title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
จ่อยิงท้ายทอย 2 นัด ดับหนุ่มบันนังสตาคาที่ ตร.ตั้งปมคนรู้จักลอบฆ่า
  ,เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 4 มี.ค. พ.ต.อ.มุสตอพา มะนิ ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา พร้อมกำลังรุดไปสอบสวนเหตุ มีผู้ถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านตาเนาะปูเต๊ะใน หมู่ 4 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ ที่เกิดเหตุอยู่ริมทางหลวงสาย 410 (ยะลา-เบตง) ใกล้ศาลาที่พักริมทาง พบศพ นายอัสมี แงแวลี อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 361 หมู่ 11 บ้านยีลาปัน ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .45 กระสุนเจาะท้ายทอยทะลุด้านหน้า นอนตายจมกองเลือดคารถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เอซีบี.125 ซีซี. สีเขียวดำ หมายเลขทะเบียน 1 กฉ 1495 ยะลา พบปลอกกระสุนปืนตกอยู่บนถนน เก็บรวบรวมไว้ได้จำนวน 2 ปลอก,จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอัสมี แงแวลี ขับขี่รถ จักรยานยนต์ออกจากบ้านพักเพื่อไปหาซื้ออาหารที่ตลาด ขณะเกิดเหตุไม่มีใครเห็น เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ในย่านดังกล่าวได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกัน 2 นัด เมื่อนำกำลังไปดูพบว่า นายอัสมีถูกยิงเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าท่ีตำรวจคาดว่าก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน ที่รู้จักมักคุ้นกับนายอัสมี ได้ขี่รถจักรยานยนต์ติดตามมา แล้วเรียกให้หยุด ทำทีมีธุระจะพูดคุย,เมื่อนายอัสมีเผลอ มือปืนที่ซ้อนท้ายจึงได้ชักอาวุธปืนออกมาจ่อยิงที่ท้ายทอยนายอัสมีติดต่อกัน 2 นัด จนล้มลงเสียชีวิต หลังก่อเหตุพวกคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากเรื่องส่วนตัว แต่ไม่ทิ้งประเด็นการสร้างสถานการณ์.
เกิดเหตุจ่อยิงท้ายทอย หนุ่มไทย - มุสลิม วัย 33 ปี เสียชีวิต พื้นที่บันนังสตา ขณะขี่รถ จยย.ออกจากบ้านพักไปตลาด ตำรวจคาด คนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 ราย รู้จักมักคุ้นกับผู้ตาย ขี่ จยย.ตามประกบยิง
ข่าว,ทั่วไทย
จ่อยิง,ลอบฆ่า,ดับหนุ่มบันนังสตา,บันนังสตา,ยะลา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1219260
ปณท. เตือนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพแอบอ้างช่วยเข้าเรียน ร.ร.การไปรษณีย์
นางวราภรณ์ ใช้เทียมวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) กล่าวว่า จากการประกาศรับสมัครนักเรียนเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนการไปรษณีย์ในแต่ละปีนั้น พบว่ามีผู้สนใจสมัครสอบเป็นจำนวนมาก นับเป็นทางเลือกของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความมั่นคง ตลอดจนโอกาสเติบโตในการทำงาน ส่งผลให้มีการแข่งขันสูง ขณะเดียวกันมีมิจฉาชีพเข้ามาแอบอ้างเรียกรับเงินจากผู้ปกครองและผู้สมัครเป็นจำนวนเงินมาก โดยอ้างเป็นค่าช่วยเหลือให้ผู้สมัครฯ สามารถสอบเข้าโรงเรียนการไปรษณีย์ได้ ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยจึงขอเตือนผู้สมัครระวังอย่าตกเป็นเหยื่อและอย่าหลงเชื่อใดๆ ต่อการแอบอ้างของมิจฉาชีพเนื่องจากกระบวนการสอบคัดเลือกของไปรษณีย์ไทยนั้น มีความชัดเจน โปร่งใส ยุติธรรม และปราศจากการเรียกรับผลประโยชน์โดยเด็ดขาดนางวราภรณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับขั้นตอนการคัดเลือกนักเรียนนั้นไปรษณีย์ไทย คัดจากการทดสอบความรู้ในวิชาทั่วไปและการไปรษณีย์ ตลอดจนความสามารถในการเข้าทำงานโดยผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนฯ จะได้รับการบรรจุเข้าทำงานเป็นพนักงานของไปรษณีย์ไทยทันที ทั้งนี้โรงเรียนการไปรษณีย์ เปิดรับสมัครบุคคลชาย - หญิง อายุระหว่าง 18 - 25 ปี เข้าสอบคัดเลือกเป็นนักเรียนโรงเรียนการไปรษณีย์ ประจำปีการศึกษา 2558 ระยะเวลาการศึกษา 1 ปี ผู้สนใจสามารถซื้อใบสมัครสอบคัดเลือกได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ - 30 เมษายน 2558อย่างไรก็ดี ปณท. ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาในทุกระบบบริการ ควบคู่ไปกับการเฟ้นหาเครือข่ายบุคลากรที่มีคุณภาพ และตระหนักในหน้าที่ความรับผิดชอบ สู่การเป็นสื่อกลางขับเคลื่อนธุรกิจไทยสู่เวทีโลก ภายใต้แนวคิด เครือข่ายไปรษณีย์ไทย เครือข่ายที่ขับเคลื่อนธุรกิจไทยสู่เวทีโลก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center 1545 หรือเว็บไซต์
ไปรษณีย์ไทยเตือนภัยผู้สมัครสอบโรงเรียนการไปรษณีย์อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพแอบอ้างรับเงินช่วยเข้าเรียนยืนยันกระบวนการสอบคัดเลือกของไปรษณีย์ไทยโปร่งใสและปราศจากการเรียกรับผลประโยชน์โดยเด็ดขาด
สังคม
thailandpos,ร.ร.การไปรษณีย์,ลอกลวง,เตือนภัย,ไปรษณีย์ไทย
https://news.thaipbs.or.th/content/839
นิตยสารเจ็ทเผยภาพวิดีโอล่าสุดของ วิทนีย์ ฮุสตัน ก่อนเสียชีวิต
นิตยสารเจ็ทเปิดเผยภาพวิดีโอล่าสุดของวิทนีย์ ฮุสตัน นักร้องชื่อดังชาวอเมริกันที่เพิ่งเสียชีวิตในวัย 48 ปี โดยเธอได้ขึ้นเวทีร้องเพลงคู่กับเคลลี่ ไพรซ์ ในงานเลี้ยงก่อนการประกาศผลรางวัลแกรมมี่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เธอร้องเพลงเพียงสั้นๆ ด้วยเสียงแหบห้าวก่อนที่จะโบกมือให้กับผู้ชม และก้าวลงจากเวทีวิทนีย์เสียชีวิตเมื่อเวลา 15.55 น. เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 6.55 น. ของวันนี้ตามเวลาในประเทศไทย ที่โรงแรมเบเวอร์ลี ฮิลตัน ซึ่งเป็นสถานที่ที่จะใช้จัดงานแสดงคอนเสิร์ตก่อนการประกาศผลรางวัลแกรมมี่ คาดว่าการเสียชีวิตของเธอจะทำให้บรรยากาศของการประกาศผลรางวัลแกรมมี่ที่มีขึ้นคืนวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นเงียบเหงาลง และจะมีการสดุดีเธอในงานโดยเจนนิเฟอร์ ฮัดสัน ขณะที่ผู้จัดการส่วนตัวระบุว่าเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต แต่ไม่พบร่องรอยของการฆาตกรรมวิทนีย์ ฮุสตัน ได้ชื่อว่าเป็นราชินีเพลงป็อป และมีผลงานเพลงที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก เช่น ไอ วิล ออลเวย์ เลิฟ ยู เซฟวิ่ง ออล มาย เลิฟ ฟอร์ ยู โดยผลงานการบันทึกเสียงของเธอขายได้ในสหรัฐประเทศเดียวกว่า 55 ล้านแผ่น ก่อนที่เสียงอันทรงพลังของเธอจะแหบห้าวลงเพราะผลกระทบจากการใช้ยาเสพติด นอกจากนี้ภาพลักษณ์ของเธอยังเสียหายจากการมีพฤติกรรมเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย และชีวิตการแต่งงานที่ไม่ราบรื่น
นิตยสารเจ็ทเปิดเผยภาพวิดีโอล่าสุดของวิทนีย์ ฮุสตัน นักร้องชื่อดังชาวอเมริกันที่เพิ่งเสียชีวิตในวัย 48 ปี โดยเธอขึ้นเวทีร้องเพลงที่งานเลี้ยงเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ก่อนการประกาศผลรางวัลแกรมมี่ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันนี้
ต่างประเทศ
นักร้อง,นิตยสารเจ็ท,ภาพวิดีโอ,รางวัล,วิทนีย์ ฮุสตัน,แกรมมี่
https://news.thaipbs.or.th/content/65652
ลุยติดสลากปลอดทุจริต
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันจับตาบิ๊กโปรเจกต์,องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน จับตาประมูลโครงการใหญ่ของรัฐ ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 รถไฟฟ้า รถเมล์เอ็นจีวี สร้างโรงงานยาสูบ ประมูล 4 จี หวั่นเกิดปัญหาทุจริต พร้อมผุดไอเดียแจกสลาก ซีเอซี กับสินค้าที่ปลอดการทุจริต–ติดสินบน,นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยในงาน การประชุมแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนในการต่อต้านคอร์รัปชัน ว่า ขณะนี้องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันกำลังติดตามโครงการประมูลของภาครัฐ 5-6 โครงการ เช่น โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2, โครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล, โครงการรถเมล์เอ็นจีวี, การก่อสร้างโรงงานยาสูบ และการประมูล 4 จี เพราะเป็นโครงการที่ใช้งบประมาณลงทุนจำนวนมหาศาล และเป็นที่สนใจของสาธารณชน,ทั้งนี้ ยอมรับว่าที่ผ่านมาโครงการจัดซื้อจัดจ้างและการประมูลงานต่างๆในแต่ละปีจะมีเม็ดเงินรั่วไหลไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท ขณะที่โครงการลงทุนของท้องถิ่น ซึ่งมีการร้องเรียนว่ามีการทุจริตจำนวนมากนั้น แต่องค์กรยังไม่มีความพร้อมในด้านบุคลากรที่จะเข้าไปตรวจสอบและติดตาม แต่ในอนาคตหากมีความพร้อมจะเข้าไปติดตามเช่นกัน,ตอนนี้รัฐบาลให้ความร่วมมือกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันอย่างมาก โดยได้มีลงนามในสัญญาคุณธรรมด้วยกัน ซึ่งในกระบวนการและขั้นตอนของการประมูลนั้น องค์กรจะส่งตัวแทนไปร่วมสังเกตการณ์ 3-5 คนต่อโครงการ เพื่อให้กระบวนการดังกล่าวมีความโปร่งใสมากที่สุด ขณะเดียวกัน องค์กรกำลังผลักดันให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านกฎหมายให้การจัดซื้อจัดจ้างจากปัจจุบันที่เป็นกฎระเบียบ กลายเป็น พ.ร.บ.การ,จัดซื้อจัดจ้างเพื่อป้องกันไม่ให้หน่วยงานภาครัฐจะใช้วิธีพิเศษ,นายบัณฑิต นิจถาวร เลขาธิการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (ซีเอซี) กล่าวว่า ขณะนี้องค์กรมีแผนจะมอบเครื่องหมายซีเอซี หรือสลากต่อต้านการทุจริต เพื่อติดบนตัวสินค้าของบริษัทที่ไม่มีทุจริตคอร์รัปชัน หรือไม่จ่ายสินบน ทั้งการประมูลงานของภาครัฐ และการบริหารงานขององค์กร เพื่อให้ผู้บริโภครับรู้ว่าสินค้าที่ซื้อจากบริษัทเหล่านั้น ปลอดจากการทุจริตทุกรูปแบบเหมือนในบางประเทศ ที่จะดึง,ภาคธุรกิจและประชาชนร่วมกันสร้างเครือข่ายต่อต้านการคอร์รัปชัน เบื้องต้นจะเริ่มจากอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการคอร์รัปชันก่อนจากนั้นก็จะขยายไปยังกลุ่มอื่นๆต่อไป,องค์กรจะเดินหน้าต่อต้านการคอร์รัปชันเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมชัดเจนหลายๆด้าน ซึ่งแนวทางการให้สลากต่อต้านการคอร์รัปชันจะ,เหมือนกับในประเทศอังกฤษ ที่ภาคเอกชนรายใดมั่นใจว่าปลอดจากการคอร์รัปชัน และมีการตรวจสอบแล้วว่าไม่มีปัญหาดังกล่าวจริง จะมอบสลากเพื่อติดบนตัวสินค้า,ทั้งนี้ ในเบื้องต้นมีบริษัทที่ร่วมประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริตกับซีเอซีไม่ต่ำกว่า 500 ราย ซึ่งบริษัทสมาชิกที่ได้การรับรองจากซีเอซี,มีเป้าหมายที่จะขยายแนวปฏิบัติในการต่อต้านทุจริตไปสู่บริษัทธุรกิจที่อยู่ในห่วงโซ่หรือธุรกิจต่อเนื่องของบริษัทตนตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ซึ่งจะช่วยขยายเครือข่ายให้เกิดธุรกิจสะอาดแบบครบวงจรในอุตสาหกรรมต่างๆมากขึ้น ที่สำคัญจะเป็นกลไกสำคัญของภาคเอกชนในการช่วยขจัดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันที่อยู่ในประเทศไทย.
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน จับตาประมูลโครงการใหญ่ของรัฐ ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 รถไฟฟ้า รถเมล์เอ็นจีวี สร้างโรงงานยาสูบ ประมูล 4 จี หวั่นเกิดปัญหาทุจริต พร้อมผุดไอเดียแจกสลาก ซีเอซี กับสินค้าที่ปลอดการทุจริต–ติดสินบน
null
ประมนต์ สุธีวงศ์,องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน,การทุจริต,ติดสินบน,สนามบินสุวรรณภูมิ,รัฐบาล,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/content/532635
โฆษกแจงคลิปตร.กระชาก จยย.ล้ม เหตุผู้ขับขี่ ฝ่าฝืนกฎจราจร-พยายามหลบหนี
วันนี้ (16 ก.ค.2563) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์มีการลงคลิปวิดีโอและพาดหัวข่าว ตำรวจตั้งด่านกระชากรถจักรยานยนต์ล้มนั้น ได้รับรายงานจาก สน.พระโขนง ว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ค.63 เวลาประมาณ 20.00น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกันการแข่งรถในทางสาธารณะและป้องกันเหตุอาชญากรรม บริเวณปากซอยอ่อนนุช 41 เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวกลุ่มวัยรุ่นมักที่จะมารวมตัวกันเพื่อชักชวนกันไปขับขี่รถหรือแข่งรถ โดยปราศจากความระมัดระวังและไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจรไปมาทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและอาจอันตรายถึงแก่ชีวิต ซึ่งได้มีการมอบหมาย ผบ.หมู่ จร.สน.พระโขนง ทำหน้าที่เฝ้าระวังและแจ้งเหตุโดยดักซุ่มยืนอยู่บริเวณปากซอยอ่อนนุชใกล้เคียงกับจุดตั้งด่าน เพื่อป้องกันการหลบหนีหรือขับรถกลับในที่ห้ามกลับรถหรือขับรถย้อนศรในวันเกิดเหตุผู้ขับขี่ตามที่ปรากฎในคลิปทั้ง 2 คนพยายามหลบหนีด่านตรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้นแต่มีการเร่งเครื่องหนีจึงทำให้รถเสียหลักล้มลงตามที่ปรากฎในคลิปรองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบสวนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คนแล้วโดยผู้ขับขี่ให้การยอมรับสารภาพว่า ตนได้ฝ่าฝืนกฎจราจรและพยายามหลบหนีจริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ว่ากล่าวตักเตือนผู้ขับขี่ทั้ง 2 คนเนื่องจากเป็นการกระทำความผิดครั้งแรก อีกทั้งผู้ขับขี่ทั้ง 2 คนไม่ติดใจกับการกระทำดังกล่าวของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขอฝากเตือนไปยังผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน ให้มีวินัย เคารพกฎจราจร ปฏิบัติตามกฎหมาย หากมีการฝ่าฝืนหรือพยายามหลบหนีจากด่านตรวจ ฝ่าฝืนกฎจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
โฆษก ตร.แจงคลิปตำรวจตั้งด่านกระชากรถจักรยานยนต์ล้ม พบฝ่าฝืนกฎจราจรและพยายามหลบหนี
อาชญากรรม
ตำรวจ,ตั้งด่าน,พระโขนง
https://news.thaipbs.or.th/content/294615
คดีอื้อ รวบ 2 ผู้ต้องหา ลวงผู้ประกอบการรถขนส่งลงทุน เสียหาย 10 ล้าน
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 60 ที่กองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป. นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมชุดปฏิบัติการ 1-1 กก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายวัชรชัย เชษฐราช อายุ 40 ปี ชาวบุรีรัมย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง จ.504/2560 ลงวันที่ 19 กันยายน 2560 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ น.ส.กัญญาพัชร ราชวัตร์ อายุ 33 ปี ชาวบุรีรัมย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนงที่ จ.505/2560 ลงวันที่ 19 กันยายน 2560 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ, หมายจับ พ.ร.บ.เช็ค ของศาลจังหวัดมีนบุรีอีก 5 หมาย จับได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ม.3 ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา,พ.ต.ต.ณัฐพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเดือนตุลาคม 2560 กลุ่มผู้ประกอบการรถขนส่ง 17 ราย มาร้องทุกข์ว่า มีผู้ต้องหาเปิดบริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด วัชรมั่งมี ทรานสปอร์ต จำกัด หลอกเหยื่อด้วยการประกาศในเฟซบุ๊ก และเพจต่างๆ ชักชวนให้ผู้ประกอบการมาร่วมลงทุน นำรถขนส่งมาร่วมรับจ้างงานจากบริษัทที่น่าเชื่อถือ หรือนำเงินมาร่วมลงทุนในการว่าจ้างรถขนส่งมาทำงานให้บริษัทที่น่าเชื่อถือต่างๆ มีผลกำไรตอบแทนสูง,โดยจะพาผู้เสียหายไปติดต่อกับบริษัทที่น่าเชื่อถือ เพื่อหลอกให้เชื่อว่าได้รับการว่าจ้างขนส่งจากบริษัทดังกล่าว หลังจากนั้นจะพาเหยื่อไปดูบริษัทของตัวเองที่เปิดไว้ พร้อมทั้งแสดงบัญชีธนาคารให้ดูว่ามีเงินเข้าออกบัญชีจำนวนมาก จนเหยื่อปักใจเชื่อนำเงินมาร่วมลงทุน เมื่อครบกำหนดจ่ายผลตอบแทนกลับบ่ายเบี่ยง อ้างว่าอยู่ระหว่างรอรับเงินจาก ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจ (SME) ซึ่งเป็นโครงการของรัฐบาลในการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจ จนสุดท้ายไม่สามารติดต่อได้ ทำให้ผู้เสียหายสูญเสียทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในหลายฐานความผิด และหลายท้องที่เกิดเหตุต่อเนื่องกัน ,กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 8 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายวัชรชัย และ น.ส.กัญญาพัชร ผู้ต้องหา หลบหนีมาพักอาศัยที่บ้านดังกล่าว จึงได้จับกุมทั้งคู่ เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และรับว่าเคยมีประวัติต้องคดีอาญา 15 คดี และมีหมายจับรวมกัน 8 คดี นอกจากนี้ ยังเคยถูกศาลจังหวัดบุรีรัมย์ พิพากษาจำคุก 1 ปี 7 เดือน ในคดีร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ และ พ.ร.บ.เช็ค ของ สภ.เมืองบุรีรัมย์,จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ยังพบว่า นายวัชรชัย มีรถในความครอบครองร่วม 100 คัน และมีพฤติการณ์เช่าซื้อรถในชื่อของบุคคลอื่น และนำไปจำนำต่ออีกหลายทอด ทั้งนี้ พบว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายรายได้รวมกลุ่มกันเดินทางเข้าแจ้งความอีกหลายท้องที่ด้วย.
ตำรวจกองปราบฯ นำกำลังจับกุม 2 ผู้ต้องหาชายหญิง หลอกผู้ประกอบการรถขนส่งร่วมลงทุน สุดท้ายเชิดเงินหนี เสียหายกว่า 10 ล้านบาท พบมีคดีติดตัวจำนวนมาก ครอบครองรถร่วม 100 คัน จากการเช่าแล้วนำไปให้คนจำนำต่อ
ข่าว,ทั่วไทย
หลอกลวง,ฉ้อโกง,โกงเงิน,รถขนส่ง,คดีติดตัว,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1148758
ปากไม่แตก ไม่ลอก ไม่ขุย 4 เทคนิค สวยอวบอิ่มช่วงหน้าหนาว
ในบางท่านแตกจนมีเลือดไหลออกมา ทำให้ปากอวบอิ่มสวยๆ ของเราเป็นแผลไปอีก วันนี้ไทยรัฐออนไลน์ มีเทคนิคดี๊ดี โบกมือลาปากแตกเป็นขุยไปได้เลย,1. ว่านหางจระเข้, ,ปกติแล้วด้วยสัญชาตญาณเมื่อรู้สึกปากแห้งปุ๊บ เราจะเลียปากปั๊บ ซึ่งนั้นเป็นการทำให้ปากของเราแห้งมากกว่าเดิม เพื่อนๆ ลองหาเจลว่านห่างจระเข้ หรืออโลเวร่า 100% พกติดตัวดู เพราะด้วยคุณสมบัติของเจ้าว่านหางจระเข้ที่มากมายก่ายกอง ทั้งช่วยในเรื่องของเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวพรรณ รวมไปถึงเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ริมฝีปากของเราด้วย โดยการเลือกใช้เจลอโลเวร่า 100% มาทาบริเวณปากของเรา วิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ทำให้ปากของสาวๆ ไม่แตกได้แล้ว ย้ำห้ามเลียปากเด็ดขาด เพราะถ้าเกิดดำขึ้นมา ดูแลกันอีกยาวเลย ,2. การสครับ,การสครับริมฝีปากวิธีนี้เหมาะกับสาวๆ ที่มีริมฝีปากแห้ง ลอก เป็นขุย แต่ยังไม่ถึงกับแตก อาจจะเป็นเพราะมีเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วเกาะอยู่ ซึ่งวิธีการสครับจะเป็นการขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกและกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา เรามีสูตรมาบอกด้วยนะ เพียงแค่ผสมน้ำตาลทราย น้ำผึ้ง และน้ำมันมะพร้าวออร์แกนิกอย่างละหนึ่งช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน และนำมาถูบริเวณปากของเราอย่างเบามือ ทิ้งไว้สัก 30 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำอุ่น อย่าลืมทาลิปบาล์มเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ริมฝีปากของเราด้วยนะ,3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ,นอกจากการดูแลริมฝีปากให้ชุ่มชื่นจากภายนอกแล้ว เราต้องดูแลความชุ่มชื่นภายในร่างกายของเราด้วย เพราะฉะนั้นการดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้ว ทุกวันอย่างสม่ำเสมอจะเป็นทางช่วยอีกวิธีหนึ่ง นอกจากนี้เรายังสามารถทานผลไม้อย่างเช่น เมลอน มะเขือเทศ หรือแตงกวา เป็นประจำก็ช่วยได้เช่นกันจ้ะ,4. รับประทานวิตามิน,เพื่อนๆ ลองหันมารับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี เช่น ธัญพืชไม่ขัดขาว ผักใบเขียว ถั่วเปลือกแข็ง รวมไปถึงอาหารที่มีวิตามินเอ วิตามินซี ที่พบได้ในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ แคร์รอต ผักใบเขียวต่างๆ โยเกิร์ตรสธรรมชาติ หรือจะเป็นอาหารเสริมที่มีโอเมก้า 3 วิตามินเอ วิตามินบี ก็สามารถเพิ่มความชุ่มชื่นได้ แต่อย่างไรก็ตามควรขอคำแนะนำจากเภสัชกร และรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะนะ,นอกจากเราจะมีริมฝีปากที่สุขภาพดีแล้ว ปากสวยยังเป็นการเพิ่มเสน่ห์ให้กับรอยยิ้มสวยๆ ของเราให้ดูแพงขึ้นไปอีก ลองนำเทคนิคที่เรานำมาฝากไปทำตามดูนะ เผื่อรอยยิ้มของเราจะไปประทับใจหนุ่มๆ ให้มาตกหลุมรักเราก็ได้ หนาวแล้วดูแลริมฝีปาก ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะ เราเป็นห่วง.
ลมหนาวมาแล้วนะ หนาวจัง หนาวใจ อิอิ ลมหนาวมาแบบนี้เพื่อนๆ คงจะมีปัญหาริมฝีปากลอก ริมฝีปากแตกกันอยู่ใช่ไหม และด้วยอากาศที่เย็นเป็นสาเหตุให้ร่างกายขาดความชุ่มชื่น ก็ไม่แปลกที่ผิวเราจะแตกเป็นขุย รวมถึงปากของเราด้วย
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
ปากแตก,ดูแลปาก,ดูแลปากหน้าหนาว,สครับปาก,ผู้หญิง
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/beauty/1156117
โค้ชโย่ง ขอเช็กฟอร์มช้างศึกยู-23 ก่อนเรียกเข้าแคมป์ 13 มี.ค.
โค้ชโย่ง วรวุธ ศรีมะฆะ ขอส่องดูฟอร์มนักเตะอีกสัปดาห์ก่อนส่งชื่อ 25 แข้งช้างศึกยู 23 ให้สมาคมกีฬาฟุตบอลเรียกเข้าแคมป์ 13 มี.ค. ที่ศูนย์ฝึกหนองจอก คัดให้เหลือ 23 คน ก่อนออกเดินทางไปเมืองดูไบ 18 มี.ค.60 ด้านวทันยา วงษ์โอภาสี เผยเรื่อง อิสระ ศรีทะโร สตาฟฟ์โค้ชรับงานคุมทีมสำรองบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลุยศึก T4 ไม่มีปัญหา ยัน โค้ชหระ ยังช่วยงานทีมเหมือนเดิม เพราะมีการพูดคุยกันทั้งสามฝ่ายลงตัวแล้ว,ความเคลื่อนไหวทีมฟุตบอลทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่มีคิวจะเดินทางไปแข่งขัน ศึกฟุตบอล ดูไบ คัพ ยู-23 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างที่ 19-28 มี.ค. เพื่อเช็กความพร้อมทีม ก่อนจะลุย 2 รายการสำคัญ ได้แก่ ชิงแชมป์เอเชีย ยู-23 รอบคัดเลือก เดือน ก.ค. ที่ประเทศไทยและซีเกมส์ เดือน ส.ค. ที่มาเลเซีย,ล่าสุด โค้ชโย่ง วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือใหญ่ของทีม ได้เผยถึงการเตรียมทีมก่อนจะเดินทางไปแข่งขันทัวร์นาเมนต์ ที่ดูไบ ว่า เราได้มีการลิสต์รายชื่อนักเตะตัวหลักบวกกับแข้งที่เราเคยเรียกมาดูฟอร์ม ไว้ประมาณ 30 กว่าคน สำหรับการไปแข่งขันทัวร์นาเมนต์ดูไบคัพ อย่างไรก็ตาม ทางเราเองขอเวลาดูฟอร์มนักเตะที่จะลงเล่นให้กับต้นสังกัดอีก 1 สัปดาห์ ก่อนจะมีการส่งชื่อนักเตะ 25 คนให้กับสมาคมกีฬาฟุตบอลประกาศรายชื่อเข้าแคมป์เก็บตัวระหว่างวันที่ 13-17 มี.ค.60 และจะคัดให้เหลือ 23 คน ก่อนออกเดินทางไปดูไบในวันที่ 18 มี.ค.,ด้าน มาดามเดียร์ วทันยา วงษ์โอภาสี ผู้จัดการทีม ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับประเด็นที่ โค้ชหระ อิสระ ศรีทะโร สตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทย ยู-23 ไปรับงานคุมทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บี ลงแข่งขันไทยลีก 4 (T4) ว่า ในส่วนของเรื่องนี้ ทางเราเองไม่ได้มี ปัญหาหรือปิดกั้นการทำงานของโค้ชหระ เพราะก่อนที่โค้ชหระจะตัดสินใจรับงานกับบุรีรัมย์ เขาได้มีการมาปรึกษาและพูดคุยกับทีมงานเรียบร้อยแล้ว และทางโค้ชหระเองก็มีการพูดคุยถึงรายละเอียดต่างๆ ที่จะต้องมาช่วยทีมชาติกับทางบุรีรัมย์เช่นกัน ซึ่งบทสรุปคือทั้งสามฝ่ายมีความลงตัวในเรื่องรายละเอียด แน่นอนว่ามันจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ถึงเวลาทีมชาติโค้ชหระก็จะมาช่วยงานเราเหมือนเดิม,สำหรับทีมชาติไทย ยู-23 ปี ในการแข่งขันดูไบ คัพ ยู-23 อยู่ร่วมสายเอ กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (เจ้าภาพ), เกาหลีเหนือ และสิงคโปร์ ด้านสายบี ซาอุดีอาระเบีย, จีน, จอร์แดน, มาเลเซีย
โค้ชโย่ง ขอส่องดูฟอร์มนักเตะอีกสัปดาห์ ก่อนส่งชื่อ 25 แข้งช้างศึกยู 23 ให้สมาคมกีฬาฟุตบอลเรียกเข้าแคมป์ 13 มี.ค. ที่ศูนย์ฝึกหนองจอก คัดให้เหลือ 23 คน ก่อนออกเดินทางไปเมืองดูไบ 18 มี.ค.60
null
ช้างศึก,ทีมชาติไทย ยู-23,วรวุธ ศรีมะฆะ,วทันยา วงษ์โอภาสี,อิสระ ศรีทะโร
https://www.thairath.co.th/content/861209
ข่าวต้นชั่วโมง 11.00 น. ฝ่ายปกครองบุกผับย่านลาดปลาเค้า เยาวชนอื้อ สั่งปิด 5 ปี
จากกระแสข่าว บมจ.การบินไทย จะเข้าถือหุ้นสายการบินไทยแอร์เอเชีย อย่างน้อย 20% เป็นมูลค่าประมาณ 5 พันล้านบาท ล่าสุด บมจ.การบินไทย (THAI) แจ้งว่า บริษัทได้มีการหารือกับสายการบินในประเทศไทยทุกสายในเชิงกลยุทธ์ของอุตสาหกรรมการบินของประเทศ เพื่อร่วมกันสนับสนุนยุทธศาสตร์การคมนาคม และการท่องเที่ยวของประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทยังไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องการร่วมลงทุนกับสายการบินอื่นๆ แต่อย่างใด,ส่วนความเคลื่อนไหวเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 24 ก.พ. ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม ในฐานะฝ่ายเลขานุการดำเนินงานตามคำสั่ง หน.คสช. ที่ 22/2558 พร้อมด้วย ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ส่วนกำกับและตรวจสอบ กรมการปกครอง และ พ.ต.อ.กิตติเชษฐ์ ศักยภาพวิชานนท์ ผกก.สน.โคกคราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เจ้าหน้าที่กรมพินิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบสถานบริการ ร้านนีดทู (NEED2) เลขที่ 328 ถนนลาดปลาเค้า ซอย 30/1 แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. โดยหน้าร้านเปิดเป็นที่โล่ง ด้านหลังร้านมีการดัดแปลงเป็นผับ พบกลุ่มนักเที่ยวจำนวนกว่าร้อยคน,จากการตรวจสอบ พบว่ามีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี รวม 64 คน แบ่งเป็นชาย 29 คน และหญิง 35 คน พร้อมกับผู้ไม่พกบัตรประชาชน รวม 11 คน พร้อมแจ้งเอาผิด 6 ข้อหา คือ 1. ตั้งสถานบริการ โดยมิได้รับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 2. จำหน่ายสุราในเวลาห้ามจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต 3. ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย 4. ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือในลักษณะต้องห้าม 5. ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปี และ 6. ยุยงส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด ส่วนผู้ไม่พกบัตรประชาชน แจ้งข้อหาไม่อาจแสดงบัตรเมื่อเจ้าพนักงานตรวจบัตรขอตรวจ,นอกจากนี้ ยังให้ทาง สน.โคกคราม ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อทำการปิดสถานที่ดังกล่าว เป็นเวลา 5 ปี ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.
การบินไทย ปัดเข้าถือหุ้นแอร์เอเชีย แจงร่วมถกทุกสายการบิน ดันยุทธศาสตร์คมนาคม หนุนท่องเที่ยวไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ ฝ่ายปกครองบุกผับย่านลาดปลาเค้า พบเด็กต่ำกว่า 20 ปี 64 คน ชง สตช. สั่งปิด 5 ปี…
null
ข่าวต้นชั่วโมง,ผับลาดปลาเค้า,บินไทย,บินไทยปิดซื้อหุ้นแอร์เอเชีย,ร้านนีดทู,ปิดผับ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/581636
โจรใจบาปงัดร.ร. ลักเงินซองผ้าป่า
ตำรวจหาพยานหลักฐานมัดคนในอาจมีส่วนรู้เห็น,เหตุการณ์โจรใจบาปรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 27 ส.ค. ร.ต.อ.ชวพล คล่องยุทร รอง สว. (สอบสวน) สน.ธรรมศาลา รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ภายในโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล แขวงและเขตทวีวัฒนา กทม. จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ ผกก.สน.ธรรมศาลา พ.ต.ท.ธีระพล ปลาสุวรรณ สวป. ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน รุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุเป็นห้องบริหารงานบุคคลชั้นที่ 1 ของอาคาร 1 คนร้ายงัดประตูเข้าไปรื้อค้นโต๊ะครูและเจ้าหน้าที่กระจุยกระจายได้ซองผ้าป่าไปจำนวนหนึ่ง จากนั้นคนร้ายขึ้นไปที่ห้องกลุ่มงานวิชาการชั้น 2 ค้นเอาซองเงินทำบุญทอดผ้าป่าที่เก็บไว้ในลิ้นชักมูลค่าราว 1 แสนบาทไปทั้งหมด และขโมยเซิร์ฟเวอร์ กล้องวงจรปิดที่ตั้งอยู่ในห้องไปด้วย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วแฝงไว้เป็นหลักฐาน,พ.ต.อ.ภูมิธัชกล่าวว่า สอบสวน รปภ.ของโรงเรียนให้การว่า เมื่อคืนมีฝนตกลงมาอย่างหนักไม่พบมีรถเข้าออกแต่อย่างใด คาดว่าคนร้ายอาศัยจังหวะฝนตกหนักปีนเข้าทางด้านหลัง สั่งให้ชุดสืบสวนสอบปากคำพยานแวดล้อมและภาพจากกล้องวงปิดรอบโรงเรียน หาเบาะแสรถคนร้ายอาจมาจอดรอข้างกำแพงด้านนอก ส่วนที่จะเป็นบุคคลภายในที่รู้ว่ามีเงินทำบุญก้อนใหญ่และมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ภายในห้องคนร้ายจึงขโมยไปด้วยนั้น จะต้องสืบสวนหาหลักฐานให้ชัดเจน,สำหรับเงินที่คนร้ายขโมยไป เป็นเงินบริจาคในงานทำบุญเทศน์มหาชาติ และจัดพิธีทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษา ที่คณะกรรมการขั้นพื้นฐาน โรงเรียนนวมินทราชินูทิศสตรีวิทยา พุทธมณฑล ร่วมกับสมาคมผู้ปกครองและครูจัดขึ้นเพื่อหาเงินรายได้จัดซื้อที่ดินสร้างอาคารเรียนเพิ่มอีก 2 ไร่
โจรใจบาปลักซองผ้าป่าเพื่อการศึกษาสร้างอาคารเรียน โรงเรียนสตรีวิทยา พุทธมณฑล กวาดไปร่วมแสนบาท อาศัยช่วงฝนตกหนักบุกห้องบริหารและกลุ่มงานวิชาการ งัดลิ้นชักค้นข้าวของกระจุย แถมยกเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปด้วย
ข่าว,ทั่วไทย
ขโมยเงินทำบุญ,โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา,พุทธมณฑล,ข่าวหน้า 1,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1051932
ความคิดเห็นต่อโทษประหาร: หนึ่งเสียงจากญาติผู้ถูกกระทำ
เราไม่แน่ใจว่าจะตอบคำถามนั้นอย่างไรและคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ตอบจากความรู้สึกจริงๆ จนกระทั่งได้เจอกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เราเสียคุณลุงที่เรารักไป จึงอยากจะเขียนทบทวนมุมมองตัวเองต่อโทษประหารในฐานะญาติของผู้ถูกกระทำคนหนึ่งเมื่อสองปีที่แล้ว ระหว่างคุยกับครอบครัวถามสารทุกข์สุขดิบทั่วไปทางโทรศัพท์ แม่เราบอกว่า ลุงหนึ่ง (นามสมมุติ) หายตัวไปนะ กำลังตามหากันอยู่ เราใช้เวลาครู่นึงในการทำความเข้าใจ ในยุคสมัยที่การสื่อสารเชื่อมต่อกันขนาดนี้ อยู่ๆ คนหนึ่งคนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องลอย ติดต่อไม่ได้ทุกช่องทางนานหลายวันได้อย่างไรคำถามที่เข้ามาอยู่ในบทสนทนาในทุกๆ ครั้งที่เราติดต่อที่บ้านคือ เจอลุงหนึ่งหรือยัง ใครดูแลพี่สาวที่ป่วยแทนลุงหนึ่ง สภาพจิตใจป้าเราเป็นอย่างไรบ้าง ฯลฯ หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปแล้วที่ยังไม่มีใครตอบเราได้ว่าลุงหนึ่งไปไหน จนที่บ้านเราบอกว่าอาจต้องทำใจไว้ก่อนนะ ลุงหนึ่งอาจโดนฆ่า ตอนนั้นเราไม่แน่ใจว่าจะรู้สึกอย่างไร ถ้าเรายังมีความหวังอยู่ลึกๆ ว่าการสันนิษฐานนั้นไม่จริงจะถือว่าเราโลกสวยเกินหรือไม่ เราไม่แน่ใจว่าเราอยากจะได้ยินข่าวคราวเรื่องการตามหาลุงหนึ่งอีกไหมเพราะไม่รู้ว่าอะไรทรมานกว่ากันระหว่างรอไปเรื่อยๆ และจินตนาการเอาเองว่าตอนนี้ลุงหนึ่งจะเป็นอย่างไรกับรู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นแม้ความจริงนั้นจะเป็นที่เรากลัวและไม่ต้องการให้เกิดขึ้นหลายๆ ครั้งภาษาก็มีข้อจำกัดที่ทำให้ความรู้สึกหรือประสบการณ์ไม่อาจถูกบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรได้ เรื่องลุงหนึ่งก็คงเป็นหนึ่งในนั้น เราไม่แน่ใจว่าเราอยากให้เวลาช่วยให้เราลืมหรือไม่ หรือจริงๆ แล้วเราไม่อยากลืม ในเมื่อภาพล่าสุดของลุงหนึ่งที่เราจะเห็นคือจากการนำเสนอของสื่อ เช่น คลิปที่เจ้าหน้าที่กู้ศพลุงหนึ่งขึ้นมา อ่านรายละเอียดเหตุการณ์ว่าลุงหนึ่งถูกทารุณกรรมซ้อมทำร้ายร่างกายต่อเนื่องหลายชั่วโมง ของแข็งที่ใช้ทุบตี เสียงร้องของลุงหนึ่งที่มีคนได้ยิน เราจึงเลิกเสพข่าวข้างนอกและประกอบภาพลุงหนึ่งจากความทรงจำของเราเองตั้งแต่นึกถึงภาพที่เด็กที่สุดที่เราถ่ายคู่กับลุงหนึ่งเป็นตอนอนุบาลที่ลุงหนึ่งทำม้าก้านกล้วยแบบมีสายพาดไหล่ให้เราวิ่งเล่นในสวน จนถึงตอนครั้งล่าสุดที่เราเจอลุงหนึ่งเมื่อต้นปีก่อนที่ลุงหนึ่งจะถูกฆ่า ตอนนั้นเราคุยกับลุงหนึ่งว่าเรากับครอบครัวอยากไปที่สวนของลุงหนึ่งอีก ไม่ได้คาดคิดเลยว่าถ้ากลับไปตอนนี้จะไม่มีลุงหนึ่งพาเดินป่า ปีนน้ำตก นอนแบบมีท้องฟ้าเป็นหลังคาทั้งคืนอีกแล้วเราดูรูปและอ่านรายละเอียดของจำเลยที่รุมทรมานฆ่าและอำพรางศพลุงหนึ่ง เกือบจะทั้งหมดอายุ 20 ต้นๆ พอๆ กับเรา พวกเขาวางแผน เตรียมตัวตั้งแต่ส่งนกต่อจนถึงอำพรางศพได้แนบเนียนขนาดนี้เลยหรือ เราแทบไม่ได้คุยเรื่องคดีกับญาติคนอื่นเพราะกลัวว่าการที่เปิดประเด็นจะกระทบจิตใจกันจึงได้แต่ติดตามห่างๆ ผ่านสื่อ อ่านที่คนใกล้ชิดลุงหนึ่งชี้ถึงความมีพิรุธของคดีและตระหนักได้ว่าสิ่งที่เราอยากได้จากกระบวนการยุติธรรมคือ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลุงหนึ่ง ไม่อยากให้หนังสือที่ครอบครัวลุงหนึ่งส่งเพื่อเรียกร้องให้รื้อคดีสอบสวนคดีใหม่นั้นเป็นแค่กระดาษเรียกร้องที่ไร้ความหมายและเงียบหายไป ไม่อยากให้ความตายของลุงหนึ่งที่เป็นแบบอย่างของเราในการทำงานอย่างตรงไปตรงมายืนยันสิ่งที่เราได้ยินบ่อยครั้งเกี่ยวกับปัญหาการคอรัปชั่น อำนาจ และข้อจำกัดของกระบวนการยุติธรรมไทย อยากให้สื่อ (บางสำนัก บางโอกาส) ทบทวนการนำเสนอข่าว การใช้คำ การเบลอภาพทั้งผู้ตายและผู้ต้องสงสัยดูเหมือนเราจะมีความปรารถนาหลายอย่าง แต่ยังอีกหนึ่งสิ่งที่เราปรารถนามากที่สุดคือไม่อยากให้ใครต้องสูญเสียคนที่รักไปด้วยความตั้งใจของมนุษย์ด้วยกันเอง ความตายเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และการตายจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ก็นำมาซึ่งความทุกข์อยู่แล้วทั้งต่อผู้ตายและคนที่รัก เช่นเราเคยสูญเสียคนใกล้ตัวจากอุบัติเหตุหรือจากโรคร้ายซึ่งแม้มันจะทรมานแต่อย่างน้อยเราได้อยู่ข้างๆ ให้กำลังใจ ให้เค้าตายโดยที่ไม่ต้องห่วงคนรอบข้าง ตรงกันข้าม การสูญเสียคนที่รักจากการฆาตรกรรมส่งผลทางจิตใจที่รุนแรงกว่าอย่างยิ่งเพราะมันทิ้งภาพหลอนให้กับคนที่อยู่ข้างหลัง เป็นเวลานานที่เรากลัวที่จะคิดถึงลุงหนึ่ง เพราะทุกครั้งที่คิดถึง จะมีการต่อสู้กันในหัวระหว่างภาพความทรงจำดีๆ ที่เรามีกับลุงหนึ่งกับภาพเคลื่อนไหวติดต่อกันหลายๆ ชั่วโมงที่ลุงหนึ่งโดนทารุณกรรมนั้น อดไม่ได้ที่จะเทียบเคียงความรู้สึกว่าเค้าจะเจ็บปวดขนาดไหน ความกลัวอย่างรุนแรงที่เค้าเผชิญจะทำให้เค้าระลึกได้ก่อนตายไหมว่ายังมีคนอีกมากมายที่รักเค้า และถ้าเค้าระลึกได้จะทำให้เค้ากังวลถึงคนที่เค้าทิ้งไว้ข้างหลังและยิ่งตายทรมานขึ้นหรือเปล่าปัจจุบันวิธีการประหารดูเหมือนจะมีมนุษยธรรมขึ้นโดยใช้การฉีดยาที่ดูซับซ้อนรัดกุมและทำในที่ปิด ไม่ได้ประจานเหมือนสมัยก่อน แต่นั่นก็อาจทำให้คนนอกยิ่งรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัวมากขึ้นและไม่มีส่วนรู้เห็นในสิ่งที่เกิดขึ้นในแดนประหาร เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่านักโทษจะไม่เจ็บปวดเลยจริงๆ โอกาสผิดพลาดมีมากน้อยแค่ไหน เงินรางวัล10000บาทจะทำให้ผู้ประหารทั้งสามคนลำบากใจน้อยลงในการที่ต้องกดปลุ่มเดินยาที่จะไม่มีวันรู้ว่าปุ่มที่ตนกดนั้นเป็นปุ่มที่ทำให้นักโทษตายจริงๆ หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าผู้ประหารเชื่อมั่นในใจว่าบุคคลผู้นั้นบริสุทธิ์ และที่สำคัญที่สุด เราไม่ได้รับรู้ความรู้สึกของนักโทษแดนประหารว่าเค้าจะมองคุณค่าและเป้าหมายของชีวิตที่เหลืออยู่อย่างไร คนนอกอย่างเราทำได้แค่ฟังเสียงสะท้อนเล็กๆ เหล่านี้ผ่านสื่อ สารคดี หนังสือ แต่ยังไงก็คงเทียบไม่ได้กับความรู้สึกที่เค้าต้องเผชิญในแต่ละวันปัญหาเกี่ยวกับการให้ความยุติธรรมและเยียวยากับผู้เสียหาย ประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย การป้องกัน ฟื้นฟูผู้กระทำผิด ความโปร่งใสในกระบวนการยุติธรรมถูกหยิบยกมาอยู่ในสมการว่าในบริบทของประเทศไทย โทษประหารยังจำเป็นอยู่ แต่เราเห็นว่าความล้มเหลวจากปัจจัยต่างๆ ข้างต้นไม่ได้เป็นเหตุให้การพรากชีวิตมนุษย์นั้นชอบธรรม แต่เป็นเรื่องที่ต้องหาทางแก้ให้ตรงจุด เอาชีวิตมนุษย์ออกจากสมการ ดังนั้น สำหรับเรา ต่อให้นักโทษทั้งหมดในแดนประหารเป็นผู้กระทำผิดจริง และเป็นคดีที่สะเทือนขวัญแบบที่เกิดลุงหนึ่ง ไม่ใช่ว่าเกินครึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับยาเสพติดแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เราก็ยังไม่เปลี่ยนจุดยืนที่ไม่อยากให้มีโทษประหาร เพราะรู้สึกว่าคุณค่าของชีวิตไม่ว่าจะชีวิตของผู้ตาย ของผู้กระทำ ของผู้ประหาร ของญาติ ของคนในสังคมเป็นสิ่งสากลไม่ติดกับบริบทของประเทศไทยหรือประเทศไหนที่เราคิดแบบนี้อาจเป็นเพราะเราเห็นสิ่งที่เรากับจำเลยในคดีรุมฆ่าลุงหนึ่งมีร่วมกันคือความบกพร่องผิดพลาดต่างๆ ที่ผ่านมาในชีวิต แม้โลกเสรีนิยมเห็นเราเป็นปัจเจกที่เป็นอิสระ พึ่งพาตนเองได้ มีสามัญสำนึก ใช้เหตุผลและรับผิดชอบในการกระทำของตัวเองควรค่าแก่การมีสิทธิเสรีภาพต่างๆ เรากลับรู้สึกว่าหลายๆ ครั้งเราห่างไกลจากนิยามข้างต้น มีห้วงความคิดที่ย้อนกลับไปถามตัวเองว่าที่ผ่านมาเราทำอะไรลงไป แต่เราโชคดีที่ความเปราะบางของเราถูกบรรเทาด้วยปัจจัยแวดล้อมและโอกาสต่างๆ ที่เราอาจมีมากกว่าพวกเขา อย่างไรก็ตาม เราเห็นว่าปัจจัยแวดล้อมทางสังคมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว โอกาสทางการศึกษา การทำงาน รายได้ สภาพชุมชนที่อยู่ เป็นเพียงปัจจัยภายนอกที่จะทำคนคนหนึ่งตัดสินใจกระทำผิดพลาดไปทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกเชื่อมโยงกับคนเหล่านั้นจริงๆ คือก่อนหน้านี้ เหตุการณ์ลุงหนึ่งทำให้เราเสียศรัทธาในเพื่อนมนุษย์ว่าทำไมใจร้ายทำได้ถึงขนาดนี้ จนกระทั่งเราได้เรียนรู้วิธีที่จะสังเกตความโกรธของตัวเองแบบที่มันเป็นจริงๆ ที่ไม่ใช่การข่มเอาไว้หรือแสดงออกมา แน่นอนว่าความรู้สึกไม่พอใจของเรายังไม่เคยรุนแรงถึงระดับที่ไปฆ่าใคร แต่สิ่งที่เหมือนกันคือเราไม่เคยรู้เลยว่าแต่ละขณะ เกิดอะไรขึ้นบ้างในกระบวนการทำงานของกาย-ใจเรา ก่อนที่จะออกมาเป็นความคิด คำพูด การกระทำ กายกับจิตเราสัมพันธ์กันยังไงเวลามีสิ่งต่างๆ มากระทบประสาทสัมผัสทั้ง 6 วิธีการปฏิบัตินี้ทำให้เห็นว่าแท้จริงแล้วแล้วความทุกข์เราเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เป็นเหตุปัจจัยกันตรงไหน และปฏิบัติอย่างไรถึงจะออกจากมันได้ เป็นการปฏิบัติให้เห็นด้วยประสบการณ์ตรงที่ไม่ใช่จากการอ่านหรือถกเถียงทางปรัชญา เมื่อได้มองย้อนกลับเข้ามาเห็นความไม่บริสุทธิ์ในตัวเอง จึงไม่มีโอกาสให้ได้ไปโทษคนอื่น เพราะความรู้สึกแง่ลบที่ได้รับจากผู้อื่น เราก็เห็นในตัวเองหมดแล้วสำหรับเรา วิธีการนี้มีค่าเกินกว่าที่จะถูกจำกัดภายใต้กรอบของศาสนา ไม่ต้องขู่ด้วยบาป-บุญ นรก-สวรรค์ ภพชาติปฏิบัติได้ตลอดเวลา ช่วยให้เราซึ่งเป็นญาติผู้ตายคนนึงเลิกเอาความสุขความทุกข์ของตัวเองมาผูกไว้กับเหตุการณ์ภายนอก ไม่ต้องรอให้ความคาดหวังที่เรามีต่อคดีลุงหนึ่ง กระบวนการยุติธรรม สื่อ เป็นจริงก่อนแล้วเราถึงจะมีความสุขได้ ให้อภัยได้ เพราะก็ไม่รู้ต้องรอถึงเมื่อไหร่ ที่สำคัญกว่านั้น เรายินดีที่เห็นว่ามีโครงการอย่างเป็นรูปธรรมที่เกิดขึ้นในเรือนจำของประเทศต่างๆ ที่นำเอาวิธีการปฏิบัตินี้ไปช่วยฟื้นฟูนักโทษ เช่น หนังสือและสารคดีเรื่อง The Dhamma Brothers ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวของนักโทษใน maximum prison ในอเมริกาโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากสารคดี Doing Time Doing Vipassana ในคุกของอินเดีย ความเปลี่ยนแปลงของตัวนักโทษ ตั้งแต่การเข้าใจและให้อภัยตัวเอง การเลิกพฤติกรรมระเบิดอารมณ์ทำร้ายเพื่อนร่วมคุก รูปแบบความสัมพันธ์กับผู้คุมที่เปลี่ยนไป การอโหสิกรรมกับครอบครัวผู้เสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความมีเมตตาและอุทิศตนสร้างประโยชน์แก่ส่วนรวมแม้จะในสังคมเล็กๆ ที่พวกเขาอยู่และไม่มีวันได้ออกไปก็ตาม ความประทับใจต่อเรื่องราวเหล่านี้ทำให้เรานึกถึงจำเลยทั้ง 5 คนนั้น ไม่ว่าเค้าจะต้องตายในลานประหารหรือไม่ อยากให้รู้ว่าเราไม่ถือโทษโกรธเคืองแล้วและอยากให้พวกเขามีโอกาสได้ปฏิบัติบ้าง ขอให้พ้นจากความทุกข์ และมีชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีมิตรไมตรี ความสงบ และพบกับความสุขที่แท้จริง
เราเคยลังเลที่จะสนับสนุนการยกเลิกโทษประหารชีวิตเพราะมักจะเจอคำโต้แย้งกลับว่าถ้าตกเป็นเหยื่อของความโหดเหี้ยมทารุณเอง จะรู้สึกอย่างไร จะอยากให้คนที่ทำร้ายคนที่เรารักมีชีวิตอยู่อีกหรือ?
สังคม,สิทธิมนุษยชน
วริษา รักธรรม,โทษประหาร,กระบวนการยุติธรรม
https://prachatai.com/journal/2018/10/79161
ดิจิทัล เวนเจอร์สเปิดโครงการหนุนสตาร์ทอัพไทยเต็มสูบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดิจิทัล เวนเจอร์ส ผู้ศึกษาและพัฒนานวัตกรรมทางการเงินในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดตัว Digital Ventures Accelerator (DVA) Accelerator โครงการผลักดันและส่งเสริมสตาร์ทอัพให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยได้เริ่มเปิดคลาสอย่างเป็นทางการแล้วแก่สตาร์ทอัพทั้ง 10 ทีม ที่ได้รับคัดเลือกจากกว่า 140 ทีม ที่สมัครเข้ามา มุ่งผลักดันให้สตาร์ทอัพเติบโตได้จริงและสามารถขยายตลาดได้ทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค มุ่งหวังจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพที่ดีที่สุด โดยมีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากมายในหลากหลายวงการมาร่วมกันเพิ่มศักยภาพแก่สตาร์ทอัพ ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากธนาคารไทยพาณิชย์และพันธมิตรที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากหลากหลายวงการ,นายธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า หนึ่งในวิสัยทัศน์ของดิจิทัล เวนเจอร์ส คือ การสนับสนุนสตาร์ทอัพไทยให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ผ่านโครงการที่เรียกว่า Digital Ventures Accelerator (DVA) ที่มุ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบนิเวศที่ดีที่สุดให้กับสตาร์ทอัพไทย (Build Startup Ecosystem) ด้วยการสนับสนุนจากธนาคารไทยพาณิชย์และพันธมิตรจากหลากหลายวงการ ที่จะมาช่วยให้ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน กฎหมาย และเทคโนโลยี,นอกจากนี้ สตาร์ทอัพยังได้รับเงินสนับสนุนทีมละ 300,000 บาท ตั้งแต่ต้นโครงการเพื่อให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ตลอดเวลาที่อยู่ในโครงการ ในขณะเดียวกันธนาคารไทยพาณิชย์และสตาร์ทอัพสามารถต่อยอดธุรกิจร่วมกันเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับลูกค้าธนาคารในอนาคตต่อไปได้ อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะได้รับเงินลงทุนจากธนาคารไทยพาณิชย์ขั้นต่ำ 1 ล้านบาท หลังจากจบโครงการด้วย เชื่อว่าจากความพร้อมทั้ง 3 ด้านนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันให้สตาร์ทอัพไทยเติบโตอย่างยั่งยืนได้,นายชาร์ล เจริญพันธ์ Head of Accelerator บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า โครงการ Digital Ventures Accelerator (DVA) เล็งเห็นว่าสตาร์ทอัพไทยนั้นมีศักยภาพ แต่อาจจะเติบโตได้ไม่ดีหรือไม่เร็วเท่าที่ควร นอกเหนือจากเรื่องเงินทุนแล้ว สตาร์ทอัพอาจขาดความรู้ในหลายด้านที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจ ที่สำคัญที่สุดคือขาดฐานลูกค้า จึงไม่สามารถขยายธุรกิจได้ เราตั้งเป้าให้ DVA เป็น Accelerator ที่ดีที่สุดในไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้สตาร์ทอัพที่จบจากโครงการเติบโตอย่างน้อย 20% และเติบโตอย่างยั่งยืนด้วย จึงออกแบบและพัฒนาหลักสูตรให้ตอบโจทย์ความตั้งใจของเราให้มากที่สุด โดย 3 เดือนแรก จะปูพื้นฐานให้แน่นด้วยความรู้ที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจให้มีความพร้อมมากที่สุด ด้วย Startup Essential Program โดย สุรวัฒน์ พรหมโยธิน ความรู้ด้านกฎหมาย โดย Baker & McKenzie และความรู้ด้านการเงิน โดย PrimeStreet Advisory และอีก 3 เดือนถัดมา จะมุ่งให้สตาร์ทอัพสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยโปรแกรม Growth Hacking สอนโดย Chris Tweten นอกจากนี้ สตาร์ทอัพยังมีเมนทอร์พิเศษที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่เหมาะสมกับธุรกิจแต่ละทีมมาแชร์ประสบการณ์และให้คำปรึกษาแบบทีมต่อทีม (Specialist & Dedicated Mentor) และทุกทีมจะมีเมนทอร์หลัก (Core Mentor) เพื่อเซต KPI และติดตามผลในทุกสัปดาห์อีกด้วย ข้อได้เปรียบอีกอย่างหนึ่ง คือสตาร์ทอัพจะได้รับโอกาสปรึกษาเรื่องเงินลงทุน และความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีกับทีมผู้บริหารของ ดิจิทัล เวนเจอร์ส อย่างใกล้ชิด ,สตาร์ทอัพที่ได้รับคัดเลือกเข้าโครงการ Digital Ventures Accelerator (DVA) รุ่นแรกนี้ มีทั้งหมด 10 ทีม ทั้งกลุ่มที่เป็น FinTech อาทิ KYC Chain ที่พัฒนาบริการ Know Your Customer หรือ KYC บนเทคโนโลยี Blockchain เพื่อยกระดับการทำธุรกรรมการเงินในอนาคต Refinn สตาร์ทอัพที่ให้บริการระบบรีไฟแนนซ์ดอกเบี้ยต่ำ PeerPower ให้บริการขอสินเชื่อหรือกู้ยืมเงินระหว่างบุคคล และยังมีกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ PetInsure สตาร์ทอัพที่เอาใจคนรักสัตว์ด้วยประกันภัยสัตว์เลี้ยงออนไลน์ครั้งแรกในไทย Seekster ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นหางานด้านการบริการสำหรับลูกค้าทั่วไป และลูกค้า SMEs เป็นต้น  ด้วยศักยภาพของสตาร์ทอัพทั้ง 10 ทีมผนวกกับความแตกต่างของหลักสูตรในโครงการ Digital Ventures Accelerator (DVA) ที่ออกแบบมาเพื่อสตาร์ทอัพโดยเฉพาะ และความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบนิเวศให้กับสตาร์ทอัพที่ดีที่สุด จะสามารถเพิ่มขีดความสามารถของสตาร์ทอัพไทยให้เติบโตทัดเทียมสู่ระดับสากลได้อย่างยั่งยืน นายชาร์ล กล่าว
ดิจิทัล เวนเจอร์ส ในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ เดินหน้าเปิดตัว Digital Ventures Accelerator โครงการผลักดันและส่งเสริมสตาร์ทอัพให้เติบโตอย่างยั่งยืน ตอกย้ำวิสัยทัศน์สร้างระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพไทย
null
สตาร์ทอัพ,ธนาคารไทยพาณิชย์,ดิจิทัล เวนเจอร์ส,ธนา เธียรอัจฉริยะ
https://www.thairath.co.th/content/794411
ซีอีโอ-ประธาน โตชิบา ลาออก ยอมรับแต่งกำไรบริษัทนานหลายปี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นาย ฮิซาโอะ ทานากะ ประธานและหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัท โตชิบา ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว หลังจากผลการสืบสวนของคณะกรรมการอิสระที่โตชิบาแต่งตั้งพบว่า บริษัทนี้เปิดเผยผลกำไรเกินจริงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดช่วง 6 ปีที่ผ่านมา โดยนาย มาซาชิ มุโรมาจิ ประธานกรรมการจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนชั่วคราว,บริษัท โตชิบา ซึ่งมีธุรกิจหลากหลายตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าจนถึงโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคารที่ 21 ก.ค. ว่า เป็นที่เปิดเผยแล้วว่าได้มีการจัดทำบัญชีอย่างไม่เหมาะสมขึ้นเป็นเวลานาน และเรารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงเช่นนี้ต่อบรรดาผู้ถือหุ้นของเราและผู้ถือผลประโยชน์ร่วมอื่นๆ และเพราะเหตุนี้ ฮิซาโอะ ทานากะ ประธานบริษัทของเรา และนาย โนริโอะ ซาซากิ รองประธานกรรมการ จะลาออกในวันนี้ (21 ก.ค.),ขณะที่นายทานากะ กล่าวในงานแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นในวันเดียวกันว่า พวกเราต้องรับผิดชอบอย่างร้ายแรง และกล่าวเสริมด้วยว่า บริษัทนี้จำเป็นต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เพื่อปฏิรูปตัวเอง,ทั้งนี้ นายทานากะ อายุ 64 ปี และนายซาซากิ อายุ 66 ปี เข้าทำงานกับโตชิบาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1970 โดยนายซาซากิเคยดำรงกรรมการผู้จัดการใหญ่ของโตชิบาระหว่างเดือน มิ.ย. 2009 ถึงเดือนมิ.ย. 2013 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเกือบทั้งหมดที่เกิดการแต่งบัญชีกำไรเกินจริง โดยนอกจากทั้งคู่แล้ว ผู้ที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งยังรวมถึงนาย อัตสึโตชิ นิชิดะ ที่ปรึกษาและอดีตซีอีโอของโตชิบา กับผู้บริหารระดับสูงคนอื่นอีก 5 คน,เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการแต่งบัญชีของโตชิบาเริ่มถูกเปิดเผยออกมา หลังจากคณะกรรมการตรวจสอบอิสระพบกับปัญหาหลายอย่างระหว่างการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของบริษัทเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยหนึ่งในปัญหาเจ้าหน้าที่มุ่งประเด็นตรวจสอบคือ มีผู้บริหารหลายคนตั้งเป้าหมายสำหรับแผนปฏิบัติการต่างๆ เกินความเป็นจริง เนื่องจากกังวลว่าหายนะที่ฟูกูชิมาเมื่อปี 2011 จะส่งผลกระทบต่อแผนกพลังงานนิวเคลียร์ของโตชิบา,รายงานของคณะกรรมการอิสระพบการรายงานกำไรผิดปกติเริ่มขึ้นหลังจากเกิดวิกฤติทางการเงินเมื่อ 7 ปีก่อน หมายความว่า โตชิบาต้องเริ่มแต่งบัญชีกำไรระหว่างเดือน เม.ย. 2008 ถึงเดือนมี.ค. 2014 ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเรื่องนี้จะส่งผลต่อตัวเลขผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2014 ของโตชิบาที่จะประกาศในเร็วๆ นี้หรือไม่,คณะกรรมการอิสระยังระบุด้วยว่า ภายในบริษัทโตชิบามีธรรมเนียมปฏิบัติที่พนักงานและเจ้าหน้าที่ไม่สามารถขัดคำสั่งของผู้มีตำแหน่งสูงกว่าได้ และเมื่อคณะผู้บริหารระดับสูงสั่งมา ประธานฝ่าย, ผู้จัดงานในสายงาน และลูกจ้างที่ตำแหน่งต่ำกว่าก็ต้องจัดการทำบัญชีที่ไม่ถูกต้องเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่ผู้มีตำแหน่งสูงกว่าในสายงานนั้นๆ ต้องการ,อีกด้านหนึ่ง หลังเรื่องการแต่งบัญชีของโตชิบาถูกเปิดเผยออกมา นายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแห่งญี่ปุ่น ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจโดยระบุว่า ความผิดปกติของบัญชีของโตชิบาเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง และกรณีนี้จะบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของการกำกับดูแลกิจการในญี่ปุ่น ที่พยายามจะฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติกลับมา หลังเกิดกรณีบริษัท โอลิมปัส ผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพและเครื่องมือแพทย์รายใหญ่ ปกปิดยอดขาดทุนถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปี 2011
ประธานและผู้บริหารระดับสูงของบริษัท โตชิบา ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้วเมื่อวันอังคาร หลังเกิดเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการแต่งบัญชีผลกำไรของบริษัทให้สูงเกินจริง
null
ฮิซาโอะ ทานากะ,ประธาน,ซีอีโอ,โตชิบา,ลาออก,คณะกรรมการอิสระ,แต่งบัญชี,กำไรเกินจริง,ขาดทุน,ผลประกอบการ,หุ้น,อื้อฉาว,ญี่ปุ่น,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/513235
ชำนาญ จันทร์เรือง: ยกเลิกโทษประหารชีวิต
ก็กำลังพิจารณายกเลิกโทษประหารเป็นรัฐต่อๆไปเช่นกัน ซึ่งอิลลินอยส์เป็นรัฐที่ 16 ที่ไม่ใช้โทษประหาร และเป็นรัฐลำดับที่ 3 ที่มีการยกเลิกการประหารชีวิตผ่านการใช้กฏหมายในรอบสี่ปีที่ผ่านมา ร่วมกับรัฐนิวเจอร์ซีและรัฐนิวแม็กซิโก ซึ่งการยกเลิกโทษประหารชีวิตของรัฐอิลลินอยส์ในครั้งนี้ มีผลทำให้นักโทษ 20 คนรอดพ้นจากการประหารชีวิตในทันที การเคลื่อนไหวขององค์กรด้านสิทธิมนุษยชนที่ต่อต้านโทษประหารชีวิตที่ผ่านมา มีความก้าวหน้าอย่างมากจนทำให้ สองในสามของประเทศทั่วโลกยกเลิกโทษประหารชีวิตไปแล้ว และโทษที่ถึงแก่ชีวิตในสหรัฐอเมริกาลดลงอย่างรวดเร็วเป็นประวัติการณ์เมื่อทศวรรษที่แล้ว ส่วนใหญ่เนื่องมาจากการที่สาธารณชนมีความตระหนักมากขึ้นถึงความผิดพลาดที่ไม่อาจแก้ไขได้ต่อการประหารชีวิตผู้บริสุทธิ์ จากข้อมูลในรายงานฉบับใหม่ว่าด้วย คำพิพากษาประหารชีวิตและการประหารชีวิตในปี 2553 (Death Sentences and Executions in 2010) ขององค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) ที่เผยแพร่เมื่อ 28 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมาพบว่า ประเทศที่ยังคงโทษประหารชีวิตกำลังโดดเดี่ยวตัวเองมากขึ้นหลังจากการรณรงค์ไปสู่การยกเลิกโทษประหารชีวิตทั่วโลกในทศวรรษที่ผ่านมา ในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา 31 ประเทศได้ยกเลิกโทษประหารชีวิตในทางกฎหมายหรือทางปฏิบัติ แต่ประเทศจีน อิหร่าน ซาอุดิอาราเบีย สหรัฐอเมริกา และเยเมนยังคงเป็นประเทศที่มีการประหารชีวิตมากที่สุดในโลก โดยที่หลายกรณีมีความขัดแย้งโดยตรงกับกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ องค์การนิรโทษกรรมสากลได้บันทึกตัวเลขของการประหารชีวิตทั้งหมดที่เกิดขึ้นในปี 2553 อย่างเป็นทางการ โดยสรุปได้ว่าจำนวนการประหารชีวิตได้ลดลง ในปี 2553 มีบุคคลถูกประหารชีวิตทั้งหมด 527 คน ในขณะที่ในปี 2552 มีคนถูกประหารชีวิตทั้งหมด 714 คน องค์การนิรโทษกรรมสากลเชื่อว่ามีประชาชนจีนหลายพันคนถูกประหารชีวิตในปี 2553 ในโทษที่หลากหลายรวมถึงอาชญากรรมที่ไม่ได้มีการใช้ความรุนแรง การประหารชีวิตเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากกระบวนการไต่สวนทางศาลที่ไม่ได้ดำเนินไปตามหลักมาตรฐานสากล อัตราส่วนจำนวนมากของการประหารชีวิตและการพิพากษาโทษประหารชีวิตในปี 2553 ในประเทศจีน อียิปต์ อินโดนีเซีย อิหร่าน ลาว ลิเบีย มาเลเซีย ไทย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดิอาราเบีย และเยเมนมีความเกี่ยวโยงกับอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในปี 2553 ประเทศอิหร่าน ปากีสถาน ซาอุดิอาราเบีย ซูดาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมินเฉยกับข้อห้ามระหว่างประเทศ ที่ไม่อนุญาตให้ประหารชีวิตบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ในช่วงเวลาที่บุคคลก่ออาชญากรรม รายงานฉบับนี้เน้นให้เห็นถึงความเสื่อมถอยที่เกิดขึ้นในปี 2553 เมื่อมีหกประเทศและเขตภูมิศาสตร์ดำเนินการประหารชีวิตหลังจากได้หยุดใช้มาเป็นเวลานาน แม้ว่าสถานการณ์จะมีความเสื่อมถอยเกิดขึ้น แต่พัฒนาการหลายๆอย่างในปี 2553 ทำให้การยกเลิกโทษประหารชีวิตทั่วโลกใกล้เคียงความเป็นจริงมากขึ้น ประธานาธิบดีของประเทศมองโกเลียได้ประกาศระงับการใช้โทษประหาร ซึ่งเป็นก้าวแรกของการยกเลิกโทษประหารชีวิต เนื่องจากมองโกเลียระบุให้การลงโทษประหารชีวิตเป็นข้อมูลที่เป็นความลับของทางการ สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้เรียกร้องให้มีการระงับการใช้โทษประหารชีวิตทั่วโลกเป็นครั้งที่สาม ในครั้งนี้มีแรงสนับสนุนมากกว่าครั้งก่อนๆ เป็นอย่างมาก นายซาลิล เชตตี้ เลขาธิการองค์การนิรโทษกรรมสากลกล่าว ตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา ในบรรดาประเทศที่มีกฎหมายประหารชีวิตแต่ไม่ได้ประหารชีวิตนักโทษมาระยะเวลาหนึ่งได้กลับมาประหารชีวิตนักโทษอีกครั้ง โดย 1 ใน 3 ของประเทศเหล่านี้ได้ประหารชีวิตนักโทษทุกปีตลอดสี่ปีที่ผ่านมา โลกที่ไร้โทษประหารชีวิตไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ แต่ยังเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คำถามคือจะใช้เวลาอีกนานแค่ไหนกว่าการยกเลิกโทษประหารชีวิตทั่วโลกจะเกิดขึ้น นายซาลิลสรุป จากรายงานฉบับดังกล่าวทำให้เราถึงทราบสถานการณ์ในภูมิภาคต่างๆว่าภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลางเป็นสองภูมิภาคที่มีการประหารชีวิตมากที่สุด ดังมีรายละเอียด ดังนี้ ภูมิภาคอเมริกา ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศเดียวในทวีปอเมริกาที่ยังมีการประหารชีวิต ในปี 2553 สหรัฐอเมริกามีคำพิพากษาประหารชีวิตทั้งหมด 110 คดี ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขเพียงหนึ่งในสามของคำพิพากษาที่เกิดขึ้นกลางทศวรรษ 2530 ในเดือนมีนาคม 2554 มลรัฐอิลลินอยส์กลายเป็นมลรัฐที่ 16 ในสหรัฐอเมริกาที่ยกเลิกโทษประหารชีวิต ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในปี 2553 องค์การนิรโทษกรรมสากลไม่สามารถยืนยันตัวเลขอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการบังคับใช้โทษประหารชีวิตในประเทศจีน มาเลเซีย เกาหลีเหนือ สิงคโปร์ และเวียดนามได้ แม้มีข้อมูลว่านักโทษในประเทศเหล่านี้ได้ถูกประหารชีวิต ตามข้อมูลที่มีจากอีกห้าประเทศในภูมิภาคสามารถยืนยันได้ว่าการประหารชีวิตได้เกิดขึ้น 82 ครั้งในภูมิภาคเอเชีย ประเทศจำนวน 11 ประเทศที่มีคำพิพากษาประหารชีวิตแต่ไม่ได้บังคับใช้ในปี 2553 คือ ประเทศอัฟกานิสถาน บรูไน-ดารุซาลาม อินเดีย อินโดนีเซีย ลาว มัลดีฟ พม่า ปากีสถาน เกาหลีใต้ ศรีลังกา และไทย หมู่เกาะแปซิฟิกไม่มีคำพิพากษาประหารชีวิตและการประหารชีวิต ในเดือนมกราคม 2553 ประธานาธิบดีประเทศมองโกเลียประกาศที่จะระงับการประหารชีวิตในประเทศ โดยทางการมองโกเลียมีความเห็นที่จะยกเลิกโทษประหารชีวิตในที่สุด ภูมิภาคยุโรปและเอเชียกลาง ปี 2552 เป็นครั้งแรกที่ไม่มีการประหารชีวิตเกิดขึ้นในทวีปยุโรปและในพื้นที่อดีตสหภาพโซเวียต แต่เดือนมีนาคม 2553 ทางการเบลารุสประหารชีวิตนักโทษสองคน ภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ในปี 2553 คำพิพากษาประหารชีวิตและการประหารชีวิตลดน้อยลงในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือเมื่อเปรียบเทียบกับสถิติในปี 2552 แต่อย่างไรก็ตามโทษประหารชีวิตที่ถูกบังคับใช้มักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งหลังจากการพิจารณาคดีที่ไม่เป็นธรรมและกับข้อหาที่ไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็น อาชญากรรมที่รุนแรงที่สุด เช่น การค้ายาเสพติดหรือการคบชู้ ซึ่งคำพิพากษาเหล่านั้นขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ทางการอัลจีเรีย จอร์แดน คูเวต เลบานอน โมรอคโค/ซาฮาร่าตะวันตก ตูนีเซีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์พิพากษาลงโทษประหารชีวิต แต่งดเว้นการดำเนินการประหารชีวิต ทางการอิหร่านยอมรับว่าในปี 2553 มีการประหารชีวิตนักโทษ 252 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้หญิงห้าคนและเยาวชนหนึ่งคน องค์การนิรโทษกรรมสากลได้รับรายงานที่น่าเชื่อถือว่าอิหร่านมีการประหารชีวิตจำนวนมากกว่า 300 คน โดยที่รัฐบาลจะไม่ยอมรับอย่างเป็นทางการ โดยกรณีส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่เรือนจำวาคิลาบัด ในเมืองมาชแฮด ซึ่งประชาชนเหล่านี้ถูกตัดสินว่ามีความเกี่ยวโยงกับยาเสพติด ประชาชน 14 คนถูกประหารชีวิตอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชน ภูมิภาคแอฟริกาในเขตทะเลทรายซาฮารา ในปี 2553 กาบองเป็นอีกหนึ่งประเทศในทวีปแอฟริกาที่ยกเลิกโทษประหารชีวิต ทำให้ในปัจจุบันมีประเทศที่ยกเลิกโทษประหารชีวิตในสหภาพแอฟริกาทั้งหมด 16 ประเทศ ในปี 2553 มีการประหารชีวิตทั้งหมดในสี่ประเทศในภูมิภาคแอฟริกาในเขตทะเลทรายซาฮารา คือ บอตสวานา (1 กรณี) อิเควทอเรียลกินี (4 กรณี) โซมาเลีย (อย่างน้อย 8 กรณี) และซูดาน (อย่างน้อย 6 กรณี) จากข้อมูลที่นำมาเสนอข้างต้น จะเห็นได้ว่ายังมีหลายๆประเทศที่มีพัฒนาการที่แย่ลง แต่การยกเลิกโทษประหารชีวิตโดยรวมมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้น แล้วไทยเราล่ะครับ เมื่อใดจะยกเลิกโทษประหารชีวิตเสียทีครับ ----------------- หมายเหตุ: เผยแพร่ครั้งแรกในกรุงเทพธุรกิจฉบับประจำวันพุธที่ 6 เมษายน 2554
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา แพท ควิน ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา ได้ลงนามในกฎหมาย SB3539 เพื่อยกเลิกโทษประหารชีวิตในรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งรัฐคอนเนกติกัต รัฐแมรีแลนด์และรัฐมอนทาน่า
สิทธิมนุษยชน,สังคม
ชำนาญ จันทร์เรือง,โทษประหารชีวิต
https://prachatai.com/journal/2011/04/33913
ซิโก้ พอใจ ผลงานทัพช้างศึกมาเกินคาดในปีนี้
วันที่ 30 ธ.ค. 59 ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ พูดถึงผลงานของ ช้างศึก ในปีนี้ว่า เป็นสิ่งที่เกินคาด ทั้งการเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มเอฟ เหนือทีมชาติอิรัก ในรอบ 2, แชมป์คิงส์คัพ ในรอบ 9 ปี, การแบ่งแต้มกับทีมชาติออสเตรเลีย ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย และแชมป์สมัยที่ 5 ของศึกอาเซียนคัพ , ,ซิโก้ กล่าวว่า ที่ผ่านมาแม้จะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของคนในวงการฟุตบอลและแฟนบอล ทั้งเรื่องผลงาน และการวางแผนการเล่นในแต่ละนัด แต่ไม่ซีเรียส เพราะทุกคนทำหน้าที่เพื่อชาติเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นการสร้างความสุขให้คนไทยทั้งประเทศ,ส่วนกรณีเว็บไซต์ฟุตบอลในประเทศอินโดนีเซีย ตีข่าวว่า มาดูรา ยูไนเต็ด ทีมในศึกอินโดนีเซีย ซุปเปอร์ลีก สนใจดึงตัว ปีโป้ สิโรจน์ ฉัตรทอง กองหน้าทีมชาติไทย ของทีมอุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ไปร่วมทัพ เนื่องจากประทับใจผลงานในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2016,ด้าน ดร.วีระศักดิ์ จินารัตน์ ประธานสโมสรอุบล ยูเอ็มที กล่าวว่า ทีมมาดูรา ยูไนเต็ด ยื่นข้อเสนอตามข่าวจริง แต่ไม่คิดจะปล่อยตัว ปีโป้ เพราะอยู่ในแผนทำทีมระยะยาว อีกทั้งนักเตะยังมีสัญญากับทีมอีก 2 ปี
ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทยชุดใหญ่ พอใจภาพรวมปี 2559 ส่วนประธานสโมสรอุบล ยูเอ็มที ชี้แจงถึงกระแสข่าว สิโรจน์ ฉัตรทอง กองหน้าชุดแชมป์อาเซียน ได้รับความสนใจจากทีมในอินโดนีเซีย
null
ซิโก้,เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง,ทีมชาติไทย,ช้างศึก,สิโรจน์ ฉัตรทอง
https://www.thairath.co.th/content/824818
ไทยตอนบนยังมีฝน กทม.-ปริมณฑล โอกาสตก บ่ายถึงค่ำ
วันที่ 14 มิถุนายน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศลักษณะทั่วไป เมื่อเวลา 05.00 น. ระบุ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวเบงกอล ทะเลอันดามันตอนบน และประเทศไทย ทำให้ยังคงมีฝนบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก,พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าประเทศไทยมีฝนบริเวณภาคเหนือ ด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และมีฝนหนักบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ,พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้,ภาคเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร สุโขทัย และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ,ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ,ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดระนองขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดพังงาลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ,กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ยังมีฝนตก จากอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ขณะที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ
null
พยากรณ์อากาศ,อุตุนิยมวิทยา,ไทยรัฐทีวี เดอะเวตเตอร์ คอมพานี,อากาศ,สภาพอากาศ,หนาว,ร้อน,ฝน,คลื่นลม,ทะเล,อ่าวไทย,อันดามัน,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/638339
นครพนม เสี่ยงน้ำโขงท่วมหนักซ้ำรอยปี 2521
วันนี้(4 ส.ค.2561) ไทยพีบีเอส ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำท่วม ชุมชนริมน้ำโขง ที่จ.นครพนม นายยืนยง หนูห่วง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 14 ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ให้ข้อมูลว่าสถานการณ์ขณะนี้น่าเป็นห่วง เพราะระดับน้ำโขงเพิ่มเติม 4-5 เซนติเมตร ทำให้ต้องจัดเวรเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง และผลัดเปลี่ยนเวรกันโดยใช้ชุดรักษาการหมู่บ้าน (ชรบ.) ช่วยกันดูแลสถานการณ์น้ำ แจ้งข้อมูลถึงผู้ใหญ่บ้านส่วนเวลากลางวัน ถ้าใครมีธุระ ทางผู้ใหญ่บ้านก็จะเฝ้าระวังแทนส่วนการเฝ้าระวังน้ำ จะเน้นการฟังคำสั่งแจ้งเตือนข้อมูลต่างๆ จากทางจังหวัดนครพนม ที่มีหนังสือถึงนายอำเภอ และแจ้งหนังสือถึงผู้ใหญ่บ้านเพื่อให้รับทราบ ซึ่งปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นไลน์ หรือ เฟซบุ๊กแจ้งเพื่อความรวดเร็วอีกช่องทางหนึ่งโดยในกลุ่มไลน์ แต่ละหมู่บ้านหรือคนในหมู่บ้านริมโขงก็จะแลกเปลี่ยน ส่งข้อมูลในพื้นที่ถึงกัน เพราะนอกจากพื้น ที่ริมน้ำโขงแล้ว ก็ยังต้องช่วยกันเฝ้าระวังพื้นที่อื่นด้วยตามคำแจ้งเตือนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากสถานการณ์พบว่ารุนแรงให้รายงานนายอำเภอทันทีนายยืนยง กล่าวว่า ส่วนปัจจุบัน เรียกว่าได้เป็นสถานการณ์น้ำท่วมที่ไม่ปกติ เพราะระดับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเมื่อวานนี้ (3 ส.ค.) น้ำที่ปริ่มบันไดแนวตลิ่งเหลืออยู่ 5 ขั้น น้ำท่วมบันไดหายไป 2 ขั้นแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมาส่วนลักษณะของสีน้ำ มันสังเกตความผิดปกติได้เช่นกัน ถ้าหน้าน้ำปกติ สีน้ำโขงจะไม่ขุ่นจะเป็นใสๆ น้ำนิ่ง ไม่มีไปกระทบกับแนวตลิ่ง แต่ถ้าน้ำมาจะเห็นน้ำขุ่นชัดเจน รู้เลยว่า มีการพัดพาน้ำที่ผสมกับแนวดินโคลน หรือ ดินตลิ่งที่เซาะมาเป็นแนวแบบนี้ชาวบ้าน บอกอีกว่า เท่าที่ดูน้ำตอนนี้ ยังถือว่าปกติอยู่ แต่น้ำที่พบตอนนี้ ก็ถือว่าปกติ แม้จะเห็นว่าน้ำขึ้นสูงปกติ แต่คนในพื้นที่ยังดูเหมือนเคยชิน เพราะเห็นน้ำทุกวัน แต่สำหรับรอบนอกเป็นพื้นที่ต่ำ น้ำโขงเข้าพื้นที่แล้วแน่ๆ แต่ตรงที่เราอยู่ มีตลิ่งเป็นแนวป้องกันน้ำท่วม จึงยังไม่กระทบอะไร แต่ให้ลูกบ้านเตรียมความพร้อมตลอดเช่นกัน เพราะน้ำมาเร็ว กำหนดไม่ได้ ก็เตรียมพร้อมไว้ก่อนเช่นกันอ่านข่าวเพิ่มเติม
ชาวบ้านหมู่ 14 ต.ธาตุพนม จ.นครพนม จัดทีมเฝ้าระวังน้ำริมโขงวัดระดับน้ำ 24 ชั่วโมง หวั่นซ้ำรอยปี 2521 น้ำท่วมถึงตลาดธาตุพนมนาน 1 เดือน ระบุระดับน้ำโขงเพิ่มเร็วปัจจัยจากน้ำในลาว มีร่องรอยเศษไม้ ขยะในแม่น้ำโขง
ภัยพิบัติ
นครพนม,แม่น้ำโขง,ชาวบ้านธาตุพนม,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/273786
จยย.ซิ่งฝ่าเคอร์ฟิวพุ่งชนตำรวจบางบัวทอง ขณะไปเข้าเวร สาหัส สมองบวม (คลิป)
เตรียมดำเนินคดีหนุ่มคู่กรณีหลายข้อหาผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 23.40 น. วันที่ 8 มิ.ย.63 ร.ต.อ.เอกโกวิทย์ ศรีนิลทา รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณถนนบางกรวย-ไทรน้อย หน้าโรงเรียนนันทวรวิทย์ ม.5 ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู กำลังปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ ส.ต.ท.กัปตัน อยู่เครือ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.บางบัวทอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้นำตัวส่ง รพ.บางบัวทอง ก่อนที่จะส่งต่อมายัง รพ.พระนั่งเกล้า ให้ทีมแพทย์ดูแลอาการนอกจากนี้ยังพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีขาว หมายเลขทะเบียน 1กจ 7446 พิจิตร ซึ่งเป็นของ ส.ต.ท.กัปตัน จอดล้มคว่ำ สภาพด้านหน้าขวาพังยับเยิน ส่วนคู่กรณีเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ 155 หมายเลขทะเบียน 8กภ 1124 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าขวาพังเสียหาย โดยมี นายกรวิทย์ ทัพทิมโกศล อายุ 28 ปี ที่อยู่ 190/3 ม.3 ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เป็นผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่ง รพ.บางบัวทองพ.ต.อ.สิรภพ อนุศิริ ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าทาง ส.ต.ท.กัปตัน กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์มาที่โรงพัก เพื่อเข้าแถวรายงานตัวออกปฏิบัติหน้าที่ พอมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีรถจักรยานยนต์คู่กรณีขี่ลักษณะย้อนศรมาชนรถของ ส.ต.ท.กัปตัน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้รับความกระทบกระเทือนจนสมองบวม ตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พระนั่งเกล้า ส่วนคู่กรณีถูกรักษาตัวที่ รพ.บางบัวทอง มีอาการปวดศีรษะจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่ารถจักรยานยนต์ของนายกรวิทย์ ขี่ตีคู่กันมากับรถอีกคันด้วยความเร็ว มุ่งหน้าเข้าตลาดบางบัวทอง โดยรถของนายกรวิทย์ เสียหลักวิ่งกินเลนเฉี่ยวประสานงากับรถของ ส.ต.ท.กัปตัน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นต้องรอสอบปากคำนายกรวิทย์ หลังจากหายบาดเจ็บ พร้อมทั้งเตรียมแจ้งข้อหา ขับรถในลักษณะหวาดเสียว ขับรถประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนข้อหาขับขี่รถจักรยานยนต์ขณะมึนเมานั้น กำลังรอผลตรวจวัดแอลกอฮอล์ ว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่.
ส.ต.ท.ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.บางบัวทอง ขี่ จยย.ไปเข้าเวรกลางดึก ถูกหนุ่มซิ่ง จยย.กินเลนสวนมาชนสนั่น รถพังยับเยิน บาดเจ็บสาหัส ได้รับความกระทบกระเทือนจนสมองบวม ผกก.สภ.บางบัวทอง
ข่าว,อาชญากรรม
ฝ่าเคอร์ฟิว,ชนตำรวจ,ชนตำรวจบางบัวทอง,จยย.ชนตำรวจ,จยย. ฝ่าเคอร์ฟิว,สภ.บางบัวทอง,ส.ต.ท.กัปตัน อยู่เครือ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1864668
แค่ได้ให้ก็สุขใจ หนุ่มสละเสื้อตัวโปรดให้ชายชราขาขวาขาดคลายหนาว
ในช่วงเช้าวันนี้หลายคนคงได้สัมผัสอากาศเย็นใน กทม. แต่ในพื้นที่ภาคเหนือและอีสานนั้นจะหนาวเย็นกว่านี้มาก และท่ามกลางความหนาวเหน็บก็ยังได้เห็นถึงน้ำใจของคนไทยด้วยกัน เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ,Somchai Somchai, โพสต์เรื่องราวพร้อมบรรยายว่า ช่วงเช้าๆ อากาศหนาวเย็นมากๆ ครับ ผมเจอคุณลุงพิการกำลังโยกรถเพื่อเอาผักไปส่งขายได้เงินแค่ 10 บาท เลยถามแกว่าทำไมไม่ใส่เสื้อกันหนาวไม่มีเสื้อกันหนาว แกบอกมีอยู่ตัวหนึ่ง ตัวที่ผมเคยให้ไว้เมื่อ 10 ปี แต่แกจะใส่นอนอย่างเดียวเพราะกลัวมันเก่า ผมเลยถอดเสื้อตัวที่ผมกำลังใส่ให้ เป็นเสื้อตัวโปรดที่ผมใส่ประจำและใส่ไปต่างประเทศบ่อยๆ ครับ แต่ที่กล้าให้เพราะคิดว่าการที่จะให้เสื้อกันหนาวใครสักคนที่มันคุ้มค่า และเขาเห็นประโยชน์ของมันจริงๆ แม้อากาศจะหนาวเหน็บแต่ผมก็อบอุ่นในหัวใจ,ทั้งนี้ ชายชราคนนี้จำได้ด้วยว่าหนุ่มใจบุญเคยให้เสื้อกันหนาวมาแล้วเกือบ 10 ปี และนำมาให้ดู และที่บอกว่าไม่ได้ใส่เพราะกลัวเก่า,ต่อมาผู้ใช้เฟซบุ๊กยังได้โพสต์เรื่องราวอย่างต่อเนื่องว่า ชายชราคนนี้ชื่อ นายปอน น้อยทา อายุ 86 ปี พิการขาขาดแต่ยังต้องทำงานหนักเลี้ยงดูครอบครัวตั้งแต่จำความได้ ตอนนี้ปลูกผักเก็บขาย และมอบเงินให้ 2 ครั้ง ครั้งละ 1,000 บาท จากผู้ใจบุญที่ร่วมบริจาคให้ ส่วนใครที่อยากส่งของมาก็ส่งมาได้ที่บ้านเลขที่ 88/2 หมู่ 9 บ้านตลาดดอนโมง ต.บ้านกง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น 40240 หรือติดต่อผ่านเบอร์โทรศัพท์ลูกสาว 0617359698,ซึ่งหลังรับเงินจากชายคนนี้ ชายชราให้พรและบอกว่าดีใจที่ได้เงินมา จะนำเงินแบ่งไปเข้าวัดทำบุญในช่วงบั้นปลายชีวิต,อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า ขอชื่นชมในความมีน้ำใจที่ไม่รู้สึกยึดติดกับสิ่งของ พร้อมกับแสดงความนับถือในความเสียสละนี้ และร่วมอนุโมทนาบุญที่ได้ทำให้คนแก่ไม่หนาวเหมือนที่ผ่านมา รวมทั้งผู้ที่ได้ติดตามเรื่องราวก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ.
หนุ่มใจหล่อถอดเสื้อกันหนาวให้ชายชราชาวขอนแก่น อายุ 86 ปี ที่ต้องนั่งรถเข็นและใส่ขาเทียมข้างหนึ่ง บอก แม้อากาศจะหนาวเหน็บแต่ก็อบอุ่นในหัวใจ พบ ไม่ใช่การให้เสื้อกันหนาวครั้งแรก ด้านชาวเน็ตชื่นชมทำดี
ข่าว,สังคม
เสื้อกันหนาว,คนพิการ,ทำดี,อากาศหนาว,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1155780
นี่คือหลักชัยของผู้หญิง ฮิลลารี สุดดีใจ ได้เข้าชิงปธน.สหรัฐฯแล้ว
ฮิลลารี คลินตัน ทำได้แล้วสร้างประวัติศาสตร์ เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้เป็นตัวแทนพรรคใหญ่ไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังคว้าชัยชนะในการศึกซุปเปอร์ทิวส์เดย์ ตอกย้ำชัยชนะเหนือเบอร์นี แซนเดอร์ส  พร้อมกล่าวขอบคุณผู้สนับสนุน ประกาศ นี่คือ หลักชัยสำหรับผู้หญิง,เมื่อ 8 มิ.ย.59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน นางฮิลลารี คลินตัน สร้างประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้ไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคเดโมแครต 3 ใน 5 รัฐ ในศึกเลือกตั้งซุปเปอร์ทิวส์เดย์ ในวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา(รัฐแคลิฟอร์เนียยังไม่ประกาศผล) จึงทำให้นางได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปลายปีนี้ แน่นอนแล้ว,นางฮิลลารี ซึ่งมีสีหน้าปลาบปลื้มดีใจ ได้กล่าวขอบคุณบรรดาชาวอเมริกัน ที่ช่วยสนับสนุนนาง จนทำให้มาถึงช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ สำหรับผู้หญิงในการเข้าไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขอบคุณทุกท่าน พวกเรามาถึงหลักชัยแล้ว และนี่เป็นครั้งแรกของประเทศของเรา ที่ผู้หญิงจะได้เป็นตัวแทนของพรรคใหญ่ นางฮิลลารี กล่าวกับผู้สนับสนุนในนิวยอร์ก เมื่อ 7 มิ.ย.,สำหรับการเลือกตั้ง ซุปเปอร์ทิวส์เดย์ ในครั้งนี้ ปรากฏว่า นางฮิลลารี คว้าชัยชนะการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคเดโมแครต ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ เหนือนายเบอร์นี แซนเดอร์ส จึงเป็นการตอกย้ำชัยชนะในการได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และต่อมา นางฮิลลารียังชนะในรัฐเซาท์ ดาโกตา และนิวเม็กซิโก ด้วย ขณะที่ นายแซนเดอร์ส ชนะในรัฐมอนทานา และนอร์ท ดาโกตา,ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา จากพรรคเดโมแครต ได้แสดงความยินดีกับนางฮิลลารี ที่ได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่ทางพรรครีพับลิกัน มีนายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นตัวแทนไปรอชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปลายปีนี้
ฮิลลารี คลินตัน ทำได้แล้วสร้างประวัติศาสตร์ เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้เป็นตัวแทนพรรคใหญ่ไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังคว้าชัยชนะในการศึกซุปเปอร์ทิวส์เดย์ พร้อม กล่าวขอบคุณ ประกาศ นี่เป็นหลักชัยสำหรับผู้หญิง
null
ฮิลลารี คลินตัน,เลือกตั้งสหรัฐฯ,เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ,เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2016,โดนัลด์ ทรัมป์,พรรคเดโมแครต,พรรครีพับลิกัน,สหรัฐฯ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ
https://www.thairath.co.th/content/634775
คนอเมริกันหลายกลุ่มเตรียมจัด ขบวนของผู้หญิง ชุมนุมใหญ่ต้านทรัมป์
ที่มีประเด็นทางสังคมหลายประเด็น ในชื่อ วีแมนส์มาร์ช (Womens March) หรือ การเดินขบวนของผู้หญิง ซึ่งมีโอกาสกลายเป็นการประท้วงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ15 ม.ค. 2560 เดอะการ์เดียนระบุว่าแผนการชุมนุมในครั้งนี้เริ่มต้นมาจากการเรียกร้องชุมนุมอย่างทันด่วนของกลุ่มนักสตรีนิยมทางโซเชียลมีเดีย แต่กำลังเริ่มขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ จากที่มีผู้เข้าร่วมในหลายประเด็นจนอาจจะกลายเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ หลังจากวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยผู้คนแสดงการประท้วงต่อต้านเชิงสัญลักษณ์ด้วยการสวมหมวกทอสีชมพูเคย์ลิน วิตติงแฮม ประธานสมาคมทนายความผู้หญิงคนดำกล่าวว่าการร่วมเดินขบวนของผู้คนในหลากหลายประเด็นเช่นนี้ไม่เคยมีมาก่อน พวกเขาต้องยืนหยัดต่อสู้ร่วมกันจนเป็นพลังที่ไม่อาจละเลยได้ในตอนนี้มีกลุ่มสายก้าวหน้าเกือบ 200 กลุ่มทั้งเล็กและใหญ่ให้การสนับสนุนวีแมนส์มาร์ช โดยในกลุ่มเหล่านี้มาจากหลากหลายประเด็นทั้งประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม การทำแท้งอย่างถูกกฎหมาย สิทธิผู้ต้องขัง สิทธิการเลือกตั้ง เสรีภาพสื่อ ประกันสุขภาพในราคาที่คนเข้าถึงได้ ความปลอดภัยจากอาวุธปืน ความเท่าเทียมทางเชื้อชาติและเพศสภาพรวมถึงประเด็นเรียกร้องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แม้จะใช้ชื่อ การเดินขบวนของผู้หญิง แต่ผู้ชายก็สามารถเข้าร่วมได้ลินดา ซาร์ซูร์ แกนนำการชุมนุมในครั้งนี้กล่าวว่าจะมีการประท้วงพร้อมกันมากกว่า 300 จุดทั่ว 50 รัฐ รวมถึงจะมีการเดินขบวนสนับสนุนในประเทศอื่นๆ 30 ประเทศด้วย ซาร์ซูร์กล่าวว่าพวกเขาไม่มีทางเลือก พวกเขาจำเป็นต้องลุกขึ้นสู้กับรัฐบาลที่เป็นภัยต่อประเด็นต่างๆ ของพวกเขา และหวังว่าการจัดชุมนุมในครั้งนี้จะเป็นหนึ่งในขบวนการรากหญ้าสายก้าวหน้าที่ใหญ่ที่สุด โดยที่ซาร์ซูร์เป็นนักกิจกรรมด้านสิทธิพลเมืองในนิวยอร์กและเป็นชาวอาหรับ-อเมริกัน ที่มีรากมาจากปาเลสไตน์หนึ่งในผู้ชุมนุมเป็นหญิงที่ทำงานดูแลบ้านที่ชื่อ จูน แบร์เร็ตต์ เธอไม่พอใจเมื่อได้ยินทรัมป์พูดถึงการจับอวัยวะเพศผู้หญิงจากการที่เธอเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศจากการถูกจับอวัยวะเพศมาก่อน แบร์เร็ตต์เล่าว่าหลังจากที่เธอได้ยินทรัมป์พูดเรื่องนี้เธอก็เริ่มรู้สึกซึมเศร้าเล็กน้อย เธอพยายามอยู่ห่างๆ จากโบสถ์แบ๊บติสต์ที่พยายามชักจูงให้ลงคะแนนให้กับทรัมป์และไมค์ เพนซ์ ผู้สมัครพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สะเทือนศรัทธาทั้งหมดของเธอทำให้เธอตัดสินใจว่าจะร่วมเดินขบวนในครั้งนี้แบร์เร็ตต์ยังเป็นผู้ที่ย้ายถิ่นฐานจากจาไมกามายังรัฐฟลอริดาในปี 2544 เธอเป็นคนดำ เป็นผู้อพยพ และนิยามตนเองว่าเป็นผู้ไม่ปิดกั้นทางเพศหรือ เควียร์ ทำให้เธอเชื่อว่ารัฐบาลภายใต้ทรัมป์และเพนซ์จะส่งผลกระทบต่อเธอโดยเฉพาะทางลบ และเธอรู้สึกแย่ที่ผู้หญิงหลายคนซึ่งส่วนมากเป็นหญิงผิวขาวลงคะแนนให้พรรครีพับลิกันวีแมนส์มาร์ช เริ่มต้นมาจากความคิดของ เทเรซา ชูค ทนายความเกษียณในฮาวายผู้ที่ไม่พอใจความคิดเห็นของทรัมป์ที่มีต่อผู้หญิงเช่นกัน เธอวางแผนมาตั้งแต่เดือน พ.ย. 2559 และวางเวลาการประท้วงเอาไว้ราวช่วงสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ แต่ต่อมาข้อความของเธอก็ถูกนำไปบอกต่อผ่านกลุ่มในเฟซบุ๊กและเริ่มแพร่กระจายทั่วข้ามคืน แต่ในแผนการประท้วงช่วงแรกยังคงถูกวิจารณ์ว่าดูเป็นงานชุมนุมของคนขาวอย่างเดียวเท่านั้น ทั้งที่ชื่อของมันคล้ายกับ มิลเลียนแมนมาร์ช และ มิลเลียนวูแมนมาร์ช ที่เคยเป็นการประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติสีผิวของกลุ่มคนผิวดำเมื่อราว 20 ปีก่อนนอกจากนี้แล้วยังมีนักรณรงค์เรียกร้องการควบคุมอาวุธปืนและนักสิทธิแรงงานชาวลาติน มีกลุ่มรากหญ้าอื่นๆ แสดงตัวอยากเข้าร่วมแผนการประท้วงในครั้งนี้ด้วย รวมถึงกลุ่มหมวกทอ พุสซีแฮตส์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่คนร้จักกันมากซาร์ซูร์กล่าวว่า คนบางคนคิดว่าพวกเราเป็นแค่ไม้ประดับ แต่ฉันไม่ใช่แค่ชาวมุสลิมหน้าสวยคนหนึ่ง พวกเราจะนำการประท้วงนี้ไปด้วยกันแลร์รี ซาบาโต ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อการเมืองของมหาวิทยาลัยแห่งเวอร์จิเนียกล่าวว่าการประท้วงในครั้งนี้อาจจะเทียบได้กับการประท้วงสงครามเวียดนามหรือการประท้วงเรียกร้องสิทธิพลเมืองในประวัติศาสตร์ ทางด้าน ธานุ ยาคุพิทิยาจ โฆษกของสหพันธ์ผู้อพยพนิวยอร์กหนึ่งในกลุ่มที่จะร่วมชุมนุมกล่าวว่าการเดินขบวนในครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพื่อสิทธิของผู้อพยพอย่างเดียวแต่เป็นการเรียกร้องความเท่าเทียมกันทางเพศ เรียกร้องการปฏิรูปตำรวจ และการคุ้มครองด้านสวัสดิการสาธารณสุขด้วยหนึ่งในผู้ที่จะเข้าร่วมเป็นคนพิการที่นั่งรถเข็นชื่อ โคลลีน ฟลานาแกน เธอบอกว่าถึงแม้เธอจะ เดินขบวน ไม่ได้ก็ขอ เลื่อนรถเข็น เพื่อเรียกร้องสิทธิให้ตัวเองจากการที่เธอไม่พอใจที่ทรัมป์เย้ยหยันนักข่าวผู้พิการออกสื่อ โดยบอกว่า การข่มเหงรังแกเช่นนี้อาจจะเปลี่ยนเป็นการเหมารวมกีดกันเป็นวงกว้างในสังคมได้ถึงแม้ว่าการร่วมกันชุมนุมเรียกร้องความเป็นธรรมในสังคมจากหลายภาคส่วนในสังคมครั้งนี้จะมีแนวร่วมจากหลายที่หลายประเด็นมากแต่คนหัวก้าวหน้าส่วนหนึ่งก็ยังบอกไม่อยากเข้าร่วม เช่น กลุ่มผู้หญิงคนขาวบางคนอ้างว่าพวกเขารู้สึกถูกกีดกันจากการพูดเรื่องความสัมพันธ์ทางเชื้อชาติสีผิว ส่วนผู้หญิงที่เป็นชนกลุ่มน้อยก็อ้างว่าฝ่ายหญิงคนขาวยังไม่ค่อยยอมทำความเข้าใจว่าพวกเธอมีอภิสิทธิ์อะไรเหนือคนอื่นบ้างถึงกระนั้น จอน โอ เบรียน จากกลุ่มคาทอลิกฟอร์ชอยส์ กลุ่มศาสนาที่สนับสนุนให้ผู้หญิงมีทางเลือกทางเพศวิถีหรือการทำแท้งผู้ที่ต้องการร่วมขบวนด้วยบอกว่าการเดินขบวนในครั้งนี้เป็นการแสดง ความเป็นน้ำหนึ่งในเดียวกันอย่างแท้จริง จากที่มีคนทุกกลุ่มอัตลักษณ์ไม่ว่าจะเป็น คนขาว คนดำ ผู้มีความหลากหลายทางเพศ คนรักเพศตรงข้าม ผู้นิยมพรรคเดโมแครต ผู้นิยมพรรครีพับลิกันสายกลาง คนรวย คนจน พูดอีกอย่างหนึ่งคือ อเมริกาWomens March on Washington set to be one of Americas biggest protests The Guardian 14-01-2017
ประชาชนในสหรัฐฯ วางแผนประท้วงใหญ่ภายในวันที่ 21 ม.ค. ที่จะถึงนี้หลังพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยมีการประเมินว่านี่อาจจะเป็นการชุมนุมของประชาชนจากหลายภาคส่วนของสังคม
การเมือง,คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน
Women's March,การประท้วง,การเหยียดเชื้อชาติ,คนพิการ,ความหลากหลายทางเพศ,วีแมนส์มาร์ช,สตรีนิยม,สหรัฐอเมริกา,สายก้าวหน้า,สิทธิพลเมือง,โดนัลด์ ทรัมป์,ไมค์ เพนซ์
https://prachatai.com/journal/2017/01/69646
ท่องแดนสิงคโปร์ (3)
ภัยคุกคามทางไซเบอร์กลายเป็นปัญหาใหญ่สร้างความหนักใจของผู้บังคับใช้กฎหมายในหลายประเทศ,การเดินทางไปดูงานข้ามประเทศของคณะตำรวจกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ สว.กก.สสน.บก.ป. ยังได้รับโอกาสอันดีที่เข้าเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ เฟซบุ๊ก ในประเทศสิงคโปร์,ผู้ให้บริการเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีคนไทยสมัครเป็นสมาชิกติดอันดับโลก,ยืนยันได้จากตัวเลขประชากรของไทยมีประมาณ 75 ล้านคน มีสถิติคนสร้างบัญชีใช้เฟซบุ๊กมากถึง 53 ล้านคน และเป็นคนวัยทำงานมากที่สุดในโลก,จำนวนทั้งหมดนี้เชื่อว่ามีทั้งคนดี และคนเลวใช้แพลตฟอร์มของเฟซบุ๊กปะปนกันอย่างแยกไม่ออก,แม้การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารของตำรวจกองปราบปรามกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและรักษาความปลอดภัยของเฟซบุ๊กไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณชนได้มากนัก เพราะข้อมูลบางส่วนเป็น ข้อมูลลับ ต้องสงวนสิทธิ์ส่วนบุคคลของสมาชิกเป็นหลัก,ถึงกระนั้น เฟซบุ๊กพร้อมให้ความร่วมมือในการประสานงานเกี่ยวกับการใช้กฎหมายของตำรวจไทยเพื่อร่วมกันป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่เกิดบน สมรภูมิไซเบอร์ ให้มากยิ่งขึ้น,ยินดีทำหน้าที่เหมือน ทูตตำรวจของเฟซบุ๊ก ท่ามกลางสถานการณ์ของอาชญากรรมในโลกออนไลน์ที่ไร้พรมแดน,ด้วยการคอยเป็นหูเป็นตาช่วยเหลืองานความมั่นคงเหมือนที่ให้ความร่วมมือหน่วยบังคับใช้กฎหมายหลายประเทศทั่วโลก ตั้งแต่สอดส่องป้องกันเหตุการณ์ก่อการร้าย ติดตามคดีเด็กถูกลักพาตัว หรือล่วงละเมิด คดีค้ามนุษย์ และบรรดาแฮกเกอร์หลอกลวงฉ้อโกง,เพียงแต่ต้องคำนึงถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ บริการด้วย.,สหบาท,ท่องแดนสิงคโปร์ (2),ท่องแดนสิงคโปร์ (1)
อาชญากรรมทางเทคโนโลยีกำลังระบาดทั่วโลก ภัยคุกคามทางไซเบอร์กลายเป็นปัญหาใหญ่สร้างความหนักใจของผู้บังคับใช้กฎหมายในหลายประเทศ
null
ท่องแดนสิงคโปร์,ภัยคุกคาม,ไซเบอร์,เฟซบุ๊ก,สหบาท,ส่องตำรวจ
https://www.thairath.co.th/news/local/1682670
ฝ่ายปกครองเข้ม ตรวจสถานบริการ 2ร้านดังชานกรุงฯ
ต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนขยายผลไปค้นร้าน โรงนาอีสาน ย่านรามอินทรา พบไม่มีใบอนุญาตเปิดสถานบริการ เปิดเกินเวลาและมีเยาวชนเข้ามาใช้บริการสั่งปิด 5 ปี เตือนอย่าหลงเชื่อคนแอบอ้างชื่อหน่วยงานไปหาผลประโยชน์พบเห็นแจ้งจับได้ทันที,ชุดเฉพาะกิจกรมการปกครองผนึกกำลังตำรวจลุยตรวจค้นสถานบันเทิงผิดกฎหมาย 2 รายรวด เผยขึ้นเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 15 ก.ย. นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ส่วนกำกับและตรวจสอบ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการณ์พิเศษกรมการปกครอง กรมพินิจฯ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และ ป.ป.ส. นำกำลังกว่า 100 นาย ร่วมกันเข้าตรวจค้นร้านสภาดิน ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม.,นายรณรงค์เผยว่า การตรวจค้นเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของ คสช. หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่าเป็นสถานบันเทิงไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย มีนายพิเชฐษ์ ชาวโพธิ์เอน อายุ 45 ปี เป็นผู้ดูแล จากการตรวจค้นพบผู้ไม่พกบัตรประชาชน 5 คน ตรวจปัสสาวะนักเที่ยวฉี่สีม่วง 6 คน เป็นหญิง 1 คน ชาย 5 คน รับสารภาพเสพยาไอซ์ นอกจากนี้ ยังพบว่าอาคารดังกล่าวมีระบบการรักษาความปลอดภัยด้านอัคคีภัยไม่ได้มาตรฐาน และต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต,นายรณรงค์เผยอีกว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการ หรือลักษณะต้องห้าม แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการ ไม่ตรวจบัตรหรือเอกสาร ราชการ ส่วนนักเที่ยวฉี่สีม่วง แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ร้านสภาดินยังไม่ถูกสั่งปิดบริการเนื่องจากไม่พบทำความผิดตามคำสั่ง คสช. เนื่องจากขณะเข้าตรวจค้นเป็นการเปิดบริการตามกฎหมาย คือไม่เกินเที่ยงคืนจึงยังไม่มีการดำเนินการสั่งปิดบริการแต่อย่างใด,ต่อมาเวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันได้เข้าตรวจค้นร้านโรงนาอีสาน ถนนรามอินทรา แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม. นายสหการณ์ กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นสถานบริการแห่งนี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเช่นกันว่าทำผิดกฎหมาย เปิดเกินเวลาและมีเยาวชนเข้ามาใช้บริการ ตรวจค้นพบเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นชาย 1 คน และอายุต่ำกว่า 20 ปี เป็นหญิง 4 คน ไม่พกบัตรประชาชน 27 คน เป็นชาย 14 คน หญิง 13 คน และไม่พบใบอนุญาตประกอบสถานบริการ ฝากไปถึงสถานบริการที่ยังฝ่าฝืนกฎหมายให้ปฏิบัติตามกฎหมาย นอกจากนี้ มีบุคคลได้แอบอ้างชื่อหน่วยงานเพื่อหาผลประโยชน์กับสถานบริการต่างๆ อย่าหลงเชื่อและให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าจับกุมได้ทันทีหากพบเจอ,นายสหการณ์กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่สั่งปิดร้านโรงนาอีสานทันทีเป็นระยะเวลา 5 ปี ก่อนแจ้งข้อหาตั้งสถานบริการโดยไม่มีใบอนุญาต จำหน่ายสุราเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดและจำหน่ายให้กับเยาวชน เป็นผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการ ไม่ตรวจบัตรหรือเอกสารราชการ ยินยอมให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปในสถานบริการ โฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ฝ่ายปกครอง สนธิกำลังตำรวจกว่า 100 นาย ลุยตรวจค้นร้าน สภาดิน สถานบันเทิงย่านประดิษฐ์มนูธรรม พบนักท่องเที่ยวฉี่ม่วง 6 คน แจ้งโทษเจ้าของร้านเบาะๆ 2 ข้อหา ไม่ถึงขั้นสั่งปิดร้าน เล็งเอาผิดเพิ่มระบบป้องกันไฟไม่ได้มาตรฐาน
null
ข่าวหน้า1,กรมการปกครอง,ตรวจค้นสถานบันเทิง,สถานบริการเปิดเกินเวลา,ประดิษฐ์มนูธรรม,ร้านสภาดิน,ร้านโรงนาอีสาน
https://www.thairath.co.th/content/724405
รอ 9 เดือนนานไป เทคโนโลยีจัดให้ จับ บี้-กุ๊บกิ๊บ เทียบหน้าลูกน้อย โอ๊ยน่ารักอะ
วงการบันเทิงเพิ่งมีข่าวดีหมาดๆ หลังศิลปินหนุ่มหน้าตี๋ ,บี้-ธรรศภาคย์ ชี, ประกาศว่าแฟนสาวสุดแซ่บอย่าง ,กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย, ได้ตั้งครรภ์ประมาณ 10 สัปดาห์ แน่นอนว่าข่าวนี้ได้สร้างความปีติยินดีให้กับแฟนๆ ของทั้งคู่และคนในวงการบันเทิงเป็นอย่างมาก,จากความน่ารักของทั้งคู่ ทำให้หลายๆ คนเริ่มจินตนาการถึงความน่ารักที่จะถูกถ่ายทอดไปสู่ทายาทตัวน้อยของพวกเขา และแน่นอนว่าในยุคที่มีสมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นช่วยอำนวยความสะดวกให้เรามากขนาดนี้ การเดาใบหน้าเด็กน้อยที่กำลังจะเกิดมาจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แถมไม่ต้องรอนานหลายเดือนกว่าจะถึงกำหนดอัลตราซาวน์ครรภ์คุณแม่,เราได้รวบรวมแอพพลิเคชั่นวิเคราะห์หน้าตาของลูกจากการเทียบภาพถ่ายของพ่อแม่ ซึ่งเป็นการทดลองที่สนุกสนาน แม้จะไม่เป็นการการันตีว่าลูกน้อยของคุณจะมีหน้าตาเช่นนั้นจริงหรือไม่ แต่ก็ถือเป็นแอพพลิเคชั่นที่สร้างสรรค์และใช้งานอย่างง่ายดาย,Baby Maker,เป็นแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานง่ายมาก สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์ในระบบไอโอเอส เพียงแค่คุณเลือกภาพถ่ายของพ่อและแม่ โดยเน้นภาพที่สามารถเห็นใบหน้าตรงได้ชัดเจน พร้อมทั้งเลือกเพศของลูกว่าอยากเห็นหน้าลูกสาวหรือลูกชาย และกดให้ระบบทำการประมวลผล จากนั้นก็รอลุ้นความน่ารักของเบบี้ในอนาคตได้ทันที,YourBaby,แอพ YourBaby ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับผู้ที่อยากทดลองวิเคราะห์ใบหน้าของลูกที่กำลังจะเกิดมา แค่เลือกภาพถ่ายของพ่อและแม่ ก่อนจะหาภาพทายาทในอนาคตของคุณ ซึ่งแอพนี้ไม่ได้นำเสนอภาพออกมาเป็นเด็กเล็กๆ แต่จะเป็นการเลือกแต่ละส่วนของทั้งพ่อและแม่มารวมกัน ภาพที่ได้เลยเป็นภาพลูกในช่วงวัยรุ่นหรือวัยทำงาน ข้ามขั้นวัยเด็กไปซักหน่อย,Baby Look Like,แอพพลิเคชั่นนี้สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้ทั้งบนอุปกรณ์ไอโอเอสและแอนดรอยด์ กับจุดเด่นที่สามารถใช้งานได้ง่ายและยังสามารถกำหนดได้ว่าจะให้อวัยวะไหนของลูกเหมือนพ่อหรือแม่ เช่น ตา จมูก ปาก คิ้ว หน้า กลายเป็นภาพเด็กน้อยน่ารักที่คุณเลือกได้ว่าอยากเห็นเด็กชายหรือเด็กหญิง น่ารักจริงๆ เชียว,ทั้งนี้ เราได้ลองนำภาพของบี้และกุ๊บกิ๊บ มาผ่านแอพพลิเคชั่นเพื่อลองวิเคราะห์หน้าตาเด็กน้อยทายาทของทั้งสอง ว่าจะมีหน้าตาน่ารักน่าชังขนาดไหน ลองไปชมกัน,ที่มาภาพ : ,IG gggubgib36, , ,IG bie_kpn
ลองใช้แอพพลิเคชั่นเปรียบเทียบหน้าตาพ่อ-แม่ เพื่อทายหน้าตาของลูก เริ่มต้นจากคู่รักสุดสวีตที่เพิ่งประกาศข่าวดีว่ากำลังจะมีทายาทตัวน้อยอย่าง บี้ และกุ๊บกิ๊บ…
ข่าว,ไอที
แอพ เทียบหน้าลูก,แอพ พ่อแม่ลูก,แอพ ทายหน้าลูก,แอพ เดาหน้าเด็ก,Baby Maker,YourBaby,Baby Look Like,ข่าว,ข่าวไอที,ข่าวไลฟ์สไตล์,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/tech/547360
เปิดตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุ ไฟฟ้าช็อตในภาวะน้ำท่วม แนวโน้มเพิ่มขึ้นชัดเจน
สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค สรุปสถานการณ์ผู้เสียชีวิตจากการถูกไฟฟ้าช๊อตในพื้นที่น้ำท่วม (ข้อมูล ณ วันที่29 ต.ค.2554) โดยมีรายงานผู้ที่เสียชีวิตจากการถูกไฟฟ้าช๊อตในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมทั้งหมด36 ราย ใน15 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชัยนาท ชัยภูมิ นครนายก นครปฐม นครสวรรค์ นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี อ่างทอง โดยจังหวัดที่มีรายงานผู้ที่เสียชีวิตจากสาเหตุดังกล่าวมากที่สุดคือนนทบุรี9 ราย รองลงมาคืออยุธยา6 ราย ลพบุรีและนครปฐมจังหวัดละ3 รายทั้งนี้ผู้ชายเสียชีวิตมากกว่าผู้หญิง2.6 เท่า โดยผู้เสียชีวิตมีอายุน้อยสุด16 ปี มากที่สุด79 ปี และเสียชีวิตในตุลาคมมากที่สุด (20ราย) รองลงมาคือ กันยายน (13ราย) และเดือนสิงหาคม ๓ ราย เกือบครึ่งหนึ่งของการเสียชีวิต (ร้อยละ 47) เกิดในช่วงสัปดาห์แรกหลังวันที่น้ำเริ่มท่วม ร้อยละ12.5 เกิดวันเดียวกับที่น้ำท่วม แต่ก็ยังมีบางกลุ่มที่เสียชีวิตหลังจากที่น้ำท่วมไปแล้วหลายเดือน โดยระยะเวลาที่นานที่สุดที่พบคือ3 เดือนผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ สัมผัสกับปลั๊กไฟฟ้า หรือสวิทช์ไฟฟ้า ในขณะที่ตัวเปียกน้ำ หรือร่างกายแช่อยู่ในน้ำ โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตในบ้าน 19 ราย (ร้อยละ 53) ส่วนมากน้ำท่วมบ้านและผู้เสียชีวิตสัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ปลั๊กไฟ ตู้เย็น ปั๊มน้ำ ชาร์ตสายโทรศัพท์มือถือ หรือสัมผัสเครื่องใช้ที่มีคุณสมบัติเหนี่ยวนำไฟฟ้า เช่น จับกรงนกที่เป็นเหล็ก เปิดประตูเหล็กที่มีสายไฟลอดข้างใต้ ใช้กิ่งไม้เกี่ยวสายไฟที่พาดหลังคา ส่วนผู้เสียชีวิตขณะเดินทางมี6 ราย (ร้อยละ 17) เช่น พายเรือแล้วไม้พายซึ่งเปียกน้ำ ไปพาดกับสายไฟ พายเรือเหล็กไปเก็บของบริเวณบ้านและโดนไฟฟ้ารั่วบริเวณบ้าน ออกมารับถุงยังชีพแล้วจับเหล็กรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวที่แช่น้ำซึ่งล้มทับสายไฟฟ้า ขับขี่รถจักรยานยนต์ไฟบริเวณนิคมอุตสาหกรรมที่น้ำท่วม เป็นต้น และมี2 ราย (ร้อยละ 6) เสียชีวิตในที่อื่นๆ เช่น ในเต็นท์ศูนย์พักพิงขณะพันสายไฟบนถนน ขณะเปิดไฟสาธารณะในช่วงที่ฝนตกร่างกายเปียกชื้น และเสียชีวิตในสวน ขณะที่ตัดต้นกล้วยแล้วต้นกล้วยเกี่ยวสายไฟขาดลงมาจุ่มกับน้ำโดยระยะห่างของของปลั๊กไฟฟ้า หรือสวิทช์ไฟฟ้า หรือเสาไฟฟ้า หรือสื่อนำไฟฟ้าที่สงสัยว่าเป็นต้นเหตุของการถูกไฟฟ้าช๊อตเสียชีวิต ส่วนใหญ่จะสัมผัสโดยตรง มีเพียงรายเดียวที่อยู่ห่างจากสื่อนำไฟฟ้าดังกล่าว1.5 เมตร- กฟน.แนะนำวิธีเข้าบ้านให้ปลอดภัย ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าหลังน้ำลด- คำแนะนำในการป้องกันถูกไฟฟ้าช๊อตในพื้นที่น้ำท่วมโดย สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค
เหตุไปจับหรือแตะปลั๊ก สวิทซ์ไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าในขณะที่ตัวเปียกน้ำ หรือจับสิ่งที่สามารถเป็นสื่อนำไฟฟ้า เช่น เหล็ก หรือไม้ที่เปียกน้ำซึ่งสัมผัสกับสายไฟ รวมถึงการเข้าไปใกล้บริเวณที่มีเสาไฟฟ้าหรือสายไฟที่รั่วในรัศมีน้อยกว่า 2 เมตร
สังคม
น้ำท่วม,ผู้ชาย,ผู้หญิง,ผู้เสียชีวิต,ภาคกลาง,ไฟฟ้าช็อต
https://news.thaipbs.or.th/content/48817
ไล่บี้เ วียดนามทุ่มตลาดเหล็ก พาณิชย์ รับลูกผู้ผลิตไทยตั้งวงไต่สวน
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ว่าท่อเหล็กที่นำเข้าจากเวียดนามทุ่มตลาด โดยจำหน่ายสินค้าในไทยถูกกว่าที่จำหน่ายในเวียดนาม ดังนั้นจึงขอให้เปิดไต่ส่วนเพื่อพิจารณามาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) ซึ่งขั้นตอนการเปิดไต่สวนจะใช้ระยะเวลา 1 ปี ในการตรวจสอบหาข้อมูลว่ามีการทุ่มตลาดตามที่ผู้ผลิตไทยร้องเรียนจริงหรือไม่ หากไม่แล้วเสร็จสามารถขยายระยะเวลาออกไปอีก 6 เดือน ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วพบว่ามีการทุ่มตลาดจนทำให้อุตสาหกรรมภายในของไทยเสียหายจริง จะเรียกเก็บภาษีเอดีสินค้านำเข้าต่อไป,ทั้งนี้ พบว่าในปี 2560 ท่อเหล็กของเวียดนามที่ส่งมาจำหน่ายในไทยอยู่ที่ตันละ 21,900 บาท ซึ่งรวมค่าขนส่งแล้ว แต่จำหน่ายในเวียดนามตันละ 22,700 บาท โดยไทยนำเข้าจากเวียดนามปริมาณ 178,000 ตัน เพิ่มขึ้น 22% จากยอดการนำเข้าปี 2559 ที่มีปริมาณ 145,000 ตัน,นอกจากนี้ จากการตรวจสอบผลกระทบกรณีที่สหรัฐอเมริกาขึ้นภาษีสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมทั่วโลกในอัตรา 25% และ 10% ตามลำดับนั้น พบว่า การส่งออกเหล็กไทยไปตลาดสหรัฐฯยังไม่ได้รับผลกระทบเพราะผู้ส่งออกไทยได้ประสานผู้นำเข้าเหล็กจากสหรัฐฯขอยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าในอัตราดังกล่าว ตั้งแต่เดือน เม.ย.2561 จนถึงปัจจุบันมีเหล็กไทยได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าแล้ว 500,000 ตัน.
กรมการค้าต่างประเทศในฐานะเลขานุการคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน (ทตอ.) ได้เปิดไต่สวนท่อเหล็กนำเข้าจากประเทศเวียดนาม หลังจากที่ผู้ผลิตท่อเหล็กของไทยได้ยื่นเรื่องร้องเรียนเข้ามา
ข่าว,เศรษฐกิจ
ท่อเหล็ก,เหล็ก,นำเข้าเหล็ก,เวียดนาม,สินค้าเวียนนาม
https://www.thairath.co.th/news/business/1395946
สื่อต่างชาติวิเคราะห์: สุเทพอาจได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มชนชั้นนำเบื้องหลัง
แต่มีเบื้องหลังเป็นกลุ่มชนชั้นนำที่ต่อต้านพรรคเพื่อไทย และต้องการรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง2 ธ.ค. 2556 - บล็อกเกอร์ชื่อ Bangkok Pundit ในเว็บไซต์ Asian Correspondent ตั้งคำถามว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนที่นำโดยสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้รับเงินทุนมาจากไหน ซึ่งคำถามเดียวกันนี้เคยมีคนตั้งขึ้นในสมัยที่กลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนไหวในปี 2553-2554 แต่ดูเหมือนยังไม่มีการตั้งคำถามในกรณีเดียวกันกับการเคลื่อนไหวในปัจจุบันมากนักในเรื่องนี้เดวิด เอลเมอร์ กล่าวถึงไว้ในเว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสท์ ของฮ่องกงว่า หลายคนอาจจะคิดว่าสุเทพเป็นแกนนำหลักของการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ แต่จริงๆ แล้วมีเบื้องหลังเป็นกลุ่มแนวร่วมอนุรักษ์นิยมที่ต่อต้านทักษิณ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย และนโยบายประชานิยมซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนยากจนในชนบทในบทความดังกล่าวระบุว่าทักษิณเป็นที่เกลียดชังในหมู่ชนชั้นนำประเพณีนิยม ทั้งนักธุรกิจใหญ่ ที่ปรึกษาชนชั้นนำ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพ รวมถึงกลุ่มชนชั้นกลางในเมือง เนื่องจากทักษิณถูกมองว่าไม่จงรักภักดี และมักจะอ้างว่ามีการคอร์รัปชั่นเพิ่มมากขึ้นในสมัครที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเดวิด กล่าวในบทความว่าสุเทพมีความเกี่ยวข้องกับชนชั้นนำในไทยมาหลายสิบปีแล้ว จากการที่เขาเติบโตมาในครอบครัวเจ้าของที่ดินร่ำรวยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี จนกระทั่งได้เป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีปี 2522 ซึ่งโจนาธาน เฮด นักข่าวบีบีซีได้เคยถามเช่นกันว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้อาศัยเงินทุนสนับสนุนจากไหนซึ่ง กรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์บอกกับเขาว่าสุเทพได้ขายที่ดินจำนวนมากของเขาเพื่อการต่อสู้ในครั้งนี้แต่ก็มีคนส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่สุเทพจะสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยเงินทุนของตนเองเพียงคนเดียว แต่มีผู้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวนี้เป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยทำรัฐประหารในปี 2549ด้านกานต์ ยืนยง ผู้อำนวยการสยามอินเทลลิเจนซ์ยูนิต (SIU) กล่าวว่า กลุ่มจัดการประท้วงใช้เงินทุนราว 5 ล้านบาทต่อวัน จึงเป็นไปได้ที่จะมีคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นกลุ่มชนชั้นนำที่ต้องการปกป้องผลประโยชน์ตัวเองโดยใช้สุเทพเป็นตัวออกหน้าแทน เพราะไม่มีใครอยากยอมรับว่าพยายามปกป้องผลประโยชน์ตนเอง พวกเขาอ้างว่าต้องการให้มีการปฏิรูประบบที่มีการคอร์รัปชั่น แต่ถ้าหากสุเทพต้องการปฏิรูประบบจริง ทำไมถึงไม่ทำจากภายในสภาในแง่การเรียกร้องให้มี สภาประชาชน เว็บไซต์ต่างประเทศวิเคราะห์ว่า การประท้วงในครั้งนี้แทนที่จะเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ซึ่งพรรคประชาธิปัตยืรู้ตัวว่าจะแพ้อยู่แล้วแต่กลับมีการเรียกร้อง สภาประชาชน แทน ซึ่งน่าจะหมายถึง กลุ่มผู้แทนในฝัน ที่มีการคัดเลือกจากคนที่ไม่เปิดเผยตัวตนเว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสท์ระบุอีกว่า สุเทพ เทือกสุบรรณ เองก็มีที่มาไม่ค่อยดีนักในสายตามวลชนบางคน ทำให้มีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับตัวเขา เช่นผู้ชุมนุมคนหนึ่งบอกว่าเขาไม่ต้องการให้สุเทพเป็นนายกรัฐมนตรีและเห็นเขาเป็นแค่แกนนำการประท้วง ถึงได้เคยติดตามเขาเพียงเท่านั้นเว็บไซต์บางกอกโพสท์เปิดเผยว่า กลุ่มอาสาสมัคร กระเบนธง จากจังหวัดระยองได้มาเป็นการ์ดคุ้มกันการเคลื่อนไหวในกรุงเทพฯ ภายใต้การนำของสุเทพ โดยกลุ่มคนเหล่านี้มีส่วนหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กองทัพเรือผู้ได้รับการฝึกปฏิบัติการพิเศษ พวกเขาสวมชุดดำ และก่อนหน้านี้กลุ่มกระเบนธงก็เคยเป้นการ์ดคุ้มกันในการจัดตั้งเวที ผ่าความจริง ของพรรคประชาธิปัตย์มาก่อนบางกอกโพสท์ระบุว่า ปัจจุบันกลุ่มกระเบนธงได้แฝงตัวอยู่กับกลุ่มฝูงชนในการเคลื่อนไหวที่ราชดำเนินเพื่อคอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยและคุ้มกันเวที รวมถึงคอยติดตามคุ้มกันกลุ่มแกนนำโดยแบ่งกำลังคุ้มกัน 8 คนต่อ 1 แกนนำพวกเขายังคอยหาข่าวจากผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะอย่างรถแท็กซี่ กับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพื่อประเมินบรรยากาศทางการเมืองในแต่ละวันแหล่งข่าวในการชุมนุมเปิดเผยว่ากลุ่มอาสาสมัครกระเบนธงที่ประจำการอยู่ในแหล่งชุมนุมราชดำเนินมีอยู่มากกว่า 3000 คนWho is financing the anti-government Suthep rallies in Bangkok? Asian Correspondent 02-12-2013Thai protest leader Suthep a son of the elite with an axe to grind South China Morning Post 01-12-2013
Bangkok Pundit และเซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสท์ วิเคราะห์แบ็คอัพของ สุเทพ เทือกสุบรรณ โดยชี้ว่าอดีต ส.ส. หลายสมัยที่ผันตัวมาเป็นผู้นำการชุมนุมอาจเป็นแค่ตัวแทนข้างหน้า
การเมือง
Bangkok Pundit,scmp,กระเบนธง,ชนชั้นกลาง,ชนชั้นนำไทย,สุเทพ เทือกสุบรรณ
https://prachatai.com/journal/2013/12/50158
แซงไม่พ้น ทัวร์ กทม.-เรณูนคร ประสานงากระบะ อัดดับคาซาก 3 เจ็บ 9
เมื่อเวลา 02.40 น. วันที่ 6 มีนาคม 2559 พ.ต.ท.ประสิทธ์ นามวิเศษ สารวัตร(สอบสวน) สภ.กันทรวิชัย มหาสารคาม ได้รับแจ้งเหตุรถทัวร์ ชนรถกระบะ ที่บริเวณ กม.18-19 ถนนถีนานนท์ บ้านคอกม้า ต.โคกพระ อ.กันทรวิชัย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่กู้ภัยอโสก กันทรวิชัย และ เจ้าหน้าที่ชุดภัยชุดอุปกรณ์ตัดถ่าง หน่วยกู้ภัยจีเสียงเกาะ ,ที่เกิดเหตุพบรถทัวร์โดยสาร สาย กรุงเทพฯ-เรณูนคร ทะเบียน 15-5927 กทม. จอดอยู่กลางถนน ภายในรถพบ นายวิรัตน์ ทองโสภณ อายุ 51 ปี คนขับรถทัวร์ และ น.ส.พัชริดา แก้วมณีชัย อายุ 29 ปี พนักงานต้อนรับ ถูกอัดก๊อบปี๊กับที่นั่ง ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ เจ้าหน้าที่กู้ชีพ – กู้ภัย ช่วยกันตัดถ่างนำร่างออกมา นำส่งโรงพยาบาล จังหวัดมหาสารคาม ส่วนภายในที่นั่งผู้โดยสารเต็มคันรถ พบผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 7 คน จึงนำส่ง รพ.กันทรวิชัย,นอกจากนี้ บริเวณด้านหน้ารถทัวร์ พบรถยนต์กระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน ทะเบียน ผผ 9681 ขอนแก่น เป็นรถของพนักงานติดตั้งโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ สภาพรถติดอยู่กับหน้ารถทัวร์ หน้ารถยุบเข้าไปถึงห้องผู้โดยสาร ภายในรถพบศพ นายวิโรจน์ สีกาลัง อายุ 26 ปี, นายศราวุธ สีกาลัง และชาย ชาวลาวไม่ทราบชื่อ ถูกอัดก๊อบปี้ เสียชีวิตคาซากรถทั้ง 3 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัย ต้องใช้เครื่องตัดถ่าง กว่า 20 นาที จึงสามารถนำร่างออกมาได้ ,จากการสอบถาม ผู้โดยสารภายในรถทัวร์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ คนขับรถทัวร์ ขับมาด้วยความเร็วถึงที่เกิดเหตุ ได้แซงรถข้างหน้าขึ้นมาแต่ไม่พ้น พอดีมีรถกระบะวิ่งสวนทางมาพอดี จึงประสานงานกันอย่างจัง ทำให้มีผู้เสียชีวิตคาที่ 3 ศพ และผู้ได้รับบาดเจ็บ อีก 9 ราย.
ทัวร์โดยสาร สายกรุงเทพฯ-เรณูนคร ประสานงากระบะวิ่งสวนมา อัดก๊อบปี้ตายคาที่ 3 เจ็บ 9 ที่มหาสารคาม ผู้โดยสารระบุ รถทัวร์พยายามแซงคันหน้า แต่ไม่พ้น รอสอบสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง
null
อุบัติเหตุ,รถโดยสาร,รถทัวร์โดยสาร,สายกรุงเทพฯ-เรณูนคร,ประสานงา,กระบะ,ทัวร์ชนกระบะ,อัดก๊อบปี้,ตาย3เจ็บ9,กันทรวิชัย,มหาสารคาม,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/586752
ต่างระดับกาญจนาฯ ตัด 345 คืบ 92%
นายวิบูลย์ ศรีก้อม นายช่างควบคุมโครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับจุดตัดทางหลวงหมายเลข 9 (ถนนกาญจนาภิเษก) กับทางหลวงหมายเลข 345 (สายปทุมธานี-บางบัวทอง) กรมทางหลวง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการดังกล่าวว่า ขณะนี้ผลงานก่อสร้างล่าสุดถึงเดือน เม.ย. 62 คืบหน้า 92.41% ช้ากว่าแผน 1.77% จากแผนงานที่กำหนด 94.18% ซึ่งตามสัญญาจะแล้วเสร็จเดือน พ.ค. แต่ผู้รับเหมาได้ขอขยายเวลาเพื่อชดเชยวันหยุดในช่วงปีใหม่ โดยกำหนดแล้วเสร็จเปิดใช้งานได้เดือน มิ.ย.,ลักษณะโครงการดังกล่าว ประกอบด้วย 1.การก่อสร้างสะพานโดยขยายความกว้างช่องจราจรในแนวทางหลวงหมายเลข 9 บริเวณจุดตัด เพิ่มเป็นขนาด 10 ช่องจราจรไปกลับ จากเดิมขนาด 6 ช่องจราจรไปกลับ เพื่อช่วยระบายการจราจรคล่องตัวขึ้น,2.ก่อสร้างสะพานยกระดับตามแนวทางหลวงหมายเลข 345 ที่มาจากปทุมธานี ข้ามทางหลวงหมายเลข 9 ไปลงทางหลวงหมายเลข 340 มุ่งหน้าจังหวัดสุพรรณบุรี ชัยนาทสะดวกขึ้น จากเดิมจะต้องเลี้ยวซ้ายไปกลับรถบนทางหลวงหมายเลข 9 ทำให้การจราจรมีปัญหาติดขัด,3.ก่อสร้างสะพานสำหรับรถที่ใช้ทางหลวงหมายเลข 9 ฝั่งขาเข้า จากบางปะอิน เลี้ยวขวาเพื่อไปลงทางหลวงหมายเลข 340 มุ่งหน้าสู่จังหวัดสุพรรณบุรีและชัยนาท,4.ก่อสร้างสะพานสำหรับรถที่ใช้ทางหลวงหมายเลข 9 ฝั่งขาออก จากบางบัวทอง สามารถขึ้นทางยกระดับวนขวาเพื่อไปลงทางหลวงหมายเลข 345 มุ่งหน้าปทุมธานี-รังสิต,5.งานก่อสร้างถนน (Service Road) ตามแนวเขตทางและปรับปรุงขยายความกว้างช่องจราจรของถนนเดิม เพื่อรองรับการจราจรให้คล่องตัวยิ่งขึ้น งบประมาณ 1,420,104,000 บาท.
โครงการก่อสร้างทางต่างระดับสาย 9 ตัดสาย 345 ปทุมธานี-บางบัวทอง ไปสุพรรณบุรี ชัยนาท คืบหน้าแล้ว 92% เตรียมเปิดใช้งานเดือน มิ.ย.นี้
ข่าว,ทั่วไทย
กรมทางหลวง,ทางต่างระดับสาย 9,ทางต่างระดับ,วิบูลย์ ศรีก้อม,ถนนกาญจนาภิเษก,ทางหลวงหมายเลข 345,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1559310
พระองค์ทีฯ โปรดสนทนาธรรมและงานจิตอาสา ทรงเป็นต้นแบบเยาวชนจิตอาสา
ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช โดยทรงแสดงให้เห็นว่า การทำความดีนั้น ทำได้ทุกคน ไม่จำกัดเพศและวัย ซึ่งถือว่าทรงเป็นต้นแบบของเยาวชนจิตอาสาเป็นอย่างดี โดยในช่วงวันหยุด พระองค์ทีฯ จะทรงร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาที่วัดป่ามุตโตทัย ประเทศเยอรมนี พร้อมทั้งได้ประทานข้อความว่า ถ้ากลับเมืองไทยจะไปทำที่เมืองไทยด้วย,ด้วยเหตุนี้ เมื่อ พระเจ้า หลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จกลับเมืองไทย เพื่อทรงร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระ บาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จไปทำกิจกรรมจิตอาสาที่วัดราชบพิธ-สถิตมหาสีมาราม เมื่อวันที่ 25 ต.ค. และวันที่ 27 ต.ค. ได้เสด็จไปทรงทำความสะอาดที่วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ร่วมกับจิตอาสาคนอื่นๆ ในโครงการฯ เมื่อเสด็จถึงวัดประยุรวงศาวาสฯ ทรงไปนมัสการพระพุทธธรรมวิเชษฐศาสดา พระประธานในพระอุโบสถ จากนั้นเสด็จไปยังกุฏิพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส เพื่อทรงถวายสังฆทาน โอกาสนี้ เจ้าอาวาสได้ถวายพระพุทธรูปไม้แก่นจันทน์ปางประทานพรจากศรีลังกาแก่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ พร้อมทั้งทรงสนทนาธรรมกับเจ้าอาวาสนานกว่า 30 นาที,จากนั้นทรงร่วมนำจิตอาสาทำความสะอาดตามจุดต่างๆ ภายในวัด เริ่มด้วยการทำความสะอาดฐานชุกชี ฐานพระประธานในพระอุโบสถ, ทรงเก็บเก้าอี้ในเต็นท์ด้านนอกพระอุโบสถ, ทรงทาสีอาคารพิพิธภัณฑ์พระประยุรภัณฑาคาร ที่ตั้งอยู่หน้าพระบรมธาตุมหาเจดีย์ รวมทั้งทรงกวาดลานวัด และเก็บขยะในบ่อน้ำ บริเวณเขามอ ภายในวัด รวมทั้งทรงให้อาหารปลาและเต่าในบ่อน้ำด้วย โอกาสนี้ ประทานพระอนุญาตให้เหล่าจิตอาสารุ่นเยาว์ได้ร่วมให้อาหารเต่า โดยทรงยื่นไม้ที่มีอาหารให้กับเด็กๆ อย่างไม่ถือพระองค์,ในการนี้ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสฯ เผยว่า ขณะที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงศึกษาอยู่ที่โรงเรียนจิตรลดา พระวัดประยุรวงศาวาสฯ ก็ได้มีโอกาสเข้าไปสอนธรรมะที่โรงเรียน และได้เสด็จมาทัศนศึกษาตามวัดต่างๆ รวมทั้งวัดประยุรวงศาวาสฯด้วย หลังจากนั้นพระองค์ทีฯก็ได้เสด็จมาที่วัดประยุรวงศาวาสฯบ่อยครั้ง อาจจะด้วยโปรดบรรยากาศภายในวัด แต่ละครั้งที่เสด็จมา พระองค์ทีฯจะทรงมาสนทนาธรรมนานนับชั่วโมง และโปรดเข้าชมภาพวาดฝาผนังในโบสถ์ ซึ่งมีรูปภาพพุทธชาดก โดยอาตมาจะบรรยายถวาย แต่ช่วงนี้พระอุโบสถปิดซ่อมแซม นอกจากนี้ยังโปรดเสด็จลอดพระเจดีย์ ทำความสะอาดพระพุทธรูปในโบสถ์ และฐานชุกชี ให้อาหารปลานกยูงในกุฏิและอาหารเต่าที่เขามอ จึงถือว่าทรงทำกิจกรรมจิตอาสาที่วัดมานานแล้ว สำหรับในการเสด็จมาครั้งนี้ อาตมาได้เตรียมธรรมะบรรยายเรื่องความกตัญญูต่อบุพการี ต่อบ้านเกิด ไว้ให้พระองค์ เน้นการแสดงออกถึงความกตัญญู และเนื่องจากวัดประยุรวงศาวาสฯได้จัดพื้นที่เป็นที่ตั้งซุ้มวางดอกไม้จันทน์ พระองค์ทีฯจึงได้มาทำจิตอาสาจัดเก็บสถานที่ซึ่งยังไม่เรียบร้อย รวมถึงทำความสะอาดอีกด้วย.
เพื่อเป็นการสนองพระราชปณิธานของพระราชบิดา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระเจ้า หลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ได้ทรงสานต่อโครงการพระราชดำริ โครงการจิตอาสา เราทำความดี ด้วยหัวใจ
ข่าว,พระราชสำนัก
พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ,ร.10,จิตอาสา,เยาวชนจิตอาสา,ทำความดีตามรอยพ่อ,ข่าวรัชกาลที่9
https://www.thairath.co.th/news/royal/1111022
ขอ กำนัน-ผญบ.รอขั้นตอน อย่าด่วนชุมนุม ก่อม็อบประท้วง
เมื่อวันที่ 14 เม.ย.60 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ว่า สำหรับประเด็นการกระจายอำนาจ เรื่องวาระการดำรงตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการทำงานของสปท.ยังไม่ได้มีข้อสรุปใดๆ ยังมีอีกหลายขั้นตอนที่ต้องดำเนินการ โดยเฉพาะการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน อันนี้เป็นสิ่งสำคัญ ทำให้เรื่องนี้ก็ยังมาไม่ถึงรัฐบาล ยังไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ขอให้รอเป็นไปตามขั้นตอน ไม่อยากให้ด่วนสรุป ถ้ายังไม่แน่ชัด ยังไม่เกิดขึ้น แล้วเกิดความไม่เห็นชอบ มีการประท้วงกัน,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ยังไงถามประชาชนเขาด้วย ทุกคนต้องช่วยกัน ว่ากันด้วยเหตุด้วยผล มีความเห็นหรือข้อเสนอแนะ อะไรที่มันจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี ยอมรับกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องบังคับกัน มันก็จะเป็นประโยชน์กับประเทศ ก็ขอให้ไปทำต่อในเวทีการรับฟังความคิดเห็นอื่นๆ หรือในช่องทางที่เหมาะสม ให้เป็นไปตามกระบวนการ ทั้งนี้เพื่อจะสร้างความสุขสงบ ลดความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่ไม่จำเป็น เช่นที่ยังไม่ได้ข้อสรุปหลายๆ เรื่องวันนี้.
นายกฯ ขอ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน รอขั้นตอน รบ.ยังไม่ได้พิจารณา อย่าชุมนุมประท้วง ว่ากันด้วยเหตุผล ฟังเสียงปชช.ด้วย
ข่าว,การเมือง
รายการศาสตร์พระราชาฯ,รายการนายกฯ,นายกฯ,กำนัน-ผญบ.,วาระตำแหน่งกำนัน
https://www.thairath.co.th/news/politic/913715
น้องอดีตที่ดิน ติงผ่าศพอืด
ฉะดีเอสไอปล่อยภาพปมหัวใจ,น้องชาย ธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่ที่ดิน จ.พังงา ที่ผูกคอตายในห้องขังดีเอสไอ เห็นด้วยให้ หมอพรทิพย์ กับผู้การนิติเวช รพ.ตำรวจ ร่วมสังเกตการณ์ชันสูตรศพครั้งที่ 2 แต่โวย ดีเอสไอที่เพิ่งปล่อยภาพปั๊มหัวใจพี่ชายในห้องขัง รวมทั้งการทำงานของคณะกรรมการกลางตรวจสอบข้อเท็จจริงของ ยธ.ที่ล่าช้า ด้าน ชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดยุติธรรม ขอความเห็นใจคณะกรรมการฯ ทุกอย่างมีขั้นตอนตามระเบียบอยู่ ถ้าไม่เสร็จสามารถขอยืดเวลาได้แต่ต้องมีเหตุผล,กรณีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำจากการผูกคอตายภายในห้องขัง 6008 ชั้น 6 อาคารสำนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ของนายธวัชชัย อนุกูล อายุ 66 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ที่ดิน จ.พังงา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1165/2559 ลงวันที่ 14 มิ.ย.2559 หลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอตามจับกุมตัวได้ที่ร้านตัดผมเลขที่ 61/55 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ผลชันสูตรพลิกศพของสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เบื้องต้นระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตมาจากการขาดอากาศหายใจ และตับแตก ทำให้ญาติออกมาโวยวายเรียกร้องความเป็นธรรม ขอให้ตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตเป็นครั้งที่ 2 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น,ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 11 ก.ย. นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เผยว่า หลังการแต่งตั้งคณะกรรมการกลางตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา คาดว่า ภายในอาทิตย์หน้าคณะกรรมการตรวจสอบจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในกรอบเวลา 15 วัน หากคณะกรรมการตรวจสอบยังดำเนินการไม่เสร็จ สามารถยึดเวลาออกไปอีกได้ จนกว่าจะได้ผลตรวจสอบที่แน่ชัด แต่ต้องมีเหตุผลรองรับว่า เพราะเหตุใดจึงต้องขอเวลาตรวจสอบเพิ่ม อยากให้สังคมให้เวลาเจ้าหน้าที่ดำเนินการก่อน เพราะทุกอย่างมีขั้นตอนการปฏิบัติตามกฎระเบียบอยู่แล้ว,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 12 ก.ย.นี้ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ได้เชิญนายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำอีกครั้ง และในวันที่ 13 ก.ย. จะเชิญพยาบาลและเจ้าหน้าที่ของ รพ.มงกุฎวัฒนะมาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วย,วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามนายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่ที่ดิน จ.พังงา ผู้ต้องขังที่ผูกคอตายในห้องควบคุมกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถึงกรณีที่ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ออกมาให้กำลังใจดีเอสไอ บอกว่า การเสียชีวิตของ,นายธวัชชัยเป็นการดิสเครดิตดีเอสไอนั้น นายชัยณรงค์ เผยว่า ตนไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ แต่พี่ชายเสียชีวิตผิดธรรมชาติ ส่วนการที่ พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตที่ปรึกษาสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และ พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ จะมาร่วมสังเกตการณ์การชันสูตรศพด้วย ถือเป็นเรื่องดีเพราะเป็นแพทย์เฉพาะด้านผู้ชำนาญทั้งคู่ หากมีประเด็นข้อขัดแย้งใดจะได้พูดคุยกันตรงนั้นทันที,นายชัยณรงค์เผยต่อไปว่า เหตุที่ดีเอสไอไม่ติดกล้องวงจรปิด อ้างว่าเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้ถูกควบคุม แต่ทำไมถึงบันทึกภาพนิ่ง ขณะ รปภ.ยืนอยู่ที่เตียงโดยมีพี่ชายตนนอนอยู่บนเตียงได้ ไม่เป็นการละเมิดสิทธิหรือ ที่ผ่านมาตนขอดูภาพกล้องวงจรปิดหรือภาพที่มีพี่ชายตลอด แต่ทำไมไม่ให้ดูตั้งแต่ตอนแรก เพิ่งมาเปิดเผยภาพทีหลัง ทำให้เกิดข้อสงสัยในจุดนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการตั้งคณะกรรมการกลางตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของนายธวัชชัย ตั้งแต่วันที่ 6-20 ก.ย. มีระยะเวลาทำงาน 15 วัน มีการประชุมใหญ่ไปเมื่อวันที่ 8 ก.ย. เพียงครั้งเดียว และยังไม่มีกำหนดการผ่าชันสูตรศพครั้งที่ 2 อาจไม่ทันเวลาที่กำหนดและคณะกรรมการกลางจะหมดเวลาทำงาน นายชัยณรงค์ตอบว่า ตนคิดว่าหากหมดระยะเวลาจริง อาจมีการตั้งชุดใหม่หรือต่ออายุการทำงานเพิ่ม แต่ถือว่ามีความล่าช้ามาก
น้องชาย ธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่ที่ดิน จ.พังงา ที่ผูกคอตายในห้องขังดีเอสไอ เห็นด้วยให้ หมอพรทิพย์ กับผู้การนิติเวช รพ.ตำรวจ ร่วมสังเกตการณ์ชันสูตรศพครั้งที่ 2 แต่โวย ดีเอสไอที่เพิ่งปล่อยภาพปั๊มหัวใจพี่ชายในห้องขัง
null
ข่าวหน้า1,ธวัชชัย อนุกูล,ดีเอสไอ,ผูกคอตาย,สน.ทุ่งสองห้อง,ชัยณรงค์ อนุกูล,โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ
https://www.thairath.co.th/content/719490
ซู จี ชี้วิกฤตโรฮิงญาไม่สามารถแก้ไขได้ในชั่วข้ามคืน
วานนี้ (21 พ.ย.2560) นางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ระบุว่า วิกฤตในรัฐยะไข่ไม่สามารถแก้ไขได้ในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน แม้ประชาคมโลกจะต้องการให้ความช่วยเหลือในการสร้างสันติภาพและเสถียรภาพให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุดก็ตาม แต่ก็เชื่อมั่นว่า เมียนมาจะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างมั่นคงหากทุกฝ่ายในประเทศร่วมมือกันในการจัดการกับประเด็นปัญหาต่างๆ ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่นางซู จี หารือร่วมกับผู้แทนจากหลายประเทศ ในประเด็นวิกฤตผู้อพยพชาวโรฮิงญา ระหว่างการประชุมคู่ขนานของการประชุมเอเชีย-ยุโรป (อาเซม) ที่จัดขึ้นในกรุงเนปิดอว์ขณะที่ แอมเนสตี อินเตอร์เนชันแนล เรียกร้องให้ประชาคมโลกยุติการค้าอาวุธและคว่ำบาตรทางการเงินต่อเมียนมา เพื่อประท้วงรัฐบาลเมียนมากรณีวิกฤตโรฮิงญาที่ทำให้ชาวโรฮิงญาต้องอพยพไปอยู่ที่ค่ายลี้ภัยในบังกลาเทศมากกว่า 600000 คน พร้อมกับเรียกร้องให้เมียนมาทบทวนกฎระเบียบและวิธีปฏิบัติ รวมทั้งเคารพกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและยุติการแบ่งแยกและเหยียดเชื้อชาติ
ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ระบุว่า วิกฤตในรัฐยะไข่ไม่สามารถแก้ไขได้ในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน แต่จะสามารถแก้ไขได้หากทุกฝ่ายในประเทศร่วมมือกันแก้ไขปัญหา
ต่างประเทศ
โรฮิงญา,ยะไข่,เมียนมา,อองซาน,ซูจี,แอมเนสตี,เนปิดอว์,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/267893
พม่า วางโลงถาม จะนอนที่ไหน ยอดติดเชื้อพุ่ง เหตุคนไม่อยู่บ้าน
เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานจากชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า เจ้าหน้าที่ทางการเมียนมางัดมาตรการเด็ด หลังทนไม่ไหวกับพวกหัวดื้อที่ไม่กักตัวเอง ไม่รักษาระยะห่างทางสังคม ส่งผลทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมากล่าสุดทางการเมียนมาใช้วิธีใหม่ นำโลงศพมาวางไว้กลางถนนกลางกรุงย่างกุ้ง แล้วเขียนไว้บนลงศพว่า ให้ 2 ทางเลือก ว่าจะนอนในโลงศพแทน หรือจะนอนที่บ้าน ซึ่งภาพดังกล่าวถูกแชร์ไปทั่วประเทศขณะที่กลุ่มนักศึกษาแพทย์นานาชาติ ที่ฝึกงานในนครย่างกุ้ง ออกมารวมกัน ขับร้องเพลงให้กำลังใจแพทย์ในโรงพยาบาล ในเวลาเดียวกันศิลปินนักร้องนักแสดงจากหลายพื้นที่ ต่างออกมาแสดงคอนเสิร์ตเล็กๆ ให้กับผู้กักตัว ตามสถานที่ต่างๆ หลายแห่ง เพื่อเป็นกำลังใจให้ต่อสู้กับภัยร้ายไวรัสโควิด-19ขณะที่ผู้ติดเชื้อในเมียนมาเพิ่มสูงขึ้น แต่ทางฝ่ายรัฐบาลเมียนมารายงานผู้ติดเชื้อเพียง 22 ราย เสียชีวิต 1 ศพ และต้องสงสัยกักตัว 5452 ราย ให้มารายงานตัวติดตามดูแลสุขภาพอีก 64499 ราย.
ทางการพม่าสุดทน พวกหัวดื้อไม่กักตัว เลยต้องวางโลงศพกลางถนน ขู่โควิด-19 มี 2 ทางเลือก จะนอนที่บ้าน หรือนอนในโลง
ข่าว,ทั่วไทย
โควิด-19,ห้ามออกจากบ้าน,ไวรัสโคโรนา,โควิด พม่า,COVID-19,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1814289
รักษาการเลขาสภาฯ คืนร่าง กม. ของเครือข่าย ปชช. 4 ฉบับ แนะไปเสนอหัวหน้าคสช.
สวนอาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา กองบก.เว็บไซต์ รายงานว่า ตามที่เครือข่ายประชาชน โดยมีนายดิเรก กองเงินเป็นตัวแทนผู้ริเริ่มเสนอร่างกฎหมาย ได้ใช้สิทธิประชาชนตามพรบ ว่าด้วยการเข้าชื่อฯ พ.ศ. 2556 เพื่อยื่นหนังสือขอเสนอร่างพระราชบัญญัติ 4 ฉบับ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติธนาคารที่ดิน พ.ศ… ร่างพระราชบัญญัติสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากรในรูปแบบโฉนดชุมชน พ.ศ… ร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินอัตราก้าวหน้า พ.ศ…. และร่างพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม พ.ศ…. ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2557 และทางสำนักเลขาสภาผู้แทนราษฎร ได้ลงเลขรับ ที่ 1/2557 2/2557 3/2557 4/2557 ลงวันที่ 23 มิถุนายนตามลำดับ ทั้งนี้เครือข่ายฯ มีเป้าประสงค์แน่วแน่ที่ใช้สิทธิในการรณรงค์สาธารณะเพื่อรวบรวมรายชื่อประชาชนอันเป็นกลไกหลักของการมีส่วนร่วมทางการเมืองผ่านการเสนอกฎหมายเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรซึ่งทางรักษาการเลขาธิการ สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้มีหนังสือตอบกลับมายัง นายดิเรก กองเงิน เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ทีผ่านมา โดยมีสาระสำคัญว่า เนื่องจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 สิ้นสุดลงตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 11/2557 จึงทำให้สิทธิในการเข้าชื่อเสนอกฎหมายสิ้นสุดลงไปด้วยนอกจากนั้น ทางรักษาการเลขาธิการ สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรยังได้ชี้แจงต่อว่า ได้มีประกาศคสช.ฉบับที่ 30/2557 ข้อ 2 กำหนดกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติให้การดำเนินการเรื่องใดต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร หรือวุฒิสภา ให้เป็นอำนาจของหัวหน้า คสช. ในการให้ความเห็นชอบแทนรัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร หรือวุฒิสภาหากพิจารณาแล้วก็น่าจะเสนอเรื่องดังกล่าวต่อหัวหน้าคสช. พร้อมทั้งคืนเรื่องการเสนอกฎหมายดังกล่าวทั้ง 4 ฉบับคืนมาให้นายดิเรก เพื่อดำเนินการต่อไปทั้งนี้ กองบก.เว็บไซต์ 4LAWS.INFO และคณะทำงานเสนอร่างกฏหมาย 4 ฉบับ ได้ร่วมหารือแล้ว มีข้อสังเกตด้วยว่า การตอบกลับของรักษาการเลขาธิการสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อาจเข้าข่ายการละเมิดสิทธิในการเข้าชื่อเสนอกฎหมายของประชาชน และอาจเข้าข่ายการการกระทำผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องด้วยอำนาจในการวินิจฉัยตามความดังกล่าวตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อ พ.ศ. 2556 ซึ่งยังบังคับใช้อยู่ในปีจจุบันได้ให้อำนาจแก่ประธานรัฐสภาเป็นผู้วินิจฉัย แต่รักษาการเลขาธิการ สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กลับทำหน้าที่วินิจฉัยเสียเอง ทั้งนี้คณะทำงานรณรงค์กฎหมาย 4 ฉบับได้ยืนยันกับกองบก.เว็บไซต์ฯ ว่า จะยังคงยืนอยู่บนหลักการในการใช้สิทธิของประชาชนในการเข้าชื่อเสนอกฎหมายตามพรบ. ว่าด้วยการเข้าชื่อฯ พ.ศ.2556 ซึ่งยังคงมีผลบังคับใช้ และจะใช้สิทธิประชาชนเท่าที่มีอยู่เพื่อดำเนินการให้ถึงที่สุด ในส่วนของการดำเนินการต่อไปนั้น จะมีการแจ้งให้สาธารณชนรับรู้เพื่อเป็นประโยชน์ในการร่วมกันขับเคลื่อนรณรงค์กฎหมายต่อไป
รักษาการเลขาธิการสภาฯ ระบุ รธน. 50 สิ้นสุดลงตามประกาศ คสช. ทำให้สิทธิในการเข้าชื่อเสนอ กม. สิ้นสุดไป แนะเครือข่าย ปชช. เสนอร่าง กม. 4 ฉบับ ต่อหัวหน้า คสช. ด้าน ปชช.
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
4LAWS.INFO,การเข้าชื่อเสนอกฏหมาย,คสช.,ดิเรก กองเงิน,ร่างพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม พ.ศ….,ร่างพระราชบัญญัติธนาคารที่ดิน พ.ศ…,ร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินอัตราก้าวหน้า พ.ศ…,ร่างพระราชบัญญัติสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากรในรูปแบบโฉนดชุมชน พ.ศ…,ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่,สภาผู้แทนราษฎร
https://prachatai.com/journal/2014/08/54946
ชลประทาน ยันเขื่อนกั้นน้ำเค็มริมแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ได้แตก
วันนี้ (4 ก.ค.62) เวลา 22.30 น. นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทานแจ้งยืนยันเขื่อนกั้นน้ำเค็มริมแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ได้แตกตามการนำเสนอข่าวผ่านสื่อต่าง ขอให้ประชาชนอย่าได้ตระหนก ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่ที่รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนโดยชี้แจงเพิ่มเติมถึงส่วนน้ำที่ทะลักท่วมในภาพ เป็นน้ำทะเลหนุนสูงสุดของวันนี้เมื่อเวลา 20.00 น. ทำให้น้ำทะเลล้นแนวกั้นที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร ซึ่งอยู่ที่หัวงานติดฝั่งทะเล น้ำจึงไหลเข้ามาและท่วมบ้านพัก เจ้าหน้าที่โครงการฯ ราว 50 ครอบครัวล่าสุดขณะนี้น้ำทะเลเริ่มลดระดับลงไปได้ประมาณ 20 ซม. ต้องรออีกราว 1 ชม. เพื่อให้น้ำทะเลลดระดับลงจึงจะสามารถเดินเครื่องสูบน้ำที่สถานีชลหารพิจิตร 1 และ 2 เพื่อสูบน้ำออก ทั้งนี้หากเดินเครื่องสูบน้ำตอนนี้น้ำจะวนกลับมาที่เดิมอธิบดีกรมชลประทานขอยืนยันและขอให้ความมั่นใจ น้ำที่ล้นเข้ามาจะไหลลงสู่คลองระบาย และระดับน้ำในคลองระบายก็ไม่ได้มากยังรับน้ำจำนวนนี้ได้อยู่ส่วนวันพรุ่งนี้เช้า (5 ก.ค.) จะนำเครื่องจักรเข้าซ่อมแซมเสริมแนวคันกั้นน้ำที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเพิ่มเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับน้ำทะเลที่จะหนุนสูงเช่นนี้อีกในวันพรุ่งนี้
อธิบดีกรมชลประทาน ยืนยันเขื่อนกั้นน้ำเค็มริมแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ได้แตก ขอประชาชนอย่าได้ตระหนก ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน
สังคม
สมุทรปราการ,ฝนตก,น้ำท่วม
https://news.thaipbs.or.th/content/281427
คนแน่น หนุ่มวีลแชร์ รอลิฟต์ MRT เตาปูน 3 รอบถึงได้ขึ้น
วานนี้ (9 พ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก ได้เผยแพร่รูปภาพชายนั่งวีลแชร์ต่อท้ายแถวรอขึ้นลิฟต์อยู่ พร้อมข้อความระบุว่าอย่าทำแบบนี้เลยค่ะmrt สถานีเตาปูน มีบันไดเลื่อนทั้งทางขึ้นและลงค่ะมีพนักงานเข้ามาให้ความช่วยเหลือ แต่คุณพี่ท่านนั้นน่าจะปฏิเสธ และไปต่อแถวด้านหลังเอง โดยเลื่อนผ่านแถวยาวๆ ตอนแรกเพื่อไปต่อท้ายล่าสุด เฟซบุ๊ก ได้เผยแพร่วิดีโอชายนั่งวีลแชร์ในภาพที่ต่อท้ายแถวเพื่อรอขึ้นลิฟต์อยู่ โดยนายสว่าง ผู้ใช้วีลแชร์ ระบุว่า วันนั้นหลังออกจากรถไฟฟ้าแล้วจะมาใช้ลิฟต์ก็มีคนรอหน้าลิฟต์จำนวนมาก เมื่อลิฟต์เปิดทุกคนก็วิ่งกรูเข้าไปจนเต็มลิฟต์ โดยตนเองต้องรอลิฟต์ถึง 3 รอบ พร้อมย้ำว่า ลิฟต์ที่สถานีรถไฟฟ้าทุกคนสามารถใช้ได้ แต่ขอให้มีมารยาทสาธารณะบ้าง ไม่ควรยืนกีดขวางทางหน้าลิฟต์ และไม่ควรก้มหน้า สนใจแต่ตัวเอง แต่ขอให้หันมองคนรอบข้างว่ามีใครมีความจำเป็นต้องใช้ก่อนหรือไม่
หลังสื่อสังคมออนไลน์ วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับภาพชายนั่งวีลแชร์ต่อท้ายแถวรอขึ้นลิฟต์อยู่ที่ สถานีรถไฟฟ้า MRT เตาปูน ล่าสุด ชายคนดังกล่าวอัดคลิปเปิดใจรอลิฟต์ถึง 3 รอบ จึงได้ขึ้น ย้ำ ผมใช้ลิฟต์ได้แค่ทางเดียว เพราะนั่งวีลแชร์ หากผมใช้บันไดได้ ผมก็ใช้ไปแล้ว
สังคม
ลิฟต์,MRT เตาปูน,วีลแชร์,คนพิการ,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/279921
หวิดวุ่น 48 สปท. รุมค้านหั่นหลักสูตรพระปกเกล้าฯ-โละงบดูงานต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 3 ก.ค.60 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) เพื่อพิจารณารายงาน การปฏิรูปการปฏิบัติงานในรัฐสภา ของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท.ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ มีสาระสำคัญอาทิ การให้ยกเลิกจัดสรรงบประมาณเดินทางไปดูงานต่างประเทศของ ส.ส.และส.ว.เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการเดินทางไปท่องเที่ยว ไม่ใช่การดูงาน โดยใช้ภาษีประชาชน การกำหนดมาตรฐานจริยธรรมของสมาชิกรัฐสภาให้มีความชัดเจน และมีบทลงโทษรุนแรงมากขึ้นนั้น การเสนอให้ประธาน สภาผู้แทนราษฎรไม่จำเป็นต้องมาจากพรรคการเมืองเสียงข้างมาก การเสนอแก้ไข พ.ร.บ.สถาบันพระปกเกล้า พ.ศ.2541 ให้สถาบันพระปกเกล้าเป็นหน่วยงานทางวิชาการในการช่วยงานรัฐสภาเป็นสำคัญ และให้จัดหลักสูตรทางวิชาการเฉพาะสมาชิกรัฐสภา และตัวแทนพรรคการเมืองเท่านั้น โดยให้ยกเลิกหลักสูตรอื่นๆ ที่สร้างคอนเนกชั่นเชื่อมโยงกับนักการเมือง ผู้มีอำนาจองค์กรอิสระที่สร้างความเหลื่อมล้ำให้ประชาชนที่ต้องวิ่งเต้นใช้เส้นสายเข้าเรียนหลักสูตรต่างๆ ทั้งนี้สมาชิก สปท.บางส่วนอภิปรายท้วงติงการตัดงบประมาณดูงานต่างประเทศโดยเห็นว่า การดูงานต่างประเทศยังมีความจำเป็น ไม่ควรตัดทิ้งทั้งหมด ควรพิจารณาเห็นชอบเป็นกรณีๆ ไป ขณะที่สมาชิก สปท.หลายคนไม่เห็นด้วยให้สถาบันพระปกเกล้ายกเลิกหลักสูตรการส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย,ทั้งนี้ นายกษิต ภิรมย์ รอง ประธาน สปท.ด้านการเมือง ชี้แจงว่า หลักสูตรสถาบันพระปกเกล้าหลายหลักสูตรที่ระบุว่า ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยนั้น แต่การคัดเลือกคนเข้าไปเรียนหลักสูตรต่างๆ ไม่ได้เข้าไปเรียน แต่เป็นนักล่าประกาศนียบัตรไปหาคอนเนกชั่น บางคนเรียนเกือบทุกหลักสูตรเวียนอยู่อย่างนั้นเมื่อไปอบรมไม่เห็นนำใช้ประโยชน์ มาพัฒนาประชาธิปไตยการเมืองไทยจึงเน่าเฟะต้องปฏิรูป อยากให้คนที่มาเรียนนำความรู้มาพัฒนาส่งเสริมงานรัฐสภาไม่ใช่คนเดียวเรียนหลายหลักสูตร,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนลงมติในรายงานฉบับดังกล่าว มีสมาชิก สปท. 48 คน เข้าชื่อท้วงติงขอให้ กมธ.นำรายงานไปปรับปรุงเนื้อหาในส่วนสถาบันพระปกเกล้าให้เป็นไปตามรายงานสถาบันพระปกเกล้าปี 2554 แต่ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธาน กมธ.ยืนกรานไม่ปรับปรุง ทำให้บรรยากาศห้องประชุมตึงเครียด ถึงขั้นมีสมาชิก สปท.เสนอญัตติให้แยกโหวตเรื่องการปฏิรูปสถาบันพระปกเกล้าออกมาต่างหาก จากรายงานฉบับนี้จน น.ส.วลัยรัตน์ ศรีอรุณ รองประธาน สปท. พยายามไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่ายจนได้ข้อยุติในที่สุด ที่ประชุม สปท.เห็นชอบรายงานด้วยคะแนน 88 ต่อ12 งดออกเสียง 48 ส่งเรื่องให้ ครม.รับไปดำเนินการพิจารณาต่อไป
สปท.เห็นชอบรายงานปฏิรูปการปฏิบัติงานรัฐสภา ให้ยกเลิกงบประมาณดูงานต่างประเทศ หวิดวุ่น 48 สปท.เข้าชื่อท้วงติงข้อเสนอปฏิรูปสถาบันพระปกเกล้า ต้านหนักชงหั่นหลักสูตรส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยขลุกขลัก เจอคะแนนงดออกเสียงอื้อ
ข่าว,การเมือง
สปท.,ปฏิรูปงานรัฐสภา,งบดูงานต่างประเทศ,พ.ร.บ.สถาบันพระปกเกล้าฯ,รัฐสภา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/992193
HONDA เปิดตัวซุปเปอร์ไบค์สายโหด NEW CBR 1000RR
บริษัท AP Honda ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ในประเทศไทย เปิดตัวรถรุ่นใหม่ ได้แก่ All New Honda CBR1000RR และ All New Honda CBR1000RR SP เปลี่ยนโฉมใหม่ภายใต้แนวคิด Total Control ขุมพลังของเครื่องยนต์ที่ถ่ายทอดจากสนามแข่ง เทคโนโลยีการขับขี่กับชุดอุปกรณ์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ที่จะช่วยเพิ่มความสนุกเร้าใจในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น และยังเป็นรถที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในรถคลาสเดียวกัน,AP Honda ได้เชิญ นิกกี้ เฮเด้น สุดยอดนักบิดชาวอเมริกันเจ้าของดีกรีแชมป์โลกโมโต จีพี ปี 2006 และสเตฟาน แบรดเดิล แชมป์โลกโมโตทู ปี 2011 สังกัดทีม Red Bull Honda World Superbike มาร่วมเปิดตัวสุดยอดยนตรกรรมสายพันธุ์สปอร์ตให้คนไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และพร้อมให้จับจองเป็นเจ้าของได้ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 นี้,สุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท AP Honda ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ Honda Big Bike ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ความนิยมรถบิ๊กไบค์ในเมืองไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประเภทรถสปอร์ตที่มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับกลุ่มรถประเภทอื่น ซึ่งแน่นอนกลุ่มประเภทรถสปอร์ตของฮอนด้าก็ต้องเป็นรถในตระกูล CBR ที่มีชื่อเสียงในด้านสมรรถนะและการควบคุมรถ ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะ CBR1000RR ที่มีจุดกำเนิดตั้งแต่ปี 1992 และมีแนวคิดการพัฒนาคือ การนำเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูง และการควบคุมการขับขี่ที่ง่าย เข้ามาไว้ด้วยกัน ซึ่งฮอนด้าได้ยึดถือแนวคิดการออกแบบนี้มาจนถึงปัจจุบัน,Honda ได้พัฒนา All New Honda CBR1000RR ขึ้นมาใหม่ ให้เป็นรถซุปเปอร์สปอร์ตที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสนามแข่งสู่การขับขี่ท้องถนนได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง น้ำหนักที่เบาลง และสามารถควบคุมได้ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น ประกอบกับสีสันและดีไซน์ที่ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวสไตล์เรซซิ่งไบค์ และในครั้งนี้เรายังได้นำรุ่น CBR1000RR SP ที่เป็นรุ่นระดับท็อปที่มีเทคโนโลยีระดับรถที่ใช้แข่งขันเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นครั้งแรกอีกด้วย,All New Honda CBR1000RR ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 1000 ซีซี. ถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบา มีอัตราส่วนกำลังอัดที่ 13.0:1 และสามารถทำกำลังสูงสุดได้ 141 กิโลวัตต์ที่ 13,000 รอบต่อนาที เพิ่มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้การขับขี่สนุกมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็น TBW & APS เทคโนโลยีคันเร่งไฟฟ้า (Throttle by Wire) ที่ทำงานประสานกับเซ็นเซอร์ APS ที่ฝังอยู่ใน Handlebar grip เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ตอบสนองกับแรงบิดของผู้ขับขี่ได้อย่างดีที่สุด,Power Selector ,ระบบการตั้งค่าการขับขี่ โดยผู้ขับขี่เลือกตั้งค่ากำลังจากเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับแรงบิดของคันเร่ง,HSTC (Honda Selectable Torque Control), ระบบควบคุมแรงบิดแบบเลือกได้ของฮอนด้า เพื่อตรวจจับความเร็วล้อด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยให้การควบคุมรถได้อย่างราบรื่น,Engine Brake Control ,สามารถปรับเลือกได้ตามโหมดขับขี่ที่ตั้งไว้เป็นค่ามาตรฐานหรือผู้ใช้สามารถตั้งค่าเองได้ตามต้องการ ,ชุดไฟหน้า ไฟท้ายและไฟเลี้ยวแบบ LED และท่อไอเสียดีไซน์ใหม่ที่ทำจากไทเทเนียมทำให้มีน้ำหนักเบาแต่ยังคงความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับของ CBR1000RR,CBR 1000RR มีสองสีให้เลือกด้วยกัน ได้แก่ สีแดง (Victory Red) และ สีดำ (Mat Ballistic Black Metallic),สำหรับรุ่น All New CBR1000RR SP พร้อมกับชุดสีดีไซน์ใหม่แบบ Tri-color (Victory Red) โดยถังน้ำมันได้ถูกทำขึ้นจากวัสดุที่มีน้ำหนักเบาอย่างไทเทเนียม ทำให้รถรุ่นนี้มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นปัจจุบันถึง 17 กิโลกรัม และยังอัดแน่นด้วยสุดยอดเทคโนโลยีจากสนามแข่ง ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Quick shifter ที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องบีบคลัตช์ ระบบโช้ค Ohlins ทั้งหน้า-หลัง ที่สามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้า และระบบเบรกคู่หน้าเป็นคาลิปเปอร์เบรก Monoblock 4 POT จาก Brembo,ทั้งหมดนี้เพื่อช่วยเพิ่มการควบคุมรถสำหรับการขับขี่ในสนามแข่งได้สนุกยิ่งขึ้น , ฮอนด้า บิ๊กไบค์พร้อมวางจำหน่าย All New Honda CBR1000RR และ All New Honda CB1000RR SP ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 ที่จะถึงนี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของรถ All New CBR1000RR ทั้ง 2 รุ่น ได้ที่เว็บไซต์ ,www.hondabigbike.com, และ ,www.facebook.com/hondabigbikeTH,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail  ,[email protected],Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
Honda Bigbike ทำเซอร์ไพรส์เปิดตัว All New CBR1000RR จักรยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ต นำ นิกกี้ เฮเด้น อดีตแชมป์ MOTO GP ร่วมเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่
ข่าว,ยานยนต์
HONDA CBR 1000RR,ฮอนด้า,ฮอนด้า บิ๊กไบค์,รถบิ๊กไบค์
https://www.thairath.co.th/news/auto/news/880687
ไทยพีบีเอส ลงนามร่วมกับจุฬาฯ จัดการแข่งขันแบดมินตัน CU โอเพ่น
น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือ6 ของโลก พร้อมโค้ชคู่ใจ เป้ ภัททพล เงินศรีสุขเดินทางกลับถึงประเทศไทยตั้งแต่เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยน้องเมย์ เปิดเผยว่า รู้ดีใจกับแชมป์ระดับซุปเปอร์ ซีรีส์รายการแรกในชีวิต และยอมรับว่าตื่นเต้นกับการเข้าชิงชนะเลิศจนเกือบพลาดในเกมแรกนอกจากนี้น้องเมย์ กล่าวต่ออีกว่า สิ่งที่ทำให้น้องเมย์ดีใจไม่แพ้การคว้าแชมป์ คือคุณพ่อ วินัสชัย อินทนนท์ จะเลิกสูบบุหรี่ เพราะสัญญากันไว้ว่าหากเมย์คว้าแชมป์ได้ จะเลิกสูบบุหรี่ทันที และบ่ายวันนี้น้องเมย์จะเดินทางไปจังหวัดตรัง กับทีมแบดมินตันบ้านทองหยอดเพื่อฝึกซ้อมไปจนถึงวันที่ 5 พ.ค.2556 รวมทั้งถือเป็นการพักผ่อนไปในตัวการคว้าแชมป์ซุปเปอร์ซีรีส์ อินเดีย โอเพ่น 2013 หลังชนะคู่ปรับเก่าอย่างจูเลี่ยน เชงค์ จากเยอรมนี 2-0 เกม 22-20 และ 21-14 ทำให้น้องเมย์คว้าเงินรางวัลไปเกือบ 450000 บาท มีคะแนนเพิ่มเป็น 70044 คะแนน ขยับไปอยู่อันดับ5 ของโลกอย่างไม่เป็นทางการ โดยต้องรอการประกาศของสหพันธ์แบดมินตันโลกอีกครั้งในวันพฤหัสบดีนี้ (2 พ.ค.2556) ส่วน รายการต่อไปน้องเมย์จะมีคิวไปแข่งขันรายการสุธีร์มานคัพ ที่ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 19-26 พ.ค. 2556 ไทยแลนด์ โอเพ่น ที่ กรุงเทพมหานคร วันที่ 4-9 มิถุนายน 2556 อินโดนีเซีย โอเพ่น 10-16 มิถุนายน 2556 และสิงคโปร์ โอเพ่น วันที่ 18-23 มิถุนายน 2556ขณะที่นายสมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. และ รองศาสตราจารย์ ธนิต ธงทอง รองอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกันลงนาม MOU การจัดการแข่งขันแบดมินตัน CU โอเพ่น ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 10-16 มิ.ย. 2556 ซึ่งไทยพีบีเอสจะถ่ายทอดสดรอบชิงชนะเลิศ ในอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย. 2556แบดมินตันCU โอเพ่น จะมีนักแบดมินตันดาวรุ่งของเมืองไทยลงแข่งขันมากมาย เช่น พิสิฐ พูดฉลาด พรทิพย์ บูรณประเสริฐสุขอรเณศ ดีคาบาเลส หรือริชชี่ นางเอกภาพยนตร์เรื่องคู่กรรม ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย และ สาวิตรี อมิตรพ่าย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ เดินทางกลับถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังคว้าแชมป์อินเดีย โอเพ่น ซุปเปอร์ ซีรีส์ มาครองได้สำเร็จ และเผยว่ารายการนี้ช่วยฝึกสมาธิได้ ขณะที่คุณพ่อของน้องเมย์ประกาศเลิกบุหรี่เพื่อลูกสาว
กีฬา
จุฬาฯ,รัชนก,สมชัย,อินเดีย โอเพ่น ซุปเปอร์ ซีรีส์,เมย์,แบดมินตัน,ไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/165820
วัดกันที่ตัวเลขจริง
ตามแอ็กชันที่ค่ายการเมืองฝั่งทีมดูไบ และ นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตแกนนำ นปช. ยกพลบุก กกต.จี้ให้เร่งเปิดเผยผลคะแนนเลือกตั้งที่นับเสร็จสิ้นแล้วโดยเร็ว พร้อมให้เร่งตรวจสอบการรายงานคะแนนจากทุกหน่วยเลือกตั้ง,เรื่องของเรื่องเกี่ยวโยงมาจากประเด็นการประกาศลงนามสัตยาบันฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลล่วงหน้าของ 6 พรรคการเมือง ประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย อนาคตใหม่ เสรีรวมไทย ประชาชาติ เพื่อชาติ และพลังปวงชนไทย,พ่วงด้วยพรรคเศรษฐกิจใหม่ของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่แม้ไม่ได้มาออกหน้าในวงแถลงข่าว แต่ประกาศตัวผ่านสื่อ ยืนยันพร้อมร่วมลงเรือลำเดียวกัน,โชว์ตัวเลขว่าที่ ส.ส.ขั้นต่ำ 255 เสียงอยู่ในมือ ข่มขวัญฟากพรรคพลังประชารัฐที่ยังฟอร์มทัพไม่ลงตัว,แต่ก็ยังเป็นตัวเลขที่แกว่งขึ้นๆลงๆได้ตลอด เพราะยังมีตัวแปรเรื่องการแจกใบเหลือง ใบแดงหลังการเลือกตั้งให้ระทึกไปจนถึงวันที่ 9 พ.ค.นี้ ทำให้จำนวนที่นั่ง ส.ส.พลิกผันได้อีก,แม้กระทั่งตัวนายมิ่งขวัญเองที่ได้มา 6 ที่นั่ง จะประกาศร่วมหัวจมท้ายกับฝั่งเพื่อไทย แต่ก็ใช่ว่าลูกทีมที่เหลือในสังกัดพรรคเศรษฐกิจใหม่อีก 5 คน จะเห็นไปในทิศทางเดียวกับ ลุงมิ่ง,ยังไม่รวมถึงพรรคขนาดเล็กอีกประมาณ 10 กว่าพรรค ที่อาจโผล่มาแชร์เก้าอี้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ,โดยล่าสุด กกต.ประกาศคะแนนอย่างเป็นทางการ 100% ปรากฏทุกพรรคมีคะแนนเพิ่มขึ้น,พวกไม้ประดับยังมีโอกาสแย่งที่นั่งมาได้พรรคละ 1-2 เก้าอี้,เป็นตัวเลขที่ฝั่งเพื่อไทยลืมนำมาคำนวณในสูตรจัดตั้งรัฐบาล ตัวเลข ส.ส.อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง,นั่นเท่ากับตัวเลขว่าที่ ส.ส.ขั้นต่ำ 255 เสียง ที่ฝ่ายโหนประชาธิปไตยนำมาอวดอ้าง ยังไม่ชัวร์จะเป็นของจริงหรือไม่ มีโอกาสพลิกผันแต้มหายได้ตลอด,การไปรุกไล่ กกต.ให้คอนเฟิร์มตัวเลขสุดท้ายออกมาโดยเร็ว จึงเป็นแค่การสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายตัวเอง หากคะแนนลดลงจากต้นทุนเดิมที่โฆษณาไว้ ก็ง่ายต่อการปลุกกระแสเร้าอารมณ์ร่วมกองเชียร์มาเป็นพวก,อีกทางเป็นเกมจิตวิทยา ปั้นตัวเลขลมชิงจับขั้วรัฐบาล อย่างที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มองทะลุอ่านเกมขาด,บีบให้พรรคที่ยังไม่ได้ตัดสิน รีบหันมาร่วมหัวจมท้ายไปกับฝ่ายพรรคเพื่อไทย,แต่ในมุมของพวกมืออาชีพ เขี้ยวลากดินด้วยกัน ย่อมอ่านทางกันออก โดยเฉพาะพวกพรรคขนาดกลางที่เทเสียงไปฝั่งใดจะสร้างความได้เปรียบให้ฝ่ายนั้น ต่างเก็บตัวเงียบ,ยิ่งในสถานการณ์ที่คู่แข่ง 2 พรรคใหญ่ พลังประชารัฐ-เพื่อไทย ต่างได้เสียงปริ่มน้ำ ไม่มีฝ่ายใดได้เสียงข้างมากเด็ดขาด พวกตัวแปรสำคัญอย่างพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ยิ่งต้องเก็บอาการ,อุบไต๋คำตอบจะเลือกข้างใดเพราะมีทางเลือกให้ไปได้ทั้งสองฝั่ง,ผิดกับฝ่ายเพื่อไทยที่มีทางเลือกน้อย รีบหงายหน้าไพ่ให้คู่ต่อสู้เห็นแต่ต้นเกม ชิงตั้งรัฐบาลทันที เพราะไม่แน่ใจว่า หลังจากนี้ตัวเลขที่อุปโลกน์ขึ้นมาจะสวิงไปมากกว่านี้หรือไม่,ตามอาการที่ค่ายนายใหญ่ก็รู้คำตอบอยู่ลึกๆในใจ ตัวแปรอย่างพรรคภูมิใจไทยหอบกระเป๋า เลือกข้างไปอยู่ฝ่ายพรรคพลังประชารัฐ,มารวมกับพรรคอื่นๆที่เหลืออย่างพรรคชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนา รวมพลังประชาชาติไทย พลังท้องถิ่นไท รักษ์ผืนป่าประเทศไทย และพรรคเล็กพรรคน้อยที่ได้รับอานิสงส์ปัดเศษคะแนนเลือกตั้งจนได้ที่นั่ง,เก็บเล็กผสมน้อย ผนึกรวมพลังกันแล้วก็มีจำนวนไล่เลี่ย ไม่แพ้ฝั่งนายใหญ่,เหลือแค่พรรคประชาธิปัตย์ที่ยังแตกเป็น 2 ขั้ว มีทั้งฝ่ายที่จะไปเข้าร่วมและไม่เข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ,แนวโน้มไม่แคล้วมีงูเห่าประชาธิปัตย์ แหกมติพรรคออกมาเพ่นพ่านแน่,แต่นั่นยังไม่น่าห่วงเท่ากับงูเห่าในฝั่ง เพื่อไทย-อนาคตใหม่ ที่มีโอกาสแปรพักตร์มาช่วยต่อวีซ่า ลุงตู่,ตามอารมณ์ที่เห็นผู้บริหารพรรคนายใหญ่ให้ว่าที่ ส.ส.พรรคมาเซ็นชื่อใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไว้ล่วงหน้า ป้องกันพวกงูเห่าหันไปสนับสนุนนายกฯจากพรรคอื่น,ออกอาการระแวงให้เห็น อาจมีลูกพรรคแหกโผไม่ยกมือให้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ,รูปการณ์ทำท่าพลิกผันมาเข้าทางพรรคพลังประชารัฐให้มีความ,ชอบธรรมจัดตั้งรัฐบาลแทน แม้เสียง ส.ส.จะยังก้ำกึ่ง ต้องออกแรงเหนื่อยในการรวบรวมเสียงให้รัฐบาลมีเสถียรภาพเข้มแข็ง,ปัจจัยหลายอย่างยังเกื้อหนุนให้ ลุงตู่ ได้ต่อวีซ่าทำงาน มี 250 ส.ว.เป็นต้นทุนในกระเป๋า หากยังไม่พอก็มีแผนสำรองดึง งูเห่า มาช่วยเสริม,ถึงที่สุดหากเข้าตาจนจริงๆเสียงจัดตั้งไม่พอ ยังไงก็ต้องเข็นสูตรตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ไปตายเอาดาบหน้า,ทีมข่าวการเมือง
แห่ตีปี๊บยื่นกดดัน กกต.กันยกใหญ่ ตามแอ็กชันที่ค่ายการเมืองฝั่งทีมดูไบ และ นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตแกนนำ นปช. ยกพลบุก กกต.จี้ให้เร่งเปิดเผยผลคะแนนเลือกตั้งที่นับเสร็จสิ้นแล้วโดยเร็ว
เลือกตั้ง
เลือกตั้ง62,วิเคราะห์เลือกตั้ง,จัดตั้งรัฐบาล,กกต.,วิเคราะห์การเมือง,ทีมข่าวการเมือง,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1532148
10 ปีไม่เคยชนะ ลักษณ์ มั่นใจ แอน
หลายๆ เวทีระดับโลก มายาวนานหลายสิบปี ต้องยกให้เลย ลักษณ์ ภูมิรัตน์ เลิศวิศิษฎ์ชัย เจ้าของลิขสิทธิ์ที่ไทย มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ Miss International Thailand,ประสบความสำเร็จไปแล้ว อย่างอลังการสวยงามยิ่งใหญ่ กับการเป็นอีกคนสำคัญมากที่ดันๆ ให้ บิ๊นท์ สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ ฟาดที่ 1 ในรอบ 59 ปี ได้เป็นมิสอินเตอร์เนชั่นแนล บิวตี้พาเจนท์ Miss International Beauty Pageant 2019 ที่โตเกียว ญี่ปุ่น,ล่าสุด ลักษณ์ ภูมิรัตน์ ก็พร้อมมากมารับหน้าที่ใหญ่อีกครั้ง ไปเป็นประธานที่ปรึกษา เวทีนางงามระดับโลก มิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ Miss Supranational Thailand 2019 โดยทำงานร่วมกันกับสาวสตรอง เนย ณหทัย เล็กบำรุง เจ้าของลิขสิทธิ์ มิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ Miss Supranational Thailand 2019, , ,เจ้าแม่นางงาม ลักษณ์ ภูมิรัตน์ เปิดใจเคลียร์ๆ กับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ,ก็มั่นว่าตัวแทนนางงามไทย แอน แอนโทเนีย มิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ Miss Supranational Thailand 2019 จะทำได้ดีอยู่แล้ว และทำได้เต็มที่, เพราะทางทีมเรา ก็เทรนก็ฝึกๆ ให้ในทุกๆ ด้านให้พร้อมที่สุด มิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ Miss Supranational ก้าวขึ้นปีที่ 11 มีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้าน เพื่อทำให้เวที ได้มีโอกาสร่วมทำสิ่งดีๆ ร่วมกับผู้ชนะ ,1. แนวทางการเลือกควีนผู้ชนะ คือต้องมีความสง่างาม แต่ต้องเข้าถึงได้และมีความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นธรรมชาติไม่เฟค,2. แนวทางการทำกิจกรรมการกุศล จะเปิดโอกาสให้ควีนผู้ชนะหรือ มิสซูปร้าเนชั่นแนล Miss Supranational คนใหม่ เป็นผู้เสนอกิจกรรม หรือองค์กรการกุศลที่สนใจ และกองประกวดจะเป็นผู้สนับสนุนทำให้เกิดขึ้นได้จริง ,3. รูปแบบโชว์จะมีความสนุกสนานทั้งเต้นและเดิน เพื่อให้ผู้เข้าประกวดได้แสดงออกถึงบุคลิกและความมั่นใจ,4. กิจกรรม ซูปร้าแชต Supra Chat ที่เปิดโอกาสให้สาวงามทุกคน ได้นำเสนอมุมมองของตัวเองผ่านกิจกรรม ทอล์กโชว์ Talk Show ซึ่งโฮสต์ Host โดยมิสซูปร้าเนชั่นแนล Miss Supranational คนปัจจุบัน ที่จะเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ทั้งเฟซบุ๊ก Facebook และ ยูทูบ Youtube ,5. สนับสนุนความสวยงามจากข้างใน และไม่ตัดสินที่รูปร่างของนางงาม ยกเลิกรางวัล เบสต์บอดี้ Best Body ,6. รณรงค์ให้แต่ละประเทศ ใช้ชุดประจำชาติที่สวมใส่ได้จริง และไม่ต้องใหญ่โตจนเกินไป เพราะไม่ต้องการให้ชุด กลายเป็นวัสดุเหลือใช้หรือขยะ หลังจบการประกวด ,ปีนี้นางงามจากไทย ที่ไปร่วมชิงมงด้วยคือ แอน แอนโทเนีย โพซิ้ว สาวสวยมีสไตล์เก๋ไก๋ วัย 22 ปี ลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก ชนะจากเวทีมิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ Miss Supranational Thailand 2019 ปัจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ดหลักสูตรนานาชาติ สาขาวิชาการตลาดและประชาสัมพันธ์,ก่อนที่จะมาชนะบนเวที มิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ Miss Supranational Thailand 2019 แอน แอนโทเนีย เคยเข้าแข่งขันในรายการประกวดนางแบบชื่อดัง เดอะเฟซไทยแลนด์ The Face Thailand ซีซั่น 1 เมื่อ 5 ปีที่แล้ว และติด 1 ใน 10 คนสุดท้ายของรายการขณะนี้,แอน แอนโทเนีย กำลังทำหน้าที่ตัวแทนสาวไทย เข้าร่วมประกวด มิสซูปร้าเนชั่นแนล 2019 Miss Supranational 2019 ที่โปแลนด์ ร่วมกับตัวแทนสาวงามจากทั่วโลกกว่า 77 ประเทศ ปีนี้การประกวดรอบตัดสิน จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม ตรงกับเวลาตี 2 โดยประมาณ ตามเวลาในประเทศไทย,จะมีการถ่ายทอดออกอากาศ ทางสถานีโทรทัศน์ไปเกือบทั่วโลก หรือแฟนนางงามในประเทศไทย ติดตามชมการประกวดรอบตัดสินได้ทาง Facebook Live หรือ YouTube Live การประกวด มิสซูปร้าเนชั่นแนล Miss Supranational ครั้งแรกในปี 2009 และจัดงานต่อเนื่องทุกปีจนเข้าสู่ปีที่ 11 ในปีนี้,1 ทศวรรษตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ตัวแทนสาวไทยยังไม่เคยได้ครอบครองมงกุฎ มิสซูปร้าเนชั่นแนล Miss Supranational ได้มาเลย ถ้าปีนี้ แอน แอนโทเนีย ทำได้สำเร็จ ก็จะเป็นตัวแทนสาวไทยคนแรก ที่ได้ครอบครองมงกุฎราชินีความงาม ในประวัติศาสตร์การประกวด มิสซูปร้าเนชั่นแนล Miss Supranational,การประกวด มิสซูปร้าเนชั่นแนล Miss Supranational ถือได้ว่าเป็น 1 ในกลุ่มเวทีการประกวดสาวงามระดับแกรนด์สแลม Grand Slam ที่ได้รับความนิยมเป็นลำดับต้นๆ จากแฟนนางงามจากทั่วโลก โดยจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับการประกวด มิสเวิลด์ Miss World, มิสยูนิเวิร์ส Miss Universe และ มิสอินเตอร์เนชั่นแนล Miss International ซึ่งเจ้าของลิขสิทธิ์การประกวด มิสซูปร้าเนชั่นแนล Miss Supranational คือบริษัท Nowa Scena จำกัด ในประเทศโปแลนด์., , , ,
อีกหนึ่งเจ้าแม่นางงามของไทยเรา จัดจ้านเจนจัดจริงเรื่องนางงาม ส่งออกไปประกวดต่อต่างประเทศใน
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
แอน แอนโทเนีย โพซิ้ว มิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ Miss Supranational Thailand2019,ลักษณ์ ภูมิรัตน์ เลิศวิศิษฎ์ชัย,เนย ณหทัย เล็กบำรุง,มิสซูปร้าเนชั่นแนล Miss Supranational2019โปแลนด์,กอสซิป
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1714685
10 ผู้บริหารหมูป่า เข้าขอขมาเจ้าแม่นางนอน จัดเต็มเครื่องเซ่นไหว้
เพื่อความสบายใจ ผู้บริหารทีมหมูป่าฯ เข้าทำพิธีบวงสรวงขอขมาเจ้าแม่นางนอน ณ ปากทางเข้าถ้ำหลวง มีการนำเครื่องเซ่นไหว้ทั้ง หัวหมู เนื้อวัวสด ถุงเลือด ผลไม้ และนำนางรำ รำถวายแก้บน โดยห้าม 12 นักเตะหมูป่าเข้าร่วมพิธี
,เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 ก.ค.61 ที่บริเวณใกล้ศาลเจ้าแม่นางนอน ปากทางเข้าถ้ำหลวง ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย คณะผู้บริหารทีมหมูป่าทีนทอล์คอะคาเดมี อ.แม่สาย จ.เชียงราย จำนวนกว่า 10 คน นำโดย พ.ต.อ.ภพ มัลเชษฐ์ ผกก.สภ.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่ปรึกษาสโมสร นายกมล จันทาพูน ประธานสโมสร นายกิตติพงษ์ อินต๊ะใจ รองประธานฝ่ายบริหาร และเป็นเจ้าของโรงเตี๊ยม 168 ผู้สนับสนุนทีมหมูป่าทุกรุ่น นายจันทร์ ทาตุการ รองประธานฝ่ายกิจกรรม โค้ชนพ หรือนายนพรัตน์ กันทะวงศ์ เลขาฯ และโค้ชฝึกสอนทีม โค้ชเอก หรือ นายเอกพล จันทะวงษ์ ผู้ช่วยโค้ชฝึกสอนทีม และคณะกรรมการ ได้มาทำพิธีบวงสรวงขอขมา และแก้บนเจ้าแม่นางนอน  ภายหลังจากทีมหมูป่าออกจากถ้ำ โดยการตั้งเครื่องเซ่นไหว้ด้วยหัวหมู 13 หัว เนื้อวัวสดพร้อมเครื่องในและถุงใส่เลือด 13 จาน ผลไม้ 9 อย่าง มีปูจ๋าน ผู้นำทำพิธีทางภาคเหนือ ทำการบวงสรวงเซ่นไหว้ ขอขมาและแก้บนเจ้าแม่นางนอน ภายหลังจากทีมหมูป่าออกจากถ้ำได้โดยสวัสดิภาพ โดยมีนางรำจากโรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์วิทยา 10 คน มารำถวายแก้บน 1 ชุด จากนั้นได้มีการปล่อยวัว 1 ตัว ให้อยู่อย่างอิสระในพื้นที่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตามที่คณะทีมผู้บริหารได้มาบนไว้
,พ.ต.อ.ภพ กล่าวว่า เมื่อช่วงทีมหมูป่าออกจากถ้ำได้หมด ผู้บริหารทีมหมูป่าถูกกันไม่ให้เข้าใกล้ถ้ำ และเข้าพบ 13 หมูป่า แม้วันทำพิธีขอขมาครั้งใหญ่ก็ถูกห้ามเข้า วันนี้ทุกอย่างลงตัว คณะกรรมการจึงมีมติต้องมาทำพิธีบวงสรวง เซ่นไหว้ แก้บนให้เสร็จสิ้น เพื่อความสบายใจและพร้อมจะเดินหน้าพัฒนาทีมหมูป่าให้ก้าวหน้า เพื่อส่งเสริมเยาวชนให้มีสุขภาพแข็งแรง หลีกเลี่ยงสิ่งมอมเมา ให้มีอนาคตที่ดี เป็นพลเมืองมีคุณภาพของประเทศชาติ,
,ในขณะเดียวกันที่บริเวณวัดพระธาตุดอยเวา สถานที่ปลงผมทีมหมูป่า และวัดพระธาตุดอยตุง สถานที่จะบรรพชา ได้มีกลุ่มจิตอาสามาร่วมประชุมเตรียมจัดงาน และทำความสะอาดพื้นที่อย่างคึกคัก.
เพื่อความสบายใจ!! ผู้บริหารทีมหมูป่าฯ เข้าทำพิธีบวงสรวงขอขมาเจ้าแม่นางนอน ณ ปากทางเข้าถ้ำหลวง มีการนำเครื่องเซ่นไหว้ทั้ง หัวหมู เนื้อวัวสด ถุงเลือด ผลไม้ และนำนางรำ รำถวายแก้บน โดยห้าม 12
ข่าว,ทั่วไทย
13หมูป่า,หมูป่าอะคาเดมี,ผู้บริหารทีมหมูป่า,ขอขมา,เจ้าแม่นางนอน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1340198
รัชนก เข้ารอบ 2 แบดมินตันสวิส โอเพ่น
หลังจากคว้ารองแชมป์แบดมินตันออล อิงแลนด์ ที่ประเทศอังกฤษเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด เมื่อวานนี้น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันดาวรุ่งไทย เดินทางไปแข่งขันรายการสวิส โอเพ่น ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งปรากฏว่า แม้น้องแมย์จะเล่นได้ไม่ค่อยดีนัก แต่สามารถเอาชนะคานะ อิโตะ นักแบดมินตันมืออันดับ 65 ของโลกจากญี่ปุ่น 2-1 เกม 21-1010-21 21-9 บุศนันท์ อึ้งบำรุงพันธ์ เอาชนะ คาริน ชนาสเซ 2-1 เกม 21-10 18-21 และ 21-19ส่วนชายเดี่ยว รอบ 2 บุญศักดิ์ พลสนะ มืออันดับ 11 ของโลก พลาดท่าแพ้ให้กับ พรานนอย ฮาซีนา ซูนิล คูมาร์ นักแบดมินตันอินเดีย 21-1813-2112-21 ทำให้บุญศักดิ์ตกรอบ 2 ไปอย่างน่าเสียดาบ ด้านทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข ที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศออล อิงแลนด์ ต้านทานความแข็งแกร่งของ ดู เป็ง หยู มือวางอันดับ 1 จากจีนจีนไม่ไหว แพ้ไป 1-2 เซต 21-17 26-28 และ 14-21ขณะที่ในประเภทคู่ผสม สุดเขต ประภากมล ซึ่งสลับคู่มาเล่นร่วมกับกุลชลา วรวิจิตรชัยกุล เอาชนะอัลวิน จันทรา กับ ริสซี่ อมิเลีย คู่จากอินโดนีเซีย 2-1 เกม 21-17 20-22 21-17 ประเภทหญิงคู่ ดวงอนงค์ อรุณเกษร-กุลชลา วรวิจตรชัยกุล เอาชนะ อราตามะ มิซาโตะ-เมกุมิ ทารุโนะ คู่จากญี่ปุ่น 2-0 เกม 21-15 21-14ส่วนอาทิมา เสรีธรรมรักษ์-พีรยา มั่นกิจอมร ชนะ ลอเรน สมิธ-กาบริเอลเล ไวท์ คู่จากอังกฤษ 2-0 เกม 21-7 21-6 ประเภทชายคู่ บดินทร์ อิสสระ-สุดเขตต์ ประภากมล แพ้ พรานาฟ เจอร์รี โชปรา-อัคเชย์ เดวัลคาร์ คู่จากอินเดีย 1-2 เกม 21-12 17-21 และ 15-21
น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันดาวรุ่งของไทยประเดิมเอาชนะนักแบดมินตันญี่ปุ่น ในการแข่งขันรอบแรก แบดมินตันสวิส โอเพ่น ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
กีฬา
รัชนก,สวิส โอเพ่น,แบดมินตัน
https://news.thaipbs.or.th/content/154136
โกงเงินคนจนฉาวไม่หยุด คนรวย ส่งลูกเรียนเมืองนอก สวมสิทธิ์
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 16 มี.ค.61 ที่ศูนย์คุ้มครองฯ จ.ขอนแก่น พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. เดินทางมาตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของคณะทำงาน ป.ป.ท. ที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริงการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนสงเคราะห์ประเภทเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งฯ ของนิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น,พ.ท.กรทิพย์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เพื่อสุ่มสอบถ้อยคำชาวบ้านและสอบถ้อยคำประชาชนผู้มีรายชื่อเบิกเงินในพื้นที่ 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ที่ 1 หมู่ 2 และหมู่ 3 ตำบลบ้านดง และหมู่ที่ 10 และ 13 ตำบลนาคำอำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น พบพฤติการณ์ผิดปกติ ดังนี้,1.ในปี พ.ศ. 2559 ถึง 2560 ผู้นำชุมชนและประธานกลุ่มชาวบ้านแจ้งแก่ประชาชนในหมู่บ้านหรือสมาชิกกลุ่มว่า หากต้องการเงินสงเคราะห์ของนิคมฯ ให้ลงลายมือชื่อในแบบสำรวจ ผู้ประสบปัญหาทางสังคม ใบสำคัญรับเงิน (แบบที่ 5) ที่ไม่กรอกข้อความและจำนวนเงิน รวมทั้งนำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมลงลายมือชื่อมอบให้แก่ผู้นำหมู่บ้าน หรือประธานกลุ่มอาชีพเพื่อนำไปมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ของนิคมฯ เพื่อเบิกจ่ายเงินโดยชาวบ้านกรอกและมอบเอกสารให้ จำนวน 1-4 ชุด,2. พบผู้มีรายชื่อเบิกจ่ายเงินไม่ได้รับเงินจากนิคมฯ แต่บางรายพบว่า ถูกนำรายชื่อไปทำการเบิกจ่ายเงิน 4 ครั้งในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 บางส่วนได้รับเพียงบางส่วนเท่านั้น เช่น มีการนำรายชื่อไปทำเอกสารเบิกจ่าย 2-4 ครั้ง แต่ได้รับเงินจริงเพียง 1 ครั้ง เช่น มีรายชื่อเบิกเงินจำนวน 4 ครั้งครั้งละ 3,000 บาท ได้รับจริงเพียง 1 ครั้ง และมีบางส่วนไม่เคยได้รับเลยทั้ง 4 ครั้ง (ระเบียบกรมพัฒนาฯกำหนดให้การสงเคราะห์ได้ไม่เกิน 3 ครั้งในหนึ่งปีงบประมาณ),3. พบกลุ่มอาชีพทอเสื่อกก หมู่ที่ 13 ตำบลนาคำ เจ้าหน้าที่นิคมฯ มิได้นำเงินสดมามอบให้ด้วยตนเอง แต่โอนเงินเข้าบัญชีกลุ่มทอเสื่อกก,4. พบรายชื่อบุคคลรายเดียวกันมาทำเรื่องเบิกจ่ายเงินเดือนเดียวกันมากกว่า 1 ครั้ง,5. พบมีการปลอมลายมือชื่อในเอกสารประกอบการเบิกจ่ายใบสำคัญรับเงิน,6. ผู้ได้รับการสงเคราะห์บางรายมีฐานะร่ำรวย ไม่ได้เป็นผู้ยากไร้ มีความสามารถส่งบุตรไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศได้ บางส่วนเป็นผู้ใหญ่บ้านอาสาสมัคร สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล,7. ก่อนเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ลงพื้นที่เจ้าหน้าที่นิคมฯ โทรมาซักซ้อมชาวบ้านให้พูดตรงกันว่าได้รับเงินครบถ้วนทุกราย,8. เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559 มีการเบิกจ่ายเงินเป็น จำนวนกว่า 3,000,000 บาท แต่ในเดือนกรกฎาคม 2560 มีการเบิกจ่ายเงินเพียง 6,000 บาท,สำหรับนิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ มีพื้นที่นิคมใน 3 อำเภอของจังหวัดขอนแก่น คืออำเภออุบลรัตน์ อำเภอน้ำพอง อำเภอเขาสวนกวาง มีประชากรทั้งสิ้น 104,831 คน 28,962 ครัวเรือนปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 นิคมฯ ได้รับจัดสรรเงินอุดหนุนสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง เป็นเงิน 11,700,000 บาท เบิกจ่ายครบจำนวนทั้งสิ้น 65 ฎีกา โดยนิคมฯ ได้รับเงินอุดหนุนสงเคราะห์จากกรมพัฒนาสังคมฯ ประเภทเดียว คือ เงินอุดหนุนสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งการเบิกจ่ายต้องปฏิบัติตามระเบียบกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ว่าด้วยการสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2552 โครงสร้างของนิคมฯ แบ่งเป็น 2 ฝ่ายคือ ฝ่ายพัฒนาอาชีพและสังคมและฝ่ายบริหารงานทั่วไป พ.ท.กรทิพย์ กล่าว
ป.ป.ท. สุ่มตรวจสอบเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ฯ นิคมเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ส่อโกง 8 ประเด็น คนรวยส่งลูกเรียนนอก โผล่มีชื่อรับเงินคนจน แถมจนท.ยกหูซักซ้อมชาวบ้านอ้ารับเงิน
ข่าว,อาชญากรรม
โกงเงินคนจน,เงินคนจน,คนรวย,ทุจริต,ป.ป.ท.,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1230214
วัฒนา เมืองสุข: เด็กน้อยชื่อ สฤษดิ์
จึงไม่ควรถูกยกเป็นแบบอย่างของเผด็จการ กล่าวคือจอมพลสฤษดิ์ถึงแม้จะทำเลวทรามกับบ้านเมืองไว้มาก แต่การกล้ารับผิดชอบดังวลีที่พูดจนติดปากว่าจึงยังเป็นเผด็จการกระจอก เพราะการจะเป็นจอมเผด็จการที่เลวสมบูรณ์แบบต้องหน้าไหว้หลังหลอก ขี้ขลาดไม่กล้ารับผิดชอบพร้อมที่จะโยนความผิดหรือโทษคนอื่นทุกเรื่อง ถ้าจะให้ดีต้องกล้านิรโทษกรรมตัวเองหนีความรับผิดชอบทั้งที่ทำมาแล้วและในอนาคตจอมพลสฤษดิ์ยังมีจุดอ่อนคือไม่กล้าประดิษฐ์วาทกรรมทำหล่อ เช่น ไม่กล้าโกหกประชาชนว่าตัวเองมีธรรมาภิบาลเพราะเป็นเผด็จการที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนแทบทุกข้อ ไม่สร้างภาพบอกผู้คนให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่ร่างเองฉีกเองตามใจชอบ แถมยังไม่มีปัญญาหาผู้คนแวดล้อมที่มีประวัติฉาวโฉ่หน้าหนา เช่น มีทรัพย์สินที่ชี้แจงไม่ได้แต่ก็ยังอยู่กันได้แบบหนาๆ จนคนถามต้องอายไปเอง จอมพลสฤษดิ์ยังไม่กล้าโกหกซ้ำซาก ไม่กล้าหลอกประชาชนเรื่องเลือกตั้ง ไม่เคยคิดอยากไปจับมือกับฝรั่งจึงไม่เคยไปแสดงกิริยาวาจาแบบคนไร้การอบรมที่ต่างประเทศให้คนไทยต้องอับอาย แถมยังไม่มีสันดานขี้คด ไม่ตั้งพรรคการเมืองหวังสืบทอดอำนาจด้วยวิธีสกปรกและเอาเปรียบพรรคอื่น
การที่นิตยสาร Times เรียกผู้นำเผด็จการของไทยว่า สฤษดิ์น้อย ผมเห็นว่าเป็นความตื้นเขินขาดองค์ความรู้ ความจริงแล้วจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยังไม่อาจถือเป็นเผด็จการที่เลวจนสมบูรณ์แบบ
การเมือง
ประยุทธ์ จันทร์โอชา,วัฒนา เมืองสุข,สฤษดิ์ ธนะรัชต์,สฤษดิ์น้อย,เผด็จการ
https://prachatai.com/journal/2018/06/77547
กระแสชาวเน็ตแรง โอบามาร่วมส่งกำลังใจด.ช.อาห์เหม็ด โดนตร.จับคิดว่าทำระเบิด
ชาวอเมริกันและชาวโลกแห่เป็นกำลังใจเคียงข้างเด็กชายอาห์เหม็ด หลังโดนตร.จับใส่กุญแจมือ เอานาฬิกาดิจิตอลประดิษฐ์มาโรงเรียน แต่ครูเข้าใจผิด แจ้งตร.คิดว่าเป็นระเบิด แม้แต่ประธานาธิบดีโอบามายังร่วมโพสต์ข้อความส่งกำลังใจ อยากเอานาฬิกามาอวดที่ทำเนียบขาวมั้ย?,เมื่อวันที่ 17 ก.ย.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเกิดประเด็นที่กำลังเป็นเรื่องฮือฮาครึกโครมในสหรัฐฯ และทั่วโลก โดยเฉพาะในโลกออนไลน์อย่างมาก แม้เหตุการณ์จะจบลงแล้ว แต่ผู้คนไม่ยอมจบ กรณีตำรวจเมืองเออร์วิง รัฐเทกซัส ได้จับกุม ด.ช. อาห์เหม็ด โมฮาเหม็ด เด็กชายชาวมุสลิมวัย 14 ปี เรียนอยู่ระดับเกรด 9 ที่โรงเรียน แมคอาร์เธอร์ ไฮสกูล ที่เมืองเออร์วิง ในข้อหานำนาฬิกาดิจิตอลที่เขาประดิษฐ์ขึ้นเองมาโรงเรียน แต่ครูกลับคิดว่าเป็นระเบิดไปเสียได้ จนทำให้เด็กชายงุนงงสงสัยมากว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองที่ต้องมาถูกตำรวจจับและถึงขนาดโดนใส่กุญแจมือเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา,ข่าวแจ้งว่า ชาวเน็ตมากมายได้มีการรณรงค์ผู้คนในโลกออนไลน์ ตั้งแต่นักวิทยาศาสตร์ที่องค์การนาซา ไปจนถึงศาตราจารย์ที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเสตต์ หรือ MIT ได้ประกาศขอร่วมยืนอยู่เคียงข้าง อาห์เหม็ด เด็กชายนักประดิษฐ์อย่างเต็มที่ โดยติดแฮชแท็กคำว่า #IstandWithAhmed โดยมีคนรีทวีตแฮชแท็กนี้แล้วเกือบ 5 แสนครั้งภายในเวลารวดเร็ว แม้แต่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ยังได้ทวีตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ เมื่อตอน 00.58 น. ของวันที่ 16 ก.ย.58 (ตามเวลาท้องถิ่น) เป็นกำลังใจให้แก่เด็กชายอาห์เหม็ด,นาฬิกาเจ๋งมาก อาห์เหม็ด ต้องการนำมันมาอวดที่ทำเนียบขาวมั้ย? พวกเราควรให้แรงบันดาลใจแก่เด็กๆ มากกว่านี้ เหมือนกับที่อาห์เหม็ด ชอบวิทยาศาสตร์ เพราะมันจะทำให้อเมริกายิ่งใหญ่ ประธานาธิบดีโอบามาโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์,ทั้งนี้ เด็กชายอาห์เหม็ด ซึ่งใฝ่ฝันที่จะเข้าเรียนในสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือ MIT และอยากเป็นวิศวกร ได้เอานาฬิกาดิจิตอลที่เขาประดิษฐ์ขึ้นเองไปให้ครูที่โรงเรียนดูด้วยความตื่นเต้น โดยนาฬิกาประดิษฐ์ดังกล่าว ทำด้วยกล่องใส่ดินสอลักษณะสี่เหลี่ยม ภายในประกอบด้วยระบบนาฬิกา แต่ครูกลับเข้าใจผิดคิดว่าเป็นระเบิด จนแจ้งตำรวจให้มาจับกุม ก่อนที่ตำรวจจะตรวจสอบทีหลัง จึงพบว่า นาฬิกาประดิษฐ์ของอาห์เหม็ดเป็นแค่นาฬิกาจริงๆ ไม่ใช่ระเบิด
ชาวอเมริกันและชาวโลกแห่เป็นกำลังใจเคียงข้างเด็กชายอาห์เหม็ด หลังโดนตำรวจจับใส่กุญแจมือ เอานาฬิกาดิจิตอลประดิษฐ์มาโรงเรียน แต่ครูเข้าใจผิดแจ้งตำรวจคิดว่าเป็นระเบิด แม้แต่ประธานาธิบดีโอบามายังร่วมโพสต์ข้อความส่งกำลังใจ
null
อาห์เหม็ด โมฮาเหม็ด,เด็กชายอาห์เหม็ด โมฮาเหม็ด,โดนตำรวจจับ,เทกซัส,นาฬิกาดิจิตอล,นาฬิกาประดิษฐ์เอง,ครูเข้าใจผิด,ระเบิด,นาฬิกาประดิษฐ์,ตำรวจจับเด็กชายอาห์เหม็ด,บารัค โอบามา,ประธานาธิบดีสหรัฐฯ,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/525892
แดงเชียงใหม่ทวงคำตอบเอ็นบีทีปลดรายการ เจิมศักดิ์ - สนธิญาณ ช่วงเลือกตั้ง
โจมตีฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่เป็นธรรม ไม่เหมาะสมช่วงเลือกตั้ง วันนี้ (3 มิ.ย. 54) ที่หน้าสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จ.เชียงใหม่ หรือช่อง 11 คนเสื้อแดงกลุ่ม นปช.แดงเชียงใหม่ และกลุ่มเสื้อแดงล้านนาหลายสิบคน นำโดยนายศรีวรรณ จันทร์ผง ได้เดินทางมาสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 เป็นครั้งที่สอง เพื่อขอให้ยุติการออกอากาศรายการที่มีนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ดำเนินรายการ ผลิตรายการโดยบริษัท ว็อชด็อก จำกัด และรายการเจาะข่าวร้อนล้วงข่าวลึก ที่มีนางสาวบุญระดม จิตรดอน ดำเนินรายการ ผลิตรายการโดยสำนักข่าวทีนิวส์ ที่มีนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรมเป็นผู้บริหาร โดยนายศรีวรรณ จันทร์ผง แกนนำกลุ่ม นปช.แดงเชียงใหม่ กล่าวว่า ไม่ว่าคนเสื้อสีอะไร หลังจากยุบสภาแล้วเราสนับสนุนการเลือกตั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่รายการของเจิมศักดิ์ และรายการเจาะข่าวร้อนล้วงข่าวลึก ประชาชนเขาคิดได้คิดเป็นว่ารายการดังกล่าวไม่เป็นกลาง คือโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างไม่เป็นธรรม \เพราะฉะนั้นรายการนี้ไม่เหมาะสมในภาวะที่เข้าสู่ช่วงเลือกตั้ง เป็นรายการที่ให้ร้ายป้ายสีฝ่ายเดียว\ ดังนั้นคนเสื้อแดงจึงมาชุมนุมอีก เพื่อติดตามผลข้อเรียกร้อง หลังจากเมื่อ 3 วันก่อนได้เดินทางมาชุมนุมแล้วรอบหนึ่ง วันนี้จึงมาทวงคำตอบว่าข้อเรียกร้องคืบหน้าไปถึงขั้นตอนไหน ก่อนหน้านี้เมื่อ 31 พ.ค. คนเสื้อแดงกลุ่มดังกล่าวได้เดินทางมาชุมนุมที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีเชียงใหม่มาแล้วรอบหนึ่ง โดยมีการยื่นข้อเรียกร้องผ่านไปยังนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักรัฐมนตรี ซึ่งดูแลสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT ช่อง 11 ขอให้ยกเลิกรายการดังกล่าวทันที (อ่านข่าวก่อนหน้านี้) โดยคนเสื้อแดงกลุ่มดังกล่าวยังเตรียมไปร้องเรียนที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จ.เชียงใหม่ เพื่อให้ใบแดงกรณีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งมีฐานะเป็นผู้สมัคร ส.ส. กรณีเพิกเฉยต่อรายการของเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และรายการเจาะข่าวร้อนล้วงข่าวลึกดังกล่าว
นปช.แดงเชียงใหม่-ล้านนา ชุมนุมหน้าช่อง 11 อีกรอบ ทวงข้อเรียกร้องให้ระงับรายการของเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ชี้รายการออกทีวีของรัฐแต่มีเนื้อหาไม่เป็นกลาง
การเมือง
ทีนิวส์,นปช.แดงเชียงใหม่,มัลติมีเดีย,สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที,สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม,สื่อมวลชน,เจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก,เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง,เชียงใหม่,เสื้อแดงล้านนา
https://prachatai.com/journal/2011/06/35255
คำที่เกี่ยวกับ look
อย่าง look after สื่อถึง คอยดูแล เช่น Rhonda looks after her ailing father-in-law. รอนด้าดูแลพ่อสามีที่ป่วยกระเสาะกระแสะ,ส่วน look down หมายถึง ดูถูก คนอย่างจอห์นไม่มีวันเจริญ He always looks down on his own father. เขาชอบดูถูกพ่อตัวเองอยู่บ่อยๆ,สำหรับ look for สื่อถึง มองหา I am looking for my car key. ผมกำลังหากุญแจรถอยู่ ถ้าเป็น look forward to นี่คือ คอยอย่างคาดหวัง I am looking forward to seeing you in London. ผมคาดหวังว่าจะได้จะพบคุณที่ลอนดอน look over คือ มองผ่าน มองภาพโดยรวม Rosemary looked over the contract and signed it. โรสแมรีมองผ่านสัญญาแล้วก็ลงนาม การใช้ look over สื่อถึง อ่านดูคร่าวๆ,Look up to ชื่นชม แต่เป็นการชื่นชมบุคคล Peter looks up to President Trump. ปีเตอร์ชื่นชมประธานาธิบดีทรัมป์มาก look เป็นคำนามก็ได้ครับ สื่อถึง การมองดู ส่วนใหญ่ใช้วลี take a look หรือ have a look หรือ give someone a look จอห์นบอกรอนด้าว่า Let me have a quick look at your new car. ผมขอดูรถคันใหม่ของคุณไวๆหน่อย,เมื่อวานมีคนแนะนำผมกับท่านอธิการบดีคนใหม่ วันแรกที่เจอกันก็ไม่ประทับใจเสียแล้ว The rector gave me a scornful look. ท่านอธิการมองผมอย่างดูถูก นอกจากนั้น look ยังสื่อถึง รูปแบบ รูปร่างหน้าตา เช่น her good looks รูปร่างหน้าตาที่ดีของเธอ.,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย,[email protected]
เรื่อง look มีหลายอย่างครับ look after/ look for/ look forward to/ look down/ look over และ look up to ถ้าใช้ผิด ก็สื่อความหมายผิด
null
สอนภาษาอังกฤษ,ภาษาอังกฤษ,look,เปิดฟ้าภาษาโลก,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1507281
ก.เกษตรฯ-อคส. ตั้งจุดรับซื้อยางพาราทั่วประเทศ 3000 จุด เริ่ม 25 ม.ค.นี้
วันนี้ (25 ม.ค.2559) นายสุรพล จารุพงศ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุถึงผลการหารือร่วมกับแกนนำชาวสวนยางภาคเหนือและภาคอีสาน หลังเข้ารับฟังแนวนโยบายการรับซื้อยางของรัฐบาลว่า กระทรวงเกษตรฯร่วมกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) จะจัดจุดรับซื้อน้ำยางพาราปริมาณ 100000 ตัน จากเกษตรกรรายย่อยโดยตรงในพื้นที่ภาคใต้จำนวน 2000 แห่ง ภาคเหนือ และ อีสานจำนวน 1000 แห่ง โดยจะรับซื้อ ไม่เกินรายละ 150 กิโลกรัม ซึ่งจะเริ่มรับซื้อได้ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือให้เกษตรกรมีรายได้ที่นอกเหนือจากยางพารา กระทรวงเกษตรฯได้มีมาตรการผ่านทั้ง 15 โครงการ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรนายสาย อิ่นคำ คณะกรรมการบอร์ดการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ต้องจำใจยอมรับราคาที่รัฐบาลกำหนดให้ราคาการซื้อยางพาราแผ่นดิบชั้น 3 ที่ราคา 45 บาท แต่เข้าใจถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังถดถอยและเข้าใจถึงภาวะการรับซื้อของภาครัฐบาลว่าหากรับซื้อในขณะนี้และไม่สามารถระบายออกได้ก็จะทำให้เกิดผลกระทบในระยะยาว แต่สิ่งที่อยากฝากให้รัฐบาลแก้ไขคือการเข้าไปดูแลเรื่องสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่มีแนวโน้มลดลง เช่น ราคาปลากระป๋องและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เป็นอาหารหลักของเกษตรกร และหากเศรษฐกิจดีขึ้นก็อยากให้ภาครัฐบาลเพิ่มสัดส่วนการรับซื้อยางพาราเพื่อใช้ในประเทศ เป็นร้อยละ 40 จากปัจจุบันอยู่ร้อยละ 14 ของปริมาณการผลิตรวมทั้งปี เพราะเชื่อว่าตลาดโลกยังต้องการยางธรรมชาติในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมขณะที่ปริมาณยางพาราภาคเหนือและภาคอีสานขณะนี้มีอยู่ประมาณร้อยละ 80 ที่สามารถจำหน่ายให้รัฐบาลได้ในโครงการนี้ จึงอยากเสนอให้รัฐบาลเปิดรับซื้อในภาคเหนือและภาคอีสานก่อนวันที่ 25 ม.ค. เนื่องด้วยสภาพอากาศของพื้นที่ปลูกยางภาคเหนือและภาคอีสาน ส่งผลต่อการกรีดยางของเกษตรกรที่สามารถกรีดยางและน่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดเพียงในช่วงวันที่ 15 ก.พ.นี้เท่านั้นส่วนกระแสข่าวก่อนหน้านี้ ที่ระบุว่า มาตรการรับซื้อยางพาราของรัฐบาลจะทำให้เกษตรกรสวนยางภาคเหนือและภาคอีสานไม่สามารถขายยางให้องค์การคลังสินค้าได้นั้น ตัวแทนเกษตรกรจากภาคเหนือและภาคอีสาน ยืนยันว่า จะมีขายให้แก่รัฐบาลอย่างแน่นอน เพราะเกษตรกรจะปิดกรีดยางในช่วงกลางเดือน ก.พ. - มี.ค.
กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับอคส.เตรียมเดินหน้าตั้งจุดรับซื้อยางพาราทั่วประเทศ 3000 จุด เพื่อแก้ปัญหายางพาราตกต่ำ เริ่มรับซื้อ 25 ม.ค.นี้
เศรษฐกิจ
สุรพล จารุพงศ์,กระทรวงเกษตรและสหกรณ์,ยางพารา,ภาคเหนือ,อีสาน,องค์การคลังสินค้า
https://news.thaipbs.or.th/content/7326
ศึกสมาร์ทโฟนแข่งดุ เปิดใจ วิชัย พรพระตั้ง ผู้บริหารซัมซุง
กาแลคซี่ เอส 6,กาแลคซี่ เอส 6 เอดจ์ ,วิชัย พรพระตั้ง, รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัทไทยซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ได้ปลีกเวลามานั่งให้สัมภาษณ์กับ ไทยรัฐออนไลน์ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แสดงให้เห็นถึงความโล่งอก กับการเปิดตัวซัมซุง ทั้ง 2 รุ่น โดยเฉพาะรุ่น กาแลคซี่ เอส 6 เอดจ์ ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ ขอบสองข้างโค้งมน รวมทั้งการเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียม จนเป็นสมาร์ทโฟนที่มีความสวยงาม ดูหรูหรา จนหลายคนอยากมีไว้ในครอบครอง,ท่ามกลางการแข่งขันของตลาดสมาร์ทโฟน ที่สู้กันดุเดือด แน่นอน ในฐานะรองประธานขององค์กรยักษ์ใหญ่ที่ควบคุมดูแลธุรกิจโทรคมและไอทีในประเทศไทย ที่นับวัน คนไทยยิ่งติดมือถือสมาร์ทโฟน ติดโลกออนไลน์กันงอมแงม ทำให้ วิชัย พรพระตั้ง มี การบ้าน วนเวียนอยู่ในหัวของเขาแทบตลอดเวลา เพราะต้องคอยคิดตอบโจทย์ ทำอย่างไร ซัมซุง จึงจะสามารถรักษาแชมป์ ในการเป็น เจ้า ตลาดสมาร์ทโฟนอันดับหนึ่งของเมืองไทยไว้ได้ต่อไป ?,*Next is Now เราอยู่ที่นี่เพื่อให้นวัตกรรมก้าวไปข้างหน้า,เป็นสิ่งที่วิชัย กล่าวถึงเป้าหมายของซัมซุง พร้อมยกคำพูดของ เจ เค ซิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม และไอทีของซัมซุง ที่กล่าวว่า ดีเอ็นเอ ของซัมซุง คือ เราอยู่ที่นี่เพื่อให้นวัตกรรมไปข้างหน้า พร้อมกับกล่าวถึง ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 6 ทั้งสองรุ่น ที่เพิ่งเปิดตัวไปว่า เรา เทคเดอะชาเลนจ์ เราทำในสิ่งที่ท้าทายมาก เพราะ เราพยายามจะทำให้เทคโนโลยี หรือ นวัตกรรม Next is Now คือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในวันนี้ ผมคงพูดได้ว่า ทีมงานของซัมซุง ในช่วง 12-18 เดือนที่ผ่านมา ทุกคนเอา ที่สุดของชีวิตใส่ลงไปอยู่แล้ว ทุกคนพยายามจะ เบรก หรือสลายความเป็นไม่ได้ทุกอย่างให้มันเกิดขึ้นจริงให้ได้ ,* ตอบโจทย์ ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย,เมื่อถามว่าการที่ซัมซุง เปิดตัว กาแลคซี่ เอส 6 ทั้งสองรุ่น ถือเป็นการสกัดคู่แข่งหรือไม่? โดยวิชัย พรพระตั้ง ตอบว่า ผมเชื่อว่า การแข่งขันสนุกขึ้นแน่นอน เดือดชัวร์ งานนี้ สนุก ผมชอบนะ ทำให้คิดว่าตัวต่อไปจะเป็นอย่างไร มองในแง่ มือถือซัมซุงกระแทกทุกอย่างในตลาดมาตลอดในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา พยายามให้ดีไวซ์มันง่ายขึ้น วันนี้ซัมซุง มองว่า เทคโนโลยี พอสซิเบิล (เทคโนโลยีมีความเป็นไปได้),ขณะเดียวกัน การใส่เทคโนโลยีลงไปบนสมาร์ทโฟนขนาดนี้ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของซัมซุง คือ การจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือที่เรียกว่า วาย เจนเนอเรชั่น (Y Generation ) บ้านเรามี วายเจน การตอบโจทย์ว่า พวกเขาเหล่านี้ ต้องการอะไร คนรุ่นใหม่มีลักษณะเป็นกลุ่มยูนิค (Unique) มีความสำเร็จเร็วมาก เด็กพวกนี้เข้าใจเทคโนฯ สามารถ เมค ยูส หรือใช้เทคโนโลยีใหม่เต็มที่ ดีไซน์เพื่อตอบโจทย์คนกลุ่มนี้,* พยายามสร้างวัฒนธรรมในการใช้สมาร์ทโฟนอย่างถูกต้อง,เมื่อถามถึงจุดมุ่งหมายของกาแลคซี่ เอส 6 เอดจ์ ที่ขอบโค้งมนทั้งสองข้างนั้น นอกเหนือจากความโดดเด่นในแง่ดีไซน์แล้ว ซัมซุงมีจุดมุ่งหมายอะไร? โดยผู้บริหารของซัมซุงในประเทศไทย ตอบว่า ซัมซุงเป็นลีดเดอร์ (ผู้นำ) ในการสร้างเทคโนโลยีด้านโมบาย(mobile) ขณะเดียวกันก็พยายามโปรโมตวัฒนธรรมการใช้โมบายด้วย ,ผมคิดว่าทุกวันนี้คนใช้โมบายผิดที่ เริ่มใช้โมบายโดยไม่รู้ตัว บางอย่างในการใช้ชีวิตผิดไป ผิดที่ยังไง? อย่างเช่น ไปเจอผู้ใหญ่ก็ถือโทรศัพท์ หรือใช้โทรศัพท์ หรือเราแชตไป หรือในห้องประชุมก็แชตอยู่ใต้โต๊ะ การที่เราอยู่กับผู้ใหญ่ หรือ พาร์ทเนอร์ หรือแม้แต่คนในครอบครัว หลายครอบครัวเริ่มพูดว่า เวลาทานข้าว อย่าเอาโทรศัพท์วางไว้บนโต๊ะแบบนี้ ซึ่งซัมซุงคิดว่าการใช้โมบายแบบนี้มันไม่ใช่ จึงพยายามสร้างนวัตกรรมบางอย่าง ที่จะช่วยลดทอนความรู้สึกตรงนี้ลง,ฉะนั้นจึงมีการออกแบบให้หน้าจอโทรศัพท์โค้งมน ถ้าเราจำเป็นต้องวางโทรศัพท์ วางบนโต๊ะจริงๆ คว่ำหน้าจอ ถือเป็นการแสดงให้เห็นการเคารพคนอีกคนหนึ่งที่เราคุยอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นถ้าใครโทรมา สีจะขึ้นที่ ขอบโค้งของจอ ถ้าตั้งไว้สีแดง เป็นนายเรา อาจจะบอกคนข้างหน้าว่า ผมขอโทษจริงๆ ขอรับโทรศัพท์ข้างนอกหน่อย มันโพไลต์ หรือ สุภาพมากกว่า หรือคนใกล้ชิดเราก็เซตไว้ 5 คน ทำให้บอกว่าโทรมา หรือส่งแมสเสจมา จำเป็นต้องรับแน่นอน อย่างนี้เป็นเรื่องเล็กนิดเดียวจริง แต่เราก็อยากจะพัฒนาว่า จะทำยังไงจะบาลานซ์ (สร้างสมดุล) ระหว่างการใช้ชีวิตกับโทรศัพท์,* อนาคตข้างหน้าโทรศัพท์มือถือกำลังถูกท้าทาย,วิชัย พรพระตั้ง กล่าวถึงอนาคตของโทรศัพท์มือถือว่า กำลังถูกท้าย ทำอย่างไรจะเป็นมากกว่า กรอบสี่เหลี่ยม อนาคตมาจากนี้ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ผมทำงานในวงการนี้ 4-5 ปีที่ผ่านมา ถ้าเรามองย้อนกลับไป ผู้คนเปลี่ยน ไปเยอะมาก 4-5 ปีที่แล้ว โทรศัพท์คือโทรศัพท์ ใช้โทร.เข้าโทรออกเท่านั้น ต่อมา ขยับขึ้นเป็นการใช้ เล่นเกม อย่าง แองกี้เบิร์ด เล่นๆ มาถึงจุดหนึ่ง วอทส์แอปป์ เริ่มมาแล้ว ต่อมาอีก ไม่รู้อะไรถาม กูเกิล การใช้งานอินเทอร์เน็ตหลากหลายมาเยอะขึ้น หน้าจอต้องขยายจาก 3 นิ้ว เราต้องดูจากพฤติกรรมคนใช้ เฟซบุ๊กมา แล้ว เปลี่ยนไปเรื่อย วอท เน็กซ์ มาอีกแล้ว เพียงแต่อะไรที่จะเปลี่ยนไป เราจะเห็นว่าผู้คนทุกวันนี้ขายของบนอินสตาแกรมกันเยอะมาก,* S6 เอดจ์ เป็นโมเดล เชนจ์ คือการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่,วิชัย พรพระตั้ง กล่าวถึง เอส 6 เอดจ์ ในฐานะผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของซัมซุงว่า เป็น Changer (เชนเจอร์) หรือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลย เพราะถือเป็นการเริ่ม เปิดข้อจำกัดของการดีไซน์ของสมาร์ทโฟน ให้กว้างออกไป เมื่อก่อนนี้เราคิดแต่ว่า ดีไซน์ มีแค่กล่องสี่เหลี่ยมอยู่แค่นี้ ไปไหนไม่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีการเปิดกว้างมากขึ้น ประกอบกับดีไซน์ ต้องการให้มันดูเป็น จิวเวลรี่ มีค่ากว่านี้ เราใช้กระจกกอริลลา กลาส 4 ซึ่งมันแข็งแรงมาก แข็งแรงกว่าเก่ามาก ต้องการให้เป็น 3 D และ 2.5D ดูดีๆ สีจะไม่อยู่ในกระจก สีอยู่ใต้กระจก จะให้ฟิลลิง (ความรู้สึก) มีความเหลื่อมกันอยู่ อีกทั้งยังพยายามจะให้เกิดฟิงเกอร์พรินต์ (Fingerprint) หรือรอยนิ้วมือน้อยที่สุดบนกระจกหน้าจอสมาร์ทโฟนด้วย,* ขอขอบคุณทุกความเห็น,สำหรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับซัมซุง กาแลคซี่ เอส 6 เอดจ์ นั้น วิชัย พรพระตั้ง ตอบว่า หลักๆ คือเรื่องของดีไซน์ ผมเชื่อว่า เราเทคคอมเมนต์จากหลายครั้งที่ผ่านมา ทุกคนชอบพูดว่า แมตทีเรียล (วัสดุ) ของเรามันไม่พรีเมียม คือเรารับได้ และเราขอบคุณลูกค้า และขอบคุณทุกความเห็น ที่บอกเราบอกว่า เราต้องตื่นขึ้น และเราต้องทำอะไรที่รองรับ ความเป็นพรีเมียม จึงพยายามหาเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ที่สามารถทำได้ ซึ่งการเบรนด์ (งอ) ตัวเครื่องเป็นเอดจ์ เคิร์ฟ หรือโค้งมน อย่างนี้ ไม่มีใครเคยทำได้ และตอนที่ทำบนกาแลคซี่ โน้ต เอดจ์ (Galaxy Note Edge) ซึ่งโค้งแค่ข้างเดียว มันก็ได้ระดับหนึ่ง ซึ่งเราก็รู้ดีว่า จะมีปัญหาเรื่อง แมส โปรดักชั่น หรือการผลิตผลิตภัณฑ์เป็นจำนวนมาก เพราะ เอดจ์ 2 ข้าง ทำยาก ไม่เคยมีใครทำ และยากมาก ผมคิดว่าการทำแมส โปรดักชั่น เป็นล้านๆ ตัวในเวลาอันสั้น ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย,,เรียกว่า กว่าจะพัฒนาสมาร์ทโฟนให้โดดเด่นทั้งด้าน เทคโนโลยีและดีไซน์ จนกลายเป็น ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่สักรุ่นหนึ่ง ที่ครองใจผู้บริโภคนั้น มันไม่ใช่ เรื่องง่ายๆ เพราะทุกฝ่ายต้องทุ่มเททุกสรรพกำลัง โดยเฉพาะใส่ หัวใจ ลงไปกับงานอย่างเต็มที่
วิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัทไทยซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ได้ปลีกเวลามานั่งให้สัมภาษณ์กับ ไทยรัฐออนไลน์ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แสดงให้เห็นถึงความโล่งอก กับการเปิดตัวซัมซุง ทั้ง 2 รุ่น
ข่าว,ไอที
วิชัย พรพระตั้ง,ผู้บริหารซัมซุง,ประเทศไทย,เปิดใจ,สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่,ศึกสมาร์ทโฟน,กาแลคซี่ เอส 6,กาแลคซี่ เอส 6 เอดจ์,ข่าว,เอ็กซ์คลูซีฟ,สกู๊ปออนไลน์,ข่าวไอที,ไลฟ์สไตล์
https://www.thairath.co.th/news/tech/487718
จ.นครศรีธรรมราช ตั้งศูนย์อพยพ 190 แห่ง รับมือปาบึก
วันนี้ (3 ม.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งทะเลในบริเวณบ้านท่าฝาย หมู่ 1 ต.ทุ่งใส อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เริ่มทยอยเข้าไปอาศัยอยู่ภายในวัดท่าทรายทอง ห่างจากจุดอันตรายประมาณ 10 กิโลเมตรและเป็นหนึ่งในศูนย์อพพยพชั่วคราว 11 แห่ง ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยวาตภัยดินถล่มและคลื่นลมแรงของ อ.สิชล ใช้รองรับประชาชนกว่า 2000 คน หลังได้รับการแจ้งเตือน ให้เตรียมความพร้อมในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่อาจเกิดขึ้น ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาเรื่องพายุปาบึก โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3 - 5 ม.ค.นี้ ทำให้บริเวณพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ซึ่งอาจทำให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวเกิดอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก จนอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ 6 อำเภอติดชายฝั่งทะเลให้ย้ายไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ซึ่งกำหนดเคลื่อนย้ายประชาชนให้เสร็จสิ้นก่อนค่ำวันนี้ พร้อมสั่งให้รองผู้ว่าฯทั้ง 4 ราย ได้เข้าไปประจำพื้นที่ 6 อำเภอ เพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยเหลือประชาชน ประสานงานเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการรับมือพายุโซนร้อนปาบึกด้วยจ.นครศรีธรรมราช ได้เตรียมพร้อมตั้งศูนย์อพยพไว้แล้ว 190 แห่ง สามารถรองรับประชาชนได้ กว่า 86000 คน เฉพาะอำเภอชายฝั่งทะเล 53 แห่ง รองรับผู้อพยพได้ 34400 คน สำหรับอำเภอที่อยู่พื้นที่บริเวณภูขาขอให้เฝ้าระวังเรื่องดินถล่มเนื่องจากคาดการณ์ว่าฝนจะตกหนักต่อเนื่องประมาณ 300 มิลลิเมตร
จ.นครศรีธรรมราช จัดตั้งศูนย์อพยพ รวม 190 แห่ง สามารถรองรับประชาชนได้ กว่า 86000 คน โดยเฉพาะอำเภอสิชล ได้สั่งอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งทะเลทั้งหมด ล่าสุดเริ่มมีการเดินทางไปอาศัยอยู่ภายในศูนย์อย่างต่อเนื่อง
ภูมิภาค
ปาบึก,พายุปาบึก,นครศรีธรรมราช,สิชล,อพยพ,ทุ่งใส,ชายฝั่ง,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/276735
แก้ไขใหม่ พรบ.ทะเบียนราษฎร คนถูกหมายจับโดนโอนชื่อเข้าสู่ทะเบียนกลาง
หากยังตามจับไม่ได้ใน 180 วัน ให้คัดชื่อออกจากทะเบียนบ้านเดิม ไปอยู่ในทะเบียนกลาง รองรับประชาคมอาเซียน แก้ปัญหาเด็กที่ไร้รากเหง้า ไร้รัฐ ไร้สัญชาติในไทย ให้สิทธิยื่นคำร้องพิสูจน์ขอสัญชาติไทย บนหลักสิทธิมนุษยชน,ราชกิจจานุเบกษาประกาศบังคับใช้ พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ 3) เพื่อประสิทธิภาพงานทะเบียนราษฎร เพื่อความมั่นคง เป็นธรรมกับประชาชน,เมื่อวันที่ 14 เม.ย.เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศบังคับใช้ พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2562 ระบุว่า พ.ร.บ.นี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 32 มาตรา 38 และมาตรา 41 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทําได้ โดยอาศัยอำนาจตามบท บัญญัติแห่งกฎหมาย เหตุผล และความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตาม พ.ร.บ.นี้ เพื่อให้การทะเบียนราษฎรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอันจะเป็นประโยชน์ต่อการอำนวยความเป็นธรรม การอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน การรักษาความสงบเรียบร้อย และการคุ้มครองสิทธิพื้นฐานของประชาชน การตรา พ.ร.บ.นี้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา 26 ของรัฐธรรมนูญ,โดยมีสาระสำคัญที่น่าสนใจ ได้แก่ มาตรา4 ให้ยกเลิกความในวรรคสามของมาตรา 15 แห่ง พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ.2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 ให้ใช้ความต่อไปนี้แทน ในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดินในเรื่องการให้บริการแก่ประชาชน หรือการรักษาความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงในราชอาณาจักร รมว.มหาดไทยจะอนุมัติให้ส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐเชื่อมโยงข้อมูลที่ปรากฏในทะเบียนอื่นนอกจากทะเบียนตามวรรคสอง เฉพาะข้อมูลที่จำเป็นแก่การปฏิบัติหน้าที่ก็ได้ ทั้งนี้ การพิจารณาอนุมัติของ รมว.มหาดไทย ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ รมว.มหาดไทยประกาศกำหนด,มาตรา 5 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ.2534 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน คือ มาตรา 16 ให้ ผอ.ทะเบียนกลางกำหนดเลขประจำตัวแก่ผู้มีสัญชาติไทย หรือคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยที่อาศัยอยู่ในราชอาณาจักร และบุคคลที่ได้จดทะเบียนคนเกิด ณ สถานทูตไทย หรือสถานกงสุลไทยตามมาตรา 28 วรรคหนึ่ง คนละหนึ่งเลขโดยไม่ซ้ำกัน ทั้งนี้ หลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดเลขประจำตัวให้เป็นไปตามระเบียบที่ ผอ.ทะเบียนกลางกำหนด ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวต้องแยกระหว่างผู้มีสัญชาติไทย และคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยด้วย,มาตรา 6 ให้ยกเลิกความในมาตรา 19/2 และมาตรา 19/3 แห่ง พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ.2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 โดยให้ใช้ความต่อไปนี้แทน มาตรา 19/2 เมื่อได้รับแจ้งการเกิดตามมาตรา 19 หรือมาตรา 19/1 แล้ว ให้นายทะเบียนผู้รับแจ้งดำเนินการพิสูจน์สถานะการเกิดและสัญชาติของเด็กตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด ในกฎกระทรวง แล้วดำเนินการต่อไปตามมาตรา 20 ทั้งนี้ ให้ผู้พบเด็ก ผู้รับเด็กไว้ และผู้แจ้งการเกิด ให้ความร่วมมือกับนายทะเบียนผู้รับแจ้งในการดำเนินการพิสูจน์ตามที่นายทะเบียนผู้รับแจ้งร้องขอ ในกรณีที่ไม่อาจพิสูจน์สถานะการเกิดและสัญชาติได้ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งให้นายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่นจัดทําทะเบียนประวัติ และออกเอกสารแสดงตนให้เด็กไว้เป็นหลักฐาน เว้นแต่เด็กนั้นมีอายุครบ 5 ปีแล้ว ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นออกบัตรประจำตัว ให้แทนตามระเบียบ และภายในระยะเวลาที่ ผอ.ทะเบียนกลางกำหนด,ผู้ซึ่งได้รับการจัดทําทะเบียนประวัติและเอกสารแสดงตนตามวรรคหนึ่ง ถ้ามีหลักฐานแสดงว่าได้อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี และมีคุณสมบัติอื่นตามที่ รมว.มหาดไทยกำหนด ให้ผู้นั้นมีสิทธิยื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทยได้ และเมื่อ รมว.มหาดไทยพิจารณาเห็นว่าผู้ยื่นคำร้องมีสถานะถูกต้องตามเงื่อนไขและมีคุณสมบัติครบถ้วนดังกล่าว ให้ รมว.มหาดไทยประกาศให้ผู้นั้นมีสัญชาติไทย ทั้งนี้ ภายใน 120 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องและให้ถือว่าผู้นั้นมีสัญชาติไทยตั้งแต่วันที่รัฐมนตรีมีประกาศระยะเวลา 10 ปีตามวรรคสองให้นับแต่วันที่จัดทําทะเบียนประวัติหรือออกเอกสารแสดงตน เว้นแต่จะมีหลักฐานอันชัดแจ้งแสดงว่าได้อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรมาก่อนหน้านั้นตามระเบียบที่ผู้อำนวยการทะเบียนกลางกําหนด ก็ให้นับแต่วันที่อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรตามที่ปรากฏจากหลักฐาน ผู้ซึ่งได้รับสัญชาติไทยตามวรรคสอง ถ้าภายหลังปรากฏหลักฐานว่ามีกรณีไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข หรือขาดคุณสมบัติให้ รมว.มหาดไทย ประกาศเพิกถอนการให้สัญชาตินั้นโดยพลัน โดยให้นําความในมาตรานี้มาใช้บังคับกับบุคคลที่เคยอยู่ในการอุปการะของหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานเอกชนตามมาตรา 19/1 แต่หน่วยงานดังกล่าวได้อนุญาตให้บุคคลอื่นรับไปอุปการะ และบุคคลที่มิได้แจ้งการเกิดตามมาตรา 19 หรือมาตรา 19/1 ซึ่งได้ยื่นคําร้องตามมาตรา 19/3 หรือขอเพิ่มชื่อตามมาตรา 37 แต่ไม่อาจพิสูจน์สถานะการเกิดและสัญชาติได้ด้วยโดยอนุโลม,รวมถึงมาตรา 13 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ ของมาตรา 33 แห่ง พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ.2534 ในกรณีที่ศาลออกหมายจับผู้ใดตามคําร้องขอของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจ หรือในกรณีที่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจ ได้รับแจ้งจากศาลให้จับกุมผู้ใดตามหมายจับที่ศาลออกเอง ถ้ายังมิได้ตัวผู้นั้นมาภายใน 180 วันนับแต่วันที่ศาลออกหมายจับ ให้พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตํารวจแจ้งให้ ผอ.ทะเบียนกลางทราบ และให้ ผอ.ทะเบียนกลางดําเนินการให้นายทะเบียน ผู้รับแจ้งย้ายผู้นั้นออกจากทะเบียนบ้าน และเพิ่มชื่อและรายการของผู้นั้นไว้ในทะเบียนบ้านกลาง และให้หมายเหตุไว้ในรายการของบุคคลนั้นว่าอยู่ในระหว่างการติดตามตัวตามหมายจับด้วย การหมายเหตุดังกล่าวมิให้ถือว่าเป็นการจัดเก็บข้อมูลตามมาตรา 13 (2) ผู้ใดมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลางตามวรรคสอง ถ้าผู้นั้นประสงค์จะย้ายออกจากทะเบียนบ้านกลาง ผู้นั้นต้องมาแสดงตนต่อนายทะเบียนที่จัดทําทะเบียนบ้านกลางนั้น พร้อมทั้งหลักฐานอันแสดงว่าหมายจับนั้นได้ถูกเพิกถอน หรือได้มีการปฏิบัติตามหมายจับนั้นเสร็จสิ้นแล้ว,ขณะที่การแจ้ง ยื่น หรือส่งหนังสือหรือเอกสารให้ผู้ถูกออกหมายจับ หรือผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลาง ตามวรรคสอง ถ้าได้แจ้ง ยื่น หรือส่งหนังสือหรือเอกสารให้บุคคลนั้น หรือปิดหมายไว้ ณ ภูมิลําเนา หรือที่อยู่ที่ปรากฏตามหลักฐานทางทะเบียนที่ปรากฏครั้งสุดท้าย ก่อนย้ายมาในทะเบียนบ้านกลาง ให้ถือว่าได้แจ้ง ยื่น ส่ง หรือปิดโดยชอบด้วยกฎหมาย และผู้นั้นได้รับทราบแล้ว,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในท้าย พ.ร.บ.ระบุหมายเหตุว่า เหตุผลประกาศใช้ พ.ร.บ.นี้ คือเห็นสมควรปรับปรุงวิธีปฏิบัติทะเบียนราษฎรได้อย่างมีประสิทธิภาพ อํานวยความเป็นธรรม และอํานวยความสะดวกให้แก่ประชาชนยิ่งขึ้น และเพื่อรองรับการจัดการประชากร ของประเทศไทย ซึ่งเป็นสมาชิกในประชาคมอาเซียน ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และกําหนดสิทธิการยื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทยของเด็ก และบุคคลตามมาตรา 19 มาตรา 19/1 มาตรา 19/3 และมาตรา 37 จะเป็นมาตรการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเด็กที่ไร้รากเหง้า ที่ไร้รัฐ และไร้สัญชาติในประเทศไทย ให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง และหลักสิทธิมนุษยชน
ราชกิจจานุเบกษาประกาศใช้ พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ 3) เพื่อประสิทธิภาพงานทะเบียนราษฎร ความมั่นคงแห่งรัฐ อำนวยความเป็นธรรมประชาชน มาตรา 13 กำหนดให้ผู้ถูกศาลออกหมายจับ
ข่าว,ทั่วไทย
ราชกิจจานุเบกษา,พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร,ทะเบียนราษฎร,ความมั่นคงแห่งรัฐ,หลักสิทธิมนุษยชน,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1545436
พด. เร่งขับเคลื่อนศูนย์ CESRA ศูนย์เซียนดิน พัฒนาทรัพยากรดินยั่งยืน
ใจเกี่ยวกับศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยดินแห่งภูมิภาคเอเชีย หรือ CESRA และบูรณาการความคิดเห็นแบบมีส่วนร่วมสู่การจัดทำแผนปฏิบัติการศูนย์เครือข่าย CESRA ในระดับพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม,นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรและสหกรณ์ ประธานที่ประชุม กล่าวว่า ความเป็นมาและความสำคัญของการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยดินแห่งภูมิภาคเอเชีย และแนวทางการขยายศูนย์เครือข่าย CESRA หรือที่เรียกว่า ศูนย์เซียนดิน ในระดับพื้นที่นี้ ได้ผลักดันให้เป็นศูนย์เรียนรู้ ส่งเสริม ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร พัฒนาที่ดิน ภูมิปัญญาท้องถิ่นตามภูมิสังคม สนับสนุนการวิจัย และขยายผลสู่การปฏิบัติ เพื่อให้เกิดการจัดการทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน,นอกจากนี้ ได้กล่าวถึงการจัดตั้งสมัชชาความร่วมมือทรัพยากรดินแห่งประเทศไทย หรือ Thai Soil Partnership - TSP ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของ 7 ภาคีเครือข่ายที่มีความเกี่ยวข้องกับดินในทุกมิติ ประกอบด้วย ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาคศาสนา ภาคประชาสังคม เกษตรกร และภาคประชาชน เพื่อบูรณาการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเรียนรู้ประสบการณ์ด้านการจัดการทรัพยากรดิน การขับเคลื่อนและขยายผลการพัฒนาทรัพยากรดินสู่พื้นที่อย่างเป็นรูปธรรมตามสภาพภูมิสังคม ตลอดจนสนับสนุนและผลักดันกิจกรรมที่เชื่อมโยงสู่การขจัดความอดอยาก หิวโหย ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน,พร้อมให้แนวทางการขับเคลื่อน ศูนย์เซียนดิน ผ่านกลไกสมัชชาความร่วมมือทรัพยากรดินแห่งประเทศไทย (TSP) ในการสร้างความตระหนักรู้ พร้อมน้อมนำ ศาสตร์พระราชา เพื่อการพัฒนาทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน และผลักดันการขับเคลื่อน 3 ประเด็นหลัก ซึ่งประเทศทั่วโลกต่างให้ความสำคัญอย่างมาก คือ 1.หยุดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการปนเปื้อน และมลพิษทางดิน (soil pollution) 2.หยุดการชะล้างพังทลายของดินในพื้นที่ (soil erosion) และ 3.ส่งเสริมการอนุรักษ์และการเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพของดิน (soil biodiversity).
กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการจากตัวแทนภาคีเครือข่ายกว่า 120 คน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาคเกษตรกร และภาคประชาชน ในการขับเคลื่อนการสร้างความรู้ ความเข้า
ข่าว,ทั่วไทย
กรมพัฒนาที่ดิน,กระทรวงเกษตรฯ,เครือข่ายCESRA,ศูนย์เซียนดิน,ทรัพยากรดิน,เกษตร
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1605136
กรมการข้าว แนะชาวนารับมือฝนทิ้งช่วง ให้ทำนาแบบเปียกสลับแห้ง
นางสาวนนทิชา วรรณสว่าง รองอธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า จากข้อมูลของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) ได้ออกเตือนเกษตรกรถึงการเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ไปจนถึงเดือนกันยายน 2562 จึงจำเป็นต้องวางแผนในการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนหลักที่มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำไม่ถึงร้อยละ 30 ให้มีประสิทธิภาพ โดยในปลายปี 2562 ถึงต้นปี 2563 อาจจะเกิดวิกฤติภัยแล้งได้ จึงขอให้พี่น้องชาวนา-เกษตรกรบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เพียงพอต่อการอุปโภค/บริโภค รวมไปถึงการทำนาปลูกข้าว ที่จำเป็นจะต้องใช้น้ำในการดูแลผลผลิต เช่น เกษตรกรผู้ปลูกข้าวพันธุ์ กข 43 ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดมาก โดยพื้นที่ชลประทานมีน้ำค่อนข้างน้อยจึงเป็นห่วงกระทบผลผลิต จึงขอความร่วมมือชาวนาหันมาใช้การทำนาแบบเปียกสลับแห้งอีกด้วย, ,รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะฝนทิ้งช่วงย่อมมีปัญหาต่อการปลูกข้าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม กรมการข้าวได้มีงานวิจัยการจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้งในการทำนา พบว่า สามารถช่วยประหยัดน้ำได้ถึงร้อยละ 30-50 ขึ้นอยู่กับชนิดของดินและสภาพอากาศในแต่ละพื้นที่ ซึ่งการทำนาแบบให้น้ำขังตลอดฤดูปลูก ซึ่งเป็นวิธีปกติของชาวนาทั่วไปจะต้องใช้น้ำประมาณ 1,200 ลบ.ม./ไร่/ฤดู อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสูบน้ำได้ 30% นอกจากนี้ในสภาพดินแห้ง รากข้าวได้รับอากาศสามารถแตกรากข้าวใหม่มากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับธาตุอาหารได้ดีขึ้น ต้นข้าวแข็งแรงขึ้น ทนต่อโรคและแมลงศัตรูข้าวได้ดีขึ้น เป็นผลให้ลดการใช้ปุ๋ยและสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูข้าวอีกทางหนึ่ง,สำหรับขั้นตอนของการจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้งในนาข้าว มีดังนี้ 1. การเตรียมดิน 2. ปรับให้พื้นที่สม่ำเสมอ 3. ปลูกข้าว (หว่าน ปัก ดำ หรือหยอด) 4. ถ้าปลูกด้วยวิธีการหว่าน หลังหว่านข้าวให้ระบายน้ำให้แห้งเพื่อให้เมล็ดข้าวงอกสม่ำเสมอ พ่นสารคุม-ฆ่าวัชพืชหลังหว่านข้าว 10 วัน และเอาน้ำเข้าแปลงหลังพ่นสารภายใน 2 วันประมาณ ครึ่งต้นข้าว รักษาระดับน้ำไว้จนถึงช่วงการใส่ปุ๋ยรองพื้น,5. เมื่อข้าวอายุ 20-25 วัน ให้ใส่ปุ๋ยรองพื้น 6. หลังจากหว่านปุ๋ยรองพื้น ปล่อยน้ำในนาให้แห้งไปโดยธรรมชาติจนน้ำอยู่ที่ระดับ 15 ซม.ใต้ผิวดิน สูบน้ำเข้าแปลงจนระดับน้ำสูง 5 ซม.เหนือผิวดิน จากนั้นปล่อยน้ำให้แห้งไปตามธรรมชาติ ทำสลับกันไปจนถึงช่วงการใส่ปุ๋ยแต่งหน้า ที่ระยะกำเนิดช่อดอก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าระยะข้าวแต่งตัว และ 7. ใส่ปุ๋ยแต่งหน้า และรักษาระดับน้ำในแปลงให้อยู่ที่ 5 เซนติเมตรเหนือผิวดิน จนถึงก่อนเก็บเกี่ยว 10 วัน จึงปล่อยให้แปลงแห้ง เพื่อให้ข้าวสุกแก่สม่ำเสมอและสะดวกต่อการเก็บเกี่ยว,เพื่อความสะดวกในการดูระดับน้ำ ให้ติดตั้งท่อดูน้ำ 1-2 จุด ในแปลงนา (ท่อดูระดับน้ำเป็นท่อพีวีซีขนาดความยาว 25 ซม.เส้นผ่านศูนย์กลาง 4 นิ้ว เจาะรูด้วยสว่านเส้นผ่านศูนย์กลางหุนครึ่งถึงสองหุน 4 - 5 แถวรอบๆ ท่อ แต่ละรูห่างกัน 5 ซม. ฝังลงไป 20 ซม. ให้ปากท่อโผล่ขึ้นพ้นผิวดิน 5 ซม.) เพื่อให้เกษตรกรผลิตข้าวในสภาวะน้ำชลประทานมีจำกัดให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุด กรมการข้าว มีเป้าหมายส่งเสริมแก่เกษตรกรทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ไม่เฉพาะในช่วงฤดูแล้ง หรือฝนทิ้งช่วงเท่านั้น เนื่องจากน้ำเป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไปต้องรณรงค์ให้ใช้อย่างประหยัดรู้ค่าเพื่อความมั่นใจในอนาคต ชาวนาที่สนใจหรือมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่ศูนย์วิจัยข้าวหรือศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวใกล้บ้าน.
ภาวะฝนทิ้งช่วงในหลายจังหวัด กรมการข้าว กระทรวงเกษตรฯ แนะเกษตรกรควรหันมาทำนาแบบเปียกสลับแห้ง หวังลดการใช้น้ำในการเพาะปลูก โดยเฉพาะเกษตรกรที่ปลูกข้าวพันธุ์ กข 43 ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด
ข่าว,ทั่วไทย
ฝนทิ้งช่วง,บริหารจัดการน้ำ,ทำนาเปียกสลับแห้ง,ข้าวพันธุ์ กข43,กรมการข้าว,เกษตร
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1618626
พ่อหวั่นลูกสาวถูกผัวฆ่าฝังดิน หลังหายไป 3 เดือน ตรงกับฝันของหลาน
โชย จึงใช้จอบขุดหน้าดิน พบชิ้นส่วนฟันกรามและเส้นผมสีดำยาว ส่วนสามีได้หลบหนีไปก่อนหน้าแล้ว,เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 ต.ค.62 พ.ต.ท.มนูญ ม่วงมิตร สารวัตรสอบสวน สภ.วังเจ้า จ.ตาก ได้รับแจ้งจาก นายทึ่ง ปิงขอด อายุ 81 ปี บ้านเลขที่ 422 หมู่ที่ 2 ต.คลองน้ำไหล อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ว่า นางปราณี อินธิมา อายุ 54 ปี บุตรสาว ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เป็นเวลานานกว่า 3 เดือน คาดว่าเสียชีวิต ศพถูกฝังดินอยู่ในบริเวณสวนลำไยของนายอนุชา คำพา อายุ 45 ปี สามี หมู่ที่ 4 ต.นาโบสถ์ อ.วังเจ้า จ.ตาก จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณรงค์ คำทราย รอง ผกก.สภ.วังเจ้า และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตาก โดยมีญาติของนางปราณี เดินทางมาจาก จ.กำแพงเพชร ประมาณ 50 คน โดยใช้กระบะ 7 คัน ซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านที่ทราบข่าวลงขันออกค่าน้ำมันมาให้ เพื่อมาติดตามหาศพของนางปราณี,โดยที่เกิดเหตุอยู่กลางสวนลำไย และมะนาว บนพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ พบเนินดินต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นที่ฝังศพนางปราณี อยู่ข้างเพิงพักกลางสวน โดยก่อนหน้านี้ญาติได้เดินหาและใช้เหล็กแหลมทิ่ม บริเวณเนินดินต้องสงสัย พบความผิดปกติ มีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมา จึงใช้จอบขุดบริเวณหน้าดิน พบชิ้นส่วนฟันกราม 2 ซี่ และเส้นผมสีดำยาวจำนวนหนึ่ง มีกลิ่นเหม็นเน่าติดเส้นผม จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอรถไถจากชาวบ้านมาช่วยเปิดหน้าดิน ลึกประมาณ 1 เมตร แต่ก็ยังไม่พบศพ มีเพียงกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาเป็นระยะๆ และจางหายไป ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง แต่ไม่พบศพ เจ้าหน้าที่จึงหยุดค้นหา,โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจตาก ได้เชิญตัวนายทึ่ง บิดาของนางปราณี ไปเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ เพื่อเปรียบเทียบกับชิ้นส่วนฟันและเส้นผมที่พบในจุดเกิดเหตุ โดยจะส่งตรวจที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 จ.ลำปาง ใช้ระยะเวลาประมาณ 30 วัน จึงจะทราบผลว่าชิ้นส่วนที่พบเป็นของนางปราณีหรือไม่,จากการสอบสวนนายทึ่ง ปิงขอด บิดาของนางปราณี ผู้ตาย ให้การว่า ลูกสาวได้แต่งงานอยู่กินกับนายอนุชา และย้ายมาอยู่ที่ จ.ตาก เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว โดยทั้งคู่ชอบดื่มสุรา และมีปากเสียงวิวาทกันเป็นประจำ ฝ่ายชายชอบลงไม้ลงมือตบตีภรรยา ชาวบ้านใกล้เคียงทราบดี กระทั่งก่อนเกิดเหตุในการหายตัวของนางปราณี ได้โทรไปหาหลานสาวที่ทำงานอยู่ที่ กทม.บอกให้มารับตัวกลับบ้านด้วยเพราะ นายอนุชา ทำร้ายร่างกายทนไม่ไหว แต่หลานยังทำงานอยู่ไม่สามารถมารับตัวกลับบ้านที่จ.กำแพงเพชรได้ กระทั่ง 14 ก.ค.ที่ผ่านมาญาติๆ ได้โทรศัพท์หานางปราณี แต่ไม่สามารถติดต่อได้ พยายามโทรหานายอนุชา สามี แต่ก็ไม่รับโทรศัพท์ ทางญาติพยายามติดตามนานกว่า 3 เดือน ก็ยังไม่พบ,ก่อนหน้านี้ประมาณ 15 วัน ญาติสงสัยว่า จะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับนางปราณี จึงติดต่อนายอนุชา สามี ได้และบอกว่า จะแจ้งความกับตำรวจว่านางปราณีหายไปไร้ร่องรอย หลังจากนั้นนายอนุชากลัวความผิด จึงได้หลบหนีออกจากพื้นที่ อ้างว่าไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ,ระหว่างญาติๆ ได้ติดตามหานางปราณี หลานสาวของนางปราณี ได้ฝันว่า นางปราณี ถูกฆ่าฝังอยู่ในไร่ของสามี ใกล้สวนพริกสวนมะเขือ ซึ่งก็ตรงตามที่หลานสาวฝัน แต่ก็พบเพียงชิ้นส่วนฟันกรามและเส้นผม ยังไม่พบศพหรือชิ้นส่วนโครงกระดูกแต่อย่างใด คาดว่าอาจจะถูกผู้ต้องสงสัยคือนายอนุชาเคลื่อนย้ายศพ ออกไปจากพื้นที่ก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะหลบหนีอ้างว่าไปทำงานกรุงเทพฯ,ทั้งนี้ในส่วนของคดีนั้น เบื้องต้นได้รับแจ้งความบุคคลสูญหาย และจะติดตามตัวนายอนุชา ผู้ต้องสงสัยที่หลบหนี อ้างว่าไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ เพื่อมาให้ปากคำ และหากผลตรวจดีเอ็นเอที่เก็บได้ตรงกับ นายทึ่ง ก็จะดำเนินคดีในส่วนของการฆาตกรรมต่อไป.
พ่อหวั่นลูกสาวถูกสามีฆ่าฝังดิน หลังหายไป 3 เดือนไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งหลานได้ฝันเห็นร่างถูกฝังในไร่ใกล้สวนพริกสวนมะเขือใน จ.ตาก ของฝ่ายชาย จึงพากันเดินทางไปตรวจสอบถึงที่ พบกลิ่นเหม็นเน่า
ข่าว,อาชญากรรม
ฆ่าฝังดิน,ถูกผัวฆ่า,หาย3เดือน,หลานฝัน,ตาก,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1678208
จ่าพิชิต เตือนพ่อแม่ อย่าใช้แค่ แผ่นสมุนไพร แปะเท้าลูกเพื่อลดไข้
แฟนเพจเฟซบุ๊ก ,Drama-addict, โพสต์เตือนพ่อแม่ที่มีลูกเล็ก พร้อมระบุข้อความ ช่วงนี้พวกแม่ค้าพ่อค้าขายของออนไลน์ จะเอาแผ่นสมุนไพรแปะฝ่าเท้า มาขายกันรัวมาก คือจริงๆ แล้วสรรพคุณมันก็แก้ปวดฝ่าเท้าทั่วไป ในถุงมันจะมีสมุนไพรที่ใส่น้ำมันหอมระเหย พอโดนความชื้นจากร่างกายคน มันก็จะค่อยๆ ซึมออกมา แล้วเปลี่ยนสีเป็นสีเขียวเข้มถึงสีน้ำตาลเข้มแบบในภาพ ไม่ใช่การดีทอกซ์สารพิษแต่ประการใด ก็สีสมุนไพรในซองนั่นล่ะ,แต่ทีนี้ มันมีพวกที่เอามาโฆษณาว่า ลูกฉันเป็นไข้ เอาแผ่นนี่แปะเท้า ไข้ลง ไม่ต้องเช็ดตัว ยาก็ไม่ต้องกินจนถึงเช้าเลย พวกพ่อแม่ก็ซื้อไปแปะเท้าลูกตอนเป็นไข้กันรัวๆ เพราะมันง่าย แปะทีเดียวนอนยันเช้า ไม่ต้องลุกมาเช็ดตัวป้อนยาลูก,ทั้งนี้ เตือนว่ามันอันตรายมาก คือเวลาเด็กเป็นไข้ มันต้องเช็ดตัวเยอะๆ กินยาลดไข้ เพื่อลดอุณหภูมิแกนกลางของร่างกาย ไม่งั้นถ้าเด็กไข้สูงมาก อาจชักจากไข้ได้ แล้วการใช้พวกสินค้าที่แปะตามมือ เท้า หน้าผาก ถามว่ามันลดอุณหภูมิแกนกลางได้ไหม คงตอบว่าไม่ได้เลย อย่างพวกคูลฟีเวอร์ แปะหัวแล้วหัวเย็น พ่อแม่นึกว่าลูกไข้ลงแล้ว หารู้ไม่ว่าหน้าผากเย็นลงนิดหน่อย ข้างในตัวร้อนยังกับไฟ แล้วสักพักเด็กก็จะชักได้ถ้าไข้สูงมาก,สำหรับ แผ่นแปะเท้า ก็หลักการเดียวกัน อยากแปะก็แปะไป แต่ที่สำคัญต้องเช็ดตัวและให้ยาลดไข้กับเด็กด้วย อย่าหลงเป็นเหยื่อการตลาด จนลูกเป็นไข้ชักมันไม่คุ้มหรอก.,(ภาพและข้อมูล เฟซบุ๊ก ,Drama-addict,)
อย่าเป็นเหยื่อการตลาด! จ่าพิชิตเตือนพ่อแม่ อย่าใช้แค่แผ่นสมุนไพรแปะเท้า เพื่อลดไข้ให้ลูก ชี้เวลาเด็กไม่สบายต้องเช็ดตัว ป้อนยาลดไข้ เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกาย หากปล่อยไว้อาจเกิดอันตรายได้
ข่าว,สังคม
แผ่นแปะสมุนไพร,สมุนไพร,แผ่นแปะเท้า,เด็กเล็ก,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1232334
เมาไม่ขับ ขอหลับข้างทาง จอดรถดับเครื่อง ลงไปนอนกรนสนั่น
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 23 มี.ค.59 หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ รับแจ้งมีคนนอนเหมือนกับสลบเหมือดอยู่ในร่องน้ำเกาะกลางถนน ช่องทางขาเข้าพัทยา บริเวณกลางแยกไฟแดงสัตหีบ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุบนถนนเป็นช่วงรถสัญจรไปมาจำนวนมาก พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟไอ สีแดง ทะเบียน จวต - 59 ชลบุรี ดับเครื่องจอดตั้งขาตั้งทิ้งไว้ ห่างออกไป 20 เมตร ในกอหญ้าร่องน้ำเกาะกลางถนน พบชายวัยกลางคน สวมชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงยีนส์ตัดขาสีดำ สวมรองเท้าแตะ นอนหงายอย่างสบายอารมณ์ ส่งเสียงกรนดังสนั่น และมีกลิ่นสุราคลุ้งไปทั่วบริเวณ,ทางกู้ภัยได้ช่วยกันปลุกอยู่นานหลายนาที จึงรู้สึกตัวตื่น ในสถาพที่ยังเมาไม่สร่าง เมื่อซักถามรายละเอียด ชายดังกล่าวตอบว่า ตนมีชื่อว่า นายชัยพร หรือหนุ่ม เครื่องเจียด อายุ 40 ปี เป็นช่างเชื่อม พักอยู่ในซอยธรรมวิทยา โดยก่อนหน้านี้ได้ไปนั่งดื่มเหล้าขาวที่บ้านเพื่อน เมื่อเมาได้ที่จึงขี่รถกลับ ระหว่างทางสังเกตเห็นตู้ยามจราจร ด้วยความกลัวถูกจับฐานเมาแล้วขับ และไม่อยากเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี จึงตัดสินใจจอดรถทิ้งไว้ ก่อนเดินลงไปนอนหลับ เมื่อตื่นขึ้นก็เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่มารุมล้อม,ทั้งนี้ นายชัยพร ได้พร่ำพูดคำว่า ผมเมาไม่ขับ ผมเมาไม่ขับ ทางกู้ภัยจึงได้ช่วยเหลือนำตัวส่งกลับบ้าน พร้อมติดต่อญาติมานำรถกลับไปด้วย.
หนุ่มช่างเชื่อมที่สัตหีบ ยึดถือกฎหมายปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รู้ตัวว่าเมา ขี่รถมาได้สักพักเห็นตู้ยามตำรวจ จึงจอดจยย.แล้วลงไปนอน ชาวบ้านนึกว่าบาดเจ็บสลบไป แจ้งกู้ภัยมาดู เจอหลับสนิทกรนสนั่น
null
จอดรถนอนหลับ,เมาไม่ขับ,เมาจอดนอน,นอนหลับข้างทาง,หนุ่มช่างเชื่อม,สัตหีบ,ชลบุรี,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/595086
สื่อออสเตรเลีย ขอโทษ กรณีล้อเลียนคนไทยแสดงความอาลัยในหลวง
นายพอล แอนเดอร์สัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนทเวิร์ค เทน (Network Ten) ของออสเตรเลีย ออกแถลงการณ์ขอโทษ หลังรายการ ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 10 เมื่อวันที่ 17 ต.ค.2559 มีเนื้อหาล้อเลียนคนไทยที่เศร้าโศกเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมรายการ เป็นรายการปริศนาเกมโชว์ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 10 ของออสเตรเลีย นักแสดงตลกและดาราที่เป็นผู้ร่วมรายการที่จะต้องดูคลิปวิดีโอและตอบคำถามว่าเหตุการณ์นั้นเป็นเหตุการณ์อะไร โดยตอนล่าสุดที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ทางรายการได้นำภาพของผู้หญิงไทยคนหนึ่งที่กำลังแสดงความอาลัยต่อการสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเป็นปริศนาคำทายเนื้อหาของรายการทำให้นายจิระชัย ปั้นกระษิณ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงแคนเบอร์รา ออกหนังสืออย่างเป็นทางการตำหนิรายการดังกล่าว พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการถอดบางช่วงของรายการที่ไม่เหมาะสมออกไปเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ รายงานว่าหนังสือจากเอกอัครราชทูตไทยลงวันที่ 18 ต.ค.2559 ตำหนิสถานทีโทรทัศน์ช่อง 10 อย่างรุนแรงจากการนำเสนอเนื้อหาดังกล่าว จดหมายของนายจิระชัยระบุว่า การล้อเลียนผู้คนที่อยู่ในความโศกเศร้าอย่างหนักจากการที่พระมหากษัตริย์ของพวกเขาสวรรคตนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เป็นการแสดงความไม่เคารพและไม่ใช่สิ่งที่จะนำมาพูดถึงเป็นเรื่องสนุกสนานล่าสุดวันนี้ (19 ต.ค.) บริษัท Network Ten ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 10 ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วนายพอลระบุว่า ทางบริษัทไม่ได้ตั้งใจและจะแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงจัง โดยได้ทำการติดต่อผู้ผลิตรายการดังกล่าว เพื่อชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขั้น รวมทั้งได้มีการถอดตอนที่เกี่ยวข้องในรายการดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ของบริษัทและยูทูป และยังได้มีการแก้ไขตัดทอนเนื้อหาเกี่ยวข้องที่ไม่เหมาะสมออกไป
สถานีโทรทัศน์ของออสเตรเลียออกแถลงการณ์ขอโทษต่อการนำเสนอรายการล้อเลียนคนไทยอย่างไม่เหมาะสม หลังถูกสถานทูตไทยในออสเตรเลียออกหนังสือตำหนิ
ต่างประเทศ
Network Ten,Have You Been Paying Attention,ออสเตรเลีย,เกมโชว์,รายการทีวี,ล้อเลียนคนไทย,ทูตไทย,จดหมายตำหนิ,ในหลวง,สวรรคต,จิระชัย ปั้นกระษิณ,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/256855
สุชน แยกทาง พท. กอดเก้าอี้ สปท. แล้ว
สุชน ยื่นใบลาออกแยกทาง พท. กอดเก้าอี้ สปท.แล้ว เผยขอบคุณพรรคที่ให้โอกาสทำงานเพื่อชาติช่วง 3 ปี ยันเจตนารมณ์ร่วมวง สปท.เพื่อสร้างความปรองดอง เตรียมเดินทางรายงานตัว 7 ต.ค.นี้ ขณะที่ สมพงษ์ ไขก๊อกพ้นเพื่อไทยตามติด,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. นายสุชน ชาลีเครือ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว หลังจากได้รับการแต่งตั้งให้เป็น สปท.โดยมี พล.ต.อ.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเป็นผู้รับหนังสือลาออก,โดย นายสุชน กล่าวว่า ตนได้ไปยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพื่อไปทำหน้าที่ สปท. ดังนั้นเพื่อให้การทำงานในฐานะสปท.เป็นไปด้วยความอิสระ เป็นกลางทางการเมือง ไม่ผูกมัดสถานะสมาชิกพรรค จึงยื่นหนังสือลาออก และขอขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่เปิดโอกาสให้ทำงานเพื่อประเทศในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมา ซึ่ง พล.ต.ท.วิโรจน์ ไม่ได้คัดค้านอะไร การมาทำงานเป็นสปท.ครั้งนี้ มาในนามส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ตนยอมรับในเงื่อนไขของพรรคว่า หากใครจะไปเป็น สปท.ต้องลาออก แต่ไม่อยากให้ใครตีความการลาออกไปในทางเสียหาย แต่ตนมีเจตนารมณ์ต้องการมาช่วยสร้างความปรองดอง ยุติ,เมื่อถามว่า การลาออกครั้งนี้ พร้อมตัดขาดจากพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายสุชน กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต แต่ตอนนี้มีความเป็นอิสระ พร้อมจะมาทำงานเพื่อสร้างความปรองดอง แม้จะไปทำงานคนละหน้าที่กับพรรคเพื่อไทย แต่ความเป็นพี่น้อง เพื่อนยังคงอยู่เหมือนเดิม ทั้งนี้จะเดินทางมารายงานตัวเป็นสปท.ที่รัฐสภา ในวันที่ 7 ต.ค.เวลา 09.00 น.,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่ นายสมพงษ์ สระกวี ก็เตรียมยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพื่อเข้าเป็น สปท.ในลำดับต่อไปแล้วเช่นกัน
สุชน ยื่นใบลาออกแยกทาง พท. กอดเก้าอี้ สปท.แล้ว เผยขอบคุณพรรคที่ให้โอกาสทำงานเพื่อชาติช่วง 3 ปี ยันเจตนารมณ์ร่วมวง สปท.เพื่อสร้างความปรองดอง ขณะที่ สมพงษ์ ไขก๊อกพ้นเพื่อไทยตามติด
null
สุชน ชาลีเครือ,ลาออกจากเพื่อไทย,สุชนลาออกเพื่อไทยร่วม สปท.,สุชนยื่นหนังสือลาออก,ลาออกพรรคเพื่อไทย,พรรคเพื่อไทย,สปท.,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง,สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
https://www.thairath.co.th/content/530388
รู้จัก มะเดื่อฝรั่ง ปลูกง่าย ขายดี ไร้คู่แข่ง เกษตรกรสงขลาทดลองแล้ว
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มะเดื่อฝรั่ง หรือ Figs เป็นผลไม้ที่ผู้คนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่รู้จัก แต่สำหรับในตลาดต่างประเทศ มะเดื่อฝรั่ง นับเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ชนิดหนึ่งให้คุณค่าทางอาหารสูงสุดติดอับดับ 1 ใน 10 ของโลก และยังมีสรรพคุณทางยาอีกมากมาย กำลังเป็นที่นิยมของกลุ่มคนรักสุขภาพ และมีราคาแพงมาก เกษตรใน จ.สงขลา จึงหันมารวมกลุ่มกันทดลองปลูกพืชชนิดนี้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ในอนาคต,ทั้งนี้ นายสมชาย จันทะสะระ อายุ 44 ปี เกษตรกรในชุมชนป่ากล้วย บ้านฉลุง หมู่ 7 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ลงทุนซื้อต้นพันธุ์มะเดื่อฝรั่ง จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในราคาต้นละ 500 บาท จำนวน 40 ต้น ทดลองปลูกรวมกับผลไม้ท้องถิ่นชนิดอื่นๆ ในแปลงเดียวกัน ปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ หรือ ปลอดสารพิษ โดยเว้นระยะห่างกันต้นละประมาณ 2 เมตร หลังปลูกมา 3 เดือน เริ่มให้ผลผลิตมะเดื่อฝรั่งในรุ่นแรก ซึ่งผลผลิตจะโตเต็มที่ช่วง 6-8 เดือนขึ้นไป,นายสมชาย บอกว่า มะเดื่อฝรั่งยังมีอายุยืนยาวไม่ต้องปลูกหลายครั้ง เป็นผลไม้ชนิดใหม่ที่มีคนนิยมปลูกกันน้อยมากในประเทศไทย ขณะนี้ ตนได้รวมกลุ่มกับเพื่อน 10 คน ทดลองปลูกเป็นแห่งแรกในพื้นที่ภาคใต้ วิธีปลูกก็ไม่ยุ่งยาก จะปลูกในที่โล่งแจ้งหรือปลูกในบ่อซีเมนต์ก็ได้ ไม่แตกต่างจากผลไม้ชนิดอื่นๆ ใส่ปุ๋ยหมักที่ทำขึ้นเองเดือนละครั้ง รดน้ำสม่ำเสมอ,ส่วนวิธีป้องกันโรคแมลงให้ใช้ถุงห่อผลผลิตเพื่อป้องกันหนอนเจาะ และเชื้อราสนิม ซึ่งราคาขายจะขายในราคาประกันกิโลกรัมละ 120 บาท และเป็นการขายกันในกลุ่มที่ปลูกมะเดื่อฝรั่ง แต่หากราคาขายในท้องตลาดที่นำเข้ามาจากต่างประเทศจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 300-700 บาท และได้เริ่มตอนกิ่งพันธุ์เองเพื่อขยายพื้นที่การปลูกเพิ่มขึ้น เพราะเชื่อว่าในอนาคตมะเดื่อฝรั่งจะเป็นผลไม้ที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า
เกษตรกรใน จ.สงขลา สนใจรวมกลุ่มปลูกมะเดื่อฝรั่งแบบปลอดสารพิษ ในเชิงพาณิชย์แล้ว เผยวิธีการปลูกไม่ยุ่งยาก ดูแลง่าย ในสภาพอากาศเมืองไทยให้ผลผลิตเร็ว จำหน่ายได้ในราคาสูง ที่สำคัญไร้คู่แข่งทางการตลาด เป็นที่รู้จักในระดับสากล
null
มะเดื่อฝรั่ง,ปลูกมะเดื่อฝรั่ง,Figs,วิธีการปลูกมะเดื่อฝรั่ง,ปลูกมะเดื่อฝรั่งแบบปลอดสารพิษ,การเกษตร,ข่าวการเกษตร,สงขลา,ข่าว,ทั่วไทย,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/699443
เบนซ์ ปลื้ม พระเทพฯ ทรงขริบผมให้ น้องปริม
บอกเป็นบุญของลูก,หลังจากคลอดลูก ก็ยังไม่ค่อยได้เห็นคุณแม่ เบนซ์ พรชิตา หิรัณยัษฐิติ รับงานอีเวนต์เท่าไร แต่ล่าสุดตบปากรับคำมาร่วมงาน รวมพลังคืนความสะอาดเงางามให้กรุงเทพฯ ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี เพื่อทำสิ่งดีๆ ให้กับกรุงเทพฯ โดยงานนี้คุณแม่เบนซ์บอกว่า ช่วงนี้เลี้ยงลูกอย่างเดียว พร้อมแพลนมีลูกคนที่สองต่อเลย แล้วค่อยลดน้ำหนักทีเดียว,เป็นไงบ้างตอนนี้เลี้ยงลูกอย่างเดียวเลย? เลี้ยงลูกจริงๆ ทุกคนบอกจะเหนื่อยมาก 1-3 เดือนแรก เหนื่อยแต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ แล้วเบนซ์ก็เลี้ยงเอง ไม่ได้มีพี่เลี้ยง เลี้ยงเองคนเดียว แต่มีพี่มิคช่วยบ้างตอนกลางคืน แต่ถือว่าเป็นการช่วยลดความอ้วนอย่างดีนะเพราะไม่งั้นไม่ลงเลยนะ เพราะเราขึ้นเยอะ เราขึ้นไป 30 โล ตอนนี้ลงไป 18 โลแล้ว แต่ก็เหลืออีกเพียบ คนอื่นเขาลดลงกันไปหมดแล้ว ลดลงรับงานกันหมด เรายังตัวบานเป็นหมี แต่ก็พยายามค่อยๆ ลด เพราะมันค่อนข้างยาก เหลือ 12 โลค่ะ ที่ต้องลด เยอะเหมือนกันนะ แต่จะพยายาม เพราะถ้าไม่ลงภายใน 6 เดือน คงจะอยู่กับเราไปอีกนานเลย  มีวิธีลดยังไงบ้าง? ก็จริงๆ เขาบอกว่าเลี้ยงลูกให้นมก็จะผอม ก็ให้นมตลอด ให้ลูกกินจากเต้า ไม่ให้กินจากขวด แต่ก็ยังบานอยู่ ตอนนี้ก็ต้องลดอาหาร แต่ยังไม่ได้ออกกำลังกายเลย คนอื่นเขาไปกันแล้วเนอะ ลีเดีย นี่อุ้มลูกแบบว่าออกกำลังกายชุดใหญ่ไปแล้ว เดี๋ยวเราต้องพยายามตามเขาบ้าง ตอนนี้เลี้ยงลูกก็ค่อยๆ พยายามยืนเต้นบ้าง,น้องเป็นไงบ้าง? น้องน่ารัก โชคดีที่เลี้ยงง่าย เขาเป็นเด็กไม่งอแง ทำให้เรารู้สึกไม่เหนื่อยมาก แต่ก็ไม่แน่นะ ไอ้ที่ไม่งอแงอาจจะทำให้เราอ้วนไง แล้วเขาก็ไม่ค่อยตื่นกลางคืน นอนง่าย เลี้ยงง่าย ไม่งอแง ทำให้เราสบายใจด้วย ก็เลยรู้สึกโชคดีลูกคนแรกไม่เหนื่อย จะได้มีคนที่ 2 ได้เลยเนอะ  พัฒนาการน้องเป็นไงบ้าง? เริ่มยิ้ม แต่นางยังคุยไม่เก่งนะ เริ่มยิ้มแย้ม แต่ว่าไม่มีเสียง อาจจะมีเออออบ้างนิดหน่อย แต่ว่าเงียบ ชีวิตว่างไม่ทำไรนะ ดูแต่ลูกชาวบ้าน เปิดอินสตาแกรมดูลูกชาวบ้าน ดูลูกกุ๊บกิ๊บเจ้าเป่าเปาคุยเก่งมาก ทำไมลูกฉันไม่เห็นคุยแบบนี้เลย เราก็เลยคิดว่าสงสัยต้องให้คนมากันเยอะๆ แล้วช่วยกันคุย เพราะเบนซ์อยู่คนเดียวก็คุยไม่เยอะ เลยคิดว่าต้องชวนญาติๆ มาช่วยกันพูด,ถามถึงเรื่องที่ สมเด็จพระเทพฯ ทรงขริบผมไฟให้น้องปริม? เบนซ์ว่าเป็นบุญของลูกนะ ต้องขอบคุณฝั่งคุณพ่อคุณแม่พี่มิคด้วย เรียกว่าเป็นบุญของน้องที่มีโอกาสให้พระองค์ท่านทรงขริบผมให้ จริงๆ เบนซ์ว่าเขายังเด็กมากอาจจะไม่รู้ แต่เราต้องอธิบายให้เขาฟังว่าโชคดีแค่ไหนที่ได้ทำอะไรแบบนี้ ปลื้มมาก เบนซ์ว่าในชีวิตคนก็ไม่ได้มีโอกาสแบบนี้ แล้วมันเป็นบุญของเขา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราเลย แต่เขาตั้งแต่เกิดมามีแต่คนรักเขา ได้มีโอกาสให้พระองค์ท่านทรงขริบผมให้ด้วย ซึ่งถือว่าโชคดีมากแล้วล่ะ แล้วพระองค์ท่านก็ถามว่าเลี้ยงยากไหม ทรงตรัสนิดหน่อยกับพี่มิคนั่นแหละค่ะ  คนที่สองจะเริ่มมีตอนไหน? อยากมีเลย แต่คุณหมอบอกแผลผ่าต้องครบ 9 เดือนก่อน ก็จะรีบมีเลย จะได้ทีเดียว อ้วนแล้วก็อ้วนไปเลยเนอะ ค่อยลดทีเดียว จริงๆ อยากมีมากกว่า 2 คนนะ แต่เดี๋ยวรออีกทีหนึ่ง เพราะถึงเวลามีลูกจริงๆ มันไม่ง่ายอย่างที่คิดนะ เจอเด็กสมัยนี้มันเลี้ยงยากจัง ต้องตามให้ทันลูก แล้วเราไม่ทันสมัยใดๆ โซเชียลก็ไม่รู้เรื่อง เลยบอกให้พี่มิคแบบเขามีอะไรก็ต้องไปเล่นกับเขานะ เขาจับโปเกมอนกัน เธอก็ต้องไปจับกับเขานะ เพราะเราไม่รู้เรื่องเลย ต้องให้พี่มิคตามเรื่องโซเชียล คิดในใจว่ามีลูกคงคุยกับเขาไม่รู้เรื่องแน่เลย ก็เลยคิดว่าสัก 2 น่าจะโอเค หรือไม่ก็ 3.
เบนซ์ พรชิตา เผยออกงานครั้งแรกหลังคลอด บอกช่วงนี้พยายามลดน้ำหนักอย่างต่อเนื่อง ส่วนลูกสาว น้องปริม เลี้ยงง่ายไม่งอแง รับอยากมีคนที่สองต่อ เพราะไหนๆ ก็อ้วนแล้ว จะได้ลดทีเดียว ปลาบปลื้ม สมเด็จพระเทพฯ ทรงขริบผมให้น้องปริม
null
เบนซ์,เบนซ์ พรชิตา,เบนซ์ มิค,พรชิตา หิรัณยัษฐิติ,เบนซ์ พรชิตา คลอดลูก,น้องปริม ลูกสาวเบนซ์ มิค,น้องปริม ด.ญ.รัตน์นรี หิรัณยัษฐิติ,น้องปริม ขริบผมไฟ,น้องปริม ลูกสาว เบนซ์ มิค,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/717345
เอ็มซีสาวสวยแฉ เจ้าของร้านมอมบราวนี่ยัดกัญชา หวิดเสียท่า-เกือบตาย
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงาน มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Thitiporn Waritthanan โพสต์ข้อความอ้างว่า เตือนเลยนะสาวๆ เมื่อคืนเราโดนวางยา เมื่อคืนมีคนเอาบราวนี่ให้กิน เค้าชวนเรากินเหล้า เราบอกว่าไม่กิน ไม่เคยกินเหล้า เค้าเลยเอาบราวนี่มา แล้วบอกว่า มันชิ้นละ 100 เราก็ไม่เอะใจ แต่รู้สึกว่ามันอร่อย กินไป 5 ชิ้น ยังบอกอีกว่าบราวนี่กินกับโค้กน้องจะเมามากเลย เราหัวเราะมันจะเมายังไงวะ ไม่ใช่เหล้า พอหลังจากนั้นก็มีอาการมึน ใจเต้นแรง ภาพหลอน เสียงหลอน มีสติอยู่เลยกินน้ำเยอะมากๆ จนขึ้นไปโฟนรอบท้าย ลงมาจากเวทีเดินแทบไม่ได้ จึงบอกบอสว่าไม่ไหว ทางพวกในร้านจะไปส่ง รพ. แต่เรามีสติไม่ยอมไป ให้บอสพาไปแทน ทำได้ไงวะ ถ้าตายขึ้นมา แล้วทางร้านไม่เคยมาดูเลย โรงพยาบาลก็ไม่ทำไรให้ รอดตายมาได้เพราะมีสติ เพราะไปกับบอส พอเลยเลิกงานโฟนกลางคืน ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล รอเอกสารแจ้งความ ไม่รู้ว่ากฎหมายจะทำอะไรได้หรือป่าว แต่เตือนไว้เลยผู้หญิงคนอื่นอาจไม่โชคดีแบบนี้ ถ้าไม่มีสติป่านนี้ชีวิตจะเป็นยังไง ซึ่งกำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันนั้น,ล่าสุด น.ส.ฐิติพร วฤทธินันท์ หรือ เฟรช อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 หมู่ 7 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ในฐานะผู้เสียหาย โดยมีอาชีพเป็นพิธีกรตามงาน พร้อมเพื่อน 3 คน เดินทางไปยัง บก.ภ.จว.สุโขทัย เข้าให้ปากคำต่อ พ.ต.อ.ธนวรรธน์ อยู่คง รอง ผบก.ภ.จว.สุโขทัย และผู้เกี่ยวข้อง โดย น.ส.ฐิติพร กล่าวว่า ที่โพสต์ข้อความเตือนภัย เพราะเหตุการณ์ร้ายนี้ เพิ่งจะเกิดขึ้นกับตนเอง เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนและเพื่อนพิธีกรอีก 2 คน รับงานเป็นพิธีกรที่ร้านในตัวเมืองสุโขทัย ขณะนั่งพักอยู่ที่โต๊ะ ถูกชายอ้างตัวเป็นเจ้าของร้านและเพื่อนหลอกให้กินบราวนี่ไปประมาณ 5 ชิ้น เห็นว่าเป็นเจ้าของร้านจึงไม่นึกเอะใจ หลังจากนั้นเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงคือ หน้ามืด มึนงง ใจสั่น เห็นภาพหลอนและคอแห้ง จนแทบจะประคองตัวเองไม่ได้ โชคดีที่เพื่อนที่มาทำงานด้วยกัน รีบพาส่งโรงพยาบาลสุโขทัย แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงพาไปตรวจที่โรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลกอีกครั้ง,ทั้งนี้ เมื่อแพทย์สั่งตรวจปัสสาวะพบว่า มีสารเสพติดของกัญชาอยู่เป็นจำนวนมาก ตนมั่นใจว่า ต้องเป็นบราวนี่ใส่กัญชา ที่ชายทั้ง 2 คน นำมาให้กินอย่างแน่นอน จึงโพสต์ข้อความเตือนภัยพร้อมนำหลักฐานและใบรับรองแพทย์เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุโขทัย เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ 2 คนดังกล่าว,นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการ จ.สุโขทัย กล่าวว่า หลังทราบข้อมูลเบื้องต้นได้มอบหมายให้ บก.ภ.จว.สุโขทัย สืบสวนข้อเท็จจริงและรายงานผลภายใน 3 วัน หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง ก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ได้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการจัดระเบียบสังคมในพื้นที่ที่เกิดเหตุและจุดอื่นๆ เพื่อให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีการฝ่าฝืนกฎหมาย หรือพบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐเพิกเฉยหรือละเลย ก็ต้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาทันที.
เป็นไปได้ถึงเพียงนี้! สาวเอ็มซีโพสต์เฟซบุ๊กและโร่แจ้งความ อ้างถูกเจ้าของร้านในสุโขทัยมอมด้วยขนมบราวนี่ยัดกัญชา กินแล้วมึนซ้ำหลอน หวิดเสียท่า
ข่าว,ทั่วไทย
บราวนี่ยัดกัญชา,กัญชา,มอมยา,เอ็มซีสาว,สุโขทัย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1132585
เนวิน สู้คดี บังยี ฟ้องหมิ่น ช่วงเลือกตั้งนายกฯฟุตบอลปี 56
ที่ห้องพิจารณา 913 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 17 ต.ค. 59 เวลา 09.00 น. ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย และตรวจหลักฐาน คดีหมายเลขดำ อ.2670/2556 ที่นายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และบริษัท เอเอสทีวี ผู้จัดการ จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทอื่นโดยโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 332 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) และ 15 พร้อมเรียกค่าเสียหาย จำนวน 20 ล้านบาทด้วย,ตามฟ้องโจทก์ บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 56 นายเนวิน จำเลยที่ 1 ได้หมิ่นประมาท นายวรวีร์ โจทก์ โดยการให้สัมภาษณ์และเผยแพร่ทางเว็บไซต์ www.buriramunited.co.th ซึ่งเป็นของสโมรสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด แล้วจำเลยที่ 2 นำข้อความดังกล่าวไปเผยแพร่ทางเว็บไซต์ผู้จัดการ www.manager.co.th ทำให้ นายวรวีร์ โจทก์ เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นและเกลียดชัง เหตุเกิดที่ กทม. และ จ.บุรีรัมย์,โดยวันนี้ นายเนวิน ชิดชอบ จำเลยที่ 1 เดินทางมาพร้อมกับ นายชนินทร์ แก่งหิรัญ ทนายความ ส่วนบริษัท เอเอสทีวี ผู้จัดการ จำกัด มีผู้แทนนิติบุคคลมาศาลพร้อมทนายความ,ทั้งนี้ ศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้อง แล้วสอบคำให้การจำเลย ซึ่ง นายเนวิน จำเลยที่ 1 และผู้แทน บจก.เอเอสทีวี จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธต่อสู้คดี พร้อมขอยื่นคำให้การเป็นหนังสืออีกครั้ง,ขณะที่ อัยการโจทก์ แถลงว่ามีพยานเอกสารที่จะเพิ่มเติมจำนวนมาก จึงยังไม่สามารถจัดเตรียมสำเนาให้ฝ่ายจำเลยทั้งสองตรวจสอบได้ทัน ดังนั้น ขอเลื่อนตรวจหลักฐานไปก่อน โดยศาลสอบถามจำเลยทั้งสองแล้วไม่คัดค้าน กรณีมีเหตุอันควร ศาลจึงให้นัดตรวจหลักฐานอีกครั้ง ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ เวลา 13.30 น.,ส่วนที่ นายเนวิน จำเลยที่ 1 และ ผู้แทน บจก.เอเอสทีวี จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาลับหลังจำเลย เนื่องจาก จำเลยที่ 1 เป็นประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด จะต้องดูแลควบคุมการฝึกซ้อม รวมทั้งการนำทีมเดินทางไปแข่งขันบ่อยครั้ง จึงไม่สามารถมาศาลได้ทุกนัด ส่วนจำเลยที่ 2 ระบุประกอบอาชีพสื่อ จะต้องเดินทางไปต่างประเทศเป็นประจำ,ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ประกอบกับจำเลยทั้งสองมีทนายความแล้ว กรณีจึงมีเหตุอันสมควร ศาลจึงอนุญาตให้ดำเนินกระบวนพิจารณาลับหลังจำเลยได้ แต่หากมีเหตุจำเป็นที่ศาลประสงค์จะให้จำเลยทั้งสองเดินทางมาศาล ก็ให้จำเลยทั้งสองมาศาลตามนัด,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ นายวรวีร์ โจทก์ไม่ได้เดินทางมาศาล คงมีเพียงทนายความ ขณะที่ นายเนวินได้เดินทางกลับทันที โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณา,ขณะที่ นายชนินทร์ ทนายความของนายเนวิน กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจาก เมื่อครั้งที่นายวรวีร์ กำลังจะพ้นตำแหน่ง นายกสมาคมฟุตบอลฯ เมื่อปี พ.ศ. 2556 และมีการกล่าวถึงการแก้ไขข้อบังคับลักษณะปกครองของสมาคมฟุตบอลฯ ทั้งที่ นายวรวีร์ จะต้องพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งควรจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งก่อน ภายใน 30 วันตามข้อบังคับ แล้วค่อยให้คณะกรรมการชุดใหม่พิจารณาการแก้ไขข้อบังคับดังกล่าว ดังนั้น เมื่อมีความพยายามจะแก้ไขข้อบังคับใหม่ นายเนวินจึงเห็นว่าเป็นการไม่สุจริต โดยคดีนี้ครั้งแรกศาลอาญาเคยมีคำสั่งยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้องไปแล้ว เห็นว่าคดีไม่มีมูล แต่ฝ่ายโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์มีคำสั่งกลับใน ปี 2559 ให้ศาลอาญาซึ่งเป็นศาลชั้นต้นรับคำฟ้องไว้พิจารณา คดีจึงได้เริ่มต้นกระบวนพิจารณาใหม่,สำหรับพยานที่เตรียมไว้จะมี นายเนวิน 1 ปาก และพยานเอกสาร โดยแนวทางการนำสืบคดีจะต้องแสดงให้ศาลเห็นว่าไม่ได้มีเจตนาหมิ่นประมาท แต่เป็นการติชมโดยสุจริต ส่วนที่โจทก์ขอให้ นายเนวิน ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน จำนวน 20 ล้านบาทด้วยนั้น ก็ต้องนำสืบให้เห็นว่า การวิจารณ์ดังกล่าวมีผลถึงขนาดให้ นายวรวีร์ ได้รับความเสียหายอย่างไร ซึ่งหลังจากเกิดเหตุก็ยังปรากฏว่า นายวรวีร์ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ,ทนายความของนายเนวิน ยังกล่าวถึง การยุติแข่งขันฟุตบอลในแมตช์ที่เหลือ ว่า ทางสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ดได้ประชุมร่วมกับนักฟุตบอล และเจ้าหน้าที่ทีมทุกฝ่ายแล้ว มีมติไม่ขอทำการแข่งขันฟุตบอลทุกรายการที่เหลือในฤดูกาล 2016 ทั้งด้วยความเหมาะสมในสถานการณ์เวลานี้ รวมทั้งสภาพจิตใจของนักฟุตบอลเองก็ไม่พร้อมที่จะลงทำการแข่งขันในเวลานี้ สำหรับแฟนฟุตบอลก็เชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะสโมสรเราเป็นหนึ่งเดียว.
เนวิน ให้การปฏิเสธ คดี บังยี ฟ้องหมิ่นประมาท ช่วงเลือกตั้งนายกฯ ฟุตบอล ปี 56 พร้อมขอพิจารณาคดีลับหลัง ศาลอนุญาต นัดตรวจหลักฐานอีกครั้งวันที่ 19 ธ.ค.นี้ ปฏิเสธตอบคำถามสื่อ
null
วรวีร์ มะกูดี,บังยี,เนวิน ชิดชอบ,บังยี ฟ้องหมิ่น,เลือกตั้งนายกฯฟุตบอล,เนวิน สู้คดี
https://www.thairath.co.th/content/756661
ตร.คุมตัวโจรใต้ที่ยิง อส.หญิงปัตตานีดับ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
เมื่อวันที่ 11 ม.ค.2562 พล.ต.ปิยพงษ์ วงศ์จันทร์ ผบ.ฉก.ปัตตานี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ทพ.43 ได้นำตัวนายดันย์ยา อูมา ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคง ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวหลังจากถูกออกหมายจับและให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ อ.หนองจิก และให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมก่อเหตุในพื้นที่จำนวน 4 ครั้ง ทั้งลอบยิง นางประพร แก้วมณีรัตน์ อส.จ.ปัตตานีเสียชีวิต ลอบยิงฐานปฏิบัติการทหาร ลอบยิงฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล และลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้า,เจ้าหน้าที่นำตัวไปทำเเผนคำรับสารภาพ ในคดีร่วมก่อเหตุยิงนางประพร เเก้วมณีรัตน์ เจ้าหน้าที่ อส.จ.ปัตตานีเสียชีวิต บนถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 57 โดยนายดันย์ยาทำหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์ให้กับมือปืน ประกบยิงนางประพร ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์จะกลับบ้านพักหลังออกเวร จนรถเสียหลักได้รับบาดเจ็บตกลงข้างทาง ขณะเดียวกันมือปืนอีกคันขับตามหลังมา ก่อนจะลงมายิงซ้ำอีกครั้งจนเสียชีวิต สำหรับคดีนี้ผู้ต้องหาได้รับสารภาพและให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีจนสามารถออกหมายจับคนร้ายได้ครบทั้ง 4 คน,จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำนายดันย์ยา เดินทางไปทำแผนคำรับสารภาพในคดีร่วมกันก่อเหตุยิงฐานปฏิบัติการทหาร บริเวณวงเวียนมะพร้าวต้นเดียว ม.2 ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก โดยเหตุเกิดขึ้นวันเดียวกันที่ลอบยิง นางประพร โดยครั้งนี้ นายดันย์ยา ทำหน้าที่ร่วมกับพวกอีก 5 คนใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่ฐานปฏิบัติการ จนเกิดการยิงปะทะกันขึ้น แต่ไม่มีฝ่ายใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สำหรับคดีดังกล่าว นายดันย์ยา ได้ให้การรับสารภาพจนทำให้เจ้าหน้าที่สามารถออกหมายจับได้ทั้งหมด 6 คน จับกุมได้แล้ว 3 คน.
ตำรวจคุมตัวโจรใต้ที่ยิง อส.หญิงเสียชีวิต และถล่มฐานทหารที่ปัตตานีไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จนท.เผยคดีนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพจนเป็นประโยชน์กับรูปคดี
ข่าว,ทั่วไทย
โจรใต้,ยิง อส.หญิง,ปัตตานี,ยิงถล่มเจ้าหน้าที่,คุมตัวทำแผน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1467443
นิธิ เอียวศรีวงศ์: ฮิตเลอร์
เพราะจุฬาฯ ถูกประเมินเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ แห่งหนึ่งของไทยมันจึงเจ็บปวดมากหน่อยผู้สำเร็จการศึกษาระดับสูงจากเยอรมนีบอกผมว่า ในเยอรมนีเองก็มีกฎหมายอาญาห้ามแสดงสัญลักษณ์นาซีหรือยกย่องสรรเสริญฮิตเลอร์ (ห้ามอะไรบ้างผมอาจจำผิด เอาเป็นว่าห้ามในสิ่งที่ผมไม่เห็นว่าน่าจะห้าม) เป็นกฎหมายอาญาก็หมายความว่าใครฝ่าฝืนทำก็จะมีโทษแล้วก็มีสมาคมยิวในสหรัฐ ที่คอยประท้วงคนทั้งโลก ถ้าใครเอ่ยเรื่องฮิตเลอร์ หรือแสดงเครื่องหมายสวัสดิกะในกรณีเยอรมนีนั้นผมพอจะเข้าใจได้ หลังสงคราม เยอรมนีต้องแสดงให้คนอื่น โดยเฉพาะเพื่อนบ้านที่ตัวเคยไปรุกรานไว้มั่นใจว่า เยอรมนีจะไม่หวนคืนกลับไปเป็นอาณาจักรไรซ์ใหม่อีกแล้ว ส่วนกรณีสมาคมยิวในสหรัฐ ก็คงมีเหตุผลอะไรในสังคมยิวอเมริกันที่ทำให้เขาต้องกระตือรือร้นคอยขัดขวางความทรงจำของคนอื่นเกี่ยวกับฮิตเลอร์ผมไม่ปฏิเสธว่า ฮิตเลอร์เป็นคนไม่ดี อย่างเดียวกับพระเทวทัตก็เป็นคนไม่ดี นายพลปิโนเชต์ก็ไม่ดี โรเบสปิแอร์ก็ไม่ดี นโปเลียนก็ไม่ดี แต่เอ๊ะเดี๋ยวก่อน หากไม่มีกฎหมายและศาสนาบังคับไว้ จะว่าคนเหล่านี้ไม่ดี คงมีคนเถียงอยู่ไม่น้อย ไม่ได้เถียงว่าเขาดีนะครับ แต่เถียงว่าในท่ามกลางสิ่งไม่ดีที่เขาทำไว้นั้น บางเรื่องเป็นรากฐานของรัฐชาติในปัจจุบัน บางเรื่องเป็นประโยชน์แก่คนส่วนใหญ่ โดยผู้ทำเองไม่ได้ตั้งใจที่สำคัญกว่านั้นก็คือ มีเหตุผลบางอย่างในประวัติศาสตร์ที่ทำให้สิ่งไม่ดีที่เขาทำนั้น เป็นผลรวมจากเงื่อนไขอื่นๆ อีกหลายอย่างมากกว่าการตัดสินใจทำของเขาคนเดียว ผมขอยกตัวอย่างนโปเลียนซึ่งเที่ยวรุกรานไปทั่วยุโรป จนทำให้เกิดยุคแห่งสงครามนองเลือดที่น่าเศร้ายุคหนึ่งในประวัติศาสตร์ยุโรป แต่ความเป็นศัตรูระหว่างมหาอำนาจอื่นในยุโรปต่อการปฏิวัติฝรั่งเศส นโปเลียนไม่ได้ก่อขึ้น จะมีหรือไม่มีนโปเลียน ประเทศราชาธิปไตยต่างๆ (ไม่รวมอังกฤษ แต่รวมอังกฤษ) ก็พยายามทำสงครามโค่นล้มฝรั่งเศสที่ปฏิวัติลงให้ได้ยิ่งกว่านี้ ผู้นำฝรั่งเศสหลังปฏิวัติ ไม่ว่าจะเป็นโปเลียนหรือใครก็ตาม ย่อมรู้สึกเหมือนกันว่าฝรั่งเศสได้ค้นพบระบอบปกครองที่ยุติความอยุติธรรมลงได้อย่างสิ้นเชิง ซึ่งประเทศอื่นน่าจะนำไปใช้ นี่คิดแบบบริสุทธิ์ใจนะครับ คนที่คิดว่าระบอบประชาธิปไตยเป็นเครื่องมืออย่างดีในการขยายอำนาจของฝรั่งเศส หรือแม้แต่ขยายอำนาจของตนเอง ก็มีอีกแยะ และน่าจะแยะกว่าพวกที่คิดเชิงอุดมการณ์บริสุทธิ์ด้วยซ้ำนโปเลียนก็อาจเป็นหนึ่งในคนที่คิดอย่างนั้น แต่แม้ไม่มีนโปเลียน โบนาปาร์ต ก็คงมีใครอีกสักคนที่พบว่า ประชาธิปไตยของรัฐชาติทำให้สามารถเกณฑ์ทัพได้จากมวลชน สร้างกองทัพประจำการแบบใหม่ที่มีฐานจากมวลชนขึ้นมา ถึงรบไม่เก่งเท่านโปเลียนก็คงปราบกองทัพโบราณของปรัสเซียและออสเตรียลงได้ไม่ยาก และก็อาจเผลอใจว่าจะปราบรัสเซียได้เหมือนนโปเลียนด้วยตอบแบบไทยๆ คือไม่เอากับข้างไหนฝ่ายเดียว แต่ขอเลือกเส้นกลางๆ ไว้ก่อนก็คือ เป็นทั้งสองอย่าง ประวัติศาสตร์ก็มีส่วนผลิตความชั่วนั้นขึ้นมา เท่าๆ กับคนเลวก็ผลิตขึ้นมาด้วย เพียงเท่านี้ฮิตเลอร์ก็รับผิดชอบต่อการกระทำของเขาเพียงครึ่งเดียวแล้ว (ครึ่งนี่แบ่งกันแบบง่ายๆ นะครับ อาจเกินครึ่งหรือน้อยกว่าครึ่งก็ว่ากันไปเป็นเรื่องๆ)ด้วยเหตุดังนั้นผมจึงอยากชวนตั้งคำถามต่อไปว่า หากฮิตเลอร์เกิดใหม่ จะสามารถทำให้เยอรมนีในปัจจุบันสถาปนาอาณาจักรไรซ์ขึ้นมาใหม่ได้หรือไม่ ผมคิดว่าไม่ได้ เพราะขาดเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ-สังคม-การเมืองบางอย่าง ที่ทำให้คนเยอรมันพร้อมจะกลายเป็นมวลชนเซื่องๆ ของฮิตเลอร์ หรือยิ่งไปกว่านั้น หากฮิตเลอร์เกิดเป็นคนอังกฤษ ฝรั่งเศส อเมริกัน ไทย จีน ฯลฯ จะสามารถเปลี่ยนรัฐเหล่านั้นไปสู่เผด็จการเบ็ดเสร็จได้สมบูรณ์อย่างที่ทำในเยอรมนีช่วงนั้นได้หรือไม่ ผมคิดว่าก็ไม่ได้อีก ด้วยเหตุผลเดียวกันฮิตเลอร์เป็นคนชั่วแน่ แต่ไม่มีประโยชน์ที่จะเข้าใจอดีตเพียงการตัดสินคนในประวัติศาสตร์ว่าดีหรือชั่ว เพราะไม่ทำให้เราเข้าใจได้ถ่องแท้เลยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วนั้น เกิดขึ้นได้ภายใต้เงื่อนไขทางสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมืองอย่างไร ได้แต่นั่งท่องจำรายชื่อคนดีคนชั่วไว้ฉลองกัน กลายเป็นพิธีกรรมของชาดกแห่งชาติถ้ามองฮิตเลอร์ในฐานะปรากฏการณ์ เขาพัฒนาระบอบเผด็จการเบ็ดเสร็จได้สมบูรณ์แบบ ยิ่งกว่ามุสโสลินีในอิตาลี และยิ่งกว่าสตาลินในโซเวียตเสียอีก เผด็จการเบ็ดเสร็จเป็นปรากฏการณ์ซึ่งเกิดขึ้นหลังประมาณทศวรรษ 1930 เป็นระบอบและเป็นสังคมที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน เพราะเผด็จการเบ็ดเสร็จไม่ได้เพียงแต่ยึดอำนาจรัฐไว้เฉยๆ หากเป็นระบอบที่พยายามจะเปลี่ยนทั้งธรรมชาติของรัฐและคนในรัฐ ด้วยการทำให้มวลชนยินยอมพร้อมใจอย่างเต็มที่ (ด้วยการปลุกระดมอย่างเข้มข้นบวกกับการทำให้กลัว ที่น่าสนใจคือไม่ใช่กลัวอำนาจรัฐนะครับ แต่กลัวเพื่อนไม่คบ กลัวเพื่อนบ้านรายงาน กลัวถูกออกจากงาน ฯลฯ กลัวตัวเองแหละครับ)เผด็จการเบ็ดเสร็จตายจากเราไปเรียบร้อยแล้ว หรือยังอยู่ใกล้ๆ ตัวเรานี่เอง ถ้าดูจากความพยายามหรือความผันผวนในหลายประเทศทั่วโลก ก็จำเป็นต้องกล่าวว่า มันยังไม่ได้ไปไหนไกล หลายเงื่อนไขที่เกิดขึ้นแม้ในเมืองไทยเราเอง ก็อาจนำไปสู่เผด็จการเบ็ดเสร็จหรือเงาของมันได้ อย่างเช่นเมื่อคุณพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง พูดว่า แผ่นดินนี้เป็นของพ่อ ใครไม่รักพ่อก็ออกไปจากแผ่นดินนี้ ผู้คนปรบมือกันเกรียว สื่อกระแสหลักรายงาน โดยไม่มีใครวิพากษ์วิจารณ์แสดงความเห็นเป็นอื่น ถ้าทุกคนเห็นด้วยกับคุณพงษ์พัฒน์อย่างนั้นจริง ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ผมไม่เชื่อว่าคนพร้อมเพรียงกันเห็นด้วยเช่นนั้น เพียงแต่ว่าส่วนใหญ่ของคนที่ไม่เห็นด้วยกลัวตัวเองเกินกว่าจะเปล่งเสียงอะไรได้ บรรยากาศของการทำให้ผู้คนกลัวตัวเองจะกลายเป็น อื่น ในสังคมนี่แหละครับ เป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้เกิดเผด็จการเบ็ดเสร็จหรือเงาของมันได้ดีและด้วยเหตุดังนั้น ฮิตเลอร์และนาซีจึงเป็นสิ่งที่ควรใส่ใจ ควรศึกษา เพื่อธำรงรักษาสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์เอาไว้ จะใส่ใจศึกษาได้ก็ต้องไม่ตกอยู่ใต้กระบวนการบังคับลืม การแสดงภาพฮิตเลอร์และนาซีอย่าง รู้เท่าไม่ถึงการณ์และไร้เดียงสา ที่นักเรียนไทยตั้งแต่ระดับมัธยมถึงมหาวิทยาลัยกระทำนั้น คือผลของกระบวนการบังคับลืมไม่ใช่หรือยิวและยิปซีคือเหยื่อ ปัญหาคือเหยื่อของใคร? เรามักคิดว่าเป็นเหยื่อของนาซี แต่ที่จริงแล้วก่อนจะตกเป็นเหยื่อของนาซี พวกเขาตกเป็นเหยื่อของสังคมเยอรมันก่อน กล่าวคือในท่ามกลางความอับจนในทุกหนทาง ไม่ว่าเงินเฟ้อจนเงินกลายเป็นเศษกระดาษ ความไร้อำนาจของรัฐชาติ ความวุ่นวายปั่นป่วนที่เกิดขึ้นแทบทุกวันในสังคม ฯลฯ คนเยอรมันหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง จะเหลือความเชื่อมั่นตนเองได้อย่างไร นอกจากสร้างแพะขึ้นมารับบาป ยิวเป็นแพะที่เหมาะเจาะที่สุด ดังนั้นทฤษฎีเชื้อชาติอภิชนและเชื้อชาติมลทินของนาซีจึงฟังขึ้น และเป็นฐานให้แก่การขจัดยิวให้หมดไปจากสังคม จะขจัดอย่างไร ผู้คนก็พร้อมจะหลับตาเสีย ขอให้ขจัดออกไปเท่านั้นเพื่อจะโค่นซัดดัม กองเรือที่หกของสหรัฐส่งเครื่องบิน จรวด และปืนใหญ่ถล่มอิรักเหมือนพลุในงานฉลองวันชาติ แต่เป็นพลุที่จุดตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลาหลายวัน มีเหยื่อพลเรือน เด็ก ผู้หญิง คนชรา และชายฉกรรจ์ที่เป็นผู้ประกันขนมปังให้ครอบครัว เป็นแสนที่ถูกล้างผลาญ แน่นอนสหรัฐไม่ได้มีเจตนา ล้างเผ่าพันธุ์ แต่มันมีอะไรต่างกันหรือ เช่นเดียวกับการตอบโต้การก่อการร้ายด้วยการทำอย่างเดียวกันกับเลบานอนและปาเลสไตน์ โดยไม่อาจหาเป้า ทางทหาร ที่แน่นอนชัดเจนได้ จึงต้องปูพรมไว้ก่อน มันมีอะไรต่างกันกับการฆ่า ล้างเผ่าพันธุ์ โดยสาระหรือผมไม่ปฏิเสธว่า การก่อการร้ายเช่นถล่มตึกทำลายชีวิตคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เป็นพัน หรือระเบิดพลีชีพเพียงเพื่อให้ ฝ่ายเขา ต้องตายเกลื่อนคือการฆ่าล้างผลาญอย่างหนึ่งยิ่งกว่านี้ ผมไม่มีเจตนาจะบอกว่า เพราะอิสราเอลฆ่าล้างผลาญชาวอาหรับในปาเลสไตน์และเลบานอน เราจึงควรยกย่องฮิตเลอร์ที่เคยฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ตรงกันข้ามเลย เราต้องพยายามทำความเข้าใจการกระทำของฮิตเลอร์ให้ดี เพื่อที่ว่าเราจะพบหนทางยุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือการฆ่าล้างผลาญที่ไม่จำเป็นนี้ลงให้ได้ ไม่ว่าจะกระทำโดยชาวเยอรมัน อเมริกัน อาหรับ ยิว หรือทหารไทย
ประกาศไว้ก่อนเลยครับว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับจุฬาฯ เพราะจุฬาฯ ได้รับสารภาพไปแล้วว่าตัวรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไร้เดียงสา หากจะเกี่ยวข้องบ้างก็คงเป็นองค์กรต่างๆ ที่ชอบประเมินอันดับมหาวิทยาลัย
การเมือง,ต่างประเทศ,การศึกษา
นิธิ เอียวศรีวงศ์,ฮิตเลอร์
https://prachatai.com/journal/2013/07/47816
แพท ณปภา ร้องไห้เปิดใจ เบนซ์ ทำอะไรไม่คิดถึงลูก ตนอดทนมาตลอด (คลิป)
หลังจากที่ เบนซ์ เรซซิ่ง หรือ อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช โพสต์ข้อความในวันสิ้นปี ว่าได้ทักไลน์ไปหา แพท ณปภา หลังได้ฟังอีกฝ่ายพูดถึงเรื่องนี้ในรายการนึง จึงทำให้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ ล่าสุด บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ได้ติดต่อไปยัง คุณแม่สายสตรอง แพท ณปภา เจ้าตัวบอกว่าขอพูดในรายการทีเดียว หลังจากนี้ไม่สะดวกพูดและเจ้าตัวก็ได้เปิดใจพูดเรื่องนี้รายการแชร์ข่าวสาวสตรอง ที่ออกอากาศทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 และพูดถึงเรื่องนี้พร้อมกับร้องไห้ไปด้วยว่าแพทไม่รู้จะพูดอะไรกับเขาแล้ว เพราะสุดท้ายคนที่ได้รับผลกระทบไม่ใช่แพทกับเขา แต่คือลูกแพท ทำไมแพทไม่เลือกที่จะโพสต์อะไรแบบนั้น ทั้งที่แพทก็มีเหมือนกัน แต่สิ่งหนึ่งคือลูก ซึ่งแพทเห็นในจุดนั้น แพทเลี้ยงลูกแพทมาเพื่อนๆ แพทพูดเหมือนกันว่าเขาไม่เห็นไม่เป็นไร แต่สิ่งที่เราทำคือเราต้องเห็น โพสต์วันนี้ถึงแม้เขาจะลบไปแต่มันถูกแชร์ออกไปมากมาย แพทถึงได้โพสต์แค่นี้ไงที่แพททำได้ เพราะสุดท้ายถ้าลูกมาอ่านมันก็ยังเป็นข้อความที่ไม่ได้ส่งผลอะไรกับชีวิตเขา มันแค่เป็นการบอกว่าแพทตัดสินใจถูกแล้วจากการที่เขาโพสต์ๆ มา ทำให้แพทกลับมานั่งคิดในสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มันยิ่งตอกย้ำว่าแพททำถูกมากๆ รวมถึงคอมเมนต์หลายคอมเมนต์แพทรู้เลยว่าคนๆ นี้เขาไม่รู้และเข้าใจอะไรเลยเกี่ยวกับชีวิตของแพทแม้แต่เพื่อนแพทที่เขาไปคอมเมนต์เขาก็อยู่ข้างแพท ในวันที่แพทไม่มีเขา อย่างเพื่อนแพทที่เข้าไปเซฟแพทก็โดนอันเฟรนด์ มันยิ่งทำให้แพทเห็นว่าจุดประสงค์ของเขาคืออะไร ทุกภาพที่เกิดขึ้นคือแพทเรียนเชิญเขาทุกครั้งเราไม่เคยคุยกันเลยนานมาก คุยแต่เรื่องลูก พอเราเจอแบบนี้เรายิ่งรู้สึกว่าเราไม่ใช่เด็กที่จะมาตีกันต่อหน้าเฟซ เราไม่ใช่พ่อแม่วัยรุ่นเราไม่ทำอย่างนั้น เขาไม่เคยพูดอะไรกันเลย สื่อสารกันผ่านหน้าจอและนักข่าว ถ้าติดต่อมาแพทคุยอยู่แล้ว เพื่อลูกแพททำได้หมดตอนนี้มีคนวิจารณ์เต็มไปหมด แต่แพทไม่โกรธคนเหล่านั้นเพราะถ้าเราไม่เปิดช่องมันก็ต้องมีอะไรแบบนี้ เมื่อวันนี้คุณเปิดมันเองคุณก็ต้องรับให้ได้ ไม่ใช่รับไม่ได้แล้วยิ่งทำมันเอง แพทบอกเลยว่ามันไม่มีอะไรดีขึ้นส่วนความรู้สึกของแพทวันนี้ มันคือศูนย์ ตั้งแต่เมื่อวาน ศูนย์แบบแพทไม่เคยคิดจะ (เสียงสั่น) เขาไม่น่าทำร้ายแพทกับลูกแบบนี้ (ร้องไห้) เขาไม่ควรทำ เขาควรจะรักลูกให้มากกว่านี้ ทำร้ายแพทเขาทำได้แต่เขาไม่ควรทำลูก เขาควรจะคิดถึงลูกให้มากกว่านี้แพทหมดแล้วจริงๆ ขอบคุณที่ทำให้แพทได้เห็นอะไรชัดขึ้นมากกว่าเดิม สิ่งที่คุณลงไม่ได้มีความจริง 100 % แบบที่คุณจะสื่อ แต่แพทเลือกที่จะไม่พูด เพราะแพทยังอยากให้คุณมีที่ยืนต่อไปแค่นั้นคนให้กำลังใจแพทเยอะมาก เมื่อคืนเป็นอะไรที่วิกฤติมาก มีอะไรอยากพิมพ์เป็นร้อยบรรทัดให้โลกรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ผ่านอะไรมาบ้างแต่สิ่งเดี๋ยวที่ทำได้คือมองหน้าลูก และรู้ว่าแม่ทำไม่ได้ แม่ทำอย่างที่เขาทำไม่ได้ จำวันที่แพทไปโรงเรียนครั้งแรกได้มั้ย คือกลัวลูกไปโรงเรียนแล้วลูกถูกล้อนั่นแหละคือสิ่งที่แพทคิดขอบคุณทุกคน เพื่อนๆ ครอบครัวๆ ที่เขาซัพพอร์ตแพทที่สุดแล้ว เป็นพลังที่ไม่เคยหายไปตั้งแต่วันที่แพทท้อง จนตอนนี้เรซ 3 ขวบนี่คือของจริง เป้าหมายแพทคือลูกเอาความจริงกับเขาแพทบล็อกทุกอย่างแล้ว ความจริงคือต้องโทรมาก่อนที่จะลงอะไรพวกนี้
แพท ณปภา ร้องไห้กลางรายการแชร์ข่าวสาวสตรอง บอกอีกฝ่ายควรจะคิดถึงลูกให้มากกว่านี้
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
แพท ณปภา,เบนซ์ เรซซิ่ง,ข่าวดารา,แพท เบนซ์ เรซซิ่ง,แพท เบนซ์ เรซซิ่ง เลิก,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1810593
ทนาย ปอล โต้ อั้ม จ่ายไม่ครบ
ที่ปรึกษากฎหมายบริษัทบลูริบบอน ของ ปอล ดัชชี่ ที่รับจ้างบริษัท อั้ม-อธิชาติ ผลิตละครป้อนช่องทรู ออกมาโต้กลับเรื่องเบี้ยวค่าตัวนักแสดง อ้างบริษัทหกหนุมานยังจ่ายเงินไม่ครบและมีสถานะเป็นลูกหนี้ เผยเหตุที่ยังไม่จ่ายเงินค่าตัวนักแสดงเพราะรอให้อั้มมาจ่ายเงินที่ค้างให้ครบก่อน,ยังยืดเยื้อจบไม่ลง กรณีนักแสดงจากซีรีส์เจ้าเวหา ช่องทรูโฟร์ยู ออกมาระบุยังไม่ได้รับค่าตัว ทำให้ อั้ม-อธิชาติ ชุมนานนท์ ผู้จัดละครซีรีส์เรื่องนี้ออกมาชี้แจงว่า ได้จ่ายเงินให้กับโมเดลลิ่งผู้จัดหานักแสดงไปแล้ว และ 4 นักแสดงออกมาแจ้งตำรวจถูกบริษัทจัดหานักแสดงดังกล่าวเบี้ยวค่าตัว เป็นเรื่องทอล์กไม่หยุดในวงการบันเทิง,ที่อาคารวอเตอร์ลีฟ เขตบางกอกน้อย เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.ย. นายวินัย เยี่ยมประเสริฐ หรือปอล ดัชชี่ เจ้าของบริษัทบลูริบบอน จำกัด มอบหมายให้นายปฏิภาณ วนัสบดี ที่ปรึกษากฎหมาย บริษัทบลูริบบอน ในฐานะตัวแทนนายวินัยออกมาแถลงชี้แจงแทน โดยระบุว่า อั้ม-อธิชาติกับนายวินัย มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเพราะอั้มเป็นดัชชี่บอยปี 1997 และยังสนับสนุนอั้มมาตลอด นายวินัยแนะนำให้อั้มเปิดบริษัทหกหนุมาน เพื่อร่วมโปรเจกต์ซีรีส์เจ้าเวหาทั้งสามภาค ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของบริษัทบลูริบบอน บริษัทหกหนุมานเป็นคนทำสัญญากับช่องทรู โดยการสร้างเจ้าเวหาทั้งสามภาค บริษัทหกหนุมานเป็นผู้ว่าจ้าง บริษัทบลูริบบอนเป็นผู้รับจ้าง,นายปฎิภาณกล่าวต่อว่า ในภาคแรกมีการว่าจ้างเป็นเงินจำนวน 39 ล้านบาท แบ่งจ่ายเป็น 6 งวด โดยบริษัทหกหนุมานชำระ 2 งวด เป็นเงินประมาณ 17 ล้านบาท เหลือจ่ายอีก 22 ล้านบาท นอกจากนี้ ทรูยังทำสัญญาจ้างนักแสดงหลัก,จากเรื่องนี้ 6 คน เป็นค่าพรีเซ็นเตอร์โฆษณาให้ทรู รวม 39 ล้านบาท มีสัญญาจ้างและจ่ายเงินกับบริษัทหกหนุมานโดยตรง ระหว่างนี้นายวินัยติดต่อกับอั้มตลอด คุยกันถึงเรื่องเงินที่ยังค้างชำระกับบลูริบบอน และอั้มได้ขอให้นายวินัยจ่ายเงินค่าพรีเซ็นเตอร์ให้กับ 1 ใน 6 นักแสดงของเรื่องก่อน ผ่านการพูดคุยกันทางไลน์ นายวินัยจึงได้จ่ายแทนให้ประมาณ 1.9 ล้านบาท ประมาณวันที่ 2 มี.ค. ถึงตอนนี้อั้มก็ยังคงค้างชำระอยู่,ที่ปรึกษากฎหมายบริษัทบลูริบบอนกล่าวอีกว่า ต่อมามีค่าจ้างผลิตภาคสอง ที่ถ่ายไปแล้ว 4.5 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่จ่าย รวมแล้วบริษัทหกหนุมานค้างเงินทางบลูริบบอนทั้งหมด 27 ล้านบาท โดยบลูริบบอนมีสภาพเป็นเจ้าหนี้และได้รับความเสียหายมาตลอด ต่อมานายวินัยสอบถามไปยังทางช่องทรู ทราบว่าทรูได้จ่ายค่าจ้างผลิตให้บริษัทหกหนุมานเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ทราบจำนวนเงินที่จ่ายมา,นายปฏิภาณกล่าวอีกว่า ในกรณีที่อั้มพยายามย้ำว่า ได้จ่ายเงินให้โมเดลลิ่ง โดยนำใบเสร็จรับเงินมาแสดง ขอชี้แจงว่า บลูริบบอนไม่ได้เป็นบริษัทโมเดลลิ่ง แต่เป็นบริษัทรับผลิตละคร มีการทำสัญญาว่าจ้างผลิตละครไม่ใช่สัญญาจัดหานักแสดง แต่ทำไมบริษัทหกหนุมานถึงขอให้ระบุในใบเสร็จรับเงินว่าเป็นค่านักแสดงในการวางบิล เพราะเขาบอกว่าถูกตรวจสอบเอกสารใบเสร็จ เลยขอให้บลูริบบอนออกใบเสร็จรับเงิน ระบุเป็นค่านักแสดงดังกล่าว เรื่องค่าจ้างนักแสดงอั้มและนายวินัยได้สอบถามกันตลอด ถ้าอั้มมั่นใจว่าจ่ายหมดแล้ว จะไม่ยอมรับสภาพหนี้ที่พูดคุยกับนายวินัยทางไลน์,เมื่อถามว่าที่มีข่าวการยกเลิกสัญญากับบลูริบบอน เพราะมีการฉ้อโกง นายปฏิภาณกล่าวว่า เบื้องต้นไม่ทราบว่ามีการยกเลิก เพราะบลูริบบอนยังคงผลิตละครอยู่จนถึงเดือน เม.ย. 2559 เมื่อถามต่อว่า กรณี 4 นักแสดงที่เข้าแจ้งความ ได้ติดต่อบลูริบบอนมาหรือไม่ นายปฏิภาณกล่าวว่า ทั้ง 4 คน ไม่ได้ติดต่อมาและไม่ขอพูดถึง เพราะพวกเขาแค่ลงบันทึกประจำวันไว้ ไม่ได้แจ้งความ เมื่อถามว่า สุดท้ายค่านักแสดงตัวรองผู้รับผิดชอบคือใคร นายปฏิภาณกล่าวว่า เป็นใครไม่สามารถตอบได้ชัด รอให้ อั้มมาคุยก่อนแต่ไม่ได้บอกว่าอั้มโกง ที่อั้มบอกจ่ายโมเดลลิ่ง มันขัดแย้งกันเพราะเขาค้างชำระอยู่ วันนี้แค่ออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้รับเงินจากอั้มและนายวินัยได้รับความเสียหายมาโดยตลอด อยากให้อั้มและภรรยามาชำระเงินกับบลูริบบอน ถ้าชำระเงินบลูริบบอนก็จะจ่ายให้กับนักแสดงสมทบ
ที่ปรึกษากฎหมายบริษัทบลูริบบอน ของ ปอล ดัชชี่ ที่รับจ้างบริษัท อั้ม-อธิชาติ ผลิตละครป้อนช่องทรู ออกมาโต้กลับเรื่องเบี้ยวค่าตัวนักแสดง อ้างบริษัทหกหนุมานยังจ่ายเงินไม่ครบและมีสถานะเป็นลูกหนี้ เผยเหตุที่ยังไม่จ่ายเงินค่าตัว
null
ข่าวหน้า1,เบี้ยวค่าตัวนักแสดง,อั้ม-อธิชาติ,ปอล ดัชชี่,ซีรีส์เจ้าเวหา,ช่องทรูโฟร์ยู,วินัย เยี่ยมประเสริฐ,บริษัทหกหนุมาน,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/content/710078
เพลงดิจิตอลมาแรง ยอดโหลด ไลน์ มิวสิก ทะลุ 5 ล้านครั้ง หลังเปิด 4 เดือน
นายซอก จุน อิม หัวหน้าฝ่าย ไลน์ มิวสิก โกลบอล เปิดเผยว่า หลังจากเปิดตัวแอพพลิเคชั่นไลน์ มิวสิก ไปเมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ไลน์ มิวสิก ยังคงขยายความร่วมมือไปยังพาร์ตเนอร์ค่ายเพลงต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ร่วมกับบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เพิ่มเพลงในคลังไลน์ มิวสิก อีกกว่า 50,000 เพลง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การฟังเพลงบนมือถือ จากปัจจุบันที่มีเพลงทั้งสิ้นกว่า 100,000 เพลง จากค่ายเพลงทั้งในประเทศและต่างประเทศ,ปัจจุบัน แอพไลน์ มิวสิก มีจำนวนดาวน์โหลดแล้วกว่า 5 ล้านครั้ง หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการราว 4 เดือน โดยไทยเป็นประเทศที่ 2 ซึ่งเปิดให้บริการแอพพลิเคชั่นดังกล่าวหลังจากเปิดให้บริการในญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทมีความคาดหวังต่อการให้บริการไลน์ มิวสิกในประเทศไทย เนื่องจากผู้ใช้งานชาวญี่ปุ่นยังไม่นิยมฟังเพลงดิจิตอลมากนัก อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้ายอดดาวน์โหลดจากผู้ใช้ชาวไทยราว 10 ล้านครั้งภายในสิ้นปีนี้ พร้อมตั้งเป้าผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่องและใช้จ่ายผ่านบริการไลน์ มิวสิก ประมาณ 8% ของยอดดาวน์โหลดทั้งหมด หรือคิดเป็นจำนวนราว 800,000 คน,นายกริช ทอมมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานจีเอ็มเอ็ม มิวสิก บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากนำเสนอเพลงไปยังคลังเพลงไลน์ มิวสิก แล้วกว่า 50,000 เพลง บริษัทจะนำเสนอเพลงอย่างต่อเนื่องทั้งเพลงใหม่และเพลงเก่า เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าที่ชื่นชอบการฟังเพลงผ่านแอพพลิเคชั่น,สำหรับมูลค่าตลาดเพลงดิจิตอลของประเทศไทย ปัจจุบันมีมูลค่าราว 1,200-1,300 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนแบ่งการตลาดของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ประมาณ 70-80% หรือคิดเป็นมูลค่าราว 900 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25% ของรายได้รวมด้านธุรกิจเพลงของบริษัท ที่มีราว 3,500 ล้านบาท,อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจากจำนวนผู้ใช้งานไลน์กว่า 33 ล้านคนในประเทศไทย จะตอบรับและชื่นชอบบริการฟังเพลงจากไลน์ มิวสิก ซึ่งสามารถฟังและแชร์ให้เพื่อนได้สะดวก ผ่านแอคเคาท์การใช้งานไลน์ โดยผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการไอโอเอสและแอนดรอยด์ พร้อมรับสิทธิ์ใช้งานฟรี 30 วัน จากนั้นจึงเสียค่าบริการ 60 บาทต่อเดือน.
แฟนเพลงไทยตอบรับ ไลน์ มิวสิก (Line Music) เปิดตัว 4 เดือน ยอดดาวน์โหลดแตะ 5 ล้านครั้ง ตั้งเป้า 10 ล้านครั้งภายในสิ้นปี หลังเสิร์ฟ 100,000 เพลง เอาใจคนรักเสียงดนตรี
ข่าว,ไอที
ไลน์,ไลน์ มิวสิค,Line Music,เพลง ออนไลน์,เพลง ดิจิตอล,ซอก จุน อิม,กริช ทอมมัส,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์,ข่าวไอที
https://www.thairath.co.th/news/tech/530399
ยาบ้าระบาด จริง เท็จ อย่างไร? ฝาก สภ.สรรพยา จ.ชัยนาท ส่งสายสืบตรวจสอบ
ขวางป้ายรถเมล์ ชาวบ้านร้องเรียนบริเวณ ปากซอยเฉลิมเขต 2 เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย รถขายอาหารจอดกีดขวางป้ายรถเมล์ ประชาชนที่มารอใช้บริการขึ้น-ลงรถไม่สะดวก เพราะรถจอดชิดเลนซ้าย หวั่นเกิดอุบัติเหตุถูกรถเฉี่ยวชน วอน เจ้าหน้าที่รับผิดชอบ ตรวจสอบแก้ไขด้วย,บริเวณริมถนนหน้าร้าน ครัวเพลงเมธาวี เชิงสะพานข้ามคลองแสนแสบ ถนนศรีนครินทร์ รถวิ่งทับฝาท่อแตกชำรุดเสียหาย เป็นรูกว้างเกือบ 1 เมตร ชาวบ้าน หวั่นรถมอเตอร์ไซค์หรือคนหล่นลงไป ฝาก หน่วยงานรับผิดชอบ เร่งแก้ไขปรับปรุง,ป้ายซอยสูงเกือบเท่าเสาไฟฟ้า ชาวบ้านร้องเรียน ป้ายซอยบาร์โบส 1 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย สูงลิบ ตัวหนังสือเล็ก คนขับรถมองไม่เห็น เกิดความสับสน ที่สำคัญปักกลางทางเท้า เดือดร้อน คนเดินถนนไปด้วย วอน เจ้าหน้าที่ เกี่ยวข้อง พิจารณาแก้ไขหน่อย,ยาบ้าระบาด ที่ หมู่ 2 ซอยบ้านกลาง ต.สรรพยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ชาวบ้าน บอก เอเย่นต์ปล่อยยา ขายดิบขายดีเด็กนักเรียน ผู้ใหญ่ ติดยางอมแงม ซื้อยาเสพทั้งวันทั้งคืน ทุกข์ใจไม่รู้จะหันหน้า ไปพึ่งใคร จริง เท็จ อย่างไร? ฝาก สภ.สรรพยา ส่งสายสืบตรวจสอบ,ผู้ใช้รถใช้ถนนร้องเรียนที่จุดกลับรถใกล้ ซอยโรงพยาบาลเปาโล ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังเจ้าหน้าที่,เอาแบริเออร์กั้นเป็นแนวยาว ห้ามกลับรถ แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ รถมอเตอร์ไซค์ยังแอบกลับรถ ปาดหน้า ตัดหน้ารถทางตรง อันตรายสุดๆ วอน เจ้าหน้าที่รับผิดชอบ ตรวจสอบที,[email protected]
ยาบ้าระบาด ที่ หมู่ 2 ซอยบ้านกลาง ต.สรรพยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ชาวบ้าน บอก เอเย่นต์ปล่อยยา ขายดิบขายดีเด็กนักเรียน
ข่าว,ทั่วไทย
ยาบ้า,เอเย่นต์ค้ายาบ้า,สภ.สรรพยา,ชัยนาท,ห้องร้องทุกข์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1333609
รวบแล้ว มือยิงลูกดาบตร.ป่าตอง ดับ ปมเบี้ยวเงินค่าสักลาย 500 บ.
จากกรณีเมื่อช่วงค่ำ วันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา คนร้ายขับรถเก๋งโตโยต้าวีออสสีขาว หมวดเลข 1500 ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิง นายธนาพล ชูสวัสดิ์ อายุ 20 ปี บุตรชาย ด.ต.ไสว ชูสวัสดิ์ ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตที่ รพ.มิชชั่นภูเก็ตในเวลาต่อมา,เหตุเกิดบริเวณสามแยกโรงเรียนนานาชาติบริติช หมู่ 2 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต แล้วหลบหนีไป โดยมีนายยุรนันท์ จิตรเจริญ อายุ 21 ปีเพื่อนผู้ตายที่ขี่รถ จยย. มาด้วยกัน เปิดเผยรายละเอียดเหตุการณ์ต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบ เบื้องต้นก่อนเกิดเหตุได้นัดกับคนขับรถเก๋งคันดังกล่าวเพื่อมาเคลียร์เงินที่ติดค้างกันจำนวน 500 บาท ที่บริเวณดังกล่าว แต่เกิดตกลงกันไม่ได้ ทำให้คนขับรถเก๋งใช้อาวุธปืนยิงใส่นายธนาพลถึงแก่ความตาย ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ,ล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 14 พ.ย. พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง รอง.ผบก.ภ. จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.กมล โอศิริ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เชิญตัว นายเผดิมชัย ชัยชนะ อายุ 35 ปี และนายกันต์ ภูกลาง อายุ 22 ปี ผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุยิงนายธนาพล ชูสวัสดิ์ อายุ 20 ปี เสียชีวิต มาสอบปากคำ,นายเผดิมชัย ให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงผู้ตายจริง ส่วนนายกันต์ อยู่ในรถเก๋งโตโยต้าวีออสคันที่ใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี สาเหตุเป็นการทวงเรื่องค่าสักลายตามตัวจำนวน 500 บาท เมื่อผู้ตายไปสักเสร็จแล้วอ้างว่าไม่สวยเลยไม่จ่ายเงินให้ กระทั่งมีการทวงถามกัน นัดออกมาเคลียร์เงินบริเวณจุดเกิดเหตุ บานปลายถึงขั้นยิงเสียชีวิตดังกล่าว ,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,ยิงโจ๋ภูเก็ตดับ อ้างปมเคลียร์หนี้ 500 บาท ตร.ยังไม่เชื่อเร่งหามือยิง,ผู้การฯภูเก็ต ไล่บี้ตามคดีลูกตำรวจป่าตองถูกยิงดับ ไม่เชื่อ ปมเงิน 500
รวบแล้ว! มือปืนยิงลูกชายตำรวจ สภ.ป่าตอง ดับ สารภาพ ก่อเหตุจริง ปมทวงถามเงินค่าสักลายตามตัว 500 บาท นัดกันออกมาเคลียร์ ผู้ตายไม่ยอมจ่าย อ้าง เพราะสักลายไม่สวย มีปากเสียงบานปลายกระทั่งเสียชีวิต
ข่าว,ทั่วไทย
ยิงลูกตำรวจ,ลูกตำรวจป่าตอง,ยิงดับ,ยิงลูกตำรวจดับ,ก่อเหตุจริง,ทวงถามเงินค่าสักลาย,รวบแล้ว,500บาท,ตายเพราะเงิน500,ยิงลูกชายตำรวจ,ป่าตอง,ภูเก็ต
https://www.thairath.co.th/news/local/783121
เมื่อวาทกรรมเสรีภาพถูกท้าทาย : โซตัสในธรรมศาสตร์ กับ นิยามเสรีภาพจอมปลอม
มหาวิทยาลัยแห่งนี้จะคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของพวกเธอตามที่ได้กล่าวอ้างไว้ ที่นี้ทุกชั้นปีจะเสมอภาคด้วยคำว่า รับเพื่อนใหม่ แต่ทว่าความจริงแล้วไม่เลย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ติดป้ายตน (label) ว่าเป็นดินแดนประชาธิปไตย ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมของประชาชนและสังคม แท้จริงแล้วกลับเต็มไปด้วย ความกระหายในอำนาจ ที่พร้อมจะลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ภายใต้นามของ เสรีภาพนี่คือตัวอย่างข้างต้นจากเสียงที่ถูกความเป็นรุ่นพี่เอารัดเอาเปรียบ ธรรมศาสตร์ไม่ได้ต่างอะไรไปจากมหาวิทยาลัยแบบไทยๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่มีป้ายโฆษณาเกินจริง (propaganda) ว่าที่นี้เสรีภาพทุกตารางนิ้ว(นิ้วเดียว) แล้วก็บุญเก่าที่รอวันกินหมดมันน่าขบขันที่ว่ามหาวิทยาลัยที่สร้างภาพใหญ่โตว่าจะคอยกอบกู้ความยุติธรรมให้แก่สังคม คอยช่วยเหลือผู้อื่นในยามทุกข์ยาก ตามคำกล่าวของศรีบูรพาที่ว่า อันซึ่งถูกดัดแปลงมาเป็นวาทกรรม ฉันรักธรรมศาสตร์เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน แต่ทุกวันนี้นักศึกษาที่นี้กลับกลายเป็นผู้เสพย์ติดอำนาจ การได้ว้ากน้อง สั่งน้อง และได้สวมใส่จิตวิญญาณความเป็นรุ่นพี่จนละเลยถึงการตระหนักถึงปัญหาของสังคมอย่างสิ้นเชิงอันทำให้เราควรคิดว่า เรายังควรจะผลิตซ้ำวาทกรรมเหล่านี้ต่อไปหรือไม่ ?ทุกวันนี้หลายๆคณะบังคับให้น้องร้องเพลงเชียร์ เหมือนนกแก้วนกขุนทอง แต่หาได้ตั้งคำถามไปว่าร้องเพลงเหล่านี้เพื่ออะไร เพลงเหล่านี้มีความหมายอะไร ทั้งหลายทั้งสิ้นล้วนถูกปลูกฝังให้สืบทอดกันมาเป็นประเพณี (tradition) แต่ด้วยความเป็นประเพณีก็ทำให้เด็กที่เข้ามาพร้อมกับสมอง กลับออกมาเป็นสมองหาย งบประมาณที่ใช้ในการรับน้องนอกสถานที่ของบางโต๊ะมีมูลค่าที่เรียกเก็บกันมากกว่า 20000-50000 บาท ด้วยซ้ำ ทั้งที่งบประมาณการหารายได้เหล่านี้ล้วนสามารถนำไปพัฒนาชุมชน ให้ทุนการศึกษา หรือทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และสร้างประโยชน์แก่สังคมและความสามัคคีของคนในโต๊ะได้ดีมากกว่าการจัดกิจกรรมเพื่อ สนองตัณหา ของกลุ่มพี่ๆนักศึกษาที่ประชาชนจ่ายภาษีสนับสนุนค่าเล่าเรียนอยู่ร่ำไปนอกจากนั้นในหลายๆคณะก็พยายามจะสร้างอัตลักษณ์ที่แปลกใหม่ให้กับกลุ่มคณะตัวเอง เช่น ทำป้ายห้อยชื่อ ใส่ผ้าคลุม เอาหมวกทรงแปลก ๆ มาให้น้องใส่กัน ซึ่งอาจจะบอกว่าเป็นสีสันทางเสรีภาพ แต่ทว่านั้นไม่ใช่เลย สิ่งเหล่านี้คือการแสดงสัญญะทางอำนาจภายใต้สีสันฉูดฉาด มีบางคณะที่น้องไม่ใส่ก็จะโดนตำหนิติเตียน หรือใส่สิ่งเหล่านี้ที่แสดงสีสันความหลากหลายแต่กลับโดนที่คณะจองจำให้อยู่ภายใต้เครื่องแบบนักศึกษา แต่สิ่งที่เป็นปัญหาที่สุดคือร้องที่เข้ามาทำ หรือชอบ เพียงเพราะว่าเข้ามาแล้วเขาทำกัน ไม่ทำเดี๋ยวจะโดนมองว่าแปลก เลยให้ประเพณีประดิษฐ์ของพี่ ๆ คิดแทนร่างกายเรา แต่หาได้ถาม ใจ ตัวเองเลยแล้วข้ออ้างยอดฮิตของการรับน้องด้วยความรุนแรงเหล่านี้ก็จะเป็นว่า ก็มีเสรีภาพกันแล้วไม่ใช่หรอคะ ? ไม่ชอบก็ไม่ต้องเข้า ยิ่งสะท้อนความดัดจริตออกมาชัด ๆว่าดินแดนแห่งเสรีภาพกลับใช้ เสรีภาพ มาเป็นข้ออ้างในการจัดกิจกรรมที่ ป่าเถื่อน รุนแรง ดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ของปี 1 กันอย่างไม่กระดากปาก พอน้องจะไม่เข้าร่วมก็จะมีการกดดันต่างๆนาๆ เช่น คือ คนที่ไม่เข้าก็จะถูกนำไปใช้เป็นข้อหาให้รุ่นพี่ทำโทษคนที่ยังอยุ่ในห้องเชียร์ว่ามาน้อย เพื่อนขาด ทำให้เกิดการกดดัน เพื่อนเกลียด ไม่มีคนยุ่ง รุ่นพี่แบน หรือไม่กดดันก็หมดโอกาสที่จะร่วมกิจกรรมที่ตนเองนั้นควรจะได้เข้าร่วมโดยไม่ต้องมาเจอกิจกรรมที่รุนแรงเช่นนี้กระนั้นก็ตามระบบ อำนาจนิยม ในมหาวิทยาลัยก็ยังไม่จบเมื่อ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ทำการ บังคับ ให้นักศึกษาทุกคนต้องเรียนวิชา TU100 (Civic Education) ความเป็นพลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม และลดบทบาทความสำคัญของวิชาสหวิทยาการมนุษยศาสตร์-สังคมศาสตร์(TU110-20) ที่ช่วยทำให้นักศึกษาได้คิดวิเคราะห์ถึงปัญหาของสังคมผ่านมุมมองทาง ประวัติศาสตร์ ปรัชญา วรรณกรรม อย่างวิพากษ์มี critical mind critical thinking มิใช่การล้างสมองแล้วยัดเยียดโปรแกรมนิยามการเป็นคนดีในแบบที่อาจารย์อยากให้เป็น โดยไม่รู้กันว่าตกลง ดี ในนิยามไหน โดยใครกันแน่ ตกลงเรามีเสรีภาพจริงหรือ ?โดยรวมแล้วเป็นวิชาที่กำหนดให้ทำโครงงานเพื่อสังคมเพื่อแลกกับคะแนนหรือเกรดที่จะได้รับ โดยใช้คะแนนและการให้เกรดเป็นตัวหลอกล่อให้นักศึกษาทำหน้าที่บางอย่างที่มหาวิทยาลัยควรจะทำเองออกเงินเอง เช่น ป้ายห้องน้ำ การตกแต่งมหาวิทยาลัย ฯลฯ และยังสอนให้เด็กทำดีเอาหน้าเข้าหาสังคมแบบชั่วครั้งคราวเหมือนหุ่นยนต์ที่โดนป้อนคำสั่งทำไปก็แค่เพราะวิชานี้บังคับ ไม่ได้มีผลพัฒนาสังคมและชุมชนอย่างต่อเนื่อง เราจึงควรตั้งคำถามได้ว่าการจะเป็นพลเมืองที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมหรือพลเมืองดีตามนิยามของคนจัดตั้งวิชานี้ จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องบังคับกันในระดับ ?แถมการบังคับดังกล่าวยังไม่ได้สร้างความรู้สึกรับผิดชอบต่อสังคมด้วยจิตสำนึกจริงๆว่าอะไร คือ ประชาธิปไตย แต่กลับเป็นการล้างสมองนักศึกษาด้วยชุดศีลธรรมแบบไทย ๆ นิยมลงไป ดังที่คุณแขก คำ ผกา ได้เขียนไว้ในคอลัมน์มติชนสุดสัปดาห์ ทำให้เห็นว่านอกจากนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้จะนิยมชมชอบกับระบบการบังคับท่องจำ พี่สั่งให้ทำอะไรก็ทำ อำนาจของมหาวิทยาลัยเองก็ยังเป็นปัจจัยที่สร้างความมืดมิดทาง ปัญญา ให้แก่นักศึกษาเองอีกด้วย การเป็นคนดีแบบธรรมสาสตร์จะต้องถูกบังคับและประเมินเป็นตัวเลข A B C D F มันคือลักษณะของโครงสร้างทางอำนาจที่ทำให้ระบบคิดของมนุษย์ตายด้านสอนให้นักศึกษาเป็นหุ่นยนตร์แม้กระทั่งการแต่งกายชุดนักศึกษาที่บรรดาห้องเชียร์ต่างๆของแต่ละคณะรณรงค์ บังคับให้น้องๆใส่กัน วิชาบังคับอย่างสหวิทยาการวิทยาศาสตร์ที่ทุกคนในธรรมศาสตร์ต้องเรียนยัง บังคับ ให้ใส่ หากใครไม่ใส่จะไม่เช็คชื่อ มันช่างสอดคล้องกับอุดมการณ์ เสรีภาพที่ตายแล้ว ของธรรมศาสตร์เสียจริงๆ วิชาที่สอนทุกคนให้คิดอย่างวิทยาศาสตร์แต่กลับเชื่อว่ามนุษย์ในสมัยก่อนเหาะเหินเดินอากาศได้ แล้วก็ใช้ระบบอำนาจนิยมบังคับให้ใส่ชุดนักศึกษา นี่ยิ่งสะท้อนความตกอับของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในยุคสายลมและแสงแดดที่หวังพึ่งอะไรไม่ค่อยจะได้เลยและคำว่ามหาวิทยาลัยของธรรมศาสตร์ก็เป็นเพียงสถาบันการศึกษาถูกสร้างภาพให้เป็นสถานที่แห่งความดีงามเหมาะสม เต็มไปด้วยบุคคลที่ดีเป็นแบบอย่างให้แก่สังคม ซึ่งเป็นความเชื่อที่สังคมผลิตซ้ำกล่อมเกลากันมา เราจะไม่สามารถจินตนาการการรับรู้ความแตกต่างที่เราจะมีคนหน้าตาแปลก ๆ แต่งตัวแปลก ๆ คิดแปลก ๆ เกินกว่าที่ระบบได้นิยามและกำหนดบทบาทเอาไว้ได้ เพราะระบบของความรู้ในประวัติศาสตร์ถูกจำกัดไว้ให้เพียงแต่ชนชั้นนำเมื่อกาลเวลาผ่านไปการเข้าถึงความรู้ได้เข้าสู่ยุคที่ประชาชนมีสิทธิที่จะเข้ามาแข่งขันกันอย่างเปิดกว้างอย่างตลาดวิชาของ มธก. แต่สังคมไทยยังมีจินตภาพของนักศึกษา ความเป็นมหาวิทยาลัยอย่างชนชั้นนำนิยม สังคมไทยยังตั้งความหวังไว้กับนักศึกษาจนลืมไปว่าตนเองก็สามารถขับเคลื่อนสังคมได้ และนักศึกษาก็นิยมผยองตนว่าเป็นผู้ที่ดีมีความรู้ หรือคอยช่วยเหลือสังคมแบบทำดีเอาหน้าแบบวิชา TU100 หรือการทำดีในฐานะผู้โปรดสัตว์มากกว่าการทำด้วยความตั้งใจจริงอย่างบริสุทธิ์ใจและปราศจากการบังคับ (free-will) ดังนั้นการจะใช้ชื่อ มธก. แต่เดิมนั้นจึงน่าละอายอย่างยิ่งท้ายที่สุดแล้วตรรกะของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงไม่ต่างจากการทำหน้าที่เป็น ตรรกะแบบตำรวจ (The Police) นั้นคือคอยควบคุมระบบสังคมด้วยการดักจับสิ่งที่ผิดแยกไปจากสิ่งที่โดนความเห็นพ้องต้องกันควบคุมจนทำให้กลุ่มคนที่แตกต่างกลายเป็นเพียงเศษซากของสังคมที่เหลือเดนทั้งที่การกระทำหรือพฤติกรรมของกลุ่มคนเหล่านี้นั้นล้วนเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานอันพึงมีพึงได้มาตั้งแต่แรก เพียงแต่ว่าความเป็นสังคมได้สร้างความศักดิ์สิทธิ์ให้กับความเป็นมหาวิทยาลัย เพราะสังคมกำลังจะบอกกับเราว่า เรา ต้อง อยู่กันโดยให้เกียรติผู้อื่นด้วยการแต่งกายพฤติกรรมที่เหมาะสมตามลำดับต่ำสูงที่สังคมกำหนดให้ แต่เราไม่ได้อยู่กันโดยให้เกียรติความเป็นมนุษย์ซึ่งกันและกันเลย มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 4-10 มีนาคม พ.ศ.2554 ปีที่ 31 ฉบับที่ 1594 Jacques Ranciére Disagreement chapter 2 อ้างใน ไชยรัตน์ เจริญสินโอฬาร ความคิดทางการเมืองของฌาคส์ ร็องซิแยร์. น.28-30
เมื่อ VTR ประจำมหาวิทยาลัยถูกฉาย ประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของมหาวิทยาลัยแผ่กระฉ่อน คำว่าเสรีภาพทุกตารางนิ้วถูกประกาศก้อง นักศึกษาปรบมือรัว ๆ น้ำตาจะไหล พร้อมกับภาพจินตนาการที่ว่า
สิทธิมนุษยชน,วัฒนธรรม,การศึกษา
Aum Neko,SOTUS,กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย,ความเป็นไทย,ธรรมศาสตร์และการเมือง,นักศึกษา,ประชุมเชียร์,มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,ระบบอาวุโส,ระบบโซตัส,รับน้อง,รับเพื่อนใหม่,วิชาสหวิทยาการมนุษยศาสตร์-สังคมศาสตร์
https://prachatai.com/journal/2013/06/47248
ลือ ปืนโต หวังดึงมิดฟิลด์ กลัดบัค อดีตเด็กเก่าร่วมทัพ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน วันที่ 28 ธ.ค. ว่า สโมสรอาร์เซนอล หวังดึงอดีตเด็กเก่าอย่าง ฮาวาร์ด นอร์ดต์เวต อดีตเด็กปั้น ซึ่งปัจจุบันกำลังทำผลงานได้เป็นอย่างดีกับ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค ต้นสังกัดในเยอรมนี กลับมาช่วยกู้วิกฤติผู้เล่นแดนกลางในเดือนมกราคมนี้,โดยมิดฟิลด์ทีมชาตินอร์เวย์ วัย 25 ปี เคยย้ายมาค้าแข้งอยู่กับเยาวชนของอาร์เซนอล เมื่อปี 2007-2010 แต่ไม่สามารถสอดแทรกขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ และมีเพียงแค่การย้ายไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้วยสัญญายืมตัวกับ ซาลามังกา, ลีลล์สตรอม และ เอฟซี เนิร์นแบร์ก ก่อนจะถูกขายขาดให้กับทีม สิงห์หนุ่ม เมื่อปี 2011 ด้วยค่าตัวเพียง 800,000 ปอนด์เท่านั้น,กระทั่งล่าสุด สำนักข่าว สกาย ดอยท์ชลันด์ สื่อยักษ์ใหญ่แห่งเมืองเบียร์ประโคมข่าวว่า อาร์แซน เวนเกอร์ หวังหวนกลับไปทาบทามอดีตเด็กเก่าอย่าง ฮาวาร์ด นอร์ดต์เวต มิดฟิลด์ตัวรับวัย 25 ปี กลับมาร่วมทีมอีกครั้งในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ เพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งในแผงกองกลาง หลังจากนักเตะในตำแหน่งดังกล่าว ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บในระยะยาว จนอาจส่งผลกระทบกับการลุ้นแชมป์หลายรายการในซีซั่นนี้,อย่างไรก็ตาม อาร์เซนอล จำเป็นที่จะต้องทุ่มเทอย่างหนัก หากหวังกระชากอดีตเด็กปั้นกลับไปร่วมงานในถิ่น เอมิเรสต์ สเตเดียม อีกครั้ง เนื่องจากมีหลายทีมที่จ้องตะครุบตัวอยู่ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น บาเยิร์น มิวนิก, เลสเตอร์ ซิตี้ และ เอฟเวอร์ตัน,นอกจากมิดฟิลด์รายนี้แล้ว อาร์เซนอล ยังตกเป็นข่าวกับผู้เล่นในแผงมิดฟิลด์อีกหลายรายทั้ง เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค, ดานิโล, เจมส์ แมดดิสัน และ วิคเตอร์ วานยามา.
ทีมปืนใหญ่หวังกลับไปดึงอดีตเด็กปั้นอย่าง ฮาวาร์ด นอร์ดต์เวต มิดฟิลด์จอมเเกร่งชาวนอร์วิเจียน ของทีม สิงห์หนุ่ม โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค ให้มาช่วยกอบกู้สถานการณ์แดนกลางอีกครั้ง ในช่วงเปิดตลาดซื้อขายรอบสอง
null
อาร์เซนอล,ฮาวาร์ด นอร์ดต์เวต,ทีมชาตินอร์เวย์,โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/555240
เจอแล้ว ไอ้ไข่ดำ กระทิงป่า ทิ้งฝูงมาอยู่ในหมู่บ้าน
  ,เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 พ.ค.58 ภายหลังจากที่มีชาวบ้านพบวัวกระทิงป่าเข้ามาในสวนยางและสวนปาล์ม พื้นที่หมู่ 2 ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ และได้ทำลายต้นยาง ไล่ขวิดวัวตัวผู้ของชาวบ้านจนบาดเจ็บ ล่าสุด ทางนายกิตติศักดิ์ ชูธนโชติ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าบางแดน เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าโตนปริวรรต จ.พังงา นำเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ออกค้นหาจนพบกระทิงตัวดังกล่าวนอนอยู่ริมลำห้วยในสวนปาล์ม,ทั้งนี้ จากสภาพที่เห็น คาดว่าเป็นกระทิงอายุประมาณ 5 ปี นอนเคี้ยวหญ้าเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้ลุกขึ้น แต่ไม่มีท่าทางดุร้ายใดๆ สามารถเข้าไปใกล้ในระยะ 5 เมตร โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาดูวัวกระทิงกันจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ระวัง เนื่องจากกระทิงอาจเกิดความเครียดได้,นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ พบวัวกระทิงตัวดังกล่าวแล้ว ซึ่งวัวตัวนี้เดิมอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี และได้เข้ามาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนปริวรรต เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติกรรมอยู่ และเรียกว่าไอ้ไข่ดำ ซึ่งวัวมีอายุประมาณ 5 ปี หนัก 600-700 กก. เมื่อเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ก็มีการประสานผู้นำท้องถิ่นขออย่าได้ทำร้ายสัตว์ เพราะเป็นสัตว์ป่าที่หายากและใกล้สูญพันธุ์,ปกติสัตว์จะไม่ดุร้าย หากินอย่างสงบ แต่เนื่องจากกำลังติดสัดต้องการผสมพันธุ์ เมื่อไม่มีตัวเมีย และมีชาวบ้านมามุงดูจำนวนมากเลยทำให้วัวเครียดล้มต้นยางไป 4-5 ต้น ทางเขตฯ ก็จะชดใช้ให้ ส่วนจะดำเนินการอย่างไร หรือจะเอาออกจากพื้นที่หรือไม่นั้น ต้องมีการหารือกันอีกครั้ง เพราะต้องทำอย่างระมัดระวัง และปลอดภัยต่อทั้งกระทิงและคนมากที่สุด นายนายกิตติศักดิ์ กล่าว.
ตามเจอตัวแล้วกระทิงป่าขี้หงุดหงิดที่ไล่ขวิดวัวบ้าน อายุประมาณ 5 ปีตัวโต หนักร่วม 700 กก. จนท.ตั้งชื่อว่า ไอ้ไข่ดำ ไม่มีอาการดุร้าย เข้าใกล้ได้ในระยะ 5 เมตร แต่เตือนต้องระวัง เพราะจะอารมณ์ร้ายหากติดสัดแล้วไม่มีตัวเมีย
ข่าว,ทั่วไทย
กระทิง,วัวกระทิง,พบกระทิง,สวนบาง,นาเหนือ,อ่าวลึก,กระบี่,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,สัตว์ป่าคุ้มครอง,พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์,สัตว์ป่า,กระทิงทิ้งฝูง,กระทิงป่า
https://www.thairath.co.th/news/local/500268
อิสราเอล-ฮามาส ประกาศหยุดยิง
รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ประกาศว่า อิสราเอล และชาวปาเลสไตน์กลุ่มฮามาสที่ปกครองเขตฉนวนกาซ่าบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกันแล้ว โดยมีผลตั้งแต่เวลา 2.00 น. ที่ผ่านมาตามเวลาในไทย ทั้งนี้ฝ่ายอิสราเอลแถลงว่าทำตามคำแนะนำของนางฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯที่แนะนำว่าควรให้โอกาสแก่สันติภาพอีกสักครั้ง ด้านผู้นำกลุ่มฮามาสกล่าวขอบคุณอียิปต์ ส่วนประธานาธิบดีบารัค โอบาม่าประกาศชมเชย และบอกว่าสหรัฐฯจะเข้าช่วยพัฒนายกศักยภาพ ไอร่อนโดม ซึ่งเป็นระบบเกราะป้องกันการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซีของอียิปต์เป็นคนกลางในการเจรจาสันติภาพครั้งนี้ ทั้งนี้ ประธานาธิบดีอียิปต์คนปัจจุบันอยู่ในขบวนการมุสลิมบราเดอร์ฮู้ด หรือภราดรชาวมุสลิมที่เป็นรากเหง้าของกลุ่มฮามาสการโจมตีทางอากาศระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮามาสที่ดำเนินมา 8 วัน มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 162 คน ส่วนฝ่ายอิสราเอลเสียชีวิต 4 คน โดยก่อนหน้าการประกาศหยุดยิง ได้เกิดระเบิดขึ้นกับรถโดยสารของอิสราเอลในเมืองเทลอาวีฟ มีผู้ได้รับบาดเจ็บรุนแรง 3 คน ซึ่งอิสราเอลระบุว่าเป็นฝีมือของผู้ก่อการร้ายสำหรับข้อตกลงหยุดยิงมีดังนี้ คืออิสราเอลจะยุติการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อเขตฉนวนกาซ่าทั้งทางภาคพื้นดิน ทางอากาศ และทางทะเล รวมถึงการล่วงล้ำเข้าไปลอบสังหาร นอกจากนี้ อิสราเอลจะยุติการปิดล้อมเขตฉนวนกาซ่า ด้านกลุ่มฮามาสก็เห็นชอบที่จะยุติการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์จากฝั่งเขตฉนวนกาซ่าต่ออิสราเอลทั้งยิงจรวดเข้าไป หรือลอบโจมตีตลอดแนวชายแดน
อิสราเอล และกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์หยุดยิงกันแล้วตามข้อเสนอของอียิปต์ โดยการโจมตีทางอากาศ 8 วันที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 160 คน
ต่างประเทศ
สหรัฐฯ,หยุดยิง,อิสราเอล,อียิปต์,ฮามาส,โจมตี
https://news.thaipbs.or.th/content/127761
ระยองพบผู้ป่วยโควิด-19 นอน รพ.แล้ว 2 ราย อีก 1 รอผลแล็บรอบ 2 ยืนยัน
เมื่อวันที่ 19 มี.ค.63 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดระยอง นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผวจ.ระยอง นายแพทย์สุนทร เหรียญภูมิการกิจ สาธารณสุขจังหวัดระยอง และนายแพทย์ไชยสิทธิ์ เทพชาตรี ผอ.โรงพยาบาลระยอง ร่วมกันแถลงข่าว ว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 2 รายเป็นชาย 1 หญิง 1 และ อีก 1 รายเป็นหญิง กำลังรอผลการตรวจรอบสองในวันที่ 3 เมษายนนี้นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผวจ.ระยอง กล่าวว่า จังหวัดระยองมีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรคสะสมทั้งหมด 75 ราย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ 66 ราย อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 9 ราย ปัจจุบันจังหวัดระยอง พบผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดระยองแล้วจำนวน 2 รายเป็นชาย 1 หญิง 1 ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลระยอง และได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการที่คล้ายสถานบริการ สถานบริการอาบอบนวด สนามชนไก่ สถานบริการอบไอน้ำ อบสมุนไพร โรงภาพยนตร์ สถานที่ออกกำลังกาย ให้ปิดบริการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม ถึง 1 เมษายนสำหรับจังหวัดระยองมีโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ จึงมีมาตรการในการตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้น ส่วนการไปร่วมงานชุมนุมทางศาสนาที่ประเทศมาเลเซียนั้น ได้ตรวจดูแล้วไม่มีคนในจังหวัดระยองเดินทางไปแต่อย่างใด จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันและใช้ชีวิตตามปกติ แต่ต้องป้องกันไม่ต้องตื่นตระหนกด้าน นายแพทย์สุนทร เหรียญภูมิการกิจ กล่าวว่า จากการติดตามผู้ป่วยรายแรก ทราบว่าได้สัมผัสกับผู้ป่วยติดเชื้อป่วยโควิด-19 ที่ กรุงเทพฯ แล้วเดินทางมาด้วยรถส่วนตัวและมากักตัวเองที่บ้านคนเดียว จนทราบผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อ จึงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลระยอง เจ้าหน้าที่ได้ติดตามตรวจสอบแล้วไม่พบผู้สัมผัสใกล้ชิดเพิ่มเติม รายที่2 ก็เดินทางมาจากกรุงเทพฯ พบว่าติดเชื้อป่วยโควิด-19 เช่นกัน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลระยอง เมื่อ 18 มี.ค. และมีผู้สัมผัสผู้ป่วยอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่ติดตามดูอาการยังไม่พบอาการป่วยแต่อย่างใด ทั้ง 2 รายนี้ ยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว ส่วนอีกรายเป็นหญิง ได้เดินทางไปกรุงเทพฯ และเข้าตรวจที่โรงพยาบาลรามา พบว่าผลตรวจเป็นบวก และต้องรอผลการตรวจรอบสองในวันที่ 3 เม.ย.63 นี้ เพื่อยืนยันว่าติดเชื้อหรือไม่อีกครั้ง ขณะนี้เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลระยองเช่นกัน.
ผู้ว่าฯ ระยอง และ สสจ.แถลง พบผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว 2 รายเป็นชาย 1 หญิง 1 รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลระยอง ทั้งหมดเดินทางมาจากกทม. โดยอีก 1 รายรอผลตรวจรอบ 2 เพื่อยืนยันว่าติดเชื้อหรือไม่
ข่าว,ทั่วไทย
ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1799166
ช้างศึก ยู-19 ไล่ถล่ม นอร์ธเทิร์น มาเรียนา 7-0
วันที่ 2 ต.ค. การแข่งขันศึกฟุตบอลเยาวชน 19 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2016 รอบคัดเลือก กลุ่มเอช ที่สนามเอสซีจี สเตเดียม เมืองทองธานี ทีม ช้างศึก ยู-19 ลงสนามเป็นนัดที่สอง พบกับ ทีมนอร์ธเทิร์น มาเรียนา ที่แพ้รวดไปก่อนหน้านี้ทั้งสองนัด รั้งอยู่ในอันดับสุดท้ายของกลุ่ม,เริ่มเกมในครึ่งแรกได้เพียงแค่นาทีเศษๆ ทีมชาติไทยได้ลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ และเป็น สรวิทย์ พานทอง บรรจงแปเสียบเสาสองเข้าไปให้ทีมชาติไทยขึ้นนำ 1-0,จากนั้นนาที 19 ไทยได้ประตูขึ้นนำเป็น 2-0 แบบโชคช่วยเมื่อ เทอร์เรนซ์ เบลเชอร์ นักเตะลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ของทีม นอร์ธเทิร์น มาเรียนา สกัดเข้าประตูตัวเอง,ถัดมานาที 30 ทีมช้างศึก ยู-19 ของไทย หนีห่างออกไปเป็น 3-0 จากการหลุดขึ้นไปยิงมุมแคบของ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์,และในช่วงนาทีสุดท้ายก่อนทดเวลาเจ็บในครึ่งแรก สรวิทย์ พานทอง ก็มาปั่นด้วยซ้ายเสียบสามเหลี่ยมสุดสวยเข้าไป ให้ทีมไทย ขึ้นนำ นอร์ธเทิร์น มาเรียนา อยู่ในครึ่งเวลาแรก 4-0,เริ่มครึ่งหลังได้เพียงแค่ 2 นาที ทีมชาติไทยเกือบได้ประตูอีกครั้ง จากการยิงไกลของ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ แต่บอลชนคานบนกระดอนออกไปอย่างน่าเสียดาย,จากนั้นยังคงเป็นทีมไทยที่ครองเกมรุกได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน ก่อนจะมาขึ้นนำอีกครั้งเป็น 5-0 จากจังหวะผิดพลาดของผู้รักษาประตูทีมนอร์ธเทิร์น มาเรียนา เตะเปิดเกมมาเข้าทาง วิศรุต อิ่มอุระ ยิงสวนจากระยะ 35 หลา บอลย้อยเข้าประตูไปอย่างสวยงาม,ถัดมาในนาที 67 ไทย ขยับหนีห่างเป็น 6-0 เมื่อ เคนเนดี อิซูกะ กัปตันทีมนอร์ธเทิร์น มาเรียนา ทำฟาวล์ผู้เล่นไทยในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะเป็น อานนท์ อมรเลิสศักดิ์ รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปไม่พลาด ,นาที 72 ไทยหนีห่างออกไปอีกครั้งเป็น 7-0 จากการลากเข้ามายิงของ ฤทธิเดช เพ็ญสวัสดิ์ กองหน้าตัวสำรองในเกมนี้,จากนั้นในช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้ ทำให้จบเกม ทีมชาติไทย ไล่ถล่มเอาชนะ ทีมชาตินอร์ธเทิร์น มาเรียนาไป 7-0 ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 2 ของกลุ่ม เอช มีอยู่ 6 แต้ม เท่ากับ เกาหลีใต้ แต่ประตูได้เสียน้อยกว่า,สำหรับนัดต่อไป ทีมชาติไทย จะลงสนามในนัดที่ 3 พบกับ ทีมชาติสิงคโปร์ ในวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคมนี้ เวลา 19.00 น.,11 รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม,ทีมชาติไทย : กรพัฒน์ นารีจันทร์ (GK), อาทิตย์ การสังเวช, อดิศักดิ์ นารัตน์โท, วิศรุต อิ่มอุระ, ศฤงคาร พรหมสุภะ, มีโชค มหาศรานุกูล, ศุภชัย ใจเด็ด, วรชิต กนิษศรีบำเพ็ญ (C), สรวิทย์ พานทอง, อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, ศิวกรณ์ แสงวงศ์,ทีมนอร์ธเทิรน มาเรียนา: คริสโตเฟอร์ อนินโซ (GK), เคนเนดี อิซูกะ (C), อูลี เออร์มิตานิโอ, ไรอัน เรลูซิโอ, อลัน ฮินสัน, โจเอล ฟรุท, เทอร์เรนซ์ เบลเชอร์, ฮันเตอร์ เจลล์, ชอน เปเรซ, จอร์แดน บุทเชอร์, โยชิ เรย์ ,ผลการแข่งขันอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน,เกาหลีใต้ ชนะ ไต้หวัน 7-1
ทีมช้างศึก ยู-19 แม้จะเปลี่ยนผู้เล่นกว่าครึ่งทีม แต่ยังสามารถไล่ถล่มเอาชนะ นอร์ธเทิร์น มาเรียนา ไป 7-0 เก็บชัยชนะเป็นนัดที่ 2 ติตด่อกัน ขึ้นมารั้งอยู่ในตำแหน่งรองจ่าฝูง กลุ่ม เอช ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2016 รอบคัดเลือก
null
ผลบอล,ทีมชาติไทย ยู-19,ทีมชาตินอร์ธเทิร์น มาเรียนา ยู-19,ฟุตบอลเยาวชน 19 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก,กลุ่ม เอช,สรวิทย์ พานทอง,อานนท์ อมรเลิศศักดิ์,วิศรุต อิ่มอุระ,ฤทธิเดช เพ็ญสวัสดิ์,โค้ชจุ่น,อนุรักษ์ ศรีเกิด,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/529550
ไม่ทิ้งกัน เตชะ-ควีน ยันช่วยดูแลเงินเมียตาซาเล้ง แย้มใครคือตัวปัญหา
จากกรณีตาจรูญ หรือ คุณตาซาเล้ง วัย 82 ปี ที่ถูกวัยรุ่นคนหนึ่งทำร้ายร่างกายย่านห้วยขวาง จนได้รับบาดเจ็บ กระทั่งเสียชีวิตเมื่อสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งครอบครัวของตาจรูญได้รับเงินบริจาคร่วมล้านบาท ล่าสุดพบว่า ครอบครัวเกิดปัญหาเรื่องเงินบริจาคที่ได้รับมา หลัง นางสาวฉลวย จริตเอก ภรรยาของนายจรูญ เผยว่า เงินที่ได้รับบริจาคมานั้น ได้ให้นายเตชะ ทับทอง ที่ปรึกษาสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ซึ่งเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือตั้งแต่แรก เป็นคนจัดการ เพราะรู้สึกลำบากใจ เนื่องจากลูกได้มาขอเงินเพื่อนำไปใช้จ่าย แต่ความจริงอยากจะเก็บเงินส่วนนี้ไว้ใช้ในยามขัดสนลำบาก เพราะไม่รู้ว่า ต่อไปจะมีใครดูแลหรือไม่ ตามที่เสนอ,ข่าว,ไปแล้วนั้น,ความคืบหน้า นายเตชะ ทับทอง ได้โพสต์ข้อความชี้แจง ถึงกรณีดังกล่าวว่า เงินในบัญชียังอยู่ในการดูแลร่วมของเพจแหม่มโพธิ์ดำครับ จัดการตามแผนที่วางไว้ร่วมกันทั้งตัวยาย และญาติ รวมถึงลูก เงินก้อนนี้จะไม่สามารถนำไปใช้อย่างอื่นได้ นอกจากได้รับความเห็นรวมจาก 1. ยาย (ภรรยาคุณตา) 2. น้องสาวคุณตาคนโต 3. น้องสาวคุณตาคนเล็ก 4. ลูกชายคุณตา 5. ลูกสาวคุณตา 6. ตัวผมเอง (ตัวแทนจากเพจแหม่มฯ) ,และการเบิกเงินแต่ละครั้งจากบัญชีหลัก ต้องใช้ชื่อร่วมกัน 2 คน คือ 1. ยาย (ภรรยาคุณตา) 2. ตัวผมเอง (ตัวแทนจากเพจแหม่มฯ) ทุกครั้งไป และมีการทำบัญชีชัดเจน,เงินก้อนใหญ่ที่จะเบิกต่อไป คือ,1. เงินซื้อบ้านไม้ ที่มี 3 ห้อง พร้อมยกพื้นสูง ถมที่ดินเสริมกันน้ำท่วมและมีห้องน้ำ ติดตั้งระบบไฟฟ้า/ประปา ทำห้องน้ำ ส่วนนี้ประมาณ 400,000 บาท เช่าที่วัดระยะยาว เพื่อยายได้อยู่ใกล้ญาติของยายเอง ญาติคุณตา และสามารถเดินไปทำบุญปฏิบัติธรรมได้สะดวก ที่สำคัญคือเงียบสงบ แต่ก็มีเพื่อนบ้านอยู่ใกล้เคียงนับสิบหลัง และอยู่ใกล้บ้านหลานสาวเพียง 100 เมตร,2. เงินก้อนสำหรับเก็บออม โดยการซื้อสลาก ธ.ก.ส. ประมาณ 500,000 บาท เป็นชื่อยายคนเดียว วางแผนออมระยะยาวที่ชาวบ้านสบายใจ ผ่านการแนะนำและยอมรับของญาติๆ ทั้งหมด,3. เงินสดติดบัญชี ผมเองจะทำการโอนให้ยายได้ใช้เดือนละ 8,000 - 10,000 บาท ตามความต้องการแต่ละเดือน เนื่องจากยายไม่ได้จำเป็นต้องใช้อะไรเท่าไร เน้นพักผ่อน และปฏิบัติธรรม,4. เงินจากกองทุนยุติธรรมสมานฉันท์ ที่จะเข้าบัญชีลูกสาวคุณตาตามที่ทำเอกสาร ในที่ประชุมเห็นตรงกันทุกคนว่าให้โอนเข้าบัญชีหลัก,ดังนั้นเรื่องปัญหาตามที่ปรากฏในข่าว ขอแจ้งว่าไม่ต้องห่วงเรื่องการดูแลเงินก้อนบริจาค เพราะผมชัดเจนมากเรื่องการปกป้องและรักษาผลประโยชน์ไว้ให้ยาย จะได้สมดังใจที่คุณตาหวังไว้ และเพื่อให้เงินบริจาคได้ทำหน้าที่อันเป็นประโยชน์ของตัวเองอย่างที่สุด ตามความตั้งใจของพวกเราทุกคนที่บริจาคมาครับ,อีกทั้ง เพจแหม่มโพธิ์ดำ ก็ได้ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ควีนคิดว่ามันจะเกิดปัญหาแบบนี้แต่แรกอยู่แล้ว เลยใช้ชื่อพี่เต้กันไว้ พอดีนักข่าวตามไปทำข่าวเลย เจอลูกสาวแผลงฤทธิ์ยายก็ร้องห่มร้องไห้ ตัวปัญหานี่อะลูกสาว วุ่นวาย วุ่นวือมาตั้งแต่แรก ชอบปล่อยข่าวมั่วซั่วไปหมด นี่จะเอาเงินไปซื้อรถ ซื้อไรส่วนตัว มึงจะบ้าเหรอ เงินนี้ควีนร่วมกับลูกเพจและประชาชนโอนให้ยายไว้เลี้ยงดูตา พอตาเสียเงินก็เป็นของยาย อย่ามาดิ้นให้มาก ไม่งั้นกูจะให้ยายทำพินัยกรรม ยกให้ลูกชายกับญาติให้หมด,สรุปเงินยังไม่หายไปไหน ยังมีชื่อพี่เต้กั๊กไว้อยู่และตอนนี้ยายกับญาติก็ขอร้อง ไม่ให้เอาชื่อออก แล้วถอนเอารายเดือนแทน ไว้มีข่าวอัพเดตอะไรควีนมาแจ้งค่ะ บอกแล้วเคสนี้ดูจนจบไม่ทิ้งกัน
ชาวโซเชียลหายห่วงได้ หลัง เตชะ ทับทอง และ ควีน จากเพจแหม่มโพธิ์ดำ ยันช่วยดูแลเงินบริจาค 1.2 ล้าน ป้องผลประโยชน์ เพื่อเมียตาซาเล้ง แย้มใครคือตัวปัญหา
ข่าว,สังคม
ตาซาเล้ง,เงินบริจาค,ตาจรูญ,เมียตาซาเล้ง,เงินในบัญชี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1261559
ยิปโซ สายคอมเมดี้หวนจับคู่ เป้ อย่าเรียก โสดตัวแม่ มีคู่หรือไม่มีใครแบบไหนก็สุขได้เอง
ที่เคยโด่งดังและนำกลับมาทำเวอร์ชันใหม่สุดกุ๊กกิ๊กเรื่อง ,ตกกระไดหัวใจพลอยโจน, ทางช่อง GMM25 ถูกใจแฟนๆเพราะทั้งคู่มีเคมีชวนจิ้น ทางถนัด ยิปโซ ที่ขึ้นแท่น ตัวแม่คอมเมดี้ แถมชีวิตจริงก็ยังถูกยกให้เป็น สาวโสดตัวแม่ งานนี้ ยิปโซ จะว่ายังไงเลยชวนคุยเริ่มจาก,บทบาทเรื่องนี้ไม่เคยเล่นมาก่อน?,ใช่ค่ะ รับบท ร้อยแก้ว เป็นผู้หญิงมีไฟ ไม่ชอบอยู่บ้านเกิด ตัวเองรู้ว่ามันไม่มีอะไรมากกว่านี้ เลยบอกพ่อแม่ว่าอยากไปเรียนต่อ พ่อแม่เลยให้แต่งงานก่อน แต่งกับนายอำเภอที่มีลูกติด 2 คน แต่เกมพลิก นายอำเภอเสียชีวิตในคืนเข้าหอ เลยตกกระไดหัวใจพลอยโจนเป็นแม่คน ได้แพ็กเกจทุกอย่างในคืนเดียว ได้สามี ได้เป็นแม่ม่าย ได้ลูกติดสองคนและได้เป็นคุณนายนายอำเภอ ไม่เคยเล่นเป็นแม่แบบนี้เลย ดีนะคะเรามีโอกาสได้เล่นเป็นคนที่กลายเป็นแม่โดยไม่ได้ตั้งใจและมีโอกาสสัมผัสหน้าที่แม่ในกองด้วยเพราะเราทุกคนในกองใช้ชีวิตอยู่กับน้อง ทุกคนช่วยกันดูแล ส่วนความเป็นแม่ก็มีการเวิร์กช็อปเล็กน้อยแต่คนที่ไม่เคยเป็นแม่จริงจะไม่มีความรู้สึกบางอย่าง ของคนเป็นแม่จริงๆ แต่เป็นคนที่ดูแลคนอื่นเทียบเท่ากับแม่ ยิปเชื่อว่าคนเราพอมีคนให้ต้องดูแลมันก็จะทำได้และเป็นธรรมชาติออกมาเอง น้องสองคนทั้ง น้องฮิม และ น้องวันใหม่ มีพลังเยอะมากไม่เคยเครื่องดับ เป็นเด็กแฮปปี้ ใครที่เคยดูเวอร์ชันก่อนแล้วรู้สึกดีก็ยังสวยงาม แต่อยากให้ดูเรื่องนี้ด้วยว่าเวอร์ชันนี้ก็น่ารัก,กลับมาร่วมงานกับเป้-อารักษ์ อีกครั้งในเรื่องนี้?,ทุกคนจะคิดว่าเราทำงานด้วยกันแค่หนังสุดเขตเสลดเป็ด แต่หลังจากนั้นเราก็มีได้ร่วมงานโปรเจกต์เดียวกันแต่ไม่ได้คู่กัน ก็ดีนะคะเวลาเราได้เล่นกับใครที่เคยเล่นด้วยมาแล้ว มันคือความสบายใจ ไม่ต้องมานั่งเขินทำความรู้จักกันและพอทำงานก็ได้ทำงานเลย ทำงานก็สนุก อารมณ์ดี ตัวเค้าก็ขยันปล่อยมุขอยู่แล้ว และนักแสดงในเรื่องนี้และตัวผู้กำกับค่อนข้างฟรีฟอร์มมาก ใครมีมุขเสนอมาก็ใส่เลย ยิปก็เป๊ะกับการจำบทนะแต่ก็ไม่เคยพูดตรงเป๊ะซักเรื่อง ยิปจะจำใจความมันก็จะมีอะไรออกมาเพิ่ม ทุกคนมีของ พี่ติ๊ก-วศินี ผู้กำกับ ก็เก่งมาก เค้าเป็นผู้กำกับที่น่ารักมากและขยันมาก,แฟนๆชื่นชอบคู่ยิปโซ-เป้?,ดีใจนะถ้าคนดูชอบ เล่นกับเค้าสบายๆมาก เรายังอยู่ในคาแรกเตอร์นะแต่เล่นเหมือนไม่ต้องคิดอะไร มันเหมือนไปด้วยกันเพราะความเป็นกันเองกับทุกคนของเค้าด้วย ส่วนความกุ๊กกิ๊กครึ่งแรกก็ยังเป็นแบบน่ารักแต่ครึ่งหลังยังตอบไม่ได้,เคยมีข่าวด้วยกันด้วย ถ้าคนกลับมาจิ้นนอกจอล่ะ?,ยิปเคยมีข่าวกับพี่เป้แต่มันเหมือนคนบางคนที่เรารู้จักจนชินประมาณนึงแล้ว เราเป็นคนที่สบายใจต่อกัน รู้จักกันมานานมากแล้ว เรียกว่าเราไม่ได้เล็งกันและกันไปในทางนั้น เจอกันทักทายคุยกันสัพเพเหระ และในชีวิตยิปตอนนี้ก็ไม่ได้เล็งใคร,ไม่เจอใครถูกใจเลยเหรอ?,ในชีวิตเจอมาบ้าง หนูก็มีคนที่หนูชอบมาบ้าง แต่ชอบแล้วมันไม่ลงเอยก็มี ซึ่งก็เป็นเรื่องที่โทษใครไม่ได้,เพราะเรามีกำแพงอะไรรึเปล่า?,หนูไม่ได้มีกำแพงแต่ชัดเจนกับความรู้สึกว่าถ้าชอบคือชอบ เช่นเดียวกับว่าถ้าใครที่หนูชอบแล้วเค้าไม่ชอบหนูเราก็เข้าใจ คือถ้าเราตั้งเป้าว่าเรามีแฟนก็คงต้องหาแต่ถ้าเราไม่ตั้งเป้าเราก็ไม่ต้องหา ถ้าเจอก็เจอ ได้คบก็ได้คบ ไม่ได้คบก็ไม่เป็นไร ยิปเชื่อว่าทุกคนอยู่ได้ คนมีคู่ก็อยู่ได้อย่างคนมีคู่ คนไม่มีคู่ก็อยู่ได้ในแบบคนไม่มีคู่ บางคนอาจจะเห็นว่ายิป โสดนานมาก คิดว่าโสดคงดีกว่า ยิปก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่มีแบบไหนดีกว่ากันแต่จริงๆเป็นแบบไหนก็ได้ถ้าคุณทำมันได้ดีและมีความสุข การมีคู่หรือไม่มีไม่ได้เป็นตัววัดว่าใครดีกว่า,คนยกให้เป็นสาวโสดตัวแม่?,เอาเป็นว่ายิปไม่ขอเป็นตัวแทนของคนที่โสดแล้วมันดีกว่าแต่ขอเป็นตัวแทนของคนที่โสดแล้วมันไม่ได้แย่ขนาดนั้น ทุกอย่างมีดีของมัน ณ วันนี้การที่ยิปที่ครองความโสดคนอาจจะมองว่าเท่ แต่ถ้ายิปแก่คนก็อาจจะมองยิปเปลี่ยนไปว่าไม่มีใครเอา เราไม่ได้เปลี่ยน แต่คนที่มองเราเปลี่ยนไปตามเวลา,พ่อแม่ห่วงเรื่องนี้มั้ย?,แม่มีความเป็นห่วงไม่ได้ห่วงว่าเราโสดแต่กลัวว่าเราแก่จะมีใครดูแลมั้ย,งานที่ได้ทำในวงการก็หลากหลาย และมีประสบการณ์เยอะมากขึ้น?,แปลกดีค่ะ เวลามองย้อนกลับไปก็จริงว่าเราได้ลองหมดเลยเนอะ ณ ตอนที่เราทำไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกก็ทำให้มันผ่านไปแรกเริ่มทำงานโฆษณา ถ่ายแบบหนังสือ เป็นพิธีกรสไตล์ไอดอลในรายการสตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก เล่นหนัง เล่นละคร เล่นเอ็มวี เป็นดีเจ เป็นพิธีกรรายการแฟชั่น รายการวาไรตี้ รายการแนวธุรกิจ และได้มีโอกาสมาแตะเรื่องการดูไพ่ทำนายดวงด้วย และได้เล่นละครเวทีด้วย รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโชคดีมากๆ คนนึงที่ได้มีโอกาสทำหลายอย่างตรงนี้ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันจะต้องเป็นอย่างนี้ตลอดไป เราก็ทำเต็มที่ตอนเรามีโอกาสทำ เป็นประสบการณ์ที่ดี,ณ ตอนนี้ ความสุขของยิปโซคืออะไร?,ได้กินของอร่อยมั้ง และความสุข ณ ตอนนี้คงพยายามที่จะมีความสุขกับการทำตัวเองให้มันดีๆคือเรารู้สึกว่าพื้นฐานเราก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนอยู่แล้ว ถ้าคนเราทำความรู้จักตัวเองดีๆเราจะมีสิ่งไม่ดีในตัวเองเยอะ ยิปเองมีนิสัยที่ยังอยากแก้ไขอยู่ และความสุขคือการค่อยๆทำมันไปเรื่อยๆค่ะ.
กำลังสร้างความสนุกและเสียงฮาเมื่อนางเอกสาว ยิปโซ-อริย์กันตา มหาพฤกษ์พงศ์ ต้องรับบทแม่ม่ายลูกติดโคจรมาพบกับนายอำเภอหนุ่ม เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ ในละครโรแมนติกคอมเมดี้
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ยิปโซ อริย์กันตา,อริย์กันตา มหาพฤกษ์พงศ์,เป้ อารักษ์,ตกกระไดหัวใจพลอยโจน,โสด,ช่อง GMM25,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1592698
มูลค่าส่งออกเม.ย.ต่ำสุดรอบ 2 ปี สมคิด ยันดิ่งลงได้อีกเหตุเทรดวอร์ยังไม่จบ
พร้อมรับลูก บิ๊กตู่ นัดถกเอกชนประเมินสถานการณ์ 29 พ.ค.นี้ ขณะที่ สมคิด ย้ำมีโอกาสที่ส่งออกไทยลดลงได้อีก เหตุสงครามการค้ายังไม่จบ วอนรัฐบาลใหม่สานต่อเมกะโปรเจกต์ และดันลงทุนภาครัฐ,น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า ในเดือน เม.ย.62 การส่งออกมีมูลค่า 18,555.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 2.57% เมื่อเทียบกับเดือน เม.ย.61 โดยมูลค่าต่ำสุดในรอบ 2 ปีนับจากเดือน เม.ย.60 ที่ส่งออกได้ 16,861.5 ล้านเหรียญฯ และติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 นับจากเดือน มี.ค.62 ที่ติดลบ 4.88% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 582,984.9 ล้านบาท ลดลง 1.09% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 20,012.9 ล้านเหรียญฯ ลดลง 0.72% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 637,381.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.74% ขาดดุลการค้า 1,457.2 ล้านเหรียญฯ หรือ 54,396.5 ล้านบาท,ขณะที่ในช่วง 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) ปี 62 การส่งออกมีมูลค่า 80,543.4 ล้านเหรียญฯ ลดลง 1.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 61 เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 2.540.8 ล้านล้านบาท ลดลง 1.85% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 79,993.9 ล้านเหรียญฯ ลดลง 1.08% เมื่อคิดเป็นเงิน บาทมีมูลค่า 2.562 ล้านล้านบาท ลดลง 0.87% เกินดุลการค้า 579.5 ล้านเหรียญฯ แต่เมื่อคิดเป็นเงินบาทขาดดุลการค้า 21,513.5 ล้านบาท,สำหรับสาเหตุที่ทำให้การส่งออกไทยลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากความยืดเยื้อและรุนแรงของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่กดดันการค้าโลก รวมถึงผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้กำลังซื้อทั่วโลกลดลง ผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน นโยบายการค้าของประเทศต่างๆ และการบังคับใช้ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ของประเทศคู่แข่งในการส่งออกของไทย อย่างเอฟทีเอเวียดนาม-สหภาพยุโรป นอกจากนี้ สินค้าบางอย่างของไทยเริ่มสูญเสียตลาดให้คู่แข่งจากการไม่พัฒนาเทคโนโลยี เช่น ยานยนต์ ที่ยอดส่งออกไปออสเตรเลียลดลง เพราะออสเตรเลียนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนและเยอรมนี หากไทยไม่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ในอนาคตอาจเสียตลาดได้,มูลค่าส่งออกไทยลดลงในแทบทุกตลาด โดยเฉพาะจีน เพราะสงครามการค้า แต่ก็ส่งออกไปสหรัฐฯได้เพิ่มขึ้น หากต้องการผลักดันให้มูลค่าส่งออกปีนี้เสมอตัวหรือขยายตัว 0% จากปี 61 นับตั้งแต่เดือน พ.ค.-ธ.ค.62 จะต้องส่งออกให้ได้เฉลี่ยเดือนละ 21,493 ล้านเหรียญฯ ถ้าต่ำกว่านี้จะติดลบ แต่ถ้าสูงกว่าจะเป็นบวกได้,อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ หารือกับภาคเอกชน เพื่อประเมินผลกระทสงครามการค้า และแนวทางที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ ซึ่งจะประชุมวันที่ 29 พ.ค.62 จากนั้นวันที่ 31 พ.ค.62 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมร่วมกับทูตพาณิชย์ เพื่อประเมินเป้าหมายและทิศทางการส่งออกไทยในปีนี้อีกครั้ง,น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า สนค. ยังได้ศึกษาผลกระทบหากสหรัฐฯจะปรับขึ้นภาษีสินค้าจีนเป็น 25% มูลค่า 300,000 ล้านเหรียญฯในเร็วๆ นี้ โดยพบว่า จะเป็นโอกาสให้ไทยส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ เพื่อทดแทนสินค้าจีนได้กว่า 1,500 รายการ เช่น เกษตร, อาหาร, เครื่องปรุงรส, น้ำตาล, น้ำผลไม้, เสื้อผ้า, รองเท้า, เครื่องประดับ, ของใช้ภายในบ้าน เป็นต้น ส่วนกรณีที่จีนขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ มูลค่า 60,000 ล้านเหรียญฯ จะเป็นโอกาสให้ส่งออกสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดจีนแทนสินค้าสหรัฐฯได้ เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้า, อิเล็ก-ทรอนิกส์, อาหาร, เคมีภัณฑ์ เป็นต้น,ก่อนหน้านี้ สนค.ประเมินว่า การขึ้นภาษีสินค้าจีน 25% มูลค่า 200,000 ล้านเหรียญฯ จะทำให้มูลค่าส่งออกไทยปีนี้หายไป 5,600-6,700 ล้านเหรียญฯ หรือ 2.2% ของมูลค่าการส่ง ออกรวม แต่หากสหรัฐฯจะขึ้นภาษีจีนอีกรอบมูลค่า 300,000 ล้านเหรียญฯ ยังไม่รู้ผลกระทบที่แน่ชัด แต่มีโอกาสทำให้ไทยส่งออกไปทั้งจีน และสหรัฐฯเพิ่มขึ้น,ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงที่มูลค่าส่งออกไทยจะติดลบได้อีก เพราะสงครามการค้ายังไม่จบ ดังนั้น ต้องเร่งผลักดันการลงทุนภาครัฐ ซึ่งขณะนี้ รัฐบาลมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ 700,000 ล้านบาท จึงอยากให้รัฐบาลใหม่เข้ามาขับเคลื่อนต่อไป ขณะที่ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้อาจขยายตัว 3.3% ต่ำกว่าที่เคยประมาณการไว้ที่ 3.6% เพราะผลกระทบของสงครามการค้า และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ที่มีต่อภาคการส่งออก และคาดว่า ปีนี้การส่งออกไทยอาจโตต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 2.7%
พาณิชย์ เผยสงครามการค้าพ่นพิษส่งออกไทย เดือน เม.ย.ทำได้แค่ 1.8 หมื่นล้านเหรียญฯ ลดวูบ 2.57% มูลค่าต่ำสุดรอบ 2 ปี ส่วนช่วง 4 เดือนติดลบ 1.86%
ข่าว,เศรษฐกิจ
กระทรวงพาณิชย์,สงครามการค้า,ส่งออกไทย,มูลค่าการส่งออก,มูลค่าต่ำสุด,สถิติการค้าระหว่างประเทศ,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
https://www.thairath.co.th/news/business/1573975
ระทึก หมีตะปบชาวบ้าน ลากไปฟัดในคอก วัดหลวงพ่อละมัย พบสัตว์อดอยากหิวโซ
เวลา 11.00 น. วันที่ 2 ส.ค. 60 ได้เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เมื่อหมีตัวใหญ่ที่เลี้ยงไว้ที่วัดหลวงปู่ละมัย หรือสำนักสงฆ์สวนป่าสมุนไพรหลวงปู่ละมัย ฐิตมโน หมู่ 10 ต.บ้านโตก อ.เมืองเพชรบูรณ์ ทำร้ายคนที่เข้าไปในวัดได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่งรพ.เพชรบูรณ์,หลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.สุภัคษิต บัวบุตร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ได้รุดไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ทราบชื่อคนเจ็บ คือ นายฝน พรหมลัทธิ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108/1 หมู่ 12 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ มีบาดแผลถูกหมีกัดที่ลำคอ แขนซ้าย และชายโครงซ้ายก้อนเนื้อหาย เห็นอวัยวะภายใน อาการสาหัส ,สอบถามนายรอด พรหมลัทธิ์ อายุ 63 ปี ลุงของนายฝน ผู้บาดเจ็บถูกหมีกัดเล่าว่า ช่วงสายนายฝนเดินทางมาที่วัดเพื่อขอรับหมูป่าไปเลี้ยง โดยนายฝนได้ยื่นมือไปลูบหัวหมีควายและนำดอกไม้ไปแหย่และหยอกล้อเล่นกับหมี จู่ๆ หมีได้ตะปบดึงแขนนายฝนร่วงตกลงไปในบ่อ ชาวบ้านกับคนเลี้ยงและพระได้ใช้เวลานานกว่า 20 นาทีจึงช่วยกันนำนายฝนออกจากคอกเลี้ยงนำส่งโรงพยาบาลได้,ตรวจสอบที่สำนักสงฆ์สวนสมุนไพรหลวงปู่ละมัยพบพระธเนศ ติขยาโน อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นพระเพียงรูปเดียวที่พำนักอยู่เล่าว่า ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ได้รับเลี้ยงหมูป่าที่มีคนบริจาคไว้จนขยายพันธุ์มากถึง 500 ตัว จึงได้ก่อสร้างกำแพงกั้นสูงราว 1 เมตรเศษเป็นคอกเลี้ยงหมูป่าในเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เศษ และได้เลี้ยงหมีควายชื่อแก้วอายุ 7 ปีไว้รวมกับหมูป่า ปกติจะมีนางวันดี ขันสวัสดิ์ อายุ 57 ปี โยมอุปัฏฐาก ชาวอำเภอเมืองเพชรบูรณ์จะเป็นคนเลี้ยงดูอาบน้ำตั้งแต่เล็กๆ จนเจ้าแก้วตัวใหญ่ และก็ไม่เคยทำร้ายใคร ที่ผ่านมาค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมากซึ่งสูงกว่าวันละสองพันบาท เมื่อวานที่ผ่านมาจึงประกาศขอความช่วยเหลือให้คนช่วยนำอาหารมาเลี้ยงดูหมูป่าเหล่านี้ และประกาศยกหมูป่าให้ไปเป็นแม่พันธ์ุเพาะเลี้ยงโดยมีข้อแม้ว่าห้ามนำพ่อแม่พันธุ์ไปฆ่า หากมีลูกก็เอาไปทำประโยชน์อะไรก็ได้,กระทั่งเช้าวันนี้มีชาวบ้านทยอยเดินทางมาแจ้งความประสงค์จะขอรับหมูป่าไปเลี้ยง ขณะเกิดเหตุตนเองไปทำธุระนอกวัดและได้รับโทรศัพท์แจ้งว่ามีคนที่อยู่ในอาการเมาสุราได้นำดอกไม้ไปแหย่ซึ่งอาจทำให้หมีรำคาญจึงตะปบแขนคว้าดึงร่างตกลงไปในบ่อเลี้ยงหมูและกัด จึงรีบเดินทางกลับมาช่วยเหลือ โดยร่วมกับนางวันดี และชาวบ้านอีก 2 คนใช้ไม้งัดปากและตีเจ้าแก้ว และช่วยกันดึงตัวนายฝนนำส่งโรงพยาบาลเมืองเพชรบูรณ์ หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วมีเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์แจ้งว่าจะขอรับตัวหมีตัวนี้ไปดูแล ซึ่งก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรหากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะรับไปดูแล,สำหรับสถานที่แห่งนี้ สมัยที่หลวงพ่อละมัย ยังมีชีวิตอยู่ ได้เลี้ยงสัตว์ไว้จำนวนมาก ทั้งหมูป่า หมี สุนัข เป็ด หลังท่านมรณภาพไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว สัตว์เหล่านี้จึงตกเป็นภาระของพระในสำนักสงฆ์ ต้องหาอาหารมาเลี้ยง จนล่าสุด นายไกรสร กองฉลาด รอง ผวจ.เพชรบูรณ์ และนายปฏิวัติ คุณดิลกพจน์ ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าตรวจสอบหมูป่าที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนอาหารอย่างหนัก หลังจากขยายพันธุ์มากถึกว่า 500 ตัว เข้าไปในกัดกินไร่ข้าวโพดของชาวบ้าน โดยพระสงฆ์เพียงรูปเดียวที่อยู่จำพรรษา บอกว่าหมูป่าขยายพันธุ์ออกลูกออกหลานอย่างต่อเนื่อง จนอาหารไม่เพียงพอ ในแต่ละวันต้องใช้เงินประมาณ 2,000 บาท เพื่อซื้ออาหารเลี้ยงสัตว์เหล่านี้. 
หมีควายวัดหลวงพ่อละมัย ที่เพชรบูรณ์ ตะปบชาวบ้านที่ไปเล่นด้วยลากไปฟัดในคอก ยังดีที่มีคนช่วยขึ้นมาได้ บาดเจ็บเป็นแผลลึก เผยหลังหลวงพ่อมรณภาพ สัตว์ที่เลี้ยงไว้เหมือนโดนทิ้ง ยิ่งหมูป่าขยายพันธุ์กว่า 500 ตัว อดอยากบุกไร่ชาวบ้าน
ข่าว,ทั่วไทย
หมีกัดคน,หมีตะปบ,หมี,วัดหลวงพ่อละมัย,เพชรบูรณ์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1024814
ยื่นประกัน สมยศ รอบ 8 หลักทรัพย์ 3 ล้าน – จำเลยเบิกความ 1 พ.ค.
26 เม.ย. 55 ที่ศาลอาญารัชดาภิเษก นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ รักษาการพนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ พยานฝ่ายโจทย์ในคดีหมิ่นตามมาตรา112 ของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ขึ้นเบิกความต่อศาลว่า ศูนย์อำนวยแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ตั้งขึ้นในขณะที่มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงปี 53 โดยมีการประชุมเพื่อหารือกรณีมีการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ จากนั้นจึงจะแจ้งมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ตรวจสอบพยานหลักฐานตาม ผังล้มเจ้า ของศอฉ. จากนั้นดีเอสไอจึงส่งเรื่องกลับไปให้เจ้าหน้าที่ใน ศอฉ. เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ สำหรับการตรวจสอบ รวบรวมหลักฐานในคดีนี้ พนักงานสอบสวนของดีเอสไอแบ่งการทำงานเป็น 3 กลุ่มคือ ทางเวทีปราศรัย ทางวิทยุชุมชนหรืออินเทอร์เน็ต และสื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งตนมีหน้าที่ตรวจสอบเกี่ยวกับสิ่งพิมพ์เจ้าหน้าที่จากดีเอสไอ ระบุว่า ทางทหารได้มอบนิตยสาร Voice of Taksin ให้ดู 4 เล่มโดยระบุว่าทั้งหมดเข้าข่ายหมิ่น แต่เมื่อพนักงานสอบสวนตรวจสอบแล้วพบเพียง 1 เล่มซึ่งมี 1 บทความของนายจิต พลจันทร์ แต่จากพยานหลักฐานตรวจสอบไปไม่ถึงผู้เขียนและไม่สามารถเอาผิดได้ จากนั้นจึงได้หลักฐานเพิ่มอีก 1 เล่มระหว่างสืบสวนสอบสวน อย่างไรก็ตาม การกล่าวหาครั้งนี้ไม่ได้เชื่อมโยงกับ พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ฯ ที่ระบุว่า บรรณาธิการต้องรับผิดชอบต่อเนื้อหาที่เผยแพร่ เนื่องจากบก.ผู้จดแจ้งเป็นอีกคนหนึ่ง ซึ่งสืบสวนแล้วพบว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่สืบทราบจากพยานซึ่งเป็นพนักงานที่นิตยสาร Voice of Taksin เองว่านายสมยศเป็นผู้รับผิดชอบคัดสรรบทความ จึงดำเนินคดีกับนายสมยศ ด้านนางสุกัญญา พฤกษาเกษมสุข ภรรยานายสมยศ ได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวเป็นครั้งที่ 8 โดยใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินราคา 1.6 ล้าน และเงินสดของกรมคุ้มครองสิทธิฯ กระทรวงยุติธรรม 1.4 ล้าน รวม 3 ล้านบาท พร้อมทั้งยื่นเอกสารแถลงการณ์จากองค์กรต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศที่เรียกร้องให้นายสมยศได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานในการประกันตัว ไม่ว่าจะเป็น กลุ่ม Article 19 เครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน มูลนิธิผสานวัฒนธรรม สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน โครงการนิติธรรมสิ่งแวดล้อม มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชีย ศูนย์ข้อมูลชุมชน เครือข่ายพลเมืองเน็ต ศูนย์พัฒนาเด็กและเครือข่ายชุมชน โครงการเฝ้าระวังสภาวะไร้รัฐ รวมถึงจดหมายของ ดร.นฤมล ทับจุมพล คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ที่เรียกร้องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเข้ามาตรวจสอบกรณีของสมยศ โดยเฉพาะการไม่ได้รับสิทธิในการประกันทั้งนี้ การสืบพยานฝ่ายจำเลยจะเริ่มต้นในวันที่ 1-4 พ.ค. โดยนายสมยศจะขึ้นเบิกความเป็นปากแรกผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการสืบพยานวันนี้มีผู้สังเกตการณ์จากองค์กรต่างประเทศ เช่น อียู และ Clean Clothes Campaign ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนด้านแรงงานจากประเทศเนเธอแลนด์เข้าร่วมรับฟังการสืบพยานด้วย โดย Jenneke Arens จาก Clean Clothes Campaign กล่าวว่า คดีของนายสมยศ และคดีมาตรา 112 อื่นๆ ในประเทศไทยกำลังเป็นที่จับตามองของนานาประเทศ เนื่องจาก Free Speech เป็นพื้นฐานของเสรีภาพที่สำคัญที่สุด การถูกละเมิดในสิทธิพื้นฐานทำให้เป็นการง่ายที่จะนำไปสู่การละเมิดสิทธิอื่นๆ เช่น สิทธิในการรวมกลุ่ม สิทธิในการจัดตั้งองค์กร ฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราพยายามรณรงค์กับคนงานมาโดยตลอด นอกจากนี้ประเทศไทยยังรับรองสนธิสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิขั้นพื้นฐานเหล่านี้แล้วด้วย หากประเทศไทยต้องการจะมีที่ยืนในเวทีระหว่างประเทศต่อไป รัฐบาลควรเผชิญหน้ากับเรื่องนี้แทนที่จะหลบหลีก โดยอาจเริ่มต้นจากการให้ special repporteur เข้ามาตรวจสอบเกี่ยวกับปัญหามาตรา 112 อย่างเป็นทางการ
26 เม.ย. 55 ที่ศาลอาญารัชดาภิเษก นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ รักษาการพนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ พยานฝ่ายโจทย์ในคดีหมิ่นตามมาตรา112 ของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ขึ้นเบิกความต่อศาลว่า
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
Clean Clothes Campaign,ดีเอสไอ,มาตรา 112,สมยศ พฤกษาเกษมสุข,หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
https://prachatai.com/journal/2012/04/40255
ว่างงาน ก.ย. ลดลง แต่อึ้งคนเคยทำงาน ตกงานมากกว่าไม่เคยทำงาน
เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้รายงานสรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเดือน ก.ย.2561 พบว่า เดือนก.ย. ผู้ที่อยู่ในกําลังแรงงานท้ังสิ้น 38.39 ล้านคน มีงานทำ 37.95 ล้านคน ผู้ว่างงาน 3.73 แสนคน และผู้รอฤดูกาล 6.70 หมื่นคน,ท้ังนี้ เมื่อเปรียบเทียบสถานการณ์แรงงานกับช่วงเดียวกันของปี 2560 พบว่า จํานวนผู้มีงานทํา เพิ่มขึ้น 7.0 แสนคน ผู้ว่างงานลดลง 7.0 หมื่นคน อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับเดือน ส.ค.2561 ปรากฏว่า เดือน ก.ย. ผู้ว่างงานลดลง 3 หมื่นคน,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลผู้ว่างงานเดือน ก.ย.2561 ยังพบว่า เพศชายว่างงานมากกว่าเพศหญิงเล็กน้อย ส่วนประเด็นระดับการศึกษาปรากฏว่า ผู้จบการศึกษาระดับอุดมศึกษาหรือปริญญามี จำนวน 1.45 แสนคน ตามมาด้วยจบการศึกษาระดับมัธยมตอนต้น 9.7 หมื่นคน จบการศึกษาระดับประถม 3.8 หมื่นคน ต่ำกว่าระดับประถม 1.2 หมื่นคน และไม่มีการศึกษา,ประเด็นเรื่องประสบการณ์การทำงานของผู้ว่างงานเดือน ก.ย.2561 ปรากฏว่า ในจำนวนผู้ว่างงานไม่เคยทำงานมาก่อน หรือไม่มีประสบการณ์ 1.78 แสนคน และผู้ว่างงาน ซึ่งเคยทำงานมาก่อน 1.95 แสนคน,สำหรับ ,สรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเดือน ก.ย.2561 ฉบับเต็ม
อัพเดตภาวะการทำงานของคนไทยเดือน ก.ย.2561 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติสรุปผลการสำรวจพบข้อมูลน่าสนใจ ซึ่งอัตราการว่างงานเดือน ก.ย.ลดลงจากเดือน ส.ค.
ข่าว,เศรษฐกิจ
ตกงาน,ว่างงาน,แรงงาน,จ้างงาน,สำนักงานสถิติแห่งชาติ
https://www.thairath.co.th/news/business/1394810
ผงะ พบศพทารกเพศหญิงศีรษะขาด ซุกกองขยะเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ก.พ. 59 ร.ต.ท.แวอาลิฟ แวดีซา พนักงานสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบศพเด็กทารกแรกเกิดเพศหญิง ที่บริเวณกองขยะ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่มูลนิธิเซ่งหมู่ ธารน้ำใจสุไหงโก-ลก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุ พบศพเด็กทารกแรกเกิดเพศหญิง สภาพเปลือยกาย ไม่มีศีรษะ โดยที่สายสะดือยังไม่ได้ตัด เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 วัน ปะปนอยู่กับขยะมูลฝอยในกองขยะ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการรื้อค้นกองขยะเป็นเวลานาน แต่ไม่พบส่วนที่เป็นศีรษะของเด็กทารกแต่อย่างใด จึงได้นำศพเด็กทารกแรกเกิดส่ง รพ.สุไหงโก-ลก เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง,ด้าน ร.ต.ท.แวอาลิฟ เปิดเผยว่า ศพเด็กทารกแรกเกิดเพศหญิงดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าผู้เป็นแม่คงไม่มีความพร้อมที่จะเลี้ยงดูลูก ได้แอบไปทำแท้งแล้วนำศพไปทิ้งใส่ในถังขยะเทศบาลจุดใดจุดหนึ่ง ภายในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตระเวนเก็บขยะตามจุดต่างๆ มาทิ้งรวมกันที่กองขยะ ส่วนกรณีศีรษะขาดนั้นคาดว่าน่าจะเกิดจากการที่รถแบ็กโฮมาดันปรับกองขยะให้เรียบ และไปตัดศีรษะของเด็กจนขาด แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามแม่ของเด็กทารกมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
พบศพทารกแรกเกิดเพศหญิงศีรษะขาดหาย ภายในกองขยะเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส คาดสาวใจแตกไม่พร้อมเลี้ยงดูทำแท้งแล้วแอบนำมาทิ้ง เสียชีวิตประมาณ 2-3 วัน
null
ศพทารกเพศหญิง,พบศพเด็ก,แม่ทิ้งเด็ก,พบศพเด็กในกองขยะ,ทิ้งเด็กในกองขยะ,แม่ใจร้ายทิ้งเด็ก,ทิ้งศพเด็ก,แม่ทิ้งลูก,เด็กทารก,ทิ้งเด็กแรกเกิด,ศพเด็กทารก,สุไหงโก-ลก,นราธิวาส,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์,แม่ใจยักษ์,แม่ใจร้าย,ทำแท้ง,เด็กถูกทิ้ง
https://www.thairath.co.th/content/578336
ใครจะได้แชมป์ ยูฟ่า เนชันส์ลีก
แนวคิดของการแข่งขันรายการนี้ เริ่มขึ้นเมื่อปี 2013 แม้ในตอนนั้นดูแนวโน้มแล้วจะเกิดขึ้นยาก แต่จากการหารือของฝ่ายบริหารชาติสมาชิกยุโรป มันจึงค่อยๆ ขมวดปมเข้ามาทีละนิด จนเห็นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาว่าจะแข่งแบบไหนกันดีที่ไม่ซ้ำใคร,จนกระทั่งมาตกผลึกในปี 2014 มีหลายชาติเห็นตรงกัน จนได้บทสรุปเปิดฉากฟาดแข้งในฤดูกาล 2018-19 เป็นฤดูกาลแรก,และในวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า ได้จัดพิธีการจับสลากแบ่งกลุ่มการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติของทวีปยุโรป รายการใหม่ที่ใช้ชื่อว่า ยูฟ่า เนชันส์ลีก โดยนัดแรกในรอบแบ่งกลุ่ม จะเริ่มแข่งเดือนกันยายน ถึงเดือนพฤศจิกายน 2018 ส่วนนัดชิงชนะเลิศ แข่งวันที่ 9 มิถุนายน 2019,สำหรับรูปแบบการแข่งขัน จะแบ่งสมาชิกทั้ง 55 ชาติ ออกเป็น 4 ลีก โดยวัดจากอันดับแรงกิ้งฟีฟ่าของแต่ละชาติ ดังนี้ ลีกเอ มีทีมชาติอันดับ 1-12 แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ทีม ทีมอันดับ 1 ของทั้ง 4 กลุ่ม จะผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ ทีมชนะในรอบรองฯ จะเข้าไปเล่นนัดชิงชนะเลิศ ทีมแพ้ในรอบรองฯ ไปชิงอันดับ 3 ส่วนทีมอันดับ 3 ของทั้ง 4 กลุ่ม จะหล่นลงไปเล่นลีกบี ในฤดูกาลต่อไป,ลีกเอ :กลุ่ม 1 เยอรมนี, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์ กลุ่ม 2 เบลเยียม, สวิตเซอร์แลนด์, ไอซ์แลนด์ กลุ่ม 3 โปรตุเกส, อิตาลี, โปแลนด์ กลุ่ม 4 สเปน, อังกฤษ, โครเอเชีย,ลีกบี มีทีมชาติอันดับ 13-24 แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ทีม ทีมอันดับ 1 ของทั้ง 4 กลุ่ม จะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นลีกเอในฤดูกาลต่อไป ส่วนทีมอันดับ 3 ของทั้ง 4 กลุ่ม จะหล่นลงไปเล่นลีกซีในฤดูกาลต่อไป,ลีกบี :กลุ่ม 1 สโลวาเกีย, ยูเครน, เช็ก กลุ่ม 2 รัสเซีย, สวีเดน, ตุรกี กลุ่ม 3 ออสเตรีย, บอสเนีย, ไอร์แลนด์เหนือ กลุ่ม 4 เวลส์, ไอร์แลนด์, เดนมาร์ก,ลีกซี มีทีมชาติอันดับ 25-39 แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม 3 กลุ่ม และมี 1 กลุ่ม 3 ทีม ทีมอันดับ 1 ของทั้ง 4 กลุ่ม จะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นลีกบีในฤดูกาลต่อไป ส่วนทีมอันดับ 4 ของ 3 กลุ่ม และทีมอันดับ 3 ที่มีผลงานแย่สุดอีก 1 ทีม จะหล่นลงไปเล่นลีกดีในฤดูกาลต่อไป,ลีกซี :กลุ่ม 1 สกอตแลนด์, แอลเบเนีย, อิสราเอล กลุ่ม 2 ฮังการี, กรีซ, ฟินแลนด์, เอสโตเนีย กลุ่ม 3 สโลวีเนีย, นอร์เวย์, บัลแกเรีย, ไซปรัส กลุ่ม 4 โรมาเนีย, เซอร์เบีย, มอนเตเนโกร, ลิทัวเนีย,ลีกดี มีทีมชาติอันดับ 40-55 แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม โดยทีมอันดับ 1 ของทั้ง 4 กลุ่ม จะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นลีกซี ในฤดูกาลต่อไป,ลีกดี :กลุ่ม 1 จอร์เจีย, ลัตเวีย, คาซัคสถาน, อันดอร์รา กลุ่ม 2 เบลารุส, ลักเซมเบิร์ก, มอลโดวา, ซานมารีโน กลุ่ม 3 อาเซอร์ไบจาน, หมู่เกาะแฟโร, มอลตา, โคโซโว กลุ่ม 4 มาซิโดเนีย, อาร์มีเนีย, ลิกเตนสไตน์, ยิบรอลตาร์,ทั้ง 4 ลีกที่แข่งกัน ลีกเอ ถือเป็นลีกสูงสุด และมีการชิงแชมป์เพียงกลุ่มเดียว อยากรู้จริงๆ ว่า ใครจะได้แชมป์เป็นทีมแรกของรายการนี้ เผลอๆ จะเล่นกันสนุกตื่นเต้นกว่าฟุตบอลโลกด้วยซ้ำ เอาไว้ใกล้ๆ แข่ง ค่อยมาเขียนอธิบายกันอีกที,JUPITER
เรียกเสียงฮือฮาไปทั่ววงการลูกหนังโลก หลังจากการจับสลากแบ่งกลุ่มแบ่งลีกของ ยูฟ่า เนชันส์ลีก การแข่งขันรายการใหม่ในเวทีฟุตบอลยุโรป ชนิดที่แฟนบอลทั่วโลกอยากจะให้เริ่มแข่งในเร็ววันนี้เลยด้วยซ้ำ
null
ยูฟ่า เนชันส์ลีก,ยูฟ่า,สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป,แข่งระบบลีก,ลีกเอ
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1187990
นักบินเห็นวัตถุปริศนาในทะเลใกล้เกาะเรอูนิยง หวังเป็นชิ้นส่วน MH370
สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างการเปิดเผยของ นาย ซิวา วาดิเวลู ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนของฝรั่งเศสบนเกาะเรอูนิยง ว่า เมื่อช่วงเช้าวันอังคาร (15 ก.ย.) นักบินของสายการบิน แอร์ ฟรานซ์ พบเห็นวัตถุปริศนาสีขาวขนาดใหญ่ ลอยอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากเกาะเรอูนิยงไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 70 กม. ขณะที่เครื่องบินบินอยู่ที่ความสูง 3,000 ม.,เจ้าหน้าที่บนเกาะเรอูนิยงเผยว่า พวกเขาได้สั่งให้เรือสินค้าเดินทางไปยังน่านน้ำดังกล่าวทันทีที่ได้รับรายงาน แต่ไม่พบวัตถุปริศนา ก่อนที่พวกเขาจะร้องขอให้กองทัพฝรั่งเศสที่อยู่บนเกาะออกค้นหาอีกครั้งในช่วงบ่ายวันอังคาร แต่ก็ยังไม่มีรายงานว่าพบสิ่งใด,ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ย. เจ้าหน้าที่สืบสวนฝรั่งเศสเพิ่งออกมายืนยันว่า ชิ้นส่วนซากเครื่องบินปริศนาที่ถูกค้นพบบนเกาะเรอูนิยงเมื่อราว 2 เดือนก่อน มาจากเครื่องบินโบอิ้ง 777 ที่ให้บริการเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ที่หายสาบสูญไปเมื่อเดือน มี.ค. 2014 พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน ตอกย้ำการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ว่า เครื่องบินลำนี้ตกในมหาสมุทรอินเดีย,อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พยายามออกตามหาซากเครื่องบินเพิ่มเติมในน่านน้ำใกล้เกาะเรอูนิยง แต่ไม่พบเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
นักบินแอร์ ฟรานซ์ เห็นวัตถุปริศนาสีขาวในทะเล ขณะขับเครื่องบินผ่านมหาสมุทรอินเดีย ใกล้เกาะเรอูนิยง โดยไม่ยืนยันว่าเป็นชิ้นส่วนจากเที่ยวบินเอ็มเอช 370 และเจ้าหน้าที่ยังหาชิ้นส่วนนี้ไม่พบ
null
เอ็มเอช 370,MH370,การบินพลเรือน,ฝรั่งเศส,เกาะเรอูนิยง,นักบิน,สายการบิน,แอร์ ฟรานซ์,วัตถุปริศนา,มหาสมุทรอินเดีย,โบอิ้ง 777,หายสาบสูญ,เครื่องบินตก
https://www.thairath.co.th/content/525541
วางเต็มลานวัด หัวหมู 300 หัว คนแห่แก้บนหลวงพ่อสมหวัง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ธ.ค.60 ที่วัดกลางบางพระ ต.บางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มีชาวบ้านที่โชคดีประสบผลสำเร็จจากการบนหลวงพ่อสมหวัง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ องค์ใหญ่สูงกว่า 30 เมตร นำหัวหมูมาแก้บนถึง 3 ราย,รายแรกคือ นายวัชรพัฒน์ เจริญโสภาพรรณ อายุ 35 ปี ชาว จ.ราชบุรี นำหัวหมูจำนวน 100 หัว พวงมาลัย และผลไม้มาถวาย,รายที่ 2 น.ส.โชติกา เชน อายุ 35 ปี ชาว จ.พิจิตร ได้นำหัวหมูจำนวน 100 หัว และแห้วจำนวน 9 กิโล มาแก้บนถวาย,ส่วนรายที่ 3 นายประกายเพชร อาณาเขตต์ อายุ 56 ปี ชาว จ.ชลบุรี อาชีพขายขนมหวาน นำหัวหมูมาถวาย 100 หัว โดยทางวัดต้องนำหัวหมูเรียงไว้ที่ลาน จนถึงบันไดหน้าองค์หลวงพ่อสมหวัง ซึ่งส่วนใหญ่บนไว้ในเรื่องการซื้อขายที่ดินและประสบผลด้านธุรกิจการค้า โดยมีพราหมณ์ประกอบพิธี และพระครูศรีสุตากร เจ้าอาวาสประพรมน้ำมนต์ให้,หลังเสร็จสิ้นพิธี พระครูศรีสุตากร ได้ให้บรรดาศิษยานุศิษย์นำหัวหมูแจกจ่ายให้กับโรงเรียน โรงพยาบาล สถานพินิจ เพื่อแผ่บุญกุศลให้กับผู้ที่นำสิ่งของมาบนอีกทอดหนึ่งด้วย.
คนสมหวังจากการบน หลวงพ่อสมหวัง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดกลางบางพระ นำหัวหมู รวม 300 หัว มาถวาย พร้อมให้พราหมณ์ทำพิธี ก่อนที่เจ้าอาวาสจะนำไปแจกจ่ายเพื่อแผ่บุญกุศล
ข่าว,ทั่วไทย
แก้บน,หลวงพ่อสมหวัง,นครปฐม,วัดกลางบางพระ,หัวหมู,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1152897
วิษณุ ชี้ เลือกตั้งซ่อมกลางสัปดาห์ไม่แปลก เหตุต้องอยู่ในกรอบ 45 วัน
เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 3 ต.ค. 2562 ,นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี, กล่าวถึงกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ ไม่เห็นด้วยการกับจัด,เลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครปฐม เขต 5, ที่กำหนดขึ้นในวันพุธที่ 23 ต.ค. 2562 ว่า การเลือกตั้งซ่อมไม่เหมือนเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ ที่ต้องอาศัยความสะดวกทั้งประเทศ ส่วนใหญ่จึงเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ ,แต่การเลือกตั้งซ่อมจะเจาะเอาวันใดวันหนึ่งไม่ได้ เพราะต้องทำภายในกรอบเวลา 45 วัน หลังจากตำแหน่งว่างลง และในอดีตก็เคยมีในลักษณะแบบนี้แล้ว, ส่วนที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้เป็นวันที่ 23 ต.ค. ส่วนตัวไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องของ กกต. ขณะประเด็นที่พรรคอนาคตใหม่กังวลว่าแม้เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์แต่โรงงานบางแห่งไม่ได้หยุด พนักงานอาจไม่ได้ออกมาใช้สิทธิ์นั้น ,สามารถขอความร่วมมือกับทางโรงงานได้ตามกฎหมายเลือกตั้ง นายจ้างต้องให้ลูกจ้างไปเลือกตั้งอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นนายจ้างมีความผิด,จากนั้นผู้สื่อข่าวถามถึงร่างพระราชกฤษฎีกา,เลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น เขต 7, ,นายวิษณุ, ระบุว่า จากการประสานกันครั้งที่แล้วเป็นปัญหาอยู่นิดหนึ่งว่า กกต. ไม่ได้ชี้ลงไปว่าตำแหน่งว่างลงเพราะอะไร รัฐบาลจึงยังไปทูลเกล้าฯ ถวายไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะตอบคำถามไม่ได้ว่าทำไมจะต้อง,เลือกตั้งซ่อม, พูดมาสักประโยคว่าตำแหน่งมันว่างลงแล้วเพราะอะไร แต่ กกต. ไม่กล้าชี้ก็ต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ส่งศาลรัฐธรรมนูญให้ได้คำตอบออกมา อยู่ดีๆ จะมาบอกว่าให้,เลือกตั้งซ่อม,ไม่ได้ มันต้องมีเหตุ,ส่วนคำถามว่า กกต. แจ้งหรือไม่ว่าทำไมถึงยังไม่มีคำวินิจฉัยออกมา ,นายวิษณุ, เผยว่า ไม่ทราบ กกต. อาจจะแจ้งหรือไม่แจ้งยังไม่รู้ แต่,เท่าที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีมารายงานคือ มีการส่งร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 โดยไม่ได้บอกว่าต้องเลือกตั้งซ่อมเพราะอะไร สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) จึงขอให้บอกมาสักประโยคว่าตำแหน่งว่างลงเพราะอะไร จะให้ สลค. มาเติมเองก็ไม่ได้, สำหรับประเด็นว่าตำแหน่งว่างลงสุดท้ายต้องเป็นศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ,นายวิษณุ, กล่าวว่า ,ที่จริงถ้า กกต. กล้าฟันมันก็หมดเรื่อง ถ้าไม่กล้าฟันก็ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้ไม่ได้ช้า, อย่างไรก็ตาม ทาง กกต.ไม่ได้แจ้งว่าจะให้คำวินิจฉัยได้เมื่อไร และไม่จำเป็นต้องแจ้ง ถึงเวลาก็ส่งมาเลย โดยมีประโยคที่เราต้องการ แต่หาก กกต. วินิจฉัยออกมาแต่พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วย ก็ส่งศาลรัฐธรรมนูญได้ เพียงแต่ไม่ใช่ กกต. เป็นผู้ร้องคนอื่น,นอกจากนี้ ในเรื่องกรณียังไม่ได้แต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) คนใหม่ แทน ,พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์, ที่เกษียณอายุราชการ จะมีการต่ออายุราชการให้ ,พ.ต.ท.พงศ์พร, หรือไม่นั้น ,นายวิษณุ, บอกว่า ไม่สามารถต่ออายุราชการให้ได้ เพราะตามมาตรา 108 พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน ระบุว่า การต่ออายุราชการจะกระทำได้เฉพาะข้าราชการที่ไม่ใช่ตำแหน่งบริหาร ซึ่งตำแหน่ง ผอ.พศ. เป็นตำแหน่งบริหาร แต่จะจ้างต่อให้ทำอย่างอื่นสามารถทำได้ ส่วนสาเหตุที่ยังไม่ได้แต่งตั้ง ผอ.พศ.คนใหม่ ที่จริงหาได้ แต่ติดปัญหาเรื่องกระบวนการในการหา หากเริ่มหาก่อนหน้านี้สัก 1 เดือนคงเรียบร้อยไปแล้ว แต่เนื่องจากต้องมีประชุมคณะอนุกรรมการวิสามัญข้าราชการพลเรือน ซึ่งจะต้องทำหน้าที่ตั้งกรรมการสรรหาขึ้นมา กระบวนการเหล่านี้เลยทำให้ช้า คงต้องไปถาม ,นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, ในฐานะประธานอนุกรรมการวิสามัญข้าราชการพลเรือน แต่จะยังไม่สามารถเสนอชื่อ ผอ.พศ.คนใหม่ เข้าที่ประชุม ครม.ได้ในสัปดาห์ คงต้องให้มีการรักษาการไปก่อน เพราะไม่มีงานอะไรคั่งค้าง,อย่างไรก็ตาม ในเรื่องที่ฝ่ายค้านอยากให้รัฐบาลถือธงนำ,แก้รัฐธรรมนูญ, ,นายวิษณุ, ทิ้งท้ายว่าไม่ขอออกความเห็น ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อไปอีกว่าคนที่ถือธงนำในเรื่องนี้ควรเป็นรัฐบาลหรือสภา ,นายวิษณุ, กล่าวติดตลกว่า ไม่ทราบ แจกกันคนละธง ช่วยกันถือ ทำอย่างกับแห่เจ้ากินเจ.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,- ,ธนาธร อ้าง 3 ข้อ นายกฯ ย้อนแย้ง ไม่ร่วมแก้แต่กลับอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ,- ,อนาคตใหม่ จี้ กกต.แก้ปัญหา หวั่นคนสามพรานบางส่วนไม่สะดวกไปเลือกตั้งซ่อม,- ,ประวิตร โต้ ธนาธร ย้ำ12 นโยบายมีแก้รัฐธรรมนูญ ยัน เสถียรภาพรัฐบาลดี
วิษณุ แจงเลือกตั้งซ่อมกลางสัปดาห์ไม่แปลก เหตุต้องอยู่ในกรอบ 45 วัน ตีกลับ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งซ่อมขอนแก่น หลัง กกต. ไม่บอกสาเหตุที่ตำแหน่งว่าง ชี้ ผอ.พศ.คนใหม่ ยังติดปัญหากระบวนการสรรหา
ข่าว,การเมือง
วิษณุ เครืองาม,แก้รัฐธรรมนูญ,เลือกตั้งซ่อม,เลือกตั้งซ่อมนครปฐม,เลือกตั้งซ่อมขอนแก่น
https://www.thairath.co.th/news/politic/1674535
ปารีณา มอบทนายเอาผิด วีระ-อัจฉริยะ แจ้งความเท็จ หมิ่นประมาท
นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความ ,น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ, เดินทางนำหลักฐานมายื่นฟ้อง ,นายวีระ สมความคิด, เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ในความผิดฐานแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาท กรณี นายวีระ แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.จอมบึง จ.ราชบุรี กล่าวหาว่า น.ส.ปารีณา บุกรุกพื้นที่ป่า และยังฟ้องให้ดำเนินคดีกับ ,นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์, ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ฐานหมิ่นประมาท กรณีให้สัมภาษณ์พาดพิงเรื่องการบุกรุกที่ ทำให้น.ส.ปารีณา เสื่อมเสียชื่อเสียง,ทั้งนี้ นายธีรยุทธ ระบุว่า ,การฟ้องต่อศาลวันนี้เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ได้พิสูจน์ความจริงในประเด็นที่คลาดเคลื่อนต่อสังคม กรณีการกล่าวหาว่าที่ดินของ น.ส.ปารีณา ในพื้นที่ จ.ราชบุรี มีการแบ่งออกเป็น 3 แปลงย่อย มาให้สัมภาษณ์ และแจ้งความกับตำรวจ ซึ่งหากเป็นความจริงในประเด็นนี้ นายวีระ ต้องแสดงให้ศาลเห็นว่าที่ดินดังกล่าวก่อนจะถูกแบ่งออกเป็น 3 แปลง จะต้องมีสภาพเป็นที่ดินผืนใหญ่ หากไม่ใช่ก็จะถือว่าไม่เป็นความจริง, ซึ่งวันนี้จะชี้ให้ศาลเห็นถึงประเด็นการหมิ่นประมาท อีกทั้ง ประเด็นเรื่องการเหยียดหยามดูถูกด้วย เพราะมองว่าการทำงานสาธารณะไม่ควรมีการกระทำแบบนี้ เพราะถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง,ส่วนกรณีที่ นายวีระ และนายอัจฉริยะ ลงพื้นที่ตรวจสอบฟาร์มไก่ของ น.ส.ปารีณา ซึ่งเข้าข่ายบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวนั้น จะยังไม่ยื่นฟ้องในสำนวนนี้ แต่ยอมรับว่ามีการเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานไว้ เชื่อว่า นายวีระ รู้ดีว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายบุกรุกหรือไม่ เพราะหากที่ดินบริเวณที่เข้าไปเป็นที่สงวนหวงห้าม ถ้าเข้าไปก็ถือว่ามีความผิดอยู่แล้ว,ขณะที่เรื่องการฟ้องร้อง ,นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้, ก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้เกินกว่า 80% แล้ว และการแถลงของอธิบดีกรมป่าไม้ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีหลายจุดก็ตรงกับพยานหลักฐานที่เตรียมไว้ แต่ยังรอดูท่าทีของอธิบดีกรมป่าไม้ก่อนว่าจะให้ข้อมูลอย่างไรกับคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องแผนที่ หากกลับมาเข้าสู่ระบบราชการ การตรวจสอบเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องก็อาจจะไม่ฟ้อง แต่หากอธิบดีกรมป่าไม้ ล่วงล้ำสิทธิของ น.ส.ปารีณา ก็จะยื่นฟ้องทันที,สำหรับกรณีการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ทนายความยืนยันว่า น.ส.ปารีณา ไม่เคยปกปิด ส่วนพื้นที่ที่เกินมากว่า 1,000 ไร่นั้น จากการตรวจสอบของทีมทนายความพบว่าเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของทีมงานในการแจ้งซ้ำของการชำระภาษี แต่เป็นที่ดินแปลงเดียวกัน คือ ภ.บ.ท.5 ที่ได้ยื่นเสียภาษีในปี 2549 ได้แจ้ง ป.ป.ช. ซ้ำซ้อนกับเอกสาร ภ.บ.ท.5 ที่ได้ยื่นเสียภาษีในปี 2553 ทำให้จำนวนเนื้อที่ดินเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 กว่าไร่ ทั้งที่ที่ดินแปลงดังกล่าวมีเนื้อที่รวมประมาณ 600 กว่าไร่ จึงไม่ได้เป็นการแจ้งทรัพย์สินเท็จ และเชื่อว่าไม่มีปัญหาต่อการชี้แจงกับ ป.ป.ช. ในอนาคตแน่นอน.
ปารีณา มอบทนายฟ้อง วีระ และ อัจฉริยะ แจ้งความเท็จ-หมิ่นประมาท ท้าแสดงหลักฐานที่กล่าวอ้าง ยังไม่ฟ้องอธิบดีกรมป่าไม้ รอดูท่าทีก่อน ส่วนที่เกินมา 1,000 กว่าไร่นั้น เป็นแค่การแจ้งซ้ำ
ข่าว,การเมือง
ปารีณา ไกรคุปต์,วีระ สมความคิด,ปารีณา,อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์,เขาสนฟาร์ม,ฟาร์มไก่ปารีณา,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1716323
หงส์แดง หัวหมอ เล็งสลับขั้ว เกรียนโอ้-อิลิซิช
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 21 พ.ค. ว่า หงส์แดง ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ  กำลังพิจารณา ส่ง มาริโอ บาโลเตลลี  กองหน้าจอมเกรียน ชาวอิตาลี ไปให้กับทีม ม่วงมหากาฬ ฟิออเรนตินา สโมสรแกร่งแห่งศึกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี เพื่อแลกกับการได้ตัว โจซิป อิลิซิช กองกลางตัวรุกทีมชาติสโลวีเนีย มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้,สำหรับ บาโลเตลลี วัย 26 ปี ฤดูกาลนี้ถูก เอซี มิลาน ยืมตัวไปใช้งาน หลังทำผลงานกับลิเวอรืพูลได้อย่างน่าผิดหวังเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และเป็นที่คาดกันว่าหงส์แดงพร้อมปล่อยตัวเขาออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยมีทีมมหาเศาษญีในศึกไชนิส ซุปเปอร์ลีก หลายทีมที่ให้ความสนใจ,อย่างไรก็ตามรายงานข่าวจาก ตุตโตสปอร์ต สื่ออิตาลี ระบุว่า ลิเวอร์พูล หวังใช้ บาโลเตลลี เป็นเหยื่อล่อในการขอสลับตัวกับ โจซิป อิลิซิช กองหน้าของฟิออเรนตินา มาร่วมทีม โดย เยอร์เกน คลอปป์ กุนซือทีมลิเวอร์พูล นั้นมีความชื่นชอบฝีเท้าของ อิลิซิช เป็นอย่างมาก เพราะสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งแนวรุก และยังยิงแถวสองได้ดีอีกด้วย โดยเขาซัดไป 13 ประตูในเซเรีย อา ฤดูกาลที่ผ่านมา 
สื่ออิตาลีรายงานข่าว หงส์แดง ลิเวอร์พูล กำลังพิจารณา ส่ง มาริโอ บาโลเตลลี กองหน้าจอมเกรียน ไปให้กับฟิออเรนตินา เพื่อแลกกับการได้ตัว โจซิป อิลิซิช มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้
null
พรีเมียร์ลีก,ลิเวอร์พูล,ฟิออเรนตินา,มาริโอ บาโลเตลลี,โจซิป อิลิซิช,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/623815
สายเขียวเตรียมเฮ ป.ป.ส.ชงผ่อนปรนวิจัย กัญชา เพื่อการแพทย์
ป.ป.ส.ชงแก้กฎหมายยาเสพติด ผ่อนปรนให้ใช้ใบกระท่อมแบบวิถีชาวบ้าน และวิจัยเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้เช่นเดียวกับกัญชา ส่วนกัญชงให้ปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจภายใต้การควบคุมได้ แต่พืชทั้ง 3 ชนิด ยังเป็นยาเสพติดประเภท 5 ส่วนยาบ้า ยังคงบัญชียาเสพติดให้โทษในประเภท 1,เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 17 ส.ค.60 ที่สำนักงาน ป.ป.ส. พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการศึกษาวิเคราะห์มาตรการทางกฎหมายในการควบคุมเมทแอมเฟตามีน ครั้งที่ 2/2560 โดยมี นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ส. ทำหน้าที่อนุกรรมการและเลขานุการ พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด กรมการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมคุมประพฤติ กรมราชทัณฑ์ กรมการปกครอง สำนักงานตํารวจแห่งชาติ ราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทย องค์การเภสัชกรรม และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เข้าร่วมประชุมเพื่อร่วมกันพิจารณามาตรการทางกฎหมายในการควบคุมเมทแอมเฟตามีนและอนุพันธ์,พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า ตามคำสั่งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ที่ 9/2559 ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาวิเคราะห์มาตรการทางกฎหมายในการควบคุมเมทแอมเฟตามีนขึ้น เพื่อปรับปรุงนโยบายและกฎหมายให้สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินการด้านยาเสพติดโลก โดยมุ่งหมายกำหนดให้ยาเสพติดแต่ละประเภทที่ใช้ประโยชน์ต้องได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสม ไม่เหมารวม อีกทั้งกฎหมายบางบทบัญญัติขัดกับวิถีชีวิต จำเป็นต้องปรับปรุงให้ผ่อนคลาย ความเข้มงวดและสะท้อนความเป็นจริงได้ หรือเปิดช่องให้มีการศึกษาวิจัยง่ายขึ้น ซึ่งผลการศึกษาเกี่ยวกับมาตรการในการควบคุมพืชเสพติดได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว โดยมีผลการศึกษา 1. กัญชง (เฮมพ์) ยังคงกำหนดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 โดยคณะกรรมการ ป.ป.ส. ได้เห็นชอบในมาตรการควบคุมและกำกับดูแลการปลูกกัญชงหรือเฮมพ์เพื่อส่งเสริมให้เป็นพืชเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งกลไกการควบคุมโดย ศอ.ปส.จ. ในพื้นที่ 9 จังหวัด 23 อำเภอ ที่ได้มีการอนุญาตให้ปลูกกัญชง (เฮมพ์) ภายใต้การกำกับดูแลและกลไกการควบคุมของ ศอ.ปส.จ. 2. พืชกระท่อม กำหนดให้เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 แต่ผ่อนปรนให้สามารถใช้แบบวิถีชาวบ้าน และเปิดช่องให้สามารถขออนุญาตศึกษาวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น 3. กัญชา กำหนดให้เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 โดยจะเปิดช่องให้สามารถขออนุญาตศึกษาวิจัยกัญชา ได้สะดวกมากขึ้นเช่นเดียวกับพืชกระท่อม ซึ่งหลักการนี้ได้นำไปกำหนดไว้ในร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าว,พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวด้วยว่า ในส่วนของเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้าและไอซ์) ที่ประชุมมีข้อเสนอที่จะควบคุมเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ต่อไป ส่วนอนุพันธ์ของเมทแอมเฟตามีนตัวอื่นๆ เช่น แอมเฟตามีน ที่ปัจจุบันมีการใช้ในทางการแพทย์อยู่บ้างในต่างประเทศเพื่อรักษาโรคสมาธิสั้น จะพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่งว่าสมควรจะควบคุมเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 หรือควบคุมเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559 เพื่อให้สามารถนำมาใช้ในทางการแพทย์ได้ โดยมีมาตรการในการควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิดด้วย โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ได้ ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. จะนำเสนอความคืบหน้าผลการดำเนินการในเรื่องนี้ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเพื่อพิจารณาต่อไป.
ป.ป.ส.ชงแก้ก.ม.ยาเสพติด ผ่อนปรนให้ใช้ใบกระท่อมแบบวิถีชาวบ้าน และวิจัยเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้เช่นเดียวกับกัญชา ส่วนกัญชงให้ปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจภายใต้การควบคุมได้ แต่พืชทั้ง 3 ชนิด ยังเป็นยาเสพติดประเภท 5
ข่าว,อาชญากรรม
กัญชา,กัญชง,ใบกระท่อม,ยาเสพติด,ป.ป.ส.,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1041339
ส่งกัญชาทางไปรษณีย์ โดนคุกอ่วม108 ปี ผิดต่างกรรมต่างวาระรวม 44 กระทง
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บัลลังก์ 9 ศาลจังหวัดพิษณุโลก ผู้พิพากษาได้อ่านคำพิพากษาตัดสินคดีความระหว่าง พนักงานอัยการจังหวัดพิษณุโลก โจทก์ นายมนตรี หรือไก่ ปิยะพันธ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145/7 หมู่ 5 ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก จำเลย ที่ร่วมกับพวกส่งกัญชาอัดแท่งทางไปรษณีย์ ซึ่งถูก พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ ผบก.สส.ภ.6 กับพวกจับกุมตัวได้ขณะกำลังนำกัญชาอัดแท่งไปส่งที่ไปรษณีย์ของเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.พลายชุมพล อ.เมืองพิษณุโลก โดยใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อเซฟโรเลต สีดำ ทะเบียน กม 6526 พิษณุโลก เป็นพาหนะ,ผลการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบ น.ส.สวย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี อยู่ภายในรถ และพบกัญชาอัดแท่งบรรจุกล่องไปรษณีย์จำนวน 44 กล่อง น้ำหนักรวมประมาณ 71 กิโลกรัม มูลค่า 426,000 บาท ยาบ้า 202 เม็ด มูลค่า 40,400 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้น และกระสุนปืนขนาด .357 จำนวน 2 นัด และต่อมาตำรวจ บก.สส.ภ.6 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ปปส.ภ.6 ขยายผลสามารถตรวจยึดกัญชาอัดแท่งได้เพิ่มอีกรวมกับของกลางที่ตรวจยึดได้ขณะทำการจับกุมเป็นทั้งหมด 361.64788 กิโลกรัม ,ในวันนี้ ศาลได้อ่านคำพิพากษาว่า นายมนตรี ปิยะพันธ์ จำเลย มีความผิดตามฟ้องกระทงแรก ฐานสมคบกันมีกัญชาตั้งแต่ 10 กิโลกรัมไว้เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย จำคุก 15 ปี ปรับ 1,000,000 บาท และพยายามร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมาย พิพากษาจำคุก กระทงละ 2 ปี รวม 43 กระทง จำคุก 86 ปี ฐานมียาบ้า จำคุก 7 ปี ปรับ 400,000 บาท มีเครื่องกระสุนปืนปรับ 1,000 บาท รวมจำคุกทั้งสิ้น 108 ปี ปรับ 1,400,000 บาท,แต่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกได้ไม่เกิน 50 ปี อีกทั้งจำเลยรับสารภาพจึงคงเหลือจำคุกไว้ 25 ปี ปรับ 700,500 บาท โดยให้กักขังแทนค่าปรับ 2 ปี ให้ริบยาบ้าและกัญชาอัดแท่งของกลางที่คงเหลือจากการตรวจพิสูจน์หลักฐานทั้งหมด ส่วน น.ส.สวย ที่ถูกจับกุมพร้อมกัน ถูกส่งตัวแยกไปดำเนินคดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัว จ.พิษณุโลก.
ศาลพิษณุโลก สั่งจำคุกหนุ่มขายกัญชา-ยาบ้า 108 ปี พฤติกรรมส่งขายทางไปรษณีย์ พบกระทำความผิดต่างกรรม ต่างวาระ รวม 44 กระทง ตัดสินรายกระทง รวม 108 ปี ลดแล้วเหลือจำคุก 25 ปี ปรับ 700,500 บาท
ข่าว,ทั่วไทย
จำคุก108ปี,ขายกัญชา,กัญชาแท่ง,ส่งกัญชาทางไปรษณีย์,พิษณุโลก,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1062052
เครื่องกำลังร้อน ส.กรีฑาทุ่มงบ จ้างโค้ชระดับโลกปั้นลมกรดไทย
สมาคมกรีฑาฯ แฮปปี้ หลังลงทุนจ้างโค้ชฝีมือดีจน ทำให้ในประเภทลานออกมาดีในเอเชียนเกมส์ 2018 แฝดเล็ก พล.ต.ต.ศุภวณัฐ อาริยะมงคล เดินหน้าต่อเร็วๆ นี้ จะกลับมาลงทุนกับโค้ชประเภทสปรินต์บ้าง โดยเริ่มทาบทามโค้ชระดับโลกจากสหรัฐฯ เข้ามา เพื่อสร้างนักกีฬาระยะสั้นเราขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หลังจากที่นักกีฬาผลัดใบและไม่มีใครขยับขึ้นมาแทน,วันที่ 4 ก.ย.61 หลังจากที่กรีฑาคว้า 3 เหรียญเงิน จากกระโดดค้ำชาย ภาสพงศ์ อ่ำสำอาง, กระโดดค้ำหญิง ชญาณิศา ชมชื่นดี, ทศกรีฑา สุทธิศักดิ์ สิงห์ขรณ์ และ 1 เหรียญทองแดงจากเขย่งก้าวกระโดดหญิง ปริญญา เฉื่อยมะเริง ซึ่งล้วนแต่เป็นกรีฑาประเภทลานทั้งสิ้น ในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่อินโดนีเซีย,แฝดเล็ก พล.ต.ต.ศุภวณัฐ อาริยะมงคล หัวหน้าผู้ฝึกสอนกรีฑาทีมชาติไทย กล่าวว่า ซีเกมส์เมื่อปีก่อนไทยพยายามของบในการเก็บตัวกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แต่ไม่ได้ แผนงานที่เตรียมไว้ก็ไม่เป็นไปตามที่ตั้งไว้ ผลงานในซีเกมส์ที่มาเลเซีย จึงไม่ได้ตามเป้าและได้วางแผนกันใหม่ โดยเน้นไปที่ประเภทลาน เนื่องจากนักกีฬามีโครงสร้างที่เหมาะสมกว่า จึงเลือกที่จะลงทุนด้วยการส่งไป เก็บตัวและแข่งขันในยุโรป ซึ่งได้ เวียกเชสลาฟ คาลินิชเชนโก โค้ชชาวโปแลนด์เชื้อสายยูเครน ลูกศิษย์ของ เซอร์เก บุบกา มาติวเข้ม ซึ่งการลงทุนกับโค้ชระดับโปรทำให้ได้ผลจริง อย่างไรก็ตาม ส่วนนี้สมาคมกรีฑายังต้องดูแลตัวเองอยู่,หัวหน้าผู้ฝึกสอนกรีฑาไทย กล่าวต่อว่า จากการลงทุนเรื่องโค้ชทำให้เราได้เห็นว่า นักกีฬาประเภทลานมีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ในเร็วๆ นี้ก็จะกลับมาลงทุนกับโค้ชประเภทสปรินต์บ้าง โดยเริ่มทาบทามโค้ชระดับโลกจากสหรัฐฯ เข้ามา เพื่อสร้างนักกีฬาระยะสั้นเราขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ผลัดใบไปและไม่มีใครขยับขึ้นมาแทน เนื่องจากเรามีนักกีฬาดาวรุ่งอีกเป็นจำนวนมากที่กำลังรอการขัดเกลาเทคนิคขึ้นมา ถือเป็นการเริ่มสร้างบ้านใหม่อีกครั้ง จากศักยภาพของนักกีฬาดาวรุ่งที่เป็นอาวุธลับของสมาคมกรีฑา เราจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในซีเกมส์ปีหน้าที่ฟิลิปปินส์แน่นอน.
สมาคมกรีฑาฯ โดยเริ่มทาบทามโค้ชระดับโลกจากสหรัฐฯ เข้ามา เพื่อสร้างนักกีฬาระยะสั้นเราขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หลังจากที่นักกีฬาผลัดใบและไม่มีใครขยับขึ้นมาแทน
กีฬา,กีฬาอื่นๆ
โค้ชแฝดเล็ก,พล.ต.ต.ศุภวณัฐ อาริยะมงคล,สมาคมกรีฑาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย,ซีเกมส์
https://www.thairath.co.th/sport/others/1368326
ที่ปรึกษาจุฬาราชมนตรี ขับบีเอ็มตกถนนที่กุยบุรี ตาย2ศพ พบไม่คาดเข็มขัด
เวลา 04.00 น. วันที่ 21 พ.ค. 60 ร.ต.อ.อาวรณ์ เขียวไปรเวช รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้ง มีอุบัติเหตุบนถนนเพชรเกษม จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย ตำรวจทางหลวงหน่วยบริการกุยบุรี ส.ทล.3 อาสาสมัครกู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ มูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ,ที่เกิดเหตุบริเวณถนนเพชรเกษมขาขึ้นกรุงเทพ หลักกิโลเมตรที่ 270 +700 หมู่ 4 บ้านดอนกลาง ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู สีขาว รุ่น 525 D ทะเบียนป้ายแดง น 5918 กรุงเทพมหานคร ชนต้นไม้ในร่องกลางถนน สภาพพังยับเยิน กระจกหน้าแตก ห้องเครื่องยนต์ยุบตัว ล้อด้านหน้าขวาพังบิดพับ,พบผู้เสียชีวิตคือ นายสมบูรณ์ ศรีวิโรจน์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/11 ถ.เลียบคลองสอง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เป็นคนขับ มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาจุฬาราชมนตรี และเป็นกรรมการบริษัท เอชบีดี ฮาบีด๊ะห์ จำกัด ส่วนที่นั่งด้านหลังคนขับ มีผู้เสียชีวิตอีกรายชื่อ นายสุนทร สุรัตนกุล อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148 ถนนจันทน์ แขวงวัดพระยาไกร เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ชื่อ นายกมล ทองเจือ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/7 ถนนสุขุมวิท 8 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร หัวไหล่ซ้ายหลุด นำส่งโรงพยาบาลกุยบุรี ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย,สอบสวนทราบว่า นายสมบูรณ์ ขับรถออกเดินทางจาก อ.สิงหนคร จ.สงขลา ตั้งแต่ 21.00 น. เพื่อกลับกรุงเทพมหานคร คาดว่าเกิดหลับใน ประกอบกับถนนเพชรเกษมช่วงบริเวณดังกล่าวเป็นเส้นทางตรงยาวต่อเนื่อง มักเกิดอุบัติเหตุรถลงข้างทางเป็นประจำ หลังชันสูตรศพแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ประสานญาติเพื่อมารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามต่อไป,สำหรับบริษัท เอชบีดี ฮาบีด๊ะห์ จำกัด เป็นบริษัทขนาดกลางที่รับซื้อข้าวจากภาคเหนือและภาคอีสาน เพื่อส่งออกไปยังประเทศตะวันออกกลาง และประเทศที่มีประชากรเป็นมุสลิม รวมถึงทำข้าวถุงแพ็กขนาด 5 กิโลกรัม และข้าวกระสอบขายเมื่อปี 2553 ได้ทำสัญญาซื้อข้าวจากรัฐบาลจำนวน 3 ครั้ง คือ วันที่ 22 กันยายน จำนวน 83,279 ตัน วันที่ 11 ตุลาคม จำนวน 8,694 ตัน และวันที่ 27 ตุลาคม จำนวน 144,830 ตัน.
ที่ปรึกษาจุฬาราชมนตรี เจ้าของบริษัทค้าข้าวส่งออก ขับเก๋งBMW จากสงขลามุ่งหน้ากทม. ถึงกุยบุรี จ.ประจวบฯตอนตี่สี่ ถนนตรงเป็นทางยาว รถตกร่องกลางชนต้นไม้ เสียชีวิตพร้อมคนที่มาด้วย 2 ศพ บาดเจ็บ 1 พบคนที่ตายไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย
ข่าว,ทั่วไทย
รถเก๋งตกถนน,รถเก๋งบีเอ็มตกถนน,สมบูรณ์ ศรีวิโรจน์,กุยบุรี
https://www.thairath.co.th/news/local/central/947805
ศาลทหารลงโทษจำคุก 9 ปี บ.ก.เว็บไทยอีนิวส์ ข้อหา ม.112
บ.ก.เว็บไทยอีนิวส์ถูกลงโทษ 9 ปีแต่เนื่องจากรับสารภาพจึงรับโทษเพียงกึ่งหนึ่ง ฐานเผยแพร่บทความของ ใจ อึ๊งภากรณ์24 พ.ย. 2557 ศาลทหารลงโทษจำคุก บรรณาธิการเว็บไซต์ไทยอีนิวส์ เก้าปี ในข้อหาตามมาตรา 112 แต่เนื่องจากจำเลยรับสารภาพจึงลงโทษเหลือสี่ปีหกเดือน จากการเผยแพร่บทความของใจ อึ๊งภากรณ์ ในเว็บเมื่อปี 2554บรรณาธิการซึ่งมีนามปากกาว่า สมศักดิ์ ภักดีเดช ได้ให้การรับสารภาพต่อหน้าศาล ในการนัดสอบคำให้การในเช้าวันจันทร์สมศักดิ์กล่าวกับประชาไทว่า ไม่รู้สึกเหนือความคาดหมาย กับการถูกจำคุก สี่ปีหกเดือน โดยส่วนตัว เชื่อว่าสรรพสิ่งทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลง เบื้องต้นตนไม่ได้รับอนุญาตให้พูดอะไร แต่อยากฝากบอกคำว่า We shall overcome [เราจะชนะ]ถึงเพื่อนๆสมศักดิ์ถูกจู่โจมจับที่บ้านวันที่ 25 พค. ด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจอาวุธครบมือประมาณยี่สิบคน ก่อนถูกนำมาสอบสวนในค่ายทหารและให้ตำรวจดำเนินการแจ้งความ ทนายของสมศักดิ์ได้เคยทำเรื่องขอปล่อยตัวชั่วคราวสมศักดิ์หลายครั้ง แต่ศาลทหารไม่เคยมีคำสั่งให้สมศักดิ์ได้รับการประกันตัวเลย
บ.ก.เว็บไทยอีนิวส์ถูกลงโทษ 9 ปีแต่เนื่องจากรับสารภาพจึงรับโทษเพียงกึ่งหนึ่ง ฐานเผยแพร่บทความของ ใจ อึ๊งภากรณ์24 พ.ย.
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
112,สมศักดิ์ ภักดีเดช,เว็บไซต์ไทยอีนิวส์,ใจ อึ๊งภากรณ์
https://prachatai.com/journal/2014/11/56660
คาดสัปดาห์หน้า เบลล่า ชี้แจงบีเคิร์ฟเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบีเคิร์ฟ ที่ผลิตโดยบริษัท 99 นิววัน จำกัด ของ 2 นักแสดงคือ น.ส.วิรากานต์ เสณีตันติกุล หรือ มะปราง และหุ้นส่วน น.ส.ราณี แคมเปญ หรือ เบลล่า ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่อาจเข้าข่ายความผิดในการโฆษณาเกินจริง มีรายงานว่าหลังจาก น.ส.วิรากานต์ เข้าให้ข้อมูล พร้อมยื่นเอกสารต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ซึ่งเป็นการชี้แจงใน 2 ประเด็นคือ ประเด็นแชร์ลูกโซ่ และกรณีโฆษณาเกินจริง โดย น.ส.วิรากานต์ ระบุว่า น.ส.ราณี เป็นผู้ร่วมทุนทำธุรกิจด้วย แต่ไม่ได้โฆษณาสินค้า เพียงแต่ตัวแทนจำหน่ายบางรายนำภาพในอินสตาแกรมของ น.ส.ราณี มาใช้ทำภาพประกอบและคิดถ้อยคำบรรยายสรรพคุณสินค้าเอง จึงได้ตักเตือนตัวแทนจำหน่ายไปแล้วพ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผู้กำกับการ 4 บก.ปคบ. เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอ อย.แจ้งผลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บีเคิร์ฟว่าเข้าข่ายโฆษณาเกินจริงหรือไม่ ซึ่งน่าจะทราบผลในวันนี้ (11 พ.ค.2561) ส่วน น.ส.ราณี ยังไม่ทราบว่าจะมาวันเวลาใด แต่ต้องมาชี้แจงกับตำรวจ เพราะมีภาพปรากฏอยู่ในโฆษณา เบื้องต้นคาดว่าอาจเป็นวันที่ 15-16 พ.ค. ที่ น.ส.ราณี จะเข้าให้ข้อมูลและชี้แจงในประเด็นดังกล่าวอย.-สคบ.เดินหน้าตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหารเสริมการตรวจผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า อย.ดำเนินการตรวจมาโดยตลอด แต่ยอมรับว่าหลังเกิดกรณีเมจิกสกิน ทำให้มีการดำเนินการมากขึ้นสำหรับการตรวจนั้น ในต่างจังหวัดจะเป็นการดำเนินการของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยบางพื้นที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจะลงไปร่วมตรวจสอบด้วย ส่วนในกรุงเทพมหานคร อย.จะต้องร่วมกับตำรวจในการดำเนินการ เพราะต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย เบื้องต้นคาดว่าประมาณ 1-2 สัปดาห์จะสรุปผลการตรวจสอบทั่วประเทศได้ขณะที่ พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ สคบ.สุ่มตรวจการจำหน่ายสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมไปถึงเครื่องสำอางที่วางขายอยู่ทั่วไป และที่วางขายผ่านสื่อออนไลน์ประเภทต่างๆ ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่จัดทำฉลากได้ถูกต้องตามกฎหมายของ สคบ.หรือไม่ หากผู้บริโภคพบเห็น หรือไม่แน่ใจว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพหรือไม่ สามารถแจ้งข้อมูลมายัง สคบ.ได้ทันที
อย.ยืนยันการตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพในท้องตลาดดำเนินการต่อเนื่อง เตรียมลงพื้นที่เพิ่มเติมก่อนสรุปผลตรวจสอบทั่วประเทศ 1-2 สัปดาห์นี้ ส่วนกรณีอาหารเสริมลดน้ำหนักของ 2 นักแสดงเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง บก.ปคบ.จะให้ น.ส.ราณี แคมเปญ เข้าชี้แจงสัปดาห์หน้า
สังคม
ยาลดน้ำหนัก,อาหารเสริมบีเคิร์ฟ,เบลล่า,มะปราง,โฆษณาเกินจริง,อาหารเสริมลดน้ำหนัก,เมจิกสกิน,อย.,สคบ.,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/272151
สธ.ขอให้ประชาชนอย่าหวาดวิตกการระบาดของเชื้อไวรัสซิกา
วันนี้ (29 พ.ค.2559) นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ขอให้ประชาชนอย่าวิตกเกี่ยวกับเอกสารแจ้งเตือนการแพร่ระบาดในพื้นที่ จ.อุดรธานี และ จ.หนองคาย หลังทางการไต้หวันตรวจพบแรงงานไทยที่เดินทางมาจาก จ.อุดรธานี ติดเชื้อไวรัสซิกา ย้ำว่ากระทรวงสาธารณสุขได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติการตามมาตรฐานควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งและยังไม่พบผู้ป่วย หรือการแพร่ระบาดในพื้นที่ พร้อมเตือนประชาชนให้ระมัดระวังโรคและภัยสุขภาพในช่วงหน้าฝน 5 โรค อาทิ โรคทางเดินอาหาร ปอดบวม ไข้หวัดใหญ่ ฟ้าผ่า แมลงมีพิษ ไข้เลือดออก และโรคซิกาขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 อุดรธานี และศูนย์ควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลงที่ 8.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ อสม. ต.เชียงดา อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี ฉีดพ่นยาและกำจัดลูกน้ำยุงลาย ภายในบ้านพักของผู้ติดเชื้อไข้ซิกา เพื่อป้องกันและควบคุมไม่ให้แพร่ระบาดในชุมชน
กรมควบคุมโรคขอให้ประชาชนอย่าหวาดวิตกการระบาดเชื้อไวรัสซิกาใน จ.อุดรธานี และ จ.หนองคาย หลังไต้หวันตรวจพบแรงงานไทยที่เดินทางจาก จ.อุดรธานี ติดเชื้อไวรัสซิกา
สังคม
ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,กรมควบคุมโรค,ไวรัสซิกา,อุดรธานี,หนองคาย,ไต้หวัน,แรงงานไทย
https://news.thaipbs.or.th/content/252692
ผึ้งดึกดำบรรพ์อายุ 100 ล้านปีในอำพัน
ความหลากหลายทางชีวภาพ ผึ้งเป็นแมลงผสมเกสรเพียงกลุ่มเดียวที่กินน้ำหวานและละอองเกสรตลอดวงจรชีวิตของมัน ผึ้งมีวิวัฒนาการมาจากแมลงในวงศ์ apoid wasps ซึ่งเป็นแมลงจำพวกผึ้ง เช่น ตัวต่อที่กินเนื้อเป็นอาหาร ทว่าการเปลี่ยนแปลงการกินอาหารของผึ้งยังไม่ชัดเจนนักเมื่อเร็วๆนี้ มีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิล (fossil) ผึ้งตัวเมียติดอยู่ในก้อนอำพันอายุ 100 ล้านปีในยุคครีเตเชียสที่ได้จากเมียนมา ซึ่งจอร์จ พอยนาร์ เจอาร์. นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอเรกอน ในสหรัฐอเมริกา ได้ศึกษาฟอสซิลนี้พบว่ามันเป็นผึ้งสายพันธุ์ดั้งเดิม และระบุว่านี่คือผึ้งชนิดใหม่มีชื่อว่า Discoscapa apicula อยู่ในสกุล Discoscapidae นอกจากนี้ ยังพบละอองเรณูและปรสิตหรือแมลงตัวเล็กๆที่เกาะติดอยู่บนตัวผึ้ง ลักษณะการเกาะติดของปรสิตแบบนี้ยังคงปรากฏในผึ้งยุคปัจจุบันเช่นกัน ปรสิตพวกนี้อาจก่อเกิดความผิดพลาดในการบินของผึ้งนักวิจัยอธิบายว่า ซากฟอสซิลนี้มีลักษณะร่วมกับผึ้งสมัยใหม่ ซึ่งข้อมูลฟอสซิลของผึ้งที่มีอยู่นั้นค่อนข้างกว้างขวาง ส่วนใหญ่มาจาก 65 ล้านปีที่แล้ว แต่การศึกษาฟอสซิล Discoscapa apicula อาจช่วยไขปริศนาการเปลี่ยนแปลงรูปแบบอาหารจากกินเนื้อมากินละอองเกสรได้ เพราะละอองเรณูจำนวนมากบนตัว Discoscapa apicula บ่งบอกว่าก่อนที่มันจะถูกขังในยางไม้จนกลายเป็นอำพัน ผึ้งได้บินไปที่ดอกไม้หนึ่งดอกหรือมากกว่านั้น.
เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าแมลงผสมเกสรเป็นตัวช่วยในการขยายพันธุ์พืชดอกทั่วโลก แมลงตัวน้อยๆเหล่านี้มีความสำคัญต่อระบบนิเวศในฐานะที่เป็นตัวสนับสนุน
ข่าว,ต่างประเทศ
ผึ้ง,ผึ้งดึกดำบรรพ์,อำพัน,ฟอสซิล,เมียนมา,มหาวิทยาลัยโอเรกอน,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1773856
UniNet โชว์ศักยภาพ เป็นฮับด้านการศึกษาและโครงข่ายวิจัย
เมื่อวันที่ 13 ต.ค.61 รศ.สมศักดิ์ มิตะถา ผอ.สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา (UniNet) กล่าวว่า อีกหนึ่งบทบาทของ UniNet คือการเป็นฮับด้านการศึกษาและโครงข่ายวิจัย ซึ่งปัจจุบัน UniNet นอกเหนือจากการให้บริการสื่อสัญญาณเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง   ที่เชื่อมต่อเข้าใช้สารสนเทศและแหล่งข้อมูลทั่วโลกแล้ว ยังเป็นแหล่งสารสนเทศและแหล่งจัดเก็บข้อมูลทางการศึกษาและการวิจัยขนาดใหญ่ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต  UniNet เป็นเครือข่ายเดียวในประเทศไทยที่เชื่อมต่อตรงกับเครือข่ายเพื่อการศึกษาวิจัยกับประเทศอื่นทั่วโลก โดยมีการทำความร่วมมือระหว่าง UniNet กับ ThaiSarn (Thai Social/Scientific Academic and Research Network) เพื่อเชื่อมโยงกับเครือข่ายเพื่อการศึกษาวิจัยไทยในนาม ThaiREN (Thai Research and Education Network),รศ.สมศักดิ์  กล่าวต่อว่า ThaiREN เกิดจากการเชื่อมโยงเครือข่ายเข้ากับเครือข่ายเพื่อการศึกษาวิจัย TEIN ของสหภาพยุโรปและเอเชีย และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษาวิจัยของประเทศญี่ปุ่น (JGN) ที่ขนาดความเร็ว 1 กิกะบิตต่อวินาทีของแต่ละเครือข่ายซึ่งเป็นโครงข่ายที่ประเทศต่างๆ นิยมใช้ ทำให้เกิดชุมชนทางด้านการศึกษาวิจัยเพื่อให้คนไทยได้ศึกษาผลงานวิจัยจากต่างประเทศ นับเป็นหนึ่งในพันธกิจของ UniNet ในการใช้เครือข่ายเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ด้านการศึกษาวิจัยอย่างมีประสิทธิภาพที่ผ่านมามีการใช้โครงข่ายดังกล่าวในการเรียนการสอนระหว่างสถาบันการศึกษาในกลุ่มสมาชิก UniNet เช่น การใช้งานระบบประชุมทางไกลเพื่อการสาธิตผ่าตัด, การประชุมและการวินิจฉัยของคณาจารย์ นักวิจัย และนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลในประเทศไทยกับคณาจารย์ นักวิจัย และนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์จากโรงพยาบาลในต่างประเทศ ฯลฯ กิจกรรมดังกล่าวมีความต้องการใช้ระบบสื่อสารที่มีความเร็วสูง ซึ่ง UniNet ก็พร้อมให้บริการกับสมาชิกอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ UniNet ยังได้วางระบบการประชุมที่ผู้เข้าร่วมประชุมใช้งานต่างระบบกัน  (MCU) Microcontroller Unit แต่สามารถประชุมหรือดำเนินกิจกรรมร่วมกันได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการจัดประชุม การเรียนการสอน หรือการปรึกษาหารือ ไม่เพียงแต่การจัดระบบโครงข่ายเพื่อกิจกรรมต่างๆ เท่านั้น.
สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา (UniNet) เผยบทบาท การเป็นฮับด้านการศึกษาและโครงข่ายวิจัย เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ข่าว,สังคม
UniNet,รศ.สมศักดิ์ มิตะถา,สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา,ฮับด้านการศึกษา,เครือข่ายอินเทอร์เน็ต,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/society/1396305
ปีเตอร์ ขอเวลาเคลียร์ครอบครัว สงสัยพลอยพาลูกตรวจ DNA ทำไม?
หายหน้าไปนาน ล่าสุดได้เจอ ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล ที่งานประกาศผลรางวัลสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 25 นักข่าวเลยต้องอัพเดตเรื่องความสัมพันธ์ของ พลอย พลอยพรรณ ทวีรัตน์ ซึ่งหนุ่มปีเตอร์จะเปิดเผยว่าอย่างไร ไปฟังจากปากของนักร้องหนุ่มกันเลย,กลับบ้านมา? เข้าบ้านเรื่อยๆ อยู่แล้วครับ กับลูกๆ ก็ได้เจอกัน แต่ถามว่าบ่อยมั้ย ก็ไม่บ่อยมากหรอกครับ คือจริงๆ มันเป็นเรื่องของคนสองคน เพราะจะว่าไปแล้วมันก็คือเรื่องส่วนตัว เอ่อทุกอย่างมันก็มีเหตุผล มีที่มาที่ไป ซึ่งอาจจะไม่เหมาะสมที่เราจะพูดให้กับคนอื่นได้ฟัง และเรามองว่าคุยกันเองดีกว่า ตอนที่เราเข้าบ้าน เราเข้าไปทำอะไร? อันดับแรกก็เข้าไปหาลูกอยู่แล้วครับ แต่ก็ไม่ได้เจอทุกครั้ง,เราได้เคลียร์กับพี่พลอยแล้วหรือยัง เพราะเหมือนเคยบอกไว้ว่าอยากเข้าไปคุย? คืออันนี้มันเป็นเรื่องของกฎหมาย ไม่ใช่ๆ แบบว่า คือผมสัญชาติเดนมาร์ก ผมก็เลยต้องให้คุณแม่มาทำเรื่องให้ผมเป็นสัญชาติไทย ตอนนั้นผมก็เลยต้องรอคุณแม่ ซึ่งบังเอิญว่าคุณแม่ผมลางานมาไม่ได้อีก ประมาณนั้นครับ ที่เราบอกว่ารอคุณแม่เรื่องสัญชาติคืออะไร? อ๋ออันนี้เป็นเรื่องของผมเองครับ ไม่ได้เกี่ยวกับลูกๆ ครับ,ตอนนี้ตัดสินใจเรื่องความสัมพันธ์ได้หรือยัง? ตอนนี้เรายังไม่ได้คุยเลยครับ คือยังคุยไม่จบสักทีว่าเราจะอะไรยังไงกันบ้าง แต่ว่าเราเองก็ยอมรับ ซึ่งทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่ามันมีการเสียดสี (หัวเราะ) เรายังติดอะไรอยู่? รอคุยสรุปก่อนดีกว่าครับ ผมไม่อยากพูดอะไรที่ทำให้เข้าใจผิดเอง เดี๋ยวเรื่องมันจะไปกันใหญ่ แต่ยืนยันใช่ไหมว่าครอบครัวเราไม่เหมือนเดิมแล้ว? ยืนยันอะไรครับ ผมขอคุยกันก่อนครับ เดี๋ยวผมไปคุยเอง,ล่าสุดเห็นว่าคุณปู่คุณย่าก็เข้าไปหาหลานด้วย? ไม่ใช่ครับ ทางหลานๆ ไปหาคุณพ่อผมครับ ผมเองก็ทราบแต่ว่าวันนั้นไม่ได้ไป คุณพ่อคุณแม่เราเป็นตัวเชื่อมให้เราบ้างมั้ย? ตอนนี้คือเราแต่งงานกัน มันก็มีสองครอบครัวมารวมกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับ แล้วเรื่องที่พลอยเขาเอาผลตรวจ DNA ลูกมายืนยัน เราทราบมั้ย? อันนี้ผมไม่เคยจะพูดอะไรอยู่แล้วครับ และผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะตรวจทำไม เหมือนมีคนบอกว่าเราไม่คิดว่าเป็นลูกตัวเอง? ไม่มีครับ ไม่มี.
ปีเตอร์ แจงหายหน้าเพราะซุ่มทำรายการ รับกลับบ้านเข้าไปหาลูกจริง ส่วนเรื่องครอบครัวขอให้เป็นเรื่องของคน 2 คน ขอคุยกันเอง เผยไม่เข้าใจพลอยที่พาลูกคนเล็กไปตรวจ DNA เพราะไม่เคยเรียกร้องให้อีกฝ่ายไปตรวจ
null
ปีเตอร์ พลอย,ปีเตอร์ ไม่กลับบ้าน,ปีเตอร์ กลับบ้าน,ปีเตอร์ เลิกพลอย,ปีเตอร์ คอร์ป ไดเดรนดัล,พลอย พลอยพรรณ ทวีรัตน์,พลอย ตามหาปีเตอร์,ข่าว,บันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/590574