title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
ฟัง เสี่ยหนู 4 เงื่อนไขร่วมรัฐบาล หรือ จะย่างก้าวขึ้นนั่งนายกฯ (คลิป) | มีแต่คนถามภูมิใจไทยจะร่วมกับคนนั้น คนนี้ได้หรือเปล่า ผมอยากจะถามกลับว่า คนนั้นคนนี้จะร่วมงานกับภูมิใจไทยได้หรือเปล่า,เชื่อว่าตอนนี้คง, หัวกระได, ไม่แห้ง สำหรับ ,เสี่ยหนู นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, เพราะเมื่อหันไปมองส่วนผสมตั้งรัฐบาลสูตรไหนก็ต้องมีชื่อพรรค ภูมิใจไทย อยู่ในนั้นทั้งสิ้น,คงเป็นเพราะ ,การเลือกตั้ง, ครั้งนี้ทางภูมิใจไทยได้เสียงสวรรค์จากประชาชนอย่างเป็นกอบเป็นกำ ได้ที่นั่ง ส.ส.เขตถึง 39 ที่นั่ง และมีการคาดการณ์ว่าหากไม่มีอะไรผิดพลาดก็จะได้บัญชีรายชื่ออีก 12 ก็เป็นถึง 51 เสียง เรียกว่าเป็นตัวแปรที่สำคัญทำให้รัฐบาลใหม่ทำงานได้,เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ หัวหอกพรรคใหญ่อย่างเพื่อไทย แม้จะได้เสียง ส.ส. เขตมากมาย 137 แต่กลับไม่ได้บัญชีรายชื่อแม้แต่เสียงเดียว ได้เปิดข้อเสนอที่สุดยั่วยวนใจให้ ,เสี่ยหนู, นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี,โอ้โห เรียกว่าให้ขนาดนี้ เสี่ยหนู มีหรือจะไม่คิดหนัก,การเมือง The Series, โดย ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, ได้เคยสัมภาษณ์เปิดใจ,เสี่ยหนู, และเคยถามว่า, อยากเป็นนายกรัฐมนตรีไหม?, นายอนุทิน ตอบว่า คนที่มาเล่นการเมืองก็หวังที่จะได้รับตำแหน่งที่สามารถสั่งการในเชิงนโยบายได้ ฉะนั้น นักการเมืองทุกคนต้องทำการเมือง เพื่อให้ได้ไปสู่การทำประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่แค่ว่าเป็น ส.ส. อย่างเดียว,คำตอบดังกล่าว อาจจะยังไม่ตรงสักทีเดียว ทีมข่าวฯ ถามย้ำอีกว่า อยากเป็นนายกฯ ไหม นายอนุทิน นิ่งสักครู่ ก่อนตอบว่า, ผมก็เคยคิด ถ้าทำได้ ทำได้หรือยัง ทำได้คือ การทำงานอย่างขยันขันแข็ง ต้องคิดอะไรที่เป็นประโยชน์ หากวันหนึ่งประชาชนให้ความมั่นใจ แล้วสั่งให้ต้องทำงานใหญ่ให้กับบ้านเมือง ซึ่งคำสั่งของประชาชน คือ คะแนนที่จะมอบให้ ถ้าวันนั้นมาเพราะเราไม่ได้เป็นตัวเราเอง เราไม่สามารถแต่งตั้งตัวเองได้ ผู้กำหนดสั่งให้เราเป็นอย่างไรก็อย่างนั้น,นอกจากนี้ ทีมข่าวฯ ยังได้ยิงคำถามสำคัญอีกว่า ,หากพรรคเกิดต้องถือคะแนนสำคัญ สามารถโหวตใครขึ้นเป็นนายกฯ ได้ นายอนุทินจะเลือกจากอะไร หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, กล่าวว่า ,ทุกอย่างมาจากลำดับความสำคัญ 1.ประเทศ 2.ประชาชน 3.ความชอบธรรม 4.ต้องถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ขัดศีลธรรม ประเพณี ที่ควรจะเป็น อธิบายแล้วทุกคนยอมรับในการตัดสินใจของเราส่วนจะเลือกใคร พรรคไหน ให้รอดูผล | เชื่อว่าตอนนี้คง หัวกระได ไม่แห้ง สำหรับ เสี่ยหนู นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เพราะเมื่อหันไปมองส่วนผสมตั้งรัฐบาลสูตรไหนก็ต้องมีชื่อพรรคภูมิใจไทย อยู่ในนั้นทั้งสิ้น | เลือกตั้ง | อนุทิน ชาญวีรกูล,เสี่ยหนู,ตั้งรัฐบาล,ภูมิใจไทย,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1530136 |
ฟาน กัล อัด มาตา หลังถูกไล่ออกเกมพ่ายเวสต์บรอมฯ | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 7 มี.ค. ว่า หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีม ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาตำหนิ ฆวน มาตา กองกลางทีมชาติสเปน ที่โดนไล่ออกตั้งแต่ต้นเกม ซึ่งมีส่วนสำคัญทำให้ ปิศาจแดง บุกไปแพ้ เดอะ แบ็กกีส์ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 0-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา,มาตา ถูกใบเหลืองในนาทีที่ 23 จากจังหวะไปยืนขวางไม่ให้เวสต์บรอมวิชเล่นฟรีคิกเร็ว และถัดมาเพียง 3 นาที เขาก็โดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนามไป หลังไปทำฟาวล์ใส่ ดาร์เรนต์ เฟลทเชอร์ ตรงกลางสนาม ซึ่งหลังจบเกม ฟาน กัล ยอมรับ รู้สึกไม่พอใจ มาตา อย่างมาก,ใบเหลืองแรกมันโง่เง่าสิ้นดี เพราะคุณก็รู้อยู่แล้วว่าทำแบบนั้นมันจะทำให้ต้องโดนใบเหลือง แต่ใบเหลืองที่สอง คุณรู้ว่าคุณโดนใบเหลืองไปแล้วคุณต้องตระหนักถึงการโดนใบเหลืองที่สอง คุณทำลายความได้เปรียบของทีมไป แต่ผมคิดว่าผู้ตัดสินก็ต้องรู้จักนักเตะที่ทำฟาวล์ด้วย เพราะ มาตา ไม่เคยพยายามที่จะทำร้ายคู่แข่ง ฟาน กัล กล่าว | หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตำหนิ ฆวน มาตา มิดฟิลด์เลือดกระทิง ที่โดนไล่ออกตั้งแต่กลางครึ่งแรก ทำให้สุดท้ายปิศาจแดงบุกไปพ่าย เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 0-1 | null | พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,หลุยส์ ฟาน กัล,ฆวน มาตา,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/587065 |
แกนนำเสื้อแดง บินพบ ทักษิณ หยอดคำหวาน คิดถึงคนไทยเสมอ | เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 61 นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงอุดรธานี ส่งไลน์ส่วนตัวถึง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี ระบุว่า ขณะนี้อยู่ประเทศสิงคโปร์ พร้อมภาพถ่ายคู่กับ ,นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี, โดยท่านเปิดโอกาสให้ นายอานนท์ แสนน่าน นำคณะเข้าพบโดยมี นายสมชัย แสงทอง ตัวแทนจากภาคเหนือ นางนิตยา นาโล ตัวแทนจากภาคอีสาน และ นางธนภัทร พันธวาส ตัวแทนกลุ่มเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชน เพื่อรับนโยบายในการขับเคลื่อนช่วยเหลือประชาชน,ขณะที่ ดร.ทักษิณ ยังกล่าวว่า คิดถึงประชาชนชาวไทย และห่วงความเป็นอยู่ของประชาชน อยากจะให้ประชาชนได้มีอาชีพทำกันทุกคน มีรายได้มากๆ อยากจะให้พวกเราดูแลกันและกันไม่ทิ้งกัน โดยเฉพาะประชาชนที่ขาดโอกาสและกลุ่มเกษตรกร ถ้ามีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง เศรษฐกิจของไทยจะดีขึ้นและประชาชนก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้น,นายอานนท์ เผยต่อว่า สำหรับการเข้าพบ ดร.ทักษิณ ในครั้งนี้รู้สึกดีใจมาก หลังจากที่ไม่ได้เจอตั้งแต่เดือนพ.ค. 2557 ก่อนปฏิวัติเพียงไม่กี่วัน ในช่วงนั้นท่านอายุประมาณ 60 ปี แต่ตอนนี้ท่านอายุเกือบจะ 70 ปี แต่หน้าตาท่านเหมือนคนอายุเพียง 50 ปี ไม่เหมือน 4 ปี ที่ผ่านมา ที่หน้าตาท่านดูเหมือนคนมีอายุมาก พวกเราก็ดีใจท่านเองได้ยกกำปั้นและแสดงท่าทีให้ดู ถึงสมรรถภาพร่างกายของท่านแข็งแรงมาก และที่สำคัญหุ่นดีมาก พร้อมฝากถึงสมาชิกและประชาชนชาวไทยที่ยังรักท่าน ว่า ,อายุเป็นเพียงตัวเลข ร่างกายแข็งแรงและพร้อมทุกอย่าง,. | ห่วงความเป็นอยู่! แกนนำหมู่บ้านเสื้อแดง บินพบ ทักษิณ ที่ประเทศสิงคโปร์ พร้อมหยอดคำหวาน คิดถึงคนไทยเสมอ เชื่อหลังเลือกตั้งเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น | เลือกตั้ง | ทักษิณ ชินวัตร,แกนนำเสื้อแดง,เสื้อแดง,เลือกตั้ง,อดีตนายกรัฐมนตรี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1427203 |
อนค.ร้อง กกต.ประสานให้แรงงานนครปฐมออกมาใช้สิทธิ์โดยไม่เป็นวันลา | วันนี้ (3 ต.ค.2562) ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ นำโดย น.ส.วรรณวิภา ไม้สน นายทวีศักดิ์ ทักษิณ และนางอมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชื่อรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ร่วมกับ สภาองค์การลูกจ้างแรงงานยานยนต์ ยื่นหนังสือต่อ กกต.เรียกร้องถึงมาตรการดำเนินการจัดการเพื่อไม่ให้เกิดอุปสรรคต่อผู้ที่จะใช้สิทธิเลือกตั้งเขตเลือกตั้งที่ 5 จ.นครปฐม ในวันที่ 23 ต.ค.นี้แม้จะเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ แต่ก็เป็นวันหยุดกลางสัปดาห์ ที่หน่วยงานภาคเอกชน และอุตสาหกรรมโรงงาน อาจไม่ได้เป็นวันหยุดหรือยินยอมให้พนักงานหยุดได้ จึงอาจก่อให้เกิดความไม่สะดวกของประชาชน ที่ต้องเดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันนั้น และยังกังวลเนื่องจากวันดังกล่าวเป็นวันสำคัญ รวมทั้งประชาชนในพื้นที่สะท้อนมาว่าไม่ได้ไปใช้สิทธิอาจสูญเสียสิทธิต่าง ๆ ทางกฎหมายได้ โดยเฉพาะกลุ่มแรงงาน นักศึกษา จึงขอความชัดเจนจาก กกต.ให้ประสานภาคอุตสาหกรรม เปิดให้วันดังกล่าวให้แรงงานออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งโดยไม่เป็นวันลาก่อนหน้านี้ กกต.ออกเอกสารข่าวชี้แจงการกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่พุธ 23 ต.ค.ว่า เป็นวันหยุดที่ กกต.สามารถจัดการเลือกตั้งได้ภายใน 45 วันนับแต่วันที่ตำแหน่งว่าลงตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด และ กกต.ต้องจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งแต่ละหน่วยเลือกตั้งและปิดประกาศไว้ที่หน่วยเลือกตั้ง หรือสถานที่ที่ประชาชนสะดวกสำหรับการตรวจสอบไม่น้อยกว่า 25 วันตามมาตรา 36 ของ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. | ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ยื่น กกต. เรียกร้องให้ประสานภาคอุตสาหกรรมโรงงานในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 5 จังหวัดนครปฐม เปิดให้แรงงานที่มีสิทธิ์เลือกตั้งออกไปใช้สิทธิ์ได้โดยไม่เป็นวันลา ซึ่งจะมีการเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 23 ตุลาคมนี้ | การเมือง | กกต.,นครปฐม,เลือกตั้งซ่อม,อนาคตใหม่ | https://news.thaipbs.or.th/content/284807 |
นักวิชาการแย้งผล มีเดียมอนิเตอร์ ศึกษาสื่อช่วงเลือกตั้ง-ห่วงไทยพีบีเอสไม่ต่างช่องอื่น | (27 ก.ย.54) ในเสวนาเรื่อง บทบาทสื่อมวลชนในการพัฒนาคุณภาพประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้าน สิริพรรณ นกสวน สวัสดี ผู้อำนวยการศูนย์ติดตามประชาธิปไตยไทย คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งคำถามถึงระเบียบวิธีวิจัยของมีเดียมอนิเตอร์ว่า เหตุใดช่วงเวลาที่ศึกษา จึงเลือกเฉพาะวันปราศรัยของ ปชป.เท่านั้น ขณะที่วันปราศรัยของพรรคเพื่อไทยก็เป็นปรากฏการณ์ใหญ่เช่นกัน เท่ากับมีเดียมอนิเตอร์ไม่ได้ให้พื้นที่กับพรรคอื่นหรือไม่ นอกจากนี้ การเลือกศึกษาช่วงวันที่มีการจัดดีเบตวิสัยทัศน์ มีเดียมอนิเตอร์กลับไม่ได้ตั้งคำถามว่าการดีเบตถูกต้องตามกระบวนการหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่ใช่การดีเบต แต่ก็ไม่มีสื่อฉบับไหนตั้งคำถามด้าน เนื้อหาที่มีการวิจารณ์ว่าสื่อเสนอแต่ส่วนย่อย เน้นอารมณ์และมีอคตินั้น สิริพรรณเสนอว่า สื่อควรทำข่าวเชิงลึกมากขึ้น ต้องมองไปข้างหน้าว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น ไม่ใช่เล่นตามกระแส โดยการเลือกตั้งที่ผ่านมา สิริพรรณมองว่าสื่อไม่ตั้งคำถามกับการเดินทางไปดูงานต่างประเทศของ กกต. ก่อนการเลือกตั้งหนึ่งอาทิตย์ ซึ่งไม่มีที่ไหนในโลก ไม่ตั้งคำถามกับการห้ามหาเสียงในคืนก่อนวันเลือกตั้งทั้งทางสื่อและอิน เทอร์เน็ต ซึ่งสะท้อนถึงการไม่ไว้ใจประชาชนในสังคมไทย และไม่ได้ตั้งคำถามกับการที่มีบัตรเสียจำนวนมาก ซึ่งจากงานวิจัยของตนเองพบว่า เกิดจากการเปลี่ยนระบบเลือกตั้ง และไม่ให้ข้อมูลที่ชัดเจนกับประชาชน มีประชาชนจำนวนมากไปถึงหน่วยเลือกตั้งแล้วถูกปฏิเสธ เพราะเคยลงเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ในการเลือกตั้งครั้งก่อน แต่รายชื่อยังอยู่ใน รายงานของมีเดียมอนิเตอร์พูดถึงเรื่องความเป็นกลางบ่อยครั้ง โดยหยิบเอาความเป็นกลางมาผนวกกับการจัดสรรเวลาให้พรรคการเมืองว่าต้องจัดให้ เท่าๆ กัน ซึ่งเธอมองว่าเป็นเรื่องยาก เพราะที่สุดแล้ว พรรคการเมืองขนาดใหญ่ต้องกุมพื้นที่ข่าว เพราะสมาชิกเยอะ นโยบายเยอะ ขณะที่พรรคเล็กอาจไม่มีนโยบายเลย ดังนั้นการประเมินการจัดสรรเวลาจึงทำได้ยาก น่าจะประเมินเรื่องการนำเสนอที่ไม่บิดเบือนมากกว่านอกจากนี้ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์วิจารณ์ว่า สื่อควรยอมรับว่าตัวเองเป็น copy cat ไม่ทำให้ตัวเองโดดเด่นในการนำเสนอข่าว ปัญหาของสื่อไทยไม่ใช่เรื่องของความลำเอียง แต่เป็นเรื่องของประสิทธิภาพและความสามารถในการทำข่าว เพื่อเสนอประเด็นแหลมคมที่เป็นพื้นฐานการขับเคลื่อนประชาธิปไตยได้ ซึ่งไม่ได้โทษที่ตัวนักข่าว แต่โทษคนคุมสื่อ ซึ่งคือนายทุน การกลัวโดนถอนโฆษณา หรือหากอีกพรรคการเมืองขึ้นมาจะมีปัญหากับรัฐบาล ทำให้สื่อควบคุมและเซ็นเซอร์ตัวเองนอกจากนี้ สิริพรรณระบุว่า ไม่ห่วงช่อง 3 5 7 9 ซึ่งเป็นสื่อการค้า แต่ที่ห่วงมากที่สุดคือ ไทยพีบีเอส เพราะไม่ได้ถูกจำกัดโดยทุน มีเวลานำเสนอข่าวมากกว่า และได้งบ 2000 ล้านบาทต่อปีจากภาษีของประชาชน แต่ไม่เคยเสนอข่าวที่ต่างจากช่องอื่นเลย พร้อมตั้งคำถามว่าทำไมต้องเสียเงินเพื่อเสนอข่าวเหมือนกันอาจารย์ คณะรัฐศาสตร์ กล่าวเสริมว่า สื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนประชาธิปไตย ดังนั้น สื่อต้องมีเป้าหมายว่าจะนำเสนอแต่ละเรื่องเพื่ออะไร ทั้งนี้ เธอระบุด้วยว่า การที่สื่อทำให้นักการเมืองเป็นตัวตลกในบางครั้งนั้นไม่เป็นไร แต่ก็อยากให้สื่อ dehumanize คนในสังคมบางคนที่ถูกทำให้แตะต้องไม่ได้บ้างสิริ พรรณเสนอให้มีการจัดอบรมทักษะนักข่าวด้วย เพื่อพัฒนาคุณภาพการทำงานให้ดีขึ้น นอกจากนี้ กรณีที่อ้างว่าคุณภาพข่าวถูกกำหนดด้วยเวลานั้น เมื่อดูทีวีจะพบการเสนอข่าวซ้ำกันในหลายช่วงเวลา ซึ่งแสดงถึงความไม่ลงทุนกับการทำข่าว ซึ่งปัญหาคงไม่ใช่ที่ตัวนักข่าว แต่เป็นทั้งทุน และอำนาจรัฐสิริพรรณ ทิ้งท้ายว่า เข้าใจถึงข้อจำกัดของสื่อ แต่การทำสื่อก็เหมือนประชาธิปไตย ที่เราอาจจะไปไม่ถึงเลยก็ได้ แต่เราจะไม่ไปทางนั้นไม่ได้ | (27 ก.ย.54) ในเสวนาเรื่อง บทบาทสื่อมวลชนในการพัฒนาคุณภาพประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เอื้อ จิต วิโรจน์ไตรรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการมีเดียมอนิเตอร์ | การเมือง | การเลือกตั้งทั่วไป 2554,นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ,พลภฤต เรืองจรัส,พิจิตรา ศุภสวัสดิ์กุล,มาร์ค ศักซาร์,มีเดียมอนิเตอร์,วิชิต เอื้ออารีวรกุล,สิริพรรณ นกสวน สวัสดี,สุวรรณา สมบัติรักษาสุข,เอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์ | https://prachatai.com/journal/2011/09/37119 |
เจมส์ คลั่ง โฟกัส รักแรงหึงแรง งงกับตัวเองแฟนคนก่อนๆไม่เคยเป็น | เลยถาม สองปีที่ผ่านมาความรักเป็นยังไง?,ดีครับ ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งรู้สึกว่านี่แหละใช่ความรัก ถามว่ามีตีกันมั้ย ก็มีบ่อยมากแต่เรียกว่างอนกันมากกว่า ไม่ถึงขั้นทะเลาะ มีอะไรผมก็พูดกับเค้าตรงๆ และผมยอมเค้าเยอะมาก ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยยอมใครเยอะขนาดนี้,โฟกัสทำให้เรารู้จักความรัก?,เค้าทำให้เรารู้จักความรักชัดขึ้น เมื่อก่อนเราตีความความรักแค่เปลือก แต่ตอนนี้มันชัดขึ้น,เรื่องหึงหวงล่ะ?,เมื่อก่อนผมเป็นคนไม่หวง แต่ด้วยความที่โฟกัสให้ความกันเองกับทุกคน แฟนคลับบางคนมาขอจับมือผมก็จะมองหน้า (หัวเราะ) ผมเองก็คิดว่าผมเป็นบ้าแน่ๆ เพราะเมื่อก่อนไม่เคยเป็น แต่ตอนนี้หวงแรงมาก ผมพูดกับเค้าชัดเจนว่า ตอนนี้ผมเปลี่ยนไปนะ ช่วงนี้หวงแรงก็อย่าไปยุ่งกับใครมาก แล้วก็หวงเนื้อหวงตัวบ้าง แต่ไม่มีอะไรหรอก แค่เรารู้ว่าใจเค้าอยู่ที่เราก็พอ,เค้าหวงเรามั้ย?,ก็หวง อย่างตอนผมเล่นฉากเลิฟซีน เค้าก็จะไม่ค่อยโอเค ตอนนี้ผมเลยไม่รับเล่นละครที่ต้องจูบจริง พยายามเลี่ยงไม่เล่นจริง ถามว่ากลัวเสียโอกาสมั้ย คือผมก็ไม่ได้หิวงานขนาดนั้น ทุกคนก็เข้าใจ มันมีเทคนิคมากมายที่ไม่ต้องเล่นจริงก็ได้ ส่วนโฟกัสคือเรื่องนี้เค้าขอเราได้ แต่เราขอเค้าไม่ได้นะ อย่างเล่นกับเก้า-จิรายุ ผมก็ไปนั่งดู ผู้กำกับเค้าก็คงรำคาญก็เลยให้ผ่านๆไป จริงๆเค้าก็เข้าใจว่าเราขอ ณ จุดหนึ่งเพราะเราหวง ผมก็ยังตลกตัวเองว่าทำงานมาเป็น 10 ปีก็ยังไม่เห็นมีอะไร แต่ครั้งนี้ทำไมถึงเป็นแบบนี้ อาจจะเพราะรักมากก็เจ็บมาก,มองเรื่องแต่งงานบ้างรึยัง?,จริงๆถ้าแต่งได้ก็แต่งไปแล้ว (หัวเราะ) ตอนนี้ผมเก็บเงินเยอะมากตั้งแต่คบกับน้อง เริ่มวางแผนว่าจะซื้อบ้านให้อยู่ใกล้เค้ามากขึ้น เวลาไปเดินซื้อของเข้าบ้านจะไปด้วยกันคิดอะไรเผื่อไว้ แต่ว่ายังไม่ได้เทใจไปมากขนาดนั้น เพราะว่าความคาดหวังมันสร้างความรับผิดชอบ ขอแค่เราคิดเหมือนกันก็พอ,คุยกับแม่เค้าเรื่องแต่งงานบ้างรึยัง? ,ก็คุยขำๆ ยังไม่ได้มีอะไรมาก แต่แม่ก็มีแซวว่าสินสอดให้มาเท่าไหร่ก็คืนไปเท่านั้นแหละ ไม่เอาหรอก แม่น่ารัก มีการคุยกันขำๆ แหย่แม่เค้าสนุกดีครับ. | เผลอแป๊บๆคู่รักวัยรุ่น เจมส์-กิจเกษม แมคแฟดเดน กับ โฟกัส จีระกุล ก็คบหาดูใจกันมากว่า 2 ปีแล้ว แถมดีกรีความรักคู่นี้ก็หวานมากขึ้นเรื่อยๆ เจอ เจมส์ มาร่วมงานบวงสรวงละคร ใจลวง ที่อาร์เอส. เลยถาม สองปีที่ผ่านมาความรักเป็นยังไง? | ข่าว | เจมส์ กิจเกษม,กิจเกษม แมคแฟดเดน,โฟกัส จีระกุล,เจมส์ โฟกัส,ใจลวง | https://www.thairath.co.th/news/897080 |
โทรเรียกมาฆ่า คนร้ายดักแทงหญิงบ้านโป่งดับในซอยเปลี่ยว เพื่อนชายสาหัส | เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 60 ร.ต.อ.ทรงพล ตันเจริญ รอง สว.สส.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รับแจ้งมีผู้ถูกอาวุธมีดแทงบาดเจ็บและเสียชีวิตบริเวณริมถนนซอยข้างโรงงานน้ำตาลเก่า หมู่ 19 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย อินทรปรีชา ผกก.สภ.บ้านโป่ง นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมแพทย์เวร รพ.บ้านโป่ง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี ไปตรวจที่เกิดเหตุซึ่งเป็นถนนซอยเปลี่ยวทางลัดเลาะลงริมแม่น้ำ บริเวณพงหญ้าข้างทางพบศพ น.ส.ศิริวรรณ แก้ววิลัย อายุ 43 ปี ชาว อ.บ้านโป่ง สภาพเลือดท่วมร่าง ถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่หน้าอก 2 แผล ลิ้นปี่ 1 แผล และชายโครงซ้าย 1 แผล รวม 4 แผล ห่างออกไปพบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายล้มคว่ำอยู่ ส่วนผู้บาดเจ็บอีกรายทราบชื่อ นายโสภณ ภู่ภักดี อายุ 62 ปี อ.บ้านโป่ง เพื่อนชาย ถูกแทงเข้าหน้าท้อง 2 แผล อาการสาหัส ถูกนำตัวส่ง รพ.บ้านโป่ง ที่เกิดเหตุพบปลอกมีดตกอยู่ข้างรถ,สอบสวนทราบว่า ผู้ตายคบหาอยู่กับ นายโสภณ ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้ามืดมีโทรศัพท์เข้ามาหา ผู้ตายจึงรีบขี่รถโดยชวน นายโสภณ ไปเป็นเพื่อน ถึงซอยเปลี่ยวที่เกิดเหตุคนร้ายดักรออยู่เกิดการต่อสู้ ผู้ตายถูกคนร้ายจ้วงแทงจนเสียชีวิตคาที่ ส่วน นายโสภณ เข้ามาช่วยถูกแทงอาการสาหัส เบื้องต้น เจ้าหน้าที่มุ่งประเด็นปมสังหารคาดเรื่องชู้สาวและหึงหวง หลังพบผู้ตายเคยมีแฟนมาก่อนแล้วมาคบกับ นายโสภณ ส่วนคนร้ายไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินใดๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสอบพยานเพื่อหาหลักฐานมัดตัวฆาตกรรายนี้ต่อไป. | หญิงบ้านโป่ง ถูกคนร้ายโทรเรียกให้ไปหาในซอยเปลี่ยว ชวนเพื่อนชายไปด้วย สุดท้ายถูกแทง 4 แผลเสียชีวิต ส่วนเพื่อนชายสาหัส ตร.คาดปมชู้สาว-หึงหวง | ข่าว,อาชญากรรม | แทงคนตาย,ฆ่าคนตาย,หึงหวง,บ้านโป่ง,ราชบุรี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1006499 |
ครม.จัดอีกมาตรการจูงใจลงทุน | ครม.ตัดสายสะดือแพ็กเกจเร่งลงทุน จัดหนักจัดใหญ่ให้สิทธิพิเศษบีโอไอเพิ่ม พร้อมนำเงินลงทุนไปหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าหากลงทุนจริงไม่เกินในปีหน้า พ่วงมาตรการฟาสต์แทร็กพีพีพีลดเวลาร่วมลงทุนรัฐ-เอกชน เหลือ 9 เดือน เดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานปี 59–60 รวม 8 โครงการมูลค่า 3.4 แสนล้านบาท,นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และกระทรวงการคลังที่จะจูงใจให้นักลงทุนที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนแล้วเร่งตัดสินใจลงทุนให้เร็วขึ้น หลังจากที่นักลงทุนยังอยู่ระหว่างรอดูสถานการณ์ทางการเมืองของไทย,ทั้งนี้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในปีนี้และปีหน้าจะมี 2 มาตรการประกอบด้วย มาตรการแรก การให้สิทธิประโยชน์สำหรับโครงการลงทุนที่ยื่นขอรับการส่งเสริมลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2557-30 มิ.ย.2559 โดยสามารถเริ่มผลิตหรือเริ่มให้บริการ และมีรายได้ภายในปี 2560 แบ่งเป็น 4 กรณีดังนี้,1.หากมีการลงทุนจริง โดยก่อสร้างอาคารหรือซื้อเครื่องจักรภายในเดือน มิ.ย.2559 รวมไม่น้อยกว่า 70% ของเงินลงทุนไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมอีก 4 ปี,2.หากลงทุนจริงภายในเดือน มิ.ย.2559 ไม่น้อยกว่า 50% ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมอีก 3 ปี,3.หากลงทุนจริงภายในเดือน ธ.ค.2559 ไม่น้อยกว่า 50% ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมอีก 2 ปี,4.หากลงทุนจริงไม่ถึง 50% ภายในปี 2559 แต่สามารถเริ่มผลิตหรือเริ่มให้บริการและมีรายได้ภายในปี 2560 จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมอีก 1 ปี โดยทั้ง 4 กรณีที่ได้รับสิทธิ์เพิ่มเติมรวมกับของเดิมแล้วจะต้องไม่เกิน 8 ปี,มาตรการที่ 2 เป็นโครงการลงทุนที่ไม่ได้รับบีโอไอ ทางกระทรวงการคลังกำหนดว่า หากมีการลงทุนในปีนี้ถึงสิ้นปี 2559 จะให้สิทธิพิเศษหักลดหย่อนภาษีจากเงินลงทุนเป็น 2 เท่า ซึ่งส่วนนี้ หากเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิบีโอไอและเห็นว่า จะได้ประโยชน์จากมาตรการด้านการคลังมากกว่าก็สามารถเลือกใช้สิทธิลดหย่อนภาษี 2 เท่าแทนการรับสิทธิประโยชน์บีโอไอได้ โดยเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการจะต้องจดแจ้งขอใช้สิทธิภายในวันที่ 31 ธ.ค.2558,การลงทุนภาคเอกชนของไทยหายไปนาน 2-3 ปี ส่งผลให้ประสิทธิภาพการผลิตด้อยลง จึงจำเป็นต้องปรับโครงสร้างการผลิตให้ดีขึ้น การให้นำเงินลงทุนไปหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า เป็นได้ว่าจะเป็นทั้งการลงทุนในเครื่องจักร อุปกรณ์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ สิ่งปลูกสร้าง รถยนต์ที่นำมาใช้งานในธุรกิจ และมาตรการเร่งการลงทุนครั้งนี้จะเป็นผลดีให้เกิดการลงทุนเร็วขึ้น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการจ้างงานและการใช้จ่ายในระยะสั้นเพิ่มขึ้น รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเอกชนไทยในระยะยาว ซึ่งจะสามารถชดเชยรายได้ภาษีที่สูญเสียไปได้ในอนาคต,ขณะเดียวกัน ครม.ยังเห็นชอบในหลักการลดระยะเวลาโครงการร่วมลงทุนรัฐและเอกชน (พีพีพี) ในการลงทุนโครงการพื้นฐานของไทย ซึ่งในอดีตแม้จะทำเต็มที่แต่เร็วสุดก็จะอยู่ที่ 1 ปี 10 เดือน กว่าจะเข้าสู่ขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างได้ แต่ระบบ ฟาสต์แทร็กจะทำให้เกิดความรวดเร็วเหลือประมาณ 9 เดือน โดยใช้ระบบบูรณาการการบริหารงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานมากขึ้น ลดขั้นตอนการส่งเอกสาร ลง ทำให้เกิดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเร็วขึ้น,สำหรับโครงการที่จะให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของรัฐช่วงปี 2559-2560 มี 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 347,570 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี), โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง), โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ), มอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา, มอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี, โครงการโรงงานขยะ อบจ.นนทบุรี, โครงการโรงงานขยะเทศบาลนครนครราชสีมา และโครงการพัฒนาพื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทยเป็นศูนย์ธุรกิจพาณิชย์นาวี หรือ Maritime Business Center,นายสมคิดยังได้กล่าวถึงการใช้มาตรา 44 ด้วยว่า จะใช้ในกรณีที่เกิดภาวะติดขัดจริงๆ ไม่สามารถแก้ไขได้และจะไม่ใช้ ถ้าไม่จำเป็นหรือไม่ถูกครรลอง,ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมเตรียมผลักดันโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง 2 เส้นทาง มูลค่ารวมกว่า 246,000 ล้านบาท คือ เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน วงเงิน 94,000 ล้านบาท และกรุงเทพฯ-ระยอง วงเงิน 152,000 ล้านบาท ให้เข้าอยู่ในโครงการร่วมทุนภาครัฐและเอกชน หรือพีพีพี ระยะเร่งด่วนปี 59 เพื่อต้องการลดขั้นตอนการดำเนินโครงการให้เร็วขึ้น. | ครม.ตัดสายสะดือแพ็กเกจเร่งลงทุน จัดหนักจัดใหญ่ให้สิทธิพิเศษบีโอไอเพิ่ม พร้อมนำเงินลงทุนไปหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าหากลงทุนจริงไม่เกินในปีหน้า พ่วงมาตรการฟาสต์แทร็กพีพีพีลดเวลาร่วมลงทุนรัฐ–เอกชน | null | ครม.,ลงทุน,บีโอไอ,ลดหย่อนภาษี,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์,การลงทุน,โครงการร่วมลงทุนรัฐและเอกชน,พีพีพี,โครงการพื้นฐาน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวเศรษฐกิจ | https://www.thairath.co.th/content/536896 |
เข้าปีใหม่เปิดตัว ทีวีมลายู ชายแดนใต้ | ศอ.บต.เปิดตัว ทีวีและวิทยุมลายู 3 มกราฯ 56 เชิญ สุรินทร์ พิศสุวรรณ ปาฐกถา ภาษามลายูสู่อาเซียน ตั้งจำรูญ เด่นอุดม เป็นประธานกรรมการสถานี ให้เวลา 1 ปี สร้างเป็นสื่อของประชาชนชายแดนใต้เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2555 ที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อ.เมือง จ.ยะลา ที่ประชุมคณะกรรมการสถานีวิทยุโทรทัศน์และวิทยุกระจ่ายเสียงภาษามลายูได้กำหนดเปิดตัวสถานีวิทยุโทรทัศน์และวิทยุกระจ่ายเสียงภาษามลายู ในวันที่ 3 มกราคม 2556 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาการเปิดตัวดังกล่าว จะมีขึ้นในงานที่ใช้ชื่อว่า Hari Suara kita โดยเชิญ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการสมาคมอาเซียน มากล่าวปาฐกถา เรื่องภาษามลายูสู่ประชาสังคมอาเซียนจากนั้นจะเปิดรับความคิดเห็นจากผู้ร่วมงาน เพื่อนำข้อเสนอแนะไปใช้ในการปรับผังรายการสถานีวิทยุและโทรทัศน์ต่อไปสำหรับคณะกรรมการชุดนี้ ศอ.บต.แต่งตั้งเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2555 โดย พล.ต.ต.จำรูญ เด่นอุดม ได้รับเลือกให้เป็นประธาน ส่วนกรรมการประกอบด้วย นักจัดรายการวิทยุภาษามลายูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้นำศาสนาและสื่อมวลชนในพื้นที่นอกจากนี้ ศอ.บต. ยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาและอำนวยการ จำนวน 16 คน เช่น นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา นายเด่น โต๊ะมีนา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศอ.บต. ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลาและสตูล ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา นายอิสมาแอ ดาอะละ หรือบาบออิสมาแอ สปาแย นายกสมาคมสถาบันศึกษาปอเนาะ นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา ประธานศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิดจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา เป็นต้นคณะกรรมการทั้ง 2 ชุด มีอำนาจหน้าที่ เช่น พัฒนา สถานีวิทยุโทรทัศน์ภาษามลายู ในระยะเริ่มต้น เพื่อให้เป็นสื่อที่ประชาชนมีส่วนร่วม รวมทั้งเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อภาษามลายู รวมทั้งเปิดเวทีพูดคุยกับภาคประชาสังคมและผู้ที่มีความเห็นต่างจากรัฐ ทั้งในพื้นที่และภูมิภาคส่วนอื่นของประเทศขณะเดียวกัน ยังให้คณะกรรมการชุดนี้กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการสรรหาคณะกรรมการสถานีวิทยุโทรทัศน์ภาษามลายูภายใน 1 ปี | ศอ.บต.เปิดตัว ทีวีและวิทยุมลายู 3 มกราฯ 56 เชิญ สุรินทร์ พิศสุวรรณ ปาฐกถา ภาษามลายูสู่อาเซียน ตั้งจำรูญ เด่นอุดม เป็นประธานกรรมการสถานี ให้เวลา 1 ปี สร้างเป็นสื่อของประชาชนชายแดนใต้ เมื่อวันที่ | ความมั่นคง,สังคม | ชายแดนใต้,มลายู,ศอ.บต.,สื่อ | https://prachatai.com/journal/2012/12/44434 |
ผู้บัญชาการ มทบ.33 จ.เชียงใหม่ จะให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความนุ่มนวลขึ้น | อาวุธสงคราม สิ่งผิดกฎหมาย และปราบการพนัน29 พ.ค. 2557 - เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) พล.ต.ศรายุธ รังษี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง.ผบช.ภาค 5 รักษาการแทน ผบช.ภาค 5 เดินทางมาที่ธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาอำเภอสันกำแพงเชียงใหม่ เพื่อมอบเงินจำนำข้าวค้างจ่ายให้กับชาวนา มีนายสมมาตร บุปผะโก ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนบน ธนาคาร ธ.ก.ส. และ พ.ต.อ.อนุรัตน์ กิจประเสริฐ ผกก.สภ.สันกำแพงเชียงใหม่ ให้การต้อนรับทั้งนี้ รายงานการให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.ศรายุทธ ผบ.มทบ.33 ในฐานะผู้อำนวยการกองกำลังรักษาความสงบ มทบ.33 ซึ่งเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ปล่อยแกนนำที่ได้ควบคุมตัวไว้ก่อนนี้แล้ว 9 คน ส่วนการเปลี่ยนเวลาห้ามออกนอกเคหะสถานเป็นเวลา 00.00 - 04.00 น.นั้น จะช่วยลดผลกระทบที่มีต่อประชาชน แต่ยังจะคงกำลังเจ้าหน้าที่ในการรักษาความสงบในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เอาไว้เท่าเดิม เพราะยังไม่แน่ใจในสถานการณ์ แต่จะให้ปฏิบัติงานนุ่มนวลขึ้น ขณะเดียวกันยังได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดในพื้นที่ชายแดน เพื่อสกัดกั้นอาวุธสงคราม ยาเสพติด และสิ่งผิดกฏหมายอื่นๆ รวมทั้งปราบปรามบ่อนการพนันตามพื้นที่ต่างๆ | ผบ.มทบ.33 เผยปล่อยแกนนำที่ควบคุมตัวแล้ว 9 คน แต่จะคงกำลังเจ้าหน้าที่ในเชียงใหม่ไว้ตามเดิมเพราะไม่แน่ใจในสถานการณ์ แต่จะปฏิบัติงานให้นุ่มนวลขึ้น และกำชับให้เข้มงวดพื้นที่ชายแดน สกัดยาเสพย์ติด | สิทธิมนุษยชน,ความมั่นคง | กองกำลังรักษาความสงบ,กองทัพ,กองทัพไทย,จำนำข้าว,ธ.ก.ส.,ภาคเหนือ,มทบ.33,ศรายุทธ รังษี,เชียงใหม่ | https://prachatai.com/journal/2014/05/53621 |
ระดมคิดช่วยรัฐแก้ปัญหาค่าแรงงาน-เงินป.ตรีสูง หวั่นกระทบเศรษฐกิจไทย | ศาสตราจารย์ นายแพทย์สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า การจัดระดมสมองครั้งนี้เกิดจากนโยบายเร่งด่วนของคณะรัฐมนตรีที่กำหนดให้แรงงานมีรายได้วันละไม่น้อยกว่า 300 บาท และผู้ที่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีมีรายได้เดือนละไม่น้อยกว่า 15000 บาท ทำให้เกิดกระแสในวงกว้างเนื่องจากขาดรายละเอียดของมาตรการที่รองรับนโยบายอย่างชัดเจน วช. ในฐานะที่เป็นหน่วยงานกลางและมีหน้าที่หลักในการให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อรัฐบาล ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของผลกระทบที่จะเกิดขึ้น จึงได้มอบหมายให้สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยศึกษาวิจัยโดยให้ความสำคัญใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ นโยบายค่าแรงงาน 300 บาทและรายได้ของปริญญาตรี 15000 บาท ผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจมหภาค ผลต่อโครงสร้างตลาดแรงงาน และผลของนโยบายปริญญาตรี 15000 บาท ในภาคราชการ โดยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ได้แสดงความคิดเห็นทั้งในระดับอุตสาหกรรม SME และภาคราชการ เพื่อนำผลมาวางแผนระยะยาวนำเสนอรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพราะเป็นการขึ้นค่าแรงที่สูงจากที่คณะกรรมการไตรภาคีแรงงานกำหนดไว้โดยเฉพาะวุฒิ ปริญญาตรี อาจมีผลกระทบต่อทั้งภาครัฐและเอกชน นอกจากสินค้าที่ขึ้นราคา ภาคราชการจะรับได้แค่ไหนเพราะมีทั้งบุคลากรในระบบและนอกระบบ เช่น ลูกจ้างที่จ้างเป็นรายปี ดูเหมือนภาคราชการจะมีปัญหาน้อยแต่ก็มีผลต่อโครงสร้างงบประมาณใช่ว่าเข้ามาทำงานแล้วจะได้รับ 15000 บาทเลย ต้องเก็บข้อมูลก่อนว่าจะมีผลกระทบต่อ ป.ตรี ที่ทำงานมาก่อนแต่เงินเดือนยังไม่ถึง 15000 บาทหรือไม่อย่างไรรศ.ยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการด้านการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทีมวิจัยจะนำเสนอภาพรวมของสภาวะการจ้างงานว่าจะมีผลกระทบอย่างไรต่อค่าแรงที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมีลูกจ้างจำนวนมากกว่า 4 ล้านคนที่จะไม่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำตามนี้ และคาดว่าจะมีผลต่อเศรษฐกิจประมาณ 40%แต่ต้องดูว่าจะมีผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานหรือไม่ด้วย โดยเฉพาะกลุ่ม SME จะมีโครงสร้างต้นทุนสูง แรงงานจะว่างงานหรือไม่เป็นคำตอบที่รออยู่ สำหรับเงินเดือน ป.ตรี ที่เพิ่มจะต้องดูผลระยะยาวตลอดชีวิตของการรับราชการ ว่าการเพิ่มนี้จะเป็นภาระของรัฐบาลมากน้อยแค่ไหน โครงการนี้มีกำหนดจัดการประชุม 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ครั้งที่ 2 จะเป็นเสนอรายงานความก้าวหน้า(ประมาณปลายเดือนมีนาคม 55) ครั้งที่ 3 เสนอร่างรายงานฉบับสมบูรณ์(ประมาณกลางเดือนเมษายน 55) และจะจัดประชุมใหญ่อีกครั้ง เพื่อเสนอรายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ประมาณปลายเดือนเมษายนนี้ | ผลกระทบของการดำเนินนโยบายรายได้ค่าแรงไม่น้อยกว่า 300 บาทต่อวัน และเงินเดือนปริญญาตรีไม่น้อยกว่า 15000 บาท ที่มีผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะค่าแรงขั้นต่ำ 300/วัน และเงินเดือนปริญญาตรี 15000 บาท | สังคม | กระทบเศรษฐกิจไทย,ค่าแรงงาน,ปริญญาตรี,ระดมความคิด,เงินเดือน,แก้ปัญหา | https://news.thaipbs.or.th/content/69629 |
ศาลอาญาสั่งจำคุก ทอม ดันดี 7 ปี 6 เดือน คดีหมิ่นเบื้องสูง | วันนี้ (1 มิ.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำตัวนายธานัท ธนวัชรนนท์ หรือทอม ดันดี อดีตนักร้องเพลงเพื่อชีวิต มายังศาลอาญาเพื่อฟังคำพิพากษาคดีที่อัยการฟ้องฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และกระทำผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 กรณีร่วมกับพวกที่ยังหลบหนีขึ้นเวทีปราศรัยให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยใช้ถ้อยคำหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2556 และนำคลิปคำปราศรัยไปเผยแพร่คดีดังกล่าวศาลได้สอบคำให้การของนายธานัท จำเลยและตรวจหลักฐานเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธและได้แถลงต่อศาลขอเปลี่ยนคำให้การเดิมจากที่เคยให้ปฏิเสธขอเป็นให้การรับสารภาพและไม่ต่อสู้คดี ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดหลายกรรม ให้ลงโทษจำคุกกรรมละ 5 ปี รวม 15 ปี แต่คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 7 ปี 6 เดือน | ศาลอาญาพิพากษาจำคุก ทอม ดันดี 15 ปี คดีเผยแพร่คลิปข้อความหมิ่นเบื้องสูง จำเลยสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 7 ปี 6 เดือน | การเมือง | ทอม ดันดี,หมิ่นเบื้องสูง,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/252766 |
ofoแอปจักรยานสาธารณะ ไร้สถานี พร้อมให้บริการ 6000 คัน ภายใน ก.ย.นี้ | ผู้ให้บริการจักรยานสาธารณะแบบไร้สถานี ofo เริ่มทดลองเปิดให้บริการที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยในอีกสามเดือนข้างหน้า ofo วางแผนที่จะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ อีก 10 แห่ง ในประเทศไทย ก่อนที่จะเปิดให้บริการสำหรับการใช้งานทั่วไปบนท้องถนนในเมืองในอนาคต, ,ทั้งนี้ ofo ได้เปิดให้ทดลองใช้จักรยานชุดแรกจำนวน 546 คัน ในมหาวิทยาลัย เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และจะเปิดให้ใช้บริการเพิ่มอีก 454 คัน ในเดือนสิงหาคม โดยคาดว่าจะมีจักรยานที่เปิดให้ใช้บริการรวมทั้งสิ้นเป็นจำนวน 6,000 คัน ภายในเดือนกันยายน หลังจากนั้นตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนจักรยานที่เปิดให้ใช้บริการเดือนละ 5,000 คัน ในทุกๆ เดือน,การเปิดให้บริการในครั้งนี้จะเริ่มจากการสร้าง มหาวิทยาลัยอัจฉริยะ (smart campus) ต่อยอดไปสู่ เมืองอัจฉริยะ (smart city) ในอนาคต โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้การเดินทางระยะสั้นในเมือง สะดวก ราคาไม่แพง ช่วยให้มีสุขภาพดี และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม,นายลอว์เรนซ์ เฉา หัวหน้ากลุ่มธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ของ ofo กล่าวว่า เรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมวัฒนธรรมการขี่จักรยานและช่วยแก้ไขสถานการณ์การจราจรทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองอื่นๆ ในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้ โดยบริษัทฯ พร้อมที่จะนำเสนอบริการเฉพาะสำหรับผู้ขับขี่ พร้อมให้แนวทางแก้ปัญหาในการเดินทางที่ยั่งยืนสำหรับชาวเมือง,ทั้งนี้ ofo เชื่อว่า การเปิดตัวในประเทศไทยนับเป็นอีกก้าวหนึ่งที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายในการขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเปิดให้บริการ 200 เมือง ใน 20 ประเทศภายในสิ้นปีนี้. | ofo แอปพลิเคชันบริการจักรยานสาธารณะแบบไร้สถานี ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมเปิดให้บริการจักรยาน 6,000 คัน ภายในเดือนกันยายนนี้ ตั้งเป้าเปิดให้บริการ 200 เมือง ใน 20 ประเทศ ภายในสิ้นปีนี้ | ข่าว,เศรษฐกิจ | ofo,จักรยานสาธารณะ,มหาวิทยาลัย,ยืมจักรยาน,จักรยานสาธารณะแบบไร้สถานี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1025566 |
ทูตแรงงานเมียนมา ดูจุดเกิดเหตุนั่งร้านถล่ม ทับคนงานตาย 3 ศพที่ภูเก็ต | เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2562 ที่แคมป์คนงานก่อสร้างอาคารส่วนต้อนรับ (ล็อบบี้) และร้านอาหารโครงการ VIP MERCURY คอนโดมิเนียม ตั้งอยู่หมู่ 2 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน โดยนายเวียง สุวรรณะ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.ภูเก็ต นางมารศรี ใจรังสี ประกันสังคมจังหวัด นายศรายุทธ อมรกล นักวิชาการแรงงานชำนาญการ รักษาการจัดหางานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พบปะพูดคุยกับนาย KYAW SOE WAI ทูตแรงงานเมียนมาประจำ จ.ระนอง ดูแลพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้และคณะ หลังเดินทางมาติดตามการช่วยเหลือแรงงานชาวเมียนมา ที่ประสบเหตุจากนั่งร้านค้ำยันทรุดตัวทับคนงานก่อสร้าง เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา,นอกจากนี้ มีทางเอเยนซี่นำเข้าแรงงานเมียนมา ทั้งฝั่งเมียนมาและไทย ตลอดจนแรงงานที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านพัก รวมถึงแรงงานที่อยู่ในแคมป์มาร่วมพูดคุยด้วย ซึ่งขณะมีลูกจ้างที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว 6 คน และยังคงรักษาตัวอยู่อีก 2 คน ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ศพยังอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต,นาย KYAW SOE WAI ได้สอบถามเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ ที่แรงงานที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจะได้รับ รวมถึงการดูแลระหว่างที่พักรักษาตัวเนื่องจากไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยชี้แจงว่า จากการตรวจสอบผู้ประสบเหตุทั้ง 11 ราย เป็นแรงงานที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง และในจำนวนดังกล่าวมีส่วนหนึ่งที่เข้ามาในรูปแบบของ MOU ซึ่งทุกรายจะได้รับการช่วยเหลือตามที่ระเบียบกฎหมายกำหนด,ขณะที่บริษัทนายจ้างแรงงานกล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของบริษัทได้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ เบื้องต้นไปก่อนแล้ว ระหว่างรอยื่นเอกสารให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันจะรับผิดชอบเรื่องการจัดการงานศพของแรงงานทั้ง 3 ราย นอกเหนือจากเงินเยียวยาที่จะได้รับจากทางการไทย เบื้องต้นทราบว่า 1 ราย ญาติจะบำเพ็ญกุศลศพที่ จ.ภูเก็ตเลย ส่วนอีก 2 รายอยู่ระหว่าพูดคุยรายละเอียดกับญาติ ส่วนกรณีข้อเรียกร้องของแรงงานที่จะขอย้ายที่อยู่นั้น คงต้องขอจัดการเรื่องของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บให้เรียบร้อยก่อน และจะได้มาพูดคุยกันอีกครั้ง ซึ่งทางบริษัทฯเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีใครอยากให้เกิด,ด้านนายเวียง สุวรรณะ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.ภูเก็ตกล่าวว่า กฎหมายได้กำหนดชัดเจนในเรื่องการดูแลแรงงานทุกด้าน คือ พ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2553 ซึ่งนายจ้างจะต้องมีการจัดการตามสภาพของงาน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้าง เช่น อาคารสถานที่ จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยการทำงาน ตรวจสอบสภาพพื้นที่ว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ เป็นต้น ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นนั้น ทางสำนักงานได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากนายจ้างว่ามีการบริหารจัดการความปลอดภัยให้กับลูกจ้างตามที่กฎหมายมีการกำหนดไว้หรือไม่ อย่างไร ,ขณะที่นางมารศรี ใจรังสี ประกันสังคม จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานประกันสังคมนั้น จะดูแลในเรื่องของการให้สิทธิ ให้ความคุ้มครองและให้หลักประกันให้กับลูกจ้างในการประกันตน กรณีนี้จากการตรวจสอบพบว่าลูกจ้างที่ประสบเหตุจากการทำงาน ซึ่งในส่วนของนายจ้าง คือ บริษัท ภูเก็ตบิวท์ จำกัด ซึ่งมีการขึ้นทะเบียนนายจ้างอย่างถูกต้อง ตั้งแต่เดือน เม.ย.45 โดยลูกจ้างที่ประสบเหตุทั้ง 11 ราย มีการยื่นทะเบียนประกันตนครบทุกราย จะได้รับเงินจากกองทุนทดแทนตาม พ.ร.บ.กองเงินทุนทดแทน ทุกประการ กรณีบาดเจ็บ เช่น จ่ายค่ารักษาพยาบาลตามความเป็นจริงที่ 50,000 บาท สูงสุดที่ 2 ล้านบาท เงินทดแทนการขาดรายได้ให้ 70 % ของค่าจ้างสูงสุดที่ 1 ปี เป็นต้น กรณีลูกจ้างที่เสียชีวิตจำนวน 3 ราย เงินค่าทำศพ 33,000 บาท และเงินให้กับทายาทเป็นเงินทดแทนกรณีเสียชีวิต เป็นเงิน 70 % ของค่าจ้างเป็นเวลา 10 ปี ยอดเงิน,เบื้องต้นกรณีนี้ เป็นเงิน 33,000 บาท และเงินทดแทน 720,720 บาท รวมก้อนแรกที่จะได้รับเป็นเงิน 750,000 บาทเศษต่อราย ส่วนกรณีของลูกจ้างที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล หากมีการสูญเสียจะมีเงินทดแทนกรณีเสียอวัยวะ 70 % ของค่าจ้างเช่นกัน สูงสุดจ่ายเป็นเวลา 10 ปี โดยจะต้องมาดูว่าสูญเสียอวัยวะส่วนใด ทั้งนี้อยู่ระหว่างการประสานนายจ้างในการยื่นแบบแจ้งการประสบอันตรายและติดต่อผู้มีสิทธิเพื่อมารับเงินทดแทนต่อไป โดยสำนักงานประกันสังคมพร้อมจะจ่ายทันที. | ทูตแรงงานเมียนมาลงพื้นที่จุดเกิดเหตุนั่งร้านถล่ม ประกันสังคมภูเก็ตเผยผู้บาดเจ็บเบิกค่ารักษาตัวได้ทั้งหมดและรับเงินชดเชย 70% ของรายได้ ส่วนคนที่เสียชีวิตจ่ายเงินเยียวยา 7.5 แสนต่อราย | ข่าว,ทั่วไทย | นั่งร้านถล่มดับ 2 ศพ,นั่งร้านถล่ม,ก่อสร้างคอนโด,ภูเก็ต,ประกันสังคม,เงินชดเชย,คนงานเมียนมา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1637091 |
เฟเดอเรอร์-โยโควิช ควงคู่ลิ่วรอบ 8 คนสุดท้าย เทนนิสเซี่ยงไฮ้ มาสเตอร์ส | การแข่งขันมีขึ้นที่เมืองเซี่ยงไฮ้ประเทศจีนชายเดี่ยวรอบ 3 โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักเทนนิสมือ 1 ของโลกจาสวิตเซอร์แลนด์ ลงทำศึกกับสตานิสลาฟ วารินก้า นักเทนนิสเพื่อนร่วมชาติ ปรากฎว่า นัดนี้ เฟเดอเรอร์ ต้องเหนื่อยหนักกว่าจะเฉือนชนะ วารินก้า ไปได้ 2-1 เซต 4-67-6 ไทเบรก 7-46-0 เฟเดอเรอร์ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายไปพบกับมาริน ซิลิซ นักเทนนิสโครเอเชียขณะที่โนวัค โยโควิช นักเทนนิสเซอร์เบีย มือ 2 ของโลกผ่านเข้ารอบ 8 คนได้เช่นกันเมื่อเอาชนะเฟลิเซียโน่ โลเปซ นักเทนนิสสเปน 6-3 ทั้งสองเซต โยโควิชเข้ารอบไปบพบกับทอมมี่ ฮาส นักเทนนิสเยอรมนีส่วนแอนดี้ เมอร์เรย์ มือ 3 ของโลกจากสหราชอาณาจักรเอาชนะอเล็กซานเดอร์ โดลโกโพลอฟ 6-2 ทั้ง 2 เซตเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายไปพบกับราเด็ก สเตปาเน็ก นักเทนนิสสาธารณรัฐเช็กที่เอาชนะจอห์น อิสเนอร์ นักเทนนิสอเมริกัน 6-46-7 ไทเบรก 5-76-3 ด้านโทมัส เบอร์ดิช มือสี่ของรายการจากสาธารณรัฐเช็กชนะ แซม เคอร์รี่ย์ นักเทนนิสอเมริกัน 6-26-7 ไทเบรก 3-76-4 และ โจ วิลฟรีด ซงก้า มือวางอันดับ 5 จาอฝรั่งเศส ชนะ มาร์กอว แบกดาห์ติส นักเทนนิสไซปรัว 6-27-6 ไทเบรก 7-2 | โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และ โนวัค โยโควิช ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายเทนนิสเซี่ยงไฮ้ มาสเตอร์ส | กีฬา | เซี่ยงไฮ้ มาสเตอร์ส,เทนนิส,เฟเดอเรอร์,โยโควิช | https://news.thaipbs.or.th/content/117871 |
เตรียมออกสลากล็อตโต้เงินรางวัล 300 ล้าน หวังดึงเงินพนันใต้ดินเข้ารัฐ | ปัญหาการขายสลากเกินราคาและหวยใต้ดิน ที่ยังคงมีอยู่ ทำให้ พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เตรียมเสนอคณะกรรมการสลากฯ พิจารณาแผนการออกผลิตภัณฑ์สลากออนไลน์รูปแบบใหม่ (สลากล็อตโต้) ในเดือน ก.ย.นี้ หวังนำเงินพนันนอกระบบเข้ารัฐ คาดว่าจะมีมากกว่าปีละ 100000 ล้านบาท โดยนำรูปแบบการจำหน่ายล็อตโต้ในต่างประเทศ มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่พร้อมในไทย ซึ่งกำลังศึกษารูปแบบการจ่ายเงินรางวัล คาดว่าเฉลี่ยอยู่ที่งวดละ 300-400 ล้านบาทส่วนความคืบหน้าการปรับรูปแบบสลากคู่ ฉบับละ 40 บาท เป็นใบเดี่ยว 80 บาทนั้น ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สลากฯ มีความพร้อมเปิดจำหน่ายสลากฯ แบบใหม่ ให้รายย่อย ช่วงวันที่ 14-16 ส.ค.นี้ และออกรางวัลงวดแรก ในวันที่ 1 ก.ย.2560ขณะที่ การการแก้ไขพระราชบัญญัติ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหลายมาตรา โดยเฉพาะเรื่องการจ่ายเงินรางวัลตามมาตรมาตรา 22 ที่กำหนดให้จ่ายเงินรางวัลร้อยละ 60 จากการขายสลากในแต่ละงวด ให้สามารถสมทบเงินรางวัลและนำไปจ่ายจนเต็มจำนวนร้อยละ 60 ในงวดถัดไปให้กับผู้ถูกรางวัลได้ รวมถึงการตั้งกองทุนสลากเพื่อพัฒนาสังคม คาดว่า จะสามารถเปิดรับฟังความคิดเห็น และเสนอ ครม.ได้ภายในเดือน ต.ค.นี้ | อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เตรียมเสนอบอร์ดออกสลากล็อตโต้ เงินรางวัลสูงสุดไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท ในเดือนกันยายนนี้ หวังดึงเงินพนันใต้ดินเข้ารัฐ | เศรษฐกิจ | สำนักงานสลากกินแบ่ง,หวย,ล็อตโต้,ฉลองรัฐ,นาคอาทิตย์,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/264417 |
เร็วที่สุด ลมกรดมิ้ว ซิวทองวิ่ง 100 เมตรชาย สงขลาเกมส์ | วันที่ 22 มิ.ย. 60 กีฬาแห่งชาติครั้งที่ 45 สงขลาเกมส์ ที่ จ.สงขลา วันที่ 3 มีการชิงชัย 78 เหรียญทอง ไฮไลต์อยู่ที่การชิงเจ้าลมกรด วิ่ง 100 เมตรชาย,ผลปรากฏว่า มิ้ว จีระพงศ์ มีนาพระ ลมกรดทีมชาติไทย จากกรุงเทพมหานคร วิ่งนำโด่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ทำเวลาได้ 10.50 วินาที คว้าเหรียญทองไปครองเป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกัน เหรียญเงิน กฤษฎา นามสุวรรณ จากชุมพร ทำเวลาได้ 10.58 วินาที และเหรียญทองแดง บัณฑิต ช่วงไชย จากปราจีนบุรี ทำเวลาได้ 10.71 วินาที, ,ขณะที่วิ่ง 100 เมตรหญิง เหรียญทอง สุภาวรรณ ธิปัตย์ จากชุมพร ทำเวลาได้ 11.75 วินาที เหรียญเงิน ทัศพร วรรณกิจ จากบุรีรัมย์ ทำเวลาได้ 11.79 วินาที และเหรียญทองแดง อรอุมา เชษฐา จากชัยภูมิ ทำเวลาได้ 11.88 วินาที,ส่วนผลการชิงเหรียญทองที่น่าสนใจ มีดังนี้,วิ่ง 10,000 เมตรชาย เหรียญทอง บุญถึง ศรีสังข์ จากบุรีรัมย์ ทำเวลา 31 นาที 54.25 วินาที เหรียญเงิน สัญชัย นามเขต จากสุรินทร์ ทำเวลา 31 นาที 59.57 วินาที และเหรียญทองแดง ณัฐวุฒิ อินนุ่ม จากชลบุรี ทำเวลา 33 นาที 49.85 วินาที,ยิมนาสติกศิลป์ ประเภทม้ากระโดดหญิง เหรียญทอง กัญญาณัฐ บุญเทิง จากกรุงเทพมหานคร 12.513 คะเเนน เหรียญเงิน แพรวพราว ดวงจันทร์ จากสุพรรณบุรี 12.289 คะเเนน และเหรียญทองแดง ฐิดาภรณ์ คันธะระ จากชัยภูมิ 11.9 คะเเนน,สรุปเหรียญล่าสุด 5 อันดับแรก 22 มิ.ย. 60,1. กรุงเทพมหานคร 22 ทอง 23 เงิน 28 ทองแดง ,2. สงขลา 16 ทอง 4 เงิน 2 ทองแดง ,3. สุพรรณบุรี 13 ทอง 6 เงิน 5 ทองแดง,4. ชลบุรี 12 ทอง 7 เงิน 9 ทองแดง ,5. อุดรธานี 10 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง | จีระพงศ์ มีนาพระ ลมกรดทีมชาติไทย จากกรุงเทพมหานคร วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก คว้าเหรียญทองวิ่ง 100 เมตรชาย ไปครองตามคาด ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 45 สงขลาเกมส์ | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | ลมกรดมิ้ว,วิ่ง 100 เมตรชาย,เจ้าลมกรด,สงขลาเกมส์,จีระพงศ์ มีนาพระ | https://www.thairath.co.th/sport/others/980990 |
จับหนุ่มสโลวีเนีย พังป้ายหาเสียง เหตุใช้แฟนสาวไปเดินสายวันวาเลนไทน์ | เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์, พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัณย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงข่าวหลังพบตัวผู้ก่อเหตุทำลายป้ายหาเสียงของนายฉลอง ฆารเลิศ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 1 จ.กาฬสินธุ์ โดยเจ้าหน้าที่พบเป็นชายชาวต่างชาติ ชื่อ นายโซโวนีเมียร์ นาด อายุ 54 ปี ชาวสโลวีเนีย พักอาศัยอยู่อพาร์ตเมนต์ พื้นที่ ต.หลุบ อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมทั้งยึดมีดที่ใช้ก่อเหตุ เสื้อผ้าที่ใส่ในขณะเกิดเหตุ และรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ยี่ห้อซูซูกิ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กฌ 1430 กาฬสินธุ์ คันที่ใช้เป็นพาหนะในขณะก่อเหตุ,พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัณย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความจากนายฉลอง ฆารเลิศ ว่าป้ายหาเสียงถูกทำลายเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่าในช่วงเวลาประมาณ 02.00-03.00 น.ของวันที่ 16 ก.พ.2562 พบชายชาวต่างชาติขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์จอดตามจุดที่ติดป้ายหาเสียงในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ใช้มีดปลายแหลมกรีดป้ายหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.จนได้รับความเสียหายทั้ง 8 จุด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบทะเบียนรถและใบหน้าจึงทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายโซโวนีเมียร์ นาด,ทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบที่อพาร์ตเมนต์ พบตัวผู้ก่อเหตุและให้การรับสารภาพว่าเป็นคนทำลายป้ายหาเสียง ส่วนสาเหตุที่ไปทำลายป้ายเนื่องจากก่อนแฟนคนก่อเหตุได้ไปทำงานกับผู้สมัคร ส.ส.คนดังกล่าว ซึ่งก่อนวันเกิดเหตุเป็นวันวาเลนไทน์ ซึ่งทางผู้ก่อเหตุเป็นชาวต่างชาติให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยได้นัดกับแฟนสาวเพื่อจะไปทานข้าว แต่แฟนต้องไปทำงานให้กับทางพรรคการเมือง จนถึงช่วงค่ำและไม่สามารถติดต่อได้ ผู้ก่อเหตุเกิดความโกรธจึงไปดื่มสุราจนเมาและก่อเหตุทำลายป้ายหาเสียงดังกล่าว จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนพร้อมผู้ก่อเหตุดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | ความรักสำคัญกว่าการเมือง หนุ่มสโลวีเนียโมโหแฟนสาวถูกใช้ให้ไปหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐในวันวาเลนไทน์ ดื่มสุราแล้วเมาไล่กรีดป้ายหาเสียงจนถูก ตร.กาฬสินธุ์จับ ดำเนินคดีตามกฎหมาย | ข่าว,ทั่วไทย | ทำลายป้ายหาเสียง,โมโหแฟนทำงาน,วันวาเลนไทน์,กาฬสินธุ์,หนุ่มสโลเวเนีย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1498991 |
แก้ปัญหาผู้มีอิทธิพล จ.ตรัง ข่มขู่ผู้รับเหมาต่างถิ่น | ทหาร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตรัง (กอ.รมน.ตรัง) และ ตำรวจ ลงพื้นที่ ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง เพื่อเข้าพบตัวแทน หจก. ไทยเจริญศรีษะเกษ และ ห้างหจก.พนาจันทร์การก่อสร้าง เพื่อขอข้อมูลหลังถูกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ข่มขู่และกลั่นแกล้ง ขณะเข้าทำงานในพื้นที่ตัวแทน หจก.ไทยเจริญศรีษะเกษ กล่าวว่า ได้ประมูลงานงบพัฒนาจังหวัดฯ สร้างถนนสายพรุจูด-เขาเจ็ดยอด ระยะทาง 2.3 กม. ใน ต.บ่อหิน งบประมาณกว่า 5700000 บาท และมี หจก.พนาจันทร์การก่อสร้าง จาก จ.สุราษฎร์ธานี รับช่วงต่อแต่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพล สั่งห้ามร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ขายวัสดุทุกชนิดให้ รวมทั้งห้ามโรงโม่หินขายหินให้ด้วยทำให้ได้ความเสียหาย สร้างถนนไม่เสร็จตามสัญญา ต้องถูกเสียค่าปรับ และล่าสุด ยังถูกวางตะปูเรือใบ ทำให้รถบรรทุก 3 คัน ได้รับความเสียหาย จึงเข้าร้องเรียน คสช.พ.อ.สุริยา ช่วยบำรุง หัวหน้ากลุ่มนโยบายแผนและการข่าว กอ.รมน.กล่าวว่า ได้เชิญร้านค้าวัสดุก่อสร้าง และโรงโม่หินมาเจรจาแล้ว ส่วนผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ก็ได้เรียกมาว่ากล่าวตักตือน เพราะเป็นการสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับจังหวัดและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย กรณีเผารถเครื่องจักรกล และยิงคนงานก่อสร้าง ของผู้รับเหมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา | กอ.รมน.ตรัง เดินหน้าแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพลข่มขู่ผู้รับเหมาก่อสร้างต่างถิ่น หลังพบมีการใช้อิทธิพลสั่งร้านวัสดุก่อสร้างและโรงโม่หิน ห้ามขายวัสดุก่อสร้างและวัสดุทุกชนิด | ภูมิภาค | กอ.รมน.,ตรัง,บ่อหิน,สิเกา,ก่อสร้าง,ผู้รับเหมา,ข่มขู่,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/276123 |
ไม่ใช่เลสเบี้ยน มิน-บีท เพื่อนรักทายาทรวยแสนล้าน | ช่อง 7 ฝีมือทะลุจอจริง มิน พีชญา วัฒนามนตรี กับสาวดีกรีเป๊ะ บีท วิษณี เทพเจริญ ลูกสาวสุดสวยทายาทณุศาศิริ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของประเทศไทย ที่มีโครงการมากมายรวมมูลค่ามากกว่าแสนล้านบาท บีทยังเป็นนักธุรกิจที่น่าจับตา เพราะมีธุรกิจหลายอย่าง อาทิ DNA คลินิกแถวสยามสแควร์ ฯลฯ ,มีเพื่อนรวยระดับแสนล้านขนาดนี้ จนมีข่าวเม้าท์กระจุยว่า มิน เลือกคบแต่เพื่อนรวยๆ เท่านั้น ประเด็นนี้ไม่เป็นความจริงนะจ๊ะ เพราะพ่อแม่มินสั่งสอนมาดี จะคบใครเป็นเพื่อนก็ได้ ไม่สำคัญว่าต้องรวยเว่อร์ ขอแค่จริงใจ ไม่คิดร้ายกันก็พอแล้ว,บีท วิษณี สวยใสไม่แพ้ มิน พีชญา แต่บอกเลยว่า นางยังไม่สนใจงานวงการบันเทิงสักเท่าไรนัก เพราะอยากลุยทำธุรกิจให้ดีที่สุดไปก่อน และที่สำคัญรักการทำธุรกิจมากกว่าการแสดง คู่เพื่อนเลิฟคู่นี้ หาเวลาเจอกันค่อนข้างยากอยู่ ต่างคนต่างมีงานเยอะมากๆ ล่าสุดไม่สุดท้าย มิน บีท หาเวลาตรงกัน เพิ่งควงกันไปตะลอนฮ่องกง แน่นอนว่าช็อปกระจาย ,ส่วนประเด็นยังคาใจมหาชน เรื่องหิ้วกระเป๋าแอร์เมสหลายใบเข้าประเทศไทยของมิน อุ๊ย บีท เพื่อนรักไม่ขอพูดแยะนะคะ เงียบๆ ไว้ก่อน ให้มินเคลียร์เองดีที่สุด แต่ถ้ามินจะมาปรึกษาหารือ เรื่องการทำธุรกิจต่างๆ บีทถนัดพร้อมให้คำแนะนำเพียบ | อ๊ะๆ อย่าเพิ่งคิดลึก รักกันดีแบบเพื่อนรัก ไม่ใช่ทอมดี้เลสเบี้ยน คู่หญิงรักหญิง อย่าเพิ่งไปคิดลึกอะไร ระหว่างนางเอกแถวหน้าของ | null | บีท มิน,บีท มิน พีชญา,บีท วิษณี เทพเจริญ,มิน พีชญา วัฒนามนตรี,บีท ณุศาศิริ,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/691131 |
ธรรมยาตรา 5 แผ่นดินกลับถึงไทยแล้ว เตรียมพิธีปิดที่วัดสุวรรณภูมิ | พุทธชยันตี พร้อมเตรียมปิดโครงการ 4 มิ.ย. นี้,วันที่ 3 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุดมาว่า เมื่อวันที่ผ่านมา ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาฯ ได้นำคณะธรรมยาตราเดินทางออกจากเมืองเมียวดี เมียนมา กลับสู่ประเทศไทย โดยมีขบวนญาติธรรมชาวเมียนมาที่ยังคงประทับใจในคณะธรรมยาตราอยู่และกองกำลังรักษาความปลอดภัยของทหารกะเหรี่ยงติดตามมาส่งกันอย่างมากมายถึงกลางสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา,จากนั้นคณะธรรมยาตราได้เดินทางเข้าสู่ อ.แม่สอด จ.ตาก และปักกลดจำวัด ปฏิบัติธรรมที่วัดโพธิคุณ หรือวัดห้วยเตย ต.แม่ปะ อ.แม่สอด โดยมีชาวพุทธทั้งจากจ.ตาก และชาวเมียนมา ที่ข้ามฟากตามมาด้วยจำนวนหนึ่งเพื่อร่วมปฏิบัติธรรมกับคณะธรรมยาตราส่งท้าย ถือเป็นภาพแห่งความประทับใจของวงการพระพุทธศาสนาลุ่มน้ำโขง,ทางด้าน นายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ ประธานสภาอุตสาหกรรม จังหวัดตาก พร้อมด้วยฝ่ายบริหารและพนักงานบริษัท ทีเคการ์เม้นท์ จำกัด ที่มีพนักงานอยู่กว่า 1,700 คน และส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 90 เป็นชาวเมียนมา ได้นิมนต์คณะธรรมทูตของคณะธรรมยาตรา สวดเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล รวมถึงนิมนต์ท่านนาคะทีปะ เจ้าอาวาสวัดไจทีเซา อ.ภิเลน รัฐมอญ เมียนมา ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัดในการปฏิบัติ ร่วมอยู่ในคณะธรรมยาตราซึ่งเพิ่งได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย,ร่วมแสดงธรรม ที่หอปฏิบัติธรรมของบริษัท ก่อนที่คณะธรรมยาตราจะมุ่งหน้าออกเดินทางแวะ จ.กำแพงเพชร เพื่อเดินทางต่อไปปักกลดคืนสุดท้ายที่วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี จ.สมุทรปราการ รวมทั้งประกอบพิธีปิดโครงการโดย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 มิ.ย. 60 | ย่างเข้าสู่วันที่ 14 ของคณะธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน ซึ่งเดินทางออกจากเมืองเมียวดี เมียนมา กลับสู่ประเทศไทย ชาวเมียนมาร่วมส่งขบวนธรรมยาตราถึงกลางสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา โดยมุ่งหน้าเดินทางเพื่อไปปักกลดคืนสุดท้ายที่วัดสุวรรณภูมิ | ข่าว,ทั่วไทย | ธรรมยาตรา,ธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน,ขบวนธรรมยาตรา,วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี,เมียนมา | https://www.thairath.co.th/news/local/961697 |
กรรมการสิทธิมอบรางวัลบุคคลดีเด่นแห่งปี 54 ด้านสิทธิมนุษยชน | ราย รวม ทนง โพธิ์อ่าน - สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ฯลฯ ด้วย เนื่องในโอกาสวันสิทธิมนุษยชนสากล 10 ธันวาคม ประจำปี 2554 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้จัดงานวันสิทธิมนุษยชนสากล ในวันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2555 ณ ห้องเสวนา ชั้น 6 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ โดยจะมีการมอบรางวัลแด่บุคคลและองค์กรที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2554 ได้แก่รางวัล ผู้อุทิศตนเพื่อสิทธิมนุษยชน รางวัล นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนที่เสียชีวิต รางวัล สื่อสร้างสรรค์สิทธิมนุษยชน ดังมีรายชื่อ ดังนี้ 1. ประเภทบุคคลชาย ได้แก่ นายสุทธิ อัชฌาศัย 2. ประเภทบุคคลหญิง ได้แก่ นางสาวปาตีเมาะ เปาะอิแตดาโอะ 3. ประเภทเด็กและเยาวชนชาย ได้แก่ นายนพดล อยู่พรหมแดน 4. ประเภทเด็กและเยาวชนหญิง ได้แก่ นางสาวนริศราวัลณ์ แก้วนพรัตน์ 5. ประเภทบุคคลสื่อมวลชน ไม่มีผู้เสนอชื่อ 6. ประเภทองค์กรภาครัฐ ไม่มีองค์กรใดได้รับการคัดเลือก 7. ประเภทองค์กรภาคเอกชน จำนวน ๒ องค์กร ได้แก่ 1) กลุ่มสหภาพแรงงานอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ 2) ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย 8. ประเภทองค์กรสื่อสารมวลชนหรือรายการที่ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ได้แก่ รายการคุยกับแพะ 9. รางวัล ผู้อุทิศตนเพื่อสิทธิมนุษยชน บุคคลชาย จำนวน ๓ คน ได้แก่ 1) รองศาสตราจารย์ โคทม อารียา 2) บาทหลวง โจเซฟ เอช ไมเออร์ 3) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว บุคคลหญิงจำนวน ๒ คน ได้แก่ 1) รองศาสตราจารย์ กฤตยา อาชวนิจกุล 2) รองศาสตราจารย์ วไล ณ ป้อมเพชร 10. รางวัล นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนที่เสียชีวิต จำนวน ๗ คน ได้แก่ 1) นายทนง โพธิ์อ่าน 2) นายทองนาค เสวกจินดา 3) นายทองใบ ทองเปาด์ 4) นายนิคม จันทรวิทุร 5) นายสมชาย นีละไพจิตร 6) นายสงวน นิตยารัมภ์พงศ์ 7) นางสาววนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ 11. รางวัล สื่อสร้างสรรค์สิทธิมนุษยชน จำนวน ๖ รางวัล ได้แก่ 1) รายการคนค้นฅน 2) รายการสถานีประชาชน 3) รายการสิทธิวิวาทะ 4) โฆษณาชุด Silence of Love 5) สื่อออนไลน์ Deep South Watch (www.deepsouthwatch.org) 6) สื่อออนไลน์ Thaiflood (www.thaiflood.com) | สุทธิ อัชฌาศัย - ปาตีเมาะ เปาะอิแตดาโอะ - สหภาพแรงงานอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ ได้รางวัลด้านส่งเสริม-ปกป้อง-คุ้มครองสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้มีการมอบรางวัล นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนที่เสียชีวิต โดยปีนี้มี 7 | สิทธิมนุษยชน | คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเห่งชาติ,นักสิทธิมนุษยชน | https://prachatai.com/journal/2012/01/38936 |
ไทยคือคนป่วยใหม่แห่งเอเชีย บพ.สอบตกมาตรฐานการบินถือเป็นบทเรียน | กลายเป็น คนป่วยคนใหม่ของเอเชีย (The New Sick Man of Asia),นายบรรยง พงษ์พานิช คณะกรรมการนโยบาย กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุเหตุการณ์ที่เกิดที่กรมการบินพลเรือน (บพ.) ซึ่งถือว่าเป็นกรมเกรดเอ ถือเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ หลังจากที่องค์การการบินระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization) หรือไอเคโอ (ICAO) ซึ่งเป็นหน่วยงานของสหประชาชาติ ทำหน้าที่กำหนดและตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยต่างๆทางด้านการบินพลเรือน ได้เข้ามาตรวจสอบมาตรฐานการควบคุมสายการบินของไทย พร้อมๆกับประเทศอื่นๆในประเทศอาเซียนเมื่อต้นปี แล้วประกาศผลเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งประเทศไทยสอบตกยับเยินได้ที่โหล่,เราได้คะแนนแค่ 35.6% แพ้แม้กระทั่งเขมร (40.2%) อินโดนีเซีย (45.1%) ซึ่งเป็นอีกแค่สองชาติที่สอบตกได้ไม่ถึงครึ่ง ขณะที่บรูไน พม่า ลาว ที่ต่างก็มีเครื่องบินพลเรือนไม่กี่ลำ ต่างก็ได้ 65% สูงเกือบสองเท่าของไทย ส่วนมาเลเซีย ที่เครื่องเพิ่งตกไป 3 ลำในปีเดียว ผ่านฉลุย 81% ส่วนสิงคโปร์นั้นไม่ต้องพูดถึง ได้ไป 98.9% เกือบสูงสุดในโลกควบคู่ไปกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์,การตรวจสอบครั้งนี้เป็นไปตามมาตรฐานที่ชื่อว่า ICAO Universal Safety Oversight Audit Program (USOAP) ซึ่งล้วนเป็นข้อสอบที่ทุกคนรู้โจทย์อยู่ล่วงหน้าหมดแล้ว ทุกคนรู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง เมื่อไร และต้องทำเข้มข้นแค่ไหน นี่เป็นเหตุให้หลายประเทศได้คะแนนเกือบเต็ม จาก 100 กระบวนการที่ ICAO ตรวจสอบ ไทยสอบผ่านแค่ 21 กระบวนการเท่านั้น เชื่อว่ามีแต่ประเทศด้อยพัฒนาแถวแอฟริกาเท่านั้นที่ทำคะแนนได้แย่ขนาดนี้,ที่สำคัญต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงด้วยว่าเขาได้ตักเตือนถึงข้อบกพร่องตลอดมา และสำนักงาน ICAO ของภาคพื้น เอเชียแปซิฟิกก็ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครนี่เอง และแม้ ICAO จะไม่ได้มีอำนาจตามกฎหมายอะไร ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนกเรื่องความปลอดภัย เพราะมันหมายถึง บพ.ไม่ได้มาตรฐานเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าแต่ละสายการบินจะไม่ปลอดภัย แต่กรณีนี้เปรียบได้กับการมีคุณครูที่เฉื่อยแฉะ นั่งหลับพุงยื่นแล้ว ใครจะเชื่อว่านักเรียนในชั้นล้วนเก่งกาจ มีระเบียบวินัย นั่นเป็นเหตุให้ญี่ปุ่นมีมาตรการเข้มงวดกับสายการบินจากไทย ด้วยการห้ามเพิ่มเที่ยวบิน ห้ามเปลี่ยนแบบเครื่องบิน ห้ามเช่าเหมาลำ และยังขึ้นตรวจตามเที่ยวบินต่างๆอย่างเข้มงวด,ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้ กลายการเป็นผลักให้อุตสาหกรรมการบินของไทย ที่มีขนาด 400,000 ล้านบาท กำลังเดินเข้าสู่ภาวะวิกฤติและอาจลามไปกระทบอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมูลค่ากว่าหนึ่งล้านล้านบาทไปด้วย ซึ่งทั้งหมดมาจากสาเหตุที่ข้าราชการกรมเดียวไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่,ยิ่งไปฟังคำแก้ตัวของกรมการบินพลเรือน ก็ยิ่งขมขื่น อธิบดีบอกว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะขาดงบประมาณ ขาดกำลังคน มีเจ้าหน้าที่ด้านนี้ แค่ 11 คน ต้องดูแลใบอนุญาตตั้ง 46 สายการบิน แถมงานนี้ต้องการช่างเทคนิคที่มีทักษะ แต่เงินเดือนข้าราชการไม่สูงพอ เลยหาคนไม่ได้ ขณะที่งบประมาณสร้างสนามบิน 28 แห่ง กำลังคนดูแลสนามบินที่มีค่าใช้จ่ายสูง จัดหาได้สะดวกตลอดมา,นายบรรยงแสดงความคิดเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ที่ควรนำมาเป็นบทเรียนและหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น อีกจะต้องดำเนินการสืบสวนและเปิดเผยออกมาว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ใครต้องรับผิดชอบบ้าง อธิบดีและอดีตอธิบดีกี่คนที่ละเลย ทำให้เกิดความเสียหายได้มากถึงเพียงนี้,นี่คือระบบราชการไทย ที่ผมมองว่าระเบิดเวลาได้เริ่มขึ้นแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะลุกลามเท่าใด และระเบิดลูกอื่นๆที่เหลือจะระเบิดเมื่อไหร่ ผมพยายามวิเคราะห์ให้เห็นตลอดมาว่า รัฐที่ แสนดีและแสนเก่ง นั้นไม่มีอยู่จริง แต่ประเทศเรากลับมุ่งขยายภาครัฐไม่หยุดหย่อน ทั้งรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงินของรัฐ นโยบายประชานิยมสุดขั้ว ที่ซ่อนความเสียหายไว้ รวมทั้งระบบราชการที่สถาบันอนาคตไทยศึกษาระบุว่า ขยายจำนวนถึง 50% ในสิบปีที่ผ่านมาและมีเงินเดือนสวัสดิการรวมเพิ่มถึงสามเท่าตัว นี่เองคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เรากลายเป็น คนป่วยคนใหม่ของเอเชีย (The New Sick Man of Asia). | บรรยง เสนอนำกรณีกรมการบินพลเรือนมาเป็นบทเรียน สืบสวนและเปิดเผยให้ได้ว่าใครต้องรับผิดชอบ ใครละเลยหน้าที่ ย้ำระบบราชการไทยคือระเบิดเวลา และการเดินหน้าขยายกิจการภาครัฐอย่างต่อเนื่องตลอด 10 ปีที่ผ่านมา คือเหตุสำคัญที่ทำให้ไทย | null | ข่าวเศรษฐกิจ,บรรยง พงษ์พานิช,คนป่วยคนใหม่ของเอเชีย,The New Sick Man of Asia,กรมการบินพลเรือน,ไอเคโอ,มาตรฐานสายการบินไทย,ละเลยหน้าที่,ระบบราชการไทย | https://www.thairath.co.th/content/490581 |
อัดงบแก้แล้ง 57 จังหวัด 3 พันล้าน เป็นวาระแห่งชาติ | ด้าน ปภ.ประกาศพื้นที่ภัยแล้งแค่ 14 จว. เร่งจัดรถบรรทุกน้ำแจกจ่าย โดยหลายหน่วยงานต่างเร่งหาน้ำจืดพร้อมไปกับการแก้น้ำทะเลรุกคืบ และเตือนให้ประชาชนดูแลสุขอนามัยให้ดี ขณะที่ภาคใต้ก็เริ่มขาดน้ำ ข้าวยืนต้นตายหลายพื้นที่ความคืบหน้าของรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ในการระดมแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนค่อนประเทศจากสภาวะขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตรและใช้ในการอุปโภคบริโภค รวมถึงปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงเข้ามาในแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้น้ำมีค่าความเค็มเกินมาตรฐาน กระทบต่อการทำน้ำประปาและภาคการเกษตรนั้นประกาศเรื่องน้ำเป็นวาระแห่งชาติผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 7 ม.ค.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ในที่ประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ประกาศเรื่องน้ำเป็นวาระแห่งชาติ โดย ครม.เห็นชอบกรอบโครงสร้างศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจและแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เสนอกำหนดโครงสร้างตามระดับสาธารณภัยด้านน้ำที่เกิดขึ้น 3 ระดับ คือ 1.ภาวะสถานการณ์มีแนวโน้มความรุนแรงเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความรุนแรงในพื้นที่มากกว่าร้อยละ 10 2.ภาวะรุนแรง (หรือคาดว่าจะรุนแรง) และมีแนวโน้มความรุนแรงสูงขึ้นในพื้นที่มากกว่าร้อยละ 30 และ 3.ภาวะวิกฤติ (หรือคาดว่าจะเกิดวิกฤติ) มีแนวโน้มความรุนแรงสูงขึ้นในพื้นที่มากกว่าร้อยละ 60 นอกจากนี้ในที่ประชุม พล.อ.ประวิตรรายงานสถานการณ์น้ำให้ ครม.รับทราบพร้อมระบุว่าสถานการณ์น่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ปลูกข้าวนาปี และขณะนี้มีน้ำเค็มรุกเข้ามาแม่เจ้าพระยา ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามแผนมาตรการการจัดการน้ำ การกระจายน้ำ และมาตรการรณรงค์ประหยัดน้ำอย่างเคร่งครัด สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกพืชใช้น้ำน้อย และงดปลูกพืชตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ พร้อมเร่งรัดการขุดบ่อและขุดลอกพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญ ได้เน้นย้ำเรื่องการกักเก็บน้ำตามโครงการแก้มลิงเพื่อให้บรรลุผลตามเป้าหมายในปี 2563 ด้วย โดยนายกฯได้กล่าวเสริมว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่างยิ่ง และนายกฯ ถือว่าเรื่องนี้เป็นหัวใจสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนครม.ไฟเขียว 3 พันล้านบรรเทาภัยแล้งน.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.เห็นชอบตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ขออนุมัติงบกลาง 3079472482 บาท เป็นงบกลางในปี 2562 โดยจะใช้เป็นค่าใช้จ่ายในโครงการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งแบ่งใช้ในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 57 จังหวัด รวม 2011 โครงการ ของ 5 หน่วยงาน คือ การประปา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพบก กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค และการเกษตร โดยโครงการดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายใน 120 วัน เนื่องจากเป็นแผนการเร่งด่วน ทั้งนี้ โครงการที่จะนำเสนอ เป็นโครงการขุดเจาะบ่อบาดาล การวางท่อส่งน้ำ การก่อสร้างโรงสูบน้ำ และการติดตั้งท่อส่งน้ำดิบ การดูแลโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำ อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวแบ่งเป็น การขุดเจาะบ่อบาดาล 1100 แห่ง การจัดหาแหล่งผิวน้ำดิบ 230 โครงการ และการซ่อมแซมระบบน้ำประปา 654 โครงการ เป็นต้นประวิตร สั่งลุยเจาะบาดาลทันทีขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจและแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำว่า นายกฯ มอบหมายให้ตนเตรียมการแก้ปัญหาภัยแล้ง ซึ่งเตรียมการทั้งหาน้ำใต้ดินและบนดินไว้แล้ว โดยเฉพาะการขุดบ่อน้ำบาดาลเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านทั่วประเทศจำนวน 500 กว่าบ่อ มีการอนุมัติงบกลางประมาณ 3079 ล้านบาท และจะดำเนินการทันทีในวันที่ 8 ม.ค.โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งกระทรวงมหาดไทย ทหาร และกรมทรัพยากรน้ำเล็งให้ รง.ปันน้ำทิ้งช่วยพื้นที่เกษตรด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่าได้รับการรายงานจาก กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.)ว่าผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม ยังไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้งของปีนี้ตามที่หลายฝ่ายกังวล เนื่องจากมีกระบวนการนำน้ำเสียกลับมาใช้ในการผลิตอีกครั้ง ขณะนี้จึงไม่มีมาตรการลดการใช้น้ำภาคอุตสาหกรรมแต่อย่างใด แต่หากมีผู้ประกอบการรายใดที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบ น้ำไม่เพียงพอ กรอ.จะออกมาตรการช่วยเหลือทันที นอกจากนี้ เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมมีส่วนช่วยเหลือเกษตรกรรอบพื้นที่ตั้งกิจการ ในเดือน ม.ค.นี้ กรอ.เตรียมออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาอนุญาตโรงงานอุตสาหกรรมนำน้ำทิ้งของโรงงานไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่เกษตรกรรมในช่วงภัยแล้ง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมตัวเลขโรงงานที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ว่ามีจำนวนเท่าใดและในพื้นที่ใดเป็นต้นนายกฯ ชวนปิดก๊อกน้ำตอนแปรงฟันอย่างไรก็ดี ก่อนหน้านั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้กล่าวก่อนการประชุม ครม.ว่า ขอให้กระทรวงมหาดไทย เร่งชี้แจงทำความเข้าใจถึงปัญหาภัยแล้งและสถานการณ์น้ำประปาว่ารัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพยายามแก้ไขปัญหา เนื่องจากขณะนี้ประชาชนไม่เข้าใจว่าทำไมน้ำประปาจึงมีรสกร่อย การทำการเกษตรที่เหมาะสมกับปริมาณน้ำ รวมถึงขอความร่วมมือช่วงที่การแก้ไขน้ำประปารสกร่อย ประชาชนอาจใช้วิธีการต้มไปก่อนและขอร้องให้ทุกคนช่วยกันประหยัดน้ำ ใช้น้ำให้น้อยลง ระหว่างการปฏิบัติภารกิจ เช่น แปรงฟัน ปิดก๊อกน้ำก่อน เพราะแค่ประหยัดน้ำคนละ 1 นาทีต่อวันต่อคน ประหยัดได้ถึง 9 ลิตร หากคำนวณจากประชาชนใน กทม.10 ล้านคน สามารถประหยัดน้ำได้ถึง 100 ล้านลิตร ซึ่งช่วยประหยัดน้ำแล้วยังลดต้นทุนผลิตน้ำประปาด้วยจากนั้นนายกฯได้เป็นต้นแบบ ปิดก๊อกน้ำ ประปาที่ไม่ใช้ และรับมอบแก้วเพื่อช่วยลดโลกร้อน โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นการใช้ภาชนะต่างๆ อย่างตนมีกระบอกน้ำของตัวเอง ช่วยกันประหยัดลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติแล้ว ยังรักษาความสะอาดลดการใช้พลาสติกไปในตัว หากช่วยกันแบบนี้ แล้งนี้คนไทยต้องรอดบุกศาลากลางทวงเงินภัยแล้งสำหรับความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์ภัยแล้งที่ลุกลามไปทั่วประเทศขณะนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อบ่ายวันเดียวกัน ชาวนากว่า 200 คน จาก 3 อำเภอใน จ.ขอนแก่น เดินทางมารวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด เรียกร้องเงินเยียวยาภัยแล้งปี 2562 จากรัฐบาล ผ่านทางจังหวัดโดยมีนายสุเทพ มณีโชติ รอง ผวจ.และเกษตรจังหวัดขอนแก่น มารับเรื่อง นายสวาท อุปฮาด อายุ 60 ปี ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า จังหวัดประกาศให้ 19 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยฝนทิ้งช่วง ฝนแล้ง แต่ในพื้นที่ 3 ตำบล ใน 3 อำเภอนั้น มีการสำรวจตามแบบ กษ.01 เรียบร้อยแล้ว แต่มีการยกเลิก โดยแบ่งเกษตรกรทำนาออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่เก็บเกี่ยวได้บ้าง และกลุ่มที่ข้าวตาย ไม่ได้ผลผลิตเลย เจ้าหน้าที่มีการลงพื้นที่สำรวจแล้ว แต่ไม่นานก็มีพายุโพดุลพัดถล่ม จึงมีการยกเลิกประกาศ ชาวบ้านประสานงานไปที่อำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางแก้ไข กลับไม่ได้รับการเหลียวแล จึงเดินทางมาทวงถามดังกล่าวชลประทานอีสานจัดสำรองน้ำส่วนสำรองน้ำในพื้นที่ชลประทานนั้น ที่ จ.บึงกาฬ มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.โซ่พิสัย อ.ปากคาด อ.พรเจริญ และ อ.เมืองบึงกาฬ รวมทั้งสิ้น 238 หมู่บ้าน โดยนายประชา เกษลี ผอ.โครงการชลประทานบึงกาฬ กล่าวว่า ในพื้นที่รับผิดชอบมีอ่างเก็บน้ำอยู่ 53 แห่ง มีปริมาณน้ำเฉลี่ยปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 75 ถือว่าค่อนข้างดี คาดว่าน้ำจะเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคไปจนถึงต้นฤดูฝน ขณะที่นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผอ.สนง.ชลประทานที่ 6 ขอนแก่น เผยว่า กรมชลฯ มีเป้าหมายลดการใช้น้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ ที่ระบายลงลำน้ำพอง ผ่านฝายหนองหวายไหลลงแม่น้ำชี ผ่านเขื่อนมหาสารคาม เป็นแหล่งน้ำต้นทุนส่งไปสนับสนุนการผลิตน้ำประปาในพื้นที่ อ.เมืองมหาสารคาม ประมาณวันละ 50000 ลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลงเฉลี่ยวันละ 1-2 ซม.ขณะที่เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ จะระบายน้ำลงลำปาว ลงแม่น้ำชี เหนือเขื่อนร้อยเอ็ด พร้อมกับควบคุมระดับน้ำหน้าเขื่อนร้อยเอ็ด ให้อยู่ที่ระดับ +131 ม.รทก. (เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง) เพื่อให้ระดับน้ำบริเวณหน้าเขื่อนวังยางอยู่ในระดับใกล้เคียงกันขุดลอกคลองส่งน้ำ หนองงูเห่าขณะที่นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม นำเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบความพร้อมการดำเนินโครงการขุดลอกคลองส่งน้ำหนองงูเห่า บ้านบะหว้า ต.ท่าเรือ อ.นาหว้า เนื่องจากเดิมเป็นพื้นที่การเกษตรกว่า 1200 ไร่ แต่ช่วงฤดูแล้งทำการเกษตรไม่ได้ ทางจังหวัดประสานงาน กับ อ.นาหว้า เสนอของบประมาณ 3.8 แสนบาท นำมาพัฒนาขุดลอกหนองงูเห่า รับน้ำมาจากลำน้ำอูน เพื่อระบายน้ำลงคลองส่งน้ำหนองงูเห่า ไปยังพื้นที่การเกษตร สามารถทำนาปรังได้ในฤดูแล้งหลังดำเนิน การแล้วเสร็จชาวเมืองน้ำดำแห่เจาะบาดาลขณะที่ในพื้นที่ขาดแคลนน้ำต่างขวนขวายหาน้ำใช้กันทุกทาง โดยนายไพรินทร์ มาดสอาด อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 7 บ้านโนนขี้ตุ่น ต.หลักเหลี่ยม อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ช่วงหน้าแล้งระบบน้ำประปาภายในหมู่บ้านมีปัญหาน้ำไม่ไหล หรือไหลช้า แทบไม่มีน้ำเพียงพอต่อความต้องการในครัวเรือน ต้องลงทุนจ้างช่างเจาะบาดาลนำน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ โดยค่าจ้างรวมปั๊มตกประมาณ 1 หมื่นบาท หากมีน้ำขึ้นมาใช้ถือว่าคุ้ม เพราะหากรอระบบน้ำประปา มีไม่เพียงพอแน่นอน เกือบทุกหลังคาเรือนแห่ขุดเจาะบาดาลกันหมดแล้ว บางครอบครัวที่เป็นเครือญาติกันก็ขุด 1 บ่อ แบ่งกันใช้น้ำและช่วยกันหารค่าไฟถือเป็นการลดต้นทุนครูเดินป่าหาน้ำให้นักเรียนใช้ด้านนายสายันห์ ขิใสยา หรือครูตู่ ครูประจำชั้น ม.3 ร.ร.ห้วยหาน เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ที่โพสต์ข้อความพร้อมภาพในเฟซบุ๊กส่วนตัว ขณะแต่งชุดข้าราชการครูเดินป่าหาแหล่งน้ำให้นักเรียนและครูใช้ในห้องน้ำ หลังประสบภัยแล้งอย่างหนักเปิดเผยว่า โรงเรียนตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาสูงใกล้จุดชมวิวภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว ทางฝั่งพื้นที่ อ.เวียงแก่น นักเรียนส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่าม้ง วันที่เข้าป่าเป็นวันเปิดเรียนวันแรกหลังหยุดเทศกาลปีใหม่ ปกตินักเรียนทุกคนจะมีหน้าที่ รับผิดชอบ เตรียมความพร้อมห้องเรียน ห้องอาหาร ห้องน้ำ ต้องมีความสะอาดเรียบร้อย แต่วันดังกล่าวก่อนเคารพธงชาติ มีกลุ่มนักเรียนวิ่งมาหา พร้อมแจ้งปัญหาให้ทราบ ปกติโรงเรียนใช้น้ำประปาภูเขาที่ต่อมาจากต้นน้ำบนเชิงเขาที่สูงใกล้เคียง เป็นต้นน้ำไหลลงสู่พื้นล่าง ลงสู่แม่น้ำโขง ใช้มาหลายสิบปีไม่มีเคยปัญหา แต่ปีนี้ระดับน้ำมีน้อยกว่าทุกปีเนื่องจากมีฝนตกน้อย และมีความแห้งแล้งต่อเนื่อง ทำให้น้ำไม่พอใช้ ทางผู้บริหารโรงเรียนจึงมอบหมายให้ครูและภารโรงขึ้นไปช่วยแก้ไขปัญหา ย้ายจุดแหล่งน้ำประปา แก้ปัญหาน้ำไม่พอใช้ และแจ้งให้นักเรียนร่วมกันตระหนักการใช้น้ำอย่างประหยัดและคุ้มค่าภัยแล้งลาม อุตรดิตถ์-นครสวรรค์นายธนากร อึ้งจิตรไพศาล ผวจ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ปัญหาภัยแล้งของจังหวัดขณะนี้อยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่เข้าข่ายแล้งรุนแรง ขณะนี้มีการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้งแล้ว 7 อำเภอ ได้แก่ อ.ตรอน อ.ท่าปลา อ.น้ำปาด อ.บ้านโคก อ.พิชัย อ.ฟากท่า และ อ.เมืองอุตรดิตถ์ เนื่องจากแหล่งกักเก็บน้ำที่มีอยู่เกือบทั้งหมดมีระดับปริมาณน้ำเหลืออยู่ไม่มาก พร้อมประกาศเตือนให้เกษตรกรหันมาประหยัดน้ำ น้ำที่มีอยู่ให้ใช้เพื่อการอุปโภคเป็นหลักก่อน ขอฝากไปถึงประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดเพื่อให้มีน้ำพอเพียงในช่วงหน้าแล้งด้วย เช่นเดียวกับที่ อบต.ท่าไม้ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ประกาศให้ชาวบ้านงดใช้น้ำในแม่น้ำยมไปทำการเกษตร เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภคเท่านั้น หลังแม่น้ำยมที่ไหลผ่านพื้นที่แห้งขอด อีกทั้งยังมีแนวโน้มรุนแรงยาวนาน รวมถึงขอให้ชาวบ้านในพื้นที่ใช้น้ำกันอย่างประหยัด เนื่องจากหากน้ำในแม่น้ำยมหมดลงไป ก็จะไม่มีแหล่งน้ำต้นทุนอื่นอีกเลยสตูล-สงขลาครวญแล้งข้าวลีบในส่วนภาคใต้ ก็เจอความแห้งแล้งเช่นกัน โดยนายมอฮำหมัดกอรี หลังเกตุ ชาวบ้านหมู่ 7 ต.ย่านซื่อ อ.ควนโดน จ.สตูล เปิดเผยปลูกข้าวไว้ 1.5 ไร่ ทุกปีจะได้ข้าวไร่ละ 25 กระสอบ แต่ปีนี้ได้ข้าวไม่ถึง 5 กระสอบ เพราะฝนทิ้งช่วงเร็ว ข้าวที่ปลูกเป็นพันธุ์อัลฮัมดุลิลลาห์ เป็นข้าวหนัก 5 เดือน ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงข้าวกำลังตั้งท้อง ปกติจะเก็บเกี่ยวราวเดือน ก.พ.แต่ปีนี้เก็บเกี่ยวก่อนทำให้ผลผลิตไม่ได้ตามเป้า ข้าวเมล็ดลีบ รวงซีดขาว รวมถึงพื้นที่ห่างจากริมคลองที่ปลูกข้าวหนัก ก็ล้วนประสบปัญหาข้าวลีบแบบไม่มีเมล็ดเหมือนกันหมด ปีนี้ถือว่าขาดทุนหนัก เช่นเดียวกับที่ อ.สทิงพระ อ.ระโนด อ.สิงหนคร และ อ.กระแสสินธุ์ ที่ฝนทิ้งช่วงนาน ทำเอาชาวนาได้รับความเดือดร้อนหนัก โดยนางสมคิด หิรัญกูล อยู่บ้านเลขที่ 2/3 หมู่ 3 ต.คลองรี อ.สทิงพระ กล่าวว่า ตนทำนากว่า 15 ไร่ตอนนี้ข้าวกำลังออกรวง ถ้าอีกไม่เกินเดือนยังหาน้ำมาเติมในนาข้าวไม่ได้เสียหายแน่ ตอนนี้ชาวนารอน้ำฝนอย่างเดียวแต่ฝนไม่ตกหลายเดือนแล้ว น้ำจากคลองอาทิตย์นำมาใช้ไม่ได้เพราะระยะทางไกล 2 กม. ตนและชาวบ้านที่เหลือต้องทำใจขาดทุนยับแน่ ลงทุนประมาณ 2000 บาทต่อไร่ ทั้งค่าไถ่ ค่าปลูก ค่าปุ๋ย ยังไม่รวมค่าแรงอีก ปีนี้แล้งหนักในรอบสิบปีแล้งคันบ่อกุ้งก้ามกรามพังถล่มส่วนที่ จ.ฉะเชิงเทรา นายปิยะพงษ์ ปิติจะ ปลัดอำเภอบ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา นายพิทยา ฤากิจ หน.ฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 (ท่าถั่ว) ลงพื้นที่ตรวจสอบถนนเลียบคลองประเวศบุรีรมย์ บริเวณบ่อกุ้งของนายเสนอ ป้อมนาค อายุ 69 ปี หมู่ 1ต.คลองประเวศ เกิดดินถนนและคันบ่อกุ้งสไลด์ลงคลองเป็นทางยาว 100 เมตร ลึก 7 เมตร รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ทำให้กุ้งก้ามกรามของนายเสนอที่เลี้ยงในบ่อ 10 ไร่ ไหลออกจากบ่อลงคลองทั้งหมดทำเอาขาดทุนหนัก จึงประสานกรมประมงเข้าให้การช่วยเหลือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ่อกุ้ง และเตรียมประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เนื่องจากตอนนี้น้ำแห้งใกล้หมดคลองแล้ว พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและหาทางป้องกัน ทั้งนี้ นายพิทยา เผยว่า น้ำในแม่น้ำบางปะกงตอนนี้มีน้ำทะเลหนุนสูงไม่สามารถปล่อยน้ำเข้าสู่คลองประเวศบุรีรมย์ได้ จะเตรียมแผนป้องกันรับมือกับการสไลด์ของตลิ่งในพื้นที่ใกล้กับคลอง โดยชาวบ้านที่เลี้ยงปลา เลี้ยงกุ้ง ตอนนี้มีความเสี่ยงหมด เนื่องจากน้ำในคลองไม่มี ทำให้ตลิ่งพังลงคลองได้ตลอดเวลาคลองมะขามเฒ่าแห้งสนิทขณะที่คลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ที่เชื่อมจากแม่น้ำเจ้าพระยาส่งน้ำไปยัง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี พบว่าขณะนี้สภาพที่แห้งขอด เหลือเพียงดินโคลนติดก้นคลองและมีน้ำเหลือเป็นแอ่งเล็กๆประปรายเท่านั้น จากสภาพดังกล่าวทำให้สัตว์น้ำที่อยู่ในคลองแห่งนี้แห้งตายเกลื่อน จนเป็นแหล่งหาอาหารชั้นดีของนก โดยเฉพาะหอยกาบ 3 เหลี่ยม เป็นสัตว์น้ำประจำถิ่นที่มีอยู่มากในคลองมะขามเฒ่า พากันแห้งตายเกยตื้นบนดินที่แห้งแตกระแหงจำนวนมากประกาศเขตช่วยภัยแล้ง 14 จังหวัดทั้งนี้ วันเดียวกัน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 14 จังหวัด รวม 69 อำเภอ 420 ตำบล 3785 หมู่บ้าน ชุมชน แยกเป็น ภาคเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน เพชรบูรณ์ และอุตรดิตถ์ รวม 22 อำเภอ 125 ตำบล 965 หมู่บ้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด ได้แก่ นครพนม มหาสารคาม บึงกาฬ หนองคาย บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ และนครราชสีมา รวม 31 อำเภอ 215 ตำบล 2151 หมู่บ้าน 20 ชุมชน ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา และอุทัยธานี รวม 16 อำเภอ 80 ตำบล 649 หมู่บ้าน โดยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงมท.1 สั่งปล่อยน้ำแก้ประปาเค็มด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงแผนการรับมือภัยแล้งว่ามีการประกาศพื้นที่ภัยแล้งขณะนี้ 14 จังหวัด ในส่วนของน้ำอุปโภคบริโภคในพื้นที่ของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ที่มีความเสี่ยงจำนวน 22 จังหวัด ส่วนนอกพื้นที่ของ กปภ.ที่มีความเสี่ยงปัญหาเรื่องประปาท้องถิ่นและประปาหมู่บ้าน มี 43 จังหวัด โดย กปภ. เตรียมการมาตั้งแต่เดือน ก.ย. 2562 แล้ว ในส่วนของการประปานครหลวง (กปน.) ก็มีปัญหาน้ำกร่อย มีปริมาณเกลือในน้ำมาก จะมีผลต่อสุขภาพผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน เรื่องนี้มอบหมายให้ กปน. ทำงานประสานงานกับกรมชลประทาน ซึ่งได้ปล่อยน้ำจากลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และลุ่มแม่น้ำป่าสักฯ ลงมา โดยปล่อยน้ำจากเขื่อนชัยนาท 80 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และปล่อยน้ำจากแม่น้ำแม่กลองออกมาอีก 20 กว่าลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งปริมาณน้ำขนาดนี้ จะสามารถดันน้ำเค็มไม่ให้ขึ้นมาถึงสถานีสูบน้ำประปาสำแล จ.ปทุมธานี สิ่งที่อยากจะสื่อสารประชาชนคือกรมชลประทานได้ปล่อยน้ำจากเขื่อนต่างๆ เพื่อให้อยู่ได้ถึงเดือนกรกฎาคม โดยเน้นเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก ฉะนั้นเกษตรกรต้องช่วยกันอย่าสูบน้ำขึ้นมา โดยเฉพาะการนำน้ำไปทำนาธรรมนัส สั่งอธิบดีฝนหลวงช่วยเติมน้ำส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาภัยแล้งว่าได้สั่งการแล้วในการช่วยเหลือประชาชน จะเริ่มปฏิบัติการเดือนหน้าในทุกภาค โดยได้สั่งการให้อธิบดีกรมฝนหลวงวางยุทธศาสตร์ในการดำเนินการฝนหลวงว่าจะต้องทำอย่างไรสำหรับแผนของปีนี้ เพราะแต่ละปีจะไม่เหมือนกัน แต่ยืนยันเรามีขั้นตอนในการดำเนินการอยู่ การทำฝนหลวงนี้ก็จะไปช่วยเติมน้ำในพื้นที่ชลประทานและพื้นที่นอกชลประทาน แต่ทั้งนี้ จะเติมน้ำได้มากน้อยแค่ไหน ก็ต้องดูสภาพอากาศด้วย ส่วนการเยียวยาความเสียหายกับพืชผลเกษตรกรนั้น กระทรวงเกษตรฯ มีหลักการเป็นมาตรฐานอยู่แล้วกรมชลฯติดตั้งเครื่องสูบน้ำวันเดียวกัน นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน นำคณะสื่อมวลชนติดตามการบริหารจัดการน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศในลุ่มน้ำแม่กลอง แม่น้ำท่าจีน และเจ้าพระยา ทั้งที่สถานีวัดน้ำท่า C.29 A ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ บริเวณประตูระบายน้ำสิงหนาท 2 จ.พระนครศรีอยุธยา โรงสูบน้ำดิบการประปานครหลวง (สำแล) จ.ปทุมธานี โรงผลิตน้ำประปามหาสวัสดิ์ (คลองปลายบาง) จ.นนทบุรี และประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สมุทรปราการ จากนั้น นายทองเปลว เปิดเผยว่าศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) ได้ติดตามสถานการณ์คุณภาพน้ำด้านค่าความเค็มในลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง พบว่าปัจจุบันจุดเฝ้าระวังและควบคุมความเค็มแม่น้ำเจ้าพระยาที่โรงสูบน้ำดิบสำแลของการประปานครหลวง จ.ปทุมธานี ตรวจวัดค่าความเค็มได้ 0.22 กรัมต่อลิตร เกณฑ์เฝ้าระวัง 0.25 กรัมต่อลิตร ส่วนมาตรฐานเพื่อการผลิตประปาไม่เกิน 0.50 กรัมต่อลิตร จากนั้นจะใช้เครื่องสูบน้ำที่ประตูระบายน้ำพระยาบันลือรวม 54 เครื่อง ที่ประตูระบายน้ำสิงหนาท 2 จำนวน 12 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาสั่ง รพ.ในพื้นที่แล้งสำรองน้ำส่วนที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายเรวัต อารีรอบ ผู้ช่วยเลขานุการ รมช.สาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวมาตรการรับมือภัยแล้งและน้ำประปาเค็ม โดย พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า การเตรียมการรับมือของสถานพยาบาลนั้น มีการสั่งการให้ประเมินปริมาณการใช้น้ำทั้งในระดับโรงพยาบาลใหญ่และเล็กว่า แต่ละวันใช้น้ำมากน้อยเท่าใด และให้มีการสำรองน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในด้านการบริการ โดยเฉพาะในส่วนของห้องผ่าตัด ศูนย์โรคไต เป็นต้นเตือนระวัง 6 โรคจากภัยแล้งพญ.พรรณพิมลกล่าวว่า สำหรับประชาชนที่ต้องระวัง คือโรคติดต่อทางเดินอาหาร 6 โรคหลัก คือ โรคอุจจาระร่วง โรคอาหารเป็นพิษ โรคบิด อหิวาตกโรค โรคไทฟอยด์หรือไข้รากสาดน้อย และไวรัสตับอักเสบเอ ซึ่งย้ำว่าแม้ช่วงหน้าแล้ง แต่ก็ยังต้องรักษาอนามัยส่วนบุคคล แต่แนะนำว่าควรใช้น้ำอย่างประหยัดและพอเหมาะ ทั้งนี้ ช่วงหน้าแล้งมักจะมากับอากาศที่ร้อน ดังนั้นที่แนะนำ คือ 1.จิบน้ำบ่อยๆ ขึ้น จิบทีละน้อย ไม่ใช่ครั้งละมากๆ จะช่วยลดกระหายได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วย อาจขาดน้ำได้ง่ายกว่า 2.เตรียมนำบริโภค โดยน้ำดื่มต้องสะอาดอยู่ในมาตรฐาน 3.หากต้องใช้แหล่งน้ำจากธรรมชาติ เช่น คลอง แม่น้ำ ต้องมีการแกว่งสารส้มหรือใส่คลอรีน แต่น้ำดื่มยังต้องมาผ่านการกลั่นกรองหรือต้มอีกขั้นหนึ่งก่อน ส่วนน้ำบาดาล ใช้เป็นน้ำใช้ได้ เพราะมีการตรวจคุณภาพเหมือนน้ำประปา แต่ไม่ควรน้ำมาใช้ดื่ม และ 4.ดูแลแหล่งน้ำธรรมชาติ ไม่ทิ้งขยะและสิ่งปฏิกูล เพราะน้ำน้อยสภาพน้ำจะไม่ดีเท่าช่วงปกติเร่งขุดบ่อบาดาลช่วยชาวบ้านตามเกาะปลัด ทส.กล่าวต่อว่า ปัญหาภัยแล้งปีนี้ค่อนข้างรุนแรง ในส่วนของพื้นที่ที่เป็นเกาะแก่ง ได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในเรื่องนำอุปโภคและบริโภค ที่สำคัญ ในพื้นที่อุทยานฯ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีช้างป่าจำนวนมากให้มีการขุดบ่อน้ำเพิ่มคู่กับการเจาะบ่อบาดาล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับสัตว์ป่า ขณะนี้ได้มีการขุดบ่อที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน จ.ฉะเชิงเทรา ในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดและจะขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ เนื่องจากช่วงนี้นอกจากประสบปัญหาภัยแล้งแล้ว ยังจะมีไฟป่าเกิดขึ้นด้วยกทม.มีน้ำบาดาลรอให้ใช้เพียบด้านนายศักดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า ปริมาณน้ำบาดาลในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังมีปริมาณเพียงพอเพราะอยู่ในการควบคุมการใช้ เนื่องจากที่ผ่านมาในบางพื้นที่ประสบปัญหาดินทรุดเพราะในอดีตมีปริมาณการใช้น้ำบาดาลมากถึงประมาณวันละ 2.2 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) แต่ปัจจุบันมีการควบคุมการใช้น้ำบาดาลอยู่ประมาณวันละ 1 แสน ลบ.ม. ดังนั้น ในภาพรวมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลจะสามารถใช้น้ำบาดาลได้ประมาณวันละ 9 แสน ลบ.ม. หรือสูงสุดที่ 1.25 ล้าน ลบ.ม./วัน ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อพื้นดิน หรือทำให้ดินทรุดและปริมาณน้ำบาดาลจะเป็นน้ำสำรองให้กับส่วน ราชการอื่นๆ ที่จะสามารถนำน้ำไปใช้ประโยชน์ให้แก่ประชาชนได้ ขณะนี้น้ำผิวดินมีน้อยลง ส่วนน้ำบาดาลยังเป็นน้ำที่มีคุณภาพสะอาด ถ้าหากไม่นำขึ้นมาใช้น้ำบาดาลก็จะไหลลงสู่ทะเลไป | รัฐบาลประกาศชัดให้วิกฤติน้ำเป็นวาระแห่งชาติพร้อมอนุมัติงบกลาง 3 พันกว่าล้านบาท ใช้บรรเทาภัยแล้ง บิ๊กป้อม สั่งลุยเจาะบ่อบาดาลทันที ขณะที่นายกฯขอเป็นต้นแบบประหยัดน้ำ ชวนปิดก๊อกน้ำตอนแปรงฟัน | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า1,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ประหยัดน้ำสู้ภัยแล้ง,ประหยัดน้ำประปา,นายกฯ,ประปานครหลวง,ข่าววันนี้ | https://www.thairath.co.th/news/local/1742296 |
CHANEL เปิดบิวตี้ป๊อปอัปสุดชิค ‘Coco Game Center’ กลางกรุง ตั้งแต่ 14-30 กรกฎาคมนี้ | หากใครเดินผ่านห้างสรรพสินค้าเอราวัณ แบงค็อก บ่อยๆ คงเริ่มสังเกตเห็นแล้วว่า บริเวณชั้น 1 ของห้างมีบิวตี้ป๊อปอัปของแบรนด์เครื่องสำอาง CHANEL ปรากฏขึ้นอย่างโดดเด่น ที่นี่คือ Coco Game Center ที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นพื้นที่ช้อปปิ้ง สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณอันสนุกสนานของ Rouge Coco พร้อมกันนี้ยังใช้บิวตี้ป๊อปอัปแห่งนี้ฉลองการเปิดตัว Rouge Coco Lip Blush ใหม่ล่าสุดจาก CHANEL อีกด้วย คอนเซปต์ Coco Game Center ชวนให้รู้สึกสนุกตั้งแต่ก้าวแรกที่ผ่านพ้นประตูเข้าไป เพราะมันช่างคล้ายกับบรรยากาศสนุกสนานของโซนตู้เกมในประเทศญี่ปุ่น แบรนด์ CHANEL บอกว่า นี่แหละคือแรงบันดาลใจที่ใช้เป็นคอนเซปต์ในการสร้างพื้นที่สุดชิคนี้ขึ้นมา เพราะย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น นำพาความมีชีวิตชีวามาสู่ผู้พบเห็น จึงไม่แปลกใจว่าทำไม Coco Game Center แห่งนี้ถึงมีแรงดึงดูดให้อยากเข้าไปผจญภัยในสเตชันเกมต่างๆ ที่แบรนด์จัดเตรียมไว้มากมาย ดังนี้The Beauty Ride อยู่ซ้ายมือตรงทางเข้าเลย สาวๆ จะได้ลงแข่งรถใน Coco Car แบบสุดมัน แต่ก่อนจะแข่ง ลองทาปากด้วยสีสันเลิศๆ จะได้ถ่ายภาพเซลฟีอวดเพื่อนๆ ด้วย The Chanel Lounge พักเหนื่อยจากการแข่งรถมานั่งบนเบาะนุ่มๆ สักครู่ แล้วลอง Try and Test กองทัพน้ำหอม CHANEL ที่เรียงรายอยู่เบื้องหน้า บอกเลยว่าฟินสุดๆ The Bubble Game ใครเป็นเซียนคีบตุ๊กตาจะต้องชื่นชอบมุมนี้สุดๆ เพราะนี่ไม่ใช่ตู้คีบตุ๊กตาทั่วไป แต่นี่คือตู้เกมจับโมโคร-ดร็อปเล็ตของ Hydra Beauty พยายามจับให้ได้นะ เพราะรางวัลมีทั้งตัวอย่างผลิตภัณฑ์บำรุงผิว บริการแต่งหน้าด่วนจาก CHANEL รวมถึงของขวัญสุดน่ารัก เช่น เข็มกลัดสุดพิเศษนอกจากสเตชันเกมที่จะทำให้คุณได้ปลดปล่อยความสนุกเต็มที่แล้ว ไฮต์ไลต์เด่นยังไม่หมด เพราะที่นี่ยังรวมเอาเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และน้ำหอม CHANEL มาให้สาวๆ ได้อัปเดตกันอย่างใกล้ชิด ลองไปลองมาถ้าอยากหิ้วกลับบ้านก็มีจุดจำหน่ายไว้คอยอำนวยสะดวกให้อีก Coco Game Center กลายเป็นที่สุดฮิตที่เหล่าคนดังมากมายแวะเวียนมาอัปเดตความงาม และสัมผัสความสนุกของสเตชันเกมต่างๆ ใครอยากสัมผัสประสบการณ์แบบนี้บ้าง อย่าลืมแวะไปกันนะ บอกได้คำเดียวว่าเป็นดินแดนที่เข้าไปแล้วเพลิดเพลินจนลืมเวลาจริงๆPhoto: Courtesy of CHANEL | แบรนด์ CHANEL เปิดบิวตี้ป๊อปอัปสุดชิคชื่อ Coco Game Center โดยเนรมิตให้กลายเป็นพื้นที่ช้อปปิ้ง และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดอย่าง Rouge Coco Lip Blush ภายในเต็มไปด้วยเกมสเตชันมากมายให้เลือกสนุก ทั้งการแข่งรถ Coco Car และการคีบของรางวัลจากมุม The Bubble Game | null | null | https://thestandard.co/chanel-coco-game-center/ |
ไม่ทันได้ถาม ตร.เจอขวานคนเร่ร่อนไล่ฟันวุ่น หลังตรวจเหตุพระมรณภาพ | ล่าสุด ยังให้การจับใจความไม่ได้,เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 59 ร.ต.อ.พิเชษฐ แสงหาชัย สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุ พบผู้เสียชีวิตภายในป่าโพรงหญ้าข้างทาง บริเวณริมถนนศรีนครินทร์ แขวงและเขตสวนหลวง กทม. จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู,ที่เกิดเหตุเป็นป่าข้างทางถนนศรีนครินทร์ฝั่งขาเข้า มุ่งหน้าแยกลำสาลี ก่อนถึงศรีนครินทร์ซอย 8 ประมาณ 500 เมตร ลึกเข้าไปในป่าประมาณ 150 เมตร พบเพิงพักชั่วคราวภายในพบศพพระภิกษุสภาพศพนอนหงาย ขึ้นอืด เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน ส่วมสบงเพียงอย่างเดียว ตรวจสอบภายในตัวพบสมุดประจำตัวพระภิกษุ ระบุชื่อพระภิกษุยุพิน ชุมแพ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/1 ม.6 ตำท่าช้าง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เป็นพระลูกวัดของสำนักสงฆ์บ้านไอร์เจี๊ยะ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส และยังพบบัตรประจำตัวผู้ป่วย รพ.สุราษฎร์ธานี จากการตรวจสอบร่างกายไม่พบบาดแผลใดๆ ใกล้กันพบเพิงพักคนเร่ร่อน และพบว่ามีชายเร่ร่อนอาศัยอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเดินเข้าไปเพื่อสอบถาม แต่กลับถูกชายเร่ร่อนรายนี้ถืออาวุธขวานวิ่งไล่ฟัน เจ้าหน้าที่ตำรวจต่างวิ่งหนีกันไปคนละทิศละทาง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปิดล้อมพื้นที่และกันไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาเกลี้ยกล่อมกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งมีการให้น้ำ และอาหารอยู่เป็นระยะๆ ก่อนที่ตำรวจจะใช้จังหวะที่ชายเร่ร่อนเผลอเข้าทำการจับกุม,ร.ต.อ.พิเชษฐ เปิดเผยว่า หลับรับแจ้งก็ได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุดังกล่าว ก็พบชายเร่ร่อนนอนอยู่ภายในเพิงพักใกล้กับจุดพบศพ จึงเดินเข้าไปสอบถาม ทราบว่าพระภิกษุดังกล่าวเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตนจึงถามชายเร่ร่อนว่ารู้ว่า มีคนตายทำไมถึงไม่ยอมแจ้งตำรวจ ชายเร่ร่อนกลับตอบมาว่า เดี๋ยวก็มีคนมาแจ้งเองแหละ ทางตำรวจจึงเชิญตัวไปที่ สน.เพื่อสอบปากคำ แต่ชายเร่ร่อนไม่ยอมไป ก่อนจะหยิบขวานไล่ฟันเจ้าหน้าที่ตำรวจจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวชายเร่ร่อนไปที่ สน.หัวหมาก เพื่อสอบสวน แต่ขณะนี้ทางชายเร่ร่อนยังให้การจับใจความไม่ได้ และยังไม่สามารถระบุตัวตนได้ว่าเป็นใครมาจากไหน ส่วนศพพระภิกษุนำส่งนิติเวช รพ.ตร. เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตก่อนจะทำการประสานญาติให้มารับศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป. | พบศพพระภิกษุนอนมรณภาพกว่า 3 วัน ใกล้เพิงพักของชายเร่รอน ย่านถนนศรีนครินทร์ ตำรวจรุดตรวจสอบ ไม่ทันได้ถามกลับเจอขวานวิ่งไล่ฟันแตกกระเจิง เกลี้ยกล่อมนานกว่า 1 ชม. ก่อนอาศัยจังหวะเผลอเข้าชาร์จตัวนำส่งโรงพัก | null | พบศพพระ,ขวานไล่ฟัน,คนเร่ร่อน,ฟันตำรวจ,ถนนศรีนครินทร์ | https://www.thairath.co.th/content/805762 |
กอนซาลเวส ลั่น ไม่เจ๋งจริง ไม่กล้าท้าชิงแชมป์โลก รถถัง | แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ทำให้ วอลเตอร์ กอนซาลเวส ขยาด ประกาศขอดับซ่า รถถัง ด้วยการกระชากเข็มขัดแชมป์โลกONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต มาเป็นเกียรติประวัติอีกเส้น,สำหรับนักชกชาวบราซิลวอลเตอร์ กอนซาลเวส แฟนหมัดมวยชาวไทยหลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี เขาเดินสายชกในสนามมวยเมืองไทยและกวาดเข็มขัดแชมป์รายการดังมาได้ถึง 3 เส้น,กอนซาลเวสชกมวยมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ โดยสั่งสมชื่อเสียงในประเทศบ้านเกิด ก่อนเดินทางมายังถิ่นกำเนิดมวยไทย โดยได้รับการสนับสนุนจากพ่อและโค้ช ให้มาฝึกซ้อมอยู่กับค่ายศิษย์สองพี่น้องภูเก็ต,นักชกชาวบราซิลวัย 21 ปี สร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็วในฐานะนักมวยที่มีสไตล์การชกบู๊บุ๋น ดุดัน เดินหน้าอย่างเดียวไม่มีเกียร์ถอย มีพละกำลังเกินวัย และความรวดเร็วคล่องแคล่ว ทำให้เขากวาดสถิติ ชนะ 65 แพ้ 5 และคว้าตำแหน่งแชมป์มวยไทยมาครอง,แรงผลักดันของกอนซาลเวส มาจากพื้นฐานครอบครัวที่ยากจน เติบโตในสลัม หาเช้ากินค่ำ ในสมองมีแต่เรื่องความอยู่รอด จึงทำให้เขาต้องต่อสู้ดิ้นรน มีความคิดเกินวัย และศรัทธาในความขยันหมั่นเพียร และเชื่อว่าเมื่อกล้าที่จะฝัน ก็ต้องมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึง,แม้รถถัง จะเป็นนักชกสุดแกร่งขึ้นชื่อของวงการมวยไทย สมฉายามนุษย์เหล็ก ดิ ไอรอนแมน แต่ กอนซาลเวส เชื่อว่าเขาเป็นผู้ท้าชิงที่สมน้ำสมเนื้อ ควรค่าแก่การท้าชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE เส้นนี้เป็นที่สุด,ด้วยสถิติเพียง 70 ไฟต์อาจเทียบไม่ได้กับของนักชกไทยที่มีกว่า 300 ไฟต์ แต่หัวจิตหัวใจของเขาไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันแน่นอน หรืออาจจะมากกว่า เพราะความทะเยอทะยานอยากได้และกระหายที่จะเป็นแชมป์โลกสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งเป็นความฝันสูงสุดของเขาในเวลานี้,ผมรู้ว่าเขา(รถถัง) มีชื่อเสียงโด่งดัง เขาแข็งแกร่ง ดุดัน และมีประสบการณ์มากมาย ผมให้เกียรติและเคารพเขาในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพ แต่เมื่ออยู่บนเวที ผมจะไม่คิดถึงเรื่องนี้ ผมจัดหนักใส่เขาแน่,มีสองอย่างที่ผมต้องระวังคือลูกเตะเจาะยาง และหมัดของเขา แต่โค้ชและผมกำลังเตรียมแผนรับมือกับอาวุธเหล่านี้อยู่ และผมมีเซอร์ไพรส์ มันไม่สำคัญว่าจะฝึกหนักแค่ไหน ถ้าจิตใจคุณไม่พร้อม แต่ถ้าใจสู้ ผมเชื่อว่าผมสามารถทำได้ทุกอย่าง,ผมจะพิสูจน์ให้โลกเห็นว่ายังมีคนที่กล้าฝันและมีความมุ่งมั่น ผมกำลังจะขึ้นสู้ในอีเวนต์ประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผมจะพิชิตโลกใบนี้รวมถึงเข็มขัด ONE ด้วย,รถถังและกอนซาลเวส จะเผชิญหน้ากันบนสังเวียนประวัติศาสตร์ ในโอกาสที่ วัน แชมเปียนชิพ เดินทางมาถึงนัดที่ 100,ในศึก ONE: CENTURY PART II วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคมนี้ ถ่ายทอดสดจากสนามเรียวโงกุ โกกุงิกัง กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เวลา 15.00 น.เป็นต้นไปทางแอปพลิเคชัน ONE Super App โหลดฟรี ชมฟรีตลอดการแข่งขัน | นาทีนี้นักชกไทยใครจะฮอตเท่า รถถัง จิตรเมืองนนท์ เป็นไม่มี ขนาดขึ้นทาบชั้นนักชกรุ่นพี่ เสกสรร อ.ขวัญเมือง สองไฟต์ติด ก็พิชิตชัยมาได้ทั้งสองครั้ง | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | รถถัง จิตรเมืองนนท์,ศึกสังเวียนเดือด,วัน แชมเปียนชิพ,เสกสรร อ.ขวัญเมือง,วอลเตอร์ กอนซาลเวส | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1669608 |
4 คู่(หมด)รัก ปิดฉากความสัมพันธ์ แต่ยังทำหน้าที่พ่อแม่ได้เริด | เรื่องของความรักใครว่ามันไม่มีวันหมดอายุ ดูได้จากคู่รักดาราบางคู่ที่ทำให้หลายคนเซอร์ไพรส์มาแล้ว ด้วยการประกาศเลิกรากันทั้งๆ ที่อยู่ด้วยกันมาหลายปี หรือแต่งกันแป๊บๆ ก็เลิกราแยกย้ายทางใครทางมัน แต่แม้ความรักของคนทั้งคู่จะจบลง แต่เพราะความรักที่มีต่อลูกไม่เคยจะลดน้อยถอยลง ความเป็นพ่อเป็นแม่ที่มีอยู่ก็ยังต้องดำเนินต่อไป มาดูกันว่าคู่รักคู่ร้างคู่ไหนที่แม้จะหมดรักแต่ยังทำหน้าที่พ่อแม่ได้เป็นอย่างดี ไปดูกันเลย,เริ่มต้นกันที่คู่ของหมิว ลลิตา และ ก้อง นฤบดี ที่แต่งงานสร้างครอบครัวอบอุ่นด้วยกันมาตั้งหลายสิบปี ก็เพิ่งจะประกาศสิ้นสุดความเป็นสามีภรรยาต่อกันเมื่อไม่นานมานี้ แต่ลูกชายทั้ง 2 คนอย่าง แพนตอน และ อีตั้น พ่อก้อง-แม่หมิว ก็ยังดูแลลูกๆ เป็นอย่างดี โดยหมิวเผยว่า ตนและก้องผลัดกันทำหน้าที่ของพ่อและแม่ให้กับลูกๆ ทั้ง 2 คนเหมือนที่เคยทำมาตลอดก่อนที่จะหย่าร้างกัน ,ส่วนคู่ร้างอย่าง ฟลุค เกริกพล และ โบ ชญาดา แม้จะยุติความรักแบบคนรักกันไปด้วยความเข้าใจมานานแล้ว แต่หน้าที่ของความเป็นพ่อเป็นแม่ของฟลุคและโบ ก็ยังคงมีให้น้องอชิ ลูกชายสุดที่รักของทั้งคู่อยู่ไม่มีเปลี่ยน แม้ทั้งโบและฟลุคจะมีครอบครัวใหม่แล้วก็ตาม แต่หน้าที่ของคนเป็นพ่อแม่ที่มีต่อลูกไม่ได้ลดหายไป แถมครอบครัวใหม่ก็ยังรักและเอ็นดูน้องอชิเหมือนลูกจริงๆ เรียกว่าน้องอชิมีความสุขแบบคูณ 2 น่าอิจฉาสุดๆ ไปเลย,ด้านปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล และ พลอย พลอยพรรณ อดีตคู่รักที่หวานชื่นที่ใครๆ เคยอิจฉา มาวันนี้แม้สถานะความรักที่เคยมีต่อกันมันจะเปลี่ยนไป แต่ความเป็นพ่อเป็นแม่ที่มีต่อน้องแพนเตอร์ และ พูม่า ก็ยังคงมีอยู่อย่างเต็มร้อย จึงทำให้ปีเตอร์ และ พลอย ยังคงทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุดต่อไป แม้จะเคยมีเรื่องบาดหมางใจกันมากแค่ไหน แต่เพื่อลูกคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องทำให้ดีที่สุด เห็นได้จากภาพล่าสุดในงานวันเกิดของน้องแพนเตอร์ ที่พ่อปีเตอร์เคลียร์คิวงานแน่นมาร่วมฉลองวันเกิดให้ลูกชายคนโต,ปิดท้ายที่คู่ของ ไมค์ พิรัชต์ และ ซาร่า คาซิงกีนี คุณพ่อคุณแม่วัยละอ่อนของน้องแม็กซ์เวลล์ ที่แม้จะสิ้นสุดความรักที่มีต่อกันไป แต่ความรักที่มีต่อลูกชายตัวน้อยก็ยังมีอยู่ ซาร่าและไมค์จึงขอทำหน้าที่แม่และพ่อให้กับลูกชายคนเดียวให้ดีที่สุด ว่างจากการทำงานที่ต่างประเทศเมื่อไร หนุ่มไมค์ก็จะรีบมารับลูกชายตัวน้อยไปเที่ยวเล่นกันตามประสาพ่อลูกทันที ,แม้ความรักแบบชู้สาวจะหมดอายุไป แต่ความรักที่มีต่อลูกก็ไม่ได้ถดถอยน้อยลง ความเป็นพ่อเป็นแม่ที่ติดตัวอยู่ก็ยังดำเนินต่อไป และพวกเขายินดีและเต็มใจที่จะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุดเพื่อลูกของพวกเขาเอง. | เรื่องของความรักใครว่ามันไม่มีวันหมดอายุ ดูได้จากคู่รักดาราบางคู่ที่ทำให้หลายคนเซอร์ไพรส์มาแล้ว ด้วยการประกาศเลิกรากัน แม้ความรักจะจบลง แต่ก็ยังทำหน้าที่ดูแลลูกๆ เป็นอย่างดี มีคู่ไหนบ้าง ไปดูกัน | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | หมิว ก้อง,ไมค์ ซาร่า,ปีเตอร์ พลอย,โบ ฟลุค,ดาราเลิกกัน,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/908671 |
พาณิชย์ ยันไทย มีระบบดูแลการส่งออก สินค้าสองทาง เข้มงวด | นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าได้ย้ำให้ประเทศต่างๆ ได้รับรู้ และมั่นใจว่าไทย มีระบบควบคุมดูแลสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual–use Items: DUI) และมั่นใจได้ว่าไทยทำการค้าปลอดภัย เพราะมีการป้องกันการนำสินค้า DUI ไปผลิตเป็นอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (WMD) และป้องกันปัญหาการก่อการร้ายอย่างเต็มที่,สำหรับ การที่ไทยมีมาตรการควบคุมดูแลสินค้า DUI จะทำให้ไทยได้รับการยอมรับจากสากลว่าการส่งออกสินค้าดังกล่าว ที่มีความเสี่ยงจะนำไปใช้ทำอาวุธร้ายแรงนั้น มีความปลอดภัย ทำให้คู่ค้ามั่นใจในการทำการค้ากับไทย และยังกล้าเข้ามาลงทุนผลิตสินค้า DUI ในไทย รวมทั้งจะช่วยผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าเทคโนโลยีขั้นสูง เป็นศูนย์กลางการส่งออกถ่ายลำ และผ่านแดนสินค้า DUI ในอาเซียนตอนบนได้,ผลจากการที่ไทยมีมาตรการดูแลสินค้าที่ใช้ได้สองทาง จะช่วยป้องกันไม่ให้ประเทศคู่ค้ามากล่าวหาว่าไทยไม่มีระบบควบคุมดูแลสินค้า ที่จะนำไปใช้ทำอาวุธร้ายแรงและป้องกันการก่อการร้าย จนนำมาใช้เป็นข้ออ้างกีดกันทางการค้ากับไทย และยังช่วยปกป้องมูลค่าการส่งออกสินค้า ที่เข้าข่ายเป็นสินค้า DUI ที่มีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 2.27 ล้านล้านบาทต่อปี ไม่ให้ได้รับผลกระทบด้วย,นายวินิจฉัย กล่าวว่า ที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้พัฒนาระบบควบคุมดูแลสินค้า DUI เริ่มจากการออกประกาศกระทรวงพาณิชย์กำหนดให้สินค้าที่ใช้ได้สองทางเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตและกำหนดสินค้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2558 และได้พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับการขออนุญาตการส่งออกผ่านทางออนไลน์ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการ,ล่าสุด ได้ผลักดันให้มี พ.ร.บ.การค้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. ขณะนี้อยู่ในกระบวนการนิติบัญญัติ หากมีผลบังคับใช้ จะทำให้ไทยดูแลการส่งออก การผ่านแดน การถ่ายลำ การเป็นคนกลาง การสนับสนุนทางการเงินและการดำเนินการใดๆ ในการพัฒนา ผลิต จัดหา ครอบครอง ขนส่งที่เกี่ยวข้องกับสินค้าดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้น,นอกจากนี้ ยังได้เตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการไทย โดยกระทรวงฯ ได้จัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนมากกว่าปีละ 10 ครั้ง มีผู้เข้าอบรมกว่า 2,000 ราย โดยมุ่งให้ความรู้เกี่ยวกับความจำเป็นและการป้องกันไม่ให้มีการนำสินค้าที่ใช้ได้สองทางไปทำอาวุธหรือนำไปใช้ในการก่อการร้าย ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการมีความรู้ความเข้าใจและมีความพร้อมในการควบคุมดูแลการส่งออกสินค้าที่ใช้ได้สองทางมากขึ้น,สำหรับ สินค้าที่ใช้ได้สองทาง ที่สามารถนำไปผลิตดัดแปลงเป็นอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงได้ เช่น เส้นใยคาร์บอนที่ใช้ผลิตอุปกรณ์กีฬา ได้แก่ ไม้เทนนิส ไม้แบดมินตัน สามารถใช้ผลิตชิ้นส่วนของขีปนาวุธ, สารไตรเอธาโนลามีนที่ใช้ทำสบู่ ผงซักฟอก หรือโลชั่น นำมาเป็นสารพิษ ควันพิษ, ทอเรียมที่ใช้ผลิตไส้ตะเกียง นำมาดัดแปลงเป็นอาวุธนิวเคลียร์, เซรุ่ม นำมาผลิตเป็นอาวุธชีวภาพทำลายระบบประสาท และระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น โดยปัจจุบันไทยส่งออกสินค้าที่ใช้ได้สองทางประมาณ 2 ล้านล้านบาท | พาณิชย์ ยันไทยมีระบบควบคุมดูแลการส่งออกสินค้าใช้ได้สองทางเข้มงวด ปิดทางนำไปใช้ผลิตเป็นอาวุธทำลายล้างสูง สร้างความมั่นใจให้คู่ค้าทำการค้ากับไทยปลอดภัย ไร้ปัญหาก่อการร้าย และไม่ถูกนำมาเป็นข้ออ้างกีดกันการค้าแน่นอน | ข่าว,เศรษฐกิจ | วินิจฉัย แจ่มแจ้ง,กรมการค้าต่างประเทศ,กระทรวงพาณิชย์,DUI,WMD,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1008387 |
ยังลอยนวล ทอมดี้18 มงกุฎคู่แสบ หลอกเอาเงิน สาวลำปางกว่า 5 ล้าน | เวลา 08.00 น.วันที่ 12 ต.ค.60 นางภัคภร ด่านตระกูล อายุ 45 ปี อาชีพทำธุรกิจส่วนตัว อยู่บ้านเลขที่ 298 หมู่ 4 ต.ทุ่งงาม อ.เสริมงาม จ.ลำปาง นำหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี หลักฐานทางการเงินและเอกสารอื่นๆ เข้าพบผู้สื่อข่าว เผยว่า ถูกมิจฉาชีพเป็นทอม และดี้ ชื่อน.ส.ภัทรวดี การกสิขวิธี (ทอม) อายุ 37 ปี และน.ส.วัชรี กิ่งตุ้ม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 7 ตำบลคลองพระอุดม อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ จ279/2560 จ280/2560 ร่วมกันฉ้ออโกง ,นางภัคภร เปิดเผยว่า ได้รู้จักกับทั้งสองคนตอนที่ลงทุนเปิดร้านเสริมสวยอยู่ที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยทั้งคู่ทำทีมาเป็นลูกค้าขาประจำ มาตีสนิท ต่อมาร้านไม่ค่อยมีลูกค้าทั้งคู่ก็ได้มาขอเซ้งร้าน และเช่าบ้านอยู่ใกล้ๆ จนเริ่มสนิทกัน ก่อนชวนตนทำธุรกิจสปา ใช้เงินลงทุนกว่า 10 ล้านบาท โดยบอกว่าจะมีนายทุนชื่อนายราฟาเอล ชาวออสเตรีย ออกเงินทุนให้ 10 ล้านบาท และให้ตนไปเปิดบัญชี ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาถนนพัฒนาการ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 18 พ.ย.2559 เพื่อรอรับเงินโอนจากนายราฟาเอล,เมื่อเปิดบัญชีแล้วผู้ต้องหาก็ขอเก็บสมุดบัญชีและ ATM ไว้โดยอ้างว่ากลัวเราจะเบิกเงินไปใช้ ซึ่งเราก็ยอม หลังจากนั้นเมื่อต้นปี 60 ทั้งคู่ได้พาไปดูสปาซึ่งกำลังก่อสร้าง อยู่ที่ภายในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในอำเภอชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งช่วงที่จะเริ่มลงทุนทั้งคู่จะสร้างความเชื่อถือโดยพาไปดูความคืบหน้าการก่อสร้าง อีกทั้งยังพาไปเป็นเพื่อนว่าจะซื้อรถหรู ทำทีว่าเป็นคนมีเงิน จนหลงเชื่อทยอยโอนเงินเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ เข้าบัญชีที่เคยไปเปิดบัญชีรอเงินโอนจากราฟาเอล เป็นเงินกว่า 2,800,000 บาท ระหว่างนั้นทั้งคู่ยังได้ชวนไปลงทุนทำร้านอาหารที่ประเทศออสเตรียอีก โดยอ้างว่ารู้จักคนในสถานทูต แต่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ค่าดำเนินการ ค่าเทอมลูกชายที่จะไปเรียนต่างประเทศ ค่าจองตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรมที่จะไปพัก ยังหลอกให้ออกเงินไปมัดจำบ้าน และอื่นๆ อีกหลายรายการเป็นเงินอีกกว่า 2 ล้านบาท มาเริ่มเอะใจก็ตอนที่ถามถึงเรื่องที่จะเดินทางไปต่างประเทศแล้วก็ไม่ได้ไปซะที รวมทั้งหมดเป็นเงินกว่า 5 ล้านบาท,ทั้งนี้ ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 29 พ.ค.60 จนกระทั่งศาลได้ออกหมายจับเมื่อวันที่ 25 ก.ค.60 แต่ตำรวจก็ยังจับตัวผู้ต้องหาทั้งคู่ไม่ได้ จึงมาร้องสื่อมวลชนเนื่องจากพฤติกรรมของผู้ต้องหา ทำงานกันเป็นทีม ขณะนี้ตนมีเพื่อนร่วมชะตากรรมอีก 2 ราย และคาดว่าน่าจะมีผู้เสียหายมากว่านี้ ตอนนี้เดือดร้อนมาก เพราะได้นำทรัพย์สินไปจำนอง ในส่วนตัวเองก็ยอมรับว่าหลงเชื่อคนง่าย แต่หากใครไม่โดนกับตัวเองคงไม่รู้ว่าแก๊งพวกนี้มีวาทศิลป์ เล่ห์เหลี่ยม ทำงานเป็นทีม สร้างตัวละครให้หลงเชื่อ ทำให้คนอย่างเราๆ กลายเป็นเหยื่อ. | สาวลำปางมาเปิดร้านเสริมสวยที่ชะอำ ถูกทอม ดี้ คู่แสบ วางแผนแยบยล หลอกลงทุนทำธุรกิจสปา และร้านอาหารในต่างประเทศ โอนเงินไปหลายรอบสูญกว่า 5 ล้าน แจ้งความแล้ว ศาลออกหมายจับนานหลายเดือนแล้ว แต่คดีไม่คืบ | ข่าว,ทั่วไทย | หลอกลงทุน,ทอมดี้,แจ้งจับทอมดี้,คู่แสบ,ลำปาง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1096840 |
ไม่ง่ายอย่างที่คิด จั๊กจั่น ปล่อยโฮกลางกอง เครียดบทภาษาอีสาน ใน สะใภ้ไร้ศักดินา | ทำเอาทีมงานตกใจในขณะที่นางเอกสาว จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ สุวรรณศุข กำลังเข้าฉากในละคร สะใภ้ไร้ศักดินา ทางช่อง 8 อยู่ๆ เจ้าตัวก็ปล่อยโฮขณะที่กำลังเข้าฉากกับ แม็คเก้ พงศ์ณริลณ์โดยฉากนี้ เป็นฉากที่ทั้งคู่ต้องต่อล้อต่อเถียงกัน ซึ่งต้องพูดเป็นภาษาอีสานทั้งหมด แถมจังหวะต้องเป็นคอมเมดี้ และบทยาวมาก ถึงแม้นางเอกสาวจั๊กจั่นจะเตรียมตัวทำการบ้านมาแล้วอย่างดี แต่ด้วยความที่ตั้งใจมาก จึงกดดันตัวเอง ส่งผลให้เครียดจนปล่อยโฮออกมานั่นเอง แต่หลังจากที่ร้องไห้แล้ว และได้กำลังใจจากนักแสดง ทีมงาน ผู้กำกับ สาวจั๊กจั่นก็กลับมาฮึดสู้อีกครั้ง และถ่ายทำฉากนี้ได้จนออกมาสำเร็จผ่านไปได้ด้วยดี ท่ามกลางเสียงชื่นชมถึงความตั้งใจนี้ของเธอ เรียกได้ว่าทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจจริงๆนอกจากจะได้เห็นจั๊กจั่นพูดภาษาอีสานแล้ว เรื่องนี้เธอยังต้องร้องเพลงลูกทุ่ง และเต้นอีกด้วย ซึ่งตอนนี้ละครสะใภ้ไร้ศักดินา กำลังเดินหน้าถ่ายทำกันอย่างเต็มที่ รับรองว่า ร้องเล่น เต้น ฮา โดนใจจนต้องเกิดแฮชแท็ก #ปลิวลม2020 ได้ไม่ยากอย่างแน่นอน ติดตามชมได้เร็วๆ นี้ ทางช่อง 8. | ทำเอาทีมงานตกใจในขณะที่นางเอกสาว จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ สุวรรณศุข กำลังเข้าฉากในละคร สะใภ้ไร้ศักดินา ทางช่อง 8 อยู่ๆ เจ้าตัวก็ปล่อยโฮขณะที่กำลังเข้าฉากกับ แม็คเก้ พงศ์ณริลณ์ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | สะใภ้ไร้ศักดินา,ปลิวลม2020,จั๊กจั่น อคัมย์สิริ,แม็คเก้ พงศ์ณริลณ์,จั๊กจั่น สะใภ้ไร้ศักดินา,นิยาย,ละครช่อง 8,ละคร | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1763141 |
ไปกันใหญ่ แมนฯยู อาการหนัก บุกพ่ายนิวคาสเซิล 0-1 | การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-20 ประจำวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค. คู่ที่น่าสนใจ สาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เปิดสนามเซนต์ส เจมส์ ปาร์ค รับการมาเยือนของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 12 นิวคาสเซิลได้ลุ้น จากจังหวะที่ อัลลัน แซงต์-มักซิแม็ง ซัดจากนอกกรอบ บอลหลุดเสาออกไป,จากนั้นนาทีที่ 28 นิวคาสเซิลได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ แมทธิว ลองสตาฟฟ์ ยิงไกล บอลชนคานดังสนั่น และถัดมานาทีเดียว นิวคาสเซิล ได้เตะมุมฝั่งซ้าย ฌอน ลองตาฟฟ์ เปิดบอลมาเสาแรก ฟาเบียน ชาร์ โฉบมาโหม่งข้ามคานนิดเดียว,ถึงนาทีที่ 39 โอกาสของนิวคาสเซิล มิเกล อามิรอน หลุดไปยิงในเขตโทษ แต่ติดบล็อกกองหลัง,นาทีที่ 41 แมนฯยู ได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ แฮร์รี แม็คไกวร์ จ่ายบอลให้ อันเดรียส เปเรรา ลากมาซัดด้วยขวา แต่บอลตรงตัว มาร์ติน ดูบราฟกา,และในนาทีที่ 45 แมนฯยู น่าได้ประตูสุดๆ เมื่อ แอชลีย์ ยัง เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ แฮร์รี แม็คไกวร์ ได้โขกเน้นๆ บอลหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว,จบครึ่งแรก นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ยังเสมอ นิวคาสเซิล 0-0,กลับมาเล่นต่อครึ่ง นาทีที่ 59 แมนฯยู เกือบขึ้นนำ เมื่อ อันเดรียส เปเรรา เปิดบอลจากฝั่งซ้ายไปที่เสาสอง แดเนียล เจมส์ พุ่งมาโหม่งแต่ไม่โดนอย่างน่าเสียดาย,จากนั้นนาทีที่ 72 กลายเป็น นิวคาสเซิล ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เฉยเลย จากจังหวะที่ แมทธิว ลองสตาฟฟ์ ซัดเรียดจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งผ่าน เดเคอา เข้าไปอย่างเฉียบขาด,ถึงนาทีที่ 75 แมนฯยู ได้ฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวา แอชลีย์ ยัง เปิดบอลเข้าเขตโทษ มาร์กอส โรโฮ โขกข้ามคาน,ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาแพ้ นิวคาสเซิล 0-1 มี 9 คะแนนเท่าเดิม อยู่อันดับ 12 | ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มย่ำแย่อีกครั้ง คราวนี้ถึงขั้นบุกมาแพ้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 0-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด,พรีเมียร์ลีก,ผลบอล | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1676856 |
จนท.กว่า1.7พันนาย ผสานกำลังตรวจชุมชนเป้าหมายตามแผนประชารัฐร่วมใจ | จากการที่ พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้ความสำคัญในการปรับสมดุลของกฎหมายให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และสนับสนุนนโยบายยาเสพติดของโลก ที่เน้นด้านสุขภาพ การสาธารณสุข และสิทธิมนุษยชนมากกว่าด้านปราบปราม ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด มีหลักการสำคัญ คือ การกำหนดโทษให้ได้สัดส่วนกับพฤติการณ์การกระทำความผิด และให้ความสำคัญกับการสืบเสาะพฤติการณ์ โดยแบ่งกลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และใช้มาตรการลงโทษอย่างเด็ดขาดและยึดอายัดทรัพย์สินผู้ผลิต นายทุน และผู้ค้ารายใหญ่ แต่ให้โอกาสในการเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูและดูแลช่วยเหลืออย่างเหมาะสมแก่ผู้เสพหรือผู้ติดยาเสพติด โดยแนวคิดผู้เสพคือผู้ป่วย การปฏิบัติการ 1386 ทั่วไทย ประชาชนปลอดภัยจากยาเสพติด จึงได้ให้ความสำคัญในการคัดแยกผู้เสพ/ ผู้ติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาโดยกระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ,วันนี้ (30 พ.ย.) เวลา 08.30 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศปก.ป.ป.ส.) นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมายให้ นายพิภพ ชำนิวิกัยพงศ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดปฏิบัติการ 1386 ทั่วไทย ประชาชนปลอดภัยจากยาเสพติด ครั้งที่ 3 ภายใต้แผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด ผ่านระบบ Clear Sea และ Video Streaming โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคจัดชุดกำลังเจ้าหน้าที่ ผสานกำลังกับ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองในพื้นที่ รวมทั้งสิ้น 1,763 นาย ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้าน/ชุมชนตามแผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้าน/ชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด รวมทั้งสิ้น 69 หมู่บ้านชุมชน ใน 18 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี บุรีรัมย์ เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ พิจิตร สุพรรณบุรี สมุทรสาคร นครปฐม ระนอง สตูล และสงขลา เป็นเป้าหมายบุคคลที่ดำเนินการรวม 155 ราย เพื่อดำเนินการปราบปรามนักค้ายาเสพติดและผู้ที่เกี่ยวข้อง สร้างความปลอดภัยให้แก่หมู่บ้านชุมชน,นายพิภพ กล่าวว่า ปฏิบัติการ 1386 ทั่วไทย ประชาชนปลอดภัยจากยาเสพติด ครั้งที่ 3 ห้วงวันที่ 12-30 พฤศจิกายน 2559 นี้ เป็นการบูรณาการกำลังร่วมจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส โดยมีเป้าหมายบุคคล 155 ราย แบ่งเป็น เป้าหมายจากข้อร้องเรียน สายด่วน สำนักงาน ป.ป.ส.1386 จำนวน 107 เป้าหมาย และจากการสืบสวนการข่าว 48 ราย ผลการปฏิบัติการในครั้งนี้ สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดได้ 44 ราย จำแนกเป็นกรณีครอบครองเพื่อจำหน่าย 8 ราย ครอบครอง 5 ราย จำหน่ายยาเสพติด 5 ราย และนำผู้เสพยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษา 26 ราย ยึดของกลางเป็นยาเสพติดและอาวุธปืนจำนวนหนึ่ง และสามารถยึดอายัดทรัพย์สินรวมมูลค่า 1,951,220 บาท,นายพิภพ กล่าวอีกว่า จากการปฏิบัติการที่ผ่านมาเห็นได้ว่า ประชาชนในพื้นที่รู้สึกพึงพอใจ อุ่นใจ และต้องการให้ดำเนินการเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านชุมชน ตามการดำเนินงาน 1386 ทั่วไทย ประชาชนปลอดภัยจากยาเสพติด ภายใต้แผนประชารัฐ ร่วมใจ สร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด 2559-2560 เป็นอีกหนึ่งมาตรการสำคัญที่หน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง 30 พฤศจิกายน 2559 เป็นการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นใหญ่ทั่วประเทศไปแล้ว 12 ครั้ง และยังมีปฏิบัติการปิดล้อมต่อเนื่องเป็นประจำของหน่วยในพื้นที่ โดยได้เข้าทำการ ปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านชุมชนไปแล้วกว่า 1,586 หมู่บ้าน/ชุมชน สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 1,972 ราย แยกเป็นผู้ค้า 845 ราย และสำหรับผู้เสพเจ้าหน้าที่ได้ส่งเข้าศูนย์คัดกรองเพื่อเข้ารับการบำบัดแล้ว จำนวน 1,127 ราย ยึดยาบ้า 1,641,994 เม็ด ไอซ์ 26.1 กิโลกรัม เฮโรอีน 7 กรัม กัญชาแห้ง 19.48 กิโลกรัม อาวุธปืน 193 กระบอก กระสุนปืน 1,299 นัด โดยได้ทำการยึดทรัพย์สินมีมูลค่ารวมประมาณ 79.7 ล้านบาท | ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ป.ป.ส. 1,763 นาย ผสานกำลังตรวจค้นชุมชนเป้าหมายตามแผนประชารัฐร่วมใจ ปลอดภัยยาเสพติดติดตามการดำเนินงาน 1386 ทั่วไทย ประชาชนปลอดภัยจากยาเสพติด ครั้งที่ 3 | null | ประชารัฐร่วมใจ,ปลอดภัยยาเสพติด,ผสานกำลังตรวจค้นชุมชนเป้าหมาย,1386 ทั่วไทย ประชาชนปลอดภัยจากยาเสพติด,ยาเสพติด | https://www.thairath.co.th/content/798346 |
ตู้กับข้าว อาหารภูเก็ตสูตรคุณแม่ | ,ตู้กับข้าว, ตามสูตรอาหารของคุณแม่ลิ้นจี่ สมศักดิ์,คุณธีระศักดิ์ เล่าว่า ภายในบ้านมีตู้กับข้าวไม้ที่มีน้ำหล่อขาตู้ไว้เพื่อกันมดและแมลง ทุกครั้งที่กลับจากโรงเรียนตู้กับข้าวคือปลายทางของเขา เขาตื่นเต้นกับการเปิดตู้กับข้าวและลุ้นว่าวันนี้มีอาหารอะไรที่ถูกใจบ้าง วันไหนแม่ไม่ว่างทำด้วยตัวเอง เขาก็มักจะพาลไม่กินข้าวไปเลย เรียกว่าแม่คือแรงบันดาลใจให้กับร้านอาหารแห่งนี้,ตู้กับข้าวใช้อาคารชิโนโปรตุกีสบนถนนพังงา โดยอาศัยโครงสร้างเก่าของตัวตึก ปรับโฉมใหม่ให้ดูหรูหรา และแน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือตู้กับข้าว ที่ถูกนำมาตกแต่งในทุกพื้นที่,จานเด่นตำรับคุณแม่ลิ้นจี่เรายกให้,หมูเหลี่ยมต้อผัดเคยเค็ม, คุณแม่เลือกเอาเฉพาะ ,เหลี่ยมต้อ, เนื้อหมูสามชั้นส่วนโคนขาหลังที่หนึ่งตัวมีเพียง 2 ชิ้น เป็นส่วนที่หมูใช้เดินทำให้นุ่มแน่นและไม่มันมาก ผัดกับเคยเค็มจากกุ้งฝอยที่หมักเกลือนานหนึ่งวันเต็ม ใส่พริกและหอมแดง ปรุงรสด้วยมะนาวและน้ำตาล เนื้อหมูนุ่มปนกับเอ็นกรุบที่มีไขมันแทรก ให้กลิ่นรสของเคยเค็มมากหน่อย อีกจาน,ผัดฟักทองกุ้งแห้งกะปิตำ, ได้รสเต็มคำของกะปิและกุ้ง ตัดกับรสหวานของฟักทอง,นอกจากอาหารตำรับคุณแม่ อาหารภูเก็ตจานอื่นๆ ก็เด่นไม่แพ้กัน ,หมูฮ้อง, เลือกใช้โคนขาหน้าแทนหมูสามชั้น หมักเครื่องเทศแล้วตุ๋นนานหนึ่งวัน ทำให้เนื้อไม่เละและน้ำไม่มันเลี่ยนเกินไป ,แกงปูใบชะพลู, เดิมก็ไม่ได้ใส่ใบชะพลู แต่คนนิยมจึงทำสูตรนี้ บางครั้งที่บ้านก็ใส่ใบชะอมด้วย มาพร้อมหมี่ขาว ,แกงส้มปักษ์ใต้, รสเผ็ดเปรี้ยวอย่างแกงใต้ ความอร่อยยังอยู่ที่ใส่โชนกับยอดมะพร้าว ทำให้มีความกรุบกรอบเพิ่มเข้ามา น้ำพริกมีให้เลือกทั้งน้ำชุบหยำใส่ปลาฉิ้งฉ้าง น้ำพริกไข่ปู และน้ำพริกกุ้งสด,ห้ามพลาดของหวาน เค้กอินทผลัม มาแบบนุ่มๆ กับซอสคาราเมลอุ่นๆ อร่อยมาก จนเผลอใจกินไปหลายคำเลย,พิกัดความอร่อย : 8 ถนนพังงา ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต,เปิดบริการ 11.30-24.00 น.,โทร. 0-7660-8888,ราคา 90-450 บาท,รับบัตรเครดิต VISA และ Master Card,ที่มา - Gourmet & Cuisine ,www.gourmetandcuisine.com | แม่ครับวันนี้มีอะไรกินบ้าง เสียงเอ่ยของเด็กน้อยที่กำลังหิวโซหลังกลับถึงบ้าน ตามด้วยเสียงตอบรับของคุณแม่ ไปดูในตู้กับข้าวนะลูก เป็นจุดเริ่มต้นให้คุณธีระศักดิ์ ผลงาม เปิดร้านอาหารพื้นเมืองภูเก็ต | ไลฟ์สไตล์,อาหาร | ตู้กับข้าว,อาหารภูเก็ต,ภูเก็ต,หมูฮ้อง,แกงส้มปักษ์ใต้,อาหารตำรับคุณแม่,คุณแม่ลิ้นจี่,ข่าว,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,Thairath,ข่าวไลฟ์สไตล์,Gourmet & Cuisine,ข่าวอาหาร | https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/638636 |
แฉผัวฆ่าหั่นศพเมีย เสพยาบ้านาน10ปี จากที่รัก หลอนหนัก เห็นเป็นปิศาจ | ญาติเข้าเยี่ยมหนุ่มม้งทับเบิก ฆาตกรโหดฆ่าหั่นศพเมียท้อง 6 เดือน เผยรักกันตั้งแต่วัยรุ่น จนหลอนหนักจากการเสพยาบ้าครั้งละ 3 เม็ด วันละกว่า 10 เม็ด เสพมานานนับ 10 ปี จนก่อนก่อเหตุ เห็นเมียเป็นปิศาจ ,วันที่ 19 พ.ย. พ.ต.อ.ชินเดช ดีแท้ ผกก.สภ.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ภายหลังนำตัวนายชิงชัย แซ่สง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 14 บ้านทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพนางสาว ดวงใจ เจริญรักษ์ตระกูล อายุ 24 ปี ภรรยาท้องแก่ 8 เดือนเสียชีวิต เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา ,ความคืบหน้าล่าสุด นางสาวสุณี แซ่สง อายุ 20 ปี ซึ่งมีศักดิ์ เป็นหลานสาวนายชิงชัย ได้เข้าเยี่ยมนายชิงชัย แซ่สง ที่ห้องขังสภ.หล่มเก่า และเปิดเผยทั้งน้ำตานองหน้าว่าช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุราวครึ่งชั่วโมง ได้ไปพบผู้ตายเพื่อช่วยนำผักไปขาย ผู้ตายบอกว่าไม่มีเงินเลยเพราะต้องเอาเงินไปให้สามีสูบยาบ้า ตนจึงซื้อผักต่อจากผู้ตายเป็นเงิน 110 บาท จากนั้นผู้ตายจึงนำเงินให้กับสามี ซึ่งยืนถือมีดอยู่ใกล้ๆ ตนจึงกลับออกมาและไปขายผัก สักครู่เดียวก็ทราบว่าผู้ตายถูกสามีฆ่า,สำหรับอุปนิสัยของนายชิงชัย นั้น ที่ผ่านมาเป็นคนรักภรรยามาก ซึ่งทั้งสองคบกันมาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ตนจึงได้ถามนายชิงชัย ว่า ทำไปทำไม นายชิงชัยตอบว่า เห็นว่าผู้ตายเป็นผีปิศาจไม่ใช่ภรรยา ซึ่งตนคิดว่าสาเหตุเกิดจากที่นายชิงชัยเกิดอาการหลอนจากการเสพยาบ้ามานานนับสิบปี และก่อนหน้านี้นอนไม่หลับมาหลายคืนติดต่อกัน นายชิงชัยยังเล่าให้ฟังอีกว่า จะเสพครั้งละ 2-3 เม็ด วันหนึ่งตกประมาณสิบกว่าเม็ด เมื่อไปรับจ้างลากผักได้เงินมาก็ให้ภรรยาเก็บ และขอเงินภรรยามาซื้อยาบ้าเสพ วันเกิดเหตุคาดว่าคงขอเงินแล้วภรรยาไม่มีให้ จึงเกิดอาการคลุ้มคลั่ง,หลังเกิดเหตุ ได้ไปพูดคุยกับญาติผู้ตาย ซึ่งได้เรียกร้องเงินจำนวน 300,000 บาท แต่เรายอมจ่ายให้ได้แค่ 150,000 บาท จึงไม่สามารถตกลงกันได้ นอกจากนี้พ่อแม่ผู้ตายยังไม่ยอมให้โรงพยาบาลนำศพไปชันสูตร ต้องการให้เคลียร์ปัญหาเสร็จก่อน ซีงทางญาติจะยื่นประกันตัวนายชิงชัย แต่ถ้าไม่ได้ประกันก็คงต้องให้นายชิงชัยติดคุก โดยนายชิงชัย กล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่าด้วย หากญาติภรรยาไม่ยอมทำศพผู้ตาย ก็รอให้นายชิงชัยตายเสียก่อนค่อยนำศพมาทำพิธีพร้อมกัน จึงปลอบใจไปว่า ทุกคนยังเป็นห่วงเหมือนเดิม นางสาวสุณี กล่าว,ด้าน พ.ต.อ.ชินเดช ดีแท้ ผกก.สภ.หล่มเก่า เปิดเผยว่าผู้ต้องหายังอยู่ในอาการเครียด สอบถามก็ตอบคำถามเพียงสั้นๆ แต่ในเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าภรรยาตนเอง และรับสารภาพว่าเสพยาบ้ามาหลายเม็ด หลังจับกุมได้นำปัสสาวะไปตรวจสอบผลตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะของผู้ต้องหา หลังจากร่วมประชุมประเมินสถานการณ์แล้ว คงจะไม่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เกรงว่าอาจเกิดความโกลาหลได้เพราะญาติพี่น้องฝ่ายหญิงยังโกรธแค้นเป็นอย่างมากมาก อีกทั้งสภาพแวดล้อมเป็นทางขึ้นภูทับเบิก มีถนนขึ้นลงทางเดียวและแคบ,ส่วนพยานหลักฐาน ทั้งบุคคลใกล้ชิด พยานแวดล้อมและหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ ที่มีทั้งคราบเลือดของผู้ตายที่ติดเสื้อผู้ต้องหา ทั้งที่ดีเอ็นเอที่อาวุธมีดที่ใช้ฆ่าผู้ตาย อีกทั้งพยานบุคคลที่ได้รับบาดเจ็บและสภาพแวดล้อมต่างๆ เพียงพอที่จะสามารถใช้มัดตัวผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน ขณะนี้ญาติยังไม่ได้ยื่นขอประกันตัว และตำรวจก็จะคัดค้านการประกันตัวเพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และจะส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดหล่มสักในวันพรุ่งนี้ โดยแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา, เสพยาเสพติด ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากการหึงหวงและหลอนจากการเสพยาบ้าที่เสพครั้งละ 3 เม็ด ซึ่งประวัติผู้ต้องหานั้นยังไม่พบการกระทำความผิดมาก่อน ส่วนพื้นที่ภูทับเบิกเป็นภูเขา เป็นอุปสรรคต่อการทำงานในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุ่มเทกวาดล้างยาบ้าอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับหน่วยงานทหารและฝ่ายปกครอง. | ญาติเข้าเยี่ยมหนุ่มม้งทับเบิก ฆาตกรโหดฆ่าหั่นศพเมียท้อง 6เดือน เผยรักกันตั้งแต่วัยรุ่น จนหลอนหนักจากการเสพยาบ้าครั้งละ3เม็ด วันละกว่า 10 เม็ด เสพมานานนับ10ปี จนก่อนก่อเหตุ เห็นเมียเป็นปิศาจ | ข่าว,อาชญากรรม | ฆ่าเมีย,ฆ่าหั่นศพเมีย,หลอนฆ่าเมีย,ฆ่าเมียท้อง6เดือน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1424613 |
ฮ่องกง-สิงคโปร์ ปิดประตูงดรับต่างชาติ หวั่นโควิด-19 ระบาดระลอกสอง | สำนักข่าว Channel NewsAsia สื่อสิงคโปร์ รายงานเมื่อ 23 มี.ค. ว่า รัฐบาลสิงคโปร์ออกมาตรการห้ามนักเดินทางจากต่างชาติเข้าประเทศ โดยจะมีผลกับชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าสิงคโปร์ในระยะสั้น หรือผู้ที่ต้องการไปเปลี่ยนเครื่องบินที่สิงคโปร์ เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่คืนวันจันทร์ที่ (23 มี.ค.) เป็นต้นไปโดยมาตรการล่าสุดของทางการสิงคโปร์ เป็นไปเพื่อสกัดการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยเฉพาะการลดจำนวนผู้ป่วยจากต่างประเทศ (imported cases)สำหรับพลเมืองสิงคโปร์ หรือผู้ที่มีใบอนุญาตให้พำนักในสิงคโปร์ระยะยาว รวมทั้งผู้ประกอบอาชีพสำคัญ เช่น ผู้ที่ทำงานด้านสาธารณสุข หรือด้านการขนส่ง อนุญาตให้เข้าประเทศได้ แต่ต้องกักตัวดูอาการเป็นเวลา 14 วันขณะที่สำนักข่าว The Straits Time สื่อภาษาอังกฤษในสิงคโปร์ รายงานในวันที่ 23 มี.ค. ว่า รัฐบาลฮ่องกงได้ออกมาตรการลักษณะเดียวกัน คือห้ามนักเดินทางระยะสั้น ซึ่งส่วนใหญ่คือนักท่องเที่ยวเข้าฮ่องกง โดยเบื้องต้นมาตรการนี้จะบังคับใช้เป็นเวลา 14 วัน เริ่มต้นในวันพุธที่ (25 มี.ค.)โดยมาตรการล่าสุดของฮ่องกงจะมีผลครอบคลุมถึงพลเมืองที่ถือหนังสือเดินทางจีน มาเก๊า และไต้หวัน ที่เดินทางมาจากต่างประเทศด้วย แต่คนกลุ่มนี้ยังได้รับอนุญาตเข้าฮ่องกงได้หากเดินทางมาจากจีน มาเก๊า หรือไต้หวันโดยตรง โดยจะต้องถูกกักตัวดูอาการเป็นเวลา 14 วัน ส่วนพลเมืองฮ่องกงที่เดินทางกลับจากกลุ่มประเทศที่มีการระบาดรุนแรง เช่น สหรัฐฯ หรือประเทศในยุโรป จะต้องเข้ารับการตรวจโรคทันทีทางการฮ่องกงระบุว่า มาตรการนี้เป็นการสกัดการแพร่ระบาดระลอกใหม่จากต่างประเทศ หลังสถานการณ์ในฮ่องกงเริ่มดีขึ้นนอกจากการระงับนักเดินทางต่างชาติเข้าฮ่องกงแล้ว วันนี้ทางการฮ่องกงยังประกาศห้ามร้านอาหารหรือบาร์ที่มีอยู่ราว 8600 ร้าน ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย แต่ยังอนุญาตให้ร้านค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ตามปกติ. | ฮ่องกง-สิงคโปร์ สองเมืองเศรษฐกิจสำคัญ ยกระดับมาตรการเข้ม งดรับนักเดินทางต่างชาติชั่วคราว หวั่นการแพร่ระบาดระลอกสอง หลังสถานการณ์เริ่มดีขึ้น | ข่าว,ต่างประเทศ | โควิด-19,โคโรนาไวรัส,ฮ่องกง,สิงคโปร์,งดรับต่างชาติ,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1802363 |
บอล-วิทยา ปิ๊งไอเดียเรื่องราวความสัมพันธ์พี่น้อง | บอล-วิทยา ทองอยู่ยง หนึ่งในผู้กำกับแฟนฉัน ปิ๊งไอเดียเรื่องราวความสัมพันธ์ของพี่น้อง เรื่องล่าสุดจากค่าย จีดีเอช บอล-วิทยา เผยว่า ทันทีที่พี่เก้ง-จิระ มะลิกุล และวรรณฤดี มาชวนทำหนังเรื่องราวเกี่ยวกับพี่น้อง ทันทีที่ฟังเรื่องราวผมรู้สึกอินเลยนะ เพราะ ผมก็มีน้องสาว และผมรู้สึกว่าเสน่ห์ของพี่น้องแต่ละครอบครัวมันไม่เหมือนกัน ไม่มีใครเหมือนใคร มันให้ความ รู้สึกเหมือนตอนทำแฟนฉัน ที่เราจะนึกถึงรักครั้งแรก เพื่อนวัยเด็ก ทำหนังเรื่องนี้เราก็จะคิดถึงพี่น้อง โดยเฉพาะเรื่องที่พี่น้องเรามีแฟน เราจะชอบเข้าไปยุ่งวุ่นวาย ผมว่าหลายๆครอบครัวก็จะเป็นคล้ายๆแบบนี้ การทำหนังเรื่องนี้ผมทุ่มเททั้งชีวิตเลยนะ เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด และที่ดีใจที่สุดคือผมได้นักแสดงทั้ง 3 คนคือ ซันนี่, นิชคุณ และญาญ่า มาเล่น เพราะ เป็นเคมีที่เข้ากันมาก เขาทั้ง 3 คนสามารถถ่ายทอดเรื่องราวบนแผ่นฟิล์มได้มากกว่าบทที่ผมเขียน ทั้ง 3 ตัวละครทำให้เราเชื่อว่า ซันนี่คือ พี่ชายตัวห่วย ญาญ่าคือ น้องสาวสุดเพอร์เฟกต์ เป็นน้องของคนทั้งประเทศ และนิชคุณเขาคือที่รัก ที่น่ารักของทุกคนจริงๆ ทุกครั้งที่นั่งอยู่หน้าจอมอนิเตอร์ผมมีความสุขทุกครั้งที่เห็นพวกเขา 10 พ.ค.นี้ ไปให้กำลังใจพวกเราด้วยนะครับ น้อง.พี่.ที่รัก ในโรงภาพยนตร์. | บอล-วิทยา ทองอยู่ยง หนึ่งในผู้กำกับแฟนฉัน ปิ๊งไอเดียเรื่องราวความสัมพันธ์ของพี่น้อง สู่ภาพยนตร์โรแมนติก คอมเมดี้ น้อง. พี่.ที่รัก เรื่องล่าสุดจากค่าย จีดีเอช | บันเทิง,หนัง | บอล วิทยา,วิทยา ทองอยู่ยง,น้อง.พี่.ที่รัก,จีดีเอช | https://www.thairath.co.th/entertain/movie/1258031 |
บลูเวฟฯ ถลุงยับดาวน์ทาวน์ สปอร์ต 17-0 ลิ่วชิงดำสโมสรอาเซียน | วันที่ 22 มิ.ย.62 การแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์สโมสรอาเซียน AFF FUTSAL CLUB CHAMPIONSHIP 2019 ที่เทอร์มินอล 21 นครราชสีมา โดยเกมในรอบรองชนะเลิศ ฉลามพลังเพลิง พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี โคจรมาพบกับ ดาวน์ทาวน์ สปอร์ต ตัวแทนจากกัมพูชา,เปิดฉากครึ่งแรก พีทีที บลูเวฟฯ โชว์ฟอร์มได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน นำห่างไปก่อน 9-0 จาก จิรวัฒน์ สอนวิเชียร น.4, ติอาโก้ เซลบาช น.5, น.15, น.16, รณชัย จูงวงษสุข น.7, กฤษดา วงษ์แก้ว น.11, ปัญญา อรัญภูวนารถ น.18, นาวิน รัตนวงษ์สวัสดิ์ น.19, ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง น.20,ครึ่งหลัง เกมของทัพโต๊ะเล็กบลูเวฟฯ ยังไหลลื่นต่อเนื่อง บวกกำเพิ่มอีก 8 ลูกจาก ณัฐพล สุทธิโรจน์ น.26, ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง น.27, น.31, น.34, น.34, ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน น.29, รณชัย จูงวงษ์สุข น.32 และ นาวิน รัตนวงศ์สวัสดิ์ น.37 ,ทำให้จบเกม พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ไล่ถลุง ดาวน์ทาวน์ สปอร์ต ไปขาดลอย 17-0 ตีตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ตามคาด โดยจะพบกับ ซานนาเทค คานหัว จากเวียดนาม ในวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายนนี้ เวลา 14.45 น. ถ่ายทอดสดทางอมรินทร์ทีวี เอชดี 34. | ฉลามพลังเพลิง ยิงไม่เลี้ยง ไล่ถลุง ดาวน์ทาวน์ สปอร์ต จากกัมพูชา 17-0 ผ่านเข้าชิงดำรีแมตช์กับซานนาเทค คานหัว จากเวียดนาม ในศึกโต๊ะเล็กสโมสรอาเซียน 2019 ตามคาด | กีฬา,ฟุตซอล | ฟุตซอล,ฟุตซอลชิงแชมป์สโมสรอาเซียน,ฉลามพลังเพลิง,พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี,ดาวน์ทาวน์ สปอร์ต | https://www.thairath.co.th/sport/futsal/1597846 |
ชนาคุง ฟิตปั๋ง พร้อมช่วยช้างศึกลงลับแข้งบู๊จีน | วันที่ 30 พ.ค. 61 ความเคลื่อนไหวของทัพนักเตะ ช้างศึก ทีมชาติไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการเก็บตัวก่อนลงอุ่นเครื่องพบกับ ทีมชาติจีน ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันเสาร์ที่ 2 มิถุนายนนี้,ซึ่งล่าสุดหลังจาก ชนาธิป สรงกระสินธ์ แนวรุกคนสำคัญจากคอนซาโดเล ซัปโปโร กลับมาเข้าแคมป์ ทำให้ทีมชาติไทยมีนักเตะครบลงฝึกซ้อมครบ 26 คนเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา โดย ชนาคุง กล่าวเปิดใจถึงสภาพความพร้อมในครั้งนี้ว่า ก็โอเคนะครับ ผมก็คิดถึงเพื่อนร่วมทีมทุกคน รวมถึงบรรยากาศภายในทีมเอง ก็ยังคงเหมือนเดิม,ส่วนสภาพร่างกายในเวลานี้ก็โอเค เพราะผมเองมีเทรนเนอร์ส่วนตัวช่วยดูแลในเรื่องความฟิตอยู่แล้ว อีกทั้งโค้ชคอนซาโดเล ซัปโปโร (มิไฮโล เปโตรวิช) และโค้ชทีมชาติไทย (มิโลวาน ราเยวัช) ก็มีการคุยกันอยากจะให้ผมพัก 3 วัน ซึ่งโค้ชทีมชาติก็บอกว่า ให้ผมเข้ามาวันที่ 30 พฤษภาคม ผมจึงมารายงานตัววันนี้,การซ้อมก็ยังโอเค การประสานงานกับเพื่อนๆ ก็ยังเข้าใจกันอยู่ ซึ่งไม่น่าจะต่างกับการไปเล่นเจ ลีก เนื่องจากสไตล์การเล่นไม่ต่างกัน แต่การเจอกับจีนพวกเขาเป็นทีมที่ดี นักเตะของเขามีมาตรฐานสูง เราเล่นในบ้านก็อยากจะชนะเหมือนกัน ซึ่งวันที่เราเคยไปชนะเขา 5-1 ก็ผ่านมานานแล้ว ดังนั้นวันที่ 2 มิถุนายนนี้ เราต้องเอาชนะในบ้านให้ได้ เพื่อให้แฟนบอลมีความสุข,สำหรับการแข่งขันนัดกระชับมิตร ระหว่าง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติจีน วันที่ 2 มิถุนายนนี้ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ไทยรัฐทีวีช่อง 32 จะถ่ายทอดสดให้ชมทั่วประเทศ ตั้งแต่เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป. | ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยืนยันสภาพความฟิตไม่มีปัญหา แม้เพิ่งเข้าแคมป์เก็บตัวร่วมทัพช้างศึกเป็นวันแรก และพร้อมลงช่วยทีมลงลับแข้งกับจีนวันเสาร์นี้อย่างแน่นอน | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | ชนาคุง,ชนาธิป สรงกระสินธ์,ช้างศึก,ทีมชาติไทย | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1295379 |
มติเพื่อไทยดันนิรโทษกรรมเหมาเข่ง - ณัฐวุฒิ ไม่เห็นด้วยนิรโทษแกนนำ-ผู้สั่งการ | อภิสิทธิ์ ไม่เกี่ยว ส่วน ผบ.ทบ. ก็ไม่ต้องการนิรโทษกรรม เพราะทหารไม่ใช่นักโทษ และจะสู้ทั้ง 3 ศาล29 ต.ค. 2556 - ภายหลังการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 16.20 น. วันนี้ (29 ต.ค.) ได้รายงานคำแถลงของนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค ที่แถลงว่าจากการพูดคุยหลายฝ่ายนั้น พรรคเพื่อไทยมีข้อยุติเป็นมติพรรค 3 ข้อ ได้แก่1.ขอให้ส.ส.ของพรรคงดเว้นภารกิจต่างๆ เพื่อเข้าร่วมประชุมสภาฯ พิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะถือว่าเป็นกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวพันกับทิศทางเดินไปข้างหน้าของประเทศ2. เพื่อความเป็นเอกภาพพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมลงมติไปในทิศเดียวกันเพื่อลงมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก โดยมีมติเป็นเอกฉันท์3.สำหรับท่าทีของพรรคต่อคนเสื้อแดง และแนวร่วมผู้รักประชาธิปไตยทุกคน เราเห็นว่าความเห็นทางการเมืองในการหาทางออกของประเทศย่อมแตกต่างกันได้ ซึ่งเป็นความแตกต่างระหว่างมิตรผู้รักประชาธิปไตยด้วยกัน พรรคขอยืนอยู่บนพื้นฐานที่เข้าใจและเห็นใจ โดยเรียกร้องให้ ส.ส.ของพรรคทำความเข้าใจ พูดคุย และประสานงานในทุกภาคส่วน เราเชื่อว่าการดำเนินการของเราจะทำให้ประเทศหลุดจากความขัดแย้ง ขณะที่ผู้ถูกคุมขังจะได้ออกจากความขัดแย้งด้วยต่อคำถามที่ว่า ส.ส.เสื้อแดง จะโหวตตามมติพรรคหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เชื่อว่า ส.ส.พรรคโดยรวมจะเดินหน้าตามมติพรรค เพราะวันนี้เป็น ส.ส.ซึ่งแตกต่างจากการอยู่ในฐานะผู้นำมวลชน จึงต้องเห็นความสำคัญของมติพรรค อย่างไรก็ตามเท่าที่พูดคุยพรรคเข้าใจถึงความยากลำบาก ความอึดอัดใจของทุกส่วนทั้งนี้เลขาธิการพรรคเพื่อไทยไม่ตอบคำถามที่ว่า จะมีบทลงโทษ ส.ส.ที่โหวตสวนมติพรรคหรือไม่ โดยตอบเพียงว่า ยังเชื่อว่าจะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน และกล่าวด้วยว่า รู้สึกขมขื่นที่มีการเข่นฆ่าประชาชนจนเกิดความสูญเสีย แต่คิดว่าในอนาคตจะมีวิธีการที่เป็นทางออกต่อไป โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยังต้องพูดคุยและทำความเข้าใจกัน และเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่จะตัดสินว่าใครถูกใครผิดมีรายงานด้วยว่า แกนนำพรรคคนสำคัญที่ร่วมการประชุม อาทิ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรค ภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค พล.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ และน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณนอกจากนี้มี ส.ส. ที่เป็นแกนนำ นปช. เข้าร่วมด้วย เช่น นพ.เหวง โตจิราการ ก่อแก้ว พิกุลทอง และ วิภูแถลง พัฒนภูมิไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นต้นส่วนผู้ร่วมแถลงข่าวกับภูมิธรรม ได้แก่ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรค อำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคก่อนหน้านี้ในช่วงเช้าวันนี้ (29 ต.ค.) รายงานว่า ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และแกนนำ นปช. กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แบับแก้ไขโดยคณะกรรมาธิการเสียงข้างมากหรือ ฉบับเหมาเข่ง ว่าไม่เห็นด้วยหากจะมีการนิรโทษกรรมให้แกนนำและผู้สั่งการทำร้ายประชาชน แต่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมให้ประชาชนที่เคลื่อนไหวทางการเมือง และล้มล้างผลพวงการรัฐประหาร ขณะนี้คนเสื้อแดง และสมาชิกพรรคเพื่อไทยมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับร่างแก้ไขของกรรมาธิการ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องทำความเข้าใจกันในฐานะมิตร ป้องกันไม่ให้ฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามนำความขัดแย้งไปขยายผลณัฐวุฒิยังกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขอร้องให้แกนนำคนเสื้อแดงยอมรับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับที่มีการแก้ไขว่า เป็นเพียงข่าวเท่านั้น ที่ผ่านมาตนและคนเสื้อแดงได้พูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแสดงจุดยืน โดยเขานั้นต้องการช่วยเหลือให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับประเทศไทยได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องรวมถึงแกนนำ และผู้สั่งการ อย่างไรก็ตาม หากมีการลงมติร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ส.ส.เสื้อแดง และตนไม่รู้สึกกดดัน เพราะมีจุดยืนตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว และแม้ว่าพรรคจะมีมติห้าม ส.ส.ฟรีโหวต แต่ตัวเขาจะโหวตตามความรู้สึกตามจิตวิญญาณของการต่อสู้ที่ผ่านมาส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้ณัฐวุฒิลาออกจากการเป็นรัฐมนตรี และไปเคลื่อนไหวการเมือง หากพรรคเพื่อไทยผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมสำเร็จว่า อยากเรียกร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ให้ลาออกจาก ส.ส. หลังจากที่อัยการมีคำสั่งส่งฟ้องในคดีที่มีประชาชนเสียชีวิตระหว่างการชุมนุม เพราะบุคคลทั้งสองเคยเป็นถึงผู้นำฝ่ายบริหาร ดังนั้น ควรจะรับผิดชอบทางการเมืองทั้งนี้ ได้รายงานความเห็นของ ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย บุตรสาวของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ซึ่งกล่าวว่า ยังรู้สึกขมขื่นอยู่ เรารู้ว่าประเทศต้องเดินหน้า แต่ในฐานะคนที่สูญเสียมันก็ยังทำใจไม่ได้ และยังมีคำถามอยู่ในใจว่าใครเป็นคนฆ่าพ่อเรา ตนลำบากใจในฐานะสมาชิกพรรค และนี่ก็เป็นเสียงของกมธ.ส่วนใหญ่ ดังนั้น จะขอคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคก่อนว่าจะทำอย่างไร การค้นหาความจริงต้องยุติลงแค่นี้ใช่หรือไม่ นี่เป็นทางออกเดียวที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าได้ใช่หรือไม่ วันนี้มีการสั่งฟ้องนายอภิสิทธิ์ในฐานะอดีตนายกฯ แล้ว ซึ่งทำให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมยังเดินหน้าได้อยู่อนึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. และภรรยาของ นพ.เหวง ให้ความเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับแก้ไขโดยโพสต์ไว้ในเพจว่า จุดยืนของ นปช.ยังอยู่ที่การสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนายวรชัย เหมะ แต่ไม่ใช่ความขัดแย้ง หรือตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ เพราะยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยเน้นนิรโทษกรรมเป็นหลัก ต่างจาก นปช.เน้นแก้ไขรัฐธรรมนูญและขจัดผลพวงจากรัฐประหารเป็นหลัก จึงต้องการนิรโทษกรรมโดยสนับสนุนฉบับนายวรชัย นิรโทษกรรมให้ประชาชน โดยไม่รวมคู่ขัดแย้งที่เป็นแกนนำหรือแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐ จุดยืนเราไม่มีสิทธิเปลี่ยน แม้ พท.จะเปลี่ยนกลับไปกลับมากี่ครั้ง แต่เรายืนยันเหมือนเดิมคือนิรโทษประชาชนแม้คนเสื้อแดงรัก พ.ต.ท.ทักษิณอยากให้กลับมาแต่นิรโทษกรรมก็ต้องมีหลักการ ไม่งั้นจะกลายเป็นโทษของการต่อสู้ของประชาชน อย่าไปคิดว่านี่คือการทำเพื่อญาติคนตาย เป็นความถูกต้องที่ประเทศควรจะมีและนำไปสู่การปรองดองแท้จริง อย่างไรก็ตาม จะไม่ใช้วิธีประท้วง แต่ใช้วิธีพูดคุย อย่างกรณี นปช. ไปพบนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ (ผู้เสนอแก้ไขร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม) ที่บ้านก็เพื่อขอคำอธิบาย ไม่ใช่การก่อม็อบประท้วง เราได้ปรามประชาชนตลอดเวลาให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม เพราะยังต่อสู้ในปริมณฑลของคนฝ่ายเดียวกันความคิดบางคนอยากจะช่วย พ.ต.ท.ทักษิณอาจเป็นหมัน ต้องอย่าลืมว่ามีคดีมากมาย 10 กว่าคดี และหมายจับอีกมาก คำถามคือพวกเขาได้คิดปัญหานี้หรือเปล่า คิดจะพากลับมาแล้วพิจารณาสถานการณ์ปัจจุบันว่าเป็นแบบไหน เรามองปัจจุบันเป็นสนามรบมากกว่า เพราะมีหลุมพรางและกับระเบิดเต็มไปหมด ไม่ใช่ว่าไม่ต้องการปรองดอง แต่ต้องการสิ่งที่ถูกต้องและเป็นการปรองดองที่แท้จริง ถ้าไม่ผ่านกระบวนการที่ทำให้ความจริงปรากฏแล้ว จะให้เกิดการฆ่าประชาชนซ้ำซากกลางถนนอีกกี่ครั้ง ถามว่าถ้าจะกดปุ่มเซตซีโร่ทำได้จริงไหมคนเสื้อแดงส่วนใหญ่ไม่เอาสุดซอยแน่ เพราะไม่ไว้ใจเครือข่ายระบอบอำมาตย์ ไม่ต้องการให้มีการฆ่ากันอีก และไม่เชื่อเซตซีโร่ในระบอบอำมาตย์ ปฏิกิริยาของคนเสื้อแดง ประชาชน รวมทั้งนักวิชาการเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ต่างคัดค้านทั้งสิ้น ทำให้เพื่อไทยต้องไปทบทวนว่าคุณยังไม่สามารถเอาชนะศัตรูทางการเมืองได้ คุณหวังจะชนะใจ เป็นเช่นนั้นหรือเปล่า แต่ถ้าสูญเสียมิตรที่เป็นเพื่อนร่วมรบกันมา คุ้มค่าหรือเปล่าขณะเดียวกัน สุเทพ เทือกสุบรรณ ในวันนี้ได้ให้สัมภาษณ์โดยยืนยันว่า ยินดีที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นผมยืนยันตรงนี้เลยว่า ในเมื่อเขาตัดสินใจที่จะสั่งฟ้องผมแล้ว ผมก็พร้อมที่จะปฏิบัติ ไม่หนีไปอยู่ต่างประเทศ ไม่หลบหนีคดี พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทุกอย่างที่ผมอยากจะเรียนอย่างเดียวคือ น่าเสียดาย ผมได้ประกาศตั้งแต่แรกแล้วว่า กรณีที่ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติปี 2552-2553 ผมเป็นคนสั่งแต่เพียงผู้เดียว ในฐานะที่เป็นอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ทำไมต้องไปลากเอาคุณอภิสิทธิ์ มาเป็นจำเลยร่วมกับผมด้วย ตรงนี้มันเลยทำให้คนหลายคนวิพากษ์วิจารณ์ โทรศัพท์มาหาผมบอกว่า นี่เป็นการบีบบังคับให้คุณอภิสิทธิ์กับผมยอมจำนนให้กับกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อตัวเองจะได้ประโยชน์ด้วย ผมยืนยันเลยว่า ผมไม่ยอมเด็ดขาด ผมจะคัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรม ผมไม่สนใจว่าผมจะได้ประโยชน์หรือไม่ คุณอภิสิทธิ์ก็คิดเช่นเดียวกันสุเทพ ให้สัมภาษณ์ต่อด้วยว่า เรื่องที่ผมไม่สบายใจต่อไปก็คือว่า ผมเป็นผู้ออกคำสั่งจะดำเนินคดีกับผมอย่างไร ผมก็ยินดีที่จะพิสูจน์ ทั้งๆ ที่ผมมั่นใจว่า การออกคำสั่งของผมในวันนั้น ผมทำในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ ผู้ที่มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เมื่อมีคนมาก่อการร้าย มีคนมาฆ่าตำรวจ มีคนมาฆ่าทหาร มาฆ่าประชาชนกลางเมืองหลวงกลางกรุงเทพฯ ผมเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง มีหน้าที่ดูแลบ้านเมืองให้เรียบร้อยก็ต้องทำหน้าที่นั้น ทีนี้การสั่งการของผม ผมถือว่าผมทำถูกกฎหมายทุกอย่าง และผมก็สมควรที่จะได้รับความคุ้มครองเรื่องกฎหมาย แต่ไม่เป็นไร ถ้าเกิดว่าจะเอาผิด ให้มาเอาผิดที่ผมคนเดียว ผมยินดี แต่นี่จะไปหาเรื่องตำรวจเจ้าหน้าที่ทหาร ที่เขามาปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของผมด้วย ผมคิดว่าไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง ที่จะออกมาพูดจาให้ร้ายต่างๆ ซึ่งผมคิดว่า คำพูดเหล่านี้มันเป็นการบั่นทอนขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ วันข้างหน้าเจ้าหน้าที่จะไม่มีขวัญและกำลังใจ ที่จะมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองดังนั้น ผมจึงอยากจะขอวิงวอนต่อสังคมว่า เอาเถอะ จะเล่นงานผมอย่างไร ก็ขอให้มาที่ผมก็แล้วกัน ไม่ใช่ว่าผมอวดดี แต่ว่าผมทำแล้ว ผมต้องการที่จะพิสูจน์ความเป็นจริง แล้วก็ได้ให้ขบวนการยุติธรรมได้ตัดสิน ดีเหมือนกัน ถ้าเกิดว่าผมมีความผิด วันข้างหน้าถ้าคนอื่นที่เขามีหน้าที่ เขาจะได้พึงสังวรณ์เอาไว้ว่าเขาทำอะไรได้แค่ไหน อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงกล่าวอนึ่งเมื่อวานนี้ (28 ต.ค.) รายงานความเห็นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ต่อ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมด้วย โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการทำความเข้าใจกับญาติของกำลังพลที่สูญเสียและบาดเจ็บโดยตลอด โดยเฉพาะการดูแลครอบครัว ส่วนจะมีการนิรโทษกรรมหรือไม่นั้น ยังมาไม่ถึง ที่ผ่านมาตนเรียกญาติกำลังพลมาพบเดือนละครั้ง เพื่อชี้แจงเรื่องคดี และสอบถามการดำรงชีวิต อยากให้ไปเอาคำสั่งการปฏิบัติงานในปี 2553 มาดูว่า เราดำเนินการอย่างไร วันนี้พูดเรื่องทหารทำร้ายประชาชนอย่างเดียว แต่ไม่เห็นมีใครกล้าพูดว่าวันนั้นมีอะไรเกิดขึ้น ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่พูดว่ามีใครยิงใส่ทหารจากใครก็ไม่รู้ ส่วนที่มีการมองว่าเป็นความพยายามจะนำเรื่องของคดีมาบีบทหาร เพื่อให้ยอมรับเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้น ตนไม่เกี่ยวข้อง เพราะไม่อยู่ในกระบวนการ และไม่ใช่ผู้ร้ายไม่ต้องมานิรโทษให้ ซึ่งตนจะสู้คดีเมื่อถามว่า ทหารอาจต้องการให้นิรโทษกรรม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนไม่ใช่นักโทษ และคดีจะต่อสู้ถึง 3 ศาล ส่วนกำลังพลต้องการนิรโทษกรรมหรือไม่ ต้องไปถามเขาดู แต่เท่าที่เรียกมาคุยไม่เห็นว่าอยากจะให้นิรโทษ ซึ่งพยายามบอกกับเขาว่ากองทัพไม่ใช่คู่ขัดแย้ง เป็นเจ้าหน้าที่เหมือนวันนี้ตำรวจเป็นเจ้าหน้าที่ และในวันนั้นตำรวจเป็นเจ้าพนักงานร่วมกับทหาร และตำรวจก็ไปก่อนทหารด้วยนอจากนี้ ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ด้วยว่า ต้องรอให้กระบวนการดำเนินการนิรโทษกรรมออกมาก่อน และดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าคาดการณ์ล่วงหน้า หากเลวร้ายจริงๆ เขาคงหาทางแก้ไข พร้อมแนะนำว่าจังหวะนี้ทุกคนต้องมีขันติ สติ รู้คิด รู้ทำ อย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัส และเพื่อแสดงความอาลัยสมเด็จพระสังฆราชซึ่งเราต้องไว้ทุกข์กัน 1 เดือน ภายใน 30 วันนี้ ต้องนำคำสอนของท่านไปอ่านดูว่าท่านได้รับสั่งอะไรไว้บ้าง อย่างน้อยต้องรู้เรื่อง เบญจศีล เบญจธรรม ซึ่งประเทศไทยต้องก้าวไปข้างหน้า ด้วยกฎหมาย ความเข้าใจและวิธีการแก้ไขปัญหาที่สันติ | ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ยันไม่เห็นด้วยร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง ยอมรับต้องการให้ ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้าน ด้าน สุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมพิสูจน์ข้อเท็จจริง-ไม่หนีไปไหน ยันสั่งการแต่เพียงผู้เดียว | การเมือง | การปรองดองแห่งชาติ,การสลายการชุมนุม 2553,การสลายการชุมนุมเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553,ขัตติยา สวัสดิผล,ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ,ธิดา ถาวรเศรษฐ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,พ.ร.บ.นิรโทษกรรม,พรรคเพื่อไทย,ภูมิธรรม เวชยชัย,มติพรรค,ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม,สุเทพ เทือกสุบรรณ | https://prachatai.com/journal/2013/10/49468 |
จับสมุนแก๊งมันทุกเม็ดแหกด่านท่าขี้เหล็ก ถูกยิงสาหัส ตม.ไทยเข้าอายัดตัว | หากคดีที่พม่าสิ้นสุดลง,เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 มี.ค. พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 รับแจ้งจาก ตำรวจท่าขี้เหล็ก ฝั่งเมียนมา ว่า เมื่อบ่ายวันที่ 12 มี.ค. ขณะกำลังผสมตำรวจ ทหาร และ ปปส.30 ของท่าขี้เหล็ก ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณแยกสนามบิน จ.ท่าขี้เหล็ก ทางไป จ.เชียงตุง พบชายต้องสงสัยขับขี่รถผ่านมา เมื่อเรียกขอตรวจสอบ ชายคนดังกล่าวได้ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยิงไปที่รถคันดังกล่าว แต่รถคันดังกล่าวสามารถขับหลบหนีไปได้,ต่อมาตำรวจท่าขี้เหล็ก ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลท่าขี้เหล็ก ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงเข้ารับการรักษา เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบว่าเป็นชายที่ต้องสงสัยหลบหนีจากจุดตรวจ และถูกอาวุธปืนยิงจำนวน 2 นัด อาการสาหัส จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบชื่อ นายมารุจณ์ มาตุรินทร์ หรือ กล้วย และเมื่อตรวจสอบหมายจับของไทย พบว่าเป็น 1ใน 5 สมาชิกระดับสั่งการ ของแก๊งมันทุกเม็ด ที่ทางการไทย โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.ตม.สั่งให้ ตม.เชียงราย เฝ้าติดตามจับกุมตัวอยู่,ตร.ท่าขี้เหล็ก จึงได้จัดกำลังเฝ้า พร้อมตั้งข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงานตำรวจ มีและใช้ทะเบียนรถปลอม และใช้บัตรประชาชนเมียนมาปลอม และเตรียมสอบสวน ขยายผลล่าตัว เทพบุตรโซโล หรือ นายปัณณวิชย์ ประทุม และนายบิ๊ก หรือ ชาติชาย พิมพบุตร ที่คาดว่ายังวนเวียนไปมาระหว่างชายแดนตรงข้าม อ.แม่ฟ้าหลวง กับ อ.แม่สาย ในพื้นที่ชนกลุ่มน้อย ชาวมูเซอร์แดง ที่มี นายวีระ หมื่นจะดา ผู้ต้องหาชาวไทย มีหมายจับคดียาเสพติด นำพาให้การหลบซ่อนตัวในเขตอิทธิพลของกลุ่มว้า ,ขณะที่ พ.ต.อ.เอกกร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและประสานตำรวจเมียนมา ขออายัดตัว หากคดีที่ฝั่งเมียนมาสิ้นสุด ขอให้ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีฝั่งไทยตามหมายจับคดียาเสพติด. | พม่าจับสมุนแก๊งมันทุกเม็ด ระดับสั่งการ หลังแหกด่าน ตร.ท่าขี้เหล็ก ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ แล้วเข้ารับการรักษาใน รพ. จน จนท.ตามไปอายัดตัว และประสานกับทางการไทย โดย รองผบก.ตม.5 ส่ง ตร.ไทยอายัดตัว | ข่าว,ทั่วไทย | แก๊งมันทุกเม็ด,เทพบุตรโซโล,แหกด่าน,ตำรวจท่าขี้เหล็ก,อายัดตัว,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1520555 |
บริษัทยัน รับผิดชอบรักษา นศ.ฝึกงาน เหยื่อเตาน้ำมันระเบิด จนกว่าจะหาย | ,วันที่ 22 มกราคม ที่ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง น.อ.จาริก พัวพานิช รอง ผอ.รมน. จังหวัดระยอง เปิดเผยถึงกรณีนักศึกษาฝึกงานวิทยาลัยเทคนิคระยอง ชื่อ น.ส.พนิตา ใจดี อายุ 23 ปี ที่ได้รับอุบัติเหตุจากการฝีกงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา
จนมาเกิดเป็นประเด็นสนใจในสื่อสังคมออนไลน์ ว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมุมมองส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับส่วนราชการใด จากที่ดูในสื่อที่ออกไป มีประเด็นที่น่าสนใจคือ สัญญาที่นักศึกษาฝึกงาน ทำไว้กับทางบริษัทก่อนที่จะเข้าฝึกงานว่า จะไม่เอาความใดๆ กับทางบริษัท หากมีปัญหาในเรื่องของการปฏิบัติงาน หรืออุบัติเหตุใดๆ,ส่วนตัวไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้ในการทำสัญญาของนักศึกษาก่อนที่จะเข้าไปฝีกงานในโรงงานอุตสาหกรรม หากมีอะไรเกิดขึ้นจะไม่รับผิดชอบ มองถึงว่า
ในเรื่องของลายลักษณ์อักษร ที่เขียนก็เขียนได้ แต่ความเป็นธรรมต้องมี และต้องมาดูกันว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร เกิดจากความบกพร่อง หรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในส่วนนี้เชื่อว่า นักศึกษาฝึกงานคงไม่ทำอะไรโดยพลการ หากไม่ได้รับการสั่งการ ซึ่งต้องมีการได้รับมอบหมายจากผู้มีประสบการณ์ในสถานที่นั้น ก็ต้องมาดูว่าในเรื่องดังกล่าวจริงๆแล้ว ต้องไปลงบันทึกประจำวัน และต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสอบสวน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาการตรวจสอบถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ และจะต้องมีการเยียวยา เพราะเขาคืออนาคตของชาติ จะมาปัดความรับผิดชอบ หรือทำนองว่า ไม่ติดใจเอาความ เนื่องจากเป็นข้อตกลงในการเข้ามาฝึกงาน ในส่วนนี้ มองว่ามันมีลักษณะของความไม่เป็นธรรมซ่อนอยู่
,ทั้งนี้ นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผวจ.ระยอง ได้สั่งการให้ กอ.รมน.ระยอง และ ศูนย์ดำรงธรรม สวัสดิการคุ้มครองแรงงานจังหวัดระยอง อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง กนอ.มาบตาพุด ลงตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้การเยียวยาและเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และในกรณีของนักศึกษา ต้องมาดูว่าเข้าข่าย
พรบ.แรงงานหรือไม่,สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนายชุติสิทธิ์ เดชมูล ผช.ผอ.กนอ.มาบตาพุด เผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ได้ร่วมกันตรวจสอบในบริษัทดังกล่าว โดยมี Dr.Uwe Kuehner กรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายสัญญา ภวัครานนท์ รองกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว ชี้แจงในเหตุที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าจะรับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาจนกว่า น.ส.พนิตา จะหายเป็นปกติ และที่ผ่านมาทางบริษัทก็ได้ดูแลค่ารักษาพยาบาลมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว,
ในส่วนของกรณีที่ไม่แจ้งต่อ กนอ.มาบตาพุด ทางบริษัทไม่ขอตอบคำถามทางบริษัทจะขอแถลงข่าวในภายหลัง,นายชุติสิทธิ์ กล่าวว่าจากการลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัทฯดังกล่าว พบว่าทางบริษัท มีความผิด ที่ไม่รายงานอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตาม พรบ.โรงงาน มาตรา 7 มีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท ถึงแม้บริษัทจะอ้างว่าหลังเกิดเหตุ ทุกฝ่ายได้มีการดูแลผู้บาดเจ็บ จนลืมรายงานให้ กนอ.มาบตาพุด ทราบ ก็ตาม
. | บริษัทยัน รับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษา นศ.ฝึกงาน เหยื่อเตาน้ำมันระเบิด จนกว่าจะหายเป็นปกติ ด้าน กนอ. เตรียมลงพื้นที่ หาสาเหตุที่แท้จริง ชี้มีความผิดตาม พรบ.โรงงาน กรณีเกิดอุบัติเหตุแล้ว ไม่รายงาน | ข่าว,ทั่วไทย | เตาน้ำมันระเบิด,เตาน้ำมัน,นักศึกษาฝึกงาน,เยียวยา,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1184068 |
เจ้าเล่ห์ไม่เลิก ฟิลิปปินส์ส่อหั่นจักรยานดาวน์ฮิลล์พ้นซีเกมส์ | ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างประเทศไปสอบถามต่อที่ประชุมสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย เพื่อขอความชัดเจน ส่วนนายกสมาคมสองล้ออินโดนีเซียเตรียมเสนอ เอซีซี กดดันเจ้าภาพซีเกมส์ให้จัดการแข่งขันต่อไป ,วันที่ 27 ส.ค.62 พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า หลังจากนักกีฬาจักรยานเสือภูเขาทีมชาติไทยไปสร้างผลงานดี ในการแข่งขันเสือภูเขานานาชาติที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งนับจากนี้เราต้องมองไปถึงการเตรียมทีมนักกีฬา เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ,ล่าสุด มร.ราชา ซาพตา อ๊อกโต นายกสมาคมกีฬาจักรยานประเทศอินโดนีเซีย ได้มาหารือกับตนเองหลังจากได้ทราบข่าวมาว่า ทางประเทศฟิลิปปินส์จะตัดการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาประเภทดาวน์ฮิลล์ออกจากกีฬาซีเกมส์ ซึ่งทางเราเองก็ยังไม่ทราบข้อมูลที่ชัดเจน ต้องตรวจสอบให้แน่นอนอีกครั้ง ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ นายสุชาย ดวงดี กับ นายขัตติยะ ศรีโสดา เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างประเทศของสมาคมกีฬาจักรยานฯ นำเรื่องดังกล่าวไปสอบถามที่ประชุมของคณะกรรมการบริหารสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (เอซีซี) เพื่อขอความชัดเจน ซึ่งกำหนดประชุมในวันที่ 1 ก.ย. ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์,การประชุมในครั้งนี้ มร.ราชา ซาพตา อ๊อกโต้ นายกสมาคมกีฬาจักรยานประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นบอร์ดบริหารของ เอซีซี ยืนยันว่าจะเสนอให้ เอซีซี กดดันประเทศฟิลิปปินส์ให้จัดการแข่งขันเสือภูเขาประเภทดาวน์ฮิลล์ต่อไป เนื่องจากได้มีการบรรจุลงในเทคนิคอลแฮนด์บุ๊ก หรือคู่มือการแข่งขันแล้ว อีกทั้งสมาคมกีฬาจักรยานฯ ทั้งของอินโดนีเซีย และไทย รวมทั้งชาติอื่นๆ ต่างก็ดำเนินการเก็บตัวนักกีฬาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งมีการใช้งบประมาณสูงมากในการเก็บตัว พลเอกเดชา กล่าว,เสธ.หมึก กล่าวต่อไปว่า ถ้าหากฟิลิปปินส์ตัดประเภทดาวน์ฮิลล์ออกไปจริง จะส่งผลให้ความหวังในการคว้าเหรียญทองของไทยลดน้อยลงไปถึง 2 เหรียญ เพราะในการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 28 ก.ค. นักกีฬาดาวน์ฮิลล์ของไทยก็ได้เหรียญทองทั้งชายและหญิง คือ เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ ในรุ่นประชาชนชาย กับ วิภาวี ดีคาบาเลส ในรุ่นประชาชนหญิง อีกทั้งการแข่งขันที่ประเทศมาเลเซียก็ได้เหรียญทองรุ่นประชาชนชายจาก สืบสกุล สุขจรรยา แต่เราไปพลาดในรุ่นประชาชนหญิง โดย ศิริภัสสร ชาติกำเนิด แพ้คู่แข่งจากอินโดนีเซีย เจ้าของเหรียญทองเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 เพียงแค่เศษเสี้ยววินาที ทั้งนี้เนื่องจากสมาคมฯ ได้แบ่งนักกีฬาชุดใหญ่ที่มี วิภาวี ดีคาบาเลส ไปแข่งขันชิงแชมป์โลกที่ประเทศแคนาดา จึงพลาดเป้าไปเล็กน้อย ส่วนประเภทครอสคันทรีหญิง เรามีโอกาสคว้าเหรียญรางวัลสูง. | ฟิลิปปินส์เล่นแง่ จ่อตัดจักรยานเสือภูเขาประเภทดาวน์ฮิลล์ออกจากการชิงเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ทั้งชายและหญิง ด้าน เสธ.หมึก ชี้มีผลกระทบต่อความหวังของทัพนักปั่นไทย | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | จักรยานเสือภูเขา,จักรยานดาวน์ฮิลล์,ซีเกมส์ 2019,ฟิลิปปินส์,พลเอกเดชา เหมกระศรี,เสธ.หมึก | https://www.thairath.co.th/sport/others/1647218 |
ด่วน ประยูน แก้วพยศ ฆ่ายัดถังโบกปูน โดนกดดันหนัก มอบตัวที่พัทลุง | เวลา 13.00 น. วันที่ 28 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังตำรวจกองปราบปรามได้รับแจ้งจาก น.ส.อรอุมา หนูปทุม อายุ 36 ปี น้องสาวของ นายอัชฌา หนูปทุม อายุ 38 ปี พี่ชาย ว่าหายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ,ต่อมา พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1บก.ป. พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ รอง ผกก.1 บก.ป. จัดกำลังออกสืบสวนจนพบว่า นายอัชฌา ถูกคนร้ายฆ่าโบกปูนยัดถังน้ำมัน 200 ลิตร แล้วนำไปฝังอยู่ด้านหลังร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในเขตบางเขน กทม. โดยมีผู้ต้องสงสัยคือ นายประยูน แก้วพยศ อายุ 48 ปี คนดูแลร้านวัสดุก่อสร้าง และคนงานอีก 1 คน เป็นผู้ร่วมก่อเหตุ หลังจากทั้งคู่ได้หายไปตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค,ส่วนสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว ที่ นายประยูน และ นายอัชฌา ผู้ตาย ไปมีความสัมพันธ์กับหญิงสาวที่เป็นเสมียนของร้านวัสดุก่อสร้างที่เดียวกัน ทาง พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วีระชัย ขุนไชยแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.พงศ์ปณต ชูแก้ว รอง ผกก.6 บก.ป. จัดกำลังชุดสืบสวนกองปราบปรามที่รับผิดชอบในพื้นที่ แบ่งกำลังออกเป็น 4 ชุด ออกไล่ล่ากดดันนายประยูน ตามบ้านญาติและคนสนิท ในพื้นที่ จ.พัทลุง,จนกระทั่งล่าสุด เวลา 11.00 น. ของวันนี้ นายประยูน ทนแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ ไม่ไหว ได้ติดต่อผ่านญาติ ขอมอบตัวกับตำรวจกองปราบปราม ใน อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง โดยจะนำตัวขึ้นเครื่องบินเข้ากรุงเทพฯ ทั้งนี้ ต้องรอคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอีกครั้งว่าจะนำตัวผู้ต้องหาไปแถลงข่าวที่ไหน | ประยูน แก้วพยศ ผู้ต้องหาฆ่าลูกน้องยัดถังโบกปูน เหตุจากหึงหวง ถูกกองปราบกดดันหนัก เข้ามอบตัวแล้วที่ จ.พัทลุง นำตัวขึ้นเครื่องบินเข้า กทม.เตรียมแถลงข่าว | ข่าว,อาชญากรรม | ฆ่ายัดถัง,ฆ่ายัดถังโบกปูน,จับฆ่ายัดถัง,ฆ่าลูกน้อง,ประยูน แก้วพยศ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1531636 |
คนร้ายลอบยิง รปภ.ชลประทานเมืองคอน ดับคาที่ | เมื่อเวลา 22.10 น. วันที่ 27 ม.ค. 2558 ร.ต.อ.มนตรี ปานอ่อน พนักงานสอบสวน สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุ มีคนถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดที่สำนักงานโครงการชลประทานนครศรีธรรมราช เลขที่ 168 ถนนสายนาพรุ –ป่าห้วยพระ หมู่ 3 ต.นาสาร อ.พระพรหม จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทรัพย์มี ผกก. พ.ต.ท.ธวัชชัย หมื่นพันธ์ชู รองผกก.ป. พ.ต.ท.จตุพงศ์ ใจแกล้ว รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.อธิวุฒิ ไวยกาญจน์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.นิรัตน์ เทพเดชา สวป. พ.ต.ท.ชัยสิทธิ์ ทองมี สว.สส. แพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช และอาสาสมัครมูลนิธิประชาร่วมใจ รุดไปที่เกิดเหตุ,ที่เกิดเหตุบริเวณริมรั้วกำแพงคอนกรีต ข้างป้อมยามรักษาการด้านข้างของสำนักงานโครงการชลประทานนครศรีธรรมราช บริเวณประตูทางเข้าหน่วยเรือขุดลอกคลองพบศพ นายวินิจ อินทรภักดิ์ อายุ 51 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยของหน่วยเรือขุดลอกคลอง อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 8 ต.ขุนทะเล อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เสียชีวิตในสภาพนอนคว่ำหน้าตะแคงซ้าย ผู้ตายอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเหลืองคอปก นุ่งกางเกงขายาวสีกากี สวมรองเท้าหนังสีดำ ร่างกายมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ชายโครงด้านขวา แขนขวา ด้วยกระสุนปืนลูกซองจำนวน 3 นัด ใกล้กันพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายตกอยู่ 1 เครื่อง และปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ตกอยู่ 2 ปลอก เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐานทางคดี,สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายวินิจ เป็นพนักงาน รปภ.เดินออกจากป้อมยามที่อยู่ใกล้กัน เพื่อตรวจความเรียบร้อย ได้มีคนร้ายซุ่มอยู่ที่มุมมืดใกล้ที่เกิดเหตุ ใช้อาวุธปืนลูกซอง ตำรวจคาดว่าเป็นปืนลูกซองยาวกึ่งอัตโนมัติ ยิงใส่ผู้ตายขณะเดินอยู่ เป็นเหตุให้นายวินิจล้มลงเสียชีวิตทันที แล้วคนร้ายหลบหนีหายไปกับความมืด,ทาง จนท.ตำรวจตั้งปมการสังหารนายวินิจไว้ 3 ประเด็น ได้แก่ เรื่องความขัดแย้งกับขาใหญ่รายหนึ่งในวงสุรา ที่ร้านค้าในหมู่บ้าน เนื่องจากเมื่อไม่กี่วันมานี้ ผู้ตายไปดื่มสุรากับเพื่อนๆ และคนในหมู่บ้าน ด้านหลังของ สนง.โครงการชลประทานนครศรีธรรมราช และมีปากเสียงรุนแรงในวงเหล้า กับขาใหญ่รายดังกล่าว ประเด็นต่อมาคือ สาเหตุอันเกิดจากการทำงาน เนื่องจากผู้ตายค่อนข้างเข้มงวด กับวัยรุ่นที่เดินผ่านหรือมาป้วนเปี้ยนมั่วสุมในย่านดังกล่าวในช่วงกลางคืน อาจทำให้วัยรุ่น หรือกลุ่มวัยรุ่นเกิดความไม่พอใจ เนื่องจากนายวินิจผู้ตาย นอกจากทำงานเข้มงวดแล้วเป็นคนพูดจาโผงผาง ตรงไปตรงมาไม่ไว้หน้าใคร และประเด็นสุดท้าย เป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวอื่นๆ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ตัดทิ้ง จะเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดี และติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป. | เกิดเหตุคนร้ายลอบใช้ปืนลูกซองยาวยิงใส่ รปภ.ของ สนง.โครงการชลประทานนครศรีธรรมราช 3 นัดเสียชีวิตคาที่ ด้าน ตร.ตั้งปมการสังหารครั้งนี้ไว้ 3 ประเด็น ทั้งความขัดแย้งกับขาใหญ่ในวงสุรา ปัญหาการทำงาน และความขัดแย้งส่วนตัว | ข่าว,ทั่วไทย | ยิงกันตาย,อาชญากรรม,สังหาร รปภ.,สำนักงานโครงการชลประทานนครศรีธรรมราช,มนตรี ปานอ่อน,สภ.พระพรหม,ต.นาสาร,อ.พระพรหม,นครศรีธรรมราช,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/477548 |
สันติภาพและความรุนแรงของโลก: มองผ่านดัชนีชี้วัดสันติภาพโลก (GPI) 2016 | ไปเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่เพิ่งผ่านมา โดยบทความมุ่งทบทวนแบบแผนของสันติภาพและความรุนแรงในระดับโลก ในระยะ 9-10 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งวิเคราะห์ทบทวนภาพเกี่ยวกับความรุนแรงในแต่ละระดับชั้น ซึ่งทั้งหมดนี้ ไม่ใช่ของใหม่เสียทีเดียว หากแต่เป็นการเรียบเรียงและต่อยอดจากองค์ความรู้ที่หลายท่านได้มอบไว้ให้แก่แวดวงการศึกษาวิจัยเรื่องนี้ดัชนีชี้วัดสันติภาพโลก หรือ GPI เป็นการวัดประเมินโดยอาศัยเกณฑ์อันประกอบด้วยดัชนีชี้วัด 23 ตัวแปร จำแนกเป็น 3 หมวดหมู่ คือ (1) สถานการณ์ความขัดแย้งภายในและระหว่างประเทศที่เกิดขึ้น (the ongoing domestic and international conflict) (2) ความมั่นคงปลอดภัยของสังคม (the societal safety and security) และ (3) กิจการและแสนยานุภาพทางการทหารในแต่ละพื้นที่ (the militarisation) ทั้งหมดนี้จะเป็นเกณฑ์นำไปเก็บข้อมูลประเทศทั่วโลก 163 ประเทศ ดัชนีชี้วัดสันติภาพโลก 23 ตัวแปร ผลลัพธ์ปรากฏว่า โลกในภาพรวมของปีนี้ มีระดับสันติภาพน้อยลงกว่าเมื่อปีก่อนพอสมควร โดยหมวดหมู่ของตัวแปรที่ดูดีขึ้น คือ กิจการและแสนยานุภาพทางการทหาร ที่แม้ว่าบางประเทศจะยังหมกมุ่นกับการสะสมอาวุธ แต่ประเทศส่วนใหญ่ในโลกมีทิศทางของการตัดงบประมาณการทหารลง ส่วนหมวดหมู่ที่ฉุดรั้งให้ระดับสันติภาพโลกดูตกต่ำลง คือ สถานการณ์ความขัดแย้งภายในและระหว่างประเทศ กับ ความมั่นคงปลอดภัยของสังคม ทั้งนี้ แชมเปี้ยนของสถานการณ์สันติภาพตกต่ำมากที่สุดในปี 2016 นี้ ถ้านับในแง่ภูมิภาค ก็ได้แก่ ภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ถ้านับในแง่ประเทศ ก็คือ ประเทศซีเรีย ส่วนแชมเปี้ยนของสถานการณ์สันติภาพมากที่สุดในปีเดียวกันนี้ ถ้านับในแง่ภูมิภาค ก็คือ ยุโรป ส่วนถ้านับในแง่ประเทศ ก็ได้แก่ ประเทศไอซ์แลนด์หากพิจารณาในภาพระยะยาว ช่วง 8-9 ปีที่ผ่านมา ระดับสันติภาพของโลกในภาพรวมโดยเฉลี่ยกันทุกประเทศแล้ว มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา และพบว่าโลกเรามีสันติภาพน้อยลง โดยอาจกล่าวได้ว่า เป็นช่วง8-9 ปีที่ระดับของสันติภาพโลกถดถอยลงมากที่สุดในประวัติศาสตร์หลังสงครามเย็น (ดูแผนภาพที่ 2) ค่าเฉลี่ยของสันติภาพโลกในช่วง 8-9 ปี (2008-2016)ขณะเดียวกัน ถ้าหากเราพิจารณาลงไปในรายละเอียดก็จะปรากฏอีกภาพที่น่าสนใจมากกว่า นั่นคือ กราฟที่ชี้ให้เห็นการขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ของช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางสันติภาพ (Peace Inequality) ระหว่างกลุ่มประเทศที่มีสันติภาพมากที่สุด กับกลุ่มประเทศที่มีสันติภาพน้อยที่สุด (ดูแผนภาพที่ 3) แสดงแนวโน้มของช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางสันติภาพในระยะ 8 ปี (2008-2015)กล่าวคือ ประเทศที่มีสันติภาพที่สุดในโลกจำนวนมากอยู่ในทวีปยุโรป ซึ่งเป็นผลสำคัญมาจากการลดลงอย่างต่อเนื่องของอัตราการเกิดฆาตกรรม การลดการใช้จ่ายด้านการทหาร และการถอนทหารออกจากอิรักและอัฟกานิสถาน และพบว่า จาก 20 ประเทศที่มีสันติภาพที่สุดในโลกในการวัดประเมินปีล่าสุด เป็นประเทศในทวีปยุโรปถึง 14 ประเทศสำหรับกลุ่มประเทศที่ระดับสันติภาพต่ำ ได้แก่ ซีเรีย ซูดานใต้ อิรัก อัฟกานิสถาน โซมาเลีย เยเมนแอฟริกากลาง ยูเครน และซูดาน ตัวเลขชี้วัดสันติภาพที่ตกต่ำนั้นเป็นผลสำคัญมาจากการขยายตัวมากขึ้นของความไม่สงบภายในประเทศ และความตึงเครียดมากขึ้นของความขัดแย้งระหว่างกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งจะเห็นว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในความขัดแย้งภายในประเทศทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว (2015) พุ่งไปแตะถึงตัวเลข 280000 คน ซึ่งคำนวณเร็วๆ ได้ว่าเพิ่มขึ้นจาก ค.ศ. 2010 ถึง 267% ขณะเดียวกัน ก็ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของจำนวนผู้อพยพลี้ภัยและผู้ถูกบังคับให้พลัดถิ่นในประเทศตนเอง ซึ่งจัดได้ว่ามีสัดส่วนราว 1% ของประชากรโลกทั้งหมด ปัจจัยเหล่านี้เป็นสถานการณ์การใช้ความรุนแรงที่ฉุดรั้งดัชนีชี้วัดสันติภาพโลกในภาพรวมช่วงที่ผ่านมาให้ตกต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญในส่วนผลกระทบของการก่อการร้าย พบว่า ปฏิบัติการของกลุ่มที่ใช้วิธีการดังกล่าวยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการก่อเหตุของพวกเขาคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วราว 20000 ชีวิตนับเฉพาะในรอบการวัดประเมินปี 2015 และจำนวนราว 32000 ชีวิตนับเฉพาะรอบการวัดประเมินในปี 2016 แต่ก็น่าสนใจว่า ตัวเลขดังกล่าวไม่นับรวมการก่อการร้ายที่กระทำโดยรัฐ ซึ่งถ้าพูดกันอย่างตรงไปตรงมา เป็นผู้เล่นที่คร่าชีวิตมนุษย์ด้วยวิธีการก่อการร้าย/สร้างความสะพรึงกลัวมากที่สุดตลอดเส้นทางประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการอุ้มหาย การลักพาตัว การสังหารหมู่ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ฯลฯอย่างไรก็ตาม ถ้าเราตามน้ำไปกับข้อมูลของดัชนีชี้วัดสันติภาพโลก หรือ GPI ก็จะยังเห็นข้อน่าสนใจอีกสองข้อ คือ หนึ่ง ส่วนใหญ่ของจำนวนผู้เสียชีวิตจากการก่อการร้าย เป็นความสูญเสียที่เกิดขึ้นใน 5 ประเทศเท่านั้น ได้แก่ อิรัก ไนจีเรีย อัฟกานิสถาน ปากีสถาน และซีเรีย สองก็คือ กราฟเปรียบเทียบระยะยาวระหว่างจำนวนการเกิดเหตุเปรียบเทียบกับจำนวนผู้เสียชีวิตมีความน่าสนใจมาก เพราะมันสะท้อนว่าในขณะที่การเกิดเหตุก่อการร้ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อัตราการเสียชีวิตต่อการเกิดเหตุหนึ่งครั้ง กลับเพิ่มสูงขึ้นในความเร่งที่มากกว่าเสียอีก แปลว่า ศักยภาพของการก่อเหตุแต่ละครั้งเพิ่มสูงขึ้น การลงมือครั้งหนึ่งทำให้คนตายได้มากขึ้น ซึ่งเห็นแบบแผนนี้ชัดเจนยิ่ง ในช่วงหลังปี 2012 เป็นต้นมา เปรียบเทียบระหว่างจำนวนการก่อเหตุก่อการร้ายกับจำนวนผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการดังกล่าวในช่วงระยะ 10 ปี (2006-2015)ทั้งหมดที่ฉายภาพตามการนำเสนอของค่าตัวแปรของ IEP นี้ คงพอจะ วัดอุณหภูมิ สันติภาพโลกได้อย่างคร่าวๆ ว่า โลกในช่วงทศวรรษที่ผ่านมานั้น มีแนวโน้มของสันติภาพที่ตกต่ำลง ซึ่งก็แปลได้อีกแบบว่า สถานการณ์ความรุนแรงของโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น และการปรากฏช่องว่างถ่างออกจากกันมากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างกลุ่มประเทศที่มีสันติภาพที่สุด กับกลุ่มประเทศที่เผชิญสถานการณ์ความรุนแรงมากที่สุด แต่ข้อน่าสนใจยิ่งกว่านั้นก็คือ เวลาพูดว่า ความรุนแรง เรากำลังหมายถึงอะไรความรุนแรง (violence) เป็นอีกคำในทางสังคมศาสตร์ที่มีการให้นิยามหลากหลาย ความหมายของมันหลากเลื่อนไปตามบริบทของกาละและเทศะ ตลอดจนการรับรู้ของตัวบุคคล แต่ส่วนใหญ่ของการให้ความหมายมักจะเป็นนิยามในเชิงพฤติกรรม (behavioral) เช่น การการกระทําใดๆ ที่เป็นเหตุหรือเป็นสิ่งที่โน้มน้าวให้เกิดความทุกข์ทรมาน การจงใจใช้กําลังหรืออํานาจทางกายเพื่อข่มขู่ หรือกระทําต่อตนเอง ต่อผู้อื่น ต่อกลุ่มบุคคลหรือชุมชน ซึ่งมีผลทำให้เกิดหรือมีแนวโน้มที่จะมีผลให้เกิดการบาดเจ็บ ตาย หรือเป็นอันตรายต่อจิตใจหรือเป็นการยับยั้งการเจริญงอกงามหรือการกีดกันหรือปิดกั้น ทําให้สูญเสียสิทธิบางประการ และขาดการได้รับในสิ่งที่สมควรจะได้รับ หรือ การใช้กําลังคุกคามหรือทำร้าย เพื่อควบคุม หรือครอบครองบุคคล หรือทรัพย์สิน ฯลฯขณะเดียวกัน ประเด็นเรื่องระดับของสันติภาพและความรุนแรงในโลกตามตัวชี้วัด GPI ที่กล่าวถึงไปก็พอจะจัดได้ว่า มีมิติหลักคือมองความรุนแรงเป็นพฤติกรรมเช่นเดียวกัน โดยมองว่ามันสะท้อนผ่านของ 2-3 ประเภทที่จับต้องได้ คือ (1) ขนาดและความเข้มข้นของความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่ (2) ตัวเลขบ่งชี้ความมั่นคงปลอดภัยของสังคม เช่น อัตราการเกิดฆาตกรรม หรือตัวเลขการก่ออาชญากรรมที่ใช้ความรุนแรง และ (3) ขนาดของการทุ่มเทให้กับกิจการด้านการทหารของแต่ละรัฐ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนขับเน้นมิติการมองความรุนแรงในฐานะพฤติกรรมเป็นสำคัญอย่างไรก็ตาม ถ้าพิจารณาจากมุมมองของนักวิชาการคนสำคัญอย่างโยฮัน กัลตุง (Johan Galtung)ก็จะพบว่า ความรุนแรงจำแนกออกได้เป็น 3 ลักษณะ ซึ่งมีความสัมพันธ์และเป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน คือ ความรุนแรงทางตรง (direct violence) ความรุนแรงเชิงโครงสร้าง (structural violence) และความรุนแรงเชิงวัฒนธรรม (cultural violence) และวันนี้การครุ่นคิดทบทวนความเข้าใจต่อความรุนแรงแต่ละลักษณะ ตลอดจนสายสัมพันธ์ของพวกมันนั้น เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเข้าใจและหาทางออกจากสถานการณ์ความรุนแรงของโลกปัจจุบันความรุนแรงทางตรงมีลักษณะเป็นเหตุการณ์ (event) อันประกอบด้วยที่มาของความรุนแรง เป้าของความรุนแรง และเหยื่อของความรุนแรงนั้น เหตุที่ต้องจำแนกเป้าของความรุนแรงกับเหยื่อของความรุนแรงออกจากกันเพราะหลายต่อหลายครั้งเป้าไม่ใช่เหยื่อ และเหยื่อไม่ใช่เป้า ดังกรณีการก่อการร้ายโดยทั่วไป ดังนั้น เราจึงไม่สามารถระงับการโจมตีได้ หากสนใจเพียงแค่มาตรการป้องกันเหยื่อให้รอดพ้นจากปฏิบัติการก่อเหตุ แต่เพิกเฉยต่อการทำความเข้าใจเป้าหมายของการใช้ความรุนแรงลักษณะเด่นของความรุนแรงทางตรง คือมักเผยตัวออกมาให้เห็นชัดเจนในทางกายภาพ และส่งผลในเชิงทำร้ายร่างกายมนุษย์โดยตรง ทั้งในเชิงทำลายร่างกายอันทําให้ศักยภาพของมนุษย์สะดุดหยุดลงโดยยังไม่ถึงกาลอันสมควร เช่น การบดขยี้ การฉีกกระชาก การแทง และในเชิงขัดขวางการทำงานของร่างกาย เช่น การไม่ให้มีอากาศ หรือการไม่ให้มีอาหารข้อน่าสนใจก็มีอยู่อีก 2 ข้อ ข้อแรกคือ เครื่องมือก่อความรุนแรง นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เก่งกาจอย่างมากในการพัฒนาประสิทธิภาพของเครื่องมือก่อความรุนแรง ในสมัยโบราณ เราอาจเห็นการให้น้ำหนักกับ ร่างกาย ในฐานะอาวุธ ลำดับถัดมาก็คือ อาวุธระดับพื้นฐานประเภทดาบ กริช หอก ทวน ซึ่งความสามารถทำลายล้างของของเหล่านี้ขึ้นอยู่อย่างมากกับธรรมชาติของเหยื่อแห่งความรุนแรง เช่น การชกต่อยนักมวย กับชกต่อยเด็กประถมย่อมให้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน ซึ่งน่าสนใจว่าเครื่องมือก่อความรุนแรงที่มนุษย์พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันนั้น นอกจากจะมีอานุภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ความสามารถทำลายล้างของมันยังไม่ขึ้นกับธรรมชาติของเหยื่ออีกด้วย เช่น ปืนอาก้า คาร์บอม หรือระเบิดปรมาณู ทำให้เราพอจะกล่าวได้ว่า นวัตกรรมทางอาวุธของมนุษย์สามารถทำรับประกันความตายให้กับมนุษย์ทุกประเภทได้อย่างเสมอภาคนอกจากนี้ แบบแผนของการก่อความรุนแรงยังมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคสมัยที่เรียกกันว่า สงครามยุคที่ 4 หรือ the 4th Generation War (4GW) ซึ่งมีลักษณะเด่นคือ การเปลี่ยนแปลงจากการรบตามแบบไปสู่การรบนอกแบบ จากสงครามระหว่างกองทัพขนาดใหญ่ไปเป็นสงครามระหว่างรัฐกับกลุ่มที่มิใช่รัฐ จากการรบแบบรวมศูนย์มาเป็นการรบแบบมีศูนย์การรบย่อยหลายจุดกระทั่งไปสู่การรบแบบกระจายตัวไปทั่วโดยไร้จุดศูนย์ดุล ตัวอย่างชัดคือการปรากฏบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ ของการก่อการร้ายแบบ lone wolf ความเชื่อมโยงเดียวที่ร้อยรัดกับตัวแสดงอื่น คือ การเชื่อมโยงทางความคิด อุดมการณ์และองค์ความรู้เกี่ยวกับการสร้างเครื่องมือและยุทธวิธีการก่อเหตุรุนแรงผ่านระบบออนไลน์ที่เป็นผลมาจากการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของโลกในยุคโลกาภิวัตน์ นอกจากนี้ สงครามในยุคที่ 4 ยังมีลักษณะเด่นคือโยงใยอยู่กับปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ การเมืองอย่างมากกว่าสงครามยุคก่อนๆ และมิติของการรบทางความคิด ข่าวสาร และปฏิบัติการจิตวิทยามีบทบาทอย่างสูงต่อการแพ้/ชนะของสงครามขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาในประเด็นการก่อการร้ายข้ามชาติของตัวแสดงที่มิใช่รัฐ จะพบแบบแผนที่มุ่งเน้นการก่อเหตุต่อเมือง หรือที่เรียกว่า Urban Terrorism มากขึ้น ทั้งนี้ ก็ด้วย 3 เหตุผลสำคัญ คือ (1) เป็นการสื่อสารอย่างง่ายๆ และตรงไปตรงมาต่อสาธารณะว่า รัฐบาลของคุณไร้น้ำยา ซึ่งอาจนำไปสู่การลดความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาล ตลอดจนอาจมีผลต่อการที่ประชาชนอาจกดดันให้รัฐบาลเลิกนโยบาย/มาตรการที่กระตุ้นให้เกิดการตอบโต้กลับด้วยการก่อเหตุรุนแรง (2) เป็นไปทฤษฎีสงครามกองโจรของ Carlos Marighella ที่ว่า ความสำเร็จของสงครามกองโจรในเขตเมืองจำเป็นจะต้องอาศัยยุทธวิธีสร้างความสะพรึงกลัวต่อพื้นที่ดังกล่าวควบคู่ไปด้วย โดยการทำแบบนั้นจะทำให้ฝ่ายรัฐเกิดปฏิกิริยาตอบโต้กลับในเชิงของการพยายามค้นหา สืบสวนปราบปราม และตรวจตราอย่างเข้มข้นในเขตเมือง จนกระทั่งนำไปสู่การรบกวน และสร้างความเป็นปฏิปักษ์กับประชาชนในพื้นที่เสียเอง และพวกเขาเหล่านั้นจะลุกมาต่อต้านหรือกระทั่งต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐในที่สุด และ (3) ในมุมของกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส สะท้อนผ่านนิตยสารดาบิค เล่มที่ 7 เขาจำแนกพื้นที่ในโลกออกเป็น 3 จำพวก (น่าสนใจว่ากรอบคิดในเรื่องนี้คล้ายกับ Either Friend or Enemy ของจอร์จ บุช จูเนียร์อย่างมาก) คือ (1) ชุมชนมุสลิมที่อยู่ข้างพวกเขานับว่าเป็นมิตร (2) พื้นที่ที่เห็นด้วยหรือร่วมมือกับศัตรู (ตะวันตก) แม้จะเป็นชุมชนของมุสลิมแต่ก็นับว่าเป็นศัตรู และจำพวกที่สำคัญที่สุดตามยุทธศาสตร์ที่สื่อสารออกมาก็คือข้อ (3) ชุมชนมุสลิมกลางๆ ที่ไม่ take side และสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนที่มิใช่มุสลิมได้ รวมทั้งมีความเห็นอกเห็นใจผู้สูญเสียจากเหตุร้ายต่างๆ ทั้งสงครามของฝ่ายตะวันตกและการก่อเหตุร้ายของไอเอส ไอเอสเรียกพื้นที่ตามข้อสามนี้ว่า grey zone ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พวกเขาประกาศว่าจำเป็นต้องทำลายทิ้ง ให้เหลือแต่พื้นที่เผชิญหน้าระหว่างมุสลิมกับพวกที่มิใช่มุสลิม ยุทธศาสตร์เพื่อรับใช้กรอบคิดดังกล่าวของพวกเขาก็คือ การมุ่งทำลายสัมพันธภาพระหว่างชุมชนมุสลิมกลุ่มน้อยในประเทศต่างๆ กับสังคมใหญ่ เพื่อบีบให้โลกแตกออกเป็น 2 ข้างอย่างอย่างชัดเจนเด็ดขาด แล้วเผชิญหน้ากัน ยุทธศาสตร์นี้ดำเนินมาตั้งแต่เมื่อครั้งที่ไอเอสยังอยู่ในร่างของอัลกออิดะฮฺแห่งอิรัก (AQI) ภายใต้การนำของซัรกอวีและสร้างสถานการณ์เผชิญหน้าด้วยความเกลียดชังโกรธแค้นระหว่างชุมชนสุหนี่กับชีอะฮฺในอิรักให้เข้มข้นขึ้น หลังการตั้งรัฐบาลนอมินีของอเมริกาข้อน่าสนใจประการถัดมา คือ ผลลัพธ์จากความรุนแรงทางตรง ซึ่งนอกจากจะส่งผลเชิงกายภาพ (physical) อันหมายถึงการทำลายร่างกาย หรือขัดขวางการทำงานของร่างกายมนุษย์แล้ว ยังมีผลอีกลักษณะที่สำคัญ นั่นคือ ผลในเชิงจิตวิทยา (psychological) หลายกรณีที่ปรากฏความรุนแรงทางตรงขึ้น ผลร้ายในทางกายภาพยุติลงเมื่อความรุนแรงสิ้นสุด แต่ผลในเชิงจิตวิทยากลับมิได้ยุติลงตามไปด้วย หากแต่ตกค้าง เป็นรอยแผลเป็น และกัดกร่อนสภาพจิตใจของเหยื่อมิรู้จบในกรณีปรากฏการณ์ความรุนแรงร่วมสมัย เราพบว่า กรณีตัวอย่างที่ชัดเจนคือ ปัญหาของปาเลสไตน์ เราอาจกล่าวตามกรอบคิดความรุนแรงทางตรงได้ว่า ชาวปาเลสไตน์คือเหยื่อของความรุนแรง เป้าของความรุนแรงคือดินแดนภูมิลำเนาของพวกเขา ผู้ใช้ความรุนแรงคือยิวไซออนิสต์ และเครื่องมือของพวกเขาคือสรรพอาวุธหนักเบาภายใต้ยุทธศาสตร์การรุกรานยึดพื้นที่ ควบคู่กับการสร้างความสะพรึงกลัว ในวันที่ไซออนิสต์ประกาศสถาปนารัฐอิสราเอลขึ้น ซึ่งได้แก่วันที่ 15 พฤษภาคม 1948 ชาวยิวอิสราเอลจดจำมันว่าเป็นวันแห่งเอกราชและอิสรภาพ แต่ชาวปาเลสไตน์เรียกมันว่า วันนักบา ซึ่งหมายถึงวันแห่งความหายนะมหาวิปโยค หลังจากนั้นทุกๆ ปี ชาวปาเลสไตน์ก็จัดงานรำลึกถึงวันนักบาอันอัปยศนี้เพื่อย้ำเตือนสิทธิอันชอบธรรมที่จะกลับบ้านเรื่อยมา จนกระทั่งปัจจุบันก็จัดเป็นครั้งที่ 68 ปี อันหมายถึง 68 ปีที่สิทธิโดยกำเนิดของพวกเขาถูกพรากไป เพราะฉะนั้น ปัญหาปาเลสไตน์-อิสราเอล จึงมิใช่แค่เรื่องการปะทะทางอาวุธ หรือข้อถกเถียงทางสิทธิมนุษยชนบนฐานกฎหมายระหว่างประเทศ หากแต่ยังมีมิติที่ถูกขับเคลื่อนด้วยการเมืองแห่งความทรงจำ หรือ politics of memory อีกด้วย ในความเห็นของผม ก่อนหน้า 1948 สำนึกความเป็น ปาเลสไตน์ นั้นยังไม่โดดเด่นมากนักแต่หลังจากอิสราเอลยึดครองดินแดน วันนักบากลายเป็นจุดอ้างอิงเริ่มต้นเพื่อเชื่อมโยงไปกับเหตุการณ์อื่นๆ ที่ตามมา รวมทั้งเป็นเส้นแบ่งทางเวลาที่ใช้แยกประเภทรุ่นของคนปาเลสไตน์วัยต่างๆ ด้วย ทั้งหมดนี้มีผลในการถักทอระบบของการให้ความหมายต่ออดีต หรือความทรงจำร่วมของชนชาติกลุ่มก้อนหนึ่ง ซึ่งพวกเขาหล่อหลอมสำนึกร่วมผ่านการรับรู้ถึงตนเองในฐานะที่เป็นเหยื่อร่วม และเป็นผู้มีศัตรูร่วมกันอย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าวันสถาปนารัฐอิสราเอล เมื่อ ค.ศ.1948 นั้น คำว่า นักบา ได้ถูกใช้ก่อนแล้วในการเรียกปี 1920 ว่า ปีแห่งหายนะ หรือ Nakba Year เพื่อสะท้อนถึงการล่มสลายของจักรวรรดิออตโตมานและสืบเนื่องด้วยการที่ชาติมหาอำนาจยุโรปแบ่งสรรพื้นที่ที่เคยอยู่ใต้อิทธิพลของออนโตมานออกเป็นรัฐอิสระจำนวนมาก โดยดินแดนปาเลสไตน์ถูกจัดแบ่งให้เป็นรัฐอาณัติของอังกฤษ และหลัง 1920 นี้เอง ที่ค่อยๆ เริ่มปรากฏขบวนการเคลื่อนไหวชาตินิยมอาหรับต่อต้านการครอบงำของจักรวรรดิตะวันตกเรื่อยมา ซึ่งระยะแรกนี้ค่อนข้างเด่นชัดในซีเรีย อิรัก และปาเลสไตน์ ความทรงจำของปาเลสไตน์จึงเป็นส่วนตอนหนึ่งในภาพใหญ่แห่งประวัติศาสตร์บาดแผลของภูมิภาคที่ถูกกระทำ และริดลอนสิทธิในการกำหนดอนาคตไปอยู่ในมือของจักรวรรดิตะวันตก และความต่อเนื่องของภาพดังกล่าวที่เป็นเช่นนั้นมาจนถึงปัจจุบัน มีบทบาทสำคัญต่อการหล่อหลอมความรู้สึกถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรีให้ฉาบเคลือบเป็นอารมณ์ร่วมของภูมิภาคประเด็นนี้ถูกกล่าวถึงอย่างคมชัดในงานของ Dominique Moïsi เขากล่าวว่า ในช่วงที่ยุโรปอยู่ในยุคมืด อารยธรรมของโลกมุสลิมจัดว่าขึ้นถึงขีดสุด แต่เมื่อยุโรปก้าวเข้าสู่ยุคเรอเนสซองซ์ โลกมุสลิมก็ค่อยๆ เสื่อมลงจนปรากฏรูปการณ์เด่นชัดคือการล่มสลายของจักรวรรดิออตโตมาน และต่อมาในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ การสร้างรัฐอิสราเอลขึ้นใจกลางแวดล้อมชาติอาหรับ ยิ่งเป็นสิ่งยืนยันชัดเจนถึงความล่มสลายของโลกมุสลิม สำหรับยิว พวกเขาอาจเห็นการสร้างรัฐอิสราเอลเป็นเรื่องที่มีความชอบธรรมจากหลายมุมด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลเรื่องดินแดนพันธสัญญา การตระหนักในชะตาของชนชาติ หรือการที่ประชาคมระหว่างประเทศพยายามเยียวยาพวกเขาจากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่ในสายตาของชาวอาหรับ เหตุการณ์เดียวกันที่เกิดขึ้นนี้ถูกจดจำในฐานะการกระทำดิบเถื่อนบนตรรกะของการล่าอาณานิคมอันล้าสมัยของตะวันตก ในบริบทโลกยุคที่ขับเคลื่อนด้วยกระแสปลดปล่อยอาณานิคม และไม่อาจเข้าใจได้ว่า อาชญากรรมอันถ่อยเถื่อนที่ตะวันตกกระทำต่อชาวยิวนั้น ทำไมโลกอาหรับถึงต้องเป็นผู้ไปชดใช้ให้ความขัดแย้งที่ตีบตันทางออกระหว่างโลกอาหรับกับอิสราเอล ยิ่งยืดเยื้อยาวนาน ยิ่งมีผลสำคัญต่อการค่อยๆ ปรับอารมณ์ของการถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรี อารมณ์ของการถูกกระทำย่ำยี ไปเป็นอารมณ์แห่งความเกลียดชัง และเมื่อเหตุการณ์ดังกล่าว ถูกพิจารณารวมกับสงครามกลางเมืองอิรักหลังปี 2003 บทบาทของอเมริกาและพันธมิตรในสงครามต่อต้านการก่อการร้าย รวมทั้งการเป็นภูมิภาคที่ประกอบขึ้นด้วยผู้คนจำนวนมากซึ่งตกขบวนไม่ได้ประโยชน์แถมซ้ำกลับเสียเปรียบและถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลังในกระบวนการโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ ของเหล่านิ้ยิ่งหล่อหลอมอารมณ์ของความแปลกแยกและรู้สึกไม่ได้รับการยอมรับจากสายตาของคนนอก ความรู้สึกถูกดูหมิ่นนี้ไม่ได้จำกัดตัวอยู่แค่ในพื้นที่ตะวันออกกลาง แต่ยังกระจายตัวไปขับเคลื่อนภูมิทัศน์ทางอารมณ์ของชาวมุสลิมอพยพในตะวันตกอีกจำนวนมากด้วยเช่นกัน ตัวอย่างที่ชัดเจน คือ การจลาจลในฝรั่งเศสช่วงปลายปี 2005 ที่มีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยทางสังคมเศรษฐกิจที่เลือกปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยที่เป็นผู้อพยพจากภายนอกยุโรป ซึ่งความคับข้องดังกล่าวยังคงหล่อเลี้ยงความขัดแย้งและเพาะเชื้อแห่งการใช้ความรุนแรงในยุโรปมาจนถึงปัจจุบันความรุนแรงเชิงโครงสร้าง หมายถึง อะไรก็ตามที่ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างศักยภาพของมนุษย์ (potentiality) กับสิ่งที่มนุษย์เป็นอยู่จริง (actuality) โดยเฉพาะเมื่อ อะไรก็ตาม นั้นไม่ใช่ตัวบุคคล หากแต่เป็นระบบหรือโครงสร้าง ลักษณะเด่นของความรุนแรงเชิงโครงสร้าง คือ มักเกิดขึ้นและดำรงอยู่ในช่วงเวลาอันยาวนานอย่างต่อเนื่อง (duration) โดยไม่ปรากฏรูป (intangibility) ธรรมชาติของมันจึงเป็นกระบวนการมากกว่าจะเป็นเหตุการณ์จำเพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น งานของ ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ ซึ่งศึกษาเรื่อง อุปลักษณ์สุขภาพสันติภาพเชิงวิพากษ์ พบว่า ในแต่ละปีมีผู้ซื้อไอศกรีม เฉพาะในยุโรปมากกว่า 11 พันล้านเหรียญอเมริกัน ในขณะที่มีผู้คน 2500 ล้านคนทั่วโลกขาดแคลนสาธารณูปโภคพื้นฐาน ซึ่งสามารถแก้ไขให้ตกไปได้ด้วยเงินเพียง 9 พันล้านเหรียญอเมริกัน หรือประมาณครึ่งหนึ่งของที่ประเทศในยุโรปและอเมริกาใช้ซื้อ 56 อาหารสัตว์ในแต่ละปี แสดงว่าในความเป็นจริงแล้ว สังคมมีศักยภาพที่มากพอจะช่วยเหลือคนกลุ่มต่างๆ ได้ แต่สังคมเลือกที่จะไม่ช่วยเหลือ การปล่อยให้บุคคลอื่นต้องเผชิญหน้ากับภาวการณ์ที่ขัดขวางต่อความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ไม่ให้บรรลุผล ทั้งที่สังคมสามารถช่วยเหลือได้นี้ถือเป็นความรุนแรงเชิงโครงสร้างที่เกิดขึ้นงานเรื่องเผชิญภัยคุกคามโลกฯ ของคริส แอ็บบอตและคณะ ก็นำเสนอภาพในทิศทางเดียวกัน นั่นคือ ภาพที่ประโยชน์จากความเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกนั้นไม่ได้รับการแบ่งปันกันอย่างเท่าเทียม ปัจจุบันประชากรกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลกยังต้องพยายามประทังชีวิตในแต่ละวันด้วยเงินไม่ถึง 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เด็กราว 115 ล้านคนซึ่งควรจะได้เข้าโรงเรียนกลับไม่ได้เรียนหนังสือ ชนพื้นเมืองถูกข่มเหงรังแก และที่ทำกินของพวกเขาถูกทำลายไปเพื่อผลกำไร ในแต่ละปีจะมีประชากร 10 ล้านคนทั่วโลกตายไปเพราะความอดอยากหรือโรคที่เกี่ยวเนื่องกับความอดอยาก ทั้งที่โลกเรามีอาหารมากเพียงพอที่จะเลี้ยงประชากรโลกทั้งหมด 6 พันกว่าล้านคนได้ก็ตาม ดังนั้นจะเห็นว่า ตัวเลขทางเศรษฐกิจภาพรวมทั้งโลกที่เราเห็นนั้นกระจุกตัวอย่างมากในพื้นที่เพียงไม่กี่ส่วนของโลก โดยที่ประชากรของโลก ส่วนใหญ่ กลับถูกเบียดขับให้อยู่เพียงชายขอบ ในสภาวะของความยากจนและไม่เท่าเทียมนี้ อาชญากรรมอย่างเป็นระบบ ความวุ่นวายทางสังคม และความตึงเครียดทางวัฒนธรรม ล้วนเติบโตได้อย่างดีมาก ความรุนแรงเชิงโครงสร้างดังกล่าวยังสัมพันธ์กับการเติบโตของกลุ่มการเมืองติดอาวุธหลายกลุ่มกลุ่มเหล่านี้มีจุดร่วมคือ หนทางที่พวกเขาจะบรรลุเป้าหมายทางการเมือง ไม่ว่าจะกำหนดไว้เป็นรูปแบบใดก็ตาม ก็ล้วนจะต้องได้รับการสนับสนุนจากประชาชนกลุ่มที่พวกเขาอ้างว่าเป็นตัวแทนเสมอ ซึ่งเงื่อนไขนี้ขึ้นอยู่อย่างมากกับว่าความเดือดร้อนของประชาชนกลุ่มนั้นลงรากลึกและยาวนานเรื้อรังแค่ไหน ความสำเร็จของกลุ่มอย่างฮิซบอลเลาะฮฺในเลบานอน และฮามาสในฉนวนกาซ่านั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากข้อเท็จจริงที่ว่า กลุ่มเหล่านี้สามารถให้บริการสาธารณะขั้นพื้นฐานที่รัฐบาลท้องถิ่นไม่ได้จัดหาให้ประชาชน จึงได้รับความรักภักดีจากประชาชนที่หมดศรัทธากับรัฐบาลตนเอง ความรุนแรงเชิงวัฒนธรรม คือ แง่มุมทางวัฒนธรรม (อันหมายถึงระบบความเชื่อ ระบบสัญลักษณ์ และระบบการให้ความหมายต่อความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์-มนุษย์-ธรรมชาติ-สิ่งเหนือธรรมชาติ) ที่ทำให้ความรุนแรงเชิงโครงสร้าง และการใช้ความรุนแรงทางตรงกลายเป็นเรื่องถูกต้อง เป็นเรื่องธรรมดาหรือยอมรับได้ในสังคม และทำให้ความรุนแรงเหล่านั้นเมื่อเกิดขึ้นแล้ว คนในสังคมไม่จัดหรือไม่เห็นว่าเป็นความรุนแรง ความรุนแรงเชิงวัฒนธรรมจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างมายาคติที่ทำให้คนในสังคมเชื่อว่าสิ่งที่ตนพบเห็นหรือสิ่งที่กำลังกระทำอยู่นั้นเป็นสิ่งถูกต้อง ด้วยเหตุนี้ เนื่องจากการใช้ความรุนแรงมักประกอบด้วยมิติสำคัญสองด้าน คือการใช้ความรุนแรง และกระบวนการให้ความชอบธรรมกับการใช้ความรุนแรงนั้น ดังนั้น การศึกษาเรื่องความรุนแรงเชิงวัฒนธรรม จึงเป็นการพิจารณารูปแบบวิธีการที่ความรุนแรงนานาชนิดกลายเป็นเรื่องชอบธรรม และเป็นที่ยอมรับในสังคมโดยรวม ข้อย้อนแย้งเวลาพูดถึงรากเหง้าความรุนแรงในระดับวัฒนธรรม จากมุมมองของฝ่ายรัฐ ก็คือรัฐใดใดมักจะมองเห็น ปัญหาความรุนแรงเชิงวัฒนธรรม ของระบบคิด ฝ่ายตรงข้าม แต่กลับไม่มองว่าระบบคิดระบบให้ความหมายของฝ่ายรัฐเองเป็นรากเหง้าใหญ่ของความรุนแรงเชิงวัฒนธรรม เช่น ชาตินิยมที่คับแคบ กดทับชาติพันธุ์อันหลากหลายให้บีบเข้าสู่มาตรฐานเดียวกัน เป็นต้นขณะเดียวกัน เมื่อมองในภาพระดับโลกเกี่ยวกับปัญหาก่อการร้ายทุกวันนี้ เราก็จะพบความจริงแสนประหลาดในลักษณะเดียวกับข้างต้น เช่นว่าเวลาประชาคมระหว่างประเทศเวทีต่างๆ (เช่นในปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น G-20 APEC ASEAN หรือ Shangri-La Dialogue) ประกาศจุดยืนร่วมกันในการประณามและต่อต้านการก่อการร้ายในทุกรูปแบบและไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอุดมการณ์ใด ในทางพฤตินัย เราจะพบว่า รัฐเหล่านั้นไม่ได้ต่อต้านและประณาม วิธี การสร้างความสะพรึงกลัว (terror-making) เพื่อเป้าหมายทางการเมือง พวกเขาแค่กำลังต่อต้านและประณามการทำแบบนั้นของกลุ่มติดอาวุธ ที่มิใช่รัฐ กับอาจจะแค่อีกบางรัฐที่ไม่เข้าพวก เท่านั้น และหลายครั้งพวกเขาต่อต้านการก่อการร้ายด้วยการสถาปนาระบอบแห่งความกลัว (terror regime) ขึ้นมาแทนที่ รวมทั้งยืนยันการผูกขาดของรัฐ ในฐานะตัวแสดงเดียวที่จะสร้างความหวาดกลัวให้มนุษย์ได้โดยชอบธรรม ในนามของความมั่นคงแห่งชาติและประชาคมระหว่างประเทศ ซึ่งโดยเนื้อแท้แล้ว โครงการต่อต้านการก่อการร้ายที่ผ่านมาจำนวนมาก ก็คือ การก่อการร้ายเสียเอง แตกต่างเพียงแค่มันเป็นการก่อการร้ายโดยรัฐ (state terrorism) ความคิดที่รับรองการใช้ความรุนแรงของรัฐ ทั้งที่ประณามการทำแบบเดียวกันจากกลุ่มที่มิใช่รัฐ นี่นับเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของความรุนแรงเชิงวัฒนธรรมเรื่องนี้สำคัญมาก เพราะเราจะพบว่าระยะหลังมานี้ ที่โลกถูกหมุนด้วยความหวาดกลัวภัยคุกคามจากการก่อการร้าย ข้อเท็จจริงบ่งชี้ว่า ระบอบประชาธิปไตยหลายแห่งกำลังเลือกใช้วิธีการของเผด็จการไปปราบปรามการก่อการร้ายโดยยินยอมกระทั่งจงใจละเลยและละเมิดหลักสิทธิเสรีภาพของพลเมือง สิทธิมนุษยชน นิติธรรม รัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย อ.เกษียร เตชะพีระ เคยกล่าวไว้เมื่อหลายปีก่อนว่า เรื่องนี้นับเป็นตลกร้ายที่เป็นโศกนาฏกรรม ความรุนแรงทั้งสามลักษณะสัมพันธ์กัน กรณีปัญหาสถานการณ์ความรุนแรงในหลายพื้นที่พิสูจน์ว่า ความรุนแรงทางตรงที่ปรากฏในผิวหน้าของเหตุการณ์นั้นล้วนถูกขับเคลื่อนด้วยความรุนแรงระดับโครงสร้างและวัฒนธรรมอยู่ไม่น้อย และขณะเดียวกัน ความรุนแรงแต่ละลักษณะต่างก็มีผลส่งเสริมต่อความรุนแรงลักษณะอื่นด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น ข้อเท็จจริงระบุแบบแผนสำคัญว่า ความยืดเยื้อของความขัดแย้งที่มีการใช้ความรุนแรงถึงตาย (deadly violent conflict) มีผลอย่างมากที่จะทำให้ความรุนแรงกลายเป็นสถาบัน (institutionalization of violence)กล่าวคือ ความรุนแรงซึ่งแต่เดิมถูกใช้เป็นยุทธศาสตร์/เครื่องมือ/วิธีการของการต่อสู้อันเชื่อว่าจะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายทางการเมืองบางอย่าง ด้วยเหตุที่พิจารณาแล้วเห็นว่า มันเป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพสูงสุดในบริบทนั้นๆ แต่การกลายเป็นสถาบันของความรุนแรง ก็คือ เมื่อเราปล่อยให้ความรุนแรงมีบทบาทขับเคลื่อนวงจรความขัดแย้งไปเรื่อยๆ ตัวของความรุนแรงเองกลับมีแนวโน้มจะดำรงอยู่เพื่อดำเนินวิถีแห่งความรุนแรงต่อออกไป โดยไม่ขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางการเมืองใด เป็นการอยู่เพื่อจะดำรงอยู่สืบไปเท่านั้น ตัวอย่างรูปธรรมของมันก็คือ ช่วงเวลา 8-10 ปี ไม่นับว่าน้อยเกินไปที่จะสร้าง อาชีพ ที่เกี่ยวเนื่องกับความรุนแรงขึ้นมาในพื้นที่ขัดแย้งแต่ละแห่ง รวมทั้งเป็นเวลามากพอที่จะลงหลักปักฐานอุตสาหกรรมความมั่นคงในพื้นที่เหล่านั้น ซึ่งของเหล่านี้กลายเป็นอาชีพ และเป็นวิชาชีพ ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญประกอบวัตถุระเบิดซึ่งน่าจะทำเงินได้มหาศาลในช่วงหนึ่งทศวรรษที่มีงานเกือบทุกสัปดาห์ เอเยนซี่พาคนเข้า-ออกประเทศ เจ้าหน้าที่รัฐที่เสพติดรายได้พิเศษและอภิสิทธิ์พิเศษบางประการจากการปฏิบัติงานในพื้นที่ขัดแย้ง งบประมาณที่ปิดลับได้เสมอเมื่ออ้างถึงการผันมาลงสู่พื้นที่เหล่านี้ ฯลฯ นอกจากนี้ พื้นที่ขัดแย้งที่ใช้ความรุนแรง เปิดช่องทางให้เสมอกับการเคลื่อนไหวของขบวนการอาชญากรรมผิดกฎหมาย ซึ่งหลายๆ ครั้งมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันใน 3 รูปแบบกับกลุ่มติดอาวุธ คือ (1) เป็นผู้เล่นอยู่ในพื้นที่เดียวกัน และต่างก็ไม่ล้ำเส้นกัน (2) สนับสนุนกัน และ (3) ควบรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หรือมีโครงข่ายที่เชื่อมต่อกันในเชิงองค์กร สถานการณ์แบบนี้จะยิ่งเพิ่มมิติให้โจทย์แก้ความรุนแรงสลับซับซ้อนมากขึ้น และจะมากเข้าไปใหญ่หากฝ่ายรัฐมีเอี่ยวในขบวนการดังกล่าวด้วยนอกจากนี้ การกลายเป็นสถาบันของความรุนแรงยังมีอีกมิติที่สำคัญ คือ เมื่อมันเป็นผู้ได้รับความไว้วางใจให้หมุนวงล้อของความขัดแย้งไปเรื่อยๆ ผู้คนในโครงสร้างสังคมแบบนี้ก็จะเริ่มปรับตัวไปตามยถากรรม จนกระทั่งเมื่อเวลาผ่านไปนานพอ ความรุนแรงจะกลายเป็นวัฒนธรรมของสังคมนั้นๆ ไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ความรุนแรงและการใช้กำลังจะสถาปนาตัวเป็นบรรทัดฐานสำหรับการจัดการปัญหาความขัดแย้งทุกๆ เรื่องราวในชีวิตของสมาชิกสังคม ผู้คนจะเรียนรู้ว่าความเด็ดขาดที่ตนเองได้เปรียบจะได้มาด้วยการคร่าชีวิตหรือกดทับฝ่ายตรงข้ามลงให้ได้อย่างสิ้นเชิงเท่านั้น พวกเขาจะมองไม่เห็นความเป็นไปได้ในการอยู่ร่วมกันระหว่างคนที่คิดเห็นขัดแย้งกัน แต่จะคาดหวังสังคมอุดมคติที่มีแต่ พวกเรา ซึ่งคิดเห็นเหมือนกันเท่านั้น อันแน่นอนว่าพวกเขาจะต้อง กำจัดสิ่งแปลกปลอม/ความเห็นแปลกปลอม ไปเรื่อยๆ ไม่มีสิ้นสุด* Ibid. ชัยวัฒน์ สถาอานันท์. ท้าทายทางเลือก: ความรุนแรงและการไม่ใช้ความรุนแรง. กรุงเทพฯ: มูลนิธิโกมลคีมทอง 2533. หน้า 9.นิยามขององค์การสหประชาชาติ (the United Nations; UN) อ้างถึงใน ขจรจิต บุนนาค ความขัดแย้ง VS ความรุนแรง ใน วารสารนักบริหาร. ปีที่ 31 ฉบับที่ 3 ก.ค. – ก.ย. 54. หน้า 140.นิยามขององค์การอนามัยโลก (the World HealthOrganization; WHO) อ้างถึงใน ขจรจิต บุนนาค. ความขัดแย้ง VS ความรุนแรง.อนุช อาภาภิรม ฉากความรุนแรงในยุคโลกาภิวัตน์. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง 2543 อ้างถึงใน ขจรจิต บุนนาค. ความขัดแย้ง VS ความรุนแรง. Johan Galtung Violence Peace and Peace Research in Journal of Peace Research. Vol.6 No.3 1969 pp.167-191 and; Johan Galtung Cultural Violence in Journal of Peace Research. Vol.27 No.3 1990pp.291-305.Johan Galtung Cultural Violence pp.294.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์. ท้าทายทางเลือก: ความรุนแรงและการไม่ใช้ความรุนแรง. หน้า 11-17 และ; ชาญชัย ชัยสุขโกศล. ความขัดแย้ง ความรุนแรง สันติภาพ และสันติวิธี (พาวเวอร์พอยต์นำเสนอ) https://chaisuk.files.wordpress.com/2008/10/ conflict-violence-peace-nonviolence.pdf. เข้าถึงเมื่อ 28 พ.ค.59.ใน Mini-Manul of Urban Guerrila Warare. Dominique Moïsi. The Geopolitics of Emotion: How Cultures of Fear Humiliation and Hope are Reshaping the World. NY: Anchor Books 2009 and; Dominique Moïsi. The Clash of Emotions in Foreign Affairs. January/February 2007. (online) http://gbytes.gsood.com/files/moisi.pdf. Access 30 May 2016. Ibid.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์. ท้าทายทางเลือก: ความรุนแรงและการไม่ใช้ความรุนแรง. หน้า 25-28.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ อุปลักษณ์สุขภาพ สันติภาพเชิงวิพากษ์. กรุงเทพฯ: มูลนิธิเพื่อการศึกษาประชาธิปไตยและการพัฒนา คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2545 อ้างถึงใน นรินทร์ นำเจริญ. การวิเคราะห์เนื้อหาที่เสริมสร้างสันติภาพในสื่อมวลชนท้องถิ่น: ศึกษากรณีการนำเสนอข่าวชาวเขาในหนังสือพิมพ์รายวัน จังหวัดเชียงใหม่ ใน วารสารการสื่อสารมวลชน. ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 ก.ค.-ธ.ค. 50 หน้า 55-56.คริส แอ็บบอต พอล โรเจอร์ส และจอห์น สโลโบดา (เขียน). สุนทรี เกียรติประจักษ์ (แปล). เผชิญภัยคุกคามโลก: ศตรรษที่ 21 กับความมั่นคงที่ยั่งยืน. กรุงเทพฯ: โครงการจัดพิมพ์คบไฟ 2550. หน้า 46-66.เพิ่งอ้าง. หน้า 52-55. เพิ่งอ้าง. หน้า 56.ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ เรื่องราวความรุนแรงในสังคมไทย: ฆ่าหั่นศพ พ่อฆ่าลูก และอื่นๆ อีกมากมาย ใน รัฐศาสตร์สาร 23 (3) 2545 หน้า 144-148 อ้างถึงใน ขจรจิต บุนนาค ความขัดแย้ง VS ความรุนแรง.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ สันติทฤษฎี วิถีวัฒนธรรม. กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิโกมลคีมทอง 2539 อ้างถึงใน อ้างถึงใน นรินทร์ นำเจริญ. การวิเคราะห์เนื้อหาที่เสริมสร้างสันติภาพในสื่อมวลชนท้องถิ่น: ศึกษากรณีการนำเสนอข่าวชาวเขาในหนังสือพิมพ์รายวัน จังหวัดเชียงใหม่. อ.เกษียร เตชะพีระ เขียนประเด็นนี้ไว้ในบทความเกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ เผยแพร่ในประชาไทเมื่อหลายปีมากแล้ว.เผยแพร่ครั้งแรกใน พับลิกโพสต์ปัจจุบัน อาทิตย์ ทองอินทร์ เป็นหัวหน้าภาควิชาสังคมศาสตร์ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต | บทความชิ้นนี้ เขียนขึ้นเนื่องในโอกาสที่สถาบันเพื่อเศรษฐกิจและสันติภาพ (the Institute for Economics and Peace; IEP) ได้เผยแพร่รายงานดัชนีชี้วัดสันติภาพโลก หรือ Global Peace Index (GPI) ประจำปี 2016 | การเมือง,ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน | GPI 2016,ความรุนแรง,ดัชนีชี้วัดสันติภาพโลก,สันติภาพ,อาทิตย์ ทองอินทร์ | https://prachatai.com/journal/2016/06/66315 |
ขยายผังเมืองรวมกระบี่ หลังเศรษฐกิจขยายตัว | นายเปล่งยศ สกลกิติวัฒน์ ประธานคณะกรรมการ บริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า เนื่องจากพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ และตำบลใกล้เคียง มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากพอสมควร คณะกรรมการผังเมืองจังหวัดกระบี่ ซึ่งมี สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.กระบี่ เป็นหน่วยงาน ปฏิบัติ จึงมีดำริที่จะขยายเขตพื้นที่ผังเมืองรวม จากเดิม มี 19 ตารางกิโลเมตร เฉพาะในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ เป็น 33 ตารางกิโลเมตร โดยจะมีพื้นที่บางส่วนของ ต.กระบี่น้อยเข้ามาอยู่ด้วย และจะมีการให้พื้นที่บางส่วน มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ เช่น พื้นที่การ เกษตร เปลี่ยนเป็นพื้นที่พาณิชยกรรม เป็นต้น,ประธานคณะกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัด กระบี่ เผยต่อไปว่า การร่างประกาศผังเมืองรวมฉบับใหม่ จะมีการประชุมรับฟังความคิดเห็นในลักษณะประชาพิจารณ์จากมีส่วนได้เสียในเร็ววันนี้ โดยคณะกรรมการการผังเมืองจังหวัดกระบี่ จะเป็นผู้ชี้แจงดังความจำเป็น ในการที่ต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ของ พื้นที่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความเจริญเติบโตของบ้านเมือง ซึ่งจะมีสิ่งก่อสร้างอาคารบ้านเรือนเพิ่มเติมขึ้นอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด,เป็นที่ยอมรับกันว่า จ.กระบี่ มีความเติบโตทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวมีรายได้ในภาพรวมของประเทศ ปีละหลายหมื่นล้านบาทต่อปี ดังนั้นการพัฒนาด้านผังเมืองรวมก็ควรทำให้ทันต่อเหตุการณ์เช่นกัน โดยทางหอการค้าจังหวัดกระบี่ จะเป็นแหล่งข้อมูลสนับสนุนการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเรื่องผังเมืองรวมตามวาระที่ต้องทำ ตามระเบียบแบบแผนของทาง ราชการ และรักษาผลประโยชน์ประชาชนในพื้นที่ผู้มี ส่วนได้เสียให้ได้รับความเป็นธรรมที่สุด เพราะต้องยอมรับว่าประชาชนส่วนหนึ่งยังมีความเข้าใจเรื่องผังเมืองรวมไม่ชัดเจนดีเท่าที่ควร ทางหอการค้าจึงจะต้องช่วยเป็นคนกลางชี้แจงรายละเอียดเรื่องนี้อีกทางหนึ่ง นายเปล่งยศกล่าว. | เนื่องจากอายุของราชกฤษฎีกาผังเมืองรวมเขตเทศบาลเมืองกระบี่ จะหมดลงในเดือน ธ.ค.59 ดังนั้น จะต้องมีการเสนอผังเมืองรวมงวดใหม่ให้เชื่อมต่อกับฉบับเก่า เพราะถ้าไม่เชื่อมต่อจะต้องใช้ฉบับเก่าไปพลางก่อนจนกว่าจะมีฉบับใหม่ | null | กระบี่,ราชกฤษฎีกาผังเมือง,หมดอายุ,เสนอผังเมือง,เปล่งยศ สกลกิติวัฒน์,ขยายผังเมืองรวม,เศรษฐกิจขยายตัว,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/550244 |
แฉอีก น้องเศรษฐินีอุดรฯ เผย หญิงไก่ หลอกโอนที่ดิน-ลักทอง 30 บาท | เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 59 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านเลขที่ 31/2 หมู่ 8 ซอยบ้านคำบง ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของ นางฉวีวรรณ ตั้งวิริยะกุล เศรษฐินีเจ้าของที่ดิน ที่ถูก นางมณตา หยกวิริยะกุล หรือหญิงไก่ และพวก หลอกให้โอนและนำไปขาย (,นางไก่ พิรุธ คดีเศรษฐินี ป.พบเงื่อนงำ แจ้งตายปี46 สวด 1 คืน-เผา,) เป็นบ้าน 2 ชั้นสภาพเก่าและทรุดโทรม ตั้งอยู่ในพื้นที่ 2 ตารางวา พบเพียงคนเช่าบ้านแจ้งว่า เช่าบ้านหลังนี้มา 2 ปีแล้ว เจ้าของบ้านไม่ใช่ นางฉวีวรรณ แต่เป็นคนอื่น และบ้านน้องสาวของ นางฉวีวรรณ อยู่ติดกัน จึงเดินไปพบ นางโฉมศรี ประจันตะเสน อายุ 75 ปี อดีตข้าราชการครู น้องสาว นางฉวีวรรณ อยู่บ้านเลขที่ 31,นางโฉมศรี เล่าว่า นางฉวีวรรณ เป็นลูกคนโต ตนเป็นลูกคนที่ 2 และมีน้องอีก 3 คน พ่อรับราชการทหารเป็นเจ้าของที่ดินจำนวนมาก โดยพ่อยกบ้านและที่ดิน 2 งานให้ นางฉวีวรรณ ซึ่งอยู่กับพ่อแม่ และนางฉวีวรรณ เคยแต่งงาน 4 ครั้ง แต่หย่าร้างหมดเพราะเป็นคนชอบดื่มสุรา มีบุตรสาว 1 คน ต่อมากลางปี 2544 นายปิติ ตั้งวิริยะกุล ขณะนี้อายุประมาณ 80 ปี สามีคนแรกของ นางฉวีวรรณ กลับมาเยี่ยม นางฉวีวรรณ เพราะทราบว่าป่วยเป็นมะเร็ง แม่และญาติได้เตือน นางฉวีวรรณ ให้เลิกยุ่งเกี่ยว เพราะ นายปิติ มีครอบครัวแล้วแต่ไม่ยอมฟัง ยังให้ นายปิติเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย ไม่นานมีหญิงสาวอ้างตัวเป็น คุณหญิงไก่ มาหา นายปิติ ที่บ้าน และแนะนำตัวเองว่าชื่อ นางสุชาดา ตั้งวิริยะกุล เป็นบุตรบุญธรรม นายปิติ เป็นภรรยาตำรวจยศ ร.ต.อ. และเป็นคุณหญิง มีคนรับใช้ตามมาด้วย 2 คน ชายฉกรรจ์อีก 4-5 คน ติดตามตลอดเวลาเข้ามาอยู่ที่บ้านด้วย,ทั้งนี้ ทุกครั้งที่ หญิงไก่ จะไปไหนมาไหน จะมีรถนำขบวนทำให้ทุกคนเชื่อว่าเป็นคุณหญิงจริง กระทั่ง หญิงไก่ มาชักชวน นางโฉมศรี เล่นหวยหุ้น โดยอ้างว่ามีตาทิพย์สามารถมองเห็นตัวเลขได้ แต่ นางโฉมศรี ไม่เล่น เพราะเงินเดือนครูต้องนำมาจุนเจือครอบครัว จากนั้น หญิงไก่ ได้ยกตู้เซฟของแม่ไป ภายในมีทองคำประมาณ 30 บาท นางโฉมศรี จึงพาแม่ไปแจ้งความ ต่อมา หญิงไก่ ได้นำตู้เชฟมาคืน แต่ข้างในเป็นทองปลอม มีทองจริงเหลือเพียง 5 บาท แต่เพราะกลัวอิทธิพลจึงไม่กล้าพูดและปล่อยเลยตามเลย,กระทั่งปลายปี 2546 นางฉวีวรรณ ป่วยหนัก นายปิติ และ หญิงไก่ ได้พาไปรักษาที่คลินิกหมออุดม ประมาณ 7 วัน ก็เสียชีวิตวันที่ 2 ธ.ค. 2546 ซึ่ง หญิงไก่ โทรศัพท์มาแจ้งให้ญาติทราบ แต่ทำพิธีเพียง 1 วัน ก็ฌาปนกิจ ที่วัดศรีสว่าง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร โดยญาติพี่น้องไม่ได้ไปร่วมพิธี ต่อจากนั้น นายปิติ และ หญิงไก่ ก็มาที่บ้านของ นางฉวีวรรณ โดยอ้างว่าในโฉนดที่ดินมีชื่อ นายปิติ รวมอยู่ด้วย และจดทะเบียนสมรสกับ นางฉวีวรรณ ทำให้ทางครอบครัวเชื่อว่า ขณะที่ นางฉวีวรรณ ป่วยหนัก ทั้งคู่พา นางฉวีวรรณ ไปโอนที่ดินให้ นายปิติ ที่มีชื่อร่วม และโอนให้ด้วยความเสน่หา ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดอุดรธานี โดยไม่ทราบว่ากระทำการเมื่อใด ซึ่งแม่และญาติได้ร้องคัดค้านแต่ไม่เป็นผล จนแม่ตรอมใจและเสียชีวิตเมื่อปี 2547 นายปิติ และ หญิงไก่ ก็ขายที่ดินและบ้านดังกล่าวต้นปี 2547 ซึ่งไม่ทราบว่าขายไปเท่าไหร่ แต่ราคาประเมินที่ดิน 8 ล้านบาท เจ้าของที่ดินคนใหม่ล้อมรั้วคอนกรีต ส่วนญาติพี่น้องได้แต่มองดูบ้านที่พ่อแม่สร้างมากับมือ ตกไปเป็นของคนอื่นด้วยความคับแค้นใจ,นอกจากนี้ นางโฉมศรี กล่าวอีกว่า ทางญาติไม่ติดใจเรื่องการตายของ นางฉวีวรรณ แต่ติดใจเรื่องที่ให้ นายปิติ มีชื่อในโฉนด ที่น่าสังเกตคือลายเซ็นยินยอมก็ไม่ใช่ของ นางฉวีวรรณ ส่วนการจดทะเบียนสมรส ต้องเป็นทะเบียนสมรสซ้อน เพราะ นายปิติ มีภรรยาอยู่แล้ว เชื่อว่าทั้งคู่มาหลอก นางฉวีวรรณ แน่นอน ได้แต่เก็บเรื่องนี้มานานไม่รู้จะไปร้องเรียนใคร อีกทั้งเกรงกลัวอิทธิพลของ หญิงไก่ เพราะมีลูกน้องจำนวนมาก เกรงจะได้รับอันตราย แต่เมื่อเห็นข่าว หญิงไก่ จึงได้ร้องเรียนไปที่ทนายความ ให้ช่วยสืบสวนหาความจริงและคลี่คลายให้กระจ่าง. | น้องเศรษฐินีอุดรฯ แฉ แค้นใจ หญิงไก่ อ้างเป็นลูกบุญธรรมสามีคนแรกของพี่สาว ก่อนยกตู้เซฟลักทองคำ 30 บาท รวมหัวหลอกโอนที่ดินพร้อมบ้านที่พ่อแม่สร้างกับมือ
| null | หญิงไก่,มณตา หยกวิริยะกุล,จับหญิงไก่,เศรษฐินีอุดร,อุดร,อุดรธานี,หลอกโอนที่ดิน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/663641 |
ตม.เชียงแสน รวบอดีตครูหนีหมายจับ หลอกเงินอ้างฝากบรรจุได้ | เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 28 มิ.ย. 59 พ.ต.อ.ณัชธฤต ปิ่นปัก ผกก.ด่าน ตม.เชียงแสน รับรายงานว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ จ.138 /2559 ลงวันที่ 4 เม.ย. 2559 ในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งเป็นอดีตครูได้หลบหนีเข้ามาอยู่ในพื้นที่อำเภอเชียงแสน คาดว่าจะหลบหนีออกนอกประเทศไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สืบพงษ์ วิสูตรธนาวิทย์ สารวัตรด่าน ตม.เชียงแสน ร.ต.อ.พิชญ์พัชระ พิชญนันทร์ ด.ต.สันติภาพ อานนท์ ร่วมกับหน่วย นรข.เขตเชียงรายและตำรวจท่องเที่ยวเชียงราย ออกสืบสวน,ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบชายต้องสงสัยว่า จะเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ พักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่บ้านสบรวก สามเหลี่ยมทองคำ ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พอไปถึงพบชายดังกล่าวยืนอยู่หน้าโรงแรม ได้แสดงตนเข้าตรวจค้น ทราบชื่อต่อมาว่า นายสุวิท สันประภา อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 50 ม.7 ต.นาบอน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์,ซึ่งนายสุวิท ให้การรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันตามหมายจับ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาสอบสวน นายสุวิท ให้การอ้างว่า อดีตตนเป็นครูระดับ คศ.3 สอนอยู่ที่โรงเรียนในจังหวัดมหาสารคาม หลายโรงเรียน และเป็นครูพิเศษ ต่อมาตนได้รู้จักกับบุคคลที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ได้ให้ตนชักชวนผู้ปกครองของนักศึกษาที่จบใหม่ เพื่อสอบบรรจุเข้าเป็นครู โดยอ้างว่าสามารถฝากเข้าเป็นครูได้ เสียค่าใช้จ่ายเพียงรายละ 150,000 บาท มีผู้ปกครองหลงเชื่อ 2 ราย จ่ายเงินให้กับตน 300,000 บาท จากนั้นนำเงินจำนวนนี้ ส่งให้กับนักการเมืองคนดังกล่าว แต่ปรากฏว่านักศึกษาทั้งสองไม่ได้รับการบรรจุตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งทราบมาว่าผู้ปกครองได้ไปแจ้งความ จึงตัดสินใจหลบหนีมาหาแฟนสาวที่อยู่จังหวัดเชียงราย และมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับ,ทางเจ้าหน้าที่ด่าน ตม.เชียงแสน หลังสอบสวนเสร็จได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม มารับตัวไปเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป | รวบอดีตครูชายวัย 35 ปี หนีหมายจับคดีฉ้อโกง หลบหนีซุกพื้นที่ อ.เชียงแสน หลังมีพฤติกรรมหลอกลวงเรียกรับเงินบรรจุเข้าเป็นครูได้ สารภาพนำเงินไปให้นักการเมืองท้องถิ่น ที่อ้างว่ามีอำนาจฝากได้จริง รู้ตัวอีกทีถูกออกหมายจับ | ข่าว,ทั่วไทย | หลอกลวง,ฝากบรรจุครู,ฝากเป็นครู,หลอกลวง ฝากเข้าครู,สุวิท สันประภา,ฉ้อโกง,หลอกผู้ปกครอง,หลอกฝากทำงาน,ไม่ต้องสอบบรรจุครู,สอบครู,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,เชียงแสน,เชียงราย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/649959 |
ที่ประชุมรัฐสภามีมติเสียงข้างมาก แปรญัตติแก้รธน.ภายใน 15 วัน | นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อลงมติกำหนดเวลาการแปรญัตติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่) พ.ศทั้งนี้ ก่อนการลงมติได้เกิดการประท้วงอย่างต่อเนื่องจากส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ที่เห็นว่าการประชุมวันนี้ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่ประธานรัฐสภาได้ยืนยันว่าดำเนินการถูกต้องตามข้อบังคับ และถูกต้องตามรัฐธรรมนูญทุกประการ จึงจะขอมติจากที่ประชุม ทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ลุกขึ้นชี้แจงว่า การประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556 ก่อนปิดการประชุม ประธานรัฐสภาได้รวบรัดตั้งคณะกรรมาธิการแปรญัตติภายใน 15 วันทั้งที่องค์ประชุมไม่ครบ และยังมีการเดินหน้าแปรญัตติ จึงถือว่าการกระทำของประธานรัฐสภาขัดต่อข้อบังคับ เพราะเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตโดยที่ประชุมมีมติ 356 เสียงต่อ 19 เสียง เห็นด้วยให้กำหนดเวลาแปรญัตติแก้รัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับจากวันที่ 5 เมษายนและสิ้นสุดในวันที่ 19 เมษายน 2556 ขณะที่จำนวนผู้งดออกเสียง 33 เสียง | ที่ประชุมร่วมรัฐสภามีมติ 356 ต่อ 19 เสียง เห็นด้วยแปรญัตติแก้รัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน และจะสิ้นสุดวันที่ 19 เม.ย.2556 | การเมือง | มติ,รัฐธรรมนูญ,รัฐสภา,สมศักดิ์,แก้ไข | https://news.thaipbs.or.th/content/163034 |
หนุ่ม 23 ขี่จยย.เฉี่ยวรถตู้ล้ม ร่างกระเด็นไปเจอเก๋งสวนมาชนตายคาถนน | เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 20 ธ.ค. ร.ต.อ.สมศักดิ์ ใจแล รอง สว.( สอบสวน ) สภ.พานทอง ได้รับแจ้งมีเหตุรถชนกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ช่วงทางรถไฟ เฟส 8 หมู่ 1 ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างอุทยานพานทอง ในที่เกิดเหตุพบ ร่างนายสถาพร ฟ้าฝน อายุ 23 ปี ชาวบ้าน ม.1 ต.เชียงเครือ อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร เป็นพนักงานบริษัท SAGINOMIYA (THAILAND) นอนหมดสติสภาพขาซ้ายหัก ศรีษะแตกแผลฉกรรจ์เสียเลือดมากกู้ภัยฯช่วยกันปั้มหัวใจประมาณ 20 นาที แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ใกล้กันพบรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น M-Slaz สีส้ม-ดำ ทะเบียน 1 กห 5195 สกลนคร ล้มอยู่ กลางถนน ห่างไปประมาน 20 เมตร พบรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กฉ 64 เลย จอดอยู่ข้างทาง สภาพกันชนหน้ารถแตก คนขับ ชื่อ น.ส วนิดา บูระพันธ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 259 หมู่ 6 ต.หนองสวรรค์ อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู นอกจากนี้ยังมีรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า HIAEC สีขาว ทะเบียน ฮน 3635 กทม. จอดอยู่มีรอยเฉี่ยวชนด้านหน้ารถ ,นายกฤษณะ สงคราม อายุ 38 ปี ชาวบ้าน หมู่ 4 ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี คนขับรถตู้ กล่าวว่า ตนได้ขับรถมารับพนักงาน กำลังจะออกจากซอยได้มองทางไม่มีรถพอออกมาได้ครึ่งคันก็เห็นรถ จยย.ของนายสถาพร วิ่งมาด้วยความเร็วแล้วมาเฉี่ยวกับหน้ารถของตนทำให้รถล้มแล้วไถลไปชนกันรถเก๋งของ น.ส.วนิดา ที่วิ่งสวนมาเต็มๆ เสียชีวิตดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้ทั้ง 2 คนไปให้การเพิ่มเติมเพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่เเท้จริงและจะขอดูกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | หนุ่มโรงงานวัย 23 ปี ขี่จจย.มาเร็วแล้วไปเฉี่ยวโดนรถตู้ทำให้รถล้ม ก่อนนที่ร่างจะกระเด็นไปเจอรถเก๋งที่วิ่งสวนมาชนเต็มแรงเสียชีวิต บนถนนภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ช่วงทางรถไฟ เฟส 8 | ข่าว,ทั่วไทย | จยย.เฉี่ยวรถตู้,เก๋งสวนมาชน,รถชนดับ,ชลบุรี,หนุ่มโรงงาน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1158580 |
เลิกคลุมเคลือ กึ้ง ตอบเรื่องจีบ แมท แบบเคลียร์ๆ ชมเปาะฝ่ายหญิงน่ารัก | เป็นไฮโซหนุ่มโสดที่ถูกจับตาเรื่องความรักแบบไม่หยุด สำหรับหนุ่ม กึ้ง เฉลิมชัย มหากิจศิริ อย่างล่าสุดถูกโยงว่ากำลังขายขนมจีบให้นางเอกสาว แมท ภีรนีย์ คงไทย หลังจากที่เธอโสดมาได้สักพัก เพราะมีภาพไปกินข้าวร่วมกับแก๊งเฟอร์บี้ออกมาให้เห็น แต่ทางด้าน กึ้ง ก็ได้บอกว่า แค่ไปกินข้าวกันเฉยๆ ไม่ได้มีอะไร,ถามถึงชีวิตตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?,ชีวิตตอนนี้อย่างที่บอกครับ ก็แต่งงานกับงานครับ อย่างที่บอกว่าทำไมถึงยังไม่มีภรรยาสักทีก็เพราะว่ามีแต่งานให้เราทำครับ เพราะว่าพ่อผมตั้งยอดจ่ายแล้วว่าอยากได้เท่าไร นอกเหนือจากนั้นก็มีงานหลายอย่างต้องทำ ต้องดูแล,มีข่าวว่าขายขนมจีบ แมท ภีรนีย์?,ได้เจอกันทานข้าว เฉยๆ ครับ ไม่ได้มีอะไร,มีจีบเขามั้ย?,ไม่ได้จีบครับ,ชอบแบบนี้มั้ย?,ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรดี แต่ว่ารู้จักกัน รู้จักกันที่กินข้าวกัน แต่ว่าไม่มีอะไรมากกว่านั้น,ตอนนี้เขาโสดด้วย เราได้ทราบข่าวมั้ย?,ก็ได้อ่านตามหนังสือพิมพ์ ตามข่าวออนไลน์ครับ,จริงๆ มีใครแนะนำให้รู้จักกับแมทมั้ย?,ไม่มีครับ ยังไม่มี เราจะรู้จักกันแบบน้องๆ ในกลุ่มเฟอร์บี้ แล้วก็มีทำกิจกรรมร่วมกันบ้าง,อยากรู้จักลึกซึ้งมั้ย?,ขอทำงานก่อนดีกว่าครับ เหงื่อออกทันทีเลยครับเนี่ย (ยิ้ม),ทานข้าวด้วยกันบ่อยมั้ย?,ไม่ครับ ครั้งเดียวเอง,มีใครเชียร์มั้ยเพราะเขาโสดเหมือนกัน?,ยังไม่ได้เชียร์ครับ จะเจอแต่ มิ้นต์ ชาลิดา มากกว่า,ถ้าเชียร์จะเชียร์ขึ้นมั้ย?,จะมีคนเอาผมหรือเปล่าครับ (ยิ้ม) จริงๆ ควรถามผู้หญิงว่าผมเป็นที่ต้องการหรือเปล่า เริ่มไม่ค่อยมีความมั่นใจเท่าไร ตอนนี้ผมก็ตั้งใจทำงานนะครับ เดี๋ยวนี้มีหลานตั้ง 5 คนแล้ว มีหลาน 5 คนก็เหมือนลูกผมนะครับ,เกร็งมั้ยเวลามีข่าวโดนจับคู่?,ยังครับๆ ยังไม่จับคู่,เข็ดคนในวงการมั้ย?,ไม่เข็ดครับ ไม่มีอะไรต้องเข็ด เพราะทุกคนก็น่ารักเหมือนกันหมด,หวงความโสดมั้ย?,ความรู้สึกส่วนตัว ชอบทำงาน และใช้เวลากับหลานเยอะๆ ครับ,มีข่าวนี้ได้คุยกับแมทหรือยัง?,ยังครับ,แมทเข้าข่ายสเปกมั้ย?,น้องเป็นคนน่ารักอยู่แล้ว,ชอบมั้ย?,ตอนนี้ยังไม่ได้ชอบใครครับ ชอบงาน ยังชอบผู้หญิงอยู่ครับ. | กึ้ง เฉลิมชัย ตอบแล้วหลังถูกโยงจีบ แมท ภีรนีย์ หลังมีภาพไปกินข้าวด้วยกันกับแก๊งเฟอร์บี้ พร้อมกับชมฝ่ายหญิงน่ารัก | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | กึ้ง แมท,กึ้ง เฉลิมชัย,แมท ภีรนีย์,กึ้ง จีบ แมท,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1345719 |
ดราม่า โม มนชนก ไลฟ์สด เบื่อไม่อยากล้างจาน แต่ละคำตอบชาวเน็ตรับไม่ได้ | ทำเอาแฟนคลับถึงกับงงไม่น้อย เมื่อ โม มนชนก ได้ออกมาไลฟ์สดแก้เบื่อขณะอยู่บ้านเก็บตัวช่วงโควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมานั้น โม ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสพูดคุยกับแฟนๆ เป็นปกติ พร้อมบอกเล่าถึงไลฟ์สไตล์การอยู่บ้านในช่วงวันแรกๆ ให้แฟนคลับได้ติดตามแต่ล่าสุดทำเอาหลายคนงงมากทีเดียว เมื่อท่าทีเปลี่ยนไปจากสาวน้อยที่ยิ้มแย้ม เปลี่ยนเป็นอารมณ์ที่ดูไม่ค่อยจะดี พูดจาห้วนๆ แฟนคลับถามอะไรเหมือนไม่อยากจะตอบ และมีการเหวี่ยงไปทั่วโดย โม มนชนก ได้บอกหัวข้อที่มาไลฟ์กับแฟนๆ ว่า มาคุยกับทุกคนแก้เบื่อ เพราะต้องไปทำอะไรที่ไม่อยากทำ และต้องใช้เวลาทำใจนานมากๆ เช่น ล้างจาน แกะของ ทำความสะอาดโซฟา และทิ้งขยะ เป็นต้น ซึ่งพอมีคนเข้าไปคอมเมนต์ในไลฟ์บอกว่า วันนี้ดูไม่น่ารักเลย โม ก็ยอมรับว่า ใช่จากเรื่องนี้เองแฮชแท็ก #โมมนชนก ก็ได้ติดอันดับในโลกทวิตเตอร์ทันที ซึ่งแต่ละคนต่างก็พูดถึงกิริยาของ โม มนชนก ที่ไลฟ์สด พร้อมนำมาเปรียบเทียบกับคลิปที่เจ้าตัวโพสต์ในวันที่อยู่บ้านวันแรก ที่สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส คุยกับแฟนๆ แบบน่ารัก และบอกว่า ถ้าอารมณ์ไม่ดีก็ไม่ควรมาไลฟ์ มาเหวี่ยงใส่แบบนี้ แฟนคลับเข้ามาถามดีๆ ก็ควรพูดดีๆ แบบนี้ ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลย นอกจากนี้ หลายคนยังได้ขุดเรื่องเก่าๆ ของ โม ตอนที่คบกับ บี้ สุกฤษฎิ์ มาเล่าอีกด้วยหลังจากนั้น โม มนชนก ก็ได้โพสต์ขอโทษผ่านอินสตาแกรม โดยบอกว่า โมขอโทษทุกคนนะคะ โมขอน้อมรับผิดทุกอย่าง ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ทุกคำแนะนำที่ตักเตือน โมได้อ่านทุกข้อความ และจะนำไปปรับปรุงแก้ไขค่ะโมอยากจะขอโทษทุกๆ คนในวันนั้นจริงๆ ค่ะ ขอโทษทุกคนนะคะ ขอบคุณทุกคนค่ะ โม. | โม มนชนก ไลฟ์สดคุยกับแฟนคลับในวันว่าง บ่นเบื่อไม่อยากล้างจาน ทำงานบ้าน จนกระทั่งเหวี่ยงหนัก ชาวเน็ตสงสัยทำไมต้องเหวี่ยง ทั้งๆ ที่เข้าไปถามดีๆ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | โม มนชนก,โม มนชนก แฟนคลับ,โม มนชนก ไลฟ์สด,โม มนชนก นิสัย,ข่าวบันเทิง,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1805373 |
เกษตรกรกระบี่ ฮึ่มต้านประกาศพาณิชย์ รับซื้อผลปาล์ม ต่ำกว่าต้นทุน | วันที่ 14 ก.ย. 58 ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ นายสมนึก เหมมณี เกษตรจังหวัดกระบี่ นายอรุณ ไม้ทิพย์ พาณิชย์จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย พาณิชย์จังหวัด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ร่วมแถลงการณ์ ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน โดยชี้แจงถึงประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เรื่อง ราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันทะลายและผลปาล์มร่วง และน้ำมันปาล์มดิบอ้างอิง ซึ่งในประกาศระบุ ให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ รับซื้อน้ำมันในราคาเดียวกัน คือ ผลปาล์มอัตราน้ำมัน 21 % รับซื้อ 4.40 บาท ต่อ กก. 20% รับซื้อ 4.10 บาท ต่อ กก. 19 % รับซื้อ 3.80 บาท 18 % รับซื้อ 3.50 บาท ต่อ กก. และ 17 % รับซื้อ 3.20 บาท ประกาศ ณ วันที่ 8 กันยายน 2558,ขณะที่ นายชโยดม สุวรรณวัฒนะ แกนนำเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน จ.กระบี่ กล่าวว่า ตนเพิ่งรับทราบถึงประกาศดังกล่าว ซึ่งการออกประกาศฉบับนี้ จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกร เนื่องจากทางเกษตรกรเรียกร้องให้รับซื้อผลปาล์ม ที่ กก.ละ 4.20 บาท แต่พาณิชย์ กับประกาศให้รับซื้อที่ 3.20 บาท ต่ออัตราน้ำมัน 17 % จะส่งผลให้เกษตรกรเดือดร้อนหนัก เนื่องจากต้นทุนอยู่ที่ 3.80 บาท ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ยกเลิกประกาศดังกล่าว หากไม่ยกเลิกจะทำให้ราคาผลปาล์มที่โรงงานรับซื้อลดลงทันที จากปัจจุบัน 3.80 บาท จะเหลือ 3.20 บาทตามประกาศ เพราะไม่มีเครื่องวัดเปอร์เซ็นต์ และที่ผ่านมา เกษตรกรก็จะได้อัตราน้ำมันแค่ 17 % ไม่มีการปรับให้อยู่แล้ว หากไม่ดำเนินการก็จะไปร่วมชุมนุมวันที่ 15 กันยายนนี้ ที่ จ.นครศรีธรรมราช | เกษตรกรกระบี่ ค้านประกาศพาณิชย์รับซื้อผลปาล์มอัตราน้ำมัน 17% ต่ำกว่าต้นทุน จี้ยกเลิก ขู่ชุมนุม 15 ก.ย.ที่เมืองคอน | null | ชาวสวนปาล์มน้ำมัน,พาณิชย์,สมนึก เหมมณี,ราคาปาล์ม,ชโยดม สุวรรณวัฒนะ,โรงงานปาล์ม,ชุมนุม,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์,ปาล์มน้ำมัน,ชาวสวนปาล์ม,ประท้วงราคาปาล์ม,กระทรวงพาณิชย์ | https://www.thairath.co.th/content/525126 |
หมีขั้วโลกใช้พลังงานมากขึ้นเมื่อน้ำแข็งในทะเลเคลื่อนที่เร็ว | เผยว่า การเคลื่อนไหวของน้ำแข็งในทะเลส่วนใหญ่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี ทำให้หมีขั้วโลกต้องออกเดินทางอยู่ตลอดเวลาเพื่อหาสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิต การที่น้ำแข็งเคลื่อนที่ไปเร็ว หมีจึงต้องใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้น เปรียบได้กับการใช้ชีวิตบนลู่วิ่งก็ว่าได้,นักวิจัยกล่าวว่าอัตราการเคลื่อนที่ของน้ำแข็งลอยในทะเล อาจทำให้เกิดความเครียดทางสรีรวิทยาเพิ่มขึ้นในหมีขั้วโลก เนื่องจากโอกาสในการหาอาหารลดลง ซึ่งคาดการณ์ว่าหมีจะต้องฆ่าแมวน้ำเพิ่มขึ้นอีก 2-6% เพื่อชดเชยการเผาผลาญแคลอรีเมื่อน้ำแข็งเคลื่อนเร็วขึ้น ทั้งนี้ การวิจัยยังไม่ระบุว่าหมีขั้วโลกเดินเร็วขึ้นหรือใช้เวลามากขึ้นเท่าใดในการเคลื่อนที่เพื่อให้ทันกับน้ำแข็ง ทั้งนี้ หมีขั้วโลกถูกระบุว่าอยู่ในสถานะถูกคุกคามและอยู่ในการคุ้มครองภายใต้พระราชบัญญัติว่าด้วยสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ปี พ.ศ.2551,อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามแผนการกอบกู้ชีวิตความเป็นอยู่ของหมีขั้วโลกต่อไป เนื่องจากสหรัฐอเมริกาเพิ่งถอนตัวจากข้อตกลงปารีส และต้องจับตาทิศทางการขยายและพัฒนาปิโตรเลียมในถิ่นที่อยู่ของหมีขั้วโลก รวมถึงน่านน้ำนอกชายฝั่งอลาสกา และบางพื้นที่ของแหล่งน้ำมันสำรองแห่งชาติในอลาสกา (National Petroleum Reserve-Alaska) รวมทั้งที่ลี้ภัยขั้วโลกเหนือของสัตว์ป่าแห่งชาติ (Arctic National Wildlife Refuge) ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและมรดกทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์. | ภาวะโลกร้อนขึ้นนอกจากจะทำให้น้ำแข็งทั่วโลกละลายเร็วแล้วยังส่งผลให้แผ่นน้ำแข็งในทะเลเคลื่อนที่เร็วตามไปด้วย โดยเฉพาะก้อนน้ำแข็งนอกชายฝั่งของรัฐอลาสกา ประเทศสหรัฐอเมริกา นักวิจัยจากองค์กรสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ | ข่าว,สังคม | ทันโลก,หมีขั้วโลก,ภาวะโลกร้อน,น้ำแข็งละลาย,อลาสกา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/970415 |
มาจากไหนกัน งูเห่ายาวกว่าเมตร โผล่ชักโครก สะกิดก้นเชฟหนุ่ม | เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 สิงหาคม ศูนย์วิทยุเหยี่ยวเวหาปทุมธานี ได้รับแจ้งจากประชาชนขอความช่วยเหลือ มีงูเห่าอยู่ภายในห้องน้ำ ที่บ้านเลขที่ 2/59 บงกช 27 ซอยเคหะฟื้นนคร ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี หลังรับแจ้งได้ประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่มีความชำนาญในการจับงู ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เป็นบ้าน 2 ชั้น เจ้าหน้าที่พบ นายพยัพ บัวรุ่ง อายุ 51 ปี อาชีพเชฟเบเกอรี่ของครัวการบินไทย ยืนรอและพาเจ้าหน้าที่เข้าไปในห้องน้ำชั้นล่าง โดยพบว่าเป็นงูเห่าโผล่ออกมาจากชักโครก เจ้าหน้าที่อาสาสมัครจึงใช้อุปกรณ์ในการจับ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงจับเอาไว้ได้ เบื้องต้นพบว่าเป็นงูเห่าขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 1.50 เมตรจากการสอบถาม นายพยัพ เปิดเผยต่อว่า ห้องน้ำที่ใช้อยู่ชั้นล่าง ไม่ค่อยได้ใช้งาน ตอนนั้นปวดท้องจึงเข้าห้องน้ำ ขณะที่กำลังนั่งรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรมาเขี่ยก้นตัวเอง จึงรีบลุกอย่างรวดเร็ว พอมองดูก็ไม่มีอะไร ก่อนจะกดชักโครก หลังจากนั้นแฟนก็เข้าห้องน้ำ สักพักแฟนก็เรียกให้มาดูว่ามีงูเห่าโผล่หัวออกมา จึงรีบปิดฝา แล้วรีบโทรเจ้าหน้าที่อาสาสมัครให้มาช่วยจับนายพยัพ เผยต่อว่า เคยเห็นแต่ในข่าว ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเองต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่มาช่วยจับงูเห่าในครั้งนี้ พร้อมกับฝากให้คนที่เข้าห้องน้ำ ขอให้สังเกตในชักโครกก่อน ช่วงนี้ต้องระวังมากๆเบื้องต้นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครได้จับงูใส่ไว้ในกระสอบ เพื่อที่จะเอาไปที่ศูนย์พักพิง ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นแหล่งพักงูชนิดต่างๆ ก่อนจะมีการนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ต่อไป. | งูเห่ายาวกว่าเมตร โผล่ชักโครก บ้านเชฟการบินไทย เจ้าตัวเผย ตอนเข้าห้องน้ำเหมือนมีอะไรสะกิด แต่พอก้มดูไม่เจอ ก่อนที่แฟนจะเข้าห้องน้ำต่อ ตะโกนเรียก งูโผล่จากชักโครกมาจ๊ะเอ๋ | ข่าว,ทั่วไทย | งูในชักโครก,งูเห่า,งูโผล่ชักโครก,ปทุมธานี,เชฟการบินไทย,จับงู,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1910497 |
ส.ท่องเที่ยวอันดามัน หาแนวร่วมต้านแลนบริดจ์ | ศูนย์ข่าวภาคใต้-1 ส.ค.47 นายอนุพงค์ เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯ จะหารือเพื่อกำหนดท่าทีและแนวทางการเคลื่อนไหว โดยเบื้องต้นจะศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ รวมทั้งผลกระทบที่จะตามมาทั้งหมดก่อน จากนั้นจะลงพื้นที่ชี้แจงให้ผู้ประกอบการและประชาชน เกี่ยวกับผลกระทบด้านต่างๆ ที่ผ่านมาทางสมาคม 3 จังหวัด มีการพูดคุยเรื่องนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว ทุกคนไม่ต้องการให้โครงการแลนบริดจ์มาขึ้นฝั่งอันดามัน นายอนุพงษ์ กล่าว นายอนุพงค์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพังงา สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้เชิญนายธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ อาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านทรัพยากรทะเลไทย มาให้ความรู้เกี่ยวกับความอุดมสมบูรณ์ของทะเลฝั่งอันดามัน รวมทั้งผลกระทบที่จะตามมา หากมีการก่อสร้างโครงการนี้ โดยเฉพาะผลกระทบต่อทรัพยากรและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในทะเล เช่น แหล่งปะการัง บริเวณหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดภูเก็ต และเขาหลัก จังหวัดพังงา เรายอมรับว่า มีข้อมูลโครงการนี้ค่อนข้างน้อย แต่ตอนนี้เริ่มมีข้อมูลมากขึ้นแล้ว เราไม่เคยทราบข้อมูลโครงการนี้มาก่อน เพราะภาครัฐไม่ได้แจ้งให้สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวทราบ ทำให้ออกมาเคลื่อนไหวค่อนข้างช้า ต่อไปหากภาครัฐจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นหรือชี้แจงรายละเอียดโครงการ เราจะติดตามอย่างใกล้ชิดแน่นอน นายอนุพงษ์กล่าวและว่า การคัดค้านโครงการแลนบริดจ์ของสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว ไม่ได้ต้องการจะปกป้องผลประโยชน์ทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่จะเน้นหนักและให้ความสำคัญไปที่ผลกระทบ ที่อาจจะเกิดกับสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตของประชาชนโดยรวม ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมความงามของทะเลอันดามันจำนวนมาก นำรายได้เข้าประเทศนับแสนล้านบาทต่อปี หากธรรมชาติถูกทำลาย นักท่องเที่ยวที่ไหนอยากจะมา | ศูนย์ข่าวภาคใต้-1 ส.ค.47 นายอนุพงค์ สงวนนาม นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพังงา เปิดเผย ประชาไทออนไลน์ ว่า สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพังงา กระบี่ และภูเก็ต จะนัดประชุมกันในเร็วๆ นี้ | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2004/09/166 |
ร้อนรุ่มกลุ้มอุรา มาเตรียมรถรับฤดูร้อนกันดีกว่า | ย่างเข้าสู่เดือนมีนาคม ความกดอากาศสูงที่หดหายไปพร้อมกับอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นตั้งแต่เช้าเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศไทย ความร้อนระอุทำให้การเข้าไปนั่งในรถที่จอดตากแดดคล้ายกับบรรยากาศในตู้อบไก่ย่างห้าดาว ยิ่งจอดตอนเที่ยงแล้วกลับมาขึ้นรถในตอนบ่ายนั้นแทบจะเหมือนกับเข้าไปอยู่ในเตาอบที่กำลังทำงานอย่างเต็มที่ เมื่ออุณหภูมิในห้องโดยสารพุ่งสูงขนาดนั้นคงไม่ต้องพูดถึงอุณหภูมิการทำงานของเครื่องยนต์ที่เจอเข้ากับสภาพอากาศแบบดาวศุกร์ การทำให้รถของคุณมีความพร้อมใช้งานได้ในหน้าร้อนจะทำให้คุณไปถึงจุดหมายได้อย่างสบายใจ หากไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะเปิดฝากระโปรงดูก็ถึงเวลาที่จะต้องทำแบนั้นกันบ้างแล้ว เครื่องยนต์เมื่ออุณหภูมิการทำงานทะลุเกินขีดจำกัดหรือโอเวอร์ฮีตจนหยุดการทำงานและทำให้คุณเสียเงินเสียทองโดยใช่เหตุเนื่องจากขาดการเอาใจใส่ คุณเองยังร้อนตับแทบหลุดหากขาดการเหลียวแลเครื่องยนต์ในรถของคุณก็อาจหยุดทำงานดื้อๆในขณะเดินทาง ยิ่งร้อนตัวร้อนใจหนักยกกำลังสองเข้าไปอีกหากไปจอดเสียกลางทางเปลี่ยวๆที่แทบจะไม่มีที่หลบแดด,ตรวจระดับน้ำในหม้อน้ำหรือถังพักน้ำในรถยนต์บางรุ่น หมั่นตรวจเช็คเติมน้ำสะอาดให้อยู่ในขีดที่กำหนดพร้อมกับตรวจดูสภาพสายพานปั้มน้ำ หากพบว่าสายพานเริ่มมีการแตกลายงาก็เปลี่ยนได้เลย สายพานปั้มน้ำหรือสายพานพัดลมหน้าเครื่องยนต์หากขาดขึ้นมาก็เป็นเรื่ิองได้ถึงขนาดไม่ต้องไปกันเลยทีเดียว หมั่นเป็นคนช่างสังเกตุหัดมองเข็มวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์หากมี ในรถใหม่บางรุ่นก็ไม่มีมาให้มอง ซึ่งเมื่อเครื่องเกิดร้อนจนทำงานไม่ไหวจะมีไฟโชว์รูปเครื่องยนต์ติดแดงขึ้นมา หากไฟโชว์รูปเครื่องยนต์และรูปหม้อน้ำติดขึ้นแสดงว่าระบบระบายความร้อนของคุณมีปัญหาจนไม่สามารถขับต่อไปได้อีกแล้ว,วาว์ลน้ำที่คุณอาจไม่เคยเห็นรูปร่างหน้าตาเพราะส่วนใหญ่เจ้านี่จะแอบซ่อนอยู่ภายในเครื่องยนต์ อาการเข็มวัดระดับอุณหภูมิของเครื่องยนต์ที่ขึ้นๆลงๆส่วนมากเป็นสัญญาณว่าวาว์ลน้ำของคุณเริ่มจะลาจากโลกใบนี้ ควรให้ช่างหรือศูนย์บริการตรวจเช็คหรือไม่ก็เปลี่ยนไปเลยหากใช้งานมาเป็นแสนกิโลเมตรก็สมควรที่จะต้องตรวจสอบเจ้าวาว์ลน้ำให้มีสภาพที่ไม่เน่าในตระกรันเกาะจนเปิดหรือปิดไม่สะดวก สปริงวาว์ลที่อาจไม่ทำงานได้ดีเหมือนเดิมสุดท้ายจะกลายมาเป็นปัญหาใหญ่เนื่องจากระบบระบายความร้อนด้วยน้ำหากน้ำไม่หมุนเวียนผ่านการระบายไปยังจุดที่เย็นกว่าไม่นานนักเครื่องยนต์จะร้อนจัดทันที,ท่อยางหม้อน้ำทั้งบนและล่าง ลองเอามือบีบๆดูหากพบว่าเริ่มมีการกรอบแตกก็จัดการให้ช่างเปลี่ยนได้ทันที ปล่อยทิ้งไว้ท่อแตกขึ้นมาในขณะที่กำลังห้ออยู่แถวต่างจังหวัดไกลๆก็จบเห่อยู่ตรงนั้น ท่อน้ำตัวบนที่รับน้ำจากหม้อน้ำเข้าไปหมุนเวียนในระบบระบายความร้อนของรถผมเป็นท่อพลาสติก ความที่หลงลืมทำให้ไม่ได้ตวรจเช็คให้ดี ความร้อนและการขยายตัวทำให้ท่อเจ้ากรรมแตกหักน้ำจากระบบพุ่งกระจายพร้อมกับควันขาวราวกับร้านย่างไก่ ไม่ต้องไปไหนกันแล้วทีนี้,ทำตัวเป็นพวกรู้มาก หาฟิวส์ที่ใช้งานในรถไว้หลายๆแอม อากาศร้อนรถติดกับรถเก่าแก่อายุเยอะเป็นของที่ไม่ถูกกันอย่างแรง ฟิวส์อาจขาดได้ ทั้งฟิวส์พัดลมไฟฟ้าที่ใช้หมุนเพื่อระบายความร้อนของแผงหม้อน้ำหน้าเครื่อง ฟิวส์ควบคุมการทำงานของระบบแอร์หรือแม้แต่ฟิวส์ของระบบไดสตาร์ทก็สามารถขาดได้ตลอดเวลาเมื่อเกิดการลัดวงจรหรือทำงานปล่อยกระแสไฟฟ้าผ่านในขณะที่อุณหภูมิพุ่งสูงมากในห้องเครื่องยนต์ ฝากล่องฟิวส์จะเป็นการบอกตำแหน่งของฟิวส์ชนิดต่างๆที่ทำหน้าท่ี่ต่างกัน หัดสังเกตุไปเรื่อยๆเช่น อยู่ๆแอร์ดับพัดลมไม่ทำงานบางครั้งก็แค่ฟิวส์ขาด ทำตัวไม่รู้เรื่องรู้ราวทองไม่รู้ร้อน ไม่มีการศึกษาหาความรู้หรือใส่ใจรถยนต์ที่คุณขับใช้งานทุกวัน กว่าจะวิ่งหาร้านแอร์เข้าไปแค่เปลี่ยนฟิวส์ ความร้อนจากการขับรถโดยไม่มีระบบปรับอากาศในช่วงเที่ยงท่ามกลางสภาพการจราจรในกรุงเทพฯ จะทำให้ภรรยาบ่นคุณจนถึงกับเงิบได้เลย ฟิวส์ไดร์สตาร์ทที่ขาด หากไม่มีสำรองแล้วไปขาดที่ไกลๆโดยที่คุณไม่รู้แล้วจอดรถไปทำธุระ พอกลับมาบิดกุญแจหรือกดปุ่มสตาร์ทเท่าไหร่ก็เงียบฉี่ แค่เปลี่ยนฟิวส์ใหม่ไดร์หมุนสตาร์ทติดก็ไปฉิวทันที เปิดกล่องฟิวส์ออกมาดู พกไฟฉายดีๆติดรถเอาไว้ด้วยเผื่อแค่ฟิวส์ขาด แต่ดันมาขาดเอาตอนกลางคืน การหาตำแหน่งฟิวส์ด้วยการสังเกตุแผนภูมิด้านในกล่องฟิวส์ ต้องใช้ความช่างสังเกตุก็จะมองเห็นว่าตำแหน่งฟิวส์ที่ขาดนั้นอยู่ตรงไหนซึ่งคุณสุภาพสตรีอาจต้องพึ่งพาช่าง ตำแหน่งของฟิวส์ที่ขาดนั้นจะดำไหม้เกรียมจนเห็นได้อย่างชัดเจน หรือหากไม่รู้เรื่องไม่อยากเก่งเรื่องช่างก็คงต้องพึ่งบริการของอู่ซ่อมที่ต้องภาวนาไม่ให้โดนฟันหัวแหว่งอีกด้วย,สุดท้าย เตรียมเงินและเบอร์รถสไลส์ออนติดไว้ทุกครั้งที่เดินทาง หากลูกชายคันโปรดมาเสียกลางทางจนเยียวยาไม่ได้ คงต้องพึ่งพาบริการของรถยกรถลากไปโดยปริยาย ขอให้มีความสุขกับการขับรถในช่วงที่ร้อนรุ่มกลุ้มอุราแบบนี้ ใจร่มๆกับเพื่อนร่วมทางท่ี่ขับแย่ อากาศก็ร้อนมากอยู่แล้ว ไม่ควรไปเพิ่มอุณหภูมิบนท้องถนนให้มากขึ้นโดยไม่จำเป็นครับ มีน้ำใจต่อกันและไม่ขับรถเร็วนะครับ.,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,[email protected],Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom | ขับรถอยู่ดีๆความร้อนพุ่งสูงจนดับสตาร์ทไม่ติด ทำยังไงล่ะทีนี้ มาตรวจเช็คเตรียมความพร้อมรถยนต์รับอากาศร้อนกันดีกว่า
| null | ARCOM ROUMSUWAN,ร้อนรุ่มกลุ้มอุรา มาเตรียมรถรับฤดูร้อนกันดีกว่า,กรุงเทพมหานคร,อาคม รวมสุวรรณ | https://www.thairath.co.th/content/484173 |
ปิยบุตร แจงเหตุจี้แก้รัฐธรรมนูญปี 60 ชี้ เป็นวิกฤติและทางตัน | วันที่ 11 มิ.ย. 2562 นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงกรณีที่พรรคอนาคตใหม่เรียกร้องให้มีการแก้รัฐธรรมนูญเร่งด่วนในมาตรา 272 เรื่องอำนาจของวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี และมาตรา 279 เรื่องการรับรองให้บรรดาประกาศ คำสั่ง การใช้อำนาจของ คสช. ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย,นายปิยบุตร ระบุเพิ่มเติมว่า พรรคอนาคตใหม่ยังคงยืนยันเสมอมาว่ารัฐธรรมนูญ 2560 มีปัญหาทางประชาธิปไตย ทั้งในเรื่องที่มา กระบวนการจัดทำ และเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงทั้งฉบับ ไม่อาจแก้ไขเพียงส่วนหนึ่งส่วนใดได้ พรรคอนาคตใหม่ยังคงยืนยันความตั้งใจเดิมว่าเราจะเดินหน้าเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้มีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน พร้อมให้เหตุผล 4 ข้อ,พร้อมกันนี้ เชื่อมั่นเสมอมาว่า การเมือง คือ ความเป็นไปได้ เราจะพยายามผลักดันในทุกช่องทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่เพียงแต่ในสภาเท่านั้น แต่ต้องสร้างกระแสและความรับรู้ของสังคมเพื่อทำให้สังคมเกิดฉันทามติร่วมกันว่ารัฐธรรมนูญ 2560 คือ วิกฤติและทางตัน จำเป็นต้องจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่ประชาชนเลือกมา ดังนั้น ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ จะผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามกระบวนการในรัฐสภา พร้อมๆ กับรณรงค์กับพี่น้องประชาชน เพื่อสร้างฉันทามติให้มีการทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยผ่านโครงการสภาร่างรัฐธรรมนูญประชาชนต่อไป. | ปิยบุตร เลขาฯ พรรคอนาคตใหม่ เร่งผลักดันทุกช่องทางแก้รัฐธรรมนูญ 2560 ชี้ จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงทั้งฉบับ | ข่าว,การเมือง | เลือกตั้ง62,ปิยบุตร แสงกนกกุล,อนาคตใหม่,รัฐธรรมนูญ,รัฐธรรมนูญ 2562,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1589365 |
ทำไมต้องแพทย์แผนไทย? ส่อง 5 ข้อศาสตร์แห่งการรักษา ภูมิปัญญาโบราณ | ท่ามกลางยุคสมัยและบริบททางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป,ย้อนหลังไป 50 ปีที่แล้ว การแพทย์แผนไทยที่หายไปจากท้องถิ่น การใช้ ตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ซึ่งเป็นตำราแพทย์ของไทยภาคกลางในการสอบประกอบโรคศิลปะตั้งแต่ พ.ศ. 2479 ทำให้หมอพื้นบ้านจากภาคอื่นๆ ที่มีความรู้เกี่ยวกับการรักษาและสมุนไพรเฉพาะถิ่นสอบตก หยุดรักษา และบางคนอาจถึงกับต้องเผาตำราทิ้ง เพราะกลัวทางการจับกุม จนอาจเรียกได้ว่าเป็นการล่มสลายของการแพทย์แผนไทย,หากถอยหลังกลับไปไกลกว่านั้น หลังก่อตั้ง โรงศิริราชพยาบาล เมื่อ พ.ศ. 2431 โรงเรียน ราชแพทยาลัยเพื่อผลิตแพทย์ก็เกิดขึ้นในอีกสองปีต่อมา ในช่วง 25 ปีแรก มีการเรียนการสอนแพทย์แผนไทยควบคู่ไปกับแพทย์แผนตะวันตก แล้วยุติการสอนแพทย์แผนไทยใน พ.ศ. 2458 การแพทย์แผนไทยจึงจำกัดวงอยู่เฉพาะกลุ่มคนที่เข้าถึงองค์ความรู้และคนที่เข้าไม่ถึงการแพทย์แผนปัจจุบัน แต่พอมีความรู้การแพทย์พื้นบ้านเท่านั้น,แต่ทุกวันนี้ เมื่อหันมาสังเกตรอบตัวจึงพบว่า สมุนไพรเริ่มกลับมาเป็นของประจำบ้านในรูปบรรจุภัณฑ์ทันสมัย เมื่อผสมรวมเข้ากับข่าวคราวเกี่ยวกับแพทย์แผนไทยที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ เช่น โครงการเมืองสมุนไพร การตั้งโรงพยาบาลแพทย์แผนไทย การให้การบริการแพทย์แผนไทยในระดับตำบล ก็ชวนให้คิดว่า ยุคนี้เป็นยุคที่การแพทย์แผนไทยกำลังหวนกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง จนฉันอยากเรียกเล่นๆ ว่า เป็นยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาของแพทย์แผนไทยเลยทีเดียว,พทป. ทวิช ปรีดี แพทย์แผนไทยประยุกต์ประจำร้านขายยาโพธิเงิน-อภัยภูเบศร โอสถ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เล่าถึงวิธีการรักษาแบบแพทย์แผนไทยของที่นี่ว่า ตามกระบวนการเริ่มจากซักประวัติ ตรวจร่างกายและวินิจฉัยโรค การตรวจอาการจะมีหลายแบบ และสามารถใช้เครื่องมือสมัยใหม่อย่างเครื่องวัดความดันและหูฟังแพทย์ร่วมด้วยได้ ตรวจธาตุเจ้าเรือน ดูว่าเป็นคนธาตุอะไร ควรปฏิบัติตัวอย่างไร กินอาหารอย่างไร ถ้าคนไข้มาโดยมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยก็จะซักถามอาการ และบางทีอาจจับชีพจรเพื่อช่วยประเมินโรค การจับชีพจรแบบแผนไทย เราจะมองเป็นธาตุ ดูว่าธาตุอะไรเสียไป แล้วจึงจัดยาหรือหัตถการปรับสมดุลธาตุ,ตามทฤษฎีธาตุ วาตะคือลม ปิตะคือไฟ และเสมหะคือดินกับน้ำ หลักการสำคัญคือต้องมีชีวิตที่สมดุล อะไรที่สูงต้องดึงลง อะไรที่ต่ำต้องดึงขึ้น อะไรที่พอดีต้องรักษาไว้ เช่น ผู้หญิงเสมหะเยอะ ตอนท้องผู้หญิงจะอ้วน จะลดเสมหะได้ก็ต้องอยู่ไฟ และเมื่อเข้าสู่ปัจฉิมวัยมีลมเป็นเจ้าเรือน ผู้เฒ่าผิวจะแห้ง นอนหลับยาก มีคนไข้คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ตอนจะหมดประจำเดือนถึงขนาดคิดจะฆ่าตัวตาย ซึมเศร้ามากเพราะลมกำเริบ และค้นพบว่า การสวดมนต์ช่วยบรรเทาได้ บางวัฒนธรรมจึงให้ผู้หญิงอายุ 40 ปีไปถือศีลเป็นแม่ขาว ถ้าเราอยู่กับความโลภโกรธหลงคือความคิด ลมก็จะเติบโต ทำให้เราไม่มีสมดุลในตัวเองการมีวินัยมีศีลเกาะยึดจะช่วยได้ เภสัชกรหญิง ดร.สุภาภรณ์ หรือ หมอต้อม อธิบายเพิ่มเติม,เมื่อฉันสืบค้นข้อมูลลึกขึ้นจึงรู้ว่า การแพทย์ในซีกโลกตะวันออก เช่น การแพทย์แผนจีน อายุรเวทของอินเดีย การแพทย์อิสลาม และการแพทย์แผนไทย ล้วนมีหลักการเดียวกันคือ สรรพสิ่งในโลกนี้ประกอบด้วยธาตุ ความเจ็บป่วยใดๆ ล้วนเกิดจากความไม่สมดุลของธาตุ ใน คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคัมภีร์ของ ตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ กล่าวว่า ความแปรปรวนของธาตุซึ่งเป็นต้นเหตุของความเจ็บป่วยมี 5 ประการคือ ธาตุพิการ ธาตุกำเริบ ธาตุหย่อน ธาตุแตก และธาตุออกจากร่างกาย ทั้งหมดนี้มีมูลเหตุสำคัญ 12 ประการ ได้แก่ อาหาร อิริยาบถ อากาศร้อน อากาศเย็น อดนอน อดข้าว อดน้ำ กลั้นอุจจาระ กลั้นปัสสาวะ ทำงานเกินกำลัง ความโศกเศร้าเสียใจ โทสะมาก จะเห็นได้ว่า มูลเหตุแห่งโรคล้วนเป็นเรื่องของวิถีชีวิตทั้งสิ้น และเป็นวิถีชีวิตที่ทำให้คนสมัยนี้เจ็บไข้ได้ป่วย,สมัยเรียนชั้นมัธยม ฉันส่งคำขวัญเข้าประกวดในงานสัปดาห์สมุนไพรไทยของโรงเรียนและได้รับรางวัลชนะเลิศ คำขวัญนั้นคือ สมุนไพรไทย เพชรในวงการแพทย์ เมื่อต้องค้นหาข้อมูลเขียนบทความเรื่องนี้จึงเพิ่งรู้ว่า นั่นเป็นเหตุการณ์ร่วมสมัยกับยุคแห่งการฟื้นฟูภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยครั้งใหญ่ของประเทศ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการประชุมสมัชชาองค์การอนามัยโลก พ.ศ. 2520 ที่ประชุมเรียกร้องให้รัฐบาลทุกประเทศจัดการด้านสาธารณสุขให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาสุขภาพในอีก 20 ปีข้างหน้า ภายใต้คำขวัญ สุขภาพดีถ้วนหน้าในปี 2543 ประเทศไทยก็รับลูกโดยกำหนดไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 4 (2520-2524) เป็นต้นมา แล้วคลอดนโยบายการสาธารณสุขมูลฐาน หมายถึงการสาธารณสุขระดับชุมชน ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 นายแพทย์อวย เกตุสิงห์ ก่อตั้งอายุรเวทวิทยาลัยเพื่อผลิตแพทย์แผนไทยรุ่นใหม่อีกครั้ง,ในช่วงนั้น สมุนไพรถือเป็นหัวหอกสำคัญในการสร้างสาธารณสุขมูลฐานของประเทศ กระทรวงสาธารณสุขเริ่มทำโครงการสมุนไพรกับสาธารณสุขมูลฐานเมื่อปี พ.ศ. 2524 เป็นช่วงเวลาเดียวกับ กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนอย่างโครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตนเอง (ปัจจุบันคือมูลนิธิสุขภาพไทย) และนักวิชาชีพด้านสาธารณสุขหัวก้าวหน้าเริ่มฟื้นฟูสมุนไพรและการนวดไทย พอถึงปี พ.ศ. 2526 หมอต้อมเริ่มศึกษาข้อมูลสมุนไพรจากฐานข้อมูลที่มีผู้รวบรวมไว้ก่อนหน้าและจากหมอพื้นบ้าน และเริ่มออกเดินป่าเพื่อตามหาสิ่งที่เธอเรียกว่า ขุมทรัพย์ชีวภาพ นับตั้งแต่ พ.ศ. 2529 จนถึงปัจจุบัน,เหตุการณ์สำคัญที่ขับเคลื่อนให้สมุนไพรไทยได้รับความนิยม คือวิกฤติเศษฐกิจช่วงปี พ.ศ. 2540 สมุนไพรได้รับการวางบทบาทเป็นผู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจทั้งระดับชุมชนและระดับประเทศ ขณะนั้นโรงพยาบาลอภัยภูเบศรซึ่งประสบความสำเร็จในการผลิตยาสมุนไพรใช้ในโรงพยาบาล เริ่มขยายสายการผลิตจากยาไปสู่เครื่องดื่มและเวชสำอางแล้ว เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ชุมชนและภาคเอกชนหันมาปลูกและทำผลิตภัณฑ์สมุนไพรอย่างคึกคัก หนึ่งในสมุนไพรอภัยภูเบศรที่สร้างปรากฏการณ์ระดับประเทศคือมะขามป้อม พอขึ้นทะเบียนยาแก้ไอมะขามป้อม ก็มีผลิตภัณฑ์มะขามป้อมอื่นๆ ตามมา จนมะขามป้อมขาดตลาดไปทั้งประเทศ,คนไทยรู้จักสมุนไพรอย่างกว้างขวาง การพัฒนาสมุนไพรเพื่อรักษาโรคพื้นฐานบรรลุผล เมื่อยาสมุนไพรปรากฏในบัญชียาหลักแห่งชาติ 19 รายการ ซึ่งครอบคลุมทุกโรคพื้นฐาน,ทว่าประเทศชาติคาดหวังกับสมุนไพรไทยมากกว่านั้น แผนปฏิบัติการ 5 ปีในยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ที่รัฐบาลประกาศเมื่อปลายปีที่แล้ว ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้ได้ 3.2 แสนล้านบาท และสร้างเมืองสมุนไพรซึ่งหมายถึงเมืองที่มีการใช้สมุนไพรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ คือปลูก ผลิต ใช้ และจำหน่าย,ครั้งหนึ่งศาสตร์การนวดที่เป็นของเก่าแก่คู่สังคมไทยมาเนิ่นนานถูกตัดออกไปจากสารบบการแพทย์แผนไทย โดยหล่นหายไปจากพระราชบัญญัติการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2479 อย่างไม่มีใครรู้ การนวดไทยเพิ่งจะได้รับการฟื้นฟูเข้าสู่ระบบการเรียนการสอนและระบบสาธารณสุขบ้านเราเมื่อ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา และสภาการแพทย์แผนไทยรับรองให้การนวดไทยเป็นสาขาหนึ่งของการแพทย์แผนไทยเมื่อ พ.ศ. 2544 นี่เอง,ปัจจุบันมีนักเรียนนวดปีละประมาณ 5,000 คน เป็นคนไทยร้อยละ 60 และชาวต่างประเทศร้อยละ 40 นักเรียนไทยส่วนใหญ่มีเป้าหมายไปทำงานต่างประเทศอยู่แล้วจึงมาเรียนนวด เสรัชย์ ตั้งตรงจิตร ผู้อำนวยการโรงเรียนนวดแผนโบราณเชตวัน เล่า กว่าจะถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย โรงเรียนนวดวัดโพธิ์ฯ อยู่ใต้ร่มโรงเรียนแพทย์แผนโบราณพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) ซึ่งมีอายุ 60 ปีแล้ว ช่วงเจ็ดปีแรก กระทรวงศึกษาธิการไม่อนุญาตให้ตั้งโรงเรียนสอนนวดไทย เนื่องจากสมัยนั้นการนวดแผนโบราณมีภาพลักษณ์ตกต่ำและถูกมองในเชิงค้าประเวณี จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินมายังวัดโพธิ์เมื่อปี พ.ศ. 2504 และตรัสถามว่า มีการสอนนวดหรือไม่ ต่อมาทางการจึงอนุญาตให้ตั้งโรงเรียนนวดวัดโพธิ์ขึ้น โดยเริ่มการเรียนการสอนเมื่อกลางปี พ.ศ. 2505 และเป็นรู้จักในระดับโลกเมื่อประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา หลังนิตยสารท่องเที่ยวและหนังสือพิมพ์ต่างประเทศเริ่มตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับโรงเรียน และประมาณปี พ.ศ. 2535 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยว่า หมอนวดไทยที่ไปทำงานต่างประเทศส่งเงินกลับบ้านปีละประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท ทำให้มีชาวไทยและชาวต่างประเทศมาเรียนที่นี่มากขึ้น โรงเรียนนวดวัดโพธิ์จึงเป็นแหล่งผลิตหมอนวดไทย ส่งออก ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย,สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัยและกาลเวลา เช่นเดียวกับการแพทย์แผนไทยที่แม้จะเป็นศาสตร์เก่าแก่มีหลักคิดและวิธีการใช้ที่ระบุไว้ในตำราดั้งเดิม แต่เมื่อนำมาใช้ ก็ต้องถูกปรับเปลี่ยนให้เข้ากับบริบทและความต้องการของยุคสมัย,เรื่อง ภัสน์วจี ศรีสุวรรณ์,ภาพถ่าย ภานุพงศ์ ช่างฉาย,ที่มา - National Geographic,www.ngthai.com, ,www.facebook.com/NationalGeographicThailand, | ย้อนหลังไป 50 ปีที่แล้ว การแพทย์แผนไทยที่หายไปจากท้องถิ่น การใช้ ตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ซึ่งเป็นตำราแพทย์ของไทยภาคกลางในการสอบประกอบโรคศิลปะตั้งแต่ พ.ศ. 2479 | ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์ | National Geographic,แพทย์แผนไทย,สมุนไพรไทย,โรงศิริราชพยาบาล,ทวิช ปรีดี,สุขภาพกาย/ใจ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/970548 |
หลวงพ่ออนันต์ เจ้าอาวาสวัดท่าซุงมรณภาพ อายุ 69 ปี | เมื่อวันที่ 11 ก.พ.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดจันทาราม หรือ วัดท่าซุง (วัดหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) หมู่ 2 ต.น้ำซึม อ.เมืองอุทัยธานี จ.อุทัยธานี พระราชอุทัยโสภณ เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี นำคณะสงฆ์และศิษย์ยานุศิษย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดอุทัยธานี รับสรีระสังขาร พระราชภาวนาโกศล (อนันต์ พทฺธญาโณ) เจ้าอาวาสวัด จากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กรุงเทพมหานคร หลังจากละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ 69 ปี 4 เดือน 45 พรรษา เมื่อเวลา 04.49 น. ด้วยอาการอาพาธขณะที่วัดได้จัดเตรียมสถานที่ตั้งศพและการประกอบพิธี ภายในมหาวิหารแก้ว 100 เมตร เพื่อรอประกอบพิธีอัญเชิญน้ำหลวงพระราชทานสรงศพ วันนี้ และจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปสรงน้ำ ตั้งแต่เวลาประมาณ 13.00 น. และจะมีพิธีอัญเชิญน้ำสรงศพเวลาประมาณ 16.00 น.พระราชภาวนาโกศล เกิดวันที่ 30 ก.ย.2491 เป็นบุตรคนแรกของ นายรอด และนางจำรัส เสนสกุล มีน้องชาย 4 คน และน้องสาว 1 คน อุปสมบทเมื่ออายุ 25 ปี เมื่อวันที่ 13 เม.ย.2516 ณ วัดปากคลองปลากดนอก อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ มีพระอธิการทองหยด เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นพระราชภาวนาโกศล มาจำวัดอยู่ที่วัดจันทราราม และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัด เมื่อปี 2536 ต่อจากหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ | สิ้น พระราชภาวนาโกศล (หลวงพ่ออนันต์) เจ้าอาวาสวัดท่าซุง ที่ รพ.บำรุงราษฏร์ หลังเข้ารับการรักษาตัวด้วยอาการอาพาธ อายุ 69 ปี 4 เดือน 45 พรรษา พิธีเชิญน้ำหลวงพระราชทานสรงศพ ช่วงบ่ายวันนี้ | สังคม | ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS,วัดท่าซุง,อุทัยธานี,หลวงพ่ออนันต์,วัดหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ,พระราชภาวนาโกศล | https://news.thaipbs.or.th/content/270136 |
สมุทรสงครามประกาศพื้นที่ศาลาริมน้ำถล่มเป็น เขตอันตราย | วันนี้ (17 ก.ค.2562)กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สมุทรสงครามออกประกาศกรณีเกิดเหตุศาลาร้านค้าริมแม่น้ำทรุดตัวลงแม่น้ำแม่กลองเสียหายทั้งหลัง เมื่อวันที่ 16 ก.ค.62 เวลาประมาณ 12.45 น. บริเวณท่าเรือแสงวณิชฝั่งวัตเพชรสมุทรวรวิหาร เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม อ.เมืองสมุทรสงคราม ทำให้มีผู้บาดจ็บจำนวนมาก และมีผู้สูญหาย 2 คน นั้นอ่านข่าว :อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 21 22 และ 49 แห่งพระราขบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพ.ศ. 2550 จึงขอประกาศให้พื้นที่บริเวณท่าเรือข้ามฟากแสงวณิช อาคารศาลาริมน้ำตลอดแนวจนถึงบริเวณกำแพงวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ด้านซอยวัดเพชรสมุทร 2 เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยและห้ามบุคคลหรือหน่วยงาน ผู้ประกอบการ ร้านคัา เข้าหรือใช้ประโยชน์พื้นที่ดังกล่าวโดยเด็ดขาด จนกว่าหน่วยงานผู้มีอำนาจหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบและรับรองความปลอดภัยทั้งนี้ หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามหรือขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 6000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ | ปภ.สมุทรสงคราม ออกประกาศพื้นที่ท่าเรือข้ามฟากแสงวณิชไปจนถึงกำแพงวัดเพชรสมุทรวรวิหาร เป็นเขตไม่ปลอดภัย ห้ามประชาชนเข้าใช้เด็ดขาด ฝ่าฝืนเจอโทษ | สังคม | ศาลาริมน้ำถล่ม,สมุทรสงคราม,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/281779 |
ร่น เคอร์ฟิว ไป 23.00 น.ให้เปิดห้าง 10 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม (คลิป) | เยียวยาเกษตร ผู้คน-ออแน่น หมอเป็นห่วง ผ่อนคลายมาก กลัวมีป่วยเพิ่มเริ่มตั้งแต่ 17 พ.ค.เช่นกัน ขณะที่ผู้ประกอบการศูนย์การค้าแต่ละแห่งพร้อมเปิดห้างทันทีด้วยมาตรการที่เข้มงวดสร้างความมั่นใจและปลอดภัยให้ลูกค้า นายกฯแนะใช้แอป ไทยชนะ สกัดโควิด ด้าน บขส. เตรียมเปิดเดินรถในภาคเหนือ-อีสาน เริ่ม 18 พ.ค.หลังหยุดเดินรถกว่า 1 เดือน ส่วนเส้นทางภาคใต้ เปิดบริการ 1 มิ.ย. กรมส่งเสริมการเกษตรปิดรับขึ้นทะเบียนเกษตรกร รับเงินเยียวยาโควิด-19 พร้อมๆกับชาวเกษตรกรแห่รับเงินคึกคักที่ ธ.ก.ส.ทั่วประเทศหลังรัฐบาลมีมติต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปอีก 1 เดือน ควบคู่ไปกับการนำมาตรการหลายอย่างออกมาบังคับใช้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย พร้อมๆกับมาตรการเยียวยาประชาชนในแต่ละสาขาอาชีพ รวมถึงการคลายล็อกผ่อนปรนระยะ 1 อนุญาตให้ดำเนิน กิจกรรม 6 กลุ่ม 6 กิจการ อาทิ ตลาด ร้านขายอาหาร กิจการค้าปลีกส่ง ทั้งซุปเปอร์มาร์เกต กิจกรรมในสวนสาธารณะ ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.พร้อมๆกับยอดผู้ติดเชื้อลดลงเรื่อยๆจนเหลือเลขตัวเดียว บางวันถึงกับเป็นศูนย์ ส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมปลดล็อกระยะ 2 เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ วันที่ 17 พ.ค.รวมทั้งการขยายเวลาเคอร์ฟิว เลื่อนจาก 22.00-04.00 น. เป็น 23.00-04.00 น. และเคอร์ฟิวจะไม่เข้มข้นไปกว่าเดิม โดยจะนั่งหัวโต๊ะตัดสินใจในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ศบค.วันที่ 15 พ.ค.บิ๊กตู่ ถก ศบค.คลายล็อกเฟส 2เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 15 พ.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ โดยนายกฯกล่าวก่อนเริ่มประชุมว่า สิ่งที่จะหารือกันคือพิจารณารายละเอียดการคลายล็อกมาตรการต่างๆ ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันทำให้ตัวเลขการติดเชื้อโควิด-19 กลายเป็นศูนย์ แต่ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะยุติได้ และขอขอบคุณทุกฝ่ายทั้งรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เสียสละทำงานกันทุกวัน เพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ร่วมมือกันอย่างบูรณาการจนทำให้การแก้ปัญหามีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ มีรายงานว่า เรื่องที่ต้องจับตาคือพิจารณาลดเวลาเคอร์ฟิวจาก 22.00-04.00 น. เป็นเวลา 23.00-04.00 น. และให้เปิดห้างสรรพสินค้าเทวัญ เผยห้างเปิดปิด 10.00–20.00 น.นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ศบค.ว่า นายกฯย้ำในที่ประชุมว่าแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จะต่ำลง แต่ถ้าประมาทอะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าผ่อนคลายให้ทำกิจกรรมและมีผู้ติดเชื้อก็ต้องนำมาพิจารณาใหม่ ส่วนเวลาเคอร์ฟิว ศบค.เห็นชอบจาก 22.00-04.00 น. เป็นเวลา 23.00-04.00 น. เวลาห้างสรรพสินค้าอาจต้องปรับเวลาเปิด-ปิด โดยเปิดเวลา 10.00-20.00 น. เพื่อให้พนักงานมีเวลาเตรียมตัว และยังผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรมอีกหลายประเภท เช่น กีฬาบางประเภทที่ไม่ได้เล่นเป็นทีม หรือมีคนจำนวนมาก แต่กีฬาฟุตบอล วอลเลย์บอล และบาสเกตบอล ยังไม่ผ่อนคลายให้ เพราะมีผู้แข่งขันเกิน 3-5 คนอิทธิพล กองถ่ายงดฉากต่อสู้–เลิฟซีนด้านนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า การผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 2 การเปิด-ปิดห้างสรรพสินค้า เดิมผู้ประกอบการขอเวลา 10.00-21.00 น. แต่ที่ประชุม ศบค.เห็นว่า พอห้างปิดพนักงานอาจกลับบ้านไม่ทันช่วงเคอร์ฟิวเลยปรับเวลาเปิด 10.00 น. ปิดเวลา 20.00 น. ส่วนการเข้าห้างยังไม่จำกัดจำนวนแต่ขึ้นอยู่กับพื้นที่ และขึ้นอยู่กับการประเมินของสถานที่ แต่ต้องลงทะเบียนทุกคนตรวจตามมาตรการสาธารณสุข ขณะที่ร้านตัดผมในห้างเปิดได้แล้ว และคงมาตรการป้องกันเช่นเดียวกับที่เปิดผ่อนปรนไปในระยะที่ 1 โดยจะมีระยะที่ 3 ต่อไป โรงภาพยนตร์ ผับ บาร์ จะเป็นกรณีไป ส่วนกองถ่ายภาพยนตร์และละคร ต้องไม่เกิน 50 คน และต้องแจ้งลงทะเบียนแจ้งในกองมีใครบ้างที่เป็นข้อมูลส่วนตัว และมีมาตรการป้องกันทางสาธารณสุข การถ่ายทำที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดที่หมายถึงฉากที่มีการต่อสู้หรือฉากแสดงความรักต่างๆขอให้งดเว้น โดยให้ใช้เทคนิคพิเศษแทน แต่ทั้งนี้ไม่กำหนดต้องส่งบทให้มาสกรีน ส่วนกิจการนวดอยู่ในการผ่อนปรนระยะที่ 3เปิดผลสำรวจ 2 กลุ่มกิจการทั่ว ปท.ต่อมาเวลา 12.35 น.ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงว่า ผลการสำรวจสถานประกอบการเชิงปริมาณและคุณภาพโดยกรมอนามัย ใน 77 จังหวัด ใน 2 กลุ่มกิจการ ได้แก่ สถานเสริมความงาม และสปาตัดขนสัตว์ พบว่า สถานเสริมความ งามผ่านเกณฑ์ดีเยี่ยม 27.18% ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 9.74% ไม่ผ่านเกณฑ์ 63.08% ส่วนสปาตัดขนสัตว์ ผ่านเกณฑ์ดีเยี่ยม 40% ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 7% ไม่ผ่านเกณฑ์ 53% ตรงนี้เป็นการตรวจสอบอย่างละเอียด ต่างจากการตรวจสอบตามมาตรการ 5 ข้อของหน่วยงานด้านความมั่นคงหาบเร่แผงลอยร่วมมือน้อยสุดนพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ต้องขอความร่วมมือทุกคนเพราะกำลังจะเข้าสู่การผ่อนปรนระยะที่ 2 ต้องมีความไว้วางใจกัน ต้องร่วมมือกันให้เกิน 90% นอกจากนี้ในส่วนของการตรวจกิจกรรม/กิจกรรมประจำวันในช่วงที่ผ่านมาของฝ่ายความมั่นคงระหว่างวันที่ 3 พ.ค.-13 พ.ค. พบว่าประเภทกิจการ/กิจกรรมที่ให้ความร่วมมือมากที่สุด ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า รองลงมาคือร้านอาหารเครื่องดื่ม และสถานที่ให้บริการดูแลสัตว์ ส่วนประเภทกิจการ/กิจกรรมที่ให้ความร่วมมือน้อยที่สุดได้แก่ รถเข็น หาบเร่ แผงลอย รองลงมาคือตลาดน้ำ ตลาดนัด และร้านค้าปลีกค้าส่งขนาดย่อยตู่ ขอบคุณทุกฝ่ายทำงานกันหนักโฆษก ศบค.กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวขอบคุณข้าราชการ รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่ทำงานอย่างหนักในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ช่วงนี้เป็นช่วงที่คนไทยผ่อนคลายมากที่สุด เพราะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงถึงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ และกลไกอื่นในสังคม มีทั้งการรวมศูนย์อำนาจและกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ชื่นชมผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บริหารท้องถิ่นทุกระดับที่บริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพขอสื่อช่วยปชส.สกัดเชื้อถล่มซ้ำนพ.ทวีศิลป์กล่าวด้วยว่า นายกฯยังขอบคุณทีมประชาสัมพันธ์และการสร้างการรับรู้กับประชาชน ทำให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์และให้ความร่วมมือกับภาครัฐ โดยเฉพาะในการก้าวเข้าสู่มาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 แต่นายกฯยังกังวลใจในการแพร่ระบาดของโรคในคลื่นลูกที่ 2 ขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้ข้อมูลและทำความเข้าใจกับประชาชนทุกระดับ และช่วยกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมกลไกของภาครัฐ ให้ประชาชนรับทราบรับรู้ข้อมูลที่ตรงกัน ให้เกิดความตื่นตระหนกไม่ให้สถานการณ์การแพร่ระบาดกลับมาอีกใช้แอป ไทยชนะ ร่วมสกัดโควิดนพ.ทวีศิลป์กล่าวต่ออีกว่า สำหรับคณะ กรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลาย การบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต้องประเมินสถานการณ์เป็นระยะ ใช้ข้อมูลผลการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆมาพิจารณา และร่างข้อกำหนดเพิ่มเติมตามความเหมาะสมต่อไป โดยคำนึงถึงปัจจัยทางด้านสาธารณสุขเป็นหลัก ทั้งนี้นายกฯให้นำแพลตฟอร์มแอปพลิเคชัน ไทยชนะ ที่ ศบค.พัฒนาขึ้นมาใช้สนับสนุนการกำกับการดำเนินการของผู้ประกอบกิจการ/กิจกรรม ให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ และสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการ เพราะต้องใช้เครื่องมือนี้ปกป้องชีวิตและความปลอดภัยของพลมือง และต้องทำให้มั่นใจในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลให้กับประชาชนสั่งเปรียบเทียบ พ.ร.ก.กับ ก.ม.ปกตินพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า นายกฯยังสั่งการให้ศึกษาเปรียบเทียบความจำเป็นในการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กับการใช้กฎหมายปกติในการคุมโรค เพื่อเป็นข้อพิจารณาให้กับคณะกรรมการ ศบค. ในการประกาศขยายเวลาหรือยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในระยะต่อไป พร้อมทั้งห่วงใยกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องกำหนดเปิดภาคเรียนเดือน ก.ค. ขอให้กระทรวงศึกษาฯพิจารณาหาแนวทางเกี่ยวกับการเปิดเรียน การเรียนออนไลน์ การเหลื่อมเวลารักษาสมดุลคนไทยเข้าออก ปท.โฆษก ศบค.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้นายกฯ ขอให้พิจารณามาตรการควบคุมการเดินทางเข้า-ออกประเทศ โดยให้ศูนย์ปฏิบัติการมาตรการเดินทางเข้าออกประเทศ และการดูแลคนไทยในต่างประเทศควบคุมการเข้าประเทศทางอากาศตามมติ ศบค. ที่อนุญาตให้คนไทยเข้าประเทศเพิ่มจากเดิม 300 คนเป็น 400 คนต่อวัน เพื่อรักษาสมดุลระหว่างคนไทยที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศกับทรัพยากรทางการแพทย์ที่มีอยู่ รวมถึงขีดความสามารถในการกักกันในสถานที่ของรัฐ ที่ต้องมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยให้นำผู้เดินทางเข้าประเทศทุกรายกักกันในสถานที่ของรัฐ และดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคของทางราชการโดยเคร่งครัดเข้มแรงงานต่างด้าวนำเชื้อกลับนพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า สำหรับการพิจารณาอนุญาตให้แรงงานต่างชาติเดินทางกลับประเทศเพื่อนบ้าน ต้องมีมาตรการเชิงรุกในการป้องกันไม่ให้แรงงานที่จะเดินทางกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทยภายหลัง นำเชื้อโรคเข้ามาแพร่ระบาดในไทย รวมถึงสำรวจพื้นที่การพักอาศัยของแรงงานต่างด้าวในประเทศไทย เพราะความแออัดก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายโรคได้ สำหรับเรื่องตู้ปันสุข นายกฯได้ฝากการบ้านให้กับรัฐมนตรีทุกกระทรวงให้ไปออกแบบวางแผนการทำงานระบบใหม่ตั้งแต่วันนี้ไปสธ.ชี้ถ้าผ่อนมากยอดผู้ป่วยเพิ่มแน่นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อด้วยว่า ในที่ประชุม ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้นำเสนอผลการคาดการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่กรณีมาตรการป้องกันโรคที่แตกต่างกัน หากตรึงมาตรการเข้มข้น จะมีผู้ติดเชื้อใหม่ 3 คนต่อวัน คาดการณ์ว่าความชุกผู้ป่วยวิกฤติในวันที่ 30 ก.ย.จะอยู่ที่ 15 คนต่อวัน โรงพยาบาลจะยังรับไหว แต่ถ้าผ่อนคลายมากขึ้น ต้องมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแน่ จะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 24 คนต่อวัน และความชุกผู้ป่วยวิกฤติในวันที่ 30 ก.ย.จะอยู่ที่ 105 คนต่อวัน ตรงนี้ยังพอรับไหว แต่กรณีผ่อนคลายมาก เปิดทุกกิจการ/กิจกรรม จะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 65 คนต่อวัน ความชุกผู้ป่วยวิกฤติในวันที่ 30 ก.ย.จะอยู่ที่ 289 คนต่อวันยังห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในร้านโฆษก ศบค.กล่าวว่า ในที่ประชุม พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รายงานถึงมาตรการผ่อนปรนในระยะที่ 2 ซึ่งในวันเดียวกันนี้ มีมติผ่อนปรนกิจกรรมที่มีความเสี่ยงแพร่ระบาดในระดับปานกลาง แต่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชน มีผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคมสูง ได้แก่ การผ่อนปรนให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในอาคารสำนักงาน โรงอาหาร หรือศูนย์อาหารภายในหน่วยงาน โดย เปิดให้ซื้อและนำกลับไปบริโภคที่อื่น หรือหากให้บริการในสถานที่นั้นต้องจัดระเบียบการเข้าใช้บริการตามมาตรฐานการป้องกันโรค และยังห้ามการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านให้ห้างสรรพสินค้าเปิดถึง 2 ทุ่มในส่วนของห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า กำหนดให้มีเวลาปิด 20.00 น. ส่วนการควบคุมความหนาแน่นในพื้นที่ ให้ผู้ประกอบการเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม ทั้งนี้ ร้านค้าในห้างฯที่สามารถเปิดได้ อาทิ ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องครัวที่จำเป็น ร้านเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องสำอาง อุปกรณ์กีฬา ร้านทอง เครื่องประดับ ร้านซักอบรีด ร้านประดับยนต์ ร้านล้างรถยนต์ ธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล บริษัทประกันภัย ประกันชีวิต คลินิกเวชกรรม สถานทันตกรรม ร้านเสริมสวยแต่งผม ตัดผม สำหรับสุภาพสตรี และสุภาพบุรุษ อนุญาตเฉพาะตัด สระ ซอยแต่งผม ร้านทำเล็บ ร้านอาหาร ภัตตาคาร ฟู้ดคอร์ต และศูนย์อาหารในห้างฯโรงหนัง สนามพระ ตู้เกมยังปิดนพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับโรงภาพยนตร์ โบว์ลิ่ง ลานโบว์ลิ่ง ลานสเกต คาราโอเกะ สวนน้ำ สวนสนุก สวนสัตว์ พื้นที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ตู้เกม สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส ศูนย์ประชุม ห้องประชุมฮอลล์ โรงเรียนกวดวิชา สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง นวดแผนไทย และสปา ยังไม่อนุญาตให้เปิดบริการ นอกจากนั้น ในส่วนของร้านค้าปลีกและค้าส่งขนาดใหญ่สามารถเปิดให้บริการได้ เช่น ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ร้านเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ รวมถึงตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ เช่น ตลาดสี่มุมเมือง และตลาดไท ต้องดำเนินมาตรการดูแล ควบคุมทางเข้า-ออก วัดอุณหภูมิ รวมถึงเว้นระยะ ห่าง เป็นต้นเสริมความงามเปิดได้เว้นทำหน้าส่วนกิจกรรมด้านการออกกำลังกาย หรือการดูแลสุขภาพ อนุญาตให้เปิดคลินิกเวชกรรมเสริมความงามเฉพาะเรือนร่างผิวพรรณและเลเซอร์ ยกเว้นการเสริมความงามบริเวณใบหน้า สถานควบคุมน้ำหนัก ร้านสัก ร้านเจาะผิวหนัง สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อาบ อบ นวด อบไอน้ำ อบตัว ออนเซน และอบสมุนไพรยังไม่อนุญาตเปิดบริการ เนื่องจากยังมีความเสี่ยงอยู่ปิดต่อสนามมวย โรงเรียนสอนต่อสู้นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของโรงยิม สถานที่ออกกำลังกายในร่ม สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนส อนุญาตเฉพาะกีฬาตามกติกาสากลที่ไม่มี ลักษณะการปะทะกัน อาจเล่นเป็นทีมไม่เกินทีมละ 3 คน ไม่มีผู้ชมการแข่งขัน ได้แก่ แบดมินตัน เซปักตะกร้อ เทเบิลเทนนิส โยคะ สควอซ ฟันดาบ ยิมนาสติก ปีนผา ส่วนสถานที่ออกกำลังกายในส่วนของฟิตเนส เปิดให้บริการเฉพาะส่วนฟรีเวทโดยไม่มีการออกกำลังกายแบบรวมกลุ่มและห้ามใช้เครื่องลู่วิ่ง จักรยานปั่น เครื่อง Elliptical หรือเครื่องออกกำลังกายอื่นๆ ขณะที่สระว่ายน้ำสาธารณะทั้งกลางแจ้งและในร่มให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการตามเลนการว่าย อาจมีอุปกรณ์ขึงกันเลน ความกว้างของเลนต้องไม่น้อยกว่า 7 ฟุต และจำกัดเวลาให้บริการไม่เกิน 1 ชั่วโมง ส่วนสนามมวย โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ สวนน้ำบึงธรรมชาติ กีฬาทางน้ำ เช่น เซิร์ฟบอร์ด เจตสกี บานาโบ๊ต ไม่เปิดให้บริการ เป็นต้นห้ามโรงแรมจัดนิทรรศการ–งานเลี้ยงนพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า ในขณะที่ห้องประชุมในโรงแรม และศูนย์ประชุม เปิดให้บริการเฉพาะการจัดประชุมขององค์กรหรือหน่วยงาน จำกัดผู้เข้าร่วมประชุม ยกเว้นการจัดอบรม สัมมนา จัดแสดงสินค้า นิทรรศการ จัดงานเลี้ยง อีเวนต์ในโรงแรม ศูนย์ประชุม ศูนย์การแสดงสินค้า และสถานที่จัดนิทรรศการนอกจากนั้น ในส่วนของห้องสมุดสาธารณะ แกลเลอรี พิธภัณฑสถานแห่งชาติ อนุญาตให้เปิดบริการได้ ทั้งนี้ กิจกรรมถ่ายภาพยนตร์และวีดิทัศน์อนุญาตให้มีทีมงานหน้าฉากรวมทุกแผนกไม่เกิน 50 คน แต่กรณีฉากที่มีความใกล้ชิด เช่น ฉากต่อสู้ บทรัก ขอให้ใช้เทคนิคพิเศษปรับเวลาเคอร์ฟิวเป็น 5 ทุ่ม–ตี 4โฆษก ศบค.กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการการบังคับใช้กฎหมายต่างๆ ยังคงเดิมทั้งการเดินทางเข้าประเทศ และยังไม่มีการเปิดสนามบินให้เครื่องลง ยกเว้นเฉพาะการขนส่งและกิจกรรมอื่นที่จำเป็น รวมถึงมาตรการเคอร์ฟิวที่ประชุมมีมติให้ปรับเวลาจาก 22.00-04.00 น. เป็นเวลา 23.00-04.00 น. และมาตรการงดหรือชะลอการเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัด ซึ่งจะมีประกาศออกมาคาดว่าภายในวันเดียวกันนี้ ทั้งนี้ มาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 ตามที่ประชุมมีมตินั้นจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.นี้นายกฯตั้งผู้ช่วยโฆษก ศบค.ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะ ผอ.ศบค. มอบหมายทางวาจาให้ พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข เป็นผู้ช่วยโฆษก ศบค. ทั้งนี้ พญ.พรรณประภา กล่าวว่า นายกฯได้มอบหมายให้มาช่วยงาน ศบค. ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.เป็นต้นไปบิ๊กตู่ จับเข่าถก ส.ผู้ค้าปลีก–ประมงส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หลังประชุม ศบค.เสร็จสิ้น ได้ไปพบผู้บริหารสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ที่ชั้น 12 อาคารว่องวานิช ถนนพระราม 9 เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะ และปัญหาความเดือดร้อนจากโควิด-19 จากนั้นเดินทางต่อไปยังสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ที่ถนนพระราม 2 ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ได้โพสต์ข้อความและภาพการพบปะกับสมาคมประมงแห่งประเทศไทย ผ่านเพจเฟซบุ๊กระบุว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ได้รับฟังสถานการณ์ปัญหาและข้อเสนอแนะจากผู้ทำประมงโดยตรง ทั้งเรื่องข้อกฎหมายและแรงงาน ขอบคุณคุณกำจร มงคลตรีลักษณ์ ประธานสมาคมฯ คุณมงคล สุขเจริญคณา คุณบุญชู แพใหญ่ คุณไตรฤกษ์ มือสันทัด คุณสุรเดช นิลอุบล และคุณพรศักดิ์ แย้มกลิ่น สำหรับข้อมูลที่ชัดเจนตรงไปตรงมา เป็นประโยชน์ ขอบคุณที่สละเวลาเดินทางมากลุ่มศูนย์การค้าปรับตัวรอเปิดมีรายงานว่า กลุ่มผู้ประกอบการศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าทุกรายได้เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดศูนย์การค้ามาตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีการแถลงข่าวถึงมาตรการเข้มข้นกว่า 100 มาตรการเข้มขึ้นเพื่อยืนยันถึงความสะอาดและปลอดภัยเมื่อเข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้า นำโดยศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เดอะมอลล์กรุ๊ป และสยามพิวรรธน์ ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ สยามเซ็นเตอร์ สยามพารากอนและไอคอนสยาม โดยทุกรายระบุว่านับตั้งแต่นี้การเข้าไปใช้บริการจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปในยุคชีวิตวิถีใหม่ไทวัสดุเข้มสกัดเชื้อตามนโยบายรัฐนายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ในกลุ่มเซ็นทรัล เปิดเผยว่า ไทวัสดุกว่า 50 สาขาและบ้านแอนด์บียอนด์รวม 7 สาขา ส่วนใหญ่เป็นสาขาในต่างจังหวัด พร้อมเปิดให้บริการทันที หลังรัฐบาลปลดล็อกธุรกิจให้กลับมาเปิดในที่ 17 พ.ค. โดยยังคงคุมเข้มกับระบบบริหารจัดการตามมาตรการป้องกันขั้นสูงสุด ด้วยการเฝ้าระวังเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ตามแนวทางนโยบายของภาครัฐอย่างเคร่งครัดแม็คโครยกระดับจับจ่ายวิถีใหม่ด้านนางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เพื่อเตรียมการรองรับมาตรการผ่อนคลายของภาครัฐในระยะที่ 2 แม็คโคร ร่วมมือกับกรมอนามัย ยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด เสริมจากแนวปฏิบัติหลักของภาครัฐ พลิกโฉมการจับจ่ายวิถีใหม่ปลอดภัย ในสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งจะเน้นการเพิ่มระยะห่าง ลดความแออัดภายในสาขา ลดความเสี่ยงจากการสัมผัส พร้อมมีทีมรักษาระยะห่างคอยย้ำเตือนในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของลูกค้าคือกำหนดจำนวนลูกค้าเข้าสาขา (1 คนต่อ 5 ตารางเมตร) โดยการนับจำนวนคนเข้า-ออก และรายงานจำนวนคนที่อยู่ภายในสาขาทุกครึ่งชั่วโมงและตีเส้นรักษาระยะห่างที่พื้น (Social distancing grid) เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการรักษาระยะห่างของแต่ละบุคคล ในจุดที่มีความหนาแน่น เช่น แผนกอาหารสด แผนกเนื้อสัตว์ และจุดชำระเงิน เป็นต้นโลตัสใช้มาตรการ 4 หลักรับลูกค้านายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า พร้อมให้บริการในส่วนของศูนย์การค้าทันทีหลังภาครัฐปลดล็อกเฟส 2 พร้อมเต็มที่ในการเปิดให้บริการศูนย์การค้า โดยมีมาตรการหลัก 4 หมวดหมู่ตามที่ได้ปฏิบัติมาโดยตลอด กล่าวคือ 1.คัดกรองอย่างเข้มงวด 2.ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ 3.เว้นระยะห่างที่ปลอดภัย และ 4.ลดสัมผัส ลดเสี่ยง นอกจากนั้นยังมีมาตรการเสริมสำหรับร้านค้าแต่ละประเภทภายในศูนย์การค้าเพิ่มเติม ลูกค้าและประชาชนสามารถมั่นใจได้ในความปลอดภัยโรบินสันใช้ตู้อบฆ่าเชื้อ 3 ระบบนายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โรบินสันพร้อมเปิด 100% หลังรัฐไฟเขียวปลดล็อกเฟส 2 วันที่ 17 พ.ค. ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 แผนแม่บท รัดกุม คุมเข้ม ป้องกันโควิด-19 เสริมแกร่ง ชูนวัตกรรม ตู้อบฆ่าเชื้อ 3 ระบบ 360 องศา แห่งแรกและแห่งเดียวในไทย พร้อมทำบิ๊กคลีนนิ่ง 51 สาขาทั่วประเทศ ทั้งห้างและศูนย์ เคลื่อนทัพเดินหน้าชูประสบการณ์ช็อปปิ้งไร้สัมผัส18 พ.ค. บขส.เปิดเดินรถทั่วประเทศวันเดียวกัน นายมาโนช สายชูโต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายธุรกิจ เดินรถ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า บขส.เตรียมเปิดเดินรถในเส้นทางภาคเหนือ 7 เส้นทาง และเส้นทางภาคตะวันออก เฉียงเหนือและภาคตะวันออก 9 เส้นทาง ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.63 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทาง หลังจากที่ บขส.หยุดให้บริการชั่วคราว จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)สายเหนือเปิดเดินรถ 7 เส้นทางสำหรับตารางเดินรถดังนี้ ตารางเดินรถภาคเหนือ มี 7 เส้นทาง ได้แก่ 1.กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ต้นทาง 07.30 น. ปลายทาง 07.30 น. 2.กรุงเทพฯ-เชียงราย ต้นทาง 06.30 น. ปลายทาง 06.30 น. 3.กรุงเทพฯ-อุตรดิตถ์ ต้นทาง 09.00 น.ปลายทาง 08.40 น. 4.กรุงเทพฯ-พิจิตร ต้นทาง 08.30 น. ปลายทาง 09.00 น. 5.กรุงเทพฯ-แม่สอด ต้นทาง 09.00 น. ปลายทาง 09.00 น. 6.กรุงเทพฯ-หล่มเก่า ต้นทาง 08.30 น. ปลายทาง 09.00 น. และ 7.กรุงเทพฯ-คลองลาน ต้นทาง 08.00 น. ปลายทาง 08.00 น.อีสาน–ตะวันออก 9 เส้นทางสำหรับตารางเดินรถภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก 9 เส้นทาง ได้แก่ 1.กรุงเทพฯ-หนองบัวลำภู ต้นทาง 08.45 น. ปลายทาง 08.30 น. 2.กรุงเทพฯ-สกลนคร ต้นทาง 07.30 น. ปลายทาง 08.00 น. 3.กรุงเทพฯ-เชียงคาน ต้นทาง 07.00 น. ปลายทาง 07.30 น. 4.กรุงเทพฯ-สุรินทร์ ต้นทาง 10.30 น. 06.50 น. ปลายทาง 08.40 น. 07.45 น. 5.กรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ 07.40 น. 12.00 น. ปลายทาง 08.00 น. 12.40น. 6.กรุงเทพฯ-กันทรลักษ์ ต้นทาง 07.00 น. ปลายทาง 08.30 น. 7.กรุงเทพฯ-ศรีสะเกษ ต้นทาง 08.00 น. ปลายทาง 08.20 น. 8.กรุงเทพฯ-รัตนบุรี ต้นทาง 09.00 น. ปลายทาง 07.00 น. และ 9.กรุงเทพฯ-จันทบุรี ต้นทาง 06.30 น. ปลายทาง 12.45 น.สายใต้ 3 เส้นทาง เปิด 1 มิ.ย.63สำหรับเส้นทางเดินรถภาคใต้ บขส.เตรียมเปิดให้บริการเดินรถ 3 เส้นทาง ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.63 โดยมีรายละเอียดตารางเดินรถ ได้แก่เส้นทาง 1.กรุงเทพฯ-เกาะสมุย ต้นทาง (หมอชิต 2) 06.00 น. ต้นทาง (สายใต้ใหม่) 06.30 น. ปลายทาง 05.30 น. 2.กรุงเทพฯ-ภูเก็ต หมอชิต 2 ต้นทาง 06.10 น. สายใต้ใหม่ 06.40 น. ปลายทาง 06.45 น. และ 3.กรุงเทพฯ-ตรัง ต้นทาง หมอชิต 06.15 น. สายใต้ 06.45 น. ปลายทาง 06.40 น.เข้มผู้ปฏิบัติความสะอาดในรถนายมาโนชกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ บริษัทมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำหรับพนักงานประจำรถ พนักงานจำหน่ายตั๋ว และพนักงานชานชาลา โดยผู้ปฏิบัติงานต้องดูแลสุขภาพ รักษาความสะอาดอย่างเคร่งครัด ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนปฏิบัติงาน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาในขณะปฏิบัติงาน ด้านรถโดยสารและสิ่งอำนวยความสะดวก บริษัทจัดที่นั่งในรถโดยสารเว้นระยะนั่งอย่างน้อย 1 เมตร ตามนโยบาย Social Distancing ทำความสะอาดรถโดยสาร ห้องน้ำ และจุดที่สัมผัสบ่อย ก่อนและหลังให้บริการ เปิดระบายอากาศภายในรถ นำรถโดยสารจอดตากแดด หลังให้บริการทุกวันอย่างน้อยวันละ 1-2 ชั่วโมงคนนับหมื่นแห่ร้องทุกข์รับ 5 พันส่วนที่ลานอเนกประสงค์ กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์ กระทรวงการคลัง เปิดให้ประชาชนยื่นเรื่องร้องทุกข์กรณีไม่สามารถลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา 5000 บาท วันที่ 15 พ.ค.เป็นวันสุดท้าย ยังมีคนเดินทางมาอย่างหนาแน่นประมาณ 7000-8000 คน มารอต่อคิวตั้งแต่เวลา 04.30 น. เป็นตัวเลขที่เดินทางมาร้องทุกข์มากที่สุดตั้งแต่เปิดโต๊ะรับลงทะเบียนมาตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.63 ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจัดโต๊ะรับเรื่องร้องทุกข์ไว้รับเรื่องร้องเรียนถึง 20 โต๊ะ พร้อมอำนวยความสะดวกทั้งเรื่องอาหาร น้ำดื่ม และสุขา หลังจากนี้ผู้ที่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาจะต้องไปยื่นร้องทุกข์ตามธนาคารของรัฐสาวประชิดตัวร้องทุกข์อุตตมต่อมาเวลาประมาณ 12.30 น. นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เดินมาตรวจดูความเรียบร้อยและรับฟังปัญหาของประชาชน ระหว่างที่กำลังเดิน ออกจากลานอเนกประสงค์เพื่อไปให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน จู่ๆได้มีหญิงรายหนึ่งทราบภายหลังชื่อนางสมหวัง วัฒนา อายุ 53 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ เจ้าของร้านผึ้งซาลอนเข้ามาประชิดตัวยื่นเอกสารและร้องทุกข์กับนายอุตตม จนต้องหันมายืนฟังและสอบถามแต่ยังไม่ทันได้เจรจาจบ เจ้าหน้าที่กันตัว รมว.คลัง ออกจากพื้นที่ไปเสียก่อนบ่นเสียความรู้สึกลิ่วล้อกันตัวหนีนางสมหวังกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ลงทะเบียนขอรับสิทธิ์เยียวยาหลายครั้งไม่เคยได้รับ เนื่องจากระบบตอบกลับมาว่าทำอาชีพเกษตรกร ทั้งที่เป็นช่างตัดผมนานนับสิบปี ขอทบทวนสิทธิ์ก็ถูกตีกลับว่าเป็นเกษตรกรเหมือนเดิม วันนี้มารอร้องเรียนตั้งแต่ ตี 5 ทราบว่า รมว.คลังจะมาตรวจเยี่ยมก็รอแสดงหลักฐานให้ท่านดู นายอุตตมก็ถามมาว่าเดือดร้อนเรื่องอะไร แต่ยังไม่ทันได้คุย นายอุตตมถูกเชิญตัวออกไปก่อน เสียความรู้สึกมาก สงสัยประชาชนไม่มีสิทธิ์ได้คุยกับรัฐมนตรีหรือ ขนาดมีหลักฐานขนาดนี้ยังไม่ได้รับเงินแล้วรายอื่นๆจะขนาดไหน ไล่เลี่ยกันยังมีประชาชนที่มายืนรอต่อคิวยื่นเรื่องร้องเรียน ไม่ได้รับเงินเยียวยายืนร่ำไห้อยู่เจ้าหน้าที่เชิญตัวมาสอบถามทราบชื่อว่า น.ส.บัณฑิตา เหมือนบุญ อายุ 45 ปี ชาว จ.นนทบุรี เจ้าตัวบอกว่าไม่ได้รับเงินเยียวยาเพราะระบบแจ้งว่าเป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ทั้งที่ออกจากงานและไม่ได้ส่งประกันสังคมมานานแล้ว เจ้าหน้าที่รับเรื่องไปดำเนินการติดตามให้อุตตมประสานแบงก์รัฐรับไม้ต่อขณะที่นายอุตตมเปิดเผยหลังจากตรวจเยี่ยมว่า ในวันจันทร์ที่ 18 พ.ค.ได้ประสานสถาบันการเงินของรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ช่วยเปิดพื้นที่ในสาขารับเรื่องร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากส่วนใหญ่ที่มาร้องทุกข์ มีสาเหตุจากลงทะเบียนแล้ว แต่มีปัญหาเงินไม่เข้าหรือการจ่ายเงินติดขัด สาเหตุมาจากการเปิดบัญชี หรือการเปิดพร้อมเพย์ไม่เรียบร้อย เรื่องนี้ธนาคารจะช่วยเหลือได้ดีที่สุด อยากให้ประชาชนไปที่ธนาคารโดยตรง ส่วนปัญหาอื่นๆก็ยังสามารถยื่นเรื่องไว้ได้อยู่ กระทรวงการคลังจะรับเรื่องไว้ และจะไม่ทอดทิ้งกัน ตามชื่อโครงการเปิดเยียวยารอบ 2 ต้องดูสถานการณ์รมว.คลัง กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีผู้ผ่านเกณฑ์แล้ว 14.9 ล้านคน จ่ายเงินแล้วกว่า 14 ล้านคน ส่วนกลุ่มที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ จะดูแลเป็นกรณีว่ามีสาเหตุจากอะไร เช่น บัตรประชาชนไม่ตรงกับชื่อ มาดูแลทบทวนอีกที เป็นต้น ถ้าหากผ่านเกณฑ์จะได้รับเงิน 5000 ทันที ล่าสุดตัวเลขในกลุ่มลงทะเบียนไม่สำเร็จเหลือเพียง 1.1 ล้านคนจาก 1.7 ล้านคน เพราะส่วนหนึ่งตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเกษตรกร สำหรับแนวโน้มสถานการณ์โควิด-19 จะดีขึ้นหรือไม่ และจะมีการจ่ายเงินเยียวยาในเดือนที่ 4 5 และ 6 หรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ ส่วนจะเปิดมาตรการเยียวยาผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือเราไม่ทิ้งกันระยะที่ 2 หรือไม่นั้น ต้องรอดูสถานการณ์โควิด-19 ก่อนคุยรัฐบาลดูแล ปชช.ได้กว่า 40 ล.คนนายอุตตมกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ภายใต้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ในส่วนที่นำมาดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 550000 ล้านบาท แบ่งเป็นช่วยเหลือเกษตรกร 10 ล้านคน จำนวน 5000 บาท 3 เดือน วงเงิน 150000 ล้านบาท กลุ่มประกอบอาชีพอิสระ 15 ล้านคน จำนวน 5000 บาท 3 เดือน จำนวน 225000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นใช้เงินดูแลกลุ่มเหล่านี้แล้วมากกว่า 350000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 200000 ล้านบาท กำลังดูอยู่ว่าจะช่วยเหลือกลุ่มใดได้บ้าง ตอนนี้มีกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ยังเข้าถึงสถาบันการเงินอยู่ อาจจะมีการจัดตั้งกองทุน วงเงินหลายหมื่นล้านบาทแต่ไม่เกิน 100000 ล้านบาท ส่วนในปัจจุบันรัฐบาลช่วยคนแล้ว 3 กลุ่ม กลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ เกษตรกร และกลุ่มประกันสังคม ประมาณ 36 ล้านคน ส่วนที่ไม่ได้อยู่ใน 3 กลุ่มนี้ กำลังดูแลกับหน่วยงานอื่นเพื่อออกมาตรการช่วยเหลือ เช่น คนชายขอบ กลุ่มเปราะบาง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ดูแลอยู่ อีก 10 ล้านคน รวมแล้วรัฐบาลจะช่วยดูแลประชาชนได้ถึงกว่า 40 ล้านคนคลังแจงส่ง SMS คลาดเคลื่อนขณะที่นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค.กระทรวงการคลังได้ส่งข้อความ SMS แจ้งผลพิจารณายื่นขอทบทวนสิทธิ์ภายใต้มาตรการเยียวยา 5000 บาท มีกลุ่มผู้ยื่นขอทบทวนสิทธิ์จำนวน 470000 รายได้รับแจ้งว่าไม่ได้รับสิทธ์ิ เนื่องจากตรวจสอบพบมีชื่ออยู่ในฐานข้อมูลหัวหน้าครัวเรือนเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นหัวหน้าครัวเรือนเกษตรแล้ว 8.3 ล้านคน ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ขออภัยในความคลาดเคลื่อนที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าผู้ขอทบทวนสิทธิ์กลุ่มนี้ยังไม่ได้ถูกตัดสิทธ์ิ โดยจะตรวจสอบคัดกรองให้อีกครั้งกับฐานข้อมูลชุดล่าสุดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยเร็วที่สุดโอน 5 พันเข้าบัญชีแล้ว 14.2 ล.คนนายลวรณกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการทบทวนสิทธิ์ ที่ต้องส่งเจ้าหน้าที่พิทักษ์สิทธิ์ลงพื้นที่ตรวจสอบนั้น พบว่ามีผู้ที่แจ้งที่อยู่ในระบบกับที่อยู่ปัจจุบันไม่ตรงกัน ทำให้ไม่พบตัวผู้ลงทะเบียนประมาณ 70000 คน ขณะนี้ธนาคารกรุงไทยอยู่ระหว่างการติดต่อเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบใหม่อีกครั้ง ส่วนกรณีการแก้ไขเลขบัญชีธนาคารของผู้ขอรับสิทธิ์ แก้ไขไปแล้วประมาณ 50% ปัจจุบันมีผู้ได้รับสิทธิ์เงินเยียวยา 5000 บาทแล้ว 14.9 ล้านคน และโอนเงินเข้าบัญชีแล้ว 14.2 ล้านคน ส่วนที่เหลือคาดว่าจะโอนได้ครบภายในสัปดาห์หน้าเริ่มโอนเงินช่วยเกษตรกรตามสิทธิ์ส่วนมาตรการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. พร้อมจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบรายละ 15000 บาท โดยจ่ายเดือนละ 5000 บาท ระยะ เวลา 3 เดือน (พ.ค.-ก.ค. 63) 10 ล้านราย วงเงินงบประมาณ 150000 ล้านบาท ให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กลุ่มเป้าหมายแรก 8.46 ล้านราย กระทรวงเกษตรฯได้ตรวจความซ้ำซ้อนกับ การให้ความช่วยเหลืออื่นๆของรัฐ เช่น การเยียวยาผู้ประกอบอาชีพอิสระตามมาตรการเราไม่ทิ้งกันของ กระทรวงการคลัง ข้าราชการบำนาญ ผู้รับสิทธิ์ประกัน–สังคม หรือโครงการอื่นๆ และสถานะผู้เสียชีวิต เบื้องต้น มีผู้ได้รับสิทธิ์ช่วยเหลือในกลุ่มแรก 6.77 ล้านรายตรวจสอบด้วยตัวเองผ่านเว็บไซต์นายอภิรมย์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ได้เริ่มทยอยโอนเงิน ผ่าน ธ.ก.ส. ทุกสาขากว่า 1200 สาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.63 วันละประมาณ 1 ล้านราย คาดจะดำเนินการกลุ่มแรกแล้วเสร็จภายในวันที่ 26 พ.ค.63 สำหรับเกษตรกรกลุ่มที่ 2 ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรและการขึ้นทะเบียนใหม่เพิ่มเติม ทั้งนี้ เมื่อได้รับรายชื่อจากกระทรวงเกษตรฯ และผ่านการตรวจสอบความซ้ำซ้อนแล้ว ธ.ก.ส.จะเร่งดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยเร็วต่อไป โดยเกษตรกรสามารถตรวจสอบสถานะ การได้รับสิทธิ์และผลการโอนเงินผ่านเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.comได้ด้วยตนเองจัดคิวรับเงินลดเสี่ยงติดเชื้อนายอภิรมย์กล่าวอีกว่า สำหรับในช่วงเดือน พ.ค.63 ธ.ก.ส. มีโครงการตามนโยบายรัฐบาลที่เข้าไป ช่วยเหลือประชาชนในกลุ่มต่างๆจำนวนมาก เช่น การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เงินเยียวยาตามมาตรการเราไม่ทิ้งกัน เงินประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน จะมีผู้มา ใช้บริการที่สาขาเป็นจำนวนมาก เพื่อลดความแออัดและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตามหลัก การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ทั้งนี้ ธ.ก.ส. แต่ละสาขาจะแจ้งนัดหมายการเบิกจ่ายเงิน สำหรับผู้ใช้สมุดบัญชี เพื่อลดปริมาณผู้มาใช้บริการที่สาขา รวมถึงการเปิดเคาน์เตอร์ช่องทางพิเศษเพื่อตรวจสอบสถานะบัญชี และการประสานกับฝ่ายปกครอง ในพื้นที่ อาทิ ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เป็นต้น ช่วยนัดหมาย เป็นการเฉพาะกิจ เช่น การให้หัวหน้ากลุ่มลูกค้ารวบรวม บัญชีเงินฝากของสมาชิกมาเบิกถอน และกำหนดจุด ออกไปบริการในพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกต่อไปเกษตรกรแห่รับเงินวันแรกคึกคักมีรายงานว่า ในวันที่ 15 พ.ค. เป็นวันแรกของ การรับเงินเยียวยาเกษตรกร 5000 บาท และวันสุดท้าย ในการขึ้นทะเบียนเกษตรกร บรรยากาศที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.ตามจังหวัดต่างๆทั่วประเทศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีกลุ่มเกษตรกรแห่ไปเข้าคิวรอตั้งแต่เช้าเพื่อนำสมุดบัญชีธนาคารไปเช็กยอดเงินที่เข้ามาและถอนเงิน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและไม่มีบัตรเอทีเอ็ม ต้องมาถอนเงินที่ธนาคาร มีกำลังตำรวจ และ อส. คอยอำนวย ความสะดวกและจัดระเบียบการเข้าแถวให้เว้นระยะห่าง รวมทั้งใช้เจลล้างมือก่อนเข้าธนาคาร ส่วนบรรยากาศการขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่สำนักงานเกษตร ปศุสัตว์ และประมง ตามจังหวัดต่างๆเต็มไปด้วยกลุ่มเกษตรกรทั้งรายใหม่และรายเก่าที่ไปขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรจำนวนมากเช่นกัน เนื่องจากหลายรายยังมีปัญหาเรื่องเอกสารที่ยังไม่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันให้บริการกรอกข้อมูลตรวจสอบประวัติและหลักฐานต่างๆ เพื่อขึ้นทะเบียนให้ทันไม่ให้พลาด ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลปิดรับขึ้นทะเบียนเกษตรกรรับ 5 พันขณะที่นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ตามที่กรมส่งเสริมการเกษตรได้เปิดรับขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่งทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1 พ.ค. ขณะนี้ได้ปิดรับขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรแล้ว เมื่อเวลา 16.30 น.ของวันที่ 15 พ.ค.63 เพื่อรวบรวมรายชื่อเกษตรกรที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อรับเงินเยียวยาจากรัฐ 5000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ขั้นตอนต่อไปจะส่งข้อมูลให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คัดกรองภายในวันที่ 22 พ.ค.63 และส่งให้กระทรวงการคลังพิจารณาจ่ายเงินผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นเกษตรกรรอบต่อไป โดยเกษตรกรด้านพืชที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ตรวจสอบสถานะความเป็นเกษตรกรได้ที่ http://farmer.doae.go.th/และติดตามผลการโอนเงินได้จากเว็บไซต์ของ ธ.ก.ส. www.เยียวยาเกษตรกร.comหรือตู้ปรับสมุดหน้า ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ และจากตู้ ATM ทุกธนาคารจ้างแดนเซอร์สาวตกงานเก็บทุเรียนจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดนี้ หลายคนตกงานต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพประทังชีวิต ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่า มีกลุ่มแดนเซอร์สาวสวยมารับจ้างตัดรับทุเรียนในสวน นายสนอง ตรงชื่น อายุ 50 ปี เจ้าของสวนป๋าต้อย ต.ชากโดน อ.แกลง จ.ระยอง เผยว่า ได้ว่าจ้างสาวๆแดนเซอร์ 6 คนจากวงดนตรีต้นอ้อสะบัดช่อ อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี มาตัดรับขนทุเรียนจากต้น เพื่อขายให้พ่อค้านำไปส่งตลาด สาเหตุจากก่อนหน้านี้มีน้องแดนเซอร์หลายคนถามว่ามีงานอะไรให้ทำบ้าง ไม่มีใครว่าจ้างวงดนตรีเกือบ 2 เดือนแล้ว บอกว่ามีแต่งานลำบาก เหนื่อย เสี่ยงด้วย จะทำได้หรือไม่ คิดว่าพวกสาวๆคงไม่ทำ แต่ทุกคนมาทำเพราะไม่มีเงินใช้ ให้ค่าจ้างวันละ 1 พันบาท ทำงานไม่แพ้พวกผู้ชาย รับลูกทุเรียนจากต้นสูงได้สบาย และยังรับจ้างเก็บเงาะเก็บลองกองด้วย น.ส.ธิติรดา พินิจ อายุ 37 ปี เจ้าของวงดนตรีและหัวหน้าทีมแดนเซอร์กล่าวว่า ต้องทำงานทุกอย่างที่ทำได้ ไม่ทำก็อดตาย ในทีมงานมี 25 คนต้องช่วยกันต่อไปโลงศพทำตู้ปันสุขที่นครสวรรค์ส่วนเรื่องดีๆที่เกิดขึ้นในสถานการณ์วิกฤติที่ไม่มีประเทศไหนเหมือน คือเรื่องของตู้ปันสุข ที่แพร่ไปทุกชุมชนทั่วประเทศ โดยที่ร้านฮะหลี 9 หีบศพ ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์ นายโกศล พุทธเจริญลาภ อายุ 43 ปี เจ้าของร้านดัดแปลงโลงศพ 3 โลง และโลงจำปา 1 โลง มาทำเป็นตู้ปันสุข เพื่อแบ่งปันสิ่งของรับบริจาคให้ผู้ยากไร้ มีผู้นำสิ่งของมาบริจาคและมีผู้ที่มารับสิ่งของตลอดทั้งวัน นายโกศลกล่าวว่า อยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันและรับบริจาคสิ่งของ แต่ที่ร้านไม่มีตู้หรือโต๊ะวางสิ่งของได้เลย จึงใช้โลงศพที่ขายอยู่ในร้านมาดัดแปลง ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี มีพระสงฆ์ ภิกษุณี ประชาชนทั่วไปนำสิ่งของมาบริจาคด้วยรอยยิ้ม คนที่มารับของก็มีรอยยิ้มเช่นกัน ตู้ปันสุขแห่งนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด ไม่มีคนเฝ้า ขอให้คนที่มารับของหยิบได้คนละ 2 ชิ้นเพื่อให้ได้รับกันอย่างทั่วถึงตู้ปันธรรม แห่งแรกในภาคใต้ที่โรงทานวัดไทรงาม ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา เปิด ตู้ปันธรรม วันแรกและเป็นแห่งแรกของภาคใต้ โดยพระครูปลัดยอดโดม สิริปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดเป็นผู้แทนโครงการ ท้องอิ่ม ธรรมอุ่น ตั้งตู้ปันธรรม ปันรักษ์ เสริมทัพตู้ปันสุขให้อิ่มทั้งกาย อิ่มทั้งปัญญา ของท่าน ว.วชิรเมธี (ท่านเจ้าคุณพระเมธีวชิโรดม) ผู้ริเริ่มโครงการ เพื่อพัฒนาทั้งผู้รับและผู้ให้ ยกระดับสังคมไทยพ้นความเห็นแก่ตัวสู่สังคมแห่งการให้ ตู้ปันธรรมใช้ตู้พระไตรปิฎกใส่หนังสือธรรมะคู่มือดับทุกข์พร้อมคติธรรม วางติดกับตู้ปันสุขที่มีสิ่งของไว้ให้คนยากจนบรรเทาความเดือดร้อน ทุกวันมีประชาชนมาหยิบของในตู้จำนวนมาก พระสงฆ์สามเณรและจิตอาสาต้องมาช่วยกันนำของมาเติมให้เต็มตู้ นอกจากนี้เจ้าอาวาสวัดไทรงามยังได้แจกจ่ายอาหารให้กับประชาชนทุกวันด้วยตร.มีนบุรีร่วม กต.ตร.ตั้งตู้ปันสุขวันเดียวกัน ที่หน้า สน.มีนบุรี พ.ต.อ.คมฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สน.มีนบุรี และนายบัญชา รัชตวุฒิมงคล ประธาน กต.ตร.สน.มีนบุรี ร่วมกันเปิดโครงการ ตู้ปันสุข แบ่งปันให้พี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาวิกฤตการณ์โควิด-19 พ.ต.อ.คมกฤษณ์กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดทำโครงการ รับอาหารฟรีครับ เพื่อสู้ภัยโควิด-19 ให้ข้าราชการตำรวจจากหน่วยงานในสังกัดที่นำสิ่งของอุปโภค บริโภคที่จำเป็นไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ร่วมกับนายบัญชา และคณะ กต.ตร. ตั้งตู้ปันสุขไว้หน้าสน. พร้อมนำเครื่องอุปโภคบริโภคมาใส่ตู้ปันสุขเพื่อให้ประชาชนที่เดือดร้อนจากการแพร่ระบาดโควิด-19 นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ขณะที่นายบัญชากล่าวว่า ขอขอบพระคุณผู้ที่ได้นำเครื่องอุปโภคบริโภคมาใส่ตู้ปันสุข ขอเป็นให้กำลังใจในการฝ่าฟันวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน สุขทั้งคนให้ ได้ทั้งคนรับ หยิบไปแค่พอดี ถ้าท่านมีใส่ตู้แบ่งปัน ตามนโยบาย สน.มีนบุรียินดีรับใช้ ห่วงใยประชาชนกวาดของ ตู้ปันสุข โร่เอามาคืนส่วนกรณีมีผู้หญิง 3 คนวนเวียนมากวาดของในตู้ปันสุขหน้าร้านอาหารริมถนนกองพลสิบ เขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ขนขึ้นรถยนต์ไปจนหมดเกลี้ยง มีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ จนเจ้าของร้านต้องนำตู้ไปเก็บไว้เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น พ.ต.อ.พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด ส่งชุดสืบสวนติดตามกลุ่มหญิงที่อยู่ในคลิปทั้ง 3 คน มาพบที่โรงพักเพื่อป้องปรามพฤติกรรมที่ทำไม่เหมาะสม กลุ่มหญิงที่ก่อเหตุอ้างว่าได้รับการร้องขอจากคนชรา ผู้พิการ และเด็กให้หยิบสิ่งของมาเผื่อ เลยต้องหยิบของออกไปจากตู้เป็นจำนวนมาก จากนั้นทั้ง 3 คน จะนำสิ่งของไปคืน แต่เจ้าของเก็บตู้ปันสุขไปแล้ว จึงนำของไปใส่ตู้ปันสุขในตลาดทุ่งเจริญแทน เพื่อแบ่งปันให้ผู้ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤติโควิด-19 ต่อไปยกเลิกเปิดสนามบินภูเก็ตหลังจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตมีมติเห็นชอบให้เสนอเรื่องไปยังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เพื่อขอให้เปิดใช้ท่าอากาศยานภูเก็ตในวันที่ 16 พ.ค. หลังจากมีคำสั่งให้ปิดบริการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. ขณะที่ท่าอากาศยานภูเก็ตพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการแล้วนั้น ล่าสุดมีประกาศจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ให้ยกเลิกการเปิดให้บริการท่าอากาศยานภูเก็ตออกไปก่อนจนกว่าจะมีประกาศอื่นเปลี่ยนแปลง แม้ว่า จ.ภูเก็ตสามารถควบคุมยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ด้วยสถานการณ์ที่ยังถือว่ามีความเสี่ยงที่ต้องติดตามดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคไปสู่พื้นที่อื่นและป้องกันไม่ให้โรคกลับมาแพร่ระบาดใหม่ในพื้นที่ได้อีกสนามบินสมุยเปิดให้บริการแล้วแต่อีกฝั่งทะเล ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 10.30 น. เปิดให้ผู้บริการเที่ยวบินเดินทางมาจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นวันแรกทั้งไปและกลับ 2 เที่ยวบิน หลังปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. เที่ยวบินแรกเป็นสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบิน PG119 มีผู้โดยสาร33 คน เมื่อเดินทางมาถึงมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและฝ่ายปกครองตั้งจุดคัดกรองผู้โดยสาร แยกซักประวัติ 2 ส่วน ส่วนแรกผู้เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดน้อย ส่วนที่ 2 ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดมากจะถูกคัดกรองอย่างละเอียดขึ้น และต้องแจ้งที่พักอาศัยในพื้นที่เกาะสมุยให้เจ้าหน้าที่ทราบ รวมทั้งขอให้กักตัวเองอยู่บ้านเป็นเวลา 14 วัน แต่ละวันจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ อสม.เข้าตรวจวัดไข้ที่บ้านทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดบนเกาะสมุย | ที่ประชุม ศบค.มีมติผ่อนปรนระยะ 2 เปิดห้างสรรพสินค้า ร้านขายอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านและการก่อสร้าง 17 พ.ค.นี้ 10 โมงถึง 2 ทุ่ม อีกทั้งเห็นชอบให้ขยับเวลาเคอร์ฟิวไปเป็น 23.00-04.00 น. | ข่าว,ทั่วไทย | โควิด-19,ข่าวหน้า1,ผ่อนปรนระยะ 2,เยียวยาเกษตรกร,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ไฮไลต์ไวรัสโคโรน่า,ห้างเปิด,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1845448 |
Socialphobia ภาพยนตร์สะท้อนปัญหาเนติเซน-โลกโซเชียลฯ เกาหลีที่ไม่มีใครอยากตกเป็นเหยื่อ | ท่ามกลางข่าวการเสียชีวิตของสองไอดอล ซอลลี่ และคูฮารา ส่งผลให้เกิดกระแสเรียกร้องให้ผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับการระรานบนไซเบอร์ หรือ Cyberbullying โดยจะใช้ชื่อว่า Sulli Law เพราะสาเหตุการเสียชีวิตของซอลลี่ รวมถึงคูฮารา หลายฝ่ายต่างลงความเห็นว่าเกิดจากแรงกดดันที่พวกเธอได้รับจาก Cyberbullying โดยเฉพาะคูฮาราที่ต้องโศกเศร้าจากการที่เพื่อนรักเสียชีวิต และยังได้รับคอมเมนต์แง่ลบกระหน่ำซ้ำเติม ไม่รวมปัญหาคดีความกับคนรักเก่า ขณะเดียวกันก็มีข่าวอีกด้านว่าเนติเซนได้คอมเมนต์ถึง นัมแทฮยอน อดีตสมาชิกวง WINNER เพื่อนสนิทของซอลลี่และคูฮาราว่า คุณคือคนต่อไปยังไม่นับรวมเหล่าศิลปินที่ต้องหยุดพักงานในวงการบันเทิงไปด้วยโรคซึมเศร้า อย่างกรณีล่าสุด คังแดเนียล ไอดอลชื่อดังที่เปลี่ยนจากเด็กหนุ่มที่มีรอยยิ้มร่าเริงอยู่เสมอ เข้าพักรักษาตัวด้วยอาการซึมเศร้าและตื่นตระหนก ซึ่งเหตุผลสำคัญคือการถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบอยู่ตลอดเวลาหลังจากเขาหมดสัญญากับวง Wanna Oneต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ มีทั้งโลกความเป็นจริงและโลกเสมือนในโซเชียลมีเดียที่เราจะกลายเป็นใครหรือมีนิสัยแบบไหนก็ได้ ยิ่งในสังคมที่มีความกดดันเป็นพื้นฐาน การได้ระบายออกซึ่งความรู้สึกคับแค้นต่างๆ ผ่านช่องทางที่ไม่มีใครรู้ตัวตนจึงกลายเป็นตัวแปรที่มีนัยสำคัญและถ้าจะทำความรู้จักเนติเซนเกาหลีใต้ การแพร่กระจายข่าว ขยี้ข่าว ขุดปมดราม่าในโลกโซเชียล ภาพยนตร์เรื่อง Socialphobia น่าจะเป็นหนึ่งทางเลือกที่ทำให้เราเห็นภาพความจริงในสังคมที่โลกเสมือนกับโลกจริงมาทับซ้อนกัน เมื่อทุกคนพร้อมจะพิมพ์โจมตีกันและกันราวกับว่าเคียดแค้นกันมาจากชาติปางไหนSocialphobia เป็นภาพยนตร์ทริลเลอร์ในปี 2015 ถ่ายทอดเรื่องจริงในหน้าข่าวช่วงนั้น เกี่ยวกับเนติเซนที่ร่วมกันขุดคุ้ยเรื่องราวจนกลายเป็นประเด็นดัง ผลงานกำกับแรกของ ฮงซอกแจ ที่รับหน้าที่เขียนบทด้วยตัวเอง เปิดฉากมาด้วยตัวเอกของเรื่อง จีอุง (รับบทโดย บยอนโยฮัน) ระหว่างรอรถไฟเดินทางไปเรียนพิเศษเพื่อสอบเป็นตำรวจ เขาปิดกั้นข่าวสารจากโลกภายนอกด้วยการใส่หูฟัง จึงไม่รู้ว่าระหว่างนั้นเนติเซนต่างส่งต่อ คอมเมนต์ พูดคุยกันเรื่องข่าวการฆ่าตัวตายของจ่าสิบเอกหนีทหารคนหนึ่ง เสียงส่วนใหญ่เสียใจกับการตายของเขา ยกเว้น เรนา หรือ มินฮายอง (รับบทโดย ฮายุนคยอง) ที่โพสต์ข้อความดูหมิ่นผู้ตายว่า ขอให้มีความสุขในนรกนะโพสต์ของเรนากลายเป็นประเด็นดราม่าทันที เนติเซนรุมกันเข้าไปด่าเธอ นังโสเภณีหน้าโง่ พร้อมติดแฮชแท็กที่กลายเป็นเทรนดิ้ง เรนาไม่หยุดเท่านั้น ยังคงต่อปากต่อคำอย่างเผ็ดร้อน เธอจุดไฟแห่งความเคียดแค้นในโลกโซเชียลขึ้นมา เนติเซนต่างร่วมกันขุดคุ้ยว่าเธอคือใคร เรียนที่ไหน ประวัติความเป็นมาอย่างไร จนนำไปสู่การล่าแม่มด เมื่อแชนแนลของ ยางเก (รับบทโดย รยูจุนยอล) ประกาศหาเพื่อนร่วมทีมเดินทางไปตามล่าเธอ ในช่วงนี้เองที่เราได้เห็นว่าร้านอินเทอร์เน็ตที่เป็นแหล่งรวมตัวของวัยรุ่นกลายเป็นสมรภูมิย่อมๆ หลายร้อยหน้าจอร่วมกันปั่นแฮชแท็ก ขยี้ปมดราม่า ระบายความคับแค้นผ่านการคอมเมนต์ด่าทอเรนา จีอุงที่ดูไม่ได้สนใจข่าวนี้เท่าไรนักก็โดนเพื่อนยุให้ทำด้วย ก็แค่คอมเมนต์เดียว หยิบมือถือแกขึ้นมา หรือในตอนที่เขาถามเพื่อนว่า เราจะทำกันจริงๆ เหรอ เพื่อนก็ตอบเขาเพียงว่า ทวีตความในใจนายไงการไลฟ์สดของกลุ่มวัยรุ่นที่พากันไปตามล่าเรนาถึงห้องพัก กลายเป็นจุดพลิกผันของเรื่องราว และทำให้กลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้เข้าไปข้องเกี่ยวกับคดีความ พวกเขาใช้โซเชียลมีเดียในการตามหาความจริงและตัวคนร้าย แต่กระนั้นพวกเขาก็ต้องพบว่าในวันหนึ่งกลับเป็นพวกเขาเองที่ถูกล่าแม่มดและมีชะตากรรมไม่ต่างไปจากเรนา โลกโซเชียลที่พร้อมจะถล่มใครสักคนจนแหลกคามือ และเมื่อมีเหยื่อรายใหม่เข้ามา ก็พร้อมจะทิ้งสิ่งชำรุดที่ถูกทำลายพังยับเยินนั้นไปเสียผู้กำกับฮงซอกแจเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับภาพยนตร์ Socialphobia ไว้ว่า เวลาคนเราโดนโจมตีทางออนไลน์ มีการเปิดเผยตัวตน ข้อมูลจริง ขุดคุ้ยไปถึงครอบครัว เพื่อนร่วมงาน โดยปกติแล้วคนคนนั้นจะกลัวและจะอยู่เงียบๆ แต่เรนาไม่ใช่แบบนั้น เธอยังก้าวร้าวต่อไปจนทำให้เนติเซนโกรธ มีการตั้งกลุ่มออนไลน์เพื่อตามล่าตัวเธอในโลกความเป็นจริง แต่นั่นก็ไม่ใช่ตอนจบของเรื่อง ผมต้องการโฟกัสไปที่คำถามว่าทำไมกลุ่มวัยรุ่นถึงต้องการตามล่าเรนาด้วยการบุกไปบ้านเธอ การที่โลกออนไลน์เดินทางไปพบกับโลกความเป็นจริง และพวกเขามีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อเจอกับเรื่องไม่คาดคิดหลังจากนั้นในภาพยนตร์เราจะเห็นบรรยากาศความกดดันในการเตรียมสอบ การเรียนกวดวิชาที่หนักหน่วง การที่ตัวละครจีอุงเก็บสมาร์ทโฟนใส่ลิ้นชักแล้วเขียนโน้ตไว้ว่า เปิดใช้ได้เมื่อสอบเสร็จ บรรยากาศกดดันของชีวิตในเมืองใหญ่ สภาพอากาศหนาวเหน็บ การเรียนอย่างหนักเพื่อสอบแข่งขันให้ผ่าน เพื่อการยอมรับว่าเราเก่งพอ เพื่อการงานที่ดี เพื่อชีวิตที่ดีในวันข้างหน้า เหล่านี้กลายเป็นน้ำหนักที่กดทับบนบ่าของทุกคนเราต่างอยากปลดเปลื้องน้ำหนักน้ันให้เบาบางออกไป หนทางที่จะถ่ายทอดความอึดอัดในใจที่ไม่อาจแสดงออกในชีวิตจริง ทำให้โซเชียลมีเดียที่เราผูกพันมากมายในชีวิตทุกวันนี้กลายเป็นทางออก เราส่งออกความเครียดความเหนื่อยล้าผ่านโพสต์ต่างๆ ในระดับที่แตกต่างกัน นินทานาย ขายเพื่อน ประชดรัก ไปจนถึงการร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างเผ็ดร้อน โยนความอึดอัดไปสู่บุคคลที่ตกเป็นประเด็นดราม่าในขณะนั้นSocialphobia ทำให้เห็นว่าชีวิตเด็กเตรียมสอบปกติธรรมดากลุ่มหนึ่งก็พร้อมกลายร่างเป็นปีศาจได้ เช่นเดียวกับผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่โต้ตอบผู้คนอย่างไม่เกรงกลัว ในวันที่เราร่วมคอมเมนต์เป็นเนติเซนที่ระบายความคับข้องหมองใจผ่านดราม่าต่างๆ เมื่อถึงวันหนึ่งที่เราตกอยู่ในสถานการณ์โดนรุมทำร้ายบ้าง เราจะทำอย่างไร เจ็บปวดขนาดไหน และใครจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ?ตัวอย่างภาพยนตร์พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้าอ้างอิง: | ถ้าจะทำความรู้จักเนติเซนเกาหลีใต้ การแพร่กระจายข่าว ขยี้ข่าว ขุดปมดราม่าในโลกโซเชียล ภาพยนตร์เรื่อง Socialphobia น่าจะเป็นหนึ่งทางเลือกที่ทำให้เราเห็นภาพความจริงในสังคมที่โลกเสมือนกับโลกจริงมาทับซ้อนกันเวลาคนเราโดนโจมตีทางออนไลน์ มีการเปิดเผยตัวตน ข้อมูลจริงของเรา ดราม่าดูจะใหญ่โต คนคนนั้นโดนขุดคุ้ยไปเรื่อยๆ โดยปกติแล้วคนคนนั้นจะกลัวและจะอยู่เงียบๆ แต่เรนาไม่ใช่แบบนั้น เธอยังก้าวร้าวต่อไปจนทำให้เนติเซนโกรธแค้น จนมีการตั้งกลุ่มออนไลน์เพื่อตามล่าตัวเธอในโลกความเป็นจริง | null | null | https://thestandard.co/socialphobia/ |
ห้องเรียนบ้านปากบางตาวา: บทเรียนการกำจัดขยะในชุมชน | ขยะเป็นปัญหาโลกแตกจะจัดการอย่างไงดี?นอกจากขยะในหมู่บ้านที่มีเยอะแล้ว ขยะที่ไหลมาพร้อมกับคลื่นทะเลก็เป็นปัญหาใหญ่สำหรับชาวปัตตานีด้วยเช่นกันวันนี้ ณ หมู่บ้านเล็กๆ ในจังหวัดปัตตานี ชื่อ ม.บางตาวา ม. 1 ได้ทำกิจกรรมเก็บขยะขึ้น โดยมีนักเรียนในหมู่บ้าน ชาวบ้าน ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ปลัด อบต. อบต. คุณครู แกนนำชุมชน มาช่วยกัน โดยมีอาจารย์จาก มอ.ปัตตานี และทีมงาน TPBS เป็นสื่อกลางที่ทำให้เกิดกิจกรรมในครั้งนี้ก่อนหน้านี้เวลาเข้าไปเยี่ยมชุมชนทุกครั้ง เราก็คุยกันเรื่องขยะ แต่ยังไม่ได้คุยกันว่า เราจะจัดการกับมันอย่างไร ตัวเองสนใจเรื่องขยะ เพราะโยงกับประเด็นเรื่องภัยพิบัติในชุมชน หมู่บ้านนี้เผชิญกับภาวะน้ำท่วม และพายุบ่อยครั้ง เนื่องจากอยู่ติดทะเล เมื่อน้ำมาพร้อมขยะ ก็นำพาโรคต่างๆ มาด้วย เช่น ตาแดง โรคน้ำกัดเท้าแต่ประเด็นหลักที่เราคุยร่วมกันคือ ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า ขยะ ในหมู่บ้านของฉันเป็นปัญหา นอกจากจะทำให้วิวทิวทัศน์ดูไม่สวยงามแล้ว ขยะยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมลงวันและยุง ส่งผลต่อสุขภาพและสุขภาวะของชุมชนอีกด้วย ที่สำคัญหมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่อง ปลาตากแห้ง และปลากุเลาเค็ม ถ้าแมลงวันเยอะๆ จะส่งผลกระทบกับธุรกิจของท้องถิ่นนั้นเองอีกอย่าง ตอนนี้บางตาวาเริ่มมีชื่อเสียง หมู่บ้านกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ถ้าใครจะไปใครจะมา พอมาเห็นสภาพขยะเยอะแยะเต็มไปหมด ชุมชนก็ดูไม่น่ามอง คนข้างนอกอยากจะมาซื้อของช่วยอุดหนุนชาวบ้าน แต่ก็กล้าๆ กลัวๆ เพราะไม่รู้ว่าผลิตภัณฑ์จะสะอาดพอหรือไม่ในอดีตหมู่บ้านเเห่งนี้เคยมีโครงการ ขยะแลกไข่ โครงได้ผลดีมาก ขยะหายเกลี้ยงทั้งหมู่บ้าน แต่มีแค่แป๊ปเดียว จากนั้นก็ไม่มีอีกเพราะงบประมาณหมด สุดท้ายขยะก็กลับมาอีกอบต. มีรถขนขยะ ต้องนำขยะในหมู่บ้านไปขนทิ้งในที่ๆ เช่าไว้ วันละ 1 ตัน ตันละ 500 บาท ลองคำนวนคร่าวๆ ว่า หมู่บ้านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดการขยะเพียงอย่างเดียว คือ 1 เดือน x 30 วัน = 15000 บาท ถ้า 15000 บาท x 12 เดือน = 180000 บาท ใช่ หมู่บ้านต้องเสียค่ากำจัดขยะถึง 180000 บาท/ปี และเงินจำนวนนี้สามารถนำไปใช้จ่ายหมวดอื่นๆ ได้ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของชุมชน การดูแลสุขภาพและสุขอนามัยของแม่และเด็กปลัดแก้ม อบต.บางตวาบอกว่า ถ้าอบต.ไม่ต้องเสียงบประมาณส่วนนี้ ก็จะนำเงินมาใช้พัฒนาในด้านอื่นๆ อีกคุณครูโรงเรียนบ้านบาตาวาบอกนักเรียนว่า ขยะพวกพลาสติก ขวดน้ำขายได้ราคากิโลละ 15-18 บาท ขยะพวกกระดาษขายได้กิโลละ 1 บาท นักเรียนจะได้ตังค์กินขนมไปโรงเรียนโดยไม่ต้องขอผู้ปกครองแกนนำชาวบ้านกระซิบว่า จริงๆ แล้ว ขยะสามารถจัดการได้ในช่วงฤดูมรสุม เพราะเวลานี้ชาวบ้านจะออกเรือหาปลาไม่ได้ น่าจะมาช่วยกันเก็บขยะมันทำให้นึกถึงว่าขยะเป็นเรื่องที่ไร้พรมแดนจริงๆ เพราะจำได้ว่าเพื่อนนักวิชาการนักชีววิทยาทางทะเลชาวออสเตรเลีย ต้องเริ่มเก็บขยะในทะเล ก่อนทำวิจัยพวกปลาหายาก หรือปะการังแถบ Great Barrier Reef แล้วก็บ่นๆ ว่า ขยะที่ว่าก็ลอยมาจากประเทศแถบเอเชีย และประเทศไทยนั้นเองกิจกรรมในวันนี้ นักเรียนและชาวบ้านช่วยกันเก็บขยะกันมาคนละชิ้น เเละเราได้ขยะกองโต ซึ่งมีทั้งที่ย่อยสลายได้และย่อยสลายไม่ได้ ส่วนที่ย่อยสลายได้ เช่น กากมะพร้าว ส่วนที่ย่อยสลายไม่ได้ เช่น ถุงพลาสติก และบรรจุภัณฑ์ใส่ขนม made from กรุงเทพ แต่มาไกลถึงปัตตานี ตอนไปเก็บขยะริมชายหาดวันนี้ เห็นชัดเลยว่าหาดทรายไม่สวยเหมือนเมื่อ 6 ปี ทีแล้วจริงๆ เมื่อก่อน แถวนี้สวยมาก มีเปลือกหอยเล็กๆ น่ารักมากมาย ทรายสีขาว เนียน สะอาด | ขยะเป็นปัญหาโลกแตกจะจัดการอย่างไงดี?นอกจากขยะในหมู่บ้านที่มีเยอะแล้ว ขยะที่ไหลมาพร้อมกับคลื่นทะเลก็เป็นปัญหาใหญ่สำหรับชาวปัตตานีด้วยเช่นกันวันนี้ ณ หมู่บ้านเล็กๆ ในจังหวัดปัตตานี ชื่อ ม.บางตาวา ม. | สังคม,คุณภาพชีวิต,สิ่งแวดล้อม | อลิสา หะสาเมาะ,การจัดการขยะ,ขยะแลกไข่ | https://prachatai.com/journal/2019/06/83198 |
ขสมก.-รฟท.ยืนยันยังไม่ปรับค่าโดยสารตามแผนฟื้นฟูองค์กร | นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมเรื่องแผนฟื้นฟูองค์กรร่วมกับผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยระบุว่า ได้ให้ทั้ง 3 หน่วยงานนำแผนฟื้นฟูที่จัดทำไว้แล้วไปปรับปรุงใหม่ โดยให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินการที่จะเพิ่มทั้งรายรับและลดรายจ่าย เนื่องจากในแผนฟื้นฟูเดิม ส่วนใหญ่เป็นแผนปรับลดค่าใช้จ่ายอย่างเดียวปัจจุบันรถเมล์ ขสมก.เก็บค่าโดยสารที่ 6.50 บาท ขณะที่รถเมล์เอกชนร่วมบริการ เก็บค่าโดยสาร 9 บาท ส่วนรถไฟ เก็บค่าโดยสารสถานีละ 2 บาท และรถไฟฟ้า สถานีแรก 15 บาท จึงให้ทั้ง 2 หน่วยงานไปศึกษาว่าค่าโดยสารที่ยุติธรรมควรอยู่ที่ราคาเท่าใด โดยให้บรรจุอยู่ในแผนฟื้นฟูด้วยและให้นำมาพิจารณาอีกครั้งก่อนเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) วันที่ 19 ม.ค.2561นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า การปรับค่าโดยสารเป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูองค์กรที่จะทำให้การรถไฟฯ กลับมามีรายได้ แต่ยืนยันว่าแม้ระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา การรถไฟฯ จะไม่เคยปรับอัตราค่าโดยสาร แต่เรื่องดังกล่าวยังเป็นเพียงแนวคิดเท่านั้นและการปรับค่าโดยสารจะไม่มีการปรับในช่วงเร็วๆ นี้แน่นอน เนื่องจากต้องศึกษาก่อนด้านนายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการองค์การขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ขสมก.) เปิดเผยว่า ในแผนฟื้นฟูของ ขสมก.มีการเสนอให้จัดซื้อรถเมล์ใหม่ การปรับปรุงสภาพรถเมล์ และการปรับอัตราค่าโดยสาร เพื่อให้องค์กรกลับมามีรายได้ แต่การปรับค่าโดยสารใหม่นั้น ขสมก.จะต้องมีรถเมล์ใหม่มาให้บริการแก่ประชาชนก่อน นอกจากนี้ ขสมก.จะต้องศึกษาในเรื่องจุดต้นทุนมาตรฐาน รวมถึงพิจารณาค่าโดยสาร เมื่อเปรียบเทียบกับระบบขนส่งอื่นๆ รวมถึงจะต้องให้ คนร.เห็นชอบก่อนจึงจะสามารถปรับค่าโดยสารได้ | ผู้บริหารของการรถไฟแห่งประเทศไทยและ ขสมก. ยืนยันยังไม่ปรับอัตราค่าโดยสาร ระบุจะต้องศึกษาผลกระทบการปรับค่าโดยสารก่อน แม้ว่าการปรับค่าโดยสารจะอยู่ในแผนฟื้นฟูที่จะทำให้องค์กรกลับมามีรายได้ | เศรษฐกิจ | ขสมก.,การรถไฟแห่งประเทศไทย,ปรับอัตราค่าโดยสาร,แผนฟื้นฟูองค์กร,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/269228 |
สหรัฐฯ ยังมึน ควานต้นเหตุ กลุ่มควันไฟสถานีรถไฟใต้ดิน ดับ 1 โคม่า 2 | อาการโคม่า 2 ราย และสำลักควันไฟจนต้องถูกหามส่ง รพ.กว่า 80 ราย ขณะที่ผู้โดยสารบนรถไฟใต้ดินเผยวินาทีระทึก ควันไฟหนาทึบมากจนมองไม่เห็นหน้ากัน และมีบางคนเริ่มสวดมนต์แล้ว เพราะเหมือนกำลังจะตาย,เมื่อวันที่ 13 ม.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์เกิดกลุ่มควันไฟหนาทึบภายในสถานีรถไฟใต้ดิน ลองฟองต์ (LEnfant) ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐฯ ช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 12 ม.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น) จนต้องมีการปิดสถานีรถไฟแห่งนี้เป็นการชั่วคราว พร้อมกับเจ้าหน้าที่รีบอพยพประชาชนออกจากสถานีรถไฟ ขณะที่ มีประชาชนเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว 1 ราย มีอาการโคม่า 2 ราย และอีก 81 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล,ข่าวแจ้งว่า ถึงแม้ สถานีรถไฟ ลองฟองต์ ถูกปิดเป็นเวลาหลายชั่วโมง และกลุ่มควันไฟในสถานีรถไฟใต้ดินได้จางหายไปหมดแล้ว แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่มาของกลุ่มควันไฟว่าเกิดจากอะไร โดยคณะกรรมการสำนักงานการขนส่งแห่งชาติและความปลอดภัยกำลังสืบหาสาเหตุของกลุ่มควันไฟอยู่ว่าเกิดจากเหตุใด,ด้าน โฆษกกองดับเพลิงประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุหลังได้รับแจ้งทันที แต่ไม่พบบริเวณที่เกิดไฟลุกไหม้ อันเป็นต้นตอของกลุ่มควันไฟหนาทึบ โดยสหภาพพนักงานดับเพลิงยังได้มีการทวีตข้อความทางโลกออนไลน์ว่า ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนไฟไหม้ดังขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ด้วย,จากการบอกเล่าของผู้โดยสารบนรถไฟใต้ดินที่อยู่ในเหตุการณ์ เผยว่าเธออยู่ในขบวนรถไฟขบวนหนึ่ง ผู้คนแตกตื่นตกใจกันมาก เมื่อเห็นควันไฟหนาทึบในสถานีรถไฟใต้ดินลองฟองต์ โดยประชาสัมพันธ์ของรถไฟได้บอกผู้โดยสารว่า ไม่มีเพลิงไหม้ เพียงแต่มีกลุ่มควันไฟเท่านั้น จึงทำให้ผู้คนที่กำลังแตกตื่นอยู่นั้นสงบลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ควันไฟจำนวนมากก็เข้ามาในขบวนรถไฟมากขึ้นๆ จนทำให้ผู้คนตื่นตระหนกกันมาก และพยายามเปิดประตูรถไฟ,ขบวนรถไฟได้หยุดลง และทันใดนั้นในรถไฟก็เต็มไปด้วยควันหนาทึบมาก จนมองไม่เห็นกัน แต่ไม่เห็นไฟไหม้ มีแต่ควันไฟเท่านั้น ผู้คนตกใจกันมาก และมีผู้หญิงคนหนึ่งเริ่มสวดมนต์แล้ว พวกเรารู้สึกเหมือนกำลังจะตาย ผู้โดยสารคนหนึ่งเล่าวินาทีระทึก | ทางการสหรัฐฯ ยังมึน เร่งควานหาสาเหตุที่มากลุ่มควันไฟหนาทึบที่สถานีรถไฟใต้ดิน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย, อาการโคม่า 2 ราย และสำลักควันไฟจนต้องถูกหามส่ง รพ.กว่า 80 ราย | null | เกิดกลุ่มควันไฟหนาทึบ,ลองฟองต์,สถานีรถไฟใต้ดิน,L’Enfant,กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.,ประเทศสหรัฐฯ,เสียชีวิต,โคม่า,สำลักควันไฟ,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/474453 |
บทบาทใหม่กระทรวงพาณิชย์ จาก ส่งออก มาช่วย คนจน | ผมนั่งเอาใจช่วยโครงการของรัฐบาลนี้อย่างสุดกำลัง หรือพูดอย่างภาษาชาวบ้านก็คือ นั่งลุ้นจนตัวโก่งอยู่โครงการหนึ่งและได้เขียนให้กำลังใจไปหลายครั้ง,โครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเฟส 2 นั่นแหละครับโครงการที่รัฐบาลทุ่มงบประมาณลงไปอีกก้อนใหญ่ ประมาณ 35,000 ล้านบาท,ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับเฟสแรก เพราะมีแต่ทุ่ม มีแต่แจกลูกเดียว แต่ก็เข้าใจดีว่ารัฐบาลท่านมีเป้าหมายอะไรบางอย่างอยู่ในใจ,นั่นก็คือเป้าหมายในการขึ้นทะเบียนคนจน หรือดึงคนจนให้เข้ามาอยู่ในระบบจะได้รู้ว่าใครเป็นใคร และเมื่อถึงเวลาช่วยจะได้ช่วยอย่างถูกฝาถูกตัวมากขึ้น,ไม่เหมือนตัวเลขคนจนที่สำนักงานสถิติแห่งชาติและสภาพัฒน์เคยสำรวจไว้ซึ่งเป็นการสำรวจในทางวิชาการในทางสถิติพอประมาณได้ว่ามีคนจน 10 ล้านคน 12 ล้านคนทั่วประเทศ แต่ไม่รู้ว่าตัวตนอยู่ที่ไหน,แม้วิธีขึ้นทะเบียนคนจนของรัฐบาลจะมีจุดอ่อนอยู่บ้าง คือได้ คนอยากจน กับ คนแอบจน หลุดเข้ามาพอสมควร ในขณะที่ คนจนตัวจริง ยังตกหล่นอยู่อีกพอสมควร,แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยก็คงจะได้คนจนเข้ามาในระบบเป็นส่วนใหญ่ และสามารถที่จะจัดโครงการลงไปช่วยเหลือแบบตรงตัวคนจนได้มากขึ้นกว่าในยุคที่ผ่านมา,ผมมาเห็นด้วยกับเฟส 2 ที่จะมีการช่วยเหลือในรูปแบบของการฝึกอบรมเพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ หรือการสร้างระบบในการเพิ่มรายได้ที่ถาวรให้แก่คนจนหลายต่อหลายรูปแบบ,ที่ผมชอบมากเป็นพิเศษก็คือ การดึง กระทรวงพาณิชย์ เข้ามาเอี่ยวด้วยเต็มตัว โดยจะมีโครงการจากกระทรวงพาณิชย์ลงไปสนับสนุนหลายๆ โครงการ และที่สำคัญที่สุดจะมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ร่วมไปเป็น หมอประชารัฐสุขใจ ด้วย,นับเป็น จุดแข็ง ของการจัดกำลังทัพลงไปช่วยเหลือคนจนของรัฐบาลนี้ ที่จะมีแม่ทัพนายกองลงพื้นที่ได้อย่างครบวงจรมากกว่าในอดีต,ในสมัย ป๋าเปรม ระบบพัฒนาชนบทเพื่อแก้ปัญหาความยากจนในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะในระดับหมู่บ้านนั้น จัดตัวแทนไว้เพียง 4 คน จาก 4 กระทรวงเท่านั้น ได้แก่ เกษตรฯ มหาดไทย ศึกษาธิการ และสาธารณสุข,เคยมีการคิดถึงกระทรวงพาณิชย์ แต่ก็ยังไม่มีการคิดโครงการว่าจะให้ทำอะไร และเข้าไปมีบทบาทอย่างไรกับการพัฒนาชนบทยุคนั้น,ตัวแทนของกระทรวงพาณิชย์จึงมีบทบาทเพียงแค่เป็น 1 ในกรรมการของคณะกรรมการพัฒนาชนบทระดับจังหวัดและอำเภอ ไม่ได้ลงลึกไปถึงหมู่บ้าน หรือครัวเรือนแต่อย่างใด,ดังนั้น ที่รัฐบาลชุดนี้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นกระทรวงเอกกระทรวงหนึ่ง และให้ พาณิชย์จังหวัด ส่งตัวแทนเข้าอยู่ในทีม หมอประชารัฐสุขใจ จึงถูกใจผมที่ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น,เท่าที่เคยอ่านพบคำสัมภาษณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ท่านกล่าวไว้ว่า บทบาทของกระทรวงพาณิชย์ในเฟส 2 นี้ จะเน้นเรื่องการสร้างงาน และสร้างอาชีพให้กับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย,โดยจะผลักดันให้นำระบบ แฟรนไชส์ มาใช้ประโยชน์ในการสร้างงานสร้างอาชีพแก่ผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งจะผลักดันให้ราคาสินค้าเกษตรเพิ่มสูงขึ้นเพื่อเพิ่มรายได้แก่เกษตรกร,นอกจากนี้ จะนำอินเตอร์เน็ตประชารัฐมาเชื่อมโยงกับการค้าขาย โดยเฉพาะการพัฒนาให้ร้านโชห่วยและร้านค้าชุมชนสามารถทำการค้าขายผ่านระบบออนไลน์ หรือ อี-คอมเมิร์ซ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้สินค้าเกษตรและสินค้าชุมชนมีช่องทางการขายมากขึ้น,ยังมีอีกหลายๆโครงการครับที่ท่านรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ท่านแถลงไว้ รวมทั้งโครงการ ส่งกล้วยตากสู่ตลาดโลก ที่ผมเคยเขียนถึงท่านเมื่อตอนเขียนถึงงานเตรียมอุดมศึกษาครบ 80 ปี,สรุปว่าการจัดทัพและจัดอาวุธลงไปรบกับปัญหาความยากจนของรัฐบาลนี้ดูดีมาก และครบวงจรจริงๆ แต่ปัญหาความยากจนก็เป็นปัญหาที่แก้ยาก เพราะขึ้นกับปัจจัยหลายๆอย่าง,ผมก็ขอให้กำลังใจรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ ขอให้โครงการที่วาดฝันไว้ครั้งนี้และใช้เงินจำนวนไม่น้อยจงประสบความสำเร็จคุ้มค่าภาษีอากรที่คนไทยจำนวนมากจะต้องไปเสียเพิ่มเติมภายในเดือนมีนาคมนี้ ทุกประการเทอญ.,ซูม | โครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเฟส 2 นั่นแหละครับโครงการที่รัฐบาลทุ่มงบประมาณลงไปอีกก้อนใหญ่ ประมาณ 35,000 ล้านบาท | null | คนจน,ผู้มีรายได้น้อย,ขึ้นทะเบียนคนจน,เหะหะพาที,ซูม | https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1224898 |
เมือง / คน / ธุรกิจ สัมพันธ์กันอย่างไร และเราควรวางอนาคตของเมืองอย่างไรให้คนกับธุรกิจเติบโตได้ดีที่สุด | เมื่อวันก่อนผมได้มีโอกาสได้ไปพูดให้กับงาน เมือง คิด ใหม่ ซึ่งจัดโดยสำนักนายกรัฐมนตรี และ OKMD ซึ่งมีสปีกเกอร์ที่น่าสนใจมากมาย หากมีคลิปออกมาเมื่อไรลองไปหาดูกันนะครับ มีเรื่องที่น่าสนใจหลายเรื่องมาก ในส่วนของผม น่าจะเป็นคนเดียวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่พูดน้อยที่สุดแล้ว เพราะท่านอื่นล้วนแล้วแต่อยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ สถาปนิก หรือทำงานเกี่ยวกับ public sector ผมเลยพยายามพูดมุมของนักการที่คิดว่าน่าจะพอมีส่วนช่วยกันสร้างเมืองที่น่าสนใจได้มากขึ้นครับ และนี่คือเนื้อหาทั้งหมดประมาณ 20 นาทีที่ผมพูดครับ ถ้าใครสนใจสไลด์ของผม ไปตามลิงก์นี้ได้เลยครับ www.slideshare.net/Missiontothemoon/ss-79874816 เวลาพูดถึงเรื่อง ธุรกิจ ส่วนใหญ่จะมองในแง่มุมที่เป็น คน แต่จริงๆ แล้ว เมือง ก็เป็นอีกแง่มุมหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจโดยตรง โดยทั้ง 3 ส่วน เมือง ธุรกิจ และคนนั้นสัมพันธ์และ dynamicA) เมือง / คน / ธุรกิจ สัมพันธ์กันอย่างไร (Macro) 1. เพราะโลกคือที่ที่เกิดการกระทำทางธุรกิจและเศรษฐกิจ ปัจจุบันมีประชากร 7.6 พันล้านคน เมืองทางเศรษฐกิจคือ โตเกียว นิวยอร์ก ลอสแอนเจลิส โซล ลอนดอน และปารีส แต่ในอนาคต UN คาดคะเนว่าประชากรโลกในปี 2050 จะทะลุถึง 9.8 พันล้านคน หรือเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันกว่า 2 พันล้านคน โดยกว่าครึ่งอาศัยอยู่ในเอเชีย (จีนและอินเดีย) และแอฟริกา เมืองทางเศรษฐกิจ 6 อันดับแรกของโลกจะเกิดการสลับที่ ลอนดอน และ ปารีส จะตกอันดับ โดย เซี่ยงไฮ้ และ ปักกิ่ง จะขึ้นมาแทนภายในปี 2050 และสัดส่วนกว่าครึ่งของ GDP โลกใน 10 ปีข้างหน้าจะมาจากตลาดเกิดใหม่(Emerging Cities) ใน 440 เมืองของโลก อย่างการสำรวจของ Euromonitor ล่าสุด (กันยายน 2017) พบว่า ช่วงปีนี้ความสามารถในการจับจ่ายของผู้บริโภคที่ Sub-Saharan Africa จะเพิ่มขึ้น 160% ซึ่งโตเร็วกว่าตลาดเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้วกว่า 2.5 เท่า พูดอีกอย่างคือจากข้อมูลนี้จะทำให้เห็นว่าเอเชีย โดยเฉพาะจีนและแอฟริกา จะเป็นที่ดึงดูดของโลกธุรกิจ ซึ่งนี่คือภูมิทัศน์แบบกว้างสุดของโลกธุรกิจ คน และเมืองในอนาคต 2. ธุรกิจมองเมืองอย่างไร ผลสำรวจของ McKinsey ในปี 2015 สำรวจนักธุรกิจและนักบริหารทั่วโลกถึงมุมมองที่มีต่อเมืองพบว่า นักธุรกิจมองเมืองในแง่ของ Customer (Consumers และ Business Clients) และ Talent (หรือแรงงานชั้นเลิศ) ฉะนั้นเมืองที่จะดึงดูดธุรกิจให้มาลงทุนได้ ต้องจัดหาหรือส่งเสริมให้เกิด Infrastrature Financial and Investor Access Talent และ Customer B) เมือง / คน / ธุรกิจ สัมพันธ์กันอย่างไร (Micro) ถ้าว่ากันในระดับที่ใกล้ตัวลงมาหน่อย ซึ่งสัมพันธ์ในมิติหลักๆ มี 4 ข้อคือ กฎระเบียบข้อบังคับ สาธารณูปโภคและคมนาคม สภาพแวดล้อม วัฒนธรรมและวิถีชีวิต 1. กฎระเบียบข้อบังคับ ผังเมืองและการออกแบบอาคารที่มีผลต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก่อสร้างกฎระเบียบข้อห้ามเป็นอุปสรรคให้ธุรกิจ เช่น Uber Grab อันนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ภาครัฐ (เมือง) เกี่ยวข้องกับธุรกิจโดยตรง 2. สาธารณูปโภคและคมนาคม ยกตัวอย่างปัญหารถติดที่เป็นอุปสรรคของธุรกิจด้านการขนส่ง แต่ในทางกลับกัน ปัญหารถติดก็เป็นโอกาสสำหรับธุรกิจได้ด้วย เช่น Line Man บริการจัดส่งอาหารและพัสดุ LaLaMove การจัดส่งพัสดุภายในวันเดียวกัน J.I.B. ที่มีบริการจัดส่งแบบด่วนมาเป็นจุดขายด้าน customer experience 3. สภาพแวดล้อม ธุรกิจเองก็สามารถสร้างสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ให้เมืองได้เหมือนกัน เช่น 7-Eleven ที่ทำหน้าที่เป็น public space หรือ shared space ให้เกิดเป็นชุมชนย่อมๆ ของคนในเมืองขึ้นมา และยังดึง surveillance หรือการสอดส่องเข้ามาในพื้นที่ ทำให้ที่ที่มี 7-Eleven จะเปลี่ยวน้อยลง เช่น เซ็นทรัล ที่เปิดห้างใหม่ในหัวเมืองต่างๆ ก็จะเกิดความคึกคักขึ้นในย่านนั้น ทำให้เกิดชุมชน เกิดตลาดนัด ขายของริมทาง หรือ public space ใหม่ๆ ในย่านนั้นขึ้นมา 4. วัฒนธรรมและวิถีชีวิต คนที่มีความต้องการหลากหลายก็ได้มีส่วนในการสร้างเมืองทั้งทางตรงและทางอ้อม ผ่านการเป็นลูกค้าของธุรกิจ 4.1 เช่น คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจเรื่อง knowledge creativity art มากขึ้น ก็เป็นการกำหนดธุรกิจและภาครัฐให้เกิด public space ใหม่ๆ ขึ้นมา เช่น หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร AIS D.C. (ดิ เอ็มโพเรียม) ศูนย์ SCG Experience Think Space B2S 4.2 ผู้บริโภคมีความต้องการที่เฉพาะมากขึ้น ส่งผลให้เกิด public space ใหม่ๆ เช่น ร้านกาแฟสวยๆ ที่กลายเป็นแหล่งนัดพบใหม่นอกเหนือจากห้าง อย่าง ซอยนานา ตรงวงเวียน 22 ที่มีร้านสวยๆ เต็มไปหมด เกิดงานคอนเสิร์ตดนตรีทางเลือกมากขึ้น เกิดป๊อปอัพมาร์เก็ต หรือตลาดนัดชั่วคราว เช่น Art Box BKK 4.3 วัฒนธรรมอาหารการกินเป็นปัจจัยที่มีผลต่อทางธุรกิจ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว อย่างสตรีทฟู้ดนี่ CNN Travel ก็ให้กรุงเทพฯ เป็นอันดับ 1 ของโลกเลย ส่วนอาหารแบบ top-tier เราก็ทำได้ดีมากๆ โดยจากการจัดอันดับร้านที่ดีที่สุดในเอเชีย 50 ร้าน มีถึง 9 ร้านที่อยู่ในกรุงเทพฯ นำโดยอันดับ 1 อย่าง Gaggan และอันดับ 5 อย่าง Nahm ท่ามกลางเมืองใหญ่ๆ อย่างโตเกียว เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง การที่เราติด 9 ใน 50 ร้าน แสดงให้เห็นว่าตอนนี้กรุงเทพฯ กลายเป็นอีกหนึ่ง dining destination ซึ่งวันหนึ่งผมเชื่อว่าเราจะทำได้ดีไม่แพ้โตเกียวหรือปารีสครับ ซึ่งในปลายปีนี้จะมีการเปิดตัว Michelin Guidebook ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานด้านอาหารของประเทศเราไปอีกหนึ่งขั้น โดยสรุป ไม่ว่าจะในระดับมหภาคและจุลภาค เมือง ธุรกิจ และคน สัมพันธ์และพลวัตต่อกันหมดC) เมืองในอนาคตจะเน้นไปที่อะไร ประเด็นเรื่อง อนาคตของเมือง ที่ถูกพูดในวงกว้างและระดับโลกมีอยู่ 5 เรื่องหลักๆ คือ 1. Aging Society ประชากรผู้สูงอายุจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งในนั้นก็คือประเทศไทย ภายในปี 2050 โลกจะมีประชากรผู้สูงอายุมากกว่าร้อยละ 14 อีก 20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด ดังนั้นในอนาคตข้างหน้า การออกแบบเมืองและแม้กระทั่งภาคธุรกิจต้องคำนึงถึงประชากรผู้สูงอายุ ส่วนภาคธุรกิจ การตอบรับแนวโน้มนี้ไม่ใช่แค่ด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ การแก้เบื่อ หรือ แก้เหงา ของผู้สูงอายุก็เป็นโอกาสที่น่าสนใจ 2. Smart City / Smart Home เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทกับภูมิทัศน์เมืองและบ้านเรือนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Big Data Internet of Things เช่น ชิคาโกติดตั้งกล่องเก็บข้อมูลเรื่องอากาศ แสง การสั่นสะเทือนไว้ตามเสาทั่วเมือง เพื่อเก็บเป็น Big Data (ไม่ต่างจาก Fitbit ของเมือง) ไว้เป็นข้อมูลในการออกแบบและวางผังเมือง นอกจากนี้ไหนๆ ก็ติดกล่องตามเสาแล้ว ก็ดัดแปลงให้เป็นไฟ LED ให้แสงสว่างไปในตัว หรือในกรุงเทพฯ ไปที่ไหนก็มีแต่ตู้ ATM ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงหลายหมื่นล้านต่อปี แต่หากเราสามารถพัฒนาเรื่อง payment ได้มีประสิทธิภาพขึ้น ก็อาจลดค่าใช้จ่ายและเกิดความคล่องตัวมากขึ้น เมืองจะเกิดโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่มาตอบสนองวิถีชีวิตคน เช่น sharing economy อย่าง coworking space carpool carsharing room sharing แต่ก็ต้องเป็นเรื่องที่ภาครัฐต้องคิดต่อครับ เรื่องกฎระเบียบข้อบังคับที่ทุกวันนี้ยังเป็นปัญหาต่อธุรกิจ sharing economy ในบ้านเราอยู่ 3. Sustainable / Healthy Living เมืองจะคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม พลังงานสะอาด และมลภาวะมากขึ้น อย่างในเมืองที่พัฒนาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่โคเปนเฮเกน หรืออัมสเตอร์ดัม ที่กลายเป็นเมืองจักรยาน ลักษณะหน้าตาของท้องถนนจะเริ่มเปลี่ยนไป หลายเมืองเริ่มนำถนนมาใช้เป็น public space ให้คนใช้ขี่จักรยาน เป็นสถานที่เดินเล่น หรือเป็นถนนคนเดินขายของ ประเด็นเรื่องสุขภาพของคนจะกลายเป็นโจทย์ใหม่ที่เมือง ธุรกิจ และคนให้ความสนใจ 4. Citizen-Centric เมืองจะโฟกัสไปที่ความสุขของผู้คนในเมืองมากขึ้น จะมีการคิดค้นนวัตกรรมหรือบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองให้คนมีความสุข มีการศึกษาที่ดี มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในเชิงการตลาด ตัวคนหรือผู้บริโภคจะมีลักษณะคือ แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันเอง มีการจับจ่ายเพื่อซื้อประสบการณ์มากขึ้น มองหาสินค้าบริการที่มี personalise มากขึ้น ผู้บริโภคจะใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและจริยธรรมมากขึ้น ผมขอยกตัวอย่างหนึ่งเกี่ยวกับวิธีคิดเรื่อง Human-Centric ในการออกแบบเมือง เรื่องนี้ชื่อเรื่อง สะพาน ครับ เป็นเรื่องที่ผมฟังมาจากคุณต้อง-กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร ผู้เชี่ยวชาญด้าน Design Thinking (แต่เรื่องนี้ไม่มีผิดไม่มีถูกนะครับ เป็นเรื่องที่ให้ลองขบคิดกันเอง) เรื่องราวเป็นแบบนี้ครับ เราเดินไปเจอแม่น้ำ ที่แม่น้ำมีผู้ชายยืนอยู่คนหนึ่งซึ่งกำลังมองไปฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ เราก็เดินเข้าไปคุยด้วย เรา: พี่กำลังมองอะไรอยู่ครับ พี่คนนั้น: กำลังคิดว่าอยากได้สะพาน ถ้ามีคนสร้างสะพานก็คงดี เรามีเงินและทรัพยากรเพียบ แถมเป็นคนดูแลผังเมืองด้วย เลยตอบไปว่า พี่อยากได้สะพานจากไม้ จากเหล็ก หรือจากปูน สะพานธรรมดาหรือสะพานแขวนดี สมมติพี่เขาตอบว่าอยากได้สะพานไม้ เราก็สร้างสะพานไม้ให้ เรื่องก็จบ ทุกคนฟิน แก้ปัญหาได้ หรือเปล่า? ถ้าเราช่างสงสัยอีกสักนิด เราอาจจะถามว่า ทำไมพี่อยากได้สะพานล่ะครับ พี่เขาก็อาจจะตอบว่า อยากข้ามไปฝั่งโน้น เราตอบไปเลยว่า ถ้าอยากข้ามไปฝั่งโน้นก็มีหลายวิธี เช่น ว่ายน้ำ ขึงเชือก เรือ อุโมงค์ หรือสะพานก็เป็นวิธีการแก้ปัญหาอย่างหนึ่ง เราถามพี่เขาว่า อยากข้ามด้วยวิธีไหนดีพี่? พี่เขาคิดนิดหนึ่งแล้วตอบว่า เรือก็แล้วกัน เราก็ซื้อเรือให้พี่เขาเลย ทุกคนฟิน แก้ปัญหาได้ หรือเปล่า? ถ้าเราช่างสงสัยอีกสักนิด เราอาจจะถามว่า ทำไมพี่อยากข้ามไปฝั่งโน้นล่ะครับ พี่เขาตอบว่า จะไปหาแฟน เราถามกลับไปว่า ทำไมไม่ให้แฟนพี่ย้ายมาฝั่งนี้ละครับ พี่เขาตอบว่า ไม่ได้ เพราะแฟนพี่ต้องทำงานฝั่งโน้น เราก็ตอบไปว่า พี่หาแฟนใหม่ได้ไหม 5. Economically Attractive เมืองจะพยายามดึงดูดความสนใจของนักลงทุน ส่งเสริมให้เป็นศูนย์กลางของ Creativity Talent Access to Investor and Business PartnershipsD) เมือง / คน / ธุรกิจ ควรวางอนาคตต่อไปอย่างไร จากเทรนด์ที่กล่าวข้างต้น ถ้าให้วิเคราะห์ใน 3 ตัวละครคือ เมือง (ภาครัฐ / City Leader) ธุรกิจ และคน ควรจะคำนึงถึงเรื่องทำนองนี้ 1. เมือง (ภาครัฐ / City Leader) สิ่งที่ภาครัฐหรือผู้มีส่วนในการดูแลและสร้างเมืองจะต้องผลักดันให้เกิด economically attractive เช่น ผ่านทางกฎระเบียบข้อบังคับที่เอื้อประโยชน์นักลงทุน ส่งเสริมให้กรุงเทพฯ หรือหัวเมืองใหญ่ๆ เป็นศูนย์กลางทางด้านการเงิน ด้านการลงทุน จัดเวทีการค้าเพื่อดึงดูดให้นักธุรกิจอยากมาลงทุน ส่งเสริมให้เมืองเป็นศูนย์กลาง talent ดังนั้นก็ต้องสร้างพื้นที่ knowledge และ creative space ขึ้นมาอย่างจริงจัง สร้างคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนไม่ต่างจากการทำแบรนด์ว่า เมืองจะขายจุดเด่นด้านอะไร เช่น ประเทศสิงคโปร์ที่มี vision ประเทศและเมืองที่จะเป็น smart nation โดยเคลื่อนทิศทางจากการเป็นศูนย์กลางทางด้านการเงินในภูมิภาค Southeast Asia มาสู่การเป็นศูนย์กลางทางด้าน ICT หรือเทคโนโลยีนวัตกรรมต่างๆ เพื่อดึงดูดให้ธุรกิจยังคงเลือกสิงคโปร์เป็น regional hub ทางด้านธุรกิจต่อไป 2. ธุรกิจ สิ่งที่ธุรกิจต้องคำนึงถึงคือ ในมุมของประชากร (คน) กับทิศทางเมืองในอนาคต กล่าวคือถ้าผู้ประกอบการสามารถทำนายหรือจับอนาคตข้างหน้าได้ ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและลดความเสี่ยงทางธุรกิจไปในตัว ยกตัวอย่างเช่น อนาคตข้างหน้า ประชากรผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้น ก็จะเป็นแนวโน้มของลูกค้าในอนาคต หรืออนาคตข้างหน้าเมืองจะเน้นการเป็น smart city ภาคธุรกิจก็สามารถทำ collaborate กับภาครัฐในการลงทุนทำเมืองให้สมาร์ทขึ้นมาได้ หรืออย่างง่ายๆ ในอนาคต consumer มีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น ก็ทำให้ภาคธุรกิจต้องคิดหาสินค้า บริการ หรือสถานที่ใหม่ๆ ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมือง 3. คน คนในที่นี้อาจจะมองได้ 3 มุมคือ citizen customer และ worker ซึ่งปัจจุบัน อิทธิพลที่มีต่อคนมากๆ ก็คือโลกออนไลน์ ที่ทำให้เกิด virtual communities เต็มไปหมด สิ่งที่ตามมาคือคนคอนเน็กต์กันมากขึ้น ทำให้เกิด citizen power ดังนั้นในอนาคตต่อไป คนหรือประชาชนจะมีบทบาทในการกำหนดเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งทางตรงคือกับเมืองเลย กับทางอ้อมคือผ่านทางธุรกิจ แล้วทำให้เกิดสภาพแวดล้อมใหม่ๆ Citizen: คนใช้โลกออนไลน์เป็นพื้นที่สร้างอำนาจในการต่อรอง ควบคุม เรียกร้อง ในการกำหนดเมือง เช่น Change.org ที่ทำให้เกิดการต่อต้านหรือตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องเมือง Customer: แนวโน้มธุรกิจยุค 4.0 จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า co-creation หรือการที่ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการทำงานกับแบรนด์ผลิตสินค้าและบริการมากขึ้น ดังนั้น ความต้องการของผู้บริโภคจะเป็นตัวกำหนดธุรกิจ สิ่งที่ตามมาคือธุรกิจก็จะสร้างสินค้า บริการ หรือสถานที่ใหม่ๆ ที่ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมใหม่ในเมืองขึ้นมา เช่น ตอนนี้ก็มีคาเฟ่และร้านกาแฟเพิ่มมากขึ้น เกิดแกลเลอรีมากขึ้น Worker: อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า ภาคธุรกิจมองเมืองในแง่ของ customer และ talent ฉะนั้น ลักษณะของชาวเมืองจะเป็นสิ่งที่จะดึงดูดหรือไม่ดึงดูดภาคธุรกิจ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เราทุกคน (คนไทย คนกรุงเทพฯ) ก็ต้องกลับไปคิดด้วยว่าทิศทางของเราจะเป็นตลาดแรงงานในแบบไหนสรุปและทิ้งท้าย ทั้งหมดนี้เป็นประเด็นคร่าวๆ เมือง ธุรกิจ และคน สัมพันธ์และพลวัตต่อกัน จากนี้เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องคิดว่าจะวางแผนในอนาคตต่อจากนี้อย่างไรดี แต่ผมอยากทิ้งท้ายไว้ในฐานะนักการตลาดว่า ไม่ว่าจะออกแบบเมืองให้เป็นอย่างไร สำคัญต้องคำนึงถึง Human-Centric หรือคิดถึงมุมของคนก่อนด้วยครับ เรื่องนี้เล่าโดย Rory Sutherland ซึ่งเป็นนักการตลาดชาวอังกฤษครับ เขาถึงรถไฟ Eurostar ซึ่งวิ่งจากลอนดอนไปปารีส ซึ่งใช้เวลาวิ่งทั้งหมด 3 ชั่วโมง 30 นาที เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วก็มีเสียงวิจารณ์จากลูกค้าว่ามันนานจัง น่าเบื่อ เป็นประสบการณ์การนั่งรถไฟที่ไม่ดี ผู้บริหารของ Eurostar ก็มาคุยกับทีมวิศวกรพร้อมโจทย์ที่ผมโควตมาเลยนะครับว่า How do we make a trip to Paris better? คุณคิดว่าสิ่งที่วิศวกรทั้งหลายทำคืออะไรครับ? แน่นอน ต้องทำให้มันเร็วขึ้น พวกเขาสร้างรางใหม่ครับ ซึ่งทำให้ลดเวลาการเดินทางไป 40 นาที เหลือ 2 ชั่วโมง 50 นาที หมดเงินไป 6000 ล้านปอนด์ เรื่องนี้จบไปแล้ว แต่ Rory Sutherland ตั้งโจทย์ที่น่าคิดไว้ว่า ถ้าเราไม่ทำรางใหม่ ไม่ทำอะไรเลย และให้มันวิ่ง 3 ชั่วโมงครึ่งแบบเดิมนี่แหละ แต่ว่าเอาเงินมาจ้างนายแบบและนางแบบระดับท็อปของโลกมาเดินเสิร์ฟแชมเปญ Chateau Petrus ตลอดทริปแบบนอนสต็อป เราก็ใช้เงินไปสัก 2 พันกว่าล้านปอนด์ได้ และผู้โดยสารจะขอให้รถไฟวิ่งช้าลงด้วย 🙂ภาพประกอบ: | ความสัมพันธ์ของเมือง คน และธุรกิจแบบมหภาคของเอเชีย (โดยเฉพาะจีน) และแอฟริกากำลังเป็นที่ดึงดูดของโลกธุรกิจ โดยเมืองที่จะดึงดูดธุรกิจให้มาลงทุนได้ต้องส่งเสริมให้เกิด Infrastructure Financial and Investor Access Talent และ Customer อนาคตของเมืองที่ถูกพูดในวงกว้างและระดับโลกมีอยู่ 5 เรื่องหลักๆ คือ Aging Society Smart City Sustainable Citizen Centric และ Economically Attractive สิ่งที่ภาครัฐต้องทำคือผลักดันให้เกิด Economically Attractive เช่น กฎระเบียบข้อบังคับที่เอื้อประโยชน์นักลงทุน หรือส่งเสริมให้กรุงเทพฯ หรือหัวเมืองใหญ่ๆ เป็นศูนย์กลางทางด้านการเงิน ด้านการลงทุน จัดเวทีการค้า เพื่อดึงดูดให้นักธุรกิจอยากมาลงทุน รวมทั้งส่งเสริมให้เมืองเป็นศูนย์กลาง talent ดังนั้นก็ต้องสร้างพื้นที่ knowledge และ creative space ขึ้นมาอย่างจริงจัง | null | null | https://thestandard.co/business-rocket-knowledge-cities-new-lives-new-opportunities/ |
รอได้แค่ 7 ชั่วโมง อ้วน รีเทิร์น บอกเลย เราชาวไทยทำดีเท่านั้น | รอกันนานแค่ไหนก็รอได้ จุดถวายดอกไม้จันทน์มีอยู่ทั่วไทย บางจุดไม่ต้องรอนานนัก แต่หลายจุดส่วนใหญ่ก็รอกันนานหลายชั่วโมง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะรอนานแค่ไหนก็รอกันได้ด้วยหัวใจยังอยู่ในความทรงจำของเราชาวไทยกันอยู่ กับวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา,ดารารุ่นเก๋าฝีมือไม่ธรรมดา อ้วน รีเทิร์น อนันต์ เสมาทอง เป็นอีกคนหนึ่งที่ไปร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เลือกไปที่วัดสาครสุ่นประชาสรรค์ สุคนธสวัสดิ์ 3 ซอยสตรีวิทยา 2 แถวลาดพร้าว กรุงเทพฯ สะดวกตรงนี้เลยมาร่วมไว้อาลัยตรงนี้ ,อ้วน รีเทิร์น เปิดใจกับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ พี่รอคิวนานประมาณ 7 ชั่วโมง จึงจะได้ไปถวายดอกไม้จันทน์ คิวยาวมากๆ คนเยอะมากๆ คนที่มาตรงจุดนี้น่ารักกันดีนะ มีจิตอาสามาดูแลกันและกัน และพี่ก็ไม่เห็นว่ามีการแซงคิวกัน เรื่องต่อคิวกันนี้ ก็อยากจะให้ชาวไทยมีจิตสำนึกกันให้มากๆ ด้วย ไม่ว่าจะไปต่อคิวรออะไรก็แล้วแต่ ไม่ควรแซงคิวกัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ไม่น่ารักไม่ควรทำอย่างยิ่ง,คุณงามความดีของพระองค์ท่าน ถ้าให้พี่อ้วนกล่าวถึง ให้พูดถึงทั้งชาตินี้ก็ไม่หมดนะคะ ท่านสวรรคตไปแล้ว ได้ทิ้งคุณงามความดีไว้ในประเทศไทยเยอะแยะมากมายเลยนะคะ พี่อ้วนอยากให้คนที่โศกเศร้ากันอยู่ทั่วทุกตารางนิ้วของประเทศไทย เอาความโศกเศร้ามาเป็นพลังในการทำความดีนะคะ เดินตามคำสอนของพ่อ ถ้าเราปฏิบัติได้เพียงหนึ่งในล้านของคำสอนของท่าน พี่เชื่อว่าแค่นั้นเราก็จะเป็นคนที่ดีได้นะคะทำดีเท่านั้นนะคะ.,
,
, | รอกันนานแค่ไหนก็รอได้ จุดถวายดอกไม้จันทน์มีอยู่ทั่วไทย บางจุดไม่ต้องรอนานนัก แต่หลายจุดส่วนใหญ่ก็รอกันนานหลายชั่วโมง แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาเพราะรอนานแค่ไหนก็รอกันได้ด้วยหัวใจ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | อ้วน รีเทิร์น,รัชกาลที่9,ในหลวง ร.9,พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ,ส่งใจสู่ฟ้าอาลัยพ่อ,กอสซิป | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1110127 |
ตั้งกรรมการคุมเข้มวัตถุระเบิดโรงโม่ | กรุงเทพฯ-7 เม.ย.48 นายยงยุทธ ติยะไพรัช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยหลังประชุมร่วมกับพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการะรทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้ประกอบการโรงโม่หินกว่า 100 รายทั่วประเทศว่า เป็นการประชุมเพื่อขอความร่วมมือ ให้ควบคุมการใช้สารเคมีและวัตถุระเบิด สำหรับระเบิดหินทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้มีการรั่วไหล หรือถูกนำไปใช้ก่อการร้าย หรือแสวงหาผลประโยชน์จากกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ นายยงยุทธ เปิดเผยว่า สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ค่อนข้างตึงเครียด ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการบางรายนำสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบในการระเบิดหิน รวมทั้งนำชนวนในการประกอบวัตถุระเบิดเข้ามาใช้อย่างผิดกฎหมาย จนเกิดปัญหาในการตรวจสอบ และการควบคุม สารเคมีเหล่านั้น หากการรั่วไหลโดยการนำออกไปขาย ก็อาจจะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย ดังนั้น จึงได้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมา 1 ชุด 20 คน มี พล.ต.อ.จำลอง เอี่ยมแจ้งพันธุ์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ทำหน้าที่จัดระบบควบคุมการใช้สารเคมีสำหรับระเบิดหินทั้งหมด โดยจะทำรายงานเสนอนายกรัฐมนตรีเป็นระยะ พล.ต.อ.จำลอง เปิดเผยว่า คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้น จะเป็นศูนย์กลางในการควบคุมดูแล และเบิกจ่าย โดยเฉพาะพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ คือ จังหวัดสงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ที่สถานการณ์เปราะบาง จะนำสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบวัตถุระเบิดของเอกชน เอาไปเก็บไว้ในค่ายทหาร | กรุงเทพฯ-7 เม.ย.48 นายยงยุทธ ติยะไพรัช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยหลังประชุมร่วมกับพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการะรทรวงมหาดไทย | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/04/3552 |
เกรซ สบายใจกลับมาคุย ขุนพล ลั่นไม่ขอยุ่งดราม่า ขวัญ-กอล์ฟ (คลิป) | มาร่วมงาน อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ณ ร้านอาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์ ชั้น 3 โซนเซ็นทรัล คอร์ท ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้เจอนางเอกสาวผิวโอโม่ ,เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า, เลยถามถึงความสัมพันธ์กับไฮโซหนุ่ม ,ขุนพล อิสสระ, หลังมีกระแสว่าทั้งคู่กลับมาคุยกันอีกครั้ง รวมไปถึงเรื่องที่มีคนนำคลิปที่เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเพื่อนซี้อย่างนางเอกสาว ,ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์, ในรายการ วันวานยังหวานอยู่ ทางช่อง 7 จนหลายคนมองว่าเป็นการปกป้องขวัญ ซึ่งกำลังเจอดราม่าหลังเลิกรากับนักร้องนักแสดงหนุ่ม ,กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล, ด้วย,ตอนนี้หัวใจแฮปปี้ดีไหม?,ก็ดี เรื่อยๆ ค่ะ,กลับมาดีขึ้นไหม?,ก็ได้นะคะ ตอนนี้เขาเปิดกิจการแล้วเริ่มอยู่ตัวขึ้น แต่เราทั้งคู่ก็ยังทำงานหนักเหมือนเดิม ต้องอาศัยเวลาที่จะเรียนรู้กันมากกว่านี้ ยังไม่ได้อยากเรียนอะไรให้มันแน่นอนจริงจังว่าเลิกไม่เลิก คบต่อไม่คบต่อ ก็ดูไปเรื่อยๆ แล้วกัน,เรียกว่ารีเทิร์นไหม?,คุยๆ กันค่ะ แต่เกรซไม่ได้ถอยออกมาเพื่อเพิ่มบทเรียนให้เขานะ ในตอนนั้นที่ถอยออกมาเพราะหลายๆ อย่าง เราทำงานเยอะด้วย สุขภาพด้วย,รุมเร้าตัวเราเหรอ?,ใช่ค่ะ ในช่วงที่งานเยอะๆ หนักๆ ไหนจะธุรกิจอีกหลายๆ สิ่ง ก็เลยอยากจะหยุดเพื่อดูแลตัวเองและครอบครัวบ้าง,ตอนนี้สบายใจมากขึ้น?,สบายใจค่ะ เขาก็สบายใจ โอเค,เราเปิดใจให้คนอื่นด้วยไหม?,เกรซศึกษาทีละคนนะคะ ไม่ได้เปิดใจคุยกับคนอื่น ยังคงคุยกับขุนพลคนเดียว,เรียกแฟนไหม?,เดี๋ยวว่ากัน (ยิ้ม) แต่ว่ายังคุยกันดีและโอเค เรียกว่ารีเทิร์นไหมเป็นการกลับมาคุยกันแล้วค่ะ (ยิ้ม),ทำไมต้องรอ?,ไม่มีปัจจัยอะไรหรอก พอเราอายุเยอะขึ้นอะไรไม่แน่นอนเราก็ไม่อยากพูด บางทีแน่นอนยังเลิกกันเลย ก็ขอเป็นความสบายส่วนตัวที่ยังไม่อยากเปิดตัวแรงดีกว่า เรื่อยๆ เราไม่ได้กลัวอะไรนะ แค่รู้สึกว่าถ้าเราอยู่ตรงนี้ถ้าใช่เราก็บอกว่าใช่อยู่แล้วจริงๆ แต่อาจจะต้องอาศัยระยะเวลาอีกสักนิดนึง,มีคนอื่นเข้ามาไหม?,ไม่มีค่ะ ไม่มีใครเข้ามาเลย ยังเรื่อยๆ อยู่ คุยกับคนนี้คนเดียวค่ะ,มีคลิปในโซเชียลเราป้องขวัญ?,เรื่องคลิปที่เกรซพูดถึงขวัญในโซเชียลที่พูดถึงกันอยู่ตอนนี้ ความจริงเป็นเทปสัมภาษณ์ในรายการ วันวานยังหวานอยู่ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เกรซก็ได้เห็นข่าวเพราะเพื่อนส่งมาให้ดู เราก็ยืนยันเหมือนเดิมในมุมของเพื่อนที่รู้จักและสนิทกันมา ว่า ขวัญเป็นคนนิสัยดี ห่วงเพื่อนมาก,คุยกับขวัญไหม?,เกรซก็ได้คุยพร้อมให้กำลังใจขวัญกับเรื่องดราม่านี้แล้ว จริงๆ ขวัญเป็นคนเข้มแข็ง และต้องเจอเรื่องอะไรอีกเยอะหลังจากวันที่แถลงข่าว ล่าสุดเขาก็ไปศาลต่อเพื่อคุยเรื่องบ้านที่มีเรื่องอยู่ ก็เห็นใจเพราะเขาเป็นผู้หญิงและอยู่กับแม่ 2 คน ขวัญเองก็เจอปัญหาหนักๆ มาเยอะ เขาสู้มาตลอด จนถึงวันนึงที่ไม่ได้เป็นอย่างที่หวังก็ไม่เป็นไร,กลัวคนมาดราม่าเราด้วยไหม?,ส่วนเรื่องที่เกรซออกมาปกป้องขวัญ แน่นอนเราต้องโดนกระแสอยู่แล้ว ซึ่งเกรซอยู่ในฐานะเพื่อน เราก็ไม่ได้อยากยุ่งหรือแบ่งพรรคแบ่งพวก แต่คลิปที่เห็นเป็นคลิปเมื่อ 2 ปีที่แล้วจริงๆ ซึ่งเกรซว่าขวัญเขาก็อยากให้เรื่องมันจบ ไม่อยากให้มีดราม่า เพราะทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีใครสบายใจ เกรซก็อยากให้สบายใจกันทุกฝ่าย ก็จบๆ กันเถอะค่ะ. | เกรซ กาญจน์เกล้า สบายใจหลังกลับมาคุยกับ ขุนพล อีกครั้ง เผยที่ผ่านมาถอยออกมาเพราะทำงานเยอะ และอยากหยุดเพื่อดูแลตัวเองและครอบครัว ย้ำคบใครคบทีละคน แจงคลิปปกป้องขวัญ อุษามณี เป็นคลิปรายการวันวานยังหวานอยู่ ลั่นไม่ขอยุ่งดราม่าใดๆ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า,ขุนพล อิสสระ,เกรซ ขุนพล,ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์,ขวัญ กอล์ฟ เลิกกัน,กอสซิป | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1187123 |
คมนาคม-คลัง จับมือตั้งซูเปอร์บอร์ด กรองงานเสนอนายกฯ ฟื้นฟูฯการบินไทย | วันนี้ ( 22 พ.ค.2563) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงแนวทาง การดำเนินการตามกรอบแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทย หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมา ( 21 พ.ค.63) กระทรวงคมนาคม และนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าร่วมหารือ กับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงแนวทางดำเนินการต่อไปหลังจากกระทรวงคลัง ยืนยันว่า แม้กระทรวงการคลังจะมีการขายหุ้นของการบินไทยออกไปแล้วส่วนหนึ่ง เพื่อปลดล็อกให้การบินไทยพ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจแต่กระทรวงการคลัง ก็ยังถือว่ามีสัดส่วนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ และแสดงความประสงค์ ที่จะมีส่วนร่วมในการดำเนินการฟื้นฟูการบินไทย ซึ่งในส่วนนี้ยืนยันว่ากระทรวงคมนาคมไม่ได้มีปัญหาขัดข้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังกล่าวว่า กระทรวงการคลังกับกระทรวงคมนาคมไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งกัน คือในส่วนของกระทรวงคมนาคม ถือว่าการผลักดันให้มีการแก้ไขปัญหาการบินไทยเข้าสู่กระบวนการของศาลตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ ถือเป็นแนวทางที่จะแก้ปัญหาได้เป็นรูปธรรม ได้เริ่มกระบวนการไปแล้ว หลังมี มติ ครม. ส่วนอนาคตกระทรวงการคลัง จะเข้ามาร่วมดำเนินการได้ ก็ไม่ได้มีปัญหา เพียงแต่ตอนที่เรื่องผ่านมติคณะรัฐมนตรีไปนั้น ได้มีการมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการ ซึ่งก็จะต้องไปแก้ไขมติฯนี้ เพื่อให้ทั้ง 2 กระทรวง ร่วมมือกันแก้ปัญพร้อมกันได้ | ก.คมนาคม เตรียมเสนอ 4 รายชื่อ เข้าซูเปอร์บอร์ด ร่วมกระทรวงการคลัง ให้ วิษณุ นั่งหัวโต๊ะ เดินหน้าฟื้นฟูการบินไทย ยืนยันไม่มีขัดแย้ง คมนาคม-คลัง พร้อมร่วมทำงาน | เศรษฐกิจ | การบินไทย,แผนฟื้นฟูการบินไทย,กระทรวงการคลัง,กระทรวงคมนาคม | https://news.thaipbs.or.th/content/292791 |
ขายตรงหลอกเที่ยวญี่ปุ่นราคาถูก เจ้าของบริษัทยกเลิกการเดินทาง-ยันไม่ได้ขายทัวร์ | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกบริษัท WealthEver กว่า 1000 คน รวมตัวกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ วันที่ 11 เม.ย.2560 เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในเวลา 19.30 น.ตามที่ทางบริษัทนัดหมาย แต่เมื่อถึงเวลากลับพบว่าไม่มีเที่ยวบินของสายการบินคาเธย์ แปซิฟิค ที่ทางบริษัทกล่าวอ้าง ทำให้ผู้โดยสารเหล่านี้ตกค้างภายในสนามบินสุวรรณภูมิหนึ่งในผู้เสียหาย เดินทางมาจาก จ.นครสวรรค์ บอกว่ารู้สึกเสียใจที่ครอบครัวทั้ง 12 คน ถูกหลอก เพราะส่วนตัวก็ไม่เชื่อว่าจะเดินทางไปญี่ปุ่นได้โดยเสียค่าใช้จ่ายเพียงคนละ 9730 บาทเท่านั้นเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนมีประชุมที่รัชดา เขาบอกให้ดูจากไลน์กลุ่ม แม่ทีมที่พาไปเหมือนหัวหน้าทัวร์จะแจ้งรายละเอียดให้ทราบเอง วันนี้นัดเจอกัน 5 ทุ่ม แต่มาตั้งแต่ 6 โมงเย็น ตั้งแต่แรกแล้วรู้สึกไม่มั่นใจ แต่ว่าเราอยากให้ครอบครัวเราไปเที่ยวเพราะมันถูกที่สุด 12 คน แค่แสนกว่าบาท ผู้เสียหาย กล่าวมีน้องๆ ในกลุ่มแนะนำกันมาว่าไปเที่ยวญี่ปุ่นไหมในราคาถูกมาก 9730 บาท เราก็ถามว่าจะเป็นไปได้ยังไง แต่เขาบอกว่าอันนี้ไม่ใช่ค่าทัวร์นะ มันเป็นลักษณะเหมือนซื้อสินค้าของเขา ทัวร์ญี่ปุ่นเหมือนบัตรกำนัลให้เราเสริมอีกที ไม่ใช่ค่าเที่ยว เราก็ถามต่อว่าทำไมเขาถึงให้โปรโมชั่นนี้ได้ เขาก็บอกว่าบริษัทนี้มีงบโปรโมทบริษัท 100 ล้านบาท ทำให้สามารถทำได้โดยไม่ได้จ้างดารา เราก็เลยคิดว่าลองดูสักหน่อย ผู้เสียหาย กล่าวก่อนหน้านี้สายการบินคาเธย์ แปซิฟิค ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน.ลุมพินี เมื่อวันที่ 29 มีนาคม เพื่อยืนยันว่า ทางสายการบินไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าวหลังเกิดเหตุ นางกอบกาจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางไปรับฟังและร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยพบว่าบริษัทขายตรงดังกล่าวเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค ซึ่งภายหลังตรวจสอบข้อมูลพบว่าบริษัทขายตรงได้ขายสินค้าอาหารเสริมมีค่าสมัคร 9730 บาท โดยบอกว่าหากซื้ออาหารเสริมอีก 2 ขวด จะได้ไปญี่ปุ่น โดยบริษัทอ้างว่าจะมีเครื่องบินเช่าเหมาลำ 5 - 6 ลำ แต่จากการตรวจสอบไม่มีเครื่องบินตามที่กล่าวอ้าง ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นอยากให้ทราบเลยว่าอันนี้ไม่ถูกต้องแน่นอน อยากให้ทุกคนไปร้องทุกข์ในภูมิลำเนาที่อยู่ เพราะว่าไม่มีการเดินทางแน่นอน ลักษณะแบบนี้อยากจะให้เป็นบทเรียนให้กับคนไทยว่าของลักษณะแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้ ต้นทุนมันไม่ได้ แสดงว่านี่เป็นการหาเงินในลักษณะหนึ่ง นางกอบกาจน์ กล่าวด้านเจ้าของบริษัทขายตรง WealthEver ลงประกาศผ่านสื่อโซเชียล ยกเลิกการเดินทางไปญี่ปุ่น อ้างว่าเป็นเพราะสมาชิกไปแจ้งความ ทำให้เกิดความยุ่งยากในการจัดการเดินทาง โดยให้มีผลตั้งแต่เมื่อวานนี้ (11เม.ย.2560) และยืนยันไม่เคยมีการขายทัวร์เหตุเกิดจากการที่พวกคุณรวมตัวกันไปแจ้งความ ลงชื่อ ทำให้เกิดสถานการณ์ความวุ่นวาย ซึ่งมีผลทำให้ไม่สามารถเอาเครื่องบินจากที่โน้นมาได้ เพราะว่าจะเกิดผลหลายอย่างที่ทำให้เครื่องไม่สามารถลงได้ หรือลงได้แล้วพาพวกคุณไป ก็จะต้องไปเกิดเหตุติด ตม.ทางโน้น เพราะตอนนี้สถานการณ์บานปลายมากๆ ผมจึงขอประกาศยกเลิกโปรโมชั่นเที่ยวญี่ปุ่น 11-12 เม.ย.นี้ ขอยกเลิกก่อน แล้วใครหากมีความไม่พอใจ จะยกเลิกการทำธุรกิจก็แจ้งมา เราจะเคลียร์ค่าใช้จ่ายใน 3 วัน แล้วขอออกตัวเลยว่า เราไม่เคยมีการขายทัวร์ เพราะเราเป็นบริษัทลูกทีมไปเที่ยวเท่านั้นเอง และเที่ยวฟรีด้วย เจ้าของบริษัทขายตรง กล่าวเฟซบุ๊ก สคบ.กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ชี้แจงกรณีสมาชิกบริษัท WealthEver ถูกหลอกซื้อทัวร์ญี่ปุ่น โดยระบุว่า กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ขอชี้แจงว่า จากการตรวจสอบทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรงไม่พบว่าบริษัทดังกล่าวได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจขายตรงจาก สคบ. แต่อย่างใดอีกทั้งการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการนำเที่ยวต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 ซึ่งนายทะเบียนตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 ไม่สามารถรับจดทะเบียนให้ประกอบธุรกิจขายตรงได้ | สมาชิกบริษัทขายตรงหลายพันคน ตกค้างที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังถูกบริษัทหลอกให้ซื้อสินค้าที่สามารถไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นได้ เจ้าของบริษัทยกเลิกการเดินทาง-ยันไม่ได้ขายทัวร์ ด้าน รมว.ท่องเที่ยว ระบุ ราคา 9730 บาท เป็นไปไม่ได้ที่จะเที่ยวญีปุ่น | อาชญากรรม | ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,เที่ยวญี่ปุ่น,9730,ราคาถูก,ขายตรง,WealthEver,ถูกหลอก,ลอยแพ | https://news.thaipbs.or.th/content/261577 |
น้องเอย เด็กหญิงที่ถูกลืมบนรถตู้ เสียชีวิตแล้ว | เมื่อเวลาประมาณ 8.50 น. นางรัตนา นครโสภา แม่ของเด็กหญิงมนัสนันท์ ทองภู่ หรือ น้องเอยวัย 3 ปี ที่ถูกลืมไว้ในรถตู้ของโรงเรียนจนทำให้สมองบวม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คแจ้งว่า น้องเอยเสียชีวิตแล้วสำหรับน้องเอย ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. หลังครูพบน้องเอยหมดสติอยู่ในรถตู้ของโรงเรียน นานกว่า 5 ชั่วโมง และได้ย้ายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพ โดยพบว่า น้องเอยมีอาการสมองบวม มีปัญหาสภาวะเลือดเต็มปอด ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ทำให้แพทย์รักษาด้วยการให้น้ำเกลือ และยาเพื่อประคองอาการ จนเสียชีวิตในช่วงเช้าส่วนของการดำเนินคดีพนักงานสอบสวนภูธรบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนางสาวดาวรอง ศรีสมุ้ง ครูพี่เลี้ยงที่ทำหน้าที่ประจำรถตู้และ นายสันติภาพ หวานใจ ครูสอนคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ข้บรถตู้ในวันเกิดเหตุ ในข้อหา กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้เข้าเจรจากับแม่ของน้องเอย เรื่องค่ารักษาพยาบาลของน้องเอยทั้งหมดแล้ว | เด็กหญิงวัย 3 ปีที่ถูกลืมไว้ในรถตู้ของโรงเรียนนานกว่า 5 ชั่วโมงจนสมองบวม เสียชีวิตแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังเข้ารับการรักษาตัวเป็นเวลา 15 วัน | สังคม | น้องเอย,รถตู้,สมอง,เสียชีวิต,แพทย์,โรงพยาบาล | https://news.thaipbs.or.th/content/162739 |
รัฐจ่อใช้แผน ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก.ย.นี้ | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 59 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ชูศักดิ์ เมฆสุวรรณ ประธานคณะอนุกรรมการจัดทำร่างกรอบยุทธศาสตร์และการปฏิรูปประเทศ บรรยายพิเศษในหัวข้อ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยมีคณะนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช เข้าร่วมรับฟัง ,โดย พล.อ.ชูศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศเราไม่เคยจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติ จึงจำเป็นต้องทำแผนดังกล่าวอย่างชัดเจนเพื่อให้รัฐบาลชุดต่อไปได้ทำงานอย่างต่อเนื่องและไม่ขาดตอน ซึ่งแต่ละกระทรวงและหน่วยงานจะมีแผนงานของตนเอง โดยมีการกำหนดงบประมาณที่ชัดเจนเพื่อให้เกิดความคุ้มค่า ทั้งนี้การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ระหว่างปี 2560-2579 ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอเพื่อให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ความเห็นชอบ โดยจะมีผลบังคับใช้ช่วงเดือน ก.ย.นี้ และเตรียมส่งให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในเดือน ก.ค.2560 ต่อไป ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไว้ในร่างรัฐธรรมนูญด้วย สำหรับแผนยุทธศาสตร์นี้แบ่งการดำเนินงานเป็น 6 ด้าน คือ ด้านความมั่นคง ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน ด้านการสร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ,นายกฯ ได้เน้นเรื่องหลักการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ต้องมีหลักความเป็นสากล มีการศึกษาประสบการณ์ของต่างประเทศ รวมถึงคนจากทุกภาคต้องมีส่วนร่วม และตอบสนองต่อการบรรลุผลประโยชน์ของประเทศ ทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมถึงสร้างและยกระดับรายได้ของประชาชนให้เป็นระดับสูง เทียบเท่าประเทศพัฒนาแล้ว พล.อ.ชูศักดิ์ กล่าว | ปธ.อนุฯ จัดทำร่างยุทธศาสตร์ฯ เผย รบ.เตรียมเริ่มใช้แผน ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก.ย.นี้ พร้อมส่งไม้ต่อให้ รบ.จากการเลือกตั้ง ก.ค. ปี 60 ระบุนายกฯ กำชับต้องพัฒนาชีวิตยกระดับรายได้ ปชช. | null | ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี,ปฏิรูปประเทศ,ชูศักดิ์ เมฆสุวรรณ,ร่างรัฐธรรมนูญ,การบริหารประเทศ,แผนยุทธศาสตร์ชาติ,งบประมาณ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/630458 |
วัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนขโมยถังขยะ จ.ประจวบคีรีขันธ์ | วันนี้ (8 ส.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าบ้านของนายยุทธนา น้ำเพชร ชาวบ้าน หมู่ที่ 2 บ้านหนองข้าวเหนียว ต.สามร้อยยอด อ.สามร้อยยอดจ.ประจวบคีรีขันธ์ บันทึกเหตุการณ์ที่มีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ตระเวนขโมยถังขยะบริเวณหน้าหาดสามร้อยยอด เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมาลักษณะพฤติกรรม คือคันแรกจะขี่มาดูลาดเลาและล่อสุนัขให้เห่าไล่ก่อน โดยคนขี่คันแรกเป็นผู้ชายสวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ คนนั่งซ้อนท้ายเป็นผู้หญิงสวมเสื้อลาย กางเกงขาสั้น ส่วนคันที่ 2 เป็นชายวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ ตามมาพร้อมกำลังลากถังขยะ ซึ่งขโมยมาจากคอนโดเดอะซี ห่างจากจุดที่จอดมาประมาณ 10 เมตร แล้วมาจอดที่จุดวางถังขยะอีกจุดหนึ่งโดยคนขี่จักรยานยนต์ได้ใช้เท้าถีบดูว่าในถังมีขยะอยู่หรือไม่ แต่ถังดังกล่าวมีขยะอยู่เต็มก็เลยไม่สามารถนำไปได้ จึงได้ให้คนนั่งซ้อนท้ายขึ้นรถจักรยานยนต์พร้อมลากถังขยะใบที่ขโมยมา ขี่ไปบนถนนริมชายหาดเพื่อหลบหนีนายยุทธนา เปิดเผยว่า เหตุขโมยถังขยะแบบนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะช่วงเทศกาลจะหายบ่อยมาก จนชาวบ้านสงสัยว่าขโมยถังขยะไปทำอะไร สร้างความกังวลใจให้คนในพื้นที่ จึงอยากฝากเจ้าหน้าที่ให้ช่วยสอดส่องดูแลด้วย | กล้องวงจรปิดจับภาพวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ตระเวนขโมยถังขยะบริเวณชายหาดสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ สร้างความสงสัยและความกังวลใจต่อทรัพย์สินของชาวบ้านในพื้นที่ | อาชญากรรม | ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,วัยรุ่น,ขโมยถังขยะ,ถังขยะ,ชายหาดสามร้อยยอด,ประจวบคีรีขันธ์ | https://news.thaipbs.or.th/content/265042 |
บอร์ด ก.ค.ศ.ไฟเขียวเลิก Logbook ครู | เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า หรือหลักฐานชั่วโมงการปฏิบัติงาน ชั่วโมงการอบรมและพัฒนา เพราะยังคงต้องมีมาตรฐานและการประเมินสมรรถนะของข้าราชการครูเอาไว้เช่นเดิม ที่ประชุมยังได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หาวิธีการบันทึกข้อมูลการปฏิบัติงานที่ง่ายที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นภาระครู โดยอาจจะให้ครูรับรองตนเอง เพราะทุกคนควรเริ่มจากการประเมินตนเองก่อนที่จะให้ผู้อื่นมาประเมิน และให้ผู้อำนวยการสถานศึกษารับรอง หากเกิดกรณีผู้บริหารสถานศึกษากับครูผู้สอนเป็นปฏิปักษ์กัน จะมีกระบวนการอื่นเข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติม เช่น ก.ค.ศ. หรือคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ลงไปดูเป็นรายๆไป,ผมถาม ก.ค.ศ.ว่าผู้บริหาร ศธ.ต้องทำ Logbook เสนอ รมว.ศธ.หรือไม่ เพราะแม้แต่ผมก็ไม่ต้องทำ Logbook ส่งนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้เรายึดหลักการต้องไว้ใจครู และภาระหลักของครูคือ การสอน ไม่ให้ครูมีภาระอื่นมากเกินไป ที่ผ่านมามีบางกลุ่มไปจัดอบรมครูเกี่ยวกับวิธีการกรอก Logbook โดยเรียกเก็บเงินครูรายละ 3,500 บาท ซึ่งจัดเป็นรุ่นที่ 9 แล้วมีมูลค่ารวมกว่า 1.6 ล้านบาท ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบว่าเอาเวลาราชการไปทำหรือไม่ ส่วนที่มองว่าการยกเลิก Logbook เป็นการหาเสียงนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะผมไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใด แต่เราฟังเสียงและความคิดเห็นจากครู รมว.ศธ.กล่าว,ด้านนายอัมพร พินะสา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า กรณีที่มีหน่วยงานจัดอบรม Logbook โดยเรียกเก็บเงินจากครูนั้น ทราบว่ามี 2-3 รายที่จัด ซึ่ง สพฐ.จะตั้งคณะกรรมการลงไปดูว่ามีข้าราชการดำเนินการนำเวลาราชการไปทำหรือไม่. | ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ยกเลิกการบันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) สำหรับข้าราชการครู ซึ่งเป็นเพียงการยกเลิกวิธีการบันทึกชั่วโมงการสอนเท่านั้น ไม่ได้ยกเลิก PLC | ข่าว,สังคม | ยกเลิกการบันทึกประวัติการปฏิบัติงาน,ระบบ Logbook,ยกเลิกระบบ Logbook,ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์,ข้าราชการครู,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/society/1455738 |
สี จิ้นผิงร่วมถก โอบาม่า สร้างความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ | ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังรับตำแหน่งผู้นำในเดือนมี.ค.2556 โดยร่วมประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ที่รีสอร์ทหรู ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำจากชาติมหาอำนาจจากตะวันตกและตะวันออกที่แน่นแฟ้นกว่าผู้นำรุ่นก่อนโดยประเด็นหารือทวิภาคี ได้แก่ การย้ำความสัมพันธ์ 2 ประเทศ ซึ่งนายโอบามาหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ระหว่าง 2 ประเทศ พร้อมทั้งชื่นชมจีนว่า สันติภาพและความรุ่งเรืองของจีน ไม่เพียงเป็นผลดีกับจีนเท่านั้น แต่ส่งผลดีต่อโลก และสหรัฐฯ ส่วนนายสีแสดงความหวังว่าการพบกันครั้งนี้ จะปูทางความสัมพันธ์อันดีต่อไปในอนาคต และจะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯ หารือถึงประเด็นความมั่นคงทางไซเบอร์ โดยสหรัฐฯ กล่าวหาจีนว่าใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตล้วงข้อมูลลับของกองทัพสหรัฐฯ และบริษัทเอกชนของสหรัฐฯ และหวังว่าทั้ง 2 ประเทศจะร่วมมือกันหาทางป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นกับระบบคอมพิวเตอร์ ขณะที่นายสีไม่ได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าว และไม่ได้เอ่ยถึงประด็นสิทธิมนุษยชน หรือ สถานการณ์ในเกาหลีเหนือเลยส่วนบรรยากาศก่อนหน้าการหารือทวิภาคี เกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากนักเคลื่อนไหวหลายร้อยคน ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มเพื่อนทิเบตและลัทธิฟาหลุนกง มาชุมนุมประท้วงที่ชุมนุมทะเลทรายแรนโช่ มิราจ ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยผู้ประท้วงของกลุ่มเพื่อนทิเบตต้องการให้ผู้นำจีนหารือถึงปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนและเรื่องการคืนดินแดนอธิปไตยให้กับชาวทิเบต ขณะที่สาวกลักธิฟาหลุนกงเรียกร้องให้ผู้นำจีนยุติการปิดกั้นทางศาสนาและเลิกทรมานสาวกของลัทธิ ทั้งนี้การประชุมสุดระหว่างผู้นำสหรัฐกับจีนในครั้งนี้จะเน้นการหารือในเรื่องสำคัญๆ รวมทั้งเรื่องความปลอดภัยของระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์และวิกฤตนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ | ผู้นำจีนประชุมสุดยอดร่วมกับผู้นำสหรัฐฯ ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่น โดยทั้ง 2 จะร่วมสร้างความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ ขณะที่สหรัฐฯ เรียกร้องให้จีนจัดการปัญหาความมั่นคงในโลกไซเบอร์ | ต่างประเทศ | ความสัมพันธ์,จีน,สหรัฐฯ,สี จิ้นผิง,โอบาม่า | https://news.thaipbs.or.th/content/175371 |
อุเทน เปรียบแผนปฏิรูปฯ ไม่ต่าง แผนน้ำท่วมทุ่ง ผลาญงบฯ ปชช. | นับร้อยชีวิต ทั้ง สปช.-สปท.-ครม.-สนช. ผลาญงบฯ จากภาษีประชาชนไปมหาศาล แต่กลับหาแก่นสารไม่เจอ ถาม ประยุทธ์ ได้อ่านก่อนลงนามหรือไม่ วานยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมมาสักเรื่อง,เมื่อวันที่ 9 เม.ย.61 นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงกรณีที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การประกาศแผนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า เข้าใจดีว่าการประกาศดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามกรอบที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และกฎหมายที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตราขึ้น แต่เหนือสิ่งอื่นใด เนื้อหาของแผนการปฏิรูปประเทศที่แบ่งออกเป็น 6 เรื่อง รวมจำนวน 2,166 หน้า ซึ่งตนและทีมงานพรรคคนไทยก็ได้พยายามศึกษาเพื่อทำความเข้าใจ แต่เบื้องต้นเมื่ออ่าน กลับพบแต่ความวกวนเยิ่นเย้อ จนยากจะทำเข้าใจได้ในเวลาอันสั้น และมองไม่เห็นสาระที่จะนำออกมาปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมแต่อย่างใด จึงไม่แน่ใจว่าผู้ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. และทีมงานได้พิจารณาศึกษาอย่างถ่องแท้ก่อนที่จะประกาศมาบังคับใช้หรือไม่ ด้วยทราบว่าแผนการปฏิรูปประเทศฉบับนี้ผ่านการจัดทำมามากกว่า 3 ปี และผ่านมือผู้ที่อวดอ้างตัวเองว่าทรงคุณวุฒิที่ คสช.ตั้งขึ้น สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ก่อนที่จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และผ่านการลงมติรับทราบจาก สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในขั้นสุดท้าย นอกจากนี้แผนการปฏิรูปประเทศฉบับนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการดำเนินการคู่ขนานไปกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ที่จะมีผลผูกพันกับคนไทยทั้งประเทศไปอีก 20 ปี แต่กลับนำเนื้อหาที่ไม่ใช่สาระสำคัญมาบรรจุไว้ จนหาแก่นสารไม่พบ ขาดการไตร่ตรองอย่างมีวิจารณญาณของผู้ที่ คสช.ตั้งขึ้นหลายร้อยชีวิต ไม่สมกับที่สูญเสียงบประมาณจากภาษีประชาชนไปแม้แต่น้อย,แผนการปฏิรูปประเทศนำออกประกาศผูกมัดประเทศครั้งนี้ นับเป็นแผนการที่น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง หาสาระแก่นสารในการนำไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมไม่พบ และไม่ใกล้เคียงคำว่าตกผลึกทางความคิดกันมาก่อน แย่ยิ่งกว่านักเรียนเขียนรายงานเสียอีก ทำเหมือนกับเห็นประเทศเป็นหนูทดลอง เหมือนเล่นขายของไปวันๆ ถือเป็นการสูญเสียงบประมาณชาติไปอย่างมหาศาล จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงท่านนายกฯ ประยุทธ์ ลองยกตัวอย่างเรื่องที่เป็นรูปธรรมมาสักหัวข้อหนึ่ง นายอุเทน กล่าว. | อุเทน เปรียบ แผนปฏิรูปฯ ไม่ต่าง แผนน้ำท่วมทุ่ง วกวนเยิ่นเย้อมากกว่า 2 พันหน้า ไร้เนื้อหาที่จับต้องได้ ไม่ต่างนักเรียนเขียนรายงาน เหลือเชื่อใช้เวลามากกว่า 3 ปี ผ่านตา คนดี-คนเก่ง | ข่าว,การเมือง | อุเทน ชาติภิญโญ,หัวหน้าพรรคคนไทย,แผนปฏิรูป,รธน.ฉบับใหม่,คำสั่งสำนักนายก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1251727 |
ศิลปินชาวยูเครน จัดนิทรรศการศิลปะ เจ้าหญิงนิทรา การจุมพิตและการแต่งงาน | แม้เป็นการแสร้งว่านอนหลับ ไม่ได้นิทราไปถึงหนึ่งร้อยปีดังในเทพนิยาย แต่สาวสวยในชุดนอนสีขาว ต้องใช้สัญชาตญาณในการตัดสินว่าริมฝีปากของชายหนุ่มที่เข้ามาจุมพิตนั้นเป็นคู่แท้ของเธอหรือไม่ และหากใช่ เธอจะลืมตาขึ้นและแต่งงานกับเขา นี่คือแนวคิดของนิทรรศการ Sleeping Beauty ในเมือง Kiev ประเทศยูเครน โดย Taras Polataiko ศิลปินชาวยูเครน-แคแนเดี้ยน สร้างนิทรรศการศิลปะอิงเรื่องราวจากเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา เพื่อท้าทายนิยามรักแท้ในโลกแห่งความเป็นจริงPolataiko เริ่มงานด้วยการคัดเลือกอาสาสมัครสาว 5 คน ผลัดเปลี่ยนกันมาสวมบทเจ้าหญิงนิทรา และอนุญาตให้ผู้เข้าชมชายจุมพิตเธอได้เพียงครั้งเดียวที่ริมฝีปากเท่านั้น โดยทั้งหมดต้องเซ็นสัญญายินยอมว่าหากหญิงสาวลืมตาขึ้นขณะที่ชายหนุ่มกำลังจุมพิตเธอ จะต้องแต่งงานกัน แม้ถูกมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ผู้เข้าร่วมทุกคนจริงจังกับเงื่อนไขนี้ เช่น Natalia หนึ่งในอาสาสมัครสาวบอกว่า ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิต และไม่แน่ว่านี่อาจเป็นวิธีเดียวที่เธอจะได้พบเนื้อคู่ ขณะที่ผู้เข้าชมชายนั้น มีทั้งผู้ที่เลือกจุมพิตเจ้าหญิง ส่วนบางคนนั้นเข้ามาพิจารณาเพียงอย่างเดียวแต่ไม่ใช่ทุกคนจะยอมรับแนวคิดนี้ว่า เป็นงานศิลปะ โดยก่อนเปิดงานอย่างเป็นทางการ กระทรวงวัฒนธรรมยูเครนได้โทรแจ้งให้ Polataiko ว่าให้ยกเลิกงานนี้ แต่อนุญาตในท้ายที่สุดเมื่อได้ทำความเข้าใจกับศิลปิน หากในแง่ของศิลปะ Carmel Lobello นักวิจารณ์จากเว็บไซต์ Death And Taxes บอกว่านิทรรศการนี้ประสบความสำเร็จในการกระตุ้นให้ผู้ชมคิดถึง ความเชื่อในเทพนิยายที่สัมพันธ์กับการแต่งงาน เช่น ทัศนคติเรื่องความรักเกิดจากโชคชะตา และหากหญิงสาวมีความงามและความอดทนมากพอ จะมีเจ้าชายค้นพบแม้เธอจะนอนนิ่ง ๆ อยู่บนเตียงก็ตาม | เทพนิยายเรื่องเจ้าหญิงนิทรากำลังจะเป็นความจริง เมื่อศิลปินคนหนึ่งจัดงานนิทรรศการศิลปะด้วยการให้หญิงสาวนอนบนเตียง และให้ผู้ชมหนุ่มสามารถเข้าไปจูบเธอได้ โดยมีเงื่อนไขว่า หากชายคนใดที่จูบแล้วหญิงสาวลืมตาตื่น ทั้งสองต้องแต่งงานกัน | ศิลปะ-บันเทิง | Taras Polataiko,จุมพิต,ศิลปินชาวยูเครน,เจ้าหญิงนิทรา | https://news.thaipbs.or.th/content/108059 |
www.เราไม่ทิ้งกัน.com เช็กด่วนเช้านี้ คลังโอนเงิน 5000 บาท เพิ่มอีก 7 แสนคน | ตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน วันนี้คลังโอนเงินเยียวยา 5000 บาท ให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์เพิ่มอีก 7 แสนคน ใครยังไม่ได้รับเงิน อย่าลืมเช็กสิทธิ์จากกรณี รัฐบาลเปิดมาตรการเยียวยาลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ นอกระบบประกันสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัส โควิด-19 (COVID-19) จะได้รับเงินสนับสนุนรายละ 5000 บาทต่อเดือน โดยต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เท่านั้น ซึ่งล่าสุดได้ปิดการลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ไปแล้ว แต่ยังเปิดเว็บให้ตรวจสอบสถานะ ยกเลิกการลงทะเบียน ยื่นทบทวนสิทธิ์ เปลี่ยนแปลงข้อมูลการรับเงิน และยื่นข้อมูลเพิ่มเติมได้ล่าสุด นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ได้จ่ายเงินเยียวยาไปแล้วประมาณ 4.9 ล้านราย ในระยะถัดไปจะเริ่มจ่ายในจำนวนที่มากขึ้น หรือราว 700000 คนต่อวัน เพราะระบบสามารถประมวลผลได้รวดเร็วขึ้นทั้งนี้ มีผู้ยื่นขอทบทวนสิทธิ์แล้วจำนวน 3.1 ล้านราย ขณะเดียวกัน เมื่อส่งทีมผู้พิทักษ์สิทธิ์ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า มีผู้ที่แสดงข้อมูลเป็นเท็จ ทำให้มีคนขอยกเลิกการลงทะเบียนหรือยกเลิกการทบทวนสิทธิ์ในวันแรก คือ 25 เม.ย.นี้ ประมาณ 910000 ราย โดยทีมผู้พิทักษ์สิทธิ์ หลายจังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบสิทธิ์ทุกวันไม่เว้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้าวันที่ 27-28 เม.ย.63 จะมียอดจ่ายเงินเยียวยารวม 1.5 ล้านคน แบ่งเป็นวันที่ 27 เม.ย. โอนเงินจำนวน 7 แสนราย และ วันที่ 28 เม.ย. โอนเงินจำนวน 8 แสนราย ซึ่งกลุ่มที่จ่ายเงินรอบนี้นั้น ได้ตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้วจาก กลุ่มที่ขอข้อมูลเพิ่มเติม และ กลุ่มที่ขอทบทวนสิทธิ์สำหรับวิธีตรวจสอบสถานะได้ง่ายๆ ว่าได้รับเงินมาตรการเยียวยา 5000 บาท หรือไม่ได้ทันที เพียงทำตาม 3 ขั้นตอนต่อไปนี้1. เข้าไปที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com2. เลือกเมนู ตรวจสอบสถานะ หรือ (คลิกที่นี่)3. กรอกข้อมูลส่วนตัว อาทิ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ และ วัน/เดือน/ปีเกิด | ตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน วันนี้คลังโอนเงินเยียวยา 5000 บาท ให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์เพิ่มอีก 7 แสนคน ใครยังไม่ได้รับเงิน อย่าลืมเช็กสิทธิ์ | ข่าว,เศรษฐกิจ | เราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนรับเงิน 5000,www.เราไม่ทิ้งกัน.com,เงินเยียวยา 5000 บาท,โควิด-19,ตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน | https://www.thairath.co.th/news/business/1830726 |
เห็นมนุษย์ต่างดาว ภายใน 10 ปีนี้ | มนุษย์ก็อาจจะได้พบหน้าค่าตาของมนุษย์ต่างดาวตัวจริง,นายเอนเลน สโตแฟน ผู้เป็นหัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ผมเชื่อว่าเราจะได้พบเค้าลางของชีวิตบนโลกอื่นภายในทศวรรษนี้ และต่อไปอีกไม่เกิน 20 ถึง 30 ปี ถึงจะได้พบหลักฐานชัดเจนในเรื่องนี้,เขารายงานว่า ทุกวันนี้เราพอจะได้ร่องรอยบ้างแล้วว่าควรจะค้นหาทางไหน และควรจะหาดูอะไร ส่วนใหญ่เราก็พบวิธีที่จะทำการค้นหามากแล้ว คิดว่าเรากำลังไปถูกทางอย่างแน่นอน เขายังบอกอย่างหนักแน่นต่อไปว่า เชื่อมั่นว่าจะได้พบร่องรอยของชีวิตภายในเวลาค่อนข้างเร็วไม่ช้านี้ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตที่อยู่ในสุริยจักรวาล เดียวกันกับเรา หรือต่างสุริยจักรวาลอันอื่นก็ตาม,ข้าพเจ้าเชื่อว่า ไม่ว่าจะพบอยู่ในน้ำแข็งบนดวงจันทร์ หรือบนดาวอังคาร หรืออาจจะอยู่บนดาวเคราะห์รอบๆบริวารของดวงอาทิตย์ใกล้เคียงดวงใดดวงหนึ่งก็ได้,ผลการศึกษาครั้งล่าสุดส่อว่า ในสุริยจักรวาลและในทาง ช้างเผือกที่ใหญ่โตกว่ากัน ล้วนแต่มีสิ่งแวดล้อมที่อนุเคราะห์ชีวิตด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่ามันจะอยู่ในรูปของมหาสมุทร ของน้ำที่อยู่ในภาวะเหลว หรือในโคลนเลนภายใต้ชั้นน้ำแข็ง อย่างที่เป็นอยู่บนดวงจันทร์ยูโรปาบริวารของดาวพฤหัสบดี. | นักวิทยาศาสตร์เอกขององค์การอวกาศสหรัฐฯ ได้กล่าวทำนายไว้ว่า มนุษย์จะเจอเค้าลางของมนุษย์ต่างดาว ภายในเวลาไม่เกินปี พ.ศ.2568 นี้ หลังจากนั้นต่อไปอีกสักระหว่าง20 ถึง 30 ปี | null | โลกโศภิน,มนุษย์ต่างดาว,มนุษย์,2568,เอนเลน สโตแฟน | https://www.thairath.co.th/content/492813 |
อย.สหรัฐฯ ไฟเขียว ใช้ยาเรมเดซิเวียร์ แก่ผู้ป่วยหนักโรคโควิดแล้ว | องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ อนุมัติให้ใช้ยาต้านไวรัส เรมเดซิเวียร์ แก่ผู้ป่วยหนักโรคโควิดได้แล้วเป็นชนิดแรก ท่ามกลางเสียงเตือน หลังผลการทดลองทางคลินิกออกมาช่วยลดระยะเวลารักษาให้สั้นลงเมื่อ 3 พฤษภาคม 63 สำนักข่าวบีบีซีรายงานองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) อาศัยอำนาจตามมาตรการฉุกเฉิน อนุมัติการใช้ยาเรมเดซิเวียร์ ให้แก่ผู้ป่วยหนักด้วยโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 จนถือเป็นยาชนิดแรกที่ได้รับการอนุมัติจากทางการสหรัฐฯ ในการนำมาใช้กับผู้ป่วยด้วยโรคโควิดที่มีอาการหนักคำสั่งดังกล่าวของสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ หมายถึง ยาต้านไวรัสเรมเดซิเวียร์นี้ สามารถถูกนำมาใช้กับผู้ป่วยหนักด้วยโรคไวรัสโควิดที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาลในสหรัฐฯ หลังจากผลการทดลองทางคลินิกเมื่อเร็วๆ นี้ออกมาว่า ยาเรมเดซิเวียร์ช่วยลดระยะเวลาในการรักษาผู้ป่วยหนักด้วยโรคโควิดให้สั้นลง ถึงแม้ว่ายาเรมเดซิเวียร์ยังไม่ทำให้อัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญก็ตามสำนักข่าวซินหัวรายงานด้วยว่า สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ อธิบายว่ายาเรมเดซิเวียร์เป็นยาที่ใช้ฉีดเข้าหลอดเลือดดำของผู้ป่วยวันละ 1 ครั้ง นานสุงสุด 10 วันซึ่งขึ้นอยู่กับคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ซึ่งยานี้อาจช่วยลดปริมาณเชื้อไวรัสโคโรนาในร่างกายและช่วยให้ผู้ป่วยหายเร็วขึ้น ส่วนผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ยา อาจมีอาการอันไม่พึงประสงค์ที่สัมพันธ์กับการหยดยาทางหลอดเลือดดำ และลดการเพิ่มระดับของเอนไซม์ในตับทั้งนี้ บีบีซีรายงาน ขณะที่ผลการทดลองทางคลินิกของยาเรมเดซิเวียร์อย่างสมบูรณ์ยังไม่มีการเผยแพร่ออกมา แต่สถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ (NIAID) พบว่าการใช้ยาเรมเดซิเวียร์ช่วยลดระยะเวลาในการรักษาผู้ป่วยให้สั้นลงจาก 15 วัน เหลือ 11 วันโดยจากการทดลองทางคลินิกกับผู้ป่วย 1063 รายตามโรงพยาบาลต่างๆทั่วโลก รวมทั้งในสหรัฐฯ ฝรั่งเศส อิตาลี สหราชอาณาจักร จีนและเกาหลีใต้ ซึ่งได้แบ่งผู้ป่วยออกเป็นสองกลุ่ม ซึ่งกลุ่มหนึ่งได้รับยาเรมเดซิเวียร์ ส่วนผู้ป่วยอีกกลุ่มได้รับยาหลอก โดยผลการทดลองทางคลินิกที่ออกมาทำให้ ดร.แอนโทนี เฟาชี ผู้อำนวยการ NIAID ชี้ว่ายาเรมเดซิเวียร์ สามารถลดเวลาการรักษาและทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวอาการดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้านผู้เชี่ยวชาญหลายคนเตือนว่า ยาเรมเดซิเวียร์ ซึ่งเบื้องต้นถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรักษาโรคไวรัสอีโบลาและผลิตโดยบริษัท Gilead ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ไม่ควรถูกมองว่าเป็น กระสุนมหัศจรรย์สำหรับการรักษาโรคไวรัสโควิด ขณะที่บริษัท Gilead เองก็ได้แจ้งบนเว็บไซต์ว่า ยาเรมเดซิเวียร์อยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิก ซึ่งยังไม่มีความปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพในการนำไปใช้กับผู้ป่วยในทุกๆ สภาพการณ์ พร้อมเตือนว่าการใช้ยานี้อาจมีผลข้างเคียงอย่างรุนแรงจากการใช้ยา | องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ อนุมัติให้ใช้ยาต้านไวรัส เรมเดซิเวียร์ แก่ผู้ป่วยหนักโรคโควิดได้แล้วเป็นชนิดแรก ท่ามกลางเสียงเตือน หลังผลการทดลองทางคลินิกออกมาช่วยลดระยะเวลารักษาให้สั้นลง | ข่าว,ต่างประเทศ | โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรนา,ยาเรมเดซิเวียร์,องค์การอาหารและยาสหรัฐ,โควิดสหรัฐ,อนุมัติใช้ยาเรมเดซิเวียร์ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1836008 |
สมาร์ทโฟน-แพ็กเกจท่องเที่ยว ของขวัญในใจคนไทยที่อยากได้รับในปีนี้ | ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของขวัญให้กับบุคคลในครอบครัว คนรัก เพื่อน ลูกค้า และการซื้อของขวัญเพื่อร่วมกิจกรรมการจับฉลากในงานเฉลิมฉลอง และในช่วงเทศกาลที่สำคัญนี้ จะเป็นช่วงที่ห้างสรรพสินค้าร่วมมือกับบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์สินค้าในการทำแคมเปญการตลาดกระตุ้นยอดขายสินค้ากันอย่างคึกคักสำหรับของขวัญที่โดยปกติแล้วจะนิยมซื้อเพื่อมอบให้แก่กันหรือนำมาจับฉลากนั้น อาทิ สินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าแฟชั่น และสินค้าตกแต่งบ้าน เป็นต้น ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สำรวจความคิดเห็นถึง สินค้าที่อยากได้รับเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มีกลุ่มตัวอย่าง 400 คน สำรวจวันที่ 23 พฤศจิกายน – วันที่ 2 ธันวาคม 2555 สำหรับของขวัญที่คนไทยอยากได้รับในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 5 อันดับแรกนั้น จากผลสำรวจ พบว่า ของขวัญที่คนไทยอยากได้รับมากที่สุด คือ สมาร์ทโฟน (Smartphone) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11.8 ของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด ขณะที่ของขวัญที่คนไทยอยากได้รับรองลงมา ซึ่งมีสัดส่วนใกล้เคียงกับอันดับแรก คือ แพ็คเกจท่องเที่ยวต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11.4 ส่วนของขวัญที่อยากได้รับรองลงมา ได้แก่ แท็บเล็ต (Tablet) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10.0 ถัดมาเป็นเครื่องประดับ เช่น นาฬิกา สร้อย และแหวน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9.1 และกลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์ อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (PC) โน้ตบุ๊ค (Notebook) และอัลตร้าบุ๊ค (Ultrabook) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 8.2 สำหรับของขวัญประเภทอื่นๆ ที่ผู้ตอบแบบสอบถามอยากได้รับในปีนี้ อาทิ กล้องดิจิตอล เครื่องเล่นบลูเรย์ เครื่องเล่นเพลง MP3 หรือ Digital Media Player โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องทำกาแฟ และของตกแต่งบ้าน ฯลฯเมื่อพิจารณาถึงของขวัญที่ผู้ตอบแบบสอบถามเลือกและความสัมพันธ์กับอายุของผู้เลือก พบว่า ในแต่ละของขวัญที่ถูกเลือกขึ้นมานั้นสะท้อนได้ถึงไลฟ์สไตล์ของผู้ที่เลือกตอบในแต่ละกลุ่มได้อย่างลงตัว อาทิ กลุ่มผู้ทีมีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป เลือกแพ็คเกจท่องเที่ยวมากที่สุด ซึ่งน่าจะสอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของกลุ่มผู้สูงอายุนี้ จะเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญในการดูแลรักษาสุขภาพ และใช้ชีวิตไปในการพักผ่อนท่องเที่ยว หรือกลุ่มวัยที่มีอายุต่ำกว่า 29 ปีที่ส่วนใหญ่จะเลือกของขวัญในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี สามารถเข้าใจและใช้เทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี จากผลสำรวจนี้อาจจะนำมาเป็นแนวคิดสำหรับการเลือกของขวัญปีใหม่ให้ถูกใจผู้รับในปีนี้ | เทศกาลเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสและเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขสำหรับคนไทย เนื่องจากบริษัทต่างๆ จะมีการจัดงานรื่นเริงสังสรรค์ และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ การซื้อของขวัญมอบให้แก่กัน | สังคม | ของขวัญ,คนไทย,จับฉลาก,สมาร์ทโฟน,แพ็กเกจท่องเที่ยว | https://news.thaipbs.or.th/content/133390 |
หนาวส่งท้าย เช้า 24 ม.ค.วูบเดียว 6-10 องศา ทั้งเหนือ-อีสาน-กลาง-กทม. | เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 23 ม.ค.59 กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับที่ 9 ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว และจะแผ่เข้าปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมแรงเกิดขึ้น และอากาศจะหนาวเย็นลงอย่างรวดเร็ว และอุณหภูมิจะลดลง 6-10 องศาเซลเซียส โดยสภาวะอากาศดังกล่าวจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อนในวันนี้ ส่วนภาคต่างๆ จะมีผลกระทบวันพรุ่งนี้ สำหรับการคาดการณ์อุณหภูมิต่ำสุดตามภาคต่างๆ ในช่วงวันที่ 24-25 มกราคม 2559 จะมีดังนี้, ,- ภาคเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยจะมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่, ,- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส,- ภาคกลางและภาคตะวันออก อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส,- กรุงเทพมหานครและปริมลฑล อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส,หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 26-27 มกราคม 2559 จะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมา เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะส่งผลให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีก ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงและหนาวเย็นลง,สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่24-26 มกราคม 2559 ไว้ด้วย | กรมอุตุฯออกประกาศ ฉบับที่9 เรื่ิองอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย เตือนอากาศแปรปรวนมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมแรง ก่อนจะหนาวเย็นลงอย่างรวดเร็ว คนกรุงมีโอกาสสัมผัสลมหนาวแบบเต็มๆ ของจริง | null | อุตุ,ประกาศกรมอุตุ,กรมอุตุนิยมวิทยา,ประกาศฉบับที่ 9,ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน,ฝนฟ้าคะนอง,ลมแรง,อากาศหนาวเย็น,อุณหภูมิลดลง,ความกดอากาศสูงกำลังแรง,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ,พยากรณ์อากาศ,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์,หนาว,อากาศหนาว | https://www.thairath.co.th/content/567120 |
หนุ่มระนอง ซิ่ง จยย.ฝ่าสายฝน ชนขอบปูน กระเด็นตกคลอง คอหักดับ | เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 14 ส.ค.63 พ.ต.ต.ไชยณัฐ มาพงษ์ สว.(สอบสวน) สภ.บางพลี รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำ มีคนเสียชีวิต ภายในซอยบางปลา 26 ม.2 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์นิติเวช รพ.บางพลี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊งที่เกิดเหตุอยู่เลียบคลองบางปลา พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีม่วง หมายเลขทะเบียน 1 กด 3564 พระนครศรีอยุธยา ล้มคว่ำอยู่กลางถนน ใกล้กันพบศพนายจักรกฤษ แสงอรุณ อายุ 23 ปี คนขับ อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.1 ต.ราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง กระเด็นตกคลองบางปลา สภาพคว่ำหน้าจมน้ำ ที่ศีรษะมีหมวกกันน็อกสวมคาอยู่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงลงไปนำร่างขึ้น เบื้องต้นพบว่ากะโหลกศีรษะเปิดมีแผลฉกรรจ์ ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร และคอหัก นอกจากนี้ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบร่องรอยการชนขอบปูนริมคลอง โดยมีเศษวัสดุชิ้นส่วนจักรยานยนต์ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปเอาไว้เป็นหลักฐานจากการสอบถาม นายอานนท์ ทาแฮ อายุ 17 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ ผู้พักอาศัยตรงจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ตนได้ยินเสียงคล้ายรถจักรยานยนต์ล้มไถลไปไกล จึงออกมาดูพบเพียงจักรยานยนต์คว่ำอยู่ แต่ไม่พบคนขับ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ จนพบว่าเสียชีวิตอยู่ในคลองดังกล่าวเบื้องต้น พ.ต.ต.ไชยณัฐ มาพงษ์ สว.(สอบสวน ) สภ.บางพลี สันนิษฐานว่า ผู้ตายอาจเพิ่งเลิกงานและกำลังกลับห้องพัก ซึ่งเป็นช่วงฝนตกลงมาในพื้นที่พอดี จึงคาดว่าผู้เสียชีวิตขับขี่รถฝ่าสายฝนด้วยความเร็วเพื่อกลับห้องพัก แต่เกิดเสียหลักพุ่งชนขอบปูนถนน จนกระเด็นตกคลองเสียชีวิต | หนุ่มระนอง ควบ จยย.เสียหลักชนขอบปูนข้างทางพลิกคว่ำ ร่างกระเด็นตกคลองดับคาหมวกกันน็อก ตำรวจคาดซิ่งฝ่าสายฝนเป็นเหตุสลด | ข่าว,ทั่วไทย | หนุ่มระนอง,จยย.,รถชน,จักรยานยนต์,จยย.เสียหลัก,จยย.ชนขอบปูน,อุบัติเหตุ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1910005 |
ถล่ม เมด อิน ไชน่า รอบ 2 ทรัมป์ระแวงจีนล้วงตับไฮเทค | สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ยังไม่จบลงง่ายๆ เมื่อ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เตรียมเพิ่มความเข้มข้นด้วยการ ขึ้นภาษีสินค้าจีนอีก 200,000 ล้านดอลลาร์ 6.5 ล้านล้านบาท ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมสภาผู้แทนสหรัฐฯในวันที่ 6 พฤศจิกายน ทรัมป์ต้องการชนะการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้คะแนนเสียง ส.ส.ในสภาล่างเกินครึ่ง ป้องกันไม่ให้ถูกยื่นถอดถอนจากตำแหน่งประธานาธิบดี,การขึ้นภาษี 50,000 ล้านดอลลาร์ในสองยกแรกที่ผ่านมา ดูเหมือน ทรัมป์ จะประสบชัยชนะ เพราะบริษัทต่างชาติในจีน และบริษัทจีน ที่ได้รับผลกระทบหนัก เตรียมย้ายฐานการผลิตออกจากจีนแล้ว คงจะเห็นในเร็ววันนี้,สำนักข่าวนิกเคอิ เอเชียน รีวิว รายงานว่า ซัพพลายเชนที่สำคัญของ แอปเปิล กูเกิล อเมซอน บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่สหรัฐฯ ต่างประกาศว่ากำลังวางแผนฉุกเฉิน ย้ายฐานการผลิตบางส่วนออกไปจากจีน รวมทั้ง ฟ็อกซ์คอนน์ ยักษ์ใหญ่ไต้หวันที่ ผลิตสินค้าให้กับแอปเปิล ก็ประกาศปรับปรุงโรงงานใน เวียดนาม อินเดีย เม็กซิโก บราซิล และเตรียมย้ายแรงงาน 600,000 คนในโรงงานที่ผลิตสินค้าแอปเปิลไปยังโรงงานอื่นๆ,สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ก็เปิดเผยตัวเลขการลงทุนว่า การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร 8 เดือนแรกปีนี้ขยายตัว 5.3% ชะลอตัวต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ รัฐบาลจีนกำลังเร่งอนุมัติ โครงการสร้างถนนและทางรถไฟ จำนวนมากในภาคตะวันตกและเขตชนบท เพื่อหวังกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ,เป้าหมายหลัก ของ ทรัมป์ ในการเปิดสงครามการค้ากับจีนครั้งนี้ อยู่ที่นโยบาย Made In China 2025 ของ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ด้วยการงัด กฎหมายควบคุมการลงทุนจากต่างประเทศ ขึ้นมาใช้กับจีน เพื่อป้องกันจีนล้วงตับเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ,วารสาร การเงินธนาคาร ฉบับเดือนกันยายน รายงานในคอลัมน์ World Exclusive ว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา เงินทุนจากเอกชนจีนและ รัฐบาลจีน เข้าไปร่วมลงทุนกับ กิจการ Startup ในสหรัฐฯ เป็นจำนวนมาก ผ่าน Venture Capital เช่น ธุรกิจ AI ธุรกิจ Robotic ธุรกิจ Biotechnology ธุรกิจ 3D Printing ธุรกิจ 5G และธุรกิจ Quantum Computing ฯลฯ ซึ่งเป็น เทคโนโลยีแห่งอนาคต ที่ต้องการเงินวิจัยและการลงทุนสูง เลยเป็นโอกาสของจีน,วารสาร การเงินธนาคาร รายงานว่า ในเขต Silicon Valley ศูนย์กลางสตาร์ตอัพและนวัตกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ มีเงินทุนจากจีนไหลเข้าไปลงทุนมากมาย มีการจัดตั้ง ศูนย์นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาธุรกิจ จำนวนมาก ล่าสุดเตรียมสร้างอาคารสูงแฝด Oceanwide Centre ใหญ่เป็นอันดับ 2 ใน ซานฟรานซิสโก เมืองหลวงด้านไฮเทคของสหรัฐฯ,การเคลื่อนไหวของเงินทุนจีนเหล่านี้ หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ ได้มีการติดตามมาโดยตลอด จนกระทั่งยุค ประธานาธิบดีทรัมป์ เห็นว่า จีนเอาเปรียบทุกเรื่อง จึงตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้า นำเข้าจากจีน เปิดสงครามการค้ากับจีน,หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯ ระบุว่า การลงทุนในสตาร์ตอัพของจีน พิสูจน์ยากว่าเป็นเงินของเอกชนหรือรัฐบาลจีน ทำให้สหรัฐฯระแวงว่า ทางการจีนไม่ต้องการผลตอบแทนทางการเงินจากสตาร์ตอัพเหล่านี้ แต่ต้องการรู้กระบวนการ R&D เป็นการล้วงความลับทางเทคโนโลยีขั้นสูงของอเมริกัน ปี 2016 จีนลงทุนในสหรัฐฯ 46,000 ล้านดอลลาร์ ราว 1.5 ล้านล้านบาท 6 เดือนแรกปีนี้ลดเหลือเพียง 2,100 ล้านดอลลาร์ 68,000 ล้านบาท,สงครามการค้าของสองยักษ์ใหญ่โลกครั้งนี้ ไม่เพียงเศรษฐกิจจีนจะกระทบหนัก เศรษฐกิจสหรัฐฯก็กำลังจะได้รับผลกระทบตามมาเร็วๆนี้ ไม่ว่าสงครามอะไรก็ตาม ย่อมไม่มีผู้ชนะ มีแต่ผู้แพ้ และ ผู้ที่แพ้มากที่สุด ก็คือ ประชาชน ของประเทศคู่สงคราม แต่ผู้นำที่หลงใหลในอำนาจ ย่อมไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น นี่คือเรื่องเศร้าของประชาชน.,ลม เปลี่ยนทิศ | สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ยังไม่จบลงง่ายๆ เมื่อ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เตรียมเพิ่มความเข้มข้นด้วยการ ขึ้นภาษีสินค้าจีนอีก 200,000 ล้านดอลลาร์ 6.5 ล้านล้านบาท ในอีกไม่กี่สัปดาห์ | null | โดนัลด์ ทรัมป์,จีน,สงครามการค้า,หมายเหตุประเทศไทย,ลม เปลี่ยนทิศ | https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1378310 |
ก.แรงงาน กำหนดโทษนายจ้างใช้แรงงานต่ำกว่า 18 ปี โทษหนักปรับ 4 แสน | เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 59 นายอภิญญา สุจริตตานันท์ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 กำหนดห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานในงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของลูกจ้างเด็ก เช่น งานหลอม เป่า หล่อ หรือรีดโลหะ งานที่ต้องทำบนนั่งร้านที่สูงกว่าพื้นดินตั้งแต่ 10 เมตรขึ้นไป งานเกี่ยวกับวัตถุมีพิษ วัตถุระเบิด หรือวัตถุไวไฟ เว้นแต่งานในสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น จึงขอให้นายจ้าง เจ้าของสถานประกอบกิจการที่มีการจ้างแรงงานเด็กเข้าทำงานให้ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เพราะหากฝ่าฝืนจะได้รับโทษหนัก ทั้งนี้ กสร.ได้ปรับปรุงแก้ไขโทษสำหรับความผิดดังกล่าว โดยอัตราโทษปรับตั้งแต่ 400,000 บาท ถึง 800,000 บาท ต่อลูกจ้างหนึ่งคน หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ และหากการฝ่าฝืนของนายจ้างเป็นเหตุให้ลูกจ้างเด็กได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ หรือถึงแก่ความตาย นายจ้างจะได้รับโทษสูงขึ้นเป็นปรับตั้งแต่ 800,000 บาท ถึง 2,000,000 บาท ต่อลูกจ้าง 1 คน หรือจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ,สำหรับอัตราโทษเกี่ยวกับการจ้างลูกจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานอันตรายสูงนั้น ก็เพื่อคุ้มครองเยาวชนให้มีสภาพการจ้างงานที่เหมาะสม ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและอนามัยในอนาคต. | กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เตือนนายจ้างอย่าใช้แรงงานเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีทำงานอันตราย ฝ่าฝืนมีโทษหนักปรับขั้นต่ำ 4 แสนบาท หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หากได้รับอันตราย โทษหนักปรับขั้นต่ำ 8 แสนบาท หรือจำคุกไม่เกิน 4 ปี | null | แรงงานเด็ก,คุ้มครองแรงงาน,กระทรวงแรงงาน,อภิญญา สุจริตตานันท์,กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน | https://www.thairath.co.th/content/809701 |
กษัตริย์มาเลเซียพระองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์วันนี้ | วันนี้ (30 ก.ค.2562) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ รีอายาตุดดิน อัล-มุสตาฟา บิลลาฮ์ ชาห์ จะเสด็จเข้าพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียพระองค์ที่ 16 ในวันนี้ โดยสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ ชาห์ ซึ่งเสด็จขึ้นเป็นสุลต่านแห่งรัฐปะหัง เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และสภาผู้ปกครองมาเลเซียมีมติเลือกพระองค์เป็นสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์ใหม่ของมาเลเซีย ทรงเป็น ยังดีเปอร์ตวนอากง หรือกษัตริย์ลำดับที่ 16 ของมาเลเซีย ต่อจากสมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมหมัดที่ 5 ซึ่งทรงประกาศสละราชสมบัติ เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากทรงครองราชย์ได้ 2 ปี ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์มาเลเซียที่สมเด็จพระราชาธิบดีประกาศสละราชสมบัติก่อนถึงวาระครบกำหนด 5 ปีในอดีต สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ ชาห์ ทรงเคยดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย และประธานสมาคมฟุตบอลแห่งมาเลเซีย ปัจจุบันพระองค์มีพระชนมายุ 60 พรรษา | มาเลเซียเตรียมจัดพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียพระองค์ที่ 16 ในวันนี้ (30 ก.ค.) หลังจากสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ ชาห์ ทรงได้รับการแต่งตั้งเป็นประมุขของมาเลเซียตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา | ต่างประเทศ | กษัตริย์มาเลเซีย,มาเลเซีย,สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียพระองค์ที่ 16,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/282172 |
กู้สำเร็จ ข้อมูลกล่องดำเฮลิคอปเตอร์ วิชัย ศรีวัฒนประภา | วันนี้ (3 พ.ย.2561) รายงานว่า สำนักงานตรวจสอบอุบัติภัยทางอากาศ (AAIB) ของอังกฤษ เปิดเผยความคืบหน้า หลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ของ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของคิง เพาเวอร์และประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ตกบริเวณสนามคิงเพาเวอร์ สเตเดียมว่า ผู้ตรวจการและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมและบันทึกหลักฐานที่สามารถรวบรวมได้ในที่เกิดเหตุโดยละเอียด ซึ่งนอกจากเครื่องบันทึกข้อมูลเที่ยวบินและเครื่องบันทึกเสียงของห้องนักบิน (กล่องดำ) แล้ว อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต GPS เรดาร์ หรือบันทึกวิทยุจากผู้ให้บริการการจราจรทางอากาศก็เป็นหลักฐานสำคัญในการนำไปสู่การหาสมเหตุของอุบัติเหตุเช่นกันขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิกได้ดูแลรื้อถอนซากปรักหักพังของเอลิคอปเตอร์อย่างรอบคอบ เพื่อนำส่งซากไปยังห้องปฏิบัติการ ในเมืองฟาร์นโบโร ซึ่งเป็นที่ตั้ง เพื่อตรวจสอบรายละเอียดของซากปรักหักพังเครื่องบิน โดยมีขั้นตอนการทดสอบที่ซับซ้อน ทั้งการตรวจสอบโลหะ การจำลองการบิน เพื่อให้นักบินผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์สถานการณ์ที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุครั้งนี้ส่วนเครื่องบันทึกข้อมูลเที่ยวบิน (กล่องดำ) ที่แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากความร้อนสูงในเหตุเพลิงไหม้ แต่เจ้าหน้าที่ทำการกู้คืนข้อมูลด้วยการอบแห้งแผงวงจรด้วยเตาอบพิเศษและซ่อมแซมชิพด้วยกล้องจุลทรรศน์ จึงสามารถดาวน์โหลดข้อมูลที่บันทึกไว้ได้สำเร็จแล้ว โดยเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบข้อมูลและได้เริ่มวิเคราะห์เนื้อหาโดยละเอียดแล้ว และด้วยความร่วมมือของประชาชนที่ร่วมส่งวิดีโอและรูปถ่ายเข้ามาให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจึงทำให้การทำงานเป็นไปได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นทั้งนี้ เมื่อผลวิเคราะห์หลักฐานออกมาเรียบร้อย AAIB จะต้องออกรายงานฉบับร่างที่เป็นความลับให้แก่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนและผู้ที่ได้รับผลกระทบ ภายใต้ข้อบังคับของสหราชอาณาจักรภายในระยะเวลา 28 วัน และจะต้องได้รับการรับรองจากคณะที่ปรึกษาเพื่อพิจารณาก่อนตีพิมพ์รายงานฉบับสุดท้ายเพื่อเผยแพร่ได้อ่านข่าวเพิ่มเติม | สำนักงานตรวจสอบอุบัติภัยทางอากาศสามารถกู้ข้อมูลจากกล่องดำของเฮลิคอปเตอร์ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของคิง เพาเวอร์และประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ได้สำเร็จ ขณะนี้อยู่ระหว่างวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับหลักฐานอื่นเพื่อระบุสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป | ต่างประเทศ | สำนักงานตรวจสอบอุบัติภัยทางอากาศ,กล่องดำ,AAIB,วิชัย ศรีวัฒนประภา,เลสเตอร์ ซิตี้,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/275468 |
30 องค์กรสื่อแถลงคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริม จริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน | ตามที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) โดยคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนประเทศด้านการสื่อสารมวลชนฯ ได้ดำเนินการยกร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชนพ.ศ. เพื่อเสนอให้สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศรับรองและส่งให้คณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไปตามความทราบแล้วนั้นองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ๓๐ องค์กร ตามรายชื่อท้ายแถลงการณ์นี้ ได้ประชุมหารือร่วมกันแล้ว มีความเห็นดังต่อไปนี้๑) ร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. ดังกล่าว มิได้อยู่บนพื้นฐานหลักการของการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน แต่กลับเน้นหลักการควบคุมสื่อมวลชนโดยใช้อำนาจรัฐเข้ามาแทรกแซงการทำหน้าที่โดยอิสระของสื่อมวลชน และไม่สอดคล้องกับหลักการของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับที่ผ่านการลงประชามติ ซึ่งมีเจตนารมณ์ให้สื่อมวลชนกำกับดูแลกันเองโดยอิสระและปราศจากการแทรกแซงจากภาครัฐ ทั้งนี้ จะมีผลกระทบโดยตรงต่อบทบาทของสื่อมวลชนในการตรวจสอบอำนาจรัฐและเป็นการปิดกั้นเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน๒) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ต้องยกเลิกการพิจารณาร่างกฎหมายของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ โดยให้กลับไปทบทวนความจำเป็นในการออกกฎหมายดังกล่าว๓) หากสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศฯ เดินหน้ารับรองร่างพระราชบัญญัตินี้โดยไม่ฟังเสียงทักท้วง องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนทั่วประเทศจะยกระดับมาตรการในการคัดค้านร่างกฎหมายนี้ต่อไปจนถึงที่สุด๔) ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนได้พัฒนาระบบการกำกับดูแลกันเองด้านจริยธรรมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อยกระดับความรับผิดชอบของสื่อมวลชนและตอบสนองความเปลี่ยนแปลงของสังคม รวมทั้งมุ่งมั่นที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไปสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทยสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทยสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทยสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์สมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทยสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนแห่งประเทศไทยสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทยสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพวิทยุท้องถิ่นไทยสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์สมาคมสภาวิชาชีพกิจการการแพร่ภาพและการกระจายเสียง (ประเทศไทย)สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย)สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีนสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทยสถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทยเครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคเหนือ 17 จังหวัดเครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคอีสานเครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคกลาง-ภาคตะวันออกเครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคใต้ชมรมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์อาวุโสชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อมชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศชมรมเพื่อเพื่อนช่างภาพสื่อมวลชน | 30 องค์กรวิชาชีพสื่อสารมวลชนเรียกร้องรัฐบาลยกเลิก ร่าง พ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริม จริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. เนื่องจากปิดกั้นสิทธิเสรีภาพสื่อ-การรับรู้ข่าวสารของประชาชน | การเมือง,คุณภาพชีวิต,ไอซีที,สังคม | ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิเสรีภาพและส่งเสริมมาตรฐานผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ...,สปท.,สื่อสารมวลชน | https://prachatai.com/journal/2017/01/69832 |
สุดเขต-สราลีย์ ลิ่วรอบ 2 ขนไก่เฟรนช์โอเพ่น | แน็ต ณิชชาอร จินดาพล โชว์ฟอร์มสุดยอด คว้าชัย 2 แมตช์รวด ในรอบคัดเลือก ผ่านเข้าสู่รอบเมนดรอว์ รอบแรก ศึกแบดมินตัน รายการ โยเน็กซ์ เฟรนช์ โอเพ่น 2015 ส่วนชายคู่ บดินทร์-นิพิฐพนธ์ ซิวชัย 2แมตช์รวด ในรอบคัดเลือก ทะลุเข้ารอบเมนดรอว์ รอบแรก ขณะที่ สุดเขต-สราลีย์ ลิ่วรอบ 2 ประเภทคู่ผสม,วันที่ 20 ต.ค. การแข่งขันแบดมินตัน ซูเปอร์ซีรีส์ รายการ โยเน็กซ์ เฟรนช์ โอเพ่น 2015 ชิงเงินรางวัลรวม 275,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 9.7 ล้านบาท ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นการแข่งขันวันแรก มีนักกีฬาไทยลงทำการแข่งขัน,ประเภทหญิงเดี่ยว รอบคัดเลือก รอบแรก แน็ต ณิชชาอร จินดาพล มืออันดับ 40 ของโลก โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เอาชนะ ซาบรีนา จาเกวสท์ มืออันดับ 42 ของโลก จากสวิตเซอร์แลนด์ ไป 2-0 เกม 21-18, 21-13 ใช้เวลาแข่งขัน 33 นาที ผ่านเข้ารอบคัดเลือก รอบสอง ไปเจอกับ เฉิน เสี่ยวหวน มืออันดับ 297 ของโลก จากไต้หวัน ซึ่งก็เป็น ณิชชาอร ที่เอาชนะ เสี่ยวห่วน ไปได้ 2-0 เกม 21-9, 21-13 ผ่านเข้าสู่รอบเมนดรอว์ รอบแรก ไปพบกับ ยิป ปุยยิน มืออันดับ 29 ของโลก จากฮ่องกง,ส่วนประเภทคู่ผสม รอบคัดเลือก รอบแรก อาท บดินทร์ อิสสระ กับ เอ็มเอ็ม สาวิตรี อมิตรพ่าย คู่มืออันดับ 123 ของโลก ช่วยกันตบเอาชนะ จอร์แดน คาร์วี กับ แอนเน่ย์ ทราน คู่มืออันดับ 209 ของโลก จากฝรั่งเศส ไปได้ขาดลอย 2-0 เกม 21-13, 21-12 ผ่านเข้ารอบคัดเลือก รอบ 2 ไปเจอกับ เคนตะ คาซูโนะ กับ อยาเนะ คูริฮารา จากญี่ปุ่น ซึ่งผลปรากฏว่า อาท-เอ็มเอ็ม พ่ายให้คู่ของญี่ปุ่นไป 0-2 เกม 11-21,20-22 ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย,ส่วน ประเภทคู่ผสมรอบแรก เต่า สุดเขต ประภากมล กับ ส้ม สราลีย์ ทุ่งทองคำ คู่มือ 18 ของโลก ช่วยกันไล่ตบเอาชนะ เหลียว มิน ชุน กับ เฉิน เซียว หวน คู่มือ 38 ของโลกจากไต้หวัน ไป 2-1 เกม 19-21,21-17,21-13 ผ่านเข้ารอบ 2 ไปเจอกับ เคอิโกะ โซโนดะ กับ นาโอโกะ ฟูกูมัน จากญี่ปุ่นต่อไป,ด้านประเภทชายคู่ รอบคัดเลือก รอบแรก บดินทร์ อิสสระ กับ นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร คู่มือ 49 ของโลก เอาชนะ มาทิจส์ ไดริคซ์ กับ ฟรีก โกลินสกี จากเบลเยียม ไป 2-0 เกม 21-20,21-11 ผ่านเข้ารอบคัดเลือก รอบสอง ไปเจอกับ ราฟาเอล เบค กับ ปีเตอร์ เคสบาวเออร์ จากเยอรมัน ซึ่ง บดินทร์ กับ นิพิฐพนธ์ ช่วยกันตบเอาชนะไปได้ 2-0 เกม 21-16,21-11 ผ่านเข้าสู่รอบเมนดรอว์ รอบแรก ได้สำเร็จ,ส่วนชายคู่ของไทยอีกคู่ กิตตินุพงษ์ เกตุเรน กับ เดชาพล พัววรานุเคราะห์ ชายคู่มือ 35 ของโลก พ่าย ลิน เชีย หยู กับ เซียว ลิน หวู คู่มือ 43 ของโลกจากไต้หวัน ไป 1-2 เกม 21-18,14-21,17-21 จอดป้ายเพียงรอบคัดเลือก รอบแรก | แน็ต ณิชชาอร จินดาพล โชว์ฟอร์มสุดยอด คว้าชัย 2 แมตช์รวด ในรอบคัดเลือก ผ่านเข้าสู่รอบเมนดรอว์ รอบแรก ศึกแบดมินตัน รายการ โยเน็กซ์ เฟรนช์ โอเพ่น 2015 ส่วน สุดเขต-สราลีย์ ขยี้คู่ไต้หวัน ทะลุเข้ารอบ 2 ประเภทคู่ผสม | null | โยเน็กซ์ เฟรนช์ โอเพ่น 2015,ณิชชาอร จินดาพล,ผลกีฬา,ผลแบดมินตัน,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/533759 |
หลายพื้นที่ยังได้รับผลกระทบจากน้ำที่ท่วมสูง | ชาวบ้าน 7 อำเภอของจังหวัดอ่างทอง ยังใช้ชีวิตท่ามกลางน้ำที่ท่วมสูง เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำจากจังหวัดตอนบนที่ไหลผ่านแม่น้ำน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยา น้ำที่ท่วมมาเกือบ 2 เดือนและขยายวงกว้างทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคบางประเภทเริ่มขาดแคลนและสินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้น เนื่องจากการขนส่งทำได้ยาก มีรายงานว่าผู้ประสบภัยบางพื้นที่ได้รับอาหารเพียงมื้อเดียวเนื่องจากขาดของสดสำหรับปรุงอาหารส่วนระดับน้ำที่ท่วมขัง 13 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษนานกว่า 3 สัปดาห์ยังไม่ลดระดับลง หลังน้ำจากลำห้วยสำราญไหลเข้าท่วม ชาวบ้านบางส่วนไม่ยอมอพยพออกจากบ้านเพราะเป็นห่วงทรัพย์สิน ขณะนี้จังหวัดศรีสะเกษมีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 18 อำเภอ พื้นที่เกษตรเสียหายกว่า 80000 ไร่เช่นเดียวกับหลายพื้นที่ที่ยังถูกน้ำมูลและน้ำชีเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรเสียหายหลายหมื่นไร่ เช่น ตำบลทับใหญ่ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ และตำบลสำราญ จังหวัดยโสธร เจ้าหน้าที่ต้องหาทางทำพนังกั้นน้ำเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรขณะที่จังหวัดบุรีรัมย์ หลายจุดน้ำยังเข้าท่วมและมีแนวโน้มสูงขึ้น เช่นที่วัดระหานเกาะแก้วธุดงคสถาน ทหารต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สินในเพื่อลดความเสียหายส่วน 8 อำเภอของจังหวัดพิจิตร รวมถึงตำบลไผ่หลวง อำเภอตะพานหิน ยังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นเดือนที่ 4 ชาวบ้านต้องออกหาปลาบนถนนเป็นอาหารและจำหน่ายหารายได้ช่วงน้ำท่วมที่จังหวัดนครสวรรค์ แม้น้ำที่ท่วมในเขตเทศบาลนครนครสวรรค์จะลดลงต่อเนื่อง แต่อำเภอรอบนอกน้ำยังท่วมสูง ทำให้ผู้ประสบภัยเกือบ 9000 คนยังคงอาศัยอยู่ตามศูนย์อพยพน้ำที่ท่วมถนนหลายพื้นที่ทำให้การเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ทำได้ยากขึ้น โดยที่สถานีขนส่งจังหวัดพิษณุโลก รถโดยสารเอกชนได้หยุดให้บริการแล้ว เหลือเพียงรถของ บขส. และรถของบริษัท เชิดชัยทัวร์ จำกัด รวมถึงรถตู้โดยสารป้ายดำและป้ายเหลืองที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเขตรังสิต กรุงเทพมหานคร ก็เข้ามาให้บริการ โดยคิดค่าโดยสารคนละ 300 บาท ซึ่งเดินทางต้องเสียเวลาเพิ่มขึ้นจากเดิม 6 ชั่วโมง เป็น 10 ชั่วโมง เนื่องจากรถต้องเปลี่ยนเส้นทางเลี่ยงถนนที่ถูกน้ำท่วมสูง | ปริมาณน้ำมูลและน้ำชียังส่งผลกระทบต่อนาข้าวและบ้านเรือนในหลายพื้นที่ ขณะที่จังหวัดอ่างทอง ผู้ประสบภัยใน 7 อำเภอ เริ่มประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร หลังถูกน้ำท่วมสูงมานานนับเดือน | ภูมิภาค | น้ำท่วม,แม่น้ำชี,แม่น้ำน้อย,แม่น้ำมูล,แม่น้ำเจ้าพระยา | https://news.thaipbs.or.th/content/41317 |
2 วันช่วงปีใหม่ อุบัติเหตุ 1133 ครั้ง ตาย 128 ศพ | เมื่อวันที่ 1 ม.ค. มีรายงานว่า นางกรรณิการ์ แสงทอง อธิบดีกรมคุมประพฤติ ในฐานะผู้แทนกระทรวงยุติธรรม แถลงภาพรวมสรุปสถิติอุบัติเหตุของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ประจำวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของช่วง 7 วันอันตรายปีใหม่ 2558 พบว่า เกิดอุบัติเหตุทางถนน 625 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 70 คน บาดเจ็บ 641 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ นครสวรรค์ 28 ครั้ง ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เพชรบูรณ์ จำนวน 5 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ เมาสุรา และขับรถเร็วเกินกำหนดตามลำดับ ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์,ทั้งนี้ เมื่อรวมสถิติอุบัติเหตุสะสม 2 วัน คือ วันที่ 30–31 ธ.ค. อยู่ที่ 1,133 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวม 128 คน บาดเจ็บ 1,158 คน จังหวัดที่ยังไม่เกิดอุบัติเหตุ 2 จังหวัด คือ พังงา และระยอง ส่วนจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 23 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 49 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เพชรบูรณ์ สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ และบุรีรัมย์ จังหวัดละ 7 ราย,นางกรรณิการ์ กล่าวต่อว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 2 วันที่ผ่านมา พบว่าเมาแล้วขับยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ดังนั้น ศปถ.จึงได้เน้นย้ำให้จังหวัดดำเนินการบังคับใช้ตามกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการควบคุมการจำหน่าย การเข้าถึงและการดื่ม ในกลุ่มเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน พร้อมให้จุดตรวจ จุดสกัดในเส้นทางสายต่างๆ เข้มงวดกวดขันกับผู้ที่ดื่มแล้วขับ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงโทษผู้กระทำความผิดกรณีเมาแล้วขับ โดยให้กักขังแทนการจ่าย เพื่อเป็นการปราบปรามการกระทำความผิด. | ศปถ.สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ผ่าน 2 วัน เกิดอุบัติเหตุแล้ว 1,133 ครั้ง เสียชีวิตถึง 128 คน บาดเจ็บอีก 1,158 คน โดยเมาแล้วขับยังเป็นสาเหตุหลัก | ข่าว,ทั่วไทย | ปีใหม่58,ปีใหม่,อุบัติเหตุ,7วันอันตราย,ศปถ.,เมาแล้วขับ,ยอดตาย,อุบัติเหตุทางถนน,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/472309 |
ย้อนประวัติศาสตร์ 69 ปี 9 วาระสำคัญเสด็จออกสีหบัญชร | วันนี้ (6 พ.ค.2562) ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 เฟซบุ๊กชมรมรมคนรักพระมหากษัตริย์ของชาติไทย เผยแพร่ข้อมูลประวัติศาสตร์สำคัญในสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9)เสด็จออกสีหบัญชรทั้งสิ้น 8 ครั้ง ณ พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท พระบรมมหาราชวัง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ประชาชนเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคลภาพ:เพจเฟซบุ๊กชมรมรมคนรักพระมหากษัตริย์ของชาติไทย ณ พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท พระบรมมหาราชวัง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีทรงพระผนวช โดยมีพระราชดำรัสแถลงถึงพระราชดำริในการที่จะเสด็จออกบรรพชาอุปสมบทแก่ประชาชนที่มาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทั้งนี้จะมีพระราชพิธีทรงพระผนวชในวันที่ 22 ต.ค.2499 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวังภาพ:เพจเฟซบุ๊กชมรมรมคนรักพระมหากษัตริย์ของชาติไทย ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต เนื่องในพระราชพิธีสมโภชในโอกาสเสด็จฯ นิวัตพระนครหลังเสร็จสิ้นพระราชกรณียกิจในการเสด็จฯ เยือนสหรัฐอเมริกา และประเทศต่าง ๆ ในยุโรปรวม 14 ประเทศ เป็นเวลา 7 เดือน พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ประชาชนเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ประชาชนเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคลภาพ:เพจเฟซบุ๊กชมรมรมคนรักพระมหากษัตริย์ของชาติไทย ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต เนื่องในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เสด็จออกมหาสมาคมรับการถวายพระพรชัยมงคลจากพสกนิกร ชาวไทยทั่วทั้งประเทศต่างพร้อมใจกันใส่เสื้อเหลือง เพื่อแสดงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงมีต่อพสกนิกรตลอดมา ณ มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวามหาราช เสด็จออกมหาสมาคมพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคลภาพ:เพจเฟซบุ๊กชมรมรมคนรักพระมหากษัตริย์ของชาติไทยพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ เสด็จออกพร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ ณ มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เป็นครั้งที่สองในรัชกาลปัจจุบัน โดยมีการติดตั้งพระวิสูตรบนมุขเด็จ และเลื่อนพระราชอาสน์ออกสู่มุขเด็จเป็นครั้งแรก รับการถวายพระพรชัยมงคลจากพสกนิกรทุกหมู่เหล่าที่มาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเป็นจำนวนมาก พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา ณ พระที่นั่งอนันตสมาคมพระราชวังดุสิต เสด็จออก ณ สีหบัญชร โดยมีการต่อเติมขยายสีหบัญชรให้มีบริเวณกว้างขวางขึ้น เพื่อให้พระบรมวงศานุวงศ์สามารถยืนประทับที่สีหบัญชรได้ โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มิได้เสด็จฯ ทรงร่วมในการนี้ เนื่องจากทรงพระประชวร โอกาสนี้ พสกนิกรที่มาเฝ้าฯ เต็มพระลานพระราชวังดุสิต เรื่อยไปจนตลอดแนวถนนราชดำเนินนอก แต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพภาพ:เพจเฟซบุ๊กชมรมรมคนรักพระมหากษัตริย์ของชาติไทยการเสด็จออกสีหบัญชรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ในแต่ละครั้งนั้นคึกคักไปด้วยประชาชนจากทั่วสารทิศ มวลมหาประชาชนที่มามีจำนวนมากมายมหาศาล โดยหวังที่จะได้เข้าเฝ้าชื่นชมพระบารมีขององค์พระประมุขศูนย์รวมดวงใจชาวไทยให้ใกล้มากที่สุดทั้งยังต่างร่วมกันร้องเพลงถวายพระพรในหลวง รวมทั้งโบกธงสัญลักษณ์ แสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีที่มีต่อพระองค์ท่าน พสกนิกรทุกหมู่เหล่าที่มาคอยเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทล้วนปลื้มปิติที่ได้ชื่นชมพระบารมีของพระองค์ เวลา 16.59 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ สีหบัญชร พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยมีประชาชนจับจองเต็มพื้นที่ด้านหน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ เพื่อถวายพระพรชัยมงคล พร้อมกับถวายพระพรชัยมงคล ทรงพระเจริญ ดังกึกก้อง | พระมหากษัตริย์ไทยทรงเสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท นับแต่ปี 2493 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จออกสีหบัญชร 8 ครั้ง กระทั่งครั้งที่ 9 รัชกาลที่ 10 ทรงเสด็จออกสีหบัญชร ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก | พระราชสำนัก | พระราชพิธีบรมราชาภิเษก,รัชกาลที่ 10,พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/279800 |
ร้องเรียนเลือกตั้งนายกเทศมนตรีใน จ.อุตรดิตถ์ อาจไม่โปร่งใส | ภาพถ่ายประกาศผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 23 กันยายน โดยนายสมหมาย ตั้งมีลาภ เบอร์ 1 กลุ่มคนพิชัยรักบ้านเกิด อดีตนายกเทศมนตรีตำบลในเมือง แพ้การเลือกตั้ง นายกำพล อยู่เจริญกิจ เบอร์ 2 ทีมกลุ่มพลังพิชัย ไปเพียง 2 คะแนน แต่เมื่อมีการรวมคะแนนผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง กับคะแนนบัตรเสีย และผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน กลับพบว่ามีคะแนนเกิน 2 คะแนน ทำให้ผู้สนับสนุนกลุ่มคนพิชัยรักบ้านเกิดสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโดยได้รับการชี้แจงว่าเขียนตัวเลขผิด ก่อนจะมีการแก้ไขคะแนนที่มีปัญหา รวมทั้งคะแนนของผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลตำบลในเมืองอีก 2 คน จึงได้ร้องเรียนให้ กกต.ตรวจสอบ เพราะเชื่อว่าการนับคะแนนไม่โปร่งใสนอกจากข้อพิรุจในป้ายประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว ผู้สนับสนุนกลุ่มคนพิชัยรักบ้านเกิดยังตั้งข้อสังเกตใบรายงานผลการนับคะแนน ของทาง กกต. กับเทศบาลตำบลในเมืองมีการแก้ไขตัวเลขผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง และมีผู้ลงลายเซ็นกำกับเป็นคนละคนกัน โดยไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นเจ้าของลายเซ็นขณะที่ไทยพีบีเอสพยายามติดต่อไปยังนายวิรัช สอนดอก หัวหน้างานสืบสวนสอบสวน กกต.จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อขอคำชี้แจง แต่ได้รับการยืนยันเพียงว่ากรณีร้องเรียนที่เกิดขึ้นยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ส่วนผลการนับคะแนน กกต.ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไปแล้ว เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมแล้ว | ผู้สนับสนุนทีมผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ร้องเรียนให้ตรวจสอบการนับคะแนนเลือกตั้ง หลังพบพิรุธในประกาศผลการเลือกตั้งที่มีคะแนนเสียงเกินมา 2 คะแนน และเป็นคะแนนที่มีผลทำให้อดีตนายกเทศมนตรีแพ้การเลือกตั้ง | ภูมิภาค | นายกเทศมนตรี,ร้องเรียน,อุตรดิตถ์,เลือกตั้ง | https://news.thaipbs.or.th/content/126294 |
ชาวกระบี่ตื่นสัตว์ประหลาด โผล่หลังบ้าน ก่อนจับปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ | พ.ศ.2535,เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 17 ธ.ค. เจ้าหน้าที่กู้ภัยตำบลคลองหิน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบสัตว์ลักษณะประหลาด เข้ามาหลบอาศัยอยู่ในเตาเผาถ่านหลังบ้านเลขที่ 88/8 หมู่ 2 ต.คลองหิน ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.ดรุณี พึ่งหล้า หลังรับแจ้งจึงนำเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปตรวจสอบ ก็พบในเตาเผาถ่านหลังบ้าน มีสัตว์รูปร่างประหลาดคล้ายหมู น้ำหนักประมาณ 20-25 กก. นั่งอยู่ภายในเตา เจ้าหน้าที่พยายามช่วยกันจับ แต่ไม่ยอมให้จับ จากนั้นประสานไปยัง จนท.อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เพื่อสอบถามว่าเป็นสัตว์อะไร เนื่องจากชาวบ้านบริเวณดังกล่าวไม่เคยพบเห็น,นายวีระศักดิ์ ศรีสัจจัง หน.อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี แจ้งว่า จากภาพที่ทางกู้ภัย ส่งมาให้ทราบว่าเป็นหมูหริ่ง ปัจจุบันเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ซึ่งจากข้อมูลพบว่าปัจจุบันมีประชากรลดลงเรื่อยๆ,ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า หมูหริ่ง ตัวที่พบมีอาการคล้ายกำลังท้องใกล้คลอด เชื่อว่าสาเหตุที่หลบเข้ามาอยู่ภายในเตาเผาถ่านดังกล่าว เพื่อจะหาที่คลอดลูก เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันนำตัวออกมา ก่อนนำไปปล่อยคืนป่าธรรมชาติ. | ชาวบ้านกระบี่ตื่นสัตว์ประหลาด โผล่หลังบ้าน กู้ภัยต้องช่วยจับปล่อยคืนธรรมชาติ หน.อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เผยสัตว์ที่พบเป็น หมูหริ่ง เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า | ข่าว,ทั่วไทย | หมูหริ่ง,สัตว์ประหลาด,สัตว์คุ้มครอง,อุทยานธารโบกขรณี,กระบี่,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1447398 |
Give Them a Hug - รักสัตว์ให้ เป็น | สร้างความรู้เข้าใจแก่นแท้ของสัตว์ เพื่อทำบุญให้ถูกวิธี,จากการตายของ เต่าออมสิน เต่าตนุขนาดใหญ่ที่ตายเพราะกินเหรียญของนักท่องเที่ยวที่โยนลงไปในบ่อ ซึ่งเป็นข่าวดังทั้งในไทยและทั่วโลก เพื่อสร้างความเข้าใจในการอยู่ร่วมกัน ดูแลกันระหว่างคนและสัตว์ รศ.สัตวแพทย์หญิง ดร.นันทริกา ชันซื่อ หรือ หมอหนิ่ง ผอ.ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในทีมสัตวแพทย์ผู้ให้การรักษา เต่าออมสิน ได้จัดทำหนังสือ หมอหนิ่งเล่า ต.เต่าออมสิน ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ และถือเป็นก้าวแรกของโครงการ Give Them a Hug รักสัตว์ให้ เป็น โดยรายได้จากการขายหนังสือจะนำไปซื้อเครื่องเลเซอร์ เพื่อช่วยในการรักษาและสมานแผลสัตว์ เพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของสัตว์ให้สูงขึ้น โดยได้จัดงานเปิดตัวที่ซีไลฟ์ แบงคอก โอเชียนเวิลด์ เมื่อเร็วๆนี้,หมอหนิ่ง–รศ.สัตวแพทย์หญิง ดร.นันทริกา ผู้เขียนหนังสือ เล่าว่า หมอเลือกมาเป็นสัตวแพทย์เพราะตั้งแต่เด็กมีความรู้สึกผูกพันกับการช่วยเหลือชีวิตสัตว์ ได้ติดตามคุณพ่อซึ่งเป็นสัตวแพทย์มาโดยตลอด สำหรับปัญหาของ ออมสิน คือ ออมสิน ถูกฆ่าหลายครั้ง ถูกฆ่าครั้งแรกด้วยการถูกยึดอิสรภาพ นำมากักขังในบ่อ ครั้งที่ 2 ถูกฆ่าด้วยการถูกให้กินอาหารที่ไม่เหมาะสม จนต้องมากินเหรียญและตายลงในที่สุด กรณีของ ออมสิน ทำให้ทั่วโลกเห็นความสำคัญของการกระทำของมนุษย์ ที่มีผลกระทบต่อชีวิตสัตว์และตระหนักถึงการช่วยเหลือชีวิตสัตว์ชีวิตหนึ่ง ความเชื่อตามหลักพุทธศาสนาได้สอนไว้เรื่องการทำบุญ แต่หากทำผิดวิธีหรือไปเบียดเบียนใคร ก็คงจะไม่ได้บุญ และที่ผ่านมาหมอได้รับรู้และหาทางแก้ปัญหา ด้วยการจัดตั้งโครงการ Give Them a Hug รักสัตว์ให้เป็น ขึ้น เพื่อช่วยเหลือและอนุรักษ์สัตว์ โดยมีจุดประสงค์คือ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยง การดูแล และการเข้าใจแก่นแท้ของสัตว์ประเภทนั้นๆแก่คนรักสัตว์,หมอหนิ่งกล่าวต่อว่า หนังสือเล่มนี้เป็นแค่ของว่าง ก่อนที่จะมีโครงการใหญ่ ที่แสดงให้เห็นการรักสัตว์ผิดวิธี บางคนทำบุญให้ชีวิตสัตว์ แต่กลายเป็นทำร้ายสัตว์ คนอยากขึ้นสวรรค์ แต่สัตว์ตกนรกทั้งเป็น เช่น การโยนเหรียญไปในบ่อเต่า กรณีออมสินเป็นเคสตัวอย่าง และยังมีเพื่อนของออมสินที่ต้องทุกข์ทรมานแบบนี้อีกหลายตัว หมอเองก็ได้แต่หวังว่า ออมสินจะเป็นครูให้พวกเราทุกคนไม่ทำบุญแบบผิดวิธี โดยทำร้ายชีวิตสัตว์ที่ทั้งแบบตั้งใจและแบบที่ไม่ตั้งใจต่อไป แม้ว่าวันนี้จำนวนคนรักสัตว์มีมากขึ้น และเกินครึ่งรักสัตว์ไม่เป็น โดนทารุณแบบไม่ตั้งใจมากขึ้น จึงอยากที่จะเปลี่ยนทัศนคติจากรักไม่เป็น ให้เป็นรักให้เป็น และอยากให้เคสแบบนี้จบที่ออมสิน,เลยอยากเล่าให้ฟังว่า การดูแลสัตว์ควรทำอย่างไร วิธีการอยู่รวมกันดูแลกัน ไม่สร้างความเดือดร้อนซึ่งกันและกัน สัตว์เขาไม่แลกกับเราด้วยความรัก แต่เขาแลกด้วยชีวิต ในการที่จะทำอะไร เราต้องรู้ธรรมชาติของเขา ให้เขาอยู่ในแบบของเขา เพื่อสร้างความรู้ หมอจึงได้เขียนหนังสือเล่มนี้ ซึ่งผู้สนใจซื้อหนังสือ หรือบริจาคเงิน ติดต่อได้ที่กองทุนช่วยชีวิตสัตว์น้ำ เลขที่บัญชี 123-1-35678-5 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสยามสแควร์ ประเภทบัญชีออมทรัพย์ แล้วส่งหลักฐาน พร้อมชื่อที่อยู่ในการจัดส่งมาที่ Line : gtah2018 หรือสอบถามได้ที่ 08-9111-6464. | จากการตายของ เต่าออมสิน เต่าตนุขนาดใหญ่ที่ตายเพราะกินเหรียญของนักท่องเที่ยวที่โยนลงไปในบ่อ ซึ่งเป็นข่าวดังทั้งในไทยและทั่วโลก เพื่อสร้างความเข้าใจในการอยู่ร่วมกัน | ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์ | เต่าออมสิน,ทำบุญ,นันทริกา ชันซื่อ,ซื้อหนังสือ,บริจาคเงิน | https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1384592 |
ดีใจที่รู้ตัวทัน ทราย หันหน้าต่อสู้โรคซึมเศร้า ยอมรับอยู่ได้ก็เพราะยา | เป็นนักแสดงมากฝีมือและมากความสามารถมาก สำหรับสาว ทราย อินทิรา เจริญปุระ ล่าสุดได้โดดมารับงานละครเรื่องใหม่เรื่อง ระบำมาร ที่มีหนิง ปณิตา และนีโน่ เมทนี เป็นผู้จัดละคร ซึ่งเรื่องนี้สาวทรายบอกว่า เธอได้รับบทที่ไม่เครียด ไม่ดราม่ามากเท่าเรื่องที่แล้ว อีกทั้งเห็นเงียบๆ อย่างนี้เธอวิ่งรอกรับงานละคร-หนัง 5 เรื่องต่อสัปดาห์เลยทีเดียว ที่ต้องรับงานเยอะอย่างนี้ เพราะเธอมีคุณแม่ที่ต้องดูแล ซึ่งทรายบอกว่า ตอนนี้คุณแม่ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เพื่อเข้ารับการรักษาไปอีกขั้น,ส่วนอาการโรคซึมเศร้าของตัวเธอเองนั้น ตอนนี้ดีขึ้นมาก เจ้าตัวบอกว่า ทุกวันนี้อยู่ได้เพราะยา หากวันไหนรู้สึกอารมณ์ไม่โอเค ก็จะกินยาแล้วเข้านอนเร็วกว่าเดิม พอตื่นเช้ามาก็สดใสร่าเริงแล้ว โดยทรายได้ให้สัมภาษณ์ว่า ,ห่างจากละครไปนานมั้ย? จริงๆ ก็ไม่ได้ห่าง เพราะเล่นอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดของหนิงก็คือ คนเริงเมือง แต่ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่พีเรียตเท่านั้นเอง (หัวเราะ) ก็ยังคุยเล่นกันในกองว่าถ้าจะมีเลขาที่ทำงานเยอะขนาดนี้ต้องได้ค่าตัว 500,000 นะ บทจะเป็นฝ่ายบริหารจัดการค่ะ จะเป็นเลขาของพี่วี แต่เราก็รับเงินจากเมียพี่วีให้มาส่องพี่วีอีกทีนึง (หัวเราะ) จริงๆ ก็คือผู้กุมความลับนั่นเองว่ามีเมียน้อยกี่คน วันนี้คิวของบ้านไหนประมาณนี้,บทนี้ไม่ต้องเครียดแล้ว? ไม่เครียดเลยค่ะ สนุก ของคนอื่นปัญหาชีวิตเขาเยอะนะ แต่เราเล่นในจังหวะที่แปลกกว่าคนอื่นได้อยู่คนเดียว เล่นแล้วบางทีก็ตลกตัวเองนะ,ตอนนี้มีละครกี่เรื่อง? 5 เรื่องค่ะ ก็ให้ทีมงานเขาไปแบ่งเวลากันเอง (หัวเราะ) จริงๆ มันจัดการได้ค่ะ เพราะเราก็จะอยู่เป็นที่ที่ไป อีกวันก็เป็นของอีกเรื่องนึง อาทิตย์หน้าเป็นของอีกเรื่องสลับกันไป เพราะต้องแบ่งเวลากับงานเขียนคอลัมน์ของทรายด้วย มันก็ต้องมีเวลาทำให้ได้ทั้งสองอย่าง,จัดการเรื่องอารมณ์ยังไง เพราะแต่ละเรื่องคาแรกเตอร์ก็ไม่เหมือนกัน? ไม่เหมือนกันเลยค่ะ สายโลหิตก็พีเรียต เรื่องนี้ก็เป็นปัจจุบัน อีกเรื่องนึงเป็นบู๊ผี อีกเรื่องเป็นหนังผี อีกเรื่องเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ (หัวเราะ) แต่ก็แบ่งได้นะ คือมันเป็นส่วนนึงของชีวิตเราไปแล้วกับการที่สลับไปสลับมา และไม่ใช่ว่าอย่างสมัยเด็กที่เป็นนางเอกชื่อเดียวอยู่ 6 เดือน แต่ตอนนี้เรียกชื่ออะไรดิฉันก็หันทั้งนั้นแหละค่ะ (หัวเราะ) พอเล่นบ่อยๆ รู้สึกว่าปรับตัวได้ดีกว่าตอนที่ไม่ค่อยได้เล่นด้วยซ้ำ,เรียกว่ารับงานเยอะกว่าปกติมั้ย? ก็ยอมรับว่าเยอะนะคะ แต่คนจะคิดว่าหายไปไหน จริงๆ มันเป็นช่วงผลิตค่ะ แต่พอละครออกมันก็ออกรวดเดียวเลย มันก็ต้องรับนะ แม่ยังเล็ก (หัวเราะ) มันจำเป็น ยังต้องใช้เงินอีกเยอะ เราทำได้ยังมีกำลังก็ทำไป แต่ 5 เรื่องนี่ดิฉันไม่ชุ่ยนะคะ ตั้งใจทำงานเท่ากันทุกเรื่อง ถ้ามีอะไรจะติดต่อมาอีกก็ติดต่อมาเลยนะคะ แล้วก็ไปเคลียร์คิวกันได้เองเลย (หัวเราะ) เพราะเราเล่นเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นแม่ เป็นน้า ได้หมด และมันก็อยู่เป็นที่ที่ไม่ต้องร่อนเร่ไปไหน ก็จัดการคิวกันได้อยู่แล้ว,ไม่เกี่ยงเรื่องบทแล้ว? ไม่เกี่ยงนะ เพราะเราเริ่มชีวิตการแสดงด้วยการถูกข่มขืนเป็นบ้าไปแล้ว พออายุ 18 ก็เป็นผีที่ตายทั้งกลม มันก็ไม่ต้องเกี่ยงอะไรแล้วมั้ง (หัวเราะ) คนจะชอบบอกว่าไปรับบทแบบนี้แล้วจะตกหรือเปล่า ไม่รู้สิ เรารู้สึกว่าอะไรที่เรายังสนุก ยังอยากทำอยู่และแฮปปี้ที่จะไปกองอันนั้นคือดี ตอนนี้รู้สึกว่าอยากเล่นอะไรที่สบายๆ แล้วมานั่งดูคนอื่นเขาเครียดกันบ้างก็โอเค (หัวเราะ),ยังมีเวลาไปดูแลคุณแม่อยู่? ก็ต้องดูค่ะ คือทุกวันนี้ที่เขาป่วยก็ป่วยด้วยโรคน้อยใจว่าลูกไม่ดูแลอยู่แล้ว ก็ต้องทำความเข้าใจกันอยู่เนืองๆ ซึ่งก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก แต่ก็ทำเท่าที่ทำได้,เห็นยังมีน้อยใจคุณแม่อยู่? เอาจริงๆ เราก็ไม่ใช่หน้าใหม่สำหรับการโดนด่าซะทีเดียว ก็โดนด่ามาทั่วทิศแล้วล่ะ แต่การโดนแม่ด่ามันก็เป็นอีกเลเวลหนึ่งเหมือนกันนะ ทั้งๆ ที่เราก็รู้ว่าเขาด่าเพราะป่วย เขาไม่ได้ด่าเพราะเกลียดชัง แต่บางทีฟังแล้วมันก็ใจเสียนิดนึง บางทีกลับบ้านไปเราก็หวังว่าจะได้มธุรสวาจานะ (หัวเราะ) บางทีเราก็ไม่พร้อมเหมือนกัน แต่ก็ดูแลกันไปค่ะ ทรายว่าขีวิตแม่ลูกมันก็คงอะไรอย่างนี้แหละมั้ง,ตอนนี้คุณแม่อยู่บ้านหรือโรงพยาบาล? โรงพยาบาลค่ะ เพิ่งเข้าไปอีกรอบ เพราะต้องปรับยา และเขาขึ้นไปอีกสเตทหนึ่ง ซึ่งต้องปรับยากันใหม่ คุณหมอเลยบอกแอดมิดดีกว่าจะได้ดูแลอย่างทั่วถึงไปเลย เพิ่งแอดมิดไปเมื่อต้นอาทิตย์นี่เองค่ะ แต่จะอยู่นานมั้ยก็ต้องแล้วแต่หมอ แต่เราก็ไม่อยากให้แม่ไปอยู่นานๆ หรอกนะ,ไม่ใช่ว่าหมอเขาดูแลไม่ดี เขาดูแลดีมากเลยแหละ แต่เรารู้สึกว่าบ้านมันเงียบๆ (หัวเราะ) แต่ก็เข้าใจว่าไปแล้วมันก็จะดีกับทั้งตัวเขาและตัวเราด้วย แต่เห็นแล้วก็ใจไม่ดี พยาบาลก็บอกว่าอย่าเพิ่งมาเยี่ยมนะ มาแล้วแม่ร้องไห้เยอะ แต่ก็เข้าใจว่ามันเป็นกติกา แล้วยิ่งถ้าเราไปฝืนดื้อจะไปเยี่ยม มันก็ยิ่งใช้เวลานานขึ้นไปอีก แทนที่จะหนึ่งอาทิตย์ก็กลายเป็นสองอาทิตย์ เราก็ต้องเชื่อผู้ที่เขารู้,คุณหมอบอกว่าจะดีขึ้นบ้างมั้ย? ต้องบอกก่อนว่าโรคนี้มันไม่มีทางหายขาด แต่มันก็จะดีมาช่วงนึงหลังจากที่ปรับยาแล้วเข้าที่ แต่จะอยู่ได้ขนาดไหนก็แล้วแต่ระดับอาการความรุนแรงของโรคว่ามันจะยังคงอยู่ได้นานแค่ไหนก่อนที่จะเข้าสเตทต่อไป ก็เป็นเรื่องที่ต้องลุ้นกัน แต่ที่มันเศร้าก็คือพอแม่เขาเริ่มรู้สึกตัวดีขึ้น เขาก็จะเศร้ามากๆ,ที่เขาป่วยแล้วเป็นภาระของลูก ซึ่งเราก็จะบอกว่ามันไม่ใช่ภาระนะแม่ แล้วมันก็จะวนเป็นความเศร้าอยู่อย่างนี้ เราก็เลยต้องพยายามเอนเตอร์เทนแม่มากกว่าใครๆ แต่บางทีมันก็ยากเหมือนกันค่ะ เราเข้าใจเขามากๆ นะ แต่เราป่วยแทนเขาไม่ได้จริงๆ งานเราก็ยังต้องทำ และไม่ควรจะแบกเอาปัญหาส่วนตัวมาที่หน้ากองด้วย มาถึงนั่งร้องไห้ไปครึ่งวันทำงานไม่ได้มันก็ไม่ใช่มืออาชีพ ทุกคนก็คาดหวังความพร้อมการทำงานได้จากเรา,กลัวตัวเองจะกลับมาเป็นโรคซึมเศร้าอีกครั้งมั้ย? ไม่ต้องกลัวเลยค่ะ มันเป็นไปแล้ว (หัวเราะ) ทุกวันนี้ก็ยังกินยาอยู่ พี่วี วีรภาพ ก็ยังล้อเลยว่านี่อาการของโรคหรือเปล่าเนี่ย (หัวเราะ) มันเป็นเรื่องปกติสำหรับทรายนะ ทรายไม่ได้รู้สึกแย่หรือเลวร้ายอะไร มันดีด้วยซ้ำที่เรารู้ว่าเราเป็นอะไรแล้วเรากินยาด้วย ก็จะมีบางวันเหมือนกันที่บอกเอาไว้เลยว่าวันนี้ไม่พร้อมคุยด้วย พร้อมสำหรับการแสดงอย่างเดียว วันนี้เราไม่พร้อมจะคุยเล่น เพราะบางทีมันจะดีเลย์เหมือนกันเวลาเขาเล่นกัน บางวันมันไม่พร้อม แต่บางวันก็ดีด คึกก็มี (หัวเราะ) แล้วแต่วัน,เพื่อนๆ รับรู้มั้ย? รู้ค่ะ คุยได้ ล้อได้ แต่บางทีอยู่ในกองพอถ่ายไปนานๆ มันจะมีช็อตๆ เหมือนกัน แต่มันไม่ได้มีผลถึงขั้นทำงานไม่ได้ แต่ทรายก็ไม่ได้ปิดบังนะ เพราะเรารู้สึกว่าอย่างน้อยเราก็หาหมอ กินยา ทำงานได้ คือเราไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องแย่สำหรับตัวเรา คนที่ป่วยมันไม่แฮปปี้อยู่แล้วแหละ,เราก็อยากร่างกายแข็งแรง แต่เราอยากให้รู้สึกว่าเราก็ยังทำงานได้นะ มีชีวิตที่ปกติได้ มันอาจจะมีบางวันที่ดาวน์บ้าง ซึ่งทุกคนก็จะเข้าใจนะ ดีกว่าอยู่แบบอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ไม่บอกใครเลย เหมือนคนมีเมนส์ตลอดเวลามันก็ไม่ไหว ก็เลยคิดว่าบอกดีกว่า แล้วมีหลายคนที่หลังไมค์มาว่าเห็นพี่ทรายแล้วมีกำลังใจที่จะออกไปสู้กับโลกภายนอกมากขึ้น คนเรามันก็ต้องมีวันที่แย่บ้างเป็นธรรมดา หลังๆ เพื่อนแซวว่าเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของโรคซึมเศร้าแล้วใช่มั้ย (หัวเราะ),ซึ่งถ้ามันจะช่วยคนได้มันก็ดีนะ หมายถึงว่าได้ทำความเข้าใจบ้าง ทรายเห็นใจคนธรรมดาด้วยซ้ำที่บางทีต้องทำงานหรือเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องกับคนที่ป่วย เขาอยากช่วยเรา แต่เขาไม่รู้จะเข้าหายังไง พูดอันนี้เดี๋ยวมันร้องไห้แล้วจะตายมั้ย คืออยากให้ทุกคนเข้าใจตรงกันว่าเราทำงานได้ เรายังมีประโยชน์อยู่,ทรายเชื่อว่าคนเป็นโรคซึมเศร้าอยากหายทุกคนค่ะ พยายามทำตัวแข็งแรงอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าจะปลอบก็เอาเรื่องเฉพาะหน้าก็พอ ชวนไปทำอย่างอื่น ร้องไห้เหรอไปกินข้าวมั้ย ร้านนี้อร่อยมากเลยนะ คือพยายามเปลี่ยนประเด็นไป แต่ถ้าเขาไม่ไหวจริงๆ ก็ปล่อยนอนไปค่ะ เดี๋ยวเขาก็ดีขึ้นเอง บางทีวันที่มันแย่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราได้สร้างความอึดอัดใจให้ใครมากขนาดไหน ซึ่งคนรอบๆ ตัวทรายก็จะบอกเขาเลยว่าวันนี้ไม่พร้อมจริงๆ อะไรอย่างนี้เลย,ต้องกินยาไปตลอดมั้ย? ตลอดค่ะ กินยาทุกวัน จะถามเลยว่าวันนี้ดึกมั้ย ถ้าดึกต้องกินยาตอนนี้ๆ นะ คือเราจะมีการบริหารจัดการของเรา แต่ก็เจอหมอบ่อย เพราะหมอก็ดูทั้งแม่ดูทั้งเราด้วย หมอก็รู้ปัญหาของทั้งคู่,มีช่วงดาวน์ที่พีคสุดๆ มั้ย? มี (เสียงสูง) มีวันแย่ๆ ที่แบบเปิดเพลงนี้แล้วฉันร้องไห้ ฝนตกกระจกแตกอกหักตลอดเวลา ซึ่งจริงๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เราจะรู้ตัวก็จะรีบบอกน้อง บอกคนรอบข้างว่าวันนี้พอนะ กินยาแล้วจะรีบนอนเลย คือเรารู้ อย่างล่าสุดที่พาแม่กลับเข้าโรงพยาบาล เราก็รู้สึกแย่นะ โกรธโลก แต่เรารู้ว่าพอได้นอนมันก็จะดีขึ้น. | ทราย เจริญปุระ เผยคุณแม่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้า ต้องเข้ารับการรักษาอีกครั้ง ตนเองพยายามทำงานเก็บเงินให้มากที่สุดเพื่อเอาเงินมารักษาคุณแม่ ตอนนี้วิ่งรับละคร-หนัง 5 เรื่อง ส่วนอาการป่วยโรคซึมเศร้าของตัวเองยังต้องพึ่งยาเหมือนเดิม | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ทราย,ทราย เจริญปุระ,ทราย เจริญปุระ แม่ป่วย,ทราย เจริญปุระ โรคซึมเศร้า,โรคซึมเศร้า,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1175693 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.