feat_title
stringlengths
5
119
text
stringlengths
549
65.6k
target
stringlengths
51
1.63k
feat_type
stringlengths
0
62
feat_tags
stringlengths
0
843
feat_url
stringlengths
29
110
evaluation_predictions
sequence
โชว์งานขึ้นกระดาน แชร์ไอเดียให้ราบรื่น
BeeCanvas แอปพลิเคชัน อันทรงพลังที่จะเป็นเครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกัน จะทำให้การประชุมประสบความสำเร็จ มาติดจรวดให้กับการทำงานของคุณกันดีกว่า ก่อนอื่นใด ตั้งโปรเจกต์กันขึ้นมาก่อน, คุณสามารถสร้างเอกสารในโปรเจกต์ส่วนตัวหรือของทีมก็ได้ หลังจากนั้นก็เลือกหน้ากระดานแบบมีเทมเพลตหรือแบบหน้าเปล่า และเพิ่มและแก้ไขหน้านั้นกันได้เลย ส่งหน้ากระดานนี้ไปให้คนอื่นในทีมด้วยการแตะสัญลักษณ์ Share ตรงมุมขวาบนเพื่อส่งผ่านอีเมลหรือคัดลอกลิงก์ แต่ผู้รับที่ไม่มี BeeCanvas ก็สามารถดูได้ไร้ปัญหา หรือถ้าคุณอยากจะเซฟหน้ากระดานเป็น PDF เพื่อส่งในภายหลังก็ทำได้เช่นกัน ทุกอย่างในแอปจะถูกซิงก์แบบเรียลไทม์ รวมถึงเวอร์ชันบนเดสก์ท็อปด้วย คุณจะได้เห็นว่าคนอื่นๆกำลังทำอะไรกันอยู่ เช่น คุณที่กำลังแก้ไขหน้ากระดานนั้นบน iPhone ในขณะที่กำลังเดินทางในขณะที่เพื่อนร่วมทีมเขียนคอมเมนต์จาก MacBook ที่ออฟฟิศ และเพื่อนร่วมทีมอีกคนที่แนบไฟล์รูปบน iPad จากที่บ้าน เป็นต้น หรือบางทีถ้าตัวหนังสือมันยังไม่พอ ก็โทร.วิดีโอคอลหากันเพื่อพูดคุยกันได้เลย จะได้รู้เรื่องสักที แอปนี้ฟรีบน iPhone และ iPad.
คุณสามารถสร้างเอกสารในโปรเจกต์ส่วนตัวหรือของทีมก็ได้ หลังจากนั้นก็เลือกหน้ากระดานแบบมีเทมเพลตหรือแบบหน้าเปล่า
ข่าว,ไอที
BeeCanvas,แอปพลิเคชัน,HOTAPPs,หน้ากระดาน,การประชุม,ทำงานร่วมกัน
https://www.thairath.co.th/news/tech/1655323
[ 0, 259, 228269, 9211, 49277, 55667, 149393, 259, 40077, 60284, 104282, 20118, 3682, 105312, 9513, 112248, 125423, 259, 127120, 112248 ]
นายกฯ ปลุก อย่านอนหลับทับสิทธิ์ ซัด พวกยกเลิกเกณฑ์ทหาร ชาวบ้านอย่าเชื่อ
บิ๊กตู่ เปิดอาคารคลินิกหมอครอบครัว เพชรบูรณ์ ปลุกอย่านอนหลับทับสิทธิ์ พรรคชนะต้องได้เป็นรบ.แจงกติกาเลือกตั้ง ขั้นตอนเลือกนายกฯ ซัด พวกยกเลิกเกณฑ์ทหาร ขอชาวบ้านอย่าเชื่อ ย้ำทำทุกอย่างว่าตามก.ม.ไม่อย่างนั้นตัวเองตาย หรือติดคุก,เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 18 ก.ย. ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ สาขาคลองศาลา จ.เพชรบูรณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยนพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ และเยี่ยมชมการดำเนินงานของคลินิกหมอครอบครัว โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ สาขาคลองศาลา ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นคลินิกหมอครอบครัวแห่งแรกของประเทศไทยที่เปิดบริการอย่างเป็นทางการ และได้รับงบประมาณอาคารตามนโยบายคลินิกหมอครอบครัว,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับประมาณ 500 คนว่า รัฐบาลนี้อยากจะทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ประเทศเรามีปัญหา 2 อย่าง คือการศึกษาและสาธารณสุข ที่ต้องทำให้ดีขึ้นโดยเร็ว วันนี้เห็นความก้าวหน้าเรื่องความร่วมมือของหมอครอบครัว ซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาลนี้ ที่ทำให้เกิดระบบไพรมารีแคร์ ระยะแรกวันนี้เราทำได้จำนวนหนึ่ง ไม่กี่ปีข้างหน้าก็จะทำให้ครบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยอนาคตของเราต้องแข็งแรง เพราะฉะนั้น ระบบไพรมารีแคร์นั่นสำคัญที่สุด และขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพออกกำลัง,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ ได้ถามประชาชนว่ารักหมอหรือไม่ จากนั้นกล่าวต่อทันทีว่า ถ้ารักหมอทุกคนก็คงไม่เกลียดนายกฯ เพราะนายกฯ ที่ทำก็ทำเพื่ออนาคต ทั้งนี้ คนที่มาบอกว่าจะทำโน้นทำนี่ให้ ถามเขากลับด้วยว่าเอางบประมาณมาจากไหนใครจะพูดอะไรก็พูดได้หมด อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเอาทุกปัญหามาคิดมาทำ ซึ่งสิ่งที่ทำให้เกิดความเท่าเทียมกันได้ในประเทศนี้คือกฎหมาย ทั้งนี้ นี่คือประเทศไทยอย่าให้ใครมาแบ่งแยก สิ่งที่รัฐบาลทำวันนี้ดีที่สุดแล้ว เพราะไม่สร้างภาระต่อในอนาคต,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตอนหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ถามประชาชนว่า ดีหรือไม่ที่บ้านเมืองสงบเช่นนี้ วันนี้บ้านเมืองไม่มีทะเลาะเบาะแว้ง คนไทยมักทะเลาะเบาะแว้ง เพราะมีความคิดเห็นที่หลากหลายเราไม่สามารถบังคับใครได้ แต่จะต้องหาจุดกึ่งกลางให้ได้ เพราะแม้กระทั่งวันนี้เรื่องละครคนก็ยังทะเลาะกัน โดยเถียงกันว่าจะชอบใครดีระหว่างตัวพระเอก นางเอก ตัวร้าย ซึ่งต่างจากละครของต่างประเทศที่มีการสอดแทรกเรื่องของประเทศ ทั้งนี้ไม่อยากให้พวกเราทะเลาะกันเอง ตนในฐานะนายกรัฐมนตรีทำทุกอย่าง และพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด โดยไม่นึกถึงตัวเอง เพราะถ้าไม่จำเป็นคงมายืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้,ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ถามผู้ที่มาต้อนรับว่า การเข้ามาทำให้ทุกอย่างดีขึ้นหรือไม่ ใครไม่รักผมไม่เป็นไรแต่ผมรักพวกคุณก็แล้วกัน ประเทศนี้ถ้าไม่มีพลเรือน ตำรวจ ทหารก็อยู่ไม่ได้ ไหนใครบอกว่าไม่ต้องมีทหาร แล้วถ้ามีอะไรขึ้นมาแล้วใครจะมาช่วยพวกท่าน เพราะทหารอยู่ในกรม กอง ในกองร้อยเรียกได้ตลอด 24 ชั่วโมง เบี้ยเลี้ยงก็จ่ายเพียงครั้งเดียว ซึ่งทหารส่วนใหญ่ก็เป็นลูกหลานของพวกท่านทั้งนั้น เป็นกำลังที่มีความพร้อม 24 ชั่วโมง จึงต้องมีรถ ลาม้าช้างอยู่ในกรมกอง เพราะหน่วยงานอื่นไม่มีคนขนาดนี้ เราไม่ได้มีทหารไว้ให้ผมปฏิวัติ ผมเข้ามาเพราะเหตุผลความจำเป็น เป็นสถานการณ์ที่ต้องเข้ามา,เมื่อถามว่าถ้าไม่มีทหารและตำรวจภายในภาคใต้จะเป็นอย่างไร ดังนั้นอย่าไปฟังเวลาที่เขาพูดพวกนั้นต้องการที่จะแบ่งแยกหรือเปล่าที่บอกว่าให้เอาทหารออกไปจากพื้นที่ ถ้าออกไปเมื่อไหร่ก็เสร็จเมื่อนั้น อย่าไปเชื่อพวกเขา ที่เขาบอกว่าจะทำนี่ทำนั่นให้ ไปถามเขาหน่อยว่าจะเอาเงินมาจากไหน รู้เรื่องกฎหมายการเงินการคลังหรือไม่ และจะเอางบประมาณมาจากที่ใด เพราะถ้าไม่รู้เรื่องจะพูดอย่างไรก็ได้แล้วท่านก็รักเขา แต่สำหรับผมพูดด้วยเหตุและผล ด้วยกฎหมาย ซึ่งท่านก็ไม่รัก แต่ถ้าผมไม่ทำด้วยกฎหมาย ตายผมก็ตาย ติดคุก ไอ้พวกนั้นพูดไปแต่ไม่ได้ทำในวันข้างหน้าหรือเปล่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว,นายกฯ กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงการเดินหน้าเข้าสู่การเป็นประชาธิปไตยจึงขอให้มีหลักการและหลักคิดที่ถูกต้องว่า ประเทศของเราควรเดินหน้าไปอย่างไร ประเทศไทยมีโอกาสมากมาย ขอให้ทุกคนยึดมั่นในหลักของประเทศไทยที่มี 3 สถาบันหลักคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถ้าไม่มี 3 สถาบันนี้ประเทศไทยอยู่ไม่ได้ เราต้องการรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ดังนั้นประชาชนจึงต้องเตรียมการให้ดีว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเลือกตั้ง ไม่ใช่นอนอยู่บ้านไม่ไปกาบัตรใช้สิทธิ์ หรือทำลายบัตรเลือกตั้ง วันนี้เรามีพ.ร.บ.การเลือกตั้งใหม่ ขณะที่พรรคการเมืองต้องเสนอชื่อคนเป็นนายกฯ และนโยบายพรรค ถ้าเรายังไม่รู้ว่าจะเลือกเบอร์ไหนแต่กลับไปถามบ้านข้างๆ แล้วเลือกตามตรงนี้ถือว่าจบ,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลส่วนใหญ่จะไม่แก้ปัญหาที่แก้ยาก และมีผลกระทบตามมา จะแก้ปัญหาที่ง่ายๆ และได้คะแนนเสียง ทำให้คนรัก แต่รัฐบาลนี้แก้ทุกเรื่องจึงต้องมีทั้งคนที่ได้และคนที่เสีย,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายกฯ ได้เดินทักทายและร่วมถ่ายภาพกับประชาชนกลุ่มต่างๆ ตอนหนึ่ง ว่า การเลือกตั้งอย่าไปเลือกอะไรที่เรื่อยเปื่อย วันนี้ผมไม่ได้มาหาเสียงทางการเมือง แต่มาพบกับประชาชน อย่าให้ใครว่า อย่าให้ใครมาว่า ว่าผมมาหาเสียง ผมมาในฐานะนายกฯ พร้อมกล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าทุกคนต้องรู้ก่อนว่านายกฯ จะมาจากตรงไหน ซึ่งจะมาจากพรรคที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดซึ่งจะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลและตั้งนายกฯ เป็นหลักการที่ทุกคนต้องรู้ ตนไม่ได้พูดถึงตัวเอง แต่ทุกพรรคจะต้องเสนอคนที่จะขึ้นมาเป็นนายกฯ ก่อน,จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ถามกลุ่มผู้สูงอายุที่มารอต้อนรับว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาได้ไปใช้สิทธิ์หรือไม่ กลุ่มผู้สูงอายุกล่าวตอบว่าไปเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์จึงพูดยิ้มๆ เชิงกระเซ้าว่า แล้วเลือกใคร ก่อนจะรีบตอบว่าไม่ต้องบอกเพราะไม่ได้ถาม ขณะที่ประชาชนได้ตะโกนส่งเสียงเชียร์ว่า รักลุงตู่ อยากให้ลุงตู่เป็นนายกฯ ต่อไป พล.อ.ประยุทธ์ ได้หันมาตอบรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก่อนที่จะเดินขึ้นรถว่า จ้ะ
บิ๊กตู่เปิดอาคารคลินิกหมอครอบครัว เพชรบูรณ์ ปลุกอย่านอนหลับทับสิทธิ์ พรรคชนะต้องได้เป็นรบ.แจงกติกาเลือกตั้ง ขั้นตอนเลือกนายกฯ ซัด พวกยกเลิกเกณฑ์ทหาร ขอชาวบ้านอย่าเชื่อ ย้ำทำทุกอย่างว่าตาม
ข่าว,การเมือง
นายกฯ,อย่านอนหลับทับสิทธิ์,ยกเลิกเกณฑ์ทหาร,ประชุมครม.เพชรบูรณ์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1378325
[ 0, 259, 203061, 80267, 259, 97003, 173212, 82551, 72810, 61349, 1, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0 ]
ศาลฎีกายืนจำคุก 10 ปี ลูกน้องป๋าลอ ยักยอกเพชรซาอุฯ
ที่ศาลอาญา วันที่ 26 ธ.ค. ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 2 เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ อดีตผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ, พ.ต.อ.ประเสริฐ จันทราพิพัฒน์ อดีต ผกก.ตำรวจม้า กองบังคับการตำรวจสายตรวจ (ยศขณะนั้น), พ.ต.ต.ธานี สีดอกบวบ อดีตสารวัตร กก.กาฬสินธุ์ (หลบหนีการดำเนินคดี), ร.ต.อ.ฤทธิศาสตร์ แก้วเดช อดีต รอง สว.สส. สภ.อ.บ้านตาก จ.ตาก, ด.ต.เท่ง ติ๊บปะละวงศ์ อดีต ผบ.หมู่ สภ.อ.เถิน จ.ลำปาง, จ.ส.ต.สนิท กาวิชา อดีต ผบ.หมู่ สภ.อ.เถิน, จ.ส.ต.เสวก หรือ ส่วย กันทะมา อดีตตำรวจ ผ.5 กก.2 ป. และนายสุรจิต หรือ แดงหงอก ชัยศิริ (เสียชีวิตเมื่อปี 2547) เป็นจำเลยที่ 1-8 ตามลำดับ,ในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ, เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินจากผู้อื่นเพื่อประโยชน์ตนเอง หรือผู้อื่น, ร่วมกันเบียดบังยักยอกทรัพย์ของผู้อื่น (เงิน 6.6 แสนบาท) เป็นของตนเองโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 149, 147 และความผิดอื่นๆ อีกหลายข้อหา คดีนี้ป๋าลอไม่ได้ฎีกาและได้รับการพักโทษไปแล้ว โดยคดีนี้โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2536 ระบุความผิดพวกจำเลย สรุปว่า พวกจำเลย ซึ่งเป็นคณะพนักงานสอบสวนสืบหาเครื่องเพชรมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ของเจ้าชายไฟซาล ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถูกนายเกรียงไกร เตชะโม่ง คนงานไทยขโมยมาจากพระราชวัง ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย และนำมาขายให้กับ นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ เสี่ยเจ้าของร้านเพชร สันติมณี ผู้ต้องหาคดีรับของโจร,โดยระหว่างสืบสวนสอบสวนคดี พวกจำเลยทั้งหมดได้เรียกรับเงินจากนายสันติ ผู้ต้องหาหลายครั้งจำนวน 3 ล้านบาทบ้าง, จำนวน 6.6 แสนบาทบ้าง และจำนวน 1.2 ล้านบาทบ้าง เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีรับของโจร และพวกจำเลยยังได้ร่วมกันยักยอกเพชรและทรัพย์สินของกลางหลายรายการ เช่น นาฬิกาข้อมือฝังเพชร ยี่ห้อโชปาร์ด ,นาฬิกายี่ห้อบูเช่กิรอด, อัญมณีแดงรูปดอกลำดวน 5 แฉก สร้อยเพชร สร้อยคอทองคำฝังเพชร จี้เพชร ต่างหู และอื่นๆ ไปโดยมิชอบ ไม่นำส่งคืนให้กับพนักงานสอบสวน พวกจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดีมาโดยตลอด,คดีนี้โดยศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2549 โดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 จำคุก 2 กระทงๆ ละ 10 ปี รวมจำคุก 20 ปี จำเลยที่ 4 มีความผิดตามมาตรา 147 จำคุก 7 ปี คำให้การในชั้นสอบสวนและเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ไว้ 4 ปี 8 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2, 5, 6, 7 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากพยานโจทก์ยังไม่เพียงพอ และให้คืนทรัพย์สินของกลาง 9 รายการ และเงินจำนวน 200,000 บาท แก่ผู้มีสิทธิ์,ต่อมาโจทก์-จำเลยยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 55 โดยพิพากษายืนจำคุก พล.ต.ท.ชลอ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 20 ปี และพิพากษาแก้ในส่วนของ พ.ต.อ.ประเสริฐ จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ให้จำคุก 10 ปี ส่วนจำเลยที่ 5, 6 และ 7 ผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ประกอบ มาตรา 83 จำคุกคนละ 7 ปี แต่จำเลยที่ 5 และ 6 นำเงินของกลางจำนวน 2 แสนบาทมาคืน ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 5 – 6 ไว้คนละ 4 ปี 8 เดือน นอกเหนือจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น,ต่อมา พ.ต.อ.ประเสริฐ จำเลยที่ 2 ยื่นฎีกาคนเดียวขอให้ยกฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 1, 4-7 ไม่ยื่นฎีกาคดีจึงยุติในชั้นอุทธรณ์ โดยระหว่างฎีกาจำเลยที่ 2 คงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า มีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 ได้ เบียดบังยักยอกทรัพย์จากนายสันติ ผู้ต้องหา ซึ่งรับซื้อทรัพย์สินที่ถูกลักมาจากพระราชวังประเทศซาอุฯ มูลค่า 6.6 แสนบาทหรือไม่ คดีรับฟังได้ว่า นายเกรียงไกร เตชะโม่ง คนงานไทย ซึ่งเป็นพนักงานทำความสะอาดได้ขโมยทรัพย์สินมาจากพระราชวังซาอุฯ ซึ่งเป็นเพชร เครื่องประดับ อัญมณี และอื่นๆ น้ำหนักรวมประมาณ 30 กิโลกรัม รวมมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท,ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย จากนั้นทางการซาอุฯ ได้ประสานมายังทางการไทย เพื่อให้ติดตามจับกุมตัวนายเกรียงไกร โดยตั้ง พล.ต.ท.ชลอ จำเลยที่ 1 เป็นหัวหน้าชุดสืบสวน โดยมีจำเลยที่ 2-4 อยู่ในชุดสืบสวนด้วย เมื่อนายเกรียงไกรทราบว่ามีการตั้งชุดสืบสวนติดตามจับกุม จึงได้หลบหนีและนำทรัพย์สินไปฝากไว้กับญาติและขายให้กับผู้ต้องหารายอื่นๆ บางส่วน และนำไปมอบให้กับจำเลยที่ 1 บางส่วน นอกจากนี้ ชุดสืบสวนก็ติดตามยึดทรัพย์สินคืนมาได้บางส่วน แต่ไม่นำส่งพนักงานสอบสวน ซึ่งต่อมานายเกรียงไกร ถูกจับกุมได้ที่ จ.ตาก,จนกระทั่งถูกศาลพิพากษาจำคุกจนคดีถึงที่สิ้นสุด ส่วนที่จำเลยที่ 2 ฎีกาคัดค้านว่า พยานโจทก์ไม่ได้ยืนยันว่าจำเลยที่ 2 ได้เบียดบังเอาทรัพย์สินไป และพยานโจทก์ จำไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้เดินทางไปยังบ้านพักของ นายนิคม เตชะโม่ง ญาติของนายเกรียงไกร เพื่อเรียกรับทรัพย์สินด้วยหรือไม่นั้น เห็นว่าแม้คำให้การของพยานโจทก์จะให้การขัดแย้งกันบ้าง แต่จำเลยที่ 2 ก็มิได้ยืนยันว่า ไม่ได้เดินทางไปยังบ้านของนายนิคม แต่จำเลยที่ 2 กลับยอมรับว่าได้เดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าวจริง เพียงแต่บ่ายเบี่ยงว่าไม่ได้เข้าไปในบ้านพักโดยรออยู่ในรถ ก่อนจะเดินทางกลับ,ทั้งนี้ ศาลฎีกาได้ตรวจดูบันทึกคำให้การของพยานในชั้นสอบสวนของศาลจังหวัดเชียงใหม่และศาลจังหวัดตาก แล้วเห็นว่าการสอบปากคำจำเลย 4 คน ก็เป็นไปด้วยความรอบคอบ รัดกุม ไม่ถูกชักนำหว่านล้อม เพื่อให้พยานให้ปากคำผิดเพี้ยนจากข้อเท็จจริง ซึ่งในการสอบสวนดังกล่าวมีทั้งข้าราชการฝ่ายกระทรวงมหาดไทยและเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นำโดย พล.ต.ท.ธนู หอมหวน พร้อมคณะ ร่วมทำการสอบสวนด้วย และมีการสอบสวนถึง 5 ครั้ง มีการทำบันทึกถ้อยคำอย่างละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งพยานต่างเบิกความสอดคล้องตรงกันไปตามที่รู้เห็น มิได้บิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งหากไม่ได้สมัครใจในการเข้าให้ถ้อยคำ ก็เป็นการยากที่พนักงานสอบสวนจะปรุงแต่งเรื่องขึ้นมาเอง เนื่องจากข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าว มีความสลับซับซ้อนและมีบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก,อย่างไรก็ตาม แม้พยานโจทก์จะไม่ได้ยืนยันว่า จำเลยที่ 2 เอาเงิน 6.6 แสนบาทไปหรือไม่ แต่ก็รับฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 เดินทางไปบ้านนายนิคม ญาติของนายเกรียงไกรจริง ศาลฎีกาจึงมีอำนาจรับฟังจากพยาน 4 ปาก ในชั้นสอบสวนและสืบเสาะข้อเท็จจริงได้ โดยมิต้องถือถ้อยคำตามพยานโจทก์ ซึ่งพยานทั้ง 4 ปาก ต่างยืนยันตรงว่า พ.ต.อ.ประเสริฐ จำเลยที่ 2 ได้รับเงินจากนายนิคม ซึ่งไปฝากไว้กับพันจ่าอากาศเอกคนหนึ่ง จำนวน 6.6 แสนบาทจริง โดยไม่ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน แต่กลับเบียดบังทรัพย์สินไปเป็นของตนโดยทุจริต จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน จำคุก 10 ปี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ในศาลชั้นต้นใช้เวลาสืบโจทก์-จำเลยนานกว่า 13 ปี เนื่องจากเอกสารในคดีมีจำนวนมาก และต้องส่งประเด็นไปสืบตามศาลจังหวัดต่างๆ รวมทั้งการติดตามพยานในศาลอุทธรณ์อีก 6 ปี รวมเป็นเวลากว่า 19 ปี
ศาลฎีกาพิพากษายืน จำคุก 10 ปี พ.ต.อ.ประเสริฐ อดีต ผกก.ตำรวจม้า ยักยอกของกลางคดีเพชรซาอุฯ
ข่าว,ทั่วไทย
พ.ต.อ.ประเสริฐ,ผกก.ตำรวจม้า,เพชรซาอุ,ป๋าชลอ,ลูกน้องป๋าลอ,ซาอุดีอาระเบีย,สันติมณี,ป๋าลอ
https://www.thairath.co.th/news/local/471394
[ 0, 259, 104338, 1549, 62397, 70663, 6200, 3755, 66806, 104338, 44628, 112202, 356, 21191, 137759, 7960, 219429, 225500, 159230, 260 ]
โหนกระแสโซเชียล เหนียวไก่ หน้าที่สื่อ?ความรับผิดชอบต่อสังคม
จากกรณี น้องไลล่า นางสาวขนิษฐา จันทร์สว่าง อายุ 15 ปี เด็กหญิงชาวสตูล เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านสังคมออนไลน์ โซเชียลแคม หรือที่หลายคนเรียกว่า คลิปเหนียวไก่ ด่าทอผู้ที่ขโมยข้าวเหนียวไก่ ซึ่งวางไว้ที่หน้ารถ สำเนียงภาษาใต้ จนสื่อแทบทุกสำนักหยิบประเด็นมานำเสนอ จนกลายเป็นเรื่องทอล์กออฟเดอะทาวน์ เพียงชั่วข้ามคืน,ทั้งนี้ มีคนจำนวนไม่น้อย ตั้งคำถามต่อการทำหน้าที่ของสื่อว่า สมควรหรือไม่กับการทำหน้าที่ของสื่อหลัก ต่อการหยิบประเด็นจากกระแสโซเชียล มาขยายผล ตีข่าว จนเกิดเป็นกระแสในโลกออนไลน์,อ.ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ ม.หอการค้าไทย แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ว่า ในช่วงนี้มีการเปลี่ยนผ่านสู่ภูมิทัศน์สื่อแบบใหม่ อดีตคนกำหนดทิศทางข่าว คือ กองบรรณาธิการ แต่พอเริ่มมีโซเชียลมีเดียเข้ามา ทำให้คนกำหนดวาระของข่าวสารที่ต้องการเองได้ แม้กระทั่งเด็ก ก็สามารถสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียได้ง่าย ปัญหา คือ อนาคตเด็กก็จะคิดว่า โซเชียลมีเดีย คือ พื้นที่ระบายอารมณ์ โดยไม่รู้ว่าจะมีผลกระทบตามมาอย่างไร โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ อย่างกรณี น้องไลล่า ดีที่สังคมให้การตอบรับ แต่บางคน หากสังคมให้การตอบรับในเชิงลบ รุนแรง จะน่ากลัวมาก,เข้าใจว่าที่สื่อหยิบคลิปแบบนี้มาเล่น เพราะมันจุดประเด็นได้ ตัวสื่อมองว่าเป็นเรื่องที่คนจะให้ความสนใจ เป็น Soft News แต่ถ้ามากเกิน ไม่มองมิติอื่นๆ ที่ตามมา อาทิ มองกรณีไลล่าว่าเป็นฮีโร่ อีกหน่อย เด็กโดนด่า โดนว่า ทะเลาะกับเพื่อน ก็มาระบายผ่านสังคมโซเชียล โซเชียลก็จะกลายเป็นถังขยะระบายอารมณ์ แต่ผลกระทบต่อจากนั้น อาจกลายเป็นประเด็นปัญหาใหญ่ขึ้น เป็นระดับองค์กร อย่างกรณีนี้กลายเป็นเซเลปดังในช่วงข้ามคืน มันเร็วไปไหมสำหรับเด็กคนนึง ซึ่งสื่อจะต้องให้ความรู้เท่าทันในเรื่องนี้ด้วย อ.ดร.มานะ กล่าว,เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่สื่อหยิบประเด็นที่เป็นกระแสทางโซเชียลมีเดีย มานำเสนอคู่ไปกับข่าว เพื่อแย่งชิงพื้นที่ อ.มานะ แสดงความเห็นว่า ข้อดีมันมีอยู่แล้ว รับประกันว่าได้ยอดวิว จะมีคนเข้ามาอ่าน เข้ามาดูเยอะแน่ๆ เพราะกระแสโซเชียลเป็นตัวกรองชั้นหนึ่งแล้วว่ามีคนสนใจ แต่หลายครั้ง ยังไม่มีการตรวจสอบข้อมูล แต่ต้องนำเสนอข่าว เพราะกลัวตก มันก็จะไม่ต่างกันกับเพจทั่วไป ซึ่งมันจะมีผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้บังคับบัญชาของสื่อแต่ละแห่งด้วย,สำหรับข้อเสนอแนะ ก็อยากให้กลุ่มองค์กรวิชาชีพสื่อ วางกรอบกติกากันเองก่อน ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร หากในวันข้างหน้า มีปัญหาขึ้นมา แล้วรัฐอาจเป็นคนลงมาจัดการเอง ดังนั้น เราควรดูแลกันเองก่อน เพื่อเป็นการป้องกัน,ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์การ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) แสดงความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า อยากให้แยกเป็น 2 ประเด็น คือ เรื่องความเหมาะสมของการทำหน้าที่สื่อ และสิทธิ หน้าที่ของสื่อ สามารถหยิบประเด็นดังกล่าวมาเล่นได้หรือไม่,ผมไม่ค่อยตื่นเต้น หรือทำให้ตื่นตระหนก แต่ด้วยตัวคลิป ซึ่งมีคุณค่าข่าวค่อนข้างสูง ในแง่ที่ว่าเป็นเรื่องตลก ขำ เป็นประเด็น Viral ได้ รวมๆ แล้วคือ ไม่มีสิ่งแอบแฝง ซึ่งน้องเค้าก็เป็นคนที่อัดคลิป แล้วนำมาลงโลกโซเชียล ทำให้เกิดเป็นกระแส สื่อก็ไปหยิบมา ซึ่งมันก็เป็นหน้าที่ของสื่อ ถือเป็นสิ่งที่ควรทำด้วยซ้ำ เพราะจะได้อธิบายให้คนได้รู้ว่า เรื่องราวมันเป็นอย่างไร แต่ก็ต้องหาจุดตรงกลาง ในเรื่องของความเหมาะสม ต้องรับผิดชอบกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตัวน้องไลล่า ซึ่งยังเป็นผู้เยาว์ เรื่องดังกล่าว ทำให้น้องเกิดความไม่สบายใจ นำเสนอเรื่องของน้องเค้าแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบต่อเรื่องดังกล่าวด้วย ผศ.ดร.วรัชญ์ กล่าว,ทั้งนี้ สำหรับธรรมชาติของสื่อออนไลน์เอง การที่จะนำเสนอเรื่องไร้สาระ มองว่าไม่แปลก เพราะมันเป็นธรรมชาติของสื่อออนไลน์ แต่เมื่อนำประเด็นน้องเค้าขึ้นมานำเสนอแล้ว มันเกิดผลกระทบ ทำให้ชีวิตน้องเค้าเปลี่ยนทันที ก็ต้องรับผิดชอบ ตรงนี้สื่อมีการติดตาม หรือช่วยดูแลน้องเค้าไหม อีกทั้งต้องรับผิดชอบ หรือต่อยอดในเรื่องดังกล่าวด้วย อาทิ มีบทวิเคราะห์ต่อเรื่องดังกล่าว ไม่ใช่สัมภาษณ์เสร็จก็ไป,ส่วนกรณีที่สื่อจำนวนหนึ่ง เรียกร้องเสรีภาพสื่อ ในการนำเสนอข้อมูลที่ตรวจสอบได้ มีแหล่งที่มา มีหลักฐาน พร้อมจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่นำเสนอ ยืนอยู่บนพื้นฐานของประโยชน์สาธารณะ คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา ผศ.ดร.วรัชญ์ ให้ความเห็นว่า ต้องยอมรับว่าภูมิทัศน์สื่อมันเปลี่ยนไปเยอะ สื่อไม่ได้กำหนดวาระด้วยตัวเองอีกแล้ว และไม่อยากให้มองที่ยอดไลค์ ยอดแชร์ เพราะมันเทียบกันไม่ได้ คุณค่าของการทำข่าวแบบนั้น มันยั่งยืนกว่าเยอะ และเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจมากกว่าด้วย ข่าวข้าวเหนียวไก่ ก็มีคุณค่า ในแง่ที่ช่วยให้คนผ่อนคลาย ระบายความเครียด แต่ก็ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาด้วย,ทั้งนี้ สื่ออาจนำเรื่องดังกล่าวมาต่อยอด มีบทวิเคราะห์ในประเด็นอื่นๆ อาทิ พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตในเด็ก เพื่อให้เกิดการรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น.
จากกรณี น้องไลล่า นางสาวขนิษฐา จันทร์สว่าง อายุ 15 ปี เด็กหญิงชาวสตูล เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านสังคมออนไลน์ โซเชียลแคม หรือที่หลายคนเรียกว่า คลิปเหนียวไก่ จนสื่อแทบทุกสำนักหยิบประเด็นมานำเสนอ จนกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์
น้องล่า,คลิปเหนียวไก่,เหนียวไก่,คลิปน้องล่า,ข้าวเหนียวไก่ทอด,แร็พเหนียวไก่,ความเห็น,มานะ ตรีรยาภิวัฒน์,วรัชญ์ ครุจิต,กระแส,โลกออนไลน์,ดังข้ามคืน,สื่อ,ความรับผิดชอบ
https://www.thairath.co.th/content/463170
[ 0, 259, 52973, 67058, 110279, 259, 54741, 36247, 20322, 43202, 97652, 97264, 13094, 259, 144525, 200729, 259, 48263, 670, 24250 ]
มรดกโลกบางที่อาจสูญเสียธารน้ำแข็งภายในปี 2643
ยอดเขาจุงเฟรา-ธารน้ำแข็งอเล็ทช์ในสวิตเซอร์แลนด์ ,Credit : IUCN/Martin Price,งานวิจัยล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์จากองค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) เผยว่าจากการผสมผสานข้อมูลของแหล่งน้ำแข็งทั่วโลกและสร้างแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน เพื่อวิเคราะห์สถานะปัจจุบันของมรดกโลกทางธรรมชาติ อย่างเช่นธารน้ำแข็งหลายๆแห่ง ไม่ว่าจะเป็นวิวัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงมวล พบว่าสถานที่สำคัญเหล่านี้หลายแห่งกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง,ทีมวิจัยคาดการณ์ว่าธารน้ำแข็งจะค่อยๆ หายไปอย่างสมบูรณ์ จากแหล่งมรดกโลกหลายแห่ง หากการปล่อยมลพิษยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งแหล่งมรดกโลกที่ได้รับการระบุนั้นส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งของธารน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงของโลกเช่น ธารน้ำแข็งอเล็ทช์ เป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในเทือกเขาแอลป์ แห่งสวิตเซอร์แลนด์, ธารน้ำแข็งคุมบูในเทือกเขาหิมาลัย และ Jakobshavn Isbrae ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของกรีนแลนด์,ทั้งนี้ มีการทำนายถึงการสูญเสียธารน้ำแข็งในแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติจำนวน 21 แห่งจาก 46 แห่ง ซึ่งอาจเกิดขึ้นภายในปี 2100 นอกจากนี้ ยังมีการวิจัยคาดว่า 33-60% ของปริมาณน้ำแข็งทั้งหมดในปี พ.ศ.2560 จะหายไปในปี พ.ศ.2643 อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก.
งานวิจัยล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์จากองค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) เผยว่าจากการผสมผสานข้อมูลของแหล่งน้ำแข็งทั่วโลกและสร้างแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน
ข่าว,ต่างประเทศ
งานวิจัย,นักวิทยาศาสตร์,การอนุรักษ์ธรรมชาติ,ธารน้ำแข็ง,ก๊าซเรือนกระจก,สวิตเซอร์แลนด์,ทันโลก,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1559068
[ 0, 259, 177566, 10228, 11699, 119247, 11740, 41259, 142674, 7960, 162969, 3682, 177566, 10228, 11699, 119247, 1549, 25889, 223417, 226566 ]
ปิดทริปถิ่นผู้ดี
Facebook ThaiBev ThaiTalent,ตอนที่แล้วพูดถึงรางวัลโบนัสของ ,เจ้าสัวน้อย อัสสัมชัญธนบุรี ,แชมป์ฟุตบอลเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี ช้าง จูเนียร์ คัพ 2017 ที่ได้จาก ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในการบินตรงสู่ดินแดนลูกหนังเมืองผู้ดีเพื่อฝึกทักษะฟุตบอลกับทีม ทอฟฟี่ เอฟเวอร์ตัน,พูดถึงโครงการฝึกทักษะฟุตบอลกับทีม ทอฟฟี่ เอฟเวอร์ตัน ทริปนี้เกิดเมื่อ 13 ปีที่ผ่านมา จากการที่บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด หรือ ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ขณะนั้นเป็นสปอนเซอร์ใหญ่อยู่กลางอกเสื้อของสโมสรเอฟเวอร์ตัน โดยมีสัญญาที่จะร่วมกันพัฒนาเด็กด้วยการส่งไปฝึกกับอะคาเดมีเอฟเวอร์ตันปีละ 3 คน ในโครงการ ช้างไทยไปเอฟเวอร์ตัน,โครงการดังกล่าวทำได้เพียง 2 ปีเท่านั้น เพราะดูแล้วโอกาสที่เด็กไปเล่นในลีกเมืองผู้ดีคงยากเพราะติดด้วยเงื่อนไขต่างๆนานา ซึ่งเด็กในโครงการตอนนั้นเท่าที่พอจำได้มี ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย, สมปอง สอเหลบ, ศักรินทร์ จันทร์โยธา ฯลฯ,จากนั้นก็เริ่มเปลี่ยนแนวคิดจากการส่งเด็กไปฝึกทักษะกับทีม ทอฟฟี่ เป็นการส่งโค้ชมือฉมังของเอฟเวอร์ตันมาฝึกเยาวชนรวมถึงอบรมโค้ชที่เมืองไทยปีละ 2 ครั้ง แต่ดูแล้วก็ยังไม่ใช่ เพราะเมื่อทางผู้บริหารช้างเองก็เห็นว่ายังขาดความท้าทายและไม่ครบถ้วนตามเป้าหมายตามที่ตั้งใจไว้,ขณะเดียวกัน ทางสโมสรเอฟเวอร์ตันเองก็ให้คำแนะนำว่า สมควรที่จะมีทัวร์นาเมนต์แข่งขันรองรับเพื่อเพิ่มศักยภาพและความมีประสิทธิภาพกับเยาวชน รวมถึงสร้างความต่อเนื่อง โดยให้จัดเป็นทัวร์นาเมนต์ของเยาวชนอายุ 13 ปีขึ้นมา เพราะเป็นช่วงรอยต่อที่เหมาะต่อการเสริมสร้างและพัฒนาฝีเท้า,จนมาถึงปี 2554 ทางผู้ใหญ่ของ ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จึงได้จัดทัวร์นาเมนต์ ช้าง จูเนียร์คัพ ขึ้นมา โดยในปีแรกทำแค่เพียงนำเอาเด็กที่อยู่ในโครงการที่ช้างสนับสนุนจำนวน 8 ทีมมาแข่งขันเพื่อหาสุดยอดแชมป์ ซึ่งในปีนั้นทีมที่ได้แชมป์จะมีเพียงแค่เงินรางวัลและเงินสนับสนุนทีมเท่านั้น,แต่ดูแล้วการจะค้นหาช้างเผือกต้องจัดโครงการให้ใหญ่กว่านี้ตามประสาของคำว่า เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ต้องช้าง จึงได้ขยายโครงการและเพิ่มจำนวนทีมในปีต่อมา ด้วยการเปิดคัดเลือกตัวแทนจากแต่ละภาคทั่วประเทศเพื่อหาแชมป์,ที่พิเศษกว่าเดิมคือแชมป์นอกจากเงินรางวัลแล้วจะเพิ่มโบนัสด้วยการส่งไปฝึกทักษะที่อะคาเดมีของเอฟเวอร์ตันในปัจจุบัน รวมถึงได้มีโอกาสดูแมตช์ถึง 3 นัด พรีเมียร์ลีกกับเกมแชมเปียนส์ลีก ซึ่งถือเป็นไฮไลต์เด็ดที่เด็กชื่นชอบอย่างมาก อย่างล่าสุดเกมแดงเดือด ลิเวอร์พูลปะทะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,จากนั้นเป็นต้นมาโครงการช้างทัวร์เมืองผู้ดีฝึกทักษะกับสโมสรเอฟเวอร์ตันก็ดำเนินการมาตลอด จนเข้าสู่ปีที่ 6 ที่เพิ่งจะปิดโครงการไปหมาดๆ,หลังจากที่ปิดทริปโครงการไปเรียบร้อยแล้ว ป้าหน่อย มัณฑนา ประไพเพ็ชร ผจก.โครงการไทยเบฟ ไทยทาเล้นท์ สรุปถึงโครงการนี้ว่า ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก นักเตะเยาวชนไทยพัฒนาขึ้นทุกปี ที่สำคัญได้รับคำชมจากโค้ชของเอฟเวอร์ตันถึงความตั้งใจและการพัฒนา แม้เป็นเพียงระยะสั้น โดยโค้ชทอฟฟี่ยังเชื่อว่านักเตะเหล่านี้จะนำประสบการณ์ที่ได้รับจากการเดินทางมาครั้งนี้ไปพัฒนาตัวเองจนก้าวไปเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยในอนาคตอย่างแน่นอน,ด้าน บิ๊กป๊อป สุรพล อุทินทุ ผอ.สำนักประสานงานภายนอกไทยเบฟฯ เล่าว่า โครงการนี้ไม่ใช่จะหยุดอยู่แค่นี้ ในทุกๆปีจะมีการหารือและพยายามหาแนวคิดใหม่เพื่อให้เด็กได้รับประสบการณ์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น ถึงแม้ว่าทางไทยเบฟฯจะไม่สามารถสร้างนักเตะทีมชาติได้อย่างใจหวัง แต่ลึกๆก็หวังว่าโครงการของช้างในการส่งเด็กเยาวชนไปฝึกที่เมืองผู้ดีกับสโมสรดังจะเกิดประโยชน์สูงสุด,เพราะเชื่อว่าทัวร์นาเมนต์ ช้างจูเนียร์คัพ จะเป็นบันไดในการสร้างฝันให้กับเยาวชนไทยอย่างแน่นอน และมั่นใจว่าเด็กเยาวชนที่ผ่านการฝึกไม่มากก็น้อยจะก้าวเป็นกำลังหลักให้กับ ทีมชาติไทยในอนาคต.,โจโจ้
ตอนที่แล้วพูดถึงรางวัลโบนัสของ เจ้าสัวน้อย อัสสัมชัญธนบุรี แชมป์ฟุตบอลเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี ช้าง จูเนียร์ คัพ 2017 ที่ได้จาก ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในการบินตรงสู่ดินแดนลูกหนังเมืองผู้ดีเพื่อฝึกทักษะฟุตบอล
อัสสัมชัญธนบุรี,ช้าง จูเนียร์ คัพ 2017,เอฟเวอร์ตัน,ช้างไทยไปเอฟเวอร์ตัน,เรียงหน้าชน
https://www.thairath.co.th/sport/others/1106057
[ 0, 259, 158768, 76389, 78297, 29849, 86890, 147725, 7910, 259, 46033, 259, 27605, 22398, 22397, 4728, 128725, 126564, 4395, 35835 ]
ประหารชีวิตจ้างวานฆ่าแกนนำฯต้านขยะ
กรุงเทพฯ- 16 ธ.ค.47 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาคดี ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง5 คนในคดีร่วมกันฆ่านายสุวัฒน์ วงศ์ปิยะสถิตย์ แกนนำต่อต้านบ่อกำจัดขยะ ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2544 ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้ง5 คน ได้แก่ ส.อ.สมเกียรติ์ หรือ เกียรติศักดิ์ หรือ จ่าศักดิ์ คงคามี อดีตทหารสังกัดศูนย์การบินทหารบก จำเลยที่ 1 ผู้ติดต่อหามือปืน นายเสรี หรือเล็ก กล่ำฉนวน จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นมือปืน นายประจักษ์ หรือจักร สินพรม จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ นายสมยุทธ หรือปุ๊ พุ่มภักดี สมาชิก อบต. ราชาเทวะ จำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นผู้จ้างวานและ นายสมชาย หรือ หลุบ ยอดย้อย จำเลยที่ 5 ซึ่งร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 4 ในความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ใช้จ้างวานให้ฆ่าผู้อื่น และ กระทำผิดพรบ.อาวุธปืน ทั้งนี้ศาลได้พิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์แล้วเห็นว่า โจทก์มีประจักษ์พยานรวม 3 ปาก ซึ่งนั่งอยู่ในร้านขายของชำ ขณะเกิดเหตุ และได้นั่งพูดคุยกับผู้ตาย ก่อนมีคนร้ายบุกเข้ามายิง โดยประจักษ์พยานทั้ง 3 ปากได้เบิกความสอดคล้องกันว่า เห็นจำเลยที่ 2 สวมหมวกกันน็อกนิรภัยควักปืนจากกระเป๋าสะพายเข้ามายิงผู้ตาย โดยยิงรวม 3 นัด ซึ่งขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ได้เปิดกระจกคลุมหน้าหมวกนิรภัยด้วยจึงทำให้เห็นใบหน้า โดย พยานเห็นจำเลยที่ 3 เป็นผู้ขี่รถจักรยานยนต์ นอกจากนี้โจทก์ยังมีนายเจริญ ศรีประริวาธิน พยานแวดล้อม ซึ่ง ก่อนเกิดเหตุ ได้เห็น จำเลยที่ 2 3 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณร้านขายก๋วยเตี๋ยวใกล้ร้านขายของชำใกล้ที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ โจทก์ยังมีนายนุกูล ธนาการ ผู้ต้องหาซึ่งร่วมกระทำผิด ในคดีนี้ซึ่งตำรวจกันไว้เป็นพยาน ได้นำตัวมาขึ้นเบิกความแน่ โดยนายนุกูล ยืนยันว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้รู้จักกับ จำเลยที่ 1 มา 10 ปีแล้ว และพยานรู้จักจำเลยที่ 5 ในฐานะเป็นเทรนเนอร์มวย โดย จำเลยที่ 4 ได้ติดต่อให้จำเลยที่ 5 หาคนมายิงผู้ตาย โดยจำเลยที่ 1 ได้ติดต่อกับจำเลยที่ 2 และ 3 โดยครั้งแรก ได้ว่าจ้างเป็นเงิน 1.5 แสนบาท แต่ต่อมาได้ต่อรองเป็น 2.4 แสนบาท ซึ่งศาล เห็นว่า พยานโจทก์ ต่างเบิกความสอดคล้องต้องกัน นอกจากนี้ยังพบว่า คดีดังกล่าวมีพนักงานสอบสวน ซึ่ง สตช. แต่งตั้งเป็นคณะทำงาน มาโดยมี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นประธานคณะทำงาน และมีผู้บัญชาการกองปราบร่วมเป็นคณะทำงานด้วย จึงเชื่อว่าพยานโจทก์ ไม่มีเหตุระแวงสงสัยว่าจะเบิกความปรักปรำให้ร้ายจำเลย พยานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้ จึงพิพากษา ให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1 - 5 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน แต่จำเลยที่ 1-3 และ 5 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน มีประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง เห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยคนละตลอดชีวิต โดยจำเลยที่ 1 มีความผิดฐานครอบครองอาวุธปืนผู้อื่น พิพากษาให้จำคุก 9เดือนและให้จำคุกจำเลยที่ 2 และ 3 คนละ 1 ปี ในความผิดฐาน มีและพาอาวุธปืน ผู้อื่นที่มีทะเบียนไปในที่สาธารณะ ซึ่งในชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้ 1ใน 3 คงจำคุก จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 6 เดือน จำเลยที่ 2และ 3 คนละ 8 เดือน แต่เนื่องจาก ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิตจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯแล้ว จึงไม่มีเหตุต้องนำโทษจำคุกในความผิดพรบ.อาวุธปืนไปรวมอีก ส่วนจำเลยที่ 4 ให้คงโทษประหารชีวิตสถานเดียว
กรุงเทพฯ- 16 ธ.ค.47 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาคดี ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง5 คนในคดีร่วมกันฆ่านายสุวัฒน์ วงศ์ปิยะสถิตย์
สิ่งแวดล้อม
https://prachatai.com/journal/2004/12/1754
[ 0, 259, 137759, 7960, 219429, 5490, 45173, 190447, 97652, 35872, 9211, 192493, 37513, 381, 259, 74728, 11629, 66229, 44001, 41934 ]
เปิดจดหมาย สกุลเทพหัสดิน แสดงความเสียใจ เหยื่อแพรวา 3วัน หลังเกิดเหตุ
หลังเกิดเหตุการณ์รถชนบนทางด่วน เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553 โดยมีนางสาวแพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขับรถยนต์ชนรถตู้โดยสาร บริเวณบนทางด่วนโทลล์เวย์ ขาเข้า หน้าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ เมื่อปี 2553,กระทั่งต่อมาวันที่ 30 ธันวาคม 2553 ทาง ราชสกุลเทพหัสดิน ได้เขียนจดหมายออกมาแสดงความเสียใจแก่เหยื่อผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บบนรถตู้คันดังกล่าว ด้วยกระดาษที่ใช้เขียนจดหมายนำมาเผยแพร่ มีตราประทับสกุลเทพหัสดิน ใจความในจดหมาย ระบุว่า ,วันที่ 30 ธันวาคม 2553,เรื่อง ขอแสดงความเสียใจต่ออุบัติเหตุเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553,สืบเนื่องจากอุบัติเหตุบนทางด่วนเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553 ที่ผ่านมานั้น สมาชิกสกุลเทพหัสดิน และครอบครัวของนางสาวอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ใคร่ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งในการสูญเสียที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อครอบครัวและญาติมิตรของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว,ทางสกุล เทพหัสดิน หวังว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจักเป็นอุทาหรณ์ให้แก่สังคม และขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ได้ประทานพรแด่ทุกท่าน ณ โอกาสนี้ด้วย,โดยความเคารพอย่างสูง,สกุล เทพหัสดิน,หลังจากวันนั้นประชาชนออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เหมือนการเขียนจดหมายอวยพรปีใหม่มากกว่าการออกมาขอโทษสังคมกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น กระทั่งเรื่องราวผ่านมาแล้วกว่า 9 ปี ครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตยังไม่ได้รับการเยียวยาตามที่ข่าวได้เสนอออกไป 
หลังเกิดเหตุการณ์รถชนบนทางด่วน เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553 โดยมีนางสาวแพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขับรถยนต์ชนรถตู้โดยสาร
ข่าว,ทั่วไทย
สกุล เทพหัสดิน,แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา,แพรวา 9 ศพ,จดหมายขอโทษ,ข่าวร้อน,เทพหัสดิน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1617730
[ 0, 259, 137738, 230796, 96903, 18604, 90936, 97571, 259, 80267, 259, 137147, 71810, 3682, 69674, 58987, 18604, 179918, 46865, 73722 ]
ปฏิรูปสอบสวนรอต่อไป
คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว นายมานิจ สุขสมจิตร กรรมการและโฆษกคณะกรรมการ ชี้แจงว่าจัดทำข้อเสนอและแนวทางการปฏิรูปเรียบร้อยแล้ว และนำเสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการต่อไป เชื่อว่าถ้าทำตามข้อเสนอของคณะกรรมการมันจะดีอย่างเรื่องการป้องกันการซื้อขายตำแหน่ง และเชื่อว่าจะมีการปฏิบัติ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญ,คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจมีมาแล้วหลายคณะ แต่ยังไม่มีการปฏิบัติตามข้อเสนออย่างจริงจัง แต่รัฐธรรมนูญ 2560 บังคับไว้ว่า ให้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่และภารกิจของตำรวจ กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของตำรวจ ให้เป็นไปตามระบบคุณธรรม มีหลักประกันว่าจะได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม และให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้โดยอิสระ,จะเห็นได้ว่าภารกิจที่คณะกรรมการได้รับมอบหมายมีหลายด้าน เริ่มต้นด้วยการกำหนดภารกิจของตำรวจให้ชัดเจน ให้โอนงานที่ไม่ใช่ภารกิจโดยตรงให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ เช่น ตำรวจป่าไม้ ตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจทางหลวง ตำรวจจราจร เป็นต้น แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่สำเร็จ สตช.ต้องรับภาระต่อไปเกือบทุกอย่าง โอนได้แค่บางภารกิจ,ส่วนระบบการแต่งตั้งโยกย้ายคณะกรรมการเสนอให้คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ดูแลแค่ด้านนโยบาย ไม่มีอำนาจแต่งตั้ง ผบ.ตร. เพราะต้องการให้ปลอดการเมือง และให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีอำนาจแต่งตั้ง ผบ.ตร. และให้แต่งตั้งโยกย้ายตำรวจภายในแต่ละกองบัญชาการ ห้ามย้ายข้ามห้วย,ไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะสามารถทำให้วงการตำรวจปลอดการเมืองได้ เพราะการเมืองเข้าแทรกแซงและครอบงำ ในทุกยุคทุกสมัย ทั้งในยุครัฐบาลทหารและรัฐบาลเลือกตั้ง เพราะตำรวจมีสถานะเทียบเท่ากองทัพ มีนายพลเกือบ 500 คน อาจจะมากกว่าบางกองทัพเสียอีกทั้งยังติดอาวุธ และมีอำนาจจับคนเข้าคุก นักการเมืองจึงอยากควบคุมและใช้เป็นฐานการเมือง,แต่ข้อเสนอที่ดูเหมือนว่าจะสำเร็จมากที่สุด คือการเพิ่มเงินเดือนตำรวจระดับประทวนเป็นเดือนละ 15,630 ถึง 16,330 บาท ระดับรองสารวัตร 33,790 ถึง 36,790 บาท ฟู่ฟ่ากันถ้วนหน้า แต่ที่ล้มเหลวได้แก่งานสอบสวน ที่หลายฝ่ายเสนอให้แยกจากตำรวจ แต่คณะกรรมการซึ่งเป็นตำรวจถึง 15 คน ฟันธงว่าแยกไม่ได้ เพราะเป็นงานของตำรวจ,ผู้เสนออ้างเหตุผลว่า การแยกงานสอบสวนจากตำรวจ เพื่อสร้างระบบตรวจสอบและถ่วงดุล ระหว่างตำรวจผู้ใช้กำลังอาวุธจับกุมประชาชน กับพนักงานสอบสวน ไม่ให้อยู่ใต้บังคับบัญชาคนเดียวกัน หรือองค์กรเดียวกัน ระบบการบังคับบัญชาของตำรวจไทยมีชั้นยศแบบทหาร ไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติงานสอบสวน ส่วนของกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ซึ่งต้องการอิสระ.
คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจมีมาแล้วหลายคณะ แต่ยังไม่มีการปฏิบัติตามข้อเสนออย่างจริงจัง แต่รัฐธรรมนูญ 2560 บังคับไว้ว่า
ปฏิรูปตำรวจ,สอบสวน,แต่งตั้ง,โยกย้าย,บทบรรณาธิการ
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1257134
[ 0, 259, 116131, 184691, 30713, 100233, 5490, 70944, 215519, 4188, 162920, 3324, 70944, 215519, 4188, 162920, 1, 0, 0, 0 ]
ล่าอีก2แก๊งพลตรี จ่ายักษ์กับสมุนหลบลงใต้
จักรทิพย์ยันหลักฐานชัด สามารถดำเนินคดีได้หมด,เร่งล่าจ่ายักษ์อดีตทหาร และสมุน 2 ผู้ต้องหาแก๊งอุ้มรีด 20 ล้านนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีนที่ยังหลบหนี แฉวันเกิดเหตุ จ่ายักษ์อ้างเป็นกองปราบฯ ส่วนลูกน้องแต่งทหาร อ้างเป็นชุด กอ.รมน. ผบ.ตร.สั่งขยายผลก่อเหตุไว้ที่ไหนอีกบ้าง ด้านผู้การโจ๊กแฉ แก๊งนายพลใช้วิธีข่มขู่เรียกเงินจากกลุ่มชาวต่างชาติในเรื่องบัตรประชาชน,กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม พล.ต.จรูญ อำภา สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย พ.ต.ต.ณัฐกฤษต์ ยุทยา พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. นายโอภาส ศรียา นายโก๊ะ เต็ก ชวน ชาวสิงคโปร์ และทหารสังกัดกรมสารวัตรทหารเรือ 4 นาย คือ จ.อ.เสาวเดช ศักดิ์กิตตินันท์ จ.อ.อภิวัฒน์ ศรีนะพรม จ.อ.เทพพิทักษ์ รัดทะนี และ จ.อ.ทรงวุฒิ เที่ยงธรรม หลังก่อคดีฉาวอุ้มนายสุรชัย แซ่ย่าง นักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีน เป็นประธานบริษัทท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ย่านซอยนวลจันทร์ และหุ้นส่วนสายการบินแห่งหนึ่ง ไปเรียกค่าคุ้มครองเป็นเงิน 20 ล้านบาท แต่ญาติขอต่อรองเหลือ 2 ล้านบาท หลังโอนเงินให้ นายสุรชัยถูกปล่อยตัวเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเข้าร้องทุกข์กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กระทั่งมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. สนธิกำลังกับตำรวจท่องเที่ยว และ สน.โคกคราม ติดตามจับกุม พล.ต.จรูญ และผู้ก่อเหตุ รวม 8 คน อีก 2 คน ยังหลบหนี เบื้องต้นพบก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง มีผู้ต้องหาชาวสิงคโปร์คอยชี้เป้าเลือกเหยื่อ มีผู้เสียหายชาวจีนทยอยแจ้งความแล้ว 2 คน ส่วน พ.ต.ต. สังกัด บก.ปอศ. 1 ในผู้ต้องหา ถูกสั่งออกจากราชการ ตามที่เสนอข่าวไปตามลำดับ,ความคืบหน้าคดีฉาวที่มีนายทหารชั้นนายพล ตำรวจยศนายพันเป็นหัวโจกครั้งนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 ส.ค. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. 1 ในชุดจับกุมแก๊งอุ้มนักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีน เผยว่า ยังอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหาย ว่าจะออกหมายจับผู้ใดเพิ่มเติม หากสอบปากคำแล้วพบว่าบุคคลใดมีส่วนเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับคดี จะขออนุมัติศาลออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มเติม,ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้รับรายงานความคืบหน้าคดีอุ้มนักธุรกิจแล้ว ถึงจะมีนายทหารและนายตำรวจมาเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของพยานหลักฐาน ใครที่กระทำความผิด กฎหมายทราบกันดีอยู่ว่าอะไรที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ อะไรที่ไม่ควรทำ ทั้งนี้ มั่นใจในพยานหลักฐานที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด ในส่วนของตำรวจที่กระทำความผิด เป็นหน้าที่ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดพิจารณาลงโทษ ไม่มีการปกป้องคนผิดที่ทำนอกเหนือหน้าที่ อ้างตัวเป็นตำรวจไปรีดทรัพย์คนอื่น เพื่อไม่ให้เรื่องนี้เป็นเยี่ยงอย่าง กำชับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเรียกรับสินบนและประพฤตินอกแถวโดยเด็ดขาด หากพบกระทำความผิดและจับได้ จะดำเนินการทั้งวินัยและอาญา ได้สั่งให้ขยายผลพฤติกรรมของแก๊งนี้ว่าเคยก่อเหตุในพื้นที่อื่นอีกหรือไม่ เท่าที่ทราบหลังเกิดเหตุ มีผู้เสียหายที่ถูกกระทำในลักษณะเดียวกันเข้าร้องทุกข์ หากประชาชนรายใดที่ถูกกระทำในลักษณะดังกล่าว สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษได้ โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย,ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ.กล่าวว่า จากการสอบสวนเพิ่มเติม พฤติการณ์กลุ่มผู้ต้องหาน่าเชื่อว่าเคยทำมาหลายครั้ง ส่วนใหญ่จะใช้วิธีข่มขู่เรียกเงินจากกลุ่มชาวต่างชาติในเรื่องบัตรประชาชน สั่งการให้พนักงานสอบสวนประสานผู้เสียหายมาร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเพิ่มเติม รวมทั้งให้สืบสวนขยายผลว่ายังมีไกด์หรือล่ามที่มีลักษณะหลอกลวงนักธุรกิจอีกหรือไม่,รวมทั้งผู้ต้องหาคนอื่นด้วย เนื่องจากเป็นการกระทำที่กระทบต่อภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นในการลงทุนของชาวต่างชาติและเป็นภัยต่อสังคม ที่ผ่านมาได้กวาดล้างจับกุมกลุ่มทัวร์จีน และไกด์ต่างชาติ ที่เข้ามา เอาเปรียบคนไทย และกลุ่มคนต่างชาติที่เข้ามาสวมสิทธิบัตรประชาชนคนไทย โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐช่วยเหลือ และให้คนไทยเป็นนอมินีทำธุรกิจทัวร์หรือบริษัทนำเที่ยวในเมืองไทย เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล,มีรายงานว่า ในส่วนแก๊งอุ้มที่ยังหลบหนีอีก 2 คน โดยกล้องวงจรปิดในบริษัท คันต้า กรุ๊ฟไทยแลนด์ จำกัด ที่เกิดเหตุจับภาพได้ชัดเจนทราบว่า คือ ส.อ.อุทิศ ก่อแก้ว หรือจ่ายักษ์ ทหารนอกราชการ อดีตสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย ถูกปลดออกจากราชการ เนื่องจากหนีทหาร ส่วนอีกคนคือนายฐิติกร ชื่นอุรา เป็นลูกน้องจ่ายักษ์ ไม่ได้เป็นทหาร ในวันเกิดเหตุ จ่ายักษ์แต่งกายชุดเสื้อคลุม แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ส่วนนายฐิติกรแต่งกายเลียนแบบทหาร อ้างเป็นทหาร กอ.รมน. เบื้องต้นคาดน่าจะหลบหนีกบดานในภาคใต้,วันเดียวกัน ที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) มีรายงานว่า พล.ต.ต. ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.ปอศ. มีหนังสือคำสั่ง บก.ปอศ. ที่ 68/2560 ลงวันที่ 11 ส.ค.60 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ในการพิจารณาและทำการสอบสวน พ.ต.ต.ณัฐกฤษต์ ยุทยา สว.(สอบสวน) กก.5 ปอศ. ผู้ถูกกล่าวหาในเรื่องดังกล่าว โดยแต่งตั้งให้ พ.ต.อ.สิทธิชัย ลีลาสวัสดิ์ รอง ผบก.ปอศ. เป็นประธานกรรมการพิจารณาและทำการสอบสวนเจ้าพนักงานตำรวจที่มีความประพฤติ หรือพฤติการณ์อันไม่น่าไว้วางใจให้คงอยู่ในหน้าที่ราชการ จะให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ โดยทำให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการแบบธรรมเนียมของข้าราชการของตำรวจที่ดี ทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อหน่วยงาน ถ้าคงอยู่ในหน้าที่ราชการจะเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน พิจารณา หรือจะก่อให้เกิดความไม่เรียบร้อยขึ้น และได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการสอบสวนพิจารณา หรือพิจารณาคดีที่เป็นเหตุสั่งให้พักราชการนั้นจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว ได้มีคำสั่งที่ 69/2560 ให้ พ.ต.ต.ณัฐกฤษต์ออกจากราชการไว้ก่อน
เร่งล่าจ่ายักษ์อดีตทหาร และสมุน 2 ผู้ต้องหาแก๊งอุ้มรีด 20 ล้านนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีนที่ยังหลบหนี แฉวันเกิดเหตุ จ่ายักษ์อ้างเป็นกองปราบฯ ส่วนลูกน้องแต่งทหาร
ข่าว,ทั่วไทย
ข่าวหน้า1,จรูญ อำภา,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,แก๊งอุ้มรีด,จ่ายักษ์อดีตทหาร,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1036344
[ 0, 259, 104338, 230864, 9074, 259, 212403, 15770, 20279, 62883, 188445, 2091, 111243, 237888, 74425, 47282, 185147, 10228, 111243, 76917 ]
พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ: การห้ามเยี่ยมและการละเมิดสิทธิมนุษยชน กรณี นายสมบัติ บุญงามอนงค์
ในสภาพการณ์การบังคับใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศมีสิ่งใหม่ใหม่ด้านสิทธิมนุษยชนที่คนในกรุงเทพและทั่วประเทศจะต้องเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำว่า ห้ามเยี่ยม ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เราขยาดและหวาดกลัวกับว่าห้ามเยี่ยม มาตลอดระยะเวลา10 ปีที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกการห้ามเยี่ยมในบริบท จชต. หมายถึงทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินกรรมวิธี หรือในกระบวนการยุติธรรมปกติ น่าจะหมายถึงการสอบสวน การหาข่าว การขยายผล เจ้าหน้าที่ก็พยายามพูดกับญาติหรือองค์กรสิทธิมนุษยชนว่า ขอความร่วมมือ แต่เราในฐานะนักสิทธิมนุษยชนที่ติดตามการควบคุมตัวบุคคลภายใต้กฎอัยการศึกพบว่า นอกจากที่เราห่วงกังวลว่าการควบคุมตัว 7 วัน เป็นการควบคุมตัวไม่ชอบ (arbitrary detention) ยังอาจหมายถึงการซ้อมทรมานให้รับสารภาพ หรือบังคับให้ชี้ภาพ ชี้รูป ระบุชื่อคนที่รู้จัก แล้วนำไปสู่การซัดทอดเป็นเหตุผลเดียวที่จนท.ใช้ในการจับกุมตัวบุคคลอื่นเพิ่มเติม เราเรียกติดปาก ว่า ซัดทอดในบริบทจังหวัดชายแดนใต้เจ้าหน้าที่มักอ้างเหตุสงสัยแต่ไม่เหตุผลเพียงพอในการควบคุมตัวตามกฎหมาย จึงได้ควบคุมตัวบุคคลตามอำนาจกฎอัยการศึก หรือถ้ามีหมายจับ หรือหลักฐานเบื้องต้นว่าอาจกระทำความผิดต่อความมั่นคง (ซึ่งก็ตีความได้กว้างมาก) ก็นำเข้าสู่กระบวนการ ซักถาม หรือ ดำเนินกรรมวิธี เสียก่อน 7 วันหรือน้อยกว่า แล้วนำเข้าสุู่่กระบวนการยุติธรรมตาม พรบ.ฉุกเฉินฯ แล้วค่อยนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมปกติที่ใช้กันทั่วประเทศ โดยมีการนำบันทึกการซักถามมาประกอบการดำเนินคดีด้วย สิ่งนี้สร้างความเสียหายแก่กระบวนการยุติธรรมในจังหวัดชายแดนใต้มาหลายปี จนมีการเปิดเผย สร้างความเข้าใจกับองค์กรตุลาการทำให้หลายคดีมีบรรดทัดฐานที่จะไม่รับฟังพยานหลักฐานในชั้นซักถามตามกฎหมายพิเศษในการพิจารณาคดีของศาลพลเรือนในคดีความมั่นคงย้อนมาถึงการ ห้ามเยี่ยม ในจังหวัดชายแดนใต้ เราได้รณรงค์และสร้างความเข้าใจกับ จนท.ทหารที่มีอำนาจกักตัวตามกฎอัยการศึก7วันจนกระทั่งมีคำสั่งแก้ไข ข้อห้ามที่ว่า ไม่ให้ญาติเยี่ยมเป็นเวลาสามวัน ออกไปได้จากระเบียบกอรมน. ทำให้ญาติใกล้ชิดสามารถเยี่ยมบุคคลที่ถูกกักตัวได้ตั้งแต่วันแรก อีกทั้งจนท.ทหารในพื้นที่หรือชุดจับกุมจะต้องบอกสถานที่ควบคุมตัวบุคคคลอย่างชัดเจนกับญาติ ญาติมีสิทธิที่จะติดตามและขอเยี่ยมบุคคลได้ตั้งแต่วันแรก สามารถส่งมอบสิ่งจำเป็นต่างๆ ได้ (แต่ก็มีบางหน่วยที่ ไม่ปฏิบัติตามระเบียบนี้ หรือให้แค่มองตา ส่งของ ห้ามพูด ห้ามพูดภาษามลายู หรือให้พูดคุยกันสองสามนาที รายละเอียดเกี่ยวกับทัศนคติของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติเราก็ต้องทำงานทางความคิดกันต่อไป)เมื่อมาสังเกตการใช้อำนาจที่เข็มข้นที่แตกต่างในการใช้อำนาจการกักตัว 7 วันมาใช้ในกรุงเทพและพื้นที่ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 20 พค. 2557 เช่นกรณีการควบคุมตัวนายสมบัติ บุญงามอนงค์ โดยไม่ระบุสถานที่ควบคุมตัว ไม่อนุญาตให้ญาติเยี่ยมตลอดระยะเวลา 7 วัน นั้นเข้าข่ายการละเมิดสิทธิมนุษยชนเพราะเป็นการควบคุมตัวมิชอบ (Aribritary Detention) ที่ห้ามไว้ในกติกาสากลว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) แม้จะอ้างถึงการขัดคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คำสั่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นกฎหมายในประเทศแต่การใช้อำนาจจำกัดเสรีภาพบุคคลต้องมีกฎหมายรองรับ กิจกรรมทางการเมืองของ บ.ก.ลายจุด รายนี้ แม้จะดูน่ารำคาญในสายตาของคณะ คสช. แต่นับว่าเป็นการแสดงออกทางความคิดเห็นทางการเมืองทีี่เป็นไปในแนวทางสันติวิธี ที่ควรได้รับการเคารพนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ไม่เพียงเป็นนักต่อสู้ด้านสิทธิมนุษยชน (human rights defenders) ปัจจุบันเขาได้รับอีกสถานะหนึ่งคือเป็นนักโทษทางความคิด (prisoner of conscience) อีกทั้งเมื่อการควบคุมตัว 7 วันของเขาที่จะครบกำหนดในวันที่ 11 มิถุนายน 2557 อาจเข้าข่ายละเมิดสิทธิของนายสมบัติและครอบครัว เนื่องจากที่เจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวนายสมบัติ และบุคคลอีกจำนวนหนึ่งในเวลาเดียวกัน โดยไม่อนุญาตให้ติดต่อกับโลกภายนอก (incommunicado detetion) หรือถ้าการควบคุมตัวที่ไม่อนุญาตให้ติดต่อโลกภายนอกยาวนานออกไปก็อาจเข้าข่ายการทรมานและการปฏิบัติอย่างโหดร้าย ตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานด้วยเราหวังว่าดำเนินการโดยไม่โปร่งใสตรวจสอบได้ว่าการใช้อำนาจของทหารภายใต้กฎอัยการศึกยังคงได้สัดส่วนและเหมาะสม หากล้ำเส้นไปมากอาจเป็นละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวางภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศหลายฉบับที่ประเทศไทย แม้ภายใต้รัฐบาลทหารก็มีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตาม โดยเฉพาะเมื่อจะมีตัวแทนของ คสช.ไปชี้แจงที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ สำนักงานขององค์การสหประชาติในเดือนมิถุนายนนี้ หรือกรณีที่ทูตไทยจากประเทศต่างๆ ที่จะต้องมารับฟังข้ออ้างเพื่อนำไปอธิบายกับประชาคมโลก ในเรื่องการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ ฉีกรัฐธรรมนูญทำลายหลักการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนไปหมดสิ้น อีกทั้ง มีคำสั่งประกาศออกมาโดยไม่ผ่านกระบวนการนิติบัญญัติ การใช้ศาลทหารกับพลเรือน เป็นต้นเราขอเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนายสมบัติ บุญงามอนงค์และบุคคลที่ถูกจับกุมพร้อมกันโดยไม่มีเงื่อนไข เพื่อรักษาไว้ซื่งความเชื่อมั่นว่าการดำเนินการของ คสช. ได้คำนึงถึงการเคารพต่อสิทธิมนุษยชนจริงดังที่ประกาศไว้ หากพบหลักฐานในการกระทำความผิดอื่นๆ ควรนำกระบวนการยุติธรรมปกติมาใช้เพืื่อรักษาหลักนิติธรรมไว้แม้นในสถานการณ์คืนความสุขนั้นยังไม่เป็นปกติที่มา:
ในสภาพการณ์การบังคับใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศมีสิ่งใหม่ใหม่ด้านสิทธิมนุษยชนที่คนในกรุงเทพและทั่วประเทศจะต้องเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำว่า ห้ามเยี่ยม ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
การละเมิดสิทธิมนุษยชน,การห้ามเยี่ยม,พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ,สมบัติ บุญงามอนงค์
https://prachatai.com/journal/2014/06/53932
[ 0, 259, 121153, 144016, 21637, 67395, 53959, 157394, 89051, 259, 85322, 98490, 62549, 4395, 215142, 2091, 104348, 111173, 3945, 204425 ]
สพฉ.เตือนกลุ่มเสี่ยงโรคหัวใจ โรคหอบหืดระวังค่าฝุ่น PM2.5ส่งผลกระทบระบบทางเดินหายใจ
สพฉ.เตือนประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรคหัวใจ โรคหอบหืดระวังค่าฝุ่น PM2.5ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ พร้อมแนะวิธีดูแลตนเอง ระบุหากประชาชนมีอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถโทรแจ้งสายฉุกเฉิน1669ได้ฟรีตลอด24ชั่วโมง3 ต.ค.2562 กลุ่มสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) รายงานว่า ขณะนี้หลายภูมิภาคทั่วประเทศไทยรวมถึงกรุงเทพมหานคร เริ่มได้รับผลกระทบจากการกลับมาของฝุ่นPM2.5ล่าสุด สพฉ. ออกมาแนะนำถึงวิธีดูแลตนเองของประชาชน โดย นพ.ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย รองเลขาธิการ สพฉ.กล่าวว่าฝุ่นละอองPM2.5 คือ ซึ่งเป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ที่ขนจมูกของมนุษย์ไม่สามารถกรองได้ ซึ่งขนาดที่เล็กมากของฝุ่นละอองPM2.5นี้ทำให้สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจ หรือกระแสเลือด รวมถึงแทรกซึมสู่เข้าสู่กระบวนการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ดังนั้นในช่วงเวลาของการกลับมาของฝุ่นPM2.5นี้จึงอยากให้ประชาชนดูแลตนเองให้ดีรองเลขาฯสพฉ.กล่าวเพิ่มเติมว่า หลายหน่วยงานคงได้มาย้ำเรื่องการดูแลตนเองเบื้องต้นจากฝุ่นPM2.5ให้กับประชาชนแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การแนะนำให้ปิดประตูหน้าต่าง เพื่อป้องกันฝุ่นละอองเข้าบ้าน หากปิดหน้าต่างไม่ได้ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดมาปิดแทนหน้าต่าง หรือหากจำเป็นต้องเดินทางออกไปนอกบ้าน ให้ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดปิดจมูก และปาก หรือสวมหน้ากากกรองฝุ่น และให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรือทำงานหนักนอกบ้าน รวมถึงให้ดื่มน้ำมากๆ และงดสูบบุหรี่ในช่วงที่พบฝุ่นละอองในอากาศมาก และที่สำคัญคือไม่เผาขยะ โดยเฉพาะขยะที่มีสารพิษ เช่น พลาสติก ยางรถยนต์ รวมทั้งขยะทั่วไป แต่สิ่งที่ตนอยากฝากเป็นพิเศษคือ ผู้ป่วยในกลุ่มเสี่ยงเช่น ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และเด็กเล็ก กลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด โรคเยื่อบุตาอักเสบ ต้องดูแลตนเองให้มากเป็นพิเศษ เพราะฝุ่นPM2.5จะส่งผลกระทบต่อคนกลุ่มนี้มากที่สุด อยากให้ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านบนอย่างเคร่งครัด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับอากาศที่มีฝุ่นละอองและหากผู้ป่วยในกลุ่มพิเศษมีอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินให้รีบโทรแจ้งสายฉุกเฉิน1669เราพร้อมดูแลผู้ป่วยทุกคนฟรีตลอด24ชั่วโมงนอกจากนี้หากเราจะออกนอกบ้านแล้วไม่รู้ว่าค่าอากาศในช่วงนั้นเป็นอย่างไร อยากแนะนำให้ทุกท่านติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดหรือสามารถเข้าไปเช็คค่าสภาพอากาศในแต่ละพื้นที่ได้เว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษ อย่างและเพื่อเตรียมรับมือกับฝุ่นละอองได้ รองเลขาฯ สพฉ.ระบุ
สพฉ.เตือนประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรคหัวใจ โรคหอบหืดระวังค่าฝุ่น PM2.5 ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ พร้อมแนะวิธีดูแลตนเอง ระบุหากประชาชนมีอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถโทรแจ้งสายฉุกเฉิน 1669 ได้ฟรีตลอด 24
คุณภาพชีวิต,สิ่งแวดล้อม
โรคหัวใจ,PM2.5,โรคหอบหืด,สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
https://prachatai.com/journal/2019/10/84592
[ 0, 259, 195634, 260, 188920, 42859, 222516, 259, 111227, 205692, 36903, 68437, 221326, 55028, 72810, 143149, 4188, 12659, 1, 0 ]
น็อคเอาท์ ลุ้นชกป้องกันแชมป์โลก ร่วมศึกปาเกียว
น็อคเอาท์ ซีพีเฟรชมาร์ท แชมป์โลก WBA ชาวไทย ลุ้นประมูลไปต่อยป้องกันแชมป์ ร่วมศึกเดียวกับซุปเปอร์สตาร์ แมนนี ปาเกียว ซึ่งจะต่อยกับ เจฟ ฮอร์น ที่ออสเตรเลีย 2 ก.ค.นี้ ซึ่งเป็นการป้องกันเข็มขัดไฟต์บังคับของแชมป์ชาวไทย กับผู้ท้าชิงเบอร์ 1 ชาวฟิลิปปินส์ เรย์ ลอริโต ขณะที่ สิงห์สายัณห์ ซีพีเฟรชมาร์ท ดาวรุ่งฟอร์มแรงของเพชรยินดี โปรโมชั่น เบนเข็มมุ่งแชมป์สถาบันไอบีเอฟ 26 พ.ค.นี้ เจ้าตัวจะขึ้นชิงแชมป์เยาวชน ไอบีเอฟ ที่อยุธยา ซิตี้ พาร์ค ช่อง 7 สี ถ่ายทอดสด เวลา 14.00 น.,ความเคลื่อนไหวศึกมวยโลกในรอบสัปดาห์ กรณีของ น็อคเอาท์ ซีพีเฟรชมาร์ท แชมป์มินิมัมเวท 105 ปอนด์ สมาคมมวยโลก (WBA) ซึ่งจะต้องป้องกันไฟต์บังคับกับเรย์ ลอริโต้ รองอันดับหนึ่งชาวฟิลิปปินส์ ส่อแววอาจถึงขั้นประมูลจัดและมีสิทธิ์ไปชกร่วมรายการ ปาเกียว ปะทะ เจฟฟ์ ฮอร์น ที่ออสเตรเลีย ในวันที่ 2 กรกฎาคม ศกนี้,สำหรับเรื่องนี้ เสี่ยตังค์ ปิยะรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์ใหญ่เพชรยินดี โปรโมชั่น เผยความคืบหน้านักชกในคอนโทรล น็อคเอาท์ ซีพี เฟรชมาร์ท แชมป์สถาบันใหญ่แต่รุ่นเล็กสุด ซึ่งสมาคมมวยโลก มีคำสั่งให้ป้องกันภาคบังคับกับเรย์ ลอริโต เนื่องด้วยรองอันดับหนึ่งชาวฟิลิปปินส์ผู้นี้มีบริโก เป็นผู้จัดการ และยังมีผู้จัดการร่วมเป็นชาวออสเตรเลีย การเจรจาเบื้องต้น ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าจะจัดในเมืองไทยหรือไม่ เนื่องจากบริโกกำลังหาผู้สนับสนุนจัดศึกครั้งนี้ขึ้นที่เมืองดาเวา ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อฉลองตำแหน่งประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตร์เต ผู้นำประเทศ,ขณะเดียวกัน ล่าสุด บริโกกำลังหารือกับผู้จัดการร่วมชาวออสซี่ อาจจะดึงมวยคู่นี้ไปจัดที่ ควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ร่วมรายการ แมนนี ปาเกียว ยอดมวยโลกชาวฟิลิปปินส์ ป้องกันแชมป์ องค์กรมวยโลก (WBO) กับ เจฟฟ์ ฮอร์น นักชกออสซี่ เจ้าถิ่น ในวันอาทิตย์ที่ 2 ก.ค.60 นี้อีกด้วย ทั้งนี้ ความเป็นไปได้ทั้งหมด ต้องเปิดการเจรจากันอีกครั้ง หากยังหาข้อสรุปไม่ได้ก็จะต้องมีการประมูลกันในขั้นตอนสุดท้ายต่อไป,เสี่ยตังค์ เผยอีกว่า นอกจากน็อคเอาท์แล้ว ยังมีนักชกดาวรุ่งที่น่าจับตารายล่าสุดคือ สิงห์สายัณห์ ซีพีเฟรชมาร์ท เป็นสายเลือดใหม่ฟอร์มแรง ล่าสุด เบนเข็มสู่สถาบันสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) เตรียมชิงแชมป์เยาวชน ไอบีเอฟ รุ่นแบนตัมเวท 118 ปอนด์ กับดิออน อารีมา นักชกอินโดนีเซีย พร้อมคู่อุ่นเครื่อง โอเล่ห์ดง ซีพีเฟรชมาร์ท พบ อินดราจิตต์ ซิงค์ นักชก อินเดีย, ยอดมงคล ซีพีเฟรชมาร์ท พบ คูราฟ ซิงค์ นักชกอินเดีย และยอดขุนทัพ ม.วัฒนชัย พบ ชาญชัยเล็ก ส.ประสิทธิชัย ใน ศึกอยุธยาซิตี้พาร์ค ยอดมวยโลก IBF การชกจะมีขึ้นที่อยุธยาซิตี้พาร์ค จ.พระนครศรีอยุธยา วันศุกร์ที่ 26 พ.ค.60 ช่อง 7 สี ถ่ายทอดสด เวลา 14.00-16.00 น.
น็อคเอาท์ ซีพีเฟรชมาร์ท แชมป์โลก WBA ชาวไทย ลุ้นประมูลไปต่อยป้องกันแชมป์ ร่วมศึกเดียวกับซุปเปอร์สตาร์ แมนนี ปาเกียว ซึ่งจะต่อยกับ เจฟ ฮอร์น ที่ออสเตรเลีย 2 ก.ค.นี้ ซึ่งเป็นการป้องกันเข็มขัดไฟต์บังคับของแชมป์ชาวไทย
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
น็อคเอาท์ ซีพีเฟรชมาร์ท,แมนนี ปาเกียว,เจฟ ฮอร์น,เรย์ ลอริโต,สมาคมมวยโลก
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/942410
[ 0, 259, 137738, 236041, 231709, 259, 42859, 6088, 49376, 43957, 25599, 74588, 30990, 74588, 259, 70433, 6494, 84012, 40494, 41071 ]
กวีประชาไท: คิดถึงท่าเสา
คิดถึงท่าเสาบ้านน้อยในหลืบเขาร่มเงาไผ่ห้องกระจกหลับตื่นบนพื้นไม้กระรอกกระแตเต้นไต่สุขสราญนกกะรางฝูงเดิมลงบ่อน้ำนกเงือกร่ายปีกรำคราผินผ่านน้ำตกน้อยหน้าฝนชลธารนี่คือบ้านแห่งรักจำหักลาน้ำแควน้อยเย็นฉ่ำยามคิมหันต์ร้อนเหลือพลันลงหาดทรายเล่นน้ำท่าพ่อกับลูกเล่นทรายสบายอุราแม่นั่งเพลินชมปลาริมนทีสวนครัวน้อยพราวผักงามหลากหลายข่ากระชายตะไคร้มะกรูดมะนาวตามวิถีกะเพราขาวแดงแมงลักหอมผักชีผักหวานป่ามากมีรสโอชายี่สิบกว่าปีที่แนบเนาบ้านท่าเสาน่ารักเป็นนักหนาเพื่อนร่วมวงเย็นค่ำร่ำสุราเฮละโลสาระพาตำจอกกันแมวหมาเช้ามืดคอยหมอบใกล้แมวน้อยไซร้จองนอนตักที่ของฉันดูดาวประจำตัวอุ่นใจครันไปอยู่ไหนดาวนั้นจรัสฟ้าคิดถึงท่าเสาพรากลำเนาจากหนีห้าปีกว่าอดบ้างอิ่มบ้างเป็นธรรมดาในยามพลัดที่นาพรากที่นอนและยังคิดถึงผัดกะเพรายามไร้เอาผักบาสซิลแทนไปก่อนกะเทียมพริกซื้อแพงไม่เกี่ยงงอนข้าวร้อนร้อนยังดีที่มีกินคิดถึงท่าเสายอมทนเหงาไม่กลับย้อนคืนถิ่นบ้านเมืองยุควิปลาสอุบาทว์ทมิฬดักดานสิ้นเบ็ดเสร็จเผด็จการ
คิดถึงท่าเสาบ้านน้อยในหลืบเขาร่มเงาไผ่ห้องกระจกหลับตื่นบนพื้นไม้กระรอกกระแตเต้นไต่สุขสราญ นกกะรางฝูงเดิมลงบ่อน้ำนกเงือกร่ายปีกรำคราผินผ่าน น้ำตกน้อยหน้าฝนชลธารนี่คือบ้านแห่งรักจำหักลา
การเมือง,วัฒนธรรม
วัฒน์ วรรยางกูร,กวีประชาไท,ผู้ลี้ภัย
https://prachatai.com/journal/2019/08/83839
[ 0, 259, 202478, 93229, 174145, 13999, 41391, 2361, 118896, 122261, 6581, 22985, 194470, 200197, 66146, 238558, 41907, 140320, 1, 0 ]
ประชาธิปไตยไทยกับเงื่อนไขหลังสมัยอาณานิคม
หากจะถามหาที่มาวัฒนธรรมวิธีคิดที่มีส่วนสำคัญในการกำหนดปรากฏการณ์ทางการเมืองของไทยแล้ว คิดว่ามันเป็นผลจากความขัดแย้งที่หาจุดประสานลงตัวกันได้ยาก ระหว่างพลังที่มาจากจารีตภายในสังคมกับแนวคิดสมัยใหม่ที่มาจากความเปลี่ยนแปลงในขอบเขตโลกสากลก่อนนี้ภายใต้ระบบโลกยุคอาณานิคม พลังจากสากลเป็นแรงกดดันจากความเหนือกว่าของเจ้าอาณานิคม ชนชั้นนำสยามทำได้เพียงปรับตัวให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ฝ่ายเจ้าอาณานิคม เมื่อได้ข้าวได้สินค้าสามารถตักตวงทรัพยากรและเป็นตลาดให้ได้โดยง่าย ก็ไม่จำเป็นที่เจ้าอาณานิคมจะเข้ามาปกครองด้วยตนเองอำนาจรัฐจึงยังตกอยู่กับชนชั้นนำที่สืบสายมาจากอดีต ที่แม้จะปรับตัวสู่ความศิวิไลซ์ให้เจ้าอาณานิคมไม่นำเอาไปเป็นเหตุชอบธรรมแก่การยึดครอง ผลคือแนวคิดอนุรักษ์นิยมและชาตินิยมสยามไม่ได้เป็นชาตินิยมของประชาชนขับไล่เจ้าอาณานิคมภายนอก หากแต่เป็นชาตินิยมของชนชั้นนำที่ต้องการมีอำนาจครอบงำต่างกับประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ชนชั้นนำจารีตถูกกำจัดไปแล้วโดยเจ้าอาณานิคม ฝรั่งเศส อังกฤษ ดัตช์ ต่างจัดการล้มเจ้านายเก่าของจารีตในประเทศที่ตนยึดครอง ขบวนการต่อต้านประชาธิปไตยในประเทศเหล่านี้เลยไม่มีสถาบันชั้นสูงเป็นหลังพิงหรือแม้แต่เป็นฝ่ายกระทำเสียเองเหมือนอย่างไทยและกองทัพชาติก็ไม่เคยผ่านประสบการณ์สู้รบปลดปล่อยชาติจากเจ้าอาณานิคม เป็นแต่กองกำลังลักหลับทำรัฐประหารจัดสรรอำนาจและผลประโยชน์ในหมู่ชนชั้นนำควบคู่กับการปราบปรามประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตย โดยใช้อำนาจและความชอบธรรมที่ไม่ยึดโยงกับส่วนอื่นของโลก ประดุจไทยเป็นประเทศเดียวในโลก หรือเป็นเจ้าอาณานิคมเสียเองจากภายในถึงตอนนี้คงรู้แล้วใช่ไหม ว่าทำไมชนชั้นนำไทยภาคภูมิใจกันนักกับการไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของใคร
หากจะถามหาที่มาวัฒนธรรมวิธีคิดที่มีส่วนสำคัญในการกำหนดปรากฏการณ์ทางการเมืองของไทยแล้ว คิดว่ามันเป็นผลจากความขัดแย้งที่หาจุดประสานลงตัวกันได้ยาก
การเมือง
กองทัพ,กำพล จำปาพันธ์,ทหาร,ประวัติศาสตร์
https://prachatai.com/journal/2014/05/53337
[ 0, 259, 52408, 126801, 3945, 11984, 3682, 78032, 117203, 1881, 82551, 1549, 229499, 167509, 135570, 9964, 185924, 6200, 1, 0 ]
สหภาพฯเตรียมเข้าพบผู้ว่าฯฟผ.ต้านแปรรูป
กรุงเทพฯ- 7 ธ.ค.47นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)กล่าวเผยภายหลังการเปิดประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2547 วานนี้(7ธ.ค.) ว่า วันที่ 15 ธันวาคมนี้จะขอพบกับนายไกรสีห์ กรรณสูตร ผู้ว่ากฟผ.เพื่อที่จะชี้แจงถึงแนวทางการแปรรูปกฟผ. ซึ่งขณะนี้ผู้บริหารพยายามชี้แจงให้เป็นทางเลือกเดียวคือ การแปรรูปทั้งองค์กรและนำหุ้นส่วนหนึ่งเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยที่มีแนวโน้มว่าฝ่ายบริหารจะไม่ทำการออกแบบสอบถามแต่อย่างใดซึ่งถือเป็นการมัดมือชก ทั้งนี้ฝ่ายบริหารได้พยายามชี้แจงว่ามีความจำเป็นที่ต้องระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ด้วยเหตุผลสำคัญคือการที่รัฐบาลมีมติที่จะลดการก่อหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น ซึ่งหากพิจารณาประเด็นดังกล่าวถือว่าเป็นการบีบกฟผ.เนื่องจากเมื่อเร็วๆ นี้คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีการอนุมัติหลักการให้บมจ.บินไทยจัดซื้อเครื่องบิน 14 ลำ มูลค่า 9.6 หมื่นล้านบาทโดยถือเป็นการก่อหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น หากรัฐอ้างว่าจำเป็นที่จะต้องดำเนินการจึงต้องย้อนถามว่า แล้วการผลิตไฟฟ้าของกฟผ.ไม่มีความจำเป็นต่อความมั่นคงเลยหรือไร รัฐบาลบีบกฟผ.ทุกทางโดยไร้เหตุผลและไม่มองถึงความมั่นคงไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนายศิริชัยกล่าว รัฐบาลจำเป็นต้องดูแลความมั่นคงของประเทศหากไฟฟ้าอยู่ในมือเอกชนจะดูแลไม่ได้และจะมีผลให้ค่าไฟฟ้าแพงขึ้นอย่างแน่นอน แต่ขณะเดียวกันเมื่อเป็นกฟผ.รัฐบาลสามารถที่จะให้แบกภาระไว้ได้ตลอดเพื่อดูแลประชาชนซึ่งถึงตอนนั้นรัฐบาลจะทำอย่างไร
กรุงเทพฯ- 7 ธ.ค.47 นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)กล่าวเผยภายหลังการเปิดประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2547 วานนี้(7ธ.ค.) ว่า วันที่ 15
สิ่งแวดล้อม
https://prachatai.com/journal/2004/12/1574
[ 0, 259, 97003, 51523, 4188, 82397, 5405, 235517, 26116, 12005, 72810, 82551, 1, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0 ]
กราบพระบรมศพ กว่า2ล้านคนแล้ว
เริ่มตีเส้น-วางผัง สร้างพระเมรุมาศ,ยอดทะลุกว่า 2 ล้านคนแล้ว พสกนิกร ที่เข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาท สมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง และยังหลั่งไหลเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรนำปูนขาวโรยกำหนดขอบเขตพื้นที่ก่อสร้างพระเมรุมาศ ก่อนขุดหลุมจุดก่อสร้างจิตกาธาน หอเปลื้อง นักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เข้าชมห้องแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติในหลวง ร.9 ที่สำนักพระราชวังเปิดให้ชมฟรี กอร.รส.เตรียมเก้าอี้ 3 หมื่นตัวให้ประชาชนนั่งสวดมนต์ข้ามปีที่สนามหลวง ปลัดเทศบาลตำบลปะโค อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ที่นำคณะเจ้าหน้าที่มาถวายสักการะพระบรมศพเผยน้อมนำหลักคำสอนหลักเศรษฐกิจพอเพียงและการทำไร่นาสวนผสมของในหลวง ร.9 มาเผยแพร่และสนับสนุนให้ชาวบ้านได้ปฏิบัติตามเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี พบชาวบ้านมีเหลือกิน เหลือเก็บ,บรรยากาศการเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ตลอดทั้งวันมีพสกนิกรทุกหมู่เหล่า อาทิ จากจังหวัดอุตรดิตถ์ ลพบุรี หนองคาย สมุทรปราการ พิจิตร และปทุมธานี ฯลฯ เดินทางรอเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ที่ท้องสนามหลวง ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดอย่างเนืองแน่น ทำให้เต็นท์พักคอยฝั่งสนาม หลวงทิศเหนือมีประชาชนนั่งจนเต็มพื้นที่ ก่อนเดินแถวเข้ามารอเข้าพระบรมมหาราชวัง เมื่อสำนักพระ ราชวังเปิดประตูวิเศษไชยศรี ประชาชนกลุ่มแรกได้เข้าไปในเวลา 04.45 น.,นายวันชัย เสียวสูงเนิน อายุ 43 ปี ปลัดเทศบาลตำบลปะโค อ.กุดจับ จ.อุดรธานี นำคณะเจ้าหน้าที่เทศบาล 40 กว่าคน มาถวายสักการะพระบรมศพ กล่าวว่า ได้น้อมนำหลักคำสอน หลักเศรษฐกิจพอเพียง การทำไร่นาสวนผสมของในหลวง ร.9 มาเผยแพร่และสนับสนุนให้กับชาวตำบลปะโค ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตร ปลูกมันสำปะหลัง อ้อย ข้าว ตามฤดูกาล ทำมาตั้งแต่ปี 2540 กว่าๆ หลังจากที่พระองค์ได้มี พระราชดำรัสเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงครั้งแรก จากการทำต่อเนื่องมาตลอด 10 กว่าปี พบว่าชาวบ้านเหลือกิน เหลือเก็บ เหลือขาย จากการแบ่งพื้นที่ปลูกพืชสวนครัว เลี้ยงปลา ไก่ ไว้บริโภคภายในครัวเรือน ปัจจุบันยังมีโครงการปิดทองหลังพระฯ มาช่วยดูแลเรื่องการสร้างแหล่งน้ำให้เพียงพอ สร้างฝายชะลอน้ำ ขุดแหล่งเก็บน้ำเรื่อยมา 5-6 ปี พบว่าตอนนี้เริ่มมีน้ำเหลือใช้ในช่วงฤดูแล้ง ในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2560 ได้จัดกิจกรรมให้ชาวตำบลมาร่วมงานคือการสวดมนต์ข้ามปี ลดเหล้าเข้าปีใหม่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์,ขณะที่ในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรม มหาราชวัง ซึ่งดำเนินเป็นวันที่หกสิบเก้า วันที่ 21 ธ.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพย วรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระราชานุญาตให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กรมการท่องเที่ยว กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กรมกิจการผู้สูงอายุ กรมกิจการสตรี และสถาบันครอบครัว กรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ การเคหะแห่งชาติ สำนักงานธนานุเคราะห์ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญพระกุศลพระบรมศพ,โดยในเวลา 07.00 น. นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานบำเพ็ญพระกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากนั้นถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม 8 รูป โดยมีคณะผู้บริหาร และข้าราชการในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมการท่องเที่ยว กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย ร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญพระกุศลพระบรมศพ,เวลา 10.30 น. คณะผู้บริหารและข้าราชการ ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในหน่วยงานสำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และกรมกิจการผู้สูงอายุ ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลถวายพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรม จำนวน 8 รูป ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยมีนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธาน,อีกด้านที่ศาลาว่าการพระราชวัง ภายในพระ บรมมหาราชวัง สำนักพระราชวัง ได้เปิดห้องแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติให้นักท่องเที่ยวและประชาชนเข้าชมฟรีทุกวัน ระหว่างเวลา 09.00-15.00 น. โดยแบ่งเป็นนิทรรศการหมุนเวียน ประกอบด้วย ตู้นอน 6 ตู้ และตู้ยืน 4 ตู้ บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ตั้งแต่สมุดไทยดำหรือสมุดข่อย ซึ่งเป็นสมุดที่เขียนเรื่องราวบันทึกเหตุการณ์สำคัญ ตั้งแต่รัชกาลที่ 1-6 ปฏิทินหลวงที่พระราชทานให้ประชาชนมาลงนามถวายพระพรในวันขึ้นปีใหม่ มีทั้งหมด 7 สีตามสีประจำวันในปีนั้นๆ เล่มที่นำมาจัดแสดงที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดปี พ.ศ.2492 ตู้จัดแสดงพระราชพิธีสำคัญสิบสองเดือน ขณะนี้ได้จัดแสดงพระราชพิธีสำคัญของในหลวงรัชกาลที่ 9 เช่น พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส พระราชพิธีบรมราชาภิเษก การจัดแสดงเอกสารพระราชหัตถเลขาและพระปรมาภิไธยในรัชกาลที่ 5-7 การจัดแสดงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จนเป็นที่มาของการถวายพระราชสมัญญานามว่า กษัตริย์นักพัฒนา,ทั้งยังเป็นที่มาของการทูลเกล้าฯถวายรางวัลจากองค์กรต่างๆทั่วโลก ซึ่งมีจัดแสดงอยู่ในตู้ถัดมา นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการถาวร ประกอบด้วย ตู้หนังสือราชกิจจานุเบกษา ภาพยนตร์ส่วนพระองค์ในหลวงรัชกาล 9 ที่ทรงบันทึกด้วยพระองค์เอง มาจัดแสดงนาน 30 นาที นิทรรศการพระราชประวัติตั้งแต่ประสูติ จนถึงทรงพระผนวช นิทรรศการพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ ในวโรกาสต่างๆ อาทิ 25 ปี, 50 ปี และ 60 ปี ตู้จัดแสดงของที่ระลึก ซึ่งพระราชอาคันตุกะจากประเทศต่างๆทูลเกล้าฯถวาย แผนผังแสดงลำดับราชสกุลวงศ์จักรี รวมถึงการจัดแสดงข้อมูลและภาพหมู่มหามณเฑียรและหมู่มหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยห้องจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติดังกล่าวได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากมาเยี่ยมชมพร้อมกล่าวสดุดี,เวลา 11.00 น. ที่เต็นท์กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) น.ส.สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา หรือพี่ฉอด ดีเจคนดัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจจีเอ็มเอ็ม แชน แนล ดิจิทัลทีวี นำทีมดารานำน้ำดื่มจำนวน 10,000 ขวด มอบให้กับ พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะรอง ผอ.กอร.รส. ดีเจพี่ฉอดกล่าวว่า ตั้งใจมา กราบพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ตั้งแต่ตี 4 เข้าแถวต่อคิวกับประชาชนใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง ถึงจะได้เข้ากราบพระบรมศพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีงาม ตอนแรกประชาชนน่าจะเบาบางลงแล้ว ตรงกันข้ามยังคงมีประชาชนมากราบพระบรมศพเป็นจำนวนมาก เท่าที่ทราบจากรองแม่ทัพภาคที่ 1 บอกว่า มีคนเข้ามากราบเฉลี่ยตกวันละ 4-5 หมื่นคน ในโอกาสนี้ตนและน้องๆเป็นตัวแทนของบริษัทนำน้ำดื่มมามอบให้กับ กอร.รส. เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน,ขณะที่ พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะรอง ผอ.กอร.รส. กล่าวภายหลังประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ในส่วนของการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่สนามหลวงนั้น กระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เป็นแม่งาน กอร.รส. รับผิดชอบเรื่องการจัดสถานที่ โดยวันที่ 31 ธ.ค. จะจัดที่สนามหลวงฝั่งทิศใต้ มีการตั้งเวทีและเตรียมเก้าอี้จำนวน 30,000 ตัว รองรับประชาชน โดยประธานในพิธีอาจจะเป็นนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกฯ มาเปิดงานในเวลา 23.30 น.ส่วนการดูแลความเรียบร้อย จะต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป,รอง ผอ.กอร.รส.กล่าวต่อไปว่า ในวันที่ 1 ม.ค.2560 สำนักพระราชวังแจ้งปิดเข้าถวายสักการะพระบรมศพ 1 วัน แต่จะเปิดให้ลงนามถวายพระพรในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ศาลาสหทัยสมาคม กอร.รส.จะทำหน้าที่ตามเดิม เพียงแต่จุดคัดกรองที่จะเข้ามาสนามหลวงทั้ง 8 จุด จะเปิดเวลา 07.00 น. ขอให้ผู้ที่เข้ามาสนามหลวงต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี ใครมีโรคประจำตัวควรพกยามา เขียนชื่อยาและโรครวมทั้งชื่อที่อยู่ติดตัวมาด้วย ทีมแพทย์จะได้ช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งผู้สูงอายุด้วยขอให้มาที่จุดคัดกรองที่ได้เตรียมไว้ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดูแลได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดชุดชุมชนสัมพันธ์ ไปจัดกิจกรรมสร้างความผ่อนคลาย ให้กับประชาชนตามเต็นท์ต่างๆด้วย ส่วนเรื่องการก่อสร้างพระเมรุมาศ กรมศิลปากรมาตีเส้นกำหนดขอบเขตแล้ว โดยวันที่ 22 ธ.ค. กทม.จะส่งแผนปรับย้ายพื้นที่เต็นท์ กอร.รส.และเต็นท์อื่นๆ ที่ทับซ้อนพื้นที่ก่อสร้าง สัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนมากขึ้น,ช่วงบ่าย มีเจ้าหน้าที่จากฝ่ายสำรวจและวางผังก่อสร้างพระเมรุมาศ กรมศิลปากร ลงพื้นที่บริเวณสนามหลวงด้านทิศใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่จะก่อสร้างพระเมรุมาศ โดยนำปูนขาวมาโรยกำหนดขอบเขตพื้นที่ ก่อนที่จะขุดหลุมบริเวณจุดที่จะก่อสร้างจิตกาธาน หอเปลื้อง พร้อมกับนำเชือกมากั้นรอบบริเวณและเขียนป้ายประกาศ เขตบริเวณพื้นที่ก่อสร้างพระ เมรุมาศ กรุณาอย่าจอดรถกีดขวาง เตรียมความพร้อมโดยในวันที่ 26 ธ.ค.นี้จะมีพิธีตรึงหมุดจัดสร้างพระเมรุมาศ,เวลา 16.30 น. คณะผู้บริหารและข้าราชการในสังกัดกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลพระพิธีธรรมวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร และวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร สวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมฯ เป็นประธานในพิธี,เวลา 19.00 น. คณะผู้บริหารและข้าราชการในสังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ การเคหะ–แห่งชาติ สำนักงานธนานุเคราะห์ และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลถวาย พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยมีพระพิธีธรรมจำนวน 8 รูป จากวัดราชสิทธารามราช– วรวิหาร และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ,ขณะเดียวกันในเวลา 19.00 น. ทูลกระหม่อม หญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จยังเต็นท์ของมูลนิธิทูบีนัมเบอร์วัน ในทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี หน้าประตูเทวาพิทักษ์ พระบรมมหาราชวัง ประทานกล่องอาหาร ว่างที่บรรจุข้าวเหนียวหมูย่าง กับข้าวเหนียวไก่ย่าง แซนด์วิชฟาร์มเฮ้าส์ นมเปรี้ยวยาคูลท์ พร้อมพระบรม ฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ให้กับประชาชนที่เดินทางมายังบริเวณพระบรมมหาราชวัง เพื่อร่วมแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีประชาชนจำนวนมากรอรับเสด็จ และรอรับสิ่งของประทาน ระหว่างประทานอาหารว่างให้กับประชาชน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ ทรงทักทายและรับสั่งกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง,สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. หลังสำนักพระราชวังปิดไม่ให้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นถวายสักการะพระ บรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 00.30 น. จากกำหนดเดิมเวลา 21.00 น. เนื่องจากยังมีประชาชนเข้าแถวรอเข้าถวายสักการะพระบรมศพในมณฑลพิธีสนามหลวงเป็นจำนวนมาก ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 53,884 คน รวม 51 วัน มี 2,027,579 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 4,482,399.50 บาท รวม 51 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 160,006,490.25 บาท
ยอดทะลุกว่า 2 ล้านคนแล้ว พสกนิกร ที่เข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาท สมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง และยังหลั่งไหลเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร
ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
https://www.thairath.co.th/content/818593
[ 0, 259, 188810, 70851, 3755, 48429, 20921, 6581, 104582, 190473, 259, 50472, 51122, 119793, 215430, 2091, 27605, 77772, 85322, 4728 ]
ฮั้วคนไข้ โกงใบรับรองแพทย์ หักหลังวิชาชีพ ส่อเพิกถอนใบอนุญาต
เคยไหม? ไม่ได้ป่วย แต่ไปให้แพทย์ออกใบรับรองแพทย์ให้,แล้วรู้ไหมว่าแพทย์ที่ออกใบรับรองแพทย์เท็จ ถือว่ามีความผิด,การที่ไม่ป่วยและขอให้แพทย์ออกใบรับรองแพทย์ให้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่นั้น แพทย์มีความผิดอย่างไร จะมีบทลงโทษในขั้นไหน ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, มีผู้ที่จะมาให้คำตอบในประเด็นข้างต้น ซึ่งคงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ,นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา, เรื่องราวจะเป็นอย่างไร โปรดติดตาม,ออกใบรับรองแพทย์เท็จ ไม่ซื่อสัตย์ ผิดจรรยาบรรณ,ทีมข่าวฯ ยิงคำถามแรกกับนายกแพทยสภาว่า การออกใบรับรองแพทย์ให้กับคนไข้ทั้งที่ไม่ได้มีอาการป่วย มีความผิดหรือไม่ นพ.สมศักดิ์ กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า ,หากคนไข้ไม่ได้ป่วยจริง และแพทย์ไปออกใบรับรองว่าป่วยนั้น ถือว่าเป็นความผิดที่แพทย์ไม่ซื่อสัตย์ต่อจรรยาบรรณ, ตาม ,ข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2549, หมวด 4 การประกอบวิชาชีพเวชกรรม ข้อ 25 ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องไม่เจตนาทุจริตในการออกใบรับรองแพทย์ และ ข้อ 26 ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องไม่ให้ความเห็นโดยไม่สุจริตอันเกี่ยวกับวิชาชีพเวชกรรม, นายกแพทยสภา ยกตัวอย่าง,แพทย์สั่ง คนไข้หยุดพักเกินความเป็นจริง มีความผิดหรือไม่?,แล้วถ้าหากว่า คนไข้เกิดเจ็บป่วยจริงๆ แต่แพทย์ให้หยุดพักเกินกว่าความเป็นจริง มีความผิดหรือไม่ นพ.สมศักดิ์ กล่าวในประเด็นนี้ว่า การที่แพทย์จะลงความเห็นว่า ให้คนไข้สมควรหยุดพักเพื่อรักษาอาการป่วยเป็นระยะเวลาเท่าใดนั้น จะต้องตรวจสอบดูว่า มีเหตุผลเพียงพอสมควรที่จะให้หยุดพักนานแค่ไหน เช่น ตามความเป็นจริงต้องหยุดพัก 7 วัน แต่กลับให้คนไข้หยุดพัก 30 วัน เป็นต้น หากให้คนไข้หยุดพักเกินความเป็นจริง และมีผู้เสียหายจากการที่คนไข้หยุดพักนาน และมาฟ้องร้องกับแพทย์ผู้เขียนใบรับรองแพทย์ขึ้นมานั้น แพทยสภาจะต้องเรียกมาสอบสวนว่า เหตุผลอะไรที่แพทย์วินิจฉัยให้คนไข้หยุดพัก,ฉะนั้น จึงไม่สามารถตอบได้ว่า แพทย์ให้คนไข้หยุดพักเกินความเป็นจริงผิดหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาสอบสวน โดยจะต้องพิจารณาจากองค์ประกอบต่างๆ เช่น ผลแล็บ ผลการตรวจ ประวัติการรักษา อาการของคนไข้ การให้ยา เป็นต้น จึงจะสามารถตอบได้ว่า คนไข้คนนั้น สมควรที่จะหยุดพักเป็นเวลาเท่าใด และแพทย์ลงความเห็นให้พักนานเกินกว่าความเป็นจริงหรือไม่,ผลการรักษาเท็จ เอื้อประโยชน์คดีความ มีความผิดทางอาญาและจริยธรรม,หากแพทย์ออกผลการรักษาอันเป็นเท็จ เพื่อเอื้อประโยชน์ในทางคดีความ มีความผิดหรือไม่นั้น นพ.สมศักดิ์ ให้ข้อมูลว่า มีความผิดแน่นอน นอกจากจะมีความผิดทางจริยธรรมของแพทย์ โดยการทุจริตในวิชาชีพแล้วนั้น ยังมีความผิดในทางคดีอาญา เรื่องการออกเอกสารอันเป็นเท็จอีกด้วย, นายกแพทยสภา ย้ำชัด,ด้าน ,นายสุนทร พยัคฆ์ อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย, ,สภาทนายความ, อธิบายถึงข้อกฎหมายในการออกใบรับรองแพทย์อันเป็นเท็จ เพื่อเอื้อประโยชน์และหลีกเลี่ยงในการไปศาลว่า ,ผู้ที่นำใบรับรองแพทย์เท็จไปยื่นต่อศาล จงใจที่จะหลีกเลี่ยงไม่มาศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31 จะโดนข้อหาละเมิดอำนาจศาล มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 500 บาท,ขณะเดียวกัน แพทย์รู้อยู่แล้วว่าคนไข้ไม่ได้ป่วยจริง แต่ออกเอกสารอันเป็นเท็จให้ จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท,แพทยสภา จ่อเข้าตรวจสอบทันที เมื่อมีผู้เสียหายร้องเรียน,นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า กรณีคดีของใบรับรองแพทย์ ซึ่งสงสัยว่าเป็นเท็จ หรือไม่สุจริตนั้น ผู้ที่ได้รับความเสียหายจะร้องเข้ามายังแพทยสภาให้ไปตรวจสอบ จู่ๆ แพทยสภาจะเข้าไปตรวจสอบคนนั้นคนนี้คงไม่ได้ ฉะนั้น ,จ,ะ,ต้องมีผู้ร้องเรียนหรือมีผู้เสียหาย จากนั้น แพทยสภาก็จะไปตรวจร่างกายคนไข้ว่า เป็นโรคอะไร แพทย์ได้มีการรักษาหรือให้ยาอะไรบ้าง มีผลตรวจหรือหลักฐานยืนยันอะไรบ้าง เมื่อตรวจสอบพบว่า ไม่สุจริตจริง จึงดำเนินคดีกับแพทย์ท่านนั้น,ประวัติติดตัว เสี่ยงเพิกถอนใบอนุญาต บทลงโทษแพทย์ทางจริยธรรม,เมื่อถามถึงบทลงโทษทางจริยธรรมของแพทย์ที่กระทำความผิด นพ.สมศักดิ์ อธิบายถึงบทลงโทษว่า มีตั้งแต่การ,ตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ใบอนุญาตแล้วแต่การสอบสวนว่าพักนานเท่าใด ตั้งแต่ 1 เดือน ถึง 2 ปี และสุดท้ายขั้นร้ายแรง คือ การเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม,ซึ่งวิธีการพิจารณาก็ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของคดีนั้นๆ นอกจากนี้,ยังมีบันทึกเป็นประวัติติดตัวไปตลอดว่าแพทย์ท่านนี้เคยมีประวัติอะไรมาบ้าง จึงค่อนข้างเสี่ยงมากหากแพทย์คิดที่จะกระทำความผิด,ออกใบรับรองแพทย์ เลื่อนไปศาล อุทาหรณ์ของแพทย์ที่ไม่ควรเกิด,ทีมข่าวฯ ถามถึงเหตุการณ์ในอดีตที่แพทย์เคยออกผลการรักษาที่เป็นเท็จให้กับคนไข้ ว่าเคยมีบ้างหรือไม่นั้น นพ.สมศักดิ์ เล่าถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาให้ฟังว่า ย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เคยเกิดเหตุการณ์ที่แพทย์ออกใบรับรองแพทย์เป็นเท็จให้กับคนรู้จักกัน ซึ่งเคยมีบุญคุณช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาก่อน เพื่อที่จะขอเลื่อนการไปศาล แพทย์ท่านนั้น เกรงใจและคิดว่าเลื่อนไปไม่กี่วันคงไม่เป็นอะไร แต่ปรากฏว่า มีการฟ้องร้องขึ้นมาว่า แพทย์ออกใบรับรองแพทย์ไม่เป็นความจริง ก่อนที่แพทย์ท่านนั้นจะได้รับโทษจากการกระทำความผิดทางจริยธรรม กลับตัดสินใจปลิดชีพตัวเองหนีความผิดทันที,แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันแพทย์ส่วนใหญ่ไม่กล้ากระทำความผิดแล้ว เพราะจะมีประวัติติดตัวไปตลอดชีวิตและต้องหยุดพักงานด้วย โดยส่วนตัวคิดว่า ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็คงไม่ทำ เพราะหากตัดสินใจที่จะทำก็แสดงว่า แพทย์เชื่อว่ามีข้อมูลที่มาสนับสนุนให้สามารถทำได้จริงๆ เพราะการกระทำผิดย่อมมีความเสี่ยงต่อวิชาชีพอย่างแน่นอน,การที่แพทย์จะออกใบรับรองแพทย์ว่า บุคคลผู้นั้นแข็งแรงดี หรือป่วยหนักมาก จะต้องทำด้วยความซื่อสัตย์ หากแม้แต่จะคิดช่วยเหลือเกื้อกูลกันด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ ทั้งที่ไม่ได้เป็นเรื่องจริง แม้เป็นเรื่องเพียงเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่ ถือว่ามีความผิด เพราะคนที่ประกอบอาชีพหมอต้องมีความซื่อสัตย์ นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา.,ทีมข่าวเฉพาะกิจ
การที่ไม่ป่วยและขอให้แพทย์ออกใบรับรองแพทย์ให้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ แพทย์มีความผิดอย่างไร จะมีบทลงโทษในขั้นไหน ?
ใบรับรองแพทย์,ซื้อใบรับรองแพทย์,จรรยาบรรณแพทย์,ใบรับรองแพทย์ ลาป่วย,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,ขายใบรับรองแพทย์,สมศักดิ์ โล่ห์เลขา,ใบรับรอง แพทย์ ลา ป่วย,ใบรับรองแพทย์ ใบขับขี่,ใบรับรองแพทย์ ราคา,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/621766
[ 0, 259, 95580, 9112, 31431, 130617, 4552, 142362, 33034, 11723, 110799, 10228, 22401, 139356, 20390, 259, 51523, 117065, 6582, 259 ]
ทหาร-อุตสาหกรรม ตรวจสอบบ่อทรายพนมทวน หลังมีการลอบดูดทำถนนพัง
ขอบคุณภาพจาก คุณรพี ชำนาญเรือ,ทหาร พล.ร.9 นำอุตสาหกรรมจังหวัด เข้าตรวจสอบบ่อทรายที่พนมทวน จ.กาญจนบุรี หลังทำการดูดทรายใกล้ทางสาธารณะ เป็นเหตุทำให้ถนนพัง,จากการที่ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 7 ต.หนองสาหร่าย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ได้ร้องเรียนไปยังกองพลทหารราบที่ 9 ว่า มีผู้ประกอบการบ่อทรายลักลอบดูดทรายใกล้กับถนนสาธารณะและดูดทรายในเวลากลางคืน ทำให้ถนนสาธารณะได้รับความเสียหาย,และเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 มิ.ย.60 พ.ท.ศรณ์พัชร์ บัววิรัตน์ ผบ.ร้อย.รส.ที่ 2 ส.พัน. 9 พล.ร.9 พร้อม นายเฉลิมชัย แสนติ๊บ วิศวกรปฏิบัติการ ฝ่ายโรงงาน สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี จนท.ที่ดิน ตร.สส.(ปทส.) ภ.กาญจนบุรี ตร.สภ.พนมทวน ปกครองอำเภอพนมทวน กำนันตำบลหนองสาหร่าย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 เทศบาลตำบลหนองสาหร่าย ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อทรายในพื้นที่ หมู่ 7 ต.หนองสาหร่าย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี,โดยนายเฉลิมชัย แสนติ๊บ วิศวกรปฏิบัติการ ฝ่ายโรงงาน สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า การเดินทางเข้าตรวจสอบเนื่องจากชาวบ้านร้องเรียนไปยังทหารพล.ร.9 จึงมีการประสานงานหน่วยงานต่างๆ ร่วมลงพื้นที่ ตรวจสอบบ่อทรายที่ร้องเรียนว่าการดูทรายจะกระทบเกิดความเสียหายกับถนนสาธารณะ ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ได้พบกับผู้ประกอบการบ่อทรายนำโฉนดที่ดิน 1 แปลง นส.3ก.อีก 3 แปลง รวมพื้นที่ประมาณ 113 ไร่ บริเวณบ่อทรายและใบอนุญาตดูดทรายมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมอ้างว่าทางดังกล่าวตนเองเป็นคนถมขึ้นมา ไม่ใช่ทางสาธารณะ,นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า โดยทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร และผู้ประกอบการได้ระงับการดูดทรายเอาไว้ก่อน เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมต่อทางสาธารณะที่ชาวบ้านใช้สัญจรไปมาเพิ่มอีก ทั้งนี้จะใช้เวลาประมาณ 7 วันให้ทั้งสองฝ่ายนำเอกสารมาแสดงและตรวจสอบความถูกต้องต่อไป.
ทหาร พล.ร.9 นำอุตสาหกรรมจังหวัด เข้าตรวจสอบบ่อทรายที่พนมทวน จ.กาญจนบุรี หลังทำการดูดทรายใกล้ทางสาธารณะ เป็นเหตุทำให้ถนนพัง
ข่าว,ทั่วไทย
ดูดทราย,ลักลอบดูดทราย,ถนนพัง,บ่อทรายพนมทวน,กาญจนบุรี
https://www.thairath.co.th/news/local/central/970745
[ 0, 259, 85322, 19895, 42576, 63015, 220368, 184193, 1549, 9211, 72023, 7960, 68978, 61246, 260, 222065, 76527, 259, 27605, 85322 ]
กำหนดยุทธศาสตร์ผู้สูงอายุ
กทม.รับสังคมสูงอายุ-แผน 3 ปีคุ้มครองส่งเสริมคุณภาพชีวิต,นางกิตติยา ศรีเลิศฟ้า รอง ผอ.สำนักการแพทย์ กทม. เปิดเผยถึงแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ของสำนักการแพทย์ กทม. พ.ศ.2558-2560 ว่า แผนการดำเนินการดังกล่าวมี 5 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย 1.ยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนาผู้สูงอายุ ได้แก่ ส่งเสริมด้านการทำงานและการหารายได้ของผู้สูงอายุ อาทิ ส่งเสริมการฝึกอาชีพให้เหมาะสมกับวัยและความสามารถ พัฒนาฝีมือในการสร้างรายได้ การพัฒนาระบบบริการสุขภาพและสังคมอย่างบูรณาการสำหรับผู้สูงอายุในรูปแบบที่หลากหลายเหมาะสมกับผู้สูงอายุและครอบครัว เช่น ส่งเสริมสุขภาพ ส่งเสริมการรวมกลุ่ม โดยจัดตั้งและดำเนินงานของชมรมผู้สูงอายุ สนับสนุนให้มีการเผยแพร่และเชิดชูเกียรติภูมิปัญญาของผู้สูงอายุ ประกวดสุขภาพผู้สูงอายุ สนับสนุนสื่อของ กทม.ให้มีรายการเพื่อผู้สูงอายุ และสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม,รอง ผอ.สำนักการแพทย์กล่าวว่า 2.ยุทธศาสตร์ด้านระบบคุ้มครองทางสังคมผู้สูงอายุ เช่น ตรวจสุขภาพประจำปีอย่างทั่วถึง ให้วัคซีนที่จำเป็นตามมาตรการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพแก่ผู้สูงอายุ จัดหาอุปกรณ์ช่วยในการดำรงชีวิตประจำวันตามที่จำเป็น อาทิ แว่นตา ไม้เท้า รถเข็น ฟันเทียม 3.ยุทธศาสตร์ด้านการเตรียมความพร้อมของประชากรใน กทม.ทุกช่วงวัยเพื่อวัยสูงอายุที่มีคุณภาพ ด้วยการรณรงค์ให้สังคมมีจิตสำนึกและตระหนักถึงคุณค่า ศักดิ์ศรีของผู้สูงอายุ รวมทั้งการส่งเสริมความรู้ด้านการดูแลสุขภาพกาย จิตใจ ส่งเสริมการป้องกันโรค และการเข้าถึงบริการสาธารณสุข 4.ยุทธศาสตร์ด้านการบริหารจัดการ พัฒนาบุคลากรด้านผู้สูงอายุของ กทม. เช่น สนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการผู้สูงอายุ พัฒนาศักยภาพเครือข่ายผู้สูงอายุในระดับ กทม.และเขต นอกจากนี้จะสนับสนุนให้มีการฝึกอบรมบุคลากรด้านผู้สูงอายุในระดับวิชาชีพอย่างเพียงพอและมีมาตรฐาน และ 5.ยุทธศาสตร์เผยแพร่องค์ความรู้ด้านผู้สูงอายุและการติดตามประเมินผลการดำเนินการตามแผนผู้สูงอายุของ กทม. สนับสนุนส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ผู้สูงอายุ.
นางกิตติยา ศรีเลิศฟ้า รอง ผอ.สำนักการแพทย์ กทม. เปิดเผยถึงแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ของสำนักการแพทย์ กทม. พ.ศ.2558-2560 ว่า แผนการดำเนินการดังกล่าวมี 5 ยุทธศาสตร์
กิตติยา ศรีเลิศฟ้า,ผู้สูงอายุ,พัฒนา,รายได้,การฝึกอาชีพ,สุขภาพ,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/content/560866
[ 0, 259, 227164, 80836, 28966, 192983, 259, 50018, 202566, 28966, 17858, 31190, 48263, 259, 148082, 259, 119762, 3755, 128725, 95067 ]
ปินส์ยั่วจีนบุกปักธงโขดหินพิพาททะเลจีนใต้
ทั่วโลกยังคงจับตากรณีความขัดแย้งหมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนใต้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่เกาะสแปรทลีย์ ที่รัฐบาลจีนอ้างอำนาจอธิปไตยการครอบครอง แต่ได้รับการต่อต้านจากรัฐบาลฟิลิปปินส์รวมถึงสหรัฐฯเป็นระยะๆ ซึ่งเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดสถานการณ์ยั่วยุขึ้นอีกครั้ง ที่บริเวณโขดหินสกาโบโรห์ พื้นที่พิพาททางตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่เกาะสแปรทลีย์ หลังกลุ่มนักเคลื่อนไหวฟิลิปปินส์ได้บุกขึ้นไปปักธงชาติบนโขดหินดังกล่าว จนเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่รักษาการณ์ชายฝั่งของจีน,ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนหน้า การประชุมระดับ รมว.ต่างประเทศของชาติสมาชิกอาเซียนกับจีน ที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน ในวันที่ 13-14 มิ.ย. โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่เรียกตัวเองว่า คาลายาอัน อาติน อิโต หรือกลุ่มเสรีภาพ กล่าวว่าสิ่งนี้คือของของเรา เราเช่าเรือเดินทางไปยังโขดหินสกาโบโรห์ พร้อมสมาชิกชาวฟิลิปปินส์ 15 คน และชาวอเมริกัน 1 คน จนทำให้เกิดการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่รักษาการณ์ชายฝั่งจีน ที่ส่งเรือเข้ามาสกัดกั้น,นายวีรา จอย บันเอง แกนนำจัดการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เผยว่าเจ้าหน้าที่จีนได้ส่งเรือยางเคลื่อนที่เร็ว 2 ลำ เข้ามาขวางการเดินเรือของเรา ซึ่งหลังจากสมาชิกของเรา 5 คนกระโดดลงน้ำ เพื่อว่ายเข้าฝั่งไปปักธงนั้น เจ้าหน้าที่จีนจึงฉีดน้ำใส่สมาชิกที่กำลังว่ายน้ำอยู่ พร้อมพยายามเข้าไปแย่งกล้องถ่ายรูปรวมถึงกระเป๋าเป้ที่ใส่ธงชาติ อย่างไรก็ตาม สมาชิกของเราสามารถขึ้นฝั่งโขดหินสกาโบโรห์และปักธงชาติฟิลิปปินส์ได้สำเร็จ,สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้นายโรดริโก ดูเตอร์เต ว่าที่ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เคยประกาศไว้ตอนหาเสียง ว่าจะขี่เจ็ตสกีไปปักธงบนเกาะเทียมที่จีนถมสร้าง ในหมู่เกาะสแปรทลีย์ ซึ่งจากการสอบถามไปยังกระทรวงกลาโหม และเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงฟิลิปปินส์ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อกรณีนักเคลื่อนไหวบุกไปปักธงชาติครั้งนี้,ส่วนนายลู่ กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ออกแถลงการณ์ตามปกติที่กรุงปักกิ่งว่า โขดหินสกาโบโรห์เป็นอาณาเขตของจีนมาตั้งแต่โบราณกาล รัฐบาลจีนขอเรียกร้องฟิลิปปินส์เคารพในอธิปไตยของจีน และหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆที่ถือเป็นการยั่วยุ.
กลุ่มนักเคลื่อนไหวฟิลิปปินส์ได้บุกขึ้นไปปักธงชาติบนโขดหินสกาโบโรห์ พื้นที่พิพาททางตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่เกาะสแปรทลีย์ จนเกิดการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่รักษาการณ์ชายฝั่งของจีน
หมู่เกาะพิพาท,ทะเลจีนใต้,หมู่เกาะสแปรทลีย์,ฟิลิปปินส์,ยั่วยุ,โขดหินสกาโบโรห์,นักเคลื่อนไหว,ปักธงชาติ,ประชุมอาเซียน,เมืองคุนหมิง,คาลายาอัน อาติน อิโต,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/638250
[ 0, 259, 175179, 27605, 1881, 36999, 26420, 224251, 156384, 223146, 188735, 29373, 259, 43632, 233576, 4188, 220855, 1, 0, 0 ]
ลิงแอฟริกา ให้เบาะแสเกี่ยวกับที่มาของภาษา
(ลิงเขียวแอฟริกาในเซเนกัล),ลิงเขียวแอฟริกาและลิงเวอร์เว็ท หรือที่รู้จักในชื่อ ลิงไข่ฟ้า เพราะไข่หรือลูกอัณฑะของลิงตัวผู้จะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าเพื่อดึงดูดลิงตัวเมียในฤดูผสมพันธุ์ ลิงทั้ง 2 ชนิดอาศัยอยู่ในแอฟริกาและเส้นทางวิวัฒนาการของทั้งคู่แยกกันเมื่อ 3,500,000 ปีก่อน นักวิจัยศึกษาพบว่าทั้ง 2 สายพันธุ์มีการแบ่งปันคำศัพท์ที่ใช้สื่อสารกันเมื่อต้องเผชิญกับอันตราย,จูเลีย ฟิชเชอร์ นักวิจัยแห่งสถาบันวิจัยสัตว์ในอันดับวานร ในเมืองเกิททิงเงิน แห่งเยอรมนี เผยว่าราว 30 ปีที่แล้ว มีการค้นพบการเปล่งเสียงเตือนภัยที่มีเอกลักษณ์ของลิงเวอร์เว็ทในทุ่งหญ้าสะวันนา ฝั่งแอฟริกาตะวันออก พวกมันมีเสียงร้องแตกต่างกัน 3 แบบ ขึ้นอยู่กับว่าเจอกับนักล่าชนิดใด,ศัตรูหลักๆ ของลิงแล้ว ก็จะมีเสือดาว งู และนกอินทรี ถ้าเจอเสือดาว ลิงจะร้องเตือนลิงที่อยู่บนต้นไม้ให้รีบลงมาพื้นดิน เพราะเสือดาวสามารถปีนต้นไม้ได้ หรือหากเจองู ลิงก็จะร้องเตือนเพื่อนฝูงให้ยืนนิ่งด้วย 2 ขา ถ้าเจอนกอินทรี ลิงจะร้องให้พรรคพวกตรวจดูท้องฟ้าในขณะที่หาที่กำบังไปด้วย,เสียงเตือนที่ชวนสงสัยว่าเกิดจากอะไร ทำให้นักวิจัยทดสอบกับกลุ่มลิงเขียวแอฟริกาในเซเนกัล ที่เฝ้าสังเกตมานานกว่า 10 ปี โดยใช้โดรนบินไปมาที่ระดับความสูง 60 เมตร หลอกให้เหล่าวานรเชื่อว่าเป็นอันตรายทางอากาศที่ลิงไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อเจ้าจ๋อเห็นโดรนก็ตอบสนองทันที ด้วยการร้องเตือนกันและรีบหนีไปหาที่กำบัง,ที่น่าทึ่งคือ เสียงร้องของลิงเขียวแอฟริกาคล้ายกันกับเสียงร้องเตือนภัยจากนกอินทรีของลิงเวอร์เว็ทในแอฟริกาตะวันออก นั่นหมายถึงแม้วิวัฒนาการแยกกันไปนานแต่โครงสร้างการใช้ภาษาของลิงทั้ง 2 ชนิดยังคงเดิม และชี้ว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างลิงรวมถึงมนุษย์ ตอบสนองต่อภัยคุกคามและยังสร้างรากฐานทางของภาษาของตนเองด้วย
นักวิจัยศึกษาพบลิงเขียวแอฟริกา และลิงเวอร์เว็ท หรือลิงไข่ฟ้า มีการแบ่งปันคำศัพท์ที่ใช้สื่อสารกันเมื่อต้องเผชิญกับอันตราย
ข่าว,ต่างประเทศ
ลิงเขียวแอฟริกา,ลิงเวอร์เว็ท,ลิงแอฟริกา,แบ่งปันคำศัพท์,เบาะแสที่มาของภาษา
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1579285
[ 0, 259, 205381, 196944, 80209, 21005, 49376, 35709, 2091, 205381, 97014, 47534, 142674, 7960, 259, 11103, 99490, 142219, 3945, 92401 ]
เซ็กซี่สุดแซ่บ สำหรับ ใบเตย สุธีวัน สนุกกับโมเมนต์นี้ได้ทุกที่ ทุกเวลา
ตะลุ่งตุ้งแช่,หมวยแซบ รายงานข่าวซ่าส์ ณ บัดนี้,ไม่ใช่ไม่รักไม่ใช่ไม่ถูกใจ แต่ยังไม่พร้อมลงรูปคู่ เต๋อ–ฉันทวิชช์ นางเอกสาว ใหม่–ดาวิกา ก็บอกตรงๆ แต่ถ้าเรื่องรวยใหม่ พร้อมลุย คนเห็นซื้อที่ดินแถวสุขาภิบาล 5 ใหม่ว่าคุณแม่เธอบริหารเงินที่ใหม่หาได้ นำไปซื้ออสังหาเอาไว้ อนาคต เศรษฐินี ที่ดิน จะไปไหนเสีย,เรื่องเซ็กซี่สุดแซ่บมันอยู่ในสายเลือด ไปเที่ยวพัทยา ใบเตย สุธีวัน ลงภาพแช่น้ำในอ่าง ด้วยท่าซุกตัวในอ่างอาบน้ำมีฟองสบู่ปิดร่าง แต่ขานี่ยกพาดขอบอ่างแช่น้ำสุขสบาย นอนถ่ายภาพเซลฟี่การันตีความฟินและเซ็กซี่ ว่าสำหรับ ใบเตย เธอสนุกกับโมเมนต์เซ็กซี่ได้ทุกที่ ทุกเวลาจริงๆ.,แพม–ลิตา เดินเครื่อง Youre a Star ดาวปั้นดาว ซีซั่น 2 เฟ้นเด็กเก่งทั่วประเทศเหลือ 101 คน รายการประกวดร้องเพลงเด็ก อายุ 6-12 ปี และเรียลลิตี้ครอบครัวรายการแรกของเมืองไทย ผู้ผ่านเข้ารอบก็คือ Booth Camp ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ Workshop การเต้น การวัดความสามารถในเรื่องการร้อง โดยน้องๆแต่ละคนจะต้องร้องเพลงคนละ 2 เพลง คือเพลงช้า และเพลงเร็ว โดยจะมีครูแต่ละห้องให้คำแนะนำหลังการแสดงเสร็จสิ้น เก็บคะแนนสะสมเพื่อฝึกซ้อม เพื่อพัฒนาตนเอง ก่อนจะถึงรอบคัดออกในวันที่ 29 พ.ค.นี้.,สิ้นสุดการรอคอย กับรายการข่าวบันเทิงสุดอินเตอร์ Entertainment Tonight Thailand ยกทัพพิธีกรสายเลือดใหม่ นำโดย เกรซ–แบงค์ เสิร์ฟข่าวบันเทิง ไลฟ์สไตล์ แฟชั่นจากทุกมุมโลก ทางช่อง พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 19.20-20.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 18.20-19.00 น.,สปิริตดีสุดๆ ต้องยกให้หนุ่ม เบนซ์ จิรโรจน์ ศรุณานิธิโรจน์ ที่แม้ว่าป่วยหนัก แต่ก็ยังแบกร่างเดินทางมาซ้อมละครเวที ขอพบในฝัน สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล รีสเตจ แบบไม่ยอมหยุดพัก ทำเอาทีมงาน ผู้กำกับ และนักแสดงคนอื่นต้องยกนิ้วให้ถึงความพยายามของหนุ่ม เบนซ์ ที่ทุ่มเทเต็มที่ ยังไงก็ขอให้หายเร็วๆนะจ๊ะว่าแต่แฟนคลับและเหล่าแม่ยกอย่าลืมไปเชียร์และให้กำลังใจหนุ่ม เบนซ์ กันได้ทุกรอบการแสดงเลยจ้า.,ผ่างผ่างงง ไม่ได้บอกเพื่อให้ทำตาม แต่ ความรัก ของใครก็ของมัน นุ่น–รมิดา ถูกถามเรื่องเวลาไปกองถ่ายละคร เห็นไปพร้อมกับ หลุยส์ สก๊อตต์ แฟนหนุ่ม แสดงว่าอยู่ด้วยกันแล้วสิ? ว้ายๆๆๆ นุ่นตอบ ไม่ค่ะ ไม่ได้ปฏิเสธ (หัวเราะ) ไม่ใช่ อยู่ด้วยกันไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่างนั้น แต่นุ่นยอมรับว่า นุ่นไปๆ มาๆ เพราะว่าพ่อแม่เรารู้เรื่อง ทั้งพ่อแม่เราและพ่อแม่หลุยส์รู้เรื่องแล้ว ก็เลยไปๆมาๆได้ คบมา 10 ปี จนรู้ใจกันแล้ว แต่งงานไม่นานเกินรอ.,หมวยแซบ
เรื่องเซ็กซี่สุดแซ่บมันอยู่ในสายเลือด ไปเที่ยวพัทยา ใบเตย สุธีวัน ถ่ายภาพเซลฟี่การันตีความฟินและเซ็กซี่
ใบเตย อาร์สยาม,เซ็กซี่,พัทยา,ซุบซิบกับหมวยแซบ,หมวยแซบ
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1225852
[ 0, 259, 118407, 3945, 1326, 49277, 20648, 259, 48161, 24353, 5881, 265, 259, 262, 3965, 259, 63388, 179448, 111094, 58384 ]
แสนสิริ ใจป้ำอัด 2 หมื่นล้าน เปิด 8 คอนโดมิเนียมยึดหัวหาดเส้นทางรถไฟฟ้า
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทได้เตรียมแผนรุกตลาดคอนโดมิเนียมอย่างเต็มสูบ โดยตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 8 โครงการ มูลค่ารวม 21,000 ล้านบาท ที่สำคัญจะเน้นพัฒนาคอนโดมิเนียมในทำเลติดเส้นทางรถไฟฟ้า ซึ่งบริษัทเป็นผู้นำตลาดมาอย่างยาวนาน รวมถึงมีแผนกลยุทธ์ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยในปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายกลุ่มชาวต่างชาติเป็น 3,500 ล้านบาท ซึ่งปีที่ผ่านมาสามารถทำได้ 1,600 ล้านบาท,ปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมสำหรับคอนโดฯไว้ประมาณ 22,000 ล้านบาท จากเป้าหมายยอดขายรวมของบริษัท 30,000 ล้านบาท,ทั้งนี้ ในการพัฒนาคอนโดมิเนียมทั้ง 8 โครงการจะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล แบ่งเป็นโครงการระดับไฮเอนด์ 3 โครงการ ราคาตั้งแต่ 200,000 บาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) โครงการระดับกลางอีก 4 โครงการ ราคาตั้งแต่ 70,000-80,000 บาทต่อ ตร.ม. และโครงการระดับล่างอีก 1 โครงการ โดยมีแผนทยอยเปิดตัว และโครงการแรกที่เปิดตัวคือ The Monument ห่างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสนามเป้า 300 เมตร มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท,นอกจากนี้ บริษัทยังได้เตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการแรกภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดตัวโครงการ The Line เดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต มูลค่าโครงการ 5,600 ล้านบาท โดยจะพัฒนาภายใต้บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง วัน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างแสนสิริและบีทีเอส มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 100 ล้านบาท ในสัดส่วน 50 : 50 โดยจะเปิดตัวในไตรมาส 2 ปีนี้,นายอุทัยกล่าวอีกว่า ขณะนี้บริษัทได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีน เพื่อเน้นเจาะตลาดคนจีนโดยเฉพาะ ซึ่งที่ผ่านมาแนวโน้มการซื้อคอนโดฯในประเทศไทยของกลุ่มคนจีนมีเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันคนจีนที่มีเงินส่วนใหญ่มีความต้องการหาซื้อบ้านพักหลังที่ 2 ในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก.
ในปีนี้บริษัทได้เตรียมแผนรุกตลาดคอนโดมิเนียมอย่างเต็มสูบ โดยตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 8 โครงการ มูลค่ารวม 21,000 ล้านบาท ที่สำคัญจะเน้นพัฒนาคอนโดมิเนียมในทำเลติดเส้นทางรถไฟฟ้า
ข่าวเศรษฐกิจ,อุทัย อุทัยแสงสุข,คอนโดมิเนียมแสนสิริ,ทำเลติดรถไฟฟ้า,ตั้งเป้ายอดขาย,แผนกลยุทธ์,ลูกค้าชาวต่างชาติ
https://www.thairath.co.th/content/488482
[ 0, 259, 193934, 53530, 2752, 48429, 113227, 76754, 226577, 2361, 47187, 12005, 107451, 147157, 50186, 11821, 47187, 1, 0, 0 ]
ป.ป.ช. เชือด เทือก-ปทีป ทุจริตสร้าง 396 โรงพัก
ป.ป.ช.ลงมติเชือด เทพเทือก-ปทีป ชี้มูลความผิดคดีทุจริตโครงการก่อสร้างโรงพักตำรวจ 396 แห่ง ในพื้นที่ บช.ภ. 1-9 วงเงิน 5,800 ล้านบาท พ่วงคดีก่อสร้างแฟลตตำรวจ 163แห่ง อดีต ผบช.สกบ.ติดร่างแหเซ่นความผิด ระบุชัดสั่งเปลี่ยนวิธีประมูลแยกสัญญาก่อสร้างรายภาคมารวมศูนย์เป็นสัญญาฉบับเดียวเข้าข่ายทุจริตและประพฤติมิชอบ เร่งประกอบสำนวนภายใน 30วันส่งให้อัยการฟ้องอาญาทันที,หลังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ใช้เวลาไต่สวนตรวจคดีโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน หรือโรงพัก 396 แห่ง งบประมาณ 5,800 ล้านบาท ที่ฉาวโฉ่กลับกลายเป็นโรงพักร้างมาอย่างยาวนาน ล่าสุด ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้อนุมัติโครงการ และ ผู้เกี่ยวข้อง 2 ราย,ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ในการประชุม ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ประชุมได้ลงมติชี้มูลความผิดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กรณีอนุมัติโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ (โรงพัก) ทดแทน 396 แห่ง ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค (บช.ภ.) 1-9 วง เงิน 5,800 ล้านบาท โดยจากการไต่สวนของ ป.ป.ช.พบว่า นายสุเทพในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในขณะนั้น ได้สั่งให้เปลี่ยนวิธีการประมูลการจัดสร้างโรงพักทดแทน จากเดิมที่ใช้วิธีแยกประมูลสัญญาเป็นรายภาค มาเป็นรวมศูนย์การประมูลเป็นแห่งเดียวในปี 2552 ทั้งที่เมื่อเสนอเข้า ครม.ไปแล้วถูกทักท้วงจาก ครม.ขณะนั้น โดยสั่งให้ไปหารือกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงบประมาณก่อน แต่นายสุเทพไม่ดำเนินการตามที่ถูกทักท้วง โดยยืนยันจะใช้วิธีการประมูลแบบรวมศูนย์ อ้างว่าเป็นไปตามระเบียบของกรมบัญชีกลางที่อนุญาตให้ทำได้,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ที่ประชุม ป.ป.ช.ยังชี้มูลความผิดคดีการอนุมัติโครงการก่อสร้างแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ 163 แห่งทั่วประเทศ ที่นายสุเทพเสนอขึ้นมาพร้อมกับคดีโรงพักทดแทนในลักษณะแพ็กคู่ เนื่องจากเป็นโครงการในลักษณะที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไป โดยในส่วนคดีแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ 163 แห่งนั้น ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายสุเทพ และ พล.ต.อ.สุพร พันธุ์เสือ อดีตรอง ผบ.ตร. เป็นผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง (ผบช.สกบ.) ในขณะนั้น เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกับคดีโรงพักทดแทนคือ มีการเปลี่ยนวิธีการดำเนินการประมูลก่อสร้างจากแยกเป็นรายภาคมาเป็นวิธีการรวมศูนย์แห่งเดียว จนกลายเป็นต้นเหตุให้เกิดความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดินจำนวนมากในภายหลัง เนื่องจากโครงการก่อสร้างไม่เดินหน้า โรงพักและแฟลตหลายแห่งถูกทิ้งร้างจำนวนมาก เห็นว่าพฤติการณ์นายสุเทพเข้าข่ายการทุจริตและประพฤติมิชอบต่อหน้าที่ ให้ส่งเรื่องดำเนินคดีอาญากับนายสุเทพและผู้เกี่ยวข้องต่อไป ขณะนี้ ป.ป.ช.อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำสำนวนให้สมบูรณ์ภายใน 30 วัน หลังจากการลงมติเพื่อส่งให้อัยการดำเนินการต่อไป โดยเร็วๆนี้ ป.ป.ช.เตรียมจะแถลงข่าวเรื่องดังกล่าวให้สาธารณชนรับทราบต่อไป,ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับคดีการก่อสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่ง หรือคดีโรงพักทดแทนนั้น มีที่มาเริ่มจากการที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย นำมาเปิดเผยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปี 2555 ทำให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย มีการตรวจสอบที่มาโครงการพบว่าริเริ่มสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแล สตช.ในขณะนั้นเป็นผู้ลงนามอนุมัติโครงการก่อสร้างวันที่ 9 มิ.ย.2552 วงเงิน 5,800 ล้านบาท โดยในสมัยที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็น ผบ.ตร. เสนอให้มีการทำสัญญาก่อสร้างแยกเป็นรายภาค 9 สัญญา แยกเป็นสถานีตำรวจในพื้นที่ บช.ภ.1-9 แต่ปรากฏว่าต่อมาอีก 5 เดือน วันที่ 18 พ.ย.2552 สมัย พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เป็น รรท.ผบ.ตร.ได้เสนอให้ทำสัญญาใหม่จากการแยกเป็นรายภาค ให้รวมศูนย์เป็นสัญญาฉบับเดียว นายสุเทพเห็นชอบกับการแก้สัญญาดังกล่าว ให้บริษัทเอกชนเพียงแห่งเดียวเป็นผู้รับผิดชอบการก่อสร้างโรงพักทดแทน เป็นต้นเหตุให้การก่อสร้างเกิดความล่าช้า การก่อสร้างโรงพักหลายแห่งถูกทิ้งร้าง นำไปสู่การที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สมัยนายธาริต เพ็งดิษฐ์ เป็นอธิบดีดีเอสไอ เข้ามาตรวจสอบ ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ กระทั่งมีการชี้มูลความผิดนายสุเทพในที่สุด
ป.ป.ช.ลงมติเชือด เทพเทือก-ปทีป ชี้มูลความผิดคดีทุจริตโครงการก่อสร้างโรงพักตำรวจ 396 แห่ง ในพื้นที่ บช.ภ. 1-9 วงเงิน 5,800 ล้านบาท พ่วงคดีก่อสร้างแฟลตตำรวจ 163 แห่ง
ข่าว,ทั่วไทย
ป.ป.ช.,โรงพัก,สุเทพ เทือกสุบรรณ,ปทีป ตันประเสริฐ,โรงพักร้าง,ทุจริต,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1621508
[ 0, 259, 137738, 236041, 231709, 70851, 4188, 48774, 55028, 220811, 97204, 95238, 3682, 49012, 30931, 1, 0, 0, 0, 0 ]
ถอดบทเรียน เรือล่ม-ถ้ำหลวง
ภาพจาก : เพจ Jod 8riew,ขณะที่ถนนทุกสายมุ่งสู่ ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อเกาะติดภารกิจช่วยเหลือ 13 นักเตะเยาวชนและโค้ชทีม หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ซึ่งพลัดหลงเข้าไปติดอยู่ใน ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน นานถึง 17 วันกว่าที่ทีมนักประดาน้ำกู้ภัยจากทั่วทุกมุมโลกจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือออกมาได้สำเร็จ,กลายเป็นปฏิบัติการช่วยเหลือ ,13 หมูป่า , ที่ได้รับการกล่าวขานยกย่อง เชิดชูไปทั่วโลก และเป็นเรื่องของมวลมนุษยชาติที่ร่วมแรง ร่วมใจช่วยเหลือกัน,ในอีกฟากของประเทศไทยก็ได้เกิด ,โศกนาฏกรรม, ที่กล่าวได้ว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์การท่องเที่ยวไทยเลยก็ว่าได้เมื่อเรือบรรทุกนักท่องเที่ยวจีน 2 ลำล่มกลางทะเลภูเก็ต จนเป็นเหตุให้ผู้โดยสารนักท่องเที่ยวชาวจีนร่วม 100 คนต้องตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดท่ามกลางคลื่นลมพายุอันเกรี้ยวกราด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าให้การช่วยเหลือผู้โดยสารนักท่องเที่ยวมาได้เพียงส่วนหนึ่ง และมีนักท่องเที่ยวชาวจีนจมน้ำเสียชีวิตไปถึง 47 ราย,สองเหตุการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกันกลายเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของประเทศ ยิ่งฐานะประเทศพยายามจะโปรโมตการท่องเที่ยวเป็น จุดหมายปลายทาง ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกปีละไม่ต่ำกว่า 35 ล้านคน มีรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่าปีละ 3 ล้านล้านบาทด้วยแล้ว,ทีมเศรษฐกิจ รีวิวสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยยามนี้ที่แม้จะได้ชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีความพร้อมสรรพด้านทรัพยากรการท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของโลก แต่กลับสุมไว้ด้วยปัญหาที่ยัง ซุกอยู่ใต้พรม ที่จำเป็นต้องได้รับการ สังคายนา ครั้งใหญ่ ก่อนที่ตลาดท่องเที่ยวไทยจะถูกย่ำยีจนไม่หลงเหลือไว้ให้ลูกหลานได้เก็บเกี่ยว :,บันทึกบทเรียน ถ้ำหลวง,หลังผ่านพ้น วิกฤติด้านท่องเที่ยว ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำ บันทึกบทเรียน เพื่อถอดบทเรียนของการกู้ภัยในครั้งนี้ ทั้งในส่วนของปฏิบัติการกู้ภัย 13 หมูป่า และเรือล่มกลางอ่าวภูเก็ตเพื่อที่ว่าสิ่งเหล่านี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก,เริ่มต้นจากกรณี 13 หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ที่พลัดหลงเข้าไปติดใน ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ที่ทำให้เกิดคำถามไปถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแห่งอื่นๆ ในลักษณะเดียวกันนี้ว่ายังมีอยู่อีกหรือไม่ จึงต้องการให้มีการสำรวจถ้ำทั่วประเทศทั้งในพื้นที่อุทยานแห่งชาติและวนอุทยาน ไล่เรียงไปจนถึงถ้ำในวัด,ด้วยข้อมูลที่ได้จากบรรดา จิตอาสา นับพันชีวิตที่เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจช่วยชีวิตเยาวชน 13 ทีมหมูป่าออกจาก ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน นั้น ต่างระบุข้อมูลที่สอดคล้องกันว่า หลังเกิดเหตุ ทุกฝ่ายมีข้อมูลของถ้ำหลวงแห่งนี้น้อยมาก ขาดแผนที่โดยละเอียด จนต้องไปอาศัยข้อมูลของนักดำน้ำชาวอังกฤษที่เข้ามาสำรวจถ้ำก่อนหน้านี้,แม้กระทั่ง นายจอห์น โวลันเธน 1 ใน 2 นักดำน้ำชาวอังกฤษที่เป็นผู้พบ 13 หมูป่า เป็นคนแรกยังยืนยันว่าจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้ง เพื่อร่วมทำแผนที่สำรวจถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนเพิ่มเติม,เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นว่า แผนที่ถ้ำของประเทศไทยยังต้องมีการจัดทำรายละเอียดกันอีกมากและต้องการความเอาจริงเอาจังของส่วนราชการไทยด้วย,ขณะเดียวกัน ยังมีสิ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงความ ไม่พร้อม ของหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการป้องกันรักษาความปลอดภัย แบ่งเป็นกรณีของแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติที่แม้จะมีระเบียบ ข้อบังคับ และออกประกาศเปิด-ปิดช่วงเวลาเข้า-ออกในช่วงเดือนใดบ้าง หรือห้ามเข้าพื้นที่-เข้าถ้ำในห้วงเวลาใดบ้าง,อย่างแหล่งท่องเที่ยวบน อุทยานภูกระดึง หรือหมู่เกาะพีพีที่ประกาศปิดพื้นที่เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติในหน้ามรสุม แต่กรณีของวนอุทยาน ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ที่มีเจ้าหน้าที่อยู่เพียง 15 คน ที่ส่วนใหญ่มีหน้าที่ทำความสะอาด และให้บริการนักท่องเที่ยวเป็นหลักนั้น ทำให้เห็นถึงจุดเปราะบางที่ปราศจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย,แต่จากนี้ไป กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชที่ได้บทเรียนจากกรณี 13 หมูป่า คงจะถอดบทเรียน ถ้ำหลวง โมเดล เป็นต้นแบบการบริหารจัดการถ้ำทุกแห่งให้มีมาตรฐาน พร้อมวางมาตรการเฝ้าระวัง และแผนรับมือเมื่อต้องเผชิญเหตุการณ์ไม่คาดฝัน,และคงต้องรวมไปถึงการหาวิธีสื่อสารให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจวิธีการเที่ยวถ้ำ หรือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นวิธีปฏิบัติตัวก่อนเข้าพื้นที่ การส่งข้อมูลผ่านเอสเอ็มเอสเมื่อเข้าถึงพื้นที่ และการสร้างแอปพลิเคชันให้ข้อมูลในวงกว้าง,สร้างพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต,ทั้งนี้ ตลอดห้วงเวลาที่มีการตั้งศูนย์อำนวยการเพื่อร่วมปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือชีวิต 13 หมูป่า ใน ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ไม่เพียงสำนักข่าวในประเทศจะเกาะติดนำเสนอภารกิจในการค้นหาและช่วยเหลือ 13 หมูป่าอย่างใกล้ชิดในทุกซอกทุกมุม,ปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 หมูป่าครั้งนี้ยังได้รับความสนใจจากสำนักข่าวทั่วโลกที่ส่งทัพนักข่าวร่วม 500 ชีวิตมาประจำอยู่ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อรายงานปฏิบัติการอย่างใกล้ชิดอีกด้วย,ถือเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยครั้งใหญ่ ยิ่งช่วงที่แต่ละสำนักข่าวไปยืนรายงานข่าวกันกลางทุ่งข้าวโพดและไร่สับปะรด มีฉากเป็นเทือกเขานางนอน ที่ทอดยาวเหมือนหญิงสาวนอนอยู่อย่างชัดเจน ได้กระตุ้นให้คนจากทุกมุมโลกจำนวนไม่น้อยอยากมาเห็น ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ด้วยตาตัวเอง,มีข้อเสนอ คิดข้ามช็อต ของ ดร.วรภัทร โตธนะเกษม ที่โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว และนายกรัฐมนตรีได้แสดงความเห็นด้วยว่า จะทำอย่างไรเหตุการณ์ยิ่งใหญ่ระดับโลกที่ถ้ำหลวงแห่งนี้จะถูกบันทึกไว้ในความทรงจำของคนไทยและมวลมนุษยชาติ บังเกิดประโยชน์ต่อผู้คนในสังคมไปอีกนานแสนนาน ไม่ให้เหมือนเหตุการณ์สึนามิในปี 2547 ที่ จ.ภูเก็ตที่ ตามรอย ไม่ได้แล้ว,ดร.วรภัทร เขียนไว้ว่า วันนี้ถ้ำหลวง คือบทพิสูจน์ความยากลำบากในการช่วยชีวิต เป็นสถานการณ์ที่ท้าทายความสามารถ ไม่เฉพาะทีมงานไทยเท่านั้น ยังท้าทายผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกอีกด้วย แต่ทุกฝ่ายก็ช่วยกันระดมความรู้และประสบการณ์จากศาสตร์ทุกชนิดจนสำเร็จด้วยดี คนไทยทุกภาคส่วนและชาวต่างชาติหลากหลายสัญชาติที่ไม่เคยรู้จักกัน เข้าไปทำงานที่ยากเย็นร่วมกันได้สำเร็จ จึงสมควรบันทึกไว้เป็นความทรงจำ,เราอย่าปล่อยให้ภาพประวัติศาสตร์ครั้งนี้หายไปกับกาลเวลา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเริ่มแนวคิดและแผนรับรองว่าหลังจากนี้จะฟื้นฟูถ้ำหลวงอย่างไรให้คงสภาพเดิมอย่างดีที่สุด ซึ่งผมขอเสนอให้บันทึกความทรงจำไว้ โดยพิจารณาสร้างพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เมื่อเหตุการณ์สงบลงแล้ว อย่าให้เหลือแต่ถ้ำหลวง โปรดเก็บเครื่องสูบน้ำ ท่อระบายน้ำ และชุดมนุษย์กบบางส่วนไว้ที่นั่น เก็บกล่องอาหารที่ลอยเข้าไปให้เด็กๆในถ้ำ เก็บจดหมายที่เด็กๆเขียน อุปกรณ์ที่ใช้ขุดเจาะ ถังออกซิเจน ผ้าห่มที่นำไปให้เด็ก รถจักรยาน รองเท้า สิ่งของที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการครั้งนี้ ไว้ทั้งหมด ไม่เว้นแม้เครื่องครัวหรือกระทะมาแสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้,แม้นายกรัฐมนตรีจะรับแนวคิดนี้ไว้ทั้งหมด แต่สิ่งท้าทายต่อไปก็คือ การบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิด พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ขึ้นมาจริงๆ,เรือล่ม-นอมินี ยาแดงท่องเที่ยวไทย,แม้กรณี ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จะทำให้ประเทศไทย พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส สามารถจะต่อยอดความสำเร็จของปฏิบัติการช่วยชีวิต 13 หมูป่า มาเป็นเชิงบวกให้กับประเทศได้,แต่ โศกนาฏกรรม เรือยอชต์และเรือท่องเที่ยว 2 ลำที่เผชิญคลื่นซัดจนอับปางกลางอ่าวภูเก็ต ปลายสัปดาห์ก่อน ไม่เพียงความสูญเสียของนักท่องเที่ยวกว่าครึ่งร้อยที่ต้องสังเวยชีวิตไปในครั้งนี้ ยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างรุนแรงอีกด้วย,ด้วยสาเหตุที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น จากการตรวจสอบพบว่า เกิดจากความประมาทหรือจงใจของผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยว ที่ฝ่าฝืนคำเตือนด้านสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ห้ามนำเรือออกจากฝั่ง จนนำมาซึ่งโศกนาฏกรรมและความสูญเสียดังกล่าว,และเมื่อตรวจสอบลึกลงไป ยังพบด้วยว่า เจ้าของบริษัทเรือท่องเที่ยว ฟีนิกซ์ ไดฟวิ่ง ที่อัปปางลงคือ บริษัททีซีบลูดรีม จำกัด และเรือยอชต์เซเรนาต้าคือบริษัทเลซี่แคท ทราเวล ที่จดทะเบียนจัดตั้งในช่วงปี 2558-2559 นั้นแม้จะมีคนไทยถือหุ้นใหญ่แต่เนื้อแท้กลับเป็น นอมินี กลุ่มทัวร์ราคาถูกจากจีน เครือข่าย ทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่รัฐบาลไทยเพิ่งจะปราบปรามไปอย่างหนักในช่วง 2-3 ปีก่อนนั่นเอง,ก่อให้เกิดคำถามเหตุใด ธุรกิจทัวร์ศูนย์เหรียญที่รัฐบาล คสช. เคยล้างบางถึงขั้นหยิบยกให้เป็น วาระแห่งชาติ มีการดำเนินการปราบปรามเครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญแบบ ขุดรากถอนโคน กันมาแล้ว กลับยังคงรุกคืบเข้ามายึดหัวหาดตลาดท่องเที่ยวของไทยอยู่ได้อีก,ยิ่งไปกว่านั้นหลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรมเพียงวันเดียว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมป่าไม้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคในพื้นที่ ต่างกุลีกุจอดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับบริษัทเรือทั้งสองรายกันอย่างพร้อมเพรียงกรณีดำเนินการบุกรุกป่าสงวนก่อสร้างท่าเทียบเรือท่องเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งที่บริษัทก่อสร้างและเปิดให้บริการมาเป็นแรมปี,ชี้ให้เห็นถึงความหย่อนยาน ไร้ประสิทธิภาพในการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี เพราะพฤติการณ์ของกลุ่มทัวร์ศูนย์เหรียญและนอมินีในธุรกิจนี้ มันปิดบังกันไม่มิดอยู่แล้วหากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ ไม่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่,ถึงเวลา สังคายนา อย่างยั่งยืน,แม้ประเทศไทยจะมี ต้นทุน ทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวที่เหนือกว่าประเทศใดในภูมิภาคเดียวกัน แต่จากบทเรียนสองเหตุการณ์ด้านการท่องเที่ยวข้างต้นปฏิเสธไม่ได้ว่า ที่ผ่านมาเราให้น้ำหนักกับการท่องเที่ยว แต่เฉพาะในเรื่องการส่งเสริม หาตลาด เจาะตลาดท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อหวังดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวให้มากที่สุด,แต่ในส่วนของกลไกที่จะดูแลความมั่นคง ปลอดภัย และเอื้อต่อการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะสแกนลงไปด้านใดนั้น ยังคงเต็มไปด้วยช่องโหว่ปล่อยไปตามยถากรรมตามมีตามเกิด ยิ่งในส่วนของการท่องเที่ยวทางทะเลนั้น กรณีเรือล่มในลักษณะนี้หาใช่เพิ่งจะเกิดขึ้น แต่มีข่าวคราวให้เห็นมาโดยตลอด และทุกครั้งของการแก้ไขปัญหามักจะจบลงในลักษณะ ไฟไหม้ฟาง,เราได้แต่ฝากความหวังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงไม่แก้ไขปัญหาแบบ ลูบหน้าปะจมูก แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเฉกเช่นที่เคยกระทำกันมา และโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญที่ถือเป็น ยาแดง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย,ส่วนปรากฏการณ์ 13 หมูป่าครั้งนี้ที่น่าจะเป็น จุดขาย ที่จะช่วยต่อยอดช่วยการท่องเที่ยวของไทยให้ดีขึ้นได้ ก็ควรเร่งลงมือทำ หากปล่อยเวลาให้ผ่านไปจนล่วงเลย สุดท้ายอาจจะเสียโอกาสไปกลายเป็นปรากฏการณ์ โลกลืม เพราะทุกวันนี้ภายใต้โลกโซเชียล ทำให้คนลืมง่ายและมีเหตุการณ์ใหม่ๆเข้ามาให้ตื่นเต้นไม่เว้นแต่ละวัน,เราเคยสูญเสียโอกาสด้านการท่องเที่ยวจากหลายต่อหลายกรณีที่นักท่องเที่ยวปรารถนาจะตามรอยท่องแหล่งเที่ยวในไทยที่ถูกโปรโมตผ่านแผ่นฟิล์มระดับโลกอย่าง The Beach หรือ Lost in Thailand มาแล้วไปอย่างน่าเสียดาย จึงไม่ควรจะปล่อยให้ปรากฏการณ์ครั้งนี้หายไปกับกาลเวลาอีก,หากประเทศไทยต้องการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ที่มีรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านบาท มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาปีละไม่ต่ำกว่า 35 ล้านคนและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราคงมุ่งแต่โปรโมตด้านการตลาดอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องรับผิดชอบในชีวิตและทรัพย์สินของเขาให้ดีที่สุดด้วย,ทีมเศรษฐกิจ
ขณะที่ถนนทุกสายมุ่งสู่ ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อเกาะติดภารกิจช่วยเหลือ 13 นักเตะเยาวชนและโค้ชทีม หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย
ข่าว,เศรษฐกิจ
ถ้ำหลวง,ทีมหมูป่าอะคาเดมี,เรือล่ม,สกู๊ปเศรษฐกิจ,ทีมเศรษฐกิจ
https://www.thairath.co.th/news/business/1334726
[ 0, 259, 203061, 70851, 4188, 22065, 132513, 171414, 169394, 259, 92861, 56328, 35436, 28495, 184864, 56328, 35436, 1881, 259, 134330 ]
ไทเกอร์ วูดส์ เต็งหนึ่งแชมป์กอล์ฟ ยูเอส โอเพ่น
ศึกกอล์ฟเมเจอร์ ยูเอส โอเพ่น ในปีนี้แข่งขันกันที่สนามเลค คอร์ส ภายในโอลิมปิก คลับ ซาน ฟรานซิสโก ซึ่งเป็นครั้งที่ 5 ของสนามแห่งนี้ที่ได้จัดแข่งยูเอส โอเพ่น ล่าสุดนักกอล์ฟระดับโลกไม่ว่าจะเป็นไทเกอร์ วูดส์ มาร์ติน เคย์เมอร์ เคเจ ชอย และหลุยส์ อุซทุยเซ่น ได้ลงวงสวิงฝึกซ้อมท่ามกลางสภาพอากาศที่ปลอดโปร่งก่อนที่ยูเอส โอเพ่นจะเริ่มเปิดฉากขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ขณะเดียวกันวงการกอล์ฟที่ประเทศสหรัฐก็ยกให้ ไทเกอร์ วูดส์ เป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์ร่วมกับ รอรี่ย์ แม็คอิลรอย โปรชาวไอร์แลนด์เหนือซึ่งเป็นแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว โดยไทเกอร์ถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์จากผลงานคว้าแชมป์เดอะ เมโมเรี่ยล เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นแชมป์ที่ 2 ในปีนี้ของไทเกอร์ต่อจากแชมป์อาร์โนลด์ พาลเมอร์เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาสำหรับไทเกอร์คว้าแชมป์เมเจอร์มาแล้ว 14 รายการ และเมเจอร์รายการล่าสุดที่ทำได้คือการคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น สมัยที่ 3 มาครองในปี 2008 ส่วนการแข่งขันรอบแรกวันพฤหัสบดีนี้ ไทเกอร์ จะออกรอบพร้อมกับ ฟิล มิคเคลสัน แชมป์เมเจอร์ 4 สมัย รวมไปถึง บั๊บบ้า วัตสัน เจ้าของแชมป์เมเจอร์รายการ เดอะ มาสเตอร์ ในปีนี้ (2555)
ไทเกอร์ วูดส์ ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์กอล์ฟเมเจอร์รายการ ยูเอส โอเพ่น ที่จะเริ่มขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้
กีฬา
ยูเอส โอเพ่น,เมเจอร์,ไทเกอร์ วูดส์,ไอร์แลนด์
https://news.thaipbs.or.th/content/91004
[ 0, 259, 105808, 143461, 259, 9074, 200364, 29373, 259, 162017, 138467, 140942, 95271, 76484, 22254, 117548, 6200, 7910, 1, 0 ]
บิ๊กตู่ โอ่ครบ 1 ปี รัฐประหาร ฆ่าผู้ร้ายไปเยอะ (ชมคลิป)
ฟุ้งที่ผ่านมาแค่ หนังตัวอย่าง นายกฯลุยแจงงบปี 59 กว่า 2 ชม. เทียนฉาย ตั้งกก.ปฏิรูปตํารวจ,ประยุทธ์ ฟุ้ง คสช.ยึดอำนาจครบ 1 ปีนี่แค่หนังตัวอย่าง ยอมรับไม่คิดปัญหาจะเยอะขนาดนี้ ควานหาดารามาช่วยงาน ดันเจอแต่ดาวร้ายจำต้องฆ่าทิ้ง บิ๊กโด่ง ปลื้มงานทะลุเป้า ทำเนียบฯฮือฮานกเอี้ยงไล่จิกวรนุชหน้าตึกไทยคู่ฟ้า โหร คมช.ยังทำนายอยู่ยาว นิพิฏฐ์ เซอร์ไพรส์ทุบโรดแม็ปห่วงลากอำนาจ แต่ กปปส.บอกพอใจภาพรวม พท.ฟันธงเสียของ-ทุกอย่างล้มเหลว วิษณุ เมิน เทียนฉาย ชงแก้ ม.44 หั่นอำนาจ บิ๊กตู่ โต้ไม่ได้ใช้พร่ำเพรื่อ ยกวิญญูชนรู้แก้ รธน.ชั่วคราวเปิดทางประชามติ พรเพชร ขีดเส้น สนช.แก้มาตรา 46 จบก่อน สปช.โหวต ประธาน สปช.ตั้ง 17 อรหันต์คิกออฟปฏิรูปตำรวจ นายกฯนำทัพ ครม.แจงงบรายจ่ายฯ 59 สนช.ส่งโน้ตท้วงพูดเร็วฟังไม่ทัน,หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นัดแถลงผลการทำงานครบ 1 ปี ของ คสช. หลังการยึดอำนาจ ซึ่งฝ่ายการเมืองและกลุ่มการเมือง เริ่มออกมาแสดงความเห็นกันอย่างหลากหลาย,เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 21 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 44 ที่ให้อำนาจหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งการระงับยับยั้งทางการปกครองว่า แค่ไม่อยากให้หัวหน้า คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในทางพร่ำเพรื่อเท่านั้น คงไปตัดไม่ได้เพราะมีเอาไว้เพื่อแก้ปัญหาบางอย่าง ไม่ได้ใช้พร่ำเพรื่ออยู่แล้ว การประชุมร่วมระหว่าง ครม.และ คสช.เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ตนแจ้งที่ประชุมว่ามาตรา 44 มีทั้งพระเดชและพระคุณ ใช้ได้ทั้งทางนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ ในอดีตจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ใช้ในทางตุลาการ คือ ดำเนินการกับผู้วางเพลิงเผาตลาดพลู จับคอมมิวนิสต์ได้ยิงเป้า ถือว่าตั้งตนเป็นศาล แต่การใช้คำสั่งตามมาตรา 44 ทั้ง 17 ฉบับขณะนี้ ไม่ได้ใช้ทางตุลาการ แม้แต่ฉบับเดียว ใช้ในทางบวกของฝ่ายนิติบัญญัติและบริหาร,นายวิษณุกล่าวอีกว่า ส่วนปฏิกิริยาสังคมต่อการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เท่าที่รับฟังเหมือนมีคนไม่ค่อยแน่ใจว่าจะมีประชามติหรือไม่ ตนไม่อยากไปยืนยันฟันธง แต่ที่อุตส่าห์ลงทุนลงแรงจนแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวเปิดทางไปแล้ว วิญญูชนควรเข้าใจได้ว่าจะเดินไปในทิศทางนั้น แต่เราจะมาบอกว่าต้องทำแน่อย่างนั้นไม่ได้ ต้องเผื่ออะไรไว้หน่อย แต่ขอให้รู้ไว้เถอะว่าที่ลงทุนมาขนาดนี้เพื่อนำไปสู่ประชามติ อย่าระแวงอะไรเลย ถือเป็นการปลดล็อกความรู้สึกประชาชน ไม่มีเหตุอะไรหรอกที่จะมาขัดขวางเรื่องนี้ เว้นเสียแต่ว่า สปช.เกิดไปล้มร่างรัฐธรรมนูญก่อน ส่วนที่ห่วงว่าจะเป็นการซื้อเวลานั้น ได้พูดมาตลอดว่าเสียเงิน เสียเวลาแน่ แต่คิดว่าคุ้มก็ต้องเอา ถ้าจะฆ่าควาย อย่ามัวเสียดายพริก เสียเวลาต้องยอม สำหรับตนอยากให้ทำอยู่แล้ว,ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า เท่าที่ฟังความเห็นของที่ประชุมร่วม ครม.และ คสช. จะแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 46 เพียงจุดเดียว คือการทำประชามติเท่านั้น หลังจาก ครม.และ คสช.ยกร่างแก้ไขมาตรา 46 เสร็จแล้วส่งให้ สนช.พิจารณา สนช.ต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 15 วัน โดยเนื้อหาที่จะแก้ไขในมาตรา 46 ต้องมีคำตอบว่าจะมีวิธีการ หลักเกณฑ์การทำประชามติอย่างไร ถ้าประชามติไม่ผ่านจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ตามกำหนดเวลา สปช.ต้องให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ วันที่ 6 ส.ค. ดังนั้น สนช.จึงต้องเห็นชอบแก้ไขมาตรา 46 ให้เสร็จก่อนวันที่ 6 ส.ค. เพื่อให้มีกฎหมายรองรับก่อนที่ สปช.ลงมติ,นายพรเพชรกล่าวว่า การทำประชามติต้องสะท้อนความคิดเห็นประชาชนให้มากที่สุด เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น หากทำประชามติไม่ผ่าน ต้องคำนึงว่าจะทำอย่างไรให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นที่พอใจของประชาชนมากกว่าร่างเดิมที่ไม่ผ่านประชามติ คำถามการทำประชามติควรมีมากกว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ แต่จะถามอย่างไรนั้นไม่อยากให้ความเห็น จะกลายเป็นการชี้นำ รอให้มีตุ๊กตาออกมาก่อน เดี๋ยวจะถูกกล่าวหาว่าล้ำเส้น ส่วนการที่ไม่กำหนดเรื่องทำประชามติลงในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวนั้น เพราะรัฐธรรมนูญปี 50 ก็เคยทำประชามติมาแล้ว แต่อยู่ไม่นานใช้ได้ไม่กี่ปี อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับโรดแม็ป คสช.ที่อาจไปไกลกว่าโรดแม็ปที่วางไว้ จึงคิดว่าหากร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นที่พอใจของประชาชน ก็ไม่จำเป็นต้องทำประชามติ แต่เพื่อความไม่ประมาทจึงมีการเปิดช่องไว้ในมาตรา 46 ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวได้ ซึ่งไม่เคยมีในรัฐธรรมนูญชั่วคราวมาก่อน,ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. ลงนามในคำสั่ง สปช.ที่ 20/2558 เมื่อวันที่ 12 พ.ค. แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำแผนปฏิรูปกิจการตำรวจ รวม 17 คน ได้แก่ นายเทียนฉาย พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการ นายธีรยุทธ์ หล่อเลิศรัตน์ เป็นประธานกรรมการ ส่วนกรรมการประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ภ.1 อัยการสูงสุดหรือผู้แทน เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมหรือผู้แทน นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ พล.ต.อ.ชาญชิต เพียรเลิศ พล.ต.อ.ชัยยง กีรติขจร นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ นายพงศ์โพยม วาศภูติ นายเข็มชัย ชุติวงศ์ นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ นายไพโรจน์ พรหมสาส์น นายวันชัย สอนศิริ กรรมการและเลขานุการ,สำหรับอำนาจหน้าที่คณะกรรมการชุดดังกล่าว คือ ศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำแผนปฏิรูปกิจการตำรวจ รวมถึงการจัดองค์กร โครงสร้าง อำนาจหน้าที่ และภารกิจของกิจการตำรวจ กำหนดกลไกการตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจ การบริหารราชการ และการพัฒนาคุณภาพข้าราชการตำรวจ เพื่อให้กิจการตำรวจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและชอบด้วยหลักธรรมาภิบาล การดำเนินการให้ใช้พื้นฐานแนวคิดและผลการศึกษาจากรายงานการปฏิรูปกิจการตำรวจ ของคณะกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม รายงานของคณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจ และรายงานกับข้อมูลจากแหล่งอื่นมาเป็นฐานในการพิจารณา พร้อมกับจัดทำรายงานแผนปฏิรูปตำรวจฉบับสมบูรณ์ เสนอต่อประธาน สปช.,วันเดียวกัน นายสายัณห์ จันทร์วิภาสวงศ์ สปช. พร้อมตัวแทนหน่วยงานและสมาพันธ์ผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ เข้ายื่นหนังสือต่อนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ขอให้บรรจุสำนักงานโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ ลงในร่างรัฐธรรมนูญ โดยนายสายัณห์กล่าวว่า ตามเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญ กำหนดเรื่องโลจิสติกส์ไว้ 2 มาตรา คือ มาตรา 278 และมาตรา 293 (7) แต่จะถูกยกเลิกภายใน 5 ปีนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ หากเป็นเช่นนี้จะทำให้เรื่องโลจิสติกส์ขาดความต่อเนื่อง ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยไม่สามารถสู้ต่างประเทศได้ จึงเสนอให้บัญญัติไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ ให้มีการจัดตั้งสำนักงานโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ เพื่อเป็นการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศให้มีประสิทธิภาพ แข่งขันในระดับโลกได้,นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า วันที่ 24 พ.ค. กมธ.ยกร่างฯ นำโดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ จะเข้าให้ข้อมูลและรายละเอียดประเด็นร่างรัฐธรรมนูญต่อสมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ที่โรงแรมดุสิตธานี ซึ่งถือเป็นเวทีสำคัญให้ภาค เอกชน และส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจ กว่า 200 คน ที่มาร่วมงาน นำเสนอความเห็นต่อ กมธ.ยกร่างฯ โดยตรง ในประเด็นที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้ กมธ.ยกร่างฯ นำความเห็นและข้อมูลไปพิจารณาประกอบแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งสัปดาห์หน้าจะเข้าสู่การพิจารณาปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญแล้ว,ที่โรงแรมชลจันทร์ พัทยา รีสอร์ท จ.ชลบุรี นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า กกต.เตรียมความพร้อมเรื่องกฎหมายที่จะมารองรับการทำประชามติไว้แล้ว โดยเห็นว่าควรตั้งคำถามว่ารับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ จะง่ายกว่ามาถามหลายประเด็นพร้อมกัน และบรรยากาศขณะนี้เชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อการทำประชามติ เพราะประชาชนรับทราบรายละเอียดของการร่างรัฐธรรมนูญ คาดว่าจะใช้งบประมาณใกล้เคียงกับการเลือกตั้ง ส.ส. แต่ไม่อยากให้กังวลเรื่องความคุ้มค่า เพราะการให้ข้อมูลกับประชาชนสำคัญกว่า เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แตกต่างจากเดิมอย่างไร,นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเปิดช่องให้ทำประชามติของ คสช.และ ครม. ถือเป็นการลดกระแสกดดันของสังคม แต่เห็นว่าเมื่อจะแก้ไขแล้วควรแก้ในมาตราอื่นด้วย เช่น กรณีระบุว่าหาก สปช.มีมติไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ ให้ กมธ.ยกร่างฯและ สปช.ชุดปัจจุบันสิ้นสภาพ จากนั้นจึงตั้ง กมธ.ยกร่างฯ ชุดใหม่ขึ้นมาดำเนินการ ขอให้แก้ไขโดยอาจพิจารณาเลือกข้อดีของรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 หรือปี 50 และร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ทำกันอยู่ มาเป็นหลักในการจัดทำ หากร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ผ่านประชามติ ต้องมีทางเลือกที่ชัดเจนให้ประชาชน เช่น ตั้ง กมธ.ยกร่างฯใหม่ หรือเลือกใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 40 หรือปี 50 โดยต้องกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนเพื่อป้องกันข้อครหาเรื่องการยื้อเวลา ซึ่งจะทำให้เห็นอนาคตประเทศ แต่ถ้ามติร่วมของ คสช. และ ครม. หากวัตถุประสงค์เป็นไป เพื่อแค่ลดกระแสกดดัน ไม่ปรับแก้ส่วนอื่นด้วยอาจถูกมองว่าเป็นแค่เกมยื้อเวลา,ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่ประชุมร่วมระหว่าง คสช.และ ครม.มีมติให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 เพื่อเปิดทางให้ทำประชามติว่า ทุกคนเห็นสอดคล้องกันว่าควรจะทำประชามติ รัฐธรรมนูญเมื่อออกมาแล้วควรได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ยึดหลักการประชาธิปไตย ถ้ารวบรัดแล้วประชาชนไม่ยอมรับจะเกิดการเผชิญหน้ากันอีก ปัญหาเดิมจะกลับมา ฝ่ายการเมืองเขารอได้ เพียงขอให้เป็นที่ยอมรับ เป็นประชาธิปไตย เป็นของผู้คน เราไม่ได้มาคิดว่าจะเป็นการต่อเวลาให้คสช. เพราะอะไรที่ทำให้บ้านเมืองกลับสู่สภาวะปกติ แม้ต้องใช้เวลาทำให้ดีขึ้น ทุกคนเข้าใจ รอได้,เวลา 08.00 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นประธานเปิดงาน มิติใหม่การศึกษา เดินหน้าประเทศไทย โดยมี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ ให้การต้อนรับ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ประเทศไทยติดหล่มมานาน สิ่งที่จะแก้ไขได้คือการศึกษาแค่ปรับปรุงให้ดีขึ้น ทุกฝ่ายต้องช่วยรัฐบาลขับเคลื่อนจัดระบบใหม่ทั้งหมด ลดขั้นตอนการปฏิบัติ และจัดสรรงบประมาณให้ทั่วถึงอย่างเป็นธรรม กระทรวงศึกษาธิการต้องบูรณาการนำการเรียนรู้ทางเทคโนโลยีร่วมกับการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนครูให้เข้าถึงพื้นที่ห่างไกล และขอให้ใช้ช่องทางนี้ในการกวดวิชาด้วยเพื่อลดค่าใช้จ่ายของนักเรียน ส่วนการกระจายการศึกษาไปยังท้องถิ่นยังไม่ถึงเวลา เพราะบุคลากรยังไม่มีความพร้อม,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า การทำงานที่ผ่านมาอาจมีคนเกลียดบ้าง รักบ้าง แต่ต้องทำ ไม่ได้ภูมิใจที่เข้ามา เข้ามาในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่ต้องทำหน้าที่เพื่ออนาคต เรากำลังสร้างประวัติศาสตร์ประเทศใหม่ที่ดีกว่าเดิม ทุกอย่างอยู่ที่ทุกคน ตนทำคนเดียวไม่ได้ เพราะไม่ได้เก่งมาจากไหน และไม่คิดว่าปัญหาจะเยอะขนาดนี้ สิ่งสำคัญทุกคนต้องร่วมมือกัน อดทน อดกลั้น ทำมา 1 ปีแค่หนังตัวอย่าง เพราะกว่าจะแก้ไขได้ต้องไปหาดารามาเยอะแยะ ฆ่าผู้ร้ายไปเยอะ มีทั้งดาวดี แต่ดาวร้ายดันเยอะกว่า ต้องไปเสียเวลาคัดเลือก วันหน้าใครจะเข้ามาบริหารพรรคไหนก็แล้วแต่ รัฐธรรมนูญเขียนไว้แบบไหนก็แบบนั้น ถ้าคนไทยต้องการปฏิรูปก็อยู่ที่ทุกคน ถ้าว่ากันแต่เรื่องรัฐธรรมนูญมันไปไม่ได้ เขียนอย่างไรมา ต่างชาติก็ไม่รับเพราะมันผิดสังคมโลก,ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและ ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. กล่าวว่า รู้สึกพอใจการทำงานในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาของ คสช. ที่ทำให้สถานการณ์สงบเรียบร้อยขึ้น ยืนยันว่าจะพยายามทำงานให้ดียิ่งขึ้น โดยต้องอาศัยความร่วมมือกับประชาชน โดยศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) จะเชิญกลุ่มต่างๆ ทั้งนักการเมือง นักวิชาการ มาร่วมเสนอแนะข้อคิดเห็นครั้งที่ 2 ในเดือน มิ.ย.นี้ และมีแนวคิดจะเชิญกลุ่มต่างๆมาร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นในลักษณะนี้ทุก 1-2 เดือน,ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์เสร็จภารกิจการเป็นประธานเปิดงาน มิติใหม่การศึกษา เดินหน้าประเทศไทย ได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อรอเวลาไปแถลงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 ต่อที่ประชุม สนช. ปรากฏว่า ขณะที่นายกฯนั่งทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ได้เกิดเหตุการณ์ตัวเงินตัวทองขนาดความยาวประมาณ 1 เมตร เดินเข้าไปที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และระหว่างนั้นได้มีนกเอี้ยงบินลงมาไล่จิกตัวเงินตัวทอง แต่ตัวเงินตัวทองก็ไม่ได้แสดงอาการอะไร จากนั้นจึงค่อยๆคลานเข้าไปที่พุ่มไม้หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ท่ามกลางการจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ของบรรดาข้าราชการทำเนียบ และผู้สื่อข่าว ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น,ด้านนายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เจ้าของฉายาโหร คมช. กล่าวว่า เป็นธรรมชาติของสัตว์เป็นเรื่องปกติ ไม่น่าจะเป็นลางร้ายบอกเหตุอะไรทั้งสิ้น เมื่อถามว่าวันที่ 22 พ.ค. จะครบ 1 ปีที่ คสช.เข้ายึดอำนาจ สถานการณ์หลังจากนี้มีอะไรที่น่ากังวลหรือไม่ นายวารินทร์ตอบว่า ที่ผ่านมาเห็นแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์เร่งทำงานเต็มที่ เชื่อว่าหลังจากนี้ทุกอย่างน่าจะดี ทำงานสำเร็จ เพียงแต่ต้องขยายเวลาออกไปจากโรดแม็ปที่วางไว้ ตามที่ตนทำนายไว้ก่อนหน้านี้ เพราะการทำงานกับคนหมู่มาก ปัญหาหมักหมมมานานเป็นสิบๆปี ต้องใช้เวลา ถ้าปล่อยให้ปัญหาเรื้อรังต่อไป ความสงบจะไม่เกิด เราไม่ควรคำนึงถึงเวลา ควรนึกถึงผลงานที่จะออกมาดีกว่า,ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังครบ 1 ปีที่ คสช.ยึดอำนาจ ว่า หนึ่งปีที่ผ่านมาทั้งคสช.และรัฐบาล ให้นิยามคำว่า ปฏิรูปผิด โดยเข้าใจว่าการปฏิรูปคือการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และการแก้ไขกฎหมาย จึงเสียเวลาไปกับสองเรื่องนี้ โดยไม่ดูพื้นฐานปัญหา คือ ความแตกแยกขัดแย้งในสังคม ซึ่งวันนี้ยังอยู่ในที่ตั้งแต่พร้อมจะปะทุแสดงออกในตอนเลือกตั้ง เชื่อว่าถ้ายกเลิกมาตรา 44 ทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม ผลงานที่ชัดเจนสุดของรัฐบาล คือ สามารถควบคุมและยุติการใช้ความรุนแรงได้ ปัญหาอื่นนอกนั้นยังเหมือนเดิม ปัญหาเศรษฐกิจยังแย่กว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ส่วนการปราบคอร์รัปชันยังไม่ชัดเจน สำหรับการปฏิรูปประเทศจะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประชาชน แต่ผ่านมาหนึ่งปีพบว่าการสนับสนุนของประชาชนลดลง เสียงเรียกร้องให้คืนอำนาจมีมากขึ้นเรื่อยๆ,นายนิพิฏฐ์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่า ถ้ามีการทำประชามติ การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นราวเดือน ส.ค.-ก.ย.2559 ว่า เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย เพราะเดิมนายกฯประกาศโรดแม็ป หลายฝ่ายเห็นพ้องว่าน่าจะมีการเลือกตั้ง ก.พ.59 หรืออย่างช้าก็เดือน พ.ค. ถือว่าโรดแม็ปที่เป็นสัญญาประชาคมถูกยกเลิกไปแล้ว และมีแนวโน้มว่าจะอยู่ยาว ส่วนจะสืบทอดอำนาจหรือไม่ ไม่ทราบ เขาอาจคิดว่าหากยืดเวลาออกไปกำลังของฝ่ายต่อต้านจะลดน้อยลง อำนาจต่อรองของผู้มีอำนาจจะยิ่งสูงขึ้น,ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกกลุ่ม กปปส. กล่าวว่า ผลงานในรอบ 1 ปีของรัฐบาล ภาพรวมเห็น ว่ามีผลงานที่น่าพอใจในความรู้สึกของมวลมหาประชาชน โดยเฉพาะปัญหาด้านความมั่นคง ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย แต่ที่น่าเป็นห่วงคือปัญหาเศรษฐกิจซึ่งรับมรดกมาจากรัฐบาลก่อน แต่มีความตั้งใจจะแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งผลผลิตการเกษตรตกต่ำ แต่ได้ภาวะความเป็นผู้นำของนายกฯที่ชัดเจนมาเร่งแก้ไขปัญหาเหล่านี้ อยากให้รัฐบาลวางรากฐานปฏิรูปประเทศตามที่ประชาชนคาดหวัง แต่ปัญหาคือ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นหัวใจของการปฏิรูปที่ถูกท้วงติงจากหลายฝ่าย ส่วน สปช.มีหน้าที่ปฏิรูปในภาพรวม ควรมีผลงานที่ชัดเจนมีหลายเรื่องที่ต้องเร่งทำ เช่น การปฏิรูปตำรวจ การกระจายอำนาจ การปราบคอร์รัปชัน ปฏิรูปพลังงาน,เมื่อถามว่ามีข้อเสนอให้ปฏิรูปให้เสร็จก่อนค่อยเลือกตั้ง นายเอกนัฏตอบว่า เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์พยายามทำให้เสร็จตามโรดแม็ป ซึ่งกลุ่มกปปส.ไม่ขัดข้อง แต่ควรคำนึงถึงความคุ้มค่าที่ต้องเสียงบประมาณ 3,000 ล้านบาท ดังนั้น กมธ.ยกร่างฯ และ สปช.จึงควรทำร่างรัฐธรรมนูญให้ดีที่สุดก่อน ไม่ใช่พูดดักคอล่วงหน้า หรือเตรียมขั้นตอนเพื่อฟอกความชอบธรรมให้ร่างรัฐธรรมนูญนี้ ไม่ใช่โยนของเสียไปทำประชามติ นอกจากเสียงบฯแล้วยังสร้างความแตกแยกต่อสังคมมากขึ้นอีก เท่ากับโยนเผือกร้อนให้รัฐบาลและ คสช.อีก,ขณะที่นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า 1 ปีของการรัฐประหาร พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการใช้กำลังยึดอำนาจไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง แม้ คสช.ตั้งใจจะแก้ปัญหา แต่ดูเหมือนยิ่งสร้างปัญหาเพิ่มขึ้น เห็นได้จากการร่างรัฐธรรมนูญ แทนที่จะเขียนให้สอดคล้องกับสังคมไทยแต่ยิ่งทำให้เกิดปัญหา 1 ปีที่ผ่านมาจึงมองว่ายังไม่บรรลุเป้าหมาย ยังติดกับดักความขัดแย้งต่อไป แม้จะทำให้อีกฝ่ายเงียบไปได้แต่ลึกๆแล้วความไม่พอใจยังมีอยู่ ซึ่งจะพิสูจน์ได้ตอนมีเลือกตั้ง นอกจากนี้ ปัญหาทางเศรษฐกิจ การจัดทำงบประมาณปี 2559 เป็นแบบขาดดุล แสดงว่าการจัดเก็บรายได้ของรัฐไม่ได้ตามเป้า ต่อไปปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องจะเป็นปัญหาใหญ่ ตามมาด้วยปัญหาทางการเมือง เพราะยังมีการไล่ล่าอยู่ คณะกรรมการสมานฉันท์ปรองดองต้องเร่งทำ ไม่เช่นนั้นที่ยึดอำนาจมาเสียของ พล.อ.ประยุทธ์จะใช้อำนาจอย่างเดียวไม่ได้ ต้องหาคนมาประนีประนอมกับทุกฝ่ายด้วย,อีกด้านเวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 วงเงิน 2.72 ล้านล้านบาท ในวาระรับหลักการ (วาระแรก) โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. นำ ครม.ร่วมชี้แจงรายละเอียดร่างงบประมาณรายจ่ายฯ ต่อที่ประชุม สนช.ว่า อยากขอให้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์และอนาคตใหม่ให้ประเทศ โดยการจัดทำงบประมาณปี 59 ตั้งงบรายจ่ายไว้ที่ 2.72 ล้านล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่น และเพื่อชดใช้เงินคงคลัง โดยงบรายจ่ายปี 59 เพิ่มขึ้นจากปีงบรายจ่ายปี 58 จำนวน 145,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 59 มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 3.7-4.7 ใกล้เคียงการขยายตัวปี 58 มีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจโลก คาดว่าจะทำให้การส่งออกกลับมาขยายตัวมากขึ้น ขณะที่ราคาสินค้าส่งออก และราคาสินค้าเกษตรสำคัญมีแนวโน้มจะมีเสถียรภาพ รวมทั้งการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐมีแนวโน้มขยายตัวในเกณฑ์สูงต่อเนื่อง ตามกรอบการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น ส่วนการดำเนินโครงการลงทุนที่สำคัญของภาครัฐ มีความคืบหน้าและชัดเจนตามลำดับ อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของเศรษฐกิจปี 59 ยังมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญ คือ แนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยตลาดการเงินสหรัฐฯ และตลาดการเงินโลก การปรับตัวของผู้ผลิตน้ำมันสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศโอเปก อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ สำหรับเสถียรภาพปี 2559 คาดว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ในเกณฑ์ต่ำร้อยละ 1.1-2.1,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า งบประมาณรายจ่ายปี 59 มีการจัดสรรงบประมาณใช้จ่ายครอบคลุมทุกแหล่งเงิน ทั้งเงินงบประมาณและนอกงบประมาณ ส่งเสริมความร่วมมือการลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน เพิ่มสัดส่วนงบลงทุนเป็นร้อยละ 20 ของวงเงินงบประมาณ หรือ 543,635 ล้านบาท ถือว่าสูงกว่าทุกปีงบประมาณที่ผ่านมา ทั้งนี้มีการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการ 19 เรื่อง อาทิ เตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 6,013 ล้านบาท การพัฒนาระบบบริหารจัดการขนส่งสินค้า 11,543 ล้านบาท การบูรณาการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 6,405 ล้านบาท การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 30,550 ล้านบาท การจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ 1,168 ล้านบาท การสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ 467 ล้านบาท,นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ส่วนยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณมี 8 ยุทธศาสตร์ และรายการค่าดำเนินการภาครัฐ ได้แก่ 1.ยุทธศาสตร์เร่งรัดวางรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ 247,342 ล้านบาท 2.ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งรัฐ 240,418 ล้านบาท 3.ยุทธศาสตร์การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและเป็นธรรม 222,375 ล้านบาท 4.ยุทธศาสตร์การศึกษา สาธารณสุข คุณธรรม จริย– ธรรม และคุณภาพชีวิต 994,414 ล้านบาท 5.ยุทธศาสตร์การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 71,060 ล้านบาท 6.ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรม 27,335 ล้านบาท 7.ยุทธศาสตร์การต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ 9,099 ล้านบาท 8.ยุทธศาสตร์การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี 364,645 ล้านบาท และรายการค่าดำเนินการภาครัฐ 543,307 ล้านบาท เพื่อรองรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยมิได้คาดหมายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจาก สนช. ที่ผ่านมา 1 ปี เป็นแค่หนังตัวอย่าง เพราะเสียเวลากับการคัดตัวละคร ไม่ค่อยมีใครให้คัด ไม่ค่อยมีใครอยากมาเสี่ยงกับตน มีแต่มาสมัครเป็นผู้ร้าย เพราะได้ใกล้กับนางเอก ที่พูดวันนี้เป็นหนังตัวอย่างทั้งสิ้นตั้งแต่งบประมาณปี 57-59 ส่วนหนังจริงจะเริ่มหลังจากนี้ ซึ่งตนไม่อยู่แล้ว จะให้ใครไปสร้างก็แล้วแต่ แต่ถ้าจะให้มาเริ่มใหม่ไม่เอาแล้ว วันนี้อย่ามาสงสารผม เราถูกคาดหวังและถูกกดดัน ผมก็กดดัน ครอบครัวก็กดดัน แต่ขอให้เชื่อว่าผมไม่เอื้อผลประโยชน์ให้ใคร ขอให้ดูที่พฤติกรรม การโยกย้ายหมุนเวียนข้าราชการก็ทำตามปกติ ทหารก็ทำแบบนี้ แต่ถ้าให้คัดคนไม่ดีออกทั้งระบบ ทำไม่ได้ ข้าราชการมี 4 แสนคน ถ้าฟังสื่อ คงต้องปลด 2 แสนคน ถ้าจะปลดต้องหาความผิดมาให้ได้ก่อน ส่วนทหารมีบ้างที่เมา เกเร แต่ตบหัวไป 2-3 ทีก็รู้เรื่อง ขอให้เชื่อว่าทหารจริงใจ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ใช้เวลาชี้แจงร่าง พ.ร.บ.งบรายจ่ายปี 59 เป็นเวลานานถึง 2 ชั่วโมง 15 นาที โดยตลอดการชี้แจง พล.อ.ประยุทธ์อ่านเอกสารด้วยความรวดเร็ว ทำให้มีคนส่งกระดาษโน้ตถึง พล.อ.ประยุทธ์เตือนให้พูดช้าลง เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ได้อ่านโน้ตดังกล่าวจึงพูดขึ้นว่า มีคนส่งข่าวมาว่า ประชาชนขอให้พูดช้าๆหน่อย ฟังไม่รู้เรื่อง เขาแปลไม่ทัน ก็ต้องขอโทษด้วย เพราะไม่ค่อยได้ออกรายการสด แต่หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ยังคงชี้แจงด้วยสไตล์รวดเร็วเช่นเดิม จนบางจังหวะ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวติดตลกว่า ขอพักเหนื่อยนะ หายใจไม่ทัน และบางช่วงก็ขออนุญาตนั่งพักเพื่อขอดื่มน้ำก่อน,จากนั้นที่ประชุมเปิดโอกาสให้สมาชิก สนช.อภิปราย ซึ่งภาพรวมส่วนใหญ่กล่าวชื่นชม แสดงความเห็นสนับสนุน ทั้งเรื่องที่รัฐบาลเพิ่มงบการลงทุนร้อยละ 20 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่งขนาดใหญ่ ก็สามารถเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้ ส่วนหนี้สาธารณะที่ประเทศไทยมีอยู่ที่ร้อยละ 46 ไม่กังวลเพราะถือว่าต่ำกว่าเพดานที่กำหนดไว้ ขณะที่นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สนช. กล่าวว่า งบประมาณปี 59 ครอบคลุมทุกหน่วยงาน ยกเว้น 1 หน่วยงานอิสระ ที่ทำงบไม่ผ่านรัฐสภา คือคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.กสทช. มาตรา 57 แต่การใช้งบประมาณจำนวนมากหากไม่ผ่านการตรวจสอบ อาจมีปัญหาเรื่องความโปร่งใส จึงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 44 สั่งการให้ กสทช.จัดทำแผนงบประมาณเสนอต่อรัฐสภา หรือหากไม่ทันก็ให้เสนอต่อคณะรัฐมนตรี,ต่อมาเวลา 18.25 น. พล.อ.ประยุทธ์ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณสมาชิก สนช. ว่า ที่ของบฯกันมากถ้าปีนี้ไม่มีผลผลิตออกมาจะเล่นงานทั้งกระบวนเลย เพราะระบบการเก็บภาษีของเรายังเก็บไม่ได้ตามเป้า ซึ่ง รมว.คลัง อยากลาออกทุกวัน วันนี้ การทำงานอยู่ในโรดแม็ประยะที่ 2 ยังจำเป็นต้องใช้กำลังทหาร ถ้าให้ลดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ตอนนี้คงทำไม่ได้ ขณะที่เรื่องอาวุธยังจำเป็นต้องซื้อ แค่พี่ๆเข้าใจรัฐบาลผม ผมก็ภูมิใจแบบเงียบๆ มาตรงนี้ไม่สามารถแสดงความภูมิใจได้ เพราะมาแบบไม่ถูกต้อง วันนี้ปฏิรูปไปได้แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ อีก 90 เปอร์เซ็นต์ ให้เป็นหน้าที่รัฐบาลหน้า โดยเฉพาะการปฏิรูปโครงสร้างตำรวจ จะรื้อ จะปรับอย่างไร บอกรัฐบาลหน้าวันนี้พูดมาเยอะแล้ว รู้สึกเจ็บคอ อยากขอบคุณทุกคนมาก พล.อ.ประยุทธ์กล่าว,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงโดยพูดถึงการวางผังเมืองของ 77 จังหวัดพร้อมกับทำกฎหมายได้ 19 ฉบับ มากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมา ได้สอบถามสมาชิก สนช.อย่างอารมณ์ดีว่า เก่งมั้ยล่ะ ถ้าเก่งก็ปรบมือหน่อย ทำให้สมาชิกทั้งห้องประชุมปรบมือกันอย่างพร้อมเพรียง จากนั้นที่ประชุม สนช.มีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2559 วาระแรก ด้วยมติเอกฉันท์ 186 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 50 คน โดยก่อนปิดการประชุม นายพรเพชรกล่าวในนาม สนช. ขอให้สมาชิกปรบมือเพื่อเป็นเกียรติ และแสดงความขอบคุณนายกฯ ซึ่ง สนช.ต่างปรบมือให้นายกฯอย่างกึกก้อง,นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ แกนนำพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เสนองบประมาณปี 59 เพิ่มขึ้นจากงบประมาณปี 58 กว่าแสนล้านบาท มีคำถามว่าจะหารายได้มาจากไหน เพราะรัฐบาลจัดเก็บรายได้จากภาษีไม่เข้าเป้า ต้องให้นายกฯขายแฮมเบอร์เกอร์อีกกี่อัน ขอเสนอให้ปรับลดงบประมาณรายจ่ายลง โดยเฉพาะงบลงทุนที่ไม่เกิดประโยชน์ งบกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้าใช้หรือทำไม่เป็นก็เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เป็นช่องทางคอร์รัปชันของข้าราชการและผู้รับเหมา อยากให้รัฐบาลทำงบประมาณปี 59 ให้น้อยกว่าปี 58 หรือเท่ากับปี 58 ให้ภาครัฐประหยัดค่าใช้จ่ายโดยไม่จ้างข้าราชการเพิ่มและไม่ปรับขึ้นเงินเดือนแบบพร่ำเพรื่อ เพราะเราเคยเจอวิกฤติต้มยำกุ้งมาแล้ว รัฐบาลไม่ต้องอายที่จะใช้วิธีบริการงานแบบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เข้ามาฟื้นเศรษฐกิจ ถ้าต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณมาช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ขอให้บอกมา พร้อมที่จะช่วยประสาน เชื่อว่าท่านพร้อมจะช่วยให้ข้อเสนอแนะแนวทางที่ดี เพื่อช่วยคนไทยด้วยกัน,วันเดียวกัน ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปาฐกถาในงานการประชุมวิชาการและการประชุมใหญ่สันนิบาตเทศบาลภาคกลางครั้งที่ 2 ว่า แนวคิดเรื่องการกระจายอำนาจอยู่บนฐานความคิด 2 มิติ คือ มิติการบริหาร และมิติการเมือง ซึ่งมิติการบริหารหากคนในพื้นที่สามารถกำหนดอนาคตของตนเองได้จะสามารถแก้ปัญหาได้ตรงกับความต้องการ ส่วนมิติการเมืองคือการให้ประชาชนได้สัมผัสประชาธิปไตยอย่างเป็นรูปธรรม อยากฝากให้ท้องถิ่นช่วยติดตามร่างรัฐธรรม-นูญที่จะเกิดขึ้นและการออกกฎหมายลูก โดยเฉพาะหมวดการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นและหมวดปฏิรูป,ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลาก ยื่นหนังสือถึงนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช.ผ่าน พ.ต.อ.อิทธิพล กิจสุวรรณ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช.ขอให้ตรวจสอบความไม่โปร่งใสในสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ปล่อยให้ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคามายาวนาน เข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงกรณีจัดตั้งมูลนิธิสลากกินแบ่งรัฐบาลมารับโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยมีคนในสำนักงานสลากฯทั้งอดีตและปัจจุบัน เป็นกรรมการมูลนิธิ เข้าข่ายมีผลประโยชน์ทับซ้อน,ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ถนนวิทยุ นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ และนายวรรณเกียรติ ชูสุวรรณ แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ เข้ายื่นหนังสือถึงเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ผ่านนายไดอิ อะคิโมโต๊ะ เลขานุการเอกอัครราชทูตคนที่หนึ่งฝ่ายการเมือง เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นร่วมลงชื่อกับทางกลุ่มเพื่อเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคสช.ในความผิด ม.113 ข้อหาเป็นกบฏในราชอาณาจักร นายพันธ์ศักดิ์ เผยว่า วันที่ 22 พ.ค.ครบรอบ 1 ปีการรัฐประหาร ทางกลุ่มนัดหมายกันที่สถานีรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที ลาดพร้าว เพื่อเดินเท้าไปยื่นคำฟ้องต่อศาลอาญารัชดาฯให้ดำเนินคดีกับคณะ คสช.ตามความผิดใน ม.113 ข้อหาเป็นกบฏ ส่วนที่มาเชิญรัฐบาลญี่ปุ่นร่วมเป็นโจทก์เพราะมีพลเมืองญี่ปุ่นเสียชีวิตในเหตุการณ์ปี 53 ด้วย ทั้งนี้ หลังยื่นหนังสือนายพันธ์ศักดิ์ และนายวรรณเกียรติ ถูกตำรวจและทหาร ม.พัน. 1 เชิญตัวไปสอบปากคำที่ สน.ลุมพินี ก่อนลงบันทึกประจำวันแล้วปล่อยตัว,อีกเรื่อง นิด้าโพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน 1 ปี คสช. กับการคืนความสุขให้คนในชาติ จากประชาชนทั่วประเทศ 1,250 ตัวอย่าง พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 49.44 ระบุว่ามีความสุขเพิ่มขึ้น เพราะ คสช.พูดจริง ทำงานจริงจัง สถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองลดลง ร้อยละ 40.72 ระบุว่ายังใช้ ชีวิตตามปกติ และยังมีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ การจัดระเบียบสังคม ขณะที่ร้อยละ 9.68 ระบุว่ามีความสุขลดลง เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ค่าครองชีพสูง ถูกลิดรอนสิทธิและเสรีภาพ เมื่อเทียบกับผลสำรวจ 6 เดือน คสช. เมื่อสำรวจเมื่อเดือน พ.ย.2557 พบว่าไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไรนัก ที่ร้อยละ 49.28 ระบุว่ามีความสุขเพิ่มขึ้น,วันเดียวกัน สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเผยแพร่บทสัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลยังยึดมั่นนำประเทศคืนสู่ประชาธิปไตย แม้มีการเลื่อนกรอบเวลาเลือกตั้งใหม่หลายครั้ง ครั้งล่าสุดจากที่คาดว่าน่าจะจัดขึ้นช่วงต้นปี 2559 กลายเป็นว่าโดยเร็วที่สุดก็น่าจะจัดได้ในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.2559 เพราะต้องทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ รัฐบาลมีโรดแม็ปมุ่งสู่การเลือกตั้งอยู่แล้ว ขอยืนยันอีกครั้งว่าประเทศไทยต้องเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ แต่ต้องเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ตนไม่ได้พยายามยื้อ หรือดึงเวลา หรือก้าวก่ายกระบวนการเหล่านี้และไม่ได้อยากอยู่ในอำนาจด้วย
ประยุทธ์ ฟุ้ง คสช.ยึดอำนาจครบ 1 ปีนี่แค่หนังตัวอย่าง ยอมรับไม่คิดปัญหาจะเยอะขนาดนี้ ควานหาดารามาช่วยงาน ดันเจอแต่ดาวร้ายจำต้องฆ่าทิ้ง บิ๊กโด่ง ปลื้มงานทะลุเป้า
ผบ.ทบ.,คสช.,บ้านเมืองสงบ,อุดมเดช สีตบุตร,รมช.กลาโหม,ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป,ศปป.,อุดมเดช,เทียนฉาย กีระนันทน์,ปฏิรูปกิจการตำรวจ,คณะกรรมการจัดทำแผนปฏิรูปกิจการตำรวจ,สปช.,แต่งตั้งคณะกรรมการ,ทีมข่าวหน้า1,ข่าว,ข่าวฉบับพิมพ์,ไทยรัฐออนไลน์,เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ,ข่าวการเมือง,พอใจผลงาน 1 ปี,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,บิ๊กตู่,สนช.,ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2559,เน้นกระตุ้นเศรษฐกิจ,ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง,งบลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน,มั่นคงทุกมิติ,ประเทศมั่นคง,ข่าวเศรษฐกิจ
https://www.thairath.co.th/content/500384
[ 0, 259, 137738, 156417, 184691, 30713, 138658, 259, 126493, 6582, 259, 4215, 4552, 12682, 260, 259, 139891, 147287, 113122, 333 ]
หยุดยิงสั่นคลอน ทัพรบ.กบฏยูเครนลั่นไม่ยอมถอนอาวุธหนัก
รถถังของกองทัพรัฐบาลยูเครน ที่เมืองดีบัลเซเว (ภาพ: REUTERS),กองทัพรัฐบาลยูเครนและนักรบกบฏแบ่งแยกดินแดนประกาศไม่ยอมถอนอาวุธหนักจนกว่าอีกฝ่ายจะยอมถอน ทำให้ข้อตกลงหยุดยิงที่บรรลุที่กรุงมินสก์ไม่มีความคืบหน้า,สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า การต่อสู้ในภาคตะวันออกของประเทศยูเครนยังคงดำเนินต่อไปแม้คำสั่งหยุดยิงตามข้อตกลงที่กรุงมินสก์จะมีผลบังคับใช้มานานกว่า 1 วันแล้วก็ตาม โดยกองทัพยูเครนระบุว่า กองกำลังฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักฝ่ายรัสเซีย โจมตีพวกเขาถึง 112 ครั้ง นับตั้งแต่ช่วงเช้าวันอาทิตย์ (15 ก.พ.) ส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองดีบัลเซเว ซึ่งมีการปะทะรุนแรงที่สุดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีทหารเสียชีวิต 5 นายในการต่อสู้ใกล้เมืองมาริอูปัลทางใต้ของประเทศ,ทั้งนี้ ข้อตกลงที่กรุงมินสก์ซึ่งผู้นำ 4 ฝ่ายได้แก่ เยอรมนี, ฝรั่งเศส, รัสเซีย และยูเครน บรรลุร่วมกันเมื่อสัปดาห์ก่อน ระบุว่า การหยุดยิงในวันที่ 15 ก.พ. เป็นเพียงก้าวแรก ซึ่งจะตามด้วยการถอนอาวุธหนักของทั้งฝ่ายกบฏและรัฐบาลตั้งแต่วันจันทร์ และเสร็จสิ้นกระบวนการภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อสร้างเขตกันชนกว้าง 50-140 กม.,แต่นายวลาดิเมียร์ โคโนนอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดน ประกาศในวันจันทร์ว่า พวกเขาจะถอนอาวุธออกจากพื้นที่ปะทะ ตามข้อตกลงที่กรุงมินสก์ หากพวกเขาได้รับสัญญาณที่ชัดเจนว่า ฝ่ายรัฐบาลจะเริ่มทำอย่างเดียวกัน ขณะที่โฆษกกองทัพรัฐบาลก็อ้างว่า พวกเขาจะไม่ดำเนินการถอนอาวุธหนัก เพราะฝ่ายกบฏกำลังละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอยู่,เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์จากองค์การสนับสนุนความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (ไอเอสซีอี) ระบุว่า พวกเขาพยายามเดินทางไปยังเมืองดีบัลเซวาซึ่งกำลังถูกฝ่ายกบฏปิดล้อมอยู่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ถูกนักรบฝ่ายกบฏปฏิเสธไม่ให้เข้าไป โดยฝ่ายกบฏอ้างว่า เมืองดีบัลเซเวถูกพวกเขาปิดล้อมแล้ว ดังนั้นจึงควรถือว่าเมืองแห่งนี้เป็นของพวกเขา,นายกรัฐมนตรีอันเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี และประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ โอลลองด์ แห่งฝรั่งเศส ออกมาเรียกร้องให้ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายกบฏในยูเครนอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของโอเอสซีอี สามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ในภาคตะวันออก ทั้งยังแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงด้วย,อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่อื่นๆ นอกจากที่เมืองดีบัลเซเวและเมืองมาริอูปัล เสียงของการต่อสู้เริ่มสงบลงหรือเงียบสนิทไปแล้ว
กองทัพรัฐบาลยูเครนและนักรบกบฏแบ่งแยกดินแดนประกาศไม่ยอมถอนอาวุธหนักจนกว่าอีกฝ่ายจะยอมถอน ทำให้ข้อตกลงหยุดยิงที่บรรลุที่กรุงมินสก์ไม่มีความคืบหน้า
กองทัพรัฐบาล,ยูเครน,กบฏ,กบฏแบ่งแยกดินแดน,อาวุธหนัก,ข้อตกลงหยุดยิง,กรุงมินสก์,เมืองดีบัลเซเว,เมืองมาริอูปัล,ประชุม 4 ฝ่าย,เยอรมนี,ฝรั่งเศส,รัสเซีย,เขตกันชน,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/481694
[ 0, 259, 97003, 67550, 160617, 4388, 6494, 31253, 218592, 88618, 236174, 66806, 217263, 142995, 6494, 147426, 12002, 11858, 85645, 1 ]
กานดา นาคน้อย: ลิเกสยาม
อากงSMSคือตัวอย่างล่าสุดของสองมาตรฐานในระบบยุติธรรมไทย ในขณะที่นายสนธิ ลิ้มทองกุลได้ประกันตัวในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่อากงไม่ได้ประกันตัวในคดีเดียวกันจนเสียชีวิตในคุก เมื่อเทียบกับผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมที่ร่ำรวยอย่างกำนันเป๊าะซึ่งหลบหนีหลังได้รับประกันตัว ก็ยิ่งชัดเจนว่าคุกไทยมีไว้ขังคนจนความล้าหลังของระบบยุติธรรมไทยโด่งดังในต่างประเทศทั้งจากการรายงานข่าวของสำนักข่าวต่างชาติและจากภาพยนตร์ฮอลลีวูดมานานแล้ว อาทิ ข่าวคดีเพชรซาอุ ข่าวอาชญากรข้ามชาติอาศัยอยู่ในประเทศไทย ข่าวคดีนายราเกซ สักเสนา ภาพยนตร์ที่นำเสนอว่าผู้ต้องหาโดนหลอกให้รับสารภาพผิด[1] กรณีอากงเสียชีวิตในคุกด้วยคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพก็เป็นที่สนใจของหนังสือพิมพ์ต่างชาติแม้กระทั่งหนังสือพิมพ์ธุรกิจอย่างไฟแนนเชียลไทม์ โดยรวมแล้วระบบยุติธรรมไทยวิวัฒนาการช้ากว่าบริการรถไฟของรฟท.หลายร้อยปี แม้ว่ารถไฟของรฟท.หวานเย็นเชื่องช้าแต่รถไฟชั้น 1 และชั้น 3 ก็ถึงปลายทางพร้อมกัน ส่วนระบบยุติธรรมไทยยังล้าหลังเท่ายุคกาลิเลโอเมื่อ 380 ปีที่แล้ว ในขณะที่องค์กรสิทธิมนุษยชนต่างชาติแถลงการณ์เรียกร้องความยุติธรรมให้อากง แต่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติไทยนอนหลับทับสิทธิอยู่ที่ไหนไม่ปรากฎโครงสร้างคณะกรรมการสิทธิฯเองก็มีปัญหา คณะกรรมการสรรหากรรมการสิทธิฯมีจำนวน 7 คน ประกอบด้วยประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร บุคคลซึ่งที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาคัดเลือกจำนวน 1 คน และบุคคลซึ่งที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดคัดเลือกจำนวน 1 คน ทำหน้าที่สรรหาและคัดเลือกคณะกรรมการสิทธิฯจำนวน 7 คน ด้วยมติที่มีการลงคะแนนโดยเปิดเผยและมีคะแนนไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ แล้วเสนอรายชื่อผู้ได้รับเลือกพร้อมความยินยอมของผู้นั้น ต่อประธานวุฒิสภาเพื่อให้วุฒิสภามีมติให้ความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงข้างมากโดยวิธีลงคะแนนลับ [2]กระบวนการสรรหาดังกล่าวแสดงว่าคณะกรรมการสิทธิฯอยู่ภายใต้อำนาจศาล ทั้งๆที่ตามหลักการประชาธิปไตยแล้วคณะกรรมการสิทธิฯต้องคานอำนาจศาลเพื่อสร้างความก้าวหน้าให้ระบบยุติธรรม ด้วยเหตุนี้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิฯจึงเหมือนหน่วยราชการที่ซ้ำซ้อนกับศาล สถานะองค์กรอิสระของสำนักงานดังกล่าวเป็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอกหรือเรียกได้ว่าเป็นองค์กรอิสระแบบไทยๆ โครงสร้างคณะกรรมการสิทธิฯคล้ายคลึงกับคณะลิเกที่มีพล็อตสะท้อนสังคมเจ้าขุนมูลนายในอดีต คณะกรรมการสิทธิฯเปรียบได้ดั่งฉากหนึ่งในลิเกสยามองค์ประกอบสำคัญของลิเกสยามคือการอ้างอิงจริยธรรม รัฐบาลสุรยุทธ์ปรับโครงสร้างคณะกรรมการสิทธิฯและบัญญัติประมวลจริยธรรมกรรมการสิทธิฯและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิฯเพื่อให้ดูเหมือนว่าคณะกรรมการสิทธิฯมีประมวลจริยธรรมทัดเทียมกับองค์กรอิสระในประเทศที่พัฒนาแล้ว[3] แต่สาระสำคัญทีสุดของประมวลจริยธรรมคือความศักดิ์สิทธิ์ของประมวลจริยธรรม ความศักดิ์สิทธิ์ของประมวลจริยธรรมเหมือนความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายตรงที่ว่ามาจากการบังคับใช้ การอ้างอิงจริยธรรมโดยไม่บังคับใช้ไม่สามารถทำให้ประมวลจริยธรรมศักดิ์สิทธิ์ ความเงียบของคณะกรรมการสิทธิฯต่อความเลือดเย็นในคดีอากงและคดีอื่นๆอีกมากมายทำให้ประมวลจริยธรรมเป็นเพียงสคริปต์ลิเกสยามส่วนบทความอากงปลงไม่ตกของโฆษกศาลยุติธรรมอ้างอิงจริยธรรมอย่างลึกซึ้งกว่าประมวลจริยธรรมของคณะกรรมการสิทธิฯ[4] ถ้ากระบวนการยุติธรรมใช้การปลงเป็นบรรทัดฐานแทนการพิสูจน์หลักฐาน ก็จะแปลว่าผู้พิพากษาคือนักบวชในชุดครุย และจะแปลว่าระบบยุติธรรมไทยในปัจจุบันคล้ายคลึงกับระบบยุติธรรมของคริสตจักรเมื่อ 380 ปีที่แล้วที่ปฏิเสธการพิสูจน์หลักฐานและพิพากษาให้กาลิเลโอโดนกักบริเวณจนตายในความเป็นจริงไทยไม่ใช่รัฐศาสนา แม้ไทยมีการถ่ายทอดพิธีกรรมทางศาสนา(เช่น พิธีกรรมวันพืชมงคล พีธีกรรมวันมาฆบูชา)ด้วยโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจเหมือนซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นรัฐศาสนาที่ปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช แต่รัฐธรรมนูญไทยไม่กำหนดให้ศาสนาใดเป็นศาสนาประจำชาติและพลเมืองไทยนับถือหลายศาสนา ดังนั้นการอ้างอิงหลักปฎิบัติของศาสนาใดศาสนาหนึ่งให้เป็นบรรทัดฐานของระบบยุติธรรมราวกับว่าไทยเป็นรัฐศาสนาแบบซาอุดิอาระเบียจึงเป็นเรื่องที่ขัดกับสถานะของประเทศในปัจจุบันข่าวอากงเสียชีวิตในคุกทำให้เกิดเสียงเรียกร้องให้ปฏิรูประบบยุติธรรม กล่าวคือ การปฎิรูปม.112 การปฎิรูปด้านสิทธิผู้ต้องหาและนักโทษซึ่งครอบคลุมถึงสิทธิในการรับบริการสาธารณสุข ดิฉันเห็นด้วยกับข้อเสนอทั้งหมด ขอเสนอเพิ่มเติมว่าน่าจะลดอำนาจศาลในการสรรหาคณะกรรมการสิทธิฯ และน่าจะช่วยกันตามหาคณะกรรมการสิทธิฯ ไม่รู้ว่าป่านนี้คณะกรรมการสิทธิฯดำดินหายสาบสูญไปจากศตวรรษที่ 21 แล้วหรือยัง?ดิฉันหวังว่าสายลมปฎิรูปจะไม่แผ่วเบาจนไปไม่พ้นลิเกสยาม[1] Brokedown Palace: [2] ความเป็นมาของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ชุดปัจจุบัน) [3] ประมวลจริยธรรมกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
อากงSMSคือตัวอย่างล่าสุดของสองมาตรฐานในระบบยุติธรรมไทย ในขณะที่นายสนธิ ลิ้มทองกุลได้ประกันตัวในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่อากงไม่ได้ประกันตัวในคดีเดียวกันจนเสียชีวิตในคุก
การเมือง,สิทธิมนุษยชน,ความมั่นคง
กานดา นาคน้อย,ปรองดอง,มาตรา 112,ลิเกสยาม,อากง
https://prachatai.com/journal/2012/05/40466
[ 0, 259, 116131, 111173, 26036, 5490, 617, 34545, 259, 148082, 137738, 106726, 141204, 217829, 259, 137738, 106726, 156380, 187323, 74484 ]
2 ทศวรรษ มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ
การประชันครั้งแรก ของสองตำนานดนตรีคลาสสิกโลก,ความสุนทรีย์จากการแสดงชั้นยอดกำลังจะกลับมาสร้างความสุขให้ผู้ชมชาวไทยอีกครั้ง ในงาน มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 20 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 ก.ย.นี้ ถึง 18 ต.ค.2561 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย,เพื่อให้ยิ่งใหญ่สมกับเป็นโอกาสครบรอบ 20 ปี มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ งานนี้ได้มีการเชื้อเชิญสองตำนานดนตรีคลาสสิกชื่อก้องโลก คือ คณะอุปรากรแห่งซาน คาร์โล และ วาทยกรมือทอง มาสโตร สุบิน เมห์ทา มาประชันกันบนเวทีเป็นครั้งแรกในทวีปเอเชีย โดยการมาเยือนของคณะอุปรากรชั้นนำเก่าแก่ที่สุดของโลก ซึ่งมีนักแสดงมากกว่า 250 ชีวิต ยังเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมฉลองวาระครบ 150 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศอิตาลีและประเทศไทยด้วย,เปิดฉากมหกรรมอย่างกระหึ่ม ในวันที่ 12 และ 14 ก.ย.2561 ด้วยการแสดงอุปรากรเต็มรูปแบบ ชุด คาร์เมน เป็นโอเปร่าสามองก์ ที่สร้างชื่อให้ คณะอุปรากรซานคาร์โล มาหลายทศวรรษ ยิ่งเพิ่มอรรถรสเต็มอิ่ม เมื่อวาทยกรชื่อก้องโลก มาสโตร สุบิน เมห์ทา รับอาสาควบคุมและกำกับดนตรีประกอบ ภายใต้การบรรเลงของวงดุริยางค์ซิมโฟนี ซาน คาร์โล ออร์เคสตรา ส่วนวันที่ 13 และ 15 ก.ย.2561 ยกเวทีให้วงซาน คาร์โล ซิมโฟนี ออร์เคสตรา เปิดการแสดงซิมโฟนีคอนเสิร์ตแบบเต็มตาเต็มอารมณ์ โดยมี มาสโตร สุบิน เมห์ทา นำทัพสร้างความสุนทรีย์,สำหรับคณะอุปรากรซาน คาร์โล มีต้นกำเนิดจากเมืองเนเปิลส์ ศูนย์กลางอุปรากรและวัฒนธรรมอันเลื่องชื่อที่สุดของอิตาลี โดยได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในคณะแสดงฝีมือดีเก่าแก่ที่สุดของโลก เริ่มก่อตั้งในปี 1737 ก่อนหน้าโรงอุปรากร La Scala แห่งเมืองมิลาน และ La Fenice แห่งเมืองเวนิส ด้วยการสนับสนุนของพระเจ้าชาร์ลส์ที่สามแห่งเนเปิลส์ โรงอุปรากรแห่งนี้มิเพียงจะมีความสำคัญต่อการพัฒนาอุปรากรและดนตรีคลาสสิกของอิตาลี,แต่ยังมีบทบาทอย่างยิ่งต่อทวีปยุโรป โดยเป็นจุดกำเนิดของอุปรากรสมัยใหม่ ซึ่งมีรากฐานมาจาก Neapolitan Tradition ต้นกำเนิดประวัติศาสตร์ดนตรีตะวันตกอันเกี่ยวเนื่องกับอุปรากรในศตวรรษที่ 18 มีศูนย์กลางอยู่ในเมืองเนเปิลส์,คีตกวีชั้นแนวหน้าของโลก ไล่ตั้งแต่ Johann Adolph Hasse, Joseph Haydn, Johann Christian Bach, Christoph Willibald Gluck, Vincenzo Bellini, Saverio Mercadante, ไปจนถึง Gaetano Donizetti (ผู้ประพันธ์อุปรากรไว้มากถึง 16 ชุด สำหรับจัดแสดงในโรงอุปรากรแห่งซาน คาร์โล) ต่างก็มุ่งมั่นสร้างสรรค์การแสดงชั้นยอดที่สุดเพื่อซาน คาร์โล โดยศิลปินยุคนั้นเชื่อกันว่า หากนักแสดงรายใดได้ผ่านเวทียิ่งใหญ่ของซาน คาร์โล ก็รับรองได้ว่าเป็นหนึ่งในตองอู ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพคับแก้ว และการันตีถึงความสำเร็จในอนาคต ทั้งนี้ ในยุคปัจจุบันคณะอุปรากรแห่งซาน คาร์โล ยังเป็นทูตทางวัฒนธรรม ทำหน้าที่ส่งผ่านศิลปะการแสดงดั้งเดิมอันหาชมได้ยากยิ่งของอิตาลีไปสู่สายตาชาวโลก,แฟนพันธุ์แท้มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ จองบัตรได้แล้วล่วงหน้าที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา หรือคลิกดูรายละเอียดที่ ,www.bangkokfestivals.com
ความสุนทรีย์จากการแสดงชั้นยอดกำลังจะกลับมาสร้างความสุขให้ผู้ชมชาวไทยอีกครั้ง ในงาน มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 20 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 ก.ย.นี้ ถึง 18 ต.ค.2561
ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์
มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 20,ดนตรีคลาสสิก,คณะอุปรากรแห่งซาน คาร์โล,โอเปร่าสามองก์,คีตกวี
https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1328815
[ 0, 259, 77772, 193009, 30007, 58384, 162021, 259, 163750, 64402, 259, 38058, 152499, 4728, 44158, 48963, 3945, 149776, 92401, 94314 ]
บิ๊กแป๊ะ ลั่น ร.ต.ท.เมาหื่น ขอจับของสงวน นร.หญิง ผิดเจอ วินัย-อาญา
บิ๊กแป๊ะ หวดเอง วินัย-อาญา ร.ต.ท.เมาหื่น โอบเอว ขอจับอวัยวะเพศ นร.หญิงพี่น้องที่ขึ้นโรงพักเพื่อจะมาจ่ายค่าปรับ กลับเจอพฤติกรรมเถื่อน ลั่น ประพฤติตัวไม่เหมาะสมต้องถูกทำโทษเด็ดขาด แต่หากตำรวจทำดีต้องส่งเสริม ยันให้รอผลการตรวจสอบเมื่อวันที่ 12 พ.ค.63 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ขณะนี้ พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 มีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้รายงานผลให้ทราบภายใน 7 วัน กรณี ร.ต.ท.อุทิศ อ่อนประสงค์ รอง สวป.สภ.สหัสขันธ์ พาผู้เสียหายหญิงขึ้นไปชั้น 2 ของโรงพัก และขอจับอวัยวะเพศ ซึ่งกรณีดังกล่าวสร้างความเสียหายและภาพลักษณ์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นอย่างมากพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับตำรวจทุกนายว่า ทำดีก็ต้องส่งเสริม แต่หากประพฤติตัวไม่เหมาะสมก็ต้องถูกทำโทษทั้งทางวินัยและอาญาเด็ดขาด พร้อมระบุ เรื่องดังกล่าวทราบว่าต้นสังกัดได้สั่งการให้ ร.ต.ท.อุทิศ มาช่วยราชการที่ บก.ภ.จว.กาฬสินธิ์ รองโฆษก ตร. เผยคำพูด ผบ.ตร. รองโฆษ ตร. กล่าวว่า ในส่วนของพฤติกรรมในการก่อเหตุยังไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัดว่า ร.ต.ท.คนดังกล่าว อยู่ในอาการมึนเมา แต่งเครื่องแบบครึ่งท่อนจริงหรือไม่ ต้องรอผลการตรวจสอบทั้งหมด.
บิ๊กแป๊ะ หวดเอง วินัย-อาญา ร.ต.ท.เมาหื่น โอบเอว ขอจับอวัยวะเพศ นร.หญิงพี่น้องที่ขึ้นโรงพักเพื่อจะมาจ่ายค่าปรับ กลับเจอพฤติกรรมเถื่อน ลั่นประพฤติตัวไม่เหมาะสมต้องถูกทำโทษเด็ดขาด แต่หากตำรวจ
ข่าว,ทั่วไทย
ตำรวจเมาหื่น,ตำรวจขอจับจิ๋ม,ลาก2นร.หญิง,สภ.สหัสขันธ์,เสียค่าปรับ,บิ๊กแป๊ะ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1842211
[ 0, 259, 169184, 70851, 215441, 65279, 260, 6196, 260, 7960, 260, 69674, 181308, 259, 86223, 186886, 259, 4728, 31850, 119103 ]
ศาลโลกตัดสินไทย-กัมพูชาถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาทเขาพระวิหาร
ศาลโลกตัดสินเมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ ให้ไทยและกัมพูชาถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาท และกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปลอดทหาร พร้อมให้ไทยหยุดการขัดขวางเขมรบริเวณทางเข้า-ออกประสาทพระวิหาร18 ก.ค. 2554 – เมื่อเวลา 15.00 น. ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice –ICJ) หรือศาลโลก ได้ตัดสินให้รัฐบาลไทยและกัมพูชาถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาท โดยมีมติ 11 ต่อ 5 โดยกำหนดให้เขตดังกล่าวเป็นเขตปลอดทหาร และให้ประเทศไทยยุติการขัดขวางทางเข้า-ออกปราสาทพระวิหาร รวมถึงสั่งให้ 2 ฝ่ายละเว้นการปฎิบัติการใดๆ ที่จะทำให้เกิดการปฎิบัติการทางทหาร โดยให้เหตุผลว่า ศาลไม่เห็นด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์กับไทย ที่ร้องให้ศาลจำหน่ายคดี ที่กัมพูชาร้องให้พิจารณคาคำตัดสินเดิมปี 2505 ทิ้งไป และเห็นว่ากัมพูชามีสิทธิในการยื่นฟ้องต่อศาลโลก และให้ถอนทหารออกจากพื้นที่ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นรายงานว่า ทางฝั่งกัมพูชาได้เตรียมเครื่องจรวดหลายลำกล้องรุ่น BM-21 จำนวน 5 เครื่องมาประจำใกล้บริเวณใกล้ปราสาทพระวิหารตรงข้ามจังหวัดศรีษะเกษ ซึ่งอยู่ในวิถีปืนใหญ่ของฝั่งไทย ในขณะที่ทางโฆษกกองทัพภาคที่สอง พ.อ. ประวิทย์ หูแก้ว ประจำพื้นที่ ยืนยันว่ายังมีการเตรียมพร้อมของพลทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ไว้อย่างเต็มที่เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังชี้ว่า หากศาลโลกมีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราวปราสาทพระวิหารตามที่กัมพูชาได้ร้องขอไป ทางกองทัพภาคที่สองก็จะยังคงรักษาอธิปไตยในพื้นที่ตามคำสั่งของผู้บัญชาการกองทัพบก พ.อ. ประยุทธ จันทร์โอชา และแม่ทัพภาคที่สองพล.ท. ธวัชชัย สมุทรสาคร ที่ได้สั่งการลงมาให้ดูแลพื้นที่ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เนื่องจากเป็นพื้นที่อ้างสิทธิที่ทางกองทัพภาคที่สองได้เข้าไปดูแลมาเป็นระยะเวลานานแล้วทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2554 ทางรัฐบาลกัมพูชาได้ยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศให้พิจารณาตรวจสอบคำพิพากษาที่ศาลโลกตัดสินเมื่อปี 2505 ว่าด้วยปัญหาพื้นที่พิพาท และการบริหารจัดการเขาพระวิหาร รวมทั้งได้ยื่นคำร้องให้ศาลคุ้มครองชั่วคราวเขาพระวิหารสามข้อ คือ ให้รัฐบาลไทยถอนทหารจากพื้นที่พิพาทโดยทันที ให้รัฐบาลไทยยุติการกระทำใดๆ ที่ละเมิดสิทธิของกัมพูชาในการดูแลอนุรักษ์เขาพระวิหาร และยุติความเคลื่อนไหวทางทหารใดๆ ในพื้นที่บริเวณกรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา
ศาลโลกตัดสินเมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ ให้ไทยและกัมพูชาถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาท และกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปลอดทหาร พร้อมให้ไทยหยุดการขัดขวางเขมรบริเวณทางเข้า-ออกประสาทพระวิหาร 18 ก.ค. 2554 –
การเมือง,ต่างประเทศ,ความมั่นคง
demilitarized zone,dmz,ICJ,กรณีพิพาทไทย-กัมพูชา,กัมพูชา,ปราสาทพระวิหาร,ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ,เขตปลอดทหาร,เขตปลอดทหารชั่วคราว,ไทย
https://prachatai.com/journal/2011/07/36073
[ 0, 259, 106726, 34989, 216002, 4188, 97003, 11984, 2091, 221821, 31253, 111243, 102309, 42576, 53727, 30305, 7960, 9521, 4188, 97003 ]
ศาลรัฐธรรมนูญ เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ผ่าน คำวินิจฉัย 20 พ.ย. 2556
รัฐธรรมนูญ คือ กฎหมายสูงสุดของประเทศ (ยกเว้นว่ามาตรา 309 ที่ใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ) รัฐธรรมนูญกำหนดและมอบอำนาจ อธิปไตยของประเทศ ผ่าน 3 องค์กรหลัก คือ ฝ่าย บริหาร นิติบัญญัติ และ ตุลาการ แต่ ประชาชนบางส่วนคิดว่า พอได้ยินคำว่า ศาล จะนึกว่า ศาลอยู่เหนือองค์กรอื่นๆ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด เพราะทั้ง 3 องค์กร มีสถานะในการใช้อำนาจเท่าเทียมกัน หรือ ในระนาบเดียวกัน แต่ในบทบาทที่ต่างกันเช่นเดียวกับ ศาล รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็น ศาลพิเศษ ที่อำนาจเฉพาะตามที่ รัฐธรรมนูญ มอบอำนาจให้เท่านั้น ศาลไม่มีสิทธิใดๆ ที่จะไปทึกทักขยายอำนาจของตนเอง เพราะถ้าศาลทำแบบนั้น เท่ากับศาล เขียนรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ โดยไม่ได้เป็นรัฐธรรมนูญที่ร่าง โดยอำนาจของประชาชนแต่เป็นอำนาจศาลด้วยตัวเองในกรณีแรก ต้องชัดเจนว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีอำนาจวินิจฉัย ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจาก กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นั้น รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 (2554) กำหนดขั้นตอนการแก้ไขชัดเจน ใน มาตรา 291 โดย สมาชิกรัฐสภา ใช้อำนาจ หน้าที่ ในฐานะ สมาชิกขององค์กรรัฐสภาโดยรวม ไม่ได้ทำในนามพรรคการเมืองหนึ่งใด และ มาตรา 291 นี้ ไม่ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการเข้ามาตรวจสอบได้อย่างชัดเจน เพราะถ้าศาล รัฐธรรมนูญ เข้ามาตรวจสอบ อนุมัติ หรือ ไม่อนุมัติ การแก้ไข เท่ากับเป็นการใช้อำนาจ เหนือ รัฐธรรมนูญ ซึ่งแตกต่างกับ การใช้อำนาจอย่างชัดแจ้งของศาล ในการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของ ร่าง พ.ร.บ. ทั้งก่อนและหลังประกาศใช้ เพียงมีข้อห้าม 2ข้อเท่านั้นที่ห้ามทำคือ ห้ามแก้ไขระบอบการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และห้ามเปลี่ยนแปลงรูปแบบรัฐ (จากรัฐเดี่ยว เป็นสหพันธรัฐ อย่างนี้เป็นต้น)กรณีที่2 ศาลรัฐธรรมนูญ อ้างว่า ส.ส. และ ส.ว. กระทำผิด มาตรา 68 เพราะเป็นการใช้สิทธิในการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการ ใช้คำแทนกันไม่ได้ ระหว่าง สิทธิและเสรีภาพ (ตามมาตรา 68) และ อำนาจ และหน้าที่ (ตาม มาตรา 291) เปรียบเทียบง่ายๆ เช่น ตำรวจจับผู้ร้าย อัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหา ผู้พิพากษาตัดสินคดี การกระทำที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นการใช้อำนาจ และหน้าที่ ที่กฎหมายให้อำนาจไว้ ตำรวจ อัยการ และ ผู้พิพากษา ไม่ได้ใช้ สิทธิ และเสรีภาพ เช่นเดียวกับ สมาชิก รัฐสภา ที่จะต้องทำหน้าที่ที่ มาตรา 291 ระบุไว้อย่างชัดเจน และให้อำนาจในการแก้ไข ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม กรณีนี้อาจมีคนเถียงว่า ศาลตัดสินแล้วทำไม ไม่เคารพศาล ผมตั้งคำถามง่ายว่า ถ้า ศาลสั่งให้ นาย อภิสิทธิ์ ไปกระโดดน้ำตาย หรือ เลิกเล่นการเมือง ท่าน อดีต นายก จะทำไหม ดังนั้นที่ผ่านมาทุกคดีความที่เกี่ยวกับ พรรคเพื่อไทย และฝั่งของทักษิณ ทุกครั้ง พรรคของคุณ ทักษิณก็ปฏิบัติตาม คำตัดสินตลอด เพราะทุกฝ่ายยอมรับว่า ศาล รัฐธรรมนูญมีอำนาจตัดสินได้ ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องที่ ศาลไม่มีอำนาจกรณีที่ 3 การแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ ต้องขัดกับรัฐธรรมนูญ เดิมอย่างชัดแจ้ง ไม่เช่นนั้น จะแก้ไขไปทำไม การที่ท่าน ตุลาการ กำหนด เงื่อนไขว่า การกำหนดคุณสมบัติ สว จะแตะไม่ได้ แปลว่า ท่านกำลังเขียน รัฐธรรมนูญ(ใหม่)ผ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และ อ้างคำวินิจฉัย เพื่อผูกพันองค์กรอื่นและประชาชนทั้งประเทศ ทำให้เงื่อนไขนี้เป็นบทบัญญัติอันเป็นนิรันด์ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ตลอดไป ซึ่งท่านต้องจำกัดตัวเองให้อยู่ในกรอบที่กฎหมายให้อำนาจท่านไว้ ไม่ใช่ว่า เรื่องใดๆที่เกี่ยวกับ รัฐธรรมนูญ ท่านจะรับวินิจฉัยได้ทั้งหมดรัฐบาล นายก ยิ่งลักษณ์ มีความผิดพลาดเองที่ไปยอมรับ คำแนะนำของศาลรัฐธรรมนูญที่เห็นว่า ถ้าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ก็ควรจะให้มีการทำประชามติ เสียก่อนแต่ถ้าจะแก้รายมาตราก็สามารถทำได้ ครั้นพอจะแก้รายมาตรา มาวันนี้คงเห็นแล้วว่าก็แก้ไม่ได้ เพราะนั่นคือการสร้างความชอบธรรมที่ศาลรัฐธรรมนูญมีอยู่แล้วในฐานะองค์กรตุลาการ ให้สร้างอำนาจขึ้นมาใหม่ โดยไม่ได้ผ่านกระบวนการของประชาชนใดๆทั้งสิ้นดังนั้น ผมจะคอยดูว่า สมาชิกรัฐสภาทั้ง 312 ท่าน จะกล้าหาญ และยืนยันการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอทูลเกล้าไปแล้ว หรือ ท่านจะถอยและถอนร่าง แก้ไขนี้ออกจากขั้นตอนการทูลเกล้า และผมเสนอให้ท่านนำข้อเสนอ ของนิติราษฎร ที่ให้ยุบศาลรัฐธรรมนูญ ผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และตั้งองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญขึ้นทำหน้าที่แทน เพราะคราวนี้ องค์กรศาลรัฐธรรมนูญเอง จะเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง เนื่องจากสถานะและตำแหน่งของท่านจะสิ้นสุดลง ตุลาการทุกท่านจะไม่สามารถตัดสินร่างแก้ไขนี้ได้เพราะผลประโยชน์ขัดกันปล.(เคยคิดกันไหมครับ ว่า ทำไมทุกครั้งที่ ผู้ถูกร้อง อ้างว่า รัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ มาจาก การปฏิวัติยึดอำนาจ และ ทำลาย รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ทำลาย สภาผู้แทน วุฒิสภา และ ศาลรัฐธรรมนูญ ตามประกาศ คมช. ฉบับที่ 3 ตุลาการรัฐธรรมนูญจะยึดหลักที่ว่า ถ้าผู้ยึดอำนาจ ได้สำเร็จถือว่าเป็นรัฎฐาธิปัตย์ ผลคือ ไม่เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย และ พรรคพลังประชาชน และ พรรคเพื่อไทย ก็พยายามแก้รัฐธรรมนูญ คมช. มาโดยตลอด แต่ถูกยุบพรรคและ นายกรัฐมนตรี ต้องพ้นจากตำแหน่ง เพราะคำว่า ลูกจ้าง เราเคยคิดไหมครับว่า การแก้ในระบบตาม ที่ ม 291 กำหนดไว้ กลับกลายเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่ เรายอมรับการรัฐประหาร โดยสดุดี เพราะเหตุใด?)ปล 2. (โปรด อ่านคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 4/2554 หน้า 3จาก 4หน้า วรรค2 ว่า ศาล รัฐธรรมนูญชุดนี้ ระบุอย่างชัดเจนว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของ นาย อภิสิทธิ์ เป็นไปตาม บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 )
รัฐธรรมนูญ คือ กฎหมายสูงสุดของประเทศ (ยกเว้นว่ามาตรา 309 ที่ใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ) รัฐธรรมนูญกำหนดและมอบอำนาจ อธิปไตยของประเทศ ผ่าน 3 องค์กรหลัก คือ ฝ่าย บริหาร นิติบัญญัติ และ ตุลาการ แต่
การเมือง
รัฐธรรมนูญ 2550,ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ,ศาลรัฐธรรมนูญ,ส.ว. แต่งตั้ง,เอกชัย ไชยนุวัติ
https://prachatai.com/journal/2013/11/49888
[ 0, 259, 106726, 221873, 259, 70944, 2091, 84281, 147287, 26461, 135570, 9964, 185924, 6200, 259, 23043, 381, 259, 104348, 42688 ]
กุนซือเฟเนร์ฯ เชื่อ ผีแดงแพ้ซอร์ยา ร่วงยูโรปาลีก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 8 ธ.ค. ว่า ดิค อัดโวคาท ผู้จัดการทีมเฟเนร์บาห์เช เชื่อว่า ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะบุกมาแพ้ ซอร์ยา ลูแฮงส์ สโมสรแกร่งแห่งลีกยูเครน และตกรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ ของศึกยูโรปาลีก ในคืนวันนี้,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ปัจจุบันอยู่อันดับ 2 ของกลุ่มเอ ต้องการเพียงแต้มเดียวในเกมนัดสุดท้าย ในรอบแบ่งกลุ่ม ในการเจอกับซอร์ยาฯ ในคืนวันนี้ อย่างไรก็ตาม อัดโวคาท ในฐานะกุนซือของเฟเนร์บาห์เช ที่เป็นจ่าฝูงของกลุ่ม ซึ่งมีโปรแกรมดวลกับ เฟเยนูร์ด อันดับ 3 ของกลุ่ม ที่มีแต้มตามหลังปิศาจแดงอยู่ 2 คะแนน เชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะแพ้ซอร์ยา และเป็นทีมของเขากับเฟเยนูร์ด ที่จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไป,ผมคิดว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะแพ้ ซอร์ยา ลูแฮงส์ ในยูเครน เราและเฟเยนูร์ดจะผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ นี่คือกลุ่มที่ยากลำบาก ปกติแล้ว 10 แต้มอาจเพียงพอสำหรับคุณ แต่ที่นี่เรากำลังต่อสู่เพื่อจะเข้าไปอยู่ในรอบน็อกเอาต์ ทั้งเราและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด  ต้องการที่จะคว้าชัยชนะ และแน่นอนว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องการจะชนะ อัดโวคาท กล่าว
ดิค อัดโวคาท กุนซือทีมเฟเนร์บาห์เช เชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะบุกมาแพ้ ซอร์ยา ลูแฮงส์ และตกรอบแบ่งกลุ่มของศึกยูโรปาลีก ในคืนวันนี้
ดิค อัดโวคาท,เฟเนร์บาห์เช,เฟเยนูร์ด,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
https://www.thairath.co.th/content/805862
[ 0, 259, 228588, 259, 150058, 259, 112353, 259, 31431, 47129, 22401, 259, 84306, 115841, 5095, 29373, 21637, 67550, 160617, 4388 ]
เพื่อไทยยอมยกธงขาว ถอดใจแข่งตั้งรัฐบาลไม่ไหว
เลิกหนุน ปชป.ประธานสภา กลัวโดนหักหลัง-เสียค่าโง่ พลังประชารัฐโดดงับทันที,ชัยเกษม ซัด พปชร.ลืมมารยาท รับถ้าสกัดสืบทอดอำนาจไม่ได้ ไว้เจอกันในศึกเลือกตั้งใหม่ให้ประชาชนตัดสิน เจ๊หน่อย ย้อนรำลึกพฤษภาทมิฬ จวกยุค คสช.เลวร้ายกว่า รสช. จัดเลือกตั้งแค่พิธีกรรมชุบตัวเผด็จการ ยังหวังพรรคขั้วที่ 3 ยืนข้างประชาชน พท.พลิกเกมเลิกหนุนคน ปชป.นั่งนายกฯ-ประธานสภาฯ หวั่นถูกหักหลังเสียทั้งศักดิ์ศรี เสียทั้งค่าโง่ ส่อยกธงขาวหลังประเมินแล้วไม่มีทางชนะอนาคตใหม่รูดซิปปากถกพรรคร่วมตั้ง รบ. อุเทน แนะ ปชป.ยึดหลักการ ควรวางเฉยไม่หนุนทั้ง บิ๊กตู่-เพื่อไทย พปชร.ทุ่มทุนสร้าง ยอมหักคนในยกเก้าอี้ ปธ.สภาให้ ปชป.,พรเพชร เต็งจ๋าคว้าปธ.วุฒิฯ,การช่วงชิงจัดตั้งรัฐบาลของการเมือง 2 ขั้วเริ่มชัดเจนขึ้นทุกที ล่าสุดพรรคเพื่อไทยส่อพลิกเกมเลิกสนับสนุนคนของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี และประธานสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่พรรคพลังประชารัฐทุ่มไม่อั้น ยอมหักคนในพรรค พร้อมยกเก้าอี้ประธานสภาฯให้กับประชาธิปัตย์,วิโรจน์ ไม่พูด ปชป.คุยทหาร,เมื่อวันที่ 18 พ.ค. พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และเลขาธิการพรรคฯร่วมหารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เพื่อพูดคุยจัดตั้งรัฐบาล ว่า ขณะนี้มีการปล่อยข่าวอะไรออกมาเป็นจำนวนมาก เมื่อเรื่องที่ว่ามามันยังไม่แน่นอน หากตนพูดอะไรออกไปจะสะเทือนใจกันเปล่าๆ คงต้องดูไปก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ยังไม่อยากคาดเดาอะไร ถ้าเรื่องนี้ชัดเจนแล้วค่อยพูด,ชัยเกษม อัด พปชร.ลืมมารยาท,นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ความพยายามจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อเขาต้องการสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯของพรรคเขา ก็ต้องพยายามเต็มที่ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ชัยชนะ เขาประกาศแล้วว่าจัดตั้งรัฐบาลได้ ส่วนเรื่องมารยาททาง การเมืองที่ต้องให้พรรคอันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาลก่อนนั้น คงลืมไปแล้ว ข้ออ้างด้วยการยึดคะแนนป๊อปปูลาร์โหวต ถ้ามองแบ่งเป็นฝ่ายประชาธิปไตย กับฝ่ายสืบทอดอำนาจ ถือว่าเขามีคะแนนน้อยกว่าฝ่ายประชาธิปไตยอยู่ดี แต่เมื่อไม่นึกถึงเรื่องมารยาทก็ไม่มีอะไรไปห้ามเขาได้ เชื่อว่าประชาชนจะเห็นว่าการกระทำของใครชอบหรือไม่ชอบ การเลือกตั้งครั้งต่อไปประชาชนจะรู้ว่าอะไรไม่ถูกต้อง อะไรผิดเพี้ยน เชื่อว่าประชาชนจะไม่เห็นด้วยกับฝ่ายที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ,สกัด บิ๊กตู่ ต่อท่ออำนาจสำคัญสุด,เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยพร้อมร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคต่างๆ โดยไม่ยึดติดตำแหน่งสำคัญ ทั้งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชัยเกษมตอบว่า ไม่ได้รับผิดชอบเรื่องดังกล่าวโดยตรง แต่แกนนำพรรคพูดชัดเจนแล้วว่า อุดมคติของพรรคเพื่อไทยต้องการให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะฝ่ายสืบทอดอำนาจ จึงไม่ยึดติดเรื่องตำแหน่ง ใครเป็นฝ่ายประชาธิปไตยเข้ามาได้ แต่คงต้องคุยกัน ประเด็นสำคัญเราไม่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. สืบทอดอำนาจ เพราะเชื่อว่าระบอบประชาธิปไตยสุดท้ายแล้วประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน หากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาลก็เชื่อว่าจะอยู่ได้ไม่นาน แล้วการเลือกตั้งครั้งต่อไปประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน,เจ๊หน่อย จวกร้ายกว่าพฤษภาทมิฬ,วันเดียวกันเวลา 17.00 น. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กรูปสมัยขึ้นเวทีปราศรัยในการชุมนุมเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 35 พร้อมระบุข้อความว่ารูปนี้เมื่อ 27 ปีที่แล้ว ขอคารวะต่อดวงวิญญาณนักสู้ผู้องอาจทุกท่าน ที่พลังประชาชนออกมาขับไล่เผด็จการที่ยึดอำนาจจากประชาชน แล้วใช้การเลือกตั้งเป็นข้ออ้างชุบตัวเพื่อสืบทอดอำนาจต่อไป ไม่น่าเชื่อว่าผ่านมา 27 ปีแล้ว แต่เรายังคงวนเวียนอยู่ที่เดิมวันนี้พวกรัฐประหารยึดอำนาจเขียนรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อไปสู่การเลือกตั้ง โดยใส่กติกาเอื้อให้ตนเองสืบทอดอำนาจต่อ ยิ่งกว่านั้นยังเขียนกติกาให้ตัวเองมีอำนาจแต่งตั้ง ส.ว. 250 คน เพื่อการันตีการสืบทอดอำนาจ เหลือเชื่อว่าคนที่เป็นกำลังหลักทำการรัฐประหารเมื่อครั้งพฤษภา 35 แทบจะเป็นกลุ่มเดียวกันกับรัฐประหารเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา เวลาไม่ได้ทำให้ความคิดของคนเหล่านี้เปลี่ยนแม้แต่น้อย เพียงแต่ครั้งนั้นคนเหล่านี้ยังมียศน้อยจึงเป็นเพียงผู้ปฏิบัติการ แต่ครั้งนี้ได้เติบโตยิ่งใหญ่ จึงเป็นตัวการยึดอำนาจจากประชาชนเสียงเอง ครั้งนี้ พ.ศ.2562 เลวร้ายกว่า พ.ศ.2535 มากถือว่าไม่เห็นหัวประชาชนเลย ไม่สนใจว่าการกระทำต่างๆจะขัดหลักการประชาธิปไตย หลักนิติธรรม และลิดรอนสิทธิประชาชนเพียงใด,จัดเลือกตั้งแค่พิธีกรรมชุบตัว,คุณหญิงสุดารัตน์ระบุอีกว่า ตลอดช่วงการเลือกตั้งมีผู้สมัครหลายรายไปร้องเรียนทั้งเรื่องซื้อเสียงอย่างโจ๋งครึ่ม ใช้อำนาจรัฐโกงสารพัดมากมาย ทำขนาดนี้ยังแพ้พรรคเพื่อไทยที่ส่งเพียง 250 เขต จึงต้องใช้อภินิหารจากองค์กรอิสระ ผลจึงออกมาอย่างที่เห็น ไม่ว่าจะเป็นการนับคะแนน การประกาศผลคะแนนที่ล้วนแปลกประหลาด ไม่สามารถอธิบายประชาชนได้ ทั้งบัตรเกิดใหม่ในหีบ บัตรเขย่ง บัตรที่ระลึก โดยเฉพาะสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่พรรคได้คะแนนต่ำกว่าคะแนน ส.ส. พึงมีรวม 10 กว่าพรรคได้ ส.ส. หรือที่เรียกกันว่า ส.ส.เอื้ออาทร รวมตัวกันสนับสนุนนายกฯสืบทอดอำนาจ ยิ่งกว่านั้น ส.ว.อีก 250 คน ส่วนใหญ่มาจากวงศาคณาญาติและเพื่อนพวกพ้อง จะเป็นนายกฯให้ได้ด้วยเสียง ส.ว.ที่ประชาชนไม่ได้เลือก เจตนารมณ์ประชาชนส่วนใหญ่ที่ไม่ต้องการเห็นการสืบทอดอำนาจ กลับไม่มีความหมาย การเลือกตั้งจึงเป็นเสมือนเพียงพิธีกรรมชุบตัวเผด็จการ,อ้อนพรรคขั้วที่ 3 ยืนข้าง ปชช.,คุณหญิงสุดารัตน์ระบุด้วยว่า โอกาสของประเทศสำคัญกว่าโอกาสของเพื่อไทย โอกาสของประชาธิปไตยที่จะได้กลับมาลงหลักปักฐานให้มั่น คือภารกิจสำคัญยิ่งกว่าการแสวงหาอำนาจทางการเมือง เพื่อไทยยอมเสียสละเพื่อไม่ให้เป็นเงื่อนไขในการต่อรองใดๆ ขอเพียงประเทศเดินหน้าได้อย่างถูกต้อง ขอประกาศว่าไม่รับตำแหน่งใดๆทั้งสิ้น ขอเพียงพรรคขั้วที่ 3 ตัดสินใจเลือกข้างประชาชนอย่างที่เคยพูดไว้ตอนหาเสียง เราจะเอาเผด็จการแปลงร่างออกไป ด้วยเสียงผู้แทนราษฎรของเรา ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าการยืนอยู่บนหลักการที่ถูกต้องจะทำให้เรายืดอกได้อย่างภาคภูมิใจ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใดและบ้านเมืองของเราจะก้าวหน้าไปได้อย่างมั่นคงยั่งยืน สังคมมีความถูกต้องยุติธรรม สิ่งเหล่านี้จะทำให้ประชาชนมีความสุข มีความมั่นใจในอนาคตของตน และลูกหลาน,พท.พลิกเกมเลิกแตะมือ ปชป.,ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย ถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยอาจปรับกลยุทธ์นำเสียง ส.ส.ของ 7 พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ไปลงมติสนับสนุนคนจากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร แข่งกับตัวแทนพรรคพลังประชารัฐว่า การประชุมพรรคเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา มีการวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองว่าหากจะสู้กับการสืบทอดอำนาจของ คสช. พรรคเพื่อไทยต้องเสียสละตำแหน่งต่างๆ เพื่อโน้มน้าวให้พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยที่มีรวมกัน 103 เสียง มาร่วมจุดยืนปิดสวิตช์ ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกฯโดยเริ่มจากการสนับสนุนนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานสภาฯ เพื่อเป็น ตัวแทนของฝ่ายพรรคการเมืองควบคุมเกมในสภาฯ และการโหวตนายกฯ จะเทคะแนนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ หรือนายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคภูมิใจไทย แต่มี ส.ส.และสมาชิกพรรคบางส่วนเห็นว่า หากเดินแนวทางนี้อาจสุ่มเสี่ยงเกินไป เพราะถือเป็นการลดศักดิ์ศรีของพรรคที่ได้ ส.ส.เป็นอันดับ 1 จะไม่สามารถอธิบายกับประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยและผู้สนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย ว่าเหตุใดจึงไปเกี้ยเซียะกับพรรคประชาธิปัตย์ที่มีแนวทางตรงกันข้ามมาตลอด,หวั่นถูกหักหลังเสียศักดิ์ศรี–ค่าโง่,ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยยังมองอีกว่า หากท้ายที่สุดพรรคประชาธิปัตย์เกิดหักหลังไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ก็จะเท่ากับพรรคเพื่อไทยเสียทั้งศักดิ์ศรี เสียทั้งค่าโง่ ในหมากเกมนี้ และขณะนี้พรรคพลังประชารัฐใช้มายากลจนได้เสียงจากพรรคเล็ก และรวบรวม ส.ส.ได้เกิน 126 เสียง เมื่อรวมกับ 250 ส.ว.ก็เท่ากับปิดประตูตายที่พรรคเพื่อไทยจะไปแข่งเสนอชื่อนายกฯ กับ พล.อ.ประยุทธ์ การให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นประธานสภาฯ อาจเปล่าประโยชน์ ดีไม่ดีถูกหักหลังอีก และถึงจะได้เสียงพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคภูมิใจไทย มาก็ยังไม่ครบ 376 เสียง ตั้งนายกฯไม่ได้อยู่ดี ถ้านักการเมืองคิดจะต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช.จริง พรรคประชาธิปัตย์เองควรต้องมาโหวตให้ตัวแทนที่พรรคเพื่อไทยและพรรคพันธมิตรเสนอ ให้เป็นประธานสภาฯ และนายกฯ เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าพรรคประชาธิปัตย์รักษาอุดมการณ์ และจุดยืน ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช.,ยอมยกธงประเมินไม่มีทางชนะ,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อประเมินแล้วว่าไม่มีโอกาสเอาชนะในการลงมติเลือกนายกฯ ก็ไม่ควรไปฝืน หรือประเคนเก้าอี้ให้ใครโดยขัดเจตนารมณ์พรรค ขัดเจตนารมณ์ของผู้ที่ลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทย ควรใช้โอกาสนี้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านฝ่ายตรวจสอบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ที่มีเสียงปริ่มน้ำอย่างเข้มข้น ทั้งการทำงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และย้อนไปถึงแนวนโยบายที่ผิดพลาดมากมายตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่ารัฐบาล คสช. ภาค 2 จะอยู่ได้ไม่นาน และการเลือกตั้งครั้งใหม่พรรคพลังประชารัฐจะลำบากมากกว่านี้ ที่สำคัญการปล่อยให้พรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ ก็เท่ากับผิดต่ออุดมการณ์และคำพูดของตัวเอง การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะยิ่งตกต่ำลงไปมากกว่านี้,อนค.รูดซิปถกพรรคร่วมตั้ง รบ.,น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นถึงข้อเสนอการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำ มีการเสนอให้โควตารัฐมนตรีแก่พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ มากถึง 14 ที่นั่ง แต่ยังขอคุมกระทรวงหลักอยู่ เมื่อถามถึงความคืบหน้าการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลของพรรคอนาคตใหม่ ตามที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ประกาศไว้ น.ส.พรรณิการ์ ตอบว่า ขอรอให้การเจรจาทุกอย่างมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมก่อน ถึงจะมีการแถลงความชัดเจนอย่างเป็นทางการต่อไป,ให้สิทธิ ส.ส.มั่นใจไม่มีงูเห่าสีส้ม,นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. พรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกระแสงูเห่าในพรรคอนาคตใหม่ว่า การลงมติเลือกประธานสภาฯ และนายกฯเป็นการตัดสินใจส่วนบุคคล เท่าที่พูดคุยหารือกับ ส.ส. อนาคตใหม่ โดยเฉพาะ ส.ส.ฝั่งธนบุรี 6 คน คิดว่าไม่น่ามี นอกจากนี้ ทีม ส.ส.อนาคตใหม่ฝั่งธนบุรี ยังจัดตั้งศูนย์ประสานงานพรรคขึ้น เพราะถึงแม้ ส.ส. จะทำหน้าที่ในภาพรวมของประเทศเป็นหลัก แต่ปัญหาชาวบ้านในท้องที่ก็เป็นเรื่องสำคัญ จึงจัดตั้งศูนย์ประสานงานขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ทำการของพรรค และรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ของชาวฝั่งธนบุรี นำไปสู่การแก้ปัญหาให้ทั่วถึงมากที่สุด โดยจะมีการจัดกิจกรรมระดมทุน ขายของที่ระลึกในวันที่ 26 พ.ค.นี้ หลังการเลือกประธานสภาฯในวันที่ 25 พ.ค. จะมีแกนนำพรรคทั้ง 3 คนคือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค มาร่วมงาน,อุเทน จี้ ปชป.ยึดหลักการให้แน่น,ขณะที่นายอุเทน ชาติภิญโญ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ อดีตหัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวว่า ได้รับการชักชวนจากผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ที่ตนเคารพนับถือ ชักชวนให้มาร่วมงาน ส่วนตัวคิดว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ในยุคนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ต้องการพลิกฟื้นพรรคขึ้นมาโดยเร็ว ต้องตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวและเด็ดขาด ไม่ไปร่วมเป็นจิ๊กซอว์สืบทอดอำนาจให้ คสช. เพราะถึงไม่มี 52 เสียงของพรรคประชาธิปัตย์ร่วมสนับสนุน ก็เชื่อว่ายังมี ส.ว. 250 เสียงที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯรอบสองได้อยู่ดี พรรคประชาธิปัตย์จึงไม่มีความจำเป็นต้องทิ้งหลักการ และจุดยืนประชาธิปไตย ไปสนับสนุนการสืบทอดอำนาจ ไปเป็นนั่งร้านให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช. แต่ควรนำจุดแข็งของพรรคในฐานะฝ่ายตรวจสอบ กลับมาทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้ดีที่สุดจะดีกว่า และไม่จำเป็นต้องไปสนับสนุนอีกฝ่ายที่อ้างประชาธิปไตยเช่นกัน,วางเฉยไม่หนุนทั้ง บิ๊กตู่–พท.,นายอุเทนกล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์ควรวางตัวเฉยและเป็นกลางในเบื้องต้น ไม่สนับสนุนซีกฝ่ายใด และเมื่อถึงเวลาลงมติเลือกนายกฯซึ่งเป็นไปได้ยากที่พรรคประชาธิปัตย์จะร่วมสนับสนุนพรรคเพื่อไทยดังที่เคยประกาศตอนหาเสียงไว้ ก็ควรงดออกเสียงไม่ร่วมโหวตให้กับ พล.อ.ประยุทธ์เช่นกัน ปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์หันไปพึ่ง ส.ว. 250 เสียง เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยแทน ซึ่งนายกฯจะหมดความชอบธรรม ขาดความสง่างาม และอีกไม่กี่เดือนจะถึงวาระการประชุมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี หากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯไม่ผ่าน ประเทศชาติจะเสียหายแค่ไหน และผู้รับผิดชอบหนีไม่พ้น ส.ว. และนายกฯที่ดันทุรังฝืนความชอบธรรมตามที่ควรจะเป็น สืบเนื่อง จากการร่างรัฐธรรมนูญมาแบบนี้,สั่งสอน คสช.ที่ร่าง รธน.พิสดาร,จึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันทบทวน ทุกพรรค การเมืองต้องหันหน้าเข้าหากัน หาทางออกร่วมกัน ยืนหยัดสู้เพื่อต่อต้านการสืบทอดอำนาจ เพื่อแสดงให้ฝ่ายผู้กุมอำนาจเห็นว่าบ้านเมืองไม่ใช่ของเล่น และต้องสั่งสอน คสช. ที่ปล่อยให้ร่างรัฐธรรมนูญออกมาแบบนี้ นายอุเทนระบุ,พปชร.เย้ยขั้วที่ 3 เชื่อไม่มีพลิก,ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การเจรจาจัดตั้งรัฐบาลยังเดินไปตามขั้นตอน พรรคพลังประชารัฐจะรอความชัดเจนของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ก่อนเดินหน้าพูดคุยอย่างเป็นทางการ เราต้องให้เกียรติทั้ง 2 พรรค เชื่อว่าน่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ก่อนเปิดประชุมรัฐสภา ยืนยันไม่กังวลเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลขั้วที่ 3 เพราะมองว่าเกิดขึ้นยากเป็นเพียงการเดินเกมของบางพรรคเท่านั้น มั่นใจการเมืองจะไม่มีพลิกขั้ว พรรคพลังประชารัฐจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้แน่นอน มั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้รับการสนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย เมื่อจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยทางพรรคจะเดินหน้านโยบายที่เคยหาเสียงไว้กับประชาชนทันที โดยพิจารณาตามความจำเป็นเร่งด่วน ส่วนกระแสข่าวว่าการแบ่งโควตารัฐมนตรีลงตัวแล้วนั้น ยังไม่มีการหารือ และอยากให้มองไปทีละขั้นตอน,ทุ่มสุดๆยกเก้าอี้ ปธ.สภาให้ ปชป.,ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล ระหว่างพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ว่าช่วงที่ผ่านมาแกนนำประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย อาทิ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ต่อสายเจรจากับทางพรรคพลังประชารัฐจริง แต่ไม่ได้ดีลโดยตรงกับทหาร แต่พูดคุยผ่านแกนนำระดับสูงของพลังประชารัฐ ล่าสุดค่อนข้างแน่ชัดว่าพรรคพลังประชารัฐจะไม่ยอมปล่อยเก้าอี้กระทรวงคมนาคมให้กับภูมิใจไทยตามที่ขอมา เพราะเกรงจะกระทบภาพลักษณ์รัฐบาลใหม่ในเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯเคยพูดเอาไว้ชัดเจน ส่วนเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ก่อนหน้านี้วางตัวคนของพรรคพลังประชารัฐไว้ ทั้งนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา หรือนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อไว้ แต่แนวโน้มล่าสุดจากการเจรจา แกนนำพลังประชารัฐจะยอมปล่อยโควตาประธานสภาฯให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแทน,ถ้าไม่มาพรรคแตกเป็นเสี่ยงแน่,ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ส่วนพรรคพลังประชารัฐยืนยันที่จะดูแลกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และกระทรวงพาณิชย์ โดยเปิดให้พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยเข้ามาเป็นรัฐมนตรีช่วย ส่วนกระทรวงเศรษฐกิจอื่น เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน อาจปล่อยให้พรรคร่วมรัฐบาลเข้ามาทำงาน และยังมีการวิเคราะห์อีกว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องเข้าร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ เพราะถ้าไม่ร่วมเสี่ยงพรรคแตกออกเป็น 2 ฟาก คือเอาหรือไม่เอาด้วยกับพรรคพลังประชารัฐ และ พล.อ. ประยุทธ์หากเสียงแตกจนเกิดกรณีงูเห่าจะไม่เป็นผลดี เพราะ ส.ส.สายนายชวน หลีกภัย และสายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเหลือแค่ไม่ถึง 20 คน อีกทั้งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน จะกลายเป็นเลขาธิการพรรคนอกสภา โดยไม่มีตำแหน่งอะไรเลย เพราะสอบตกในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด,จุรินทร์ ปัดข่าวลือดอดคุยทหาร,ต่อมาช่วงเย็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวลือการเข้าพบกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม พร้อมกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค เพื่อต่อรองตำแหน่งว่าไม่เป็นความจริง ช่วงนี้ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณเป็นพิเศษในการรับข้อมูล เพราะข่าวปล่อยมีเยอะ รวมถึงข่าวที่ว่าตนเดินทางไปต่อรองกับใครก็ไม่เป็นความจริง เมื่อถามว่า หวั่นไหวหรือไม่ที่พอมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคก็โดนรับน้องด้วยข่าวลือ นายจุรินทร์ตอบว่า ไม่หวั่นไหวไม่กดดัน เป็นภารกิจของหัวหน้าพรรคที่ทราบดีว่าจะเจออะไรก่อนจะรับตำแหน่งอยู่แล้ว และเป็นงานที่หัวหน้าพรรคต้องรับผิดชอบอยู่แล้วด้วย,ปชป.ลุยเลือกตั้งซ่อมเชียงใหม่,ช่วงเช้าวันเดียวกันที่ จ.เชียงใหม่ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์นำโดย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรค แยกกลุ่มกันลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 ใน อ.สันป่าตอง อ.จอมทอง อ.แม่วาง และเขตดอยอินทนนท์ คุณหญิงกัลยากล่าวระหว่างร่วมบุญงานสรงน้ำพระธาตุ วัดศิริชัยนิมิตร (กิ่วแลป่าเป้า) อ.แม่วาง ว่าเป็นวันดีจริงๆ ประชาชนยิ้มแย้มแจ่มใส และมีโอกาสพบปะกลุ่มแม่บ้านหลังวัด ล้วนยินดีที่ผู้บริหารพรรคลุยลงพื้นที่ในครั้งนี้ จากนั้นคุณหญิงกัลยาและคณะยังได้สร้างความคุ้นเคยกับกลุ่มสตรีหลังวัด ด้วยการช่วยล้างจาน ล้างแก้ว สร้างสีสันและเสียงหัวเราะเฮฮาไปกับกลุ่มสตรี ร่วมรับประทานอาหารที่โรงทาน,พรเพชร เต็งจ๋าคว้าประธานวุฒิ,ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ถึงความเคลื่อนไหวการชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาว่า ขณะนี้ค่อนข้างชัดเจนเพียงตำแหน่งเดียวคือ ประธานวุฒิสภาที่คาดว่าจะเป็นนายพรเพชร วิชิตชลชัย อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งเป็นสายตรงและได้รับความไว้วางใจจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ส่วนอีกสองตำแหน่งที่เหลือ คือรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 กำลังเดินเกมขับเคี่ยวกันอยู่หลายคน จนมีข่าวลือออกมารายวัน อาทิ กลุ่ม 40 ส.ว.กลุ่มเดิมของนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อดีตรองประธาน สนช. กลุ่ม ส.ว.สายทหาร นำโดยเตรียมทหารรุ่น 12 รุ่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ โดยปรากฏชื่อของ พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร เพื่อนสนิทของนายกฯ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ และนายศุภชัย สมเจริญ จะลงชิงตำแหน่งด้วย,โพลชี้ ปชป.ร่วมรัฐบาล พปชร.แน่,อีกเรื่อง สวนดุสิตโพล เปิดผลสำรวจความ คิดเห็นประชาชนจำนวน 1,017 คน ต่อกรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ พบว่าร้อยละ 38.63 เห็นว่าเหมาะสม เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ รองลงไปอยากให้นำพรรคไปในทิศทางที่ดี ตัดสินใจให้ดี พิจารณาอย่างรอบคอบ ขอให้เป็นหัวหน้าพรรคที่ดี คิดใหม่ ทำใหม่ ปฏิรูปพรรคให้ดีขึ้น เมื่อถามต่อว่า คิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของหัวหน้าพรรคคนใหม่ จะเข้าร่วมเป็นรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 58.05 เห็นว่าน่าจะเข้าร่วม เพราะไม่น่า จะเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาลน่าจะดีกว่าเป็นฝ่ายค้าน ส่วนร้อยละ 41.95 เห็นว่าไม่น่าจะเข้าร่วม เพราะเป็นพรรคเก่าแก่ ยึดมั่นในประชาธิปไตย มีหลักการ เคยประกาศไว้ว่าจะไม่ร่วมสืบทอดอำนาจของ คสช. ฯลฯ,อ่านข่าวล่าสุด เจาะลึกข้อมูลเลือกตั้ง 2562,https://www.thairath.co.th/election, 
ชัยเกษม ซัด พปชร.ลืมมารยาท รับถ้าสกัดสืบทอดอำนาจไม่ได้ ไว้เจอกันในศึกเลือกตั้งใหม่ให้ประชาชนตัดสิน เจ๊หน่อย ย้อนรำลึกพฤษภาทมิฬ
เลือกตั้ง
พรรคเพื่อไทย,สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์,พรรคประชาธิปัตย์,ฝ่ายประชาธิปไตย,งูเห่า,หักหลัง,ข่าวหน้า1,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1570925
[ 0, 259, 169184, 148601, 12005, 11984, 259, 204042, 6582, 51523, 57338, 155017, 6200, 9112, 83044, 164565, 259, 203061, 259, 137738 ]
โสมชบาจ๊ะจ๋า 08/09/60
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.อ.พจน์ บุณยะจินดา ณ วัดธาตุทอง 10 ก.ย. เวลา 17.30 น.--วันที่ 9 ก.ย.คุณหญิงกอแก้ว และครอบครัว จัดสวดพระอภิธรรม ที่ศาลาพีชานนท์ เวลา 19.00 น.,หลังเฮกับ บิ๊กหิน-พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ที่ได้เป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อนๆ TME 1 ก็ดีใจรอบสองเมื่อ บิ๊กปอง-พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ได้เป็น ผบก.ทท. 1,กำลังทำดีลใหญ่ยักษ์กับจีน เทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ ต้องบินปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ นานกิง ฯลฯ ทุกเดือน จึงพยายามแหวกคิวว่าง ให้เพื่อน วตท.19 นัดเลี้ยงยินดีกับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นของสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งสมควรได้อย่างยิ่ง เพราะจบแล้วยังช่วยงานของสถาบัน,ส่วนสิงห์แดง 28 ก็ปลื้มกับ ดร.ศรีประภา เพชรมีศรี แห่ง ม.มหิดล ที่ได้ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จาก University of Oslo และได้รับเชิญไปบรรยายพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ในบริบทของอาเซียน และเอเชียตะวันออก,เฉียงใต้,พิมดาว พานิชสมัย เปิดตัวหนังสือ มัดใจ 2 พร้อม single ใหม่ โดยมีมินิคอนเสิร์ต acoustic จากศิลปินดัง ปราการ ไรวา แห่ง Get-sunova ที่กำลังหัวใจว่าง และวง Znowball กับ The 10th Saturday ที่ My Kitchen สยามดิสคัฟเวอรี่ 9 ก.ย. 15.00 น.--และยกรายได้จากหนังสือพันเล่ม ให้ รพ.พระมงกุฎ,จัดงาน Central Kids day ทุกเดือน ลูกค้าชอบมาก ปิยวรรณ ลีละสมภพ จึงนำมาสคอตสาวดัง พาวเวอร์พัฟ เกิร์ล มาโชว์ตัวครั้งแรกที่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว และพบหนุ่ม เบนเทน ที่สาขาบางนา 9 ก.ย. พร้อมกิจกรรม อาทิ เวิร์กช็อปเพนต์หน้า และโปรโมชั่นของเล่น ที่ชิดลม, ลาดพร้าว, บางนา, ปิ่นเกล้า, อีสวิลล์, พระราม 2,กินข้าวอยู่ดีๆ เพื่อนก็แน่นหน้าอกเกือบหมดสติ พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ต้องหิ้วปีกส่งหมอเดี๋ยวนั้น ส่วน พล.อ.นพดล อินทปัญญา พอหายตกใจ ก็รีบจองอัลพาร์ด ป้ายแดงของ เกษรี โกมลมิศร์ ที่พาคนป่วยส่ง รพ. โดยเสนอราคาดีมาก คือ ถ้าคนป่วยไม่รอด ยินดีรับซื้อรถในราคา 50%.,โสมชบา
พิมดาว พานิชสมัย เปิดตัวหนังสือ มัดใจ 2 พร้อม single ใหม่ โดยมีมินิคอนเสิร์ต acoustic จากศิลปินดัง ปราการ ไรวา แห่ง Get-sunova ที่กำลังหัวใจว่าง และวง Znowball กับ The 10th Saturday ที่ My Kitchen สยามดิสคัฟเวอรี่ 9 ก.ย.
โสมชบาจ๊ะจ๋า,โสมชบา,วิสนุ ปราสาททองโอสถ,เทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ,นพดล อินทปัญญา
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/hisoceleb/1062510
[ 0, 259, 114866, 6200, 177208, 259, 51100, 36233, 47451, 52854, 9211, 259, 27605, 4552, 64388, 6196, 36247, 69171, 259, 30305 ]
มาราปาตานี ประกาศ ไม่คุยกับฝ่ายรัฐ จนกว่าเลือกตั้งแล้วได้รัฐบาลใหม่
4 ก.พ.2562 สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า วานนี้ (3 ก.พ.62)สุกรี ฮารี หัวหน้ากลุ่มมาราปาตานี ออกแถลงการณ์ความยาวประมาณ 2 นาที โดยเนื้อหาใจความคือ ไม่ยอมรับ พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยของรัฐบาลฝ่ายไทยโดยมีการระบุอ้างอิงว่า พล.อ.อุดมชัย ไม่ได้มาหารือที่มาเลเซีย โดยมีการอ้างอิงว่า จะขอพบสุกรี เป็นการส่วนตัว ซึ่งทำให้เกิดการมองว่า รับไม่ได้กับท่าทีลักษณะนี้ แล้วมีนัยยะแอบแฝงหรือไม่ ถึงไม่คุยกับคนอื่นๆ แต่จะคุยกับนายสุกรีเพียงคนเดียวคำแถลงยังแถลงยังระบุอีกว่า จะมีการล้มโต๊ะการเจรจาสันติภาพทั้งหมด จนกว่าไทยจะเลือกตั้ง แล้วก็ได้รัฐบาลใหม่ โดยขอให้รัฐบาลใหม่เปลี่ยนตัวหัวหน้าคณะพูดคุย ซึ่งที่ว่านี้เป็นจุดยืนของกลุ่มมาราปาตานีที่มา และ
4 ก.พ.2562 สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า วานนี้ (3 ก.พ.62) สุกรี ฮารี หัวหน้ากลุ่มมาราปาตานี ออกแถลงการณ์ความยาวประมาณ 2 นาที โดยเนื้อหาใจความคือ ไม่ยอมรับ พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์
การเมือง,ความมั่นคง
สุกรี ฮารี,มาราปาตานี,อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์
https://prachatai.com/journal/2019/02/80863
[ 0, 259, 169184, 77772, 196682, 1881, 97003, 66806, 11984, 112088, 197753, 4395, 11821, 46190, 1, 0, 0, 0, 0, 0 ]
ฟากฟ้าคีรีดาว ลาจอสวย เรตติ้ง 5.49 บทพิสูจน์ทีมเวิร์ค รุ่นเล็ก-รุ่นใหญ่
จูงมือกันลาจอไปแบบสง่างาม ด้วยเรตติ้งตอนจบ 5.49 ในกลุ่ม 15+BU (กลุ่มผู้ชมที่มีอายุตั้งแต่15ปีขึ้นไป ในเขตกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่) เช่นเดียวกับกลุ่ม15+NA(กลุ่มผู้ชมที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ) อยู่ที่ 4.33 สำหรับละคร ฟากฟ้าคีรีดาว ทางช่อง 3 ของค่ายเป่าจินจง ที่พิสูจน์ชัดถึงความเป็นทีมเวิร์คของทีมงาน รวมถึงความลงตัวของทีมนักแสดงรุ่นเล็ก ภณ-ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์ อิน-สาริน รณเกียรติ น้ำหวาน-ภูริตา สุปินชุมภู และรุ่นใหญ่อย่าง นก ฉัตรชัย นก สินจัย จอนนี่ แอนโฟเน่ ปิ่น เก็จมณี ที่ทำให้ละครเรื่องนี้ได้อรรถรส สมบูรณ์แบบ โดย ภณ และน้ำหวาน ขอเป็นตัวแทนขอบคุณทุกเสียงชื่นชมในละครเรื่องนี้อ่านนิยายไทยรัฐทั้งหมดได้ที่นี่น้ำหวาน เผยว่า ฟากฟ้าคีรีดาว เป็นอีกหนึ่งความทุ่มเทของหวาน และทีมงานทุกคน เรตติ้งออกมาสูงแบบนี้ ก็คุ้มกับความเหนื่อย ความทุ่มเทค่ะ ขอบคุณเป่าจินจง ที่แม้จะเป็นการร่วมงานกันครั้งแรก แต่อบอุ่นมากค่ะ ดูแลกันเหมือนเป็นครอบครัว ดานิกาเป็นตัวละครที่ไม่ขาว ไม่ดำ เป็นเหมือนคนทั่วไป ที่มีรัก โลภ โกรธ หลง การที่มารับบทนี้ หวานได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก ได้วิชาเยอะมาก ขอบคุณสำหรับทั้งคำชมและคำติ หวานพร้อมปรับปรุง พัฒนา เพื่อให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป และขอบคุณที่อินไปกับบทบาทที่เราได้รับ และแสดงออกไปค่ะ หลังจากนี้ หวานจะมีงานละครเรื่อง สัญญารัก สัญญาลวง เล่นกับเด่นคุณค่ะ ก็ฝากติดตามด้วยค่ะภณ กล่าวว่า ผมขอบคุณทุกคนที่ติดตามฟากฟ้าคีรีดาว ตั้งแต่ตอนแรกถึงตอนสุดท้าย ช่วยกันแชร์จนละครติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 หลายครั้ง ขอบคุณทุกคำติชม ทีมงาน นักแสดงจะเอาไปปรับใช้ในเรื่องต่อไป ฟีดแบคสำหรับสกาย คนดูจะพูดว่า เป็นคนเสียสละ เพราะเป็นฟ้ากว้าง ก็จะโอบอุ้มทุกอย่างไว้ สำหรับ ภณ ณวัสน์ ทุกคนก็จะพูดถึงเรื่องการแสดง เพราะได้เห็นผมในหลายๆ รูปแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งบทดราม่า แอ็กชั่น คอมเมดี้ โรแมนติก เรื่องเดียวครบเลย เราทุ่มเท 8-9 เดือน ตั้งใจกันมากๆ ฟีดแบคดีเกินคาด เราก็หายเหนื่อยเลยความกดดันกับผลงานต่อไป? แอบกดดันครับ เพราะเราตั้งมาตรฐานไว้ระดับนี้ เรื่องต่อไปก็ควรจะให้ดียิ่งขึ้น สำหรับเก็บแผ่นดินถ่ายไปบ้างแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงพักกองตามมาตรการล็อกดาวน์ แต่อาตู่ พี่นุช พี่กัปตัน ผู้กำกับ ก็ติดต่อนักแสดงกันตลอด มีส่งของกิน มีนัดซ้อมร้องเพลงของแต่ละคน เพราะในเก็บแผ่นดิน ผมร้องเพลงประกอบละครอีกครับ ผมเล่นเป็นทหารชื่อชลชาติ เวลาประจำการอยู่ตามชายแดน คิดถึงคนรัก ก็จะดีดกีตาร์ร้องเพลงสำหรับผม เสน่ห์ของการแสดงคือ ทำยังไงให้ตัวละครตัวนั้นมีชีวิต ให้คนดูเชื่อว่านั่นคือตัวละคร ไม่ใช่ภณ ณวัสน์ ถ้าเราทำได้ถึงจุดนั้น ผมก็จะภูมิใจในความเป็นนักแสดง ฝากถึงแฟนๆ ละครที่กำลังรอผลงานใหม่นะครับ ผมมี 2 เรื่อง เก็บแผ่นดิน กับ พราวมุก จะได้เห็นสองคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันชัดเจน พราวมุกจะเป็นเพลย์บอย ส่วน เก็บแผ่นดินจะเป็นทหาร ปกป้องทำงานเพื่อชาติ ฝากติดตามผลงานทุกเรื่องด้วย ทางช่อง 3 กด 33 ขอบคุณครับ.
จูงมือกันลาจอไปแบบสง่างาม ด้วยเรตติ้งตอนจบ 5.49 สำหรับละคร ฟากฟ้าคีรีดาว ทางช่อง 3 ของค่ายเป่าจินจง ที่พิสูจน์ชัดถึงความเป็นทีมเวิร์คของทีมงาน รวมถึงความลงตัวของทีมนักแสดงรุ่นเล็ก
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ฟากฟ้าคีรีดาว,ฟากฟ้าคีรีดาว ตอนจบ,น้ำหวาน ภูริตา,อิน สาริน,ภณ ณวัสน์,ละครช่อง 3,นิยาย,ละคร
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1841554
[ 0, 259, 89911, 5405, 87678, 205249, 51646, 92901, 259, 230209, 10062, 208546, 31753, 1881, 92168, 3324, 151945, 1, 0, 0 ]
ตม.สระแก้ว จับมือทหารจับแรงงานเขมรลอบเข้าไทยทางตะเข็บชายแดน รวม 94 คน
ตม.สระแก้ว จับมือกองกำลังบูรพาบุกจับแรงงานเขมรลอบเข้าไทยตามช่องทางธรรมชาติ2 ราย ได้รวม 93 คน สารภาพกำลังจะเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ชั้นใน ชี้กระทบความมั่นคงและเสี่ยงการระบาดโควิด-19เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 9 ก.ค. 63 ที่ที่ทำการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว ถนนมหาดไทย เทศบาลเมืองอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เผยว่าจากมาตรการคุมเข้มชายแดนของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.ที่สั่งการกำชับมายัง ตม.จว.สระแก้ว ให้เข้มงวดกวดขันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ตามช่องทางธรรมชาติตะเข็บชายแดนด้าน จ.สระแก้ว ตม.จว.สระแก้ว ได้ประสานความร่วมมือกับทหารกองกำลังบูรพา และตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ออกลาดตระเวนเข้มตามพื้นที่ตะเข็บชายแดนฯ และสามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่ลักลอบเข้าประเทศไทย ได้ 2 ราย รวมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาจำนวน 93 คน ในพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้วรายแรกเวลาประมาณ 03.00 น. จนท.ชุดปฏิบัติการร่วมได้ทำการปิดล้อมจับกุมกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ได้จำนวน 59 คน เป็นชาย 34 คน หญิง 25 คน ได้ที่บริเวณทุ่งนาบ้านคลองแผงม้า ม.10 ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว คุมตัวส่ง สว.สอบสวน สภ.บ้านทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ดำเนินคดีส่วนรายที่สองเวลาประมาณ 05.00 น. สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาได้จำนวน 34 คน เป็นชาย 18 คน หญิง 16 คน ได้ที่บริเวณไร่มันสำปะหลัง ท้ายหมูบ้านเขาลูกช้าง ม.14 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว คุมตัวส่ง สว.สอบสวน สภ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ดำเนินคดี โดยทั้งสองรายตั้งข้อหา เป็นคนต่างด้าว (กัมพูชา) เดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และมั่วสุมลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคตามข้อกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่า การจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาทั้ง 2 ราย ตม.จว.สระแก้ว ได้ร่วมกับ กกล.บูรพา และฝ่ายปกครอง จะสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลจับกุมกลุ่มขบวนการที่ลักลอบนำแรงงานเถื่อนเข้าประเทศให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและความมั่นคงทางด้านสาธารณสุข ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ด้วย เพราะแรงงานกัมพูชารับสารภาพว่าจะลักลอบไปทำงานในพื้นที่ชั้นในของประเทศไทย.
ตม.สระแก้ว จับมือกองกำลังบูรพาบุกจับแรงงานเขมรลอบเข้าไทยตามช่องทางธรรมชาติ 2 ราย ได้รวม 93 คน สารภาพกำลังจะเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ชั้นใน ชี้กระทบความมั่นคงและเสี่ยงการระบาดโควิด-19
ข่าว,ทั่วไทย
จับแรงงานเถื่อน,แรงงานเขมร,ลักลอบเข้าไทย,ตม.สระแก้ว,สระแก้ว,ลักลอบเข้าประเทศ,ชายแดนไทย-กัมพูชา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1885925
[ 0, 259, 66806, 146177, 10228, 30305, 49947, 142319, 3945, 181851, 44072, 147304, 9074, 62883, 221821, 356, 34545, 1, 0, 0 ]
เพื่อไทยตั้งทีมเฉพาะกิจ 32 ส.ส. ติดตามการชุมนุมของนักศึกษา พร้อมยินดีเป็นนายประกัน
เพื่อไทยตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเตรียม ส.ส. เป็นนายประกันด้าน สุดารัตน์ ปรับจุดยืน-ยืนยันรัฐบาลต้องไม่ใช้ความรุนแรงกับนักศึกษา หยุดคุกคามทุกรูปแบบ14 ส.ค. 2563 เมื่อเวลา 11.20 น. ที่รัฐสภา สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทยในฐานะประธานคณะทำงานเพื่อติดตามการชุมนุมของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชน ในคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมเพื่อแสดงออกทางความคิดของนิสิต นักศึกษาแต่ละจังหวัดว่า พรรคเพื่อไทยได้มีมติให้ตัวแทน ส.ส.เขตในจังหวัดนั้นๆ เข้าไปดูแลประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ทันที หากมีการชุมนุม โดยช่วยดูแลความสงบและความปลอดภัยให้การชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ โดยพรรคเพื่อไทยตระหนักถึงการชุมนุมของนักศึกษาว่าได้ขยายตัวมากขึ้น จึงได้ให้ส.ส.แต่ละพื้นที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเป็นทางการ ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังแต่อย่างใด เพราะถือเป็นหน้าที่ของผู้แทนราษฎรในพื้นที่ ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ยังได้ทำหนังสือรับรองเงินเดือน ในกรณีที่หากมีนิสิตนักศึกษาถูกจับกุม พรรคเพื่อไทยพร้อมจะเข้าไปประกันตัวทันที เมื่อถามว่าบทบาทที่จะเข้าไปประสานงานในพื้นที่มีเรื่องใดบ้างสมคิด กล่าวว่า มีเรื่องการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ชุมนุม เช่น สถานที่ ห้องน้ำ หรือเปิดพื้นที่เพื่อสามารถใช้เป็นกิจกรรมชุมนุมได้ ไปจนถึงกรณีการถูกข่มขู่ คุกคาม สามารถประสานกับส.ส.เพื่อไทยในพื้นที่เพื่อช่วยดูแลให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ได้ทันที ย้ำว่าสามารถทำได้ทุกเขตที่มีส.ส.เพื่อไทยอยู่ในพื้นที่ เมื่อถามว่ากรณีนักศึกษาที่จัดชุมนุม พูดถึงเรื่องสถาบัน พรรคเพื่อไทยจะได้รับผลกระทบด้วยหรือไม่ สมคิด กล่าวว่า ไม่มีผลกระทบ ใครพูดอะไรก็พูดไป เราไม่มีสิทธิไปบังคับ เพราะเราแค่เข้าไปดูแลความปลอดภัย ความเรียบร้อยและสังเกตการณ์ และแจ้งข้อมูลมายังอนุกรรมาธิการการปกครองเท่านั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยได้ตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามการชุมนุมของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน โดยมีรายชื่อได้แก่1.นายสมคิด เชื้อคง 2.นายเกรียง กัลป์ตินั้นท์ 3.นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ 4.นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ 5.นายการุณ โหสกุล 6.นางสมหญิง บัวบุตร 7.นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ 8.นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ 9.นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ 10.นายรัฐกิตติ์ ผาลีพัฒน์ 11.นายประภูศักดิ์ จินตะเวช 12.นายดะนัย มะหิพันธ์ 13.นายปิยวัฒน พันธ์สายเชื้อ 14.นายบุญแก้ว สมวงศ์ 15.นายธนกร ไชยกุล 16.นางสาวชนก จันทาทอง 17.นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ 18.นายภาควัต ศรีสุรพล 19.นายสยาม หัตถสงเคราะห์ 20.นายณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี 21.นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ 22.นายองอาจ วงษ์ประยูร 23.นายภณณัฏฐ์ ศรีอินทร์สุทธิ์ 24.นายวัน อยู่บำรุง 25.นายอนุสรณ์ ปั้นทอง 26.นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ 27.นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา 28.นายจิรทัศ ไกรเดชา 29.นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม 30.นายวันนิวัติ สมบูรณ์ 31.นางสาวกิตติ์รัญญา วาจาดี 32.นางสาวจิราพร สินธุ์ไพร 11 ส.ค. 63วันเดียวกัน สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กแฟนเพจ ว่าขอส่งสารถึงรัฐบาลต้องไม่ใช้ความรุนแรงกับนิสิตนักศึกษาเด็ดขาด และหยุดการคุกคามทุกรูปแบบ พร้อมขอโทษและเสียใจกรณีแสดงความเห็นก่อนหน้านี้ แต่มาจากความรู้สึกห่วงใยอย่างยิ่งดิฉันขอสื่อสารไปยังรัฐบาลว่า ในห้วงเวลาเช่นนี้ รัฐต้องไม่ใช้ความรุนแรงมาแก้ปัญหา และต้องหยุดการคุกคาม ข่มขู่นักศึกษาทุกรูปแบบหรือบังคับใช้กฎหมายโดยไร้ความยุติธรรม และอย่าได้คิดที่จะทำร้ายอนาคตของชาติอย่างเด็ดขาดดิฉันขอยืนยันและสนับสนุนการมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของนิสิต นักศึกษา และเคารพความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่เสมอมา สนับสนุนข้อเสนอทั้ง 3 ประการ ที่นักศึกษาได้เรียกร้องตลอดมา คือ หยุดคุกคามประชาชน ยุบสภา แก้รัฐธรรมนูญดังนั้นทางออกเดียวเวลานี้ของรัฐบาล คือ ต้องปฏิบัติตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อของนิสิต นักศึกษา ด้วยการเร่งรัดกระบวนการในสภา เพื่อให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อนำไปสู่อนาคตที่ดีกว่านี้ของประเทศและขอย้ำว่า รัฐต้องไม่ใช้ความรุนแรง อย่างเด็ดขาด และหยุดการคุกคามนักศึกษาทุกรูปแบบ ต่อการแสวงหาทางออกของสังคมไทยในขณะนี้สุดท้าย ที่ดิฉันได้แสดงความคิดเห็นก่อนหน้านี้ มาจากความรู้สึกที่ห่วงใยอย่างยิ่ง ต่อความปลอดภัยของนิสิต นักศึกษา เพราะเผด็จการอาจจะนำมาใช้เป็นข้ออ้างในการใช้ความรุนแรง จนเกิดความสูญเสียกับประชาชนได้ หากสิ่งที่ได้สื่อสารไป ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ดิฉันรู้สึกเสียใจ และต้องขอโทษอย่างยิ่ง แถลงการณ์ของสุดารัตน์ระบุก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 ส.ค. สุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนระบุว่าตัวเขามีจุดยืนการทำงานการเมืองภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเท่านั้น และเห็นด้วยกับการต่อสู้กับเผด็จการที่บริหารประเทศล้มเหลวตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่เรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยุบสภาและหยุดคุกคามประชาชนซึ่งอยู่ในวิสัยที่จะหาความร่วมมือกันได้ แต่เห็นว่าไม่ควรก้าวล่วงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่จะนำมาซึ่งความขัดแย้ง แตกแยกของคนในชาติ จนอาจเป็นเหตุของการรัฐประหารยึดอำนาจอีกครั้ง
เพื่อไทยตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเตรียม ส.ส. เป็นนายประกัน ด้าน สุดารัตน์ ปรับจุดยืน-ยืนยันรัฐบาลต้องไม่ใช้ความรุนแรงกับนักศึกษา หยุดคุกคามทุกรูปแบบ14 ส.ค. 2563 เมื่อเวลา 11.20 น.
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
พรรคเพื่อไทย,การชุมนุมประท้วง,สมคิด เชื้อคง
https://prachatai.com/journal/2020/08/89039
[ 0, 259, 148601, 12005, 11984, 48429, 77772, 36389, 12005, 67995, 3755, 237427, 4388, 143916, 1881, 36999, 75194, 259, 43202, 206002 ]
ไทยเร่งยุติ ความอดอยาก
ประเทศไทยกำลังขจัดความอดอยากให้หมดไป ข่าวนี้อาจจะทำให้หลายคนตกใจ แต่มันคือเรื่องจริงนี่ไม่ใช่ความอดอยากทั่วไป แต่มันคือ ความอดอยากหนังสือ มันเป็นสถานการณ์ที่ คนพิการทางสื่อสิ่งพิมพ์ มีโอกาสเข้าถึงหนังสือ ตำราเรียน และ สิ่งพิมพ์อื่นๆ ในรูปแบบที่พวกเขาสามารถ อ่าน ได้น้อยมาก เนื่องด้วยอาการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อาการตาบอด การบกพร่องทางการเห็น หรือ การอัมพาต ข้อจำกัดเหล่านี้ทำให้พวกเขาต้องใช้ รูปแบบที่ทำให้เข้าถึงสิ่งพิมพ์ รูปแบบอื่นๆ เช่น อักษรเบรลล์ หนังสือเสียง หนังสืออิเล็กทรอนิก และสิ่งพิมพ์ขนาดใหญ่เมื่อเร็วๆนี้ ประเทศไทยได้ทำหน้าที่เพื่อยุติความอดอยากหนังสือ ด้วยการร่วมลงนามในสนธิสัญญามาร์ราเคช (Marrakesh Treaty) ซึ่งเป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงสิ่งพิมพ์สำหรับคนตาบอด คนที่บกพร่องทางการเห็น และคนพิการทางสื่อสิ่งพิมพ์ ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ร่วมเป็นภาคีของสนธิสัญญาดังกล่าวในเดือนมกราคม พ.ศ. 2562 และจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2562 นี้สหภาพคนตาบอดโลก (World Blind Union) คาดการณ์ว่าหนังสือน้อยกว่าร้อยละ 10 ถูกแปลงให้อยู่ในรูปแบบที่คนพิการทางสื่อสิ่งพิมพ์สามารถเข้าถึงได้ และน้อยกว่าร้อยละ 1 ในประเทศกำลังพัฒนา การขาดรูปแบบที่ทำให้สามารถเข้าถึงสิ่งพิมพ์ถือเป็นการละเมิดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลและความรู้ นอกจากนี้ อุปสรรคดังกล่าวยังเป็นตัวขัดขวางไม่ให้ผู้พิการทางสื่อสิ่งพิมพ์ได้มีการศึกษาอย่างเพียงพอ มีงานที่มั่นคง ชื่นชมวัฒนธรรม และเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมได้อย่างเต็มที่ในประเทศไทย สถิติแสดงให้เห็นว่าคนพิการถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ยกตัวอย่างเช่น คนพิการที่ได้รับการศึกษาระดบสูงมีน้อยกว่าร้อยละ 1 ในขณะที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ราวร้อยละ 16 ประเทศไทยมีประวัติที่ดีในการรักษาอัตราการว่างงานอยู่ที่ 1 เปอร์เซ็นสำหรับคนทั่วไป แต่อัตราการว่างงานของคนพิการพุ่งสูงถึงร้อยละ 60 แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามปรับปรุงการจ้างงานของคนพิการในปีที่ผ่านมาความแตกต่างและการกีดกันดังกล่าวไม่เพียงแต่จะเป็นอุปสรรคต่อคนพิการในการพัฒนาศักยภาพและใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แต่ยังทำให้ประเทศไทยเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ การศึกษาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศระบุว่า ความสูญเสียทางเศรษฐกิจเชื่อมโยงกับการกีดกันคนพิการจากตลาดแรงงาน (การศึกษาต่ำเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กีดกันคนพิการจากตลาดแรงงาน) จำนวนร้อยละ 0.69-4.6 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในปี 2550 กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อคนพิการจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและต่อประเทศโดยรวมอย่างมหาศาลรัฐบาลไทยเข้าใจเรื่องผลเชิงบวกในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อคนพิการ และยังพยายามทำตามสัญญาระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมสิทธิคนพิการ ตัวอย่างสำคัญเช่น ประเทศไทยได้ลงนามในพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการในปีพ.ศ. 2559 (ประเทศแรกและประเทศเดียวในอาเซียนที่เข้าร่วม) และได้ร่วมลงนามสนธิสัญญามาร์ราเคชในปีนี้ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการทำตามหลักการ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และ เข้าถึงคนที่อยู่หลังสุดได้ก่อนใคร ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนค.ศ. 2030สนธิสัญญามาร์ราเคชได้รับการรับรองในปี พ.ศ.2556 เพื่อยุติความอดอยากหนังสือ ด้วยการสร้างกรอบทางกฎหมายระหว่างประเทศ ว่าด้วยข้อยกเว้นและข้อจำกัดด้านลิขสิทธิ์ สนธิสัญญานี้ทำให้การผลิตและเผยแพร่รูปแบบสำเนาหนังสือเพื่อคนพิการทางสื่อสิ่งพิมพ์เป็นไปอย่างง่ายดายขึ้น ทั้งในและระหว่างประเทศเมื่อสนธิสัญญามีผลบังคับใช้ในประเทศไทย หน่วยงานที่ได้รับอนุญาต ซึ่งรวมถึง หน่วยงานราชการ ห้องสมุด และ องค์กรคนพิการ สามารถผลิตและเผยแพร่สำเนารูปแบบของงานลิขสิทธิ์ที่ได้มาตามกฎหมายโดยไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ในขณะเดียวกัน สนธิสัญญาดังกล่าวได้กำหนดให้หน่วยงานที่ได้รับอนุญาตปกป้องผลประโยชน์ของเจ้าของลิขสิทธิ์ เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้สำเนารูปแบบที่เข้าได้จะต้องถูกใช้โดยคนพิการทางสื่อสิ่งพิมพ์เท่านั้นสนธิสัญญามาร์ราเคชจะช่วยให้การเข้าถึงความรู้และข้อมูลในประเทศไทยมีความเท่าเทียมมากขึ้น โดยการขยายการจัดเก็บสำเนารูปแบบที่ทำให้เข้าถึงสิ่งพิมพ์ พร้อมใช้งาน และการเข้าถึงทั่วประเทศ นอกจากนี้ สนธิสัญญาดังกล่าวจะช่วยสร้างห้องสมุดจำลองสำหรับคนพิการทางสื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งจะทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงหนังสือ ตำราเรียน วรสาร และสิ่งพิมพ์อื่นๆในรูปแบบที่พวกเขาสามารถ อ่านได้อย่างง่ายดาย เหมือนกับคนทั่วไปที่สามารถไปโรงเรียนหรือห้องสมุดสาธารณะเพื่ออ่านและยืมหนังสือภายใต้สนธิสัญญามาร์ราเคช ประเทศไทยสามารถเข้าถึงสำเนารูปสิ่งพิมพ์จำนวนมากจากประเทศอื่นๆ (เกือบ 80 ประเทศและกำลังเพิ่มขึ้น) รวมถึงสหรัฐอเมริกา (ในต้นเดือนหน้า) สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น ทั้งนี้ จะช่วยขยายโอกาสทางการศึกษา การงาน และวัฒนธรรมให้กับคนพิการทางสื่อสิ่งพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เรียนภาษาต่างประเทศ วรรณกรรม หรือผู้ที่กำลังศึกษาด้านวิทยาศาสตร์สุดท้ายนี้ สนธิสัญญามาร์ราเคชจะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างการตอบสนองต่อความพิการของประเทศไทย โดยการมีส่วนร่วมกับหน่วยงานใหม่ รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์กฎหมายลิขสิทธิ์และอุตสาหกรรมการพิมพ์ สนธิสัญญาดังกล่าวช่วยเปลี่ยนการรับรู้ของคนทั่วไปเรื่องการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อคนพิการ เปลี่ยนจากความเชื่อที่ว่านี่เป็นเรื่องของการกุศลไปสู่เรื่องสิทธิมนุษยชน เปลี่ยนจากความเชื่อที่ว่านี่คือภาระทางการเงินไปสู่เรื่องการลงทุนและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคมที่มั่นคงในยุคแห่งสังคมสูงวัย ประชากรมีความเสี่ยงที่เกิดความพิการทางสื่อสิ่งพิมพ์มากขึ้น ดังนั้น ใครๆก็สามารถใช้ประโยชน์จากสนธิสัญญานี้ได้ ทั้งนี้ ได้มีการคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะเป็นสังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มที่ในปีพ.ศ. 2574 ซึ่งเกือบ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดจะเป็นผู้สูงวัยที่มีอายุสูงกว่า 60 ปี ความเห็นที่แสดงไว้ในที่นี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองของรัฐบาลไทยหรือคณะกรรมการแห่งสหประชาชาติ
ประเทศไทยกำลังขจัดความอดอยากให้หมดไป ข่าวนี้อาจจะทำให้หลายคนตกใจ แต่มันคือเรื่องจริงนี่ไม่ใช่ความอดอยากทั่วไป แต่มันคือ ความอดอยากหนังสือ มันเป็นสถานการณ์ที่ คนพิการทางสื่อสิ่งพิมพ์
สังคม,สิทธิมนุษยชน,คุณภาพชีวิต
เรโนด์ เมเยอร์,ผู้พิการ,สนธิสัญญามาร์ราเคช,Marrakesh Treaty,ผู้พิการทางสายตา
https://prachatai.com/journal/2019/04/82194
[ 0, 259, 94117, 32896, 20322, 37801, 10062, 135040, 59474, 63709, 259, 105807, 41582, 19895, 130726, 2361, 120195, 135570, 95238, 121682 ]
สาวลูกครึ่งไทย-มะกัน รับมรดกพันล้าน
กำพร้าพ่ออยู่อดอยากกว่า17ปี ต้องออกจากการเรียนช่วยแม่ ไม่คาดย่าทิ้งหุ้นบ่อนํ้ามันให้,สาวไทยพร้อมลูกสาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ชีวิตพลิกรวยในพริบตา หลังตกทุกข์อยู่อย่างลำบากในฮาวาย เมื่อสามีชาวอเมริกันเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับขณะลูกอายุแค่ 5 ขวบ ถึงขั้นต้องขอข้าวจากโบสถ์มาประทังชีวิตและดิ้นรนทำงานหาเงินมาจุนเจือ จนลูกสาวตัดสินใจไม่เรียนต่อเพื่อมาช่วยแม่ทำงาน กระทั่งโตเป็นสาว เพิ่งรู้ครอบครัวของพ่อร่ำรวยมหาศาล เมื่อย่าทิ้ง มรดกเป็นหุ้นในบ่อน้ำมันไว้ให้หลานๆ ล่าสุดตัดสินใจเตรียมกลับมาปักหลักอยู่ในไทยและเรียนต่อเพื่อสานธุรกิจในอนาคต,สองแม่ลูกสาวไทย จู่ๆก็กลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน หลังแม่สามีชาวอเมริกันแบ่งมรดกหุ้นในบ่อน้ำมันที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ได้รับการเปิดเผยจากนางประคอง กิบสัน อายุ 57 ปี ชาวสุพรรณบุรี และ น.ส.เอริกา จัสมิน บอลด์วิน กิบสัน อายุ 22 ปี ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ลูกสาว หลังกลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา รับมรดกมูลค่า 1,000 ล้านบาท ของนายเคนดริก บอลด์วิน กิบสัน ชาวอเมริกัน ผู้เป็นสามี ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง โดยนางประคอง กล่าวความหลังให้ฟังว่า เมื่อปี 2536 ตนเปิดร้านเสริมสวยอยู่ในซอยสบายใจ ย่านสุทธิสาร กทม. ได้รู้จักกับนายเคนดริก ที่เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย เช่าห้องพักอยู่ในซอยสบายใจโดยบังเอิญ ก่อนจะติดต่อไปมาหาสู่กันตลอด จนได้แต่งงานจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จากนั้นตนย้ายไปอยู่กับนายเคนดริก ที่เกาะคาไว รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา และมีลูกด้วยกัน 1 คน คือ น.ส.เอริกา จัสมิน บอลด์วิน กิบสัน ขณะนั้นตนเป็นแม่บ้านมีหน้าที่ดูแลงานบ้านเลี้ยงลูก สามีไม่ได้ทำงานอะไร เพราะครอบครัวได้รับเงินจากนางเดกซ์ตรา บอลด์วิน แม่ของนายเคนดริก ที่อาศัยอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย มีอาชีพเป็นนักลงทุนเล่นหุ้น เดือนละ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ,นางประคองกล่าวอีกว่า กระทั่งปี 2543 นายเคนดริกเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับด้วยวัย 67 ปีตนและลูกถูกตัดขาดการติดต่อจากครอบครัวบอลด์วิน กิบสัน มีเงินติดตัวทั้งหมดไม่ถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต้องอาศัยขอข้าวจากโบสถ์คริสต์ละแวกบ้านประทังชีวิต 10 วัน ตนต้องทำเอกสารขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ได้เงินมา 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และนำมาเป็นทุนนำเข้าสินค้าประเภทไม้แกะสลักจากเมืองไทยนำไปขายในเกาะคาไว แต่ประสบสภาวะขาดทุน จึงเปลี่ยนมาเปิดร้านอาหารไทย ชื่อกิ่งบัว ไทยเรสเตอรองส์ ที่เกาะคาไว กระทั่งปี 2553 นางเดกซ์ตรา บอลด์วิน แม่ของสามี เสียชีวิต และต่อมามีหนังสือจากทนายความตระกูล บอลด์วิน กิบสัน ระบุให้ น.ส.เอริกา จัสมิน บอลด์วิน กิบสัน รับมรดกของนางเดกซ์ตรา บอลด์วิน ผู้เป็นทายาทในหุ้นสัมปทานที่รัฐบาลขุดเจาะน้ำมันในที่ดินในรัฐแคลิฟอร์เนีย ของตระกูลบอลด์วิน กิบสัน แบ่งออกเป็น 1.นางบอนนี่ บอลด์วิน กิบสัน พี่สาวของนายเคนดริก ได้ 50 เปอร์เซ็นต์ 2.น.ส.เฮเธอร์ บอลด์วิน กิบสัน 3.น.ส.มาร์โก บอลด์วิน กิบสัน ทั้งสองคนเป็นลูกสาวนายเคนดริก แต่ต่างมารดา ได้คนละ 16.3 เปอร์เซ็นต์ 4.น.ส.เอริกา จัสมิน บอลด์วิน กิบสัน 16.3 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงหุ้นและพันธบัตรหลักทรัพย์ และในต้นปี 2560 ทนายความได้ให้ตนและลูกสาวนำเอกสารไปรับมรดกดังกล่าวมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท เมื่อรับมรดกเสร็จ ได้กลับมาประเทศไทยเพื่อเยี่ยมบ้านเกิด และจะเดินสายทำบุญตามวัดต่างๆ ก่อนหาลู่ทางทำธุรกิจ เพื่อพาลูกสาวกลับมาอยู่เมืองไทยอย่างถาวร,ด้าน น.ส.เอริกา จัสมิน บอลด์วิน กิบสัน อายุ 22 ปี กล่าวว่า หลังจากคุณพ่อเสียชีวิตลงจากอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งตับ ช่วงนั้นตนมีอายุ 5 ขวบ เนื่องจากไม่ได้ทำประกันไว้ เงินทั้งหมดของครอบครัวได้ใช้ไปกับการรักษาจนหมด ทำให้ครอบครัวต้องตกอับลำบากอย่างหนัก ในช่วงอายุ 12 ปี คุณแม่เปิดร้านอาหารไทย กิ่งบัว เมื่อตนจบมัธยมปลายเมื่ออายุได้ 18 ปี ตัดสินใจหยุดเรียน เพื่อมาช่วยเสิร์ฟอาหาร ทำอาหาร จัดซื้อวัตถุดิบ และบริหารจัดการธุรกิจร้านอาหารด้วยตัวเอง กระทั่งปี 2560 ทนายความประจำตระกูลบอลด์วิน กิบสัน มีเอกสารว่าตนได้รับมรดกมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท รู้สึกตกใจมาก เพราะที่ผ่านมาไม่เคยทราบมาก่อนว่าตระกูลของคุณพ่อจะรวยมหาศาลขนาดนี้ และคุณพ่อไม่เคยพูดหรือบอกเล่าคุณแม่เลย เพราะเกรงว่าหากคนทราบว่ามีฐานะร่ำรวยครอบครัวจะไม่ปลอดภัย,น.ส.เอริกา จัสมิน กล่าวอีกว่า ส่วนมรดกที่ต้องรับช่วงต่อการสืบทอดที่ตนไม่เคยได้รู้มาก่อน คือหุ้นและพันธบัตรหลักทรัพย์ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน และจำนวนเปอร์เซ็นต์ของธุรกิจน้ำมันที่ครอบครัวเป็นผู้ถือครองร้อยละ 16.3 คิดเป็นเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี หลังจากนี้ตัดสินใจกลับมาลงเรียนมหาวิทยาลัยอีกครั้ง เพื่อนำความรู้มาสานต่อธุรกิจในอนาคต และอยากให้คุณแม่ได้พักผ่อน จึงได้เสนอให้ปิดธุรกิจร้านอาหารที่ฮาวาย รวมทั้งกลับมาประเทศไทย เพื่อทำธุรกิจน้ำดื่มเล็กๆใน จ.กาญจนบุรี
สาวไทยพร้อมลูกสาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ชีวิตพลิกรวยในพริบตา หลังตกทุกข์อยู่อย่างลำบากในฮาวาย เมื่อสามีชาวอเมริกันเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับขณะลูกอายุแค่ 5 ขวบ ถึงขั้นต้องขอข้าวจากโบสถ์มาประทังชีวิต
ข่าว,ต่างประเทศ
มรดก,บ่อน้ำมัน,มหาเศรษฐี,ประคอง กิบสัน,เอริกา จัสมิน บอลด์วิน กิบสัน
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1155040
[ 0, 259, 35239, 13999, 5490, 149012, 72810, 12848, 13999, 94972, 18433, 1, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0 ]
โดนนำสไตล์ ช้างศึก ยู-19 พลิกแซง กัมพูชา 2-1 ชิงแชมป์อาเซียน
โดนนำแต่กลับมาแซงอีกแล้ว สำหรับ ช้างศึกจูเนียร์ ทีมชาติ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เมื่อพลิกกลับมาเอาชนะ กัมพูชา ได้ หวุดหวิด 2-1 โดยได้ประตูชัยจาก เจ้ายิม วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ กัปตันคนเก่ง,วันที่ 16 ก.ย.59 ฟุตบอลเยาวชน ชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เอเอฟเอฟ ยู-19 ที่ รอบแบ่งกลุ่ม นัด 3 ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี พบ กัมพูชา รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี แข่งขันวันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ.2559 เวลา 16.00 น. ณ สนามฮั่งได๋ สเตเดียม กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม,เปิดฉากเริ่มเกมได้เพียงนาทีที่ 7 ทีมชาติไทย ถูกกัมพูชาขึ้นนำไปก่อน จากเข้าทำประตูตัวเองของ ศฤงคาร พรมสุภะ ทำให้กัมพูชา ขึ้นนำไปก่อน 1-0,ทีมชาติไทย พยายามเดินหน้าบุกต่อเนื่อง ขณะที่ทางฝั่งของ กัมพูชา พยายามบีบเร็วเพื่อให้เล่นยาก กระทั่งนาทีที่ 27 โชติภัทร พุ่มแก้ว จ่ายบอลมาให้ จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ หวดเต็มข้อเป็นประตูตีเสมอ ไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี 1-1 กัมพูชา รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี,เกมเข้าสู่นาทีที่ 29 วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ กัปตันทีมกระชากบอลเข้าเขตโทษก่อนซัดบอลเข้าไป ไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี พลิกนำ กัมพูชา รุ่น 2-1 หลังจากนั้นไม่มีทีมใดเบิกสกอร์เพิ่มได้ จบครึ่งแรก ไทย นำ กัมพูชา  2-1 ,เข้าสู่เริ่มครึ่งหลัง ทีมชาติไทย ครองเกมบุกเข้าใส่ กัมพูชา และได้ลุ้นจากลูกยิงของ สุขสันต์ มุ่งเป้า นาทีที่ 52 เข้าซองผู้รักษาประตูกัมพูชา,นาทีที่ 58 ไทยเปลี่ยนนักเตะส่ง ศิริมงคล จิตบรรจง ลงสนามแทน จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ ผู้ทำประตูแรก นาทีที่ 71 สรวิทย์ พานทอง ได้โหม่งบอลแต่ไม่แรงนัก ผู้รักษาประตูกัมพูชา ยังรับไว้ได้,นาทีที่ 74 ไทยเปลี่ยน สิทธิโชค ภาโส แทน สรวิทย์ พานทอง ก่อนที่นาที 84 จะส่ง วิศรุต อิ่มอุระ ลงมาแทน ศิริมงคล จิตบรรจง ที่มีอาการบาดเจ็บอีกหนึ่งราย,ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีฝ่ายไหนทำประตูเพิ่มได้ หมดเวลาการแข่งขัน ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ชนะ ทีมชาติกัมพูชา รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี 2-1 เก็บ 9 คะแนน จาก 3 นัดแรก
โดนนำแต่กลับมาแซงอีกแล้ว สำหรับ ช้างศึกจูเนียร์ ทีมชาติ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เมื่อพลิกกลับมาเอาชนะ กัมพูชา ได้ หวุดหวิด 2-1 โดยได้ประตูชัยจาก วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ
ทีมชาติไทย 19 ปี,ช้างศึกจูเนียร์,ทีมชาติไทย,รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี,เอเอฟเอฟ ยู-19,ยูธ แชมเปียนส์ชิพ 2016,รอบแบ่งกลุ่ม,นัดที่ 3,จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์,วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ
https://www.thairath.co.th/content/725090
[ 0, 259, 182965, 11984, 259, 233533, 69691, 210805, 259, 221821, 259, 98963, 1, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0 ]
ยันไม่มีสัญญาณโยกซี 11 จากภายนอก
เสมา 1 ชี้อย่าหลงเชื่อข่าวลือ ไม่มั่นใจชง ครม.เคาะซี 10 สัปดาห์หน้า,เมื่อวันที่ 13 ก.ย. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ผ่านมา ที่ประชุมได้เห็นชอบค่าตอบแทนพิเศษครูที่สอนนักเรียนพิการในโรงเรียนเอกชน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอขอปรับเพิ่มค่าตอบแทนพิเศษครูที่สอนนักเรียนพิการในโรงเรียนเอกชน จำนวน 183 คน จากเดิม 2,000 บาท เป็น 2,500 บาท เช่นเดียวกับครูที่สอน นักเรียนพิการในโรงเรียนรัฐ ซึ่งครูที่สอนนักเรียนพิการถือเป็นบุคคลที่ทุ่มเทเสียสละให้แก่นักเรียน พิการมากกว่าครูที่สอนนักเรียนปกติ เพราะนักเรียนพิการมีข้อจำกัดหลายด้านไม่สามารถเรียนรู้เหมือนนักเรียนปกติ ดังนั้นกลุ่มครูเหล่านี้จึงต้องฝึกอบรมเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียนรู้สำหรับเด็กพิการ นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้ ศธ.เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 1,351,125,150 บาท ตามที่ ศธ.เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณร่ายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2560 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูหน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัด ศธ.ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งยัง เห็นชอบปรับโครงสร้างค่าเช่าบ้านข้าราชการจากต่ำสุด 800-4,000 บาท เป็นต่ำสุด 2,500-6,000 บาท,รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า ส่วนการเสนอรายชื่อผู้บริหาร ศธ.ระดับ 10 ที่มีตำแหน่งว่าง 9 ตำแหน่ง ได้แก่ ผู้ตรวจราชการ ศธ. 3 ตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) 1 ตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 1 ตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2 ตำแหน่ง และรองปลัด ศธ. 1 ตำแหน่งนั้นยังไม่ได้ มีการเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณา ตนพูดมาเสมอว่าเรื่องคนต้องคิดนานๆ ซึ่งไม่มั่นใจว่าในการประชุม ครม.ครั้งหน้าจะเสนอได้ทันหรือไม่ เพราะเป็น ครม.สัญจร แต่คาดว่าไม่เกินสองสัปดาห์ ครม.จะพิจารณาและได้ตัวจริงในตำแหน่งที่ว่างแน่นอน เพราะตนได้หารือ รมช.ศธ.ทั้งสองคนแล้ว แม้จะดำเนินการในเรื่องนี้ช้าแต่ไม่ได้ทำให้การทำงานเกิดสุญญากาศ สำหรับประเด็นจะมีการโยกย้ายผู้บริหารระดับ 11 อีกรอบก็ไม่เป็นความจริงอย่าไปเชื่อข่าวลือ ซึ่งขอย้ำว่าการโยกย้ายระดับ 11 ที่อยู่ในอำนาจตน ได้มีการดำเนินการขยับไปเรียบร้อยแล้วและเท่าที่ทราบในอำนาจการโยกย้ายจากภายนอกก็ไม่ได้มีการส่งสัญญาณว่าจะมีการโยกย้ายใดๆทั้งสิ้น.
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ผ่านมา ที่ประชุมได้เห็นชอบค่าตอบแทนพิเศษครูที่สอนนักเรียนพิการในโรงเรียนเอกชน
ข่าว,ทั่วไทย
ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์,การแต่งตั้งโยกย้ายระดับ 11,ค่าตอบแทนพิเศษ,ครูสอนนักเรียนพิการ,โรงเรียนเอกชน
https://www.thairath.co.th/news/local/1069409
[ 0, 259, 104582, 9074, 260, 17958, 27987, 260, 259, 33523, 43408, 4188, 259, 17958, 27987, 260, 62793, 163667, 31421, 122349 ]
เนเน่ แสดงรอบสุดท้าย บนเวที CHUANG 2020 ลุ้นได้เดบิวต์เกิร์ลกรุ๊ปจีน
เอาใจช่วย และร่วมโหวตให้ เนเน่ พรนับพัน แสดงสดบนเวที รอบสุดท้าย บนเวที CHUANG 2020 ลุ้นได้เดบิวต์เกิร์ลกรุ๊ปจีน แฟนคลับส่งกำลังใจ ดัน#CHUANG2020final ติดอันดับ 1 เทรนด์ทวิตฯเข้าสู่รอบสุดท้าย สำหรับรายการ CHUANG 2020 หลังประกาศผลคะแนนโหวต 15 เด็กฝึกที่ได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย โดย เนเน่ พรนับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์ สาวไทยหนึ่งเดียวในรายการยังคงได้รับกำลังใจจากแฟนๆ อย่างล้นหลามจนสามารถผ่านเข้าสู่รอบตัดสินโดยติดอันดับ 1 ใน 7 เด็กฝึกที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุด และยังเป็นเด็กฝึกที่มีจำนวนการรับชมคลิป FOCUS CAM การแสดงต่อหน้าผู้ชมในห้องส่งครั้งที่ 3 ในช่องยูทูบทางการของรายการสูงที่สุดอีกด้วยซึ่งวันนี้เป็นรอบสุดท้าย ซึ่งเป็นการแสดงสด ของเด็กฝึกที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 15 คน ซึ่งก่อนที่จะเริ่มการแสดง มีการประกาศ เด็กฝึกที่มีอันดับสูงขึ้น(นับคะแนนล่าสุดถึง 20.00 น.เวลาจีน) มีจำนวน 4 คน คือ ซูรุ่ยฉี สวี่อี้หยาง ซีหลินน่าอีเกา หวังอี้จิ่น เท่ากับว่าเด็กฝึกที่เหลือ ก็มีสิทธิ์ที่จะขยับอันดับเช่นกันสำหรับการทดสอบในรอบตัดสินนี้ ทางรายการได้แบ่งเด็กฝึกออกเป็น 2 ทีม เพื่อขึ้นแสดงเป็นครั้งสุดท้ายบนเวที CHUANG 2020 ในสองเพลงที่มีชื่อว่า Its a Bomb มีเด็กฝึกทั้งหมด 8 คนเป็นผู้แสดง ซึ่งในกลุ่มนี้ มี เนเน่ พรนับพัน ด้วย และ Phoenix จะมีเด็กฝึกทั้งหมด 7 คนเป็นผู้แสดงขณะที่ในโลกโซเชียลอย่างทวิตเตอร์แฟนคลับร่วมส่งกำลังใจให้ เนเน่ ดันแฮชแท็ก #LoveNeneInfinity ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ รวมถึง แฮชแท็กรายการ#CHUANG2020finalก็ติดอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์เช่นกันอย่างไรก็ตาม สามารถร่วมส่งแรงเชียร์เด็กฝึกในช่วงโค้งสุดท้ายของรายการได้ด้วยการ โหวตเด็กฝึกที่คุณชื่นชอบ ผ่านแอปพลิเคชัน WeTV ดังนี้1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน WeTV และเข้าระบบ2. จากนั้นเลือกรายการ CHUANG 2020 แล้วเลือก โหวตเด็กฝึกที่คุณชื่นชอบ3. เลือกกด โหวต ที่รายชื่อของเด็กฝึกที่ชื่นชม ทั้งนี้สามารถโหวตได้เพียง 1 คนเท่านั้น และสิทธิพิเศษ VIP จะได้คะแนน 2 เท่า
เอาใจช่วย และร่วมโหวตให้ เนเน่ พรนับพัน แสดงสดบนเวที รอบสุดท้าย บนเวที CHUANG 2020 ลุ้นได้เดบิวต์เกิร์ลกรุ๊ปจีน แฟนคลับส่งกำลังใจ ดัน #CHUANG2020final ติดอันดับ 1 เทรนด์ทวิตฯ
ข่าว,สังคม
เนเน่ พรนับพัน,เนเน่,chuang2020,เดบิวต์,นักร้อง,รอบชิงชนะเลิศ,โหวตเนเน่,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1882503
[ 0, 259, 40626, 2752, 47820, 6581, 138504, 41071, 48556, 175049, 7910, 233267, 47187, 3324, 259, 73536, 126965, 23941, 32896, 16379 ]
สหภาพนักเรียนนักศึกษา นัดแฟลชม็อบ เย็นนี้ จุดเทียนทวงคืนความยุติธรรม
สหภาพนักเรียนนักศึกษา นัดแฟลชม็อบ เย็น 22 ก.พ.นี้ จุดเทียนทวงคืนความยุติธรรม หม่อมปลื้ม เปรียบระบอบอำนาจนิยมกินรวบไทยเหมือนธานอสรวมอินฟินิตี้ สโตน ครบ ส่วนประชาชนพัง22 ก.พ.2563หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ บริเวณตึกคณะศิลปศาสตร์ สหภาพนักเรียน นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ติดป้ายข้อความที่เขียนว่า ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม หมดเวลาทำใจและได้เวลาต่อสู้ แต่หลังติดป้ายได้ไม่นาน ป้ายดังกล่าวได้ถูกถอดออกแล้วต่อมาเวลา 23.29 น.สหภาพนักเรียน นิสิตนักศึกษาฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค เตรียมจัด Flash Mob 22 ก.พ.นี้ เวลา 17.30ณ ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และร่วมกันจุดเทียนทวงคืนความยุติธรรมขณะที่มล.ณัฐกรณ์ เทวกุล หรือ หม่อมปลื้มผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ อัดวิดีโอและเผยแพร่ผ่านทาง M.L.Nattakorn Devakula เทียบสถานการณ์ทางการเมือง กรณีตัวละครสำคัญของอเวนเจอร์ส คือ ธานอส ซึ่งทำการสะสมอัญมณีTheInfinity Stones(ดิ อินฟินิตี้ สโตน) ที่เป็นพลังงานทั้ง 6 ชนิด ส่งผลให้ตัว ธานอส มีอำนาจที่จะเสกอะไรขึ้นมาก็ได้ตามอำเภอใจในจักรวาลขณะที่การเมืองไทย องค์กรอิสระอย่าง กกต. ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการเเผ่นดิน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เเละกำลังดิบอย่างกองทัพเปรียบเสมือนอัญมณีนั้น หากอยู่ในอุ้งมือคนใดคนหนึ่งคนเดียว หรือปฎิบัติการเป็นเเผงเดียวกันด้วยเจตนารมณ์ที่สอดคล้องกันเมื่อไหร่ อำนาจในทั้งประเทศจะถูกกินรวบเเละฝ่ายที่พังพินาศเบ็ดเสร็จก็จะกลายเป็นประชาชน
สหภาพนักเรียนนักศึกษา นัดแฟลชม็อบ เย็น 22 ก.พ.นี้ จุดเทียนทวงคืนความยุติธรรม หม่อมปลื้ม เปรียบระบอบอำนาจนิยมกินรวบไทยเหมือนธานอสรวมอินฟินิตี้ สโตน ครบ ส่วนประชาชนพัง22 ก.พ.2563
การเมือง
ณัฐกรณ์ เทวกุล,ธานอส,อินฟินิตี้ สโตน,ยุบพรรคอนาคตใหม่,สหภาพนักเรียน นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย
https://prachatai.com/journal/2020/02/86457
[ 0, 259, 204405, 17117, 75194, 259, 43202, 206002, 121387, 202949, 259, 28571, 150201, 100182, 6582, 152388, 4682, 35065, 10062, 116670 ]
กอล์ฟสแควร์ 14/06/60
หลังจากสวรรค์แกล้งให้ซ้อมใหญ่มา 1 สัปดาห์ ,โปรเม เอรียา จุฑานุกาล, ก็ก้าว ขึ้นแท่นเป็น ,นักกอล์ฟหญิงมืออันดับ 1 ของโลก, อย่างเป็นทางการแล้ว ไม่ต้องรอส้มหล่น ไม่ต้องรอบุญหล่นทับ แต่ใช้สองมือของเธอเองคว้าแชมป์ ,Manulife LPGA Classic, เป็นแชมป์แรกในปีนี้และเป็นแชมป์, แอลพีจีเอทัวร์, รายการที่ 6 ของเธอ,แฟนกอล์ฟชาวไทยที่อดหลับอดนอนเพื่อตามเชียร์ ,โปรเม, และที่ตื่นแต่เช้ามืดมาดูผล ดีอกดีใจกับผลงานประวัติศาสตร์ของ ,เอรียา, แต่มีอีก 2 คนที่ช็อกกับชัยชนะครั้งนี้คือ, โปรโม โมรียา จุฑานุกาล, กับ ,แม่เปิ้ล นฤมล ติวัฒนาสุข, ซึ่งรู้ข่าวช้ากว่าคนอื่น เพราะต้องขึ้นเครื่องบินจาก, ฟลอริดา, เดินทางไปรอ ,น้องเม, ล่วงหน้าที่ ,มิชิแกน, เพื่อลงแข่งรายการต่อไป,ทั้งคู่ปิดเครื่องมือสื่อสารก่อนเครื่องเทกออฟ ขณะที่ ,เอรียา, อยู่ยังไม่จบหลุม 18 ด้วยความรู้สึกว่า ,ที่ 2 ก็ยังดี, หลังเครื่องลงจอดแล้ว ทันทีที่เปิดโทรศัพท์ขึ้นมา เสียงเตือนจากไลน์ดังกระหน่ำเข้ามาเป็นร้อย และข้อความแรกที่เปิดดูคือข่าวที่ไม่คาดฝันจาก ,โปรเนท, ,นนทยา ศรีสว่าง, ที่บอกมาว่า, เอรียา, ได้แชมป์ จนทำให้ทั้ง ,แม่, และ ,พี่สาว, กอดกันน้ำตาคลอก่อนลงจากเครื่องบิน,ร้อยวันพันปี นานทีปีหน ที่ เอรียา จะเดินทางไปแข่งขันโดยไม่มีพี่สาวแข่งอยู่เคียงข้าง และแม่ที่คอยตามดูแลไม่เคยห่าง แต่เมื่อถึงวันที่ น้องเม ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในอาชีพนักกอล์ฟ แม่กับพี่สาวกลับเป็นผู้ที่รู้ช้ากว่าคนอื่น นิยายชีวิตบางทีผู้ลิขิตก็เขียนบทไว้ราวกับละคร,Womens World Golf Ranking, ประกาศคะแนนทางการของอันดับ 1 ,เอรียา จุฑานุกาล, นักกอล์ฟเจ้าของ, ID 3079, มีคะแนนดิบ 500.7335 จาก 57 รายการที่ลงแข่งขัน มีคะแนนเฉลี่ย 8.7848 ส่วนอันดับ 2 ลิเดีย โค ID 3837 มีคะแนนดิบ 408.5022 จาก 49 รายการ มีคะแนนเฉลี่ย 8.3368 และนั่นคือ ,เอรียา จุฑานุกาล, ขึ้นเป็น ,มือ 1 ของโลก, คนที่ 10 นับตั้งแต่มีการจัดอันดับครั้งแรกเมื่อ 21 ก.พ. 2006 ต่อจาก ,แอนนิกา ซอเรนแตม–ลอเรนา โอชัว–ชินจี แอ–ไอ มิยาซาโตะ–คริสตี เคอร์–เจิ้งหย่าหนี-สเตซี ลูอิส–ปาร์คอินบี, และ ,ลิเดีย โค,โปรแช้งค์,แฟกซ์ 0–2271–1983
โปรเม เอรียา จุฑานุกาล,นักกอล์ฟหญิงมืออันดับ 1 ของโลก,Manulife LPGA Classic, แอลพีจีเอทัวร์
กอล์ฟสแควร์,โปรแช้งค์,โปรเม,เอรียา จุฑานุกาล,Manulife LPGA Classic
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/971125
[ 0, 259, 40626, 2752, 138467, 259, 261, 9912, 273, 10909, 458, 100633, 11119, 261, 259, 142987, 138467, 43427, 2361, 95067 ]
คลุกวงในไทยลีก 03/09/62
On the other side of the clouds is a bright blue sky อีกฟากหนึ่งของท้องฟ้าที่มีเมฆหม่น ย่อมเป็นฟ้าไร้ฝนที่เจิดจ้าสดใส คลุกวงในไทยลีก ประจำวันอังคารที่ 3 กันยายน 2562 ฉบับต้อนรับและให้กำลังใจ ทีมชาติไทย ช่วงรอบคัดเลือกบอลโลก,ใน โซนเอเชีย มี 40 ทีม แบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 5 ทีม แข่งขันแบบพบกันหมด โดยเอา ที่ 1 ของแต่ละกลุ่มเข้ารอบต่อไปโดยอัตโนมัติ 8 ทีม และ ที่ 2 ที่ดีที่สุดอีก 4 ทีม รวม 12 ทีม ก็ต้องรอลุ้นกันว่าจะมีชื่อ ไทยแลนด์ เป็นหนึ่งในนั้นด้วยหรือไม่,หลังจากร้องเพลงรอว่าใครจะมารับหน้าที่ ผู้อำนวยการทีม (ซึ่งความจริงก็คือ ผู้จัดการทีม นั่นแหละ) ปรากฏว่า มีชื่อของ ดร.พินิจสรณ์ ลือชัยขจรพันธุ์ คีย์แมนของ แพลน บี เจ้าของสัมปทานด้านการตลาดของ สมาคมกีฬาฟุตบอลไทยฯ มารับหน้าเสื่อ,ส่วนรายชื่อ ผู้ช่วยโค้ช มีพลิกโผคนเดียว โดยที่ชื่อของ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หลุดไป เดาเอาว่าที่ อากิระ นิชิโนะ บอกลาซาโยนาระกับ โค้ชโต่ย เพราะคงต้องการทีมงาน ป้ายแดง มาช่วยกันนับหนึ่งใหม่แบบพร้อมๆกัน,นี่ก็กดดันแบบเงียบๆ บรรดา ขุมกำลัง ที่บินตรงจากแดนปลาดิบ อันได้แก่ เจ ชนาธิป, อุ้ม ธีราทร และ นิว ฐิติพันธุ์ เพราะทั้งสมาคมฟุตบอลฯ และทีมงานตลอดจนกองเชียร์ไทย ต่างก็ฝากผีฝากไข้ไว้กับทั้ง 3 คน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอย่าลืมว่า ฟุตบอลเล่นกัน 11 คน อย่าให้อีก 8 คน รู้สึกว่าเป็นแค่ ตัวประกอบ เป็นอันขาด,ไทยเบฟ ผนึกกำลัง เชียร์ไทยใช่เลย เมื่อวันก่อน ฐาปน สิริวัฒนภักดี จัดแคมเปญเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ มีทั้ง ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, สะสม พบประเสริฐ และแม้กระทั่งรัฐมนตรีดาวซัลโว สมศักดิ์ เทพสุทิน ก็ยังเจียดเวลาควงแขนมาดาม อนงค์วรรณ ประธาน สุโขทัย เอฟซี มาร่วมงานด้วย,ก่อนจะถึง 5 กันยา วีเออาร์ ขอเชิญชวนแฟนสนุ้กเกอร์ไปให้กำลังใจนักสนุ้กเกอร์ไทยที่กำลังแข่งขันในรายการ แสงโสม 6 แดงชิงแชมป์โลก กันอยู่ ตั้งแต่ 2-7 กันยายน ที่คอนเวนชั่น ฮอลล์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว งานนี้ สุนทร จารุมนต์ นายกจอมขยัน นั่งลุ้นนักสอยคิวไทยตัวโก่งทุกวัน,วีเออาร์,[email protected]
On the other side of the clouds is a bright blue sky อีกฟากหนึ่งของท้องฟ้าที่มีเมฆหม่น ย่อมเป็นฟ้าไร้ฝนที่เจิดจ้าสดใส คลุกวงในไทยลีก ประจำวันอังคารที่ 3 กันยายน 2562
โซนเอเชีย,สมาคมกีฬาฟุตบอลไทยฯ,เจ ชนาธิป,อุ้ม ธีราทร,นิว ฐิติพันธุ์,คลุกวงในไทยลีก,วีเออาร์
https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/1651563
[ 0, 259, 97264, 13094, 227045, 259, 216015, 191028, 177882, 4388, 152563, 5405, 8357, 259, 27605, 35835, 4728, 15334, 11922, 22254 ]
ลุง อสม.วัย 60 ขับกระบะพุ่งลงคลองชลประทานโคราช โชคดีไม่มีน้ำเลยปลอดภัย
ลุง อสม.โคราชวัย 60 ขับรถกระบะกลับจากไปสำรวจลูกน้ำยุงลาย ขณะถึง 3 แยก รองเท้าที่ถอดหลุดไปใต้เบรก รถจึงเสียหลักพุ่งชนป้ายบอกทาง ก่อนพุ่งลงคลองชลประทาน โชคดีไม่มีน้ำเลยปลอดภัยรถเสียหายบางส่วนเมื่อเวลา 11.12 น. วันที่ 16 ส.ค.63 พ.ต.อ.นธีร์ สุคุณา ผกก.สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถยนต์กระบะตกคลองส่งน้ำชลประทาน พิมาย-ดงใหญ่ ม.15 บ้านน้อย ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา จึงสั่งการให้ ร.ต.ท.ญาณโชติ ทองพราว รอง สว.(สอบสวน) สภ.พิมาย พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาจุดพิมาย พบรถกระบะอีซูซุ แค็บ สีเขียว ทะเบียน บห-5592 นครราชสีมา ตกลงไปในคลองน้ำลึกประมาณ 7 เมตร โชคดีที่ในคลองไม่มีน้ำ ส่วนคนขับช่วยเหลือตัวเองออกมาได้ทราบชื่อ นายชัยสิทธิ์ อริยเดช อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 1 ม.15 บ้านน้อย ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมาจากการสอบถาม นายชัยสิทธิ์ คนขับกระบะคันดังกล่าวเล่าว่า ตนมีตำแหน่งเป็น อสม.ม.15 บ้านน้อย เพิ่งเดินทางมาจากออกไปสำรวจลูกน้ำยุงลายภายในหมู่บ้าน จะมุ่งหน้ากลับบ้าน พอมาถึงที่เกิดเหตุเป็นสามแยกเลี้ยวซ้ายไปตามคลองชลประทาน ระหว่างนั้นรองเท้าที่สวมอยู่เกิดหลุดออกจากเท้าไปติดอยู่ที่ใต้เบรกจึงทำให้รถเสียหลักพุ่งชนกับป้ายบอกทางจนเสาหักและพุ่งตกลงไปในคลอง โชคดีที่ไม่มีน้ำ และตนก็ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ส่วนรถเสียหายเล็กน้อย ตนเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ ที่อยู่ในรถคุ้มครองให้ตนปลอดภัย.
ลุง อสม.โคราชวัย 60 ขับรถกระบะกลับจากไปสำรวจลูกน้ำยุงลาย ขณะถึง 3 แยก รองเท้าที่ถอดหลุดไปใต้เบรก รถจึงเสียหลักพุ่งชนป้ายบอกทาง ก่อนพุ่งลงคลองชลประทาน โชคดีไม่มีน้ำเลยปลอดภัย รถเสียหายบางส่วน
ข่าว,ทั่วไทย
กระบะพุ่งลงคลอง,คลองชลประทาน,ถอดรองเท้า,รองเท้าขัดแป้นเบรก,ลุง อสม.,อ.พิมาย,นครราชสีมา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1911440
[ 0, 259, 199818, 26461, 47451, 260, 3945, 45484, 127600, 41391, 259, 167628, 32087, 6581, 26493, 49922, 4348, 5269, 184080, 18433 ]
ตำรวจบรบือ เผยพี่สาวต่างพ่อน้องกะเพรา เอายาพิษใส่น้ำดื่มจนทำให้ตาย
เด็กหญิง ดื่มน้ำเสียชีวิตเป็นพี่สาวต่างพ่อใส่ยาฆ่าแมลงลงในกระติกน้ำดื่ม ,คืบหน้าเหตุ น้องกะเพราวัย 4 ขวบดื่มน้ำปนสารพิษดับ ส่วนแม่กับหลานอีก 3 คนรอด พบพี่สาวอายุ 15 ปี คนละพ่อกับน้องกะเพรา เนื่องจากทะเลาะกับแม่จึงได้เอายาฆ่าแมลงเทลงไปในกระติกน้ำ,ที่บ้านเลขที่ 168 หมู่ 10 บ้านหนองตูบ ต.หนองโก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม บ้านของนางสุขใจ ศรีสังข์ ได้ตั้งศพ ด.ญ.วัย 4 ขวบ ซึ่งเสียชีวิตจากการดื่มน้ำที่ผสมสารพิษไม่ทราบชนิด ซึ่งในเหตุการณ์นี้มีผู้ที่ดื่มน้ำด้วยทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย น.ส.นุจรี ศรีสังข์ อายุ 34 ปี ด.ญ.กมลวรรณ พลจ่า อายุ 7 ขวบ ด.ญ.ธนวรรณ พลจ่า อายุ 3 ขวบ และน้องสุพัชรา ดาหอม น้องกะเพรา อายุ 4 ขวบ ผู้เสียชีวิตได้จัดงานศพของ น้องกะเพรา ญาติจึงได้รับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน จะทำการฌาปนกิจที่วัดป่าสารญาณมุณี ต.หนองโก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้,พ.ต.ท.มงคล ไหวดี รองผกก.สืบสวน สภ.บรบือ กล่าวว่า ความคืบหน้าคดีนี้ ชุดสืบสวนและทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว น.ส.นุจรี ศรีสังข์ อายุ 34 ปี แม่น้องกระเพรา มาสอบปากคำก็ไม่มีข้อสงสัย แต่ถ้าคดีไม่คืบหน้าจะส่งศพของน้องกะเพราไปผ่าพิสูจน์ที่ นิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น เพื่อหาสารพิษที่ตกค้างอยู่ในศพน้องกะเพรา จากนั้นทางชุดสืบสวนพบปมว่า มีเรื่องบาดหมางกันระหว่างนางนุจรี กับลูกสาว น้องพลอย อายุ 15 ปี ที่เกิดจากสามีเก่า เรื่องที่ขอมีแฟนและไม่ให้คบหากันเพราะเห็นว่ายังเป็นเด็ก และน้อยใจที่แม่ไม่ค่อยรักตนเองไม่เอาตนเองไปอยู่ที่อุดรธานีด้วย,ทางชุดสืบสวน สภ.บรบือ จึงได้เชิญตัวน้องมาให้ปากคำ และได้ทำการสอบสวนใช้เวลาประมาณ 3 ชม. ในเบื้องต้นน้องเขาก็รับสารภาพว่า ได้เอายาฆ่าแมลงที่อยู่ในบ้านไปผสมในน้ำดื่ม ในช่วงที่คนในบ้านไปลงนากัน พอแม่กลับมาจากนาก็ไปรับหลานลูกของน้องสาวแม่ ที่เรียนหนังสืออยู่โรงเรียน และได้ซื้อตำป่ามากินกัน 5 คน พอเผ็ดจึงได้ไปดื่มน้ำในถังน้ำดังกล่าว ,ในเบื้องต้นการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น โดยต้องมีการนัด สหวิชาชีพเพื่อมาทำการสอบสวนอีกครั้งหนึ่งเนื่องจากน้องมีอายุแค่ 15 ปี เองในพรุ่งนี้ช่วงเช้า ส่วนเมื่อมีการสอบสวนเสร็จแล้วจะได้นำน้องเข้าไปฝากขังที่สถานพินิจจังหวัดมหาสารคาม จากนั้นจะได้มอบให้ทางร้อยเวรดำเนินการต่อไป .
คืบหน้าเหตุ น้องกะเพราวัย 4 ขวบดื่มน้ำปนสารพิษดับ ส่วนแม่กับหลานอีก 3 คนรอด พบพี่สาวอายุ15 ปีคนละพ่อกับน้องกะเพรา เนื่องจากทะเลาะกับแม่จึงได้เอายาฆ่าแมลงเทลงไปในกระติกน้ำ
ข่าว,อาชญากรรม
น้ำดื่มปนสารพิษ,วางยาพิษ,น้องกระเพรา,ยาฆ่าแมลงผสมน้ำดื่ม,มหาสารคาม,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1318367
[ 0, 259, 52973, 58976, 69997, 30007, 259, 48263, 3495, 24250, 259, 35239, 52973, 58976, 69997, 30007, 259, 81149, 3682, 42874 ]
มุมระบายตอนที่ 5 : เป็นเพียงเงาของเขา แอบรักมา 8 ปี เราก็แค่ คนคุย
เมื่อคนหนึ่งเข้าหาด้วยความรัก แต่อีกคนกลับเข้าหาเพราะความใคร่ เมื่อรักเพียงครึ่งเดียว ไม่อาจเติมเต็มหัวใจให้เต็มดวงได้ จะก้าวต่อไปหรือหันหลังกลับ ล้วนเจ็บปวดทั้งสองทาง ,เหมือนกับเรื่องราวของเขาคนนี้,แม้ว่า เขาจะถูกมองว่าเป็นตัวเลือกสักกี่ครั้ง ขอเพียงมีโอกาส ก็พร้อมยินดีที่จะทำทุกอย่าง ถึงแม้จะรู้ว่าสำหรับเขาเราป็นเพียงแค่ตัวปลอม ที่ไม่มีวันได้ใจของเขามา ,ทีมงานมุมระบาย, มีโอกาสพูดคุยกับเขาคนนี้ พร้อมกับจะมาแชร์เรื่องราวของความรักข้างเดียวที่เป็นได้เพียงแค่ คนคุย,อาคิน อายุ 22 ปี เขามีประสบการณ์แอบรักคนคนหนึ่ง นานถึง 8 ปี จนอาจเรียกได้ว่าเป็นรักแบบเด็กๆ (Puppy love) ของเขาเลยก็ว่าได้ มันเป็นรักแรกที่ฝังใจตั้งแต่ยังเด็ก รักที่ไม่ได้หวังเพื่อครอบครองเขา หรือรักที่ไม่ได้ต้องการความรักตอบจากเขา,ขอเพียงแค่ได้มอง พูดคุย ได้เห็นเขามีความสุขก็เพียงพอแล้ว แต่เมื่อเขาโตขึ้นความคิดก็เริ่มเปลี่ยน จากได้เพียงแค่มอง จนเกิดความอยากมีตัวตนขึ้นมาสำหรับเขา มันมากขึ้นเรื่อยๆ จนอยากบอกให้เขาได้รับรู้ ว่ายังมีเขาอยู่ตรงนี้ ถ้านายยังไม่มีใคร ยังมีเราอยู่เสมอนะ ปิง,เขาใช้เวลาเกือบทั้งหมด 8 ปี ในการเฝ้าติดตามคนที่เขาแอบชอบ จากเด็กอ้วนผิวกร้านแดด แปรเปลี่ยนเป็นหนุ่มร่างผอมผิวขาวสุขภาพดี เรียกได้ว่าตอนนั้นกับตอนนี้ หากนำรูปมาเปรียบเทียบกัน คงไม่มีใครจดจำได้อย่างแน่นอน,ในที่สุดวันที่ อาคิน รอคอยก็มาถึง วันที่สถานะบนเฟซบุ๊กของ ปิง เปลี่ยนจากที่ข้อความคบหาเป็นคำว่าโสด เขาตัดสินใจทักไปหาปิง ด้วยประโยคของการแนะนำตัว ,สวัสดีครับ เราอาคิน จำเราได้ไหม, หลังจากประโยคนี้ อาคิน ไม่คิดเลยว่า เขาจะตอบกลับมาและยอมคุย ตอนนี้จำได้ว่ารู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก เหมือนทุกอย่างเป็นสีชมพู,แต่ความสุขของเราก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่ออาคินรู้ว่า ปิงไม่ได้คุยกับเขาเพียงแค่คนเดียว ตอนนั้นทั้งเศร้าและเสียใจ โลกมันรู้สึกหดหู่ไปหมด จนเกิดความคิดที่ว่า เราควรกลับไปเป็นแค่เงา เฝ้าดูเขาห่างๆ เหมือนเดิมดีหรือเปล่า เราไม่น่าสารภาพรักกับปิงเลย ตลอดเวลา 8 ปี ที่เฝ้าติดตามเขา อาคินรู้มาตลอดว่า ปิงเป็นผู้ชายเจ้าชู้ คบกับใครได้ไม่นาน จนคิดว่าเราคงเป็นหนึ่งของคนที่เขาคุยแก้เหงา ไม่ได้จริงจังอะไรกับเราตั้งแต่แรก,อาคิน เริ่มถอยห่างตัวเองออกมาจากความรู้สึกที่ผิดหวัง และเสียใจกับการกระทำของตัวเองลง เขาพยายามตัดใจ และกลับไปอยู่ในจุดๆเดิมที่เขาควรอยู่ แต่เมื่อวันที่เขากลับมาเป็นเงาเหมือนเดิม ปิงก็กลับทักมาหาเขา,พร้อมกับประโยคที่ว่า, รอหน่อย ใกล้แล้ว เรากำลังจะเลิกกับแฟน, ความรู้สึกมันแทบจุกในอก เกิดความคิดที่ว่า เราควรทำอย่างไรดี ควรกลับไปหาเขาอีกดีไหม ที่เขาทักเรามาเพราะเขาก็มีใจให้เรา หรือเขาแค่เหงาที่เกิดจากอารมณ์ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น,พอเราไม่ตอบ ไม่อยากคุยกับเขา เขาก็พยามยามส่งข้อความหาเราตลอด ทั้งอยากเจอ อยากอยู่ด้วย คิดถึง บางครั้งก็มีข้อความที่ชวนเราไปมีอะไรด้วย ตอนนั้นเราตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าเขาจะชวนอะไรแบบนี้ แต่เราก็ยังคุยกับเขา พยายามหลีกเลี่ยงการนัดเจอเสมอมา เพราะเราคิดว่า เขาคงไม่ได้รักเราเหมือนเรารักเขา มันคงเป็นแค่อารมณ์เปลี่ยวของเขา ที่เพียงต้องการใครสักคนมาระบายความเหงา จะก้าวต่อไปหรือหันหลังกลับ ล้วนเจ็บปวดทั้งสองทาง,ทุกวันนั้นถ้าถามว่าเรายังรักเขาอยู่ เราคงตอบได้ว่า คงไม่ได้รักหรือรู้สึกชอบแล้ว เพราะความรักที่มี ถูกการกระทำของเขาย่ำยีจนมันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ชีวิตของเราต้องเดินต่อไป ยังมีคนอีกมากมายที่รอเราอยู่ สักวันเราคงได้พบเจอคนคนนั้น คนที่รักเราและเรารักเขาด้วยใจจริง
เขาจะถูกมองว่าเป็นตัวเลือกสักกี่ครั้ง ขอเพียงมีโอกาส ก็พร้อมยินดีที่จะทำทุกอย่าง ถึงแม้จะรู้ว่าสำหรับเขาเราป็นเพียงแค่ตัวปลอม ที่ไม่มีวันได้ใจของเขามา
ข่าว,สังคม
มุมระบาย,ความรักวัยรุ่น,ความรักของเพศที่ 3,ความรักเกย์,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1343321
[ 0, 259, 74058, 193197, 2091, 217217, 1549, 140340, 9964, 67074, 21834, 197753, 4395, 35468, 8378, 18394, 22985, 2752, 16379, 259 ]
เปิดข้อเสนอ ภาคีสังคมแรงงานสู้วิกฤตโควิด-19 บรรเทาผลกระทบลูกจ้างในระบบและนอกระบบ
44 องค์กรและ 24 รายชื่อบุคคล ในนาม ภาคีสังคมแรงงานสู้วิกฤตโควิด-19 ออกแถลงการณ์ ข้อเสนอต่อมาตรการการแก้ไขปัญหาแรงงานในสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19ทั้งบรรเทาผลกระทบต่อแรงงานในระบบประกันสังคม และแรงงานนอกระบบ22 เม.ย.2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า วันนี้ 44 องค์กรและ 24 รายชื่อบุคคล ในนาม ภาคีสังคมแรงงานสู้วิกฤตโควิด-19 ออกแถลงการณ์ ข้อเสนอต่อมาตรการการแก้ไขปัญหาแรงงานในสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19ประกอบด้วย ข้อเสนอการบรรเทาผลกระทบต่อแรงงานที่เป็นลูกจ้างในระบบประกันสังคม และข้อเสนอการบรรเทาผลกระทบต่อแรงงานนอกระบบโดยเรียกร้องให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน จัดตั้งกลไกที่เป็นความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน สหภาพแรงงาน ลูกจ้าง ภาควิชาการ องค์กรพัฒนาเอกชน และองค์กรประชาสังคม เพื่อตรวจสอบสถานประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 อย่างเคร่งครัด พร้อมพิจารณาดำเนินการจัดตั้งกลไกการทำงานร่วมกันของภาคส่วนต่าง ๆ ในรูปแบบของคณะทำงานความร่วมมือในการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติในช่วงการระบาดของโรคโควิด และจัดทำแผนรองรับการฟื้นฟูการจ้างงานหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้เกิดแนวทางในการแก้ไขปัญหาผลกระทบอย่างรอบด้านข้อเสนอเพื่อการแก้ปัญหาในระยะยาว ควรมีการปฏิรูประบบประกันสังคมให้เป็นองค์กรอิสระ ในการทำหน้าที่ในการบริหาร จัดการจากภาครัฐ เพื่อประกันสังคมให้มีความโปร่งใส มีระบบธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพ มีประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ประกันตน โดยให้ผู้ประกันตนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง เพื่อให้สามารถเป็นหลักประกันด้านสวัสดิการให้แก่แรงงานในภาวะวิกฤติได้มากขึ้น เพื่อให้เกิดประสิทธภาพในการทำงานมากขึ้น จัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงทางรายได้ของผู้ประกันตน เพื่อให้สามารถจ่ายเงินชดเชยให้แก่ลูกจ้างให้ได้รับค่าจ้างครบตามจำนวนในภาวะวิกฤตด้านข้อเสนอการบรรเทาผลกระทบต่อแรงงานนอกระบบนั้นภาคีสังคมแรงงานสู้วิกฤตโควิด-19 เสนอว่ากรณีผู้มีสิทธิ์แต่ไม่ได้รับเงิน ซึ่งมีการยื่นร้องเรียนเข้ามา ต้องมีการพิจารณาใหม่โดยรวดเร็วและยืดหยุ่น และควรมีการปรับปรุงระบบการคัดกรองที่เป็นปัญหาโดยเร็วเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อแรงงานนอกระบบซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนจนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดอยู่แล้ว พิจารณาหลักเกณฑ์ผู้ได้รับสิทธิ์เงินเยียวยาใหม่สำหรับการจ่ายเงินในเดือนถัดไปโดยขยายให้ครอบคลุมประชากรวัยทำงานทั้งหมดรวมถึงเกษตรกรที่ไม่ใช่บุคลากรของภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และผู้อยู่ในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33รวมทั้ง รัฐต้องพิจารณาเรื่องการผ่อนปรนพื้นที่การทำงานภาคบริการและการใช้พื้นที่สาธารณะโดยมีการจัดระเบียบอย่างเหมาะสมเพื่อให้แรงงานนอกระบบสามารถกลับมาทำงานมีรายได้โดยเร็ว และควรมีมาตรการสนับสนุนในการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในภาวะที่แรงงานอกระบบไม่สามารถหารายได้ตามปกติ เช่นการมีนโยบายบังคับหรือขอความร่วมมือให้มีการผ่อนปรนค่าเช่าร้านอาหารและสถานประกอบการายย่อย ลดค่าเช่ารถรับจ้างสาธารณะ พักชำระหนี้ทั้งในและนอกระบบ ฯลฯโดยมีรายละเอียดของแถลงการณ์ดังนี้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ดำเนินต่อเนื่องมาในปัจจุบันมีผลกระทบต่อแรงงานทุกประเภท ในปัจจุบันรัฐบาลได้มีมาตรการเยียวยาเพื่อช่วยเหลือแรงงานในระยะเฉพาะหน้า แต่มาตรการต่างๆ ยังมีช่องโหว่ที่ทำให้การเยียวยาไม่บรรลุผล จึงเป็นหน้าที่ของภาคประชาสังคมกลุ่มต่างๆ ทีจะต้องระดมความคิดเห็นเพื่อให้เกิดทางออกที่ดีที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบัน ภาคีสังคมแรงงานสู้วิกฤตโควิดซึ่งประกอบด้วยองค์กรแรงงาน องค์กรพัฒนาเอกชน และนักวิชาการ ได้มีการศึกษาข้อมูลปัญหาที่เกิดขึ้นและมีข้อเสนอต่อมาตรการการแก้ไขปัญหาแรงงานในสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับแรงงานในระบบและนอกระบบดังต่อไปนี้1. ข้อเสนอการบรรเทาผลกระทบต่อแรงงานที่เป็นลูกจ้างในระบบประกันสังคม1.1 ในปัจจุบันมีการหยุดกิจการชั่วคราว ในธุรกิจต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ปัญหาที่เกิดขึ้นคือในบางกิจการนายจ้างมีการใช้สิทธิปิดกิจการชั่วคราวโดยอ้าง เหตุสุดวิสัย ตามมาตรา 75 ใน พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ทั้งๆที่ยังมีความสามารถจ่ายค่าจ้างและสวัสดิการให้ลูกได้ตามปกติอยู่ โดยมีการปฏิบัติใน 4 ลักษณะคือ 1) จ่ายเงินให้แก่ลูกจ้างในระหว่างปิดกิจการชั่วคราวร้อยละ 75 2) จ่ายเงินในอัตราต่ำกว่าร้อยละ 75 โดยทำข้อตกลงสภาพการจ้างเป็นรายบุคคล 3) จ่ายเงินให้เฉพาะในวันที่ลูกจ้างมาทำงานเท่านั้น ตามอัตราค่าจ้างที่ตกลงกัน และ4) งดการจ่ายสวัสดิการที่เกี่ยวเนื่องกับการทำงาน เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร เป็นต้น และส่งผลการดำเนินชีวิตที่ยากลำบากของลูกจ้างมากยิ่งขึ้นนอกจากนี้ยังพบกรณีการเลิกจ้าง โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานเหมาค่าแรง สัญญาจ้างชั่วคราว แรงงานรายวัน แต่นายจ้างไม่จ่ายค่าชดเชย ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า และเงินอื่นๆ ตามที่ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 กำหนดไว้ และให้ลูกจ้างไปร้องเรียนผ่านกระบวนการยุติธรรม ที่มีระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี กว่าจะได้รับเงินดังกล่าว1.2 ในปัจจุบันได้มีการออกกฎกระทรวงเรื่องการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยอันเกิดจากการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ ทั้งนี้ภาคีฯ มีความห่วงใยว่าสถานประกอบการบางแห่งอาจมีการฉวยโอกาสผลักภาระให้กองทุนประกันสังคม โดยอ้างเหตุสุดวิสัยจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามประกาศฉบับนี้ เพื่อให้ลูกจ้างรับสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานในอัตราร้อยละ62 จากกองทุนประกันสังคม แทนที่นายจ้างจะปิดกิจการชั่วคราว ตามมาตรา 75 ใน พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 และจ่ายเงินให้แก่ลูกจ้างในระหว่างปิดกิจการชั่วคราวร้อยละ 75ข้อเสนอคือ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ต้องจัดตั้งกลไกที่เป็นความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน สหภาพแรงงาน ลูกจ้าง ภาควิชาการ องค์กรพัฒนาเอกชน และองค์กรประชาสังคม เพื่อตรวจสอบสถานประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 อย่างเคร่งครัด1.3 สำหรับกลุ่มแรงงานข้ามชาติ จะพบปัญหาที่มีความซับซ้อนกว่าแรงงานไทย ดังนี้1.3.1 แรงงานข้ามชาติที่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 และจ่ายสมทบประกันสังคมมาไม่ถึง 6 เดือนใน 15 เดือน จะไม่มีโอกาสได้รับประโยชน์ทดแทนการว่างงาน1.3.2 แรงงานข้ามชาติและแรงงานกลุ่มชาติพันธุ์ แรงงานไทยพลัดถิ่น ที่ไม่มีสัญชาติไทยกลุ่มต่างๆ ที่ทำงานในกิจการที่ยกเว้นประกันสังคมและได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จะไม่สามารถเข้าถึงมาตรการเยียวยา 5000 บาท ได้ เพราะกำหนดให้เฉพาะผู้มีสัญชาติไทยเท่านั้น1.3.3. พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 ได้กำหนดระยะเวลาในการเปลี่ยน/หานายจ้างใหม่ภายหลังที่ลูกจ้างเลิกจ้าง/ไม่ต่อสัญญาจ้าง ภายใน 30 วัน จึงส่งผลต่อการเข้าถึงประโยชน์ทดแทนการว่างงานตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 การไม่สามารถหางานใหม่-นายจ้างใหม่ได้ในช่วงเวลาวิกฤติ ตลอดจนไม่สามารถกลับประเทศต้นทาง ส่งผลต่อการผลักให้กลายเป็นแรงงานไม่ถูกกฎหมายและต้องหลบซ่อนในประเทศไทยต่อไปข้อเสนอคือขอให้กระทรวงแรงงานพิจารณาดำเนินการจัดตั้งกลไกการทำงานร่วมกันของภาคส่วนต่าง ๆ ในรูปแบบของคณะทำงานความร่วมมือในการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติในช่วงการระบาดของโรคโควิด และจัดทำแผนรองรับการฟื้นฟูการจ้างงานหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้เกิดแนวทางในการแก้ไขปัญหาผลกระทบอย่างรอบด้าน1.4 ข้อเสนอเพื่อการแก้ปัญหาในระยะยาว1.4.1 ควรมีการปฏิรูประบบประกันสังคมให้เป็นองค์กรอิสระ ในการทำหน้าที่ในการบริหาร จัดการจากภาครัฐ เพื่อประกันสังคมให้มีความโปร่งใส มีระบบธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพ มีประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ประกันตน โดยให้ผู้ประกันตนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง เพื่อให้สามารถเป็นหลักประกันด้านสวัสดิการให้แก่แรงงานในภาวะวิกฤติได้มากขึ้น เพื่อให้เกิดประสิทธภาพในการทำงานมากขึ้น1.4.2 พิจารณาจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงทางรายได้ของผู้ประกันตน เพื่อให้สามารถจ่ายเงินชดเชยให้แก่ลูกจ้างให้ได้รับค่าจ้างครบตามจำนวนในภาวะวิกฤต2. ข้อเสนอการบรรเทาผลกระทบต่อแรงงานนอกระบบ2.1 มาตรการจ่ายเงินเยียวยาคนละ 5000 บาทเป็นเวลา 3 เดือน พบว่า มีปัญหาเรื่องระบบการคัดกรองผู้ได้รับสิทธิ์ทำให้แรงงานนอกระบบที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากยังคงไม่ได้รับการเยียวยาข้อเสนอคือ2.1.1 กรณีผู้มีสิทธิ์แต่ไม่ได้รับเงิน ซึ่งมีการยื่นร้องเรียนเข้ามา ต้องมีการพิจารณาใหม่โดยรวดเร็วและยืดหยุ่น และควรมีการปรับปรุงระบบการคัดกรองที่เป็นปัญหาโดยเร็วเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อแรงงานนอกระบบซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนจนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดอยู่แล้ว2.1.2 พิจารณาหลักเกณฑ์ผู้ได้รับสิทธิ์เงินเยียวยาใหม่สำหรับการจ่ายเงินในเดือนถัดไปโดยขยายให้ครอบคลุมประชากรวัยทำงานทั้งหมดรวมถึงเกษตรกรที่ไม่ใช่บุคลากรของภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และผู้อยู่ในระบบประกันสังคมตามมาตรา 332.2 แรงงานนอกระบบส่วนใหญ่ต้องสูญเสียอาชีพและรายได้จากมาตรการจำกัดการใช้พื้นที่สาธารณะ การห้ามรวมกลุ่มสังสรรค์ และการให้ทำงานที่บ้าน(Work from home) ซึ่งเป็นปัญหาหลักของการขาดรายได้ที่ไม่อาจทดแทนได้โดยการให้เงินเยียวยาเพียงเดือนละ 5000 บาทข้อเสนอคือ2.2.1 รัฐต้องพิจารณาเรื่องการผ่อนปรนพื้นที่การทำงานภาคบริการและการใช้พื้นที่สาธารณะโดยมีการจัดระเบียบอย่างเหมาะสมเพื่อให้แรงงานนอกระบบสามารถกลับมาทำงานมีรายได้โดยเร็ว2.2.2 รัฐควรมีมาตรการสนับสนุนในการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในภาวะที่แรงงานอกระบบไม่สามารถหารายได้ตามปกติ เช่นการมีนโยบายบังคับหรือขอความร่วมมือให้มีการผ่อนปรนค่าเช่าร้านอาหารและสถานประกอบการายย่อย ลดค่าเช่ารถรับจ้างสาธารณะ พักชำระหนี้ทั้งในและนอกระบบ ฯลฯองค์กรลงนามสนับสนุนข้อเสนอบุคคลลงนามสนับสนุนข้อเสนอ
44 องค์กรและ 24 รายชื่อบุคคล ในนาม ภาคีสังคมแรงงานสู้วิกฤตโควิด-19 ออกแถลงการณ์ ข้อเสนอต่อมาตรการการแก้ไขปัญหาแรงงานในสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งบรรเทาผลกระทบต่อแรงงานในระบบประกันสังคม
เศรษฐกิจ,แรงงาน,คุณภาพชีวิต
COVID-19,แรงงานนอกระบบ,ประกันสังคม,ภาคีสังคมแรงงานสู้วิกฤตโควิด-19
https://prachatai.com/journal/2020/04/87322
[ 0, 259, 30931, 95320, 66125, 181851, 152070, 32816, 5405, 182479, 6196, 227897, 5669, 259, 134114, 6582, 51523, 58296, 62793, 163667 ]
แรงใจเยอะ ปิงปอง มีแรงสู้ ฮึด จนชนะเป็นมิสโกลบอลบิวตี้ควีน
เปิดใจสวยๆ เป็นครั้งแรกกับ ปิงปอง เวธกา เพ็ชรสุข รองมิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ Miss International Thailand 2015 ที่เพิ่งไปชนะใจคณะกรรมการ ได้ครองตำแหน่งมิสโกลบอลบิวตี้ควีน Miss Global Beauty Queen 2015 ซึ่งปีนี้มีสาวงามจาก 39 ชาติมาร่วมชิงมงกุฎ จัดการประกวดขึ้นที่กรุงโซล เกาหลีใต้,ปิงปองให้สัมภาษณ์อย่างตื่นเต้นไม่หายกับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ดีใจมากๆ ค่ะ ดีใจจนร้องไห้ไม่ออก มันจุก มันทำอะไรไม่ถูก ว่าจะทำยังไง ก้าวขาไม่ออกเลย เพื่อนๆ นางงามบอกปองว่าคุณคือเดอะวินเนอร์ เฮ้ย หนูไม่เชื่อหรอก อย่าโกหกหนู รู้ได้ยังไง (หัวเราะ) เขาบอกว่าเพราะหนูยังไม่มีตำแหน่งอะไรในรอบ 15 คนสุดท้าย ปองไม่เชื่อ ก็ต้องรอจนพิธีกรประกาศชื่อหนู ว่าเราเป็นเดอะวินเนอร์จริงๆ ดีใจมากๆ ค่ะ,ไปเก็บตัวหลายวันมากๆ น่าจะสนุก? ก็สนุกมากๆ ค่ะ ในแต่ละวันก็จะมีกิจกรรมให้ปองทำเยอะมาก ปองก็นอนน้อย เพราะนอนดึกต้องเตรียมเลือกชุดที่จะใส่พรุ่งนี้ ว่าแบบไหนดี แล้วต้องรีบตื่นตั้งแต่เช้าๆ ต้องมาแต่งหน้าทำผมเองทุกอย่าง ก็สนุกดีค่ะ ได้ประสบการณ์ที่ดีมากถึงจะเหนื่อย แต่ตอนนี้หายเหนื่อยแล้วค่ะ เพราะสิ่งที่ปองทำไป มันประสบความสำเร็จแล้วค่ะ (ยิ้ม),อยากจะบอกอะไรบ้าง? ขอบคุณทีมงานเกาหลีนะคะที่ดูแลปองอย่างดี ทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ที่ประเทศไทย เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ปองเดินทางไปประกวดที่ต่างประเทศ ปองขอบคุณมากๆ นะคะสำหรับพี่ๆ ทีมงานที่ประเทศไทย เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ แฟนนางงามทุกท่านที่คอยให้กำลังใจ ปองเชื่อว่ากำลังใจมีความสำคัญค่ะ เพราะทำให้เรามีแรงผลักดัน มีแรงฮึด สู้ต่อไปได้ เพราะกำลังใจดีๆ จากทุกคนที่มอบให้ จึงทำให้ปองมีวันนี้ได้ค่ะ.
เปิดใจสวยๆ เป็นครั้งแรกกับ ปิงปอง เวธกา เพ็ชรสุข รองมิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ Miss International Thailand 2015 ที่เพิ่งไปชนะใจคณะกรรมการ ได้ครองตำแหน่ง
ปิงปอง รองมิสอินเตอร์เนชั่นแนล,ปิงปอง,ปิงปอง มิสโกลบอล บิวตี้ควีน Miss Global Beauty Queen 2015,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์,ปิงปอง เวธกา เพ็ชรสุข,นางงาม,ประกวดนางงามที่เกาหลีใต้ โซล,miss international 2015,mit 2015
https://www.thairath.co.th/content/533125
[ 0, 259, 217217, 1549, 9964, 48898, 2752, 3682, 140942, 131830, 142048, 1, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0 ]
ทัพปัญญาชนคึกคัก ส่งนักกีฬาชิงชัยม.โลกที่ไต้หวัน 10 ชนิด
ทัพนักกีฬาปัญญาชนไทยส่ง 10 ชนิดกีฬา ร่วมชิงชัยมหกรรมกีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน ครั้งที่ 29 ที่จะระเบิดการแข่งขันตรงกับช่วงกีฬาซีเกมส์ที่มาเลเซียพอดิบพอดี ระหว่างวันที่ 19-31 ส.ค.นี้ ที่ไต้หวัน โดยมั่นใจจะสร้างผลงานคว้าเหรียญทองได้มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยหวังไว้ที่ยกน้ำหนัก และเทควันโด ที่จะส่งนักกีฬาระดับ เกรดเอ เข้าร่วมลุยศึกครั้งนี้ โดยวางงบประมาณสำหรับการเตรียมความพร้อมของทุกชนิดกีฬาไว้ที่ 15.5 ล้าน ขณะเดียวกันก็ได้รับข่าวดีที่ทัพนักกีฬาจาก จีน แผ่นดินใหญ่ถอนตัวออกจากการแข่งขันในทุกชนิดกีฬา,เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่โรงแรมอโนมา แกรนด์ กรุงเทพฯ ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) พร้อมด้วย ศาสตราจารย์สมคิด เลิศไพฑูรย์ ประธานกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (กกมท.) นายถิรชัย วุฒิธรรม ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการอำนวยการกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย และผู้ทรงคุณวุฒิ กกมท. รวมทั้ง รองศาสตราจารย์วิชิต คนึงสุขเกษม ประธานอนุกรรมการฝ่ายส่งเสริมกีฬาเพื่อความเป็นเลิศของ กกมท. ร่วมกันเปิดแถลงข่าวการจัดส่งคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 19-31 ส.ค.นี้ ที่กรุงไทเป ไต้หวัน,โดย ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ในฐานะประธานของงานแถลงข่าวเผยว่า ด้วยนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมการพัฒนานักกีฬาให้มีศักยภาพสามารถแข่งในระดับนานาชาติจนสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ ทาง สกอ.ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบการพัฒนานิสิตนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา จึงพร้อมให้การสนับสนุนการส่งนักกีฬาปัญญาชนไทยเข้าร่วมศึกใหญ่กีฬามหาวิทยาลัยโลกในครั้งนี้อย่างเต็มที่ โดยในส่วนงบประมาณได้จัดสรรไว้สำหรับการเตรียมความพร้อมนักกีฬารวมเป็นเงินถึง 15.5 ล้านบาท ซึ่งก็หวังว่าจะได้เห็นความ สำเร็จของนักกีฬาไทยในทัวร์นาเมนต์ระดับโลกอย่างนี้,ขณะที่ศาสตราจารย์สมคิด เลิศไพฑูรย์ ประธาน กกมท. กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่ากีฬา ม.โลกหนนี้ จัดตรงกับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่มาเลเซียพอดี ดังนั้น การเตรียมความพร้อมต่างๆของนักกีฬาจึงค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร ซึ่งที่ผ่านมา กกมท.ได้มอบหมายให้ บิ๊กแป๊ะ ถิรชัย วุฒิธรรม, รศ.วิชิต คนึงสุขเกษม และนายวราวุธ สุมน เป็นที่ปรึกษาร่วมกับผู้แทนจากสถาบันอุดมศึกษาในนามคณะอนุกรรมการฝ่ายส่งเสริมกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ วางแผนเตรียมการเข้าร่วมแข่งขันล่วงหน้านานเกือบครึ่งปี จึงเชื่อมั่นว่านักกีฬาปัญญาชนไทยของเรามีศักยภาพความพร้อมที่จะไปล่าเหรียญรางวัลในกีฬา ม.โลกหนนี้ ซึ่งหนล่าสุดนักกีฬาไทยได้เหรียญรางวัลในกีฬาปัญญาชนโลก 2 ปีที่แล้วที่กวางจู เกาหลีใต้ มาทั้งหมด 2 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน 9 เหรียญทองแดง ตนมั่นใจว่าที่ไต้หวันในคราวนี้น่าจะทำผลงานได้ดีกว่าอย่างแน่นอน,ทางด้าน ดร.โต รศ.วิชิต คนึงสุขเกษม ประธานอนุกรรมการฝ่ายส่งเสริมกีฬาเพื่อความเป็นเลิศของ กกมท. กล่าวว่า ในกีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน ครั้งที่ 29 ที่ไต้หวันในคราวนี้ สรุปแล้วเราจะส่งทั้งสิ้น 10 ชนิดกีฬาเข้าร่วมชิงชัย ประกอบด้วย กรีฑา, แบดมินตัน, ยูโด, วอลเลย์บอล (หญิง), เทนนิส, ฟันดาบ, กอล์ฟ, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด และยกน้ำหนัก ซึ่งด้วยความพร้อมของการเตรียมทีมนักกีฬาตนเชื่อว่าทีมกีฬาปัญญาชนไทยจะสร้างความสำเร็จคว้าเหรียญรางวัลมาได้มากกว่ากีฬา ม.โลกครั้งที่แล้วๆ มา โดยเฉพาะกีฬาความหวังเหรียญทอง อย่าง เทควันโด กับยกน้ำหนักนั้น ทางสมาคมฯได้ส่งนักกีฬาระดับ เกรดเอ ไปร่วมชิงชัยอย่างเต็มพิกัด ขณะเดียวกันก็มีข่าวดีที่ล่าสุดนักกีฬาจากสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ถอนตัวจากการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา ม.โลกหนนี้ในทุกชนิดกีฬา ทำให้โอกาสของนักกีฬาปัญญาชนไทยมีเพิ่มมากขึ้น,ส่วน บิ๊กแป๊ะ ถิรชัย วุฒิธรรม ผู้ทรงคุณวุฒิ กกมท.ในฐานะที่ปรึกษาใหญ่ของคณะนักกีฬาไทยในศึก ม.โลก คราวนี้ กล่าวว่า ในการเข้าร่วมแข่งขันกีฬา ม.โลกที่ไต้หวันในครั้งนี้ ทางคณะอนุกรรมการฯ มีนโยบายที่จะอำนวยความสะดวกให้กับคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ รวมทั้งสื่อมวลชนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันให้มากที่สุด โดยระหว่างวันที่ 4-7 ก.ค.นี้จะส่งทีมงานเดินทางไปไทเปเพื่อเตรียมการล่วงหน้าทั้งในด้านที่พัก การเดินทาง สวัสดิการและการอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ
ทัพนักกีฬาปัญญาชนไทยส่ง 10 ชนิดกีฬา ร่วมชิงชัยมหกรรมกีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 19-31 ส.ค.นี้ ที่ไต้หวัน โดยมั่นใจจะสร้างผลงานคว้าเหรียญทองได้มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
กีฬา,กีฬาอื่นๆ
กกมท.,กีฬามหาวิทยาลัยโลก 2017,ดร.สุภัทร จำปาทอง,ไต้หวัน,สมคิด เลิศไพฑูรย์
https://www.thairath.co.th/sport/others/949617
[ 0, 259, 137738, 26871, 41591, 7960, 260, 259, 122112, 259, 26420, 62988, 11984, 2752, 84281, 98996, 4188, 259, 198834, 140828 ]
ไม่ธรรมดา สมเกียรติ ได้รับเลือกลงบิด 8 ชั่วโมง ที่มาเลเซีย
ทีมฮอนด้า เอเชีย ดรีม เรซซิ่ง ทีมแข่งชั้นนำของเอเชียประกาศเลือก คิงคองก้อง สมเกียรติ จันทรา เป็นหนึ่งในนักแข่งที่จะลงแข่งขันในศึก 8 Hours of Sepang หรือการแข่งขันเซปังเอ็นดูรานซ์ 8 ชั่วโมง ที่ประเทศมาเลเซีย โดยจะผนึกกำลังร่วมกับ ซัคควาน ไซดี้ ยอดนักบิดจากมาเลเซีย และ แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ จากอินโดนีเซีย โดยจะใช้รถแข่ง Honda CBR1000RR หมายเลข 88,มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า จากความมุ่งมั่นของ เอ.พี. ฮอนด้า ผู้บุกเบิกและผู้นำวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย ภายใต้โปรเจกต์ เรซ ทู เดอะ ดรีม เราได้ผลักดันนักแข่งไทยลงแข่งขันในรายการระดับเอเชียและระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเราได้รับข่าวดีจากทางทีมฮอนด้าเอเชีย ดรีม เรซซิ่ง ซึ่งเป็นทีมแข่งโรงงานของฮอนด้าในระดับเอเชีย ว่าสมเกียรติ จันทรา นักแข่งเจ้าของผลงานอันดับที่ 21 ของโลกในระดับโมโตทู ซึ่งเป็นดาวรุ่งในโครงการของเราได้รับการประกาศให้เป็นหนึ่งในนักแข่งที่จะลงแข่งขันในการแข่งขัน 8 Hours of Sepang หรือการแข่งขันเซปังเอ็นดูรานซ์ 8 ชั่วโมง ซึ่งเป็นหนึ่งในรายการแข่งขันรถจักรยานยนต์ที่ทรหดที่สุดในโลก การได้รับเลือกครั้งนี้ทำให้สมเกียรติกลายเป็นคนไทยคนแรกที่ได้แข่งขันในรายการนี้ และยังเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของนักแข่งของเราที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลงานในโมโตทูตลอดฤดูกาลที่ผ่านมาคือสิ่งสำคัญที่ทำให้สมเกียรติได้รับเลือก,ทั้งนี้ สมเกียรติ จันทรา ได้ออกเดินทางสู่ประเทศมาเลเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อจะร่วมทีมกับ ซัคควาน ไซดี้ ยอดนักบิดชั้นนำของเอเชียจากมาเลเซีย และ แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ ดาวรุ่งฝีมือดีจากอินโดนีเซีย ลงแข่งขันให้กับทีมฮอนด้าเอเชีย ดรีม เรซซิ่ง โดยใช้รถ Honda CBR1000RR หมายเลข 88,สำหรับศึก 8 Hours of Sepang หรือการแข่งขันเซปังเอ็นดูรานซ์ 8 ชั่วโมง ยังถือเป็นหนึ่งในรายการชิงแชมป์โลกเวิลด์เอ็นดูรานซ์อีกด้วย โดยจะจัดขึ้นที่สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 12-14 ธันวาคมนี้,แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยสามารถติดตามและให้กำลังใจ คิงคองก้อง สมเกียรติ จันทรา ได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม ,fb.com/aphondaracingth
ก้อง สมเกียรติ ได้รับเลือกจากฮอนด้า เอเชีย ดรีม เรซซิ่ง ลงบิดศึกเอ็นดูรานซ์ ศึกเซปังเอ็นดูรานซ์ 8 ชั่วโมง ที่ประเทศมาเลเซีย
กีฬา,กีฬาอื่นๆ
สมเกียรติ จันทรา,ฮอนด้า เอเชีย ดรีม เรซซิ่ง,เซปัง เซอร์กิต,8 Hours of Sepang,เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์
https://www.thairath.co.th/sport/others/1722380
[ 0, 259, 137738, 56215, 192983, 60946, 101650, 260, 57716, 260, 259, 138422, 224702, 259, 46033, 259, 122112, 259, 47451, 164000 ]
ฮิวแมนไรท์วอน ปล่อยพิชัย-เก่ง
บิ๊กตู่สั่งเฉียบคนไม่เกี่ยว ไม่มีสิทธิ์วิจารณ์ร่างรธน.,บิ๊กตู่ ยันมีแผนล่วงหน้าหมด แล้ว ทั้งยกร่างรัฐธรรมนูญ-ปฏิรูปประเทศ สั่งหาคนร่วม กรธ.-สภาขับเคลื่อน ย้ำนักการเมืองสนใจเสนอชื่อมา แต่สั่งเฉียบคนไม่เกี่ยวข้องไม่มีสิทธิ์วิจารณ์ ร่ายยาวอนาคตประเทศต้องไม่มีคนมายึดอำนาจอีกแล้ว ถามตอกหน้านักการเมืองถ้าใช้รธน.เดิม บรรยากาศเดิมๆ จะจบไหม ชี้อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ ปชต.เข้มแข็ง วางกติกาบางอย่างปิดเกมวิวาทการเมือง วิษณุ แย้มไม่ทำประชามติยืดเยื้อ ลากยาวอำนาจ ถ้าไม่ผ่านเล็งหยิบฉบับเก่าปรับปรุง นายกฯเผยคุมตัว การุณ 7 วัน ก่อนส่ง ตร.พิจารณาตั้งข้อหา ฉุน พิชัย วิจารณ์ไม่เลิก 7 ครั้งไม่หยุด ตอกกลับไม่ต้องมาสอนในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ บิ๊กป้อม สำทับไม่ใช่เวลามาชี้หน้าให้ร้ายกัน ขู่ใครพูดอีกก็เชิญอีกทุกคน ด้านฮิวแมนไรท์ วอทช์ จี้เปิดเผยที่ควบคุมและปล่อยตัว เมีย เก่ง เผยลูกๆร้อนใจห่วงพ่อ,กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญต้องตั้งต้นใหม่อีกครั้ง หลังจากสภาปฏิรูปแห่งชาติคว่ำร่างทิ้งไป ต้องยกร่างกันใหม่ โดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่กำลังจะตั้งขึ้น ท่ามกลางการจับตา ของฝ่ายการเมือง ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ระบุพร้อมเปิดรับทุกฝ่าย ให้มาเป็น กรธ.รวมทั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ แม้กระทั่งฝ่ายการเมืองที่ไม่ชอบรัฐบาลนั้น ล่าสุดมีการตั้งเงื่อนไขว่าถ้าใครไม่ร่วมมือก็ห้ามวิจารณ์,เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รวมทั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศว่า คิดไว้แล้วทั้งวันนี้ วันหน้า ติดปัญหาตรงไหนก็แก้ แผนอยู่ในหัว และจะหารือกับคณะทำงาน ที่ปรึกษา และ คสช.ว่าเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าเห็นด้วยก็ไปขับเคลื่อนตนก็จะตัดสินใจ อีกวันสองวันนี้จะมอบนโยบายว่าจะทำกันอย่างไร ให้ไปหาคนกันมา แล้วมาตัดสินกันว่าควรจะอย่างไร ตนจะไปรู้จักคนตั้งสองร้อยคนได้อย่างไร สำหรับฝ่ายการเมืองที่จะเข้ามามีส่วนร่วมนั้น ก็คอยดูแล้วกันจะมาหรือเปล่า ถ้าจะมาเอาชื่อเสนอมาแล้วจะพิจารณา สื่อไปถามมา แต่ถ้าไปถามแล้วบอกว่าไม่เกี่ยวข้องก็ไม่มีสิทธิ์วิจารณ์ ตนไม่พูดถึงนักการเมืองที่ต่อต้าน ขอพูดถึงนักการเมืองดีๆ และประชาชนทั้งหมดที่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าใจหรือยังว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนวันที่ 22 พ.ค.2557 อธิบายอย่างนี้สังคมจะรับรู้ ต่างประเทศจะเข้าใจ,ต่างประเทศเขาไม่เหมือนเรา พอมีปัญหาก็ลาออก เลือกตั้งไม่มีการต่อต้าน เสร็จแล้วก็จบ แต่ของเรามันจบไหม พอเข้ามาแล้วทำความผิดต้องวิเคราะห์ตัวเองว่าควรจะอยู่ต่อหรือไม่ ถ้าไม่อยู่จะต้องทำอย่างไร เลือกตั้งฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลก็มาแข่งกันใหม่เพื่อเข้ามาและใครเข้ามาก็ยอมรับกันก็จบ ถ้าผมทิ้งไปตั้งแต่วันนี้เลยทุกอย่างยังคงอยู่ในสถานการณ์ใช้รัฐธรรมนูญเหมือนเดิม มันจะจบไหม มันควรจะต้องมีระยะเปลี่ยนผ่านหรือไม่ ในระหว่างนี้มันต้องมีกติกาอะไรขึ้นมาสักอย่าง เพื่อให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ต้องสร้างความเชื่อใจกับประชาชนให้ได้ว่าจะไม่เกิดอย่างนั้นขึ้นอีก คนอย่างผมจะต้องไม่มีอีกแล้วเข้าใจหรือยัง วันนี้ต้องถามว่าทุกคนมีจิตปรารถนาในการปรองดอง ขับเคลื่อนประเทศพร้อมกันหรือยัง ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณจะทำอะไรก็ได้ ไม่ต้องเขียนในรัฐธรรมนูญก็ได้ วันนี้ต้องคิดว่าเราควรจะต้องมีรัฐธรรมนูญอย่างไร ไม่ให้เถียงกัน ไปตีกันอยู่เหมือนเดิม แต่ถ้าบอกว่าต้องมีรัฐธรรมนูญแบบประชาธิปไตยมันก็กลับไปแบบเก่า นายกฯกล่าว,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ขอร้องว่าอย่ามาต่อต้านหรืออะไรกับตนมากนัก เพราะทำทุกอย่างก็เพื่อพวกท่านทั้งสิ้น ตนไม่เคยฝืนกระบวนการประชาธิปไตยในอนาคตเลย กำลังเตรียมทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็งให้ประชาชนมีการเรียนรู้ในช่วงเวลาที่เปลี่ยนผ่าน ถ้าไม่ทำเช่นนี้มันก็จะกลับไปแบบเดิมจนล่มสลายไปด้วยตัวของมันเอง ตนไม่ได้บอกว่าทำทุกอย่างดีเลิศประเสริฐศรี แต่เข้ามาทำหน้าที่ในช่วงเวลาที่มันล่มอยู่แล้ว มันเดินหน้าไม่ได้ ถ้ามันเดินได้ก็เลือกตั้งกันไป ตนก็ไม่ต้องมายืนตรงนี้ ไม่ใช่เอาแต่พูดมาตนไม่ได้มาจากประชาธิปไตย แล้วที่มันติดกับใครกันที่ทำ แล้วมันจะอะไรกันนักหนา ขอร้องเถอะ นักการเมือง พรรคการเมืองเยอะแยะที่ดีๆ แต่คนไม่ดีบางพรรคมันก็มีอยู่ อนาคตประชาชนก็ต้องดู,พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงแนวคิดการตั้งกระทรวงความมั่นคงว่า ยังเป็นเพียงแนวความคิดของฝ่ายความมั่นคง เรื่องยังไม่มาถึงตน โดยอาจจะมีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) รวมอยู่ด้วย เรามองในเรื่องของการปรับโครงสร้าง จะให้เหมือนต่างประเทศเลยไม่ได้ ต้องมีการพัฒนาทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่และการบังคับใช้กฎหมาย นโยบายที่จะต้องขับเคลื่อนไปให้ได้ ทำอย่างไรให้ผู้ปฏิบัติทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีความพอเพียง รวมถึงประชาชนเองก็ต้องร่วมรับกฎหมายจะแก้โครงสร้างอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ต้องทำทั้งหมด ตำรวจอยากมาอยู่กับทหารได้หรือไม่ สำนักข่าวกรองจะมารวมอยู่ด้วยหรือไม่ ค่อยว่ากันตอนปฏิรูป,ค่ำวันเดียวกัน เวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวผ่านรายการ คืนความสุขให้คนในชาติ ว่า เรื่องร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) อยากให้ทุกคนมองในหลายมุม ช่วยคิดแล้วกันว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศชาติ และประชาชนได้ประโยชน์มีความสงบสุข สันติ ปลอดภัย ไม่ถูกนำกลับเข้าไปสู่ความขัดแย้ง ปฏิรูปประเทศขับเคลื่อนต่อไปให้ได้โดยรัฐบาลที่เราไว้วางใจมาจากการเลือกตั้งในครั้งต่อไป อย่าไปมองในเรื่องของประชาธิปไตยอย่างเดียว อย่าไปมองเรื่องการสืบทอดอำนาจของตน ไม่ต้องกลัวตนพร้อมที่จะสละทุกสิ่งทุกอย่าง วันนี้เป็นโอกาสเดียวของประชาชนที่จะทำให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้ด้วยดีในอนาคต ดังนั้นถ้าเป็นกังวลในเรื่องเหล่านี้ต้องมาร่วมมือในการศึกษา ทำความเข้าใจในเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้น ขอเชิญชวนว่าจะทำอย่างไร พรรคการเมือง นักการเมืองไม่ว่าจะพรรคใดก็ตาม อยากให้เข้ามามีส่วน อย่างน้อยในเรื่องของการปฏิรูปในสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศที่เรากำลังจะตั้งขึ้นมาใหม่ แต่ถ้าไม่เข้ามาแล้วพูดจาเสียหายก็รับไม่ค่อยได้,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ตนไม่ทำเลยในการใช้อำนาจเพื่อตนเองเพื่อให้รัฐบาลอยู่ได้ไม่มี ใช้แต่เพียงว่าความตั้งใจเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ ในการที่จะทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจ และอดทนรอเวลาที่จะดีขึ้นๆ อย่างยั่งยืน วันนี้เราติดกับดักตัวเองมากมายหลายอย่าง ใครก็ตามที่ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดก็เข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม ศาลต่างๆก็ดูอยู่แล้ว ถ้าร่วมมือต่างๆก็มีความเมตตากัน แต่ถ้าสู้กันแบบมวยวัดไปเรื่อยๆก็ยิ่งหนักเข้าไปเรื่อยทุกวัน อย่าไปร่วมมือกับคนใช้ความรุนแรง รักคนแต่อย่ารักในทางที่ผิด จะชื่นชมอย่าไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน แล้วก็เตรียมการในการที่จะเลือกตั้งครั้งหน้าให้ดีแล้ว วันนี้ใครจะผิดจะถูกอยู่ที่พยานบุคคล วัตถุพยานไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลฝ่ายค้าน ข้าราชการ ประชาชนต่อไปนี้ต้องคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของตนเองว่าที่ผ่านมานั้นเรามีส่วนร่วมอยู่ตรงไหนแล้วควรจะไปช่วยกันขจัดความขัดแย้ง ถ้าเราทะเลาะกันเป็นเครื่องมือของแต่ละฝ่ายๆก็เดือดร้อนอยู่แบบนี้ ไม่มีใครแก้ให้ได้ต้องแก้ด้วยคนทั้ง 70 ล้านคนแก้เอง ตนเพียง 1 ใน 70 ล้านเท่านั้น,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คนที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศ ใช้ช่องทางการติดต่อสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย การสัมภาษณ์ทางคลิปต่างๆ และป้ายความผิดต่างๆให้ข้าราชการ ให้รัฐบาลปัจจุบัน คิดว่าน่าจะพอ ได้แล้ว ในเมื่อเราทุกคนบอกว่าเรารักชาติ รักแผ่นดินต้องกรุณาพิจารณาด้วยว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ สนับสนุนการหมิ่นสถาบัน สนับสนุนการใช้ความรุนแรงควรจะเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินต่อไปอีกหรือไม่ ในอนาคตทุกคนต้องช่วยกันคิด การใช้อำนาจตามมาตรา 44 นั้น จะใช้ในทางสร้างสรรค์เพื่อปฏิรูป ขับเคลื่อนประเทศ แก้ปัญหาที่ซับซ้อนให้ได้ภายในเวลาจำกัด บางปัญหานั้นก็ไม่อยากให้เอาไปกล่าวอ้างถึงสถาบันอีก ตนก็จำเป็นต้องใช้ ถึงตนจะใช้ไปแล้วก็ยังไม่หยุดยั้ง ยังคงสนับสนุนให้มีบุคคลต่างๆในต่างประเทศใช้การให้ข่าวบิดเบือนทำร้ายสถาบันอยู่ตลอดเวลา พูดวันนี้หลายเรื่องอาจจะมองแล้วเข้าใจยาก แต่ถ้าฟังสื่อ สื่อจะเสนอทั้งสองข้างได้เสมอกันก็ไม่เข้าใจอยู่ดีโซเชียลมีเดียก็ทับเข้ามาอีก ประชาชนก็สับสน ดังนั้น ต้องจับประเด็นว่าตนทำอะไร เขาทำอะไร โซเชียลมีเดีย ใครทำอะไร,เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการทำประชามติว่า ความจริงในรัฐธรรมนูญชั่วคราว ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมถือว่าชัดเจนแล้ว ให้ยึดเสียงข้างมากของผู้ออกมาใช้สิทธิ์ คงไม่ต้องแก้ไขอะไร แต่ถ้ามีประเด็นอื่นจำเป็นต้องแก้ ก็จะแก้ผสมไปด้วยเพื่อให้เกิดความชัดเจน หลังจากวิพากษ์วิจารณ์กัน และถ้าต้องแก้คือคำถามที่ใครๆชอบถามว่า หากทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 ไม่ผ่านจะทำอย่างไร เพราะไม่ควรมีการทำประชามติครั้งที่ 3 อีก เพราะถ้าทำอีกจะมีคำถามตามมาว่า ใจคอจะเสียเงิน 3 พันล้านบาทไปเรื่อยๆหรืออย่างไร ประเทศเราไม่ได้รวยขนาดนั้น เมื่อถามว่า ถ้าประชามติไม่ผ่านเป็นไปได้หรือไม่ ให้หยิบรัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่งมาเป็นตัวตั้ง นายวิษณุตอบว่า เป็นไปได้ จะได้ว่าเสร็จเลยทีเดียว เพราะเมื่อไม่มีการทำประชามติอีก ก็ต้องมีมาตรฐานอะไรสักอย่างออกมา เพื่อตอบประชาชนได้ว่าทำไมไม่ทำประชามติ ส่วนจะหยิบมากี่ฉบับนั้น เวลานี้ยังตอบไม่ได้,เมื่อถามว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรก กำหนดห้ามคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 2 ปี ในส่วนของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ต้องกำหนดห้ามเช่นเดียวกันหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ต้องใช้คุณสมบัติเดียวกัน ตามที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดให้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่าห้ามคนร่างดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2 ปี จึงกลายเป็นภาระของคนที่ร่างรัฐธรรมนูญต้องเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับถาวร และฉบับที่ กมธ.ยกร่างฯได้ร่างขึ้นก็ได้เขียนกำหนดไว้ แต่เมื่อร่างไม่ผ่านผู้ที่เป็น กมธ.ยกร่างฯก็ถือว่าไม่ถูกห้าม เพราะร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน,นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และประธานสภาคณาจารย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวถึงกระแสข่าวจะมีสัดส่วนนักวิชาการจากนิด้าร่วมเป็นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า ไม่น่าจะใช่ เนื่องจากอำนาจการแต่งตั้ง กรธ.ทั้ง 21 คน เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีโดยตรง สถาบันการศึกษาไม่น่าจะมีสัดส่วนร่วมด้วย แต่ถ้ามีนักวิชาการจากนิด้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ส่วนตัวเห็นด้วยที่จะให้มีสมาชิก สนช. 2 คน ร่วมเป็น กรธ. เนื่องจาก สนช.มีอำนาจทางนิติบัญญัติ ต้องร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูก ภายหลังจากร่างรัฐธรรมนูญ จึงจำเป็นต้องมี สนช.มาเป็นส่วนหนึ่งของ กรธ. เพื่อคอยประสานการทำงาน ส่วนตัวเห็นว่า สนช.ที่มีคุณสมบัติเป็น กรธ.ได้อาทิ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่หนึ่ง นายกล้านรงค์ จันทิก ที่มีความเหมาะสม เนื่องจากมีความรู้และประสบการณ์ ทั้งสองคนยังเป็นประธานและรองประธานคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาศึกษาเสนอแนะและรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญของ สนช.จึงมีข้อมูลการร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ส่วนตนในฐานะรองประธาน กมธ.อีกคนในชุดดังกล่าวก็พร้อมทำหน้าที่เช่นกัน หากได้รับเลือก,นายลิขิต ธีรเวคิน นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า คสช.วางตัวเป็นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า ไม่ทราบเรื่องและยังไม่มีการทาบทามใดๆจาก คสช. ที่ผ่านมามีแต่สื่อเขียนข่าวกันไปโดยที่ตนไม่รู้เรื่อง หากมีการทาบทามจากผู้ใหญ่ก็ต้องคุยกันอีกที แต่ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไร ส่วนคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาเป็น กรธ. ตนไม่ขอพูดถึงเพราะเกรงว่าจะเป็นการพรีเซนต์ตัวเองจึงไม่ขอวิจารณ์ใดๆ,เมื่อเวลา 10.10 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการร่างรัฐธรรมนูญของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) 21 คนว่า หน้าที่ของ กรธ.จะต้องร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามความคาดหวังของประชาชน คือนำประเทศไปสู่การปฏิรูปโดยไม่ทิ้งหลักประชาธิปไตย โดยดึงสิ่งที่ดีๆที่อยู่ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ สปช.ไม่เห็นชอบ ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเริ่มเขียนใหม่ แก้ไขจุดที่เป็นปัญหา ส่วนคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็น กรธ. ควรเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เข้าใจปัญหาและมีใจที่จะปฏิรูป พร้อมรับฟังความคิดเห็นสามารถทำให้เกิดรัฐธรรมนูญที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ ต้องลดวาทกรรม เรื่องนักการเมืองกับเผด็จการ,นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ส่วนการปฏิรูปจะเกิดขึ้นได้ ถ้าเขียนหลักการเป็นรูปธรรม อยู่ในรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญต้องไปผ่านประชามติ ก็จะเป็นวิธีการหนึ่งที่สร้างหลักประกันได้ ในส่วนของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศนั้น ไม่จำเป็นต้องมี เพราะถ้ามีเนื้อหาสาระอยู่ในตัวร่าง ประชาชนเห็นชอบผ่านการทำประชามติรัฐบาลชุดต่อไปถ้าไม่ทำก็ถือว่าฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ เมื่อถามถึงอำนาจพิเศษของ คปป.นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ปัญหาของ คปป.คือไม่ระบุถึงรายละเอียดเลย เป็นการให้อำนาจลอยๆ จึงเกิดปัญหาขึ้น,สำหรับกรณีที่ คสช.เชิญนักการเมืองเข้าค่ายทหารเพื่อปรับทัศนคตินั้น เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีนำตัวนายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เข้าค่ายทหารเพื่อปรับทัศนคติว่า ก็เขาพูดอะไรออกมาหรือเปล่ามันจบแล้ว เมื่อถามว่า แสดงว่าหากมีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลในทางตรงกันข้ามจะถูกเรียกตัวไปใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ต้องดูว่าวิพากษ์เชิงไหนสร้างสรรค์หรือเปล่า ถ้าสร้างสรรค์ผมรับอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่สร้างสรรค์ตนก็ไม่ค่อยรับ มีแนวโน้มที่จะสร้างความเข้าใจผิดหรือเปล่า เรื่องนี้มันมีกฎหมายอยู่หรือไม่ กฎหมายปกติเองก็มีในเรื่องที่นำไปสู่สถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อย ทำไมจะต้องให้เตือนบ่อยครั้ง รัฐบาลไม่ได้อยากใช้กฎหมายกับคนที่อยู่ตรงข้าม แต่ใช้กฎหมายกับคนที่ทำความผิดไม่ว่าจะใครทั้งนั้น นายการุณจะถูกควบคุมตัวตามที่กฎหมายกำหนดเบื้องต้นเริ่มแรก 7 วัน หลังจากนั้นตำรวจจะเป็นผู้ พิจารณาข้อกล่าวหาทำให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมืองตามกฎหมายปกติ เนื่องจากพิจารณาแล้วคำพูดคำจาของนายการุณนั้นผิด,ต่อข้อถามถึงกรณีของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ก็ให้อภัยมา 6-7 ครั้งแล้ว ครั้งที่ 7 นี้อาจจะไม่ให้ก็ได้ ขณะนี้กำลังพิจารณากันอยู่ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่องคราวหน้าต้อง ดำเนินคดี เพราะมันผิดกฎหมายอยู่แล้ว เมื่อถามว่า กรณีที่มีการวิจารณ์ซ้ำซากจะตั้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่ใช่ตั้งข้อกล่าวหา มีข้อหาอยู่แล้ว แต่ให้อภัยด้วยความเมตตา,ไปอ่านสามก๊กดู เขาให้อภัยกันมา 7 ครั้งแล้ว ครั้งที่ 7 เขาก็ยอมปฏิบัติตาม ไม่เช่นนั้นเบ้งเฮ็กก็ถูกตัดคอไปแล้ว ทุกคนที่ออกมาพูดให้เกิดความแตกแยกให้ร้ายรัฐบาลในสิ่งที่รัฐบาลไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เราต้องการพัฒนาประเทศ อย่ามาติติงในสิ่งที่ตัวเองก็ไม่ได้ทำมา แล้วมาสอนผม ถ้าทำแล้วไม่ได้ผลอย่ามาสอน อย่ามาแนะนำ กลับไปดูบ้างที่ทำกันมาเป็นอย่างไร และผมต้องเข้ามาแก้ แล้วสื่อจะปล่อยให้คนเหล่านี้มาพูดติติงผมอย่างนั้นหรือ แล้วสังคม ประชาชนฟังตามแล้วก็เชื่อเข้าสักวัน ทั้งๆที่ปัญหาเศรษฐกิจวันนี้มันเกิดจากอดีตแล้วไม่ได้รับการดูแล อย่าลืมว่าวันนี้วิธีการทำและจุดมุ่งหมายเป็นคนละเรื่อง,เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ คสช.เชิญนายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงานและแกนนำพรรคเพื่อไทย เข้าค่ายทหารเพื่อปรับทัศนคติว่า ต้องเรียกบุคคลที่ยังพูดแสดงความ คิดเห็นต่างๆทั้งหมด เพราะขณะนี้รัฐบาลกำลังทำงานอยู่ ขอให้หยุดพูดในช่วงนี้ก่อน เพราะเป็นระยะ ช่วงเปลี่ยนผ่าน สิ่งใดที่เป็นการพูดให้ร้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. รวมถึงรัฐบาล ครม.และ คสช.นั้นยังไม่ใช่เวลา เราต้องการให้ทุกอย่างดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ดังนั้นผิดต้องว่ากันไป ต้องเรียกมาชี้แจงเพื่อปรับความเข้าใจ ถ้าเข้าใจเร็วก็กลับเร็วหากเข้าใจช้าก็กลับช้าเพราะต้องอธิบายกันให้เข้าใจ,เมื่อถามว่า มีแนวโน้มที่จะเชิญใครอีกบ้าง พล.อ.ประวิตรตอบว่า ใครพูดผิด พูดให้ร้ายในสิ่งที่ไม่เป็นความจริงก็เชิญมาหมด ตอนนี้จะมาพูด เปรียบเทียบกันไม่ได้ เวลานี้คือเวลาทำงานของรัฐบาลและ คสช.ขอให้เข้าใจตามนี้ เมื่อถามว่า จะมีการเปิดเผยชีวิตของ นักการเมืองที่อยู่ในค่ายทหารหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า รับรองว่าเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างดี ไม่ได้ทำอะไร เพียงแค่ปรับสมองอย่างเดียว ด้วยการพูดคุยกัน เรื่องการเปิดเผยที่อยู่ในค่ายทหารนั้นตนคิดว่าไม่จำเป็น เพราะเหมือนกับอยู่บ้าน เพียงแต่เชิญมาพูดคุยไม่ได้นำตัวไปทารุณ ที่ผ่านมาก็ทำมาเยอะแยะ แล้วมากังวลอะไรตอนนี้ หนึ่งปีที่ผ่านมาก็ดำเนินการมาแล้ว เรื่องนี้ตนไม่ได้พูดถึงคนเห็นต่าง เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะกรณีที่เกิดขึ้นเป็นการให้ร้าย ต้องเข้าใจ,วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานถึงกลุ่มเรียกร้องสิทธิมนุษยชน ฮิวแมน ไรท์ วอทช์ ซึ่งออกแถลงการณ์ต่อกรณีการจับกุมนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน หลังวิจารณ์ต่อต้านรัฐบาลคสช. ว่า รัฐบาลไทยควรเปิดเผยให้รู้ว่าขณะนี้นายพิชัยอยู่ที่ไหน ทั้งนี้ นายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฮิวแมน ไรท์ วอทช์ ประจำเอเชีย ยังประณามซ้ำว่า รัฐบาลไทยยังคงใช้อำนาจเข้าจับกุมและควบคุมตัวในเชิงลับเพื่อขู่บังคับและให้ประชาชนซึ่งวิจารณ์กองทัพไทยอย่างสันติปิดปากเงียบ และขณะที่รัฐบาลคุมเข้มกับการใช้อำนาจเชิงเผด็จการ ทำให้บรรยากาศความกลัวของไทยยิ่งรุนแรงขึ้น และคำมั่นสัญญาของรัฐบาลไทยที่จะเคารพสิทธิมนุษยชนถูกพิสูจน์แล้วว่าไม่มีความหมาย นายกฯควรสั่งให้ยุติการใช้อำนาจจับกุมและควบคุมตัว และปล่อยตัวทุกคนที่ถูกคุมตัวไป,นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ส่งผล ให้ต้องยืดโรดแม็ปของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ออกไปเกือบ 2 ปี ทำให้นานาชาติ รวมทั้งคนที่รักประชาธิปไตย วิจารณ์กันว่า พล.อ.ประยุทธ์ควรแสดงความรับผิดชอบเพราะเป็นคนที่ตั้ง สปช.ขึ้นมาเอง เลยต้องการเบรกคนที่ออกมาแสดงความเห็น โดยเฉพาะนักการเมือง มีการควบคุมนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน และนายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย แต่อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ใจเย็นและใจกว้างหน่อย เปิดใจยอมรับฟังความคิดเห็น โดยเฉพาะนักการเมืองที่เสนอแนะผ่านเสียงสะท้อนจากประชาชนมา รัฐบาลควรมีกระจกเพื่อสะท้อนให้เห็นว่าอะไรควรหรือไม่ควร สิ่งที่พูดแค่ต้องการเตือน ไม่ใช่โจมตีรัฐบาล ควรเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ด้วย ไม่ใช่พอไม่ถูกใจใครก็เรียกเข้าค่ายทหารหรือดำเนินคดีทางกฎหมาย,นางพิมพ์ชนา โหสกุล ภรรยานายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.ดอนเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากนายการุณถูกควบคุมตัวเป็นวันที่ 2 ยังไม่ ทราบว่าได้นำตัวนายการุณไปไว้ที่ใด โดยเมื่อวันที่ 10 ก.ย. นายการุณได้เดินทางไปเข้าพบทหารที่กองทัพภาคที่ 1 ด้วยตัวเอง ไม่ได้ถูกควบคุมตัวไป จากนั้นก็โทรศัพท์มาหาครั้งแรก บอกให้เก็บเสื้อผ้าสำหรับ 7 วันให้ไปฝากไว้ที่กองทัพภาคที่ 1 โดยสามีระบุว่าคุยกันไม่เข้าใจ ทหารเลยขอให้อยู่ต่อก็จำเป็นต้องอยู่ก่อนที่จะบอกให้ทางบ้านนำเสื้อผ้าไปให้ ทั้งนี้รู้สึกสับสนมากเพราะที่ผ่านมานายการุณก็ไม่ได้ไปท้าทายอะไร คสช.และไม่ได้ทำอะไรผิด อยากเรียกร้องไปยัง คสช.ว่าต้องการทราบที่อยู่ที่ชัดเจนของสามีและอยากเข้าไปเยี่ยมซึ่งหากไม่มีอะไรร้ายแรงก็ควรที่จะให้ทราบว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้ไม่รู้ชะตากรรมเลย ซึ่งลูกๆก็เป็นห่วงคุณพ่อ คนที่เรียนอยู่เมืองนอกก็ติดต่อมาอยากทราบว่าพ่อเป็นอย่างไรบ้าง,วันเดียวกัน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำสั่งของหัวหน้า คสช.โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้า คสช. ประกาศใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2557 จัดตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน เป็นหน่วยงานเฉพาะกิจขึ้นตรงกับหัวหน้า คสช. โดยมี ผบ.ทอ.เป็นหัวหน้าศูนย์ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหากรณีกรมการบินพลเรือน ถูกองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือไอซีเอโอ ตรวจสอบข้อบกพร่องอย่างมีนัยสำคัญต่อความปลอดภัยด้านการบิน และต้องถูกปักธงแดง เพราะเกรงว่าหากไม่มีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน อาจส่งผลกระทบของการบินของประเทศไทย,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน ที่มี ผบ.ทอ.เป็นผู้บัญชาการศูนย์นั้น ไม่ได้ให้ ผบ.ทอ.มาคุม แต่ให้มาสนับสนุนช่วยเหลือดูแลในสิ่งที่เป็นปัญหา อะไรที่กฎหมายปกติจัดการไม่ได้ต้องใช้อำนาจตรงนี้เข้ามาจัดการทำให้สะดวกขึ้น เพราะที่ผ่านมาติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย ดังนั้น จึงต้องใช้มาตรา 44 ตั้งองค์กรขึ้นมา โดยทั้งหมดต้องทำตามนโยบายของนายกฯ ของรัฐบาล โดยให้ไปช่วยกระทรวงคมนาคมและการบินพลเรือน,เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ จากนั้น นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) และเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) แถลงว่า ที่ประชุมเห็นชอบเรื่องจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อให้ทุกส่วนราชการถือปฏิบัติใน 3 ประเด็น คือ 1.มติ ศอตช.ให้ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต (ศปท.) เป็นกลไกขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาทุจริตในกระทรวง 2.ศปท.เป็นกลไกกระตุ้นติดตามการดำเนินการทางวินัย 3.ต่อไปนี้ให้ทุกส่วนราชการในกระทรวง ทุกกรม รายงานการดำเนินการทางวินัยที่ค้างอยู่ในปัจจุบันและให้รายงานข้อร้องเรียนใหม่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริต,นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่าขอให้มีมาตรการป้องกันคอร์รัปชัน ป้องกันการออกนโยบายประชานิยม และควรเน้นภาคสังคม มีมาตรการทำให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้นในสังคม ส่วนกรณีนายกฯห่วงใยเรื่องค่าครองชีพของประชาชน และ รมว.พาณิชย์เด้งรับลูกเข้าไปดูกลไกตลาดให้เป็นธรรมต่อประชาชนและผู้ค้า ขอขอบคุณรัฐบาล คสช. ถือว่ากระทรวงนี้เริ่มมีความกล้าหาญให้ความเป็นธรรมคุ้มครองผู้บริโภคและผู้ค้า ไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากรัฐ,นายยรรยง พวงราช อดีต รมช.พาณิชย์ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในช่วงปีเศษที่ผ่านมา เศรษฐกิจภาคเกษตรได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง เป็นผลให้เศรษฐกิจพื้นบ้านของประเทศ ซึ่งประกอบด้วยประชากรส่วนใหญ่ คือเกินกว่า 20 ล้านคน และมีรายได้ต่ำอยู่แล้วต้องเดือดร้อนมีหนี้สินเพิ่มขึ้น โดยนโยบายที่ผิดพลาดในช่วงที่ผ่านมานี้ เพราะรัฐบาลกลัวผีประชานิยม และเข้าใจผิดว่าถ้าเข้าไปช่วยเกษตรกรด้วยงบประมาณจำนวนมาก จะถูกโจมตีว่าเป็นประชานิยม ขอวิงวอนทีมเศรษฐกิจใหม่ ให้ทบทวนนโยบายที่ได้ทำไปแล้วและหามาตรการที่เป็นรูปธรรมและช่วยเหลือให้ได้ผลต่อเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ทั้งมาตรการด้านการตลาด ราคาและด้านการผลิต โดยมาตรการที่จะช่วยเกษตรกรได้อย่างแท้จริงในระยะยาวคือ การทำให้กลไกตลาดเข้มแข็ง,เมื่อเวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีนายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานประชุม และ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.และนายชัยสิทธิ ตราชูธรรม ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ร่วมประชุม เพื่อพิจารณาเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แทนนายเฉลิมพล เอกอุรุ ที่ครบวาระ โดยมีผู้สมัครเข้ารับการสรรหา 10 คน ปรากฏว่าที่ประชุมลงมติเลือกนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยจะนำรายชื่อเสนอต่อที่ประชุมสนช.พิจารณาเห็นชอบต่อไป,นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีการกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีต รมว.กระทรวงกลาโหม ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายปลัดกระทรวงกลาโหม ปี 2555 โดยเสนอให้ย้าย พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหมขณะนั้น ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดทางให้ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม โดยไม่ถูกต้องตามข้อบังคับและกฎหมายว่า ขณะนี้คณะอนุกรรมการฯได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อ พล.อ.อ.สุกำพลแล้ว และนัดให้มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายในวันที่ 28 ก.ย. ล่าสุด พล.อ.อ. สุกำพลเตรียมนัดขอดูเอกสารและสำนวนในส่วนที่สามารถขอดูได้ต่อ ป.ป.ช. คาดว่า พล.อ.อ.สุกำพล จะเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อ ป.ป.ช.ภายในกำหนดที่วางไว้ ในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา
บิ๊กตู่ ยันมีแผนล่วงหน้าหมด แล้ว ทั้งยกร่างรัฐธรรมนูญ-ปฏิรูปประเทศ สั่งหาคนร่วม กรธ.-สภาขับเคลื่อน ย้ำนักการเมืองสนใจเสนอชื่อมา แต่สั่งเฉียบคนไม่เกี่ยวข้องไม่มีสิทธิ์วิจารณ์ ร่ายยาวอนาคตประเทศต้องไม่มีคนมายึดอำนาจอีกแล้ว
ฮิวแมนไรท์ วอทช์,พิชัย นริพทะพันธุ์,ร่างรัฐธรรมนูญ,วิจารณ์,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/524669
[ 0, 259, 203061, 2091, 169184, 259, 4215, 4552, 12682, 260, 259, 70433, 30804, 34538, 15334, 22065, 66806, 34351, 148801, 58384 ]
ราชบัณฑิต แจง ยังไม่มีมติแก้วิธีเขียนคำยืมภาษาอังกฤษ-อยู่ระหว่างสำรวจ
ราชบัณฑิตยสถานแจงยังไม่มีมติให้แก้ไขรูปแบบการเขียนคำยืมจากภาษาอังกฤษตามที่เป็นข่าว เผยอยู่ระหว่างสำรวจความเห็น โดยจะนำเสนอผลในการประชุมสภาราชบัณฑิต 12 ธ.ค.นี้กรณี กาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิต และนายกสมาคมครูภาษาไทยแห่งประเทศไทย เสนอให้เปลี่ยนแปลงการเขียนคำที่ยืมจากภาษาอังกฤษใหม่ 176 คำ โดยเติมวรรณยุกต์เสียงเอก โท หรือตรี รวมทั้ง ไม้ไต่คู้ ให้ตรงตามอักขรวิธีไทย ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในขณะนี้ล่าสุด (1 ต.ค.55) เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ชี้แจงว่า ไม่มีการแก้ไขคำยืมจากภาษาอังกฤษในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ที่กำลังดำเนินการจัดพิมพ์ รวมทั้งยังไม่มีมติให้แก้ไขรูปแบบการเขียนคำยืมจากภาษาอังกฤษตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใดโดยนางสาวกนกวลี ชูชัยยะ เลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน กล่าวว่า ตามที่ได้มีประชาชนจำนวนมากแสดงความห่วงใยเรื่องรูปแบบการเขียนคำยืมจากภาษาอังกฤษในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ผ่านสื่อต่างๆ นั้น ราชบัณฑิตยสถานขอขอบคุณและขอชี้แจงว่า ราชบัณฑิตยสถานได้ถือหลักการเขียนคำในภาษาต่างประเทศ ตามพระดำริของ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ อดีตนายกราชบัณฑิตยสถาน ว่า การเขียนคำในภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษออกเสียงไม่แน่นอน จะออกเสียงอย่างไรย่อมแล้วแต่ประโยค เสียงจะสูงต่ำก็แล้วแต่ตำแหน่งของคำในประโยค จึงทรงเห็นว่าไม่ควรใช้วรรณยุกต์กำกับตามเหตุผลดังกล่าวเลขาธิการราชบัณฑิตยสถานกล่าวต่อไปว่า ในปัจจุบันราชบัณฑิตยสถานมีราชบัณฑิตสาขาวิชาต่างๆ 84 คน ภาคีสมาชิกสาขาวิชาต่างๆ 80 คน และมีคณะกรรมการวิชาการในสาขาวิชาการต่างๆ กว่า 90 คณะ ซึ่งอาจเสนอความเห็นทางด้านวิชาการให้ราชบัณฑิตยสถานพิจารณาได้ และศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.กาญจนา นาคสกุล ในฐานะราชบัณฑิตสาขาวิชาภาษาไทย ได้เสนอขอให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเขียนคำยืมจากภาษาอังกฤษ โดยแนะให้ใส่เครื่องหมายวรรณยุกต์ หรือใช้อักษรสูง หรือใช้ ห นำในคำที่ไม่สามารถผันวรรณยุกต์ได้ ราชบัณฑิตยสถานจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากำหนดแนวทางการเขียนคำที่มาจากต่างประเทศ เพื่อพิจารณาเรื่องที่ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.กาญจนา นาคสกุล เสนอคณะกรรมการฯ ได้มีมติให้ออกแบบสอบถามตามข้อเสนอของ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.กาญจนา นาคสกุล โดยสอบถาม ราชบัณฑิต ภาคีสมาชิก และกรรมการวิชาการของราชบัณฑิตยสถาน เพื่อรับฟังความคิดเห็นเฉพาะภายในองค์กรเป็นเบื้องต้นให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ต.ค. และจะเสนอผลการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวต่อสภาราชบัณฑิต ในการประชุม วันที่ 12 ธ.ค.นี้ผลการรับฟังความคิดเห็นเฉพาะภายในองค์กรของราชบัณฑิตยสถานเกี่ยวกับหลักการเขียนคำยืมจากภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะมีผลเป็นประการใด เป็นเพียงความเห็นส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ข้อยุติ การแก้ไขคำยืมจากภาษาอังกฤษซึ่งใช้ในทางราชการ ทางการศึกษา มาเป็นเวลานาน หากมีการเปลี่ยนแปลง ย่อมมีผลกระทบสำคัญต่อการใช้ภาษาไทยของหน่วยงานราชการ นักเรียนนักศึกษา และประชาชนทั่วไป ดังนั้น จึงต้องมีการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานและบุคคลดังกล่าวก่อน ตามหลักการพื้นฐานที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ก่อนที่จะพิจารณาดำเนินการไปในทางใดทางหนึ่ง และพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ที่ขณะนี้กำลังดำเนินการจัดพิมพ์นั้น ไม่ได้แก้ไขรูปแบบการเขียนคำยืมจากภาษาอังกฤษตามที่เป็นข่าว ส่วนความคิดเห็นของประชาชนที่ปรากฏในสื่อต่างๆ ราชบัณฑิตยสถานจะรวบรวมข้อมูลไว้เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป เลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน กล่าวผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีข่าวข้อเสนอดังกล่าว มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นในของเว็บไซต์ราชบัณฑิตยสถานจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวคำศัพท์ที่อยู่ในแบบสำรวจ เพื่อขอความเห็นในการเปลี่ยนแปลงการเขียนใหม่ ดังนี้1.คำที่ใส่เครื่องหมายไม้ไต่คู้เพื่อแสดงสระเสียงสั้น ได้แก่ ซีเมนต์ เปลี่ยนเป็น ซีเม็นต์ เซต-เซ็ต เซนติกรัม-เซ็นติกรัม เซนติเกรด-เซ็นติเกรด เซนติลิตร-เซ็นติลิตร ไดเรกตริกซ์-ไดเร็กตริก เทนนิส-เท็นนิส นอต-น็อต นิวตรอน-นิวตร็อน เนตบอล-เน็ตบอล เนปจูน-เน็ปจูน เบนซิน-เบ็นซิน แบคทีเรีย-แบ็คทีเรีย มะฮอกกานี-มะฮ็อกกานี เมตริก-เม็ตตริก เมตริกตัน- เม็ตริกตัน แมงกานิน-แม็งกานิน อิเล็ก ตรอน-อิเล็กตร็อน เฮกโตกรัม-เฮ็กโตกรัม เฮกโตลิตร-เฮ็กโตลิตร2.คำที่เปลี่ยนตัวพยัญชนะเป็นอักษรสูง ได้แก่ คอร์ด-ขอร์ด แคโทด-แคโถด ซัลเฟต-ซัลเฝต ไทเทรต-ไทเถรต ไนต์คลับ-ไน้ต์ขลับ พาร์เซก-พาร์เส็ก แฟลต-แฝล็ต สเปกโทร สโกป-สเป็กโทรสโขป ไอโซโทป-ไอโซโถป3.คำที่ใส่เครื่องหมายวรรณยุกต์เอก ได้แก่ กอริลลา-กอริลล่า แกโดลิเนียม-แกโดลิ เนี่ยม แกมมา-แกมม่า แกลเลียม-แกลเลี่ยม คูเรียม-คูเรี่ยม แคดเมียม-แคดเมี่ยม แคลเซียม-แคลเซี่ยม แคลอรี-แคลอรี่ โครเมียม-โครเมี่ยม ซิงโคนา-ซิงโคน่า ซิลิคอน-ซิลิค่อน ซีเซียม-ซีเซี่ยม ซีนอน-ซีน่อน ซีเรียม-ซีเรี่ยม โซลา-โซล่า ดอลลาร์-ดอลล่าร์ เทคโนโลยี-เท็คโนโลยี่ แทนทาลัม-แทนทาลั่ม ไทเทเนียม-ไทเท เนี่ยม เนบิวลา-เนบิวล่า ไนลอน-ไนล่อน แบเรียม-แบเรี่ยม ปริซึม-ปริซึ่ม ปิโตรเลียม-ปิโตรเลี่ยม แพลทินัม-แพลทินั่ม ฟังก์ชัน-ฟังก์ชั่น ฟาทอม-ฟาท่อม ไมครอน-ไมคร่อน ยิปซัม-ยิปซั่ม ยูเรเนียม-ยูเรเนี่ยม เลเซอร์-เลเซ่อร์ วอลเลย์บอล-วอลเล่ย์บอล อะลูมิเนียม-อะลูมิเนี่ยม อีเทอร์-อีเท่อร์ เอเคอร์-เอเค่อร์ แอลฟา-แอลฟ่า ฮาห์เนียม-ฮาห์เนี่ยม ฮีเลียม-ฮีเลี่ยม4.คำที่ใส่ ห นำเพื่อแสดงเสียงวรรณยุกต์เอก ได้แก่ กะรัต-กะหรัต แกรนิต-แกรหนิต คลินิก-คลิหนิก คาทอลิก-คาทอหลิก คาร์บอเนต-คาร์บอเหนต คาร์บอลิก-คาร์บอหลิก โคออร์ดิเนต-โคออร์ดิเหนต รูเล็ตต์- รูเหล็ตต์5.คำที่เติมเครื่องหมายวรรณยุกต์โท ได้แก่ กลูโคส-กลูโค้ส กิโลไซเกิล-กิโลไซเกิ้ล กิโลเมตร-กิโลเม้ตร กิโลเฮิรตซ์-กิโลเฮิ้รตซ์ กีตาร์-กีต้าร์ แกรไฟต์-แกรไฟ้ต์ คาร์บอน-คาร์บ้อน คาร์บูเรเตอร์-คาร์บูเรเต้อร์ เคเบิล-เคเบิ้ล โควตา-โควต้า ชอล์ก-ช้อล์ก ซอส-ซ้อส โซเดียม-โซเดี้ยม ไดนาไมต์-ไดนาไม้ต์ แทนเจนต์-แทนเจ้นต์ แทรกเตอร์-แทรกเต้อร์ นิกเกิล-นิกเกิ้ล ไนต์คลับ-ไน้ต์ขลับ ไนโตรเจน-ไนโตรเจ้น บารอมิเตอร์-บารอมิเต้อร์ บีตา-บีต้า ปาทังกา-ปาทังก้า ปาร์เกต์-ปาร์เก้ต์ พลาสติก-พล้าสติก ฟาสซิสต์- ฟ้าสซิสต์ มอเตอร์-มอเต้อร์ เมตร-เม้ตร ไมกา-ไมก้า ยีราฟ-ยีร้าฟ เรดอน-เรด้อน เรดาร์-เรด้าร์ เรเดียม-เรเดี้ยม ลิกไนต์- ลิกไน้ต์ แวนดา-แวนด้า อาร์กอน-อาร์ก้อน แอนติบอดี-แอนติบอดี้ เฮิรตซ์-เฮิ้รตซ์ ไฮดรา-ไฮดร้า ไฮโดรเจน-ไฮโดรเจ้น6.คำที่เติมเครื่องหมายวรรณยุกต์ตรี ได้แก่ กราฟ-กร๊าฟ ก๊อซ-ก๊อซ กอล์ฟ-ก๊อล์ฟ เกาต์-เก๊าต์ ออกไซด์-อ๊อกไซด์ โคบอลต์- โคบ๊อลต์ ดราฟต์-ดร๊าฟต์ ดัตช์-ดั๊ตช์ ดิสโพรเซียม-ดิ๊สโพรเซี่ยม เดกซ์โทรส-เด๊ก โทรัส เต็นท์-เต๊นท์ บาสเกตบอล-บ๊าสเก้ต บอล บิสมัท-บิ๊สมั้ท แบงก์-แบ๊งก์ โบต-โบ๊ต ปลาสเตอร์-ปล๊าสเต้อร์ ปิกนิก-ปิ๊กหนิก ออกซิเจน-อ๊อกซิเย่น ออกซิเดชัน-อ๊อก ซิเดชั่น ออกไซด์-อ๊อกไซด์ อาร์ต-อ๊าร์ต เอกซเรย์-เอ๊กซเรย์ แอสไพริน-แอ๊สไพริน แอสฟัลต์-แอ๊สฟัลต์ โอ๊ด-โอ๊ตและ 7.คำที่มีหลายพยางค์ ได้แก่ คอนเดนเซอร์-ค็อนเด็นเซ่อร์ คอนแวนต์-ค็อนแว็นต์ คอนเสิร์ต-ค็อนเสิร์ต คอมพิวเตอร์-ค็อมพิ้วเต้อร์ คอมมานโด-ค็อมมานโด คอมมิวนิสต์-ค็อมมิวนิสต์ คูปอง- คูป็อง เครดิตฟองซิเอร์-เครดิตฟ็องซิเอร์ แคดเมียม-แค็ดเมี่ยม แคปซูล-แค็ปซูล แคลเซียมไซคลาเมต-แคลเซี่ยมไซคลาเมต ช็อกโกเลต/ ช็อกโกแลต-ช็อกโกแล็ต เซนติเมตร-เซ็นติเม้ตร โซเดียมคาร์บอเนต-โซเดี้ยมคาร์บอเหนต โซเดียมไซคลาเมต-โซเดี้ยมไซคลาเหมต โซเดียมไฮโดรเจนกลูทาเมต-โซเดี้ยมไฮโดรเจ้นกลูตาเหมต โซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต-โซเดี้ยมไฮโดร เจ้นคาร์บอเหนต ดีเปรสชัน-ดีเปร๊สชั่น เทคโนโลยี-เท็คโนโลยี่ แทรกเตอร์-แทร็ก เต้อร์ แบดมินตัน-แบ็ดมินตั้น แบตเตอรี่-แบ็ตเตอรี่ พลาสมา-พล้าสม่า โพแทสเซียม-โพแท้สเซี่ยม เมนทอล-เม็นท่อล แมงกานีส-แม็งกานี้ส แมกนีเซียม-แม็กนีเซี่ยม รีดักชัน-รีดั๊กชั่น ลอการิทึม-ล็อกการิทึ่ม สเปกตรัม-สเป๊กตรั้ม สเปกโทรสโกป-สเป็กโตรสโขป ออกซิเดชัน-อ๊อกซิเดชั่น อัลตราไวโอเลต-อัลตร้าไวโอเหล็ต แอกทิเนียม-แอ๊กทิเนี่ยม แอนติอิเล็ก ตรอน-แอ็นติอิเล็กตร็อน เฮกตาร์-เฮ็กต้าร์ และเฮกโตเมตร- เฮ็กโตเม้ตรเพจราชบัณฑิตยสถาน
ราชบัณฑิตยสถานแจงยังไม่มีมติให้แก้ไขรูปแบบการเขียนคำยืมจากภาษาอังกฤษตามที่เป็นข่าว เผยอยู่ระหว่างสำรวจความเห็น โดยจะนำเสนอผลในการประชุมสภาราชบัณฑิต 12 ธ.ค.นี้ กรณี กาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิต
วัฒนธรรม,การศึกษา
คำยืม,ภาษาอังกฤษ,ภาษาไทย,ราชบัณฑิตสถาน
https://prachatai.com/journal/2012/10/42921
[ 0, 259, 47815, 219813, 6200, 124158, 259, 126493, 106885, 5095, 6582, 259, 47815, 219813, 6200, 124158, 2752, 68109, 225240, 53719 ]
เสนอนายกฯแก้เมาขับชนคนตาย เพิ่มโทษจำคุกไม่รอลงอาญา
ให้ธุรกิจเหล้าตั้งกองทุนดูแลเหยื่อ,นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ แจ้งว่า ได้มีหนังสือเสนอนายกรัฐมนตรีสรุปความคิดเห็นจากภาคประชาชนในการจัดเวทีสาธารณะเมาชนคนตาย สังคมไทยจะเอายังไง โดยหนังสือระบุว่า พฤติกรรมการเมาแล้วขับจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในสังคมไทยว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประเทศไทยจะต้องมีการปรับปรุงกฎหมายที่จัดการปัญหาเมาแล้วขับ เนื่องจากบทลงโทษที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถแก้ไขปัญหาจากพฤติกรรมดังกล่าวได้,มูลนิธิเมาไม่ขับจึงได้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนภาครัฐ ภาคเอกชน จัดเวทีสาธารณะเมาขับชนคนตาย สังคมไทยจะเอายังไง โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิประกอบด้วย นายวินัย ตุลยภักดิ์ อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. นายกุญช์ฐาน์ ทัดทูน อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส นายชัยศิริ มั่งศิริ ทนายความ (กลุ่มเพื่อนรองตี๋) นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ พร้อมด้วยตัวแทนภาคประชาสังคมจากทุกสาขาอาชีพ จัดประชุมเวทีสาธารณะ เมื่อวันที่ 30 เม.ย. เวลา 09.30-12.00 น. ที่ห้องฟอร์จูน โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียวฟอร์จูน ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ทั้งนี้ ในเวทีสาธารณะที่จัดขึ้นนี้ มีข้อสรุปที่ใคร่ขอเสนอต่อฯพณฯ ดังนี้ 1.ควรที่จะมีกฎหมายกำหนดให้ ผู้ที่เมาแล้วขับไปชนคนตายเป็นพฤติกรรมการขับขี่ที่มีอันตรายร้ายแรงเล็งเห็นผลได้ว่าจะไปทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต บาดเจ็บ หรือพิการได้ ซึ่งไม่ใช่เป็นการกระทำด้วยความประมาท 2.ผู้ที่เมาแล้วขับชนคนตายต้องมีโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 15 ปี ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้สามารถรอลงอาญาได้ 3.ควรให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จัดตั้งกองทุนเพื่อดูแลผู้พิการจากกรณีที่มีคนเมาแล้วขับมาชน เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม.
นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ แจ้งว่า ได้มีหนังสือเสนอนายกรัฐมนตรีสรุปความคิดเห็นจากภาคประชาชนในการจัดเวทีสาธารณะเมาชนคนตาย สังคมไทยจะเอายังไง
ข่าว,ทั่วไทย
เมาแล้วขับ,ขับรถชนคนตาย,เพิ่มโทษ,โทษจำคุก,มูลนิธิเมาไม่ขับ,อุบัติเหตุทางถนน,แท้จริง ศิริพานิช
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1574043
[ 0, 259, 195634, 260, 84961, 25751, 259, 205692, 199274, 167330, 259, 221409, 259, 44270, 213676, 6319, 121965, 259, 51523, 5490 ]
พันธ์ยศ ยัน บริสุทธิ์ ปัดเอี่ยวเสี่ยบอย ขายหน้ากากอนามัยมีไม่อั้น
พันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ชี้แจงตำรวจ ปอท.นานกว่า 6 ชั่วโมง ยอมรับเป็นเพียงนายหน้า สั่งของจากโรงงานผลิตหน้ากากส่งขายจีน 1-2 ล้านชิ้น ก่อนมี พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออก ยันบริสุทธิ์ ไม่รู้ไม่เห็น เสี่ยบอย ย้ำพรรคภราดรภาพ อุดมการณ์แน่วแน่ ไม่เกี่ยวกักตุนเมื่อวันที่ 12 มี.ค.63 ที่ บก.ปอท. นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพ เปิดเผยภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. นานกว่า 6 ชั่วโมง กรณีเป็นเจ้าของอาคารไทยเฮลท์ ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงและเขตหนองแขม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ปรากฏในคลิปโซเชียลของนายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือเสี่ยบอย และอ้างเป็นที่จัดเก็บหน้ากากอนามัย ก่อนตำรวจนำหมายค้นเข้าตรวจสอบภายในแล้วพบหน้ากากอนามัย 12500 ชิ้น ว่า วันนี้เดินทางมาชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการกักตุนหน้ากากอนามัย ยอมรับว่าตนเองเป็นเพียงนายหน้า เคยสั่งของจากโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยส่งไปขายกับประเทศจีนตั้งแต่ช่วงที่ยังไม่มี พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออก ประมาณ 1-2 ล้านชิ้น แต่หลังจาก มี พ.ร.บ.ควบคุมฯ ก็ไม่ได้มีการส่งไปอีกเลยสำหรับกรณีที่นายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือเสี่ยบอย มีการไลฟ์สด และอ้างว่ามีหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น ยืนยันว่า ตนเองไม่รู้เห็นเรื่องนี้ ไม่ทราบว่าเขาไลฟ์สด ส่วนหน้ากากอนามัยที่พบในบ้านก็มีจำนวนไม่มาก ไม่ได้มีเป็นหลักล้านตามที่กล่าวอ้าง และยืนยันว่าตนเองไม่มีโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย ส่วนจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับเสี่ยบอย ในฐานที่ทำให้สังคมสับสนเข้าใจผิดว่าตนมีส่วนร่วมหรือไม่นั้น ขอปรึกษาการือกับทนายก่อน สำหรับเสี่ยบอยตนก็รู้จักกันไม่นานส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาเปิดเผยพาดพิงว่า มีพรรคการเมืองบางพรรคมีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งออกหน้ากากอนามัยนั้น ตนยืนยันว่าในฐานะลูกผู้ชายว่าพรรคภราดรภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น ทางพรรคยึดมั่นในอุดมการณ์อย่างแน่วแน่ ขออย่านำเรื่องส่วนตัวของตนเองไปเกี่ยวข้อง เพราะตนเองทำงานหลายบทบาทส่วนนายพิตตินันท์ รักเอียด อดีตคณะทำงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกับเสี่ยบอยเมื่อวานนี้นั้น ยืนยันว่าตนไม่รู้จักกับนายพิตตินันท์ ซึ่งวันนี้ตนได้ให้ข้อมูล และรายละเอียดอื่นๆ กับทางเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว ถ้าเจ้าหน้าที่ มีประเด็นใดสงสัยก็พร้อมจะให้ความร่วมมือ แต่ในเบื้องต้นยังไม่มีการนัดเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม.
พันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ชี้แจงตำรวจปอท.นานกว่า 6 ชั่วโมง ยอมรับเป็นเพียงนายหน้า สั่งของจากโรงงานผลิตหน้ากากส่งขายจีน 1-2 ล้านชิ้น ก่อนมี พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออก ยันบริสุทธิ์ ไม่รู้ไม่เห็น
ข่าว,อาชญากรรม
กักตุนหน้ากากอนามัย,พันธ์ยศ อัครอมรพงศ์,ตุนหน้ากาก,เสี่ยบอย กักตุนหน้ากากอนามัย,ศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี,ปอท.,โควิด-19,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1793604
[ 0, 259, 137738, 227164, 80836, 148601, 52854, 30007, 96187, 17117, 259, 148210, 6582, 35065, 44573, 205459, 41853, 5095, 1, 0 ]
ซีซีทีวี พบชายต้องสงสัย พยายามวางบึมสถานีรถไฟหัวหิน ก่อนเปลี่ยนแผน
(ภาพจากกล้องซีซีทีวีสถานีรถไฟหัวหิน),เปิดภาพกล้องซีซีทีวี ของสถานีรถไฟหัวหิน เผย 10 นาที ที่คาดว่าชายต้องสงสัย พยายามหาจุดวางระเบิด ที่สถานีรถไฟหัวหิน แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากคนพลุกพล่าน,เมื่อวันที่ 19 ส.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้า หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่คืนของวันที่ 11-14 ส.ค.59 บริเวณย่านธุรกิจบาร์เบียร์ บริเวณหอนาฬิกาหัวหิน และภายในตลาดฉัตรไชยหัวหิน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บอีก 25 รายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ,ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดียังคงเร่งคลี่คลายคดีอย่างเต็มที่ กระทั่งปรากฏภาพชาย 3 คนต้องสงสัย ที่กล้องซีซีทีวีของเทศบาลเมืองหัวหิน และกล้องวงจรปิดของประชาชน จับภาพได้ โดยมีลักษณะต้องสงสัยหลายประการ ทั้งลักษณะการแต่งกาย อากัปกิริยาปิดป้องใบหน้าเมื่อเดินผ่านกล้อง และการเดินผ่านเข้าไปยังจุดเกิดเหตุทุกจุด เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น,ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบภาพจากล้องซีซีทีวี ตามที่ต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน และพบว่าที่สถานีรถไฟหัวหิน อาจเป็นอีกหนึ่งจุด ที่คาดว่าจะมีความพยายามในการก่อเหตุลอบวางระเบิด และเมื่อตรวจสอบจึงพบว่า กล้องวงจรปิดจำนวน 3 ตัวจาก 17 ตัวของสถานีรถไฟหัวหิน สามารถจับภาพพฤติกรรมของชายต้องสงสัยทั้ง 3 คนได้อย่างชัดเจน ซึ่งเมื่อตามเวลาที่ปรากฏอยู่ในภาพ พบว่า เวลา 06.50 น. กล้องซีซีทีวี จับภาพชาย 3 คนได้ ซึ่งเดินเข้ามายังทางเดินบนทางเท้าด้านหน้าสถานีรถไฟหัวหิน ซึ่งมีชาย 1 ในนั้นหิ้วถุงพลาสติกมาด้วยและเดินผ่านไปจนถึงหน้าห้องน้ำของสถานีรถไฟหัวหิน ก่อนจะมีการนั่งพัก สูบบุหรี่ โดยมีการพยายามเอามือปิดบังใบหน้าเอาไว้,หลังจากนั้น 2 ใน 3 ชายต้องสงสัย ยังได้ถอดเป้ออกจากหลังตั้งไว้บริเวณด้านหลังที่นั่งหน้าห้องน้ำซึ่งมีต้นไม้อยู่ และเดินไปเข้าห้องน้ำ 1 คนและกลับมานั่งที่เดิม ส่วนชายที่หิ้วถุงพลาสติกสีขาวได้ลุกขึ้นเดินผ่านหน้าห้องน้ำเข้าไปที่สถานีซึ่งเป็นทางเดินที่จะออกไปยังชานชาลา ด้านหน้าสถานีรถไฟหัวหิน และมีถังขยะวางอยู่ ระหว่างนั้น ซึ่งเป็นจังหวะที่มีผู้โดยสารเดินพลุกพล่าน เพราะมีขบวนรถไฟสายสุไหงโกลก-กรุงเทพ กำลังเข้าเทียบชานชาลา ซึ่งเป็นขบวนที่มีผู้โดยสารที่เดินทางมาจากภาคใต้มาลงที่หัวหินเป็นจำนวนมาก ก่อนที่ทั้งหมดจะกลับมานั่งรวมกันและพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง,จนเมื่อเวลาประมาณ 07.04 น. ชาย 2 คน ได้เริ่มเดินอีกครั้ง โดยข้ามถนนผ่านหน้าวงเวียนสถานีรถไฟหัวหิน ทิ้งระยะห่างก่อนที่ชายเสื้อเขียว จะเดินตาม ผ่านไปจนถึงหน้าประปาเทศบาลเมืองหัวหิน และข้ามถนนไปทางร้านก๋วยเตี๋ยว และเดินต่อไปปรากฏตัวที่ย่านบาร์เบียร์ เมื่อช่วง 07.30 น. ก่อนจะมาปรากฏตัวที่ตลาดฉัตรไชยหัวหิน อีกครั้ง ในช่วงเวลาประมาณเกือบ 8 โมงเช้า ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงที่มีการลอบวางพาวเวอร์แบงก์ ที่ดัดแปลงเป็นระเบิดเพลิงไว้ที่ร้านเสื้อผ้า จำนวน 2 เครื่อง โดยชายต้องสงสัยได้เปลี่ยนเสื้อผ้า และกลับไปขึ้นรถตู้ที่หอนาฬิกาเพื่อหลบหนีกลับไปทางภาคใต้,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่า ช่วงเวลาที่ชายต้องสงสัยทั้ง 3 ราย อยู่ที่สถานีรถไฟหัวหิน อาจจะพยายามหาจุดที่วางระเบิดแต่ไม่สบโอกาสเนื่องจากผู้โดยสารพลุกพล่าน จึงรีบผละออกจากสถานีรถไฟออกมา โดยทั้งหมดใช้เวลาอยู่ที่สถานีรถไฟราว 10 นาทีเท่านั้น,อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความคืบหน้าในทางคดีนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับ และยังไม่ปรากฏภาพสเกตช์คนร้าย รวมถึงยังไม่มีการยืนยันภาพชายต้องสงสัย ทั้ง 3 ราย ที่กล้องซีซีทีวีบันทึกภาพได้ว่า ปรากฏตัวอยู่ตามจุดต่างๆ ที่เกิดเหตุระเบิดในพื้นที่ อ.หัวหิน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุแต่เพียงว่า ขณะนี้ได้มีการสอบปากคำพยานบุคคลในทุกจุด รวมถึงผู้ที่บาดเจ็บจากเหตุระเบิด และกำลังเร่งติดตามชายต้องสงสัยมาสอบปากคำแล้ว
เปิดภาพกล้องซีซีทีวี ของสถานีรถไฟหัวหิน เผย 10 นาที ที่คาดว่าชายต้องสงสัย พยายามหาจุดวางระเบิด ที่สถานีรถไฟหัวหิน แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากคนพลุกพล่าน
ระเบิดป่วนเมือง,ระเบิดหัวหิน,สถานีรถไฟหัวหิน,ระเบิด,ระเบิด2559,ชายต้องสงสัย,หัวหิน,ประจวบคีรีขันธ์,ข่าว,ทั่วไทย,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/695425
[ 0, 259, 78643, 25851, 25851, 123701, 259, 49947, 17117, 53959, 381, 34545, 1549, 48161, 23043, 11922, 140314, 3324, 48161, 23043 ]
นกน.เสนอร่างกม.จัดการที่ดินภาคประชาชน
ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-20 ธ.ค.47 ที่ศูนย์สตรีศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีการสัมนายกร่างข้อเสนอกฎหมายและนโยบายการจัดการที่ดินภาคประชาชน โดยตัวแทนเกษตรกรภาคเหนือเข้าร่วม นายธนา ยะโสภา กำนันตำบลศรีเตี้ย อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน และประธานกลุ่มแนวร่วมเกษตรกรภาคเหนือ(นกน.) จ.ลำพูน กล่าวว่า ที่ผ่านมา ถือว่านโยบายการจัดการที่ของรัฐนั้นล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง และได้สร้างปัญหาให้กับเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถกระจายการถือครองที่ดินได้อย่างเป็นธรรม แต่กลับไปเอื้อปกป้องกลุ่มนายทุนเพื่อสร้างกระบวนการทุจริตการถือครองที่ดิน โกงชาวบ้านอย่างรุนแรง เฉพาะในเขตพื้นที่ อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน มีนายทุนเข้าถือครองที่ดินอย่างไม่เป็นธรรม กว่า 15000 ไร่ ทั้งที่กระบวนการตรวจสอบชี้ชัดว่า มีการออกโฉนดผิดกฎหมาย แต่ระบบกลไกรัฐยังปกป้อง และไม่เคยเอาผิดนายทุนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเลย พอชาวบ้านได้เข้าใช้เป็นพื้นที่ทำกินกลับจับชาวบ้านดำเนินคดีบุกรุกที่ดินนายทุน กว่า 1000 รายในเขตภาคเหนือ จึงอยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเพิกถอนโดยเร็ว นายธนา กล่าว ในขณะที่ นายไพโรจน์ พลเพชร ผู้จัดการสมาคมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลทักษิณ คือ นโยบายแปลงทรัพย์สินเป็นทุน โดยนำที่ดินมาจัดให้มีเอกสารสิทธิ์ สปก.4-01 จนเกิดการฟอกที่ดินให้แก่กลุ่มทุนบางกลุ่ม และเมื่อให้เกษตรกรนำเอกสารสิทธิ์ไปกู้เงิน ต่อไป เกษตรกรส่วนใหญ่ก็จะเป็นหนี้เพิ่มขึ้น ทำให้การถือครองที่ดินหลุดมือ ตกไปอยู่ในมือของนายทุน นโยบายจดทะเบียนคนจน ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนเอาไว้ 3 ล้าน 9 แสนกว่าราย แต่รัฐบาลทักษิณ กลับพยายามจะใช้ที่ดินในเขตป่าเสื่อมโทรม และที่ดินสาธารณประโยชน์ไปจัดสรรให้แก่ชาวบ้าน ถามว่า ทำไมรัฐไม่เข้าไปดำเนินการจัดการยึดที่ดินของนายทุนซึ่งถือครองอย่างไม่เป็นธรรมเอาไว้มหาศาล มาจัดสรรให้ชาวบ้าน นายไพโรจน์ กล่าว ทั้งนี้ นายไพโรจน์ ได้เสนอไว้ว่า ต้องปรับปรุงกฎหมายการปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.2518 โดยต้องให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการที่ดินทั้งระบบ ต้องออกกฎหมายภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้า จำกัดการถือครองที่ดิน เพื่อป้องกันการเก็งกำไร และพัฒนาที่ดินทางการเกษตร เพื่อความมั่นคงทางอาหาร
ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-20 ธ.ค.47 ที่ศูนย์สตรีศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีการสัมนายกร่างข้อเสนอกฎหมายและนโยบายการจัดการที่ดินภาคประชาชน โดยตัวแทนเกษตรกรภาคเหนือเข้าร่วม นายธนา ยะโสภา กำนันตำบลศรีเตี้ย
สิ่งแวดล้อม
https://prachatai.com/journal/2004/12/1831
[ 0, 259, 97003, 7960, 86547, 97652, 64124, 20390, 259, 98490, 12066, 161879, 3682, 52408, 2091, 84012, 36999, 112182, 1, 0 ]
เตรียมสร้างองค์ความรู้ว่าด้วย ซึนามิ
ประชาไท - 28 ธ.ค.47 องค์ความรู้ในเรื่องคลื่นใต้น้ำนี้ยังสับสนมาก หลังเหตุการณ์ต้องมีการะดมความรู้เป็นการใหญ่ เพื่อเตรียมความพร้อม แม้แต่การกู้ภัยก็ต้องยอมรับว่าในระยะแรกค่อนข้างช้าเพราะทุกคนก็กลัวอาฟเตอร์ช็อค นายจักรภพ เพ็ญแข โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว ด้านนายวิษณุ เครืองาม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าหลังจากพ้นช่วงวิกฤตนี้ จะต้องมีการสัมมนาทางวิชาการทั้งทางอุตุนิยมวิทยาและทางธรณีวิทยา และสร้างระบบความร่วมมือกันในการเตือนภัยทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน รวมทั้งต้องให้ผู้ประสบภัยมาชี้แจงวิธีที่รอดชีวิต มีผู้รอดชีวิตที่เป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่าไปดำน้ำที่เกาะสิมิลัน แต่รอดมาดได้ เพราะเคยดูหนังญี่ปุ่นเกี่ยวกับซึนามิ พอคลื่นมาก็รีบดำลึกลงไปอีก ส่วนลูกที่ขับเรืออยู่ก็ขับเรือออกไปในทะเลลึก ซึ่งเรื่องเหล่านี้ผู้คนไม่มีความรู้ นายวิษณุกล่าว
ประชาไท - 28 ธ.ค.47 องค์ความรู้ในเรื่องคลื่นใต้น้ำนี้ยังสับสนมาก หลังเหตุการณ์ต้องมีการะดมความรู้เป็นการใหญ่ เพื่อเตรียมความพร้อม
สิ่งแวดล้อม
https://prachatai.com/journal/2004/12/1988
[ 0, 259, 203061, 221409, 3755, 5405, 233016, 109586, 1549, 83583, 78698, 56517, 234884, 8378, 176124, 37861, 131735, 44628, 21005, 78297 ]
พบ นร. วัย 16 ปี หนีจากสุวรรณภูมิ พ่อแม่ไปรับกลับบ้านจ.ตาก
พบสาวน้อย 16 ปี นักเรียนทุน หนีโควิดฯ จากสหรัฐฯ 1 ใน 158 คนไทย ที่ไม่ยอมถูกกักตัว พ่อแม่ขับรถไปรับที่สุวรรณภูมิ นำชุดให้เปลี่ยนให้นั่งกระบะหลังจนถึงบ้านที่ตาก จัดสถานที่ให้กักตัว แต่สสจ.ไปเชิญมากักที่รพ.วันที่ 4 เมษายน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตาก สาธารณสุขจังหวัดตาก นายอำเภอ วังเจ้า และโรงพยาบาลวังเจ้า จ.ตาก ร่วมกันตรวจสอบ กรณีมีผู้ที่เดินทางมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาโดยไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่กักตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอวังเจ้าพบว่าผู้ที่เดินทางมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาดังกล่าว เป็นเยาวชน เพศหญิง อายุ 16 ปี เป็นนักเรียน แลกเปลี่ยนทุน 1 ปี และเรียนได้ 7 เดือน แต่เกิดภาวะโรคไวรัสโควิด 19 ระบาดอย่างรุนแรงในสหรัฐอเมริกา จนมีการยุติโครงการ และส่งตัวนักศึกษากลับประเทศ โดยมีการตรวจสุขภาพเบื้องต้นที่ประเทศอเมริกามาแล้วเดินทางกลับมาจากอเมริกา เมื่อวันที่ 1 เมษายน ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ วันที่ 3 เมษายน และได้เดินทางกลับมาถึงอำเภอวังเจ้า เวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 4 เมษายน โดยมีบิดาและมารดา ไปรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งบิดาและมารดาได้นำชุดไปเปลี่ยนที่สนามบิน แล้วนำชุดที่สวมใส่มาใส่ถุงมัดอย่างดี และให้บุตรสาวนั่งกระบะมาตลอดเส้นทางจนถึงบ้านพัก ซึ่งได้เตรียมสถานที่ในบ้าน เพื่อรองรับการกักตัว ตามระเบียบ 14 วัน เป็นอย่างดีอย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เชิญตัวไปกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ณ โรงพยาบาลวังเจ้า เบื้องต้นมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีไข้ และให้บิดามารดาของเยาวชน อายุ 16 ปี รายนี้ ทำการกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน เช่นกัน.
พบสาวน้อย 16 ปี นักเรียนทุน หนีโควิดฯ จากสหรัฐฯ 1 ใน 158 คนไทย ที่ไม่ยอมถูกกักตัว พ่อแม่ขับรถไปรับที่สุวรรณภูมิ นำชุดให้เปลี่ยน ให้นั่งกระบะหลังจนถึงบ้านที่ตาก จัดสถานที่ให้กักตัว
ข่าว,ทั่วไทย
โควิด-19,พรก.ฉุกเฉิน,เคอร์ฟิว,ไวรัสโคโรนา,ไม่ยอมกักตัว,หนีกักตัว,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1812571
[ 0, 259, 188810, 70851, 3755, 5405, 86547, 8007, 1549, 172224, 55801, 177208, 118797, 3324, 118349, 194159, 33559, 61246, 260, 219178 ]
โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ-ภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์จิตอาสาใหม่
วันนี้ (1 มิ.ย.2562) สำนักพระราชวัง ออกประกาศเรื่อง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานชื่อของจิตอาสาและภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์จิตอาสาใหม่ ความว่าเลขาธิการพระราชวัง รับพระบรมราชโองการเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมให้ประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า ตามที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดโครงการ หน่วยพระราชทานและประชาชนจิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่อของจิตอาสาและภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์จิตอาสาพระราชทาน เพื่อพระราชทานกำลังใจแก่ประชาชนทุกคนที่มีจิตอันเป็นกุศลในการทำความดีเพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ นั้นในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่อของจิตอาสาและภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์จิตอาสาใหม่ เพื่อทดแทนชื่อของจิตอาสาและภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์จิตอาสาที่ได้พระราชทานไว้แต่เดิม เพื่อเชิญไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ อันเกี่ยวเนื่องกับจิตอาสาพระราชทาน โดยมีรายละเอียด ดังนี้1. พระราชทานชื่อจิตอาสา ว่า จิตอาสาพระราชทาน ๙๐๔ วปร.2.ให้ใช้ชื่อและภาพการ์ตูนจิตอาสาใหม่ ในกิจกรรมอันเกี่ยวเนืองกับจิตอาสาพระราชทาน และในการจัดทำสิ่งของพระราชทานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ตามรูปแบบและรายละเอียด ที่แนบมาพร้อมนี้ทั้งนี้ สิ่งของพระราชทานที่มีภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์จิตอาลาเดิมยังคงใช้ได้ควบคู่กันไป ไม่ได้ยกเลิกจนกว่าสิ่งของพระราชทาน ฯ เดิม จะชำรุดหรือเสื่อมสภาพ ใช้ปฏิบัติภารกิจไม่ได้แล้วทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จึงประกาศมาให้ ทราบโดยทั่วกัน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานชื่อของจิตอาสาและภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์จิตอาสาใหม่ ทดแทนชื่อของจิตอาสาและภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์จิตอาสาที่ได้พระราชทานไว้แต่เดิม เพื่อเชิญไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ อันเกี่ยวเนื่องกับจิตอาสาพระราชทาน
สังคม
จิตอาสา,พระราชทานชื่อจิตอาสา,การ์ตูนฝีพระหัตถ์,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/280536
[ 0, 259, 150741, 75263, 38389, 1881, 97150, 222746, 2091, 17117, 158339, 83841, 95320, 20921, 18604, 142362, 32742, 35872, 97150, 222746 ]
สมยศ-ไม่ยืนยัน การจับเสื้อเหลือง
เผยเยิ่นต๊ะหัวและหมีเซียะไหว้พระพรหมไว้อาลัยผู้ตาย,ผบ.ตร.อุบนิ่งไม่ตอบกระแสข่าวจับมือบึมชายเสื้อเหลือง ได้แล้วที่ประเทศมาเลเซีย บอกตอบได้เมื่อทุกอย่างชัดเจน สอดรับกับโฆษก ตร.ที่ระบุยังไม่ยืนยันว่าจับได้จริง อยู่ระหว่างประสานหาข้อเท็จจริง ขณะที่ เยิ่นต๊ะหัว และ หมีเซียะ 2 นักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกง เตรียมเดินทางมาสักการะศาลท้าวมหาพรหม ในวันที่ 22 ก.ย. เพื่อโปรโมตบรรยากาศการท่องเที่ยว โดยไม่คิดค่าตัว,กรณีคนร้ายลอบวางระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และโยนระเบิดลงแม่น้ำใกล้ท่าเรือสาทร หน่วยงานความมั่นคงชี้ทั้งสองเหตุพัวพันกลุ่มชาติพันธุ์ที่ทางการไทยเคยผลักดันออกนอกประเทศ ชุดคลี่คลายคดีสามารถจับผู้ต้องหาได้แล้ว 2 คน นายบิลา มูฮัมหมัด หรือนายอาเดม การาดัค และนายเมียไรลี ยูซูฟู จนถึงขณะนี้มีผู้ต้องหาถูกออกหมายจับรวม 13 หมาย มีนายอับดุล ตาวาบ เป็นรายล่าสุด ท่ามกลางกระแสข่าวตำรวจมาเลเซียสามารถจับกุมมือระเบิดเสื้อเหลืองและเสื้อฟ้าไว้ได้ เตรียมส่งภาพถ่ายให้ผู้ต้องหาที่อยู่ความควบคุมของทางการไทยชี้ยืนยัน,ความคืบหน้าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 21 ก.ย. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. เปิดเผยว่า จากกระแสข่าวที่เจ้าหน้าที่มาเลเซียสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยที่มีลักษณะคล้ายกับชายเสื้อเหลืองมือวางระเบิดศาลท้าวมหาพรหมได้ ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจับกุมจริง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ประสานไปยังประเทศมาเลเซีย เพื่อยืนยันกรณีนี้แล้ว คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วๆนี้ ส่วนการตรวจสอบหนังสือเดินทางของผู้ต้องหา คาดว่าทางสถานทูตจะสามารถรายงานผลอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้ สำหรับชื่อของชายเสื้อฟ้าที่ลงมือวางระเบิดที่ท่าเรือสาทร ในขณะนี้พอรู้ชื่อแล้วแต่ยังไม่มีหลักฐานหรือหนังสือเดินทางที่สามารถยืนยัน,ด้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวว่า ยังไม่มีการยืนยันใดๆทั้งสิ้น ขออนุญาตไม่ตอบเรื่องนี้ จะตอบได้เมื่อทุกอย่างชัดเจนและเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของชุดคลี่คลายคดี ยืนยันว่าที่ผ่านมาตำรวจทำงานมาโดยตลอด ไม่ได้หลับได้นอน ดำเนินการทุกอย่างที่เป็นประโยชน์กับคดีและเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ,วันเดียวกัน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. รายงานสถานการณ์ความคืบหน้าเหตุดังกล่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจว่า ขณะนี้การทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกส่วนยังใช้มาตรการสร้างความปลอดภัยควบคู่ไปกับสร้างความเข้าใจและให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง รวมทั้งขอความร่วมมือทุกภาคส่วนช่วยเป็นหูเป็นตาสร้างความปลอดภัยให้ชุมชน เชื่อว่าการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้นในสถานการณ์ปัจจุบัน จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวได้แน่นอน หากพบเห็นพฤติกรรมต้องสงสัยให้แจ้งทหาร ตำรวจ หรือพบเบาะแสเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิด สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1515 ตลอด 24 ชม.,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 22 ก.ย. นักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกง 2 คน คือ เยิ่นต๊ะหัว และ หมีเซียะ ในฐานะแขกของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีกำหนดการเข้าสักการะศาลท้าวมหาพรหม ไว้อาลัยผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ มีนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาและนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. ให้การต้อนรับและร่วมสักการะ ถือเป็นการฟื้นฟูภาพลักษณ์ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงกลับมาท่องเที่ยวในเมืองไทยของทั้งคู่แบบไม่คิดค่าตัว เนื่องจากมีความผูกพันและศรัทธาท้าวมหาพรหม
ผบ.ตร.อุบนิ่งไม่ตอบกระแสข่าวจับมือบึมชายเสื้อเหลือง ได้แล้วที่ประเทศมาเลเซีย บอกตอบได้เมื่อทุกอย่างชัดเจน สอดรับกับโฆษก ตร.ที่ระบุยังไม่ยืนยันว่าจับได้จริง อยู่ระหว่างประสานหาข้อเท็จจริง
ข่าว,ทั่วไทย
ข่าวหน้า1,ระเบิดราชประสงค์,ชายเสื้อเหลือง,มือระเบิด,แยกราชประสงค์,ระเบิดศาลท้าวมหาพรหม,ระเบิดท่าเรือสาทร,สักการะศาลท้าวมหาพรหม,เยิ่นต๊ะหัว,หมีเซียะ,สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง,ข่าว,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/news/local/526955
[ 0, 259, 85322, 207514, 49947, 142319, 3945, 28017, 205967, 82904, 174049, 2091, 82904, 87678, 26116, 2752, 1, 0, 0, 0 ]
คนจนล้านคนจะไม่ตกงานแล้ว ส.อ.ท.เปิดประตูโรงงานรับไม่อั้นแทนต่างด้าว
คลังรวมพลัง ส.อ.ท.หางานให้คนจนที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จำนวน 1 ล้านคน จาก 3 ล้านคนเข้าทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมกลุ่ม ส.อ.ท.ทดแทนแรงงานต่างด้าว ส่วนคนจนภาคเกษตรอีก 2 ล้านคน ส่งให้ ธ.ก.ส.ช่วยดูแล ทั้งด้านลงทุนปลูกพืช หาตลาดให้ และรับประกันรายได้,นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ผลการหารือระหว่างกระทรวงการคลังและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดยมีข้อตกลงความร่วมมือในการช่วยเหลือประชาชนที่ลงทะเบียนขอรับสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 11.4 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้มีอยู่ประมาณ 3 ล้านคนที่ยากจน มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี เข้าไปสมัครทำงานในภาคอุตสาหกรรมที่เป็นสมาชิกของ ส.อ.ท.ได้ เพื่อลดการพึ่งพาแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตรงกับเป้าหมายของกระทรวงการคลังที่ต้องการให้ความช่วยเหลือคนที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปีก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นค่อยขยายความช่วยเหลือไปยังกลุ่มที่มีรายได้มากกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี,การหารือมีข้อสรุปว่า โรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นสมาชิก ส.อ.ท.มีความต้องการแรงงานทั่วประเทศประมาณ 1 ล้านคน กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ ปริมณฑล และในต่างจังหวัด ที่เป็นหัวเมืองใหญ่ ซึ่งหากประชาชนที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท เข้าร่วมโครงการจะได้รับการฝึกฝนและอบรมทักษะการทำงานใหม่ เพื่อให้เป็นแรงงานที่มีคุณภาพสามารถทดแทนแรงงานต่างด้าว ที่คาดว่าจะทยอยเลิกจ้างประมาณ 1 ล้านคน,นายอภิศักดิ์กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือของ ส.อ.ท.ในการนำแรงงานที่ไม่มีฝีมือไปพัฒนาเพื่อต่อยอดครั้งนี้ จะช่วยลดปริมาณคนจนที่มีรายได้น้อยถึง 1 ล้านคน ส่วนที่ยังเหลืออีก 2 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคการเกษตร ต้องหามาตรการช่วยเหลือในรูปแบบอื่นๆ ขณะนี้ได้มอบหมายให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รับผิดชอบ ทั้งด้านการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และช่องทางการทำตลาด โดย ธ.ก.ส.จะแนะนำให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืช และให้ความมั่นใจว่าพืชเกษตรที่เพาะปลูกใหม่มีตลาดรองรับแน่นอน เพื่อให้เกษตรกรเลิกการปลูกพืชซ้ำซาก และกล้าที่จะปลูกพืชที่ให้ผลตอบแทนสูงทดแทน,ส่วนคนจนในเมืองที่ไม่อยากเข้าไปทำงานในภาคอุตสาหกรรม ก็มีธนาคารออมสินคอยให้ความช่วยเหลือ โดยสามารถเข้ามาขอสินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพและค้าขายได้ ซึ่งในลักษณะของการให้ความช่วยเหลือจะแตกต่างกับคนในต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้ธนาคารออมสินอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบโครงการ พร้อมตั้งเป้าหมายว่าจะต้องศึกษาให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.60 พร้อมนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดือน ธ.ค.เพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติต้นปี 61,มั่นใจว่าภาวะเศรษฐกิจปีหน้าจะดีขึ้นกว่าปีนี้แน่นอน เพราะรัฐบาลได้วางแผนการแก้ไขและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย ให้มีรายได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็พยายามส่งเสริมเรื่องการลงทุน ซึ่งถือเป็นหัวใจของการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยปีหน้าเศรษฐกิจน่าจะเติบโตเกิน 4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อย่างแน่นอน เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อผลักดันจีดีพีให้สูงขึ้น จากที่ขยายตัวเพียง 0.8% เมื่อปี 58 มาเป็น 3.8% ในปี 60,นายอภิศักดิ์กล่าวว่า ในอนาคตการแข่งขันในเวทีการค้าโลกจะรุนแรงมาก การบริการด้านต่างๆของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังจะต้องรวดเร็วและอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการมากขึ้น ล่าสุดกรมศุลกากร และการท่าเรือแห่งประเทศไทยร่วมมือยกระดับความยากง่ายการประกอบธุรกิจในประเทศไทย ด้านการค้าระหว่างประเทศ ด้วยการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการจัดการและควบคุมการขนส่งสินค้าขาออกโดยระบบตู้คอนเทนเนอร์ผ่านท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือกรุงเทพ ด้วยการบูรณาการระบบการทำงานของ 2 หน่วยงานที่จุดเดียว นอกจากนี้ยังนำระบบตัดบัญชีใบกำกับการขนย้ายสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Matching) มาเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบ (National Single Window : NSW) เพื่อลดปริมาณเอกสาร ลดขั้นตอนการทำงาน ลดความผิดพลาด ลดปัญหาการจราจร และลดระยะเวลาการให้บริการต่อตู้คอนเทนเนอร์เหลือ 20 วินาที ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในปีงบประมาณ 61 ที่ทั้ง 2 หน่วยงานร่วมมือประสานงานเพื่อยกระดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ,ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวในการเปิดงาน มหกรรมการลงทุน SET in the City ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า รมว.คลัง ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังคิดมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่มีอยู่ 14 ล้านคนเพิ่มเติมในเฟส 2 ให้พ้นจากความยากจนให้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งกระทรวงการคลังต้องการให้ตลาดทุนเข้ามามีส่วนช่วยหามาตรการผลักดันให้คนกลุ่มนี้พ้นจากความยากจน โดยสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงตลาดทุนได้มากขึ้น เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมทั้งต้องการให้สถาบันการเงินและตลาดทุนออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมการออมและรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ.
คลังรวมพลัง ส.อ.ท.หางานให้คนจนที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จำนวน 1 ล้านคน จาก 3 ล้านคนเข้าทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมกลุ่ม ส.อ.ท.ทดแทนแรงงานต่างด้าว
ข่าว,เศรษฐกิจ
อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์,สภาอุตสาหกรรม,สวัสดิการแห่งรัฐ,รายได้,แรงงาน
https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/1128933
[ 0, 259, 128181, 3755, 200753, 2091, 156417, 96709, 202949, 6494, 134212, 11821, 38276, 18095, 132192, 188348, 259, 81029, 20043, 11723 ]
แห่ช่วย เณรน็อต รับจ้างบวชหน้าไฟเลี้ยงแม่ตาบอด ยอดทะลุ 3.4 ล้าน
น้องน็อต เด็ก 10 ขวบ ยอดกตัญญูรับจ้างบวชหน้าไฟนำเงินเลี้ยงแม่ตาบอด ล่าสุดมีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยกว่า 3 ล้าน ตัดสินใจบวชเรียนจริงๆ กับครูบาโชคชัย ส่วนแม่ขอบวชชีพราหมณ์อยู่กับลูก เงินที่ได้ใช้เป็นทุนชีวิตจากกรณี น้องน็อต เด็กชายวัย 10 ขวบ รับจ้างบวชเณรหน้าไฟ หารายได้เลี้ยงดูแม่ตาบอด ที่ อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร หลังจากที่เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ ผ่านไป 5 วัน ล่าสุดยอดบริจาคผ่านบัญชี ธ.ออมสิน เลขบัญชี 020120935729 ชื่อบัญชี นางบุญแทน บุญสวัสดิ์ เพื่อผู้เยาว์ ด.ช.ชานุพงษ์ คำขาว ณ วันที่ 11 มิ.ย.63 จำนวนทั้งสิ้น 3439389 บาท (สามล้านสี่แสนสามหมื่นเก้าพันสามร้อยแปดสิบเก้าบาท) และขณะนี้ได้ทำการปิดรับบริจาคแล้วเวลา 14.00 น. วันที่ 12 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ วัดเชตวนาราม (วัดน้ำดิบ) ม.8 ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร โดยก่อนหน้านั้น ครูบาโชคชัย ชยวุฑโต เจ้าอาวาสวัดเชตวนารามได้เดินทางไปที่บ้านของ น้องน็อต และแม่ เพื่อไปเยี่ยมบ้านและดูความลำบากตามที่เห็นในข่าว หลังจากนั้นด้วยความเมตตาของครูบาโชคชัย ชยวุฑโต ท่านจะขอรับน้องน็อตไปบวชเรียนและส่งเรียนให้จบปริญญาตรี ขณะที่แม่ของน้องน็อต ก็มีความประสงค์จะไปบวชพราหมณ์อยู่ที่วัดดังกล่าวด้วย เพราะน้องน็อตไม่อยากห่างจากแม่ กลัวไม่มีใครดูแลส่วนเงินที่บริจาคกว่า 3 ล้านบาท ทางบัญชีธนาคารยังไม่ถูกเบิกออกมาใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว โดยหลังจากนี้ได้มีคณะกรรมการจัดการเงินบริจาคทั้งหมดให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ส่วนเรื่องการรักษาดวงตาของแม่น้องน็อต ทางแพทย์จะนำไปตรวจอีกครั้งเพื่อรักษาต่อไปสำหรับกุฏิที่สามเณรน็อตจะจำวัดนั้น มีผู้ใจบุญจะสร้างกุฏิให้ใหม่ภายในวัดเชตวนารามขณะเดียวกัน บรรยากาศการบรรพชาสามเณรวันนี้ ได้ทำพิธีที่วัดบ่อสามแสน ม.6 ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร โดยพระครูวชิรปัญญากรเจ้าอาวาสวัดบ่อสามเเสน และรองเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมญาติโยมชาวบ้านอุปถัมภ์ที่ทราบข่าวได้เดินทางมาร่วมในการบวชครั้งนี้ส่วนผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สมรัก โคกขำ ที่โพสต์เรื่องของน้องน็อตและแม่ตาบอด ได้เดินทางมาร่วมพิธีครั้งนี้ด้วย กล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจที่ได้มีส่วนช่วยเหลือครอบครัวของ น้องน็อต รู้สึกปลื้มใจที่ได้มาร่วมบุญใหญ่ครั้งนี้เป็นอย่างมาก และขอบคุณผู้ใจบุญทุกท่านทั่วประเทศที่บริจาคเงินมาจำนวนมาก รวมถึงนักข่าวทุกสำนักที่ลงข่าวจนน้องน็อตได้รับความช่วยเหลือหลังจากพิธีบวชเสร็จสิ้น สามเณรน็อต กล่าวว่า ขอบคุณผู้ใจบุญที่ช่วยเหลือในครั้งนี้ จากนี้ไปจะออกบิณฑบาตข้าวจากญาติโยมนำมาเลี้ยงแม่ และจะตั้งใจบวชเรียนจนจบตามที่ครูบาโชคชัยเมตตาอุปถัมภ์
น้องน็อต เด็ก 10 ขวบ ยอดกตัญญูรับจ้างบวชหน้าไฟนำเงินเลี้ยงแม่ตาบอด ล่าสุดมีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยกว่า 3 ล้าน ตัดสินใจบวชเรียนจริงๆ กับครูบาโชคชัย ส่วนแม่ขอบวชชีพราหมณ์อยู่กับลูก
ข่าว,ทั่วไทย
บวชเณรเลี้ยงแม่,รับจ้างบวชหน้าไฟ,เด็กกตัญญู,น้องน็อตเด็กกตัญญู,รับจ้างบวชเณร,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1867725
[ 0, 259, 52973, 4388, 187121, 259, 22397, 475, 259, 20322, 141086, 259, 75251, 224650, 141944, 39932, 99394, 176425, 6581, 228028 ]
กรมทางหลวง เริ่มก่อสร้างไฟแดงแยกบ้านต้นดู่แล้ว หลังมีอุบัติเหตุบ่อย
ภาพจากเจ้าหน้าที่,ช่างกรมทางหลวงได้ลงมือก่อสร้างไฟแดงที่สี่แยก บ้านต้นดู่ หลังชาวบ้านลงชื่อร้องขอ เพราะเกิดอุบัติเหตุ มีผู้เสียชีวิตบ่อยครั้ง โดยคาดว่าใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 2 เดือน สร้างความดีใจแก่ชาวบ้านบวกค้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่,เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 8 พ.ค. นายอนุพงษ์ วาวงศ์ นายอำเภอสันกำแพง เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่มีกำนันและแกนนำชาวบ้านในพื้นที่ ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง ได้ร้องเรียนมาที่ทางอำเภอ และทาง สภ.สันกำแพง ว่าที่สี่แยก บ้านต้นดู่ ถนนสายวงแหวนสายดอนจั่น-แม่ออน บ้านบวกค้าง หมู่ 3 ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง ถนนสายดังกล่าวมีสี่ช่องจราจร แยกตัดผ่านไปทะลุ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ได้ แต่เป็นจุดอันตรายเพราะเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตบ่อยมาก เนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่มีสัญญาณไฟจราจร มีผู้เสียชีวิตมาแล้วนับไม่ถ้วน อีกทั้งทรัพย์สินเสียหายอีกมากมาย  ,จึงได้ส่งเรื่องไปให้ทางจังหวัด และแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 หมวดทางหลวง อ.สันกำแพง ดำเนินการ ส่วนชาวบ้านที่ผ่านไปมาต่างตั้งโต๊ะล่ารายชื่อประมาณหลายพันคน นอกนั้นจึงมีหลายหน่ายงานยื่นมือเข้ามาช่วย ทั้ง กอ.รมน.จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอไฟแดงที่สี่แยก บ้านต้นดู่ ก่อนหน้านี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มาตรวจราชการที่ทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 เมื่อประชาชนและชาวบ้านรู้ข่าว จึงไปต้อนรับเพื่อขอทราบเรื่อง ทางรัฐมนตรีรับปากว่าได้งบก่อสร้างไฟแดงแล้ว โดยระยะเวลาก่อสร้างไฟแดงประมาณ 2 เดือน ส่วนเรื่องงบประมาณ ไม่ทราบ ต้องรอให้ทางกรมทางหลวงก่อสร้างไฟแดงให้เสร็จเสียก่อน และวันนี้ทางช่างกรมทางหลวงได้ลงมือก่อสร้างไฟแดงที่สี่แยก บ้านต้นดู่ แล้ว ทำให้ผู้คนประชาชนบ้านบวกค้างต่างดีใจไปตามๆ กัน ,ด้าน พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผกก.สภ.สันกำแพง กล่าวว่า สี่แยกบ้านต้นดู่ เกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก จากสถิติของพนักงานสอบสวน มีผู้เสียชีวิตและทรัพย์สินเสียหายในจุดนี้มาแล้วมากมาย จึงได้จัดส่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจารจร พร้อมอาสาจราจร มาอำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านประชาชนที่ใช้เส้นทางผ่านสี่แยกดังกล่าวในชั่วโมงเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ จึงทำให้อุบัติเหตุลดลง ในเมื่อ กรมทางหลวง เห็นความสำคัญเรื่องอุบัติเหตุ จึงจัดงบก่อสร้างไฟแดงสี่แยกบ้านต้นดู่ และลงมือก่อสร้างแล้ว ต่อไปเรื่องอุบัติเหตุคงไม่มีปัญหา,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านรู้ข่าวต่างเฮลั่นด้วยความดีใจไปตามๆ กัน ที่ทางกรมหลวงเห็นความสำคัญด้านความปลอดภัยของชาวบ้าน และต่างขอบคุณนายอำเภอ และ ผกก.สภ.สันกำแพง.
ช่างกรมทางหลวงได้ลงมือก่อสร้างไฟแดงที่สี่แยก บ้านต้นดู่ หลังชาวบ้านลงชื่อร้องขอ เพราะเกิดอุบัติเหตุ มีผู้เสียชีวิตบ่อยครั้ง โดยคาดว่าใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 2 เดือน สร้างความดีใจแก่ชาวบ้านบวกค้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
ข่าว
แยกไฟแดง,แยกบ้านต้นดู่,อ.สันกำแพง,เชียงใหม่,กรมทางหลวง
https://www.thairath.co.th/news/934633
[ 0, 259, 109384, 101594, 217879, 259, 80267, 259, 159574, 97204, 13999, 60936, 12976, 15918, 259, 35749, 213996, 159218, 12659, 1 ]
โกศแปดเหลี่ยมพระราชทาน พิธีศพเจ้าสัววิชัย
ศาลากวีนิรมิตวัดเทพศิรินทร์ งดหรีด-ขอรับบริจาคให้ รพ. เลสเตอร์ 5 พันเดินไว้อาลัย ลูกน้อง 2 ศพมา การบินไทย,สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ,วิชัย ศรีวัฒนประภา, ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ พร้อมพระราชทานโกศแปดเหลี่ยม ฉัตรเบญจา ปี่ กลองชนะ ประโคม พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม 3 คืน ณ ศาลากวีนิรมิต วัดเทพศิรินทราวาส กนกศักดิ์ ปิ่นแสง เพื่อนสนิทสุดช็อก ไปกินข้าวกลางวันมื้อสุดท้ายกับ วิชัย ที่กรุงลอนดอน แล้วเจ้าสัวไปซื้อเสื้อผ้าให้หลานคนแรกที่เพิ่งคลอด ส่วนกนกศักดิ์กลับไทยมาก่อน ตำรวจเลสเตอร์ยืนยันตัวตนผู้เสียชีวิตอีก 3 ราย สื่ออังกฤษยังติดตามผลสอบสวนหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศ เชื่อเกิดจากโรเตอร์หรือใบพัดหางขัดข้องขณะบินขึ้นฟ้า จนทำให้เสียความสมดุลหมุนคว้างก่อนร่วงลงกระแทกพื้นแหลกยับ แฟนบอลเลสเตอร์ยังเศร้า เตรียมรวมพล 5 พันคน เดินขบวนรำลึกถึงประธานสโมสร ที่สามารถนำเลสเตอร์ผงาดขึ้นชั้นเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015-2016 อีกส่วนนัดชูผ้าพันคอ-ร้องเพลงให้กำลังใจครอบครัว,ในขณะที่ตำรวจเมืองเลสเตอร์อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์ รุ่นออกัสตา เวสต์แลนด์ เอดับเบิลยู 169 ของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และประธานสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ ที่ประสบอุบัติเหตุตกข้างสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ นายวิชัยพร้อมคนในเครื่องบินและนักบินเสียชีวิตรวม 5 ศพนั้น ภายหลังเสร็จสิ้นการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ครอบครัว ศรีวัฒนประภา นางเอมอร ภรรยาและนายอัยยวัฒน์ บุตรชาย ที่เดินทางไปอังกฤษ ได้นำศพนายวิชัยเดินทางกลับเมืองไทยด้วยเครื่องบินส่วนตัว เพื่อมาบำเพ็ญกุศลประกอบพิธีทางศาสนา มีกำหนดถึงไทยในเย็นวันที่ 2 พ.ย.,ขณะที่นายอัยยวัฒน์ หรือต๊อบ บุตรชายคนสุดท้องของนายวิชัย ที่มักจะไปไหนมาไหนกับคุณพ่อเสมอ ได้โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัวเป็นครั้งแรก ชนิดกลั่นความรู้สึกจากส่วนลึกของหัวใจหลังการสูญเสียคุณพ่อ ขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันให้กำลังใจครอบครัวให้ผ่านช่วงเวลาแห่งความเศร้าไปได้ พร้อมประกาศจะสานงานรับไม้ต่อในเรื่องสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ กับธุรกิจของครอบครัว โดยบรรทัดสุดท้ายที่ต๊อบโพสต์ระบุว่า คิดถึงคุณพ่อสุดหัวใจ,ในหลวงพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ,สำหรับกำหนดการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพและสวดพระอภิธรรม นาย,วิชัย ศรีวัฒนประภา, ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่ครอบครัวได้กำหนดแล้ว จะมีขึ้นที่ศาลากวีนิรมิต (กลางน้ำ) วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ในวันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2561 เวลา 17.30 น. พระราชทานน้ำหลวงอาบศพพร้อมด้วยเครื่องเกียรติยศประกอบศพ เวลา 18.30 น. พิธีสวดพระอภิธรรมศพ วันอาทิตย์ที่ 4-วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2561 เวลา 19.00 น. พิธีสวดพระอภิธรรมศพ,ทรงพระกรุณาฯ พระราชทานโกศแปดเหลี่ยม,การนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโกศแปดเหลี่ยม ฉัตรเบญจาตั้งประดับ ปี่ กลองชนะประโคมเวลาพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมเวลากลางคืน กำหนด 3 คืน หมายเหตุ เจ้าภาพขอความร่วมมืองดพวงหรีด และผู้ที่ไปร่วมงานสามารถร่วมบำเพ็ญกุศลสมทบทุนเพื่ออาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา ศิริราชมูลนิธิ โรงพยาบาลศิริราช สำหรับกำหนดการพระราชทานเพลิงจะได้แจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป,พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม 3 คืน,ขณะที่สำนักพระราชวังออกหมายรับสั่งเลขที่ 18938 ถึงงานศพนายวิชัยเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 ความว่า นายวิชัย ศรีวัฒนประภา อายุ 60 ปี กราบ ถวายบังคมลาถึงแก่กรรมเนื่องจากอุบัติเหตุจากเฮลิคอปเตอร์ ณ บริเวณที่จอดรถสนามฟุตบอล คิง เพาเวอร์ ฟิลเบิร์ด เวย์ เลสเตอร์ สหราชอาณาจักร เมื่อวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2561 เวลา 20.37 น. (เวลาท้องถิ่น) วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2561 เวลา 17.30 น. ขอรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพพร้อมด้วยเครื่องเกียรติยศประกอบศพ ณ ศาลากวีนิรมิต วัดเทพศิรินทราวาส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโกศแปดเหลี่ยม ฉัตรเบญจาตั้งประดับ ปี่ กลองชนะ ประโคมเวลาพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมเวลากลางคืน กำหนด 3 คืน,ทำความสะอาดศาลาพร้อมตั้งศพ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวัน มีเจ้าหน้าที่ของคิง เพาเวอร์เข้ามาทำความสะอาด ตกแต่งศาลากวีนิรมิต ศาลากลางน้ำขนาดใหญ่ เตรียมใช้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลนายวิชัย ศรีวัฒนประภา นอกจากนี้สำนักพระราชวังได้มีการเชิญโกศ 8 เหลี่ยม มาประดับไว้ที่กลางศาลาที่จะตั้งศพแล้ว ทั้งนี้ คิงเพาเวอร์ยังได้ประสานขอใช้ศาลาอื่นรอบศาลากวีนิรมิตเพิ่มอีก 3 ศาลาคือ ศาลามณเฑียร ศาลาจิรกิต ศาลาสุพรรณานนท์ เพื่อรองรับแขกที่คาดว่าจะมาร่วมงานศพนายวิชัยจำนวนมาก รวมทั้งเตรียมเก้าอี้สำรอง เพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้มาร่วมงานสามารถนั่งได้ตามจุดต่างๆในการฟังสวดพระอภิธรรม ส่วนสถานที่จอดรถ เนื่องจากภายในวัดรองรับได้ประมาณ 100 คัน ต้องอาศัยการอำนวยความสะดวกจาก สน.พลับพลาไชย ในการจอดรถภายนอกวัด นอกจากนี้เจ้าภาพยังได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดจำนวน 24 ตัว รอบบริเวณงานเพื่อความปลอดภัยของผู้มาร่วมงาน,อดีตทูตอินเดียเป็นแม่งานจัดการศพ,มีรายงานด้วยว่าสำหรับการจัดงานสวดพระอภิธรรมศพ เจ้าสัวคิง เพาเวอร์ วิชัย ศรีวัฒนประภา นายอัยยวัฒน์ บุตรชาย ได้ขอความกรุณาจากอดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำอินเดีย นายธวัชชัย ทวีศรี ที่เป็นเพื่อนสนิทและเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของนายวิชัย รับไปดำเนินการ โดยให้ขอคำปรึกษาจากท่านเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ ที่นายวิชัยนับถือมากร่วมในการจัดการด้วย,กินข้าวมื้อสุดท้ายกับ กนกศักดิ์,ขณะที่นายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง เพื่อนสนิทคนหนึ่งของนายวิชัยเปิดเผยกับ ไทยรัฐ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เนื่องจากยังไม่คลายจากความเศร้าโศกเสียใจในการจากไปอย่างไม่คาดฝันของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาก ว่า ก่อนหน้าคุณวิชัยเสียชีวิต ได้พบกับคุณวิชัยที่ลอนดอน โดยได้ไปทานอาหารกลางวันกันสองคนที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในลอนดอน ส่วนสตาฟฟ์ทำงานสองคนของคุณวิชัยที่ไปด้วย รออยู่ด้านนอก วันนั้นคุณวิชัยหน้าตาแจ่มใสและเพิ่งตัดผมมาใหม่ ไม่มีสิ่งใดบอกเหตุเลยว่า อาหารกลางวันมื้อนั้นจะเป็นมื้อสุดท้ายที่ได้กินด้วยกัน ไม่คิดว่าเขาจะจากพวกเราไปอย่างกะทันหัน ตนใช้เวลาทานข้าวกัน 2 ชม.เพราะมัวแต่คุยกันสนุกสนาน,อารมณ์ดี-ซื้อเสื้อให้หลานที่เพิ่งเกิด,นายกนกศักดิ์ยังเล่าถึงเหตุการณ์ที่เป็นความทรงจำไปตลอดชีวิตว่า ก่อนแยกย้ายกันคุณวิชัยถามว่าจะไปไหนต่อ ได้บอกว่าจะไปหาภรรยาที่รอจะขึ้นเครื่องกลับไทย มางานแต่งงานลูกชายของคุณประเวศวุฒิ ไรวา ทั้งที่จริงๆแล้วมีกำหนดไปดูฟุตบอลด้วยกันและกลับไทยพร้อมกัน ในวันที่ 29 ต.ค. ส่วนคุณวิชัยบอกว่าจะไปหาซื้อของให้หลานคนแรกที่ลูกสาวเพิ่งคลอด ยังย้อนถามไปว่าจะไปซื้อของเล่นหรือ คุณวิชัยยังยิ้มและตอบอย่างอารมณ์ดีว่า ซื้อเสื้อผ้าซีวะหลานอั๊วยังเล่นอะไรไม่ได้สักหน่อย แล้วเดินไปขึ้นรถที่มีสตาฟฟ์ 2 คนรออยู่ สตาฟฟ์ทั้งสองคนก็ไม่มีสีหน้าหม่นหมอง ไม่มีอะไรบอกเลยว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะพลิกผันไปจนทำให้ต้องสูญเสียเพื่อนสนิทคนนี้ไปตลอดกาล เมื่อทราบข่าวการเสียชีวิตของนายวิชัย ตนรู้สึกช็อกสุดขีดและเหมือนโลกถล่มทลายไปตรงหน้า,ตำรวจยืนยันตัวตนอีก 3 ผู้เสียชีวิต,วันเดียวกัน กรมตำรวจเลสเตอร์เชียร์ของอังกฤษ ออกแถลงการณ์ว่า เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้ระบุตัวตนผู้เสียชีวิตในเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกใกล้สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม คืนวันที่ 27 ต.ค. อย่างเป็นทางการอีก 3 คน คือ น.ส.นุสรา สุขหน้าไม้ หรือ จุ๋ม อายุ 32 ปี สตาฟฟ์ทำงานของนายวิชัย นายเอริค สวาฟเฟอร์ อายุ 53 ปี และ น.ส.อิซาเบลา เลโชวิชซ์ อายุ 46 ปี นักบินผู้ทำการบินของเฮลิคอปเตอร์ลำที่เกิดเหตุ ส่วนนายกวีพร พรรณแพร สตาฟฟ์ทำงานที่เป็นผู้ติดตามของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา กำลังรอการยืนยันตัวตนให้ชัดเจน,เผยวิชัยขอ กอล์ฟ มาดูแลส่วนตัว,สำหรับนายกวีพร พรรณแพร หรือกอล์ฟนั้น มีรายงานว่า เดิมเป็นพนักงานของโรงแรมพูลแมน นายวิชัยเพิ่งขอตัวมาให้เป็นผู้ติดตามไปไหนต่อไหนด้วย เนื่องจากนายวิชัยเห็นความสามารถในตัวของกอล์ฟว่า เป็นพนักงานที่มีความแคล่วคล่องว่องไว ปราดเปรียว สามารถจดจำเพื่อนๆของนายวิชัยได้หมด ให้หาของอะไรก็จะหาได้อย่างรวดเร็ว นายวิชัยจึงขอตัวกอล์ฟจากโรงแรมพูลแมน ให้มาช่วยติดตามดูแลนายวิชัยเป็นการส่วนตัวเป็นพิเศษ โดยกระเป๋าที่กอล์ฟสะพายอยู่ตลอดเวลา คือ ยาที่นายวิชัยต้องกินตามเวลา และยังมีน้ำจิ้ม พริกป่น น้ำปลา ที่นายวิชัยมักจะขอให้หยิบออกมาเป็นเครื่องปรุงเวลาไปกินอาหารต่างประเทศ โดยศพของกอล์ฟจะถูกส่งกลับมาโดยสายการบินไทย เช่นเดียวกับศพของ น.ส.นุสรา สุขท่าไม้ สตาฟฟ์อีกคนของนายวิชัย โดยเที่ยวบินที่ TG 917 ออกจากอังกฤษเวลา 21.35 น. วันที่ 2 พ.ย. ถึงไทยเวลา 16.00 น.วันที่ 3 พ.ย. เพื่อมอบให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป,ทรัพย์สินตกแก่ทายาทตามกฎหมาย,ในส่วนเรื่องที่มีผู้กล่าวถึงทรัพย์สินมรดกที่มีมูลค่ากว่าแสนล้านของนายวิชัย ศรีวัฒนประภาและครอบครัว เมื่อนายวิชัยเสียชีวิตแล้ว จะมีการดำเนินการอย่างไรนั้น ว่าที่ พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง โฆษกสภาทนายความเผยว่า เมื่อเจ้ามรดกตายทรัพย์สินที่มีอยู่จะตกแก่ทายาทตามลำดับชั้น แต่ทั้งนี้ ต้องดูว่ามีพินัยกรรมหรือไม่ ถ้ามีก็ว่าไปตามพินัยกรรมก่อน ถ้าไม่มีพินัยกรรม ทายาทต้องร้องขอจัดการมรดก โดยยื่นต่อศาลแพ่ง เพื่อให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดก หลังจากนั้นต้องประชุมทายาททั้งหมดเพื่อรวบรวมทรัพย์สินมาแบ่งตามที่ตกลงกันหรืออาจแบ่งตามสิทธิ์ ทั้งนี้ สโมสรฟุตบอลและกิจการคิง เพาเวอร์ ล้วนเป็นทรัพย์สินที่มีดอกผล ต้องตกแก่ทายาททั้งสิ้น,เชื่อใบพัดขัดข้องทำให้ ฮ.ตก,ขณะเดียวกัน สื่อต่างๆของอังกฤษยังคงติดตามการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมือง เลสเตอร์ถึงเหตุการณ์สุดเศร้าสลดที่เกิดขึ้น โดยเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ เดลีสตาร์ ของอังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 31 ต.ค. อ้างความเห็นของนายโทนี เคเบิล อดีตเจ้าหน้าที่สอบสวนอาวุโสของสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศ (เอเอไอบี) ของอังกฤษ ที่ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ สกาย นิวส์ ว่า เชื่อว่าอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่ลานจอดรถใกล้สนามฟุตบอลคิง เพาเวอร์ สเตเดียม ที่ทำให้นายวิชัย ศรีวัฒนประภา และคนอื่นอีก 4 คนเสียชีวิต มีสาเหตุเริ่มต้นมาจากโรเตอร์หรือใบพัด ที่ปลายหางเฮลิคอปเตอร์ขัดข้องล้มเหลวครั้งใหญ่ เห็นได้จากดูเหมือนมีชิ้นส่วนจากบริเวณปลายหางเฮลิคอปเตอร์หลายชิ้น ร่วงหลุดกระจัดกระจาย อาจเป็นชิ้นส่วนใบพัดแตกหลุด ทำให้ใบพัดที่เหลือหมุนไปในทิศทางตรงข้ามกับใบพัดหลัก และทำให้ ฮ.เสียสมดุลอย่างรุนแรงจนหมุนคว้าง เมื่อถูกถามว่านักบินสามารถทำอะไรได้เมื่อ ฮ.เริ่มหมุน เขาตอบว่าตามเทคนิคทั่วไปนักบินควรตัดกระแสไฟฟ้าที่ส่งไปยังเครื่องยนต์ของใบพัดหลัก เพื่อทำให้ ฮ. หยุดหมุน จากนั้นพยายามควบคุมเครื่องลงจอด แต่ในกรณีนี้อาจสายเกินไป เพราะ ฮ. สูญเสียการควบคุมแล้วขณะบินอยู่ในระดับต่ำมาก,ชี้ถ้านักบินใช้เทคนิคแก้ไขอาจรอด,ด้านเว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลีเมล ของอังกฤษ รายงานโดยอ้างบทสัมภาษณ์นายโทนี เคเบิล เช่นกันว่า แม้ใบพัดท้ายเฮลิคอปเตอร์มีปัญหา แต่นักบินถูกฝึกมาให้รับมือกับสิ่งนี้ ถ้ามีการใช้เทคนิคที่เหมาะสมอาจรอดชีวิตได้ มันไม่ควรเกิดหายนะขึ้น แต่นายจิม โรว์แลนด์ส อดีตนักบินเฮลิคอปเตอร์ พูมา ของกองทัพอากาศอังกฤษ กลับมีความเห็นแย้งในการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ เดอะ ซัน ว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นไม่มีทางที่จะย้อนกลับไปแก้ไขได้ จริงๆหนทางเดียวที่มีคือเครื่องตก นักบินเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ได้ทำงานที่เหลือเชื่ออย่างแน่ชัดจริงๆ,เผย วิชัย ขึ้น ฮ.จะไปต่อเครื่องกลับไทย,เว็บไซต์เดลีเมล ยังรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ว่า นายเอริค สวาฟเฟอร์ นักบินของ ฮ.ลำที่เกิดอุบัติเหตุตก ที่มี น.ส.อิซาเบลา เลโชวิชซ์ แฟนสาวชาวโปแลนด์ ที่เป็นนักบินเช่นกันนั่งไปและเสียชีวิตด้วย ในวันเกิดเหตุกำลังจะพานายวิชัยเดินทางไปที่ท่าอากาศยานลอนดอนลูตัน เมืองลูตัน เขตเบดฟอร์ตเชียร์ เพื่อเดินทางต่อด้วยเครื่องบินกลับประเทศไทย แต่ถึงคราวเคราะห์เกิด ฮ. ตกเสียก่อน นอกจากนี้ ขณะที่ ฮ. เกิดขัดข้อง นายสวาฟเฟอร์สร้างวีรกรรมน่ายกย่อง บังคับ ฮ.ไม่ให้ตกใส่อัฒจรรย์สนามฟุตบอล รวมถึงท้องถนนที่มีรถยนต์พลุกพล่านและแฟนฟุตบอลจำนวนหนึ่งที่ยังตกค้างหลงเหลืออยู่ จากผู้เข้าชมการแข่งขันในสนามทั้งหมดวันนั้นประมาณ 31,000 คน ทำให้ ฮ.ไปตกที่ลานจอดรถซึ่งไม่มีผู้คน มิฉะนั้นอาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่านี้,นักบินเคยช่วยผู้ป่วยจากเรือกลางทะเล,เดลีเมล ยังเผยด้วยว่า นายสวาฟเฟอร์ วัย 53 ปี และ น.ส. เลโชวิชซ์ แฟนสาว พักอาศัยอยู่ด้วยกันในแมนชั่นขนาดใหญ่ ขนาด 8 เตียงนอน มูลค่า 1.2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 50 ล้านบาท) ในเมืองแคมเบอร์ลีย์ ภูมิภาคเซอร์เรย์ นายสวาฟเฟอร์ยังโพสต์ภาพที่ถ่ายจากสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม มากมายในโซเชียลมีเดีย ภาพหนึ่งมีเขาอยู่กับองค์ดาไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบตด้วย เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าเที่ยวบินที่มีคุณค่าน่าจดจำที่สุดของเขาคือขับ ฮ. นำผู้ป่วยคนหนึ่งขึ้นจากเรือที่อยู่ห่างจากหมู่เกาะ เชตแลนด์ 100 ไมล์ ฝ่าคลื่นสูงและกระแสลมรุนแรงถึง 70 ไมล์ต่อชั่วโมง,ขโมยเสื้อเลสเตอร์ที่คนมาวางอาลัย,มีรายงานจากเว็บไซต์ เดลีสตาร์ ว่า มีชายคนหนึ่งเข้าไปขโมยเสื้อยืดกีฬาทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ที่มีผู้นำไปวางไว้ที่นอกสถานทูตไทยในกรุงลอนดอน เพื่อไว้อาลัยนายวิชัยและคนอื่นๆอีก 4 คน ที่เสียชีวิตจาก ฮ.ตก โดยพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของหัวขโมยรายนี้ ถูกกล้องโทรทัศน์วงจรปิดจับภาพไว้ได้และหนังสือพิมพ์ เดอะ ซัน นำมาเผยแพร่ เห็นช่วงที่โจรขโมยเสื้อทำทีเดินวนไปมารอบๆบริเวณนั้นก่อนหยิบเสื้อและยัดเสื้อใส่เป้ที่สะพายหลังอยู่ อีกทั้งใช้มือเลื่อนป้ายข้อความเขียนด้วยมือเพื่อไว้อาลัยนายวิชัยที่วางอยู่ข้างๆ ข้อความว่า RIP คุณวิชัย, คุณทำให้ความฝันของแฟนๆเลสเตอร์ ซิตี้ เป็นความจริง แต่ตำรวจนครบาลลอนดอนกลับเผยว่ายังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้,ปีเตอร์ ชิลตัน วางดอกไม้ร่วมเสียใจ,ส่วนการแสดงความไว้อาลัยนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ผู้ครองหัวใจทั้งนักฟุตบอลในทีมและแฟนบอลเลสเตอร์ รวมทั้งชาวเมืองเลสเตอร์ ที่ยังมีผู้หลั่งไหลเดินทางมาร่วมเสียใจและแสดงความไว้อาลัยอย่างไม่ขาดสายนั้น เมื่อวันพุธที่ 31 ต.ค. ปีเตอร์ ชิลตัน อดีตตำนานผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษและเลสเตอร์ ซิตี้ พร้อมด้วยภรรยา เดินทางมาร่วมไว้อาลัยและรำลึกถึงประธานสโมสร วิชัย ศรีวัฒนประภา ที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม โดยปีเตอร์อยู่ในอาการโศกเศร้าขณะวางดอกไม้,แฟนบอลเตรียมเดินขบวนรำลึกถึง,สำนักข่าวเอพีรายงานว่า บรรดาแฟนฟุตบอลสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ร่วมประชุมกันเมื่อวันที่ 31 ต.ค. หารือเรื่องการจัดรำลึกไว้อาลัยให้นายวิชัย ในเกมการแข่งขันระหว่างทีมเลสเตอร์ ซิตี้ กับทีมเบิร์นลีย์ ที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม ในวันเสาร์ที่ 10 พ.ย. โดยแฟนฟุตบอลมีแผนเดินขบวนจากศูนย์กลางเมืองเลสเตอร์ ไปยังสนามกีฬาคิง เพาเวอร์ สเตเดียม ก่อนการแข่งขัน มีผู้เข้าร่วม 5,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขสัญลักษณ์ รำลึกถึงกรณีที่ทีมเลสเตอร์ ซิตี้ มีอัตราต่อรองเพียง 5,000-1 (แทง 1 ได้ 5,000) ในปีที่ทีมเลสเตอร์ ซิตี้ สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015-2016 ได้ชนิดหักปากกาเซียน หลังนายวิชัยเข้าเทกโอเวอร์สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้,จิ้งจอกสยาม ลงสนามนัดแรกหลังสิ้นวิชัย,ขณะที่ความเคลื่อนไหวการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ระหว่าง บลูเบิร์ด คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ที่จะรับการมาเยือนของ เลสเตอร์ ซิตี้ ในวันเสาร์ที่ 3 พ.ย. เวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถือว่าเป็นการลงสนามนัดแรกของ จิ้งจอกสยาม หลังจากสโมสรต้องสูญเสียนายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของสโมสร จากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกเมื่อวันเสาร์ที่ 27 ต.ค.,ชูผ้าพันคอ–ร้องเพลงให้กำลังใจครอบครัว,ล่าสุด ยูเนียน เอฟเอส กลุ่มแฟนบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ได้ออกมาแถลงการณ์ที่จะร่วมกันชูผ้าพันคอเพื่อระลึกถึงนายวิชัย ในนาทีที่ 60 ระหว่างเกมที่จะพบกับคาร์ดิฟฟ์ เพื่อระลึกถึงประธานสโมสรเลสเตอร์และให้กำลังใจครอบครัวศรีวัฒนประภา ในวันเสาร์นี้ เดอะ บลู อาร์มี จะยืนพร้อมเพรียง และให้กำลังใจนักเตะของเราคว้าชัยเพื่อระลึกถึงนายวิชัยและบุคคลที่เสียชีวิตพร้อมกับท่าน ขอให้ทุกคนชูผ้าพันคอขึ้นเมื่อทีมออกมาและร่วมร้องเพลง-เวน ยู อาร์ สมายลิ่ง (When you are smiling) เพื่อแสดงถึงการให้กำลังใจคุณต๊อบ, ครอบครัวของเขา และนักเตะ จากนั้นเราจะทำแบบนี้อีกครั้งในนาทีที่ 60,แม่น้องจุ๋มสุดช็อกข่าวร้ายลูก,ที่ศาลาแสงทองเชาวน์ วรรณพิบูลย์ วัดเพิ่มทาน ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นางสำเริง สุขหน้าไม้ อายุ 61 ปี มารดาของ น.ส.นุสรา หรือจุ๋ม สุขหน้าไม้ อดีตรองมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2005 สตาฟฟ์ทำงานของนายวิชัย ที่เสียชีวิตด้วยจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก เปิดเผยว่า ทุกครั้งที่น้องจุ๋มเดินทางไปไหนจะไลน์แจ้งให้บุคคลในครอบครัวทราบ หลังจาก ที่ทราบข่าวเฮลิคอปเตอร์ตก ครอบครัวไม่สามารถติดต่อน้องจุ๋มได้เลย กระทั่งมาทราบข่าวร้ายถึงกับเข่าทรุด เสียใจมากกับการจากไปของลูกสาว ในวันที่ 2 พ.ย. จะครบ 7 วันที่น้องจุ๋มเสียชีวิต ครอบครัวจะทำบุญเช้าที่ศาลาแสงทอง-เชาวน์ วรรณพิบูลย์ เรื่องการติดต่อรับศพนั้น พี่สาวของน้องจุ๋มเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด แต่ยังไม่ทราบว่าจะนำศพจากอังกฤษกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาเมื่อใด
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ วิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์
ข่าว,ทั่วไทย
เจ้าสัววิชัย,วิชัย ศรีวัฒนประภา,คิง เพาเวอร์,เลสเตอร์ ซิตี้,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1409480
[ 0, 259, 137738, 156814, 36999, 53530, 4215, 67074, 86859, 30305, 97014, 259, 110597, 8007, 107079, 17858, 169246, 430, 259, 190473 ]
หมอระวี อัด มท.-คลัง ออกก.ม.รองรับ จัดเก็บภาษีที่ดิน ล่าช้า
หมอระวี อัด มท.-คลัง ไร้ประสิทธิภาพ ออกกฎหมายลำดับรองล่าช้า กระทบ การจัดเก็บภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้าง สับ เก็บภาษีบ้านหลังที่ 2 เหมือนรีดเลือดกับคนชั้นกลาง ไม่กระทบทุนใหญ่วันที่ 13 ม.ค. นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงกรณีขยายกำหนดเวลา ดำเนินการตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 จากวันที่ 1 มกราคม 2563 ไปเป็นเริ่มจัดเก็บในเดือนสิงหาคม 2563 ว่า เรื่องนี้สะท้อนถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการของภาครัฐ โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากมีกฎหมายฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม ปีที่แล้ว แต่กฎหมายลำดับรอง 8 ฉบับ ในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการคลัง ที่ต้องออกมารองรับกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างภายใน 120 วัน นับจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ ตามบทเฉพาะกาลมาตราที่ 89 ของกฎหมายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งครบเส้นตายวันที่ 10 กรกฎาคม 62 กลับดำเนินการอย่างล่าช้า โดยกระทรวงมหาดไทยเพิ่งออกประกาศกฎกระทรวงมหาดไทย ที่เกี่ยวข้องกับจัดเก็บภาษี 4 ฉบับ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 62 ก่อนการจัดเก็บภาษีต้องเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 มกราคม 63 เพียงแค่ 11 วัน เท่านั้น ขณะที่กฎหมายลำดับรองอีก 4 ฉบับ ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเกิดความโกลาหลทั้งประชาชนที่เป็นผู้เสียภาษีและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ต้องเป็นผู้จัดเก็บภาษีเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาภาครัฐขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดีจนทำให้เกิดความระส่ำระสายในหมู่ประชาชนเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความล้มเหลวของกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้รับผิดชอบด้วยว่าขาดการบริหารจัดการที่ดี จนทำให้การออกกฎหมายลำดับรองไม่เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ กระทั่งต้องขยายเวลาการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกไป ผมหวังว่าเรื่องนี้จะเกิดเพราะความด้อยประสิทธิภาพเท่านั้น ไม่มีเรื่องการเอื้อประโยชน์ให้นายทุนที่ดินเหมือนที่หลายคนตั้งข้อสงสัย นายแพทย์ระวี กล่าวหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ต้องเตรียมการรองรับ คือ จะทำอย่างไร กับการจัดเก็บรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะล่าช้าออกไปตามระยะเวลาที่ขยาย เพราะแม้รายได้ส่วนนี้ จะเป็นเพียงประมาณร้อยละ 5 ของรายได้ทั้งหมด แต่ต้องไม่ลืมว่า การจัดงบประมาณปี 63 ก็ล่าช้ามาพอสมควรแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อการบริหารงานท้องถิ่นหรือไม่ กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการคลัง จะดูแลอย่างไรต้องมีคำตอบที่ชัดเจน รวมถึงการให้หลักประกันกับประชาชนถึงการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมด้วย อย่าให้เจตนารมณ์ที่ดีในการลดความเหลื่อมล้ำ กลายเป็นการสร้างปัญหาใหม่ให้กับคนชั้นกลาง จึงควรมีการทบทวน สร้างภาระให้กับคนชั้นกลาง เช่น การกำหนดให้ผู้ครอบครองบ้านหลังที่ 2 ต้องจ่ายภาษี โดยคาดว่า อาจต้องการสกัดการเก็งกำไร แต่ในความเป็นจริง เจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้ ออกมาเพื่อแก้ปัญหานายทุนใหญ่ ครอบครองที่ดินแล้วไม่ทำประโยชน์ แต่การเรียกเก็บภาษี บ้านหลังที่ 2 เหมือนเป็นการรีดเลือดกับคนชั้นกลางที่พอมีเงินเก็บ ก็เอาไปลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์นิดหน่อย เพื่อปล่อยเช่ามีรายได้ ไว้เก็บกินตอนเกษียณ เมื่อกฎหมายฉบับนี้ออกมา ภาระจึงตกกับคนชั้นกลางมากกว่านายทุนใหญ่ จนทำให้เกิดกระแสต่อต้านเป็นวงกว้าง สิ่งเหล่านี้รัฐบาลควรทบทวน ว่า ควรมีเพดานอย่างไรในการเก็บภาษีเพื่อให้เก็บได้ถูกจุดตามเป้าหมาย ไม่ใช่กลายเป็นคนชั้นกลาง ได้รับความเดือดร้อน เพื่อให้กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้อย่างแท้จริง
หมอระวี อัด มท.-คลัง ไร้ประสิทธิภาพ ออกกฎหมายลำดับรองล่าช้า กระทบ การจัดเก็บภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้าง สับ เก็บภาษีบ้านหลังที่ 2 เหมือนรีดเลือดกับคนชั้นกลาง ไม่กระทบทุนใหญ่
ข่าว,การเมือง
เก็บภาษีที่ดิน,รีดเลือด,คนชั้นกลาง,มหาดไทย,คลัง,ระวี มาศฉมาดล,พลังธรรมใหม่,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1746495
[ 0, 259, 128181, 59270, 6088, 11984, 2091, 128181, 3755, 200753, 259, 91061, 3755, 70433, 3755, 108295, 70838, 128182, 161879, 2091 ]
เข็นสารพัดแผนฝ่าวิกฤติ ปี 58 การบินไทย ขาดทุน 1.3 หมื่นล้านบาท
ผลประกอบการการบินไทยปี 2558 ขาดทุนยับเยิน 1.3 หมื่นล้านบาท จรัมพร ยืนยัน แผนปฏิรูปองค์กรเดินมาถูกทางหยุดเลือดไหล พร้อมเดินหน้าเพิ่มรายได้ ปัดฝุ่นเส้นทางขาดทุนกลับมาบินใหม่–เปิดบินอาเซียน เตรียมเงิน 2,000 ล้านบาท จ้างพนักงานออกก่อนเกษียณ,นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของการบินไทยปี 2558 การบินไทยมีรายได้รวม 188,747 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 13,047 ล้านบาท โดยขาดทุนลดลงจากปี 2557 ที่ขาดทุน 15,573 ล้านบาท เป็นการขาดทุนต่อหุ้นที่ 5.99 บาทต่อหุ้น และมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยที่ 72.9% สูงกว่าปีก่อน ซึ่งเฉลี่ยที่ 68.9% และปีนี้ตั้งเป้าหมายอัตราการบรรทุกผู้โดยสารที่ 80%,ทั้งนี้ การดำเนินการตามแผนปฏิรูปองค์กรที่ผ่านมาถือได้ว่าเดินมาถูกทาง ทั้งเรื่องการลด หรือยกเลิกเส้นทางบินที่ไม่มีกำไร ส่วนเรื่องลดค่าใช้จ่ายจะยังเดินหน้าดำเนินการต่อไป ทั้ง 5 ด้าน คือ ลดค่าใช้จ่ายด้านครัวการบิน, หน่วยซ่อมบำรุง-ลานจอด, คลังสินค้า, การบริการผู้โดยสาร, การบริการภาคพื้น และจากแผนการปรับลดแล้ว หลังจากนี้การบินไทยจะเดินหน้า,ตามแผนงานขยายตัวขึ้นในปีนี้ ทั้งเรื่องเปิดจุดบินใหม่ๆ เพิ่มในภูมิภาคอาเซียน 3-4 จุดบิน และพิจารณาเปิดเส้นทางบินที่เคยขาดทุนกลับมาบินใหม่ เช่น เส้นทางบินกรุงเทพ-สหรัฐฯ, เส้นทางบินมอสโก เปิดบินในตารางบินฤดูหนาว ในเดือน ต.ค.นี้ โดยแผนการขยายตัวจะดำเนินการเต็มรูปแบบในปีหน้า สำหรับสาเหตุที่ปรับเส้นทางบินใหม่เนื่องจากมองว่า ต้องใช้ประโยชน์จากเครื่องบินเพิ่มมากขึ้น,ปีนี้การบินไทยยังจะได้เดินหน้าลดค่าใช้จ่าย ในโครงการร่วมใจจากองค์กร หรือเกษียณก่อนกำหนด โดยมีงบประมาณในส่วนนี้ 2,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาได้ใช้งบประมาณ 5,500 ล้านบาท ในการปรับลดบุคลากร โดยความคืบหน้าในขณะนี้ ได้ให้แต่ละฝ่ายไปดำเนินการจัดทำรายละเอียดว่า แต่ละส่วนจะมีการปรับลดอย่างไร โดยคณะปฏิรูปองค์กรจะติดตามผลทุกๆ 1 เดือน เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่แต่ละแผนกจะส่งแผนการปรับลดบุคลากรลงกลับมายังฝ่ายบริหารในเดือน พ.ค.นี้,สำหรับแผนการรับมอบเครื่องบิน ในปีนี้จะมีการรับมอบเครื่องบินใหม่แอร์บัส A350 จำนวน 2 ลำ ซึ่งการรับมอบนี้ ฝ่ายบริหารจะเร่งให้ได้ข้อสรุป แต่มั่นใจว่ากลางปีนี้อาจไม่มีการรับมอบ ส่วน การรับมอบเครื่องบินในปีหน้า มีแผนที่จะรับมอบ 7 ลำ ประกอบด้วย เครื่องบินแอร์บัส A350 จำนวน 5 ลำ, โบอิ้ง B787 จำนวน 2 ลำ และปี 2561 จะรับมอบเครื่องบินอีก 5 ลำ คือ แอร์บัส A350,นายจรัมพร กล่าวว่า ปัจจุบันการบินไทยมีนักบิน 1,600 คน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขยายเส้นทางบินใหม่ ส่วนความช่วยเหลือที่มีให้กับสายการบินนกแอร์ จะเป็นการให้นกแอร์เช่าเหมาลำเครื่องบิน เนื่องจากตามกฎระเบียบของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ไม่สามารถให้เช่านักบินได้ การเช่าต้องเป็นการเช่าเหมาลำเครื่องบินพร้อมนักบิน และขณะนี้ยังไม่มีการหารือเรื่องการปรับเปลี่ยน การถือหุ้นของสายการบินนกแอร์ ซึ่งปัจจุบันการบินไทยถือหุ้นสายการบินนกแอร์อยู่ที่ 39%,นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการเงินและบัญชี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การแข่งขันในธุรกิจการบินปีนี้ จะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) ระบุว่าอัตรากำไรต่อหน่วยในธุรกิจการบินในปีนี้ จะปรับลดลงจากลดจากปีก่อนอีก 5-8% และในส่วนของค่าใช้จ่าย ที่ยังเป็นปัจจัยลบต่อการดำเนินธุรกิจ คือค่าใช้จ่ายจากการด้อยค่าเครื่อง จากเครื่องบินที่ปลดระวางรอขาย 14 ลำ แต่ที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ คือฝูงบินที่เคยทำการบินพิสัยไกลไปยังเมืองลอสแอนเจลิส และนิวยอร์ก สหรัฐฯ จำนวน 10 ลำ เนื่องจากขณะนี้พบว่าราคาลดลงต่อเนื่อง จึงอยากเร่งขายให้ได้โดยเร็วที่สุด.
ผลประกอบการการบินไทยปี 2558 ขาดทุนยับเยิน 1.3 หมื่นล้านบาท จรัมพร ยืนยัน แผนปฏิรูปองค์กรเดินมาถูกทางหยุดเลือดไหล พร้อมเดินหน้าเพิ่มรายได้ ปัดฝุ่นเส้นทางขาดทุนกลับมาบินใหม่–เปิดบินอาเซียน เตรียมเงิน 2,000 ล้านบาท
จรัมพร โชติกเสถียร,การบินไทย,ขาดทุน,ปฏิรูปองค์กร,ลดค่าใช้จ่าย,ณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์,การแข่งขัน,สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ,ไออาต้า,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/content/584244
[ 0, 259, 80568, 3755, 62793, 43790, 202566, 259, 93927, 4682, 6494, 109370, 63583, 64657, 1, 0, 0, 0, 0, 0 ]
ตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน ขึ้นข้อความ ส่งข้อมูลเพิ่มเติม แก้ได้ง่ายๆ ไม่ยาก
ตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน ขึ้นข้อความ ส่งข้อมูลเพิ่มเติม แก้ได้เพียงเข้ามากรอกข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com แล้วเลือกเมนู ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ง่ายๆ ไม่ยากจากกรณีรัฐบาลเปิดมาตรการเยียวยาลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ นอกระบบประกันสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) จะได้รับเงินสนับสนุนจากมาตรการเยียวยา รายละ 5000 บาทต่อเดือน โดยต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เท่านั้นล่าสุด แฟนเพจ Krungthai Care เปิดเผยวิธีการใส่ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ง่ายๆ เพียงเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมทาง www.เราไม่ทิ้งกัน.com แล้วเลือกเมนู ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนต้องเตรียมข้อมูลใดบ้าง มีดังต่อไปนี้1. เข้าสู่เว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com2. เลือกเมนูแทบสีเขียว ให้ข้อมูลเพิ่มเติม (เฉพาะผู้ที่มีสถานะ นำส่งข้อมูลเพิ่ม เท่านั้น) หรือ (คลิกที่นี่)3. กรอกรายละเอียด และคลิก ให้ข้อมูลเพิ่มเติม4. กรอกรายละเอียดแบบสอบถามให้ตรงกับอาชีพ และคลิก ดำเนินการต่อ5. กรอกรายละเอียดข้อมูลบุคคลอ้างอิงพร้อมระบุสถานที่ประกอบการ และคลิก ยืนยันการนำส่งข้อมูลเพิ่มเติม6. ยืนยันการทำรายการด้วย OTP หรือ เบอร์บ้าน+รหัสไปรษณีย์ และคลิก ยืนยัน7. ทำรายการสำเร็จ หน้าจอจะแสดงผล(อ่านต้นฉบับ - คลิกที่นี่)
ตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน ขึ้นข้อความ ส่งข้อมูลเพิ่มเติม แก้ได้เพียงเข้ามากรอกข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com แล้วเลือกเมนู ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ง่ายๆ ไม่ยาก
ข่าว,เศรษฐกิจ
เราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนรับเงิน 5000,www.เราไม่ทิ้งกัน.com,วิธีรับเงิน5000,โควิด-19,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1818429
[ 0, 259, 73536, 112341, 412, 16771, 57409, 8233, 259, 186006, 97667, 36801, 24240, 2752, 1, 0, 0, 0, 0, 0 ]
มาร์ค ชี้ รายชื่อ กรธ. ไม่สำคัญเท่าสาระ ร่างรธน.
มาร์ค ชี้ รายชื่อ กรธ. ไม่สำคัญเท่าสาระ รธน. เตือน ต้องร่างรธน.ตามความหวังปชช. แนะไม่จำเป็นต้องเริ่มใหม่ ชี้ อะไรดีควรเก็บไว้  ย้ำต้องให้ปชช.มีส่วนร่วม หนุน รัฐฟื้นศก.จากฐานราก เตือน กองทุนหมู่บ้านระวังเพิ่มหนี้นอกระบบ แนะ เร่งช่วยเหลือเกษตรกรเฉพาะกลุ่ม,เตือน ต้องร่างรธน.ตามความหวังปชช.,เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 58 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ที่กำลังจะมีกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ โดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) จะเริ่มต้นอย่างไรว่า ตนคิดว่า หน้าที่ของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จะต้องร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามความคาดหวังของประชาชน ซึ่งคือเรื่องการนำประเทศไปสู่การปฏิรูปโดยไม่ทิ้งประชาธิปไตย ตนคิดว่า คณะกรรมการชุดนี้ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นจากศูนย์ สามารถที่จะดึงสิ่งที่ดีๆ ที่อยู่ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่สภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) ไม่เห็นชอบ แม้กระทั่งบทบัญญัติในปี 40-50 ที่ไม่มีปัญหา ตนคิดว่าประเด็นนี้ไม่มีปัญหา จะได้ไม่ต้องเสียเวลา หากเราต้องเริ่มเขียนใหม่หมดตั้งแต่บทบัญญัติในทุกหมวด เราก็ต้องเสียเวลามาก เพราะฉะนั้นเอาแต่จุดที่เป็นปัญหาแล้วให้เวลา โดยให้สังคมมีส่วนร่วมเป็นกระบวนการที่โปร่งใส คิดว่าน่าจะช่วยให้ได้รัฐธรรมนูญฉบับที่สังคมต้องการ และจะผ่านได้อย่างราบรื่น,เมื่อถามว่า การที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่า กรธ. ที่จะเข้ามาต้องมีความคิดตรงกับที่ คสช. ต้องการ  นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อคสช.ประกาศที่จะปฏิรูป เพราะฉะนั้นหากยึดในเรื่องการปฏิรูปจริงๆ ก็คงไม่น่ามีปัญหา เพียงแต่ว่า การที่พูดเรื่องการปฏิรูปถึงขั้นนี้แล้ว มันต้องมีความเป็นรูปธรรมในเนื้อหาสาระ ถ้าเราพูดเป็นหัวข้อหรือเฉพาะคำว่าปฏิรูป มันก็จะไม่มีความก้าวหน้าจะกลายเป็นการอ้างอิงลอยมากกว่า, ,เมื่อถามว่า วันนี้รายชื่อ กรธ. ไม่สำคัญเท่าสาระของการปฏิรูปนั้น นายอภอิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนมองว่ากระบวนการก็สำคัญ และเราอย่าลืมว่าตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว ร่างรธน.ฉบับนี้ก็ต้องผ่านการทำประชามติ เพราะฉะนั้นอย่างไรก็ตามคนที่จะให้ความเห็นชอบขั้นสุดท้าย คือ ประชาชน ดังนั้น กรธ. ต้องตระหนักตรงนี้ ตอนนี้กระบวนการของฉบับเดิมจบไปแล้ว กรธ. ก็ต้องมาว่ากันใหม่, ,เมื่อถามว่า กับการอ้างเรื่องอำนาจพิเศษไว้ 5 ปี ควรจะต้องทบทวนหรือไม่ หน.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กลไกที่จะมาช่วยกำกับดูแลรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ไม่ให้ใช้อำนาจในทางที่ผิดนั้นจำเป็น แต่การเขียน หรือการระบุกลไก วิธีการ หลักการ ประเด็นของการกำกับดูแล มันจะต้องมีความชัดเจน ปัญหาของคณะกรรมาการปฏิรูปปรองดองฯ (คปป.) ที่เขียนไว้คราวที่แล้วคือ ไม่ระบุถึงประเด็นรายละเอียดเลย แต่กลายเป็นการให้อำนาจลอยๆ มันก็เลยเกิดปัญหาขึ้นตนเข้าใจว่าเรื่องนี้เข้าในช่วงท้ายๆ แล้วของคณะกรรมาธิการฯ จึงไม่อาจทำให้นำมาพิจารณารายละเอียดได้,เมื่อถามว่า ความจริงเรื่องนี้มีมาตั้งแต่ต้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใช่ แต่ตัวร่างแรกก่อนที่จะมีการทบทวนก็ไม่มี  การพิจาณาหลังจากนั้นมาก็ไม่มี  ก็เลยเป็นปัญหาขึ้น ตนเข้าใจในข้อห่วงใยว่า 1. ไม่ต้องการให้กลับไปสู่สภาพของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งใช้อำนาจในทางที่ผิด 2. เข้าใจความห่วงใยว่าหากเกิดความวุ่นวายในสังคมอีกและเกิดความขัดแย้ง เราไม่อยาก จะย้อนกลัมาที่จุดนี้ เพราะฉะนั้น ตัวความห่วงใย  ตนคิดว่าเป็นความห่วงใยที่มีเหตุมีผล แต่การคิดแก้ปัญหาต้องละเอียดรอบคอบ และมีหลักการที่ชัดเจนกว่าคราวที่แล้ว, ,เมื่อถามว่า วิธีการลดความขัดแย้งและไม่นำไปสู่ความรุนแรงอีกคืออะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แม้มี คปป. ตนก็ยังไม่ชัดเจนว่า คปป. จะใช้อำนาจกับอะไรกับสถานการณ์ที่ผ่านมา ตนยังเชื่อมั่นว่า ถ้ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง สามารถถูกตรวจสอบ และมีกลไกที่ระงับยับยั้งไม่ให้ใช้อำนาจในทางที่ผิด หรือทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ อย่างเช่นที่ผ่านมา เรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม ตนก็ยังมองว่ามันก็จะไม่บานปลายรุนแรงขัดแย้งอย่างนั้น แต่ว่าถ้าเป็นการกระทำของกลุ่มคนที่จ้องทำให้เกิดผลกระทบทางด้านความมั่นคง ตามจริงแล้วกฎหมายและกฎอัยการศึกก็รุนแรงเพียงพอที่จะจัดการได้, ,เมื่อถามอีกว่า คสช. ควรรับฟังความเห็นจากหลายฝ่ายมากกว่านี้หรือไม่ หน.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตัว กรธ. จะต้องเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องนี้ แล้วทำให้เกิดความหลากหลายมีความโปร่งใส ทำให้คนมีส่วนร่วมก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ในเรื่องของแรงกดดันก็คงจะมีอยู่แล้วและคงไม่มีใครอยากที่จะต้องมาทำร่างที่ 3 กันอีก เพราะฉะนั้นต้องทำให้ดี และการที่บอกว่าจะต้องทำประชามติก็จะเป็นตัวบอก กรธ. ว่าต้องสามารถทำให้ประชาชนยอมรับร่างนี้ให้ได้, ,เมื่อถามว่า คุณสมบัติ ของคนที่จะมาเป็น กรธ. ควรเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ควรที่จะเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย แต่ที่สำคัญคือต้องเข้าใจปัญหาที่ผ่านมาและมีใจที่จะปฏิรูป พร้อมรับฟังความคิดเห็นสามารถทำให้เกิดรัฐธรรมนูญที่ทุกฝ่ายยอมรับได้, ,เมื่อถามว่า มั่นใจแค่ไหนหาก หน.คสช. เลือกมาแล้วจะเป็นที่ยอมรับ เพราะที่ผ่านมาก็เลือกมาเองยังมีปัญหา เมื่อร่างรธน.แล้วกลับไม่ผ่าน นายอภิสิทธ์ กล่าวว่า คราวที่แล้วที่เป็นคณะกรรมาธิการฯ ก็เข้าใจว่า ไม่มีการมาตำหนิในเชิงบุคคลเท่าไร เพราะจริงๆ แล้วตอนที่ไปทบทวนร่างก็มีหลายเรื่องที่ดูว่ามีการรับฟัง แต่มาเกิดประเด็นแทรกซ้อนในช่วงท้าย ที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้น ตนมองว่าถ้าเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และพิสูจน์ได้ด้วยการทำงานว่าเขาพร้อมที่จะเปิดกว้าง พร้อมที่จะรับฟังความเห็น แสดงเหตุผล ในแต่ละเรื่อง ตนถึงได้พยายามเรียกร้องว่า ขณะนี้ลดการถกเถียงทางการเมืองได้หรือไม่ เพราะเห็นว่ามีการหยิบยกเรื่องเงื่อนเวลา เอาปีโน้นปีนี้มา เพราะสิ่งสำคัญที่สุดเวลานี้ คือ ทำอย่างไรเราจะสร้างจุดร่วมของการร่างรัฐธรรมนูญที่มีการปฏิรูป และต้องลดวาทกรรมที่จะมาทะเลาะกัน เรื่องนักการเมืองกับเผด็จการ มันไม่มีประโยชน์  เอาเรื่องเนื้อหาสาระของบ้านเมืองมาว่ากันดีกว่า ว่าปัญหาเดิมคืออะไร จะแก้อย่างไร ของที่ดีอยู่แล้วอย่าไปยุ่งกับมัน อย่างนี้ก็จะไปได้, ,เมื่อถามว่า กรธ. ที่ตั้งขึ้นเป็นแค่ผู้ปฏิบัติ เพราะคนที่กำหนด คือ คสช. ดังนั้นควรที่จะกำหนดให้ชัดเจนว่าต้องการอะไร คนไทยจะได้รู้ว่าทิศทางของประเทศคืออะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในเวลาที่เหลืออยู่ก็จะต้องทำให้ชัดเจนว่า  เป้าหมายของการปฏิรูป วิธีการของการปฏิรูปคืออะไร เพราะอันนั้นจะเป็นตัวนำว่าการเขียนรัฐธรรมนูญที่จะมารองรับคืออะไร, ,ตั้งโจทย์ให้ชัดไปเลย อย่างเรื่องการเมืองก็ว่าไปเลย เรื่องการซื้อเสียง พรรคการเมือง เป็นของใคร นายทุนหรือไม่อย่างไรก็ว่าไป เราจะได้มีคำตอบที่ชัดเจน แล้วจะแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าว,เมื่อถามว่า การปฏิรูปที่กลัวว่าจะไม่เกิดขึ้น ถ้าสร้างเป็นสัญญาประชาชน และให้ประชาชนเป็นผู้ตรวจสอบ จะแก้ปัญหาได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยืนยันมาตลอดว่าการปฏิรูปจะสำเร็จได้ ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมและเข้ามาเป็นเจ้าของ เพราะอย่างไรก็คงไม่เสร็จในระยะเวลาสั้นๆ ถ้ากระแสสังคม ประชาชนมีความห่วงแหน ประเด็นของการปฏิรูปที่ชัดเจนมันจะเกิดขึ้น การปฏิรูปในแต่ละด้าน ถ้าเขียนหลักการเป็นรูปธรรม รัฐธรรมนูญก็ต้องไปผ่านประชามติ ก็จะเป็นวิธีการหนึ่งที่สร้างหลักประกันได้ ตนยกตัวอย่างเสมอ อย่างเช่น เรื่องปฏิรูปตำรวจ ร่างแรกเขียนชัดเจนมาก ว่าจะกระจายอำนาจ จะเอาระบบคุณธรรมเข้ามา จะแยกระบบสอบสวน ตนมองว่าอย่างนี้มันชัด แต่ถ้าบอกว่าให้มีการปฏิรูปตำรวจ แต่ให้เป็นเรื่องของคณะกรรมการฯ ที่จะมาบอกอีกทีว่า จะปฏิรูปอย่างไร ตรงนี้เลยดูแล้วไม่มีหลักประกันอะไรเลย, ,เมื่อถามว่า ส่วนนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถูกต้อง เพราะถ้ามีเนื้อหาสาระอยู่ในตัวร่าง ประชาชนเห็นชอบผ่านการประชามติ รัฐบาลชุดต่อไปถ้าไม่ทำก็ถือว่าฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มันก็เป็นหลักประกัน,หนุน รัฐฟื้น ศก. จากฐานราก, ,นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล ด้วยการเทงบประมาณให้กับกองทุนหมู่บ้านว่า แม้เป็นเรื่องจำเป็น แต่ต้องระมัดระวัง เพราะอาจจะทำให้เกิดกรณีที่ประชาชนไปกู้เงินนอกระบบมาใช้หนี้กองทุนหมู่บ้านเดิมเพื่อใช้สิทธิกู้ใหม่ ซึ่งจะกระทบต่อหนี้ครัวเรือนที่สูงอยู่แล้ว จึงต้องมีกลไกที่ทำให้การปล่อยกู้ช่วยสร้างรายได้ ไม่ใช่ไปใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ทั้งนี้ตนเห็นว่ามาตรการที่เป็นโครงการจ้างงานหรือสร้างโอกาส จะเป็นมาตรการที่ดีกว่า ส่วนกองทุนหมู่บ้านต้องใช้อย่างระมัดระวัง เพราะรัฐบาลยังต้องสะสางปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 80 % ของจีดีพีด้วย, ,นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลคงมีอีกหลายมาตรการโดยเป้าหมายที่เศรษฐกิจฐานรากมาถูกทางแล้ว แต่จะทำอย่างไรให้เข้มแข็งและมีกำลังซื้อมากขึ้น นอกจากนี้การดูแลธุรกิจเอสเอ็มแอลที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ก็จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในระดับหนึ่ง แต่ที่ต้องเร่งคือการดูแลคือเกษตรกรเฉพาะกลุ่ม ไล่เป็นรายพืชผลน่าจะช่วยได้
มาร์ค ชี้ รายชื่อ กรธ. ไม่สำคัญเท่าสาระ รธน. เตือน ต้องร่างรธน.ตามความหวังปชช. แนะไม่จำเป็นต้องเริ่มใหม่ ชี้ อะไรดีควรเก็บไว้ ย้ำต้องให้ปชช.มีส่วนร่วม หนุน รัฐฟื้นศก.จากฐานราก เตือน กองทุนหมู่บ้านระวังเพิ่มหนี้นอกระบบ
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่,ตั้งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ,กรธ. 21 คน,รายชื่อกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ,พรรคประชาธิปัตย์,เนื้อหาร่างรธน.,กระบวนการร่างรธน.,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/524512
[ 0, 259, 137738, 148601, 167509, 135570, 9964, 142362, 33034, 259, 212693, 259, 70838, 15770, 138562, 16053, 10062, 154424, 1881, 82551 ]
บันเทิงไทย ก้าวล้ำผู้นำอาเซียน
สวัสดี ชาวประชาคมอาเซียน,31 ธ.ค.ที่ผ่านมา เราก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนพร้อมอีก 9 ประเทศอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยตกลงร่วมมือกันในด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมวัฒนธรรม ทำให้มองเห็นโอกาสที่ วงการบันเทิงไทย จะก้าวเข้าไปฉกฉวยผลประโยชน์ เนื่องจากเพื่อนบ้านเรือนเคียงหลายประเทศชื่นชอบรายการโทรทัศน์ของไทย และดาราไทยหลายรายก็เป็นขวัญใจคลั่งไคล้ยิ่งกว่าดาราของบ้านเขาซะอีก,นักข่าวไทยรัฐที่ประจำการอยู่ในจังหวัดชายแดนออกตระเวนเก็บข้อมูลอย่างละเอียดยิบ เริ่มจากเหนือสุดแดนสยามติดกับพม่าประเทศแห่งชาติพันธุ์ 135 ชนเผ่า นักข่าวไทยรัฐประจำ จ.เชียงราย อรรถภัณฑ์ รังษี รายงานว่าชาวพม่าที่ท่าขี้เหล็กนี่ดูทีวีเมืองไทยร้อยเปอร์เซ็นต์จนพูดไทยได้ปร๋อ และถ้าล่วงเลยเข้าไปถึงเชียงตุง คนที่นั่นดูทั้งทีวีไทยและก็จีน โดยส่วนใหญ่ก็ยังเป็นแฟนช่อง 3 ช่อง 7 เหนียวแน่น ละครไทยที่นี่ดังยิ่งกว่าซีรีส์เกาหลีซะอีก เพราะแซ่บครบเครื่องทั้งดราม่า อิจฉาริษยา บู๊แอ็กชั่น อีกทั้งวัฒนธรรมก็ใกล้เคียงกัน หากแบ่งกลุ่มเป้าหมาย วัยรุ่นจะชอบละครช่อง 3 แต่ถ้าวัยดึกจะชอบช่อง 7 แต่พอวันเสาร์-อาทิตย์เด็กๆจะครองทีวีเกือบหมด และที่เปิดดูทุกบ้านคือ แก้วหน้าม้า ฮิตมาก ส่วนดาราที่คลั่งไคล้คือ ใหม่—ดาวิกา โฮร์เน่,ขณะที่พรมแดนด้าน อ.แม่สอด ที่ข้ามแม่น้ำเมยไปก็คือ จ.เมียวดี ของพม่า พิชิต พฤกษาโสภา นักข่าวประจำ จ.ตาก รายงานว่า ชาวพม่าทางฝั่งนี้ก็ดูทีวีไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ สนใจทั้งข่าวสารการเมือง เศรษฐกิจ เพราะเกี่ยวพันถึงปากท้อง เนื่องจากพม่าสั่งสินค้าจากฝั่งไทยปีละกว่า 6 หมื่นล้านบาททีเดียว ดังนั้นโฆษณาสินค้าไทยอย่ามองข้ามเด็ดขาด โดยข่าว 7 สีจะนิยมเป็นอันดับหนึ่ง เพราะเข้าถึงคนต่างจังหวัดมากกว่า รองลงมาคือช่อง 3 และมาแรงคือ ไทยรัฐทีวี ที่มีความทันสมัยแปลกใหม่กระชับฉับไว ละครไทยช่อง 7 ก็ครองแชมป์เช่นกัน แม้แต่ดาราก็ชื่นชอบ แพนเค้ก–เขมนิจ, ใหม่—ดาวิกา, อั้ม—พัชรภา แต่มาแรงตอนนี้คือ ปอ—ทฤษฎี ที่ติดตามข่าวตลอดตั้งแต่ล้มป่วยและยังเอาใจช่วยด้วย ด้านทะเล จ.ระนอง ของไทยข้ามไปก็เป็นเกาะสองของพม่า ที่นั่นติดจานดาวเทียมดูแต่ทีวีไทยทั้งนั้น รายการนิยมก็ดูหลากหลายแต่ยอดนิยมก็คือละครช่อง 3 ช่อง 7 ชอบดาราไทยมากถูกจ้างไปโชว์ตัวก็หลายครั้ง,มาดูที่ สปป.ลาว กันมั่ง เริ่มที่ จ.นครพนม กวี ศรีสรรค์ นักข่าวไทยรัฐที่นี่รายงานว่าชายแดนเราติดกับเมืองท่าแขกดูไปก็เหมือนจังหวัดหนึ่งของไทย คนก็คล้าย บ้านเรือนก็ไม่ต่าง ยิ่งทีวีก็ดูของไทยโดยช่อง 3 ครองแชมป์ ถ้า ณเดชน์–ญาญ่า มานะเมืองแตกแน่ด้าน จ.หนองคาย นักข่าวไทยรัฐ มงคลชัย ปัญญาตระกูล ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาวไปนครหลวงเวียงจันทน์ รายงานว่า คนลาวที่นี่ผูกพันกับทีวีไทยมายาวนานเพราะรับสัญญาณได้ดี มีภาษาและวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน ยิ่งพอเป็นทีวีดิจิตอลภาพคมกรี๊บยิ่งปลื้มปริ่ม ชอบดูละครไทยเพราะถูกจริต น้ำเน่าดูแล้วอารมณ์ปรี๊ด ส่วนบู๊แอ็กชั่นก็มันทะลุจอสมจริง สำหรับดาราที่ชื่นชอบจะหลากหลายมากช่อง 3 ก็ เคน—ธีรเดช, ติ๊ก—เจษฎาภรณ์, ชมพู่—อารยา คลั่งไคล้มาก ช่อง 7 ก็พระเอกลูกข้าวนึ่ง เวียร์—ศุกลวัฒน์, อั้ม—พัชราภา และ ปู—ไปรยา,แว้บมาที่ จ.อุบลราชธานี คนไทยคนลาวผ่านด่านช่องเม็กไปมาหาสู่ทำมาค้าขายกันพลุกพล่าน นักข่าวไทยรัฐ วีนัส เอี่ยมสะอาด ข้ามไปสำรวจถึงเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ภาคใต้ของลาว พบว่าทุกครัวเรือนเปิดดูทีวีไทยทั้งนั้น ดูรายการทุกประเภทและที่เพิ่งจบซีซั่นไปอย่าง เดอะวอยซ์ นี่ปังมาก แต่ติดงอมแงมที่สุดละครไทยทั้งช่อง 3 ช่อง 7 ช้อบชอบเนื้อหาเข้มข้นดูแล้วคันมือคันไม้ยิกๆมาพรมแดนด้าน จ.มุกดาหาร บ้าง ข้ามแม่น้ำโขงไปก็เป็นแขวงสะหวันนะเขต นักข่าวไทยรัฐ พรสวรรค์ บุญทศ รายงานว่า คนลาวที่นี่ไม่ต่างจากคนไทยเลยรับข่าวสารจากฝั่งไทยทั้งหมด ทีวีก็ดูของไทยข้ามมาซื้อกล่องไปติดดูได้ทันที เปิดไล่เรียงหมายเลขไปเรื่อยถูกใจก็ดูช่องนั้น แต่ถ้าละครล่ะก็ดูช่อง 3 กับ 7 แต่จะชอบแนวของ 7 สีมากกว่า เพราะเนื้อหาชาวบ้านสัมผัสได้ ภาษาก็เข้าใจง่ายๆ ละครจักรๆวงศ์ๆเนี่ยโปรดมาก ,ล่าสุด แก้วหน้าม้า เห็นเด็กๆร้องเพลงไปเต้นไปสนุกสนาน ระหว่างสำรวจยังพบเห็น ลาวมุง เชียร์มวยตู้อย่างมันส์เหมือนพี่ไทยเป๊ะ ที่นี่นิยม มวยไทย 7 สี แต่เดี๋ยวนี้มวยช่องไหนก็ดูหมด และน่าสนใจที่ได้ข้อมูลว่าหน้าตาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อยากดู ไม่ว่าจะเป็นข่าวหรือรายการอะไร ถ้าผู้ประกาศหรือพิธีกรหน้าตาดีล่ะก็มีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะเอาจริงอย่างข่าวเนี่ยเนื้อหาก็คล้ายกันทุกช่องแหละ แต่จะต่างกันก็ที่ผู้ประกาศนี่แหละ ฟังข่าวไปนั่งมองหน้าคนอ่านหล่อๆสวยๆไปฟินกว่าเยอะ (อืม ก็ถูกของเขานะ) ส่วนดาราที่ชื่นชอบเมื่อเป็นแฟนประจำละคร 7 สี แน่นอนดาราที่ชอบก็อย่าง เวียร์—ศุกลวัฒน์, แพนเค้ก—เขมนิจ, ปู—ไปรยา, วี—วีรภาพ เมื่อล่วงลึกเข้าไปเมืองใหญ่อย่างหลวงพระบางและแขวงอุดมไชยก็น่าชื่นใจที่เห็นคนลาวชอบดูทีวีไทยมาก มีกล่องทีวีดิจิตอลจากเมืองไทยเข้าไปขายซื้อเอาไปติดตั้งผ่านจานดาวเทียมได้เลย ภาพคมชัดระดับ HD ซึ่งสำหรับคนเมืองที่นี่รสนิยมก็คล้ายคนกรุงเทพฯคือชอบช่อง 3,เมื่อเอ่ยถึงประเทศกัมพูชา คนไทยต้องนึกถึงตลาดโรงเกลือ นักข่าวไทยรัฐประจำ จ.สระแก้ว ชัชวาลย์ โสภาพันธ์ สำรวจจากพ่อค้าแม่ขายชาวเขมรในตลาดบอกว่า คนเขมรฝั่งโน้นดูทีวีไทยราว 70% เพราะพอฟังภาษาไทยได้ ดูหมดทั้งวาไรตี้ เกมโชว์ ที่ชอบมากคือรายการ ชิงร้อย ชิงล้าน ดูตั้งแต่อยู่ช่อง 3 ก่อนเปลี่ยนไปช่องเวิร์คพอยท์ทีวี ส่วนละครไทยชอบช่อง 7 มากที่สุดเพราะเป็นความเคยชินด้วยส่วนหนึ่ง รองลงมาคือช่อง 3 ดาราคนโปรดคือ อั้ม—พัชราภา แม้ว่าบางคนจะดูรู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่งก็ยังดูเพราะ อั้ม สวยอย่างกะ นางอัปสร แต่ถ้าดาราชายกลับชื่นชอบ ติ๊ก—เจษฎาภรณ์ เพราะหน้าตาหล่อคล้ายหนุ่มเขมร แต่ไม่ชอบดูข่าวเพราะไม่อิน ยกเว้นของ เฮียสรยุทธ ที่เปิดดูเพลินๆ แต่ถ้าช่วงนี้จะติดตามข่าว ปอ—ทฤษฎี เพราะรู้ว่าเป็นดาราและรู้สึกสงสาร ความฮิตของรายการและละครไทยกำลังเป็นที่ปวดหัวในระดับชาติของเขมร เพราะเมื่อเร็วๆนี้ช่อง 3 ไปจับมือกับสถานีโทรทัศน์น้องใหม่ของกัมพูชา หวังจะนำรายการและละครไทยไปพากย์ใหม่เปิดตลาดวงกว้างให้ดูกันทั้งประเทศ แต่ปรากฏว่าโดนดาราเขมรประท้วงว่าทำให้วงการบันเทิงกัมพูชาเสียหาย เรื่องถึงรัฐบาลจนต้องมีคำสั่งห้ามละครต่างประเทศ (รวมทั้งละครไทย) ฉายช่วงไพรม์ไทม์ 1-3 ทุ่มเด็ดขาด ละครไทยเลยจ๋อยไปนิดนึง,เพื่อนบ้านประเทศสุดท้ายมาเลเซีย ลงไปใต้สุด กล้าณรงค์ ทองนาคพันธ์ นักข่าวไทยรัฐประจำ จ.ยะลา และ ธนานนท์ บุญสวัสดิ์ นักข่าว จ.นราธิวาส รายงานตรงกันว่า ชาวมาเลเซียไม่สนใจรายการทีวีของไทยเนื่องจากมีความแตกต่างด้านภาษา แต่ถ้าจะมีคนที่ดูทีวีไทยบ้าง หากไม่ใช่ที่มีเมียคนไทยก็จะเป็นคนมาเลเซียเชื้อสายไทยที่อยู่ในบางส่วนของรัฐกลันตัน เคดาร์เปรัค ซึ่งเป็นคนไทยที่ตกค้างตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคมที่ไทยเสียดินแดนให้อังกฤษเมื่อร้อยปีก่อน จนทุกวันนี้ยังพูดภาษาไทย รักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไทย และดูทีวีไทย เป็นแฟนละครไทยเหนียวแน่นเพราะสนุกกว่าของมาเลเซีย โดยส่วนใหญ่จะเป็นแฟนช่อง 3 ดาราที่ชื่นชอบก็เป็นช่อง 3 ด้วย,ไม่เพียงแต่รายการโทรทัศน์ไทยที่แทรกซึมเพื่อนบ้านเท่านั้น เพราะหนังไทยก็กลายเป็นหัวหอกที่กำลังครอบงำวัฒนธรรมและความคิดเช่นกัน เริ่มจากยุคของคนรุ่นใหม่ ค่ายไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ สร้างหนังดีๆออกมาอย่าง สตรีเหล็ก แม่เบี้ย จันดารา ต่อด้วย ค่ายจีทีเอช ที่เป็นยุคทองของหนังไทย หนังเกือบทุกเรื่องเข้าตาประเทศเพื่อนบ้านนำไปฉายกลายเป็นกระแสอย่างเรื่อง พี่มากพระโขนง ที่ทำฮือฮาในไทยโกยรายได้พันล้าน ที่จริงแล้ว แม่นาค ของ พี่มาก ยังตระเวนไปหลอกหลอนในอีกหลายประเทศทั้ง พม่า ลาว กัมพูชา มาเลเซีย เลยไปถึงอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ฯลฯ โกยเงินเข้าประเทศหลายร้อยล้าน ยิ่งเรื่อง ไอฟาย แต๊งกิ้ว เลิฟยู้ นี่ก็อู้หู โจ๋เพื่อนบ้านเต้นชักกระตุกกันสนุกไปเลย กระแสฮอตของหนังไทยยังทำให้เจ้าพ่อโรงหนังอย่างเครือ เมเจอร์ คิดการใหญ่ โดยเมื่อต้นปีที่แล้วหอบเงินร่วม 200 ล้านไปสร้างอาณาจักรเมเจอร์ที่กัมพูชากลางกรุงพนมเปญเลย ปั่นกระแสหนังไทยกลบเกาหลีฟีเวอร์ซะมิด และยังวางแผนจะกระจายไปทั่วประชาคมอาเซียนอีกด้วย จึงมองเห็นอนาคตหนังไทยจะครองตำแหน่ง เจ้าแห่งอาเซียน อย่างสดใสซาบซ่า,ขณะที่ดาราไทยกระแสนิยมก็พุ่งปรี๊ด เราได้เห็น อั้ม—พัชราภา ทำห้างกลางกรุงแตกมาแล้ว ตอน อั้ม ไปอีเวนต์ที่ จ.อุดรธานี แต่เจ้าหน้าที่ด่าน ต.ม.ที่หนองคายกลับรู้ข่าว เพราะมีรถยนต์จากลาวทะลักเข้าไทยสูงทะลุหลักหมื่นคันเลย บ้าไปแล้วเมื่อตอน เก้า—จิรายุ หอบหนังเรื่อง ตุ๊กแกรักแป้งมาก ไปฉายที่อินโดนีเซีย ก็เกิดปรากฏการณ์ห้างกลางกรุงจาการ์ตาแทบแตกเหมือนกันที่ฟิลิปปินส์ก็เคยเจอปรากฏการณ์ห้างแตกเมื่อครั้งที่ มาริโอ้ เมาเร่อ กับ ใบเฟิร์น—พิมพ์ชนก ไปโชว์ตัวมีหลักฐานในยูทูบไปหาดูได้ดาราไทยดังหยุดฉุดไม่อยู่แล้ว ตอนนี้ก้าวข้ามอาเซียนไปถึงเมืองจีนโน่น อาตี๋อาหมวยเมินซีรีส์เกาหลีหันมาดูละครไทยในอินเตอร์เน็ตกันหมด พระเอกนางเอกไทยไปถึงที่โน่นดังอย่างกะซุปตาร์ ป้อง–ณวัฒน์, มาริโอ้, ไมค์–พิรัชต์, มิน–พีชญา ถูกจ้างไปเล่นหนังเล่นละครจีน ตอนที่ มาริโอ้, ใบเฟิร์น, ไมค์–พิรัชต์ ไปโชว์ตัวคนจีนแห่ไปกรี๊ดห้างแตกเหมือนกัน ปรากฏการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า บันเทิงไทย ก้าวไกลล้ำนำอาเซียนด้วยกันไปมาก ยิ่งถ้าหากได้ภาครัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมอีกแรงเชื่อว่าประเทศไทยจะเป็น มหาอำนาจบันเทิง ได้อย่างแน่นอน.
31 ธ.ค.ที่ผ่านมา เราก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนพร้อมอีก 9 ประเทศอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยตกลงร่วมมือกันในด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมวัฒนธรรม ทำให้มองเห็นโอกาสที่ วงการบันเทิงไทย จะก้าวเข้าไปฉกฉวยผลประโยชน์
ประชาคมอาเซียน,วงการบันเทิงไทย,ดาราไทย,รายการโทรทัศน์ของไทย,ใหม่ ดาวิกา,แพนเค้ก เขมนิจ,อั้ม พัชรภา,ปอ ทฤษฎี,ชาวพม่า,สปป.ลาว,เคน ธีรเดช,ชมพู่ อารยา,ชาวกัมพูชา,ชาวเขมร,มาเลเซีย,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/content/556969
[ 0, 259, 62883, 209977, 1549, 83583, 74588, 6200, 259, 43408, 12976, 123701, 11984, 37861, 5490, 109330, 137828, 50161, 1, 0 ]
น้องบอส หมอคาด7วัน ไปเรียนได้
ลุกมาคุยปกติ ปอดไม่มีเชื้อ พ่อไม่เอาผิด,ครอบครัวยิ้มออก หลังอาการ น้องบอส นิสิตปี 1 คณะ พาณิชยนาวี ม.เกษตรฯ ศรีราชา เริ่มดีขึ้น แพทย์ระบุ ลุกนั่ง กินข้าว และหายใจได้เอง ไม่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และปอดไม่ติดเชื้อ ขอดูอาการอีกระยะ ก่อนให้กลับไปเรียนหนังสือ ขณะที่พ่อเหยื่อรับน้องโหดบอก หากลูกชายหายเป็นปกติคงไม่เอาผิดรุ่นพี่ ติงผู้ใหญ่ควรพูดความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น เตรียมเข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เร่งหามาตรการรับน้อง ที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์,หวิดกลายเป็นโศกนาฏกรรมสะเทือนใจ หลังมีนิสิตรุ่นน้องเข้าร่วมกิจกรรมของคณะพาณิชยนาวีนานาชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ส่งผลให้นายโชคชัย ทองเนื้อขาว หรือน้องบอส อายุ 19 ปี นิสิตปี 1 จมน้ำในบ่อรับน้ำฝน หน้าอาคารเคมี 1 ภายในวิทยาเขตศรีราชา จนหมดสติและเสี่ยงปอดติดเชื้อ ต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู รพ.ชลบุรี ขณะเดียวกัน นายจงรัก วัชรินทร์รัตน์ รักษาการแทนรองอธิการบดี ม.เกษตรฯวิทยาเขตศรีราชา และ พล.ร.ท.นิรุทธ์ หงส์ประสิทธิ์ คณบดีคณะพาณิชยนาวีนานาชาติ ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า กิจกรรมดังกล่าวไม่ใช่การรับน้อง แต่เป็นกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ของรุ่นพี่รุ่นน้องเท่านั้น ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยรู้สึกเสียใจและขอรับผิดชอบช่วยเหลือเยียวยาดูแลสภาพจิตใจนิสิตและครอบครัว พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้น,ความคืบหน้าอาการน้องบอสที่ทุกฝ่ายยังคงเฝ้าห่วงใย ล่าสุด ครอบครัวยิ้มออกแล้ว เมื่อแพทย์แถลงอาการว่า ดีขึ้นตามลำดับ เมื่อเวลา 11.45 น.วันที่ 13 ก.ย. นพ.ชุติเดช ตาบองครักษ์ ผอ.รพ.ชลบุรี ให้สัมภาษณ์ถึงอาการนายโชคชัย ทองเนื้อขาว หรือน้องบอส ว่า วันนี้หายใจได้ดีขึ้น เมื่อช่วงเช้าแพทย์ได้ถอดท่อช่วยหายใจ เพื่อให้ผู้ป่วยหายใจเอง และหายใจได้ดี ค่าชีพจรอื่นอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีอาการหายใจเหนื่อย ไม่มีไข้ ความดันปกติ เอกซเรย์ปอดแล้วมีแนวโน้มดีขึ้น ผลเพาะเชื้อตรวจไม่พบเชื้อ ผู้ป่วยตื่นรู้ตัวมากขึ้น พูดคุยโต้ตอบได้ดี สมองไม่มีปัญหา ช่วยตัวเองได้ ลุกนั่งได้เอง รับประทานได้เอง เขียนหนังสือได้เอง ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ไม่ต้องให้ยานอนหลับ,น้องบอสยังพูดขอบคุณทีมแพทย์และพยาบาลด้วย อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องสังเกตอาการหลังถอดท่อช่วยหายใจ และประเมินด้านต่างๆต่อไปอีกระยะหนึ่ง ถ้าวันนี้อาการภาพรวมของน้องบอสดีขึ้น อาจย้ายออกจากห้องไอซียูได้ และถ้าหากภาพรวมของน้องบอสดีขึ้นตามลำดับกลับคืนสู่สภาพปกติ คิดว่าได้พักฟื้นไม่เกิน 1 สัปดาห์ คงออกจากโรงพยาบาลกลับไปเรียนหนังสือต่อได้ นพ.ชุติเดชกล่าว,ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. นายอุกฤษณ์ มนูจันทรัถ ผอ.สำนักงานวิทยาเขตศรีราชา ม.เกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้นำเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี สาธารณสุขอำเภอศรีราชา และ รพ.แหลมฉบัง เข้าตรวจสภาพน้ำในบ่อและแหล่งที่มาของน้ำในบ่อที่นิสิตจมน้ำ ไว้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการรักษาและรายงานทางระบาดวิทยา ซึ่งแหล่งที่มาของน้ำในบ่อพักไหลลงมาจากภูเขาด้านหลังมหาวิทยาลัย ไหลมาตามท่อลงสู่บ่อน้ำ และปลาจำนวนมากในบ่อยังว่ายกันปกติ ส่วนที่มีปลาตาย 1-2 ตัว เกิดจากการน็อกน้ำ เพราะในช่วงนี้ฝนตกทุกวัน ปลาบางชนิดปรับตัวไม่ทันเกิดน็อกน้ำตาย ถือเป็นเรื่องปกติ จากนั้นพาไปดูตึกเคมีที่อยู่ใกล้บ่อน้ำ เพื่อดูระบบการจัดการของห้องปฏิบัติการเคมี ที่ไม่มีการปล่อยน้ำเสียลงสู่บ่อน้ำดังกล่าวเลย เพราะหากมีการทดลองทางเคมีของนิสิต สารเคมีต่างๆจะถูกจัดเก็บในถังภาชนะอย่างดี จากนั้นจะมีบริษัทมารับไปกำจัดอย่างถูกต้อง ยืนยันว่าไม่มีสารเคมีชนิดใดรั่วไหลลงสู่บ่อน้ำแน่นอน,วันเดียวกัน ที่โรงแรมเอบีน่าเฮ้าส์ กรุงเทพฯ นายอัมพร ทองเนื้อขาว พ่อน้องบอส กล่าวในเวทีเสวนา รับน้องไม่สร้างสรรค์ และ กิจกรรมเสี่ยง นศ.ถึงเวลายาแรงหรือยัง? จัดโดยเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ มูลนิธิเยาวชนพอเพียงเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและมูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา ว่า ขณะนี้อาการลูกชายดีขึ้นเป็นที่น่าพอใจ ลุกนั่งและยิ้มได้ แต่ยังพูดไม่ได้ และอยู่ในห้องไอซียู แพทย์ยังคงเฝ้าระวังอาการติดเชื้อทางปอดและสมอง เนื่องจากจมน้ำหายไป 2 นาที แต่คิดว่าอีกไม่กี่วันคงกลับมาเรียนได้ตามปกติ หากหายปกติครอบครัวคงไม่ติดใจเอาผิดทางกฎหมายกับใคร โดยเฉพาะนักศึกษารุ่นพี่ที่สั่งให้ลูกชายลงไปในบ่อน้ำ ตนได้พบเจอรุ่นพี่บ้างแล้ว ต่างอยู่ในอาการเศร้าเสียใจ และยังไม่ได้พูดคุยอะไรกัน,นายอัมพรกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยระบุว่า ไม่ใช่กิจกรรมรับน้องและลูกชายลงไปล้างตัวในบ่อน้ำนั้น คิดว่าผู้ใหญ่ควรพูดความจริง การจัดกิจกรรมช่วงเปิดเทอมเป็นที่รู้กันว่าเป็นกิจกรรมอะไร และใช้ภาษาเบี่ยงเบนได้ ทั้งที่ก็คือเรื่องเดียวกัน อยากให้เหตุการณ์ของลูกชายเป็นกรณีสุดท้าย โดยในวันที่ 16 ก.ย. จะไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้กำหนดนโยบายและมาตรการที่ชัดเจนเกี่ยวกับการรับน้องที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์,ด้านนายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กล่าวว่า เครือข่ายเยาวชนฯได้สำรวจความคิดเห็นนักศึกษาปี 1-4 จำนวน 1,215 ราย ต่อสถานการณ์การรับน้อง ระหว่างวันที่ 15-30 ส.ค.2559 พบว่า ร้อยละ 45.75 มองว่ากิจกรรมรับน้องยังอยู่ในเกณฑ์ดี สร้างสรรค์ ร้อยละ 18.44 เห็นว่าไม่เกิดประโยชน์กับนักศึกษา ขณะที่ร้อยละ 10.37 อยากให้แก้ไขเร่งด่วนเพราะเป็นปัญหาอย่างมาก สำหรับพฤติกรรมที่น่าห่วงมากที่สุดคือ รุ่นพี่บังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำและก่อให้เกิดความอับอาย รองลงมา การบังคับให้รุ่นน้องเข้าร่วมกิจกรรม, การใช้ถ้อยคำหยาบคาย ล่อแหลม บังคับข่มขู่ และหลอกล่อให้ดื่มสุรา สูบบุหรี่ หรือใช้สารเสพติด ขณะเดียวกันกว่า 1 ใน 3 มองว่า ปัญหาสำคัญมาจากทัศนคติของรุ่นพี่ที่สืบทอดกันมา รวมถึงสถานศึกษาไม่มีระบบควบคุม และการมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ร้อยละ 89.30 ต้องการให้สถาบันมีบทลงโทษที่ชัดเจนหากเกิดเหตุรุนแรงขึ้น,ขณะที่ นายเตชาติ์ มีชัย ฝ่ายกฎหมายมูลนิธิเยาวชนพอเพียงเพื่อการพัฒนากล่าวว่า กรณีน้องบอสถือว่ามีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 300 และมาตรา 309 เข้าข่ายบังคับข่มขืนให้กระทำการใดๆ ที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย หลังจากนี้คงต้องรอผลตรวจทางการแพทย์และพยานหลักฐาน พยานแวดล้อมต่างๆเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง ซึ่งโทษที่จะได้รับอาจจะแตกต่างออกไป มหาวิทยาลัย ผู้บริหาร อาจารย์ถือว่ามีความผิด ตกเป็นจำเลยร่วมมีโทษทางวินัยและอาญา หากข้อเท็จจริงปรากฏว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด หากผู้เสียหายต้องการเอาผิด ทนายความของมูลนิธิฯ ยินดีให้คำปรึกษาและดำเนินคดี รวมถึงการรับน้องโหดในรายอื่นๆด้วย,นายเอ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี เยาวชนจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก กล่าวว่า สมัยที่เรียนอาชีวะแห่งหนึ่ง เคยผ่านกิจกรรมรับน้องโหดโดยรุ่นพี่สั่งให้วิดพื้น นอนกลิ้งไปมา หมอบคลานกับพื้น ต้องทำหลังพักเที่ยงและเลิกเรียนจนครบ 1 เทอม ที่รุนแรงที่สุดคือบังคับให้ดื่มเหล้า โดนรุ่นพี่กรอกเข้าปากจนเมาไม่ได้สติ และให้ยืนเกาะกลุ่มกันแล้วรุ่นพี่ใช้เท้าถีบ ตบ เตะ จนเพื่อนหลายคนล้มไปนอนกองกับพื้น อีกทั้งยังใช้คำพูดหยาบคาย ข่มขู่ จึงอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ออกมาตรการควบคุมอย่างจริงจัง ควรนำบทเรียนที่เกิดขึ้นมาใช้ในการจัดระเบียบการรับน้องให้ได้ ที่สำคัญหากมีการกระทำที่ผิดกฎหมายก็ไม่ควรช่วยกันปกปิด,วันเดียวกัน นางฉัตรสุดา จันทร์ดียิ่ง กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวถึงกรณีน้องบอสจมน้ำว่า กสม.เคยเชิญผู้บริหารสถาบันการศึกษาที่ถูกร้องเรียนเข้าประชุม เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหา กสม.มีความห่วงใยต่อกิจกรรมที่มีลักษณะสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน จึงขอเสนอแนะต่อสถาบันการศึกษา ควรให้ความสำคัญต่อการจัดกิจกรรมต่างๆของนักศึกษา โดยมุ่งเน้นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ และต้องจัดให้มีการประชุมซักซ้อมความเข้าใจกับนักศึกษา ให้ทราบถึงข้อควรปฏิบัติหรือข้อที่ไม่ควรปฏิบัติในการจัดกิจกรรมต่างๆ พร้อมทั้งชี้แจงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสถาบันการศึกษาและตัวนักศึกษาเอง,การพิจารณาอนุญาตให้จัดกิจกรรมใดๆ สถาบันควรพิจารณาในรายละเอียดของกิจกรรมว่าเป็นกิจกรรมที่นำไปสู่จุดมุ่งหมายตามที่สถาบันการศึกษาต้องการจริงหรือไม่ และทุกครั้งต้องมีอาจารย์ที่ปรึกษาดูแลอย่างใกล้ชิด สามารถตัดสินใจในเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด รวมถึงควรตรวจสอบและติดตามการทำกิจกรรม เพื่อป้องกันมิให้เกิดการละเมิดสิทธินักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรม หากปรากฏมีการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิ หรือการกระทำผิดกฎหมาย สถาบันการศึกษาต้องพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย นางฉัตรสุดากล่าว,ด้าน น.ส.อาภรณ์ แก่นวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพอุดมศึกษา (สพน.) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปดูงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับข้อดีข้อเสียของกิจกรรมรับน้อง เพื่อวางกรอบการจัดกิจกรรมที่เหมาะสม เสนอให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) พิจารณาปรับแก้ ไม่ให้เกิดปัญหารับน้องที่เกิดความรุนแรงขึ้นอีกในอนาคต ส่วนกรณีนิสิต ปี 1 คณะพาณิชยนาวีนานาชาติ ม.เกษตรฯ วิทยาเขตศรีราชา สกอ.คงไม่ต้องตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงเพราะมหาวิทยาลัยดำเนินการอยู่แล้ว และรักษาการแทนอธิการบดี มก.ออกมาบอกว่าจะรับผิดชอบดูแลทุกอย่าง
ครอบครัวยิ้มออก หลังอาการ น้องบอส นิสิตปี 1 คณะ พาณิชยนาวี ม.เกษตรฯ ศรีราชา เริ่มดีขึ้น แพทย์ระบุ ลุกนั่ง กินข้าว และหายใจได้เอง ไม่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และปอดไม่ติดเชื้อ ขอดูอาการอีกระยะ ก่อนให้กลับไปเรียนหนังสือ
ข่าวหน้า1,รับน้องโหด,น้องบอส,โชคชัย ทองเนื้อขาว,มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา,ชุติเดช ตาบองครักษ์,อัมพร ทองเนื้อขาว
https://www.thairath.co.th/content/722048
[ 0, 259, 195634, 260, 194284, 39322, 230377, 259, 20648, 6581, 48898, 4215, 219881, 259, 80267, 259, 52973, 160960, 4552, 259 ]
รับฝากบ้าน สงกรานต์
พงศพัศขอลุยคุมเอง พร้อมดูแลทั่วประเทศ,พงศพัศ ยืนยันทุกพื้นที่ทั่วประเทศพร้อมลุยโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2559 ใช้แอพพลิเคชั่นไลน์และแผนที่กูเกิล เป็นเครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลั่นนั่งหัวโต๊ะสั่งการทั่วประเทศด้วยตนเองที่ ศปก. ตร.ทุกวัน จนกว่าเจ้าของบ้านหลังสุดท้ายจะกลับถึงบ้าน,เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 เม.ย. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล รอง ผบก.น.4 เดินทางมาตรวจความพร้อม โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมี พ.ต.อ.ชัยรพ จุณณวัตต์ ผกก.สน.โชคชัย บรรยายสรุปแผนมาตรการการเฝ้าระวังในพื้นที่รับผิดชอบ ระหว่างนั้นมี น.ส.ภัทรภัสส์ ภัทรศิลป์วีรกุล อายุ 34 ปี เจ้าของสตูดิโอคอร์สโยคะ เดินทางมาลงทะเบียนขอเข้าร่วมโครงการเป็นรายแรก น.ส.ภัทรภัสส์ กล่าวว่า ตนเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในเขตพื้นที่สน.โชคชัยได้ประมาณ 6 เดือน ได้ยินเพื่อนๆและคนที่อยู่ใกล้เคียงพูดให้ฟังถึงโครงการดังกล่าว จึงอยากเข้าร่วมด้วย เนื่องจากจะเดินทางไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดในช่วงสงกรานต์ มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลบ้านและทรัพย์สินได้อย่างแน่นอน,ด้าน พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจในทุกพื้นที่ทั่วประเทศระหว่างวันที่ 12-18 เม.ย. รวม 7 วัน เปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนที่เดินทางไปพักผ่อนท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลเมื่อต้องปิดบ้านโดยไม่มีคนเฝ้า ทุกบ้านสามารถเข้าร่วมโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจได้ในทุกพื้นที่ ตำรวจจะกำหนดมาตรการในการเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะการโจรกรรมทรัพย์สิน ในเคหสถานและขอความร่วมมือจากเพื่อนบ้านในการเข้ามามีส่วนร่วมดำเนินการด้วย การเข้าร่วมโครงการเจ้าของบ้านสามารถโทรศัพท์ไปยังสถานีตำรวจท้องที่ที่รับผิดชอบ แสดงความจำนงโดยไม่ต้องเดินทางไปสถานีตำรวจและไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทุกสถานีตำรวจจะนำข้อมูลที่ได้รับมากำหนดเป็นมาตรการเฝ้าระวัง เพื่อให้บ้านที่เข้าร่วมโครงการได้รับความปลอดภัยสูงสุด โดยใช้แอพพลิเคชั่นไลน์และแผนที่กูเกิล ระบุพิกัดบ้าน เป็นเครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน รวมทั้งการติดต่อสื่อสารสองทางกับเจ้าของบ้าน เพื่อให้เจ้าของบ้านแต่ละหลังได้รับทราบถึงผลการดำเนินงานของตำรวจสายตรวจ และคลายความกังวลในระหว่างที่เดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนในช่วงเทศกาล,พล.ต.อ.พงศพัศเผยต่อว่า สำหรับการดูแลโครงการนี้ทั่วประเทศ จะใช้ ศปก.ตร. เป็นจุดศูนย์กลางในการสั่งการทั่วประเทศ มีการติดตามสถานการณ์ทุกวัน โดยตนจะนั่งหัวโต๊ะสั่งการจนกว่าเจ้าของบ้านหลังสุดท้ายจะกลับมาถึงบ้าน โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ เริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 เป็น ระยะเวลา 15 ปี ได้รับความสำเร็จเป็นรูปธรรม ประชาชน ให้ความไว้วางใจเป็นอย่างดี มีผู้สนใจเข้ารวมโครงการเพิ่มขึ้นทุกปี เป็นโครงการที่ไม่ต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมแต่อย่างใด เพียงแต่ใช้ความเข้มข้นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มมากขึ้น ในอนาคต อยากให้โครงการดังกล่าวดำเนินการต่อไปนานๆ,ต่อมา พล.ต.อ.พงศพัศได้เดินทางไปตรวจสอบความเรียบร้อยที่บ้านเลขที่ 62 หมู่บ้านอมรพันธ์ ถนนสตรีวิทยา 2 แยก 10 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.สาวิตรี สามิภักดิ์ หรือต่อง ดารานักแสดงชื่อดัง ซึ่งเคยมีประสบการณ์ถูกขโมยกวาดทรัพย์สินจนเกลี้ยงบ้าน จึงเข้าร่วมโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ในช่วงเทศกาลทุกปี น.ส.สาวิตรี กล่าวว่า เข้าโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจแล้วอุ่นใจ มีตำรวจมาตรวจที่บ้านตามเวลาตลอด มีการพูดคุยส่งภาพผ่านไลน์ ทำให้รู้ว่ามีตำรวจมาตรวจจริงๆ ไม่ใช่แค่เข้าร่วมโครงการเพียงอย่างเดียว ชาวบ้านในซอยก็สบายใจที่มีสายตรวจเข้ามาตรวจสอบเป็นระยะ ถึงแม้บางบ้านจะไม่ได้เข้าร่วมโครงการก็ยังรู้สึกอุ่นใจไปด้วย,สำหรับสถิติการรับฝากบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์เมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา มีประชาชนเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 4,634 หลัง เป็นบ้านในเขต กทม. 1,497 หลัง จังหวัดในเขตปริมณฑลซึ่งครอบคลุมพื้นที่ บช.ภ.1 ,2 และ 7 รวม 1,274 หลัง และในต่างจังหวัดอีก 1,864 หลัง ในพื้นที่ สน.โชคชัย รับฝากบ้านไว้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เมื่อปีที่ 2558 มากที่สุด 61 หลัง ส่วนพื้นที่รองลงไป 10 ลำดับ ได้แก่ สน.พระโขนง 57 หลัง สน.ท่าข้าม 47 หลัง สน.ลาดพร้าว 43 หลัง สน.พหลโยธิน 40 หลัง สน.คลองตัน 38 หลัง สน.บางนา 38 หลัง สน.หัวหมาก 38 หลัง สน.โคกคราม 36 หลัง สน.บางเขน 36 หลัง และ สน.ดอนเมือง 35 หลังส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ฝากบ้านไว้กับตำรวจมากที่สุด ได้แก่พื้นที่ บช.ภ.1 จำนวน 699 หลัง รองลงมาได้แก่ บช.ภ.3 จำนวน 530 หลัง บช.ภ.4 จำนวน 418 หลัง บช.ภ.6 จำนวน 407 หลัง บช.ภ.2 จำนวน 368 หลัง บช.ภ. 5 จำนวน 301 หลัง บช.ภ.7 จำนวน 207 หลัง บช.ภ.8 จำนวน 141 หลัง บช.ภ.9 จำนวน 63 หลัง และ บช.ศชต.จำนวน 4 หลัง
พงศพัศ ยืนยันทุกพื้นที่ทั่วประเทศพร้อมลุยโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2559 ใช้แอพพลิเคชั่นไลน์และแผนที่กูเกิล เป็นเครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ข่าวหน้า1,พงศพัศ พงษ์เจริญ,ฝากบ้าน,เทศกาลสงกรานต์,แผนที่,กูเกิล,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/content/600322
[ 0, 259, 203061, 70851, 215441, 22065, 153155, 171414, 109370, 16053, 38860, 116216, 13999, 26116, 4395, 100233, 259, 73497, 188447, 156715 ]
วันปลอดถุงพลาสติกสากล วันร่วมใจลด ขยะพลาสติก
ผมเกือบจะลืมไปแล้วเชียวว่าวันนี้ (3 ก.ค.) เป็น วันปลอดถุงพลาสติกสากล ที่ทุกๆ ประเทศทั่วโลกจะพร้อมใจกันงดใช้ถุงพลาสติก 1 วัน และหากสามารถทำได้ก็จะงดใช้ตลอดไป เพื่อบรรเทาปัญหาขยะพลาสติก ซึ่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่ของโลกในขณะนี้,ต้องขอขอบคุณฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่ทำให้นึกขึ้นมาได้จากจดหมายข่าว หรือข่าวแจกที่ส่งมาให้ผมเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้เอง,เดอะมอลล์ กรุ๊ป แจ้งว่า เนื่องในวันที่ 3 กรกฎาคม ซึ่งเป็น วันปลอดถุงพลาสติกสากล ที่จะเวียนมาถึงนี้ ทุกห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์ ขอร่วมในการงดใช้ถุงพลาสติกตลอดทั้งวัน และขอถือเป็นฤกษ์ดีที่จะประกาศว่า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ใครที่ขอถุงพลาสติกจากห้างในเครือจะโดนคิดเงินถุงละ 1 บาททุกๆถุง,เจตนารมณ์ก็เพื่อสร้างจิตสำนึกในการลดการใช้ถุงพลาสติก ซึ่งทางห้างก็จะนำเงินแต่ละบาทที่ได้จากการใช้ถุงพลาสติกไปมอบให้แก่องค์กร WWF เพื่อใช้ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่อไป,คำว่าห้างในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป นั้น ในข่าวที่แจกมาระบุว่า หมายถึงห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ทุกสาขา, ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์, พารากอนดีพาร์ทเม้นสโตร์, บลูพอร์ตหัวหิน และกรู์เมต์ มาร์เกตทุกสาขา,ผมอ่านแล้วก็อุทานคำว่า อนุโมทนา สาธุ และขออนุญาตนำข่าวแจกนี้มาเขียนขยายความให้อีกทางหนึ่งด้วยความขอบคุณแนวคิดของกลุ่มเดอะมอลล์เป็นอย่างยิ่ง,อาจกล่าวได้ว่า เดอะมอลล์ กรุ๊ป เป็นห้างสรรพสินค้าแรกสุดในประเทศไทยที่ประกาศเก็บค่าถุงพลาสติกในทุกถุงที่จะมีการใช้ นับแต่นี้เป็นต้นไป โดยมิได้มีจุดมุ่งหมายที่จะหากำไรเพิ่ม แต่เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกให้ลูกค้าลดการใช้พลาสติกลง,นอกจากเดอะมอลล์ กรุ๊ป แล้ว บริษัทซีพีออลล์ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ก็ร่วมรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก มานานพอสมควร โดยมีรูป ตูน บอดี้สแลม เป็นพรีเซนเตอร์ ยืนชักชวนอยู่ตามหน้าร้านทุกร้าน,พร้อมกับย้ำว่า ทุกค่าถุงพลาสติกที่ลดลง ซีพีออลล์จะนำไปบริจาคให้โรงพยาบาลต่างๆ พร้อมกับขึ้นยอดเงินสะสมให้ดูที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน ซึ่งผมจำไม่ได้แล้วว่ากี่ล้านบาท แต่รู้สึกว่าจะมากโขอยู่ทีเดียว,ห้างอื่นๆนอกจากนี้ก็มี บิ๊กซี, เทสโก้ โลตัส, รวมทั้งในเครือ เซ็นทรัล และ สยามพิวรรธน์ ฯลฯ ที่มีการรณรงค์ในรูปแบบต่างๆมาโดยตลอด,ต้องขอขอบคุณทุกๆห้าง ทุกๆร้านสะดวกซื้อ และซุปเปอร์มาร์เกตต่างๆที่มีการรณรงค์อย่างกว้างขวาง เพราะมาถึงนาทีนี้ ไม่ร่วมมือกันลดถุงพลาสติกอย่างจริงจังเห็นจะไม่ได้เสียแล้ว,เพราะคนไทยเราสร้างขยะพลาสติกถึงปีละ 2 ล้านตัน คิดเฉลี่ยแล้วแต่ละคนจะช่วยกันสร้างขยะเป็นถุงพลาสติกถึง 8-10 ใบต่อวัน,พลาสติกเป็นวัสดุที่ทำลายได้ยากมาก เพราะอยู่ได้เป็นร้อยๆปี เอาไปฝังก็ต้องใช้เนื้อที่มหาศาล เอาไปเผาก็ไม่ได้ เพราะมีสารพิษที่เป็นอันตรายสูดควันแล้วก็เป็นผลร้ายต่อร่างกายและชีวิตของมนุษย์,ทุกวันนี้มีขยะพลาสติกที่ทำลายไม่ได้ถูกทิ้งลงทะเล ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจจำนวนมหาศาล ประมาณถึง 8 หรือ 9 ล้านตันในแต่ละปี ในท้องทะเลและมหาสมุทรทั่วโลก รวมแล้วเท่ากับเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดยักษ์ถึง 48 หรือ 50 ลำเลยทีเดียว,สำหรับในทะเลบ้านเรา ผมจำไม่ได้แล้วว่ามีปริมาณขยะพลาสติกมากน้อยเท่าใด? แต่จำได้ว่าของเราติดอยู่ในอันดับค่อนข้างสูง คืออันดับที่ 6 ของโลก อันเป็นอันดับโลกที่ไม่พึงปรารถนาอย่างยิ่ง,จึงไม่แปลกที่เราจะได้ยินข่าวเศร้าๆว่า สัตว์ทะเลจำนวนมาก เช่น นกทะเล เต่าทะเล ปลาวาฬ ฯลฯ ต้องตายเพราะเผลอกินขยะพลาสติกเข้าไปและไม่ย่อยสลาย จนเป็นเหตุให้ต้องตายอย่างน่าเสียดาย,ผมจึงเห็นด้วยกับการรณรงค์ของเดอะมอลล์ กรุ๊ป และของทุกห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศไทย ที่จะใช้วันนี้ ซึ่งเป็น วันปลอดถุงพลาสติกสากล ในการเริ่มต้นของการรณรงค์อย่างจริงจัง,แต่งดหรือลดเพียงวันนี้วันเดียวคงไม่พอ ต้องทำอย่างต่อเนื่องไปทุกๆวันอีกยาวนานจนกว่าปัญหาขยะพลาสติกของโลกจะเบาลง,ผมเชื่อว่ายังอีกนานเพราะคนเห็นแก่ตัวที่ไม่เคยคิดถึงปัญหาของโลกมีอยู่ล้นโลกแล้วในขณะนี้ ทำแบบไฟไหม้ฟางปีละไม่กี่วันอย่างที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ไม่มีทางแก้ปัญหาได้สำเร็จหรอกรับ.,ซูม
ผมเกือบจะลืมไปแล้วเชียวว่าวันนี้ (3 ก.ค.) เป็น วันปลอดถุงพลาสติกสากล ที่ทุกๆประเทศทั่วโลกจะพร้อมใจกันงดใช้ถุงพลาสติก 1 วัน และหากสามารถทำได้ก็จะงดใช้ตลอดไป เพื่อบรรเทาปัญหาขยะพลาสติก
วันปลอดถุงพลาสติกสากล,ถุงพลาสติก,ขยะพลาสติก,งดใช้ถุงพลาสติก,ขยะ,เหะหะพาที,ซูม
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1604983
[ 0, 259, 140942, 213107, 171661, 259, 233267, 259, 60708, 6582, 22065, 175198, 211151, 9211, 15981, 2361, 212999, 6494, 5095, 6088 ]
ย้อนค่าโง่พันล้านซื้อเครื่องตรวจระเบิด GT200 อ.จุฬา ลั่น ไม่เคยมีใครขอโทษผม
ยังจำเหตุการณ์นี้กันได้อยู่มั้ย?,10 กว่าปีที่ผ่านมา หน่วยงานรัฐของไทย เคยเสีย ค่าโง่ หรือที่ ดร.วิษณุ เครืองาม พยายามจะเปลี่ยนให้ใช้คำว่า ค่าซื้อความรู้ที่แพงไปหน่อย เป็นจำนวนเงินมหาศาลนับพันล้านบาท ในการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดทั้ง 2 รุ่น คือ GT200 และ ALPHA6 ที่สุดท้ายก็ต้องสูญเปล่า แต่ปัจจุบันกลับยังไม่มี ใคร ที่จะมารับผิดชอบเรื่องนี้เลยสักคน ขณะที่ ศาลอังกฤษพิพากษาจำคุก ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องตรวจจับระเบิดปลอม พร้อมสั่งยึดทรัพย์กว่า 400 ล้านบาทไปเมื่อปี 56 แล้ว,ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ศาลไทยยกฟ้องบริษัท แจ็คสันฯ ผู้แทนจำหน่าย ALPHA6 ในประเทศไทย ด้วยเหตุที่ว่า , ส่วนเรื่อง GT200 ยังเงียบ,ย้อนไทม์ไลน์ เครื่องตรวจระเบิด GT200 สุดท้าย แค่ไม้ล้างป่าช้า,เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด หรือที่คนไทยคุ้นเคยกับชื่อเรียก GT200 (จีที 200) ประกอบไปด้วย 3 ส่วน คือ เสาอากาศที่ติดกับตัวที่จับ ซึ่งทำจากพลาสติก และช่องใส่การ์ดเพื่อเลือกชนิดสสารที่จะตรวจจับ ซึ่งเครื่องจะทำงานก็ต่อเมื่อผู้ใช้เริ่มต้นเดินค้นหา และไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ ไม่มีแหล่งจ่ายไฟ แต่จะใช้ไฟฟ้าสถิตจากผู้ใช้ ตัวเครื่องมีอายุการใช้งาน 15 ปี,ทั้งนี้ GT200 มีคุณสมบัติในการแยกสารทั้ง สารประกอบระเบิด และ สารเสพติด โดยจะใช้การ์ดในการตรวจแยกสาร นอกจากนี้ GT200 ยังสามารถชี้จุดในวงกว้างให้แคบลงได้ในระยะใกล้-ไกล ตรวจบนบกรัศมี 700 เมตร ส่วนในอากาศ และในน้ำจะตรวจได้รัศมีเพิ่มขึ้นมาอีก,สำหรับเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด GT200 เริ่มต้นวางจำหน่ายในปี 2544 โดยมีผู้ผลิตและจำหน่ายคือ บริษัท โกลบอล เทคนิคัล จำกัด ของอังกฤษ ที่มี นายแกรี่ โบลตัน เป็นเจ้าของ โดยเครื่อง GT200 นี้ขายดิบขายดีในประเทศที่กำลังพัฒนาอย่าง ไทย เม็กซิโก ตะวันออกกลาง และ แอฟริกา ต่อมา ได้มีบริษัทอังกฤษอีก 2 แห่ง ขายเครื่องมือที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน ทั้ง ADE-651 ของบริษัท เอทีเอสซี จำกัด ที่มี นายเจมส์ แม็คคอร์มิค เป็นเจ้าของ และ ALPHA6 ของบริษัท คอมสแตร็กซ์ จำกัด,ในประเทศไทยได้เริ่มนำ GT200 เข้ามาใช้จากหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดของกองทัพอากาศ ที่นำมาใช้ที่สนามบินบ่อทอง จ.ปัตตานี โดยอีโอดีของกองทัพบกเล็งเห็นว่ามีประสิทธิภาพดี จึงขอยืมมาทดสอบ ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จึงเสนอเรื่องให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.ในสมัยนั้น อนุมัติงบในการจัดซื้อ โดยได้จัดซื้อลอตแรกด้วยวิธีพิเศษตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรี ดำเนินการจัดซื้อเมื่อปี 2548 จำนวน 4 เครื่อง ในราคาเครื่องละ 1.4 ล้านบาท (รวมการ์ด 20 ใบ) จาก บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย,หลังจากนั้น หน่วยงานรัฐต่างๆ ได้จัดซื้อ GT200 มาใช้งาน เพราะเห็นว่า ทอ.นำมาใช้ตรวจอาวุธ กระสุน วัตถุระเบิดในสามจังหวัดชายแดนใต้หลายครั้ง และได้ผลดีจนเป็นที่เชื่อมั่นของหลายหน่วยงาน จึงจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษจาก บริษัท โกลบอลฯ โดยตรง หรือผ่าน บริษัท เอวิเอ แซทคอม ที่เป็นนายหน้าให้ บริษัท โกลบอลฯ เพื่อนำไปใช้ในการตรวจวัตถุต้องสงสัย หรือยาเสพติด,ทำให้ในระหว่างปี 2548-2553 หน่วยงานต่างๆ ในประเทศไทย จัดซื้อเครื่อง GT200 และ ALPHA6 มาใช้ทั้งสิ้น 1,354 เครื่อง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,135 ล้านบาท,กระทั่งเมื่อปลายปี 52 เกิดเหตุคาร์บอมบ์ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส แต่เครื่อง GT200 กลับใช้งานไม่ได้ผล ต่อมาเกิดเหตุระเบิดที่ตลาดสดรถไฟ จ.ยะลา GT200 ก็ใช้งานไม่ได้ผลเช่นเดียวกัน,จากความผิดพลาดในการใช้งาน GT200 หลายครั้ง ทำให้เกิดข้อสงสัยของคนในสังคม ถึงประสิทธิภาพของเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด GT200 จนนำไปสู่การเรียกร้องให้ตรวจสอบ พิสูจน์การทำงานของ GT200 ขึ้นมา,รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาตั้งข้อสงสัยของเครื่อง GT200 โดยเชื่อว่า เครื่องมือนี้ไม่ต่างอะไรกับ ,ไม้ล้างป่าช้า, เพราะไม่มีหลักการวิทยาศาสตร์อะไรรองรับในการทำงาน,ย้อนวลี หมอพรทิพย์ การันตี GT200 ใช้ได้ผลจริง,ก่อนที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในสมัยนั้น จะออกมาโต้โดยมั่นใจว่าใช้ได้ผล ทำงานได้จริง ซึ่งการที่จะพิสูจน์ว่ามีระเบิดสถานที่ใดไม่อาจเชื่อเครื่องมือได้ตัวเดียว กองทัพต้องปรับปรุงเครื่องมือ แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะไปห้ามไม่ให้ใช้ในการป้องกันตัวเองไม่ให้ตกอยู่ในอันตราย มีอะไรให้เจ้าหน้าที่เชื่อมั่นได้ก็ยังดีกว่าไม่มี, พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว,กต.อังกฤษ ตีข่าว เตือนทุกประเทศ GT200 ไร้ประสิทธิภาพ,ต่อมา สื่ออังกฤษออกมารายงานว่า กระทรวงต่างประเทศอังกฤษประกาศรีบส่งคำเตือนเร่งด่วนไปยังรัฐบาลทุกประเทศที่อาจซื้อเครื่องมือตรวจระเบิดอย่าง ADE-651 และ GT200 ไปใช้ โดยระบุว่า ,ไร้ประสิทธิภาพอย่างสิ้นเชิง, ในการตรวจหาระเบิด,จากนั้น ,เนคเทค เผย เป็นไปไม่ได้ GT200 ใช้พลังงานจากไฟฟ้าสถิต,ขณะเดียวกัน ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ในตำแหน่ง ผอ.เนคเทค ขณะนั้น เผยว่า GT200 ยังมีข้อสงสัยอยู่หลายจุด โดยเฉพาะแหล่งพลังงานที่จ่ายให้กับตัวเครื่อง GT200 ซึ่งบริษัทผู้ผลิตให้ข้อมูลว่า ใช้แหล่งพลังงานจากไฟฟ้าสถิต, ,ดร.พันธ์ศักดิ์ ระบุ,บ.ตัวแทนจำหน่าย โต้ สินค้ามีคุณภาพ โปร่งใส กำไรแค่ 10%,ด้าน นายขจรศักดิ์ วัฒนากูร ผอ.บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด GT200 ในประเทศไทย ออกมายืนยันว่า บริษัททำงานอย่างโปร่งใส ได้รับความเชื่อถือจากหน่วยราชการ เพราะดำเนินกิจการมา 17 ปี ขายสินค้ามีคุณภาพ ไม่เคยมีประวัติไม่ดี หรือไปต้มตุ๋นหลอกลวง โดยเฉพาะเครื่อง GT200 ยืนยันว่าต้นทุนการผลิตไม่ใช่แค่ 1,000 บาท,ส่วนเหตุที่ราคาต่างจากประเทศอังกฤษที่จำหน่ายเพียง 200,000 บาท แต่มาถึงไทยกลับขายให้กองทัพในราคา 1,400,000 บาท นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า,อภิสิทธ์ ตั้ง ก.วิทย์ตรวจสอบ เผยผลไม่ต่างจากการสุ่ม สั่งระงับซื้อทันที,หลังจากที่มีการตั้งข้อสังเกตจนนำไปสู่การถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น ได้มอบให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ โดยมีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.กระทรวงวิทย์ฯ เป็นประธานคณะทำงานตรวจสอบ GT200 โดยเป็นการทดลองด้วยการนำเอาวัตถุระเบิดใส่ในกล่อง มีกล่องเปล่าอีก 3 กล่อง รวมทั้งหมด 4 กล่อง เอาไว้ในห้องที่ทำการทดลองพื้นที่ความกว้าง 50x50 ตารางเมตร แล้วให้คนใช้อุปกรณ์ GT200 มาชี้กล่องว่าวัตถุระเบิดอยู่ในกล่องไหน,บิ๊กป๊อก ตั้งโต๊ะถ่ายสด อ้างประสบการณ์ GT200 ใช้ได้จริง,ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.สมัยนั้นที่มีการจัดซื้อ GT200 มากที่สุด ถึงขนาดต้องออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าว ถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 โดยนำผู้เกี่ยวข้องมายืนยันในความเชื่อมั่นต่อ GT200 โดยอ้างประสบการณ์จากการใช้งานของเจ้าหน้าที่, ,พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว,อ.จุฬาฯ ชำแหละ GT200 พบ พลาสติกกับเศษกระดาษ เสาหมุนได้เกิดจากแรงเฉื่อย,ต่อมา รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นำเครื่อง GT200 ที่ได้มาจาก พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานที่ปรึกษากองทัพไทย ซึ่งได้รับมาจากทางภาคเอกชนอีกต่อหนึ่ง , รศ.ดร.เจษฎา กล่าว,แม้ประเทศไทยจะยกเลิกการจัดซื้อ GT200 และ ALPHA6 ไปตั้งแต่ปี 2553 แต่ใครล่ะ? จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณที่สูญเสียให้กับ ไม้ไล่ผี มากกว่า 1,135 ล้านบาท ที่สำคัญที่สุดคือ ชีวิตของผู้บริสุทธ์ที่ต้องมารับกรรม และเจ้าหน้าที่ผู้ เชื่อมั่น อย่างเต็มที่ว่าเครื่องมือมีประสิทธิภาพมากพอ,ศาลอังกฤษ จำคุกผู้ผลิต-จำหน่าย สั่งยึดทรัพย์กว่า 400 ล้านบาท,สำหรับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทางฝั่งของต่างประเทศ ในปี 2556 ศาลอาญากลางโอลด์เบลเลย์ ประเทศอังกฤษ มีคำพิพากษาตัดสินจำคุก นายเจมส์ แม็คคอร์มิค ผู้ก่อตั้งบริษัทเอทีเอสซีฯ เป็นเวลา 10 ปี และยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 7.9 ล้านปอนด์ หรือ 395 ล้านบาท เพื่อชดเชยให้ผู้เสียหาย ส่วน นายโบลตัน ผู้ก่อตั้งบริษัทโกลบอลฯ ตัดสินจำคุกเป็นเวลา 7 ปี ในความผิดฐานฉ้อโกง จากการขายเครื่องตรวจวัตถุระเบิดปลอม ซึ่งรวมไปถึง GT200 ให้กับรัฐบาลประเทศต่างๆ รวมถึงไทย, ,ทั้งนี้ อุปกรณ์ตรวจหาวัตถุระเบิดที่ผลิตโดยบริษัทของนายแม็คคอร์มิค ถูกขายออกไปในชื่อต่างๆ เช่น GT200 ALPHA6 ADE+651 AL-6D โดยอ้างสรรพคุณผ่านแผ่นพับว่า สามารถค้นหาวัตถุระเบิด ยาเสพติด งาช้าง หรือแม้แต่มนุษย์ได้จากระยะไกล โดยมีการคาดการณ์กันว่า ,ส่วนกรณีของ ,ดีเอสไอ ตรวจพบ 19 หน่วยงาน ซื้อ GT200 สูญกว่า 1,135 ล้านบาท,อย่างไรก็ตาม ในฝั่งของไทยเองนั้น นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ในสมัยนั้น สรุปผลสอบสวน 2 กรณี คือ 1. หน่วยงานรัฐจัดซื้อในราคาที่สูงเกินความจำเป็น มีราคาจัดซื้อที่แตกต่างกันมาก ตั้งแต่ 500,000-1,600,000 บาท เมื่อนำมาทดสอบ พบว่า เครื่อง GT200 และ ALPHA6 ไม่สามารถตรวจหาวัตถุระเบิดได้จริงในทุกสภาวะการทดสอบ,2. พบพฤติการณ์ของกลุ่มบริษัทที่เสนอขาย ที่ไม่น่าจะสุจริตในการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ โดยเครื่องทั้งสองรุ่น ผลิต และจัดจำหน่ายโดยบริษัท คอมสแตร็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของอังกฤษ และได้ตั้งบริษัท แจ็คสัน อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทน และผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ต่อมา บริษัท แจ็คสันฯ ได้ตั้งบริษัท ยูจีซี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และ บริษัท เปโตรกรุงเทพ จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายช่วงต่อในประเทศไทย แต่เมื่อมีการเปิดประมูลจัดซื้อจัดจ้าง ปรากฏว่า บริษัท แจ็คสันฯ ได้เข้าเสนอยื่นซองเสนอราคาแข่งขันกับบริษัท ยูจีซีฯ และ บริษัท เปโตร ซึ่งเป็นบริษัทลูก โดยการตรวจสอบ พบว่าบริษัทลูกทั้ง 2 แห่งได้เสนอราคาต่ำกว่าบริษัทแจ็คสันฯ,ทั้งนี้ จากข้อมูลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบว่า มีหน่วยงานรัฐที่จัดซื้อเครื่อง GT200 และ ALPHA6 จำนวน 19 หน่วยงาน สูญเงินมากกว่า 1,135 ล้านบาท ก่อนที่จะเรียกถกหน่วยงานดังกล่าวที่ถูกหลอกซื้อไม้ล่าผี ฟ้องร้องบริษัทแม่ผู้ผลิตที่อังกฤษ 1 แห่ง บริษัทตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย 2 แห่ง บริษัทตัวแทนจำหน่ายช่วงต่อในไทยอีก 4 แห่ง รวมเป็น 7 แห่ง ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง โดยเรียกค่าเสียหาย 683 ล้านบาท,ป.ป.ช.สรุป ฟันเจ้าหน้าที่รัฐ เอี่ยวซื้อ GT200,ต่อมา เมื่อเดือน มิ.ย. 2559 นายยงยุทธ มะลิทอง รองเลขาฯ ป.ป.ช. ระบุถึงความคืบหน้าคดีว่า ทั้ง 12 คดีที่ไต่สวนเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง GT200 จะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้ ยกเว้นคดีที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงสิ้นปี,ล่าสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่ก้าวขึ้นมาเป็น รมว.มหาดไทย ระบุว่า เรื่อง GT200 อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของ ป.ป.ช. ก็ต้องให้เป็นเรื่องของ ป.ป.ช. ว่าจะพิจารณาอย่างไร ทราบว่า ป.ป.ช.กำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่,อ.เจษฎา เล่าย้อนอดีต เปิดหน้าแฉ GT200 ลวงโลก,รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการร่วมตรวจสอบพิสูจน์ประสิทธิภาพของเครื่อง GT200 ได้เล่าย้อนอดีตนับ 10 ปี ไปในช่วงเวลานั้นว่า ตอนนั้นตนมีลูกศิษย์อยู่คนหนึ่ง และเขาเป็นสมาชิกในกลุ่ม หว้ากอ ของเว็บบอร์ดชื่อดังอย่าง พันทิป ซึ่งในกลุ่มเริ่มพูดถึงเครื่อง GT200 มาก่อนหน้านั้นแล้ว โดยมีความเห็นว่า เครื่องมือดังกล่าวน่าจะหลอกลวง หลังจากที่ลูกศิษย์ได้นำเอกสารสเปกเครื่องจากต่างประเทศมาให้ดู จึงรู้ว่าเป็นเครื่องมือที่ หลอกลวง อย่างแน่นอน จึงพยายามมาอธิบายให้สังคมได้รับรู้,ทั้งนี้ ประจวบเหมาะกับที่ สำนักข่าวบีบีซี ของประเทศอังกฤษ รายงานข่าวเกี่ยวกับเครื่องมือคล้ายกันแต่เป็นยี่ห้ออื่น ซึ่งใช้งานในประเทศอิรัก จึงกลายเป็นประเด็นกระแสของสังคมขึ้นมา ที่ไทยก็มีเครื่อง GT200 ก็น่าจะหลอกลวงเช่นเดียวกัน, นักวิทย์ชื่อดัง กล่าว,นักวิทย์ชื่อดัง เผย โดนกดดัน ร้องเรียนที่สถาบัน,รศ.ดร.เจษฎา เล่าต่อว่า ในตอนนั้นไม่ถึงขนาดข่มขู่ แต่เป็นในเชิงกระแสกดดันมากกว่า ที่ร้องเรียนเข้ามาที่จุฬาฯ ว่า ถ้าเรื่องนี้ที่ตนพูดไปผิด ทางจุฬาฯ ต้องเอาตนออกจากมหาวิทยาลัย ซึ่งทางจุฬาฯ ได้มีแถลงการณ์ว่า เป็นเรื่องของตน ทางสถาบันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย, อาจารย์ผู้โด่งดังจากการแฉ GT200 เล่าอย่างอารมณ์ดี,ไม่เคยมีใครขอโทษ หลังพิสูจน์แล้วเป็นเครื่องลวงโลก,ในฐานะคนที่เคยผ่าพิสูจน์เครื่อตรวจระเบิดลวงโลก เล่าต่อว่า ตนนั้นทราบตั้งแต่แรกแล้วว่า เครื่องหลอกลวง ตั้งแต่อ่านสเปกเครื่องว่า ข้างในนั้นไม่มีอะไรเลย พยายามพูดในสังคมก็ไม่มีใครเข้าใจ กระทั่ง พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ที่ได้ช่วยเหลือเรื่องนี้ ไปหาเครื่องจริงมา โดยตอนแรกนำไปเอกซเรย์ก่อน แต่ยังไม่ค่อยเห็นอะไร จนได้แกะเปิดดูก็ได้เห็นชัดเจนว่า ข้างในเครื่องไม่มีอะไรเลย มีเพียงกล่องพลาสติกเปล่าๆ และเป็นบานพับเท่านั้น จนในท้ายที่สุด ผลการตรวจสอบจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ ออกมาว่าเครื่อง GT200 กลายเป็นเครื่องลวงโลก รัฐบาลต้องระงับการซื้อทันที, ผู้ออกมาแฉเครื่องตรวจระเบิดลวงโลก ระบุ,ไขข้อสงสัย ทำไม GT200 แม่นยำ เจ้าหน้าที่เชื่อมั่น?,ถามว่า ทำไมในหลายครั้ง GT200 จึงใช้ได้ในพื้นที่ รศ.ดร.เจษฎา ตอบว่า มี 2 ปัจจัย คือ 1. การเดาค่อนข้างถูก เพราะเสาชี้ไปเรื่อยเปื่อย พอเข้าไปค้นดูก็เจอวัตถุต้องสงสัยจริงๆ 2. หากค้นแล้วไม่เจอ มักจะมีข้อแก้ต่างตามมา เช่น สารมีน้อยมาก ถูกเคลื่อยย้ายไปแล้ว หรือแม้แต่คำที่ชอบพูดกันว่า นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือ ใช้เครื่องได้ไม่แม่น แต่ว่าก็มีอีกหลายเคสที่เจ้าหน้าที่รู้อยู่แล้ว โดยมีสายข่าวแจ้งมา หรือจากประสบการณ์ที่มี พร้อมกับใช้เครื่องนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจมากขึ้น,มันก็เหมือนความเชื่อต่อๆ กันมาครับ พอคนแรกเชื่อคนต่อๆ ไปก็เชื่อ หรือพอใช้แล้วหาไม่เจอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ปล่อยผ่านไป แต่พอใช้แล้วหาเจอยิ่งทำให้ดีใจ เชื่อมั่นเข้าไปอีก, อาจารย์จุฬาฯ ผู้ออกมาแฉ GT200 อธิบาย,ส่วนเพราะเหตุใดเจ้าหน้าที่ถึงเชื่อมั่นในเครื่องมือนี้ ผู้สื่อข่าวตั้งคำถาม โดย รศ.ดร.เจษฎา อธิบายว่า ประการแรก เจ้าหน้าที่ถูกฝึกมาให้เชื่อผู้บังคับบัญชา ดังนั้น ถ้าผู้บังคับบัญชาบอกว่าเครื่องใช้ได้ เจ้าหน้าที่ต้องมีพื้นฐานความคิดที่ว่า เครื่องสามารถใช้งานได้ แม้ว่าจะรู้สึกแปลกๆ หรือรู้สึกว่าไม่แม่นยำก็ตาม,ส่วนประการที่สอง เป็นเรื่องทางจิตวิทยา เมื่อใช้งานแล้วบังเอิญสุ่มหาเจอ หรือยืนยันสิ่งที่สงสัยอยู่แล้วว่า บุคคลนี้น่าจะมีของผิดกฎหมาย แล้วปรากฏว่า เจอจริงๆ ก็ยิ่งเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น เหมือนกับเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ,ที่มาของคำว่า ไม้ล้างป่าช้า,สำหรับที่มาของคำว่า ไม้ล้างป่าช้า รศ.ดร.เจษฎา อธิบายว่า ในพิธีล้างป่าช้าที่ซินแสจะวิ่งๆ ไปแล้วเอาไม้ไปปักตามพื้น พอขุดไปก็เจอศพ ในพื้นที่ที่เป็นป่าช้า จะมีศพไร้ญาติถูกฝังอยู่จำนวนมาก ปักตรงไหนก็ขุดเจอ หลักการก็คล้ายกัน หากไปในพื้นที่ที่มียาเสพติดเยอะมาก ไปชี้ตรงไหนก็มีโอกาสเจอทั้งนั้น จึงนำมาเปรียบเทียบกัน, ,รศ.ดร.เจษฎา ผู้ออกมาแฉเครื่องตรวจระเบิดลวงโลก ฝากทิ้งท้าย,ผู้ผลิต ผู้ขาย GT200 ออกนอกตาราง,กับ ป.ป.ช.ไต่สวนคดีแล้วเสร็จ,เหตุการณ์ไหนจะเกิดขึ้นก่อน,???,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
10 กว่าปีที่ผ่านมา หน่วยงานรัฐของไทย เคยเสีย ค่าโง่ เป็นจำนวนเงินมหาศาลนับพันล้านบาท ในการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดทั้ง 2 รุ่น คือ GT200 และ ALPHA6 ที่สุดท้ายก็ต้องสูญเปล่า
สกู๊ปไทยรัฐ
จีที 200,GT 200,อัลฟ่า 6,เครื่องตรวจหาวัตถุระเบิด,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/scoop/1243402
[ 0, 259, 93927, 5037, 259, 97003, 11984, 259, 70851, 139891, 135078, 23000, 3983, 259, 127451, 1, 0, 0, 0, 0 ]
กดไลค์ให้เลย น้องแพร นร.อุบลฯเปิดหมวกร้องเพลงสุดเพราะ หาทุนการศึกษา (ชมคลิป)
ถูกอกถูกใจผู้คนในโลกออนไลน์จำนวนมาก สำหรับคลิปวิดีโอไวรัลที่โพสต์โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Panussabordee Som-za Nami เป็นคลิปเด็กนักเรียนหญิงสาวผมสั้น หน้าตาน่ารักคนหนึ่ง นั่งเปิดหมวกร้องเพลง หัวใจคนรอ ของศิลปิน ปิ่น The Star12 เพื่อหาทุนการศึกษาอย่างไพเราะ โดยผู้โพสต์ ได้ถ่ายคลิปนี้ที่ตลาดโต้รุ่งศรีเมืองอุบล จ.อุบลราชธานี ระบุข้อความว่า น้องหาทุนการศึกษา น่ารักมาก เสียงดีด้วย ไปTheVoiceเถอะลูก เด็กโรงเรียนนารีนุกูล,ล่าสุดผู้ชาวเน็ตแห่กดไลค์และแชร์คลิปนี้เกือบ 5,000 ครั้ง และมียอดผู้เข้าชมกว่า 300,000 ครั้ง หลายๆ คนที่ได้ชมนักเรียนสาวคนนี้ร้องเพลงต่างพากันประทับใจ และชื่นชมในเสียงร้องอันไพเราะของเธอจำนวนมาก,ด้านทีมข่าวสายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับนักเรียนสาวที่อยู่ในคลิปชื่อว่า น้องแพร หรือ นางสาวจิณัฐตา ประทุมพันธ์ วัย 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนารีนุกูล จังหวัดอุบลราชธานี เปิดใจว่า ตนเองไม่คิดว่าจะมีคนดูคลิปและชื่นชมเยอะขนาดนี้ โดยปกติจะไปเปิดหมวกร้องเพลงกับพี่สาว ที่ตลาดโต้รุ่งศรีเมืองอุบลเป็นประจำอยู่แล้ว ประมาณสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เพื่อหาทุนการศึกษา โดยเงินที่ได้มาจะนำมาให้แม่ ส่วนตัวเป็นคนชอบร้องเพลงและไม่เคยเรียนร้องมาก่อน คุณแม่จะเป็นคนพาเดินสายประกวดร้องเพลงตามงานและรายการต่างๆ ตั้งแต่ตนเองเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แล้ว สำหรับรางวัลใหญ่ที่เคยได้และภาคภูมิใจมากที่สุดคือ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 กิจกรรมแข่งขันขับร้องเพลงไทยลูกทุ่ง ประเภทหญิง งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ 65 ประจำปีการศึกษา 2558
ชาวเน็ตแห่ชื่นชม คลิปวิดีโอไวรัลนักเรียนหญิงผมสั้นนั่งร้องเพลงเปิดหมวก หาทุนการศึกษา
น้องแพร,ร้องเพลง,เปิดหมวก,หาทุนการศึกษา,เพราะ,ร้องเพลงเพราะ,นักเรียน,เด็กนักเรียน,อุบลราชธานี,ตลาดโต้รุ่งศรีเมืองอุบล,หัวใจคนรอ,คลิป,คลิปวิดีโอ,สายตรวจโซเชียล,โซเชียล,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,Thairath
https://www.thairath.co.th/content/722625
[ 0, 259, 52973, 118407, 10228, 259, 43408, 135174, 57997, 2091, 109663, 35436, 180366, 1, 0, 0, 0, 0, 0, 0 ]
พายุเนตพัดถล่มอเมริกากลาง-มีรายงานเสียชีวิต 28 คน
วานนี้(6 ต.ต.2560) หลังจากพายุโซนร้อนเนต พัดถล่มในอเมริกากลางแล้ว โดยมีผู้บันทึกคลิปจากกล้องโทรศัพท์มือถือเผยให้เห็นนาทีระทึกขวัญขณะที่ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ในนิการากัว วิ่งไปช่วยนักท่องเที่ยวที่ติดอยู่ในรถโดยสาร ซึ่งพยายามหาทางออกจากรถโดยปีนออกมาทางหน้าต่าง ขณะที่ชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่งนำรถแทรกเตอร์มาลากรถโดยสารท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยว หลังเกิดน้ำท่วมฉับพลันจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนเนตที่พัดถล่มอเมริกากลางพายุโซนร้อนเนตเคลื่อนตัวด้วยความเร็วลม 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้ฝนตกหนักและน้ำท่วมสูงในหลายประเทศ ทำให้เอลซัลวาดอร์ กัวเตมาลา และฮอนดูรัส ประกาศเตือนภัยในระดับสีแดงซึ่งเป็นระดับสูงสุดได้แก่ ขณะที่มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28 คนและสูญหายอย่างน้อย 30 คน เฉพาะที่นิการากัวมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน บ้านกว่า 600 หลังถูกน้ำท่วม และต้องอพยพประชาชนกว่า 800 คนไปอยู่ในที่ปลอดภัย ส่วนที่คอสตาริกาบ้านจำนวนมากพังเสียหาย ประชาชนต้องช่วยกันขนสิ่งของออกจากซากอาคารและมีผู้อพยพกว่า 5 พันคนไปอยู่ในศูนย์พักพิง โดยมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คนทำให้รัฐบาลคอสตาริกาประกาศภาวะฉุกเฉินและไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตเป็นเวลา 3 วัน ด้านศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯพยากรณ์ว่าพายุโซนร้อนเนต อาจทวีความรุนแรงเป็นเฮอร์ริเคนระดับ 1 ขณะเคลื่อนตัวอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลแคริบเบียน และอาจขึ้นฝั่งใกล้เมืองนิวออร์ลีนส์ของสหรัฐฯ ช่วงสายของวันเสาร์หรือเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นและอาจทำให้เกิดคลื่นซัดเข้าฝั่ง หรือ สตอร์ม เซิร์จ สูงประมาณ 1- 2 เมตร
หลายประเทศของอเมริกากลาง ต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน และเตือนภัยน้ำท่วมในระดับสูงสุด หลังจากฝนตกหนัก และน้ำท่วมสูง จากพายุโซนร้อนเนต ที่พัดถล่ม มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28 คนแล้ว
ต่างประเทศ
ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,อเมริกากลาง,สหรัฐอเมริกา,พายุโซนร้อน,เนต
https://news.thaipbs.or.th/content/266733
[ 0, 259, 30305, 116670, 178066, 68477, 29849, 6196, 259, 45579, 194226, 10062, 203595, 3682, 68014, 47129, 49376, 55667, 4388, 34429 ]
3 ค่ายเข้ารอบชิงดำดิวตี้ฟรี ลุ้นระทึก 31 พ.ค. ใครเข้าวิน
3 ยักษ์ใหญ่ คิงเพาเวอร์-บางกอกแอร์-เชอราตัน ตบเท้ายื่นซองเทคนิค ประมูลดิวตี้ฟรี สุวรรณภูมิ ส่วนเซ็นทรัล-ไมเนอร์ ถอยทัพไม่มาตามสัญญา ด้านประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ซื้อซองไป 4 รายมายื่น 3 ราย ผ่านเข้ารอบเพียง คิงเพาเวอร์-เซ็นทรัล ลุ้นระทึก 31 พ.ค. ใครเข้าวิน ส่วนประมูลดิวตี้ฟรีดอนเมือง-พิคอัพเคาน์เตอร์จ่อคิวเปิดประมูลต้นปีหน้า,นายวิชัย บุญยู้ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ ทอท.ได้ทำการเปิดขายซองคัดเลือกผู้ประกอบการให้เข้ามาดำเนินการในโครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) และโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ สนามบินสุวรรณภูมินั้น ในส่วนของโครงการจำหน่ายร้านค้าปลอดอากรจากเดิมมีเอกชน 5 รายมาซื้อซองปรากฎว่ามีเพียง 3 รายมายื่นข้อเสนอทางเทคนิค ประกอบด้วย บริษัท คิงพาวเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด, บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท รอยัลออคิดเชอราตัน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ส่วน กลุ่มบริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัดและบริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ไม่ได้มายื่นซองด้านเทคนิค,สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ในวันที่ 27 พ.ค. จะเปิดให้เอกชนทั้ง 3 รายมายื่นนำเสนอผลงาน และในวันที่ 31 พ.ค. ทาง ทอท.จะเปิดซองราคาและประกาศผลผู้ที่ชนะการประมูล ก่อนที่จะเสนอเข้าบอร์ด ทอท.ในวันที่ 19 มิ.ย.62,การพิจารณาเอกชนผู้ที่จะเข้ามาพัฒนาพื้นที่ดิวตี้ฟรี และเชิงพาณิชย์นั้นทางคณะกรรมการคัดเลือกจะเน้นแผนการดำเนินธุรกิจ และ แผนการดำเนินงานมากกว่าการยื่นข้อเสนอทางด้านราคา โดยสัดส่วนคะแนนแบ่งออกเป็นทางด้านเทคนิคพิจารณากว่า 80 คะแนน ทางด้านราคาสัดส่วน 20 คะแนน,นายวิชัยกล่าวต่อว่า สำหรับการยื่นซองทางด้านเทคนิคในการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์นั้น พบว่าจากที่มีเอกชนซื้อไป 4 รายปรากฎว่ามีเอกชนมายื่นซองคุณสมบัติทางเทคนิคเพียง 3 รายประกอบด้วย บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) 2.บริษัท คิงเพาเวอร์สุวรรณภูมิ จำกัด 3.บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) อย่างไรก็ตาม เมื่อคณะกรรมการคัดเลือกฯได้พิจารณาคุณสมบัติผู้ที่มายื่นซองเทคนิคแล้วพบว่า บริษัท ไมเนอร์ตกคุณสมบัติไม่ผ่านเกณฑ์ ไม่สามารถเข้ารอบเปิดซองราคาได้ เนื่องจากยื่นผลงาน ประสบการณ์ของบริษัทลูก คือบริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด ซึ่งทางคณะกรรมการคัดเลือกได้ชี้แจงรายละเอียดถึงสาเหตุที่ตกคุณสมบัติให้ไมเนอร์เข้าใจแล้ว ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ในวันที่ 29 พ.ค.ทางคณะกรรมการคัดเลือกฯจะให้เอกชนทั้ง 2 รายที่ผ่านคุณสมบัติเทคนิคเข้ามานำเสนอผลงาน ก่อนที่จะเปิดซองราคาในช่วงบ่ายของวันที่ 31 พ.ค.เช่นเดียวกัน,นายวิชัยกล่าวต่อว่า ส่วนการเปิดประมูลร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) สนามบินภูมิภาค (เชียงใหม่-ภูเก็ต-หาดใหญ่) นั้นจะเปิดให้เอกชนยื่นซองคุณสมบัติทางเทคนิควันที่ 4 มิ.ย. ก่อนเปิดให้เอกชนมานำเสนอผลงาน วันที่ 5-6 มิ.ย. ก่อนเปิดซองราคาในวันที่ 10 มิ.ย. และเสนอให้บอร์ด ทอท. พิจารณาในวันที่ 19 มิ.ย. ส่วนการเปิดประมูลจุดรับส่งสินค้าปลอดอากรภายในสนามบิน (pick up counter) นั้นทาง ทอท. จะดำเนินการได้ภายหลังจากที่มีการประมูลดิวตี้ฟรี และ พื้นที่เชิงพาณิชย์แล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะเปิดประมูลได้ภายในต้นปี 63,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเอกชนที่ผ่านเข้าไปประมูลดิวตี้ฟรี 3 รายคือบริษัทคิงเพาเวอร์ ผู้ได้รับสัมปทานเดิม ส่วนบางกอกแอร์ได้ร่วมกับกลุ่มล๊อตเต้จากเกาหลีใต้ และกลุ่มรอยัลออคิดเชอราตันร่วมกับกลุ่ม WDFG UK (World Duty Free Group) ผู้บริหาร ดิวตี้ฟรีสัญชาติอิตาลีมาร่วมแข่งขันประมูลครั้งนี้ด้วย.
3 ยักษ์ใหญ่ คิงเพาเวอร์-บางกอกแอร์-เชอราตัน ตบเท้ายื่นซองเทคนิค ประมูลดิวตี้ฟรี สุวรรณภูมิ ส่วนเซ็นทรัลไมเนอร์ ถอยทัพไม่มาตามสัญญา ด้านประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ซื้อซองไป 4 รายมายื่น 3 ราย
ข่าว,เศรษฐกิจ
ดิวตี้ฟรี,ดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ,คิงเพาเวอร์,ท่าอากาศยานไทย,ประมูลดิวตี้ฟรี,บางกอกแอร์ฯ
https://www.thairath.co.th/news/business/1573965
[ 0, 259, 179684, 7960, 260, 6494, 34538, 174223, 11339, 2091, 49253, 27796, 136202, 66936, 3755, 151987, 174223, 1, 0, 0 ]
รวบสาวสุดแสบ หากินกับโรคระบาด โพสต์หลอกขายแมสก์ ได้ไปหลายแสน
กองปราบฯตามรวบสาว 18 มงกุฎ โพสต์เฟซฯขายหน้ากากอนามัย มีผู้หลงเชื่อซื้อจำนวนมาก จะส่งไปให้ญาติที่เมืองจีน ปรากฏว่าถูกหลอก เพราะคนขายไม่มีสินค้าอยู่จริง พบพฤติกรรมสุดแสบ โพสต์ขายทุกอย่าง ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า โทรศัพท์ แต่ไม่เคยส่งสินค้าวันที่ 8 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป. ร.ต.อ.ณัชณวินท์ กฤตปภาคชภัค ร.ต.อ.ณัฐพล ผลชอบ รอง สว.กก.2 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ชนัญชิดา หรือ นุ่น นาคประสูตร อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.84/2563 ลงวันที่ 5 มี.ค.2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน จับกุมบริเวณหลังที่พักใน หมู่ที่ 8 ต.บัวปากท่า อ.บางเลน จ.นครปฐมสืบเนื่องจากมีการร้องเรียนจากกลุ่มประชาชนว่ามีบุคคลต้มตุ๋นขายหน้ากากอนามัยออนไลน์ผ่านทางเฟซบุ๊ก ชื่อ Khun nune หน้ากากอนามัยราคาส่ง ซึ่งเป็นสิ่งของที่ประชาชนต้องการในปัจจุบัน อาศัยเหตุการณ์มาหลอกให้หลงเชื่อว่ามีสินค้า ทำให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อโอนเงินแล้วไม่สามารถติดต่อได้ โดยเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2563 ผู้เสียหายส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อ โดยบางรายจะซื้อหน้ากากอนามัย จำนวนมากเพื่อบริจาคให้กับเพื่อนที่อยู่ประเทศจีน หรือบริจาคให้กับสถานที่ต่างๆ หรือไว้ใช้ส่วนตัว เนื่องจากราคาไม่แพง และมีสินค้าจำนวนเพียงพอกับความต้องการ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปให้ ผู้ต้องหาจะทำทีว่าจะส่งสินค้าทันที หรือส่งไปกับรถสาธารณะเพื่ออำนวยความสะดวก แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก ซึ่งแต่ละรายสูญเงินจำนวนหลายหมื่นบาทจนเกือบแสนบาท รวมความเสียหายที่สูญไปหลายแสนบาท จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลอกลวงขายสินค้าหลายประเภท เช่น โทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้า รองเท้า ล่าสุดเป็นหน้ากากอนามัย โดยเมื่อปี พ.ศ.2558 ผู้ต้องหาเคยถูกจับจากการที่หลอกซื้อขายสินค้าออนไลน์ แต่ภายหลังยังคงก่อเหตุหลอกลวง และหลบหนีอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจนกระทั่ง วันที่ 7 มี.ค.2563 เวลาประมาณ 06.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม สามารถจับกุม น.ส.ชนัญชิดา หรือนุ่น ผู้ต้องหา พร้อมของกลางสมุดบัญชีธนาคาร และบัตรเอทีเอ็ม ที่ใช้หลอกลวงผู้เสียหาย ได้ที่บริเวณหลังที่พักภายในหมู่ที่ 8 ต.บัวปากท่า อ.บางเลน จ.นครปฐมจากการสอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าได้หลอกลวงผู้เสียหายจริง แต่จำไม่ได้ว่าหลอกผู้ใดบ้าง เพราะมีเงินเข้าในบัญชีจำนวนมาก ซึ่งตนไม่มีหน้ากากอนามัยอยู่จริง แต่เอารูปมากจากอินเทอร์เน็ต แล้วโพสต์ขายในเฟซบุ๊ก ที่บุคคลทั่วไปที่สนใจหลงเชื่อ โดยนำเงินจากที่หลอกลวงไปซื้อทอง แหวน และไปเที่ยว จนเงินหมดจึงได้นำของมีค่าที่ซื้อมาไปขายเพื่อใช้จ่าย ซึ่งผู้ต้องหายังสารภาพอีกว่าก่อนหน้าที่จะหลอกขายหน้ากากอนามัย มีการโพสต์ขายของเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย โทรศัพท์มือถือ แต่ไม่ส่งสินค้า และทราบว่าตนเองกำลังถูกตามล่าตัวจากกลุ่มผู้เสียหายต่างๆ โดยที่ผ่านมาตนเคยถูกจับข้อหาฉ้อโกงจากการไม่ส่งสินค้าออนไลน์มาแล้วด้วย.
กองปราบฯตามรวบสาว 18 มงกุฎ โพสต์เฟซฯขายหน้ากากอนามัย มีผู้หลงเชื่อซื้อจำนวนมาก จะส่งไปให้ญาติที่เมืองจีน ปรากฏว่าถูกหลอก เพราะคนขายไม่มีสินค้าอยู่จริง พบพฤติกรรมสุดแสบ โพสต์ขายทุกอย่าง
ข่าว,ทั่วไทย
โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,หลอกขายแมสก์,หลอกขายหน้ากาก,หลอกขายหน้ากากอนามัย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1789894
[ 0, 259, 112260, 146177, 6581, 26036, 49947, 142319, 3945, 8007, 11088, 260, 4552, 260, 46694, 141944, 62668, 44836, 11440, 11088 ]
สนธิรัตน์ ถก ปตท.-กฟผ. เคาะงบ 120 ล้าน ปูพรม แจกแอลกอฮอล์ ปชช.
สนธิรัตน์ รมว.พลังงาน ถกเข้ม ปตท.-กฟผ. เคาะงบ 120 ล้าน ปูพรม แจกแอลกอฮอล์ประชาชน รายหมู่บ้านทั่วประเทศ คาด ชัดเจนสัปดาห์หน้า จัดหาแอลกอฮอล์ 70% จำนวน 8 หมื่นลิตรวันที่ 9 เม.ย. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า วันนี้ ตนได้เรียกผู้บริหาร บมจ.ปตท.และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาแอลกอฮอล์ขาดตลาด และมีราคาสูง แม้ว่า ทางกระทรวงพลังงาน และกระทรวงการคลังจะร่วมกันปลดล็อก ให้ นำแอลกอฮอล์จาก 26 โรงงานเอทานอล มาจำหน่ายแล้วก็ตาม ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้มีการสอบถามเรื่องนี้โดยตลอด ซึ่งที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันว่า ทั้ง กฟผ.และ ปตท. จะร่วมกันจัดหาและกระจายแอลกอฮอล์ 70% ให้ทั่วถึงทั้งประเทศ มุ่งเน้นกลุ่มคนที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเฉพาะหน้า เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้มีความเสี่ยง กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เนื่องจากกลุ่มนี้มีความเสี่ยงสูง ซึ่งการจัดสรรได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการผ่านโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และเครือข่าย อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั่วประเทศ เนื่องจากเป็นผู้มีข้อมูลด้านต่างๆ ทั่วถึงนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า สำหรับการจัดหานั้น ทางกระทรวงพลังงาน ได้ประสานงานกับ 26 โรงงานเอทานอล โดยพบว่า มีบางโรงงาน สามารถผลิตแอลกอฮอล์ 70% ได้ ทั้งนี้ทางกระทรวงพลังงาน โดย ปตท.-กฟผ.จะเข้าไปรับซื้อจากทางโรงงาน และร่วมกระจายไปยัง รพ.สต.และ อสม. คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน สัปดาห์หน้า โดยจะใช้งบรวม 120 ล้านบาท สำหรับการจัดหาแอลกอฮอล์ 70% ปริมาณประมาณ 8 หมื่นลิตร
สนธิรัตน์ รมว.พลังงาน ถกเข้ม ปตท.-กฟผ. เคาะงบ 120 ล้าน ปูพรม แจกแอลกอฮอล์ประชาชน รายหมู่บ้านทั่วประเทศ คาด ชัดเจนสัปดาห์หน้า จัดหาแอลกอฮอล์ 70% จำนวน 8 หมื่นลิตร
ข่าว,การเมือง
โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรนา,สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์,รมว.พลังงาน,แอลกอฮอล์ขาดแคลน,แจกแอลกอฮอล์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1816273
[ 0, 259, 104582, 9074, 260, 117815, 259, 83130, 16485, 44270, 206777, 237857, 236763, 35872, 91061, 50186, 1, 0, 0, 0 ]
โสมชบาจ๊ะจ๋า 26/01/62
(ภาพ : ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ),สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯทรงเยี่ยมโรงเรียน ตชด.ตะโกปิดทอง และโครงการอุทยานธรรมชาติวิทยา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ อ.สวนผึ้ง ราชบุรี วันที่ 28 ม.ค. เวลา 09.50 น. ,สิทธิศักดิ์ วนะชกิจ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จัดงานใหญ่ครบ 67 ปีวันสถาปนาศาลเยาวชนฯ พร้อมเสวนาวิชาการ เหลียวหลังแลหน้า ศาลเยาวชนฯ : ย่างก้าวบนความเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม ที่ศาลเยาวชนฯ ถนนกำแพงเพชร 28 ม.ค. เวลา 10.00 น. ,ชาวกรุงต้องสู้กับฝุ่น PM 2.5 ขวัญฤทัย ดำรงค์วัฒนโภคิน เลยจัดโปรโมชันพิเศษ Turbo Bright ให้ไปทำความสะอาดผิวหน้าด้วยแรงดันน้ำระดับลึก พร้อมเติมออกซิเจนผิว ที่รมย์รวินท์ทุกสาขา,นักท่องเที่ยวล้นโครงการชูชัยบุรี ศรี อัมพวา ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ จึงขยายห้องพักเพิ่ม พร้อมทั้งทำห้องประชุมริมสวนสวย ห้องอาหารแบบวินเทจ สระว่ายน้ำ 2 สระ และมีฟิตเนส ซาวน่า จากุซซี ให้คนรักสุขภาพ พร้อมห้องสตีมบ่อน้ำร้อนน้ำเย็น ซึ่งมีแห่งเดียวในอัมพวา,ฉลองตรุษจีนวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ จัด 2 แคมเปญใหญ่ Robinson Chinese New Year 2019 และ โรบินสันไลฟ์สไตล์ Luck & Love ตรุษจีน 2019 และยังเอาใจตี๋หมวยสายมู โดยคว้าตัว หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา มาแนะ วิธีเสริมเฮงเซ็งลี้ฮ้อรับปีหมูทอง ให้ชาวสุพรรณบุรี และกาญจนบุรี ,ยามนี้ ไฮไซไทยกำลังปรึกษา จะหาตัวสู้ไฮโซลาว เหม่เหม-สองใหญ่ อินศรีเชียงใหม่ ที่ขโมยซีน บินไปนั่งฟรอนต์โรว์ที่ปารีส แฟชั่นวีก โอต์ กูตูร์ แบบเฉิดฉาย เพราะกระหน่ำเครื่องเพชรไปดูทุกโชว์ ตั้งแต่ Chanel, Dior, Giambattista, Ramikadi แล้วส่งไอจีถล่มมาทุกช็อต ว่าถูกช่างภาพรุมจนแฟลชพรึบยิ่งกว่าดาราฮอลลีวูด,มีโชคเรื่องพร็อพเพอร์ตี้ หลังทำ Maze Thonglor ไลฟ์สไตล์มอลล์ มาสองปีกว่ากุญช์ณิชา พรประภา-ปิพณ พึ่งบุญพระ ก็มีกลุ่มธุรกิจมาขอเช่าทั้งโครงการนาน 30 ปี จึงบินไปหาซื้อบ้านในลอนดอน แล้วก็ได้บ้านสวย 3 ห้องนอน ในทำเลหรู เพราะอยู่หลัง Harvey Nichols นะนั่น.,โสมชบา
นักท่องเที่ยวล้นโครงการชูชัยบุรี ศรี อัมพวา ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ จึงขยายห้องพักเพิ่ม พร้อมทั้งทำห้องประชุมริมสวนสวย ห้องอาหารแบบวินเทจ สระว่ายน้ำ 2 สระ และมีฟิตเนส ซาวน่า จากุซซี ให้คนรักสุขภาพ
ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ,สิทธิศักดิ์ วนะชกิจ,ขวัญฤทัย ดำรงค์วัฒนโภคิน,โสมชบาจ๊ะจ๋า,โสมชบา
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/hisoceleb/1479466
[ 0, 259, 148312, 68437, 259, 68437, 182479, 7960, 135570, 185939, 259, 197636, 25889, 113122, 9934, 24250, 23248, 4552, 174930, 9964 ]
ธงชัย วินิจจะกูล : ระบอบอภิสิทธิ์ คืออะไร? มาร์ค = มาร์คอส?
สัญญาณหลายอย่างเผยตัวออกมาชัดเจนขึ้นทุกทีว่า ระบอบอภิสิทธิ์ คืออะไร?รัฐบาลนี้ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จแบบไม่สนใจรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่ฝ่ายตนร่างขึ้นมาเอง ในทางปฏิบัติ คือการงดใช้รัฐธรรมนูญตามใจชอบ และทำให้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นกฎหมายสูงสุดยิ่งกว่ารัฐธรรมนูญ ควบคุมข่าวสารเด็ดขาด กวาดล้างจับกุมคุมขังผู้คนโดยไม่ต้องสนใจกระบวนการยุติธรรมหรือสิทธิของผู้คน ข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองไม่ต่างกับ (หรือยิ่งกว่า) เผด็จการทหาร โดยเฉพาะในต่างจังหวัดและชนบทที่ไม่สนับสนุนรัฐบาลรัฐบาลนี้เป็นเผด็จการมากถึงขนาดที่พูดข้างเดียว ฟังพวกเดียว ไม่แยแสว่าสิ่งที่ตนพูดจะสมเหตุสมผลหรือไม่ โกหกก็ไม่ต้องแคร์ ถูๆ ไถๆ ข้างๆ คูๆ ก็ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะน่าเชื่อหรือไม่ อาศัยอำนาจ (ปืนและสื่อ) ยัดเยียดประเด็นและคำอธิบายของตนให้แก่สังคม ทำมากๆ เข้าจนความเท็จกลายเป็นความจริง เรื่องไม่มีมูลกลายเป็นประเด็นหลังประหัตประหารผู้คนเสร็จ ในขณะที่ทำการกวาดล้างจับกุมคุมขังฝ่ายตรงข้ามอย่างหนัก ก็ปรึกษาพวกเดียวกันว่าจะ ปรองดอง คือทำยังไงไม่ให้มวลชนลุกฮือต่อต้านอีกความอยุติธรรมแบบ สองมาตรฐาน ยิ่งหนักกว่าเดิม แถมทำกันอย่างโจ๋งครึ่มโดยไม่ต้องปฏิเสธหรือแก้ตัวอีกต่อไปแล้วทั้งผีทักษิณและผู้ก่อการร้ายเป็นการหาเหตุเพื่อการปราบปราม แต่จะยังคงอยู่ต่อไปอีกนานเพื่อหาเหตุให้คงรักษา พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปโดยเฉพาะในต่างจังหวัดและชนบทที่เป็นฐานของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลไม่ใช่เพียงแค่เพื่อความสงบหลังปราบปรามการชุมนุมเสื้อแดงเท่านั้น แต่เพื่อทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมืองสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าเพื่อรักษาอำนาจของระบอบอภิสิทธิ์ด้วยครั้นถูกต่อต้าน ระบอบอภิสิทธิ์ก็เผยตัวตนที่แท้จริงว่าเป็นประชาธิปไตยแบบหนา ด้านได้อายอด เอาทั้งเล่ห์กล มนต์คาถา (โฆษณาชวนเชื่อ) สื่อเส้นหนาของอภิสิทธิชนประเภทต่างๆ (ปัญญาชน รัฐบาล และเหนือรัฐบาล) กฎหมายอัปลักษณ์ทั้งหลาย (กม.หมิ่นฯ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นต้น) และนักสิทธิมนุษยชนกำมะลอ มาช่วยกันยัดเยียดให้ประชาชนต้องทนรับพวกเขาพยายามมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2550 แต่ไม่สำเร็จ คราวนี้จึงต้องโหดกว่าเดิม เด็ดขาดกว่าเดิม เหวี่ยงแหกว่าเดิม ภายใต้ข้ออ้างเดิมๆ ว่าเพื่อต่อสู้กับการซื้อเสียงและผีทักษิณเนื้อแท้ของระบอบอภิสิทธิ์คืออำนาจนิยมโดยอาศัย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกฎหมายอื่นๆ ที่ให้อำนาจแก่รัฐบาลของอภิชนเหนือกว่ารัฐธรรมนูญใดๆ จะให้ได้ นี่แหละคือประชาธิปไตยแบบไทยๆ ที่พวกเขาพยายามสร้างขึ้นหลังการรัฐประหาร 2549 ทว่ายังไม่สำเร็จสักทีหากการเลือกตั้งคราวหน้ายังไม่สามารถรับประกันชัยชนะของระบอบอภิสิทธิ์ได้ เขาก็จะอ้างความไม่สงบเรียบร้อยในการเลือกตั้งเป็นเหตุเพื่อบิดเบือนผลการเลือกตั้ง หรือเลื่อนการเลือกตั้งออกไปจนกว่าจะชนะแน่ๆ เสียก่อนนี่ไม่ใช่เส้นทางแบบพม่าดังที่มักกล่าวกัน แต่ตัวอย่างของอำนาจนิยมเบ็ดเสร็จของพลเรือนคือ ระบอบมาร์คอส ของฟิลิปปินส์มาร์คอสไต่เต้าสู่อำนาจด้วยการเลือกตั้ง แต่รักษาอำนาจด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉินและอำนาจกองทัพ โดยอ้างว่าต้องรักษาความสงบต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ เขาอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก. เหนือรัฐธรรมนูญ เข้ากวาดล้างจับกุมทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมืองอย่างเด็ดขาดโหดร้าย แต่ความสำเร็จทางเศรษฐกิจในระยะแรกทำให้ระบอบมาร์คอสได้รับความสนับสนุนจากสาธารณชนโดยเฉพาะคนเมืองผู้มีอันจะกินอย่างมากครั้นใกล้หมดเทอมของตน เขาก็แก้รัฐธรรมนูญเพื่อเปิดโอกาสให้ระบอบของเขามีอำนาจต่อไปได้ด้วยการอ้างผู้ก่อการร้ายเช่นเคยในคนละภาษาเท่านั้นเองประเด็นสำคัญมิได้อยู่ที่ระบอบอภิสิทธิ์ใกล้เคียงหรือต่างกับระบอบมาร์คอสมากน้อยแค่ไหน เพราะแต่ละประเทศย่อมมีเงื่อนไขแตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น ลัทธิบูชาบุคคลของระบอบมาร์คอสบูชาตัวมาร์คอสเอง แต่นายมาร์คเป็นเพียงผู้รับใช้คนหนึ่งเท่านั้นประเด็นน่าคิดก็คือ ถ้าอภิสิทธ์ชนของไทยหน้ามืดตามัวถึงขนาดเลือกทางเดินเดียวกับระบอบมาร์คอส เพื่อต่ออายุอำนาจของตนไว้ในระยะใกล้ น่าคิดว่าประชาธิปไตยแบบไทยๆ (หรือฟิลิปปินส์ๆ) จะเป็นรถไฟขบวนสุดท้ายของอภิชนาธิปไตยไทยจริงๆปัญญาชนนักวิชาการ บรรณาธิการผู้ทรงอิทธิพล ผู้ประกาศข่าวอันมีชื่อเสียงทั้งหลาย จงช่วยกันเร่งฟืน เพิ่มความร้อนแรงของรถขบวนสุดท้ายนี้เข้าไปเถิด แล้วอย่ามาร้องหาความยุติธรรมในวันที่รถไฟตกรางก็แล้วกันเพราะรถไฟสายอภิชนกำลังวิ่งสวนทางกับรถไฟสาย ความเปลี่ยนแปลง และไม่มีทางหยุดยั้งความเปลี่ยนแปลงที่ออกจากสถานีมาแล้วเพราะพวกท่านทำให้สังคมมืดบอดกันไปหมด อันจะทำให้รถไฟอภิชนตกรางอย่างรุนแรง พวกท่านขาดสติยั้งคิดถึงอนาคตเสียจนท่านเองเป็นผู้ทำร้ายสิ่งที่พวกท่านบูชาเพราะ ระบอบอภิสิทธิ์ จะกัดกร่อนทำลายอภิชนเองในที่สุด
สัญญาณหลายอย่างเผยตัวออกมาชัดเจนขึ้นทุกทีว่า ระบอบอภิสิทธิ์ คืออะไร?รัฐบาลนี้ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จแบบไม่สนใจรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่ฝ่ายตนร่างขึ้นมาเอง ในทางปฏิบัติ คือการงดใช้รัฐธรรมนูญตามใจชอบ และทำให้
การเมือง,ต่างประเทศ
Ferdinan Marcos,ธงชัย วินิจจะกูล,พ.ร.ก.ฉุกเฉิน,พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน,ฟิลิปปินส์,ระบอบอภิสิทธิ์,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส
https://prachatai.com/journal/2010/06/30014
[ 0, 259, 36595, 6581, 93715, 215342, 123275, 259, 181130, 5095, 6088, 12066, 221873, 16053, 16379, 43408, 1, 0, 0, 0 ]
สาธุ รู้ไหมไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบไหนใช้ธูปกี่ดอก?
เคยงงไหมว่า เวลาเราจุดธูป บูชาพระ บูชาเทพ ไหว้เจ้า บูชาโน่น นี่ นั่น กระทั่งไหว้สัมภเวสีธรรมดา ไหว้ศาลตายายยังสับสนไหมว่าเราต้องใช้ธูปกี่ดอกกัน เพื่อความเป็นมงคลให้กับชีวิต ไทยรัฐออนไลน์พาไปหาคำตอบมาให้,ธูป 1 ดอก : เป็นเรื่องของการเน้นหรือเจาะจง ในเรื่องที่เกี่ยวกับผีบ้านผีเรือน วิญญาณภาคพื้น เช่น การจุดไหว้เจ้าที่ หรือผีบ้านผีเรือน,ธูป 2 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับวิญญาณ และการปักธูปบนอาหาร,ธูป 3 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์,ธูป 4 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธาตุ ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา,ธูป 5 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดา คุณมารดา และครูบาอาจารย์,ธูป 6 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธาตุกำลังไฟ (คนที่เกิดวันอาทิตย์) ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา,ธูป 7 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับจิตวิญญาณ (ศาลเจ้าพ่อ เจ้าแม่) ครูบาอาจารย์ที่เสียชีวิตแล้ว,ธูป 8 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องการเสริมดวง (คนที่เกิดวันอังคาร),ธูป 9 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสักการบูชาเทพ เจ้าป่า เจ้าเขา หรือ รุกขเทวดาศาลพระภูมิ ศาลเทพ,ธูป 10 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธาตุ ใช้ในการเสริมดวงชะตา (คนที่เกิดวันเสาร์),ธูป 11 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการบูชาเทวดาชั้นสูง,ธูป 12 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการบูชาพระราหู ใช้ในการสวดเสริมดวง (คนที่เกิดวันพุธกลางคืน),ธูป 13 ดอก : ไม่นิยมจุด,ธูป 14 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการบูชาคุณพระสงฆ์ เช่น การจุดบูชาสักการะรูปปั้นพระสงฆ์,ธูป 15 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับธาตุ ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา (คนที่เกิดวันจันทร์),ธูป 16 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการบูชาเทพชั้นสูง เช่น บูชาพรหม ฯลฯ (ใช้จุดกลางแจ้ง จุดธูปเทพเทวดา ทั้งสิบหกชั้นฟ้าด้วย),ธูป 17 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับธาตุ ใช้ในการเสริมดวงชะตา (คนที่เกิดวันพุธ),ธูป 18 ดอก : ไม่นิยมจุด,ธูป 19 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการจุดบูชาครู และใช้ในการเสริมดวงชะตา (คนที่เกิดวันพฤหัสบดี),ธูป 20 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสวดเสริมดวงชะตา,ธูป 21 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการบูชาพระแม่ธรณี (ใช้ในพิธีเบิกพระแม่ธรณี) และการสวดเสริมดวงชะตา (คนที่เกิดวันศุกร์),ธูป 32 ดอก : ใช้สวดชุมนุมเทวดาทั้ง 4 ทิศ (การไหว้ 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 1 โลกมนุษย์),ธูป 38 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบูชาพระธรรม,ธูป 39 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบูชาพระแม่โพสพ,ธูป 56 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับคุณพระพุทธเจ้า,ธูป 108 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการประกอบพิธีกรรมสวดเสริมดวงชะตา และบูชาสิ่งสูงสุดทั่วโลกทุกชั้นฟ้า,ขณะที่รองศาสตราจารย์ ศรีศักร วัลลิโภดม นักวิชาการ นักโบราณคดีชื่อดัง กล่าวผ่านไทยรัฐออนไลน์สั้นๆ ว่าจำนวนของธูปนั้นเป็นตำนานความเชื่อเป็นประเพณีที่มีมานาน โดยส่วนใหญ่คนไทยจะนิยมจุดธูปเลขคี่ ส่วนคนจีนมักจะจุดเลขคู่ส่วนใหญ่,คนไทยนิยมเลขคี่เพราะเลขคี่เพราะมีความเป็นมงคล จำนวนดอก 1 - 3 - 5 - 7 - 9 แต่จะจำนวนลดหลั่นตามสถานภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นๆ ส่วน 108 ดอก ซึ่งน่าจะมากที่สุดมันเป็นมงคล เป็นเลขมงคลซึ่งเป็นตอนหลังที่มีการเพิ่มจำนวนขึ้นมา ซึ่งกี่ดอกๆ ก็ขึ้นอยู่กับตำนานท้องถิ่น เวลาคนจะสร้างอะไรก็ต้องสร้างตำนานขึ้นมาเพื่อสร้างให้เหตุผลว่าทำไมแค่นั้นเอง นักประวัติศาสตร์ชื่อดังกล่าวสรุป ,ขอบคุณข้อมูล หนังสือ คัมภีร์ พิธีกรรมแบบโบราณของไทย
เคยงงไหมว่า เวลาเราจุดธูป บูชาพระ บูชาเทพ ไหว้เจ้า กระทั่งไหว้สัมภเวสีธรรมดา ไหว้ศาลตายายยังสับสนไหมว่าเราต้องใช้ธูปกี่ดอกกัน เพื่อความเป็นมงคลให้กับชีวิต ไทยรัฐออนไลน์พาไปหาคำตอบมาให้
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
จุดธูปบูชาพระกี่ดอก,จุดธูปกี่ดอก,จุดธูป3ดอก,จุดธูปบูชาเทพกี่ดอก,ไหว้พระพุทธ,จุดธูปไหว้เทพกี่ดอก,คุณเกิดวันไหนจุดธูปกี่ดอก,ศรีศักร วัลลิโภดม,วันมาฆบูชา,วันพระ,ข่าว,ข่าวไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์,ข่าวไทยรัฐไลฟ์สไตล์,สกู๊ปออนไลน์
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/484664
[ 0, 259, 158088, 203086, 3755, 211880, 259, 232023, 118913, 52408, 118913, 231017, 1, 0, 0, 0, 0, 0, 0, 0 ]
รสนา อัด ปปช.ชี้นำปมนาฬิกาหรู-แหวนเพชร บิ๊กป้อม ได้หลังปี57ไม่ผิด
รสนา โพสต์อัด ป.ป.ช. พูดแบะท่าให้ บิ๊กป้อม ปมนาฬิกาหรู แหวนเพชร โดยชี้นำไปก่อน หลังปี 57 ได้ของมา ก็ไม่ถือว่าผิด เย้ยเจ้านายลูกน้องสอบกันเอง พร้อมตอกใส่ คสช.-สนช.-ป.ป.ช.ขบวนการผลัดกันเกาหลัง ปูด สนช.เขียน ก.ม.ลูกต่ออายุให้ ป.ป.ช,เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.60 น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสปช.โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า สายตา 70 ล้านคู่ของคนไทยกำลังโฟกัสไปที่ประธาน ป.ป.ช. ที่เคยถูกสังคมตั้งคำถามว่าได้ตำแหน่งเพราะความสัมพันธ์กับ พล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะนายกับลูกน้องมาก่อนใช่หรือไม่ หลังจากนั้นสังคมก็ตั้งคำถามอีก ตอนท่านประธานเข้าดำรงตำแหน่งไม่นานก็มีดำริให้ ป.ป.ช.ถอนฟ้องคดี 7 ตุลา 2551 ที่มีผู้ถูกกล่าวหาที่ชื่อ พล.ต.อ พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อยู่ด้วย ทีนี้ถึงคราวที่ ป.ป.ช.จะต้องตรวจสอบการแจ้งบัญชีทรัพย์สินเรื่องนาฬิกาแบรนด์เนมและแหวนเพชรของพี่ใหญ่ ประธานป.ป.ช.แทนที่จะเงียบเพื่อรักษาความเป็นกลาง แต่กลับพูดชี้นำว่า ถ้าหลังปี 57 พล.อ.ประวิตร ได้ของมา ก็ไม่ถือว่าผิด เพราะตามกฎหมายต้องยื่นอีกครั้งคือ หลังพ้นตำแหน่ง ไม่ใช่ได้ทรัพย์สินมาแล้วต้องมายื่นเลย อย่างนี้เรียกว่าบอกใบ้ข้อสอบ ใช่หรือไม่ แต่น่าเสียดายที่ พล.อ.ประวิตรได้หลุดปากออกมาเสียแล้วว่า เป็นของเก่าเก็บ ซึ่งคนได้ยินกันทั้งประเทศ คงจะต้องหาคำนิยามแล้วว่า ของเก่าเก็บ หมายความว่าของนั้นควรได้มานานสักกี่ปี จึงจะเรียกว่า ของเก่าเก็บ ใช่หรือไม่


,น.ส.รสนา ระบุว่า อีกประการหนึ่ง ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วย ป.ป.ช.ที่กำลังพิจารณากันอยู่ในชั้น กมธ.ของสนช.ก็มี ข่าวแว่วมาว่า คณะกรรมการป.ป.ช.ชุดนี้แม้จะขาดคุณสมบัติตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 2560 ก็ตาม แต่จะได้ต่ออายุให้อยู่ต่อไปโดยคณะกรรมาธิการใน สนช.ที่มี พล.ต.อ.พัชรวาท เป็น กมธ.คนหนึ่ง และถ้าหาก สนช.จะผลักดันให้ผ่านเป็นหวยล็อกดังที่มีข่าวแว่วออกมา สังคมก็คงจะอดตั้งข้อสงสัยไม่ได้ว่าทั้ง ป.ป.ช. คสช. และสนช.เป็นขบวนการผลัดกันเกาหลังให้กันและกัน ใช่หรือไม่.
รสนา โพสต์อัด ป.ป.ช. พูดแบะท่าให้ บิ๊กป้อม ปมนาฬิกาหรูแหวนเพชร โดยชี้นำไปก่อน หลังปี 57 ได้ของมา ก็ไม่ถือว่าผิด เย้ยเจ้านายลูกน้องสอบกันเอง พร้อมตอกใส่ คสช.-สนช.-ป.ป.ช.ขบวนการผลัดกันเกาหลัง ปูด สนช.เขียน ก.ม.ลูกต่ออายุ
ข่าว,การเมือง
รสนา โตสิตระกู,นาฬิกาหรู,แหวนเพชร,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,ป.ป.ช.,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1148698
[ 0, 259, 137738, 9964, 260, 9964, 260, 12682, 260, 259, 126493, 6582, 63753, 23940, 24064, 8377, 28118, 1881, 4728, 259 ]
เมาโวยวาย หนุ่มร้อยเอ็ดถูกยิงดับคาบ้าน ตร.พบพิรุธญาติไม่เสียใจ
หนุ่มร้อยเอ็ดเมาเข้าบ้านเปิดเพลงในรถเสียงดัง พ่อตาบอดมองไม่เห็นได้ยินแต่เสียงลูกเอะอะโวยวาย ก่อนจะเงียบไปหลังมีเสียงปืนดังขึ้น เดินไปเรียกและจับแขนยกขึ้นจึงรู้ลูกตายแล้ว ตร.สงสัยญาติไม่มีใครเสียใจ คาดคนยิงอยู่คงอยู่ไม่ไกลแถวนั้น  ,เมื่อวันที่ 9 ก.พ.59 พ.ต.ท.ไชยา นามสิมมา พงส.ผนพ.สภ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันตายที่ถนนคอนกรีตภายในหมู่บ้านหนองมะเขือ หมู่ 10 ต.ทุ่งศรีเมือง อ.สุวรรณภูมิ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุริเดช วรรณสุทธิ์ ผกก.สภ.สุวรรณภูมิ,ที่เกิดเหตุ พบศพนายคัมภีร์ สว่างศรี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 10 ต.ทุ่งศรีเมือง อ.สุวรรณภูมิ สภาพศพสวมกางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดที่ท้ายทอย นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนถนนคอนกรีตหน้าบ้านตัวเอง ใกล้ศพพบมีดปลายแหลมยาว หรือมีดดาบ ของผู้ตายตกอยู่, ,จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายทองดี สว่างศรี อายุ 75 ปี บิดาของผู้ตายที่ตาบอดทั้งสองข้างบอกว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายเมาเหล้าเข้ามาในบ้านแล้วเปิดเพลงในรถยนต์กระบะดังลั่น ก่อนจะผ่อนเสียงลง จากนั้นได้ยินเสียงลูกชายพูดเอะอะโวยวายเสียงดังจับใจความไม่ได้ สักพักก็ได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ตนก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที ตนไม่ได้ยินเสียงลูกชาย จึงร้องเรียกมากินข้าว แต่ไม่มีเสียงตอบ จึงใช้ไม้เท้าคลำทางเดินออกไปหน้าบ้าน พบว่าลูกชายนอนอยู่จึงเรียกบอกว่า มานอนทำไมตรงนี้ กลับเข้าไปนอนในบ้านสิ ก็ไม่มีเสียงตอบ จึงก้มลงจับแขนให้ลุกขึ้น พอจับแขนลูกชายยกขึ้น แขนก็ตกลงทุกครั้ง,นายทองดี พ่อตาบอด ให้การด้วยว่า ตนได้ร้องบอกลูกเขยคือ นายทวีศักดิ์ บุตรหินกอง ผู้ใหญ่บ้านหนองมะเขือ และนายบุญเพ็ง สว่างศรี ลูกชายคนรอง ซึ่งบ้านอยู่ใกล้ๆ กันให้มาดู จึงรู้ว่านายคัมภีร์เสียชีวิตแล้ว,อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามในเบื้องต้น ญาติของผู้ตายแต่ละคนให้การมีพิรุธ และไม่สอดคล้องกันหลายอย่าง อีกทั้งไม่มีอาการเศร้าโศกเสียใจแต่อย่างได คาดว่าคนยิงนายคัมภีร์น่าจะเป็นคนที่อยู่ละแวกเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนอย่างละเอียด เพื่อติดตามคนก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป. 
หนุ่มร้อยเอ็ดเมาเข้าบ้านเปิดเพลงในรถเสียงดัง พ่อตาบอดมองไม่เห็นได้ยินแต่เสียงลูกเอะอะโวยวาย ก่อนจะเงียบไปหลังมีเสียงปืนดังขึ้น เดินไปเรียกและจับแขนยกขึ้นจึงรู้ลูกตายแล้ว ตร.สงสัยญาติไม่มีใครเสียใจ คาดคนยิงคงอยู่ไม่ไกลแถวนั้น
โดนยิงตาย,ตายคาบ้าน,ตายในบ้าน,เมาเสียงดัง,คัมภีร์ สว่างศรี,ญาติไม่เสียใจ,พ่อตาบอด,อาชญากรรม,สุวรรณภูมิ,ร้อยเอ็ด,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/575147
[ 0, 259, 95830, 20648, 6581, 135040, 174802, 40487, 234950, 62549, 6582, 4728, 69208, 46519, 1, 0, 0, 0, 0, 0 ]
คนพิการเพิ่มสามร้อย-เที่ยวฟรีพันห้า คลังชง ครม.แจกเงินซื้อชุด-อุปกรณ์การเรียน-ปุ๋ย
คลัง จ่อชงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้า ครม. 30 เม.ย.นี้ แจกเพิ่ม 22,000 ล้านบาท ช่วย 3 กลุ่มผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ผู้ปกครองซื้อชุดนักเรียน-อุปกรณ์-หนังสือเรียน 500 บาทต่อบุตร 1 คน-ให้เงินเกษตรกรซื้อปุ๋ย 1,000 บาท-เพิ่มเงินช่วยคนพิการ 300 บาทต่อเดือน พร้อมแจกเงินคนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไปเที่ยวเมืองรองคนละ 1,500 บาท,นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้นั้น ส่งสัญญาณชะลอตัวลง ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงจะเร่งสรุปมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะมีทั้งหมด 4-5 โครงการให้เสร็จสิ้นเพื่อเสนอคณะรัฐมนตี (ครม.) เห็นชอบในวันที่ 30 เม.ย.นี้ โดยหวังว่ามาตรการดังกล่าวจะเข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจไตรมาส 2 ให้ดีขึ้นได้,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมจากกระทรวงการคลังว่า สำหรับมาตรการที่กระทรวงการคลังเตรียมเสนอ ครม.ในวันที่ 30 เม.ย.นี้ ประกอบด้วย การเติมเงินเข้าไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนให้กับ 3 กลุ่ม โดยจะใช้เงินประมาณทั้งสิ้น 7,000 ล้านบาท กลุ่มที่ 1 คือ ผู้ปกครองที่มีลูกหลานกำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาลงไป ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ราว 4 ล้านคน โดยจะได้รับเงินคนละ 500 บาทต่อบุตร 1 คน ถ้ามีบุตร 3 คน จะได้รับเงินรวม 1,500 บาท โดยอิงข้อมูลบุตรกำลังศึกษาจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อให้นำเงินไปซื้อชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน หนังสือเรียน และชุดกีฬา กลุ่มที่ 2.สำหรับเกษตรกรที่ถือบัตรสวัสดิการและขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรฯ จะได้รับเงินคนละ 1,000 บาทในครั้งเดียว เพื่อนำไปซื้อปุ๋ยไว้ใช้ในการทำการเกษตร และกลุ่ม 3. คนพิการที่ขึ้นทะเบียนบัตรสวัสดิการไว้ประมาณ 100,000 กว่าคน จะได้รับเงินเพิ่มเติมพิเศษอีกเดือนละ 200-300 บาท เริ่มจากเดือน พ.ค.-ก.ย. 2562 จากเดิมที่รัฐจ่ายเงินผ่านบัตรช่วยเหลือค่าใช้จ่ายต่างๆ เดือนละ 600-800 บาท,ขณะที่มาตรการที่จะช่วยกระตุ้นเรื่องการท่องเที่ยวในประเทศไทย มี 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ ยิ่งเที่ยว ยิ่งเท่ ช่วยเปย์ เมืองรอง โดยจะแจกเงินให้ประชาชนตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป คนละ 1,500 บาท งบประมาณทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท สำหรับผู้ที่สนใจจะต้องมาลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ภายใน 10 ล้านคนแรกเท่านั้น และจะต้องระบุว่าจะไปเที่ยวจังหวัดเมืองรอง โดยไม่สามารถเลือกจังหวัดที่ตนเองอยู่อาศัยได้,อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะได้รับเงินต้องนำบัตรเดบิตไปดำเนินการเปิดสิทธิของบัตร (Activate) กับเมืองรองทั้ง 55 จังหวัด ที่ได้ลงทะเบียนไว้ในระบบออนไลน์ เพื่อยืนยันตัวตน โดยจะต้องแตะบัตรกับเครื่องรูดบัตร (อีดีซี) ติดตั้งในร้านธงฟ้าของรัฐบาล ทั้งนี้ หลังจากยืนยันตัวตนแล้ว ธนาคารกรุงไทยจะโอนเงินเข้าบัญชีและสามารถกดเป็นเงินสดเพื่อใช้จ่าย หรือนำบัตรไปรูดซื้อสินค้าและบริการยังเมืองรองดังกล่าว โดยเงินที่ได้จะต้องนำไปใช้จ่ายซื้อสินค้า และบริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ส่วนอีกโครงการคือ การขยายเวลามาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวเมืองรอง ที่สิ้นสุดไปเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่ผ่านมา โดยครั้งนี้จะขยายให้ผู้ที่ไปท่องเที่ยวทั้งเมืองหลัก และเมืองรองตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ นำค่าใช้จ่ายค่าที่พัก และการเดินทางตามจริงสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทต่อคน มาลดหย่อนภาษีได้,นอกจากนี้ ยังมีมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นมาตรการที่จะเข้าไปช่วยกระตุ้นผู้ซื้อมากกว่าผู้ประกอบการ โดยจะเป็นลักษณะการลดหย่อนภาษี ไม่ใช่มาตรการภาษีเพื่อช่วยผู้ประกอบการ และมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับการซื้อหนังสือ โดยทำตลอดทั้งปีไม่จำกัดเฉพาะช่วงเวลา,ส่วนด้านการลงทุนจะมีมาตรการให้สามารถหักค่าใช้จ่ายร้านค้าที่ลงทุนติดตั้งเครื่องพีโอเอส (POS) หรือเครื่องเก็บเงิน โดยสามารถหักรายจ่ายได้ 1.5-2 เท่า โดยมาตรการนี้มีขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ร้านค้าต่างๆ การเข้าสู่ระบบอีเพย์เมนต์ นอกจากนี้ ยังมี แนวทางการส่งเสริมแรงงานในอนาคตสำหรับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยจะให้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ให้สิทธิประโยชน์พิเศษกับนักศึกษาเรียน นักศึกษาต้องการเรียนในสาขาที่เกี่ยวข้อง.
คลัง จ่อชงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้า ครม. 30 เม.ย.นี้ แจกเพิ่ม 22,000 ล้านบาท ช่วย 3 กลุ่มผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ผู้ปกครองซื้อชุดนักเรียน-อุปกรณ์-หนังสือเรียน 500 บาทต่อบุตร 1 คน
ข่าว,เศรษฐกิจ
อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์,กระทรวงการคลัง,มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ,บัตรคนจน,แจกเงิน,ท่องเที่ยว,เมืองรอง
https://www.thairath.co.th/news/business/1551705
[ 0, 259, 128181, 3755, 200753, 6494, 21858, 15319, 4188, 82551, 50472, 48263, 812, 24250, 126001, 259, 231138, 259, 92821, 20043 ]
บาทหลวง ปลื้มปีติก้มกราบในหลวงปี 12 ขอทำดีเพื่อพ่อ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 ธ.ค. 57 ที่โรงเรียนดรุณาราชบุรี อ.เมือง จ.ราชบุรี นางประนอม คลังทอง วัฒนธรรม จ.ราชบุรี ได้เข้าสอบถามข้อมูลประวัติของบาทหลวงวัชระ พฤกษาโรจนกุล อายุ 49 ปี เด็กชายในรูปพระบรมฉายาลักษณ์ที่ก้มกราบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จฯ ทรงเปิดศูนย์อนามัยเขต 7 ราชบุรี เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2512 (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น ศูนย์อนามัยที่ 4) โดยกระทรวงวัฒนธรรมได้ประกาศค้นหาบุคคลในภาพแห่งความประทับใจ ทั้ง 9 ภาพ เพื่อเข้าร่วมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2557,โดยนางประนอม คลังทอง วัฒนธรรมจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า วันที่ 3 ธันวาคมนี้ จะนำคุณพ่อวัชระ เข้าร่วมงานที่กระทรวงวัฒนธรรม ไปร่วมรับประทานอาหารกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมจัดแถลงข่าว โดยกระทรวงจะนำพาบุคคลทั้ง 9 ภาพ เดินทางไปถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่โรงพยาบาลศิริราช นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมเตรียมจัดทำหนังสือเกี่ยวกับเรื่องความประทับใจบุคคลในภาพทั้งหมด จัดพิมพ์เพื่อแจกจ่ายให้กับโรงเรียนและหอสมุดแห่งชาติทุกแห่งทั่วประเทศ,บาทหลวงวัชระ พฤกษาโรจนกุล เปิดเผยภาพแห่งความประทับใจว่า รู้สึกตื่นเต้นแต่ไม่อยากเปิดเผย อยากจะปิดทองหลังพระอย่างที่พระเจ้าอยู่หัวบอก ทำความดีไม่ให้ใครรู้ไม่ให้ใครเห็น แต่ทำไปเถอะก็จะเกิดผล ขณะนี้จึงรู้ว่าในฐานะที่เราเป็นบุคคลสาธารณะด้วย ก็เลยคิดว่าจะทำความดีให้กับพระองค์ท่านด้วย ถือว่าสิ่งนี้ก็คือพระเจ้าที่ผมนับถือให้เราแสดงตัวเถอะ และตอนแรกคิดว่าเด็กคนนี้จะเป็นตัวแทนของชาวราชบุรี ที่เทิดทูนในหลวงที่เคารพ ตอนนั้นอาจจะไม่ได้คิดอะไรเพราะเป็นเด็ก พ่อแม่บอกให้ทำอะไรก็ทำตาม เพราะเป็นสิ่งที่ดีงาม ให้เราไปกราบพระเจ้าอยู่หัวเราก็ทำตาม ออกไปกราบพระองค์ท่าน จุดนั้นเองทำให้เรามาถึงตรงนี้ เพราะทำตามผู้ใหญ่ผลักเราออกไปให้ไปกราบพระบาท โดยแม่จะเล่าบ่อยมากและจำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่หลานๆ ผมยังจำได้ เพราะยายเล่าให้ฟังตลอดว่า คุณพ่อเคยไปกราบพระเจ้าอยู่หัวจนก้นโด่งเลย สิ่งที่ทำไปเป็นสิ่งที่ดีในชีวิตที่ได้ทำ ขณะที่ก่อนหน้านี้จะมีรูปที่ได้ตัดจากหนังสือพิมพ์ และบอกว่าเป็นรูปคุณพ่อที่ไปกราบพระเจ้าอยู่หัวสมัยก่อน ตอนนี้ย้ายบ้านมา 4-5 ครั้ง ได้ทำหาย และได้พยายามค้นหาภาพนั้นแต่ไม่พบ,เมื่อ 2 ปีก่อน มีโอกาสได้ทำหน้าที่ดูแลบาทหลวงอาวุโสที่เจ็บป่วย ดูแลอภิบาลคนป่วย คนชรา ที่โรงพยาบาลทุกแห่งในเขตราชบุรี เนื่องจากคาทอลิกหลายคนป่วย และต้องการงานศาสนาเข้าไปช่วยให้กำลังใจในการนำพระเยซูไปให้กับเขา ทำให้รู้สึกว่าเขามีกำลังในการที่จะฟื้นจากการเจ็บไข้ได้ป่วย ทำอยู่ตรงนั้นอยู่ 2 ปี หลังจากนั้นผู้ใหญ่ได้ขอร้องให้เปลี่ยนหน้าที่ ตอนนี้ได้เปลี่ยนตำแหน่งใหม่มาเป็นเจ้าอาวาสวัดนักบุญอังเยลา ซอนต้า ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง ต้องไปดูแลชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย บาทหลวงวัชระ กล่าว.
วัฒนธรรมจังหวัดราชบุรีเตรียมนำเด็กชายในรูปที่ก้มกราบในหลวง ร่วมงานที่กระทรวงวัฒนธรรม พร้อมบุคคลในภาพแห่งความประทับใจ ทั้ง 9 ภาพ
วัฒนธรรมจังหวัดราชบุรี,ก้มกราบในหลวง,กระทรวงวัฒนธรรม,บุคคลในภาพ,ภาพแห่งความประทับใจ ทั้ง 9 ภาพ,วัชระ พฤกษาโรจนกุล,รูปพระบรมฉายาลักษณ์
https://www.thairath.co.th/content/466597
[ 0, 259, 128181, 133931, 6494, 27605, 30305, 88653, 2361, 17117, 34797, 10062, 187709, 76426, 774, 138331, 28495, 5269, 5405, 208727 ]
กทม.เตรียมพร้อมจัดเลือกตั้งปีหน้า
อัศวินแจงสภา กทม.เริ่มมาตั้งแต่ ก.ค.-เผยผู้มีสิทธิครั้งแรกราว 5 แสน,เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สี่ (ครั้งที่ 3) ประจำปีพุทธศักราช 2561 นายนิรันดร์ ประดิษฐกุล ได้ตั้งกระทู้ถามเรื่องขอทราบรายละเอียดการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งในปี 2562 เนื่องจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว ซึ่งเมื่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทั้งหมดมีผลบังคับใช้จะต้องมีการจัดการเลือกตั้ง กรุงเทพมหานครจึงควรเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง เพื่อให้การดำเนินการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม ภายใต้กรอบที่กฎหมายกำหนด,พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ตอบว่า กรุงเทพมหานครได้เตรียมการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา โดยได้จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเตรียมความพร้อมให้แก่ 50 เขต การแจ้งให้เขตเตรียมศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสำรวจหน่วยเลือกตั้ง จัดทีมวิทยากรฝึกอบรมผู้ปฏิบัติการเลือกตั้งให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และการเชิญคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาบรรยายและสรุปวิธีการปฏิบัติให้แก่ผู้อำนวยการเขตและข้าราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความเข้าใจในกฎหมายและสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้พบว่าในขณะนี้มีประชาชนที่อายุครบเกณฑ์การเลือกตั้งทั่วประเทศกว่า 8 ล้านคน โดยเฉพาะใน กทม.มีมากถึง 4-5 แสนคน ดังนั้นกรุงเทพมหานครจะเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนกลุ่มนี้มีความเข้าใจ รวมทั้งให้เขตประชาสัมพันธ์เชิงรุกในทุกชุมชนล่วงหน้า สำหรับการพิจารณางบประมาณทั้งในเรื่องของการจัดการเลือกตั้ง หน่วยเลือกตั้งที่มีเป็นจำนวนมาก และการสนับสนุนบุคลากรนั้น จะพิจารณาให้อย่างเหมาะสมและเป็นไปตามกรอบปฏิบัติการเงินของกรุงเทพมหานคร.
กรุงเทพมหานครได้เตรียมการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา โดยได้จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเตรียมความพร้อมให้แก่ 50 เขต การแจ้งให้เขตเตรียมศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เลือกตั้ง
เตรียมความพร้อมเลือกตั้ง,ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง,สภา กทม.,จัดการเลือกตั้ง,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1398716
[ 0, 259, 70663, 17958, 131830, 259, 170337, 24633, 259, 70433, 3755, 70433, 10062, 30804, 17856, 238131, 93927, 259, 35996, 1 ]
ส่อง 12 นักว่ายน้ำหุ่นแซ่บที่สุดในโอลิมปิกปีนี้
ถ้าดูตามสถิติ Michael Phelps อาจนำโด่ง แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความหล่อ ปีนี้ค่อนข้างสูสี ที่จริงต้องพูดว่า Michael Phelps มีหนาวจะถูกกว่า เพราะปีนี้เหล่าฉลามหนุ่มจากชาติอื่นๆ นั้นก็มาพร้อมทั้งความสามารถ รูปร่าง และหน้าตาที่อยู่ในระดับดีไม่แพ้ Phelps ,โดยเฉพาะ Luca Dotto ที่มีตำแหน่งพรีเซนเตอร์ Biotherm Homme และนายแบบ Emporio Armani มาเป็นเครื่องการันตี ไปชมโฉมหน้าของ 12 นักว่ายน้ำผู้ไม่ได้มีดีแต่ความหล่อ แต่ยังมาพร้อมความสามารถระดับโอลิมปิกกันได้เลยที่ด้านล่าง,Conot Dwyer
,ทีม: สหรัฐอเมริกา
 อายุ: 27 ปี 
ประเภทที่ลงแข่ง: ฟรีสไตล์
 ประวัติโดยย่อ: เพื่อนร่วมทีม Ryan Lochte ตั้งชื่อเล่นให้เขาว่า Diddy เขาคว้าเหรียญทองได้ตั้งแต่เข้าร่วมโอลิมปิกครั้งแรกที่ลอนดอน ในปี 2012,Chad Le Clos

,ทีม: แอฟริกาใต้ 
อายุ: 24 ปี
 ประเภทที่ลงแข่ง: ฟรีสไตล์ และผีเสื้อ 
ประวัติโดยย่อ: คู่แข่งคนสำคัญของ Michael Phelps เขาเคยเอาชนะ Phelps มาแล้วในการแข่งว่ายผีเสื้อประเภท 200 เมตร ในกีฬาโอลิมปิกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว,Daiya Seto

,ทีม: ญี่ปุ่น
 อายุ: 22
 ปี ประเภทที่ลงแข่ง: ผีเสื้อ และเดี่ยวผสม 
ประวัติโดยย่อ: นักว่ายน้ำเชื้อสายเอเชียคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์โลกในประเภทเดี่ยวผสม,Matheus Paulo,

ทีม: บราซิล 
อายุ: 20
 ปี ประเภทที่ลงแข่ง: ฟรีสไตล์ 
ประวัติโดยย่อ: นักว่ายน้ำดาวรุ่งผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าแข่งขันโอลิมปิกได้ตั้งแต่อายุยังน้อย,Ning Zetao

,ทีม: จีน
 อายุ: 23
 ปี ประเภทที่ลงแข่ง: ฟรีสไตล์

 ประวัติโดยย่อ: เจ้าของเหรียญทองในการแข่งขัน FINA World Championships ปี 2015 และเจ้าของ Social Media ที่มีผู้ติดตามหลักล้าน,Frederick Bousquet,

ทีม: ฝรั่งเศส
 อายุ: 35
 ปี ประเภทที่ลงแข่ง: ฟรีสไตล์
 ประวัติโดยย่อ: นักว่ายน้ำสุดเก๋าผู้มาพร้อมรอยสักสุดเซ็กซี่,
Luca Dotto

,ทีม: อิตาลี
 อายุ: 26 ปี 
ประเภทที่ลงแข่ง: ฟรีสไตล์
 ประวัติโดยย่อ: นักว่ายน้ำที่ทำสถิติประเภทว่ายฟรีสไตล์ 100 เมตร ได้ดีที่สุดของอิตาลี และนายแบบ Emporio Armani,
Mitchell Larkin

,ทีม: ออสเตรเลีย 
อายุ: 23
 ปี ประเภทที่ลงแข่ง: กรรเชียง
 ประวัติโดยย่อ: ฉลามหนุ่มเจ้าของสถิติโลกประเภทกรรเชียง 200 เมตร,
Steffen Deibler
,ทีม: เยอรมัน
 อายุ: 29 ปี 
ประเภทที่ลงแข่ง: ผีเสื้อ
 ประวัติโดยย่อ: เจ้าของสถิติโลกประเภทผีเสื้อ 50 เมตร,Ashton Bauman

,ทีม: แคนาดา
 อายุ: 23
 ปี ประเภทที่ลงแข่ง: กรรเชียง ประวัติโดยย่อ: พ่อของเขาคือ Alexa Baumann เจ้าของ 2 เหรียญทองประเภทเดี่ยวผสม ในกีฬาโอลิมปิกที่ LA เมื่อปี 1984 เขาคือคนที่ 2 ของตระกูลที่เข้าร่วมการแข่งขัน Olympics,
Federico Grabich

,ทีม: อาร์เจนตินา 
อายุ: 26 ปี 
ประเภทที่ลงแข่ง: ฟรีสไตล์
 ประวัติโดยย่อ: เจ้าของเหรียญทองแดงในการแข่งขัน FINA World Championships ปี 2015,Nezir Karap

,ทีม: ตุรกี 
อายุ: 22 ปี 
ประเภทที่ลงแข่ง: ฟรีสไตล์ 
ประวัติโดยย่อ: นักว่ายน้ำอันดับต้นๆ จากตุรกี ผู้ทำลายสถิติมาแล้วนับไม่ถ้วน,ที่มา - Vogue Thailand ,www.vogue.co.th, ,www.facebook.com/VogueThailandOfficial
ถ้าดูตามสถิติ Michael Phelps อาจนำโด่ง แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความหล่อ ปีนี้ค่อนข้างสูสี ที่จริงต้องพูดว่า Michael Phelps มีหนาวจะถูกกว่า
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
นักว่ายน้ำ,โอลิมปิก,ริโอเกมส์ 2016,โอลิมปิก 2016,นักกีฬาว่ายน้ำ,ข่าว,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,Thairath,ข่าวไลฟ์สไตล์,Vogue,Vogue Thailand
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/686952
[ 0, 259, 26420, 6582, 6200, 11699, 1549, 135647, 34538, 4728, 2361, 40423, 49277, 3945, 114866, 5405, 93927, 814, 259, 146143 ]
ทำไมวงการซีรีส์เกาหลีไม่มีดาราคู่ขวัญ
สำหรับสาวกซีรีส์เกาหลี ช่วงนี้คงต้องจัดตารางดูซีรีส์โต้รุ่งกันบ้าง เพราะปลายปีนี้มีซีรีส์จากนักแสดงชื่อดังจ่อคิวออกอากาศเพียบทั้ง ซงซึงฮอน พี่ชายผู้แสนดีจากซีรีส์ Autumn in My Heart ที่เตรียมรับบทนักต้มตุ๋นฝีมือพระกาฬในซีรีส์เรื่อง Player คู่กับ คริสตัล ไอดอลสาวจากวง f(x) ชาแทฮยอน นายเจี๋ยมเจี้ยมของยัยตัวร้ายจากภาพยนตร์เรื่อง My Sassy Girl ที่เตรียมรับบทสามีจอมดื้อรั้นคู่กับนักแสดงสาวมากความสามารถ แบดูนา ในซีรีส์รีเมกจากญี่ปุ่น Best Divorce หนุ่มดอกไม้ ปาร์คโบกอม และซงฮเยคโย ที่แฟนซีรีส์น่าจะต้องเตรียมทิชชู่ซับน้ำตาไปกับความรักที่แตกต่างทางฐานะของทั้งคู่ในซีรีส์เรื่อง Boyfriend ฯลฯแต่เคยสงสัยกันไหมว่าทั้งๆ ที่เราเคยอินกับบทบาทของ ซงซึงฮอน และซงฮเยคโย ในซีรีส์ Autumn in My Heart จนน้ำตาท่วมจอ หรือกระทั่งประทับใจปนหมั่นไส้นิดๆ กับความรักผสมความแฟนตาซีของ ฮยอนบิน และฮาจีวอน ในเรื่อง Secret Garden จนจดจำสิ่งเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี แต่ทำไมเราถึงไม่เห็นพวกเขากลับมาแสดงซีรีส์คู่กันอีกSecret Gardenบุพเพสันนิวาสในขณะที่มิติของละครไทยนั้นกลับกัน เพราะถ้าเรารู้สึกถูกตาต้องใจกับเคมีของพระเอก-นางเอกอย่าง หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ และกบ-สุวนันท์ ปุณณกันต์ ใน สายโลหิต ชื่นชอบความน่ารักน่าหยิกของ ณเดชน์ คูกิมิยะ และญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ใน ดวงใจอัคนี หรือกรี๊ดไปกับความรักข้ามภพของคุณพี่หมื่น โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ และแม่หญิงการะเกด เบลล่า-ราณี แคมเปน ใน บุพเพสันนิวาส แล้วล่ะก็ อีกไม่นานเกินรอเราก็จะมีโอกาสได้เห็นพวกเขาเหล่านี้แสดงละครคู่กันอีกครั้งแน่ๆTHE STANDARD POP ขอยกตัวอย่างสองนักแสดงสาวมากความสามารถอย่าง ซงฮเยคโย ที่กำลังจะมีผลงานซีรีส์เรื่อง Boyfriend ในเดือนพฤศจิกายนนี้ และเบลล่า-ราณี แคมเปน แม่หญิงการะเกดจากละคร บุพเพสันนิวาส ที่สร้างปรากฏการณ์มากมายตั้งแต่ต้นปี 2561 มาเทียบให้ดูกันคร่าวๆ ว่านักแสดงนำร่วมและระยะเวลาการรับงานของซีรีส์เกาหลีและละครไทยมีความแตกต่างกันอย่างไรจากตารางจะเห็นว่าตลอดระยะเวลา 18 ปีของซงฮเยคโยตั้งแต่ Autumn in My Heart มาจนถึง Boyfriend พระเอกของซงฮเยคโยนั้นแตกต่างหลากหลาย รวมถึงระยะห่างในการรับเล่นซีรีส์แต่ละเรื่องก็ไม่ได้ต่อเนื่องเหมือนกับนักแสดงสาวชาวไทยอย่างเบลล่า ที่ผ่านมาเบลล่าได้ร่วมงานกับนักแสดงที่หลากหลายไม่ต่างจากซงฮเยคโย แต่ก็มีความแตกต่างตรงที่มีนักแสดงอย่าง เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข คู่จิ้นจากละครเรื่อง คุณชายพุฒิภัทร ในปี 2556 ที่กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในละครเรื่อง ปดิวรัดา ในปี 2559 และมีความถี่ของการรับงานแสดงมากกว่าซงฮเยคโยอย่างเห็นได้ชัด ที่ในปี 2557 เบลล่ามีละครออกอากาศมากถึง 3 เรื่อง สาเหตุแรกของความแตกต่างระหว่างนักแสดงเกาหลีและนักแสดงไทยนั้นอยู่ที่ สังกัด เนื่องจากนักแสดงเกาหลีส่วนใหญ่จะอยู่ภายใต้สังกัด เอเจนซี ซึ่งแต่ละเอเจนซีจะช่วยนักแสดงจัดตารางงาน ดูแลเสื้อผ้าหน้าผม ค่าตัว และสกรีนงานต่างๆ ที่เข้ามา โดยที่เขาและเธอสามารถรับบทนำคู่กับนักแสดงต่างสังกัดและแสดงซีรีส์ช่องใดก็ได้ต่างจากนักแสดงไทยที่สังกัดของพวกเขาและเธอจะอยู่ในรูปแบบของ สถานีโทรทัศน์ (ถึงแม้ว่าในช่วงหลังจะมีนักแสดงหลายคนผันตัวมาเป็นนักแสดงอิสระมากขึ้นก็ตาม) จึงทำให้การเล่นละครร่วมกับนักแสดงต่างช่องดูจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยากและไม่สามารถทำได้และเพราะต้นสังกัดที่แตกต่าง ทำให้การจัดตารางงานของเกาหลีและไทยแตกต่างกัน หากอธิบายให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นก็คือเมื่อซีรีส์เกาหลีเรื่องไหนโด่งดังมากๆ และมีการจัดแฟนมีตติ้ง โอกาสที่เราจะได้เห็นนักแสดงทั้งเรื่องมาร่วมงานแฟนมีตติ้งนั้นค่อนข้างจะเป็นไปได้ยาก เพราะนักแสดงแต่ละคนอยู่ต่างเอเจนซีกัน จึงทำให้ตารางงานของพวกเขาแตกต่างกันตามแต่เอเจนซีจะสรรหามาให้ ต่างจากงานแฟนมีตติ้งที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 5-6 ตุลาคมนี้ของละครดังอย่าง บุพเพสันนิวาส ที่สามารถยกทีมนักแสดงหลักมาครบทีมความแตกต่างที่สองคือ การคัดเลือกนักแสดง แน่นอนว่าทุกบทบาทในซีรีส์หรือละครเรื่องหนึ่งนั้น นักแสดงจะต้องเข้าใจและเข้าถึงบทบาทที่แสดงให้ได้มากที่สุดเพื่อสร้างอรรถรสให้กับผู้ชมได้อย่างสมจริง แต่เนื่องจากซีรีส์เกาหลีส่วนใหญ่จะถ่ายไปออกอากาศไปเพื่อเช็กเรตติ้งตลอดเวลา จึงทำให้การคัดเลือกนักแสดงที่มีคาแรกเตอร์และความสามารถเหมาะสมกับบทบาทที่ได้รับมากที่สุดจึงเป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงตารางงานในช่วงนั้นของพวกเขาและเธอจะต้องเทมาให้กับซีรีส์เท่านั้น เพราะการเช็กเรตติ้งตลอดเวลามักมาพร้อมกับการปรับเปลี่ยนบทที่สามารถเกิดขึ้นได้ในขณะที่ละครไทยส่วนใหญ่มักจะถ่ายทำให้จบก่อนแล้วค่อยออกอากาศ ซึ่งบทละครและช่วงเวลาถ่ายทำค่อนข้างแน่ชัดว่าจะอยู่ในช่วงไหน การได้นักแสดงที่เหมาะสมกับบทบาทและคาแรกเตอร์ก็นับเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญ แต่จะดีกว่านั้นหากได้นักแสดงนำที่เคมีเข้ากันและมีแฟนๆ รอคอยที่จะชมผลงานของพวกเขาอีกครั้ง เพราะแฟนๆ ละครไทยชื่นชอบ ความเรียล ของเคมีและความสัมพันธ์ของนักแสดงมากพอๆ กับพล็อตเรื่องที่น่าสนใจ
เราเคยอินกับบทบาทของ ซงซึงฮอน และซงฮเยคโย ในซีรีส์ Autumn in My Heart จนน้ำตาท่วมจอ หรือกระทั่งประทับใจปนหมั่นไส้นิดๆ กับความรักผสมความแฟนตาซีของ ฮยอนบิน และฮาจีวอน ในเรื่อง Secret Garden จนจดจำสิ่งเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี แต่ทำไมเราถึงไม่เห็นพวกเขากลับมาแสดงซีรีส์คู่กันอีกนักแสดงเกาหลีส่วนใหญ่จะอยู่ภายใต้สังกัดเป็น เอเจนซี ซึ่งแต่ละเอเจนซีจะช่วยนักแสดงจัดตารางงาน ดูแลเสื้อผ้าหน้าผม ค่าตัว และสกรีนงานต่างๆ ที่เข้ามา โดยที่เขาและเธอสามารถรับบทนำคู่กับนักแสดงต่างสังกัดและแสดงซีรีส์ช่องใดก็ได้
https://thestandard.co/k-series-couple/
[ 0, 259, 36247, 5405, 25851, 51646, 29373, 82967, 259, 51122, 113272, 24064, 5490, 25851, 51646, 29373, 4348, 188596, 213227, 16344 ]
อัยการตีกลับ ศธ.ทบทวนฟ้องให้ถูกจุด
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณาฟ้องแพ่งเพื่อเรียกเงิน 2,100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปีคืนจากธนาคารธนชาตว่า ล่าสุดอัยการสูงสุดได้ส่งความเห็นการดำเนินคดีกลับมาให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พิจารณาฟ้องให้ถูกประเด็น ที่ผ่านมา ศธ.กำหนดในสำนวนว่าจะฟ้องแพ่งเพื่อเรียกเงินคืนจากธนาคารธนชาต ในฐานะบกพร่องต่อหน้าที่โดยอนุมัติการเบิกถอนเงินไม่ถูกต้อง ตามข้อเสนอของผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่เมื่ออัยการสูงสุดขอให้พิจารณาการฟ้องใหม่ ศธ.จึงต้องส่งเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาก่อนดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ยังถือว่าอยู่ในช่วงเวลาฟ้องร้องได้เพราะคดียังไม่หมดอายุความ,รายงานข่าวจากผู้ตรวจการแผ่นดินแจ้งว่า การฟ้องเรียกเงินคืนอดีตผู้บริหาร สกสค. อนุมัติเงินกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ของกองทุนการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อน,ครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) กรณีไปซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินของบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด เพื่อลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี นั้น โดยหลักการฟ้องจะต้องพิจารณาถึงโอกาสจะได้เงินจากใครก่อนตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กรณีนี้ถือว่าธนาคารธนชาตมีความผิดฐานอนุมัติให้เบิกถอนบัญชีของ สกสค.โดยไม่ถูกต้อง ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงเสนอให้ สกสค. ฟ้องแพ่งเรียกเงินคืนจากธนาคารธนชาต ธนาคารก็ต้องไปไล่บี้ฟ้องเรียกเงินคืนจากบริษัท บิลเลี่ยนฯ ทั้งนี้การที่อัยการสูงสุดส่งสำนวนฟ้องกลับมาให้ ศธ.พิจารณาใหม่ อาจเพราะยังไม่เห็นข้อมูลสำคัญหลายประการ.
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณาฟ้องแพ่งเพื่อเรียกเงิน 2,100 ล้านบาท
ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ,เงินกองทุน,ฟ้อง,เรียกเงินคืน,ธนาคารธนชาต,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/content/649931
[ 0, 259, 70663, 6200, 3755, 74484, 117065, 225500, 118407, 55643, 12005, 73540, 15319, 55862, 4348, 121251, 167913, 57741, 6196, 1 ]
ตร.ทล.ประจวบฯ ไล่ล่ารถซิ่งแหกด่าน ก่อนคนขับจอดทิ้ง วิ่งหายเข้าป่า
ภาพจากอาสาสมัครกู้ภัยทางหลวง,หนุ่มซิ่งเก๋งฝ่าด่านตรวจ ตร.ทางหลวง ที่ตั้งจุดตรวจป้องกันอาชญากรรม บริเวณถนนเพชรเกษม จ.ประจวบฯ ต้องไล่ล่ากว่า 30 กม. สุดท้ายจอดรถทิ้ง วิ่งหนีเข้าป่า ค้นในรถพบเครื่องช็อตไฟฟ้า สมุดบัญชีธนาคาร เร่งสอบขยายผล ,เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 22 ม.ค.59 ที่หน้าสถานีตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.พันษา อมราพิทักษ์ สว.ส.ทล 3 กก.2 บก.ทล. ขณะนำเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจบนถนนเพชรเกษม เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรม อาวุธ และยาเสพติด ได้มีรถเก๋งสีดำ ยี่ห้อโตโยต้าวีออส หมายเลขทะเบียน กจ 9718 ประจวบคีรีขันธ์ ผ่านมา จึงได้เรียกให้หยุดรถเพื่อทำการตรวจค้นตามปกติ แต่รถคันดังกล่าวมากลับเร่งเครื่องพุ่งใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ต้องกระโดดหลบข้างทาง จากนั้นรถเก๋งคันดังกล่าวได้เร่งความเร็วขับหลบหนีไปถนนเพชรเกษมมุ่งสู่ทิศใต้ จึงได้ติดตามพร้อมกับรถตรวจการณ์ ตร.ทล.2 คัน อาสาสมัครกู้ภัยทางหลวง พร้อมได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ สภ.คลองวาฬ เนื่องจากคาดว่าคนร้ายวิ่งหนีเข้าในท้องที่รับผิดชอบ,โดยที่คนร้ายได้วิ่งเลี่ยงจากถนนเพชรเกษมเข้าสู่ถนนสายรองในหมู่บ้าน ที่ถนนเพชรเกษม – บ้านวังมะเดื่อหมู่ที่ 3 ต.ห้วยทราย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ไล่ติดตามกว่า 30 กิโลเมตร จากจุดเกิดเหตุ จนพบรถอยู่ในสภาพจอดริมทาง ล้อหน้ายางแตก ไม่พบตัวผู้ต้องสงสัย,ภายในรถพบอุปกรณ์ทำความสะอาดปืน เครื่องช็อตไฟฟ้า และสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์ ที่มีบันทึกการนำเงินเข้าฝากครั้งละไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท นอกจากนี้ยังพบเอกสารที่ระบุชื่อ นายเอกชัย คงจันทร์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104/3 ม.1 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจสอบในพื้นที่กว่าครึ่งชั่วโมงไม่พบ จึงยกเลิกการค้นหา เนื่องจากคาดว่าคนร้ายมีอาวุธปืน ประกอบกับเป็นช่วงค่ำ และบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าใกล้กับแนวเทือกเขาตะนาวศรีชายแดนเมียนมา ,โดยมีชาวบ้านเห็นรถคันดังกล่าว มีชายลงจากรถมาเปิดกระโปรงหลังแล้ว ถือกระเป๋าสะพายวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะขนสิ่งผิดกฎหมาย เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจจึงรีบเร่งรถหนีให้พ้นการจับกุม.
หนุ่มซิ่งเก๋งฝ่าด่านตรวจ ตร.ทางหลวง ที่ตั้งจุดตรวจป้องกันอาชญากรรม บริเวณถนนเพชรเกษม จ.ประจวบฯ ต้องไล่ล่ากว่า 30 กม. สุดท้ายจอดรถทิ้ง วิ่งหนีเข้าป่า ค้นในรถพบเครื่องช็อตไฟฟ้า สมุดบัญชีธนาคาร เร่งสอบขยายผล
แหกด่าน,ด่านตำรวจ,จุดตรวจบนถนนเพชรเกษม,สภ.คลองวาฬ,ถนนเพชรเกษม – บ้านวังมะเดื่อ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ซิ่งแหกด่าน,ตำรวจทางหลวง,ไล่ล่า,ของผิดกฎหมาย,ข่าวภูมิภาค,ประจวบฯ
https://www.thairath.co.th/content/566754
[ 0, 259, 85322, 155031, 110279, 18169, 179106, 5095, 1549, 11922, 118570, 100233, 9542, 108364, 259, 46944, 24353, 222953, 6196, 57942 ]
หมอรักษาโรคจน
สาส์นรักฝากมาจากฟากรัฐบาลข้อหนึ่ง ซึ่งผมอยากอาสาตอบ,เปิดลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เฟส 2 ตั้งแต่ 1 ก.พ. มาแล้ว แต่คน (จน) สนใจน้อย น่าจะครึกครื้น แต่กลับไม่ครึกครื้นเท่าที่ควร เป็นเพราะอะไร,คำตอบแรก เหตุที่ไม่ครึกครื้น ไม่น่าสนใจ ก็เพราะคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ไม่ชอบคำว่า คนจน หรือไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ตัวเองเป็นคนจน,การย้ำคิดถึงความจนซ้ำเติมจิตใจให้หดหู่เศร้าหมอง เรื่องอะไรจะไปคิดว่าเป็นคนจนอยู่เล่า,เพราะวิธีคิดของคนจนเป็นเช่นนี้ โครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเฟส 2 มาตรการต่อยอดจากบัตรคนจน 2560 จากงบประมาณรัฐบาลกว่า 35,000 ล้าน จึงจืดชืดไปอย่างที่ไม่น่าจะเป็น,คนที่เผลอไม่รู้ว่าเป็นคนจน ควรรู้ว่า ถ้ามีรายได้ไม่ถึง 30,000 บาทต่อปี จากเดิมที่เคยได้เดือนละ 300 บาท รัฐบาลท่านใจปํ้า ปรับเพิ่มเป็น 500 บาท,มีรายได้ 30,000 บาทขึ้นไปไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี เคยได้เดือนละ 200 บาท ปรับเพิ่มเป็น 300 บาท,ผู้ที่มีสิทธิได้เงินเพิ่มคือผู้ที่ถือบัตรคนจน และต้องเข้าร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต และฝึกอาชีพ ในช่วงเวลาเดือนมีนาคม ถึงเดือนธันวาคม 2561,ผู้ที่พลาดโอกาส ไม่ได้เข้าร่วมโครงการกับ ทีมหมอประชารัฐสุขใจ เมื่อ 1-28 กุมภาพันธ์ 2561 ไปแล้ว ก็อย่าเพิ่งเสียใจ,สำหรับผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จะมีทีมหมอประชารัฐสุขใจ บุกบั่นไปหาท่านถึงบ้าน ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2561 ถึง 30 เมษายน 2561,ผมชอบชื่อ หมอประชารัฐสุขใจ พยายามนึกหน้าตาท่วงท่า กลุ่มคนที่ถูกเรียกว่า หมอ จะเป็นอย่างไร,เดาเอาจากที่รับรักษาคนไข้โรคจนไปแล้ว ที่ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเขต และสถานที่ที่ประกาศ ฯลฯ น่าจะเป็น เจ้าหน้าที่แบงก์บ้าง ข้าราชการบ้าง,แต่อุตส่าห์เรียกว่า หมอ ก็คงพกวิชารักษาโรคจนไว้เต็มพุง,ใครที่เพิ่งรู้ว่ายังมีโอกาส ต้องเตรียมบัตรประชาชน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกรอกข้อความในแบบแสดงความประสงค์เข้าร่วมมาตรการ ไปยื่นให้คุณหมอรักษาโรคจนได้ที่จุดลงทะเบียน,หมอท่านอยากตรวจเป็นรายคน ให้รู้ว่าต้องการพัฒนา (รักษา) ในด้านไหน อยากทำอาชีพอะไร และข้อสำคัญ ต้องเปิดบัญชีการเงินในแบงก์ปี 2560-2561 ว่ามีเท่าไหร่,รัฐท่านต้องการรู้ว่า หลังหมอรักษาแล้ว รายได้ของท่านเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง,หมอประชารัฐสุขใจแบ่งคนไข้โรคจนไว้เป็นสองภาค ผู้มีรายได้ต่ำกว่าปีละ 30,000 บาท ท่านสำรวจไว้ชัดเจน มี 5.3 ล้านคน ตั้งใจจะเพิ่มเงินให้อีกเดือนละ 500 บาท ถือเป็นภาคบังคับ,ผู้มีรายได้เกินปีละ 30,000 บาท ไม่เกิน 1 แสนบาท มี 11.4 ล้านคน ที่จะรับเงินเพิ่มอีกเดือนละ 300 บาท ถือเป็นภาคสมัครใจ มาเข้าโครงการก็ได้เงิน ไม่เข้าก็ไม่ได้เงิน,เหล่านี้คือ รายการแจก ถ้าเข้าโครงการแล้ว ยังมี แถมอีกมากมาย ซื้อสินค้าราคาถูก ผลิตสินค้าคุณภาพส่งขายในร้านโชห่วย-ไฮบริด ซื้อขายผ่านระบบออนไลน์,รวมไปถึงการหางานที่ถนัดให้ทำ ตอนนี้มีงานว่างในประเทศอยู่ 1 แสนอัตรา ต่างประเทศ 7,000 อัตรา ใครที่ว่างงานอยู่นานเมื่อเจอหมอประชารัฐสุขใจ สวรรค์ตรงหน้ารออยู่ในวงฟ้อนรำนี่เอง,ตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามา มีเสียงบ่นคนจนลงๆ ผมเห็นความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาคนจน เกิดแรงศรัทธาขึ้นมา อีกไม่เกินสองปีข้างหน้า ผมเริ่มเชื่อว่าคนจนจะหมดไปจากประเทศไทยจริงๆ.,กิเลน ประลองเชิง
เปิดลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เฟส 2 ตั้งแต่ 1 ก.พ. มาแล้ว แต่คน (จน) สนใจน้อย น่าจะครึกครื้น แต่กลับไม่ครึกครื้นเท่าที่ควร เป็นเพราะอะไร
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ,บัตรคนจน,ผู้มีรายได้น้อย,ชักธงรบ,กิเลน ประลองเชิง
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1220572
[ 0, 259, 111693, 167509, 89153, 98833, 16379, 259, 173212, 140340, 84494, 97901, 6494, 231205, 1, 0, 0, 0, 0, 0 ]
ทีมนักแบดมินตันไทยร่วมแข่งขันเอเซียต้าคัพ 2013 รอบรองชนะเลิศ
เมื่อเย็นวานนี้ น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ และ เต่า สุดเขต ประภากมล เดินทางไปร่วมกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆที่ประเทศมาเลเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อเตรียมลงแข่งขันแบดมินตันประเภททีมรายการเอเซียต้า คัพ 2013 ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 30 ล้านบาท โดยผลการจับสลากในรอบรองชนะเลิศ ไทยจะพบกับอินโดนีเซีย ในคืนนี้เวลา 19.30 น. ส่วนอีกคู่มาเลเซียจะพบกับทีมรวมเอเชีย เวลา 14.00 น. ซึ่งเมย์ และเต่า บอกว่าเป็นเรื่องปกติที่นักกีฬาแบดมินตันจะไม่ได้อยู่ร่วมประเพณีในเทศกาลสงกรานต์ แต่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดทีมชาติไทย ได้ บุญศักดิ์ พลสนะ ลงประเภทชายเดี่ยว และให้ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข จับคู่กับทรงพล อนุกฤตยาวรรณ เล่นประเภทชายคู่ ส่วนคู่ผสม สุดเขต ประภากมล กับสราลีย์ ทุ่งทองคำ ขณะที่น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ เป็นความหวังในการเก็บคะแนนให้กับทีมไทย ในประเภทหญิงเดี่ยว ซึ่งหากคะแนนออกมาเสมอกันที่ 2-2 คู่ จะมีการนับจำนวนเกม และเสมอกันอีก จะนับคะแนนในเกมเพื่อหาทีมเข้าชิงชนะเลิศต่อไป
นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย เดินทางไปแข่งขันแบดมินตันประเภททีม รายการเอเซียต้าคัพ 2013 รอบรองชนะเลิศที่ประเทศมาเลเซีย โดยจะพบกับอินโดนีเซีย
กีฬา
นักแบดมินตัน,รัชนก,สุดเขต,เอเซียต้าคัพ,แข่งขัน
https://news.thaipbs.or.th/content/161956
[ 0, 259, 52973, 37070, 33034, 259, 198263, 104366, 259, 76389, 7960, 229936, 49883, 194516, 4188, 93728, 2361, 87168, 82397, 6088 ]
รวยๆ คุยกัน ส่องแฟชั่น 4 ชุด หมั้น - แต่ง ชมพู่ อารยา เว่อร์วังอลังการสิบล้านบาท
จบลงไปแล้วสำหรับงานแต่งแห่งปี งานฉลองวิวาห์ ชมพู่-อารยา กับน็อต-วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์ นักธุรกิจหมื่นล้าน งานนี้บอกเลยว่าไม่ทำให้ใครต้องผิดหวัง โดยเฉพาะชุดของเจ้าสาวอลังการงานสร้างสไตล์ ชมพู่ อารยา สมกับการเป็นแฟชั่นนิสต้า และนางเอกอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ไทยรัฐออนไลน์ขอพาทุกคนไปเก็บตก ส่อง 4 ชุด ทั้งงานหมั้นและงานแต่ง จะอลังการสักแค่ไหนไปชมกัน,ชุดวันหมั้น 1 ชุด (6 พ.ค. 58),ชุดเป็นสีแชมเปญ แบรนด์ ELIE SAAB HAUTE COUTURE (เอลี ซาบ โอต์ กูตูร์) และรองเท้าเข้าชุดสั่งตัดพิเศษด้วยผ้าเข้ากับชุดกันเพียงคู่เดียวจากฝรั่งเศส จากแบรนด์ Christian Louboutin (คริสเตียน ลูบูแตง) ชุดเลื่อมลายปักเป็นโทนสีขาวสะอาดตาเหมาะกับเจ้าสาวชมพู่ โดยโจทย์ที่สาวชมได้ให้ไว้คือ ต้องไม่โป๊ เป็นชุดที่นั่งกับพื้นได้ ต้องเรียบร้อย เพราะในงานมีผู้ใหญ่ ต้องอยู่ใกล้ผู้ใหญ่ อยากได้ชุดที่อยู่ข้างในก็สวย ข้างนอกก็สวย จึงได้มาเป็นชุดนี้แว่วๆ มาว่าน่าจะราคา 2 ล้านอัพ,ชุดวันแต่ง 3 ชุด (10 พ.ค.58),1. ชุดแถลงข่าว,ชุดแรกของเจ้าสาวชมพู่ วันแต่งงานช่วงแถลงข่าวกับสื่อมวลชน เป็นชุดที่สวยสง่า เซ็กซี่เล็กๆ กับชุดราตรียาวเว้าหลัง ชุดนี้จากแบรนด์ ELIE SAAB HAUTE COUTURE (เอลี ซาบ โอต์กูตูร์) เป็น สีออมเบรอ ไล่สีโทนขาวไปถึงโทนสีพีช แขนยาว ชายกระโปรงลากยาวถึงพื้น ประดับคริสตัลระยิบระยับอย่างพิถีพิถันทั้งชุด แอบกระซิบว่าชุดนี้ราคาเหยียบ 3 ล้านบาท ทั้งนี้ สาวชมยังใส่รองเท้า จาก SERGIO ROSSI (เซอร์จิโอ รอสซี่) ที่เข้าได้เป็นอย่างดีกับชุดนี้,2. ชุด reception ในงานเลี้ยงเย็น,ชุดที่ 2 ในงานเลี้ยงเย็น เป็นชุดจาก Giambattista Valli Haute Couture (แจมบาทิสตา วาลี่ โอต์ กูตูร์) เรียกได้ว่าชุดนี้อลังการสุดๆ มีดอกไม้ผ้าแบบสามมิติที่จะใช้ปักเข้ากับเลื่อม ชายกระโปรงมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 เมตร โดยมี มร. วัลลี เป็นดีไซเนอร์ออกแบบชุดนี้ให้ ซึ่งมีรูปแบบและแรงบันดาลใจจากลุคในรันเวย์โอต์กูตูร์คอลเลกชั่นที่ 8 ของดีไซเนอร์ ซึ่งกว่าจะได้ชุดแต่งงานที่ใช้สวมใส่ในวันงานฉลอง สาวชมพู่เผยให้ฟังกับ LOfficiel Thailand ว่าเธอต้องบินมาที่ห้องเสื้อ แจมบาทิสตา วัลลี ณ กรุงปารีส ถึงสามรอบด้วยกัน นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องตะลึงคือรองเท้าแก้วที่สาวชมใส่จากแบรนด์ Dolce and Gabbana (ดอลเช่ แอนด์ แกบบานา) เรียกได้ว่าสาวชมคือซินเดอเรลล่าในคืนนี้เลยทีเดียว,3. ชุด after party,ชุดสุดท้าย จาก Christian Dior (คริสเตียน ดิออร์) ชุดนี้น่ารักเหมาะกับสาวชม ซึ่งช่วงแรกสาวชมใส่คู่กับรองเท้าแก้ว หลังจากนั้นก็เปลี่ยนใส่ชุดสวยคู่กับรองเท้าผ้าใบคอนเวิร์สสีขาว ยิ่งน่ารักไปกันใหญ่ เพราะเธอคงรู้ว่าปาร์ตี้ทั้งทีต้องจัดเต็ม ร้อง เล่น เต้นรำ ต้องใส่รองเท้าผ้าใบเท่านั้นถึงจะเอาอยู่,ซึ่ง 3 ชุดสำหรับงานแต่ง สาวชมจัดเต็ม มีมูลค่ารวม ร่วม 10 ล้านบาท (ไม่รวมชุดหมั้นอีกประมาณ 2 ล้านบาท) เห็นชุดเยอะอย่างนี้ เจ้าสาวบอกว่า ทั้งหมดเป็นชุดที่ตั้งใจเลือก และอยากจะใส่ในวันนี้ ถ้าไม่ใส่วันนี้แล้วจะใส่ในวันไหน ,ขอบคุณข้อมูล และรูปภาพจาก :  ,LOfficiel Thailand
จบลงไปแล้วสำหรับงานแต่งแห่งปี งานฉลองวิวาห์ ชมพู่-อารยา กับน็อต-วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์ นักธุรกิจหมื่นล้าน งานนี้บอกเลยว่าไม่ทำให้ใครต้องผิดหวังโดยเฉพาะชุดของเจ้าสาวอลังการงานสร้างสไตล์ ชมพู่ อารยา สมกับการเป็นแฟชั่น
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
ชมพู่ อารยา,ชุดแต่งงานชมพู่,ชุดหมั้นชมพู่,งานแต่งชมพู่,ชุดงานแต่งชมพู่,ชมพู่ น็อต,ชุดเจ้าสาว,งานแต่งชมพู่ น็อต,ชุดชมพู่,ข่าว,ข่าวไลฟ์สไตล์,ไทยรัฐออนไลน์,ชมพู่อารยาแต่งงาน,#NottChomTheWedding
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/fashion/498084
[ 0, 259, 36247, 50175, 36801, 128710, 4348, 65665, 67044, 40423, 259, 49259, 4552, 165712, 1, 0, 0, 0, 0, 0 ]
ทนายตั้งท่าค้านสืบพยาน8อุสตาซผ่านวงจรปิด
กรุงเทพฯ-11 เม.ย.48วันนี้ ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์นัดแถลงเปิดคดีนายแวยูโซ๊ะ แวดือราแม อดีตครูและหัวหน้าฝ่ายปกครองโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ นายอับดุลรอเซะ หะยีดอเลาะ นายอาหามะ บูละ นายมูหมัด คานาฟี ดอเลาะ นายตอเล๊ะ ดีสะเอะ นายสาแล๊ะ เด็ง นายมะสุกรี ฮารี และนายหามะ เจ๊ะเต๊ะ ร่วมเป็นกบฏแบ่งแยกดินแดน ก่อการร้าย อั้งยี่ และซ่องโจร โดยนายแวยูโซ๊ะ จำเลยที่ 1 และนายสาแล๊ะ จำเลยที่ 6 แถลงต่อศาลว่า ยังไม่ได้แต่งตั้งทนายความต่อสู้คดี ศาลจึงไม่สามารถอ่านอธิบายคำฟ้องและสอบคำให้การจำเลยได้ ประกอบกับทนายจำเลยที่ 4 และทนายจำเลยที่ 8 ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี เนื่องจากติดว่าความคดีอื่นที่นัดไว้ก่อนแล้ว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้เลื่อนการสอบคำให้การจำเลย ไปเป็นเวลา 13.30 น. วันที่ 29 เมษายน 2548 เพื่อกำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐาน และดำเนินการตรวจพยานหลักฐานให้เสร็จโดยเร็ว เดิมศาลนัดแถลงเปิดคดีที่ห้องพิจารณา 709 แต่บรรดาญาติของจำเลย และชาวบ้านใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เกือบ 100 คน มาให้กำลังใจ และเข้าฟังการพิจารณาคดีจนล้นห้อง จึงต้องย้ายไปใช้ห้องพิจารณา 704 ซึ่งเป็นห้องพิจารณาคดีขนาดใหญ่ที่สุดของศาลอาญา จุคนได้ประมาณ 300 คนแทน นายสิทธิพงษ์ จันทรวิโรจน์ ทนายจำเลยที่ 2 ให้สัมภาษณ์กรณีพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ เตรียมยื่นคำร้องต่อศาลขอสืบพยานโจทก์ปากสำคัญผ่านระบบโทรทัศน์วงจรปิด โดยให้แยกตัวพยานไปไว้อีกห้องหนึ่ง และให้พยานเบิกความตอบการซักถาม ผ่านระบบโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อลดแรงกดดัน จากการที่ชาวบ้าน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาร่วมฟังการพิจารณาคดี และหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับจำเลยทั้ง 8 ว่า หากดีเอสไอยื่นคำร้องเข้ามาจริง ทนายจำเลยจะคัดค้าน เมื่อบุคคลใดยอมมาเป็นพยาน ก็ควรต้องกล้าสู้ความจริง โดยเบิกความต่อหน้าจำเลยในห้องเดียวกัน ถ้าพยานเกรงจะไม่ปลอดภัย สามารถขอให้พิจารณาคดีแบบลับได้ โดยจะมีเฉพาะศาล อัยการ ทนายความ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอยู่ในห้องพิจารณาคดี ไม่ให้มีบุคคลภายนอกอยู่ในห้อง แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่า จะอนุญาตหรือไม่
กรุงเทพฯ-11 เม.ย.48 วันนี้ ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์นัดแถลงเปิดคดีนายแวยูโซ๊ะ แวดือราแม อดีตครูและหัวหน้าฝ่ายปกครองโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ นายอับดุลรอเซะ
สิ่งแวดล้อม
https://prachatai.com/journal/2005/04/3606
[ 0, 259, 7960, 51083, 67279, 13399, 1549, 356, 259, 151987, 36903, 135174, 11723, 106726, 12005, 141228, 9211, 192493, 181777, 3324 ]