาตัดผมให้ถึงโรงพยาบาล คุณเค้าตัดผมแบบที่เข้าทรงสวยพอดี คนป่วยไม่ต้องเซทอะไรเยอะเลย**พรุ่งนี้ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ตัดชิ้นเนื้อไปตรวจอีกรอบ**#ยิ้มสู้ #หันหลังน้ำตาไหลพราก**ส่วนมากเป็นแค่โรคแทรกซ้อน ส่วนโรคไขกระดูกบกพร่องไม่สร้างเกล็ดเลือด การรักษาเรียบร้อยดี และ คุมอยู่ค่ะ ณ ตอนนี้โดยการทานยาคีโม (เคมีบำบัด) วันละ 2 เม็ดทุกวันค่ะ**แฟนๆ ที่ติดตามก็ได้เข้ามาให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม และต้องผ่านอุปสรรคไปให้ได้. | นิ้ง กุลสตรี อัปเดตอาการป่วย ต้องส่องกล้องลำไส้ใหญ่ เพื่อตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ ยิ้มสู้สุดใจ แม้จะหันหลังไปน้ำตาไหลพรากก็ตามที | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | นิ้ง กุลสตรี,นิ้ง กุลสตรี ป่วย,นิ้ง ป่วย,โรคไขกระดูกบกพร่อง,ข่าวบันเทิง,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1895971 |
ตรวจสอบเรือดูดทราย | เรื่องสั้นฉบับวันอาทิตย์ ,เรื่องแรก คนเขียนมาบอกว่า เป็นชาวบ้านอาศัยอยู่ริมคลองพุมดวง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เห็นมีเรือดูดทรายอ้างว่ามีใบอนุญาตลอกคลองดูดทราย อยู่ที่วัดท่าข้าม (หน้าวัด) อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี,บอกว่า ชาวบ้านทำหนังสือพร้อมรูปถ่ายส่งไปที่ กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ นายอำเภอพุนพิน ตำรวจภาค 8 นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองท่าข้าม อบต.ท่าข้าม,ไม่เห็นมีใครลงมาสั่งให้เรือหยุดดูดทรายออกจากคลองได้เลย,เห็นดูดทรายทุกวัน,คนที่ดูดทรายอ้างกับชาวบ้านว่ามาลอกคลอง แม่น้ำ และคลองพุมดวง บอกว่า เจ้าของเป็นอดีตนักการเมือง และข้าราชการใหญ่ในระดับท้องถิ่น ได้รับอนุญาตมาถูกต้อง,ข้าราชการจึงกลัวกันหัวหด ไม่กล้าไปห้าม และมีใบอนุญาตลอกคลองปลอม ไม่รู้หน่วยไหนอนุญาต อ้างว่าลอกคลองพุมดวง และแม่น้ำตาปี ลอกทำใหม่ ชาวบ้านแปลกใจปกติเรือที่วิ่งผ่านคลองไม่เห็นมีเรือใหญ่ๆอย่างเรือรบ เรือบรรทุกเครื่องบิน เรือสินค้า มีแต่เรือหาปลา และเรือจ้าง ไม่เห็นต้องมาขุดลอกคลอง,และที่บอกว่า ลอกคลองจริงๆ ไม่ใช่ ดูดทราย อย่างเดียว,เรื่องที่ 2 สำนักงานบริหารการสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กรบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้ง ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย ชี้แจงเรื่องที่มีคนร้องปล่อยให้มีคนกินเหล้าหน้าร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ว่า บริษัทขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุการณ์ที่แจ้ง เป็นประโยชน์อย่างมากในการนำไปปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมของพนักงานต่อไป,เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขตามข้อมูลที่ปรากฏอย่างรวดเร็ว บริษัทขอข้อมูลเพิ่มเติมสถานที่ตั้งร้านสาขาและวันเวลาที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง,มาใช้พิจารณาลงโทษ,เกี่ยวกับพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสมของพนักงานร้านค้าสาขาที่ถูกพาดพิง เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต,หากผู้ใดที่มีความประสงค์แจ้งข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สามารถแจ้งมาได้ตลอดเวลาที่อีเมล ,[email protected],เพื่อนำข้อมูลไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไข.,เพลิงพยัคฆ์,[email protected] | ชาวบ้าน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี สงสัยเรืออ้างมีใบอนุญาตดูดทรายข้างวัดท่าข้าม จ.สุราษฎร์ธานี และบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ชี้แจงคนร้องปล่อยให้คนกินเหล้าหน้าเซเว่น อีเลฟเว่น | null | เรือดูดทราย,เลขที่1 วิภาวดีฯ,เพลิงพยัคฆ์,สุราษฎร์ธานี,ดูดทราย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/1361818 |
ฟลอยด์ ยันแขวนนวมแน่ ชี้ไม่เหลืออะไรให้พิสูจน์แล้ว | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 13 ก.ย. ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ยอดกำปั้นไร้พ่าย ยืนยันว่าอาชีพพ่อค้ากำปั้นของตนเองได้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้วหลังดวลเอาชนะคะแนน อังเดร เบอร์โต กำปั้นรุ่นน้องเพื่อนร่วมชาติเชื้อสายเฮติ ในการแข่งขันป้องกันเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวต ของสภามวยโลก (ดับเบิลยูบีซี) และสมาคมมวยโลก (ดับเบิลยูบีเอ) พร้อมชี้ว่าตนเองไม่เหลืออะไรให้ต้องพิสูจน์แล้ว,ฟลอยด์ วัย 38 ปี ทำสถิติไร้พ่ายเป็นไฟต์ที่ 49 เทียบเท่า ร็อคกี มาร์เซียโน ตำนานแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตชาวอเมริกัน หลังชกเอาชนะคะแนน เบอร์โต วัย 31 ปี ไปแบบเอกฉันท์ 117-111, 118-110,120-108 ในการแข่งขันที่ สังเวียน เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา,ในการพูดคุยบนเวที เดอะ มันนี กล่าวว่า มันเป็นทางการแล้ว เบอร์โต เป็นคู่ต่อสู้ที่ชกด้วยลำบาก เขาเป็นนักมวยที่แข็งแกร่งมาก สิ่งที่สามารถพูดได้คือผมคือคนที่ดีกว่าในคืนนี้,คุณต้องรู้ว่าเวลาไหนควรแขวนนวม สำหรับผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของเวลา และมาถึงหน้าประตูแล้ว ผมอายุเกือบ 40 ปี อยู่ในวงการนี้มา 19 ปี ทำลายสถิติทั้งหมด มันไม่มีอะไรต้องพิสูจน์แล้ว ตอนนี้ผมเพียงแค่อยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัว. | ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ยืนยันว่าอาชีพนักมวยของตนถึงจุดสิ้นสุดแล้ว หลังดวลเอาชนะ อังเดร เบอร์โต กำปั้นรุ่นน้องเพื่อนร่วมชาติเชื้อสายเฮติโดยชี้ว่าไม่เหลืออะไรให้ต้องพิสูจน์แล้ว…
| null | ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์,อังเดร เบอร์โต,มวย,เวลเตอร์เวท,สภามวยโลก,ดับเบิลยูบีซี,สมาคมมวยโลก,ดับเบิลยูบีเอ,สหรัฐอเมริกา,ลาสเวกัส,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/524905 |
ผญบ.สาวคนจริง ทุบรถป๊อปตัวเอง ขี่ย้อนศรโดนยึด ตอนนี้สำนึกผิดแล้ว (คลิป) | (22 ส.ค.) ซึ่งต่อมา ได้ถูกตำรวจจราจรเรียก และยึดรถไว้ เนื่องจาก รถดังกล่าว ไม่สามารถนำออกมาวิ่งบนถนนหลวงได้ กระทั่ง เจ้าตัวได้ลากพลั่วมาทุบทำลายรถต่อหน้าตำรวจ และตำรวจก็พูดคล้ายยั่วยุให้พังรถอีก ซึ่งผู้ใหญ่บ้านสาวจึงทุบทำลายรถอีก 2-3 ครั้ง,สำหรับคลิปต้นทางนั้น ถูกโพสต์โดย นู๋ หนุ่ย มัลลิกา รัตนเจริญ โดยระบุว่า ตีเองพังเอง ลงคลิปเอง (คลิปนี้ทางเราไม่ได้เป็นคนถ่ายนะคะ ทางคุณตำรวจเป็นคนถ่ายเองพูดยั่วยุเอง) ไม่ได้ใหญ่มาจากไหน แต่นักเลงพอ รู้ว่าเราผิด เราย้อนศร แต่เราออกจากซอยบ้านมาไม่กี่เมตร เราก็พูดขอรถคืนดีๆ แต่คนยืนยันคำเดียวว่า ยึด คุณพูดจนลูกเราร้องไห้ แต่เราก็เข้าไปพูดขอดีๆ คุณไม่ถ่ายคลิป คุณถ่ายแต่ตอนที่เราพังรถ รถป๊อปห้ามขับถนนใหญ่ ถ้าขับไม่ได้จะเอาไว้ทำไม ก็พังไปสิคะ อีกอย่าง คุณพูดอะไรกับเรากรุณารับด้วย อย่าว่าแต่เราไม่ดี,อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้โลกโซเชียลฯ ได้แชร์คลิปกระจายอย่างกว้างขวาง ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ จึงได้สอบถามเรื่องนี้ไปยัง พ.ต.อ.สมพล วงษ์ศรีสุนทร ผกก. สภ.คลองข่อย เจ้าของพื้นที่ เปิดเผยว่า เนื่องจากมีคำสั่งลงมาให้มีการกวดขันจราจรที่ทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการขับรถย้อนศร ซึ่งในจุดดังกล่าวนั้นถือว่ามีรถหนาแน่น และเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ยิ่งรถของผู้ใหญ่บ้านดังกล่าว เป็นรถป๊อปด้วยแล้ว ยิ่งไม่สามารถนำมาวิ่งบนถนนหลวงได้,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เราไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ เพราะต้องปฏิบัติหน้าที่ ส่วนที่ผู้ก่อเหตุนำพลั่วมาทุบรถตนเองนั้น คาดว่าน่าจะเกิดจากความโมโหมากกว่า ซึ่งตอนนี้ทราบว่าสำนึกผิดแล้ว และเข้าไปขอโทษขอโพยท่านนายอำเภอถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนซากรถดังกล่าว ตอนนี้ถูกเก็บไว้ที่ สภ.คลองข่อย | เรียกว่าเป็นอีกคลิป ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล สำหรับ กรณี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.อ้อมเกร็ด จ.นนทบุรี หลังจากได้ขี่รถป๊อป ออกมาวิ่งบนท้องถนนราชพฤกษ์ เมื่อเช้าวานนี้ | ข่าว,ทั่วไทย | ทุบรถ,รถป๊อป,ย้อนศร,พลั่วทุบรถ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1047345 |
หัวหน้าแก๊งขโมยน้ำมันเม็กซิโก โดนมือปืนบุกยิงดับคาเตียงผ่าตัด | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายเฆซุส มาร์ติน หรือ เอล คาลิมบา หัวหน้าแก๊งขโมยน้ำมันจากท่อส่งในประเทศเม็กซิโก ถูกกลุ่มมือปืนบุกยิงสังหาร ในขณะที่เขากำลังนอนให้แพทย์ดำเนินการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้า และลบรอยนิ้วมือ เพื่อปลอมตัวหนีการตามล่าของเจ้าหน้าที่ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในเมืองปวยบลา,ตำรวจระบุว่า การฆาตกรรมครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นผลมาจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มแก๊งอาชญากรรม ซึ่งการขโมยน้ำมันจากท่อส่งนับเป็นธุรกิจมืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ในประเทศเม็กซิโก รองจากการค้ายาเสพติด,ทั้งนี้ เฆซุส มาร์ติน เป็นหัวหน้าแก๊ง ฮัวชิโกเลโร นำลูกน้องออกปฏิบัติการขโมยน้ำมันจากท่อส่งแล้วนำไปขายต่อในราคาถูก สร้างความเสียหายแก่บริษัทน้ำมันในเม็กซิโกจำนวนหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ พวกเขายังนำน้ำมันไปแจกแก่ชุมชนท้องถิ่นในช่วงวันหยุดพิเศษต่างๆ ด้วย เพื่อเพิ่มความนิยม,นายมาร์ตินไม่ใช่หัวหน้าแก๊งอาชญากรรมคนแรกที่ใช้การศัลยกรรมพลาสติกเพื่อหลบหนีการจับกุม เช่นพ่อค้ายาชื่อดังแห่งเมืองฮัวเรซอย่างนาย อามาโด การ์รินโญ่ ซึ่งเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนระหว่างการผ่าตัดในปี 2540 หรือนายโจอาควิน กุซมัน หรือ เอล ชาโป ราชายาเสพติดที่เพิ่งถูกจับกุมเมื่อปีก่อน ก็ผ่าตัดเปลี่ยนหน้าเกือบทั้งหมด | หัวหน้าแก๊งอาชญากรรมกลุ่มใหญ่ซึ่งคอยขโมยน้ำมันจากท่อส่งในประเทศเม็กซิโก ถูกกลุ่มมือปืนลอบสังหารขณะที่เขากำลังนอนผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าที่คลินิกแห่งหนึ่ง เพื่อหลบหนีการตามล่าตัวของเจ้าหน้าที่ | ข่าว,ต่างประเทศ | ขโมยน้ำมัน,ศัลยกรรม,เม็กซิโก,ลอบสังหาร,ผ่าตัด | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1116925 |
วรงค์ เผยถูกขู่ฆ่า ยันทำตามหน้าที่ บินเผ่นแนบพักผ่อน ตปท. | เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 60 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ทางไกลจากทวีปแอฟริกา ว่า เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว ตนได้รับจดหมายจ่าหน้าซองถึงตน ส่งมา ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเปิดอ่านพบว่าเป็นจดหมายขู่ปองร้าย ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยได้รับจดหมายขู่ในลักษณะนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ในช่วงที่ทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบเรื่องการทุจริตจำนำข้าวพีคๆ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งที่น่าสังเกตคือ ในเนื้อหาของจดหมายขู่นี้ ใช้พิมพ์ ไม่ใช้ลายมือเขียน และอ้างว่าเป็นคนจากจังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน แต่ตราประทับไปรษณีย์กลับเป็นการส่งมาจากพื้นที่ในกรุงเทพฯ,สำหรับเนื้อหาใช้ถ้อยคำหยาบคาย และมีคำด่าสารพัดต่างๆ ถึงตนโดยตรง และมีคำขู่มาว่า มึงเป็นคนกลั่นแกล้งนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ขอให้ช่วงนี้มึงหาเสื้อเกราะหนาๆ มาใส่ ระวังตัวให้ดี เนื้อหาสรุปได้ทำนองนี้ ตนจึงได้บอกเพื่อน ส.ส.ด้วยกัน และบอกต่อนายอัศวิน วิภูศิริ รองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ภาคเหนือ นายอัศวิน และคณะผู้บริหารพรรค จึงแนะนำให้มาพักผ่อนต่างประเทศ ตนจึงเดินทางมาทวีปแอฟริกากับภรรยา และเพื่อนๆ ตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค. และจะกลับประเทศไทยในช่วงปลายเดือน ส.ค.คือ ให้ผ่านช่วงวันอ่านคำพิพากษาคดีจำนำข้าวไปก่อน ซึ่งตนก็ไม่ได้กลัวอะไร เพราะโดนขู่มาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ประมาทเพิ่มระมัดระวังจะไปไหนมาไหน เพราะได้รับคำเตือนจากผู้ใหญ่ที่รู้จักและเคารพหลายคนในช่วงนี้เช่นเดียวกัน ยืนยันว่าไม่เสียกำลังใจ เป็นการทำตามหน้าที่ในสภาฯ และติดตามคดีที่ทำไว้ให้จบกระบวนการ โดยนายอัศวินบอกว่า ตนได้ทำหน้าที่มากพอแล้วจนถูกขู่ปองร้าย หลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของศาล และคนในพรรคที่จะช่วยกันสานต่อเอง,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีการคุยในหมู่อดีต ส.ส.ภาคเหนือ ของพรรค ถึงข่าวการถูกขู่ปองร้าย แต่ไม่มีใครยืนยัน เพราะทางพรรคปิดเงียบ รู้แต่ในกลุ่มคณะผู้บริหารพรรคและเพื่อน ส.ส.ที่สนิท กระทั่งพบว่า นพ.วรงค์ ไม่ได้เข้าพรรคตามปกติที่เคยมา สื่อจึงโทรศัพท์สอบถาม จึงทราบว่าไปพักผ่อนต่างประเทศ และเก็บตัวจากเหตุถูกขู่ฆ่าดังกล่าว,ด้าน นายอัศวิน วิภูศิริ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือ กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง คงไม่มีใครมาพูดเล่นๆ โดย นพ.วรงค์มารายงานให้ทราบเมื่อสัปดาห์ก่อน ตนจึงบอกให้ไปพักผ่อนบ้าง และคดีสำคัญนี้ก็อยู่ในการพิจารณาของศาลฯแล้ว ถือว่าเราทำหน้าที่ดีที่สุดและหมดหน้าที่แล้ว ส่วนผลจะออกมาอย่างไร ทุกฝ่ายก็ต้องเคารพ และว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนการดูแลสมาชิกพรรคโดยเฉพาะคนที่ถูกขู่ปองร้าย หรือตกเป็นเป้าหมายนั้น เราดูแลกันอยู่แล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะบอกไปก็กระทบต่อความปลอดภัยของคนที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่า คนทำงานให้ส่วนรวม เราดูแลและให้กำลังใจกันเสมอมาในการทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ซึ่งได้รายงานเรื่องนี้ต่อคณะผู้บริหารพรรคและผู้ใหญ่ให้ทราบเรื่องแล้วเช่นกัน | วรงค์ เผยถูกจดหมายขู่ฆ่า เหตุไล่บี้จำนำข้าว ยันทำตามหน้าที่ ไม่เสียกำลังใจ เผ่นพักผ่อนต่างประเทศ ด้าน อัศวิน รับถูกขู่จริง ยันทั้งดูแลและให้กำลังใจ | ข่าว,การเมือง | วรงค์ เดชกิจวิกรม,ปชป.,ประชาธิปัตย์,จำนำข้าว,ขู่ฆ่า,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1047580 |
หวั่น มหาลัยเน้นสร้างบัณฑิตรับใช้ตลาดแรงงาน ลืมบทบาทน้ำพุทางปัญญาของสังคม | การแลกเปลี่ยนความเห็นค้นหาสิ่งที่ตนและสังคมต้องการจริงๆถ้อยแถลงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานพิธีเปิดงานวันแรงงานประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ใจความว่า สำหรับผู้ปกครองขอให้ส่งเสริมลูกหลานให้เรียนในสาขาอาชีพที่เป็นความต้องการของตลาดแรงงาน อย่ายึดติดกับปริญญาบัตร ขอให้เน้นเรียนจบมาแล้วมีงานทำต่อไป สะท้อนถึงความพยายามผูกสถาบันการศึกษาเข้ากับความต้องการของตลาดแรงงานได้ชัดเจนประชาไท นั่งพูดคุยกับโจชัว ฟอร์สเทนเซอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านงานสาธารณประโยชน์ของสถาบันอุดมศึกษา จากมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ถึงปัญหาเมื่อทำให้มหาวิทยาลัยเป็นสินค้า การนำสถาบันและผู้เรียนไปผูกกับกลไกตลาดและความต้องการของตลาดแรงงานดังที่ท่านผู้นำเรียกร้อง ทางสองแพร่งของนักเรียนระหว่างอยากเรียนกับอยากรวย คุณค่าของมหาวิทยาลัยที่สังคมคู่ควร การเรียนปรัชญาในโรงเรียนอังกฤษและฝรั่งเศสที่เตรียมนักเรียนและพลเมืองที่คิดเป็น และความเห็นที่มีต่อเยาวชนคนรุ่นใหม่โจชัว ฟอร์สเทนเซอร์ ได้รับเชิญมาเป็นหนึ่งในวิทยากรการเสวนาในประเด็นการทบทวนบทบาทของมหาวิทยาลัยในยุคที่ประชาธิปไตยกำลังถดถอย ที่งานเสวนา บทบาทอุดมศึกษาในยุคประชาธิปไตยถดถอย การสร้างความสมดุลระหว่างเป้าหมายทางเศรษฐกิจและการสร้างความเป็นธรรมทางสังคม จัดโดยสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา และมูลนิธิ ฟอน เอแบรต์ ที่มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ 20-21 เม.ย. ที่ผ่านมาในวงเสวนา โจชัว กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมีวัตถุประสงค์ในทางเศรษฐกิจที่ไปกันได้กับคุณค่าประชาธิปไตยอยู่ 3 ประการ1. สร้างทักษะที่มีมูลค่าทางตลาดให้นักศึกษา ที่ผ่านมามีพัฒนาการเพื่อตอบสนองตลาดได้อย่างดีเยี่ยม2. สร้างความเคลื่อนไหวทางสังคม หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ สร้างโอกาสให้นักศึกษา ให้ไปพัฒนาโอกาสในสาขาต่างๆที่ตนเรียน ไปจนถึงการสร้างความเป็นธรรมทางสังคม3. เป็นพื้นที่บ่มเพาะความสามารถทางอุตสาหกรรมและนวัตกรรม เป็นแหล่งงานวิจัยและพัฒนาที่จะนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆหน้าที่ของมหาวิทยาลัยทุกวันนี้ถูกลดทอนคุณค่าให้มีหน้าที่เพียงข้อที่ 1 และ 3 รัฐบาลทำให้การศึกษาเป็นสินค้าซึ่งสะท้อนได้จากการวัดผล จัดอันดับ และการแข่งขันต่างๆ โดยได้ยกแนวคิด การคลั่งไคล้สภาวะแข่งขัน(Competition Fetish) ของ ศ.ราชานี ไนดู (Rajani Naidoo) กูรูด้านการจัดการการอุดมศึกษามาอธิบาย โดยกล่าวว่า สภาวะหมกมุ่นกับการแข่งขันเป็นเวลานานทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงวัฒนธรรมการบริหารจัดการในหมู่อาจารย์ นักศึกษา นักวิจัย ให้เกิดการมุ่งเน้นไปที่การสร้างผลงาน สร้างชื่อเสียงจากงานวิจัยและตำแหน่งแห่งที่ทางวิชาการ ตัวกิจกรรมนอกหลักสูตรการเรียนการสอนก็ทำไปเพื่อให้ประสบการณ์แก่ตัวนักศึกษาให้พร้อมสู่การเป็นแรงงานสถานการณ์การอุดมศึกษาในบริบทของสหราชอาณาจักรเองสะท้อนชัดถึงความเป็นทาสของตลาดและการแข่งขัน 40 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของงานวิจัยและการกลายสภาพเป็นเอกชนของมหาวิทยาลัย ในปัจจุบัน มีร่าง พ.ร.บ. เกี่ยวกับนิยามความหมายของมหาวิทยาลัยกำลังถกเถียงในสภา โดยมีใจความโดยย่อว่า มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่ที่ต้องคงไว้ซึ่งเสรีภาพการแสดงความเห็นและเสรีภาพทางวิชาการ มีบุคลากรที่มีคุณภาพที่จะทำให้นักศึกษาเป็นผู้ที่เรียนรู้ได้ตลอดชีพ เป็นสถาบันที่อุทิศตนให้กับสังคมและต้องเป็นผู้วิจารณ์รัฐบาล และเครื่องเตือนสติของสังคมอย่างเป็นอิสระโจชัวกล่าวว่า รัฐบาลเห็นว่า ร่างฯ ดังกล่าวเป็นการค้านกระแสการทำให้อุดมศึกษาเป็นสินค้า ในขณะที่รัฐสภาให้ความเห็นว่า การทำให้อุดมศึกษาเป็นสินค้านั้นควรจะมีข้อจำกัด โดยมหาวิทยาลัยจะต้องมีอยู่เพื่อประโยชน์ของสาธารณะที่ทุกคนเข้าถึงได้ คือการเป็นพื้นที่ให้ประชาชนได้เรียนรู้ว่าตนเองต้องการอะไรและด้วยเหตุผลอะไร มหาวิทยาลัยจะต้องช่วยเหลือปัจเจกและสังคมในการหาสิ่งที่ต้องการอย่างแท้จริง ซึ่งข้อสรุปดังกล่าวเกิดขึ้นได้จากการต่อรองและถกเถียงกัน: จริงๆมันเป็นเรื่องที่ว่า มนุษย์ทุกคนมีความปรารถนา แต่ว่าเราไม่รู้ว่าสิ่งที่เราหวังมันเป็นสิ่งที่เราอยากได้จริงหรือเปล่าจนกว่าเราจะคิดถึงเหตุผล การศึกษากับประชาธิปไตยนั้นมีคุณค่าบางอย่างที่เหมือนกัน คือมันเอามนุษย์ไปอยู่ในสถานการณ์ที่เราไปถึงสิ่งที่มุ่งหวังช้าลง ด้วยการพูดคุย การพูดคุยเพื่อขยายกรอบความคิดของเราว่ามีอะไรอยู่บนโลกบ้าง และในสิ่งเหล่านั้นมีอะไรบ้างที่เราต้องการ มันทำให้เราหงุดหงิดในช่วงแรกๆ แต่ผลที่เราได้รับก็คือ เราสามารถตระหนักถึงทางเลือกต่างๆมากไปกว่าสิ่งที่เราหวัง มันเปลี่ยนจากสิ่งที่เราต้องการ ไปสู่สิ่งที่เราเลือกแล้วจริงๆ จากการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ซึ่งในแง่หนึ่งก็สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อมีคนมาท้าทายความเชื่อ ความหวังของคุณ หรือท้าทายทางเลือกที่คุณเลือกไปแล้ว สิ่งเหล่านี้ทำให้เราเริ่มค้นหาสิ่งที่เราต้องการจริงๆแต่ความคิดเรื่องการได้รับในสิ่งที่ต้องการมันสำคัญ แน่นอนว่ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้ในสังคมเสรีนิยมใหม่ที่มาพร้อมความคิดที่ว่า ฉันอยากได้ ฉันก็ไปซื้อ พอไปซื้อแล้วมันก็เป็นของฉัน แต่ถ้าเราอยากเป็นพลเมืองที่เป็นประชาธิปไตยจริงๆ เราต้องเรียนรู้ว่าเราจะให้ค่า ให้ความหมายกับความปรารถนาของเราอย่างไร เพราะคนเรามีความปรารถนาหลายอย่าง ซึ่งบางครั้งบางทีไม่ได้สอดคล้องไปกับความมุ่งหวังของคนอื่นในสังคม และเราจะให้ค่าความปรารถนาของเราได้ดีขึ้นด้วยการรู้จักโลก และความปรารถนาของคนอื่นในโลกให้มากขึ้นผ่านการพูดคุยการทำให้มหาวิทยาลัยเป็นสินค้าเป็นปัญหา เพราะมันทำให้ประสบการณ์ของผู้เรียนในระบบการศึกษาแปลกแยกไปจากการศึกษาที่ดี การศึกษาที่ดีมุ่งให้คนศึกษาเพื่อเรียนรู้ การทำให้มหาวิทยาลัยเป็นสินค้าบีบบังคับให้นักเรียนคิดถึงการศึกษาในเชิงการลงทุน ผมไม่โทษนักเรียนที่คิดแบบนั้น เพราะเงื่อนไขดังกล่าวมันทำให้เด็กคิดไปตามธรรมชาติถึงผลลัพธ์เชิงประจักษ์ที่การศึกษาจะให้เขาเพื่อให้เขามีชีวิต มีรายได้ที่ดีขึ้น ซึ่งความคิดแบบนั้นในยุคที่เด็กไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องจ่ายถึงจะได้เรียนนั้นมันสมเหตุสมผลแล้ว แต่ถ้ามองในเชิงโครงสร้างระบบการศึกษา การทำให้การศึกษาเป็นสินค้าทำให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างสถานศึกษากับนักเรียนในอีกแบบหนึ่ง นักเรียนจะให้ความสำคัญกับผลที่นักเรียนจะได้รับหลังเรียนจบมากกว่าประสบการณ์ที่พึงได้รับในมหาวิทยาลัย ในขณะเดียวกันมันทำให้ผู้สอนอยู่บนความลักลั่นระหว่างหน้าที่ที่ต้องช่วยเหลือให้ผู้เรียนพัฒนาตัวเองให้มากที่สุด กับหน้าที่ที่ต้องสอนตามเนื้อหาให้ครบ ซึ่งหน้าที่สองอย่างนี้มักไปด้วยกันไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น การกดดันให้มหาวิทยาลัยลดจำนวนปีที่นักศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยลงเพื่อลดราคา เพิ่มประสิทธิภาพ แต่อย่าลืมว่าเวลาก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ แม้แต่การให้เวลาเด็กกลับไปอ่านหนังสือและนั่งครุ่นคิดก็เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ เมื่อใดที่คุณบอกว่าทำให้เรียนจบเร็วขึ้น บางทีก็พูดได้ว่าคุณทำให้ประสบการณ์ที่มีค่าในมหาวิทยาลัยน้อยลง เมื่อใดก็ตามที่ทำให้การศึกษาไปโยงกับการลงทุน ลดภูมิต้านทานต่อแรงกดดันจากพลังเงินที่ต้องการผลผลิตอย่างเร่งด่วน แถมทำให้คุณภาพด้านการศึกษาคลายความลุ่มลึกลงมีหลายทาง ทางหนึ่งคือการจัดให้มีการเรียนรู้เชิงบริการสังคมมากขึ้น เพราะมันจะทำให้นักเรียน นักศึกษามีโอกาสที่จะตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ที่ได้เรียนจากมหาวิทยาลัยที่มีลักษณะเป็นนามธรรม เข้ากับความเป็นจริงด้วยการเอาความรู้ไปช่วยเหลือสังคม ทำให้นักศึกษาตระหนักว่าความรู้เขามีค่าต่อการพัฒนาสังคมมากขนาดไหนผมคิดว่าการมีการศึกษาเรื่องอารยธรรม ประวัติศาสตร์ของความคิดมนุษย์จะเป็นประโยชน์ การให้ความสำคัญกับงานเขียนโบราณ งานเขียนคลาสสิคและเรียนรู้พัฒนาการของความคิดเพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น การขาดความเข้าใจความคิดใหญ่ๆในอดีตทำให้การคิดเชิงวิพากษ์ของมนุษย์มีขีดจำกัด คุณอาจจะจับประเด็น หรือถกเถียงในประเด็นต่างๆได้ดี แต่การเข้าใจพลวัตของวิวัฒนาการทางความคิดช่วยให้เราวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในสังคมปัจจุบัน ความคิดเชิงวิพากษ์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่โลกทุกวันนี้ที่เราต้องการ เราจำเป็นต้องเข้าใจถึงเดิมพันของอารยธรรมต่างๆ อะไรคือสิ่งที่อารยธรรมเห็นว่าสำคัญ และเกิดอะไรขึ้นบนโลกของเรา ซึ่งส่วนหนึ่งมันหมายรวมถึงความเข้าใจในประวัติศาสตร์ความคิด เพื่อเข้าใจว่าผู้คนกำลังถกเถียงอะไรกัน อะไรเป็นสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังการถกเถียงดังกล่าวจะเป็นอะไรที่ดีมากถ้าหลักสูตรการศึกษาจัดให้มีความรู้ดังกล่าวไว้ ซึ่งควรเป็นประวัติศาสตร์ของปรัชญา ความคิดทั่วโลก ในโลกตะวันตกไม่ได้พูดถึงขงจื่อ หรือหลักพุทธศาสนามากนัก ในทางกลับกัน ถ้าไม่มีการเรียนรู้ปรัชญาของโสเครตีส ถ้าไม่มีพัฒนาการทางความคิด ก็จะวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่เกิดขึ้นบนโลกได้ยากขึ้น หลักความคิดที่หลากหลายนั้นไม่จำเป็นต้องดึงเอาแก่นที่มีร่วมกันมาสร้างเป็นสิ่งสากลสิ่งเดียว การเรียนรู้ดังกล่าวนั้นแค่ทำให้ผู้เรียนเข้าหามัน ได้เผชิญหน้ากับความคิดที่หลากหลายและได้ครุ่นคิดก็เพียงพอการบรรจุสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในหลักสูตรการเรียนการสอนทำให้คนมีความอดทนอดกลั้นและพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนความเห็น ซึ่งในทางเดียวกัน ผมเลยไม่คิดว่าสถานศึกษามีผลต่อกระแสดังกล่าว อย่างที่เห็นจากผลโหวตให้สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป วัยรุ่นจำนวนมากโหวตให้อยู่ต่อ แต่ผลดังกล่าวเกิดจากคนในสังคมกลุ่มที่ใหญ่กว่า คนรุ่นก่อนที่คิดว่าสังคมในแบบที่มันเป็นอยู่มันแย่สำหรับพวกเขา และก็คิดแทนไปว่าสังคมมันแย่สำหรับลูกหลานพวกเขาด้วย แม้ตัวเด็กจะไม่เห็นด้วยก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านงานสาธารณประโยชน์ของสถาบันอุดมศึกษา อธิบายข้อสังเกตที่เป็นที่มาของกระแสปฏิเสธระบอบประชาธิปไตย การขึ้นมาของกระแสอนุรักษ์นิยมในโลกตะวันตกว่า เกิดขึ้นเพราะคนมีความเชื่อถือในระบอบประชาธิปไตยน้อยลง เหนื่อยหน่ายกับระบบการเมืองที่ตัวเองรู้สึกไม่ได้มีส่วนร่วม โลกตะวันตกเห็นความสำเร็จด้านเศรษฐกิจของประเทศที่ไม่ได้เป็นประชาธิปไตย ได้แก่จีนและรัสเซีย แสดงให้เห็นว่าความมั่งคั่งไม่ได้แปรผันตรงกับความเป็นประชาธิปไตย ประเทศที่ตัดสินใจทางเศรษฐกิจได้เร็วและมีประสิทธิภาพจะเป็นผู้ชนะ เราจึงเห็น Brexit ในสหราชอาณาจักรและการขึ้นมาของโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯแต่การเพิ่มต้นทุนในการเข้าถึงการศึกษาในระดับอุดมศึกษาทำให้เป้าหมายทางการศึกษาเอียงจากเรื่องคุณค่าความเป็นพลเมืองไปสู่คุณค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งเวลาเศรษฐกิจไม่ดีมันทำให้เกิดปัญหา เพราะคนที่เข้าไปเรียนมุ่งหวังกันว่าจบมหาวิทยาลัยแล้วจะได้งาน ส่วนหนึ่งก็เป็นความผิดของมหาวิทยาลัยที่สื่อสารออกไปหาตัวผู้เรียนเช่นนั้น ทำให้คนที่อยากเข้าเรียนต้องคิดถึงการศึกษาในแง่ของการลงทุนเอางี้ เวลาคุณเข้ามหาวิทยาลัยเขา [สังคมและมหาวิทยาลัย – ผู้สื่อข่าว] สัญญาว่าจบไปคุณจะได้งาน แต่ทีนี้คุณจบไปไม่มีงานทำ ทักษะความเป็นพลเมืองก็ไม่มี คุณไม่ผิดหวังเหรอ อย่างน้อยถ้าไม่ได้งานก็ต้องได้ความเป็นพลเมืองออกไปในอังกฤษ หลังนักเรียนผ่านการศึกษาวิชาบังคับต่างๆ นักเรียนในระดับมัธยมปลายจะมีเวลา 3 ปี ก่อนสำเร็จการศึกษา ซึ่งนักเรียนสามารถเลือกเรียนวิชาต่างๆ ได้เก็บหน่วยกิตให้จบการศึกษา วิชาปรัชญาเป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งวิชาปรัชญาในอังกฤษจะไปในเชิงวิพากษ์เสียมากกว่าในฝรั่งเศส เด็กในช่วงมัธยมศึกษาตอนปลายสามารถเลือกคอร์สเรียนหรือที่เรียกว่า แบ็คคาลอเรีย (baccalauréat) ในคอร์สทั่วไปจะมีวิชาปรัชญาให้เรียนเป็นเวลาหนึ่งปี ซึ่งเพียงพอกับการปูพื้นการทำความเข้าใจปรัชญา และการเรียนปรัชญาที่ฝรั่งเศสก็หนักไปทางการตีความ การทำความเข้าใจประวัติศาตร์ของปรัชญาและความหมายของคำต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับหลักสูตรของสหราชอาณาจักรรัฐบาลอังกฤษในยุคที่ผ่านๆ มาลดความสำคัญของวิชาปรัชญาในโรงเรียนลงเรื่อยๆ แต่ผมและเพื่อนร่วมงานที่ทำงานด้วยกันในเรื่องการผลักดันให้สังคมเห็นความสำคัญของการศึกษาปรัชญาคิดว่า วิชาปรัชญาเอื้อให้เกิดการอภิปราย การแลกเปลี่ยนความเห็นแบบเป็นประชาธิปไตย ทำให้ผู้เรียนเข้าใจตนเองและความแตกต่างของผู้อื่น ซึ่งในมุมนี้ผมคิดว่า วิชาปรัชญาจะทำให้เกิดพัฒนาการที่ทำให้เกิดพลเมืองที่มีความคิดและใฝ่หาความยุติธรรมผมถือหางการใช้สิทธิมนุษยชนเป็นเครื่องมือทางการเมือง การปกป้องสิทธิมนุษยชนเป็นสิ่งสำคัญในยุคนี้ เพราะมันเป็นเครื่องมือให้คนรุ่นเราสามารถหาทางทำความเข้าใจคนอื่น และตระหนักถึงความเป็นเจ้าของสถาบันการเมืองในวิถีประชาธิปไตย ผมขอค้านประเด็นที่ว่าความขัดแย้งระหว่างสิทธิมนุษยชนกับขนบเดิมเป็นจุดจบ เราแค่ต้องมองในมุมอื่นที่เข้ากันได้เด็กวัยรุ่นทั่วโลก ไม่ว่าจะอยู่ในระบอบไหน ต่างกำลังพบเจอแรงกดดันอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายคลึงกัน มากดพวกเขาไม่ให้เขาเป็นในสิ่งที่อยากเป็น ไม่ให้เขาสร้างสังคมที่เขาอยากอยู่ หรือแม้แต่ลักษณะความสัมพันธ์กับคนอื่นในสังคมที่เขาอยากให้เป็น แต่คนรุ่นนี้มีความคิดที่เปิดกว้างกว่า มีความอดกลั้น มีความสนใจในความต่าง และมีความทะเยอทะยานมากกว่าคนรุ่นที่อาบน้ำร้อนมาก่อน ดังนั้นหน้าที่ของเยาวชนคือการฝันให้ใหญ่ และผนึกกำลังกันปลดปล่อยพันธนาการต่างๆ ถึงจะสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้างก็ตามแต่ สิ่งที่คนรุ่นเก่าอย่างผมทำได้คือต้องบอกเขาว่า เราเห็นสิ่งที่คุณทำ และควรพูดคุยกับเยาวชนเหล่านั้นให้มาก เพื่อสานสะพานแห่งความอดทนอดกลั้นในความแตกต่าง และเพื่อสร้างโลกที่เราทุกคนพอใจที่จะอยู่ร่วมกัน | คุยกับผู้เชี่ยวชาญงานสาธารณประโยชน์ของอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ หวั่น มหาวิทยาลัยเน้นสร้างบัณฑิตตอบโจทย์ตลาดแรงงานหลงลืมบทบาทน้ำพุทางปัญญาให้สังคม ชี้ ทุกคนควรเข้าถึงความรู้ ให้การศึกษา | การศึกษา,สังคม | ตลาดแรงงาน,มหาวิทยาลัยกับการสร้างพลเมือง,มหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์,โจชัว ฟอร์สเทนเซอร์ | https://prachatai.com/journal/2017/05/71603 |
แต้ว น้อยใจดราม่า เชื่อ พี่นุ่น ยินดีที่ได้รางวัล | นาคี, ทางช่อง 3 กวาดรางวัลในงานประกาศรางวัล นาฏราช ไป 10 รางวัล โดยมีเสียงวิจารณ์ว่าเยอะเกินไป แถมวันงาน ,แต้ว-ณฐพร, ก็ยังไม่ไปอีกด้วย ล่าสุดเจอ ,แต้ว, มาร่วมงานเปิดตัวผ้าอนามัย เอลิส (Elis) เลยถามว่า,ทำไมไม่ไปร่วมงานนาฏราช? ,แต้วปวดไมเกรนกะทันหันเลยแวะเข้า รพ.ไปฉีดยา ปวดมากเหมือนหัวจะระเบิด แต้วเพิ่งเป็นไมเกรนช่วงปีกว่าๆที่ผ่านมา คิดว่าน่าจะเพราะเครียด และอาจเพราะงานหนักเลยพักผ่อนน้อย หมอก็ให้พักผ่อนให้มากขึ้น,มีดราม่าละครนาคีที่กวาดรางวัลเยอะเกิน? ,ก็เป็นรางวัลที่ได้จากคณะกรรมการและการโหวต สำหรับแต้วจะได้หรือไม่ได้รางวัลก็แฮปปี้แล้ว แต้วก็ได้เห็นข่าวนี้ที่เค้าดราม่าก็เป็นธรรมดา เพราะก็ต้องมีความคิดเห็นที่ตรงหรือไม่ตรงบ้าง แต่เรารู้สึกว่ามีอีกหลายคนที่ควรจะได้รางวัลอย่างพี่นุ่น-วรนุชเราก็ไม่ได้สูสีอะไรกับพี่เค้า พี่นุ่นเรียกว่าเป็นอาจารย์ด้วยซ้ำ และรางวัลนาฏราชแต้วได้รับก็รู้สึกดีใจมาก เพราะเป็นรางวัลที่ศักดิ์สิทธิ์และเราก็อยากได้มานาน แต้วเสียดายที่วันนั้นไม่ได้ไปรับด้วยตัวเอง ปกติเวลาแต้วได้รางวัลพี่นุ่นก็จะมายินดี หรือบางทีพี่นุ่นได้เราก็ไปยินดีกับพี่เค้า ก็เป็นความรู้สึกดีๆ, คนมองว่าเราจะเกาเหลากับนุ่น? ,แต้วว่าพี่นุ่นเป็นคนเข้าใจโลก พี่เค้าน่ารักมากและเป็นไอดอลเราอยู่แล้ว,นอยด์มั้ย? ,น้อยใจนิดนึง บั่นทอนจิตใจเราด้วย แทนที่เค้าจะมาให้กำลังใจเรา แต่ก็เข้าใจว่าต้องมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ส่วนรางวัลที่ได้มาแต้วตั้งใจว่าจะถวายให้พ่อปู่ศรีสุทโธ. | เป็นดราม่าขึ้นมาเมื่อละคร นาคี ทางช่อง 3 กวาดรางวัลในงานประกาศรางวัล นาฏราช ไป 10 รางวัล โดยมีเสียงวิจารณ์ว่าเยอะเกินไป แถมวันงาน แต้ว-ณฐพร ก็ยังไม่ไปอีกด้วย | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | แต้ว ณฐพร,นาคี,รางวัลนาฏราช,นุ่น วรนุช,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1016600 |
ชวนชิม ขนมจีนวอนวิว เส้นอกไก่-ด้องแด้ง ความอร่อย 3 มิติที่ด่านซ้าย | วันที่ 2 ก.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้านขนมจีนวอนวิว ข้างป้อมตำรวจบ้านเดิ่น หมู่ 3 ต.ด่านซ้าย อ.ด่านซ้าย จ.เลย ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เนื่องจากเป็นที่ขึ้นชื่อว่า ขนมจีนทำเอง ขายเอง และขายส่ง ใช้แป้งอย่างดี หมักบ่ม 7 วัน จึงนำมาบีบขาย ตกวันละร่วม 200 กก.,นางวอนวิว เชื้อบุญ อายุ 55 ปี เจ้าของร้านเล่าว่า วันหนึ่งทำขนมจีนขาย 150-200 กิโลกรัม ยิ่งช่วงเทศกาลงานต่างๆ จะมีขายสั่งเพิ่ม 3-4 เท่าตัว นอกจากเส้นขนมจีนแล้วยังมีเส้นด้องแด้ง และเส้นอกไก่ขายด้วย โดยเริ่มแรกสั่งข้าวเจ้าแข็งอย่างดีมาแช่น้ำ 1 คืน จากนั้นนำมาโม่ให้ละเอียด เมื่อได้ที่แล้วนำมาหมักเป็นแป้งเพื่อทำขนมจีน ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มต้นหมักจนเสร็จ 1 อาทิตย์ โดยไม่ใส่สารกันบูด เน้นใส่เกลือ เก็บได้นาน 2 วัน,ขั้นตอนการทำ ตักแป้งใส่ภาชนะ รีดออกมาเป็นเส้นๆ ลงในหม้อน้ำเดือดจนเส้นสุก จากนั้นนำไปแช่น้ำเย็นเพื่อให้เส้นนิ่ม เหนียว แล้วนำเส้นขนมจีนมาจับเป็นจับๆ ลงในตะกร้าหรือกะละมัง เป็นอันเสร็จพร้อมขาย,สำหรับขนมจีนวอนวิว นอกจากจะขายส่งตามร้านค้าในอำเภอด่านซ้ายและต่างอำเภอแล้ว ที่ร้านยังมีขนมจีนกะทิไก่ กะทิน้ำยาปลา เป็นปลานิล ขายจานละ 20-30 บาท ที่พิเศษคือขนมจีนด้องแด้ง คล้ายลอดช่อง และอกไก่ เป็นก้อนใหญ่กว่าด้องแด้ง ทั้ง 3 ชนิดเส้นนิ่ม เหนียวไม่มาก อร่อย ขายตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็นทุกวัน ไม่มีวันหยุด ลูกค้าสามารถสั่งซื้อได้ที่เบอร์ 08-6228-7644. | ขนมจีนวอนวิว อีกหนึ่งสุดยอดความอร่อยของอำเภอด่านซ้าย เจ้าของยึดหลักทำเอง บีบเองด้วยมือ มีทั้งเส้นขนมจีน-ด้องแด้ง-อกไก่ เน้นขายส่งลูกค้า แต่ถ้าลูกค้ามากินที่ร้านก็มีทั้งน้ำยาไก่ น้ำยาปลาไว้บริการ
| ข่าว,ทั่วไทย | ขนมจีน,เส้นด้องแด้ง,ร้านวอนวิว,ขนมจีนด่านซ้าย,เลย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/991200 |
โชว์ผลวิจัย กองทุนหมู่บ้าน 7 หมื่นล้านเติมทุนทางสังคม ชักดาบจิ๊บจ๊อย-ศก.โตขึ้น 0.8% | จะเป็นการสร้างหนี้เน่าหรือเอ็นพีแอลให้แก่ประชาชนระดับรากหญ้า ฝ่ายค้านชี้ว่า ชาวบ้านกู้ไปซื้อโทรศัพท์มือถือค่ายเอไอเอส เอาไปซื้อมอเตอร์ไซค์ หรือไม่ก็กู้กองทุนหมู่บ้านเอาไปตัดหนี้ที่ล้นพ้นตัว ทุกข้อสันนิษฐานล้วนเป็นข่าวร้ายจากหมู่บ้าน ตัวเลขล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม เม็ดเงินจากกองทุนหมู่บ้าน จัดสรรไปแล้ว 73471 ล้านบาท คิดเป็น 98.12% ของเงินกองทุนทั้งหมด ยังเหลืออีก 1.88 เปอร์เซ็นต์ที่ยังไม่มีการอนุมัติส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล และชุมชนเมืองอีกจำนวนทั้งหมด 1410 หมู่บ้าน ทุกวันนี้ ทั่วประเทศมีสมาชิกกองทุนรวมทั้งหมด 7300000 คน เป็นกรรมการหมู่บ้านละ 10-15 คน ทั้งหมด 70000 กว่าหมู่บ้าน รวมแล้วเป็นกรรมการทั้งหมด 980000 กว่าคน น.พ.พลเดช ปิ่นประทีป ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กล่าวว่า สื่อมวลชนหรือนักวิชาการ มักนำเสนอภาพด้านเดียวว่าหนี้สูญ แต่จากผลการสำรวจกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ผ่านงานวิจัยหลายฉบับ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักวิจัยและการพัฒนาของกรมการพัฒนาชุมชนและสถาบันพระปกเกล้า กลับออกมาตรงกันข้ามธปท. ชี้กระตุ้น ศก. 0.8 เปอร์เซ็นต์ หนึ่งในผลสำรวจกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ซึ่งสำรวจโดย ยุวรรณ รัฐกุล เจ้าหน้าที่ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยสำรวจในช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม 2544 ตัวเลข ณ 20 ธันวาคม 2544 ซึ่งเป็นวันที่เงินกองทุนได้โอนเข้าบัญชีกองทุนหมู่บ้านแล้ว 56346 ล้านบาท คิดเป็น 88.3% ของโครงการกองทุนหมู่บ้าน 75000 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายไปแล้ว 37739 ล้านบาทจากการสำรวจพบว่าเงินกองทุนหมู่บ้านถูกเบิกจ่ายไปใช้ในกิจกรรมการผลิต 89.1% คิดเป็น 1.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ส่วนที่เหลือ 10.9% ของเงินเบิกจ่ายแบ่งเป็น 6.5% ถูกนำไปเก็บ อีก 3% นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและให้กู้ต่อ และ 0.4% นำไปใช้เพื่อบรรเทาเหตุฉุกเฉิน สำหรับเงินกู้ที่เบิกจ่ายไปแล้วนี้ได้นำไปใช้ 1.กลุ่มขยายกิจการ คิดเป็น 42% ของเงินที่เบิกจ่ายทั่วประเทศ คือนำไปใช้ในการลงทุนขยายกิจกรรมการผลิตที่มีอยู่เดิม 2.กลุ่มลงทุนใหม่ 25% ของเงินกองทุนที่เบิกจ่ายไปถูกนำไปใช้ในการสร้างงานหรืออาชีพใหม่ รวม 2 กลุ่มนี้คิดเป็น 67% ของทั้งหมด ซึ่งทำให้จีดีพีขยายตัว 0.8% ของจีดีพี และ 3.นำไปใช้ทดแทนแหล่งเงินกู้อื่น 33% อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่าเงินกู้เพื่อการลงทุนเหล่านี้ถูกนำไปใช้ในภาคเกษตรกรรม 61.2% นำไปเป็นทุนเพื่อการค้าขาย 19% อีก 13% ถูกนำไปลงทุนในบริการอื่นๆ เช่น ร้านอาหาร รับตัดเสื้อผ้า และอื่นๆ นอกจากนี้ ได้มีข้อเสนอแนะว่าหากจะให้การดำเนินงานเพื่อให้เกิดผลกระทบทางสังคมตามปรัชญาและหลักการสำคัญของนโยบายในระยะยาวควรต้องมีการศึกษาความเหมาะสมอย่างแท้จริงในการจัดสรรเงินทุนให้หมู่บ้านในระดับที่เหมาะสม และความพร้อมในการบริหารกองทุนหมู่บ้าน โดยเฉพาะประเด็นเพื่อให้กองทุนหมู่บ้านดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดำเนินนโยบายนี้ไม่ได้สำเร็จเพียงแค่ได้มีการปล่อยเงินเข้าสู่ชนบทได้ครบตามเป้าหมายเท่านั้น แต่ยังคงมีวัตถุประสงค์ที่มุ่งเน้นผลทางสังคมอื่นๆ ซึ่งเป็นผลในระยะยาว แต่เพื่อให้กองทุนหมู่บ้านประสบผลสำเร็จในวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้ ควรมีการประชาสัมพันธ์ ดูแลอย่างต่อเนื่องและมีการติดตามผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ 86 เปอร์เซ็นต์ชำระหนี้คืน งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งคือ ผลการประเมินสถานการณ์กองทุนหมู่บ้าน ครั้งที่ 1 (เมษายน 2545) ซึ่งจัดทำโดย ขนิษฐา กาญจนรังษีนนท์ และ ชูสม รัตนนิตย์ กลุ่มงานวิจัยและพัฒนากรมการพัฒนาชุมชน ผู้วิจัยได้สัมภาษณ์ ผู้กู้เงินกองทุนหมู่บ้านจำนวน 570 คน ในพื้นที่ 12 อำเภอทั่วประเทศ โดยการสุ่มตัวอย่างพื้นที่อย่างง่าย แบ่งเป็นหญิง 292 คน (51.2%) ชาย 278 คน (48.8%) อายุเฉลี่ย 44 ปี ต่ำสุด 20 ปี สูงสุด 82 ปี จำแนกเป็น ภาคกลาง 240 คน (42.1%) ภาคอีสาน 150 คน (26.3%) ภาคเหนือ 90 คน (15.8%) และภาคใต้ 90 คน (15.8%) ผลการประเมินสถานการณ์กองทุนหมู่บ้าน พบประเด็นที่น่าสนใจดังนี้ เงินกู้ส่วนใหญ่นำไปลงทุนกิจการการเกษตร (41.2%) เลี้ยงสัตว์ (22.8%) และค้าขาย (22.1%) นอกนั้น กู้ไปทำอุตสาหกรรมครัวเรือน (4.6%) ช่าง (4.0%) และบางรายกู้ไปลงทุนกิจการมากกว่า 1 อย่าง (5.3%) จำนวนเงินกู้ส่วนใหญ่อยู่ในระหว่าง 10000-20000 บาท (89.6%) สูงกว่า 20000 บาท 5.8% ต่ำกว่า 10000 บาท 4.6% และระยะเวลากู้ส่วนใหญ่ 12 เดือน วัตถุประสงค์ส่วนใหญ่กู้เพื่อการลงทุนเพิ่มในอาชีพหลัก 65.4% เพื่ออาชีพรอง 28.6% และเพื่อกิจการใหม่ (5.3%) พฤติกรรมการชำระหนี้ที่ผ่านมา ในรายที่ครบกำหนดผ่อนชำระแล้ว พบว่า 103 ราย (86.6%) ได้คืนตามกำหนดเวลาทุกครั้ง 15 ราย (12.6%) คืนได้ตามกำหนดเวลาเป็นบางครั้ง 1 ราย (0.8%) ไม่สามารถคืนตามกำหนดเวลาเลย ผลการประกอบอาชีพที่ลงทุนด้วยเงินกู้ 53.5% บอกว่าได้ผลดี 42.3% ได้ผลค่อนข้างดี 3.3% ไม่ค่อยได้ผล 0.9% ไม่ได้ผลเลย ทีมวิจัยเสนอแนะว่า การนำเงินไปใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์ไม่ใช่เรื่องน่าเป็นห่วง เท่ากับการช่วยชาวบ้านแก้ปัญหาในการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะการขาดทักษะฝีมือ และความรู้ในการประกอบอาชีพนั้น และเปลี่ยนวิธีการป้องกันหนี้เสียให้หันมาสนใจกับการช่วยประคองกิจการของผู้กู้หรือการรส่งเสริมการตลาด พัฒนาการประกอบการ เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และจัดการกิจการของผู้กู้ แทนที่จะมุ่งให้ความสนใจเพียงการได้รับเงินชำระคืนมาครบถ้วนตามเวลาที่กำหนดเท่านั้นน.พ.พลเดช ปิ่นประทีป กล่าวว่า ทุกวันนี้ ทิศทางของกองทุนหมู่บ้านมีความชัดเจนมากขึ้น ในปีที่สอง กองทุนหมู่บ้านจะก้าวไปสู่การเพิ่มทุนทางสังคมให้แก่ชุมชนทั่วประเทศ โดยใช้ทุนทางเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือเพิ่มทุนทางสังคม ถ้าเงินหมด แล้วทุนทางสังคมเพิ่มก็ถือว่าใช้ได้ แต่ถ้าเงินยังไม่หมดแล้วทุนทางสังคมเพิ่มยิ่งดีใหญ่ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กล่าวในที่สุดแต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอผลการสำรวจกองทุนหมู่บ้านอีกหลายชิ้นจากหลายสำนักว่า การประเมินผลสำรวจจะออกมาดีเช่นเดียวกันนี้หรือไม่ ? | กองทุนหมู่บ้าน หนึ่งในนโยบายยอดนิยมของพรรคไทยรักไทย ผ่านร้อนผ่านหนาวมาครบ 1 รอบชำระหนี้เงินกู้คืนแล้วในหลายหมู่บ้าน ก่อนหน้านี้มีแต่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/06/4587 |
เดินหน้าเสนอขุดคลองไทย ยันคนใต้เห็นด้วย เตรียมบุกพบ นายกฯ 21 นี้ | ประชามติ พร้อมสนับสนุนอยู่ต่ออีก 4 ปี หากไม่มารับจะขับไล่ทันที ฐานอยู่มาแล้ว 4 ปี
,เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 61 พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป นายกสมาคมคลองไทยเพื่อการศึกษาและพัฒนา ได้เปิดเผยว่า สมาคมคลองไทยได้จัดตั้งสาขาทั้ง 5 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดสงขลา ตรัง พัทลุง นครศรีธรรมราช และกระบี่ หลังจากที่ได้พบปะให้ความรู้ความเข้าใจ และชี้ให้เห็นข้อดีและข้อเสียเรื่องคลองไทยว่า หากมีคลองไทยเชื่อมระหว่างอันดามันกับอ่าวไทย จะมีประโยชน์อย่างมากให้แก่ประชาชนทั่วทุกตำบลใน 5 จังหวัดเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นด้วย ต้องการให้มีคลองไทย อยากให้รัฐบาลเข้ามาศึกษาอย่างจริงจัง
,พร้อมเสนอผลการศึกษาเบื้องต้น และผลการสอบถามความต้องการของประชาชนทั้งหมดไปยังรัฐบาล เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 60 ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด และแม่ทัพภาค 4 ปรากฏว่าเวลาได้ล่วงเลยมาหลายเดือนยังไม่ได้คำตอบจากรัฐบาล ทั้งๆ ที่เป็นความต้องการของประชาชน ทางกลุ่มคลองไทยหวังดีต่อประเทศชาติและรัฐบาล อยากสนับสนุนรัฐบาลให้ตั้งคณะกรรมศึกษาขึ้นมา หากว่าไม่ดีให้ยกเลิกโครงการนี้เสีย หากศึกษาแล้วดีมีประโยนช์มหาศาลให้ดำเนินการต่อ โดยที่สำนักนายกฯ ได้เคยมีหนังสือให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการศึกษาแล้ว แต่ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมชัดเจน พล.อ.พงษ์เทพ กล่าว,พล.อ.พงษ์เทพ กล่าวด้วยว่า คณะมีตัวแทนจาก 5 จังหวัด พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ นายณรงค์ ขุ้มทอง สมาคมคลองไทย นายยงยศ แก้วเขียว สมาคมสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน พล.อ.ธวัธชัย สมุทรสาคร อุปนายกสมาคมคลองไทยฯ นายวิรวัฒน์ แก้วนพ วิศวกรสมาคมคลองไทยฯ โดยคณะกว่า 3 คันรถจะเดินทาง ในวันที่ 21 พ.ค.นี้ เพื่อเข้าพบ รมว.คมนาคม และไปทำเนียบรัฐบาล เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อทวงถามแบบสร้างสรรค์ว่า ทำไมโครงการดีๆ อย่างนี้ รัฐบาลไม่เอาไปคิด อย่านิ่งเฉย
,ด้าน นายณรงค์ ขุ้มทอง ประธานศูนย์ประสานงานสมาคมคลองไทยสาขาภาคใต้ กล่าวว่า คลองปานามายังมีคลองแฝดจากการจราจรขนส่งในคลองแออัด มีรายได้เข้าประเทศวันละ 300 ล้านบาท และล่าสุดประเทศนิการากัว ซึ่งอยู่ห่างจากปานามาทางเหนือกว่า 2 พันกิโลเมตร กำลังขุดคลองเชื่อม 2 มหาสมุทร ด้วยความยาวของคลองประมาณ 300 กม.ยังทำได้ทั้งๆที่เป็นประเทศยากจน จากการศึกษาพบเรือเข้า-ออกวันละ 25 ลำ สามารถหากำไรเลี้ยงประชาชนได้ ทั้งๆ ระดับน้ำของ 2 มหาสมุทรต่างกันถึง 6-7 เมตร แต่ประเทศไทยไม่กล้าตัดสินใจใดๆ เป็นการเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศให้ยั่งยืน ทั้งๆ ที่ความเสี่ยงของระดับน้ำในอันดามันและอ่าวไทยก็ไม่เป็นอุปสรรค แตกต่างกันเพียง 50-100 ซม.เท่านั้น คลองยาวน้อยกว่าคลองนิการากัว หากนายกฯ รับเรื่องผลประชามติของคนใต้ที่ต้องการคลองไทย เราพร้อมสนับสนุนนายกฯ ให้อยู่อีก 4 ปี หากไม่มารับ เราพร้อมขับไล่ฐานอยู่มานาน 4 ปีแล้ว เพื่อให้คนอื่นเขาบริหารประเทศบ้าง. | พงษ์เทพ นำสมาคมคลองไทยเดินหน้า ยันขุดคลองเชื่อมทะเล อันดามัน-อ่าวไทย มีแต่ผลดี คน 5 จังหวัดภาคใต้เห็นด้วย ระบุรัฐบาลต้องเข้ามาศึกษาจริงจัง เตรียมบุกทำเนียบฯพบ บิ๊กตู่ หากมารับหนังสือผล | ข่าว,ทั่วไทย | คลองไทย,ขุดคลองไทย,สมาคมคลองไทย,คลองเชื่อมทะเล,พงษ์เทพ เทศประทีป,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1271862 |
เงิบทั้งโลก แองเจลินา โจลี ไม่เคยโพสต์ ทำไมไม่มีใครสนใจระเบิดที่เลบานอน | จากกรณีที่สังคมออนไลน์ทั่วโลกแห่แชร์ข้อความของ แองเจลินา โจลี นักแสดงสาวฮอลลีวูดชื่อดัง เจ้าของรางวัลออสการ์ และทูตพิเศษของสหประชาชาติ (UN) ว่าด้วยผู้ลี้ภัย ที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ เมื่อ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยได้ตั้งคำถามต่อชาวโลกว่า Whilst everyone talks about #Paris no one mentions the #ISIS attack in #Lebanon yesterday. I pray for both countries. หรือแปลว่า ,ขณะที่ทุกคนกำลังพูดถึงปารีส แต่ไม่มีใครพูดถึงการโจมตีของไอซิสที่เลบานอนเมื่อวานนี้เลย ฉันขอให้พระเจ้าคุ้มครองทั้ง 2 ประเทศ,หลังจากข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามากดไลค์และแชร์ต่อไปจำนวนมาก เพียงในเวลา 10 ชม. มีคนแชร์ไปแล้วถึง 4 แสนครั้ง นอกจากนี้ยังมีสำนักข่าวทั้งไทยและต่างประเทศได้นำโพสต์ของนักแสดงสาวไปรายงานต่อ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการไม่ให้ความสำคัญต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเลบานอน ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 41 ราย และบาดเจ็บกว่า 200 คน,ล่าสุด ,สายตรวจโซเชียล, ไทยรัฐออนไลน์ ได้ตรวจสอบพบว่า ข้อความที่อ้างว่า แองเจลินา โจลี เป็นผู้โพสต์ ได้เผยแพร่ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กที่ชื่อ ,OF.Angelina, ซึ่งมีผู้กดติดตามกว่า 2 ล้านคน แต่แฟนเพจนี้เป็นเพียงเฟซบุ๊กที่แฟนคลับของนักแสดงสาวจัดทำขึ้น และไม่ใช่แอคเคานท์ทางการของ แองเจลินา โจลี แต่อย่างใด โดยล่าสุดแฟนเพจดังกล่าวได้ถูกลบออกจากระบบของเฟซบุ๊กแล้ว รวมถึงโพสต์นี้ก็ถูกลบออกไปด้วย,ทั้งนี้ แองเจลินา โจลี ได้เคยให้สัมภาษณ์กับ ,People.com, ว่าทั้งเธอและสามี แบรดพิตต์ ไม่เล่นโซเชียลมีเดีย เนื่องจากไม่เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยี แต่เธอได้จ้างทีมงานเพื่อควบคุมเนื้อหาต่างๆ ที่ลูกๆ จะอ่านเจอในอินเทอร์เน็ต โดยทีมงานของเธอได้เปิดใช้บัญชีทวิตเตอร์ @AngelinaJolie และ @bradpitt เอาไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 แต่ตั้งค่าไม่อนุญาตให้ใครอ่านข้อความหรือกดติดตาม | แชร์สนั่น! แองเจลินา โจลี โพสต์เฟซบุ๊กถามชาวโลก เหตุใดไม่มีใครสนใจเหตุระเบิดที่เบรุต เลบานอน ล่าสุด สายตรวจโซเชียล ตรวจสอบแล้ว แค่เฟซบุ๊กแฟนคลับ | null | แองเจลินา โจลี,เฟซบุ๊ก,Angelina Jolie,เช็กก่อนแชร์,เลบานอน,เบรุต,ระเบิด,ระเบิด เลบานอน,ไอซิส,ISIS,Pray for Paris,ก่อการร้าย,ก่อการร้าย ปารีส,แฟนเพจ,ข่าว,ข่าวไทยรัฐ,ข่าวโซเชียล,ข่าวลือ,ข่าวมั่ว,สายตรวจโซเชียล,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,Thairath | https://www.thairath.co.th/content/540274 |
ตรวจสอบโกดังข้าว จ.นครสวรรค์ | เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า หรือ อคส. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ องค์การตลาดเพื่อการเกษตรกร หรือ อตก. พาณิชย์จังหวัดนครสวรรค์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบโกดังเก็บข้าว บริษัทแห่งหนึ่งในอ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นโกดังเก็บข้าวในโครงการรับจำนำของรัฐบาล หลังได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่า พบข้าวเน่าและไม่ได้คุณภาพ จากการตรวจเป็นข้าวในโครงการรับจำนำปีการผลิต 2555/56 เบื้องต้นไม่พบความผิดปกติ หรือการทุจริต อย่างที่มีการร้องเรียน แต่เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างข้าวไปตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการ เพื่อความถูกต้องอีกครั้ง โดยจะทราบผลภายใน 30 วันนายพงศ์วิทย์ เหลืองช่วยโชค รองผู้อำนวยการ อตก. กล่าวว่า หลังลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่าข้าวด้อยคุณภาพ แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่า กุญแจที่ใช้ล็อกประตูโกดังที่ปกติจะมี 3 ชุด แต่สำหรับโกดังแห่งนี้มีเพียง 2 ชุดเท่านั้น ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง | หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจังหวัดนครสวรรค์ ตรวจสอบโกดังเก็บข้าวในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลในอ.ลาดยาว หลังมีการร้องเรียนว่ามีข้าวสารด้วยคุณภาพในโกดัง | ภูมิภาค | ข้าว,จำนำข้าว,นครสวรรค์,โกดัง | https://news.thaipbs.or.th/content/208061 |
พิม เดี๋ยวร้องไห้เดี๋ยวหัวเราะ โดน แบงค์ หลอกแกล้งตายในละคร พรายสังคีต | โค้งสุดท้ายใกล้จบเต็มทีแล้วสำหรับละคร พรายสังคีต ฟาดฟันกับอาถรรพณ์และต่อสู้กับผีร้ายมาหลายยก ล่าสุดนี่คู่พระนาง แบงค์–อาทิตย์ กับ พิม–พิมประภา เกือบเอาชีวิตไม่รอด โดยฉากที่จะพาไปดูเป็นตอนที่ ยชญ์ (แบงค์) กับ เมญากร (พิม) ที่ทั้งคู่ขับรถประสบอุบัติเหตุ หญิงสาวฟื้นขึ้นมาก่อนตัวเองไม่เป็นอะไรมาก แต่พบว่า ยชญ์ ยังนอนสลบไสลไม่ได้สติ และดูท่าจะอาการหนัก เมญากร เป็นห่วงมาก ยิ่งพอมาเห็น ยชญ์ นอนคลุมผ้ายิ่งจิตตกร้องไห้ฟูมฟายพรั่งพรูความในใจออกมามากมาย แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าโดนหลอก>> อ่านเรื่องย่อนิยายทุกเรื่อง คลิกที่นี่ <<เบื้องหลังฉากนี้บทหนักต้องยกให้สาว พิม เพราะเจอดราม่าหนักคนเดียว ส่วน แบงค์ นอนชิลด์ๆ แต่ตอนท้ายก็มีหักมุมหวานเอาใจแฟนๆ เริ่มถ่าย พิม เข้าห้องมาพร้อมกับร้องไห้ฟูมฟายน้ำตามาเต็ม เห็นอาการแล้วเหมือนปิ่มว่าใจจะขาดตามที่ ผกก.ต้องการเป๊ะ หลังจากร้องไห้ไปพูดพรั่งพรูความในใจว่า ยังไม่ทันได้บอกรักเลยก็จากไปซะแล้ว ฮือๆ สักพักหนุ่ม แบงค์ ถึงได้ลืมตาแล้วลุกขึ้นมากอดปลอบขวัญ ทำเอา พิม เปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทัน จากโหมดเศร้าเป็นดีใจแล้วกอดกันกลม จากนั้นก็พูดกระเซ้าเย้าแหย่กันมุ้งมิ้งๆ ดูแล้วจิกหมอนขาดแน่นอนห้ามพลาดชมคืนนี้ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7. | โค้งสุดท้ายใกล้จบเต็มทีแล้วสำหรับละคร พรายสังคีต ฟาดฟันกับอาถรรพณ์และต่อสู้กับผีร้ายมาหลายยก ล่าสุดนี่คู่พระนาง แบงค์–อาทิตย์ กับ พิม–พิมประภา เกือบเอาชีวิตไม่รอด | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | พรายสังคีต,แบงค์ อาทิตย์,พิม พิมประภา,ละครผี,ฉากดราม่า,ต่อสู้กับผี,นิยาย,ละคร | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1798033 |
เลือกตั้ง 2562 : อายแทน กกต. พบผู้ใช้สิทธิสวมถุงกระดาษคลุมศีรษะเข้าคูหา | วันนี้ (24 มี.ค.2562) นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตเลขาธิการกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท เดินทางไปเลือกตั้งที่โรงเรียนบ้านคลองบัว เขตบางเขน (กรุงเทพมหานคร เขต 12) พร้อมนำถุงกระดาษที่เขียนข้อความว่า อายแทน กกต. พร้อมระบุผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า วันนี้เอาถุงกระดาษคลุมศีรษะปิดหน้าไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งเพื่อประท้วงการจัดการเลือกตั้งของรัฐบาล คสช. และคณะกรรมการการเลือกตั้งในประเด็นดังต่อไปนี้1.คณะกรรมการการเลือกตั้งใช้ดุลยพินิจค้านสายตาประชาชน ลงมติคดียุบพรรคไทยรักษาชาติอย่างรวดเร็วในขณะที่ละเลยข้อร้องเรียนการกระทำผิดของพรรคพลังประชารัฐ2.บรรยากาศการเลือกตั้งไม่เสรี มีการดำเนินคดีประชาชนที่ทำกิจกรรมทางการเมือง และมีการคุกคามนักการเมืองในระหว่างรณรงค์หาเสียง3.คณะกรรมการการเลือกตั้งและกระทรวงการต่างประเทศจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรผิดพลาด ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศต้องเสียสิทธิส่วนนี้4.คณะกรรมการการเลือกตั้งไร้ประสิทธิภาพในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่งผลให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก และยังทำให้ประชาชนที่ลงทะเบียนใช้สิทธิเชือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมากไม่ได้ใช้สิทธิทั้งที่ได้ออกไปยังหน่วยเลือกตั้งแล้ว5. กระบวนการดูแลบัตรลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าไม่โปร่งใส ตรวจสอบไม่ได้ น่าเป็นห่วงว่าจะมีการทุจริตหรือไม่หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ละอายใจต่อความบกพร่องในหน้าที่ของตน ขอแสดงความละอายใจแทนที่ประเทศชาติบ้านเมืองมีรัฐบาลและคณะกรรมการการเลือกตั้งเช่นนี้ | นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตเลขาธิการกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท สวมถุงกระดาษ อายแทน กกต. คลุมศีรษะปิดหน้าไปใช้สิทธิ | การเมือง | เลือกตั้ง2562,เลือกตั้ง62,กกต.,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/278671 |
เลอมาร์ ยิงโชว์ ตราไก่ ไล่จิกกังหัน 10 คน 4-0 ยึดฝูงกลุ่มเอ | การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2018 โซนยุโรปกลุ่มเอ ประจำวันที่ 31 ส.ค. เป็นการพบกันในคู่ระหว่าง ตราไก่ ฝรั่งเศส เปิดสนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ พบกับ กังหันสีส้ม เนเธอร์แลนด์,เกมนี้เจ้าบ้านนำทัพโดย พอล ป็อกบา, อองตวน กรีซมันน์ และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ส่วนทีมเยือนมี อาร์เยน ร็อบเบน และ โรบิน ฟานเพอร์ซี เป็นตัวทีเด็ด,เปิดฉากเกมขึ้นมาในครึ่งแรก ตราไก่ เปิดฉากเกมรุกเข้าใส่อย่างหนัก กระทั่งนาทีที่ 14 พวกเขาก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกชิ่งกันของ กรีซมันน์ กับ ชิรูด์ ก่อนที่ กรีซมันน์ จะหลุดไปยิงลอดระหว่างขา ซิเลสเซน นายด่านทีมเยือนเข้าไปและครึ่งแรกก็มีสกอร์เดียวที่เกิดขึ้น,เข้าสู่ครึ่งหลังนาทีที่ 62 สถานการณ์ของทีมเยือนย่ำแย่เข้าไปอีกเมื่อ เควิน สตรูทมัน ไปทำฟาวล์ใส่ อองตวน กรีซมันน์ จนโดนเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม,นาทีที่ 73 ตราไก่ มาได้ประตูหนีห่าง 2-0 โกมาน ไหลให้ ซิเดเบ เปิดไปติดกองหลังทีมเยือนเคลียร์ไม่ขาดบอลมาเข้าทาง โธมัส เลอมาร์ ยิงไม่จับด้วยซ้ายเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม,เกมเริ่มเปิดนาทีที่ 88 ตราไก่มาได้ประตูนำโด่ง 3-0 จากลูกโต้กลับไว อองตวน กรีซมันน์ หลุดเดี่ยวแต่ใจกว้างเยี่ยงมหาสมุทรถวายพานให้ เลอมาร์ ยิงง่ายๆเข้าไป,ไม่เพียงเท่านั้นช่วงทดเจ็บนาทีที่ 2 ฝรั่งเศสมาได้ประตูปิดกล่อง 4-0 จากลูกโต้กลับเหมือนเดิม ป็อกบา ไหลให้ เลอมาร์ จ่ายต่อให้ เอ็มบัปเป ยึกยักทำชิ่งกับ ซิเดเบ ก่อนจะจบด้วย เอ็มบัปเป ซัดด้วยขวาตุงตาข่าย และเป็นประตูแรกของเขาในนามทีมชาติด้วย,จบเกมการแข่งขัน ฝรั่งเศส ไล่ถล่ม เนเธอร์แลนด์ ขาดลอย 4-0 ผงาดขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มเอเรียบร้อย,ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่นมีดังนี้,กลุ่มเอ : บัลเกเรีย ชนะ สวีเดน 3-2,กลุ่มเอ : ลักเซมเบิร์ก ชนะ เบลารุส 1-0,กลุ่มบี : ฮังการี ชนะ ลัตเวีย 3-1,กลุ่มบี : โปรตุเกส ชนะ หมู่เกาะแฟโร 5-1,กลุ่มบี : สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ อันดอร์รา 3-0,กลุ่มเอช : เบลเยียม ชนะ ยิบรอลตาร์ 9-0,กลุ่มเอช : ไซปรัส ชนะ บอสเนีย 3-2,กลุ่มเอช : กรีซ เสมอ เอสโตเนีย 0-0 | โธมัส เลอมาร์ ซัดคนเดียวสองเม็ดพา ตราไก่ ฝรั่งเศส เปิดบ้านต้อนเอาชนะ กังหันสีส้ม เนเธอร์แลนด์ ที่เหลือ 10 คนเกือบครึ่งชั่วโมง 4-0 แซงหน้าสวีเดนขึ้นไปเป็นจ่าฝูงกลุ่มเอในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก
| กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก,ฝรั่งเศส,ตราไก่,เนเธอร์แลนด์,โธมัส เลอมาร์ | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/1056434 |
Unseen Thailand ว่าด้วยนักโทษการเมืองมนุษย์ล่องหนของคนอื่นๆ | นี่เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมศิลปะ เรื่องเล่าของมนุษย์ล่องหน โดยผู้จัดได้ชวนให้ผู้ที่สนใจ เปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นมนุษย์ล่องหน คำบรรยายบนหน้ากิจกรรมในเฟซบุ๊กระบุไว้กิจกรรมนี้จะมีขึ้นในวันที่ 2-22 มิ.ย.นี้ ที่ Book Republic แกลเลอรี See Scape แยกฟ้าธานี ถนนศิริมังคลาจารย์ และอีกหลายๆ จุดในเมืองเชียงใหม่เด็ด จงมั่นคง หนึ่งในผู้ร่วมจัดบอกว่า ไอเดียเริ่มแรกมาจากเกรียงศักดิ์ ธีระโกวิทขจร นักวิชาการกลุ่มทุนนิยาม และ Emily Hong นักกิจกรรม ที่ชวนกันจัดงานศิลปะเกี่ยวกับนักโทษการเมืองที่ถูกคนในสังคมเหยียบย่ำ ซ้ำเติมและตัดขาดในฐานะผู้ร่วมจัด เด็ดบอกว่า ประเด็นเรื่องกฎหมายอาญา มาตรา 112 เรื่องนักโทษการเมือง มีหลายคนที่หยิบมาพูดถึงแล้วในหลายทาง เขาซึ่งคุ้นเคยกับงานด้านวัฒนธรรม ก็อยากลองพูดมันจากมุมนี้บ้าง ทำหลายๆ ทางเหมือนป่าล้อมเมือง เบื้องต้น หวังเพียงอยากให้คนที่ไม่เคยได้รับรู้เรื่องนี้ได้รู้ ได้เห็น หรือตั้งคำถามว่า นักโทษการเมืองคืออะไรผลของมันอาจไม่เกิดเร็วๆ นี้และเป็นสิ่งที่ยากจะเกิดขึ้น แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะไม่ทำ เด็ดบอกเพราะมองว่า ความหมายของงานจะเคลื่อนไปตามบริบท การจัดงานครั้งนี้ จึงทดลองเล่นกับการรับรู้ของคนด้วยที่ Book Re: Public เขาลองเอางานศิลปะแบบที่ต้องตีความไปให้ไกลมาจัดวาง ขณะที่เลือกเอาภาพถ่ายที่สะท้อน ความจริงในสังคม ไปวางในอาร์ตแกลลอรี่ ที่ที่ไม่ค่อยมีใครพูดเรื่องนี้กันนัก เด็ดบอกว่า ถ้ามันอยู่สลับที่กัน จะเป็นสิ่งที่คุ้นเคยกว่า แต่เขาอยากทดลอง เช่นเดียวกับการจัดฉายภาพเคลื่อนไหวที่ริมถนนที่ผู้คนเดินไปมาขวักไขว่ จะทดลองว่าจะสื่อสารกับคนได้ไหม เขาบอก | ภาพโปรไฟล์ของเพื่อนบางคนในเฟซบุ๊กหายไปและเหลือไว้แต่รอยสีขาวๆ กระตุ้นต่อมอยากรู้ มันเล่นอะไร? | การเมือง,วัฒนธรรม | นักโทษการเมือง,นิทรรศการ,เด็ด จงมั่นคง | https://prachatai.com/journal/2012/06/40813 |
จ่อปรับมาตรการช่วยก๊าซหุงต้ม หาบเร่-แผงลอย-ร้านอาหารลดราคาแลกสิทธิ | ขณะที่ กกพ.จ่อหารือรับมือ คนไทยอาจจะต้องเสียค่าไฟแพง หลังเอกชนแห่ทำพลังงานใช้เอง,นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินมาตรการช่วยเหลือช่วยเหลือร้านค้า หาบเร่ แผงลอยให้ใช้ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในราคาต่ำ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) กว่าราคาตลาดจำนวน 380,000 ราย หลังจากรัฐบาลได้โยกกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้น้อยที่ได้ใช้แอลพีจีราคาถูก จำนวน 7 ล้านคนไปอยู่ในบัตรสวัสดิการคนจน ว่า ในขณะนี้อยู่ในระหว่าง พิจารณามาตรการช่วยเหลือกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอย ดังกล่าวเพื่อดำเนินการปรับปรุงในรายละเอียด เพื่อที่จะทำให้ประโยชน์ตกไปสู่ประชาชนจริงๆ,เพราะที่ผ่านมาจำนวนผู้ประกอบการมีการใช้สิทธิจริงเพียง 120,000 ราย และจากการตรวจสอบราคาอาหารก็ไม่มีการลดราคาลงตามต้นทุนที่รัฐบาลดูแลให้ ดังนั้น เมื่อในอนาคตรัฐบาลจะยังมีมาตรการช่วยเหลือร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอยู่เช่นเดิมก็จะมีการปรับรูปแบบใหม่เพื่อให้ประโยชน์ลงไปสู่ประชาชนผู้ซื้ออาหารได้จริง โดยขณะนี้มีแนวคิดหลายรูปแบบ เช่น การเพิ่มรายการสินค้าที่ประชาชนจะได้รับส่วนลด ขณะที่ร้านค้าเองอาจต้องมีสัญลักษณ์เพื่อบ่งชี้ว่าได้รับส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มจากรัฐบาล นอกจากนั้นประเภทร้านค้าคงไม่จำกัดแค่ร้านค้าขนาดเล็ก แต่อาจจะให้สิทธิร้านขนาดใหญ่ ภัตตาคาร สวนอาหาร เพื่อให้ร้านค้าทำส่วนลดราคาอาหาร ทั้งหมดนี้เพื่อประโยชน์ผู้บริโภค,นายวิฑูรย์กล่าวต่อว่า ช่วงที่ผ่านมา ธพ. ได้หารือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อพิจารณาแนวทางช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยร่วมกัน เพราะปัจจุบันมาตรการค่อนข้างมีความซ้ำซ้อน กระทรวงพลังงานมีส่วนลดแอลพีจี กระทรวงพาณิชย์มีงานธงฟ้าขายสินค้าราคาถูก โดย 2 มาตรการนี้อาจจะยุบรวม โดยเน้นสินค้าส่วนลดกลุ่มเกษตรเพื่อให้เกษตรกรได้ประโยชน์มากที่สุด ส่วนแอลพีจีบางส่วนที่มีการนำเข้าคนไทยไม่ได้ประโยชน์ โดยมาตรการใหม่นี้จะได้ข้อสรุปสิ้นปี,มาตรการส่วนนี้ยังมีเวลาจัดทำ โดยไม่จำเป็นต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ และประกาศใช้พร้อมกับมาตรการบัตรสวัสดิการคนจน เพราะกรณีนี้บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) รับภาระอยู่ และจากการหารือกับ ปตท. หากมาตรการไม่เสร็จข้ามไปถึงปี 2561 ปตท.ก็สามารถรับภาระได้ เพราะต้นทุนไม่มาก เนื่องจากกลุ่มครัวเรือนถูกโยกไปอยู่บัตรสวัสดิการคนจนแล้ว ขณะเดียวกัน ก็ต้องดูรายละเอียดของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนน้ำมัน ว่าจะสามารถนำเงินกองทุนฯ มาอุดหนุนแทน เพื่อทดแทน ปตท.ได้หรือไม่,สำหรับสถานการณ์ราคาแอลพีจีตลาดโลก คาดว่าเดือน ก.ย.ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นจากเดือน ส.ค.เนื่องจากได้รับปัจจัยจากภัยธรรมชาติ อาทิ พายุที่พัดเข้าประเทศต่างๆ จนกระทบต่อการผลิตปิโตรเลียมของโลก จากปกติที่ช่วงนี้ราคาแอลพีจีจะมีราคาถูก จึงคาดว่าวันที่ 6 ก.ย.ที่จะประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะรับทราบต้นทุนขายปลีกที่สูงขึ้นเป็น 20.49 บาทต่อ กก.ขึ้นอยู่กับ กบง.ว่าจะปรับขึ้นราคาตาม หรือใช้เงินกองทุนน้ำมันบัญชีแอลพีจีมาดูแลส่วนหนึ่ง หรือจะใช้เงินกองทุนน้ำมันบัญชีแอลพีจีเข้าไปดูแลราคาทั้งหมด,ขณะเดียวกัน นายวีรพล จิระประดิษฐกุล โฆษกกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ทาง กกพ.เตรียมเรียกทุกฝ่ายมาร่วมหารือว่าจะมีมาตรการรับมือทิศทางการผลิตไฟฟ้าประเภทพึ่งพาตนเองที่เริ่มมีมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) และติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัย (โซลาร์รูฟท็อป) เนื่องจากขณะนี้ภาคเอกชนเริ่มพึ่งพาระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้นที่อาจกระทบต่อการใช้ไฟฟ้าในระบบผลิตและจำหน่ายของ 3 การไฟฟ้าคือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ที่จะลดลงในระยะยาว ซึ่งอาจจะกระทบต่อประชาชนในอนาคต,ผู้ที่ติดตั้งระบบโซลาร์ชนิดต่างๆ ในปัจจุบันส่วนใหญ่ เป็นผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ต้องการลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ เพราะค่าไฟฟ้าถูกกว่าระบบที่ผลิตของ กฟผ. 10% ขึ้นไป แต่ผลกระทบที่ตามมา คือ การใช้ไฟฟ้าจากระบบปกติของประชาชนและโรงงานอุตสาหกรรมจะลดน้อยลง ดังนั้น ตัวหารเฉลี่ยการคำนวณค่าไฟฟ้าจะลดลงตามไปด้วย ซึ่งผลที่กระทบตาม คือ ค่าไฟฟ้าต่อหน่วยที่ประชาชนต้องแบกรับภาระรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น,นายวีรพล กล่าวต่อว่า เทรนด์ของเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการผลิตไฟฟ้าบวกกับต้นทุนการผลิต ไฟฟ้าจากระบบโซลาร์ที่ทยอยถูกลง ภาคเอกชนก็ปรับตัวลดต้นทุน จากการใช้ต้นทุนที่ถูกกว่าการพึ่งพาระบบผลิตไฟฟ้าของภาครัฐ ในช่วงเวลา กลางวัน ซึ่งเป็นเรื่องทางธุรกิจ แต่ต้องยอมรับว่ามีผลต่อการวางแผนผลิตไฟฟ้าทั้งด้านความมั่นคงและค่าไฟฟ้าที่ประชาชนอาจต้องจ่ายเพิ่มขึ้น กกพ. ก็ต้องการฟังความเห็นและวางแผนร่วมกันให้เกิดผลดีต่อทุกฝ่าย. | พลังงาน จ่อปรับมาตรการลดค่าก๊าซหุงต้มให้หาบเร่ แผงลอยใหม่ ให้ถึงประชาชน จริงๆ ระบุ หากได้รับส่วนลดจากรัฐ ควรลดราคาอาหารเป็นพิเศษให้คนกินด้วย เล็งขยายแนวคิดไปร้านใหญ่ ภัตตาคาร | ข่าว,เศรษฐกิจ | วิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์,ก๊าซหุงต้ม,ราคาอาหาร,ลดค่าก๊าซหุงต้ม,เศรษฐกิจ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1054360 |
มาแล้ว 2 สมาคมสื่อเรียกร้อง กสทช. ทบทวนคำสั่งจอดำวอยซ์ 7 วัน | เตือนระวังอำนาจฝ่ายอื่นแทรกแซงความเป็นอิสระ แนะพิจารณารายกรณี ใช้กฎหมายปกติ-กลไกตลาดจัดาร28 มี.ค. 2560 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกเรียกร้องให้ กสทช. ทบทวนคำสั่งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.)ที่สั่งพักใบอนุญาต Voice TVเป็นเวลา 7 วัน ชี้มติ กสท. ขัดรัฐธรรมนูญ และก่อให้เกิดผลกระทบกับวอยซ์ทีวีในฐานะเป็นองค์กรธุรกิจและองค์กรสื่อ ซึ่งมีคนทำงานอยู่ในหลายส่วนและอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของรายการ หรือมีส่วนรับรู้ในการกระทำการของพิธีกรรายการแต่ได้รับผลกระทบไปด้วยแถลงการณ์ระบุด้วยว่า การมีมติพักใบอนุญาตครั้งนี้เท่ากับ กสท.ยอมและเปิดทางให้อำนาจอื่นเข้ามาทำลายความเป็นอิสระของกสทช.โดยตรงเสียเองและมีผลกระทบต่อองค์กรสื่อที่อยู่ภายใต้การกำกับของ กสท.โดยตรง รวมทั้งทำลายน่าเชื่อถื่อของ กสท.และส่งผลกระทบต่อความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ขององค์กรสื่อมวลชนภายใต้การกำกับของ กสทช.ให้เลวร้ายลงไปอีก รวมถึง ความน่าเชื่อถือของสื่อมวลชนไทยก็ลดลงไปเช่นกันทั้งนี้ เสนอว่าหากรายการใดมีปัญหาก็ควรพิจารณาเป็นกรณีไป ไม่ควรใช้อำนาจพักใบอนุญาตทั้งสถานี หรือหากการเสนอเนื้อหาของ Voice TV หรือทีวีช่องใด มีผลกระทบต่อความมั่นคง หรือละเมิดสิทธิบุคคล หมิ่นประมาทบุคคลอื่น ผู้เสียหายหรือผู้มีส่วนได้เสีย ก็ชอบที่จะใช้สิทธิแจ้งความดำเนินคดี หรือฟ้องร้องตามกฎหมายปกติได้อยู่แล้ว และในแง่ของผู้บริโภคข่าวสาร หากสื่อใดนำเสนอรายการที่ไม่มีความรับผิดชอบ หรือละเมิดสิทธิผู้คน กลไกตลาด ผู้บริโภคข่าวสารจะเป็นคนตัดสินสื่อนั้นได้เช่นกันสืบเนื่องจาก กสท. สั่งพักใบอนุญาต Voice TV โดยอ้างเหตุผลว่า Voice TV กระทำผิดซ้ำซาก เพราะมีการออกอากาศรายการที่ขัดต่อประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 97 และ 103 ใน 3 รายการ ยังมีเนื้อหาไม่เหมาะสม ยุยงให้เกิดความแตกแยก ประกอบด้วย 1.รายการใบตองแห้งออกอากาศ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2560 เรื่องธรรมกายกับรัฐบาล 2.รายการ In Her View ออกอากาศวันที่ 20 มีนาคม 2560 เรื่องเครือข่ายโกตี๋กับอาวุธสงคราม และ 3.รายการ Over View ออกอากาศวันที่ 20 มีนาคม 2560 เรื่อง การวิสามัญฆาตกรรม นายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมชาวลาหู่ นั้นสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ขอคัดค้านมติของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ที่สั่งพักใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์ Voice TV เป็นระยะเวลา 7 วัน มีผลตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. 2560 ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้1.การสั่งพักใบอนุญาต ระงับการออกอากาศ Voice TV เป็นเวลา 7 วันได้ก่อให้เกิดผลกระทบกับวอยซ์ทีวีในฐานะเป็นองค์กรธุรกิจและองค์กรสื่อ ซึ่งมีคนทำงานอยู่ในหลายส่วนและอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของรายการ หรือมีส่วนรับรู้ในการกระทำการของพิธีกรรายการแต่ได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะลำพัง กสท.ใช้อำนาจสั่งพักรายการบางรายของ Voice TV ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบในการทำหน้าที่ของสื่อโดยตรง แต่การใช้อำนาจพักใบอนุญาต Voice TV ย่อมก่อให้เกิดผลกระทบที่ก่อให้เกิดความเสียหายที่รุนแรงยิ่งกว่าดังนั้น กสท.เป็นส่วนหนึ่งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ให้ใบอนุญาตกับผู้ประกอบการ และกำกับผู้ได้รับใบอนุญาต หากไม่ระมัดระวังในการใช้อำนาจ กสทช. จะเป็นองค์กรที่ทำลายเสรีภาพสื่อและองค์กรธุรกิจสื่อเสียเอง2. กสทช.เป็นองค์กรอิสระมีอำนาจและมีหน้าที่โดยตรงในการป้องกันไม่ให้อำนาจฝ่ายอื่นเข้ามาแทรกแซงความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ขององค์การสื่อที่ได้รับใบอนุญาตในการประกอบกิจการ กรณีที่ กสท. ได้อ้างถึงหนังสือร้องเรียนทางช่อง VoiceTV มาจากคณะกรรมการติดตามสื่อของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาจำนวน 4 รายการ มีมติพักใบอนุญาตครั้งนี้เท่ากับ กสท.ยอมและเปิดทางให้อำนาจอื่นเข้ามาทำลายความเป็นอิสระของกสทช.โดยตรงเสียเองและมีผลกระทบต่อองค์กรสื่อที่อยู่ภายใต้การกำกับของ กสท.โดยตรง รวมทั้งทำลายน่าเชื่อถื่อของ กสท.และส่งผลกระทบต่อความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ขององค์กรสื่อมวลชนภายใต้การกำกับของ กสทช.ให้เลวร้ายลงไปอีก รวมถึง ความน่าเชื่อถือของสื่อมวลชนไทยก็ลดลงไปเช่นกัน3. มติของ กสท. ยังขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญทั้งปี 2540 2550 และฉบับที่ผ่านประชามติที่ให้การรับรองบุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน และใช้เสรีภาพเสนอข่าวสารหรือแสดงความคิดเห็นตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ การสั่งปิดกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่นเพื่อลิดรอนเสรีภาพจะกระทำมิได้ การให้นำข่าวสารหรือข้อความใดๆที่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนจัดทำขึ้นไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจก่อนนำไปโฆษณาในหนังสือพิมพ์หรือสื่อใดๆ จะกระทำมิได้เช่นกัน ดังนั้นมติ กสท. ครั้งนี้เป็นใช้อำนาจที่ขัดแย้งกับหลักการพื้นฐานในการรับรองสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชน และกระทบต่อสิทธิต่อการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน ซึ่งบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับต่างๆ กำหนดไว้ว่า การสั่งปิดกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่นจะกระทำไม่ได้ ก็เพื่อให้องค์กรสื่อในส่วนที่ไม่ได้สร้างปัญหายังคงทำหน้าที่ต่อไปได้ในกรณีของ Voice TV หากรายการใดมีปัญหาก็ควรพิจารณาเป็นกรณีไป ไม่ควรใช้อำนาจพักใบอนุญาตทั้งสถานี หรือหากการเสนอเนื้อหาของ Voice TV หรือทีวีช่องใด มีผลกระทบต่อความมั่นคง หรือละเมิดสิทธิบุคคล หมิ่นประมาทบุคคลอื่น ผู้เสียหายหรือผู้มีส่วนได้เสีย ก็ชอบที่จะใช้สิทธิแจ้งความดำเนินคดี หรือฟ้องร้องตามกฎหมายปกติได้อยู่แล้ว และในแง่ของผู้บริโภคข่าวสาร หากสื่อใดนำเสนอรายการที่ไม่มีความรับผิดชอบ หรือละเมิดสิทธิผู้คน กลไกตลาด ผู้บริโภคข่าวสารจะเป็นคนตัดสินสื่อนั้นได้เช่นกันด้วยเหตุผลดังกล่าว สมาคมทั้งสองขอเรียกร้องให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทบทวนคำสั่งของ กสท. โดยด่วนและหากรายการใดมีปัญหา ก็สามารถใช้กฎหมายที่มีอยู่แล้วจัดการได้ แต่ต้องไม่ใช้อำนาจพักใบอนุญาตทั้งสถานีสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย28 มีนาคม 2560 | 2 สมาคมสื่อออกแถลงการณ์ เรียกร้อง กสทช. ทบทวนคำสั่งจอดำวอยซ์ทีวี 7 วัน ชี้มติ กสท.ขัดรัฐธรรมนูญ หากไม่ระมัดระวังในการใช้อำนาจ กสทช. จะเป็นองค์กรที่ทำลายเสรีภาพสื่อและองค์กรธุรกิจสื่อเสียเอง | การเมือง,สิทธิมนุษยชน,ไอซีที | กสท.,กสทช.,การเซ็นเซอร์,วอยซ์ทีวี,สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย,สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย | https://prachatai.com/journal/2017/03/70781 |
แถลงการณ์ชาวบ้านคัดค้านต่อต้านชาวม้งถ้ำกระบอก | ทางการแจ้งว่าจะมีการอพยพชาวม้ง จากศูนย์พักพิงชั่วคราวถ้ำกระบอก อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เพื่อมาพำนักอาศัยเป็นการชั่วคราว ณ บริเวณป่าต้นน้ำห้วยแม่ทู เขตบ้านจำปุย-ห้วยตาด ซึ่งเป็นต้นน้ำแม่เมาะที่ชาวตำบลบ้านดงใช้ร่วมกันมายาวนาน ซึ่งชาวม้งที่จะเข้ามาอยู่ครั้งนี้มีจำนวน 1500 คน เพื่อรอการอพยพไปที่อื่น แต่ชาวบ้านบ้านดงทั้งหมด มีข้อข้องใจหลายประการต่อการอพยพครั้งนี้ จึงได้ร่วมกันต่อต้านชาวม้งครั้งนี้ คือ 1.การเสี่ยงต่อการระบาดของยาเสพติด2.การเสี่ยงต่อการทำลายสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะป่าต้นน้ำ3.การเสี่ยงของการแพร่ระบาดของเชื้อโรคติดต่อต่างๆ4.ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตำบลบ้านดง5.สภาพแวดล้อมที่ถูกทำลายในการสร้างที่พักประมาณกว่า 100 ไร่ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบในการฟื้นฟู6.หากมาอยู่ตามที่ทางการแจ้งว่าเพียง 9 เดือน แต่ถ้าอยู่แล้วไม่ยอมย้ายไปไหน จะทำอย่างไรต่อไป | ทางการแจ้งว่าจะมีการอพยพชาวม้ง จากศูนย์พักพิงชั่วคราวถ้ำกระบอก อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เพื่อมาพำนักอาศัยเป็นการชั่วคราว ณ บริเวณป่าต้นน้ำห้วยแม่ทู เขตบ้านจำปุย-ห้วยตาด | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/03/2932 |
บุกยึดไม้เถื่อน สำนักสงฆ์ หลวงพ่อปืนโหด ยิงโยมดับถูกจับติดคุก | วันที่ 24 พ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังจากที่พระวิมล ตาบัว สุเมโธ อายุ 52 ปี เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์บ้านห้วยระพริ้ง หมู่ 8 ต.พะวอ อ.แม่สอด จ.ตาก ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา หลังจากเมื่อวันที่ 19 พ.ค. พระวิมลกับชาวบ้านรวม 5 คน นั่งดื่มสุราในกุฏิ แล้วเกิดทะเลาะวิวาท พระวิมลหยิบปืนยิงชาวบ้านบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ พระวิมลถูกจับสึก และส่งศาลฝากขังไปเรียบร้อยแล้วนั้นเช้าวันนี้ ร.อ.ศาสวัต สัตย์พงษ์ ผบ.ร้อยเครื่องยิงหนัก หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 จัดกำลังพล 2 ชุดปฏิบัติการ สนธิกำลังร่วมกับหน่วยป้องกันรักษาป่า ตก.8 (แม่ละเมา) ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 4 (ตาก) 4 ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ตาก 2 ศูนย์ป่าไม้ตาก เจ้าหน้าที่บก.ปทส.จว.ต. สภ.พะวอ สายตรวจปราบปรามสาย 1 สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 14 ตชด.346 อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ ร่วมกันเข้าตรวจสอบการลักลอบตัดไม้ ในพื้นที่สำนักสงฆ์ห้วยระพริ้งพบมีการลักลอบทำไม้ และไม้แปรรูปซุกซ่อนอยู่ในศาลาสำนักสงฆ์ จึงได้ร่วมสนธิกำลังเข้าตรวจยึดได้ของกลางหลายรายการ ประกอบด้วย1. ไม้หวงห้าม (พลวง หัวแมงวัน) จำนวน 5 ท่อน 2. ไม้หวงห้ามแปรรูป (พลวง หัวแมงวัน) จำนวน 119 แผ่น 3. เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ ยี่ห้อ STIHL สีส้ม – แดง จำนวน 1 เครื่อง พบวางอยู่ในภายในกุฏิพระ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งมอบของกลางดังกล่าวให้กับ พนักงานสอบสวน สภ.พะวอ เพื่อดำเนินการต่อไปนอกจากนี้ ยังจะมีการเรียกคืนพื้นที่สำนักสงฆ์บ้านห้วยระพริ้ง ที่สร้างอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ เนื่องจากมีพระจำวัดเพียงรูปเดียว และถูกจับสึกในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาไปแล้วดังกล่าว. | ทหาร ตำรวจ ป่าไม้ สนธิกำลังลุยยึดไม้เถื่อนสำนักสงฆ์หลวงพ่อปืนดุ เมาเหล้ายิงโยมที่ร่วมวงดับ เตรียมยึดคืนพื้นที่เพราะสร้างในเขตป่าสงวนแห่งชาติ แถมเจ้าอาวาสติดคุกไปแล้ว | ข่าว,ทั่วไทย | จับพระ,จับไม้เถื่อน,หลวงพ่อปืนโหด,พระฆ่าคนตาย,สำนักสงฆ์บ้านห้วยระพริ้ง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1851953 |
เจ้าหน้าที่ ม.สันติภาพโลก ยอมรับก่อตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต | พันตำรวจโทศักกพล สุขปาน หัวหน้าสำนักสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง 3 ราย คือ นายเรวัตร์ ชาตรีวิศิษฎ์ ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกในประเทศไทย นางประไพจิตร สว่างเนตร นายทะเบียน ที่อ้างว่าเป็นผู้ประสานงาน กับมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก ในประเทศปากีสถาน และนายสมัย เหมันต์ ผู้ดูแลระบบเทคโนโลยี โดยทั้งหมดยอมรับว่า ปริญญาบัตรที่ทางมหาวิทยาลัยมอบให้ ไม่สามารถนำไปรับรองวุฒิการศึกษาเพิ่มขึ้นได้ดีเอสไอจึงเตรียมเรียกบุคคลที่ได้รับใบปริญญาบัตรกว่า 1200 คน ให้ปากคำ โดยจะเรียกบุคคลที่มีชื่อเสียงก่อน และจะนำพนักงานสอบสวนลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงเพิ่มเติม พร้อมเร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับนายสวัสดิ์ บันเทิงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก ซึ่งถือเป็นตัวการใหญ่ในการจัดตั้งและดำเนินการนอกจากนี้ยังพบว่ามีการเปิดเป็นมูลนิธิศรัทธา ด้วยการอ้างว่าเป็นมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือสังคมและผู้ยากไร้ ซึ่งดีเอสไอจะเข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเงินเกี่ยวกับการบริจาคทั้งหมด ว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาคดีส่วนกรณีที่นายสุขุม วงษ์ประสิทธิ์ ลูกศิษย์ของหลวงปู่เณรคำ ที่นำใบปริญญาบัตรไปสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการคณะกรรมการการเลือกตั้งท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผู้รับสมัครและตรวจสอบคุณสมบัติ ของนายสุขุม เปิดเผยว่า วันนี้ (8 ก.ค.2556) จะมีการตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง โดยจะตรวจสอบว่า มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก ได้รับอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือไม่ เนื่องจากในขณะนั้นไม่มีหน่วยงานใดประกาศว่า มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก ไม่ได้รับอนุญาตจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยนอกจากนี้ในเวลานั้น กทม.ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงศึกษาธิการ เข้ามาช่วยตรวจสอบวุฒิการศึกษาด้วย ซึ่งหากพบว่ามีความผิดจริงจะแจ้งความดำเนินคดีกับนายสุขุม | กรุงเทพมหานครเตรียมตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หลังพบว่า มีผู้นำใบปริญญาของมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกมาสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ขณะที่เจ้าหน้าที่ภายในมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก ยอมรับ ก่อตั้งมหาวิทยาลัยโดยไม่ได้รับอนุญาต | อาชญากรรม | ดีเอสไอ,ผู้ว่าฯกทม.,มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก,สมาคมการศึกษา,สหรัฐฯ,เจ้าหน้าที่ | https://news.thaipbs.or.th/content/182554 |
แอ๊นท์ บัวศรีฟ้า เดือด ขอแฉ ปั๋ง บอกอย่าพูดความจริงไม่หมด | ยังคงเป็นกระแสดราม่าอยู่หลังจากที่ ปั๋ง ประกาศิต ไปเปิดใจในรายการคลับฟรายเดย์ ถึงอดีตคนเคยคุยกัน จนทำให้เพื่อนซี้ของสาวแอ๊นท์ บัวศรีฟ้า อย่าง พลอย เฌอมาลย์ ปรี๊ดแทนเพื่อน ออกโรงเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับเพื่อนผ่านอินสตาแกรม และแท็กไปถึง พี่ฉอด สายทิพย์ และ อั๋น ภูวนาท จนกลายเป็นข่าวใหญ่โต,ล่าสุดสาว แอ๊นท์ ได้มาเปิดใจในรายการแฉ ถึงอดีตคนพิเศษอย่าง ปั๋ง ประกาศิต แบบไม่เหลือ ไม่มีกั๊ก พร้อมประกาศให้ฝ่ายชายอย่าได้พูดพาดพิงถึงตนแบบไม่หมดเปลือกแบบนี้อีก โดยสาวแอ๊นท์เผยว่า,สถานะกับปั๋ง ไม่ได้เป็นแฟนกันนะคะ สถานะกับปั๋งเราเป็นแค่คนพิเศษ มันเป็นสถานะที่เวลาเราคบใครสักคนก็ควรจะมีสถานะให้เรียก คำว่าคนพิเศษ เรา 2 คนสามารถคุยกับใครอีกก็ได้ เราไม่ปิด อย่างที่บอกเค้าเป็นคนเจ้าชู้ เราก็รู้ แต่คนเจ้าชู้ไม่ใช่คนเลวเค้าไม่ได้ฆ่าใครตาย แต่การที่เราจะคบกันต่อไป เราจะเข้ากันได้และคลิกกันได้แค่ไหนก็เท่านั้นเอง เราก็เลยอยู่ในสถานะแค่นี้ เพราะเราก็ไม่ได้คิดที่จะหยุดอยู่ที่เค้า ก็พูดตรงๆ,เรารู้จักกันจนเกิดเรื่องราวของการโพสต์ เข้า 2 ปี ที่พลอยแท็กไอจีหา เพราะเค้ารู้เรื่องแอ๊นท์ดีอยู่แล้ว ด้วยอาชีพที่เราต่างกัน คนเลยไม่รู้ว่าเราสนิทกัน แต่เราคุยกันตลอด ถามว่าเคืองใครระหว่างพิธีกรหรือแขกรับเชิญ แอ๊นท์เข้าใจในการทำงาน ไม่ได้โกรธรายการไหนสักรายการ รายการมีหน้าที่ถาม แต่คนตอบต่างหากจะเลือกตอบอะไร,แอ๊นท์กับเค้าเลิกกันมาประมาณครึ่งปีแล้ว เรื่องไม่ได้มีอะไร เค้าสัมภาษณ์ในหลายรายการมาตลอด รายการคลับฟรายเดย์ถือว่าเบานะคะ แต่เค้ารู้ว่าสิ่งไหนที่แอ๊นท์ไม่ชอบ นั่นก็คือเรื่องการโพสต์อินสตาแกรม แอ๊นท์เป็นแม่ค้าออนไลน์ และเห็นว่าเค้าเป็นดาราเห็นเค้าโพสต์แล้วได้เงิน ก็เลยแนะนำเค้า ถึงรู้ว่าเค้ามีไอจีแต่เล่นไม่เป็น,เค้าก็เลยให้เราเล่นให้ และก็รู้ว่าก่อนหน้านี้ก็มีคนเล่นให้ เพราะคำพูดมันไม่ใช่ของเค้า ถึงบอกเค้าว่าให้เค้าเลือกรูป และเค้าก็เขียนแคปชั่นให้ แต่เราคือคนลง และรูปคู่รูปนี้ที่แอ๊นท์เลือกลงเอง แต่แคปชั่นเค้าเป็นคนเขียน,ส่วนเรื่องเปิดตัว แอ๊นท์ลงรูปคู่กับเค้าเมื่อไปมัลดีฟส์ เป็นรูปที่เอาหน้าสุนัขปิด และก็ไม่มีใครรู้มาโดยตลอด จนกระทั่งวันเกิดพาแอ๊นท์ไปดินเนอร์กัน แต่เค้าติดงาน ซึ่งเค้าก็นัดแนะกับเพื่อนว่าจะมา แล้วเค้าก็มาเฮฮาถ่ายรูปก็เลยคุกเข่า แต่ไม่ได้ขอแต่งงานนะคะ เพื่อนก็ถามลงรูปได้มั้ย เค้าก็บอกว่าลงเลย แต่อีกคนก็บอกเค้ารูปหน้าสุนัขปิดแหละ เค้าก็พูดว่าไม่ต้องปิด ใครก็รู้กันหมดแล้ว,เค้าต้องคิดถึงแม่เราด้วย ขอบคุณที่เค้าชมแอ๊นท์ในรายการ แต่ชมเบื้องต้น แต่ตอนจบมันดูมีนัย แต่รายการนึงที่ทำให้ความรู้สึกแอ๊นท์พีคคือ เค้าตอบคำถามเมื่อถูกถามว่า เป็นคนพิเศษขนาดนี้ เค้าบอกว่า อันนี้ก็ต้องขอดูก่อนนะครับว่าจะมากขนาดไหน พิธีกรถามต่อว่าเป็นแฟนได้หรือยัง เค้าก็ตอบว่า สำหรับความรู้สึกผมคิดว่ายังไม่ใช่ พิธีกรถามต่อว่าแล้วผู้หญิงจะไม่เสียใจเหรอ แล้วเค้าก็ตอบว่า ผมก็ต้องขอโทษที่ทำให้ทางผู้หญิงเสียใจหรือน้อยใจ แต่สิ่งที่ผมพูดมันออกมาจากความรู้สึกผมจริงๆ,ทำไมเค้าไม่พูดไปว่า เค้าและผู้หญิงได้ตกลงกันแล้วว่าจะเป็นแค่คนพิเศษ ไม่ใช่แฟน มันคือสิ่งที่ทำให้แอ๊นท์รู้สึกพีคมาก หลังจากที่เค้าไปออกรากยารนั้น ก็จะมีเด็กๆ เค้าแอดไอจี ส่งข้อความาร้องไห้ เยอะมากๆ จนแอ๊นท์บอกก็คบรวมไปเลย คบไปพร้อมกัน แต่ขอเป็นนัมเบอร์วันพอ เป็นคนโรคจิตค่ะ,ขอเป็นตัวแทนผู้หญิง 2017 ช่วยถามผู้หญิงด้วยว่าอยากจะให้คุณอยู่ในสถานะอะไร ไม่ใช่มีแค่คุณที่เป็นคนกำหนด หลังจากที่เค้าไปออกรายการนั้นก็เริ่มมีไอจีมาด่าเรา ด่าถึงบุพการี ก็เริ่มรับไม่ได้ ก็เลยรู้สึกให้เค้าต้องรับผิดชอบนิดนึง ก็เลยเป็นที่มาของการลงรูปคู่ในไอจีเค้ารูปนั้น แต่แคปชั่นเค้าเป็นคนเขียนเอง เพราะคุณควบคุมคนของเค้าไม่ได้,หลังจากที่ลงรูปนี้ก็เริ่มเฟสตัวออกจากกัน คือเค้าไม่ได้พูดโกหกนะ แต่เค้าพูดไม่หมด แอ๊นท์ไม่โอเคที่เค้าบอกว่าผู้หญิงคนนี้ทำให้เค้ารู้จักไอจี แล้วเค้าบอกให้ผมต้องมี ผมก็ต้องมี แอ๊นท์ไม่ชอบให้คนมองว่าเราเป็นผู้หญิงมโน ลงเอง เออเอง ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว คือเรื่องมันจบไปนานแล้ว ถ้าจะพูดอะไรก็พูดให้หมด อย่ากั๊ก., | แอ๊นท์ บัวศรีฟ้า อดีตคนพิเศษของ ปั๋ง ประกาศิต ขอแฉฝ่ายชาย หลังไปออกรายการคลับฟรายเดย์แล้วพูดความจริงไม่หมด! | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ปั๋ง ประกาศิต,แอ๊นท์ บัวศรีฟ้า,ปั๋ง แอ๊นท์,ปั๋ง ประกาศศิต ความรัก,ปั๋ง ประกาศิต เจ้าชู้,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1143982 |
โสมแดงโว ทดสอบขีปนาวุธนำวิถีสำเร็จรอบ 2 พร้อมประจำการ-ผลิตจำนวนมาก | ในวันจันทร์ที่ 22 พ.ค. สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ หรือ เคซีเอ็นเอ สื่อกระบอกเสียงของเกาหลีเหนือ ประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางชนิดใหม่ ที่พวกเขาอ้างว่ามีขีดความสามารถในการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 2 แล้ว เมินมติล่าสุดของสหประชาชาติที่เรียกร้องให้พวกเขายุติการทดสอบขีปนาวุธ,เคซีเอ็นเอ ระบุว่า การทดสอบครั้งนี้ได้ยืนยันการทำงานและความน่าเชื่อถือของเครื่องยนต์เชื้อเพลิงแข็งสำหรับขีปนาวุธ ปุกกุกซอง 2 รวมทั้งยืนยันการแยกส่วนของจรวด และระบบนำวิถีซึ่งอยู่ในขั้นตอนท้ายๆ ของการพัฒนา สำหรับหัวรบนิวเคลียร์ด้วย และนายคิม ก็ได้ออกคำสั่งให้ประจำการมิสไซล์ชนิดนี้ไปปฏิบัติการภาคสนามแล้ว,ขอกล่าวด้วยความภูมิใจ ว่าอัตรายิงเขาเป้าหมายของมิสไซล์ลูกนี้แม่นยำมาก และปุกกุกซอง 2 คืออาวุธเชิงยุทธศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จ เขา (คิม จอง-อึน) ได้อนุมัติให้ประจำการระบบอาวุธนี้เพื่อใช้งานจริงแล้ว เคซีเอ็นเอระบุ และอ้างคำพูดของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของประเทศมาควบคุมดูแลการทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้ด้วยว่า การทดสอบนี้แสดงให้เห็นว่ามิสไซล์ชนิดนี้พร้อมสำหรับประจำการ และผลิตเป็นจำนวนมากแล้ว,ทั้งนี้ เคซีเอ็นเอไม่ได้ระบุว่าพวกเขาทดสอบยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดนี้เมื่อใด แต่กองทัพเกาหลีใต้รายงานในวันอาทิตย์ว่าเกาหลีเหนือทำการทดสอบยิงขีปนาวุธรอบใหม่จากเมืองปุกชาง ทางตะวันตกของประเทศ โดยจรวดพุ่งขึ้นไปสูงระดับ 560 กม. และบินไปไกลประมาณ 500 กม. ก่อนตกในน่านน้ำนอกชายฝั่งทางตะวันออกเกาหลีเหนือ ขณะที่เมื่อวันที่ 12 พ.ค. เกาหลีเหนือเพิ่งทดสอบยิงขีปนาวุธ ฮวาซอง-12 จากเมืองเดียวกัน ซึ่งพวกเขาอ้างว่าสามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ได้,อนึ่ง ปุกกุกซอง 2 เป็นขีปนาวุธเวอร์ชั่นยิงจากภาคพื้นสู่ภาคพื้นของขีปนาวุธสำหรับยิงจากเรือดำน้ำของเกาหลีเหนือ ซึ่งมีการทดสอบครั้งแรกเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะที่การใช้เชื้อเพลิงแข็งในขีปนาวุธจะทำให้เกิดข้อได้เปรียบ เนื่องจากเก็บรักษาง่ายกว่าเชื้อเพลิงเหลว และเคลื่อนย้ายได้ง่ายกว่าด้วย | เกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธนำวิถีพิสัยกลาง ซึ่งมีขีดความสามารถในการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์แล้ว ถือเป็นการทดสอบขีปนาวุธครั้งที่ 2 ในรอบ 2 สัปดาห์ของเกาหลีเหนือ | ข่าว,ต่างประเทศ | เกาหลีเหนือ,ทดสอบขีปนาวุธ,ปุกกุกซอง 2,ขีปนาวุธนำวิถี,หัวรบนิวเคลียร์ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/948427 |
วิษณุ แจงมติ มส.ชงชื่อ สังฆราช ไม่ขัด พ.ร.บ.สงฆ์ | เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงผลการตีความมาตรา 7 พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 ของคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่า ตนเห็นนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงไปแล้ว สรุปกฤษฎีกาวินิจฉัยมา 3 ข้อ คือ 1.การพิจารณาผู้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช ต้องเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่มีความอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เรื่องนี้เป็นอำนาจของมหาเถรสมาคม (มส.) ที่จะระบุว่าสมเด็จฯ ที่เข้าข่ายคือใคร หากจะตั้งต้องตั้งตามที่ มส.เสนอ ตั้งนอกเหนือจากนั้นไม่ได้ 2.ตามมาตรา 7 วรรคสอง ใครจะเป็นผู้เริ่ม หากยกเรื่องนี้ขึ้นมา ต้องให้รัฐบาลโดยนายกฯ ขอ หรือ มส.สามารถยกเรื่องนี้ขึ้นเองแล้วส่งชื่อมา ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา บอกว่าสามารถทำได้ทั้งสองอย่าง มติของ มส.ที่ออกมาเมื่อเดือน ม.ค. ที่เสนอชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ก็เป็นไปตามเจตนารมณ์ตามมาตรา 7 วรรคสอง,นายวิษณุ กล่าวต่อว่า และ 3.การที่ผู้ตรวจการแผ่นดินมีหนังสือมาถึงรัฐบาล ต้องตีความว่าเป็นคำแนะนำหรือว่าเป็นการสั่งการ กรณีนี้ถือว่าเป็นคำแนะนำ ซึ่งรัฐบาลสามารถนำมาประกอบการพิจารณาได้ ไม่ใช่เรื่องที่ถูกบังคับว่าต้องปฏิบัติตาม ทราบว่านายสุวพันธุ์ จะแจ้งเรื่องนี้ให้ทาง มส.ทราบ และเข้าใจว่าวันนี้มีการประชุมในตอนบ่ายคงจะแจ้งในบ่ายวันเดียวกันนี้ และจะแจ้งรัฐบาลต่อไป โดยไม่ได้ไปแจ้งในคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่อย่างใด ส่วนดำเนินการอะไรต่อไปนั้น เป็นความรับผิดชอบของนายสุวพันธุ์ เนื่องจากยังมีหลายปัจจัยที่ต้องตรวจสอบกันต่อไป. | วิษณุ แจง 3 ข้อ ปมกฤษฎีกาตีความ เสนอชื่อสมเด็จพระสังฆราชของ มส. ไม่ขัด มาตรา 7 พ.ร.บ.คณะสงฆ์ | null | สังฆราช,แต่งตั้งสังฆราช,พ.ร.บ.คณะสงฆ์,วิษณุ เครืองาม,กฤษฎีกา,ตีความ,มติ มส.,เสนอชื่อ สังฆราช,วินิจฉัย,มาตรา 7,สมเด็จช่วง,สมณศักดิ์,มหาเถรสมาคม,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/661001 |
เซ็นทรัลพัฒนา แจงปิดชั่วคราว 9 สาขา ตามประกาศ กทม.เว้นซุปเปอร์มาร์เก็ต | เมื่อวันที่ 21 มี.ค.63 บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ออกแถลงการณ์ระบุว่า ประกาศปิดชั่วคราวศูนย์การค้า 9 สาขาในกรุงเทพฯ ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว ปิ่นเกล้า รามอินทรา บางนา พระราม 2 พระราม 3 แกรนด์ พระราม 9 และเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ มีผลตั้งแต่ 22 มี.ค.-12 เม.ย.63 (ศูนย์การค้านอกเขตกรุงเทพมหานครเปิดให้บริการตามปกติ) ยกเว้น เฉพาะบริเวณซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ยังเปิดให้บริการ สำหรับธุรกิจบางประเภทตามประกาศ กทม. ได้แก่1.ซุปเปอร์มาร์เก็ต ฟู้ดฮอลล์ และท็อปส์ 2.ร้านขายยา รวมทั้งบู๊ทส์ และวัตสัน 3.ร้านขายอาหารสัตว์ และสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น แฟมิลี่มาร์ท 4.ร้านอาหารที่จำหน่ายเพื่อนำกลับไปรับประทานที่อื่น หรือ ดีลิเวอรี่5.และอื่นๆ อาจจะมีประกาศเพิ่มเติมส่วนร้านอาหารในโซนอื่นๆ ที่ไม่ได้เปิดให้ลูกค้าเข้าใช้บริการ และประสงค์ให้บริการห่อกลับบ้าน หรือ ดีลิเวอรี่ ทางศูนย์การค้ายินดีจัดพื้นที่ชั้นซุปเปอร์มาร์เก็ต บริการรับและส่งออเดอร์ให้ลูกค้า และ อำนวยความสะดวกในการใช้พื้นที่ร้านในการประกอบอาหาร | เซ็นทรัลพัฒนา แถลงปิดชั่วคราว 9 ศูนย์การค้า ตามคำสั่ง กทม.ยกเว้นซุปเปอร์มาร์เก็ต ฟู้ดฮอลล์ และท็อปส์ ที่เปิดให้บริการตามปกติ พร้อมให้ร้านอาหารในศูนย์ฯ สามารถขายแบบห่อกลับบ้าน-ดีลิเวอรี่ | ข่าว,ทั่วไทย | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,เซ็นทรัลพลาซา,เซ็นทรัลพัฒนา,ปิดห้าง,ไฮไลต์ไวรัสโคโรน่า,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1800721 |
ชาวบ้านชี้เบาะแส ให้จับพ่อเล้าหนุ่ม ค้ากาม-เด็กหญิง ใช้กลุ่มไลน์ติดต่อ | อ้างต้องการหาเงินไปเลี้ยงดูครอบครัว,ตำรวจ บก.ปคม.รวบพ่อเล้าส่งเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 ธ.ค. พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.คธา เกษรมาลา รอง ผบก.ปคม. และกำลังตำรวจ กก.6 บก.ปคม. แถลงข่าวจับกุมนายสนั่น วันสามง่าม อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 96/1 หมู่ 3 ต.ห้วยพระ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ผู้ต้องหาพาเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปค้าประเวณี ติดตามจับกุมได้ที่โรงแรมมายด์โฮม รีสอร์ต ห้องเอ 3 ถนนสายสนามบินหาดใหญ่ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา,สืบเนื่องจากชุดสืบสวน กก.6 บก.ปคม.รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน ว่ามีข้อความประกาศขายบริการทางเพศจากเยาวชนหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ โดยใช้ชื่อกลุ่ม นัด นัด จึงประสานตำรวจ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ดำเนินการสืบสวนและส่งสายลับไปล่อซื้อบริการทางเพศจากกลุ่มไลน์ดังกล่าว นัดเจอที่โรงแรมมายด์โฮม รีสอร์ต อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กระทั่งผู้ต้องหารายนี้ขับรถเก๋งโตโยต้า ทะเบียน ขธ 7434 สงขลา มาจอดหน้าโรงแรม พาเด็กสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี 2 คน มาส่งพร้อมรับเงินค่าตัว 3,200 บาท ก่อนถูกเจ้าหน้าที่จับกุม,สอบสวนนายสนั่น ทราบว่าเป็นคนจัดหาเด็กมาค้าประเวณีเพียงลำพัง ไม่ได้ทำเป็นขบวนการ โดยเด็กหญิงติดต่อขอมาทำงานเอง ทำให้ไม่ทราบอายุและที่อยู่ของเด็กๆเหล่านี้ แต่ส่วนใหญ่มาจากภาคเหนือและอีสาน จะแบ่งเงินตามสัดส่วนแต่ละครั้งไม่เท่ากัน ได้ครั้งละประมาณ 500 - 1,000 บาท ทำไปเพราะทางบ้านยากจน ต้องการหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวหลังเลิกกับภรรยา เคยถูกจับมาแล้ว 1 ครั้ง เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี ซึ่งบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ตามความผิด พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ระวางโทษจำคุก 5-15 ปี | ชาวบ้านทนไม่ได้แจ้งเบาะแสประกาศค้ากามทางไลน์ ให้ตำรวจ บก.ปคม.ประสานตำรวจ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วางแผนรวบตัวพ่อเล้าหนุ่ม หลัง ล่อซื้อกามจากเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี 2 คน เจ้าตัวสารภาพเคยโดนจับมาแล้ว 1 ครั้ง ยังไม่เข็ด | null | ค้ากามทางไลน์,สภ.หาดใหญ่,สนั่น วันสามง่าม,ค้ากาม,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/content/824617 |
แอมเนสตี้ฯ วิพากษ์คำตัดสิน ไม่ปกติ จำคุก 25 ปีคดี 112 | แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล วิพากษ์การตัดสินลงโทษและสั่งจำคุกนักธุรกิจไทย 25 ปี ฐานวิจารณ์ราชวงศ์ผ่านเฟซบุ๊ก เป็นคำตัดสินที่ไม่ปรกติ ชี้ไทยจำเป็นต้องแก้ไข กม.หมิ่นที่ล้าสมัย 2 เม.ย. 2558 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 31 มี.ค. เรื่อง บทลงโทษจำคุก 25 ปีที่ไม่ปรกติสำหรับการวิจารณ์ราชวงศ์ ท่ามกลางแผนการยกเลิกกฎอัยการศึกแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลระบุว่า การตัดสินลงโทษและสั่งจำคุกนักธุรกิจไทยในเช้าวันที่ 31 มีนาคม 2558 เป็นเวลา 25 ปี ฐานการวิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์ผ่านข้อความในเฟซบุ๊ก เป็นคำตัดสินที่ไม่ปรกติ และแสดงให้เห็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ประเทศไทยต้องแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่ล้าสมัยศาลทหารของไทยมีความเห็นว่า นายเธียรสุธรรม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี มีความผิดห้ากระทงฐานโพสต์ข้อความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน 2557แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลชี้ว่า ในวันเดียวกับที่มีการตัดสินคดีนี้ นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชามีคำขอพระบรมราชโองการเพื่อประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวมอบอำนาจที่ปราศจากการตรวจสอบให้นายกรัฐมนตรีที่จะประกาศใช้กฎหมายใหม่แทนกฎอัยการศึก โดยอ้างว่าเพื่อรักษาความมั่นคงของชาตินับแต่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกในไทยเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 ประชาชนหลายร้อยคนได้ถูกควบคุมตัวโดยพลการ และอีกหลายสิบคนต้องเข้ารับการไต่สวนในศาลทหาร เนื่องจากใช้สิทธิการชุมนุมและการแสดงออกอย่างสงบรูเพิร์ต แอ็บบอตต์ (Rupert Abbott) รองผู้อำนวยการงานวิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเปิดเผยว่า การยกเลิกกฎอัยการศึกจะไม่ช่วยให้สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในไทยดีขึ้น หากมีการนำกฎหมายที่กดขี่ปราบปรามฉบับนี้มาใช้ แทนที่จะทำเช่นนั้น รัฐบาลไทยควรฟื้นฟูหลักนิติธรรมและการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้ถูกทำลายไปอย่างสิ้นเชิงเนื่องจากรัฐประหารเมื่อปี 2557การตัดสินลงโทษนายเธียรสุธรรมครั้งนี้ เป็นหนึ่งในบทลงโทษรุนแรงที่สุดที่ทางเราได้เห็นมา แสดงถึงสัญญาณที่น่ากังวลว่าทางการไทยมุ่งปราบปรามบุคคลที่แสดงความเห็นต่างเป็นเรื่องน่าเศร้าใจที่ในศตวรรษที่ 21 นี้ยังมีการคุมขังบุคคลเป็นเวลาหลายทศวรรษเพียงเพราะการวิจารณ์สถาบันกษัตริย์ การแสดงความเห็นอย่างสงบไม่ใช่อาชญากรรม นายเธียรสุธรรมต้องได้รับการปล่อยตัวทันที และต้องมีการยกเลิกหรือแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกรณีสิทธิมนุษยชนของไทยศาลทหารตัดสินลงโทษจำคุกนายเธียรสุธรรม 50 ปี แต่ลดโทษลงกึ่งหนึ่งเนื่องจากรับสารภาพผิด เขาไม่มีสิทธิอุทธรณ์คดีนี้ทั้งนี้ แถลงการณ์ระบุด้วยว่า นักธุรกิจคนดังกล่าวได้ถูกทหารควบคุมตัวเป็นเวลาห้าวันโดยไม่มีการตั้งข้อหา แต่เป็นการอ้างอำนาจตามกฎอัยการศึก เขาถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวโดยพลการและสอบปากคำจนกระทั่งเขายอมรับสารภาพต่อความผิดตามข้อกล่าวหา ในระหว่างนั้นเขาไม่ได้รับอนุญาตให้พบกับทนายความหรือครอบครัวในวันที่ 22 ธันวาคม 2557 นายเธียรสุธรรมถูกตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการว่าละเมิดมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา (กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ) โดยถูกนำตัวไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และถูกคัดค้านการประกันตัว | แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล วิพากษ์การตัดสินลงโทษและสั่งจำคุกนักธุรกิจไทย 25 ปี ฐานวิจารณ์ราชวงศ์ผ่านเฟซบุ๊ก เป็นคำตัดสินที่ไม่ปรกติ ชี้ไทยจำเป็นต้องแก้ไข กม.หมิ่นที่ล้าสมัย 2 เม.ย. 2558 แอมเนสตี้ | การเมือง,สิทธิมนุษยชน,ไอซีที | มาตรา 112,เธียรสุธรรม,เฟซบุ๊ก,แถลงการณ์,แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล,ใหญ่ แดงเดือด | https://prachatai.com/journal/2015/04/58688 |
ถวายราชสดุดี วางพานพุ่ม 60 ปี วันพระบิดาแห่งฝนหลวง | เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 58 ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีพิธีวางพานพุ่มและถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องใน วันพระบิดาแห่งฝนหลวง โดยมีนายวินัย วิทยานุกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานพิธี มีข้าราชการ ประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มเกษตรกร อาสาสมัครฝนหลวง อ.นาคู อ.ฆ้องชัย เข้าร่วม พิธีเริ่มด้วยผู้แทนหน่วยงานราชการ กลุ่มเกษตรกร อาสาสมัครฝนหลวง วางพานพุ่มถวายราชสักการะต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ประธานในพิธีได้เปิดกรวยถวายราชสักการะ วางพานพุ่ม และกล่าวสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบิดาแห่งฝนหลวง บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ร่วมร้องเพลงสดุดีมหาราชา และเพลงพ่อแห่งแผ่นดิน เป็นเสร็จพิธี ,ในปี พ.ศ.2558 ซึ่งถือเป็นวันครบรอบปีที่ 60 นับจากวันที่ 14 พ.ย.2498 ซึ่งเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริที่จะคิดค้นวิจัยหาวิธีการทำฝนหลวง เพื่อแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของเกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่ประสบภัยแล้ง รวมทั้งปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรน้ำของประเทศ จนเกิดเป็นโครงการพระราชดำริฝนหลวงสืบมาจนถึงปัจจุบัน สำหรับจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พระบิดาแห่งฝนหลวง ขึ้นเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ และซาบซึ้งในพระราชกรณียกิจที่ทรงบำเพ็ญคุณประโยชน์อย่างอเนกอนันต์ต่อประชาชนในโครงการพระราชดำริฝนหลวง,ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์ราชการจังหวัดอำเภอเมืองกำแพงเพชร นายรุ่งชัย ใบกว้าง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานประกอบพิธีวางพานพุ่มและถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจำปี 2558 โดยมี นายภาสกร บุญญลักษม์ ปลัดจังหวัดฯ นายวัชรินทร์ อ่อนนุ่ม เกษตรและสหกรณ์จังหวัดกำแพงเพชร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน , ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2545 เห็นชอบการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะทรงเป็น พระบิดาแห่งฝนหลวง และกำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปีเป็น วันพระบิดาแห่งฝนหลวง ภายในงานสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดกำแพงเพชรได้จัดนิทรรศการฝนหลวงเฉลิมพระเกียรติ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับทราบถึงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชดำรินำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ จนเกิดเป็นเทคโนโลยีฝนหลวง ที่สามารถขจัดความทุกข์ยากให้แก่พสกนิกรของพระองค์ที่ประสบภัยแล้ง อีกทั้งยังเป็นการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างสูงยิ่ง,ด้าน จ.สงขลา ที่อาคารอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย อ.เมือง จ.สงขลา นายปพน จันทร์เรือง เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องใน วันพระบิดาแห่งฝนหลวง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาครัฐ และเอกชน สมาชิกในสังกัดอาสาสมัครฝนหลวง และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน ทั้งนี้ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2545 กำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี เป็น วันพระบิดาแห่งฝนหลวง เพื่อให้ประชาชนทั่วไป ได้มีโอกาสแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงก่อให้เกิดเทคโนโลยีฝนหลวง ในการบรรเทาความทุกข์ยากแก่พสกนิกรให้รอดพ้นความเดือดร้อนและความเสียหาย เนื่องจากสภาวะภัยแล้ง และถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และปวงชนชาวไทย ที่เวียนมาบรรจบครบรอบเป็นปีที่ 60 แห่งการกำเนิดฝนหลวงพระราชทาน | หน่วยงานราชการรวมไปถึงภาคเอกชนในหลายจังหวัด ร่วมถวายราชสดุดี 60 ปี วันพระบิดาแห่งฝนหลวง ภายในงานมีพิธีถวายราชสักการะและวางพานพุ่ม พร้อมทั้งกล่าวสดุดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชดำริคิดค้น-วิจัยหาวิธีการทำฝนหลวง | ข่าว,ทั่วไทย | ฝนหลวง,วันพระบิดาฝนหลวง,ครบรอบ 60 ปี,หน่วยงานราชการ,ร่วมถวายราชสดุดี,วางพานพุ่ม,การทำฝนหลวง,ในหลวง,แก้ภัยแล้ง,ข่าว,ข่าวสังคม,ข่าวทั่วไทย,ภูมิภาค,กำแพงเพชร,สงขลา,กาฬสินธุ์,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/539441 |
สิงโตคำรามมั่นใจ เกมรุกพร้อมบดไอซ์แลนด์ | ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ และแฮร์รี เคน เป็น 3 ประสานในแนวรุก คาดว่าสเตอร์ริดจ์จะทำเกมทางฝั่งซ้าย, ลัลลานา ยืนฝั่งขวา และเคน ยืนเป็นหน้าเป้าในการดวลกับไอซ์แลนด์ ศึกฟุตบอลยูโร 2016 รอบ 16,ทีมสุดท้าย คืนนี้ (27 มิ.ย.) ด้านกิลฟี ซิกูร์ดสัน กองกลางตัวเก่งของไอซ์แลนด์ ลั่นต้องจับตาย เวย์น รูนีย์ กองหน้ากัปตันทีมอังกฤษหากหวังโค่นทีมสิงโตคำราม คู่นี้ถ่ายทอดสดทางช่อง 3 เอสดี เริ่ม 02.00 น. ส่วนเกมอีกคู่ กระทิงดุ สเปน แชมป์เก่า ปะทะ อัซซูรี อิตาลี รองแชมป์เก่า เกมนี้อิตาลี หวังล้างแค้นสเปน หลังเคยพ่ายแพ้ยับเยิน 0-4 ในนัดชิงยูโร 2012 แต่อิตาลีมีข่าวร้าย เมื่อจะไร้อันโตนิโอ คันเดรวา กองกลางตัวเก่งจากลาซิโอลงบู๊ เพราะบาดเจ็บ คาดว่าจะเป็นการดวลกันของทีมที่มีเกมรับเหนียวแน่นเจอกับทีมที่เน้นเกมรุกบุกแหลก คู่นี้เริ่มเตะเวลา 23.00 น. ยิงสดให้ชมทางช่อง 3 เอชดี,ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2016 รอบสุดท้าย ที่ประเทศฝรั่งเศส คืนวันจันทร์ที่ 27 มิ.ย. เป็นเกมน็อกเอาต์รอบ 16 ทีมอีก 2 คู่สุดท้าย คู่แรกเป็นเกมระหว่าง แชมป์เก่า กระทิงดุ สเปน ปะทะรองแชมป์เก่า อัซซูรี อิตาลี ที่สนามสตาด เดอ ฟรองซ์ ในแซงต์ เดนีส์ ถ่ายทอดสดให้ชมทางช่อง 3 เอชดี โดยการเจอกันของทั้งสองทีมนัดนี้,ถือเป็นการรีแมตช์ย้อนรอยนัดชิงชนะเลิศของศึกยูโร 2012 เมื่อ 4 ปีก่อน ตอนนั้น กระทิงดุ สเปน เป็นฝ่ายถล่มเอาชนะ อัซซูรี อิตาลี ยับเยินขาดลอย 4-0 ผงาดคว้าแชมป์ยูโรเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน,แมตช์นี้พลพรรคนักเตะทีมชาติอิตาลีมุ่งมั่นเต็มที่เพื่อต้องการล้างแค้นเอาชนะสเปนให้ได้ สำหรับความพร้อมของทัพ อัซซูรี นั้น คาดว่า จิอันลุยจิ บุฟฟอน ยอดนายทวารจอมหนึบจากยูเวนตุส จะฟิตพร้อมกลับมาลงเฝ้าเสา ส่วนแนวรับ มี จอร์โจ คิเอลลินี และเลโอนาร์โด โบนุชชี ยืนค้ำเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ต้องเจองานหนักในการประกบจับตาย อัลบาโร โมราตา และโนลิโต 2 กองหน้าทีม กระทิงดุ ให้อยู่หมัด,ขยับมาที่แดนกลาง อันโตนิโอ คอนเต กุนซือทีมชาติอิตาลี ต้องลุ้นว่าอันโตนิโอ คันเดรวา กองกลางตัวเก่งจากลาซิโอ จะฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนามนัดนี้หรือไม่ หลังมีอาการบาดเจ็บรบกวน อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีการยืนยันว่า คันเดรวาหมดสิทธิ์ลงเล่นเกมฟัดกับสเปนแน่นอนแล้ว คาดว่าจะเป็นอเลสซานโดร ฟลอเรนซี ที่จะได้ลงมาเล่นแทน แต่มิดฟิลด์คนอื่นที่เหลืออย่าง ดานิเอเล เด รอสซี, มาร์โก ปาโรโล และเอมานูเอเล จัคเครินี พร้อมออกสตาร์ตเป็นตัวจริงทั้งหมด ส่วนแดนหน้า คาดว่ากราเซียโน เปลเล จะได้ลงล่าตาข่ายเป็นตัวจริงคู่กับเอแดร์เช่นเดิม,เชื่อกันว่าเกมนี้จะเป็นการต่อสู้กันระหว่าง ทีมที่มีเกมรับที่แข็งแกร่งเหนียวแน่นอย่างอิตาลีเจอกับทีมที่เล่นเกมรุกบุกแหลกอย่างสเปน นอกจากนี้ยังเป็นการประชันความหนึบในการป้องกันประตู ระหว่าง 2 สุดยอดนายทวารของโลกในยุคนี้อย่าง จิอันลุยจิ บุฟฟอน จอมหนึบของอิตาลี กับดาวิด เด เคอา มือกาวของสเปนด้วย,ส่วนฝั่ง กระทิงดุ สเปนต้องโทษตัวเองที่พลาด ท่าแพ้โครเอเชีย 1-2 ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี ทำให้หล่นมาเป็นที่ 2 และต้องมาเจอกับคู่ปรับเก่าอย่างอิตาลี แชมป์กลุ่มอี ก่อนเวลาอันควรในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ขนาดที่บิเซนเต เดล บอสเก กุนซือหนวดหินทีมชาติสเปน ยังออกมาโอดครวญว่าไม่น่าเจอกับอิตาลีเร็วเกินไปตั้งแต่รอบ 16 ทีมเลย,อย่างไรก็ตาม เดล บอสเก ได้กระตุ้นนักเตะ กระทิงดุ ให้เล่นเต็มที่เหมือนนัดชิง สำหรับความพร้อมของทีมสเปนนั้น กุนซือหนวดหินทีมกระทิงดุ ไม่มีปัญหาในการจัดทัพ โดยจะจัดใหญ่เต็มสูบลงบู๊ มีดาวิด เด เคอา มือกาวจากค่าย ผีแดง แมนฯยู ลงเฝ้าเสา แนวรับนำโดยเซร์คิโอ รามอส กัปตันทีม, เคราร์ด ปิเก, จอร์ดี อัลบา และฮวนฟรานมาดูที่แดนกลางกันบ้าง เซร์คิโอ บุสเกตส์ รับบทเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ ขณะที่เชส ฟาเบรกัส เป็นจอมทัพตัวปั้นเกม ร่วมกับอันเดรส อิเนียสตา ส่วนสามประสานแนวรุกเป็นดาวิด ซิลวา, โนลิโต และอัลบาโร โมราตา โดยเฉพาะโมราตานั้น กำลังโชว์ฟอร์มร้อนแรง ด้วยการซัดไปแล้ว 3 ประตูขึ้นนำเป็นดาวซัลโวร่วมในศึกยูโร 2016,ที่ผ่านมาทั้งสองทีมเคยเจอกันมาแล้ว 35 ครั้ง ปรากฏว่าสูสีคู่คี่ โดยทั้งสเปนและอิตาลีต่างคว้าชัยชนะได้ทีมละ 10 ครั้งเท่ากัน ส่วนที่เหลืออีก 15 ครั้งเสมอกัน แต่ทว่าในนัดชิงชนะเลิศศึกยูโร 2012 สเปนเป็นฝ่ายถล่มเอาชนะอิตาลีราบคาบ 4-0 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ ที่กรุงเคียฟของยูเครน เมื่อ 4 ปีก่อน,สำหรับเกมคู่ที่ 2 สิงโตคำราม อังกฤษ ทีมขวัญใจมหาชนชาวไทย ที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมในฐานะรองแชมป์กลุ่มบี จะดวลกับไอซ์แลนด์ ทีมอันดับ2 กลุ่มเอฟ ที่ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ฟุตบอลยูโรได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่สนามสตาด เดอ นีซ เริ่มแข่งขันเวลา 02.00 น. ถ่ายทอดสดให้ชมทางช่อง 3 เอชดี,ก่อนที่จะลงเล่นเกมนี้ ทีมชาติอังกฤษต้องเจอ ข่าวร้าย เมื่ออดัม ลัลลานา กองกลางตัวรุกจากลิเวอร์พูล โชคร้ายได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าขวาระหว่างฝึกซ้อมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้เป็นที่คาดกันว่า รอย ฮอดจ์สัน กุนซือทีมชาติอังกฤษ จะตัดสินใจปรับแท็กติกในแนวรุก โดยจะส่งแฮร์รี เคน กองหน้าจากสเปอร์ส ที่ยังยิงประตูไม่ได้เลยในทัวร์นาเมนต์นี้ ลงเป็นตัวจริง ประสานงานในแนวรุกร่วมกับเจมี วาร์ดี และดาเนียล สเตอร์ริดจ์,นอกจากนี้ อังกฤษจะได้แดนนี โรส กับไคล์ วอล์กเกอร์ 2 วิงแบ็ก คัมแบ็กกลับมาเป็นตัวจริง เช่นเดียวกับเดเล อัลลี และเวย์น รูนีย์ กัปตันทีม ก็จะได้คืนตัวจริงในแผงมิดฟิลด์เช่นกัน คาดว่า รอย ฮอดจ์สัน นายใหญ่ทีมสิงโตคำรามจะจัดทีมเล่นระบบ 4-3-3 ในการเจอกับไอซ์แลนด์,ขณะเดียวกัน รอย ฮอดจ์สัน ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ได้สั่งให้ลูกทีมซ้อมยิงจุดโทษอย่างจริงจัง ก่อนเกมดวลกับไอซ์แลนด์ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เผื่อว่าต้องดวลเป้าตัดสิน หากทำอะไรไอซ์แลนด์ ไม่ได้ในช่วงปกติ 90 นาที และช่วงต่อเวลาพิเศษ สำหรับ 5 นักเตะที่คาดว่าจะรับหน้าที่ยิงจุดโทษให้อังกฤษ คือ เวย์น รูนีย์, แฮร์รี เคน, เอริก ดายเออร์, เจมี วาร์ดี และเจมส์ มิลเนอร์,ด้านไอซ์แลนด์ ชาติเล็กๆในยุโรปที่มีประชากรเพียง 300,000 คน จะจัดผู้เล่นชุดดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ลงบู๊ นำโดยกิลฟี ซิกูร์ดสัน กองกลางตัวเก่ง ที่ตอนนี้ค้าแข้งกับสวอนซี ซิตี้ ทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่รู้ไส้รู้พุงนักเตะทีมสิงโตคำรามเป็นอย่างดี ขณะที่ซิกูร์ดสันดาวเตะตัวรุกทีมชาติไอซ์แลนด์ เผยว่า ทางเดียวที่จะโค่นทีมชาติอังกฤษลงได้ จะต้องจับตายหยุดเวย์น รูนีย์ กัปตันทีมชาติอังกฤษ ให้ได้ เพราะรูนีย์เป็นนักเตะที่ดีที่สุดและอันตรายที่สุดของทีมสิงโตคำราม,ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทีมชาติอังกฤษ มีรายงานว่า อดัม ลัลลานา กองกลางตัวรุกจากลิเวอร์พูล สลัดอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าขวา กลับมาฟิตทันลงเล่นให้ทีมสิงโตคำรามในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่จะเจอกับไอซ์แลนด์ในคืนนี้ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ รอย ฮอดจ์สัน กุนซือทีมชาติอังกฤษ อาจมีการปรับทัพ โดยจะส่งอดัม ลัลลานา, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ และแฮร์รี เคน เป็นสามประสานในแนวรุก สื่อเมือง ผู้ดีมองว่า สเตอร์ริดจ์จะทำเกมทางฝั่งซ้าย ลัลลานายืนฝั่งขวา และเคนยืนหน้าเป้า ขณะที่เจมี วาร์ดี กองหน้าเลสเตอร์ ซิตี้ จะหลุดไปเป็นตัวสำรองเหมือนเดิม ที่ผ่านมาทั้งสองทีมเคยพบกันมาเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น อังกฤษชนะ 1 เสมอ 1 และยังไม่เคย เสียท่าแพ้ให้กับไอซ์แลนด์เลย นอกจากนี้ ทีมสิงโตคำรามยังฉีกตาข่ายไอซ์แลนด์ได้ถึง 7 ประตู ขณะที่ไอซ์แลนด์ยิงอังกฤษได้แค่ 2 ลูกเท่านั้น | สิงโตคำราม อังกฤษ มีข่าวดีเมื่ออดัม ลัลลานา กองกลางลิเวอร์พูล หายเจ็บพร้อมลงสนามเป็นตัวจริง ทำให้รอย ฮอดจ์สัน กุนซือขรัวเฒ่า อาจปรับทัพโดยจะส่งลัลลานา,ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ และแฮร์รี เคน เป็น 3 ประสานในแนวรุก | null | ข่าวหน้า1,ยูโร,ฟุตบอลยูโร,ยูโร 2016,ฟุตบอลยูโร2016,ทีมชาติอังกฤษ,ไอซ์แลนด์,เวย์น รูนีย์,กิลฟี ซิกูร์ดสัน,สเปน,อิตาลี,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/648046 |
เต็มที่แล้ว ซัปโปโร ดวลโทษพ่าย ฟรอนตาเล ชวดแชมป์ลูวานคัพ | วันที่ 26 ต.ค. 62 การแข่งขันฟุตบอลลูวาน คัพ 2019 รอบชิงชนะเลิศที่สนามไซตามะ สเตเดียม โดยคู่นี้เป็นการพบกันระหว่าง ฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร ลงสนามพบกับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล,เปิดฉากเริ่มเกมมาแค่ 10 นาที ฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ โคสึเกะ ชิราอิ เปิดบอลให้กับ ไดกิ ซึงะ วอลเลย์ด้วยขวาบอลชนคานกระดอนมาโดน โชตะ อราอิ เข้าประตูไป,นาทีที่ 20 คาวาซากิ ฟรอนตาเล ชวดได้ประตูตีเสมอเมื่อ เลอันโดร ดามิเยา ยิงบอลโล่งๆ บนเส้น 6 หลาดันโชคร้ายบอลไปชนเสาเต็มๆ ,แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกนาทีที่ 45+3 คาวาซากิ ฟรอนตาเล มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 จากลูกเตะมุมของที่บอลเลยไปเสาสองที่ ฮิโรยูกิ อาเบะ จับบอลลงแล้วยิงด้วยซ้ายตุงตาข่าย,ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 88 คาวาซากิ ฟรอนตาเล พลิกขึ้นนำเป็น 2-1 เมื่อ ยู โคบายาชิได้หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงอย่างเฉียบขาดบอลสวนตัว กู ซุง ยุน เข้าประตูไป,ทว่าช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร ตามตีเสมอเป็น 2-2 จากจังหวะที่ คาซูกิ ฟูกาอิ ขึ้นโขกจากลูกเตะมุมบอลเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม หลังจากนั้นก็จบ 2-2 ต้องต่อเวลาอีก 30 นาที,นาทีที่ โทโกะ ทานิกูชิ แนวรับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล ไปตัดฟาวล์ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จนโดนใบแดงไล่ออกจากสนามหลังมีการเช็กภาพจากวีเออาร์,โดยจังหวะต่อเนื่องกันนั้น อคิโตะ ฟูกูโมริ ได้ซัดเต็มข้อบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าประตูอย่างสวยงามสุดๆ ทำให้ ฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร พลิกกลับมาขึ้นนำอีกครั้งเป็น 3-2 และจบครึ่งแรกของช่วงต่อเวลาพิเศษด้วยสกอร์นี้,เปิดฉากครึ่งของช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 109 คาวาซากิ ฟรอนตาเล มาตามตีเสมอเป็น 3-3 จากผลงานของ ยู โคบายาชิ โดยจบเกม 120 นาทีด้วยสกอร์และต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ ปรากฏว่า คาวาซากิ ฟรอนตาเล ยิงได้แม่นกว่าเอาชนะ ฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร 5-4 คว้าแชมป์ ลูวาน คัพ ไปครองได้สำเร็จ | ฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร เล่นได้อย่างเต็มที่แล้วก่อนท้ายที่สุดท้ายจะพ่ายดวลจุดโทษ คาวาซากิ ฟรอนตาเล 4-5 หลังเสมอกันในเวลา 120 นาที 3-3 ชวดแชมป์ ลูกวานคัพ | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | เมสซีเจ,ชนาธิป สรงกระสินธ์,ฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร,คาวาซากิ ฟรอนตาเล,ลูวาน คัพ | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1690725 |
ร.10 โปรดเกล้าฯ พระราชทานสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จ.สตูล | วันที่ 23 ส.ค.60 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัย ที่เกิดจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ทำให้เกิดฝนตกปริมาณมากในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ในภาคใต้ของประเทศไทย ส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนราษฎร พื้นที่ทำการเกษตร และสิ่งสาธารณประโยชน์ในจังหวัดสตูล ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พล.อ.บัณฑิตย์ มลายอริยศูนย์ ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระราชูปถัมภ์ เดินทางไปให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดอุทกภัยเป็นการเร่งด่วน และเชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย ใน อ.ละงู อ.ทุ่งหว้า และ อ.มะนัง ณ หอประชุมโรงเรียนกำแพงวิทยา อ.ละงู จังหวัดสตูล จำนวน 1,500 ครอบครัว,สำหรับ จ.สตูล ได้รับผลกระทบจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ทำให้เกิดฝนตกปริมาณมากในพื้นที่จังหวัดสตูล ตั้งแต่วันที่ 11-15 ส.ค.60 ได้รับความเสียหายรวม 7 อำเภอ 28 ตำบล 139 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จำนวน 23,236 คน และราษฎรเสียชีวิต 1 ราย พื้นที่การเกษตรเสียหาย 5,175 ไร่ ในอำเภอละงู ได้รับความเสียหาย 5 ตำบล 43 หมู่บ้าน อำเภอมะนัง 2 ตำบล 15 หมู่บ้าน และอำเภอทุ่งหว้า 3 ตำบล 13 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 8,231 คน,ทั้งนี้ปัจจุบันสถานการณ์การเกิดอุทกภัยได้คลี่คลายลง แต่ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางพื้นที่ ในตอนเช้า เวลา 09.30 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบแก่ราษฎร ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสาหร่าย หมู่ 7 (เกาะหลีเป๊ะ) ณ องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสาหร่าย ม.7 (เกาะหลีเป๊ะ) อ.เมืองสตูล จำนวน 500 ครอบครัว รวมทั้งพระราชทานเงินสงเคราะห์แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต และพระราชทานอาหารแก่ราษฎรที่เดินทางมารับถุงพระราชทานด้วย ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ | สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภคมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยใน จ.สตูล ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ | ข่าว,ทั่วไทย | ร.10,สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว,สตูล,ถุงพระราชทาน,น้ำท่วม | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1047579 |
ตรวจสอบรถก๊าซแอลพีจี ชนคอสะพานถนนพัฒนาการ วันนี้ | พ.ต.ท.กฤษดา ขันโสดา พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลคลองตัน เปิดเผยความคืบหน้ากรณีรถบรรทุกแก๊สแอลพีจีพุ่งชนคอสะพาน ถนนพัฒนาการ บริเวณปากซอยพัฒนาการ 20-22 เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย ว่า หลังจากนี้ที่พนักงานสอบสวนได้ส่งหมายเรียกนายอนันต์ แก้วมา คนขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นทราบว่าหลบหนีไปแล้ว หากใน 1 - 2 วันนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อมอบตัว ตำรวจจะยื่นศาลเพื่ออนุมัติออกหมายจับ โดยไม่ได้รอออกหมายเรียกครั้งที่ 2 เนื่องจากมีพฤติการณ์หลบหนีที่ชัดเจน ส่วนการสอบปากคำพยานเบื้องต้น ขณะนี้ได้สอบปากคำจนเกือบครบหมดแล้ว ขาดเพียงนายบัวผัน สุวรรณแสน ช่างไม้ที่บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลเพชรเวช คาดว่า 1- 2 วันนี้ จะสามารรถให้การได้ขณะที่รถแก๊สคันเกิดเหตุได้ถูกนำมาจอดที่บริเวณลาดจอดรถใกล้กับสน.คลองตัน เพื่อรอการตรวจพิสูจน์หลักฐานจาก เจ้าหน้าที่กองวิศวกรรมเครื่องยนต์ กรมการขนส่งทางบก และสำนักการโยธากรุงเทพมหานคร โดยจะมุ่งประเด็นไปที่ ถังบรรจุแก๊สว่าได้มาตรฐานหรือไม่ ซึ่งในช่วงเย็นของวันนี้มีกำหนดที่เจ้าของบริษัทจะเข้าให้ปากคำ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะสอบถามถึงสัญญาว่าจ้างของพนักงานขับรถ หลักฐานเกี่ยวกับทะเบียนรถ ใบประกอบการขนส่ง และตรวจสอบความาปลอดภัยตามที่ระเบียบกฎหมายกำหนดว่า มีหรือไม่ | วันนี้ (26 มี.ค.) เจ้าหน้าที่กองวิศวกรรมเครื่องยนต์ กรมการขนส่งทางบก และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน จะเดินทางมาตรวจสภาพรถบรรทุกก๊าซ แอลพีจี ที่ชนคอสะพาน บริเวณถนนพัฒนาการ เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา | อาชญากรรม | กรมการขนส่งทางบก,กองวิศวกรรมเครื่องยนต์,ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน,รถบรรทุกก๊าซ,แอลพีจี | https://news.thaipbs.or.th/content/75126 |
กระบะ หลับใน ชนท้ายเก๋งครอบครัว เจ็บรวม 8 ราย ลูกชายอาการโคม่า | เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 27 ม.ค.62 พ.ต.ท.บุญสฤษฎิ์ ช่วยชู สว.(สอบสวน) สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ตรวจสอบเหตุรถชนกัน บนทางด่วนบูรพาวิถี กม.46 ขาเข้าชลบุรี หมู่12 ต.บางปะกง อ.บางปะกง,ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแมค สีขาว ทะเบียน ถอ 2360 กรุงเทพมหานคร พลิกตะแคงอยู่บนถนน มี นายสรวิศ วงษ์รักไทย อายุ 27 ปี เป็นคนขับได้รับบาดเจ็บ ใกล้กันพบ รถเก๋ง มิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีบอร์น-ทอง ทะเบียน กง 2893 ระยอง ถูกชนท้ายพังเสียหายจนถึงห้องโดยสาร มีนายประสงค์ กลิ่นมาลัย อายุ 43 ปี เป็นคนขับและมีครอบครัวที่นั่งมาโดยรวม 7 คนได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 1 ในนั้นเป็นลูกชายได้รับบาดเจ็บทางสมอง อาการสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11,สอบสวนนายสรวิศ ให้การว่าขณะที่กำลังขับรถกลับไปชลบุรี พอมาถึงจุดเกิดเหตุ เกิดหลับในทำให้รถพุ่งชนท้ายรถเก๋งด้านหน้าเต็มแรงก่อนจะพลิกคว่ำ,ด้านนายสมประสงค์ ให้การว่า ขณะที่กำลังขับรถจะพาครอบครัวกลับบ้านที่ระยอง พอมาถึงจุดเกิดเหตุก็ถูกชนท้ายเต็มแรง ทำให้รถกระเด็นเกือบชนขอบแบริเออร์ คนที่นั่งมาในรถบาดเจ็บทั้งหมดจากแรงกระแทก. | หนุ่ม 27 ขับกระบะหลับในบนทางด่วนบูรพาวิถี ก่อนจะพุ่งชนท้ายเก๋งพาครอบครัวกลับบ้านที่ระยอง อย่างเต็มแรง รถพังยับ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 8 ราย | ข่าว,ทั่วไทย | หลับใน,ชนท้าย,กระบะหลับใน,บาดเจ็บ,ทางด่วนบูรพาวิถี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1481141 |
ดิว เพลียโดนดราม่านั่งเก้าอี้เสมอพระ เช็กข้อมูลแล้วไม่ผิดหลักศาสนา | ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์ รับงงโดนดราม่าด่า หลังไผ่ วันพอยท์ ควงไปทำบุญวันเกิด เหตุนั่งเก้าอี้โดนมองทำตัวเสมอพระ แจงไม่ผิดหลักศาสนา เพราะเช็กข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ฟุ้งจัดเซอร์ไพรส์วันเกิดให้หนุ่มไผ่ พร้อมซื้อนาฬิกาให้เป็นของขวัญ, ,หลังเป็นกระแสดราม่าโดนวิพากษ์วิจารณ์จัดเต็มในอินสตาแกรมประเด็นนั่งเก้าอี้เสมอพระ ล่าสุดเจอตัว สาวดิว เธอเลยชี้แจงว่า วันนั้นไปทำบุญวันเกิดพี่ไผ่ เป็นการทำบุญชุดใหญ่ มีการทำบังสุกุลด้วย แล้วมีเพื่อนรุ่นพี่ถ่ายรูปให้ เราก็เลยเอาลงไอจีไม่ได้คิดอะไร จนเห็นคอมเมนต์ว่าเรานั่งเก้าอี้เสมอพระ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เราเลยงงว่า เราทำผิดจริงหรือเปล่า ก็เลยไปค้นหาข้อมูลว่าการนั่งเก้าอี้แบบนี้ทำได้หรือเปล่า ปรากฏว่าสามารถทำได้ไม่ผิดอะไร บางคนอาจจะไม่รู้เลยเข้าใจผิดได้ เราไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็มีหลายคนที่มาคอมเมนต์แก้แทนเรา ปกติเราก็ไปวัดนี้ก็ทำแบบนี้อยู่แล้ว พี่ไผ่จะทราบดีเพราะมาบ่อย,มีอีกดราม่าว่าให้คนสนิทนั่งพื้นแล้วตัวเองนั่งเก้าอี้ เหมือนเป็นการแบ่งชั้นวรรณะหรือเปล่า วันนั้นทางวัดจัดเก้าอี้ให้สองตัว ตอนแรกคุณแม่พี่ไผ่จะมาด้วย แต่ภายหลังไม่มา เราก็เลยจะให้พี่ที่ดูแลเราไปนั่งแทน แต่ทางผู้ดูแลอยากให้เรานั่งกับพี่ไผ่ เราก็นั่ง ไม่ได้คิดว่าจะเป็นกระแสดราม่าหนักขนาดนี้ จากนี้ไปจะต้องระวังมากขึ้นไหมนั้น เราทำตามจิตศรัทธา เราไม่ได้ทำอะไรผิด ,แล้ววันเกิดพี่ไผ่ที่ผ่านมาเห็นว่าไปเซอร์ไพรส์วันเกิดพี่ไผ่ที่ทะเล ค่ะเราจัดใหญ่เลย เพราะเราทำอะไรทำใหญ่ ตอนนี้ทางพี่ไผ่คงคิดหนักหน่อยถ้าถึงวันเกิดดิว (ยิ้ม) ส่วนของขวัญมีให้นาฬิกาเรือนที่พี่ไผ่อยากได้ ราคาไม่แพงค่ะ | ดิว อริสรา รับงงโดนดราม่าด่า หลังไผ่ วันพอยท์ ควงไปทำบุญวันเกิด เหตุนั่งเก้าอี้โดนมองทำตัวเสมอพระ แจงไม่ผิดหลักศาสนา เพราะเช็กข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ฟุ้งจัดเซอร์ไพรส์วันเกิดให้หนุ่มไผ่ พร้อมซื้อนาฬิกาให้เป็นของขวัญ | null | ดิว อริสรา,ไผ่ วันพอยท์,ดิว ไผ่,อริสรา ทองบริสุทธิ์,ดิวนั่งเก้าอี้เสมอพระ,ดิวนั่งเก้าอี้,วันเกิดไผ่ วันพอยท์,ดิวเซอร์ไพรส์วันเกิดไผ่,ไผ่ วันพอยท์แฟนดิว,ดราม่าดิว อริสรา,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/495529 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.